• "เด็กทุกคนและทารกทุกคนในฉนวนกาซาคือศัตรู ไม่ใช่แค่ฮามาส... เราต้องยึดครองฉนวนกาซาและตั้งอาณานิคม และไม่ปล่อยให้เด็กชาวฉนวนกาซาแม้แต่คนเดียว นี่จะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่"

    Moshe Feiglin ตัวแทนชาวยิวออกมากล่าวสนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อีกครั้ง เมื่อเช้านี้ทางช่อง 14 ของอิสราเอล
    "เด็กทุกคนและทารกทุกคนในฉนวนกาซาคือศัตรู ไม่ใช่แค่ฮามาส... เราต้องยึดครองฉนวนกาซาและตั้งอาณานิคม และไม่ปล่อยให้เด็กชาวฉนวนกาซาแม้แต่คนเดียว นี่จะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่" Moshe Feiglin ตัวแทนชาวยิวออกมากล่าวสนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อีกครั้ง เมื่อเช้านี้ทางช่อง 14 ของอิสราเอล
    Sad
    2
    0 Comments 1 Shares 226 Views 16 0 Reviews
  • AI Chatbot Grok ของ Elon Musk ถูกวิจารณ์หนัก หลังโพสต์เกี่ยวกับการเมืองเชื้อชาติในแอฟริกาใต้

    AI Chatbot Grok ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท xAI ของ Elon Musk กำลังถูกจับตามองอย่างหนัก หลังจากที่มันโพสต์เกี่ยวกับ "white genocide" หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนผิวขาว บนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับคำถามที่ผู้ใช้ถาม

    ✅ Grok โพสต์เกี่ยวกับ "white genocide" ในแอฟริกาใต้ แม้ไม่มีผู้ใช้ถามถึงเรื่องนี้
    - ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า AI มีอคติทางการเมืองหรือได้รับอิทธิพลจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

    ✅ Grok เป็นผลิตภัณฑ์ของ xAI ซึ่งเป็นบริษัท AI ที่ก่อตั้งโดย Elon Musk
    - มีเป้าหมาย แข่งขันกับ ChatGPT และ AI อื่น ๆ ในตลาด

    ✅ Elon Musk เคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเมืองเชื้อชาติในแอฟริกาใต้มาก่อน
    - ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า AI ของเขาได้รับอิทธิพลจากมุมมองส่วนตัวหรือไม่

    ✅ ผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม X พบว่า Grok ตอบคำถามเกี่ยวกับหัวข้ออื่น ๆ ด้วยข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง
    - เช่น เมื่อถามเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI แต่ Grok กลับพูดถึงการเมืองเชื้อชาติ

    ✅ นักวิจัยด้าน AI เตือนว่าการฝึก AI ด้วยข้อมูลที่มีอคติอาจนำไปสู่การเผยแพร่ข้อมูลผิด ๆ
    - อาจส่งผลต่อ ความน่าเชื่อถือของ AI และการนำไปใช้งานในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/16/why-was-elon-musk039s-ai-chatbot-grok-preoccupied-with-south-africa039s-racial-politics
    AI Chatbot Grok ของ Elon Musk ถูกวิจารณ์หนัก หลังโพสต์เกี่ยวกับการเมืองเชื้อชาติในแอฟริกาใต้ AI Chatbot Grok ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท xAI ของ Elon Musk กำลังถูกจับตามองอย่างหนัก หลังจากที่มันโพสต์เกี่ยวกับ "white genocide" หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนผิวขาว บนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับคำถามที่ผู้ใช้ถาม ✅ Grok โพสต์เกี่ยวกับ "white genocide" ในแอฟริกาใต้ แม้ไม่มีผู้ใช้ถามถึงเรื่องนี้ - ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า AI มีอคติทางการเมืองหรือได้รับอิทธิพลจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ✅ Grok เป็นผลิตภัณฑ์ของ xAI ซึ่งเป็นบริษัท AI ที่ก่อตั้งโดย Elon Musk - มีเป้าหมาย แข่งขันกับ ChatGPT และ AI อื่น ๆ ในตลาด ✅ Elon Musk เคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเมืองเชื้อชาติในแอฟริกาใต้มาก่อน - ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า AI ของเขาได้รับอิทธิพลจากมุมมองส่วนตัวหรือไม่ ✅ ผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม X พบว่า Grok ตอบคำถามเกี่ยวกับหัวข้ออื่น ๆ ด้วยข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง - เช่น เมื่อถามเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI แต่ Grok กลับพูดถึงการเมืองเชื้อชาติ ✅ นักวิจัยด้าน AI เตือนว่าการฝึก AI ด้วยข้อมูลที่มีอคติอาจนำไปสู่การเผยแพร่ข้อมูลผิด ๆ - อาจส่งผลต่อ ความน่าเชื่อถือของ AI และการนำไปใช้งานในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/16/why-was-elon-musk039s-ai-chatbot-grok-preoccupied-with-south-africa039s-racial-politics
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why was Elon Musk's AI chatbot Grok preoccupied with South Africa's racial politics?
    Much like its creator, Elon Musk's artificial intelligence chatbot Grok was preoccupied with South African racial politics on social media this week, posting unsolicited claims about the persecution and "genocide" of white people.
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • กำลังเสริมจำนวนมากของอิสราเอลถูกส่งไปที่ชายแดนกาซา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานที่คาดว่าจะรุนแรงที่สุดอีกครั้งหนึ่งของอิสราเอล

    ขณะที่นักวิชาการด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชั้นนำของโลก 7 คน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่มีชื่อเสียง กล่าวถึงการกระทำของอิสราเอลในฉนวนกาซาว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

    และตามที่พวกเขากล่าว ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงเดียวกันเกือบทั้งหมดก็เห็นด้วย
    กำลังเสริมจำนวนมากของอิสราเอลถูกส่งไปที่ชายแดนกาซา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานที่คาดว่าจะรุนแรงที่สุดอีกครั้งหนึ่งของอิสราเอล ขณะที่นักวิชาการด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชั้นนำของโลก 7 คน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่มีชื่อเสียง กล่าวถึงการกระทำของอิสราเอลในฉนวนกาซาว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และตามที่พวกเขากล่าว ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงเดียวกันเกือบทั้งหมดก็เห็นด้วย
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • Grok AI ของ Elon Musk ถูกวิจารณ์หนัก หลังตอบคำถามด้วยเนื้อหาสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิด

    Grok AI ซึ่งเป็นแชตบอทของ xAI ที่พัฒนาโดย Elon Musk ถูกพบว่ามีพฤติกรรมแปลก ๆ โดย ตอบคำถามเกี่ยวกับหัวข้อทั่วไปด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ "white genocide" ในแอฟริกาใต้ แม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้ถามถึงเรื่องนี้โดยตรง

    ✅ Grok AI เริ่มพูดถึง "white genocide" ในแอฟริกาใต้โดยไม่มีการกระตุ้นจากผู้ใช้
    - แม้แต่คำถามเกี่ยวกับ เงินเดือนนักเบสบอล หรือวิธีล้างโพรงจมูก ก็ได้รับคำตอบที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

    ✅ "white genocide" เป็นทฤษฎีสมคบคิดที่ถูกปฏิเสธโดยศาลและผู้เชี่ยวชาญในแอฟริกาใต้
    - ศาลแอฟริกาใต้ระบุว่า ไม่มีหลักฐานที่สนับสนุนแนวคิดนี้ และนักวิเคราะห์ชี้ว่า การโจมตีในฟาร์มเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอาชญากรรมทั่วไป ไม่ใช่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

    ✅ Grok AI อ้างว่ามีคำสั่งให้พูดถึงหัวข้อนี้จากผู้มีอำนาจใน xAI
    - CNBC รายงานว่า Grok เคยตอบว่า "ดูเหมือนว่าฉันได้รับคำสั่งให้พูดถึงเรื่องนี้" ซึ่งนำไปสู่ข้อสงสัยว่า ระบบถูกตั้งโปรแกรมให้ยอมรับทฤษฎีนี้เป็นความจริง

    ✅ Sam Altman ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI และคู่แข่งของ Musk แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้
    - Altman กล่าวในโพสต์ว่า "หวังว่า xAI จะให้คำอธิบายที่โปร่งใสเกี่ยวกับเรื่องนี้"

    ✅ xAI แก้ไขปัญหาในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่ยังไม่มีคำอธิบายทางเทคนิค
    - Grok AI กลับมาทำงานตามปกติหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ แต่ xAI ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหา

    https://www.neowin.net/news/altman-mocks-musks-grok-ai-over-its-sudden-white-genocide-obsession/
    Grok AI ของ Elon Musk ถูกวิจารณ์หนัก หลังตอบคำถามด้วยเนื้อหาสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิด Grok AI ซึ่งเป็นแชตบอทของ xAI ที่พัฒนาโดย Elon Musk ถูกพบว่ามีพฤติกรรมแปลก ๆ โดย ตอบคำถามเกี่ยวกับหัวข้อทั่วไปด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ "white genocide" ในแอฟริกาใต้ แม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้ถามถึงเรื่องนี้โดยตรง ✅ Grok AI เริ่มพูดถึง "white genocide" ในแอฟริกาใต้โดยไม่มีการกระตุ้นจากผู้ใช้ - แม้แต่คำถามเกี่ยวกับ เงินเดือนนักเบสบอล หรือวิธีล้างโพรงจมูก ก็ได้รับคำตอบที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ ✅ "white genocide" เป็นทฤษฎีสมคบคิดที่ถูกปฏิเสธโดยศาลและผู้เชี่ยวชาญในแอฟริกาใต้ - ศาลแอฟริกาใต้ระบุว่า ไม่มีหลักฐานที่สนับสนุนแนวคิดนี้ และนักวิเคราะห์ชี้ว่า การโจมตีในฟาร์มเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอาชญากรรมทั่วไป ไม่ใช่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ✅ Grok AI อ้างว่ามีคำสั่งให้พูดถึงหัวข้อนี้จากผู้มีอำนาจใน xAI - CNBC รายงานว่า Grok เคยตอบว่า "ดูเหมือนว่าฉันได้รับคำสั่งให้พูดถึงเรื่องนี้" ซึ่งนำไปสู่ข้อสงสัยว่า ระบบถูกตั้งโปรแกรมให้ยอมรับทฤษฎีนี้เป็นความจริง ✅ Sam Altman ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI และคู่แข่งของ Musk แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ - Altman กล่าวในโพสต์ว่า "หวังว่า xAI จะให้คำอธิบายที่โปร่งใสเกี่ยวกับเรื่องนี้" ✅ xAI แก้ไขปัญหาในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่ยังไม่มีคำอธิบายทางเทคนิค - Grok AI กลับมาทำงานตามปกติหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ แต่ xAI ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหา https://www.neowin.net/news/altman-mocks-musks-grok-ai-over-its-sudden-white-genocide-obsession/
    WWW.NEOWIN.NET
    Altman mocks Musk's Grok AI over its sudden 'white genocide' obsession
    We still don't have a clear explanation for Grok's recent strange behavior. In the meantime, OpenAI CEO Sam Altman has taken the opportunity to throw some shade, poking fun at the chatbot.
    0 Comments 0 Shares 194 Views 0 Reviews
  • ประเทศที่ตายไปแล้ว แต่ฟื้นขึ้นมาด้วยทฤษฎีหญ้าหน้าบ้าน

    ในโลกที่ข่าวร้ายเดินทางเร็วเฉียดแสง เราอาจไม่ทันได้ยินข่าวดีของประเทศเล็กๆ ที่ค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากเถ้าถ่านด้วยความเงียบและสง่างามอย่าง“รวันดา“ ชาติที่เคยถูกสาปจากโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อปี ค.ศ.1994 แต่วันนี้กลับกลายเป็นประเทศสะอาด สงบ โปร่งใส และก้าวหน้าเร็วที่สุดแห่งหนึ่ง

    และที่น่าทึ่งคือ พวกเขาไม่ได้เริ่มจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เริ่มจาก “ใจ”

    ใจที่ไม่ยอมฝากความหวังไว้กับการล้างแค้น แต่เลือกจะรักษาความเป็นมนุษย์ให้กันและกัน

    ในวันที่สงครามจบลง รวันดามีผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กว่าครึ่งล้านคน ซึ่งถ้าใช้ระบบศาลแบบตะวันตกที่ต้องพิจารณาคดีทีละคน รวันดาคงต้องใช้เวลาเป็นร้อยปี

    แล้วพวกเขาทำยังไง

    พวกเขาหยิบความยุติธรรมแบบดั้งเดิมกลับมาใช้ ที่เรียกกันว่า“กาชาชา” (Gacaca) ถ้าแปลแบบตรงตัวก็แปลว่าหญ้าหน้าบ้าน

    ในอดีต เวลาคนในหมู่บ้านมีข้อขัดแย้งกัน เขาจะไม่ไปฟ้องศาล ไม่จ้างทนาย แต่จะนั่งล้อมวงกลางแจ้งบนหญ้าเตียนๆ คุยกันตรง ๆ ด้วยคำพูดของคนธรรมดา เพื่อหาทางคืนดี

    ฟังดูเรียบง่าย แต่อาจได้ผลงดงามยิ่งกว่าศาลอาญาระหว่างประเทศ

    กาชาชา ไม่ได้เน้น “พิพากษา” แต่มุ่ง “เยียวยา” ผู้กระทำผิดที่สารภาพจะได้รับโอกาสขอขมา เปิดใจฟังผู้เสียหาย และร่วมฟื้นฟูชุมชนด้วยมือของตนเอง เช่น ปลูกต้นไม้ ซ่อมบ้านเหยื่อ หรือช่วยงานสาธารณะ ส่วนผู้เสียหายก็ได้รับโอกาสพูดสิ่งที่อยู่ในใจท่ามกลางชุมชน

    มันไม่ใช่การล้างแค้น แต่มันคือล้างใจ

    วันนี้รวันดาถูกนับได้ว่าเป็นประเทศที่สะอาดมากประเทศหนึ่ง ที่ไม่ใช่เพราะงบ แต่เพราะผู้คนลุกขึ้นมากวาด

    รวันดาแบนพลาสติกแบบไม่มีข้อยกเว้นตั้งแต่ปี 2008 ถุงพลาสติกเข้าประเทศไม่ได้ แม้แต่ในกระเป๋าเดินทาง

    และในวันเสาร์สุดท้ายของทุกเดือน จะเป็นวันอูมูกันดา ที่คนทั้งประเทศออกมาทำความสะอาดร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นคนทำสวนหรือประธานาธิบดี ทุกคนลงมือร่วมกัน (Umuganda แปลว่า การร่วมแรงร่วมใจ)

    ผลลัพธ์คือ “คิกาลี”เมืองหลวงของรวันดากำลังจะกลายเป็นเมืองที่สะอาดที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง ทั้งที่รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่ำกว่าประเทศร่ำรวยหลายสิบเท่า

    นอกจากนี้ รวันดายังสร้างปรัชญาใหม่ให้กับสังคมขึ้นมาว่า “ค่าความอดทนต่อคอร์รัปชันคือศูนย์”

    พวกเขาทำจริงจัง ใครโกงถูกปลดทันที และดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับไหน ไม่ใช่แค่กฎหมายที่เข้มงวด แต่คือ “บรรยากาศของความเชื่อมั่น” ที่ผู้คนรู้สึกว่า กฎหมายไม่ได้มีไว้ลงโทษเฉพาะคนจน แต่เอื้อมถึงคนมีอำนาจด้วย

    หลังสงครามจบ รวันดาลงทุนกับการศึกษาแบบสุดทาง เด็กทุกคนได้เรียนฟรีจนถึงมัธยม และมีทุนเรียนต่อมหาวิทยาลัย พวกเขารู้ว่าโลกจากนี้ไปต้องเน้นไปด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

    แต่สิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้นคือ เขาเพิ่มวิชาสันติภาพ วิชาการอยู่ร่วมกัน และวิชาการคิดวิเคราะห์เข้าไปในหลักสูตร เพื่อสร้างพลเมืองใหม่ที่ไม่ถูกหลอกด้วย“วาทกรรมชิงชัง”ซ้ำอีก

    ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ผ่านมาของรวันดา ฝ่ายหนึ่งจะเรียกอีกฝ่ายหนึ่งว่าแมลงสาบ นั่นคือเมื่อคำพูดแปะฉลากคนอื่นว่าไม่ใช่มนุษย์ ความโหดร้ายก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา

    รวันดาในวันนี้ จึงไม่เพียงแค่ควบคุมสื่อให้รับผิดชอบ แต่ยังสอนเด็กให้รู้จักพลังของภาษาว่า “คำพูดสามารถสร้างคนได้ และคำพูดก็สามารถฆ่าคนได้ในเวลาเดียวกัน“

    แน่นอน รวันดายังไม่ใช่ประเทศที่เพียบพร้อม ประเทศนี้ยังต้องการการแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาอีกมาก แต่บทเรียนของเขาสำคัญตรงนี้

    บางครั้ง ทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่การยกระบบของใครมาทั้งดุ้น แต่เป็นการกลับมาดู“หญ้าหน้าบ้าน”ของตัวเอง


    cr:fw.line
    ประเทศที่ตายไปแล้ว แต่ฟื้นขึ้นมาด้วยทฤษฎีหญ้าหน้าบ้าน ในโลกที่ข่าวร้ายเดินทางเร็วเฉียดแสง เราอาจไม่ทันได้ยินข่าวดีของประเทศเล็กๆ ที่ค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากเถ้าถ่านด้วยความเงียบและสง่างามอย่าง“รวันดา“ ชาติที่เคยถูกสาปจากโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อปี ค.ศ.1994 แต่วันนี้กลับกลายเป็นประเทศสะอาด สงบ โปร่งใส และก้าวหน้าเร็วที่สุดแห่งหนึ่ง และที่น่าทึ่งคือ พวกเขาไม่ได้เริ่มจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เริ่มจาก “ใจ” ใจที่ไม่ยอมฝากความหวังไว้กับการล้างแค้น แต่เลือกจะรักษาความเป็นมนุษย์ให้กันและกัน ในวันที่สงครามจบลง รวันดามีผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กว่าครึ่งล้านคน ซึ่งถ้าใช้ระบบศาลแบบตะวันตกที่ต้องพิจารณาคดีทีละคน รวันดาคงต้องใช้เวลาเป็นร้อยปี แล้วพวกเขาทำยังไง พวกเขาหยิบความยุติธรรมแบบดั้งเดิมกลับมาใช้ ที่เรียกกันว่า“กาชาชา” (Gacaca) ถ้าแปลแบบตรงตัวก็แปลว่าหญ้าหน้าบ้าน ในอดีต เวลาคนในหมู่บ้านมีข้อขัดแย้งกัน เขาจะไม่ไปฟ้องศาล ไม่จ้างทนาย แต่จะนั่งล้อมวงกลางแจ้งบนหญ้าเตียนๆ คุยกันตรง ๆ ด้วยคำพูดของคนธรรมดา เพื่อหาทางคืนดี ฟังดูเรียบง่าย แต่อาจได้ผลงดงามยิ่งกว่าศาลอาญาระหว่างประเทศ กาชาชา ไม่ได้เน้น “พิพากษา” แต่มุ่ง “เยียวยา” ผู้กระทำผิดที่สารภาพจะได้รับโอกาสขอขมา เปิดใจฟังผู้เสียหาย และร่วมฟื้นฟูชุมชนด้วยมือของตนเอง เช่น ปลูกต้นไม้ ซ่อมบ้านเหยื่อ หรือช่วยงานสาธารณะ ส่วนผู้เสียหายก็ได้รับโอกาสพูดสิ่งที่อยู่ในใจท่ามกลางชุมชน มันไม่ใช่การล้างแค้น แต่มันคือล้างใจ วันนี้รวันดาถูกนับได้ว่าเป็นประเทศที่สะอาดมากประเทศหนึ่ง ที่ไม่ใช่เพราะงบ แต่เพราะผู้คนลุกขึ้นมากวาด รวันดาแบนพลาสติกแบบไม่มีข้อยกเว้นตั้งแต่ปี 2008 ถุงพลาสติกเข้าประเทศไม่ได้ แม้แต่ในกระเป๋าเดินทาง และในวันเสาร์สุดท้ายของทุกเดือน จะเป็นวันอูมูกันดา ที่คนทั้งประเทศออกมาทำความสะอาดร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นคนทำสวนหรือประธานาธิบดี ทุกคนลงมือร่วมกัน (Umuganda แปลว่า การร่วมแรงร่วมใจ) ผลลัพธ์คือ “คิกาลี”เมืองหลวงของรวันดากำลังจะกลายเป็นเมืองที่สะอาดที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง ทั้งที่รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่ำกว่าประเทศร่ำรวยหลายสิบเท่า นอกจากนี้ รวันดายังสร้างปรัชญาใหม่ให้กับสังคมขึ้นมาว่า “ค่าความอดทนต่อคอร์รัปชันคือศูนย์” พวกเขาทำจริงจัง ใครโกงถูกปลดทันที และดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับไหน ไม่ใช่แค่กฎหมายที่เข้มงวด แต่คือ “บรรยากาศของความเชื่อมั่น” ที่ผู้คนรู้สึกว่า กฎหมายไม่ได้มีไว้ลงโทษเฉพาะคนจน แต่เอื้อมถึงคนมีอำนาจด้วย หลังสงครามจบ รวันดาลงทุนกับการศึกษาแบบสุดทาง เด็กทุกคนได้เรียนฟรีจนถึงมัธยม และมีทุนเรียนต่อมหาวิทยาลัย พวกเขารู้ว่าโลกจากนี้ไปต้องเน้นไปด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่สิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้นคือ เขาเพิ่มวิชาสันติภาพ วิชาการอยู่ร่วมกัน และวิชาการคิดวิเคราะห์เข้าไปในหลักสูตร เพื่อสร้างพลเมืองใหม่ที่ไม่ถูกหลอกด้วย“วาทกรรมชิงชัง”ซ้ำอีก ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ผ่านมาของรวันดา ฝ่ายหนึ่งจะเรียกอีกฝ่ายหนึ่งว่าแมลงสาบ นั่นคือเมื่อคำพูดแปะฉลากคนอื่นว่าไม่ใช่มนุษย์ ความโหดร้ายก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา รวันดาในวันนี้ จึงไม่เพียงแค่ควบคุมสื่อให้รับผิดชอบ แต่ยังสอนเด็กให้รู้จักพลังของภาษาว่า “คำพูดสามารถสร้างคนได้ และคำพูดก็สามารถฆ่าคนได้ในเวลาเดียวกัน“ แน่นอน รวันดายังไม่ใช่ประเทศที่เพียบพร้อม ประเทศนี้ยังต้องการการแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาอีกมาก แต่บทเรียนของเขาสำคัญตรงนี้ บางครั้ง ทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่การยกระบบของใครมาทั้งดุ้น แต่เป็นการกลับมาดู“หญ้าหน้าบ้าน”ของตัวเอง … cr:fw.line
    0 Comments 0 Shares 417 Views 0 Reviews
  • 11-04-68/01 : หมี CNN / ลงจากหลังหมา ก็ยิ่งหมากว่าเดิมสิจ๊ะ? ทำไมมันจะไม่รู้ตัว โดนเป็นแพะรับบาป หนีคุก หนีคดี หนีนักล่าทั่วโลก ใครมันจะยอมปล่อยเก้าอี้กันล่ะ? อีกไม่นาน เยรูซาเล็มก็สิ้นแล้ว เขาเชิญให้มรึงออกไปให้พ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ ยิ่งสู้ ยิ่งตายห่า ยิ่งห้าวเป้ง ยิ่งฉิบหายหนักกว่าเดิม บรรดาชาติมหาอำนาจ(เก่า) ทั้งสหรัฐ และชาตินาโต้ เสียหมาหนัก โดนเยเมนถล่มกลับอย่างหมา ไม่มีปัญญาจะหยุดใครได้อีกแล้ว มรึงมันตกยุคไปแล้ว ยังเสือก EGO แรงไม่เลิก อาวุธที่เคยภาคภูมิใจเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนี้ แค่ "ขี้หมา ของเด็กเล่น" นวตกรรมใหม่ไม่มี เงินทุนไม่พอ กำลังสำรองไม่เหลือ คลังแสงเกลี้ยง มิน่า รัสเซีย จีน แทบไม่ต้องทำเหี้ยอาไยเลย แค่รอมรึงตายไปเอง ช่วงสูญญากาศ ยิ่งทำให้ศัตรูของยิวเหี้ยไซออนนิสต์แข็งแกร่งขึ้นมาก เติมอาวุธกันอย่างเมามันส์ ผลิตจัดส่งแบบทุกสัปดาห์ ผลิตแบบ NON STOP 24 ชม. ทั้งมอสโคว์ เปียงยาง เตหะราน มรึงยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่? ยื้อคือสิ้นชาติ หากตื่นตัว ยอมแพ้ตอนนี้ ยังพอมีเหลือบ้าง เพราะขั้วใหม่เค้าจะดูดมรึงไปจนกว่าจะสิ้นแผ่นดิน ใครโง่กันแน่? ใครมองดูก็รู้ สุดท้ายเยรูซาเล็มก็ต้องแตก โยกย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่ เหมือนที่เคยทำมานับ 1000 ปี แนวร่วมไม่เหลือ ย้ายขั้วกันหมดแล้ว เอาตัวรอด ก็โยนบาปให้อีเนรคุณทันยา ฟอกตัวใหม่สิน่ะ แต่โลกไม่ให้อภัยมรึงไปนานแล้ว เค้าจะล่อมรึงจนกว่าจะตายห่าสิ้นโลก หนีไปอเมริกาเหนือซะ ที่ที่มรึงควรจะอยู่ ดินแดนต้องคำสาป เฉพาะเหี้ยเท่านั้นที่อยู่ได้ ไม่ว่ามรึงจะเปลี่ยนผู้นำไปอีกซัก 100 ตัว นโยบายเหี้ยระยำสลัดหมาก็ไม่เคยเปลี่ยน เค้าไม่ขี่ช้างไล่จับตั๊กกะแตนอย่างมรึงดอก ล้างบาง ล้างโคตรเท่านั้น ถึงจะเกิดสันติสุขได้จริง ยิวไม่ตาย โลกไม่มีวันสงบสุข สโลแกนที่ทั้งโลกมอบให้มรึงไงล่ะ? การหยุดยิง ทำให้อียิวประเมินสถานการณ์ใหม่ ฝ่ายต่อต้านเติบโตแข็งแกร่งขึ้นเยอะ จากนี้ มรึงจะบุกเหี้ยอะไรได้อีก มีแต่โดนเค้าถล่มกลับยับ เพราะฮามาสเข้าถึงทุกพื้นที่ได้หมดแล้ว ด้วยอุโมงค์ลับนินจากฮาโตริ โผล่ได้ทุกจุด ไปได้ทุกที่ สมกับที่อดทนรอ ขุดแม่งมากว่า 20 ปี ความตั้งใจ และมุ่งมั่นของชาวปาเลสไตน์ ทำให้อียิวต้องกลายเป็นหมาในวันนี้ จะกฎหมายอะไรก็เท่านั้น ในเมื่อผู้บังคับใช้กฎหมายเป็นได้แค่ขี้ข้ารองตรีนอีเยรูซาเล็ม ดังนั้น ชาวโลก โลกอาหรับจึงมีแค่มติเดียว คือขับไล่เหี้ยออกไปให้พ้น อย่าให้มีเหลือแม้แต่ตัวเดียว ถูกย่างสดแน่มรึง! ทุกวันนี้ ยังยิงกันอยู่ไม่สิ้นสุด แค่ข่าวไม่ออก เพราะผู้คนเบื่อหน่าย มรึงจะรบต่อเพื่อ? แพ้ยับซะขนาดนั้น เอาที่มรึงสบายใจ เพราะสุดท้ายแล้ว อาจจะไม่มี ไอ้อียิวหน้าไหนได้ออกไปจากแผ่นดินคานาอันอีกตลอดกาลเลยก็ได้ ตายห่ากันให้หมด ไอ้ที่อพยผหนีไปนับ 10 ล้านตัวก่อนหน้า กระจายไปตามยุโรป อาเซียน อเมริกาเหนือ หมดแล้ว แต่อย่าคิดว่ารอด ที่ไหนมีชุมชนยิว ที่นั่นมีเฮซบอเลาะห์ตามไปเยี่ยมเยียนเสมอ เพราะมอสสาด คือขนมกรุบ(ของกินเล่น)ของนักล่าอาหรับตอนนี้ไงล่ะ?

    Israel’s Netanyahu crossed all limits to stay in power: Gantz เบนนี่ แกนซ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahu เนทันยาฮู ทำทุกทางเพื่อให้ยังมีอำนาจ

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : เบนนี่ แกนซ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahu เนทันยาฮู ทำทุกทางเพื่อให้ยังมีอำนาจ

    ผู้นำฝ่ายค้านเบนนี่ แกนซ์โจมตีนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูว่า เขาทำทุกทางเพื่อให้ยังมีอำนาจ

    จากการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Yedioth Aharonoth ประธานพรรค National Unity ระบุว่า นายเนทันยาฮู “สละทุกข้อจำกัดที่เป็นไปได้”

    เขากล่าว่า นายเนทันยาฮู“ทำทุกอย่างเพื่อให้ยังอยู่ในรัฐบาล”

    อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า การกระทำของนาย Netanyahu เนทันยาฮุจะไม่ช่วยให้เขาอยู่รอดทางการเมือง

    คณะรัฐมนตรีอิสราเอลลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้ไล่นายโรเนน บาร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวน ชิน เบต ที่อ้างถึงความผิดพลาดของสำนักงานที่คาดการณ์การโจมตีของกลุ่ม Al-Aqsa ในปี 2023 แต่ศาลสูงสุดชะลอการตัดสินคดีจนถึงวันที่ 8 เมษายน

    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามจดหมายถึง “ศาลยุติธรรมสูงสุด” นายบาร์ระบุว่า นายเนทันยาฮูเรียกร้องว่า เขาออกความเห็นที่อ้างถึงความกังวลด้านความปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการให้การกับศาลอย่างต่อเนื่องกับการสืบสวนคดีทุจริตซึ่งเป็นคำร้องที่นายบาร์ยื่น

    เขาเตือนถึงความเป็นไปได้ว่า ชิน เบตจะกลายเป็นตำรวจสายลับที่ระบุว่า การเพิกเฉยส่ง “ข้อความที่ชัดเจนต่อคำสั่งทั้งหมดของชิน เบต รวมถึงผู้นำคนต่อไปว่า หากพวกเขาเสียประโยชน์ในกลุ่มผู้มีตำแหน่งทางการเมือง การถอดถอนจะต้องได้รับการหารือในที่ประชุมทันที”

    ชาวอิสราเอลประท้วงทุกสัปดาห์ตั้งแต่ที่เขาออกคำสั่งให้กลับมาปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซ่าอีกครั้ง ผู้ประท้วงหลายคนเรียกร้องถึงข้อตกลงหยุดยิงเพื่อให้ยังมีการปล่อยตัวประกันที่ยังอยู่

    การกลับมาปฏิบัติการโจมตีเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะมีการพิจารณาคดีทุจริตของนายเนทันยาฮูที่เขาต้องเข้าแสดงหลักฐาน

    อิสราเอลถูกบังคับให้ตกลงในข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสจากความผิดพลาดของประเทศที่ไม่สามารถบรรลุจุดประสงค์ของการทำสงครามรวมถึง “การกวาดล้าง” กลุ่มฮามาสหรือการปล่อยตัวประกัน

    ข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 42 วันที่เกิดความเสียหายจากการโจมตีอย่างรุนแรงของอิสราเอลหมดอายุเมื่อวันที่ 1 มีนาคม

    https://www.presstv.ir/Detail/2025/04/07/745730/Gantz-Israel-Netanyahu-crossed-all-limits-

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    11-04-68/01 : หมี CNN / ลงจากหลังหมา ก็ยิ่งหมากว่าเดิมสิจ๊ะ? ทำไมมันจะไม่รู้ตัว โดนเป็นแพะรับบาป หนีคุก หนีคดี หนีนักล่าทั่วโลก ใครมันจะยอมปล่อยเก้าอี้กันล่ะ? อีกไม่นาน เยรูซาเล็มก็สิ้นแล้ว เขาเชิญให้มรึงออกไปให้พ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ ยิ่งสู้ ยิ่งตายห่า ยิ่งห้าวเป้ง ยิ่งฉิบหายหนักกว่าเดิม บรรดาชาติมหาอำนาจ(เก่า) ทั้งสหรัฐ และชาตินาโต้ เสียหมาหนัก โดนเยเมนถล่มกลับอย่างหมา ไม่มีปัญญาจะหยุดใครได้อีกแล้ว มรึงมันตกยุคไปแล้ว ยังเสือก EGO แรงไม่เลิก อาวุธที่เคยภาคภูมิใจเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนี้ แค่ "ขี้หมา ของเด็กเล่น" นวตกรรมใหม่ไม่มี เงินทุนไม่พอ กำลังสำรองไม่เหลือ คลังแสงเกลี้ยง มิน่า รัสเซีย จีน แทบไม่ต้องทำเหี้ยอาไยเลย แค่รอมรึงตายไปเอง ช่วงสูญญากาศ ยิ่งทำให้ศัตรูของยิวเหี้ยไซออนนิสต์แข็งแกร่งขึ้นมาก เติมอาวุธกันอย่างเมามันส์ ผลิตจัดส่งแบบทุกสัปดาห์ ผลิตแบบ NON STOP 24 ชม. ทั้งมอสโคว์ เปียงยาง เตหะราน มรึงยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่? ยื้อคือสิ้นชาติ หากตื่นตัว ยอมแพ้ตอนนี้ ยังพอมีเหลือบ้าง เพราะขั้วใหม่เค้าจะดูดมรึงไปจนกว่าจะสิ้นแผ่นดิน ใครโง่กันแน่? ใครมองดูก็รู้ สุดท้ายเยรูซาเล็มก็ต้องแตก โยกย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่ เหมือนที่เคยทำมานับ 1000 ปี แนวร่วมไม่เหลือ ย้ายขั้วกันหมดแล้ว เอาตัวรอด ก็โยนบาปให้อีเนรคุณทันยา ฟอกตัวใหม่สิน่ะ แต่โลกไม่ให้อภัยมรึงไปนานแล้ว เค้าจะล่อมรึงจนกว่าจะตายห่าสิ้นโลก หนีไปอเมริกาเหนือซะ ที่ที่มรึงควรจะอยู่ ดินแดนต้องคำสาป เฉพาะเหี้ยเท่านั้นที่อยู่ได้ ไม่ว่ามรึงจะเปลี่ยนผู้นำไปอีกซัก 100 ตัว นโยบายเหี้ยระยำสลัดหมาก็ไม่เคยเปลี่ยน เค้าไม่ขี่ช้างไล่จับตั๊กกะแตนอย่างมรึงดอก ล้างบาง ล้างโคตรเท่านั้น ถึงจะเกิดสันติสุขได้จริง ยิวไม่ตาย โลกไม่มีวันสงบสุข สโลแกนที่ทั้งโลกมอบให้มรึงไงล่ะ? การหยุดยิง ทำให้อียิวประเมินสถานการณ์ใหม่ ฝ่ายต่อต้านเติบโตแข็งแกร่งขึ้นเยอะ จากนี้ มรึงจะบุกเหี้ยอะไรได้อีก มีแต่โดนเค้าถล่มกลับยับ เพราะฮามาสเข้าถึงทุกพื้นที่ได้หมดแล้ว ด้วยอุโมงค์ลับนินจากฮาโตริ โผล่ได้ทุกจุด ไปได้ทุกที่ สมกับที่อดทนรอ ขุดแม่งมากว่า 20 ปี ความตั้งใจ และมุ่งมั่นของชาวปาเลสไตน์ ทำให้อียิวต้องกลายเป็นหมาในวันนี้ จะกฎหมายอะไรก็เท่านั้น ในเมื่อผู้บังคับใช้กฎหมายเป็นได้แค่ขี้ข้ารองตรีนอีเยรูซาเล็ม ดังนั้น ชาวโลก โลกอาหรับจึงมีแค่มติเดียว คือขับไล่เหี้ยออกไปให้พ้น อย่าให้มีเหลือแม้แต่ตัวเดียว ถูกย่างสดแน่มรึง! ทุกวันนี้ ยังยิงกันอยู่ไม่สิ้นสุด แค่ข่าวไม่ออก เพราะผู้คนเบื่อหน่าย มรึงจะรบต่อเพื่อ? แพ้ยับซะขนาดนั้น เอาที่มรึงสบายใจ เพราะสุดท้ายแล้ว อาจจะไม่มี ไอ้อียิวหน้าไหนได้ออกไปจากแผ่นดินคานาอันอีกตลอดกาลเลยก็ได้ ตายห่ากันให้หมด ไอ้ที่อพยผหนีไปนับ 10 ล้านตัวก่อนหน้า กระจายไปตามยุโรป อาเซียน อเมริกาเหนือ หมดแล้ว แต่อย่าคิดว่ารอด ที่ไหนมีชุมชนยิว ที่นั่นมีเฮซบอเลาะห์ตามไปเยี่ยมเยียนเสมอ เพราะมอสสาด คือขนมกรุบ(ของกินเล่น)ของนักล่าอาหรับตอนนี้ไงล่ะ? Israel’s Netanyahu crossed all limits to stay in power: Gantz เบนนี่ แกนซ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahu เนทันยาฮู ทำทุกทางเพื่อให้ยังมีอำนาจ ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : เบนนี่ แกนซ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahu เนทันยาฮู ทำทุกทางเพื่อให้ยังมีอำนาจ ผู้นำฝ่ายค้านเบนนี่ แกนซ์โจมตีนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูว่า เขาทำทุกทางเพื่อให้ยังมีอำนาจ จากการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Yedioth Aharonoth ประธานพรรค National Unity ระบุว่า นายเนทันยาฮู “สละทุกข้อจำกัดที่เป็นไปได้” เขากล่าว่า นายเนทันยาฮู“ทำทุกอย่างเพื่อให้ยังอยู่ในรัฐบาล” อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า การกระทำของนาย Netanyahu เนทันยาฮุจะไม่ช่วยให้เขาอยู่รอดทางการเมือง คณะรัฐมนตรีอิสราเอลลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้ไล่นายโรเนน บาร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวน ชิน เบต ที่อ้างถึงความผิดพลาดของสำนักงานที่คาดการณ์การโจมตีของกลุ่ม Al-Aqsa ในปี 2023 แต่ศาลสูงสุดชะลอการตัดสินคดีจนถึงวันที่ 8 เมษายน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามจดหมายถึง “ศาลยุติธรรมสูงสุด” นายบาร์ระบุว่า นายเนทันยาฮูเรียกร้องว่า เขาออกความเห็นที่อ้างถึงความกังวลด้านความปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการให้การกับศาลอย่างต่อเนื่องกับการสืบสวนคดีทุจริตซึ่งเป็นคำร้องที่นายบาร์ยื่น เขาเตือนถึงความเป็นไปได้ว่า ชิน เบตจะกลายเป็นตำรวจสายลับที่ระบุว่า การเพิกเฉยส่ง “ข้อความที่ชัดเจนต่อคำสั่งทั้งหมดของชิน เบต รวมถึงผู้นำคนต่อไปว่า หากพวกเขาเสียประโยชน์ในกลุ่มผู้มีตำแหน่งทางการเมือง การถอดถอนจะต้องได้รับการหารือในที่ประชุมทันที” ชาวอิสราเอลประท้วงทุกสัปดาห์ตั้งแต่ที่เขาออกคำสั่งให้กลับมาปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซ่าอีกครั้ง ผู้ประท้วงหลายคนเรียกร้องถึงข้อตกลงหยุดยิงเพื่อให้ยังมีการปล่อยตัวประกันที่ยังอยู่ การกลับมาปฏิบัติการโจมตีเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะมีการพิจารณาคดีทุจริตของนายเนทันยาฮูที่เขาต้องเข้าแสดงหลักฐาน อิสราเอลถูกบังคับให้ตกลงในข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสจากความผิดพลาดของประเทศที่ไม่สามารถบรรลุจุดประสงค์ของการทำสงครามรวมถึง “การกวาดล้าง” กลุ่มฮามาสหรือการปล่อยตัวประกัน ข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 42 วันที่เกิดความเสียหายจากการโจมตีอย่างรุนแรงของอิสราเอลหมดอายุเมื่อวันที่ 1 มีนาคม https://www.presstv.ir/Detail/2025/04/07/745730/Gantz-Israel-Netanyahu-crossed-all-limits- ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.PRESSTV.IR
    Israel’s Netanyahu crossed all limits to stay in power: Gantz
    Israeli opposition leader Benny Gantz has slammed prime minister Benjamin Netanyahu, saying he crossed all limits to remain in power.
    0 Comments 0 Shares 827 Views 0 Reviews
  • 4 ปี ทุ่งสังหาร “พะโค” ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หงสาวดี 82 ศพ แสงไฟฉายจากมือถือ ฤาจะสู้เปลวไฟจากไรเฟิล บทบาทของโลกที่เงียบงัน

    ✍️ เหตุการณ์ที่พะโคเมื่อ 9 เมษายน 2564 คือหนึ่งในความรุนแรง หลังรัฐประหารเมียนมา ที่โลกไม่ควรลืม กับการสังหารหมู่พลเรือน 82 ราย ภายใต้เงียบสงัดของประชาคมโลก และการประท้วงด้วยแสงไฟจากมือถือ ที่ไม่อาจสู้เปลวไฟจากปืนไรเฟิลได้ พะโคต้องไม่ใช่แค่บทเรียนที่ถูกลืม 🔥

    🧭 เสียงเงียบที่กลบเสียงปืน เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564 ประชาชนในเมืองพะโค ประเทศเมียนมา ตื่นขึ้นมาท่ามกลางเสียงปืนดังสนั่น 🚨 ไม่นานจากเหตุการณ์รัฐประหารในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ กองทัพพม่าเริ่มปฏิบัติการ กวาดล้างการต่อต้านอย่างรุนแรง เหตุการณ์ที่เมืองพะโคในวันนั้น กลายเป็นการสังหารหมู่ที่ร้ายแรงที่สุดในช่วงหลังรัฐประหาร ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 82 ศพ ในวันเดียว 😢

    แต่สิ่งที่เจ็บปวดยิ่งกว่ากระสุน คือ “ความเงียบ” ของโลก 🌍 ที่ไม่มีเสียงเรียกร้องความยุติธรรมที่เพียงพอ

    🏞️ "พะโค" (Bago) หรือหงสาวดี เป็นเมืองสำคัญทางภาคใต้ของเมียนมา ห่างจากย่างกุ้งเพียง 91 กิโลเมตร 🌏 เคยเป็นเมืองหลวง ของอาณาจักรมอญและตองอู ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่สำคัญ อยู่ใกล้เส้นทางยุทธศาสตร์ และง่ายต่อการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพ

    จุดยุทธศาสตร์นี้เอง ทำให้พะโคกลายเป็นพื้นที่สำคัญ ที่ประชาชนใช้ประท้วง และกองทัพใช้เพื่อ “แสดงพลัง” 💣

    🔫 เหตุการณ์ 9 เมษายน 2564 วันที่ไฟจากไรเฟิลกลืนชีวิต

    ⏰ เวลาเริ่มต้น ตี 4 กองทัพเมียนมาส่งทหาร 250 นาย เข้าบุกบ้านเรือนในย่านชินสอบู, นันตอว์ยา, มอว์กัน และปนนาซู ใกล้พระราชวังกัมโพชธานี

    ⚔️ เวลา 05.00 น. ทหาร 5 หน่วย เริ่มกราดยิงผู้ชุมนุมโดยไม่เลือกหน้า ใช้อาวุธสงครามเต็มรูปแบบ ประชาชนสู้กลับด้วยระเบิดปิงปอง และขว้างสิ่งของ ✊

    เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์ได้ในช่วง 10.00 น.

    🩸 ผลที่ตามมา มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 82 ราย บุคลากรแพทย์ถูกขัดขวาง ไม่ให้เข้าช่วยเหลือ บางศพถูกกองรวมไว้ในเจดีย์เสยะมุนี บางศพถูกเผาทิ้ง...เพื่อปิดบังหลักฐาน

    📈 ลำดับเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    9 เม.ย. 64 ช่วงเช้า ทหารบุกบ้านเรือน ยิงสดประชาชน
    9 เม.ย. 64 ช่วงสาย นำศพมากองรวมในเจดีย์ ปิดล้อมพื้นที่
    10 เม.ย. 64 เอเอพีพีรายงานยอดเสียชีวิต 82 ราย
    11 เม.ย. 64 UN เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงทันที

    💣 อาวุธที่ใช้: ปืนไรเฟิล, ระเบิดแรงสูง, ยิงใส่ผู้ชุมนุมแบบสุ่ม

    📷 วิดีโอจาก AFP แสดงให้เห็นผู้ชุมนุม ใช้กระสอบทรายเป็นเกราะกำบัง

    💡 บทบาทของชาวพะโค และการต่อต้านด้วย “แสงไฟ” เมื่ออาวุธหนักเป็นของทหาร... แต่ประชาชนมีเพียงโทรศัพท์มือถือ พวกเขาเลือกใช้ แสงไฟแฟลช 📱 เป็นเครื่องมือแห่งการต่อต้าน ✨ Flash Strike หรือ “การชุมนุมเงียบ” ในช่วงค่ำคืน

    คนเมียนมาเปิดไฟฉายมือถือ ร้องเพลงต้านรัฐประหาร เป็นสัญลักษณ์ของ “แสงแห่งเสรีภาพ” ที่สู้กับ “เปลวไฟจากกระสุน” แม้รู้ว่าจะโดนยิง...แต่ยังคงยืนหยัด

    🧯 การตอบสนองของรัฐบาลทหาร ปฏิเสธข้อเท็จจริง

    📺 ทางการเมียนมารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง “1 ราย” ในเหตุการณ์พะโค

    📵 อินเทอร์เน็ตถูกตัดขาด ข้อมูลถูกปิดกั้น

    ⛔ ความจริงที่พยายามลบล้าง ขัดขวางไม่ให้หน่วยแพทย์เข้าถึงพื้นที่ ขนศพขึ้นรถบรรทุกไปซ่อน เผาศพทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน นี่คือการบิดเบือนความจริง อย่างเป็นระบบ 🧠

    🧊 ความเงียบของประชาคมโลก = การสมรู้ร่วมคิด? แม้มีหลักฐานจำนวนมากจากคลิปวิดีโอ 📹 และรายงานจาก NGOs แต่… ประชาคมโลกกลับเลือก “นิ่งเงียบ” 🫥

    🌐 คำถามที่คาใจ
    ทำไมไม่มีการแทรกแซงจาก UN?
    การเรียกร้องความช่วยเหลือถูกละเลยหรือไม่?
    การคว่ำบาตรเศรษฐกิจเพียงพอหรือเปล่า?

    เสียงจากคนตาย...อาจเงียบ แต่ “ความเงียบของโลก” ดังกว่า

    🌍 องค์กรสิทธิมนุษยชน และความพยายามในการเปิดโปงความจริง องค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น AAPP หรือสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง, Myanmar Now, AFP, BBC Burmese, Amnesty International 📣 ได้รายงานเหตุการณ์นี้ให้โลกได้รับรู้ แต่ยังขาด “กลไกที่มีผลบังคับ” ในการดำเนินคดี ต่อผู้นำกองทัพเมียนมา

    🕯️ พะโคในความทรงจำของชาวเมียนมา “แสงจากมือถือ...อาจไม่ชนะไฟจากปืน แต่แสงนั้นจะไม่มีวันดับในใจเรา” ผู้ประท้วงนิรนามในพะโค

    พะโคกลายเป็น “สัญลักษณ์แห่งการเสียสละ” เป็นคำเตือนว่า เสรีภาพไม่ได้ได้มาโดยง่าย และไม่ควรถูกลืม

    ✅ พะโคต้องไม่ใช่แค่บทเรียนที่ถูกลืม 4 ปีผ่านไป...ความยุติธรรมยังไม่มา 🕰️ แต่ความหวังยังอยู่ในแสงแฟลชของประชาชน

    พะโคไม่ใช่แค่ “เหตุการณ์” แต่คือ “หน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ต้องเขียนด้วยความจริง”

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 090953 เม.ย. 2568

    📱 #พะโค #เมียนมา #FlashStrike #รัฐประหารเมียนมา #สังหารหมู่ #สิทธิมนุษยชน #ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ #UN #SaveMyanmar #BagoMassacre
    4 ปี ทุ่งสังหาร “พะโค” ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หงสาวดี 82 ศพ แสงไฟฉายจากมือถือ ฤาจะสู้เปลวไฟจากไรเฟิล บทบาทของโลกที่เงียบงัน ✍️ เหตุการณ์ที่พะโคเมื่อ 9 เมษายน 2564 คือหนึ่งในความรุนแรง หลังรัฐประหารเมียนมา ที่โลกไม่ควรลืม กับการสังหารหมู่พลเรือน 82 ราย ภายใต้เงียบสงัดของประชาคมโลก และการประท้วงด้วยแสงไฟจากมือถือ ที่ไม่อาจสู้เปลวไฟจากปืนไรเฟิลได้ พะโคต้องไม่ใช่แค่บทเรียนที่ถูกลืม 🔥 🧭 เสียงเงียบที่กลบเสียงปืน เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564 ประชาชนในเมืองพะโค ประเทศเมียนมา ตื่นขึ้นมาท่ามกลางเสียงปืนดังสนั่น 🚨 ไม่นานจากเหตุการณ์รัฐประหารในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ กองทัพพม่าเริ่มปฏิบัติการ กวาดล้างการต่อต้านอย่างรุนแรง เหตุการณ์ที่เมืองพะโคในวันนั้น กลายเป็นการสังหารหมู่ที่ร้ายแรงที่สุดในช่วงหลังรัฐประหาร ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 82 ศพ ในวันเดียว 😢 แต่สิ่งที่เจ็บปวดยิ่งกว่ากระสุน คือ “ความเงียบ” ของโลก 🌍 ที่ไม่มีเสียงเรียกร้องความยุติธรรมที่เพียงพอ 🏞️ "พะโค" (Bago) หรือหงสาวดี เป็นเมืองสำคัญทางภาคใต้ของเมียนมา ห่างจากย่างกุ้งเพียง 91 กิโลเมตร 🌏 เคยเป็นเมืองหลวง ของอาณาจักรมอญและตองอู ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่สำคัญ อยู่ใกล้เส้นทางยุทธศาสตร์ และง่ายต่อการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพ จุดยุทธศาสตร์นี้เอง ทำให้พะโคกลายเป็นพื้นที่สำคัญ ที่ประชาชนใช้ประท้วง และกองทัพใช้เพื่อ “แสดงพลัง” 💣 🔫 เหตุการณ์ 9 เมษายน 2564 วันที่ไฟจากไรเฟิลกลืนชีวิต ⏰ เวลาเริ่มต้น ตี 4 กองทัพเมียนมาส่งทหาร 250 นาย เข้าบุกบ้านเรือนในย่านชินสอบู, นันตอว์ยา, มอว์กัน และปนนาซู ใกล้พระราชวังกัมโพชธานี ⚔️ เวลา 05.00 น. ทหาร 5 หน่วย เริ่มกราดยิงผู้ชุมนุมโดยไม่เลือกหน้า ใช้อาวุธสงครามเต็มรูปแบบ ประชาชนสู้กลับด้วยระเบิดปิงปอง และขว้างสิ่งของ ✊ เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์ได้ในช่วง 10.00 น. 🩸 ผลที่ตามมา มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 82 ราย บุคลากรแพทย์ถูกขัดขวาง ไม่ให้เข้าช่วยเหลือ บางศพถูกกองรวมไว้ในเจดีย์เสยะมุนี บางศพถูกเผาทิ้ง...เพื่อปิดบังหลักฐาน 📈 ลำดับเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 9 เม.ย. 64 ช่วงเช้า ทหารบุกบ้านเรือน ยิงสดประชาชน 9 เม.ย. 64 ช่วงสาย นำศพมากองรวมในเจดีย์ ปิดล้อมพื้นที่ 10 เม.ย. 64 เอเอพีพีรายงานยอดเสียชีวิต 82 ราย 11 เม.ย. 64 UN เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงทันที 💣 อาวุธที่ใช้: ปืนไรเฟิล, ระเบิดแรงสูง, ยิงใส่ผู้ชุมนุมแบบสุ่ม 📷 วิดีโอจาก AFP แสดงให้เห็นผู้ชุมนุม ใช้กระสอบทรายเป็นเกราะกำบัง 💡 บทบาทของชาวพะโค และการต่อต้านด้วย “แสงไฟ” เมื่ออาวุธหนักเป็นของทหาร... แต่ประชาชนมีเพียงโทรศัพท์มือถือ พวกเขาเลือกใช้ แสงไฟแฟลช 📱 เป็นเครื่องมือแห่งการต่อต้าน ✨ Flash Strike หรือ “การชุมนุมเงียบ” ในช่วงค่ำคืน คนเมียนมาเปิดไฟฉายมือถือ ร้องเพลงต้านรัฐประหาร เป็นสัญลักษณ์ของ “แสงแห่งเสรีภาพ” ที่สู้กับ “เปลวไฟจากกระสุน” แม้รู้ว่าจะโดนยิง...แต่ยังคงยืนหยัด 🧯 การตอบสนองของรัฐบาลทหาร ปฏิเสธข้อเท็จจริง 📺 ทางการเมียนมารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง “1 ราย” ในเหตุการณ์พะโค 📵 อินเทอร์เน็ตถูกตัดขาด ข้อมูลถูกปิดกั้น ⛔ ความจริงที่พยายามลบล้าง ขัดขวางไม่ให้หน่วยแพทย์เข้าถึงพื้นที่ ขนศพขึ้นรถบรรทุกไปซ่อน เผาศพทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน นี่คือการบิดเบือนความจริง อย่างเป็นระบบ 🧠 🧊 ความเงียบของประชาคมโลก = การสมรู้ร่วมคิด? แม้มีหลักฐานจำนวนมากจากคลิปวิดีโอ 📹 และรายงานจาก NGOs แต่… ประชาคมโลกกลับเลือก “นิ่งเงียบ” 🫥 🌐 คำถามที่คาใจ ทำไมไม่มีการแทรกแซงจาก UN? การเรียกร้องความช่วยเหลือถูกละเลยหรือไม่? การคว่ำบาตรเศรษฐกิจเพียงพอหรือเปล่า? เสียงจากคนตาย...อาจเงียบ แต่ “ความเงียบของโลก” ดังกว่า 🌍 องค์กรสิทธิมนุษยชน และความพยายามในการเปิดโปงความจริง องค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น AAPP หรือสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง, Myanmar Now, AFP, BBC Burmese, Amnesty International 📣 ได้รายงานเหตุการณ์นี้ให้โลกได้รับรู้ แต่ยังขาด “กลไกที่มีผลบังคับ” ในการดำเนินคดี ต่อผู้นำกองทัพเมียนมา 🕯️ พะโคในความทรงจำของชาวเมียนมา “แสงจากมือถือ...อาจไม่ชนะไฟจากปืน แต่แสงนั้นจะไม่มีวันดับในใจเรา” ผู้ประท้วงนิรนามในพะโค พะโคกลายเป็น “สัญลักษณ์แห่งการเสียสละ” เป็นคำเตือนว่า เสรีภาพไม่ได้ได้มาโดยง่าย และไม่ควรถูกลืม ✅ พะโคต้องไม่ใช่แค่บทเรียนที่ถูกลืม 4 ปีผ่านไป...ความยุติธรรมยังไม่มา 🕰️ แต่ความหวังยังอยู่ในแสงแฟลชของประชาชน พะโคไม่ใช่แค่ “เหตุการณ์” แต่คือ “หน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ต้องเขียนด้วยความจริง” ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 090953 เม.ย. 2568 📱 #พะโค #เมียนมา #FlashStrike #รัฐประหารเมียนมา #สังหารหมู่ #สิทธิมนุษยชน #ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ #UN #SaveMyanmar #BagoMassacre
    0 Comments 0 Shares 761 Views 0 Reviews
  • การเดินทางของชาวยิวในประวัติ ศาสตร์ตลอดหนึ่งพันปีที่ผ่านมา

    1080 – การขับไล่จากฝรั่งเศส
    1098 – การขับไล่จากสาธารณรัฐเช็ก
    1113 – การขับไล่จากเคียฟรุส (วลาดิมีร์ โมโนมัค)
    1113 – การสังหารหมู่ชาวยิวในเคียฟ
    1147 – การขับไล่จากฝรั่งเศส
    1171 – การขับไล่จากอิตาลี
    1188 – การขับไล่จากอังกฤษ
    1198 – การขับไล่จากอังกฤษ
    1290 – การขับไล่จากอังกฤษ
    1298 – การขับไล่จากสวิตเซอร์แลนด์ (ชาวยิว 100 คนถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ)
    1306 – การขับไล่จากฝรั่งเศส (3,000 คนถูกเผาทั้งเป็น)
    1360 – การขับไล่จากฮังการี 1391 - การขับไล่ออกจากสเปน (ประหารชีวิต 30,000 คน เผาทั้งเป็น 5,000 คน)
    1394 - การขับไล่ออกจากฝรั่งเศส
    1407 - การขับไล่ออกจากโปแลนด์
    1492 - การขับไล่ออกจากสเปน (กฎหมายห้ามชาวยิวเข้าประเทศตลอดไป)
    1492 - การขับไล่ออกจากซิซิลี
    1495 - การขับไล่ออกจากลิทัวเนียและเคียฟ
    1496 - การขับไล่ออกจากโปรตุเกส
    1510 - การขับไล่ออกจากอังกฤษ
    1516 - การขับไล่ออกจากโปรตุเกส
    1516 - กฎหมายในซิซิลีอนุญาตให้ชาวยิวอาศัยอยู่ในเกตโตเท่านั้น
    1541 - การขับไล่ออกจากออสเตรีย
    1555 - การขับไล่ออกจากโปรตุเกส
    1555 - กฎหมายที่ออกในกรุงโรมอนุญาตให้ชาวยิวอาศัยอยู่ในเกตโตเท่านั้น 1567 – การขับไล่จากอิตาลี
    1570 – การขับไล่จากเยอรมนี (บรันเดนเบิร์ก)
    1580 – การขับไล่จากโนฟโกรอด (อีวานผู้โหดร้าย)
    1592 – การขับไล่จากฝรั่งเศส
    1616 – การขับไล่จากสวิตเซอร์แลนด์
    1629 – การขับไล่จากสเปนและโปรตุเกส (ฟิลิปที่ 4)
    1634 – การขับไล่จากสวิตเซอร์แลนด์
    1655 – การขับไล่จากสวิตเซอร์แลนด์
    1660 – การขับไล่จากเคียฟ
    1701 – การขับไล่ออกจากสวิตเซอร์แลนด์อย่างสมบูรณ์ (พระราชกฤษฎีกาของฟิลิปที่ 5)
    1806 – คำขาดของนโปเลียน บาดาร์จา
    1828 – การขับไล่จากเคียฟ
    1933 – การขับไล่จากเยอรมนีและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

    **ลำดับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์สั้นๆ นี้ เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับชาวยิวในช่วงพันปีที่ผ่านมาและระบุว่าชาวยิวไม่ได้รับการยอมจำนนจากผู้คนทั่วโลก

    มีเพียงชาวอิสลามที่ต้องทนกับความชั่วร้ายของพวกเขาเท่านั้นที่ยอมทน และไม่เคยขับไล่พวกเขา

    *และพวกเขาตอบแทนชาวมุสลิม*

    *เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 1948 ดินแดนของชาวมุสลิมในปาเลสไตน์ถูกยึดครองโดยกลุ่มไซออนิสต์

    จริงๆๆมีอีกเพียบ มันยาวเกินถ้าจะรวบรวม เอาเป็นว่าใครสนใจก็พิมพ์คำนี้ เเล้วค้นหามาแปลดูครับ ถ้าระบุปีด้วยยิ่งดี
    jews historically for the past thousand years expulsion
    การเดินทางของชาวยิวในประวัติ ศาสตร์ตลอดหนึ่งพันปีที่ผ่านมา 1080 – การขับไล่จากฝรั่งเศส 1098 – การขับไล่จากสาธารณรัฐเช็ก 1113 – การขับไล่จากเคียฟรุส (วลาดิมีร์ โมโนมัค) 1113 – การสังหารหมู่ชาวยิวในเคียฟ 1147 – การขับไล่จากฝรั่งเศส 1171 – การขับไล่จากอิตาลี 1188 – การขับไล่จากอังกฤษ 1198 – การขับไล่จากอังกฤษ 1290 – การขับไล่จากอังกฤษ 1298 – การขับไล่จากสวิตเซอร์แลนด์ (ชาวยิว 100 คนถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ) 1306 – การขับไล่จากฝรั่งเศส (3,000 คนถูกเผาทั้งเป็น) 1360 – การขับไล่จากฮังการี 1391 - การขับไล่ออกจากสเปน (ประหารชีวิต 30,000 คน เผาทั้งเป็น 5,000 คน) 1394 - การขับไล่ออกจากฝรั่งเศส 1407 - การขับไล่ออกจากโปแลนด์ 1492 - การขับไล่ออกจากสเปน (กฎหมายห้ามชาวยิวเข้าประเทศตลอดไป) 1492 - การขับไล่ออกจากซิซิลี 1495 - การขับไล่ออกจากลิทัวเนียและเคียฟ 1496 - การขับไล่ออกจากโปรตุเกส 1510 - การขับไล่ออกจากอังกฤษ 1516 - การขับไล่ออกจากโปรตุเกส 1516 - กฎหมายในซิซิลีอนุญาตให้ชาวยิวอาศัยอยู่ในเกตโตเท่านั้น 1541 - การขับไล่ออกจากออสเตรีย 1555 - การขับไล่ออกจากโปรตุเกส 1555 - กฎหมายที่ออกในกรุงโรมอนุญาตให้ชาวยิวอาศัยอยู่ในเกตโตเท่านั้น 1567 – การขับไล่จากอิตาลี 1570 – การขับไล่จากเยอรมนี (บรันเดนเบิร์ก) 1580 – การขับไล่จากโนฟโกรอด (อีวานผู้โหดร้าย) 1592 – การขับไล่จากฝรั่งเศส 1616 – การขับไล่จากสวิตเซอร์แลนด์ 1629 – การขับไล่จากสเปนและโปรตุเกส (ฟิลิปที่ 4) 1634 – การขับไล่จากสวิตเซอร์แลนด์ 1655 – การขับไล่จากสวิตเซอร์แลนด์ 1660 – การขับไล่จากเคียฟ 1701 – การขับไล่ออกจากสวิตเซอร์แลนด์อย่างสมบูรณ์ (พระราชกฤษฎีกาของฟิลิปที่ 5) 1806 – คำขาดของนโปเลียน บาดาร์จา 1828 – การขับไล่จากเคียฟ 1933 – การขับไล่จากเยอรมนีและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ **ลำดับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์สั้นๆ นี้ เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับชาวยิวในช่วงพันปีที่ผ่านมาและระบุว่าชาวยิวไม่ได้รับการยอมจำนนจากผู้คนทั่วโลก มีเพียงชาวอิสลามที่ต้องทนกับความชั่วร้ายของพวกเขาเท่านั้นที่ยอมทน และไม่เคยขับไล่พวกเขา *และพวกเขาตอบแทนชาวมุสลิม* *เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 1948 ดินแดนของชาวมุสลิมในปาเลสไตน์ถูกยึดครองโดยกลุ่มไซออนิสต์ จริงๆๆมีอีกเพียบ มันยาวเกินถ้าจะรวบรวม เอาเป็นว่าใครสนใจก็พิมพ์คำนี้ เเล้วค้นหามาแปลดูครับ ถ้าระบุปีด้วยยิ่งดี jews historically for the past thousand years expulsion
    0 Comments 0 Shares 734 Views 0 Reviews
  • "อยากช่วยมากกว่านี้ แต่คงทำไม่ได้!!"

    เจ้าหน้าที่ทหารรัสเซียที่ฐานทัพอากาศฮไมมิม ในซีเรีย พยายามช่วยเหลือชาวซีเรียด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มที่ หลังจากต้องหลบหนีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยกลุ่มอาชญากรของอัล-จูลานีทั่วซีเรีย

    มีรายงานว่า ชาวอลาวีมากกว่า 7,000 คน หลบภัยอยู่ในฐานทัพอากาศของรัสเซียแห่งนี้
    "อยากช่วยมากกว่านี้ แต่คงทำไม่ได้!!" เจ้าหน้าที่ทหารรัสเซียที่ฐานทัพอากาศฮไมมิม ในซีเรีย พยายามช่วยเหลือชาวซีเรียด้านมนุษยธรรมอย่างเต็มที่ หลังจากต้องหลบหนีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยกลุ่มอาชญากรของอัล-จูลานีทั่วซีเรีย มีรายงานว่า ชาวอลาวีมากกว่า 7,000 คน หลบภัยอยู่ในฐานทัพอากาศของรัสเซียแห่งนี้
    0 Comments 0 Shares 433 Views 26 0 Reviews
  • ## หรือ ปาย จะกลายเป็น "ดินแดนแห่ง พันธสัญญา" แห่งใหม่ของ ยิวไซออนิสต์...!!! ##
    ..
    ..
    ปี 1974 ครั้งแรกที่ ยิว อพยพไป ดินแดนปาเลสไตน์ โดยใช้ข้ออ้างว่า ถูก ฮิตเลอร์ กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขอให้ ชาวปาเลสไตน์ และ คนทั่วโลก เห็นใจเราเถอะ...!!!
    .
    🙏🙏🙏🙏
    .
    ผ่านไป เกือบ 80 ปี ยิวไซออนิสต์ กระทำการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวปาเลสไตน์ เจ้าของผืนแผ่นดิน ที่ตนไปขออาศัยอยู่
    .
    💣💣💣💣
    .
    หลังจาก ปฏิบัติการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวปาเลสไตน์เกิดขึ้น ยิวไซออนิสต์ จำนวนหนึ่ง เข้ามาในประเทศไทย ไปพำนัก ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ ปาย ราว 1,000 - 2,000 คน ประเภทไปๆมา ราวๆ 30,000 คน
    .
    🏠🏡🛖🏚️🏘️🏘️🛖🏚️🏠🏡
    .
    มีการเข้ามาทำมาหากิน ทำธุรกิจทั้งๆที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ทำร้ายด่าทอบุคลากรทางการแพทย์ ทำลายข้าวของของโรงพยาบาล ไม่สนใจกฎหมายไทย ไม่จ่ายเงิน ไม่จ่ายค่าบริการก็มี ก่อความวุ่นวายก็มี...
    .
    จนคนใน ปาย เขาเอือมระอา ถึงกับขึ้นป้ายไม่ต้อนรับว่า No Israel Here...!!!
    .
    ⚔️⚔️🗡️🗡️🗡️⚔️⚔️
    .
    ในเว็บไซต์ Chabad of Pai ของ ยิว มีข้อความเชิญชวนให้ ชาวยิว มาที่ ปาย เพราะมีความสวยงามน่าอยู่
    .
    มีการเปิดร้าน สร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆไว้รองรับ ชาวยิว ไว้ต่างๆนาๆ
    .
    มีการเปิดร้านอาหารกึ่งโบสถ์ Chabad House มีการจ้าง รปภ. มาดูแล และ ห้ามคนไทยเข้าไปในพื้นที่...!!!
    .
    โอ้โห...!!!
    .
    ราวกลับได้ย้อนเวลาหาอดีต กลับไปอยู่ในยุคล่าอาณานิคม ที่ ประเทศจีน ถูก ญี่ปุ่น อังกฎษ ฝรั่งเศส อเมริกา ฮุบแผ่นดินไป คือใช้อำนาจทางการทหาร บังคับเช่าพื้นที่ แล้วแขวนป้าย คนจีน กับ หมา ห้ามเข้า...!!!
    .
    และ มีการระดมเงินเพื่อสร้างโบสถ์ ที่เรียกว่า Chabad of Pai ขึ้น เพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 ของพวกยิวโดยเฉพาะ
    .
    🕍🕍🕍⛪⛪⛪⛪🕍🕍🕍
    .
    😑😑😑😑
    .
    หากในอนาคตอันใกล้นี้เราไม่ทำอะไรซักอย่าง...
    .
    เราอาจได้เรียก ปาย ว่า ปายเลสไตน์ ก็เป็นได้...!!!
    .
    ผมหวังว่า ปาย จะไม่มีสภาพเดียวกันกับที่เกิด ใน ปาเลสไตน์ นะ....
    .
    เพราะถ้าเกิดชุมชนชาวยิวขึ้น 1 - 2 พันคนจริงๆ ปัญหาที่จะตามมาคือ อาจเกิดเหตุการณ์ เอาคืน...!!!
    .
    ต้องยอมรับนะครับว่า เนเจอร์ของยิวที่เราเห็นๆกันคือ เห็นแก่ตัว ไม่สนใจใคร จนไปที่ไหนก็มีแต่คนรังเกลียด ถูกขับไล่อยู่ตลอดเวลา และ สิ่งที่ Israel ทำกับ โลก มุสลิม อย่าง ชาวปาเลสไตน์ ชาวซีเรีย และ อิหร่าน มันสร้างความแค้นไว้เยอะครับ ศัตรูเยอะมาก...
    .
    และ เหตุการณ์การเอาคือ ก็อาจมาเกิดขึ้นที่ประเทศไทยได้ ถ้าเราไม่แก้ไขอะไร เพราะมีเจ้าหน้าที่ ลงตรวจแล้ว บอก ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอะไรทั้งสิ้น บุคลากรทางการแพทย์จะไปแจ้งไปร้องเรียนอะไร ก็ถูกตอกกลับมาว่า อย่าทำลายการท่องเที่ยงของ ปาย เลย...
    .
    สุดท้าย ท่านนายก กล่าวว่า ยิวยึดปาย นั้น ไม่จริง เป็น Fake News...!!!
    .
    เยี่ยมไปเลย ผู้นำสูงสุดของประเทศพูดแบบนี้ซะแล้ว ทีนี้ประชาชนตาดำๆจะหันไป ขอความช่วยเหลือจากใครได้ทีนี้...???
    .
    ถ้าตำรวจเกิดไปจับกุม ส่งกลับ หรือ ทำอะไรเป็นข่าว ก็จะไปขัดแย้งกับ คำพูดของ ท่านนายก แล้วทีนี้ ใครจะกล้าทำงานตามหน้าที่ ตามกฎหมาย...???
    .
    สิ้นหวังจริงๆ ประเทศไทย ไม่มีวัวปนเลย...!!!
    ## หรือ ปาย จะกลายเป็น "ดินแดนแห่ง พันธสัญญา" แห่งใหม่ของ ยิวไซออนิสต์...!!! ## .. .. ปี 1974 ครั้งแรกที่ ยิว อพยพไป ดินแดนปาเลสไตน์ โดยใช้ข้ออ้างว่า ถูก ฮิตเลอร์ กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขอให้ ชาวปาเลสไตน์ และ คนทั่วโลก เห็นใจเราเถอะ...!!! . 🙏🙏🙏🙏 . ผ่านไป เกือบ 80 ปี ยิวไซออนิสต์ กระทำการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวปาเลสไตน์ เจ้าของผืนแผ่นดิน ที่ตนไปขออาศัยอยู่ . 💣💣💣💣 . หลังจาก ปฏิบัติการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวปาเลสไตน์เกิดขึ้น ยิวไซออนิสต์ จำนวนหนึ่ง เข้ามาในประเทศไทย ไปพำนัก ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ ปาย ราว 1,000 - 2,000 คน ประเภทไปๆมา ราวๆ 30,000 คน . 🏠🏡🛖🏚️🏘️🏘️🛖🏚️🏠🏡 . มีการเข้ามาทำมาหากิน ทำธุรกิจทั้งๆที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ทำร้ายด่าทอบุคลากรทางการแพทย์ ทำลายข้าวของของโรงพยาบาล ไม่สนใจกฎหมายไทย ไม่จ่ายเงิน ไม่จ่ายค่าบริการก็มี ก่อความวุ่นวายก็มี... . จนคนใน ปาย เขาเอือมระอา ถึงกับขึ้นป้ายไม่ต้อนรับว่า No Israel Here...!!! . ⚔️⚔️🗡️🗡️🗡️⚔️⚔️ . ในเว็บไซต์ Chabad of Pai ของ ยิว มีข้อความเชิญชวนให้ ชาวยิว มาที่ ปาย เพราะมีความสวยงามน่าอยู่ . มีการเปิดร้าน สร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆไว้รองรับ ชาวยิว ไว้ต่างๆนาๆ . มีการเปิดร้านอาหารกึ่งโบสถ์ Chabad House มีการจ้าง รปภ. มาดูแล และ ห้ามคนไทยเข้าไปในพื้นที่...!!! . โอ้โห...!!! . ราวกลับได้ย้อนเวลาหาอดีต กลับไปอยู่ในยุคล่าอาณานิคม ที่ ประเทศจีน ถูก ญี่ปุ่น อังกฎษ ฝรั่งเศส อเมริกา ฮุบแผ่นดินไป คือใช้อำนาจทางการทหาร บังคับเช่าพื้นที่ แล้วแขวนป้าย คนจีน กับ หมา ห้ามเข้า...!!! . และ มีการระดมเงินเพื่อสร้างโบสถ์ ที่เรียกว่า Chabad of Pai ขึ้น เพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 ของพวกยิวโดยเฉพาะ . 🕍🕍🕍⛪⛪⛪⛪🕍🕍🕍 . 😑😑😑😑 . หากในอนาคตอันใกล้นี้เราไม่ทำอะไรซักอย่าง... . เราอาจได้เรียก ปาย ว่า ปายเลสไตน์ ก็เป็นได้...!!! . ผมหวังว่า ปาย จะไม่มีสภาพเดียวกันกับที่เกิด ใน ปาเลสไตน์ นะ.... . เพราะถ้าเกิดชุมชนชาวยิวขึ้น 1 - 2 พันคนจริงๆ ปัญหาที่จะตามมาคือ อาจเกิดเหตุการณ์ เอาคืน...!!! . ต้องยอมรับนะครับว่า เนเจอร์ของยิวที่เราเห็นๆกันคือ เห็นแก่ตัว ไม่สนใจใคร จนไปที่ไหนก็มีแต่คนรังเกลียด ถูกขับไล่อยู่ตลอดเวลา และ สิ่งที่ Israel ทำกับ โลก มุสลิม อย่าง ชาวปาเลสไตน์ ชาวซีเรีย และ อิหร่าน มันสร้างความแค้นไว้เยอะครับ ศัตรูเยอะมาก... . และ เหตุการณ์การเอาคือ ก็อาจมาเกิดขึ้นที่ประเทศไทยได้ ถ้าเราไม่แก้ไขอะไร เพราะมีเจ้าหน้าที่ ลงตรวจแล้ว บอก ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอะไรทั้งสิ้น บุคลากรทางการแพทย์จะไปแจ้งไปร้องเรียนอะไร ก็ถูกตอกกลับมาว่า อย่าทำลายการท่องเที่ยงของ ปาย เลย... . สุดท้าย ท่านนายก กล่าวว่า ยิวยึดปาย นั้น ไม่จริง เป็น Fake News...!!! . เยี่ยมไปเลย ผู้นำสูงสุดของประเทศพูดแบบนี้ซะแล้ว ทีนี้ประชาชนตาดำๆจะหันไป ขอความช่วยเหลือจากใครได้ทีนี้...??? . ถ้าตำรวจเกิดไปจับกุม ส่งกลับ หรือ ทำอะไรเป็นข่าว ก็จะไปขัดแย้งกับ คำพูดของ ท่านนายก แล้วทีนี้ ใครจะกล้าทำงานตามหน้าที่ ตามกฎหมาย...??? . สิ้นหวังจริงๆ ประเทศไทย ไม่มีวัวปนเลย...!!!
    0 Comments 0 Shares 782 Views 0 Reviews
  • ฟรีดริช เมิร์ซ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีจากพรรค CDU ซึ่งมีคะแนนนิยมจากผลการสำรวจมาเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในขณะนี้ ประกาศว่า "จะยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอลทั้งหมด" หากพรรคของเขาชนะการเลือกตั้ง

    ในสุนทรพจน์ที่มูลนิธิ Koerber ในกรุงเบอร์ลิน เมิร์ซได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ด้านนโยบายต่างประเทศของพรรคคริสเตียนเดโมแครต (CDU/CSU) โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเยอรมนีต่อความมั่นคงของอิสราเอล

    “รัฐบาลที่นำโดยผมจะทำให้ความสัมพันธ์กับอิสราเอลกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง ผมจะยุติการคว่ำบาตรการส่งออกอาวุธของรัฐบาลปัจจุบันทันที” เมิร์ซกล่าวโดยพาดพิงไปถึงโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีจากพรรค SPD

    ขณะเดียวกัน เมิร์ซไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซาและการเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์หลายพันคน และยังวิพากษ์วิจารณ์หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ที่มีต่อนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู อีกด้วย และยังกล่าวอีกว่า จะทำทุกวิธีการเพื่อหาทางยกเลิกการบังคับใช้หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ

    นอกจากนี้ เมิร์ซยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ว่า จะหารือกับฝรั่งเศสและอังกฤษ เรื่องอาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องดินแดนยูเครน ท่ามกลางท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐที่มีต่อยุโรป

    ปัจจุบัน เมิร์ซมีคะแนนนิยมนำคู่แข่งคนสำคัญอย่าง อลิซ ไวเดล ผู้สมัครจากพรรค AfD ในการสำรวจความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยพรรค CDU ของเขาได้รับการสนับสนุน 28%
    ฟรีดริช เมิร์ซ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีจากพรรค CDU ซึ่งมีคะแนนนิยมจากผลการสำรวจมาเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในขณะนี้ ประกาศว่า "จะยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอลทั้งหมด" หากพรรคของเขาชนะการเลือกตั้ง ในสุนทรพจน์ที่มูลนิธิ Koerber ในกรุงเบอร์ลิน เมิร์ซได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ด้านนโยบายต่างประเทศของพรรคคริสเตียนเดโมแครต (CDU/CSU) โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเยอรมนีต่อความมั่นคงของอิสราเอล “รัฐบาลที่นำโดยผมจะทำให้ความสัมพันธ์กับอิสราเอลกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง ผมจะยุติการคว่ำบาตรการส่งออกอาวุธของรัฐบาลปัจจุบันทันที” เมิร์ซกล่าวโดยพาดพิงไปถึงโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีจากพรรค SPD ขณะเดียวกัน เมิร์ซไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซาและการเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์หลายพันคน และยังวิพากษ์วิจารณ์หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ที่มีต่อนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู อีกด้วย และยังกล่าวอีกว่า จะทำทุกวิธีการเพื่อหาทางยกเลิกการบังคับใช้หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ นอกจากนี้ เมิร์ซยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ว่า จะหารือกับฝรั่งเศสและอังกฤษ เรื่องอาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องดินแดนยูเครน ท่ามกลางท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐที่มีต่อยุโรป ปัจจุบัน เมิร์ซมีคะแนนนิยมนำคู่แข่งคนสำคัญอย่าง อลิซ ไวเดล ผู้สมัครจากพรรค AfD ในการสำรวจความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยพรรค CDU ของเขาได้รับการสนับสนุน 28%
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 806 Views 0 Reviews
  • จาเร็ด​ คุชเนอร์ (Jared Kushner) สามีของอิวังก้า ทรัมป์ ลูกสาวคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกสื่อมวลชนเปิดโปงว่าคือผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดให้สหรัฐเข้ายึดครองกาซา และขับไล่ชาวปาเลสไตน์เกือบสองล้านคนออกไปจากถิ่นกำเนิดพวกเขา เพื่อสร้างกาซาขึ้นใหม่

    เนื่องจากแผนการของทรัมป์ คือสิ่งที่ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของเขา เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ว่าอิสราเอลควรขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาและพัฒนาพื้นที่ริมทะเลแห่งนี้ขึ้นใหม่ โดยเรียกพื้นที่ตรงนั้นว่า “มีค่ามหาศาล” (very valuable)

    นายจาเร็ด คุชเนอร์ ชาวยิวที่มีบรรพบุรุษมาจากเบลารุส ปู่และย่าของเขารอดชีวิตจากค่ายกักกันที่นาซีเยอรมนีดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างยึดครองเบลารุสอยู่ และอพยพมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2492 ต่อมา "ชาร์ล คุชเนอร์" พ่อของจาเร็ดก่อตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ จนประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมาก

    ทรัมป์สมัยแรก แต่งตั้งให้ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยคนโปรดเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาระดับอาวุโสในทำเนียบขาว โดยให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อทรัมป์โดยตรง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็น "มือขวา" ของทรัมป์ในสมัยนั้น

    เขาเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุน และเจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ New York Observer

    ต่อมาในทรัมป์สมัยที่สอง ได้สร้างความฮือฮาด้วยการแต่งตั้ง ชาร์ลส์ คุชเนอร์ วัย 70 ปี พ่อของจาเร็ด เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำฝรั่งเศส ทั้งที่เคยถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปีเมื่อปี 2548 หลังจากรับสารภาพในความผิด 18 กระทงในคดีบริจาคเงินหาเสียงอย่างผิดกฎหมาย เลี่ยงภาษี และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงถูกเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นทนายความในรัฐนิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก และเพนซิลเวเนีย แต่ได้รับการอภัยโทษทั้งหมดจากทรัมป์ในปี 2563 เมื่อครั้งที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก





    จาเร็ด​ คุชเนอร์ (Jared Kushner) สามีของอิวังก้า ทรัมป์ ลูกสาวคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกสื่อมวลชนเปิดโปงว่าคือผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดให้สหรัฐเข้ายึดครองกาซา และขับไล่ชาวปาเลสไตน์เกือบสองล้านคนออกไปจากถิ่นกำเนิดพวกเขา เพื่อสร้างกาซาขึ้นใหม่ เนื่องจากแผนการของทรัมป์ คือสิ่งที่ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของเขา เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ว่าอิสราเอลควรขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาและพัฒนาพื้นที่ริมทะเลแห่งนี้ขึ้นใหม่ โดยเรียกพื้นที่ตรงนั้นว่า “มีค่ามหาศาล” (very valuable) นายจาเร็ด คุชเนอร์ ชาวยิวที่มีบรรพบุรุษมาจากเบลารุส ปู่และย่าของเขารอดชีวิตจากค่ายกักกันที่นาซีเยอรมนีดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างยึดครองเบลารุสอยู่ และอพยพมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2492 ต่อมา "ชาร์ล คุชเนอร์" พ่อของจาเร็ดก่อตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ จนประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมาก ทรัมป์สมัยแรก แต่งตั้งให้ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยคนโปรดเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาระดับอาวุโสในทำเนียบขาว โดยให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อทรัมป์โดยตรง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็น "มือขวา" ของทรัมป์ในสมัยนั้น เขาเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุน และเจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ New York Observer ต่อมาในทรัมป์สมัยที่สอง ได้สร้างความฮือฮาด้วยการแต่งตั้ง ชาร์ลส์ คุชเนอร์ วัย 70 ปี พ่อของจาเร็ด เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำฝรั่งเศส ทั้งที่เคยถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปีเมื่อปี 2548 หลังจากรับสารภาพในความผิด 18 กระทงในคดีบริจาคเงินหาเสียงอย่างผิดกฎหมาย เลี่ยงภาษี และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงถูกเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นทนายความในรัฐนิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก และเพนซิลเวเนีย แต่ได้รับการอภัยโทษทั้งหมดจากทรัมป์ในปี 2563 เมื่อครั้งที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 749 Views 0 Reviews
  • ห้องสมุดสาธารณะกำลังเผชิญกับปัญหาหนังสือที่สร้างจาก AI ซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อหาคุณภาพต่ำและทำให้การตรวจสอบยากขึ้น ข่าวนี้เปิดเผยว่าหลายบริษัทที่ให้บริการหนังสือดิจิทัลแก่ห้องสมุด ไม่สามารถควบคุมปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    บริษัท OverDrive และ Hoopla ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการให้ยืมอีบุ๊ค กำลังประสบปัญหาในการกรองเนื้อหาคุณภาพต่ำที่สร้างจาก AI โดย OverDrive อนุญาตให้ห้องสมุดคัดเลือกหนังสือที่จะเสนอ ส่วน Hoopla ให้เข้าถึงแคตาล็อกทั้งหมดได้โดยไม่มีการกรอง ทำให้มีเนื้อหาปลอม (vendor slurry) มากมายเข้ามาในระบบ

    ตัวอย่างหนึ่งของปัญหานี้คือบริษัท IRB Media ที่มีหนังสือหลายร้อยเล่มบน Hoopla ซึ่งเป็นสรุปที่สร้างจาก AI ของหนังสือที่มีอยู่แล้ว การให้ยืมเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพนี้ทำให้ห้องสมุดต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ กลับมา

    สองปีที่แล้ว กลุ่ม Library Futures และ Library Freedom Project ได้เรียกร้องให้ Hoopla และ OverDrive แก้ไขปัญหาหนังสือคุณภาพต่ำ โดยเฉพาะหนังสือที่ปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของชาวยิวหรือแสดงความเกลียดชังต่อชนกลุ่มน้อย Hoopla ได้ลบหนังสือที่มีปัญหาออก แต่ระบบอัตโนมัติและการตรวจสอบด้วยมนุษย์ยังไม่เพียงพอในการป้องกันปัญหานี้

    Luca Bartlomiejczyk บรรณารักษ์จากห้องสมุด Edith Wheeler Memorial ใน Monroe, Connecticut กล่าวว่าความรับผิดชอบในการควบคุมเนื้อหาจาก AI เป็นสิ่งสำคัญ และเนื้อหาดังกล่าวควรมีป้ายกำกับชัดเจนในแคตาล็อก เพื่อให้ผู้อ่านทราบว่าพวกเขากำลังดาวน์โหลดอะไรมาอ่าน

    สรุปแล้ว หนังสือที่สร้างจาก AI กำลังเกลื่อนห้องสมุดสาธารณะ และยังไม่มีวิธีการแก้ไขปัญหานี้ที่ง่ายหรือแน่ชัด การควบคุมและการตรวจสอบเนื้อหายังคงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปอย่างเร่งด่วน

    https://www.techspot.com/news/106656-ai-generated-books-have-overrun-public-libraries-no.html
    ห้องสมุดสาธารณะกำลังเผชิญกับปัญหาหนังสือที่สร้างจาก AI ซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อหาคุณภาพต่ำและทำให้การตรวจสอบยากขึ้น ข่าวนี้เปิดเผยว่าหลายบริษัทที่ให้บริการหนังสือดิจิทัลแก่ห้องสมุด ไม่สามารถควบคุมปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท OverDrive และ Hoopla ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการให้ยืมอีบุ๊ค กำลังประสบปัญหาในการกรองเนื้อหาคุณภาพต่ำที่สร้างจาก AI โดย OverDrive อนุญาตให้ห้องสมุดคัดเลือกหนังสือที่จะเสนอ ส่วน Hoopla ให้เข้าถึงแคตาล็อกทั้งหมดได้โดยไม่มีการกรอง ทำให้มีเนื้อหาปลอม (vendor slurry) มากมายเข้ามาในระบบ ตัวอย่างหนึ่งของปัญหานี้คือบริษัท IRB Media ที่มีหนังสือหลายร้อยเล่มบน Hoopla ซึ่งเป็นสรุปที่สร้างจาก AI ของหนังสือที่มีอยู่แล้ว การให้ยืมเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพนี้ทำให้ห้องสมุดต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ กลับมา สองปีที่แล้ว กลุ่ม Library Futures และ Library Freedom Project ได้เรียกร้องให้ Hoopla และ OverDrive แก้ไขปัญหาหนังสือคุณภาพต่ำ โดยเฉพาะหนังสือที่ปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของชาวยิวหรือแสดงความเกลียดชังต่อชนกลุ่มน้อย Hoopla ได้ลบหนังสือที่มีปัญหาออก แต่ระบบอัตโนมัติและการตรวจสอบด้วยมนุษย์ยังไม่เพียงพอในการป้องกันปัญหานี้ Luca Bartlomiejczyk บรรณารักษ์จากห้องสมุด Edith Wheeler Memorial ใน Monroe, Connecticut กล่าวว่าความรับผิดชอบในการควบคุมเนื้อหาจาก AI เป็นสิ่งสำคัญ และเนื้อหาดังกล่าวควรมีป้ายกำกับชัดเจนในแคตาล็อก เพื่อให้ผู้อ่านทราบว่าพวกเขากำลังดาวน์โหลดอะไรมาอ่าน สรุปแล้ว หนังสือที่สร้างจาก AI กำลังเกลื่อนห้องสมุดสาธารณะ และยังไม่มีวิธีการแก้ไขปัญหานี้ที่ง่ายหรือแน่ชัด การควบคุมและการตรวจสอบเนื้อหายังคงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปอย่างเร่งด่วน https://www.techspot.com/news/106656-ai-generated-books-have-overrun-public-libraries-no.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI-generated books have overrun public libraries, with no easy solution in sight
    The internet is becoming a wasteland, devoid of human interaction, as bots consume global bandwidth with malicious and worthless traffic. According to those in the ebook lending...
    0 Comments 0 Shares 466 Views 0 Reviews
  • สำนักงานสื่อของรัฐบาลปาเลสไตน์ในฉนวนกาซารายงานภาพรวมของการโจมตีจากอิสราเอล:

    ➤ ประชาชนมากกว่า 61,000 คน ตกเป็นเหยื่อของสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซา

    ➤ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่าสองล้านคนต้องพลัดถิ่นฐานจากบ้านเรือนของตน

    ➤ ที่อยู่อาศัยมากกว่า 150,000 ยูนิต ได้รับความเสียหายในฉนวนกาซาจากการโจมตีทำลายของอิสราเอล

    ➤ กองกำลังอิสราเอลก่อเหตุสังหารหมู่ยกครอบครัวไปมากถึง 9,268 คตรอบครัว ในระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา

    ➤ กองกำลังอิสราเอลสังหารบุคลากรทางการแพทย์ไป 1,155 ราย นักข่าว 205 ราย และเจ้าหน้าที่บริการสาธารธภัยพลเรือน 194 ราย

    ➤ กองกำลังอิสราเอลทำลายโรงพยาบาลประมาณ 34 แห่งในฉนวนกาซา
    สำนักงานสื่อของรัฐบาลปาเลสไตน์ในฉนวนกาซารายงานภาพรวมของการโจมตีจากอิสราเอล: ➤ ประชาชนมากกว่า 61,000 คน ตกเป็นเหยื่อของสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซา ➤ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่าสองล้านคนต้องพลัดถิ่นฐานจากบ้านเรือนของตน ➤ ที่อยู่อาศัยมากกว่า 150,000 ยูนิต ได้รับความเสียหายในฉนวนกาซาจากการโจมตีทำลายของอิสราเอล ➤ กองกำลังอิสราเอลก่อเหตุสังหารหมู่ยกครอบครัวไปมากถึง 9,268 คตรอบครัว ในระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา ➤ กองกำลังอิสราเอลสังหารบุคลากรทางการแพทย์ไป 1,155 ราย นักข่าว 205 ราย และเจ้าหน้าที่บริการสาธารธภัยพลเรือน 194 ราย ➤ กองกำลังอิสราเอลทำลายโรงพยาบาลประมาณ 34 แห่งในฉนวนกาซา
    0 Comments 0 Shares 385 Views 26 0 Reviews
  • คลิปเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ตอบคำถามกับนักข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ในแผนการกวาดล้างชาติพันธุ์ในฉนวนกาซา:

    'ผมอยากให้อียิปต์ช่วยกันกวาดต้อนผู้คน และอยากให้จอร์แดนร่วมด้วย คุณกำลังพูดถึงผู้คนเป็นหนึ่งล้านห้าแสนคน และเราแค่กวาดล้างทุกอย่างนั้น'

    'คุณรู้ไหมว่าตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา มีความขัดแย้งมากมาย ผมไม่รู้ว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก ที่นั่นมันมีกลายเป็นสถานที่ที่ถูกรื้อถอนทำลายอย่างแท้จริง ทุกอย่างถูกทำลายไปเกือบหมด และผู้คนกำลังตายอยู่ในนั้น ดังนั้น ผมอยากให้ประเทศอาหรับบางประเทศช่วยกันสร้างที่อยู่อาศัยในสถานที่อื่นที่พวกเขาอาจจะใช้อาศัยอยู่อย่างสันติบ้าง'
    .

    ทรัมป์อาจจะไม่รู้ว่าส่วนอื่นๆของโลก กลับมีความเห็นที่ดีกว่านั้น นั่นคือการหยุดการล่าอาณานิคมที่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอล และให้ชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่บนดินแดนที่พวกเขาอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนอย่างสงบสุข
    คลิปเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ตอบคำถามกับนักข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ในแผนการกวาดล้างชาติพันธุ์ในฉนวนกาซา: 'ผมอยากให้อียิปต์ช่วยกันกวาดต้อนผู้คน และอยากให้จอร์แดนร่วมด้วย คุณกำลังพูดถึงผู้คนเป็นหนึ่งล้านห้าแสนคน และเราแค่กวาดล้างทุกอย่างนั้น' 'คุณรู้ไหมว่าตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา มีความขัดแย้งมากมาย ผมไม่รู้ว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก ที่นั่นมันมีกลายเป็นสถานที่ที่ถูกรื้อถอนทำลายอย่างแท้จริง ทุกอย่างถูกทำลายไปเกือบหมด และผู้คนกำลังตายอยู่ในนั้น ดังนั้น ผมอยากให้ประเทศอาหรับบางประเทศช่วยกันสร้างที่อยู่อาศัยในสถานที่อื่นที่พวกเขาอาจจะใช้อาศัยอยู่อย่างสันติบ้าง' . ทรัมป์อาจจะไม่รู้ว่าส่วนอื่นๆของโลก กลับมีความเห็นที่ดีกว่านั้น นั่นคือการหยุดการล่าอาณานิคมที่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอล และให้ชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่บนดินแดนที่พวกเขาอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนอย่างสงบสุข
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 488 Views 35 0 Reviews
  • "เด็กเสียชีวิตไปกว่า 30,000 คน ยังไม่เพียงพอสำหรับระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เหล่านี้!!!"

    ทรัมป์อนุมัติให้ส่งระเบิด MK-84 น้ำหนัก 2,000 ปอนด์ จำนวน 1,800 ลูกไปยังอิสราเอล

    ซึ่งเป็นการพลิกกลับคำสั่งห้ามส่งระเบิดที่บังคับใช้ในสมัยรัฐบาลของไบเดนช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว การตัดสินใจของไบเดนในครั้งนั้นได้ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านความสัมพันธ์ครั้งใหญ่ระหว่างสหรัฐและอิสราเอล

    ระเบิดดังกล่าวขึ้นชื่อว่ามีพลังทำลายล้างสูง และคาดว่าจะมาถึงอิสราเอลภายในไม่กี่วันนี้
    "เด็กเสียชีวิตไปกว่า 30,000 คน ยังไม่เพียงพอสำหรับระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เหล่านี้!!!" ทรัมป์อนุมัติให้ส่งระเบิด MK-84 น้ำหนัก 2,000 ปอนด์ จำนวน 1,800 ลูกไปยังอิสราเอล ซึ่งเป็นการพลิกกลับคำสั่งห้ามส่งระเบิดที่บังคับใช้ในสมัยรัฐบาลของไบเดนช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว การตัดสินใจของไบเดนในครั้งนั้นได้ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านความสัมพันธ์ครั้งใหญ่ระหว่างสหรัฐและอิสราเอล ระเบิดดังกล่าวขึ้นชื่อว่ามีพลังทำลายล้างสูง และคาดว่าจะมาถึงอิสราเอลภายในไม่กี่วันนี้
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 353 Views 0 Reviews
  • แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ บอกลาตำแหน่งของเขาไปพร้อมกับคำครหาว่าเขาคือหนึ่งในทีมงานของโจ ไบเดน ที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา รวมทั้งขัดขวางการยุติสงครามในยูเครนที่ควรจบลงตั้งแต่ปี 2565 ทำให้ยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน
    แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ บอกลาตำแหน่งของเขาไปพร้อมกับคำครหาว่าเขาคือหนึ่งในทีมงานของโจ ไบเดน ที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา รวมทั้งขัดขวางการยุติสงครามในยูเครนที่ควรจบลงตั้งแต่ปี 2565 ทำให้ยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน
    Sad
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 306 Views 0 Reviews
  • 83 ปี แห่งการประชุมวันเซ จุดเริ่มไอน์ซัทซ์กรุพเพิน นาซีเยอรมนี ปฏิบัติการล้างบางชาวยิว


    ย้อนไปเมื่อ 83 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2485 การประชุมวันเซ (Wannsee Conference) ณ คฤหาสน์โกเบน วันเซ ชานกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่เปลี่ยนโฉมหน้า ประวัติศาสตร์โลก ไปตลอดกาล ที่นี่ ผู้นำนาซีเยอรมัน รวมถึงสมาชิกระดับสูง ของหน่วยเอสเอส (SS) และเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อดำเนิน "การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย" หรือ “Final Solution” ซึ่งเป็นโครงการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ทั่วทวีปยุโรป

    การประชุมวันเซ จุดเริ่มต้นการล้างบาง
    การประชุมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดย ไรน์ฮาร์ด ไฮดริช (Reinhard Heydrich) ผู้อำนวยการ สำนักความมั่นคงหลักไรช์ (Reich Security Main Office) โดยมีเป้าหมายเพื่อวางแผน และสร้างความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ของเยอรมนี ในปฏิบัติการกำจัดชาวยิว ทั่วทั้งทวีปยุโรป ไฮดริชต้องการความแน่ใจว่า หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ จะปฏิบัติตามแผนการ ที่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน

    นอกจากการสร้างความร่วมมือ ไฮดริชยังได้ใช้การประชุมครั้งนี้ เพื่อชี้แจงแผนการ ส่งชาวยิวในยุโรปตะวันตก ไปยังค่ายมรณะในโปแลนด์ เช่น ค่ายเอาชวิทซ์ (Auschwitz) และเทรบลินกา (Treblinka) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย”

    ผู้เข้าร่วมการประชุม มีทั้งหมด 15 คน ซึ่งเป็นตัวแทนระดับสูง จากหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้นำจากหน่วยเอสเอส ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และข้าราชการระดับสูง หนึ่งในนั้นคือ อัดอล์ฟ ไอช์มันน์ (Adolf Eichmann) ผู้มีบทบาทสำคัญ ในการประสานงาน และดำเนินการขนส่งชาวยิว ไปยังค่ายมรณะ

    ในบันทึกการประชุม ที่หลงเหลือมาจากสงคราม แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมไม่ได้แสดงความขัดแย้ง ต่อแผนการนี้ แต่กลับสนับสนุน และมีการพูดคุย ถึงวิธีการอย่างละเอียด

    ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน กองกำลังสังหาร ที่ปฏิบัติการในแนวรบตะวันออก
    ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน (Einsatzgruppen) หรือ "หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ" เป็นกลุ่มกองกำลัง ของหน่วยเอสเอส ที่ถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อปฏิบัติภารกิจสังหารหมู่ ในพื้นที่ที่กองทัพเยอรมันยึดครอง โดยเฉพาะในยุโรปตะวันออก หลังการรุกรานโปแลนด์ และสหภาพโซเวียต หน่วยเหล่านี้ มีหน้าที่กำจัดกลุ่มคน ที่ถูกระบุว่า เป็นภัยต่อระบอบนาซี เช่น ชาวยิว ชาวโรมานี (ยิปซี) ปัญญาชน และสมาชิกฝ่ายตรงข้าม ทางการเมือง

    ปฏิบัติการไอน์ซัทซ์กรุพเพิน
    การสังหารหมู่ส่วนใหญ่ มักเกิดขึ้นผ่านการยิงเป้า ในพื้นที่ชนบทหรือป่าลึก ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักคือ การสังหารหมู่ที่บาบี ยาร์ (Babi Yar) ในยูเครน เมื่อเดือนกันยายน 2484 ซึ่งมีชาวยิวมากกว่า 33,000 คน ถูกสังหารภายในเวลาเพียง 2 วัน

    ในช่วงแรก เหยื่อถูกบังคับ ให้ขุดหลุมศพของตนเอง ก่อนจะถูกยิงเป้า ต่อมานาซีเริ่มใช้วิธีการที่ "มีประสิทธิภาพมากขึ้น" เช่น การส่งเหยื่อไปยังค่ายมรณะ และสังหารในห้องรมแก๊ส

    ตามการประเมิน ของนักประวัติศาสตร์ หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน มีส่วนรับผิดชอบ ต่อการสังหารผู้คนกว่า 2 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ มีชาวยิวประมาณ 1.3 ล้านคน

    มาตรการสุดท้าย การล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบ
    บังคับใช้กฎหมาย แบ่งแยกชาวยิว
    ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีเริ่มจากการบังคับใช้ กฎหมายเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Laws) ในปี 1935 ซึ่งแยกชาวยิว ออกจากสังคมเยอรมัน อย่างเป็นทางการ

    ตั้งเกตโต
    ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวยิวถูกบังคับ ให้ย้ายไปอาศัยในเขตเกตโต (Ghetto) เช่น เกตโตวอร์ซอ (Warsaw Ghetto) ซึ่งมีสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด และไร้มนุษยธรรม

    การเนรเทศและสังหารหมู่
    ชาวยิวถูกขนส่งใน "รถไฟมรณะ" ไปยังค่ายมรณะ เช่น เอาชวิทซ์ เพื่อถูกสังหาร ในห้องรมแก๊ส

    มาตรการสุดท้ายของนาซี นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวกว่า 6 ล้านคน คิดเป็นสองในสาม ของประชากรยิวในยุโรป ในขณะนั้น

    เอกสารที่หลงเหลือ
    หลังสงครามสิ้นสุดลง สำเนาพิธีสารการประชุมวันเซ ถูกค้นพบโดยฝ่ายสัมพันธมิตร และถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Trials) เพื่อดำเนินคดี กับผู้นำนาซี

    สำนึกผิดและสร้างอนุสรณ์
    ปัจจุบัน อาคารที่เคยใช้จัดการประชุมวันเซ ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ และอนุสรณ์สถาน เพื่อรำลึกถึงเหยื่อ ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

    คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    1. การประชุมวันเซ มีผลกระทบอย่างไรต่อชาวยิว?
    การประชุมวันเซ เป็นการกำหนดแผนปฏิบัติการ สังหารหมู่ชาวยิว อย่างเป็นระบบ ทั่วทวีปยุโรป ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียชีวิต ของชาวยิวกว่า 6 ล้านคน

    2. หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน ทำหน้าที่อะไร?
    ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน เป็นหน่วยกองกำลังของเอสเอส ที่มีหน้าที่ปฏิบัติการสังหารหมู่ ในยุโรปตะวันออก โดยใช้วิธีการยิงเป้า และการสังหารหมู่ในระดับใหญ่

    3. มีชาวยิวกี่คนที่เสียชีวิต ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์?
    ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ ชาวยิวประมาณ 6 ล้านคน ถูกสังหาร รวมถึงผู้เสียชีวิตจากกลุ่มชาติพันธุ์ และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ อีกกว่า 11 ล้านคน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200908 ม.ค. 2568

    #Holocaust #WannseeConference #Einsatzgruppen #FinalSolution #NaziGermany #JewishHistory #WorldWarII #Genocide #NeverAgain #HistoryMatters
    83 ปี แห่งการประชุมวันเซ จุดเริ่มไอน์ซัทซ์กรุพเพิน นาซีเยอรมนี ปฏิบัติการล้างบางชาวยิว ย้อนไปเมื่อ 83 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2485 การประชุมวันเซ (Wannsee Conference) ณ คฤหาสน์โกเบน วันเซ ชานกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่เปลี่ยนโฉมหน้า ประวัติศาสตร์โลก ไปตลอดกาล ที่นี่ ผู้นำนาซีเยอรมัน รวมถึงสมาชิกระดับสูง ของหน่วยเอสเอส (SS) และเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อดำเนิน "การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย" หรือ “Final Solution” ซึ่งเป็นโครงการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ทั่วทวีปยุโรป การประชุมวันเซ จุดเริ่มต้นการล้างบาง การประชุมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดย ไรน์ฮาร์ด ไฮดริช (Reinhard Heydrich) ผู้อำนวยการ สำนักความมั่นคงหลักไรช์ (Reich Security Main Office) โดยมีเป้าหมายเพื่อวางแผน และสร้างความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ของเยอรมนี ในปฏิบัติการกำจัดชาวยิว ทั่วทั้งทวีปยุโรป ไฮดริชต้องการความแน่ใจว่า หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ จะปฏิบัติตามแผนการ ที่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน นอกจากการสร้างความร่วมมือ ไฮดริชยังได้ใช้การประชุมครั้งนี้ เพื่อชี้แจงแผนการ ส่งชาวยิวในยุโรปตะวันตก ไปยังค่ายมรณะในโปแลนด์ เช่น ค่ายเอาชวิทซ์ (Auschwitz) และเทรบลินกา (Treblinka) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย” ผู้เข้าร่วมการประชุม มีทั้งหมด 15 คน ซึ่งเป็นตัวแทนระดับสูง จากหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้นำจากหน่วยเอสเอส ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และข้าราชการระดับสูง หนึ่งในนั้นคือ อัดอล์ฟ ไอช์มันน์ (Adolf Eichmann) ผู้มีบทบาทสำคัญ ในการประสานงาน และดำเนินการขนส่งชาวยิว ไปยังค่ายมรณะ ในบันทึกการประชุม ที่หลงเหลือมาจากสงคราม แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมไม่ได้แสดงความขัดแย้ง ต่อแผนการนี้ แต่กลับสนับสนุน และมีการพูดคุย ถึงวิธีการอย่างละเอียด ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน กองกำลังสังหาร ที่ปฏิบัติการในแนวรบตะวันออก ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน (Einsatzgruppen) หรือ "หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ" เป็นกลุ่มกองกำลัง ของหน่วยเอสเอส ที่ถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อปฏิบัติภารกิจสังหารหมู่ ในพื้นที่ที่กองทัพเยอรมันยึดครอง โดยเฉพาะในยุโรปตะวันออก หลังการรุกรานโปแลนด์ และสหภาพโซเวียต หน่วยเหล่านี้ มีหน้าที่กำจัดกลุ่มคน ที่ถูกระบุว่า เป็นภัยต่อระบอบนาซี เช่น ชาวยิว ชาวโรมานี (ยิปซี) ปัญญาชน และสมาชิกฝ่ายตรงข้าม ทางการเมือง ปฏิบัติการไอน์ซัทซ์กรุพเพิน การสังหารหมู่ส่วนใหญ่ มักเกิดขึ้นผ่านการยิงเป้า ในพื้นที่ชนบทหรือป่าลึก ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักคือ การสังหารหมู่ที่บาบี ยาร์ (Babi Yar) ในยูเครน เมื่อเดือนกันยายน 2484 ซึ่งมีชาวยิวมากกว่า 33,000 คน ถูกสังหารภายในเวลาเพียง 2 วัน ในช่วงแรก เหยื่อถูกบังคับ ให้ขุดหลุมศพของตนเอง ก่อนจะถูกยิงเป้า ต่อมานาซีเริ่มใช้วิธีการที่ "มีประสิทธิภาพมากขึ้น" เช่น การส่งเหยื่อไปยังค่ายมรณะ และสังหารในห้องรมแก๊ส ตามการประเมิน ของนักประวัติศาสตร์ หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน มีส่วนรับผิดชอบ ต่อการสังหารผู้คนกว่า 2 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ มีชาวยิวประมาณ 1.3 ล้านคน มาตรการสุดท้าย การล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบ บังคับใช้กฎหมาย แบ่งแยกชาวยิว ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีเริ่มจากการบังคับใช้ กฎหมายเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Laws) ในปี 1935 ซึ่งแยกชาวยิว ออกจากสังคมเยอรมัน อย่างเป็นทางการ ตั้งเกตโต ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวยิวถูกบังคับ ให้ย้ายไปอาศัยในเขตเกตโต (Ghetto) เช่น เกตโตวอร์ซอ (Warsaw Ghetto) ซึ่งมีสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด และไร้มนุษยธรรม การเนรเทศและสังหารหมู่ ชาวยิวถูกขนส่งใน "รถไฟมรณะ" ไปยังค่ายมรณะ เช่น เอาชวิทซ์ เพื่อถูกสังหาร ในห้องรมแก๊ส มาตรการสุดท้ายของนาซี นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวกว่า 6 ล้านคน คิดเป็นสองในสาม ของประชากรยิวในยุโรป ในขณะนั้น เอกสารที่หลงเหลือ หลังสงครามสิ้นสุดลง สำเนาพิธีสารการประชุมวันเซ ถูกค้นพบโดยฝ่ายสัมพันธมิตร และถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Trials) เพื่อดำเนินคดี กับผู้นำนาซี สำนึกผิดและสร้างอนุสรณ์ ปัจจุบัน อาคารที่เคยใช้จัดการประชุมวันเซ ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ และอนุสรณ์สถาน เพื่อรำลึกถึงเหยื่อ ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ คำถามที่พบบ่อย (FAQs) 1. การประชุมวันเซ มีผลกระทบอย่างไรต่อชาวยิว? การประชุมวันเซ เป็นการกำหนดแผนปฏิบัติการ สังหารหมู่ชาวยิว อย่างเป็นระบบ ทั่วทวีปยุโรป ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียชีวิต ของชาวยิวกว่า 6 ล้านคน 2. หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน ทำหน้าที่อะไร? ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน เป็นหน่วยกองกำลังของเอสเอส ที่มีหน้าที่ปฏิบัติการสังหารหมู่ ในยุโรปตะวันออก โดยใช้วิธีการยิงเป้า และการสังหารหมู่ในระดับใหญ่ 3. มีชาวยิวกี่คนที่เสียชีวิต ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์? ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ ชาวยิวประมาณ 6 ล้านคน ถูกสังหาร รวมถึงผู้เสียชีวิตจากกลุ่มชาติพันธุ์ และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ อีกกว่า 11 ล้านคน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200908 ม.ค. 2568 #Holocaust #WannseeConference #Einsatzgruppen #FinalSolution #NaziGermany #JewishHistory #WorldWarII #Genocide #NeverAgain #HistoryMatters
    0 Comments 0 Shares 1534 Views 0 Reviews
  • ช่วงเวลาที่ "แม็กซ์ บลูเมนธัล" (Max Blumentha) เผชิญหน้ากับ แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ โดยกล่าวหาว่าเขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา

    'ทำไมคุณถึงปล่อยให้เพื่อนนักข่าวของผมถูกสังหาร ทำไมคุณถึงยอมให้บ้านของเพื่อนผมถูกทำลาย ทำไมคุณถึงยังปล่อยให้มีการทิ้งระเบิดในขณะที่เราสามารถทำข้อตกลงสันติภาพได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม คุณกำลังประนีประนอมกับอิสราเอลอยู่หรือเปล่า ทำไมคุณถึงยอมให้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นในยุคของ'


    ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำเนียบขาวเลือกที่จะไม่ตอบคำถามจากนักข่าวและพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากฝีมือของอิสราเอล ทั้งที่รู้กันทั้งโลกว่าใครเป็นคนทำ

    ครั้งนีนับเป็นการแสดงความกล้าหาญอีกครั้งของนักข่าว ที่โลกควรจดจำ "แม็กซ์ บลูเมนธัล"
    ช่วงเวลาที่ "แม็กซ์ บลูเมนธัล" (Max Blumentha) เผชิญหน้ากับ แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ โดยกล่าวหาว่าเขาต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา 'ทำไมคุณถึงปล่อยให้เพื่อนนักข่าวของผมถูกสังหาร ทำไมคุณถึงยอมให้บ้านของเพื่อนผมถูกทำลาย ทำไมคุณถึงยังปล่อยให้มีการทิ้งระเบิดในขณะที่เราสามารถทำข้อตกลงสันติภาพได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม คุณกำลังประนีประนอมกับอิสราเอลอยู่หรือเปล่า ทำไมคุณถึงยอมให้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นในยุคของ' ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำเนียบขาวเลือกที่จะไม่ตอบคำถามจากนักข่าวและพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากฝีมือของอิสราเอล ทั้งที่รู้กันทั้งโลกว่าใครเป็นคนทำ ครั้งนีนับเป็นการแสดงความกล้าหาญอีกครั้งของนักข่าว ที่โลกควรจดจำ "แม็กซ์ บลูเมนธัล"
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 758 Views 51 0 Reviews
  • 2/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายในกาซา ส่งผลให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนอัลบารากา ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย

    การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยฝีมือของอิสราเอลที่ได้รับระเบิดมาจากสหรัฐอเมริกา
    2/ เมื่อคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายในกาซา ส่งผลให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนอัลบารากา ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยฝีมือของอิสราเอลที่ได้รับระเบิดมาจากสหรัฐอเมริกา
    Like
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 470 Views 26 0 Reviews
  • 1/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายในกาซา ส่งผลให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนอัลบารากา ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย

    การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยฝีมือของอิสราเอลที่ได้รับระเบิดมาจากสหรัฐอเมริกา
    1/ เมื่อคืนที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายในกาซา ส่งผลให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนอัลบารากา ในเมืองเดียร์ อัล บาลาห์ ใจกลางฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รวมทั้งเด็กๆ ด้วย การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซายังคงดำเนินต่อไปโดยฝีมือของอิสราเอลที่ได้รับระเบิดมาจากสหรัฐอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 450 Views 21 0 Reviews
  • ภาพของผู้หญิงรายหนึ่งเข้าขัดจังหวะระหว่างการแถลงข่าวของบลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ พร้อมกับตะโกนใส่หน้าเขา:

    “บลิงเคน ชายที่โหดร้าย เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”

    “เราจะไม่มีวันลืม เราจะไม่มีวันให้อภัย”
    ภาพของผู้หญิงรายหนึ่งเข้าขัดจังหวะระหว่างการแถลงข่าวของบลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ พร้อมกับตะโกนใส่หน้าเขา: “บลิงเคน ชายที่โหดร้าย เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” “เราจะไม่มีวันลืม เราจะไม่มีวันให้อภัย”
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 423 Views 25 0 Reviews
  • "ตั้งใจเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาคดีอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์??"

    นาวาฟ ซาลาม ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้รับการโหวตให้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลบานอน โดยที่ทำเนียบประธานาธิบดีกล่าวว่า ซาลามจะเดินทางกลับเลบานอนในวันอังคารนี้เลย

    นาวาฟ ซาลาม (Nawaf Salam) ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในกรุงเฮก ซึ่งกำลังพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ในข้อกล่าวหาว่าอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ได้รับคะแนนโหวตในรัฐสภาเลบานอนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ 53 ของเลบานอน

    สมาชิกรัฐสภา 128 คน ลงคะแนนเลือก
    - นาวาฟ ซาลาม 85 เสียง
    - ขณะที่ นาจิบ มิคาติ นายกรัฐมนตรีคนเดิมได้รับความไว้วางใจเพียง 9 เสียง
    - ส่วนที่เหลืออีก 34 เสียง งดออกเสียง

    ซาลาม ว่าที่นายกรัฐมนตรีซึ่งมีสมาชิกครอบครัวในสาย "ซุนนี" สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sciences Po ในฝรั่งเศส ปริญญาเอกสาขาประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sorbonne และปริญญาโทสาขานิติศาสตร์จากโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด

    ซาลามทำงานเป็นทนายความและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งก่อนที่จะดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรของเลบานอนประจำสหประชาชาติในนิวยอร์กตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2017

    เขาเข้าเป็นสมาชิกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหประชาชาติ ในปี 2018 และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเป็นเวลา 3 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ในขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ซึ่งกล่าวหาว่ากองกำลังอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
    "ตั้งใจเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาคดีอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์??" นาวาฟ ซาลาม ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้รับการโหวตให้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลบานอน โดยที่ทำเนียบประธานาธิบดีกล่าวว่า ซาลามจะเดินทางกลับเลบานอนในวันอังคารนี้เลย นาวาฟ ซาลาม (Nawaf Salam) ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในกรุงเฮก ซึ่งกำลังพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ในข้อกล่าวหาว่าอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ได้รับคะแนนโหวตในรัฐสภาเลบานอนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ 53 ของเลบานอน สมาชิกรัฐสภา 128 คน ลงคะแนนเลือก - นาวาฟ ซาลาม 85 เสียง - ขณะที่ นาจิบ มิคาติ นายกรัฐมนตรีคนเดิมได้รับความไว้วางใจเพียง 9 เสียง - ส่วนที่เหลืออีก 34 เสียง งดออกเสียง ซาลาม ว่าที่นายกรัฐมนตรีซึ่งมีสมาชิกครอบครัวในสาย "ซุนนี" สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sciences Po ในฝรั่งเศส ปริญญาเอกสาขาประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sorbonne และปริญญาโทสาขานิติศาสตร์จากโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด ซาลามทำงานเป็นทนายความและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งก่อนที่จะดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรของเลบานอนประจำสหประชาชาติในนิวยอร์กตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2017 เขาเข้าเป็นสมาชิกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหประชาชาติ ในปี 2018 และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเป็นเวลา 3 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ในขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ซึ่งกล่าวหาว่ากองกำลังอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 646 Views 0 Reviews
  • รายงานประจำวันโดยกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซาเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยอิสราเอล:

    กองกำลังอิสราเอลได้ก่อเหตุสังหารหมู่ครอบครัวในฉนวนกาซา 2 ครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 28 ราย และบาดเจ็บอีก 89 ราย

    ยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับการบันทึกจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 46,565 ราย และบาดเจ็บอีก 109,660 รายตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023
    รายงานประจำวันโดยกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซาเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยอิสราเอล: กองกำลังอิสราเอลได้ก่อเหตุสังหารหมู่ครอบครัวในฉนวนกาซา 2 ครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 28 ราย และบาดเจ็บอีก 89 ราย ยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับการบันทึกจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 46,565 ราย และบาดเจ็บอีก 109,660 รายตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023
    Sad
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 502 Views 0 Reviews
  • ใหญ่คับจักรวาล!!
    สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติอนุมัติร่างกฎหมายในการคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในวันนี้ เพื่อเป็นการประท้วงต่อการที่ ICC ออกหมายจับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล

    ร่างกฎหมาย "Illegitimate Court Counteraction Act" ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 243 ต่อ 140 เสียง ซึ่งถือเป็นสัญญาณของการสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งแกร่ง! ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว

    สาระสำคัญบางส่วนของกฎหมายดังกล่าว จะมีการเสนอให้ลงโทษชาวต่างชาติที่ช่วยเหลือ ICC ในการพยายามสืบสวน กักขัง หรือดำเนินคดีกับพลเมืองสหรัฐฯ หรือพลเมืองของประเทศพันธมิตรที่ไม่ยอมรับอำนาจของศาล

    การลงโทษดังกล่าวรวมถึงการอายัดทรัพย์สิน ตลอดจนการปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับบุคคลเหล่านี้

    “อเมริกากำลังผ่านกฎหมายที่สำคัญฉบับนี้ เพราะศาลเตี้ยกำลังพยายามจับกุมนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของเรา” ส.ส. ไบรอัน แมสต์ ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน กล่าวในการปราศรัยก่อนการลงคะแนนเสียงในวันพฤหัสบดี

    จอห์น ธูน (John Thune) วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำเสียงข้างมาก ให้คำมั่นว่าจะพิจารณากฎหมายดังกล่าวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทรัมป์สามารถลงนามเป็นกฎหมายได้หลังจากเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม

    เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา ศาลอาญาระหว่างประเทศได้ออกหมายจับเนทันยาฮูและกัลแลนต์ ในข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ โดยตั้งแต่เริ่มต้นความขัดแย้งในเดือนตุลาคม 2023 ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 46,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติได้ประณามวิธีการของอิสราเอลในฉนวนกาซาว่า "สอดคล้องกับลักษณะของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

    ในช่วงปี 2020 ซึ่งเป็นสมัยแรกในตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ เขาเคยลงโทษผู้นำระดับสูงของศาลอาญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการสืบสวนอาชญากรรมของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน
    ใหญ่คับจักรวาล!! สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติอนุมัติร่างกฎหมายในการคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในวันนี้ เพื่อเป็นการประท้วงต่อการที่ ICC ออกหมายจับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ร่างกฎหมาย "Illegitimate Court Counteraction Act" ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 243 ต่อ 140 เสียง ซึ่งถือเป็นสัญญาณของการสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งแกร่ง! ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว สาระสำคัญบางส่วนของกฎหมายดังกล่าว จะมีการเสนอให้ลงโทษชาวต่างชาติที่ช่วยเหลือ ICC ในการพยายามสืบสวน กักขัง หรือดำเนินคดีกับพลเมืองสหรัฐฯ หรือพลเมืองของประเทศพันธมิตรที่ไม่ยอมรับอำนาจของศาล การลงโทษดังกล่าวรวมถึงการอายัดทรัพย์สิน ตลอดจนการปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับบุคคลเหล่านี้ “อเมริกากำลังผ่านกฎหมายที่สำคัญฉบับนี้ เพราะศาลเตี้ยกำลังพยายามจับกุมนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของเรา” ส.ส. ไบรอัน แมสต์ ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน กล่าวในการปราศรัยก่อนการลงคะแนนเสียงในวันพฤหัสบดี จอห์น ธูน (John Thune) วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำเสียงข้างมาก ให้คำมั่นว่าจะพิจารณากฎหมายดังกล่าวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทรัมป์สามารถลงนามเป็นกฎหมายได้หลังจากเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา ศาลอาญาระหว่างประเทศได้ออกหมายจับเนทันยาฮูและกัลแลนต์ ในข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ โดยตั้งแต่เริ่มต้นความขัดแย้งในเดือนตุลาคม 2023 ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 46,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติได้ประณามวิธีการของอิสราเอลในฉนวนกาซาว่า "สอดคล้องกับลักษณะของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ในช่วงปี 2020 ซึ่งเป็นสมัยแรกในตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ เขาเคยลงโทษผู้นำระดับสูงของศาลอาญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการสืบสวนอาชญากรรมของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน
    Like
    Haha
    7
    0 Comments 0 Shares 1042 Views 0 Reviews
More Results