• เวลาที่คนเรานั่งมองสิ่งต่างๆ มันมีคำง่ายๆ อยู่คำหนึ่งย่อว่า FOV มาจากคำว่า Field Of View พวกทำงานภาพเข้าใจดีว่าหมายถึงสนามของภาพ หรือขอบเขตการมองเห็น ถ้าเรามองในแง่นี้ก็คือ มองผ่านเลนส์หรือผ่านกล้องของเราออกไป สนามภาพที่เราเห็นจะถูกจำกัดด้วยสมรรถนะของกล้องหรือเลนส์นั้น จะโฟกัสเจาะลึกขยายถึงขุมขนก็ต้องใช้มาโครเลนส์ จะดูไกลก็ต้องใช้ซูมเลนส์ จะเห็นภาพกว้างก็ต้องใช้เลนส์ไวด์แองเกิ้ล
    .
    คล้ายๆ กัน.. เปลี่ยนเป็นการมองดูโลก ถ้าเรานั่งมองจากในบ้านของเรา เราก็จะเห็นได้อย่างจำกัดมาก จะมองเห็นทัศนียภาพภายนอกก็จะเห็นได้แค่ผ่านช่องหน้าต่างผ่านช่องประตูออกไป ที่ติดกำแพงผนังหลังคาขวางกั้นก็มองไม่เห็นแล้ว ก็ต้องก้าวออกไปนอกบ้านจึงจะเห็นมากขึ้น แต่ก็ติดกำแพงรั้วอีก เดินออกนอกกำแพงไปการมองเห็นก็ยังจะถูกจำกัดด้วยไอ้เจ้า FOV ของชั้นระยะถัดไป ระยะทาง ภูเขา แมกไม้ บดบังหลายสิ่งหลายอย่าง จะเห็นสิ่งที่อยู่ถัดไปอีกแค่สักร้อยเมตรก็เป็นไปได้ยากถ้ายังมีสิ่งบดบัง ครั้นจะพึ่งพาเพื่อนบ้านที่ผ่านมาจะถามเขาว่ามีอะไรน่าสนใจไหมที่สองร้อยเมตรข้างหน้า ก็ไม่อาจคาดหวังว่าจะได้คำตอบที่น่าเชื่อถือหรือถูกต้อง เขาอาจบอกระวังงูยักษ์นะเมื่อกี้เพิ่งหนีมา... เขาอาจว่าหมู่บ้านถัดไปสองร้อยเมตรกำลังประกาศว่ามีโรคระบาดมาถึงแล้ว รีบไปจากที่นี่เถอะ...ฯ เราไม่อาจพึ่งพาการเห็นโลกตามจริงด้วยการบอกเล่าจากปากของผู้อื่น จะรู้ข้อเท็จจริงให้ได้ก็ต้องเดินทางออกไปเห็นด้วยตาว่าตรงที่เราอยากรู้นั้นเป็นเช่นไร ซึ่งไม่แน่ว่าบางทีไปถึงที่หมายแล้วก็อาจยังไม่เห็นสิ่งที่ควรเห็นอีก เพราะ FOV ของเราที่หวังผลจากสายตานี้ ไม่ได้กว้างไพศาลและมีศักยภาพในการขยายได้ดั่งใจ อาจต้องมีตัวช่วย เช่น ใช้โดรนขึ้นบินขึ้นไปส่องก็จะเห็นกว้างไกลกว่ายืนมองอยู่บนพื้น แต่กระนั้นก็จะเห็นว่า ใช้โดรนแล้ว ตัวโดรนเองก็มี FOV ที่จำกัดอยู่ดี
    .
    พออธิบายเช่นนี้ คงเข้าใจได้ว่า การที่ปุถุชนจะเห็นสิ่งต่างๆ ได้ครบถ้วนทุกรายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ใครที่ยิ่งต้องการเห็นให้ได้มาก ต้องตะเกียกตะกายพยายามขยายมุมมอง พิกัดที่มอง สมรรถนะที่มอง และวิจารณญาณที่ประกอบการมองให้เปิดกว้างและไม่ยอมหยุดนิ่ง คือต้องไม่หยุดเลยนั่นแหละ ถึงจะลดทอนความไม่รู้ลงไปได้ไม่น้อย แม้ว่าในความเป็นจริงจะยังมีสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่อีกเยอะก็ตาม
    .
    โบราณพูดถึงการมีอยู่ของสิ่งที่เรียกว่าญาณทัศนะ คือมีบางคนที่ได้ทุ่มเทความเพียรในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ มามากมายเนิ่นนานพอจนเกิดปัญญาในการที่จะทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้น และมองเห็นความเชิ่อมโยงของสิ่งต่างๆ ที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ถึงแม้คนผู้นั้นเองก็ติดขัดที่ข้อจำกัดของมนุษย์เช่นที่กล่าวไปเหมือนเช่นคนอื่นๆ แต่มีความหยั่งรู้พิเศษบางอย่างบ่มเพาะขึ้นมาให้รู้จักใช้ปัญญาในการเรียนรู้พิจารณาเรื่องราวหนึ่ง แล้วขยายมันเพื่อที่จะเข้าใจเรื่องราวอีกพันเรื่องได้ อุปมาดั่งช่างไม้ที่เข้าใจในการใช้สิ่วแกะสลักอย่างลึกซึ้งทะลุปรุโปร่ง อาจใช้ความเข้าใจในทักษะเช่นนี้ ไปในประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น การใช้ดาบต่อสู้ เป็นต้น... ผู้มีญาณทัศนะที่หยั่งได้เช่นนี้ ด้วยการพิเคราะห์สิ่งต่างๆ รอบกาย เขาอาจสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงของสิ่งเหล่านั้นได้ในระนาบที่ต่างจากผู้อื่น ฟังดูยากใช่ไหม?
    .
    ผมเคยเขียนบทความเรื่องนี้น่าจะเกือบยี่สิบปีแล้ว ชื่อเรื่อง "ดาบที่ซ่อนเร้น" ไม่รู้ใครเคยอ่านบ้าง?
    .
    แนวคิด "เรียนรู้สิ่งหนึ่งเพื่อเข้าถึงพันสิ่ง" เป็นหนึ่งในคำสอนที่ มิยาโมโต มูซาชิ ซามูไรที่กล่าวกันว่าไม่เคยแพ้ใครเลย สอนแก่ศิษย์ของเขา คำสอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของคำสอนมากมายที่ปรากฏอยู่ในจดหมายถึงศิษย์ในสำนักนิเต็นริวของเขาที่ชื่อเทราโอะ มาโกโนโจ ภายหลังจดหมายนี้กลายเป็นคัมภีร์ที่นักดาบทุกคนต้องทำความเข้าใจ มันมีชื่อเรียกในภายหลังว่า "โกรินโนโช" แปลว่าคัมภีร์ห้าห่วง ชื่อห้าห่วงเพราะมันแบ่งเป็นห้าภาคคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และความว่าง (สุญญตา)
    .
    โกรินโนโช ไม่ได้เป็นเพียงตำราสำหรับนักดาบ แนวคิดลึกซึ้งที่ว่า เรียนรู้สิ่งหนึ่งเพื่อเข้าถึงพันสิ่งนี้ มีคนที่เข้าใจมัน แล้วปรับใช้กับชีวิตหลายแง่มุม ที่กล่าวถึงกันมากคือมีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยการปรับความรู้จากตำรานี้ให้เป็นกลยุทธในการทำธุรกิจ แต่ผมไม่เคยอ่านเรื่องทำนองนี้หรอก ต้องถามเซนเซสุวินัย ภรณวลัย ท่านเชี่ยวชาญเรื่องนี้ ผมสนใจในแง่ของวิชาเคนจัตสุ... กลับไปที่เรื่อง FOV ที่ได้เปิดหัวมา...
    .
    มูซาชิ สอนในภาคน้ำเรื่องการมอง ว่าด้วยคำสี่คำที่ลึกซึ้งคือ ทาเทมาเอะ กับ ฮอนเนะ... และ เค็น กับ คาน
    .
    - ทาเทมาเอะ คือ สิ่งที่เราแสดงให้คนเห็น
    - ฮอนเนะ คือ เจตนาที่แท้จริง
    .
    - เคน คือ สิ่งที่เห็นจากภายนอกด้วยตาเนื้อ
    - คาน คือ สิ่งที่เห็นด้วยใจ ด้วยญาณที่หยั่งลึกกว่า
    .
    อธิบายสักรอบ..
    .
    เมื่อนักดาบสองคนเข้าสัประยุทธกัน นักดาบจะตั้งท่วงท่าสำหรับการโจมตี เช่น เมื่อฝ่ายหนึ่งตั้งท่าโจดัง คือยกดาบอยู่เหนือหัว อีกฝ่ายมองเห็นด้วย เคน ก็อาจคาดเดาว่าศัตรูจะฟันลงมาที่หัว ซึ่งโดยกายภาพแล้วจะเป็นการฟันที่เร็วที่สุดกว่าการเจตนาฟันตรงส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ลำตัว หรือแทงคอ ซึ่งจะยิ่งทำให้การโจมตีใช้เวลามากขึ้นหากเริ่มจากท่าโจดัง.. นักดาบอีกฝ่ายก็คงจะคิดเช่นนี้แล้วเตรียมรับการฟันจากข้างบน เพราะถ้าคู่ต่อสู้เปลี่ยนทิศทางมาฟันลำตัว เขาจะมองเห็นทันและปรับท่ารับได้... แต่นี่บางทีเขาอาจคิดผิดไป..
    .
    ฮอนเนะ หรือเจตนาของนักดาบอีกฝ่ายอาจไม่ใด้ต้องการฟันตรงๆ เขาอาจฝึกมาอย่างหนักมากจนบรรลุความเร็วขีดสุดที่ฝ่ายเตรียมตั้งรับไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต เขาอาจฟันลำตัวมาจากท่าโจดังนั่นด้วยความเร็วที่เร็วมากยิ่งกว่าผู้ใด แต่จงใจแสดงให้เห็นทาเทมาเอะว่าจะฟันที่หัว เพื่อให้คู่ต่อสู้เปิดช่องโหว่ที่ลำตัวจากท่าตั้งรับด้านบน ความสำเร็จในที่นี้คือการเอาชนะข้อจำกัดทางกายภาพ... พอเข้าใจไหม?
    .
    ในโลกทุกวันนี้ เต็มไปด้วยทาเทมาเอะล่อลวงและฮอนเนะที่ชั่วร้าย บางสิ่งมากับเรื่องที่คุณคิดไม่ถึงเช่นภาพยนตร์ StarTrek ที่ผมเคยเขียนให้อ่านในบทความเรื่องดาบที่ซ่อนเร้นที่เอ่ยไป.. พรอพพาแกนดามากมายที่เป็นทาเทมาเอะในโลก จงใจให้คุณเห็นและเบี่ยงเบนคุณจากเจตนาร้ายแท้จริงที่ซ่อนไว้ มันเกิดขึ้นตลอดเวลา ไทยเราเองเคยถูกฮอนเนะที่ชั่วร้ายโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า เช่น การโจมตีค่าเงินบาทของโซรอส.. หรือ ทาเทมาเอะในคราบของวัคซีนที่ซ่อนฮอนเนะของ Global Reset ที่เคลาส์ ชวอบบ์ ไฝ่ฝันจะกำจัดประชากรและกระพือพรอพพาแกนดาเพื่อหวังจัดระเบียบโลก ขณะเดียวกันก็ทำลายจีนไปด้วย.. หรือจะถอยไปที่ JFK และ 911 ก็ได้ คุณลองคิดดูซิว่า อะไรคือทาเทมาเอะ อะไรคือฮอนเนะที่คุณเห็น ลองทดสอบตัวเอง
    .
    นึกภาพออกหรือยัง ว่าคุณต้องพยายามมากแค่ไหนในการขยาย FOV ของคุณออกไปด้วย คาน ไม่ใช่ เคน เพียงอย่างเดียว เป้าหมายการฝึกคือ เคนและคานทำงานร่วมกันอย่างสอดคล้อง เมื่อคุณมองข่าวสารที่ป้อนใส่เคนของคุณผ่านหน้าต่างของโซเชียลมีเดีย ไม่ต่างกับคุณนั่งมองจากในบ้านของคุณผ่านหน้าต่างห้องรับแขก.... บางคนอาจเถียงว่า "เฮ้ย นี่มันอินเตอร์เน็ตนะโว้ย"... No.. อย่าได้สำคัญผิดว่าจอมือถือขนาด 8 นิ้ว 10 นิ้วของเธอจะทำให้เธอเห็นทุกสรรพสิ่ง เธอจะเห็นแต่สิ่งที่เธอได้รับอนุญาตให้เห็นหรือถูกเตรียมมาให้เชื่อ และโดยทั่วไป เธอจะถูกปิดกั้นเมื่อเธอพยายามจะเห็นสิ่งที่พวกที่กุมอำนาจอยู่ไม่อนุญาตให้เห็น เธอจะต้องใช้ความพยายามอย่างที่สุดที่จะขยาย FOV ของเธอออกไปจากสิ่งกั้นขวางเหล่านั้น และต้องเริ่มที่จะเรียนรู้ฝึกฝนการมองสิ่งต่างๆ ด้วย คาน ด้วยจิต ด้วยญาณทัศนะที่เติบโตขึ้น
    .
    พิจารณาสิ่งที่อยู่รอบๆตัว บริบทต่างๆ ที่รายล้อม เช่น นักต่อสู้ทางการเมืองสตรีที่ถูกจำขังเป็นเวลานาน ได้ก้าวขึ้นเป็นรัฐบาลด้วยทาเทมาเอะเช่นรางวัลโนเบล ภาพลักษณ์แห่งความอหิงสาสำรวม ปูมหลังที่น่านับถือของบิดา สื่อตะวันตกที่โหมเยินยอ... ฮอนเนะของเธอคืออะไร? จารชนซีไอเอตัวแม่? เบื้องหลังการสังหารหมู่ชาวโรฮิงญาที่ถูกปกปิดไม่ให้โลกรู้? ความเชื่อมโยงน่าขนลุกของเป้าหมายการยึดครองพื้นที่ของยะไข่ จำต้องเก็บกวาดขยะ? ใครต้องการครอบครอง? ผลพลอยได้คือการปลุกความขัดแย้งและโต้เถียงในหมู่ประชาคมอาเซี่ยน? ยะไข่สำคัญอย่างไร?.... ขยาย FOV ของคุณออกไปยังจุดอื่นซิ เช่น อินเดียและปากีสถาน... ว้าแดงและลาว... หรือเขมรตัวแสบ... โจรหน้าตัวเมียทางใต้... ความพยายามที่จะเปิดศึกอิหร่าน... แค่ลำพังทำตัวเป็นโดรนบินขึ้นมาดูมุมสูงขึ้นยังไม่พอ ต้องใช้ คาน มองในทุกจุดแบบเป็นภาพที่ใหญ่ขึ้น ปัญหาที่เห็นในบ้านเราเป็นองค์ประกอบอันน้อยนิดในสงครามที่กำลังดำเนินไปและเกิดขึ้นรอบด้านในขณะนี้
    .
    มันถึงเวลาที่ทุกคนต้องตื่นขึ้น เพื่อที่เราจะได้นำพาประเทศชาติรอดพ้น แล้วไปยืนที่กำแพงพระนคร พูดกับตัวเองว่า
    "เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร" อย่างที่พี่ฟองสนานกล่าวไว้
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    เวลาที่คนเรานั่งมองสิ่งต่างๆ มันมีคำง่ายๆ อยู่คำหนึ่งย่อว่า FOV มาจากคำว่า Field Of View พวกทำงานภาพเข้าใจดีว่าหมายถึงสนามของภาพ หรือขอบเขตการมองเห็น ถ้าเรามองในแง่นี้ก็คือ มองผ่านเลนส์หรือผ่านกล้องของเราออกไป สนามภาพที่เราเห็นจะถูกจำกัดด้วยสมรรถนะของกล้องหรือเลนส์นั้น จะโฟกัสเจาะลึกขยายถึงขุมขนก็ต้องใช้มาโครเลนส์ จะดูไกลก็ต้องใช้ซูมเลนส์ จะเห็นภาพกว้างก็ต้องใช้เลนส์ไวด์แองเกิ้ล . คล้ายๆ กัน.. เปลี่ยนเป็นการมองดูโลก ถ้าเรานั่งมองจากในบ้านของเรา เราก็จะเห็นได้อย่างจำกัดมาก จะมองเห็นทัศนียภาพภายนอกก็จะเห็นได้แค่ผ่านช่องหน้าต่างผ่านช่องประตูออกไป ที่ติดกำแพงผนังหลังคาขวางกั้นก็มองไม่เห็นแล้ว ก็ต้องก้าวออกไปนอกบ้านจึงจะเห็นมากขึ้น แต่ก็ติดกำแพงรั้วอีก เดินออกนอกกำแพงไปการมองเห็นก็ยังจะถูกจำกัดด้วยไอ้เจ้า FOV ของชั้นระยะถัดไป ระยะทาง ภูเขา แมกไม้ บดบังหลายสิ่งหลายอย่าง จะเห็นสิ่งที่อยู่ถัดไปอีกแค่สักร้อยเมตรก็เป็นไปได้ยากถ้ายังมีสิ่งบดบัง ครั้นจะพึ่งพาเพื่อนบ้านที่ผ่านมาจะถามเขาว่ามีอะไรน่าสนใจไหมที่สองร้อยเมตรข้างหน้า ก็ไม่อาจคาดหวังว่าจะได้คำตอบที่น่าเชื่อถือหรือถูกต้อง เขาอาจบอกระวังงูยักษ์นะเมื่อกี้เพิ่งหนีมา... เขาอาจว่าหมู่บ้านถัดไปสองร้อยเมตรกำลังประกาศว่ามีโรคระบาดมาถึงแล้ว รีบไปจากที่นี่เถอะ...ฯ เราไม่อาจพึ่งพาการเห็นโลกตามจริงด้วยการบอกเล่าจากปากของผู้อื่น จะรู้ข้อเท็จจริงให้ได้ก็ต้องเดินทางออกไปเห็นด้วยตาว่าตรงที่เราอยากรู้นั้นเป็นเช่นไร ซึ่งไม่แน่ว่าบางทีไปถึงที่หมายแล้วก็อาจยังไม่เห็นสิ่งที่ควรเห็นอีก เพราะ FOV ของเราที่หวังผลจากสายตานี้ ไม่ได้กว้างไพศาลและมีศักยภาพในการขยายได้ดั่งใจ อาจต้องมีตัวช่วย เช่น ใช้โดรนขึ้นบินขึ้นไปส่องก็จะเห็นกว้างไกลกว่ายืนมองอยู่บนพื้น แต่กระนั้นก็จะเห็นว่า ใช้โดรนแล้ว ตัวโดรนเองก็มี FOV ที่จำกัดอยู่ดี . พออธิบายเช่นนี้ คงเข้าใจได้ว่า การที่ปุถุชนจะเห็นสิ่งต่างๆ ได้ครบถ้วนทุกรายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ใครที่ยิ่งต้องการเห็นให้ได้มาก ต้องตะเกียกตะกายพยายามขยายมุมมอง พิกัดที่มอง สมรรถนะที่มอง และวิจารณญาณที่ประกอบการมองให้เปิดกว้างและไม่ยอมหยุดนิ่ง คือต้องไม่หยุดเลยนั่นแหละ ถึงจะลดทอนความไม่รู้ลงไปได้ไม่น้อย แม้ว่าในความเป็นจริงจะยังมีสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่อีกเยอะก็ตาม . โบราณพูดถึงการมีอยู่ของสิ่งที่เรียกว่าญาณทัศนะ คือมีบางคนที่ได้ทุ่มเทความเพียรในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ มามากมายเนิ่นนานพอจนเกิดปัญญาในการที่จะทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้น และมองเห็นความเชิ่อมโยงของสิ่งต่างๆ ที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ถึงแม้คนผู้นั้นเองก็ติดขัดที่ข้อจำกัดของมนุษย์เช่นที่กล่าวไปเหมือนเช่นคนอื่นๆ แต่มีความหยั่งรู้พิเศษบางอย่างบ่มเพาะขึ้นมาให้รู้จักใช้ปัญญาในการเรียนรู้พิจารณาเรื่องราวหนึ่ง แล้วขยายมันเพื่อที่จะเข้าใจเรื่องราวอีกพันเรื่องได้ อุปมาดั่งช่างไม้ที่เข้าใจในการใช้สิ่วแกะสลักอย่างลึกซึ้งทะลุปรุโปร่ง อาจใช้ความเข้าใจในทักษะเช่นนี้ ไปในประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น การใช้ดาบต่อสู้ เป็นต้น... ผู้มีญาณทัศนะที่หยั่งได้เช่นนี้ ด้วยการพิเคราะห์สิ่งต่างๆ รอบกาย เขาอาจสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงของสิ่งเหล่านั้นได้ในระนาบที่ต่างจากผู้อื่น ฟังดูยากใช่ไหม? . ผมเคยเขียนบทความเรื่องนี้น่าจะเกือบยี่สิบปีแล้ว ชื่อเรื่อง "ดาบที่ซ่อนเร้น" ไม่รู้ใครเคยอ่านบ้าง? . แนวคิด "เรียนรู้สิ่งหนึ่งเพื่อเข้าถึงพันสิ่ง" เป็นหนึ่งในคำสอนที่ มิยาโมโต มูซาชิ ซามูไรที่กล่าวกันว่าไม่เคยแพ้ใครเลย สอนแก่ศิษย์ของเขา คำสอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของคำสอนมากมายที่ปรากฏอยู่ในจดหมายถึงศิษย์ในสำนักนิเต็นริวของเขาที่ชื่อเทราโอะ มาโกโนโจ ภายหลังจดหมายนี้กลายเป็นคัมภีร์ที่นักดาบทุกคนต้องทำความเข้าใจ มันมีชื่อเรียกในภายหลังว่า "โกรินโนโช" แปลว่าคัมภีร์ห้าห่วง ชื่อห้าห่วงเพราะมันแบ่งเป็นห้าภาคคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และความว่าง (สุญญตา) . โกรินโนโช ไม่ได้เป็นเพียงตำราสำหรับนักดาบ แนวคิดลึกซึ้งที่ว่า เรียนรู้สิ่งหนึ่งเพื่อเข้าถึงพันสิ่งนี้ มีคนที่เข้าใจมัน แล้วปรับใช้กับชีวิตหลายแง่มุม ที่กล่าวถึงกันมากคือมีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยการปรับความรู้จากตำรานี้ให้เป็นกลยุทธในการทำธุรกิจ แต่ผมไม่เคยอ่านเรื่องทำนองนี้หรอก ต้องถามเซนเซสุวินัย ภรณวลัย ท่านเชี่ยวชาญเรื่องนี้ ผมสนใจในแง่ของวิชาเคนจัตสุ... กลับไปที่เรื่อง FOV ที่ได้เปิดหัวมา... . มูซาชิ สอนในภาคน้ำเรื่องการมอง ว่าด้วยคำสี่คำที่ลึกซึ้งคือ ทาเทมาเอะ กับ ฮอนเนะ... และ เค็น กับ คาน . - ทาเทมาเอะ คือ สิ่งที่เราแสดงให้คนเห็น - ฮอนเนะ คือ เจตนาที่แท้จริง . - เคน คือ สิ่งที่เห็นจากภายนอกด้วยตาเนื้อ - คาน คือ สิ่งที่เห็นด้วยใจ ด้วยญาณที่หยั่งลึกกว่า . อธิบายสักรอบ.. . เมื่อนักดาบสองคนเข้าสัประยุทธกัน นักดาบจะตั้งท่วงท่าสำหรับการโจมตี เช่น เมื่อฝ่ายหนึ่งตั้งท่าโจดัง คือยกดาบอยู่เหนือหัว อีกฝ่ายมองเห็นด้วย เคน ก็อาจคาดเดาว่าศัตรูจะฟันลงมาที่หัว ซึ่งโดยกายภาพแล้วจะเป็นการฟันที่เร็วที่สุดกว่าการเจตนาฟันตรงส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ลำตัว หรือแทงคอ ซึ่งจะยิ่งทำให้การโจมตีใช้เวลามากขึ้นหากเริ่มจากท่าโจดัง.. นักดาบอีกฝ่ายก็คงจะคิดเช่นนี้แล้วเตรียมรับการฟันจากข้างบน เพราะถ้าคู่ต่อสู้เปลี่ยนทิศทางมาฟันลำตัว เขาจะมองเห็นทันและปรับท่ารับได้... แต่นี่บางทีเขาอาจคิดผิดไป.. . ฮอนเนะ หรือเจตนาของนักดาบอีกฝ่ายอาจไม่ใด้ต้องการฟันตรงๆ เขาอาจฝึกมาอย่างหนักมากจนบรรลุความเร็วขีดสุดที่ฝ่ายเตรียมตั้งรับไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต เขาอาจฟันลำตัวมาจากท่าโจดังนั่นด้วยความเร็วที่เร็วมากยิ่งกว่าผู้ใด แต่จงใจแสดงให้เห็นทาเทมาเอะว่าจะฟันที่หัว เพื่อให้คู่ต่อสู้เปิดช่องโหว่ที่ลำตัวจากท่าตั้งรับด้านบน ความสำเร็จในที่นี้คือการเอาชนะข้อจำกัดทางกายภาพ... พอเข้าใจไหม? . ในโลกทุกวันนี้ เต็มไปด้วยทาเทมาเอะล่อลวงและฮอนเนะที่ชั่วร้าย บางสิ่งมากับเรื่องที่คุณคิดไม่ถึงเช่นภาพยนตร์ StarTrek ที่ผมเคยเขียนให้อ่านในบทความเรื่องดาบที่ซ่อนเร้นที่เอ่ยไป.. พรอพพาแกนดามากมายที่เป็นทาเทมาเอะในโลก จงใจให้คุณเห็นและเบี่ยงเบนคุณจากเจตนาร้ายแท้จริงที่ซ่อนไว้ มันเกิดขึ้นตลอดเวลา ไทยเราเองเคยถูกฮอนเนะที่ชั่วร้ายโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า เช่น การโจมตีค่าเงินบาทของโซรอส.. หรือ ทาเทมาเอะในคราบของวัคซีนที่ซ่อนฮอนเนะของ Global Reset ที่เคลาส์ ชวอบบ์ ไฝ่ฝันจะกำจัดประชากรและกระพือพรอพพาแกนดาเพื่อหวังจัดระเบียบโลก ขณะเดียวกันก็ทำลายจีนไปด้วย.. หรือจะถอยไปที่ JFK และ 911 ก็ได้ คุณลองคิดดูซิว่า อะไรคือทาเทมาเอะ อะไรคือฮอนเนะที่คุณเห็น ลองทดสอบตัวเอง . นึกภาพออกหรือยัง ว่าคุณต้องพยายามมากแค่ไหนในการขยาย FOV ของคุณออกไปด้วย คาน ไม่ใช่ เคน เพียงอย่างเดียว เป้าหมายการฝึกคือ เคนและคานทำงานร่วมกันอย่างสอดคล้อง เมื่อคุณมองข่าวสารที่ป้อนใส่เคนของคุณผ่านหน้าต่างของโซเชียลมีเดีย ไม่ต่างกับคุณนั่งมองจากในบ้านของคุณผ่านหน้าต่างห้องรับแขก.... บางคนอาจเถียงว่า "เฮ้ย นี่มันอินเตอร์เน็ตนะโว้ย"... No.. อย่าได้สำคัญผิดว่าจอมือถือขนาด 8 นิ้ว 10 นิ้วของเธอจะทำให้เธอเห็นทุกสรรพสิ่ง เธอจะเห็นแต่สิ่งที่เธอได้รับอนุญาตให้เห็นหรือถูกเตรียมมาให้เชื่อ และโดยทั่วไป เธอจะถูกปิดกั้นเมื่อเธอพยายามจะเห็นสิ่งที่พวกที่กุมอำนาจอยู่ไม่อนุญาตให้เห็น เธอจะต้องใช้ความพยายามอย่างที่สุดที่จะขยาย FOV ของเธอออกไปจากสิ่งกั้นขวางเหล่านั้น และต้องเริ่มที่จะเรียนรู้ฝึกฝนการมองสิ่งต่างๆ ด้วย คาน ด้วยจิต ด้วยญาณทัศนะที่เติบโตขึ้น . พิจารณาสิ่งที่อยู่รอบๆตัว บริบทต่างๆ ที่รายล้อม เช่น นักต่อสู้ทางการเมืองสตรีที่ถูกจำขังเป็นเวลานาน ได้ก้าวขึ้นเป็นรัฐบาลด้วยทาเทมาเอะเช่นรางวัลโนเบล ภาพลักษณ์แห่งความอหิงสาสำรวม ปูมหลังที่น่านับถือของบิดา สื่อตะวันตกที่โหมเยินยอ... ฮอนเนะของเธอคืออะไร? จารชนซีไอเอตัวแม่? เบื้องหลังการสังหารหมู่ชาวโรฮิงญาที่ถูกปกปิดไม่ให้โลกรู้? ความเชื่อมโยงน่าขนลุกของเป้าหมายการยึดครองพื้นที่ของยะไข่ จำต้องเก็บกวาดขยะ? ใครต้องการครอบครอง? ผลพลอยได้คือการปลุกความขัดแย้งและโต้เถียงในหมู่ประชาคมอาเซี่ยน? ยะไข่สำคัญอย่างไร?.... ขยาย FOV ของคุณออกไปยังจุดอื่นซิ เช่น อินเดียและปากีสถาน... ว้าแดงและลาว... หรือเขมรตัวแสบ... โจรหน้าตัวเมียทางใต้... ความพยายามที่จะเปิดศึกอิหร่าน... แค่ลำพังทำตัวเป็นโดรนบินขึ้นมาดูมุมสูงขึ้นยังไม่พอ ต้องใช้ คาน มองในทุกจุดแบบเป็นภาพที่ใหญ่ขึ้น ปัญหาที่เห็นในบ้านเราเป็นองค์ประกอบอันน้อยนิดในสงครามที่กำลังดำเนินไปและเกิดขึ้นรอบด้านในขณะนี้ . มันถึงเวลาที่ทุกคนต้องตื่นขึ้น เพื่อที่เราจะได้นำพาประเทศชาติรอดพ้น แล้วไปยืนที่กำแพงพระนคร พูดกับตัวเองว่า "เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร" อย่างที่พี่ฟองสนานกล่าวไว้ . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่คือเสาหลักเมือง ตั้งอยู่ในตลาดรังสิต
    ในขณะที่เพลินเดินชมอาคารพาณิชย์ที่ดูคลาสสิค ไม่ใช่แค่อาคารนะฟอนต์ของร้านที่ตลาดแห่งนี้ก็มีความเก่าแก่ เหมือนถูกดึงร่างเข้าไปอยู่ในยุค 70

    เดินวนไปวนมาไปสะดุดตาเข้ากับศาลเจ้าแห่งนึง ที่มีเศษไม้สีทองตั้งตระหง่าน ในซุ้มลายไทย ที่ดูแตกต่างจากอาคารแวดล้อมเพราะเป็นศิลปะของจีน เลยเกิดอาการสงสัยว่าคืออะไร แล้วเหลือบมาเห็นป้ายที่อยู่ริมรั้วเขียนไว้ว่า"เสาหลักเมืองรังสิต" ไอ้เราก็เลยรีบหาข้อมูลโดยทันที

    เสาหลักเมืองแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 2521 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีในยุคนั้น โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวรังสิต ให้เกิดความรักความสามัคคี และนำความสงบสุขร่มเย็นมาสู่ชุมชน รวมถึงตลาดรังสิตด้วย นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าศาลหลักเมืองรังสิตได้นำโชคลาภมาสู่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดแห่งนี้มาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี

    สบายใจคลายข้อสงสัย แล้วเดินไปหาอะไรใส่ท้องดีกว่า


    นี่คือเสาหลักเมือง ตั้งอยู่ในตลาดรังสิต ในขณะที่เพลินเดินชมอาคารพาณิชย์ที่ดูคลาสสิค ไม่ใช่แค่อาคารนะฟอนต์ของร้านที่ตลาดแห่งนี้ก็มีความเก่าแก่ เหมือนถูกดึงร่างเข้าไปอยู่ในยุค 70 เดินวนไปวนมาไปสะดุดตาเข้ากับศาลเจ้าแห่งนึง ที่มีเศษไม้สีทองตั้งตระหง่าน ในซุ้มลายไทย ที่ดูแตกต่างจากอาคารแวดล้อมเพราะเป็นศิลปะของจีน เลยเกิดอาการสงสัยว่าคืออะไร แล้วเหลือบมาเห็นป้ายที่อยู่ริมรั้วเขียนไว้ว่า"เสาหลักเมืองรังสิต" ไอ้เราก็เลยรีบหาข้อมูลโดยทันที เสาหลักเมืองแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 2521 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีในยุคนั้น โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวรังสิต ให้เกิดความรักความสามัคคี และนำความสงบสุขร่มเย็นมาสู่ชุมชน รวมถึงตลาดรังสิตด้วย นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าศาลหลักเมืองรังสิตได้นำโชคลาภมาสู่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดแห่งนี้มาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี สบายใจคลายข้อสงสัย แล้วเดินไปหาอะไรใส่ท้องดีกว่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • หินลาพิส แกะเป็นแมงสคารัป...พบเจอในสุสานอียิปต์ ...และพบเจออยู่ในเครื่องประกอบบูชา แะเทวรูป...ผู้เขียนจึงศึกษาถึงหินชนิดนี้มาหลายปีแล้ว...จนระยะ 2_3 ปีหลัง...ให้ความสนใจ จากพลังงานจากหิน...มากกว่าวัตถุมงคล "สมัยนี้" เสียอีก...เพราะหินอยู่ในโลกมาหลายล้านปี ซึมซับเอาพลังของระบบสุริยะ..พระอาทิตย์ พระจันทร์...และอื่นๆ...ไปผูกความเชื่อ กับทางจีน ก็คือ หยก...ทางยุโรปก็คือ เพชรพลอยต่างๆ ...เข้าใจง่ายๆ ก็คือ หินนั่นเอง...แต่มีค่าความแข็ง...และสีสรรแตกต่างกัน..
    หินลาพิส แกะเป็นแมงสคารัป...พบเจอในสุสานอียิปต์ ...และพบเจออยู่ในเครื่องประกอบบูชา แะเทวรูป...ผู้เขียนจึงศึกษาถึงหินชนิดนี้มาหลายปีแล้ว...จนระยะ 2_3 ปีหลัง...ให้ความสนใจ จากพลังงานจากหิน...มากกว่าวัตถุมงคล "สมัยนี้" เสียอีก...เพราะหินอยู่ในโลกมาหลายล้านปี ซึมซับเอาพลังของระบบสุริยะ..พระอาทิตย์ พระจันทร์...และอื่นๆ...ไปผูกความเชื่อ กับทางจีน ก็คือ หยก...ทางยุโรปก็คือ เพชรพลอยต่างๆ ...เข้าใจง่ายๆ ก็คือ หินนั่นเอง...แต่มีค่าความแข็ง...และสีสรรแตกต่างกัน..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • - สีกาเตยและสามี ถูกจับตาเข้ม ปมพัวพันผลประโยชน์จากวัดไร่ขิงนานกว่า 17 ปี มีข้อมูลเส้นทางเงินไหลเวียนมหาศาล ทั้งรีสอร์ต รถหรู และค่ายเพลงส่วนตัว ขณะ ตร. เตรียมพิจารณาออกหมายจับ หากพบความเชื่อมโยง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000049665

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    - สีกาเตยและสามี ถูกจับตาเข้ม ปมพัวพันผลประโยชน์จากวัดไร่ขิงนานกว่า 17 ปี มีข้อมูลเส้นทางเงินไหลเวียนมหาศาล ทั้งรีสอร์ต รถหรู และค่ายเพลงส่วนตัว ขณะ ตร. เตรียมพิจารณาออกหมายจับ หากพบความเชื่อมโยง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000049665 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครปฐม - สีกาเตยและสามี ถูกจับตาเข้ม ปมพัวพันผลประโยชน์จากวัดไร่ขิงนานกว่า 17 ปี มีข้อมูลเส้นทางเงินไหลเวียนมหาศาล ทั้งรีสอร์ต รถหรู และค่ายเพลงส่วนตัว ขณะ ตร. เตรียมพิจารณาออกหมายจับ หากพบความเชื่อมโยง

    วันนี้( 27 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองในกรณีของนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ “สมีแย้ม” และ “สีกาเตย” และ นางสาวอรัญญวรรณ หรือสีกาเกน สาวคนสนิท ที่มีประเด็นโยงใยกับการยักยอกเงินวัดไปใช้ในกิจการส่วนตัว จนยอดเงินไหลเวียนทะลุกว่า 2,000 ล้านบาท

    ล่าสุด มีรายงานว่าตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาออกหมายจับสีกาเตย และนายฉัตรชัย สามีคนปัจจุบัน หลังพบความเชื่อมโยงกับเงินที่รั่วไหลจากวัดไร่ขิงนานถึง 17 ปี โดยเฉพาะในช่วงหลังการจัดงานประจำปีของวัดที่มักมีการ “ออกรถใหม่” อยู่เสมอ สอดคล้องกับภาพชีวิตหรูหราที่มีการโชว์เงินสด รีสอร์ท ร้านกาแฟ และรถหรูถึง 23 คัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000049665

    #MGROnline #นครปฐม #สมีแย้ม #สีกาเตย #สีกาเกน #วัดไร่ขิง
    นครปฐม - สีกาเตยและสามี ถูกจับตาเข้ม ปมพัวพันผลประโยชน์จากวัดไร่ขิงนานกว่า 17 ปี มีข้อมูลเส้นทางเงินไหลเวียนมหาศาล ทั้งรีสอร์ต รถหรู และค่ายเพลงส่วนตัว ขณะ ตร. เตรียมพิจารณาออกหมายจับ หากพบความเชื่อมโยง • วันนี้( 27 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองในกรณีของนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ “สมีแย้ม” และ “สีกาเตย” และ นางสาวอรัญญวรรณ หรือสีกาเกน สาวคนสนิท ที่มีประเด็นโยงใยกับการยักยอกเงินวัดไปใช้ในกิจการส่วนตัว จนยอดเงินไหลเวียนทะลุกว่า 2,000 ล้านบาท • ล่าสุด มีรายงานว่าตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาออกหมายจับสีกาเตย และนายฉัตรชัย สามีคนปัจจุบัน หลังพบความเชื่อมโยงกับเงินที่รั่วไหลจากวัดไร่ขิงนานถึง 17 ปี โดยเฉพาะในช่วงหลังการจัดงานประจำปีของวัดที่มักมีการ “ออกรถใหม่” อยู่เสมอ สอดคล้องกับภาพชีวิตหรูหราที่มีการโชว์เงินสด รีสอร์ท ร้านกาแฟ และรถหรูถึง 23 คัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000049665 • #MGROnline #นครปฐม #สมีแย้ม #สีกาเตย #สีกาเกน #วัดไร่ขิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • คาถาเบิกบุญ คืออะไร
    ในความเชื่อโบราณ คาถาเบิกบุญเป็นพระคาถาเรียกทรัพย์ เรียกบุญกุศลที่คุณได้สั่งสมเอาไว้ในอดีตให้มาส่งผลในปัจจุบัน หรือเรียกง่ายๆ ว่านำบุญเก่ามาใช้ในชาตินี้ ซึ่งถ้าคุณกำลังสงสัยว่าการนำบุญเก่ามาใช้นั้นทำได้จริงไหม ในทางพุทธศาสนาจะเชื่อกันว่าบุญกุศลที่เราทำไว้ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติที่แล้วย่อมส่งผลแน่นอน แต่เวลาและวิธีการที่บุญจะส่งผลมาถึงคุณนั้นขึ้นอยู่กับหลายๆ สิ่ง ซึ่งการเมื่อคุณสวดคาถาสวดแล้วรวยทันตาเห็น บางครั้งอาจเห็นผลในทันที แต่ในบางครั้งอาจต้องรอโดยไม่มีกำหนด

    คาถาเบิกบุญ สวดยังไง
    ก่อนจะเริ่มสวด สิ่งแรกที่คุณควรจะทำคือการทำสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ หลังจากนั้นให้ท่องนะโม 3 จบ และต่อด้วยการสวดคาถาเบิกบุญ ดังนี้

    วิ สัตติ ตะถา คะโต วิ สัตติ

    อะวะ ธาระนะ วิ สัตติ ภิกขุ

    อาคะจัจฉามิ โหมิ กัตตะวา

    อภิสัมปาโย อาเนหิ ปะริ ตะระ

    อัมหะ ปัสสะ วะติ อะธิปัจจะ

    ปายะ จะ นิรัน ตะระ ฯ
    คาถาเบิกบุญ คืออะไร ในความเชื่อโบราณ คาถาเบิกบุญเป็นพระคาถาเรียกทรัพย์ เรียกบุญกุศลที่คุณได้สั่งสมเอาไว้ในอดีตให้มาส่งผลในปัจจุบัน หรือเรียกง่ายๆ ว่านำบุญเก่ามาใช้ในชาตินี้ ซึ่งถ้าคุณกำลังสงสัยว่าการนำบุญเก่ามาใช้นั้นทำได้จริงไหม ในทางพุทธศาสนาจะเชื่อกันว่าบุญกุศลที่เราทำไว้ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติที่แล้วย่อมส่งผลแน่นอน แต่เวลาและวิธีการที่บุญจะส่งผลมาถึงคุณนั้นขึ้นอยู่กับหลายๆ สิ่ง ซึ่งการเมื่อคุณสวดคาถาสวดแล้วรวยทันตาเห็น บางครั้งอาจเห็นผลในทันที แต่ในบางครั้งอาจต้องรอโดยไม่มีกำหนด คาถาเบิกบุญ สวดยังไง ก่อนจะเริ่มสวด สิ่งแรกที่คุณควรจะทำคือการทำสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ หลังจากนั้นให้ท่องนะโม 3 จบ และต่อด้วยการสวดคาถาเบิกบุญ ดังนี้ วิ สัตติ ตะถา คะโต วิ สัตติ อะวะ ธาระนะ วิ สัตติ ภิกขุ อาคะจัจฉามิ โหมิ กัตตะวา อภิสัมปาโย อาเนหิ ปะริ ตะระ อัมหะ ปัสสะ วะติ อะธิปัจจะ ปายะ จะ นิรัน ตะระ ฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานวิ่งทิพย์ 18 มงกุฎผุดอีเวนต์

    กระแสออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ทำให้งานวิ่งได้รับความนิยม ตั้งแต่มินิมาราธอนยันไตรกีฬา แต่บางครั้งงานวิ่งกลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ที่สุดท้ายนักวิ่งต้องรอเก้อเพราะงานวิ่งไม่เกิดขึ้นจริง เฉกเช่นงาน Run for Destination 2025 ที่สวนหลวง ร.๙ วันที่ 25 พ.ค. ปรากฎว่าพอถึงวันงานจริงมีเพียงแต่ซุ้มประตู และนักวิ่งจำนวนมากต่างรอคอยด้วยความงุนงง พอรู้ว่าถูกหลอกก็เสียความรู้สึก ต่างแจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัดงานที่ สน.ประเวศ

    มลฤดี อายุ 42 ปี และ สุชานันท์ อายุ 31 ปี กรรมการห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้นสนเก้าเก้า สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ก่อนเปิดเผยว่าจัดงานวิ่งเป็นครั้งแรก ขออนุญาตสำนักงานเขตและสวนหลวง ร.๙ เรียบร้อย อ้างว่าขาดประสบการณ์ เพราะว่าจ้างออแกไนซ์รายหนึ่งแต่กลับยกเลิกกะทันหัน และไม่มีบริษัทไหนรับงาน จึงพยายามหาส่วนต่างๆ เองเพื่อให้งานเดินต่อ ส่วนการเยียวยาขอหารือก่อนแต่ก็ต้องทยอยชดเชย เพราะการจัดงานมีต้นทุน ยอมรับว่าความเชื่อมั่นบริษัทหายไปแล้ว แต่ยืนยันว่าจะดำเนินธุรกิจต่อ

    อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนและกระแสโซเชียลฯ ต่างขุดค้นข้อมูลเกี่ยวกับนิติบุคคลผู้จัดงาน พบว่าเพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท อีกทั้งยังเตรียมจัดแข่งขันแบดมินตันอีกด้วย อีกด้านหนึ่งพบว่าชื่อกรรมการยังเชื่อมโยงกับขบวนการมิจฉาชีพในคราบนายหน้าติวเตอร์ กรรมการรายหนึ่งถูกระบุว่าฉ้อโกงค่านายหน้าติวเตอร์ 2 ครั้ง ยอดรวม 2,250 บาท อีกรายหนึ่งเคยเป็นนายหน้ามาก่อน ติวเตอร์ระบุว่างานที่ได้รับมาส่วนมากเด็กหายไป ขาดบ่อย ตอนเรียนก็เงียบ และยังพบว่าเป็นหนึ่งในขบวนการที่เคยหลอกลวงติวเตอร์รายหนึ่งมาแล้ว จากบัญชีที่คืนเงิน

    กรณีงานวิ่งทิพย์ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2560 เคยมีการจัดงานเนินมะปราง ซีนิค มาราธอน ที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ปรากฎว่ายกเลิกแบบไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้นักวิ่งกว่า 1,200 คนได้รับผลกระทบ ชาวบ้านจึงร่วมกันจัดงานปลอบใจนักวิ่งเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ส่วนผู้จัด นายเวหา แสนชนชนะศึก ประกาศแจ้งให้ขอคืนเงินค่าสมัครผ่านทางอีเมล แต่นักวิ่งไม่ได้เงินคืน คดีนี้ศาลจังหวัดพิษณุโลกพิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับ 25,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ปัจจุบันถูกดำเนินคดีข้อหามาตรา 112 ทั้งหมด 3 คดี

    งานวิ่งทิพย์เป็นอีกบทเรียนหนึ่งสำหรับผู้สมัครงานวิ่งต่างๆ ถ้าหากงานวิ่งใดไม่ใช้บริการระบบรับสมัครงานวิ่งจากบริษัทโดยเฉพาะ แต่ให้โอนเงินโดยตรง ควรพิจารณาด้วยความระมัดระวัง หากเจอผู้จัดงานที่ไม่มีโปร์ไฟล์ ไม่น่าเชื่อถือ งานวิ่งอาจไม่มีจริง

    #Newskit
    งานวิ่งทิพย์ 18 มงกุฎผุดอีเวนต์ กระแสออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ทำให้งานวิ่งได้รับความนิยม ตั้งแต่มินิมาราธอนยันไตรกีฬา แต่บางครั้งงานวิ่งกลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ที่สุดท้ายนักวิ่งต้องรอเก้อเพราะงานวิ่งไม่เกิดขึ้นจริง เฉกเช่นงาน Run for Destination 2025 ที่สวนหลวง ร.๙ วันที่ 25 พ.ค. ปรากฎว่าพอถึงวันงานจริงมีเพียงแต่ซุ้มประตู และนักวิ่งจำนวนมากต่างรอคอยด้วยความงุนงง พอรู้ว่าถูกหลอกก็เสียความรู้สึก ต่างแจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัดงานที่ สน.ประเวศ มลฤดี อายุ 42 ปี และ สุชานันท์ อายุ 31 ปี กรรมการห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้นสนเก้าเก้า สปอร์ตคอมเพล็กซ์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ก่อนเปิดเผยว่าจัดงานวิ่งเป็นครั้งแรก ขออนุญาตสำนักงานเขตและสวนหลวง ร.๙ เรียบร้อย อ้างว่าขาดประสบการณ์ เพราะว่าจ้างออแกไนซ์รายหนึ่งแต่กลับยกเลิกกะทันหัน และไม่มีบริษัทไหนรับงาน จึงพยายามหาส่วนต่างๆ เองเพื่อให้งานเดินต่อ ส่วนการเยียวยาขอหารือก่อนแต่ก็ต้องทยอยชดเชย เพราะการจัดงานมีต้นทุน ยอมรับว่าความเชื่อมั่นบริษัทหายไปแล้ว แต่ยืนยันว่าจะดำเนินธุรกิจต่อ อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนและกระแสโซเชียลฯ ต่างขุดค้นข้อมูลเกี่ยวกับนิติบุคคลผู้จัดงาน พบว่าเพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท อีกทั้งยังเตรียมจัดแข่งขันแบดมินตันอีกด้วย อีกด้านหนึ่งพบว่าชื่อกรรมการยังเชื่อมโยงกับขบวนการมิจฉาชีพในคราบนายหน้าติวเตอร์ กรรมการรายหนึ่งถูกระบุว่าฉ้อโกงค่านายหน้าติวเตอร์ 2 ครั้ง ยอดรวม 2,250 บาท อีกรายหนึ่งเคยเป็นนายหน้ามาก่อน ติวเตอร์ระบุว่างานที่ได้รับมาส่วนมากเด็กหายไป ขาดบ่อย ตอนเรียนก็เงียบ และยังพบว่าเป็นหนึ่งในขบวนการที่เคยหลอกลวงติวเตอร์รายหนึ่งมาแล้ว จากบัญชีที่คืนเงิน กรณีงานวิ่งทิพย์ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2560 เคยมีการจัดงานเนินมะปราง ซีนิค มาราธอน ที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ปรากฎว่ายกเลิกแบบไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้นักวิ่งกว่า 1,200 คนได้รับผลกระทบ ชาวบ้านจึงร่วมกันจัดงานปลอบใจนักวิ่งเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ส่วนผู้จัด นายเวหา แสนชนชนะศึก ประกาศแจ้งให้ขอคืนเงินค่าสมัครผ่านทางอีเมล แต่นักวิ่งไม่ได้เงินคืน คดีนี้ศาลจังหวัดพิษณุโลกพิพากษาจำคุก 2 ปี ปรับ 25,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ปัจจุบันถูกดำเนินคดีข้อหามาตรา 112 ทั้งหมด 3 คดี งานวิ่งทิพย์เป็นอีกบทเรียนหนึ่งสำหรับผู้สมัครงานวิ่งต่างๆ ถ้าหากงานวิ่งใดไม่ใช้บริการระบบรับสมัครงานวิ่งจากบริษัทโดยเฉพาะ แต่ให้โอนเงินโดยตรง ควรพิจารณาด้วยความระมัดระวัง หากเจอผู้จัดงานที่ไม่มีโปร์ไฟล์ ไม่น่าเชื่อถือ งานวิ่งอาจไม่มีจริง #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น
    .
    ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ
    .
    อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้
    .
    ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน
    .
    [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้]
    .
    เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus)
    .
    นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี
    .
    อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland
    .
    เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่
    .
    ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่
    .
    และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก
    .
    ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย)
    .
    ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด
    .
    คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน?
    .
    บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน
    .
    หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า
    .
    ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน
    .
    เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก
    .
    สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน
    ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้
    .
    คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที
    .
    เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น
    ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี
    ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“
    แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม
    .
    นี่รู้ไหม...
    มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า?
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    .
    เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น . ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ . อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้ . ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน . [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้] . เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus) . นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี . อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland . เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่ . ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่ . และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก . ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย) . ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด . คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน? . บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน . หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า . ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน . เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก . สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้ . คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที . เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“ แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม . นี่รู้ไหม... มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า? . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] - .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระพุทธศิวฤทธิ์ศรีอุดรราชมุนี พระลีลา รุ่น1 วัดสุวรรณุทการาม จ.อุดรธานี ปี2546
    เหรียญพระพุทธศิวฤทธิ์ศรีอุดรราชมุนี พระลีลา รุ่น1 วัดสุวรรณุทการาม ต.โนนสูง จ.อุดรธานี ปี2546 //พระดีพิธีใหญ๋ ความเชื่อจะทำให้มีความก้าวหน้า ไม่หยุดนิ่ง พบแต่ความเจริญรุ่งเรือง // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพ !!

    ** พุทธคุณ " เมตตามหานิยม การทำมาค้าขาย ความเจริญก้าวหน้า " จะทำให้มีความเจริญก้าวหน้าทุกอย่าง การงาน การเงิน การเรียน ความรัก ธุรกิจ ค้าขาย กิจการ จะไม่หยุดนิ่ง จะพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด >>

    ** วัดสุวรรณุทการาม เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๑ ตำบลโนนสูง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๓ >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระพุทธศิวฤทธิ์ศรีอุดรราชมุนี พระลีลา รุ่น1 วัดสุวรรณุทการาม จ.อุดรธานี ปี2546 เหรียญพระพุทธศิวฤทธิ์ศรีอุดรราชมุนี พระลีลา รุ่น1 วัดสุวรรณุทการาม ต.โนนสูง จ.อุดรธานี ปี2546 //พระดีพิธีใหญ๋ ความเชื่อจะทำให้มีความก้าวหน้า ไม่หยุดนิ่ง พบแต่ความเจริญรุ่งเรือง // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพ !! ** พุทธคุณ " เมตตามหานิยม การทำมาค้าขาย ความเจริญก้าวหน้า " จะทำให้มีความเจริญก้าวหน้าทุกอย่าง การงาน การเงิน การเรียน ความรัก ธุรกิจ ค้าขาย กิจการ จะไม่หยุดนิ่ง จะพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด >> ** วัดสุวรรณุทการาม เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๑ ตำบลโนนสูง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๓ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • โทษรัสเซียอีกแล้ว!!

    ทางการอังกฤษกำลังสืบสวนหาความเชื่อมโยงว่ารัสเซียอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุวางเพลิงบ้านของสตาร์เมอร์นายกรัฐมนตรี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของลอนดอน เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม

    เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอังกฤษกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนว่าอาจมีชาวรัสเซียเป็นผู้จ้างวานผู้ต้องสงสัยสามรายที่ถูกจับกุมได้ ซึ่งเป็นชาวยูเครน 2 ราย และโรมาเนีย 1 ราย เพื่อวางเพลิงบ้านพักของสตาร์เมอร์

    หนึ่งในผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นชาวยูเครน ทราบชื่อภายหลังว่า "Roman Lavrinovich" วัย 21 ปี
    โทษรัสเซียอีกแล้ว!! ทางการอังกฤษกำลังสืบสวนหาความเชื่อมโยงว่ารัสเซียอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุวางเพลิงบ้านของสตาร์เมอร์นายกรัฐมนตรี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของลอนดอน เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอังกฤษกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนว่าอาจมีชาวรัสเซียเป็นผู้จ้างวานผู้ต้องสงสัยสามรายที่ถูกจับกุมได้ ซึ่งเป็นชาวยูเครน 2 ราย และโรมาเนีย 1 ราย เพื่อวางเพลิงบ้านพักของสตาร์เมอร์ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นชาวยูเครน ทราบชื่อภายหลังว่า "Roman Lavrinovich" วัย 21 ปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​การทำกิจของอินทรีย์ ในขณะบรรลุธรรม
    สัทธรรมลำดับที่ : 999
    ชื่อบทธรรม :- การทำกิจของอินทรีย์ ในขณะบรรลุธรรม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=999
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --การทำกิจของอินทรีย์ ในขณะบรรลุธรรม
    ...
    ---ถูกแล้ว ถูกแล้ว
    --สารีบุตร ! สารีบุตร ! อริยสาวกใด
    มีความเลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคตถึงที่สุดโดยส่วนเดียว,
    เขาย่อมไม่สงสัยหรือลังเลใน #ตถาคตหรือคำสอนในตถาคต.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/299/?keywords=ตถาคต
    --สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธาแล้ว
    พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า เขาจักเป็นผู้ปรารภความเพียร
    เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย
    เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย.
    +--สารีบุตร ! ความเพียรเช่นนั้นของอริยสาวกนั้นย่อมเป็น #วิริยินทรีย์
    ของเธอนั้น.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/299/?keywords=วิริยินฺทฺริ
    --สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธา
    เป็นผู้ปรารภความเพียรอยู่แล้ว พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า
    เขาจักเป็นผู้มีสติ ประกอบพร้อมด้วยสติเป็นเครื่องระวังรักษาตนเป็นอย่างยิ่ง
    เป็นผู้ระลึกได้ ตามระลึกได้ ซึ่งสิ่งที่ทำและคำที่พูดแม้ นานได้.
    +--สารีบุตร ! ความระลึกเช่นนั้นของอริยสาวกนั้น ย่อมเป็น #สตินทรีย์
    ของเธอนั้น.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/299/?keywords=สตินฺทฺริ
    --สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธา
    ปรารภความเพียร มีสติเข้าไปตั้งไว้แล้ว มีจิตตั้งมั่นโดยชอบ แล้ว
    พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า เขาจักเป็นผู้กระทำแล้วได้ซึ่งโวสสัคคารมณ์
    จักได้ซึ่งความตั้งมั่นแห่งจิต กล่าวคือความที่จิตมีอารมณ์เป็นอันเดียว.
    +--สารีบุตร ! ความตั้งมั่นแห่งจิตเช่นนั้นของอริย สาวกนั้น ย่อมเป็น #สมาธินทรีย์
    ของเธอนั้น.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/299/?keywords=สมาธินฺทฺริ
    --สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธา
    ปรารภความเพียร มีสติเข้าไปตั้งไว้มีจิตตั้งมั่นโดยชอบ แล้ว
    พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า เขาจักเป็นผู้รู้ชัดอย่างนี้ว่า
    “สังสารวัฏฏ์ เป็นสิ่งที่มีที่สุดอันบุคคลรู้ไม่ได้,
    ที่สุดฝ่ายข้างต้น ย่อมไม่ปรากฏแก่สัตว์ทั้งหลาย
    ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก กำลังแล่นไป ท่องเที่ยวไป.
    ความจางคลายดับไปโดยไม่มีเหลือแห่งอวิชชาอันเป็นกองแห่งความมืดนั้นเสียได้ มีอยู่
    : นั่นเป็นบทที่สงบ นั่นเป็นบทที่ประณีต
    กล่าวคือธรรมเป็นที่สงบแห่งสังขารทั้งปวง เป็นที่สลัดคืนซึ่งอุปธิทั้งปวง เป็นที่
    สิ้นไปแห่งตัณหา เป็นความจางคลาย เป็นความดับ เป็นนิพพาน”.
    +--สารีบุตร ! ความรู้ชัดเช่นนั้นของอริยสาวกนั้น ย่อมเป็น #ปัญญินทรีย์
    ของเธอนั้น.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/300/?keywords=ปญฺญินฺทฺริ
    --สารีบุตร ! อริยสาวกนั้นนั่นแหละ
    ตั้งไว้แล้ว ตั้งไว้แล้ว (ซึ่งวิริยะ) ด้วยอาการอย่างนี้,
    ระลึกแล้ว ระลึกแล้ว (ด้วยสติ) ด้วยอาการอย่างนี้,
    ตั้งมั่นแล้ว ตั้งมั่นแล้ว (ด้วยสมาธิ) ด้วยอาการอย่างนี้,
    รู้ชัดแล้ว รู้ชัดแล้ว (ด้วยปัญญา) ด้วยอาการอย่างนี้,
    เขาย่อมเชื่ออย่างยิ่ง อย่างนี้ว่า
    “ธรรมเหล่าใดเป็นธรรมที่เราเคยฟังแล้วในกาลก่อน,
    ในบัดนี้ เราถูกต้องธรรมเหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ ด้วย
    และแทงตลอดธรรมเหล่านั้นด้วยปัญญาแล้วเห็นอยู่ ด้วย”
    ดังนี้.
    --สารีบุตร ! ความเชื่อเช่นนั้นของอริยสาวกนั้น ย่อมเป็น #สัทธินทรีย์
    ของเธอนั้น,
    http://etipitaka.com/read/pali/19/300/?keywords=สทฺธินฺทฺริ
    ดังนี้แล.
    --- มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๙๙–๓๐๐/๑๐๑๗–๑๐๒๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/299/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%91%E0%B9%97

    (ข้อควรสังเกตอย่างยิ่งในกรณีนี้ คือข้อที่ สัทธินทรีย์ทำกิจของตน
    เมื่ออินทรีย์ทั้งสี่นอกนั้นทำกิจเสร็จแล้ว.
    ข้อนี้หมายความว่า สิ่งที่เรียกว่าสัทธาหรือความเชื่อนั้น
    จะถึงที่สุดก็ต่อเมื่อทำกิจอันบุคคลนั้นจะต้องทำนั้นๆ ประสบผลสำเร็จแล้ว.
    สัทธาที่เกิดขึ้นเป็นตัวนำในเบื้องต้น ดังที่แสดงอยู่ในหมวดธรรมต่างๆนั้น
    ยังมิใช่สัทธาที่สมบูรณ์;
    ทำให้กล่าวได้ว่า สัทธาสมบูรณ์ปรากฏแก่จิตใจต่อเมื่อบรรลุมรรคผลแล้ว
    คือประกอบอยู่ในญาณที่เห็นความหลุดพ้นของตนแล้ว
    )

    --สัมมัตตะ เป็นธรรมเครื่องสิ้นอาสวะ
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๑๐ ประการเหล่านี้ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว
    ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะทั้งหลาย.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/254/?keywords=สมฺมา
    +--สิบประการอย่างไรเล่า ? สิบประการคือ
    สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
    สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
    สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
    สัมมาญาณ สัมมาวิมุตติ.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/255/?keywords=สมฺมาญาณํ+สมฺมาวิมุตฺติ
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๑๐ ประการเหล่านี้ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว ย่อม
    เป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะทั้งหลาย.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/207/122.
    http://etipitaka.com/read/thai/24/207/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๒๕๔/๑๒๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/254/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%92
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=999
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=86&id=999
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=86
    ลำดับสาธยายธรรม : 86 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_86.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​การทำกิจของอินทรีย์ ในขณะบรรลุธรรม สัทธรรมลำดับที่ : 999 ชื่อบทธรรม :- การทำกิจของอินทรีย์ ในขณะบรรลุธรรม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=999 เนื้อความทั้งหมด :- --การทำกิจของอินทรีย์ ในขณะบรรลุธรรม ... ---ถูกแล้ว ถูกแล้ว --สารีบุตร ! สารีบุตร ! อริยสาวกใด มีความเลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคตถึงที่สุดโดยส่วนเดียว, เขาย่อมไม่สงสัยหรือลังเลใน #ตถาคตหรือคำสอนในตถาคต. http://etipitaka.com/read/pali/19/299/?keywords=ตถาคต --สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธาแล้ว พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า เขาจักเป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย. +--สารีบุตร ! ความเพียรเช่นนั้นของอริยสาวกนั้นย่อมเป็น #วิริยินทรีย์ ของเธอนั้น. http://etipitaka.com/read/pali/19/299/?keywords=วิริยินฺทฺริ --สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธา เป็นผู้ปรารภความเพียรอยู่แล้ว พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า เขาจักเป็นผู้มีสติ ประกอบพร้อมด้วยสติเป็นเครื่องระวังรักษาตนเป็นอย่างยิ่ง เป็นผู้ระลึกได้ ตามระลึกได้ ซึ่งสิ่งที่ทำและคำที่พูดแม้ นานได้. +--สารีบุตร ! ความระลึกเช่นนั้นของอริยสาวกนั้น ย่อมเป็น #สตินทรีย์ ของเธอนั้น. http://etipitaka.com/read/pali/19/299/?keywords=สตินฺทฺริ --สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธา ปรารภความเพียร มีสติเข้าไปตั้งไว้แล้ว มีจิตตั้งมั่นโดยชอบ แล้ว พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า เขาจักเป็นผู้กระทำแล้วได้ซึ่งโวสสัคคารมณ์ จักได้ซึ่งความตั้งมั่นแห่งจิต กล่าวคือความที่จิตมีอารมณ์เป็นอันเดียว. +--สารีบุตร ! ความตั้งมั่นแห่งจิตเช่นนั้นของอริย สาวกนั้น ย่อมเป็น #สมาธินทรีย์ ของเธอนั้น. http://etipitaka.com/read/pali/19/299/?keywords=สมาธินฺทฺริ --สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธา ปรารภความเพียร มีสติเข้าไปตั้งไว้มีจิตตั้งมั่นโดยชอบ แล้ว พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า เขาจักเป็นผู้รู้ชัดอย่างนี้ว่า “สังสารวัฏฏ์ เป็นสิ่งที่มีที่สุดอันบุคคลรู้ไม่ได้, ที่สุดฝ่ายข้างต้น ย่อมไม่ปรากฏแก่สัตว์ทั้งหลาย ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก กำลังแล่นไป ท่องเที่ยวไป. ความจางคลายดับไปโดยไม่มีเหลือแห่งอวิชชาอันเป็นกองแห่งความมืดนั้นเสียได้ มีอยู่ : นั่นเป็นบทที่สงบ นั่นเป็นบทที่ประณีต กล่าวคือธรรมเป็นที่สงบแห่งสังขารทั้งปวง เป็นที่สลัดคืนซึ่งอุปธิทั้งปวง เป็นที่ สิ้นไปแห่งตัณหา เป็นความจางคลาย เป็นความดับ เป็นนิพพาน”. +--สารีบุตร ! ความรู้ชัดเช่นนั้นของอริยสาวกนั้น ย่อมเป็น #ปัญญินทรีย์ ของเธอนั้น. http://etipitaka.com/read/pali/19/300/?keywords=ปญฺญินฺทฺริ --สารีบุตร ! อริยสาวกนั้นนั่นแหละ ตั้งไว้แล้ว ตั้งไว้แล้ว (ซึ่งวิริยะ) ด้วยอาการอย่างนี้, ระลึกแล้ว ระลึกแล้ว (ด้วยสติ) ด้วยอาการอย่างนี้, ตั้งมั่นแล้ว ตั้งมั่นแล้ว (ด้วยสมาธิ) ด้วยอาการอย่างนี้, รู้ชัดแล้ว รู้ชัดแล้ว (ด้วยปัญญา) ด้วยอาการอย่างนี้, เขาย่อมเชื่ออย่างยิ่ง อย่างนี้ว่า “ธรรมเหล่าใดเป็นธรรมที่เราเคยฟังแล้วในกาลก่อน, ในบัดนี้ เราถูกต้องธรรมเหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ ด้วย และแทงตลอดธรรมเหล่านั้นด้วยปัญญาแล้วเห็นอยู่ ด้วย” ดังนี้. --สารีบุตร ! ความเชื่อเช่นนั้นของอริยสาวกนั้น ย่อมเป็น #สัทธินทรีย์ ของเธอนั้น, http://etipitaka.com/read/pali/19/300/?keywords=สทฺธินฺทฺริ ดังนี้แล. --- มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๙๙–๓๐๐/๑๐๑๗–๑๐๒๒. http://etipitaka.com/read/pali/19/299/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%91%E0%B9%97 (ข้อควรสังเกตอย่างยิ่งในกรณีนี้ คือข้อที่ สัทธินทรีย์ทำกิจของตน เมื่ออินทรีย์ทั้งสี่นอกนั้นทำกิจเสร็จแล้ว. ข้อนี้หมายความว่า สิ่งที่เรียกว่าสัทธาหรือความเชื่อนั้น จะถึงที่สุดก็ต่อเมื่อทำกิจอันบุคคลนั้นจะต้องทำนั้นๆ ประสบผลสำเร็จแล้ว. สัทธาที่เกิดขึ้นเป็นตัวนำในเบื้องต้น ดังที่แสดงอยู่ในหมวดธรรมต่างๆนั้น ยังมิใช่สัทธาที่สมบูรณ์; ทำให้กล่าวได้ว่า สัทธาสมบูรณ์ปรากฏแก่จิตใจต่อเมื่อบรรลุมรรคผลแล้ว คือประกอบอยู่ในญาณที่เห็นความหลุดพ้นของตนแล้ว ) --สัมมัตตะ เป็นธรรมเครื่องสิ้นอาสวะ --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๑๐ ประการเหล่านี้ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะทั้งหลาย. http://etipitaka.com/read/pali/24/254/?keywords=สมฺมา +--สิบประการอย่างไรเล่า ? สิบประการคือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาญาณ สัมมาวิมุตติ. http://etipitaka.com/read/pali/24/255/?keywords=สมฺมาญาณํ+สมฺมาวิมุตฺติ --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๑๐ ประการเหล่านี้ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว ย่อม เป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะทั้งหลาย.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/207/122. http://etipitaka.com/read/thai/24/207/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๒๕๔/๑๒๒. http://etipitaka.com/read/pali/24/254/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%92 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=999 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=86&id=999 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=86 ลำดับสาธยายธรรม : 86 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_86.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - การทำกิจของอินทรีย์ ในขณะบรรลุธรรม
    -(ในพระบาลีสูตรอื่นๆ แสดงลักษณะแห่งสัมมาทิฏฐิ ฯลฯ อันเป็นองค์แห่งอัฏฐังคิกมรรคในกรณีเช่นนี้ แปลกออกไปคือ ราคปริโยสาน : มีการนำออกซึ่งราคะเป็นปริโยสาน, โทสวินยปริโยสาน : มีการนำออกซึ่งโทสะเป็นปริโยสาน, โมหวินยปริโยสาน : มีการนำออกซึ่งโมหะเป็นปริโยสาน (๑๙/๖๙/๒๖๗) ; อมโตคธ : หยั่งลงสู่อมตะ, อมตปรายน : มีเบื้องหน้าเป็นอมตะ, อมตปริโยสาน : มีอมตะเป็นปริโยสาน (๑๙/๖๙/๒๖๙) ; นิพฺพานนินฺน : เอียงไปสู่นิพพาน, นิพฺพานโปณ : โน้มไปสู่นิพพาน, นิพฺพานปพฺภาร : เงื้อมไปสู่นิพพาน (๑๙/๖๙/๒๗๑) ; ดังนี้ก็มี). การทำกิจของอินทรีย์ ในขณะบรรลุธรรม ถูกแล้ว ถูกแล้ว สารีบุตร ! สารีบุตร ! อริยสาวกใด มีความเลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคตถึงที่สุดโดยส่วนเดียว, เขาย่อมไม่สงสัยหรือลังเลในตถาคตหรือคำสอนในตถาคต. สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธาแล้ว พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า เขาจักเป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย. สารีบุตร ! ความเพียรเช่นนั้นของอริยสาวกนั้นย่อมเป็น วิริยินทรีย์ ของเธอนั้น. สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธา เป็นผู้ปรารภความเพียรอยู่แล้ว พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า เขาจักเป็นผู้มีสติ ประกอบพร้อมด้วยสติเป็นเครื่องระวังรักษาตนเป็นอย่างยิ่ง เป็นผู้ระลึกได้ ตามระลึกได้ ซึ่งสิ่งที่ทำและคำที่พูดแม้ นานได้. สารีบุตร ! ความระลึกเช่นนั้นของอริยสาวกนั้น ย่อมเป็น สตินทรีย์ ของเธอนั้น. สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธา ปรารภความเพียร มีสติเข้าไปตั้งไว้แล้ว มีจิตตั้งมั่นโดยชอบ แล้ว พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า เขาจักเป็นผู้กระทำแล้วได้ซึ่ง โวสสัคคารมณ์ จักได้ซึ่งความตั้งมั่นแห่งจิต กล่าวคือความที่จิตมีอารมณ์เป็นอันเดียว. สารีบุตร ! ความตั้งมั่นแห่งจิตเช่นนั้นของอริย สาวกนั้น ย่อมเป็น สมาธินทรีย์ ของเธอนั้น. สารีบุตร ! เมื่ออริยสาวกเป็นผู้มีสัทธา ปรารภความเพียร มีสติเข้าไปตั้งไว้มีจิตตั้งมั่นโดยชอบ แล้ว พึงหวังข้อนี้สืบไปว่า เขาจักเป็นผู้รู้ชัดอย่างนี้ว่า “สังสารวัฏฏ์ เป็นสิ่งที่มีที่สุดอันบุคคลรู้ไม่ได้, ที่สุดฝ่ายข้างต้น ย่อมไม่ปรากฏแก่สัตว์ทั้งหลาย ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก กำลังแล่นไป ท่องเที่ยวไป. ความจางคลายดับไปโดยไม่มีเหลือแห่งอวิชชาอันเป็นกองแห่งความมืดนั้นเสียได้ มีอยู่ : นั่นเป็นบทที่สงบ นั่นเป็นบทที่ประณีต กล่าวคือธรรมเป็นที่สงบแห่งสังขารทั้งปวง เป็นที่สลัดคืนซึ่งอุปธิทั้งปวง เป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา เป็นความจางคลาย เป็นความดับ เป็นนิพพาน”. สารีบุตร ! ความรู้ชัดเช่นนั้นของอริยสาวกนั้น ย่อมเป็น ปัญญินทรีย์ ของเธอนั้น. สารีบุตร ! อริยสาวกนั้นนั่นแหละ ตั้งไว้แล้ว ตั้งไว้แล้ว (ซึ่งวิริยะ) ด้วยอาการอย่างนี้, ระลึกแล้ว ระลึกแล้ว (ด้วยสติ) ด้วยอาการอย่างนี้, ตั้งมั่นแล้ว ตั้งมั่นแล้ว (ด้วยสมาธิ) ด้วยอาการอย่างนี้, รู้ชัดแล้ว รู้ชัดแล้ว (ด้วยปัญญา) ด้วยอาการอย่างนี้, เขาย่อมเชื่ออย่างยิ่ง อย่างนี้ว่า “ธรรมเหล่าใดเป็นธรรมที่เราเคยฟังแล้วในกาลก่อน, ในบัดนี้ เราถูกต้องธรรมเหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ ด้วย และแทงตลอดธรรมเหล่านั้นด้วยปัญญาแล้วเห็นอยู่ ด้วย” ดังนี้. สารีบุตร ! ความเชื่อเช่นนั้นของอริยสาวกนั้น ย่อมเป็น สัทธินทรีย์ ของเธอนั้น, ดังนี้แล. มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๙๙ – ๓๐๐/๑๐๑๗ – ๑๐๒๒. (ข้อควรสังเกตอย่างยิ่งในกรณีนี้ คือข้อที่สัทธินทรีย์ทำกิจของตน เมื่ออินทรีย์ทั้งสี่นอกนั้นทำกิจเสร็จแล้ว. ข้อนี้หมายความว่า สิ่งที่เรียกว่าสัทธาหรือความเชื่อนั้น จะถึงที่สุดก็ต่อเมื่อทำกิจอันบุคคลนั้นจะต้องทำนั้นๆ ประสบผลสำเร็จแล้ว. สัทธาที่เกิดขึ้นเป็นตัวนำในเบื้องต้น ดังที่แสดงอยู่ในหมวดธรรมต่างๆนั้น ยังมิใช่สัทธาที่สมบูรณ์; ทำให้กล่าวได้ว่า สัทธาสมบูรณ์ปรากฏแก่จิตใจต่อเมื่อบรรลุมรรคผลแล้ว คือประกอบอยู่ในญาณที่เห็นความหลุดพ้นของตนแล้ว). สัมมัตตะ เป็นธรรมเครื่องสิ้นอาสวะ ภิกษุ ท. ! ธรรม ๑๐ ประการเหล่านี้ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะทั้งหลาย. สิบประการอย่างไรเล่า ? สิบประการคือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาญาณ สัมมาวิมุตติ. ภิกษุ ท. ! ธรรม ๑๐ ประการเหล่านี้ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว ย่อม เป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะทั้งหลาย.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • ❌️😡⚕️ยาที่ไม่ควรกินคู่กัน
    โดย : นพ.กฤษดา ศิรามพุช

    หากคุณมั่นใจว่าผู้ป่วยเลือดจาง ต้องกินอาหารเสริมในกลุ่มธาตุเหล็กให้มาก "คุณคิดผิด" หมอกฤษดาแจกแจงคู่ยา "มิตร-ศัตรู" ให้เข้าใจกันชัด ๆ

    "Good things come in pair" ดังวลีฝรั่งนี้ที่บอกว่าของทุกอย่างมีคู่แฝดอยู่เสมอ อาจเป็นแฝดเหมือนหรือแฝดต่างก็ได้ ซึ่งก็พ้องกับทางพระที่ว่า กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมา และโลกธรรมแปดที่เล่าถึงคู่แห่งสัจธรรมในโลกนี้ มีสุขแล้วก็มีทุกข์ มีสรรเสริญก็ย่อมมีนินทา มีลาภก็ย่อมมีเสื่อมลาภได้ดังนี้เป็นต้น

    ดังนั้น ในเรื่องของโอสถรักษาโรคก็ย่อมต้องมีคู่แฝดของมัน ที่ต้องมีทั้งแฝดที่ดีและแฝดที่ร้าย คล้ายเทวากับซาตานซึ่งเคยมีกรณีที่ถึงแก่ชีวิตมาแล้ว ซึ่งโดยมากมักเกิดจาก "ความไม่รู้" ในฤทธิ์อันไพศาลของยาแต่ละเม็ดที่กินอยู่ โดยเราจะค่อยมาดูกันไปทีละแฝดครับ

    แฝดที่ดี

    เสมือนคู่บุญ ยิ่งรู้จักกินให้เสริมกันก็จะยิ่งช่วยเสริมสุขภาพ หรือทำการรักษาโรคให้ท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น และที่จริงก็ควรกินคู่กันเสียด้วย เพราะเรื่องของยาอาหารเสริมนี้มีหลักคือทำงานร่วมกัน โดยกลุ่มที่ควรกินร่วมกันช่วยเสริมให้ดีมีดังต่อไปนี้ครับ

    1) วิตามินซีกับคอลลาเจน จะช่วยกันสร้างเนื้อเยื่อใหม่ให้ใสปิ๊งปั๊งไม่เหี่ยวหย่อนย้อย

    2) ธาตุเหล็กกับวิตามินซี กินธาตุเหล็กให้ดีดูดซึมเข้าไปใช้ได้ ไม่ใช่กินเข้าไปอย่างไรถ่ายออกมาหน้าตาเหมือนเดิมนั้น ต้องกินคู่กันอย่างเช่น ถ้าจะกินเลือดหมูให้ได้ธาตุเหล็กก็ควรกินกับผักที่มีวิตามินซีสูงเช่นใบตำลึงก็จะดีไม่น้อยครับ

    3) แคลเซียมกับแมกนีเซียม แคลเซียมจะดูดซึมได้ดีต้องมี “ตัวช่วย” พามันเข้าไปได้แก่แมกนีเซียม, วิตามินดีและวิตามินเคด้วยซึ่งอยู่ในแสงแดดและผักเขียวจัดตามลำดับ

    4) วิตามินเอ,ซีและอี พยายามกินไปด้วยกันเป็นดี หรือสูตรที่ดีคือกินซีเพียงตัวเดียวส่วนเอกับอีนั้นกินเอาจากผักคะน้าและถั่วลิสงสักวันละกำมือ

    5) น้ำมันปลา (ไม่ใช่น้ำมันตับปลา) ขอให้เลือกชนิดที่มี ดีเอชเอคู่กับกับอีพีเอ ยิ่งมากหน่อยยิ่งดีอย่างน้อยกินให้ได้ค่า ดีเอชเอ+อีพีเอ = 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน โดยมีเคล็ดไว้ว่าถ้าอยากบำรุงสมองต้องเลือกชนิดที่มีดีเอชเอเด่น แต่ถ้าจะให้บำรุงส่วนอื่นเป็นหลัก เช่นข้ออักเสบให้เลือกชนิดที่มีอีพีเอสูงด้วยครับ

    แฝดที่ร้าย

    แฝดตัวนี้ถือเป็นระดับ “ตัวแม่” ที่น่ากลัวกว่าเยอะมากครับ เพราะอาจทำให้เกิดเลือดออกในสมองจนเป็นอัมพาต หรือหัวใจวายแน่นิ่งไปได้ จึงอยากชวนให้ท่านที่รัก มาสนใจในยาที่ไม่ควรกินร่วมกันสักนิดดังนี้ครับ

    1) น้ำมันปลากับแอสไพริน คู่ร้ายอันดับแรก โดยน้ำมันปลานี้มีฤทธิ์ช่วยให้เลือดใสไม่หนืดเหนียว ส่วนแอสไพรินก็มีฤทธิ์เดียวกันคือ ช่วยให้ไม่เกิดลิ่มเลือดจับแข็งเป็นก้อนตัน เมื่อกินคู่กันเลยกลายเป็นคู่สังหารพาลให้เลือดไหลพรวดพราดไม่หยุด แม้การกรอฟันเพียงนิดก็อาจทำให้เลือดออกได้ ราวกับผ่าตัดใหญ่แล้วครับ

    2) วิตามินอีและอีฟนิ่งพริมโรส มีคนไข้ที่อยากผิวสวยมาหาพร้อมบอกว่ามีคนแนะให้กินวิตามินอี แต่บ้างก็ให้เลือกเป็นอีฟนิ่งพริมโรสแทนจะเลือกอย่างไรดี จึงได้บอกไปให้เลือกอย่างหนึ่งก็พอ เพราะล้วนแต่มีวิตามินอีทั้งนั้น ซึ่งถ้าได้มากไปอาจทำให้เกิดหัวใจพิบัติแทน

    3) แคลเซียมเสริมกับแคลเซียมสด ถ้าท่านกินงาดำได้วันละ 4 ช้อนโต๊ะ หรือเต้าหู้ขาวแข็งวันละ 3 ขีดก็จะได้แคลเซียมราว 1,000 มิลลิกรัมอยู่แล้ว ซึ่งถ้าไปหาแคลเซียมเม็ดมากินเติมอีก จะทำให้แคลเซียมเกินและไปจับกับหลอดเลือดทำให้ตีบแข็งได้

    4) กาแฟกับแคลเซียม ขอให้เลี่ยงกินแคลเซียมร่วมกับกาแฟ เพราะกาแฟจะไปยับยั้งการดูดซึมแคลเซียม นอกจากนั้นยังไปดึงแคลเซียมออกจากกระดูกอีกด้วย

    5) ธาตุเหล็กกับเลือดจางธาลัสซีเมีย เป็นไม้เบื่อไม้เมากันทีเดียว ขอให้ลืมความเชื่อที่ว่าถ้าเลือดจางต้องกินธาตุเหล็ก ไม่เสมอไปครับ หากท่านเป็นเลือดจางชนิดธาลัสซีเมียแล้วไปกินธาตุเหล็กเสริม จะเท่ากับเติมยาพิษให้กับหัวใจและตับตัวเองครับ

    ทั้งแฝดดีแฝดร้ายนี้ที่จริงมีอีกมาก ซึ่งผมได้เคยเขียนไว้ในหนังสือแล้วและก็ตั้งใจจะเขียนไว้เรื่อย ๆ เป็นตอนต่อไปในคอลัมน์นี้ แต่สำหรับที่เลือกมาให้เห็นนั้นเป็นตัวอย่างที่พบบ่อยหน่อยครับ และท่านจำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที

    เมื่อถึงตอนนี้ขอให้ท่านหยิบยาออกมาสังคายนาแยกวางเป็นชนิดไปบนโต๊ะ แล้วจัดเป็นกลุ่มไว้ว่ากลุ่มใดรักษาโรคไหน แล้วบางทีจะเกิดพุทธิปัญญาทีเดียวว่า กินยามากเกินความจำเป็นไปเพียงใด แต่นั่นก็ยังไม่ร้ายเท่ากินยาที่ดันไปเสริมฤทธิ์กันให้เป็นพิษเข้าไปเสียอีก

    ดังนั้น ท่านจะเห็นว่าการกินยานั้นมีข้อหยุมหยิมอยู่มาก เมื่อเทียบกับกินอาหารธรรมชาติที่โอกาสเกิดการผสมกันเป็นพิษน้อย เพราะมีส่วนประกอบสำคัญอยู่ในปริมาณที่ไม่เข้มข้นมากเท่ายาเคมี แต่อย่างไรก็ดีคงต้องยึดหลักที่ว่าหูไวตาไวถ้ารู้สึกว่า "ไม่ใช่" แล้วก็ให้รีบเร่งบอกอย่าปล่อยให้เลยตามเลยไว้นานเลยครับ
    ❌️😡⚕️ยาที่ไม่ควรกินคู่กัน โดย : นพ.กฤษดา ศิรามพุช หากคุณมั่นใจว่าผู้ป่วยเลือดจาง ต้องกินอาหารเสริมในกลุ่มธาตุเหล็กให้มาก "คุณคิดผิด" หมอกฤษดาแจกแจงคู่ยา "มิตร-ศัตรู" ให้เข้าใจกันชัด ๆ "Good things come in pair" ดังวลีฝรั่งนี้ที่บอกว่าของทุกอย่างมีคู่แฝดอยู่เสมอ อาจเป็นแฝดเหมือนหรือแฝดต่างก็ได้ ซึ่งก็พ้องกับทางพระที่ว่า กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมา และโลกธรรมแปดที่เล่าถึงคู่แห่งสัจธรรมในโลกนี้ มีสุขแล้วก็มีทุกข์ มีสรรเสริญก็ย่อมมีนินทา มีลาภก็ย่อมมีเสื่อมลาภได้ดังนี้เป็นต้น ดังนั้น ในเรื่องของโอสถรักษาโรคก็ย่อมต้องมีคู่แฝดของมัน ที่ต้องมีทั้งแฝดที่ดีและแฝดที่ร้าย คล้ายเทวากับซาตานซึ่งเคยมีกรณีที่ถึงแก่ชีวิตมาแล้ว ซึ่งโดยมากมักเกิดจาก "ความไม่รู้" ในฤทธิ์อันไพศาลของยาแต่ละเม็ดที่กินอยู่ โดยเราจะค่อยมาดูกันไปทีละแฝดครับ แฝดที่ดี เสมือนคู่บุญ ยิ่งรู้จักกินให้เสริมกันก็จะยิ่งช่วยเสริมสุขภาพ หรือทำการรักษาโรคให้ท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น และที่จริงก็ควรกินคู่กันเสียด้วย เพราะเรื่องของยาอาหารเสริมนี้มีหลักคือทำงานร่วมกัน โดยกลุ่มที่ควรกินร่วมกันช่วยเสริมให้ดีมีดังต่อไปนี้ครับ 1) วิตามินซีกับคอลลาเจน จะช่วยกันสร้างเนื้อเยื่อใหม่ให้ใสปิ๊งปั๊งไม่เหี่ยวหย่อนย้อย 2) ธาตุเหล็กกับวิตามินซี กินธาตุเหล็กให้ดีดูดซึมเข้าไปใช้ได้ ไม่ใช่กินเข้าไปอย่างไรถ่ายออกมาหน้าตาเหมือนเดิมนั้น ต้องกินคู่กันอย่างเช่น ถ้าจะกินเลือดหมูให้ได้ธาตุเหล็กก็ควรกินกับผักที่มีวิตามินซีสูงเช่นใบตำลึงก็จะดีไม่น้อยครับ 3) แคลเซียมกับแมกนีเซียม แคลเซียมจะดูดซึมได้ดีต้องมี “ตัวช่วย” พามันเข้าไปได้แก่แมกนีเซียม, วิตามินดีและวิตามินเคด้วยซึ่งอยู่ในแสงแดดและผักเขียวจัดตามลำดับ 4) วิตามินเอ,ซีและอี พยายามกินไปด้วยกันเป็นดี หรือสูตรที่ดีคือกินซีเพียงตัวเดียวส่วนเอกับอีนั้นกินเอาจากผักคะน้าและถั่วลิสงสักวันละกำมือ 5) น้ำมันปลา (ไม่ใช่น้ำมันตับปลา) ขอให้เลือกชนิดที่มี ดีเอชเอคู่กับกับอีพีเอ ยิ่งมากหน่อยยิ่งดีอย่างน้อยกินให้ได้ค่า ดีเอชเอ+อีพีเอ = 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน โดยมีเคล็ดไว้ว่าถ้าอยากบำรุงสมองต้องเลือกชนิดที่มีดีเอชเอเด่น แต่ถ้าจะให้บำรุงส่วนอื่นเป็นหลัก เช่นข้ออักเสบให้เลือกชนิดที่มีอีพีเอสูงด้วยครับ แฝดที่ร้าย แฝดตัวนี้ถือเป็นระดับ “ตัวแม่” ที่น่ากลัวกว่าเยอะมากครับ เพราะอาจทำให้เกิดเลือดออกในสมองจนเป็นอัมพาต หรือหัวใจวายแน่นิ่งไปได้ จึงอยากชวนให้ท่านที่รัก มาสนใจในยาที่ไม่ควรกินร่วมกันสักนิดดังนี้ครับ 1) น้ำมันปลากับแอสไพริน คู่ร้ายอันดับแรก โดยน้ำมันปลานี้มีฤทธิ์ช่วยให้เลือดใสไม่หนืดเหนียว ส่วนแอสไพรินก็มีฤทธิ์เดียวกันคือ ช่วยให้ไม่เกิดลิ่มเลือดจับแข็งเป็นก้อนตัน เมื่อกินคู่กันเลยกลายเป็นคู่สังหารพาลให้เลือดไหลพรวดพราดไม่หยุด แม้การกรอฟันเพียงนิดก็อาจทำให้เลือดออกได้ ราวกับผ่าตัดใหญ่แล้วครับ 2) วิตามินอีและอีฟนิ่งพริมโรส มีคนไข้ที่อยากผิวสวยมาหาพร้อมบอกว่ามีคนแนะให้กินวิตามินอี แต่บ้างก็ให้เลือกเป็นอีฟนิ่งพริมโรสแทนจะเลือกอย่างไรดี จึงได้บอกไปให้เลือกอย่างหนึ่งก็พอ เพราะล้วนแต่มีวิตามินอีทั้งนั้น ซึ่งถ้าได้มากไปอาจทำให้เกิดหัวใจพิบัติแทน 3) แคลเซียมเสริมกับแคลเซียมสด ถ้าท่านกินงาดำได้วันละ 4 ช้อนโต๊ะ หรือเต้าหู้ขาวแข็งวันละ 3 ขีดก็จะได้แคลเซียมราว 1,000 มิลลิกรัมอยู่แล้ว ซึ่งถ้าไปหาแคลเซียมเม็ดมากินเติมอีก จะทำให้แคลเซียมเกินและไปจับกับหลอดเลือดทำให้ตีบแข็งได้ 4) กาแฟกับแคลเซียม ขอให้เลี่ยงกินแคลเซียมร่วมกับกาแฟ เพราะกาแฟจะไปยับยั้งการดูดซึมแคลเซียม นอกจากนั้นยังไปดึงแคลเซียมออกจากกระดูกอีกด้วย 5) ธาตุเหล็กกับเลือดจางธาลัสซีเมีย เป็นไม้เบื่อไม้เมากันทีเดียว ขอให้ลืมความเชื่อที่ว่าถ้าเลือดจางต้องกินธาตุเหล็ก ไม่เสมอไปครับ หากท่านเป็นเลือดจางชนิดธาลัสซีเมียแล้วไปกินธาตุเหล็กเสริม จะเท่ากับเติมยาพิษให้กับหัวใจและตับตัวเองครับ ทั้งแฝดดีแฝดร้ายนี้ที่จริงมีอีกมาก ซึ่งผมได้เคยเขียนไว้ในหนังสือแล้วและก็ตั้งใจจะเขียนไว้เรื่อย ๆ เป็นตอนต่อไปในคอลัมน์นี้ แต่สำหรับที่เลือกมาให้เห็นนั้นเป็นตัวอย่างที่พบบ่อยหน่อยครับ และท่านจำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที เมื่อถึงตอนนี้ขอให้ท่านหยิบยาออกมาสังคายนาแยกวางเป็นชนิดไปบนโต๊ะ แล้วจัดเป็นกลุ่มไว้ว่ากลุ่มใดรักษาโรคไหน แล้วบางทีจะเกิดพุทธิปัญญาทีเดียวว่า กินยามากเกินความจำเป็นไปเพียงใด แต่นั่นก็ยังไม่ร้ายเท่ากินยาที่ดันไปเสริมฤทธิ์กันให้เป็นพิษเข้าไปเสียอีก ดังนั้น ท่านจะเห็นว่าการกินยานั้นมีข้อหยุมหยิมอยู่มาก เมื่อเทียบกับกินอาหารธรรมชาติที่โอกาสเกิดการผสมกันเป็นพิษน้อย เพราะมีส่วนประกอบสำคัญอยู่ในปริมาณที่ไม่เข้มข้นมากเท่ายาเคมี แต่อย่างไรก็ดีคงต้องยึดหลักที่ว่าหูไวตาไวถ้ารู้สึกว่า "ไม่ใช่" แล้วก็ให้รีบเร่งบอกอย่าปล่อยให้เลยตามเลยไว้นานเลยครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • ควันหลงจากงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่ประเทศจีน สืบเนื่องจาก ‘เงื่อนจีน’ หรือที่เรียกว่า ‘จงกั๋วเจี๋ย’ (中国结) ถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของงาน แม้แต่พิธีปิดยังมีให้เห็น เพื่อนเพจหลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างอยู่แล้ว วันนี้เรามาคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับเงื่อนจีน

    คำว่าเงื่อนหรือ ‘เจี๋ย’ นั้น ในความหมายจีนแปลได้อีกว่าความผูกพันหรือความเชื่อมโยงหรือความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน จึงเป็นที่มาของการถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของงานโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ภายใต้คำขวัญ “ก้าวสู่อนาคตไปด้วยกัน”

    เงื่อนจีนถูกค้นพบขึ้นเมื่อใดไม่ชัดเจน ทราบแต่ว่ามนุษย์เรารู้จักการผูกเงื่อนมาตั้งแต่สมัยยุคหิน ในสมัยดึกดำบรรพ์ใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องมือล่าสัตว์หรือเครื่องมือช่วยดำรงชีพอื่นๆ และลวดลายและวิธีผูกเงื่อนพัฒนามาเรื่อยๆ หลังจากนั้น ในยุคสมัยชุนชิว เงื่อนจีนถูกนำมาใช้อย่างหลากหลาย เช่นเป็นกระดุม ใช้ผูกพวงเหรียญไว้พกพา และถูกนำมาใช้ในการสื่อสารหรือจดจำเหตุการณ์ ในบันทึกเกี่ยวกับราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) มีการกล่าวถึงหลักการจารึกเหตุการณ์ต่างๆ ไว้ว่า ‘เหตุการณ์ใหญ่ ใช้เงื่อนใหญ่ เรื่องเล็ก ใช้เงื่อนเล็ก’ และมีการใช้ลายเงื่อนที่แตกต่างกันสำหรับหมวดหมู่ที่แตกต่างของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    เงื่อนจีนถูกยกระดับเป็นศิลปะอย่างหนึ่งและแพร่หลายเป็นอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ถังและซ่ง มีการนำมาใช้เป็นสร้อยหรืออุบะสำหรับเครื่องประดับหลายชนิดเช่นป้ายหยก พัด ขลุ่ย กระบี่ ถุงหอม ฯลฯ และในยุคสมัยราชวงศ์หมิงและชิงก็ยิ่งพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นในเรื่องของความหลากหลายของลวดลายและความวิจิตร มีการตั้งชื่อและคิดค้นลายใหม่ๆ ขึ้นมากมาย รวมถึงการนำมาใช้ประดับบ้านเรือน

    เงื่อนจีนแตกต่างจากเงื่อนในวัฒนธรรมฟากตะวันตกอย่างไร? เอกลักษณ์ของเงื่อนจีนคือผูกขึ้นด้วยเชือกเส้นเดียวเท่านั้น เป็นการผูกสองชั้นดังนั้นลายหน้าหลังจะเหมือนกัน Storyฯ อ่านเจอว่าเงื่อนจีนที่วางขายในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้เชือกยาวมาตรฐานประมาณหนึ่งเมตร

    ลายเงื่อนจีนมีใช้เป็นสัญลักษณ์ในหลายกรณี เช่นเพื่อเป็นของมงคล หรือปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความผูกพัน ชื่อเรียกก็มีหลากหลาย โดยลายที่เราเห็นในงานโอลิมปิกฤดูหนาวปีนี้ (ดูภาพประกอบ) มีชื่อเรียกว่า ‘เงื่อนมงคล’ (จี๋เสียงเจี๋ย/吉祥结) ว่ากันว่าลายพื้นฐานนี้เป็นหนึ่งในลายที่เก่าแก่ที่สุดของเงื่อนจีน พัฒนาขึ้นมาในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุข โชคลาภ รวมถึงช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

    (หมายเหตุ เพื่อนเพจที่สนใจชนิดของเงื่อนต่างๆ ดูได้ที่นี่ค่ะ https://tcm.dtam.moph.go.th/images/files/kch002.pdf)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.fudan.edu.cn/en/2022/0208/c1092a130100/page.htm
    https://www.chinadaily.com.cn/a/202202/21/WS62134c14a310cdd39bc87f6d_5.html
    https://kknews.cc/culture/25y4r.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://kknews.cc/culture/yjgakzn.html
    https://baike.baidu.com/item/中国结/187053
    https://www.aizsg.com/post/9365.html

    #สัญลักษณ์โอลิมปิก2022 #เงื่อนจีน #ผูกเชือกจีน #จงกั๋วเจี๋ย #จี๋เสียงเจี๋ยน
    ควันหลงจากงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่ประเทศจีน สืบเนื่องจาก ‘เงื่อนจีน’ หรือที่เรียกว่า ‘จงกั๋วเจี๋ย’ (中国结) ถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของงาน แม้แต่พิธีปิดยังมีให้เห็น เพื่อนเพจหลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างอยู่แล้ว วันนี้เรามาคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับเงื่อนจีน คำว่าเงื่อนหรือ ‘เจี๋ย’ นั้น ในความหมายจีนแปลได้อีกว่าความผูกพันหรือความเชื่อมโยงหรือความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน จึงเป็นที่มาของการถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของงานโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ภายใต้คำขวัญ “ก้าวสู่อนาคตไปด้วยกัน” เงื่อนจีนถูกค้นพบขึ้นเมื่อใดไม่ชัดเจน ทราบแต่ว่ามนุษย์เรารู้จักการผูกเงื่อนมาตั้งแต่สมัยยุคหิน ในสมัยดึกดำบรรพ์ใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องมือล่าสัตว์หรือเครื่องมือช่วยดำรงชีพอื่นๆ และลวดลายและวิธีผูกเงื่อนพัฒนามาเรื่อยๆ หลังจากนั้น ในยุคสมัยชุนชิว เงื่อนจีนถูกนำมาใช้อย่างหลากหลาย เช่นเป็นกระดุม ใช้ผูกพวงเหรียญไว้พกพา และถูกนำมาใช้ในการสื่อสารหรือจดจำเหตุการณ์ ในบันทึกเกี่ยวกับราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) มีการกล่าวถึงหลักการจารึกเหตุการณ์ต่างๆ ไว้ว่า ‘เหตุการณ์ใหญ่ ใช้เงื่อนใหญ่ เรื่องเล็ก ใช้เงื่อนเล็ก’ และมีการใช้ลายเงื่อนที่แตกต่างกันสำหรับหมวดหมู่ที่แตกต่างของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เงื่อนจีนถูกยกระดับเป็นศิลปะอย่างหนึ่งและแพร่หลายเป็นอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ถังและซ่ง มีการนำมาใช้เป็นสร้อยหรืออุบะสำหรับเครื่องประดับหลายชนิดเช่นป้ายหยก พัด ขลุ่ย กระบี่ ถุงหอม ฯลฯ และในยุคสมัยราชวงศ์หมิงและชิงก็ยิ่งพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นในเรื่องของความหลากหลายของลวดลายและความวิจิตร มีการตั้งชื่อและคิดค้นลายใหม่ๆ ขึ้นมากมาย รวมถึงการนำมาใช้ประดับบ้านเรือน เงื่อนจีนแตกต่างจากเงื่อนในวัฒนธรรมฟากตะวันตกอย่างไร? เอกลักษณ์ของเงื่อนจีนคือผูกขึ้นด้วยเชือกเส้นเดียวเท่านั้น เป็นการผูกสองชั้นดังนั้นลายหน้าหลังจะเหมือนกัน Storyฯ อ่านเจอว่าเงื่อนจีนที่วางขายในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้เชือกยาวมาตรฐานประมาณหนึ่งเมตร ลายเงื่อนจีนมีใช้เป็นสัญลักษณ์ในหลายกรณี เช่นเพื่อเป็นของมงคล หรือปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความผูกพัน ชื่อเรียกก็มีหลากหลาย โดยลายที่เราเห็นในงานโอลิมปิกฤดูหนาวปีนี้ (ดูภาพประกอบ) มีชื่อเรียกว่า ‘เงื่อนมงคล’ (จี๋เสียงเจี๋ย/吉祥结) ว่ากันว่าลายพื้นฐานนี้เป็นหนึ่งในลายที่เก่าแก่ที่สุดของเงื่อนจีน พัฒนาขึ้นมาในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุข โชคลาภ รวมถึงช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย (หมายเหตุ เพื่อนเพจที่สนใจชนิดของเงื่อนต่างๆ ดูได้ที่นี่ค่ะ https://tcm.dtam.moph.go.th/images/files/kch002.pdf) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.fudan.edu.cn/en/2022/0208/c1092a130100/page.htm https://www.chinadaily.com.cn/a/202202/21/WS62134c14a310cdd39bc87f6d_5.html https://kknews.cc/culture/25y4r.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://kknews.cc/culture/yjgakzn.html https://baike.baidu.com/item/中国结/187053 https://www.aizsg.com/post/9365.html #สัญลักษณ์โอลิมปิก2022 #เงื่อนจีน #ผูกเชือกจีน #จงกั๋วเจี๋ย #จี๋เสียงเจี๋ยน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 370 มุมมอง 0 รีวิว
  • Bitcoin ทำสถิติใหม่ ทะลุระดับสูงสุดเดิมจากเดือนมกราคม

    Bitcoin พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $109,481.83 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเป็นการฟื้นตัวหลังจากการเทขายครั้งใหญ่เมื่อเดือนที่แล้วที่เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากร

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของ Bitcoin
    ✅ Bitcoin ทำสถิติใหม่ แซงระดับสูงสุดเดิมจากเดือนมกราคม
    - เพิ่มขึ้น 2% ในวันเดียว

    ✅ นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นหลังจากตลาดฟื้นตัวจากการเทขายครั้งใหญ่
    - การปรับขึ้นของ Bitcoin สะท้อนถึงแนวโน้มบวกในตลาดคริปโต

    ✅ ตลาดคริปโตโดยรวมมีแนวโน้มเป็นบวก โดย Ethereum และ Solana ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน
    - Ethereum แตะระดับ $4,200 และ Solana เพิ่มขึ้น 3%

    ✅ นักวิเคราะห์คาดว่า Bitcoin อาจแตะระดับ $120,000 ภายในสิ้นปีนี้
    - ปัจจัยที่สนับสนุนคือ การลดลงของอัตราดอกเบี้ยและการยอมรับคริปโตที่เพิ่มขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/bitcoin-rises-to-new-record-high-eclipses-january-top
    Bitcoin ทำสถิติใหม่ ทะลุระดับสูงสุดเดิมจากเดือนมกราคม Bitcoin พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $109,481.83 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเป็นการฟื้นตัวหลังจากการเทขายครั้งใหญ่เมื่อเดือนที่แล้วที่เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากร 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของ Bitcoin ✅ Bitcoin ทำสถิติใหม่ แซงระดับสูงสุดเดิมจากเดือนมกราคม - เพิ่มขึ้น 2% ในวันเดียว ✅ นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นหลังจากตลาดฟื้นตัวจากการเทขายครั้งใหญ่ - การปรับขึ้นของ Bitcoin สะท้อนถึงแนวโน้มบวกในตลาดคริปโต ✅ ตลาดคริปโตโดยรวมมีแนวโน้มเป็นบวก โดย Ethereum และ Solana ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน - Ethereum แตะระดับ $4,200 และ Solana เพิ่มขึ้น 3% ✅ นักวิเคราะห์คาดว่า Bitcoin อาจแตะระดับ $120,000 ภายในสิ้นปีนี้ - ปัจจัยที่สนับสนุนคือ การลดลงของอัตราดอกเบี้ยและการยอมรับคริปโตที่เพิ่มขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/bitcoin-rises-to-new-record-high-eclipses-january-top
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bitcoin rises to new record high, eclipses January top
    LONDON (Reuters) -The price of Bitcoin rose to its highest level on record on Wednesday, eclipsing the previous high from January, as risk sentiment continues to improve after last month's tariff-induced sell-off.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาธิ…ไม่ใช่แค่พักใจ แต่คือก้าวแรกของการหลุดพ้น

    หลายคนอยากมีสมาธิ
    แต่ไม่รู้เลยว่า “สมาธิที่ใช่”
    จะพาให้ชีวิตเปลี่ยนจากโลกที่ผูกพัน
    ไปสู่โลกที่ใจเบาสบายไร้พันธนาการ

    ---

    คนทั่วไป…มีแต่จิตฟุ้งซ่าน

    เราถูกสอนให้ใช้สมองคิด
    แต่ไม่เคยถูกสอนให้รู้ว่า “สมองที่คิดเรื่อยเปื่อย”
    ก็คือ จิตฟุ้งซ่าน รูปแบบหนึ่ง

    คนจำนวนมาก
    เข้าใจว่าการมีชีวิตคือการไขว่คว้า
    จิตจึงไม่รู้จักนิ่ง ไม่รู้จักหยุด
    วิ่งตาม “ความอยาก” โดยไม่มีวันถึงฝั่ง

    ---

    แต่ถ้าจิตรวมเป็นสมาธิเมื่อใด…โลกใหม่จะเปิดออกทันที

    สมาธิที่แท้ คือจิตที่นิ่ง เด่น ดวงเดียว
    ตั้งมั่นพอจนไม่ไหลตามความอยาก
    ไม่ฟุ้งตามความกลัว
    ไม่เหวี่ยงไปตามเรื่องเล่าในหัว

    สมาธิไม่ใช่การ “คิดให้น้อยลง”
    แต่คือการ “คิดแบบมีทิศทาง”
    คือคิดแบบเห็นโลกตามที่มันเป็น
    ไม่ใช่แบบที่เราอยากให้มันเป็น

    ---

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในมหาจัตตารีสกสูตรว่า

    สมาธิที่เป็นสัมมาสมาธิ
    ต้องมี สัมมาทิฏฐิ เป็นประธาน
    ไม่ใช่สมาธิแบบคิดจะใช้จิตไปทำร้ายใคร
    หรือสมาธิเพื่อขอพลังพิเศษเอาชนะคนอื่น

    ---

    สัมมาทิฏฐิ คือหัวใจของการปฏิบัติธรรม

    ถ้าคุณนั่งสมาธิ แล้วใจยังเชื่อว่า

    ทำดีไม่มีผล

    ตายแล้วสูญ

    กรรมไม่มีผล

    พระพุทธเจ้าไม่มีจริง

    โลกหน้าคือเรื่องหลอกเด็ก

    สมาธิของคุณจะเหมือนปลูกต้นไม้ในดินเค็ม
    ไม่มีวันเติบโตไปถึงนิพพานได้

    ---

    แต่ถ้าคุณนั่งสมาธิแล้วเห็นว่า...

    โลกนี้มีผลแห่งกรรมจริง

    สิ่งที่เกิดล้วนเป็นผลของเหตุ

    กายใจนี้ไม่ใช่ของเราจริง

    ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

    และแม้ความคิดในหัว…ก็แค่แวบหนึ่งของกระแสธรรมดา

    คุณจะเริ่มเข้าใจว่า “ภพ” ไม่ได้อยู่ที่ไหน
    ภพอยู่ตรงที่คุณยึดติดกับกายนี้ ใจนี้ ความคิดนี้ว่าเป็น “ตัวเรา”

    ---

    สมาธิที่แท้…จึงไม่ใช่แค่หลบความเครียด

    แต่คือการค่อยๆ

    ถอดออกจากอุปาทาน

    ปลดจากพันธนาการของความเชื่อผิด

    ปลุกตนให้ตื่นจากภวังค์ของความเป็นตัวตน

    เมื่อสมาธิมาพร้อมสัมมาทิฏฐิ
    แม้กระทั่งความคิดที่ผ่านสมอง
    ก็จะกลายเป็นแค่ “ภาพมายา” ที่มาแล้วไป
    ไม่ใช่คำสั่งสุดท้ายของชีวิตอีกต่อไป

    ---

    ชาตินี้…กายใจนี้ อาจกลายเป็นกุญแจปลดล็อกทุกภพชาติ

    สมาธิแบบนี้
    คือสมาธิที่พระพุทธเจ้ารับรอง
    ว่าเป็นทางเข้าสู่มรรคผลนิพพานได้จริง

    ไม่ใช่สมาธิที่มีไว้แค่พักใจ
    แต่คือ “ลูกไฟที่เผาผลาญกิเลส”
    พร้อมเปิดทางให้คุณเป็นอิสระจากทุกภพทุกชาติ
    สมาธิ…ไม่ใช่แค่พักใจ แต่คือก้าวแรกของการหลุดพ้น หลายคนอยากมีสมาธิ แต่ไม่รู้เลยว่า “สมาธิที่ใช่” จะพาให้ชีวิตเปลี่ยนจากโลกที่ผูกพัน ไปสู่โลกที่ใจเบาสบายไร้พันธนาการ --- คนทั่วไป…มีแต่จิตฟุ้งซ่าน เราถูกสอนให้ใช้สมองคิด แต่ไม่เคยถูกสอนให้รู้ว่า “สมองที่คิดเรื่อยเปื่อย” ก็คือ จิตฟุ้งซ่าน รูปแบบหนึ่ง คนจำนวนมาก เข้าใจว่าการมีชีวิตคือการไขว่คว้า จิตจึงไม่รู้จักนิ่ง ไม่รู้จักหยุด วิ่งตาม “ความอยาก” โดยไม่มีวันถึงฝั่ง --- แต่ถ้าจิตรวมเป็นสมาธิเมื่อใด…โลกใหม่จะเปิดออกทันที สมาธิที่แท้ คือจิตที่นิ่ง เด่น ดวงเดียว ตั้งมั่นพอจนไม่ไหลตามความอยาก ไม่ฟุ้งตามความกลัว ไม่เหวี่ยงไปตามเรื่องเล่าในหัว สมาธิไม่ใช่การ “คิดให้น้อยลง” แต่คือการ “คิดแบบมีทิศทาง” คือคิดแบบเห็นโลกตามที่มันเป็น ไม่ใช่แบบที่เราอยากให้มันเป็น --- พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในมหาจัตตารีสกสูตรว่า สมาธิที่เป็นสัมมาสมาธิ ต้องมี สัมมาทิฏฐิ เป็นประธาน ไม่ใช่สมาธิแบบคิดจะใช้จิตไปทำร้ายใคร หรือสมาธิเพื่อขอพลังพิเศษเอาชนะคนอื่น --- สัมมาทิฏฐิ คือหัวใจของการปฏิบัติธรรม ถ้าคุณนั่งสมาธิ แล้วใจยังเชื่อว่า ทำดีไม่มีผล ตายแล้วสูญ กรรมไม่มีผล พระพุทธเจ้าไม่มีจริง โลกหน้าคือเรื่องหลอกเด็ก สมาธิของคุณจะเหมือนปลูกต้นไม้ในดินเค็ม ไม่มีวันเติบโตไปถึงนิพพานได้ --- แต่ถ้าคุณนั่งสมาธิแล้วเห็นว่า... โลกนี้มีผลแห่งกรรมจริง สิ่งที่เกิดล้วนเป็นผลของเหตุ กายใจนี้ไม่ใช่ของเราจริง ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และแม้ความคิดในหัว…ก็แค่แวบหนึ่งของกระแสธรรมดา คุณจะเริ่มเข้าใจว่า “ภพ” ไม่ได้อยู่ที่ไหน ภพอยู่ตรงที่คุณยึดติดกับกายนี้ ใจนี้ ความคิดนี้ว่าเป็น “ตัวเรา” --- สมาธิที่แท้…จึงไม่ใช่แค่หลบความเครียด แต่คือการค่อยๆ ถอดออกจากอุปาทาน ปลดจากพันธนาการของความเชื่อผิด ปลุกตนให้ตื่นจากภวังค์ของความเป็นตัวตน เมื่อสมาธิมาพร้อมสัมมาทิฏฐิ แม้กระทั่งความคิดที่ผ่านสมอง ก็จะกลายเป็นแค่ “ภาพมายา” ที่มาแล้วไป ไม่ใช่คำสั่งสุดท้ายของชีวิตอีกต่อไป --- ชาตินี้…กายใจนี้ อาจกลายเป็นกุญแจปลดล็อกทุกภพชาติ สมาธิแบบนี้ คือสมาธิที่พระพุทธเจ้ารับรอง ว่าเป็นทางเข้าสู่มรรคผลนิพพานได้จริง ไม่ใช่สมาธิที่มีไว้แค่พักใจ แต่คือ “ลูกไฟที่เผาผลาญกิเลส” พร้อมเปิดทางให้คุณเป็นอิสระจากทุกภพทุกชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงเงื่อนจีนหรือ ‘จงกั๋วเจี๋ย’ ซึ่งคำว่าเงื่อนหรือ ‘เจี๋ย’ นั้น ในความหมายจีนแปลได้อีกว่าความผูกพันหรือความเชื่อมโยงหรือความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน และถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของงานโอลิมปิกฤดูหนาว 2022

    เพื่อนเพจแฟนละครหรือนิยายจีนต้องเคยได้ยินคำว่า ‘เจี๋ย’ นี้ถูกนำมาใช้สื่อความหมายเกี่ยวกับความรักรวมถึงเงื่อนจีนที่ถูกใช้เป็นตัวแทนแห่งความรัก วันนี้เรามาคุยกันถึงวลีจีนเกี่ยวกับ ‘เจี๋ย’ และความหมายของมัน

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ตราบแต่นี้ไป ข้าก็เป็นภรรยาผูกปมผมของท่านแล้ว สองเราจะไม่ทอดทิ้งกัน ติดตามกันไปตราบจนชีวิตจะหาไม่” เล่อเยียนยิ้มกล่าว...
    - ถอดบทสนทนาจากละคร <สตรีหาญฉางเกอ> (Storyฯ แปลเองจ้า)

    คำแปลข้างบนอาจฟังดูงง คำว่า ‘ผูกปมผม’ (เจี๋ยฟ่า / 结发) หมายถึงอะไร? ในเรื่อง <สตรีหาญฉางเกอ> มีฉากที่ฮ่าวตู (เจ้าบ่าว) คลายเชือกหลากสีที่มัดอยู่ที่มวยผมของเล่อเยียน (เจ้าสาว) แล้วต่างคนต่างตัดปอยผมมารวมกันเอาเชือกนั้นผูกไว้ (ดูภาพประกอบที่ดึงมาจากในละคร) นี่คือการ ‘ผูกปมผม’ ซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีการเข้าหอของคู่บ่าวสาวหลังจากเกี่ยวก้อยกันดื่มสุรามงคลแล้ว

    เริ่มกันที่การปลดเชือก เชือกหลากสีที่เห็นนี้ มีชื่อเรียกว่า ‘อิง’ สตรีที่ได้รับการหมั้นหมายแล้วจะต้องผูกเชือกนี้ไว้ที่มวยผม ตราบจนวันแต่งงานเข้าหอแล้วมีเพียงเจ้าบ่าวที่สามารถปลดเชือกนี้ได้ การทำอย่างนี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์โจวตะวันตก (1047 – 772 ปีก่อนคริสตกาล) ปรากฏในบันทึกพิธีการการแต่งงาน (仪礼·土昏礼 ซึ่งเป็นบันทึกเดียวกับที่กล่าวถึง ‘หกพิธีการ’/六礼 ของงานแต่งงานที่เพื่อนเพจอาจเคยผ่านหู) บันทึกนี้เป็นหนึ่งในสามบันทึกที่เก่าแก่ที่สุดของจีนเกี่ยวกับเรื่องประเพณีและพิธีการ แต่... บันทึกนี้ไม่ได้กล่าวถึงการผูกปมผม

    พิธีการผูกปมผมเริ่มแต่เมื่อใดไม่ปรากฏบันทึกที่ชัดเจน แต่บทกวีในสมัยราชวงศ์ฮั่นที่ประพันธ์โดยซูอู่ (140 - 60 ปีก่อนคริสตกาล) มีวรรคนี้ปรากฏ “ผูกปมผมเป็นสามีภรรยา รักกันไม่เคลือบแคลงใจ” (结发为夫妻,恩爱两不疑) ดังนั้นการเอาปอยผมมามัดเข้ากันนี้มีแล้วในสมัยราชวงศ์ฮั่น และวลีนี้เป็นอีกหนึ่งวลีคลาสสิกที่ใช้กล่าวถึงความรักที่มั่นคง

    แต่มันมีความหมายมากกว่านั้นค่ะ

    ในธรรมเนียมจีนโบราณ จะมีเพียงภรรยาเอกคนเดียวที่มีการกราบไหว้ฟ้าดินแล้วส่งตัวเข้าห้องหอ ส่วนอนุทั้งหลายจะเพียงแต่รับตัวเข้ามาเข้าห้องเลย ดังนั้นคำว่า ‘ภรรยาผูกปมผม’ ในบางบริบทไม่ใช่หมายถึงรักเดียว แต่อาจหมายถึงภรรยาที่แต่งเข้ามาเป็นคนแรกก็ได้ค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/366760262
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.epochtimes.com/gb/20/10/19/n12485542.htm
    https://baike.sogou.com/v168462018.htm
    https://www.pinshiwen.com/gsdq/aqsc/20190711144812.html

    #สตรีหาญฉางเกอ #ฮ่าวตูเล่อเยียน #พิธีแต่งงานจีนโบราณ #ผูกปมผม #เจี๋ยฟ่า #เจี๋ยฝ้า
    สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงเงื่อนจีนหรือ ‘จงกั๋วเจี๋ย’ ซึ่งคำว่าเงื่อนหรือ ‘เจี๋ย’ นั้น ในความหมายจีนแปลได้อีกว่าความผูกพันหรือความเชื่อมโยงหรือความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน และถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของงานโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 เพื่อนเพจแฟนละครหรือนิยายจีนต้องเคยได้ยินคำว่า ‘เจี๋ย’ นี้ถูกนำมาใช้สื่อความหมายเกี่ยวกับความรักรวมถึงเงื่อนจีนที่ถูกใช้เป็นตัวแทนแห่งความรัก วันนี้เรามาคุยกันถึงวลีจีนเกี่ยวกับ ‘เจี๋ย’ และความหมายของมัน ความมีอยู่ว่า ... “ตราบแต่นี้ไป ข้าก็เป็นภรรยาผูกปมผมของท่านแล้ว สองเราจะไม่ทอดทิ้งกัน ติดตามกันไปตราบจนชีวิตจะหาไม่” เล่อเยียนยิ้มกล่าว... - ถอดบทสนทนาจากละคร <สตรีหาญฉางเกอ> (Storyฯ แปลเองจ้า) คำแปลข้างบนอาจฟังดูงง คำว่า ‘ผูกปมผม’ (เจี๋ยฟ่า / 结发) หมายถึงอะไร? ในเรื่อง <สตรีหาญฉางเกอ> มีฉากที่ฮ่าวตู (เจ้าบ่าว) คลายเชือกหลากสีที่มัดอยู่ที่มวยผมของเล่อเยียน (เจ้าสาว) แล้วต่างคนต่างตัดปอยผมมารวมกันเอาเชือกนั้นผูกไว้ (ดูภาพประกอบที่ดึงมาจากในละคร) นี่คือการ ‘ผูกปมผม’ ซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีการเข้าหอของคู่บ่าวสาวหลังจากเกี่ยวก้อยกันดื่มสุรามงคลแล้ว เริ่มกันที่การปลดเชือก เชือกหลากสีที่เห็นนี้ มีชื่อเรียกว่า ‘อิง’ สตรีที่ได้รับการหมั้นหมายแล้วจะต้องผูกเชือกนี้ไว้ที่มวยผม ตราบจนวันแต่งงานเข้าหอแล้วมีเพียงเจ้าบ่าวที่สามารถปลดเชือกนี้ได้ การทำอย่างนี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์โจวตะวันตก (1047 – 772 ปีก่อนคริสตกาล) ปรากฏในบันทึกพิธีการการแต่งงาน (仪礼·土昏礼 ซึ่งเป็นบันทึกเดียวกับที่กล่าวถึง ‘หกพิธีการ’/六礼 ของงานแต่งงานที่เพื่อนเพจอาจเคยผ่านหู) บันทึกนี้เป็นหนึ่งในสามบันทึกที่เก่าแก่ที่สุดของจีนเกี่ยวกับเรื่องประเพณีและพิธีการ แต่... บันทึกนี้ไม่ได้กล่าวถึงการผูกปมผม พิธีการผูกปมผมเริ่มแต่เมื่อใดไม่ปรากฏบันทึกที่ชัดเจน แต่บทกวีในสมัยราชวงศ์ฮั่นที่ประพันธ์โดยซูอู่ (140 - 60 ปีก่อนคริสตกาล) มีวรรคนี้ปรากฏ “ผูกปมผมเป็นสามีภรรยา รักกันไม่เคลือบแคลงใจ” (结发为夫妻,恩爱两不疑) ดังนั้นการเอาปอยผมมามัดเข้ากันนี้มีแล้วในสมัยราชวงศ์ฮั่น และวลีนี้เป็นอีกหนึ่งวลีคลาสสิกที่ใช้กล่าวถึงความรักที่มั่นคง แต่มันมีความหมายมากกว่านั้นค่ะ ในธรรมเนียมจีนโบราณ จะมีเพียงภรรยาเอกคนเดียวที่มีการกราบไหว้ฟ้าดินแล้วส่งตัวเข้าห้องหอ ส่วนอนุทั้งหลายจะเพียงแต่รับตัวเข้ามาเข้าห้องเลย ดังนั้นคำว่า ‘ภรรยาผูกปมผม’ ในบางบริบทไม่ใช่หมายถึงรักเดียว แต่อาจหมายถึงภรรยาที่แต่งเข้ามาเป็นคนแรกก็ได้ค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/366760262 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.epochtimes.com/gb/20/10/19/n12485542.htm https://baike.sogou.com/v168462018.htm https://www.pinshiwen.com/gsdq/aqsc/20190711144812.html #สตรีหาญฉางเกอ #ฮ่าวตูเล่อเยียน #พิธีแต่งงานจีนโบราณ #ผูกปมผม #เจี๋ยฟ่า #เจี๋ยฝ้า
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 411 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉลองพระองค์ไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบปักลูกปัด
    พระภูษาผ้าไหมยกดอก ลายกลีบบงกช

    ภูฏานเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ยอมรับนับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ เป็นศาสนาประจำชาติอย่างเป็นทางการ นิกายตันตรยานหรือวัชรยานถือกำเนิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของพัฒนาการอันยาวนานของพุทธศาสนา พุทธศาสนาตันตรายานสูญหายไปจากอินเดียซึ่งเป็นดินแดนต้นกำเนิดในช่วงที่พวกมุสลิมยกมารุกรานในต้นศตวรรษที่ ๑๓ และไปรุ่งเรืองอยู่ในทิเบต ลาดัคห์ สิกขิม มองโกเลีย ภาคเหนือของเนปาล ภูฏาน จีน และญี่ปุ่นแทน

    สิ่งที่ชาวภูฏานถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคล ๘ ประการ ของชีวิตตามความเชื่อและความศรัทธา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะปรากฎเป็นรูปเคารพตามโบราณสถาน ตลอดจนในบ้านเรือน ของผู้นับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ หนึ่งสิ่งนั้นคือ ปัทมะ

    ปัทมะ หรือ ดอกบัว (Lotus หรือ meto pema) ดอกบัวมีความหมายเหมือนสังข์ขาว ดอกบัวถือเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ดังพุทธวัจนะที่ว่า “ดอกบัวเกิดแต่โคลนตมในนน้ำ แต่ไม่เปียกน้ำ พระพุทธเจ้าก็เช่นกัน เกิดในโลก แต่ไม่เปรอะเปื้อนด้วยมลทินของโลกฉันนั้น”
    -------
    HER ROYAL ATTIRE IN THAI AMARIN
    EMBROIDERED BEADS LUMPHUN BROCADE SILK
    PETALS OF LOTUS MOTIF

    Bhutan is the only country in the world to accept Tantric Mahayana Buddhism as its official state religion. Tantric or Vajrayana Buddhism emerged at the end of a long development of Buddhism. Tantric Buddhism disappeared from its homeland of India during the Muslim invasions in the early 13th century and flourished instead in Tibet, Ladakh, Sikkim, Mongolia, northern Nepal, Bhutan, China and Japan.

    The Bhutanese believe in the Eight Auspicious Symbols of Life, which are often depicted in ancient monuments and in the homes of Tantric Mahayana Buddhists. One of these is the Padma.

    The Padma or Lotus (meto pema) is like a white conch shell. The lotus is considered to represent the Buddha, as the Buddha said: “A lotus flower is born from the mud in the water, but it is not wet with water. Similarly, the Buddha was born in the world, but it was not stained by the world’s impurities.”
    _________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    ฉลองพระองค์ไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบปักลูกปัด พระภูษาผ้าไหมยกดอก ลายกลีบบงกช ภูฏานเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ยอมรับนับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ เป็นศาสนาประจำชาติอย่างเป็นทางการ นิกายตันตรยานหรือวัชรยานถือกำเนิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของพัฒนาการอันยาวนานของพุทธศาสนา พุทธศาสนาตันตรายานสูญหายไปจากอินเดียซึ่งเป็นดินแดนต้นกำเนิดในช่วงที่พวกมุสลิมยกมารุกรานในต้นศตวรรษที่ ๑๓ และไปรุ่งเรืองอยู่ในทิเบต ลาดัคห์ สิกขิม มองโกเลีย ภาคเหนือของเนปาล ภูฏาน จีน และญี่ปุ่นแทน สิ่งที่ชาวภูฏานถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคล ๘ ประการ ของชีวิตตามความเชื่อและความศรัทธา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะปรากฎเป็นรูปเคารพตามโบราณสถาน ตลอดจนในบ้านเรือน ของผู้นับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ หนึ่งสิ่งนั้นคือ ปัทมะ ปัทมะ หรือ ดอกบัว (Lotus หรือ meto pema) ดอกบัวมีความหมายเหมือนสังข์ขาว ดอกบัวถือเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ดังพุทธวัจนะที่ว่า “ดอกบัวเกิดแต่โคลนตมในนน้ำ แต่ไม่เปียกน้ำ พระพุทธเจ้าก็เช่นกัน เกิดในโลก แต่ไม่เปรอะเปื้อนด้วยมลทินของโลกฉันนั้น” ------- HER ROYAL ATTIRE IN THAI AMARIN EMBROIDERED BEADS LUMPHUN BROCADE SILK PETALS OF LOTUS MOTIF Bhutan is the only country in the world to accept Tantric Mahayana Buddhism as its official state religion. Tantric or Vajrayana Buddhism emerged at the end of a long development of Buddhism. Tantric Buddhism disappeared from its homeland of India during the Muslim invasions in the early 13th century and flourished instead in Tibet, Ladakh, Sikkim, Mongolia, northern Nepal, Bhutan, China and Japan. The Bhutanese believe in the Eight Auspicious Symbols of Life, which are often depicted in ancient monuments and in the homes of Tantric Mahayana Buddhists. One of these is the Padma. The Padma or Lotus (meto pema) is like a white conch shell. The lotus is considered to represent the Buddha, as the Buddha said: “A lotus flower is born from the mud in the water, but it is not wet with water. Similarly, the Buddha was born in the world, but it was not stained by the world’s impurities.” _________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮกเกอร์แจกโปรแกรมจัดการรหัสผ่านปลอมที่ขโมยข้อมูลและติดตั้งแรนซัมแวร์

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก WithSecure Threat Intelligence พบว่า แฮกเกอร์กำลังแจกจ่าย KeePass เวอร์ชันปลอม ซึ่งเป็นโปรแกรมจัดการรหัสผ่านยอดนิยม โดยเวอร์ชันปลอมนี้ มีมัลแวร์ที่สามารถขโมยข้อมูลและติดตั้งแรนซัมแวร์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ KeePass ปลอม
    ✅ มัลแวร์ใน KeePass ปลอมสามารถขโมยรหัสผ่านทั้งหมดที่ถูกบันทึกไว้
    - ข้อมูลถูกส่งไปยังแฮกเกอร์ผ่าน Cobalt Strike beacon

    ✅ ผู้ใช้ดาวน์โหลด KeePass ปลอมจากโฆษณาบน Bing ที่นำไปยังเว็บไซต์ปลอม
    - เว็บไซต์นี้ เลียนแบบ KeePass ของจริง แต่มีมัลแวร์แฝงอยู่

    ✅ แฮกเกอร์ใช้ข้อมูลที่ถูกขโมยเพื่อเข้าถึงเครือข่ายและติดตั้งแรนซัมแวร์
    - เมื่อแรนซัมแวร์ถูกติดตั้ง องค์กรต้องจ่ายค่าไถ่เพื่อกู้คืนข้อมูล

    ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้ถูกระบุว่าเป็น UNC4696
    - มีความเชื่อมโยงกับ Black Basta ซึ่งเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ที่มีชื่อเสียง

    ✅ เว็บไซต์ที่แจก KeePass ปลอมยังคงออนไลน์และแพร่กระจายมัลแวร์
    - นักวิจัยเตือนว่า อาจมีมัลแวร์อื่น ๆ ถูกแจกจ่ายผ่านเครือข่ายนี้

    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-are-distributing-a-cracked-password-manager-that-steals-data-deploys-ransomware
    แฮกเกอร์แจกโปรแกรมจัดการรหัสผ่านปลอมที่ขโมยข้อมูลและติดตั้งแรนซัมแวร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก WithSecure Threat Intelligence พบว่า แฮกเกอร์กำลังแจกจ่าย KeePass เวอร์ชันปลอม ซึ่งเป็นโปรแกรมจัดการรหัสผ่านยอดนิยม โดยเวอร์ชันปลอมนี้ มีมัลแวร์ที่สามารถขโมยข้อมูลและติดตั้งแรนซัมแวร์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ KeePass ปลอม ✅ มัลแวร์ใน KeePass ปลอมสามารถขโมยรหัสผ่านทั้งหมดที่ถูกบันทึกไว้ - ข้อมูลถูกส่งไปยังแฮกเกอร์ผ่าน Cobalt Strike beacon ✅ ผู้ใช้ดาวน์โหลด KeePass ปลอมจากโฆษณาบน Bing ที่นำไปยังเว็บไซต์ปลอม - เว็บไซต์นี้ เลียนแบบ KeePass ของจริง แต่มีมัลแวร์แฝงอยู่ ✅ แฮกเกอร์ใช้ข้อมูลที่ถูกขโมยเพื่อเข้าถึงเครือข่ายและติดตั้งแรนซัมแวร์ - เมื่อแรนซัมแวร์ถูกติดตั้ง องค์กรต้องจ่ายค่าไถ่เพื่อกู้คืนข้อมูล ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้ถูกระบุว่าเป็น UNC4696 - มีความเชื่อมโยงกับ Black Basta ซึ่งเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ที่มีชื่อเสียง ✅ เว็บไซต์ที่แจก KeePass ปลอมยังคงออนไลน์และแพร่กระจายมัลแวร์ - นักวิจัยเตือนว่า อาจมีมัลแวร์อื่น ๆ ถูกแจกจ่ายผ่านเครือข่ายนี้ https://www.techradar.com/pro/security/hackers-are-distributing-a-cracked-password-manager-that-steals-data-deploys-ransomware
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## พรรคการเมือง และ ผลประโยชน์ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนใต้ ##
    ..
    ..
    ลองดูคลิปนี้ให้จบครับ...
    .
    นี่คือ การยุยง ปลุกปั่นรึเปล่า...???
    .
    เขาพูดถึงอะไรครับ...???
    .
    ปลดแอก ประชามติ เพื่อแบ่งแยกดินแดน...???
    .
    นโยบาย ของพรรคสีส้ม ไม่ว่าจะในชื่ออะไรก็ตาม ที่ ช่อ พูดถึง...
    .
    นโยบาย "ปลดล็อคท้องถิ่น" ของพรรคีส้ม คือ นโยบายทางการเเมือง คือ เครื่องมือเพื่อหาพื้นที่ในการรณรงค์ "แบ่งแยกดินแดน"
    .
    เพราะ ช่อ และ อ.มารค์ บอกว่า หลีกเลี่ยงประชามติ ไม่ได้แน่นอนถ้าต้องการเอกราช...!!!
    ...
    ...
    อย่าหาว่าผม รังเกลียด หรือ มีอคติ กับพวกเขา ผมวิพากษ์-วิจารณ์ นักการเมืองทุกคนทุกสี ไปตามเนื้อผ้า และ หลักฐานเชิงประจักษ์...
    .
    ผมจะไม่บอกหรอกครับว่า ชุดความคิด-ความเชื่อ ที่พรรคการเมืองสีส้ม เลียนแบบมาจาก อเมริกา โดยเฉพาะผมมองว่า แนวทางคล้ายคลึงมากกับ พรรคเดโมแครต นั้นดีหรือเลว...
    .
    แต่...!!!
    .
    การอยากได้คะแนนเสียง จนตัวสั่น ทำได้ทุกวิถีทาง แม้กระทั่ง สร้างนโยบาย เป็นช่องทางให้มีการ รณรงค์ เพื่อ ประชามติ "แบ่งแยกดินแดน"...
    .
    ผมไม่ได้ด่า พรรคสีส้ม นะครับ...
    ...
    ...
    ใครก็แล้วแต่ ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เป็นคนไทย ที่เกิดบประเทศไทย เติบโตมาบนผืนแผ่นดินไทย คือ คนที่ลืมบุญคุณแผ่นดิน คือ พฤติกรรมที่ ต่ำช้า ชั่วร้าย เลวทราม ที่สุด...!!!
    .
    ในขณะที่ บรรพบุรุษไทย ปกบ้านป้องเมือง รักษาผืนแผ่นดินไว้ให้ลูกหลาน...
    .
    และลูกหลานบางส่วน ก็พยายามปกป้องเอาไว้...
    .
    แต่กลับมี ลูกหลานบางส่วน รับชุดความคิด-ความเชื่อส่งออก ของ ฝรั่ง มาสนับสนุนให้ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน หาแนวร่วมเพื่อทำ ประชามติ แบ่งแยกดินแดนออกไป เป็น เอกราช...
    .
    ใครก็แล้วแต่ ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เป็นคนที่ ต่ำช้า ชั่วร้าย เลวทราม ที่สุด...!!!
    ....
    ....
    และ แฟนคลับ พรรคการเมือง และ นักการเมือง เหล่านี้ ควรตื่นรู้ได้แล้ว ตาสว่างได้แล้ว...!!!
    .
    หาข้อมูลบ้างว่า พวกเขาที่คุณรัก และ เชิดชู เทิดทูน นั้น ทำอะไรไว้บ้าง มีพฤติกรรมอะไรบ้าง...!!!
    .
    https://youtu.be/tA-tfbLvXxQ?si=j7CTmfo2Vzw2ApE9
    ## พรรคการเมือง และ ผลประโยชน์ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนใต้ ## .. .. ลองดูคลิปนี้ให้จบครับ... . นี่คือ การยุยง ปลุกปั่นรึเปล่า...??? . เขาพูดถึงอะไรครับ...??? . ปลดแอก ประชามติ เพื่อแบ่งแยกดินแดน...??? . นโยบาย ของพรรคสีส้ม ไม่ว่าจะในชื่ออะไรก็ตาม ที่ ช่อ พูดถึง... . นโยบาย "ปลดล็อคท้องถิ่น" ของพรรคีส้ม คือ นโยบายทางการเเมือง คือ เครื่องมือเพื่อหาพื้นที่ในการรณรงค์ "แบ่งแยกดินแดน" . เพราะ ช่อ และ อ.มารค์ บอกว่า หลีกเลี่ยงประชามติ ไม่ได้แน่นอนถ้าต้องการเอกราช...!!! ... ... อย่าหาว่าผม รังเกลียด หรือ มีอคติ กับพวกเขา ผมวิพากษ์-วิจารณ์ นักการเมืองทุกคนทุกสี ไปตามเนื้อผ้า และ หลักฐานเชิงประจักษ์... . ผมจะไม่บอกหรอกครับว่า ชุดความคิด-ความเชื่อ ที่พรรคการเมืองสีส้ม เลียนแบบมาจาก อเมริกา โดยเฉพาะผมมองว่า แนวทางคล้ายคลึงมากกับ พรรคเดโมแครต นั้นดีหรือเลว... . แต่...!!! . การอยากได้คะแนนเสียง จนตัวสั่น ทำได้ทุกวิถีทาง แม้กระทั่ง สร้างนโยบาย เป็นช่องทางให้มีการ รณรงค์ เพื่อ ประชามติ "แบ่งแยกดินแดน"... . ผมไม่ได้ด่า พรรคสีส้ม นะครับ... ... ... ใครก็แล้วแต่ ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เป็นคนไทย ที่เกิดบประเทศไทย เติบโตมาบนผืนแผ่นดินไทย คือ คนที่ลืมบุญคุณแผ่นดิน คือ พฤติกรรมที่ ต่ำช้า ชั่วร้าย เลวทราม ที่สุด...!!! . ในขณะที่ บรรพบุรุษไทย ปกบ้านป้องเมือง รักษาผืนแผ่นดินไว้ให้ลูกหลาน... . และลูกหลานบางส่วน ก็พยายามปกป้องเอาไว้... . แต่กลับมี ลูกหลานบางส่วน รับชุดความคิด-ความเชื่อส่งออก ของ ฝรั่ง มาสนับสนุนให้ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน หาแนวร่วมเพื่อทำ ประชามติ แบ่งแยกดินแดนออกไป เป็น เอกราช... . ใครก็แล้วแต่ ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เป็นคนที่ ต่ำช้า ชั่วร้าย เลวทราม ที่สุด...!!! .... .... และ แฟนคลับ พรรคการเมือง และ นักการเมือง เหล่านี้ ควรตื่นรู้ได้แล้ว ตาสว่างได้แล้ว...!!! . หาข้อมูลบ้างว่า พวกเขาที่คุณรัก และ เชิดชู เทิดทูน นั้น ทำอะไรไว้บ้าง มีพฤติกรรมอะไรบ้าง...!!! . https://youtu.be/tA-tfbLvXxQ?si=j7CTmfo2Vzw2ApE9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อพ่อแม่พูดบั่นทอนใจ...เราจะรักษาใจอย่างไรดี?

    > ถ้าคุณเคยได้ยินคำพูดจากพ่อแม่ เช่น
    “เธอจะลำบากแน่”
    “เธอคงไม่มีอนาคต”
    “เธอจะไม่มีทางไปถึงฝั่งฝันได้หรอก”

    และคำพูดเหล่านี้ฝังแน่นอยู่ในใจคุณ
    จนทำให้เกิดความกังวล หวั่นไหว สะเทือนความเชื่อมั่น
    อย่าเพิ่งท้อครับ
    คุณไม่ใช่คนเดียวที่เจอแบบนี้ และคุณมีทางรอดที่งดงามกว่าโต้ตอบหรือหลบหนี

    ---

    1. หยุดคาดหวังว่าพ่อแม่จะต้องสมบูรณ์แบบเสมอ

    ในโลกนี้ พ่อแม่หลายคนเป็นพ่อแม่เพราะ “ตามสัญชาตญาณ”
    ไม่ใช่เพราะเข้าใจบทบาทหรือมีสัมมาทิฏฐิ
    พ่อแม่บางคนคาดหวังมากเกินไป บางคนพูดจากความกลัว
    หรือบางคนอาจไม่รู้เลยว่า “คำพูด” ของตัวเองทำร้ายลูกแค่ไหน

    ---

    2. เปลี่ยนจากความน้อยใจ → เป็นแรงใจให้เริ่มยกครอบครัวขึ้น

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    > “การตอบแทนบุญคุณพ่อแม่อย่างแท้จริง
    คือการช่วยให้ท่านมีความเห็นถูก (สัมมาทิฏฐิ)”

    หากเรารู้ธรรมะก่อนท่าน มีความเข้าใจถูกก่อนท่าน
    เรามีสิทธิ์เป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณในครอบครัว
    ไม่ใช่เพราะท่านอ่อนแอ แต่เพราะเรา “มีกำลังใจจะเริ่มก่อน”

    ---

    3. หยุดดูถูกตัวเองว่าเป็น ‘เหยื่อ’ แล้วตั้งใจจะเป็น ‘ผู้เปลี่ยน’

    ทุกครั้งที่โดนคำพูดลบๆ ให้ย้อนมามองที่ใจ
    อย่าคิดแค่ “ทำไมพ่อแม่ถึงพูดแบบนี้กับเรา”
    แต่ให้ถามใหม่ว่า

    > “เราจะรักษาความดีในใจตัวเองไว้ได้ไหม?”
    “เราจะเป็นคนดับไฟด้วยน้ำเย็นได้หรือเปล่า?”

    อย่ารอให้เขาหยุดพูดก่อนถึงจะใจดี
    แต่ให้เริ่มใจดีก่อน แม้เขายังพูดไม่ดี

    ---

    4. สร้างใจให้สตรอง ด้วยธรรมะที่เป็นของจริงในใจ

    ไม่ต้องท่องศีลห้า ไม่ต้องท่องบทเมตตา
    แต่ ขอแค่มีธรรมะในใจจริงๆ
    คือ มีเจตนาจะไม่โต้ตอบด้วยโทสะ
    มีสติรู้ทันว่ากำลังจะโกรธ แล้วกลับมาสงบ
    มีเมตตาเพียงพอจะไม่ตอกกลับ

    ถ้าทำได้บ่อยๆ คุณจะกลายเป็นคนที่มีสกิลสูงขึ้นเรื่อยๆ
    ในการรับมือกับไฟ ด้วยน้ำ

    ---

    5. จงภูมิใจในบทบาท “ผู้เริ่มต้น”

    แม้จะเหนื่อยบ้าง แต่คุณคือคนที่ “เริ่มทำให้บ้านมีธรรมะ”
    คุณอาจจะยังไม่ทำให้เขาเปลี่ยนได้วันนี้
    แต่คุณกำลังสร้างคลื่นเล็กๆ ที่อาจเปลี่ยนทั้งครอบครัวในวันหน้า

    > เพราะคำพูดของพ่อแม่ ไม่ใช่คำทำนายชีวิตคุณ
    แต่ ใจของคุณต่างหาก ที่กำลังออกแบบชีวิตใหม่…ทุกวัน

    ---

    จงอย่ารอให้พ่อแม่เปลี่ยนก่อน
    แต่ให้ตัวคุณเป็นแสงแรกที่เริ่มสว่าง…เพื่อทั้งตัวคุณ และเขา

    เมื่อพ่อแม่พูดบั่นทอนใจ...เราจะรักษาใจอย่างไรดี? > ถ้าคุณเคยได้ยินคำพูดจากพ่อแม่ เช่น “เธอจะลำบากแน่” “เธอคงไม่มีอนาคต” “เธอจะไม่มีทางไปถึงฝั่งฝันได้หรอก” และคำพูดเหล่านี้ฝังแน่นอยู่ในใจคุณ จนทำให้เกิดความกังวล หวั่นไหว สะเทือนความเชื่อมั่น อย่าเพิ่งท้อครับ คุณไม่ใช่คนเดียวที่เจอแบบนี้ และคุณมีทางรอดที่งดงามกว่าโต้ตอบหรือหลบหนี --- 1. หยุดคาดหวังว่าพ่อแม่จะต้องสมบูรณ์แบบเสมอ ในโลกนี้ พ่อแม่หลายคนเป็นพ่อแม่เพราะ “ตามสัญชาตญาณ” ไม่ใช่เพราะเข้าใจบทบาทหรือมีสัมมาทิฏฐิ พ่อแม่บางคนคาดหวังมากเกินไป บางคนพูดจากความกลัว หรือบางคนอาจไม่รู้เลยว่า “คำพูด” ของตัวเองทำร้ายลูกแค่ไหน --- 2. เปลี่ยนจากความน้อยใจ → เป็นแรงใจให้เริ่มยกครอบครัวขึ้น พระพุทธเจ้าตรัสว่า > “การตอบแทนบุญคุณพ่อแม่อย่างแท้จริง คือการช่วยให้ท่านมีความเห็นถูก (สัมมาทิฏฐิ)” หากเรารู้ธรรมะก่อนท่าน มีความเข้าใจถูกก่อนท่าน เรามีสิทธิ์เป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณในครอบครัว ไม่ใช่เพราะท่านอ่อนแอ แต่เพราะเรา “มีกำลังใจจะเริ่มก่อน” --- 3. หยุดดูถูกตัวเองว่าเป็น ‘เหยื่อ’ แล้วตั้งใจจะเป็น ‘ผู้เปลี่ยน’ ทุกครั้งที่โดนคำพูดลบๆ ให้ย้อนมามองที่ใจ อย่าคิดแค่ “ทำไมพ่อแม่ถึงพูดแบบนี้กับเรา” แต่ให้ถามใหม่ว่า > “เราจะรักษาความดีในใจตัวเองไว้ได้ไหม?” “เราจะเป็นคนดับไฟด้วยน้ำเย็นได้หรือเปล่า?” อย่ารอให้เขาหยุดพูดก่อนถึงจะใจดี แต่ให้เริ่มใจดีก่อน แม้เขายังพูดไม่ดี --- 4. สร้างใจให้สตรอง ด้วยธรรมะที่เป็นของจริงในใจ ไม่ต้องท่องศีลห้า ไม่ต้องท่องบทเมตตา แต่ ขอแค่มีธรรมะในใจจริงๆ คือ มีเจตนาจะไม่โต้ตอบด้วยโทสะ มีสติรู้ทันว่ากำลังจะโกรธ แล้วกลับมาสงบ มีเมตตาเพียงพอจะไม่ตอกกลับ ถ้าทำได้บ่อยๆ คุณจะกลายเป็นคนที่มีสกิลสูงขึ้นเรื่อยๆ ในการรับมือกับไฟ ด้วยน้ำ --- 5. จงภูมิใจในบทบาท “ผู้เริ่มต้น” แม้จะเหนื่อยบ้าง แต่คุณคือคนที่ “เริ่มทำให้บ้านมีธรรมะ” คุณอาจจะยังไม่ทำให้เขาเปลี่ยนได้วันนี้ แต่คุณกำลังสร้างคลื่นเล็กๆ ที่อาจเปลี่ยนทั้งครอบครัวในวันหน้า > เพราะคำพูดของพ่อแม่ ไม่ใช่คำทำนายชีวิตคุณ แต่ ใจของคุณต่างหาก ที่กำลังออกแบบชีวิตใหม่…ทุกวัน --- จงอย่ารอให้พ่อแม่เปลี่ยนก่อน แต่ให้ตัวคุณเป็นแสงแรกที่เริ่มสว่าง…เพื่อทั้งตัวคุณ และเขา —
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ความเชื่อใครมันจริงๆ ปัจจุบันๆๆๆปัจจุบันนะกาล

    https://youtube.com/shorts/Z1WlrPAxn1I?si=gO8gNn291y2cr7Cb
    ..ความเชื่อใครมันจริงๆ ปัจจุบันๆๆๆปัจจุบันนะกาล https://youtube.com/shorts/Z1WlrPAxn1I?si=gO8gNn291y2cr7Cb
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ

    คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025
    - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน

    ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว
    - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์

    ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก
    - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ

    ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี
    - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act"

    ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์
    - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    คริปโทเคอร์เรนซีและทรัมป์: ความสัมพันธ์ที่สร้างความกังวลในสหรัฐฯ คริปโทเคอร์เรนซี ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง มาโดยตลอด ล่าสุด การเชื่อมโยงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับคริปโทเคอร์เรนซี ได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและความถูกต้องตามกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี ✅ ทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025 - เพื่อ ส่งเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงิน ✅ เหรียญ $TRUMP ถูกโปรโมตโดยทรัมป์และครอบครัว - ผู้ถือเหรียญรายใหญ่ ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์ ✅ นักลงทุนต่างชาติซื้อเหรียญ $TRUMP เป็นจำนวนมาก - อาจเป็น ช่องทางหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามชาวต่างชาติบริจาคเงินให้การเมืองสหรัฐฯ ✅ นักการเมืองสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างทรัมป์และคริปโทเคอร์เรนซี - วุฒิสมาชิก Adam Schiff และ Elizabeth Warren เสนอร่างกฎหมาย "End Crypto Corruption Act" ✅ บริษัทคริปโทในสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากนโยบายของทรัมป์ - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้องหลายกรณี รวมถึง Coinbase และ Ripple https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/opinion-crypto-was-already-in-bad-odour-before-jumping-into-bed-with-trump-now-it-smells-worse
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: Crypto was already in bad odour before jumping into bed with Trump. Now it smells worse
    Since Trump returned to the presidency, his and his family's involvement in crypto-related deals has critics charging that crypto has become an entirely new path for official corruption and conflicts of interest in the White House.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบก.ปปป.เผย"ทิดแย้ม" เปิดบัญชีเฉพาะกิจเช่าบูชาพระเครื่อง-กิจกรรมของวัดกว่า 20 บัญชี ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบอีกหลายบัญชี

    วันนี้ (18 พ.ค.) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดียักยอกเงินวัดไร่ขิงว่า พนักงานสอบสวนยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน สอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง จำนวนหลายบัญชีทยอยเข้ามาสอบปากคำ โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จากข้อมูลการสอบสวนปัจจุบัน พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่าง นายแย้ม กับ น.ส.อรัญญาวรรณ หลายช่องทาง ช่วงปี 2563 - 2567 รวมเป็นเงินกว่า 300 บาท แยกออกเป็นบัญชีส่วนตัวของ นายแย้ม โอนเงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณ ในช่วงปี 2566 รวมกัน 80 ล้านบาท และ ใช้บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ โอนเงิน และตระเวณนำเงินสดไปฝากตู้ธนาคารต่าง ๆ ให้ น.ส.อรัญญาวรรณ หลายรายการรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีชื่อบัญชีบุคคลอื่นอีก 1 บัญชีโอนเงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณ ด้วยเช่นกันอีก 60 ล้านบาท

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000046327

    #MGROnline #ทิดแย้ม
    ผบก.ปปป.เผย"ทิดแย้ม" เปิดบัญชีเฉพาะกิจเช่าบูชาพระเครื่อง-กิจกรรมของวัดกว่า 20 บัญชี ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบอีกหลายบัญชี • วันนี้ (18 พ.ค.) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดียักยอกเงินวัดไร่ขิงว่า พนักงานสอบสวนยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน สอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง จำนวนหลายบัญชีทยอยเข้ามาสอบปากคำ โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จากข้อมูลการสอบสวนปัจจุบัน พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่าง นายแย้ม กับ น.ส.อรัญญาวรรณ หลายช่องทาง ช่วงปี 2563 - 2567 รวมเป็นเงินกว่า 300 บาท แยกออกเป็นบัญชีส่วนตัวของ นายแย้ม โอนเงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณ ในช่วงปี 2566 รวมกัน 80 ล้านบาท และ ใช้บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ โอนเงิน และตระเวณนำเงินสดไปฝากตู้ธนาคารต่าง ๆ ให้ น.ส.อรัญญาวรรณ หลายรายการรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีชื่อบัญชีบุคคลอื่นอีก 1 บัญชีโอนเงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณ ด้วยเช่นกันอีก 60 ล้านบาท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000046327 • #MGROnline #ทิดแย้ม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • Huawei กำลังเดินหน้าสู่ตลาดชิป AI อย่างแข็งแกร่งด้วย Ascend 910C ซึ่งมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ NVIDIA H100 และคาดว่าจะขายได้กว่า 700,000 หน่วยในปี 2025 แม้ว่ากระบวนการผลิตของ SMIC จะมีอัตราผลผลิตที่ค่อนข้างต่ำเพียง 30% ก็ตาม นอกจากนี้ Huawei ยังขยายเครือข่ายโรงงานผลิตชิปของตนเองในจีนเพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตและลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

    ✅ Huawei เตรียมขาย Ascend 910C กว่า 700,000 หน่วยในปี 2025
    - ชิป Ascend 910C มีประสิทธิภาพสูงถึง 800 TFLOP/s ที่ FP16 และแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงสุด 3.2 TB/s
    - คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในจีนเร็วๆ นี้ หลังจากที่ SMIC เริ่มผลิตในปริมาณมาก

    ✅ SMIC ผลิตชิปด้วยกระบวนการ 7nm DUV แต่มีอัตราผลผลิตต่ำ
    - กระบวนการผลิตของ SMIC มีอัตราผลผลิตเพียง 30% ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนชิปที่สามารถผลิตได้
    - Huawei พยายามลดผลกระทบโดยการขยายโรงงานผลิตชิปของตนเอง

    ✅ Huawei ขยายเครือข่ายโรงงานผลิตชิปในจีน
    - มีรายงานว่า Huawei ควบคุมโรงงานผลิตชิปถึง 11 แห่งทั่วประเทศจีน
    - โรงงานเหล่านี้ใช้ชื่อที่แตกต่างกันเพื่อปกปิดความเชื่อมโยงกับ Huawei

    ‼️ ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีอาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน
    - แม้ว่าชิป Ascend 910C จะมีประสิทธิภาพสูง แต่กระบวนการผลิต 7nm DUV ของ SMIC ยังล้าหลังเทคโนโลยี EUV ของ TSMC และ Samsung
    - หาก Huawei ไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้น อาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

    ‼️ มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อาจเป็นอุปสรรค
    - สหรัฐฯ ได้ออกข้อกำหนดใหม่ที่ห้ามใช้ชิป Ascend 910C ในต่างประเทศ เนื่องจากละเมิดกฎการส่งออกของสหรัฐฯ
    - มาตรการนี้อาจจำกัดการขยายตลาดของ Huawei นอกประเทศจีน

    https://wccftech.com/mizuho-huawei-will-likely-sell-over-700000-units-of-its-ascend-910-series-chips-in-2025-despite-smics-fairly-low-yields-of-30-percent/
    Huawei กำลังเดินหน้าสู่ตลาดชิป AI อย่างแข็งแกร่งด้วย Ascend 910C ซึ่งมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ NVIDIA H100 และคาดว่าจะขายได้กว่า 700,000 หน่วยในปี 2025 แม้ว่ากระบวนการผลิตของ SMIC จะมีอัตราผลผลิตที่ค่อนข้างต่ำเพียง 30% ก็ตาม นอกจากนี้ Huawei ยังขยายเครือข่ายโรงงานผลิตชิปของตนเองในจีนเพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตและลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ✅ Huawei เตรียมขาย Ascend 910C กว่า 700,000 หน่วยในปี 2025 - ชิป Ascend 910C มีประสิทธิภาพสูงถึง 800 TFLOP/s ที่ FP16 และแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงสุด 3.2 TB/s - คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในจีนเร็วๆ นี้ หลังจากที่ SMIC เริ่มผลิตในปริมาณมาก ✅ SMIC ผลิตชิปด้วยกระบวนการ 7nm DUV แต่มีอัตราผลผลิตต่ำ - กระบวนการผลิตของ SMIC มีอัตราผลผลิตเพียง 30% ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนชิปที่สามารถผลิตได้ - Huawei พยายามลดผลกระทบโดยการขยายโรงงานผลิตชิปของตนเอง ✅ Huawei ขยายเครือข่ายโรงงานผลิตชิปในจีน - มีรายงานว่า Huawei ควบคุมโรงงานผลิตชิปถึง 11 แห่งทั่วประเทศจีน - โรงงานเหล่านี้ใช้ชื่อที่แตกต่างกันเพื่อปกปิดความเชื่อมโยงกับ Huawei ‼️ ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีอาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน - แม้ว่าชิป Ascend 910C จะมีประสิทธิภาพสูง แต่กระบวนการผลิต 7nm DUV ของ SMIC ยังล้าหลังเทคโนโลยี EUV ของ TSMC และ Samsung - หาก Huawei ไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้น อาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว ‼️ มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อาจเป็นอุปสรรค - สหรัฐฯ ได้ออกข้อกำหนดใหม่ที่ห้ามใช้ชิป Ascend 910C ในต่างประเทศ เนื่องจากละเมิดกฎการส่งออกของสหรัฐฯ - มาตรการนี้อาจจำกัดการขยายตลาดของ Huawei นอกประเทศจีน https://wccftech.com/mizuho-huawei-will-likely-sell-over-700000-units-of-its-ascend-910-series-chips-in-2025-despite-smics-fairly-low-yields-of-30-percent/
    WCCFTECH.COM
    Mizuho: Huawei Will Likely Sell Over 700,000 Units Of Its Ascend 910 Series Chips In 2025, Despite SMIC's "Fairly Low" Yields Of ~30 Percent
    Huawei's Ascend 910C chips leverage SMIC's 7nm DUV-based production process, which suffers from "fairly low" yields.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมลิงค์โพสต์สำคัญๆในเพจ อาการหลังรับวัคซีนต่างๆ 2/2
    ✍️ถึงเวลาเปิดโปงรับรู้และต่อต้านระเบียบโลกใหม่
    https://www.facebook.com/share/p/19GdFmcY73/
    ✍️เราเชื่อองค์การอนามัยโลกได้เพียงใด?
    https://www.facebook.com/share/p/165qc2RJSg/
    ✍️กฎหมายเสรีภาพทางการแพทย์และร่างกฎหมายแบน mRNA วัคซีน ในสหรัฐ
    https://www.facebook.com/share/p/16BCfkXpi1/
    ✍️มินนิโซต้ากลายเป็นรัฐที่ 11 เพื่อดูความพยายามทางกฎหมายในการห้ามวัคซีนตามเทคโนโลยียีน mRNA
    https://www.facebook.com/share/p/1E8FPsMDZP/
    ✍️สโลวาเกียเล็งระงับซื้อวัคซีนโควิดmRNA หลังมีรายงานชี้เปลี่ยนพันธุกรรมคน
    https://mgronline.com/around/detail/9680000038266
    พบว่าวัคซีน mRNA บรรจุดีเอ็นเอในระดับสูงมากๆ เช่นเดียวกับสารต่างๆ ที่บริษัทผู้ผลิตไม่เปิดเผย
    https://news1live.com/detail/9680000038282
    ✍️นพ.ธีระวัฒน์ ยกงานวิจัย ชี้ชัดวัคซีนโควิด ทำเส้นเลือดอุดตัน การเสียชีวิตเพิ่มขึ้นแปรตามการฉีดวัคซีน
    https://youtu.be/JFwdcP39MnM?si=7QPRmcaWOANYMJ87
    ✍️อีเมล์ หมอยงตอบหมออรรถพล ในกรณีที่ มีผู้ป่วยเด็กที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด เข้ารับการรักษาในรพ.จุฬาลงกรณ์ ลองอ่านดูครับว่า หมอยง แสดงความเห็นใจ เป็นห่วงเป็นใย ผู้ป่วยบ้างไหม
    https://www.facebook.com/share/p/18qB9oj8MR/
    ข้อมูลจากฐานข้อมูล องค์การอนามัยโลก
    พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด กลับเพิ่มมากขึ้น หลังจากการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในประเทศที่มีการฉีดมาก
    https://www.facebook.com/share/p/198894qDBY/
    ✍️หมออรรถพลแนะจัดเวทีวิชาการคุยเรื่อง วัคซีนมรณา mRNA กันดีกว่า อย่ามัวดราม่า บูลลี่กันอยู่เลย
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7496066093576949009?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351
    https://t.me/goodthaidoctorclip/1728
    ✍️รายการปากซอย 105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา วันที่ 22 เมษายน 2568
    https://www.youtube.com/live/O62sTRIcOKE?si=TygTglExUaiNUein
    ✍️อย่าเป็นฆาตรกรในเสื้อกราวด์ โดย พอ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา
    https://t.me/goodthaidoctorclip/1753
    7402685923101970?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351
    ✍️โรคออทิสติกระบาดหนัก ข้อมูลใหม่จาก CDC ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ และ HHS (เทียบเท่ากระทรวงสาธารณสุข )
    https://www.facebook.com/share/p/15woR3q1gj/
    https://www.facebook.com/share/p/1DRAfoMddx/
    ✍️วัคซีนไข้หวัดใหญ่ คุ้มความเสี่ยงผลข้างเคียงไหม
    https://www.facebook.com/share/p/1Ud8cBuqFn/
    https://www.facebook.com/share/p/1JvXpQ5vPU/
    พิจารณาประสิทธิภาพ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://www.facebook.com/share/p/14tUYkZRR6A/
    https://www.facebook.com/share/p/19wichtfbz/
    https://www.facebook.com/share/p/1ALB4dygQj/
    ✍️อึ้ง ! วัคซีนเด็กก่อโรคสารพัดโรค ชัดเจน
    https://thefreethoughtproject.com/new-study/jaw-dropping-study-finds-vaccinated-children-have-170-higher-risk-of-autism?fbclid=IwY2xjawJ77XFleHRuA2FlbQIxMQABHttPwuUaZejWIkDBB0qZd62h_8fHmdZP2aw4j8Dc4V5S8poBlI_AiFK4D3TQ_aem_NCw_KluKYAubgqcdFY1vPA
    ✍️งานวิจัยหลากหลายชิ้น คอนเฟิร์มว่าเด็กที่ฉีดวัคซีน จะป่วยและเป็นโรคได้มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ฉีดเลยหลายเท่า
    https://www.facebook.com/share/p/16LRcRdzGv/
    เรียนเชิญหมอที่เชียร์ให้เด็กฉีดวัคซีนมาดีเบทเพื่อให้ความจริงปรากฎ
    https://fb.watch/xcMgzvWmRj/?
    ✍️ข้อมูลจากสื่อหลักมิได้จริงเสมอไป
    https://www.facebook.com/share/p/1XsfU32uuq/
    ✍️สถิติล่าสุด ถึงสิ้นเดือน มีนาคมที่ผ่านมา มกราคมถึงมีนาคม 2568 ปีปัจจุบัน คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด เทียบรายปีตั้งแต่มีการเก็บสถิติมา !!!
    147,020 ราย !! จำนวนมากเป็นเด็ก เป็นคนหนุ่มสาวที่ไม่เคยมีโรคอะไรมาก่อน เยอะแยะที่ แข็งแรงดี แล้ว ก็ตายไปเฉยๆ หรือ เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
    https://www.facebook.com/share/1DYEUZ2Cto/
    https://www.facebook.com/share/p/15c51aDnCj/
    https://www.facebook.com/share/p/1HPJMiXKiS/
    ✍️เริ่มกระหน่ำคนไทยอีกรอบด้วยวซ.ฝีดาษลิง เริ่มที่ด่านหน้า
    https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/684107170971610/?
    ✍️วัคซีนไข้หวัดหมู 1976 ทำให้เกิดตายและพิการ ระงับ ชดเชย และรับผิดชอบ
    https://www.facebook.com/share/p/1HsCNDKyGk/
    ✍️สมองเสื่อม จิตอารมณ์แปรปรวนเพิ่มขึ้น โดย หมอดื้อ
    https://www.facebook.com/share/p/16fc4KX7x7/
    ✍️การเปิดโปงจากศาสตราจารย์ Jeffrey Sachs เรื่องการโกหกของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ และรู้เห็นกับการสร้างไวรัสโควิดจนพยายามปกปิดกลบเกลื่อน
    https://youtu.be/vtfIIG8iYIk?si=VfbvJBU_TQVEqsGp
    ✍️ทำเนียบขาวประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเว็บไซต์ทางการแฉ ต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโควิดว่า มาจากฝีมือมนุษย์ เป็นเชื้อที่สร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการ
    https://www.whitehouse.gov/lab-leak-true-origins-of-covid-19/
    ✍️ 1 เม.ย. 2568 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาและนพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ เริ่มจัดรายการ Health Nexus
    ตอนที่ 1 เปิดเผยที่มาของการเซ็นเซอร์ข้อมูลข่าวสาร เซ็นเซอร์กำเนิดโควิดซึ่งมาจากการสร้างไวรัสใหม่และหลุดรั่วออกจากห้องปฏิบัติการ วัคซีนซึ่งเตรียมพร้อมมาก่อนการระบาด และการปกปิดข้อมูลผลข้างเคียงของวัคซีน
    https://youtu.be/aexZXA0QSKg?si=qoQxKZtu255RUhq1
    ตอนที่ 2 นโยบายใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ส่งผลกระทบด้านสาธารณสุขทั้งในและต่างประเทศอย่างไร ?
    https://youtu.be/cuU1QmYGZtI?si=ftzZdTtK0bxen9PP
    ตอนที่ 3 วัคซีนโควิดและผลกระทบ
    https://youtu.be/ys_ykPbyMks?si=sOZ4BZpb1Zhg-MTz
    ตอนที่ 4 เกิดอะไรขึ้นหลังรับวัคซีนโควิด ?
    https://youtu.be/vfNhMVNZWNg?si=yS65NMKehklN7szQ
    ตอนที่ 5 ไข้หวัดนก ตระหนักแต่อย่าตระหนก
    https://www.youtube.com/watch?v=tXNL1WAu4jY
    ✍️"คัดค้าน" การยอมรับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ๒๐๒๔
    https://www.facebook.com/share/p/1639NvU9RX/
    https://www.facebook.com/share/p/18tUEdihhK/
    https://www.facebook.com/share/p/1BSihJZD6h/
    https://at.thaipithaksith.com/who
    จดหมายขอแสดงความเห็น “คัดค้าน” การยอมรับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ.๒๐๒๔ https://drive.google.com/file/d/1eOHJXX2DczIsh33Z1wzZ_dtaQ1sJccKU/view?usp=drivesdk
    จดหมายที่เกี่ยวข้องที่เคยยื่นหน่วยงานทั้งหมด
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    ✍️ 28 เม.ย.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นจดหมายถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค ขอความโปร่งใสในการดำเนินงานเกี่ยวกับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ.2024 พร้อมเรียกร้องให้เปิดเผยเอกสารสำคัญและรายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใน 7 วันทำการ
    https://mgronline.com/qol/detail/9680000039977
    https://www.facebook.com/share/p/19KchygjUc/
    ✍️แบบฟอร์มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
    https://www.thaipithaksith.com/report-vaccine-injury?

    วัคซีนไข้หวัดใหญ่จำเป็นจริงหรือ?

    ✍️ยาต้านไข้หวัดใหญ่เกือบทั้งหมดมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
    https://www.facebook.com/share/p/12MUpcXzhix/
    ✍️วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉีดแล้วติดมากขึ้น
    https://www.facebook.com/share/p/1EtbSXvysA/
    ✍️การศึกษาในสหรัฐเองพบว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่กลับติดมากขึ้น
    https://www.facebook.com/share/p/1Ev49KVPiF/
    ✍️การผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้น เป็นไปไม่ได้ตามหลักทฤษฎี
    https://www.facebook.com/share/p/1BrRr6xNzE/
    ✍️วัคซีนไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งยารักษา มีประสิทธิภาพจำกัด
    https://www.facebook.com/share/p/1FRm4fuzTA/
    ✍️ข้อสงสัยวัคซีนไข้หวัดใหญ่และยาต้าน
    https://www.facebook.com/share/p/1AVAQJRB3W/
    ✍️เด็กควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือไม่
    https://www.rookon.com/?p=914
    ✍️การทดลองของ บริษัทยา พบว่ายาต้านไวรัส ไข้หวัดใหญ่ baloxavir อาจช่วยลดการแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่ในครัวเรือนได้ แต่ไม่ช่วยเรื่องอาการ
    https://www.facebook.com/share/p/15gVerMQdu/
    ✍️วัคซีน ไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่น ข้อควรระวัง ไวรัส วัคซีน ปลดปล่อยออกไปได้ สู่คนอื่นโดยเฉพาะ คนเปราะบาง
    https://www.facebook.com/share/p/15vdADs7EX/
    ✍️โคลอสตรุ้ม หัวน้ำนม นมแม่ ประโยชน์มหาศาลเช่น ป้องกันไข้หวัดใหญ่
    https://www.facebook.com/share/p/14dkhKZpMT/
    ✍️กระบวนการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่นำมาใช้ ไม่ใช่ใช้เพราะเป็นเพียงแต่ความเชื่อ
    https://www.facebook.com/share/p/16FphP1NoG/
    ✍️การบูลลี่คือสิ่งที่ไม่ควรทำกันโดยเฉพาะผู้ที่บอกคนอื่นว่าตนเป็นแพทย์
    https://www.facebook.com/share/p/1HqVz45t6n/
    https://www.facebook.com/share/p/16CJH6XQqL/
    https://www.facebook.com/share/p/1EXZXyfD7C/
    ✍️หมอดื้อยกข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ตอบข้อกล่าวหา
    https://www.facebook.com/share/p/1BrtYfLuA3/
    ✍️หนังสือดีๆ 2 เล่มที่อยากแนะนำ
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122113110074647289/?

    ...
    ✍️มะเร็งหัวใจ และเยื่อหุ้มหัวใจหลังจากวัคซีนโควิด mRNA (ตอน 1) หมอดื้อ
    https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2857516
    รวมลิงค์โพสต์สำคัญๆในเพจ อาการหลังรับวัคซีนต่างๆ 2/2 ✍️ถึงเวลาเปิดโปงรับรู้และต่อต้านระเบียบโลกใหม่ https://www.facebook.com/share/p/19GdFmcY73/ ✍️เราเชื่อองค์การอนามัยโลกได้เพียงใด? https://www.facebook.com/share/p/165qc2RJSg/ ✍️กฎหมายเสรีภาพทางการแพทย์และร่างกฎหมายแบน mRNA วัคซีน ในสหรัฐ https://www.facebook.com/share/p/16BCfkXpi1/ ✍️มินนิโซต้ากลายเป็นรัฐที่ 11 เพื่อดูความพยายามทางกฎหมายในการห้ามวัคซีนตามเทคโนโลยียีน mRNA https://www.facebook.com/share/p/1E8FPsMDZP/ ✍️สโลวาเกียเล็งระงับซื้อวัคซีนโควิดmRNA หลังมีรายงานชี้เปลี่ยนพันธุกรรมคน https://mgronline.com/around/detail/9680000038266 พบว่าวัคซีน mRNA บรรจุดีเอ็นเอในระดับสูงมากๆ เช่นเดียวกับสารต่างๆ ที่บริษัทผู้ผลิตไม่เปิดเผย https://news1live.com/detail/9680000038282 ✍️นพ.ธีระวัฒน์ ยกงานวิจัย ชี้ชัดวัคซีนโควิด ทำเส้นเลือดอุดตัน การเสียชีวิตเพิ่มขึ้นแปรตามการฉีดวัคซีน https://youtu.be/JFwdcP39MnM?si=7QPRmcaWOANYMJ87 ✍️อีเมล์ หมอยงตอบหมออรรถพล ในกรณีที่ มีผู้ป่วยเด็กที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด เข้ารับการรักษาในรพ.จุฬาลงกรณ์ ลองอ่านดูครับว่า หมอยง แสดงความเห็นใจ เป็นห่วงเป็นใย ผู้ป่วยบ้างไหม https://www.facebook.com/share/p/18qB9oj8MR/ ข้อมูลจากฐานข้อมูล องค์การอนามัยโลก พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด กลับเพิ่มมากขึ้น หลังจากการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในประเทศที่มีการฉีดมาก https://www.facebook.com/share/p/198894qDBY/ ✍️หมออรรถพลแนะจัดเวทีวิชาการคุยเรื่อง วัคซีนมรณา mRNA กันดีกว่า อย่ามัวดราม่า บูลลี่กันอยู่เลย https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7496066093576949009?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351 https://t.me/goodthaidoctorclip/1728 ✍️รายการปากซอย 105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา วันที่ 22 เมษายน 2568 https://www.youtube.com/live/O62sTRIcOKE?si=TygTglExUaiNUein ✍️อย่าเป็นฆาตรกรในเสื้อกราวด์ โดย พอ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา https://t.me/goodthaidoctorclip/1753 7402685923101970?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351 ✍️โรคออทิสติกระบาดหนัก ข้อมูลใหม่จาก CDC ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ และ HHS (เทียบเท่ากระทรวงสาธารณสุข ) https://www.facebook.com/share/p/15woR3q1gj/ https://www.facebook.com/share/p/1DRAfoMddx/ ✍️วัคซีนไข้หวัดใหญ่ คุ้มความเสี่ยงผลข้างเคียงไหม https://www.facebook.com/share/p/1Ud8cBuqFn/ https://www.facebook.com/share/p/1JvXpQ5vPU/ พิจารณาประสิทธิภาพ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://www.facebook.com/share/p/14tUYkZRR6A/ https://www.facebook.com/share/p/19wichtfbz/ https://www.facebook.com/share/p/1ALB4dygQj/ ✍️อึ้ง ! วัคซีนเด็กก่อโรคสารพัดโรค ชัดเจน https://thefreethoughtproject.com/new-study/jaw-dropping-study-finds-vaccinated-children-have-170-higher-risk-of-autism?fbclid=IwY2xjawJ77XFleHRuA2FlbQIxMQABHttPwuUaZejWIkDBB0qZd62h_8fHmdZP2aw4j8Dc4V5S8poBlI_AiFK4D3TQ_aem_NCw_KluKYAubgqcdFY1vPA ✍️งานวิจัยหลากหลายชิ้น คอนเฟิร์มว่าเด็กที่ฉีดวัคซีน จะป่วยและเป็นโรคได้มากกว่าเด็กที่ไม่ได้ฉีดเลยหลายเท่า https://www.facebook.com/share/p/16LRcRdzGv/ เรียนเชิญหมอที่เชียร์ให้เด็กฉีดวัคซีนมาดีเบทเพื่อให้ความจริงปรากฎ https://fb.watch/xcMgzvWmRj/? ✍️ข้อมูลจากสื่อหลักมิได้จริงเสมอไป https://www.facebook.com/share/p/1XsfU32uuq/ ✍️สถิติล่าสุด ถึงสิ้นเดือน มีนาคมที่ผ่านมา มกราคมถึงมีนาคม 2568 ปีปัจจุบัน คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด เทียบรายปีตั้งแต่มีการเก็บสถิติมา !!! 147,020 ราย !! จำนวนมากเป็นเด็ก เป็นคนหนุ่มสาวที่ไม่เคยมีโรคอะไรมาก่อน เยอะแยะที่ แข็งแรงดี แล้ว ก็ตายไปเฉยๆ หรือ เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย https://www.facebook.com/share/1DYEUZ2Cto/ https://www.facebook.com/share/p/15c51aDnCj/ https://www.facebook.com/share/p/1HPJMiXKiS/ ✍️เริ่มกระหน่ำคนไทยอีกรอบด้วยวซ.ฝีดาษลิง เริ่มที่ด่านหน้า https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/684107170971610/? ✍️วัคซีนไข้หวัดหมู 1976 ทำให้เกิดตายและพิการ ระงับ ชดเชย และรับผิดชอบ https://www.facebook.com/share/p/1HsCNDKyGk/ ✍️สมองเสื่อม จิตอารมณ์แปรปรวนเพิ่มขึ้น โดย หมอดื้อ https://www.facebook.com/share/p/16fc4KX7x7/ ✍️การเปิดโปงจากศาสตราจารย์ Jeffrey Sachs เรื่องการโกหกของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ และรู้เห็นกับการสร้างไวรัสโควิดจนพยายามปกปิดกลบเกลื่อน https://youtu.be/vtfIIG8iYIk?si=VfbvJBU_TQVEqsGp ✍️ทำเนียบขาวประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเว็บไซต์ทางการแฉ ต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโควิดว่า มาจากฝีมือมนุษย์ เป็นเชื้อที่สร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการ https://www.whitehouse.gov/lab-leak-true-origins-of-covid-19/ ✍️ 1 เม.ย. 2568 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาและนพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ เริ่มจัดรายการ Health Nexus ตอนที่ 1 เปิดเผยที่มาของการเซ็นเซอร์ข้อมูลข่าวสาร เซ็นเซอร์กำเนิดโควิดซึ่งมาจากการสร้างไวรัสใหม่และหลุดรั่วออกจากห้องปฏิบัติการ วัคซีนซึ่งเตรียมพร้อมมาก่อนการระบาด และการปกปิดข้อมูลผลข้างเคียงของวัคซีน https://youtu.be/aexZXA0QSKg?si=qoQxKZtu255RUhq1 ตอนที่ 2 นโยบายใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ส่งผลกระทบด้านสาธารณสุขทั้งในและต่างประเทศอย่างไร ? https://youtu.be/cuU1QmYGZtI?si=ftzZdTtK0bxen9PP ตอนที่ 3 วัคซีนโควิดและผลกระทบ https://youtu.be/ys_ykPbyMks?si=sOZ4BZpb1Zhg-MTz ตอนที่ 4 เกิดอะไรขึ้นหลังรับวัคซีนโควิด ? https://youtu.be/vfNhMVNZWNg?si=yS65NMKehklN7szQ ตอนที่ 5 ไข้หวัดนก ตระหนักแต่อย่าตระหนก https://www.youtube.com/watch?v=tXNL1WAu4jY ✍️"คัดค้าน" การยอมรับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ๒๐๒๔ https://www.facebook.com/share/p/1639NvU9RX/ https://www.facebook.com/share/p/18tUEdihhK/ https://www.facebook.com/share/p/1BSihJZD6h/ https://at.thaipithaksith.com/who จดหมายขอแสดงความเห็น “คัดค้าน” การยอมรับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ.๒๐๒๔ https://drive.google.com/file/d/1eOHJXX2DczIsh33Z1wzZ_dtaQ1sJccKU/view?usp=drivesdk จดหมายที่เกี่ยวข้องที่เคยยื่นหน่วยงานทั้งหมด https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna ✍️ 28 เม.ย.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นจดหมายถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค ขอความโปร่งใสในการดำเนินงานเกี่ยวกับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ.2024 พร้อมเรียกร้องให้เปิดเผยเอกสารสำคัญและรายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใน 7 วันทำการ https://mgronline.com/qol/detail/9680000039977 https://www.facebook.com/share/p/19KchygjUc/ ✍️แบบฟอร์มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 https://www.thaipithaksith.com/report-vaccine-injury? วัคซีนไข้หวัดใหญ่จำเป็นจริงหรือ? ✍️ยาต้านไข้หวัดใหญ่เกือบทั้งหมดมีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย https://www.facebook.com/share/p/12MUpcXzhix/ ✍️วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉีดแล้วติดมากขึ้น https://www.facebook.com/share/p/1EtbSXvysA/ ✍️การศึกษาในสหรัฐเองพบว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่กลับติดมากขึ้น https://www.facebook.com/share/p/1Ev49KVPiF/ ✍️การผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้น เป็นไปไม่ได้ตามหลักทฤษฎี https://www.facebook.com/share/p/1BrRr6xNzE/ ✍️วัคซีนไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งยารักษา มีประสิทธิภาพจำกัด https://www.facebook.com/share/p/1FRm4fuzTA/ ✍️ข้อสงสัยวัคซีนไข้หวัดใหญ่และยาต้าน https://www.facebook.com/share/p/1AVAQJRB3W/ ✍️เด็กควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือไม่ https://www.rookon.com/?p=914 ✍️การทดลองของ บริษัทยา พบว่ายาต้านไวรัส ไข้หวัดใหญ่ baloxavir อาจช่วยลดการแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่ในครัวเรือนได้ แต่ไม่ช่วยเรื่องอาการ https://www.facebook.com/share/p/15gVerMQdu/ ✍️วัคซีน ไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่น ข้อควรระวัง ไวรัส วัคซีน ปลดปล่อยออกไปได้ สู่คนอื่นโดยเฉพาะ คนเปราะบาง https://www.facebook.com/share/p/15vdADs7EX/ ✍️โคลอสตรุ้ม หัวน้ำนม นมแม่ ประโยชน์มหาศาลเช่น ป้องกันไข้หวัดใหญ่ https://www.facebook.com/share/p/14dkhKZpMT/ ✍️กระบวนการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่นำมาใช้ ไม่ใช่ใช้เพราะเป็นเพียงแต่ความเชื่อ https://www.facebook.com/share/p/16FphP1NoG/ ✍️การบูลลี่คือสิ่งที่ไม่ควรทำกันโดยเฉพาะผู้ที่บอกคนอื่นว่าตนเป็นแพทย์ https://www.facebook.com/share/p/1HqVz45t6n/ https://www.facebook.com/share/p/16CJH6XQqL/ https://www.facebook.com/share/p/1EXZXyfD7C/ ✍️หมอดื้อยกข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ตอบข้อกล่าวหา https://www.facebook.com/share/p/1BrtYfLuA3/ ✍️หนังสือดีๆ 2 เล่มที่อยากแนะนำ https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122113110074647289/? ... ✍️มะเร็งหัวใจ และเยื่อหุ้มหัวใจหลังจากวัคซีนโควิด mRNA (ตอน 1) หมอดื้อ https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2857516
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 532 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts