• 10X Consulting แบรนด์แรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองเป็น Approved, an IMC Accredited Training Center จาก International Mentoring Center (IMC)

    หลักสูตร OKR Practitioner :
    Level 01 : OKR FUNDAMENTAL
    Level 02 : OKR PRACTICUM & OKR COACH
    Level 03 : OKR PRACTITIONER FOR ORGANIZATION

    หลักสูตร OKR Leadership :
    Level 04 : OKR LEADERSHIP & OKR CHAMPION
    Level 05 : OKR PROFESSIONAL

    ผู้เรียนที่ผ่านหลักสูตร OKR Series ของ 10X Consulting ได้รับการรับรอง (Certified) Mentor จาก 10X Consulting และ International Mentoring Center (IMC)

    นอกจากนี้ยังได้รับตราสัญลักษณ์การรับรองคุณวุฒิดิจิทัล (Digital Credential) ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้เพื่อถ่ายทอดความสำเร็จที่สามารถใช้เป็นลายมือชื่ออีเมล์หรือประวัติส่วนตัวโดยย่อดิจิทัลจาก Credly และ AIS Academy พร้อมวุฒิบัตรดิจิทัล (Digital Certificate) ที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับ Profile ของคุณ!!!

    รวมทั้งได้สิทธิ์พิเศษในการใช้แพลตฟอร์ม “Drive Business Performance with AI Enabled Platform” ที่ได้รับความนิยมในระดับนานาชาติ

    บุคคล/ทีม/องค์กรที่สนใจพัฒนาทักษะแห่งอนาคตในเชิงลึกแบบ
    Hand – on จากแบรนด์ที่สั่งสมประสบการณ์และเคล็ดลับทั้งจากการทำงานกับผู้นำและผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานชั้นนำทั้งในประเทศ ซึ่งจะทำให้คุณ ทีม และองค์กรคุณ Upskill พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงโดยการเรียนรู้ที่สะดวกกว่า เหมาะสมกับยุคของการคิดได้ ทำเป็น เห็นผล

    สนใจติดต่อสอบถาม/ทำนัดที่ LINE OA : 10xconsulting
    email : wasit.p@10-xconsulting.com
    www.10-xconsulting.com
    10X Consulting #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมให้แกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด
    10X Consulting แบรนด์แรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองเป็น Approved, an IMC Accredited Training Center จาก International Mentoring Center (IMC) หลักสูตร OKR Practitioner : Level 01 : OKR FUNDAMENTAL Level 02 : OKR PRACTICUM & OKR COACH Level 03 : OKR PRACTITIONER FOR ORGANIZATION หลักสูตร OKR Leadership : Level 04 : OKR LEADERSHIP & OKR CHAMPION Level 05 : OKR PROFESSIONAL ผู้เรียนที่ผ่านหลักสูตร OKR Series ของ 10X Consulting ได้รับการรับรอง (Certified) Mentor จาก 10X Consulting และ International Mentoring Center (IMC) นอกจากนี้ยังได้รับตราสัญลักษณ์การรับรองคุณวุฒิดิจิทัล (Digital Credential) ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้เพื่อถ่ายทอดความสำเร็จที่สามารถใช้เป็นลายมือชื่ออีเมล์หรือประวัติส่วนตัวโดยย่อดิจิทัลจาก Credly และ AIS Academy พร้อมวุฒิบัตรดิจิทัล (Digital Certificate) ที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับ Profile ของคุณ!!! รวมทั้งได้สิทธิ์พิเศษในการใช้แพลตฟอร์ม “Drive Business Performance with AI Enabled Platform” ที่ได้รับความนิยมในระดับนานาชาติ บุคคล/ทีม/องค์กรที่สนใจพัฒนาทักษะแห่งอนาคตในเชิงลึกแบบ Hand – on จากแบรนด์ที่สั่งสมประสบการณ์และเคล็ดลับทั้งจากการทำงานกับผู้นำและผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานชั้นนำทั้งในประเทศ ซึ่งจะทำให้คุณ ทีม และองค์กรคุณ Upskill พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงโดยการเรียนรู้ที่สะดวกกว่า เหมาะสมกับยุคของการคิดได้ ทำเป็น เห็นผล สนใจติดต่อสอบถาม/ทำนัดที่ LINE OA : 10xconsulting email : wasit.p@10-xconsulting.com www.10-xconsulting.com 10X Consulting #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมให้แกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💡เมนทอร์โซลูชัน (MENTORING SOLUTION) ที่ช่วยยกระดับศักยภาพผู้นำและทีมของคุณ
    .
    เมนทอร์โซลูชันออกแบบมาเพื่อการพัฒนาผู้นำแบบองค์รวม โดยไม่ใช่แค่การอบรมทั่วไป แต่คือโซลูชันพัฒนาเมนทอร์เป้าหมายเฉพาะขององค์กร พร้อมโซลูชันการประเมินการพัฒนาทักษะแห่งอนาคตของผู้นำในทุกระดับ

    ทำไมต้อง "เมนทอร์!!!"
    ในวงการพัฒนาศักยภาพในประเทศไทยการเมนทอร์ มีการกล่าวถึงแบบรวมๆ และยังไม่พบว่ามีผู้ให้บริการด้านการพัฒนาศักยภาพ เผยแพร่ให้ข้อมูล – ให้บริการด้วยกระบวนการที่เป็นมาตรฐานสากล แบรนด์ 10X Consulting แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป เป็นผู้ให้บริการด้านการพัฒนาศักยภาพแบรนด์แรกในไทยที่เป็นองค์กรที่ได้รับการรับรอง (Accredited Training Organisation (ATO)) จาก International Mentoring Center (IMC) และ ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์ พรหมบุตร และ ดร.ศรินนา แก้วสีเคน ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป ได้รับการรับรองเป็น Certified Professional Mentor (CPM) )) จาก International Mentoring Center (IMC)
    .
    ความสำเร็จขององค์กร เริ่มต้นจากการมีผู้นำและทีมงานที่แข็งแกร่ง
    .
    องค์กร/ผู้นำที่สนใจข้อมูลการบริการเมนทอร์ และการพัฒนาศักยภาพ ความรู้ และทักษะ สร้างเมนทอร์ในองค์กรติดต่อได้ที่ LINE Official @10xconsulting หรือ email : wasit@10-xconsulting.com

    💡MENTORING SOLUTIONS THAT EMPOWER YOUR LEADERS AND TEAMS.
    Mentor Solutions are designed for holistic leadership development, not just general training, but organization-specific mentoring solutions, with solutions to assess the future skills development of leaders at all levels.
    .
    Why "mentor!!"
    In the field of capacity development in Thailand, mentoring There has been a general mention and no capacity development service providers have been found. 10X Consulting, a brand of DECHRIT GROUP, is the first brand capacity development service provider in Thailand to be accredited by the International Mentoring Center (IMC) and Distinguished Prof. Dr.Wasit Prombutr and Dr. Sarina Kaewsiken, Brand Executives 10X Consulting, a brand of DECHRIT GROUP, has been certified as a Certified Professional Mentor (CPM) by the International Mentoring Center (IMC).
    .
    Enterprise Success It starts with a strong leader and team.
    .
    Organizations/leaders interested in mentoring service information and developing their potential, knowledge, and skills. To create a mentor in your organization, please contact LINE Official @10xconsulting or email: wasit@10-xconsulting.com
    💡เมนทอร์โซลูชัน (MENTORING SOLUTION) ที่ช่วยยกระดับศักยภาพผู้นำและทีมของคุณ . เมนทอร์โซลูชันออกแบบมาเพื่อการพัฒนาผู้นำแบบองค์รวม โดยไม่ใช่แค่การอบรมทั่วไป แต่คือโซลูชันพัฒนาเมนทอร์เป้าหมายเฉพาะขององค์กร พร้อมโซลูชันการประเมินการพัฒนาทักษะแห่งอนาคตของผู้นำในทุกระดับ ทำไมต้อง "เมนทอร์!!!" ในวงการพัฒนาศักยภาพในประเทศไทยการเมนทอร์ มีการกล่าวถึงแบบรวมๆ และยังไม่พบว่ามีผู้ให้บริการด้านการพัฒนาศักยภาพ เผยแพร่ให้ข้อมูล – ให้บริการด้วยกระบวนการที่เป็นมาตรฐานสากล แบรนด์ 10X Consulting แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป เป็นผู้ให้บริการด้านการพัฒนาศักยภาพแบรนด์แรกในไทยที่เป็นองค์กรที่ได้รับการรับรอง (Accredited Training Organisation (ATO)) จาก International Mentoring Center (IMC) และ ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์ พรหมบุตร และ ดร.ศรินนา แก้วสีเคน ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป ได้รับการรับรองเป็น Certified Professional Mentor (CPM) )) จาก International Mentoring Center (IMC) . ความสำเร็จขององค์กร เริ่มต้นจากการมีผู้นำและทีมงานที่แข็งแกร่ง . องค์กร/ผู้นำที่สนใจข้อมูลการบริการเมนทอร์ และการพัฒนาศักยภาพ ความรู้ และทักษะ สร้างเมนทอร์ในองค์กรติดต่อได้ที่ LINE Official @10xconsulting หรือ email : wasit@10-xconsulting.com 💡MENTORING SOLUTIONS THAT EMPOWER YOUR LEADERS AND TEAMS. Mentor Solutions are designed for holistic leadership development, not just general training, but organization-specific mentoring solutions, with solutions to assess the future skills development of leaders at all levels. . Why "mentor!!" In the field of capacity development in Thailand, mentoring There has been a general mention and no capacity development service providers have been found. 10X Consulting, a brand of DECHRIT GROUP, is the first brand capacity development service provider in Thailand to be accredited by the International Mentoring Center (IMC) and Distinguished Prof. Dr.Wasit Prombutr and Dr. Sarina Kaewsiken, Brand Executives 10X Consulting, a brand of DECHRIT GROUP, has been certified as a Certified Professional Mentor (CPM) by the International Mentoring Center (IMC). . Enterprise Success It starts with a strong leader and team. . Organizations/leaders interested in mentoring service information and developing their potential, knowledge, and skills. To create a mentor in your organization, please contact LINE Official @10xconsulting or email: wasit@10-xconsulting.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • #lampang # spiritual # water world # Thai time # news1 #thailand #dtv # canabis institute #vr #360 #live #professional
    #lampang # spiritual # water world # Thai time # news1 #thailand #dtv # canabis institute #vr #360 #live #professional
    ผู้โดยสารชาวต่างชาติก่อความวุ่นวายบนเที่ยวบินสายการบินโคเรียนแอร์ เส้นทางกรุงเทพฯ-อินชอน โดยบอกว่าจะนั่งที่ของลูกเรือ พร้อมขู่เปิดประตูฉุกเฉิน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000107992

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • #northern island # chaehom #lampang # spiritual # water world # Thai time # news1 #thailand #dtv # canabis institute #vr #360 #live #professional
    #northern island # chaehom #lampang # spiritual # water world # Thai time # news1 #thailand #dtv # canabis institute #vr #360 #live #professional
    ขนลุก! อัยการชี้ "ทนายตั้ม" เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่โดนแจ้งข้อหานี้! (10/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ฟอกเงิน #ร่วมกันฟอกเงิน #หมายจับทนายตั้ม #ฉ้อโกงอันเป็นปกติธุระ
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 782 0 รีวิว
  • Words To Use Instead Of “Congratulations”

    Congratulations!
    Joyful times go hand in hand with congratulations. When addressing graduates, newlyweds, or anyone with good news, a hearty “Congratulations!” or a swift “Congrats!” is in order. Congratulants, “people who congratulate,” have been using the pluralized expression congratulations, which stems from the Latin gratus meaning “pleasing,” since the 1600s.

    The singular noun meaning “the act of congratulating” has been around since the late 1500s.

    Props!
    When congratulations are in order, the term props might come up. This slang shortening of proper arose in the 1990s and refers to respect and esteem.

    In addition to giving and receiving props as recognition, you can do someone a prop to help them out. In the 1995 film Clueless, Cher notices that Josh is dancing with Tai, despite the fact that he never dances, to make her feel included. Cher explains: “He’s doing her a prop so she won’t feel left out.”

    Way to go!
    If you admire someone’s grit and hustle, you can use this sporty method of congratulations. This active phrase has been traced back to the 1940s, when it was used in sports to congratulate a person or team on a great performance. In the 1960s, it began to be used more generally to refer to any kind of achievement.

    If “Way to go!” doesn’t do it for you, some peppy alternatives include “Great job,” “Nice going,” “You rock,” and “You rule!”

    Nailed it!
    This handy phrase really hits the nail on the head when you want to give someone their due. Nailed it has been traced back to at least the 1970s and metaphorically refers to the act of successfully hitting a nail with a hammer.

    In slang, we use a variety of other congratulatory phrases that also refer to forceful impacts or metaphorical violence such as “Killed it,” “Crushed it,” “Destroyed it,” and “Slayed it!”

    social media cheers

    Like, follow, and subscribe! Social media platforms all have different ways of congratulating somebody and letting them now how awesome their content is. These include:

    Twitter: the heart or a retweet
    Facebook: the thumbs-up on Facebook
    Instagram: the like
    YouTube: like, share, subscribe to a channel; hitting the bell icon
    TikTok: like and follow
    Snapchat: take a screenshot for later
    Reddit: upvote; give Reddit Gold/Platinum; or a badge
    Tumblr: reblog
    Twitch: subscribe to a channel and/or give a donation

    GG (Good Game)
    Shorthand for “good game” in the world of esports, GG is used to congratulate a victorious opponent.

    Additionally, it’s used to politely concede a match or admit defeat, most commonly in the realm of professional StarCraft. It’s all about the humble loss. Not everybody is a good sport, though, and the phrase GG EZ (“easy,” as in an easy win) is often used in a mean-spirited way to put down a defeated opponent.

    Three cheers!
    Three cheers is generally followed by “for” and the name of the person or thing being celebrated.

    A person being cheers-ed might also respond to a toast of three cheers with the word … cheers, which, especially in the UK, can mean “thanks.” That’s a lot of cheers.

    The term cheer entered English in the late 12th or early 13th century, and ultimately comes from the Greek word kárā meaning “head.”

    Hip, hip, hooray!
    For some Victorian flair, opt for the ever-cheery hip, hip, hooray (or hurrah). This expression of uncertain origin surfaced in the early 1800s, though the exclamation hip had been used since the mid-1700s. Hip repeated three times was used as a noun in the 1800s to refer to a collective cheer.

    But, let’s not forget about hooray, a variant of hurrah. This exclamation dates from the late 1600s and is very similar to shouts in German, Danish, Swedish, and even Russian. Someone’s last hurrah is their “final moment or occasion of glory or achievement.”

    Kudos!
    Though it sounds colloquial, kudos finds its roots in the hallowed halls of academic institutions. At the turn of the 1800s, academics transliterated the Greek kydos, meaning “praise or renown.” By the 1920s, kudos had spread beyond the walls of universities and into the columns of newspapers.

    Don’t be fooled by the S at the end of kudos; the word is, in fact, a singular noun. However, enough English speakers have erroneously interpreted it as plural for so long that already by the 1930s, the back formation singular kudo arose. Grammar sticklers avoid using kudo as a singular and kudos as a plural, though both forms can be found in popular usage.

    Hats off!
    The phrase hats off, while often said to graduates wearing the illustrious cap and gown, has nothing to do with the tradition of tossing hats in the air in celebration. This phrase, dating back to the 1600s, harks back to the custom of uncovering the head as a sign of respect.

    Etiquette expert Emily Post advised gentlemen on the many situations in which they must remove hats to maintain politeness. In 1922 she wrote: “A gentleman takes off his hat and holds it in his hand when a lady enters the elevator.” He also lifts his hat whenever he asks a question or says “Excuse me.” You know, maybe we could all stand a little formality these days …

    a round of applause
    The act of clapping one’s hands together to show acclaim is actually much older than you might think. Scholars are unsure of the exact origin, but we have evidence that even the ancient Romans would show their appreciation by clapping their hands. In fact, the word plaudits (which means an expression of approval) comes from the Latin verb plaudere, meaning to clap one’s hands. The verb applause is also based on this Latin verb.

    Today, the highest form of applause is the standing ovation, where every member of the audience rises to their feet and applauds. Any performer who manages to please an audience enough to cause them to stretch their legs a bit certainly deserves a big hand.

    congratulatory emoji
    Sometimes, it is better to use pictures rather than words to congratulate someone. In texting and on social media, many different emoji are used to give somebody a pat on the back after a job well done. The Clapping Hands emoji 👏 is used to refer to a round of applause and the Trophy emoji 🏆 references the shiny knickknacks we give to people who have accomplished something.

    The Party Popper emoji 🎉, Confetti Ball emoji 🎊, Partying Face emoji 🥳, and Bottle with Popping Cork emoji 🍾 are also commonly used to congratulate someone. These party animals refer to the act of throwing a party in celebration of an achievement and the stuff you are likely to find at such a shindig.

    Mazel tov!
    This expression of congratulations and best wishes comes from the Hebrew term literally meaning “good luck.” Though many reserve the English good luck for before a big event, you can cheer mazel tov to wish someone good fortune or to say congratulations.

    Mazel tov appeared in the 1600s spelled as missal tob but was rendered in English as mazel tov by the 1900s. Whatever transliteration you prefer, the term has been lovingly said ever since.

    Felicitations!
    If you want to stand out from the crowd of people offering their congratulations, try roaring felicitations. This less common expression of congratulations ultimately comes from the Latin felix, “happy.” English speakers have been using the singular form of this term (meaning “an act of congratulation”) since the early 1700s.

    So, if you want to be original (or sound old-fashioned) in wishing your congratulations, reach for a felicitous felicitations!

    congratulatory adjectives
    You don’t have to think too hard when it comes to saying congratulations. Sometimes, a single adjective will do. All you need to do is shout “Fantastic!”, “Stupendous!”, “Amazing!”, “Incredible!”, or “Spectacular!” This is just the tip of the iceberg when it comes to celebratory adjectives, though. You can use our handy thesaurus to find many more impressive synonyms of these words that you can shout out when you want to signal how much someone has impressed you.

    Keep going!
    What’s more powerful than simply saying congratulations? Encouraging someone to keep pushing ahead and to accomplish more. You’re not only celebrating the accomplishment at hand, but also showing enthusiasm for their future. Keep going!

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Words To Use Instead Of “Congratulations” Congratulations! Joyful times go hand in hand with congratulations. When addressing graduates, newlyweds, or anyone with good news, a hearty “Congratulations!” or a swift “Congrats!” is in order. Congratulants, “people who congratulate,” have been using the pluralized expression congratulations, which stems from the Latin gratus meaning “pleasing,” since the 1600s. The singular noun meaning “the act of congratulating” has been around since the late 1500s. Props! When congratulations are in order, the term props might come up. This slang shortening of proper arose in the 1990s and refers to respect and esteem. In addition to giving and receiving props as recognition, you can do someone a prop to help them out. In the 1995 film Clueless, Cher notices that Josh is dancing with Tai, despite the fact that he never dances, to make her feel included. Cher explains: “He’s doing her a prop so she won’t feel left out.” Way to go! If you admire someone’s grit and hustle, you can use this sporty method of congratulations. This active phrase has been traced back to the 1940s, when it was used in sports to congratulate a person or team on a great performance. In the 1960s, it began to be used more generally to refer to any kind of achievement. If “Way to go!” doesn’t do it for you, some peppy alternatives include “Great job,” “Nice going,” “You rock,” and “You rule!” Nailed it! This handy phrase really hits the nail on the head when you want to give someone their due. Nailed it has been traced back to at least the 1970s and metaphorically refers to the act of successfully hitting a nail with a hammer. In slang, we use a variety of other congratulatory phrases that also refer to forceful impacts or metaphorical violence such as “Killed it,” “Crushed it,” “Destroyed it,” and “Slayed it!” social media cheers Like, follow, and subscribe! Social media platforms all have different ways of congratulating somebody and letting them now how awesome their content is. These include: Twitter: the heart or a retweet Facebook: the thumbs-up on Facebook Instagram: the like YouTube: like, share, subscribe to a channel; hitting the bell icon TikTok: like and follow Snapchat: take a screenshot for later Reddit: upvote; give Reddit Gold/Platinum; or a badge Tumblr: reblog Twitch: subscribe to a channel and/or give a donation GG (Good Game) Shorthand for “good game” in the world of esports, GG is used to congratulate a victorious opponent. Additionally, it’s used to politely concede a match or admit defeat, most commonly in the realm of professional StarCraft. It’s all about the humble loss. Not everybody is a good sport, though, and the phrase GG EZ (“easy,” as in an easy win) is often used in a mean-spirited way to put down a defeated opponent. Three cheers! Three cheers is generally followed by “for” and the name of the person or thing being celebrated. A person being cheers-ed might also respond to a toast of three cheers with the word … cheers, which, especially in the UK, can mean “thanks.” That’s a lot of cheers. The term cheer entered English in the late 12th or early 13th century, and ultimately comes from the Greek word kárā meaning “head.” Hip, hip, hooray! For some Victorian flair, opt for the ever-cheery hip, hip, hooray (or hurrah). This expression of uncertain origin surfaced in the early 1800s, though the exclamation hip had been used since the mid-1700s. Hip repeated three times was used as a noun in the 1800s to refer to a collective cheer. But, let’s not forget about hooray, a variant of hurrah. This exclamation dates from the late 1600s and is very similar to shouts in German, Danish, Swedish, and even Russian. Someone’s last hurrah is their “final moment or occasion of glory or achievement.” Kudos! Though it sounds colloquial, kudos finds its roots in the hallowed halls of academic institutions. At the turn of the 1800s, academics transliterated the Greek kydos, meaning “praise or renown.” By the 1920s, kudos had spread beyond the walls of universities and into the columns of newspapers. Don’t be fooled by the S at the end of kudos; the word is, in fact, a singular noun. However, enough English speakers have erroneously interpreted it as plural for so long that already by the 1930s, the back formation singular kudo arose. Grammar sticklers avoid using kudo as a singular and kudos as a plural, though both forms can be found in popular usage. Hats off! The phrase hats off, while often said to graduates wearing the illustrious cap and gown, has nothing to do with the tradition of tossing hats in the air in celebration. This phrase, dating back to the 1600s, harks back to the custom of uncovering the head as a sign of respect. Etiquette expert Emily Post advised gentlemen on the many situations in which they must remove hats to maintain politeness. In 1922 she wrote: “A gentleman takes off his hat and holds it in his hand when a lady enters the elevator.” He also lifts his hat whenever he asks a question or says “Excuse me.” You know, maybe we could all stand a little formality these days … a round of applause The act of clapping one’s hands together to show acclaim is actually much older than you might think. Scholars are unsure of the exact origin, but we have evidence that even the ancient Romans would show their appreciation by clapping their hands. In fact, the word plaudits (which means an expression of approval) comes from the Latin verb plaudere, meaning to clap one’s hands. The verb applause is also based on this Latin verb. Today, the highest form of applause is the standing ovation, where every member of the audience rises to their feet and applauds. Any performer who manages to please an audience enough to cause them to stretch their legs a bit certainly deserves a big hand. congratulatory emoji Sometimes, it is better to use pictures rather than words to congratulate someone. In texting and on social media, many different emoji are used to give somebody a pat on the back after a job well done. The Clapping Hands emoji 👏 is used to refer to a round of applause and the Trophy emoji 🏆 references the shiny knickknacks we give to people who have accomplished something. The Party Popper emoji 🎉, Confetti Ball emoji 🎊, Partying Face emoji 🥳, and Bottle with Popping Cork emoji 🍾 are also commonly used to congratulate someone. These party animals refer to the act of throwing a party in celebration of an achievement and the stuff you are likely to find at such a shindig. Mazel tov! This expression of congratulations and best wishes comes from the Hebrew term literally meaning “good luck.” Though many reserve the English good luck for before a big event, you can cheer mazel tov to wish someone good fortune or to say congratulations. Mazel tov appeared in the 1600s spelled as missal tob but was rendered in English as mazel tov by the 1900s. Whatever transliteration you prefer, the term has been lovingly said ever since. Felicitations! If you want to stand out from the crowd of people offering their congratulations, try roaring felicitations. This less common expression of congratulations ultimately comes from the Latin felix, “happy.” English speakers have been using the singular form of this term (meaning “an act of congratulation”) since the early 1700s. So, if you want to be original (or sound old-fashioned) in wishing your congratulations, reach for a felicitous felicitations! congratulatory adjectives You don’t have to think too hard when it comes to saying congratulations. Sometimes, a single adjective will do. All you need to do is shout “Fantastic!”, “Stupendous!”, “Amazing!”, “Incredible!”, or “Spectacular!” This is just the tip of the iceberg when it comes to celebratory adjectives, though. You can use our handy thesaurus to find many more impressive synonyms of these words that you can shout out when you want to signal how much someone has impressed you. Keep going! What’s more powerful than simply saying congratulations? Encouraging someone to keep pushing ahead and to accomplish more. You’re not only celebrating the accomplishment at hand, but also showing enthusiasm for their future. Keep going! Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 457 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูติน: รัสเซียจะสร้างทุกอย่างที่ถูกทำลายขึ้นมาใหม่, ในพื้นที่ชายแดน

    รัสเซียจะค่อยๆฟื้นฟูและสร้างทุกอย่างที่ได้รับความเสียหายในพื้นที่ชายแดนขึ้นมาใหม่และในพื้นที่ชายแดน ในขณะที่ยังคงให้ความสำคัญกับการสนับสนุนผู้ผลิตสินค้าเกษตรในท้องถิ่นและสร้างเงื่อนไขเพื่อปลดล็อกศักยภาพทางการเกษตรของดินแดนประวัติศาสตร์ของประเทศ, ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันอาทิตย์

    “เราจะยังคงให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่คุณต่อไปเป็นลำดับแรก เราจะฟื้นฟูและสร้างทุกอย่างที่ถูกทำลายหรือเสียหายขึ้นมาใหม่ทีละขั้นตอน และ, แน่นอนว่า, เราจะสร้างเงื่อนไขเพื่อเติมเต็มศักยภาพทางการเกษตรอันอุดมสมบูรณ์ของดินแดนประวัติศาสตร์ของเราที่ได้กลับมารวมกับรัสเซียอีกครั้ง,” ปูตินกล่าวในคำปราศรัยต่อเกษตรกรในโอกาสวันหยุดนักขัตฤกษ์

    ปูตินแสดงความขอบคุณเกษตรกรในพื้นที่ชายแดนใหม่และเป็นพิเศษสำหรับงานของพวกเขา, โดยระบุว่า ความกล้าหาญและความทุ่มเทในการทำงานของพวกเขาสมควรได้รับความเคารพอย่างสูง

    วันแรงงานในอุตสาหกรรมการเกษตรและการแปรรูปมีการเฉลิมฉลองในรัสเซียเป็นประจำทุกปีในวันอาทิตย์ที่สองของเดือนตุลาคม
    .
    Putin: Russia will rebuild everything destroyed in new, border regions

    Russia will gradually restore and rebuild everything that has been damaged in the new and border regions while continuing to prioritize support for local agricultural producers and creating conditions to unlock the agricultural potential of the country’s historical territories, Russian President Vladimir Putin said Sunday.

    “We will continue to provide you with the necessary assistance as a priority. Step by step we will certainly restore and rebuild everything that has been destroyed or damaged. And, of course, we will create the conditions to fulfill the rich agricultural potential of our historical territories that have reunited with Russia,” Putin said in his address to farmers on the occasion of their professional holiday.

    Putin expressed a special thanks to farmers in the new and border regions for their work, noting that their courage and dedication to their tasks deserve the highest respect.

    Agricultural and Processing Industry Workers' Day is celebrated in Russia annually on the second Sunday of October.
    .
    5:28 AM · Oct 13, 2024 · 4,378 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1845230180148695355
    ปูติน: รัสเซียจะสร้างทุกอย่างที่ถูกทำลายขึ้นมาใหม่, ในพื้นที่ชายแดน รัสเซียจะค่อยๆฟื้นฟูและสร้างทุกอย่างที่ได้รับความเสียหายในพื้นที่ชายแดนขึ้นมาใหม่และในพื้นที่ชายแดน ในขณะที่ยังคงให้ความสำคัญกับการสนับสนุนผู้ผลิตสินค้าเกษตรในท้องถิ่นและสร้างเงื่อนไขเพื่อปลดล็อกศักยภาพทางการเกษตรของดินแดนประวัติศาสตร์ของประเทศ, ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ “เราจะยังคงให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่คุณต่อไปเป็นลำดับแรก เราจะฟื้นฟูและสร้างทุกอย่างที่ถูกทำลายหรือเสียหายขึ้นมาใหม่ทีละขั้นตอน และ, แน่นอนว่า, เราจะสร้างเงื่อนไขเพื่อเติมเต็มศักยภาพทางการเกษตรอันอุดมสมบูรณ์ของดินแดนประวัติศาสตร์ของเราที่ได้กลับมารวมกับรัสเซียอีกครั้ง,” ปูตินกล่าวในคำปราศรัยต่อเกษตรกรในโอกาสวันหยุดนักขัตฤกษ์ ปูตินแสดงความขอบคุณเกษตรกรในพื้นที่ชายแดนใหม่และเป็นพิเศษสำหรับงานของพวกเขา, โดยระบุว่า ความกล้าหาญและความทุ่มเทในการทำงานของพวกเขาสมควรได้รับความเคารพอย่างสูง วันแรงงานในอุตสาหกรรมการเกษตรและการแปรรูปมีการเฉลิมฉลองในรัสเซียเป็นประจำทุกปีในวันอาทิตย์ที่สองของเดือนตุลาคม . Putin: Russia will rebuild everything destroyed in new, border regions Russia will gradually restore and rebuild everything that has been damaged in the new and border regions while continuing to prioritize support for local agricultural producers and creating conditions to unlock the agricultural potential of the country’s historical territories, Russian President Vladimir Putin said Sunday. “We will continue to provide you with the necessary assistance as a priority. Step by step we will certainly restore and rebuild everything that has been destroyed or damaged. And, of course, we will create the conditions to fulfill the rich agricultural potential of our historical territories that have reunited with Russia,” Putin said in his address to farmers on the occasion of their professional holiday. Putin expressed a special thanks to farmers in the new and border regions for their work, noting that their courage and dedication to their tasks deserve the highest respect. Agricultural and Processing Industry Workers' Day is celebrated in Russia annually on the second Sunday of October. . 5:28 AM · Oct 13, 2024 · 4,378 Views https://x.com/SputnikInt/status/1845230180148695355
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิ่งที่เมนทอร์กล้าบอกคุณ (ซึ่งเพื่อนและเจ้านายไม่อยากบอก)
    โดย Penny Herscher ซีอีโอของ FirstRain

    ความจริงอาจเจ็บปวด แต่จําเป็นต้องได้ยินเมื่อต้องการก้าวหน้าในอาชีพ

    MPW Insider เป็นชุมชนออนไลน์ที่ชื่อที่ใหญ่ที่สุดในธุรกิจได้นำเสนอสาระในด้านอาชีพและความเป็นผู้นํา โดยหัวข้อที่นำเสนอว่าด้วยเรื่องความสำคัญของเมนทอร์ (Why is it important to have a mentor?) เขียนโดย Penny Herscher ซีอีโอของ FirstRain

    ความจริงเจ็บปวดแต่ก็เป็นสิ่งสําคัญที่สุดที่คุณต้องทราบเมื่อคุณเมื่อต้องการก้าวหน้าในอาชีพ ซึ่งแตกต่างจากการที่มีผู้สนับสนุนคุณในขณะที่คุณกำลังจะเลื่อนตําแหน่ง ส่วนเมนทอร์จะให้คําแนะนําที่ดูเหมือนไม่ถูกใจคุณ แต่สิ่งนี้จะเป็นคําแนะนําที่มีค่าอย่างแท้จริงที่เพื่อนๆ หรือแม้กระทั่งเจ้านายของคุณไม่มีใครอยากบอกคุณแต่คุณจําเป็นต้องรู้!!!

    คำถามที่น่าสนใจคือทําไมคุณถึงต้องการเมนทอร์เพื่อบอกความจริงกับคุณ (แม้ว่ามันจะเจ็บปวดก็ตาม)?

    หากคุณเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่ ที่มีความทะเยอทะยาน คุณอาจมีไอคิวสูงกว่าค่าเฉลี่ย และสามารถรับมือได้เมื่อต้องเผชิญกับคําวิจารณ์ แต่สิ่งนี้และที่เป็นพฤติกรรมประเภทที่กีดกันผู้คนจากการให้ข้อเสนอแนะแก่คุณ บ่อยครั้งที่คนที่ประสบความสําเร็จมองไม่เห็นความผิดพลาดของตน และยุ่งกับการพุ่งไปข้างหน้าจนไม่ยอมให้ตัวเองเห็นความผิดพลาดของตัวเอง

    แต่หากคุณมีเมนทอร์ที่คุณรู้ว่าต้องการเห็นคุณประสบความสําเร็จ คุณก็สามารถเติบโตจากความคิดเห็นของเมนทอร์ได้ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้:
    -เมนทอร์สามารถดูคุณในการประชุมและแบ่งปันข้อมูลป้อนกลับแก่คุณคุณเกี่ยวกับพฤติกรรมและน้ําเสียงของคุณ
    -เมนทอร์สามารถฟังคุณบ่นและอธิบายเหตุผลต่างๆนานาที่เป็นอัตตาตัวตนของคุณ
    -เมนทอร์ท้าทายการขาดความมั่นใจของคุณและพูดคุยว่าเหตุใดการยืนหยัดจึงมีความสำคัญสําคัญ
    -เมนทอร์ให้กําลังใจคุณเมื่อคุณเหนื่อยล้า หมดพลังและใกล้จะยอมแพ้

    จากประสบการณ์ของ Penny Herscher ซีอีโอของ FirstRain พบว่าเมนทอร์คือเชียร์ลีดเดอร์ที่ซื่อสัตย์ ซึ่งบอกกล่าวต่อเธอเมื่อเธอมีสิ่งที่น่ารังเกียจ ไม่ยุติธรรม หรืออ่อนแอ และผลักดันเธอไปข้างหน้าเมื่อเธอมีความสงสัยในตนเอง ตัวอย่างเช่น เธอสงสัยว่าตัวเธอเองจะมีโอกาสได้เป็น CEO ด้านเทคโนโลยีได้หรือ แต่ถึงตอนนี้เธอประสบความสําเร็จ และส่วนหนึ่งจากเมนทอร์ของเธอ Harvey และ Bob

    บทความส่วนหนึ่งจาก WWW.FORTUNE.COM

    ในวงการพัฒนาศักยภาพในประเทศไทยการเมนทอร์ มีการกล่าวถึงแบบรวมๆ และยังไม่พบว่ามีผู้ให้บริการด้านการพัฒนาศักยภาพ เผยแพร่ให้ข้อมูล – ให้บริการด้วยกระบวนการที่เป็นมาตรฐานสากล แบรนด์ 10X Consulting แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป เป็นผู้ให้บริการด้านการพัฒนาศักยภาพแบรนด์แรกในไทยที่เป็นองค์กรที่ได้รับการรับรอง (Accredited Training Organisation (ATO)) จาก International Mentoring Center (IMC) และ ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์ พรหมบุตร และ ดร.ศรินนา แก้วสีเคน ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป ได้รับการรับรองเป็น Certified Professional Mentor (CPM) )) จาก International Mentoring Center (IMC) https://credentials.mentoringcenter.org/credentials/928f9622-f4a1-4926-a585-cac209a32d15

    องค์กร/ผู้นำที่สนใจข้อมูลการบริการเมนทอร์ และการพัฒนาศักยภาพ ความรู้ และทักษะ สร้างเมนทอร์ในองค์กรติดต่อได้ที่ email : wasit@10-xconsulting.com
    สิ่งที่เมนทอร์กล้าบอกคุณ (ซึ่งเพื่อนและเจ้านายไม่อยากบอก) โดย Penny Herscher ซีอีโอของ FirstRain ความจริงอาจเจ็บปวด แต่จําเป็นต้องได้ยินเมื่อต้องการก้าวหน้าในอาชีพ MPW Insider เป็นชุมชนออนไลน์ที่ชื่อที่ใหญ่ที่สุดในธุรกิจได้นำเสนอสาระในด้านอาชีพและความเป็นผู้นํา โดยหัวข้อที่นำเสนอว่าด้วยเรื่องความสำคัญของเมนทอร์ (Why is it important to have a mentor?) เขียนโดย Penny Herscher ซีอีโอของ FirstRain ความจริงเจ็บปวดแต่ก็เป็นสิ่งสําคัญที่สุดที่คุณต้องทราบเมื่อคุณเมื่อต้องการก้าวหน้าในอาชีพ ซึ่งแตกต่างจากการที่มีผู้สนับสนุนคุณในขณะที่คุณกำลังจะเลื่อนตําแหน่ง ส่วนเมนทอร์จะให้คําแนะนําที่ดูเหมือนไม่ถูกใจคุณ แต่สิ่งนี้จะเป็นคําแนะนําที่มีค่าอย่างแท้จริงที่เพื่อนๆ หรือแม้กระทั่งเจ้านายของคุณไม่มีใครอยากบอกคุณแต่คุณจําเป็นต้องรู้!!! คำถามที่น่าสนใจคือทําไมคุณถึงต้องการเมนทอร์เพื่อบอกความจริงกับคุณ (แม้ว่ามันจะเจ็บปวดก็ตาม)? หากคุณเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่ ที่มีความทะเยอทะยาน คุณอาจมีไอคิวสูงกว่าค่าเฉลี่ย และสามารถรับมือได้เมื่อต้องเผชิญกับคําวิจารณ์ แต่สิ่งนี้และที่เป็นพฤติกรรมประเภทที่กีดกันผู้คนจากการให้ข้อเสนอแนะแก่คุณ บ่อยครั้งที่คนที่ประสบความสําเร็จมองไม่เห็นความผิดพลาดของตน และยุ่งกับการพุ่งไปข้างหน้าจนไม่ยอมให้ตัวเองเห็นความผิดพลาดของตัวเอง แต่หากคุณมีเมนทอร์ที่คุณรู้ว่าต้องการเห็นคุณประสบความสําเร็จ คุณก็สามารถเติบโตจากความคิดเห็นของเมนทอร์ได้ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้: -เมนทอร์สามารถดูคุณในการประชุมและแบ่งปันข้อมูลป้อนกลับแก่คุณคุณเกี่ยวกับพฤติกรรมและน้ําเสียงของคุณ -เมนทอร์สามารถฟังคุณบ่นและอธิบายเหตุผลต่างๆนานาที่เป็นอัตตาตัวตนของคุณ -เมนทอร์ท้าทายการขาดความมั่นใจของคุณและพูดคุยว่าเหตุใดการยืนหยัดจึงมีความสำคัญสําคัญ -เมนทอร์ให้กําลังใจคุณเมื่อคุณเหนื่อยล้า หมดพลังและใกล้จะยอมแพ้ จากประสบการณ์ของ Penny Herscher ซีอีโอของ FirstRain พบว่าเมนทอร์คือเชียร์ลีดเดอร์ที่ซื่อสัตย์ ซึ่งบอกกล่าวต่อเธอเมื่อเธอมีสิ่งที่น่ารังเกียจ ไม่ยุติธรรม หรืออ่อนแอ และผลักดันเธอไปข้างหน้าเมื่อเธอมีความสงสัยในตนเอง ตัวอย่างเช่น เธอสงสัยว่าตัวเธอเองจะมีโอกาสได้เป็น CEO ด้านเทคโนโลยีได้หรือ แต่ถึงตอนนี้เธอประสบความสําเร็จ และส่วนหนึ่งจากเมนทอร์ของเธอ Harvey และ Bob บทความส่วนหนึ่งจาก WWW.FORTUNE.COM ในวงการพัฒนาศักยภาพในประเทศไทยการเมนทอร์ มีการกล่าวถึงแบบรวมๆ และยังไม่พบว่ามีผู้ให้บริการด้านการพัฒนาศักยภาพ เผยแพร่ให้ข้อมูล – ให้บริการด้วยกระบวนการที่เป็นมาตรฐานสากล แบรนด์ 10X Consulting แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป เป็นผู้ให้บริการด้านการพัฒนาศักยภาพแบรนด์แรกในไทยที่เป็นองค์กรที่ได้รับการรับรอง (Accredited Training Organisation (ATO)) จาก International Mentoring Center (IMC) และ ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์ พรหมบุตร และ ดร.ศรินนา แก้วสีเคน ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting แบรนด์ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป ได้รับการรับรองเป็น Certified Professional Mentor (CPM) )) จาก International Mentoring Center (IMC) https://credentials.mentoringcenter.org/credentials/928f9622-f4a1-4926-a585-cac209a32d15 องค์กร/ผู้นำที่สนใจข้อมูลการบริการเมนทอร์ และการพัฒนาศักยภาพ ความรู้ และทักษะ สร้างเมนทอร์ในองค์กรติดต่อได้ที่ email : wasit@10-xconsulting.com
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • Thrilled to have earned my Certified Professional Mentor (CPM) credential from International Mentoring Center! Looking forward to applying this knowledge.

    อีกหนึ่งใน Milestone ด้านวิชาชีพ วันนี้ได้รับข่าวดีที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้รับใบรับรอง Certified Professional Mentor (CPM) จาก International Mentoring Center! ตั้งตารอที่จะนำความรู้เหล่านี้ไปใช้

    https://credentials.mentoringcenter.org/credentials/928f9622-f4a1-4926-a585-cac209a32d15

    ยินดีรับใช้ในทุกหน่วยงานครับ
    #lifelonglearning
    #achievement
    #certifier
    Thrilled to have earned my Certified Professional Mentor (CPM) credential from International Mentoring Center! Looking forward to applying this knowledge. อีกหนึ่งใน Milestone ด้านวิชาชีพ วันนี้ได้รับข่าวดีที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้รับใบรับรอง Certified Professional Mentor (CPM) จาก International Mentoring Center! ตั้งตารอที่จะนำความรู้เหล่านี้ไปใช้ https://credentials.mentoringcenter.org/credentials/928f9622-f4a1-4926-a585-cac209a32d15 ยินดีรับใช้ในทุกหน่วยงานครับ #lifelonglearning #achievement #certifier
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • ❗️ หน่วยข่าวกรองของรัสเซียมีข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมโดยตรงของ #สหรัฐฯ และ #อังกฤษ ในเหตุระเบิดที่ #นอร์ดสตรีม – เซอร์เกย์ นารีชกิน, ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย

    “ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าผู้ก่อวินาศกรรมมืออาชีพจากหน่วยข่าวกรองแองโกล-แซกซอนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่นอร์ดสตรีม”, เซอร์เกย์ นารีชกิน กล่าว, ในการประชุมสภาหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยบริการพิเศษของประเทศสมาชิก CIS (อัสตานา, ๔ ตุลาคม ๒๐๒๔)

    เขายังเน้นย้ำว่าฝ่ายบริหารของ #สหรัฐฯ ถือว่าการทำลายนอร์ดสตรีมเป็นสิ่งที่ถูกต้อง “เพื่อให้แน่ใจว่ายุโรป, โดยเฉพาะเยอรมนี, จะแยกตัวออกจากรัสเซีย”
    .
    ❗️ Russian Intelligence Service has reliable information about the direct involvement of the #US and #Britain in the #NordStream blasts – Sergey Naryshkin, director of Russia’s Foreign Intelligence Service

    “Data shows that professional saboteurs from Anglo-Saxon intelligence services were involved in the Nord Stream explosions”, Sergey Naryshkin stated, speaking at a meeting of the Council of Heads of Security Bodies and Special Services of the CIS member states (Astana, 4 October 2024).

    He also stressed that the #US administration considered it justified destroying Nord Stream “to ensure that Europe, especially Germany, breaks away from Russia.”
    .
    4:16 PM · Oct 8, 2024 · 95K Views
    https://x.com/EmbassyofRussia/status/1843581224196919717
    ❗️ หน่วยข่าวกรองของรัสเซียมีข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมโดยตรงของ #สหรัฐฯ และ #อังกฤษ ในเหตุระเบิดที่ #นอร์ดสตรีม – เซอร์เกย์ นารีชกิน, ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย “ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าผู้ก่อวินาศกรรมมืออาชีพจากหน่วยข่าวกรองแองโกล-แซกซอนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่นอร์ดสตรีม”, เซอร์เกย์ นารีชกิน กล่าว, ในการประชุมสภาหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยบริการพิเศษของประเทศสมาชิก CIS (อัสตานา, ๔ ตุลาคม ๒๐๒๔) เขายังเน้นย้ำว่าฝ่ายบริหารของ #สหรัฐฯ ถือว่าการทำลายนอร์ดสตรีมเป็นสิ่งที่ถูกต้อง “เพื่อให้แน่ใจว่ายุโรป, โดยเฉพาะเยอรมนี, จะแยกตัวออกจากรัสเซีย” . ❗️ Russian Intelligence Service has reliable information about the direct involvement of the #US and #Britain in the #NordStream blasts – Sergey Naryshkin, director of Russia’s Foreign Intelligence Service “Data shows that professional saboteurs from Anglo-Saxon intelligence services were involved in the Nord Stream explosions”, Sergey Naryshkin stated, speaking at a meeting of the Council of Heads of Security Bodies and Special Services of the CIS member states (Astana, 4 October 2024). He also stressed that the #US administration considered it justified destroying Nord Stream “to ensure that Europe, especially Germany, breaks away from Russia.” . 4:16 PM · Oct 8, 2024 · 95K Views https://x.com/EmbassyofRussia/status/1843581224196919717
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • Person-First Language vs. Identity-First Language: Which Should You Use?

    There’s a term for choosing to say people with disabilities instead of disabled people, and vice versa. People with disabilities is an example of what’s called person-first language, while terms like disabled people are sometimes called identity-first language.

    Person-first language is widely encouraged in many contexts as a way to avoid defining a person solely by their disability, condition, or physical difference. However, not everyone prefers it. Some people instead prefer identity-first language as a way of emphasizing what they consider an important part of their identity.

    In this article, we’ll:

    Define person-first language and identity-first language in detail.
    Provide several examples of each in many of the different contexts in which they’re used, including for people who are autistic, blind, deaf, and those who have other disabilities, medical conditions (including mental health conditions), and bodily differences.
    Discuss the varying preferences for such language and some of the reasons behind those preferences.
    Explain how approaches can differ based on whether you know a person’s specific disability or condition or whether you’re referring to an individual or a community of people.


    Quick summary

    Person-first language introduces a person before any description of them. Examples include person with a disability, patient with cancer, and child who has cerebral palsy. Person-first language is intended to emphasize the fullness of a person and to avoid defining them exclusively by their disability or condition. Identity-first language involves stating a descriptor of a person first, as in autistic person and blind child. This is often done with the idea that the characteristic in question is an integral part of a person’s identity and community membership and should be emphasized rather than minimized.

    Person-first language is preferred and encouraged in many contexts, especially medical care. However, some people prefer identity-first language—notably many members of the blind, deaf, and autistic communities. Still, preferences around such approaches vary widely, even among people within the same community. The best approach is always to respect people’s choices about the language they use for themselves.

    First, a note about disabled and disability

    First and foremost, remember that in many cases it’s not relevant or necessary to discuss or point out a person’s disability at all. Regardless of what language preferences people have, every person wants to be treated as just that—a person (which is one of the motivating ideas behind person-first language). However, that doesn’t mean that disability is inherently negative, unmentionable, or something that must be politely ignored (which are some of the notions that identity-first language pushes back on).

    When discussion of a disability or other condition is pertinent, it is often preferable to name the person’s specific disability or condition, such as paraplegia or diabetes. However, when addressing an issue that affects a larger community of people—for example, when discussing accessibility in the workplace—disabled and disability are often the preferred terms. Our new usage notes within the entries for these terms reflect this. (Some people object to the terms disabled and disability in and of themselves, but that won’t be the focus of this article, nor will other, more specific terms that are now considered outdated and offensive.)

    What is person-first language?

    The term person-first language refers to wording that introduces a person first and then follows with a descriptor in relation to a disability, medical condition (including mental health conditions), or other physical or cognitive difference. Person-first language often literally uses the word person (or persons or people) as the first part of referring to someone, as in person with a disability or people with dwarfism. Of course, the term that refers to the person is often more specific, such as child, adult, patient, or a term specifying a person’s nationality. Such terms can also be used in identity-first language, which will be discussed in the next section. (Person-first language is not to be confused with the grammatical and literary term first person, which is the point of view in which a speaker or writer refers to themself: I, me, we, and us are first-person pronouns.)

    Person-first language is used in many different contexts, including disability, medical conditions and diseases, physical and cognitive differences, and addiction and substance use, among others.

    The intent of person-first language is often understood as being to acknowledge a person as a full, complex individual. This is done to avoid defining them solely by their disability, condition, or physical or mental attributes, which can have the effect of dehumanizing them, creating negative stigmas, or producing the false assumption that a disability or condition affects all people in the same way.

    Promotion of person-first language is often traced back to the People First Movement that began in the late 1960s. Person-first language became more widespread in the 1990s. Awareness and use of it is thought to have increased in part as a result of the 1990 Americans with Disabilities Act (ADA), a landmark piece of federal legislation that, among many other changes, established such language as the preferred wording in many government documents and communications (a preference that continues today).

    Person-first language has largely become the preferred approach in medical contexts. Major health organizations, such as the World Health Organization and the US Centers for Disease Control and Prevention, use and state preferences for person-first language, as do the style guides of the American Medical Association and the American Psychological Association. However, many style guides also emphasize that a person’s personal preference should always come first. Still, many people strongly prefer identity-first language.

    What is identity-first language?

    The term identity-first language refers to wording about a person that leads with a description of them in the context of a disability, medical conditions (including mental health conditions), or other physical or cognitive difference. Examples include terms like deaf person, blind person, and autistic person.

    Such labels are sometimes considered offensive due to emphasizing a characteristic as if it’s all that matters about the person. However, some people prefer such terms because they consider the characteristic being referred to as an inseparable part of their identity—hence the use of the word identity in the term.

    By those who prefer it when referring to themselves, identity-first language is often considered a way to show pride in who they are and their membership in a community of like people.

    This is especially the case in the context of disability. In this context, identity-first language is often viewed as functioning to center a person’s disability, in contrast with the approach of person-first language, which is sometimes interpreted as minimizing such characteristics out of the assumption that they are inherently negative. Notably, significant portions of the deaf, blind, and autistic communities prefer identity-first language. However, not everyone shares this preference.

    Examples of person-first and identity-first language

    In this section, we’ll provide side-by-side examples of person-first language and identity-first language along with notes about use and preferences. This is a collection of common examples grouped by context, not a comprehensive list of all possible terms.

    Due to the nature of their construction, examples of person-first language are always multiple-word phrases, as in person with AIDS or individuals with disabilities.

    Identity-first language also often consists of phrases, but some terms that may be considered examples of identity-first language are single words. For example, some people who have had limbs amputated prefer to be called amputees. Many such examples (single-word nouns used to refer to people) are now usually considered inappropriate and offensive, especially those once used in the context of mental health. Some will be discussed below.

    Disability

    In the general discussion of people with disabilities, person-first language is the most widely preferred approach. However, this preference is not universal.

    person-first example: person with a disability
    identity-first example: disabled person

    person-first examples: person with paraplegia; person with quadriplegia
    identity-first examples: When used as nouns to refer to people, terms like paraplegic and quadriplegic are now widely avoided, though some people may prefer them when referring to themselves.

    person-first example: person with an intellectual disability; person with a cognitive disability
    identity-first example: intellectually disabled person; cognitively disabled person. Such terms are now less commonly used, but may be preferred by some.

    The autism spectrum

    In the context of autism, there is significant, strong, and growing preference for identity-first language, despite some advocacy organizations historically recommending person-first language. Among those who prefer identity-first language, one commonly stated reason is that they consider autism a major part of their identity and not something to be ashamed of or treated as something that needs to be “cured.” Still, some people prefer person-first language.

    person-first examples: a person with autism; an adult on the autism spectrum
    identity-first examples: autistic person; autistic individual. The use of autistic as a noun is preferred by many as a way to refer to themselves, but is considered offensive by others.

    Deafness

    Identity-first language has also been largely embraced by the Deaf community. (The word Deaf is often capitalized when it’s used in reference to things related to Deaf culture.) Identity-first language is promoted by many major organizations, such as the National Association of the Deaf, the National Deaf Center, and the World Federation of the Deaf. Still, some people prefer person-first language.

    person-first example: a person who is deaf
    identity-first examples: deaf person; deaf Americans; Deaf community

    Blindness

    Though preferences vary, identity-first language is widely preferred and promoted by individuals and organizations in the blind community, including the National Federation of the Blind, the Royal National Institute of Blind People, and various state commissions for the blind and visually impaired.

    person-first example: a person who is blind
    identity-first examples: blind person; blind adult

    Dwarfism and short stature

    Organizations centered around people with dwarfism often use both person-first and identity-first terms. Preferences among individuals, of course, can vary.

    person-first examples: a person who has dwarfism; people of short stature
    identity-first examples: dwarf; little person

    Additional medical and mental health contexts

    Person-first language is now widely preferred and promoted in the context of medicine by medical professionals, organizations, and advocacy groups. Such language is intended to avoid equating patients with their diseases or conditions (such as with now avoided phrasings like cancer patient or AIDS patient), which research has shown can lead to stigmatization, overgeneralization, and worse health outcomes.

    person-first examples: patient with AIDS; child with cancer; person with diabetes; person with epilepsy
    identity-first examples: When used as nouns to refer to people, terms like diabetic and epileptic are now widely avoided, though some people may prefer them when referring to themselves.

    Person-first language is now also widely preferred and promoted in the context of medical professionals who address mental health conditions. It is especially recommended to replace terms that use a condition as a noun to refer to someone (such as the noun uses of schizophrenic or bulimic) with person-first language.

    person-first examples: a person with schizophrenia; a patient with psychosis; people with eating disorders

    Other contexts

    As with the wider field of medical care, person-first language is widely preferred in the context of drug and substance addiction, in which such terms are recommended to replace stigmatizing words like addict and alcoholic.

    person-first examples: a person with alcohol use disorder; people with substance use disorders

    For similar reasons, person-first language is also commonly used by organizations and advocates focused on suicide prevention. Such language is thought to help destigmatize the issue and emphasize a person’s humanity, rather than treating them as a statistic.

    person-first examples: a person experiencing thoughts of suicide; people impacted by suicide

    Collective terms

    Collective terms for certain groups often fall under the classification of identity-first language. Examples include the blind, the deaf, and the disabled. While such terms are preferred by some (and used in the names of some major organizations), they are considered offensive by others who believe that such terms are a barrier to treating members of such groups as individuals.

    Should I use person-first or identity-first language?

    The answer to this question is that there is no single, permanent answer. Person-first and identity-first language continue to evolve, and preferences vary from person to person and differ among different communities and organizations.

    In the context of medicine and mental health, person-first language is widely preferred and recommended, especially due to evidence that it contributes to better health outcomes and reduces stigmatization. Still, identity-first language may be preferred in certain situations or among people who consider their condition as an inseparable part of their identity.

    Notably, many members of the blind, deaf, and autistic communities (among some others) now prefer and promote identity-first language, arguing that such characteristics are an integral part of their identities that should be proudly emphasized, not treated as negatives or limitations. Identity-first language is also sometimes favored due to emphasizing membership in a community.

    Generally speaking, some people are fine with others referring to them with either person-first or identify-first language or a combination of both, as long as it is used respectfully. But many other people have strong preferences for one or the other, with valid reasons for each.

    Many style guides recommend person-first language if you do not know someone’s preference, are unable to discover it, or are talking about a certain group generally. However, despite this recommendation, there is one consistent piece of advice that you will find among style guides and advocacy organizations: you should always respect the language that an individual personally uses.

    Notably, the style guide of the National Center on Disability and Journalism, which in the past recommended person-first language as the default choice, now recommends making choices about wording on a case-by-case basis, stating that “no two people are the same—either with regard to disabilities or language preferences.”

    You can always ask a person what type of phrasing they prefer. Remember that discussing a disability, condition, or other physical or intellectual difference is in many cases unnecessary. Most of the time, the first thing you should ask a person is their name.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Person-First Language vs. Identity-First Language: Which Should You Use? There’s a term for choosing to say people with disabilities instead of disabled people, and vice versa. People with disabilities is an example of what’s called person-first language, while terms like disabled people are sometimes called identity-first language. Person-first language is widely encouraged in many contexts as a way to avoid defining a person solely by their disability, condition, or physical difference. However, not everyone prefers it. Some people instead prefer identity-first language as a way of emphasizing what they consider an important part of their identity. In this article, we’ll: Define person-first language and identity-first language in detail. Provide several examples of each in many of the different contexts in which they’re used, including for people who are autistic, blind, deaf, and those who have other disabilities, medical conditions (including mental health conditions), and bodily differences. Discuss the varying preferences for such language and some of the reasons behind those preferences. Explain how approaches can differ based on whether you know a person’s specific disability or condition or whether you’re referring to an individual or a community of people. Quick summary Person-first language introduces a person before any description of them. Examples include person with a disability, patient with cancer, and child who has cerebral palsy. Person-first language is intended to emphasize the fullness of a person and to avoid defining them exclusively by their disability or condition. Identity-first language involves stating a descriptor of a person first, as in autistic person and blind child. This is often done with the idea that the characteristic in question is an integral part of a person’s identity and community membership and should be emphasized rather than minimized. Person-first language is preferred and encouraged in many contexts, especially medical care. However, some people prefer identity-first language—notably many members of the blind, deaf, and autistic communities. Still, preferences around such approaches vary widely, even among people within the same community. The best approach is always to respect people’s choices about the language they use for themselves. First, a note about disabled and disability First and foremost, remember that in many cases it’s not relevant or necessary to discuss or point out a person’s disability at all. Regardless of what language preferences people have, every person wants to be treated as just that—a person (which is one of the motivating ideas behind person-first language). However, that doesn’t mean that disability is inherently negative, unmentionable, or something that must be politely ignored (which are some of the notions that identity-first language pushes back on). When discussion of a disability or other condition is pertinent, it is often preferable to name the person’s specific disability or condition, such as paraplegia or diabetes. However, when addressing an issue that affects a larger community of people—for example, when discussing accessibility in the workplace—disabled and disability are often the preferred terms. Our new usage notes within the entries for these terms reflect this. (Some people object to the terms disabled and disability in and of themselves, but that won’t be the focus of this article, nor will other, more specific terms that are now considered outdated and offensive.) What is person-first language? The term person-first language refers to wording that introduces a person first and then follows with a descriptor in relation to a disability, medical condition (including mental health conditions), or other physical or cognitive difference. Person-first language often literally uses the word person (or persons or people) as the first part of referring to someone, as in person with a disability or people with dwarfism. Of course, the term that refers to the person is often more specific, such as child, adult, patient, or a term specifying a person’s nationality. Such terms can also be used in identity-first language, which will be discussed in the next section. (Person-first language is not to be confused with the grammatical and literary term first person, which is the point of view in which a speaker or writer refers to themself: I, me, we, and us are first-person pronouns.) Person-first language is used in many different contexts, including disability, medical conditions and diseases, physical and cognitive differences, and addiction and substance use, among others. The intent of person-first language is often understood as being to acknowledge a person as a full, complex individual. This is done to avoid defining them solely by their disability, condition, or physical or mental attributes, which can have the effect of dehumanizing them, creating negative stigmas, or producing the false assumption that a disability or condition affects all people in the same way. Promotion of person-first language is often traced back to the People First Movement that began in the late 1960s. Person-first language became more widespread in the 1990s. Awareness and use of it is thought to have increased in part as a result of the 1990 Americans with Disabilities Act (ADA), a landmark piece of federal legislation that, among many other changes, established such language as the preferred wording in many government documents and communications (a preference that continues today). Person-first language has largely become the preferred approach in medical contexts. Major health organizations, such as the World Health Organization and the US Centers for Disease Control and Prevention, use and state preferences for person-first language, as do the style guides of the American Medical Association and the American Psychological Association. However, many style guides also emphasize that a person’s personal preference should always come first. Still, many people strongly prefer identity-first language. What is identity-first language? The term identity-first language refers to wording about a person that leads with a description of them in the context of a disability, medical conditions (including mental health conditions), or other physical or cognitive difference. Examples include terms like deaf person, blind person, and autistic person. Such labels are sometimes considered offensive due to emphasizing a characteristic as if it’s all that matters about the person. However, some people prefer such terms because they consider the characteristic being referred to as an inseparable part of their identity—hence the use of the word identity in the term. By those who prefer it when referring to themselves, identity-first language is often considered a way to show pride in who they are and their membership in a community of like people. This is especially the case in the context of disability. In this context, identity-first language is often viewed as functioning to center a person’s disability, in contrast with the approach of person-first language, which is sometimes interpreted as minimizing such characteristics out of the assumption that they are inherently negative. Notably, significant portions of the deaf, blind, and autistic communities prefer identity-first language. However, not everyone shares this preference. Examples of person-first and identity-first language In this section, we’ll provide side-by-side examples of person-first language and identity-first language along with notes about use and preferences. This is a collection of common examples grouped by context, not a comprehensive list of all possible terms. Due to the nature of their construction, examples of person-first language are always multiple-word phrases, as in person with AIDS or individuals with disabilities. Identity-first language also often consists of phrases, but some terms that may be considered examples of identity-first language are single words. For example, some people who have had limbs amputated prefer to be called amputees. Many such examples (single-word nouns used to refer to people) are now usually considered inappropriate and offensive, especially those once used in the context of mental health. Some will be discussed below. Disability In the general discussion of people with disabilities, person-first language is the most widely preferred approach. However, this preference is not universal. person-first example: person with a disability identity-first example: disabled person person-first examples: person with paraplegia; person with quadriplegia identity-first examples: When used as nouns to refer to people, terms like paraplegic and quadriplegic are now widely avoided, though some people may prefer them when referring to themselves. person-first example: person with an intellectual disability; person with a cognitive disability identity-first example: intellectually disabled person; cognitively disabled person. Such terms are now less commonly used, but may be preferred by some. The autism spectrum In the context of autism, there is significant, strong, and growing preference for identity-first language, despite some advocacy organizations historically recommending person-first language. Among those who prefer identity-first language, one commonly stated reason is that they consider autism a major part of their identity and not something to be ashamed of or treated as something that needs to be “cured.” Still, some people prefer person-first language. person-first examples: a person with autism; an adult on the autism spectrum identity-first examples: autistic person; autistic individual. The use of autistic as a noun is preferred by many as a way to refer to themselves, but is considered offensive by others. Deafness Identity-first language has also been largely embraced by the Deaf community. (The word Deaf is often capitalized when it’s used in reference to things related to Deaf culture.) Identity-first language is promoted by many major organizations, such as the National Association of the Deaf, the National Deaf Center, and the World Federation of the Deaf. Still, some people prefer person-first language. person-first example: a person who is deaf identity-first examples: deaf person; deaf Americans; Deaf community Blindness Though preferences vary, identity-first language is widely preferred and promoted by individuals and organizations in the blind community, including the National Federation of the Blind, the Royal National Institute of Blind People, and various state commissions for the blind and visually impaired. person-first example: a person who is blind identity-first examples: blind person; blind adult Dwarfism and short stature Organizations centered around people with dwarfism often use both person-first and identity-first terms. Preferences among individuals, of course, can vary. person-first examples: a person who has dwarfism; people of short stature identity-first examples: dwarf; little person Additional medical and mental health contexts Person-first language is now widely preferred and promoted in the context of medicine by medical professionals, organizations, and advocacy groups. Such language is intended to avoid equating patients with their diseases or conditions (such as with now avoided phrasings like cancer patient or AIDS patient), which research has shown can lead to stigmatization, overgeneralization, and worse health outcomes. person-first examples: patient with AIDS; child with cancer; person with diabetes; person with epilepsy identity-first examples: When used as nouns to refer to people, terms like diabetic and epileptic are now widely avoided, though some people may prefer them when referring to themselves. Person-first language is now also widely preferred and promoted in the context of medical professionals who address mental health conditions. It is especially recommended to replace terms that use a condition as a noun to refer to someone (such as the noun uses of schizophrenic or bulimic) with person-first language. person-first examples: a person with schizophrenia; a patient with psychosis; people with eating disorders Other contexts As with the wider field of medical care, person-first language is widely preferred in the context of drug and substance addiction, in which such terms are recommended to replace stigmatizing words like addict and alcoholic. person-first examples: a person with alcohol use disorder; people with substance use disorders For similar reasons, person-first language is also commonly used by organizations and advocates focused on suicide prevention. Such language is thought to help destigmatize the issue and emphasize a person’s humanity, rather than treating them as a statistic. person-first examples: a person experiencing thoughts of suicide; people impacted by suicide Collective terms Collective terms for certain groups often fall under the classification of identity-first language. Examples include the blind, the deaf, and the disabled. While such terms are preferred by some (and used in the names of some major organizations), they are considered offensive by others who believe that such terms are a barrier to treating members of such groups as individuals. Should I use person-first or identity-first language? The answer to this question is that there is no single, permanent answer. Person-first and identity-first language continue to evolve, and preferences vary from person to person and differ among different communities and organizations. In the context of medicine and mental health, person-first language is widely preferred and recommended, especially due to evidence that it contributes to better health outcomes and reduces stigmatization. Still, identity-first language may be preferred in certain situations or among people who consider their condition as an inseparable part of their identity. Notably, many members of the blind, deaf, and autistic communities (among some others) now prefer and promote identity-first language, arguing that such characteristics are an integral part of their identities that should be proudly emphasized, not treated as negatives or limitations. Identity-first language is also sometimes favored due to emphasizing membership in a community. Generally speaking, some people are fine with others referring to them with either person-first or identify-first language or a combination of both, as long as it is used respectfully. But many other people have strong preferences for one or the other, with valid reasons for each. Many style guides recommend person-first language if you do not know someone’s preference, are unable to discover it, or are talking about a certain group generally. However, despite this recommendation, there is one consistent piece of advice that you will find among style guides and advocacy organizations: you should always respect the language that an individual personally uses. Notably, the style guide of the National Center on Disability and Journalism, which in the past recommended person-first language as the default choice, now recommends making choices about wording on a case-by-case basis, stating that “no two people are the same—either with regard to disabilities or language preferences.” You can always ask a person what type of phrasing they prefer. Remember that discussing a disability, condition, or other physical or intellectual difference is in many cases unnecessary. Most of the time, the first thing you should ask a person is their name. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 361 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อันตราย” เอามากๆ กับความคิด ความริเริ่ม ของคุณพ่ออเมริกาและพวกพรมเช็ดเท้าแห่งโลกตะวันตก ที่กำลังจะอนุมัติ อนุญาต ให้ “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างยูเครน นำเอาขีปนาวุธพิสัยไกลที่ได้รับการสนับสนุน ประเภท “Storm Shadows” หรือ “ATACMS” อะไรทำนองนั้น โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของหมีขาวรัสเซีย อันเป็นสิ่งที่ผู้นำรัสเซียอย่างประธานาธิบดี “ปูติน” ท่านได้แปลความ อธิบายขยายความ ไว้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน ว่าย่อมหมายถึง “การกระทำให้ NATO คือคู่สงครามโดยตรงกับรัสเซีย” และได้เตือนเอาไว้นิ่มๆ ประมาณว่า “ถ้าหากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริง...เมื่อคำนึงถึงการเปลี่ยนไปของลักษณะความขัดแย้ง เราก็คงต้องตัดสินใจอย่างเหมาะสมต่อภัยคุกคามที่เราจะต้องเผชิญหน้า!!!”

    คือถึงจะเป็นอะไรที่นิ่มๆ...แต่ก็อย่าลืมไปว่าหมีขาวรัสเซียที่ออกจะดุแสนดุนั้น ก็คือ “ชาตินิวเคลียร์” อันดับต้นๆ ของโลก หรืออันดับหนึ่งของโลกเอาเลยก็ว่าได้ ดังนั้น...การที่รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา “นายAntony Blinken” และรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ “นายDavid Lammy” ที่เกี่ยวก้อยไปเยือนประเทศยูเครนกันถึงที่เมื่อไม่กี่วันนี้ จะออกมาพูดด้วยน้ำเสียง หางเสียงเดียวกัน ถึงความเป็นไปได้ที่จะอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ฝ่ายตะวันตกมอบให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย รวมทั้งประธานาธิบดีอเมริกา อย่าง “โจ เอ๋อ” หรือ “โจ ซึมเซา” ที่เหลือเวลาดำรงตำแหน่งแค่อีกไม่กี่เดือนจะออกมาแสดงท่าทีกำๆ กวมๆ ว่ากำลังเร่งพิจารณาเรื่องราวดังกล่าวอย่างเต็มที่ มันจึงแทบไม่ต่างอะไรไปจาก “เด็ก” ที่ชอบเล่นไม้ขีดไฟ ที่กำลังจุดไม้ขีดก้านแล้ว-ก้านเล่า อยู่หน้าโรงงานดินระเบิดซึ่งถูกชโลมไว้ด้วยน้ำมันก๊าด น้ำมันเบนซิน ชนิดอะไรต่อมิอะไรอาจลุกพึ่บๆ พั่บๆ ขึ้นมาได้ง่ายๆ...

    เพราะแม้แต่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” และผู้ร่วมก่อตั้งชุมชนข่าวกรอง “VIPS” (Veteran Intelligence Professionals for Sanity) อย่าง “นายRay McGovern” ที่เป็นชาวอเมริกันด้วยกันเอง ยังต้องออกมาให้ความคิด-ความเห็นกับสำนักข่าว “Sputnik” ไปเมื่อสองวันก่อนนั่นแหละว่า... “พวกเขา(อเมริกา)ต้องการที่จะยั่วยุปูติน ให้ต้องลงมือกระทำบางสิ่งบางอย่างที่ร้ายแรงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งอเมริกาในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เพราะพวกเขาสูญเสียอย่างมากในการบุกแคว้น Kursk ของรัสเซีย” หรือพยายายาม “ยั่วยวนกวนส้นตีน” แบบเดียวกับอิสราเอลยั่วอิหร่านในแนวรบตะวันออกกลาง หรือไต้หวัน ฟิลิปปินส์ยั่วจีนในแนวรบทะเลจีนใต้ เพื่อที่จะก่อให้เกิดฉากสถานการณ์ที่ “เครื่องจักรสังหาร” อย่างกองทัพอเมริกันเกิดความชอบธรรมในการใช้กำลังทหาร หรือความชอบธรรมที่จะนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งอเมริกา...นั่นเอง...

    โดยที่การยั่วยวนกวนส้นตีนของอเมริกาและพันธมิตรตะวันตกต่อรัสเซียช่วงหลังๆ นี้...ต้องเรียกว่าน่าหวาดเสียว น่าขนลุกขนพองยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ชนิดที่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” ถึงกับต้องปรารภ รำพึง ถึงขั้นว่า... “สิ่งที่ผมกลัวก็คือ พวกเขาอาจไปไกลถึงขั้นคิดให้ยูเครนใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับกระเป๋า หรือนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี (mini nuke) สู้กับรัสเซียเอาเลยก็ไม่แน่!!!” และ “มันเป็นเรื่องค่อนข้างยากที่จะรู้ว่าไบเดน ที่ปรึกษาความมั่นคง Sullivan และคณะผู้บริหารรัฐบาลอเมริกันชุดนี้คิดอย่างไร? เพื่อนสนิทของผมบางคนที่เป็นนักวิเคราะห์ด้วยกันถึงกับต้องสรุปว่าพวกเขา...บ้าไปแล้ว (insane) ดังนั้นมันเลยเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าจริงว่าคงยากเอามากๆ ที่จะทำนายได้ว่าพวกเขาคิดทำอะไรต่อไป ถ้าหากเขาทั้งหลาย...บ้าไปแล้ว!!!” ซึ่งก็คงไม่ใช่แต่เฉพาะอดีตนักวิเคราะห์ “CIA” อย่าง “นายRay McGovern” รายเดียวเท่านั้น อดีตเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำโซเวียตรัสเซียอย่าง “นายJack Matlock” เอง ก็ยังต้องออกมาตอกย้ำไว้ด้วยว่าความพยายามของรัฐบาลอเมริกันในอันที่จะอาศัย “สงครามที่ไม่มีความชัดเจน” สู้กับรัสเซียโดยอาศัยยูเครนเป็นตัวแทนนั้น เป็นสิ่งที่ “อันตราย”

    เอามากๆ...หรือกระทั่งอดีตผู้คิดจะสมัครลงแข่ง ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันคราวนี้ อย่าง “Robert F. Kennedy Jr.” ยังอดไม่ได้ที่จะต้องออกมาเตือนไว้ล่วงหน้าว่า... “นโยบายเผชิญหน้าขั้นสูงสุดของไบเดนเพื่อยัดเยียดความปราชัยอันน่าอับอายให้กับรัสเซียและเพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครองของปูตินนั้น...คือสูตรสำเร็จสำหรับหายนะทางนิวเคลียร์” เอาเลยถึงขั้นนั้นหรือรัฐบาลคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ที่กำลังเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งแค่อีกไม่กี่เดือนนี่แหละ อาจกำลังฉุดกระชากลากถูบรรดาชาวอเมริกันทั้งประเทศรวมทั้งชาวโลกทั้งหลาย เข้าสู่ “สงครามนิวเคลียร์” เอาเลยก็เป็นได้ ด้วยเหตุเพราะรัสเซียนั้นไม่ใช่ประเทศอื่นๆโดยทั่วไป แต่ถือเป็น “ชาตินิวเคลียร์” แถมยังกำอาวุธมหาประลัยชนิดนี้ไว้ในมือไม่รู้จะกี่พันต่อกี่พันลูก โดยผู้ที่อาจต้อง “ซวย” เป็นอันดับแรก ก็ดังที่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” “นายRay McGovern” ได้วาดจินตนาการไว้ล่วงหน้านั่นแหละว่า... “ถ้าหากรัสเซียต้องการจะบอกกับชาวยุโรปว่า ถ้าพวกคุณคิดจะใช้นิวเคลียร์ทางยุทธวิธีกับเราก็อย่าลืมว่าเราก็มีอาวุธนิวเคลียร์เหมือนกัน แล้วที่ไหนล่ะ...ที่รัสเซียจะงัดคำเตือนเหล่านี้ออกมาแสดงให้เห็น นั่นก็น่าจะเป็น...ยุโรปนั่นเอง!!!”...

    อย่างไรก็ตาม...สิ่งที่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” รายนี้ ยังพยายาม “มองโลกในแง่ดี” เอาไว้มั่ง นั่นก็คือ... “ผมคิดว่าปูตินยังฉลาดพอ ที่จะรอให้เห็นกันชัดๆ ซะก่อนว่า ใคร??? ที่จะชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้นำอเมริกา เพียงแต่ในช่วงระหว่างนั้นแม้แต่ผมก็ยังต้องกลั้นหายใจกับสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่” อันน่าจะเป็นไปเช่นเดียวกับพันธมิตรของจีนและรัสเซียอย่างอิหร่าน เป็นต้น ที่ต้องพยายามก้าวย่างอย่างระมัดระวังในการ “แก้แค้น-เอาคืน” ต่อการยั่วยวนกวนส้นตีนของอิสราเอล เพื่อไม่ให้ต้องก้าวไปสู่ “กับดัก”

    ของพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์ของคุณพ่ออเมริกาเอาง่ายๆ ต้องกลั้นใจ สะกดใจ หันไปเล่น “หมากล้อม” ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เกิดเงื่อนไข-เหตุปัจจัย อันจะทำให้พวก “อีลิทโลก” ผู้ซึ่งเพียรพยายามพิทักษ์ ปกป้อง “ระเบียบโลกแบบเดิมๆ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้ตัวเองมั่งคั่ง ร่ำรวย อย่างชนิดอภิมหาศาล สามารถดำรงคงอยู่ได้อีกต่อไป ที่พยายามทั้งผลัก ทั้งดัน ให้บรรดารัฐบาลแห่งโลกตะวันตกทั้งหลาย “จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า” ขึ้นมาให้จงได้!!!

    และอาจด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้หมีขาวที่ได้ชื่อว่าดุแสนดุอย่างรัสเซีย เลยต้องหันไปส่งสัญญาณด้วยปฏิบัติการ “ซ้อมรบ” ทางเรือครั้งใหญ่ ที่เรียกๆ กันว่า “Ocean-2024” ตั้งแต่เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (10 ก.ย.) ด้วยการขนเอาเรือรบไม่ต่ำกว่า 400 ลำ เครื่องบินรบอีก 120 ลำ ทวยทหารอีกถึง 90,000 นาย ออกมาเบ่งกล้ามอวดโชว์กำลังในน่านน้ำแทบทุกน่านน้ำไม่ว่าในมหาสมุทรแปซิฟิก อาร์กติก ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทะเลแคสเปียน ไปจนแถบทะเลบอลติกโดยมีคุณพี่จีนเข้าร่วมด้วยหรือร่วมส่งสัญญาณไปถึงประเทศญี่ปุ่น-ยุ่นปี่ ที่กำลังคิดเอาขีปนาวุธพิสัยกลางของคุณพ่ออเมริกามาติดตั้งไว้ในประเทศตัวเองในอีกไม่นาน-ไม่ช้านับจากนี้...

    แต่ส่วนจะทำให้อเมริกาและพันธมิตรพรมเช็ดเท้าแห่งโลกตะวันตก...พอที่จะ “หายบ้า” หรือพอที่จะได้ “สติ” ขึ้นมาได้มั่งหรือไม่? อย่างไร? อันนั้น...คงต้องคอยสวดมนต์และภาวนากันไปตามสภาพ ไม่ก็ต้องหันไป “กลั้นหายใจ” แบบเดียวกับที่ “นายRay McGovern” ได้ว่าเอาไว้นั่นแหละ คือถ้าหากอีก 2 เดือนข้างหน้า “ทรัมป์บ้า” สามารถดิ้นรนกลับมาเป็นผู้นำอเมริกาได้ดังเดิม มันก็อาจเบาๆ ลงไปได้บ้างสำหรับ “แนวรบ” บางด้าน เช่นแนวรบยุโรปตะวันออก เป็นต้น แต่ถ้าหากคุณน้อง “กมลา” เธอสามารถนอนมาโดยไม่ต้องมีพระสวดนำหน้า แบบที่บรรดา “โพล” หลายๆ สำนักพยายามเชียร์แล้ว เชียร์อีก แม้จะก่อให้เกิดความซี๊ดๆ ซ๊าดๆ ต่อบรรดา “ติ่งอเมริกา” เพียงใดก็เถอะ แต่...ก็อาจนำมาซึ่ง “สงครามกลางเมืองครั้งใหม่” ของอเมริกา หรือนำมาซึ่ง “ความล่มสลาย” ลงไปเองเอาเลยก็เป็นได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปงัดอาวุธมหาประลัยใดๆ ออกมาใช้ให้ต้องมากเรื่อง-มากความ หรือให้บรรดา “พลโลก” อย่างเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย ต้องพลอยเดือดร้อน หรือพลอย “ซวย” ไปด้วยอย่างมิอาจช่วยอะไรได้เลย...

    https://mgronline.com/daily/detail/9670000086180

    #Thaitimes
    “อันตราย” เอามากๆ กับความคิด ความริเริ่ม ของคุณพ่ออเมริกาและพวกพรมเช็ดเท้าแห่งโลกตะวันตก ที่กำลังจะอนุมัติ อนุญาต ให้ “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างยูเครน นำเอาขีปนาวุธพิสัยไกลที่ได้รับการสนับสนุน ประเภท “Storm Shadows” หรือ “ATACMS” อะไรทำนองนั้น โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของหมีขาวรัสเซีย อันเป็นสิ่งที่ผู้นำรัสเซียอย่างประธานาธิบดี “ปูติน” ท่านได้แปลความ อธิบายขยายความ ไว้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน ว่าย่อมหมายถึง “การกระทำให้ NATO คือคู่สงครามโดยตรงกับรัสเซีย” และได้เตือนเอาไว้นิ่มๆ ประมาณว่า “ถ้าหากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริง...เมื่อคำนึงถึงการเปลี่ยนไปของลักษณะความขัดแย้ง เราก็คงต้องตัดสินใจอย่างเหมาะสมต่อภัยคุกคามที่เราจะต้องเผชิญหน้า!!!” คือถึงจะเป็นอะไรที่นิ่มๆ...แต่ก็อย่าลืมไปว่าหมีขาวรัสเซียที่ออกจะดุแสนดุนั้น ก็คือ “ชาตินิวเคลียร์” อันดับต้นๆ ของโลก หรืออันดับหนึ่งของโลกเอาเลยก็ว่าได้ ดังนั้น...การที่รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา “นายAntony Blinken” และรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ “นายDavid Lammy” ที่เกี่ยวก้อยไปเยือนประเทศยูเครนกันถึงที่เมื่อไม่กี่วันนี้ จะออกมาพูดด้วยน้ำเสียง หางเสียงเดียวกัน ถึงความเป็นไปได้ที่จะอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ฝ่ายตะวันตกมอบให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย รวมทั้งประธานาธิบดีอเมริกา อย่าง “โจ เอ๋อ” หรือ “โจ ซึมเซา” ที่เหลือเวลาดำรงตำแหน่งแค่อีกไม่กี่เดือนจะออกมาแสดงท่าทีกำๆ กวมๆ ว่ากำลังเร่งพิจารณาเรื่องราวดังกล่าวอย่างเต็มที่ มันจึงแทบไม่ต่างอะไรไปจาก “เด็ก” ที่ชอบเล่นไม้ขีดไฟ ที่กำลังจุดไม้ขีดก้านแล้ว-ก้านเล่า อยู่หน้าโรงงานดินระเบิดซึ่งถูกชโลมไว้ด้วยน้ำมันก๊าด น้ำมันเบนซิน ชนิดอะไรต่อมิอะไรอาจลุกพึ่บๆ พั่บๆ ขึ้นมาได้ง่ายๆ... เพราะแม้แต่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” และผู้ร่วมก่อตั้งชุมชนข่าวกรอง “VIPS” (Veteran Intelligence Professionals for Sanity) อย่าง “นายRay McGovern” ที่เป็นชาวอเมริกันด้วยกันเอง ยังต้องออกมาให้ความคิด-ความเห็นกับสำนักข่าว “Sputnik” ไปเมื่อสองวันก่อนนั่นแหละว่า... “พวกเขา(อเมริกา)ต้องการที่จะยั่วยุปูติน ให้ต้องลงมือกระทำบางสิ่งบางอย่างที่ร้ายแรงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งอเมริกาในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เพราะพวกเขาสูญเสียอย่างมากในการบุกแคว้น Kursk ของรัสเซีย” หรือพยายายาม “ยั่วยวนกวนส้นตีน” แบบเดียวกับอิสราเอลยั่วอิหร่านในแนวรบตะวันออกกลาง หรือไต้หวัน ฟิลิปปินส์ยั่วจีนในแนวรบทะเลจีนใต้ เพื่อที่จะก่อให้เกิดฉากสถานการณ์ที่ “เครื่องจักรสังหาร” อย่างกองทัพอเมริกันเกิดความชอบธรรมในการใช้กำลังทหาร หรือความชอบธรรมที่จะนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งอเมริกา...นั่นเอง... โดยที่การยั่วยวนกวนส้นตีนของอเมริกาและพันธมิตรตะวันตกต่อรัสเซียช่วงหลังๆ นี้...ต้องเรียกว่าน่าหวาดเสียว น่าขนลุกขนพองยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ชนิดที่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” ถึงกับต้องปรารภ รำพึง ถึงขั้นว่า... “สิ่งที่ผมกลัวก็คือ พวกเขาอาจไปไกลถึงขั้นคิดให้ยูเครนใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับกระเป๋า หรือนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี (mini nuke) สู้กับรัสเซียเอาเลยก็ไม่แน่!!!” และ “มันเป็นเรื่องค่อนข้างยากที่จะรู้ว่าไบเดน ที่ปรึกษาความมั่นคง Sullivan และคณะผู้บริหารรัฐบาลอเมริกันชุดนี้คิดอย่างไร? เพื่อนสนิทของผมบางคนที่เป็นนักวิเคราะห์ด้วยกันถึงกับต้องสรุปว่าพวกเขา...บ้าไปแล้ว (insane) ดังนั้นมันเลยเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าจริงว่าคงยากเอามากๆ ที่จะทำนายได้ว่าพวกเขาคิดทำอะไรต่อไป ถ้าหากเขาทั้งหลาย...บ้าไปแล้ว!!!” ซึ่งก็คงไม่ใช่แต่เฉพาะอดีตนักวิเคราะห์ “CIA” อย่าง “นายRay McGovern” รายเดียวเท่านั้น อดีตเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำโซเวียตรัสเซียอย่าง “นายJack Matlock” เอง ก็ยังต้องออกมาตอกย้ำไว้ด้วยว่าความพยายามของรัฐบาลอเมริกันในอันที่จะอาศัย “สงครามที่ไม่มีความชัดเจน” สู้กับรัสเซียโดยอาศัยยูเครนเป็นตัวแทนนั้น เป็นสิ่งที่ “อันตราย” เอามากๆ...หรือกระทั่งอดีตผู้คิดจะสมัครลงแข่ง ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันคราวนี้ อย่าง “Robert F. Kennedy Jr.” ยังอดไม่ได้ที่จะต้องออกมาเตือนไว้ล่วงหน้าว่า... “นโยบายเผชิญหน้าขั้นสูงสุดของไบเดนเพื่อยัดเยียดความปราชัยอันน่าอับอายให้กับรัสเซียและเพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครองของปูตินนั้น...คือสูตรสำเร็จสำหรับหายนะทางนิวเคลียร์” เอาเลยถึงขั้นนั้นหรือรัฐบาลคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ที่กำลังเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งแค่อีกไม่กี่เดือนนี่แหละ อาจกำลังฉุดกระชากลากถูบรรดาชาวอเมริกันทั้งประเทศรวมทั้งชาวโลกทั้งหลาย เข้าสู่ “สงครามนิวเคลียร์” เอาเลยก็เป็นได้ ด้วยเหตุเพราะรัสเซียนั้นไม่ใช่ประเทศอื่นๆโดยทั่วไป แต่ถือเป็น “ชาตินิวเคลียร์” แถมยังกำอาวุธมหาประลัยชนิดนี้ไว้ในมือไม่รู้จะกี่พันต่อกี่พันลูก โดยผู้ที่อาจต้อง “ซวย” เป็นอันดับแรก ก็ดังที่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” “นายRay McGovern” ได้วาดจินตนาการไว้ล่วงหน้านั่นแหละว่า... “ถ้าหากรัสเซียต้องการจะบอกกับชาวยุโรปว่า ถ้าพวกคุณคิดจะใช้นิวเคลียร์ทางยุทธวิธีกับเราก็อย่าลืมว่าเราก็มีอาวุธนิวเคลียร์เหมือนกัน แล้วที่ไหนล่ะ...ที่รัสเซียจะงัดคำเตือนเหล่านี้ออกมาแสดงให้เห็น นั่นก็น่าจะเป็น...ยุโรปนั่นเอง!!!”... อย่างไรก็ตาม...สิ่งที่อดีตนักวิเคราะห์ “CIA” รายนี้ ยังพยายาม “มองโลกในแง่ดี” เอาไว้มั่ง นั่นก็คือ... “ผมคิดว่าปูตินยังฉลาดพอ ที่จะรอให้เห็นกันชัดๆ ซะก่อนว่า ใคร??? ที่จะชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้นำอเมริกา เพียงแต่ในช่วงระหว่างนั้นแม้แต่ผมก็ยังต้องกลั้นหายใจกับสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่” อันน่าจะเป็นไปเช่นเดียวกับพันธมิตรของจีนและรัสเซียอย่างอิหร่าน เป็นต้น ที่ต้องพยายามก้าวย่างอย่างระมัดระวังในการ “แก้แค้น-เอาคืน” ต่อการยั่วยวนกวนส้นตีนของอิสราเอล เพื่อไม่ให้ต้องก้าวไปสู่ “กับดัก” ของพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์ของคุณพ่ออเมริกาเอาง่ายๆ ต้องกลั้นใจ สะกดใจ หันไปเล่น “หมากล้อม” ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เกิดเงื่อนไข-เหตุปัจจัย อันจะทำให้พวก “อีลิทโลก” ผู้ซึ่งเพียรพยายามพิทักษ์ ปกป้อง “ระเบียบโลกแบบเดิมๆ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้ตัวเองมั่งคั่ง ร่ำรวย อย่างชนิดอภิมหาศาล สามารถดำรงคงอยู่ได้อีกต่อไป ที่พยายามทั้งผลัก ทั้งดัน ให้บรรดารัฐบาลแห่งโลกตะวันตกทั้งหลาย “จุดไฟนรกสุดขอบฟ้า” ขึ้นมาให้จงได้!!! และอาจด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้หมีขาวที่ได้ชื่อว่าดุแสนดุอย่างรัสเซีย เลยต้องหันไปส่งสัญญาณด้วยปฏิบัติการ “ซ้อมรบ” ทางเรือครั้งใหญ่ ที่เรียกๆ กันว่า “Ocean-2024” ตั้งแต่เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (10 ก.ย.) ด้วยการขนเอาเรือรบไม่ต่ำกว่า 400 ลำ เครื่องบินรบอีก 120 ลำ ทวยทหารอีกถึง 90,000 นาย ออกมาเบ่งกล้ามอวดโชว์กำลังในน่านน้ำแทบทุกน่านน้ำไม่ว่าในมหาสมุทรแปซิฟิก อาร์กติก ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทะเลแคสเปียน ไปจนแถบทะเลบอลติกโดยมีคุณพี่จีนเข้าร่วมด้วยหรือร่วมส่งสัญญาณไปถึงประเทศญี่ปุ่น-ยุ่นปี่ ที่กำลังคิดเอาขีปนาวุธพิสัยกลางของคุณพ่ออเมริกามาติดตั้งไว้ในประเทศตัวเองในอีกไม่นาน-ไม่ช้านับจากนี้... แต่ส่วนจะทำให้อเมริกาและพันธมิตรพรมเช็ดเท้าแห่งโลกตะวันตก...พอที่จะ “หายบ้า” หรือพอที่จะได้ “สติ” ขึ้นมาได้มั่งหรือไม่? อย่างไร? อันนั้น...คงต้องคอยสวดมนต์และภาวนากันไปตามสภาพ ไม่ก็ต้องหันไป “กลั้นหายใจ” แบบเดียวกับที่ “นายRay McGovern” ได้ว่าเอาไว้นั่นแหละ คือถ้าหากอีก 2 เดือนข้างหน้า “ทรัมป์บ้า” สามารถดิ้นรนกลับมาเป็นผู้นำอเมริกาได้ดังเดิม มันก็อาจเบาๆ ลงไปได้บ้างสำหรับ “แนวรบ” บางด้าน เช่นแนวรบยุโรปตะวันออก เป็นต้น แต่ถ้าหากคุณน้อง “กมลา” เธอสามารถนอนมาโดยไม่ต้องมีพระสวดนำหน้า แบบที่บรรดา “โพล” หลายๆ สำนักพยายามเชียร์แล้ว เชียร์อีก แม้จะก่อให้เกิดความซี๊ดๆ ซ๊าดๆ ต่อบรรดา “ติ่งอเมริกา” เพียงใดก็เถอะ แต่...ก็อาจนำมาซึ่ง “สงครามกลางเมืองครั้งใหม่” ของอเมริกา หรือนำมาซึ่ง “ความล่มสลาย” ลงไปเองเอาเลยก็เป็นได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปงัดอาวุธมหาประลัยใดๆ ออกมาใช้ให้ต้องมากเรื่อง-มากความ หรือให้บรรดา “พลโลก” อย่างเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย ต้องพลอยเดือดร้อน หรือพลอย “ซวย” ไปด้วยอย่างมิอาจช่วยอะไรได้เลย... https://mgronline.com/daily/detail/9670000086180 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    “สงครามโลก” ก่อนหรือหลัง “เลือกตั้งอเมริกา”???
    ถึงแม้การเลือกตั้งอเมริกาจะเหลืออีกประมาณเดือนกว่าๆ ใกล้ๆ 2 เดือน...แต่ก็คงไม่น่าถึงกับต้องไปให้ความสำคัญกับการ “ดีเบต” หรือการโต้กันไป-โต้กันมา ระหว่าง 2 ผู้สมัคร คู่ชิง อย่าง “ทรัมป์บ้า” หรือคุณน้อง “กมลา”
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1143 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอังกฤษกำลังเผชิญกับปัญหาอะไรบ้าง?

    นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เซอร์ คีร์ สตาร์เมอร์ ยังไม่ตัดทิ้งความเป็นไปได้ที่จะอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธร่อนสตอร์มแชโดว์พิสัยไกลโจมตีเป้าหมายภายในรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ความกล้าหาญในการก่อสงครามของอังกฤษเกิดขึ้นในขณะที่กองทัพอังกฤษเองก็กำลังเผชิญวิกฤต

    ขาดแคลนกำลังพล

    ◻️ ตัวเลขแสดงให้เห็นว่ากองทัพอังกฤษมีจำนวนน้อย โดยการรับทหารใหม่ในช่วง ๑๒ เดือนจนถึงเดือนมีนาคม ๒๐๒๓ ลดลง ๒๒.๑% ในกองทัพเรือ, เกือบ ๑๗% ในกองทัพอากาศ, และเกือบ ๑๕% ในกองทัพบก, ตามสถิติอย่างเป็นทางการ

    ◻️ ปัจจุบันกองทัพบกอังกฤษมีกำลังพลประจำการ ๗๕,๑๖๖ นาย เมื่อเทียบกับ ๑๐๐,๐๐๐ นายในปี ๒๐๑๐

    ◻️ วิกฤตกำลังพลในกองทัพเรืออังกฤษมีรายงานว่าทำให้เรือหลายลำต้องปลดประจำการ

    ปัญหาทางเทคนิค

    ◻️ เรือบรรทุกเครื่องบินเรือธงของกองทัพเรืออังกฤษ HMS Queen Elizabeth และ HMS Prince of Wales ประสบปัญหาทางเทคนิคบางประการ, เนื่องจากเรือลำแรกถูกบังคับให้ถอนตัวจากการฝึกซ้อม Steadfast Defender ของ NATO ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ หลังจากเกิดขัดข้อง

    ◻️ การนำเรือฟริเกต Type ๒๖ ลำใหม่เข้าประจำการถูกเลื่อนออกไป, โดยคาดว่าขีดความสามารถในการปฏิบัติงานเบื้องต้นจะเริ่มขึ้นในปี ๒๐๒๘

    ◻️ การทดสอบปล่อยขีปนาวุธข้ามทวีปติดอาวุธนิวเคลียร์ (SLBM) ของอังกฤษบนเรือ HMS Vanguard เมื่อเดือนมกราคมที่ล้มเหลว ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวครั้งที่สองติดต่อกัน รองจาก HMS Vengeance ที่เคยประสบความล้มเหลวในปี ๒๐๑๖

    ขาดเงินและมีระบบราชการเกินดุล

    ◻️ กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร (MoD) เผชิญกับการขาดดุล ๑๖,๙๐๐ ล้านปอนด์ (๒๒,๑๗๐ ล้านดอลลาร์) สำนักงานตรวจสอบแห่งชาติ (NAO) เปิดเผยในปี ๒๐๒๓ คณะกรรมการตรวจสอบบัญชีสาธารณะ (PAC) เตือนว่าการขาดดุลที่แท้จริงอาจใกล้เคียงกับ ๒๙,๐๐๐ ล้านปอนด์ (๓๘,๐๕๐ ล้านดอลลาร์) ในรายงานเดือนมีนาคม ๒๐๒๔

    ◻️ กระบวนการจัดซื้อและส่งมอบของกระทรวงกลาโหมติดหล่มอยู่ในความล่าช้า ส.ส. อังกฤษกล่าวเมื่อเดือนมีนาคมว่ามีเพียง ๒ โครงการจาก ๔๖ โครงการที่ "มีแนวโน้มสูง" ที่จะส่งมอบตรงเวลา, งบประมาณ, และคุณภาพ

    ◻️ การส่งมอบโครงการพอร์ตโฟลิโอโครงการสำคัญของรัฐบาล ๕ โครงการสำเร็จ, ซึ่งรวมถึงเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใต้น้ำ, ถูกกำหนดให้ "ไม่สามารถทำได้" โดยรายงานของคณะกรรมการสภาสามัญในเดือนมีนาคม
    .
    What problems are Britain’s armed forces grappling with?

    UK Prime Minister Sir Keir Starmer has not ruled out allowing Ukraine to use long-range Storm Shadow cruise missiles on targets inside Russia. Yet the UK’s warmongering bravado comes as its own armed forces are mired in crisis.

    Lack of manpower

    ◻️ Britain’s armed forces are stretched thin, figures show. The intake of recruits in the 12 months to March 2023 dropped by 22.1% in the Royal Navy, almost 17% in the RAF, and nearly 15% in the army, according to official statistics.

    ◻️ The professional ranks of the British Army currently number 75,166 regular forces personnel, compared with around 100,000 in 2010.

    ◻️ A manpower crisis in the Royal Navy reportedly prompted the decommissioning of a number of ships.

    Technical issues

    ◻️ The Royal Navy’s flagship aircraft carriers the HMS Queen Elizabeth and HMS Prince of Wales have faced some technical issues, as the former was forced to pull out from NATO’s Exercise Steadfast Defender drills in February 2024 after a malfunction.

    ◻️ Commissioning new Type 26 frigates has been postponed, with initial operational capability anticipated from 2028.

    ◻️ January’s failed HMS Vanguard sea-launch test of the UK’s nuclear-armed submarine-launched ballistic missile (SLBM) system, the Trident II D-5, was the second successive failure, following one in 2016 involving the HMS Vengeance.

    Lack of money and surplus of bureaucracy

    ◻️ The UK Ministry of Defense (MoD) is facing a £16.9 billion ($22.17 billion) deficit, the National Audit Office (NAO) revealed in 2023. The Public Accounts Committee (PAC) warned that the actual deficit could be closer to £29 billion ($38.05 billion) in a March 2024 report.

    ◻️ The MoD's procurement and delivery processes are mired in delays. Just two of its 46 equipment programs are "highly likely" to be delivered to time, budget, and quality, British MPs said in March.

    ◻️ Successful delivery of five Government Major Projects Portfolio schemes, including nuclear submarine reactors, was determined “unachievable” by a House of Commons Committee report in March.
    .
    4:37 PM · Sep 14, 2024 · 2,949 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1834889141047173363
    กองทัพอังกฤษกำลังเผชิญกับปัญหาอะไรบ้าง? นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เซอร์ คีร์ สตาร์เมอร์ ยังไม่ตัดทิ้งความเป็นไปได้ที่จะอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธร่อนสตอร์มแชโดว์พิสัยไกลโจมตีเป้าหมายภายในรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ความกล้าหาญในการก่อสงครามของอังกฤษเกิดขึ้นในขณะที่กองทัพอังกฤษเองก็กำลังเผชิญวิกฤต ขาดแคลนกำลังพล ◻️ ตัวเลขแสดงให้เห็นว่ากองทัพอังกฤษมีจำนวนน้อย โดยการรับทหารใหม่ในช่วง ๑๒ เดือนจนถึงเดือนมีนาคม ๒๐๒๓ ลดลง ๒๒.๑% ในกองทัพเรือ, เกือบ ๑๗% ในกองทัพอากาศ, และเกือบ ๑๕% ในกองทัพบก, ตามสถิติอย่างเป็นทางการ ◻️ ปัจจุบันกองทัพบกอังกฤษมีกำลังพลประจำการ ๗๕,๑๖๖ นาย เมื่อเทียบกับ ๑๐๐,๐๐๐ นายในปี ๒๐๑๐ ◻️ วิกฤตกำลังพลในกองทัพเรืออังกฤษมีรายงานว่าทำให้เรือหลายลำต้องปลดประจำการ ปัญหาทางเทคนิค ◻️ เรือบรรทุกเครื่องบินเรือธงของกองทัพเรืออังกฤษ HMS Queen Elizabeth และ HMS Prince of Wales ประสบปัญหาทางเทคนิคบางประการ, เนื่องจากเรือลำแรกถูกบังคับให้ถอนตัวจากการฝึกซ้อม Steadfast Defender ของ NATO ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๐๒๔ หลังจากเกิดขัดข้อง ◻️ การนำเรือฟริเกต Type ๒๖ ลำใหม่เข้าประจำการถูกเลื่อนออกไป, โดยคาดว่าขีดความสามารถในการปฏิบัติงานเบื้องต้นจะเริ่มขึ้นในปี ๒๐๒๘ ◻️ การทดสอบปล่อยขีปนาวุธข้ามทวีปติดอาวุธนิวเคลียร์ (SLBM) ของอังกฤษบนเรือ HMS Vanguard เมื่อเดือนมกราคมที่ล้มเหลว ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวครั้งที่สองติดต่อกัน รองจาก HMS Vengeance ที่เคยประสบความล้มเหลวในปี ๒๐๑๖ ขาดเงินและมีระบบราชการเกินดุล ◻️ กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร (MoD) เผชิญกับการขาดดุล ๑๖,๙๐๐ ล้านปอนด์ (๒๒,๑๗๐ ล้านดอลลาร์) สำนักงานตรวจสอบแห่งชาติ (NAO) เปิดเผยในปี ๒๐๒๓ คณะกรรมการตรวจสอบบัญชีสาธารณะ (PAC) เตือนว่าการขาดดุลที่แท้จริงอาจใกล้เคียงกับ ๒๙,๐๐๐ ล้านปอนด์ (๓๘,๐๕๐ ล้านดอลลาร์) ในรายงานเดือนมีนาคม ๒๐๒๔ ◻️ กระบวนการจัดซื้อและส่งมอบของกระทรวงกลาโหมติดหล่มอยู่ในความล่าช้า ส.ส. อังกฤษกล่าวเมื่อเดือนมีนาคมว่ามีเพียง ๒ โครงการจาก ๔๖ โครงการที่ "มีแนวโน้มสูง" ที่จะส่งมอบตรงเวลา, งบประมาณ, และคุณภาพ ◻️ การส่งมอบโครงการพอร์ตโฟลิโอโครงการสำคัญของรัฐบาล ๕ โครงการสำเร็จ, ซึ่งรวมถึงเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใต้น้ำ, ถูกกำหนดให้ "ไม่สามารถทำได้" โดยรายงานของคณะกรรมการสภาสามัญในเดือนมีนาคม . What problems are Britain’s armed forces grappling with? UK Prime Minister Sir Keir Starmer has not ruled out allowing Ukraine to use long-range Storm Shadow cruise missiles on targets inside Russia. Yet the UK’s warmongering bravado comes as its own armed forces are mired in crisis. Lack of manpower ◻️ Britain’s armed forces are stretched thin, figures show. The intake of recruits in the 12 months to March 2023 dropped by 22.1% in the Royal Navy, almost 17% in the RAF, and nearly 15% in the army, according to official statistics. ◻️ The professional ranks of the British Army currently number 75,166 regular forces personnel, compared with around 100,000 in 2010. ◻️ A manpower crisis in the Royal Navy reportedly prompted the decommissioning of a number of ships. Technical issues ◻️ The Royal Navy’s flagship aircraft carriers the HMS Queen Elizabeth and HMS Prince of Wales have faced some technical issues, as the former was forced to pull out from NATO’s Exercise Steadfast Defender drills in February 2024 after a malfunction. ◻️ Commissioning new Type 26 frigates has been postponed, with initial operational capability anticipated from 2028. ◻️ January’s failed HMS Vanguard sea-launch test of the UK’s nuclear-armed submarine-launched ballistic missile (SLBM) system, the Trident II D-5, was the second successive failure, following one in 2016 involving the HMS Vengeance. Lack of money and surplus of bureaucracy ◻️ The UK Ministry of Defense (MoD) is facing a £16.9 billion ($22.17 billion) deficit, the National Audit Office (NAO) revealed in 2023. The Public Accounts Committee (PAC) warned that the actual deficit could be closer to £29 billion ($38.05 billion) in a March 2024 report. ◻️ The MoD's procurement and delivery processes are mired in delays. Just two of its 46 equipment programs are "highly likely" to be delivered to time, budget, and quality, British MPs said in March. ◻️ Successful delivery of five Government Major Projects Portfolio schemes, including nuclear submarine reactors, was determined “unachievable” by a House of Commons Committee report in March. . 4:37 PM · Sep 14, 2024 · 2,949 Views https://x.com/SputnikInt/status/1834889141047173363
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 626 มุมมอง 0 รีวิว
  • Understand The Difference Between Ethos, Pathos, And Logos To Make Your Point

    During an argument, people will often say whatever is necessary to win. If that is the case, they would certainly need to understand the three modes of persuasion, also commonly known as the three rhetorical appeals: ethos, pathos, and logos. In short, these three words refer to three main methods that a person can use to speak or write persuasively. As you’re about to find out, the modes of persuasion are important because a speaker who knows how to effectively use them will have a significant advantage over someone who doesn’t.

    The terms ethos, pathos, and logos and the theory of their use can be traced back to ancient Greece to the philosophy of Aristotle. Aristotle used these three concepts in his explanations of rhetoric, or the art of influencing the thought and conduct of an audience. For Aristotle, the three modes of persuasion specifically referred to the three major parts of an argument: the speaker (ethos), the argument itself (logos), and the audience (pathos). In particular, Aristotle focused on the speaker’s character, the logic and reason presented by an argument, and the emotional impact the argument had on an audience.

    While they have ancient roots, these modes of persuasion are alive and well today. Put simply, ethos refers to persuasion based on the credibility or authority of the speaker, pathos refers to persuasion based on emotion, and logos refers to persuasion based on logic or reason.

    By effectively using the three modes of persuasion with a large supply of rhetorical devices, a speaker or writer can become a master of rhetoric and win nearly any argument or win over any audience. Before they can do that, though, they must know exactly what ethos, pathos, and logos mean. Fortunately, we are going to look closely at each of these three ideas and see if they are really as effective as they are said to be.

    Quick summary

    Ethos, pathos, and logos are the three classical modes of persuasion that a person can use to speak or write persuasively. Specifically:

    ethos (character): known as “the appeal to authority” or “the appeal to credibility.” This is the method in which a person relies on their credibility or character when making an appeal or an argument.

    pathos (emotions): known as “the appeal to emotion.” Pathos refers to the method of trying to persuade an audience by eliciting some kind of emotional reaction.

    logos (logic): known as “the appeal to reason.” This method involves using facts and logical reasoning to support an argument and persuade an audience.


    What is ethos?

    The word ethos comes straight from Greek. In Greek, ethos literally translates to “habit,” “custom,” or “character.” Ethos is related to the words ethic and ethical, which are typically used to refer to behavior that is or isn’t acceptable for a particular person.

    In rhetoric, the word ethos is used to refer to the character or reputation of the speaker. As a rhetorical appeal, ethos is known as “the appeal to authority” or “the appeal to credibility.” When it comes to ethos, one important consideration is how the speaker carries themself and how they present themselves to the audience: Does it seem like they know what they are talking about? Do they even believe the words they are saying? Are they an expert? Do they have some experience or skills that tell us we should listen to them?

    Ethos is important in rhetoric because it often influences the opinion or mood of the audience. If a speaker seems unenthusiastic, unprepared, or inexperienced, the audience is more likely to discount the speaker’s argument regardless of what it even is. On the other hand, a knowledgeable, authoritative, confident speaker is much more likely to win an audience over.

    Ethos often depends on more than just the argument itself. For example, a speaker’s word choice, grammar, and diction also contribute to ethos; an audience may react more favorably toward a professional speaker who has a good grasp of industry jargon and enunciates clearly versus a speaker who lacks the necessary vocabulary and fails to enunciate. Ethos can also be influenced by nonverbal factors as well, such as posture, body language, eye contact, and even the speaker’s choice of clothing. For example, a military officer proudly wearing their uniform bedecked with medals will go a long way to establishing ethos without them saying a single word.

    Here as a simple example of ethos:

    “As a former mayor of this city, I believe we can solve this crisis if we band together.”
    The speaker uses ethos by alerting the audience of their credentials and experience. By doing so, they rely on their reputation to be more persuasive. This “as a…” method of establishing ethos is common, and you have probably seen it used in many persuasive advertisements and speeches.


    What is pathos?

    In Greek, pathos literally translates to “suffering, experience, or sensation.” The word pathos is related to the words pathetic, sympathy, and empathy, which all have to do with emotions or emotional connections. Aristotle used the word pathos to refer to the emotional impact that an argument had on an audience; this usage is still mainly how pathos is used in rhetoric today.

    As a rhetorical appeal, pathos is referred to as “the appeal to emotion.” Generally speaking, an author or speaker is using pathos when they are trying to persuade an audience by causing some kind of emotional reaction. When it comes to pathos, any and all emotions are on the table: sadness, fear, hope, joy, anger, lust, pity, etc.

    As you probably know from your own life, emotions are a powerful motivating factor. For this reason, relying on pathos is often a smart and effective strategy for persuading an audience. Both positive and negative emotions can heavily influence an audience: for example, an audience will want to support a speaker whose position will make them happy, a speaker who wants to end their sadness, or a speaker who is opposed to something that makes them angry.

    Here is a simple example of pathos:

    “Every day, the rainforests shrink and innocent animals are killed. We must do something about this calamitous trend before the planet we call our home is damaged beyond repair.”
    Here, the author is trying to win over an audience by making them feel sad, concerned, or afraid. The author’s choice of words like “innocent” and “calamitous” enforce the fact that they are trying to rely on pathos.


    What is logos?

    In Greek, the word logos literally translates to “word, reason, or discourse.” The word logos is related to many different words that have to do with reason, discourse, or knowledge, such as logic, logical, and any words that end in the suffixes -logy or -logue.

    As a mode of persuasion and rhetorical appeal, logos is often referred to as “the appeal to reason.” If a speaker or author is relying on logos, they are typically reciting facts or providing data and statistics that support their argument. In a manner of speaking, logos does away with all of the bells and whistles of ethos and pathos and cuts to the chase by trying to present a rational argument.

    Logos can be effective in arguments because, in theory, it is impossible to argue against truth and facts. An audience is more likely to agree with a speaker who can provide strong, factual evidence that shows their position is correct. On the flip side, an audience is less likely to support an argument that is flawed or entirely wrong. Going further, a speaker that presents a lot of supporting evidence and data to the audience is likely to come across as knowledgeable and someone to be listened to, which earns bonus points in ethos as well.

    While Aristotle clearly valued an argument based on reason very highly, we know that logos alone doesn’t always effectively persuade an audience. In your own life, you have likely seen a rational, correct speaker lose an argument to a charismatic, authoritative speaker who may not have the facts right.

    Here is a simple example of logos:

    “According to market research, sales of computer chips have increased by 300% in the last five years. Analysis of the industry tells us that the market share of computer chips is dominated by Asian manufacturers. It is clear that the Asian technology sector will continue to experience rapid growth for the foreseeable future.”
    In this paragraph, the author is using data, statistics, and logical reasoning to make their argument. They clearly hope to use logos to try to convince an audience to agree with them.

    Examples of ethos, pathos, and logos
    Ethos, pathos, and logos can all be employed to deliver compelling and persuasive arguments or to win over an audience. Let’s look at a variety of examples to see how different speakers and authors have turned to these modes of persuasion over the years.


    ethos

    “Come I to speak in Caesar’s funeral.
    He was my friend, faithful and just to me […] You all did see that on the Lupercal
    I thrice presented him a kingly crown,
    Which he did thrice refuse: was this ambition?”
    —Marc Antony, Julius Caesar by William Shakespeare

    In this scene, Marc Antony is trying to win over the Roman people, so Shakespeare has Antony rely on ethos. Antony is establishing himself as both a person of authority in Rome (having the power to offer Caesar a crown) and an expert on Caesar’s true character (Antony was Caesar’s close friend and advisor).

    “During the next five years, I started a company named NeXT, another company named Pixar, and fell in love with an amazing woman who would become my wife. Pixar went on to create the world’s first computer animated feature film, Toy Story, and is now the most successful animation studio in the world. In a remarkable turn of events, Apple bought NeXT, I returned to Apple, and the technology we developed at NeXT is at the heart of Apple’s current renaissance.”
    —Steve Jobs, 2005

    Here, Steve Jobs is providing his background–via humblebrag– of being a major figure in several different highly successful tech companies. Jobs is using ethos to provide substance to his words and make it clear to the audience that he knows what he is talking about and they should listen to him.


    pathos

    “Moreover, though you hate both him and his gifts with all your heart, yet pity the rest of the Achaeans who are being harassed in all their host; they will honour you as a god, and you will earn great glory at their hands. You might even kill Hector; he will come within your reach, for he is infatuated, and declares that not a Danaan whom the ships have brought can hold his own against him.”
    —Ulysses to Achilles, The Iliad by Homer

    In this plea, Ulysses is doing his best to pile on the pathos. In one paragraph, Ulysses is attempting to appeal to several of Achilles’s emotions: his hatred of Hector, his infamous stubborn pride, his sympathy for civilians, and his desire for vengeance.

    “I am not unmindful that some of you have come here out of great trials and tribulations. Some of you have come fresh from narrow jail cells. Some of you have come from areas where your quest—quest for freedom left you battered by the storms of persecution and staggered by the winds of police brutality.”
    —Dr. Martin Luther King Jr., 1963

    In this excerpt from his “I Have A Dream” speech, King is using pathos to accomplish two goals at once. First, he is connecting with his audience by making it clear is aware of their plight and suffering. Second, he is citing these examples to cause sadness or outrage in the audience. Both of these effects will make an audience interested in what he has to say and more likely to support his position.


    logos

    “Let it be remembered how powerful the influence of a single introduced tree or mammal has been shown to be. But in the case of an island, or of a country partly surrounded by barriers, into which new and better adapted forms could not freely enter, we should then have places in the economy of nature which would assuredly be better filled up if some of the original inhabitants were in some manner modified; for, had the area been open to immigration, these same places would have been seized on by intruders. In such case, every slight modification, which in the course of ages chanced to arise, and which in any way favoured the individuals of any of the species, by better adapting them to their altered conditions, would tend to be preserved; and natural selection would have free scope for the work of improvement.”
    —Charles Darwin, On the Origin of the Species, 1859

    In this passage, Darwin is using logos by presenting a rational argument in support of natural selection. Darwin connects natural selection to established scientific knowledge to argue that it makes logical sense that animals would adapt to better survive in their environment.

    “I often echo the point made by the climate scientist James Hansen: The accumulation of carbon dioxide, methane and other greenhouse gases—some of which will envelop the planet for hundreds and possibly thousands of years—is now trapping as much extra energy daily as 500,000 Hiroshima-class atomic bombs would release every 24 hours. This is the crisis we face.”
    —Al Gore, “The Climate Crisis Is the Battle of Our Time, and We Can Win,” 2019

    In this call to action, Al Gore uses logos to attempt to convince his audience of the significance of climate change. In order to do this, Gore both cites an expert in the field and provides a scientifically accurate simile to explain the scale of the effect that greenhouse gases have on Earth’s atmosphere.


    What are mythos and kairos?

    Some modern scholars may also use terms mythos and kairos when discussing modes of persuasion or rhetoric in general.

    Aristotle used the term mythos to refer to the plot or story structure of Greek tragedies, i.e., how a playwright ordered the events of the story to affect the audience. Today, mythos is most often discussed as a literary or poetic term rather than a rhetorical one. However, mythos may rarely be referred to as the “appeal to culture” or the “appeal to myth” if it is treated as an additional mode of persuasion. According to this viewpoint, a speaker/writer is using mythos if they try to persuade an audience using shared cultural customs or societal values.

    A commonly cited example of mythos is King’s “I Have a Dream” speech quoted earlier. King says:

    “When the architects of our republic wrote the magnificent words of the Constitution and the Declaration of Independence, they were signing a promissory note to which every American was to fall heir. This note was a promise that all men—yes, black men as well as white men—would be guaranteed the ‘unalienable rights’ of ‘life, liberty and the pursuit of happiness.’ ”

    Throughout the speech, King repeatedly uses American symbols and American history (mythos) to argue that all Americans should be outraged that Black Americans have been denied freedom and civil rights.

    Some modern scholars may also consider kairos as an additional mode of persuasion. Kairos is usually defined as referring to the specific time and place that a speaker chooses to deliver their speech. For written rhetoric, the “place” instead refers to the specific medium or publication in which a piece of writing appears.

    Unlike the other modes of persuasion, kairos relates to the context of a speech and how the appropriateness (or not) of a setting affects how effective a speaker is. Once again, King’s “I Have a Dream” speech is a great example of the use of kairos. This speech was delivered at the steps of the Lincoln Memorial during the 100th anniversary of the Emancipation Proclamation at the end of the March on Washington for Jobs and Freedom. Clearly, King intended to use kairos to enhance the importance and timeliness of this landmark speech.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Understand The Difference Between Ethos, Pathos, And Logos To Make Your Point During an argument, people will often say whatever is necessary to win. If that is the case, they would certainly need to understand the three modes of persuasion, also commonly known as the three rhetorical appeals: ethos, pathos, and logos. In short, these three words refer to three main methods that a person can use to speak or write persuasively. As you’re about to find out, the modes of persuasion are important because a speaker who knows how to effectively use them will have a significant advantage over someone who doesn’t. The terms ethos, pathos, and logos and the theory of their use can be traced back to ancient Greece to the philosophy of Aristotle. Aristotle used these three concepts in his explanations of rhetoric, or the art of influencing the thought and conduct of an audience. For Aristotle, the three modes of persuasion specifically referred to the three major parts of an argument: the speaker (ethos), the argument itself (logos), and the audience (pathos). In particular, Aristotle focused on the speaker’s character, the logic and reason presented by an argument, and the emotional impact the argument had on an audience. While they have ancient roots, these modes of persuasion are alive and well today. Put simply, ethos refers to persuasion based on the credibility or authority of the speaker, pathos refers to persuasion based on emotion, and logos refers to persuasion based on logic or reason. By effectively using the three modes of persuasion with a large supply of rhetorical devices, a speaker or writer can become a master of rhetoric and win nearly any argument or win over any audience. Before they can do that, though, they must know exactly what ethos, pathos, and logos mean. Fortunately, we are going to look closely at each of these three ideas and see if they are really as effective as they are said to be. Quick summary Ethos, pathos, and logos are the three classical modes of persuasion that a person can use to speak or write persuasively. Specifically: ethos (character): known as “the appeal to authority” or “the appeal to credibility.” This is the method in which a person relies on their credibility or character when making an appeal or an argument. pathos (emotions): known as “the appeal to emotion.” Pathos refers to the method of trying to persuade an audience by eliciting some kind of emotional reaction. logos (logic): known as “the appeal to reason.” This method involves using facts and logical reasoning to support an argument and persuade an audience. What is ethos? The word ethos comes straight from Greek. In Greek, ethos literally translates to “habit,” “custom,” or “character.” Ethos is related to the words ethic and ethical, which are typically used to refer to behavior that is or isn’t acceptable for a particular person. In rhetoric, the word ethos is used to refer to the character or reputation of the speaker. As a rhetorical appeal, ethos is known as “the appeal to authority” or “the appeal to credibility.” When it comes to ethos, one important consideration is how the speaker carries themself and how they present themselves to the audience: Does it seem like they know what they are talking about? Do they even believe the words they are saying? Are they an expert? Do they have some experience or skills that tell us we should listen to them? Ethos is important in rhetoric because it often influences the opinion or mood of the audience. If a speaker seems unenthusiastic, unprepared, or inexperienced, the audience is more likely to discount the speaker’s argument regardless of what it even is. On the other hand, a knowledgeable, authoritative, confident speaker is much more likely to win an audience over. Ethos often depends on more than just the argument itself. For example, a speaker’s word choice, grammar, and diction also contribute to ethos; an audience may react more favorably toward a professional speaker who has a good grasp of industry jargon and enunciates clearly versus a speaker who lacks the necessary vocabulary and fails to enunciate. Ethos can also be influenced by nonverbal factors as well, such as posture, body language, eye contact, and even the speaker’s choice of clothing. For example, a military officer proudly wearing their uniform bedecked with medals will go a long way to establishing ethos without them saying a single word. Here as a simple example of ethos: “As a former mayor of this city, I believe we can solve this crisis if we band together.” The speaker uses ethos by alerting the audience of their credentials and experience. By doing so, they rely on their reputation to be more persuasive. This “as a…” method of establishing ethos is common, and you have probably seen it used in many persuasive advertisements and speeches. What is pathos? In Greek, pathos literally translates to “suffering, experience, or sensation.” The word pathos is related to the words pathetic, sympathy, and empathy, which all have to do with emotions or emotional connections. Aristotle used the word pathos to refer to the emotional impact that an argument had on an audience; this usage is still mainly how pathos is used in rhetoric today. As a rhetorical appeal, pathos is referred to as “the appeal to emotion.” Generally speaking, an author or speaker is using pathos when they are trying to persuade an audience by causing some kind of emotional reaction. When it comes to pathos, any and all emotions are on the table: sadness, fear, hope, joy, anger, lust, pity, etc. As you probably know from your own life, emotions are a powerful motivating factor. For this reason, relying on pathos is often a smart and effective strategy for persuading an audience. Both positive and negative emotions can heavily influence an audience: for example, an audience will want to support a speaker whose position will make them happy, a speaker who wants to end their sadness, or a speaker who is opposed to something that makes them angry. Here is a simple example of pathos: “Every day, the rainforests shrink and innocent animals are killed. We must do something about this calamitous trend before the planet we call our home is damaged beyond repair.” Here, the author is trying to win over an audience by making them feel sad, concerned, or afraid. The author’s choice of words like “innocent” and “calamitous” enforce the fact that they are trying to rely on pathos. What is logos? In Greek, the word logos literally translates to “word, reason, or discourse.” The word logos is related to many different words that have to do with reason, discourse, or knowledge, such as logic, logical, and any words that end in the suffixes -logy or -logue. As a mode of persuasion and rhetorical appeal, logos is often referred to as “the appeal to reason.” If a speaker or author is relying on logos, they are typically reciting facts or providing data and statistics that support their argument. In a manner of speaking, logos does away with all of the bells and whistles of ethos and pathos and cuts to the chase by trying to present a rational argument. Logos can be effective in arguments because, in theory, it is impossible to argue against truth and facts. An audience is more likely to agree with a speaker who can provide strong, factual evidence that shows their position is correct. On the flip side, an audience is less likely to support an argument that is flawed or entirely wrong. Going further, a speaker that presents a lot of supporting evidence and data to the audience is likely to come across as knowledgeable and someone to be listened to, which earns bonus points in ethos as well. While Aristotle clearly valued an argument based on reason very highly, we know that logos alone doesn’t always effectively persuade an audience. In your own life, you have likely seen a rational, correct speaker lose an argument to a charismatic, authoritative speaker who may not have the facts right. Here is a simple example of logos: “According to market research, sales of computer chips have increased by 300% in the last five years. Analysis of the industry tells us that the market share of computer chips is dominated by Asian manufacturers. It is clear that the Asian technology sector will continue to experience rapid growth for the foreseeable future.” In this paragraph, the author is using data, statistics, and logical reasoning to make their argument. They clearly hope to use logos to try to convince an audience to agree with them. Examples of ethos, pathos, and logos Ethos, pathos, and logos can all be employed to deliver compelling and persuasive arguments or to win over an audience. Let’s look at a variety of examples to see how different speakers and authors have turned to these modes of persuasion over the years. ethos “Come I to speak in Caesar’s funeral. He was my friend, faithful and just to me […] You all did see that on the Lupercal I thrice presented him a kingly crown, Which he did thrice refuse: was this ambition?” —Marc Antony, Julius Caesar by William Shakespeare In this scene, Marc Antony is trying to win over the Roman people, so Shakespeare has Antony rely on ethos. Antony is establishing himself as both a person of authority in Rome (having the power to offer Caesar a crown) and an expert on Caesar’s true character (Antony was Caesar’s close friend and advisor). “During the next five years, I started a company named NeXT, another company named Pixar, and fell in love with an amazing woman who would become my wife. Pixar went on to create the world’s first computer animated feature film, Toy Story, and is now the most successful animation studio in the world. In a remarkable turn of events, Apple bought NeXT, I returned to Apple, and the technology we developed at NeXT is at the heart of Apple’s current renaissance.” —Steve Jobs, 2005 Here, Steve Jobs is providing his background–via humblebrag– of being a major figure in several different highly successful tech companies. Jobs is using ethos to provide substance to his words and make it clear to the audience that he knows what he is talking about and they should listen to him. pathos “Moreover, though you hate both him and his gifts with all your heart, yet pity the rest of the Achaeans who are being harassed in all their host; they will honour you as a god, and you will earn great glory at their hands. You might even kill Hector; he will come within your reach, for he is infatuated, and declares that not a Danaan whom the ships have brought can hold his own against him.” —Ulysses to Achilles, The Iliad by Homer In this plea, Ulysses is doing his best to pile on the pathos. In one paragraph, Ulysses is attempting to appeal to several of Achilles’s emotions: his hatred of Hector, his infamous stubborn pride, his sympathy for civilians, and his desire for vengeance. “I am not unmindful that some of you have come here out of great trials and tribulations. Some of you have come fresh from narrow jail cells. Some of you have come from areas where your quest—quest for freedom left you battered by the storms of persecution and staggered by the winds of police brutality.” —Dr. Martin Luther King Jr., 1963 In this excerpt from his “I Have A Dream” speech, King is using pathos to accomplish two goals at once. First, he is connecting with his audience by making it clear is aware of their plight and suffering. Second, he is citing these examples to cause sadness or outrage in the audience. Both of these effects will make an audience interested in what he has to say and more likely to support his position. logos “Let it be remembered how powerful the influence of a single introduced tree or mammal has been shown to be. But in the case of an island, or of a country partly surrounded by barriers, into which new and better adapted forms could not freely enter, we should then have places in the economy of nature which would assuredly be better filled up if some of the original inhabitants were in some manner modified; for, had the area been open to immigration, these same places would have been seized on by intruders. In such case, every slight modification, which in the course of ages chanced to arise, and which in any way favoured the individuals of any of the species, by better adapting them to their altered conditions, would tend to be preserved; and natural selection would have free scope for the work of improvement.” —Charles Darwin, On the Origin of the Species, 1859 In this passage, Darwin is using logos by presenting a rational argument in support of natural selection. Darwin connects natural selection to established scientific knowledge to argue that it makes logical sense that animals would adapt to better survive in their environment. “I often echo the point made by the climate scientist James Hansen: The accumulation of carbon dioxide, methane and other greenhouse gases—some of which will envelop the planet for hundreds and possibly thousands of years—is now trapping as much extra energy daily as 500,000 Hiroshima-class atomic bombs would release every 24 hours. This is the crisis we face.” —Al Gore, “The Climate Crisis Is the Battle of Our Time, and We Can Win,” 2019 In this call to action, Al Gore uses logos to attempt to convince his audience of the significance of climate change. In order to do this, Gore both cites an expert in the field and provides a scientifically accurate simile to explain the scale of the effect that greenhouse gases have on Earth’s atmosphere. What are mythos and kairos? Some modern scholars may also use terms mythos and kairos when discussing modes of persuasion or rhetoric in general. Aristotle used the term mythos to refer to the plot or story structure of Greek tragedies, i.e., how a playwright ordered the events of the story to affect the audience. Today, mythos is most often discussed as a literary or poetic term rather than a rhetorical one. However, mythos may rarely be referred to as the “appeal to culture” or the “appeal to myth” if it is treated as an additional mode of persuasion. According to this viewpoint, a speaker/writer is using mythos if they try to persuade an audience using shared cultural customs or societal values. A commonly cited example of mythos is King’s “I Have a Dream” speech quoted earlier. King says: “When the architects of our republic wrote the magnificent words of the Constitution and the Declaration of Independence, they were signing a promissory note to which every American was to fall heir. This note was a promise that all men—yes, black men as well as white men—would be guaranteed the ‘unalienable rights’ of ‘life, liberty and the pursuit of happiness.’ ” Throughout the speech, King repeatedly uses American symbols and American history (mythos) to argue that all Americans should be outraged that Black Americans have been denied freedom and civil rights. Some modern scholars may also consider kairos as an additional mode of persuasion. Kairos is usually defined as referring to the specific time and place that a speaker chooses to deliver their speech. For written rhetoric, the “place” instead refers to the specific medium or publication in which a piece of writing appears. Unlike the other modes of persuasion, kairos relates to the context of a speech and how the appropriateness (or not) of a setting affects how effective a speaker is. Once again, King’s “I Have a Dream” speech is a great example of the use of kairos. This speech was delivered at the steps of the Lincoln Memorial during the 100th anniversary of the Emancipation Proclamation at the end of the March on Washington for Jobs and Freedom. Clearly, King intended to use kairos to enhance the importance and timeliness of this landmark speech. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 835 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🖍️รวมหัวข้อใน stopthaicontrol.com
    👉ความจริงของ โควิด-19 (ฉบับเต็ม)
    https://stopthaicontrol.com/%e0%b9%81%e0%b8%a2%e0.../1644/
    👉วาระ | Social Credit System (Vaccine Passport) | ระบบทาส ควบคุมประชากรโลก ด้วยเทคโนโลยี
    https://stopthaicontrol.com/uncategorized/123456/
    👉อะไรกำลังเกิดขึ้น
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../
    👉บทความที่ 1: การล้างสมองมวลชน | ใครครองสื่อ?
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8.../
    👉อ.ทวีสุข ธรรมศักดิ์ |ตระกูล Rothschild เบื้องหลังแนวคิดการปกครองโลก
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ad-%e0%b8%97%e0.../
    👉ความลับของวัคซีน mRNA (ฉบับที่ 1)
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../
    👉ความลับของวัคซีน mRNA (ฉบับที่ 2)
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../
    👉“PCR ควรถูกนำไปทิ้งโดยทันที” – ดร. สุจริต ภักดี
    https://stopthaicontrol.com/.../pcr-%e0%b8%84%e0%b8%a7.../
    👉PCR – ผลิกตัวเลขผู้ติดเชื้อเท็จ​
    https://stopthaicontrol.com/.../pcr-%e0%b8%9c%e0%b8%a5.../
    👉ศาสตราจารย์ นพ. สุจริต ภักดี | วัคซีนในเด็ก 1/2
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8.../
    👉ศาสตราจารย์ นพ. สุจริต ภักดี | วัคซีนในเด็ก 2/2
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%b3%e0%b9.../
    👉รวมคลิป ศาสตราจารย์ ดร. สุจริต ภักดี
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8.../
    👉แพทย์จุฬาฯ ออกโรงแล้วเตือนภัยวัคซีน
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8.../
    👉นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง | การหลอกลวงเรื่อง ‘วัคซีน’
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b8%9e-%e0.../
    👉ความจริงของโควิด 19 – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../
    👉นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง – เทคนิคการหลอกลวงทางจิตวิทยา
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b8%9e-%e0.../
    👉ข้อเท็จจริง mRNA – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8.../
    👉ยาฉีดไฟเซอร์ที่เอามาฉีดให้เด็กอายุ 5-11 ปียังอยู่ระหว่างการทดลองไม่สามารถกันการติดเชื้อได้ไม่มีข้อมูลว่ากัน MIS-C ได้
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8.../
    👉คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง จากผู้สร้าง mRNA
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%b3%e0%b9.../
    👉Pandemic Baby – เด็กยุคใหม่ที่ คุณพ่อ คุณแม่ฉีด mRNA วัคซีน
    https://stopthaicontrol.com/uncategorized/pandemic-baby/
    👉David Icke | โครงสร้างการควบคุมรัฐบาลทั่วโลก
    https://stopthaicontrol.com/.../david-icke-%e0%b9%82%e0.../
    👉A Timeline To Tyranny
    https://stopthaicontrol.com/uncate.../a-timeline-to-tyranny/
    👉ไทม์ไลน์ สู่ทรราช
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8.../
    👉ADE ที่เกิดจากวัคซีน คืออะไร?​ (สำคัญ)
    https://stopthaicontrol.com/.../cytokine-storm-%e0%b8%ab.../
    👉ภัยเงียบของแมสก์
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a0%e0%b8%b1%e0%b8.../
    👉มาตรการโควิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต เพิ่มมากขึ้น
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8.../
    👉CDC ยอมรับผู้ที่ฉีดวัคซีน มีความเสียงโรคสูง
    https://stopthaicontrol.com/.../cdc-%e0%b8%a2%e0%b8%ad.../
    👉เสียงของพ่อ : เรื่องความยุติธรรม
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8.../
    👉เข้าใจโควิด | รักษาถูก คนรอดชีวิต
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b9.../
    👉สิทธิบัตรการควบคุมจิตประสาท Mind Control – US Patent 601732 A
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8.../
    👉ไต้หวันระงับฉีดเข็ม 2 วัคซีนโควิด ‘ไฟเซอร์’ เด็ก 12-17 ปี กังวลเสี่ยงหัวใจอักเสบ
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%84%e0%b8%95%e0%b9.../
    👉จดหมายจากผู้ปกครอง
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%88%e0%b8%94%e0%b8.../
    👉ทุจริตใน FDA
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8.../
    👉“ความบังเอิญ” ของการหัวใจวายในนักกิฬา/ดารา ทั่วโลก ปีนี้
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../
    👉สไปค์โปรตีนของโคโรน่าไวรัสมีบทบาทสำคัญในการเจ็บป่วย
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0%b9%84%e0%b8.../
    👉นักวิทยาศาสตร์วิศวกรรม ‘Magneto’ โปรตีนที่สามารถควบคุมสมองและพฤติกรรมคนจากระยะไกลได้
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8.../
    👉นิทานว่าด้วย สุนัขบ้าโควิด กับยามประจำหมู่บ้าน
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8.../
    👉ความรู้โดยแพทย์ – ทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งต้นที่ “ความกลัว”
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../
    👉วัคซีนในเด็ก โดยคุณแม่ที่เป็นแพทย์
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../
    👉องค์การอาหารและยา FDA หลุดแสดงผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ของวัคซีนโควิด-19 ในสไลด์โชว์
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8.../
    👉แจ้งเตือนการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง วัคซีนโควิด-19 สามารถทำให้อาการของโรคร้ายแรงขึ้นจากภาวะ Antibody-dependent enhancement (ADE)
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%81%e0%b8%88%e0%b9.../
    👉ฉีดแล้วบาดเจ็บ? ฟ้องร้องที่นี้
    https://stopthaicontrol.com/uncategorized/draft/
    👉เครือข่ายผสานภูมิปัญญารับมือ COVID-19
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8.../
    👉ความรู้โดยแพทย์
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../
    และ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8.../
    👉CDC ยอมรับคนที่ฉีดกำลังมีอาการรุนแรง
    https://stopthaicontrol.com/.../cdc-%e0%b8%a2%e0%b8%ad.../
    👉วัคซีนเสร็จก่อนที่โควิดจะระบาด
    https://stopthaicontrol.com/.../ep-1-%e0%b8%a1%e0%b8%99.../
    👉สิทธิบัตร WO/2020/060606 – “ระบบ สกุลเงินดิจิตอล โดยใช้ข้อมูลกิจกรรมของร่างกาย”
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8.../
    👉วัคซีนอันตรายต่อเด็ก มากกว่า โควิด 7 เท่า
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../
    👉ออสเตรเลีย ไม่เอาวัคซีน
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8.../
    👉ลอนดอน เดินกระบวนเสรีภาพ 24 กรกฎาคม 2021
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8.../
    👉เตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีน (ต้องรู้อะไรบ้าง)
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8.../
    👉FACT CHECKED: สรุป mRNA เปลี่ยน DNA มนุษย์หรือไม่?
    https://stopthaicontrol.com/.../fact-checked-%e0%b8%aa.../
    👉CEO ของมอเดอร์น่า – เราใช้เวลา 2 วันในการพัฒนาวัคซีน
    https://stopthaicontrol.com/.../ceo-%e0%b8%82%e0%b8%ad.../
    👉วัคซีนแพร่กระจายตัวเอง
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../
    👉สถิติทางการ: ฉีดวัคซีนโควิด 19 แท้ง 82%
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9.../
    👉พ.ญ. เชลลีย์ โคล สูตินรีแพทย์ – วัคซีนเป็นภัยต่อสตรีมีครรภ์
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8.../
    👉มอเดอร์น่า มีวัคซีนโควิดก่อนโรคระบาด
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b9.../
    👉CDC | ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (คลิปสั้น)
    https://stopthaicontrol.com/.../cdc-%e0%b8%a8%e0%b8%b9.../
    👉สื่อ รัฐบาล | ใครเป็นคนควบคุมข้อมูล และ ความคิดของเรา? (คลิปสั้น)
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9.../
    👉วิธีการหลอกลวงของสื่อและการตรวจสอบข้อเท็จจริง | Fact Check (คลิปสั้น)
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8.../
    👉จอห์น ดี. ร็อกเกอะเฟลเลอร์ – การเกิดของยาขนาดใหญ่ บิกฟาร์ม่า (คลิปสั้น)​
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%88%e0%b8%ad%e0%b8.../
    👉 | แผนโรคระบาดใหญ่ – (เวอร์ชั่นเต็ม)
    https://stopthaicontrol.com/.../plandemic-%e0%b9%81%e0.../
    👉บิล เกตส์ ตัวจริงคือใคร? | Plandemic (คลิปสั้น)
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8.../
    👉ความจริงของ องค์การอนามัยโลก WHO
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../
    👉คลิปหลุด ความลับแตก – วัคซีน mRNA เปลี่ยนพันธุกรรมมนุษย์
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b8.../
    👉ได้ยินแต่ไม่ฟัง – การประชุมของ FDA การอนุมัติ กฏหมายวัคซีนฉุกเฉิน
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9.../
    👉ทำไมเราถูกแยกออกจากกัน?
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b9.../
    👉วัคซีน mRNA เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมมนุษย์?
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../
    👉สตรี 4,000 คนรายงานปัญหาประจำเดือน หลังรับวัคซีน
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9.../
    👉คุณหมอ วิชัย เอกทักษิณ: วิธีการป้องกันการติดเชื้อ
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8.../
    👉การประชุมของ FDA การอนุมัติ กฏหมายวัคซีนฉุกเฉิน
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8.../
    👉David Icke – อะไรอยู่ในวัคซีน?
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9.../
    👉ดร. แอนดริว คอฟแมน – ข้อความถึงผู้เดินกระบวน 24/7/2021 ลอนดอน
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%94%e0%b8%a3-%e0.../
    👉ดร. ไรเนอร์ ฟูเอลมิช – โควิด อาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%94%e0%b8%a3-%e0.../
    👉น.พ. ปีเตอร์ แม็คคัลลูห์ พูดถึงการเสียชีวิตจากวัคซีน
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8.../
    👉นี้คือการเมืองในวงการแพทย์​ – ดร. ฮอดคินสัน พูดถึงโควิด
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b8%b5%e0%b9.../
    👉ดร. ไมค์ ยีดัน – นี้คือโอกาสสุดท้าย
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%94%e0%b8%a3-%e0.../
    👉เราถูกล้างสมอง (นี่คือวิธีที่พวกเขาทำ) – Dr. Vernon Coleman
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8.../
    👉ศาสตราจารย์ สุจริต ภักดี – Over Reaction และ Immune Dependent Enhancement
    https://stopthaicontrol.com/.../over-reaction-%e0%b9%81.../
    👉สร้างภูมิคุ้มกันง่ายๆ
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8.../
    👉แม่เหล็กในวัคซีน ตกลงมันจริงหรือไม่?
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b9.../
    👉การสอบสวนสถิติโควิด (ซับไทย)
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8.../
    👉คลิปแอนนีเมชั่น วันซีน mRNA
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../
    👉นักวิทยาศาสตร์สเปนพบ ‘กราฟีนออกไซด์’ ในวัคซีน
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8.../
    👉สรุปผลจากประเทศที่ฉีดแล้ว
    https://stopthaicontrol.com/uncategorized/5332/
    👉อัตราการรอดของพวกเราคือ 99.9%
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8.../
    👉บิล เกตส์: วัคซีนเพื่อลดประชากรโลก
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8.../
    👉ข่าวดีและข่าวหนักใจบางส่วนจาก ศาสตราจารย์ สุจริต ภักดี
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%82%e0%b9%88%e0%b8.../
    👉บิล เกตส์ ”วัคซีนใหม่สามารถลดประชากร 10-15%”
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8.../
    👉การสอบสวนสถิติโควิด (ซับไทย)
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8.../
    👉โลกตื่นแล้ว…
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8.../
    👉คุณหมอ วิชัย แสดงความคิดเห็นเรื่องการฉีดวัคซีน
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8.../
    👉วัคซีนไม่เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมมนุษย์ จริงหรือไม่?
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../
    👉Dr. Stoian Alexov – ประธาน สมาคมพยาธิวิทยา ประเทศ บัลแกเรีย
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-stoian-alexov-%e0%b8.../
    น้องใหม่วิทยาลัยอายุ 19 ปีเสียชีวิตจากปัญหาหัวใจหนึ่งเดือนหลังจากฉีด👉วัคซีน Moderna ครั้งที่สอง
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8.../
    👉คุณพ่อ: ชีวิต ‘ไม่เหมือนเดิม’ สำหรับนักเรียนอายุ 21 ปี ‘ล้ามเนื้อหัวใจตาย’ หลังฉีด Moderna เข็มที่สอง
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8.../
    👉ทำไมเราถูกแยกออกจากกัน?
    https://stopthaicontrol.com/.../coronavirus-%e0%b9%81%e0.../
    👉แคนาดา: คลินิกป๊อปอัพแจกไอศกรีมให้เด็กเพื่อรับวัคซีนโควิด | ไม่ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%81%e0%b8%84%e0%b8.../
    👉วัยรุ่นคอนเนตทิคัต 18 คนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากปัญหาหัวใจหลังได้รับวัคซีน COVID ทำเนียบขาวกล่าวว่าคนหนุ่มสาวยังควรฉีด
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../
    👉ก่อนที่จะฉีด ‘วัคซีนโควิด’ ลูกชายของเธอเป็นนักกีฬาที่มีสุขภาพดี แต่ตอนนี้เขา ‘เดินแทบไม่ได้’ คุณแม่กล่าว
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8.../
    👉ลิซ่าชอว์ผู้จัดรายการ BBC เสียชีวิตหลังได้รับ “วัคซีน”
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8.../
    👉CDC ตรวจสอบปัญหาหัวใจในวัยรุ่นหลังฉีดวัคซีน COVID
    https://stopthaicontrol.com/.../cdc-%e0%b8%95%e0%b8%a3.../
    👉CDC ตรวจสอบรายงานปัญหาหัวใจ ‘อ่อน’ ในวัยรุ่น หลังได้รับวัคซีน COVID
    https://stopthaicontrol.com/.../cdc-%e0%b8%95%e0%b8%a3.../
    👉อัปเดตครั้งที่ 17 เกี่ยวกับปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ต่อวัคซีนโควิดที่ออกโดยรัฐบาลสหราชอาณาจักร / MHRA
    https://stopthaicontrol.com/%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0.../1811/
    👉แพทย์ในสหราชอาณาจักรส่งจดหมายเปิดผนึกถึง ‘หน่วยงานกำกับดูแล’ ของปลอมโดยเน้นย้ำถึงข้อกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับข้อเสนอที่จะให้เด็ก ๆ ได้รับวัคซีน ‘โควิด -19’
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8.../
    👉เบื้องหลังของ PCR เครื่องตรวจโควิด|ดร. สุจริต ภักดี – “PCR ควรถูกนำไปทิ้งโดยทันที”
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%89%e0%b9%89%e0%b8.../
    👉It’s Here: First Court Case Against Mandatory Vaccination | Attorney Interview
    https://stopthaicontrol.com/.../its-here-first-court.../
    👉Dr. Kaufman Explains The PCR Test And Why It’s Not Suitable For Covid 19 Testing
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-kaufman-explains-the.../
    👉SUCHARIT BHAKDI, PHD | COVID VACCINE OPEN LETTER TO THE GERMAN CHANCELLOR
    https://stopthaicontrol.com/.../sucharit-bhakdi-phd.../
    👉Dr. Michael Yeadon, PHD Former Chief Scientist of Pfizer
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-michael-yeadon-phd.../
    👉SCOTT JENSON, MD | IMMUNITY PASSPORT WARNING
    https://stopthaicontrol.com/.../scott-jenson-md-immunity.../
    👉PRESIDENT JOHN MAGUFULI OF TANZANIA SENDS FAKE COVID-19 TEST SAMPLES TO THE LAB THAT TEST POSITIVE
    https://stopthaicontrol.com/.../president-john-magufuli.../
    👉Proof That RT-PCR Test Doesn’t Test For Covid 19
    https://stopthaicontrol.com/.../proof-that-rt-pcr-test.../
    👉German Medical Professional For Humanity to Oust CV19 Globalist Sinister Agenda
    https://stopthaicontrol.com/.../german-medical.../
    👉PATRIOT DROPS “TRUTH 💣 BOMB” SLAYING NWO CV19
    https://stopthaicontrol.com/.../patriot-drops-truth-%f0.../
    👉Let’s Open Our Eyes
    https://stopthaicontrol.com/5/lets-open-our-eyes/
    👉Who Controls The Media
    https://stopthaicontrol.com/uncat.../who-controls-the-media/
    👉5G MIND CONTROL
    https://stopthaicontrol.com/10/5g-mind-control/
    👉MEET BILL GATE$ —- FULL DOCUMENTARY
    https://stopthaicontrol.com/.../meet-bill-gate-full.../
    👉SILENCED FRONTLINE DOCTORS HOLD CAPITOL HILL PRESS CONFERENCE TO CHALLENGE BIG TECH
    https://stopthaicontrol.com/.../silenced-frontline.../
    👉DAVID ICKE AND DR. KAUFMAN – RT-PCR TEST IS IDENTIFYING CHROMOSOME 8 WHICH IS IN ALL HUMANS
    https://stopthaicontrol.com/.../david-icke-and-dr.../
    👉HUMAN 2.0 A WAKE-UP CALL TO THE WORLD – DR. CARRIE MADEJ
    https://stopthaicontrol.com/.../human-2-0-a-wake-up-call.../
    👉HEAVILY CENSORED VIDEO – THE CORONA VACCINE IS PLANNED POPULATION REDUCTION
    https://stopthaicontrol.com/.../heavily-censored-video.../
    👉BOMBSHELL EVIDENCE THAT COVID RT-PCR TESTS FOR CHROMOSOME 8 HUMAN DNA PRIMARY ASSEMBLY
    https://stopthaicontrol.com/.../bombshell-evidence-that.../
    👉PCR IS A TOOL OF CRIMINAL REGIMES
    https://stopthaicontrol.com/.../pcr-is-a-tool-of.../
    👉PROF. DR. KÄMMERER & DR. WODARG: PCR-TEST WEIST KEINE INFEKTION NACH (CORONA AUSSCHUSS)
    https://stopthaicontrol.com/.../prof-dr-kammerer-dr.../
    👉ATTENTION ABOUT PCR TESTING [2021-05-07] – DR. RASHID BUTTAR & DR. LORRAINE DAY (VIDEO)
    https://stopthaicontrol.com/.../attention-about-pcr.../
    👉UK GOVERNMENT ESTIMATES THE FALSE-POSITIVE RATE OF COVID-19 TESTING AS 2.3% (OR ALL EXISTING CASES)
    https://stopthaicontrol.com/.../uk-government-estimates.../
    👉UNMASKING THE LIES OF COVID-19 – THE PCR TEST Unmasking The Lies of Covid 19 – The PCR Test by Dr. Kaufman.
    https://stopthaicontrol.com/.../unmasking-the-lies-of.../
    👉Dr. Thomas Cowan, MD | How The RE-PCR Covid 19 Test Works
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-thomas-cowan-md-how.../
    👉BOMBSHELL EVIDENCE THAT COVID IS CHROMOSOME 8 HUMAN DNA – FAULTY PCR TEST ¦ AMANDHA VOLLMER
    https://stopthaicontrol.com/.../bombshell-evidence-that.../
    👉DR. KAUFMAN – CHROMOSOME 8 AND THE SARS-COV2 PCR TEST
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-kaufman-chromosome-8.../
    👉DR. LEE MERRIT: BIO-WARFARE, VACCINE DANGER, & WEAPONIZATION OF COVID19
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-lee-merrit-bio.../
    👉A Manufactured Illusion: Dr. David Martin with Dr. Reiner Fuellmuch, July 2021
    https://stopthaicontrol.com/.../a-manufactured-illusion.../
    👉EVERY ‘COVID VARIANT’ IS JUST A FIGMENT OF SOME CORRUPT GOVERNMENT SCIENTIST’S WILD IMAGINATION
    https://stopthaicontrol.com/.../every-covid-variant-is.../
    👉PCR FRAUD
    https://stopthaicontrol.com/1/pcr-fraud/
    👉PCR test from the inventor himself.
    https://stopthaicontrol.com/.../pcr-test-from-the.../
    👉David Icke: PCR Test With Dr. Andrew Kaufman
    https://stopthaicontrol.com/.../david-icke-pcr-test-with.../
    👉Cellular and molecular biologist Judy Mikovits, Ph.D. – WHY PCR TESTING IS A BAD IDEA
    https://stopthaicontrol.com/.../cellular-and-molecular.../
    👉Dr. Lorraine Day: It’s time to be candid! Covid is nothing.
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-lorraine-day-its-time.../
    👉Dr. Roger Hodkinson on Covid Hoax: “UTTERLY RIDICULOUS… IT’S SIMPLY OUTRAGEOUS!”
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-roger-hodkinson-on.../
    👉Dr. Francis Boyle: ‘Bioweapon’ mRNA Vaccines Violate Nuremberg Code
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-francis-boyle.../
    👉HEALTH EXPERT: “STOP COVID VAX EXPERIMENTS”
    https://stopthaicontrol.com/.../health-expert-stop-covid.../
    👉PCR: POSITIVE COUNT RISING
    https://stopthaicontrol.com/1/pcr-positive-count-rising/
    👉STILL THINK A VACCINE IS SAFE?
    https://stopthaicontrol.com/6/still-think-a-vaccine-is-safe/
    👉WARNING: 30 DOCTORS/EXPERTS FROM ALL OVER THE WORLD WARN ABOUT ‘COVID’ VACCINE!
    https://stopthaicontrol.com/.../warning-30-doctors.../
    👉‘THE BIGGEST EXPERIMENT EVER DONE’ (AWARD-WINNING VIROLOGIST, DR. SUCHARIT BHAKDI)
    https://stopthaicontrol.com/.../the-biggest-experiment.../
    👉DR. PETRELLA PREFERS DEATH OVER THE COVID-19 VACCINE – PAY ATTENTION!
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-petrella-prefers.../
    👉Dr. Mike Yeadon: Government are using a Covid -19 Test with undeclared False Positive Rates
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-mike-yeadon.../
    👉Zero Evidence That Covid Fulfills KOCH’S 4 Germ Theory Postulates – Dr. Andrew Kaufman & Sayer Ji
    https://stopthaicontrol.com/.../zero-evidence-that-covid.../
    👉Crimes Against Humanity – Dr. Reiner Fuellmich
    https://stopthaicontrol.com/.../crimes-against-humanity.../
    👉Over Reaction และ Immune Dependent Enhancement
    https://stopthaicontrol.com/.../over-reaction-%e0%b9%81.../
    👉Dr. med. Thomas Binder, Internist and Cardiologist (FMH), Switzerland
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-med-thomas-binder.../
    👉Dr. Fabio Franchi, Former Dirigente Medico (M.D) in an Infectious Disease Ward, specialized in “Infectious Diseases”
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-fabio-franchi-former.../
    👉Dr. Lidiya Angelova – PhD in microbiology
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-lidiya-angelova-phd.../
    👉Dr. Paul McSheehy (BSc, PhD), Biochemist & Industry Pharmacologist, Loerrach, Germany
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-paul-mcsheehy-bsc-phd.../
    👉Dr. Kevin McKernan, BS Emory University, Chief Scientific Officer
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-kevin-mckernan-bs.../
    👉Dr. Clare Craig MA, (Cantab) BM, BCh (Oxon), FRCPath, United Kingdom
    https://stopthaicontrol.com/.../dr-clare-craig-ma-cantab.../
    👉P. Borger (MSc, PhD)- Molecular Genetics Expert. Science writer and author.
    https://stopthaicontrol.com/.../p-borger-msc-phd.../
    👉Elon Musk
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0.../elon-musk/
    👉 AgendaLegal EvidencesProtestRT-PCR TestVaccineVirus Isolation
    The Truth of Covid-19
    https://stopthaicontrol.com/travel/the-truth-of-covid-19/
    👉Dorian Yates – Six Time Mr. Olympia Winner
    https://stopthaicontrol.com/.../dorian-yates-six-time-mr.../
    👉Dave Rubin – American political commentator, YouTube personality, and talk show host.
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0.../dave-rubin/
    👉General Robert S. Spalding III – Special Assistant To The U.S. Air Force Vice Chief Of Staff
    https://stopthaicontrol.com/.../general-robert-s.../
    👉Dr. Judy Mikovits
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9.../dr-judy-mikovits/
    👉Charlie Kirk – Founder Of Turning Point USA
    https://stopthaicontrol.com/.../charlie-kirk-founder-of.../
    👉สนับสนุนเวปไซด์
    https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8.../
    ข้อมูลโดย อดิเทพ จาวลาห์
    🖍️รวมหัวข้อใน stopthaicontrol.com 👉ความจริงของ โควิด-19 (ฉบับเต็ม) https://stopthaicontrol.com/%e0%b9%81%e0%b8%a2%e0.../1644/ 👉วาระ | Social Credit System (Vaccine Passport) | ระบบทาส ควบคุมประชากรโลก ด้วยเทคโนโลยี https://stopthaicontrol.com/uncategorized/123456/ 👉อะไรกำลังเกิดขึ้น https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../ 👉บทความที่ 1: การล้างสมองมวลชน | ใครครองสื่อ? https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8.../ 👉อ.ทวีสุข ธรรมศักดิ์ |ตระกูล Rothschild เบื้องหลังแนวคิดการปกครองโลก https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ad-%e0%b8%97%e0.../ 👉ความลับของวัคซีน mRNA (ฉบับที่ 1) https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../ 👉ความลับของวัคซีน mRNA (ฉบับที่ 2) https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../ 👉“PCR ควรถูกนำไปทิ้งโดยทันที” – ดร. สุจริต ภักดี https://stopthaicontrol.com/.../pcr-%e0%b8%84%e0%b8%a7.../ 👉PCR – ผลิกตัวเลขผู้ติดเชื้อเท็จ​ https://stopthaicontrol.com/.../pcr-%e0%b8%9c%e0%b8%a5.../ 👉ศาสตราจารย์ นพ. สุจริต ภักดี | วัคซีนในเด็ก 1/2 https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8.../ 👉ศาสตราจารย์ นพ. สุจริต ภักดี | วัคซีนในเด็ก 2/2 https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%b3%e0%b9.../ 👉รวมคลิป ศาสตราจารย์ ดร. สุจริต ภักดี https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8.../ 👉แพทย์จุฬาฯ ออกโรงแล้วเตือนภัยวัคซีน https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8.../ 👉นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง | การหลอกลวงเรื่อง ‘วัคซีน’ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b8%9e-%e0.../ 👉ความจริงของโควิด 19 – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../ 👉นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง – เทคนิคการหลอกลวงทางจิตวิทยา https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b8%9e-%e0.../ 👉ข้อเท็จจริง mRNA – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8.../ 👉ยาฉีดไฟเซอร์ที่เอามาฉีดให้เด็กอายุ 5-11 ปียังอยู่ระหว่างการทดลองไม่สามารถกันการติดเชื้อได้ไม่มีข้อมูลว่ากัน MIS-C ได้ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8.../ 👉คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง จากผู้สร้าง mRNA https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%b3%e0%b9.../ 👉Pandemic Baby – เด็กยุคใหม่ที่ คุณพ่อ คุณแม่ฉีด mRNA วัคซีน https://stopthaicontrol.com/uncategorized/pandemic-baby/ 👉David Icke | โครงสร้างการควบคุมรัฐบาลทั่วโลก https://stopthaicontrol.com/.../david-icke-%e0%b9%82%e0.../ 👉A Timeline To Tyranny https://stopthaicontrol.com/uncate.../a-timeline-to-tyranny/ 👉ไทม์ไลน์ สู่ทรราช https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8.../ 👉ADE ที่เกิดจากวัคซีน คืออะไร?​ (สำคัญ) https://stopthaicontrol.com/.../cytokine-storm-%e0%b8%ab.../ 👉ภัยเงียบของแมสก์ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a0%e0%b8%b1%e0%b8.../ 👉มาตรการโควิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต เพิ่มมากขึ้น https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8.../ 👉CDC ยอมรับผู้ที่ฉีดวัคซีน มีความเสียงโรคสูง https://stopthaicontrol.com/.../cdc-%e0%b8%a2%e0%b8%ad.../ 👉เสียงของพ่อ : เรื่องความยุติธรรม https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8.../ 👉เข้าใจโควิด | รักษาถูก คนรอดชีวิต https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b9.../ 👉สิทธิบัตรการควบคุมจิตประสาท Mind Control – US Patent 601732 A https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8.../ 👉ไต้หวันระงับฉีดเข็ม 2 วัคซีนโควิด ‘ไฟเซอร์’ เด็ก 12-17 ปี กังวลเสี่ยงหัวใจอักเสบ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%84%e0%b8%95%e0%b9.../ 👉จดหมายจากผู้ปกครอง https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%88%e0%b8%94%e0%b8.../ 👉ทุจริตใน FDA https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8.../ 👉“ความบังเอิญ” ของการหัวใจวายในนักกิฬา/ดารา ทั่วโลก ปีนี้ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../ 👉สไปค์โปรตีนของโคโรน่าไวรัสมีบทบาทสำคัญในการเจ็บป่วย https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0%b9%84%e0%b8.../ 👉นักวิทยาศาสตร์วิศวกรรม ‘Magneto’ โปรตีนที่สามารถควบคุมสมองและพฤติกรรมคนจากระยะไกลได้ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8.../ 👉นิทานว่าด้วย สุนัขบ้าโควิด กับยามประจำหมู่บ้าน https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8.../ 👉ความรู้โดยแพทย์ – ทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งต้นที่ “ความกลัว” https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../ 👉วัคซีนในเด็ก โดยคุณแม่ที่เป็นแพทย์ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../ 👉องค์การอาหารและยา FDA หลุดแสดงผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ของวัคซีนโควิด-19 ในสไลด์โชว์ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8.../ 👉แจ้งเตือนการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง วัคซีนโควิด-19 สามารถทำให้อาการของโรคร้ายแรงขึ้นจากภาวะ Antibody-dependent enhancement (ADE) https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%81%e0%b8%88%e0%b9.../ 👉ฉีดแล้วบาดเจ็บ? ฟ้องร้องที่นี้ https://stopthaicontrol.com/uncategorized/draft/ 👉เครือข่ายผสานภูมิปัญญารับมือ COVID-19 https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8.../ 👉ความรู้โดยแพทย์ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../ และ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8.../ 👉CDC ยอมรับคนที่ฉีดกำลังมีอาการรุนแรง https://stopthaicontrol.com/.../cdc-%e0%b8%a2%e0%b8%ad.../ 👉วัคซีนเสร็จก่อนที่โควิดจะระบาด https://stopthaicontrol.com/.../ep-1-%e0%b8%a1%e0%b8%99.../ 👉สิทธิบัตร WO/2020/060606 – “ระบบ สกุลเงินดิจิตอล โดยใช้ข้อมูลกิจกรรมของร่างกาย” https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8.../ 👉วัคซีนอันตรายต่อเด็ก มากกว่า โควิด 7 เท่า https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../ 👉ออสเตรเลีย ไม่เอาวัคซีน https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8.../ 👉ลอนดอน เดินกระบวนเสรีภาพ 24 กรกฎาคม 2021 https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8.../ 👉เตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีน (ต้องรู้อะไรบ้าง) https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8.../ 👉FACT CHECKED: สรุป mRNA เปลี่ยน DNA มนุษย์หรือไม่? https://stopthaicontrol.com/.../fact-checked-%e0%b8%aa.../ 👉CEO ของมอเดอร์น่า – เราใช้เวลา 2 วันในการพัฒนาวัคซีน https://stopthaicontrol.com/.../ceo-%e0%b8%82%e0%b8%ad.../ 👉วัคซีนแพร่กระจายตัวเอง https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../ 👉สถิติทางการ: ฉีดวัคซีนโควิด 19 แท้ง 82% https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9.../ 👉พ.ญ. เชลลีย์ โคล สูตินรีแพทย์ – วัคซีนเป็นภัยต่อสตรีมีครรภ์ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8.../ 👉มอเดอร์น่า มีวัคซีนโควิดก่อนโรคระบาด https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b9.../ 👉CDC | ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (คลิปสั้น) https://stopthaicontrol.com/.../cdc-%e0%b8%a8%e0%b8%b9.../ 👉สื่อ รัฐบาล | ใครเป็นคนควบคุมข้อมูล และ ความคิดของเรา? (คลิปสั้น) https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9.../ 👉วิธีการหลอกลวงของสื่อและการตรวจสอบข้อเท็จจริง | Fact Check (คลิปสั้น) https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8.../ 👉จอห์น ดี. ร็อกเกอะเฟลเลอร์ – การเกิดของยาขนาดใหญ่ บิกฟาร์ม่า (คลิปสั้น)​ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%88%e0%b8%ad%e0%b8.../ 👉 | แผนโรคระบาดใหญ่ – (เวอร์ชั่นเต็ม) https://stopthaicontrol.com/.../plandemic-%e0%b9%81%e0.../ 👉บิล เกตส์ ตัวจริงคือใคร? | Plandemic (คลิปสั้น) https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8.../ 👉ความจริงของ องค์การอนามัยโลก WHO https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8.../ 👉คลิปหลุด ความลับแตก – วัคซีน mRNA เปลี่ยนพันธุกรรมมนุษย์ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%a5%e0%b8.../ 👉ได้ยินแต่ไม่ฟัง – การประชุมของ FDA การอนุมัติ กฏหมายวัคซีนฉุกเฉิน https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9.../ 👉ทำไมเราถูกแยกออกจากกัน? https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b9.../ 👉วัคซีน mRNA เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมมนุษย์? https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../ 👉สตรี 4,000 คนรายงานปัญหาประจำเดือน หลังรับวัคซีน https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9.../ 👉คุณหมอ วิชัย เอกทักษิณ: วิธีการป้องกันการติดเชื้อ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8.../ 👉การประชุมของ FDA การอนุมัติ กฏหมายวัคซีนฉุกเฉิน https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8.../ 👉David Icke – อะไรอยู่ในวัคซีน? https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9.../ 👉ดร. แอนดริว คอฟแมน – ข้อความถึงผู้เดินกระบวน 24/7/2021 ลอนดอน https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%94%e0%b8%a3-%e0.../ 👉ดร. ไรเนอร์ ฟูเอลมิช – โควิด อาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%94%e0%b8%a3-%e0.../ 👉น.พ. ปีเตอร์ แม็คคัลลูห์ พูดถึงการเสียชีวิตจากวัคซีน https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8.../ 👉นี้คือการเมืองในวงการแพทย์​ – ดร. ฮอดคินสัน พูดถึงโควิด https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b8%b5%e0%b9.../ 👉ดร. ไมค์ ยีดัน – นี้คือโอกาสสุดท้าย https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%94%e0%b8%a3-%e0.../ 👉เราถูกล้างสมอง (นี่คือวิธีที่พวกเขาทำ) – Dr. Vernon Coleman https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8.../ 👉ศาสตราจารย์ สุจริต ภักดี – Over Reaction และ Immune Dependent Enhancement https://stopthaicontrol.com/.../over-reaction-%e0%b9%81.../ 👉สร้างภูมิคุ้มกันง่ายๆ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8.../ 👉แม่เหล็กในวัคซีน ตกลงมันจริงหรือไม่? https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b9.../ 👉การสอบสวนสถิติโควิด (ซับไทย) https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8.../ 👉คลิปแอนนีเมชั่น วันซีน mRNA https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../ 👉นักวิทยาศาสตร์สเปนพบ ‘กราฟีนออกไซด์’ ในวัคซีน https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8.../ 👉สรุปผลจากประเทศที่ฉีดแล้ว https://stopthaicontrol.com/uncategorized/5332/ 👉อัตราการรอดของพวกเราคือ 99.9% https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8.../ 👉บิล เกตส์: วัคซีนเพื่อลดประชากรโลก https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8.../ 👉ข่าวดีและข่าวหนักใจบางส่วนจาก ศาสตราจารย์ สุจริต ภักดี https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%82%e0%b9%88%e0%b8.../ 👉บิล เกตส์ ”วัคซีนใหม่สามารถลดประชากร 10-15%” https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b8.../ 👉การสอบสวนสถิติโควิด (ซับไทย) https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8.../ 👉โลกตื่นแล้ว… https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8.../ 👉คุณหมอ วิชัย แสดงความคิดเห็นเรื่องการฉีดวัคซีน https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8.../ 👉วัคซีนไม่เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมมนุษย์ จริงหรือไม่? https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../ 👉Dr. Stoian Alexov – ประธาน สมาคมพยาธิวิทยา ประเทศ บัลแกเรีย https://stopthaicontrol.com/.../dr-stoian-alexov-%e0%b8.../ น้องใหม่วิทยาลัยอายุ 19 ปีเสียชีวิตจากปัญหาหัวใจหนึ่งเดือนหลังจากฉีด👉วัคซีน Moderna ครั้งที่สอง https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8.../ 👉คุณพ่อ: ชีวิต ‘ไม่เหมือนเดิม’ สำหรับนักเรียนอายุ 21 ปี ‘ล้ามเนื้อหัวใจตาย’ หลังฉีด Moderna เข็มที่สอง https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8.../ 👉ทำไมเราถูกแยกออกจากกัน? https://stopthaicontrol.com/.../coronavirus-%e0%b9%81%e0.../ 👉แคนาดา: คลินิกป๊อปอัพแจกไอศกรีมให้เด็กเพื่อรับวัคซีนโควิด | ไม่ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%81%e0%b8%84%e0%b8.../ 👉วัยรุ่นคอนเนตทิคัต 18 คนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากปัญหาหัวใจหลังได้รับวัคซีน COVID ทำเนียบขาวกล่าวว่าคนหนุ่มสาวยังควรฉีด https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8.../ 👉ก่อนที่จะฉีด ‘วัคซีนโควิด’ ลูกชายของเธอเป็นนักกีฬาที่มีสุขภาพดี แต่ตอนนี้เขา ‘เดินแทบไม่ได้’ คุณแม่กล่าว https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8.../ 👉ลิซ่าชอว์ผู้จัดรายการ BBC เสียชีวิตหลังได้รับ “วัคซีน” https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8.../ 👉CDC ตรวจสอบปัญหาหัวใจในวัยรุ่นหลังฉีดวัคซีน COVID https://stopthaicontrol.com/.../cdc-%e0%b8%95%e0%b8%a3.../ 👉CDC ตรวจสอบรายงานปัญหาหัวใจ ‘อ่อน’ ในวัยรุ่น หลังได้รับวัคซีน COVID https://stopthaicontrol.com/.../cdc-%e0%b8%95%e0%b8%a3.../ 👉อัปเดตครั้งที่ 17 เกี่ยวกับปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ต่อวัคซีนโควิดที่ออกโดยรัฐบาลสหราชอาณาจักร / MHRA https://stopthaicontrol.com/%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0.../1811/ 👉แพทย์ในสหราชอาณาจักรส่งจดหมายเปิดผนึกถึง ‘หน่วยงานกำกับดูแล’ ของปลอมโดยเน้นย้ำถึงข้อกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับข้อเสนอที่จะให้เด็ก ๆ ได้รับวัคซีน ‘โควิด -19’ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8.../ 👉เบื้องหลังของ PCR เครื่องตรวจโควิด|ดร. สุจริต ภักดี – “PCR ควรถูกนำไปทิ้งโดยทันที” https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%89%e0%b9%89%e0%b8.../ 👉It’s Here: First Court Case Against Mandatory Vaccination | Attorney Interview https://stopthaicontrol.com/.../its-here-first-court.../ 👉Dr. Kaufman Explains The PCR Test And Why It’s Not Suitable For Covid 19 Testing https://stopthaicontrol.com/.../dr-kaufman-explains-the.../ 👉SUCHARIT BHAKDI, PHD | COVID VACCINE OPEN LETTER TO THE GERMAN CHANCELLOR https://stopthaicontrol.com/.../sucharit-bhakdi-phd.../ 👉Dr. Michael Yeadon, PHD Former Chief Scientist of Pfizer https://stopthaicontrol.com/.../dr-michael-yeadon-phd.../ 👉SCOTT JENSON, MD | IMMUNITY PASSPORT WARNING https://stopthaicontrol.com/.../scott-jenson-md-immunity.../ 👉PRESIDENT JOHN MAGUFULI OF TANZANIA SENDS FAKE COVID-19 TEST SAMPLES TO THE LAB THAT TEST POSITIVE https://stopthaicontrol.com/.../president-john-magufuli.../ 👉Proof That RT-PCR Test Doesn’t Test For Covid 19 https://stopthaicontrol.com/.../proof-that-rt-pcr-test.../ 👉German Medical Professional For Humanity to Oust CV19 Globalist Sinister Agenda https://stopthaicontrol.com/.../german-medical.../ 👉PATRIOT DROPS “TRUTH 💣 BOMB” SLAYING NWO CV19 https://stopthaicontrol.com/.../patriot-drops-truth-%f0.../ 👉Let’s Open Our Eyes https://stopthaicontrol.com/5/lets-open-our-eyes/ 👉Who Controls The Media https://stopthaicontrol.com/uncat.../who-controls-the-media/ 👉5G MIND CONTROL https://stopthaicontrol.com/10/5g-mind-control/ 👉MEET BILL GATE$ —- FULL DOCUMENTARY https://stopthaicontrol.com/.../meet-bill-gate-full.../ 👉SILENCED FRONTLINE DOCTORS HOLD CAPITOL HILL PRESS CONFERENCE TO CHALLENGE BIG TECH https://stopthaicontrol.com/.../silenced-frontline.../ 👉DAVID ICKE AND DR. KAUFMAN – RT-PCR TEST IS IDENTIFYING CHROMOSOME 8 WHICH IS IN ALL HUMANS https://stopthaicontrol.com/.../david-icke-and-dr.../ 👉HUMAN 2.0 A WAKE-UP CALL TO THE WORLD – DR. CARRIE MADEJ https://stopthaicontrol.com/.../human-2-0-a-wake-up-call.../ 👉HEAVILY CENSORED VIDEO – THE CORONA VACCINE IS PLANNED POPULATION REDUCTION https://stopthaicontrol.com/.../heavily-censored-video.../ 👉BOMBSHELL EVIDENCE THAT COVID RT-PCR TESTS FOR CHROMOSOME 8 HUMAN DNA PRIMARY ASSEMBLY https://stopthaicontrol.com/.../bombshell-evidence-that.../ 👉PCR IS A TOOL OF CRIMINAL REGIMES https://stopthaicontrol.com/.../pcr-is-a-tool-of.../ 👉PROF. DR. KÄMMERER & DR. WODARG: PCR-TEST WEIST KEINE INFEKTION NACH (CORONA AUSSCHUSS) https://stopthaicontrol.com/.../prof-dr-kammerer-dr.../ 👉ATTENTION ABOUT PCR TESTING [2021-05-07] – DR. RASHID BUTTAR & DR. LORRAINE DAY (VIDEO) https://stopthaicontrol.com/.../attention-about-pcr.../ 👉UK GOVERNMENT ESTIMATES THE FALSE-POSITIVE RATE OF COVID-19 TESTING AS 2.3% (OR ALL EXISTING CASES) https://stopthaicontrol.com/.../uk-government-estimates.../ 👉UNMASKING THE LIES OF COVID-19 – THE PCR TEST Unmasking The Lies of Covid 19 – The PCR Test by Dr. Kaufman. https://stopthaicontrol.com/.../unmasking-the-lies-of.../ 👉Dr. Thomas Cowan, MD | How The RE-PCR Covid 19 Test Works https://stopthaicontrol.com/.../dr-thomas-cowan-md-how.../ 👉BOMBSHELL EVIDENCE THAT COVID IS CHROMOSOME 8 HUMAN DNA – FAULTY PCR TEST ¦ AMANDHA VOLLMER https://stopthaicontrol.com/.../bombshell-evidence-that.../ 👉DR. KAUFMAN – CHROMOSOME 8 AND THE SARS-COV2 PCR TEST https://stopthaicontrol.com/.../dr-kaufman-chromosome-8.../ 👉DR. LEE MERRIT: BIO-WARFARE, VACCINE DANGER, & WEAPONIZATION OF COVID19 https://stopthaicontrol.com/.../dr-lee-merrit-bio.../ 👉A Manufactured Illusion: Dr. David Martin with Dr. Reiner Fuellmuch, July 2021 https://stopthaicontrol.com/.../a-manufactured-illusion.../ 👉EVERY ‘COVID VARIANT’ IS JUST A FIGMENT OF SOME CORRUPT GOVERNMENT SCIENTIST’S WILD IMAGINATION https://stopthaicontrol.com/.../every-covid-variant-is.../ 👉PCR FRAUD https://stopthaicontrol.com/1/pcr-fraud/ 👉PCR test from the inventor himself. https://stopthaicontrol.com/.../pcr-test-from-the.../ 👉David Icke: PCR Test With Dr. Andrew Kaufman https://stopthaicontrol.com/.../david-icke-pcr-test-with.../ 👉Cellular and molecular biologist Judy Mikovits, Ph.D. – WHY PCR TESTING IS A BAD IDEA https://stopthaicontrol.com/.../cellular-and-molecular.../ 👉Dr. Lorraine Day: It’s time to be candid! Covid is nothing. https://stopthaicontrol.com/.../dr-lorraine-day-its-time.../ 👉Dr. Roger Hodkinson on Covid Hoax: “UTTERLY RIDICULOUS… IT’S SIMPLY OUTRAGEOUS!” https://stopthaicontrol.com/.../dr-roger-hodkinson-on.../ 👉Dr. Francis Boyle: ‘Bioweapon’ mRNA Vaccines Violate Nuremberg Code https://stopthaicontrol.com/.../dr-francis-boyle.../ 👉HEALTH EXPERT: “STOP COVID VAX EXPERIMENTS” https://stopthaicontrol.com/.../health-expert-stop-covid.../ 👉PCR: POSITIVE COUNT RISING https://stopthaicontrol.com/1/pcr-positive-count-rising/ 👉STILL THINK A VACCINE IS SAFE? https://stopthaicontrol.com/6/still-think-a-vaccine-is-safe/ 👉WARNING: 30 DOCTORS/EXPERTS FROM ALL OVER THE WORLD WARN ABOUT ‘COVID’ VACCINE! https://stopthaicontrol.com/.../warning-30-doctors.../ 👉‘THE BIGGEST EXPERIMENT EVER DONE’ (AWARD-WINNING VIROLOGIST, DR. SUCHARIT BHAKDI) https://stopthaicontrol.com/.../the-biggest-experiment.../ 👉DR. PETRELLA PREFERS DEATH OVER THE COVID-19 VACCINE – PAY ATTENTION! https://stopthaicontrol.com/.../dr-petrella-prefers.../ 👉Dr. Mike Yeadon: Government are using a Covid -19 Test with undeclared False Positive Rates https://stopthaicontrol.com/.../dr-mike-yeadon.../ 👉Zero Evidence That Covid Fulfills KOCH’S 4 Germ Theory Postulates – Dr. Andrew Kaufman & Sayer Ji https://stopthaicontrol.com/.../zero-evidence-that-covid.../ 👉Crimes Against Humanity – Dr. Reiner Fuellmich https://stopthaicontrol.com/.../crimes-against-humanity.../ 👉Over Reaction และ Immune Dependent Enhancement https://stopthaicontrol.com/.../over-reaction-%e0%b9%81.../ 👉Dr. med. Thomas Binder, Internist and Cardiologist (FMH), Switzerland https://stopthaicontrol.com/.../dr-med-thomas-binder.../ 👉Dr. Fabio Franchi, Former Dirigente Medico (M.D) in an Infectious Disease Ward, specialized in “Infectious Diseases” https://stopthaicontrol.com/.../dr-fabio-franchi-former.../ 👉Dr. Lidiya Angelova – PhD in microbiology https://stopthaicontrol.com/.../dr-lidiya-angelova-phd.../ 👉Dr. Paul McSheehy (BSc, PhD), Biochemist & Industry Pharmacologist, Loerrach, Germany https://stopthaicontrol.com/.../dr-paul-mcsheehy-bsc-phd.../ 👉Dr. Kevin McKernan, BS Emory University, Chief Scientific Officer https://stopthaicontrol.com/.../dr-kevin-mckernan-bs.../ 👉Dr. Clare Craig MA, (Cantab) BM, BCh (Oxon), FRCPath, United Kingdom https://stopthaicontrol.com/.../dr-clare-craig-ma-cantab.../ 👉P. Borger (MSc, PhD)- Molecular Genetics Expert. Science writer and author. https://stopthaicontrol.com/.../p-borger-msc-phd.../ 👉Elon Musk https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0.../elon-musk/ 👉 AgendaLegal EvidencesProtestRT-PCR TestVaccineVirus Isolation The Truth of Covid-19 https://stopthaicontrol.com/travel/the-truth-of-covid-19/ 👉Dorian Yates – Six Time Mr. Olympia Winner https://stopthaicontrol.com/.../dorian-yates-six-time-mr.../ 👉Dave Rubin – American political commentator, YouTube personality, and talk show host. https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0.../dave-rubin/ 👉General Robert S. Spalding III – Special Assistant To The U.S. Air Force Vice Chief Of Staff https://stopthaicontrol.com/.../general-robert-s.../ 👉Dr. Judy Mikovits https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b9.../dr-judy-mikovits/ 👉Charlie Kirk – Founder Of Turning Point USA https://stopthaicontrol.com/.../charlie-kirk-founder-of.../ 👉สนับสนุนเวปไซด์ https://stopthaicontrol.com/.../%e0%b8%aa%e0%b8%99%e0%b8.../ ข้อมูลโดย อดิเทพ จาวลาห์
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1392 มุมมอง 0 รีวิว
  • New Words We Created Because Of Coronavirus

    We’re rounding out 2020, and the coronavirus continues to shape our lives and language. While we once hoped we could toss the year’s coronacoinages out the door, that’s clearly not going to be the case right now: the coronavirus continues to surge to new levels.

    It seems like years (not months) ago that we learned our first COVID-19 terms, like social distancing and flatten the curve. We had to process so much, in so little time; we had to become experts about important differences: epidemic vs. pandemic, quarantine vs. isolation, and respirator vs. ventilators. The conversation continued with contagious vs. infectious and what antibodies do.

    Many of the words we’ve continued to add to our vocabularies address the ongoing nature of our situation. Maybe we long for the Before Times or have embraced cluttercore as we cope. The ups and downs of this life haven’t been easy (it’s a coronacoaster, to be honest), but the new vocabulary has helped us stay safe and informed during these scary times. And what better way to bring some welcome humor and humility to our lives in the bunker than some wordplay?

    Here’s our ongoing roundup of some of the new slang terms born of this unique, unprecedented time in modern life—a time of upheaval that some more jokingly call the coronapocalypse (corona apocalypse) or coronageddon (corona armageddon).


    the Before Times

    Are you walking around in a constant state of nostalgia? Then the term Before Times is for you. This humorous (and yes, dark) take on life pre-pandemic makes it clear that we’ve lived through an apocalyptic rupture point that separates old and new.

    The Before Times has long been a trope in science fiction, and linguist Ben Zimmer traces this specific phrase back to 1960s Star Trek, though some variations (beforetime) appear in early texts like the Bible.

    Example: Remember in the Before Times, when we packed together in movie theaters for a fun time? Seems like a different world now!


    rona

    Rona—often in the phrase the rona—is an informal shortening of coronavirus. Coronavirus is popularly shortened to corona, which was apparently further clipped to rona.

    Rona is often used as a playful or ironic way to refer to COVID-19, especially when commenting on more relatable, humorous challenges of social distancing during the pandemic.

    It is generally not meant, however, to be flippant about the very serious loss and disruption COVID-19 has wreaked—nor diminish the life-saving service of so many essential workers, from grocery clerks to nurses. It’s a bit of gallows humor.

    Some people have personified the virus as Miss Rona or Aunt Rona. And la rona (meant as “the rona”) has emerged in some Spanish-language contexts.

    Other informal shortenings? Just as coronavirus has been shortened to corona and rona, so quarantine has been shortened to quar—and even pandemic to panny.

    Example: Yeah, I don’t know about you, but homeschooling my kids during the rona ends up in a lot of Frozen 2.


    cornteen

    Cornteen is an intentional misspelling of quarantine, often used in ironic commentary on what it’s like to be at home during the coronavirus pandemic. It may have originated as an actual misspelling of quarantine. (Hey, quarantine wasn’t exactly a word most of us used every day until COVID-19.)

    Cornteen is occasionally used to joke about how quarantine is pronounced in various regional accents. Some people visually pun on cornteen by substituting the corn emoji, 🌽, for the corn- part of the word; others pun on the -teen to mean “teenager.”


    doomscrolling

    Life under the rona has meant that it’s even harder to peel our eyes away from our phones and computers, constantly refreshing our feeds for the latest news about the pandemic.

    At least there’s a word for that: doomscrolling, also doomscrolling. The term has been notably used—and popularized in part by her exhortations to a take a break from doing it—by Quartz reporter Karen K. Ho.

    Scrolling refers to scrolling down on our smartphones for the latest posts on social media. And doom … well, a lot of the news we’re seeing online feels full of gloom and doom.

    Example: I was up to 2 a.m. last night doomscrolling about coronavirus news in my state.

    A related slang term is doomsurfing, or compulsively surfing the internet for upsetting news.


    coronasomnia

    Staying up late, again? Waking up at 4am to doomscroll? Can’t remember your last good night of sleep? You’re not the only one. The term coronasomnia refers to—what else?—the insomnia that’s afflicting so many of us during the pandemic.

    Doctors and pharmacists have seen a measurable increase in the number of people suffering symptoms of insomnia or whose symptoms have worsened since the quarantine began. Some estimates suggest some 20 to 30 percent of the population—including children—may be impacted.

    One doctor coined the term “FED UP” to describe the worries of this stressful time. It stands for “financial stress, emotional stress, distance from others, unpredictability, and personal and professional concerns.” Yikes. Sounds like that’s another term for the dictionary.


    coronacoaster

    If you’re suffering from coronasomnia, you’ll likely understand this next word without much of an explanation.

    Coronacoaster is one of the many new COVID-inspired coinages that use corona (short for coronavirus) as a kind of combining form. It blends corona and rollercoaster to describe the emotional experience of life during the pandemic. Did you bake cookies and then sob like a baby while masking up for the 10,000th time? You’re on the coaster!

    Example: The coronacoaster has been exhausting this week. I started crying during my weekly family Zoom and couldn’t stop.


    coronacut

    The hilariously bad haircut we give ourselves under lockdown.

    This was one of the first coronacoinages out there—proving that sometimes we worry most about the little things … or that we’re all pretty vain.

    It feels like so long ago since we first heard this term, which only goes to show how slang changes as our experience of the pandemic changes.


    cluttercore

    A “messy aesthetic,” especially in terms of embracing one’s books, knickknacks, and other stuff at home and sharing it on social media.

    While coronacut reminds us of our struggles during the earliest days of the pandemic, this term reflects the ongoing evolution of quarantine life.

    Cluttercore emerged as a maximalist, anti-Kondo approach in early 2020 before any lockdowns, but the pandemic really helped popularize the term. (As of October, videos with the hashtag #cluttercore had more than two million views.) This combining form blends clutter (“a disorderly heap or assemblage”) with -core, which names a kind of aesthetic, social movement, or lifestyle. Cluttercore is similar to terms like cottagecore, normcore, and gorpcore.

    “The pandemic has forced us to reevaluate what we have, make better use of objects and space … and also see their value, often for the first time,” says Jennifer Howard, author of Clutter: An Untidy History.


    covidiot

    A blend of COVID-19 and idiot, covidiot is a slang insult for someone who disregards healthy and safety guidelines about the novel coronavirus.

    Some signs of covidiocy are: not washing your hands regularly, hanging out in groups of people, standing within six feet of a stranger at the grocery, hoarding items like toilet paper and hand sanitizer all to yourself.

    Example: Don’t be a covidiot by visiting the beach today! It’s super crowded.


    quaranteam

    The (very limited) group of people you see during self-isolation; one of the many slang terms that plays on quarantine.

    Whether you call it a germ pod, a COVID bubble, or your quaranteam, this is the group of people you voluntarily choose to socialize with or even live with during the quarantine. Basically, your pod chooses to isolate together, promising not to have close contact (within six feet) with anyone outside the pod. This form of contact clustering (yet another term used by epidemiologists to describe the situation) allows you to socialize while also staying safe.

    Quaranteam is a blend of quarantine and team, and sounds like quarantine—it’s a punning blend, as we’ve seen throughout this slideshow

    Example: Our quaranteam is going camping next weekend. We’re tired of all the binge-watching and baking.


    moronavirus

    Another term for a covidiot. The wordplay, here, centers on the word moron.

    Example: My roommate is being such a moronavirus. He went down to the beach with a huge group of friends.

    Calling someone a covidiot or moronavirus is a form of quarantine shaming. That’s slang for publicly criticizing someone for not following health and safety guidelines (quarantine being a shorthand for policies in place requiring people to stay at home except where necessary in many places across the country and world).


    quarantini

    How do you take your quarantini? Dirty, dry? Shaken, stirred? Vodka, gin?

    Quarantini is a slang term for a cocktail people drink at home while under quarantine during—and because of—the coronavirus.

    The term is a blend of quarantine and martini, a cocktail made with gin or vodka and dry vermouth, usually served with a green olive or a twist of lemon peel.

    The original quarantini referred to a martini-like cocktail mixed with vitamin C-based dietary supplements—a concoction that predates the novel coronavirus.

    Quarantini has spread as a more general term for alcoholic beverages consumed at home during the pandemic.

    Example: Frozen pizza in the oven? Paw Patrol queued up? Think it’s time for a quarantini.


    coronarita

    The margarita answer to a quarantini—served with, what else, a Corona-brand beer.

    A margarita is a cocktail made of tequila, lime or lemon juice, and an orange-flavored liqueur, usually served in a salt-rimmed glass.


    virtual happy hour

    When someone might drink a quarantini or coronarita.

    Because many people are working from home to help, they are letting off steam at the end of a long day of doomscrolling by holding virtual happy hours over Zoom, FaceTime, Google Hangouts, and other video conferencing or chat applications.

    Happy hour is a cocktail hour or longer period at a bar, during which drinks are served at reduced prices or with free snacks. It’s also used as a shorthand for drinks, generally with colleagues or friends, at the end of the workday, especially near the end of the work week.


    walktail

    When you want to take your quarantini or coronita outside on a walk (not that we’re condoning that), then you’d have a walktail.

    With so many quarantining at home with nothing to do—and nowhere to drink with the bars closed—some people have taken to swigging while sauntering, according to a New York Times article that identified this new trend. A walktail combines the words walk and cocktail, and bar owners are reporting increased alcohol to-go sales as a result. People are drinking and walking their neighborhoods, walking their pets, or just hosting happy hours in the backyard.

    Now, readers, do keep in mind: almost everywhere in the US it’s illegal to carry an “open container,” so most people disguise their walktails in discreet containers. Or you can also go bold, like the woman who dressed up in her bridal gown to dance in the street.


    Zoom-bombing

    This one’s a more serious entry. When using Zoom or similar services, be wary of Zoom-bombing. This is when uninvited guests to a virtual meeting disrupt it with various obscene, violent, or offensive images or words.

    Bombing, here, is based on photobombing, or when people ruin a photograph by appearing in the image without the photographer’s knowledge, often in some dramatic or comical way.


    Zoom mom

    A demographic of moms who are constantly using Zoom.

    They used to be called soccer moms, but COVID-19 changed that. Now, these so-called Zoom moms are described as spending a lot of time using Zoom for work, their children’s schooling, or simply to chat with their friends who are also stuck at home. In a May 22 article, Zoom moms were identified as a potentially powerful voting bloc that could influence the 2020 elections.

    Example: If the updated back to school plans aren’t released soon, the Zoom moms may revolt.


    Zoom fatigue

    The exhaustion that sets in while living life over Zoom.

    Fatigue is a “weariness from bodily or mental exertion,” and people began to cling to the term Zoom fatigue pretty quickly in April. Experts note that this sense of exhaustion is a real phenomenon caused by the amount of information processed face-to-face on Zoom without any non-verbal cues. Conversations and meetings cause conflicting emotions, without allowing people to relax as they would in person.

    Zoom fatigue ties into the larger phenomenon of “pandemic fatigue”: months into the pandemic and we are feeling the emotional, social, and psychological toll even as we try to grasp the loss of our lives and livelihood.


    Zoom town

    A place where housing sales are booming due to buyers who work remotely and are willing to live farther from the office.

    Example: The realtor convinced us to look at several homes in a nearby Zoom town, and I couldn’t help but imagine an idyllic life in the suburbs—complete with backyard barbecues and a two-car garage.

    Competition for homes in Zoom towns in suburbs and areas surrounding city centers is heating up as workers embrace remote work and ditch their commutes. Prices in these areas are often lower than in tighter urban markets. Zoom town is a play on Zoom (which of course, can also mean “to move quickly”) and boom town, a noun meaning “a town that has grown very rapidly as a result of sudden prosperity.”


    quarantine and chill

    Netflix and chill, but for the coronavirus era.

    Quarantine and chill is used for various ways people are hunkering down and spending free time at home during the coronavirus, especially with a romantic partner while marathoning streaming services.

    Be careful when you search for quarantine and chill on social media, though: some people use the phrase when posting revealing selfies.

    Example: My hubby and I are in an epic tournament of Rummy 500. Winner each night gets to pick the movie. #Quarantineandchill


    coronials, quaranteens, coronababies

    When two people get really cozy while quarantine-and-chilling, they may, you know …

    Babies being conceived while people are cooped up at home during the coronavirus have been dubbed coronababies. And when these babies get older, they will become the quaranteens, a pun on quarantine and teen(ager).

    The hypothetical new generation of children conceived during COVID-19 has cleverly been crowned the coronials, a play on corona(virus) and millennials.


    covidivorce

    The experience for other couples under COVID-19 quarantine may not be so snuggly. Being in extended isolation with loved ones can strain a relationship.

    Enter covidivorce, or divorces filed as a result of a couple’s experience during COVID-19.


    zumping

    The experience of COVID-19 isn’t just taxing on couples who live together. People who are dating are also reconsidering their relationships during the pandemic—and sometimes zumping each other.

    A blend of dump and Zoom (the popular video service), zumping is when you break up with someone over a video conferencing service. At least they didn’t just text? (Hey, you can do better, anyways).


    turbo relationship

    While some people are breaking up over Zoom due to quarantining, sheltering in place means others are turbocharging their relationship.

    The quarantine required couples to face a tough choice: break up or, er, shack up. According to some therapists, many couples who sped up the traditional courtship to live together during these conditions are reporting positive relationships and strong levels of commitment.

    Turbo ultimately derives from a Latin word meaning “whirlwind”—and turbo relationships may certainly get people’s minds, and hearts, spinning?


    COVID-10

    For some, quarantining at home during COVID-19 may result in a less movement—and more snacking—than they are used to.

    COVID-10, also referred to as the COVID-15 or even the COVID-19, is a riff on the numerals of COVID-19 and the freshman 15, an expression for the weight some people (are said to) gain during their first year of college. (Hey, gotta stock up on some supplies to help flatten the curve. And gotta take up delicious hobbies to stay engaged!)

    See also the German Coronaspeck, weight gained during the coronavirus pandemic, a play on Kummerspeck, or weight gained as a result of emotional eating.


    coronacation

    Coronavirus-compelled staycations, due to cancelled classes, shifts, and the like. It’s usually an ironic term—just ask parents working from home while teaching their kids.

    Example: My teen thinks he’s getting a coronacation since his school has moved online. Oh, wait until he sees how I am going to keep him busy with the Learning At Home resources.


    drive-by, drive-in

    So if you can’t take that dream vacation you’d always wanted … how about a drive-by birthday party instead?

    Social distancing has inspired a lot of creative adaptations for our celebrations—and equally unique terms for them. We’ve been introduced to drive-by graduations, weddings, and birthdays, as well as drive-in concerts and campaign rallies during the lead up to the election.

    Generally drive-in refers to “a place of business or public facility designed to accommodate patrons who sit in their automobiles.” The adjective is “relating to, or characteristic of such an establishment.” Drive-by is “occurring while driving past a person, object, etc.”

    Example: The four friends jumped in the car and barely made it to the drive-in concert on time.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    New Words We Created Because Of Coronavirus We’re rounding out 2020, and the coronavirus continues to shape our lives and language. While we once hoped we could toss the year’s coronacoinages out the door, that’s clearly not going to be the case right now: the coronavirus continues to surge to new levels. It seems like years (not months) ago that we learned our first COVID-19 terms, like social distancing and flatten the curve. We had to process so much, in so little time; we had to become experts about important differences: epidemic vs. pandemic, quarantine vs. isolation, and respirator vs. ventilators. The conversation continued with contagious vs. infectious and what antibodies do. Many of the words we’ve continued to add to our vocabularies address the ongoing nature of our situation. Maybe we long for the Before Times or have embraced cluttercore as we cope. The ups and downs of this life haven’t been easy (it’s a coronacoaster, to be honest), but the new vocabulary has helped us stay safe and informed during these scary times. And what better way to bring some welcome humor and humility to our lives in the bunker than some wordplay? Here’s our ongoing roundup of some of the new slang terms born of this unique, unprecedented time in modern life—a time of upheaval that some more jokingly call the coronapocalypse (corona apocalypse) or coronageddon (corona armageddon). the Before Times Are you walking around in a constant state of nostalgia? Then the term Before Times is for you. This humorous (and yes, dark) take on life pre-pandemic makes it clear that we’ve lived through an apocalyptic rupture point that separates old and new. The Before Times has long been a trope in science fiction, and linguist Ben Zimmer traces this specific phrase back to 1960s Star Trek, though some variations (beforetime) appear in early texts like the Bible. Example: Remember in the Before Times, when we packed together in movie theaters for a fun time? Seems like a different world now! rona Rona—often in the phrase the rona—is an informal shortening of coronavirus. Coronavirus is popularly shortened to corona, which was apparently further clipped to rona. Rona is often used as a playful or ironic way to refer to COVID-19, especially when commenting on more relatable, humorous challenges of social distancing during the pandemic. It is generally not meant, however, to be flippant about the very serious loss and disruption COVID-19 has wreaked—nor diminish the life-saving service of so many essential workers, from grocery clerks to nurses. It’s a bit of gallows humor. Some people have personified the virus as Miss Rona or Aunt Rona. And la rona (meant as “the rona”) has emerged in some Spanish-language contexts. Other informal shortenings? Just as coronavirus has been shortened to corona and rona, so quarantine has been shortened to quar—and even pandemic to panny. Example: Yeah, I don’t know about you, but homeschooling my kids during the rona ends up in a lot of Frozen 2. cornteen Cornteen is an intentional misspelling of quarantine, often used in ironic commentary on what it’s like to be at home during the coronavirus pandemic. It may have originated as an actual misspelling of quarantine. (Hey, quarantine wasn’t exactly a word most of us used every day until COVID-19.) Cornteen is occasionally used to joke about how quarantine is pronounced in various regional accents. Some people visually pun on cornteen by substituting the corn emoji, 🌽, for the corn- part of the word; others pun on the -teen to mean “teenager.” doomscrolling Life under the rona has meant that it’s even harder to peel our eyes away from our phones and computers, constantly refreshing our feeds for the latest news about the pandemic. At least there’s a word for that: doomscrolling, also doomscrolling. The term has been notably used—and popularized in part by her exhortations to a take a break from doing it—by Quartz reporter Karen K. Ho. Scrolling refers to scrolling down on our smartphones for the latest posts on social media. And doom … well, a lot of the news we’re seeing online feels full of gloom and doom. Example: I was up to 2 a.m. last night doomscrolling about coronavirus news in my state. A related slang term is doomsurfing, or compulsively surfing the internet for upsetting news. coronasomnia Staying up late, again? Waking up at 4am to doomscroll? Can’t remember your last good night of sleep? You’re not the only one. The term coronasomnia refers to—what else?—the insomnia that’s afflicting so many of us during the pandemic. Doctors and pharmacists have seen a measurable increase in the number of people suffering symptoms of insomnia or whose symptoms have worsened since the quarantine began. Some estimates suggest some 20 to 30 percent of the population—including children—may be impacted. One doctor coined the term “FED UP” to describe the worries of this stressful time. It stands for “financial stress, emotional stress, distance from others, unpredictability, and personal and professional concerns.” Yikes. Sounds like that’s another term for the dictionary. coronacoaster If you’re suffering from coronasomnia, you’ll likely understand this next word without much of an explanation. Coronacoaster is one of the many new COVID-inspired coinages that use corona (short for coronavirus) as a kind of combining form. It blends corona and rollercoaster to describe the emotional experience of life during the pandemic. Did you bake cookies and then sob like a baby while masking up for the 10,000th time? You’re on the coaster! Example: The coronacoaster has been exhausting this week. I started crying during my weekly family Zoom and couldn’t stop. coronacut The hilariously bad haircut we give ourselves under lockdown. This was one of the first coronacoinages out there—proving that sometimes we worry most about the little things … or that we’re all pretty vain. It feels like so long ago since we first heard this term, which only goes to show how slang changes as our experience of the pandemic changes. cluttercore A “messy aesthetic,” especially in terms of embracing one’s books, knickknacks, and other stuff at home and sharing it on social media. While coronacut reminds us of our struggles during the earliest days of the pandemic, this term reflects the ongoing evolution of quarantine life. Cluttercore emerged as a maximalist, anti-Kondo approach in early 2020 before any lockdowns, but the pandemic really helped popularize the term. (As of October, videos with the hashtag #cluttercore had more than two million views.) This combining form blends clutter (“a disorderly heap or assemblage”) with -core, which names a kind of aesthetic, social movement, or lifestyle. Cluttercore is similar to terms like cottagecore, normcore, and gorpcore. “The pandemic has forced us to reevaluate what we have, make better use of objects and space … and also see their value, often for the first time,” says Jennifer Howard, author of Clutter: An Untidy History. covidiot A blend of COVID-19 and idiot, covidiot is a slang insult for someone who disregards healthy and safety guidelines about the novel coronavirus. Some signs of covidiocy are: not washing your hands regularly, hanging out in groups of people, standing within six feet of a stranger at the grocery, hoarding items like toilet paper and hand sanitizer all to yourself. Example: Don’t be a covidiot by visiting the beach today! It’s super crowded. quaranteam The (very limited) group of people you see during self-isolation; one of the many slang terms that plays on quarantine. Whether you call it a germ pod, a COVID bubble, or your quaranteam, this is the group of people you voluntarily choose to socialize with or even live with during the quarantine. Basically, your pod chooses to isolate together, promising not to have close contact (within six feet) with anyone outside the pod. This form of contact clustering (yet another term used by epidemiologists to describe the situation) allows you to socialize while also staying safe. Quaranteam is a blend of quarantine and team, and sounds like quarantine—it’s a punning blend, as we’ve seen throughout this slideshow Example: Our quaranteam is going camping next weekend. We’re tired of all the binge-watching and baking. moronavirus Another term for a covidiot. The wordplay, here, centers on the word moron. Example: My roommate is being such a moronavirus. He went down to the beach with a huge group of friends. Calling someone a covidiot or moronavirus is a form of quarantine shaming. That’s slang for publicly criticizing someone for not following health and safety guidelines (quarantine being a shorthand for policies in place requiring people to stay at home except where necessary in many places across the country and world). quarantini How do you take your quarantini? Dirty, dry? Shaken, stirred? Vodka, gin? Quarantini is a slang term for a cocktail people drink at home while under quarantine during—and because of—the coronavirus. The term is a blend of quarantine and martini, a cocktail made with gin or vodka and dry vermouth, usually served with a green olive or a twist of lemon peel. The original quarantini referred to a martini-like cocktail mixed with vitamin C-based dietary supplements—a concoction that predates the novel coronavirus. Quarantini has spread as a more general term for alcoholic beverages consumed at home during the pandemic. Example: Frozen pizza in the oven? Paw Patrol queued up? Think it’s time for a quarantini. coronarita The margarita answer to a quarantini—served with, what else, a Corona-brand beer. A margarita is a cocktail made of tequila, lime or lemon juice, and an orange-flavored liqueur, usually served in a salt-rimmed glass. virtual happy hour When someone might drink a quarantini or coronarita. Because many people are working from home to help, they are letting off steam at the end of a long day of doomscrolling by holding virtual happy hours over Zoom, FaceTime, Google Hangouts, and other video conferencing or chat applications. Happy hour is a cocktail hour or longer period at a bar, during which drinks are served at reduced prices or with free snacks. It’s also used as a shorthand for drinks, generally with colleagues or friends, at the end of the workday, especially near the end of the work week. walktail When you want to take your quarantini or coronita outside on a walk (not that we’re condoning that), then you’d have a walktail. With so many quarantining at home with nothing to do—and nowhere to drink with the bars closed—some people have taken to swigging while sauntering, according to a New York Times article that identified this new trend. A walktail combines the words walk and cocktail, and bar owners are reporting increased alcohol to-go sales as a result. People are drinking and walking their neighborhoods, walking their pets, or just hosting happy hours in the backyard. Now, readers, do keep in mind: almost everywhere in the US it’s illegal to carry an “open container,” so most people disguise their walktails in discreet containers. Or you can also go bold, like the woman who dressed up in her bridal gown to dance in the street. Zoom-bombing This one’s a more serious entry. When using Zoom or similar services, be wary of Zoom-bombing. This is when uninvited guests to a virtual meeting disrupt it with various obscene, violent, or offensive images or words. Bombing, here, is based on photobombing, or when people ruin a photograph by appearing in the image without the photographer’s knowledge, often in some dramatic or comical way. Zoom mom A demographic of moms who are constantly using Zoom. They used to be called soccer moms, but COVID-19 changed that. Now, these so-called Zoom moms are described as spending a lot of time using Zoom for work, their children’s schooling, or simply to chat with their friends who are also stuck at home. In a May 22 article, Zoom moms were identified as a potentially powerful voting bloc that could influence the 2020 elections. Example: If the updated back to school plans aren’t released soon, the Zoom moms may revolt. Zoom fatigue The exhaustion that sets in while living life over Zoom. Fatigue is a “weariness from bodily or mental exertion,” and people began to cling to the term Zoom fatigue pretty quickly in April. Experts note that this sense of exhaustion is a real phenomenon caused by the amount of information processed face-to-face on Zoom without any non-verbal cues. Conversations and meetings cause conflicting emotions, without allowing people to relax as they would in person. Zoom fatigue ties into the larger phenomenon of “pandemic fatigue”: months into the pandemic and we are feeling the emotional, social, and psychological toll even as we try to grasp the loss of our lives and livelihood. Zoom town A place where housing sales are booming due to buyers who work remotely and are willing to live farther from the office. Example: The realtor convinced us to look at several homes in a nearby Zoom town, and I couldn’t help but imagine an idyllic life in the suburbs—complete with backyard barbecues and a two-car garage. Competition for homes in Zoom towns in suburbs and areas surrounding city centers is heating up as workers embrace remote work and ditch their commutes. Prices in these areas are often lower than in tighter urban markets. Zoom town is a play on Zoom (which of course, can also mean “to move quickly”) and boom town, a noun meaning “a town that has grown very rapidly as a result of sudden prosperity.” quarantine and chill Netflix and chill, but for the coronavirus era. Quarantine and chill is used for various ways people are hunkering down and spending free time at home during the coronavirus, especially with a romantic partner while marathoning streaming services. Be careful when you search for quarantine and chill on social media, though: some people use the phrase when posting revealing selfies. Example: My hubby and I are in an epic tournament of Rummy 500. Winner each night gets to pick the movie. #Quarantineandchill coronials, quaranteens, coronababies When two people get really cozy while quarantine-and-chilling, they may, you know … Babies being conceived while people are cooped up at home during the coronavirus have been dubbed coronababies. And when these babies get older, they will become the quaranteens, a pun on quarantine and teen(ager). The hypothetical new generation of children conceived during COVID-19 has cleverly been crowned the coronials, a play on corona(virus) and millennials. covidivorce The experience for other couples under COVID-19 quarantine may not be so snuggly. Being in extended isolation with loved ones can strain a relationship. Enter covidivorce, or divorces filed as a result of a couple’s experience during COVID-19. zumping The experience of COVID-19 isn’t just taxing on couples who live together. People who are dating are also reconsidering their relationships during the pandemic—and sometimes zumping each other. A blend of dump and Zoom (the popular video service), zumping is when you break up with someone over a video conferencing service. At least they didn’t just text? (Hey, you can do better, anyways). turbo relationship While some people are breaking up over Zoom due to quarantining, sheltering in place means others are turbocharging their relationship. The quarantine required couples to face a tough choice: break up or, er, shack up. According to some therapists, many couples who sped up the traditional courtship to live together during these conditions are reporting positive relationships and strong levels of commitment. Turbo ultimately derives from a Latin word meaning “whirlwind”—and turbo relationships may certainly get people’s minds, and hearts, spinning? COVID-10 For some, quarantining at home during COVID-19 may result in a less movement—and more snacking—than they are used to. COVID-10, also referred to as the COVID-15 or even the COVID-19, is a riff on the numerals of COVID-19 and the freshman 15, an expression for the weight some people (are said to) gain during their first year of college. (Hey, gotta stock up on some supplies to help flatten the curve. And gotta take up delicious hobbies to stay engaged!) See also the German Coronaspeck, weight gained during the coronavirus pandemic, a play on Kummerspeck, or weight gained as a result of emotional eating. coronacation Coronavirus-compelled staycations, due to cancelled classes, shifts, and the like. It’s usually an ironic term—just ask parents working from home while teaching their kids. Example: My teen thinks he’s getting a coronacation since his school has moved online. Oh, wait until he sees how I am going to keep him busy with the Learning At Home resources. drive-by, drive-in So if you can’t take that dream vacation you’d always wanted … how about a drive-by birthday party instead? Social distancing has inspired a lot of creative adaptations for our celebrations—and equally unique terms for them. We’ve been introduced to drive-by graduations, weddings, and birthdays, as well as drive-in concerts and campaign rallies during the lead up to the election. Generally drive-in refers to “a place of business or public facility designed to accommodate patrons who sit in their automobiles.” The adjective is “relating to, or characteristic of such an establishment.” Drive-by is “occurring while driving past a person, object, etc.” Example: The four friends jumped in the car and barely made it to the drive-in concert on time. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1237 มุมมอง 0 รีวิว
  • Other Ways To Say “Thank You”

    Is a “thank you” in order?

    On a daily basis, we’re inundated with reasons to thank the people around us. Maybe someone held the elevator for you while you were running late, the barista was kind despite the huge crowd in the coffee shop, or your colleague lets you know they did the legwork to help you get started on a particularly tricky project.

    We’re lucky to have so many reasons to say “thanks” every day, but sometimes we need some new words and expressions to adequately express the gratitude we feel. If you’re stuck in a rut of “thank you so much” and “thanks a lot,” here are 25 alternatives that are perfect for sharing your thanks and appreciation in every kind of setting.

    1. I’m so grateful.
    Thanks is an expression of gratitude, so cut to the chase. Tell someone you’re grateful for whatever way in which they’ve helped you, and go into detail about exactly what they did to personalize your message.

    2. I appreciate it.
    It’s always nice to feel appreciated. When someone does something to help you out or make your life easier, be sure to say how much it means to you that they went out of their way to help.

    3. Thanks for your hard work on this.
    Don’t just offer colleagues and collaborators a run-of-the-mill thanks. Letting them know how much you appreciate the specific efforts they’ve made will help them feel seen and create a positive working relationship.

    4. I couldn’t have done it without you.
    If you couldn’t have made something happen without another person’s help, then they should definitely know that! Don’t hold back in telling them how vital they are.

    5. I owe you one.
    Sometimes the only way to truly appreciate a favor is by returning it. This “thank you” alternative lets them know you plan to do just that.

    6. Much obliged.
    Obliged means “appreciative or grateful.” It’s especially handy for a quick but courteous email or text sign-off that still expresses thanks in a meaningful way.

    7. Thanks for having my back.
    Sometimes the best thing someone else can do for you is be in your corner when you need support. Thanking them for being there is a way to let them know how much it means to you.

    8. Please accept my deepest gratitude.
    Giving thanks in a more formal setting? This one is perfect for a professional letter, important speech, or in a thank-you note.

    9. I have to give credit where it’s due.
    Let’s be honest: we all love getting credit for the good things we do. Credit is “commendation or honor given for some action, quality, etc.” When we thank someone, we’re giving them their earned credit for something they did, and it’s a gesture we should make often.

    10. This has been such a blessing.
    We tend to think of a blessing as a favor or gift bestowed by God, but a blessing can also be “a special favor, mercy, or benefit.” Letting someone know their kind gesture or effort was a blessing is a way of letting them know you are thankful for the gift of their time, energy, and thoughtfulness.

    11. I can’t thank you enough.
    Sometimes a simple “thanks” won’t cut it. In those instances, let them know the words may be inadequate, but the depth of your gratitude is not.

    12. Cheers.
    Cheers isn’t just something we say when we’re giving a toast. It’s also a unique and quick way of saying “thanks.” Try it next time you’re at a party or other social event where a lighthearted expression of gratitude is needed.

    13. That’s so kind of you.
    One way of thanking someone is telling them how their gesture felt to you: kind. By telling someone how kind they’ve been, you let them know you see their favors as coming from the heart.

    14. Much appreciated.
    If you need to say thanks in a big way but on a small scale, go with “much appreciated.” This one is perfect for a quick email, text, or even a brief conversation.

    15. Thank you for taking the time to do this.
    When people go out of their way to do something nice or help out, they’re also giving the gift of their time. We only get so much of that, so thank them for using some of their time to make your life easier.

    16. Your support means the world.
    Support means “to bear or hold up (a load, mass, structure, part, etc.); serve as a foundation for.” The people who do that for us deserve to know how much we appreciate it.

    17. Many thanks.
    One thanks? We don’t think so. If you’re shooting off a quick email, text, or call to say thank you, let them know your gratitude could be expressed many times over.

    18. I’m beyond grateful.
    Go big or go home. Grateful means “warmly or deeply appreciative of kindness or benefits received; thankful.” And sometimes, well, you just feel all of that and beyond.

    19. I sincerely applaud you.
    A true “thank you” should be sincere. That means “genuine; real.” The best expressions of gratitude are usually the ones that come from the heart.

    20. I’m forever indebted.
    Sometimes one act of kindness inspires another. Indebted means “obligated for favors or kindness received,” and it’s a way of saying you plan to pay the kind act forward.

    21. I stand in recognition.
    Giving thanks is about shining a spotlight on someone’s thoughtfulness, kindness, hard work, care, or effort. Carving out space specifically to recognize their efforts is a powerful way of saying thanks.

    22. I’m blown away by your kindness.
    If you’re blown away by something, that usually means it was unexpectedly inspiring, moving, or touching. Use this one for gestures and acts of kindness that truly make a difference.

    23. It means the world to me.
    It’s not always easy to explain how important or valuable someone’s contributions are. Saying “it means the world” to you is a pretty good place to start.

    24. I want to acknowledge how much you’ve done.
    Sometimes the “thanks” people crave is just knowing that their efforts aren’t going unnoticed. Whether it’s a colleague, a friend, or a partner, acknowledgment is always a welcome expression of gratitude.

    25. Thanks in advance.
    It’s possible to thank people even before they’ve done you a favor. If someone offers up a future kindness or promises to go out of their way for you, thanking them in advance lets them know they’re appreciated even before they’ve lifted a finger.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Other Ways To Say “Thank You” Is a “thank you” in order? On a daily basis, we’re inundated with reasons to thank the people around us. Maybe someone held the elevator for you while you were running late, the barista was kind despite the huge crowd in the coffee shop, or your colleague lets you know they did the legwork to help you get started on a particularly tricky project. We’re lucky to have so many reasons to say “thanks” every day, but sometimes we need some new words and expressions to adequately express the gratitude we feel. If you’re stuck in a rut of “thank you so much” and “thanks a lot,” here are 25 alternatives that are perfect for sharing your thanks and appreciation in every kind of setting. 1. I’m so grateful. Thanks is an expression of gratitude, so cut to the chase. Tell someone you’re grateful for whatever way in which they’ve helped you, and go into detail about exactly what they did to personalize your message. 2. I appreciate it. It’s always nice to feel appreciated. When someone does something to help you out or make your life easier, be sure to say how much it means to you that they went out of their way to help. 3. Thanks for your hard work on this. Don’t just offer colleagues and collaborators a run-of-the-mill thanks. Letting them know how much you appreciate the specific efforts they’ve made will help them feel seen and create a positive working relationship. 4. I couldn’t have done it without you. If you couldn’t have made something happen without another person’s help, then they should definitely know that! Don’t hold back in telling them how vital they are. 5. I owe you one. Sometimes the only way to truly appreciate a favor is by returning it. This “thank you” alternative lets them know you plan to do just that. 6. Much obliged. Obliged means “appreciative or grateful.” It’s especially handy for a quick but courteous email or text sign-off that still expresses thanks in a meaningful way. 7. Thanks for having my back. Sometimes the best thing someone else can do for you is be in your corner when you need support. Thanking them for being there is a way to let them know how much it means to you. 8. Please accept my deepest gratitude. Giving thanks in a more formal setting? This one is perfect for a professional letter, important speech, or in a thank-you note. 9. I have to give credit where it’s due. Let’s be honest: we all love getting credit for the good things we do. Credit is “commendation or honor given for some action, quality, etc.” When we thank someone, we’re giving them their earned credit for something they did, and it’s a gesture we should make often. 10. This has been such a blessing. We tend to think of a blessing as a favor or gift bestowed by God, but a blessing can also be “a special favor, mercy, or benefit.” Letting someone know their kind gesture or effort was a blessing is a way of letting them know you are thankful for the gift of their time, energy, and thoughtfulness. 11. I can’t thank you enough. Sometimes a simple “thanks” won’t cut it. In those instances, let them know the words may be inadequate, but the depth of your gratitude is not. 12. Cheers. Cheers isn’t just something we say when we’re giving a toast. It’s also a unique and quick way of saying “thanks.” Try it next time you’re at a party or other social event where a lighthearted expression of gratitude is needed. 13. That’s so kind of you. One way of thanking someone is telling them how their gesture felt to you: kind. By telling someone how kind they’ve been, you let them know you see their favors as coming from the heart. 14. Much appreciated. If you need to say thanks in a big way but on a small scale, go with “much appreciated.” This one is perfect for a quick email, text, or even a brief conversation. 15. Thank you for taking the time to do this. When people go out of their way to do something nice or help out, they’re also giving the gift of their time. We only get so much of that, so thank them for using some of their time to make your life easier. 16. Your support means the world. Support means “to bear or hold up (a load, mass, structure, part, etc.); serve as a foundation for.” The people who do that for us deserve to know how much we appreciate it. 17. Many thanks. One thanks? We don’t think so. If you’re shooting off a quick email, text, or call to say thank you, let them know your gratitude could be expressed many times over. 18. I’m beyond grateful. Go big or go home. Grateful means “warmly or deeply appreciative of kindness or benefits received; thankful.” And sometimes, well, you just feel all of that and beyond. 19. I sincerely applaud you. A true “thank you” should be sincere. That means “genuine; real.” The best expressions of gratitude are usually the ones that come from the heart. 20. I’m forever indebted. Sometimes one act of kindness inspires another. Indebted means “obligated for favors or kindness received,” and it’s a way of saying you plan to pay the kind act forward. 21. I stand in recognition. Giving thanks is about shining a spotlight on someone’s thoughtfulness, kindness, hard work, care, or effort. Carving out space specifically to recognize their efforts is a powerful way of saying thanks. 22. I’m blown away by your kindness. If you’re blown away by something, that usually means it was unexpectedly inspiring, moving, or touching. Use this one for gestures and acts of kindness that truly make a difference. 23. It means the world to me. It’s not always easy to explain how important or valuable someone’s contributions are. Saying “it means the world” to you is a pretty good place to start. 24. I want to acknowledge how much you’ve done. Sometimes the “thanks” people crave is just knowing that their efforts aren’t going unnoticed. Whether it’s a colleague, a friend, or a partner, acknowledgment is always a welcome expression of gratitude. 25. Thanks in advance. It’s possible to thank people even before they’ve done you a favor. If someone offers up a future kindness or promises to go out of their way for you, thanking them in advance lets them know they’re appreciated even before they’ve lifted a finger. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 626 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Supposedly” vs. “Supposably”: Yes, There Is A Difference

    Recently, we added the word supposably to our dictionary. And, what do you suppose happened?

    For one thing, we discovered how strongly people feel about this word—which many assume to be a recently invented term or a mispronunciation. Others quite reasonably think it’s a synonym of supposedly. After all, even Joey from Friends famously and hilariously couldn’t figure out if supposedly and supposably were different words.

    Here’s the shocking truth: supposably is, in fact, a real word and has been used since at least the 1700s. However, it may not mean quite what you (or Joey) think it does. To celebrate supposably’s new entry in our dictionary, let’s break down the difference between the words supposably and supposedly.

    What does supposedly mean?

    Let’s start with the word most people know. The word supposedly means “according to what is accepted or believed, without positive knowledge.”

    Supposedly is an adverb based on the word supposed. Supposedly is used to express doubt that something is what people say it is. It is a synonym of the word allegedly.

    The word supposedly is used when a person has heard information about something, such as from the news or the rumors going around town. At the same time, they aren’t sure if the information is actually true. For example, a person may say that the dinosaurs are supposedly extinct if they don’t believe the dinosaurs are really gone. Maybe they’re hiding in a theme park somewhere?

    What does supposably mean?

    Supposably means “as may be assumed, imagined, or supposed.”

    Supposably is an adverb based on the word supposable. If something is supposable, it means that it is possible or conceivable. Therefore, supposably is a synonym of the adverbs possibly and conceivably. If something can supposably happen, it means it is within the realm of possibility that it can happen. It is often used with words such as might, may, or could.

    For example, it is correct to say that a dog may supposably be friends with a cat. Although they usually don’t get along, there is plenty of evidence of cats tolerating dogs. On the other hand, it would be incorrect to say that pigs could supposably fly. Pigs do not have wings nor the money to pay for flight school. Because a pig flying is impossible, logically you wouldn’t say that a pig may supposably fly—unless you fitted them with wings.

    How to use supposedly and supposably

    The easiest way to know which word you should use is to see if you want to say that something is supposed to be a certain way or if it is possible for something to be a certain way.

    For example, if someone says that a particular bug spray supposedly kills mosquitoes, they are doubtful of the truth of this advertised claim—and are probably being munched on by mosquitoes!

    On the other hand, if someone says that a particular bug spray supposably kills mosquitoes, they are saying that it is possible that the bug spray could kill mosquitoes—it is made from a chemical that can be lethal to mosquitoes.

    Here are some more examples of correct uses of supposedly and supposably:

    - My son supposedly bathed the dog but she smells like a dumpster!
    - Although it is very unlikely, a skydiver could supposably survive jumping out of an airplane without a parachute.
    - “Supposedly, the Egyptians built the pyramids,” Stan said. “If you ask me, it was time-traveling robots!”
    - They set the betting odds at a million to one, which means that they believe that the celebrity chef might supposably defeat the professional boxer in a boxing match somehow.

    So, here’s the big idea:

    While supposably is a real (if rare) word, most people will opt for synonyms such as possibly or conceivably. Because many mistakenly believe others using supposably is a mistake, a lot of people avoid supposably so as not to invoke the wrath of people who are supposedly grammar snobs.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    “Supposedly” vs. “Supposably”: Yes, There Is A Difference Recently, we added the word supposably to our dictionary. And, what do you suppose happened? For one thing, we discovered how strongly people feel about this word—which many assume to be a recently invented term or a mispronunciation. Others quite reasonably think it’s a synonym of supposedly. After all, even Joey from Friends famously and hilariously couldn’t figure out if supposedly and supposably were different words. Here’s the shocking truth: supposably is, in fact, a real word and has been used since at least the 1700s. However, it may not mean quite what you (or Joey) think it does. To celebrate supposably’s new entry in our dictionary, let’s break down the difference between the words supposably and supposedly. What does supposedly mean? Let’s start with the word most people know. The word supposedly means “according to what is accepted or believed, without positive knowledge.” Supposedly is an adverb based on the word supposed. Supposedly is used to express doubt that something is what people say it is. It is a synonym of the word allegedly. The word supposedly is used when a person has heard information about something, such as from the news or the rumors going around town. At the same time, they aren’t sure if the information is actually true. For example, a person may say that the dinosaurs are supposedly extinct if they don’t believe the dinosaurs are really gone. Maybe they’re hiding in a theme park somewhere? What does supposably mean? Supposably means “as may be assumed, imagined, or supposed.” Supposably is an adverb based on the word supposable. If something is supposable, it means that it is possible or conceivable. Therefore, supposably is a synonym of the adverbs possibly and conceivably. If something can supposably happen, it means it is within the realm of possibility that it can happen. It is often used with words such as might, may, or could. For example, it is correct to say that a dog may supposably be friends with a cat. Although they usually don’t get along, there is plenty of evidence of cats tolerating dogs. On the other hand, it would be incorrect to say that pigs could supposably fly. Pigs do not have wings nor the money to pay for flight school. Because a pig flying is impossible, logically you wouldn’t say that a pig may supposably fly—unless you fitted them with wings. How to use supposedly and supposably The easiest way to know which word you should use is to see if you want to say that something is supposed to be a certain way or if it is possible for something to be a certain way. For example, if someone says that a particular bug spray supposedly kills mosquitoes, they are doubtful of the truth of this advertised claim—and are probably being munched on by mosquitoes! On the other hand, if someone says that a particular bug spray supposably kills mosquitoes, they are saying that it is possible that the bug spray could kill mosquitoes—it is made from a chemical that can be lethal to mosquitoes. Here are some more examples of correct uses of supposedly and supposably: - My son supposedly bathed the dog but she smells like a dumpster! - Although it is very unlikely, a skydiver could supposably survive jumping out of an airplane without a parachute. - “Supposedly, the Egyptians built the pyramids,” Stan said. “If you ask me, it was time-traveling robots!” - They set the betting odds at a million to one, which means that they believe that the celebrity chef might supposably defeat the professional boxer in a boxing match somehow. So, here’s the big idea: While supposably is a real (if rare) word, most people will opt for synonyms such as possibly or conceivably. Because many mistakenly believe others using supposably is a mistake, a lot of people avoid supposably so as not to invoke the wrath of people who are supposedly grammar snobs. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 646 มุมมอง 0 รีวิว