• ยัคชาล (Yakhchal) ตู้เย็นแบบโบราณแห่งเปอร์เซีย
    ยัคชาล คือหนึ่งในนวัตกรรมอันน่าทึ่งของอารยธรรมเปอร์เซียโบราณที่แสดงให้เห็นถึงความฉลาดและความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งของผู้คนในสมัยนั้น ยัคชาลเปรียบเสมือนตู้เย็นธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างง่ายๆ แต่กลับมีความซับซ้อนและประณีตในการออกแบบ มีลักษณะคล้ายโดมขนาดใหญ่ สร้างจากดินผสมปูนขาวและวัสดุธรรมชาติอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บความเย็นได้ดี ภายในยัคชาลจะมีห้องใต้ดินที่ถูกขุดลึกลงไปในดิน เพื่อให้ได้รับอุณหภูมิที่เย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด อากาศเย็นจากใต้ดินจะไหลเข้ามาในห้องใต้ดิน ทำให้อุณหภูมิภายในเย็นสบายและสามารถเก็บรักษาอาหารได้เป็นเวลานาน ชาวเปอร์เซียจะนำน้ำมาบรรจุในภาชนะแล้วนำไปวางไว้ในห้องใต้ดินของยัคชาล เมื่ออุณหภูมิลดลง น้ำก็จะค่อยๆ แข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น นำไปผสมกับเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น หรือใช้ในการรักษาอาหารให้คงความสดใหม่
    ยัคชาล (Yakhchal) ตู้เย็นแบบโบราณแห่งเปอร์เซีย ยัคชาล คือหนึ่งในนวัตกรรมอันน่าทึ่งของอารยธรรมเปอร์เซียโบราณที่แสดงให้เห็นถึงความฉลาดและความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งของผู้คนในสมัยนั้น ยัคชาลเปรียบเสมือนตู้เย็นธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างง่ายๆ แต่กลับมีความซับซ้อนและประณีตในการออกแบบ มีลักษณะคล้ายโดมขนาดใหญ่ สร้างจากดินผสมปูนขาวและวัสดุธรรมชาติอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บความเย็นได้ดี ภายในยัคชาลจะมีห้องใต้ดินที่ถูกขุดลึกลงไปในดิน เพื่อให้ได้รับอุณหภูมิที่เย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด อากาศเย็นจากใต้ดินจะไหลเข้ามาในห้องใต้ดิน ทำให้อุณหภูมิภายในเย็นสบายและสามารถเก็บรักษาอาหารได้เป็นเวลานาน ชาวเปอร์เซียจะนำน้ำมาบรรจุในภาชนะแล้วนำไปวางไว้ในห้องใต้ดินของยัคชาล เมื่ออุณหภูมิลดลง น้ำก็จะค่อยๆ แข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น นำไปผสมกับเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น หรือใช้ในการรักษาอาหารให้คงความสดใหม่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานีต่อไป...เซกามัต จุดหมายแรกรัฐยะโฮร์

    15 มี.ค.2568 การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย จะขยายการเดินรถไฟ ETS (Electric Train Service) ไปถึงสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ ซึ่งเป็น 1 ใน 11 สถานีของโครงการรถไฟทางคู่เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru) ระยะทาง 192 กิโลเมตร ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2568

    สถานีเซกามัตแห่งใหม่ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2567 มีสิ่งอำนวยความสะดวกได้แก่ ลิฟต์ บันไดเลื่อน ห้องน้ำ กล้องวงจรปิด CCTV ห้องละหมาด ลานจอดรถรองรับรถยนต์ได้ 97 คัน รถจักรยานยนต์ 49 คัน และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ (OKU) เช่น ที่จอดรถ ห้องน้ำ ปัจจุบันให้บริการรถไฟ KTM Intercity ขบวน ERT สายตุมปัต-เจบีเซ็นทรัล (Tumpat-JB Sentral) และขบวน ES สายเกอมัส-เจบีเซ็นทรัล (Gemas-JB Sentral)

    เมืองเซกามัต ห่างจากเมืองยะโฮร์บาห์รู 172 กิโลเมตร ประชาชนมีอาชีพทำการเกษตร สวนปาล์ม สวนยางพารา และมีทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียง มีสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ จตุรัสเซกามัต (Dataran Segamat) แลนด์มาร์คของเมือง มีหอนาฬิกาและสวนภูมิทัศน์ สำหรับจัดงานสำคัญและกิจกรรมต่างๆ

    สะพานรถไฟเก่า (Segamat Old Iron Railway Bridge) เป็นสะพานเหล็ก ข้ามแม่น้ำเซกามัต สร้างขึ้นในปี 2452 กระทั่งก่อสร้างทางรถไฟยกระดับในปี 2561 เมื่อแล้วเสร็จจึงได้ปิดใช้สะพาน ปัจจุบันได้ปรับภูมิทัศน์เป็นจุดถ่ายรูปเช็กอิน

    สะพานบูโละห์ กาซัป (Buloh Kasap Bridge) ข้ามแม่น้ำมัวร์ สร้างขึ้นโดยอังกฤษ ที่ก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 1 จากยะโฮร์บาห์รูไปยังบูกิตกายูฮิตัม แต่ได้ทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อขัดขวางไม่ให้ทหารญี่ปุ่นเข้าไปที่สิงคโปร์

    ร็อคการ์เดน (Rock Garden) หรือสวนบาตูฮัมปาร์ (Taman Bunga Batu Hampar) สวนสาธารณะใจกลางเมือง เป็นที่ตั้งของบ้านพักเจ้าหน้าที่ และพระราชวังฮิงกาปของราชวงศ์ยะโฮร์ มีสนามเด็กเล่น ลู่วิ่งจ็อกกิ้ง และร้านกาแฟ

    วอลเตอร์ส ฟาร์ม (Walters Farm) แหล่งท่องเที่ยวฟาร์มสเตย์ มีทั้งสวนสัตว์ขนาดเล็ก สวนน้ำ สวนสนุก รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการอื่นๆ (มีค่าผ่านประตู)

    อุทยานแห่งชาติกูนุง เลดัง (Gunung Ledang) ห่างจากตัวเมือง 35 กิโลเมตร เป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับเดินป่า ตั้งแคมป์ และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติ

    ป่านันทนาการสุไหงบันตัง (Sungai Bantang) ห่างจากตัวเมือง 65 กิโลเมตร เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติ นิยมทำกิจกรรมทั้งปิกนิก เดินป่า และเล่นน้ำตกในแม่น้ำบันตัง

    นอกจากนี้ ยังสามารถขึ้นรถบัสไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รูได้อีกด้วย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที

    #Newskit
    สถานีต่อไป...เซกามัต จุดหมายแรกรัฐยะโฮร์ 15 มี.ค.2568 การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย จะขยายการเดินรถไฟ ETS (Electric Train Service) ไปถึงสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ ซึ่งเป็น 1 ใน 11 สถานีของโครงการรถไฟทางคู่เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru) ระยะทาง 192 กิโลเมตร ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2568 สถานีเซกามัตแห่งใหม่ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2567 มีสิ่งอำนวยความสะดวกได้แก่ ลิฟต์ บันไดเลื่อน ห้องน้ำ กล้องวงจรปิด CCTV ห้องละหมาด ลานจอดรถรองรับรถยนต์ได้ 97 คัน รถจักรยานยนต์ 49 คัน และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ (OKU) เช่น ที่จอดรถ ห้องน้ำ ปัจจุบันให้บริการรถไฟ KTM Intercity ขบวน ERT สายตุมปัต-เจบีเซ็นทรัล (Tumpat-JB Sentral) และขบวน ES สายเกอมัส-เจบีเซ็นทรัล (Gemas-JB Sentral) เมืองเซกามัต ห่างจากเมืองยะโฮร์บาห์รู 172 กิโลเมตร ประชาชนมีอาชีพทำการเกษตร สวนปาล์ม สวนยางพารา และมีทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียง มีสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ จตุรัสเซกามัต (Dataran Segamat) แลนด์มาร์คของเมือง มีหอนาฬิกาและสวนภูมิทัศน์ สำหรับจัดงานสำคัญและกิจกรรมต่างๆ สะพานรถไฟเก่า (Segamat Old Iron Railway Bridge) เป็นสะพานเหล็ก ข้ามแม่น้ำเซกามัต สร้างขึ้นในปี 2452 กระทั่งก่อสร้างทางรถไฟยกระดับในปี 2561 เมื่อแล้วเสร็จจึงได้ปิดใช้สะพาน ปัจจุบันได้ปรับภูมิทัศน์เป็นจุดถ่ายรูปเช็กอิน สะพานบูโละห์ กาซัป (Buloh Kasap Bridge) ข้ามแม่น้ำมัวร์ สร้างขึ้นโดยอังกฤษ ที่ก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 1 จากยะโฮร์บาห์รูไปยังบูกิตกายูฮิตัม แต่ได้ทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อขัดขวางไม่ให้ทหารญี่ปุ่นเข้าไปที่สิงคโปร์ ร็อคการ์เดน (Rock Garden) หรือสวนบาตูฮัมปาร์ (Taman Bunga Batu Hampar) สวนสาธารณะใจกลางเมือง เป็นที่ตั้งของบ้านพักเจ้าหน้าที่ และพระราชวังฮิงกาปของราชวงศ์ยะโฮร์ มีสนามเด็กเล่น ลู่วิ่งจ็อกกิ้ง และร้านกาแฟ วอลเตอร์ส ฟาร์ม (Walters Farm) แหล่งท่องเที่ยวฟาร์มสเตย์ มีทั้งสวนสัตว์ขนาดเล็ก สวนน้ำ สวนสนุก รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการอื่นๆ (มีค่าผ่านประตู) อุทยานแห่งชาติกูนุง เลดัง (Gunung Ledang) ห่างจากตัวเมือง 35 กิโลเมตร เป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับเดินป่า ตั้งแคมป์ และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติ ป่านันทนาการสุไหงบันตัง (Sungai Bantang) ห่างจากตัวเมือง 65 กิโลเมตร เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติ นิยมทำกิจกรรมทั้งปิกนิก เดินป่า และเล่นน้ำตกในแม่น้ำบันตัง นอกจากนี้ ยังสามารถขึ้นรถบัสไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รูได้อีกด้วย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลตรวจผ้าผกก.โจ้ ไม่พบดีเอ็นเอคนอื่น : [NEWS UPDATE]
    พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เผยผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์คดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ออกแล้ว ซึ่งจะส่งผลทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อ
    ทั้งนี้ มีรายงานว่ามีการพิสูจน์หลักฐาน 2 ชิ้น คือ ผ้าขนหนูที่ใช้ผูกคอ จากการตรวจดีเอ็นเอไม่พบความผิดปกติ ไม่พบดีเอ็นเอบุคคลอื่น โดยผ้าขนหนูผืนนี้เป็นของใช้ส่วนตัวของอดีตผู้กำกับโจ้ ที่ใช้ตั้งแต่อยู่แดน 7 และเชื่อว่านำมาใช้ต่อเนื่อง ส่วนรอยหยดเลือดที่ปรากฏบนพื้นห้องขัง เชื่อว่าเป็นเลือดของอดีตผู้กำกับโจ้ เป็นบาดแผลคล้ายรอยสัตว์กัด


    หา รมต. วิญญูชนยาก

    ดักคออย่าขวางอภิปราย

    ห่วงเด็กจมน้ำช่วงปิดเทอม

    สงครามการค้าฉุดเศรษฐกิจ
    ผลตรวจผ้าผกก.โจ้ ไม่พบดีเอ็นเอคนอื่น : [NEWS UPDATE] พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เผยผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์คดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ออกแล้ว ซึ่งจะส่งผลทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อ ทั้งนี้ มีรายงานว่ามีการพิสูจน์หลักฐาน 2 ชิ้น คือ ผ้าขนหนูที่ใช้ผูกคอ จากการตรวจดีเอ็นเอไม่พบความผิดปกติ ไม่พบดีเอ็นเอบุคคลอื่น โดยผ้าขนหนูผืนนี้เป็นของใช้ส่วนตัวของอดีตผู้กำกับโจ้ ที่ใช้ตั้งแต่อยู่แดน 7 และเชื่อว่านำมาใช้ต่อเนื่อง ส่วนรอยหยดเลือดที่ปรากฏบนพื้นห้องขัง เชื่อว่าเป็นเลือดของอดีตผู้กำกับโจ้ เป็นบาดแผลคล้ายรอยสัตว์กัด หา รมต. วิญญูชนยาก ดักคออย่าขวางอภิปราย ห่วงเด็กจมน้ำช่วงปิดเทอม สงครามการค้าฉุดเศรษฐกิจ
    Like
    Love
    Haha
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยกคณะลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด ส่องปฏิบัติการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-มาตรการตัดเน็ต-ไฟฟ้า-น้ำมัน ก่อนรายงาน สมช.21 มีนาฯ นี้ สั่งย้ำสกัดคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย หลังพบอ้างเป็นนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่เพิ่มผิดปกติ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000024301
    ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยกคณะลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด ส่องปฏิบัติการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-มาตรการตัดเน็ต-ไฟฟ้า-น้ำมัน ก่อนรายงาน สมช.21 มีนาฯ นี้ สั่งย้ำสกัดคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย หลังพบอ้างเป็นนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่เพิ่มผิดปกติ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000024301
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงพ่อทวดจอม รุ่นแรก วัดดอนกลาง จ.ปัตตานี ปี2508
    เนื้อว่านหลวงพ่อทวดจอม รุ่นแรก (นิยมหลังปั้ม) วัดดอนกลาง อำเภอปะนาเระ จ.ปัตตานี ปี2508 //พระดีพิธีใหญ ปลุกเสกโดย พระเกจิยุคเก่า สายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ หลายท่าน !! // ผสมว่านหลวงปู่ทวด2497 จำนวนมาก อ.ทิม วัดช้างให้ - หลวงพ่อดำ วัตุยง - พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** พระดีพิธีใหญปลุกเสกโดย พระเกจิยุคเก่า สายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ หลายท่าน !! อาทิ เช่น อ.ทิม วัดช้างให้ หลวงพ่อดำ วัตุยง -พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก -หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด -หลวงพ่อเส้ง วัดแหลมทราย -หลวงพ่อแดง วัดเชิงเขา -หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ -อาจารย์นอง วัดทรายขาว - หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง - อาจารย์นำ วัดดอนศาลา - หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ หลวงพ่อมุ่ย วัดบางบูชา เป็นต้น >>> และ คณาจารย์สายใต้อีกหลายท่าน... >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อทวดจอม รุ่นแรก วัดดอนกลาง จ.ปัตตานี ปี2508 เนื้อว่านหลวงพ่อทวดจอม รุ่นแรก (นิยมหลังปั้ม) วัดดอนกลาง อำเภอปะนาเระ จ.ปัตตานี ปี2508 //พระดีพิธีใหญ ปลุกเสกโดย พระเกจิยุคเก่า สายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ หลายท่าน !! // ผสมว่านหลวงปู่ทวด2497 จำนวนมาก อ.ทิม วัดช้างให้ - หลวงพ่อดำ วัตุยง - พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** พระดีพิธีใหญปลุกเสกโดย พระเกจิยุคเก่า สายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ หลายท่าน !! อาทิ เช่น อ.ทิม วัดช้างให้ หลวงพ่อดำ วัตุยง -พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก -หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด -หลวงพ่อเส้ง วัดแหลมทราย -หลวงพ่อแดง วัดเชิงเขา -หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ -อาจารย์นอง วัดทรายขาว - หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง - อาจารย์นำ วัดดอนศาลา - หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ หลวงพ่อมุ่ย วัดบางบูชา เป็นต้น >>> และ คณาจารย์สายใต้อีกหลายท่าน... >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในปีพุทธศักราช 2552
    ได้ร่วมเดินทางไปทำกิจกรรมต่างจังหวัด กับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
    มีการสแกนกรรม และรักษาโรคด้วยพลังจากต่างดาว
    ให้กับผู้มาร่วมงานตามจังหวัดต่างๆ
    ครั้งนั้น มีผู้สแกนกรรมเพียงคนเดียว นอกนั้น5-10 คนเป็นผู้ใช้พลังต่างดาวรักษาโรค

    การสแกนกรรม ให้กับผู้เจ็บป่วยที่รักษาที่ไหนก็ไม่หาย
    เนื่องจากมีเจ้ากรรมนายเวรคุมอยู่ จึงต้องอาศัยการสแกนกรรม เพื่อให้ทราบถึงเหตุแห่งการเจ็บป่วยที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวร
    เมื่อเจ้ากรรมนายเวรอนุญาต
    ก็จะรู้ว่า ผู้ป่วยเคยไปก่อกรรมกับเจ้ากรรมฯไว้อย่างไร
    จากนั้นก็แนะนำให้ผู้ป่วย
    ขอขมากรรม ทำบุญอุทิศกุศลไปให้ อย่างน้อย 3 เดือนๆละครั้ง
    และให้ตั้งจิตส่งน้ำบุญไปให้ก่อนทันที

    วิธีส่งน้ำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร

    น้ำภาชนะแก้วน้ำ หรือขันน้ำ
    ใส่น้ำให้ได้3ใน4ส่วน หรือเต็มภาชนะ
    ถือไว้ในมือ กล่าววาจาว่า

    "ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้วทั้งหมด ลงสู่น้ำในแก้ว(ขัน) นี้ ขอให้น้ำนี้เป็นน้ำบุญของข้าพเจ้า
    ขอส่งน้ำบุญนี้ ให้เจ้ากรรมนายเวรที่กำลังให้ผลต่อชีวิต
    ของข้าพเจ้า(เอ่ยลักษณะหรือชื่อของเจ้ากรรมฯถ้ารู้ว่าเป็นใคร) ขอให้ได้รับกุศล บังเกิดความสุข
    ขออโหสิกรรมต่อกรรมที่ได้เคยล่วงเกินกันมา
    ข้าพเจ้าจะทำบุญอุทิศกุศลไปให้อีก
    ขอให้พระแม่คงคา พระแม่ธรณี เป็นสักขีพยาน ในการส่งอุทิศกุศลผ่านน้ำบุญนี้"

    จากนั้นให้นำน้ำบุญไปเทใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีรากหยั่งลงดิน
    (ห้ามเทในกระถางปลูกต้นไม้ จะไม่ได้ผล มีตัวอย่างมาแล้ว)

    HOS.HOLY HIFT
    13 มีนาคม 2568
    ในปีพุทธศักราช 2552 ได้ร่วมเดินทางไปทำกิจกรรมต่างจังหวัด กับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) มีการสแกนกรรม และรักษาโรคด้วยพลังจากต่างดาว ให้กับผู้มาร่วมงานตามจังหวัดต่างๆ ครั้งนั้น มีผู้สแกนกรรมเพียงคนเดียว นอกนั้น5-10 คนเป็นผู้ใช้พลังต่างดาวรักษาโรค การสแกนกรรม ให้กับผู้เจ็บป่วยที่รักษาที่ไหนก็ไม่หาย เนื่องจากมีเจ้ากรรมนายเวรคุมอยู่ จึงต้องอาศัยการสแกนกรรม เพื่อให้ทราบถึงเหตุแห่งการเจ็บป่วยที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวร เมื่อเจ้ากรรมนายเวรอนุญาต ก็จะรู้ว่า ผู้ป่วยเคยไปก่อกรรมกับเจ้ากรรมฯไว้อย่างไร จากนั้นก็แนะนำให้ผู้ป่วย ขอขมากรรม ทำบุญอุทิศกุศลไปให้ อย่างน้อย 3 เดือนๆละครั้ง และให้ตั้งจิตส่งน้ำบุญไปให้ก่อนทันที วิธีส่งน้ำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร น้ำภาชนะแก้วน้ำ หรือขันน้ำ ใส่น้ำให้ได้3ใน4ส่วน หรือเต็มภาชนะ ถือไว้ในมือ กล่าววาจาว่า "ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้วทั้งหมด ลงสู่น้ำในแก้ว(ขัน) นี้ ขอให้น้ำนี้เป็นน้ำบุญของข้าพเจ้า ขอส่งน้ำบุญนี้ ให้เจ้ากรรมนายเวรที่กำลังให้ผลต่อชีวิต ของข้าพเจ้า(เอ่ยลักษณะหรือชื่อของเจ้ากรรมฯถ้ารู้ว่าเป็นใคร) ขอให้ได้รับกุศล บังเกิดความสุข ขออโหสิกรรมต่อกรรมที่ได้เคยล่วงเกินกันมา ข้าพเจ้าจะทำบุญอุทิศกุศลไปให้อีก ขอให้พระแม่คงคา พระแม่ธรณี เป็นสักขีพยาน ในการส่งอุทิศกุศลผ่านน้ำบุญนี้" จากนั้นให้นำน้ำบุญไปเทใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีรากหยั่งลงดิน (ห้ามเทในกระถางปลูกต้นไม้ จะไม่ได้ผล มีตัวอย่างมาแล้ว) HOS.HOLY HIFT 13 มีนาคม 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้ำผุดบ้านท่าช้าง เขาใหญ่ ใสดั่งมรกต #โคราช #ท่องเที่ยว #พักผ่อน #travel #happytime #travel #unseenthailand #เทรนด์วันนี้ #thaitimes #kaiaminute
    น้ำผุดบ้านท่าช้าง เขาใหญ่ ใสดั่งมรกต #โคราช #ท่องเที่ยว #พักผ่อน #travel #happytime #travel #unseenthailand #เทรนด์วันนี้ #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • #ถังแช่ #ลังน้ำแข็งหาดใหญ่
    #ถังแช่ตราสมอ
    0815425909
    #ถังแช่ #ลังน้ำแข็งหาดใหญ่ #ถังแช่ตราสมอ 0815425909
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🙏วันนี้วันพระถวายสังฆทาน ณ วัดป่าเจริญธรรม ( 2 ชุด) อ.โคกสำโรง ลพบุรี ให้กับ
    ✅ คุณพรภินันท์(อุ๊) เสรีมโนพัฒน์ Ca, USA.
    👉 ข้าว ต้มจืดผักกาดดองกับกระดูกหมู 1 ชุด
    👉 น้ำดื่ม ดอกไม้ ธูปเทียน
    🙏🙏🙏ขอเชิญกัลยาณมิตรทุกท่านโมทนาบุญร่วมกันนะครับ#padthaiinter#รับถวายสังฆทานออนไลน์
    🙏วันนี้วันพระถวายสังฆทาน ณ วัดป่าเจริญธรรม ( 2 ชุด) อ.โคกสำโรง ลพบุรี ให้กับ ✅ คุณพรภินันท์(อุ๊) เสรีมโนพัฒน์ Ca, USA. 👉 ข้าว ต้มจืดผักกาดดองกับกระดูกหมู 1 ชุด 👉 น้ำดื่ม ดอกไม้ ธูปเทียน 🙏🙏🙏ขอเชิญกัลยาณมิตรทุกท่านโมทนาบุญร่วมกันนะครับ#padthaiinter#รับถวายสังฆทานออนไลน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 20 ปี สิ้น “สาวสองพันปี” เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ✨ เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น 🟣 ผู้นำเทรนด์ม่วงหัวจรดเท้า สาวเปรี้ยวแห่งยุค

    ย้อนตำนานเจ้าแม่ตัดริบบิ้น เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ หญิงสาวผู้เปลี่ยนทุกเวที ให้กลายเป็นรันเวย์แฟชั่นสีม่วง ตลอด 69 ปีเต็มของชีวิต ตัวแทนความเปรี้ยว และกล้าฉีกกฎยุคสมัยอย่างแท้จริง

    เสน่ห์ที่ไม่มีวันลบเลือน วงสังคมไฮโซไทย 🌟 ถ้าจะกล่าวถึงผู้หญิง ที่ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองจางหาย จากความสนใจของผู้คน ชื่อของ “เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่” หรือที่เรียกขานกันว่า "เจ้าป้า" ต้องโผล่มาในใจคนรุ่นเก่าและใหม่เสมอ 🟣 เจ้าป้าคือ "สาวสองพันปี" ตำนานแฟชั่นม่วง ที่กลายเป็นไอคอนของความเปรี้ยว ความมั่นใจ และความโดดเด่นเหนือใคร ✨

    ตลอด 69 ปีของชีวิต เจ้ากอแก้วได้สร้างตำนานในหลายบท ทั้งในฐานะลูกหลานเจ้านายฝ่ายเหนือแห่งเชียงใหม่ 🏯 นักเรียนที่มีการศึกษาระดับสากล 📚 ผู้นำแฟชั่นที่ไม่กลัวคำครหา 👜 และ "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ ที่ไม่เคยปล่อยให้เวทีไหนเงียบเหงา ❤️

    👑 เชื้อสายเจ้านายฝ่ายเหนือ อดีตผู้ครองนครเชียงใหม่ เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ในตระกูล "ณ เชียงใหม่" อันทรงเกียรติ เป็นธิดาคนสุดท้องของเจ้ากาวิละวงศ์ กับเจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ 🌸 เป็นหลานสาวของเจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย

    ชื่อที่มีความหมาย และเรื่องราวที่น่าจดจำ เมื่อแรกเกิด ได้รับพระราชทานชื่อ "ประกายกาวิล" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 7 ต่อมาเมื่อหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ขอเป็นแม่อุปถัมภ์ ได้ไปที่เชียงใหม่ และไปเฝ้าเจ้าตาขอให้ตั้งชื่อหลานสาวว่า “กอบแก้ว” แต่ตัว บ.ใบไม้หายไป จึงกลายเป็น “กอแก้ว” 🎉

    ✈️ เจ้ากอแก้วได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อ ที่ประเทศอังกฤษ 🇬🇧 และฝรั่งเศส 🇫🇷

    - Raven's Croft ในอีสต์บอร์น
    - Southampton Technical College
    - เรียนพิมพ์ดีดและเลขานุการที่ Pitman College กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
    - ฝึกมารยาทและการเข้าสังคมที่ Lucy Clayton
    - เรียนภาษาและมารยาททางสังคมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส🇫🇷

    ภายหลัง เจ้ากอแก้วสามารถใช้ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ✍️

    เจ้ากอแก้ว เจ้าแม่แฟชั่นแห่งยุคที่ไม่เคยตกเทรนด์ 💄👠 สีม่วง เอกลักษณ์ที่กลายเป็นตำนาน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ทศวรรษ สีม่วงก็ยังเป็นสีประจำตัวของเจ้าป้าคนนี้ 🔮 เจ้าป้าย้อมผมเป็นสีม่วงเข้ม ฟูฟ่องตั้งแต่รากจรดปลาย และเลือกเครื่องแต่งกายทุกชิ้น ตั้งแต่หมวก 🧢 เสื้อผ้า 👗 กระเป๋า 👜 รองเท้า 👠 ไปจนถึงต่างหู 💎 ให้เป็นสีม่วงตั้งแต่หัวจรดเท้า

    เจ้าป้าเคยกล่าวขำๆ ว่า... “ทีแรกเลย ป้าต้องการสีเปลือกมังคุด แต่ไม่รู้ว่าช่างเขาผสมยังไง ผสมไปผสมมามันก็กลายเป็นสีนี้ไปได้ พอออกมาอย่างนี้เราก็เออ สวยดีแฮะ ก็เลยเอาสีนี้ก็สีนี้แหละชอบ” 😄

    ตำนานการตัดริบบิ้นที่ไม่มีใครเทียบ เจ้าป้าได้รับฉายา "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ เพราะการปรากฏตัวที่งานเปิดตัวต่างๆ มักนำมาซึ่งโชคลาภ และความสำเร็จแก่เจ้าของกิจการ 🏢 เคยสร้างสถิติตัดริบบิ้น 8 งานในวันเดียว! เจ้าป้ามีเทคนิคเฉพาะในการ "จรดกรรไกร" ให้นักข่าวถ่ายภาพได้มุมเป๊ะทุกครั้ง 📸

    ความเปรี้ยวที่เหนือกาลเวลา 🕶 เจ้ากอแก้วเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี 🚬 ใส่เสื้อเกาะอกตั้งแต่อายุ 20 ปี 👗 และชอบดื่มไวน์ 🍷 พร้อมแต่งหน้าเข้ม ตั้งแต่ยุคที่ผู้หญิงไทยยังนิยมเรียบร้อย เจ้าป้าไม่เคยกลัวคำวิจารณ์ แต่กลับเห็นว่าเป็นสีสันของชีวิต 🖌️

    ถ้อยคำอมตะของสาวสองพันปี "คนมอง ก็อยากมองเอง ช่วยอะไรไม่ได้ เราบังคับเขาไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเห็นเราตลก เอาเราไปล้อเลียนก็เถอะ แต่เราถือว่าเขาให้เกียรติเรา" 🌟

    ❤️ เจ้ากอแก้วสมรสครั้งแรกกับ พลตำรวจโท ทิพย์ อัศวรักษ์ มีบุตรชาย 1 คน คือ ทินกร อัศวรักษ์ หรือกุ๊กกี้ ต่อมาหย่าขาดกัน และใช้ชีวิตคู่กับเรืออากาศเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช อีก 6 ปี ก่อนลงเอยกับเอดิลเบอร์โต้ โรเมโร ชาวฟิลิปปินส์ แม้ไม่มีบุตรร่วมกัน แต่ก็มีช่วงเวลาคู่ชีวิตที่มีค่า 💞

    ผลงานและหน้าที่การงานที่น่าประทับใจ 💼
    - บริษัท CTO. Lines
    - เลขานุการและมัคคุเทศก์ บริษัทซีต้า แทรเวล
    - ประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิต หรือแอมบาสซาเดอร์ในปัจจุบัน
    - ประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริหารร่างกายโจแอนดรูว์
    - ที่ปรึกษาการตลาด บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป

    💐 เจ้ากอแก้วประกายกาวิลเสียชีวิต เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เวลา 10.30 น. ด้วยวัย 69 ปี สิ้นสุดตำนาน "สาวสองพันปี" ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานหีบทองทึบ และรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดธาตุทอง ✨ พิธีพระราชทานเพลิงศพ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2548

    ตำนานที่ยังคงอยู่ในใจผู้คน 🕊️ 20 ปีผ่านไป ชื่อของเจ้ากอแก้วประกายกาวิล ยังไม่จางหาย เจ้าป้าคือแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง 💜

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131110 มี.ค. 2568

    #เจ้ากอแก้วประกายกาวิล #สาวสองพันปี #เจ้าแม่ตัดริบบิ้น #แฟชั่นสีม่วง #ไฮโซเชียงใหม่ #ตำนานสังคมไทย #สาวเปรี้ยวแห่งยุค #กอแก้วประกายกาวิล #ChiangMaiLegend #PurpleIcon
    20 ปี สิ้น “สาวสองพันปี” เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ✨ เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น 🟣 ผู้นำเทรนด์ม่วงหัวจรดเท้า สาวเปรี้ยวแห่งยุค ย้อนตำนานเจ้าแม่ตัดริบบิ้น เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ หญิงสาวผู้เปลี่ยนทุกเวที ให้กลายเป็นรันเวย์แฟชั่นสีม่วง ตลอด 69 ปีเต็มของชีวิต ตัวแทนความเปรี้ยว และกล้าฉีกกฎยุคสมัยอย่างแท้จริง เสน่ห์ที่ไม่มีวันลบเลือน วงสังคมไฮโซไทย 🌟 ถ้าจะกล่าวถึงผู้หญิง ที่ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองจางหาย จากความสนใจของผู้คน ชื่อของ “เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่” หรือที่เรียกขานกันว่า "เจ้าป้า" ต้องโผล่มาในใจคนรุ่นเก่าและใหม่เสมอ 🟣 เจ้าป้าคือ "สาวสองพันปี" ตำนานแฟชั่นม่วง ที่กลายเป็นไอคอนของความเปรี้ยว ความมั่นใจ และความโดดเด่นเหนือใคร ✨ ตลอด 69 ปีของชีวิต เจ้ากอแก้วได้สร้างตำนานในหลายบท ทั้งในฐานะลูกหลานเจ้านายฝ่ายเหนือแห่งเชียงใหม่ 🏯 นักเรียนที่มีการศึกษาระดับสากล 📚 ผู้นำแฟชั่นที่ไม่กลัวคำครหา 👜 และ "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ ที่ไม่เคยปล่อยให้เวทีไหนเงียบเหงา ❤️ 👑 เชื้อสายเจ้านายฝ่ายเหนือ อดีตผู้ครองนครเชียงใหม่ เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ในตระกูล "ณ เชียงใหม่" อันทรงเกียรติ เป็นธิดาคนสุดท้องของเจ้ากาวิละวงศ์ กับเจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ 🌸 เป็นหลานสาวของเจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย ชื่อที่มีความหมาย และเรื่องราวที่น่าจดจำ เมื่อแรกเกิด ได้รับพระราชทานชื่อ "ประกายกาวิล" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 7 ต่อมาเมื่อหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ขอเป็นแม่อุปถัมภ์ ได้ไปที่เชียงใหม่ และไปเฝ้าเจ้าตาขอให้ตั้งชื่อหลานสาวว่า “กอบแก้ว” แต่ตัว บ.ใบไม้หายไป จึงกลายเป็น “กอแก้ว” 🎉 ✈️ เจ้ากอแก้วได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อ ที่ประเทศอังกฤษ 🇬🇧 และฝรั่งเศส 🇫🇷 - Raven's Croft ในอีสต์บอร์น - Southampton Technical College - เรียนพิมพ์ดีดและเลขานุการที่ Pitman College กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ - ฝึกมารยาทและการเข้าสังคมที่ Lucy Clayton - เรียนภาษาและมารยาททางสังคมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส🇫🇷 ภายหลัง เจ้ากอแก้วสามารถใช้ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ✍️ เจ้ากอแก้ว เจ้าแม่แฟชั่นแห่งยุคที่ไม่เคยตกเทรนด์ 💄👠 สีม่วง เอกลักษณ์ที่กลายเป็นตำนาน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ทศวรรษ สีม่วงก็ยังเป็นสีประจำตัวของเจ้าป้าคนนี้ 🔮 เจ้าป้าย้อมผมเป็นสีม่วงเข้ม ฟูฟ่องตั้งแต่รากจรดปลาย และเลือกเครื่องแต่งกายทุกชิ้น ตั้งแต่หมวก 🧢 เสื้อผ้า 👗 กระเป๋า 👜 รองเท้า 👠 ไปจนถึงต่างหู 💎 ให้เป็นสีม่วงตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าป้าเคยกล่าวขำๆ ว่า... “ทีแรกเลย ป้าต้องการสีเปลือกมังคุด แต่ไม่รู้ว่าช่างเขาผสมยังไง ผสมไปผสมมามันก็กลายเป็นสีนี้ไปได้ พอออกมาอย่างนี้เราก็เออ สวยดีแฮะ ก็เลยเอาสีนี้ก็สีนี้แหละชอบ” 😄 ตำนานการตัดริบบิ้นที่ไม่มีใครเทียบ เจ้าป้าได้รับฉายา "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ เพราะการปรากฏตัวที่งานเปิดตัวต่างๆ มักนำมาซึ่งโชคลาภ และความสำเร็จแก่เจ้าของกิจการ 🏢 เคยสร้างสถิติตัดริบบิ้น 8 งานในวันเดียว! เจ้าป้ามีเทคนิคเฉพาะในการ "จรดกรรไกร" ให้นักข่าวถ่ายภาพได้มุมเป๊ะทุกครั้ง 📸 ความเปรี้ยวที่เหนือกาลเวลา 🕶 เจ้ากอแก้วเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี 🚬 ใส่เสื้อเกาะอกตั้งแต่อายุ 20 ปี 👗 และชอบดื่มไวน์ 🍷 พร้อมแต่งหน้าเข้ม ตั้งแต่ยุคที่ผู้หญิงไทยยังนิยมเรียบร้อย เจ้าป้าไม่เคยกลัวคำวิจารณ์ แต่กลับเห็นว่าเป็นสีสันของชีวิต 🖌️ ถ้อยคำอมตะของสาวสองพันปี "คนมอง ก็อยากมองเอง ช่วยอะไรไม่ได้ เราบังคับเขาไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเห็นเราตลก เอาเราไปล้อเลียนก็เถอะ แต่เราถือว่าเขาให้เกียรติเรา" 🌟 ❤️ เจ้ากอแก้วสมรสครั้งแรกกับ พลตำรวจโท ทิพย์ อัศวรักษ์ มีบุตรชาย 1 คน คือ ทินกร อัศวรักษ์ หรือกุ๊กกี้ ต่อมาหย่าขาดกัน และใช้ชีวิตคู่กับเรืออากาศเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช อีก 6 ปี ก่อนลงเอยกับเอดิลเบอร์โต้ โรเมโร ชาวฟิลิปปินส์ แม้ไม่มีบุตรร่วมกัน แต่ก็มีช่วงเวลาคู่ชีวิตที่มีค่า 💞 ผลงานและหน้าที่การงานที่น่าประทับใจ 💼 - บริษัท CTO. Lines - เลขานุการและมัคคุเทศก์ บริษัทซีต้า แทรเวล - ประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิต หรือแอมบาสซาเดอร์ในปัจจุบัน - ประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริหารร่างกายโจแอนดรูว์ - ที่ปรึกษาการตลาด บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป 💐 เจ้ากอแก้วประกายกาวิลเสียชีวิต เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เวลา 10.30 น. ด้วยวัย 69 ปี สิ้นสุดตำนาน "สาวสองพันปี" ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานหีบทองทึบ และรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดธาตุทอง ✨ พิธีพระราชทานเพลิงศพ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ตำนานที่ยังคงอยู่ในใจผู้คน 🕊️ 20 ปีผ่านไป ชื่อของเจ้ากอแก้วประกายกาวิล ยังไม่จางหาย เจ้าป้าคือแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง 💜 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131110 มี.ค. 2568 #เจ้ากอแก้วประกายกาวิล #สาวสองพันปี #เจ้าแม่ตัดริบบิ้น #แฟชั่นสีม่วง #ไฮโซเชียงใหม่ #ตำนานสังคมไทย #สาวเปรี้ยวแห่งยุค #กอแก้วประกายกาวิล #ChiangMaiLegend #PurpleIcon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • แป้งทนย่อย หรือ แป้งค้างคืน (Resistant Starch) ลำไส้ดูดซึมได้น้อย จะไปหมักในลำไส้ใหญ่เป็นอาหารเลี้ยงจุลินทรีย์ที่ยอดเยี่ยม
    ข้อดี -ลดความอ้วน ลดน้ำตาลในเลือด เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
    แป้งทนย่อย หรือ แป้งค้างคืน (Resistant Starch) ลำไส้ดูดซึมได้น้อย จะไปหมักในลำไส้ใหญ่เป็นอาหารเลี้ยงจุลินทรีย์ที่ยอดเยี่ยม ข้อดี -ลดความอ้วน ลดน้ำตาลในเลือด เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • Congatec เปิดตัว ท่อความร้อนแบบใช้สารอะซิโตน (Acetone-based heat pipe) สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำถึง -40 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณขั้วโลกหรือที่สูงที่เย็นจัด

    ทำไมต้องใช้อะซิโตนแทนน้ำ? ท่อความร้อนทั่วไปมักใช้ "น้ำ" เป็นของเหลวที่ดูดซับและถ่ายเทความร้อน เนื่องจากน้ำมีคุณสมบัติดูดความร้อนได้ดีเยี่ยม แต่ในอุณหภูมิติดลบ น้ำจะแข็งตัวและอาจทำลายระบบระบายความร้อน ในขณะที่อะซิโตนมีจุดเยือกแข็งต่ำมาก ทำให้สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมหนาวจัดโดยไม่เกิดการแช่แข็ง

    คุณสมบัติที่สำคัญ:
    - ระบบระบายความร้อนด้วยอะซิโตนสามารถทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิ -40°C ถึง 85°C
    - ช่วยลดความจำเป็นในการออกแบบระบบที่ซับซ้อนและแพง เพราะสามารถติดตั้งกับโมดูลคอมพิวเตอร์แบบสำเร็จรูป (COM) ของ Congatec เช่น COM-HPC และ COM-HPC mini

    เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพสูงสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีความหนาวเย็น เช่น การวิจัยในขั้วโลก หรือในโกดังแช่เย็น นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปปรับใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำและความเสถียรในอุณหภูมิติดลบ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/congatec-shows-off-acetone-based-heat-pipe-cooling-solution-for-extremely-cold-environments
    Congatec เปิดตัว ท่อความร้อนแบบใช้สารอะซิโตน (Acetone-based heat pipe) สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำถึง -40 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณขั้วโลกหรือที่สูงที่เย็นจัด ทำไมต้องใช้อะซิโตนแทนน้ำ? ท่อความร้อนทั่วไปมักใช้ "น้ำ" เป็นของเหลวที่ดูดซับและถ่ายเทความร้อน เนื่องจากน้ำมีคุณสมบัติดูดความร้อนได้ดีเยี่ยม แต่ในอุณหภูมิติดลบ น้ำจะแข็งตัวและอาจทำลายระบบระบายความร้อน ในขณะที่อะซิโตนมีจุดเยือกแข็งต่ำมาก ทำให้สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมหนาวจัดโดยไม่เกิดการแช่แข็ง คุณสมบัติที่สำคัญ: - ระบบระบายความร้อนด้วยอะซิโตนสามารถทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิ -40°C ถึง 85°C - ช่วยลดความจำเป็นในการออกแบบระบบที่ซับซ้อนและแพง เพราะสามารถติดตั้งกับโมดูลคอมพิวเตอร์แบบสำเร็จรูป (COM) ของ Congatec เช่น COM-HPC และ COM-HPC mini เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพสูงสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีความหนาวเย็น เช่น การวิจัยในขั้วโลก หรือในโกดังแช่เย็น นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปปรับใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำและความเสถียรในอุณหภูมิติดลบ https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/congatec-shows-off-acetone-based-heat-pipe-cooling-solution-for-extremely-cold-environments
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่เป็นอีกตัวอย่างของความพยายามที่จะรวมพลังการประมวลผลระดับเดสก์ท็อปไว้ในอุปกรณ์พกพา

    แล็ปท็อปในโครงการที่ชื่อว่า UHPILCL (Ultra High-Performance Integration Liquid-Cooled Laptop) ถูกออกแบบมาให้รองรับฮาร์ดแวร์ระดับเดสก์ท็อปด้วยระบบระบายความร้อนด้วยน้ำในตัว จึงเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการพลังเต็มรูปแบบในอุปกรณ์แบบพกพา โดยแล็ปท็อปรุ่นนี้อยู่ในระหว่างการระดมทุนบน Kickstarter

    คุณสมบัติที่น่าสนใจ:
    - รองรับเมนบอร์ด ITX และซีพียูระดับไฮเอนด์ เช่น Ryzen 9 9950X3D และซีพียูจาก Intel ตั้งแต่เจนเนอเรชันที่ 12 ถึง 14
    - การ์ดจอที่รองรับสูงสุดคือ RTX 5090 โดยใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ
    - มี ปั๊มน้ำ 18W ที่สามารถระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพในระดับเสียงที่ต่ำกว่า 25 เดซิเบล
    - ใช้ RAM DDR5 สูงสุด 48GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล SSD สูงสุดถึง 32TB
    - หน้าจอ 17.3 นิ้ว ความละเอียด 3K อัตรารีเฟรช 120Hz พร้อมอัตราส่วน 21:10

    แล็ปท็อปรุ่นนี้สามารถสลับระหว่างโหมด เดสก์ท็อปเต็มรูปแบบ และโหมดพกพาที่ลดการใช้พลังงาน โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีรุ่นพิเศษ T1000 Super ที่สามารถรองรับกำลังไฟสูงถึง 735W แต่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 5.2 กิโลกรัม

    แม้แล็ปท็อปนี้มีคุณสมบัติที่น่าสนใจและทะเยอทะยาน แต่ยังอยู่ในขั้นตอนระดมทุนและยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับราคาและวันจำหน่ายที่แน่นอน ทั้งนี้ การลงทุนในโครงการคราวด์ฟันดิ้งยังมีความเสี่ยงโดยเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนอย่างนี้

    https://www.techspot.com/news/107113-watercooled-hybrid-gaming-laptop-can-handle-ryzen-9950x3d.html
    นี่เป็นอีกตัวอย่างของความพยายามที่จะรวมพลังการประมวลผลระดับเดสก์ท็อปไว้ในอุปกรณ์พกพา แล็ปท็อปในโครงการที่ชื่อว่า UHPILCL (Ultra High-Performance Integration Liquid-Cooled Laptop) ถูกออกแบบมาให้รองรับฮาร์ดแวร์ระดับเดสก์ท็อปด้วยระบบระบายความร้อนด้วยน้ำในตัว จึงเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการพลังเต็มรูปแบบในอุปกรณ์แบบพกพา โดยแล็ปท็อปรุ่นนี้อยู่ในระหว่างการระดมทุนบน Kickstarter คุณสมบัติที่น่าสนใจ: - รองรับเมนบอร์ด ITX และซีพียูระดับไฮเอนด์ เช่น Ryzen 9 9950X3D และซีพียูจาก Intel ตั้งแต่เจนเนอเรชันที่ 12 ถึง 14 - การ์ดจอที่รองรับสูงสุดคือ RTX 5090 โดยใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ - มี ปั๊มน้ำ 18W ที่สามารถระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพในระดับเสียงที่ต่ำกว่า 25 เดซิเบล - ใช้ RAM DDR5 สูงสุด 48GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล SSD สูงสุดถึง 32TB - หน้าจอ 17.3 นิ้ว ความละเอียด 3K อัตรารีเฟรช 120Hz พร้อมอัตราส่วน 21:10 แล็ปท็อปรุ่นนี้สามารถสลับระหว่างโหมด เดสก์ท็อปเต็มรูปแบบ และโหมดพกพาที่ลดการใช้พลังงาน โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีรุ่นพิเศษ T1000 Super ที่สามารถรองรับกำลังไฟสูงถึง 735W แต่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 5.2 กิโลกรัม แม้แล็ปท็อปนี้มีคุณสมบัติที่น่าสนใจและทะเยอทะยาน แต่ยังอยู่ในขั้นตอนระดมทุนและยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับราคาและวันจำหน่ายที่แน่นอน ทั้งนี้ การลงทุนในโครงการคราวด์ฟันดิ้งยังมีความเสี่ยงโดยเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนอย่างนี้ https://www.techspot.com/news/107113-watercooled-hybrid-gaming-laptop-can-handle-ryzen-9950x3d.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Watercooled gaming laptop is 5kg hefty but can handle Ryzen 9950X3D CPU, RTX 5090 graphics card
    It's called the UHPILCL (Ultra High-Performance Integration Liquid-Cooled Laptop), and it's no joke. The UHPILCL supports full-sized ITX motherboards and can accommodate virtually every high-end CPU and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨ บรรลุความเปล่งประกายเยาว์วัยด้วย Atomy Pomegranate Jelly ✨

    เก็บเกี่ยวจากเมืองอันตัลยา ประเทศตุรกี ทุกแพ็คของเจลลี่ทับทิมของเรามีกรดเอลลาจิกมากกว่าน้ำทับทิมถึง 26 เท่า ผ่านกระบวนการพิเศษ 30 ขั้นตอน ผลลัพธ์ที่ได้คือประโยชน์ที่พิสูจน์แล้วสำหรับผิวพรรณและสุขภาพ:

    💦 การเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

    เพิ่มความชุ่มชื้นของผิวขึ้น 13.03%

    ลดการสูญเสียความชุ่มชื้นลง 11.05%

    ลดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วลง 6.12% เพื่อความเปล่งปลั่งตามธรรมชาติ


    🌿 การสนับสนุนสำหรับวัยหมดประจำเดือน สูตรของเราช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและความสบายตัว โดยมีการปรับปรุง 60% ใน Kupperman Index และ 61% ใน Menopause Rating Scale

    ด้วย Atomy Pomegranate Jelly คุณจะได้สัมผัสผิวสุขภาพดีและความสมดุลของสุขภาพทุกวัน 💖

    คุณภาพที่เหนือชั้น 💙 ราคาที่เหนือชั้น

    ผลิตภัณฑ์ที่มีคะแนน (PV) 😉 PV = 💰💰💰 เปลี่ยนรายจ่ายประจำวันเป็นรายได้! เป็นผู้บริโภคที่ฉลาด! Atomy ไม่ใช่แค่การขาย แต่เป็นการแบ่งปัน ผลประโยชน์, กลายเป็นผู้บริโภคที่ฉลาด! สมัครสมาชิกฟรีเพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วโลกของ Atomy!

    Atomy บริษัทที่คุณสามารถไว้วางใจ! 😃
    ✨ บรรลุความเปล่งประกายเยาว์วัยด้วย Atomy Pomegranate Jelly ✨ เก็บเกี่ยวจากเมืองอันตัลยา ประเทศตุรกี ทุกแพ็คของเจลลี่ทับทิมของเรามีกรดเอลลาจิกมากกว่าน้ำทับทิมถึง 26 เท่า ผ่านกระบวนการพิเศษ 30 ขั้นตอน ผลลัพธ์ที่ได้คือประโยชน์ที่พิสูจน์แล้วสำหรับผิวพรรณและสุขภาพ: 💦 การเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นของผิวขึ้น 13.03% ลดการสูญเสียความชุ่มชื้นลง 11.05% ลดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วลง 6.12% เพื่อความเปล่งปลั่งตามธรรมชาติ 🌿 การสนับสนุนสำหรับวัยหมดประจำเดือน สูตรของเราช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและความสบายตัว โดยมีการปรับปรุง 60% ใน Kupperman Index และ 61% ใน Menopause Rating Scale ด้วย Atomy Pomegranate Jelly คุณจะได้สัมผัสผิวสุขภาพดีและความสมดุลของสุขภาพทุกวัน 💖 คุณภาพที่เหนือชั้น 💙 ราคาที่เหนือชั้น ผลิตภัณฑ์ที่มีคะแนน (PV) 😉 PV = 💰💰💰 เปลี่ยนรายจ่ายประจำวันเป็นรายได้! เป็นผู้บริโภคที่ฉลาด! Atomy ไม่ใช่แค่การขาย แต่เป็นการแบ่งปัน ผลประโยชน์, กลายเป็นผู้บริโภคที่ฉลาด! สมัครสมาชิกฟรีเพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วโลกของ Atomy! Atomy บริษัทที่คุณสามารถไว้วางใจ! 😃
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ☯️☆#เปิดสอบถาม☆☯️💥💥
    ㊙️☆พระสมเด็จ☆บ้านช่างศิลป์☆
    🉑️☆ขอนำเสนอพระเครื่อง Premium✨️
    ㊗️☆#พระปิดตามหาลาภ✨️หลวงพ่อคูณรุ่น คูณ ลาภ ปี17💥 #พระอายุกว่า 51ปี✨️🇹🇭
    💥พระดีพุทธคุณสูงโดดเด่นมากในเรื่อง
    ✨️โภคทรัพย์
    ✨️ค้าขายธุรกิจเจริญรุ่งเรืองร่ำรวยมั่งมีเงินทอง
    ✨️โชคลาภ
    💥️สุดยอดมวลสารเก่าของวัดระฆัง วัดบวรฯ หลวงปู่โต๊ะฯลฯและยังมีมวลสารวิเศษอีกมาก✨
    💥หลวงพ่อคูณท่านตั้งใจสร้างพระชุดนี้เป็นอย่างมาก ท่านตำผงมวลสารด้วยตัวเอง และระหว่างบดตำมวลสาร ท่านได้ตั้งจิตบริกรรมคาถาตลอดเวลา
    💥พระปิดตาเนื้อผงพุทธคุณ รุ่น คูณ ลาภ ปี17✨️เป็นสุดยอดมวลสารของท่านที่สร้างเอง ผสมกับสุดยอดมวลสารอื่นๆที่ใช้ในการสร้างได้แก่💥
    ✨️ผงพระสมเด็จวัดระฆัง
    ✨️ผงเสากุฎิของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) วัดระฆัง
    ✨️ผงสมเด็จพระสังฆราช(ป๋า) วัดโพธิ์
    ✨️ผงสมเด็จพระญาณสังวร
    ✨️ผงสมเด็จจิตรลดา วัดบวรนิเวศ
    ✨️ผงไตรมาสหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
    ✨️ผงหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    ✨️ผงหลวงพ่อวัดปากน้ำ
    ✨️ผงหลวงพ่อโสธร
    ✨️ผงพระสมเด็จปิลันทน์
    ✨️ผงพระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์
    ✨️ผงพระวัดสามปลื้ม
    ✨️ผงพระบาง
    ✨️ผงสมเด็จพระสังฆราช (แพ), ✨️ผงพระกำแพงสรรค์
    ✨️ผงนางพญางิ้วดำ
    ✨️ผงใบเงินใบทองทำน้ำพุทธมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ, ลูกอมหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก, ลูกอมหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่
    ✨️เกศาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และว่าน 108
    💥เห็นมวลสารทั้งหมดแล้วขนลุกเลยครับ☆✨️หลวงพ่อคูณปลุกเสกเดี่ยวที่วัดสระแก้ว จ.นครราชสีมา ในช่วงกลางคืนของวันที่ 29 มิ.ย.2517 โดยดับไฟเสกตั้งแต่ 5 ทุ่ม จนกระทั่ง ตี 2 เศษ✨️มีผู้เห็นแสงสว่างจ้าติดต่อกันถึง 5 ครั้งจากในกุฎิที่ทำพิธี💥🙏🙏🙏
    ✨️เป็นสุดยอด️️พระปิดตาที่ใช้แทนหลวงพ่อแก้ว หลวงปู่เอี่ยมที่มีราคาหลักหลายสิบล้านร้อยล้านได้เช่นกัน✨️รุ่นนี้สร้างน้อย ตอนนี้เริ่มหายากต้องรีบเก็บมาบูชานะครับ🙏💥
    ☯️ #พระดีมีพุทธศิลป์ #พระแท้มีพุทธคุณ💥🈯️

    ㊙️☆เปิด1,490🪙🪙
    #มีบริการเก็บ💰ปลายทาง+เพิ่ม 60 ครับ☆🇹🇭

    🉑️แอดไลน์ขอรูปและรายละเอียดเพิ่มได้เลยครับ⚛️

    🔰ไอดี sixty75🙏🇹🇭☯️

    ㊗️ #ฝากเพจที่1 Amulet FineArt พระสมเด็จบ้านช่างศิลป์✨️
    #เพจที่2 พระสมเด็จบ้านช่างศิลป์✨️️ ด้วยครับ🙏🙏☯️
    ☯️☆#เปิดสอบถาม☆☯️💥💥 ㊙️☆พระสมเด็จ☆บ้านช่างศิลป์☆ 🉑️☆ขอนำเสนอพระเครื่อง Premium✨️ ㊗️☆#พระปิดตามหาลาภ✨️หลวงพ่อคูณรุ่น คูณ ลาภ ปี17💥 #พระอายุกว่า 51ปี✨️🇹🇭 💥พระดีพุทธคุณสูงโดดเด่นมากในเรื่อง ✨️โภคทรัพย์ ✨️ค้าขายธุรกิจเจริญรุ่งเรืองร่ำรวยมั่งมีเงินทอง ✨️โชคลาภ 💥️สุดยอดมวลสารเก่าของวัดระฆัง วัดบวรฯ หลวงปู่โต๊ะฯลฯและยังมีมวลสารวิเศษอีกมาก✨ 💥หลวงพ่อคูณท่านตั้งใจสร้างพระชุดนี้เป็นอย่างมาก ท่านตำผงมวลสารด้วยตัวเอง และระหว่างบดตำมวลสาร ท่านได้ตั้งจิตบริกรรมคาถาตลอดเวลา 💥พระปิดตาเนื้อผงพุทธคุณ รุ่น คูณ ลาภ ปี17✨️เป็นสุดยอดมวลสารของท่านที่สร้างเอง ผสมกับสุดยอดมวลสารอื่นๆที่ใช้ในการสร้างได้แก่💥 ✨️ผงพระสมเด็จวัดระฆัง ✨️ผงเสากุฎิของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) วัดระฆัง ✨️ผงสมเด็จพระสังฆราช(ป๋า) วัดโพธิ์ ✨️ผงสมเด็จพระญาณสังวร ✨️ผงสมเด็จจิตรลดา วัดบวรนิเวศ ✨️ผงไตรมาสหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ✨️ผงหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ✨️ผงหลวงพ่อวัดปากน้ำ ✨️ผงหลวงพ่อโสธร ✨️ผงพระสมเด็จปิลันทน์ ✨️ผงพระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ ✨️ผงพระวัดสามปลื้ม ✨️ผงพระบาง ✨️ผงสมเด็จพระสังฆราช (แพ), ✨️ผงพระกำแพงสรรค์ ✨️ผงนางพญางิ้วดำ ✨️ผงใบเงินใบทองทำน้ำพุทธมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ, ลูกอมหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก, ลูกอมหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ✨️เกศาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และว่าน 108 💥เห็นมวลสารทั้งหมดแล้วขนลุกเลยครับ☆✨️หลวงพ่อคูณปลุกเสกเดี่ยวที่วัดสระแก้ว จ.นครราชสีมา ในช่วงกลางคืนของวันที่ 29 มิ.ย.2517 โดยดับไฟเสกตั้งแต่ 5 ทุ่ม จนกระทั่ง ตี 2 เศษ✨️มีผู้เห็นแสงสว่างจ้าติดต่อกันถึง 5 ครั้งจากในกุฎิที่ทำพิธี💥🙏🙏🙏 ✨️เป็นสุดยอด️️พระปิดตาที่ใช้แทนหลวงพ่อแก้ว หลวงปู่เอี่ยมที่มีราคาหลักหลายสิบล้านร้อยล้านได้เช่นกัน✨️รุ่นนี้สร้างน้อย ตอนนี้เริ่มหายากต้องรีบเก็บมาบูชานะครับ🙏💥 ☯️ #พระดีมีพุทธศิลป์ #พระแท้มีพุทธคุณ💥🈯️ ㊙️☆เปิด1,490🪙🪙 #มีบริการเก็บ💰ปลายทาง+เพิ่ม 60 ครับ☆🇹🇭 🉑️แอดไลน์ขอรูปและรายละเอียดเพิ่มได้เลยครับ⚛️ 🔰ไอดี sixty75🙏🇹🇭☯️ ㊗️ #ฝากเพจที่1 Amulet FineArt พระสมเด็จบ้านช่างศิลป์✨️ #เพจที่2 พระสมเด็จบ้านช่างศิลป์✨️️ ด้วยครับ🙏🙏☯️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน"

    เรียกเสียงวิจารณ์ในสังคม ถึงมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย คราวนี้เป็นคิวของผู้ที่มีอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน โดยอ้างว่ามีความพร้อมรู้ทางเทคโนโลยี ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 10 มี.ค. เห็นชอบหลักการดังกล่าว ซึ่งครั้งนี้แจกเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล วอลเล็ต บนแอปพลิเคชันทางรัฐ คาดว่าจะดำเนินการในช่วงปลายไตรมาส 2 ควบไตรมาส 3 ของปี 2568

    ส่วนกลุ่มอายุ 21-59 ปี ที่ยังไม่ได้รับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้กันเงินไว้ 150,000 ล้านบาท มีกระสุนไว้เพียงพอ มีไว้เยอะ รัฐบาลใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า ยืนยันว่าการเลือกแจกกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ตื่นรู้ทางเทคโนโลยีสูง มีความสามารถในการใช้จ่ายในแบบนี้ ด้วยจำนวนเงินช่วงเวลาที่เหมาะสม

    อย่างไรก็ตาม การแจกเงินหมื่นเฟสนี้กลายเป็นที่สับสนแก่สังคม เพราะทีแรกแถลงข่าวว่า สามารถจ่ายค่าเทอมได้ แต่วันต่อมา กลับกล่าวว่าไม่ได้ เพราะค่าเทอม ค่าโทรศัพท์มือถือ และค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ถือว่าเป็นค่าบริการ ไม่รวมอยู่ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังก็อ้างว่าสื่อถามเร็วไปหน่อย ประจัญหน้าไปหน่อย คราวหน้าส่งคำถามมาก่อน อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถนำเงินไปใช้ซื้อสินค้าประเภทอื่นได้อยู่แล้ว

    ไม่นับรวมเสียงวิจารณ์จากสังคม โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่รอรัฐบาลแจกเงินแล้วยังไม่ได้ และผลพิสูจน์โครงการแจกเงิน 2 เฟสที่ผ่านมา ได้แก่ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ 14.5 ล้านคน และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 3.02 ล้านคน รวม 17.5 ล้านคน แม้จะเป็นการโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคาร ผ่านระบบพร้อมเพย์เลขที่บัตรประชาชนก็ตาม ก็ไม่ได้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง ธนาคารโลก (World Bank) ยังระบุว่ากระตุ้น GDP ได้เพียง 0.3% แต่มีต้นทุนทางการคลังสูงถึง 145,000 ล้านบาท หรือ 0.8% ของ GDP

    ขณะที่ชาวเน็ตยังคงแชร์ดิจิทัลฟุตปรินต์ แล้ววิจารณ์อย่างสนุกสนาน หนึ่งในนั้นเป็นคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร กล่าวในรายการ CARE Talk เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 ระบุว่า "เติมเศรษฐกิจให้แข็งแรง ทำอะไรกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน ถ้ามีปัญญาเขาไม่แจก เขาใช้เงินไปสร้างเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจแข็งแรง ทำเรื่องง่าย หรือยังขายวัคซีนไม่จบ" ซึ่งเป็นการแซะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่กลายเป็นว่าพอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี กลับทำเสียเอง

    #Newskit
    "เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน" เรียกเสียงวิจารณ์ในสังคม ถึงมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย คราวนี้เป็นคิวของผู้ที่มีอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน โดยอ้างว่ามีความพร้อมรู้ทางเทคโนโลยี ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 10 มี.ค. เห็นชอบหลักการดังกล่าว ซึ่งครั้งนี้แจกเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล วอลเล็ต บนแอปพลิเคชันทางรัฐ คาดว่าจะดำเนินการในช่วงปลายไตรมาส 2 ควบไตรมาส 3 ของปี 2568 ส่วนกลุ่มอายุ 21-59 ปี ที่ยังไม่ได้รับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้กันเงินไว้ 150,000 ล้านบาท มีกระสุนไว้เพียงพอ มีไว้เยอะ รัฐบาลใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า ยืนยันว่าการเลือกแจกกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ตื่นรู้ทางเทคโนโลยีสูง มีความสามารถในการใช้จ่ายในแบบนี้ ด้วยจำนวนเงินช่วงเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การแจกเงินหมื่นเฟสนี้กลายเป็นที่สับสนแก่สังคม เพราะทีแรกแถลงข่าวว่า สามารถจ่ายค่าเทอมได้ แต่วันต่อมา กลับกล่าวว่าไม่ได้ เพราะค่าเทอม ค่าโทรศัพท์มือถือ และค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ถือว่าเป็นค่าบริการ ไม่รวมอยู่ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังก็อ้างว่าสื่อถามเร็วไปหน่อย ประจัญหน้าไปหน่อย คราวหน้าส่งคำถามมาก่อน อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถนำเงินไปใช้ซื้อสินค้าประเภทอื่นได้อยู่แล้ว ไม่นับรวมเสียงวิจารณ์จากสังคม โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่รอรัฐบาลแจกเงินแล้วยังไม่ได้ และผลพิสูจน์โครงการแจกเงิน 2 เฟสที่ผ่านมา ได้แก่ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ 14.5 ล้านคน และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 3.02 ล้านคน รวม 17.5 ล้านคน แม้จะเป็นการโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคาร ผ่านระบบพร้อมเพย์เลขที่บัตรประชาชนก็ตาม ก็ไม่ได้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง ธนาคารโลก (World Bank) ยังระบุว่ากระตุ้น GDP ได้เพียง 0.3% แต่มีต้นทุนทางการคลังสูงถึง 145,000 ล้านบาท หรือ 0.8% ของ GDP ขณะที่ชาวเน็ตยังคงแชร์ดิจิทัลฟุตปรินต์ แล้ววิจารณ์อย่างสนุกสนาน หนึ่งในนั้นเป็นคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร กล่าวในรายการ CARE Talk เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 ระบุว่า "เติมเศรษฐกิจให้แข็งแรง ทำอะไรกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน ถ้ามีปัญญาเขาไม่แจก เขาใช้เงินไปสร้างเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจแข็งแรง ทำเรื่องง่าย หรือยังขายวัคซีนไม่จบ" ซึ่งเป็นการแซะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่กลายเป็นว่าพอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี กลับทำเสียเอง #Newskit
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรากำลังอยู่ในยุคของ มาร มีอำนาจ ในการทำลายล้างเผ่าพันธ์ุมนุษย์ชาติ ด้วยวิธีแยบยล คนส่วนมากไม่อาจเข้าใจในความเป็นจริงได้
    ที่เห็นเด่นชัดคือ การสร้างเชื้อโรคขึ้นมา
    กลืนกินชีวิตมนุษย์ แล้วแกล้งสร้างวิธีรักษา ป้องกันจากปลายเข็มขึ้นมา แอบนำพิษร้ายเข้าสู่ร่างกายมนุษย์อย่างคาดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้
    สายธรรมแห่งจักรวาล ไม่ได้นิ่งนอนใจ
    ได้มีการส่งสารแร่ธรรมชาติจากธาตุเงิน และทองคำ มาให้ไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อล้างพิษจากโรคที่จะมาบั่นทอนชีวิตมนุษย์
    ดังนั้น น้ำที่เกิดจากธาตุเงิน และทองคำ
    ด้วยกรรมวิธี จึงเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยรักษาชีวิตมนุษย์ให้อยู่รอดปลอดภัย
    จากเชื้อโรคร้ายดังกล่าว
    เรากำลังอยู่ในยุคของ มาร มีอำนาจ ในการทำลายล้างเผ่าพันธ์ุมนุษย์ชาติ ด้วยวิธีแยบยล คนส่วนมากไม่อาจเข้าใจในความเป็นจริงได้ ที่เห็นเด่นชัดคือ การสร้างเชื้อโรคขึ้นมา กลืนกินชีวิตมนุษย์ แล้วแกล้งสร้างวิธีรักษา ป้องกันจากปลายเข็มขึ้นมา แอบนำพิษร้ายเข้าสู่ร่างกายมนุษย์อย่างคาดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้ สายธรรมแห่งจักรวาล ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการส่งสารแร่ธรรมชาติจากธาตุเงิน และทองคำ มาให้ไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อล้างพิษจากโรคที่จะมาบั่นทอนชีวิตมนุษย์ ดังนั้น น้ำที่เกิดจากธาตุเงิน และทองคำ ด้วยกรรมวิธี จึงเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยรักษาชีวิตมนุษย์ให้อยู่รอดปลอดภัย จากเชื้อโรคร้ายดังกล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์! หลังชายคนหนึ่งพบว่า รูปภูเขาที่เขาถ่ายมานั้น มีรูปทรงสุดน่ารักเหมือนกับสุนัขตัวน้อย ก่อนที่จะแชร์ลงโซเชียล จนเป็นไวรัลและทำเอาชาวเน็ตอยากแห่ไปตามรอยกันเป็นแถบ

    "วิวทิวทัศน์ 2 ฝั่งของแม่น้ำแยงซีสวยงามมาก! ตอนนั้นผมถ่ายรูปมาเยอะมาก พอกลับมาจัดรูป พบว่ารูปภูเขาที่ถ่ายมาดูเหมือนกับหัวของน้องหมาที่กำลังนอนหมอบอยู่ มันมหัศจรรย์มาก! น่ารักมาก!...ท่าทางเหมือนกับน้องหมาที่กำลังดื่มน้ำ หรือไม่ก็มองดูปลาในแม่น้ำ และคอยเฝ้าแม่น้ำแยงซี" นายกัว ซึ่งเป็นผู้ถ่ายรูปดังกล่าวกล่าว

    โดยเขาไม่คิดเลยว่า รูปที่เขาถ่ายนั้นจะกลายเป็นที่สนใจ และทำให้ภูเขาหมาน้อย ซึ่งตั้งอยู่ที่ริมฝั่งโกรกธารซีหลิง ในอำเภอจื่อกุย เมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ย กลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนอยากมาเช็กอินกันเป็นจำนวนมาก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000022056

    #MGROnline #มณฑลหูเป่ย
    สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์! หลังชายคนหนึ่งพบว่า รูปภูเขาที่เขาถ่ายมานั้น มีรูปทรงสุดน่ารักเหมือนกับสุนัขตัวน้อย ก่อนที่จะแชร์ลงโซเชียล จนเป็นไวรัลและทำเอาชาวเน็ตอยากแห่ไปตามรอยกันเป็นแถบ • "วิวทิวทัศน์ 2 ฝั่งของแม่น้ำแยงซีสวยงามมาก! ตอนนั้นผมถ่ายรูปมาเยอะมาก พอกลับมาจัดรูป พบว่ารูปภูเขาที่ถ่ายมาดูเหมือนกับหัวของน้องหมาที่กำลังนอนหมอบอยู่ มันมหัศจรรย์มาก! น่ารักมาก!...ท่าทางเหมือนกับน้องหมาที่กำลังดื่มน้ำ หรือไม่ก็มองดูปลาในแม่น้ำ และคอยเฝ้าแม่น้ำแยงซี" นายกัว ซึ่งเป็นผู้ถ่ายรูปดังกล่าวกล่าว • โดยเขาไม่คิดเลยว่า รูปที่เขาถ่ายนั้นจะกลายเป็นที่สนใจ และทำให้ภูเขาหมาน้อย ซึ่งตั้งอยู่ที่ริมฝั่งโกรกธารซีหลิง ในอำเภอจื่อกุย เมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ย กลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนอยากมาเช็กอินกันเป็นจำนวนมาก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000022056 • #MGROnline #มณฑลหูเป่ย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • พันตำรวจโท "หัวโจก!" จัดฉากอุบัติเหตุ ฆาตกรรมอำพราง ชนซ้ำ 3 คัน 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้าน 💰🚗

    เจาะลึกคดีสะเทือนขวัญ! พันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ จัดฉากอุบัติเหตุชนซ้ำ 3 คัน สะสม 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้านบาท เรื่องจริงที่ซับซ้อนกว่าที่คิด!

    🔥 เปิดโปงแผนฆาตกรรมอำพราง! พันตำรวจโท หัวโจก จัดฉากอุบัติเหตุหวังเงินประกัน 14 ล้าน 🚨

    🚓 คดีสะเทือนวงการ! วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 วงการประกันภัยต้องสะเทือน เมื่อบริษัทประกันภัยหลากหลายแห่ง รวมตัวกันเดินทางไปยัง ภ.จว.สกลนคร เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบอุบัติเหตุรถชนซ้ำถึง 3 คัน เมื่อกลางดึกวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ซึ่งทำให้นายวิเชียร จิตเย็น อายุ 32 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ความผิดปกติที่ปรากฏ ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็น "ฆาตกรรมอำพราง" ที่มีการวางแผนอย่างแยบยล!

    ประเด็นร้อน คือมีการทำประกันภัยรถยนต์ถึง 22 กรมธรรม์ คาดว่าจะได้รับเงินประกันรวมสูงถึง 14 ล้านบาท! แต่ที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าคือ การพบว่าเบื้องหลังขบวนการนี้ มีชื่อของ "พันตำรวจโท" เข้ามาเกี่ยวข้อง ในฐานะหัวหน้าแก๊ง! 😱

    🤔 คดีฆาตกรรมอำพราง หรือ อุบัติเหตุธรรมดา? เหตุการณ์ในคืนสยองขวัญ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 21.10 น. ตำรวจโรงพักวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ได้รับแจ้งเหตุรถชน บริเวณถนนระหว่างบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กม.ที่ 15 ตำบลธาตุ พบผู้เสียชีวิตคาที่คือนายวิเชียร จิตเย็น จากข้อมูลเบื้องต้น เหมือนจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ความจริง กลับซับซ้อนเกินกว่าจะจินตนาการ! 😨

    3 คัน 22 กรมธรรม์... แค่บังเอิญจริงหรือ?
    - รถคันแรก ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 2576 สกลนคร ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 12 กรมธรรม์
    - รถคันที่สอง ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์
    - รถคันที่สาม ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์

    รวมทั้งสิ้น 22 กรมธรรม์!!! คิดเป็นวงเงินประกันกว่า 14 ล้านบาท 💸

    การทำประกันหลายฉบับในเวลาสั้น ๆ ทำให้บริษัทประกันภัยต่างสงสัยว่า คดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็นแผนฆาตกรรมอำพราง ที่ถูกจัดฉากขึ้นอย่างแนบเนียน

    🕵️‍♀️ ปมเบื้องหลัง และพี่สาวผู้ตายกับเบาะแสชิ้นสำคัญ คำพูดที่กลายเป็นชนวนโศกนาฏกรรม นางสาวบัวเรียน อายุ 33 ปี พี่สาวของผู้ตายเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยระบายความในใจว่า อยากให้นายวิเชียร “ไปตายเสียที่ไหนก็ได้” เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว แต่คำพูดนั้นกลับถูกนายสกล ญาติคนสนิท นำไปตีความและจัดการ “สั่งสอน” ในแบบของตัวเอง...

    นายสกล... คนใกล้ตัวที่กลายเป็นฆาตกรเลือดเย็น หลังจากที่นายสกลรับปากว่า จะพานายวิเชียรไปสั่งสอน กลับกลายเป็น การวางแผนฆาตกรรมอำพรางที่ซับซ้อน ร่วมกับนายตำรวจระดับสูงยศ "พันตำรวจโท"และพรรคพวก 😨

    🔪 เผยแผนจัดฉากอุบัติเหตุสุดโหด! การเดินทางที่เต็มไปด้วยกับดัก
    - จุดเริ่มต้น โรงบรรจุน้ำอ่อนสุระทุม
    - จุดรับเหยื่อ บ้านสุวรรณคีรี
    - จุดตัดผมและซื้อเสื้อผ้า อ.เจริญศิลป์
    - จุดดื่มสุรา ร้านบัวชมพู

    ทุกอย่างดูปกติ... แต่แท้จริงแล้วคือ แผนหลอกล่อเหยื่อให้ติดกับ!

    ฉากจบที่กิโลเมตรที่ 15... ถนนสายบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กับความตายที่ถูกจัดฉาก นายวิเชียรซึ่งอยู่ในอากาศเมามายอย่างหนัก ครองสติตัวเองไม่ได้ ถูกหลอกให้ลงจากหลังกระบะรถ ลากร่างนอนคว่ำหน้ากลางถนนลาดยาง ก่อนจะถูกขับรถเหยียบทับซ้ำ! จากนั้นก็พากันขับรถกลับไปจอด ที่โรงน้ำเพื่ออำพรางความผิด...😡

    🕴️ พันตำรวจโท... หัวโจกผู้บงการเบื้องหลัง! บทบาทของนายตำรวจในคดีนี้ ในระหว่างการวางแผน มีรถตราโล่ในราชการตำรว จจอดหลบอยู่ในลานริมถนน ใกล้ที่กเกิดเหตุ และมีนายตำรวจระดับสารวัตรสอบสวน โรงพักที่เกิดเหตุ แต่งเครื่องแบบพันตำรวจโทเต็มยศ ยืนอยู่หน้ารถโล่ แม้ว่าตำรวจนายนี้จะไม่ได้ลงมือโดยตรง แต่การมีตัวตนในเหตุการณ์ สะท้อนถึงการพัวพันคดี อย่างไม่อาจปฏิเสธได้

    ตำรวจสืบสวนเชื่อว่า พันตำรวจโทนายนี้คือ "หัวโจกตัวจริง!" เป็นคนวางแผน ประสานงาน และกำกับการฆาตกรรมอำพรางในครั้งนี้ อย่างแยบยล 👮‍♂️

    4 ผู้ต้องหา ถูกจับกุมและเปิดโปงความจริง! 👊
    1. นายสมศักดิ์ หรือแอะ โวเบ้า อายุ 56 ปี
    2. นายพีรพัฒน์ หรือป้อม รักกุศล อายุ 30 ปี
    3. นายสกล สอนแก้ว อายุ 38 ปี
    4. นายพรชนก หรือเก่ง อ่อนสุระทุม อายุ 41 ปี

    ทุกคนถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"!

    🚔 บทสรุป: เรื่องจริงที่ยังไม่จบ! ตำรวจยังเดินหน้าสืบสวน เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ ที่กำลังตกเป็นเป้าหมายหลัก ในการดำเนินคดีครั้งนี้!

    คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงินประกัน 14 ล้านบาท... แต่เป็นบทเรียนสำคัญ ที่เตือนให้สังคมเห็นถึง อันตรายของความโลภ และอิทธิพลที่แอบแฝง อยู่ในเงามืดของกฎหมาย

    คดีนี้เป็นเป็นการจัดฉากอุบัติเหตุ ที่มีแผนวางไว้ล่วงหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเรียกเงินประกันภัย จาก 22 กรมธรรม์ รวมวงเงิน 14 ล้านบาท

    ผู้บงการหลักในคดีนี้ คือนายตำรวจยศพันตำรวจโท ที่ถูกระบุว่าเป็นหัวโจกใหญ่ ที่มีบทบาทสำคัญในขบวนการนี้

    นายวิเชียรถูกเลือกเป็นเหยื่อ เพราะพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับในครอบครัว และคำพูดของพี่สาว ที่ถูกตีความผิด ทำให้ถูกวางแผนฆ่าทิ้ง เพื่อหวังเงินประกัน

    จากข้อมูลที่ได้รับ มีการตกลงชดใช้เงินให้พี่สาวผู้ตายจำนวน 150,000 บาท เพื่อปิดปาก แต่ความจริงก็ถูกเปิดเผยในภายหลัง

    บริษัทประกันภัยตรวจพบความผิดปกติ ในการทำประกันภัยจำนวนมาก จึงได้ร้องเรียน และร่วมมือกับตำรวจ ในการเปิดโปงคดีนี้

    มีแนวโน้มสูง! ที่จะมีผู้ต้องหารายอื่นถูกจับเพิ่มอีก เนื่องจากการสืบสวนพบว่า มีขบวนการที่กว้างขวาง และอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121544 มี.ค. 2568

    🔖 #ฆาตกรรมอำพราง #จัดฉากอุบัติเหตุ #โกงประกัน #พันตำรวจโท #คดีดังสกลนคร #รถชนซ้ำ #14ล้านประกัน #ข่าวเด่นวันนี้ #คดีอาชญากรรม #เปิดโปงขบวนการ
    พันตำรวจโท "หัวโจก!" จัดฉากอุบัติเหตุ ฆาตกรรมอำพราง ชนซ้ำ 3 คัน 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้าน 💰🚗 เจาะลึกคดีสะเทือนขวัญ! พันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ จัดฉากอุบัติเหตุชนซ้ำ 3 คัน สะสม 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้านบาท เรื่องจริงที่ซับซ้อนกว่าที่คิด! 🔥 เปิดโปงแผนฆาตกรรมอำพราง! พันตำรวจโท หัวโจก จัดฉากอุบัติเหตุหวังเงินประกัน 14 ล้าน 🚨 🚓 คดีสะเทือนวงการ! วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 วงการประกันภัยต้องสะเทือน เมื่อบริษัทประกันภัยหลากหลายแห่ง รวมตัวกันเดินทางไปยัง ภ.จว.สกลนคร เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบอุบัติเหตุรถชนซ้ำถึง 3 คัน เมื่อกลางดึกวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ซึ่งทำให้นายวิเชียร จิตเย็น อายุ 32 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ความผิดปกติที่ปรากฏ ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็น "ฆาตกรรมอำพราง" ที่มีการวางแผนอย่างแยบยล! ประเด็นร้อน คือมีการทำประกันภัยรถยนต์ถึง 22 กรมธรรม์ คาดว่าจะได้รับเงินประกันรวมสูงถึง 14 ล้านบาท! แต่ที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าคือ การพบว่าเบื้องหลังขบวนการนี้ มีชื่อของ "พันตำรวจโท" เข้ามาเกี่ยวข้อง ในฐานะหัวหน้าแก๊ง! 😱 🤔 คดีฆาตกรรมอำพราง หรือ อุบัติเหตุธรรมดา? เหตุการณ์ในคืนสยองขวัญ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 21.10 น. ตำรวจโรงพักวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ได้รับแจ้งเหตุรถชน บริเวณถนนระหว่างบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กม.ที่ 15 ตำบลธาตุ พบผู้เสียชีวิตคาที่คือนายวิเชียร จิตเย็น จากข้อมูลเบื้องต้น เหมือนจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ความจริง กลับซับซ้อนเกินกว่าจะจินตนาการ! 😨 3 คัน 22 กรมธรรม์... แค่บังเอิญจริงหรือ? - รถคันแรก ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 2576 สกลนคร ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 12 กรมธรรม์ - รถคันที่สอง ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์ - รถคันที่สาม ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์ รวมทั้งสิ้น 22 กรมธรรม์!!! คิดเป็นวงเงินประกันกว่า 14 ล้านบาท 💸 การทำประกันหลายฉบับในเวลาสั้น ๆ ทำให้บริษัทประกันภัยต่างสงสัยว่า คดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็นแผนฆาตกรรมอำพราง ที่ถูกจัดฉากขึ้นอย่างแนบเนียน 🕵️‍♀️ ปมเบื้องหลัง และพี่สาวผู้ตายกับเบาะแสชิ้นสำคัญ คำพูดที่กลายเป็นชนวนโศกนาฏกรรม นางสาวบัวเรียน อายุ 33 ปี พี่สาวของผู้ตายเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยระบายความในใจว่า อยากให้นายวิเชียร “ไปตายเสียที่ไหนก็ได้” เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว แต่คำพูดนั้นกลับถูกนายสกล ญาติคนสนิท นำไปตีความและจัดการ “สั่งสอน” ในแบบของตัวเอง... นายสกล... คนใกล้ตัวที่กลายเป็นฆาตกรเลือดเย็น หลังจากที่นายสกลรับปากว่า จะพานายวิเชียรไปสั่งสอน กลับกลายเป็น การวางแผนฆาตกรรมอำพรางที่ซับซ้อน ร่วมกับนายตำรวจระดับสูงยศ "พันตำรวจโท"และพรรคพวก 😨 🔪 เผยแผนจัดฉากอุบัติเหตุสุดโหด! การเดินทางที่เต็มไปด้วยกับดัก - จุดเริ่มต้น โรงบรรจุน้ำอ่อนสุระทุม - จุดรับเหยื่อ บ้านสุวรรณคีรี - จุดตัดผมและซื้อเสื้อผ้า อ.เจริญศิลป์ - จุดดื่มสุรา ร้านบัวชมพู ทุกอย่างดูปกติ... แต่แท้จริงแล้วคือ แผนหลอกล่อเหยื่อให้ติดกับ! ฉากจบที่กิโลเมตรที่ 15... ถนนสายบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กับความตายที่ถูกจัดฉาก นายวิเชียรซึ่งอยู่ในอากาศเมามายอย่างหนัก ครองสติตัวเองไม่ได้ ถูกหลอกให้ลงจากหลังกระบะรถ ลากร่างนอนคว่ำหน้ากลางถนนลาดยาง ก่อนจะถูกขับรถเหยียบทับซ้ำ! จากนั้นก็พากันขับรถกลับไปจอด ที่โรงน้ำเพื่ออำพรางความผิด...😡 🕴️ พันตำรวจโท... หัวโจกผู้บงการเบื้องหลัง! บทบาทของนายตำรวจในคดีนี้ ในระหว่างการวางแผน มีรถตราโล่ในราชการตำรว จจอดหลบอยู่ในลานริมถนน ใกล้ที่กเกิดเหตุ และมีนายตำรวจระดับสารวัตรสอบสวน โรงพักที่เกิดเหตุ แต่งเครื่องแบบพันตำรวจโทเต็มยศ ยืนอยู่หน้ารถโล่ แม้ว่าตำรวจนายนี้จะไม่ได้ลงมือโดยตรง แต่การมีตัวตนในเหตุการณ์ สะท้อนถึงการพัวพันคดี อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ตำรวจสืบสวนเชื่อว่า พันตำรวจโทนายนี้คือ "หัวโจกตัวจริง!" เป็นคนวางแผน ประสานงาน และกำกับการฆาตกรรมอำพรางในครั้งนี้ อย่างแยบยล 👮‍♂️ 4 ผู้ต้องหา ถูกจับกุมและเปิดโปงความจริง! 👊 1. นายสมศักดิ์ หรือแอะ โวเบ้า อายุ 56 ปี 2. นายพีรพัฒน์ หรือป้อม รักกุศล อายุ 30 ปี 3. นายสกล สอนแก้ว อายุ 38 ปี 4. นายพรชนก หรือเก่ง อ่อนสุระทุม อายุ 41 ปี ทุกคนถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"! 🚔 บทสรุป: เรื่องจริงที่ยังไม่จบ! ตำรวจยังเดินหน้าสืบสวน เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ ที่กำลังตกเป็นเป้าหมายหลัก ในการดำเนินคดีครั้งนี้! คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงินประกัน 14 ล้านบาท... แต่เป็นบทเรียนสำคัญ ที่เตือนให้สังคมเห็นถึง อันตรายของความโลภ และอิทธิพลที่แอบแฝง อยู่ในเงามืดของกฎหมาย คดีนี้เป็นเป็นการจัดฉากอุบัติเหตุ ที่มีแผนวางไว้ล่วงหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเรียกเงินประกันภัย จาก 22 กรมธรรม์ รวมวงเงิน 14 ล้านบาท ผู้บงการหลักในคดีนี้ คือนายตำรวจยศพันตำรวจโท ที่ถูกระบุว่าเป็นหัวโจกใหญ่ ที่มีบทบาทสำคัญในขบวนการนี้ นายวิเชียรถูกเลือกเป็นเหยื่อ เพราะพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับในครอบครัว และคำพูดของพี่สาว ที่ถูกตีความผิด ทำให้ถูกวางแผนฆ่าทิ้ง เพื่อหวังเงินประกัน จากข้อมูลที่ได้รับ มีการตกลงชดใช้เงินให้พี่สาวผู้ตายจำนวน 150,000 บาท เพื่อปิดปาก แต่ความจริงก็ถูกเปิดเผยในภายหลัง บริษัทประกันภัยตรวจพบความผิดปกติ ในการทำประกันภัยจำนวนมาก จึงได้ร้องเรียน และร่วมมือกับตำรวจ ในการเปิดโปงคดีนี้ มีแนวโน้มสูง! ที่จะมีผู้ต้องหารายอื่นถูกจับเพิ่มอีก เนื่องจากการสืบสวนพบว่า มีขบวนการที่กว้างขวาง และอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121544 มี.ค. 2568 🔖 #ฆาตกรรมอำพราง #จัดฉากอุบัติเหตุ #โกงประกัน #พันตำรวจโท #คดีดังสกลนคร #รถชนซ้ำ #14ล้านประกัน #ข่าวเด่นวันนี้ #คดีอาชญากรรม #เปิดโปงขบวนการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากประเด็นดราม่าของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ คนปัจจุบัน ออกมาแฉวีรกรรมของ "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกฯ คนก่อน ถึงการทุจริตภายในองค์กรหลากหลายเรื่อง ล่าสุดเว็บไซต์ Sanook Money ได้ตรวจสอบข้อมูลที่รวบรวมรายชื่อบริษัทของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปรากฎว่า "บิ๊กอ๊อด" มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท 4 แห่ง ถือหุ้น 11 รายการ มูลค่าทั้งหมด 730,542,041 บาท ดังนี้ 1.บริษัท กู๊ด เบทเทอร์ เบสท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2564 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท และถือหุ้นจำนวน 2,507,000 หุ้น (99.88%) มูลค่าหุ้น 250,669,251 บาท ดำเนินธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 251,000,0002.บริษัท พระแสงกรีน พาวเวอร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2555 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 77,000,000 บาท 3.บริษัท เมดิคอล แอนด์ ฟู๊ด แลบ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2535 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 390,500,000 บาท4.บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ รีโวลูชั่น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2558 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจกิจกรรมด้านวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท ขณะเดียวกันยังมีการเปิดเผยว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยังมีการถือหุ้นบริษัทอีกหลายแห่งด้วยกัน ดังนี้ - บริษัท ออลล์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจกิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้ง พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 266,375,434 หุ้น (5.18%) มูลค่าหุ้น 136,042,664 บาท- บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 31,043,914 หุ้น (5.99%) มูลค่าหุ้น 86,749,286 บาท- บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด ดำเนินธุรกิจการให้เช่า การขาย การซื้อและการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 10,187,600 หุ้น (50.94%) มูลค่าหุ้น 76,891,474 บาท- บริษัท โกลด์ ชอร์ส จำกัด ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการค้าน้ำดื่ม น้ำแร่ น้ำดิบ และเครื่องบริโภคอื่น พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 610,000 หุ้น (8.09%) มูลค่าหุ้น 49,748,675 บาท- บริษัท อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเคมีภัณฑ์ พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 15,000,000 หุ้น (4.53%) มูลค่าหุ้น 46,067,090 บาท- บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจการออกแบบและติดตั้งระบบสื่อสารโทรคมนาคมและจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 14,290,500 หุ้น (1.42%) มูลค่าหุ้น 44,244,603 บาท- บริษัท พีแอนด์วี คอร์ปอเรชั่น ซิสเต็ม จำกัด ดำเนินธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 365,000 หุ้น (11.06%) มูลค่าหุ้น 36,437,810 บาท- ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.พุ่มพันธุ์ม่วง ดำเนินธุรกิจกิจกรรมการบริการอื่นๆเพื่อสนับสนุนธุรกิจซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ ในที่อื่น พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 500,000 หุ้น (50.00%) มูลค่าหุ้น 1,845,670 บาท- บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจขายและบริการโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์โทรศัพท์ พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 85,448,200 หุ้น (0.58%) มูลค่าหุ้น 1,153,637 บาท- บริษัท เขาใหญ่ กรีน จำกัด ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการทำการเกษตร พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 7,000 หุ้น (70.00%) มูลค่าหุ้น 691,881 บาทขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์ Sanook
    จากประเด็นดราม่าของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ คนปัจจุบัน ออกมาแฉวีรกรรมของ "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกฯ คนก่อน ถึงการทุจริตภายในองค์กรหลากหลายเรื่อง ล่าสุดเว็บไซต์ Sanook Money ได้ตรวจสอบข้อมูลที่รวบรวมรายชื่อบริษัทของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปรากฎว่า "บิ๊กอ๊อด" มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท 4 แห่ง ถือหุ้น 11 รายการ มูลค่าทั้งหมด 730,542,041 บาท ดังนี้ 1.บริษัท กู๊ด เบทเทอร์ เบสท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2564 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท และถือหุ้นจำนวน 2,507,000 หุ้น (99.88%) มูลค่าหุ้น 250,669,251 บาท ดำเนินธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 251,000,0002.บริษัท พระแสงกรีน พาวเวอร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2555 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 77,000,000 บาท 3.บริษัท เมดิคอล แอนด์ ฟู๊ด แลบ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2535 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 390,500,000 บาท4.บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ รีโวลูชั่น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2558 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจกิจกรรมด้านวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท ขณะเดียวกันยังมีการเปิดเผยว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยังมีการถือหุ้นบริษัทอีกหลายแห่งด้วยกัน ดังนี้ - บริษัท ออลล์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจกิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้ง พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 266,375,434 หุ้น (5.18%) มูลค่าหุ้น 136,042,664 บาท- บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 31,043,914 หุ้น (5.99%) มูลค่าหุ้น 86,749,286 บาท- บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด ดำเนินธุรกิจการให้เช่า การขาย การซื้อและการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 10,187,600 หุ้น (50.94%) มูลค่าหุ้น 76,891,474 บาท- บริษัท โกลด์ ชอร์ส จำกัด ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการค้าน้ำดื่ม น้ำแร่ น้ำดิบ และเครื่องบริโภคอื่น พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 610,000 หุ้น (8.09%) มูลค่าหุ้น 49,748,675 บาท- บริษัท อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเคมีภัณฑ์ พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 15,000,000 หุ้น (4.53%) มูลค่าหุ้น 46,067,090 บาท- บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจการออกแบบและติดตั้งระบบสื่อสารโทรคมนาคมและจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 14,290,500 หุ้น (1.42%) มูลค่าหุ้น 44,244,603 บาท- บริษัท พีแอนด์วี คอร์ปอเรชั่น ซิสเต็ม จำกัด ดำเนินธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 365,000 หุ้น (11.06%) มูลค่าหุ้น 36,437,810 บาท- ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.พุ่มพันธุ์ม่วง ดำเนินธุรกิจกิจกรรมการบริการอื่นๆเพื่อสนับสนุนธุรกิจซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ ในที่อื่น พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 500,000 หุ้น (50.00%) มูลค่าหุ้น 1,845,670 บาท- บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจขายและบริการโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์โทรศัพท์ พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 85,448,200 หุ้น (0.58%) มูลค่าหุ้น 1,153,637 บาท- บริษัท เขาใหญ่ กรีน จำกัด ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการทำการเกษตร พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 7,000 หุ้น (70.00%) มูลค่าหุ้น 691,881 บาทขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์ Sanook
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรงพยาบาลที่ใช้น้ำจากแร่ธาตุธรรมชาติ Silver ล้างพิษ รักษาโรค อย่างได้ผล ไม่พึ่งพายาและสารเคมีใดๆ แห่งแรกในประเทศไทย
    โรงพยาบาลที่ใช้น้ำจากแร่ธาตุธรรมชาติ Silver ล้างพิษ รักษาโรค อย่างได้ผล ไม่พึ่งพายาและสารเคมีใดๆ แห่งแรกในประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15 ปี สิ้น “จ่าเพียร ขาเหล็ก” ผู้กำกับนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ตำนานย้ายยากเย็น เซ่นสลับบัญชี โชคร้ายตายก่อนขึ้นรองผู้การ

    🚔 “คงอยากจะขอยศพันตำรวจเอกให้ผม ตอนที่ผมตายแล้ว” คำพูดที่ยังคงก้องในหัวใจคนไทยหลายคน… 🕊️

    🌿 ตำนานที่ยังไม่ลืม ผ่านมากว่า 15 ปี แล้ว... แต่เรื่องราวของ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” หรือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ภ.จว.ยะลา ยังถูกเล่าขานในฐานะ “นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด” ผู้ทุ่มเทชีวิตเพื่อความสงบสุขของแผ่นดินปลายด้ามขวาน 🗡️ แม้จะแลกด้วยความเหน็ดเหนื่อย เจ็บปวด และสุดท้าย... ชีวิต

    👮‍♂️ “สมเพียร เอกสมญา” หรือชื่อเล่นว่า “เนี้ยบ” เกิดเมื่อปี 2493 ในครอบครัวยากจนที่จังหวัดสงขลา ชีวิตในวัยเด็กเต็มไปด้วยความลำบาก ต้องช่วยพ่อแม่กรีดยาง เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ความยากจน ไม่สามารถปิดกั้นความฝันได้ 🎓

    หลังเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 สมเพียรตัดสินใจเป็นศิษย์วัดเพื่อเรียนต่อ และก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเรียนตำรวจ ต้องเปลี่ยนนามสกุลจาก “แซ่เจ่ง” เป็น “เอกสมญา” เพื่อเข้ารับราชการในยุคนั้น

    จุดเริ่มต้นของนักรบแดนใต้ ปี 2513 สมเพียรเริ่มต้นอาชีพตำรวจที่ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ภ.จว.ยะลา ในช่วงเวลาที่ภาคใต้ร้อนระอุ จากความขัดแย้งของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) และกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน

    ชีวิตของสมเพียร ไม่ใช่แค่การจับผู้ร้ายทั่วไป แต่ต้องเผชิญหน้ากับสงครามกองโจร และการลอบสังหารเกือบทุกวัน 😔

    🔥 วีรกรรมและตำนาน “ขาเหล็ก” เหตุการณ์ปะทะที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ปี 2519 ขณะที่ครองยศ "จ่าสิบตำรวจ" ได้เข้าปะทะกับขบวนการก่อการไม่สงบ ที่จับตำรวจและครอบครัวเป็นตัวประกัน บนเขาเจาะปันตัง เหตุการณ์นั้นทำให้ จ่าเพียรเกือบเสียขาข้างซ้าย ต้องใส่เหล็กดามขามาตลอดชีวิต จนได้ฉายาว่า “จ่าเพียร ขาเหล็ก” 🦿

    🦾 “ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา

    🦅 ปฏิบัติการ “ยูงทอง” ชุดปฏิบัติการปราบปราม กลุ่มก่อการไม่สงบในบันนังสตา มีชื่อเสียงอย่างมากภาย ใต้การนำของจ่าเพียร เคยนำทีมเข้าปะทะกองกำลังกว่า 30 คน ในปี 2526 แม้ตัวเองจะโดนยิงที่ต้นขาขวา แต่ยังสู้ไม่ถอย ✊

    🏡 ความฝันสุดท้ายของจ่าเพียร อยากกลับบ้าน...แค่ใช้ชีวิตกับครอบครัว ในช่วงสุดท้ายของชีวิต พ.ต.อ.สมเพียร ยื่นเรื่องขอย้ายกลับไปอยู่ สภ.กันตัง จ.ตรัง บ้านเกิดของภรรยา เพื่อใช้ชีวิตเงียบสงบช่วง 18 เดือนก่อนเกษียณ แต่การโยกย้ายกลับไม่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีชื่อติดในโผโยกย้ายตั้งแต่แรก แต่ในขั้นตอนสุดท้าย กลับถูกสับเปลี่ยนชื่อ สลับบัญชี เพื่อหลีกทางให้คนของนักการเมือง 🍃

    จ่าเพียรไม่ยอมรับโผอัปยศ จึงเดินทางจากชายแดนใต้สู่กรุงเทพฯ ไปทวงถามความเป็นธรรม ถึงทำเนียบรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับคำปลอบใจว่า จะเยียวยาโดยให้ขึ้นตำแหน่ง "รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด" ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ

    💬 “ไม่มีการแต่งตั้งตำรวจครั้งไหนที่แย่เท่าครั้งนี้อีกแล้ว” แม้ว่าจ่าเพยีจะพูดด้วยน้ำตา แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

    💔 วันแห่งความสูญเสีย ปฏิบัติการสุดท้ายที่บ้านทับช้าง ในเช้าวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 จ่าเพียร พร้อมด้วยลูกน้อง 4 นาย และ อส.คนสนิทอีก 1 นาย นั่งรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 9302 ยะลา และอส.คนสนิท อีก 1 นาย ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านทับช้าง แต่ถูกกลุ่มก่อการไม่สงบ กดระเบิด และกราดยิงด้วยอาวุธสงครามอย่างหนัก จ่าเพียรได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ลูกน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย และอีก 1 นายเสียชีวิต 🔫

    ⚰️ อายุ 59 ปี สิ้นสุดเส้นทางของนักรบผู้ภักดีต่อหน้าที่ บทเรียนชีวิตและความจริงที่เจ็บปวด การต่อสู้ของจ่าเพียร ไม่ใช่แค่ศึกในสนามรบ แต่ยังเป็นศึกในระบบราชการที่ซับซ้อน และมีปัญหาเรื่องอุปถัมภ์ จ่าเพียรไม่ได้รับโอกาสเลื่อนยศหรือโยกย้าย จนกว่าจะเสียชีวิตแล้ว ถึงได้เลื่อนยศ 7 ขั้น เป็น "พลตำรวจเอก" 🕊️

    ⚖️ ระบบที่ควรตอบแทนคนทุ่มเท กลับถูกแทนที่ด้วยสายสัมพันธ์และอำนาจ มรดกและแรงบันดาลใจ
    หลังจากการเสียชีวิตของจ่าเพียร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวจำนวน 3 ล้านบาท และรับผิดชอบการศึกษาของลูก จนจบปริญญาตรี แต่สิ่งที่จ่าเพียรทิ้งไว้ไม่ใช่แค่เงินทอง

    ❤️ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” กลายเป็นสัญลักษณ์ของตำรวจที่ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ต่ออุปถัมภ์

    🗣️ คำพูดสุดท้ายที่ยังตราตรึง "ผมไม่ได้อยากย้ายเพื่อความก้าวหน้า แต่อยากกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมทำงานมา 40 ปี แทบไม่มีเวลาให้พวกเขาเลย"

    ❓ คำถามที่ยังไร้คำตอบ แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปี แต่เรื่องราวของจ่าเพียร ยังเป็นกระจกสะท้อนปัญหาระบบราชการไทย หลายคนยังสงสัยว่า…

    - ทำไมตำรวจน้ำดี ต้องตายก่อนจึงได้รับการยกย่อง?
    - ทำไมระบบโยกย้าย ถึงเต็มไปด้วยข้อครหา?
    - ใครจะปกป้องผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ไม่มีเส้นสาย?

    🤝 เสียงจากคนในพื้นที่ “จ่าเพียรกลับมาแล้ว” ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน

    🕊️ “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รู้จักจ่าเพียรในฐานะคนที่ไม่เคยทิ้งพื้นที่”

    🌳 "คนที่เคยเป็นเยาวชนไม่มีอนาคต กลายมาเป็นอาสาสมัครในทีมของจ่าเพียร ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่น"

    🕯️ ตำนานที่ไม่ควรจางหาย ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ชื่อ "สมเพียร เอกสมญา" ไม่ได้ตายเพราะกระสุนหรือระเบิด แต่เพราะระบบที่ล้มเหลวในการดูแลคนดี 💐

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121155 มี.ค. 2568

    #จ่าเพียรขาเหล็ก #ฮีโร่แดนใต้ #ผู้กำกับนักสู้ #สมเพียรเอกสมญา #ชายแดนใต้ #นักรบแห่งบูโด #ตำรวจไทย #ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ #วีรบุรุษแดนใต้ #ระบบอุปถัมภ์

    15 ปี สิ้น “จ่าเพียร ขาเหล็ก” ผู้กำกับนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ตำนานย้ายยากเย็น เซ่นสลับบัญชี โชคร้ายตายก่อนขึ้นรองผู้การ 🚔 “คงอยากจะขอยศพันตำรวจเอกให้ผม ตอนที่ผมตายแล้ว” คำพูดที่ยังคงก้องในหัวใจคนไทยหลายคน… 🕊️ 🌿 ตำนานที่ยังไม่ลืม ผ่านมากว่า 15 ปี แล้ว... แต่เรื่องราวของ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” หรือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ภ.จว.ยะลา ยังถูกเล่าขานในฐานะ “นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด” ผู้ทุ่มเทชีวิตเพื่อความสงบสุขของแผ่นดินปลายด้ามขวาน 🗡️ แม้จะแลกด้วยความเหน็ดเหนื่อย เจ็บปวด และสุดท้าย... ชีวิต 👮‍♂️ “สมเพียร เอกสมญา” หรือชื่อเล่นว่า “เนี้ยบ” เกิดเมื่อปี 2493 ในครอบครัวยากจนที่จังหวัดสงขลา ชีวิตในวัยเด็กเต็มไปด้วยความลำบาก ต้องช่วยพ่อแม่กรีดยาง เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ความยากจน ไม่สามารถปิดกั้นความฝันได้ 🎓 หลังเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 สมเพียรตัดสินใจเป็นศิษย์วัดเพื่อเรียนต่อ และก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเรียนตำรวจ ต้องเปลี่ยนนามสกุลจาก “แซ่เจ่ง” เป็น “เอกสมญา” เพื่อเข้ารับราชการในยุคนั้น จุดเริ่มต้นของนักรบแดนใต้ ปี 2513 สมเพียรเริ่มต้นอาชีพตำรวจที่ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ภ.จว.ยะลา ในช่วงเวลาที่ภาคใต้ร้อนระอุ จากความขัดแย้งของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) และกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน ชีวิตของสมเพียร ไม่ใช่แค่การจับผู้ร้ายทั่วไป แต่ต้องเผชิญหน้ากับสงครามกองโจร และการลอบสังหารเกือบทุกวัน 😔 🔥 วีรกรรมและตำนาน “ขาเหล็ก” เหตุการณ์ปะทะที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ปี 2519 ขณะที่ครองยศ "จ่าสิบตำรวจ" ได้เข้าปะทะกับขบวนการก่อการไม่สงบ ที่จับตำรวจและครอบครัวเป็นตัวประกัน บนเขาเจาะปันตัง เหตุการณ์นั้นทำให้ จ่าเพียรเกือบเสียขาข้างซ้าย ต้องใส่เหล็กดามขามาตลอดชีวิต จนได้ฉายาว่า “จ่าเพียร ขาเหล็ก” 🦿 🦾 “ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา 🦅 ปฏิบัติการ “ยูงทอง” ชุดปฏิบัติการปราบปราม กลุ่มก่อการไม่สงบในบันนังสตา มีชื่อเสียงอย่างมากภาย ใต้การนำของจ่าเพียร เคยนำทีมเข้าปะทะกองกำลังกว่า 30 คน ในปี 2526 แม้ตัวเองจะโดนยิงที่ต้นขาขวา แต่ยังสู้ไม่ถอย ✊ 🏡 ความฝันสุดท้ายของจ่าเพียร อยากกลับบ้าน...แค่ใช้ชีวิตกับครอบครัว ในช่วงสุดท้ายของชีวิต พ.ต.อ.สมเพียร ยื่นเรื่องขอย้ายกลับไปอยู่ สภ.กันตัง จ.ตรัง บ้านเกิดของภรรยา เพื่อใช้ชีวิตเงียบสงบช่วง 18 เดือนก่อนเกษียณ แต่การโยกย้ายกลับไม่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีชื่อติดในโผโยกย้ายตั้งแต่แรก แต่ในขั้นตอนสุดท้าย กลับถูกสับเปลี่ยนชื่อ สลับบัญชี เพื่อหลีกทางให้คนของนักการเมือง 🍃 จ่าเพียรไม่ยอมรับโผอัปยศ จึงเดินทางจากชายแดนใต้สู่กรุงเทพฯ ไปทวงถามความเป็นธรรม ถึงทำเนียบรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับคำปลอบใจว่า จะเยียวยาโดยให้ขึ้นตำแหน่ง "รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด" ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ 💬 “ไม่มีการแต่งตั้งตำรวจครั้งไหนที่แย่เท่าครั้งนี้อีกแล้ว” แม้ว่าจ่าเพยีจะพูดด้วยน้ำตา แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 💔 วันแห่งความสูญเสีย ปฏิบัติการสุดท้ายที่บ้านทับช้าง ในเช้าวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 จ่าเพียร พร้อมด้วยลูกน้อง 4 นาย และ อส.คนสนิทอีก 1 นาย นั่งรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 9302 ยะลา และอส.คนสนิท อีก 1 นาย ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านทับช้าง แต่ถูกกลุ่มก่อการไม่สงบ กดระเบิด และกราดยิงด้วยอาวุธสงครามอย่างหนัก จ่าเพียรได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ลูกน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย และอีก 1 นายเสียชีวิต 🔫 ⚰️ อายุ 59 ปี สิ้นสุดเส้นทางของนักรบผู้ภักดีต่อหน้าที่ บทเรียนชีวิตและความจริงที่เจ็บปวด การต่อสู้ของจ่าเพียร ไม่ใช่แค่ศึกในสนามรบ แต่ยังเป็นศึกในระบบราชการที่ซับซ้อน และมีปัญหาเรื่องอุปถัมภ์ จ่าเพียรไม่ได้รับโอกาสเลื่อนยศหรือโยกย้าย จนกว่าจะเสียชีวิตแล้ว ถึงได้เลื่อนยศ 7 ขั้น เป็น "พลตำรวจเอก" 🕊️ ⚖️ ระบบที่ควรตอบแทนคนทุ่มเท กลับถูกแทนที่ด้วยสายสัมพันธ์และอำนาจ มรดกและแรงบันดาลใจ หลังจากการเสียชีวิตของจ่าเพียร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวจำนวน 3 ล้านบาท และรับผิดชอบการศึกษาของลูก จนจบปริญญาตรี แต่สิ่งที่จ่าเพียรทิ้งไว้ไม่ใช่แค่เงินทอง ❤️ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” กลายเป็นสัญลักษณ์ของตำรวจที่ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ต่ออุปถัมภ์ 🗣️ คำพูดสุดท้ายที่ยังตราตรึง "ผมไม่ได้อยากย้ายเพื่อความก้าวหน้า แต่อยากกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมทำงานมา 40 ปี แทบไม่มีเวลาให้พวกเขาเลย" ❓ คำถามที่ยังไร้คำตอบ แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปี แต่เรื่องราวของจ่าเพียร ยังเป็นกระจกสะท้อนปัญหาระบบราชการไทย หลายคนยังสงสัยว่า… - ทำไมตำรวจน้ำดี ต้องตายก่อนจึงได้รับการยกย่อง? - ทำไมระบบโยกย้าย ถึงเต็มไปด้วยข้อครหา? - ใครจะปกป้องผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ไม่มีเส้นสาย? 🤝 เสียงจากคนในพื้นที่ “จ่าเพียรกลับมาแล้ว” ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน 🕊️ “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รู้จักจ่าเพียรในฐานะคนที่ไม่เคยทิ้งพื้นที่” 🌳 "คนที่เคยเป็นเยาวชนไม่มีอนาคต กลายมาเป็นอาสาสมัครในทีมของจ่าเพียร ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่น" 🕯️ ตำนานที่ไม่ควรจางหาย ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ชื่อ "สมเพียร เอกสมญา" ไม่ได้ตายเพราะกระสุนหรือระเบิด แต่เพราะระบบที่ล้มเหลวในการดูแลคนดี 💐 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121155 มี.ค. 2568 #จ่าเพียรขาเหล็ก #ฮีโร่แดนใต้ #ผู้กำกับนักสู้ #สมเพียรเอกสมญา #ชายแดนใต้ #นักรบแห่งบูโด #ตำรวจไทย #ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ #วีรบุรุษแดนใต้ #ระบบอุปถัมภ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดห้องขัง"ผู้กำกับโจ้" : [NEWS UPDATE]
    พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดห้องคุมขังหมายเลข 50 แดน 5 ซึ่งเป็นห้องคุมขัง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ผู้ต้องขังเรือนจำกลางคลองเปรม โดยเป็นห้องแยกการควบคุม ไม่ใช่ห้องขังเดี่ยว เพราะห้องขังเดี่ยวอยู่แดน 1 มี 10 ห้อง โดยช่วงกลางวันอดีตผู้กำกับโจ้สามารถออกไปร่วมกิจกรรมกับผู้ต้องขังอื่นได้ ตอนเย็นจึงขึ้นเรือนนอนไปอยู่คนเดียว บรรยากาศในห้องขังมีพัดลมระบายอากาศหนึ่งตัวติดไว้ด้านหลังสุดบนตะแกรงเหล็ก โดยยังมีของใช้อดีตผู้กำกับโจ้ เช่น ผ้าสีน้ำเงินสำหรับใช้ปูนอน รองเท้าแตะสีขาว ถังน้ำดื่ม อุปกรณ์อาบน้ำ ขัน สบู่ก้อน แชมพูขวด โฟมล้างหน้า ยาสีฟัน แปรงสีฟัน เป็นต้น อยู่ภายในห้อง


    ราชทัณฑ์ต้องเปิดข้อมูล

    พิรุธ 30 ล้านฟอกเงิน

    ไม่มีแรงจูงใจXแตงโม

    คุมขายเหล้า-บุหรี่เด็กไม่ได้
    เปิดห้องขัง"ผู้กำกับโจ้" : [NEWS UPDATE] พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดห้องคุมขังหมายเลข 50 แดน 5 ซึ่งเป็นห้องคุมขัง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ผู้ต้องขังเรือนจำกลางคลองเปรม โดยเป็นห้องแยกการควบคุม ไม่ใช่ห้องขังเดี่ยว เพราะห้องขังเดี่ยวอยู่แดน 1 มี 10 ห้อง โดยช่วงกลางวันอดีตผู้กำกับโจ้สามารถออกไปร่วมกิจกรรมกับผู้ต้องขังอื่นได้ ตอนเย็นจึงขึ้นเรือนนอนไปอยู่คนเดียว บรรยากาศในห้องขังมีพัดลมระบายอากาศหนึ่งตัวติดไว้ด้านหลังสุดบนตะแกรงเหล็ก โดยยังมีของใช้อดีตผู้กำกับโจ้ เช่น ผ้าสีน้ำเงินสำหรับใช้ปูนอน รองเท้าแตะสีขาว ถังน้ำดื่ม อุปกรณ์อาบน้ำ ขัน สบู่ก้อน แชมพูขวด โฟมล้างหน้า ยาสีฟัน แปรงสีฟัน เป็นต้น อยู่ภายในห้อง ราชทัณฑ์ต้องเปิดข้อมูล พิรุธ 30 ล้านฟอกเงิน ไม่มีแรงจูงใจXแตงโม คุมขายเหล้า-บุหรี่เด็กไม่ได้
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 568 มุมมอง 47 0 รีวิว
  • อย่าหวั่นไหวใจจ๋าใจจงอย่าหวั่นไหว
    หยุดร้องไห้ได้ไหมประเดี๋ยวใครมาเห็น
    อายเขาไหมใจจ๋านั่งน้ำตากระเซ็น
    ทั้งเช้าสายบ่ายเย็นไม่ว่างเว้นเศร้าใจ
    โอ้น้ำเอ๋ยน้ำตาจงหยุดอย่าไหลหลั่ง
    ให้มันคั่งคับอกที่มันหมกไหม้
    กลบให้หมดซดสิ้นทั้งสูดกลิ่นดมไอ
    กลืนเสียให้หมดเกลี้ยงเอาให้มันเพียงพอ
    อย่าหวั่นไหวใจจ๋าใจจงอย่าหวาดหวั่น
    อย่าคร้ามครั่นคลอนแคลนจงหนักแน่นเถิดหนอ
    อย่าโยกโยนโอนเอนอย่าโงนเงนงอ
    ลุกขึ้นมาสู้ต่อจงอย่าท้อเลยใจ
    อย่าหวั่นไหวใจจ๋าใจจงอย่าหวั่นไหว หยุดร้องไห้ได้ไหมประเดี๋ยวใครมาเห็น อายเขาไหมใจจ๋านั่งน้ำตากระเซ็น ทั้งเช้าสายบ่ายเย็นไม่ว่างเว้นเศร้าใจ โอ้น้ำเอ๋ยน้ำตาจงหยุดอย่าไหลหลั่ง ให้มันคั่งคับอกที่มันหมกไหม้ กลบให้หมดซดสิ้นทั้งสูดกลิ่นดมไอ กลืนเสียให้หมดเกลี้ยงเอาให้มันเพียงพอ อย่าหวั่นไหวใจจ๋าใจจงอย่าหวาดหวั่น อย่าคร้ามครั่นคลอนแคลนจงหนักแน่นเถิดหนอ อย่าโยกโยนโอนเอนอย่าโงนเงนงอ ลุกขึ้นมาสู้ต่อจงอย่าท้อเลยใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้พูดถึงสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวสมาร์ทโฟนหรือผู้ใช้งาน หากชาร์จแบตเตอรี่ในสถานที่และสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม พร้อมแนะนำวิธีป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของเรา

    ในบ้าน:
    1) ไม่ควรชาร์จสมาร์ทโฟนบนพื้นผิวที่ติดไฟง่าย เช่น เตียง หมอน หรือโซฟา เนื่องจากอุปกรณ์อาจร้อนเกินไปและก่อให้เกิดไฟไหม้ได้
    2) หลีกเลี่ยงการชาร์จในห้องน้ำ เพราะความชื้นสามารถทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย
    3) ห้ามเสียบชาร์จในปลั๊กที่มีอุปกรณ์อื่นต่ออยู่เต็มปลั๊กพ่วง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้
    4) ไม่ควรชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน เนื่องจากการชาร์จเป็นเวลานานอาจทำให้อุปกรณ์ร้อนเกินไป และส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่

    นอกบ้าน:
    1) หลีกเลี่ยงการชาร์จสมาร์ทโฟนในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง เช่น ในรถหรือริมหน้าต่าง เพราะความร้อนจะเพิ่มความเสี่ยงที่แบตเตอรี่จะระเบิด
    2) หลีกเลี่ยงการใช้สถานีชาร์จสาธารณะ เช่น ที่สถานีรถไฟหรือสนามบิน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์แบบ "Juice Jacking" ซึ่งแฮกเกอร์อาจติดตั้งมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลผ่านพอร์ต USB สาธารณะได้

    เคล็ดลับเพิ่มเติม:
    1) ใช้ที่ชาร์จคุณภาพดีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานแทนการใช้พอร์ตสาธารณะ
    2) หมั่นตรวจสอบสถานที่และอุปกรณ์ก่อนการชาร์จ เพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์และข้อมูลสำคัญ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/12/don039t-charge-your-smartphone-in-these-places
    บทความนี้พูดถึงสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวสมาร์ทโฟนหรือผู้ใช้งาน หากชาร์จแบตเตอรี่ในสถานที่และสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม พร้อมแนะนำวิธีป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของเรา ในบ้าน: 1) ไม่ควรชาร์จสมาร์ทโฟนบนพื้นผิวที่ติดไฟง่าย เช่น เตียง หมอน หรือโซฟา เนื่องจากอุปกรณ์อาจร้อนเกินไปและก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ 2) หลีกเลี่ยงการชาร์จในห้องน้ำ เพราะความชื้นสามารถทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย 3) ห้ามเสียบชาร์จในปลั๊กที่มีอุปกรณ์อื่นต่ออยู่เต็มปลั๊กพ่วง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ 4) ไม่ควรชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน เนื่องจากการชาร์จเป็นเวลานานอาจทำให้อุปกรณ์ร้อนเกินไป และส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ นอกบ้าน: 1) หลีกเลี่ยงการชาร์จสมาร์ทโฟนในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง เช่น ในรถหรือริมหน้าต่าง เพราะความร้อนจะเพิ่มความเสี่ยงที่แบตเตอรี่จะระเบิด 2) หลีกเลี่ยงการใช้สถานีชาร์จสาธารณะ เช่น ที่สถานีรถไฟหรือสนามบิน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์แบบ "Juice Jacking" ซึ่งแฮกเกอร์อาจติดตั้งมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลผ่านพอร์ต USB สาธารณะได้ เคล็ดลับเพิ่มเติม: 1) ใช้ที่ชาร์จคุณภาพดีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานแทนการใช้พอร์ตสาธารณะ 2) หมั่นตรวจสอบสถานที่และอุปกรณ์ก่อนการชาร์จ เพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์และข้อมูลสำคัญ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/12/don039t-charge-your-smartphone-in-these-places
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Don't charge your smartphone in these places
    To avoid smartphone risks such as overheating, short-circuiting or even data hacks when charging your device, it is essential to avoid certain places and situations, whether at home or elsewhere.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts