• อีกคลิปของพี่นก นพรัตน์ 8 ปีที่แล้วเหมือนกันจ้ะ

    ข่าวลึก ปมลับ : เปิดลับ!บ่อนช่องสายตะกู ทับซ้อนซ่อนผลประโยชน์? (270360)
    https://www.youtube.com/watch?v=HxnR78uxrRg
    อีกคลิปของพี่นก นพรัตน์ 8 ปีที่แล้วเหมือนกันจ้ะ ข่าวลึก ปมลับ : เปิดลับ!บ่อนช่องสายตะกู ทับซ้อนซ่อนผลประโยชน์? (270360) https://www.youtube.com/watch?v=HxnR78uxrRg
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษา​อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    สัทธรรมลำดับที่ : 342
    ชื่อบทธรรม :- อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=342
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/108/?keywords=ธมฺมสญฺญี
    บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ
    บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่ธรรม ในสิ่งที่ไม่ใช่ธรรม
    บุคคลผู้ สำคัญว่าธรรมในสิ่งที่เป็นธรรม.
    ....-

    #ทุกขสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. 20/79/360.
    http://etipitaka.com/read/thai/20/79/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. ๒๐/๑๐๘/๓๖๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/108/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติ่ม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=342
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=342
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษา​อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก สัทธรรมลำดับที่ : 342 ชื่อบทธรรม :- อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=342 เนื้อความทั้งหมด :- --ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก. http://etipitaka.com/read/pali/20/108/?keywords=ธมฺมสญฺญี บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่ธรรม ในสิ่งที่ไม่ใช่ธรรม บุคคลผู้ สำคัญว่าธรรมในสิ่งที่เป็นธรรม. ....- #ทุกขสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. 20/79/360. http://etipitaka.com/read/thai/20/79/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. ๒๐/๑๐๘/๓๖๐. http://etipitaka.com/read/pali/20/108/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติ่ม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=342 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=342 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ¸­à¸²à¸ªà¸§à¸°à¸—ั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    -ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก. บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่ธรรม ในสิ่งที่ไม่ใช่ธรรม บุคคลผู้ สำคัญว่าธรรมในสิ่งที่เป็นธรรม. ....
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • วันที่ 14 กรกฎาคม หุ่นยนต์รูปร่างน่ารักสวมชุดการ์ตูนปรากฏตัวที่รถไฟใต้ดินสาย 2 เมืองเซินเจิ้น เพื่อทำหน้าที่ส่งสินค้าให้ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ภายในสถานี นี่ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่หุ่นยนต์สามารถขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินด้วยตนเองและส่งของถึงปลายทางได้โดยอัตโนมัติ

    หุ่นยนต์ดังกล่าวเดินผ่านชานชาลาพร้อมระบบหลีกเลี่ยงคนโดยอัตโนมัติ ขึ้นรถไฟและไปหยุดตรงตำแหน่งที่กำหนด ก่อนส่งของให้ร้าน 7-Eleven ภายในสถานีอย่างแม่นยำ

    ตัวหุ่นยนต์ถูกควบคุมด้วยระบบ AI ที่ประมวลผลคำสั่งจัดส่งและปรับเส้นทางแบบเรียลไทม์ พร้อมใช้เทคโนโลยีหลอมรวมเซนเซอร์หลากหลายแบบเพื่อให้สามารถนำทางได้ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนของรถไฟฟ้าใต้ดิน ด้วยเซนเซอร์เลเซอร์ 360 องศา (Lidar) ใช้ในการสร้างแผนที่สถานีรถไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ ช่วยให้หุ่นยนต์ระบุตำแหน่งตัวเองได้อย่างแม่นยำ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000068664

    #Thaitimes #MGROnline #หุ่นยนต์
    วันที่ 14 กรกฎาคม หุ่นยนต์รูปร่างน่ารักสวมชุดการ์ตูนปรากฏตัวที่รถไฟใต้ดินสาย 2 เมืองเซินเจิ้น เพื่อทำหน้าที่ส่งสินค้าให้ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ภายในสถานี นี่ถือเป็นครั้งแรกของโลกที่หุ่นยนต์สามารถขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินด้วยตนเองและส่งของถึงปลายทางได้โดยอัตโนมัติ • หุ่นยนต์ดังกล่าวเดินผ่านชานชาลาพร้อมระบบหลีกเลี่ยงคนโดยอัตโนมัติ ขึ้นรถไฟและไปหยุดตรงตำแหน่งที่กำหนด ก่อนส่งของให้ร้าน 7-Eleven ภายในสถานีอย่างแม่นยำ • ตัวหุ่นยนต์ถูกควบคุมด้วยระบบ AI ที่ประมวลผลคำสั่งจัดส่งและปรับเส้นทางแบบเรียลไทม์ พร้อมใช้เทคโนโลยีหลอมรวมเซนเซอร์หลากหลายแบบเพื่อให้สามารถนำทางได้ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนของรถไฟฟ้าใต้ดิน ด้วยเซนเซอร์เลเซอร์ 360 องศา (Lidar) ใช้ในการสร้างแผนที่สถานีรถไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ ช่วยให้หุ่นยนต์ระบุตำแหน่งตัวเองได้อย่างแม่นยำ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000068664 • #Thaitimes #MGROnline #หุ่นยนต์
    0 Comments 0 Shares 287 Views 0 Reviews
  • มีคนมาถามว่าลุงให้ Antivirus ยี่ห้ออะไร? ลุงใช้ Bitdefender ครับ

    เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: Antivirus กับ Internet Security ยังต่างกันอยู่ไหม?

    ในยุคที่มัลแวร์แอบแฝงผ่านเว็บ, อีเมล, และไฟล์ต่าง ๆ ได้เนียนเหมือนภาพโฆษณา — คนจำนวนมากจึงตั้งคำถามว่า “ควรเลือกแค่ Antivirus หรือจ่ายเพิ่มเพื่อ Internet Security ดี?”

    Antivirus คืออะไร
    Antivirus คือซอฟต์แวร์ที่ตรวจจับและกำจัดมัลแวร์จากไฟล์ในเครื่อง เช่น ไวรัส, หนอน (worm), โทรจัน ฯลฯ โดยอิงจากการเทียบ signature และการวิเคราะห์พฤติกรรม (heuristics) ล่าสุดยังรวมถึงการตรวจภัยออนไลน์ด้วย (ไม่ใช่เฉพาะไฟล์ในเครื่องเท่านั้นอีกต่อไป)

    Internet Security Suite คืออะไร
    Internet Security Suite คือแพ็กเกจรวมหลายเครื่องมือ เช่น antivirus, firewall, VPN, password manager, และระบบควบคุมภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ ช่วยป้องกันผู้ใช้จากภัยออนไลน์โดยเฉพาะ เช่น การฟิชชิ่ง, การถูกสอดแนม, การโดนแฮกผ่านเว็บ, และมัลแวร์จากเว็บที่แฝงมา

    Antivirus คือการป้องกันระดับ local ที่สแกนไฟล์ในเครื่อง
    ใช้ signature-based และ heuristic-based detection เพื่อดักจับภัย

    Internet Security ครอบคลุมมากกว่า โดยเน้นการป้องกันภัยขณะออนไลน์
    ป้องกันฟิชชิ่ง, เว็บมัลแวร์, และการสอดแนมผ่านเครือข่าย

    ฟีเจอร์ที่มักมีใน Internet Security เช่น firewall, VPN, password manager
    เสริมความปลอดภัยให้กับการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบครบวงจร

    ปัจจุบัน Antivirus หลายตัวใช้ cloud-based threat detection แล้ว
    ความแตกต่างระหว่าง antivirus กับ internet security จึงเริ่มพร่ามัว

    ผู้ให้บริการเริ่มรวมทั้งสองไว้ในผลิตภัณฑ์เดียว ต่างกันแค่ “ระดับราคา”
    เช่น Norton Antivirus (พื้นฐาน) กับ Norton 360 (พรีเมียม)

    Antivirus ฟรีบางตัวก็มีฟีเจอร์ internet security แล้ว เช่น Avast, Bitdefender
    มี firewall, สแกน Wi-Fi, ป้องกัน ransomware และ phishing mail

    https://www.techradar.com/pro/security/antivirus-vs-internet-security-whats-the-difference
    มีคนมาถามว่าลุงให้ Antivirus ยี่ห้ออะไร? ลุงใช้ Bitdefender ครับ 🎙️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: Antivirus กับ Internet Security ยังต่างกันอยู่ไหม? ในยุคที่มัลแวร์แอบแฝงผ่านเว็บ, อีเมล, และไฟล์ต่าง ๆ ได้เนียนเหมือนภาพโฆษณา — คนจำนวนมากจึงตั้งคำถามว่า “ควรเลือกแค่ Antivirus หรือจ่ายเพิ่มเพื่อ Internet Security ดี?” 🔍 Antivirus คืออะไร Antivirus คือซอฟต์แวร์ที่ตรวจจับและกำจัดมัลแวร์จากไฟล์ในเครื่อง เช่น ไวรัส, หนอน (worm), โทรจัน ฯลฯ โดยอิงจากการเทียบ signature และการวิเคราะห์พฤติกรรม (heuristics) ล่าสุดยังรวมถึงการตรวจภัยออนไลน์ด้วย (ไม่ใช่เฉพาะไฟล์ในเครื่องเท่านั้นอีกต่อไป) 🌐 Internet Security Suite คืออะไร Internet Security Suite คือแพ็กเกจรวมหลายเครื่องมือ เช่น antivirus, firewall, VPN, password manager, และระบบควบคุมภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ ช่วยป้องกันผู้ใช้จากภัยออนไลน์โดยเฉพาะ เช่น การฟิชชิ่ง, การถูกสอดแนม, การโดนแฮกผ่านเว็บ, และมัลแวร์จากเว็บที่แฝงมา ✅ Antivirus คือการป้องกันระดับ local ที่สแกนไฟล์ในเครื่อง ➡️ ใช้ signature-based และ heuristic-based detection เพื่อดักจับภัย ✅ Internet Security ครอบคลุมมากกว่า โดยเน้นการป้องกันภัยขณะออนไลน์ ➡️ ป้องกันฟิชชิ่ง, เว็บมัลแวร์, และการสอดแนมผ่านเครือข่าย ✅ ฟีเจอร์ที่มักมีใน Internet Security เช่น firewall, VPN, password manager ➡️ เสริมความปลอดภัยให้กับการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบครบวงจร ✅ ปัจจุบัน Antivirus หลายตัวใช้ cloud-based threat detection แล้ว ➡️ ความแตกต่างระหว่าง antivirus กับ internet security จึงเริ่มพร่ามัว ✅ ผู้ให้บริการเริ่มรวมทั้งสองไว้ในผลิตภัณฑ์เดียว ต่างกันแค่ “ระดับราคา” ➡️ เช่น Norton Antivirus (พื้นฐาน) กับ Norton 360 (พรีเมียม) ✅ Antivirus ฟรีบางตัวก็มีฟีเจอร์ internet security แล้ว เช่น Avast, Bitdefender ➡️ มี firewall, สแกน Wi-Fi, ป้องกัน ransomware และ phishing mail https://www.techradar.com/pro/security/antivirus-vs-internet-security-whats-the-difference
    WWW.TECHRADAR.COM
    Antivirus vs Internet Security: What's the difference?
    Do you need antivirus and internet security in 2025?
    0 Comments 0 Shares 298 Views 0 Reviews
  • ** เลขปริศนาจาก <ปรปักษ์จำนน>**

    สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> คงจำได้ว่าพระเอกมีกล่องไม้ใบหนึ่งที่หวงมาก ห้ามนางเอกแตะต้อง และในซีรีส์นางเอกแสดงการปลดผนึกตัวล็อกของกล่องได้อย่างรวดเร็ว มือทำไปปากก็อธิบายไปว่าล็อก ‘จิ่วกง’ หรือ ‘จิ่วกงสั่ว’ นี้ประกอบด้วยชิ้นต่างๆ ที่แทนตัวเลข มีใจกลางเป็นเลข 5 ไม่ว่าจะบวกเลขในทิศทางใดก็จะได้ผลลัพท์เท่ากับ 15 พร้อมกับบอกว่าใครที่ได้เรียนคณิตศาสตร์มาก็ต้องทำได้

    บวกเลขขั้นพื้นฐาน ใครๆ ก็ทำได้ แต่เชื่อว่าพวกเรานึกภาพไม่ออกว่าคือภาพเลขอะไร วันนี้มาเฉลยค่ะ

    เขียนไปก็อ่านลำบาก ดูรูปประกอบ 2 เลยค่ะว่ามันคือภาพเลขอะไร ... เลขชุดนี้มีความพิเศษอย่างที่นางเอกว่า คือตรงกลางเป็นเลข 5 และเมื่อเอาเลขสามตัวมาบวกกันตามแนวต่างๆ จะได้ค่า 15 นั่นเอง และเลขชุดพิเศษตามภาพนี้เรียกว่า ‘จิ่วกงเก๋อ’ (九宫格) หรือ ‘จิ่วกงถู’ (九宫图) ถูกนำมาประดิษฐ์เป็นปริศนากระดานเลขให้เด็กเล่นเพื่อฝึกปรือทักษะการคำนวณและมีการพัฒนาความยากขึ้นไปอีกหลายขั้นจนเกิน 3x3 ช่องตามโบราณ

    เลขชุดเก้าช่องตามที่แสดงในรูปประกอบนี้พัฒนามาจากภาพวาดสองรูปในสมัยบรรพกาลคือ ‘เหอถู’ (河图) และ ‘ลั่วซู’ (洛书) (ดูรูปประกอบ 3) ที่มาของมันยังคงเป็นปริศนา แต่ตามตำนานเล่าว่าเมื่อครั้งต้าอวี่ช่วยโลกจากน้ำท่วมครั้งใหญ่เสร็จแล้วนั้น มีเต่ายักษ์โผล่ขึ้นมาจากแม่น้ำลั่ว บนกระดองหลังเต่าสลักลายจุดไว้ ถูกจำลองขึ้นมาเป็นภาพวาด ต่อมาเรียกรวมกันว่าเหอถูและลั่วซู บ้างก็ว่าทั้งสองภาพนี้เป็นการบันทึกการเรียงตัวของดาวโดยชนรุ่นบรรพกาล

    แต่ไม่ว่าเหอถูและลั่วซูจะมีที่มาอย่างไร สองภาพนี้ถูกศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียดมาตลอดทุกยุคทุกสมัยจนแตกแขนงเป็นหลายวิชา เช่น คณิตศาสตร์ โหราศาสตร์และดาราศาสตร์ ฯลฯ จนมีคำกล่าวว่าทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนอยู่ในสองภาพนี้ และมีการเอ่ยพาดพิงถึงสองภาพนี้ในหลายเอกสารโบราณ จวบจนปัจจุบันก็ยังมีการใช้คอมพิวเตอร์พัฒนาอัลกอริทึม (algorithm) ตามหลักการของเลขชุดจิ่วกงถูนี้ แต่จนใจที่เนื้อหานั้นยากเกินกว่าที่ Storyฯ จะเข้าใจและเอามาอธิบายต่อให้เพื่อนเพจฟังได้

    มีคนไปวิเคราะห์ความน่าทึ่งของตัวเลขจิ่วกงถูนี้เพิ่มเติม (ดูรูปประกอบ 4) จะเห็นว่าหากนับวนไปเรื่อยๆ มันจะมีค่าเท่ากันทุกแถว เพื่อนเพจที่ชอบการคำนวณลองไปทำต่อเพิ่มเติมว่าวนไปอีกหลายๆ หลักจะยังได้ผลลัพธ์เท่ากันเหมือนกันหมดหรือไม่ ทำแล้วมาบอกกล่าวกันหน่อยนะคะ

    และในเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> นี้ กล่องดังกล่าวมีตัวล็อกที่จะปลดได้ด้วยการแก้ปริศนาบนฝากล่องซึ่งมีเก้าช่องเหมือนกระดานเกมปัจจุบัน ล็อกดังกล่าวนี้จึงเรียกว่า ‘จิ่วกงสั่ว’ (九宫锁) นั่นเอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊กด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.marieclaire.com.tw/entertainment/tvshow/86397
    http://www.yrcc.gov.cn/hhwh/wxyc/202503/t20250320_440769.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/河图/7525
    http://www.360doc.com/content/21/0223/10/49937858_963504002.shtml

    #ปรปักษ์จำนน #จิ่วกงสั่ว #เลขปริศนา #จิ่วกงเก๋อ #เหอถู #ลั่วซู #สาระจีน
    ** เลขปริศนาจาก <ปรปักษ์จำนน>** สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> คงจำได้ว่าพระเอกมีกล่องไม้ใบหนึ่งที่หวงมาก ห้ามนางเอกแตะต้อง และในซีรีส์นางเอกแสดงการปลดผนึกตัวล็อกของกล่องได้อย่างรวดเร็ว มือทำไปปากก็อธิบายไปว่าล็อก ‘จิ่วกง’ หรือ ‘จิ่วกงสั่ว’ นี้ประกอบด้วยชิ้นต่างๆ ที่แทนตัวเลข มีใจกลางเป็นเลข 5 ไม่ว่าจะบวกเลขในทิศทางใดก็จะได้ผลลัพท์เท่ากับ 15 พร้อมกับบอกว่าใครที่ได้เรียนคณิตศาสตร์มาก็ต้องทำได้ บวกเลขขั้นพื้นฐาน ใครๆ ก็ทำได้ แต่เชื่อว่าพวกเรานึกภาพไม่ออกว่าคือภาพเลขอะไร วันนี้มาเฉลยค่ะ เขียนไปก็อ่านลำบาก ดูรูปประกอบ 2 เลยค่ะว่ามันคือภาพเลขอะไร ... เลขชุดนี้มีความพิเศษอย่างที่นางเอกว่า คือตรงกลางเป็นเลข 5 และเมื่อเอาเลขสามตัวมาบวกกันตามแนวต่างๆ จะได้ค่า 15 นั่นเอง และเลขชุดพิเศษตามภาพนี้เรียกว่า ‘จิ่วกงเก๋อ’ (九宫格) หรือ ‘จิ่วกงถู’ (九宫图) ถูกนำมาประดิษฐ์เป็นปริศนากระดานเลขให้เด็กเล่นเพื่อฝึกปรือทักษะการคำนวณและมีการพัฒนาความยากขึ้นไปอีกหลายขั้นจนเกิน 3x3 ช่องตามโบราณ เลขชุดเก้าช่องตามที่แสดงในรูปประกอบนี้พัฒนามาจากภาพวาดสองรูปในสมัยบรรพกาลคือ ‘เหอถู’ (河图) และ ‘ลั่วซู’ (洛书) (ดูรูปประกอบ 3) ที่มาของมันยังคงเป็นปริศนา แต่ตามตำนานเล่าว่าเมื่อครั้งต้าอวี่ช่วยโลกจากน้ำท่วมครั้งใหญ่เสร็จแล้วนั้น มีเต่ายักษ์โผล่ขึ้นมาจากแม่น้ำลั่ว บนกระดองหลังเต่าสลักลายจุดไว้ ถูกจำลองขึ้นมาเป็นภาพวาด ต่อมาเรียกรวมกันว่าเหอถูและลั่วซู บ้างก็ว่าทั้งสองภาพนี้เป็นการบันทึกการเรียงตัวของดาวโดยชนรุ่นบรรพกาล แต่ไม่ว่าเหอถูและลั่วซูจะมีที่มาอย่างไร สองภาพนี้ถูกศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียดมาตลอดทุกยุคทุกสมัยจนแตกแขนงเป็นหลายวิชา เช่น คณิตศาสตร์ โหราศาสตร์และดาราศาสตร์ ฯลฯ จนมีคำกล่าวว่าทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนอยู่ในสองภาพนี้ และมีการเอ่ยพาดพิงถึงสองภาพนี้ในหลายเอกสารโบราณ จวบจนปัจจุบันก็ยังมีการใช้คอมพิวเตอร์พัฒนาอัลกอริทึม (algorithm) ตามหลักการของเลขชุดจิ่วกงถูนี้ แต่จนใจที่เนื้อหานั้นยากเกินกว่าที่ Storyฯ จะเข้าใจและเอามาอธิบายต่อให้เพื่อนเพจฟังได้ มีคนไปวิเคราะห์ความน่าทึ่งของตัวเลขจิ่วกงถูนี้เพิ่มเติม (ดูรูปประกอบ 4) จะเห็นว่าหากนับวนไปเรื่อยๆ มันจะมีค่าเท่ากันทุกแถว เพื่อนเพจที่ชอบการคำนวณลองไปทำต่อเพิ่มเติมว่าวนไปอีกหลายๆ หลักจะยังได้ผลลัพธ์เท่ากันเหมือนกันหมดหรือไม่ ทำแล้วมาบอกกล่าวกันหน่อยนะคะ และในเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> นี้ กล่องดังกล่าวมีตัวล็อกที่จะปลดได้ด้วยการแก้ปริศนาบนฝากล่องซึ่งมีเก้าช่องเหมือนกระดานเกมปัจจุบัน ล็อกดังกล่าวนี้จึงเรียกว่า ‘จิ่วกงสั่ว’ (九宫锁) นั่นเอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊กด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.marieclaire.com.tw/entertainment/tvshow/86397 http://www.yrcc.gov.cn/hhwh/wxyc/202503/t20250320_440769.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/河图/7525 http://www.360doc.com/content/21/0223/10/49937858_963504002.shtml #ปรปักษ์จำนน #จิ่วกงสั่ว #เลขปริศนา #จิ่วกงเก๋อ #เหอถู #ลั่วซู #สาระจีน
    WWW.MARIECLAIRE.COM.TW
    《折腰》5大幕後真相曝光:劉宇寧帶傷上陣,宋祖兒獲封「天選小喬」,女主首選竟是趙露思
    劉宇寧、宋祖兒《折腰》曾榮登「網友最期待古裝劇」冠軍,開播後果然不負眾望,收視與口碑雙雙飆高。劉宇寧成功擺脫古裝醜男標籤,獲讚「天選魏劭」;這兩年深陷逃稅風波的宋祖兒,也以聰慧絕美「小喬」華麗回歸,再掀話題熱潮。
    4 Comments 0 Shares 423 Views 0 Reviews
  • ทภ.2 แจงเหตุทหารเหยียบกับระเบิดที่ช่องบก "แม่ทัพกุ้ง" ส่งหน่วยเก็บกู้เก็บหลักฐานส่งผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์วัตถุระเบิดของเก่าหรือใหม่ วอนให้รอผลตรวจ 2-3 วันรู้ผล

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000067360

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ทภ.2 แจงเหตุทหารเหยียบกับระเบิดที่ช่องบก "แม่ทัพกุ้ง" ส่งหน่วยเก็บกู้เก็บหลักฐานส่งผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์วัตถุระเบิดของเก่าหรือใหม่ วอนให้รอผลตรวจ 2-3 วันรู้ผล อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000067360 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 527 Views 0 Reviews
  • ทบ. แจงเหตุทหารเหยียบกับระเบิดช่องบก เร่งสอบชนิด-ที่มา ทุ่นระเบิดยังไม่ยืนยันใหม่หรือเก่า
    https://www.thai-tai.tv/news/20360/
    .
    #ทหารเหยียบกับระเบิด #ช่องบก #กองทัพบก #ทุ่นระเบิด #อนุสัญญาออตตาวา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวความมั่นคง
    ทบ. แจงเหตุทหารเหยียบกับระเบิดช่องบก เร่งสอบชนิด-ที่มา ทุ่นระเบิดยังไม่ยืนยันใหม่หรือเก่า https://www.thai-tai.tv/news/20360/ . #ทหารเหยียบกับระเบิด #ช่องบก #กองทัพบก #ทุ่นระเบิด #อนุสัญญาออตตาวา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวความมั่นคง
    0 Comments 0 Shares 133 Views 0 Reviews
  • ผ่านมาหลายสัปดาห์กับสาระทางประวัติศาสตร์ว่าด้วยเรื่องประเพณีงานแต่งงานและชุดเจ้าสาว วันนี้พักเปลี่ยนแนวกับการคุยกันเบาๆ ว่าด้วยเรื่องบทกวี

    ความมีอยู่ว่า
    ... เทพจิ้งจอกเข้ามาจับแขนข้าอีกครั้งแล้วกล่าว “มิทราบว่านามของเซียนน้อยจิ่นมี่ท่าน ใช่สะกดด้วย ‘มี่’ เดียวกับคำว่า ‘มี่ถาง’ (แปลว่าน้ำผึ้ง) หรือไม่?”
    ข้าตอบ “มิใช่ มิใช่”
    “เช่นนั้นเป็นคำว่า ‘มี่’ ใด?” เทพจิ้งจอกถามต่ออย่างตั้งใจ
    ข้ากำลังจะกล่าวตอบ หากแต่เฟิ่งหวงกลับเอ่ยขัดจังหวะขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “เห็นทีจะเป็น ‘สวินมี่’ (แปลว่าตามหา) กระมัง” ...

    - จากเรื่อง <มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง> ผู้แต่ง เตี้ยนเสี้ยน
    (หมายเหตุ ชื่อหนังสือตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ ละครเรื่อง <เถ้ามธุรส> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    วันนี้เรามาคุยกันเรื่องชื่อของนางเอกของเรื่องนี้ ซึ่งก็คือ “จิ่นมี่”

    ในหนังสือไม่ได้เน้นถึง แต่ในละครมีหลายครั้งที่ย้ำถึงวลีหนึ่ง เป็นการเกริ่นว่าชื่อของนางมาจากบทกวีวรรคนี้ ซึ่งวรรคเต็มๆ ก็คือ “繁花似锦觅安宁, 淡云流水度此生” (ฝานฮวาสื้อจิ่นมี่อันหนิง, ต้านหวินหลิวสุ่ยตู้ฉื่อเซิง) เป็นวรรคหนึ่งในบทกวีของหวงจิ้งเหยวี่ยน (นักประพันธ์ยุคปัจจุบัน) Storyฯ พยายามแปลให้ได้ใจความตามนี้ค่ะ:

    ฝานฮวาสื้อจิ่น – ตระการตาภาพบุปผาดารดาษ
    มี่อันหนิง – แสวงหาความสงบแห่งจิตใจ
    ต้านหวินหลิวสุ่ย – เมฆพลิ้วจางสายนทีรินผ่าน
    ตู้ฉื่อเซิง – เฉกนี้ ตราบชีวาวางวาย

    อักษร 14 ตัว แต่สามารถสะท้อนความรู้สึกของคนที่ต้องการละทิ้งความฟุ้งเฟ้อทางโลก เพื่อใช้ชีวิตอย่างสงบเรียบง่าย

    ไม่ทราบว่ามีเพื่อนเพจคนไหนที่ดูละครจนจบแล้วคิดเหมือน Storyฯ หรือไม่ว่า ความนัยของเนื้อเรื่องและปรัชญาชีวิตของตัวละครหลักหลายคนได้ถูกแฝงไว้ในวลีนี้อย่างลึกซึ้งจริงๆ

    ป.ล. เพื่อนเพจท่านใดแปลได้สละสลวยกว่านี้ เชิญแบ่งปันกันเข้ามาเลยค่ะ
    ป.ล. 2 ท่านที่อ่านภาษาจีนได้ สามารถดูบทกวีเต็มๆ ได้ที่ https://www.mingyantong.com/article/798209 (แต่กรุณาอย่าให้ Storyฯ แปลให้เลย... ไม่สามารถ... ยากจริงๆ)

    Credit รูปภาพส่วนหนึ่งจาก: https://www.soompi.com/article/1221415wpp/mesmerizing-fantasy-world-3-reasons-watch-ashes-love
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://zhidao.baidu.com/question/139053549.html
    http://www.360doc.com/content/19/0312/11/4344390_820925177.shtml

    #มธุรสหวานล้ำ #เถ้ามธุรส #กวีจีน #จิ่นมี่ #StoryfromStory
    ผ่านมาหลายสัปดาห์กับสาระทางประวัติศาสตร์ว่าด้วยเรื่องประเพณีงานแต่งงานและชุดเจ้าสาว วันนี้พักเปลี่ยนแนวกับการคุยกันเบาๆ ว่าด้วยเรื่องบทกวี ความมีอยู่ว่า ... เทพจิ้งจอกเข้ามาจับแขนข้าอีกครั้งแล้วกล่าว “มิทราบว่านามของเซียนน้อยจิ่นมี่ท่าน ใช่สะกดด้วย ‘มี่’ เดียวกับคำว่า ‘มี่ถาง’ (แปลว่าน้ำผึ้ง) หรือไม่?” ข้าตอบ “มิใช่ มิใช่” “เช่นนั้นเป็นคำว่า ‘มี่’ ใด?” เทพจิ้งจอกถามต่ออย่างตั้งใจ ข้ากำลังจะกล่าวตอบ หากแต่เฟิ่งหวงกลับเอ่ยขัดจังหวะขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “เห็นทีจะเป็น ‘สวินมี่’ (แปลว่าตามหา) กระมัง” ... - จากเรื่อง <มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง> ผู้แต่ง เตี้ยนเสี้ยน (หมายเหตุ ชื่อหนังสือตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ ละครเรื่อง <เถ้ามธุรส> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) วันนี้เรามาคุยกันเรื่องชื่อของนางเอกของเรื่องนี้ ซึ่งก็คือ “จิ่นมี่” ในหนังสือไม่ได้เน้นถึง แต่ในละครมีหลายครั้งที่ย้ำถึงวลีหนึ่ง เป็นการเกริ่นว่าชื่อของนางมาจากบทกวีวรรคนี้ ซึ่งวรรคเต็มๆ ก็คือ “繁花似锦觅安宁, 淡云流水度此生” (ฝานฮวาสื้อจิ่นมี่อันหนิง, ต้านหวินหลิวสุ่ยตู้ฉื่อเซิง) เป็นวรรคหนึ่งในบทกวีของหวงจิ้งเหยวี่ยน (นักประพันธ์ยุคปัจจุบัน) Storyฯ พยายามแปลให้ได้ใจความตามนี้ค่ะ: ฝานฮวาสื้อจิ่น – ตระการตาภาพบุปผาดารดาษ มี่อันหนิง – แสวงหาความสงบแห่งจิตใจ ต้านหวินหลิวสุ่ย – เมฆพลิ้วจางสายนทีรินผ่าน ตู้ฉื่อเซิง – เฉกนี้ ตราบชีวาวางวาย อักษร 14 ตัว แต่สามารถสะท้อนความรู้สึกของคนที่ต้องการละทิ้งความฟุ้งเฟ้อทางโลก เพื่อใช้ชีวิตอย่างสงบเรียบง่าย ไม่ทราบว่ามีเพื่อนเพจคนไหนที่ดูละครจนจบแล้วคิดเหมือน Storyฯ หรือไม่ว่า ความนัยของเนื้อเรื่องและปรัชญาชีวิตของตัวละครหลักหลายคนได้ถูกแฝงไว้ในวลีนี้อย่างลึกซึ้งจริงๆ ป.ล. เพื่อนเพจท่านใดแปลได้สละสลวยกว่านี้ เชิญแบ่งปันกันเข้ามาเลยค่ะ ป.ล. 2 ท่านที่อ่านภาษาจีนได้ สามารถดูบทกวีเต็มๆ ได้ที่ https://www.mingyantong.com/article/798209 (แต่กรุณาอย่าให้ Storyฯ แปลให้เลย... ไม่สามารถ... ยากจริงๆ) Credit รูปภาพส่วนหนึ่งจาก: https://www.soompi.com/article/1221415wpp/mesmerizing-fantasy-world-3-reasons-watch-ashes-love Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://zhidao.baidu.com/question/139053549.html http://www.360doc.com/content/19/0312/11/4344390_820925177.shtml #มธุรสหวานล้ำ #เถ้ามธุรส #กวีจีน #จิ่นมี่ #StoryfromStory
    1 Comments 0 Shares 396 Views 0 Reviews
  • AI: พลังขับเคลื่อนความก้าวหน้า... หรือเร่งโลกให้ร้อนขึ้น?

    บทนำ: ยุค AI กับผลกระทบที่มองไม่เห็น
    ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงโลก จากการค้นหาข้อมูล รถยนต์ไร้คนขับ ไปจนถึงการวินิจฉัยทางการแพทย์ แต่ความก้าวหน้านี้มาพร้อมต้นทุนที่ซ่อนอยู่: การใช้พลังงานมหาศาลและความร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลต่อภาวะโลกร้อน บทความนี้สำรวจสาเหตุที่ AI ใช้พลังงานมาก ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

    AI กับความต้องการพลังงานมหาศาล

    ทำไม AI ถึงใช้พลังงานมาก?
    AI โดยเฉพาะโมเดลกำเนิด เช่น GPT-4 ต้องการพลังการประมวลผลสูง ใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) และหน่วยประมวลผลเทนเซอร์ (TPUs) ซึ่งกินไฟมากและสร้างความร้อนที่ต้องระบายด้วยระบบทำความเย็นซับซ้อน การฝึกโมเดล เช่น GPT-3 ใช้ไฟฟ้า ~1,300 MWh และ GPT-4 ใช้ ~1,750 MWh ส่วนการอนุมาน (เช่น การสอบถาม ChatGPT) ใช้พลังงานรวมมากกว่าการฝึกเมื่อมีผู้ใช้จำนวนมาก

    ตัวอย่างการใช้พลังงาน
    - ชั้นวาง AI ใช้ไฟมากกว่าครัวเรือนสหรัฐฯ 39 เท่า
    - การฝึก GPT-3 เทียบเท่าการใช้ไฟของบ้าน 120-130 หลังต่อปี
    - การสอบถาม ChatGPT ครั้งหนึ่งใช้พลังงานมากกว่าการค้นหา Google 10-15 เท่า และปล่อย CO2 มากกว่า 340 เท่า
    - ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกในปี 2022 ใช้ไฟ 460 TWh และคาดว่าในปี 2026 จะเพิ่มเป็น ~1,050 TWh เทียบเท่าการใช้ไฟของเยอรมนี

    ความร้อนจาก AI: ตัวเร่งโลกร้อน

    จากไฟฟ้าสู่ความร้อน
    พลังงานไฟฟ้าที่ AI ใช้เกือบทั้งหมดแปลงเป็นความร้อน โดย 1 วัตต์ผลิตความร้อน 3.412 BTU/ชั่วโมง GPUs สมัยใหม่ใช้ไฟเกิน 1,000 วัตต์ต่อตัว สร้างความร้อนที่ต้องระบาย

    รอยเท้าคาร์บอนและน้ำ
    การฝึกโมเดล AI ปล่อย CO2 ได้ถึง 284 ตัน เทียบเท่ารถยนต์สหรัฐฯ 5 คันต่อปี การระบายความร้อนศูนย์ข้อมูลใช้ไฟฟ้าถึง 40% และน้ำราว 2 ลิตรต่อ kWh โดย ChatGPT-4o ใช้น้ำเทียบเท่าความต้องการน้ำดื่มของ 1.2 ล้านคนต่อปี คาดว่าภายในปี 2030 ศูนย์ข้อมูล AI อาจใช้ไฟมากกว่าฝรั่งเศสทั้งประเทศ

    ความท้าทายด้านความร้อน
    ความร้อนสูงเกินไปทำให้ประสิทธิภาพลดลง อายุฮาร์ดแวร์สั้นลง และระบบไม่เสถียร การระบายความร้อนด้วยอากาศแบบดั้งเดิมไม่เพียงพอต่อความร้อนจาก AI สมัยใหม่ และระบบทำความเย็นใช้พลังงานสูง ตัวอย่างการใช้พลังงาน GPU ในอนาคต:
    - ปี 2025 (Blackwell Ultra): 1,400W, ใช้การระบายความร้อนแบบ Direct-to-Chip
    - ปี 2027 (Rubin Ultra): 3,600W, ใช้ Direct-to-Chip
    - ปี 2029 (Feynman Ultra): 6,000W, ใช้ Immersion Cooling
    - ปี 2032: 15,360W, ใช้ Embedded Cooling

    นวัตกรรมเพื่อ AI ที่ยั่งยืน

    การระบายความร้อนที่ชาญฉลาด
    - การระบายความร้อนด้วยของLikely ResponseHed: มีประสิทธิภาพสูงกว่าอากาศ 3000 เท่า ใช้ในระบบ Direct-to-Chip และ Immersion Cooling
    - ระบบ HVAC ขั้นสูง: ใช้การระบายความร้อนแบบระเหยและท่อความร้อน ลดการใช้พลังงานและน้ำ
    - ตัวชี้วัด TUE: วัดประสิทธิภาพพลังงานโดยรวมของศูนย์ข้อมูล

    การออกแบบ AI ที่ประหยัดพลังงาน
    - การตัดแต่งโมเดล/ควอนไทซ์: ลดขนาดโมเดลและพลังงานที่ใช้
    - การกลั่นความรู้: ถ่ายทอดความรู้สู่โมเดลขนาดเล็ก
    - ชิปประหยัดพลังงาน: เช่น TPUs และ NPUs
    - AI จัดการพลังงาน: ใช้ AI วิเคราะห์และลดการใช้พลังงานในโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ
    - Edge Computing: ลดการส่งข้อมูลไปยังคลาวด์

    พลังงานหมุนเวียน
    ศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และน้ำ รวมถึงนวัตกรรมอย่างการระบายความร้อนด้วยน้ำทะเลและพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Dispatchable

    ความรับผิดชอบร่วมกัน

    ความโปร่งใสของบริษัท AI
    บริษัทควรเปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและรอยเท้าคาร์บอน เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบ

    นโยบายและกฎระเบียบ
    รัฐบาลทั่วโลกผลักดันนโยบาย Green AI เช่น กฎหมาย AI ของสหภาพยุโรป เพื่อความยั่งยืน

    บทบาทของนักพัฒนาและผู้ใช้
    - นักพัฒนา: เลือกโมเดลและฮาร์ดแวร์ประหยัดพลังงาน ใช้เครื่องมือติดตามคาร์บอน
    - ผู้ใช้: ตระหนักถึงการใช้พลังงานของ AI และสนับสนุนบริษัทที่ยั่งยืน

    บทสรุป: วิสัยทัศน์ Green AI
    AI มีศักยภาพเปลี่ยนแปลงโลก แต่ต้องจัดการกับการใช้พลังงานและความร้อนที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน ด้วยนวัตกรรมการระบายความร้อน การออกแบบ AI ที่ประหยัดพลังงาน และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงความโปร่งใสและนโยบายที่เหมาะสม เราสามารถสร้างอนาคต AI ที่ยั่งยืน โดยไม่ต้องเลือกว่าจะพัฒนา AI หรือรักษาสภาพภูมิอากาศ

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    🌍 AI: พลังขับเคลื่อนความก้าวหน้า... หรือเร่งโลกให้ร้อนขึ้น? 📝 บทนำ: ยุค AI กับผลกระทบที่มองไม่เห็น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงโลก จากการค้นหาข้อมูล รถยนต์ไร้คนขับ ไปจนถึงการวินิจฉัยทางการแพทย์ แต่ความก้าวหน้านี้มาพร้อมต้นทุนที่ซ่อนอยู่: การใช้พลังงานมหาศาลและความร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลต่อภาวะโลกร้อน บทความนี้สำรวจสาเหตุที่ AI ใช้พลังงานมาก ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ⚡ AI กับความต้องการพลังงานมหาศาล ❓ ทำไม AI ถึงใช้พลังงานมาก? AI โดยเฉพาะโมเดลกำเนิด เช่น GPT-4 ต้องการพลังการประมวลผลสูง ใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) และหน่วยประมวลผลเทนเซอร์ (TPUs) ซึ่งกินไฟมากและสร้างความร้อนที่ต้องระบายด้วยระบบทำความเย็นซับซ้อน การฝึกโมเดล เช่น GPT-3 ใช้ไฟฟ้า ~1,300 MWh และ GPT-4 ใช้ ~1,750 MWh ส่วนการอนุมาน (เช่น การสอบถาม ChatGPT) ใช้พลังงานรวมมากกว่าการฝึกเมื่อมีผู้ใช้จำนวนมาก 📊 ตัวอย่างการใช้พลังงาน - ชั้นวาง AI ใช้ไฟมากกว่าครัวเรือนสหรัฐฯ 39 เท่า - การฝึก GPT-3 เทียบเท่าการใช้ไฟของบ้าน 120-130 หลังต่อปี - การสอบถาม ChatGPT ครั้งหนึ่งใช้พลังงานมากกว่าการค้นหา Google 10-15 เท่า และปล่อย CO2 มากกว่า 340 เท่า - ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกในปี 2022 ใช้ไฟ 460 TWh และคาดว่าในปี 2026 จะเพิ่มเป็น ~1,050 TWh เทียบเท่าการใช้ไฟของเยอรมนี 🔥 ความร้อนจาก AI: ตัวเร่งโลกร้อน 🌡️ จากไฟฟ้าสู่ความร้อน พลังงานไฟฟ้าที่ AI ใช้เกือบทั้งหมดแปลงเป็นความร้อน โดย 1 วัตต์ผลิตความร้อน 3.412 BTU/ชั่วโมง GPUs สมัยใหม่ใช้ไฟเกิน 1,000 วัตต์ต่อตัว สร้างความร้อนที่ต้องระบาย 🌱 รอยเท้าคาร์บอนและน้ำ การฝึกโมเดล AI ปล่อย CO2 ได้ถึง 284 ตัน เทียบเท่ารถยนต์สหรัฐฯ 5 คันต่อปี การระบายความร้อนศูนย์ข้อมูลใช้ไฟฟ้าถึง 40% และน้ำราว 2 ลิตรต่อ kWh โดย ChatGPT-4o ใช้น้ำเทียบเท่าความต้องการน้ำดื่มของ 1.2 ล้านคนต่อปี คาดว่าภายในปี 2030 ศูนย์ข้อมูล AI อาจใช้ไฟมากกว่าฝรั่งเศสทั้งประเทศ 🛠️ ความท้าทายด้านความร้อน ความร้อนสูงเกินไปทำให้ประสิทธิภาพลดลง อายุฮาร์ดแวร์สั้นลง และระบบไม่เสถียร การระบายความร้อนด้วยอากาศแบบดั้งเดิมไม่เพียงพอต่อความร้อนจาก AI สมัยใหม่ และระบบทำความเย็นใช้พลังงานสูง ตัวอย่างการใช้พลังงาน GPU ในอนาคต: - ปี 2025 (Blackwell Ultra): 1,400W, ใช้การระบายความร้อนแบบ Direct-to-Chip - ปี 2027 (Rubin Ultra): 3,600W, ใช้ Direct-to-Chip - ปี 2029 (Feynman Ultra): 6,000W, ใช้ Immersion Cooling - ปี 2032: 15,360W, ใช้ Embedded Cooling 🌱 นวัตกรรมเพื่อ AI ที่ยั่งยืน 💧 การระบายความร้อนที่ชาญฉลาด - การระบายความร้อนด้วยของLikely ResponseHed: มีประสิทธิภาพสูงกว่าอากาศ 3000 เท่า ใช้ในระบบ Direct-to-Chip และ Immersion Cooling - ระบบ HVAC ขั้นสูง: ใช้การระบายความร้อนแบบระเหยและท่อความร้อน ลดการใช้พลังงานและน้ำ - ตัวชี้วัด TUE: วัดประสิทธิภาพพลังงานโดยรวมของศูนย์ข้อมูล 🖥️ การออกแบบ AI ที่ประหยัดพลังงาน - การตัดแต่งโมเดล/ควอนไทซ์: ลดขนาดโมเดลและพลังงานที่ใช้ - การกลั่นความรู้: ถ่ายทอดความรู้สู่โมเดลขนาดเล็ก - ชิปประหยัดพลังงาน: เช่น TPUs และ NPUs - AI จัดการพลังงาน: ใช้ AI วิเคราะห์และลดการใช้พลังงานในโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ - Edge Computing: ลดการส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ☀️ พลังงานหมุนเวียน ศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และน้ำ รวมถึงนวัตกรรมอย่างการระบายความร้อนด้วยน้ำทะเลและพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Dispatchable 🤝 ความรับผิดชอบร่วมกัน 📊 ความโปร่งใสของบริษัท AI บริษัทควรเปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและรอยเท้าคาร์บอน เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบ 📜 นโยบายและกฎระเบียบ รัฐบาลทั่วโลกผลักดันนโยบาย Green AI เช่น กฎหมาย AI ของสหภาพยุโรป เพื่อความยั่งยืน 🧑‍💻 บทบาทของนักพัฒนาและผู้ใช้ - นักพัฒนา: เลือกโมเดลและฮาร์ดแวร์ประหยัดพลังงาน ใช้เครื่องมือติดตามคาร์บอน - ผู้ใช้: ตระหนักถึงการใช้พลังงานของ AI และสนับสนุนบริษัทที่ยั่งยืน 🌟 บทสรุป: วิสัยทัศน์ Green AI AI มีศักยภาพเปลี่ยนแปลงโลก แต่ต้องจัดการกับการใช้พลังงานและความร้อนที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน ด้วยนวัตกรรมการระบายความร้อน การออกแบบ AI ที่ประหยัดพลังงาน และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงความโปร่งใสและนโยบายที่เหมาะสม เราสามารถสร้างอนาคต AI ที่ยั่งยืน โดยไม่ต้องเลือกว่าจะพัฒนา AI หรือรักษาสภาพภูมิอากาศ #ลุงเขียนหลานอ่าน
    1 Comments 0 Shares 440 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลทหารพม่าออกคำแถลงระบุว่าได้ปลดเยาวชน 93 คนจากการเป็นทหารแล้ว และโต้แย้งรายงานของสหประชาชาติที่กล่าวหาว่ารัฐบาลทหารและพันธมิตรเกณฑ์เด็กเป็นทหารมากกว่า 400 คน โดยหลายคนอยู่ในสนามรบ

    ในการยอมรับที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นนี้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลทหาร พวกเขาระบุว่าได้ดำเนินการตรวจสอบเมื่อปีที่แล้ว และได้ปล่อยตัวเยาวชน 93 คน โดยเยาวชนเหล่านี้ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินด้วย

    “จนถึงขณะนี้ มีผู้ที่ต้องสงสัยว่าเป็นเยาวชนอีก 18 คน ที่ยังคงรอการตรวจสอบ” คณะกรรมการที่ดำเนินการโดยรัฐบาลทหารระบุในคำแถลงที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ ออฟ เมียนมา

    อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าเยาวชน 93 คน ได้รับการปล่อยตัวเมื่อใด กองทัพพม่าและกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรได้เกณฑ์เด็กชาย 467 คน และเด็กหญิง 15 คน เมื่อปีที่แล้ว โดยเด็กกว่า 370 คนมีหน้าที่ในการสู้รบ รายงานของเลชาธิการสหประชาชาติเกี่ยวกับเด็กและความขัดแย้งทางอาวุธระบุ
    •1
    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000063602

    #Thaitimes #MGROnline #รัฐบาลทหารพม่า
    รัฐบาลทหารพม่าออกคำแถลงระบุว่าได้ปลดเยาวชน 93 คนจากการเป็นทหารแล้ว และโต้แย้งรายงานของสหประชาชาติที่กล่าวหาว่ารัฐบาลทหารและพันธมิตรเกณฑ์เด็กเป็นทหารมากกว่า 400 คน โดยหลายคนอยู่ในสนามรบ ในการยอมรับที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นนี้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลทหาร พวกเขาระบุว่าได้ดำเนินการตรวจสอบเมื่อปีที่แล้ว และได้ปล่อยตัวเยาวชน 93 คน โดยเยาวชนเหล่านี้ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินด้วย • “จนถึงขณะนี้ มีผู้ที่ต้องสงสัยว่าเป็นเยาวชนอีก 18 คน ที่ยังคงรอการตรวจสอบ” คณะกรรมการที่ดำเนินการโดยรัฐบาลทหารระบุในคำแถลงที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ ออฟ เมียนมา • อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าเยาวชน 93 คน ได้รับการปล่อยตัวเมื่อใด กองทัพพม่าและกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรได้เกณฑ์เด็กชาย 467 คน และเด็กหญิง 15 คน เมื่อปีที่แล้ว โดยเด็กกว่า 370 คนมีหน้าที่ในการสู้รบ รายงานของเลชาธิการสหประชาชาติเกี่ยวกับเด็กและความขัดแย้งทางอาวุธระบุ •1 คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000063602 • #Thaitimes #MGROnline #รัฐบาลทหารพม่า
    0 Comments 0 Shares 331 Views 0 Reviews
  • ซาอุดีอาระเบียเพิ่งได้รับระบบป้องกันภัยทางอากาศ THAAD (Terminal High Altitude Area Defense) ระบบแรก จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ ที่ตกลงสัญญาซื้อตั้งแต่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งสมัยแรก

    ข้อตกลงดังกล่าวของซาอุดีอาระเบียในการสั่งซื้อประกอบด้วยระบบ THAAD จำนวน 6 ระบบ 44 เครื่องยิง 360 ลำกล้อง (1 ระบบ ประกอบด้วยเครื่องยิง 6 - 9 เครื่องยิง แต่ละเครื่องยิงมี 8 ลำกล้อง) และยังรวมไปถึงสถานีควบคุมการยิง และระบบเรดาร์

    ระบบ THAAD ถือเป็นระบบที่สามารถป้องกันพื้นที่ได้กว้างกว่า Patriot โดยสามารถโจมตีเป้าหมายในระยะไกล 150-200 กิโลเมตร (93-124 ไมล์) และมีความเร็วอยู่ในระดับ มัค 8+ (มากกว่า 9,800 กม./ชม.)

    บริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน เป็นคู่สัญญาหลักที่รับหน้าที่ผลิตและพัฒนา THAAD และได้ เรย์ธีออน เทคโนโลยีส์ (Raytheon Technologies) เข้ามาช่วยในเรื่องการติดตั้งประจำการ ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายขีปนาวุธพิสัยใกล้, กลาง และกลางกึ่งไกล (intermediate-range) โดยจะยิงขีปนาวุธสกัดกั้นขึ้นไปทำลายเป้าหมายในบรรยากาศระดับสูง หรือในอวกาศ
    ซาอุดีอาระเบียเพิ่งได้รับระบบป้องกันภัยทางอากาศ THAAD (Terminal High Altitude Area Defense) ระบบแรก จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ ที่ตกลงสัญญาซื้อตั้งแต่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งสมัยแรก 👉ข้อตกลงดังกล่าวของซาอุดีอาระเบียในการสั่งซื้อประกอบด้วยระบบ THAAD จำนวน 6 ระบบ 44 เครื่องยิง 360 ลำกล้อง (1 ระบบ ประกอบด้วยเครื่องยิง 6 - 9 เครื่องยิง แต่ละเครื่องยิงมี 8 ลำกล้อง) และยังรวมไปถึงสถานีควบคุมการยิง และระบบเรดาร์ 👉ระบบ THAAD ถือเป็นระบบที่สามารถป้องกันพื้นที่ได้กว้างกว่า Patriot โดยสามารถโจมตีเป้าหมายในระยะไกล 150-200 กิโลเมตร (93-124 ไมล์) และมีความเร็วอยู่ในระดับ มัค 8+ (มากกว่า 9,800 กม./ชม.) 👉บริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน เป็นคู่สัญญาหลักที่รับหน้าที่ผลิตและพัฒนา THAAD และได้ เรย์ธีออน เทคโนโลยีส์ (Raytheon Technologies) เข้ามาช่วยในเรื่องการติดตั้งประจำการ ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายขีปนาวุธพิสัยใกล้, กลาง และกลางกึ่งไกล (intermediate-range) โดยจะยิงขีปนาวุธสกัดกั้นขึ้นไปทำลายเป้าหมายในบรรยากาศระดับสูง หรือในอวกาศ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 262 Views 0 Reviews
  • #ฮ่องกง 8,888
    ล่องเรือยอร์ช มูพระใหญ่เทียนถาน

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2 คืน
    ✈ HX-ฮ่องกง แอร์ไลน์
    พักโรงแรม

    ล่องเรือยอร์ช ชมเกาะฮ่องกง
    กระเช้านองปิง 360
    พระใหญ่เทียนถาน
    วัดหวังต้าเซียน
    วัดแชกงหมิว
    Shopping จิมซาจุ่ย

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์ฮ่องกง #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #ฮ่องกง 8,888 🔥 ล่องเรือยอร์ช มูพระใหญ่เทียนถาน 🙏 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2 คืน ✈ HX-ฮ่องกง แอร์ไลน์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 ล่องเรือยอร์ช ชมเกาะฮ่องกง 📍 กระเช้านองปิง 360 📍 พระใหญ่เทียนถาน 📍 วัดหวังต้าเซียน 📍 วัดแชกงหมิว 📍 Shopping จิมซาจุ่ย รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์ฮ่องกง #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 511 Views 0 0 Reviews
  • #ฮ่องกง 14,999
    ล่องเรือยอร์ช บิน Business class

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2 คืน
    ✈ HX-ฮ่องกง แอร์ไลน์
    พักโรงแรม

    กระเช้านองปิง 360
    หมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิง
    พระใหญ่เทียนถาน
    ล่องเรือยอร์ช ชมเกาะฮ่องกง
    Shopping จิมซาจุ่ย
    Shopping Citygate Outlets

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์ฮ่องกง #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #ฮ่องกง 14,999 🔥🔥 ล่องเรือยอร์ช บิน Business class 😱 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2 คืน ✈ HX-ฮ่องกง แอร์ไลน์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 กระเช้านองปิง 360 📍 หมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิง 📍 พระใหญ่เทียนถาน 📍 ล่องเรือยอร์ช ชมเกาะฮ่องกง 📍 Shopping จิมซาจุ่ย 📍 Shopping Citygate Outlets รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์ฮ่องกง #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 488 Views 0 0 Reviews
  • หลายสัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันเรื่องหินสามชาติ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำวั่งชวน (แม่น้ำลืมเลือน) วันนี้เลยมาคุยกันอีกสักนิดถึงแม่น้ำวั่งชวนนี้ หากใครได้ดูละครเรื่อง <เถ้ามธุรส> จะเห็นฉากที่นางเอกลงไปลุยแม่น้ำวั่งชวน รูปแม่น้ำตามรูปขวา (จากในละคร) แลเห็นมีแสงเขียวเป็นดวงๆ อยู่ในน้ำ ซึ่งตามตำนานนั้นพวกนี้ก็คือดวงวิญญาน

    ความมีอยู่ว่า
    ...ข้ายกขาก้าวลงไปในแม่น้ำวั่งชวนอย่างไม่ลังเล มิใยที่เหล่าวิญญาณที่กำลังคร่ำครวญโหยหวนต่างกรูกันเข้ามา เพียงชั่วขณะจิตก็ฉุดรั้งครึ่งท่อนล่างของร่างข้าลงไป ข้าใช้มือแกะเส้นสายดวงวิญญาณในน้ำเหล่านี้ออกไป พลางพินิจดูดวงวิญญาณในน้ำนั้น ข้าเชื่อว่า ขอเพียงข้าเสาะหาอย่างไม่หยุดยั้ง ต่อให้แม่น้ำวั่งชวนจะมีกี่ล้านพันล้านดวงวิญญาณ ข้าก็จะยังหาพบเสี้ยวหนึ่งของเขา...
    - จากเรื่อง <มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง> ผู้แต่ง เตี้ยนเสี้ยน
    (หมายเหตุ ชื่อหนังสือตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ ละครเรื่อง <เถ้ามธุรส> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    เพื่อนเพจแฟนคลับนิยายจีนแนวเทพเซียนคงคุ้นเคยดีกับเรื่องน้ำแกงยายเมิ่งที่ทำให้คนลืมอดีตชาติเพื่อไปเกิดใหม่ ว่ากันว่ายายเมิ่งแจกจ่ายน้ำแกงนี้ให้ดวงวิญญาณกินก่อนจะก้าวข้ามผ่านสะพานไน่เหอ (เคยมีคนแปลไว้ว่าสะพานอนิจจัง) เพื่อไปสู่ภพชาติใหม่ ผู้ใดไม่ยอมดื่มน้ำแกงยายเมิ่งก็ข้ามสะพานไน่เหอไปเกิดใหม่ไม่ได้ สะพานไน่เหอนี้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำวั่งชวน (แต่ในละครไม่มี) ตามตำนานนั้นสะพานไน่เหอมีสามชั้น ชั้นบนสุดปลอดภัยเดินสะดวก เป็นชั้นเดินของวิญญาณที่มีจิตใจปราณี ชั้นที่สองเดินลำบากหน่อยแต่ไม่อันตราย เป็นชั้นเดินของวิญญาณที่ทำผิดเล็กน้อยมาบ้างทำดีมาบ้าง ส่วนชั้นล่างอันตรายสุดมีงูทองแดงและสุนัขเหล็กคอยจู่โจม เป็นชั้นเดินของวิญญาณที่เคยทำเรื่องชั่วร้าย

    วั่งชวน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นแม่น้ำลืมเลือน แล้วทำไมจึงมีดวงวิญญาณ? คำตอบก็คือ 1) คนที่ข้ามสะพานไม่ผ่านแล้วหล่นลงมา (ก็จากสะพานชั้นล่างที่อันตรายสุดตามที่กล่าวมาข้างต้น จึงเป็นที่เล่าขานว่าดวงวิญญาณในแม่น้ำวั่งชวนส่วนใหญ่เป็นวิญญาณร้าย) และ 2) คนที่ไม่สามารถปล่อยวางอดีต ไม่ยอมกินน้ำแกงยายเมิ่ง ข้ามสะพานไน่เหอไม่ได้ ได้แต่กระโดดลงไปในแม่น้ำวั่งชวนเพื่อรอคอยคนรัก และต้องรอนานถึงหนึ่งพันปี

    สำหรับคนที่กระโดดลงน้ำเพื่อรอคอยคนรัก เชื่อว่ามันคงเป็นการรอคอยที่ทรมาน เพราะภายในหนึ่งพันปีนั้น เขาอาจได้เห็นคนรักดื่มน้ำแกงยายเมิ่งข้ามสะพานแล้วลืมอดีตชาติลืมตนเองไปโดยไม่ทันได้มองลงมาเห็นตน และอาจบางทีเขาต้องมองคนคนนั้นก้าวข้ามผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า เศร้าไหม? แต่หากอดทนได้พันปีไม่ลืมรักก็จะมีโอกาสไปเกิดใหม่เพื่อตามหารักนั้นอีกครั้ง… ย้ำ: ถ้าอดทนได้หนึ่งพันปี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://wallpapercave.com/ashes-of-love-wallpapers
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.360doc.com/content/17/0124/22/31610762_624607651.shtml
    https://www.bilibili.com/read/cv8965867/
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/27278819

    #มธุรสหวานล้ำ #เถ้ามธุรส #วั่งชวน #ตำนานจีน StoryfromStory
    หลายสัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันเรื่องหินสามชาติ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำวั่งชวน (แม่น้ำลืมเลือน) วันนี้เลยมาคุยกันอีกสักนิดถึงแม่น้ำวั่งชวนนี้ หากใครได้ดูละครเรื่อง <เถ้ามธุรส> จะเห็นฉากที่นางเอกลงไปลุยแม่น้ำวั่งชวน รูปแม่น้ำตามรูปขวา (จากในละคร) แลเห็นมีแสงเขียวเป็นดวงๆ อยู่ในน้ำ ซึ่งตามตำนานนั้นพวกนี้ก็คือดวงวิญญาน ความมีอยู่ว่า ...ข้ายกขาก้าวลงไปในแม่น้ำวั่งชวนอย่างไม่ลังเล มิใยที่เหล่าวิญญาณที่กำลังคร่ำครวญโหยหวนต่างกรูกันเข้ามา เพียงชั่วขณะจิตก็ฉุดรั้งครึ่งท่อนล่างของร่างข้าลงไป ข้าใช้มือแกะเส้นสายดวงวิญญาณในน้ำเหล่านี้ออกไป พลางพินิจดูดวงวิญญาณในน้ำนั้น ข้าเชื่อว่า ขอเพียงข้าเสาะหาอย่างไม่หยุดยั้ง ต่อให้แม่น้ำวั่งชวนจะมีกี่ล้านพันล้านดวงวิญญาณ ข้าก็จะยังหาพบเสี้ยวหนึ่งของเขา... - จากเรื่อง <มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง> ผู้แต่ง เตี้ยนเสี้ยน (หมายเหตุ ชื่อหนังสือตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ ละครเรื่อง <เถ้ามธุรส> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) เพื่อนเพจแฟนคลับนิยายจีนแนวเทพเซียนคงคุ้นเคยดีกับเรื่องน้ำแกงยายเมิ่งที่ทำให้คนลืมอดีตชาติเพื่อไปเกิดใหม่ ว่ากันว่ายายเมิ่งแจกจ่ายน้ำแกงนี้ให้ดวงวิญญาณกินก่อนจะก้าวข้ามผ่านสะพานไน่เหอ (เคยมีคนแปลไว้ว่าสะพานอนิจจัง) เพื่อไปสู่ภพชาติใหม่ ผู้ใดไม่ยอมดื่มน้ำแกงยายเมิ่งก็ข้ามสะพานไน่เหอไปเกิดใหม่ไม่ได้ สะพานไน่เหอนี้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำวั่งชวน (แต่ในละครไม่มี) ตามตำนานนั้นสะพานไน่เหอมีสามชั้น ชั้นบนสุดปลอดภัยเดินสะดวก เป็นชั้นเดินของวิญญาณที่มีจิตใจปราณี ชั้นที่สองเดินลำบากหน่อยแต่ไม่อันตราย เป็นชั้นเดินของวิญญาณที่ทำผิดเล็กน้อยมาบ้างทำดีมาบ้าง ส่วนชั้นล่างอันตรายสุดมีงูทองแดงและสุนัขเหล็กคอยจู่โจม เป็นชั้นเดินของวิญญาณที่เคยทำเรื่องชั่วร้าย วั่งชวน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นแม่น้ำลืมเลือน แล้วทำไมจึงมีดวงวิญญาณ? คำตอบก็คือ 1) คนที่ข้ามสะพานไม่ผ่านแล้วหล่นลงมา (ก็จากสะพานชั้นล่างที่อันตรายสุดตามที่กล่าวมาข้างต้น จึงเป็นที่เล่าขานว่าดวงวิญญาณในแม่น้ำวั่งชวนส่วนใหญ่เป็นวิญญาณร้าย) และ 2) คนที่ไม่สามารถปล่อยวางอดีต ไม่ยอมกินน้ำแกงยายเมิ่ง ข้ามสะพานไน่เหอไม่ได้ ได้แต่กระโดดลงไปในแม่น้ำวั่งชวนเพื่อรอคอยคนรัก และต้องรอนานถึงหนึ่งพันปี สำหรับคนที่กระโดดลงน้ำเพื่อรอคอยคนรัก เชื่อว่ามันคงเป็นการรอคอยที่ทรมาน เพราะภายในหนึ่งพันปีนั้น เขาอาจได้เห็นคนรักดื่มน้ำแกงยายเมิ่งข้ามสะพานแล้วลืมอดีตชาติลืมตนเองไปโดยไม่ทันได้มองลงมาเห็นตน และอาจบางทีเขาต้องมองคนคนนั้นก้าวข้ามผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า เศร้าไหม? แต่หากอดทนได้พันปีไม่ลืมรักก็จะมีโอกาสไปเกิดใหม่เพื่อตามหารักนั้นอีกครั้ง… ย้ำ: ถ้าอดทนได้หนึ่งพันปี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://wallpapercave.com/ashes-of-love-wallpapers Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.360doc.com/content/17/0124/22/31610762_624607651.shtml https://www.bilibili.com/read/cv8965867/ https://zhuanlan.zhihu.com/p/27278819 #มธุรสหวานล้ำ #เถ้ามธุรส #วั่งชวน #ตำนานจีน StoryfromStory
    1 Comments 0 Shares 488 Views 0 Reviews
  • Hertz ประกาศว่ากำลังยกระดับงานตรวจเช็ครถเช่าด้วย “AI อัจฉริยะ” โดยร่วมมือกับบริษัท UVeye เพื่อใช้ อุโมงค์กล้องอัตโนมัติ ที่จะสแกนรถแบบ 360 องศาเมื่อส่งคืน แล้วเทียบภาพก่อน–หลังเพื่อตรวจจับรอยต่าง ๆ

    ฟังดูดีใช่ไหมครับ? แต่ลูกค้าหลายคนกลับพบว่า:
    - ได้รับแจ้งรอยขีดเล็กจิ๋วพร้อม “บิลเรียกเก็บทันที” ผ่านแอป
    - แค่แผล 1 นิ้ว กลับมีค่าซ่อม + ค่าประเมิน + ค่าดำเนินการรวมแล้วกว่า $400
    - ไม่สามารถโทรหาเจ้าหน้าที่โดยตรง ต้องคุยกับบ็อต → รอคำตอบหลายวัน
    - ถ้าอยากลดราคา ต้อง “จ่ายก่อน 2 วัน” ทำให้เหมือนถูกบีบให้รีบจ่าย

    ผู้ใช้งานบางคนบอกว่า "ความแม่นของ AI คือสิ่งที่ทำให้แย่ — เพราะมนุษย์อาจปล่อยผ่านรอยขนาดเล็กไป แต่ AI ไม่ยอม"

    แม้ Hertz ยืนยันว่ามีลูกค้าส่วนใหญ่นำรถมาคืนโดยไม่มีปัญหา และระบบใหม่นี้ช่วยให้ “ตรวจสอบเร็ว + โปร่งใส” แต่เสียงสะท้อนจากผู้ใช้ดูเหมือนจะยังไม่คลิกกับประสบการณ์จริง

    Hertz ติดตั้งระบบตรวจรถด้วย AI โดยร่วมมือกับ UVeye แล้วในหลายสนามบินใหญ่ เช่น Atlanta  
    • สแกนทั้งตัวถัง ล้อ กระจก และใต้ท้องรถ  
    • ใช้ machine learning ตรวจจับ “รอยใหม่” จากการเปรียบเทียบก่อน–หลัง

    ลูกค้าได้รับรายงานผ่านแอปทันทีหลังส่งรถคืน  
    • หากพบความเสียหาย → ระบบสร้างใบแจ้งหนี้ทันที พร้อมรูปประกอบ

    ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บประกอบด้วย:  
    • ค่าซ่อมจริง (เช่น ล้อเป็นรอย $250)  
    • ค่าประเมินความเสียหาย $125  
    • ค่าดำเนินการระบบเรียกเก็บ $65  
    • รวมเบ็ดเสร็จ $440 แม้รอยจะมีขนาดเพียง 1 นิ้ว

    Hertz เสนอส่วนลดถ้าจ่ายภายใน 2 วัน (~$50)  
    • แต่หากสอบถามผ่านแชตบ็อตอาจต้องรอคำตอบถึง 10 วัน — มีโอกาสเสียสิทธิ์ส่วนลด

    ลูกค้าหลายรายแสดงความไม่พอใจบน Reddit และเว็บไซต์ข่าว  
    • บางคนเลิกใช้บริการ Hertz เพราะรู้สึกถูกเรียกเก็บไม่ยุติธรรม

    https://www.techspot.com/news/108471-hertz-turns-ai-rental-car-inspections-faces-backlash.html
    Hertz ประกาศว่ากำลังยกระดับงานตรวจเช็ครถเช่าด้วย “AI อัจฉริยะ” โดยร่วมมือกับบริษัท UVeye เพื่อใช้ อุโมงค์กล้องอัตโนมัติ ที่จะสแกนรถแบบ 360 องศาเมื่อส่งคืน แล้วเทียบภาพก่อน–หลังเพื่อตรวจจับรอยต่าง ๆ ฟังดูดีใช่ไหมครับ? แต่ลูกค้าหลายคนกลับพบว่า: - ได้รับแจ้งรอยขีดเล็กจิ๋วพร้อม “บิลเรียกเก็บทันที” ผ่านแอป - แค่แผล 1 นิ้ว กลับมีค่าซ่อม + ค่าประเมิน + ค่าดำเนินการรวมแล้วกว่า $400 - ไม่สามารถโทรหาเจ้าหน้าที่โดยตรง ต้องคุยกับบ็อต → รอคำตอบหลายวัน - ถ้าอยากลดราคา ต้อง “จ่ายก่อน 2 วัน” ทำให้เหมือนถูกบีบให้รีบจ่าย ผู้ใช้งานบางคนบอกว่า "ความแม่นของ AI คือสิ่งที่ทำให้แย่ — เพราะมนุษย์อาจปล่อยผ่านรอยขนาดเล็กไป แต่ AI ไม่ยอม" แม้ Hertz ยืนยันว่ามีลูกค้าส่วนใหญ่นำรถมาคืนโดยไม่มีปัญหา และระบบใหม่นี้ช่วยให้ “ตรวจสอบเร็ว + โปร่งใส” แต่เสียงสะท้อนจากผู้ใช้ดูเหมือนจะยังไม่คลิกกับประสบการณ์จริง ✅ Hertz ติดตั้งระบบตรวจรถด้วย AI โดยร่วมมือกับ UVeye แล้วในหลายสนามบินใหญ่ เช่น Atlanta   • สแกนทั้งตัวถัง ล้อ กระจก และใต้ท้องรถ   • ใช้ machine learning ตรวจจับ “รอยใหม่” จากการเปรียบเทียบก่อน–หลัง ✅ ลูกค้าได้รับรายงานผ่านแอปทันทีหลังส่งรถคืน   • หากพบความเสียหาย → ระบบสร้างใบแจ้งหนี้ทันที พร้อมรูปประกอบ ✅ ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บประกอบด้วย:   • ค่าซ่อมจริง (เช่น ล้อเป็นรอย $250)   • ค่าประเมินความเสียหาย $125   • ค่าดำเนินการระบบเรียกเก็บ $65   • รวมเบ็ดเสร็จ $440 แม้รอยจะมีขนาดเพียง 1 นิ้ว ✅ Hertz เสนอส่วนลดถ้าจ่ายภายใน 2 วัน (~$50)   • แต่หากสอบถามผ่านแชตบ็อตอาจต้องรอคำตอบถึง 10 วัน — มีโอกาสเสียสิทธิ์ส่วนลด ✅ ลูกค้าหลายรายแสดงความไม่พอใจบน Reddit และเว็บไซต์ข่าว   • บางคนเลิกใช้บริการ Hertz เพราะรู้สึกถูกเรียกเก็บไม่ยุติธรรม https://www.techspot.com/news/108471-hertz-turns-ai-rental-car-inspections-faces-backlash.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Hertz turns to AI for rental car inspections, faces backlash over fees
    The company's new system, developed in partnership with Israeli firm UVeye, is already operational at major hubs such as Hartsfield-Jackson Atlanta International Airport and is expected to...
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • ทุกการเดินทาง ย่อมมีก้าวที่หนึ่ง

    ครบรอบ 1 ปี สำหรับเพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 ยืนหยัดนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพียงเล็กน้อยในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร

    นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2567 ถึงปัจจุบัน Newskit เผยแพร่เรื่องราวไปแล้ว 240 ตอน มากกว่า 360 เรื่อง (บางวันมี 2 เรื่อง) ยอดผู้ติดตามในแพลตฟอร์ม Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย 1,147 ราย เฟซบุ๊ก 294 ราย นอกจากนี้ยังได้โพสต์เรื่องราวในอินสตาแกรม @newskit.th สามารถติดตามกันได้

    หลังเว้นวรรคจากคอลัมนิสต์ประจำ ที่ผ่านมาการทำเพจของเรา เดินทางด้วยใจล้วนๆ แม้จะมีอุปสรรคทั้งเรื่องหน้าที่การงานภารกิจ และปัญหาสุขภาพ ทำให้ต้องลาหยุดผู้อ่านไปบ้าง แต่ทุกเช้าวันจันทร์ถึงศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็พยายามพบกันให้เหมือนกับหนังสือพิมพ์กรอบเช้าที่สมัยก่อนวางแผงแต่เช้าตรู่ แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนผ่านจากกระดาษสู่หน้าจอมือถือ

    และเมื่อเดินทางด้วยใจล้วนๆ นี่เอง ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราแทบไม่มีรายได้จากการทำเพจเลย จะมีก็แต่ครั้งหนึ่งที่เคยเล่นกิมมิกกับ THAI QR PAYMENT แต่ก็ไม่ได้มีรายได้เยอะมาก ถึงกระนั้นเรายังคงใช้หัวใจทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่เราพบเจอและน่าสนใจ จากคำสอนของผู้ใหญ่ที่ให้เริ่มจากสิ่งที่อยากทำมากกว่ารายได้ แล้วจะมีความสุขในการทำงาน

    อย่างไรก็ตาม เมื่อหน้าที่การงานหนักขึ้น นับแต่นี้ต่อไปอาจจะไม่ได้พบกับคุณผู้อ่านบ่อยครั้งทุกเช้าวันจันทร์-ศุกร์ แต่จะพยายามพบกับคุณผู้อ่านให้ได้มากที่สุดตามแต่โอกาส จนกว่าหน้าที่การงานจะลงตัว อาจจะได้พบกันทุกวันตราบเท่าที่เรายังพอไหว เพราะด้วยอายุมากขึ้น การปรับสมดุลระหว่างงานและชีวิต (Work-Life Balance) ย่อมจำเป็น ขออภัยในความไม่สะดวก ณ ที่นี้

    ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามและให้การสนับสนุนเพจ Newskit มาโดยตลอด เราอาจเป็นเพจเล็กในซอยลึก ที่คนอ่านมีไม่เยอะ แต่สิ่งที่เรายึดมั่นตั้งใจมาโดยตลอด คือ พยายามแสวงหาเรื่องราวที่หาอ่านจากที่ไหนไม่ได้ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา บนพื้นฐานของความจริง

    กิตตินันท์ นาคทอง
    ผู้ก่อตั้งเพจ Newskit

    #Newskit
    ทุกการเดินทาง ย่อมมีก้าวที่หนึ่ง ครบรอบ 1 ปี สำหรับเพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 ยืนหยัดนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพียงเล็กน้อยในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2567 ถึงปัจจุบัน Newskit เผยแพร่เรื่องราวไปแล้ว 240 ตอน มากกว่า 360 เรื่อง (บางวันมี 2 เรื่อง) ยอดผู้ติดตามในแพลตฟอร์ม Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย 1,147 ราย เฟซบุ๊ก 294 ราย นอกจากนี้ยังได้โพสต์เรื่องราวในอินสตาแกรม @newskit.th สามารถติดตามกันได้ หลังเว้นวรรคจากคอลัมนิสต์ประจำ ที่ผ่านมาการทำเพจของเรา เดินทางด้วยใจล้วนๆ แม้จะมีอุปสรรคทั้งเรื่องหน้าที่การงานภารกิจ และปัญหาสุขภาพ ทำให้ต้องลาหยุดผู้อ่านไปบ้าง แต่ทุกเช้าวันจันทร์ถึงศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็พยายามพบกันให้เหมือนกับหนังสือพิมพ์กรอบเช้าที่สมัยก่อนวางแผงแต่เช้าตรู่ แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนผ่านจากกระดาษสู่หน้าจอมือถือ และเมื่อเดินทางด้วยใจล้วนๆ นี่เอง ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราแทบไม่มีรายได้จากการทำเพจเลย จะมีก็แต่ครั้งหนึ่งที่เคยเล่นกิมมิกกับ THAI QR PAYMENT แต่ก็ไม่ได้มีรายได้เยอะมาก ถึงกระนั้นเรายังคงใช้หัวใจทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่เราพบเจอและน่าสนใจ จากคำสอนของผู้ใหญ่ที่ให้เริ่มจากสิ่งที่อยากทำมากกว่ารายได้ แล้วจะมีความสุขในการทำงาน อย่างไรก็ตาม เมื่อหน้าที่การงานหนักขึ้น นับแต่นี้ต่อไปอาจจะไม่ได้พบกับคุณผู้อ่านบ่อยครั้งทุกเช้าวันจันทร์-ศุกร์ แต่จะพยายามพบกับคุณผู้อ่านให้ได้มากที่สุดตามแต่โอกาส จนกว่าหน้าที่การงานจะลงตัว อาจจะได้พบกันทุกวันตราบเท่าที่เรายังพอไหว เพราะด้วยอายุมากขึ้น การปรับสมดุลระหว่างงานและชีวิต (Work-Life Balance) ย่อมจำเป็น ขออภัยในความไม่สะดวก ณ ที่นี้ ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามและให้การสนับสนุนเพจ Newskit มาโดยตลอด เราอาจเป็นเพจเล็กในซอยลึก ที่คนอ่านมีไม่เยอะ แต่สิ่งที่เรายึดมั่นตั้งใจมาโดยตลอด คือ พยายามแสวงหาเรื่องราวที่หาอ่านจากที่ไหนไม่ได้ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา บนพื้นฐานของความจริง กิตตินันท์ นาคทอง ผู้ก่อตั้งเพจ Newskit #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 476 Views 0 Reviews
  • เปิดตัวผู้ช่วยคนใหม่ในครัวของคุณ! เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 ที่สุดของความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพ!
    เบื่อไหมกับการบดเนื้อที่เสียเวลา และได้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ? เราขอแนะนำ เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 จากร้าน ย่งฮะเฮง ที่จะปฏิวัติการเตรียมวัตถุดิบของคุณให้ง่าย สะดวก และได้มาตรฐานยิ่งขึ้น!

    บดละเอียดได้ตามใจคุณ!
    ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว หรือแม้แต่กระดูกอ่อน เครื่องนี้ก็สามารถบดได้อย่างละเอียดสม่ำเสมอถึง 16 มิลลิเมตร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่การเตรียมไส้กรอก หมูยอ ไปจนถึงเมนูอื่นๆ ที่ต้องการ #เนื้อบด คุณภาพสูง!

    เร็ว แรง ทันใจ ด้วยประสิทธิภาพระดับมืออาชีพ!
    มาพร้อมมอเตอร์ทรงพลัง 3 แรงม้า และกำลังการผลิตที่น่าทึ่งถึง 200-400 กิโลกรัมต่อชั่วโมง! ไม่ว่าคุณจะมีปริมาณงานมากแค่ไหน เครื่องนี้ก็พร้อมลุยได้อย่างต่อเนื่อง หมดกังวลเรื่องงานสะดุด!

    โครงสร้าง #สเตนเลส แท้ 100% ทนทาน ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย!
    ผลิตจากสเตนเลสสตีล #คุณภาพดี ไม่เป็นสนิม ทำความสะอาดง่าย มั่นใจได้ในความสะอาดและปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว แข็งแรงทนทาน ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักในเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ!

    รายละเอียดทางเทคนิคที่คุณควรรู้:
    มอเตอร์: 3 แรงม้า (HP)
    กำลังไฟฟ้า: 220 โวลต์ (Volt) - ใช้ไฟบ้านทั่วไปได้
    กำลังการผลิต: 200-400 กก./ชม. (kg/hr)
    ขนาดเครื่อง (กว้างxลึกxสูง): 815 x 360 x 815 มม. (mm)
    น้ำหนักเครื่อง: 68 กก. (kg)

    เหมาะสำหรับ:
    #ร้านอาหาร
    #โรงงานอาหาร (ขนาดเล็ก-กลาง)
    ร้านขายเนื้อ
    ผู้ประกอบการที่ต้องการผลิต #เนื้อบด จำนวนมาก
    และทุกคนที่ต้องการ #คุณภาพดี และความเร็วในการบดเนื้อ!

    อย่ารอช้า! ยกระดับ #ธุรกิจอาหาร ของคุณวันนี้!
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ #เครื่องบดเนื้อ คุณภาพสูงได้เลยที่:
    โทร: 02-215-3515-9
    สายด่วน: 081-318-9098
    LINE ID: @yonghahheng
    Facebook: yonghahheng
    TikTok: @yonghahheng
    Instagram: yonghahheng
    เว็บไซต์: www.yonghahheng.com

    #เครื่องบดหมู #อุปกรณ์ครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #อาหารแปรรูป #ทำอาหาร #วัตถุดิบ #เครื่องมือครัว #พ่อครัวแม่ครัว #สินค้าขายดี #ของดีบอกต่อ #เมนูอาหาร #ครัวเรือน #Yonghahheng
    💥 เปิดตัวผู้ช่วยคนใหม่ในครัวของคุณ! เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 ที่สุดของความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพ! 🚀 เบื่อไหมกับการบดเนื้อที่เสียเวลา ⏰ และได้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ? เราขอแนะนำ เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 จากร้าน ย่งฮะเฮง ที่จะปฏิวัติการเตรียมวัตถุดิบของคุณให้ง่าย สะดวก และได้มาตรฐานยิ่งขึ้น! ✨ 🥩 บดละเอียดได้ตามใจคุณ! ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู 🐷 เนื้อวัว 🐄 หรือแม้แต่กระดูกอ่อน 🦴 เครื่องนี้ก็สามารถบดได้อย่างละเอียดสม่ำเสมอถึง 16 มิลลิเมตร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่การเตรียมไส้กรอก 🌭 หมูยอ ไปจนถึงเมนูอื่นๆ ที่ต้องการ #เนื้อบด คุณภาพสูง! 🚀 เร็ว แรง ทันใจ ด้วยประสิทธิภาพระดับมืออาชีพ! มาพร้อมมอเตอร์ทรงพลัง 3 แรงม้า 💪 และกำลังการผลิตที่น่าทึ่งถึง 200-400 กิโลกรัมต่อชั่วโมง! ⏱️ ไม่ว่าคุณจะมีปริมาณงานมากแค่ไหน เครื่องนี้ก็พร้อมลุยได้อย่างต่อเนื่อง หมดกังวลเรื่องงานสะดุด! 💯 ⚙️ โครงสร้าง #สเตนเลส แท้ 100% ทนทาน ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย! ผลิตจากสเตนเลสสตีล #คุณภาพดี ไม่เป็นสนิม ✨ ทำความสะอาดง่าย มั่นใจได้ในความสะอาดและปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว 🧼 แข็งแรงทนทาน ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักในเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ! รายละเอียดทางเทคนิคที่คุณควรรู้: 📌มอเตอร์: 3 แรงม้า (HP) 📌กำลังไฟฟ้า: 220 โวลต์ (Volt) - ใช้ไฟบ้านทั่วไปได้ 🔌 📌กำลังการผลิต: 200-400 กก./ชม. (kg/hr) 📌ขนาดเครื่อง (กว้างxลึกxสูง): 815 x 360 x 815 มม. (mm) 📌น้ำหนักเครื่อง: 68 กก. (kg) 🏋️‍♂️ เหมาะสำหรับ: #ร้านอาหาร 🍽️ #โรงงานอาหาร (ขนาดเล็ก-กลาง) 🏭 ร้านขายเนื้อ 🛍️ ผู้ประกอบการที่ต้องการผลิต #เนื้อบด จำนวนมาก 📈 และทุกคนที่ต้องการ #คุณภาพดี และความเร็วในการบดเนื้อ! 👨‍🍳👩‍🍳 📞 อย่ารอช้า! ยกระดับ #ธุรกิจอาหาร ของคุณวันนี้! สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ #เครื่องบดเนื้อ คุณภาพสูงได้เลยที่: โทร: 02-215-3515-9 ☎️ สายด่วน: 081-318-9098 📱 LINE ID: @yonghahheng Facebook: yonghahheng 👍 TikTok: @yonghahheng 🎵 Instagram: yonghahheng 📸 เว็บไซต์: www.yonghahheng.com 🌐 #เครื่องบดหมู #อุปกรณ์ครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #อาหารแปรรูป #ทำอาหาร #วัตถุดิบ #เครื่องมือครัว #พ่อครัวแม่ครัว #สินค้าขายดี #ของดีบอกต่อ #เมนูอาหาร #ครัวเรือน #Yonghahheng
    0 Comments 0 Shares 672 Views 39 0 Reviews
  • https://thestandard.co/thailands-strategy-to-suppress-cambodian-scammers/?_trms=3f82132ad98b0859.1750906062360
    https://thestandard.co/thailands-strategy-to-suppress-cambodian-scammers/?_trms=3f82132ad98b0859.1750906062360
    THESTANDARD.CO
    ‘ตัดน้ำ-ตัดไฟ-ตัดเน็ต’ ตีโจทย์กลยุทธ์ไทยปราบสแกมเมอร์กัมพูชา ท่ามกลางข้อพิพาทชายแดน ได้ผลจริงหรือ?
    การยกระดับต่อต้านแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการก่อ อาชญากรรมข้ามชาติ ในกัมพูชา ที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ประกาศออกมา โดยกำหนดมาตรการอันเข้มข้น
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
  • ศาลอาญายกฟ้องคดี "บิ๊กอ๊อด" ฟ้องหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล" พาดพิงในรายการสนธิทอล์ก ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวระบุสู้คดีด้วยหลักฐานและความจริง พร้อมยืนยันไปขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้แน่นอน

    เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีอ.2708/2566 ที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.และนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบริษัทผู้จัดการ 360 องศา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาและนำข้อความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เรียกค่าเสียหาย จำนวน 50 ล้านบาท

    คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า นายสนธิ จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของช่องยูทูป และรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ หรือ รายการ Sonthi Talk โดยเมื่อวันที่ 6-7 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายสนธิ ได้พูดในรายการ Sonthi Talk พาดพิงให้เกิดความเสียหายด้วยข้อความว่า “จริงๆแล้วสมาคมฟุตบอลไทยนั้นทำงานเละเทะมานานแล้ว ตั้งแต่คุณสมยศขึ้นมาเป็นนายกสมาคม...” และข้อความ “คุณไม่รู้หรอกว่าชีวิตคุณเนี่ย ตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณได้สร้างวีรกรรมมาเยอะไปหมดเลย หลายอย่าง ไม่ว่าเป็นคดีบอส อยู่วิทยาโน่นนี่นั่น ซึ่งผมได้เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแฟนบอลไทยก็ต้องดีใจเก้อ เพราะล่าสุดประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งคนของคุณสมยศทั้งนั้น นี่ต้องยืนยันเป็นคนของคุณสมยศทั้งนั้น มีมติเป็นเอกฉันท์ยับยั้งการลาออก ให้ทำหน้าที่ไปจนครบวาระ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โดยอ้างตามเกมที่คุณสมยศวางหมากไว้ว่า ไม่ให้ไทยต้องเสี่ยงการโดนฟีฟ่าลงดาบ ซึ่งจะถูกห้ามยุ่งกับการแข่งขันระดับนานาชาติทั้งหมด รวมทั้งกิจกรรมของฟีฟ่าประเด็นครับ ในวันลงมติมีคนในที่ประชุมกระซิบผมมาว่าก่อนลงมติบอร์ดสภากรรมการวงแตก หลายคน WORK OUT ขอลาออกรับไม่ได้ที่มีคนชงมติไว้ให้คุณสมยศอยู่ต่อ คนที่ชงมติไว้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ก็พี่นวยของผมนั่นเองอดีตมิตรตำรวจด้วยกันคือ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน…” ข้อความต่อมา “ท่านผู้ชมอย่าลืมนะว่าคนคนนี้เป็นคนที่พูดว่า อาชีพตำรวจถือว่าเป็นไซต์ไลน์ อาชีพหลักๆ คือเป็นนักธุรกิจ คุณสมยศคือเสี่ยงิ้วราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในปี 2558... ยังมีอีกประเด็นหนึ่งไปยืมเงินเสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าพ่ออาบอบนวด ซึ่งต้องคดีค้ามนุษย์ถึงสี่ครั้ง ไปยืมมา 300 ล้านบาท จนเป็นข่าวฉาวโฉ่ในช่วงนั้น สมยศระบุมาตลอดชีวิตรับราชการเกือบจะเรียกได้ว่า อาชีพตำรวจเป็นไซต์ไลน์ แต่หลักๆ แล้วเค้าทำเรื่องหุ้น พฤศจิกายน 2564 สองปีที่แล้ว กฤษฎีกาตีความว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลโดยมิชอบ เพราะตำแหน่งรวมทั้งกรรมการสมาคมฟุตบอล เป็นงานอาสา งานเสียสละไม่ใช่งานลูกจ้าง จึงไม่สามารถเรียกรับเงินค่าตอบแทนได้แม้แต่บาทเดียว...พอเป็นข่าวก็ออกมาชี้แจง รับเงินเดือนจริงแต่บริจาคกลับไปที่สมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเด็นนี้คือว่ามันผิดกฎหมาย คุณจะบริจาคให้ใครไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งเงินเดือนคุณเอง เพราะงานนี้เป็นงานที่เสียสละ”



    นอกจากนี้ข้อความ “ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอล มีบริษัทหนึ่งชนะการประมูลจนได้เข้ามาดูแลนั้น บริษัทดังกล่าว แวดวงในบอกว่าเป็นลูกรักของบิ๊กอ็อด ที่เข้ามาอุ้มชู ปลุกปั้นมาตั้งแต่สมัยเป็นตำรวจ หลายฝ่ายจึงมองว่าการประมูลในครั้งนี้มีการเอื้อประโยชน์แก่กัน ดูตัวอย่าง ตัวอย่างหนึ่ง เราย้อนกลับไปปี 2563 ได้บริษัทเซ้นส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ไม่มีประสบการในการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกีฬามาก่อน แต่ดันชนะการประมูล ถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก มูลค่า 12,000 ล้านบาท ตกปีละ 1,500 ล้านบาท สุดท้ายไปไม่รอด ผู้บริหารขาดทุนแบบย่อยยับ ต้องเปลี่ยนผู้ถือครองมาเป็น AIS ทำให้มูลค่าลิขสิทธิ์ตกลงมาเกือบ 4 เท่า เหลือแค่ 400 ล้านบาท ตัดภาพมาตอนปัจจุบันเลย ในเรื่องดราม่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลไทย ที่มีข่าวว่ามูลค่าลดฮวบ จาก 1,000 ล้านบาท เหลือเพียง 50 ล้านบาท ถ้าเราย้อนอดีตไป ลิขสิทธิ์บอลไทยเคยมีรายได้อู้ฟู่ โดยที่กระฉูดที่สุดในช่วงปี 2560-2563 ที่ทรูวิชั่น ประมูลค่าลิขสิทธิ์ 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 60 900 ล้านบาท 61 1,000 ล้านบาท 62 1,100 ล้านบาท 63 1,200 ล้านบาท ในช่วงปี 2563 มีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดโรคโควิด ทรูวิชั่นก็ไม่มี ไม่สามารถจะจ่ายเต็มจำนวนได้ ฤดูกาล 2564-65 ค่าลิขสิทธิ์จาก AIS ก็ลดลงเหลือ 800 ล้านบาท ผ่านมาถึงฤดูกาล 2565-66 มีรายงานว่าเหลือแค่ราวๆ 300 ล้านบาท”และข้อความอื่น ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ๆทั้งนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันมีข้อความหมิ่นประมาทและดูหมิ่นโจทก์โดยการโฆษณา ขอให้ลงโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไข ฉบับที่ 2 มาตรา 16 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332,393, 91 เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร

    โดยช่วงเช้าวันนี้ นายสนธิ จำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมน.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ ส่วนโจทก์มีผู้รับมอบอำนาจมาฟังคำพิพากษา

    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมโดยสุจริต พิพากษายกฟ้อง

    ภายหลังนายสนธิ กล่าวเพียงว่า ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ ฟ้องหมิ่นประมาท โดยตนสู้คดีด้วยหลักฐาน ความจริง และมีพยานมายืนยันข้อเท็จจริงทุกคดี ซึ่งพอใจผลคำพิพากษา เพราะชนะคดีก็ต้องพอใจ ยืนยันว่าไม่ใช่คดีแรกในชีวิต ตนเองทำงานสื่อมวลชนมา 50 ปี มีคดีทั้งหมด 246 คดี

    ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.นี้ จะไปขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่

    นายสนธิ กล่าวว่า ไปแน่นอน และให้สื่อมวลชนคอยฟังให้ดี เพราะตนจะมีทีเด็ดในการพูดบนเวทีการชุมนุมแน่นอน โดยการชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่ บ่าย 3 โมงเย็น ถึงเวลา 2 ทุ่มของวันเสาร์

    เมื่อถามว่า การพูดทีเด็ดบนเวที จะทำให้รัฐบาลสะเทือนหรือไม่ นายสนธิกล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลชุดนี้พูดอะไรไปก็ไม่สะเทือนหรอก"

    https://sondhitalk.com/photo-gallery/9680000059229?fbclid=IwQ0xDSwLHDOBleHRuA2FlbQIxMQABHjn6VGI0tuOTxS9x_CkwyfHJV-yBaFUZuPKiJhpkpFj61C6LFET_1vKF_qsn_aem_sKwXdW8qRXGV0NWL3DHNAQ
    ศาลอาญายกฟ้องคดี "บิ๊กอ๊อด" ฟ้องหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล" พาดพิงในรายการสนธิทอล์ก ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวระบุสู้คดีด้วยหลักฐานและความจริง พร้อมยืนยันไปขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้แน่นอน เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีอ.2708/2566 ที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.และนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบริษัทผู้จัดการ 360 องศา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาและนำข้อความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เรียกค่าเสียหาย จำนวน 50 ล้านบาท คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า นายสนธิ จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของช่องยูทูป และรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ หรือ รายการ Sonthi Talk โดยเมื่อวันที่ 6-7 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายสนธิ ได้พูดในรายการ Sonthi Talk พาดพิงให้เกิดความเสียหายด้วยข้อความว่า “จริงๆแล้วสมาคมฟุตบอลไทยนั้นทำงานเละเทะมานานแล้ว ตั้งแต่คุณสมยศขึ้นมาเป็นนายกสมาคม...” และข้อความ “คุณไม่รู้หรอกว่าชีวิตคุณเนี่ย ตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณได้สร้างวีรกรรมมาเยอะไปหมดเลย หลายอย่าง ไม่ว่าเป็นคดีบอส อยู่วิทยาโน่นนี่นั่น ซึ่งผมได้เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแฟนบอลไทยก็ต้องดีใจเก้อ เพราะล่าสุดประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งคนของคุณสมยศทั้งนั้น นี่ต้องยืนยันเป็นคนของคุณสมยศทั้งนั้น มีมติเป็นเอกฉันท์ยับยั้งการลาออก ให้ทำหน้าที่ไปจนครบวาระ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โดยอ้างตามเกมที่คุณสมยศวางหมากไว้ว่า ไม่ให้ไทยต้องเสี่ยงการโดนฟีฟ่าลงดาบ ซึ่งจะถูกห้ามยุ่งกับการแข่งขันระดับนานาชาติทั้งหมด รวมทั้งกิจกรรมของฟีฟ่าประเด็นครับ ในวันลงมติมีคนในที่ประชุมกระซิบผมมาว่าก่อนลงมติบอร์ดสภากรรมการวงแตก หลายคน WORK OUT ขอลาออกรับไม่ได้ที่มีคนชงมติไว้ให้คุณสมยศอยู่ต่อ คนที่ชงมติไว้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ก็พี่นวยของผมนั่นเองอดีตมิตรตำรวจด้วยกันคือ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน…” ข้อความต่อมา “ท่านผู้ชมอย่าลืมนะว่าคนคนนี้เป็นคนที่พูดว่า อาชีพตำรวจถือว่าเป็นไซต์ไลน์ อาชีพหลักๆ คือเป็นนักธุรกิจ คุณสมยศคือเสี่ยงิ้วราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในปี 2558... ยังมีอีกประเด็นหนึ่งไปยืมเงินเสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าพ่ออาบอบนวด ซึ่งต้องคดีค้ามนุษย์ถึงสี่ครั้ง ไปยืมมา 300 ล้านบาท จนเป็นข่าวฉาวโฉ่ในช่วงนั้น สมยศระบุมาตลอดชีวิตรับราชการเกือบจะเรียกได้ว่า อาชีพตำรวจเป็นไซต์ไลน์ แต่หลักๆ แล้วเค้าทำเรื่องหุ้น พฤศจิกายน 2564 สองปีที่แล้ว กฤษฎีกาตีความว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลโดยมิชอบ เพราะตำแหน่งรวมทั้งกรรมการสมาคมฟุตบอล เป็นงานอาสา งานเสียสละไม่ใช่งานลูกจ้าง จึงไม่สามารถเรียกรับเงินค่าตอบแทนได้แม้แต่บาทเดียว...พอเป็นข่าวก็ออกมาชี้แจง รับเงินเดือนจริงแต่บริจาคกลับไปที่สมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเด็นนี้คือว่ามันผิดกฎหมาย คุณจะบริจาคให้ใครไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งเงินเดือนคุณเอง เพราะงานนี้เป็นงานที่เสียสละ” นอกจากนี้ข้อความ “ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอล มีบริษัทหนึ่งชนะการประมูลจนได้เข้ามาดูแลนั้น บริษัทดังกล่าว แวดวงในบอกว่าเป็นลูกรักของบิ๊กอ็อด ที่เข้ามาอุ้มชู ปลุกปั้นมาตั้งแต่สมัยเป็นตำรวจ หลายฝ่ายจึงมองว่าการประมูลในครั้งนี้มีการเอื้อประโยชน์แก่กัน ดูตัวอย่าง ตัวอย่างหนึ่ง เราย้อนกลับไปปี 2563 ได้บริษัทเซ้นส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ไม่มีประสบการในการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกีฬามาก่อน แต่ดันชนะการประมูล ถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก มูลค่า 12,000 ล้านบาท ตกปีละ 1,500 ล้านบาท สุดท้ายไปไม่รอด ผู้บริหารขาดทุนแบบย่อยยับ ต้องเปลี่ยนผู้ถือครองมาเป็น AIS ทำให้มูลค่าลิขสิทธิ์ตกลงมาเกือบ 4 เท่า เหลือแค่ 400 ล้านบาท ตัดภาพมาตอนปัจจุบันเลย ในเรื่องดราม่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลไทย ที่มีข่าวว่ามูลค่าลดฮวบ จาก 1,000 ล้านบาท เหลือเพียง 50 ล้านบาท ถ้าเราย้อนอดีตไป ลิขสิทธิ์บอลไทยเคยมีรายได้อู้ฟู่ โดยที่กระฉูดที่สุดในช่วงปี 2560-2563 ที่ทรูวิชั่น ประมูลค่าลิขสิทธิ์ 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 60 900 ล้านบาท 61 1,000 ล้านบาท 62 1,100 ล้านบาท 63 1,200 ล้านบาท ในช่วงปี 2563 มีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดโรคโควิด ทรูวิชั่นก็ไม่มี ไม่สามารถจะจ่ายเต็มจำนวนได้ ฤดูกาล 2564-65 ค่าลิขสิทธิ์จาก AIS ก็ลดลงเหลือ 800 ล้านบาท ผ่านมาถึงฤดูกาล 2565-66 มีรายงานว่าเหลือแค่ราวๆ 300 ล้านบาท”และข้อความอื่น ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ๆทั้งนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันมีข้อความหมิ่นประมาทและดูหมิ่นโจทก์โดยการโฆษณา ขอให้ลงโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไข ฉบับที่ 2 มาตรา 16 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332,393, 91 เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร โดยช่วงเช้าวันนี้ นายสนธิ จำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมน.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ ส่วนโจทก์มีผู้รับมอบอำนาจมาฟังคำพิพากษา ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมโดยสุจริต พิพากษายกฟ้อง ภายหลังนายสนธิ กล่าวเพียงว่า ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ ฟ้องหมิ่นประมาท โดยตนสู้คดีด้วยหลักฐาน ความจริง และมีพยานมายืนยันข้อเท็จจริงทุกคดี ซึ่งพอใจผลคำพิพากษา เพราะชนะคดีก็ต้องพอใจ ยืนยันว่าไม่ใช่คดีแรกในชีวิต ตนเองทำงานสื่อมวลชนมา 50 ปี มีคดีทั้งหมด 246 คดี ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.นี้ จะไปขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า ไปแน่นอน และให้สื่อมวลชนคอยฟังให้ดี เพราะตนจะมีทีเด็ดในการพูดบนเวทีการชุมนุมแน่นอน โดยการชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่ บ่าย 3 โมงเย็น ถึงเวลา 2 ทุ่มของวันเสาร์ เมื่อถามว่า การพูดทีเด็ดบนเวที จะทำให้รัฐบาลสะเทือนหรือไม่ นายสนธิกล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลชุดนี้พูดอะไรไปก็ไม่สะเทือนหรอก" https://sondhitalk.com/photo-gallery/9680000059229?fbclid=IwQ0xDSwLHDOBleHRuA2FlbQIxMQABHjn6VGI0tuOTxS9x_CkwyfHJV-yBaFUZuPKiJhpkpFj61C6LFET_1vKF_qsn_aem_sKwXdW8qRXGV0NWL3DHNAQ
    SONDHITALK.COM
    Photo Gallery ศาลอาญายกฟ้อง "บิ๊กอ๊อด" ฟ้องหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล" พูดพาดพิงในรายการสนธิทอล์ก ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต
    Photo Gallery ศาลอาญายกฟ้อง บิ๊กอ็อด ฟ้องหมิ่น สนธิ ลิ้มทองกุล พาดพิงในรายการสนธิทอร์ค ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวระบุสู้คดีด้วยหลักฐานและความจริง พร้อมยืนยันไปขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้แน่นอน
    0 Comments 0 Shares 630 Views 0 Reviews
  • ทูลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ กลับลำ 360 องศา “เห็นด้วย” กับทรัมป์เรื่องอิหร่าน

    “อิหร่าน…สามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ถึงไม่กี่เดือน”

    พร้อมกับตำหนิสื่อว่านำเสนอข่าวบิดเบือนคำพูดของเธอ
    .

    ต่อมาประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวกับสื่อว่า "ไม่ยอมรับการประเมิน" ของ ทูลซี แกบบาร์ด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ ทรัมป์ ออกมาโต้แย้งข้อมูลของหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ และเชื่อคำกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลมากกว่า ว่าอิหร่าน "เข้าใกล้" การครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
    .

    เมื่อ 25 มีนาคม 2025 ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ กล่าวต่อหน้ากรรมาธิการในวุฒิสภาว่า "อิหร่านไม่ได้กำลังสร้างอาวุธนิวเคลียร์"

    “หน่วยข่าวกรองยังคงยืนยันการประเมินว่าอิหร่านไม่ได้กำลังสร้างอาวุธนิวเคลียร์ และผู้นำสูงสุด Khamanei ไม่ได้อนุมัติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ที่เขาระงับไปตั้งแต่ปี 2003 เรากำลังติดตามดูว่าเตหะรานตัดสินใจอนุมัติโครงการอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้งหรือไม่” 
    ทูลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ กลับลำ 360 องศา “เห็นด้วย” กับทรัมป์เรื่องอิหร่าน “อิหร่าน…สามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ถึงไม่กี่เดือน” พร้อมกับตำหนิสื่อว่านำเสนอข่าวบิดเบือนคำพูดของเธอ . 👉ต่อมาประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวกับสื่อว่า "ไม่ยอมรับการประเมิน" ของ ทูลซี แกบบาร์ด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ ทรัมป์ ออกมาโต้แย้งข้อมูลของหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ และเชื่อคำกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลมากกว่า ว่าอิหร่าน "เข้าใกล้" การครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ . 👉เมื่อ 25 มีนาคม 2025 ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ กล่าวต่อหน้ากรรมาธิการในวุฒิสภาว่า "อิหร่านไม่ได้กำลังสร้างอาวุธนิวเคลียร์" “หน่วยข่าวกรองยังคงยืนยันการประเมินว่าอิหร่านไม่ได้กำลังสร้างอาวุธนิวเคลียร์ และผู้นำสูงสุด Khamanei ไม่ได้อนุมัติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ที่เขาระงับไปตั้งแต่ปี 2003 เรากำลังติดตามดูว่าเตหะรานตัดสินใจอนุมัติโครงการอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้งหรือไม่” 
    0 Comments 0 Shares 275 Views 0 Reviews
  • สงครามด้านพลังประมวลผลของ AI กำลังลากเอาทุกภาคส่วนมาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่แค่เรื่องของ GPU แรงๆ อีกต่อไป เพราะหน่วยความจำ HBM (High Bandwidth Memory) ที่ถูกใช้ในการ์ด AI เช่น H100, B200 หรือ MI300 ก็เริ่ม “กินไฟเกินควบคุม” แล้วเช่นกัน

    จากแผนของ KAIST – TERA Lab เผยว่า roadmap ของ HBM ตั้งแต่ HBM4 → HBM8 จะพุ่งแรงทั้งแบนด์วิธและขนาด... แต่ก็ตามมาด้วย การใช้พลังงานแบบน่าตกใจ

    - HBM4 (เริ่ม 2026): ใช้ใน Nvidia Rubin, AMD MI400, ความจุ 432GB ต่อการ์ด, ระบายความร้อนด้วย liquid cooling
    - HBM5 (2029): ยกระดับไปถึง 640GB ต่อ GPU, ใช้ immersion cooling
    - HBM6 (2032): ดึงไฟถึง 120W/stack, รวมแล้ว 5,920W ต่อ GPU
    - HBM7 (2035): รองรับ 6TB ต่อการ์ด, 15,360W ต่อการ์ด GPU เดียว!
    - HBM8 (2038): วิ่งแบนด์วิธ 64TB/s ต่อ stack, ความเร็ว 32Gbps, เริ่มมีเทคนิค embedded cooling และ interposer 2 ด้าน

    คิดเล่นๆ: ถ้ามีดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใช้ GPU แบบ HBM8 จำนวน 1 ล้านชิป จะกินไฟรวม 15.36 กิกะวัตต์ เท่ากับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมของทั้งสหราชอาณาจักรในปี 2024!

    เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น HBF (High-Bandwidth Flash) เริ่มถูกพูดถึงเพื่อรวม NAND Flash + LPDDR เข้าไปใน stack เดียวกับ HBM แต่ก็ยังเป็นคอนเซ็ปต์ที่อยู่ในช่วงวิจัย ทดลอง และยังไม่มีคำตอบว่า “จะเอาอยู่” หรือเปล่า

    https://www.techradar.com/pro/ai-gpu-accelerators-with-6tb-hbm-memory-could-appear-by-2035-as-ai-gpu-die-sizes-set-to-shrink-but-theres-far-worse-coming-up
    สงครามด้านพลังประมวลผลของ AI กำลังลากเอาทุกภาคส่วนมาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่แค่เรื่องของ GPU แรงๆ อีกต่อไป เพราะหน่วยความจำ HBM (High Bandwidth Memory) ที่ถูกใช้ในการ์ด AI เช่น H100, B200 หรือ MI300 ก็เริ่ม “กินไฟเกินควบคุม” แล้วเช่นกัน จากแผนของ KAIST – TERA Lab เผยว่า roadmap ของ HBM ตั้งแต่ HBM4 → HBM8 จะพุ่งแรงทั้งแบนด์วิธและขนาด... แต่ก็ตามมาด้วย การใช้พลังงานแบบน่าตกใจ - HBM4 (เริ่ม 2026): ใช้ใน Nvidia Rubin, AMD MI400, ความจุ 432GB ต่อการ์ด, ระบายความร้อนด้วย liquid cooling - HBM5 (2029): ยกระดับไปถึง 640GB ต่อ GPU, ใช้ immersion cooling - HBM6 (2032): ดึงไฟถึง 120W/stack, รวมแล้ว 5,920W ต่อ GPU - HBM7 (2035): รองรับ 6TB ต่อการ์ด, 15,360W ต่อการ์ด GPU เดียว! - HBM8 (2038): วิ่งแบนด์วิธ 64TB/s ต่อ stack, ความเร็ว 32Gbps, เริ่มมีเทคนิค embedded cooling และ interposer 2 ด้าน คิดเล่นๆ: ถ้ามีดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใช้ GPU แบบ HBM8 จำนวน 1 ล้านชิป จะกินไฟรวม 15.36 กิกะวัตต์ เท่ากับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมของทั้งสหราชอาณาจักรในปี 2024! 😱 เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น HBF (High-Bandwidth Flash) เริ่มถูกพูดถึงเพื่อรวม NAND Flash + LPDDR เข้าไปใน stack เดียวกับ HBM แต่ก็ยังเป็นคอนเซ็ปต์ที่อยู่ในช่วงวิจัย ทดลอง และยังไม่มีคำตอบว่า “จะเอาอยู่” หรือเปล่า https://www.techradar.com/pro/ai-gpu-accelerators-with-6tb-hbm-memory-could-appear-by-2035-as-ai-gpu-die-sizes-set-to-shrink-but-theres-far-worse-coming-up
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • ถ้าตอนนี้เราเริ่มบ่นว่า “เซิร์ฟเวอร์มันร้อน” อีกไม่กี่ปีข้างหน้า—อาจต้องเรียกวิศวกรนิวเคลียร์มาช่วยออกแบบห้องเซิร์ฟเวอร์กันเลยทีเดียว

    เพราะรายงานจาก KAIST (สถาบันวิจัยของเกาหลีใต้) ชี้ว่า TDP (Thermal Design Power) ของชิป AI ในอนาคตอาจพุ่งไปถึง 15,360W ภายในปี 2032 ซึ่งสูงกว่าชิป H100 ของ NVIDIA ปัจจุบัน (700–800W) ถึง 20 เท่า

    ตอนนี้ NVIDIA Blackwell ใช้พลังงาน 1,400W แล้ว Rubin Ultra ที่จะมาในปี 2027 จะพุ่งไป 3,600W และ Feynman ในปี 2029 จะทะลุ 6,000W ได้เลย โดยทั้งหมดนี้ยัง “ใช้แค่น้ำหล่อเย็น (liquid cooling)” ได้อยู่

    แต่หลังจากปี 2030 เป็นต้นไป จะเริ่มใช้เทคโนโลยี Immersion Cooling (จุ่มชิปในของเหลวพิเศษ) และเมื่อถึงปี 2032… ต้องฝังระบบทำความเย็นลงไปในชิปเลย (Embedded Cooling)

    และไม่ใช่แค่ตัวประมวลผลที่กินไฟครับ—โมดูลหน่วยความจำ HBM ก็จะใช้ไฟกว่า 2,000W ด้วย นั่นแปลว่าชิป AI 1 ตัวอาจใช้ไฟมากกว่บ้าน 2 หลังรวมกัน!

    TDP ของชิป AI เพิ่มจากร้อย → พัน → หมื่นวัตต์ในทศวรรษเดียว  
    • Blackwell Ultra (2025): 1,400W  
    • Rubin Ultra (2027): 3,600W  
    • Feynman Ultra (2029): 6,000W  
    • Post-Feynman Ultra (2032): 15,360W

    แนวโน้มเทคโนโลยีหล่อเย็น AI ตามระดับความร้อน  
    • เริ่มจาก liquid cooling → immersion cooling → embedded cooling  
    • KAIST เสนอแนวคิดฝัง "ท่อน้ำหล่อเย็น" และ “ฟลูอิด TSV” ลงในชิป

    การเพิ่มจำนวน chiplet และ HBM stack เป็นสาเหตุหลักของพลังงานมหาศาล  
    • HBM6 stack หนึ่งใช้ไฟถึง 120W และอาจมีมากถึง 16 stack ต่อชิป  
    • ระบบต้องติดเซ็นเซอร์ความร้อนแบบเรียลไทม์

    แนวคิดอนาคต: GPU ซ้อนชั้นสองด้าน + ท่อนำความร้อนฝังใน interposer  
    • เพิ่มพลังโดยไม่เพิ่มพื้นที่ชิป  
    • เน้นดึงความร้อนออกจาก “core” ก่อน แล้วค่อยระบายออกนอกตัวระบบ

    พลังงานระดับนี้อาจต้องใช้ระบบจ่ายไฟระดับ “โรงไฟฟ้าขนาดย่อม”  
    • หนึ่ง GPU rack อาจกินไฟ 50kW+ → ส่งผลต่อโครงสร้างพื้นฐานของ data center ทั่วโลก

    ความท้าทายเรื่อง “คาร์บอนฟุตพรินต์” และสิ่งแวดล้อมจะหนักขึ้น  
    • แม้จะมีความพยายามใช้ cooling แบบปิดระบบ แต่การผลิตและใช้ชิปเหล่านี้ยังสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล

    Immersion cooling ยังเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทาง – ไม่แพร่หลายเท่าที่ควร  
    • ต้องใช้ของเหลวเฉพาะ แพง และต้องมีระบบควบคุมพิเศษ  
    • อาจไม่เหมาะกับองค์กรทั่วไป

    ยังไม่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมด้าน embedded cooling ที่ชัดเจน  
    • หากใช้ต่างแนวทางกัน อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/future-ai-processors-said-to-consume-up-to-15-360w-massive-power-draw-will-demand-exotic-immersion-and-embedded-cooling-tech
    ถ้าตอนนี้เราเริ่มบ่นว่า “เซิร์ฟเวอร์มันร้อน” อีกไม่กี่ปีข้างหน้า—อาจต้องเรียกวิศวกรนิวเคลียร์มาช่วยออกแบบห้องเซิร์ฟเวอร์กันเลยทีเดียว 🤯 เพราะรายงานจาก KAIST (สถาบันวิจัยของเกาหลีใต้) ชี้ว่า TDP (Thermal Design Power) ของชิป AI ในอนาคตอาจพุ่งไปถึง 15,360W ภายในปี 2032 ซึ่งสูงกว่าชิป H100 ของ NVIDIA ปัจจุบัน (700–800W) ถึง 20 เท่า ตอนนี้ NVIDIA Blackwell ใช้พลังงาน 1,400W แล้ว Rubin Ultra ที่จะมาในปี 2027 จะพุ่งไป 3,600W และ Feynman ในปี 2029 จะทะลุ 6,000W ได้เลย โดยทั้งหมดนี้ยัง “ใช้แค่น้ำหล่อเย็น (liquid cooling)” ได้อยู่ แต่หลังจากปี 2030 เป็นต้นไป จะเริ่มใช้เทคโนโลยี Immersion Cooling (จุ่มชิปในของเหลวพิเศษ) และเมื่อถึงปี 2032… ต้องฝังระบบทำความเย็นลงไปในชิปเลย (Embedded Cooling) และไม่ใช่แค่ตัวประมวลผลที่กินไฟครับ—โมดูลหน่วยความจำ HBM ก็จะใช้ไฟกว่า 2,000W ด้วย นั่นแปลว่าชิป AI 1 ตัวอาจใช้ไฟมากกว่บ้าน 2 หลังรวมกัน! ✅ TDP ของชิป AI เพิ่มจากร้อย → พัน → หมื่นวัตต์ในทศวรรษเดียว   • Blackwell Ultra (2025): 1,400W   • Rubin Ultra (2027): 3,600W   • Feynman Ultra (2029): 6,000W   • Post-Feynman Ultra (2032): 15,360W ✅ แนวโน้มเทคโนโลยีหล่อเย็น AI ตามระดับความร้อน   • เริ่มจาก liquid cooling → immersion cooling → embedded cooling   • KAIST เสนอแนวคิดฝัง "ท่อน้ำหล่อเย็น" และ “ฟลูอิด TSV” ลงในชิป ✅ การเพิ่มจำนวน chiplet และ HBM stack เป็นสาเหตุหลักของพลังงานมหาศาล   • HBM6 stack หนึ่งใช้ไฟถึง 120W และอาจมีมากถึง 16 stack ต่อชิป   • ระบบต้องติดเซ็นเซอร์ความร้อนแบบเรียลไทม์ ✅ แนวคิดอนาคต: GPU ซ้อนชั้นสองด้าน + ท่อนำความร้อนฝังใน interposer   • เพิ่มพลังโดยไม่เพิ่มพื้นที่ชิป   • เน้นดึงความร้อนออกจาก “core” ก่อน แล้วค่อยระบายออกนอกตัวระบบ ‼️ พลังงานระดับนี้อาจต้องใช้ระบบจ่ายไฟระดับ “โรงไฟฟ้าขนาดย่อม”   • หนึ่ง GPU rack อาจกินไฟ 50kW+ → ส่งผลต่อโครงสร้างพื้นฐานของ data center ทั่วโลก ‼️ ความท้าทายเรื่อง “คาร์บอนฟุตพรินต์” และสิ่งแวดล้อมจะหนักขึ้น   • แม้จะมีความพยายามใช้ cooling แบบปิดระบบ แต่การผลิตและใช้ชิปเหล่านี้ยังสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล ‼️ Immersion cooling ยังเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทาง – ไม่แพร่หลายเท่าที่ควร   • ต้องใช้ของเหลวเฉพาะ แพง และต้องมีระบบควบคุมพิเศษ   • อาจไม่เหมาะกับองค์กรทั่วไป ‼️ ยังไม่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมด้าน embedded cooling ที่ชัดเจน   • หากใช้ต่างแนวทางกัน อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/future-ai-processors-said-to-consume-up-to-15-360w-massive-power-draw-will-demand-exotic-immersion-and-embedded-cooling-tech
    0 Comments 0 Shares 303 Views 0 Reviews
  • ข่าวล่าสุดเผยว่า มีแอป VPN ฟรีกว่า 17 รายการใน App Store ของ Apple และ Google Play Store ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีน โดยบางแอปอาจมีความเชื่อมโยงกับบริษัท Qihoo 360 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีสายสัมพันธ์กับกองทัพจีน เรื่องนี้ถูกค้นพบโดย Tech Transparency Project (TTP) ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า Apple และ Google อาจได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากแอปเหล่านี้ ด้วย

    VPN ฟรีที่มีความเกี่ยวข้องกับจีน
    - แอป VPN ฟรีอย่าง Turbo VPN, VPN Proxy Master, Thunder VPN, Snap VPN และ Signal Secure VPN มีสายสัมพันธ์กับ Qihoo 360 ซึ่งถูกลงโทษโดยสหรัฐฯ ในปี 2020
    - ยังพบว่า อีก 11 แอป VPN ที่มีเจ้าของเป็นชาวจีนยังคงมีอยู่ใน App Store ของสหรัฐฯ ได้แก่ X-VPN, Ostrich VPN, VPNIFY, VPN Proxy OvpnSpider และอื่นๆ
    - Google Play Store ก็มีแอปที่เกี่ยวข้องกับจีนเช่นกัน รวมถึง Turbo VPN, VPN Proxy Master, Snap VPN และ Signal Secure VPN

    Apple และ Google อาจได้รับรายได้จากแอปเหล่านี้
    - แอป VPN บางตัวใน App Store มีการขาย การสมัครสมาชิกและบริการเพิ่มเติมในแอป ซึ่งหมายความว่า Apple และ Google อาจได้รับส่วนแบ่งรายได้
    - แอปบางตัวใน Google Play Store มีโฆษณา เช่น Turbo VPN

    ไม่มีการตอบกลับจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง
    - Apple ระบุว่ามีแนวทางเข้มงวดเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลในแอป VPN
    - อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้จำกัดการแจกจ่ายแอปตามประเทศของผู้ให้บริการ
    - Qihoo 360 และนักพัฒนาแอป VPN ที่ถูกกล่าวถึงไม่ได้ตอบกลับข้อเรียกร้องของ TTP

    ข้อมูลเพิ่มเติมและคำเตือน
    ความเสี่ยงของผู้ใช้ VPN ฟรี
    - VPN ที่มีเจ้าของเป็นชาวจีนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่กำหนดให้เก็บข้อมูล และอาจต้องแบ่งปันข้อมูลกับรัฐบาลจีน
    - แม้ว่า VPN จะถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่หากมีเจ้าของที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลต่างประเทศ อาจเกิดความเสี่ยงต่อข้อมูลส่วนบุคคล
    - VPN ฟรีบางตัวอาจมีโฆษณาหรือฟีเจอร์ที่ซ่อนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

    แนวทางในการเลือกใช้ VPN ที่ปลอดภัย
    - ควรเลือกใช้ VPN ที่มีนโยบาย "ไม่บันทึกข้อมูล" (No-Log Policy) และมีบริษัทที่สามารถตรวจสอบประวัติความน่าเชื่อถือได้
    - VPN ที่ได้รับการแนะนำว่าปลอดภัย ได้แก่ Privado VPN และ Proton VPN ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่มีความโปร่งใส
    - หลีกเลี่ยงแอป VPN ฟรีที่ไม่เปิดเผยข้อมูลบริษัทผู้ให้บริการ

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/these-free-vpns-may-have-ties-to-chinas-military-and-they-are-still-hidden-in-apple-and-google-app-stores
    ข่าวล่าสุดเผยว่า มีแอป VPN ฟรีกว่า 17 รายการใน App Store ของ Apple และ Google Play Store ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีน โดยบางแอปอาจมีความเชื่อมโยงกับบริษัท Qihoo 360 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีสายสัมพันธ์กับกองทัพจีน เรื่องนี้ถูกค้นพบโดย Tech Transparency Project (TTP) ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า Apple และ Google อาจได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากแอปเหล่านี้ ด้วย ✅ VPN ฟรีที่มีความเกี่ยวข้องกับจีน - แอป VPN ฟรีอย่าง Turbo VPN, VPN Proxy Master, Thunder VPN, Snap VPN และ Signal Secure VPN มีสายสัมพันธ์กับ Qihoo 360 ซึ่งถูกลงโทษโดยสหรัฐฯ ในปี 2020 - ยังพบว่า อีก 11 แอป VPN ที่มีเจ้าของเป็นชาวจีนยังคงมีอยู่ใน App Store ของสหรัฐฯ ได้แก่ X-VPN, Ostrich VPN, VPNIFY, VPN Proxy OvpnSpider และอื่นๆ - Google Play Store ก็มีแอปที่เกี่ยวข้องกับจีนเช่นกัน รวมถึง Turbo VPN, VPN Proxy Master, Snap VPN และ Signal Secure VPN ✅ Apple และ Google อาจได้รับรายได้จากแอปเหล่านี้ - แอป VPN บางตัวใน App Store มีการขาย การสมัครสมาชิกและบริการเพิ่มเติมในแอป ซึ่งหมายความว่า Apple และ Google อาจได้รับส่วนแบ่งรายได้ - แอปบางตัวใน Google Play Store มีโฆษณา เช่น Turbo VPN ✅ ไม่มีการตอบกลับจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง - Apple ระบุว่ามีแนวทางเข้มงวดเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลในแอป VPN - อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้จำกัดการแจกจ่ายแอปตามประเทศของผู้ให้บริการ - Qihoo 360 และนักพัฒนาแอป VPN ที่ถูกกล่าวถึงไม่ได้ตอบกลับข้อเรียกร้องของ TTP 🚨 ข้อมูลเพิ่มเติมและคำเตือน ‼️ ความเสี่ยงของผู้ใช้ VPN ฟรี - VPN ที่มีเจ้าของเป็นชาวจีนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่กำหนดให้เก็บข้อมูล และอาจต้องแบ่งปันข้อมูลกับรัฐบาลจีน - แม้ว่า VPN จะถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่หากมีเจ้าของที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลต่างประเทศ อาจเกิดความเสี่ยงต่อข้อมูลส่วนบุคคล - VPN ฟรีบางตัวอาจมีโฆษณาหรือฟีเจอร์ที่ซ่อนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ‼️ แนวทางในการเลือกใช้ VPN ที่ปลอดภัย - ควรเลือกใช้ VPN ที่มีนโยบาย "ไม่บันทึกข้อมูล" (No-Log Policy) และมีบริษัทที่สามารถตรวจสอบประวัติความน่าเชื่อถือได้ - VPN ที่ได้รับการแนะนำว่าปลอดภัย ได้แก่ Privado VPN และ Proton VPN ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่มีความโปร่งใส - หลีกเลี่ยงแอป VPN ฟรีที่ไม่เปิดเผยข้อมูลบริษัทผู้ให้บริการ https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/these-free-vpns-may-have-ties-to-chinas-military-and-they-are-still-hidden-in-apple-and-google-app-stores
    WWW.TECHRADAR.COM
    These free VPNs may have ties to China’s military – and they are still hidden in Apple and Google app stores
    New research reveals 17 VPN apps with undisclosed Chinese ownership, and big tech may be making a profit
    0 Comments 0 Shares 438 Views 0 Reviews
  • ยอดเขาทิตลิส (Titlis) คือหนึ่งในจุดหมายยอดฮิตของการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัส "หิมะตลอดทั้งปี"
    ---
    จุดเด่นของยอดเขาทิตลิส:
    * ความสูงประมาณ 3,238 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
    * ตั้งอยู่ใกล้ เมืองเอนเกลเบิร์ก (Engelberg) ใช้เวลาเดินทางจากลูเซิร์นราว 45-60 นาที
    * มี หิมะตลอดทั้งปี สามารถเล่นสโนว์ ลานหิมะ และถ่ายรูปวิวเทือกเขาแอลป์ได้ทุกฤดู
    ---
    ไฮไลท์ห้ามพลาด:
    Titlis Rotair
    กระเช้าหมุนได้ 360 องศา แห่งแรกของโลก มองเห็นวิวภูเขาแบบรอบทิศ
    ถ้ำน้ำแข็ง (Glacier Cave)
    เดินในอุโมงค์น้ำแข็งที่ลึกลงไปกว่า 20 เมตรในธารน้ำแข็ง
    สะพานแขวน Titlis Cliff Walk
    เป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในยุโรป ตื่นเต้นวิวสวยแบบสุดๆ
    กิจกรรมบนหิมะ
    เล่นหิมะ เลื่อนหิมะ ถ่ายรูปกับวิวอลังการ
    ---
    ไปได้เมื่อไหร่?
    เปิดตลอดทั้งปี
    🌨 ฤดูหนาว (ธ.ค.-มี.ค.): หิมะเยอะ วิวอลัง
    ฤดูใบไม้ผลิ/ร้อน (เม.ย.-ก.ย.): หิมะยังมี วิวเขียวตัดขาวก็สวยไม่แพ้กัน
    ---
    ราคาคร่าวๆ:
    * ค่าโดยสารกระเช้าไป-กลับจาก Engelberg → Titlis ประมาณ96 CHF
    (ประมาณ 3,800-4,000 บาท)
    ถ้ามี Swiss Pass จะลดราคาลงได้ครึ่งหนึ่ง

    #Titlis #ยอดเขาทิตลิส #เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ #กระเช้าหมุนได้360องศา #หิมะตลอดปี #เล่นหิมะที่ยุโรป #เที่ยวต่างประเทศ #ทัวร์สวิส #TitlisCliffWalk
    🏔️ ยอดเขาทิตลิส (Titlis) คือหนึ่งในจุดหมายยอดฮิตของการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัส "หิมะตลอดทั้งปี" ❄️✨ --- 📍 จุดเด่นของยอดเขาทิตลิส: * ความสูงประมาณ 3,238 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล * ตั้งอยู่ใกล้ เมืองเอนเกลเบิร์ก (Engelberg) ใช้เวลาเดินทางจากลูเซิร์นราว 45-60 นาที * มี หิมะตลอดทั้งปี สามารถเล่นสโนว์ ลานหิมะ และถ่ายรูปวิวเทือกเขาแอลป์ได้ทุกฤดู --- 🚠 ไฮไลท์ห้ามพลาด: 🔹 Titlis Rotair 🚡 กระเช้าหมุนได้ 360 องศา แห่งแรกของโลก มองเห็นวิวภูเขาแบบรอบทิศ 🔹 ถ้ำน้ำแข็ง (Glacier Cave) ❄️ เดินในอุโมงค์น้ำแข็งที่ลึกลงไปกว่า 20 เมตรในธารน้ำแข็ง 🔹 สะพานแขวน Titlis Cliff Walk 🌉 เป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในยุโรป ตื่นเต้นวิวสวยแบบสุดๆ 🔹 กิจกรรมบนหิมะ ⛷️ เล่นหิมะ เลื่อนหิมะ ถ่ายรูปกับวิวอลังการ --- 📆 ไปได้เมื่อไหร่? ✅ เปิดตลอดทั้งปี 🌨 ฤดูหนาว (ธ.ค.-มี.ค.): หิมะเยอะ วิวอลัง 🌸 ฤดูใบไม้ผลิ/ร้อน (เม.ย.-ก.ย.): หิมะยังมี วิวเขียวตัดขาวก็สวยไม่แพ้กัน --- 💸 ราคาคร่าวๆ: * ค่าโดยสารกระเช้าไป-กลับจาก Engelberg → Titlis ประมาณ96 CHF (ประมาณ 3,800-4,000 บาท) 💡 ถ้ามี Swiss Pass จะลดราคาลงได้ครึ่งหนึ่ง #Titlis #ยอดเขาทิตลิส #เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ #กระเช้าหมุนได้360องศา #หิมะตลอดปี #เล่นหิมะที่ยุโรป #เที่ยวต่างประเทศ #ทัวร์สวิส #TitlisCliffWalk
    0 Comments 0 Shares 447 Views 11 0 Reviews
  • มีเพื่อนเพจเคยขอให้เขียนถึงองครักษ์เสื้อแพรนอกเหนือจากที่มีในซีรีส์ ข้อมูลหาไม่ง่าย วันนี้เริ่มด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ ยาวหน่อยนะคะ แต่เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนต้องเคยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องค่าเงิน

    ความมีอยู่ว่า
    ...เกาชิ่งมาเรียกหาจินเซี่ยแล้วถาม: “ใต้เท้าลู่มีคำถาม วันนี้เช่าเรือทั้งหมดสองเหลี่ยง รวมค่าชาและขนมบนเรืออีก คิดเป็นประมาณสามเฉียนแล้วกัน ท่านใต้เท้าออกเงินไปให้ก่อน แต่ถามว่าเมื่อใดพวกเจ้าจึงจะใช้คืน?”....
    - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ
    (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ก่อนอื่นเทียบมูลค่าเงิน: 1 ตำลึงเงิน (เหลี่ยง) = 1,000 เฉียน (คือ เหวิน หรือ อีแปะ) = 1 ก้วน (พวงเหรียญเฉียน)

    ก่อนจะพูดถึงรายรับ เราดูค่าครองชีพกันหน่อย ราชวงศ์หมิงยาวนานเกือบ 300 ปี แต่ลู่ปิ่งและลู่อี้มีตัวตนจริงอยู่ในรัชสมัยขององค์หมิงสื้อจง (ค.ศ. 1521-1567) (Storyฯ เคยเขียนถึงมาหลายเดือนก่อน) ในยุคสมัยนั้น เนื้อหมูหนึ่งชั่งราคา 7-8 เฉียน เนื้อไก่หนึ่งชั่งราคา 3-4 เฉียน (เทียบเท่าน้ำหนักปัจจุบัน 595 กรัม) ดังนั้นราคาขนมและชาที่ยกข้อความมาจากในนิยายข้างต้นก็พอจะฟังดูสมเหตุสมผล

    คำถามต่อมาคือ องครักษ์เสื้อแพรมีรายรับเท่าไหร่เมื่อเทียบกับค่าครองชีพตามข้างต้น?

    มีตารางข้อมูลจาก “หมิงสื่อ /明史” หรือบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงมาให้ดู (ดูรูปประกอบ) เป็นอัตราเงินเดือนของขุนนางที่กำหนดไว้โดยปฐมกษัตริย์จูหยวนจาง จ่ายเป็นเดือน แต่กำหนดอัตราไว้เป็นรายปี วงให้ดูว่าเงินเดือนของใต้เท้าลู่อี้และพ่อของเขาคือ:
    ลู่ถิง (ในนิยายชื่อลู่ปิ่ง) เป็นผู้บัญชาการสูงสุดขององครักษ์เสื้อแพร ยศขุนนางขั้นที่สามเต็ม ได้เงินเดือนเป็นข้าวสาร 420 ตาน/ปี (เขียนหน่วยเป็นสือ ต่อมาเรียกเป็นตาน) ส่วนใต้เท้าลู่อี้ของเราในนิยายกล่าวไว้ว่าตอนที่แรกพบกับนางเอก เขาเป็นเพียงขุนนางขั้นที่เจ็ดล่าง ได้เงินเดือนเป็นข้าวสาร 84 ตาน/ปี หรือ 7 ตาน/เดือน

    ท่านอ่านไม่ผิดค่ะ เงินเดือนของข้าราชการสมัยนั้นปกติจ่ายเป็นข้าวสาร

    ข้าวสารหนึ่งตานสมัยนั้นหน้าตาเป็นกระบุงหาบ เทียบเท่าน้ำหนักปัจจุบันประมาณ 60 กก. เชื่อว่าขุนนางระดับสูงเวลารับเงินเดือนต้องใช้รถเข็นเลยทีเดียว

    แล้วถ้าคิดเป็นเงินล่ะ? อันนี้ผันแปรตามเงินเฟ้อ ข้าวสารหนึ่งตานในสมัยของใต้เท้าลู่นั้นราคา 0.584 ตำลึงเงิน ดังนั้นใต้เท้าลู่มีเงินเดือนเพียงประมาณ 4 ตำลึงเงิน/เดือน หรือ 4,000 เฉียนเท่านั้น! (ภาพการควักเงินหยวนเป่าออกมาวางให้เสี่ยวเอ้อตาโต หายแวบไปจากมโนของ Storyฯ ทันที)

    แล้วถ้าเปรียบเทียบวิชาชีพอื่น? สรุปโดยประมาณได้ดังนี้: ค่าจ้าง 600-1,700 เฉียน/เดือนขึ้นอยู่กับระดับงาน แผงขายอาหารในเมืองใหญ่ 1,300-1,600 เฉียน/เดือน ที่ดูจะรายได้ดีมากคือคนขับรถม้าที่ 3,000 เฉียน/เดือนเลยทีเดียว (หาไม่พบว่าเป็นเพราะอะไร) ส่วนเกษตรกรรายได้เฉลี่ย 750-1,200 เฉียน/เดือน

    แต่ขุนนางมี ‘สวัสดิการ’ อย่างอื่นด้วยคือผ้า เงินค่าน้ำชา ฟืน ชุดประจำตำแหน่ง จวนประจำตำแหน่ง เป็นต้น และยังไม่ต้องเสียภาษีเหมือนชาวนาหรือพ่อค้า แน่นอนว่าการต้องเลี้ยงบ่าวไพร่ทั้งเรือนก็มีค่าใช้จ่ายสูงอยู่ แต่เทียบกับวิชาชีพอื่นแล้ว หากได้เป็นขุนนางติดยศชีวิตความเป็นอยู่จะดีมาก

    สมัยนั้นตำแหน่งจอหงวนคือลำดับหกเต็ม Storyฯ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนถึงขวนขวายเข้าเมืองหลวงสอบจอหงวนกัน ยศสูงกว่าใต้เท้าลู่อี้เสียอีก! (วันนี้คุยเรื่องเงินทอง ไม่คุยเรื่องอุดมการณ์ค่ะ)

    เขียนเพิ่มเติมหลังจากอัพเพจครั้งแรก:
    ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ เช่นแล้ง หรือเกิดสงคราม ข้าวในคลังมีน้อย หรือในฤดูที่ไม่มีการเก็บเกี่ยว มีการแก้ไขการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ โดยกำหนดมูลค่าของข้าวเทียบเท่าของอย่างอื่น เช่น ผ้าผืน พริกไทย ใบชา เป็นต้น (อะไรก็ได้ที่มีมากในคลังหลวง) ต่อมาจึงมีแบ่งจ่ายเป็นตั๋วเงินด้วย ต่อมาในช่วงปลายราชวงศ์หมิงจึงเปลี่ยนมากำหนดให้จ่ายเป็นข้าว ตั๋วเงินและเงิน แต่ยังคงเทียบอัตราเงินเดือนเป็นข้าวสารอยู่

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากและข้อมูลเรียบเรียงจาก:
    https://www.sohu.com/a/360665261_162238
    https://www.bilibili.com/read/cv9844919
    https://www.zmkm8.com/artdata-94382.html
    https://www.sohu.com/a/273067566_559864
    http://www.gushizhuan.com/gdws/284082.html

    #ใต้เท้าลู่ #องครักษ์เสื้อแพร #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ราชวงศ์หมิง #วัฒนธรรมจีนโบราณ #เงินจีนโบราณ #เงินเดือนข้าราชการจีน
    มีเพื่อนเพจเคยขอให้เขียนถึงองครักษ์เสื้อแพรนอกเหนือจากที่มีในซีรีส์ ข้อมูลหาไม่ง่าย วันนี้เริ่มด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ ยาวหน่อยนะคะ แต่เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนต้องเคยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องค่าเงิน ความมีอยู่ว่า ...เกาชิ่งมาเรียกหาจินเซี่ยแล้วถาม: “ใต้เท้าลู่มีคำถาม วันนี้เช่าเรือทั้งหมดสองเหลี่ยง รวมค่าชาและขนมบนเรืออีก คิดเป็นประมาณสามเฉียนแล้วกัน ท่านใต้เท้าออกเงินไปให้ก่อน แต่ถามว่าเมื่อใดพวกเจ้าจึงจะใช้คืน?”.... - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) ก่อนอื่นเทียบมูลค่าเงิน: 1 ตำลึงเงิน (เหลี่ยง) = 1,000 เฉียน (คือ เหวิน หรือ อีแปะ) = 1 ก้วน (พวงเหรียญเฉียน) ก่อนจะพูดถึงรายรับ เราดูค่าครองชีพกันหน่อย ราชวงศ์หมิงยาวนานเกือบ 300 ปี แต่ลู่ปิ่งและลู่อี้มีตัวตนจริงอยู่ในรัชสมัยขององค์หมิงสื้อจง (ค.ศ. 1521-1567) (Storyฯ เคยเขียนถึงมาหลายเดือนก่อน) ในยุคสมัยนั้น เนื้อหมูหนึ่งชั่งราคา 7-8 เฉียน เนื้อไก่หนึ่งชั่งราคา 3-4 เฉียน (เทียบเท่าน้ำหนักปัจจุบัน 595 กรัม) ดังนั้นราคาขนมและชาที่ยกข้อความมาจากในนิยายข้างต้นก็พอจะฟังดูสมเหตุสมผล คำถามต่อมาคือ องครักษ์เสื้อแพรมีรายรับเท่าไหร่เมื่อเทียบกับค่าครองชีพตามข้างต้น? มีตารางข้อมูลจาก “หมิงสื่อ /明史” หรือบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงมาให้ดู (ดูรูปประกอบ) เป็นอัตราเงินเดือนของขุนนางที่กำหนดไว้โดยปฐมกษัตริย์จูหยวนจาง จ่ายเป็นเดือน แต่กำหนดอัตราไว้เป็นรายปี วงให้ดูว่าเงินเดือนของใต้เท้าลู่อี้และพ่อของเขาคือ: ลู่ถิง (ในนิยายชื่อลู่ปิ่ง) เป็นผู้บัญชาการสูงสุดขององครักษ์เสื้อแพร ยศขุนนางขั้นที่สามเต็ม ได้เงินเดือนเป็นข้าวสาร 420 ตาน/ปี (เขียนหน่วยเป็นสือ ต่อมาเรียกเป็นตาน) ส่วนใต้เท้าลู่อี้ของเราในนิยายกล่าวไว้ว่าตอนที่แรกพบกับนางเอก เขาเป็นเพียงขุนนางขั้นที่เจ็ดล่าง ได้เงินเดือนเป็นข้าวสาร 84 ตาน/ปี หรือ 7 ตาน/เดือน ท่านอ่านไม่ผิดค่ะ เงินเดือนของข้าราชการสมัยนั้นปกติจ่ายเป็นข้าวสาร ข้าวสารหนึ่งตานสมัยนั้นหน้าตาเป็นกระบุงหาบ เทียบเท่าน้ำหนักปัจจุบันประมาณ 60 กก. เชื่อว่าขุนนางระดับสูงเวลารับเงินเดือนต้องใช้รถเข็นเลยทีเดียว แล้วถ้าคิดเป็นเงินล่ะ? อันนี้ผันแปรตามเงินเฟ้อ ข้าวสารหนึ่งตานในสมัยของใต้เท้าลู่นั้นราคา 0.584 ตำลึงเงิน ดังนั้นใต้เท้าลู่มีเงินเดือนเพียงประมาณ 4 ตำลึงเงิน/เดือน หรือ 4,000 เฉียนเท่านั้น! (ภาพการควักเงินหยวนเป่าออกมาวางให้เสี่ยวเอ้อตาโต หายแวบไปจากมโนของ Storyฯ ทันที) แล้วถ้าเปรียบเทียบวิชาชีพอื่น? สรุปโดยประมาณได้ดังนี้: ค่าจ้าง 600-1,700 เฉียน/เดือนขึ้นอยู่กับระดับงาน แผงขายอาหารในเมืองใหญ่ 1,300-1,600 เฉียน/เดือน ที่ดูจะรายได้ดีมากคือคนขับรถม้าที่ 3,000 เฉียน/เดือนเลยทีเดียว (หาไม่พบว่าเป็นเพราะอะไร) ส่วนเกษตรกรรายได้เฉลี่ย 750-1,200 เฉียน/เดือน แต่ขุนนางมี ‘สวัสดิการ’ อย่างอื่นด้วยคือผ้า เงินค่าน้ำชา ฟืน ชุดประจำตำแหน่ง จวนประจำตำแหน่ง เป็นต้น และยังไม่ต้องเสียภาษีเหมือนชาวนาหรือพ่อค้า แน่นอนว่าการต้องเลี้ยงบ่าวไพร่ทั้งเรือนก็มีค่าใช้จ่ายสูงอยู่ แต่เทียบกับวิชาชีพอื่นแล้ว หากได้เป็นขุนนางติดยศชีวิตความเป็นอยู่จะดีมาก สมัยนั้นตำแหน่งจอหงวนคือลำดับหกเต็ม Storyฯ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนถึงขวนขวายเข้าเมืองหลวงสอบจอหงวนกัน ยศสูงกว่าใต้เท้าลู่อี้เสียอีก! (วันนี้คุยเรื่องเงินทอง ไม่คุยเรื่องอุดมการณ์ค่ะ) เขียนเพิ่มเติมหลังจากอัพเพจครั้งแรก: ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ เช่นแล้ง หรือเกิดสงคราม ข้าวในคลังมีน้อย หรือในฤดูที่ไม่มีการเก็บเกี่ยว มีการแก้ไขการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ โดยกำหนดมูลค่าของข้าวเทียบเท่าของอย่างอื่น เช่น ผ้าผืน พริกไทย ใบชา เป็นต้น (อะไรก็ได้ที่มีมากในคลังหลวง) ต่อมาจึงมีแบ่งจ่ายเป็นตั๋วเงินด้วย ต่อมาในช่วงปลายราชวงศ์หมิงจึงเปลี่ยนมากำหนดให้จ่ายเป็นข้าว ตั๋วเงินและเงิน แต่ยังคงเทียบอัตราเงินเดือนเป็นข้าวสารอยู่ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากและข้อมูลเรียบเรียงจาก: https://www.sohu.com/a/360665261_162238 https://www.bilibili.com/read/cv9844919 https://www.zmkm8.com/artdata-94382.html https://www.sohu.com/a/273067566_559864 http://www.gushizhuan.com/gdws/284082.html #ใต้เท้าลู่ #องครักษ์เสื้อแพร #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ราชวงศ์หมิง #วัฒนธรรมจีนโบราณ #เงินจีนโบราณ #เงินเดือนข้าราชการจีน
    《锦衣之下》即将上线 任嘉伦谭松韵“猫鼠游戏“甜酥来袭_悬疑
    此次曝光的海报中,锦衣卫经历陆绎(任嘉伦饰)一身大红炽金飞鱼服,手握绣春刀伫立,眼神凌厉气势十足;六扇门小捕快袁今夏(谭松韵饰)侧抱花猫,明眸善睐、笑容明媚极具少女感;严世蕃(韩栋饰)执扇侧立,神思沉稳…
    1 Comments 0 Shares 644 Views 0 Reviews
More Results