• ..เขมรคือภัยคุกคามโลกและฮับมิจฉาชีพระดับโลก จริงๆจีนคือเจ้าหนี้รายใหญ่ของเขมรสมควรปราบปรามร่วมกับประเทศเอเชียและอาเชียนเป็นอย่างยิ่ง,เป็นเจ้าภาพหัวเรือเลยก็ว่า,ล็อกดาวน์ปิดประตูตีแมวได้สบายคือล็อกทางออกทางเข้าสาระพัดทางได้หมด,ไทยลาวเวียดนามบรูไน มาเลย์พร้อมร่วมมือลงแขกร่วมกันอยู่แล้วในการสกัดกั้นคนชั่วที่สิงในเขมรทั้งหมด,ตลอดอาจลงไประเบิดปิดทางอุโมงค์ลับใต้ดินทั้งหมดให้ด้วย,จะไม่มีคนชั่วคนไหนหนีรอดได้สักตัว,จะคนชั่วฝั่งฝรั่งฝั่งอาหรับทะเลทรายฝั่งแขกอินเดียฝั่งแอฟริกาหรือฝั่งเอเชียอาเชียนเราที่เป็นคนชั่วมาสุมหัวที่นี้ก็ตามแต่จะไม่รอดทั้งหมด,บันทึกทางdnaทุกๆตัวทันที,จีนอาจได้หน้าขนานใหญ่ไปเลยในฝั่งเอเชียเราที่ลงมือลงโทษประเทศค้ามนุษย์ค้าแรงงานจนหมดเสื่อมสภาพแล้วฆ่าค้าอวัยวะต่อยอดทำกำไรอีกนี้คือชาติชั่วเลวประจำโลกของจริงที่นานาชาติต้องกำจัดเพราะคือภัยคุกคามจริงของคนชาวโลก พวกมันจะลักพาตัวจับมนุษย์คนไหนจากทั่วโลกก็ได้ นี้ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดานะไม่ใช่ล่อเล่นด้วย,ของแท้เลย,มันสร้างเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์สำเร็จฮับโจรกรรมดาต้าข้อมูลทั่วโลกก็ได้,ดูนายกฯไทยคลิปหลุดสิ,ฝ่ายตรงข้ามเราพะนะ,แล้วมันจะจัดส่งข้อมูลขายข้อมูลอะไรสาระพัดไม่ได้เหรอยิ่งมีข่าวในไทยมากมายว่ามีการหลุดข้อมูลคนไทย ขายข้อมูลคนไทยไปต่างประเทศและขายให้เอกชนต่างชาติหรือในไทยอีก,ดูพวกขายเทเลเซลล์ในอดีตเลย พวกขายประกันก็ว่าขายข้อมูลกันตรึม,ยุคนี้ยิ่งล้ำกว่าอีก,
    ..เขมรคือภัยอันตรายต่อคนทัังโลก,เด็กยิ่งโทรหลอกง่าย,คนแก่ก็ไม่เว้น,คนข้าราชการยังถูกดูดตัง,เพราะอะไรเพราะอีลิทสั่งการและควบคุม,ในมุกแบบผลักดันตังดิจิดัลก็กล่าวได้อีก วางสนุ๊คส่งมือมืดทำเลวชั่วว่าตังกระดาษไม่ปล่อยภัย แบงค์ช่วยอีก ขนาดแบงค์ยังไม่ปล่อยภัยว่าระบบปกป้องการดูดดีแค่ไหนยังไม่รอดมันอ้าง,หันมาใช้ตังดิจิดัลกันเถอะมันอ้าง,ดูดไม่ง่าย ติดตามได้พะนะว่าใครดูดใครทำผิด,เพื่อสุดท้ายสำเร็จคนยกเลิกตังกระดาษตังเหรียญโลหะสู่ทรัพย์สินดิจิดัลแล้วก็สุดท้ายอีก,คนๆนั้นจะไม่เหลืออะไรเลยเมื่อหันไปใช้ระบบตังดิจิดัลจริง,มันก็ทำภาระกิจสำเร็จนั่นเอง,แบบปลอมตังกระดาษนั้นล่ะก็ด้วย,จริงๆระบบตังกระดาษคือระบบอิสระภาพที่สุดไทที่สุด,ใช้จ่ายแลกเปลี่ยนได้ทุกที่ทุกเวลาไม่เกี่ยวกับพลังงานหมดใดๆแบตมือถือหมด แผ่นดินไหวน้ำท่วนพายุถล่มระบบไฟฟ้าฮับไฟฟ้าล่มระบบตังดิจิดัลใช้ไม่ได้แบบจีนล่าสุดปีที่แล้วสดๆร้อนๆให้เห็นชัดๆก็ว่า,ตลอดมันอายัดสิทธิคุณขึ้นบัญชีดำแบนคุณเรียลไทม์โน้น ยึดทรัพย์สินคุณเรียลไทม์หมดที่แปลงเป็นดิจิดัลตีตราสร้างมูลค่าใหม่แล้ว,นอกใต้ถนนใต้ต้นไม้นอกสถานที่ก็ว่า,จากมี2-3พันล้านบาทแมร่งอายัดทั้งหมดสิ้นเนื้อสินตัวเลย,อดีตแอบเก็บลงไหลงโอ่งได้ จำเป็นเอาออกมาใช้สัก100-200ล้านบาทยังทันไว้ยามฉุกเฉินก็ว่า,ตายายคนชราอาจใส่หัวหมอนไว้สักพันสองพันกันอิ่มวันหน้าได้,นี้มันอายัดตังตายายหลานหมดสิ้นก็ว่า เป็นต้น,เหมือนแบงค์เอาตังให้ฝ่ายตนเองไปปล่อยกู้นอกระบบทางลับนั้นล่ะ,คู่ขนานทำกำไรรายได้ทางกฎหมาย,เหมือนทำชั่วเพื่อตีกรอบสร้างกฎหมายว่าปล่อยภัยกว่าเก่า,ทั้วที่มันนั่นล่ะรวมหัวกันทำเอง,เพื่อลดขนาดคอกสัตว์ลงควบคุมง่ายตามกฎกติกามันสะดวก,แบบไทยเราเหี้ยลูกหนี้จ่ายหนี้ไม่ไหวเสือกยึดทรัพย์แบบบ้านเขาบังคับขายแล้วไม่พอ ไปบังคับยึดนั้นนี้อีกจนพอ,ในต่างประเทศยึดบ้านจบก็จบคดีความเพราะกู้ตังมาซื้อบ้านบ้านคือหนี้,กู้มาซื้อรถ รถคือหนี้ยึดรถจบ,กู้กยศ.ซื้อใบวุฒิการศึกษา ก็ยึดวุฒิการศึกษาเขาสิก็จบ555,เหี้ยไปตามยึดบ้านยึดที่ดินเขาขายให้จนพอใจแบงค์พอใจหน่วยงานตน,นี้คือวิถีปกครองวิถีกฎหมายที่ผิดพลาดและเลว อยุติธรรมก็ว่า.
    ..เขมร จีนต้องเป็นเจ้าภาพเพราะก็ย้ายมาจากพม่านั้นล่ะก็ด้วย.เขมรมีวันนี้ได้เพราะนานาชาติไม่รวมจัดการลงโทษโดยเฉพาะเอเชียเราอาเชียนเราก็ด้วย สุดยอดมากที่ปล่อยคนชั่วชาติชั่วมีที่ยืนบนเวทีโลก,เขมรอนาถทันทีหากนานาชาติร่วมกันแบนร่วมกันคว่ำบาตรเศรษฐกิจการค้า,ตังไม่มีมันจะรอดเหรอ.,ผู้นำชั่วต้องไร้ที่ยืนบนโลกใบนี้ได้แล้ว,ชาวโลกจะสงบสุขสันคิทันที,อาจผลิตอาวุธทำลายจริงก็แค่ปกป้องโลกจากต่างดาวอื่นรุกรานคุกคามนั่นล่ะ.

    ..https://youtu.be/y_WmnaLm2og?si=IIDwL9PFkn_YK6V1
    ..เขมรคือภัยคุกคามโลกและฮับมิจฉาชีพระดับโลก จริงๆจีนคือเจ้าหนี้รายใหญ่ของเขมรสมควรปราบปรามร่วมกับประเทศเอเชียและอาเชียนเป็นอย่างยิ่ง,เป็นเจ้าภาพหัวเรือเลยก็ว่า,ล็อกดาวน์ปิดประตูตีแมวได้สบายคือล็อกทางออกทางเข้าสาระพัดทางได้หมด,ไทยลาวเวียดนามบรูไน มาเลย์พร้อมร่วมมือลงแขกร่วมกันอยู่แล้วในการสกัดกั้นคนชั่วที่สิงในเขมรทั้งหมด,ตลอดอาจลงไประเบิดปิดทางอุโมงค์ลับใต้ดินทั้งหมดให้ด้วย,จะไม่มีคนชั่วคนไหนหนีรอดได้สักตัว,จะคนชั่วฝั่งฝรั่งฝั่งอาหรับทะเลทรายฝั่งแขกอินเดียฝั่งแอฟริกาหรือฝั่งเอเชียอาเชียนเราที่เป็นคนชั่วมาสุมหัวที่นี้ก็ตามแต่จะไม่รอดทั้งหมด,บันทึกทางdnaทุกๆตัวทันที,จีนอาจได้หน้าขนานใหญ่ไปเลยในฝั่งเอเชียเราที่ลงมือลงโทษประเทศค้ามนุษย์ค้าแรงงานจนหมดเสื่อมสภาพแล้วฆ่าค้าอวัยวะต่อยอดทำกำไรอีกนี้คือชาติชั่วเลวประจำโลกของจริงที่นานาชาติต้องกำจัดเพราะคือภัยคุกคามจริงของคนชาวโลก พวกมันจะลักพาตัวจับมนุษย์คนไหนจากทั่วโลกก็ได้ นี้ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดานะไม่ใช่ล่อเล่นด้วย,ของแท้เลย,มันสร้างเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์สำเร็จฮับโจรกรรมดาต้าข้อมูลทั่วโลกก็ได้,ดูนายกฯไทยคลิปหลุดสิ,ฝ่ายตรงข้ามเราพะนะ,แล้วมันจะจัดส่งข้อมูลขายข้อมูลอะไรสาระพัดไม่ได้เหรอยิ่งมีข่าวในไทยมากมายว่ามีการหลุดข้อมูลคนไทย ขายข้อมูลคนไทยไปต่างประเทศและขายให้เอกชนต่างชาติหรือในไทยอีก,ดูพวกขายเทเลเซลล์ในอดีตเลย พวกขายประกันก็ว่าขายข้อมูลกันตรึม,ยุคนี้ยิ่งล้ำกว่าอีก, ..เขมรคือภัยอันตรายต่อคนทัังโลก,เด็กยิ่งโทรหลอกง่าย,คนแก่ก็ไม่เว้น,คนข้าราชการยังถูกดูดตัง,เพราะอะไรเพราะอีลิทสั่งการและควบคุม,ในมุกแบบผลักดันตังดิจิดัลก็กล่าวได้อีก วางสนุ๊คส่งมือมืดทำเลวชั่วว่าตังกระดาษไม่ปล่อยภัย แบงค์ช่วยอีก ขนาดแบงค์ยังไม่ปล่อยภัยว่าระบบปกป้องการดูดดีแค่ไหนยังไม่รอดมันอ้าง,หันมาใช้ตังดิจิดัลกันเถอะมันอ้าง,ดูดไม่ง่าย ติดตามได้พะนะว่าใครดูดใครทำผิด,เพื่อสุดท้ายสำเร็จคนยกเลิกตังกระดาษตังเหรียญโลหะสู่ทรัพย์สินดิจิดัลแล้วก็สุดท้ายอีก,คนๆนั้นจะไม่เหลืออะไรเลยเมื่อหันไปใช้ระบบตังดิจิดัลจริง,มันก็ทำภาระกิจสำเร็จนั่นเอง,แบบปลอมตังกระดาษนั้นล่ะก็ด้วย,จริงๆระบบตังกระดาษคือระบบอิสระภาพที่สุดไทที่สุด,ใช้จ่ายแลกเปลี่ยนได้ทุกที่ทุกเวลาไม่เกี่ยวกับพลังงานหมดใดๆแบตมือถือหมด แผ่นดินไหวน้ำท่วนพายุถล่มระบบไฟฟ้าฮับไฟฟ้าล่มระบบตังดิจิดัลใช้ไม่ได้แบบจีนล่าสุดปีที่แล้วสดๆร้อนๆให้เห็นชัดๆก็ว่า,ตลอดมันอายัดสิทธิคุณขึ้นบัญชีดำแบนคุณเรียลไทม์โน้น ยึดทรัพย์สินคุณเรียลไทม์หมดที่แปลงเป็นดิจิดัลตีตราสร้างมูลค่าใหม่แล้ว,นอกใต้ถนนใต้ต้นไม้นอกสถานที่ก็ว่า,จากมี2-3พันล้านบาทแมร่งอายัดทั้งหมดสิ้นเนื้อสินตัวเลย,อดีตแอบเก็บลงไหลงโอ่งได้ จำเป็นเอาออกมาใช้สัก100-200ล้านบาทยังทันไว้ยามฉุกเฉินก็ว่า,ตายายคนชราอาจใส่หัวหมอนไว้สักพันสองพันกันอิ่มวันหน้าได้,นี้มันอายัดตังตายายหลานหมดสิ้นก็ว่า เป็นต้น,เหมือนแบงค์เอาตังให้ฝ่ายตนเองไปปล่อยกู้นอกระบบทางลับนั้นล่ะ,คู่ขนานทำกำไรรายได้ทางกฎหมาย,เหมือนทำชั่วเพื่อตีกรอบสร้างกฎหมายว่าปล่อยภัยกว่าเก่า,ทั้วที่มันนั่นล่ะรวมหัวกันทำเอง,เพื่อลดขนาดคอกสัตว์ลงควบคุมง่ายตามกฎกติกามันสะดวก,แบบไทยเราเหี้ยลูกหนี้จ่ายหนี้ไม่ไหวเสือกยึดทรัพย์แบบบ้านเขาบังคับขายแล้วไม่พอ ไปบังคับยึดนั้นนี้อีกจนพอ,ในต่างประเทศยึดบ้านจบก็จบคดีความเพราะกู้ตังมาซื้อบ้านบ้านคือหนี้,กู้มาซื้อรถ รถคือหนี้ยึดรถจบ,กู้กยศ.ซื้อใบวุฒิการศึกษา ก็ยึดวุฒิการศึกษาเขาสิก็จบ555,เหี้ยไปตามยึดบ้านยึดที่ดินเขาขายให้จนพอใจแบงค์พอใจหน่วยงานตน,นี้คือวิถีปกครองวิถีกฎหมายที่ผิดพลาดและเลว อยุติธรรมก็ว่า. ..เขมร จีนต้องเป็นเจ้าภาพเพราะก็ย้ายมาจากพม่านั้นล่ะก็ด้วย.เขมรมีวันนี้ได้เพราะนานาชาติไม่รวมจัดการลงโทษโดยเฉพาะเอเชียเราอาเชียนเราก็ด้วย สุดยอดมากที่ปล่อยคนชั่วชาติชั่วมีที่ยืนบนเวทีโลก,เขมรอนาถทันทีหากนานาชาติร่วมกันแบนร่วมกันคว่ำบาตรเศรษฐกิจการค้า,ตังไม่มีมันจะรอดเหรอ.,ผู้นำชั่วต้องไร้ที่ยืนบนโลกใบนี้ได้แล้ว,ชาวโลกจะสงบสุขสันคิทันที,อาจผลิตอาวุธทำลายจริงก็แค่ปกป้องโลกจากต่างดาวอื่นรุกรานคุกคามนั่นล่ะ. ..https://youtu.be/y_WmnaLm2og?si=IIDwL9PFkn_YK6V1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก

    ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’

    วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ)

    เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า

    ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า

    วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย

    แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ?

    ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน

    แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความเก่า:
    ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944
    https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756
    https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html

    #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ) เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ? ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความเก่า: ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076 Credit รูปภาพจาก: https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944 https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756 https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่อิสราเอลเริ่มบังคับใช้กฎหมาย "คุกคามสื่อ" ที่ประกาศใช้ล่าสุด จากในวิดีโอทีมงานผู้สื่อข่าวของเยอรมันจาก ntvde

    ถูกสั่งห้ามไม่ให้บันทึกภาพความเสียหายจากขีปนาวุธของอิหร่านในเบียร์ชาบาเมื่อเช้านี้
    เจ้าหน้าที่อิสราเอลเริ่มบังคับใช้กฎหมาย "คุกคามสื่อ" ที่ประกาศใช้ล่าสุด จากในวิดีโอทีมงานผู้สื่อข่าวของเยอรมันจาก ntvde ถูกสั่งห้ามไม่ให้บันทึกภาพความเสียหายจากขีปนาวุธของอิหร่านในเบียร์ชาบาเมื่อเช้านี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 36 0 รีวิว
  • Thu. Jun. 19, 2025

    บ่ายวานนี้ หลังจากโมโหจนไฟลุกหัว เพราะได้ฟังคลิปหลานกบฏฮุนทองธาร คุยกับท่านอางูเห่าอย่างนอบน้อม และเคารพรัก
    พอดีมีเพื่อนบ้านคน Canadian พาหมาเดินตอนเย็น เพื่อนบ้านคนนี้เป็นขาเม้าสายการเมืองเมามันที่สุด ก็เริ่มคุยกันตั้งแต่เรื่อง Trump & ICE ยาวไปถึงเรื่อง Iran & Israel จนมาจบที่เรื่องคลิปเสียงอันฮือฮาที่สุดวานนี้

    คนไทยเพิ่งได้ฟังสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเอาบทสนทนาแบบนี้มาลงได้ แต่ที่สะใจสุดๆก็คือ ครอบครัวชินวัตร และทักษิณ ชินวัตร คนที่ไม่มีคนไทยหน้าไหนกล้าแทงข้างหลังเลย มีแต่ขอมาอยู่ใต้ฝ่าตีน คนที่ทำให้คนไทยแบ่งสีแบ่งฝ่าย แตกความสามัคคีกัน คนที่มอมเมาประชาชนให้ตกอยู่ในความยากจน และไร้การศึกษา จนเราเคยรู้สึกว่า นี่คนไทยต้องรับเคราะห์กรรมอยู่ใต้อำนาจคนชั่วและระบบชั่วที่นักการเมืองแบบมันสร้างไว้อีกนานเท่าไหร่...จะไม่มีใครมาหยุดพลังความชั่วช้าของมันได้เลยรึ

    และบ่ายวันที่ 18 มิย. 2568 ท่านมัจจุราชคงสงสารชาวไทย จึงประทานสายฟ้าผ่าลงกลางหัวตระกูลชินวัตร โดยผู้ส่งสารแห่งความตายมาให้ก็คือเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด งูเห่าเฒ่าฮุนเซ็นนั่นเอง

    ยิ่งหลานกบฏยิ่งแก้ตัวแถไถกับนักข่าว เพื่อความอยู่รอด ท่านอางูเห่าก็ยิ่งช่วยส่งคลิปตอกฝาโลง ย้ำให้รู้สึกว่า เมื่อแผนของสองตระกูลพังเพราะทหารไทย และแรงกดดันจากประชาชนทั้งสองฝั่ง และตระกูลชินไม่มีน้ำยาอีกต่อไป งั้นท่านอางูเห่าก็ขอถีบหัวเพื่อนรัก และหลานรักส่งก่อนละนะจ๊ะ อากับลูกๆจะขอทำเท่ในสายตาประชาชนคนเขมรดีกว่าจ้ะ

    เราน่ะเกลียดคนตระกูลชิน และตระกูลฮุนเข้าไส้ แต่ตอนนี้ เราเชียร์ท่านอางูเห่าให้พ่นพิษออกมาให้สุดๆ ทวงบุญคุณ และเหยียบย่ำคนไทยที่หนีคดีไปอยู่ในเขมรให้จมดินเลย ยึดทรัพย์ให้เกลี้ยง และเอาเข้าคุกมืดเขมรไปให้หมดเลยฮ่ะ เราภาวนาให้ตระกูลชินไปไม่ถูก แล้วก็หน้าด้านที่จะอยู่ต่อให้ถึงที่สุด และให้กีกี้ออกมาช่วยให้สุดพลัง...เพื่อบีบให้ประชาชนกรีดร้อง และทหารต้องออกมายึดอำนาจในที่สุด เพราะเราไม่อยากกลับเข้าวงจรการเลือกตั้งอุบาศก์อีกแล้ว
    คือวัดดวงเลย เพราะเราไม่เอาแดง ไม่เอาส้ม ไม่เอาน้ำเงิน ไม่เอาลุงป้อม ลุงตู่ เราไม่อยากได้นักการเมืองขี้ฉ้อ และทหารหน้าเงินแล้วน่ะ
    ให้ทหารยึดอำนาจ ยึดทรัพย์ทุนเทาและ fake nominee กลับให้หมด แก้รัฐธรรมนูญอุดรอยรั่วไม่ให้นักการเมืองชั่วมีช่องเล็ดลอดได้อีก จัดระบบบ้านเมืองใหม่ไว้รับมือภัยพิบัติต่างๆ ขอแค่สมัยเดียว 4 ปีพอ มาล้างไพ่ให้หน่อย
    แต่เราอยากได้ทหารที่ไม่กินนอกกินใน โหดและเด็ดขาดกว่าลุงตู่ 10 เท่า แต่กิริยามารยาท และการศึกษาดี เป็นทหารของคนรุ่นใหม่น่ะ...จะมีส่งประกวดมั้ยน้อ

    วานนี้ พอเราเล่าเรื่องคลิปเสียงให้เพื่อนบ้านต่างชาติฟังเสร็จ เราก็บอกว่า เราอยากให้ทหารยึดอำนาจมากๆ เพื่อนบ้านก็ตกใจมาก บอกว่าภาพลักษณ์ประเทศไทยจะเหมือนพม่ามั้ย เราก็บอกเขาว่า ทหารไทยไม่ปล้น ฆ่า ข่มขืน ทำร้ายคนแบบนั้น นี่มีสำนักข่าวนึง เขาถอดคลิปเสียงแบบคำต่อคำ เดี๋ยวเราจะแปล (ไม่ใช่เราแปลหรอก ChatGPT น่ะ) เป็นภาษาอังกฤษให้อ่านนะ แล้วบอกเรานะ ว่าผู้นำทางการเมืองแบบนี้น่ะหรือ ที่สมควรจะให้นั่งคุมตำแหน่งใหญ่โตแบบนี้

    เราเลยอธิบายให้เพื่อนต่างชาติ เข้าใจถึงความแตกต่างของทหารของพระราชา ทหารรักษาดินแดน ทหารที่เข้าช่วยเหลือประชาชนก่อนใครทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติ ทหารน้ำดีที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พวกเข้าเหล่านี้ไม่ใช่ทหารเผด็จการ หรือทหารการเมือง จึงไม่ควรได้รับการหักหลัง จากผู้นำทางการเมืองแบบนี้ เดี๋ยวจะแปลงบทสนทนานี้เป็นภาษาจีนด้วย เผื่ออ้ายอีกบฏมันหนีไปจีน จะได้ให้เขาระวังตัวกันไว้ ว่ามีสัตว์นรกแอบเข้าบ้านนะ

    นั่งดูคลิปตอนนายกหนูน้อยแถไถกับนักข่าว ยิ่งแถยิ่งรัดคอตัวเอง จังหวะนาทีที่ 6:50 ชอบมากอ้ะ โดนนักข่าวถามว่า จะยังคุยกับคนตระกูลฮุนได้อยู่อีกมั้ย ปรกตินางจะปากแจ๋ว สวนกลับทำหน้าทำตาใส่นักข่าว แต่วานนี้ท่านอางูเห่าลงคลิปรัวๆ จนหลานไปไม่เป็นเลย นางตอบแบบคล้ายจะร้องไห้ว่า
    "อืมม...ไม่ทราบ" (ต้องไปถามพ่อก่อน)

    แต่ตอนนี้ คำถามเราคือ ท่านอางูเห่ามีคลิปมาลงอีกมั้ย....และตอนนี้ท่านพ่อหายไปไหนคะ???

    **********************************************
    จากตรงนี้ ใครฟังคลิปออก แล้วไม่อยากอ่านแล้ว ก็ผ่านไปได้เลยค่ะ คือถอดบทสนทนา 3 ภาษาค่ะ พร้อมแทรกหมายเหตุส่วนตัวนิดนึง เพื่อให้ต่างชาติเข้าใจความแตกต่างของทหารไทยเรา

    ถอดบทสนทนาระหว่าง "นายกฯอิ๊งค์ แพทองธาร ขินวัตร" สนทนากับ "สมเด็จฮุนเซน" ในค่ำคืนวันที่ 15 มิถุนายน 2568 โดยสมเด็จฮุนเซน ได้บันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์เอาไว้ โดยมีล่ามช่วยแปล 17.06 นาทีเต็ม แบบถอดเสียงคำต่อคำ มีใจความการสนทนาดังนี้

    แพทองธาร
    • เป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า

    ฮุนเซน
    • สุขภาพแข็งแรงดี

    แพทองธาร
    • วันนี้ ได้คุยเรื่องชายแดน กับ พี่ฮวด(ล่าม) เข้าใจตรงกันว่าทั้งสองฝ่ายอยากให้ 2 ประเทศสงบสุข / ไม่อยากให้อังเคิ้ลไปฟัง คนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา เพราะพวกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลย พอไปฟังอย่างนั้นก็ไม่อยากให้ไม่ชอบใจหรือโกรธ เพราะจริง ๆ ไม่ใช่ความตั้งใจของเราเลยค่ะ ตอนนี้ทางนั้นเค้าอยากดูเท่ ก็จะพูดอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ แต่จริง ๆ สิ่งที่เราต้องการ คือ ความสงบสุขให้เกิดขึ้นเหมือนก่อนที่จะเกิดการปะทะกันตรงชายแดน อยากให้ท่านเห็นใจหลานหน่อย เพราะว่าตอนเนี้ย คนในประเทศไทยไล่เราไปเป็นนายกฯ ที่เขมรหมดแล้ว

    ฮุนเซน
    • ฮึม ฮึม

    แพทองธาร
    • (เสียงหัวเราะแห้ง ๆ ) ถ้าท่านอยากได้อะไร ขอให้บอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้

    ฮุนเซน
    • ฮึม ฮึม ขั้นตอนที่ 1 อยากให้ชายแดนเปิดปกติ เหมือนก่อนเกิดเหตุ

    แพทองธาร
    • โอเคค่ะ ตรงกัน

    ฮุนเซน
    • จริง ๆ เหตุการณ์ชายแดน ฝ่ายไทยเป็นคนเริ่มก่อน ฉะนั้นฝ่ายไทยถอนคำสั่ง กัมพูชาก็ตามเลย เปิดปกติ เพราะว่า เราก็มีความคิดต่างกันเรื่องนึงแล้ว เรื่องมีปัญหาที่ช่องบก เราก็พยายามตามที่ฝ่ายไทยต้องการ เราก็ทำตามนะ ขอให้สถานการณ์เข้าภาวะปกติ แต่พอเราถอยแล้ว ถอนแล้ว ปรับกำลังแล้ว แต่ฝั่งไทยยังเอาเรื่องด่านมากดดันอีก .. ฉะนั้น อยากให้ท่านนายกฯ ช่วยให้ฝั่งไทยถอน (ยกเลิก) เรื่องการปิดด่าน กัมพูชา ก็จะถอน (ยกเลิก) เรื่องการห้ามสินค้าเกษตรเข้า

    แพทองธาร
    • ตอนนี้ รัฐบาลโดนโจมตีหนักมาก เพราะว่าตอนที่ท่านสมเด็จ ออกมาพูดกับ ท่านฮุน มาเนต ที่บอกว่า จะตัดน้ำ ตัดไฟ คือ อันนั้นต้องขอโทษด้วย เพราะจริง ๆ ต่างประเทศแค่รายงานขั้นตอนว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ต่อไป ประเทศไทยจะทำยังไง คือ เหมือนอธิบายขั้นตอนให้ฟัง ไม่ได้บอกว่าจะทำ แต่ตอนนี้ เริ่มตัดหนัง ตัดละคร คือทำทุกอย่างหมดแล้ว จริง ๆ ถ้าจะให้มันโอเคทั้ง 2 ฝ่าย เราต้องพูดพร้อมกันว่า ตกลงร่วมกันแล้ว รัฐบาลคุยร่วมกันแล้วว่า จะเปิดทุกอย่างให้กลับมาเป็นปกติได้ อาจจะเป็นอิ๊งค์กับฮุน มา เนต ก็ได้ หรือจะยังไงก็ได้ เหมือนกับว่าเราได้คุยร่วมกัน แล้วทั้ง 2 ฝ่ายอยากให้กลับมาเป็นเหตุการณ์ปกติ

    ล่าม
    • นายกฯ อยากให้โพสต์ใช่มั้ย ให้นายกฯ (กัมพูชา) โพสต์ใช่มั้ย ว่า ...

    แพทองธาร
    • ใช่ จะโพสต์ก็ได้ หรือจะยังไงก็ได้ แล้วให้ท่านฮุนเซนแนะนำก็ได้ เหมือนกับว่า มันต้องเป็นการตกลงร่วมกันน่ะพี่ เพราะว่าตอนนี้อิ๊งค์กำลังโดนหนักมากเลย

    ฮุนเซน
    • จริง ๆ อยากได้เสถียรภาพ แต่ทหารมาปิดด่านก่อน มันเริ่มต้นก่อน กดดันก่อน ฉะนั้นต้องเคลียร์ทหารว่า พร้อมมั้ย? สำหรับการเปิดด่าน

    แพทองธาร
    • พร้อมค่ะ เราเปิดให้อยู่แล้วค่ะ แต่ต้องเป็นการบอกว่า เราตกลงร่วมกัน เพราะถ้าไม่อย่างนั้น จะกลายเป็นว่า โอ๊ย ยอม ยอม ยอมหมด อิ๊งค์ก็จะโดน เพราะว่าตอนเนี้ยมันเลยมาถึงเรื่องก่อนด่านแล้ว

    ฮุนเซน
    • ไม่อยากมีการเจรจาเรื่องปิดด่าน เพราะว่า ทหารเริ่มก่อน หลอกให้เราปรับกำลัง สถานการณ์ต้องเข้าสู่ปกติ ที่ปรับกำลังที่ช่องบกคุยกันเรียบร้อย บอกว่า ถ้าปรับเสร็จเรียบร้อย ทุกอย่างต้องจบ ทหารก็ “ครับ จบครับ ถ้าไม่จบ ปิดด่านก่อน” อันนี้เหมือนตบหน้า ขอให้ท่านพิจารณาด้วยเรื่องเนี้ย
    • เราเป็นลูกผู้ชาย คำไหนคำนั้น ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน แล้วหลอกเรา ทางกัมพูชาเราก็โดนหนักเหมือนกัน เราก็มีมวลชน ฉะนั้นฝ่ายไทยเริ่มแล้ว ไม่เกิน 5 ชั่วโมง ทุกอย่างก็เข้าปกติเลย
    • หลานที่รัก อาบอกได้เลย ถ้าเราไม่มีคำสัญญาเรื่องปรับกำลังแล้ว ทุกอย่างปกติแต่ว่าทหารไทยไม่ยอมเปิดด่าน พรุ่งนี้ก็มีการห้ามเรื่องการส่งออกเกษตรทั่วชายแดนเลย เพื่อกดดันทหาร (ทหารไทย) เพราะสถานการณ์เหมือนกับที่รายงานให้ท่านทราบว่า การปรับกำลังที่ช่องบก ตกลงกันแล้วว่า จะจบกัน แต่ว่าอยู่ดี ๆ ทหารไทยมาปิดด่านแล้วจะให้กัมพูชาไปเจรจาเปิดด่าน “ดูแล้วไม่สวย ไม่สมควรอย่างยิ่ง” ต้องทหารไทยเริ่มก่อน ถ้าเริ่มแล้วทางนี้ตามหลัง ไม่เกิน 5 ชั่วโมง ทุกอย่างก็เข้าปกติ

    แพทองธาร
    • อืม ก็เดี๋ยวจะลองคุยกับกลาโหมดูค่ะ แต่ว่าจริง ๆ แล้ว ตอนที่คุย อยากให้พี่ฮวดบอกท่านฮุนเซน อยากได้อะไร ก็ให้บอก จะได้คุยกันได้ ตกลงกันได้ เพราะบางทีท่านโพสต์เฟซบุ๊กออกมา คือ ตอนเนี้ยรัฐบาลสั่นคลอนที่สุดแล้ว ตั้งแต่ อิ๊งค์เป็นนายกฯมา ก็คือเรื่องกัมพูชานี่แหละ ซึ่งอิ๊งค์ไม่ออกมาตอบโต้อะไรทั้งสิ้น เพราะก็รักและเคารพท่าน เพราะฉะนั้น ถ้าจะเอาอะไรจริง ๆ บอกได้เลย ยกหูบอกก็ได้ อันไหนไม่เป็นข่าวก็ไม่เป็นข่าว อันที่หลุดไปมันหลุดเพราะสื่อ เพราะไม่ได้คุยกันแค่ 2 คน มันคุยกันเป็นกลุ่มนะ มันก็เลยหลุด ถ้ามาคุยกัน 2 คน ไม่มีหลุดอยู่แล้ว ทีนี้ก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ เดี๋ยวจะไปคุยกับกลาโหม เพราะถ้าสมมติเค้าพูดว่า ของไทยปิดก่อน ก็จะไปคุยกับกลาโหมว่า เค้าว่ายังไง ถ้าเวิร์คยังไงก็จะส่งบอกพี่ฮวด (พี่ล่าม) ว่าเรียบร้อยมั้ย เพราะจริงๆ คนมันไม่หวังดีกับเรา ทั้งคู่ มันก็แบบดูเหมือนเรากับเค้า (กัมพูชา) ทะเลาะกันเอง จริงๆ คนรุ่นใหม่ต้องไม่มีสงครามอ่ะพี่ คนรุ่นใหม่มีสงครามมันก็เสีย ทั้งอิ๊งค์ ทั้งฮุน มาเนตก็เป็นคนรุ่นใหม่

    ฮุนเซน
    • เรื่องการโพสต์ ก็แค่ชี้แจงให้มวลชนทางนี้ทราบ ไม่ได้ไปกระทบอะไรกับไทยมาก ตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ถ้าท่านนายกฯ แก้เรื่องด่านให้เป็นปกติ ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว ก็จบ

    แพทองธาร
    • ได้ค่ะ เดี๋ยวลองไปคุยกับกลาโหมดู แล้วก็ขอคอนเฟิร์มกลับมา เพราะเดี๋ยวจะคุยกับกองทัพก่อน แล้วก็เดี๋ยวสั่งไปเลย รอให้ 100% แล้วค่อยแจ้งกลับมาดีกว่า แต่ว่าจริง ๆ แล้วก็จัดการได้ค่ะ

    ฮุนเซน
    • ขอยืนยันอีกทีว่า เรื่องด่าน ไม่ควรเจรจา เพราะว่าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายปิด แล้วหลอกให้เราปรับกำลัง ว่าเออ ถ้าปรับแล้ว ตรงนี้จบ ทุกอย่างเข้าภาวะปกติ แต่อยู่ดี ๆ ทหารไทย ฉะนั้นทหารไทยต้องยกเลิกปิดด่าน แล้วกัมพูชาก็จะตามหลัง ทุกอย่างก็เข้าภาวะปกติเลย ไม่มีอะไรแล้ว

    แพทองธาร
    • ค่ะ แล้วเดี๋ยวจะรีบแจ้งกลับไปนะคะว่าเป็นยังไงบ้าง

    *********************

    หมายเหตุส่วนตัว
    อยากขออธิบายให้เพื่อนๆชาวต่างชาติ เข้าใจถึงความแตกต่างของทหารของพระราชา ทหารที่ปกป้องรักษาดินแดน ทหารที่เข้าช่วยเหลือประชาชนก่อนใครทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติ และทหารน้ำดีที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่ทหารเผด็จการ หรือทหารการเมือง จึงไม่สมควรจะได้รับการหักหลัง จากกบฏในคราบผู้นำทางการเมืองแบบนี้

    **********************************************

    Clip conversation between Thai Prime Minister Paetongtarn Shinawatra (nickname "Ink") and Samdech Hun Sen, word by word: ---

    Thai PM Paetongtarn:
    • How are you? Are you doing well?

    Hun Sen:
    • My health is good.

    Thai PM Paetongtarn:
    • Today, I talked with Phi Huad (the interpreter) about the border issue. We both understand that both sides want peace between our two countries. I don’t want Uncle to listen to those who are on the opposing side of us, because all the Second Army Region commanders are on the opposing side. If you hear those things, please don’t be displeased or angry. That’s truly not our intention. Right now, that side wants to look cool, so they say things that are not beneficial to the nation. What we really want is peace, like before the border clashes. Please sympathize with your niece, because right now, people in Thailand are saying I should go be Prime Minister in Cambodia instead.

    Hun Sen:
    • Hm. Hm.

    Thai PM Paetongtarn:
    • (Dry laugh) If there’s anything you want, just let me know. I’ll take care of it.

    Hun Sen:
    • Hm. Hm.
    • Step one, I want the border to reopen normally, like before the incident.

    Thai PM Paetongtarn:
    • Okay. We’re on the same page.

    Hun Sen:
    • Actually, the border incident was started by the Thai side. So if Thailand revokes its order, Cambodia will follow and reopen things as normal. We already accepted Thailand’s stance on the issue at Chong Bok. We complied with Thailand’s request. I want the situation to return to normal. But after we withdrew and redeployed our troops, Thailand still used the checkpoint issue to pressure us. So I’d like you, Madam Prime Minister, to help the Thai side revoke the border closure. Then Cambodia will revoke the ban on agricultural imports.

    Thai PM Paetongtarn:
    • The government is under heavy attack right now because when Samdech made a statement to Hun Manet saying the water and electricity would be cut— I have to apologize for that. In fact, foreign reports were just explaining procedures—what Thailand would do if the situation escalated. It wasn’t a threat; it was just procedural. But now things are getting serious—TV shows, dramas are being blocked. Everything. If we want this to go well for both sides, we should make a joint statement. Something like Ink and Hun Manet agreeing to restore things back to normal. That way, it looks like we’ve discussed and both sides want normalization.

    Interpreter:
    • The PM wants a post? For the Cambodian PM to post?

    Thai PM Paetongtarn:
    • Yes, you can make a post or whatever works. Or Samdech can give advice. It has to be seen as a joint decision, Phi. Because I’m really under pressure now.

    Hun Sen:
    • What we really want is stability. But the military closed the border first. They started it. They pressured us first. So the military must be ready—ready to reopen the checkpoint?

    Thai PM Paetongtarn:
    • We’re ready. We’re already open. But it has to be presented as a mutual agreement. Otherwise, it will look like I’m just yielding to everything, and I’ll be heavily criticized. This issue has moved beyond just the border checkpoint now.

    Hun Sen:
    • I don’t want to negotiate about the checkpoint. Because the military started it. They tricked us into redeploying. The situation must return to normal. We agreed that after adjusting troop positions at Chong Bok, everything would be settled. The Thai military said, “Yes, all settled. If not, we’ll close the border.” That felt like a slap in the face. Please consider this. We are men of our word. Thailand started this, and tricked us. Cambodia is under pressure too—we have our own base of supporters. So if the Thai side starts it, within 5 hours everything can return to normal.

    Hun Sen (continued):
    • My dear niece, I’ll tell you— If we don’t have a mutual agreement about troop redeployment, and everything’s back to normal but the Thai side won’t reopen the border, Then tomorrow we’ll impose a total ban on agricultural exports across the border to pressure the Thai military. Because as reported, we already agreed at Chong Bok that the troop redeployment would end things. But then the Thai military just closed the checkpoint and now wants us to negotiate to reopen it? That doesn’t look good. Not appropriate at all. Thailand must reopen first. Once they do, we’ll follow. Within 5 hours, everything will be back to normal.

    Thai PM Paetongtarn:
    • Hmm, I’ll try talking to the Defense Ministry. But honestly, when we’re in talks, I’d like Phi Huad to tell Samdech—if there’s anything he wants, just say it directly, so we can settle it. Sometimes when Samdech posts on Facebook— Right now the government is the most unstable it has ever been since I became PM. It’s all because of this Cambodia issue. I haven’t responded at all, because I love and respect Samdech. So if you really want something, just tell me. Call me. Whatever isn’t public doesn’t have to be public. Whatever got leaked was because there were many people in the conversation, not just the two of us. If it’s just us, nothing will leak. I don’t want this to happen again. I’ll go talk to the Defense Ministry. If they admit Thailand closed the border first, I’ll ask them what they think. If it works, I’ll inform Phi Huad whether everything’s settled. Because honestly, there are bad people working against both of us. It makes it look like Thailand and Cambodia are fighting each other. But really, new generations shouldn’t have war. Both Ink and Hun Manet are the new generation.

    Hun Sen:
    • Regarding the post—it was just to inform our public. It wasn’t meant to affect Thailand too much. It’s fine now. If the Prime Minister can normalize the checkpoint issue, then everything is over.

    Thai PM Paetongtarn:
    • Alright. I’ll go talk to the Defense Ministry. I’ll get confirmation first, because I need to talk to the military. Once it’s 100% confirmed, I’ll inform you. But it can definitely be handled.

    Hun Sen:
    • Let me emphasize again—there should be no negotiations on the checkpoint issue. Thailand closed it. They tricked us into redeployment, saying everything would return to normal. But suddenly, the Thai military closed the checkpoint. So the Thai military must lift the closure first. Cambodia will follow. Then everything will be back to normal. No more problems.

    Thai PM Paetongtarn:
    • Okay. I’ll inform you as soon as I know what’s going on.

    *********************

    My personal note :
    I wish to clarify for all my international friends the important distinctions among various branches of Thailand’s military forces. There are those who serve His Majesty the King with unwavering loyalty, those who safeguard the nation's territory, and dedicated soldiers who are consistently the first to respond when disasters strike—rushing to aid and protect the people without hesitation. These are honorable servicemen who hold the Nation, Religion, and Monarchy close to their hearts. They are not military figures driven by political ambitions or authoritarian motives. Therefore, they do not deserve to be undermined or betrayed by political leaders in this manner.

    **********************************************

    下面是对这段 2025 年 6 月 15 日晚上,“แพทองธาร”(即英款总理)与“Hun Sen”(洪森)电话对话的逐字中译(包含译员说话):

    泰国总理 แพทองธาร(英款总理)
    • 你好,最近怎么样?身体还好吗?

    洪森
    • 身体很健康。

    泰国总理 แพทองธาร
    • 今天我和翻译哥哥(พี่ฮวด)谈到了边境问题,我们意见一致,希望两国和平稳定/不希望“安可”去听对方那边的说法。因为二战区的那些将军都是对方那边的人,如果去听,就怕引起误会或不满。但其实我们并不想造成这些。现在对方那边为了“看起来强硬”,说了一些不利于两国的话。但我们的真正意图,是希望边境冲突恢复到之前的平静状态。希望您能体谅一下,因为现在在泰国,大家都在催我去柬埔寨当总理了。

    洪森
    • 嗯……嗯……

    泰国总理 แพทองธาร
    • (干笑)如果您有什么需求,请直说,我这边会安排。

    洪森
    • 嗯嗯,第一步,希望边境恢复正常,就像事件没发生前那样。

    泰国总理 แพทองธาร
    • 好的,意见一致。

    洪森
    • 其实这次边境冲突,是泰方先开始的。所以只要泰国撤回命令,柬埔寨那边就会跟着撤销,恢复正常状态。我们确实有一些分歧,尤其在陆地关卡问题上,我们也尝试照泰方要求去做。我们撤军、调整兵力之后,但泰方仍以关闭检查站为由施压……所以,希望泰国总理那边取消关闭检查站的命令。柬埔寨那边也会取消禁止农产品入境的措施。

    泰国总理 แพทองธาร
    • 目前政府受到很大攻击。您和Hun Manet(洪森的儿子)提到会切断水电一事,我这里要道歉——那其实只是官方在说明程序,表示如果再发生事件,泰国会如何应对,不是说一定要这样做。但现在,已开始剪电影、停拍电视剧,一切都在进行。如果想让两国都满意,必须一起说明:“双方达成共识,总理们已经共同决定恢复一切正常”,可以由英款和洪森,或者别的方式来发布,就像我们已经共同协商过,双方都希望恢复正常局面。

    译员
    • 总理是想发布声明吗?让柬埔寨总理发声明吗?

    泰国总理 แพทองธาร
    • 对,可以发声明,也可以听洪森建议,总之必须是双方共同达成的协议。因为英款现在压力非常大。

    洪森
    • 其实我想要的是稳定。但军方是先关闭的检查站,他们先开始,先施压。所以需要和军方确认,他们是否准备好开放关卡。

    泰国总理 แพทองธาร
    • 准备好了,我们已经做好开放。但是要说是双方共同决定,这样才不会显得“哎呀,都退让了”,我会被攻击。目前已经到了关卡之前的问题了。

    洪森
    • 我不想谈关闭检查站的问题,因为是军方先关的,是他们骗我们说“等我们撤完,就正常了”,但其实他们没有按协议执行。情况是:我们的陆地关卡调兵已沟通完毕,说好一旦完成,一切结束,但泰军却说“没有结束,我们先关卡”,这简直是当头一棒。请您考虑一下这个问题。
    • 我们是讲信用的男人,泰方先开始,欺骗我们。柬埔寨这边媒体压力也很大,我们也有民众,所以泰方一旦开始,在五小时内一切可以恢复。但如果没有重申双方同意的承诺,一旦泰军不肯开,明天柬埔寨也会禁止农产品出口,以此给泰军施压。就像我之前报告所说的:陆地边境兵力调动已经达成一致,但泰军关闭检查站不合适,完全不妥。军方必须先开关卡,我们随后就配合,五小时内一切恢复正常。

    泰国总理 แพทองธาร
    • 嗯,我会尝试和国防部沟通。但其实在谈话时,希望哥哥帮我转告洪森,您有什么需求可以直接说,这样才能达成协议。有些话若发到脸书,政府现在最脆弱——自从英款上任以来,柬埔寨问题就是最大的挑战。而英款不回怼,是出于对您的尊敬。如果真的想要什么,就告诉我,甚至打电话来,咱们两个人说,不必发声。如果我们俩直接沟通,就不会泄露。现在我会跟国防部说,如果他们说是泰国先关,我们就一并沟通,看有没有可行方案。若可行,会让翻译哥哥通知您:“一切ok”。因为的确有些人对我们没好意,两边看起来像我们自己在互掐。其实我们这一代人不该有战争——战争我们都会输,不管英款还是洪森·马奈特都是年轻人。

    洪森
    • 关于声明,只是告诉我们这边的民众,不会影响泰国。现在没问题了。如果您总理能把检查站恢复正常,一切就结束了。

    泰国总理 แพทองธาร
    • 好的,我会去和国防部谈,然后确认给您结果。我会先和军方谈,等100%确定再回报。其实应该是可以处理好的。

    洪森
    • 再次重申,检查站问题不该协商,因为是泰军先关的,然后还骗我们说“撤军就恢复”。现在必须是泰军先取消关闭,我们随后再恢复,一切马上正常,什么问题都没有。

    泰国总理 แพทองธาร
    • 好的,我会尽快给您反馈结果。

    *********************

    个人附注:
    我希望向所有国际友人澄清,泰国军队各个分支之间存在着重要而值得理解的区别。
    其中有些军人忠诚不渝地效忠国王陛下;有些致力于守护国家领土;还有一些尽职尽责的士兵,在每一次灾难发生时总是第一时间奔赴现场,无畏无私地救助和保护人民。
    这些人是值得尊敬的军人,心中怀有对国家、宗教与君主制度的坚定信仰。
    他们并非因政治野心或威权动机而投身军旅的政治人物。
    因此,他们不应受到政治领导人以这种方式的削弱或背叛。

    **********************************************
    Thu. Jun. 19, 2025 บ่ายวานนี้ หลังจากโมโหจนไฟลุกหัว เพราะได้ฟังคลิปหลานกบฏฮุนทองธาร คุยกับท่านอางูเห่าอย่างนอบน้อม และเคารพรัก พอดีมีเพื่อนบ้านคน Canadian พาหมาเดินตอนเย็น เพื่อนบ้านคนนี้เป็นขาเม้าสายการเมืองเมามันที่สุด ก็เริ่มคุยกันตั้งแต่เรื่อง Trump & ICE ยาวไปถึงเรื่อง Iran & Israel จนมาจบที่เรื่องคลิปเสียงอันฮือฮาที่สุดวานนี้ คนไทยเพิ่งได้ฟังสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเอาบทสนทนาแบบนี้มาลงได้ แต่ที่สะใจสุดๆก็คือ ครอบครัวชินวัตร และทักษิณ ชินวัตร คนที่ไม่มีคนไทยหน้าไหนกล้าแทงข้างหลังเลย มีแต่ขอมาอยู่ใต้ฝ่าตีน คนที่ทำให้คนไทยแบ่งสีแบ่งฝ่าย แตกความสามัคคีกัน คนที่มอมเมาประชาชนให้ตกอยู่ในความยากจน และไร้การศึกษา จนเราเคยรู้สึกว่า นี่คนไทยต้องรับเคราะห์กรรมอยู่ใต้อำนาจคนชั่วและระบบชั่วที่นักการเมืองแบบมันสร้างไว้อีกนานเท่าไหร่...จะไม่มีใครมาหยุดพลังความชั่วช้าของมันได้เลยรึ และบ่ายวันที่ 18 มิย. 2568 ท่านมัจจุราชคงสงสารชาวไทย จึงประทานสายฟ้าผ่าลงกลางหัวตระกูลชินวัตร โดยผู้ส่งสารแห่งความตายมาให้ก็คือเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด งูเห่าเฒ่าฮุนเซ็นนั่นเอง ยิ่งหลานกบฏยิ่งแก้ตัวแถไถกับนักข่าว เพื่อความอยู่รอด ท่านอางูเห่าก็ยิ่งช่วยส่งคลิปตอกฝาโลง ย้ำให้รู้สึกว่า เมื่อแผนของสองตระกูลพังเพราะทหารไทย และแรงกดดันจากประชาชนทั้งสองฝั่ง และตระกูลชินไม่มีน้ำยาอีกต่อไป งั้นท่านอางูเห่าก็ขอถีบหัวเพื่อนรัก และหลานรักส่งก่อนละนะจ๊ะ อากับลูกๆจะขอทำเท่ในสายตาประชาชนคนเขมรดีกว่าจ้ะ เราน่ะเกลียดคนตระกูลชิน และตระกูลฮุนเข้าไส้ แต่ตอนนี้ เราเชียร์ท่านอางูเห่าให้พ่นพิษออกมาให้สุดๆ ทวงบุญคุณ และเหยียบย่ำคนไทยที่หนีคดีไปอยู่ในเขมรให้จมดินเลย ยึดทรัพย์ให้เกลี้ยง และเอาเข้าคุกมืดเขมรไปให้หมดเลยฮ่ะ เราภาวนาให้ตระกูลชินไปไม่ถูก แล้วก็หน้าด้านที่จะอยู่ต่อให้ถึงที่สุด และให้กีกี้ออกมาช่วยให้สุดพลัง...เพื่อบีบให้ประชาชนกรีดร้อง และทหารต้องออกมายึดอำนาจในที่สุด เพราะเราไม่อยากกลับเข้าวงจรการเลือกตั้งอุบาศก์อีกแล้ว คือวัดดวงเลย เพราะเราไม่เอาแดง ไม่เอาส้ม ไม่เอาน้ำเงิน ไม่เอาลุงป้อม ลุงตู่ เราไม่อยากได้นักการเมืองขี้ฉ้อ และทหารหน้าเงินแล้วน่ะ ให้ทหารยึดอำนาจ ยึดทรัพย์ทุนเทาและ fake nominee กลับให้หมด แก้รัฐธรรมนูญอุดรอยรั่วไม่ให้นักการเมืองชั่วมีช่องเล็ดลอดได้อีก จัดระบบบ้านเมืองใหม่ไว้รับมือภัยพิบัติต่างๆ ขอแค่สมัยเดียว 4 ปีพอ มาล้างไพ่ให้หน่อย แต่เราอยากได้ทหารที่ไม่กินนอกกินใน โหดและเด็ดขาดกว่าลุงตู่ 10 เท่า แต่กิริยามารยาท และการศึกษาดี เป็นทหารของคนรุ่นใหม่น่ะ...จะมีส่งประกวดมั้ยน้อ วานนี้ พอเราเล่าเรื่องคลิปเสียงให้เพื่อนบ้านต่างชาติฟังเสร็จ เราก็บอกว่า เราอยากให้ทหารยึดอำนาจมากๆ เพื่อนบ้านก็ตกใจมาก บอกว่าภาพลักษณ์ประเทศไทยจะเหมือนพม่ามั้ย เราก็บอกเขาว่า ทหารไทยไม่ปล้น ฆ่า ข่มขืน ทำร้ายคนแบบนั้น นี่มีสำนักข่าวนึง เขาถอดคลิปเสียงแบบคำต่อคำ เดี๋ยวเราจะแปล (ไม่ใช่เราแปลหรอก ChatGPT น่ะ) เป็นภาษาอังกฤษให้อ่านนะ แล้วบอกเรานะ ว่าผู้นำทางการเมืองแบบนี้น่ะหรือ ที่สมควรจะให้นั่งคุมตำแหน่งใหญ่โตแบบนี้ เราเลยอธิบายให้เพื่อนต่างชาติ เข้าใจถึงความแตกต่างของทหารของพระราชา ทหารรักษาดินแดน ทหารที่เข้าช่วยเหลือประชาชนก่อนใครทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติ ทหารน้ำดีที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พวกเข้าเหล่านี้ไม่ใช่ทหารเผด็จการ หรือทหารการเมือง จึงไม่ควรได้รับการหักหลัง จากผู้นำทางการเมืองแบบนี้ เดี๋ยวจะแปลงบทสนทนานี้เป็นภาษาจีนด้วย เผื่ออ้ายอีกบฏมันหนีไปจีน จะได้ให้เขาระวังตัวกันไว้ ว่ามีสัตว์นรกแอบเข้าบ้านนะ นั่งดูคลิปตอนนายกหนูน้อยแถไถกับนักข่าว ยิ่งแถยิ่งรัดคอตัวเอง จังหวะนาทีที่ 6:50 ชอบมากอ้ะ โดนนักข่าวถามว่า จะยังคุยกับคนตระกูลฮุนได้อยู่อีกมั้ย ปรกตินางจะปากแจ๋ว สวนกลับทำหน้าทำตาใส่นักข่าว แต่วานนี้ท่านอางูเห่าลงคลิปรัวๆ จนหลานไปไม่เป็นเลย นางตอบแบบคล้ายจะร้องไห้ว่า "อืมม...ไม่ทราบ" (ต้องไปถามพ่อก่อน) แต่ตอนนี้ คำถามเราคือ ท่านอางูเห่ามีคลิปมาลงอีกมั้ย....และตอนนี้ท่านพ่อหายไปไหนคะ??? ********************************************** จากตรงนี้ ใครฟังคลิปออก แล้วไม่อยากอ่านแล้ว ก็ผ่านไปได้เลยค่ะ คือถอดบทสนทนา 3 ภาษาค่ะ พร้อมแทรกหมายเหตุส่วนตัวนิดนึง เพื่อให้ต่างชาติเข้าใจความแตกต่างของทหารไทยเรา ถอดบทสนทนาระหว่าง "นายกฯอิ๊งค์ แพทองธาร ขินวัตร" สนทนากับ "สมเด็จฮุนเซน" ในค่ำคืนวันที่ 15 มิถุนายน 2568 โดยสมเด็จฮุนเซน ได้บันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์เอาไว้ โดยมีล่ามช่วยแปล 17.06 นาทีเต็ม แบบถอดเสียงคำต่อคำ มีใจความการสนทนาดังนี้ แพทองธาร • เป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่า ฮุนเซน • สุขภาพแข็งแรงดี แพทองธาร • วันนี้ ได้คุยเรื่องชายแดน กับ พี่ฮวด(ล่าม) เข้าใจตรงกันว่าทั้งสองฝ่ายอยากให้ 2 ประเทศสงบสุข / ไม่อยากให้อังเคิ้ลไปฟัง คนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา เพราะพวกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลย พอไปฟังอย่างนั้นก็ไม่อยากให้ไม่ชอบใจหรือโกรธ เพราะจริง ๆ ไม่ใช่ความตั้งใจของเราเลยค่ะ ตอนนี้ทางนั้นเค้าอยากดูเท่ ก็จะพูดอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ แต่จริง ๆ สิ่งที่เราต้องการ คือ ความสงบสุขให้เกิดขึ้นเหมือนก่อนที่จะเกิดการปะทะกันตรงชายแดน อยากให้ท่านเห็นใจหลานหน่อย เพราะว่าตอนเนี้ย คนในประเทศไทยไล่เราไปเป็นนายกฯ ที่เขมรหมดแล้ว ฮุนเซน • ฮึม ฮึม แพทองธาร • (เสียงหัวเราะแห้ง ๆ ) ถ้าท่านอยากได้อะไร ขอให้บอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้ ฮุนเซน • ฮึม ฮึม ขั้นตอนที่ 1 อยากให้ชายแดนเปิดปกติ เหมือนก่อนเกิดเหตุ แพทองธาร • โอเคค่ะ ตรงกัน ฮุนเซน • จริง ๆ เหตุการณ์ชายแดน ฝ่ายไทยเป็นคนเริ่มก่อน ฉะนั้นฝ่ายไทยถอนคำสั่ง กัมพูชาก็ตามเลย เปิดปกติ เพราะว่า เราก็มีความคิดต่างกันเรื่องนึงแล้ว เรื่องมีปัญหาที่ช่องบก เราก็พยายามตามที่ฝ่ายไทยต้องการ เราก็ทำตามนะ ขอให้สถานการณ์เข้าภาวะปกติ แต่พอเราถอยแล้ว ถอนแล้ว ปรับกำลังแล้ว แต่ฝั่งไทยยังเอาเรื่องด่านมากดดันอีก .. ฉะนั้น อยากให้ท่านนายกฯ ช่วยให้ฝั่งไทยถอน (ยกเลิก) เรื่องการปิดด่าน กัมพูชา ก็จะถอน (ยกเลิก) เรื่องการห้ามสินค้าเกษตรเข้า แพทองธาร • ตอนนี้ รัฐบาลโดนโจมตีหนักมาก เพราะว่าตอนที่ท่านสมเด็จ ออกมาพูดกับ ท่านฮุน มาเนต ที่บอกว่า จะตัดน้ำ ตัดไฟ คือ อันนั้นต้องขอโทษด้วย เพราะจริง ๆ ต่างประเทศแค่รายงานขั้นตอนว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ต่อไป ประเทศไทยจะทำยังไง คือ เหมือนอธิบายขั้นตอนให้ฟัง ไม่ได้บอกว่าจะทำ แต่ตอนนี้ เริ่มตัดหนัง ตัดละคร คือทำทุกอย่างหมดแล้ว จริง ๆ ถ้าจะให้มันโอเคทั้ง 2 ฝ่าย เราต้องพูดพร้อมกันว่า ตกลงร่วมกันแล้ว รัฐบาลคุยร่วมกันแล้วว่า จะเปิดทุกอย่างให้กลับมาเป็นปกติได้ อาจจะเป็นอิ๊งค์กับฮุน มา เนต ก็ได้ หรือจะยังไงก็ได้ เหมือนกับว่าเราได้คุยร่วมกัน แล้วทั้ง 2 ฝ่ายอยากให้กลับมาเป็นเหตุการณ์ปกติ ล่าม • นายกฯ อยากให้โพสต์ใช่มั้ย ให้นายกฯ (กัมพูชา) โพสต์ใช่มั้ย ว่า ... แพทองธาร • ใช่ จะโพสต์ก็ได้ หรือจะยังไงก็ได้ แล้วให้ท่านฮุนเซนแนะนำก็ได้ เหมือนกับว่า มันต้องเป็นการตกลงร่วมกันน่ะพี่ เพราะว่าตอนนี้อิ๊งค์กำลังโดนหนักมากเลย ฮุนเซน • จริง ๆ อยากได้เสถียรภาพ แต่ทหารมาปิดด่านก่อน มันเริ่มต้นก่อน กดดันก่อน ฉะนั้นต้องเคลียร์ทหารว่า พร้อมมั้ย? สำหรับการเปิดด่าน แพทองธาร • พร้อมค่ะ เราเปิดให้อยู่แล้วค่ะ แต่ต้องเป็นการบอกว่า เราตกลงร่วมกัน เพราะถ้าไม่อย่างนั้น จะกลายเป็นว่า โอ๊ย ยอม ยอม ยอมหมด อิ๊งค์ก็จะโดน เพราะว่าตอนเนี้ยมันเลยมาถึงเรื่องก่อนด่านแล้ว ฮุนเซน • ไม่อยากมีการเจรจาเรื่องปิดด่าน เพราะว่า ทหารเริ่มก่อน หลอกให้เราปรับกำลัง สถานการณ์ต้องเข้าสู่ปกติ ที่ปรับกำลังที่ช่องบกคุยกันเรียบร้อย บอกว่า ถ้าปรับเสร็จเรียบร้อย ทุกอย่างต้องจบ ทหารก็ “ครับ จบครับ ถ้าไม่จบ ปิดด่านก่อน” อันนี้เหมือนตบหน้า ขอให้ท่านพิจารณาด้วยเรื่องเนี้ย • เราเป็นลูกผู้ชาย คำไหนคำนั้น ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน แล้วหลอกเรา ทางกัมพูชาเราก็โดนหนักเหมือนกัน เราก็มีมวลชน ฉะนั้นฝ่ายไทยเริ่มแล้ว ไม่เกิน 5 ชั่วโมง ทุกอย่างก็เข้าปกติเลย • หลานที่รัก อาบอกได้เลย ถ้าเราไม่มีคำสัญญาเรื่องปรับกำลังแล้ว ทุกอย่างปกติแต่ว่าทหารไทยไม่ยอมเปิดด่าน พรุ่งนี้ก็มีการห้ามเรื่องการส่งออกเกษตรทั่วชายแดนเลย เพื่อกดดันทหาร (ทหารไทย) เพราะสถานการณ์เหมือนกับที่รายงานให้ท่านทราบว่า การปรับกำลังที่ช่องบก ตกลงกันแล้วว่า จะจบกัน แต่ว่าอยู่ดี ๆ ทหารไทยมาปิดด่านแล้วจะให้กัมพูชาไปเจรจาเปิดด่าน “ดูแล้วไม่สวย ไม่สมควรอย่างยิ่ง” ต้องทหารไทยเริ่มก่อน ถ้าเริ่มแล้วทางนี้ตามหลัง ไม่เกิน 5 ชั่วโมง ทุกอย่างก็เข้าปกติ แพทองธาร • อืม ก็เดี๋ยวจะลองคุยกับกลาโหมดูค่ะ แต่ว่าจริง ๆ แล้ว ตอนที่คุย อยากให้พี่ฮวดบอกท่านฮุนเซน อยากได้อะไร ก็ให้บอก จะได้คุยกันได้ ตกลงกันได้ เพราะบางทีท่านโพสต์เฟซบุ๊กออกมา คือ ตอนเนี้ยรัฐบาลสั่นคลอนที่สุดแล้ว ตั้งแต่ อิ๊งค์เป็นนายกฯมา ก็คือเรื่องกัมพูชานี่แหละ ซึ่งอิ๊งค์ไม่ออกมาตอบโต้อะไรทั้งสิ้น เพราะก็รักและเคารพท่าน เพราะฉะนั้น ถ้าจะเอาอะไรจริง ๆ บอกได้เลย ยกหูบอกก็ได้ อันไหนไม่เป็นข่าวก็ไม่เป็นข่าว อันที่หลุดไปมันหลุดเพราะสื่อ เพราะไม่ได้คุยกันแค่ 2 คน มันคุยกันเป็นกลุ่มนะ มันก็เลยหลุด ถ้ามาคุยกัน 2 คน ไม่มีหลุดอยู่แล้ว ทีนี้ก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ เดี๋ยวจะไปคุยกับกลาโหม เพราะถ้าสมมติเค้าพูดว่า ของไทยปิดก่อน ก็จะไปคุยกับกลาโหมว่า เค้าว่ายังไง ถ้าเวิร์คยังไงก็จะส่งบอกพี่ฮวด (พี่ล่าม) ว่าเรียบร้อยมั้ย เพราะจริงๆ คนมันไม่หวังดีกับเรา ทั้งคู่ มันก็แบบดูเหมือนเรากับเค้า (กัมพูชา) ทะเลาะกันเอง จริงๆ คนรุ่นใหม่ต้องไม่มีสงครามอ่ะพี่ คนรุ่นใหม่มีสงครามมันก็เสีย ทั้งอิ๊งค์ ทั้งฮุน มาเนตก็เป็นคนรุ่นใหม่ ฮุนเซน • เรื่องการโพสต์ ก็แค่ชี้แจงให้มวลชนทางนี้ทราบ ไม่ได้ไปกระทบอะไรกับไทยมาก ตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ถ้าท่านนายกฯ แก้เรื่องด่านให้เป็นปกติ ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว ก็จบ แพทองธาร • ได้ค่ะ เดี๋ยวลองไปคุยกับกลาโหมดู แล้วก็ขอคอนเฟิร์มกลับมา เพราะเดี๋ยวจะคุยกับกองทัพก่อน แล้วก็เดี๋ยวสั่งไปเลย รอให้ 100% แล้วค่อยแจ้งกลับมาดีกว่า แต่ว่าจริง ๆ แล้วก็จัดการได้ค่ะ ฮุนเซน • ขอยืนยันอีกทีว่า เรื่องด่าน ไม่ควรเจรจา เพราะว่าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายปิด แล้วหลอกให้เราปรับกำลัง ว่าเออ ถ้าปรับแล้ว ตรงนี้จบ ทุกอย่างเข้าภาวะปกติ แต่อยู่ดี ๆ ทหารไทย ฉะนั้นทหารไทยต้องยกเลิกปิดด่าน แล้วกัมพูชาก็จะตามหลัง ทุกอย่างก็เข้าภาวะปกติเลย ไม่มีอะไรแล้ว แพทองธาร • ค่ะ แล้วเดี๋ยวจะรีบแจ้งกลับไปนะคะว่าเป็นยังไงบ้าง ********************* หมายเหตุส่วนตัว อยากขออธิบายให้เพื่อนๆชาวต่างชาติ เข้าใจถึงความแตกต่างของทหารของพระราชา ทหารที่ปกป้องรักษาดินแดน ทหารที่เข้าช่วยเหลือประชาชนก่อนใครทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติ และทหารน้ำดีที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่ทหารเผด็จการ หรือทหารการเมือง จึงไม่สมควรจะได้รับการหักหลัง จากกบฏในคราบผู้นำทางการเมืองแบบนี้ ********************************************** Clip conversation between Thai Prime Minister Paetongtarn Shinawatra (nickname "Ink") and Samdech Hun Sen, word by word: --- Thai PM Paetongtarn: • How are you? Are you doing well? Hun Sen: • My health is good. Thai PM Paetongtarn: • Today, I talked with Phi Huad (the interpreter) about the border issue. We both understand that both sides want peace between our two countries. I don’t want Uncle to listen to those who are on the opposing side of us, because all the Second Army Region commanders are on the opposing side. If you hear those things, please don’t be displeased or angry. That’s truly not our intention. Right now, that side wants to look cool, so they say things that are not beneficial to the nation. What we really want is peace, like before the border clashes. Please sympathize with your niece, because right now, people in Thailand are saying I should go be Prime Minister in Cambodia instead. Hun Sen: • Hm. Hm. Thai PM Paetongtarn: • (Dry laugh) If there’s anything you want, just let me know. I’ll take care of it. Hun Sen: • Hm. Hm. • Step one, I want the border to reopen normally, like before the incident. Thai PM Paetongtarn: • Okay. We’re on the same page. Hun Sen: • Actually, the border incident was started by the Thai side. So if Thailand revokes its order, Cambodia will follow and reopen things as normal. We already accepted Thailand’s stance on the issue at Chong Bok. We complied with Thailand’s request. I want the situation to return to normal. But after we withdrew and redeployed our troops, Thailand still used the checkpoint issue to pressure us. So I’d like you, Madam Prime Minister, to help the Thai side revoke the border closure. Then Cambodia will revoke the ban on agricultural imports. Thai PM Paetongtarn: • The government is under heavy attack right now because when Samdech made a statement to Hun Manet saying the water and electricity would be cut— I have to apologize for that. In fact, foreign reports were just explaining procedures—what Thailand would do if the situation escalated. It wasn’t a threat; it was just procedural. But now things are getting serious—TV shows, dramas are being blocked. Everything. If we want this to go well for both sides, we should make a joint statement. Something like Ink and Hun Manet agreeing to restore things back to normal. That way, it looks like we’ve discussed and both sides want normalization. Interpreter: • The PM wants a post? For the Cambodian PM to post? Thai PM Paetongtarn: • Yes, you can make a post or whatever works. Or Samdech can give advice. It has to be seen as a joint decision, Phi. Because I’m really under pressure now. Hun Sen: • What we really want is stability. But the military closed the border first. They started it. They pressured us first. So the military must be ready—ready to reopen the checkpoint? Thai PM Paetongtarn: • We’re ready. We’re already open. But it has to be presented as a mutual agreement. Otherwise, it will look like I’m just yielding to everything, and I’ll be heavily criticized. This issue has moved beyond just the border checkpoint now. Hun Sen: • I don’t want to negotiate about the checkpoint. Because the military started it. They tricked us into redeploying. The situation must return to normal. We agreed that after adjusting troop positions at Chong Bok, everything would be settled. The Thai military said, “Yes, all settled. If not, we’ll close the border.” That felt like a slap in the face. Please consider this. We are men of our word. Thailand started this, and tricked us. Cambodia is under pressure too—we have our own base of supporters. So if the Thai side starts it, within 5 hours everything can return to normal. Hun Sen (continued): • My dear niece, I’ll tell you— If we don’t have a mutual agreement about troop redeployment, and everything’s back to normal but the Thai side won’t reopen the border, Then tomorrow we’ll impose a total ban on agricultural exports across the border to pressure the Thai military. Because as reported, we already agreed at Chong Bok that the troop redeployment would end things. But then the Thai military just closed the checkpoint and now wants us to negotiate to reopen it? That doesn’t look good. Not appropriate at all. Thailand must reopen first. Once they do, we’ll follow. Within 5 hours, everything will be back to normal. Thai PM Paetongtarn: • Hmm, I’ll try talking to the Defense Ministry. But honestly, when we’re in talks, I’d like Phi Huad to tell Samdech—if there’s anything he wants, just say it directly, so we can settle it. Sometimes when Samdech posts on Facebook— Right now the government is the most unstable it has ever been since I became PM. It’s all because of this Cambodia issue. I haven’t responded at all, because I love and respect Samdech. So if you really want something, just tell me. Call me. Whatever isn’t public doesn’t have to be public. Whatever got leaked was because there were many people in the conversation, not just the two of us. If it’s just us, nothing will leak. I don’t want this to happen again. I’ll go talk to the Defense Ministry. If they admit Thailand closed the border first, I’ll ask them what they think. If it works, I’ll inform Phi Huad whether everything’s settled. Because honestly, there are bad people working against both of us. It makes it look like Thailand and Cambodia are fighting each other. But really, new generations shouldn’t have war. Both Ink and Hun Manet are the new generation. Hun Sen: • Regarding the post—it was just to inform our public. It wasn’t meant to affect Thailand too much. It’s fine now. If the Prime Minister can normalize the checkpoint issue, then everything is over. Thai PM Paetongtarn: • Alright. I’ll go talk to the Defense Ministry. I’ll get confirmation first, because I need to talk to the military. Once it’s 100% confirmed, I’ll inform you. But it can definitely be handled. Hun Sen: • Let me emphasize again—there should be no negotiations on the checkpoint issue. Thailand closed it. They tricked us into redeployment, saying everything would return to normal. But suddenly, the Thai military closed the checkpoint. So the Thai military must lift the closure first. Cambodia will follow. Then everything will be back to normal. No more problems. Thai PM Paetongtarn: • Okay. I’ll inform you as soon as I know what’s going on. ********************* My personal note : I wish to clarify for all my international friends the important distinctions among various branches of Thailand’s military forces. There are those who serve His Majesty the King with unwavering loyalty, those who safeguard the nation's territory, and dedicated soldiers who are consistently the first to respond when disasters strike—rushing to aid and protect the people without hesitation. These are honorable servicemen who hold the Nation, Religion, and Monarchy close to their hearts. They are not military figures driven by political ambitions or authoritarian motives. Therefore, they do not deserve to be undermined or betrayed by political leaders in this manner. ********************************************** 下面是对这段 2025 年 6 月 15 日晚上,“แพทองธาร”(即英款总理)与“Hun Sen”(洪森)电话对话的逐字中译(包含译员说话): 泰国总理 แพทองธาร(英款总理) • 你好,最近怎么样?身体还好吗? 洪森 • 身体很健康。 泰国总理 แพทองธาร • 今天我和翻译哥哥(พี่ฮวด)谈到了边境问题,我们意见一致,希望两国和平稳定/不希望“安可”去听对方那边的说法。因为二战区的那些将军都是对方那边的人,如果去听,就怕引起误会或不满。但其实我们并不想造成这些。现在对方那边为了“看起来强硬”,说了一些不利于两国的话。但我们的真正意图,是希望边境冲突恢复到之前的平静状态。希望您能体谅一下,因为现在在泰国,大家都在催我去柬埔寨当总理了。 洪森 • 嗯……嗯…… 泰国总理 แพทองธาร • (干笑)如果您有什么需求,请直说,我这边会安排。 洪森 • 嗯嗯,第一步,希望边境恢复正常,就像事件没发生前那样。 泰国总理 แพทองธาร • 好的,意见一致。 洪森 • 其实这次边境冲突,是泰方先开始的。所以只要泰国撤回命令,柬埔寨那边就会跟着撤销,恢复正常状态。我们确实有一些分歧,尤其在陆地关卡问题上,我们也尝试照泰方要求去做。我们撤军、调整兵力之后,但泰方仍以关闭检查站为由施压……所以,希望泰国总理那边取消关闭检查站的命令。柬埔寨那边也会取消禁止农产品入境的措施。 泰国总理 แพทองธาร • 目前政府受到很大攻击。您和Hun Manet(洪森的儿子)提到会切断水电一事,我这里要道歉——那其实只是官方在说明程序,表示如果再发生事件,泰国会如何应对,不是说一定要这样做。但现在,已开始剪电影、停拍电视剧,一切都在进行。如果想让两国都满意,必须一起说明:“双方达成共识,总理们已经共同决定恢复一切正常”,可以由英款和洪森,或者别的方式来发布,就像我们已经共同协商过,双方都希望恢复正常局面。 译员 • 总理是想发布声明吗?让柬埔寨总理发声明吗? 泰国总理 แพทองธาร • 对,可以发声明,也可以听洪森建议,总之必须是双方共同达成的协议。因为英款现在压力非常大。 洪森 • 其实我想要的是稳定。但军方是先关闭的检查站,他们先开始,先施压。所以需要和军方确认,他们是否准备好开放关卡。 泰国总理 แพทองธาร • 准备好了,我们已经做好开放。但是要说是双方共同决定,这样才不会显得“哎呀,都退让了”,我会被攻击。目前已经到了关卡之前的问题了。 洪森 • 我不想谈关闭检查站的问题,因为是军方先关的,是他们骗我们说“等我们撤完,就正常了”,但其实他们没有按协议执行。情况是:我们的陆地关卡调兵已沟通完毕,说好一旦完成,一切结束,但泰军却说“没有结束,我们先关卡”,这简直是当头一棒。请您考虑一下这个问题。 • 我们是讲信用的男人,泰方先开始,欺骗我们。柬埔寨这边媒体压力也很大,我们也有民众,所以泰方一旦开始,在五小时内一切可以恢复。但如果没有重申双方同意的承诺,一旦泰军不肯开,明天柬埔寨也会禁止农产品出口,以此给泰军施压。就像我之前报告所说的:陆地边境兵力调动已经达成一致,但泰军关闭检查站不合适,完全不妥。军方必须先开关卡,我们随后就配合,五小时内一切恢复正常。 泰国总理 แพทองธาร • 嗯,我会尝试和国防部沟通。但其实在谈话时,希望哥哥帮我转告洪森,您有什么需求可以直接说,这样才能达成协议。有些话若发到脸书,政府现在最脆弱——自从英款上任以来,柬埔寨问题就是最大的挑战。而英款不回怼,是出于对您的尊敬。如果真的想要什么,就告诉我,甚至打电话来,咱们两个人说,不必发声。如果我们俩直接沟通,就不会泄露。现在我会跟国防部说,如果他们说是泰国先关,我们就一并沟通,看有没有可行方案。若可行,会让翻译哥哥通知您:“一切ok”。因为的确有些人对我们没好意,两边看起来像我们自己在互掐。其实我们这一代人不该有战争——战争我们都会输,不管英款还是洪森·马奈特都是年轻人。 洪森 • 关于声明,只是告诉我们这边的民众,不会影响泰国。现在没问题了。如果您总理能把检查站恢复正常,一切就结束了。 泰国总理 แพทองธาร • 好的,我会去和国防部谈,然后确认给您结果。我会先和军方谈,等100%确定再回报。其实应该是可以处理好的。 洪森 • 再次重申,检查站问题不该协商,因为是泰军先关的,然后还骗我们说“撤军就恢复”。现在必须是泰军先取消关闭,我们随后再恢复,一切马上正常,什么问题都没有。 泰国总理 แพทองธาร • 好的,我会尽快给您反馈结果。 ********************* 个人附注: 我希望向所有国际友人澄清,泰国军队各个分支之间存在着重要而值得理解的区别。 其中有些军人忠诚不渝地效忠国王陛下;有些致力于守护国家领土;还有一些尽职尽责的士兵,在每一次灾难发生时总是第一时间奔赴现场,无畏无私地救助和保护人民。 这些人是值得尊敬的军人,心中怀有对国家、宗教与君主制度的坚定信仰。 他们并非因政治野心或威权动机而投身军旅的政治人物。 因此,他们不应受到政治领导人以这种方式的削弱或背叛。 **********************************************
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้อำนวยการ IAEA นาย Grossi กล่าวว่าโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านในเมืองนาตันซ์และอิสฟาฮานได้รับความเสียหายอย่างหนัก

    ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นช่วงเวลาที่กองทัพอากาศอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในเมืองนาตันซ์เมื่อเช้านี้ ซึ่งตามคำกล่าวของ Grossi ระบุว่าขณะนี้มีการบันทึก "การปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีเล็กน้อย" ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในรายงานเกี่ยวกับเมืองอิสฟาฮานและฟอร์โดว์

    รัสเซียกำลังวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดเกี่ยวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นต่อโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างต่อเนื่อง และยืนกรานว่าต้องได้รับรายงานที่เป็นกลางจาก IAEA เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ตามคำแถลงของกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย
    ผู้อำนวยการ IAEA นาย Grossi กล่าวว่าโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านในเมืองนาตันซ์และอิสฟาฮานได้รับความเสียหายอย่างหนัก ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นช่วงเวลาที่กองทัพอากาศอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในเมืองนาตันซ์เมื่อเช้านี้ ซึ่งตามคำกล่าวของ Grossi ระบุว่าขณะนี้มีการบันทึก "การปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีเล็กน้อย" ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในรายงานเกี่ยวกับเมืองอิสฟาฮานและฟอร์โดว์ รัสเซียกำลังวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดเกี่ยวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นต่อโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างต่อเนื่อง และยืนกรานว่าต้องได้รับรายงานที่เป็นกลางจาก IAEA เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ตามคำแถลงของกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • Cock.li เป็นบริการอีเมลฟรีในเยอรมนีที่โด่งดังเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้งานสาย underground หรือแฮกเกอร์ เพราะไม่ต้องยืนยันตัวตนและไม่แสดงโฆษณา แต่ล่าสุดมี แฮกเกอร์ออกมาขายฐานข้อมูลของ Cock.li ถึง 2 ชุดในดาร์กเว็บ โดยอ้างว่ามีข้อมูลกว่า 1 ล้านบัญชี!

    หลังตรวจสอบแล้ว ทางผู้ดูแล Cock.li ยอมรับว่าการเจาะเกิดจากช่องโหว่ของระบบเว็บเมล Roundcube ที่เลิกใช้ไปแล้ว โดยผู้โจมตีสามารถดึงเอาข้อมูลจากตาราง “users” และ “contacts” ออกไปได้

    ในฐานข้อมูลมีทั้งอีเมล, เวลาล็อกอินล่าสุด, การตั้งค่าผู้ใช้ (signature, ภาษา) รวมถึง contact ที่เก็บไว้ (vCard) จากกว่า 10,000 คน รวมทั้งหมดกว่า 93,000 รายการ ถึงแม้จะไม่มีรหัสผ่านหรือ IP หลุด แต่ก็พอให้แฮกเกอร์รู้พฤติกรรมของผู้ใช้ได้มาก

    ทีมงานรีบบอกให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านทันที และเตือนว่าบัญชีที่ใช้ Roundcube หรือเคยล็อกอินระบบตั้งแต่ปี 2016 อาจมีความเสี่ยงทั้งสิ้น

    ✅ Cock.li ยืนยันการถูกเจาะระบบ และข้อมูลผู้ใช้กว่า 1 ล้านรายหลุดออกไป  
    • แฮกเกอร์ขายฐานข้อมูล 2 ชุดใน dark web  
    • รวมผู้ใช้ที่ล็อกอินผ่าน Roundcube ตั้งแต่ปี 2016

    ✅ ฐานข้อมูลที่หลุดมีข้อมูลหลากหลาย ได้แก่:  
    • อีเมล, เวลาล็อกอิน, ภาษาที่เลือก, การตั้งค่าบน Roundcube  
    • รายชื่อผู้ติดต่อ (contact) กว่า 93,000 entries จากผู้ใช้ ~10,400 ราย

    ✅ ช่องโหว่มาจากระบบ Roundcube ที่ถูกถอดออกไปแล้ว  
    • เป็น Remote Code Execution ที่กำลังถูกโจมตีในวงกว้าง  
    • Cock.li ระบุว่า “ไม่ว่าจะเวอร์ชันใด เราจะไม่ใช้ Roundcube อีก”

    ✅ ทีมงานแนะให้เปลี่ยนรหัสผ่านทันทีแม้ไม่พบรหัสผ่านหลุด  
    • เพื่อป้องกันการถูกใช้ช่องโหว่เดิมหรือข้อมูลถูกโยงเข้ากับบัญชีอื่น

    ✅ Cock.li เป็นอีเมลฟรีที่เคยได้รับความนิยมในหมู่แฮกเกอร์และผู้ใช้สาย privacy
    • เพราะไม่ต้องยืนยันตัวตนและไม่มีโฆษณา

    ‼️ แม้จะไม่มีรหัสผ่านหลุด แต่อาจนำไปใช้ประกอบกับข้อมูลจากแหล่งอื่นเพื่อโจมตีแบบ spear phishing ได้  
    • โดยเฉพาะผู้ที่ใช้บัญชีเดียวกันกับบริการอื่น (reuse password)

    ‼️ ผู้ใช้ที่บันทึก “ลายเซ็น” หรือข้อมูลส่วนตัวไว้ใน Roundcube มีความเสี่ยงข้อมูลถูกเปิดเผย  
    • เช่น เบอร์โทร, แท็ก GPG key, หรือที่อยู่

    ‼️ Roundcube เป็นระบบเว็บเมลที่มีช่องโหว่จำนวนมาก และถูกใช้เป็นจุดโจมตีในหลายกรณี  
    • ไม่ควรใช้งานเวอร์ชันเก่าหรือปล่อยระบบโดยไม่มีการอัปเดต

    ‼️ ผู้ให้บริการอีเมลฟรีที่ไม่ลงทุนในระบบความปลอดภัย มักไม่สามารถป้องกันเหตุลักษณะนี้ได้  
    • โดยเฉพาะบริการที่ไม่รองรับ MFA หรือไม่เข้ารหัสข้อมูลฝั่งเซิร์ฟเวอร์

    https://www.techradar.com/pro/security/top-email-hosting-provider-cock-li-hacked-over-a-million-user-records-stolen
    Cock.li เป็นบริการอีเมลฟรีในเยอรมนีที่โด่งดังเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้งานสาย underground หรือแฮกเกอร์ เพราะไม่ต้องยืนยันตัวตนและไม่แสดงโฆษณา แต่ล่าสุดมี แฮกเกอร์ออกมาขายฐานข้อมูลของ Cock.li ถึง 2 ชุดในดาร์กเว็บ โดยอ้างว่ามีข้อมูลกว่า 1 ล้านบัญชี! หลังตรวจสอบแล้ว ทางผู้ดูแล Cock.li ยอมรับว่าการเจาะเกิดจากช่องโหว่ของระบบเว็บเมล Roundcube ที่เลิกใช้ไปแล้ว โดยผู้โจมตีสามารถดึงเอาข้อมูลจากตาราง “users” และ “contacts” ออกไปได้ ในฐานข้อมูลมีทั้งอีเมล, เวลาล็อกอินล่าสุด, การตั้งค่าผู้ใช้ (signature, ภาษา) รวมถึง contact ที่เก็บไว้ (vCard) จากกว่า 10,000 คน รวมทั้งหมดกว่า 93,000 รายการ ถึงแม้จะไม่มีรหัสผ่านหรือ IP หลุด แต่ก็พอให้แฮกเกอร์รู้พฤติกรรมของผู้ใช้ได้มาก ทีมงานรีบบอกให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านทันที และเตือนว่าบัญชีที่ใช้ Roundcube หรือเคยล็อกอินระบบตั้งแต่ปี 2016 อาจมีความเสี่ยงทั้งสิ้น ✅ Cock.li ยืนยันการถูกเจาะระบบ และข้อมูลผู้ใช้กว่า 1 ล้านรายหลุดออกไป   • แฮกเกอร์ขายฐานข้อมูล 2 ชุดใน dark web   • รวมผู้ใช้ที่ล็อกอินผ่าน Roundcube ตั้งแต่ปี 2016 ✅ ฐานข้อมูลที่หลุดมีข้อมูลหลากหลาย ได้แก่:   • อีเมล, เวลาล็อกอิน, ภาษาที่เลือก, การตั้งค่าบน Roundcube   • รายชื่อผู้ติดต่อ (contact) กว่า 93,000 entries จากผู้ใช้ ~10,400 ราย ✅ ช่องโหว่มาจากระบบ Roundcube ที่ถูกถอดออกไปแล้ว   • เป็น Remote Code Execution ที่กำลังถูกโจมตีในวงกว้าง   • Cock.li ระบุว่า “ไม่ว่าจะเวอร์ชันใด เราจะไม่ใช้ Roundcube อีก” ✅ ทีมงานแนะให้เปลี่ยนรหัสผ่านทันทีแม้ไม่พบรหัสผ่านหลุด   • เพื่อป้องกันการถูกใช้ช่องโหว่เดิมหรือข้อมูลถูกโยงเข้ากับบัญชีอื่น ✅ Cock.li เป็นอีเมลฟรีที่เคยได้รับความนิยมในหมู่แฮกเกอร์และผู้ใช้สาย privacy • เพราะไม่ต้องยืนยันตัวตนและไม่มีโฆษณา ‼️ แม้จะไม่มีรหัสผ่านหลุด แต่อาจนำไปใช้ประกอบกับข้อมูลจากแหล่งอื่นเพื่อโจมตีแบบ spear phishing ได้   • โดยเฉพาะผู้ที่ใช้บัญชีเดียวกันกับบริการอื่น (reuse password) ‼️ ผู้ใช้ที่บันทึก “ลายเซ็น” หรือข้อมูลส่วนตัวไว้ใน Roundcube มีความเสี่ยงข้อมูลถูกเปิดเผย   • เช่น เบอร์โทร, แท็ก GPG key, หรือที่อยู่ ‼️ Roundcube เป็นระบบเว็บเมลที่มีช่องโหว่จำนวนมาก และถูกใช้เป็นจุดโจมตีในหลายกรณี   • ไม่ควรใช้งานเวอร์ชันเก่าหรือปล่อยระบบโดยไม่มีการอัปเดต ‼️ ผู้ให้บริการอีเมลฟรีที่ไม่ลงทุนในระบบความปลอดภัย มักไม่สามารถป้องกันเหตุลักษณะนี้ได้   • โดยเฉพาะบริการที่ไม่รองรับ MFA หรือไม่เข้ารหัสข้อมูลฝั่งเซิร์ฟเวอร์ https://www.techradar.com/pro/security/top-email-hosting-provider-cock-li-hacked-over-a-million-user-records-stolen
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายองค์กรและระบบฝังตัว (embedded system) มักเจอกับปัญหา "ไฟดับที = ข้อมูลพัง" โดยเฉพาะในเครื่องจักรอุตสาหกรรม, ระบบควบคุม, หรือสถานีขอบเครือข่าย (edge server) ที่ต้องทำงานตลอดเวลา Transcend ก็เลยออก SSD475P มาแก้ปัญหานี้โดยตรง

    หัวใจของ SSD รุ่นนี้คือฟีเจอร์ Power Loss Protection (PLP) ที่ใช้ตัวเก็บประจุภายใน (capacitors) คอยจ่ายไฟสำรองให้ SSD เมื่อเกิดไฟตกหรือไฟดับ ทำให้ข้อมูลที่ยังไม่ถูกเขียน (in-flight data) จะถูกบันทึกจนจบอย่างปลอดภัย

    SSD ตัวนี้ใช้เทคโนโลยี 112-layer 3D NAND มี DRAM cache ในตัว และใช้เฟิร์มแวร์แบบ “Direct Write” ที่ช่วยให้การเขียนข้อมูลเสถียรแม้โหลดสูง เหมาะกับงานที่ต้องการความทนทาน เช่น การบันทึกเซนเซอร์, ระบบ surveillance หรือการบิน–กลาโหม

    แม้จะยังใช้ อินเทอร์เฟซ SATA III 6 Gb/s (ไม่เร็วเท่า PCIe) แต่ก็ตอบโจทย์ในแง่ความเสถียร และการรองรับอุณหภูมิ -40°C ถึง 85°C พร้อมการเข้ารหัส AES และฟีเจอร์ป้องกันความร้อน, การตรวจสอบสุขภาพ (S.M.A.R.T.) และ ECC ในระดับ LDPC

    ✅ Transcend เปิดตัว SSD475P: SSD 2.5” สำหรับงานอุตสาหกรรมและระบบฝังตัว  
    • ใช้อินเทอร์เฟซ SATA III ความเร็วสูงสุด 560/530 MB/s  
    • ใช้ NAND แบบ 112-layer 3D พร้อม DRAM cache

    ✅ มีระบบ Power Loss Protection (PLP)  
    • ใช้ตัวเก็บประจุเก็บไฟเพื่อเขียนข้อมูลที่ค้างระหว่างไฟดับให้เสร็จ  
    • ลดโอกาส corruption และสูญหายของข้อมูลอย่างมาก

    ✅ รองรับการใช้งานต่อเนื่องในอุณหภูมิ -40°C ถึง 85°C  
    • ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานอุตสาหกรรม 100% ของ Transcend

    ✅ มาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเสถียรครบถ้วน  
    • ECC แบบ LDPC, Dynamic Thermal Throttling, S.M.A.R.T.  
    • รองรับ AES encryption และ TCG Opal

    ✅ เหมาะกับงาน: automation, embedded, military, surveillance, edge computing  
    • จุดขายคือ “เสถียร–ปลอดภัย” มากกว่า “เร็วสุดขั้ว”

    ✅ ผลิตในไต้หวัน พร้อมรับประกัน 3 ปีแบบจำกัด  
    • ตอกย้ำคุณภาพตามมาตรฐานอุตสาหกรรม

    ‼️ ใช้ SATA III ซึ่งมีข้อจำกัดด้านความเร็วเมื่อเทียบกับ SSD PCIe NVMe  
    • ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการ throughput ระดับสูงมาก เช่น video editing 8K

    ‼️ ราคาน่าจะสูงกว่าปกติ เนื่องจากใช้ PLP และ NAND คุณภาพสูง  
    • ยังไม่มีการเปิดเผยราคา ณ ตอนเผยแพร่ข่าว

    ‼️ ไม่ใช่ SSD สำหรับใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม  
    • จุดเด่นอยู่ที่ “ความเสถียรและความทน” มากกว่าประสิทธิภาพด้านกราฟิก

    ‼️ ต้องการอุปกรณ์รองรับ SATA 2.5” เท่านั้น  
    • ไม่สามารถใช้บนโน้ตบุ๊กบางรุ่นหรืออุปกรณ์ที่ไม่มีช่อง SATA

    https://www.techpowerup.com/338131/transcend-introduces-8-tb-industrial-ssd-with-power-loss-protection
    หลายองค์กรและระบบฝังตัว (embedded system) มักเจอกับปัญหา "ไฟดับที = ข้อมูลพัง" โดยเฉพาะในเครื่องจักรอุตสาหกรรม, ระบบควบคุม, หรือสถานีขอบเครือข่าย (edge server) ที่ต้องทำงานตลอดเวลา Transcend ก็เลยออก SSD475P มาแก้ปัญหานี้โดยตรง หัวใจของ SSD รุ่นนี้คือฟีเจอร์ Power Loss Protection (PLP) ที่ใช้ตัวเก็บประจุภายใน (capacitors) คอยจ่ายไฟสำรองให้ SSD เมื่อเกิดไฟตกหรือไฟดับ ทำให้ข้อมูลที่ยังไม่ถูกเขียน (in-flight data) จะถูกบันทึกจนจบอย่างปลอดภัย SSD ตัวนี้ใช้เทคโนโลยี 112-layer 3D NAND มี DRAM cache ในตัว และใช้เฟิร์มแวร์แบบ “Direct Write” ที่ช่วยให้การเขียนข้อมูลเสถียรแม้โหลดสูง เหมาะกับงานที่ต้องการความทนทาน เช่น การบันทึกเซนเซอร์, ระบบ surveillance หรือการบิน–กลาโหม แม้จะยังใช้ อินเทอร์เฟซ SATA III 6 Gb/s (ไม่เร็วเท่า PCIe) แต่ก็ตอบโจทย์ในแง่ความเสถียร และการรองรับอุณหภูมิ -40°C ถึง 85°C พร้อมการเข้ารหัส AES และฟีเจอร์ป้องกันความร้อน, การตรวจสอบสุขภาพ (S.M.A.R.T.) และ ECC ในระดับ LDPC ✅ Transcend เปิดตัว SSD475P: SSD 2.5” สำหรับงานอุตสาหกรรมและระบบฝังตัว   • ใช้อินเทอร์เฟซ SATA III ความเร็วสูงสุด 560/530 MB/s   • ใช้ NAND แบบ 112-layer 3D พร้อม DRAM cache ✅ มีระบบ Power Loss Protection (PLP)   • ใช้ตัวเก็บประจุเก็บไฟเพื่อเขียนข้อมูลที่ค้างระหว่างไฟดับให้เสร็จ   • ลดโอกาส corruption และสูญหายของข้อมูลอย่างมาก ✅ รองรับการใช้งานต่อเนื่องในอุณหภูมิ -40°C ถึง 85°C   • ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานอุตสาหกรรม 100% ของ Transcend ✅ มาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยและความเสถียรครบถ้วน   • ECC แบบ LDPC, Dynamic Thermal Throttling, S.M.A.R.T.   • รองรับ AES encryption และ TCG Opal ✅ เหมาะกับงาน: automation, embedded, military, surveillance, edge computing   • จุดขายคือ “เสถียร–ปลอดภัย” มากกว่า “เร็วสุดขั้ว” ✅ ผลิตในไต้หวัน พร้อมรับประกัน 3 ปีแบบจำกัด   • ตอกย้ำคุณภาพตามมาตรฐานอุตสาหกรรม ‼️ ใช้ SATA III ซึ่งมีข้อจำกัดด้านความเร็วเมื่อเทียบกับ SSD PCIe NVMe   • ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการ throughput ระดับสูงมาก เช่น video editing 8K ‼️ ราคาน่าจะสูงกว่าปกติ เนื่องจากใช้ PLP และ NAND คุณภาพสูง   • ยังไม่มีการเปิดเผยราคา ณ ตอนเผยแพร่ข่าว ‼️ ไม่ใช่ SSD สำหรับใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม   • จุดเด่นอยู่ที่ “ความเสถียรและความทน” มากกว่าประสิทธิภาพด้านกราฟิก ‼️ ต้องการอุปกรณ์รองรับ SATA 2.5” เท่านั้น   • ไม่สามารถใช้บนโน้ตบุ๊กบางรุ่นหรืออุปกรณ์ที่ไม่มีช่อง SATA https://www.techpowerup.com/338131/transcend-introduces-8-tb-industrial-ssd-with-power-loss-protection
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Transcend Introduces 8 TB Industrial SSD with Power Loss Protection
    Transcend Information, Inc. (Transcend), a global leader in storage and multimedia solutions, proudly announces the launch of its new SSD475P 2.5" solid-state drive, purpose-built for industrial applications and high-performance environments. Featuring Power Loss Protection (PLP) technology, the SSD...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • Keylogger คือมัลแวร์ที่คอยแอบบันทึกสิ่งที่เราพิมพ์—โดยเฉพาะ “ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน” ที่กรอกตอนล็อกอินเข้าเว็บ ระบบอีเมล หรือหน้า admin ต่าง ๆ ล่าสุด นักวิจัยจาก Positive Technologies พบว่า มีกลุ่มแฮกเกอร์ใช้ JavaScript keylogger ฝังเข้าไปในหน้า Outlook on the Web (OWA) ของ Microsoft Exchange Server ที่ถูกเจาะเข้าไปแล้ว

    พวกเขาไม่ได้ใช้มัลแวร์ขั้นสูงหรือ zero-day อะไรเลย แค่ใช้ช่องโหว่ที่ “รู้กันมานานแล้ว” แต่หลายองค์กรไม่ได้อัปเดตแพตช์ Keylogger เหล่านี้ทำงานเงียบ ๆ บันทึกสิ่งที่ผู้ใช้พิมพ์ แล้วส่งออกผ่านช่องทางอย่าง DNS tunnel หรือ Telegram bot ให้แฮกเกอร์เอาไปใช้ภายหลัง

    ที่น่ากลัวคือ เหยื่อกว่า 65 รายจาก 26 ประเทศ ทั้งหน่วยงานรัฐบาล อุตสาหกรรม และโลจิสติกส์—รวมถึงมีหลายรายในรัสเซีย เวียดนาม และไต้หวัน

    และที่ยิ่งอันตรายคือ keylogger แบบนี้ “ฝังตัวอยู่นานหลายเดือนโดยไม่ถูกจับได้” เพราะมันซ่อนอยู่ในสคริปต์ของหน้าเว็บที่ดูปกติมาก

    ✅ พบแคมเปญ keylogger ฝังใน Microsoft Outlook Web Access (OWA)  
    • แฮกเกอร์เจาะ Exchange Server แล้วฝัง JavaScript เพื่อดักพิมพ์

    ✅ รูปแบบมัลแวร์มี 2 แบบหลัก  • แบบเก็บข้อมูลในไฟล์ local เพื่อดึงไปอ่านภายหลัง  
    • แบบส่งข้อมูลผ่าน DNS tunnel หรือ Telegram bot

    ✅ ฝังตัวอย่างแนบเนียนบนเซิร์ฟเวอร์ของเหยื่อหลายประเทศ (26 ประเทศ)  
    • เหยื่อหลักคือหน่วยงานภาครัฐ, IT, อุตสาหกรรม และโลจิสติกส์  
    • พบมากในรัสเซีย เวียดนาม และไต้หวัน

    ✅ มัลแวร์สามารถอยู่ได้นานหลายเดือนโดยไม่ถูกตรวจจับ  
    • มีการจัดโครงสร้างไฟล์ให้แฮกเกอร์สามารถระบุตัวตนเหยื่อได้ง่าย

    ✅ ช่องทางเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่เกิดจากช่องโหว่ที่เคยแจ้งแล้ว แต่ไม่ได้อัปเดตแพตช์  
    • สะท้อนปัญหาการจัดการความเสี่ยงในองค์กรที่ไม่ต่อเนื่อง

    ✅ นักวิจัยแนะนำองค์กรให้หันมาใช้ web app รุ่นใหม่ และระบบตรวจจับพฤติกรรมเครือข่าย  
    • รวมถึงสแกนโค้ดหน้า login อย่างสม่ำเสมอ

    ‼️ องค์กรที่ยังใช้ Exchange Server รุ่นเก่าหรือไม่ได้อัปเดตแพตช์มีความเสี่ยงสูงมาก  
    • ช่องโหว่เก่า ๆ กลายเป็นทางเข้าที่แฮกเกอร์ใช้ซ้ำได้เรื่อย ๆ

    ‼️ Keylogger แบบ JavaScript ฝังตัวในหน้าล็อกอินได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเลย  
    • ทำให้ยากต่อการตรวจจับหากไม่มีระบบแยกแยะพฤติกรรมแปลก ๆ ของเว็บ

    ‼️ การส่งข้อมูลผ่านช่องทางที่ตรวจจับยาก เช่น DNS tunnel หรือ Telegram bot เพิ่มความซับซ้อนในการติดตาม  
    • แฮกเกอร์สามารถดึงข้อมูลโดยไม่ถูกบล็อกจากไฟร์วอลล์มาตรฐาน

    ‼️ แอดมินหรือผู้ดูแลระบบอาจไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง เพราะ keylogger ไม่เปลี่ยนหน้าตาเว็บเลย  
    • องค์กรควรใช้ระบบ file integrity monitoring ตรวจจับความเปลี่ยนแปลงในสคริปต์

    https://www.techspot.com/news/108355-keylogger-campaign-hitting-microsoft-exchange-servers-goes-global.html
    Keylogger คือมัลแวร์ที่คอยแอบบันทึกสิ่งที่เราพิมพ์—โดยเฉพาะ “ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน” ที่กรอกตอนล็อกอินเข้าเว็บ ระบบอีเมล หรือหน้า admin ต่าง ๆ ล่าสุด นักวิจัยจาก Positive Technologies พบว่า มีกลุ่มแฮกเกอร์ใช้ JavaScript keylogger ฝังเข้าไปในหน้า Outlook on the Web (OWA) ของ Microsoft Exchange Server ที่ถูกเจาะเข้าไปแล้ว พวกเขาไม่ได้ใช้มัลแวร์ขั้นสูงหรือ zero-day อะไรเลย แค่ใช้ช่องโหว่ที่ “รู้กันมานานแล้ว” แต่หลายองค์กรไม่ได้อัปเดตแพตช์ Keylogger เหล่านี้ทำงานเงียบ ๆ บันทึกสิ่งที่ผู้ใช้พิมพ์ แล้วส่งออกผ่านช่องทางอย่าง DNS tunnel หรือ Telegram bot ให้แฮกเกอร์เอาไปใช้ภายหลัง ที่น่ากลัวคือ เหยื่อกว่า 65 รายจาก 26 ประเทศ ทั้งหน่วยงานรัฐบาล อุตสาหกรรม และโลจิสติกส์—รวมถึงมีหลายรายในรัสเซีย เวียดนาม และไต้หวัน และที่ยิ่งอันตรายคือ keylogger แบบนี้ “ฝังตัวอยู่นานหลายเดือนโดยไม่ถูกจับได้” เพราะมันซ่อนอยู่ในสคริปต์ของหน้าเว็บที่ดูปกติมาก ✅ พบแคมเปญ keylogger ฝังใน Microsoft Outlook Web Access (OWA)   • แฮกเกอร์เจาะ Exchange Server แล้วฝัง JavaScript เพื่อดักพิมพ์ ✅ รูปแบบมัลแวร์มี 2 แบบหลัก  • แบบเก็บข้อมูลในไฟล์ local เพื่อดึงไปอ่านภายหลัง   • แบบส่งข้อมูลผ่าน DNS tunnel หรือ Telegram bot ✅ ฝังตัวอย่างแนบเนียนบนเซิร์ฟเวอร์ของเหยื่อหลายประเทศ (26 ประเทศ)   • เหยื่อหลักคือหน่วยงานภาครัฐ, IT, อุตสาหกรรม และโลจิสติกส์   • พบมากในรัสเซีย เวียดนาม และไต้หวัน ✅ มัลแวร์สามารถอยู่ได้นานหลายเดือนโดยไม่ถูกตรวจจับ   • มีการจัดโครงสร้างไฟล์ให้แฮกเกอร์สามารถระบุตัวตนเหยื่อได้ง่าย ✅ ช่องทางเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่เกิดจากช่องโหว่ที่เคยแจ้งแล้ว แต่ไม่ได้อัปเดตแพตช์   • สะท้อนปัญหาการจัดการความเสี่ยงในองค์กรที่ไม่ต่อเนื่อง ✅ นักวิจัยแนะนำองค์กรให้หันมาใช้ web app รุ่นใหม่ และระบบตรวจจับพฤติกรรมเครือข่าย   • รวมถึงสแกนโค้ดหน้า login อย่างสม่ำเสมอ ‼️ องค์กรที่ยังใช้ Exchange Server รุ่นเก่าหรือไม่ได้อัปเดตแพตช์มีความเสี่ยงสูงมาก   • ช่องโหว่เก่า ๆ กลายเป็นทางเข้าที่แฮกเกอร์ใช้ซ้ำได้เรื่อย ๆ ‼️ Keylogger แบบ JavaScript ฝังตัวในหน้าล็อกอินได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเลย   • ทำให้ยากต่อการตรวจจับหากไม่มีระบบแยกแยะพฤติกรรมแปลก ๆ ของเว็บ ‼️ การส่งข้อมูลผ่านช่องทางที่ตรวจจับยาก เช่น DNS tunnel หรือ Telegram bot เพิ่มความซับซ้อนในการติดตาม   • แฮกเกอร์สามารถดึงข้อมูลโดยไม่ถูกบล็อกจากไฟร์วอลล์มาตรฐาน ‼️ แอดมินหรือผู้ดูแลระบบอาจไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง เพราะ keylogger ไม่เปลี่ยนหน้าตาเว็บเลย   • องค์กรควรใช้ระบบ file integrity monitoring ตรวจจับความเปลี่ยนแปลงในสคริปต์ https://www.techspot.com/news/108355-keylogger-campaign-hitting-microsoft-exchange-servers-goes-global.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Keylogger campaign hitting Outlook Web Access on vulnerable Exchange servers goes global
    Researchers from Positive Technologies recently unveiled a new study on a keylogger-based campaign targeting organizations worldwide. The campaign, which resembles a similar attack discovered in 2024, focuses...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรืออินเดียบันทึกคลิปการโจมตีอิสราเอลโดยขีปนาวุธอิหร่าน 🔥 🔥
    เรืออินเดียบันทึกคลิปการโจมตีอิสราเอลโดยขีปนาวุธอิหร่าน 🔥 🔥
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • แฟนคลับละครจีนย้อนยุคกำลังภายในจะเห็นว่ามียาผงชนิดหนึ่งที่ตัวละครส่วนใหญ่มีพกติดตัวไว้โรยแผล เพื่อนเพจสงสัยกันบ้างหรือไม่ มันคือยาอะไร? ทำไมมีแผลอะไรก็เอาออกมาโรย? ไม่แน่ใจว่านิยายจีนฉบับแปลไทยมีชื่อเรียกยานี้หรือไม่ แต่ฉบับภาษาจีนจะเรียกยานี้ว่า จินชวงเย่า (金疮药)

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ท่านหัวหน้ากองเฉิง ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” จินเซี่ยถาม
    “ไม่เป็นไร ได้ยินมาว่าท่านมือปราบหยวนได้รับบาดเจ็บ นี้คือยาจินชวงเย่าที่ในวังทำขึ้นเพื่อหน่วยองครักษ์โดยเฉพาะ ดีกว่าข้างนอก ทาแล้วแผลจะสมานได้สมบูรณ์” เฉิงฝูกล่าวพลางวางขวดยาไว้บนโต๊ะ....

    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร>

    จินชวงเย่าเป็นผงยาที่ใช้สำหรับบาดแผล มีสรรพคุณห้ามเลือด แก้อักเสบและสมานแผล สูตรยาอาจมีส่วนผสมแตกต่างกันไป แต่เรียกโดยรวมว่าจินชวงเย่า และจินชวงเย่าที่มีชื่อที่สุดในสมัยราชวงศ์ชิง เพราะว่ากันว่าระงับเลือดได้ชะงัดทันใจที่สุด มีชื่อเรียกว่า “เตาเจียนเย่า” (刀尖药)

    จินชวงเย่ามีตัวยาที่สำคัญมากคือ “หลงกู่” (龙骨 แปลว่ากระดูกมังกร) แต่มันไม่ใช่กระดูกของมังกรจริงๆ “หลงกู่” เป็นการเรียกรวมซากกระดูกโบราณที่ขุดพบ เช่นกระดองเต่า กระดูกวัว เป็นต้น (ดูภาพประกอบขวาล่าง) ว่ากันว่า ตอนที่ค้นพบซากกระดูกโบราณเหล่านี้ คนที่ค้นพบพยายามใช้มีดขูดลวดลายบนกระดูกออกด้วยความสงสัย แต่โดนมีดบาดมือ แต่ผงที่ขูดออกจากซากกระดูกกลับทำให้เลือดหยุดไหลได้ทันที จึงเอากระดูกเหล่านี้ไปขายให้ร้านยา จึงเป็นที่มาของการค้นพบว่าผงของหลงกู่บดละเอียดคือตัวยาสำคัญที่มีสรรพคุณห้ามเลือดและลดการอักเสบของจินชวงเย่านั่นเอง

    ประวัติของจินชวงเย่ามีมานานตั้งแต่เมื่อใด Storyฯ ก็หาข้อมูลไม่พบ แต่ที่แน่ๆ คือมีบันทึกถึงจินชวงเย่าไว้ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960–1279) และใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1636-1912) สาเหตุที่ใช้กันมากในสมัยราชวงศ์ชิงนั้น เป็นเพราะในสมัยชิงต้องมีการโกนหัวจึงมักมีบาดแผลจากมีดโกน จินชวงเย่าจึงกลายเป็นยาสามัญประจำบ้าน

    และในยุคสมัยราชวงศ์ชิงนั้นเองที่จินชวงเย่าสาบสูญไป เหตุเพราะมีขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผู้ดูแลงานอักษรนามว่า หวางอี้หรง สังเกตเห็นว่าเทียบยาของตนนั้นมียาหลงกู่ แต่เขาไม่รู้จักมัน จึงเรียกเอามาดู และสังเกตเห็นว่าลวดลายบนหลงกู่ที่แท้เป็นอักขระโบราณ แม้เขาอ่านไม่ออกแต่เชื่อว่ามันเป็นโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า จึงออกกว้านซื้อเพื่อเก็บรักษาและใช้ศึกษาประวัติศาสตร์ ต่อมาในราชสำนักมีการทำอย่างนี้อย่างเป็นทางการ หลงกู่จึงมีราคาสูงมากและขาดตลาดไป ไม่สามารถนำมาใช้ทำจินชวงเย่าอีกต่อไป และด้วยตอนนั้นมีวิวัฒนาการด้านการแพทย์มากขึ้น จึงมีการคิดค้นตัวยาอื่นๆ มาทดแทน จึงเลิกใช้ผงยาจินชวงเย่าที่มีแก่นยามาจากหลงกู่จนมันสาบสูญไป (Storyฯ สงสัยว่าแล้วใช้กระดูกทั่วไปแทนไม่ได้หรืออย่างไร แต่หาคำตอบไม่ได้)

    ปัจจุบันมีการยืนยันแล้วว่าอักขระบนหลงกู่ ก็คืออักษรโบราณสมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณปี1200–1050 ก่อนคริสตกาล) กระดูกเหล่านี้ถูกใช้บันทึกพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญในยุคสมัยนั้น รวมถึงผลของพิธีทำนายต่างๆ และเหตุการณ์ทางด้านดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ ฝรั่งเรียกกระดูกเหล่านี้ว่า Oracle Bones

    ที่บ้าน Storyฯ มีผงยาห้ามเลือดของจีน แต่ไม่รู้ชื่อและส่วนผสม แต่หน้าตาให้ความรู้สึกเหมือนจินชวงเย่ามาก เวลาดูหนังจีนมักมโนว่ามันคือยาเดียวกัน แต่วันนี้รู้แล้วว่ามันคงทำมาจากส่วนผสมอื่น เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายๆ คนคงมียาที่ว่านี้ที่บ้านเหมือนกัน ใครมีข้อมูลว่ามันคืออะไรก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    http://siaoyin.com/Info/8157030203451210773
    https://www.sohu.com/a/458843590_120172967
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.youtube.com/watch?v=U5NtRnOis9Y
    https://www.163.com/dy/article/G6S7ODGT05439D1U.html
    https://www.bilibili.com/read/cv10911896
    https://www.nms.ac.uk/explore-our-collections/stories/world-cultures/oracle-bones/

    #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ยาจีนโบราณ #ยาห้ามเลือดจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ #หลงกู่ #ราชวงศ์ชิง #จินเซี่ย #ใต้เท้าลู่ #จินชวงเย่า
    แฟนคลับละครจีนย้อนยุคกำลังภายในจะเห็นว่ามียาผงชนิดหนึ่งที่ตัวละครส่วนใหญ่มีพกติดตัวไว้โรยแผล เพื่อนเพจสงสัยกันบ้างหรือไม่ มันคือยาอะไร? ทำไมมีแผลอะไรก็เอาออกมาโรย? ไม่แน่ใจว่านิยายจีนฉบับแปลไทยมีชื่อเรียกยานี้หรือไม่ แต่ฉบับภาษาจีนจะเรียกยานี้ว่า จินชวงเย่า (金疮药) ความมีอยู่ว่า ... “ท่านหัวหน้ากองเฉิง ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” จินเซี่ยถาม “ไม่เป็นไร ได้ยินมาว่าท่านมือปราบหยวนได้รับบาดเจ็บ นี้คือยาจินชวงเย่าที่ในวังทำขึ้นเพื่อหน่วยองครักษ์โดยเฉพาะ ดีกว่าข้างนอก ทาแล้วแผลจะสมานได้สมบูรณ์” เฉิงฝูกล่าวพลางวางขวดยาไว้บนโต๊ะ.... - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> จินชวงเย่าเป็นผงยาที่ใช้สำหรับบาดแผล มีสรรพคุณห้ามเลือด แก้อักเสบและสมานแผล สูตรยาอาจมีส่วนผสมแตกต่างกันไป แต่เรียกโดยรวมว่าจินชวงเย่า และจินชวงเย่าที่มีชื่อที่สุดในสมัยราชวงศ์ชิง เพราะว่ากันว่าระงับเลือดได้ชะงัดทันใจที่สุด มีชื่อเรียกว่า “เตาเจียนเย่า” (刀尖药) จินชวงเย่ามีตัวยาที่สำคัญมากคือ “หลงกู่” (龙骨 แปลว่ากระดูกมังกร) แต่มันไม่ใช่กระดูกของมังกรจริงๆ “หลงกู่” เป็นการเรียกรวมซากกระดูกโบราณที่ขุดพบ เช่นกระดองเต่า กระดูกวัว เป็นต้น (ดูภาพประกอบขวาล่าง) ว่ากันว่า ตอนที่ค้นพบซากกระดูกโบราณเหล่านี้ คนที่ค้นพบพยายามใช้มีดขูดลวดลายบนกระดูกออกด้วยความสงสัย แต่โดนมีดบาดมือ แต่ผงที่ขูดออกจากซากกระดูกกลับทำให้เลือดหยุดไหลได้ทันที จึงเอากระดูกเหล่านี้ไปขายให้ร้านยา จึงเป็นที่มาของการค้นพบว่าผงของหลงกู่บดละเอียดคือตัวยาสำคัญที่มีสรรพคุณห้ามเลือดและลดการอักเสบของจินชวงเย่านั่นเอง ประวัติของจินชวงเย่ามีมานานตั้งแต่เมื่อใด Storyฯ ก็หาข้อมูลไม่พบ แต่ที่แน่ๆ คือมีบันทึกถึงจินชวงเย่าไว้ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960–1279) และใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1636-1912) สาเหตุที่ใช้กันมากในสมัยราชวงศ์ชิงนั้น เป็นเพราะในสมัยชิงต้องมีการโกนหัวจึงมักมีบาดแผลจากมีดโกน จินชวงเย่าจึงกลายเป็นยาสามัญประจำบ้าน และในยุคสมัยราชวงศ์ชิงนั้นเองที่จินชวงเย่าสาบสูญไป เหตุเพราะมีขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผู้ดูแลงานอักษรนามว่า หวางอี้หรง สังเกตเห็นว่าเทียบยาของตนนั้นมียาหลงกู่ แต่เขาไม่รู้จักมัน จึงเรียกเอามาดู และสังเกตเห็นว่าลวดลายบนหลงกู่ที่แท้เป็นอักขระโบราณ แม้เขาอ่านไม่ออกแต่เชื่อว่ามันเป็นโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า จึงออกกว้านซื้อเพื่อเก็บรักษาและใช้ศึกษาประวัติศาสตร์ ต่อมาในราชสำนักมีการทำอย่างนี้อย่างเป็นทางการ หลงกู่จึงมีราคาสูงมากและขาดตลาดไป ไม่สามารถนำมาใช้ทำจินชวงเย่าอีกต่อไป และด้วยตอนนั้นมีวิวัฒนาการด้านการแพทย์มากขึ้น จึงมีการคิดค้นตัวยาอื่นๆ มาทดแทน จึงเลิกใช้ผงยาจินชวงเย่าที่มีแก่นยามาจากหลงกู่จนมันสาบสูญไป (Storyฯ สงสัยว่าแล้วใช้กระดูกทั่วไปแทนไม่ได้หรืออย่างไร แต่หาคำตอบไม่ได้) ปัจจุบันมีการยืนยันแล้วว่าอักขระบนหลงกู่ ก็คืออักษรโบราณสมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณปี1200–1050 ก่อนคริสตกาล) กระดูกเหล่านี้ถูกใช้บันทึกพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญในยุคสมัยนั้น รวมถึงผลของพิธีทำนายต่างๆ และเหตุการณ์ทางด้านดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ ฝรั่งเรียกกระดูกเหล่านี้ว่า Oracle Bones ที่บ้าน Storyฯ มีผงยาห้ามเลือดของจีน แต่ไม่รู้ชื่อและส่วนผสม แต่หน้าตาให้ความรู้สึกเหมือนจินชวงเย่ามาก เวลาดูหนังจีนมักมโนว่ามันคือยาเดียวกัน แต่วันนี้รู้แล้วว่ามันคงทำมาจากส่วนผสมอื่น เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายๆ คนคงมียาที่ว่านี้ที่บ้านเหมือนกัน ใครมีข้อมูลว่ามันคืออะไรก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: http://siaoyin.com/Info/8157030203451210773 https://www.sohu.com/a/458843590_120172967 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.youtube.com/watch?v=U5NtRnOis9Y https://www.163.com/dy/article/G6S7ODGT05439D1U.html https://www.bilibili.com/read/cv10911896 https://www.nms.ac.uk/explore-our-collections/stories/world-cultures/oracle-bones/ #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ยาจีนโบราณ #ยาห้ามเลือดจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ #หลงกู่ #ราชวงศ์ชิง #จินเซี่ย #ใต้เท้าลู่ #จินชวงเย่า
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ไม่เอาหรอกคนเขมรมาใช้สัญชาติไทย,เอาแค่พื้นที่ที่ฝรั่งเศสปล้นชิงเราไปก่อนหน้าก็พอ,เราไม่ได้แพ้สงครามกับเขมร,ฝรั่งเศสเมื่อแพ้สงครามต้องคืนดินแดนที่ปล้นชิงไปคืนให้ถูกให้ตรงคนให้ถูกต้องว่าเจ้าของเดิมคือของไทย มิใช่ของเขมร,นี้ฝรั่งเศสทำผิดตัวสร้างความแตกแยกและโกลาหล ตลอดจนเขมรก็ละโมบโลภไม่คืนพื้นที่ดังกล่าวแก่ไทยที่เป็นเจ้าของตัวจริงก่อนฝรั่งเศลมาปล้นชิงเอาไปด้วย.ไทยไม่ได้รบกับเขมรแล้วแพ้สงครามกับเขมรจนเสียดินแดนที่ว่านั่นไปเลย.
    ..และเราไม่เอาคนเขมรมาร่วมเป็นคนไทยสัญชาติไทยทั้งหมดคือไม่ต้องมาเพิ่มจำนวนประชากรให้ไทย,แล้วไทยจะเอาแค่ที่สมควรเป็นของไทยชุดดังเดิมก่อนฝรั่งเศสมาปล้นชิงเอาไปก็พอ,หลายชาติทั่วโลกและไทยเราเองก็มีหลักฐานบันทึกไว้ชัดเจนว่าส่วนพื้นที่ไหนก่อนฝรั่งเศสมาปล้นชิงไปเคยเป็นของไทยเรามาก่อน.,คนเขมรที่เชื้อdnaไม่ซื่อพร้อมทรยศหักหลังกับอีกคนที่มิใช่ตัวมันเอง,อย่ามาร่วมประเทศชาติไทยเราดีที่สุด.

    https://youtube.com/shorts/V4VNAvjzF2g?si=DWpwimWjmlM8SExE
    ..ไม่เอาหรอกคนเขมรมาใช้สัญชาติไทย,เอาแค่พื้นที่ที่ฝรั่งเศสปล้นชิงเราไปก่อนหน้าก็พอ,เราไม่ได้แพ้สงครามกับเขมร,ฝรั่งเศสเมื่อแพ้สงครามต้องคืนดินแดนที่ปล้นชิงไปคืนให้ถูกให้ตรงคนให้ถูกต้องว่าเจ้าของเดิมคือของไทย มิใช่ของเขมร,นี้ฝรั่งเศสทำผิดตัวสร้างความแตกแยกและโกลาหล ตลอดจนเขมรก็ละโมบโลภไม่คืนพื้นที่ดังกล่าวแก่ไทยที่เป็นเจ้าของตัวจริงก่อนฝรั่งเศลมาปล้นชิงเอาไปด้วย.ไทยไม่ได้รบกับเขมรแล้วแพ้สงครามกับเขมรจนเสียดินแดนที่ว่านั่นไปเลย. ..และเราไม่เอาคนเขมรมาร่วมเป็นคนไทยสัญชาติไทยทั้งหมดคือไม่ต้องมาเพิ่มจำนวนประชากรให้ไทย,แล้วไทยจะเอาแค่ที่สมควรเป็นของไทยชุดดังเดิมก่อนฝรั่งเศสมาปล้นชิงเอาไปก็พอ,หลายชาติทั่วโลกและไทยเราเองก็มีหลักฐานบันทึกไว้ชัดเจนว่าส่วนพื้นที่ไหนก่อนฝรั่งเศสมาปล้นชิงไปเคยเป็นของไทยเรามาก่อน.,คนเขมรที่เชื้อdnaไม่ซื่อพร้อมทรยศหักหลังกับอีกคนที่มิใช่ตัวมันเอง,อย่ามาร่วมประเทศชาติไทยเราดีที่สุด. https://youtube.com/shorts/V4VNAvjzF2g?si=DWpwimWjmlM8SExE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์ที่แล้วพูดเรื่องยาโรยแผล วันนี้เลยมาคุยเรื่องอาวุธ
    Storyฯ เคยเล่าถึงชุดมัจฉาบินขององครักษ์เสื้อแพรไปแล้ว วันนี้คุยกันเรื่องสัญลักษณ์ประจำตัวอีกอย่างหนึ่งขององครักษ์เสื้อแพรอันเลื่องชื่อแห่งราชวงศ์หมิง ซึ่งก็คือดาบซิ่วชุน (绣春刀) ซึ่งเป็นดาบพระราชทาน

    ความมีอยู่ว่า
    ... ผู้ตรวจราชการเฝิงมิกล่าวกระไร เพียงหยิบดาบที่วางอยู่ข้างหน้าขึ้นมา มันเป็นดาบเรียวยาวปลายโค้งเล็กน้อย เบาแต่แข็งแกร่งคล่องมือ สะดวกต่อการใช้ประมือในระยะใกล้ เขาจ้องมองมันคล้ายกำลังรำลึกถึงความหลัง ดวงตาเริ่มทอประกายความพลุ่งพล่านในใจ เพียงสะกิดตรงคอดาบ เสียงครืดก็ดังขึ้นพร้อมกับใบดาบอันคมกริบโผล่ขึ้นมาครึ่งศอก ผู้ตรวจราชการเฝิงใช้นิ้วไล้ไปบนใบดาบพร้อมกับเอ่ยเบาๆ กับตนเอง “ดาบซิ่วชุน... อา... ดาบซิ่วชุน ต้องรออีกนานเท่าใด ความงดงามอหังการ์ของเจ้าจึงจะได้ปรากฎต่อสายตาผู้คนอีกครา?” ...

    - จากเรื่อง <เสื้อแพรเหินราตรี> ผู้แต่ง เยวี่ยกวน
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง Braveness of The Ming ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้ เข้าใจว่ายังไม่เข้าฉาย)

    ว่ากันว่า ดาบซิ่วชุนทำจากเหล็กกล้าและอาจมีส่วนผสมอื่น ผ่านการ ‘ตีพันครั้งเผาร้อยครั้ง’ ขึ้นชื่อเรื่องความคมกริบ สามารถใช้บั่นหัวม้าได้ เหมาะกับการต่อสู้แบบประชิดตัวทั้งมือเดียวและสองมือ และยังสะดวกต่อการสู้รบบนหลังม้า ผู้ที่ตำแหน่งยิ่งสูงเนื้อดาบยิ่งบริสุทธิ์และลวดลายบนดาบยิ่งวิจิตร (เป็นที่มาของคำว่า ‘ซิ่วชุน’ แปลว่า ‘ลายปักวสันต์’) ลักษณะของดาบเป็นไปตามคำบรรยายในนิยายข้างต้น

    เห็นรูปดาบซิ่วชุนบนเน็ตมากมาย แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วไม่เคยมีการค้นพบของจริง เป็นเพียงการจำลองขึ้นตามคำบรรยายที่มีการจารึกไว้ ดังนั้นในความเห็นของ Storyฯ ดาบซิ่วชุนเป็นอาวุธที่ทั้งไม่ลึกลับและลึกลับ ที่ว่าไม่ลึกลับเพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง แต่ที่ว่าลึกลับก็เพราะว่าไม่มีใครเคยเห็นของจริงนั่นเอง

    แล้วใครกันล่ะที่มีสิทธิ์ใช้? บางบันทึกบอกว่า เนื่องจากเป็นดาบพระราชทานจึงต้องเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงในหน่วยองครักษ์เสื้อแพรเท่านั้นจึงจะมีใช้ และบางบันทึกกล่าวว่ากองทหารรักษาพระองค์อวี้หลิน (御林军) ก็มีใช้ดาบซิ่วชุน นอกจากนี้ยังเคยมีบันทึกว่ามีแพทย์หลวงผู้หนึ่งนามว่าอู๋เจี๋ยในรัชสมัยขององค์จูโฮ่วเจ้า (ฮ่องเต้เจิ้งเต๋อแห่งราชวงศ์หมิง ค.ศ. 1491-1521) มีผลงานโดดเด่นจนได้รับพระราชทานชุดลายพยัคฆ์พร้อมดาบซิ่วชุน

    ดาบซิ่วชุนที่แท้จริงหน้าตาเป็นอย่างไร? ใครนอกเหนือจากองครักษ์เสื้อแพรใช้ได้บ้าง? ไม่มีใครรู้แน่ชัด เพียงแต่กล่าวขานกันว่าเป็นดาบที่งามวิจิตรและมีอานุภาพร้ายแรง สมศักดิ์ศรีองครักษ์เสื้อแพรอันน่าเกรงขามแห่งราชวงศ์หมิง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.163.com/dy/article/EIJJNHRH05377G1M.html, https://kknews.cc/zh-my/history/zr5b99p.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://ishare.ifeng.com/c/s/7jdz4ruaDa2
    https://baike.baidu.com/item/%E7%BB%A3%E6%98%A5%E5%88%80/75656
    https://zh.wikipedia.org/wiki/%E7%B9%A1%E6%98%A5%E5%88%80

    #องครักษ์เสื้อแพร #ดาบซิ่วชุน #ราชวงศ์หมิง StoryfromStory
    สัปดาห์ที่แล้วพูดเรื่องยาโรยแผล วันนี้เลยมาคุยเรื่องอาวุธ Storyฯ เคยเล่าถึงชุดมัจฉาบินขององครักษ์เสื้อแพรไปแล้ว วันนี้คุยกันเรื่องสัญลักษณ์ประจำตัวอีกอย่างหนึ่งขององครักษ์เสื้อแพรอันเลื่องชื่อแห่งราชวงศ์หมิง ซึ่งก็คือดาบซิ่วชุน (绣春刀) ซึ่งเป็นดาบพระราชทาน ความมีอยู่ว่า ... ผู้ตรวจราชการเฝิงมิกล่าวกระไร เพียงหยิบดาบที่วางอยู่ข้างหน้าขึ้นมา มันเป็นดาบเรียวยาวปลายโค้งเล็กน้อย เบาแต่แข็งแกร่งคล่องมือ สะดวกต่อการใช้ประมือในระยะใกล้ เขาจ้องมองมันคล้ายกำลังรำลึกถึงความหลัง ดวงตาเริ่มทอประกายความพลุ่งพล่านในใจ เพียงสะกิดตรงคอดาบ เสียงครืดก็ดังขึ้นพร้อมกับใบดาบอันคมกริบโผล่ขึ้นมาครึ่งศอก ผู้ตรวจราชการเฝิงใช้นิ้วไล้ไปบนใบดาบพร้อมกับเอ่ยเบาๆ กับตนเอง “ดาบซิ่วชุน... อา... ดาบซิ่วชุน ต้องรออีกนานเท่าใด ความงดงามอหังการ์ของเจ้าจึงจะได้ปรากฎต่อสายตาผู้คนอีกครา?” ... - จากเรื่อง <เสื้อแพรเหินราตรี> ผู้แต่ง เยวี่ยกวน (หมายเหตุ ละครเรื่อง Braveness of The Ming ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้ เข้าใจว่ายังไม่เข้าฉาย) ว่ากันว่า ดาบซิ่วชุนทำจากเหล็กกล้าและอาจมีส่วนผสมอื่น ผ่านการ ‘ตีพันครั้งเผาร้อยครั้ง’ ขึ้นชื่อเรื่องความคมกริบ สามารถใช้บั่นหัวม้าได้ เหมาะกับการต่อสู้แบบประชิดตัวทั้งมือเดียวและสองมือ และยังสะดวกต่อการสู้รบบนหลังม้า ผู้ที่ตำแหน่งยิ่งสูงเนื้อดาบยิ่งบริสุทธิ์และลวดลายบนดาบยิ่งวิจิตร (เป็นที่มาของคำว่า ‘ซิ่วชุน’ แปลว่า ‘ลายปักวสันต์’) ลักษณะของดาบเป็นไปตามคำบรรยายในนิยายข้างต้น เห็นรูปดาบซิ่วชุนบนเน็ตมากมาย แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วไม่เคยมีการค้นพบของจริง เป็นเพียงการจำลองขึ้นตามคำบรรยายที่มีการจารึกไว้ ดังนั้นในความเห็นของ Storyฯ ดาบซิ่วชุนเป็นอาวุธที่ทั้งไม่ลึกลับและลึกลับ ที่ว่าไม่ลึกลับเพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง แต่ที่ว่าลึกลับก็เพราะว่าไม่มีใครเคยเห็นของจริงนั่นเอง แล้วใครกันล่ะที่มีสิทธิ์ใช้? บางบันทึกบอกว่า เนื่องจากเป็นดาบพระราชทานจึงต้องเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงในหน่วยองครักษ์เสื้อแพรเท่านั้นจึงจะมีใช้ และบางบันทึกกล่าวว่ากองทหารรักษาพระองค์อวี้หลิน (御林军) ก็มีใช้ดาบซิ่วชุน นอกจากนี้ยังเคยมีบันทึกว่ามีแพทย์หลวงผู้หนึ่งนามว่าอู๋เจี๋ยในรัชสมัยขององค์จูโฮ่วเจ้า (ฮ่องเต้เจิ้งเต๋อแห่งราชวงศ์หมิง ค.ศ. 1491-1521) มีผลงานโดดเด่นจนได้รับพระราชทานชุดลายพยัคฆ์พร้อมดาบซิ่วชุน ดาบซิ่วชุนที่แท้จริงหน้าตาเป็นอย่างไร? ใครนอกเหนือจากองครักษ์เสื้อแพรใช้ได้บ้าง? ไม่มีใครรู้แน่ชัด เพียงแต่กล่าวขานกันว่าเป็นดาบที่งามวิจิตรและมีอานุภาพร้ายแรง สมศักดิ์ศรีองครักษ์เสื้อแพรอันน่าเกรงขามแห่งราชวงศ์หมิง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.163.com/dy/article/EIJJNHRH05377G1M.html, https://kknews.cc/zh-my/history/zr5b99p.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://ishare.ifeng.com/c/s/7jdz4ruaDa2 https://baike.baidu.com/item/%E7%BB%A3%E6%98%A5%E5%88%80/75656 https://zh.wikipedia.org/wiki/%E7%B9%A1%E6%98%A5%E5%88%80 #องครักษ์เสื้อแพร #ดาบซิ่วชุน #ราชวงศ์หมิง StoryfromStory
    张翰《锦衣夜行》帅出新高度!徐正溪、魏千翔、吴倩,你最期待谁
    张翰《锦衣夜行》帅出新高度!徐正溪、魏千翔、吴倩,你最期待谁,
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิค โรเบิร์ตสัน นักข่าวจาก CNN รายงานเหตุการณ์ตรงจุดที่ขีปนาวุธของอิหร่านโจมตี "ไม่พูดถึงอาคารที่พังถล่มว่าคืออะไร แต่มุ่งเน้นไปที่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อสร้างความหวาดกลัว และเกลียดชังให้อิหร่าน"


    เทลอาวีฟสั่นสะเทือนจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่าน ความเสียหายถูกบันทึกไว้ด้านหลัง


    เสียงไซเรนดังขึ้นและคลื่นกระแทกถล่มใจกลางเทลอาวีฟ ขณะที่ขีปนาวุธของอิหร่านโจมตี ประชาชนต่างรีบวิ่งหาที่พักพิงท่ามกลางการโจมตีด้วยขีปนาวุธรอบใหม่
    นิค โรเบิร์ตสัน นักข่าวจาก CNN รายงานเหตุการณ์ตรงจุดที่ขีปนาวุธของอิหร่านโจมตี "ไม่พูดถึงอาคารที่พังถล่มว่าคืออะไร แต่มุ่งเน้นไปที่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อสร้างความหวาดกลัว และเกลียดชังให้อิหร่าน" เทลอาวีฟสั่นสะเทือนจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่าน ความเสียหายถูกบันทึกไว้ด้านหลัง เสียงไซเรนดังขึ้นและคลื่นกระแทกถล่มใจกลางเทลอาวีฟ ขณะที่ขีปนาวุธของอิหร่านโจมตี ประชาชนต่างรีบวิ่งหาที่พักพิงท่ามกลางการโจมตีด้วยขีปนาวุธรอบใหม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • การอัปเกรดควอนตัมทำให้การสร้างตัวเลขสุ่มสามารถตรวจสอบได้
    นักวิจัยจาก National Institute of Standards and Technology (NIST) ในสหรัฐฯ ได้พัฒนาเทคนิคใหม่สำหรับการสร้างตัวเลขสุ่ม (Random Number Generation - RNG) ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างสมบูรณ์ โดยใช้ ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ ร่วมกับ บล็อกเชน เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ.

    รายละเอียดเทคโนโลยีใหม่
    ✅ ใช้ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ เพื่อสร้างตัวเลขสุ่มที่แท้จริง โดยอาศัยคุณสมบัติของอนุภาคที่เชื่อมโยงกัน.
    ✅ เพิ่มระบบบล็อกเชนเพื่อบันทึกค่าที่สร้างขึ้น ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าข้อมูลไม่ถูกแก้ไข.
    ✅ พัฒนาโปรโตคอลชื่อ Twine เพื่อใช้บันทึกค่าแฮชของตัวเลขสุ่มลงในบล็อกเชน.
    ✅ เปิดตัวบริการ CURBy (University of Colorado Randomness Beacon) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    ‼️ ระบบ RNG ทั่วไปอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการใช้งานด้านความปลอดภัย.
    ‼️ การใช้บล็อกเชนช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็อาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและต้นทุนในการดำเนินการ.
    ‼️ การนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการทำธุรกรรมออนไลน์ อาจต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม.

    แนวทางการนำไปใช้
    ✅ ใช้ในระบบเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสาร.
    ✅ นำไปใช้ในเกมออนไลน์และการพนัน เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์เป็นแบบสุ่มจริง.
    ✅ ใช้ในงานวิจัยด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ที่ต้องการตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี RNG
    ✅ IBM กำลังพัฒนาเครื่องควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุด คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2029.
    ✅ การโจรกรรมคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบ RNG.
    ‼️ การใช้ตัวเลขสุ่มที่ไม่ปลอดภัยอาจนำไปสู่การแฮ็กข้อมูล โดยเฉพาะในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง.

    https://www.techspot.com/news/108329-researchers-develop-first-fully-traceable-quantum-random-number.html
    การอัปเกรดควอนตัมทำให้การสร้างตัวเลขสุ่มสามารถตรวจสอบได้ นักวิจัยจาก National Institute of Standards and Technology (NIST) ในสหรัฐฯ ได้พัฒนาเทคนิคใหม่สำหรับการสร้างตัวเลขสุ่ม (Random Number Generation - RNG) ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างสมบูรณ์ โดยใช้ ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ ร่วมกับ บล็อกเชน เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ. รายละเอียดเทคโนโลยีใหม่ ✅ ใช้ควอนตัมเอนแทงเกิลเมนต์ เพื่อสร้างตัวเลขสุ่มที่แท้จริง โดยอาศัยคุณสมบัติของอนุภาคที่เชื่อมโยงกัน. ✅ เพิ่มระบบบล็อกเชนเพื่อบันทึกค่าที่สร้างขึ้น ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าข้อมูลไม่ถูกแก้ไข. ✅ พัฒนาโปรโตคอลชื่อ Twine เพื่อใช้บันทึกค่าแฮชของตัวเลขสุ่มลงในบล็อกเชน. ✅ เปิดตัวบริการ CURBy (University of Colorado Randomness Beacon) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ ระบบ RNG ทั่วไปอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการใช้งานด้านความปลอดภัย. ‼️ การใช้บล็อกเชนช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็อาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและต้นทุนในการดำเนินการ. ‼️ การนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการทำธุรกรรมออนไลน์ อาจต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม. แนวทางการนำไปใช้ ✅ ใช้ในระบบเข้ารหัสข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสาร. ✅ นำไปใช้ในเกมออนไลน์และการพนัน เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์เป็นแบบสุ่มจริง. ✅ ใช้ในงานวิจัยด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ที่ต้องการตัวเลขสุ่มที่ตรวจสอบได้. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี RNG ✅ IBM กำลังพัฒนาเครื่องควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุด คาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2029. ✅ การโจรกรรมคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบ RNG. ‼️ การใช้ตัวเลขสุ่มที่ไม่ปลอดภัยอาจนำไปสู่การแฮ็กข้อมูล โดยเฉพาะในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง. https://www.techspot.com/news/108329-researchers-develop-first-fully-traceable-quantum-random-number.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Quantum upgrade makes random number generation fully traceable
    Physicists at the National Institute of Standards and Technology in Boulder, Colorado, have upgraded their previously developed quantum-based method for true random number generation. Thanks to the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อนเพจที่ได้อ่านนิยาย/ดูละครเรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> คงจำได้ว่า เป็นเรื่องราวแนวสืบสวนที่พูดถึงการใช้ข้อมูลจากบันทึกและทะเบียนต่างๆ มาใช้ในการแกะรอยคนร้าย มีหลายประเด็นที่ทำให้ Storyฯ สงสัยเลยต้องไปหาข้อมูลมาเพิ่ม

    เรื่องที่จะเล่าวันนี้มีความ ‘เอ๊ะ’ ตรงไหน เรามาดูจากคำพูดข้างล่างจากในละครเรื่องนี้
    ... สวีปินกล่าว “จากบันทึกทะเบียนบ้านของคนผู้นี้ เขาย้ายมาฉางอันเมื่อปีที่ยี่สิบหกในรัชศกก่อน จดทะเบียนในนามหลงปอ ต่อมาย้ายบ้านหลายครา เมื่อปีที่แล้วย้ายเข้าหวยหย่วนฟาง ที่ดูน่าสงสัยคือ เมื่อปลายปีรัชศกเทียนเป่าปีที่สอง มีการจัดทำสมุดทะเบียนใหม่ กำหนดให้ใส่รายละเอียดใบหน้าให้ชัดเจน แต่ทะเบียนของหลงปอยังคงเป็นทะเบียนเก่าสมัยรัชศกก่อน ไม่เคยระบุรายละเอียดหน้าตา”...

    เพื่อนเพจสงสัยเหมือนกันไหมว่า ทะเบียนราษฎร์ในสมัยราชวงศ์ถัง (รัชศกเทียนเป่าคือช่วงปีค.ศ. 742-756) ถึงขนาดมีรายละเอียดใบหน้าชัดเจนเชียวหรือ?

    ไปค้นข้อมูลมาจึงพบว่า การนับจำนวนประชากรในจีนโบราณมีมาตั้งแต่กว่าสองพันปีก่อนคริสตกาล เดิมเป็นการจัดเก็บข้อมูลเพื่อไว้เพื่อช่วยเหลือคนในยามเกิดอุทกภัยน้ำท่วม ไม่ปรากฏข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นเพียงการนับจำนวนประชากรหรือมีการบันทึกรายละเอียดมากกว่านั้น แต่ในสมัยราชวงศ์โจวตะวันออก (ปี 1045-771 ก่อนคริสตกาล) มีการจัดทำทะเบียนราษฎร์ทุกสามปี รายละเอียดที่บันทึกไว้รวมถึงวันเกิด วันตาย เพศ และที่อยู่ของประชาชน

    ในสมัยฉิน มีการจัดทำทะเบียนราษฎร์อย่างเข้มงวด นอกจากรายละเอียดข้างต้นยังมีการระบุเจ้าบ้าน ชื่อสามี-ภรรยา โดยวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อใช้ในการเก็บภาษีและเกณฑ์ทหาร

    ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 221) ประชาชนมีหน้าที่รายงานข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงของสมาชิกในครอบครัวทุกปี โดยข้อมูลจะถูกตรวจสอบโดยทางการท้องถิ่นอีกครั้งก่อนจะรวบรวมส่งทางการส่วนกลาง รายละเอียดที่บันทึกรวมถึงชื่อแซ่ อายุ ภูมิลำเนาเดิม สถานะสมรส รายละเอียดหน้าตา รายได้ และจำนวนพื้นที่ของที่ดินที่ถือครอง หากจะย้ายบ้าน ต้องทำการรายงานกับที่ว่าการท้องถิ่นก่อนจึงจะย้ายออกได้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นคนพเนจร ซึ่งไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย (คือโดนฆ่าตายก็ไม่มีการสืบสวนเอาผิดคนฆ่า) ว่ากันว่าทะเบียนราษฏร์สมัยราชวงศ์ฮั่นนี้ละเอียดถูกต้องเชื่อถือได้มากกว่าครั้งใดที่จีนเคยทำมาในอดีต

    การจัดทำทะเบียนราษฎร์มีต่อมาเรื่อยๆ และมีการลงรายละเอียดมากขึ้นในยุคสมัยราชวงศ์ถัง (ซึ่งเรื่องราวของ <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> เกิดขึ้นในสมัยนี้) ในสมัยนั้น ทะเบียนราษฎร์คือการสรุปรวมข้อมูลของทะเบียนบ้านหรือที่เรียกว่า ‘โส่วสือ’ (手实) มีการจัดแยกหมวดหมู่ตามสถานะ กล่าวคือเป็นเจ้าบ้าน เป็นสมาชิกของตระกูล หรือเป็นผู้อยู่อาศัยในเรือนเช่นทาส บ่าว นักดนตรี ฯลฯ และมีการบันทึกรายละเอียดเพิ่มเติมของรูปพรรณสัณฐาน เช่นส่วนสูง สีผิว เป็นต้น โดยมีเพียงสมาชิกของตระกูลเท่านั้นที่จะมีสิทธิแยกออกมาจัดตั้งครัวเรือนใหม่ได้ (Storyฯ เพิ่งเข้าใจบริบทที่ว่าบางนิยายจีนโบราณกล่าวถึงการ ‘แยกบ้าน’ ของคนในตระกูลเดียวกันที่ฟังดูเป็นเรื่องราวใหญ่โต) สำหรับชาวไร่ชาวนา ข้อมูลจากโส่วสือยังถูกใช้ในการจัดสรรที่ดินทำกิน โดยอิงตามจำนวนสมาชิกในบ้าน

    ต่อมาในสมัยราชวงศ์หมิง มีการลงรายละเอียดเพิ่มเติมอีกคืออาชีพของคนในบ้าน เช่น นายช่าง ทหาร หรือข้าราชการ ฯลฯ และมีรายละเอียดรายรับและสินทรัพย์ของแต่ละคนเพิ่มเติม เช่นจำนวนที่ดิน บ้าน ร้านค้า รถม้า เรือ ฯลฯ ทะเบียนราษฎร์นี้เรียกว่า ‘หวงเช่อ’ (黄册) แปลตรงตัวว่าสมุดเหลือง เพราะมักใช้ปกสีเหลือง (โนว์... ไม่ใช่สมุดโทรศัพท์ Yellow Pages จ้า) อีกทั้งการนำข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์มาใช้เพิ่มดีกรีความเข้มข้น ใครจะเดินทางต้องพกเอกสารใบอนุญาตที่มีข้อมูลประจำตัวและบ้าน (Storyฯ นึกถึงในละครที่จะผ่านประตูเมืองแต่ละครั้งต้องควักเอกสารออกมาฉบับหนึ่ง)

    Storyฯ รู้สึกทึ่งว่า แบบแผนการบริหารงานบ้านเมืองในโลกปัจจุบัน จริงๆ แล้วไม่ได้หนีจากของโบราณที่มีมาหลายพันปีแล้วเลย คนโบราณช่างคิดช่างทำ เก่งจริง เพื่อนๆ ว่าไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://luvasianseries.blogspot.com/2020/10/longest-day-in-changan.html
    https://daydaynews.cc/zh-hans/history/160001.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/113664748
    http://www.naradafoundation.org/content/6526
    https://daydaynews.cc/zh-hans/history/160001.html

    #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #ประวัติศาสตร์จีน #ทะเบียนราษฎร์จีน #ราชวงศ์ถัง
    เพื่อนเพจที่ได้อ่านนิยาย/ดูละครเรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> คงจำได้ว่า เป็นเรื่องราวแนวสืบสวนที่พูดถึงการใช้ข้อมูลจากบันทึกและทะเบียนต่างๆ มาใช้ในการแกะรอยคนร้าย มีหลายประเด็นที่ทำให้ Storyฯ สงสัยเลยต้องไปหาข้อมูลมาเพิ่ม เรื่องที่จะเล่าวันนี้มีความ ‘เอ๊ะ’ ตรงไหน เรามาดูจากคำพูดข้างล่างจากในละครเรื่องนี้ ... สวีปินกล่าว “จากบันทึกทะเบียนบ้านของคนผู้นี้ เขาย้ายมาฉางอันเมื่อปีที่ยี่สิบหกในรัชศกก่อน จดทะเบียนในนามหลงปอ ต่อมาย้ายบ้านหลายครา เมื่อปีที่แล้วย้ายเข้าหวยหย่วนฟาง ที่ดูน่าสงสัยคือ เมื่อปลายปีรัชศกเทียนเป่าปีที่สอง มีการจัดทำสมุดทะเบียนใหม่ กำหนดให้ใส่รายละเอียดใบหน้าให้ชัดเจน แต่ทะเบียนของหลงปอยังคงเป็นทะเบียนเก่าสมัยรัชศกก่อน ไม่เคยระบุรายละเอียดหน้าตา”... เพื่อนเพจสงสัยเหมือนกันไหมว่า ทะเบียนราษฎร์ในสมัยราชวงศ์ถัง (รัชศกเทียนเป่าคือช่วงปีค.ศ. 742-756) ถึงขนาดมีรายละเอียดใบหน้าชัดเจนเชียวหรือ? ไปค้นข้อมูลมาจึงพบว่า การนับจำนวนประชากรในจีนโบราณมีมาตั้งแต่กว่าสองพันปีก่อนคริสตกาล เดิมเป็นการจัดเก็บข้อมูลเพื่อไว้เพื่อช่วยเหลือคนในยามเกิดอุทกภัยน้ำท่วม ไม่ปรากฏข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นเพียงการนับจำนวนประชากรหรือมีการบันทึกรายละเอียดมากกว่านั้น แต่ในสมัยราชวงศ์โจวตะวันออก (ปี 1045-771 ก่อนคริสตกาล) มีการจัดทำทะเบียนราษฎร์ทุกสามปี รายละเอียดที่บันทึกไว้รวมถึงวันเกิด วันตาย เพศ และที่อยู่ของประชาชน ในสมัยฉิน มีการจัดทำทะเบียนราษฎร์อย่างเข้มงวด นอกจากรายละเอียดข้างต้นยังมีการระบุเจ้าบ้าน ชื่อสามี-ภรรยา โดยวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อใช้ในการเก็บภาษีและเกณฑ์ทหาร ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 221) ประชาชนมีหน้าที่รายงานข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงของสมาชิกในครอบครัวทุกปี โดยข้อมูลจะถูกตรวจสอบโดยทางการท้องถิ่นอีกครั้งก่อนจะรวบรวมส่งทางการส่วนกลาง รายละเอียดที่บันทึกรวมถึงชื่อแซ่ อายุ ภูมิลำเนาเดิม สถานะสมรส รายละเอียดหน้าตา รายได้ และจำนวนพื้นที่ของที่ดินที่ถือครอง หากจะย้ายบ้าน ต้องทำการรายงานกับที่ว่าการท้องถิ่นก่อนจึงจะย้ายออกได้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นคนพเนจร ซึ่งไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย (คือโดนฆ่าตายก็ไม่มีการสืบสวนเอาผิดคนฆ่า) ว่ากันว่าทะเบียนราษฏร์สมัยราชวงศ์ฮั่นนี้ละเอียดถูกต้องเชื่อถือได้มากกว่าครั้งใดที่จีนเคยทำมาในอดีต การจัดทำทะเบียนราษฎร์มีต่อมาเรื่อยๆ และมีการลงรายละเอียดมากขึ้นในยุคสมัยราชวงศ์ถัง (ซึ่งเรื่องราวของ <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> เกิดขึ้นในสมัยนี้) ในสมัยนั้น ทะเบียนราษฎร์คือการสรุปรวมข้อมูลของทะเบียนบ้านหรือที่เรียกว่า ‘โส่วสือ’ (手实) มีการจัดแยกหมวดหมู่ตามสถานะ กล่าวคือเป็นเจ้าบ้าน เป็นสมาชิกของตระกูล หรือเป็นผู้อยู่อาศัยในเรือนเช่นทาส บ่าว นักดนตรี ฯลฯ และมีการบันทึกรายละเอียดเพิ่มเติมของรูปพรรณสัณฐาน เช่นส่วนสูง สีผิว เป็นต้น โดยมีเพียงสมาชิกของตระกูลเท่านั้นที่จะมีสิทธิแยกออกมาจัดตั้งครัวเรือนใหม่ได้ (Storyฯ เพิ่งเข้าใจบริบทที่ว่าบางนิยายจีนโบราณกล่าวถึงการ ‘แยกบ้าน’ ของคนในตระกูลเดียวกันที่ฟังดูเป็นเรื่องราวใหญ่โต) สำหรับชาวไร่ชาวนา ข้อมูลจากโส่วสือยังถูกใช้ในการจัดสรรที่ดินทำกิน โดยอิงตามจำนวนสมาชิกในบ้าน ต่อมาในสมัยราชวงศ์หมิง มีการลงรายละเอียดเพิ่มเติมอีกคืออาชีพของคนในบ้าน เช่น นายช่าง ทหาร หรือข้าราชการ ฯลฯ และมีรายละเอียดรายรับและสินทรัพย์ของแต่ละคนเพิ่มเติม เช่นจำนวนที่ดิน บ้าน ร้านค้า รถม้า เรือ ฯลฯ ทะเบียนราษฎร์นี้เรียกว่า ‘หวงเช่อ’ (黄册) แปลตรงตัวว่าสมุดเหลือง เพราะมักใช้ปกสีเหลือง (โนว์... ไม่ใช่สมุดโทรศัพท์ Yellow Pages จ้า) อีกทั้งการนำข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์มาใช้เพิ่มดีกรีความเข้มข้น ใครจะเดินทางต้องพกเอกสารใบอนุญาตที่มีข้อมูลประจำตัวและบ้าน (Storyฯ นึกถึงในละครที่จะผ่านประตูเมืองแต่ละครั้งต้องควักเอกสารออกมาฉบับหนึ่ง) Storyฯ รู้สึกทึ่งว่า แบบแผนการบริหารงานบ้านเมืองในโลกปัจจุบัน จริงๆ แล้วไม่ได้หนีจากของโบราณที่มีมาหลายพันปีแล้วเลย คนโบราณช่างคิดช่างทำ เก่งจริง เพื่อนๆ ว่าไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://luvasianseries.blogspot.com/2020/10/longest-day-in-changan.html https://daydaynews.cc/zh-hans/history/160001.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/113664748 http://www.naradafoundation.org/content/6526 https://daydaynews.cc/zh-hans/history/160001.html #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #ประวัติศาสตร์จีน #ทะเบียนราษฎร์จีน #ราชวงศ์ถัง
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้โดยสารสายการบินเหนือน่านฟ้าซาอุดีอาระเบียบันทึกภาพการยิงขีปนาวุธจากอิหร่านมุ่งหน้าสู่อิสราเอลช่วงช่วงเช้าของวันนี้
    ผู้โดยสารสายการบินเหนือน่านฟ้าซาอุดีอาระเบียบันทึกภาพการยิงขีปนาวุธจากอิหร่านมุ่งหน้าสู่อิสราเอลช่วงช่วงเช้าของวันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • 🌍 การตรวจสอบโซเชียลมีเดียของนักศึกษาต่างชาติ
    รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ขยายมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียของนักศึกษาต่างชาติที่ต้องการขอวีซ่า ส่งผลให้หลายคนต้องลบโพสต์หรือปรับแต่งโปรไฟล์เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา

    ✅ รายละเอียดมาตรการใหม่
    - นักศึกษาต่างชาติที่ต้องการวีซ่าจะถูกตรวจสอบ โพสต์บน Facebook, X และแพลตฟอร์มอื่นๆ
    - การตรวจสอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของ นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ ที่เข้มงวดขึ้น
    - มีการระงับการนัดหมายวีซ่าชั่วคราวเพื่อปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบ
    - นักศึกษาจาก แอฟริกาและเอเชีย ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากมาตรการนี้

    ‼️ ข้อควรระวัง
    - โพสต์เก่าอาจถูกนำมาใช้เป็นเหตุผลในการปฏิเสธวีซ่า แม้ว่าจะไม่มีเจตนาไม่ดี
    - การแสดงความเห็นทางการเมืองอาจส่งผลต่อการพิจารณาวีซ่า โดยเฉพาะความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐฯ
    - การลบโซเชียลมีเดียอาจไม่ช่วยเสมอไป เพราะข้อมูลที่เคยโพสต์อาจถูกบันทึกไว้แล้ว

    🔍 ผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออก
    ✅ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักศึกษา
    - นักศึกษาหลายคนเลือกที่จะ ลบโพสต์หรือปิดบัญชีโซเชียลมีเดีย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
    - มีความกังวลว่า การตรวจสอบนี้อาจส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงออก
    - นักศึกษาบางคนรู้สึกว่า ถูกจับตามองตลอดเวลา และต้องระมัดระวังทุกโพสต์ที่เผยแพร่

    ‼️ ข้อควรระวังในการใช้โซเชียลมีเดีย
    - ควรตรวจสอบโพสต์เก่าที่อาจมีเนื้อหาที่อ่อนไหว ก่อนสมัครวีซ่า
    - หลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นที่อาจถูกตีความผิด โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
    - ควรใช้โซเชียลมีเดียอย่างระมัดระวัง โดยคำนึงถึงผลกระทบในอนาคต

    🛡️ แนวโน้มและข้อกังวลในอนาคต
    ✅ การขยายมาตรการไปยังประเทศอื่น
    - นักวิเคราะห์คาดว่า ประเทศอื่นอาจนำมาตรการนี้มาใช้ ในอนาคต
    - การตรวจสอบโซเชียลมีเดียอาจกลายเป็น มาตรฐานใหม่ในการพิจารณาวีซ่า
    - มีข้อเสนอให้ กำหนดแนวทางที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

    ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับนโยบายนี้
    - อาจเกิดการเลือกปฏิบัติ โดยพิจารณาวีซ่าจากความคิดเห็นทางการเมือง
    - อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศที่มีนักศึกษาจำนวนมากในสหรัฐฯ
    - ต้องมีการตรวจสอบความโปร่งใสของกระบวนการ เพื่อป้องกันการใช้อำนาจโดยมิชอบ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/16/foreign-students-scrub-social-media-as-us-expands-visa-vetting
    🌍 การตรวจสอบโซเชียลมีเดียของนักศึกษาต่างชาติ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ขยายมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียของนักศึกษาต่างชาติที่ต้องการขอวีซ่า ส่งผลให้หลายคนต้องลบโพสต์หรือปรับแต่งโปรไฟล์เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ✅ รายละเอียดมาตรการใหม่ - นักศึกษาต่างชาติที่ต้องการวีซ่าจะถูกตรวจสอบ โพสต์บน Facebook, X และแพลตฟอร์มอื่นๆ - การตรวจสอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของ นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ ที่เข้มงวดขึ้น - มีการระงับการนัดหมายวีซ่าชั่วคราวเพื่อปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบ - นักศึกษาจาก แอฟริกาและเอเชีย ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากมาตรการนี้ ‼️ ข้อควรระวัง - โพสต์เก่าอาจถูกนำมาใช้เป็นเหตุผลในการปฏิเสธวีซ่า แม้ว่าจะไม่มีเจตนาไม่ดี - การแสดงความเห็นทางการเมืองอาจส่งผลต่อการพิจารณาวีซ่า โดยเฉพาะความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐฯ - การลบโซเชียลมีเดียอาจไม่ช่วยเสมอไป เพราะข้อมูลที่เคยโพสต์อาจถูกบันทึกไว้แล้ว 🔍 ผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออก ✅ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักศึกษา - นักศึกษาหลายคนเลือกที่จะ ลบโพสต์หรือปิดบัญชีโซเชียลมีเดีย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา - มีความกังวลว่า การตรวจสอบนี้อาจส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงออก - นักศึกษาบางคนรู้สึกว่า ถูกจับตามองตลอดเวลา และต้องระมัดระวังทุกโพสต์ที่เผยแพร่ ‼️ ข้อควรระวังในการใช้โซเชียลมีเดีย - ควรตรวจสอบโพสต์เก่าที่อาจมีเนื้อหาที่อ่อนไหว ก่อนสมัครวีซ่า - หลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นที่อาจถูกตีความผิด โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ - ควรใช้โซเชียลมีเดียอย่างระมัดระวัง โดยคำนึงถึงผลกระทบในอนาคต 🛡️ แนวโน้มและข้อกังวลในอนาคต ✅ การขยายมาตรการไปยังประเทศอื่น - นักวิเคราะห์คาดว่า ประเทศอื่นอาจนำมาตรการนี้มาใช้ ในอนาคต - การตรวจสอบโซเชียลมีเดียอาจกลายเป็น มาตรฐานใหม่ในการพิจารณาวีซ่า - มีข้อเสนอให้ กำหนดแนวทางที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับนโยบายนี้ - อาจเกิดการเลือกปฏิบัติ โดยพิจารณาวีซ่าจากความคิดเห็นทางการเมือง - อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศที่มีนักศึกษาจำนวนมากในสหรัฐฯ - ต้องมีการตรวจสอบความโปร่งใสของกระบวนการ เพื่อป้องกันการใช้อำนาจโดยมิชอบ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/16/foreign-students-scrub-social-media-as-us-expands-visa-vetting
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Foreign students scrub social media as US expands visa vetting
    As the US halts student visa interviews, applicants are censoring their online presence for fear of being denied entry.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🖥️ การตรวจสอบ PowerShell เพื่อป้องกันภัยคุกคาม
    PowerShell เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับผู้ดูแลระบบ แต่ก็เป็นช่องทางที่ผู้โจมตีใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต

    ✅ กรณีศึกษาการโจมตี
    - ผู้โจมตีใช้ Alpha Agent และ Splashtop Streamer เพื่อเข้าถึงเครื่องของที่ปรึกษา
    - ใช้ WinGet ในการอัปเดตและติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้สามารถควบคุมเครื่องจากระยะไกล
    - ติดตั้ง Atera Agent และ Screen Connect เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึง
    - การเชื่อมต่อมาจาก เครื่องเสมือนในศูนย์ข้อมูลสหรัฐฯ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ

    ‼️ ข้อควรระวัง
    - การโจมตีสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้มัลแวร์ แต่ใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในระบบแทน
    - ต้องตรวจสอบกิจกรรม PowerShell อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการใช้คำสั่งที่น่าสงสัย
    - ควรมีมาตรการป้องกันการเข้าถึงจากระยะไกล เช่น การจำกัดการใช้เครื่องมือควบคุมระยะไกล

    🔍 แนวทางป้องกัน
    ✅ การตั้งค่าการลดพื้นผิวการโจมตี
    - บล็อกการรันไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากอีเมลและเว็บเมล
    - บล็อกการรันไฟล์ที่ไม่อยู่ในรายการที่เชื่อถือได้
    - บล็อกการรันสคริปต์ที่มีการเข้ารหัสหรือซ่อนคำสั่ง
    - บล็อกการสร้างกระบวนการจากคำสั่ง PSExec และ WMI

    ‼️ ข้อควรระวังในการตั้งค่าความปลอดภัย
    - ต้องตรวจสอบการแจ้งเตือนจาก Microsoft Defender อย่างละเอียด เพราะอาจมีข้อมูลผิดพลาด
    - ควรมีระบบตรวจสอบการใช้เครื่องมือควบคุมระยะไกล เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - ควรมีการบันทึกและตรวจสอบคำสั่ง PowerShell เพื่อค้นหาพฤติกรรมที่ผิดปกติ

    🛡️ การตั้งค่าการตรวจสอบ PowerShell
    ✅ การเปิดใช้งานการบันทึกคำสั่ง PowerShell
    - ใช้ Group Policy เพื่อเปิดใช้งาน Script Block Logging
    - ใช้ Microsoft Intune เพื่อกำหนดค่าการบันทึกคำสั่ง PowerShell
    - ตรวจสอบ Event ID 4104 ในบันทึกเหตุการณ์เพื่อค้นหาคำสั่งที่น่าสงสัย

    ‼️ ข้อควรระวังในการตรวจสอบ
    - ต้องมีระบบกลางสำหรับจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้สามารถตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดปกติได้
    - ต้องมีการตรวจสอบคำสั่งที่พยายามเข้าถึง LSASS หรือใช้ Mimikatz เพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลรับรอง

    https://www.csoonline.com/article/4006326/how-to-log-and-monitor-powershell-activity-for-suspicious-scripts-and-commands.html
    🖥️ การตรวจสอบ PowerShell เพื่อป้องกันภัยคุกคาม PowerShell เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับผู้ดูแลระบบ แต่ก็เป็นช่องทางที่ผู้โจมตีใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ✅ กรณีศึกษาการโจมตี - ผู้โจมตีใช้ Alpha Agent และ Splashtop Streamer เพื่อเข้าถึงเครื่องของที่ปรึกษา - ใช้ WinGet ในการอัปเดตและติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้สามารถควบคุมเครื่องจากระยะไกล - ติดตั้ง Atera Agent และ Screen Connect เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึง - การเชื่อมต่อมาจาก เครื่องเสมือนในศูนย์ข้อมูลสหรัฐฯ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ ‼️ ข้อควรระวัง - การโจมตีสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้มัลแวร์ แต่ใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในระบบแทน - ต้องตรวจสอบกิจกรรม PowerShell อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการใช้คำสั่งที่น่าสงสัย - ควรมีมาตรการป้องกันการเข้าถึงจากระยะไกล เช่น การจำกัดการใช้เครื่องมือควบคุมระยะไกล 🔍 แนวทางป้องกัน ✅ การตั้งค่าการลดพื้นผิวการโจมตี - บล็อกการรันไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากอีเมลและเว็บเมล - บล็อกการรันไฟล์ที่ไม่อยู่ในรายการที่เชื่อถือได้ - บล็อกการรันสคริปต์ที่มีการเข้ารหัสหรือซ่อนคำสั่ง - บล็อกการสร้างกระบวนการจากคำสั่ง PSExec และ WMI ‼️ ข้อควรระวังในการตั้งค่าความปลอดภัย - ต้องตรวจสอบการแจ้งเตือนจาก Microsoft Defender อย่างละเอียด เพราะอาจมีข้อมูลผิดพลาด - ควรมีระบบตรวจสอบการใช้เครื่องมือควบคุมระยะไกล เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต - ควรมีการบันทึกและตรวจสอบคำสั่ง PowerShell เพื่อค้นหาพฤติกรรมที่ผิดปกติ 🛡️ การตั้งค่าการตรวจสอบ PowerShell ✅ การเปิดใช้งานการบันทึกคำสั่ง PowerShell - ใช้ Group Policy เพื่อเปิดใช้งาน Script Block Logging - ใช้ Microsoft Intune เพื่อกำหนดค่าการบันทึกคำสั่ง PowerShell - ตรวจสอบ Event ID 4104 ในบันทึกเหตุการณ์เพื่อค้นหาคำสั่งที่น่าสงสัย ‼️ ข้อควรระวังในการตรวจสอบ - ต้องมีระบบกลางสำหรับจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้สามารถตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดปกติได้ - ต้องมีการตรวจสอบคำสั่งที่พยายามเข้าถึง LSASS หรือใช้ Mimikatz เพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลรับรอง https://www.csoonline.com/article/4006326/how-to-log-and-monitor-powershell-activity-for-suspicious-scripts-and-commands.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How to log and monitor PowerShell activity for suspicious scripts and commands
    Attackers are increasingly abusing sanctioned tools to subvert automated defenses. Tracking your Windows fleet’s PowerShell use — especially consultant workstations — can provide early indications of nefarious activity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องราวของ Plasma 6.4 และอนาคตของ 6.5
    ทีม KDE กำลังเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Plasma 6.4 ก่อนเปิดตัววันที่ 17 มิถุนายน 2025 หลังจากที่สัปดาห์ก่อนมีการปรับปรุงเรื่องความเร็วในการโหลด ตอนนี้พวกเขาเดินหน้าต่อด้วยการเพิ่ม Picture-in-Picture (PiP) บน Wayland ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอย นี่เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ Wayland ทัดเทียมกับ X11 มากขึ้น

    นอกจากนี้ การปรับปรุงอื่นๆ ได้แก่:
    ✅ ปรับปรุง Blur effect โดยรวม Background Contrast effect เข้าไป
    ✅ สามารถจัดเรียง Virtual desktops จาก Pager widget ได้แล้ว
    ✅ ตั้งค่าการ Invert และ Zoom ถูกย้ายไปที่หน้า Accessibility
    ✅ ปรับปรุง Breeze application style ให้มีแอนิเมชันในเช็คบ็อกซ์และปุ่มตัวเลือกในแอปที่ใช้ QtQuick
    ✅ แก้ไขปัญหาผู้ใช้ไม่รู้วิธีหยุดบันทึกหน้าจอใน Spectacle ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

    ปรับปรุงเสถียรภาพใน Plasma 6.4
    ✅ การเพิ่มวิดเจ็ตไปที่ oversized panels ไม่ทำให้ shell ค้างอีกต่อไป
    ✅ แก้ปัญหา Discover ที่เคยแครชเมื่อแนะนำแอปแทนที่สำหรับ Flatpak ที่ไม่รองรับ
    ✅ ลากไฟล์ไปวางใน Folder View widget ไม่ทำให้เกิดภาพกระตุก
    ✅ กล่องบันทึกไฟล์จาก Flatpak browsers อนุญาตให้เปิดหน้า preview แล้ว
    ✅ การพิมพ์จาก Flatpak GTK apps แสดงขนาดที่ถูกต้อง

    ฟีเจอร์ที่กำลังพัฒนาสำหรับ Plasma 6.5
    ✅ Picture-in-Picture (PiP) บน Wayland— ใช้ Wayland PiP protocol เวอร์ชันทดลอง ทำให้แอปอย่าง Firefox สามารถแสดงหน้าต่าง PiP ได้อย่างถูกต้อง
    ✅ แก้ไขปัญหา UI เพื่อปรับปรุง ความคมชัดของข้อความ ในเมนูและป้ายกำกับต่างๆ
    ✅ Kicker Application Menu สามารถเลื่อนแนวนอนได้เมื่อมีผลค้นหาจำนวนมาก

    ‼️ ถึงแม้จะมีการแก้ไขหลายจุด แต่ยังมี 3 บั๊กระดับสูง ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
    ‼️ ปัญหา "15-minute bugs" เพิ่มขึ้นถึง 23 จุด ซึ่งยังต้องแก้ไขต่อไป

    โดยรวมแล้ว Plasma 6.4 ดูจะเป็นอัปเดตที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน ส่วน Plasma 6.5 กำลังเตรียมตัวกับฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้รอคอย

    https://www.neowin.net/news/kde-brings-wayland-pip-to-plasma-65-adds-finishing-touches-to-64-as-release-nears/
    เรื่องราวของ Plasma 6.4 และอนาคตของ 6.5 ทีม KDE กำลังเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Plasma 6.4 ก่อนเปิดตัววันที่ 17 มิถุนายน 2025 หลังจากที่สัปดาห์ก่อนมีการปรับปรุงเรื่องความเร็วในการโหลด ตอนนี้พวกเขาเดินหน้าต่อด้วยการเพิ่ม Picture-in-Picture (PiP) บน Wayland ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอย นี่เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ Wayland ทัดเทียมกับ X11 มากขึ้น นอกจากนี้ การปรับปรุงอื่นๆ ได้แก่: ✅ ปรับปรุง Blur effect โดยรวม Background Contrast effect เข้าไป ✅ สามารถจัดเรียง Virtual desktops จาก Pager widget ได้แล้ว ✅ ตั้งค่าการ Invert และ Zoom ถูกย้ายไปที่หน้า Accessibility ✅ ปรับปรุง Breeze application style ให้มีแอนิเมชันในเช็คบ็อกซ์และปุ่มตัวเลือกในแอปที่ใช้ QtQuick ✅ แก้ไขปัญหาผู้ใช้ไม่รู้วิธีหยุดบันทึกหน้าจอใน Spectacle ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ปรับปรุงเสถียรภาพใน Plasma 6.4 ✅ การเพิ่มวิดเจ็ตไปที่ oversized panels ไม่ทำให้ shell ค้างอีกต่อไป ✅ แก้ปัญหา Discover ที่เคยแครชเมื่อแนะนำแอปแทนที่สำหรับ Flatpak ที่ไม่รองรับ ✅ ลากไฟล์ไปวางใน Folder View widget ไม่ทำให้เกิดภาพกระตุก ✅ กล่องบันทึกไฟล์จาก Flatpak browsers อนุญาตให้เปิดหน้า preview แล้ว ✅ การพิมพ์จาก Flatpak GTK apps แสดงขนาดที่ถูกต้อง ฟีเจอร์ที่กำลังพัฒนาสำหรับ Plasma 6.5 ✅ Picture-in-Picture (PiP) บน Wayland— ใช้ Wayland PiP protocol เวอร์ชันทดลอง ทำให้แอปอย่าง Firefox สามารถแสดงหน้าต่าง PiP ได้อย่างถูกต้อง ✅ แก้ไขปัญหา UI เพื่อปรับปรุง ความคมชัดของข้อความ ในเมนูและป้ายกำกับต่างๆ ✅ Kicker Application Menu สามารถเลื่อนแนวนอนได้เมื่อมีผลค้นหาจำนวนมาก ‼️ ถึงแม้จะมีการแก้ไขหลายจุด แต่ยังมี 3 บั๊กระดับสูง ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ‼️ ปัญหา "15-minute bugs" เพิ่มขึ้นถึง 23 จุด ซึ่งยังต้องแก้ไขต่อไป โดยรวมแล้ว Plasma 6.4 ดูจะเป็นอัปเดตที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน ส่วน Plasma 6.5 กำลังเตรียมตัวกับฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้รอคอย https://www.neowin.net/news/kde-brings-wayland-pip-to-plasma-65-adds-finishing-touches-to-64-as-release-nears/
    WWW.NEOWIN.NET
    KDE brings Wayland PiP to Plasma 6.5, adds finishing touches to 6.4 as release nears
    In the latest "This Week in Plasma", the KDE team outlined key updates coming to Plasma 6.4 and 6.5, including critical bug fixes and new features like Wayland Picture-in-Picture.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชุม JBC ไทย-กัมพูชา เสร็จสิ้นลงแล้ว ประธานสองฝ่ายลงนามบันทึกการประชุม แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเนื้อหา รอแถลงภายหลัง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000056181

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประชุม JBC ไทย-กัมพูชา เสร็จสิ้นลงแล้ว ประธานสองฝ่ายลงนามบันทึกการประชุม แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเนื้อหา รอแถลงภายหลัง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000056181 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    NEWS1LIVE.COM
    จบแล้ว! ถก JBC ไทย-กัมพูชา ประธาน 2 ฝ่ายเซ็นบันทึกประชุมร่วม แต่ยังไม่แถลงรายละเอียด
    ประชุม JBC ไทย-กัมพูชา เสร็จสิ้นลงแล้ว ประธานสองฝ่ายลงนามบันทึกการประชุม แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเนื้อหา รอแถลงภายหลัง
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 0 รีวิว
  • จบแล้ว! ประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ประธาน 2 ฝ่ายเซ็นบันทึกประชุมร่วม แต่ยังไม่แถลงรายละเอียด
    https://www.thai-tai.tv/news/19438/
    จบแล้ว! ประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ประธาน 2 ฝ่ายเซ็นบันทึกประชุมร่วม แต่ยังไม่แถลงรายละเอียด https://www.thai-tai.tv/news/19438/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฉเล่ห์เขมรในที่ประชุม JBC หวังระบุเรื่องยื่นร้องศาลโลกชิง 4 พื้นที่ในบันทึกการประชุมให้ไทยรับรอง แต่ไทยรู้ทันไม่ยอมรับ
    https://www.thai-tai.tv/news/19430/
    แฉเล่ห์เขมรในที่ประชุม JBC หวังระบุเรื่องยื่นร้องศาลโลกชิง 4 พื้นที่ในบันทึกการประชุมให้ไทยรับรอง แต่ไทยรู้ทันไม่ยอมรับ https://www.thai-tai.tv/news/19430/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฉเล่ห์เขมรในที่ประชุม JBC หวังระบุเรื่องยื่นร้องศาลโลกชิง 4 พื้นที่ ในบันทึกการประชุมให้่ไทยรับรอง แต่ไทยรู้ทันไม่ยอมรับ ยังพยายามให้พูดในช่วงกล่าวสรุปการประชุม เตือนเจรจาต่อช่วงบ่ายต้องระวัง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000056157

    #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    แฉเล่ห์เขมรในที่ประชุม JBC หวังระบุเรื่องยื่นร้องศาลโลกชิง 4 พื้นที่ ในบันทึกการประชุมให้่ไทยรับรอง แต่ไทยรู้ทันไม่ยอมรับ ยังพยายามให้พูดในช่วงกล่าวสรุปการประชุม เตือนเจรจาต่อช่วงบ่ายต้องระวัง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000056157 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    Like
    Love
    Angry
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1244 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เราแชร์บอกคนไทยด้วยกันเองที่ยังไม่กันเถอะ,นี้ล่ะคือการศึกษาที่ล้มเหลวด้วย อีลิทถอนบันทึกเรื่องราวมากมายของความจริงในประวัติศาสตร์ไทยเราออกจากหลักสูตรกระบวนการเรียนการสอนขั้นพื้นฐานของเยาวชนไทยเราจริงๆทำเนียนๆมาหลายสิบปีแล้ว ถ้าจะเอาจริงๆคงเริ่มล้างสมองเยาวชนไทยเราหลังปี2530มาหรือหลังขุดพบบ่อน้ำมันไทยนั้นล่ะก็ด้วย,
    ..การปกครองที่ล้มเหลว,วิถีปกครองที่คนเลวมากกว่าคนดีหรือคนชั่วเสือกมีตำแหน่งสูงสุด,คนเหี้ยๆส่งเสริมไปเป็นหัวหน้าห้องนั้นเอง.,คนเลวๆประจำห้องจะปกป้องคนเลวจากห้องอื่นได้มั้งสมาชิกทั้งห้องจึงพากันเลือกมันขึ้นเป็นหัวหน้าห้อง,ครูเครอก็เอากับเขาด้วย,ประชาธิปไตยครูว่า,เหี้ยไปชี้เหตุผลชี้แจ้งชัดเจนด้วยว่ามันเกเรมันพาลมันเหี้ยประจำห้องนะครูเห็นแล้ว ขาดคุณสมบัติและจรรโลงดำรงไว้ให้คนดีขึ้นดูแลให้ห้องนี้มีสถานะความดีสิ่งดีๆเป็นอัตลักษณ์หรือมาตุภูมิแห่งความดีดำรงไว้เป็นต้นแบบๆแบบอย่างที่ดีแก่คนรุ่นต่อไปก็ว่า,อันเดียวกัน วิถีการปกครองในปัจจุบันเราเหี้ยหมดในตอนนี้ ล้มเหลวทัังระบบ.
    ..
    ..สถานะนี้เราจึงร่วมกันแชร์เยอะๆ,เขมรจริงๆต้องถูกยึดคืนมาโดยทันทีอัตโนมัติโดยฝรั่งเศสสั่งการโดยตรงและเป็นพยานรับผิดชอบต่อการทำชั่วเลวของฝรั่งเศสในอดีตด้วย,บังคับเขมรอัตโนมัติให้ต้องคืนพื้นที่ดังกล่าวโดยทันทีและวไม่มีเงื่อนไขแก่ประเทศไทย.,โดยประเทศไทยไม่ต้องทำอะไรเลย,เพราะประวัติศาสตร์ทั้งหมดมีบันทึกเป็นพยานหลักฐานอยู่ในหลายๆประเทศแม้ในไทยเราเองก็มีอย่างชัดเจน.

    https://youtube.com/shorts/gwV3rSCQcz0?si=m7FUdTTnMLWvrlx7
    ..เราแชร์บอกคนไทยด้วยกันเองที่ยังไม่กันเถอะ,นี้ล่ะคือการศึกษาที่ล้มเหลวด้วย อีลิทถอนบันทึกเรื่องราวมากมายของความจริงในประวัติศาสตร์ไทยเราออกจากหลักสูตรกระบวนการเรียนการสอนขั้นพื้นฐานของเยาวชนไทยเราจริงๆทำเนียนๆมาหลายสิบปีแล้ว ถ้าจะเอาจริงๆคงเริ่มล้างสมองเยาวชนไทยเราหลังปี2530มาหรือหลังขุดพบบ่อน้ำมันไทยนั้นล่ะก็ด้วย, ..การปกครองที่ล้มเหลว,วิถีปกครองที่คนเลวมากกว่าคนดีหรือคนชั่วเสือกมีตำแหน่งสูงสุด,คนเหี้ยๆส่งเสริมไปเป็นหัวหน้าห้องนั้นเอง.,คนเลวๆประจำห้องจะปกป้องคนเลวจากห้องอื่นได้มั้งสมาชิกทั้งห้องจึงพากันเลือกมันขึ้นเป็นหัวหน้าห้อง,ครูเครอก็เอากับเขาด้วย,ประชาธิปไตยครูว่า,เหี้ยไปชี้เหตุผลชี้แจ้งชัดเจนด้วยว่ามันเกเรมันพาลมันเหี้ยประจำห้องนะครูเห็นแล้ว ขาดคุณสมบัติและจรรโลงดำรงไว้ให้คนดีขึ้นดูแลให้ห้องนี้มีสถานะความดีสิ่งดีๆเป็นอัตลักษณ์หรือมาตุภูมิแห่งความดีดำรงไว้เป็นต้นแบบๆแบบอย่างที่ดีแก่คนรุ่นต่อไปก็ว่า,อันเดียวกัน วิถีการปกครองในปัจจุบันเราเหี้ยหมดในตอนนี้ ล้มเหลวทัังระบบ. .. ..สถานะนี้เราจึงร่วมกันแชร์เยอะๆ,เขมรจริงๆต้องถูกยึดคืนมาโดยทันทีอัตโนมัติโดยฝรั่งเศสสั่งการโดยตรงและเป็นพยานรับผิดชอบต่อการทำชั่วเลวของฝรั่งเศสในอดีตด้วย,บังคับเขมรอัตโนมัติให้ต้องคืนพื้นที่ดังกล่าวโดยทันทีและวไม่มีเงื่อนไขแก่ประเทศไทย.,โดยประเทศไทยไม่ต้องทำอะไรเลย,เพราะประวัติศาสตร์ทั้งหมดมีบันทึกเป็นพยานหลักฐานอยู่ในหลายๆประเทศแม้ในไทยเราเองก็มีอย่างชัดเจน. https://youtube.com/shorts/gwV3rSCQcz0?si=m7FUdTTnMLWvrlx7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✍️กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเรื่องสุขภาพประชาชน ด้วยศาสตร์ต่างๆ ดังนี้
    🥸1.ศาสตร์แพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine)
    ยาเบญจโลกวิเชียร(ห้าราก),ยาขาว,ยาใบมะขาม,ยาตรีผลา,ยาจันทลีลา,ยาเขียวหอม,ยาแสงหมึก, ยาประสะจันทน์แดง,ยามหานิลแท่งทอง,ยาสิงฆาณิกา,ยาธาตุบรรจบ,ยาเหลืองปิดสมุทร,ยาธาตุอบเชย,ยาปราบชมพูทวีป,ยาประสะมะแว้ง,ยาอัมฤควาที,ยาบำรุงโลหิต,ยาเลือดงาม,ยาชุมเห็ดเทศ, ยาธรณีสัณฑฆาต,ยาตรีหอม,ยาลม300จำพวก,ยาหอม,ยาดองมะกรูด,ยาประสะกะเพรา,ยาประสะกานพลู,ยาวิสัมพยาใหญ่,ยามันทธาตุ,ยามหาจักรใหญ่,ยาประสะเจตพังคี,ยามะฮอกกานี,ยาแก้ไอมะขามป้อม,ยาพญายอ,สมุนไพรถ่ายพยาธิต่างๆ เช่น ผงปวกหาด(มะหาด),ยาเปลือกมังคุด,รางจืด,
    ฟ้าทลายโจร,โกฐจุฬาลัมพา,พลูคาว,ใบหนุมานประสานกาย,กระชาย,กัญชา,ขมิ้นชัน,อ้อยดำ,ฝาง, ดอกเกลือ เป็นต้น
    🥸2.ศาสตร์แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine)
    ยกตัวอย่าง สมุนไพรฉั่งฉิก ยาเขียวธรรมดา ยาเขียวพิเศษชิงเฟ่ยซองสีส้ม ยาชะลอวัย ยาวาสคิวล่าร์
    ถ้าเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันใช้ยา 脑心通胶囊 เหน่า ซิน ทง
    ถ้าก้อนเนื้องอกกำเริบ ใช้温胆汤加减 เวิน ต่าน ทัง เจีย เจี่ยน และศาสตร์การฝังเข็ม เป็นต้น
    🥸3.ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ (Homeophathy) ยาสกัดพลังธรมชาติ จาก พืช สัตว์ แร่ธาตุ
    ตำรับพื้นฐานต่างๆ และตำรับยาหมออมร (Benjalo แก้แพ้วัคซีนและลองโควิด TotalTox ล้างพิษที่ตกค้างในอาหาร RJHT ล้างพิษฟอร์มาลีนและสารเคมีการเกษตร CKDMHT ขจัดพิษตกค้างจากสารเคมีปรุงรส CBZA ช่วยล้างพิษสารเคมีกันบูดในอาหาร)
    🥸4.การครอบแก้ว,กรอกเลือด (Wet Cupping) เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เอาเลือดที่
    คั่งค้างออก ซึ่งส่งผลทำให้ลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและสามารถบรรเทาได้หลายโรค
    🥸5.ศาสตร์ผสมผสาน (Integrative Medicine)
    การเหยียบดิน/หญ้า(Grounding),การอบตัว,อดอาหารเป็นระยะ(Intermittent Fasting),ศาสตร์ยา 9 เม็ดหมอเขียว,สวนล้างลำไส้(Enema),ล้างลำไส้แบบลึก(Colonics),Reiki,Vitamin C Flush,เสียงบำบัด(Sound Therapy),ความถี่บำบัด(Frequency Therapy),ใช้แสงFar Infrared,แช่เท้า(Herbal Foot Bath),ล้างพิษตับ(Liver Compression,Castor Oil Pack,การใช้ทองแดง(Copper Tensor Rings),Crystals,การเขียนบันทึก(Journaling),Art Therapy,Pasitive Affirmations,การทำสมาธิ,ฝึกการหายใจ(Breathing Exercises),การตากแดด,เข้าใกล้มังสวิรัติ,คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน(CDS),ไฮดรอกซีคลอโรควีน(HCQ),เมทาลีนบลู(Methylene Blue),ดินภูเขาไฟเบนโทไนท์(Bentonite Clay),ซีโอไลท์(Zeolite),ซิลเวอร์คอลลอยด์(Colloidal Silver),DMSO,ไอโอดีน(Iodine),ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(Hydrogen Peroxide),ไอเวอร์เมคติน(Ivermectin),เฟนเบนดาโซล(Fenbendazole),แอสไพลิน(Aspirin),บอแรกซ์(Borax),นัตโตะไคเนส(Nattokinase),โบรมิเลน (Bromelain),Magnesium Antisense(แมกนีเซียมแอนไทเซนส์),เพนท็อกซิฟิลลีน(Pentoxifylline),แมกนีเซียม(Magnesium),กลูตาไธโอน (Glutathione),สังกะสี(Zinc),ซิลิเนียม(Selenium),เมลาโทนิน(Melatonin), CoQ10,ผักชี(coriander),มะระขี้นก(Bitter gourd),สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina),วิตามินดี(Vitamin D),NACหรือN-Acetylcysteine,พริกคาเยน (Chayenne Peper),กรดฟูลวิค(Fulvic Acid),มิลค์ทิสเซิล(Milk Thistle-Silymarin),ชาเขียว(Green Tea),เห็ดถั่งเช่า(Cordyceps Mushrooms),อาติโช๊ค(Artichoke),คลอเรลลา(Chlorella),สาหร่ายDulse,อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆที่โลกมี เป็นต้น

    โอเพนแชท "ล้างพิษ ยาฉีด"
    https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✍️กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเรื่องสุขภาพประชาชน ด้วยศาสตร์ต่างๆ ดังนี้ 🥸1.ศาสตร์แพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine) ยาเบญจโลกวิเชียร(ห้าราก),ยาขาว,ยาใบมะขาม,ยาตรีผลา,ยาจันทลีลา,ยาเขียวหอม,ยาแสงหมึก, ยาประสะจันทน์แดง,ยามหานิลแท่งทอง,ยาสิงฆาณิกา,ยาธาตุบรรจบ,ยาเหลืองปิดสมุทร,ยาธาตุอบเชย,ยาปราบชมพูทวีป,ยาประสะมะแว้ง,ยาอัมฤควาที,ยาบำรุงโลหิต,ยาเลือดงาม,ยาชุมเห็ดเทศ, ยาธรณีสัณฑฆาต,ยาตรีหอม,ยาลม300จำพวก,ยาหอม,ยาดองมะกรูด,ยาประสะกะเพรา,ยาประสะกานพลู,ยาวิสัมพยาใหญ่,ยามันทธาตุ,ยามหาจักรใหญ่,ยาประสะเจตพังคี,ยามะฮอกกานี,ยาแก้ไอมะขามป้อม,ยาพญายอ,สมุนไพรถ่ายพยาธิต่างๆ เช่น ผงปวกหาด(มะหาด),ยาเปลือกมังคุด,รางจืด, ฟ้าทลายโจร,โกฐจุฬาลัมพา,พลูคาว,ใบหนุมานประสานกาย,กระชาย,กัญชา,ขมิ้นชัน,อ้อยดำ,ฝาง, ดอกเกลือ เป็นต้น 🥸2.ศาสตร์แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine) ยกตัวอย่าง สมุนไพรฉั่งฉิก ยาเขียวธรรมดา ยาเขียวพิเศษชิงเฟ่ยซองสีส้ม ยาชะลอวัย ยาวาสคิวล่าร์ ถ้าเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันใช้ยา 脑心通胶囊 เหน่า ซิน ทง ถ้าก้อนเนื้องอกกำเริบ ใช้温胆汤加减 เวิน ต่าน ทัง เจีย เจี่ยน และศาสตร์การฝังเข็ม เป็นต้น 🥸3.ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ (Homeophathy) ยาสกัดพลังธรมชาติ จาก พืช สัตว์ แร่ธาตุ ตำรับพื้นฐานต่างๆ และตำรับยาหมออมร (Benjalo แก้แพ้วัคซีนและลองโควิด TotalTox ล้างพิษที่ตกค้างในอาหาร RJHT ล้างพิษฟอร์มาลีนและสารเคมีการเกษตร CKDMHT ขจัดพิษตกค้างจากสารเคมีปรุงรส CBZA ช่วยล้างพิษสารเคมีกันบูดในอาหาร) 🥸4.การครอบแก้ว,กรอกเลือด (Wet Cupping) เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เอาเลือดที่ คั่งค้างออก ซึ่งส่งผลทำให้ลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและสามารถบรรเทาได้หลายโรค 🥸5.ศาสตร์ผสมผสาน (Integrative Medicine) การเหยียบดิน/หญ้า(Grounding),การอบตัว,อดอาหารเป็นระยะ(Intermittent Fasting),ศาสตร์ยา 9 เม็ดหมอเขียว,สวนล้างลำไส้(Enema),ล้างลำไส้แบบลึก(Colonics),Reiki,Vitamin C Flush,เสียงบำบัด(Sound Therapy),ความถี่บำบัด(Frequency Therapy),ใช้แสงFar Infrared,แช่เท้า(Herbal Foot Bath),ล้างพิษตับ(Liver Compression,Castor Oil Pack,การใช้ทองแดง(Copper Tensor Rings),Crystals,การเขียนบันทึก(Journaling),Art Therapy,Pasitive Affirmations,การทำสมาธิ,ฝึกการหายใจ(Breathing Exercises),การตากแดด,เข้าใกล้มังสวิรัติ,คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน(CDS),ไฮดรอกซีคลอโรควีน(HCQ),เมทาลีนบลู(Methylene Blue),ดินภูเขาไฟเบนโทไนท์(Bentonite Clay),ซีโอไลท์(Zeolite),ซิลเวอร์คอลลอยด์(Colloidal Silver),DMSO,ไอโอดีน(Iodine),ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(Hydrogen Peroxide),ไอเวอร์เมคติน(Ivermectin),เฟนเบนดาโซล(Fenbendazole),แอสไพลิน(Aspirin),บอแรกซ์(Borax),นัตโตะไคเนส(Nattokinase),โบรมิเลน (Bromelain),Magnesium Antisense(แมกนีเซียมแอนไทเซนส์),เพนท็อกซิฟิลลีน(Pentoxifylline),แมกนีเซียม(Magnesium),กลูตาไธโอน (Glutathione),สังกะสี(Zinc),ซิลิเนียม(Selenium),เมลาโทนิน(Melatonin), CoQ10,ผักชี(coriander),มะระขี้นก(Bitter gourd),สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina),วิตามินดี(Vitamin D),NACหรือN-Acetylcysteine,พริกคาเยน (Chayenne Peper),กรดฟูลวิค(Fulvic Acid),มิลค์ทิสเซิล(Milk Thistle-Silymarin),ชาเขียว(Green Tea),เห็ดถั่งเช่า(Cordyceps Mushrooms),อาติโช๊ค(Artichoke),คลอเรลลา(Chlorella),สาหร่ายDulse,อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆที่โลกมี เป็นต้น โอเพนแชท "ล้างพิษ ยาฉีด" https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts