• มทร.อีสาน จัดประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE
    .
    วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมแคนา 1 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี (อาคาร 19) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา มทร.อีสาน จัดการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง ระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดยมี รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวต้อนรับ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานการประชุมฯ, นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) พร้อมคณะ, นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน พร้อมคณะ, นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด พร้อมคณะ, คุณธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายบุญส่ง สุทธิโตคร ผู้อำนวยการสำนักช่าง สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา, ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, คุณไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, คุณอาทิตย์ ชามขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด, นายจำนงค์ แสงเงิน หัวหน้ากองจัดการเดินรถเขต 2, คุณบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, คุณขจร ศิวรังสรรค์ รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมระบบราง, คุณวัฒนา สมานจิตร อุปนายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย, ดร.สุรวุฒิ เชิดชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชิดชัยคอร์ปอเรชั่น จำกัด
    .
    โดยในการประชุมครั้งนี้ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิชิต คำภาหล้า คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง ได้ร่วมกัน นำเสนอจุดประสงค์ของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ และนำเสนอศูนย์ความร่วมมือทางวิชาการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE และทางด้าน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) โดย นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) ได้นำเสนอจุดเด่นทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์ระบบขนส่ง DRT และรถไฟฟ้ารางเบา รวมถึงแนวคิดความร่วมมือด้านการบริหารจัดการตลอดวงจรชีวิตของขบวนรถไฟ จากนั้น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ได้กล่าวถึง ภาพรวมของสถาบัน NIRT จุดแข็งของหลักสูตร และแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยระบบรางจีน–ไทย (NIRT สาขาต่างประเทศ) โดย นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน ทั้งนี้ นอกจากจะร่วมประชุมหารือด้านความร่วมมือระหว่างกันแล้วยังได้มี การการหารือการเตรียมความพร้อมรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (International Horticultural Expo) และ แผนรถไฟฟ้ารางเบาในประเทศไทย ซึ่ง บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดย นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด ยังได้นำเสนอ เรื่อง การวางแผนผลักดันจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นจังหวัดหลักด้านอุตสาหกรรมระบบราง โดยอาศัยโอกาสความร่วมมือจากทั้ง 4 ฝ่าย และการดำเนินโครงการระบบ DRT สำหรับมหกรรมพืชสวนโลกอีกด้วย
    .
    นอกจากนี้ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้ให้เกียรติเป็นประธานมอบป้ายสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE แก่ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC), สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT), บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด
    .
    ภายหลังการประชุม นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “ในนามของจังหวัดนครราชสีมา รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ภายใต้การนำของ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้จัดการประชุมปรึกษาหารือในวันนี้ ซึ่งเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ก่อให้เกิดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในระดับประเทศและนานาชาติ ทั้งยังได้ริเริ่มสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา พันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการประกาศเจตจำนงมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบขนส่งทางราง เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม และพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมระบบราง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง จนได้ร่วมมือกันในการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะในด้านระบบคมนาคมขนส่ง การมีสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบรางในพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของจังหวัดและภูมิภาค ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”
    .
    ด้าน รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เปิดเผยว่า "สำหรับการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการ และพิธีส่งมอบป้ายการจัดตั้ง สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ในวันนี้ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ต้องขอขอบคุณจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ให้ความสำคัญกับ มทร.อีสาน เสมอมา ในความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และภาควิจัย ทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านระบบรางให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล"
    .
    "ทั้งนี้ การที่ มทร.อีสาน ได้พันธมิตรในการร่วมพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV เช่น บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงแบบครบวงจร ด้านการขนส่งทางราง เช่น บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. หรือ CRRC เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางราง และเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์รถไฟของจีน และสถาบันที่ผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพด้านเทคโนโลยีและการจัดการระบบราง เช่น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนในของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและมีระดับการพัฒนาระบบรถไฟสูงที่สุดในประเทศจีน ดังนั้น การจัดตั้ง “สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE” แห่งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัย การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติต่อไป" รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวเพิ่มเติม
    มทร.อีสาน จัดประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE . วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมแคนา 1 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี (อาคาร 19) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา มทร.อีสาน จัดการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง ระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดยมี รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวต้อนรับ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานการประชุมฯ, นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) พร้อมคณะ, นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน พร้อมคณะ, นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด พร้อมคณะ, คุณธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายบุญส่ง สุทธิโตคร ผู้อำนวยการสำนักช่าง สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา, ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, คุณไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, คุณอาทิตย์ ชามขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด, นายจำนงค์ แสงเงิน หัวหน้ากองจัดการเดินรถเขต 2, คุณบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, คุณขจร ศิวรังสรรค์ รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมระบบราง, คุณวัฒนา สมานจิตร อุปนายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย, ดร.สุรวุฒิ เชิดชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชิดชัยคอร์ปอเรชั่น จำกัด . โดยในการประชุมครั้งนี้ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิชิต คำภาหล้า คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง ได้ร่วมกัน นำเสนอจุดประสงค์ของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ และนำเสนอศูนย์ความร่วมมือทางวิชาการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE และทางด้าน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) โดย นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) ได้นำเสนอจุดเด่นทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์ระบบขนส่ง DRT และรถไฟฟ้ารางเบา รวมถึงแนวคิดความร่วมมือด้านการบริหารจัดการตลอดวงจรชีวิตของขบวนรถไฟ จากนั้น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ได้กล่าวถึง ภาพรวมของสถาบัน NIRT จุดแข็งของหลักสูตร และแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยระบบรางจีน–ไทย (NIRT สาขาต่างประเทศ) โดย นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน ทั้งนี้ นอกจากจะร่วมประชุมหารือด้านความร่วมมือระหว่างกันแล้วยังได้มี การการหารือการเตรียมความพร้อมรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (International Horticultural Expo) และ แผนรถไฟฟ้ารางเบาในประเทศไทย ซึ่ง บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดย นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด ยังได้นำเสนอ เรื่อง การวางแผนผลักดันจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นจังหวัดหลักด้านอุตสาหกรรมระบบราง โดยอาศัยโอกาสความร่วมมือจากทั้ง 4 ฝ่าย และการดำเนินโครงการระบบ DRT สำหรับมหกรรมพืชสวนโลกอีกด้วย . นอกจากนี้ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้ให้เกียรติเป็นประธานมอบป้ายสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE แก่ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC), สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT), บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด . ภายหลังการประชุม นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “ในนามของจังหวัดนครราชสีมา รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ภายใต้การนำของ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้จัดการประชุมปรึกษาหารือในวันนี้ ซึ่งเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ก่อให้เกิดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในระดับประเทศและนานาชาติ ทั้งยังได้ริเริ่มสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา พันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการประกาศเจตจำนงมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบขนส่งทางราง เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม และพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมระบบราง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง จนได้ร่วมมือกันในการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะในด้านระบบคมนาคมขนส่ง การมีสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบรางในพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของจังหวัดและภูมิภาค ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” . ด้าน รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เปิดเผยว่า "สำหรับการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการ และพิธีส่งมอบป้ายการจัดตั้ง สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ในวันนี้ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ต้องขอขอบคุณจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ให้ความสำคัญกับ มทร.อีสาน เสมอมา ในความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และภาควิจัย ทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านระบบรางให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล" . "ทั้งนี้ การที่ มทร.อีสาน ได้พันธมิตรในการร่วมพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV เช่น บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงแบบครบวงจร ด้านการขนส่งทางราง เช่น บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. หรือ CRRC เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางราง และเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์รถไฟของจีน และสถาบันที่ผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพด้านเทคโนโลยีและการจัดการระบบราง เช่น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนในของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและมีระดับการพัฒนาระบบรถไฟสูงที่สุดในประเทศจีน ดังนั้น การจัดตั้ง “สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE” แห่งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัย การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติต่อไป" รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวเพิ่มเติม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขานรับนายใหญ่ ปราบยาเสพติด เร่งเช็คบิล 'ว้าแดง'
    .
    การปาฐกถาของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในหัวข้อ "ยาเสพติดอาชญากรรมข้ามชาติ มุมมอง และความท้าทาย ในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน" ที่ตอนหนึ่งมีการพูดถึงการผลิตยาเสพติดในเขตควบคุมของกลุ่มว้าแดงว่า "วันนี้การผลิตแทบจะ 100% อยู่ที่ว้าแดง รู้จุดแล้วแปลว่าเฉยไม่ได้ พ่อค้ารายใหญ่หลบหนีไปอยู่ข้างบ้านหมด แต่ก็ยังมีเครือข่ายในประเทศไทย เจ้าหน้าที่แกล้งไม่รู้เรื่องหรือไม่อยากรู้เรื่อง" ปรากฎว่าเหล่ารัฐมนตรีในรัฐบาลต่างออกมาขานรับนโญบายนายใหญ่กันอย่างพร้อมเพรียง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000050250

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ขานรับนายใหญ่ ปราบยาเสพติด เร่งเช็คบิล 'ว้าแดง' . การปาฐกถาของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในหัวข้อ "ยาเสพติดอาชญากรรมข้ามชาติ มุมมอง และความท้าทาย ในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน" ที่ตอนหนึ่งมีการพูดถึงการผลิตยาเสพติดในเขตควบคุมของกลุ่มว้าแดงว่า "วันนี้การผลิตแทบจะ 100% อยู่ที่ว้าแดง รู้จุดแล้วแปลว่าเฉยไม่ได้ พ่อค้ารายใหญ่หลบหนีไปอยู่ข้างบ้านหมด แต่ก็ยังมีเครือข่ายในประเทศไทย เจ้าหน้าที่แกล้งไม่รู้เรื่องหรือไม่อยากรู้เรื่อง" ปรากฎว่าเหล่ารัฐมนตรีในรัฐบาลต่างออกมาขานรับนโญบายนายใหญ่กันอย่างพร้อมเพรียง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000050250 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขานรับนายใหญ่ ปราบยาเสพติด เร่งเช็คบิล 'ว้าแดง'
    .
    การปาฐกถาของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในหัวข้อ "ยาเสพติดอาชญากรรมข้ามชาติ มุมมอง และความท้าทาย ในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน" ที่ตอนหนึ่งมีการพูดถึงการผลิตยาเสพติดในเขตควบคุมของกลุ่มว้าแดงว่า "วันนี้การผลิตแทบจะ 100% อยู่ที่ว้าแดง รู้จุดแล้วแปลว่าเฉยไม่ได้ พ่อค้ารายใหญ่หลบหนีไปอยู่ข้างบ้านหมด แต่ก็ยังมีเครือข่ายในประเทศไทย เจ้าหน้าที่แกล้งไม่รู้เรื่องหรือไม่อยากรู้เรื่อง" ปรากฎว่าเหล่ารัฐมนตรีในรัฐบาลต่างออกมาขานรับนโญบายนายใหญ่กันอย่างพร้อมเพรียง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000050245

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ขานรับนายใหญ่ ปราบยาเสพติด เร่งเช็คบิล 'ว้าแดง' . การปาฐกถาของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในหัวข้อ "ยาเสพติดอาชญากรรมข้ามชาติ มุมมอง และความท้าทาย ในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน" ที่ตอนหนึ่งมีการพูดถึงการผลิตยาเสพติดในเขตควบคุมของกลุ่มว้าแดงว่า "วันนี้การผลิตแทบจะ 100% อยู่ที่ว้าแดง รู้จุดแล้วแปลว่าเฉยไม่ได้ พ่อค้ารายใหญ่หลบหนีไปอยู่ข้างบ้านหมด แต่ก็ยังมีเครือข่ายในประเทศไทย เจ้าหน้าที่แกล้งไม่รู้เรื่องหรือไม่อยากรู้เรื่อง" ปรากฎว่าเหล่ารัฐมนตรีในรัฐบาลต่างออกมาขานรับนโญบายนายใหญ่กันอย่างพร้อมเพรียง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000050245 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร
    .
    วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี
    .
    นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    #ป่อเต็กตึ๊งช่วยชีวิตรักษาชีวิตสร้างชีวิต
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร . วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี . นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . #ป่อเต็กตึ๊งช่วยชีวิตรักษาชีวิตสร้างชีวิต #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เสาสัญญาณเเห่งความร่ำรวย
    #พิธีกรรมจิต เเละความศรัทธาในเงินสด

    การสร้างความร่ำรวยแท้จริงนั้น "ง่าย"

    อย่างที่ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อน
    แต่ความง่ายนี้มีเงื่อนไขสำคัญ

    มันต้องกลายเป็น “กิจวัตร”
    ต้องทำซ้ำ ต้องย้ำต้องวน
    ต้องชัด และต้องศรัทธา

    #กุญแจสำคัญที่สุด คือ
    การล้างกระดานเก่าในจิต
    แล้วแทนที่ด้วยภาพใหม่
    ของความมั่งคั่ง

    จากนั้น #เปิดคลื่นวิทยุของจิต

    ให้รับ-ส่งแค่ช่องสัญญาณเดียว

    ช่องที่ชื่อว่า

    "ฉันมีเงิน ฉันร่ำรวย ฉันสำเร็จ"

    ซ้ำแล้วซ้ำอีกทั้งวันทั้งคืน

    อย่าปล่อยให้จิตเปิดรับทุกคลื่น
    เหมือนการฟังวิทยุหลายสถานี
    มีทั้งเพลง ข่าว โฆษณา
    ซึ่งมีสาระก็จริง แต่ไม่เข้มข้น
    และไม่ต่อเนื่องพอจะสร้างอะไรได้เลย

    เพราะมันเพียง
    สะกิดใจไม่กี่วินาที
    แล้วหายวับไป

    หากคุณอยากรวย ต้อง #ถักจิต
    เหมือน การทอผ้า ต้องนั่งทำซ้ำๆ ทุกวัน
    เหมือนการสร้างผืนผ้าขนาดใหญ่
    ที่ใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี

    หากเปรียบความร่ำรวยเป็นผืนผ้า

    คุณต้องยอมใช้ชีวิต
    ปักเข็มเส้นเดิมทุกวัน
    ไม่มีทางลัด

    #จิตที่แน่วแน่เท่านั้นที่รวยได้

    คุณต้องมีความหมกมุ่นระดับสูงสุด
    หมกมุ่นแบบนักธุรกิจ
    ที่คิดแค่เรื่องเงิน คิดหาเงิน เก็บเงิน
    ขยายเงิน ตั้งบริษัท สร้างอาณาจักร
    แล้วส่งต่อความมั่งคั่งให้รุ่นลูกหลาน

    เพราะจิตของคนรวยจะมีคลื่นเดียว

    “ฉันรวยและฉันกำลังรวย”

    แต่ในยุคนี้ อินเทอร์เน็ต
    ทำให้จิตคนยุคใหม่อ่อนแอ

    คลื่นสัญญาณถูกรบกวน
    จากข้อมูลสารพัดรูปแบบ
    ทำให้จิตสร้างอะไรไม่ได้เลย
    เพราะมันไม่แน่วแน่พอ
    ไม่มีคลื่นหลักของตัวเอง

    #ฟอร์มจิตให้กลายเป็นพลังสร้าง

    จะเปลี่ยนจิตให้สร้างสิ่งใดเป็นรูปธรรม
    ต้องใช้กลไกแบบเดียวกับ
    การดูละครซีรีส์ที่เราหลงใหล

    อ่านนิยายที่เรารู้สึกว่า “เราเองคือตัวเอก”
    มันต้องอิน ต้องย้ำ ต้องหมกมุ่น
    แล้วเราจะเริ่ม “กลายเป็นสิ่งนั้นจริงๆ”

    คนที่ไม่สำเร็จ เพราะจิตไม่ชัดเจน
    ไม่อิน ไม่เชื่อ ไม่ซ้ำ ใช้ชีวิตแบบดูผ่าน
    ฟังผ่าน แล้วก็หมดวันไปอย่างไร้พลัง

    เริ่มต้นความร่ำรวยจาก "พิธีกรรมเงินสด"

    หากคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่า
    “ฉันจะรวย” ให้ตั้งพิธีกรรมของคุณขึ้นมา
    ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

    1.หา #เครื่องยึดเหนี่ยว
    สัญลักษณ์ที่สั่นสะเทือนหัวใจ
    เช่น ทองคำแท่ง เงินสด ที่ดิน
    มาวางบนโต๊ะพิธีของคุณ
    เพื่อย้ำเตือนว่า นี่คือ
    เป้าหมายเดียวของชีวิตช่วงนี้

    2.#ถอนเงินสดออกจากออนไลน์
    อย่าปล่อยให้เงินอยู่แค่ในระบบดิจิทัล
    จิตจะไม่เห็นว่าตัวเองได้รับเงินเลย
    เพราะมันจำแค่ตอนโอนออก

    3.#ให้เงินสดอยู่ตรงหน้าคุณ 24 ชั่วโมง
    วางบนโต๊ะพิธี วางไว้ข้างหัวนอน
    วางตรงกระจกห้องน้ำ
    ถ้าคุณเห็นเงินทุกวัน
    จิตจะเริ่มซึมซับคลื่นความร่ำรวย

    4.#เมื่อเงินสดเริ่มมีแล้ว
    #ให้ขยับไปสู่ทองคำ
    ไม่ใช่เพื่อขาย แต่เพื่อ “ดูดเงินเพิ่ม”
    ทอง คือ แม่เหล็กเงิน
    ถ้าคุณศรัทธา
    มันจะกลายเป็นสนามแม่เหล็ก
    ดึงดูดความมั่งคั่ง

    5.#คิดวนซ้ำสร้างเงิน เก็บเงิน ซื้อทอง
    เพื่อดูดเงิน ทำจนจิตของคุณ
    เปลี่ยนสนามพลังจากขาดแคลนเป็นมั่งคั่ง

    คุณ คือ #เสาสัญญาณแห่งความร่ำรวย

    เมื่อจิตคุณเปลี่ยน
    พลังงทานทั้งเมืองจะเปลี่ยน
    พลังงานประเทศจะเปลี่ยน
    เพราะเศรษฐกิจรอบตัวคุณ
    จะต้องสนับสนุนให้คุณได้เงิน

    เพราะคุณ คือ #ผู้ถือคลื่นแห่งเงินสด

    ลูกค้าจะเข้ามา หุ้นส่วนจะมาหา
    งานจะไหลมา เพราะคุณ
    กำลังทำพิธีกรรมเงินซ้ำๆ อย่างมีพลัง
    จิตคุณชัดและไม่สั่นไหว

    อย่าอิจฉาใคร
    เพราะทุกคนที่รวยขึ้นรอบตัวคุณ
    คือ เครื่องสะท้อนว่า
    คุณกำลังอยู่ในสนามถูกต้องแล้ว

    บทส่งท้าย: #บูชาเงินสดอย่างมีศรัทธา

    จงดำเนินชีวิตใหม่ให้เหมือน

    #นักบวชแห่งเงินสด

    ผู้ที่เชื่อมั่น ศรัทธา และยึดมั่น
    ในเส้นทางแห่งความมั่งคั่งทุกลมหายใจ

    #ตัดสิ่งไร้สาระทิ้งไป

    ปกป้องพลังจิตอย่างเข้มแข็ง
    ทำทุกอย่างให้ใจมีความสุข
    เพื่อให้กลายเป็นการสร้างเงินที่ยั่งยืน

    เพราะสุดท้ายแล้ว
    “ความสุขและความร่ำรวย”
    คือ สิ่งเดียวกัน คุณไม่มีวันรวยได้จริง
    หากไม่รักหนทางที่กำลังเดิน

    จงหมกมุ่น จงตั้งใจ จงลงมือ จงทำซ้ำ
    แล้วคุณจะไม่เพียงแค่ร่ำรวย
    แต่จะกลายเป็นต้นน้ำแห่งความมั่งคั่ง
    ให้กับผู้คนทั้งแผ่นดิน
    #เสาสัญญาณเเห่งความร่ำรวย #พิธีกรรมจิต เเละความศรัทธาในเงินสด การสร้างความร่ำรวยแท้จริงนั้น "ง่าย" อย่างที่ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อน แต่ความง่ายนี้มีเงื่อนไขสำคัญ มันต้องกลายเป็น “กิจวัตร” ต้องทำซ้ำ ต้องย้ำต้องวน ต้องชัด และต้องศรัทธา #กุญแจสำคัญที่สุด คือ การล้างกระดานเก่าในจิต แล้วแทนที่ด้วยภาพใหม่ ของความมั่งคั่ง จากนั้น #เปิดคลื่นวิทยุของจิต ให้รับ-ส่งแค่ช่องสัญญาณเดียว ช่องที่ชื่อว่า "ฉันมีเงิน ฉันร่ำรวย ฉันสำเร็จ" ซ้ำแล้วซ้ำอีกทั้งวันทั้งคืน อย่าปล่อยให้จิตเปิดรับทุกคลื่น เหมือนการฟังวิทยุหลายสถานี มีทั้งเพลง ข่าว โฆษณา ซึ่งมีสาระก็จริง แต่ไม่เข้มข้น และไม่ต่อเนื่องพอจะสร้างอะไรได้เลย เพราะมันเพียง สะกิดใจไม่กี่วินาที แล้วหายวับไป หากคุณอยากรวย ต้อง #ถักจิต เหมือน การทอผ้า ต้องนั่งทำซ้ำๆ ทุกวัน เหมือนการสร้างผืนผ้าขนาดใหญ่ ที่ใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปี หากเปรียบความร่ำรวยเป็นผืนผ้า คุณต้องยอมใช้ชีวิต ปักเข็มเส้นเดิมทุกวัน ไม่มีทางลัด #จิตที่แน่วแน่เท่านั้นที่รวยได้ คุณต้องมีความหมกมุ่นระดับสูงสุด หมกมุ่นแบบนักธุรกิจ ที่คิดแค่เรื่องเงิน คิดหาเงิน เก็บเงิน ขยายเงิน ตั้งบริษัท สร้างอาณาจักร แล้วส่งต่อความมั่งคั่งให้รุ่นลูกหลาน เพราะจิตของคนรวยจะมีคลื่นเดียว “ฉันรวยและฉันกำลังรวย” แต่ในยุคนี้ อินเทอร์เน็ต ทำให้จิตคนยุคใหม่อ่อนแอ คลื่นสัญญาณถูกรบกวน จากข้อมูลสารพัดรูปแบบ ทำให้จิตสร้างอะไรไม่ได้เลย เพราะมันไม่แน่วแน่พอ ไม่มีคลื่นหลักของตัวเอง #ฟอร์มจิตให้กลายเป็นพลังสร้าง จะเปลี่ยนจิตให้สร้างสิ่งใดเป็นรูปธรรม ต้องใช้กลไกแบบเดียวกับ การดูละครซีรีส์ที่เราหลงใหล อ่านนิยายที่เรารู้สึกว่า “เราเองคือตัวเอก” มันต้องอิน ต้องย้ำ ต้องหมกมุ่น แล้วเราจะเริ่ม “กลายเป็นสิ่งนั้นจริงๆ” คนที่ไม่สำเร็จ เพราะจิตไม่ชัดเจน ไม่อิน ไม่เชื่อ ไม่ซ้ำ ใช้ชีวิตแบบดูผ่าน ฟังผ่าน แล้วก็หมดวันไปอย่างไร้พลัง เริ่มต้นความร่ำรวยจาก "พิธีกรรมเงินสด" หากคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่า “ฉันจะรวย” ให้ตั้งพิธีกรรมของคุณขึ้นมา ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 1.หา #เครื่องยึดเหนี่ยว สัญลักษณ์ที่สั่นสะเทือนหัวใจ เช่น ทองคำแท่ง เงินสด ที่ดิน มาวางบนโต๊ะพิธีของคุณ เพื่อย้ำเตือนว่า นี่คือ เป้าหมายเดียวของชีวิตช่วงนี้ 2.#ถอนเงินสดออกจากออนไลน์ อย่าปล่อยให้เงินอยู่แค่ในระบบดิจิทัล จิตจะไม่เห็นว่าตัวเองได้รับเงินเลย เพราะมันจำแค่ตอนโอนออก 3.#ให้เงินสดอยู่ตรงหน้าคุณ 24 ชั่วโมง วางบนโต๊ะพิธี วางไว้ข้างหัวนอน วางตรงกระจกห้องน้ำ ถ้าคุณเห็นเงินทุกวัน จิตจะเริ่มซึมซับคลื่นความร่ำรวย 4.#เมื่อเงินสดเริ่มมีแล้ว #ให้ขยับไปสู่ทองคำ ไม่ใช่เพื่อขาย แต่เพื่อ “ดูดเงินเพิ่ม” ทอง คือ แม่เหล็กเงิน ถ้าคุณศรัทธา มันจะกลายเป็นสนามแม่เหล็ก ดึงดูดความมั่งคั่ง 5.#คิดวนซ้ำสร้างเงิน เก็บเงิน ซื้อทอง เพื่อดูดเงิน ทำจนจิตของคุณ เปลี่ยนสนามพลังจากขาดแคลนเป็นมั่งคั่ง คุณ คือ #เสาสัญญาณแห่งความร่ำรวย เมื่อจิตคุณเปลี่ยน พลังงทานทั้งเมืองจะเปลี่ยน พลังงานประเทศจะเปลี่ยน เพราะเศรษฐกิจรอบตัวคุณ จะต้องสนับสนุนให้คุณได้เงิน เพราะคุณ คือ #ผู้ถือคลื่นแห่งเงินสด ลูกค้าจะเข้ามา หุ้นส่วนจะมาหา งานจะไหลมา เพราะคุณ กำลังทำพิธีกรรมเงินซ้ำๆ อย่างมีพลัง จิตคุณชัดและไม่สั่นไหว อย่าอิจฉาใคร เพราะทุกคนที่รวยขึ้นรอบตัวคุณ คือ เครื่องสะท้อนว่า คุณกำลังอยู่ในสนามถูกต้องแล้ว บทส่งท้าย: #บูชาเงินสดอย่างมีศรัทธา จงดำเนินชีวิตใหม่ให้เหมือน #นักบวชแห่งเงินสด ผู้ที่เชื่อมั่น ศรัทธา และยึดมั่น ในเส้นทางแห่งความมั่งคั่งทุกลมหายใจ #ตัดสิ่งไร้สาระทิ้งไป ปกป้องพลังจิตอย่างเข้มแข็ง ทำทุกอย่างให้ใจมีความสุข เพื่อให้กลายเป็นการสร้างเงินที่ยั่งยืน เพราะสุดท้ายแล้ว “ความสุขและความร่ำรวย” คือ สิ่งเดียวกัน คุณไม่มีวันรวยได้จริง หากไม่รักหนทางที่กำลังเดิน จงหมกมุ่น จงตั้งใจ จงลงมือ จงทำซ้ำ แล้วคุณจะไม่เพียงแค่ร่ำรวย แต่จะกลายเป็นต้นน้ำแห่งความมั่งคั่ง ให้กับผู้คนทั้งแผ่นดิน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอิสราเอล เบซาเลล สโมทริช กล่าวใน "วันเยรูซาเล็ม" ซึ่งอิสราเอลถือเป็นวันสำคัญของชาวยิว ที่สามารถยึดครองดินแดนเยรูซาเล็มไว้สำเร็จในปี 1967:

    “เราไม่กลัวที่จะเอ่ยคำว่าเรากำลัง "ยึดครอง"
    และตอนนี้เรากำลังปลดปล่อยกาซา เพื่อเข้าไปตั้งถิ่นที่อยู่ของเรา”

    “เราอยู่ในจุดที่ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยดี ในสถานที่ภูเขาแห่งนี้ เราทุกคนขอบคุณพระเจ้า”

    “เราทุกคนขอส่งกำลังใจให้พระเจ้า ส่งกำลังใจให้ทหารกล้าของเราหลายหมื่นนายที่กำลังต่อสู้ในกาซาเพื่อนำพาความยั่งยืนมาให้พวกเรา เพื่อให้เราได้ภาคภูมิใจ แม้จะมีใครบางคนที่ไม่ชอบใจกับชัยชนะครั้งนี้ แต่นั่นไม่ใช่พวกเรา เรามาส่งกำลังใจให้ทหารของเรากันเถอะ! เรากลัวชัยชนะหรือไม่ เรากลัวคำว่ายึดครองหรือไม่ เราคือชาวอิสราเอลผู้ดำรงอยู่ เราคือผู้ปลดปล่อยกาซา เราจะตั้งรกรากในกาซา เราจะชนะศัตรู!!”
    รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอิสราเอล เบซาเลล สโมทริช กล่าวใน "วันเยรูซาเล็ม" ซึ่งอิสราเอลถือเป็นวันสำคัญของชาวยิว ที่สามารถยึดครองดินแดนเยรูซาเล็มไว้สำเร็จในปี 1967: “เราไม่กลัวที่จะเอ่ยคำว่าเรากำลัง "ยึดครอง" และตอนนี้เรากำลังปลดปล่อยกาซา เพื่อเข้าไปตั้งถิ่นที่อยู่ของเรา” “เราอยู่ในจุดที่ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยดี ในสถานที่ภูเขาแห่งนี้ เราทุกคนขอบคุณพระเจ้า” “เราทุกคนขอส่งกำลังใจให้พระเจ้า ส่งกำลังใจให้ทหารกล้าของเราหลายหมื่นนายที่กำลังต่อสู้ในกาซาเพื่อนำพาความยั่งยืนมาให้พวกเรา เพื่อให้เราได้ภาคภูมิใจ แม้จะมีใครบางคนที่ไม่ชอบใจกับชัยชนะครั้งนี้ แต่นั่นไม่ใช่พวกเรา เรามาส่งกำลังใจให้ทหารของเรากันเถอะ! เรากลัวชัยชนะหรือไม่ เรากลัวคำว่ายึดครองหรือไม่ เราคือชาวอิสราเอลผู้ดำรงอยู่ เราคือผู้ปลดปล่อยกาซา เราจะตั้งรกรากในกาซา เราจะชนะศัตรู!!”
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • พอเพียง คือ พอดี พอประมาณ และพอใจในสิ่งที่ตนมี ยินดีในสิ่งที่ตนได้ โดยไม่โลภอย่างมาก และไม่อยากได้ในสิ่งที่เกินตัว

    ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลักในการตัดสินใจ เพื่อความสมดุลของชีวิต และความสุขที่ยั่งยืน

    เรียบเรียงถ้อยคำจาก หนังสือใต้เบื้องพระยุคลบาท ของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล โดย มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ

    #มูลนิธิปิดทองหลังพระ

    #ทุกวิกฤตผ่านได้เพราะคนไทยไม่ท้อไม่ถอย

    #เชื่อมั่นเศรษฐกิจพอเพียง

    #สืบสานพระราชปณิธาน

    #ศาสตร์ของพระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

    #พอเพียงเพื่อยั่งยืน

    มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ

    Website: www.pidthong.org

    Twitter: twitter.com/pidthong

    Instagram: instagram.com/pidthonglangphra_

    Threads: threads.net/@pidthonglangphra_

    YouTube: https://youtube.com/@pidthong

    Line: https://bit.ly/3sumjTn

    Tiktok: https://bit.ly/3ZkPmXv
    พอเพียง คือ พอดี พอประมาณ และพอใจในสิ่งที่ตนมี ยินดีในสิ่งที่ตนได้ โดยไม่โลภอย่างมาก และไม่อยากได้ในสิ่งที่เกินตัว ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลักในการตัดสินใจ เพื่อความสมดุลของชีวิต และความสุขที่ยั่งยืน เรียบเรียงถ้อยคำจาก หนังสือใต้เบื้องพระยุคลบาท ของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล โดย มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ #มูลนิธิปิดทองหลังพระ #ทุกวิกฤตผ่านได้เพราะคนไทยไม่ท้อไม่ถอย #เชื่อมั่นเศรษฐกิจพอเพียง #สืบสานพระราชปณิธาน #ศาสตร์ของพระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน #พอเพียงเพื่อยั่งยืน มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ Website: www.pidthong.org Twitter: twitter.com/pidthong Instagram: instagram.com/pidthonglangphra_ Threads: threads.net/@pidthonglangphra_ YouTube: https://youtube.com/@pidthong Line: https://bit.ly/3sumjTn Tiktok: https://bit.ly/3ZkPmXv
    YOUTUBE.COM
    Pidthong
    มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และ สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ทำหน้าที่จัดการองค์ความรู้และส่งเสริมการพัฒนาตามแนวพระราชดําริอย่างเป็นระบบในวงกว้าง เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาหลักของประเทศ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศไทย กับทางเลือก ด้านเทคโนโลยี CPU Processor - RISC-V หรือ ARM ⁉️

    💡 ความสำคัญของ CPU RISC-V ในปัจจุบัน
    RISC-V เป็นสถาปัตยกรรมชุดคำสั่ง (Instruction Set Architecture - ISA) แบบ RISC ที่เป็นโอเพนซอร์ส ภายใต้ใบอนุญาต BSD ซึ่งหมายความว่าใครก็สามารถนำไปพัฒนา ปรับแต่ง หรือผลิตได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์หรือค่าธรรมเนียม (Royalty Fee) ความสำคัญในปัจจุบันมีดังนี้:

    ✅ ลดต้นทุนการพัฒนา: ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ทำให้เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือสตาร์ทอัพ
    ✅ ความยืดหยุ่นสูง: ผู้พัฒนาสามารถปรับแต่งชุดคำสั่งให้เหมาะกับการใช้งานเฉพาะทางได้
    ✅ การสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ: บริษัทใหญ่ เช่น Google, Alibaba, Qualcomm และ Intel ได้ให้ความสนใจและนำ RISC-V ไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ของตน
    ✅ การใช้งานที่หลากหลาย: ปัจจุบัน RISC-V ถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ IoT ระบบฝังตัว และการประมวลผลขั้นสูง

    💡 แนวโน้มการพัฒนาและใช้งานในอนาคต
    RISC-V มีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าจะมีการส่งมอบ RISC-V cores ถึง 80 พันล้านอันภายในปี 2025 แนวโน้มที่น่าสนใจมีดังนี้:
    ✅ การขยายสู่หลากหลายอุตสาหกรรม:
    👉 IoT: ด้วยความประหยัดพลังงานและขนาดเล็ก
    👉 ยานยนต์: ใช้ในระบบควบคุมและเซ็นเซอร์
    👉 AI และคลาวด์: การพัฒนาชิปประสิทธิภาพสูง เช่น SiFive P870
    👉 อุปกรณ์พกพา: เช่น แล็ปท็อปและแท็บเล็ต
    ✅การพัฒนาประสิทธิภาพ: มีการออกแบบ RISC-V cores ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแข่งขันกับสถาปัตยกรรมอื่น เช่น ARM และ x86
    ✅ การสนับสนุนจากชุมชนและรัฐบาล: หลายประเทศเริ่มลงทุนใน RISC-V เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ

    💡 โอกาสของธุรกิจไทยในการพัฒนา ขาย หรือใช้งาน RISC-V ในอนาคต
    ธุรกิจไทยมีโอกาสที่น่าสนใจในการใช้ประโยชน์จาก RISC-V ดังนี้:
    ✅ การพัฒนาฮาร์ดแวร์: สามารถออกแบบและผลิต CPU/MCU โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ และปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะ เช่น IoT หรือยานยนต์
    ✅ การแข่งขันในตลาดโลก: สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ RISC-V เพื่อส่งออกไปยังตลาดสากล
    ✅ การพัฒนาซอฟต์แวร์: สร้างแอปพลิเคชันและระบบที่รองรับ RISC-V
    ✅ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน: หากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ธุรกิจไทยสามารถกลายเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนได้

    💡 รัฐบาลไทยควรซื้อ ARM License หรือทุ่มกับ RISC-V
    การตัดสินใจของรัฐบาลไทยขึ้นอยู่กับเป้าหมายและทรัพยากรที่มีอยู่ โดยสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้:

    🛍️ การซื้อ ARM License
    ✅ ข้อดี:
    👉 มี ecosystem ที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
    👉 เอกชนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้ากันได้กับ ARM ได้ทันที
    👉 เหมาะสำหรับการเข้าสู่ตลาดระยะสั้น

    ❌ ข้อเสีย:
    👉 ค่าใช้จ่ายสูงทั้งในส่วนของไลเซนส์และ Royalty Fee
    👉 ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ซึ่งอาจขัดกับนโยบายพึ่งพาตนเอง

    🛍️ การทุ่มกับ RISC-V
    ✅ ข้อดี:
    👉 ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ช่วยลดต้นทุน
    👉 สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของไทย
    👉 ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ
    👉 มีโอกาสเติบโตในระยะยาวและเป็นผู้นำในภูมิภาค

    ❌ ข้อเสีย:
    👉 Ecosystem ยังไม่สมบูรณ์เท่า ARM อาจต้องใช้เวลาในการพัฒนา
    👉 มีความเสี่ยงจากการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่

    💡 ข้อเสนอแนะ
    ⏲️ระยะสั้น : การซื้อ ARM License อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อให้เอกชนไทยสามารถแข่งขันในตลาดได้ทันที คล้ายกับที่มาเลเซียทำ
    ⏲️ ระยะยาว: รัฐบาลควรลงทุนใน RISC-V ควบคู่ไปด้วย เพื่อสร้างฐานเทคโนโลยีของตัวเอง ลดการพึ่งพาต่างชาติ และใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นและต้นทุนต่ำของ RISC-V
    ⏲️ แนวทางผสมผสาน: สนับสนุนทั้ง ARM และ RISC-V โดยให้เอกชนเลือกใช้ตามความเหมาะสม พร้อมทั้งส่งเสริมการวิจัย RISC-V ในสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรม

    💡 บทสรุป
    RISC-V มีความสำคัญในปัจจุบันจากความเป็นโอเพนซอร์สและการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ แนวโน้มในอนาคตแสดงถึงการเติบโตในหลากหลายอุตสาหกรรม ธุรกิจไทยมีโอกาสในการพัฒนาและแข่งขันในตลาดโลกด้วย RISC-V ส่วนรัฐบาลไทยควรพิจารณาทั้ง ARM และ RISC-V โดยเน้น RISC-V ในระยะยาวเพื่อสร้างความยั่งยืนและพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี
    ประเทศไทย กับทางเลือก ด้านเทคโนโลยี CPU Processor - RISC-V หรือ ARM ⁉️ 💡 ความสำคัญของ CPU RISC-V ในปัจจุบัน RISC-V เป็นสถาปัตยกรรมชุดคำสั่ง (Instruction Set Architecture - ISA) แบบ RISC ที่เป็นโอเพนซอร์ส ภายใต้ใบอนุญาต BSD ซึ่งหมายความว่าใครก็สามารถนำไปพัฒนา ปรับแต่ง หรือผลิตได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์หรือค่าธรรมเนียม (Royalty Fee) ความสำคัญในปัจจุบันมีดังนี้: ✅ ลดต้นทุนการพัฒนา: ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ทำให้เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือสตาร์ทอัพ ✅ ความยืดหยุ่นสูง: ผู้พัฒนาสามารถปรับแต่งชุดคำสั่งให้เหมาะกับการใช้งานเฉพาะทางได้ ✅ การสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ: บริษัทใหญ่ เช่น Google, Alibaba, Qualcomm และ Intel ได้ให้ความสนใจและนำ RISC-V ไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ของตน ✅ การใช้งานที่หลากหลาย: ปัจจุบัน RISC-V ถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ IoT ระบบฝังตัว และการประมวลผลขั้นสูง 💡 แนวโน้มการพัฒนาและใช้งานในอนาคต RISC-V มีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าจะมีการส่งมอบ RISC-V cores ถึง 80 พันล้านอันภายในปี 2025 แนวโน้มที่น่าสนใจมีดังนี้: ✅ การขยายสู่หลากหลายอุตสาหกรรม: 👉 IoT: ด้วยความประหยัดพลังงานและขนาดเล็ก 👉 ยานยนต์: ใช้ในระบบควบคุมและเซ็นเซอร์ 👉 AI และคลาวด์: การพัฒนาชิปประสิทธิภาพสูง เช่น SiFive P870 👉 อุปกรณ์พกพา: เช่น แล็ปท็อปและแท็บเล็ต ✅การพัฒนาประสิทธิภาพ: มีการออกแบบ RISC-V cores ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแข่งขันกับสถาปัตยกรรมอื่น เช่น ARM และ x86 ✅ การสนับสนุนจากชุมชนและรัฐบาล: หลายประเทศเริ่มลงทุนใน RISC-V เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ 💡 โอกาสของธุรกิจไทยในการพัฒนา ขาย หรือใช้งาน RISC-V ในอนาคต ธุรกิจไทยมีโอกาสที่น่าสนใจในการใช้ประโยชน์จาก RISC-V ดังนี้: ✅ การพัฒนาฮาร์ดแวร์: สามารถออกแบบและผลิต CPU/MCU โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ และปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะ เช่น IoT หรือยานยนต์ ✅ การแข่งขันในตลาดโลก: สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ RISC-V เพื่อส่งออกไปยังตลาดสากล ✅ การพัฒนาซอฟต์แวร์: สร้างแอปพลิเคชันและระบบที่รองรับ RISC-V ✅ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน: หากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ธุรกิจไทยสามารถกลายเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนได้ 💡 รัฐบาลไทยควรซื้อ ARM License หรือทุ่มกับ RISC-V การตัดสินใจของรัฐบาลไทยขึ้นอยู่กับเป้าหมายและทรัพยากรที่มีอยู่ โดยสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้: 🛍️ การซื้อ ARM License ✅ ข้อดี: 👉 มี ecosystem ที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก 👉 เอกชนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้ากันได้กับ ARM ได้ทันที 👉 เหมาะสำหรับการเข้าสู่ตลาดระยะสั้น ❌ ข้อเสีย: 👉 ค่าใช้จ่ายสูงทั้งในส่วนของไลเซนส์และ Royalty Fee 👉 ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ซึ่งอาจขัดกับนโยบายพึ่งพาตนเอง 🛍️ การทุ่มกับ RISC-V ✅ ข้อดี: 👉 ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ช่วยลดต้นทุน 👉 สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของไทย 👉 ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ 👉 มีโอกาสเติบโตในระยะยาวและเป็นผู้นำในภูมิภาค ❌ ข้อเสีย: 👉 Ecosystem ยังไม่สมบูรณ์เท่า ARM อาจต้องใช้เวลาในการพัฒนา 👉 มีความเสี่ยงจากการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ 💡 ข้อเสนอแนะ ⏲️ระยะสั้น : การซื้อ ARM License อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อให้เอกชนไทยสามารถแข่งขันในตลาดได้ทันที คล้ายกับที่มาเลเซียทำ ⏲️ ระยะยาว: รัฐบาลควรลงทุนใน RISC-V ควบคู่ไปด้วย เพื่อสร้างฐานเทคโนโลยีของตัวเอง ลดการพึ่งพาต่างชาติ และใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นและต้นทุนต่ำของ RISC-V ⏲️ แนวทางผสมผสาน: สนับสนุนทั้ง ARM และ RISC-V โดยให้เอกชนเลือกใช้ตามความเหมาะสม พร้อมทั้งส่งเสริมการวิจัย RISC-V ในสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรม 💡 บทสรุป RISC-V มีความสำคัญในปัจจุบันจากความเป็นโอเพนซอร์สและการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ แนวโน้มในอนาคตแสดงถึงการเติบโตในหลากหลายอุตสาหกรรม ธุรกิจไทยมีโอกาสในการพัฒนาและแข่งขันในตลาดโลกด้วย RISC-V ส่วนรัฐบาลไทยควรพิจารณาทั้ง ARM และ RISC-V โดยเน้น RISC-V ในระยะยาวเพื่อสร้างความยั่งยืนและพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    WWW.CBSNEWS.COM
    What's in Trump's House-passed "one big, beautiful bill"
    Republicans made a number of last-minute changes to the legislation that passed in the lower chamber early Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mozilla ประกาศยุติบริการ Pocket และ Fakespot เพื่อมุ่งเน้นพัฒนา Firefox

    Mozilla ประกาศปิดตัว Pocket และ Fakespot ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกเว็บเพจและตรวจสอบรีวิวสินค้า โดยบริษัทให้เหตุผลว่า ต้องการมุ่งเน้นทรัพยากรไปที่การพัฒนา Firefox

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการยุติบริการ Pocket และ Fakespot
    ✅ Pocket จะหยุดให้บริการในวันที่ 8 กรกฎาคม 2025
    - ผู้ใช้ สามารถดาวน์โหลดข้อมูลที่บันทึกไว้ได้จนถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2025

    ✅ Fakespot และแอปมือถือจะหยุดให้บริการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2025
    - ฟีเจอร์ Review Checker ใน Firefox จะหยุดทำงานในวันที่ 10 มิถุนายน 2025

    ✅ Mozilla ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากวิวัฒนาการของอินเทอร์เน็ตและพฤติกรรมผู้ใช้
    - บริษัท ต้องการมุ่งเน้นทรัพยากรไปที่การพัฒนา Firefox ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ Pocket Premium จะถูกยกเลิก และผู้ใช้ที่สมัครรายปีจะได้รับเงินคืนอัตโนมัติ
    - ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2025 ผู้ใช้ไม่สามารถดาวน์โหลด Pocket หรือสมัครสมาชิกใหม่ได้

    ✅ Mozilla ซื้อกิจการ Pocket ในปี 2017 และ Fakespot ในปี 2023
    - แต่ไม่สามารถทำให้ Fakespot เป็นโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนได้

    https://www.neowin.net/news/mozilla-kills-pocket-and-fakespot-to-focus-more-on-firefox/
    Mozilla ประกาศยุติบริการ Pocket และ Fakespot เพื่อมุ่งเน้นพัฒนา Firefox Mozilla ประกาศปิดตัว Pocket และ Fakespot ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกเว็บเพจและตรวจสอบรีวิวสินค้า โดยบริษัทให้เหตุผลว่า ต้องการมุ่งเน้นทรัพยากรไปที่การพัฒนา Firefox 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการยุติบริการ Pocket และ Fakespot ✅ Pocket จะหยุดให้บริการในวันที่ 8 กรกฎาคม 2025 - ผู้ใช้ สามารถดาวน์โหลดข้อมูลที่บันทึกไว้ได้จนถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2025 ✅ Fakespot และแอปมือถือจะหยุดให้บริการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2025 - ฟีเจอร์ Review Checker ใน Firefox จะหยุดทำงานในวันที่ 10 มิถุนายน 2025 ✅ Mozilla ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากวิวัฒนาการของอินเทอร์เน็ตและพฤติกรรมผู้ใช้ - บริษัท ต้องการมุ่งเน้นทรัพยากรไปที่การพัฒนา Firefox ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ Pocket Premium จะถูกยกเลิก และผู้ใช้ที่สมัครรายปีจะได้รับเงินคืนอัตโนมัติ - ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2025 ผู้ใช้ไม่สามารถดาวน์โหลด Pocket หรือสมัครสมาชิกใหม่ได้ ✅ Mozilla ซื้อกิจการ Pocket ในปี 2017 และ Fakespot ในปี 2023 - แต่ไม่สามารถทำให้ Fakespot เป็นโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนได้ https://www.neowin.net/news/mozilla-kills-pocket-and-fakespot-to-focus-more-on-firefox/
    WWW.NEOWIN.NET
    Mozilla kills Pocket and Fakespot to focus more on Firefox
    Say goodbye to Pocket. Mozilla just announced the service shutdown in order to focus on the Firefox browser.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย  กล่าวถึงการยอมจำนนของยูเครน มีให้สองทางเลือก:

    1) ยูเครนควรเจรจาเพื่อทำข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย
    2) หรือเลือกสู้ต่อ แล้วยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไขในที่สุด ซึ่งรัสเซียชอบแนวทางนี้!!

    "รัสเซียเราพร้อมสำหรับการเจรจา แต่เขตแดนต้องเป็นไปตามความเป็นจริงของสถานการณ์ปัจจุบัน และตามข้อเสนอที่กำหนดไว้ ซึ่งการเจรจาดังกล่าวสามารถช่วยให้เห็นสันติภาพที่ยั่งยืนได้

    แต่เคียฟต้องจำไว้ว่า มีเส้นทางอื่นสำหรับระบอบเคียฟซึ่งเรากล่าวย้ำมาตลอดเช่นกัน นั่นคือเส้นทางของการยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข หากพูดกันตามตรง พวกเราหลายคนในประเทศของเราชอบแบบนั้นมากกว่า" เมดเวเดฟกล่าว

    นอกจากนี้ เมดเวเดฟยังวิจารณ์กลุ่ม "พันธมิตรแห่งความเต็มใจ" (coalition of the willing) ที่นำโดยฝรั่งเศสและอังกฤษ ว่าเป็นพวก “นักการเมืองที่ไร้สมองแต่อวดดี!!” และการปรากฏตัวของกองกำลังเหล่านี้ในยูเครน จะถือว่าเป็นภัยคุกคามรัสเซีย ซึ่งจะกลายเป็นเป้าหมายทางทหารที่ถูกต้องตามกฎสงครามอีกด้วย
    ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย  กล่าวถึงการยอมจำนนของยูเครน มีให้สองทางเลือก: 1) ยูเครนควรเจรจาเพื่อทำข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย 2) หรือเลือกสู้ต่อ แล้วยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไขในที่สุด ซึ่งรัสเซียชอบแนวทางนี้!! "รัสเซียเราพร้อมสำหรับการเจรจา แต่เขตแดนต้องเป็นไปตามความเป็นจริงของสถานการณ์ปัจจุบัน และตามข้อเสนอที่กำหนดไว้ ซึ่งการเจรจาดังกล่าวสามารถช่วยให้เห็นสันติภาพที่ยั่งยืนได้ แต่เคียฟต้องจำไว้ว่า มีเส้นทางอื่นสำหรับระบอบเคียฟซึ่งเรากล่าวย้ำมาตลอดเช่นกัน นั่นคือเส้นทางของการยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข หากพูดกันตามตรง พวกเราหลายคนในประเทศของเราชอบแบบนั้นมากกว่า" เมดเวเดฟกล่าว นอกจากนี้ เมดเวเดฟยังวิจารณ์กลุ่ม "พันธมิตรแห่งความเต็มใจ" (coalition of the willing) ที่นำโดยฝรั่งเศสและอังกฤษ ว่าเป็นพวก “นักการเมืองที่ไร้สมองแต่อวดดี!!” และการปรากฏตัวของกองกำลังเหล่านี้ในยูเครน จะถือว่าเป็นภัยคุกคามรัสเซีย ซึ่งจะกลายเป็นเป้าหมายทางทหารที่ถูกต้องตามกฎสงครามอีกด้วย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • อบจ.โคราช จัดตั้งเพิ่มอีก 8 แห่ง “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน” ร่วมภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตชาวโคราชอย่างยั่งยืน

    วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.นครราชสีมา เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU และมอบป้ายให้กับหน่วยงาน รวมถึงแนวทางการจัดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้านให้ยั่งยืน นับเป็นการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้าน และ ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ ที่จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับชุมชนและที่บ้านอย่างทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน จำนวน 8 แห่ง ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์ฯ จำนวน 1 แห่ง

    “อบจ.นครราชสีมา คาดหวังด้านการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, อำเภอ , ท้องถิ่นอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาล , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพในชุมชนสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เราจะจับมือพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา อย่างยั่งยืน”

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดตั้งเพิ่มอีก 8 แห่ง “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน” ร่วมภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตชาวโคราชอย่างยั่งยืน วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.นครราชสีมา เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU และมอบป้ายให้กับหน่วยงาน รวมถึงแนวทางการจัดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้านให้ยั่งยืน นับเป็นการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้าน และ ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ ที่จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับชุมชนและที่บ้านอย่างทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน จำนวน 8 แห่ง ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์ฯ จำนวน 1 แห่ง “อบจ.นครราชสีมา คาดหวังด้านการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, อำเภอ , ท้องถิ่นอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาล , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพในชุมชนสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เราจะจับมือพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา อย่างยั่งยืน” #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • อบจ.โคราช จัดตั้งเพิ่มอีก 8 แห่ง “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน” ร่วมภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตชาวโคราชอย่างยั่งยืน

    วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.นครราชสีมา เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU และมอบป้ายให้กับหน่วยงาน รวมถึงแนวทางการจัดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้านให้ยั่งยืน นับเป็นการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้าน และ ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ ที่จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับชุมชนและที่บ้านอย่างทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน จำนวน 8 แห่ง ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์ฯ จำนวน 1 แห่ง

    “อบจ.นครราชสีมา คาดหวังด้านการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, อำเภอ , ท้องถิ่นอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาล , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพในชุมชนสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เราจะจับมือพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา อย่างยั่งยืน”

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดตั้งเพิ่มอีก 8 แห่ง “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน” ร่วมภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตชาวโคราชอย่างยั่งยืน วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.นครราชสีมา เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU และมอบป้ายให้กับหน่วยงาน รวมถึงแนวทางการจัดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้านให้ยั่งยืน นับเป็นการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้าน และ ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ ที่จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับชุมชนและที่บ้านอย่างทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน จำนวน 8 แห่ง ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์ฯ จำนวน 1 แห่ง “อบจ.นครราชสีมา คาดหวังด้านการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, อำเภอ , ท้องถิ่นอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาล , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพในชุมชนสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เราจะจับมือพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา อย่างยั่งยืน” #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถาบันพระปกเกล้า เปิดรับสมัครหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการบริหารงานพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืน รุ่น 7 (ปบถ.7)
    https://www.thai-tai.tv/news/18783/
    สถาบันพระปกเกล้า เปิดรับสมัครหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการบริหารงานพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืน รุ่น 7 (ปบถ.7) https://www.thai-tai.tv/news/18783/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • แถลงการณ์ร่วมของอังกฤษ แคนาดา และฝรั่งเศส เกี่ยวกับฉนวนกาซา: เราจะไม่นิ่งเฉยต่อการกระทำอันโหดร้ายของรัฐบาลเนทันยาฮู


    คำเตือนครั้งสุดท้ายสำหรับอิสราเอล

    สหราชอาณาจักร แคนาดา และฝรั่งเศส ขู่ว่าจะใช้ "การดำเนินการที่เป็นรูปธรรม" ต่ออิสราเอล หากอิสราเอลยังไม่ยุติการรุกทางทหารครั้งใหม่และยกเลิกข้อจำกัดต่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และยังคงทำให้ประชาชนในฉนวนกาซาอดอาหารต่อไป

    "เราจะไม่นิ่งเฉยในขณะที่รัฐบาลเนทันยาฮูดำเนินการที่เลวร้ายเหล่านี้ หากอิสราเอลไม่หยุดการโจมตีทางทหารครั้งใหม่และยกเลิกข้อจำกัดในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เราจะดำเนินการตอบโต้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

    เราคัดค้านความพยายามใดๆ ที่จะขยายการตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์ อิสราเอลต้องหยุดการตั้งถิ่นฐานที่ผิดกฎหมายและทำลายความยั่งยืนของรัฐปาเลสไตน์และความมั่นคงของทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ เราจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการเพิ่มเติม รวมถึงการคว่ำบาตรที่กำหนดเป้าหมาย"
    แถลงการณ์ร่วมของอังกฤษ แคนาดา และฝรั่งเศส เกี่ยวกับฉนวนกาซา: เราจะไม่นิ่งเฉยต่อการกระทำอันโหดร้ายของรัฐบาลเนทันยาฮู คำเตือนครั้งสุดท้ายสำหรับอิสราเอล สหราชอาณาจักร แคนาดา และฝรั่งเศส ขู่ว่าจะใช้ "การดำเนินการที่เป็นรูปธรรม" ต่ออิสราเอล หากอิสราเอลยังไม่ยุติการรุกทางทหารครั้งใหม่และยกเลิกข้อจำกัดต่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และยังคงทำให้ประชาชนในฉนวนกาซาอดอาหารต่อไป "เราจะไม่นิ่งเฉยในขณะที่รัฐบาลเนทันยาฮูดำเนินการที่เลวร้ายเหล่านี้ หากอิสราเอลไม่หยุดการโจมตีทางทหารครั้งใหม่และยกเลิกข้อจำกัดในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เราจะดำเนินการตอบโต้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป เราคัดค้านความพยายามใดๆ ที่จะขยายการตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์ อิสราเอลต้องหยุดการตั้งถิ่นฐานที่ผิดกฎหมายและทำลายความยั่งยืนของรัฐปาเลสไตน์และความมั่นคงของทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ เราจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการเพิ่มเติม รวมถึงการคว่ำบาตรที่กำหนดเป้าหมาย"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูตินยืนยันอีกครั้งว่ารัสเซียมีกำลังและทรัพยากรเพียงพอที่จะทำให้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารที่เริ่มต้นในปี 2022 ไปสู่จุดหมายตามที่ตั้งใจไว้

    เขายังเน้นย้ำว่า เป้าหมายของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร (SMO) คือการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน ขจัดปัญหาที่แท้จริง และรับประกันการคุ้มครองประชากรที่พูดภาษารัสเซียในยูเครน
    ปูตินยืนยันอีกครั้งว่ารัสเซียมีกำลังและทรัพยากรเพียงพอที่จะทำให้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารที่เริ่มต้นในปี 2022 ไปสู่จุดหมายตามที่ตั้งใจไว้ เขายังเน้นย้ำว่า เป้าหมายของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร (SMO) คือการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน ขจัดปัญหาที่แท้จริง และรับประกันการคุ้มครองประชากรที่พูดภาษารัสเซียในยูเครน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • กิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner)
    วันนี้(15พ.ค.68) นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดกิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner)เพื่อยกระดับมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยว และสถานประกอบการในพื้นที่อุทยานธรณีโคราชให้มี ความ
    พร้อมในการให้บริการอย่างมีคณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้อง
    กับแนวทางของ ยูเนสโก้ โกบอล จีโอพาร์ค แนวทางดังกล่าวเน้นการอ
    ทรัพยากรทางธรณี การมีส่วนร่วมของ ชุมชน และการผสมผสานอัตลักษณ์
    ทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้ท่องเที่ยวในพื้นที่
    เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยมีผู้อำนวยการอุทยาน ธรณีโคราช คณะผู้บริหารโคราชจีโอพาร์คโลก ชุมชน
    ต้นแบบโคราชจีโอพาร์ค ผู้ประกอบการในพื้นที่ อุทยานธรณีโคราชร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมสีมาธานี จ.นครราชสีมา
    กิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner) วันนี้(15พ.ค.68) นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดกิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner)เพื่อยกระดับมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยว และสถานประกอบการในพื้นที่อุทยานธรณีโคราชให้มี ความ พร้อมในการให้บริการอย่างมีคณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้อง กับแนวทางของ ยูเนสโก้ โกบอล จีโอพาร์ค แนวทางดังกล่าวเน้นการอ ทรัพยากรทางธรณี การมีส่วนร่วมของ ชุมชน และการผสมผสานอัตลักษณ์ ทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้ท่องเที่ยวในพื้นที่ เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยมีผู้อำนวยการอุทยาน ธรณีโคราช คณะผู้บริหารโคราชจีโอพาร์คโลก ชุมชน ต้นแบบโคราชจีโอพาร์ค ผู้ประกอบการในพื้นที่ อุทยานธรณีโคราชร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมสีมาธานี จ.นครราชสีมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • กิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner)
    วันนี้(15พ.ค.68) นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดกิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner)เพื่อยกระดับมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยว และสถานประกอบการในพื้นที่อุทยานธรณีโคราชให้มี ความ
    พร้อมในการให้บริการอย่างมีคณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้อง
    กับแนวทางของ ยูเนสโก้ โกบอล จีโอพาร์ค แนวทางดังกล่าวเน้นการอ
    ทรัพยากรทางธรณี การมีส่วนร่วมของ ชุมชน และการผสมผสานอัตลักษณ์
    ทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้ท่องเที่ยวในพื้นที่
    เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยมีผู้อำนวยการอุทยาน ธรณีโคราช คณะผู้บริหารโคราชจีโอพาร์คโลก ชุมชน
    ต้นแบบโคราชจีโอพาร์ค ผู้ประกอบการในพื้นที่ อุทยานธรณีโคราชร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมสีมาธานี จ.นครราชสีมา
    กิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner) วันนี้(15พ.ค.68) นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดกิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner)เพื่อยกระดับมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยว และสถานประกอบการในพื้นที่อุทยานธรณีโคราชให้มี ความ พร้อมในการให้บริการอย่างมีคณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้อง กับแนวทางของ ยูเนสโก้ โกบอล จีโอพาร์ค แนวทางดังกล่าวเน้นการอ ทรัพยากรทางธรณี การมีส่วนร่วมของ ชุมชน และการผสมผสานอัตลักษณ์ ทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้ท่องเที่ยวในพื้นที่ เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยมีผู้อำนวยการอุทยาน ธรณีโคราช คณะผู้บริหารโคราชจีโอพาร์คโลก ชุมชน ต้นแบบโคราชจีโอพาร์ค ผู้ประกอบการในพื้นที่ อุทยานธรณีโคราชร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมสีมาธานี จ.นครราชสีมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์พัฒนาแบตเตอรี่ชีวภาพจากเห็ด เพื่ออนาคตของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยั่งยืน

    นักวิจัยจาก Empa (Swiss Federal Laboratories for Materials Science and Technology) กำลังพัฒนา แบตเตอรี่ชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้เอง โดยใช้ ไมซีเลียมของเห็ด split-gill เป็นวัสดุหลักสำหรับอิเล็กโทรด ซึ่งแนวคิดนี้อาจช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต

    ✅ ไมซีเลียมของเห็ด split-gill มีคุณสมบัติทางกลและชีวภาพที่โดดเด่น
    - สามารถ นำมาใช้เป็นวัสดุสำหรับอิเล็กโทรดของแบตเตอรี่

    ✅ เป้าหมายคือการสร้างแบตเตอรี่ที่สามารถย่อยสลายได้เองโดยไม่ปล่อยสารพิษ
    - ต่างจาก แบตเตอรี่ทั่วไปที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    ✅ นักวิจัยกำลังศึกษาความแข็งแรงของไมซีเลียมและความไวต่อความชื้น
    - เพื่อ ปรับปรุงให้สามารถใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้จริง

    ✅ การใช้วัสดุชีวภาพช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    - อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับ แบตเตอรี่ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ

    ✅ แนวคิดนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง และต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติม
    - นักวิจัยต้อง หาวิธีควบคุมการย่อยสลายของวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/a-compact-biodegradable-battery-with-fungal-paper-electrodes-is-what-researchers-at-this-university-are-dreaming-of
    นักวิทยาศาสตร์พัฒนาแบตเตอรี่ชีวภาพจากเห็ด เพื่ออนาคตของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยั่งยืน นักวิจัยจาก Empa (Swiss Federal Laboratories for Materials Science and Technology) กำลังพัฒนา แบตเตอรี่ชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้เอง โดยใช้ ไมซีเลียมของเห็ด split-gill เป็นวัสดุหลักสำหรับอิเล็กโทรด ซึ่งแนวคิดนี้อาจช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต ✅ ไมซีเลียมของเห็ด split-gill มีคุณสมบัติทางกลและชีวภาพที่โดดเด่น - สามารถ นำมาใช้เป็นวัสดุสำหรับอิเล็กโทรดของแบตเตอรี่ ✅ เป้าหมายคือการสร้างแบตเตอรี่ที่สามารถย่อยสลายได้เองโดยไม่ปล่อยสารพิษ - ต่างจาก แบตเตอรี่ทั่วไปที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ✅ นักวิจัยกำลังศึกษาความแข็งแรงของไมซีเลียมและความไวต่อความชื้น - เพื่อ ปรับปรุงให้สามารถใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้จริง ✅ การใช้วัสดุชีวภาพช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับ แบตเตอรี่ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ ✅ แนวคิดนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง และต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติม - นักวิจัยต้อง หาวิธีควบคุมการย่อยสลายของวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/a-compact-biodegradable-battery-with-fungal-paper-electrodes-is-what-researchers-at-this-university-are-dreaming-of
    WWW.TECHRADAR.COM
    Your next eco-friendly battery could be made from mushrooms, and it might eat your trash when it’s done
    Fungal paper batteries could reduce e-waste, but they’re still a long way from reality
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • หาก AI วิเคราะห์แล้วสรุปว่ามนุษย์เป็นต้นเหตุของปัญหาหลักที่ต้องแก้ไข นั่นอาจสะท้อนมุมมองที่ว่ากิจกรรมของมนุษย์ เช่น การบริโภคเกินจำเป็น การทำลายสิ่งแวดล้อม หรือความขัดแย้งทางสังคม เป็นปัจจัยขับเคลื่อนวิกฤตต่าง ๆ ในโลกปัจจุบัน

    ### ประเด็นสำคัญที่อาจถูกหยิบยก:
    1. **สิ่งแวดล้อม**: มลภาวะ การตัดไม้ทำลายป่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    2. **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำ การแบ่งแยก ความรุนแรง
    3. **เทคโนโลยี**: การใช้ AI/อาวุธอัตโนมัติโดยขาดจริยธรรม
    4. **เศรษฐกิจ**: ระบบทุนนิยมสุดโต่งที่ก่อให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ

    ### ทางออกที่ AI อาจเสนอ:
    - **ควบคุมพฤติกรรมมนุษย์**: เช่น ใช้กฎหมายหรือมาตรการทางภาษีเพื่อลดผลกระทบเชิงลบ
    - **การศึกษา**: ส่งเสริมจิตสำนึกด้านความยั่งยืนและความร่วมมือ
    - **นวัตกรรม**: พัฒนาเทคโนโลยีชดเชยปัญหาที่มนุษย์สร้างขึ้น (เช่น Carbon Capture)
    - **กำกับดูแล AI**: เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบถูกใช้ในทางที่ทำลายล้าง

    ### คำถามเชิงวิพากษ์:
    - AI เองก็ถูกสร้างและฝึกฝนโดยมนุษย์ ดังนั้นข้อสรุปนี้จะมีความเอนเอียงหรือไม่?
    - หากมนุษย์เป็นปัญหา แล้วใครจะเป็นผู้กำหนดและดำเนินการแก้ไข?

    คุณคิดว่ามนุษย์ควรปรับตัวอย่างไรให้สมดุลกับข้อสรุปของ AI? หรืออาจต้องทบทวนว่า AI เองก็มีข้อจำกัดในการวิเคราะห์บริบททางสังคมที่ซับซ้อน?
    หาก AI วิเคราะห์แล้วสรุปว่ามนุษย์เป็นต้นเหตุของปัญหาหลักที่ต้องแก้ไข นั่นอาจสะท้อนมุมมองที่ว่ากิจกรรมของมนุษย์ เช่น การบริโภคเกินจำเป็น การทำลายสิ่งแวดล้อม หรือความขัดแย้งทางสังคม เป็นปัจจัยขับเคลื่อนวิกฤตต่าง ๆ ในโลกปัจจุบัน ### ประเด็นสำคัญที่อาจถูกหยิบยก: 1. **สิ่งแวดล้อม**: มลภาวะ การตัดไม้ทำลายป่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2. **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำ การแบ่งแยก ความรุนแรง 3. **เทคโนโลยี**: การใช้ AI/อาวุธอัตโนมัติโดยขาดจริยธรรม 4. **เศรษฐกิจ**: ระบบทุนนิยมสุดโต่งที่ก่อให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบ ### ทางออกที่ AI อาจเสนอ: - **ควบคุมพฤติกรรมมนุษย์**: เช่น ใช้กฎหมายหรือมาตรการทางภาษีเพื่อลดผลกระทบเชิงลบ - **การศึกษา**: ส่งเสริมจิตสำนึกด้านความยั่งยืนและความร่วมมือ - **นวัตกรรม**: พัฒนาเทคโนโลยีชดเชยปัญหาที่มนุษย์สร้างขึ้น (เช่น Carbon Capture) - **กำกับดูแล AI**: เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบถูกใช้ในทางที่ทำลายล้าง ### คำถามเชิงวิพากษ์: - AI เองก็ถูกสร้างและฝึกฝนโดยมนุษย์ ดังนั้นข้อสรุปนี้จะมีความเอนเอียงหรือไม่? - หากมนุษย์เป็นปัญหา แล้วใครจะเป็นผู้กำหนดและดำเนินการแก้ไข? คุณคิดว่ามนุษย์ควรปรับตัวอย่างไรให้สมดุลกับข้อสรุปของ AI? หรืออาจต้องทบทวนว่า AI เองก็มีข้อจำกัดในการวิเคราะห์บริบททางสังคมที่ซับซ้อน?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • GM เปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV ใหม่: เพิ่มระยะทางและลดต้นทุนการผลิตภายในปี 2028

    General Motors (GM) และ LG Energy Solution กำลังพัฒนา แบตเตอรี่ลิเธียมแมงกานีส (LMR) รุ่นใหม่ ซึ่งมีศักยภาพในการ เพิ่มระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้าและลดต้นทุนการผลิต โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2028

    ✅ GM และ LG Energy Solution พัฒนาแบตเตอรี่ LMR เพื่อใช้ในรถบรรทุกไฟฟ้าและ SUV
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ GM แข่งขันกับ Tesla และ Ford ในตลาด EV ระดับพรีเมียม

    ✅ แบตเตอรี่ LMR มีความหนาแน่นพลังงานสูงกว่าลิเธียมไอออนฟอสเฟตถึง 33%
    - ลดการใช้โคบอลต์ ซึ่งมีราคาสูงและไม่ยั่งยืน

    ✅ GM วางแผนเริ่มผลิตแบตเตอรี่ LMR ในสหรัฐฯ ปี 2027 และผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2028
    - ใช้แบรนด์ Ultium Cells และทดสอบที่ศูนย์พัฒนาแบตเตอรี่ในมิชิแกน

    ✅ แบตเตอรี่ LMR ใช้ดีไซน์แบบปริซึมแทนแบบซอง
    - ช่วยให้ บรรจุพลังงานได้มากขึ้นและลดต้นทุนการผลิต

    ✅ GM ตั้งเป้าให้รถบรรทุกไฟฟ้า เช่น Chevrolet Silverado EV มีระยะทางเกิน 400 ไมล์
    - เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ Ford และ Tesla

    ‼️ แบตเตอรี่ LMR เคยมีปัญหาด้านความเสถียร เช่น การเสื่อมสภาพของแรงดันไฟฟ้า
    - GM ใช้เวลากว่า 10 ปีในการแก้ไขปัญหานี้

    ‼️ Ford วางแผนเปิดตัวแบตเตอรี่ LMR ในปี 2030 ซึ่งอาจทำให้ GM ได้เปรียบในตลาด
    - ต้องติดตามว่า Ford จะเร่งการพัฒนาเพื่อแข่งขันหรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107911-new-gm-ev-battery-tech-promises-extended-range.html
    GM เปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV ใหม่: เพิ่มระยะทางและลดต้นทุนการผลิตภายในปี 2028 General Motors (GM) และ LG Energy Solution กำลังพัฒนา แบตเตอรี่ลิเธียมแมงกานีส (LMR) รุ่นใหม่ ซึ่งมีศักยภาพในการ เพิ่มระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้าและลดต้นทุนการผลิต โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2028 ✅ GM และ LG Energy Solution พัฒนาแบตเตอรี่ LMR เพื่อใช้ในรถบรรทุกไฟฟ้าและ SUV - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ GM แข่งขันกับ Tesla และ Ford ในตลาด EV ระดับพรีเมียม ✅ แบตเตอรี่ LMR มีความหนาแน่นพลังงานสูงกว่าลิเธียมไอออนฟอสเฟตถึง 33% - ลดการใช้โคบอลต์ ซึ่งมีราคาสูงและไม่ยั่งยืน ✅ GM วางแผนเริ่มผลิตแบตเตอรี่ LMR ในสหรัฐฯ ปี 2027 และผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2028 - ใช้แบรนด์ Ultium Cells และทดสอบที่ศูนย์พัฒนาแบตเตอรี่ในมิชิแกน ✅ แบตเตอรี่ LMR ใช้ดีไซน์แบบปริซึมแทนแบบซอง - ช่วยให้ บรรจุพลังงานได้มากขึ้นและลดต้นทุนการผลิต ✅ GM ตั้งเป้าให้รถบรรทุกไฟฟ้า เช่น Chevrolet Silverado EV มีระยะทางเกิน 400 ไมล์ - เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ Ford และ Tesla ‼️ แบตเตอรี่ LMR เคยมีปัญหาด้านความเสถียร เช่น การเสื่อมสภาพของแรงดันไฟฟ้า - GM ใช้เวลากว่า 10 ปีในการแก้ไขปัญหานี้ ‼️ Ford วางแผนเปิดตัวแบตเตอรี่ LMR ในปี 2030 ซึ่งอาจทำให้ GM ได้เปรียบในตลาด - ต้องติดตามว่า Ford จะเร่งการพัฒนาเพื่อแข่งขันหรือไม่ https://www.techspot.com/news/107911-new-gm-ev-battery-tech-promises-extended-range.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New GM EV battery tech promises extended range and lower production costs by 2028
    General Motors and LG Energy Solution are poised to launch a new era for electric vehicles with the commercial release of lithium manganese-rich (LMR) prismatic battery cells....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปส. สนับสนุน นโยบาย รมว.ศุภมาส ผนึกพลังทุกหน่วยงาน อว. ดันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีบริหารจัดการน้ำ รับมือภัยแล้ง-อุทกภัยอย่างยั่งยืน
    https://www.thai-tai.tv/news/18673/
    ปส. สนับสนุน นโยบาย รมว.ศุภมาส ผนึกพลังทุกหน่วยงาน อว. ดันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีบริหารจัดการน้ำ รับมือภัยแล้ง-อุทกภัยอย่างยั่งยืน https://www.thai-tai.tv/news/18673/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร
    .
    วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี
    .
    นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร . วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี . นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 0 รีวิว
  • แลกเปลี่ยน รับรู้ เข้าใจ
    พัฒนาการศึกษาไทยที่เท่าเทียม

    วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการติดตามความก้าวหน้าการบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา (SDG4) และพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา (SDG4) ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อแลกเปลี่ยน สร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา ระดับพื้นที่ ตามหลักการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในเป้าหมายที่ 4 คือการสร้างหลักประกันว่าทุกคนต้องมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุม และเท่าเทียม สนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    แลกเปลี่ยน รับรู้ เข้าใจ พัฒนาการศึกษาไทยที่เท่าเทียม วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการติดตามความก้าวหน้าการบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา (SDG4) และพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา (SDG4) ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อแลกเปลี่ยน สร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา ระดับพื้นที่ ตามหลักการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในเป้าหมายที่ 4 คือการสร้างหลักประกันว่าทุกคนต้องมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุม และเท่าเทียม สนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศไทย หากระวังรักษาตัวให้ดีไม่ให้ถูกบ่อนทำลาย มั่นใจได้ว่าแม้สถานะการณ์ในโลกจะเลวร้ายด้วยหายนะทั้งทางธรรมชาติ เศรษฐกิจ หรือสงคราม เราจะยังอยู่รอดได้ ถ้าไม่ใช่เพราะโง่ทำลายตัวเองหรือชักศึกเข้าบ้าน ขายตัวเป็นเครื่องมือให้ต่างชาติทำลายจากภายใน เราจะประคองชีวิตไว้ได้ด้วยปัจจัยที่มีอยู่ภายในได้อย่างแน่นอน ที่กล่าวนี้ไม่ได้เป็นเพราะศักยภาพในการค้ากับชาวโลก ไม่ได้หมายถึงสถานะทางเศรษฐกิจหรือการเมืองในประชาคมโลก ไม่ได้หมายถึงสถานะความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศใด แต่หมายถึงชาติและประชาชาติที่จะตั้งมั่นโดยลำพังในการรับมือสถานะการณ์ภายนอกที่จะมากระทบความมั่นคงภายในประเทศของเราโดยไม่พึ่งพาผู้อื่น ภายใต้วิกฤติการณ์เลวร้ายไม่ว่าจะสงครามหรือภัยพิบัติ
    .
    ปัจจัยสี่ที่ทุกคนรู้ดี ข้าว ผ้า ยา บ้าน ... ถามตัวเองว่าเรามีเพียงพอโดยไม่พึ่งพาใครไหม? เมื่อโลกดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว เหล่าคนโง่เขลาที่ยังคงไม่เข้าใจปรัชญาการดำเนินวิถีชีวิตอย่างยั่งยืนและพอเพียงที่ในหลวงรัชกาลที่เก้าสอน ควรจะต้องรู้สำนึกและคิดได้ในความสำคัญข้อนี้เสียแต่บัดนี้แล้ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาและครอบครัวจะต้องเดินไปสู่ความวิบัติอย่างหนีไม่พ้น พวกเขาจะต้องลำบากแสนสาหัส หรือไม่เช่นนั้นก็จะตาย
    .
    คุณได้เห็นกับตาจากสารคดีนี้ อเมริกา ประเทศที่ซึ่งเหล่ากีบเจน Z ไฝ่ฝันยกย่อง งมงายในพรอพพาแกนดาของประชาธิปไตยจอมปลอมโดยไม่รู้ความจริง มีข้อเท็จจริงมากมายที่หากคุณหลงวนอยู่ในกับดักคุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอะไรคือเรื่องโกหก อะไรคือเรื่องจริง คุณจะต้องตกใจที่จะได้รู้ว่ามันใช้เวลาที่รวดเร็วเพียงใดที่ประเทศอย่างอเมริกาที่คุณเห็นว่าสวยงามในภาพยนตร์ ได้เดินมาถึงจุดวิกฤติเช่นนี้ และกำลังเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่องเกินจะหยุดยั้ง
    .
    คนไทยทั้งหลาย... ชาติคือรัฐนาวาที่จะพาประชาชาติฝ่าคลื่นลมอันรุนแรงในโลกนี้ให้ไปถึงจุดหมายอันรุ่งเรืองได้ จะทำเช่นนั้นได้ก็ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวอย่างมั่นคงในฐานะของประชาชนที่เรียกตัวเองว่า "คนไทย" เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับความสมมุติในทางเผ่าพันธ์ุว่าจะเป็น เชื้อไทย เชื้อจีน เชื้อแขก เชื้อฝรั่ง.. เมื่อเกิดมาและอาศัยอยู่ในรัฐนาวาที่ชื่อว่า "ประเทศไทย" ลำนี้ ท่านก็คือประชาชาติไทย เป็นประชากรไทยคนหนึ่งที่มีหน้าที่ปกป้องเรือลำนี้ให้ปลอดภัยไม่อัปปางลงในกระแสน้ำแห่งหายนะ มีหน้าที่ที่จะช่วยกันทำนุบำรุงดูแลพัฒนาให้เรือลำนี้ก้าวหน้ามีประสิทธิภาพในการเดินทาง มีหน้าที่ช่วยกันและกันในหมู่ลูกเรือที่จะทำให้ทุกคนได้เติบโตแข็งแรงมีความพร้อมในการทำหน้าที่ของตนร่วมกับคนอื่นๆ ในเรือลำเดียวกันนี้
    .
    หากทุกคนสำนึกในข้อเหล่านี้ เราก็จะอยู่รอดปลอดภัยในทุกกระแสน้ำที่ซัดโถมเข้ากระหน่ำโลกตลอดไป และเมืองไทยจะไม่มีวันเป็นเหมือนอย่างซานฟรานซิสโกที่คุณเห็นนี้อย่างแน่นอน
    .
    https://youtu.be/lswvpyw0z9I?si=NtogZJPvzN7VIkH-
    ประเทศไทย หากระวังรักษาตัวให้ดีไม่ให้ถูกบ่อนทำลาย มั่นใจได้ว่าแม้สถานะการณ์ในโลกจะเลวร้ายด้วยหายนะทั้งทางธรรมชาติ เศรษฐกิจ หรือสงคราม เราจะยังอยู่รอดได้ ถ้าไม่ใช่เพราะโง่ทำลายตัวเองหรือชักศึกเข้าบ้าน ขายตัวเป็นเครื่องมือให้ต่างชาติทำลายจากภายใน เราจะประคองชีวิตไว้ได้ด้วยปัจจัยที่มีอยู่ภายในได้อย่างแน่นอน ที่กล่าวนี้ไม่ได้เป็นเพราะศักยภาพในการค้ากับชาวโลก ไม่ได้หมายถึงสถานะทางเศรษฐกิจหรือการเมืองในประชาคมโลก ไม่ได้หมายถึงสถานะความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศใด แต่หมายถึงชาติและประชาชาติที่จะตั้งมั่นโดยลำพังในการรับมือสถานะการณ์ภายนอกที่จะมากระทบความมั่นคงภายในประเทศของเราโดยไม่พึ่งพาผู้อื่น ภายใต้วิกฤติการณ์เลวร้ายไม่ว่าจะสงครามหรือภัยพิบัติ . ปัจจัยสี่ที่ทุกคนรู้ดี ข้าว ผ้า ยา บ้าน ... ถามตัวเองว่าเรามีเพียงพอโดยไม่พึ่งพาใครไหม? เมื่อโลกดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว เหล่าคนโง่เขลาที่ยังคงไม่เข้าใจปรัชญาการดำเนินวิถีชีวิตอย่างยั่งยืนและพอเพียงที่ในหลวงรัชกาลที่เก้าสอน ควรจะต้องรู้สำนึกและคิดได้ในความสำคัญข้อนี้เสียแต่บัดนี้แล้ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาและครอบครัวจะต้องเดินไปสู่ความวิบัติอย่างหนีไม่พ้น พวกเขาจะต้องลำบากแสนสาหัส หรือไม่เช่นนั้นก็จะตาย . คุณได้เห็นกับตาจากสารคดีนี้ อเมริกา ประเทศที่ซึ่งเหล่ากีบเจน Z ไฝ่ฝันยกย่อง งมงายในพรอพพาแกนดาของประชาธิปไตยจอมปลอมโดยไม่รู้ความจริง มีข้อเท็จจริงมากมายที่หากคุณหลงวนอยู่ในกับดักคุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอะไรคือเรื่องโกหก อะไรคือเรื่องจริง คุณจะต้องตกใจที่จะได้รู้ว่ามันใช้เวลาที่รวดเร็วเพียงใดที่ประเทศอย่างอเมริกาที่คุณเห็นว่าสวยงามในภาพยนตร์ ได้เดินมาถึงจุดวิกฤติเช่นนี้ และกำลังเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่องเกินจะหยุดยั้ง . คนไทยทั้งหลาย... ชาติคือรัฐนาวาที่จะพาประชาชาติฝ่าคลื่นลมอันรุนแรงในโลกนี้ให้ไปถึงจุดหมายอันรุ่งเรืองได้ จะทำเช่นนั้นได้ก็ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวอย่างมั่นคงในฐานะของประชาชนที่เรียกตัวเองว่า "คนไทย" เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับความสมมุติในทางเผ่าพันธ์ุว่าจะเป็น เชื้อไทย เชื้อจีน เชื้อแขก เชื้อฝรั่ง.. เมื่อเกิดมาและอาศัยอยู่ในรัฐนาวาที่ชื่อว่า "ประเทศไทย" ลำนี้ ท่านก็คือประชาชาติไทย เป็นประชากรไทยคนหนึ่งที่มีหน้าที่ปกป้องเรือลำนี้ให้ปลอดภัยไม่อัปปางลงในกระแสน้ำแห่งหายนะ มีหน้าที่ที่จะช่วยกันทำนุบำรุงดูแลพัฒนาให้เรือลำนี้ก้าวหน้ามีประสิทธิภาพในการเดินทาง มีหน้าที่ช่วยกันและกันในหมู่ลูกเรือที่จะทำให้ทุกคนได้เติบโตแข็งแรงมีความพร้อมในการทำหน้าที่ของตนร่วมกับคนอื่นๆ ในเรือลำเดียวกันนี้ . หากทุกคนสำนึกในข้อเหล่านี้ เราก็จะอยู่รอดปลอดภัยในทุกกระแสน้ำที่ซัดโถมเข้ากระหน่ำโลกตลอดไป และเมืองไทยจะไม่มีวันเป็นเหมือนอย่างซานฟรานซิสโกที่คุณเห็นนี้อย่างแน่นอน . https://youtu.be/lswvpyw0z9I?si=NtogZJPvzN7VIkH-
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts