• บริษัททัวร์ eTravelWay.com บริษัททัวร์ต่างประเทศแห่งใหญ่ที่สุดบนโลกออนไลน์ ประสบการณ์กว่า 21 ปี
    จัดเต็มความเหนือระดับบริการนำเที่ยวทัวร์ต่างประเทศและทัวร์ในประเทศ ที่มีตัวเลือกเส้นทางท่องเที่ยวให้ลูกค้าได้เลือกกันอย่างจุใจ จำนวนมากและหลากหลายที่สุดบนโลกออนไลน์ พาชมครบทุกจุดแลนด์มาร์ก เช็คอินทุกมุมไฮไลต์ ดูแลทุกการเดินทางอย่างใกล้ชิดโดยทีมมัคคุเทศน์มืออาชีพที่มีใบอนุญาตถูกต้อง การันตีความน่าเชื่อถือจากการเป็นบริษัททัวร์ต่างประเทศ ที่มีลูกค้านับหมื่นรายต่อปีให้ความไว้วางใจเสมอมาตลอดระยะเวลากว่า 21 ปี เดินทางอย่างมีความสุขและประทับใจแบบไม่รู้ลืมไปกับเรา

    นอกจากโปรแกรมทัวร์ต่างประเทศและในประเทศแล้ว เรายังเป็นผู้ให้บริการจองโรงแรม เที่ยวบิน รถยนต์ ท่องเที่ยวเรือสำราญ รวมถึงตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ระดับแนวหน้าของไทย ครบวงจรทุกเรื่องการเดินทางและการท่องเที่ยวในที่เดียว ด้วยราคามาตรฐานยุติธรรม ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษา แนะนำแพ็คเกจที่ใช่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เลือกให้เราเป็นผู้ช่วยสร้างความทรงจำดีๆ ในวันหยุดของทุกท่าน เลือก eTravelWay.com
    ✨บริษัททัวร์ eTravelWay.com บริษัททัวร์ต่างประเทศแห่งใหญ่ที่สุดบนโลกออนไลน์ ประสบการณ์กว่า 21 ปี จัดเต็มความเหนือระดับบริการนำเที่ยวทัวร์ต่างประเทศและทัวร์ในประเทศ ที่มีตัวเลือกเส้นทางท่องเที่ยวให้ลูกค้าได้เลือกกันอย่างจุใจ จำนวนมากและหลากหลายที่สุดบนโลกออนไลน์ พาชมครบทุกจุดแลนด์มาร์ก เช็คอินทุกมุมไฮไลต์ ดูแลทุกการเดินทางอย่างใกล้ชิดโดยทีมมัคคุเทศน์มืออาชีพที่มีใบอนุญาตถูกต้อง การันตีความน่าเชื่อถือจากการเป็นบริษัททัวร์ต่างประเทศ ที่มีลูกค้านับหมื่นรายต่อปีให้ความไว้วางใจเสมอมาตลอดระยะเวลากว่า 21 ปี เดินทางอย่างมีความสุขและประทับใจแบบไม่รู้ลืมไปกับเรา ✨นอกจากโปรแกรมทัวร์ต่างประเทศและในประเทศแล้ว เรายังเป็นผู้ให้บริการจองโรงแรม เที่ยวบิน รถยนต์ ท่องเที่ยวเรือสำราญ รวมถึงตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ระดับแนวหน้าของไทย ครบวงจรทุกเรื่องการเดินทางและการท่องเที่ยวในที่เดียว ด้วยราคามาตรฐานยุติธรรม ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษา แนะนำแพ็คเกจที่ใช่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เลือกให้เราเป็นผู้ช่วยสร้างความทรงจำดีๆ ในวันหยุดของทุกท่าน เลือก eTravelWay.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'แพทองธาร' ปัดตอบปม 'ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ' ของ 'ฮุน เซน' ชี้สื่อไทยอย่าเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา!
    https://www.thai-tai.tv/news/20431/
    .
    #แพทองธาร #ฮุนเซน #ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ #ข่าวการเมือง #สื่อไทย #กัมพูชา #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
    'แพทองธาร' ปัดตอบปม 'ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ' ของ 'ฮุน เซน' ชี้สื่อไทยอย่าเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา! https://www.thai-tai.tv/news/20431/ . #แพทองธาร #ฮุนเซน #ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ #ข่าวการเมือง #สื่อไทย #กัมพูชา #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนและสเมริกามองประเทศไทยในบริบททางยุทธศาสตร์และผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองประเทศต่างให้ความสำคัญกับบทบาทของไทยในภูมิภาค ดังนี้

    ### มุมมองของจีนต่อไทย:
    1. **หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เชิงภูมิภาค**
    - จีนมองไทยเป็น "ศูนย์กลางเชื่อมโยงอาเซียน-จีน" ภายใต้ความริเริ่ม Belt and Road (BRI) โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงและระเบียงเศรษฐกิจอีสานตะวันออก (EEC)
    - ให้ความสำคัญกับไทยในฐานะคู่ค้าอันดับ 1 ในอาเซียน (มูลค่าการค้า 1.35 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023)

    2. **ความร่วมมือด้านความมั่นคง**
    - ส่งเสริมการฝึกทหารร่วมและความร่วมมือด้านอาชญากรรมข้ามชาติ
    - เน้นการแก้ไขปัญหาภาคใต้ของไทยโดยไม่แทรกแซงกิจการภายใน

    3. **มิติทางวัฒนธรรม**
    - ใช้ "อำนาจอ่อน" ผ่านสถาบันขงจื่อและการท่องเที่ยว (นักท่องเที่ยวจีนมาไทยกว่า 5 ล้านคน/ปีก่อนโควิด)

    ### มุมมองของสหรัฐอเมริกาต่อไทย:
    1. **พันธมิตรด้านความมั่นคงแบบดั้งเดิม**
    - เน้นบทบาทไทยในสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันอาเซียน-สหรัฐฯ (ADMM-Plus) และการฝึก Cobra Gold
    - ยังคงสถานะ "พันธมิตรนอกนาโต้" (Major Non-NATO Ally) แม้มีความกังวลหลังรัฐประการ 2557

    2. **เกมภูมิรัฐศาสตร์**
    - มองไทยเป็นจุดสมดุลสำคัญต่อการขยายอิทธิพลจีนในลุ่มแม่น้ำโขง
    - สนับสนุนความเข้มแข็งของอาเซียนผ่านโครงการ Mekong-US Partnership

    3. **ประเด็นค่านิยม**
    - กดดันไทยเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง
    - ใช้กลไกตรวจสอบการค้า (เช่น รายงาน TIP Report) เป็นเครื่องมือทางการทูต

    ### จุดร่วมของทั้งสองมหาอำนาจ:
    - เห็นไทยเป็น "ประตูสู่อาเซียน" ด้วยศักยภาพทางโลจิสติกส์และฐานการผลิต
    - ต่างแข่งขันลงทุนใน EEC โดยจีนเน้นอุตสาหกรรม (เช่น ยานยนต์ EV) สหรัฐฯ เน้นดิจิทัลและพลังงานสะอาด
    - ให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอาหารของไทยในห่วงโซ่อุปทานโลก

    ### ยุทธศาสตร์ "สมดุลอำนาจ" ของไทย:
    ไทยดำเนินนโยบาย "ไม้สามเส้า" อย่างชาญฉลาด โดย:
    1. รักษาความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ
    2. ผลักดันความร่วมมือเศรษฐกิจกับจีน
    3. ยึดอาเซียนเป็นศูนย์กลาง

    ข้อมูลล่าสุดปี 2024 แสดงให้เห็นว่าไทยสามารถรักษาสัดส่วนการค้ากับทั้งสองมหาอำนาจได้ใกล้เคียงกัน (การค้าไทย-จีน 18% ของทั้งหมด ไทย-สหรัฐฯ 11%) สะท้อนความสำเร็จของยุทธศาสตร์นี้ภายใต้บริบทความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจที่ทวีความรุนแรงขึ้น
    จีนและสเมริกามองประเทศไทยในบริบททางยุทธศาสตร์และผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองประเทศต่างให้ความสำคัญกับบทบาทของไทยในภูมิภาค ดังนี้ ### มุมมองของจีนต่อไทย: 1. **หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เชิงภูมิภาค** - จีนมองไทยเป็น "ศูนย์กลางเชื่อมโยงอาเซียน-จีน" ภายใต้ความริเริ่ม Belt and Road (BRI) โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงและระเบียงเศรษฐกิจอีสานตะวันออก (EEC) - ให้ความสำคัญกับไทยในฐานะคู่ค้าอันดับ 1 ในอาเซียน (มูลค่าการค้า 1.35 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023) 2. **ความร่วมมือด้านความมั่นคง** - ส่งเสริมการฝึกทหารร่วมและความร่วมมือด้านอาชญากรรมข้ามชาติ - เน้นการแก้ไขปัญหาภาคใต้ของไทยโดยไม่แทรกแซงกิจการภายใน 3. **มิติทางวัฒนธรรม** - ใช้ "อำนาจอ่อน" ผ่านสถาบันขงจื่อและการท่องเที่ยว (นักท่องเที่ยวจีนมาไทยกว่า 5 ล้านคน/ปีก่อนโควิด) ### มุมมองของสหรัฐอเมริกาต่อไทย: 1. **พันธมิตรด้านความมั่นคงแบบดั้งเดิม** - เน้นบทบาทไทยในสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันอาเซียน-สหรัฐฯ (ADMM-Plus) และการฝึก Cobra Gold - ยังคงสถานะ "พันธมิตรนอกนาโต้" (Major Non-NATO Ally) แม้มีความกังวลหลังรัฐประการ 2557 2. **เกมภูมิรัฐศาสตร์** - มองไทยเป็นจุดสมดุลสำคัญต่อการขยายอิทธิพลจีนในลุ่มแม่น้ำโขง - สนับสนุนความเข้มแข็งของอาเซียนผ่านโครงการ Mekong-US Partnership 3. **ประเด็นค่านิยม** - กดดันไทยเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง - ใช้กลไกตรวจสอบการค้า (เช่น รายงาน TIP Report) เป็นเครื่องมือทางการทูต ### จุดร่วมของทั้งสองมหาอำนาจ: - เห็นไทยเป็น "ประตูสู่อาเซียน" ด้วยศักยภาพทางโลจิสติกส์และฐานการผลิต - ต่างแข่งขันลงทุนใน EEC โดยจีนเน้นอุตสาหกรรม (เช่น ยานยนต์ EV) สหรัฐฯ เน้นดิจิทัลและพลังงานสะอาด - ให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอาหารของไทยในห่วงโซ่อุปทานโลก ### ยุทธศาสตร์ "สมดุลอำนาจ" ของไทย: ไทยดำเนินนโยบาย "ไม้สามเส้า" อย่างชาญฉลาด โดย: 1. รักษาความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ 2. ผลักดันความร่วมมือเศรษฐกิจกับจีน 3. ยึดอาเซียนเป็นศูนย์กลาง ข้อมูลล่าสุดปี 2024 แสดงให้เห็นว่าไทยสามารถรักษาสัดส่วนการค้ากับทั้งสองมหาอำนาจได้ใกล้เคียงกัน (การค้าไทย-จีน 18% ของทั้งหมด ไทย-สหรัฐฯ 11%) สะท้อนความสำเร็จของยุทธศาสตร์นี้ภายใต้บริบทความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจที่ทวีความรุนแรงขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • KITS Style การรถไฟมาเลย์ทำซูเปอร์แอปฯ

    หลังจากที่การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) หรือ KTMB ประเทศมาเลเซีย พยายามผลักดันการซื้อตั๋วรถไฟแบบไร้เงินสดเต็มรูปแบบ มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 เป็นต้นมา ล่าสุดได้เปลี่ยนแพลตฟอร์มจำหน่ายตั๋วโดยสารออนไลน์แบบบูรณาการ KITS (KTMB Integrated Ticketing System) มาเป็นซูเปอร์แอปพลิเคชันที่ชื่อว่า คิทส์ สไตล์ (KITS Style) โดยได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยร่วมมือกันระหว่าง KTMB กับเอ็มเปย์ (MPay) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลในมาเลเซีย

    โดยคุณสมบัติหลักของแอปฯ KITS Style คือ การซื้อตั๋วรถไฟของ KTMB ทั้งรถไฟ ETS/Intercity รถไฟชานเมือง KTM Komuter รถไฟข้ามแดน Shuttle Tebrau พ่วงไปกับการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ตั๋วรถไฟต่างประเทศ รถเช่า รถรับ-ส่งสนามบิน เรือสำราญ กิจกรรมการท่องเที่ยวโดย Trip.com บริการเรียกรถรับจ้างสาธารณะ (E-Hailing) นอกจากนี้ยังสามารถโอนเงินต่างประเทศ ประกัน ตากาฟูล จ่ายบิลและเติมเงินโทรศัพท์มือถือในมาเลเซียอีกด้วย

    พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัวบัตร KITS Style Mastercard Prepaid Card ซึ่งประกาศว่าเป็นบัตรเติมเงินขนส่งสาธารณะแบบเปิดใบแรกในมาเลเซียและอาเซียน ที่ออกโดยผู้ให้บริการรถไฟ ปัจจุบันให้บริการในรูปแบบบัตรเสมือน (Virtual Card) โดยมีค่าธรรมเนียมออกบัตรเสมือน 10 ริงกิต ส่วนบัตรพลาสติกแบบชิปการ์ดจะเปิดตัวในเดือน ก.ย. 2568 อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานแอปฯ KTMB Mobile เดิม ระบบจะแจ้งเตือนการย้ายระบบไปยัง KITS Style แบบใหม่ โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ใช้สมัครบริการ ให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนยืนยันการเปลี่ยนแปลง

    Newskit ทดลองสมัครบริการแอปฯ KITS Style เริ่มแรกด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน App Store หรือ Google Play จากนั้นลงทะเบียนโดยใช้โทรศัพท์มือถือแล้วรอรับ SMS OTP ซึ่งพบว่าเบอร์ต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทยสามารถสมัครได้ (ยกเว้นเอไอเอสที่พบปัญหาบล็อก SMS จากต่างประเทศ) จากนั้นกรอกรายละเอียดส่วนตัว กรณีชาวต่างชาติใช้ข้อมูลหนังสือเดินทาง แล้วตั้งรหัส PIN 6 หลักเป็นอันเสร็จสิ้น

    อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานต้องยืนยันการสร้างบัญชีผ่านการทำ e-KYC ด้วยการถ่ายภาพหนังสือเดินทาง เซลฟี่ใบหน้า ระบบจะอนุมัติภายใน 2 วันทำการ โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนเมื่อการยืนยันตัวตนสำเร็จ ส่วนการเติมเงินขั้นต่ำ 10 ริงกิต สูงสุดไม่เกิน 1,000 ริงกิต สามารถเติมเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต VISA และ Mastercard ได้ทั้งบัตรในประเทศและต่างประเทศ ส่วนชาวมาเลเซียสามารถเติมเงินผ่านทางออนไลน์แบงกิ้งระบบ FPX และ DuitNow แต่ยังไม่รองรับ e-Wallet

    #Newskit
    KITS Style การรถไฟมาเลย์ทำซูเปอร์แอปฯ หลังจากที่การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) หรือ KTMB ประเทศมาเลเซีย พยายามผลักดันการซื้อตั๋วรถไฟแบบไร้เงินสดเต็มรูปแบบ มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 เป็นต้นมา ล่าสุดได้เปลี่ยนแพลตฟอร์มจำหน่ายตั๋วโดยสารออนไลน์แบบบูรณาการ KITS (KTMB Integrated Ticketing System) มาเป็นซูเปอร์แอปพลิเคชันที่ชื่อว่า คิทส์ สไตล์ (KITS Style) โดยได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยร่วมมือกันระหว่าง KTMB กับเอ็มเปย์ (MPay) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลในมาเลเซีย โดยคุณสมบัติหลักของแอปฯ KITS Style คือ การซื้อตั๋วรถไฟของ KTMB ทั้งรถไฟ ETS/Intercity รถไฟชานเมือง KTM Komuter รถไฟข้ามแดน Shuttle Tebrau พ่วงไปกับการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ตั๋วรถไฟต่างประเทศ รถเช่า รถรับ-ส่งสนามบิน เรือสำราญ กิจกรรมการท่องเที่ยวโดย Trip.com บริการเรียกรถรับจ้างสาธารณะ (E-Hailing) นอกจากนี้ยังสามารถโอนเงินต่างประเทศ ประกัน ตากาฟูล จ่ายบิลและเติมเงินโทรศัพท์มือถือในมาเลเซียอีกด้วย พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัวบัตร KITS Style Mastercard Prepaid Card ซึ่งประกาศว่าเป็นบัตรเติมเงินขนส่งสาธารณะแบบเปิดใบแรกในมาเลเซียและอาเซียน ที่ออกโดยผู้ให้บริการรถไฟ ปัจจุบันให้บริการในรูปแบบบัตรเสมือน (Virtual Card) โดยมีค่าธรรมเนียมออกบัตรเสมือน 10 ริงกิต ส่วนบัตรพลาสติกแบบชิปการ์ดจะเปิดตัวในเดือน ก.ย. 2568 อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานแอปฯ KTMB Mobile เดิม ระบบจะแจ้งเตือนการย้ายระบบไปยัง KITS Style แบบใหม่ โดยเฉพาะเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ใช้สมัครบริการ ให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนยืนยันการเปลี่ยนแปลง Newskit ทดลองสมัครบริการแอปฯ KITS Style เริ่มแรกด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน App Store หรือ Google Play จากนั้นลงทะเบียนโดยใช้โทรศัพท์มือถือแล้วรอรับ SMS OTP ซึ่งพบว่าเบอร์ต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทยสามารถสมัครได้ (ยกเว้นเอไอเอสที่พบปัญหาบล็อก SMS จากต่างประเทศ) จากนั้นกรอกรายละเอียดส่วนตัว กรณีชาวต่างชาติใช้ข้อมูลหนังสือเดินทาง แล้วตั้งรหัส PIN 6 หลักเป็นอันเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานต้องยืนยันการสร้างบัญชีผ่านการทำ e-KYC ด้วยการถ่ายภาพหนังสือเดินทาง เซลฟี่ใบหน้า ระบบจะอนุมัติภายใน 2 วันทำการ โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนเมื่อการยืนยันตัวตนสำเร็จ ส่วนการเติมเงินขั้นต่ำ 10 ริงกิต สูงสุดไม่เกิน 1,000 ริงกิต สามารถเติมเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต VISA และ Mastercard ได้ทั้งบัตรในประเทศและต่างประเทศ ส่วนชาวมาเลเซียสามารถเติมเงินผ่านทางออนไลน์แบงกิ้งระบบ FPX และ DuitNow แต่ยังไม่รองรับ e-Wallet #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • เด็กเต้นแข่งเรือโบราณ ปาคู จาลูร์ ซอฟต์พาวเวอร์อินโดนีเซีย

    กลายเป็นที่ถูกพูดถึงสนั่นโลกโซเชียลฯ และกลายเป็นมีมไปทั่วโลก สำหรับไวรัลสุดน่ารักจากเทศกาลแข่งเรือโบราณ “ปาคู จาลูร์” (Pacu Jalur) บนหมู่เกาะรีเยา (Riau) ทางภาคตะวันออกของเกาะสุมาตรา จรดช่องแคบมะละกา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเด็กชายรายหนึ่งนามว่า เรย์ยาน อาร์กัน ดิกา (Rayyan Arkan Dikha) หรือ ดิกา (Dikha) วัย 11 ขวบ กลายเป็นจุดสนใจจากลีลาการเต้นบนหัวเรือระหว่างแข่งขัน ในตำแหน่งที่เรียกว่า ตูกัง ตาริ (Tukang Tari) ชุดสีดำเรียบหรู และแว่นกันแดด เปรียบกับแดนเซอร์ ทำหน้าที่ปลุกพลังให้กับฝีพาย ซึ่งเขาทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แถมเพลงที่นำมาประกอบในครั้งนี้ก็เป็นเพลงฮิปฮอป “Young Black & Rich” ของศิลปินชาวอเมริกัน เมลลี ไมค์ (Melly Mike)

    ท่าเต้นของดิกาแพร่กระจายไวอย่างรวดเร็วใน TikTok และ IG พร้อมเกิดกระแสที่เรียกว่า ออรา ฟาร์มมิ่ง (Aura Farming) หรือการเต้นเลียนแบบเพื่อเรียกความสนใจ โดยมีคนดังและสโมสรกีฬาร่วมเทรนด์ เช่น สโมสรฟุตบอลปารีส แซงต์ แชร์กแมง (PSG) ที่โพสต์วิดีโอเลียนแบบพร้อมข้อความว่า “กลิ่นอายได้แผ่ไปถึงปารีสแล้ว” ส่วนเอซี มิลาน เขียนแคปชันสุดฮาว่า “Aura Farming แม่นยำ 1899%” แถมยังมี ทราวิส เคลซ์ นักอเมริกันฟุตบอล แฟนหนุ่มของเทย์เลอร์ สวิฟต์ รวมถึงนักเตะไทย “เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์” ก็เข้าร่วมกระแสนี้ด้วย

    ล่าสุด เมลลี ไมค์ ประกาศว่าจะเดินทางมาร่วมงานเทศกาลปาคู จาลูร์ ในปีนี้ด้วยตนเอง ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 ส.ค. 2568 ขณะที่เด็กชายดิกาได้รับแต่งตั้งเป็นทูตวัฒนธรรมจังหวัดรีเยา และได้รับเชิญให้เดินทางพร้อมครอบครัวไปยังกรุงจาการ์ตา เพื่อเข้าพบรัฐมนตรีด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย รวมถึงออกรายการโทรทัศน์ และได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ในฐานะที่ทำให้มรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซียเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

    เทศกาลปาคู จาลูร์ ถือเป็นหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญของอินโดนีเซีย จัดขึ้นที่ริมแม่น้ำอินดรากิรี (Indragiri River) โดยมีการแข่งขันพายเรือจาลูร์ ที่สร้างจากไม้ทั้งท่อน ไม่มีข้อต่อ พร้อมการตกแต่งที่วิจิตรงดงาม ไฮไลต์ของเทศกาลคือการมีนักเต้นแสดงอยู่บนหัวเรือ สร้างสีสันและความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชม มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษชาวควนซิงในศตวรรษที่ 22 ต่อมาถูกพัฒนาให้เป็นกิจกรรมประเพณี เคยใช้เฉลิมฉลองวันสำคัญทางศาสนา และในสมัยอาณานิคมเนเธอร์แลนด์ก็เคยจัดเพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดของราชินีด้วย ปัจจุบันจัดต่อเนื่องทุกปี และดึงดูดผู้เข้าชมได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อปี

    #Newskit
    เด็กเต้นแข่งเรือโบราณ ปาคู จาลูร์ ซอฟต์พาวเวอร์อินโดนีเซีย กลายเป็นที่ถูกพูดถึงสนั่นโลกโซเชียลฯ และกลายเป็นมีมไปทั่วโลก สำหรับไวรัลสุดน่ารักจากเทศกาลแข่งเรือโบราณ “ปาคู จาลูร์” (Pacu Jalur) บนหมู่เกาะรีเยา (Riau) ทางภาคตะวันออกของเกาะสุมาตรา จรดช่องแคบมะละกา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเด็กชายรายหนึ่งนามว่า เรย์ยาน อาร์กัน ดิกา (Rayyan Arkan Dikha) หรือ ดิกา (Dikha) วัย 11 ขวบ กลายเป็นจุดสนใจจากลีลาการเต้นบนหัวเรือระหว่างแข่งขัน ในตำแหน่งที่เรียกว่า ตูกัง ตาริ (Tukang Tari) ชุดสีดำเรียบหรู และแว่นกันแดด เปรียบกับแดนเซอร์ ทำหน้าที่ปลุกพลังให้กับฝีพาย ซึ่งเขาทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แถมเพลงที่นำมาประกอบในครั้งนี้ก็เป็นเพลงฮิปฮอป “Young Black & Rich” ของศิลปินชาวอเมริกัน เมลลี ไมค์ (Melly Mike) ท่าเต้นของดิกาแพร่กระจายไวอย่างรวดเร็วใน TikTok และ IG พร้อมเกิดกระแสที่เรียกว่า ออรา ฟาร์มมิ่ง (Aura Farming) หรือการเต้นเลียนแบบเพื่อเรียกความสนใจ โดยมีคนดังและสโมสรกีฬาร่วมเทรนด์ เช่น สโมสรฟุตบอลปารีส แซงต์ แชร์กแมง (PSG) ที่โพสต์วิดีโอเลียนแบบพร้อมข้อความว่า “กลิ่นอายได้แผ่ไปถึงปารีสแล้ว” ส่วนเอซี มิลาน เขียนแคปชันสุดฮาว่า “Aura Farming แม่นยำ 1899%” แถมยังมี ทราวิส เคลซ์ นักอเมริกันฟุตบอล แฟนหนุ่มของเทย์เลอร์ สวิฟต์ รวมถึงนักเตะไทย “เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์” ก็เข้าร่วมกระแสนี้ด้วย ล่าสุด เมลลี ไมค์ ประกาศว่าจะเดินทางมาร่วมงานเทศกาลปาคู จาลูร์ ในปีนี้ด้วยตนเอง ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 ส.ค. 2568 ขณะที่เด็กชายดิกาได้รับแต่งตั้งเป็นทูตวัฒนธรรมจังหวัดรีเยา และได้รับเชิญให้เดินทางพร้อมครอบครัวไปยังกรุงจาการ์ตา เพื่อเข้าพบรัฐมนตรีด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย รวมถึงออกรายการโทรทัศน์ และได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ในฐานะที่ทำให้มรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซียเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เทศกาลปาคู จาลูร์ ถือเป็นหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญของอินโดนีเซีย จัดขึ้นที่ริมแม่น้ำอินดรากิรี (Indragiri River) โดยมีการแข่งขันพายเรือจาลูร์ ที่สร้างจากไม้ทั้งท่อน ไม่มีข้อต่อ พร้อมการตกแต่งที่วิจิตรงดงาม ไฮไลต์ของเทศกาลคือการมีนักเต้นแสดงอยู่บนหัวเรือ สร้างสีสันและความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชม มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษชาวควนซิงในศตวรรษที่ 22 ต่อมาถูกพัฒนาให้เป็นกิจกรรมประเพณี เคยใช้เฉลิมฉลองวันสำคัญทางศาสนา และในสมัยอาณานิคมเนเธอร์แลนด์ก็เคยจัดเพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดของราชินีด้วย ปัจจุบันจัดต่อเนื่องทุกปี และดึงดูดผู้เข้าชมได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อปี #Newskit
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เอ้ สุชัชวีร์" เตือน: หากไม่เร่ง "สร้างคนทักษะสูง" เศรษฐกิจไทยถึงทางตัน – การท่องเที่ยวแบกไม่ไหว การลงทุนถดถอย
    https://www.thai-tai.tv/news/20114/
    .
    #การศึกษาไทย #เศรษฐกิจใหม่ #เรียนรู้ #ความรู้ #ครู #ประเทศไทย #เอ้สุชัชวีร์
    "เอ้ สุชัชวีร์" เตือน: หากไม่เร่ง "สร้างคนทักษะสูง" เศรษฐกิจไทยถึงทางตัน – การท่องเที่ยวแบกไม่ไหว การลงทุนถดถอย https://www.thai-tai.tv/news/20114/ . #การศึกษาไทย #เศรษฐกิจใหม่ #เรียนรู้ #ความรู้ #ครู #ประเทศไทย #เอ้สุชัชวีร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'อดีต มทภ.2' เปิดหลักฐานชัด! 'ปราสาทตาเมือนธม' อยู่เขตไทย แต่ถูกรื้อทิ้งยุคยิ่งลักษณ์ หวังกระชับสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา หลังสู้รบปี 54
    https://www.thai-tai.tv/news/20090/
    .
    #พลทกนกเนตระคะเวสนะ #อดีตมทภ2 #ปราสาทตาเมือนธม #ปราสาทตาเมือนโต๊ด #ปราสาทตาควาย #ชายแดนไทยกัมพูชา #แผนที่กองทัพไทย #รั้วชายแดน #ยิ่งลักษณ์ชินวัตร #ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา #การสู้รบปี54 #การท่องเที่ยวชายแดน
    'อดีต มทภ.2' เปิดหลักฐานชัด! 'ปราสาทตาเมือนธม' อยู่เขตไทย แต่ถูกรื้อทิ้งยุคยิ่งลักษณ์ หวังกระชับสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา หลังสู้รบปี 54 https://www.thai-tai.tv/news/20090/ . #พลทกนกเนตระคะเวสนะ #อดีตมทภ2 #ปราสาทตาเมือนธม #ปราสาทตาเมือนโต๊ด #ปราสาทตาควาย #ชายแดนไทยกัมพูชา #แผนที่กองทัพไทย #รั้วชายแดน #ยิ่งลักษณ์ชินวัตร #ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา #การสู้รบปี54 #การท่องเที่ยวชายแดน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • กต.-กห.กัมพูชาแถลงประณามไทย ขวางคนเขมรคล้องผ้าขาวม้าติดธงเข้าปราสาทตาควาย ในประเทศไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/20063/
    .
    #ไทยกัมพูชา #ปราสาทตาควาย #ข้อพิพาทชายแดน #ธงชาติ #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา #กระทรวงกลาโหมกัมพูชา #ประเด็นร้อน #การท่องเที่ยว #ชายแดนไทยกัมพูชา
    กต.-กห.กัมพูชาแถลงประณามไทย ขวางคนเขมรคล้องผ้าขาวม้าติดธงเข้าปราสาทตาควาย ในประเทศไทย https://www.thai-tai.tv/news/20063/ . #ไทยกัมพูชา #ปราสาทตาควาย #ข้อพิพาทชายแดน #ธงชาติ #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา #กระทรวงกลาโหมกัมพูชา #ประเด็นร้อน #การท่องเที่ยว #ชายแดนไทยกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดกำหนดการ 3 นายกฯ 'แพทองธาร-ทักษิณ-เศรษฐา' โชว์วิสัยทัศน์งานซอฟต์พาวเวอร์
    https://www.thai-tai.tv/news/20043/
    .
    #SPLASHSofPowerForum2025 #SoftPowerThailand #THACCA #อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ #เศรษฐกิจไทย #แพทองธารชินวัตร #ทักษิณชินวัตร #เศรษฐาทวีสิน #บัวขาวบัญชาเมฆ #เทนนิสพาณิภัค #การท่องเที่ยว #การศึกษา #OTOP #ThaiWORKS #กีฬามวย #เทควันโด #ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
    เปิดกำหนดการ 3 นายกฯ 'แพทองธาร-ทักษิณ-เศรษฐา' โชว์วิสัยทัศน์งานซอฟต์พาวเวอร์ https://www.thai-tai.tv/news/20043/ . #SPLASHSofPowerForum2025 #SoftPowerThailand #THACCA #อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ #เศรษฐกิจไทย #แพทองธารชินวัตร #ทักษิณชินวัตร #เศรษฐาทวีสิน #บัวขาวบัญชาเมฆ #เทนนิสพาณิภัค #การท่องเที่ยว #การศึกษา #OTOP #ThaiWORKS #กีฬามวย #เทควันโด #ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.128 : เมื่อ “จีนเที่ยวจีน” ท่องเที่ยวไทยยังไหวไหม ?
    .
    พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในตอนนี้ เราจะเล่าถึงปรากฏการณ์ “จีนเที่ยวจีน” ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร และประเทศไทยจะทำอย่างไร ถึงจะกู้คืนศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของเราให้กลับคืนมา โดยมีความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี และการท่องเที่ยว ที่ได้ไปเยือนประเทศจีน ...
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=oDe8_oM2IRA
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #จีนเที่ยวจีน #การท่องเที่ยวไทย
    บูรพาไม่แพ้ Ep.128 : เมื่อ “จีนเที่ยวจีน” ท่องเที่ยวไทยยังไหวไหม ? . พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในตอนนี้ เราจะเล่าถึงปรากฏการณ์ “จีนเที่ยวจีน” ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร และประเทศไทยจะทำอย่างไร ถึงจะกู้คืนศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของเราให้กลับคืนมา โดยมีความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี และการท่องเที่ยว ที่ได้ไปเยือนประเทศจีน ... . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=oDe8_oM2IRA . #บูรพาไม่แพ้ #จีนเที่ยวจีน #การท่องเที่ยวไทย
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • KLIA Aerotrain รถไฟฟ้าสนามบินเคแอลกลับมาแล้ว

    ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ประเทศมาเลเซีย ได้กลับมาเปิดให้บริการระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติที่ชื่อว่า KLIA Aerotrain อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 เชื่อมระหว่างอาคาร 1 (Terminal 1) กับอาคารผู้โดยสารรอง (Sattlelite) ซึ่งมีเที่ยวบินเส้นทางระยะไกลจำนวนมาก หลังบริษัท มาเลเซีย แอร์พอร์ต โฮลดิ้ง เบอร์ฮัด (MAHB) ผู้บริหารสนามบินตัดสินใจปิดปรับปรุงยาวนานกว่า 28 เดือน ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างสองอาคาร ต้องไปขึ้นรถบัสที่ทางสนามบินจัดเตรียมไว้ให้ และเสียเวลาเดินทางมากกว่าปกติ

    KLIA Aerotrain เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2541 พร้อมกับการย้ายสนามบิน จากท่าอากาศยานสุลต่านอับดุลอาซิซชาห์ (SZB) โดยใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับแอดทรานซ์ (Adtranz) รุ่น CX-100 จำนวน 3 คัน แนวเส้นทางจะลอดทางขับเครื่องบิน (แท็กซี่เวย์) ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาขัดข้องบ่อยครั้ง หนักที่สุดคือวันที่ 1 มี.ค. 2566 ขบวนรถขัดข้อง มีผู้โดยสาร 114 คนติดค้าง ทำให้ MAHB ตัดสินใจหยุดให้บริการชั่วคราวเป็นต้นมา

    MAHB ปรับปรุง KLIA Aerotrain ใหม่ ด้วยงบลงทุน 456 ล้านริงกิต เปลี่ยนมาใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับ อัลสตอม (Alstom) รุ่นอินโนเวีย เอพีเอ็ม 300 อาร์ (Innovia APM 300R) มีทั้งหมด 3 คัน รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 270 คนต่อเที่ยว เดินรถด้วยความเร็ว 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางระหว่างสองอาคารเหลือเพียง 3 นาที ผ่านการทดสอบและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดหวังว่าจะทำให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคชั้นนำในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 100,000 คนต่อวัน และต้อนรับปีการท่องเที่ยวมาเลเซีย หรือ Visit Malaysia 2026

    ข้อมูลจาก CAPA Centre for Aviation พบว่าในปี 2567 ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 57.1 ล้านคน ข้อมูลจาก Flightradar 24 พบว่ามีเที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยังสิงคโปร์ (SIN) มากที่สุดถึง 270 เที่ยวบิน ตามมาด้วยจาการ์ตา (CGK) 184 เที่ยวบิน โกตากินาบาลู (BKI) 172 เที่ยวบิน กูชิง (KCH) 152 เที่ยวบิน ปีนัง (PEN) 143 เที่ยวบิน ลังกาวี (LGK) 132 เที่ยวบิน บาหลี (DPS) 105 เที่ยวบิน ยะโฮร์บาห์รู (JHB) 87 เที่ยวบิน กว่างโจว (CAN) 83 เที่ยวบินและโกตาบาห์รู (KBR) 80 เที่ยวบิน

    อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมี 4 ประเทศที่มีระบบขนส่งผู้โดยสารภายในสนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา อินโดนีเซีย และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

    #Newskit
    KLIA Aerotrain รถไฟฟ้าสนามบินเคแอลกลับมาแล้ว ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ประเทศมาเลเซีย ได้กลับมาเปิดให้บริการระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติที่ชื่อว่า KLIA Aerotrain อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 เชื่อมระหว่างอาคาร 1 (Terminal 1) กับอาคารผู้โดยสารรอง (Sattlelite) ซึ่งมีเที่ยวบินเส้นทางระยะไกลจำนวนมาก หลังบริษัท มาเลเซีย แอร์พอร์ต โฮลดิ้ง เบอร์ฮัด (MAHB) ผู้บริหารสนามบินตัดสินใจปิดปรับปรุงยาวนานกว่า 28 เดือน ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างสองอาคาร ต้องไปขึ้นรถบัสที่ทางสนามบินจัดเตรียมไว้ให้ และเสียเวลาเดินทางมากกว่าปกติ KLIA Aerotrain เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2541 พร้อมกับการย้ายสนามบิน จากท่าอากาศยานสุลต่านอับดุลอาซิซชาห์ (SZB) โดยใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับแอดทรานซ์ (Adtranz) รุ่น CX-100 จำนวน 3 คัน แนวเส้นทางจะลอดทางขับเครื่องบิน (แท็กซี่เวย์) ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาขัดข้องบ่อยครั้ง หนักที่สุดคือวันที่ 1 มี.ค. 2566 ขบวนรถขัดข้อง มีผู้โดยสาร 114 คนติดค้าง ทำให้ MAHB ตัดสินใจหยุดให้บริการชั่วคราวเป็นต้นมา MAHB ปรับปรุง KLIA Aerotrain ใหม่ ด้วยงบลงทุน 456 ล้านริงกิต เปลี่ยนมาใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับ อัลสตอม (Alstom) รุ่นอินโนเวีย เอพีเอ็ม 300 อาร์ (Innovia APM 300R) มีทั้งหมด 3 คัน รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 270 คนต่อเที่ยว เดินรถด้วยความเร็ว 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางระหว่างสองอาคารเหลือเพียง 3 นาที ผ่านการทดสอบและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดหวังว่าจะทำให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคชั้นนำในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 100,000 คนต่อวัน และต้อนรับปีการท่องเที่ยวมาเลเซีย หรือ Visit Malaysia 2026 ข้อมูลจาก CAPA Centre for Aviation พบว่าในปี 2567 ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 57.1 ล้านคน ข้อมูลจาก Flightradar 24 พบว่ามีเที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยังสิงคโปร์ (SIN) มากที่สุดถึง 270 เที่ยวบิน ตามมาด้วยจาการ์ตา (CGK) 184 เที่ยวบิน โกตากินาบาลู (BKI) 172 เที่ยวบิน กูชิง (KCH) 152 เที่ยวบิน ปีนัง (PEN) 143 เที่ยวบิน ลังกาวี (LGK) 132 เที่ยวบิน บาหลี (DPS) 105 เที่ยวบิน ยะโฮร์บาห์รู (JHB) 87 เที่ยวบิน กว่างโจว (CAN) 83 เที่ยวบินและโกตาบาห์รู (KBR) 80 เที่ยวบิน อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมี 4 ประเทศที่มีระบบขนส่งผู้โดยสารภายในสนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา อินโดนีเซีย และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลักดันสร้างถนนบนเกาะกูด รองรับยุทธศาสตร์ชายแดนไทย-กัมพูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/19993/
    .
    #เกาะกูด #ตราด #ชายแดนไทยกัมพูชา #ยุทธศาสตร์ #การท่องเที่ยว #วุฒิสภา #คมนาคม #อธิปไตย #ความมั่นคง
    ผลักดันสร้างถนนบนเกาะกูด รองรับยุทธศาสตร์ชายแดนไทย-กัมพูชา https://www.thai-tai.tv/news/19993/ . #เกาะกูด #ตราด #ชายแดนไทยกัมพูชา #ยุทธศาสตร์ #การท่องเที่ยว #วุฒิสภา #คมนาคม #อธิปไตย #ความมั่นคง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตรียมจัดอย่างใหญ่! “โคราชมาราธอน 2025” สนามวิ่งมาตรฐานโลก สร้างความประทับใจ บนเส้นทางแลนด์มาร์ค เมืองย่าโม 16 พ.ย.นี้ คาดนักวิ่งร่วมกว่า 7,500 คน

    โคราชมาราธอน 2025 พรีเซนต์เต็ดบาย บีวายดี 16 พ.ย.นี้ สนามวิ่งมาราธอนไทยได้มาตรฐานระดับโลก เก็บความประทับใจกับไฮไลท์บนเส้นทางประวัติศาสตร์เมืองย่าโม ผ่านแลนด์มาร์คสำคัญ พร้อมโชว์สุดยิ่งใหญ่ตลอดทาง จากวงดุริยางค์ดีกรีแชมป์โลก ซึ่งเป็นลูกหลานย่าโม ภายใต้แนวคิด เส้นทางมาราธอนแห่งความฝันของทุกคน พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้จังหวัด คาดการณ์ว่านักวิ่งเข้าร่วมกว่า 7,500 คน และเอาใจนักวิ่งสายบุญกับ Charity Set ร่วมสมทบทุนบริจาคให้โรงพยาบาล

    เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ณ อีเวนต์ ฮออล์ 2 ชั้น 2 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราช จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดงานแถลงข่าวการแข่งขัน “โคราชมาราธอน 2025 พรีเซนต์เต็ดบาย บีวายดี” (KORAT MARATHON 2025 PRESENTED BY BYD) โดยได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พันเอกสาธิต อุ่นกาย รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21, Mr.Benson Ke General Manager of BYD Thailand, คุณปรีชา ลิ้มอั่วผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์โคราช และคุณอลงกรณ์ เจียมอนุกูลกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท เรซอัพ เวิร์ค จำกัด เข้าร่วมแถลงรายละเอียดของการแข่งขัน

    “โคราชมาราธอน 2025 พรีเซนต์เต็ดบาย บีวายดี” กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สนามวิ่งมาราธอนไทยมาตรฐานโลก "KORAT MARATHON 2025 PRESENTED BY BYD" มาราธอนแห่งความประทับใจเมืองย่าโม "The Memorable Marathon" แนวคิดการออกแบบสนามวิ่งมาราธอนที่ตั้งใจให้เป็นสนามแห่งความประทับใจ หลอมรวมความเป็นโคราชไว้อย่างครบถ้วน ด้วยเส้นทางที่จะพานักวิ่งผ่านจุดแลนด์มาร์คสำคัญเมืองโคราช โดยมีจุดปล่อยตัวบริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และเข้าเส้นชัยที่สวนน้ําบุ่งตาหลั่ว เฉลิมพระเกียรติ ร.9

    พร้อมการแสดงโชว์สุดยิ่งใหญ่ตลอดเส้นทางของวงดุริยางค์ จากน้องๆ ลูกหลานย่าโม ที่มีดีกรีระดับแชมป์โลก ธีมการออกแบบปีนี้ชูแนวคิดเส้นทางมาราธอนแห่งความฝันของทุกคน "Build Your Marathon Dream" เน้นความวิจิตรงดงามของลวดลายผ้าไหมพื้นบนไอคอนแลนด์มาร์คเมืองโคราช นำลวดลายโคราชโมโนแกรม มาใช้ประกอบ สื่อถึงการประยุกต์ความทันสมัยของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ละทิ้งเอกลักษณ์วิถีดั้งเดิมมารวมเข้าด้วยกันกับงานวิ่ง

    การแข่งขันครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างงานอีเว้นท์กีฬามวลชนระดับนานาชาติประจำปีของจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งเป็นการสร้างงานวิ่งมาตรฐานโลกให้เป็นจุดหมายของนักวิ่งจากทั่วทุกมุมโลก และสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการสร้างมาราธอนที่สุดแสนประทับใจแห่งเมืองย่าโม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับจังหวัด ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีนักวิ่งเข้าร่วมกว่า 7,500 คน

    นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแข่งขัน "KORAT MARATHON 2025 PRESENTED BY BYD" ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานวิ่ง แต่ยังสะท้อนศักยภาพของจังหวัดในการจัดอีเวนต์ระดับโลก ต่อยอดจากความเข้มแข็งของชุมชน วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาวโคราช ผมเชื่อว่ากิจกรรมนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของโคราชให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ

    พันเอกสาธิต อุ่นกาย รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนงาน"KORAT MARATHON 2025 PRESENTED BY BYD" ในด้านการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย เพื่อให้นักวิ่งทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีอย่างสูงสุด พร้อมทั้งยังสะท้อนบทบาทของกองทัพในการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน สังคม และส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสุขภาพอย่างยั่งยืน

    นายเบนสัน เค่อ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า งานวิ่งมาราธอน Korat Marathon 2025 Presented by BYD จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘เส้นทางมาราธอนแห่งความฝันของทุกคน’ หรือ ‘Build Your Marathon Dreams’ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ BYD ที่สนับสนุนให้ทุกคนไล่ตามความฝันของตัวเอง และ การเข้าร่วมงานวิ่งของ BYD ในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนหันมาออกกำลังกายและเข้าร่วมกิจกรรมวิ่ง พร้อมเดินตามความฝันในการมีสุขภาพที่ดีให้เป็นจริง

    นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์ โคราช กล่าวว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจรีเทลและไลฟ์สไตล์ของประเทศไทย มีความเชื่อมั่นเสมอว่าศูนย์การค้าไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่แห่งการจับจ่ายใช้สอยเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงผู้คน สร้างสรรค์กิจกรรมที่มีคุณค่า และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชน สำหรับเดอะมอลล์ โคราช ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของพี่น้องชาวโคราช และอยู่เคียงข้างกันชาวโคราชมากว่า 25 ปี และได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมดีๆ ให้กับชาวโคราช อยู่เสมอ โดยเฉพาะกิจกรรมด้านกีฬา เนื่องด้วยโคราชเป็นเมืองแห่งกีฬาเป็นศูนย์รวมของคนรักสุขภาพ และมีความพร้อม มีศักยภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกหลายรายการ เดอะมอลล์ โคราช มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรม "KORAT MARATHON 2025 PRESENTED BY BYD" ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งเสริมสุขภาพและการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังผสานการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมท้องถิ่นไว้อย่างกลมกลืน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราในการเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ของภูมิภาค ที่พร้อมสนับสนุนทุกมิติของความสุขอย่างยั่งยืน พิเศษสุด! สำหรับนักวิ่งทุกท่านสามารถเตรียมความพร้อมก่อนวันจริง กับสินค้าและอุปกรณ์วิ่งครบวงจรได้ที่งาน Korat Marathon Sports Fest ในราคาสุดพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 14–21 พฤศจิกายน 2568 ที่ แกรนด์ ฮอลล์ ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช”

    ด้านคุณอลงกรณ์ เจียมอนุกูลกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท เรซอัพ เวิร์ค จำกัด ในฐานะผู้อำนวยการจัดกล่าวว่า ไฮไลท์ของการแข่งขันครั้งนี้คือ The Memorable Marathon มาราธอนแห่งความประทับใจ ถ่ายทอดเอกลักษณ์วัฒนธรรมแห่งเมืองโคราช รวมทั้ง Point To Point Route ปล่อยตัวบริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และเข้าเส้นชัยที่สวนน้ําบุ่งตาหลั่ว เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ใช้เส้นทาง Run Through Korat City วิ่งผ่านแลนด์มาร์คเมืองโคราช ภายใต้ World Class Race มาตรฐานงานวิ่งระดับโลก และ Scenic Finish Venue เส้นชัยวิวสวย พร้อมกับ World Class Cheering Team สนุกสนานกับกองเชียร์และการแสดงระดับโลก

    สำหรับ “โคราชมาราธอน 2025 พรีเซนต์เต็ดบาย บีวายดี” แบ่งการแข่งขันเป็น 4 ระยะ ประกอบด้วย ระยะมาราธอน 42195. กิโลเมตร, ระยะฮาล์ฟ มาราธอน 21.1 กิโลเมตร., ระยะมินิ มาราธอน 10 กิโลเมตร. และระยะไมโครมาราธอน 5 กิโลเมตร กำหนดวันรับอุปกรณ์ในวันที่ 14-15 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 - 18.00 น. ที่แกรนด์ ฮอลล์ ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช และวันแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 โดยปีนี้พิเศษกว่าเดิม! เสื้อวิ่งดีไซน์สุดปัง มาพร้อมโทนสีใหม่ที่โดดเด่นกว่าเคย สำหรับผู้สนใจร่วมแข่งขันสามารถสมัครได้เลยที่ : https://run.checkrace.com/event/krm2025 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายน 2568 หรือจนกว่าจะเต็มจำนวน

    นอกจากนี้ ได้เปิดโอกาสให้กับนักวิ่งใจบุญมาทางนี้ กับการสมัคร Charity Set ราคา 2,500 บาท โดยรายได้จากค่าสมัคร 2,000 บาทในครั้งนี้จะเป็นการร่วมทำบุญเพื่อสมทบทุนบริจาคให้โรงพยาบาล ซึ่งนักวิ่งที่สมัครจะได้รับใบเสร็จรับเงิน หรือใบอนุโมทนาบัตร เพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษีจำนวน 2,000 บาท พร้อมกับชุด Race Pack สุดพิเศษ สมัครได้เลยที่ : https://run.checkrace.com/event/krm2025

    ทั้งนี้สามารถดูรายรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟซบุ๊ก : Korat Marathon https://www.facebook.com/koratmarathon2025
    เตรียมจัดอย่างใหญ่! “โคราชมาราธอน 2025” สนามวิ่งมาตรฐานโลก สร้างความประทับใจ บนเส้นทางแลนด์มาร์ค เมืองย่าโม 16 พ.ย.นี้ คาดนักวิ่งร่วมกว่า 7,500 คน โคราชมาราธอน 2025 พรีเซนต์เต็ดบาย บีวายดี 16 พ.ย.นี้ สนามวิ่งมาราธอนไทยได้มาตรฐานระดับโลก เก็บความประทับใจกับไฮไลท์บนเส้นทางประวัติศาสตร์เมืองย่าโม ผ่านแลนด์มาร์คสำคัญ พร้อมโชว์สุดยิ่งใหญ่ตลอดทาง จากวงดุริยางค์ดีกรีแชมป์โลก ซึ่งเป็นลูกหลานย่าโม ภายใต้แนวคิด เส้นทางมาราธอนแห่งความฝันของทุกคน พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้จังหวัด คาดการณ์ว่านักวิ่งเข้าร่วมกว่า 7,500 คน และเอาใจนักวิ่งสายบุญกับ Charity Set ร่วมสมทบทุนบริจาคให้โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ณ อีเวนต์ ฮออล์ 2 ชั้น 2 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราช จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดงานแถลงข่าวการแข่งขัน “โคราชมาราธอน 2025 พรีเซนต์เต็ดบาย บีวายดี” (KORAT MARATHON 2025 PRESENTED BY BYD) โดยได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พันเอกสาธิต อุ่นกาย รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21, Mr.Benson Ke General Manager of BYD Thailand, คุณปรีชา ลิ้มอั่วผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์โคราช และคุณอลงกรณ์ เจียมอนุกูลกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท เรซอัพ เวิร์ค จำกัด เข้าร่วมแถลงรายละเอียดของการแข่งขัน “โคราชมาราธอน 2025 พรีเซนต์เต็ดบาย บีวายดี” กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สนามวิ่งมาราธอนไทยมาตรฐานโลก "KORAT MARATHON 2025 PRESENTED BY BYD" มาราธอนแห่งความประทับใจเมืองย่าโม "The Memorable Marathon" แนวคิดการออกแบบสนามวิ่งมาราธอนที่ตั้งใจให้เป็นสนามแห่งความประทับใจ หลอมรวมความเป็นโคราชไว้อย่างครบถ้วน ด้วยเส้นทางที่จะพานักวิ่งผ่านจุดแลนด์มาร์คสำคัญเมืองโคราช โดยมีจุดปล่อยตัวบริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และเข้าเส้นชัยที่สวนน้ําบุ่งตาหลั่ว เฉลิมพระเกียรติ ร.9 พร้อมการแสดงโชว์สุดยิ่งใหญ่ตลอดเส้นทางของวงดุริยางค์ จากน้องๆ ลูกหลานย่าโม ที่มีดีกรีระดับแชมป์โลก ธีมการออกแบบปีนี้ชูแนวคิดเส้นทางมาราธอนแห่งความฝันของทุกคน "Build Your Marathon Dream" เน้นความวิจิตรงดงามของลวดลายผ้าไหมพื้นบนไอคอนแลนด์มาร์คเมืองโคราช นำลวดลายโคราชโมโนแกรม มาใช้ประกอบ สื่อถึงการประยุกต์ความทันสมัยของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ละทิ้งเอกลักษณ์วิถีดั้งเดิมมารวมเข้าด้วยกันกับงานวิ่ง การแข่งขันครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างงานอีเว้นท์กีฬามวลชนระดับนานาชาติประจำปีของจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งเป็นการสร้างงานวิ่งมาตรฐานโลกให้เป็นจุดหมายของนักวิ่งจากทั่วทุกมุมโลก และสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการสร้างมาราธอนที่สุดแสนประทับใจแห่งเมืองย่าโม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับจังหวัด ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีนักวิ่งเข้าร่วมกว่า 7,500 คน นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแข่งขัน "KORAT MARATHON 2025 PRESENTED BY BYD" ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานวิ่ง แต่ยังสะท้อนศักยภาพของจังหวัดในการจัดอีเวนต์ระดับโลก ต่อยอดจากความเข้มแข็งของชุมชน วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาวโคราช ผมเชื่อว่ากิจกรรมนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของโคราชให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ พันเอกสาธิต อุ่นกาย รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนงาน"KORAT MARATHON 2025 PRESENTED BY BYD" ในด้านการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย เพื่อให้นักวิ่งทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีอย่างสูงสุด พร้อมทั้งยังสะท้อนบทบาทของกองทัพในการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน สังคม และส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสุขภาพอย่างยั่งยืน นายเบนสัน เค่อ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า งานวิ่งมาราธอน Korat Marathon 2025 Presented by BYD จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘เส้นทางมาราธอนแห่งความฝันของทุกคน’ หรือ ‘Build Your Marathon Dreams’ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ BYD ที่สนับสนุนให้ทุกคนไล่ตามความฝันของตัวเอง และ การเข้าร่วมงานวิ่งของ BYD ในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนหันมาออกกำลังกายและเข้าร่วมกิจกรรมวิ่ง พร้อมเดินตามความฝันในการมีสุขภาพที่ดีให้เป็นจริง นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์ โคราช กล่าวว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจรีเทลและไลฟ์สไตล์ของประเทศไทย มีความเชื่อมั่นเสมอว่าศูนย์การค้าไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่แห่งการจับจ่ายใช้สอยเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงผู้คน สร้างสรรค์กิจกรรมที่มีคุณค่า และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชน สำหรับเดอะมอลล์ โคราช ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของพี่น้องชาวโคราช และอยู่เคียงข้างกันชาวโคราชมากว่า 25 ปี และได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมดีๆ ให้กับชาวโคราช อยู่เสมอ โดยเฉพาะกิจกรรมด้านกีฬา เนื่องด้วยโคราชเป็นเมืองแห่งกีฬาเป็นศูนย์รวมของคนรักสุขภาพ และมีความพร้อม มีศักยภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกหลายรายการ เดอะมอลล์ โคราช มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรม "KORAT MARATHON 2025 PRESENTED BY BYD" ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งเสริมสุขภาพและการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังผสานการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมท้องถิ่นไว้อย่างกลมกลืน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราในการเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ของภูมิภาค ที่พร้อมสนับสนุนทุกมิติของความสุขอย่างยั่งยืน พิเศษสุด! สำหรับนักวิ่งทุกท่านสามารถเตรียมความพร้อมก่อนวันจริง กับสินค้าและอุปกรณ์วิ่งครบวงจรได้ที่งาน Korat Marathon Sports Fest ในราคาสุดพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 14–21 พฤศจิกายน 2568 ที่ แกรนด์ ฮอลล์ ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช” ด้านคุณอลงกรณ์ เจียมอนุกูลกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท เรซอัพ เวิร์ค จำกัด ในฐานะผู้อำนวยการจัดกล่าวว่า ไฮไลท์ของการแข่งขันครั้งนี้คือ The Memorable Marathon มาราธอนแห่งความประทับใจ ถ่ายทอดเอกลักษณ์วัฒนธรรมแห่งเมืองโคราช รวมทั้ง Point To Point Route ปล่อยตัวบริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และเข้าเส้นชัยที่สวนน้ําบุ่งตาหลั่ว เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ใช้เส้นทาง Run Through Korat City วิ่งผ่านแลนด์มาร์คเมืองโคราช ภายใต้ World Class Race มาตรฐานงานวิ่งระดับโลก และ Scenic Finish Venue เส้นชัยวิวสวย พร้อมกับ World Class Cheering Team สนุกสนานกับกองเชียร์และการแสดงระดับโลก สำหรับ “โคราชมาราธอน 2025 พรีเซนต์เต็ดบาย บีวายดี” แบ่งการแข่งขันเป็น 4 ระยะ ประกอบด้วย ระยะมาราธอน 42195. กิโลเมตร, ระยะฮาล์ฟ มาราธอน 21.1 กิโลเมตร., ระยะมินิ มาราธอน 10 กิโลเมตร. และระยะไมโครมาราธอน 5 กิโลเมตร กำหนดวันรับอุปกรณ์ในวันที่ 14-15 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 - 18.00 น. ที่แกรนด์ ฮอลล์ ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช และวันแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 โดยปีนี้พิเศษกว่าเดิม! เสื้อวิ่งดีไซน์สุดปัง มาพร้อมโทนสีใหม่ที่โดดเด่นกว่าเคย สำหรับผู้สนใจร่วมแข่งขันสามารถสมัครได้เลยที่ : https://run.checkrace.com/event/krm2025 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายน 2568 หรือจนกว่าจะเต็มจำนวน นอกจากนี้ ได้เปิดโอกาสให้กับนักวิ่งใจบุญมาทางนี้ กับการสมัคร Charity Set ราคา 2,500 บาท โดยรายได้จากค่าสมัคร 2,000 บาทในครั้งนี้จะเป็นการร่วมทำบุญเพื่อสมทบทุนบริจาคให้โรงพยาบาล ซึ่งนักวิ่งที่สมัครจะได้รับใบเสร็จรับเงิน หรือใบอนุโมทนาบัตร เพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษีจำนวน 2,000 บาท พร้อมกับชุด Race Pack สุดพิเศษ สมัครได้เลยที่ : https://run.checkrace.com/event/krm2025 ทั้งนี้สามารถดูรายรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟซบุ๊ก : Korat Marathon https://www.facebook.com/koratmarathon2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 573 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรียน ทุกท่าน

    แบงก์ชาติอีสาน ขอนำส่งสรุปภาวะเศรษฐกิจอีสาน เดือนพฤษภาคม 2568 มาเพื่อทราบ ดังนี้

    ประเด็นสำคัญ "กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม กลับมาหดตัวจากเดือนก่อน"

    ในเดือนก่อน กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมกลับมาขยายตัวจากเดือนก่อน ตามการบริโภคภาคเอกชนที่กลับมาขยายตัวในช่วงวันหยุดยาวและเทศกาลสงกรานต์ สอดคล้องกับภาคบริการท่องเที่ยวที่ขยายตัวตามการจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย ช่วยสนับสนุนการบริโภค ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับมาหดตัวหลังเร่งผลิตไปในเดือนก่อน

    เดือนนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมกลับมาหดตัวจากเดือนก่อน ตามการบริโภคภาคเอกชนที่กลับมาหดตัว หลังเร่งไปในช่วงวันหยุดยาวและเทศกาลสงกรานต์ สอดคล้องกับภาคบริการท่องเที่ยวที่กลับมาหดตัว ขณะที่รายได้เกษตรกรชะลอลงตามผลผลิตข้าวนาปรังที่เร่งเก็บเกี่ยวไปในเดือนก่อน ช่วยสนับสนุนการบริโภคได้น้อยลง ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวตามการเร่งผลิตเพื่อส่งออกก่อนการบังคับใช้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในรูปแบบอินโฟกราฟิก ได้ที่ https://www.bot.or.th/th/thai-economy/regional-economy/northeastern-economy/the-state-of-northeastern-economy/2025-m05-ne-press-and-table.html
    เรียน ทุกท่าน แบงก์ชาติอีสาน ขอนำส่งสรุปภาวะเศรษฐกิจอีสาน เดือนพฤษภาคม 2568 มาเพื่อทราบ ดังนี้ 📉ประเด็นสำคัญ "กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม กลับมาหดตัวจากเดือนก่อน" ในเดือนก่อน กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมกลับมาขยายตัวจากเดือนก่อน ตามการบริโภคภาคเอกชนที่กลับมาขยายตัวในช่วงวันหยุดยาวและเทศกาลสงกรานต์ สอดคล้องกับภาคบริการท่องเที่ยวที่ขยายตัวตามการจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย ช่วยสนับสนุนการบริโภค ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับมาหดตัวหลังเร่งผลิตไปในเดือนก่อน เดือนนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมกลับมาหดตัวจากเดือนก่อน ตามการบริโภคภาคเอกชนที่กลับมาหดตัว หลังเร่งไปในช่วงวันหยุดยาวและเทศกาลสงกรานต์ สอดคล้องกับภาคบริการท่องเที่ยวที่กลับมาหดตัว ขณะที่รายได้เกษตรกรชะลอลงตามผลผลิตข้าวนาปรังที่เร่งเก็บเกี่ยวไปในเดือนก่อน ช่วยสนับสนุนการบริโภคได้น้อยลง ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวตามการเร่งผลิตเพื่อส่งออกก่อนการบังคับใช้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ 📖 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในรูปแบบอินโฟกราฟิก ได้ที่ https://www.bot.or.th/th/thai-economy/regional-economy/northeastern-economy/the-state-of-northeastern-economy/2025-m05-ne-press-and-table.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดูดวงทั้ง 12 นักษัตร เดือนกรกฎาคม 2568
    ..................................................................................
    คำทำนาย พื้นดวงชะตา ของคนที่เกิดในแต่ละนักษัตร ทั้ง 12 ราศี ในเดือนกรกฎาคม 2568 ว่าพื้นดวงชะตาของแต่ละคนมี การเปลี่ยนแปลงทางด้านบวกหรือด้านลบอย่างไร เรื่องใดโดดเด่นและเรื่องใดต้องระมัดระวังแก้ไข
    ในเดือน กรกฎาคมเป็นเดือน กุ่ย บี่นักษัตร มะแม พลังดิน ธาตุน้ำ ตามหลักโป้ยหยี่ซีเถียวโหราศาสตร์จีน พลังธาตุของปีสอดคล้องส่งเสริมพลังธาตุของเดือน
    ส่งผลให้สถานะการณ์ในเดือนนี้มีการประนีประนอม ผ่อนคลาย การแข่งขันชิงไหวชิงพริบลดลง สิ่งที่ติดขัดได้รับการแก้ไข ส่งผลดีต่อธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ธุรกิจด้านการเกษตร ตลาดต้นไม้ ร้านอาหาร โฮมสเตย์ โรงแรมที่พัก
    ในเดือนนี้ คนที่เกิดในนักษัตรที่มีพลังธาตุสอดคล้องกับเดือนมะอมจะได้รับผลดีและหากนักษัตรใด มีพื้นดวงขัดแย้ง ก็ต้องระวังผลเสียที่เข้ากระทบ เช่นกัน

    https://youtu.be/GltxX0n268U

    ดูดวง 12 นักษัตร เดือนกรกฎาคม 2568

    00:00 บทนำ
    01:21 ดวง ปีชวด (หนู)
    03:01 ดวง ปีฉลู (วัว)
    05:04 ดวง ปีขาล (เสือ)
    06:57 ดวง ปีเถาะ (กระต่าย)
    09:02 ดวง ปีมะโรง (งูใหญ่)
    10:55 ดวง ปีมะเส็ง (งูเล็ก)
    12:53 ดวง ปีมะเมีย (ม้า)
    14:42 ดวง ปีมะแม (แพะ)
    16:31 ดวง ปีวอก (ลิง)
    18:44 ดวง ปีระกา (ไก่)
    20:47 ดวง ปีจอ (หมา)
    22:28 ดวง ปีกุน (หมู)
    คำทำนายนี้มีผล ตั้งแต่วันที่ วันที่ 7 กรกฎาคมถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2568
    ***************************



    ***************************
    ดูดวงทั้ง 12 นักษัตร เดือนกรกฎาคม 2568 .................................................................................. คำทำนาย พื้นดวงชะตา ของคนที่เกิดในแต่ละนักษัตร ทั้ง 12 ราศี ในเดือนกรกฎาคม 2568 ว่าพื้นดวงชะตาของแต่ละคนมี การเปลี่ยนแปลงทางด้านบวกหรือด้านลบอย่างไร เรื่องใดโดดเด่นและเรื่องใดต้องระมัดระวังแก้ไข ในเดือน กรกฎาคมเป็นเดือน กุ่ย บี่นักษัตร มะแม พลังดิน ธาตุน้ำ ตามหลักโป้ยหยี่ซีเถียวโหราศาสตร์จีน พลังธาตุของปีสอดคล้องส่งเสริมพลังธาตุของเดือน ส่งผลให้สถานะการณ์ในเดือนนี้มีการประนีประนอม ผ่อนคลาย การแข่งขันชิงไหวชิงพริบลดลง สิ่งที่ติดขัดได้รับการแก้ไข ส่งผลดีต่อธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ธุรกิจด้านการเกษตร ตลาดต้นไม้ ร้านอาหาร โฮมสเตย์ โรงแรมที่พัก ในเดือนนี้ คนที่เกิดในนักษัตรที่มีพลังธาตุสอดคล้องกับเดือนมะอมจะได้รับผลดีและหากนักษัตรใด มีพื้นดวงขัดแย้ง ก็ต้องระวังผลเสียที่เข้ากระทบ เช่นกัน https://youtu.be/GltxX0n268U ดูดวง 12 นักษัตร เดือนกรกฎาคม 2568 00:00 บทนำ 01:21 ดวง ปีชวด (หนู) 03:01 ดวง ปีฉลู (วัว) 05:04 ดวง ปีขาล (เสือ) 06:57 ดวง ปีเถาะ (กระต่าย) 09:02 ดวง ปีมะโรง (งูใหญ่) 10:55 ดวง ปีมะเส็ง (งูเล็ก) 12:53 ดวง ปีมะเมีย (ม้า) 14:42 ดวง ปีมะแม (แพะ) 16:31 ดวง ปีวอก (ลิง) 18:44 ดวง ปีระกา (ไก่) 20:47 ดวง ปีจอ (หมา) 22:28 ดวง ปีกุน (หมู) คำทำนายนี้มีผล ตั้งแต่วันที่ วันที่ 7 กรกฎาคมถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2568 *************************** ***************************
    OPENLINK.CO
    ไฉไล ช๊อป
    ร้านค้าออนไลน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • RWMF2025 เทศกาลดนตรีเรือธงรัฐซาราวัก

    เทศกาลดนตรี The Rainforest World Music Festival 2025 ที่หมู่บ้านวัฒนธรรมซาราวัก เมืองกูชิง รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลเรือธงของซาราวัก (Sarawak) รัฐที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ที่เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวหลักของรัฐ โดยในช่วงกลางวัน จะมีการจัดแสดงทางวัฒนธรรมและงานฝีมือ การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนในตอนค่ำจะมีการแสดงบนเวทีหลัก ท่ามกลางบรรยากาศของป่าในฤดูฝน และฉากหลังเขาซานตูบง งานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 28 นับตั้งแต่การจัดงานครั้งแรกในปี 1998 โดยในปีนี้มีศิลปินจาก 20 ประเทศ 20 วงดนตรี และนักดนตรีกว่า 200 คน

    RWMF 2025 ในปีนี้คว้าศิลปินระดับตำนาน Earth, Wind & Fire Experience by Al McKay จากสหรัฐอเมริกา นำโดย อัล แมคเคย์ มือกีตาร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ด เจ้าของเพลง September และ Let's groove พร้อมด้วยวง GAGA GUNDUL จากฝรั่งเศสและอินโดนีเซีย SEFFARINE จากโมรอกโก คิวบา สเปน สหรัฐอเมริกาและอิหร่าน OTYKEN จากไซบีเรียและรัสเซีย SEPPUKU PISTOLS จากญี่ปุ่น KULAIWI จากฮาวาย ROB RUHA จากเอาเตียรัว นิวซีแลนด์ MANHU จากจีน TAL FRY จากอินเดีย LA CHIVA GANTIVA จากโคลัมเบียและเบลเยียม และ N'FAMADY KOUYATE จากกินีและอังกฤษ

    ส่วนในอาเซียน มีทั้งพาราไดซ์ แบงคอก หมอลำ อินเตอร์เนชันแนล จากไทย และ KUNTAW MINDANAO จากฟิลิปปินส์ สลับกับวงดนตรีจากมาเลเซียและซาราวัก อาทิ MATHEW NGAU JAU with LAN E TUYANG, NAUNGAN, MERUKED, BUDDHA BEAT ft. SINARAN COLLECTIVE, KANCET AJAJ WARRIOR DANCE, BULOH BERKOCAK, AT ADAU โดยจำหน่ายบัตรเหมา 3 วันในราคา 635 ริงกิต (4,900 บาท) และบัตร 1 วัน ขายล่วงหน้าราคา 235-285 ริงกิต (1,813-2,200 บาท) และขายหน้างานราคา 333 ริงกิต (2,570 บาท) โดยมีรถรับส่งฟรีสำหรับผู้ซื้อบัตร จากตัวเมืองกูชิงถึงบริเวณหาดดาไม และมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวออกแพ็คเกจทัวร์ร่วมกับงาน RWMF 2025 แบบ 3 วัน 2 คืน หรือ 4 วัน 3 คืนพร้อมกิจกรรมอื่นๆ

    สำหรับซาราวักเป็นประตูสู่เกาะบอร์เนียว เชื่อมโยงกับมาเลเซียทางอากาศ โดยท่าอากาศยานกูชิง (KCH) มีเที่ยวบินไปยังท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (KUL) กว่า 140 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในปี 2568 รัฐซาราวักมีกิจกรรมตามปฎิทินท่องเที่ยวราว 250 กิจกรรม มีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้ 5 ล้านคน จากปีที่แล้ว 4.8 ล้านคน ส่วนใหญ่จากประเทศบรูไน ประมาณเดือนละ 150,000 คน ขณะที่ชาวอินโดนีเซียก็สนใจอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีงาน Sarawak Regatta การแข่งขันพายเรือประจำปีบนแม่น้ำซาราวักในช่วงปลายปีอีกด้วย

    #Newskit
    RWMF2025 เทศกาลดนตรีเรือธงรัฐซาราวัก เทศกาลดนตรี The Rainforest World Music Festival 2025 ที่หมู่บ้านวัฒนธรรมซาราวัก เมืองกูชิง รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลเรือธงของซาราวัก (Sarawak) รัฐที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ที่เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวหลักของรัฐ โดยในช่วงกลางวัน จะมีการจัดแสดงทางวัฒนธรรมและงานฝีมือ การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนในตอนค่ำจะมีการแสดงบนเวทีหลัก ท่ามกลางบรรยากาศของป่าในฤดูฝน และฉากหลังเขาซานตูบง งานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 28 นับตั้งแต่การจัดงานครั้งแรกในปี 1998 โดยในปีนี้มีศิลปินจาก 20 ประเทศ 20 วงดนตรี และนักดนตรีกว่า 200 คน RWMF 2025 ในปีนี้คว้าศิลปินระดับตำนาน Earth, Wind & Fire Experience by Al McKay จากสหรัฐอเมริกา นำโดย อัล แมคเคย์ มือกีตาร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ด เจ้าของเพลง September และ Let's groove พร้อมด้วยวง GAGA GUNDUL จากฝรั่งเศสและอินโดนีเซีย SEFFARINE จากโมรอกโก คิวบา สเปน สหรัฐอเมริกาและอิหร่าน OTYKEN จากไซบีเรียและรัสเซีย SEPPUKU PISTOLS จากญี่ปุ่น KULAIWI จากฮาวาย ROB RUHA จากเอาเตียรัว นิวซีแลนด์ MANHU จากจีน TAL FRY จากอินเดีย LA CHIVA GANTIVA จากโคลัมเบียและเบลเยียม และ N'FAMADY KOUYATE จากกินีและอังกฤษ ส่วนในอาเซียน มีทั้งพาราไดซ์ แบงคอก หมอลำ อินเตอร์เนชันแนล จากไทย และ KUNTAW MINDANAO จากฟิลิปปินส์ สลับกับวงดนตรีจากมาเลเซียและซาราวัก อาทิ MATHEW NGAU JAU with LAN E TUYANG, NAUNGAN, MERUKED, BUDDHA BEAT ft. SINARAN COLLECTIVE, KANCET AJAJ WARRIOR DANCE, BULOH BERKOCAK, AT ADAU โดยจำหน่ายบัตรเหมา 3 วันในราคา 635 ริงกิต (4,900 บาท) และบัตร 1 วัน ขายล่วงหน้าราคา 235-285 ริงกิต (1,813-2,200 บาท) และขายหน้างานราคา 333 ริงกิต (2,570 บาท) โดยมีรถรับส่งฟรีสำหรับผู้ซื้อบัตร จากตัวเมืองกูชิงถึงบริเวณหาดดาไม และมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวออกแพ็คเกจทัวร์ร่วมกับงาน RWMF 2025 แบบ 3 วัน 2 คืน หรือ 4 วัน 3 คืนพร้อมกิจกรรมอื่นๆ สำหรับซาราวักเป็นประตูสู่เกาะบอร์เนียว เชื่อมโยงกับมาเลเซียทางอากาศ โดยท่าอากาศยานกูชิง (KCH) มีเที่ยวบินไปยังท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (KUL) กว่า 140 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในปี 2568 รัฐซาราวักมีกิจกรรมตามปฎิทินท่องเที่ยวราว 250 กิจกรรม มีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้ 5 ล้านคน จากปีที่แล้ว 4.8 ล้านคน ส่วนใหญ่จากประเทศบรูไน ประมาณเดือนละ 150,000 คน ขณะที่ชาวอินโดนีเซียก็สนใจอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีงาน Sarawak Regatta การแข่งขันพายเรือประจำปีบนแม่น้ำซาราวักในช่วงปลายปีอีกด้วย #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 498 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'กองทัพไทย' ยันไม่ล้ำเส้น แจงปมนักปั่นชม 'ตาเมือนธม' 'กัมพูชา' ดิ้นพล่านหนัก
    .
    รัฐบาลกัมพูชายังคงออกอาการโวยวายต่อเนื่อง โดยล่าสุดกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงความกังวล กรณีเจ้าหน้าที่ทหารไทยนำคณะนักปั่นจักรยานเข้าเยี่ยมชมบริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ก่อนเวลาเปิดทำการ โดยอ้างว่าไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้า ซึ่งในเรื่องนี้ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ พบว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.สุรินทร์ จัดโดยสำนักการท่องเที่ยว และกีฬาจังหวัด ภายใต้ชื่อว่า “ปั่น 2 ปราสาท สัมผัสทุเรียนเมืองช้าง @พนมดงรัก 2025”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000058804

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    'กองทัพไทย' ยันไม่ล้ำเส้น แจงปมนักปั่นชม 'ตาเมือนธม' 'กัมพูชา' ดิ้นพล่านหนัก . รัฐบาลกัมพูชายังคงออกอาการโวยวายต่อเนื่อง โดยล่าสุดกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงความกังวล กรณีเจ้าหน้าที่ทหารไทยนำคณะนักปั่นจักรยานเข้าเยี่ยมชมบริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ก่อนเวลาเปิดทำการ โดยอ้างว่าไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้า ซึ่งในเรื่องนี้ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ พบว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.สุรินทร์ จัดโดยสำนักการท่องเที่ยว และกีฬาจังหวัด ภายใต้ชื่อว่า “ปั่น 2 ปราสาท สัมผัสทุเรียนเมืองช้าง @พนมดงรัก 2025” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000058804 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1389 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวดีสำหรับสายเที่ยว! ไต้หวันต่ออายุ “ฟรีวีซ่า” สำหรับคนไทยอีก 1 ปี

    ตั้งแต่ 1 ส.ค. 2568 - 31 ก.ค. 2569 คนไทยเที่ยวไต้หวันได้ **ไม่ต้องขอวีซ่า**
    ใช้แค่พาสปอร์ต ก็จองตั๋วบินตรงได้เลย ไม่ต้องรอ!
    มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการกวนหง” ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวจากอาเซียน
    เดินทางง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น เที่ยวได้มั่นใจขึ้น!

    #ฟรีวีซ่าไต้หวัน #เที่ยวไต้หวัน #TaiwanTravel #ข่าวดีสำหรับคนไทย #เที่ยวสบายไม่ต้องขอวีซ่า #เที่ยวเอเชีย #อัพเดทข่าวท่องเที่ยว #NEW #Travel
    🎉 ข่าวดีสำหรับสายเที่ยว! ไต้หวันต่ออายุ “ฟรีวีซ่า” สำหรับคนไทยอีก 1 ปี ✈️ 📌 ตั้งแต่ 1 ส.ค. 2568 - 31 ก.ค. 2569 คนไทยเที่ยวไต้หวันได้ **ไม่ต้องขอวีซ่า** 💼 ใช้แค่พาสปอร์ต ก็จองตั๋วบินตรงได้เลย ไม่ต้องรอ! 🌏 มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการกวนหง” ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวจากอาเซียน 💡 เดินทางง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น เที่ยวได้มั่นใจขึ้น! #ฟรีวีซ่าไต้หวัน #เที่ยวไต้หวัน #TaiwanTravel #ข่าวดีสำหรับคนไทย #เที่ยวสบายไม่ต้องขอวีซ่า #เที่ยวเอเชีย #อัพเดทข่าวท่องเที่ยว #NEW #Travel
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • ททท.จัดกิจกรรมเวิร์กช็อป ดันโคราช เตรียมความพร้อมไปสู่ระดับนานาชาติ เข้าใจท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 3 มรดกโลก สู่ตลาดการท่องเที่ยว

    วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่เคนซิงตัน อิงลิซ การ์เด้น รีสอร์ท เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

    นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. เป็นประธาน เปิดกิจกรรมพัฒนาสินค้าและเส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน จังหวัดนครราชสีมา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

    ร่วมกับ นางสาวศรัญญา ศรีคิรินทร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว นางศาลินา จูนฑะพุทธิ ผอ.กองวางแผนสินค้าการท่องเที่ยว นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผอ.ททท. สำนักงานนครราชสีมา และนางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่

    สำหรับกิจกรรมพัฒนาสินค้าและเส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวกว่า 60 ราย ในจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปพัฒนาการสร้างสรรค์เส้นทาง ท่องเที่ยวยั่งยืน 3 มรดกโลก ในหัวข้อ การสร้างสรรค์เส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน 3 มรดกโลก สู่ตลาดการท่องเที่ยว
    ททท.จัดกิจกรรมเวิร์กช็อป ดันโคราช เตรียมความพร้อมไปสู่ระดับนานาชาติ เข้าใจท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 3 มรดกโลก สู่ตลาดการท่องเที่ยว วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่เคนซิงตัน อิงลิซ การ์เด้น รีสอร์ท เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. เป็นประธาน เปิดกิจกรรมพัฒนาสินค้าและเส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน จังหวัดนครราชสีมา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ นางสาวศรัญญา ศรีคิรินทร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว นางศาลินา จูนฑะพุทธิ ผอ.กองวางแผนสินค้าการท่องเที่ยว นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผอ.ททท. สำนักงานนครราชสีมา และนางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ สำหรับกิจกรรมพัฒนาสินค้าและเส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวกว่า 60 ราย ในจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปพัฒนาการสร้างสรรค์เส้นทาง ท่องเที่ยวยั่งยืน 3 มรดกโลก ในหัวข้อ การสร้างสรรค์เส้นทางท่องเที่ยวยั่งยืน 3 มรดกโลก สู่ตลาดการท่องเที่ยว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศไทย ต้องมี!! : [Biz Talk]

    รัฐบาลเพื่อไทย ผลักดัน ‘Entertainment Complex’เต็มกำลัง ระบุเป็นโอกาสประเทศที่ไม่ควรเสีย ดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวมหาศาล เกิดการจ้างงานจำนวนมาก ย้ำชัด ไม่ใช่การพนันออนไลน์ มีกฎหมายควบคุม ‘กาสิโน’ มั่นใจร่าง พ.ร.บ.ฯผ่านสภาทันรัฐบาลชุดนี้
    ประเทศไทย ต้องมี!! : [Biz Talk] รัฐบาลเพื่อไทย ผลักดัน ‘Entertainment Complex’เต็มกำลัง ระบุเป็นโอกาสประเทศที่ไม่ควรเสีย ดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวมหาศาล เกิดการจ้างงานจำนวนมาก ย้ำชัด ไม่ใช่การพนันออนไลน์ มีกฎหมายควบคุม ‘กาสิโน’ มั่นใจร่าง พ.ร.บ.ฯผ่านสภาทันรัฐบาลชุดนี้
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 610 มุมมอง 37 0 รีวิว
  • สะพานแก้วในจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Glass Bridge) ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติของภูเขาที่จางเจียเจียในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน สะพานแก้วนี้ยาว 430 เมตร และสูงจากพื้นถึง 300 เมตร ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูง เพราะให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนอากาศ

    ค่าเข้าชมและข้อมูลการท่องเที่ยว :
    * ค่าเข้าชมสะพานแก้วประมาณ 160-200 หยวน (ประมาณ 750-950 บาท) ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและโปรโมชั่น
    * บัตรเข้าชมรวมการเข้าชมพื้นที่ต่างๆ เช่น สวนสาธารณะและเส้นทางชมวิว
    * เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 8:30 น. - 18:00 น. (สามารถปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลหรือสภาพอากาศ)
    * กิจกรรมที่น่าสนใจ: นอกจากการเดินบนสะพานแล้ว ยังสามารถเดินป่าชมวิวธรรมชาติและภูเขา

    การเดินทาง:
    * สามารถเดินทางโดยรถโดยสารจากตัวเมืองจางเจียเจีย หรือใช้รถไฟความเร็วสูง
    * มีบริการรถรับส่งจากสถานีรถไฟหรือสนามบินไปยังสะพานแก้ว

    สิ่งที่ควรเตรียม:
    * เสื้อผ้าสบายและรองเท้าที่เหมาะสมกับการเดิน
    * กล้องถ่ายรูปเพื่อบันทึกความประทับใจ

    สะพานแก้วในจางเจียเจียไม่เพียงแต่เป็นจุดชมวิวที่ตื่นเต้น แต่ยังมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามไม่เหมือนใคร

    #Zhangjiajie #GlassBridge #สะพานแก้ว #ท่องเที่ยวจีน #วิวสวย #จางเจียเจี้ย #ธรรมชาติ #ท้าทาย #เที่ยวจีน #ทัวร์จีน #เดินทาง
    สะพานแก้วในจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Glass Bridge) 🌉✨ ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติของภูเขาที่จางเจียเจียในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน 🇨🇳 สะพานแก้วนี้ยาว 430 เมตร และสูงจากพื้นถึง 300 เมตร 🌿 ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูง เพราะให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนอากาศ 🎢 ค่าเข้าชมและข้อมูลการท่องเที่ยว 💰: * ค่าเข้าชมสะพานแก้วประมาณ 160-200 หยวน (ประมาณ 750-950 บาท) ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและโปรโมชั่น * บัตรเข้าชมรวมการเข้าชมพื้นที่ต่างๆ เช่น สวนสาธารณะและเส้นทางชมวิว * เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 8:30 น. - 18:00 น. (สามารถปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลหรือสภาพอากาศ) * กิจกรรมที่น่าสนใจ: นอกจากการเดินบนสะพานแล้ว ยังสามารถเดินป่าชมวิวธรรมชาติและภูเขา การเดินทาง: * สามารถเดินทางโดยรถโดยสารจากตัวเมืองจางเจียเจีย หรือใช้รถไฟความเร็วสูง * มีบริการรถรับส่งจากสถานีรถไฟหรือสนามบินไปยังสะพานแก้ว สิ่งที่ควรเตรียม: * เสื้อผ้าสบายและรองเท้าที่เหมาะสมกับการเดิน * กล้องถ่ายรูปเพื่อบันทึกความประทับใจ สะพานแก้วในจางเจียเจียไม่เพียงแต่เป็นจุดชมวิวที่ตื่นเต้น แต่ยังมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามไม่เหมือนใคร 🌄💫 #Zhangjiajie #GlassBridge #สะพานแก้ว #ท่องเที่ยวจีน #วิวสวย #จางเจียเจี้ย #ธรรมชาติ #ท้าทาย #เที่ยวจีน #ทัวร์จีน #เดินทาง
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 429 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญชวน #เข้าชมการแข่งขันและเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬา ในการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี2568 “โคราชเกมส์”
    เป็นครั้งแรกกับการจัดการแข่งขันกีฬาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย วัย60+ ในการจัดการแข่งขันบนพื้นที่ของห้างสรรพสินค้า ทั้ง3 แห่งของ จังหวัดนครราชสีมาพร้อมกัน
    โดย มีการแข่งขันทั้งสิ้น 11 ชนิดกีฬา
    สนาม เดอะมอล โคราช กีฬาลีลาศ , กีฬาแบดมินตัน,กีฬาหมากรุกไทย
    สนาม เซนทรัล โคราช กีฬาแอโรบิกมวยไทย,กีฬาประกวดคาราโอเกะ ลูกทุ่มงและลูกกรุง
    สนาม เทอมินอล 21 โคราช กีฬาเซปักตะกร้อ และเป็นสถานที่จัดพิธีเปิด สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ80พรรษา กีฬากรีฑา กีฬาเปตอง
    สนามกอล์ฟเสือปาร์ค กีฬากอล์ฟ
    สนามกีฬากลางค่ายสุรนารี กีฬาเกทบอล
    สนามไดรืฟกอล์ฟ บชร2 กีฬาวู้ดบอล
    และในส่วนของกองประสานงานส่วนกลาง จะจัดตั้ง ณ เซนทรัล โคราช
    ทุกท่านสามารถกดเข้าไปที่ลิ้งค์ เพื่อติดตามข่าวสารการแข่งขันและข้อมูลด้านการท่องเที่ยวพร้อมสิทธิพิเศษส่วนลดอีกมากมาย
    https://drive.google.com/drive/folders/159Kw06NztREUPGPtGspjZNhJbbrn2Kh0

    #โคราชเกมส์ #กรมพลศึกษา #กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา #ท่องเที่ยวกีฬาโคราช
    ขอเชิญชวน #เข้าชมการแข่งขันและเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬา ในการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 ประจำปี2568 “โคราชเกมส์” เป็นครั้งแรกกับการจัดการแข่งขันกีฬาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย วัย60+ ในการจัดการแข่งขันบนพื้นที่ของห้างสรรพสินค้า ทั้ง3 แห่งของ จังหวัดนครราชสีมาพร้อมกัน โดย มีการแข่งขันทั้งสิ้น 11 ชนิดกีฬา สนาม เดอะมอล โคราช กีฬาลีลาศ , กีฬาแบดมินตัน,กีฬาหมากรุกไทย สนาม เซนทรัล โคราช กีฬาแอโรบิกมวยไทย,กีฬาประกวดคาราโอเกะ ลูกทุ่มงและลูกกรุง สนาม เทอมินอล 21 โคราช กีฬาเซปักตะกร้อ และเป็นสถานที่จัดพิธีเปิด สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ80พรรษา กีฬากรีฑา กีฬาเปตอง สนามกอล์ฟเสือปาร์ค กีฬากอล์ฟ สนามกีฬากลางค่ายสุรนารี กีฬาเกทบอล สนามไดรืฟกอล์ฟ บชร2 กีฬาวู้ดบอล และในส่วนของกองประสานงานส่วนกลาง จะจัดตั้ง ณ เซนทรัล โคราช 🔻🔻ทุกท่านสามารถกดเข้าไปที่ลิ้งค์ เพื่อติดตามข่าวสารการแข่งขันและข้อมูลด้านการท่องเที่ยวพร้อมสิทธิพิเศษส่วนลดอีกมากมาย 🔻🔻 https://drive.google.com/drive/folders/159Kw06NztREUPGPtGspjZNhJbbrn2Kh0 #โคราชเกมส์ #กรมพลศึกษา #กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา #ท่องเที่ยวกีฬาโคราช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 506 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยอดเขาทิตลิส (Titlis) คือหนึ่งในจุดหมายยอดฮิตของการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัส "หิมะตลอดทั้งปี"
    ---
    จุดเด่นของยอดเขาทิตลิส:
    * ความสูงประมาณ 3,238 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
    * ตั้งอยู่ใกล้ เมืองเอนเกลเบิร์ก (Engelberg) ใช้เวลาเดินทางจากลูเซิร์นราว 45-60 นาที
    * มี หิมะตลอดทั้งปี สามารถเล่นสโนว์ ลานหิมะ และถ่ายรูปวิวเทือกเขาแอลป์ได้ทุกฤดู
    ---
    ไฮไลท์ห้ามพลาด:
    Titlis Rotair
    กระเช้าหมุนได้ 360 องศา แห่งแรกของโลก มองเห็นวิวภูเขาแบบรอบทิศ
    ถ้ำน้ำแข็ง (Glacier Cave)
    เดินในอุโมงค์น้ำแข็งที่ลึกลงไปกว่า 20 เมตรในธารน้ำแข็ง
    สะพานแขวน Titlis Cliff Walk
    เป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในยุโรป ตื่นเต้นวิวสวยแบบสุดๆ
    กิจกรรมบนหิมะ
    เล่นหิมะ เลื่อนหิมะ ถ่ายรูปกับวิวอลังการ
    ---
    ไปได้เมื่อไหร่?
    เปิดตลอดทั้งปี
    🌨 ฤดูหนาว (ธ.ค.-มี.ค.): หิมะเยอะ วิวอลัง
    ฤดูใบไม้ผลิ/ร้อน (เม.ย.-ก.ย.): หิมะยังมี วิวเขียวตัดขาวก็สวยไม่แพ้กัน
    ---
    ราคาคร่าวๆ:
    * ค่าโดยสารกระเช้าไป-กลับจาก Engelberg → Titlis ประมาณ96 CHF
    (ประมาณ 3,800-4,000 บาท)
    ถ้ามี Swiss Pass จะลดราคาลงได้ครึ่งหนึ่ง

    #Titlis #ยอดเขาทิตลิส #เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ #กระเช้าหมุนได้360องศา #หิมะตลอดปี #เล่นหิมะที่ยุโรป #เที่ยวต่างประเทศ #ทัวร์สวิส #TitlisCliffWalk
    🏔️ ยอดเขาทิตลิส (Titlis) คือหนึ่งในจุดหมายยอดฮิตของการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัส "หิมะตลอดทั้งปี" ❄️✨ --- 📍 จุดเด่นของยอดเขาทิตลิส: * ความสูงประมาณ 3,238 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล * ตั้งอยู่ใกล้ เมืองเอนเกลเบิร์ก (Engelberg) ใช้เวลาเดินทางจากลูเซิร์นราว 45-60 นาที * มี หิมะตลอดทั้งปี สามารถเล่นสโนว์ ลานหิมะ และถ่ายรูปวิวเทือกเขาแอลป์ได้ทุกฤดู --- 🚠 ไฮไลท์ห้ามพลาด: 🔹 Titlis Rotair 🚡 กระเช้าหมุนได้ 360 องศา แห่งแรกของโลก มองเห็นวิวภูเขาแบบรอบทิศ 🔹 ถ้ำน้ำแข็ง (Glacier Cave) ❄️ เดินในอุโมงค์น้ำแข็งที่ลึกลงไปกว่า 20 เมตรในธารน้ำแข็ง 🔹 สะพานแขวน Titlis Cliff Walk 🌉 เป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในยุโรป ตื่นเต้นวิวสวยแบบสุดๆ 🔹 กิจกรรมบนหิมะ ⛷️ เล่นหิมะ เลื่อนหิมะ ถ่ายรูปกับวิวอลังการ --- 📆 ไปได้เมื่อไหร่? ✅ เปิดตลอดทั้งปี 🌨 ฤดูหนาว (ธ.ค.-มี.ค.): หิมะเยอะ วิวอลัง 🌸 ฤดูใบไม้ผลิ/ร้อน (เม.ย.-ก.ย.): หิมะยังมี วิวเขียวตัดขาวก็สวยไม่แพ้กัน --- 💸 ราคาคร่าวๆ: * ค่าโดยสารกระเช้าไป-กลับจาก Engelberg → Titlis ประมาณ96 CHF (ประมาณ 3,800-4,000 บาท) 💡 ถ้ามี Swiss Pass จะลดราคาลงได้ครึ่งหนึ่ง #Titlis #ยอดเขาทิตลิส #เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ #กระเช้าหมุนได้360องศา #หิมะตลอดปี #เล่นหิมะที่ยุโรป #เที่ยวต่างประเทศ #ทัวร์สวิส #TitlisCliffWalk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • ลดเวลาพำนักไทย-เขมร จาก 60 เหลือ 7 วัน

    ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ก่อให้เกิดมาตรการตอบโต้ระหว่างสองประเทศ จากการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน และการให้ผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่นๆ แต่ปิดตายห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันชาวไทยข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา ล่าสุดกัมพูชาจำกัดระยะเวลาพำนักของชาวไทยที่เดินทางเข้ากัมพูชา จากเดิม 60 วัน เหลือเพียง 7 วัน ตามคำสั่งของผู้นำกัมพูชา เมื่อครบกำหนดต้องเดินทางออกนอกประเทศและประทับตราหนังสือเดินทางใหม่ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยประกาศว่า ฝ่ายไทยได้ปรับลดระยะเวลาพำนักของชาวกัมพูชาเหลือเพียง 7 วันเช่นกัน

    นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ระบุว่า ได้รับทราบเหมือนกันว่ากัมพูชาลดจำนวนวันสำหรับการเดินทางเข้ากัมพูชาเหลือ 7 วัน ส่วนฝ่ายไทยได้ปรับลดเป็น 7 วันเช่นเดียวกัน ส่วนจะมีไปถึงเมื่อใดนั้น ทั้งสองฝ่ายยังไม่กำหนดจึงยังตอบไม่ได้ รอให้สถานการณ์ดีขึ้นคงจะหันมาคุยกันเรื่องการเพิ่มวันเป็นลำดับต่อไป แต่ยังไม่ใช่ความสำคัญอันดับต้นในขณะนี้

    นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) เตรียมเสนอสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ อีกด้วย

    สำหรับกัมพูชา เคยเป็น 1 ใน 93 ประเทศที่ทางการไทยมีมาตรการฟรีวีซ่า กำหนดให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ทำงานหรือติดต่อธุรกิจระยะสั้นได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 60 วัน เป็นกรณีพิเศษ แต่ที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวเคยเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนปรับมาตรการฟรีวีซ่าจาก 60 วัน เหลือ 30 วัน หลังพบว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ไทยนานเกินไป ทำธุรกิจแบบผิดกฎหมาย แย่งงานแย่งอาชีพคนไทย อีกทั้งชาวต่างชาติที่เข้ามาเพื่อท่องเที่ยวจริงๆ ในไทยส่วนใหญ่อยู่ไม่เกิน 15 วัน ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเผชิญปัญหาความมั่นคง กระทบความเชื่อมั่นต่อการเดินทาง

    ถึงกระนั้น การปรับลดเวลาพำนักชาวกัมพูชาเหลือ 7 วันครั้งนี้ อาจไม่ได้ตั้งใจให้เกิด แต่เมื่อกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไทยจึงต้องออกมาตรการตอบโต้ตามมา

    #Newskit
    ลดเวลาพำนักไทย-เขมร จาก 60 เหลือ 7 วัน ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ก่อให้เกิดมาตรการตอบโต้ระหว่างสองประเทศ จากการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านพรมแดน และการให้ผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่นๆ แต่ปิดตายห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันชาวไทยข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา ล่าสุดกัมพูชาจำกัดระยะเวลาพำนักของชาวไทยที่เดินทางเข้ากัมพูชา จากเดิม 60 วัน เหลือเพียง 7 วัน ตามคำสั่งของผู้นำกัมพูชา เมื่อครบกำหนดต้องเดินทางออกนอกประเทศและประทับตราหนังสือเดินทางใหม่ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยประกาศว่า ฝ่ายไทยได้ปรับลดระยะเวลาพำนักของชาวกัมพูชาเหลือเพียง 7 วันเช่นกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ระบุว่า ได้รับทราบเหมือนกันว่ากัมพูชาลดจำนวนวันสำหรับการเดินทางเข้ากัมพูชาเหลือ 7 วัน ส่วนฝ่ายไทยได้ปรับลดเป็น 7 วันเช่นเดียวกัน ส่วนจะมีไปถึงเมื่อใดนั้น ทั้งสองฝ่ายยังไม่กำหนดจึงยังตอบไม่ได้ รอให้สถานการณ์ดีขึ้นคงจะหันมาคุยกันเรื่องการเพิ่มวันเป็นลำดับต่อไป แต่ยังไม่ใช่ความสำคัญอันดับต้นในขณะนี้ นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) เตรียมเสนอสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี และอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ อีกด้วย สำหรับกัมพูชา เคยเป็น 1 ใน 93 ประเทศที่ทางการไทยมีมาตรการฟรีวีซ่า กำหนดให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ทำงานหรือติดต่อธุรกิจระยะสั้นได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 60 วัน เป็นกรณีพิเศษ แต่ที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวเคยเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนปรับมาตรการฟรีวีซ่าจาก 60 วัน เหลือ 30 วัน หลังพบว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ไทยนานเกินไป ทำธุรกิจแบบผิดกฎหมาย แย่งงานแย่งอาชีพคนไทย อีกทั้งชาวต่างชาติที่เข้ามาเพื่อท่องเที่ยวจริงๆ ในไทยส่วนใหญ่อยู่ไม่เกิน 15 วัน ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเผชิญปัญหาความมั่นคง กระทบความเชื่อมั่นต่อการเดินทาง ถึงกระนั้น การปรับลดเวลาพำนักชาวกัมพูชาเหลือ 7 วันครั้งนี้ อาจไม่ได้ตั้งใจให้เกิด แต่เมื่อกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไทยจึงต้องออกมาตรการตอบโต้ตามมา #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 458 มุมมอง 0 รีวิว
  • สะกดทุกสายตา ยิ่งใหญ่สมการรอคอย Mini Light & Sound แสงแห่ง “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ย้อนรอยอดีตรากเหง้าชาวพิมายตามเส้นทางอารยธรรมขอม

    วันที่ 6 มิถุนายน 2568 ที่บริเวณประตูชัย อ.พิมาย #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ประธานในพิธี พร้อมด้วย นายนิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา เขต 8 นายศิวะเสก สินโทรัมย์ นายอำเภอพิมาย และ นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ร่วมกันเปิดการแสดง แสง สี เสียง (Mini Light and Sound) “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ย้อนรอยอดีตตามเส้นทางท่องเที่ยวอารยธรรมขอม ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2568 โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด และสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ที่ต้องการส่งเสริมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมและโบราณสถานในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ให้เกิดการใช้ต้นทุนในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์ ด้วยเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมโบราณของจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง สู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะที่พิมาย มีอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ไทรงาม รวมถึงเทศกาลเที่ยวพิมายและงานประเพณีแข่งเรือพิมาย ที่ถูกบรรจุไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยว ที่สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาในอนาคต

    Mini Light And Sound “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2568 วันแรกชมพิธีเปิดและชมการแสดง แสง สี เสียง ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7 ต่อด้วยการแสดงจากวงดนตรีลูกทุ่ง ส่วนวันที่ 7 จะมีการประกวดเทพธิดาอัปสรา ประจำปี 2568, การแสดงศิลปวัฒนธรรม 2 ชุดการแสดง จากนั้นชมการแสดง แสง สี เสียง “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ปิดท้ายด้วย การแสดงของวงดนตรีลูกทุ่ง ชมฟรี!! ตลอด 2 วัน 2 คืน พร้อมเลือกช้อปสินค้าและของดี อ.พิมาย ณ บริเวณประตูชัย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา

    #นายกหน่อย #พิมาย
    # MiniLightAndSound
    #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    สะกดทุกสายตา ยิ่งใหญ่สมการรอคอย Mini Light & Sound แสงแห่ง “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ย้อนรอยอดีตรากเหง้าชาวพิมายตามเส้นทางอารยธรรมขอม วันที่ 6 มิถุนายน 2568 ที่บริเวณประตูชัย อ.พิมาย #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ประธานในพิธี พร้อมด้วย นายนิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา เขต 8 นายศิวะเสก สินโทรัมย์ นายอำเภอพิมาย และ นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ร่วมกันเปิดการแสดง แสง สี เสียง (Mini Light and Sound) “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ย้อนรอยอดีตตามเส้นทางท่องเที่ยวอารยธรรมขอม ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2568 โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด และสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ที่ต้องการส่งเสริมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมและโบราณสถานในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ให้เกิดการใช้ต้นทุนในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์ ด้วยเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมโบราณของจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง สู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะที่พิมาย มีอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ไทรงาม รวมถึงเทศกาลเที่ยวพิมายและงานประเพณีแข่งเรือพิมาย ที่ถูกบรรจุไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยว ที่สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาในอนาคต Mini Light And Sound “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 มิถุนายน 2568 วันแรกชมพิธีเปิดและชมการแสดง แสง สี เสียง ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7 ต่อด้วยการแสดงจากวงดนตรีลูกทุ่ง ส่วนวันที่ 7 จะมีการประกวดเทพธิดาอัปสรา ประจำปี 2568, การแสดงศิลปวัฒนธรรม 2 ชุดการแสดง จากนั้นชมการแสดง แสง สี เสียง “ประตูชัยบนราชมรรคา แห่งชัยวรมันที่ 7” ปิดท้ายด้วย การแสดงของวงดนตรีลูกทุ่ง ชมฟรี!! ตลอด 2 วัน 2 คืน พร้อมเลือกช้อปสินค้าและของดี อ.พิมาย ณ บริเวณประตูชัย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา #นายกหน่อย #พิมาย # MiniLightAndSound #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts