• ประธานาธิบดี ยุน ซ็อกยอล ของเกาหลีใต้ ที่ถูกรัฐสภาลงมติถอดถอน ทำให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ยังคงปฏิเสธหมายเรียกไปให้ปากคำของเจ้าหน้าที่สอบสวนทีมต่างๆ ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญเผยว่าเริ่มดำเนินการตามกระบวนการพิจารณาจะรับรองหรือปฏิเสธการถอดถอนประธานาธิบดีผู้นี้แล้วตั้งแต่วันจันทร์ (16 ธ.ค.)
    .
    ลี จิน โฆษกศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ แถลงในวันจันทร์ (16) ว่า ตุลาการรัฐธรรมนูญที่เวลานี้มีด้วยกัน 6 คน เริ่มการพิจารณาหารือแล้วเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามกระบวนการ หลังจากรัฐสภาลงมติถอดถอนยุนเมื่อวันเสาร์ (14) ที่ผ่านมา โดยจะจัดทำประชาพิจารณ์ครั้งแรกในวันที่ 27 ที่จะถึงนี้ เพื่อเตรียมการรับรองประเด็นสำคัญทางกฎหมายและกำหนดกรอบการการดำเนินการต่างๆ
    .
    ศาลรัฐธรรมนูญมีเวลาพิจารณาประมาณ 6 เดือนเพื่อตัดสินว่า จะยืนตามมติของรัฐสภาหรือไม่ และหากวินิจฉัยเห็นชอบให้ถอดถอนยุน เกาหลีใต้ก็จะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ภายในเวลา 2 เดือน
    .
    ครั้งล่าสุดที่มีการพิจารณาเรื่องเช่นนี้ คือในปี 2017 ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาราว 3 เดือน ก็สามารถประกาศคำตัดสินยืนยันให้ถอดถอน พัค กึน-ฮเย ประธานาธิบดีในขณะนั้น ซึ่งถูกสภาลงมติถอดถอนจากกรณีการใช้อำนาจโดยมิชอบ
    .
    นอกจากถูกรัฐสภาลงมติให้เข้าสู่กระบวนการถูกถอดถอนแล้ว ยังมีหน่วยงานอื่นๆ จัดการสอบสวนเขาคู่ขนานไปด้วย ทำให้ ยุน ที่ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศก่อนหน้านี้แล้ว ยังอาจถูกตั้งข้อหากบฏจากการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่อาวุโสอีกหลายคน
    .
    ทางด้านตำรวจเผยว่า ทีมสอบสวนร่วมระหว่างตำรวจ กระทรวงกลาโหม และสำนักงานปราบปรามการทุจริต ได้เรียกยุนมาสอบปากคำวันพุธ (18) นี้ ในข้อกล่าวหาเป็นผู้นำในการประกาศกฎอัยการศึกอย่างผิดกฎหมาย ทว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีปฏิเสธไม่ยอมรับหมายเรียก โดยอ้างว่า ไม่อยู่ในสถานะที่จะทำได้ และสำนักงานปราบปรามการทุจริตแจ้งว่า จะส่งหมายเรียกผ่านจดหมายลงทะเบียนด่วนอีกครั้ง
    .
    สำนักข่าวยอนฮัป ซึ่งเป็นสำนักข่าวกึ่งทางการของเกาหลีใต้รายงานว่า ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางเจ้าหน้าที่สอบสวนพยายามส่งหมายเรียกยุนไปให้ปากคำ ด้วยการส่งเจ้านห้าที่เดินทางไปที่สำนักงานประธานาธิบดีและที่บ้านพักประจำตำแหน่ง ทว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีไม่ยอมรับหมายดังกล่าว โดยอ้างเหตุผลเดียวกัน
    .
    เช่นเดียวกับสำนักงานอัยการที่ต้องออกหมายเรียกยุนครั้งที่ 2 ในวันจันทร์เพื่อให้เขาไปให้ปากคำเกี่ยวกับข้อกล่าวหากบฏและการใช้อำนาจโดยมิชอบ หลังจากถูกปฏิเสธไปเมื่อวันอาทิตย์ (15) โดยอ้างว่า กำลังจัดทีมกฎหมายเพื่อสู้คดี ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า หากยุนยังปฏิเสธอีก จะมีการออกหมายจับต่อไป
    .
    สื่อท้องถิ่นยังรายงานว่า ยุน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอัยการสูงสุดของประเทศ ก่อนที่จะชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดี ได้แต่งตั้งคิม ฮองอิล อดีตอัยการ เป็นผู้นำของทีมทนายความรับมือทั้งในกรณีการถูกถอดถอนและการถูกสอบสวนคดีอาญา
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง ตำรวจระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ (15) ได้จับกุมอดีตผู้บัญชาการและผู้บัญชาการคนปัจจุบัน ของกองบัญชาการข่าวกรองกลาโหม ฐานเกี่ยวข้องพัวพันกับข้อกล่าวหาเป็นกบฏของยุน
    .
    สำนักงานอัยการยังเปิดเผยว่า กำลังขอหมายจับ กว็อก จองกึน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ที่ถูกกล่าวหาว่า ส่งกองกำลังพิเศษไปยังรัฐสภาระหว่างการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งทำให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างทหารกับเจ้าหน้าที่สภา
    .
    ทางด้านพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ต้นสังกัดของยุนนั้น เมื่อวันจันทร์ ฮัน ด็องฮุน หัวหน้าพรรค ซึ่งแม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึก รวมทั้งให้การสนับสนุนการถอดถอนยุน ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง พร้อมขอโทษประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศกฎอัยการศึก
    .
    ฮันยังประณามกลุ่มสุดโต่ง โดยเฉพาะพวกนักทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดที่คอยกระพือข่าวเท็จทางโซเชียลมีเดียว่า มีการโกงเลือกตั้งอย่างมโหฬาร จึงทำให้พีพีพีพ่ายแพ้ยับเยินในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับเตือนว่า ลัทธิอนุรักษนิยมอาจหมดอนาคตในเกาหลีใต้ หากพีพีพียังคงหนุนหลังคนเหล่านี้
    .
    ทั้งนี้ ในการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อต้นเดือน เหตุผลหนึ่งที่ยุนยกมาเป็นข้ออ้าง คือเรื่องระบบการเลือกตั้งของเกาหลีใต้ไม่โปร่งใส
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000120822
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดี ยุน ซ็อกยอล ของเกาหลีใต้ ที่ถูกรัฐสภาลงมติถอดถอน ทำให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ยังคงปฏิเสธหมายเรียกไปให้ปากคำของเจ้าหน้าที่สอบสวนทีมต่างๆ ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญเผยว่าเริ่มดำเนินการตามกระบวนการพิจารณาจะรับรองหรือปฏิเสธการถอดถอนประธานาธิบดีผู้นี้แล้วตั้งแต่วันจันทร์ (16 ธ.ค.) . ลี จิน โฆษกศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ แถลงในวันจันทร์ (16) ว่า ตุลาการรัฐธรรมนูญที่เวลานี้มีด้วยกัน 6 คน เริ่มการพิจารณาหารือแล้วเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามกระบวนการ หลังจากรัฐสภาลงมติถอดถอนยุนเมื่อวันเสาร์ (14) ที่ผ่านมา โดยจะจัดทำประชาพิจารณ์ครั้งแรกในวันที่ 27 ที่จะถึงนี้ เพื่อเตรียมการรับรองประเด็นสำคัญทางกฎหมายและกำหนดกรอบการการดำเนินการต่างๆ . ศาลรัฐธรรมนูญมีเวลาพิจารณาประมาณ 6 เดือนเพื่อตัดสินว่า จะยืนตามมติของรัฐสภาหรือไม่ และหากวินิจฉัยเห็นชอบให้ถอดถอนยุน เกาหลีใต้ก็จะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ภายในเวลา 2 เดือน . ครั้งล่าสุดที่มีการพิจารณาเรื่องเช่นนี้ คือในปี 2017 ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาราว 3 เดือน ก็สามารถประกาศคำตัดสินยืนยันให้ถอดถอน พัค กึน-ฮเย ประธานาธิบดีในขณะนั้น ซึ่งถูกสภาลงมติถอดถอนจากกรณีการใช้อำนาจโดยมิชอบ . นอกจากถูกรัฐสภาลงมติให้เข้าสู่กระบวนการถูกถอดถอนแล้ว ยังมีหน่วยงานอื่นๆ จัดการสอบสวนเขาคู่ขนานไปด้วย ทำให้ ยุน ที่ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศก่อนหน้านี้แล้ว ยังอาจถูกตั้งข้อหากบฏจากการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่อาวุโสอีกหลายคน . ทางด้านตำรวจเผยว่า ทีมสอบสวนร่วมระหว่างตำรวจ กระทรวงกลาโหม และสำนักงานปราบปรามการทุจริต ได้เรียกยุนมาสอบปากคำวันพุธ (18) นี้ ในข้อกล่าวหาเป็นผู้นำในการประกาศกฎอัยการศึกอย่างผิดกฎหมาย ทว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีปฏิเสธไม่ยอมรับหมายเรียก โดยอ้างว่า ไม่อยู่ในสถานะที่จะทำได้ และสำนักงานปราบปรามการทุจริตแจ้งว่า จะส่งหมายเรียกผ่านจดหมายลงทะเบียนด่วนอีกครั้ง . สำนักข่าวยอนฮัป ซึ่งเป็นสำนักข่าวกึ่งทางการของเกาหลีใต้รายงานว่า ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางเจ้าหน้าที่สอบสวนพยายามส่งหมายเรียกยุนไปให้ปากคำ ด้วยการส่งเจ้านห้าที่เดินทางไปที่สำนักงานประธานาธิบดีและที่บ้านพักประจำตำแหน่ง ทว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีไม่ยอมรับหมายดังกล่าว โดยอ้างเหตุผลเดียวกัน . เช่นเดียวกับสำนักงานอัยการที่ต้องออกหมายเรียกยุนครั้งที่ 2 ในวันจันทร์เพื่อให้เขาไปให้ปากคำเกี่ยวกับข้อกล่าวหากบฏและการใช้อำนาจโดยมิชอบ หลังจากถูกปฏิเสธไปเมื่อวันอาทิตย์ (15) โดยอ้างว่า กำลังจัดทีมกฎหมายเพื่อสู้คดี ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า หากยุนยังปฏิเสธอีก จะมีการออกหมายจับต่อไป . สื่อท้องถิ่นยังรายงานว่า ยุน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอัยการสูงสุดของประเทศ ก่อนที่จะชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดี ได้แต่งตั้งคิม ฮองอิล อดีตอัยการ เป็นผู้นำของทีมทนายความรับมือทั้งในกรณีการถูกถอดถอนและการถูกสอบสวนคดีอาญา . ในอีกด้านหนึ่ง ตำรวจระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ (15) ได้จับกุมอดีตผู้บัญชาการและผู้บัญชาการคนปัจจุบัน ของกองบัญชาการข่าวกรองกลาโหม ฐานเกี่ยวข้องพัวพันกับข้อกล่าวหาเป็นกบฏของยุน . สำนักงานอัยการยังเปิดเผยว่า กำลังขอหมายจับ กว็อก จองกึน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ที่ถูกกล่าวหาว่า ส่งกองกำลังพิเศษไปยังรัฐสภาระหว่างการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งทำให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างทหารกับเจ้าหน้าที่สภา . ทางด้านพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ต้นสังกัดของยุนนั้น เมื่อวันจันทร์ ฮัน ด็องฮุน หัวหน้าพรรค ซึ่งแม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึก รวมทั้งให้การสนับสนุนการถอดถอนยุน ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง พร้อมขอโทษประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศกฎอัยการศึก . ฮันยังประณามกลุ่มสุดโต่ง โดยเฉพาะพวกนักทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดที่คอยกระพือข่าวเท็จทางโซเชียลมีเดียว่า มีการโกงเลือกตั้งอย่างมโหฬาร จึงทำให้พีพีพีพ่ายแพ้ยับเยินในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับเตือนว่า ลัทธิอนุรักษนิยมอาจหมดอนาคตในเกาหลีใต้ หากพีพีพียังคงหนุนหลังคนเหล่านี้ . ทั้งนี้ ในการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อต้นเดือน เหตุผลหนึ่งที่ยุนยกมาเป็นข้ออ้าง คือเรื่องระบบการเลือกตั้งของเกาหลีใต้ไม่โปร่งใส . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000120822 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 823 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ได้เริ่มกระบวนการสอบสวนประธานาธิบดีในข้อหากบฏแล้ว

    ยังมีรายงานอีกว่า ผู้บัญชาการกองทัพเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจโดยตรงตามกฎอัยการศึกที่ประกาศโดยประธานาธิบดี ได้ลาออกแล้วเช่นกัน

    นอกจากนี้ ส.ส. 191 คนจากทั้งหมด 300 คน ได้ลงนามเกี่ยวกับการถอดถอนประธานาธิบดีแล้ว การลงมติอาจเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม นี้
    สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ได้เริ่มกระบวนการสอบสวนประธานาธิบดีในข้อหากบฏแล้ว ยังมีรายงานอีกว่า ผู้บัญชาการกองทัพเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจโดยตรงตามกฎอัยการศึกที่ประกาศโดยประธานาธิบดี ได้ลาออกแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ ส.ส. 191 คนจากทั้งหมด 300 คน ได้ลงนามเกี่ยวกับการถอดถอนประธานาธิบดีแล้ว การลงมติอาจเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม นี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้อาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตในข้อหากบฏ

    รัฐมนตรีกลาโหม คิม ยอง-ฮยอน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียุน ซอก ยอล จนก่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง เมื่อกองกำลังติดอาวุธยึดรัฐสภา และห้ามกิจกรรมทางการเมืองและเสรีภาพสื่อ

    คิม ยอง-ฮยอน อาจต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาก่อกบฏ ซึ่งมีโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
    รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้อาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตในข้อหากบฏ รัฐมนตรีกลาโหม คิม ยอง-ฮยอน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียุน ซอก ยอล จนก่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง เมื่อกองกำลังติดอาวุธยึดรัฐสภา และห้ามกิจกรรมทางการเมืองและเสรีภาพสื่อ คิม ยอง-ฮยอน อาจต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาก่อกบฏ ซึ่งมีโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อหากบฏ หากยกเกาะกูดให้เขมร 26/10/67 #ไพศาล #เกาะกูด #ข้อหากบฏ #นักการเมือง #คนขายชาติ #ยุบพรรค
    ข้อหากบฏ หากยกเกาะกูดให้เขมร 26/10/67 #ไพศาล #เกาะกูด #ข้อหากบฏ #นักการเมือง #คนขายชาติ #ยุบพรรค
    Like
    Love
    22
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2140 มุมมอง 834 0 รีวิว
  • สหรัฐ-รัสเซียแลกตัวนักโทษครั้งใหญ่ .. อีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัล และพอล วีแลน อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวผ่านการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งใหญ่16รายกับรัสเซีย และรัสเซียได้คืน 8 ราย

    1 กรกฎาคม 2567 -รายงานข่าวจากสื่อBloomberg ระบุว่า อีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าว( Evan Gershkovich)ของวอลล์สตรีทเจอร์นัล และพอล วีแลน(Paul Whelan)อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคนหนึ่งใน 16 รายที่คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวผ่านการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งประวัติศาสตร์กับรัสเซีย ขณะที่ทำเนียบขาวไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนนักโทษนี้

    สื่อ RIA ของรัฐบาลรัสเซีย รายงานด้วยว่าทนายความของ Alexander Vinnik ชาวรัสเซียที่ถูกจำคุกอยู่ในสหรัฐฯ กล่าวว่าเขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษในเร็วๆ นี้โดยปฏิเสธที่จะระบุตำแหน่งที่แน่นอนของเขา

    RIA รายงานว่าข้อมูลของชาวรัสเซีย 4 คนที่ถูกคุมขังอยู่ในสหรัฐฯ ได้แก่ วินนิก แม็กซิม มาร์เชนโก วาดิม โคโนชเชนโก และวลาดิสลาฟ คลูชิน ซึ่งรายชื่อทั้งสี่หายไปจากฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ของรัฐบาลกลาง

    ส่วนอดีตนาวิกโยธินสหรัฐ พอล วีแลนถูกจับกุมในปี 2018 และต่อมาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานเป็นสายลับ โดยเขา ครอบครัวของเขา และรัฐบาลสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว เขาถูกตัดสินจำคุก 16 ปี และรัฐบาลสหรัฐฯชี้ว่าเขา "ถูกคุมขังโดยมิชอบ" แต่ครั้งที่แล้วเขาไม่ได้รับปล่อยตัวเขาได้ในการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งก่อนๆ ซึ่งได้แก่ เทรเวอร์ รีด ชาวอเมริกัน และบริทท์นีย์ กริเนอร์ สตาร์ แห่ง WNBA ซึ่งทั้งคู่ได้รับการปล่อยตัวในการแลกเปลี่ยนนักโทษในปี 2022

    สำหรับ เกิร์ชโควิช นักข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัลถูกจับกุม ในเยคาเตรินเบิร์กเมื่อเดือนมีนาคม 2023 และถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับของสหรัฐหาข่าวเกี่ยวกับกองทัพรัสเซีย เขากลายเป็นนักข่าวชาวอเมริกันคนแรกที่ถูกคุมขังในรัสเซียนับตั้งแต่สงครามและถูกตัดสินจำคุก 16 ปีในกรกฎาคม

    สื่อBloomberg เป็นคนแรกที่รายงานข่าวการแลกตัวนักโทษดังกล่าว โดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า รัฐบาลของไบเดน กลุ่มเสรีภาพสื่อ และ นายจ้างของเกอร์ชโควิช ต่างเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขาและยกฟ้องโทษโดยระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเรื่องแต่งขึ้นมา

    ก่อนหน้านี้ ไบเดนกล่าวว่าเขายินดีที่จะตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษเพื่อปล่อยตัวเกอร์ชโควิช ซึ่งเป็นวิธีที่เขาเคยใช้มาก่อน กรณีปล่อยตัว กรีนเนอร์เพื่อแลกกับวิกเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย ซึ่งได้รับฉายาว่า “พ่อค้าแห่งความตาย”

    ในบทสัมภาษณ์กับทักเกอร์ คาร์ลสัน อดีตพิธีกรรายการ Fox News เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์ ปูตินระบุว่าเขายินดีที่จะแลกเปลี่ยนนักโทษ และมีการคาดเดาว่ามอสโกว์ต้องการให้วาดิม คราซิคอฟ กลับประเทศ ซึ่งกำลังรับโทษจำคุกตลอดชีวิตในเยอรมนีในข้อหาสังหารพลเมืองจอร์เจียที่ต่อสู้กับรัสเซียในเชชเนียเมื่อปี 2019

    นอกจากนี้ Bloomberg ยังรายงานด้วยว่าVladimir Kara-Murza ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ เขาถูกตัดสินจำคุก 25 ปีในข้อหากบฏหลังจากวิจารณ์การรุกรานยูเครนของประเทศรัสเซีย ก็เป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนนี้ด้วย

    การแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งสุดท้ายระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียเกิดขึ้นในปี 2022 เพื่อปล่อยตัว บริทท์นีย์ กริเนอร์ สตาร์แห่ง WNBA

    สำหรับครั้งนี้ นักโทษทั้ง 24 คน ซึ่งบางคนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง บางคนไม่ใช่ ประกอบไปด้วยนักข่าวและนักการเมืองผู้เห็นต่าง ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับ แฮกเกอร์คอมพิวเตอร์ และนักต้มตุ๋น รวมถึงชายคนหนึ่งที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรม

    โดยรัสเซียปล่อยตัวนักโทษสหรัฐ 16 คน รวมถึงอีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัล และพอล วีแลน อดีตนาวิกโยธินและผู้บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยขององค์กรจากมิชิแกน ทั้งคู่ต้องเผชิญกับโทษจำคุกเป็นเวลานานหลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดในระบบกฎหมายของรัสเซียที่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหนักในข้อหาจารกรรม ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าไม่มีมูลความจริง นอกจากนี้ มอสโกยังได้ปล่อยตัวนักข่าวจาก Radio Free Europe/Radio Liberty อย่าง Alsu Kurmasheva ซึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐฯ-รัสเซียที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับกองทัพรัสเซียเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งครอบครัวและนายจ้างของเธอได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และ Vladimir Kara-Murza คอลัมนิสต์วอชิงตันโพสต์นักวิจารณ์เครมลินและนักเขียนที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ซึ่งต้องโทษจำคุก 25 ปีในข้อหากบฏซึ่งหลายคนมองว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง

    ส่วนในบรรดานักโทษ 8 รายที่รัสเซียได้ตัวกลับคืนมานั้น วาดิม คราซิคอฟ เป็นคนฉาวโฉ่ที่สุด ซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดในเยอรมนีเมื่อปี 2021 ในข้อหาสังหารอดีตกบฏเชชเนียในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเบอร์ลินเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเห็นได้ชัดว่าเป็นคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคงของมอสโก นอกจากนี้ เขายังได้รับตัวเจ้าหน้าที่ "ที่แฝงตัว" 2 คนที่ถูกจำคุกในสโลวีเนีย ชาย 3 คนที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในสหรัฐฯ และชาย 2 คนที่เพิ่งเดินทางกลับจากนอร์เวย์และโปแลนด์

    https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-08-01/us-reporter-released-by-russia-in-multi-country-prisoner-swap

    #Thaitimes

    สหรัฐ-รัสเซียแลกตัวนักโทษครั้งใหญ่ .. อีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัล และพอล วีแลน อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวผ่านการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งใหญ่16รายกับรัสเซีย และรัสเซียได้คืน 8 ราย 1 กรกฎาคม 2567 -รายงานข่าวจากสื่อBloomberg ระบุว่า อีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าว( Evan Gershkovich)ของวอลล์สตรีทเจอร์นัล และพอล วีแลน(Paul Whelan)อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคนหนึ่งใน 16 รายที่คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวผ่านการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งประวัติศาสตร์กับรัสเซีย ขณะที่ทำเนียบขาวไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนนักโทษนี้ สื่อ RIA ของรัฐบาลรัสเซีย รายงานด้วยว่าทนายความของ Alexander Vinnik ชาวรัสเซียที่ถูกจำคุกอยู่ในสหรัฐฯ กล่าวว่าเขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษในเร็วๆ นี้โดยปฏิเสธที่จะระบุตำแหน่งที่แน่นอนของเขา RIA รายงานว่าข้อมูลของชาวรัสเซีย 4 คนที่ถูกคุมขังอยู่ในสหรัฐฯ ได้แก่ วินนิก แม็กซิม มาร์เชนโก วาดิม โคโนชเชนโก และวลาดิสลาฟ คลูชิน ซึ่งรายชื่อทั้งสี่หายไปจากฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ของรัฐบาลกลาง ส่วนอดีตนาวิกโยธินสหรัฐ พอล วีแลนถูกจับกุมในปี 2018 และต่อมาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานเป็นสายลับ โดยเขา ครอบครัวของเขา และรัฐบาลสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว เขาถูกตัดสินจำคุก 16 ปี และรัฐบาลสหรัฐฯชี้ว่าเขา "ถูกคุมขังโดยมิชอบ" แต่ครั้งที่แล้วเขาไม่ได้รับปล่อยตัวเขาได้ในการแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งก่อนๆ ซึ่งได้แก่ เทรเวอร์ รีด ชาวอเมริกัน และบริทท์นีย์ กริเนอร์ สตาร์ แห่ง WNBA ซึ่งทั้งคู่ได้รับการปล่อยตัวในการแลกเปลี่ยนนักโทษในปี 2022 สำหรับ เกิร์ชโควิช นักข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัลถูกจับกุม ในเยคาเตรินเบิร์กเมื่อเดือนมีนาคม 2023 และถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับของสหรัฐหาข่าวเกี่ยวกับกองทัพรัสเซีย เขากลายเป็นนักข่าวชาวอเมริกันคนแรกที่ถูกคุมขังในรัสเซียนับตั้งแต่สงครามและถูกตัดสินจำคุก 16 ปีในกรกฎาคม สื่อBloomberg เป็นคนแรกที่รายงานข่าวการแลกตัวนักโทษดังกล่าว โดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า รัฐบาลของไบเดน กลุ่มเสรีภาพสื่อ และ นายจ้างของเกอร์ชโควิช ต่างเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขาและยกฟ้องโทษโดยระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเรื่องแต่งขึ้นมา ก่อนหน้านี้ ไบเดนกล่าวว่าเขายินดีที่จะตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษเพื่อปล่อยตัวเกอร์ชโควิช ซึ่งเป็นวิธีที่เขาเคยใช้มาก่อน กรณีปล่อยตัว กรีนเนอร์เพื่อแลกกับวิกเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย ซึ่งได้รับฉายาว่า “พ่อค้าแห่งความตาย” ในบทสัมภาษณ์กับทักเกอร์ คาร์ลสัน อดีตพิธีกรรายการ Fox News เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์ ปูตินระบุว่าเขายินดีที่จะแลกเปลี่ยนนักโทษ และมีการคาดเดาว่ามอสโกว์ต้องการให้วาดิม คราซิคอฟ กลับประเทศ ซึ่งกำลังรับโทษจำคุกตลอดชีวิตในเยอรมนีในข้อหาสังหารพลเมืองจอร์เจียที่ต่อสู้กับรัสเซียในเชชเนียเมื่อปี 2019 นอกจากนี้ Bloomberg ยังรายงานด้วยว่าVladimir Kara-Murza ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ เขาถูกตัดสินจำคุก 25 ปีในข้อหากบฏหลังจากวิจารณ์การรุกรานยูเครนของประเทศรัสเซีย ก็เป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนนี้ด้วย การแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งสุดท้ายระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียเกิดขึ้นในปี 2022 เพื่อปล่อยตัว บริทท์นีย์ กริเนอร์ สตาร์แห่ง WNBA สำหรับครั้งนี้ นักโทษทั้ง 24 คน ซึ่งบางคนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง บางคนไม่ใช่ ประกอบไปด้วยนักข่าวและนักการเมืองผู้เห็นต่าง ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับ แฮกเกอร์คอมพิวเตอร์ และนักต้มตุ๋น รวมถึงชายคนหนึ่งที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรม โดยรัสเซียปล่อยตัวนักโทษสหรัฐ 16 คน รวมถึงอีวาน เกิร์ชโควิช นักข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัล และพอล วีแลน อดีตนาวิกโยธินและผู้บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยขององค์กรจากมิชิแกน ทั้งคู่ต้องเผชิญกับโทษจำคุกเป็นเวลานานหลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดในระบบกฎหมายของรัสเซียที่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหนักในข้อหาจารกรรม ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่าไม่มีมูลความจริง นอกจากนี้ มอสโกยังได้ปล่อยตัวนักข่าวจาก Radio Free Europe/Radio Liberty อย่าง Alsu Kurmasheva ซึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐฯ-รัสเซียที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับกองทัพรัสเซียเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งครอบครัวและนายจ้างของเธอได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และ Vladimir Kara-Murza คอลัมนิสต์วอชิงตันโพสต์นักวิจารณ์เครมลินและนักเขียนที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ซึ่งต้องโทษจำคุก 25 ปีในข้อหากบฏซึ่งหลายคนมองว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง ส่วนในบรรดานักโทษ 8 รายที่รัสเซียได้ตัวกลับคืนมานั้น วาดิม คราซิคอฟ เป็นคนฉาวโฉ่ที่สุด ซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดในเยอรมนีเมื่อปี 2021 ในข้อหาสังหารอดีตกบฏเชชเนียในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเบอร์ลินเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเห็นได้ชัดว่าเป็นคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคงของมอสโก นอกจากนี้ เขายังได้รับตัวเจ้าหน้าที่ "ที่แฝงตัว" 2 คนที่ถูกจำคุกในสโลวีเนีย ชาย 3 คนที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในสหรัฐฯ และชาย 2 คนที่เพิ่งเดินทางกลับจากนอร์เวย์และโปแลนด์ https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-08-01/us-reporter-released-by-russia-in-multi-country-prisoner-swap #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 840 มุมมอง 0 รีวิว