• พระสังกัจจายน์หลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า
    พระสังกัจจายน์หลวงปู่เทพโลกอุดร เนื้อผงพุทธคุณสีเขียว หายาก กรุวังหน้า //อธิษฐาน​จิตโดยหลวงปู่เทพ​โลก​อุดร​ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีและป้องกันคุณไสยและภูตผีปีศาจ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงปู่​เทพ​โลก​อุดร พิมพ์พระสังกัจจายน์​ กรุวังหน้า สร้างโดยโดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 เป็นพระพิมพ์ที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ โดยช่างหลวงในยุคสมัยนั้นได้สรรสร้างงานชั้นดี ด้วยจินตนาการล้ำเลิศ ทั้งมีผู้ทรงภูมิธรรมสูงส่ง ได้อธิษฐานจิต ปลุกเสก ไว้สืบอายุพระพุทธศาสนา จึงเป็นมรดกทางพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินสยาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาไว้ให้ลูกหลานตราบนานเท่านาน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    พระสังกัจจายน์หลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า พระสังกัจจายน์หลวงปู่เทพโลกอุดร เนื้อผงพุทธคุณสีเขียว หายาก กรุวังหน้า //อธิษฐาน​จิตโดยหลวงปู่เทพ​โลก​อุดร​ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีและป้องกันคุณไสยและภูตผีปีศาจ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงปู่​เทพ​โลก​อุดร พิมพ์พระสังกัจจายน์​ กรุวังหน้า สร้างโดยโดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 เป็นพระพิมพ์ที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ โดยช่างหลวงในยุคสมัยนั้นได้สรรสร้างงานชั้นดี ด้วยจินตนาการล้ำเลิศ ทั้งมีผู้ทรงภูมิธรรมสูงส่ง ได้อธิษฐานจิต ปลุกเสก ไว้สืบอายุพระพุทธศาสนา จึงเป็นมรดกทางพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินสยาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาไว้ให้ลูกหลานตราบนานเท่านาน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Intel i386 ครบรอบ 40 ปี: จุดเปลี่ยนของโลกคอมพิวเตอร์ที่ยังส่งผลถึงทุกวันนี้"

    ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคมปี 1985 Intel ได้เปิดตัวชิป i386 หรือที่รู้จักกันในชื่อ 80386 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ x86 รุ่นที่สาม และเป็นชิป 32 บิตตัวแรกในสายผลิตภัณฑ์ของ Intel จุดเริ่มต้นของชุดคำสั่ง IA-32 ที่กลายเป็นรากฐานของระบบปฏิบัติการ Windows และ Linux มานานหลายทศวรรษ

    i386 มีทรานซิสเตอร์ถึง 275,000 ตัว และทำงานที่ความเร็วสูงสุด 16 MHz ซึ่งถือว่าเร็วมากในยุคนั้น แต่สิ่งที่เปลี่ยนโลกจริง ๆ คือการรองรับ protected mode, virtual 8086 mode และ hardware paging ซึ่งเปิดทางให้ระบบ multitasking และ virtual memory บน x86 เป็นไปได้จริง

    Compaq เป็นบริษัทแรกที่นำ i386 มาใช้ในเครื่อง Deskpro i386 โดยเอาชนะ IBM ที่ปฏิเสธชิปนี้ไปก่อนหน้า ทำให้ Compaq กลายเป็นผู้นำตลาด PC ในช่วงเวลานั้น

    Linux เองก็ถือกำเนิดบน i386 โดย Linus Torvalds พัฒนา kernel แรกให้ทำงานบนฮาร์ดแวร์ 386-AT โดยเฉพาะ ก่อนจะยุติการรองรับในปี 2012 หลังจากใช้งานมานานกว่า 20 ปี

    แม้ i386 จะถูกแทนที่ด้วย i486 และรุ่นใหม่ ๆ แต่สถาปัตยกรรม IA-32 ที่มันวางรากฐานไว้ยังคงปรากฏอยู่ใน emulator, VM และระบบ legacy จนถึงทุกวันนี้

    จุดเด่นของ Intel i386
    เปิดตัวในปี 1985 เป็นชิป 32 บิตตัวแรกของ Intel
    มี 275,000 ทรานซิสเตอร์ ทำงานที่ 16 MHz
    รองรับ protected mode, virtual 8086 และ paging

    ผลกระทบต่อระบบปฏิบัติการ
    Windows 3.0 ใช้ฟีเจอร์ “386 Enhanced Mode” เพื่อรันหลาย DOS session พร้อมกัน
    Linux kernel รุ่นแรกพัฒนาสำหรับ i386 โดยเฉพาะ

    การนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์
    Compaq เปิดตัว Deskpro i386 ก่อน IBM ถึง 1 ปี
    ราคาเริ่มต้นที่ $6,499 ถือเป็นจุดเปลี่ยนของตลาด PC

    มรดกของ i386
    IA-32 กลายเป็นพื้นฐานของ Windows และ Linux จนถึงยุค 2010s
    ยังปรากฏใน emulator, VM และระบบ legacy
    Intel ยุติการผลิตชิป i386 ในปี 2007
    🎇 "Intel i386 ครบรอบ 40 ปี: จุดเปลี่ยนของโลกคอมพิวเตอร์ที่ยังส่งผลถึงทุกวันนี้" ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคมปี 1985 Intel ได้เปิดตัวชิป i386 หรือที่รู้จักกันในชื่อ 80386 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ x86 รุ่นที่สาม และเป็นชิป 32 บิตตัวแรกในสายผลิตภัณฑ์ของ Intel จุดเริ่มต้นของชุดคำสั่ง IA-32 ที่กลายเป็นรากฐานของระบบปฏิบัติการ Windows และ Linux มานานหลายทศวรรษ i386 มีทรานซิสเตอร์ถึง 275,000 ตัว และทำงานที่ความเร็วสูงสุด 16 MHz ซึ่งถือว่าเร็วมากในยุคนั้น แต่สิ่งที่เปลี่ยนโลกจริง ๆ คือการรองรับ protected mode, virtual 8086 mode และ hardware paging ซึ่งเปิดทางให้ระบบ multitasking และ virtual memory บน x86 เป็นไปได้จริง Compaq เป็นบริษัทแรกที่นำ i386 มาใช้ในเครื่อง Deskpro i386 โดยเอาชนะ IBM ที่ปฏิเสธชิปนี้ไปก่อนหน้า ทำให้ Compaq กลายเป็นผู้นำตลาด PC ในช่วงเวลานั้น Linux เองก็ถือกำเนิดบน i386 โดย Linus Torvalds พัฒนา kernel แรกให้ทำงานบนฮาร์ดแวร์ 386-AT โดยเฉพาะ ก่อนจะยุติการรองรับในปี 2012 หลังจากใช้งานมานานกว่า 20 ปี แม้ i386 จะถูกแทนที่ด้วย i486 และรุ่นใหม่ ๆ แต่สถาปัตยกรรม IA-32 ที่มันวางรากฐานไว้ยังคงปรากฏอยู่ใน emulator, VM และระบบ legacy จนถึงทุกวันนี้ ✅ จุดเด่นของ Intel i386 ➡️ เปิดตัวในปี 1985 เป็นชิป 32 บิตตัวแรกของ Intel ➡️ มี 275,000 ทรานซิสเตอร์ ทำงานที่ 16 MHz ➡️ รองรับ protected mode, virtual 8086 และ paging ✅ ผลกระทบต่อระบบปฏิบัติการ ➡️ Windows 3.0 ใช้ฟีเจอร์ “386 Enhanced Mode” เพื่อรันหลาย DOS session พร้อมกัน ➡️ Linux kernel รุ่นแรกพัฒนาสำหรับ i386 โดยเฉพาะ ✅ การนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ ➡️ Compaq เปิดตัว Deskpro i386 ก่อน IBM ถึง 1 ปี ➡️ ราคาเริ่มต้นที่ $6,499 ถือเป็นจุดเปลี่ยนของตลาด PC ✅ มรดกของ i386 ➡️ IA-32 กลายเป็นพื้นฐานของ Windows และ Linux จนถึงยุค 2010s ➡️ ยังปรากฏใน emulator, VM และระบบ legacy ➡️ Intel ยุติการผลิตชิป i386 ในปี 2007
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อำลา Yang Chen-Ning: นักฟิสิกส์ผู้เปลี่ยนโลกและสร้างสะพานวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ"

    Yang Chen-Ning นักฟิสิกส์ระดับโลกและผู้ได้รับรางวัลโนเบลคนแรกของจีน เสียชีวิตอย่างสงบในกรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 103 ปี เขาเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาททั้งในวงการฟิสิกส์ระดับโลกและการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของจีน

    Yang ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ร่วมกับ Tsung-Dao Lee ในปี 1957 จากทฤษฎี “Parity Non-Conservation” ซึ่งพลิกโฉมความเข้าใจเกี่ยวกับแรงพื้นฐานในธรรมชาติ เขายังเป็นผู้ร่วมพัฒนา “Yang-Mills Theory” ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญของ Standard Model ในฟิสิกส์อนุภาค

    ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยการเดินทางทางวิชาการที่ยิ่งใหญ่ ตั้งแต่เรียนที่มหาวิทยาลัยชิคาโก ไปจนถึงเป็นศาสตราจารย์ที่ Princeton และ SUNY Stony Brook ก่อนจะกลับมารับตำแหน่งที่ Tsinghua University ในจีน ซึ่งเขาอุทิศตนเพื่อพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์และสร้างโอกาสให้กับนักวิจัยรุ่นใหม่

    Yang ไม่เพียงเป็นนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นผู้เชื่อมโยงโลกวิทยาศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ผ่านการแลกเปลี่ยนนักวิจัยและการให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลจีนในโครงการวิทยาศาสตร์ระดับชาติ

    ประวัติชีวิตและการศึกษา
    เกิดที่ Hefei, Anhui ในปี 1922
    เรียนที่ National Southwestern Associated University และ Tsinghua University
    ได้รับปริญญาเอกจาก University of Chicago ในปี 1948

    เส้นทางอาชีพในต่างประเทศ
    เป็นสมาชิกถาวรของ Institute for Advanced Study ที่ Princeton
    ดำรงตำแหน่ง Albert Einstein Professor ที่ SUNY Stony Brook จนถึงปี 1999
    เป็น visiting professor ที่ Chinese University of Hong Kong ตั้งแต่ปี 1986

    ผลงานทางวิทยาศาสตร์
    ร่วมกับ Tsung-Dao Lee เสนอทฤษฎี Parity Non-Conservation ใน weak interaction
    พัฒนา Yang-Mills Theory ซึ่งเป็นรากฐานของ Standard Model
    ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20

    บทบาทในจีน
    กลับมารับตำแหน่งที่ Tsinghua University และเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของ Institute for Advanced Study
    เสนอแนวทางการฟื้นฟูงานวิจัยพื้นฐานให้รัฐบาลจีน
    สนับสนุนทุนการศึกษาให้นักวิจัยจีนไปศึกษาต่อในสหรัฐฯ
    มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานโยบายวิทยาศาสตร์ระดับชาติ

    ความสูญเสียของวงการวิทยาศาสตร์
    การจากไปของ Yang ถือเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญที่มีบทบาททั้งในระดับโลกและระดับชาติ
    ทิ้งไว้เพียงผลงานและแรงบันดาลใจให้กับนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่

    มรดกทางวิชาการ
    ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 20 แห่งทั่วโลก
    เป็นสมาชิกต่างชาติของสถาบันวิทยาศาสตร์มากกว่า 10 แห่ง
    ผลงานของเขายังคงเป็นรากฐานของฟิสิกส์ยุคใหม่

    https://www.chinadaily.com.cn/a/202510/18/WS68f3170ea310f735438b5bf2.html
    🪦 "อำลา Yang Chen-Ning: นักฟิสิกส์ผู้เปลี่ยนโลกและสร้างสะพานวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ" Yang Chen-Ning นักฟิสิกส์ระดับโลกและผู้ได้รับรางวัลโนเบลคนแรกของจีน เสียชีวิตอย่างสงบในกรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 103 ปี เขาเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาททั้งในวงการฟิสิกส์ระดับโลกและการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของจีน Yang ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ร่วมกับ Tsung-Dao Lee ในปี 1957 จากทฤษฎี “Parity Non-Conservation” ซึ่งพลิกโฉมความเข้าใจเกี่ยวกับแรงพื้นฐานในธรรมชาติ เขายังเป็นผู้ร่วมพัฒนา “Yang-Mills Theory” ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญของ Standard Model ในฟิสิกส์อนุภาค ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยการเดินทางทางวิชาการที่ยิ่งใหญ่ ตั้งแต่เรียนที่มหาวิทยาลัยชิคาโก ไปจนถึงเป็นศาสตราจารย์ที่ Princeton และ SUNY Stony Brook ก่อนจะกลับมารับตำแหน่งที่ Tsinghua University ในจีน ซึ่งเขาอุทิศตนเพื่อพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์และสร้างโอกาสให้กับนักวิจัยรุ่นใหม่ Yang ไม่เพียงเป็นนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นผู้เชื่อมโยงโลกวิทยาศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ผ่านการแลกเปลี่ยนนักวิจัยและการให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลจีนในโครงการวิทยาศาสตร์ระดับชาติ ✅ ประวัติชีวิตและการศึกษา ➡️ เกิดที่ Hefei, Anhui ในปี 1922 ➡️ เรียนที่ National Southwestern Associated University และ Tsinghua University ➡️ ได้รับปริญญาเอกจาก University of Chicago ในปี 1948 ✅ เส้นทางอาชีพในต่างประเทศ ➡️ เป็นสมาชิกถาวรของ Institute for Advanced Study ที่ Princeton ➡️ ดำรงตำแหน่ง Albert Einstein Professor ที่ SUNY Stony Brook จนถึงปี 1999 ➡️ เป็น visiting professor ที่ Chinese University of Hong Kong ตั้งแต่ปี 1986 ✅ ผลงานทางวิทยาศาสตร์ ➡️ ร่วมกับ Tsung-Dao Lee เสนอทฤษฎี Parity Non-Conservation ใน weak interaction ➡️ พัฒนา Yang-Mills Theory ซึ่งเป็นรากฐานของ Standard Model ➡️ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20 ✅ บทบาทในจีน ➡️ กลับมารับตำแหน่งที่ Tsinghua University และเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของ Institute for Advanced Study ➡️ เสนอแนวทางการฟื้นฟูงานวิจัยพื้นฐานให้รัฐบาลจีน ➡️ สนับสนุนทุนการศึกษาให้นักวิจัยจีนไปศึกษาต่อในสหรัฐฯ ➡️ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานโยบายวิทยาศาสตร์ระดับชาติ ‼️ ความสูญเสียของวงการวิทยาศาสตร์ ⛔ การจากไปของ Yang ถือเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญที่มีบทบาททั้งในระดับโลกและระดับชาติ ⛔ ทิ้งไว้เพียงผลงานและแรงบันดาลใจให้กับนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ✅ มรดกทางวิชาการ ➡️ ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 20 แห่งทั่วโลก ➡️ เป็นสมาชิกต่างชาติของสถาบันวิทยาศาสตร์มากกว่า 10 แห่ง ➡️ ผลงานของเขายังคงเป็นรากฐานของฟิสิกส์ยุคใหม่ https://www.chinadaily.com.cn/a/202510/18/WS68f3170ea310f735438b5bf2.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • “NES ครบรอบ 40 ปี: คุยกับ Frank Cifaldi ผู้ก่อตั้ง Video Game History Foundation” — เมื่อคอนโซลที่ช่วยกู้วิกฤตอุตสาหกรรม กลายเป็นรากฐานของเกมยุคใหม่

    ในโอกาสครบรอบ 40 ปีของ Nintendo Entertainment System (NES), Frank Cifaldi นักประวัติศาสตร์เกมและผู้ก่อตั้ง Video Game History Foundation ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Wccftech ถึงความสำคัญของ NES ที่ไม่เพียง “กู้” อุตสาหกรรมเกมจากวิกฤตปี 1983 แต่ยัง “ควบคุม” ทิศทางของมันในระยะยาว

    ประเด็นสำคัญจากบทสัมภาษณ์:

    NES คือจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรม: หลังจากวิกฤต Video Game Crash ปี 1983 ที่ทำให้ตลาดเกมล่มสลาย NES เปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมเกมคุณภาพสูงอย่าง Super Mario Bros. ซึ่งช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ค้าปลีก

    “Nintendo” กลายเป็นคำพ้องกับ “วิดีโอเกม”: ด้วยความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงปลายยุค 80s ถึงต้น 90s เด็ก ๆ ในยุคนั้นมอง NES เป็นศูนย์กลางของความบันเทิง

    กลยุทธ์ควบคุมคุณภาพ: Nintendo ใช้ชิป “lock-out” เพื่อควบคุมเกมที่ออกบนแพลตฟอร์มของตน ป้องกันเกมคุณภาพต่ำแบบที่เคยเกิดกับ Atari ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมมาจนถึงปัจจุบัน

    เบื้องหลังการเปิดตัว NES ที่ CES 1985: Cifaldi เปิดเผยว่า Nintendo เคยเกือบเปิดตัวระบบ AVS (Advanced Video System) ที่เน้นด้านการศึกษาและเทคโนโลยีมากกว่าเกม หากเลือกเส้นทางนั้น อุตสาหกรรมอาจเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

    เกือบถูก Atari ซื้อกิจการ: มีความพยายามจาก Atari ที่จะซื้อ Nintendo ก่อนเปิดตัว NES แต่ดีลล่มไป และ Cifaldi ยอมรับว่า “เราไม่รู้แน่ชัดว่าทำไม”

    ความท้าทายในการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์เกม: ปัญหาใหญ่คือ “ความตายของผู้รู้” และ “การย้ายบ้าน” ที่ทำให้เอกสารต้นฉบับหายไป Cifaldi เรียกร้องให้ผู้คนบริจาคสิ่งของเก่าแก่ให้กับมูลนิธิ

    เกมที่นิยมหรือมีอิทธิพลสูงสุดบน NES: Super Mario Bros. ทั้งสามภาคคือเกมที่ขายดีที่สุด ส่วนเกมจากแฟรนไชส์ดังอย่าง Teenage Mutant Ninja Turtles และ Top Gun ก็ขายดีเกินคาด

    มรดกของ NES: Cifaldi มองว่า NES เปลี่ยนเกมจาก “แฟชั่น” ให้กลายเป็น “อุตสาหกรรม” และวางรากฐานให้กับแนวคิดการควบคุมแพลตฟอร์มที่ยังคงใช้มาจนถึงทุกวันนี้

    https://wccftech.com/nes-40th-anniversary-interview-with-video-game-history-foundation-founder-frank-cifald-the-console-that-saved-and-controlled-video-games/
    🎮 “NES ครบรอบ 40 ปี: คุยกับ Frank Cifaldi ผู้ก่อตั้ง Video Game History Foundation” — เมื่อคอนโซลที่ช่วยกู้วิกฤตอุตสาหกรรม กลายเป็นรากฐานของเกมยุคใหม่ ในโอกาสครบรอบ 40 ปีของ Nintendo Entertainment System (NES), Frank Cifaldi นักประวัติศาสตร์เกมและผู้ก่อตั้ง Video Game History Foundation ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Wccftech ถึงความสำคัญของ NES ที่ไม่เพียง “กู้” อุตสาหกรรมเกมจากวิกฤตปี 1983 แต่ยัง “ควบคุม” ทิศทางของมันในระยะยาว 🔑 ประเด็นสำคัญจากบทสัมภาษณ์: 🎮 NES คือจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรม: หลังจากวิกฤต Video Game Crash ปี 1983 ที่ทำให้ตลาดเกมล่มสลาย NES เปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมเกมคุณภาพสูงอย่าง Super Mario Bros. ซึ่งช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ค้าปลีก 🎮 “Nintendo” กลายเป็นคำพ้องกับ “วิดีโอเกม”: ด้วยความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงปลายยุค 80s ถึงต้น 90s เด็ก ๆ ในยุคนั้นมอง NES เป็นศูนย์กลางของความบันเทิง 🎮 กลยุทธ์ควบคุมคุณภาพ: Nintendo ใช้ชิป “lock-out” เพื่อควบคุมเกมที่ออกบนแพลตฟอร์มของตน ป้องกันเกมคุณภาพต่ำแบบที่เคยเกิดกับ Atari ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมมาจนถึงปัจจุบัน 🎮 เบื้องหลังการเปิดตัว NES ที่ CES 1985: Cifaldi เปิดเผยว่า Nintendo เคยเกือบเปิดตัวระบบ AVS (Advanced Video System) ที่เน้นด้านการศึกษาและเทคโนโลยีมากกว่าเกม หากเลือกเส้นทางนั้น อุตสาหกรรมอาจเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง 🎮 เกือบถูก Atari ซื้อกิจการ: มีความพยายามจาก Atari ที่จะซื้อ Nintendo ก่อนเปิดตัว NES แต่ดีลล่มไป และ Cifaldi ยอมรับว่า “เราไม่รู้แน่ชัดว่าทำไม” 🎮 ความท้าทายในการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์เกม: ปัญหาใหญ่คือ “ความตายของผู้รู้” และ “การย้ายบ้าน” ที่ทำให้เอกสารต้นฉบับหายไป Cifaldi เรียกร้องให้ผู้คนบริจาคสิ่งของเก่าแก่ให้กับมูลนิธิ 🎮 เกมที่นิยมหรือมีอิทธิพลสูงสุดบน NES: Super Mario Bros. ทั้งสามภาคคือเกมที่ขายดีที่สุด ส่วนเกมจากแฟรนไชส์ดังอย่าง Teenage Mutant Ninja Turtles และ Top Gun ก็ขายดีเกินคาด 🎮 มรดกของ NES: Cifaldi มองว่า NES เปลี่ยนเกมจาก “แฟชั่น” ให้กลายเป็น “อุตสาหกรรม” และวางรากฐานให้กับแนวคิดการควบคุมแพลตฟอร์มที่ยังคงใช้มาจนถึงทุกวันนี้ https://wccftech.com/nes-40th-anniversary-interview-with-video-game-history-foundation-founder-frank-cifald-the-console-that-saved-and-controlled-video-games/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สุชาติ” สั่งเข้ม เพิ่มการลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ป่า หลังพบกะโหลกค่างจำนวนมากในผืนป่ามรดกโลก “แก่งกระจาน”
    https://www.thai-tai.tv/news/21935/
    .
    #ไทยไท #สุชาติชมกลิ่น #แก่งกระจาน #ล่าสัตว์ป่า #มรดกโลก #ทส #ป่าไม้

    “สุชาติ” สั่งเข้ม เพิ่มการลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ป่า หลังพบกะโหลกค่างจำนวนมากในผืนป่ามรดกโลก “แก่งกระจาน” https://www.thai-tai.tv/news/21935/ . #ไทยไท #สุชาติชมกลิ่น #แก่งกระจาน #ล่าสัตว์ป่า #มรดกโลก #ทส #ป่าไม้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Cambridge เปิดห้องแล็บช่วยชีวิตข้อมูลจากแผ่นฟล็อปปี้ — โปรเจกต์ Future Nostalgia ฟื้นอดีตดิจิทัลก่อนมันจะสลายไป”

    เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา Cambridge University Library ได้เปิดตัวโปรเจกต์ “Future Nostalgia” ซึ่งเป็นโครงการระยะเวลา 1 ปีที่มีเป้าหมายในการกู้คืนข้อมูลจากแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ที่เสื่อมสภาพและใกล้สูญหายไปตามกาลเวลา โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปนำแผ่นฟล็อปปี้เก่ามาให้ทีมงานช่วยตรวจสอบว่า “มีอะไรอยู่ในนี้?”

    แผ่นฟล็อปปี้เหล่านี้ไม่ใช่แค่ของเล่นเก่า แต่เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ เช่น เอกสารวิจัยยุคแรก ไฟล์ส่วนตัว และซอฟต์แวร์จากเครื่องที่เลิกใช้งานไปแล้ว รวมถึงแผ่นจากคลังข้อมูลของ Stephen Hawking ด้วย

    ทีมดิจิทัลของห้องสมุดใช้เทคนิคการกู้ข้อมูลระดับสูง โดยไม่ใช้แค่ไดรฟ์ USB ราคาถูก แต่ใช้เครื่องมือพิเศษอย่าง KryoFlux และ Greaseweazle ที่สามารถอ่านสัญญาณแม่เหล็กดิบจากแผ่น เพื่อสร้างภาพโครงสร้างไฟล์ใหม่ในซอฟต์แวร์ ซึ่งช่วยให้สามารถกู้คืนข้อมูลจากแผ่นที่เสียหายหรือใช้ฟอร์แมตเฉพาะได้

    นอกจากการกู้ข้อมูลแล้ว โปรเจกต์ยังมุ่งสร้างมาตรฐานการจัดการแผ่นฟล็อปปี้ เช่น วิธีทำความสะอาด การจัดเก็บ และการสร้างเวิร์กโฟลว์ที่สามารถนำไปใช้ในองค์กรอื่นได้ เพื่อให้การอนุรักษ์ข้อมูลดิจิทัลในยุคก่อนยังคงอยู่ต่อไป

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Cambridge เปิดตัวโปรเจกต์ Future Nostalgia เพื่อกู้ข้อมูลจากแผ่นฟล็อปปี้
    เปิดให้ประชาชนทั่วไปนำแผ่นมาให้ตรวจสอบ
    มีแผ่นจากคลังของ Stephen Hawking และเอกสารวิจัยยุคแรก
    ใช้เครื่อง KryoFlux และ Greaseweazle อ่านสัญญาณแม่เหล็กดิบ
    สร้างเวิร์กโฟลว์มาตรฐานสำหรับการกู้ข้อมูลและจัดการแผ่น
    โปรเจกต์มีระยะเวลา 1 ปี และได้รับความสนใจจากสื่อ เช่น BBC

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    KryoFlux เป็นเครื่องมือที่ใช้ในวงการอนุรักษ์ซอฟต์แวร์เพื่ออ่านข้อมูลระดับ flux
    Greaseweazle เป็นฮาร์ดแวร์โอเพ่นซอร์สที่นิยมในกลุ่ม retro-computing
    แผ่นฟล็อปปี้มีอายุการใช้งานจำกัด และเสื่อมสภาพจากความชื้นและออกซิเดชัน
    การกู้ข้อมูลจากแผ่นเก่าเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์มรดกดิจิทัล
    การอ่านฟอร์แมตเฉพาะ เช่น WordPerfect หรือ BASIC ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/cambridge-university-rescues-data-from-old-floppy-disks
    💾 “Cambridge เปิดห้องแล็บช่วยชีวิตข้อมูลจากแผ่นฟล็อปปี้ — โปรเจกต์ Future Nostalgia ฟื้นอดีตดิจิทัลก่อนมันจะสลายไป” เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา Cambridge University Library ได้เปิดตัวโปรเจกต์ “Future Nostalgia” ซึ่งเป็นโครงการระยะเวลา 1 ปีที่มีเป้าหมายในการกู้คืนข้อมูลจากแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ที่เสื่อมสภาพและใกล้สูญหายไปตามกาลเวลา โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปนำแผ่นฟล็อปปี้เก่ามาให้ทีมงานช่วยตรวจสอบว่า “มีอะไรอยู่ในนี้?” แผ่นฟล็อปปี้เหล่านี้ไม่ใช่แค่ของเล่นเก่า แต่เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ เช่น เอกสารวิจัยยุคแรก ไฟล์ส่วนตัว และซอฟต์แวร์จากเครื่องที่เลิกใช้งานไปแล้ว รวมถึงแผ่นจากคลังข้อมูลของ Stephen Hawking ด้วย ทีมดิจิทัลของห้องสมุดใช้เทคนิคการกู้ข้อมูลระดับสูง โดยไม่ใช้แค่ไดรฟ์ USB ราคาถูก แต่ใช้เครื่องมือพิเศษอย่าง KryoFlux และ Greaseweazle ที่สามารถอ่านสัญญาณแม่เหล็กดิบจากแผ่น เพื่อสร้างภาพโครงสร้างไฟล์ใหม่ในซอฟต์แวร์ ซึ่งช่วยให้สามารถกู้คืนข้อมูลจากแผ่นที่เสียหายหรือใช้ฟอร์แมตเฉพาะได้ นอกจากการกู้ข้อมูลแล้ว โปรเจกต์ยังมุ่งสร้างมาตรฐานการจัดการแผ่นฟล็อปปี้ เช่น วิธีทำความสะอาด การจัดเก็บ และการสร้างเวิร์กโฟลว์ที่สามารถนำไปใช้ในองค์กรอื่นได้ เพื่อให้การอนุรักษ์ข้อมูลดิจิทัลในยุคก่อนยังคงอยู่ต่อไป ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Cambridge เปิดตัวโปรเจกต์ Future Nostalgia เพื่อกู้ข้อมูลจากแผ่นฟล็อปปี้ ➡️ เปิดให้ประชาชนทั่วไปนำแผ่นมาให้ตรวจสอบ ➡️ มีแผ่นจากคลังของ Stephen Hawking และเอกสารวิจัยยุคแรก ➡️ ใช้เครื่อง KryoFlux และ Greaseweazle อ่านสัญญาณแม่เหล็กดิบ ➡️ สร้างเวิร์กโฟลว์มาตรฐานสำหรับการกู้ข้อมูลและจัดการแผ่น ➡️ โปรเจกต์มีระยะเวลา 1 ปี และได้รับความสนใจจากสื่อ เช่น BBC ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ KryoFlux เป็นเครื่องมือที่ใช้ในวงการอนุรักษ์ซอฟต์แวร์เพื่ออ่านข้อมูลระดับ flux ➡️ Greaseweazle เป็นฮาร์ดแวร์โอเพ่นซอร์สที่นิยมในกลุ่ม retro-computing ➡️ แผ่นฟล็อปปี้มีอายุการใช้งานจำกัด และเสื่อมสภาพจากความชื้นและออกซิเดชัน ➡️ การกู้ข้อมูลจากแผ่นเก่าเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์มรดกดิจิทัล ➡️ การอ่านฟอร์แมตเฉพาะ เช่น WordPerfect หรือ BASIC ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/cambridge-university-rescues-data-from-old-floppy-disks
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Cambridge University launches project to rescue data trapped on old floppy disks
    Cambridge’s 'Future Nostalgia' project is racing to save decades of digital history from vanishing floppy disks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รองนายกฯ สุชาติ” เปิดประเพณีวิ่งควาย ชลบุรี ครั้งที่ 154 “หนึ่งเดียวในไทย หนึ่งเดียวในโลก”
    https://www.thai-tai.tv/news/21784/
    .
    #ประเพณีวิ่งควาย #สุชาติชมกลิ่น #ชลบุรี #มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม #วิ่งควายชลบุรี #ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม #วิถีชีวิตชาวนา #กระตุ้นเศรษฐกิจ
    “รองนายกฯ สุชาติ” เปิดประเพณีวิ่งควาย ชลบุรี ครั้งที่ 154 “หนึ่งเดียวในไทย หนึ่งเดียวในโลก” https://www.thai-tai.tv/news/21784/ . #ประเพณีวิ่งควาย #สุชาติชมกลิ่น #ชลบุรี #มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม #วิ่งควายชลบุรี #ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม #วิถีชีวิตชาวนา #กระตุ้นเศรษฐกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธนาธรและแม่ธนาธรตลอดเครือญาติ,ไปถึงไหนแล้ว,สนิทสนมคนชนชั้นผู้ดีนี้รอดหมดนะ,ปวีณา เคสตย.แล้ว นักการเมืองและเจ้าสัวอื่นๆควรโดนด้วย,
    ..กฎหมายที่ดินสมควรปฏิรูปเถอะทัังระบบ,เช่น ยกเลิกกฎหมายที่ดินที่นักลงทุนต่างชาติถือครองได้หรือเช่าได้หลายปีหรือซื้อได้แบบยุคลุงออกไป แบบขายไร่ละ40ล้านบาทนั้น,เชิงลักษณะนี้ต้องยกเลิกทั้งหมด,ห้ามเด็ดขาดไม่ให้ต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินประเทศไทยทั่วราชอาณาจักรไทย สงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยสัญชาติไทยเท่านั้นทุกๆกรณี,
    ..ประชาชนธรรมดาถือครองไม่เกินคนละ50ไร่อย่างมากสุด, กิจการบริษัทรวมกันทุกๆแปลงทั่วประเทศ รวมกันถือครองไม่เกิน100ไร่,บริษัทมหาชน ถือครองไม่เกิน200ไร่รวมทุกๆแปลงทั่วประเทศไทย,เราจะตัดตอนการเก็งกำไรทันทีและถือครองคนเดียวมากมายเกินผืดปกติ,จะเสมือนประเทศไทยนี้แผ่นดินไทยนี้ซื้อได้ด้วยเงิน,เอกชนใดๆซื้อแผ่นดินไทยนี้แย่งชิงแผ่นดินไทยนี้ ที่ดินทำกินจากชาวบ้านได้ง่ายดายสาระพัดรูปแบบ เช่นจำนองจำนำในร้านทองคำ,เจ้าสัวกวาดซื้อเป็นแสนเป็นล้านไร่กระจายทั่วประเทศได้โดยบีบบังคับทางอ้อมจากสถานะความยากจนขัดสนด้านทรัพย์สินเงินทองหรือหลอกล่อด้วยบ่อนด้วยการพนันต่างๆ คดีความต่างๆ สร้างเหตุปัจจัยเล่นงานชาวบ้านเป้าหมายที่ตนต้องการจะได้ที่ดินของชาวบ้านประชาชนตรงทำเลทองนั้นๆ,บริบทการปฏิวัติกฎหมายที่ดินจึงสมควรทำความสะอาดใหม่,อำมาตย์ศักดินาเก่า เจ้าขุนมูลนายเดิม ลูกท่านหลานเธอคงรับไม่ได้ ลูกหลานสนมเชื้อพระวงศ์ในอดีตก็ด้วยที่มีที่ดินถือครองมากมายทั้งในนามกิจการธุรกิจต่างๆที่เครือญาติวงศ์ตระกูลตนกระทำการประเด็นนี้มาโดยตลอด,หากไร้รายละเอียดกันจริงๆ ที่ดินที่คนพวกนี้ถือครองเกิน200ไร่มีใครบ้างในประเทศไทย เราจะลงลึกในรายละเอียดต่างๆในนัยยะที่แอบซ่อนอีกมากมาย,ชาวบ้านมีที่ดินคนละ5-10ไร่ในปัจจุบันก็บุญหัวแล้ว แบ่งมูลมรดกอีก,มากสุดไม่เกินคนละ40-50ไร่ต่อคน.,
    ..กฎหมายที่ดินต้องปฏิวัติมิใช่ปฏิรูป.

    https://youtube.com/live/6mGupix5Sw4?si=jNQadG20nnMPXBHA
    ธนาธรและแม่ธนาธรตลอดเครือญาติ,ไปถึงไหนแล้ว,สนิทสนมคนชนชั้นผู้ดีนี้รอดหมดนะ,ปวีณา เคสตย.แล้ว นักการเมืองและเจ้าสัวอื่นๆควรโดนด้วย, ..กฎหมายที่ดินสมควรปฏิรูปเถอะทัังระบบ,เช่น ยกเลิกกฎหมายที่ดินที่นักลงทุนต่างชาติถือครองได้หรือเช่าได้หลายปีหรือซื้อได้แบบยุคลุงออกไป แบบขายไร่ละ40ล้านบาทนั้น,เชิงลักษณะนี้ต้องยกเลิกทั้งหมด,ห้ามเด็ดขาดไม่ให้ต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินประเทศไทยทั่วราชอาณาจักรไทย สงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยสัญชาติไทยเท่านั้นทุกๆกรณี, ..ประชาชนธรรมดาถือครองไม่เกินคนละ50ไร่อย่างมากสุด, กิจการบริษัทรวมกันทุกๆแปลงทั่วประเทศ รวมกันถือครองไม่เกิน100ไร่,บริษัทมหาชน ถือครองไม่เกิน200ไร่รวมทุกๆแปลงทั่วประเทศไทย,เราจะตัดตอนการเก็งกำไรทันทีและถือครองคนเดียวมากมายเกินผืดปกติ,จะเสมือนประเทศไทยนี้แผ่นดินไทยนี้ซื้อได้ด้วยเงิน,เอกชนใดๆซื้อแผ่นดินไทยนี้แย่งชิงแผ่นดินไทยนี้ ที่ดินทำกินจากชาวบ้านได้ง่ายดายสาระพัดรูปแบบ เช่นจำนองจำนำในร้านทองคำ,เจ้าสัวกวาดซื้อเป็นแสนเป็นล้านไร่กระจายทั่วประเทศได้โดยบีบบังคับทางอ้อมจากสถานะความยากจนขัดสนด้านทรัพย์สินเงินทองหรือหลอกล่อด้วยบ่อนด้วยการพนันต่างๆ คดีความต่างๆ สร้างเหตุปัจจัยเล่นงานชาวบ้านเป้าหมายที่ตนต้องการจะได้ที่ดินของชาวบ้านประชาชนตรงทำเลทองนั้นๆ,บริบทการปฏิวัติกฎหมายที่ดินจึงสมควรทำความสะอาดใหม่,อำมาตย์ศักดินาเก่า เจ้าขุนมูลนายเดิม ลูกท่านหลานเธอคงรับไม่ได้ ลูกหลานสนมเชื้อพระวงศ์ในอดีตก็ด้วยที่มีที่ดินถือครองมากมายทั้งในนามกิจการธุรกิจต่างๆที่เครือญาติวงศ์ตระกูลตนกระทำการประเด็นนี้มาโดยตลอด,หากไร้รายละเอียดกันจริงๆ ที่ดินที่คนพวกนี้ถือครองเกิน200ไร่มีใครบ้างในประเทศไทย เราจะลงลึกในรายละเอียดต่างๆในนัยยะที่แอบซ่อนอีกมากมาย,ชาวบ้านมีที่ดินคนละ5-10ไร่ในปัจจุบันก็บุญหัวแล้ว แบ่งมูลมรดกอีก,มากสุดไม่เกินคนละ40-50ไร่ต่อคน., ..กฎหมายที่ดินต้องปฏิวัติมิใช่ปฏิรูป. https://youtube.com/live/6mGupix5Sw4?si=jNQadG20nnMPXBHA
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดอกไม้ป่า—ร่องรอยแห่งชนบทในสำเนียงเมือง

    คณะดอกไม้ป่า ก้าวเข้ามาสู่ฉากดนตรีไทยในช่วงต้นทศวรรษ 2520 (ค.ศ. 1980s) ซึ่งถือเป็น ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของรสนิยมและการผลิตดนตรีในประเทศไทย พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มนักร้องที่รวมตัวกันตามธรรมชาติ แต่เป็นโครงการทางดนตรีที่ถูกกำหนดและออกแบบอย่างพิถีพิถันจากผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเพลงมืออาชีพ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อตลาดชนชั้นกลางในเมืองที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

    สิ่งที่ทำให้วงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งคือความสามารถในการนำ "แก่นเรื่องแบบลูกทุ่ง" มาผสมผสานกับการเรียบเรียงและคุณภาพการผลิตแบบ "ดนตรีสตริงหรือป๊อป" อันนำไปสู่การก่อกำเนิดของแนวทางใหม่ที่เรียกว่า "ลูกทุ่งประยุกต์" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานให้กับรูปแบบดนตรีป๊อปที่ครองตลาดในทศวรรษต่อมา

    ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในช่วงปี พ.ศ. 2525–2526 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมหลังเหตุการณ์ทางการเมืองในทศวรรษก่อนหน้า วงนี้ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นนักร้องคู่ดูโอหญิงที่เน้นทักษะการประสานเสียง (Harmonizing Duo) พวกเขาสามารถดึงดูดผู้ฟังได้อย่างกว้างขวางด้วยการรักษาความรู้สึกและแก่นเรื่องของความเป็นไทยไว้ ในขณะที่นำเสนอผ่านสำเนียงป๊อปสมัยใหม่

    ในเชิงสังคมวิทยา ความสำเร็จของวงมีความสัมพันธ์กับการถอยห่างจากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองที่รุนแรงของยุค 1970s ดนตรีป๊อปที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้มักหลีกเลี่ยงสารทางการเมือง และหันไปให้ความสำคัญกับเรื่องราวส่วนตัว ความรัก และการมอบความบันเทิง ดอกไม้ป่าได้ปรับใช้แก่นเรื่องลูกทุ่งให้มีความอ่อนโยนและโรแมนติกในรูปแบบป๊อป ซึ่งทำให้บทเพลงของพวกเขากลายเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่ผู้บริโภคในเมืองสามารถยอมรับและเพลิดเพลินได้

    คณะดอกไม้ป่าถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดทางธุรกิจที่ชัดเจน โดยไม่ได้เกิดจากการรวมตัวกันของนักดนตรีตามธรรมชาติ การก่อตั้งมีรากฐานมาจากความต้องการขยายตลาดและรูปแบบความสำเร็จที่เคยมีมาก่อน โดยผู้ริเริ่มแนวคิดต้องการที่จะสรรหานักร้องหญิงคู่ประสานเสียงเป็นคู่ที่สอง เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับวง The Hot Pepper Singers การตัดสินใจนี้สะท้อนให้เห็นว่า รูปแบบของ "นักร้องคู่ประสานเสียง" ที่มีภาพลักษณ์สุภาพและเน้นทักษะการร้องถือเป็นกลยุทธ์เชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพสูง

    การเน้นที่ "นักร้องคู่ประสานเสียง" แสดงให้เห็นว่าคุณภาพเสียงและการจัดวางเสียงประสานถูกกำหนดให้เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น แนวคิดนี้เป็นความพยายามที่จะยกระดับรูปแบบการร้องเพลงให้แตกต่างจากดนตรีลูกทุ่งทั่วไป การประสานเสียงที่ซับซ้อนนี้ถูกมองว่าเป็นคุณสมบัติของดนตรีแนวลูกกรุงและป๊อปที่มีความประณีตและมีรสนิยมสูง ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคในเมืองได้

    วงดอกไม้ป่าประกอบด้วยนักร้องดูโอหญิงสองคน: โชติมา ช่วงวิทย์ (ตุ้ม) และ ปัทมา มนต์รังสี (อ้อม) คุณโชติมาถือเป็นสมาชิกหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเธอเป็นบุตรสาวของ ชวลีย์ ช่วงวิทย์ นักร้องชื่อดังของวงสุนทราภรณ์ สายเลือดจากสุนทราภรณ์นี้มอบความน่าเชื่อถือทางวัฒนธรรมและ "ความเป็นลูกกรุง" ให้กับวงโดยอัตโนมัติ ทำให้ดอกไม้ป่าสามารถวางตำแหน่งตัวเองอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นลูกทุ่งและความเป็นลูกกรุง/คลาสสิก

    ในช่วงเวลาที่ดนตรีลูกทุ่งกำลังถูกกลุ่มรสนิยมใหม่ของคนเมืองมองว่าเป็น "ดนตรีบ้านนอก" การมีโชติมาได้ทำหน้าที่เป็น "การสร้างแบรนด์ทางวัฒนธรรม" ที่สำคัญยิ่ง การเชื่อมโยงนี้รับประกันว่าเพลงของดอกไม้ป่า แม้จะมีกลิ่นอายของลูกทุ่ง แต่ก็มีความสุภาพและมีคุณค่าในเชิงศิลปะแบบลูกกรุงสูง

    "ดอกไม้ป่าซาวด์" คือการผสมผสานทางดนตรี ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจในการนำองค์ประกอบทางทำนองเพลงพื้นบ้านหรือลูกทุ่ง มารวมเข้ากับการเรียบเรียงดนตรีและเครื่องดนตรีสมัยใหม่ตามแบบฉบับดนตรีสตริง/ป๊อปในยุค 80s

    แก่นเรื่องแบบลูกทุ่งยังคงเป็นหัวใจหลักในการเล่าเรื่อง ตัวอย่างเช่น เพลง "ทุยใจดำ" ที่สื่อถึงคนรักที่ไม่ซื่อสัตย์ และเพลง "สาวชนบท" ที่หยิบยกเรื่องราวความรักและชีวิตในท้องถิ่นมานำเสนอ แต่สิ่งที่ทำให้ดนตรีมีความแตกต่างคือการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ การใช้เครื่องดนตรีที่ซับซ้อน เช่น เปียโน กีตาร์ไฟฟ้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องเป่า (Brass Section) ที่สร้างความหนาแน่นและพลังเสียงที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีการนำจังหวะที่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีตะวันตกมาใช้ เช่น จังหวะช่าช่าช่า หรือฟังก์กี้ดิสโก้ในเพลงสนุกสนานอย่าง "ระบำยอดหญ้า" ทั้งหมดนี้ถูกขับร้องด้วยการประสานเสียงที่ไพเราะและสะอาดตา ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของดนตรีป๊อปในช่วงนั้น

    การวิเคราะห์เนื้อหาและแก่นหลักของบทเพลง
    1️⃣ ความรักที่ถูกทรยศในบริบทกึ่งชนบท: เพลงอย่าง "ทุยใจดำ" และ "ช้ำ" นำเสนอความผิดหวังในความรักจากมุมมองของผู้หญิง เมื่อเนื้อหาเหล่านี้ถูกขับร้องด้วยคุณภาพเสียงที่สะอาดและการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ ความดิบหรือความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับความยากจนในเพลงลูกทุ่งแบบดั้งเดิมก็ถูกลดทอนลง เนื้อหาจึงถูก "ทำให้สะอาด" ให้เหลือเพียงความเศร้าแบบโรแมนติกที่เข้ากับมาตรฐานของเพลงป๊อปในเมือง

    2️⃣ ความปรารถนาในชีวิตชนบทและความหวนคิดถึง: เพลง "สาวชนบท" และ "ระบำยอดหญ้า" นำเสนอภาพความสดใสและรื่นเริงของชีวิตในท้องถิ่น ผู้ฟังในเขตเมืองหลายคนซึ่งส่วนใหญ่อพยพมาจากชนบท ต่างให้การตอบรับต่อเพลงเหล่านี้อย่างดีเยี่ยม ดอกไม้ป่าจึงทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ "การหวนคิดถึงอย่างมีรสนิยม" (Aesthetic Nostalgia)

    ความสำเร็จอย่างสูงในตลาดเพลงสตริง/ป๊อป แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการ "เชื่อมรอยแยกทางวัฒนธรรม" ระหว่างรสนิยมของคนเมือง (ที่แสวงหาความทันสมัย) กับความผูกพันของกลุ่มผู้ฟังต่อชนบท

    ปี พ.ศ. 2525 เป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ของคณะดอกไม้ป่าจากการเปิดตัวอัลบั้ม ทุยใจดำ ซึ่งได้กำหนดทิศทางและลักษณะเฉพาะของวงอย่างชัดเจน เพลงเอก "ทุยใจดำ" เป็นตัวอย่างชั้นยอดของการผสมผสานระหว่าง Luk Thung และ Pop ผนวกกับการเรียบเรียงที่ใช้เครื่องดนตรีครบวงและจังหวะที่เร้าใจ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงเต้นรำที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง

    วงยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในปี พ.ศ. 2526 โดยมีผลงานเพลงจากชุดต่อมา เช่น "สาวชนบท," "หนาวลมขมรัก," และ "รักทรมาน" การออกผลงานหลายชุดภายในเวลาอันสั้น เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของค่ายเพลงในศักยภาพเชิงพาณิชย์และกระแสความนิยมที่แข็งแกร่งในช่วงเวลานั้น การที่เพลงของพวกเขาถูกรวมอยู่ในอัลบั้มรวมเพลงฮิตเงินล้าน ร่วมกับศิลปินใหญ่แห่งยุค แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นวงชั้นนำในตลาดเพลงเทปคาสเซ็ตต์อย่างแท้จริง

    นอกจากคุณภาพทางดนตรีแล้ว ภาพลักษณ์ของคณะดอกไม้ป่ามีความสำคัญต่อการตลาดไม่น้อยไปกว่ากัน ภาพลักษณ์ที่ถูกนำเสนอมีความเป็นมืออาชีพสูงและสอดคล้องกับแฟชั่นยุค 80s การปรากฏตัวทั้งในสตูดิโอและภาพคอนเสิร์ต แสดงให้เห็นถึงการลงทุนในการผลิต และการแต่งกายที่ดูทันสมัยและสะอาดตา ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากภาพลักษณ์ลูกทุ่งแบบดั้งเดิม

    คณะดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สำคัญสองประการในต้นทศวรรษ 1980s นั่นคือพลวัตของการอพยพย้ายถิ่นฐาน และการเปลี่ยนแปลงของบทบาททางเพศ

    ในช่วงหลังปี 2520 สังคมไทยเข้าสู่ยุคของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการขยายตัวของชนชั้นกลางในเขตเมืองอย่างชัดเจน ผู้คนจำนวนมากอพยพจากชนบทเข้าสู่กรุงเทพฯ ทำให้เกิดความตึงเครียดทางวัฒนธรรมระหว่างวิถีชีวิตแบบเมืองกับรากเหง้าที่ยังคงผูกพันกับชนบท

    กลุ่มผู้ฟังที่ย้ายถิ่นฐานเหล่านี้ยังคงมีความผูกพันทางอารมณ์กับเนื้อหาและทำนองแบบลูกทุ่ง แต่รสนิยมทางเสียงของพวกเขาได้ถูกหล่อหลอมด้วยดนตรีป๊อปและสตริงที่ทันสมัย ดอกไม้ป่าจึงเข้ามาตอบโจทย์นี้ด้วยการนำเสนอ "ลูกทุ่งในแพ็คเกจป๊อป" เพลงที่มีธีมเกี่ยวกับ "สาวชนบท" ซึ่งถูกถ่ายทอดโดยนักร้องที่ดูทันสมัยในบริบทเมือง จึงสามารถสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ฟังกลุ่มย้ายถิ่นฐานได้อย่างลึกซึ้ง บทเพลงของดอกไม้ป่าเปรียบเสมือน "ซาวด์แทร็กของการปรับตัว" ของคนชนบทเข้าสู่สังคมเมือง

    การที่คณะดอกไม้ป่าเป็นนักร้องดูโอหญิงในแนว Pop/Fusion แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาททางเพศในสื่อและสังคมในช่วงเวลานั้น ภาพลักษณ์ของ โชติมา และ ปัทมา เป็นตัวแทนของ ผู้หญิงในยุคสมัยใหม่ ที่สามารถเป็นทั้งผู้รักษามรดกทางวัฒนธรรมและเป็นผู้หญิงที่มีความทันสมัย (ผ่านสไตล์การแต่งกายและการนำเสนอแบบป๊อป)

    นอกจากนี้ เพลงที่กล้าแสดงออกถึงความผิดหวังในความรักและความช้ำ เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกส่วนตัวในที่สาธารณะได้มากขึ้น โดยที่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่ดูดีและไม่ฉีกกรอบทางสังคมมากนัก ซึ่งสอดคล้องกับยุคสมัยที่บทบาทของผู้หญิงเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น

    ในช่วงปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นช่วงที่สังคมกำลังฟื้นตัวหลังความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่ ดนตรีที่ได้รับความนิยมสูงมักจะไม่มีวาระทางการเมืองที่ชัดเจน คณะดอกไม้ป่าเองก็เน้นที่ความบันเทิงและเรื่องราวส่วนตัว การหลีกเลี่ยงข้อความที่อาจสร้างความขัดแย้งทางการเมืองในบทเพลง ส่งผลให้ดอกไม้ป่าสามารถเข้าถึงผู้ชมหลักได้อย่างง่ายดาย

    ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อย่างสูงในช่วงยุครุ่งเรือง ดังที่ปรากฏหลักฐานจากการออกอัลบั้ม Longplay เต็มรูปแบบหลายชุด และการมีอัลบั้มรวมเพลงฮิต การที่เพลงของวงถูกนำไปรวมอยู่ในอัลบั้มที่ทำยอดขายสูงร่วมกับศิลปินสำคัญแห่งยุค ตอกย้ำสถานะของพวกเขาในฐานะวงชั้นนำของตลาดเทปคาสเซ็ตต์ ซึ่งเป็นรูปแบบการบริโภคหลักในยุคนั้น

    ดอกไม้ป่าไม่ได้เป็นเพียงวงดนตรีที่ขายดี แต่ยังได้สร้างต้นแบบ ให้กับแนวเพลงผสมผสานที่ทรงอิทธิพล พวกเขาเป็นตัวอย่างสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่าดนตรีที่มีรากฐานลูกทุ่งสามารถนำเสนอในรูปแบบป๊อปสตริงที่มีคุณภาพสูงและประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ การเปิดทางนี้มีอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังจำนวนมากที่พยายามนำเสนอ "ลูกทุ่งสมัยใหม่" ซึ่งช่วยยืดอายุและปรับโฉมให้ดนตรีลูกทุ่งยังคงอยู่รอดในยุคที่ดนตรี String ครองตลาด

    การที่ดอกไม้ป่าสามารถนำเอาองค์ประกอบของลูกทุ่งและป๊อปมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้ผู้ผลิตเพลงเห็นว่า "สูตรผสม" นี้เป็นช่องทางที่มั่นคงในการขยายตลาดไปยังผู้ฟังที่มีรสนิยมหลากหลาย ถือเป็นการเร่งกระบวนการที่ทำให้ดนตรีสตริงได้ครอบครองความโดดเด่นในที่สุด

    มรดกทางดนตรีของดอกไม้ป่ายังคงยืนยง เพลงของพวกเขายังคงถูกค้นหาและรับฟังในปัจจุบันผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทนทานของทำนองและเนื้อหาที่เข้าถึงง่าย การปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลยังเห็นได้จากการที่สมาชิกหลักของวงยังคงมีความเคลื่อนไหวในการกลับมาทำเพลงใหม่ในนามดอกไม้ป่า ("พลังรัก") และมีการสร้างช่องทาง YouTube เฉพาะ การเคลื่อนไหวนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าศิลปินยุคบุกเบิกสามารถใช้แพลตฟอร์มสมัยใหม่เพื่อรักษาและขยายฐานแฟนคลับให้เข้าถึงผู้ฟังรุ่นใหม่ได้

    สรุป: มรดกของดอกไม้ป่า
    คณะดอกไม้ป่าจัดเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีและวัฒนธรรมที่มีความซับซ้อนในช่วงรอยต่อของสังคมไทย พวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสมดุลระหว่างมรดกทางดนตรีคลาสสิก (ผ่านสายเลือดสุนทราภรณ์) กับความต้องการของตลาดป๊อปที่เน้นความทันสมัยและคุณภาพการผลิตสูง

    บทเพลงของดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นกลไกทางวัฒนธรรมที่ช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางสังคมภายหลังวิกฤตการณ์ทางการเมือง ด้วยการนำเสนอความบันเทิงที่ปลอดภัยและเป็นทางออกทางวัฒนธรรมสำหรับกลุ่มผู้ย้ายถิ่นฐานที่ต้องการรักษาความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับชนบท ในขณะที่ปรับตัวเข้าสู่ความเป็นเมืองอย่างเต็มตัว

    มรดกที่สำคัญที่สุดของคณะดอกไม้ป่าคือการเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่แข็งแกร่งที่สุดของ "ดนตรีลูกทุ่งประยุกต์" พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าความทันสมัยทางดนตรีไม่จำเป็นต้องตัดขาดจากรากฐานทางวัฒนธรรมดั้งเดิม และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเพลงป๊อปไทยในทศวรรษต่อมาให้ยอมรับและผสมผสานแนวเพลงที่มีรากฐานมาจาก Luk Thung เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงกระแสหลักได้อย่างลงตัว

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/NnrS7BYpRRc
    🌼 ดอกไม้ป่า—ร่องรอยแห่งชนบทในสำเนียงเมือง คณะดอกไม้ป่า 🌸 ก้าวเข้ามาสู่ฉากดนตรีไทยในช่วงต้นทศวรรษ 2520 (ค.ศ. 1980s) ซึ่งถือเป็น 🔄 ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของรสนิยมและการผลิตดนตรีในประเทศไทย พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มนักร้องที่รวมตัวกันตามธรรมชาติ แต่เป็นโครงการทางดนตรีที่ถูกกำหนดและออกแบบอย่างพิถีพิถันจากผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเพลงมืออาชีพ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อตลาดชนชั้นกลางในเมืองที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ทำให้วงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งคือความสามารถในการนำ "แก่นเรื่องแบบลูกทุ่ง" 🧬🌾 มาผสมผสานกับการเรียบเรียงและคุณภาพการผลิตแบบ "ดนตรีสตริงหรือป๊อป" 🎧 อันนำไปสู่การก่อกำเนิดของแนวทางใหม่ที่เรียกว่า "ลูกทุ่งประยุกต์" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานให้กับรูปแบบดนตรีป๊อปที่ครองตลาดในทศวรรษต่อมา ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในช่วงปี พ.ศ. 2525–2526 🌟 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมหลังเหตุการณ์ทางการเมืองในทศวรรษก่อนหน้า วงนี้ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นนักร้องคู่ดูโอหญิงที่เน้นทักษะการประสานเสียง (Harmonizing Duo) พวกเขาสามารถดึงดูดผู้ฟังได้อย่างกว้างขวางด้วยการรักษาความรู้สึกและแก่นเรื่องของความเป็นไทยไว้ ในขณะที่นำเสนอผ่านสำเนียงป๊อปสมัยใหม่ ในเชิงสังคมวิทยา ความสำเร็จของวงมีความสัมพันธ์กับการถอยห่างจากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองที่รุนแรงของยุค 1970s ดนตรีป๊อปที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้มักหลีกเลี่ยงสารทางการเมือง และหันไปให้ความสำคัญกับเรื่องราวส่วนตัว ความรัก ❤️ และการมอบความบันเทิง ดอกไม้ป่าได้ปรับใช้แก่นเรื่องลูกทุ่งให้มีความอ่อนโยนและโรแมนติกในรูปแบบป๊อป ซึ่งทำให้บทเพลงของพวกเขากลายเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่ผู้บริโภคในเมืองสามารถยอมรับและเพลิดเพลินได้ คณะดอกไม้ป่าถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดทางธุรกิจที่ชัดเจน 💡 โดยไม่ได้เกิดจากการรวมตัวกันของนักดนตรีตามธรรมชาติ การก่อตั้งมีรากฐานมาจากความต้องการขยายตลาดและรูปแบบความสำเร็จที่เคยมีมาก่อน โดยผู้ริเริ่มแนวคิดต้องการที่จะสรรหานักร้องหญิงคู่ประสานเสียงเป็นคู่ที่สอง เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับวง The Hot Pepper Singers การตัดสินใจนี้สะท้อนให้เห็นว่า รูปแบบของ "นักร้องคู่ประสานเสียง" 🎤🤝 ที่มีภาพลักษณ์สุภาพและเน้นทักษะการร้องถือเป็นกลยุทธ์เชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพสูง การเน้นที่ "นักร้องคู่ประสานเสียง" แสดงให้เห็นว่าคุณภาพเสียงและการจัดวางเสียงประสานถูกกำหนดให้เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น แนวคิดนี้เป็นความพยายามที่จะยกระดับรูปแบบการร้องเพลงให้แตกต่างจากดนตรีลูกทุ่งทั่วไป การประสานเสียงที่ซับซ้อนนี้ถูกมองว่าเป็นคุณสมบัติของดนตรีแนวลูกกรุงและป๊อปที่มีความประณีตและมีรสนิยมสูง ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคในเมืองได้ วงดอกไม้ป่าประกอบด้วยนักร้องดูโอหญิงสองคน: โชติมา ช่วงวิทย์ (ตุ้ม) และ ปัทมา มนต์รังสี (อ้อม) คุณโชติมาถือเป็นสมาชิกหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเธอเป็นบุตรสาวของ ชวลีย์ ช่วงวิทย์ นักร้องชื่อดังของวงสุนทราภรณ์ 👑 สายเลือดจากสุนทราภรณ์นี้มอบความน่าเชื่อถือทางวัฒนธรรมและ "ความเป็นลูกกรุง" ให้กับวงโดยอัตโนมัติ ทำให้ดอกไม้ป่าสามารถวางตำแหน่งตัวเองอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นลูกทุ่งและความเป็นลูกกรุง/คลาสสิก ในช่วงเวลาที่ดนตรีลูกทุ่งกำลังถูกกลุ่มรสนิยมใหม่ของคนเมืองมองว่าเป็น "ดนตรีบ้านนอก" การมีโชติมาได้ทำหน้าที่เป็น "การสร้างแบรนด์ทางวัฒนธรรม" ที่สำคัญยิ่ง การเชื่อมโยงนี้รับประกันว่าเพลงของดอกไม้ป่า แม้จะมีกลิ่นอายของลูกทุ่ง แต่ก็มีความสุภาพและมีคุณค่าในเชิงศิลปะแบบลูกกรุงสูง "ดอกไม้ป่าซาวด์" คือการผสมผสานทางดนตรี 🔥 ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจในการนำองค์ประกอบทางทำนองเพลงพื้นบ้านหรือลูกทุ่ง มารวมเข้ากับการเรียบเรียงดนตรีและเครื่องดนตรีสมัยใหม่ตามแบบฉบับดนตรีสตริง/ป๊อปในยุค 80s แก่นเรื่องแบบลูกทุ่งยังคงเป็นหัวใจหลักในการเล่าเรื่อง ตัวอย่างเช่น เพลง "ทุยใจดำ" 💔 ที่สื่อถึงคนรักที่ไม่ซื่อสัตย์ และเพลง "สาวชนบท" 🏡 ที่หยิบยกเรื่องราวความรักและชีวิตในท้องถิ่นมานำเสนอ แต่สิ่งที่ทำให้ดนตรีมีความแตกต่างคือการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ การใช้เครื่องดนตรีที่ซับซ้อน เช่น เปียโน กีตาร์ไฟฟ้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องเป่า (Brass Section) 🎺🎷 ที่สร้างความหนาแน่นและพลังเสียงที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีการนำจังหวะที่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีตะวันตกมาใช้ เช่น จังหวะช่าช่าช่า หรือฟังก์กี้ดิสโก้ในเพลงสนุกสนานอย่าง "ระบำยอดหญ้า" 💃 ทั้งหมดนี้ถูกขับร้องด้วยการประสานเสียงที่ไพเราะและสะอาดตา ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของดนตรีป๊อปในช่วงนั้น การวิเคราะห์เนื้อหาและแก่นหลักของบทเพลง 1️⃣ ความรักที่ถูกทรยศในบริบทกึ่งชนบท: เพลงอย่าง "ทุยใจดำ" และ "ช้ำ" นำเสนอความผิดหวังในความรักจากมุมมองของผู้หญิง เมื่อเนื้อหาเหล่านี้ถูกขับร้องด้วยคุณภาพเสียงที่สะอาดและการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ ความดิบหรือความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับความยากจนในเพลงลูกทุ่งแบบดั้งเดิมก็ถูกลดทอนลง เนื้อหาจึงถูก "ทำให้สะอาด" ให้เหลือเพียงความเศร้าแบบโรแมนติกที่เข้ากับมาตรฐานของเพลงป๊อปในเมือง 2️⃣ ความปรารถนาในชีวิตชนบทและความหวนคิดถึง: เพลง "สาวชนบท" และ "ระบำยอดหญ้า" นำเสนอภาพความสดใสและรื่นเริงของชีวิตในท้องถิ่น ผู้ฟังในเขตเมืองหลายคนซึ่งส่วนใหญ่อพยพมาจากชนบท ต่างให้การตอบรับต่อเพลงเหล่านี้อย่างดีเยี่ยม ดอกไม้ป่าจึงทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ "การหวนคิดถึงอย่างมีรสนิยม" (Aesthetic Nostalgia) 💖 ความสำเร็จอย่างสูงในตลาดเพลงสตริง/ป๊อป แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการ "เชื่อมรอยแยกทางวัฒนธรรม" 🔗 ระหว่างรสนิยมของคนเมือง (ที่แสวงหาความทันสมัย) กับความผูกพันของกลุ่มผู้ฟังต่อชนบท ปี พ.ศ. 2525 เป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ของคณะดอกไม้ป่าจากการเปิดตัวอัลบั้ม ทุยใจดำ 💿 ซึ่งได้กำหนดทิศทางและลักษณะเฉพาะของวงอย่างชัดเจน เพลงเอก "ทุยใจดำ" เป็นตัวอย่างชั้นยอดของการผสมผสานระหว่าง Luk Thung และ Pop ผนวกกับการเรียบเรียงที่ใช้เครื่องดนตรีครบวงและจังหวะที่เร้าใจ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงเต้นรำที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง วงยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในปี พ.ศ. 2526 โดยมีผลงานเพลงจากชุดต่อมา เช่น "สาวชนบท," "หนาวลมขมรัก," และ "รักทรมาน" การออกผลงานหลายชุดภายในเวลาอันสั้น เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของค่ายเพลงในศักยภาพเชิงพาณิชย์และกระแสความนิยมที่แข็งแกร่งในช่วงเวลานั้น การที่เพลงของพวกเขาถูกรวมอยู่ในอัลบั้มรวมเพลงฮิตเงินล้าน 💰 ร่วมกับศิลปินใหญ่แห่งยุค แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นวงชั้นนำในตลาดเพลงเทปคาสเซ็ตต์อย่างแท้จริง นอกจากคุณภาพทางดนตรีแล้ว ภาพลักษณ์ของคณะดอกไม้ป่ามีความสำคัญต่อการตลาดไม่น้อยไปกว่ากัน ภาพลักษณ์ที่ถูกนำเสนอมีความเป็นมืออาชีพสูงและสอดคล้องกับแฟชั่นยุค 80s การปรากฏตัวทั้งในสตูดิโอและภาพคอนเสิร์ต 🎙️ แสดงให้เห็นถึงการลงทุนในการผลิต และการแต่งกายที่ดูทันสมัยและสะอาดตา ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากภาพลักษณ์ลูกทุ่งแบบดั้งเดิม คณะดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สำคัญสองประการในต้นทศวรรษ 1980s นั่นคือพลวัตของการอพยพย้ายถิ่นฐาน 🚚 และการเปลี่ยนแปลงของบทบาททางเพศ ในช่วงหลังปี 2520 สังคมไทยเข้าสู่ยุคของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการขยายตัวของชนชั้นกลางในเขตเมืองอย่างชัดเจน ผู้คนจำนวนมากอพยพจากชนบทเข้าสู่กรุงเทพฯ 🏙️ ทำให้เกิดความตึงเครียดทางวัฒนธรรมระหว่างวิถีชีวิตแบบเมืองกับรากเหง้าที่ยังคงผูกพันกับชนบท กลุ่มผู้ฟังที่ย้ายถิ่นฐานเหล่านี้ยังคงมีความผูกพันทางอารมณ์กับเนื้อหาและทำนองแบบลูกทุ่ง แต่รสนิยมทางเสียงของพวกเขาได้ถูกหล่อหลอมด้วยดนตรีป๊อปและสตริงที่ทันสมัย ดอกไม้ป่าจึงเข้ามาตอบโจทย์นี้ด้วยการนำเสนอ "ลูกทุ่งในแพ็คเกจป๊อป" เพลงที่มีธีมเกี่ยวกับ "สาวชนบท" ซึ่งถูกถ่ายทอดโดยนักร้องที่ดูทันสมัยในบริบทเมือง จึงสามารถสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ฟังกลุ่มย้ายถิ่นฐานได้อย่างลึกซึ้ง บทเพลงของดอกไม้ป่าเปรียบเสมือน "ซาวด์แทร็กของการปรับตัว" ของคนชนบทเข้าสู่สังคมเมือง การที่คณะดอกไม้ป่าเป็นนักร้องดูโอหญิงในแนว Pop/Fusion แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาททางเพศในสื่อและสังคมในช่วงเวลานั้น ภาพลักษณ์ของ โชติมา และ ปัทมา เป็นตัวแทนของ ผู้หญิงในยุคสมัยใหม่ 👩‍🎤 ที่สามารถเป็นทั้งผู้รักษามรดกทางวัฒนธรรมและเป็นผู้หญิงที่มีความทันสมัย (ผ่านสไตล์การแต่งกายและการนำเสนอแบบป๊อป) นอกจากนี้ เพลงที่กล้าแสดงออกถึงความผิดหวังในความรักและความช้ำ 💔 เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกส่วนตัวในที่สาธารณะได้มากขึ้น โดยที่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่ดูดีและไม่ฉีกกรอบทางสังคมมากนัก ซึ่งสอดคล้องกับยุคสมัยที่บทบาทของผู้หญิงเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น ในช่วงปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นช่วงที่สังคมกำลังฟื้นตัวหลังความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่ ดนตรีที่ได้รับความนิยมสูงมักจะไม่มีวาระทางการเมืองที่ชัดเจน คณะดอกไม้ป่าเองก็เน้นที่ความบันเทิงและเรื่องราวส่วนตัว การหลีกเลี่ยงข้อความที่อาจสร้างความขัดแย้งทางการเมืองในบทเพลง ส่งผลให้ดอกไม้ป่าสามารถเข้าถึงผู้ชมหลักได้อย่างง่ายดาย ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อย่างสูงในช่วงยุครุ่งเรือง 💵💶💷 ดังที่ปรากฏหลักฐานจากการออกอัลบั้ม Longplay เต็มรูปแบบหลายชุด และการมีอัลบั้มรวมเพลงฮิต การที่เพลงของวงถูกนำไปรวมอยู่ในอัลบั้มที่ทำยอดขายสูงร่วมกับศิลปินสำคัญแห่งยุค ตอกย้ำสถานะของพวกเขาในฐานะวงชั้นนำของตลาดเทปคาสเซ็ตต์ 📼 ซึ่งเป็นรูปแบบการบริโภคหลักในยุคนั้น ดอกไม้ป่าไม่ได้เป็นเพียงวงดนตรีที่ขายดี แต่ยังได้สร้างต้นแบบ 🏗️ ให้กับแนวเพลงผสมผสานที่ทรงอิทธิพล พวกเขาเป็นตัวอย่างสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่าดนตรีที่มีรากฐานลูกทุ่งสามารถนำเสนอในรูปแบบป๊อปสตริงที่มีคุณภาพสูงและประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ การเปิดทางนี้มีอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังจำนวนมากที่พยายามนำเสนอ "ลูกทุ่งสมัยใหม่" ซึ่งช่วยยืดอายุและปรับโฉมให้ดนตรีลูกทุ่งยังคงอยู่รอดในยุคที่ดนตรี String ครองตลาด การที่ดอกไม้ป่าสามารถนำเอาองค์ประกอบของลูกทุ่งและป๊อปมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้ผู้ผลิตเพลงเห็นว่า "สูตรผสม" นี้เป็นช่องทางที่มั่นคงในการขยายตลาดไปยังผู้ฟังที่มีรสนิยมหลากหลาย ถือเป็นการเร่งกระบวนการที่ทำให้ดนตรีสตริงได้ครอบครองความโดดเด่นในที่สุด มรดกทางดนตรีของดอกไม้ป่ายังคงยืนยง ⏳ เพลงของพวกเขายังคงถูกค้นหาและรับฟังในปัจจุบันผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทนทานของทำนองและเนื้อหาที่เข้าถึงง่าย การปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลยังเห็นได้จากการที่สมาชิกหลักของวงยังคงมีความเคลื่อนไหวในการกลับมาทำเพลงใหม่ในนามดอกไม้ป่า ("พลังรัก") และมีการสร้างช่องทาง YouTube เฉพาะ 🎥 การเคลื่อนไหวนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าศิลปินยุคบุกเบิกสามารถใช้แพลตฟอร์มสมัยใหม่เพื่อรักษาและขยายฐานแฟนคลับให้เข้าถึงผู้ฟังรุ่นใหม่ได้ ✨ ✅✅ สรุป: มรดกของดอกไม้ป่า ✅✅ คณะดอกไม้ป่าจัดเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีและวัฒนธรรมที่มีความซับซ้อนในช่วงรอยต่อของสังคมไทย พวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสมดุลระหว่างมรดกทางดนตรีคลาสสิก (ผ่านสายเลือดสุนทราภรณ์) กับความต้องการของตลาดป๊อปที่เน้นความทันสมัยและคุณภาพการผลิตสูง บทเพลงของดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นกลไกทางวัฒนธรรมที่ช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางสังคมภายหลังวิกฤตการณ์ทางการเมือง ด้วยการนำเสนอความบันเทิงที่ปลอดภัยและเป็นทางออกทางวัฒนธรรมสำหรับกลุ่มผู้ย้ายถิ่นฐานที่ต้องการรักษาความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับชนบท ในขณะที่ปรับตัวเข้าสู่ความเป็นเมืองอย่างเต็มตัว มรดกที่สำคัญที่สุดของคณะดอกไม้ป่าคือการเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่แข็งแกร่งที่สุดของ "ดนตรีลูกทุ่งประยุกต์" 🎶 พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าความทันสมัยทางดนตรีไม่จำเป็นต้องตัดขาดจากรากฐานทางวัฒนธรรมดั้งเดิม และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเพลงป๊อปไทยในทศวรรษต่อมาให้ยอมรับและผสมผสานแนวเพลงที่มีรากฐานมาจาก Luk Thung เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงกระแสหลักได้อย่างลงตัว 💯 #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/NnrS7BYpRRc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 480 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองนายกฯ สุชาติ ลงพื้นที่เขาใหญ่ ผลักดันอุทยานแห่งชาติ สู่มาตรฐานสากล ภายใต้นโยบาย “เที่ยวสุขใจ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน”
    https://www.thai-tai.tv/news/21768/
    .
    #สุชาติชมกลิ่น #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ #SmartPatrol #อารยสถาปัตย์ #ความมั่นคงชายแดน #นโยบายทส. #มรดกโลก #ช้างป่า
    รองนายกฯ สุชาติ ลงพื้นที่เขาใหญ่ ผลักดันอุทยานแห่งชาติ สู่มาตรฐานสากล ภายใต้นโยบาย “เที่ยวสุขใจ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน” https://www.thai-tai.tv/news/21768/ . #สุชาติชมกลิ่น #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ #SmartPatrol #อารยสถาปัตย์ #ความมั่นคงชายแดน #นโยบายทส. #มรดกโลก #ช้างป่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • มรดก รบ.แม้วนำเข้านมเสรี ชาวโคนมช้ำ ทิ้ง300ตัน/วัน (4/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #โคนมไทย
    #นมไทย
    #รัฐบาลทักษิณ
    #เศรษฐกิจไทย
    มรดก รบ.แม้วนำเข้านมเสรี ชาวโคนมช้ำ ทิ้ง300ตัน/วัน (4/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #โคนมไทย #นมไทย #รัฐบาลทักษิณ #เศรษฐกิจไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • หลวงปู่เทพโลกอุดรพิมพ์ยืนสมาธิ กรุวังหน้า
    หลวงปู่เทพโลกอุดร พิมพ์ยืนสมาธิ เนื้อผงพุทธคุณสีแดง (ผิวสะอาด พระสวยมาก)​ กรุวังหน้า //อธิษฐาน​จิตโดยหลวงปู่เทพ​โลก​อุดร​ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีและป้องกันคุณไสยและภูตผีปีศาจ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงปู่​เทพ​โลก​อุดร พิมพ์​ยืนสมาธิ​ กรุวังหน้า สร้างโดยโดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 เป็นพระพิมพ์ที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ โดยช่างหลวงในยุคสมัยนั้นได้สรรสร้างงานชั้นดี ด้วยจินตนาการล้ำเลิศ ทั้งมีผู้ทรงภูมิธรรมสูงส่ง ได้อธิษฐานจิต ปลุกเสก ไว้สืบอายุพระพุทธศาสนา จึงเป็นมรดกทางพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินสยาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาไว้ให้ลูกหลานตราบนานเท่านาน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    หลวงปู่เทพโลกอุดรพิมพ์ยืนสมาธิ กรุวังหน้า หลวงปู่เทพโลกอุดร พิมพ์ยืนสมาธิ เนื้อผงพุทธคุณสีแดง (ผิวสะอาด พระสวยมาก)​ กรุวังหน้า //อธิษฐาน​จิตโดยหลวงปู่เทพ​โลก​อุดร​ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีและป้องกันคุณไสยและภูตผีปีศาจ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงปู่​เทพ​โลก​อุดร พิมพ์​ยืนสมาธิ​ กรุวังหน้า สร้างโดยโดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 เป็นพระพิมพ์ที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ โดยช่างหลวงในยุคสมัยนั้นได้สรรสร้างงานชั้นดี ด้วยจินตนาการล้ำเลิศ ทั้งมีผู้ทรงภูมิธรรมสูงส่ง ได้อธิษฐานจิต ปลุกเสก ไว้สืบอายุพระพุทธศาสนา จึงเป็นมรดกทางพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินสยาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาไว้ให้ลูกหลานตราบนานเท่านาน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • FTA มรดกทักษิณ ทำชาวโคนมไทยหายนะ! (1/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #FTA
    #ทักษิณ
    #โคนมไทย
    #เศรษฐกิจไทย
    FTA มรดกทักษิณ ทำชาวโคนมไทยหายนะ! (1/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #FTA #ทักษิณ #โคนมไทย #เศรษฐกิจไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 1 : “เสี้ยม 1”
    ตามประวัติศาสตร์ที่จารึกกันไว้ สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้จบสิ้นลงไปแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1918 แต่ความรุนแรงที่สงครามโลก ได้สร้างทิ้งไว้ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะยังไม่จบ การโต้แย้งเรื่องเขตแดน ซึ่งกำหนดขึ้นโดยเหล่านักล่าอาณานิคม โดยเฉพาะอังกฤษ เพื่อสนองตัณหาของพวกนักล่า ได้ทิ้งมรดกแห่งความขัดแย้งและความเศร้าสลดใจไว้ในภูมิภาคนี้ อย่างยากที่จะหาทางเยียวยา
    ที่เมือง Damascus ในซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองมากว่า 3 ปีแล้ว และยังไม่เห็นเค้าว่าจะจบลงเมื่อไหร่ กองทัพภาคที่ 4 ของรัฐบาลซีเรีย ขึ้นไปตั้งมั่นอยู่บนภูเขา Kassioun ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติบอกว่า แก๊สพิษที่ถูกยิงลงมาฟุ้งกระจายอยู่บริเวณเมืองชายขอบของ Damascus เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2013 นั้น ถูกยิงมาจากภูเขาดังกล่าว ทำให้มีคนตายไปประมาณ 1,400 คน เป็นยอดคนตายเฉพาะใน 1 วันเท่านั้น ตั้งแต่สงครามกลางเมืองเริ่ม จนถึงปัจจุบัน มีคนตายไปแล้วประมาณ 1.5 แสนคน
    Bagdad เมืองที่เคยเป็นวังเก่าในอิรัค 2 ปี หลังจากที่กองทัพอเมริกันถอนออกไป ชาวอิรัคได้มีโอกาสมาเดินเล่นในส่วนที่เรียกว่าเป็น Green – Zone ที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ Tigris อีกครั้งหนึ่ง มันเป็นส่วนของเมืองแบกแดด ที่ทหารอเมริกันแอบใช้เป็นที่หลบภัย เมื่อทำให้ทั้งประเทศที่พวกเขาไปครอบครองอยู่ กลายเป็นแดนฆาตกรรมหมู่ ปัจจุบันสถานการณ์ดูเหมือนไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ การเดินเล่นใน Green Zone มีอายุสั้นจริง อีกด้านหนึ่งของกำแพงเป็น Red-Zone การถูกยิง การตายหมู่ กลับกลายมาเป็นเหตุการณ์ประจำวันอีกครั้ง แม้ทหารอเมริกันจะถอยทัพออกไปแล้ว ความสงบก็ไม่ได้กลับมา มีคนตายไปแล้วเป็นหมื่นคน
    Beirut เมืองหลวงของเลบานอน เมืองซึ่งเป็นที่ชื่นชมของชาวอาหรับ พวกเขาชอบใช้เบรุตเป็นสถานที่นัดพบ เป็นที่เดินเล่นทอดน่อง จูงมือกัน พักผ่อนหย่อนใจ และแข่งกันทำมาหากิน เป็นเส้นทางขนานคู่ระหว่างศาสนากับโลกีย์ มุสลิมกับคริสเตียน ชีอะห์กับสุหนี่ แล้วกลิ่นไอของการต่อสู้ที่ลิเบีย ซีเรีย และความไม่สงบที่เกิดขึ้นใน อียิปต์ และอิรัค ก็โชยมาใส่จมูกของชาวเบรุตที่กำลังเดินจูงมือกันอีกครั้ง คำถามเดิม ๆ วนกลับมาเข้ามาในใจของชาวเลบานอน แล้วเบรุตจะรอดไหม เราจะเจอคลื่นความไม่สงบ ความรุนแรงโหมใส่เราอีกครั้งไหม หรือว่ามันมาคอยเราอยู่แล้ว ตรงหัวมุมถนนอันเป็นที่รักของเราในเบรุตนี้เอง
    2 ปี หลังจากการลุกฮือเหมือนนัดกันในปี ค.ศ. 2011 สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะย้อนกลับไปทางความสิ้นหวังและเปล่าเปลี่ยวเหมือนอย่างที่ผ่านมา แทบจะไม่มีประเทศใดเลยในภูมิภาคนี้ ที่ไม่เคยผจญกับสงคราม หรือความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา และก็ดูเหมือนว่า จะไม่มีประเทศไหนเลยที่มีภูมิต้านทานแข็งแรงพอ ที่จะรับมือกับการจราจลรอบใหม่ ที่อาจจะระเบิดเป็นวงกว้างไปทั่วภูมิภาค ในอนาคตอันใกล้นี้ ขบวนการที่เรียกว่า Arab Spring ดูเหมือนจะจมโคลนไปแล้ว แทนที่จะงอกงาม หรือไม่ก็ถูกต่อต้าน หรือถูกโค่น ด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใหม่ต่อไปเรื่อย ๆ อย่างดูเหมือนไม่มีวันจบสิ้น
    สำหรับผู้ที่ติดตามข่าวภูมิภาคนี้จากสื่อฟอกย้อม คงมองเห็นว่าการต่อต้าน ลุกฮือที่เกิดขึ้นในตูนิเซีย ลิเบีย อียิปต์ และซีเรีย ก็คงเป็นพัฒนาการทางการเมืองตามปรกติของภูมิภาค แต่เปล่าหรอก ความไม่สงบเหล่านั้น มันเป็นหน่อใหม่ที่แตกเพิ่ม มาจากรากเหง้าของความขัดแย้ง ที่เจริญเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดยั้งมา เป็นเวลาประมาณ 100 ปีแล้ว และยังไม่เห็นทีท่าว่าจะสิ้นสุดแต่อย่างไร
    ยังไม่มีเหตุการณ์ใด ที่ผลของมันจะสามารถสร้างความตึงเครียดและขัดแย้ง ให้ใหม่สดเสมอ ต่อเนื่องและยาวนานในตะวันออกกลาง ได้เท่ากับผลของสงครามโลกครั้งที่ 1
    การสู้รบ ที่นักประวัติศาสตร์เรียกว่า European Civil War ที่หมายถึงช่วงเวลาความรุนแรงที่เขย่ายุโรป ตั้งแต่ ค.ศ. 1914 เป็นต้นมาและสิ้นสุดเอาปี ค.ศ. 1945 ต่อด้วยสงครามเย็น ได้จบลงเมื่อ 1990 แต่สำหรับโลกอาหรับ ความตึงเครียดของพวกเขา ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันยังคงค้างคาอยู่ บรรดาชาวตะวันออกกลาง พบว่าตัวเองจำเป็นต้องไปฝึกหัดเป็นนักไต่ลวดกันถ้วนหน้า พวกเขาไม่ได้เป็นนักไต่ลวดธรรมดา เขาไต่ลวดและถือดาบไล่ฟันกันระหว่างไต่ลวดด้วย
    นัก (เขียน) ประวัติศาสตร์ฝรั่งบอกว่า ในภูมิภาคอันกว้างใหญ่ มี 2 ประเทศ คือ อียิปต์ และอิหร่าน ที่ดูเหมือนจะพอประคองตนเองให้อยู่รอดมาได้แม้จะโดนเขย่า โดนโค่นอยู่หลายครั้ง อีก 1 ประเทศ ที่ดูจะชำนาญในการประคองตนเองอย่างหวาดเสียว แม้จะถูกบีบถูกถีบทิ้งหลายครั้ง แต่ก็ลุกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วคือตุรกี และอีก 1 ประเทศที่แม้ไม่ถนัด ในการประคองตนเองอย่างหวาดเสียว แต่ใช้วิธีทำตัวอ่อน โอนไปตามกระแส เงินและน้ำมัน คือ Saudi Arabia ประเทศทั้ง 4 นี้ ล้อมรอบใจกลางของตะวันออกกลาง ซึ่งมี 5 ประเทศ และ 1 รัฐพิเศษ คือ เลบานอน ซีเรีย จอร์แดน อีรัค อิสราเอล และปาเลสไตน์ ซึ่งนักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน Fromkin เรียกกลุ่มประเทศนี้ว่า ลูก ๆ ของอังกฤษและฝรั่งเศส แต่ผมอยากจะแย้งนักประวัติศาสตร์ฝรั่งทั้งหลายว่า ไม่ว่าจะเป็น 4 ประเทศข้างต้น ก็ดูเหมือนจะเอาตัวรอดยาก แม้ว่าต่างจะฝึกเป็นนักไต่ลวดกันเป็นแถว และพวกประเทศที่ฝรั่งเรียกว่าเป็นลูก ที่นักล่าอาณานิคม “สร้าง” ก็ดูจะเป็นการสร้างขึ้นมาใช้เป็น “ไม้เสี้ยม” ตะวันออกกลาง ให้แตกให้แย้งกันเองอยู่เสมอต่างหาก
    ไม่มีกลุ่มประเทศไหน แม้จะมีขนาดเล็กเท่ากับกลุ่มเด็กถูกเสี้ยมข้างต้น ที่จะต้องผจญภัยสงคราม การขัดแย้งทางการเมือง สงครามกลางเมือง การโค่นล้ม การก่อการร้าย ได้มากเท่าที่กลุ่มเด็กถูกเสี้ยมโดน ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
    เพื่อที่จะเข้าใจความผิดปรกติของสิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของภูมิภาค นี้ เราคงจะต้องตามไปรู้จักหัวหางของเหตุการณ์บางอย่างก่อน เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 รวมทั้งความล้มเหลวของเหล่าผู้ปกครองและการเมืองในตะวันออกกลางเอง ที่ไม่สามารถจะต้านทาน หรือแก้เกมการครอบครอง และครอบงำโดยเหล่านักล่าอาณานิคม โดยเฉพาะชาติอังกฤษ และที่สำคัญ การค้นพบน้ำมัน การก่อตั้งอิสราเอล ก็เป็นปัจจัยที่เพิ่มความขัดแย้งในภูมิภาคนี้
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
17 สค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 1 : “เสี้ยม 1” ตามประวัติศาสตร์ที่จารึกกันไว้ สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้จบสิ้นลงไปแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1918 แต่ความรุนแรงที่สงครามโลก ได้สร้างทิ้งไว้ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะยังไม่จบ การโต้แย้งเรื่องเขตแดน ซึ่งกำหนดขึ้นโดยเหล่านักล่าอาณานิคม โดยเฉพาะอังกฤษ เพื่อสนองตัณหาของพวกนักล่า ได้ทิ้งมรดกแห่งความขัดแย้งและความเศร้าสลดใจไว้ในภูมิภาคนี้ อย่างยากที่จะหาทางเยียวยา ที่เมือง Damascus ในซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองมากว่า 3 ปีแล้ว และยังไม่เห็นเค้าว่าจะจบลงเมื่อไหร่ กองทัพภาคที่ 4 ของรัฐบาลซีเรีย ขึ้นไปตั้งมั่นอยู่บนภูเขา Kassioun ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติบอกว่า แก๊สพิษที่ถูกยิงลงมาฟุ้งกระจายอยู่บริเวณเมืองชายขอบของ Damascus เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2013 นั้น ถูกยิงมาจากภูเขาดังกล่าว ทำให้มีคนตายไปประมาณ 1,400 คน เป็นยอดคนตายเฉพาะใน 1 วันเท่านั้น ตั้งแต่สงครามกลางเมืองเริ่ม จนถึงปัจจุบัน มีคนตายไปแล้วประมาณ 1.5 แสนคน Bagdad เมืองที่เคยเป็นวังเก่าในอิรัค 2 ปี หลังจากที่กองทัพอเมริกันถอนออกไป ชาวอิรัคได้มีโอกาสมาเดินเล่นในส่วนที่เรียกว่าเป็น Green – Zone ที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ Tigris อีกครั้งหนึ่ง มันเป็นส่วนของเมืองแบกแดด ที่ทหารอเมริกันแอบใช้เป็นที่หลบภัย เมื่อทำให้ทั้งประเทศที่พวกเขาไปครอบครองอยู่ กลายเป็นแดนฆาตกรรมหมู่ ปัจจุบันสถานการณ์ดูเหมือนไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ การเดินเล่นใน Green Zone มีอายุสั้นจริง อีกด้านหนึ่งของกำแพงเป็น Red-Zone การถูกยิง การตายหมู่ กลับกลายมาเป็นเหตุการณ์ประจำวันอีกครั้ง แม้ทหารอเมริกันจะถอยทัพออกไปแล้ว ความสงบก็ไม่ได้กลับมา มีคนตายไปแล้วเป็นหมื่นคน Beirut เมืองหลวงของเลบานอน เมืองซึ่งเป็นที่ชื่นชมของชาวอาหรับ พวกเขาชอบใช้เบรุตเป็นสถานที่นัดพบ เป็นที่เดินเล่นทอดน่อง จูงมือกัน พักผ่อนหย่อนใจ และแข่งกันทำมาหากิน เป็นเส้นทางขนานคู่ระหว่างศาสนากับโลกีย์ มุสลิมกับคริสเตียน ชีอะห์กับสุหนี่ แล้วกลิ่นไอของการต่อสู้ที่ลิเบีย ซีเรีย และความไม่สงบที่เกิดขึ้นใน อียิปต์ และอิรัค ก็โชยมาใส่จมูกของชาวเบรุตที่กำลังเดินจูงมือกันอีกครั้ง คำถามเดิม ๆ วนกลับมาเข้ามาในใจของชาวเลบานอน แล้วเบรุตจะรอดไหม เราจะเจอคลื่นความไม่สงบ ความรุนแรงโหมใส่เราอีกครั้งไหม หรือว่ามันมาคอยเราอยู่แล้ว ตรงหัวมุมถนนอันเป็นที่รักของเราในเบรุตนี้เอง 2 ปี หลังจากการลุกฮือเหมือนนัดกันในปี ค.ศ. 2011 สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะย้อนกลับไปทางความสิ้นหวังและเปล่าเปลี่ยวเหมือนอย่างที่ผ่านมา แทบจะไม่มีประเทศใดเลยในภูมิภาคนี้ ที่ไม่เคยผจญกับสงคราม หรือความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา และก็ดูเหมือนว่า จะไม่มีประเทศไหนเลยที่มีภูมิต้านทานแข็งแรงพอ ที่จะรับมือกับการจราจลรอบใหม่ ที่อาจจะระเบิดเป็นวงกว้างไปทั่วภูมิภาค ในอนาคตอันใกล้นี้ ขบวนการที่เรียกว่า Arab Spring ดูเหมือนจะจมโคลนไปแล้ว แทนที่จะงอกงาม หรือไม่ก็ถูกต่อต้าน หรือถูกโค่น ด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใหม่ต่อไปเรื่อย ๆ อย่างดูเหมือนไม่มีวันจบสิ้น สำหรับผู้ที่ติดตามข่าวภูมิภาคนี้จากสื่อฟอกย้อม คงมองเห็นว่าการต่อต้าน ลุกฮือที่เกิดขึ้นในตูนิเซีย ลิเบีย อียิปต์ และซีเรีย ก็คงเป็นพัฒนาการทางการเมืองตามปรกติของภูมิภาค แต่เปล่าหรอก ความไม่สงบเหล่านั้น มันเป็นหน่อใหม่ที่แตกเพิ่ม มาจากรากเหง้าของความขัดแย้ง ที่เจริญเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดยั้งมา เป็นเวลาประมาณ 100 ปีแล้ว และยังไม่เห็นทีท่าว่าจะสิ้นสุดแต่อย่างไร ยังไม่มีเหตุการณ์ใด ที่ผลของมันจะสามารถสร้างความตึงเครียดและขัดแย้ง ให้ใหม่สดเสมอ ต่อเนื่องและยาวนานในตะวันออกกลาง ได้เท่ากับผลของสงครามโลกครั้งที่ 1 การสู้รบ ที่นักประวัติศาสตร์เรียกว่า European Civil War ที่หมายถึงช่วงเวลาความรุนแรงที่เขย่ายุโรป ตั้งแต่ ค.ศ. 1914 เป็นต้นมาและสิ้นสุดเอาปี ค.ศ. 1945 ต่อด้วยสงครามเย็น ได้จบลงเมื่อ 1990 แต่สำหรับโลกอาหรับ ความตึงเครียดของพวกเขา ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันยังคงค้างคาอยู่ บรรดาชาวตะวันออกกลาง พบว่าตัวเองจำเป็นต้องไปฝึกหัดเป็นนักไต่ลวดกันถ้วนหน้า พวกเขาไม่ได้เป็นนักไต่ลวดธรรมดา เขาไต่ลวดและถือดาบไล่ฟันกันระหว่างไต่ลวดด้วย นัก (เขียน) ประวัติศาสตร์ฝรั่งบอกว่า ในภูมิภาคอันกว้างใหญ่ มี 2 ประเทศ คือ อียิปต์ และอิหร่าน ที่ดูเหมือนจะพอประคองตนเองให้อยู่รอดมาได้แม้จะโดนเขย่า โดนโค่นอยู่หลายครั้ง อีก 1 ประเทศ ที่ดูจะชำนาญในการประคองตนเองอย่างหวาดเสียว แม้จะถูกบีบถูกถีบทิ้งหลายครั้ง แต่ก็ลุกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วคือตุรกี และอีก 1 ประเทศที่แม้ไม่ถนัด ในการประคองตนเองอย่างหวาดเสียว แต่ใช้วิธีทำตัวอ่อน โอนไปตามกระแส เงินและน้ำมัน คือ Saudi Arabia ประเทศทั้ง 4 นี้ ล้อมรอบใจกลางของตะวันออกกลาง ซึ่งมี 5 ประเทศ และ 1 รัฐพิเศษ คือ เลบานอน ซีเรีย จอร์แดน อีรัค อิสราเอล และปาเลสไตน์ ซึ่งนักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน Fromkin เรียกกลุ่มประเทศนี้ว่า ลูก ๆ ของอังกฤษและฝรั่งเศส แต่ผมอยากจะแย้งนักประวัติศาสตร์ฝรั่งทั้งหลายว่า ไม่ว่าจะเป็น 4 ประเทศข้างต้น ก็ดูเหมือนจะเอาตัวรอดยาก แม้ว่าต่างจะฝึกเป็นนักไต่ลวดกันเป็นแถว และพวกประเทศที่ฝรั่งเรียกว่าเป็นลูก ที่นักล่าอาณานิคม “สร้าง” ก็ดูจะเป็นการสร้างขึ้นมาใช้เป็น “ไม้เสี้ยม” ตะวันออกกลาง ให้แตกให้แย้งกันเองอยู่เสมอต่างหาก ไม่มีกลุ่มประเทศไหน แม้จะมีขนาดเล็กเท่ากับกลุ่มเด็กถูกเสี้ยมข้างต้น ที่จะต้องผจญภัยสงคราม การขัดแย้งทางการเมือง สงครามกลางเมือง การโค่นล้ม การก่อการร้าย ได้มากเท่าที่กลุ่มเด็กถูกเสี้ยมโดน ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เพื่อที่จะเข้าใจความผิดปรกติของสิ่งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของภูมิภาค นี้ เราคงจะต้องตามไปรู้จักหัวหางของเหตุการณ์บางอย่างก่อน เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 รวมทั้งความล้มเหลวของเหล่าผู้ปกครองและการเมืองในตะวันออกกลางเอง ที่ไม่สามารถจะต้านทาน หรือแก้เกมการครอบครอง และครอบงำโดยเหล่านักล่าอาณานิคม โดยเฉพาะชาติอังกฤษ และที่สำคัญ การค้นพบน้ำมัน การก่อตั้งอิสราเอล ก็เป็นปัจจัยที่เพิ่มความขัดแย้งในภูมิภาคนี้ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
17 สค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 417 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระพิมพ์พนมมือหลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า
    พระพิมพ์พนมมือหลวงปู่เทพโลกอุดร เนื้อว่านไพลดำเหล็กไหล กรุวังหน้า //อธิษฐาน​จิตโดยหลวงปู่เทพ​โลก​อุดร​ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีและป้องกันคุณไสยและภูตผีปีศาจ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** พระพิมพ์พนมมือหลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า สร้างโดยโดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 เป็นพระพิมพ์ที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ โดยช่างหลวงในยุคสมัยนั้นได้สรรสร้างงานชั้นดี ด้วยจินตนาการล้ำเลิศ ทั้งมีผู้ทรงภูมิธรรมสูงส่ง ได้อธิษฐานจิต ปลุกเสก ไว้สืบอายุพระพุทธศาสนา จึงเป็นมรดกทางพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินสยาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาไว้ให้ลูกหลานตราบนานเท่านาน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    พระพิมพ์พนมมือหลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า พระพิมพ์พนมมือหลวงปู่เทพโลกอุดร เนื้อว่านไพลดำเหล็กไหล กรุวังหน้า //อธิษฐาน​จิตโดยหลวงปู่เทพ​โลก​อุดร​ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีและป้องกันคุณไสยและภูตผีปีศาจ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** พระพิมพ์พนมมือหลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า สร้างโดยโดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 เป็นพระพิมพ์ที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ โดยช่างหลวงในยุคสมัยนั้นได้สรรสร้างงานชั้นดี ด้วยจินตนาการล้ำเลิศ ทั้งมีผู้ทรงภูมิธรรมสูงส่ง ได้อธิษฐานจิต ปลุกเสก ไว้สืบอายุพระพุทธศาสนา จึงเป็นมรดกทางพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินสยาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาไว้ให้ลูกหลานตราบนานเท่านาน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.3
    เรื่องสาธารณสถาน

    ในทุกตรอกซอกซอยของเมืองใหญ่และหมู่บ้านเล็กๆ มีสถานที่แห่งหนึ่งที่เปิดประตูต้อนรับผู้คนจากทุกสารทิศ สถานที่ที่ไม่ได้มีเจ้าของเป็นคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของทุกคน สถานที่ที่เรียกว่าสาธารณสถาน สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น หรือแม้แต่ศาลาพักร้อนริมทาง สิ่งเหล่านี้คือพื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรวมตัวและพักผ่อนหย่อนใจ เป็นพื้นที่ที่ทำให้ผู้คนได้หลบหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน เข้ามาหายใจในอากาศที่บริสุทธิ์ ได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกับเพื่อนบ้าน หรือแม้แต่ได้นั่งพักผ่อนเงียบๆ คนเดียวเพื่อทบทวนความคิด พื้นที่เหล่านี้เปรียบเสมือนสถานีความสุขที่คอยเติมพลังให้แก่ทุกคนในสังคม เป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของผู้คน สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และเป็นเครื่องสะท้อนความเจริญของสังคมนั้นๆ

    สาธารณสถานไม่ใช่แค่พื้นที่ทางกายภาพ แต่คือหัวใจของชุมชน ที่ซึ่งเรื่องราวชีวิตนับร้อยพันได้ถูกบอกเล่า ที่ซึ่งความทรงจำดีๆ ถูกสร้างขึ้นมา ที่ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันในการใช้ประโยชน์และดูแลรักษา ความสำคัญของพื้นที่เหล่านี้จึงไม่ได้อยู่แค่ที่การใช้งาน แต่คือการที่มันช่วยหล่อหลอมจิตใจของผู้คนให้มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมมากขึ้น เมื่อเราได้ใช้ประโยชน์จากมัน เราย่อมรู้สึกหวงแหนและอยากจะรักษามันให้คงอยู่ตลอดไป การดูแลรักษาสวนสาธารณะให้สะอาด สนามเด็กเล่นให้ปลอดภัย จึงเป็นหน้าที่ของทุกคน ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานใดๆ เพียงเพราะเราทุกคนคือเจ้าของพื้นที่เหล่านี้อย่างแท้จริง และมันคือมรดกที่ควรส่งต่อไปยังคนรุ่นหลัง

    สาธารณสถานจึงเป็นมากกว่าเพียงแค่พื้นที่ว่างๆ แต่มันคือลมหายใจของเมือง เป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณภาพชีวิตและจิตสำนึกของคนในสังคมนั้นๆ การให้ความสำคัญและร่วมกันดูแลรักษาพื้นที่เหล่านี้ จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อสร้างสังคมที่น่าอยู่และยั่งยืนสำหรับทุกคน เพราะเมื่อสาธารณสถานมีชีวิตชีวา สังคมของเราก็จะเปี่ยมไปด้วยความสุข ความสัมพันธ์ที่ดี และความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง
    บทความกฎหมาย EP.3 เรื่องสาธารณสถาน ในทุกตรอกซอกซอยของเมืองใหญ่และหมู่บ้านเล็กๆ มีสถานที่แห่งหนึ่งที่เปิดประตูต้อนรับผู้คนจากทุกสารทิศ สถานที่ที่ไม่ได้มีเจ้าของเป็นคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของทุกคน สถานที่ที่เรียกว่าสาธารณสถาน สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น หรือแม้แต่ศาลาพักร้อนริมทาง สิ่งเหล่านี้คือพื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรวมตัวและพักผ่อนหย่อนใจ เป็นพื้นที่ที่ทำให้ผู้คนได้หลบหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน เข้ามาหายใจในอากาศที่บริสุทธิ์ ได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกับเพื่อนบ้าน หรือแม้แต่ได้นั่งพักผ่อนเงียบๆ คนเดียวเพื่อทบทวนความคิด พื้นที่เหล่านี้เปรียบเสมือนสถานีความสุขที่คอยเติมพลังให้แก่ทุกคนในสังคม เป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของผู้คน สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และเป็นเครื่องสะท้อนความเจริญของสังคมนั้นๆ สาธารณสถานไม่ใช่แค่พื้นที่ทางกายภาพ แต่คือหัวใจของชุมชน ที่ซึ่งเรื่องราวชีวิตนับร้อยพันได้ถูกบอกเล่า ที่ซึ่งความทรงจำดีๆ ถูกสร้างขึ้นมา ที่ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันในการใช้ประโยชน์และดูแลรักษา ความสำคัญของพื้นที่เหล่านี้จึงไม่ได้อยู่แค่ที่การใช้งาน แต่คือการที่มันช่วยหล่อหลอมจิตใจของผู้คนให้มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมมากขึ้น เมื่อเราได้ใช้ประโยชน์จากมัน เราย่อมรู้สึกหวงแหนและอยากจะรักษามันให้คงอยู่ตลอดไป การดูแลรักษาสวนสาธารณะให้สะอาด สนามเด็กเล่นให้ปลอดภัย จึงเป็นหน้าที่ของทุกคน ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานใดๆ เพียงเพราะเราทุกคนคือเจ้าของพื้นที่เหล่านี้อย่างแท้จริง และมันคือมรดกที่ควรส่งต่อไปยังคนรุ่นหลัง สาธารณสถานจึงเป็นมากกว่าเพียงแค่พื้นที่ว่างๆ แต่มันคือลมหายใจของเมือง เป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณภาพชีวิตและจิตสำนึกของคนในสังคมนั้นๆ การให้ความสำคัญและร่วมกันดูแลรักษาพื้นที่เหล่านี้ จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อสร้างสังคมที่น่าอยู่และยั่งยืนสำหรับทุกคน เพราะเมื่อสาธารณสถานมีชีวิตชีวา สังคมของเราก็จะเปี่ยมไปด้วยความสุข ความสัมพันธ์ที่ดี และความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP31 | อาคาร 100 ปี โดดเด่นเคียงคู่ มัสยิดบางอ้อ

    ท่ามกลางชุมชนมุสลิมย่านบางอ้อ นอกจากมัสยิดที่งดงามสมคำร่ำลือ ยังมี “อาคาร 100 ปี” ที่ตั้งตระหง่านเคียงข้างมัสยิด เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของความทรงจำและประวัติศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้

    อาคารหลังนี้ไม่ได้มีคุณค่าเพียงแค่สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง การเป็นศูนย์กลางของชุมชน ทั้งในด้านศาสนา การศึกษา และการรวมพลังของผู้คนหลายยุคหลายสมัย

    จากอาคารไม้หลังเก่า สู่การเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และกิจกรรมของชาวมุสลิมบางอ้อ อาคาร 100 ปีหลังนี้จึงเปรียบเสมือนพยานแห่งกาลเวลาที่เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของชุมชนอย่างใกล้ชิด

    ติดตามเรื่องราวของอาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้ และบทบาทสำคัญที่ยังคงมีอยู่จวบจนปัจจุบัน

    #สลามเมืองไทย #EP31 #อาคาร100ปี #มัสยิดบางอ้อ #มรดกชุมชน #ชุมชนมุสลิมบางอ้อ #ศรัทธาและกาลเวลา #ThaiMuslimCommunity #MuslimHeritage #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP31 | อาคาร 100 ปี โดดเด่นเคียงคู่ มัสยิดบางอ้อ ท่ามกลางชุมชนมุสลิมย่านบางอ้อ นอกจากมัสยิดที่งดงามสมคำร่ำลือ ยังมี “อาคาร 100 ปี” ที่ตั้งตระหง่านเคียงข้างมัสยิด เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของความทรงจำและประวัติศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้ อาคารหลังนี้ไม่ได้มีคุณค่าเพียงแค่สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง การเป็นศูนย์กลางของชุมชน ทั้งในด้านศาสนา การศึกษา และการรวมพลังของผู้คนหลายยุคหลายสมัย จากอาคารไม้หลังเก่า สู่การเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และกิจกรรมของชาวมุสลิมบางอ้อ อาคาร 100 ปีหลังนี้จึงเปรียบเสมือนพยานแห่งกาลเวลาที่เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของชุมชนอย่างใกล้ชิด ติดตามเรื่องราวของอาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้ และบทบาทสำคัญที่ยังคงมีอยู่จวบจนปัจจุบัน #สลามเมืองไทย #EP31 #อาคาร100ปี #มัสยิดบางอ้อ #มรดกชุมชน #ชุมชนมุสลิมบางอ้อ #ศรัทธาและกาลเวลา #ThaiMuslimCommunity #MuslimHeritage #ThaiTimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รัฐบาลนี้คนไทยก็ไร้ความหวัง "ประเทศไทยอาจมีสภาพเหมือนอินโดนีเซีย ประชาชนสุดจะทนกับนักการเมืองแล้ว...ผลประโยชน์ฯลฯ#นักการเมืองเราจะมีไว้ทำไม?"ประเทศมีสงคราม ประชาชนกับทหารช่วยกัน น้ำท่วมทหาร&กลุ่มอาสาฯลฯช่วยกัน ไม่มีนักการเมืองหน้าไหนเลยออกมาช่วยเหลือประชาชน"ทหารเขาก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกันเดินแช่น้ำเป็นวันๆจนเท้าเลือดออก เป็นเบาหวานเท้าเป็นแผลอาจสูญเสียขาได้เหมือนกัน "มีไหมพวกที่ชอบอ้าง'ปชช.11/14ล้านเสียง. ที่เลือกพวกคุณเข้าไปรับเงินเดือนกันเป็นแสน ค่าอาหารวันละ1พันบาท.ค่ายานพาหนะฟรีฯลฯ ออกมาช่วยประชาชนบ้างไหม ชายแดนคนไทยตายไม่มีใครสักคนออกมาประนามกัมพูชาเรื่องมนุษยธรรม ยิงใส่บ้านเรือนคนอพยพเป็นแสนมองไม่เห็น "ทหารกัมพูชาฆ่าคนไทยบอกต้องรับมารักษา เด็กกัมพูชาเหยียบธงชาติไทยบอกต้องให้สิทธิได้เรียนอ้างสิทธิสารพัด บล่าๆๆ🗣#กับคนไทยด้วยกับเงียบกริปมองไม่เห็น #เราขออยู่แบบไม่มีนักการเมืองดีกว่า ชายแดนไทย-เขมร "จะทำกำแพงล้อมรั้วลวดหนามคัดค้านกันจังทำไม??มันมีผลประโยชน์อะไรนักหรือ เพื่อนบ้านเลวกั้นรั้วถาวรไปเลยดีแล้วไว้ใจไม่ได้ ต่างคนต่างอยู่ถ้าจะเข้ามาก็ต้องมีหนังสือเข้าออกตามกฎหมาย ขนาดคุณวีระเดินอยู่บนแผ่นดินไทยยังโดนจับไปขังคุกตั้งหลายปีบรรพบุรุษเราสอนไว้แล้วว่าอย่าไว้ใจ"พวกละแวกมันชอบหักหลัง"ดูซิจีนช่วยหักหลังจีนไปจับมือเมกา..คนแบบนี้คบได้หรือ?"มีแต่ขอๆๆแต่ประเทศไม่ได้พัฒนาไปไหนเลย ผู้นำรวยมหาศาลประชาชนยากจนเข็นใจ แค่ห้องน้ำยังไม่มีคนต้องฉี่ใส่กำแพงวังอนาถแท้ๆประชาชนเขาถูกสอนฝังหัวในแบบเรียนเลยว่า"เสียม(สยาม)รุกรานปล้นสมบัติเขามา คนอยู่ในประเทศถูกปิดหูปิดตาก็พอเข้าใจได้ แต่เขมรนอกประเทศที่สามารถค้นคว้าหาข้อมูลที่แท้จริงได้ก็เปล่า เป็นเหมือนกันหมดฝังหัวข้อมูลเท็จกันมานาน#เราอย่าทิ้งมรดกบาปไว้ให้ลูกหลานต้องมารบฆ่าฟันกันในภายภาคหน้าเลย#เงินทองจะเอาไปไหนนักหนา #เกียรติยศศักดิ์ศรีเงินซื้อไม่ได้นะแม่ทัพภาค2พูดน่ะถูกต้องแล้ววันหนึ่งกินไม่ถึง300บ.ชีวิตก็นับถอยหลังแล้วที่มีก็พอแล้ว.."นกม.ไม่เคยพออุดมการณ์มันไม่เคยมีอยู่จริงอาสามารับใช้ชาติปากเป็นมัน"#หนูมีเล็กน้อยหนูก็บริจาคช่วยซื้อแอนตี้โดรนตามกำลังเพื่อเชฟชีวิตทหารๆของเรา ถ้าจะล้อมรั้วทำกำแพงก็จะร่วมบริจาค ต่อให้ไม่มีก็จะขายทองให้เลย ไม่มีแผ่นดินเราก็ไม่มีชีวิตหรอก""นกม.อย่าให้ประชาชนสุดทนจะเป็นแบบอินโดนีเซียๆดีนะทหารเขาอยู่ข้างประชาชน"ตอนนี้เงินเฟ้อข้าวของแพงไปหมด ถ้าอเมริกาล้มไทยมีผลกระทบแน่ไทยเราก็ถือเงินดอลล่าร์ไว้เยอะซะด้วย"พิมพ์เงินเป็นว่าเล่นเลยๆจะเป็นกระดาษเปล่าๆไร้ค่าแบบเวเนฯเงินตกเกลื่อนถนนคนยังไม่เก็บเลยเวเนฯทำงานทั้งวันซื้อใข่แพงเดียวยังไม่ได้เลย กาแฟแก้วละ6,000บาท."ไทยกินกาแฟเอสแก้วล่ะ45-50บ.ยังได้อยู่#คนอินโดนีเซียสุดยอดจริงๆบุกเข้าไปถึงในบ้านนักการเมืองเลย
    รัฐบาลนี้คนไทยก็ไร้ความหวัง "ประเทศไทยอาจมีสภาพเหมือนอินโดนีเซีย ประชาชนสุดจะทนกับนักการเมืองแล้ว🤚📣...ผลประโยชน์ฯลฯ#นักการเมืองเราจะมีไว้ทำไม?"ประเทศมีสงคราม ประชาชนกับทหารช่วยกัน น้ำท่วมทหาร&กลุ่มอาสาฯลฯช่วยกัน ไม่มีนักการเมืองหน้าไหนเลยออกมาช่วยเหลือประชาชน"ทหารเขาก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกันเดินแช่น้ำเป็นวันๆจนเท้าเลือดออก เป็นเบาหวานเท้าเป็นแผลอาจสูญเสียขาได้เหมือนกัน "มีไหมพวกที่ชอบอ้าง'ปชช.11/14ล้านเสียง. ที่เลือกพวกคุณเข้าไปรับเงินเดือนกันเป็นแสน ค่าอาหารวันละ1พันบาท.ค่ายานพาหนะฟรีฯลฯ ออกมาช่วยประชาชนบ้างไหม ชายแดนคนไทยตายไม่มีใครสักคนออกมาประนามกัมพูชาเรื่องมนุษยธรรม ยิงใส่บ้านเรือนคนอพยพเป็นแสนมองไม่เห็น "ทหารกัมพูชาฆ่าคนไทยบอกต้องรับมารักษา เด็กกัมพูชาเหยียบธงชาติไทยบอกต้องให้สิทธิได้เรียนอ้างสิทธิสารพัด บล่าๆๆ🗣#กับคนไทยด้วยกับเงียบกริป🙊🙉🙈มองไม่เห็น #เราขออยู่แบบไม่มีนักการเมืองดีกว่า ชายแดนไทย-เขมร "จะทำกำแพงล้อมรั้วลวดหนามคัดค้านกันจังทำไม??มันมีผลประโยชน์อะไรนักหรือ เพื่อนบ้านเลวกั้นรั้วถาวรไปเลยดีแล้วไว้ใจไม่ได้ ต่างคนต่างอยู่ถ้าจะเข้ามาก็ต้องมีหนังสือเข้าออกตามกฎหมาย ขนาดคุณวีระเดินอยู่บนแผ่นดินไทยยังโดนจับไปขังคุกตั้งหลายปีบรรพบุรุษเราสอนไว้แล้วว่าอย่าไว้ใจ"พวกละแวกมันชอบหักหลัง"ดูซิจีนช่วยหักหลังจีนไปจับมือเมกา..คนแบบนี้คบได้หรือ?"มีแต่ขอๆๆแต่ประเทศไม่ได้พัฒนาไปไหนเลย ผู้นำรวยมหาศาลประชาชนยากจนเข็นใจ แค่ห้องน้ำยังไม่มีคนต้องฉี่ใส่กำแพงวังอนาถแท้ๆประชาชนเขาถูกสอนฝังหัวในแบบเรียนเลยว่า"เสียม(สยาม)รุกรานปล้นสมบัติเขามา คนอยู่ในประเทศถูกปิดหูปิดตาก็พอเข้าใจได้ แต่เขมรนอกประเทศที่สามารถค้นคว้าหาข้อมูลที่แท้จริงได้ก็เปล่า เป็นเหมือนกันหมดฝังหัวข้อมูลเท็จกันมานาน#เราอย่าทิ้งมรดกบาปไว้ให้ลูกหลานต้องมารบฆ่าฟันกันในภายภาคหน้าเลย#เงินทองจะเอาไปไหนนักหนา #เกียรติยศศักดิ์ศรีเงินซื้อไม่ได้นะแม่ทัพภาค2พูดน่ะถูกต้องแล้ววันหนึ่งกินไม่ถึง300บ.ชีวิตก็นับถอยหลังแล้วที่มีก็พอแล้ว.."นกม.ไม่เคยพออุดมการณ์มันไม่เคยมีอยู่จริงอาสามารับใช้ชาติปากเป็นมัน"#หนูมีเล็กน้อยหนูก็บริจาคช่วยซื้อแอนตี้โดรนตามกำลังเพื่อเชฟชีวิตทหารๆของเรา ถ้าจะล้อมรั้วทำกำแพงก็จะร่วมบริจาค ต่อให้ไม่มีก็จะขายทองให้เลย ไม่มีแผ่นดินเราก็ไม่มีชีวิตหรอก""นกม.อย่าให้ประชาชนสุดทนจะเป็นแบบอินโดนีเซียๆดีนะทหารเขาอยู่ข้างประชาชน"ตอนนี้เงินเฟ้อข้าวของแพงไปหมด ถ้าอเมริกาล้มไทยมีผลกระทบแน่ไทยเราก็ถือเงินดอลล่าร์ไว้เยอะซะด้วย"พิมพ์เงินเป็นว่าเล่นเลยๆจะเป็นกระดาษเปล่าๆไร้ค่าแบบเวเนฯเงินตกเกลื่อนถนนคนยังไม่เก็บเลยเวเนฯทำงานทั้งวันซื้อใข่แพงเดียวยังไม่ได้เลย กาแฟแก้วละ6,000บาท."ไทยกินกาแฟเอสแก้วล่ะ45-50บ.ยังได้อยู่#คนอินโดนีเซียสุดยอดจริงๆบุกเข้าไปถึงในบ้านนักการเมืองเลย
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 510 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดภาพ! ปราสาทตาเมือนธมเสียหายหนักจาก ปืนเล็ก-ปืนใหญ่-จรวด BM-21 ของกัมพูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/21260/
    .
    #ไทยไท #ปราสาทตาเมือนธม #ปราสาทตาควาย #มรดกโลก #ความขัดแย้งชายแดน #กัมพูชา #อนุสัญญากรุงเฮก #ข่าววันนี้
    เปิดภาพ! ปราสาทตาเมือนธมเสียหายหนักจาก ปืนเล็ก-ปืนใหญ่-จรวด BM-21 ของกัมพูชา https://www.thai-tai.tv/news/21260/ . #ไทยไท #ปราสาทตาเมือนธม #ปราสาทตาควาย #มรดกโลก #ความขัดแย้งชายแดน #กัมพูชา #อนุสัญญากรุงเฮก #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ไทยนี้รักสงบ,แต่ถึงรบไม่ขลาด.
    ..อยากเห็นที่สุดคือทหารไทยเราร่วมกันกำจัดนายพลทหารเลวชั่วในวงการทหารไทยเราจริงๆ,คือจะระดับไหนก็ตาม ถ้าแม่ทัพนายพลทหารไทยนั้นเลวชั่วก็หันกระบอกปืนยิงหัวมันทิ้งเถอะ.อย่าร่วมเก็บรักษานายพลทหารไทยเลวชั่วนี้ส่งต่อไปสู่รุ่นสืบรุ่นลูกรุ่นหลานเราเลย.ให้มันจบในรุ่นท่านนั้นล่ะ อย่าร่วมรับใช้นายพลทหารไทยเลวชั่วนี้อีกเลย,นายพลดีๆต้องร่วมกันกำจัดนายพลชั่วเลวนั้นสิ,หรือประเทศไทยเราโดยมีนายพลดีๆจะร่วมกันปกปิดนายพลชั่วเลวเหล่านี้ไว้สืบทอดเป็นมรดกแก่รุ่นต่อไปนะ, นายพลทหารไทยเราที่ดีๆเด็ดหัวนายพลทหารไทยที่ชั่วเลวได้แล้ว,หากินในคราบนายพลทหารไทยนานพอแล้ว,ส่วนกลางส่วนกลางผีบ้าเหล่านั้น นายพลทหารไทยดีๆเราคงมีสายข่าวรับรู้กันจริงหมด,นี้ไงกฎหมายหมิ่นประมาทจึงเป็นภัยร้ายแรงมากต่อคนทั่วไปใดๆจะด่าวากล่าวมโนเหี้ยใส่คนไม่ดีแฉแบบไหนก็ได้,เอยชื่อก็ได้ ด่าโคตรพ่อโคตรแมร่งก็ได้ จริงเท็จคนไทยตรองร่วมกันเองได้บวกพยานหลักฐานมาร่วมกันแฉก็ได้,มิใช่แค่ศาลอย่างเป็นทางการใดๆ,สังคมไทยต้องควบคุมคนไม่ดีลักษณะยุทธการแบบนี้ได้,ต้องยกเลิกกฎหมายหมิ่นประมาททันที,แบบพลทหารหน้างานจะแฉจะเอยชื่อส่วนกลางใครนายใหญ่ห่าเหวอะไรก็เอยชื่อบอกประชาชนตรงๆได้ ไม่มีเหี้ยตัวใดจะอ้างกฎหมายมาเอาผิดได้อีกแล้ว จริงก็ต้องรับฟัง เท็จก็ตอบโต้ได้ เดินไปตบหัวทุบตีมันได้ว่าโกหก ส่วนเขาจะสวนก็อีกเรื่อง.,คนชั่วเท่านั้นที่พยายามออกกฎหมายหมิ่นประมาทมาคุ้มหัวคุ้มครองตนเองพวกตนเอง,แบบชั้นความลับ ลับธรรมดา ลับมาก มากถึงที่สุดโคตรๆก็ว่าไป,ค่าความชั่วปกปิดปิดบังส่วนใหญ่จะไปทางชั่วมากกว่าทางดี รู้กันแค่เรานะมรึงเป็นต้น กูเซ็นตกลงทางลับยกดินแดนไทยให้เขมรแบบมรึงตลอดแนวพรมแดนนะก็ว่า,

    ..เขมรไว้ใจไม่ได้ ถ้ามันไม่ตาย เรานั้นล่ะตาย.
    ..ciaวางหมากให้ไร้นายกฯก็เป็นแผนหนึ่งเพื่อจะไม่มีนายกฯไปประกาศอย่างเป็นทางการได้ว่า "ไทยเข้าสู้ภาวะสงคราม"ciaจึงปล่อยคลิปหลุดออกมาก่อน,โดยสั่งฮุนเซนดำเนินการ,เพราะตนจะได้เปรียบตลอดการรบ,เพราะถ้าไทยมีนายกฯแล้วประกาศว่าไทยเข้าสู่ภาวะสงครามกับเขมร ฮุนเซนจะถูกเด็ดหัวทันทีจนกว่าสงครามจะสงบสุข กฎอัยการศึกจะทั่วประเทศไทย รัฐบาลจะมอบอำนาจด้วยกฎอัยการศึกทันที,มิใช่กฎอัยการศึกผีบ้าแบบบ้านหนองจาน ใช้กฎอัยการศึกไปทางมิชอบ ละเว้นความเคร่งครัดด้วยวิถีความเป็นกฎอัยการศึก,ทหารไทยจะทำสงครามเต็มรูปแบยกับฮุนเซนและถล่มใจกลางกรุงพนมเปญโดยชอบธรรมทันที.,ฮุนเซนฮุนมาเนตตายแน่นอน,จึงตัดตอนมิให้ได้มีนายกฯ.นี้นัยยะการละครของciaด้านหนึ่งแน่ๆ.เป้าหมายสร้างความโกลาหลวุ่นวายไม่สงบในภูมิภาคนี้,จะสงบไม่ได้ ,ถ้าไทยถล่มเขมรชนะciaจะถูกตัดแขนขามือไม้ไปอีกข้างทันทีในการก่อความไม่สงบสุขในภูมิภาคนี้และไทยด้วย,อเมริกาจึงรีบกระโดดเข้ามาห้ามอย่างรวดเร็วเดี๋ยวไทยชนะเขมรเราอเมริกาจะปั่นป่วนความไม่สงบสุขในภูมิภาคนี้ไม่ได้.เสียแผนการทั้งหมด 1:200,000ก็อาจหลุดมือไปด้วย ไทยสั่งยึดสันปันน้ำและเสาหลักหมุดสยามเดิมด้วยคือ1:1จะจบทันที ทั้งใช้พิกัดดาวเทียมละเอียดสูงขีดพรมแดนให้เป็นธรรมทั้งสองฝ่ายด้วย,ผลประโยชน์มากมายกว่า10-20ล้านล้านบาทในอ่าวไทยบ่อน้ำมันในอ่าวไทยที่จะขีดเส้นแดนเอาเปรียบไทยด้วยการลากเส้นใหม่กินลึกใจกลางอ่าวไทยแต่เป็นของไทยจะเป็นของเขมรไม่ได้ .,และไทยอาจยึดคืนพื้นที่ดินแดนเดิมที่ฝรั่งเศสคืนผิดเจ้าของ ไทยอาจได้คืนทั้งหมดด้วย ยิ่งจะลากเขตเส้นแดนใหม่ เขมรอาจไม่มีพื้นที่ทางทะเลเลย,

    https://youtube.com/shorts/W5x5FAxiZTA?si=ycaaSav9kXX1jaQA
    ..ไทยนี้รักสงบ,แต่ถึงรบไม่ขลาด. ..อยากเห็นที่สุดคือทหารไทยเราร่วมกันกำจัดนายพลทหารเลวชั่วในวงการทหารไทยเราจริงๆ,คือจะระดับไหนก็ตาม ถ้าแม่ทัพนายพลทหารไทยนั้นเลวชั่วก็หันกระบอกปืนยิงหัวมันทิ้งเถอะ.อย่าร่วมเก็บรักษานายพลทหารไทยเลวชั่วนี้ส่งต่อไปสู่รุ่นสืบรุ่นลูกรุ่นหลานเราเลย.ให้มันจบในรุ่นท่านนั้นล่ะ อย่าร่วมรับใช้นายพลทหารไทยเลวชั่วนี้อีกเลย,นายพลดีๆต้องร่วมกันกำจัดนายพลชั่วเลวนั้นสิ,หรือประเทศไทยเราโดยมีนายพลดีๆจะร่วมกันปกปิดนายพลชั่วเลวเหล่านี้ไว้สืบทอดเป็นมรดกแก่รุ่นต่อไปนะ, นายพลทหารไทยเราที่ดีๆเด็ดหัวนายพลทหารไทยที่ชั่วเลวได้แล้ว,หากินในคราบนายพลทหารไทยนานพอแล้ว,ส่วนกลางส่วนกลางผีบ้าเหล่านั้น นายพลทหารไทยดีๆเราคงมีสายข่าวรับรู้กันจริงหมด,นี้ไงกฎหมายหมิ่นประมาทจึงเป็นภัยร้ายแรงมากต่อคนทั่วไปใดๆจะด่าวากล่าวมโนเหี้ยใส่คนไม่ดีแฉแบบไหนก็ได้,เอยชื่อก็ได้ ด่าโคตรพ่อโคตรแมร่งก็ได้ จริงเท็จคนไทยตรองร่วมกันเองได้บวกพยานหลักฐานมาร่วมกันแฉก็ได้,มิใช่แค่ศาลอย่างเป็นทางการใดๆ,สังคมไทยต้องควบคุมคนไม่ดีลักษณะยุทธการแบบนี้ได้,ต้องยกเลิกกฎหมายหมิ่นประมาททันที,แบบพลทหารหน้างานจะแฉจะเอยชื่อส่วนกลางใครนายใหญ่ห่าเหวอะไรก็เอยชื่อบอกประชาชนตรงๆได้ ไม่มีเหี้ยตัวใดจะอ้างกฎหมายมาเอาผิดได้อีกแล้ว จริงก็ต้องรับฟัง เท็จก็ตอบโต้ได้ เดินไปตบหัวทุบตีมันได้ว่าโกหก ส่วนเขาจะสวนก็อีกเรื่อง.,คนชั่วเท่านั้นที่พยายามออกกฎหมายหมิ่นประมาทมาคุ้มหัวคุ้มครองตนเองพวกตนเอง,แบบชั้นความลับ ลับธรรมดา ลับมาก มากถึงที่สุดโคตรๆก็ว่าไป,ค่าความชั่วปกปิดปิดบังส่วนใหญ่จะไปทางชั่วมากกว่าทางดี รู้กันแค่เรานะมรึงเป็นต้น กูเซ็นตกลงทางลับยกดินแดนไทยให้เขมรแบบมรึงตลอดแนวพรมแดนนะก็ว่า, ..เขมรไว้ใจไม่ได้ ถ้ามันไม่ตาย เรานั้นล่ะตาย. ..ciaวางหมากให้ไร้นายกฯก็เป็นแผนหนึ่งเพื่อจะไม่มีนายกฯไปประกาศอย่างเป็นทางการได้ว่า "ไทยเข้าสู้ภาวะสงคราม"ciaจึงปล่อยคลิปหลุดออกมาก่อน,โดยสั่งฮุนเซนดำเนินการ,เพราะตนจะได้เปรียบตลอดการรบ,เพราะถ้าไทยมีนายกฯแล้วประกาศว่าไทยเข้าสู่ภาวะสงครามกับเขมร ฮุนเซนจะถูกเด็ดหัวทันทีจนกว่าสงครามจะสงบสุข กฎอัยการศึกจะทั่วประเทศไทย รัฐบาลจะมอบอำนาจด้วยกฎอัยการศึกทันที,มิใช่กฎอัยการศึกผีบ้าแบบบ้านหนองจาน ใช้กฎอัยการศึกไปทางมิชอบ ละเว้นความเคร่งครัดด้วยวิถีความเป็นกฎอัยการศึก,ทหารไทยจะทำสงครามเต็มรูปแบยกับฮุนเซนและถล่มใจกลางกรุงพนมเปญโดยชอบธรรมทันที.,ฮุนเซนฮุนมาเนตตายแน่นอน,จึงตัดตอนมิให้ได้มีนายกฯ.นี้นัยยะการละครของciaด้านหนึ่งแน่ๆ.เป้าหมายสร้างความโกลาหลวุ่นวายไม่สงบในภูมิภาคนี้,จะสงบไม่ได้ ,ถ้าไทยถล่มเขมรชนะciaจะถูกตัดแขนขามือไม้ไปอีกข้างทันทีในการก่อความไม่สงบสุขในภูมิภาคนี้และไทยด้วย,อเมริกาจึงรีบกระโดดเข้ามาห้ามอย่างรวดเร็วเดี๋ยวไทยชนะเขมรเราอเมริกาจะปั่นป่วนความไม่สงบสุขในภูมิภาคนี้ไม่ได้.เสียแผนการทั้งหมด 1:200,000ก็อาจหลุดมือไปด้วย ไทยสั่งยึดสันปันน้ำและเสาหลักหมุดสยามเดิมด้วยคือ1:1จะจบทันที ทั้งใช้พิกัดดาวเทียมละเอียดสูงขีดพรมแดนให้เป็นธรรมทั้งสองฝ่ายด้วย,ผลประโยชน์มากมายกว่า10-20ล้านล้านบาทในอ่าวไทยบ่อน้ำมันในอ่าวไทยที่จะขีดเส้นแดนเอาเปรียบไทยด้วยการลากเส้นใหม่กินลึกใจกลางอ่าวไทยแต่เป็นของไทยจะเป็นของเขมรไม่ได้ .,และไทยอาจยึดคืนพื้นที่ดินแดนเดิมที่ฝรั่งเศสคืนผิดเจ้าของ ไทยอาจได้คืนทั้งหมดด้วย ยิ่งจะลากเขตเส้นแดนใหม่ เขมรอาจไม่มีพื้นที่ทางทะเลเลย, https://youtube.com/shorts/W5x5FAxiZTA?si=ycaaSav9kXX1jaQA
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 404 มุมมอง 0 รีวิว
  • รำลึก 35 ปี สืบ นาคะเสถียร
    1 กันยายน 2568
    .
    35 ปีผ่านไปเจตนาของ สืบ นาคะเสถียร ยังคงได้รับการสืบสาน
    .
    ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ที่ยูเนสโก้มีมติรับรองให้เป็นมรดกโลกตามเอกสารนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเอกสารของ สืบ นาคะเสถียร เป็นใช้ประกอบการเสนอพิจรณา ยังคงความอุดมสมบูรณ์เป็นบ้านหลังใหญ่ให้กับสัตว์ป่าน้อยใหญ่ได้มีชีวิตอยู่อย่างสันติสุข
    .
    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้พิทักษ์ป่าได้รับการพัฒนาและฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการทำงานในการปกป้องผืนป่า รวมถึงการยกระดับสวัสดิภาพและสวัสดิการของพวกเขา การพัฒนานี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสามารถในการปกป้องป่า แต่ยังสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ทำงานในแนวหน้า
    .
    ชุมชนที่อยู่ประชิดห้วยขาแข้งเกือบทุกแห่งได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการรักษาความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์ ชุมชนเหล่านี้มีความเข้าใจและความเคารพในธรรมชาติ พร้อมทั้งร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลและฟื้นฟูป่าเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของทุกคน วันนี้ชุมชนที่อยู่ประชิดห้วยขาแข้งเกือบทุกชุมชนมีป่าชุมชนของหมู่บ้าน และร่วมเป็นเครือข่าย #ครอบครัวห้วยขาแข้ง อนุรักษ์ป่าร่วมกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า
    .
    สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ ยืนยันผลงานวิจัยว่าป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง มีประชากรเสือโคร่งมากขึ้น ทำให้เห็นว่าการทุ่มเทรักษาป่าที่ผ่านมาได้ผล หากมีเสือมากขึ้นสืบขยายพันธุ์แบบนี้ ก็หมายถึงเหยื่อของเสือ และพืชพรรณต่างๆ ก็สมบูรณ์ ตอนนี้ป่าแห่งนี้กลายเป็นความหวัง และตัวอย่างของการอนุรักษ์เสือโคร่งของโลกไปแล้ว รวมถึงการฟื้นฟูประชากรแร้งที่หายไปจากป่าห้วยแข้งนานกว่าสามทศวรรษ
    .
    การสื่อสารเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในสังคมหลายด้าน ทั้งเพิ่มความตระหนักรู้ในสังคม การสร้างแรงบันดาลใจและความร่วมมือ การเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย การใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย และการเสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ความพยายามเหล่านี้ทำให้การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมีความยั่งยืนและได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประชาชน โดยทำให้เกิดความเข้าใจและการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วนของสังคม นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่สามารถรักษาทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพไว้สำหรับอนาคต
    .
    วันนี้ ผืนป่าอนุรักษ์ของประเทศที่ สืบ นาคะเสถียร เสนอให้มีพื้นที่ 20 เปอร์เซ็นต์ ของประเทศไทย ได้ขยายพื้นที่จนเกินกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผลสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจในการผนวกรวมพื้นที่ป่าเป็นป่าอนุรักษ์ และในทุกๆ ปี ได้มีการติดตามสถานการณ์ทรัพยากรป่าไม้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทราบถึงสภาพปัจจุบันของผืนป่าในประเทศไทย แม้ว่าผืนป่าอนุรักษ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ภาพรวมสถานการณ์ป่าไม้ของประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันประเทศไทยยังมีความพยายามที่จะเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของประเทศ และต้องการความร่วมมือในการอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่าเพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญนี้ยังคงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป
    .
    ร่วมปกป้องผืนป่า สัตว์ป่า เพื่อความยั่งยืนของทุกชีวิต https://www.seub.or.th/donate/
    .
    #รำลึก35ปีสืบนาคะเสถียร
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
    https://www.seub.or.th/35thseub/
    เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
    31 สิงหาคม - 1 กันยายน 2568
    กรุงเทพมหานคร
    13 - 14 กันยายน 2568
    บทความ จากเพจ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
    รำลึก 35 ปี สืบ นาคะเสถียร 1 กันยายน 2568 . 35 ปีผ่านไปเจตนาของ สืบ นาคะเสถียร ยังคงได้รับการสืบสาน . ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ที่ยูเนสโก้มีมติรับรองให้เป็นมรดกโลกตามเอกสารนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเอกสารของ สืบ นาคะเสถียร เป็นใช้ประกอบการเสนอพิจรณา ยังคงความอุดมสมบูรณ์เป็นบ้านหลังใหญ่ให้กับสัตว์ป่าน้อยใหญ่ได้มีชีวิตอยู่อย่างสันติสุข . ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้พิทักษ์ป่าได้รับการพัฒนาและฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการทำงานในการปกป้องผืนป่า รวมถึงการยกระดับสวัสดิภาพและสวัสดิการของพวกเขา การพัฒนานี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสามารถในการปกป้องป่า แต่ยังสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ทำงานในแนวหน้า . ชุมชนที่อยู่ประชิดห้วยขาแข้งเกือบทุกแห่งได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการรักษาความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์ ชุมชนเหล่านี้มีความเข้าใจและความเคารพในธรรมชาติ พร้อมทั้งร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลและฟื้นฟูป่าเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของทุกคน วันนี้ชุมชนที่อยู่ประชิดห้วยขาแข้งเกือบทุกชุมชนมีป่าชุมชนของหมู่บ้าน และร่วมเป็นเครือข่าย #ครอบครัวห้วยขาแข้ง อนุรักษ์ป่าร่วมกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า . สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ ยืนยันผลงานวิจัยว่าป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง มีประชากรเสือโคร่งมากขึ้น ทำให้เห็นว่าการทุ่มเทรักษาป่าที่ผ่านมาได้ผล หากมีเสือมากขึ้นสืบขยายพันธุ์แบบนี้ ก็หมายถึงเหยื่อของเสือ และพืชพรรณต่างๆ ก็สมบูรณ์ ตอนนี้ป่าแห่งนี้กลายเป็นความหวัง และตัวอย่างของการอนุรักษ์เสือโคร่งของโลกไปแล้ว รวมถึงการฟื้นฟูประชากรแร้งที่หายไปจากป่าห้วยแข้งนานกว่าสามทศวรรษ . การสื่อสารเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในสังคมหลายด้าน ทั้งเพิ่มความตระหนักรู้ในสังคม การสร้างแรงบันดาลใจและความร่วมมือ การเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย การใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย และการเสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ความพยายามเหล่านี้ทำให้การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมีความยั่งยืนและได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประชาชน โดยทำให้เกิดความเข้าใจและการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วนของสังคม นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่สามารถรักษาทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพไว้สำหรับอนาคต . วันนี้ ผืนป่าอนุรักษ์ของประเทศที่ สืบ นาคะเสถียร เสนอให้มีพื้นที่ 20 เปอร์เซ็นต์ ของประเทศไทย ได้ขยายพื้นที่จนเกินกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผลสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจในการผนวกรวมพื้นที่ป่าเป็นป่าอนุรักษ์ และในทุกๆ ปี ได้มีการติดตามสถานการณ์ทรัพยากรป่าไม้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทราบถึงสภาพปัจจุบันของผืนป่าในประเทศไทย แม้ว่าผืนป่าอนุรักษ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ภาพรวมสถานการณ์ป่าไม้ของประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันประเทศไทยยังมีความพยายามที่จะเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของประเทศ และต้องการความร่วมมือในการอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่าเพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญนี้ยังคงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป . ร่วมปกป้องผืนป่า สัตว์ป่า เพื่อความยั่งยืนของทุกชีวิต https://www.seub.or.th/donate/ . #รำลึก35ปีสืบนาคะเสถียร ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.seub.or.th/35thseub/ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง 31 สิงหาคม - 1 กันยายน 2568 กรุงเทพมหานคร 13 - 14 กันยายน 2568 บทความ จากเพจ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 469 มุมมอง 0 รีวิว
  • Viking River Cruise เส้นทาง 3 แม่น้ำยุโรป เปิดประตูสู่หัวใจของยุโรปกลาง ผ่านไรน์ ไมน์ และดานูบ
    18 วัน 17 คืน ล่องผ่าน 4 ประเทศ ชมเมืองประวัติศาสตร์ & มรดกโลก UNESCO
    เส้นทาง Switzerland - Germany - France - Netherland

    เดินทาง เม.ย. - ต.ค. 2569

    ⭕️ ราคาเริ่มต้น : AUD 11,495
    โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม

    ราคานี้รวมครบ
    ทัวร์ชายฝั่ง 1 รายการทุกเมืองที่เรือจอด
    Wi-Fi บนเรือสำราญ
    เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ
    ค่าภาษีและค่าทิปพนักงานบนเรือ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-18D17N-BSL-BUD-2610281
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e63bfa

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #VikingRiverCruise #DanubeRiver #RhineRiver #MainRiver #Austria #Hungary #LuxuryCruise #ล่องเรือยุโรป #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #โปรโมชั่นพิเศษ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #แชร์ที่เที่ยว #ไอเดียทริป #EuropeTravel
    🚢 Viking River Cruise เส้นทาง 3 แม่น้ำยุโรป เปิดประตูสู่หัวใจของยุโรปกลาง ผ่านไรน์ ไมน์ และดานูบ 18 วัน 17 คืน ล่องผ่าน 4 ประเทศ ชมเมืองประวัติศาสตร์ & มรดกโลก UNESCO เส้นทาง Switzerland - Germany - France - Netherland 📅 เดินทาง เม.ย. - ต.ค. 2569 ⭕️ ราคาเริ่มต้น : AUD 11,495 โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม 💥 ✨ ราคานี้รวมครบ ✅ ทัวร์ชายฝั่ง 1 รายการทุกเมืองที่เรือจอด ✅ Wi-Fi บนเรือสำราญ ✅ เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ ✅ ค่าภาษีและค่าทิปพนักงานบนเรือ ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-18D17N-BSL-BUD-2610281 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e63bfa ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #VikingRiverCruise #DanubeRiver #RhineRiver #MainRiver #Austria #Hungary #LuxuryCruise #ล่องเรือยุโรป #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #โปรโมชั่นพิเศษ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #แชร์ที่เที่ยว #ไอเดียทริป #EuropeTravel
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 665 มุมมอง 0 รีวิว
  • Yesterday Once More: เสียงเพลงที่พาย้อนเวลา

    ย้อนกลับไปในวัยเด็กของผม ช่วงเวลาที่บ้านเต็มไปด้วยเสียงดนตรีจากชุดเครื่องเสียงสุดหรูของพ่อ เขามักจะเปิดเพลงเพื่อโชว์ลำโพงที่ให้เสียงใสกิ๊งราวกับคริสตัล แม้ว่าตอนนั้นจะเล่นจากเทปคาสเซ็ทเก่าๆ แต่สุนทรียภาพของดนตรีที่ไหลออกมานั้นไม่ได้ต่างอะไรจากการเล่นแผ่นเสียงไวนิลหรือซีดีสมัยนี้เลยครับ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่นและความทรงจำดีๆ โดยเฉพาะเพลงหนึ่งที่พ่อชอบเปิดบ่อยๆ นั่นคือ "Yesterday Once More" ของ The Carpenters เพลงนี้ไม่ใช่แค่เสียงเพลงธรรมดา แต่เป็นเหมือนประตูเวลาที่พาผมย้อนกลับไปหาช่วงเวลาที่เรียบง่ายและเต็มไปด้วยความสุข

    วง The Carpenters เกิดจากสองพี่น้องคู่บุญอย่าง Karen และ Richard Carpenter ที่เติบโตมาในเมือง New Haven รัฐ Connecticut สหรัฐอเมริกา ก่อนจะย้ายมาอยู่ Downey ใน California เมื่อปี 1963 เพื่อไล่ตามความฝันทางดนตรี Richard ผู้พี่ชายเกิดปี 1946 เป็นนักเปียโนตัวฉกาจและชอบจัดเรียงเสียงประสาน เขาเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่เด็กและต่อมาเข้าเรียนที่ California State University, Long Beach ส่วน Karen น้องสาวเกิดปี 1950 เดิมทีเล่นกลองก่อนจะค้นพบพรสวรรค์ในเสียงร้องคอนทราลโตที่อบอุ่นและนุ่มนวลราวกับกำมะหยี่ พวกเขาเริ่มเล่นดนตรีด้วยกันตั้งแต่ปี 1965 ในรูปแบบวงแจ๊สชื่อ Richard Carpenter Trio ร่วมกับเพื่อน Wesley Jacobs จากนั้นพัฒนามาเป็นวง Spectrum ที่เล่นเพลงแนว middle-of-the-road แต่ยังไม่ดังเปรี้ยง จนกระทั่งปี 1969 พวกเขาตัดสินใจเป็นดูโอ้อย่างเป็นทางการและเซ็นสัญญากับค่าย A&M Records โดยใช้ชื่อ "Carpenters" แบบไม่มี "The" นำหน้า เพื่อให้ดูทันสมัยเหมือนวงร็อกดังๆ อย่าง Buffalo Springfield หรือ Jefferson Airplane

    จากจุดเริ่มต้นที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก The Carpenters ค่อยๆ สร้างชื่อเสียงด้วยสไตล์ซอฟต์ร็อกที่ผสมผสานฮาร์โมนีใกล้ชิดและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Karen เพลงฮิตแรกๆ อย่าง "(They Long to Be) Close to You" และ "We've Only Just Begun" ในปี 1970 ทำให้พวกเขาพุ่งขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเพลงดังอีกเพียบ เช่น "Superstar", "Rainy Days and Mondays" และ "Top of the World" ที่ทำให้พวกเขาได้รับรางวัล Grammy ถึง 3 ตัว รวมถึง Best New Artist และ Best Contemporary Performance by a Duo, Group or Chorus ตลอดช่วงทศวรรษ 1970 พวกเขาออกอัลบั้มถึง 10 ชุด โดยแต่ละชุดขายได้มากกว่า 1 ล้านแผ่น โดยเฉพาะอัลบั้มรวบฮิต "The Singles: 1969-1973" ที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Top 200 พวกเขาทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก ออกทีวีสเปเชียล และกลายเป็นศิลปินขายดีที่สุดในแนว easy listening และ adult contemporary ด้วยยอดขายแผ่นเสียงรวมกว่า 100 ล้านแผ่นทั่วโลก ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายดีที่สุดตลอดกาล

    แต่เพลงที่ทำให้ผมหลงรักวงนี้อย่างหัวปักหัวปำคือ "Yesterday Once More" ที่ออกมาในปี 1973 จากอัลบั้ม "Now & Then" เพลงนี้เขียนโดย Richard ร่วมกับ John Bettis เพื่อเล่าเรื่องความคิดถึงเพลงเก่าๆ ที่เคยฟังในวัยเยาว์ เหมือนกับที่ผมฟังจากเครื่องเสียงของพ่อ มันเริ่มต้นด้วยเสียงเปียโนนุ่มๆ ตามด้วยเสียงร้องของ Karen ที่ชวนให้หวนนึกถึงวันเก่าๆ และยังมีเซกเวย์เชื่อมไปยังเมดเลย์เพลงคลาสสิกยุค 60s ที่ทำเหมือนรายการวิทยุเก่าๆ บนข้าง B ของอัลบั้ม เพลงนี้ถูกบันทึกที่ A&M Studios ใน Los Angeles และปล่อยซิงเกิลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1973 ด้วยความยาว 3:56 นาที มันเดบิวต์บนชาร์ต Cash Box ที่อันดับ 71 ก่อนพุ่งขึ้นสู่อันดับ 1 ในเดือนสิงหาคม และติดอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 (ถูก "Bad, Bad Leroy Brown" ของ Jim Croce เบียดตก) แต่ครองอันดับ 1 บน Adult Contemporary Chart ซึ่งเป็นเพลงที่ 8 ของพวกเขาที่ทำได้ในรอบ 4 ปี

    ความดังของ "Yesterday Once More" ไม่ได้จำกัดแค่ในอเมริกา มันขึ้นอันดับ 2 ใน UK ซึ่งเป็นซิงเกิลขายดีที่สุดของพวกเขาในเกาะอังกฤษ ขายได้กว่า 250,000 แผ่น และได้รับการรับรอง Silver จาก BPI ในญี่ปุ่นเพลงนี้ฮิตระเบิด ขายได้กว่า 600,000 แผ่นภายในกลางปี 1974 และกลายเป็นเพลงที่ขายดีที่สุดของ The Carpenters ในประเทศนั้น ตามด้วยอันดับ 1 ในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และแคนาดา รวมถึงอันดับสูงๆ ในออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ และนิวซีแลนด์ มันได้รับการรับรอง Gold จาก RIAA ในอเมริกาด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านแผ่น Richard เองเคยบอกในสารคดีญี่ปุ่นว่านี่คือเพลงโปรดที่เขาแต่ง และเขายังเล่นเวอร์ชันบรรเลงในคอนเสิร์ตหลายครั้ง เพลงนี้ถูกคัฟเวอร์โดยศิลปินมากมาย เช่น วง Candies ในญี่ปุ่นปี 1974, Redd Kross ในเวอร์ชันร็อก และ Priscilla Chan ในคอนเสิร์ต farewell ปี 1989 มันยังถูกใช้ในสื่อต่างๆ เพื่อถ่ายทอดความคิดถึง เช่น ในภาพยนตร์หรือโฆษณาที่ชวนนึกถึงอดีต

    แม้ The Carpenters จะดังเปรี้ยงปร้าง แต่ชีวิตของพวกเขาก็มีด้านมืด Richard เคยติด Quaalude ในช่วงปลาย 1970s จนต้องหยุดทัวร์และเข้ารับการบำบัด ส่วน Karen ต่อสู้กับโรค anorexia nervosa ที่ทำให้เธอผอมแห้งและสุขภาพทรุดโทรม จนเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1983 ขณะอายุเพียง 32 ปี เหตุการณ์นี้ทำให้โลกช็อกและจุดประกายให้คนหันมาสนใจโรคการกินผิดปกติมากขึ้น หลังจากนั้น Richard ยังคงทำงานเดี่ยวและออกอัลบั้ม posthumous เช่น "Voice of the Heart" ในปี 1983 แต่ไม่มีอะไรแทนที่เสียงร้องของ Karen ได้ มรดกของ The Carpenters ยังคงอยู่ พวกเขาอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังอย่าง Michael Jackson, Scott Weiland และศิลปินญี่ปุ่นหลายคน Rolling Stone จัดให้พวกเขาเป็นหนึ่งใน 20 Greatest Duos of All Time และ Karen เป็นหนึ่งในนักร้องหญิงยอดเยี่ยม เพลงของพวกเขามักถูกใช้ในงานแต่งงานหรือเพลงประกอบชีวิต เพราะความงดงามและความโรแมนติกที่เหนือกาลเวลา

    ทุกครั้งที่ผมได้ยิน "Yesterday Once More" มันไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นเรื่องราวของความทรงจำ ของพี่น้องคู่นี้ที่สร้างเสียงเพลงอมตะ และของช่วงเวลาที่ผมใช้กับพ่อ มันทำให้ผมรู้สึกว่า อดีตยังคงกลับมาอีกครั้ง เหมือนชื่อเพลง.. Yesterday Once More

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/ywB8vjMnoEw
    Yesterday Once More: 🎵 เสียงเพลงที่พาย้อนเวลา ⌛ 🎵 ย้อนกลับไปในวัยเด็กของผม ช่วงเวลาที่บ้านเต็มไปด้วยเสียงดนตรีจากชุดเครื่องเสียงสุดหรูของพ่อ เขามักจะเปิดเพลงเพื่อโชว์ลำโพงที่ให้เสียงใสกิ๊งราวกับคริสตัล แม้ว่าตอนนั้นจะเล่นจากเทปคาสเซ็ทเก่าๆ แต่สุนทรียภาพของดนตรีที่ไหลออกมานั้นไม่ได้ต่างอะไรจากการเล่นแผ่นเสียงไวนิลหรือซีดีสมัยนี้เลยครับ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่นและความทรงจำดีๆ โดยเฉพาะเพลงหนึ่งที่พ่อชอบเปิดบ่อยๆ นั่นคือ "Yesterday Once More" ของ The Carpenters เพลงนี้ไม่ใช่แค่เสียงเพลงธรรมดา แต่เป็นเหมือนประตูเวลาที่พาผมย้อนกลับไปหาช่วงเวลาที่เรียบง่ายและเต็มไปด้วยความสุข 📻 วง The Carpenters เกิดจากสองพี่น้องคู่บุญอย่าง Karen และ Richard Carpenter ที่เติบโตมาในเมือง New Haven รัฐ Connecticut สหรัฐอเมริกา ก่อนจะย้ายมาอยู่ Downey ใน California เมื่อปี 1963 เพื่อไล่ตามความฝันทางดนตรี Richard ผู้พี่ชายเกิดปี 1946 เป็นนักเปียโนตัวฉกาจและชอบจัดเรียงเสียงประสาน เขาเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่เด็กและต่อมาเข้าเรียนที่ California State University, Long Beach ส่วน Karen น้องสาวเกิดปี 1950 เดิมทีเล่นกลองก่อนจะค้นพบพรสวรรค์ในเสียงร้องคอนทราลโตที่อบอุ่นและนุ่มนวลราวกับกำมะหยี่ 🎹🥁 พวกเขาเริ่มเล่นดนตรีด้วยกันตั้งแต่ปี 1965 ในรูปแบบวงแจ๊สชื่อ Richard Carpenter Trio ร่วมกับเพื่อน Wesley Jacobs จากนั้นพัฒนามาเป็นวง Spectrum ที่เล่นเพลงแนว middle-of-the-road แต่ยังไม่ดังเปรี้ยง จนกระทั่งปี 1969 พวกเขาตัดสินใจเป็นดูโอ้อย่างเป็นทางการและเซ็นสัญญากับค่าย A&M Records โดยใช้ชื่อ "Carpenters" แบบไม่มี "The" นำหน้า เพื่อให้ดูทันสมัยเหมือนวงร็อกดังๆ อย่าง Buffalo Springfield หรือ Jefferson Airplane จากจุดเริ่มต้นที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก The Carpenters ค่อยๆ สร้างชื่อเสียงด้วยสไตล์ซอฟต์ร็อกที่ผสมผสานฮาร์โมนีใกล้ชิดและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Karen เพลงฮิตแรกๆ อย่าง "(They Long to Be) Close to You" และ "We've Only Just Begun" ในปี 1970 ทำให้พวกเขาพุ่งขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเพลงดังอีกเพียบ เช่น "Superstar", "Rainy Days and Mondays" และ "Top of the World" ที่ทำให้พวกเขาได้รับรางวัล Grammy ถึง 3 ตัว รวมถึง Best New Artist และ Best Contemporary Performance by a Duo, Group or Chorus 🌟 ตลอดช่วงทศวรรษ 1970 พวกเขาออกอัลบั้มถึง 10 ชุด โดยแต่ละชุดขายได้มากกว่า 1 ล้านแผ่น โดยเฉพาะอัลบั้มรวบฮิต "The Singles: 1969-1973" ที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Top 200 พวกเขาทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก ออกทีวีสเปเชียล และกลายเป็นศิลปินขายดีที่สุดในแนว easy listening และ adult contemporary ด้วยยอดขายแผ่นเสียงรวมกว่า 100 ล้านแผ่นทั่วโลก ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายดีที่สุดตลอดกาล แต่เพลงที่ทำให้ผมหลงรักวงนี้อย่างหัวปักหัวปำคือ "Yesterday Once More" ที่ออกมาในปี 1973 จากอัลบั้ม "Now & Then" เพลงนี้เขียนโดย Richard ร่วมกับ John Bettis เพื่อเล่าเรื่องความคิดถึงเพลงเก่าๆ ที่เคยฟังในวัยเยาว์ เหมือนกับที่ผมฟังจากเครื่องเสียงของพ่อ มันเริ่มต้นด้วยเสียงเปียโนนุ่มๆ ตามด้วยเสียงร้องของ Karen ที่ชวนให้หวนนึกถึงวันเก่าๆ และยังมีเซกเวย์เชื่อมไปยังเมดเลย์เพลงคลาสสิกยุค 60s ที่ทำเหมือนรายการวิทยุเก่าๆ บนข้าง B ของอัลบั้ม 🎸 เพลงนี้ถูกบันทึกที่ A&M Studios ใน Los Angeles และปล่อยซิงเกิลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1973 ด้วยความยาว 3:56 นาที มันเดบิวต์บนชาร์ต Cash Box ที่อันดับ 71 ก่อนพุ่งขึ้นสู่อันดับ 1 ในเดือนสิงหาคม และติดอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 (ถูก "Bad, Bad Leroy Brown" ของ Jim Croce เบียดตก) แต่ครองอันดับ 1 บน Adult Contemporary Chart ซึ่งเป็นเพลงที่ 8 ของพวกเขาที่ทำได้ในรอบ 4 ปี ความดังของ "Yesterday Once More" ไม่ได้จำกัดแค่ในอเมริกา มันขึ้นอันดับ 2 ใน UK ซึ่งเป็นซิงเกิลขายดีที่สุดของพวกเขาในเกาะอังกฤษ ขายได้กว่า 250,000 แผ่น และได้รับการรับรอง Silver จาก BPI ในญี่ปุ่นเพลงนี้ฮิตระเบิด ขายได้กว่า 600,000 แผ่นภายในกลางปี 1974 และกลายเป็นเพลงที่ขายดีที่สุดของ The Carpenters ในประเทศนั้น ตามด้วยอันดับ 1 ในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และแคนาดา รวมถึงอันดับสูงๆ ในออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ และนิวซีแลนด์ 📈 มันได้รับการรับรอง Gold จาก RIAA ในอเมริกาด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านแผ่น Richard เองเคยบอกในสารคดีญี่ปุ่นว่านี่คือเพลงโปรดที่เขาแต่ง และเขายังเล่นเวอร์ชันบรรเลงในคอนเสิร์ตหลายครั้ง เพลงนี้ถูกคัฟเวอร์โดยศิลปินมากมาย เช่น วง Candies ในญี่ปุ่นปี 1974, Redd Kross ในเวอร์ชันร็อก และ Priscilla Chan ในคอนเสิร์ต farewell ปี 1989 มันยังถูกใช้ในสื่อต่างๆ เพื่อถ่ายทอดความคิดถึง เช่น ในภาพยนตร์หรือโฆษณาที่ชวนนึกถึงอดีต แม้ The Carpenters จะดังเปรี้ยงปร้าง แต่ชีวิตของพวกเขาก็มีด้านมืด Richard เคยติด Quaalude ในช่วงปลาย 1970s จนต้องหยุดทัวร์และเข้ารับการบำบัด ส่วน Karen ต่อสู้กับโรค anorexia nervosa ที่ทำให้เธอผอมแห้งและสุขภาพทรุดโทรม จนเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1983 ขณะอายุเพียง 32 ปี เหตุการณ์นี้ทำให้โลกช็อกและจุดประกายให้คนหันมาสนใจโรคการกินผิดปกติมากขึ้น 💔 หลังจากนั้น Richard ยังคงทำงานเดี่ยวและออกอัลบั้ม posthumous เช่น "Voice of the Heart" ในปี 1983 แต่ไม่มีอะไรแทนที่เสียงร้องของ Karen ได้ มรดกของ The Carpenters ยังคงอยู่ พวกเขาอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังอย่าง Michael Jackson, Scott Weiland และศิลปินญี่ปุ่นหลายคน Rolling Stone จัดให้พวกเขาเป็นหนึ่งใน 20 Greatest Duos of All Time และ Karen เป็นหนึ่งในนักร้องหญิงยอดเยี่ยม เพลงของพวกเขามักถูกใช้ในงานแต่งงานหรือเพลงประกอบชีวิต เพราะความงดงามและความโรแมนติกที่เหนือกาลเวลา ทุกครั้งที่ผมได้ยิน "Yesterday Once More" มันไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นเรื่องราวของความทรงจำ ของพี่น้องคู่นี้ที่สร้างเสียงเพลงอมตะ และของช่วงเวลาที่ผมใช้กับพ่อ มันทำให้ผมรู้สึกว่า อดีตยังคงกลับมาอีกครั้ง เหมือนชื่อเพลง.. Yesterday Once More 🌹 #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/ywB8vjMnoEw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 656 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัมผัสยุโรปคลาสสิกผ่านสายน้ำไรน์บนเรือ Viking River Cruise 5 ดาว 8 วัน 7 คืน
    ล่องผ่าน 4 ประเทศ ไฮไลต์ครบทั้งธรรมชาติ เมืองเก่า มรดกโลก แวะเที่ยวเมืองดังอย่างสตราสบูร์ก โคโลญจน์ อัมสเตอร์ดัม

    เส้นทาง บาเซิล, สวิตเซอร์แลนด์ - ไบรซัค, เยอรมนี - สตราสบูร์ก, ฝรั่งเศส - ชไปเออร์, เยอรมนี - รืเดสไฮม์, เยอรมนี - โคเบลนซ์, เยอรมนี - โคโลญจน์, เยอรมนี - คินเดอร์ไดค์, เนเธอร์แลนด์ - อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์

    วันที่ มี.ค. - ต.ค. 2569

    ⭕️ ราคาเริ่มต้น 6,195AUD
    โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม

    All inclusive
    โรงแรมที่พักในเบอร์ลิน 2 คืน
    ทัวร์ชายฝั่งฟรี 1 รายการในทุกเมืองที่เรือจอด
    ฟรี Wi-Fi
    เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-8D7N-BSL-AMS-2611211
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e3ccf4

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #VikingRiverCruise #ElegantElbe #Switzerland #Germany #France #Netherland #Cologne #KinderdijkWindmills #Speyer #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    🚢 สัมผัสยุโรปคลาสสิกผ่านสายน้ำไรน์บนเรือ Viking River Cruise 5 ดาว 8 วัน 7 คืน ล่องผ่าน 4 ประเทศ ไฮไลต์ครบทั้งธรรมชาติ เมืองเก่า มรดกโลก แวะเที่ยวเมืองดังอย่างสตราสบูร์ก โคโลญจน์ อัมสเตอร์ดัม ➡️ เส้นทาง บาเซิล, สวิตเซอร์แลนด์ - ไบรซัค, เยอรมนี - สตราสบูร์ก, ฝรั่งเศส - ชไปเออร์, เยอรมนี - รืเดสไฮม์, เยอรมนี - โคเบลนซ์, เยอรมนี - โคโลญจน์, เยอรมนี - คินเดอร์ไดค์, เนเธอร์แลนด์ - อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์ 📅 วันที่ มี.ค. - ต.ค. 2569 ⭕️ ราคาเริ่มต้น 6,195AUD โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม 💥 ✨ All inclusive ✅ โรงแรมที่พักในเบอร์ลิน 2 คืน ✅ ทัวร์ชายฝั่งฟรี 1 รายการในทุกเมืองที่เรือจอด ✅ ฟรี Wi-Fi ✅ เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-8D7N-BSL-AMS-2611211 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e3ccf4 ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #VikingRiverCruise #ElegantElbe #Switzerland #Germany #France #Netherland #Cologne #KinderdijkWindmills #Speyer #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 615 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ทหารเลวมีอำนาจมากเกินไป นายพลชั่วเลวอยู่ครองตำแหน่งสูงๆเยอะเกินไป จึงกดขี่ระบบวงจรทหารดีทั้งระบบ ผลที่เห็นคือตัวอย่างอย่างภาคตะวันออกนี้ล่ะ,ไม่ทำจริงจังห่าอะไรเลย สะสมกองมรดกชั่วเลวจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้องยาวนานถึงปัจจุบันรากงอกปกป้องผลประโยชน์ตนอิทธิพลตนแหล่งข้าวแหล่งน้ำตน,สรุปโจรมหาโจรที่แท้จริงคือคนในระบบราชการนี้ล่ะ จะทหารเลว ตำรวจชั่ว สารตั้งต้นคือกลุ่มคณะราชการเลวชั่วนี้ก่อน,นอกจากพวกพรรคการเมืองแล้ว,ประเทศเราต้องรีเซ็ตครัังใหม่กันจริงๆกวาดล้างสีกากีสีใดๆคนในเครื่องแบบนี้ก่อนเถอะ ส่วนนักการเมืองตัวพ่ออยู่แล้ว.
    ..คลิปนี้ชัดเจนอีกคลิป อ.วีระมาช่องนี้พูดคุยกันถูกที่ลงตัว เหยียบพวกมันจมดินได้เลย.,เสียดายควรฟ้องดำเนินคดีด้วย อาจยามเฝ้าแผ่นดินเราโดยเดอะทีมอ.ปานเทพลงมาอัดมันด้วย.,คือมีคดีความติดตัวทั้งทีมทั้งคณะเดอะแก๊งหนองจานนี้ ไม่ตายก็อักเสบล่ะ,คือบนแผ่นดินไทยนี้มารชนะเทพหมดมั้ง ไม่มีใครสามารถจัดการเดอะแก๊งนี้ได้ คนใหญ่โตอยู่เบื้องหลังโคตรๆมันว่า,ถ้าเช่นนั้นประเทศไทยก็สิ้นชาติแน่นอน,สถาบันกษัตริย์และใดๆเตรียมไปวัดได้เลย,เหมือนยกดินแดน11จุดให้เขมรครอบครองนั้นล่ะ ถ้าแม่ทัพภาค2ไม่ประกาศว่ายึดคืนจากเขมรได้11จุดพื้นที่ที่เขมรลุกล้ำยึดเอาไป,คนไทยจะไม่รู้ความจริงเลย ขนาดหนองจานแท้ๆยังปกปิดความจริง นี้คือโทษประหารชัดเจน.,สนับสนุนการก่ออาชญากรรมและร่วมก่ออาชญากรรมกับเขมรด้วย ทั้งค้าของเถื่อน ค้ามนุษย์ สาระพัดค้าสิ่งเลวๆชั่วๆผ่านบ้านหนองจานนี้,มันสมควรโดนโทษประหารจริงๆ,ผู้กล้าทนายท่านใดไฟแรง แบบยื่นฟ้องคลิปเสียงนายกฯนั้นล่ะ,มาฟ้องดำเนินคดีคนข้าราชการทั้งหมดตรงบริเวณนี้ให้เป็นประวัติศาสตร์ตำนานหน่อยที,ท่านคือตำนานเลยล่ะที่ฉีกหน้าคนสมคบคิดกับเขมรฮุนเซนมัน.



    https://youtube.com/watch?v=hxMKYKwvZWM&si=72uEwi8bnFYAFvtv
    ..ทหารเลวมีอำนาจมากเกินไป นายพลชั่วเลวอยู่ครองตำแหน่งสูงๆเยอะเกินไป จึงกดขี่ระบบวงจรทหารดีทั้งระบบ ผลที่เห็นคือตัวอย่างอย่างภาคตะวันออกนี้ล่ะ,ไม่ทำจริงจังห่าอะไรเลย สะสมกองมรดกชั่วเลวจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้องยาวนานถึงปัจจุบันรากงอกปกป้องผลประโยชน์ตนอิทธิพลตนแหล่งข้าวแหล่งน้ำตน,สรุปโจรมหาโจรที่แท้จริงคือคนในระบบราชการนี้ล่ะ จะทหารเลว ตำรวจชั่ว สารตั้งต้นคือกลุ่มคณะราชการเลวชั่วนี้ก่อน,นอกจากพวกพรรคการเมืองแล้ว,ประเทศเราต้องรีเซ็ตครัังใหม่กันจริงๆกวาดล้างสีกากีสีใดๆคนในเครื่องแบบนี้ก่อนเถอะ ส่วนนักการเมืองตัวพ่ออยู่แล้ว. ..คลิปนี้ชัดเจนอีกคลิป อ.วีระมาช่องนี้พูดคุยกันถูกที่ลงตัว เหยียบพวกมันจมดินได้เลย.,เสียดายควรฟ้องดำเนินคดีด้วย อาจยามเฝ้าแผ่นดินเราโดยเดอะทีมอ.ปานเทพลงมาอัดมันด้วย.,คือมีคดีความติดตัวทั้งทีมทั้งคณะเดอะแก๊งหนองจานนี้ ไม่ตายก็อักเสบล่ะ,คือบนแผ่นดินไทยนี้มารชนะเทพหมดมั้ง ไม่มีใครสามารถจัดการเดอะแก๊งนี้ได้ คนใหญ่โตอยู่เบื้องหลังโคตรๆมันว่า,ถ้าเช่นนั้นประเทศไทยก็สิ้นชาติแน่นอน,สถาบันกษัตริย์และใดๆเตรียมไปวัดได้เลย,เหมือนยกดินแดน11จุดให้เขมรครอบครองนั้นล่ะ ถ้าแม่ทัพภาค2ไม่ประกาศว่ายึดคืนจากเขมรได้11จุดพื้นที่ที่เขมรลุกล้ำยึดเอาไป,คนไทยจะไม่รู้ความจริงเลย ขนาดหนองจานแท้ๆยังปกปิดความจริง นี้คือโทษประหารชัดเจน.,สนับสนุนการก่ออาชญากรรมและร่วมก่ออาชญากรรมกับเขมรด้วย ทั้งค้าของเถื่อน ค้ามนุษย์ สาระพัดค้าสิ่งเลวๆชั่วๆผ่านบ้านหนองจานนี้,มันสมควรโดนโทษประหารจริงๆ,ผู้กล้าทนายท่านใดไฟแรง แบบยื่นฟ้องคลิปเสียงนายกฯนั้นล่ะ,มาฟ้องดำเนินคดีคนข้าราชการทั้งหมดตรงบริเวณนี้ให้เป็นประวัติศาสตร์ตำนานหน่อยที,ท่านคือตำนานเลยล่ะที่ฉีกหน้าคนสมคบคิดกับเขมรฮุนเซนมัน. https://youtube.com/watch?v=hxMKYKwvZWM&si=72uEwi8bnFYAFvtv
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 370 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts