• #เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?
    #12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง

    สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว

    เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย

    บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย

    จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน

    นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์

    ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”

    การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

    การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย

    ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน

    “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ”

    แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

    นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย

    ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ

    ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา

    ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา

    เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย

    แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?

    คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น

    ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม?

    นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป

    โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก

    แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ

    โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้

    ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"

    โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด

    ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

    ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ

    หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก

    แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ

    ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา

    ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง"

    คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า

    หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้

    ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย

    ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ

    การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้

    ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา

    การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น

    ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน

    การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้

    แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด

    จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง

    สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา

    การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย

    เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน

    โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า

    กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ
    🤠#เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?🤠 🤠#12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง🤠 สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์ 🥰ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”🥰 การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ” แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย 🥰แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?🥰 คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น 🥰ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม? 🥰 นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้ 🥰ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"🥰 โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง" คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า 🥰หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้🥰 ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้ 🥰ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา🥰 การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด 🥰จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง🥰 สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน 💓โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า💓 😍กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ😍
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • วันนี้เราคุยกันเรื่องวัฒนธรรมแต่งงานอีกแบบ ที่มาคือชื่อภาษาจีนของละครและนิยายจีนเรื่อง “จุ้ยซวี่” (赘婿 ชื่อละครภาษาไทยแปลตามชื่อภาษาอังกฤษว่า <สามีข้าคือฮีโร่>)

    ขอเริ่มเรื่องจากบทสนทนาจากในละครของเจ้าบ่าวหนิงอี้กับพ่อบ้านแห่งสกุลซู เพื่อให้เห็นภาพ
    ...หนิงอี้: “นี่คืออันใด?”
    พ่อบ้านเกิ่ง: “นี้คือเกี้ยวเจ้าสาว”
    หนิงอี้: “ของคุณหนู?”
    พ่อบ้านเกิ่ง: “ของท่าน”
    หนิงอี้: “เพราะเหตุใด?”
    พ่อบ้านเกิ่ง: “เพราะท่านเป็นจุ้ยซวี่”
    หนิงอี้: “เป็นจุ้ยซวี่ก็ต้องนั่งเกี้ยวรึ?”
    พ่อบ้านเกิ่ง: “เป็นจุ้ยซวี่ต้องนั่งเกี้ยว”...

    ในละครเรื่องนี้ หนิงอี้ผู้เป็นเจ้าบ่าวต้องนั่งเกี้ยวถูกส่งตัวไปยังบ้านของฝ่ายหญิง (ตามรูปประกอบ) อีกทั้งระหว่างทางยังโดนคนชี้นิ้ววิพากย์วิจารณ์มากมายราวกับว่าเป็นเรื่องน่าดูแคลน เหตุเพราะเขาเป็น “จุ้ยซวี่”

    “จุ้ยซวี่” คือการเรียกเขยที่แต่งเข้าไปในสกุลของฝ่ายเจ้าสาว พำนักอยู่ในเรือนของฝ่ายหญิง และหากมีลูก ลูกก็จะใช้แซ่หรือนามสกุลตามฝ่ายหญิง ซึ่งเพื่อนเพจที่พอคุ้นเคยกับธรรมเนียมจีนจะรู้ว่าเป็นการกระทำที่ตรงกันข้ามกับธรรมเนียมปกติที่ผู้หญิงจะแต่งเข้าบ้านฝ่ายชาย เมื่อมีลูกก็จะใช้นามสกุลของฝ่ายชาย

    ทำไมถึงมีจุ้ยซวี่? การแต่งชายเข้าบ้านฝ่ายหญิงนั้น เกิดขึ้นเมื่อฝ่ายเจ้าสาวมาจากตระกูลคหบดีหรือมียศถาบรรดาศักดิ์แต่ขาดบุตรชายที่จะสืบสกุล ดังนั้นฝ่ายเจ้าบ่าวจึงมักเป็นคนที่มีฐานะต่ำต้อย

    แล้วธรรมเนียมแต่งจุ้ยซวี่เข้าเรือนเกิดขึ้นในยุคสมัยใด? ในบันทึกทางประวัติศาสตร์ มีการกล่าวถึงจุ้ยซวี่มาตั้งแต่ยุคสมัยชุนชิว แต่ในวัฒนธรรมจีนนั้นการสืบสกุลเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของชายชาตรี ดังนั้นการละทิ้งสกุลของตนเพื่อไปสืบเชื้อสายให้สกุลอื่นจึงเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ในสมัยนั้นจุ้ยซวี่จึงมีฐานะต่ำต้อยมาก มีการเปรียบเสมือนเป็นทาสในเรือน ในสมัยนั้นยังมีกฎห้ามจุ้ยซวี่แยกเรือนออกไปอยู่เอง ห้ามไม่ให้ถือครองที่ดิน และลูกหลานจะเข้ารับราชการได้นั้นต้องผ่านไปแล้วสามรุ่นด้วยกัน (โอ้โห!)

    ในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง จุ้ยซวี่ได้รับการปฏิบัติดีขึ้นและได้รับความนิยมมากขึ้นแม้จะไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้น ว่ากันว่า เป็นเพราะว่าบิดาของปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซ่ง (องค์ซ่งไท่จู่) ก็เป็นจุ้ยซวี่ สังคมรับเรื่องนี้ได้มากขึ้นถึงขนาดที่ว่ามีชายบางคนที่ฐานะครอบครัวไม่เลว ยังขวนขวายแต่งเข้าสกุลของฝ่ายหญิงที่เรืองอำนาจเพื่อเสริมสร้างอำนาจทางการเมืองให้แก่ตนเลยทีเดียว

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ กดไลค์กดแชร์กันหน่อยนะคะ)

    เครดิตรูปภาพจาก: https://www.sohu.com/a/450812871_100288750 และจากละคร
    เครดิตข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.sohu.com/a/451219092_588218
    https://www.52shijing.com/kjxs/113551.html

    #สามีข้าคือฮีโร่ #ประเพณีจีนโบราณ #จุ้ยซวี่ #เกี้ยวเจ้าสาว #StoryfromStory
    วันนี้เราคุยกันเรื่องวัฒนธรรมแต่งงานอีกแบบ ที่มาคือชื่อภาษาจีนของละครและนิยายจีนเรื่อง “จุ้ยซวี่” (赘婿 ชื่อละครภาษาไทยแปลตามชื่อภาษาอังกฤษว่า <สามีข้าคือฮีโร่>) ขอเริ่มเรื่องจากบทสนทนาจากในละครของเจ้าบ่าวหนิงอี้กับพ่อบ้านแห่งสกุลซู เพื่อให้เห็นภาพ ...หนิงอี้: “นี่คืออันใด?” พ่อบ้านเกิ่ง: “นี้คือเกี้ยวเจ้าสาว” หนิงอี้: “ของคุณหนู?” พ่อบ้านเกิ่ง: “ของท่าน” หนิงอี้: “เพราะเหตุใด?” พ่อบ้านเกิ่ง: “เพราะท่านเป็นจุ้ยซวี่” หนิงอี้: “เป็นจุ้ยซวี่ก็ต้องนั่งเกี้ยวรึ?” พ่อบ้านเกิ่ง: “เป็นจุ้ยซวี่ต้องนั่งเกี้ยว”... ในละครเรื่องนี้ หนิงอี้ผู้เป็นเจ้าบ่าวต้องนั่งเกี้ยวถูกส่งตัวไปยังบ้านของฝ่ายหญิง (ตามรูปประกอบ) อีกทั้งระหว่างทางยังโดนคนชี้นิ้ววิพากย์วิจารณ์มากมายราวกับว่าเป็นเรื่องน่าดูแคลน เหตุเพราะเขาเป็น “จุ้ยซวี่” “จุ้ยซวี่” คือการเรียกเขยที่แต่งเข้าไปในสกุลของฝ่ายเจ้าสาว พำนักอยู่ในเรือนของฝ่ายหญิง และหากมีลูก ลูกก็จะใช้แซ่หรือนามสกุลตามฝ่ายหญิง ซึ่งเพื่อนเพจที่พอคุ้นเคยกับธรรมเนียมจีนจะรู้ว่าเป็นการกระทำที่ตรงกันข้ามกับธรรมเนียมปกติที่ผู้หญิงจะแต่งเข้าบ้านฝ่ายชาย เมื่อมีลูกก็จะใช้นามสกุลของฝ่ายชาย ทำไมถึงมีจุ้ยซวี่? การแต่งชายเข้าบ้านฝ่ายหญิงนั้น เกิดขึ้นเมื่อฝ่ายเจ้าสาวมาจากตระกูลคหบดีหรือมียศถาบรรดาศักดิ์แต่ขาดบุตรชายที่จะสืบสกุล ดังนั้นฝ่ายเจ้าบ่าวจึงมักเป็นคนที่มีฐานะต่ำต้อย แล้วธรรมเนียมแต่งจุ้ยซวี่เข้าเรือนเกิดขึ้นในยุคสมัยใด? ในบันทึกทางประวัติศาสตร์ มีการกล่าวถึงจุ้ยซวี่มาตั้งแต่ยุคสมัยชุนชิว แต่ในวัฒนธรรมจีนนั้นการสืบสกุลเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของชายชาตรี ดังนั้นการละทิ้งสกุลของตนเพื่อไปสืบเชื้อสายให้สกุลอื่นจึงเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ในสมัยนั้นจุ้ยซวี่จึงมีฐานะต่ำต้อยมาก มีการเปรียบเสมือนเป็นทาสในเรือน ในสมัยนั้นยังมีกฎห้ามจุ้ยซวี่แยกเรือนออกไปอยู่เอง ห้ามไม่ให้ถือครองที่ดิน และลูกหลานจะเข้ารับราชการได้นั้นต้องผ่านไปแล้วสามรุ่นด้วยกัน (โอ้โห!) ในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง จุ้ยซวี่ได้รับการปฏิบัติดีขึ้นและได้รับความนิยมมากขึ้นแม้จะไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้น ว่ากันว่า เป็นเพราะว่าบิดาของปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซ่ง (องค์ซ่งไท่จู่) ก็เป็นจุ้ยซวี่ สังคมรับเรื่องนี้ได้มากขึ้นถึงขนาดที่ว่ามีชายบางคนที่ฐานะครอบครัวไม่เลว ยังขวนขวายแต่งเข้าสกุลของฝ่ายหญิงที่เรืองอำนาจเพื่อเสริมสร้างอำนาจทางการเมืองให้แก่ตนเลยทีเดียว (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ กดไลค์กดแชร์กันหน่อยนะคะ) เครดิตรูปภาพจาก: https://www.sohu.com/a/450812871_100288750 และจากละคร เครดิตข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.sohu.com/a/451219092_588218 https://www.52shijing.com/kjxs/113551.html #สามีข้าคือฮีโร่ #ประเพณีจีนโบราณ #จุ้ยซวี่ #เกี้ยวเจ้าสาว #StoryfromStory
    WWW.SOHU.COM
    《赘婿》首播:剧情搞笑,宋轶获赞,郭麒麟槽点较为集中_宁毅
    而郭麒麟从脸上讲就有点不合适,大家可以看一下这个镜头他和张若昀的对比,年龄和气质的差异一下子就能看出来,而且郭麒麟看起来特别的黑。 大家其实对郭麒麟这个演员没有什么意见,甚至也承认郭麒麟在平常生活中…
    1 Comments 0 Shares 112 Views 0 Reviews
  • ..เริ่มที่4:30น.
    ..อเมริกาทรัมป์เหี้ยจริงๆ,มาตั้งฐานทัพยึดภาคใต้ไทยแน่ๆ,ทรัมป์เป็นฝ่ายมืดเสียแล้วมั้ยนะ ปลอมตัวมานานก็ว่า,ลอร์ดรอธไชล์ ลอร์ดเร็กกี้เฟลเลอร์พวกนี้คงสั่งทรัมป์มายึดภาคใต้สินะมุกอ้างทำสงครามกับจีนบังหน้า,คลองคอดกระคลองแลนด์บริดจ์กะกินรวบยึดครองบริหารจัดการเองแบบคลองปานามาล่ะ,นี้กะตัดตอนตัดขาเส้นทางสายไหมของจีนลงสู่ภาคใต้ทะลุอินโดฯเลยนะนั้น, รัฐบาลทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้คงยอมรับเงื่อนไขอเมริกาแน่ๆ,แถมได้แก้ไข ม.112ด้วย. คือกะใช้ไทยรุกฆาตจีนกินเรือกินม้ากินขุนไทยได้หมดด้วย.,อเมริกาฝรั่งบัดสบชั่วๆเลวๆนี้เอง.
    ..ปฏิวัติรัฐประหารเลย ยึดอำนาจโลด ภาษีทรัมป์บ้าบอนี้จะไปสนใจทำไม,ประชาชนไทยจริงๆกระทบน้อยจะตาย ไม่เกิน10%หรอกที่ไทยใช้สินค้าของอเมริกากันจริงๆ,เจ้าสัวชั่วเลวสมควรล้มละลายเลย ร่ำรวยบนความทุกข์ยากประชาชนของคนไทยนานพอแล้ว อย่าเอาผลประโยชน์เจ้าสัวไปแลกม.112นะ บัดสบเลยล่ะ,ตลอดทัพอเมริกาไล่ออกจากประเทศไทยยากด้วย,นอกจากพระมหากษัตริย์เราตกลงลงนานชัดเจนเองแค่นั้น.ก็เป็นประวัติศาสตร์บันทึกไว้ตลอดกาลอีกครั้งแค่นั้นล่ะ.

    https://youtube.com/watch?v=fTd5-EmgWBk&si=KhYZhmrBZXJ8nny7
    ..เริ่มที่4:30น. ..อเมริกาทรัมป์เหี้ยจริงๆ,มาตั้งฐานทัพยึดภาคใต้ไทยแน่ๆ,ทรัมป์เป็นฝ่ายมืดเสียแล้วมั้ยนะ ปลอมตัวมานานก็ว่า,ลอร์ดรอธไชล์ ลอร์ดเร็กกี้เฟลเลอร์พวกนี้คงสั่งทรัมป์มายึดภาคใต้สินะมุกอ้างทำสงครามกับจีนบังหน้า,คลองคอดกระคลองแลนด์บริดจ์กะกินรวบยึดครองบริหารจัดการเองแบบคลองปานามาล่ะ,นี้กะตัดตอนตัดขาเส้นทางสายไหมของจีนลงสู่ภาคใต้ทะลุอินโดฯเลยนะนั้น, รัฐบาลทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้คงยอมรับเงื่อนไขอเมริกาแน่ๆ,แถมได้แก้ไข ม.112ด้วย. คือกะใช้ไทยรุกฆาตจีนกินเรือกินม้ากินขุนไทยได้หมดด้วย.,อเมริกาฝรั่งบัดสบชั่วๆเลวๆนี้เอง. ..ปฏิวัติรัฐประหารเลย ยึดอำนาจโลด ภาษีทรัมป์บ้าบอนี้จะไปสนใจทำไม,ประชาชนไทยจริงๆกระทบน้อยจะตาย ไม่เกิน10%หรอกที่ไทยใช้สินค้าของอเมริกากันจริงๆ,เจ้าสัวชั่วเลวสมควรล้มละลายเลย ร่ำรวยบนความทุกข์ยากประชาชนของคนไทยนานพอแล้ว อย่าเอาผลประโยชน์เจ้าสัวไปแลกม.112นะ บัดสบเลยล่ะ,ตลอดทัพอเมริกาไล่ออกจากประเทศไทยยากด้วย,นอกจากพระมหากษัตริย์เราตกลงลงนานชัดเจนเองแค่นั้น.ก็เป็นประวัติศาสตร์บันทึกไว้ตลอดกาลอีกครั้งแค่นั้นล่ะ. https://youtube.com/watch?v=fTd5-EmgWBk&si=KhYZhmrBZXJ8nny7
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • ..อนาคตประเทศไทยจะเป็นที่พึ่งของใครหลายคน ที่ไม่ใช่คนไทย มีบัตรประชาชนคนไทย เขาทั้งหลายมากมายหนีทุกข์มาพึ่งประเทศไทยที่สงบสุข ,จริงๆคนไทยเราใจดีมาก เป็นที่พึ่งคนต่างถิ่นใดๆได้,อันตรายคือบางคนที่มาพึ่งพิงนั้นเป็นคนไม่ดี ทำลายทำร้ายคนให้พึ่งพิงอาศัย เนรคุณทรยศอกตัญญูก็ว่า,เหมือนเขมรในปัจจุบันที่ผู้นำเขมรเองแสดงความอกตัญญูเนรคุณทรยศแผ่นดินไทยที่ตนเองเคยหนีตายมาพึ่งพาอาศัยอยู่กิน.

    ..เด็กๆผู้บริสุทธิ์มากมายตลอดผู้ปกครองพ่อแม่เขา มีทุกข์เป็นอันมากปกติอยู่แล้วในการดำรงชีพ ยิ่งเป็นคนไม่มีสัญชาติไทยอีกหรือตกหล่นประการใดก็ตามน่าเห็นใจมากที่สมควรได้รับการช่วยเหลือบนแผ่นดินไทยเรา,นี้ไง คนไทยเราต้องพ้นยากจนทุกๆคนทั้งหมดทันทีบนกลไกการปกครองที่ทำให้คนไทยมั่นคงในความยากจนนี้ต้องฉีกทิ้งกฎหมายผีบ้าต่างๆมากมายจริงที่ปล้นชิงแย่งชิงความร่ำรวยมั่งคั่งของคนไทยไปซึ่งส่วนใหญ่ถ่ายโอนไปสู่ชนชั้นนักการเมืองที่อยู่วงกลไกอำนาจรัฐทั้งสิ้นจะเจ้าสัวจะข้าราชการก็ตามมีหมดจนร่ำรวยผิดปกติจากการโกงกินทั้งเงินหลวงทั้งนอกเงินหลวงต่างๆที่ไม่สุจริตจนได้มาซึ่งทรัพย์สินมากมายมหาศาลอันผิดปกติพึ่งบุคคลควรมีได้,อำนาจรัฐจึงคือกลไกปัญหาหลักสำคัญที่สุดที่จะนำพาประชาชนทั้งประเทศร่ำรวยหรือยากจนดักดานจริงๆ,และเราสามารถยื่นโอกาสอันดีงามมากมายแก่คนที่เข้ามาบนแผ่นดินไทยให้เขามีชีวิตที่ดีงามผาสุขได้ เติบโตสร้างโลกให้สวยงามดีงามร่วมกันต่อไปได้,และอนาคตคนดีๆเหล่านี้ทำไมเราต้องปฏิเสธการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เกลียดชังเขาด้วย ตราบใดเป็นคนดีขึ้นชื่อว่าดีแน่นอน,และทุกๆคนหมายทำสิ่งดีๆทั้งสิ้น,เราจึงต้องกำจัดคนชั่วเลวมิให้รังแกคนดีๆ จนเป็นคนไม่ดีนั้นเอง,,เพราะเมื่อเขาเติบโตล้วนสามารถเลือกภูมิประเทศที่ต้องการอยู่อาศัยได้,จริงๆเจตจำนงเสรีมนุษย์สมควรเลือกประเทศที่ตนต้องการอยู่อาศัยได้อิสระเสรีในกรณีคนดีปกติที่มิใช่คนชั่วเลวหมายทำร้ายทำลายร่างกายหรือฆ่าสังหารมนุษย์ด้วยกัน,พร้อมเงินสัมมาชีวิตตนติดตัว เช่นคนไทยอยากย้ายไปอยู่จีน ด้วยบัตรสูติบัตรตนที่เกิดมาสามารถเบิกตังองค์กรสากลโลกที่มีตังประจำสูติบัตรตั้งค่าไว้ เช่นสูติบัตรใบเกิดทุกๆคนบนโลกตีมูลค่าเป็นตังได้ที่คนละ100,000,000เหรียญดอลล่าร์ตลอดชีพ,นับตามอายุเฉลี่ยที่ใช้ไปและเหลืออยู่ มนุษย์อายุเฉลี่ย100ปี,ก็ตกปีละ1ล้านเหรียญต่อปีต่อคน,คนไทยที่ย้ายภูมิประเทศไปอยู่จีนเม็ดเงินนี้ก็ย้ายไปด้วยและแปลงค่าเป็นสกุลหยวนทันทีด้วย,คือ1ดอลล่าร์เท่ากับ7หยวนก็7ล้านหยวนต่อปี,คนไทยคนนั้นต้องบริหารตังภายใน1ปีใช้ตามนั้นเอง ส่วนจะสร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้นก็ความสามารถใครมัน,ทุกๆชีวิตมนุษย์เราบนโลกจะถูกตีมูลค่าชีวิตใหม่ให้เหมาะสมตามรูปแบบการดำรงชีวิตของโลกนั้นๆแบบเรา ในที่นี้ใช้ตังเป็นกลไกขับเคลื่อนวิถีชีวิต,เราก็ต้องทำลักษณะนี้,อยู่ไปได้แค่5ปีขอย้ายกลับมาเป็นสัญชาติไทยแบบหลังเรียนจบที่จีน,ตัง1ล้านดอลล่าร์นั้นก็ย้ายตามสถานะชีวิตเรามาด้วยแปลงเป็นเงินไทยคือ1ดอลล่าร์เท่ากับ33บาท นั่นคือ33ล้านบาทต่อปีที่มีตังในบัญชีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเบื้องต้นในประเทศไทยให้สุขภาพร่างกายในเนื้อกายมนุษย์โลกนี้ปกติดีก่อนตายจากไป,ตายไปก็เป็นสถานะ0บาททันทีก็ว่า,โลกเราสมควรรีเซ็ตครั้งใหม่ครั้งใหญ่จริงๆตีมูลค่าใหม่,เด็กๆมากมายตามพ่อแม่หนีภัยมาพึ่งพาแผ่นดินไทยนี้และมิใช่เข้ามาเพื่อฆ่าล้างทำร้ายทำลายชีวิตคนไทยแต่อย่างใดหรือมาเอารัดเอาเปรียบเหยียบย่ำคนไทยแต่อย่างใด แค่ต้องการมีชีวิตที่ปกติดีเท่านั้น ในคนสำนึกดีปกติพึ่งเป็น,โลกจึงสมควรถูกตั้งค่าใหม่จริงๆ ,deep stateไซออนิสต์ก็จะถูกรีเซ็ตลบทิ้งด้วยทันทีเช่นกันในระบบใหม่ เพราะทุกๆชีวิตมนุษย์เราจะมีเจตจำนงเสรีเขียนเป็นโค้ตสัมมาชีวิตใครมันไว้,เอเลี่ยนแรปทีเลี่ยนใส่ชุดมนุษย์ปลอมเป็นมนุษย์สร้างโคลนขึ้นมาก็ตามจะคัดกรองแยกย่อยออกได้หมดมีแต่ค่าจริงเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่,และนั้นจะหมายความรวมถึง มนุษย์เราจะเคลื่อนย้ายสถานที่อยู่ตนเองได้อิสระเสรีตามเจตจำนงเจตนาตนมุ่งปราถนาไว้และอาจค้นหาตนเองตามระดับจิตระดับใจใครมันเองด้วยคือยกจิตยกใจตนเองเสรีไร้ใครขัดขวางบนโลกนี้อีกต่อไปเหมือนยุคเก่าอดีตหรือแบบปัจจุบันนี้,ใครมุ่งสิ่งใดก็อิสระที่จะทำตราบใดไม่ก้าวล่วงชีวิตคนอื่นมนุษย์คนอื่น ไม่ทำร้ายทำลายกัน ไม่ลักขโมยของกัน ไม่ฆ่ากัน,หรือผิดไปจากอารยะธรรมธรรมจักรวาลพื้นฐานที่ดีงามของการเป็นไปด้วยสัมมาชีวิตสัมมาอาชีพใครมัน.

    ..ประเทศไทยเรา จึงสมควรพร้อมเราคนดีที่บริสุทธิ์เหล่านี้ในการช่วยเหลือคนเหล่านั้นเบื้องต้นจนกว่าเขาจะพ้นภัยในเวลาที่สมควร.

    ..การมีตังติดตัวตั้งแต่เกิดจึงสำคัญมาก,จริงๆมีอยู่แล้วแต่ฝ่ายมืดเอาไปทำแดกเอง.

    ..เราจึงต้องล้างระบบใหม่,ที่สะดวกที่สุดคือระบบควอนตัมตังดิจิดัลจริงๆนั้นล่ะ,จึงจะสามารถอัพเรเวลได้ดี,การทุจริตโกงกินแบบเดิมๆจะเหลือศูนย์เพราะรู้กระแสการไหลของตังไปมาย้อนหลังได้หมด เข้าใครออกใครผ่านมากี่คน ทุกๆธุรกรรมควอนตัมมันบันทึกรายละเอียดหมด,ซึ่งมีทองคำค้ำประกันยิ่งดี ต่างจากบิตคอนย์BTCไม่มีทองคำค้ำประกันเลย ไร้เสถียรภาพมั่นคงอะไรอีลิทจึงสร้างมันขึ้นมาปั่นไซออนิสต์จึงสร้างมันมาเพื่อฟอกตังทั่วโลก,ฝ่ายมืดหมายใช่btcควบคุมตังยุคใหม่นั้นเอง,แต่คงไปไม่รอดเพราะไร้ทองคำค้ำประกันและการปั่นราคานี้คือครั้งสุดท้ายก็ได้ก่อนดับอนาถในวงการคริปโตฯสกุลbtcและตัวอื่นๆที่ไม่มีทองคำค้ำประกัน ต่างจากบาทคอยน์อินทนนท์เรามีทองคำค้ำประกันนะ,ไม่ใช่ผีบ้าแบบตังดิจิดัลแจก10,000บาทผีบ้านั้นกูรูแฉเสียไส้แตกหมดเปลือกก็ว่าเอาคริปโตโทเคนโนเนมมาขายให้ไทยแลกเป็นบาทที่มีทองคำค้ำประกัน,กินส่วนต่างโกงค่าแลกเปลี่ยนอีก,ไม่ซื่อสัตย์ชัดเจน,

    ..ใบเกิดเราสูติบัตรเราจึงสมควรตีมูลค่ากันใหม่ ชาวโลกสมควรมีตังในบัญชีตังดิจิดัลทุกๆคนที่100ล้านเหรียญตลอดชีพในเบื้องต้น,จริงๆฝ่ายแสงที่เขามโนไว้ว่ามีทรัพย์สินเงินทองเพชรนิลจินดาแร่ธาตุของมีค่ามากมายสาระพัดที่ยึดมาจากฝ่ายมืดได้ตีมูลค่าโดยประมาณไว้นั้นคือ 1×10⁸⁰⁰ขั้นต่ำ,หรือ1×10¹⁰⁰⁰ ขั้นกลางๆที่ฝ่ายมืดปล้นชิงแอบซ่อนคือชาวโลก8,000ล้านคน หักแรปทีเลี่ยนใส่ชุดคนออก หักโคลนสร้างนอมินีแทนคนจริงๆหักหุ่นยนต์แปลงเป็นคน,หักปีศาจมารซาตานอสูรแปลงเป็นคนอาจเหลือจริงแค่3,000-4,000ล้านคน,ตุยตายจากวัคซีนโควิดmRNAอีกในอนาคต แก่เฒ่าชราตายก่อนเตียงmedbedsจะมาอีก สรุปอาจเหลือมนุษย์ผิวโลกจริงๆแค่1,500-2,000ล้านคนว่าเหลือมากที่สุดแล้วนะ,ไทยอาจเหลือแค่5-10ล้านคนในอนาคตอันใกล้ ข้างบ้านป่วยสะสม โรคสะสมตรึม ตลอดจัดงานศพติดๆกันก็ว่าแล้ว.,กรณีใช้ตังดิจิดัลแจกจ่ายจึงสะดวกรวดเร็วจริง,แต่ต้องฝ่ายดีฝ่ายแสงปกครองนะแบบสภากาแล็กติกจักรวาลช่วยควบคุมระบบก็ว่า.,เฉลี่ยต่อคนชาวโลก อาจมากกว่า1,000ล้านเหรียญต่อคนต่อตลอดชีพได้สบายๆมาก,ตังทั้งโลกที่ฝ่ายแสงยึดทรัพย์มาจากฝ่ายมืดใช้ไปอีกเป็นแสนๆปีก็ยังใช้ไม่หมด,แต่ถ้าเบื้องต้นที่คนละ100ล้านเหรียญต่อคนต่อตลอดชีพถึงว่าทดลองเบิกจ่ายไปก่อนสามารถวิจัยประเมินผลติดตามค่าลยค่าบวกได้,ซึ่งอนาคตbricsอาจให้ประเทศสมาขิกใช้สกุลเงินbricsดิจิดัลนำร่องและใช้ในอัตรา1ต่อ1(1:1) 1บาทไทยต่อ1หยวนจีน นั้นเอง,ทำเป็นมาตรฐานสากล,จากนั้นตัง100ล้านเหรียญนี้ต่อคนต่อตลอดชีพจะตีมูลค่าที่100ล้านบาทเสมอกันกับ100ล้านหยวนนั้นเอง,
    ..บางคนอาจว่าคนไทยเราได้น้อยเมื่อเทียบทรัพยากรมีค่ามากมายของชาติไทยเราจริงที่เฉลี่ยต่อคนอาจมากถึง400ถึง800ล้านบาทต่อคนต่อตลอดชีพ,แต่นี้คือค่าประเมินเบื้องต้นจากมากกว่าคนละ1,000ล้านเหรียญที่ตีค่าไว้,ซึ่งอนาคตเมื่อชาวโลกเราอัพเรเวลสู่มิติ5Dเบื้องต้นหรือบรรลุธรรมจักรวาล ตังอาจไร้ค่าทันทีก็ว่า,สภาวะจิตวิญญาณใครมันสุดยอดแล้วนั้นเอง.

    ..เวลามนุษย์โลกชาวโลกคนใดจะย้ายไปอยู่ประเทศไหนๆสถานะการเงินจะย้ายไปทันทีด้วย,ประเทศนั้นๆจะมีตังบริหารจัดการชาติทันทีเพื่อช่วยดูแลชีวิตมนุษย์ทันนั้นๆรับเพิ่มทันทีที่1ล้านเหรียญต่อปีเช่นกัน,แยกต่างหากจากตังส่วนตัวของบุคคลนั้นๆที่ย้ายไปอยู่เพื่อแบ่งเบาภาวะทรัพยากรที่ประเทศนั้นๆเตรียมพร้อมรองรับในการใช้ชีวิตของมนุษย์โลกเราคนนั้นก็ว่า, ตัวอย่างคือ ประเทศไทยเรามีประชากร66ล้านคนก็66ล้านเหรียญในบัญชีตังดิจิดัลต่อคนต่อปีในการใช้จ่ายในชีวิต ส่วนรัฐบาลก็จะได้ทันทีแยกต่างหากเป็นสาธารณะแก่รัฐนั้นๆที่66ล้านเหรียญต่อคนต่อปีเช่นกัน,มีคนชาวโลกจากประเทศอื่นย้ายเข้ามาอยู่อาศันบนแผ่นดินไทยสัก20ล้านคนก็รับเพิ่มอีก20ล้านเหรียญให้แก่รัฐประเทศนั้นๆ,ปีต่อไปมีคนย้ายออกจากประเทศไทยที่50ล้านคน ,ผลคือ50ล้านเหรียญนี้จะย้ายตามคนนั้นๆไปจ่ายให้รัฐบาลประเทศอื่นนั้นๆเป็นสาธารณะให้รัฐบาลนั้นบริหารจัดการก็ว่าแทนที่เดิม,นี้ตังติดบุคคลช่วยลดภาระการไปอยู่บ้านเมืองอื่นที่ต้องการ,เด็กๆหรือบุคคลใดๆเข้ามาประเทศไทยเราแบบลักษณะคลิปนี้ เราสามารถดูแลชีวิตเขาได้เต็มที่ ตลอดเขาเองก็มีตังติดตัวมหาศาลไม่น้อย,เราจึงสามารถจรรโลงสร้างสรรค์โลกให้สวยงามดีงามสงบสุขสันติร่วมกันของทุกๆคนชาวโลกได้.
    ..
    ..https://youtube.com/shorts/Fv4asOidqg4?si=mwct5bmVmjBY47QJ
    ..อนาคตประเทศไทยจะเป็นที่พึ่งของใครหลายคน ที่ไม่ใช่คนไทย มีบัตรประชาชนคนไทย เขาทั้งหลายมากมายหนีทุกข์มาพึ่งประเทศไทยที่สงบสุข ,จริงๆคนไทยเราใจดีมาก เป็นที่พึ่งคนต่างถิ่นใดๆได้,อันตรายคือบางคนที่มาพึ่งพิงนั้นเป็นคนไม่ดี ทำลายทำร้ายคนให้พึ่งพิงอาศัย เนรคุณทรยศอกตัญญูก็ว่า,เหมือนเขมรในปัจจุบันที่ผู้นำเขมรเองแสดงความอกตัญญูเนรคุณทรยศแผ่นดินไทยที่ตนเองเคยหนีตายมาพึ่งพาอาศัยอยู่กิน. ..เด็กๆผู้บริสุทธิ์มากมายตลอดผู้ปกครองพ่อแม่เขา มีทุกข์เป็นอันมากปกติอยู่แล้วในการดำรงชีพ ยิ่งเป็นคนไม่มีสัญชาติไทยอีกหรือตกหล่นประการใดก็ตามน่าเห็นใจมากที่สมควรได้รับการช่วยเหลือบนแผ่นดินไทยเรา,นี้ไง คนไทยเราต้องพ้นยากจนทุกๆคนทั้งหมดทันทีบนกลไกการปกครองที่ทำให้คนไทยมั่นคงในความยากจนนี้ต้องฉีกทิ้งกฎหมายผีบ้าต่างๆมากมายจริงที่ปล้นชิงแย่งชิงความร่ำรวยมั่งคั่งของคนไทยไปซึ่งส่วนใหญ่ถ่ายโอนไปสู่ชนชั้นนักการเมืองที่อยู่วงกลไกอำนาจรัฐทั้งสิ้นจะเจ้าสัวจะข้าราชการก็ตามมีหมดจนร่ำรวยผิดปกติจากการโกงกินทั้งเงินหลวงทั้งนอกเงินหลวงต่างๆที่ไม่สุจริตจนได้มาซึ่งทรัพย์สินมากมายมหาศาลอันผิดปกติพึ่งบุคคลควรมีได้,อำนาจรัฐจึงคือกลไกปัญหาหลักสำคัญที่สุดที่จะนำพาประชาชนทั้งประเทศร่ำรวยหรือยากจนดักดานจริงๆ,และเราสามารถยื่นโอกาสอันดีงามมากมายแก่คนที่เข้ามาบนแผ่นดินไทยให้เขามีชีวิตที่ดีงามผาสุขได้ เติบโตสร้างโลกให้สวยงามดีงามร่วมกันต่อไปได้,และอนาคตคนดีๆเหล่านี้ทำไมเราต้องปฏิเสธการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เกลียดชังเขาด้วย ตราบใดเป็นคนดีขึ้นชื่อว่าดีแน่นอน,และทุกๆคนหมายทำสิ่งดีๆทั้งสิ้น,เราจึงต้องกำจัดคนชั่วเลวมิให้รังแกคนดีๆ จนเป็นคนไม่ดีนั้นเอง,,เพราะเมื่อเขาเติบโตล้วนสามารถเลือกภูมิประเทศที่ต้องการอยู่อาศัยได้,จริงๆเจตจำนงเสรีมนุษย์สมควรเลือกประเทศที่ตนต้องการอยู่อาศัยได้อิสระเสรีในกรณีคนดีปกติที่มิใช่คนชั่วเลวหมายทำร้ายทำลายร่างกายหรือฆ่าสังหารมนุษย์ด้วยกัน,พร้อมเงินสัมมาชีวิตตนติดตัว เช่นคนไทยอยากย้ายไปอยู่จีน ด้วยบัตรสูติบัตรตนที่เกิดมาสามารถเบิกตังองค์กรสากลโลกที่มีตังประจำสูติบัตรตั้งค่าไว้ เช่นสูติบัตรใบเกิดทุกๆคนบนโลกตีมูลค่าเป็นตังได้ที่คนละ100,000,000เหรียญดอลล่าร์ตลอดชีพ,นับตามอายุเฉลี่ยที่ใช้ไปและเหลืออยู่ มนุษย์อายุเฉลี่ย100ปี,ก็ตกปีละ1ล้านเหรียญต่อปีต่อคน,คนไทยที่ย้ายภูมิประเทศไปอยู่จีนเม็ดเงินนี้ก็ย้ายไปด้วยและแปลงค่าเป็นสกุลหยวนทันทีด้วย,คือ1ดอลล่าร์เท่ากับ7หยวนก็7ล้านหยวนต่อปี,คนไทยคนนั้นต้องบริหารตังภายใน1ปีใช้ตามนั้นเอง ส่วนจะสร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้นก็ความสามารถใครมัน,ทุกๆชีวิตมนุษย์เราบนโลกจะถูกตีมูลค่าชีวิตใหม่ให้เหมาะสมตามรูปแบบการดำรงชีวิตของโลกนั้นๆแบบเรา ในที่นี้ใช้ตังเป็นกลไกขับเคลื่อนวิถีชีวิต,เราก็ต้องทำลักษณะนี้,อยู่ไปได้แค่5ปีขอย้ายกลับมาเป็นสัญชาติไทยแบบหลังเรียนจบที่จีน,ตัง1ล้านดอลล่าร์นั้นก็ย้ายตามสถานะชีวิตเรามาด้วยแปลงเป็นเงินไทยคือ1ดอลล่าร์เท่ากับ33บาท นั่นคือ33ล้านบาทต่อปีที่มีตังในบัญชีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเบื้องต้นในประเทศไทยให้สุขภาพร่างกายในเนื้อกายมนุษย์โลกนี้ปกติดีก่อนตายจากไป,ตายไปก็เป็นสถานะ0บาททันทีก็ว่า,โลกเราสมควรรีเซ็ตครั้งใหม่ครั้งใหญ่จริงๆตีมูลค่าใหม่,เด็กๆมากมายตามพ่อแม่หนีภัยมาพึ่งพาแผ่นดินไทยนี้และมิใช่เข้ามาเพื่อฆ่าล้างทำร้ายทำลายชีวิตคนไทยแต่อย่างใดหรือมาเอารัดเอาเปรียบเหยียบย่ำคนไทยแต่อย่างใด แค่ต้องการมีชีวิตที่ปกติดีเท่านั้น ในคนสำนึกดีปกติพึ่งเป็น,โลกจึงสมควรถูกตั้งค่าใหม่จริงๆ ,deep stateไซออนิสต์ก็จะถูกรีเซ็ตลบทิ้งด้วยทันทีเช่นกันในระบบใหม่ เพราะทุกๆชีวิตมนุษย์เราจะมีเจตจำนงเสรีเขียนเป็นโค้ตสัมมาชีวิตใครมันไว้,เอเลี่ยนแรปทีเลี่ยนใส่ชุดมนุษย์ปลอมเป็นมนุษย์สร้างโคลนขึ้นมาก็ตามจะคัดกรองแยกย่อยออกได้หมดมีแต่ค่าจริงเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่,และนั้นจะหมายความรวมถึง มนุษย์เราจะเคลื่อนย้ายสถานที่อยู่ตนเองได้อิสระเสรีตามเจตจำนงเจตนาตนมุ่งปราถนาไว้และอาจค้นหาตนเองตามระดับจิตระดับใจใครมันเองด้วยคือยกจิตยกใจตนเองเสรีไร้ใครขัดขวางบนโลกนี้อีกต่อไปเหมือนยุคเก่าอดีตหรือแบบปัจจุบันนี้,ใครมุ่งสิ่งใดก็อิสระที่จะทำตราบใดไม่ก้าวล่วงชีวิตคนอื่นมนุษย์คนอื่น ไม่ทำร้ายทำลายกัน ไม่ลักขโมยของกัน ไม่ฆ่ากัน,หรือผิดไปจากอารยะธรรมธรรมจักรวาลพื้นฐานที่ดีงามของการเป็นไปด้วยสัมมาชีวิตสัมมาอาชีพใครมัน. ..ประเทศไทยเรา จึงสมควรพร้อมเราคนดีที่บริสุทธิ์เหล่านี้ในการช่วยเหลือคนเหล่านั้นเบื้องต้นจนกว่าเขาจะพ้นภัยในเวลาที่สมควร. ..การมีตังติดตัวตั้งแต่เกิดจึงสำคัญมาก,จริงๆมีอยู่แล้วแต่ฝ่ายมืดเอาไปทำแดกเอง. ..เราจึงต้องล้างระบบใหม่,ที่สะดวกที่สุดคือระบบควอนตัมตังดิจิดัลจริงๆนั้นล่ะ,จึงจะสามารถอัพเรเวลได้ดี,การทุจริตโกงกินแบบเดิมๆจะเหลือศูนย์เพราะรู้กระแสการไหลของตังไปมาย้อนหลังได้หมด เข้าใครออกใครผ่านมากี่คน ทุกๆธุรกรรมควอนตัมมันบันทึกรายละเอียดหมด,ซึ่งมีทองคำค้ำประกันยิ่งดี ต่างจากบิตคอนย์BTCไม่มีทองคำค้ำประกันเลย ไร้เสถียรภาพมั่นคงอะไรอีลิทจึงสร้างมันขึ้นมาปั่นไซออนิสต์จึงสร้างมันมาเพื่อฟอกตังทั่วโลก,ฝ่ายมืดหมายใช่btcควบคุมตังยุคใหม่นั้นเอง,แต่คงไปไม่รอดเพราะไร้ทองคำค้ำประกันและการปั่นราคานี้คือครั้งสุดท้ายก็ได้ก่อนดับอนาถในวงการคริปโตฯสกุลbtcและตัวอื่นๆที่ไม่มีทองคำค้ำประกัน ต่างจากบาทคอยน์อินทนนท์เรามีทองคำค้ำประกันนะ,ไม่ใช่ผีบ้าแบบตังดิจิดัลแจก10,000บาทผีบ้านั้นกูรูแฉเสียไส้แตกหมดเปลือกก็ว่าเอาคริปโตโทเคนโนเนมมาขายให้ไทยแลกเป็นบาทที่มีทองคำค้ำประกัน,กินส่วนต่างโกงค่าแลกเปลี่ยนอีก,ไม่ซื่อสัตย์ชัดเจน, ..ใบเกิดเราสูติบัตรเราจึงสมควรตีมูลค่ากันใหม่ ชาวโลกสมควรมีตังในบัญชีตังดิจิดัลทุกๆคนที่100ล้านเหรียญตลอดชีพในเบื้องต้น,จริงๆฝ่ายแสงที่เขามโนไว้ว่ามีทรัพย์สินเงินทองเพชรนิลจินดาแร่ธาตุของมีค่ามากมายสาระพัดที่ยึดมาจากฝ่ายมืดได้ตีมูลค่าโดยประมาณไว้นั้นคือ 1×10⁸⁰⁰ขั้นต่ำ,หรือ1×10¹⁰⁰⁰ ขั้นกลางๆที่ฝ่ายมืดปล้นชิงแอบซ่อนคือชาวโลก8,000ล้านคน หักแรปทีเลี่ยนใส่ชุดคนออก หักโคลนสร้างนอมินีแทนคนจริงๆหักหุ่นยนต์แปลงเป็นคน,หักปีศาจมารซาตานอสูรแปลงเป็นคนอาจเหลือจริงแค่3,000-4,000ล้านคน,ตุยตายจากวัคซีนโควิดmRNAอีกในอนาคต แก่เฒ่าชราตายก่อนเตียงmedbedsจะมาอีก สรุปอาจเหลือมนุษย์ผิวโลกจริงๆแค่1,500-2,000ล้านคนว่าเหลือมากที่สุดแล้วนะ,ไทยอาจเหลือแค่5-10ล้านคนในอนาคตอันใกล้ ข้างบ้านป่วยสะสม โรคสะสมตรึม ตลอดจัดงานศพติดๆกันก็ว่าแล้ว.,กรณีใช้ตังดิจิดัลแจกจ่ายจึงสะดวกรวดเร็วจริง,แต่ต้องฝ่ายดีฝ่ายแสงปกครองนะแบบสภากาแล็กติกจักรวาลช่วยควบคุมระบบก็ว่า.,เฉลี่ยต่อคนชาวโลก อาจมากกว่า1,000ล้านเหรียญต่อคนต่อตลอดชีพได้สบายๆมาก,ตังทั้งโลกที่ฝ่ายแสงยึดทรัพย์มาจากฝ่ายมืดใช้ไปอีกเป็นแสนๆปีก็ยังใช้ไม่หมด,แต่ถ้าเบื้องต้นที่คนละ100ล้านเหรียญต่อคนต่อตลอดชีพถึงว่าทดลองเบิกจ่ายไปก่อนสามารถวิจัยประเมินผลติดตามค่าลยค่าบวกได้,ซึ่งอนาคตbricsอาจให้ประเทศสมาขิกใช้สกุลเงินbricsดิจิดัลนำร่องและใช้ในอัตรา1ต่อ1(1:1) 1บาทไทยต่อ1หยวนจีน นั้นเอง,ทำเป็นมาตรฐานสากล,จากนั้นตัง100ล้านเหรียญนี้ต่อคนต่อตลอดชีพจะตีมูลค่าที่100ล้านบาทเสมอกันกับ100ล้านหยวนนั้นเอง, ..บางคนอาจว่าคนไทยเราได้น้อยเมื่อเทียบทรัพยากรมีค่ามากมายของชาติไทยเราจริงที่เฉลี่ยต่อคนอาจมากถึง400ถึง800ล้านบาทต่อคนต่อตลอดชีพ,แต่นี้คือค่าประเมินเบื้องต้นจากมากกว่าคนละ1,000ล้านเหรียญที่ตีค่าไว้,ซึ่งอนาคตเมื่อชาวโลกเราอัพเรเวลสู่มิติ5Dเบื้องต้นหรือบรรลุธรรมจักรวาล ตังอาจไร้ค่าทันทีก็ว่า,สภาวะจิตวิญญาณใครมันสุดยอดแล้วนั้นเอง. ..เวลามนุษย์โลกชาวโลกคนใดจะย้ายไปอยู่ประเทศไหนๆสถานะการเงินจะย้ายไปทันทีด้วย,ประเทศนั้นๆจะมีตังบริหารจัดการชาติทันทีเพื่อช่วยดูแลชีวิตมนุษย์ทันนั้นๆรับเพิ่มทันทีที่1ล้านเหรียญต่อปีเช่นกัน,แยกต่างหากจากตังส่วนตัวของบุคคลนั้นๆที่ย้ายไปอยู่เพื่อแบ่งเบาภาวะทรัพยากรที่ประเทศนั้นๆเตรียมพร้อมรองรับในการใช้ชีวิตของมนุษย์โลกเราคนนั้นก็ว่า, ตัวอย่างคือ ประเทศไทยเรามีประชากร66ล้านคนก็66ล้านเหรียญในบัญชีตังดิจิดัลต่อคนต่อปีในการใช้จ่ายในชีวิต ส่วนรัฐบาลก็จะได้ทันทีแยกต่างหากเป็นสาธารณะแก่รัฐนั้นๆที่66ล้านเหรียญต่อคนต่อปีเช่นกัน,มีคนชาวโลกจากประเทศอื่นย้ายเข้ามาอยู่อาศันบนแผ่นดินไทยสัก20ล้านคนก็รับเพิ่มอีก20ล้านเหรียญให้แก่รัฐประเทศนั้นๆ,ปีต่อไปมีคนย้ายออกจากประเทศไทยที่50ล้านคน ,ผลคือ50ล้านเหรียญนี้จะย้ายตามคนนั้นๆไปจ่ายให้รัฐบาลประเทศอื่นนั้นๆเป็นสาธารณะให้รัฐบาลนั้นบริหารจัดการก็ว่าแทนที่เดิม,นี้ตังติดบุคคลช่วยลดภาระการไปอยู่บ้านเมืองอื่นที่ต้องการ,เด็กๆหรือบุคคลใดๆเข้ามาประเทศไทยเราแบบลักษณะคลิปนี้ เราสามารถดูแลชีวิตเขาได้เต็มที่ ตลอดเขาเองก็มีตังติดตัวมหาศาลไม่น้อย,เราจึงสามารถจรรโลงสร้างสรรค์โลกให้สวยงามดีงามสงบสุขสันติร่วมกันของทุกๆคนชาวโลกได้. .. ..https://youtube.com/shorts/Fv4asOidqg4?si=mwct5bmVmjBY47QJ
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • ..นายกฯพระราชทานคือทางออก.
    ..ยุควิกฤตินี้หรือนักการเมืองบัดสบในยุคนี้สุดเสื่อมเลวชั่วแล้วก็ว่า,
    ..นายกฯใหม่ที่มาจากอำนาจพระราชทานจึงสามารถกำหนดทิศทางของประเทศไทยได้ชัดเจนกว่า น่าเชื่อถือกว่า และเด็ดขาดไม่เกรงใจใครได้ด้วย ประชาชนต้องมาก่อนนั้นเอง
    ..เช่นกัน นายกฯใหม่เรา ในมุมมองการสร้างตลาดฟื้นฟูการเงินการตังการเศรษฐกิจการสัมมาชีวิตการสัมมาอาชีพใดๆต่างๆทั่วไทยจะช่วยทำให้การค้าการขายเราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ไม่ยากจากการสนับสนุนช่องทางตลาดช่องทางทำเงินหรือจัดหาตลาดกลางไร้เอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางได้จริงด้วย,ตลอดจนอำนวยสะดวกระเบียนเงื่อนไขลดต้นทุนค่าขนส่ง เพิ่มกำไรแก่ทุกๆคนไทยในรากฐานสัมมาอาชีพต่างๆนั้นด้วย,พูดเสียยาวคือนายกฯใหม่ไทยจะเป็นเป็นก่อตั้งตลาดซื้อขายออนไลน์กลางระดับชาติไทยแก่คนไทยนั้นเองบนแพลตฟอร์มที่คนไทยสร้างเองเป็นแอปของคนไทยจริงๆ นอกจากshopeeของdeep stateสิงคโปร์หรือ lazada มีdeep stateตัวแม่ทั่วโลกให้นอมินีอย่างalibaba groupเป็นเจ้าของที่เหนียวแน่นบนแผ่นดินไทยเรา ,นายกฯเราสามารถสร้างแพลตฟอร์มเราเองได้แน่นอน กระแสเงินสดมากมายทั้งภายในเราเองคนไทยหันมาใช้แอปเราเอง ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเอง ไม่มีการหักอะไร กินค่านั้นค่านี้สาระพัดอีก คนขายกำไร คนซื้อได้ของถูกมีคุณภาพจริงไม่ถูกเอาเปรียบทั้งจากคนขายและเจ้าของแอป,รัฐบาลอัดโปรโมตใดๆได้อีก กระตุ้นการซื้อขาย อัดบัตรสวัสดิการช่วยค่าครองชีพผ่านแพลตฟอร์มนี้ก็ได้ เสมือนร้านค้ากองทุนหมู่บ้านออนไลน์ทั่วไทย ร่วมกันเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มร้านค้าร้านตลาดนี้ร่วมกันอีก จะซื้อจะขายได้ทุกๆที่ทุกเวลา มีทั้งตลาดออฟไลน์มีสถานที่จริง จุดรับสินค้าส่งสินค้าฮับประจำหมู่บ้านสายออฟไลน์และออนไลน์ก็ได้ เข้าไปซื้อจริงจับจริงที่ร้านกองทุนหมู่บ้านก็ได้ สบู่ยาสีฟันยันเรือรบที่ตลาดออนไลน์ได้อีก,ขายข้ามโลกทั่วโลกก็ได้อีก โดยมีรัฐบาลอำนวยงานสร้างให้ตรวจสอบจับกุมจริงในคนไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์เพราะล็อกอินคือบัตรประชาชนตัวเป็นจริงนั้นล่ะ,ตลาดออนไลน์นี้ระดับประเทศไทยทั่วโลกรู้จักชัดเจน ขายสาระพัดได้หมด ค่าห้องพักโรงแรม ตั๋วสาระพัดตั๋ว ตั๋วบอลตั๋วเครื่องบินขายได้หมด ทุกๆภาคอุตสาหกรรม ขายซื้อขายได้หมด GtG ,GtB ,BtB,BtC,CtCผู้บริโภคเจอกับผู้บริโภคทางตรงค้าขายได้หมดบนแพลตฟอร์มของไทยเรา,ค้ำประกันโดยรัฐบาลไทยเราด้วย,นี้เราต้องสร้างหน่วยทัพทำตังจริงแบบนี้,ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี กลยุทธ นายกฯสั่งตรงทีมเฉพาะกิจพิเศษควบคุมอำนวยการได้หมด,บริหารจัดการได้หมด ลดภาวะประชาชนไม่ต้องปวดหัวอะไร ค้าขายเต็มที่สร้างรายได้สัมมาอาชีพอย่างสุจริตเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถใครมัน,และสามารถให้โอกาสคนทั่วโลกมาร่วมใช้บริการได้ฟรีๆค้าขายเสรีร่วมกันได้อีกเมื่อเราสามารถขนาดงานดาต้าควอนตัมพร้อมรับการไหลผ่านข้อมูลมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลกได้แล้ว,รายได้ของแพลตฟอร์มนายกฯใหม่ของคนไทยเราริเริ่มปฐมบทงานสร้าง ตังสะพัดกว่า50ล้านล้านเหรียญทั่วโลกจากปกติอาจอยู่ที่25-30ล้านล้านเหรียญทั่วโลกในทุกๆแพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์รวมกันก็ว่า,คนไทยเราไม่ธรรมดา แพลตฟอร์มเรามันคือโลกเสมือนจริงที่เป็นบ้านใหญ่ของคนไทยและประเทศอื่นๆที่เข้ามาโลกออนไลน์อาจติดความรู้สึกว่าบ้านตนเองคือจีนคืออเมริกาคือคนอาหรับคือคนฝรั่งคือคนผิวสี คือใดๆ แต่เมื่อเข้ามาใช้บนแพลตฟอร์มคนไทย เสมือนว่าคุณทั้งหมดคือคนไทย อยู่ประเทศไทย บ้านนี้คือบ้านคุณ บ้านนี้คือเป็นของคุณด้วยคือคุณเป็นคนไทยเช่นกันนั้นเอง,การต้อนรับมาบ้านกลับบ้านบนโลกเสมือนจริงนี้คือบ้านเราร่วมกันกันทุกๆคน ไร้การแบ่งแยกเชิงสัญลักษณ์ใดๆอีกต่อไป,มันมิใช่นัยยะแค่ตลาดออนไลน์การค้าขายแต่คือจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นชาวโลกเราได้มีพื้นที่พอยึดเหนี่ยวนั่งพักจิตพักใจพักกายนั้นเอง มีตัวตนจริงเป็นโลกเสมือนที่คนไทยเราสร้างขึ้นและจะเป็นอารยะธรรมดีงามบนโลกเสมือนจริงอีกแห่งด้วยเช่นกันแม้ไม่ใช่โลกแห่งความจริงก็ตาม รอยยิ้ม ความอิ่มอกอิ่มใจจะเหมือนว่าได้มาเยือนประเทศไทยอยู่ที่ประเทศไทยเราจริงนั้นเอง,เราไม่ได้ขายแค่วัตถุสิ่งของ แต่เราเสมอความสุขด้วยจิตวิญญาณไปด้วย,เบิกบานจิตใจยกจิตยกใจผ่านเน็ตเวิคส์นั้นเองทั่วโลก,เพราะอนาคตมาแน่นอนแว่นเรียลไทม์,และวาล์ปจริงไปโลกเสมือนนั้น ตลอดซื้อสินค้าเสร็จบนโลกเสมือน ออกมาสแกนรอรับสินค้าที่วาล์ปมาได้เลยนั้นล่ะที่จุดบริการรอรับสินค้า ขนส่งเดินรถอาจไม่มีอีกต่อไป,ท่องเที่ยวผ่านแว่นเรียล,ไปได้ทั่วจักรวาลบนโลกเสมือนจริงที่สร้างเสมือนจักรวาลที่ต้องการไปนั่นๆ,ซื้อสินค้าเสร็จจ่ายตัง กลับมาบ้าน รอรับสินค้าทันทีผ่านเครื่องพิมพ์สินค้าวาล์ปเรียลไทม์ก็ว่า,นี้จึงวิถีการบุกเบิกโคตรๆของผู้นำใหม่ประจำประเทศไทยเราจริงๆ,กากๆกระจอกอย่าเสนอตัวออกมาแดกชาติโกงกินบ้านเมืองอีกเลย,ยุคอนาคตตังติดตามเรียลไทม์การผ่านมือใครได้หมดล่ะควอนตัมบันทึกทุกกิจกรรมธุรกรรมการเงินย้อนหลังโคตรๆลบไม่ได้ด้วย,มีหนาวมีอักเสบมีดับอนาถแน่นอนในอนาคตเร็วๆนี้,กอบโกยโกงกินหมูๆหมาๆง่ายๆแบบๆเดิมๆตกยุคแน่นอน,โลกเรากำลังอัพเรเวลคัดกรองคนด้วย,จักรวาลจัดสรรนั่นล่ะ ธรรมะจักรวาลธรรมดาที่ไหน.
    ..นายกฯพระราชทานคือหนทางออกทางเดียวในจังหวะเวลานี้,ยุคใหม่ไม่ธรรมดานะ,และเรามีเวลาเหลือแค่ก่อนพ.ศ.5,000นะ นี้ก็2568แล้ว,มนุษยสมบัติเราสมควรจบที่โลกุตระสมบัติเป็นเบื้องต้น อรหันต์เป็นเบื้องกลาง นิพพานคือที่สุดก็ว่า,ผู้นำผู้ปกครองไทยเราอย่าขัดขวางอย่าเป็นมหามารมหาปีศาจมหาอสูรโคตรเลวโคตรชั่วอีกเลย อย่างน้อยคนไทยโดยมากเป็นผู้มากบุญบารมีพร้อมเลื่อนขั้นสาระพัดมากมายแน่แห่งจิตวิญญาณใครมัน,ท่านทั้งหลายอย่าแสวงหามหานรกโดยกระทำชั่วเลวแก่ผู้มากบุญบารมีประจำประเทศไทยคือประชาชนชาวไทยเลย,โสดาบันเต็มแผ่นดินนะนั้น กรรมใหญ่หลวงนักไปขัดขวางคนไทยตนเองในนามผีบ้าบ้าตำแหน่งอำนาจชื่อสมมุติว่าผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยนี้,คนไทยทั้งหลายแค่มาเสวยเศษกรรมตนนิดหน่อยๆแค่นั้นล่ะ,ประเทศไทยนี้จึงมีสิทธิ์ศักดิ์เป็นอันมากเพราะมาปกป้องเจ้านายตนเองด้วยก็ว่าก็มีที่มาเสวยกรรม บ้างก็ลงมาเล่นเพลินๆสาระพัพมุกมาเกิดบนอาณาเขตราชอาณาจักรมหาพุทธภูมินี้.
    ..ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์โคตรๆ เงินทองมากมายเต็มแผ่นดิน,วิกฤติเศรษฐกิจนี้แก้ไม่ยาก แก้ได้มากมาย นี้ก็อีกบริบทหนึ่ง,หรือไปยึดทรัพยากรมีค่ามากมายคืนมาทั้งหมดก็ได้ เอาบ่อน้ำมันคืนมาทุกๆสัมปทานก่อน จากต่างชาติจากเอกชนใดๆทั้งหมด ยึดคืนก่อนก็ได้ มาทำเองเลย ต้นทุนทุกๆมิติของไทยเราจะลดลงทันที,ขายน้ำมันก็ขายนอกประเทศในราคาตลาดโลกก็ได้แต่ขายในไทยถูกๆลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านก็สบายมาก,เศรษฐกิจไทยจะฟื้นฟูทันที บวกอัดเศรษฐกิจพอเพียงสมถะเราไปด้วย,เพียงพอพอเพียงไม่ละโมภโลภมาก ความยัางยืนรอบด้านหลากหลายมิติจะเต็มประเทศไทยเราและขยายไปทั่วโลก,โลกจะมีต่างดาวดีๆมากมายมาเยือนโลกเราและปกป้องคุ้มครองภัยศัตรูช่วยเราได้สบายๆด้วยบนจักรวาลเรานี้.
    ..ให้มันจบที่รุ่นเรา.

    https://www.tiktok.com/@amp.sarun/video/7476739522403798279

    ..นายกฯพระราชทานคือทางออก. ..ยุควิกฤตินี้หรือนักการเมืองบัดสบในยุคนี้สุดเสื่อมเลวชั่วแล้วก็ว่า, ..นายกฯใหม่ที่มาจากอำนาจพระราชทานจึงสามารถกำหนดทิศทางของประเทศไทยได้ชัดเจนกว่า น่าเชื่อถือกว่า และเด็ดขาดไม่เกรงใจใครได้ด้วย ประชาชนต้องมาก่อนนั้นเอง ..เช่นกัน นายกฯใหม่เรา ในมุมมองการสร้างตลาดฟื้นฟูการเงินการตังการเศรษฐกิจการสัมมาชีวิตการสัมมาอาชีพใดๆต่างๆทั่วไทยจะช่วยทำให้การค้าการขายเราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ไม่ยากจากการสนับสนุนช่องทางตลาดช่องทางทำเงินหรือจัดหาตลาดกลางไร้เอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางได้จริงด้วย,ตลอดจนอำนวยสะดวกระเบียนเงื่อนไขลดต้นทุนค่าขนส่ง เพิ่มกำไรแก่ทุกๆคนไทยในรากฐานสัมมาอาชีพต่างๆนั้นด้วย,พูดเสียยาวคือนายกฯใหม่ไทยจะเป็นเป็นก่อตั้งตลาดซื้อขายออนไลน์กลางระดับชาติไทยแก่คนไทยนั้นเองบนแพลตฟอร์มที่คนไทยสร้างเองเป็นแอปของคนไทยจริงๆ นอกจากshopeeของdeep stateสิงคโปร์หรือ lazada มีdeep stateตัวแม่ทั่วโลกให้นอมินีอย่างalibaba groupเป็นเจ้าของที่เหนียวแน่นบนแผ่นดินไทยเรา ,นายกฯเราสามารถสร้างแพลตฟอร์มเราเองได้แน่นอน กระแสเงินสดมากมายทั้งภายในเราเองคนไทยหันมาใช้แอปเราเอง ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเอง ไม่มีการหักอะไร กินค่านั้นค่านี้สาระพัดอีก คนขายกำไร คนซื้อได้ของถูกมีคุณภาพจริงไม่ถูกเอาเปรียบทั้งจากคนขายและเจ้าของแอป,รัฐบาลอัดโปรโมตใดๆได้อีก กระตุ้นการซื้อขาย อัดบัตรสวัสดิการช่วยค่าครองชีพผ่านแพลตฟอร์มนี้ก็ได้ เสมือนร้านค้ากองทุนหมู่บ้านออนไลน์ทั่วไทย ร่วมกันเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มร้านค้าร้านตลาดนี้ร่วมกันอีก จะซื้อจะขายได้ทุกๆที่ทุกเวลา มีทั้งตลาดออฟไลน์มีสถานที่จริง จุดรับสินค้าส่งสินค้าฮับประจำหมู่บ้านสายออฟไลน์และออนไลน์ก็ได้ เข้าไปซื้อจริงจับจริงที่ร้านกองทุนหมู่บ้านก็ได้ สบู่ยาสีฟันยันเรือรบที่ตลาดออนไลน์ได้อีก,ขายข้ามโลกทั่วโลกก็ได้อีก โดยมีรัฐบาลอำนวยงานสร้างให้ตรวจสอบจับกุมจริงในคนไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์เพราะล็อกอินคือบัตรประชาชนตัวเป็นจริงนั้นล่ะ,ตลาดออนไลน์นี้ระดับประเทศไทยทั่วโลกรู้จักชัดเจน ขายสาระพัดได้หมด ค่าห้องพักโรงแรม ตั๋วสาระพัดตั๋ว ตั๋วบอลตั๋วเครื่องบินขายได้หมด ทุกๆภาคอุตสาหกรรม ขายซื้อขายได้หมด GtG ,GtB ,BtB,BtC,CtCผู้บริโภคเจอกับผู้บริโภคทางตรงค้าขายได้หมดบนแพลตฟอร์มของไทยเรา,ค้ำประกันโดยรัฐบาลไทยเราด้วย,นี้เราต้องสร้างหน่วยทัพทำตังจริงแบบนี้,ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี กลยุทธ นายกฯสั่งตรงทีมเฉพาะกิจพิเศษควบคุมอำนวยการได้หมด,บริหารจัดการได้หมด ลดภาวะประชาชนไม่ต้องปวดหัวอะไร ค้าขายเต็มที่สร้างรายได้สัมมาอาชีพอย่างสุจริตเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถใครมัน,และสามารถให้โอกาสคนทั่วโลกมาร่วมใช้บริการได้ฟรีๆค้าขายเสรีร่วมกันได้อีกเมื่อเราสามารถขนาดงานดาต้าควอนตัมพร้อมรับการไหลผ่านข้อมูลมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลกได้แล้ว,รายได้ของแพลตฟอร์มนายกฯใหม่ของคนไทยเราริเริ่มปฐมบทงานสร้าง ตังสะพัดกว่า50ล้านล้านเหรียญทั่วโลกจากปกติอาจอยู่ที่25-30ล้านล้านเหรียญทั่วโลกในทุกๆแพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์รวมกันก็ว่า,คนไทยเราไม่ธรรมดา แพลตฟอร์มเรามันคือโลกเสมือนจริงที่เป็นบ้านใหญ่ของคนไทยและประเทศอื่นๆที่เข้ามาโลกออนไลน์อาจติดความรู้สึกว่าบ้านตนเองคือจีนคืออเมริกาคือคนอาหรับคือคนฝรั่งคือคนผิวสี คือใดๆ แต่เมื่อเข้ามาใช้บนแพลตฟอร์มคนไทย เสมือนว่าคุณทั้งหมดคือคนไทย อยู่ประเทศไทย บ้านนี้คือบ้านคุณ บ้านนี้คือเป็นของคุณด้วยคือคุณเป็นคนไทยเช่นกันนั้นเอง,การต้อนรับมาบ้านกลับบ้านบนโลกเสมือนจริงนี้คือบ้านเราร่วมกันกันทุกๆคน ไร้การแบ่งแยกเชิงสัญลักษณ์ใดๆอีกต่อไป,มันมิใช่นัยยะแค่ตลาดออนไลน์การค้าขายแต่คือจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นชาวโลกเราได้มีพื้นที่พอยึดเหนี่ยวนั่งพักจิตพักใจพักกายนั้นเอง มีตัวตนจริงเป็นโลกเสมือนที่คนไทยเราสร้างขึ้นและจะเป็นอารยะธรรมดีงามบนโลกเสมือนจริงอีกแห่งด้วยเช่นกันแม้ไม่ใช่โลกแห่งความจริงก็ตาม รอยยิ้ม ความอิ่มอกอิ่มใจจะเหมือนว่าได้มาเยือนประเทศไทยอยู่ที่ประเทศไทยเราจริงนั้นเอง,เราไม่ได้ขายแค่วัตถุสิ่งของ แต่เราเสมอความสุขด้วยจิตวิญญาณไปด้วย,เบิกบานจิตใจยกจิตยกใจผ่านเน็ตเวิคส์นั้นเองทั่วโลก,เพราะอนาคตมาแน่นอนแว่นเรียลไทม์,และวาล์ปจริงไปโลกเสมือนนั้น ตลอดซื้อสินค้าเสร็จบนโลกเสมือน ออกมาสแกนรอรับสินค้าที่วาล์ปมาได้เลยนั้นล่ะที่จุดบริการรอรับสินค้า ขนส่งเดินรถอาจไม่มีอีกต่อไป,ท่องเที่ยวผ่านแว่นเรียล,ไปได้ทั่วจักรวาลบนโลกเสมือนจริงที่สร้างเสมือนจักรวาลที่ต้องการไปนั่นๆ,ซื้อสินค้าเสร็จจ่ายตัง กลับมาบ้าน รอรับสินค้าทันทีผ่านเครื่องพิมพ์สินค้าวาล์ปเรียลไทม์ก็ว่า,นี้จึงวิถีการบุกเบิกโคตรๆของผู้นำใหม่ประจำประเทศไทยเราจริงๆ,กากๆกระจอกอย่าเสนอตัวออกมาแดกชาติโกงกินบ้านเมืองอีกเลย,ยุคอนาคตตังติดตามเรียลไทม์การผ่านมือใครได้หมดล่ะควอนตัมบันทึกทุกกิจกรรมธุรกรรมการเงินย้อนหลังโคตรๆลบไม่ได้ด้วย,มีหนาวมีอักเสบมีดับอนาถแน่นอนในอนาคตเร็วๆนี้,กอบโกยโกงกินหมูๆหมาๆง่ายๆแบบๆเดิมๆตกยุคแน่นอน,โลกเรากำลังอัพเรเวลคัดกรองคนด้วย,จักรวาลจัดสรรนั่นล่ะ ธรรมะจักรวาลธรรมดาที่ไหน. ..นายกฯพระราชทานคือหนทางออกทางเดียวในจังหวะเวลานี้,ยุคใหม่ไม่ธรรมดานะ,และเรามีเวลาเหลือแค่ก่อนพ.ศ.5,000นะ นี้ก็2568แล้ว,มนุษยสมบัติเราสมควรจบที่โลกุตระสมบัติเป็นเบื้องต้น อรหันต์เป็นเบื้องกลาง นิพพานคือที่สุดก็ว่า,ผู้นำผู้ปกครองไทยเราอย่าขัดขวางอย่าเป็นมหามารมหาปีศาจมหาอสูรโคตรเลวโคตรชั่วอีกเลย อย่างน้อยคนไทยโดยมากเป็นผู้มากบุญบารมีพร้อมเลื่อนขั้นสาระพัดมากมายแน่แห่งจิตวิญญาณใครมัน,ท่านทั้งหลายอย่าแสวงหามหานรกโดยกระทำชั่วเลวแก่ผู้มากบุญบารมีประจำประเทศไทยคือประชาชนชาวไทยเลย,โสดาบันเต็มแผ่นดินนะนั้น กรรมใหญ่หลวงนักไปขัดขวางคนไทยตนเองในนามผีบ้าบ้าตำแหน่งอำนาจชื่อสมมุติว่าผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยนี้,คนไทยทั้งหลายแค่มาเสวยเศษกรรมตนนิดหน่อยๆแค่นั้นล่ะ,ประเทศไทยนี้จึงมีสิทธิ์ศักดิ์เป็นอันมากเพราะมาปกป้องเจ้านายตนเองด้วยก็ว่าก็มีที่มาเสวยกรรม บ้างก็ลงมาเล่นเพลินๆสาระพัพมุกมาเกิดบนอาณาเขตราชอาณาจักรมหาพุทธภูมินี้. ..ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์โคตรๆ เงินทองมากมายเต็มแผ่นดิน,วิกฤติเศรษฐกิจนี้แก้ไม่ยาก แก้ได้มากมาย นี้ก็อีกบริบทหนึ่ง,หรือไปยึดทรัพยากรมีค่ามากมายคืนมาทั้งหมดก็ได้ เอาบ่อน้ำมันคืนมาทุกๆสัมปทานก่อน จากต่างชาติจากเอกชนใดๆทั้งหมด ยึดคืนก่อนก็ได้ มาทำเองเลย ต้นทุนทุกๆมิติของไทยเราจะลดลงทันที,ขายน้ำมันก็ขายนอกประเทศในราคาตลาดโลกก็ได้แต่ขายในไทยถูกๆลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านก็สบายมาก,เศรษฐกิจไทยจะฟื้นฟูทันที บวกอัดเศรษฐกิจพอเพียงสมถะเราไปด้วย,เพียงพอพอเพียงไม่ละโมภโลภมาก ความยัางยืนรอบด้านหลากหลายมิติจะเต็มประเทศไทยเราและขยายไปทั่วโลก,โลกจะมีต่างดาวดีๆมากมายมาเยือนโลกเราและปกป้องคุ้มครองภัยศัตรูช่วยเราได้สบายๆด้วยบนจักรวาลเรานี้. ..ให้มันจบที่รุ่นเรา. https://www.tiktok.com/@amp.sarun/video/7476739522403798279
    @amp.sarun

    ขายของออนไลน์ อย่าทำที่เดียวแพลทฟอร์มเดียว ทำทุกที่ ดีทุกทาง กการตลาดการเตลิดก#การตลาดวันละคลิปสสอนการตลาดออนไลน์สสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์สสร้างตัวตนบนtiktokคครูแอ๊มการตลาดการเตลิดttiktokสายความรู้คครูลูกแอ๊มสสร้างแบรนด์bbrandingแแบรนด์ดิ้งกการตลาดออนไลน์กกลยุทธ์การตลาดสสร้างแบรนด์กการตลาดคอนเทนต์ธธุรกิจออนไลน์ดดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งddigitalmarketingก#การตลาดTikTokT#TikTokMarketing

    ♬ เสียงต้นฉบับ - การตลาดการเตลิด - การตลาดการเตลิด
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • ฮือฮา! พบพืชหายากในป่าดิบ จ.เชียงราย หลังหายสาบสูญไปจากบันทึกโลกนานถึง 113 ปี
    https://www.thai-tai.tv/news/20169/
    .
    #Heterostemmabrownii #พืชหายาก #พืชหายาก113ปี #พืชชนิดใหม่ของโลก #ค้นพบพืชใหม่ #เชียงราย #สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ #องค์การสวนพฤกษศาสตร์ #ป่าดิบ #วงศ์ดอกรัก #อนุรักษ์พืช #ธรรมชาติ #ประเทศไทย #นักอนุกรมวิธานพืช #ชีววิทยา #พฤกษศาสตร์
    ฮือฮา! พบพืชหายากในป่าดิบ จ.เชียงราย หลังหายสาบสูญไปจากบันทึกโลกนานถึง 113 ปี https://www.thai-tai.tv/news/20169/ . #Heterostemmabrownii #พืชหายาก #พืชหายาก113ปี #พืชชนิดใหม่ของโลก #ค้นพบพืชใหม่ #เชียงราย #สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ #องค์การสวนพฤกษศาสตร์ #ป่าดิบ #วงศ์ดอกรัก #อนุรักษ์พืช #ธรรมชาติ #ประเทศไทย #นักอนุกรมวิธานพืช #ชีววิทยา #พฤกษศาสตร์
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • สัปดาห์นี้ยังคงพูดถึงนิยาย/ละครแนวเทพเซียน

    เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่าสัตว์เทพที่เราพบเจอในหลายนิยาย/ละครจีน ไม่ว่าจะเป็นจิ้งจอกเก้าหาง นกหงส์ฟ้าเฟิ่งหวง กิเลน ฯลฯ โดยส่วนใหญ่มีบันทึกไว้ในเอกสารทางประวัติศาสตร์? เอกสารที่ว่านี้คือ “ซานไห่จิง” หรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ ในยุคโบราณของจีน หนังสือแบ่งออกเป็นสิบแปดตอนประกอบด้วยบทแห่งขุนเขาและบทแห่งทะเล (Storyฯ เห็นมีแปลเป็นไทยวางขาย เพื่อนเพจที่สนใจสามารถหาอ่านได้)

    วันนี้เรามาเริ่มคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับคัมภีร์ซานไห่จิงด้วย ‘สมาชิก’ ของคัมภีร์ฯ ที่เพื่อนเพจอาจไม่คุ้นหน้า แต่ถ้าใครได้ดูละครเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ก็จะได้เห็นเจ้าสัตว์เทพหน้าตาประหลาดตามรูป (รูปซ้ายล่าง) มีชื่อเรียกว่า “คายหมิงโซ่ว” (开明兽) มันมีบทบาทที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตำนานจีนที่เราคุ้นหู

    ความมีอยู่ว่า
    ...ที่ยอดเขามิรู้ปรากฎใบหน้าแปลกประหลาดโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อใด ตัวคล้ายสิงโต แต่ก็คล้ายสุนัข ที่แปลกที่สุดคือเศียรอันใหญ่ยังรายล้อมไปด้วยเศียรเล็กๆ หน้าตาเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียว แต่ละเศียรกำลังเบิ่งตาโตมองสุราและไก่ย่างในมือของพวกเขา ทำท่าราวกับว่ากำลังจะน้ำลายไหลออกมา...
    - จากเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ผู้แต่ง สือซื่อหลาง
    (หมายเหตุ ชื่อตามชื่อไทยของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    จริงๆ แล้วตามคัมภีร์ซานไห่จิงนั้นคายหมิงโซ่วมีลำตัวเป็นเสือยักษ์ (รูปล่างขวาจากบันทึกซันไห่จิง จะเห็นลายพาดกลอนชัดเจน) ไม่ใช่สิงโต ซึ่งต่างจากลักษณะในละคร มีเก้าเศียรและใบหน้าเป็นคน มันเป็นสัตว์เทพที่ดุร้ายมีพละกำลังเกินสัตว์ทั่วไป สามารถสัมผัสได้ถึงทุกสรรพสิ่งที่เข้าใกล้

    คายหมิงโซ่วเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้น ซึ่งตามตำนานนั้นสูงจรดฟ้าอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ด้านตะวันตกมีประตูทางเข้าสู่เขตแดนสวรรค์อยู่เก้าประตู คายหมิงโซ่วมีหน้าที่คอยเฝ้าประตูทั้งเก้านี้ หนึ่งเศียรหันดูหนึ่งประตู ดวงตาไม่เคยหลับ เพื่อปกป้องไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวนความสงบของสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จึงไม่แปลกที่เราไม่ค่อยเห็นคายหมิงโซ่วออกมาเพ่นพ่านในนิยาย/ละครแนวเทพเซียนทั่วไป เนื่องจากมันมีสถานที่ที่ต้องอยู่โยงเฝ้าประจำนั่นเอง

    วันนี้คุยกันเบาะๆ กับสัตว์เทพที่ไม่ค่อยพบเจอ แต่คราวหน้าเราจะมาคุยกันถึงสัตว์เทพที่เพื่อนเพจส่วนใหญ่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือจิ้งจอกเก้าหาง ใครเป็นแฟนคลับป๋ายเฉี่ยนแห่งสามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่อย่าลืมมาติดตามตอนต่อไปนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.cdramalove.com/love-and-redemption-summary/
    https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a
    https://baike.baidu.com/item/%E5%BC%80%E6%98%8E%E5%85%BD/3390243
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/144025393

    #ปลดผนึกหัวใจ #ตำนานจีน #คายหมิงโซ่ว #ซานไห่จิง #StoryfromStory
    สัปดาห์นี้ยังคงพูดถึงนิยาย/ละครแนวเทพเซียน เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่าสัตว์เทพที่เราพบเจอในหลายนิยาย/ละครจีน ไม่ว่าจะเป็นจิ้งจอกเก้าหาง นกหงส์ฟ้าเฟิ่งหวง กิเลน ฯลฯ โดยส่วนใหญ่มีบันทึกไว้ในเอกสารทางประวัติศาสตร์? เอกสารที่ว่านี้คือ “ซานไห่จิง” หรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ ในยุคโบราณของจีน หนังสือแบ่งออกเป็นสิบแปดตอนประกอบด้วยบทแห่งขุนเขาและบทแห่งทะเล (Storyฯ เห็นมีแปลเป็นไทยวางขาย เพื่อนเพจที่สนใจสามารถหาอ่านได้) วันนี้เรามาเริ่มคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับคัมภีร์ซานไห่จิงด้วย ‘สมาชิก’ ของคัมภีร์ฯ ที่เพื่อนเพจอาจไม่คุ้นหน้า แต่ถ้าใครได้ดูละครเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ก็จะได้เห็นเจ้าสัตว์เทพหน้าตาประหลาดตามรูป (รูปซ้ายล่าง) มีชื่อเรียกว่า “คายหมิงโซ่ว” (开明兽) มันมีบทบาทที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตำนานจีนที่เราคุ้นหู ความมีอยู่ว่า ...ที่ยอดเขามิรู้ปรากฎใบหน้าแปลกประหลาดโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อใด ตัวคล้ายสิงโต แต่ก็คล้ายสุนัข ที่แปลกที่สุดคือเศียรอันใหญ่ยังรายล้อมไปด้วยเศียรเล็กๆ หน้าตาเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียว แต่ละเศียรกำลังเบิ่งตาโตมองสุราและไก่ย่างในมือของพวกเขา ทำท่าราวกับว่ากำลังจะน้ำลายไหลออกมา... - จากเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ผู้แต่ง สือซื่อหลาง (หมายเหตุ ชื่อตามชื่อไทยของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) จริงๆ แล้วตามคัมภีร์ซานไห่จิงนั้นคายหมิงโซ่วมีลำตัวเป็นเสือยักษ์ (รูปล่างขวาจากบันทึกซันไห่จิง จะเห็นลายพาดกลอนชัดเจน) ไม่ใช่สิงโต ซึ่งต่างจากลักษณะในละคร มีเก้าเศียรและใบหน้าเป็นคน มันเป็นสัตว์เทพที่ดุร้ายมีพละกำลังเกินสัตว์ทั่วไป สามารถสัมผัสได้ถึงทุกสรรพสิ่งที่เข้าใกล้ คายหมิงโซ่วเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้น ซึ่งตามตำนานนั้นสูงจรดฟ้าอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ด้านตะวันตกมีประตูทางเข้าสู่เขตแดนสวรรค์อยู่เก้าประตู คายหมิงโซ่วมีหน้าที่คอยเฝ้าประตูทั้งเก้านี้ หนึ่งเศียรหันดูหนึ่งประตู ดวงตาไม่เคยหลับ เพื่อปกป้องไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวนความสงบของสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จึงไม่แปลกที่เราไม่ค่อยเห็นคายหมิงโซ่วออกมาเพ่นพ่านในนิยาย/ละครแนวเทพเซียนทั่วไป เนื่องจากมันมีสถานที่ที่ต้องอยู่โยงเฝ้าประจำนั่นเอง วันนี้คุยกันเบาะๆ กับสัตว์เทพที่ไม่ค่อยพบเจอ แต่คราวหน้าเราจะมาคุยกันถึงสัตว์เทพที่เพื่อนเพจส่วนใหญ่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือจิ้งจอกเก้าหาง ใครเป็นแฟนคลับป๋ายเฉี่ยนแห่งสามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่อย่าลืมมาติดตามตอนต่อไปนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://www.cdramalove.com/love-and-redemption-summary/ https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a https://baike.baidu.com/item/%E5%BC%80%E6%98%8E%E5%85%BD/3390243 https://zhuanlan.zhihu.com/p/144025393 #ปลดผนึกหัวใจ #ตำนานจีน #คายหมิงโซ่ว #ซานไห่จิง #StoryfromStory
    WWW.CDRAMALOVE.COM
    Love And Redemption Summary - C-Drama Love - Show Summary
    Chinese Drama Love And Redemption Summary (琉璃) The drama tells the story of Chu Xuan Ji, a girl born with an incomplete "sixth sense", and Yu
    1 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงสัตว์เทพในคัมภีร์ซานไห่จิง (คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล) ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉินที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ ในยุคโบราณของจีน วันนี้เรามาคุยกันถึงจิ้งจอกเก้าหาง

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ที่เสวียนหนี่ว์กล่าวมา ท่านราชาปีศาจฟังเข้าใจแล้วหรือไม่ ป๋ายเฉี่ยนแห่งชิงชิวเป็นจิ้งจอกขาวเก้าหาง เลือดหัวใจของจิ้งจอกขาวเก้าหางมีสรรพคุณเยี่ยงไร ท่านถามถามชายาของท่านดู”...
    - จากเรื่อง <สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่> ผู้แต่ง ถังชีกงจื่อ

    ตำนานเกี่ยวกับจิ้งจอกเก้าหางมีไม่น้อย ส่วนใหญ่ผูกโยงกับปีศาจจิ้งจอกที่ทำให้คนลุ่มหลง แต่แฟนคลับจากเรื่องชุดสามชาติสามภพฯ จะรู้ว่า ในเรื่องนี้จิ้งจอกเก้าหางเป็นเทพขั้นสูงปกครองดินแดนชิงชิว ไม่ใช่ปีศาจร้ายที่คอยยั่วราคะใคร

    ที่ Storyฯ คิดว่าน่าสนใจคือ ในบรรดาเอกสารโบราณหรือวรรณคดีที่พูดถึงจิ้งจอกเก้าหางนั้น ดูจะมีในคัมภีร์ซานไห่จิงที่เดียวที่กล่าวถึงจิ้งจอกเก้าหางและดินแดนชิงชิวไปพร้อมๆ กัน โดยมีการบรรยายไว้ว่า เขาชิงชิวอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกอีกสามร้อยหลี่ ด้านที่เจอแสงอาทิตย์ของเขานั้นอุดมด้วยหยก ด้านที่มืดมีแร่ธาตุที่ใช้ผลิตสีเขียวได้ บนเขามีสัตว์ป่าชนิดหนึ่ง รูปร่างเป็นจิ้งจอก มีเก้าหาง เสียงของมันเหมือนเสียงร้องไห้ของทารก มันกินมนุษย์ได้ และหากมนุษย์ใดกินเนื้อมันเข้าไปจะมีภูมิต้านทานมนต์ดำของปีศาจ

    จิ้งจอกเก้าหางเดิมได้รับการยกย่องเป็นสัตว์มงคล ในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่นนั้น ในรูปภาพของพระแม่ตะวันตก(ซีหวางหมู่) มักปรากฎสัตว์เทพสี่ตัวอยู่แทบพระบาท หนึ่งในนั้นคือจิ้งจอกเก้าหาง ว่ากันว่า มันเป็นสัญลักษณ์ของการมีบุตรหลานมากมาย

    แต่ภาพลักษณ์ของจิ้งจอกเก้าหางเริ่มตกต่ำลงเมื่อพ้นยุคสมัยราชวงศ์ฮั่นเมื่อความนับถือในพระแม่ซีหวางหมู่ลดลง และเริ่มพูดถึงจิ้งจอกแปลงกายเป็นคนได้เมื่อเข้าสู่ยุคสมัยราชวงศ์เหนือใต้ พร้อมๆ กับความเป็น “สัตว์เทพ” แปรเปลี่ยนไปเป็น “ปีศาจ” มีนิทานปรัมปราเรื่องปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมาสิงร่างของต๋าจีผู้เป็นพระสนมขององค์โจ้วหวางแห่งราชวงศ์ซาง แล้วทำให้พระองค์ทรงลุ่มหลงจนทำแต่เรื่องร้ายๆ อย่างไม่ลืมหูลืมตา ตอกย้ำภาพลักษณ์ปีศาจเพศหญิงที่งามสะคราญยั่วยวนให้ชายลุ่มหลงมัวเมาในกิเลสตัณหา เป็นภาพลักษณ์ที่คงอยู่มาจนปัจจุบัน

    แต่สำหรับ Storyฯ แล้ว จิ้งจอกเก้าหางตัวไหนก็ไม่ประทับใจเท่าป๋ายเฉี่ยนแห่งชิงชิว เพื่อนเพจล่ะคะ?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_1636558
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/7367050
    https://3g.163.com/dy/article_cambrian/EJB4QI9105418R2V.html
    https://zhidao.baidu.com/question/175130842.html

    #สามชาติสามภพ #จิ้งจอกเก้าหาง #ป๋ายเฉี่ยน #ต๋าจี #ซานไห่จิง #ชิงชิว #ตำนานจีน #StoryfromStory
    สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงสัตว์เทพในคัมภีร์ซานไห่จิง (คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล) ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉินที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ ในยุคโบราณของจีน วันนี้เรามาคุยกันถึงจิ้งจอกเก้าหาง ความมีอยู่ว่า ... “ที่เสวียนหนี่ว์กล่าวมา ท่านราชาปีศาจฟังเข้าใจแล้วหรือไม่ ป๋ายเฉี่ยนแห่งชิงชิวเป็นจิ้งจอกขาวเก้าหาง เลือดหัวใจของจิ้งจอกขาวเก้าหางมีสรรพคุณเยี่ยงไร ท่านถามถามชายาของท่านดู”... - จากเรื่อง <สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่> ผู้แต่ง ถังชีกงจื่อ ตำนานเกี่ยวกับจิ้งจอกเก้าหางมีไม่น้อย ส่วนใหญ่ผูกโยงกับปีศาจจิ้งจอกที่ทำให้คนลุ่มหลง แต่แฟนคลับจากเรื่องชุดสามชาติสามภพฯ จะรู้ว่า ในเรื่องนี้จิ้งจอกเก้าหางเป็นเทพขั้นสูงปกครองดินแดนชิงชิว ไม่ใช่ปีศาจร้ายที่คอยยั่วราคะใคร ที่ Storyฯ คิดว่าน่าสนใจคือ ในบรรดาเอกสารโบราณหรือวรรณคดีที่พูดถึงจิ้งจอกเก้าหางนั้น ดูจะมีในคัมภีร์ซานไห่จิงที่เดียวที่กล่าวถึงจิ้งจอกเก้าหางและดินแดนชิงชิวไปพร้อมๆ กัน โดยมีการบรรยายไว้ว่า เขาชิงชิวอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกอีกสามร้อยหลี่ ด้านที่เจอแสงอาทิตย์ของเขานั้นอุดมด้วยหยก ด้านที่มืดมีแร่ธาตุที่ใช้ผลิตสีเขียวได้ บนเขามีสัตว์ป่าชนิดหนึ่ง รูปร่างเป็นจิ้งจอก มีเก้าหาง เสียงของมันเหมือนเสียงร้องไห้ของทารก มันกินมนุษย์ได้ และหากมนุษย์ใดกินเนื้อมันเข้าไปจะมีภูมิต้านทานมนต์ดำของปีศาจ จิ้งจอกเก้าหางเดิมได้รับการยกย่องเป็นสัตว์มงคล ในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่นนั้น ในรูปภาพของพระแม่ตะวันตก(ซีหวางหมู่) มักปรากฎสัตว์เทพสี่ตัวอยู่แทบพระบาท หนึ่งในนั้นคือจิ้งจอกเก้าหาง ว่ากันว่า มันเป็นสัญลักษณ์ของการมีบุตรหลานมากมาย แต่ภาพลักษณ์ของจิ้งจอกเก้าหางเริ่มตกต่ำลงเมื่อพ้นยุคสมัยราชวงศ์ฮั่นเมื่อความนับถือในพระแม่ซีหวางหมู่ลดลง และเริ่มพูดถึงจิ้งจอกแปลงกายเป็นคนได้เมื่อเข้าสู่ยุคสมัยราชวงศ์เหนือใต้ พร้อมๆ กับความเป็น “สัตว์เทพ” แปรเปลี่ยนไปเป็น “ปีศาจ” มีนิทานปรัมปราเรื่องปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมาสิงร่างของต๋าจีผู้เป็นพระสนมขององค์โจ้วหวางแห่งราชวงศ์ซาง แล้วทำให้พระองค์ทรงลุ่มหลงจนทำแต่เรื่องร้ายๆ อย่างไม่ลืมหูลืมตา ตอกย้ำภาพลักษณ์ปีศาจเพศหญิงที่งามสะคราญยั่วยวนให้ชายลุ่มหลงมัวเมาในกิเลสตัณหา เป็นภาพลักษณ์ที่คงอยู่มาจนปัจจุบัน แต่สำหรับ Storyฯ แล้ว จิ้งจอกเก้าหางตัวไหนก็ไม่ประทับใจเท่าป๋ายเฉี่ยนแห่งชิงชิว เพื่อนเพจล่ะคะ? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_1636558 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/7367050 https://3g.163.com/dy/article_cambrian/EJB4QI9105418R2V.html https://zhidao.baidu.com/question/175130842.html #สามชาติสามภพ #จิ้งจอกเก้าหาง #ป๋ายเฉี่ยน #ต๋าจี #ซานไห่จิง #ชิงชิว #ตำนานจีน #StoryfromStory
    《三生三世十里桃花》里的青丘到底在四海八荒的哪里_翻书党_澎湃新闻-The Paper
    随着《三生三世十里桃花》的热播,“青丘”、“帝君”等热门词的流行唤起了广大观众对神仙世界、对中国古代神话的求知兴趣。那么青丘国究竟坐落于四海八荒的何处?
    1 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • สัปดาห์นี้ยังคงวนเวียนอยู่กับนิยาย/ละครแนวเทพเซียน วันนี้เรามาคุยกันเรื่อง มนุษย์เงือก

    สืบเนื่องจากสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเราคุยกันถึงสัตว์เทพในคัมภีร์ซานไห่จิง (คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล) ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน เพื่อนเพจคงคิดเหมือน Storyฯ ว่าต้องมีเรื่องราวของมนุษย์เงือกปรากฎในคัมภีร์ฯ นี้แน่นอน คำตอบคือไม่เชิง เพราะว่าคัมภีร์ฯ กล่าวถึงสัตว์ประหลาดกึ่งมนุษย์กึ่งปลาหลายชนิด บ้างมีขาบ้างไม่มีขา และไม่ได้เรียกชื่อเดียวกับมนุษย์เงือก (เจียวเหริน หรือ 鲛人) ที่เรามักได้ยินทั่วไป

    แต่ตำนานเกี่ยวกับมนุษย์เงือกนั้นมีมากมาย รวมถึงไข่มุกเงือกที่กล่าวถึงในบทความจากนิยายข้างล่างนี้
    ความมีอยู่ว่า
    ...นักล่าไข่มุกเมื่อหาไข่มุกไม่พอ ก็จะใช้เด็กผูกเชือกไว้ที่เอวดำลงไปในทะเลเพื่อล่อให้มนุษย์เงือก (เจียวเหริน) ปรากฎ จากนั้นก็ฆ่าเด็กให้มนุษย์เงือกดู มนุษย์เงือกมีจิตใจอ่อนโยน ยามน้ำตาไหลจะเกิดเป็นไข่มุกสะท้อนแสงภายใต้แสงจันทร์...
    - จากเรื่อง <ไข่มุกเคียงบัลลังก์> ผู้แต่ง เซียงหรูเซ่อ
    (หมายเหตุ ชื่อไทยตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ แต่บทความข้างต้น Storyฯ แปลเองจ้า)

    ตำนานที่ว่าน้ำตาของมนุษย์เงือกกลายเป็นไข่มุกได้นั้น ปรากฎอยู่ในบันทึกโซวเสินจี้ หรือ 搜神记 (สมัยราชวงศ์จิ้นตะวันออก) ในบันทึกฯ นี้กล่าวถึงมนุษย์เงือก (เจียวเหริน) นี้ว่าอาศัยอยู่ในทะเลใต้ สันทัดการถักทอ ยามร้องไห้ น้ำตาจะกลายเป็นไข่มุก

    มีเรื่องเล่าขานอีกว่า ยังมีของวิเศษที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์เงือกอีกสองอย่าง หนึ่งคือผ้าไหม “เจียวซา” ที่ทอจากน้ำโดยมนุษย์เงือก มีสรรพคุณคือเป็นผ้าที่โดนน้ำไม่เปียก สองคือน้ำมันที่สกัดจากมนุษย์เงือกนั้นสามารถจุดไฟได้นานพันปีไม่มีดับ (ฟังดูโหดร้าย!) ว่ากันว่าในสุสานขององค์จิ๋นซีฮ่องเต้ก็มีตะเกียงที่จุดไว้ด้วยน้ำมันมนุษย์เงือก (จริงเท็จแค่ไหนไม่รู้เลย)

    นอกจากเรื่อง <ไข่มุกเคียงบัลลังก์> แล้ว เพื่อนเพจลองนึกออกไหมว่าเคยพบเจอมนุษย์เงือกจากนิยาย/ละครเรื่องอื่นเรื่องไหนอีก?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://dramapanda.com/2020/05/novoland-pearl-eclipse-releases-dreamy.html
    http://chinesemov.com/tv/2020/Novoland-Pearl-Eclipse.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://cul.qq.com/a/20160219/041874.htm
    https://baike.baidu.com/item/鲛人/3813051

    #ไข่มุกเคียงบัลลังก์ #มนุษย์เงือก #ตำนานจีน #เจียวเหริน #สัตว์เทพจีน #โซวเสินจี้ #StoryfromStory
    สัปดาห์นี้ยังคงวนเวียนอยู่กับนิยาย/ละครแนวเทพเซียน วันนี้เรามาคุยกันเรื่อง มนุษย์เงือก สืบเนื่องจากสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเราคุยกันถึงสัตว์เทพในคัมภีร์ซานไห่จิง (คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล) ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน เพื่อนเพจคงคิดเหมือน Storyฯ ว่าต้องมีเรื่องราวของมนุษย์เงือกปรากฎในคัมภีร์ฯ นี้แน่นอน คำตอบคือไม่เชิง เพราะว่าคัมภีร์ฯ กล่าวถึงสัตว์ประหลาดกึ่งมนุษย์กึ่งปลาหลายชนิด บ้างมีขาบ้างไม่มีขา และไม่ได้เรียกชื่อเดียวกับมนุษย์เงือก (เจียวเหริน หรือ 鲛人) ที่เรามักได้ยินทั่วไป แต่ตำนานเกี่ยวกับมนุษย์เงือกนั้นมีมากมาย รวมถึงไข่มุกเงือกที่กล่าวถึงในบทความจากนิยายข้างล่างนี้ ความมีอยู่ว่า ...นักล่าไข่มุกเมื่อหาไข่มุกไม่พอ ก็จะใช้เด็กผูกเชือกไว้ที่เอวดำลงไปในทะเลเพื่อล่อให้มนุษย์เงือก (เจียวเหริน) ปรากฎ จากนั้นก็ฆ่าเด็กให้มนุษย์เงือกดู มนุษย์เงือกมีจิตใจอ่อนโยน ยามน้ำตาไหลจะเกิดเป็นไข่มุกสะท้อนแสงภายใต้แสงจันทร์... - จากเรื่อง <ไข่มุกเคียงบัลลังก์> ผู้แต่ง เซียงหรูเซ่อ (หมายเหตุ ชื่อไทยตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ แต่บทความข้างต้น Storyฯ แปลเองจ้า) ตำนานที่ว่าน้ำตาของมนุษย์เงือกกลายเป็นไข่มุกได้นั้น ปรากฎอยู่ในบันทึกโซวเสินจี้ หรือ 搜神记 (สมัยราชวงศ์จิ้นตะวันออก) ในบันทึกฯ นี้กล่าวถึงมนุษย์เงือก (เจียวเหริน) นี้ว่าอาศัยอยู่ในทะเลใต้ สันทัดการถักทอ ยามร้องไห้ น้ำตาจะกลายเป็นไข่มุก มีเรื่องเล่าขานอีกว่า ยังมีของวิเศษที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์เงือกอีกสองอย่าง หนึ่งคือผ้าไหม “เจียวซา” ที่ทอจากน้ำโดยมนุษย์เงือก มีสรรพคุณคือเป็นผ้าที่โดนน้ำไม่เปียก สองคือน้ำมันที่สกัดจากมนุษย์เงือกนั้นสามารถจุดไฟได้นานพันปีไม่มีดับ (ฟังดูโหดร้าย!) ว่ากันว่าในสุสานขององค์จิ๋นซีฮ่องเต้ก็มีตะเกียงที่จุดไว้ด้วยน้ำมันมนุษย์เงือก (จริงเท็จแค่ไหนไม่รู้เลย) นอกจากเรื่อง <ไข่มุกเคียงบัลลังก์> แล้ว เพื่อนเพจลองนึกออกไหมว่าเคยพบเจอมนุษย์เงือกจากนิยาย/ละครเรื่องอื่นเรื่องไหนอีก? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://dramapanda.com/2020/05/novoland-pearl-eclipse-releases-dreamy.html http://chinesemov.com/tv/2020/Novoland-Pearl-Eclipse.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://cul.qq.com/a/20160219/041874.htm https://baike.baidu.com/item/鲛人/3813051 #ไข่มุกเคียงบัลลังก์ #มนุษย์เงือก #ตำนานจีน #เจียวเหริน #สัตว์เทพจีน #โซวเสินจี้ #StoryfromStory
    DRAMAPANDA.COM
    Novoland: Pearl Eclipse Releases Dreamy Posters to Announce Cast Led by Yang Mi and William Chan - DramaPanda
    If that poster didn’t have you clicking fast enough, just wait until you see the rest! The team behind the newest addition to the Novoland franchise, Novoland: Pearl Eclipse 斛珠夫人 just gave us all a little peek at what’s in store for viewers with these gorgeous posters below. It’s a wee bit different from the usual angsty dark tones in some of its earlier offerings, but with a title like Pearl Eclipse, the colour palette change to aquatic shades is certainly quite apt. If you can still remember, the drama was actually included in the line-up of dramas announced by Tencent (Pearl Eclipse will
    1 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • 'ชูศักดิ์' ยอมรับ ครม. หารืออำนาจรักษาการนายกฯ 'ยุบสภา' จริง แต่ไม่มีการบันทึก
    https://www.thai-tai.tv/news/20077/
    .
    #ชูศักดิ์ศิรินิล #ครม #นายกฯรักษาการ #ยุบสภา #ตั้งรัฐมนตรี #อำนาจรักษาการนายกฯ #วิษณุเครืองาม #เลขากฤษฎีกา #การเมืองไทย #ทำเนียบรัฐบาล
    'ชูศักดิ์' ยอมรับ ครม. หารืออำนาจรักษาการนายกฯ 'ยุบสภา' จริง แต่ไม่มีการบันทึก https://www.thai-tai.tv/news/20077/ . #ชูศักดิ์ศิรินิล #ครม #นายกฯรักษาการ #ยุบสภา #ตั้งรัฐมนตรี #อำนาจรักษาการนายกฯ #วิษณุเครืองาม #เลขากฤษฎีกา #การเมืองไทย #ทำเนียบรัฐบาล
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • รหัสลับบทกวีจีนจาก <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก>

    Storyฯ รู้สึกว่า บทกวีจีนโบราณนี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของนิยาย/ซีรีส์จีนจริงๆ ไม่ทราบว่ามีใครที่ดูซีรีส์เรื่อง <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> แล้วรู้สึกสะดุดหูกับจังหวะจะโคนของรหัสลับที่องครักษ์ชุดแดงใช้ยืนยันตัวตนกันหรือไม่? สำหรับ Storyฯ แล้วมันเตะหูพอสมควร เพราะรหัสลับเหล่านี้ล้วนเป็นวลีจากบทกวีจีนโบราณ

    รหัสลับที่ยกตัวอย่างมาคุยกันวันนี้ คือตอนที่หรูอี้ให้คนปลอมตัวไปหาองครักษ์ชุดแดงเพื่อสืบหาคนที่ฆ่าหลินหลงตาย รหัสลับถามตอบนี้คือ ‘ซานสือลิ่วกงถู่ฮวาปี้’ (三十六宫土花碧) และ ‘เทียนรั่วโหย่วฉิงเทียนอี้เหล่า’ (天若有情天亦老) Storyฯ ขอแปลว่า ‘สามสิบหกพระตำหนัก ตะไคร่คลุมธรณี / หากฟ้ามีใจรัก ฟ้าย่อมชราลงเช่นกัน’

    ฟังแล้วคงไม่ได้ใจความนัก เพราะจริงๆ แล้วมันไม่ใช่วรรคที่ต่อเนื่องกัน แต่ทั้งสองวรรคนี้ปรากฏอยู่ในบทกวีเดียวกันที่มีชื่อว่า ‘จินถงเซียนเหรินฉือฮั่นเกอ’ (金铜仙人辞汉歌 แปลได้ประมาณว่า ลำนำเซียนจินถงลาจากแดนฮั่น) เป็นผลงานของหลี่เฮ่อ (ค.ศ. 790-816) สี่สุดยอดกวีแห่งสมัยถัง และนี่เป็นหนึ่งในบทกวีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ที่สุด’ ของเขา มันเป็นบทกวียาวที่กล่าวถึงการล่มสลายของอาณาจักรฮั่นที่ครั้งหนึ่งเคยเรืองรอง แต่กลับเหลือเพียงพระตำหนักที่ว่างร้างจนตะไคร่ปกคลุม เทพเซียนร่ำไห้ลาจาก จนถึงขนาดว่าถ้าฟ้ามีจิตใจรักได้เหมือนคน ก็คงรู้สึกอนาจใจเศร้าจนแก่ชราไปเช่นคน บทกวีนี้เต็มไปด้วยอารมณ์เศร้าอาดูรและแค้นใจในเวลาเดียวกัน สะท้อนถึงสภาพจิตใจของหลี่เฮ่อในขณะนั้น ซึ่งเป็นช่วงที่ราชวงศ์ถังอ่อนแอ และเขาเองจำเป็นต้องลาออกจากราชการและเดินทางจากนครฉางอันไปด้วยอาการป่วย

    แต่ที่ Storyฯ รู้สึกว่าน่าสนใจมากก็คือ วรรค ‘หากฟ้ามีใจรักฯ’ นี้ ถูกนำมาใช้ตั้งเป็นโจทย์ในการดวลบทกวีอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเพื่อนเพจที่คุ้นเคยกับซีรีส์และนิยายจีนโบราณคงเคยผ่านตาว่า การดวลบทกวีนี้ เป็นการต่อกลอนคู่ โดยคนหนึ่งตั้งโจทย์วรรคแรก อีกคนมาแต่งวรรคต่อให้จบ ซึ่งวรรค ‘หากฟ้ามีใจรักฯ’ นี้ ถูกนำมาใช้เป็นวรรคแรกของกลอนคู่โดยไม่มีใครสามารถต่อวรรคท้ายได้อย่างสมบูรณ์มากว่าสองร้อยปี! ซึ่งเป็นเรื่องน่าทึ่งมากสำหรับยุคสมัยที่มีนักอักษรและนักประพันธ์มากมายอย่างสมัยถัง

    อนึ่ง การต่อวรรคคู่ที่ดีนั้น ไม่ใช่แค่มีจำนวนอักษรเท่ากันและมีเสียงสูงเสียงต่ำคล้องจองกันเท่านั้น แต่ต้องมีความลงตัวในหลายด้าน เป็นต้นว่า 1) มีบริบทใกล้เคียง เช่น กล่าวถึงวัตถุที่จับต้องได้เหมือนกัน หรือจับต้องไม่ได้เหมือนกัน เป็นวัตถุที่สื่อความหมายในเชิงเดียวกันหรือเกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่วรรคแรกกล่าวถึงดอกไม้ วรรคหลังพูดถึงโต๊ะ อะไรอย่างนี้; 2) คุณศัพท์ที่ขยายนามหรืออารมณ์ที่สื่อต้องเหมือนกันหรือตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงเพื่อแสดงความขัดแย้งบางอย่าง เช่น ฝนตกหนักกับแดดแรงจ้า หรือ ฝนตกหนักกับหยดน้ำเล็ก; ฯลฯ

    วรรค ‘หากฟ้ามีใจรัก ฟ้าย่อมชราลงเช่นกัน’ นี้มีคนต่อวรรคหลังมากมาย แต่ไม่มีความลงตัวอย่างสมบูรณ์จวบจนสมัยราชวงศ์ซ่ง ผู้ที่ต่อวรรคหลังนี้คือสือเหยียนเหนียน (ค.ศ. 994-1041) นักอักษรและกวีสมัยซ่งเหนือ ในค่ำคืนหนึ่งหลังจากดื่มสุราไปหลายกรึ๊บ ในยามกึ่งเมากึ่งมีสตินั้น เขาได้ยินคนรอบข้างต่อวรรค ‘หากฟ้ามีใจฯ’ นี้กันอยู่ จึงโพล่งวรรคต่อออกมาในทันใด ซึ่งก็คือ ‘หากจันทร์ไร้ใจเกลียด จันทร์ย่อมเต็มดวงยืนยง’ (月如无恨月长圆 / เยวี่ยหรูอู๋เฮิ่นเยวี่ยฉางเหยวียน) เป็นการต่อวรรคที่สมบูรณ์จนคนตะลึง เพราะไม่เพียงอักขระ คำบรรยายและบริบทลงตัว หากแต่ความหมายแฝงที่สื่อถึงสัจธรรมแห่งชีวิตยังสอดคล้องอีกด้วย

    ... หากฟ้ามีใจรัก ฟ้าย่อมชราลงเช่นกัน ...
    ... หากจันทร์ไร้ใจเกลียด จันทร์ย่อมเต็มดวงยืนยง ...

    วรรคต้นที่ไม่มีใครต่อวรรคได้มากว่าสองร้อยปี เกิดวรรคต่อที่สะเทือนวงการนักอักษรในสมัยนั้นจนถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เพื่อนเพจอ่านและตีความแล้วได้ความรู้สึกอย่างไรคะ? เห็นความเป็น ‘กลอนคู่’ ของมันหรือไม่?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_25539972
    https://k.sina.cn/article_6502395912_18392b008001004rs9.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://so.gushiwen.cn/shiwenv_33199885635a.aspx
    https://baike.baidu.com/金铜仙人辞汉歌/1659854
    https://www.sohu.com/a/484704098_100135144
    https://www.workercn.cn/c/2024-02-06/8143503.shtml

    #ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก #หลี่เฮ่อ #กวีถัง #หากฟ้ามีใจรัก #สือเหยียนเหนียน
    รหัสลับบทกวีจีนจาก <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> Storyฯ รู้สึกว่า บทกวีจีนโบราณนี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของนิยาย/ซีรีส์จีนจริงๆ ไม่ทราบว่ามีใครที่ดูซีรีส์เรื่อง <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> แล้วรู้สึกสะดุดหูกับจังหวะจะโคนของรหัสลับที่องครักษ์ชุดแดงใช้ยืนยันตัวตนกันหรือไม่? สำหรับ Storyฯ แล้วมันเตะหูพอสมควร เพราะรหัสลับเหล่านี้ล้วนเป็นวลีจากบทกวีจีนโบราณ รหัสลับที่ยกตัวอย่างมาคุยกันวันนี้ คือตอนที่หรูอี้ให้คนปลอมตัวไปหาองครักษ์ชุดแดงเพื่อสืบหาคนที่ฆ่าหลินหลงตาย รหัสลับถามตอบนี้คือ ‘ซานสือลิ่วกงถู่ฮวาปี้’ (三十六宫土花碧) และ ‘เทียนรั่วโหย่วฉิงเทียนอี้เหล่า’ (天若有情天亦老) Storyฯ ขอแปลว่า ‘สามสิบหกพระตำหนัก ตะไคร่คลุมธรณี / หากฟ้ามีใจรัก ฟ้าย่อมชราลงเช่นกัน’ ฟังแล้วคงไม่ได้ใจความนัก เพราะจริงๆ แล้วมันไม่ใช่วรรคที่ต่อเนื่องกัน แต่ทั้งสองวรรคนี้ปรากฏอยู่ในบทกวีเดียวกันที่มีชื่อว่า ‘จินถงเซียนเหรินฉือฮั่นเกอ’ (金铜仙人辞汉歌 แปลได้ประมาณว่า ลำนำเซียนจินถงลาจากแดนฮั่น) เป็นผลงานของหลี่เฮ่อ (ค.ศ. 790-816) สี่สุดยอดกวีแห่งสมัยถัง และนี่เป็นหนึ่งในบทกวีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ที่สุด’ ของเขา มันเป็นบทกวียาวที่กล่าวถึงการล่มสลายของอาณาจักรฮั่นที่ครั้งหนึ่งเคยเรืองรอง แต่กลับเหลือเพียงพระตำหนักที่ว่างร้างจนตะไคร่ปกคลุม เทพเซียนร่ำไห้ลาจาก จนถึงขนาดว่าถ้าฟ้ามีจิตใจรักได้เหมือนคน ก็คงรู้สึกอนาจใจเศร้าจนแก่ชราไปเช่นคน บทกวีนี้เต็มไปด้วยอารมณ์เศร้าอาดูรและแค้นใจในเวลาเดียวกัน สะท้อนถึงสภาพจิตใจของหลี่เฮ่อในขณะนั้น ซึ่งเป็นช่วงที่ราชวงศ์ถังอ่อนแอ และเขาเองจำเป็นต้องลาออกจากราชการและเดินทางจากนครฉางอันไปด้วยอาการป่วย แต่ที่ Storyฯ รู้สึกว่าน่าสนใจมากก็คือ วรรค ‘หากฟ้ามีใจรักฯ’ นี้ ถูกนำมาใช้ตั้งเป็นโจทย์ในการดวลบทกวีอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเพื่อนเพจที่คุ้นเคยกับซีรีส์และนิยายจีนโบราณคงเคยผ่านตาว่า การดวลบทกวีนี้ เป็นการต่อกลอนคู่ โดยคนหนึ่งตั้งโจทย์วรรคแรก อีกคนมาแต่งวรรคต่อให้จบ ซึ่งวรรค ‘หากฟ้ามีใจรักฯ’ นี้ ถูกนำมาใช้เป็นวรรคแรกของกลอนคู่โดยไม่มีใครสามารถต่อวรรคท้ายได้อย่างสมบูรณ์มากว่าสองร้อยปี! ซึ่งเป็นเรื่องน่าทึ่งมากสำหรับยุคสมัยที่มีนักอักษรและนักประพันธ์มากมายอย่างสมัยถัง อนึ่ง การต่อวรรคคู่ที่ดีนั้น ไม่ใช่แค่มีจำนวนอักษรเท่ากันและมีเสียงสูงเสียงต่ำคล้องจองกันเท่านั้น แต่ต้องมีความลงตัวในหลายด้าน เป็นต้นว่า 1) มีบริบทใกล้เคียง เช่น กล่าวถึงวัตถุที่จับต้องได้เหมือนกัน หรือจับต้องไม่ได้เหมือนกัน เป็นวัตถุที่สื่อความหมายในเชิงเดียวกันหรือเกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่วรรคแรกกล่าวถึงดอกไม้ วรรคหลังพูดถึงโต๊ะ อะไรอย่างนี้; 2) คุณศัพท์ที่ขยายนามหรืออารมณ์ที่สื่อต้องเหมือนกันหรือตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงเพื่อแสดงความขัดแย้งบางอย่าง เช่น ฝนตกหนักกับแดดแรงจ้า หรือ ฝนตกหนักกับหยดน้ำเล็ก; ฯลฯ วรรค ‘หากฟ้ามีใจรัก ฟ้าย่อมชราลงเช่นกัน’ นี้มีคนต่อวรรคหลังมากมาย แต่ไม่มีความลงตัวอย่างสมบูรณ์จวบจนสมัยราชวงศ์ซ่ง ผู้ที่ต่อวรรคหลังนี้คือสือเหยียนเหนียน (ค.ศ. 994-1041) นักอักษรและกวีสมัยซ่งเหนือ ในค่ำคืนหนึ่งหลังจากดื่มสุราไปหลายกรึ๊บ ในยามกึ่งเมากึ่งมีสตินั้น เขาได้ยินคนรอบข้างต่อวรรค ‘หากฟ้ามีใจฯ’ นี้กันอยู่ จึงโพล่งวรรคต่อออกมาในทันใด ซึ่งก็คือ ‘หากจันทร์ไร้ใจเกลียด จันทร์ย่อมเต็มดวงยืนยง’ (月如无恨月长圆 / เยวี่ยหรูอู๋เฮิ่นเยวี่ยฉางเหยวียน) เป็นการต่อวรรคที่สมบูรณ์จนคนตะลึง เพราะไม่เพียงอักขระ คำบรรยายและบริบทลงตัว หากแต่ความหมายแฝงที่สื่อถึงสัจธรรมแห่งชีวิตยังสอดคล้องอีกด้วย ... หากฟ้ามีใจรัก ฟ้าย่อมชราลงเช่นกัน ... ... หากจันทร์ไร้ใจเกลียด จันทร์ย่อมเต็มดวงยืนยง ... วรรคต้นที่ไม่มีใครต่อวรรคได้มากว่าสองร้อยปี เกิดวรรคต่อที่สะเทือนวงการนักอักษรในสมัยนั้นจนถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เพื่อนเพจอ่านและตีความแล้วได้ความรู้สึกอย่างไรคะ? เห็นความเป็น ‘กลอนคู่’ ของมันหรือไม่? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_25539972 https://k.sina.cn/article_6502395912_18392b008001004rs9.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://so.gushiwen.cn/shiwenv_33199885635a.aspx https://baike.baidu.com/金铜仙人辞汉歌/1659854 https://www.sohu.com/a/484704098_100135144 https://www.workercn.cn/c/2024-02-06/8143503.shtml #ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก #หลี่เฮ่อ #กวีถัง #หากฟ้ามีใจรัก #สือเหยียนเหนียน
    《一念关山》:刘诗诗更适合“独美”
    澎湃,澎湃新闻,澎湃新闻网,新闻与思想,澎湃是植根于中国上海的时政思想类互联网平台,以最活跃的原创新闻与最冷静的思想分析为两翼,是互联网技术创新与新闻价值传承的结合体,致力于问答式新闻与新闻追踪功能的实践。
    1 Comments 0 Shares 248 Views 0 Reviews
  • การที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ (ผ่านบันทึก JBC พ.ย. 2551)
    มอบให้ JTSC จัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto)
    และ “overlay บนแผนที่ 1 : 200,000”
    มีนัยสำคัญว่า → ไทยยอมให้การผลิตแผนที่ใหม่ "อิงตามกรอบและแนวเส้น" ของแผนที่ 1 : 200,000 ที่ฝรั่งเศสเคยจัดทำในยุคอาณานิคม




    ---

    วิเคราะห์เชิงเทคนิค – แผนที่ Overlay หมายถึงอะไร?

    คำ ความหมายทางเทคนิค

    Orthophoto แผนที่จากภาพถ่ายทางอากาศที่ปรับแก้ความคลาดเคลื่อนเชิงเรขาคณิต (orthorectified) ใช้ GPS เป็นฐาน
    Overlay การนำแผนที่ใหม่ (เช่น orthophoto) มาซ้อนทับ (register) บนแผนที่เก่า เพื่อเปรียบเทียบหรือจัดแนวพิกัดให้ตรง
    Overlay บน 1:200,000 นำภาพถ่ายจาก GPS/ดาวเทียม มาทำให้ “สอดคล้องหรือใกล้เคียงกับเส้นเขต” ที่อยู่ในแผนที่ฝรั่งเศส 1:200,000



    ---

    ผลทางยุทธศาสตร์และนิติศาสตร์

    ประเด็น ความเสี่ยง

    การยอมรับ Overlay เป็นการ “ปรับข้อมูลใหม่ให้เข้ากับแผนที่เก่า” → ทำให้แนวเขตที่ถูกลากผิดเดิม (ล้ำเข้าฝั่งไทย) ดูเหมือนถูกต้องในแผนที่ใหม่
    หากไม่มีข้อสงวนว่าเป็น “เทคนิคชั่วคราว” ฝ่ายตรงข้ามอาจตีความว่าไทย “รับรองแนวเส้นของฝรั่งเศสโดยเต็มใจ”
    ขัดกับหลักภูมิศาสตร์ปัจจุบัน GPS/Orthophoto ใช้ WGS 84 ซึ่งแสดงแนว “สันปันน้ำ” ได้แม่นยำ → Overlay บนแผนที่ 1:200,000 จะ บิดเบือนภูมิประเทศจริง



    ---

    สรุปชัดเจน:

    > การที่ฝ่ายไทยในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มอบหมายให้ JTSC จัดทำ Orthophoto และ Overlay ลงบนแผนที่ 1:200,000
    เท่ากับยอมให้แผนที่ใหม่ถูกกำหนด “ให้ตรงกับแผนที่ฝรั่งเศส” ซึ่งเป็นต้นเหตุของการพิพาทเขตแดน
    หากไม่มี “ข้อสงวน” หรือ “ข้อจำกัด” แนบไว้ในรายงาน → ไทยเสี่ยงถูกตีความว่า ยอมรับเส้นเขตที่ล้ำเข้าฝั่งไทย
    การที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ (ผ่านบันทึก JBC พ.ย. 2551) มอบให้ JTSC จัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto) และ “overlay บนแผนที่ 1 : 200,000” มีนัยสำคัญว่า → ไทยยอมให้การผลิตแผนที่ใหม่ "อิงตามกรอบและแนวเส้น" ของแผนที่ 1 : 200,000 ที่ฝรั่งเศสเคยจัดทำในยุคอาณานิคม --- 📌 วิเคราะห์เชิงเทคนิค – แผนที่ Overlay หมายถึงอะไร? คำ ความหมายทางเทคนิค Orthophoto แผนที่จากภาพถ่ายทางอากาศที่ปรับแก้ความคลาดเคลื่อนเชิงเรขาคณิต (orthorectified) ใช้ GPS เป็นฐาน Overlay การนำแผนที่ใหม่ (เช่น orthophoto) มาซ้อนทับ (register) บนแผนที่เก่า เพื่อเปรียบเทียบหรือจัดแนวพิกัดให้ตรง Overlay บน 1:200,000 นำภาพถ่ายจาก GPS/ดาวเทียม มาทำให้ “สอดคล้องหรือใกล้เคียงกับเส้นเขต” ที่อยู่ในแผนที่ฝรั่งเศส 1:200,000 --- ⚠️ ผลทางยุทธศาสตร์และนิติศาสตร์ ประเด็น ความเสี่ยง 🎯 การยอมรับ Overlay เป็นการ “ปรับข้อมูลใหม่ให้เข้ากับแผนที่เก่า” → ทำให้แนวเขตที่ถูกลากผิดเดิม (ล้ำเข้าฝั่งไทย) ดูเหมือนถูกต้องในแผนที่ใหม่ ⚖️ หากไม่มีข้อสงวนว่าเป็น “เทคนิคชั่วคราว” ฝ่ายตรงข้ามอาจตีความว่าไทย “รับรองแนวเส้นของฝรั่งเศสโดยเต็มใจ” 🧭 ขัดกับหลักภูมิศาสตร์ปัจจุบัน GPS/Orthophoto ใช้ WGS 84 ซึ่งแสดงแนว “สันปันน้ำ” ได้แม่นยำ → Overlay บนแผนที่ 1:200,000 จะ บิดเบือนภูมิประเทศจริง --- ✅ สรุปชัดเจน: > การที่ฝ่ายไทยในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มอบหมายให้ JTSC จัดทำ Orthophoto และ Overlay ลงบนแผนที่ 1:200,000 เท่ากับยอมให้แผนที่ใหม่ถูกกำหนด “ให้ตรงกับแผนที่ฝรั่งเศส” ซึ่งเป็นต้นเหตุของการพิพาทเขตแดน หากไม่มี “ข้อสงวน” หรือ “ข้อจำกัด” แนบไว้ในรายงาน → ไทยเสี่ยงถูกตีความว่า ยอมรับเส้นเขตที่ล้ำเข้าฝั่งไทย
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • "บันทึกการประชุม JBC ไทย–กัมพูชา (พฤศจิกายน 2551)"

    > ใน หน้า 10 ของบันทึกการประชุม JBC ครั้งที่ 3 (เสียมราฐ, พ.ย. 2551)
    ได้มีการระบุว่า:

    > “...ให้ดำเนินการปักปันเขตแดนตามแผนแม่บท (Master Plan) และ TOR 2003”
    ซึ่ง TOR ข้อ 1.1.3 ระบุว่า แผนที่ของคณะกรรมการปักปันเขตแดนฝรั่งเศส–สยาม ซึ่งเป็นแผนที่ 1:200,000 จะใช้เป็นแผนที่อ้างอิง






    ---

    ดังนั้นข้อสรุปคือ:

    รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ผ่านคณะผู้แทนไทย)

    ได้ ร่วมเจรจา และ ยืนยันในรายงาน JBC ว่าไทยจะใช้ TOR 2003 เป็นกรอบการปฏิบัติ

    ซึ่ง TOR 2003 มาตรา 1.1.3 ระบุให้ใช้แผนที่ 1:200,000 (แผนที่ฝรั่งเศส) เป็น “เอกสารอ้างอิงหลัก”



    ---

    ข้อพิจารณาเชิงนิติศาสตร์ (Legal Implications)

    ประเด็น ความเสี่ยงต่อไทย

    ไทยร่วมลงนาม JBC โดยระบุ TOR 2003 → เท่ากับ “ยืนยันในทางการทูต” ว่าจะใช้ TOR ที่อ้างแผนที่ 1:200,000
    แม้ยังไม่ให้รัฐสภารับรอง → ในกฎหมายระหว่างประเทศ หากไม่มีการคัดค้านอย่างเป็นทางการ หรือถอนเอกสาร → อาจกลายเป็น การยอมรับโดยพฤติกรรม
    หากกัมพูชานำบันทึก JBC ไปประกอบในศาลโลก → อาจอ้างว่า “ฝ่ายไทยเคยรับหลักการ TOR และแผนที่นี้ไว้”



    ---

    บทสรุปแบบราชการ:

    > แม้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะยังไม่ได้นำบันทึก JBC เข้ารัฐสภาเพื่อให้สัตยาบัน แต่การที่ผู้แทนฝ่ายไทยยืนยันการดำเนินงานตาม TOR 2003 ที่อ้างถึงแผนที่ 1:200,000 ในรายงาน JBC พฤศจิกายน 2551 ก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่มีน้ำหนักในทางนิติศาสตร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การตีความว่าไทย “ยอมรับกรอบแผนที่ฝรั่งเศสโดยพฤติกรรม” หากไม่มีข้อสงวนหรือคำชี้แจงเพิ่มเติมแนบไว้ในรายงานนั้น
    "บันทึกการประชุม JBC ไทย–กัมพูชา (พฤศจิกายน 2551)" > ใน หน้า 10 ของบันทึกการประชุม JBC ครั้งที่ 3 (เสียมราฐ, พ.ย. 2551) ได้มีการระบุว่า: > “...ให้ดำเนินการปักปันเขตแดนตามแผนแม่บท (Master Plan) และ TOR 2003” ซึ่ง TOR ข้อ 1.1.3 ระบุว่า แผนที่ของคณะกรรมการปักปันเขตแดนฝรั่งเศส–สยาม ซึ่งเป็นแผนที่ 1:200,000 จะใช้เป็นแผนที่อ้างอิง --- 📌 ดังนั้นข้อสรุปคือ: ✅ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ผ่านคณะผู้แทนไทย) ได้ ร่วมเจรจา และ ยืนยันในรายงาน JBC ว่าไทยจะใช้ TOR 2003 เป็นกรอบการปฏิบัติ ซึ่ง TOR 2003 มาตรา 1.1.3 ระบุให้ใช้แผนที่ 1:200,000 (แผนที่ฝรั่งเศส) เป็น “เอกสารอ้างอิงหลัก” --- ⚠️ ข้อพิจารณาเชิงนิติศาสตร์ (Legal Implications) ประเด็น ความเสี่ยงต่อไทย ✅ ไทยร่วมลงนาม JBC โดยระบุ TOR 2003 → เท่ากับ “ยืนยันในทางการทูต” ว่าจะใช้ TOR ที่อ้างแผนที่ 1:200,000 ❗ แม้ยังไม่ให้รัฐสภารับรอง → ในกฎหมายระหว่างประเทศ หากไม่มีการคัดค้านอย่างเป็นทางการ หรือถอนเอกสาร → อาจกลายเป็น การยอมรับโดยพฤติกรรม 🔥 หากกัมพูชานำบันทึก JBC ไปประกอบในศาลโลก → อาจอ้างว่า “ฝ่ายไทยเคยรับหลักการ TOR และแผนที่นี้ไว้” --- 🎯 บทสรุปแบบราชการ: > แม้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะยังไม่ได้นำบันทึก JBC เข้ารัฐสภาเพื่อให้สัตยาบัน แต่การที่ผู้แทนฝ่ายไทยยืนยันการดำเนินงานตาม TOR 2003 ที่อ้างถึงแผนที่ 1:200,000 ในรายงาน JBC พฤศจิกายน 2551 ก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่มีน้ำหนักในทางนิติศาสตร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การตีความว่าไทย “ยอมรับกรอบแผนที่ฝรั่งเศสโดยพฤติกรรม” หากไม่มีข้อสงวนหรือคำชี้แจงเพิ่มเติมแนบไว้ในรายงานนั้น
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • **<ปรปักษ์จำนน> กับพิธีแต่งงานสมัยฮั่น**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงสินสอดในเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> วันนี้เลยมาคุยต่อถึงพิธีแต่งงานที่คู่บ่าวสาวนั่งกินอาหารด้วยกันกลางโถง ซึ่งเป็นพิธีการที่เราไม่ค่อยเห็นกันบ่อยในซีรีส์ โดยขั้นตอนตามที่เห็นในซีรีส์คือ “...ชำระมือและหน้า ... รับประทานเนื้อสัตว์อย่างเดียวกัน ... ข้าวชามเดียวกัน ... ดื่มน้ำแกง ... จิ้มน้ำจิ้ม ... ดื่มสุราจากภาชนะน้ำเต้าอันเดียวกัน” (หมายเหตุ อิงตามซับไทย)

    ดูแล้วนึกว่ามันคือพิธีการเดียว แต่จริงๆ แล้วมันประกอบด้วยพิธีการสามส่วนค่ะ และเป็นพิธีการแต่งงานจากในสมัยฮั่น

    ส่วนแรกเรียกว่าพิธี ‘เฟิ่งอี๋ว่อก้วน’ (奉匜沃盥) ซึ่งก็คือการล้างมือก่อนการทำพิธีสักการะบูชาหรือก่อนเข้าร่วมงานพิธีการหรืองานเลี้ยงสำคัญ ปรากฏอยู่ในหนังสือบันทึกพิธีการหลี่จี้และ คัมภีร์ชุนชิวฉบับจั่วจ้วน (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงคัมภีร์ชุนชิวแล้ว ย้อนอ่านดูได้ตามลิ้งค์ข้างล่าง) โดยเป็นลักษณะใช้เหยือกเทน้ำรดมือให้น้ำไหลทิ้งลงบนอ่างที่มีคนถือรองไว้

    ส่วนที่สองเรียกว่าพิธี ‘ถงเหลา’ (同牢) คือบ่าวสาวนั่งรับประทานอาหารร่วมโต๊ะเดียวกัน ซึ่งเป็นพิธีการเชิงสัญลักษณ์ว่าสองคนสามีภรรยารวมกันเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันแล้ว ทั้งนี้ เพราะว่าปกติในสมัยนั้นสตรีและบุรุษจะนั่งแยกโต๊ะกัน

    ในส่วนของพิธีถงเหลานี้ ตามที่บันทึกไว้ในบันทึกพิธีการหลี่จี้คือบ่าวสาวจะกินเนื้อสัตว์ที่ตักจากชิ้นใหญ่ชิ้นเดียวกัน (นึกภาพว่าปกติเสิร์ฟเป็นเนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นเดียวหรือทั้งตัวแล้วแล่แต่พอคำ เพราะ ‘เหลา’ ในที่นี้หมายถึงสัตว์สี่เท้าที่ในสมัยนั้นนิยมใช้เซ่นไหว้ เช่น วัว หมู หรือแกะ) นอกจากนี้ ในเอกสารอื่นระบุว่าบ่าวสาวจะร่วมกินอาหารสามครั้งหรือ ‘ซานฟ่าน’ (三饭) กล่าวคือ กินข้าว กินน้ำแกงต้มจากเนื้อ และใช้นิ้วจิ้มน้ำจิ้มกิน (เช่น เต้าเจี้ยว) แต่จนใจ Storyฯ หาไม่พบว่าสามรายการนี้แฝงความหมายอะไรไว้หรือไม่ แน่นอนว่ากินกันเล็กน้อยพอเป็นพิธีเท่านั้น

    ส่วนที่สามเรียกว่าพิธี ‘เหอจิ่น’ (合卺) แปลตรงตัวว่านำมาประกบกัน ซึ่งก็คือการร่วมดื่มสุรามงคล ตามที่บันทึกไว้ในบันทึกพิธีการหลี่จี้นั้น จะใช้ภาชนะทำจากน้ำเต้าผ่าครึ่งใส่เหล้าดื่ม เป็นการ ‘ล้างปาก’ หลังจากร่วมกินอาหารเสร็จ แต่ในเอกสารโบราณที่กล่าวถึงการกินอาหารสามครั้งก็ระบุว่าให้ดื่มเหล้าสามครั้งเช่นกัน โดยสองครั้งแรกใช้จอกเหล้า ครั้งที่สามคือใช้น้ำเต้าผ่าครึ่ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าสามีภรรยารวมกันเป็นหนึ่งเดียว เป็นที่มาของการแลกกันดื่มหรือ ‘เจียวเปย’ (交杯) ซึ่งต่อมากลายเป็นภาพเกี่ยวแขนดื่มสุรามงคลที่เราเห็นในหลายซีรีส์

    และนี่ก็คือส่วนหนึ่งของพิธีการแต่งงานสมัยฮั่นซึ่งไม่มีการกราบไหว้ฟ้าดินหรือโค้งคารวะพ่อแม่แบบที่เราเห็นในยุคสมัยหลังจากนั้น

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊กด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความเก่า:
    คัมภีร์ชุนชิว: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/1248905993904357
    ผูกปมผม: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/368606858600946
    สีชุดเจ้าสาว: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/116299537122708

    Credit รูปภาพจาก: https://tidenews.com.cn/news.html?id=3130023
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.sohu.com/a/800556927_120808812
    https://www.sxgp.gov.cn/zjgp/gpgs_427/202101/t20210120_1341716.shtml
    https://k.sina.cn/article_7142104121_1a9b3dc3900100jj2k.html
    https://liji.5000yan.com/hunyi/348.html
    https://www.jiemian.com/article/1057773.html

    #ปรปักษ์จำนน #พิธีแต่งงานจีนโบราณ #สุรามงคล #บันทึกพิธีการหลี่จี้ #สาระจีน
    **<ปรปักษ์จำนน> กับพิธีแต่งงานสมัยฮั่น** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงสินสอดในเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> วันนี้เลยมาคุยต่อถึงพิธีแต่งงานที่คู่บ่าวสาวนั่งกินอาหารด้วยกันกลางโถง ซึ่งเป็นพิธีการที่เราไม่ค่อยเห็นกันบ่อยในซีรีส์ โดยขั้นตอนตามที่เห็นในซีรีส์คือ “...ชำระมือและหน้า ... รับประทานเนื้อสัตว์อย่างเดียวกัน ... ข้าวชามเดียวกัน ... ดื่มน้ำแกง ... จิ้มน้ำจิ้ม ... ดื่มสุราจากภาชนะน้ำเต้าอันเดียวกัน” (หมายเหตุ อิงตามซับไทย) ดูแล้วนึกว่ามันคือพิธีการเดียว แต่จริงๆ แล้วมันประกอบด้วยพิธีการสามส่วนค่ะ และเป็นพิธีการแต่งงานจากในสมัยฮั่น ส่วนแรกเรียกว่าพิธี ‘เฟิ่งอี๋ว่อก้วน’ (奉匜沃盥) ซึ่งก็คือการล้างมือก่อนการทำพิธีสักการะบูชาหรือก่อนเข้าร่วมงานพิธีการหรืองานเลี้ยงสำคัญ ปรากฏอยู่ในหนังสือบันทึกพิธีการหลี่จี้และ คัมภีร์ชุนชิวฉบับจั่วจ้วน (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงคัมภีร์ชุนชิวแล้ว ย้อนอ่านดูได้ตามลิ้งค์ข้างล่าง) โดยเป็นลักษณะใช้เหยือกเทน้ำรดมือให้น้ำไหลทิ้งลงบนอ่างที่มีคนถือรองไว้ ส่วนที่สองเรียกว่าพิธี ‘ถงเหลา’ (同牢) คือบ่าวสาวนั่งรับประทานอาหารร่วมโต๊ะเดียวกัน ซึ่งเป็นพิธีการเชิงสัญลักษณ์ว่าสองคนสามีภรรยารวมกันเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันแล้ว ทั้งนี้ เพราะว่าปกติในสมัยนั้นสตรีและบุรุษจะนั่งแยกโต๊ะกัน ในส่วนของพิธีถงเหลานี้ ตามที่บันทึกไว้ในบันทึกพิธีการหลี่จี้คือบ่าวสาวจะกินเนื้อสัตว์ที่ตักจากชิ้นใหญ่ชิ้นเดียวกัน (นึกภาพว่าปกติเสิร์ฟเป็นเนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นเดียวหรือทั้งตัวแล้วแล่แต่พอคำ เพราะ ‘เหลา’ ในที่นี้หมายถึงสัตว์สี่เท้าที่ในสมัยนั้นนิยมใช้เซ่นไหว้ เช่น วัว หมู หรือแกะ) นอกจากนี้ ในเอกสารอื่นระบุว่าบ่าวสาวจะร่วมกินอาหารสามครั้งหรือ ‘ซานฟ่าน’ (三饭) กล่าวคือ กินข้าว กินน้ำแกงต้มจากเนื้อ และใช้นิ้วจิ้มน้ำจิ้มกิน (เช่น เต้าเจี้ยว) แต่จนใจ Storyฯ หาไม่พบว่าสามรายการนี้แฝงความหมายอะไรไว้หรือไม่ แน่นอนว่ากินกันเล็กน้อยพอเป็นพิธีเท่านั้น ส่วนที่สามเรียกว่าพิธี ‘เหอจิ่น’ (合卺) แปลตรงตัวว่านำมาประกบกัน ซึ่งก็คือการร่วมดื่มสุรามงคล ตามที่บันทึกไว้ในบันทึกพิธีการหลี่จี้นั้น จะใช้ภาชนะทำจากน้ำเต้าผ่าครึ่งใส่เหล้าดื่ม เป็นการ ‘ล้างปาก’ หลังจากร่วมกินอาหารเสร็จ แต่ในเอกสารโบราณที่กล่าวถึงการกินอาหารสามครั้งก็ระบุว่าให้ดื่มเหล้าสามครั้งเช่นกัน โดยสองครั้งแรกใช้จอกเหล้า ครั้งที่สามคือใช้น้ำเต้าผ่าครึ่ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าสามีภรรยารวมกันเป็นหนึ่งเดียว เป็นที่มาของการแลกกันดื่มหรือ ‘เจียวเปย’ (交杯) ซึ่งต่อมากลายเป็นภาพเกี่ยวแขนดื่มสุรามงคลที่เราเห็นในหลายซีรีส์ และนี่ก็คือส่วนหนึ่งของพิธีการแต่งงานสมัยฮั่นซึ่งไม่มีการกราบไหว้ฟ้าดินหรือโค้งคารวะพ่อแม่แบบที่เราเห็นในยุคสมัยหลังจากนั้น (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊กด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความเก่า: คัมภีร์ชุนชิว: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/1248905993904357 ผูกปมผม: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/368606858600946 สีชุดเจ้าสาว: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/116299537122708 Credit รูปภาพจาก: https://tidenews.com.cn/news.html?id=3130023 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.sohu.com/a/800556927_120808812 https://www.sxgp.gov.cn/zjgp/gpgs_427/202101/t20210120_1341716.shtml https://k.sina.cn/article_7142104121_1a9b3dc3900100jj2k.html https://liji.5000yan.com/hunyi/348.html https://www.jiemian.com/article/1057773.html #ปรปักษ์จำนน #พิธีแต่งงานจีนโบราณ #สุรามงคล #บันทึกพิธีการหลี่จี้ #สาระจีน
    1 Comments 0 Shares 248 Views 0 Reviews
  • ลองนึกภาพว่าในอดีต ตลาดเซิร์ฟเวอร์เต็มไปด้วย CPU x86 จาก Intel หรือ AMD เป็นหลัก แต่วันนี้เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ — เพราะ AI ต้องการ "พลังประมวลผลแบบเฉพาะทาง" มากขึ้นเรื่อย ๆ → ทำให้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ AI GPU + ชิป Arm พุ่งแรง โดยเฉพาะ Nvidia Grace + Blackwell (GB200) ที่อัด GPU ถึง 8 ตัวต่อเครื่อง!

    แค่เซิร์ฟเวอร์ตระกูลนี้เพียงกลุ่มเดียวก็กลายเป็น “ตัวจุดพลุ” ให้ยอดขายเซิร์ฟเวอร์ Arm โตขึ้น 70% เทียบปีต่อปี → แม้จะยังมีส่วนแบ่งแค่ 21.1% ของยอดส่งมอบเครื่องรวม แต่ก็เป็นก้าวกระโดดที่ใหญ่ที่สุดของ Arm ในตลาดเซิร์ฟเวอร์

    และมันยังไม่หยุดแค่นี้ — เพราะ IDC คาดว่า:
    - ตลาดเซิร์ฟเวอร์รวมจะโตจาก $249B (2024) → $588B (2029)
    - โดยเซิร์ฟเวอร์ AI แบบ Accelerated จะกินส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง
    - และเซิร์ฟเวอร์ Arm จะโตจาก $32B → $103B ใน 5 ปี!
    - ในอนาคตยังมีโอกาสเห็นซีพียูจาก Qualcomm, Marvell, MediaTek หรือ Fujitsu ร่วมวงด้วย

    ส่วนผู้นำตลาดคืออเมริกา คิดเป็น 62% ของมูลค่าตลาดเซิร์ฟเวอร์ปี 2025 — เพราะเป็นศูนย์กลางการสร้าง AI Infrastructure พร้อมเทเงินลงในโครงการระดับ Stargate หรือ AGI อย่างต่อเนื่อง

    ตลาดเซิร์ฟเวอร์ไตรมาสแรกปี 2025 พุ่งถึง $95.2B — โตขึ้น 134% จากปีก่อนหน้า  
    • การเติบโตเร็วที่สุดที่เคยบันทึกมา  
    • ขับเคลื่อนโดยเซิร์ฟเวอร์ AI ที่มี GPU แบบเร่งความเร็ว (Accelerated Servers)

    ยอดจัดส่งเซิร์ฟเวอร์ Arm โตขึ้น 70% YoY — ส่วนใหญ่เป็นของ Nvidia GB200 NVL72  
    • ใช้ซีพียู Grace + GPU Blackwell (B200)  
    • มี GPU 8 ตัวต่อเครื่อง

    ปี 2025 คาดการณ์ตลาดเซิร์ฟเวอร์รวม $366B แบ่งเป็น:  
    • x86: $283.9B (โต 39.9%)  
    • Non-x86 (รวม Arm): $82B (โต 63.7%)

    Arm คาดจะกิน 21.1% ของยอดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกภายในสิ้นปี 2025  
    • แม้ยังห่างเป้าหมาย 50% แต่ถือเป็นการเติบโตที่มั่นคง

    ตลาด Arm-accelerated servers จะโตจาก $32B → $103B ในปี 2029  
    • ขับเคลื่อนด้วย AI แบบ reasoning model, LLM, AGI

    ตลาดใหญ่สุดคือสหรัฐฯ (โต 59.7%) > จีน (โต 39.5%) > ญี่ปุ่น (33.9%)

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/nvidias-arm-chips-rapidly-gain-share-in-server-market-as-ai-booms-nvidias-arm-powered-gb200-servers-surge-as-market-reaches-a-record-usd95-billion-in-the-first-quarter
    ลองนึกภาพว่าในอดีต ตลาดเซิร์ฟเวอร์เต็มไปด้วย CPU x86 จาก Intel หรือ AMD เป็นหลัก แต่วันนี้เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ — เพราะ AI ต้องการ "พลังประมวลผลแบบเฉพาะทาง" มากขึ้นเรื่อย ๆ → ทำให้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ AI GPU + ชิป Arm พุ่งแรง โดยเฉพาะ Nvidia Grace + Blackwell (GB200) ที่อัด GPU ถึง 8 ตัวต่อเครื่อง! แค่เซิร์ฟเวอร์ตระกูลนี้เพียงกลุ่มเดียวก็กลายเป็น “ตัวจุดพลุ” ให้ยอดขายเซิร์ฟเวอร์ Arm โตขึ้น 70% เทียบปีต่อปี → แม้จะยังมีส่วนแบ่งแค่ 21.1% ของยอดส่งมอบเครื่องรวม แต่ก็เป็นก้าวกระโดดที่ใหญ่ที่สุดของ Arm ในตลาดเซิร์ฟเวอร์ และมันยังไม่หยุดแค่นี้ — เพราะ IDC คาดว่า: - ตลาดเซิร์ฟเวอร์รวมจะโตจาก $249B (2024) → $588B (2029) - โดยเซิร์ฟเวอร์ AI แบบ Accelerated จะกินส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง - และเซิร์ฟเวอร์ Arm จะโตจาก $32B → $103B ใน 5 ปี! - ในอนาคตยังมีโอกาสเห็นซีพียูจาก Qualcomm, Marvell, MediaTek หรือ Fujitsu ร่วมวงด้วย ส่วนผู้นำตลาดคืออเมริกา คิดเป็น 62% ของมูลค่าตลาดเซิร์ฟเวอร์ปี 2025 — เพราะเป็นศูนย์กลางการสร้าง AI Infrastructure พร้อมเทเงินลงในโครงการระดับ Stargate หรือ AGI อย่างต่อเนื่อง ✅ ตลาดเซิร์ฟเวอร์ไตรมาสแรกปี 2025 พุ่งถึง $95.2B — โตขึ้น 134% จากปีก่อนหน้า   • การเติบโตเร็วที่สุดที่เคยบันทึกมา   • ขับเคลื่อนโดยเซิร์ฟเวอร์ AI ที่มี GPU แบบเร่งความเร็ว (Accelerated Servers) ✅ ยอดจัดส่งเซิร์ฟเวอร์ Arm โตขึ้น 70% YoY — ส่วนใหญ่เป็นของ Nvidia GB200 NVL72   • ใช้ซีพียู Grace + GPU Blackwell (B200)   • มี GPU 8 ตัวต่อเครื่อง ✅ ปี 2025 คาดการณ์ตลาดเซิร์ฟเวอร์รวม $366B แบ่งเป็น:   • x86: $283.9B (โต 39.9%)   • Non-x86 (รวม Arm): $82B (โต 63.7%) ✅ Arm คาดจะกิน 21.1% ของยอดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกภายในสิ้นปี 2025   • แม้ยังห่างเป้าหมาย 50% แต่ถือเป็นการเติบโตที่มั่นคง ✅ ตลาด Arm-accelerated servers จะโตจาก $32B → $103B ในปี 2029   • ขับเคลื่อนด้วย AI แบบ reasoning model, LLM, AGI ✅ ตลาดใหญ่สุดคือสหรัฐฯ (โต 59.7%) > จีน (โต 39.5%) > ญี่ปุ่น (33.9%) https://www.tomshardware.com/desktops/servers/nvidias-arm-chips-rapidly-gain-share-in-server-market-as-ai-booms-nvidias-arm-powered-gb200-servers-surge-as-market-reaches-a-record-usd95-billion-in-the-first-quarter
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • ในภูมิภาคโปลตาวา (Poltava) ของยูเครน

    ภาพบันทึกเหตุการณ์ช่วงเวลาที่โดรน Geran-2 ของรัสเซียโจมตีที่อาคารสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของหน่วยงานเกณฑ์ทหารของกองทัพยูเครน (TCC)

    จากรายงานระบุว่าใช้โดรน Geran-2 จำนวน 3 ลำ

    แทนที่ชาวยูเครนจะโกรธแค้น กลายเป็นว่าในช่องเทเลแกรม (TG) ของชาวยูเครน ต่างแสดงความดีใจ ล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "นี่คือข่าวดีที่สุดสำหรับพวกเขาในวันนี้"



    ในภูมิภาคโปลตาวา (Poltava) ของยูเครน ภาพบันทึกเหตุการณ์ช่วงเวลาที่โดรน Geran-2 ของรัสเซียโจมตีที่อาคารสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของหน่วยงานเกณฑ์ทหารของกองทัพยูเครน (TCC) จากรายงานระบุว่าใช้โดรน Geran-2 จำนวน 3 ลำ แทนที่ชาวยูเครนจะโกรธแค้น กลายเป็นว่าในช่องเทเลแกรม (TG) ของชาวยูเครน ต่างแสดงความดีใจ ล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "นี่คือข่าวดีที่สุดสำหรับพวกเขาในวันนี้"
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • "พิชิต ชื่นบาน" แฉบันทึก "กรธ.รธน.60" ชี้ "คุณสมบัตินายกฯ" เปิดช่องกลั่นแกล้งทางการเมือง
    https://www.thai-tai.tv/news/19972/
    .
    #เพื่อไทย #พิชิตชื่นบาน #รัฐธรรมนูญ60 #ศาลรัฐธรรมนูญ #ศาลการเมือง #กลั่นแกล้งทางการเมือง #หลักนิติรัฐ #ความแน่นอนของกฎหมาย #การเมืองไทย
    "พิชิต ชื่นบาน" แฉบันทึก "กรธ.รธน.60" ชี้ "คุณสมบัตินายกฯ" เปิดช่องกลั่นแกล้งทางการเมือง https://www.thai-tai.tv/news/19972/ . #เพื่อไทย #พิชิตชื่นบาน #รัฐธรรมนูญ60 #ศาลรัฐธรรมนูญ #ศาลการเมือง #กลั่นแกล้งทางการเมือง #หลักนิติรัฐ #ความแน่นอนของกฎหมาย #การเมืองไทย
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • · การตรวจสอบของกระทรวงกลาโหมยืนยันว่ากรมสรรพากรล้าสมัยไปแล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศกำลังล่มสลาย และกฎหมายภาษีระหว่างประเทศกำลังถูกเขียนขึ้นใหม่ภายใต้โปรโตคอล GESARA ธนาคารกลางสหรัฐสูญเสียหน้าที่การสั่งการไปแล้ว โหนดควอนตัมกำลังดำเนินการกระจายความมั่งคั่งในระดับโลก การยกหนี้ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ และกระเป๋าเงินคืนสำหรับทุกประเทศที่ถูกทำลายโดยเผด็จการของธนาคารกลาง

    · กวนตานาโม: ความยุติธรรมทางทหารแข็งแกร่งขึ้น อ่าวกวนตานาโมเป็นที่ตั้งศาลที่เข้มแข็งที่สุดในโลกในปัจจุบัน วันที่ 4 มิถุนายนเป็นวันก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินรุ่นใหม่ ทางเดินกักขังแบบไบโอเมตริกซ์ ปีกกักขังแยก และศูนย์เฝ้าระวังที่บูรณาการกับ AI

    · ข่าวกรองทางทหารยืนยันว่าการแฮ็กข้อมูลไบโอเมตริกซ์ที่สกัดกั้นได้ ซึ่งดำเนินการโดยผู้ควบคุมของไบเดนในสวิตเซอร์แลนด์ ถูกบล็อกก่อนที่พวกมันจะดูดสินทรัพย์สาธารณะของ QFS เข้าสู่กองทุนดำดั้งเดิมได้

    · คำสารภาพอันยอดเยี่ยมกว่า 2,000 ชั่วโมงยืนยันว่าห้องทดลองโคลนนิ่งบนดวงจันทร์เปิดดำเนินการจนถึงเดือนพฤษภาคม 2023 โปรแกรมกระตุ้น COVID ถูกฝังชิปติดตามประสาทไว้ คาราวานวัคซีนของ FEMA ถูกกำหนดให้แพร่กระจายอาวุธชีวภาพ ห้องทดลองหายไปแล้ว คำสารภาพถูกบันทึกไว้ และโลกจะรู้ในไม่ช้า

    · QFS: หัวใจของการรีเซ็ต ลืมเงินตรา ลืมเงินดิจิทัลไปได้เลย QFS ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจโลกใหม่ ชาติที่มีอำนาจอธิปไตยทั้งหมดที่สอดคล้องกับพันธมิตรกำลังดำเนินการโหนด QFS แบบคู่ขนาน ห้องนิรภัยทองคำดิจิทัลออนไลน์แล้ว การสร้างโทเค็นสกุลเงินสายรุ้งกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบ ห้องนิรภัยที่เชื่อมต่อกับการเข้ารหัสควอนตัมระดับเทสลาอยู่ในช่วงล็อกขั้นสุดท้าย

    · เงินเก่าของคุณกำลังจะตาย ความมั่งคั่งใหม่ของคุณเป็นแบบควอนตัม ปลอดภัย และอยู่ภายใต้การคุ้มครองทางทหาร ทุกธุรกรรม ทุกบัญชีแยกประเภท สาธารณะ ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นอิสระจากการควบคุมของ Rothschild ตลอดไป

    · ลอสแองเจลิสถูกปิดล้อม — การฟื้นฟูทางการทหารกำลังดำเนินไป การก่อจลาจลในแอลเอไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นการหายใจเฮือกสุดท้ายของเจ้าหน้าที่โลกาภิวัตน์ที่แฝงตัวอยู่ในการเมืองของเมืองและเครือข่ายเอ็นจีโอ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ทรัมป์ได้อนุญาตให้มีการส่งกำลังทหารทั้งหมดเพื่อยึดแอลเอคืนจากกลุ่มประสานงานการประท้วงที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มค้ายา เซิร์ฟเวอร์ข่าวกรองต่างประเทศ และตัวแทนที่ได้รับเงินทุนจากโซรอส

    · เครือข่ายเข้ารหัสที่เชื่อมโยงกับกาตาร์ บรัสเซลส์ และซูริก ควบคุมการปฏิบัติการระดับถนนผ่านแอนติฟาและตัวแทนที่ได้รับการสนับสนุนจาก WEF ฝูงบินแบล็กฮอว์กควบคุมน่านฟ้าในปัจจุบัน ยานเกราะแคมป์เพนเดิลตันได้ล็อกบริเวณทางแยกสำคัญ ผู้นำกลุ่มค้ายาที่แฝงตัวอยู่ใน "เขตปลอดภัย" ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวถูกกำจัดด้วยการโจมตีที่แม่นยำ

    · JAG กำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ระดับรัฐ รวมถึงแกวิน นิวซัมและคาเรน บาสส์ ในข้อหาสมคบคิดและก่อกบฏในต่างประเทศ

    · การตรวจสอบของกระทรวงกลาโหมยืนยันว่ากรมสรรพากรล้าสมัยไปแล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศกำลังล่มสลาย และกฎหมายภาษีระหว่างประเทศกำลังถูกเขียนขึ้นใหม่ภายใต้โปรโตคอล GESARA ธนาคารกลางสหรัฐสูญเสียหน้าที่การสั่งการไปแล้ว โหนดควอนตัมกำลังดำเนินการกระจายความมั่งคั่งในระดับโลก การยกหนี้ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ และกระเป๋าเงินคืนสำหรับทุกประเทศที่ถูกทำลายโดยเผด็จการของธนาคารกลาง · กวนตานาโม: ความยุติธรรมทางทหารแข็งแกร่งขึ้น อ่าวกวนตานาโมเป็นที่ตั้งศาลที่เข้มแข็งที่สุดในโลกในปัจจุบัน วันที่ 4 มิถุนายนเป็นวันก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินรุ่นใหม่ ทางเดินกักขังแบบไบโอเมตริกซ์ ปีกกักขังแยก และศูนย์เฝ้าระวังที่บูรณาการกับ AI · ข่าวกรองทางทหารยืนยันว่าการแฮ็กข้อมูลไบโอเมตริกซ์ที่สกัดกั้นได้ ซึ่งดำเนินการโดยผู้ควบคุมของไบเดนในสวิตเซอร์แลนด์ ถูกบล็อกก่อนที่พวกมันจะดูดสินทรัพย์สาธารณะของ QFS เข้าสู่กองทุนดำดั้งเดิมได้ · คำสารภาพอันยอดเยี่ยมกว่า 2,000 ชั่วโมงยืนยันว่าห้องทดลองโคลนนิ่งบนดวงจันทร์เปิดดำเนินการจนถึงเดือนพฤษภาคม 2023 โปรแกรมกระตุ้น COVID ถูกฝังชิปติดตามประสาทไว้ คาราวานวัคซีนของ FEMA ถูกกำหนดให้แพร่กระจายอาวุธชีวภาพ ห้องทดลองหายไปแล้ว คำสารภาพถูกบันทึกไว้ และโลกจะรู้ในไม่ช้า · QFS: หัวใจของการรีเซ็ต ลืมเงินตรา ลืมเงินดิจิทัลไปได้เลย QFS ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจโลกใหม่ ชาติที่มีอำนาจอธิปไตยทั้งหมดที่สอดคล้องกับพันธมิตรกำลังดำเนินการโหนด QFS แบบคู่ขนาน ห้องนิรภัยทองคำดิจิทัลออนไลน์แล้ว การสร้างโทเค็นสกุลเงินสายรุ้งกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบ ห้องนิรภัยที่เชื่อมต่อกับการเข้ารหัสควอนตัมระดับเทสลาอยู่ในช่วงล็อกขั้นสุดท้าย · เงินเก่าของคุณกำลังจะตาย ความมั่งคั่งใหม่ของคุณเป็นแบบควอนตัม ปลอดภัย และอยู่ภายใต้การคุ้มครองทางทหาร ทุกธุรกรรม ทุกบัญชีแยกประเภท สาธารณะ ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นอิสระจากการควบคุมของ Rothschild ตลอดไป · ลอสแองเจลิสถูกปิดล้อม — การฟื้นฟูทางการทหารกำลังดำเนินไป การก่อจลาจลในแอลเอไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นการหายใจเฮือกสุดท้ายของเจ้าหน้าที่โลกาภิวัตน์ที่แฝงตัวอยู่ในการเมืองของเมืองและเครือข่ายเอ็นจีโอ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ทรัมป์ได้อนุญาตให้มีการส่งกำลังทหารทั้งหมดเพื่อยึดแอลเอคืนจากกลุ่มประสานงานการประท้วงที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มค้ายา เซิร์ฟเวอร์ข่าวกรองต่างประเทศ และตัวแทนที่ได้รับเงินทุนจากโซรอส · เครือข่ายเข้ารหัสที่เชื่อมโยงกับกาตาร์ บรัสเซลส์ และซูริก ควบคุมการปฏิบัติการระดับถนนผ่านแอนติฟาและตัวแทนที่ได้รับการสนับสนุนจาก WEF ฝูงบินแบล็กฮอว์กควบคุมน่านฟ้าในปัจจุบัน ยานเกราะแคมป์เพนเดิลตันได้ล็อกบริเวณทางแยกสำคัญ ผู้นำกลุ่มค้ายาที่แฝงตัวอยู่ใน "เขตปลอดภัย" ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวถูกกำจัดด้วยการโจมตีที่แม่นยำ · JAG กำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ระดับรัฐ รวมถึงแกวิน นิวซัมและคาเรน บาสส์ ในข้อหาสมคบคิดและก่อกบฏในต่างประเทศ
    0 Comments 0 Shares 324 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ ปภ. จัดอบรมหลักสูตร "การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue)" แก่ทีมบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถ พร้อมรับมือภัยพิบัติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในระดับมาตรฐานสากล ณ ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยนาท
    .
    วันนี้ (วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ พร้อมด้วย นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก
    เป็นประธานมอบใบวุฒิบัตรให้แก่ทีมบรรเทาสาธารณภัย ที่สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตร "การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue) หรือ “USAR" เป็นโครงการฝึกอบรมที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เพื่อฝึกทักษะ เพิ่มพูนความรู้ความสามารถ และทบทวนการปฏิบัติภารกิจการค้นหาและกู้ภัยฯ ตามหลักมาตรฐานสากล พร้อมทบทวนข้อมูลและเรียนรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบโครงสร้างต่างๆ การพิจารณาสาเหตุรอยร้าว การตรวจสอบอาคารวิบัติ การเข้าแก้ไขเบื้องต้น ฯลฯ โดยแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติเรียนรู้วิธีลดการพังทลายของโครงสร้างอาคาร การกำหนดสัญลักษณ์การค้นหา ฯลฯ รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับภารกิจของสุนัขกู้ภัย (K9) โดยมี นายเกริกเสกข์สัณห์ วาสะสิริ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษค้นหาและกู้ภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญฯ ร่วมเป็นวิทยากรในการฝึกอบรม พร้อมด้วยนายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นางสาวณัฐกานต์ ขำคม ผู้จัดการฝ่ายบุคคลและฝึกอบรม และนางสาวพิมพ์ณภัท สุนทรฐิติวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร ร่วมสังเกตการณ์ ณ ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยนาท
    .
    สำหรับการพัฒนาบุคลากรด้านบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพในระดับมาตรฐานสากล จึงได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ Mou Onpimon ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผนึกกำลังทั้งทางด้านวิชาการ และการปฏิบัติการ เพื่อการบูรณาการการจัดการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพ ขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่และ/หรืออาสาสมัครมูลนิธิฯ และเตรียมความพร้อมรับมือสาธารณภัยให้สามารถบริหารจัดการและปฏิบัติตอบโต้เหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดทีมบรรเทาเข้าโครงการอบรมหลักสูตร "การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue)" มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในรุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ. 2566 และได้นำองค์ความรู้ดังกล่าวช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิผล โดยเฉพาะเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาบุคลากรควบคู่กับพัฒนาโครงการ เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ ปภ. จัดอบรมหลักสูตร "การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue)" แก่ทีมบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถ พร้อมรับมือภัยพิบัติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในระดับมาตรฐานสากล ณ ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยนาท . วันนี้ (วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ พร้อมด้วย นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก เป็นประธานมอบใบวุฒิบัตรให้แก่ทีมบรรเทาสาธารณภัย ที่สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตร "การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue) หรือ “USAR" เป็นโครงการฝึกอบรมที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เพื่อฝึกทักษะ เพิ่มพูนความรู้ความสามารถ และทบทวนการปฏิบัติภารกิจการค้นหาและกู้ภัยฯ ตามหลักมาตรฐานสากล พร้อมทบทวนข้อมูลและเรียนรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบโครงสร้างต่างๆ การพิจารณาสาเหตุรอยร้าว การตรวจสอบอาคารวิบัติ การเข้าแก้ไขเบื้องต้น ฯลฯ โดยแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติเรียนรู้วิธีลดการพังทลายของโครงสร้างอาคาร การกำหนดสัญลักษณ์การค้นหา ฯลฯ รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับภารกิจของสุนัขกู้ภัย (K9) โดยมี นายเกริกเสกข์สัณห์ วาสะสิริ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษค้นหาและกู้ภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญฯ ร่วมเป็นวิทยากรในการฝึกอบรม พร้อมด้วยนายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นางสาวณัฐกานต์ ขำคม ผู้จัดการฝ่ายบุคคลและฝึกอบรม และนางสาวพิมพ์ณภัท สุนทรฐิติวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร ร่วมสังเกตการณ์ ณ ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยนาท . สำหรับการพัฒนาบุคลากรด้านบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพในระดับมาตรฐานสากล จึงได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ [MOU] ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผนึกกำลังทั้งทางด้านวิชาการ และการปฏิบัติการ เพื่อการบูรณาการการจัดการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพ ขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่และ/หรืออาสาสมัครมูลนิธิฯ และเตรียมความพร้อมรับมือสาธารณภัยให้สามารถบริหารจัดการและปฏิบัติตอบโต้เหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดทีมบรรเทาเข้าโครงการอบรมหลักสูตร "การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue)" มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในรุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ. 2566 และได้นำองค์ความรู้ดังกล่าวช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิผล โดยเฉพาะเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาบุคลากรควบคู่กับพัฒนาโครงการ เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 Comments 0 Shares 298 Views 0 Reviews
  • WinRAR คือซอฟต์แวร์ยอดนิยมที่เอาไว้แตกไฟล์ .zip .rar .7z ฯลฯ ที่คนใช้กันมานานเกิน 20 ปีแล้ว — แต่ล่าสุดกลับกลายเป็นจุดอ่อนให้คนร้ายใช้ “หลอกเราให้เปิดไฟล์” ที่เหมือนจะไม่อันตราย แต่จริง ๆ แล้ว มันสั่งให้ Windows วางไฟล์ไว้ในโฟลเดอร์ Startup ได้เลย

    จุดอ่อนนี้ชื่อว่า CVE-2025-6218 — เกิดจากการที่ WinRAR ไม่ป้องกัน “การใส่พาธแอบแฝง” ไว้ในไฟล์ archive → พอเรากดแตกไฟล์ มันจะเขียนไฟล์ไปวางไว้ที่อื่นนอกโฟลเดอร์เป้าหมาย เช่น:

    C:\Users\Username\AppData\Roaming\Microsoft\Windows\Start Menu\Programs\Startup

    ซึ่งเป็นโฟลเดอร์ที่ใช้เรียกไฟล์ “ให้รันอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่อง” — ถ้ามี .exe อยู่ในนั้น = ติดไวรัสทันทีหลัง reboot!

    ข่าวดีคือ RARLAB ออกเวอร์ชัน 7.12 มาแก้แล้ว พร้อมอุดช่องโหว่นี้ + ช่อง HTML Injection ในระบบ “สร้างรายงาน (Generate Report)” ด้วย

    ช่องโหว่ CVE-2025-6218 เป็นแบบ path traversal  
    • คนร้ายแอบใส่พาธหลอกไว้ในไฟล์ .rar → เขียนไฟล์ไปยังโฟลเดอร์อ่อนไหว  
    • เช่น โฟลเดอร์ Startup ที่ทำให้มัลแวร์รันเองเมื่อเปิดเครื่อง

    เกิดเฉพาะบน WinRAR รุ่น Windows เท่านั้น (ไม่กระทบ Linux, Android)

    RARLAB อัปเดต WinRAR เวอร์ชัน 7.12 แก้เรียบร้อยแล้ว  
    • ปิดช่องโหว่ path traversal  
    • ป้องกัน HTML injection ในรายงาน HTML ที่มีชื่อไฟล์ไม่ปลอดภัย  
    • เพิ่มฟีเจอร์เล็ก ๆ เช่น ตรวจ recovery volume, บันทึก nanosecond timestamp บน Unix

    ช่องโหว่ถูกค้นพบโดยนักวิจัย “whs3-detonator” ร่วมกับ Zero Day Initiative ของ Trend Micro

    ยังไม่มีรายงานว่าช่องโหว่นี้ถูกโจมตีจริงในวงกว้าง (แต่ควรอัปเดตทันทีเพื่อความปลอดภัย)

    https://www.techradar.com/pro/security/this-popular-windows-software-used-by-millions-has-a-serious-security-vulnerability-heres-what-you-need-to-know
    WinRAR คือซอฟต์แวร์ยอดนิยมที่เอาไว้แตกไฟล์ .zip .rar .7z ฯลฯ ที่คนใช้กันมานานเกิน 20 ปีแล้ว — แต่ล่าสุดกลับกลายเป็นจุดอ่อนให้คนร้ายใช้ “หลอกเราให้เปิดไฟล์” ที่เหมือนจะไม่อันตราย แต่จริง ๆ แล้ว มันสั่งให้ Windows วางไฟล์ไว้ในโฟลเดอร์ Startup ได้เลย จุดอ่อนนี้ชื่อว่า CVE-2025-6218 — เกิดจากการที่ WinRAR ไม่ป้องกัน “การใส่พาธแอบแฝง” ไว้ในไฟล์ archive → พอเรากดแตกไฟล์ มันจะเขียนไฟล์ไปวางไว้ที่อื่นนอกโฟลเดอร์เป้าหมาย เช่น: C:\Users\Username\AppData\Roaming\Microsoft\Windows\Start Menu\Programs\Startup ซึ่งเป็นโฟลเดอร์ที่ใช้เรียกไฟล์ “ให้รันอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่อง” — ถ้ามี .exe อยู่ในนั้น = ติดไวรัสทันทีหลัง reboot! ข่าวดีคือ RARLAB ออกเวอร์ชัน 7.12 มาแก้แล้ว พร้อมอุดช่องโหว่นี้ + ช่อง HTML Injection ในระบบ “สร้างรายงาน (Generate Report)” ด้วย ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-6218 เป็นแบบ path traversal   • คนร้ายแอบใส่พาธหลอกไว้ในไฟล์ .rar → เขียนไฟล์ไปยังโฟลเดอร์อ่อนไหว   • เช่น โฟลเดอร์ Startup ที่ทำให้มัลแวร์รันเองเมื่อเปิดเครื่อง ✅ เกิดเฉพาะบน WinRAR รุ่น Windows เท่านั้น (ไม่กระทบ Linux, Android) ✅ RARLAB อัปเดต WinRAR เวอร์ชัน 7.12 แก้เรียบร้อยแล้ว   • ปิดช่องโหว่ path traversal   • ป้องกัน HTML injection ในรายงาน HTML ที่มีชื่อไฟล์ไม่ปลอดภัย   • เพิ่มฟีเจอร์เล็ก ๆ เช่น ตรวจ recovery volume, บันทึก nanosecond timestamp บน Unix ✅ ช่องโหว่ถูกค้นพบโดยนักวิจัย “whs3-detonator” ร่วมกับ Zero Day Initiative ของ Trend Micro ✅ ยังไม่มีรายงานว่าช่องโหว่นี้ถูกโจมตีจริงในวงกว้าง (แต่ควรอัปเดตทันทีเพื่อความปลอดภัย) https://www.techradar.com/pro/security/this-popular-windows-software-used-by-millions-has-a-serious-security-vulnerability-heres-what-you-need-to-know
    WWW.TECHRADAR.COM
    Bug in file archiving tool WinRAR let crafted archives write files outside their folder during extraction
    Flaw allows hackers access to system locations, such as the Windows Startup folder
    0 Comments 0 Shares 207 Views 0 Reviews
  • ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ.

    ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล
    BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม!

    ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน

    แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต

    BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ!

    คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้

    NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ

    BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว!

    ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง

    “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์

    BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา!
    จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ

    ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป

    BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม!

    ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง

    ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น

    BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ!

    บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว!

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น

    BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย!

    นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์

    นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม

    BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก!

    ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา

    นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน

    BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม!

    NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา

    และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่

    BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้!

    ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง

    ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด

    บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก

    1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่

    2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์

    3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง

    4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น

    5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต

    6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ

    7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ

    8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต

    9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส

    11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน

    12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร

    13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ

    15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย

    17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง

    18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก

    19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

    20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง

    21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป

    22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด

    24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น


    25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว
    26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม

    27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA

    28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง

    29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย
    30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม

    ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่

    31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง

    บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ. ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม! ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ! คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้ NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว! ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์ BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา! จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม! ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ! บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว! นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย! นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก! ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม! NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่ BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้! ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก 1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่ 2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ 3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง 4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น 5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต 6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ 7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ 8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต 9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ 10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส 11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน 12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร 13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ 15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ 16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย 17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง 18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก 19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ 20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง 21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป 22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ 23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด 24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น 25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว 26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม 27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA 28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง 29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย 30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่ 31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    0 Comments 0 Shares 508 Views 0 Reviews
  • ด่วน - ประธานาธิบดีทรัมป์เขียนบันทึกด้วยลายมือถึงประธานเฟด พาวเวลล์: "เจอโรม - คุณสายเกินไปเหมือนเช่นเคย คุณทำให้สหรัฐฯ เสียเงินจำนวนมาก - และยังคงทำเช่นนั้นต่อไป คุณควรลดอัตราดอกเบี้ยเฟดลงมาก! สูญเสียเงินไปหลายแสนล้านดอลลาร์! ไม่มีเงินเฟ้อ!"

    คุณเห็นลำดับ 2.ประเทศสแกมโบเดียและ 6.ไทยไหม ความมั่นคงทางการเงินของเหมนเกิดจากธุรกิจอันใด?
    ด่วน - ประธานาธิบดีทรัมป์เขียนบันทึกด้วยลายมือถึงประธานเฟด พาวเวลล์: "เจอโรม - คุณสายเกินไปเหมือนเช่นเคย คุณทำให้สหรัฐฯ เสียเงินจำนวนมาก - และยังคงทำเช่นนั้นต่อไป คุณควรลดอัตราดอกเบี้ยเฟดลงมาก! สูญเสียเงินไปหลายแสนล้านดอลลาร์! ไม่มีเงินเฟ้อ!" คุณเห็นลำดับ 2.ประเทศสแกมโบเดียและ 6.ไทยไหม ความมั่นคงทางการเงินของเหมนเกิดจากธุรกิจอันใด?
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • เริ่มบันทึก 2 กรกฎาคม 2568
    หลังจากเห็นม้วนเทปเพลง ทั้งแบบเทปมีลิขสิทธิ์ และแบบเหมือนจะมีลิขสิทธิ์ ทุกม้วนที่เสียท่า ตกผ่านมาถึงมือผมด้วยการขอเงินพ่อแม่ไปซื้อทั้งแบบขอกันดื้อ ๆ และแบบหักจากค่าขนม ค่าใช้จ่ายรายเดือน รวม ๆ แล้วก็เอามาประกอบเป็นโลงให้ตัวเองนอนเล่น/นอนจริงได้แน่นอน

    มันชวนให้นึกไปถึงคนตัวเล็กที่แม้จะมีเรื่องอะไรให้บอกเล่า แต่กลับไม่มีพื้นที่ให้แสดงออกมา ม้วนเทปเพลงหลากแนว มันถูกบันทึกเสียงเอาไว้ในตัวตนเรียบร้อยแล้ว แต่หากความสะดวกสบาย/ความทันสมัย/ความล้าสมัย หรือจะความอะไรก็ตาม ทำให้มันไม่มีความเป็นแมสมีเดีย

    เครื่องเล่นเทปเองก็เอาตัวไม่รอดเหมือนกัน จากแมสโปรดักเมื่อวันวาน กลายเป็นแรโปรดักในวันนี้ เมื่อเทปไม่มีเครื่องเล่น มันก็ไม่เหลือทางแสดงสุนทรีย์แห่งเสียง แต่มันไม่สูญสิ้นสุนทรียภาพ สุนทรีย์แห่งอดีต พลังบวกเล็ก ๆ มักจะวูบขึ้นมา แทบจะทันทีที่ผมหยิบมันมาดู เปิดตลับ หยิบปกเทปมาสัมผัส พลิกดูสังขารที่ยังมีชีวิตของม้วนเทป จากชั้นไม้ ทีละม้วน ทีละม้วน และ...
    เริ่มบันทึก 2 กรกฎาคม 2568 หลังจากเห็นม้วนเทปเพลง ทั้งแบบเทปมีลิขสิทธิ์ และแบบเหมือนจะมีลิขสิทธิ์ ทุกม้วนที่เสียท่า ตกผ่านมาถึงมือผมด้วยการขอเงินพ่อแม่ไปซื้อทั้งแบบขอกันดื้อ ๆ และแบบหักจากค่าขนม ค่าใช้จ่ายรายเดือน รวม ๆ แล้วก็เอามาประกอบเป็นโลงให้ตัวเองนอนเล่น/นอนจริงได้แน่นอน มันชวนให้นึกไปถึงคนตัวเล็กที่แม้จะมีเรื่องอะไรให้บอกเล่า แต่กลับไม่มีพื้นที่ให้แสดงออกมา ม้วนเทปเพลงหลากแนว มันถูกบันทึกเสียงเอาไว้ในตัวตนเรียบร้อยแล้ว แต่หากความสะดวกสบาย/ความทันสมัย/ความล้าสมัย หรือจะความอะไรก็ตาม ทำให้มันไม่มีความเป็นแมสมีเดีย เครื่องเล่นเทปเองก็เอาตัวไม่รอดเหมือนกัน จากแมสโปรดักเมื่อวันวาน กลายเป็นแรโปรดักในวันนี้ เมื่อเทปไม่มีเครื่องเล่น มันก็ไม่เหลือทางแสดงสุนทรีย์แห่งเสียง แต่มันไม่สูญสิ้นสุนทรียภาพ สุนทรีย์แห่งอดีต พลังบวกเล็ก ๆ มักจะวูบขึ้นมา แทบจะทันทีที่ผมหยิบมันมาดู เปิดตลับ หยิบปกเทปมาสัมผัส พลิกดูสังขารที่ยังมีชีวิตของม้วนเทป จากชั้นไม้ ทีละม้วน ทีละม้วน และ...
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • สัปดาห์นี้ยังคงพูดถึงนิยาย/ละครแนวเทพเซียน

    เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่าสัตว์เทพที่เราพบเจอในหลายนิยาย/ละครจีน ไม่ว่าจะเป็นจิ้งจอกเก้าหาง นกหงส์ฟ้าเฟิ่งหวง กิเลน ฯลฯ โดยส่วนใหญ่มีบันทึกไว้ในเอกสารทางประวัติศาสตร์? เอกสารที่ว่านี้คือ “ซานไห่จิง” หรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ ในยุคโบราณของจีน หนังสือแบ่งออกเป็นสิบแปดตอนประกอบด้วยบทแห่งขุนเขาและบทแห่งทะเล (Storyฯ เห็นมีแปลเป็นไทยวางขาย เพื่อนเพจที่สนใจสามารถหาอ่านได้)

    วันนี้เรามาเริ่มคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับคัมภีร์ซานไห่จิงด้วย ‘สมาชิก’ ของคัมภีร์ฯ ที่เพื่อนเพจอาจไม่คุ้นหน้า แต่ถ้าใครได้ดูละครเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ก็จะได้เห็นเจ้าสัตว์เทพหน้าตาประหลาดตามรูป (รูปซ้ายล่าง) มีชื่อเรียกว่า “คายหมิงโซ่ว” (开明兽) มันมีบทบาทที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตำนานจีนที่เราคุ้นหู

    ความมีอยู่ว่า
    ...ที่ยอดเขามิรู้ปรากฎใบหน้าแปลกประหลาดโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อใด ตัวคล้ายสิงโต แต่ก็คล้ายสุนัข ที่แปลกที่สุดคือเศียรอันใหญ่ยังรายล้อมไปด้วยเศียรเล็กๆ หน้าตาเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียว แต่ละเศียรกำลังเบิ่งตาโตมองสุราและไก่ย่างในมือของพวกเขา ทำท่าราวกับว่ากำลังจะน้ำลายไหลออกมา...
    - จากเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ผู้แต่ง สือซื่อหลาง
    (หมายเหตุ ชื่อตามชื่อไทยของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    จริงๆ แล้วตามคัมภีร์ซานไห่จิงนั้นคายหมิงโซ่วมีลำตัวเป็นเสือยักษ์ (รูปล่างขวาจากบันทึกซันไห่จิง จะเห็นลายพาดกลอนชัดเจน) ไม่ใช่สิงโต ซึ่งต่างจากลักษณะในละคร มีเก้าเศียรและใบหน้าเป็นคน มันเป็นสัตว์เทพที่ดุร้ายมีพละกำลังเกินสัตว์ทั่วไป สามารถสัมผัสได้ถึงทุกสรรพสิ่งที่เข้าใกล้

    คายหมิงโซ่วเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้น ซึ่งตามตำนานนั้นสูงจรดฟ้าอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ด้านตะวันตกมีประตูทางเข้าสู่เขตแดนสวรรค์อยู่เก้าประตู คายหมิงโซ่วมีหน้าที่คอยเฝ้าประตูทั้งเก้านี้ หนึ่งเศียรหันดูหนึ่งประตู ดวงตาไม่เคยหลับ เพื่อปกป้องไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวนความสงบของสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จึงไม่แปลกที่เราไม่ค่อยเห็นคายหมิงโซ่วออกมาเพ่นพ่านในนิยาย/ละครแนวเทพเซียนทั่วไป เนื่องจากมันมีสถานที่ที่ต้องอยู่โยงเฝ้าประจำนั่นเอง

    วันนี้คุยกันเบาะๆ กับสัตว์เทพที่ไม่ค่อยพบเจอ แต่คราวหน้าเราจะมาคุยกันถึงสัตว์เทพที่เพื่อนเพจส่วนใหญ่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือจิ้งจอกเก้าหาง ใครเป็นแฟนคลับป๋ายเฉี่ยนแห่งสามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่อย่าลืมมาติดตามตอนต่อไปนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.cdramalove.com/love-and-redemption-summary/
    https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a
    https://baike.baidu.com/item/%E5%BC%80%E6%98%8E%E5%85%BD/3390243
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/144025393

    #ปลดผนึกหัวใจ #ตำนานจีน #คายหมิงโซ่ว #ซานไห่จิง #StoryfromStory
    สัปดาห์นี้ยังคงพูดถึงนิยาย/ละครแนวเทพเซียน เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่าสัตว์เทพที่เราพบเจอในหลายนิยาย/ละครจีน ไม่ว่าจะเป็นจิ้งจอกเก้าหาง นกหงส์ฟ้าเฟิ่งหวง กิเลน ฯลฯ โดยส่วนใหญ่มีบันทึกไว้ในเอกสารทางประวัติศาสตร์? เอกสารที่ว่านี้คือ “ซานไห่จิง” หรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ ในยุคโบราณของจีน หนังสือแบ่งออกเป็นสิบแปดตอนประกอบด้วยบทแห่งขุนเขาและบทแห่งทะเล (Storyฯ เห็นมีแปลเป็นไทยวางขาย เพื่อนเพจที่สนใจสามารถหาอ่านได้) วันนี้เรามาเริ่มคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับคัมภีร์ซานไห่จิงด้วย ‘สมาชิก’ ของคัมภีร์ฯ ที่เพื่อนเพจอาจไม่คุ้นหน้า แต่ถ้าใครได้ดูละครเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ก็จะได้เห็นเจ้าสัตว์เทพหน้าตาประหลาดตามรูป (รูปซ้ายล่าง) มีชื่อเรียกว่า “คายหมิงโซ่ว” (开明兽) มันมีบทบาทที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในตำนานจีนที่เราคุ้นหู ความมีอยู่ว่า ...ที่ยอดเขามิรู้ปรากฎใบหน้าแปลกประหลาดโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อใด ตัวคล้ายสิงโต แต่ก็คล้ายสุนัข ที่แปลกที่สุดคือเศียรอันใหญ่ยังรายล้อมไปด้วยเศียรเล็กๆ หน้าตาเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียว แต่ละเศียรกำลังเบิ่งตาโตมองสุราและไก่ย่างในมือของพวกเขา ทำท่าราวกับว่ากำลังจะน้ำลายไหลออกมา... - จากเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ผู้แต่ง สือซื่อหลาง (หมายเหตุ ชื่อตามชื่อไทยของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) จริงๆ แล้วตามคัมภีร์ซานไห่จิงนั้นคายหมิงโซ่วมีลำตัวเป็นเสือยักษ์ (รูปล่างขวาจากบันทึกซันไห่จิง จะเห็นลายพาดกลอนชัดเจน) ไม่ใช่สิงโต ซึ่งต่างจากลักษณะในละคร มีเก้าเศียรและใบหน้าเป็นคน มันเป็นสัตว์เทพที่ดุร้ายมีพละกำลังเกินสัตว์ทั่วไป สามารถสัมผัสได้ถึงทุกสรรพสิ่งที่เข้าใกล้ คายหมิงโซ่วเป็นผู้พิทักษ์เขาคุนลุ้น ซึ่งตามตำนานนั้นสูงจรดฟ้าอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ด้านตะวันตกมีประตูทางเข้าสู่เขตแดนสวรรค์อยู่เก้าประตู คายหมิงโซ่วมีหน้าที่คอยเฝ้าประตูทั้งเก้านี้ หนึ่งเศียรหันดูหนึ่งประตู ดวงตาไม่เคยหลับ เพื่อปกป้องไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวนความสงบของสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จึงไม่แปลกที่เราไม่ค่อยเห็นคายหมิงโซ่วออกมาเพ่นพ่านในนิยาย/ละครแนวเทพเซียนทั่วไป เนื่องจากมันมีสถานที่ที่ต้องอยู่โยงเฝ้าประจำนั่นเอง วันนี้คุยกันเบาะๆ กับสัตว์เทพที่ไม่ค่อยพบเจอ แต่คราวหน้าเราจะมาคุยกันถึงสัตว์เทพที่เพื่อนเพจส่วนใหญ่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือจิ้งจอกเก้าหาง ใครเป็นแฟนคลับป๋ายเฉี่ยนแห่งสามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่อย่าลืมมาติดตามตอนต่อไปนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://www.cdramalove.com/love-and-redemption-summary/ https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.sohu.com/a/383471932_100085277/?pvid=000115_3w_a https://baike.baidu.com/item/%E5%BC%80%E6%98%8E%E5%85%BD/3390243 https://zhuanlan.zhihu.com/p/144025393 #ปลดผนึกหัวใจ #ตำนานจีน #คายหมิงโซ่ว #ซานไห่จิง #StoryfromStory
    WWW.CDRAMALOVE.COM
    Love And Redemption Summary - C-Drama Love - Show Summary
    Chinese Drama Love And Redemption Summary (琉璃) The drama tells the story of Chu Xuan Ji, a girl born with an incomplete "sixth sense", and Yu
    1 Comments 0 Shares 318 Views 0 Reviews
  • อีเมลเคยเป็นราชาแห่งการสื่อสารดิจิทัล
    แต่วันนี้ เรากลับเหนื่อยกับกล่องจดหมายที่ล้น ฟิชชิงลวงตา และการตอบกลับที่ไร้ประโยชน์

    ในยุคที่ทุกอย่างเร็วและฉลาดขึ้น
    Slack, Teams, AI, WhatsApp กำลังเข้ามาแทนที่
    แม้แต่อีเมลก็เริ่มกลายเป็นแค่ “ระบบยืนยันตัวตน” ไม่ใช่ช่องทางหลัก

    การสิ้นสุดยุคอีเมล: บทใหม่ของการสื่อสารในโลกที่หมุนเร็ว
    ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา อีเมล เคยเป็นเครื่องมือการสื่อสารดิจิทัลที่ทรงพลัง เปลี่ยนวิธีที่มนุษย์ติดต่อกันทั้งในระดับบุคคลและองค์กร มันรวดเร็ว ประหยัด และเก็บบันทึกได้อย่างเป็นระบบ อีเมลช่วยให้โลกใบนี้ใกล้กันขึ้นโดยลบเส้นแบ่งทางภูมิศาสตร์ แต่ทุกเทคโนโลยีย่อมมีวาระของมัน และอีเมลก็กำลังเดินทางสู่ช่วงปลายของบทบาทหลักในยุคที่ความต้องการเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

    จุดสูงสุดของอีเมล: จากนวัตกรรมสู่โครงสร้างหลัก
    การถือกำเนิดของอีเมลในทศวรรษ 1970 เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานทั่วโลก ในทศวรรษ 1990 มันกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ของชีวิตยุคดิจิทัล ทั้งในแวดวงธุรกิจ การศึกษา และชีวิตส่วนตัว ความสามารถในการแนบไฟล์ ส่งข้อความได้ทันทีข้ามทวีป และการเก็บบันทึกแบบถาวร ทำให้อีเมลกลายเป็น "ราชาแห่งการสื่อสารแบบอะซิงโครนัส"

    อย่างไรก็ตาม ความยิ่งใหญ่ดังกล่าวไม่ได้ปราศจากข้อจำกัด

    เมื่อกำแพงเริ่มแตกร้าว: ข้อบกพร่องที่ไม่อาจมองข้าม
    1️⃣ ความปลอดภัยที่ล้าหลัง
    อีเมลเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของอาชญากรรมไซเบอร์ แม้จะมีการเข้ารหัสขั้นพื้นฐาน แต่รูปแบบการทำงานที่กระจายอำนาจทำให้การควบคุมความปลอดภัยแบบรวมศูนย์แทบเป็นไปไม่ได้ ส่งผลให้ฟิชชิง สแปม และมัลแวร์ยังคงแพร่กระจายได้ง่าย

    2️⃣ ภาระของการจัดการข้อมูล
    การออกแบบที่เรียงตามลำดับเวลาและตามหัวข้อ (thread) ทำให้ข้อความสำคัญถูกฝังอยู่ใต้ชั้นของการตอบกลับและสแปม ผู้ใช้จำนวนมากจึงเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า "Email Fatigue" หรือ อาการเหนื่อยล้าจากอีเมล จนกลายเป็นภาระทางจิตใจมากกว่าประโยชน์ทางการสื่อสาร

    3️⃣ ไม่เหมาะกับโลกที่ต้องการความรวดเร็ว
    ในยุคที่ความเร็วในการตอบสนองมีผลต่อความสำเร็จของงาน อีเมลกลับไม่ตอบโจทย์ความต้องการของการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ที่ทีมงานในปัจจุบันต่างคาดหวัง

    🛜 การเปลี่ยนผ่านสู่เครื่องมือสื่อสารใหม่
    การเสื่อมถอยของอีเมลเปิดพื้นที่ให้เครื่องมือใหม่เข้ามาแทนที่:

    Slack, Microsoft Teams, Zoom: ผสานการแชท วิดีโอคอลล์ และการทำงานร่วมกันไว้ในที่เดียว ลดความยุ่งยากจากการเปลี่ยนแพลตฟอร์ม

    WhatsApp, Telegram, LINE: แอปพลิเคชันที่เข้าถึงง่าย ใช้งานได้บนอุปกรณ์พกพา และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ไม่เป็นทางการ

    AI Assistant: การนำ AI มาช่วยร่าง ตอบ หรือตั้งเวลาอีเมล ทำให้ความจำเป็นในการเขียนอีเมลด้วยตนเองลดลง

    อีเมลในบทบาทใหม่: ไม่หายไป แต่ถอยห่าง
    แม้การใช้งานจะลดลง แต่อีเมลจะยังคงอยู่ในบางบริบท เช่น:

    - การสื่อสารอย่างเป็นทางการ
    - เอกสารทางกฎหมาย
    - การติดต่อข้ามองค์กรที่ไม่ใช้เครื่องมือร่วมกัน

    ทางเลือกแห่งอนาคต: จากโลกจริงสู่โลกเสมือน
    1️⃣ ระบบสื่อสารที่ใช้บล็อกเชน: ยกระดับความปลอดภัย ปราศจากการควบคุมจากศูนย์กลาง

    2️⃣ ชุด Productivity แบบรวมศูนย์ (เช่น Google Workspace, Microsoft 365): ฝังการสื่อสารไว้ในบริบทของการทำงานจริง

    3️⃣ Metaverse และ XR (Extended Reality): การประชุมเสมือนแบบ immersive หรือการทำงานร่วมกันในพื้นที่เสมือนอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่

    บทสรุป: การเดินทางของอีเมลจากพระเอกสู่ผู้เบื้องหลัง
    การสิ้นสุดของยุคอีเมลไม่ใช่จุดจบที่เศร้าหมอง แต่มันคือวิวัฒนาการตามธรรมชาติของเทคโนโลยี อีเมลมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์การสื่อสาร และสมควรได้รับการยอมรับในฐานะจุดเปลี่ยนของโลกดิจิทัล แต่ในโลกที่ให้ความสำคัญกับ ความเร็ว ความปลอดภัย และประสบการณ์แบบมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เครื่องมือใหม่ๆ กำลังเข้ามารับไม้ต่อ

    เราไม่ได้เพียงแค่ปิดกล่องจดหมาย — เรากำลังเปิดประตูสู่อนาคตที่สื่อสารได้ชาญฉลาดขึ้น เชื่อมโยงลึกขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น

    โลกกำลังก้าวสู่การสื่อสารที่ เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเชื่อมโยงแบบมนุษย์มากขึ้น

    แล้วคุณยังใช้อีเมลเป็นหลักอยู่หรือเปล่า

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    อีเมลเคยเป็นราชาแห่งการสื่อสารดิจิทัล แต่วันนี้ เรากลับเหนื่อยกับกล่องจดหมายที่ล้น ฟิชชิงลวงตา และการตอบกลับที่ไร้ประโยชน์ ในยุคที่ทุกอย่างเร็วและฉลาดขึ้น Slack, Teams, AI, WhatsApp กำลังเข้ามาแทนที่ แม้แต่อีเมลก็เริ่มกลายเป็นแค่ “ระบบยืนยันตัวตน” ไม่ใช่ช่องทางหลัก 📭📭 การสิ้นสุดยุคอีเมล: บทใหม่ของการสื่อสารในโลกที่หมุนเร็ว 🪦🪦 ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา อีเมล เคยเป็นเครื่องมือการสื่อสารดิจิทัลที่ทรงพลัง เปลี่ยนวิธีที่มนุษย์ติดต่อกันทั้งในระดับบุคคลและองค์กร มันรวดเร็ว ประหยัด และเก็บบันทึกได้อย่างเป็นระบบ อีเมลช่วยให้โลกใบนี้ใกล้กันขึ้นโดยลบเส้นแบ่งทางภูมิศาสตร์ แต่ทุกเทคโนโลยีย่อมมีวาระของมัน และอีเมลก็กำลังเดินทางสู่ช่วงปลายของบทบาทหลักในยุคที่ความต้องการเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว 🔝 จุดสูงสุดของอีเมล: จากนวัตกรรมสู่โครงสร้างหลัก การถือกำเนิดของอีเมลในทศวรรษ 1970 เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานทั่วโลก ในทศวรรษ 1990 มันกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ของชีวิตยุคดิจิทัล ทั้งในแวดวงธุรกิจ การศึกษา และชีวิตส่วนตัว ความสามารถในการแนบไฟล์ ส่งข้อความได้ทันทีข้ามทวีป และการเก็บบันทึกแบบถาวร ทำให้อีเมลกลายเป็น "ราชาแห่งการสื่อสารแบบอะซิงโครนัส" อย่างไรก็ตาม ความยิ่งใหญ่ดังกล่าวไม่ได้ปราศจากข้อจำกัด 🧱🧱 เมื่อกำแพงเริ่มแตกร้าว: ข้อบกพร่องที่ไม่อาจมองข้าม 1️⃣ ความปลอดภัยที่ล้าหลัง อีเมลเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของอาชญากรรมไซเบอร์ แม้จะมีการเข้ารหัสขั้นพื้นฐาน แต่รูปแบบการทำงานที่กระจายอำนาจทำให้การควบคุมความปลอดภัยแบบรวมศูนย์แทบเป็นไปไม่ได้ ส่งผลให้ฟิชชิง สแปม และมัลแวร์ยังคงแพร่กระจายได้ง่าย 2️⃣ ภาระของการจัดการข้อมูล การออกแบบที่เรียงตามลำดับเวลาและตามหัวข้อ (thread) ทำให้ข้อความสำคัญถูกฝังอยู่ใต้ชั้นของการตอบกลับและสแปม ผู้ใช้จำนวนมากจึงเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า "Email Fatigue" หรือ อาการเหนื่อยล้าจากอีเมล จนกลายเป็นภาระทางจิตใจมากกว่าประโยชน์ทางการสื่อสาร 3️⃣ ไม่เหมาะกับโลกที่ต้องการความรวดเร็ว ในยุคที่ความเร็วในการตอบสนองมีผลต่อความสำเร็จของงาน อีเมลกลับไม่ตอบโจทย์ความต้องการของการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ที่ทีมงานในปัจจุบันต่างคาดหวัง 📶🛜 การเปลี่ยนผ่านสู่เครื่องมือสื่อสารใหม่ การเสื่อมถอยของอีเมลเปิดพื้นที่ให้เครื่องมือใหม่เข้ามาแทนที่: ✅ Slack, Microsoft Teams, Zoom: ผสานการแชท วิดีโอคอลล์ และการทำงานร่วมกันไว้ในที่เดียว ลดความยุ่งยากจากการเปลี่ยนแพลตฟอร์ม ✅ WhatsApp, Telegram, LINE: แอปพลิเคชันที่เข้าถึงง่าย ใช้งานได้บนอุปกรณ์พกพา และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ไม่เป็นทางการ ✅ AI Assistant: การนำ AI มาช่วยร่าง ตอบ หรือตั้งเวลาอีเมล ทำให้ความจำเป็นในการเขียนอีเมลด้วยตนเองลดลง 🎯🎯 อีเมลในบทบาทใหม่: ไม่หายไป แต่ถอยห่าง แม้การใช้งานจะลดลง แต่อีเมลจะยังคงอยู่ในบางบริบท เช่น: - การสื่อสารอย่างเป็นทางการ - เอกสารทางกฎหมาย - การติดต่อข้ามองค์กรที่ไม่ใช้เครื่องมือร่วมกัน 🔮 ทางเลือกแห่งอนาคต: จากโลกจริงสู่โลกเสมือน 1️⃣ ระบบสื่อสารที่ใช้บล็อกเชน: ยกระดับความปลอดภัย ปราศจากการควบคุมจากศูนย์กลาง 2️⃣ ชุด Productivity แบบรวมศูนย์ (เช่น Google Workspace, Microsoft 365): ฝังการสื่อสารไว้ในบริบทของการทำงานจริง 3️⃣ Metaverse และ XR (Extended Reality): การประชุมเสมือนแบบ immersive หรือการทำงานร่วมกันในพื้นที่เสมือนอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ 🏁🏁 บทสรุป: การเดินทางของอีเมลจากพระเอกสู่ผู้เบื้องหลัง 🏁🏁 การสิ้นสุดของยุคอีเมลไม่ใช่จุดจบที่เศร้าหมอง แต่มันคือวิวัฒนาการตามธรรมชาติของเทคโนโลยี อีเมลมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์การสื่อสาร และสมควรได้รับการยอมรับในฐานะจุดเปลี่ยนของโลกดิจิทัล แต่ในโลกที่ให้ความสำคัญกับ ความเร็ว ความปลอดภัย และประสบการณ์แบบมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เครื่องมือใหม่ๆ กำลังเข้ามารับไม้ต่อ เราไม่ได้เพียงแค่ปิดกล่องจดหมาย — เรากำลังเปิดประตูสู่อนาคตที่สื่อสารได้ชาญฉลาดขึ้น เชื่อมโยงลึกขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น 📌 โลกกำลังก้าวสู่การสื่อสารที่ เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเชื่อมโยงแบบมนุษย์มากขึ้น แล้วคุณยังใช้อีเมลเป็นหลักอยู่หรือเปล่า❓❓ #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 Comments 0 Shares 330 Views 0 Reviews
More Results