• ปูตินบินกระชับสัมพันธ์โมดี้ หลังล้มโต๊ะเจรจาสันติภาพ : คนเคาะข่าว 04-12-68
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=rMpua63ploE
    ปูตินบินกระชับสัมพันธ์โมดี้ หลังล้มโต๊ะเจรจาสันติภาพ : คนเคาะข่าว 04-12-68 . https://www.youtube.com/watch?v=rMpua63ploE
    0 Comments 0 Shares 2 Views 0 Reviews
  • แผนชั่ว ตอนที่ 4

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 4
    ปฏิบัติการต่างๆ ของอเมริกาหลังจากนั้น จึงเป็นปฏิบัติการพรางตัว จะอ้างว่าเพื่ออะไรก็แล้วแต่ แต่แท้จริงเป็นความพยายามที่จะ “กัน” ไม่ให้จีนมีโอกาสแทรกตัว แหย่ขา เข้ามาในอาฟริกาได้ง่ายๆ หรือไม่ได้เลยยิ่งดี เพราะอเมริการู้ดีว่า อาฟริกานั้นเต็มไปด้วยแร่มีค่าสาระพัด อเมริกานึกไม่ถึงว่า อาเฮียจากแดนมังกรจะหาญกล้า ข้ามน้ำข้ามภูเขา มาฉกของดีตัดหน้าอเมริกา ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกได้ นึกว่าอาเฮียทำเป็น แค่ดีดลูกคิด….
    สาธารณารัฐคองโก หรือที่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นสาธารณรัฐแซร์ Republic of Zaire ในปี คศ 1997 เมื่อกองกำลังของ โลรอง-เดซิเร คาบิล่า Laurent-Desire Kabila โค่นประธานาธิบดีตลอดกาล เซเซ เซกู หรือ โจเซฟ- โลรอง โมบูตู Sese Seku Joseph-Laurent Mobutu ที่ปกครองคองโก มาถึง 32 ปี ร่วงหล่นลงไปได้ ชาวอาฟริกาเรียกประเทศใหม่นี้ว่า คองโก-คินชาซา Congo-Kinshasa หรือคองโกใหญ่ ให้ต่างกับ คองโก-บราซาวิล Congo-Brazzaville ที่เล็กกว่า
    คองโกเคยอยู่ในอิทธิพลของเบลเยี่ยมมานาน ตั้งแต่ประมาณ ค.ศ.1885 จนในที่สุด ก็ตกเป็นอาณานิคมของเบลเยี่ยมใน ปี ค.ศ.1908 มาได้รับการปลดปล่อยเป็นไท เอาเมื่อปี ค.ศ.1960 นี้เอง
    เบลเยี่ยมเป็นแหล่งศูนย์กลางเจียรนัยเพชร ค้าเพชร กำหนดราคาเพชร และปริมาณเพชร ที่จะให้กระจายในตลาดเพชรแต่ละปี เพื่อควบคุมราคาเพชรในโลก และเป็นศูนย์กลางค้าเพชรใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งตลาดสว่าง และตลาดมืด ทำให้เบลเยี่ยมเป็นหนึ่งในประเทศร่ำรวยของยุโรป
    คองโกมีแหล่งเพชรเป็นจำนวนมากถึง 1 ใน 3 ของโลก คงไม่ต้องบอกว่า เบลเยี่ยมเอาเพชรมาจากไหน
    นอกจากมีแหล่งเพชรมากมายแล้ว แถบบริเวณ คิวู Kivu ในคองโก ที่มีเขตแดนยาวต่อกับรวันดาRwanda และ ยูกันดา Uganda นั้น นักธรณีวิทยา เชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีทรัพยากรแร่มีค่า ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะใน บริเวณที่เรียกว่า Great African Rift Valley
    นอกจากนี้ คองโกยังมีแหล่งทรัพยากรโคบอลท์ cobalt มากกว่าครึ่งหนึ่ง ของแร่โคบอลท์ที่มีทั้งหมดในโลก และที่สำคัญ คองโกมีแร่แทนทาไลท์ หรือโคลแทน ถึง 3 ใน 4 ของโลก โคลแทน เป็นโลหะสำคัญที่นำมาใช้ในการสร้างคอมพิวเตอร์ชิพ และแผงวงจรไฟฟ้า ที่จำเป็นมากสำหรับอุปกรณ์มือถือ เครื่องคอม และเครื่องมืออีเลคโทรนิคทั้งปวง และเชื่อกันว่า คองโกก็มีแหล่งน้ำมันแยะมากด้วย
    แต่มันเหลือเชื่อ และน่าเศร้าใจว่า จนถึงปัจจุบันชาวคองโกส่วนใหญ่ก็ยังมีชีวิตที่ลำบาก และประเทศยังยากจน
    ช่วงแรกๆ ที่โมบูตูปกครองคองโก เป็นช่วงสงครามเย็น อเมริกาจึงทำหวานเชื่อมกับโมบูตู เขาเป็นชาวอาฟริกันคนแรก ที่เป็นแขกเชิญของทำเนียบขาว โมบูตู เป็นนักการเมืองจอมแสบ เขาคบทั้งสหภาพโซเวียตและจีน เพื่อไว้ต่อรองกับอเมริกา ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับโมบูตู จึงทั้งหวานทั้งขมปนกัน อเมริกาคงยอมไม่ได้ ถ้าคองโกประเทศใหญ่ในอาฟริกา จะกลายเป็นพรรคพวกของคอมมิวนิสต์ เสียหน้าพี่เบิ้มใหญ่ แห่งค่ายประชาธิปไตยโรเนียวหมด
    โมบูตูจึงฉวยโอกาสสร้างความร่ำรวยให้แก่ตัวเองและพรรคพวก เขารวยอย่างมหาศาล และเป็นเผด็จการอย่างเข้มข้น หลายครั้งที่เขาถูกรัฐประหาร แต่ก็รอดมาได้ ด้วยอาวุธที่อเมริกาจัดส่งให้ เพื่อเอาไว้ขู่ ไม่ให้โซเวียตกับจีนเข้ามาในคองโก แต่หลังจากสงครามเย็นใกล้จบ ความต้องการที่จะง้อโมบูตู ก็คงหมดตามไปด้วย
    และก็มีคนช่างคิด ช่างสงสัย ว่าโรคเอดส์นั้น ทำไมไปเกิดอยู่ที่คองโกเป็นแห่งแรก ก่อนจะระบาดเป็นไฟลามทุ่งไปทั่วโลก และก็น่าแปลกใจว่า ลูกชาย 2 คน ในจำนวนลูก 14 คนของโมบูตู ก็เสียชิวิตด้วยโรคเอดส์ และ 1 ใน 2 นั้น เป็นที่มุ่งหวังของโมบูตู ที่จะให้เป็นทายาทสืบทอดตำแหน่งผู้ปกครองคองโกต่อจากเขา
    American Minerals Fields, Inc บริษัทอเมริกันที่เป็นผู้ลงทุน และสนับสนุนให้ คาบิลาโค่นโมบูตู มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่รัฐอาร์แคนซอร์ ฐานใหญ่ของอดีตประธานาธิบดีอเมริกัน บิล คลินตัน คนนิยมเด็กฝึกงาน ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทนี้เป็นคนใกล้ชิดของคนนิยมเด็กฝึกงาน ตั้งแต่สมัยยังเป็นผู้ว่าการรัฐ อาแคนซอร์ แหม ใครเขาจะเอาชื่อตัวเองมาใส่
    ก่อนการโค่น มูบูตู ลงจากแท่นไม่กี่เดือน คาบิลา เริ่มทบทวนสัญญาสัมปทานขุดแร่ และทำการเจรจาเงื่อนไขกับพวกบริษัท อเมริกัน อังกฤษ ที่มาลงทุนทำเหมืองในคองโกเสียใหม่ รวมทั้งเจรจากับ American Minerals ด้วย คาบิลาคงเข้าใจอะไรผิด หรือประเมินผู้สนับสนุนตัวเองผิด อย่างไม่น่าเป็นไปได้
    แบบนี้ วอชิงตันคงไม่เลี้ยงเขาไว้นาน แล้วในปี ค.ศ.2001 คาบิลาก็ถูกฆ่าตาย ใครฆ่าเขา ผมไม่รู้
    มีรายงานออกมาในเดือนเมษายน ปี ค.ศ.1997 ว่า หลังจากโมบูตูถูกโค่นไปไม่กี่เดือน IMF ก็แนะนำให้รัฐบาลคองโกหยุดการพิมพ์ธนบัตรอย่างกระทันหัน และสิ้นเชิง ตามนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจคองโกของ IMF และเมื่อ คาบิลา ขึ้นมาปกครอง IMF แนะนำให้คาบิลาระงับการจ่ายเงินเดือนพนักงานรัฐ เพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ (ไม่รู้แปลว่าอะไร !) ซ้ำเข้าไปอีก หลังจากนั้นก็เกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างหนักในคองโก ค่าจ้างแรงงานโดยเฉลี่ยของชาวคองโกตกประมาณเดือนละ 3 หมื่นแซร์ หรือประมาณเดือนละ 1 เหรียญสหรัฐ …
    นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ชาวแคนาดา นาย Michael Chossudovsky บอกว่า เงื่อนไขที่ IMF กำหนดให้รัฐบาลคองโกปฏิบัติมีผลเป็นการรักษาระดับความยากจนของประชาชนชาวคองโก ให้คงทนถาวรตลอดไป คองโกเป็นประเทศที่ร่ำรวยทรัพยากรอย่างมาก แต่ชาวคองโกถูกแผนชั่วกำหนด ไม่ให้พวกเขามีโอกาสพัฒนาประเทศตนเอง และต้องวนเวียนอยู่กับการสู้รบฆ่าฟันกันเอง จนมีคนตายไปเกือบ 2 ล้านคน
    เมื่อคาบิลา คนพ่อถูกเก็บ โจเซฟ ลูกชายเขาก็ถูกเอามาขึ้นแท่นแทนพ่อ เขาเป็นประธานาธิบดีของคองโกคนแรก ที่มาจากการ (สั่งให้มี) เลือกตั้ง และดูเหมือนจะไม่ (กล้า) สนใจที่จะพัฒนาประเทศตนเอง แต่อย่างใด
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    17 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 4 ปฏิบัติการต่างๆ ของอเมริกาหลังจากนั้น จึงเป็นปฏิบัติการพรางตัว จะอ้างว่าเพื่ออะไรก็แล้วแต่ แต่แท้จริงเป็นความพยายามที่จะ “กัน” ไม่ให้จีนมีโอกาสแทรกตัว แหย่ขา เข้ามาในอาฟริกาได้ง่ายๆ หรือไม่ได้เลยยิ่งดี เพราะอเมริการู้ดีว่า อาฟริกานั้นเต็มไปด้วยแร่มีค่าสาระพัด อเมริกานึกไม่ถึงว่า อาเฮียจากแดนมังกรจะหาญกล้า ข้ามน้ำข้ามภูเขา มาฉกของดีตัดหน้าอเมริกา ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกได้ นึกว่าอาเฮียทำเป็น แค่ดีดลูกคิด…. สาธารณารัฐคองโก หรือที่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นสาธารณรัฐแซร์ Republic of Zaire ในปี คศ 1997 เมื่อกองกำลังของ โลรอง-เดซิเร คาบิล่า Laurent-Desire Kabila โค่นประธานาธิบดีตลอดกาล เซเซ เซกู หรือ โจเซฟ- โลรอง โมบูตู Sese Seku Joseph-Laurent Mobutu ที่ปกครองคองโก มาถึง 32 ปี ร่วงหล่นลงไปได้ ชาวอาฟริกาเรียกประเทศใหม่นี้ว่า คองโก-คินชาซา Congo-Kinshasa หรือคองโกใหญ่ ให้ต่างกับ คองโก-บราซาวิล Congo-Brazzaville ที่เล็กกว่า คองโกเคยอยู่ในอิทธิพลของเบลเยี่ยมมานาน ตั้งแต่ประมาณ ค.ศ.1885 จนในที่สุด ก็ตกเป็นอาณานิคมของเบลเยี่ยมใน ปี ค.ศ.1908 มาได้รับการปลดปล่อยเป็นไท เอาเมื่อปี ค.ศ.1960 นี้เอง เบลเยี่ยมเป็นแหล่งศูนย์กลางเจียรนัยเพชร ค้าเพชร กำหนดราคาเพชร และปริมาณเพชร ที่จะให้กระจายในตลาดเพชรแต่ละปี เพื่อควบคุมราคาเพชรในโลก และเป็นศูนย์กลางค้าเพชรใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งตลาดสว่าง และตลาดมืด ทำให้เบลเยี่ยมเป็นหนึ่งในประเทศร่ำรวยของยุโรป คองโกมีแหล่งเพชรเป็นจำนวนมากถึง 1 ใน 3 ของโลก คงไม่ต้องบอกว่า เบลเยี่ยมเอาเพชรมาจากไหน นอกจากมีแหล่งเพชรมากมายแล้ว แถบบริเวณ คิวู Kivu ในคองโก ที่มีเขตแดนยาวต่อกับรวันดาRwanda และ ยูกันดา Uganda นั้น นักธรณีวิทยา เชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีทรัพยากรแร่มีค่า ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะใน บริเวณที่เรียกว่า Great African Rift Valley นอกจากนี้ คองโกยังมีแหล่งทรัพยากรโคบอลท์ cobalt มากกว่าครึ่งหนึ่ง ของแร่โคบอลท์ที่มีทั้งหมดในโลก และที่สำคัญ คองโกมีแร่แทนทาไลท์ หรือโคลแทน ถึง 3 ใน 4 ของโลก โคลแทน เป็นโลหะสำคัญที่นำมาใช้ในการสร้างคอมพิวเตอร์ชิพ และแผงวงจรไฟฟ้า ที่จำเป็นมากสำหรับอุปกรณ์มือถือ เครื่องคอม และเครื่องมืออีเลคโทรนิคทั้งปวง และเชื่อกันว่า คองโกก็มีแหล่งน้ำมันแยะมากด้วย แต่มันเหลือเชื่อ และน่าเศร้าใจว่า จนถึงปัจจุบันชาวคองโกส่วนใหญ่ก็ยังมีชีวิตที่ลำบาก และประเทศยังยากจน ช่วงแรกๆ ที่โมบูตูปกครองคองโก เป็นช่วงสงครามเย็น อเมริกาจึงทำหวานเชื่อมกับโมบูตู เขาเป็นชาวอาฟริกันคนแรก ที่เป็นแขกเชิญของทำเนียบขาว โมบูตู เป็นนักการเมืองจอมแสบ เขาคบทั้งสหภาพโซเวียตและจีน เพื่อไว้ต่อรองกับอเมริกา ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับโมบูตู จึงทั้งหวานทั้งขมปนกัน อเมริกาคงยอมไม่ได้ ถ้าคองโกประเทศใหญ่ในอาฟริกา จะกลายเป็นพรรคพวกของคอมมิวนิสต์ เสียหน้าพี่เบิ้มใหญ่ แห่งค่ายประชาธิปไตยโรเนียวหมด โมบูตูจึงฉวยโอกาสสร้างความร่ำรวยให้แก่ตัวเองและพรรคพวก เขารวยอย่างมหาศาล และเป็นเผด็จการอย่างเข้มข้น หลายครั้งที่เขาถูกรัฐประหาร แต่ก็รอดมาได้ ด้วยอาวุธที่อเมริกาจัดส่งให้ เพื่อเอาไว้ขู่ ไม่ให้โซเวียตกับจีนเข้ามาในคองโก แต่หลังจากสงครามเย็นใกล้จบ ความต้องการที่จะง้อโมบูตู ก็คงหมดตามไปด้วย และก็มีคนช่างคิด ช่างสงสัย ว่าโรคเอดส์นั้น ทำไมไปเกิดอยู่ที่คองโกเป็นแห่งแรก ก่อนจะระบาดเป็นไฟลามทุ่งไปทั่วโลก และก็น่าแปลกใจว่า ลูกชาย 2 คน ในจำนวนลูก 14 คนของโมบูตู ก็เสียชิวิตด้วยโรคเอดส์ และ 1 ใน 2 นั้น เป็นที่มุ่งหวังของโมบูตู ที่จะให้เป็นทายาทสืบทอดตำแหน่งผู้ปกครองคองโกต่อจากเขา American Minerals Fields, Inc บริษัทอเมริกันที่เป็นผู้ลงทุน และสนับสนุนให้ คาบิลาโค่นโมบูตู มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่รัฐอาร์แคนซอร์ ฐานใหญ่ของอดีตประธานาธิบดีอเมริกัน บิล คลินตัน คนนิยมเด็กฝึกงาน ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทนี้เป็นคนใกล้ชิดของคนนิยมเด็กฝึกงาน ตั้งแต่สมัยยังเป็นผู้ว่าการรัฐ อาแคนซอร์ แหม ใครเขาจะเอาชื่อตัวเองมาใส่ ก่อนการโค่น มูบูตู ลงจากแท่นไม่กี่เดือน คาบิลา เริ่มทบทวนสัญญาสัมปทานขุดแร่ และทำการเจรจาเงื่อนไขกับพวกบริษัท อเมริกัน อังกฤษ ที่มาลงทุนทำเหมืองในคองโกเสียใหม่ รวมทั้งเจรจากับ American Minerals ด้วย คาบิลาคงเข้าใจอะไรผิด หรือประเมินผู้สนับสนุนตัวเองผิด อย่างไม่น่าเป็นไปได้ แบบนี้ วอชิงตันคงไม่เลี้ยงเขาไว้นาน แล้วในปี ค.ศ.2001 คาบิลาก็ถูกฆ่าตาย ใครฆ่าเขา ผมไม่รู้ มีรายงานออกมาในเดือนเมษายน ปี ค.ศ.1997 ว่า หลังจากโมบูตูถูกโค่นไปไม่กี่เดือน IMF ก็แนะนำให้รัฐบาลคองโกหยุดการพิมพ์ธนบัตรอย่างกระทันหัน และสิ้นเชิง ตามนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจคองโกของ IMF และเมื่อ คาบิลา ขึ้นมาปกครอง IMF แนะนำให้คาบิลาระงับการจ่ายเงินเดือนพนักงานรัฐ เพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ (ไม่รู้แปลว่าอะไร !) ซ้ำเข้าไปอีก หลังจากนั้นก็เกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างหนักในคองโก ค่าจ้างแรงงานโดยเฉลี่ยของชาวคองโกตกประมาณเดือนละ 3 หมื่นแซร์ หรือประมาณเดือนละ 1 เหรียญสหรัฐ … นักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ชาวแคนาดา นาย Michael Chossudovsky บอกว่า เงื่อนไขที่ IMF กำหนดให้รัฐบาลคองโกปฏิบัติมีผลเป็นการรักษาระดับความยากจนของประชาชนชาวคองโก ให้คงทนถาวรตลอดไป คองโกเป็นประเทศที่ร่ำรวยทรัพยากรอย่างมาก แต่ชาวคองโกถูกแผนชั่วกำหนด ไม่ให้พวกเขามีโอกาสพัฒนาประเทศตนเอง และต้องวนเวียนอยู่กับการสู้รบฆ่าฟันกันเอง จนมีคนตายไปเกือบ 2 ล้านคน เมื่อคาบิลา คนพ่อถูกเก็บ โจเซฟ ลูกชายเขาก็ถูกเอามาขึ้นแท่นแทนพ่อ เขาเป็นประธานาธิบดีของคองโกคนแรก ที่มาจากการ (สั่งให้มี) เลือกตั้ง และดูเหมือนจะไม่ (กล้า) สนใจที่จะพัฒนาประเทศตนเอง แต่อย่างใด สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 17 ก.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • แผนชั่ว ตอนที่ 3

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 3
    หลังจากที่คุณลุงหูไปจับมือคุยกับบรรดาเด็กถูกเสี้ยมในอาฟริกา เหตุการณ์ที่ดาร์ฟูก็ดูเหมือนจะสงบลงไปพักหนึ่ง แค่พักสั้นๆ
    เมื่อจีนก้าวเท้าเข้าไปในอาฟริกาแบบนั้น แถมถอนไม้เสี้ยมออกเกือบหมด
    มีหรือที่อเมริกาจะใช้ยุทธศาสตร์ตั้งรับ อเมริกามีแต่จะใช้ยุทธศาสตร์รุกหนักขึ้น อเมริการีบปรับแผน หันขวับ กลับมาให้ความสนใจอาฟริกา ในปี ค.ศ.2002 กระทรวงต่างประเทศอเมริกาประกาศว่า ต่อไปนี้น้ำมันในอาฟริกาตะวันตกเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของเรา
    แล้วคาวบอย บุซ ในฐานะประธานาธิบดีของอเมริกาในช่วงนั้น ก็สั่งให้กองทัพอเมริกาอันยิ่ง ใหญ่ รีบเร่งไปตั้งฐานทัพที่ Sao Tome’ และ Principe ที่อยู่ห่างออกไปจากอ่าว Guinea ประมาณ 124 ไมล์ เอาไว้คุมแหล่งน้ำมัน (ของคนอื่น) ตั้งแต่อังโกลา ทางใต้ของคองโก, กาบอง Equitorial Guinea , แคเมอรูน และไนจีเรีย และคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันเป็นแหล่งน้ำมันเดียวกับที่จีน เพิ่งไปสร้างสัมพันธ์และเริ่มสนใจลงทุน
    อเมริกาตามประกบติดจีนทุกฝีก้าว ไม่มีทางให้เกิดการหลุดมือไปอย่างซูดานอีกแล้ว
    อเมริกาเริ่มใช้นโยบายปิดล้อมจีน ที่จะไม่ให้จีนเข้าถึงแหล่งน้ำมันใดในโลก มันสงครามเย็นรูปแบบใหม่ ที่ไม่มีการประกาศให้โลกรู้ และดูเหมือน จีนก็พยายามอย่างหนัก ที่จะแหวกออกจากการปิดล้อมให้ได้ แต่จะสำเร็จหรือไม่ แค่ไหน ต้องตามดูกันไป
    ดาร์ฟู เป็นก้าวแรกของสงครามปิดล้อมจีน อเมริกาบอก เราแพ้กระดานนี้ให้แก่จีนไม่ได้เด็ดขาด อเมริกาต้องควบคุมเส้นทางไหลของแหล่งน้ำมันในซูดานใต้ที่จะส่งไปให้จีนให้ได้ เพราะนี่คือเส้นเลือดใหญ่เส้นหนึ่งของจีน อเมริกาจึงเรียกระดมพล ตั้งแต่ดาราจนถึงกองกำลังนาโต้ รวมทั้งลูกหาบ และขี้ข้าทั้งหลาย มาช่วยกันกระหนำดาร์ฟูซ้ำแล้วซ้ำอีก ดาร์ฟูเมืองเล็กๆ หรือจะรับมืออยู่ มันแย่ยิ่งกว่าตอนที่อเมริกาไปขยี้อิรัค
    จีนพยายามช่วยดาร์ฟูด้วยการเจรจา จีนน่าจะรู้ว่าการเจรจากับอเมริกาในเรื่องนี้ก็เหมือนพูดกับคาวบอยกำลังขี่วัวบ้า หรือคาวบอยบ้ากำลังขี่วัว ไม่น่าต่างกันมาก
    ในที่สุด ปี ค.ศ.2011 ก็เกิดประเทศใหม่ สาธารณะรัฐซูดานใต้ the Republic of South Sudan ที่อยู่ภายใต้การคุมเข้มของนักล่าใบตองแห้ง ผ่านหุ่นชักราคาไม่แพง แต่พลเมืองซูดานบาดเจ็บล้มตาย เป็นแสน อเมริกาทำเหนียมอาย ไม่กล้าออกหน้าให้สูติบัตรแก่สาธารณะรัฐซูดานใต้ ที่ตนเองทำคลอด แต่ไม่นาน หลังจากเป็นประเทศใหม่เอี่ยม ในปี ค.ศ.2012 จีนก็ถูกหวยล๊อก ซูดานใต้ประกาศปิดโครงการผลิตน้ำมัน โดยอ้างว่า ตกลงเรื่องส่วนแบ่งผลประโยชน์กับซูดาน(เหนือ) ไม่ได้
    จีนแทบกระอัก ลงทุนทั้งการสำรวจ การผลิต และท่อส่งน้ำมัน ครบถ้วนกระบวนการ แต่ท่อส่งอยู่ซูดานเหนือ แต่หลุมน้ำมันที่ขุดได้แล้วดันอยู่ซูดานใต้ การปิดล้อมยกแรกทำท่าจะได้ผล จีนคง “รู้จัก ” อเมริกาดีขึ้น
    นอกจากนั้น รัฐบาลหุ่นชักซูดานใต้ยังประกาศว่า เราได้ลงนามในบันทีกความเข้าใจกับเคนยา Kenya เรียบร้อยแล้ว ที่จะสร้างท่อส่งน้ำมันของเราผ่านไปทางเคนยา ไปออกที่ท่าเรือลามู Lamu ไม่ต้องผ่าน (ท่อส่งน้ำมันที่จีนสร้าง) ทางซูดานเหนือ การก่อสร้างจะเริ่มทันทีที่ได้รับเงินสนับสนุน ซึ่งน่าจะมาภายในหนี่งเดือน และการก่อสร้างท่อส่ง น่าจะเสร็จภายใน 10 เดือน
    มันเป็นไม้เสี้ยม ชนิดทายาพิษจริงๆ เคยเป็นประเทศเดียวกัน เป็นพี่น้องกัน แทนที่จะแบ่งผลประโยชน์กัน ดันเห็นคนอื่นดีกว่า ฝีมือเสี้ยมไอ้นักล่าใบตองแห้งนี่มันโคตรชั่วจริงๆ
    และดูเหมือนผู้สนับสนุนทางการเงินในการสร้างท่อส่งน้ำมันรายการนี้ เขาว่าเป็นพวกถนัดแบกถาด บัญชีความแค้นของอาเฮียคงต้องเพิ่มหน้า เพราะรายการมันชักจะเพิ่มขี้นเรื่อยๆ
    แล้วเคนยา Kenya ก็กลายเป็นที่ตั้งของฐานทัพสำคัญของอเมริกาในอาฟริกา สำหรับหน่วยงานที่อเมริกาตั้งขึ้นใหม่เอี่ยม AFRICOM เพื่อมาทำหน้าที่ “ดูแล” ให้มีการวางท่อส่งน้ำมันจากซูดานใต้ วิ่งผ่านมาเคนยา ไม่ใช่ ผ่านซูดานเหนือ แบบนี้อเมริกาจึงจะสบายใจ หายใจคล่อง ว่าขี่คอจีนได้ในเรื่องน้ำมันที่อาฟริกา ที่จีนวางแผนเงียบตัดหน้าอเมริกา เรื่องซูดานนี้มันเป็น “รอย” ที่อเมริกาทำใจรับ (ความพ่ายแพ้ ) ไม่ได้จริงๆ
    เขตแดนของซูดานใต้ที่อเมริกาจัดการทำคลอด อยู่ที่เหมาะเจาะ พอดีที่จะทำให้จีนขาดโอกาสที่จะได้น้ำมันตามที่ตกลงไว้กับ ซูดาน ประมาณวันละ 3 แสน 5 หมื่นบาเรลต่อวัน ก็แค่ 90% ของผลผลิตน้ำมันของซูดาน ใครควบคุมเขตแดนนี้ ก็เท่ากับคุมน้ำมันจีน ให้หายไปวันละ 3 แสน 5 หมื่นบาเรล แถมยังมีโอกาสทำลายอุปกรณ์ของจีนเกี่ยวกับการผลิตน้ำมัน ที่จีนสร้างไว้ อีกด้วย คุ้มฉิบหาย
    ใครไม่รู้จัดการให้ สหประชาติกับกองกำลังร่วมของอาฟริกามาร่วมกันดูแลดาร์ฟูยิ่งกว่าดูแลไข่ในหิน แต่รัฐบาลซูดาน(เหนือ) บอกว่า หัวหน้าหน่วยรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ชาวอังกฤษที่ชื่อ Tony Prena น่ะตัวดี อ้างเรื่องเพื่อมนุษยชน แต่ดันขนกำลังอาวุธมาเป็นขบวน ข้ามดาร์ฟูเอามาให้ฝ่ายกบฏสู้กับรัฐบาลกลางที่คาร์ทูม รักษาสันติภาพแบบไหนของมัน
    อเมริกายังไม่พอใจที่จะหยุดแค่นั้น จีนต้องได้บทเรียนมากกว่านั้น แล้ว หน่วยงาน AFRICOM ด้านทหารกับหน่วยงาน ยูเสด USAID ด้านพลเรือน ของอเมริกา ก็เริ่มวางแผนยุทธศาสตร์ สร้างบ่วงรัดคอ ปิดจุดสำคัญทั้งหมดของเส้นทางเดินน้ำมัน ไม่ให้ไปถึงจีน
    นี่ต้องถือเป็นผลงานของพระเอกรูปหล่อนะ ถ้าไม่ออกมาโวยว่า มีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุที่ดาร์ฟู ใครจะขนกองทัพ กองกำลังมาปิดท่อที่ดาร์ฟูใต้ได้ พระเอกรูปหล่อน่าได้รางวัลโนเบลจริงๆ เอะ แล้วเรื่องชาวซูดานที่ตายเป็นแสนนี่ ทำให้พระเอกนอนหลับ ฝันดีไหมครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    16 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 3 หลังจากที่คุณลุงหูไปจับมือคุยกับบรรดาเด็กถูกเสี้ยมในอาฟริกา เหตุการณ์ที่ดาร์ฟูก็ดูเหมือนจะสงบลงไปพักหนึ่ง แค่พักสั้นๆ เมื่อจีนก้าวเท้าเข้าไปในอาฟริกาแบบนั้น แถมถอนไม้เสี้ยมออกเกือบหมด มีหรือที่อเมริกาจะใช้ยุทธศาสตร์ตั้งรับ อเมริกามีแต่จะใช้ยุทธศาสตร์รุกหนักขึ้น อเมริการีบปรับแผน หันขวับ กลับมาให้ความสนใจอาฟริกา ในปี ค.ศ.2002 กระทรวงต่างประเทศอเมริกาประกาศว่า ต่อไปนี้น้ำมันในอาฟริกาตะวันตกเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของเรา แล้วคาวบอย บุซ ในฐานะประธานาธิบดีของอเมริกาในช่วงนั้น ก็สั่งให้กองทัพอเมริกาอันยิ่ง ใหญ่ รีบเร่งไปตั้งฐานทัพที่ Sao Tome’ และ Principe ที่อยู่ห่างออกไปจากอ่าว Guinea ประมาณ 124 ไมล์ เอาไว้คุมแหล่งน้ำมัน (ของคนอื่น) ตั้งแต่อังโกลา ทางใต้ของคองโก, กาบอง Equitorial Guinea , แคเมอรูน และไนจีเรีย และคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันเป็นแหล่งน้ำมันเดียวกับที่จีน เพิ่งไปสร้างสัมพันธ์และเริ่มสนใจลงทุน อเมริกาตามประกบติดจีนทุกฝีก้าว ไม่มีทางให้เกิดการหลุดมือไปอย่างซูดานอีกแล้ว อเมริกาเริ่มใช้นโยบายปิดล้อมจีน ที่จะไม่ให้จีนเข้าถึงแหล่งน้ำมันใดในโลก มันสงครามเย็นรูปแบบใหม่ ที่ไม่มีการประกาศให้โลกรู้ และดูเหมือน จีนก็พยายามอย่างหนัก ที่จะแหวกออกจากการปิดล้อมให้ได้ แต่จะสำเร็จหรือไม่ แค่ไหน ต้องตามดูกันไป ดาร์ฟู เป็นก้าวแรกของสงครามปิดล้อมจีน อเมริกาบอก เราแพ้กระดานนี้ให้แก่จีนไม่ได้เด็ดขาด อเมริกาต้องควบคุมเส้นทางไหลของแหล่งน้ำมันในซูดานใต้ที่จะส่งไปให้จีนให้ได้ เพราะนี่คือเส้นเลือดใหญ่เส้นหนึ่งของจีน อเมริกาจึงเรียกระดมพล ตั้งแต่ดาราจนถึงกองกำลังนาโต้ รวมทั้งลูกหาบ และขี้ข้าทั้งหลาย มาช่วยกันกระหนำดาร์ฟูซ้ำแล้วซ้ำอีก ดาร์ฟูเมืองเล็กๆ หรือจะรับมืออยู่ มันแย่ยิ่งกว่าตอนที่อเมริกาไปขยี้อิรัค จีนพยายามช่วยดาร์ฟูด้วยการเจรจา จีนน่าจะรู้ว่าการเจรจากับอเมริกาในเรื่องนี้ก็เหมือนพูดกับคาวบอยกำลังขี่วัวบ้า หรือคาวบอยบ้ากำลังขี่วัว ไม่น่าต่างกันมาก ในที่สุด ปี ค.ศ.2011 ก็เกิดประเทศใหม่ สาธารณะรัฐซูดานใต้ the Republic of South Sudan ที่อยู่ภายใต้การคุมเข้มของนักล่าใบตองแห้ง ผ่านหุ่นชักราคาไม่แพง แต่พลเมืองซูดานบาดเจ็บล้มตาย เป็นแสน อเมริกาทำเหนียมอาย ไม่กล้าออกหน้าให้สูติบัตรแก่สาธารณะรัฐซูดานใต้ ที่ตนเองทำคลอด แต่ไม่นาน หลังจากเป็นประเทศใหม่เอี่ยม ในปี ค.ศ.2012 จีนก็ถูกหวยล๊อก ซูดานใต้ประกาศปิดโครงการผลิตน้ำมัน โดยอ้างว่า ตกลงเรื่องส่วนแบ่งผลประโยชน์กับซูดาน(เหนือ) ไม่ได้ จีนแทบกระอัก ลงทุนทั้งการสำรวจ การผลิต และท่อส่งน้ำมัน ครบถ้วนกระบวนการ แต่ท่อส่งอยู่ซูดานเหนือ แต่หลุมน้ำมันที่ขุดได้แล้วดันอยู่ซูดานใต้ การปิดล้อมยกแรกทำท่าจะได้ผล จีนคง “รู้จัก ” อเมริกาดีขึ้น นอกจากนั้น รัฐบาลหุ่นชักซูดานใต้ยังประกาศว่า เราได้ลงนามในบันทีกความเข้าใจกับเคนยา Kenya เรียบร้อยแล้ว ที่จะสร้างท่อส่งน้ำมันของเราผ่านไปทางเคนยา ไปออกที่ท่าเรือลามู Lamu ไม่ต้องผ่าน (ท่อส่งน้ำมันที่จีนสร้าง) ทางซูดานเหนือ การก่อสร้างจะเริ่มทันทีที่ได้รับเงินสนับสนุน ซึ่งน่าจะมาภายในหนี่งเดือน และการก่อสร้างท่อส่ง น่าจะเสร็จภายใน 10 เดือน มันเป็นไม้เสี้ยม ชนิดทายาพิษจริงๆ เคยเป็นประเทศเดียวกัน เป็นพี่น้องกัน แทนที่จะแบ่งผลประโยชน์กัน ดันเห็นคนอื่นดีกว่า ฝีมือเสี้ยมไอ้นักล่าใบตองแห้งนี่มันโคตรชั่วจริงๆ และดูเหมือนผู้สนับสนุนทางการเงินในการสร้างท่อส่งน้ำมันรายการนี้ เขาว่าเป็นพวกถนัดแบกถาด บัญชีความแค้นของอาเฮียคงต้องเพิ่มหน้า เพราะรายการมันชักจะเพิ่มขี้นเรื่อยๆ แล้วเคนยา Kenya ก็กลายเป็นที่ตั้งของฐานทัพสำคัญของอเมริกาในอาฟริกา สำหรับหน่วยงานที่อเมริกาตั้งขึ้นใหม่เอี่ยม AFRICOM เพื่อมาทำหน้าที่ “ดูแล” ให้มีการวางท่อส่งน้ำมันจากซูดานใต้ วิ่งผ่านมาเคนยา ไม่ใช่ ผ่านซูดานเหนือ แบบนี้อเมริกาจึงจะสบายใจ หายใจคล่อง ว่าขี่คอจีนได้ในเรื่องน้ำมันที่อาฟริกา ที่จีนวางแผนเงียบตัดหน้าอเมริกา เรื่องซูดานนี้มันเป็น “รอย” ที่อเมริกาทำใจรับ (ความพ่ายแพ้ ) ไม่ได้จริงๆ เขตแดนของซูดานใต้ที่อเมริกาจัดการทำคลอด อยู่ที่เหมาะเจาะ พอดีที่จะทำให้จีนขาดโอกาสที่จะได้น้ำมันตามที่ตกลงไว้กับ ซูดาน ประมาณวันละ 3 แสน 5 หมื่นบาเรลต่อวัน ก็แค่ 90% ของผลผลิตน้ำมันของซูดาน ใครควบคุมเขตแดนนี้ ก็เท่ากับคุมน้ำมันจีน ให้หายไปวันละ 3 แสน 5 หมื่นบาเรล แถมยังมีโอกาสทำลายอุปกรณ์ของจีนเกี่ยวกับการผลิตน้ำมัน ที่จีนสร้างไว้ อีกด้วย คุ้มฉิบหาย ใครไม่รู้จัดการให้ สหประชาติกับกองกำลังร่วมของอาฟริกามาร่วมกันดูแลดาร์ฟูยิ่งกว่าดูแลไข่ในหิน แต่รัฐบาลซูดาน(เหนือ) บอกว่า หัวหน้าหน่วยรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ชาวอังกฤษที่ชื่อ Tony Prena น่ะตัวดี อ้างเรื่องเพื่อมนุษยชน แต่ดันขนกำลังอาวุธมาเป็นขบวน ข้ามดาร์ฟูเอามาให้ฝ่ายกบฏสู้กับรัฐบาลกลางที่คาร์ทูม รักษาสันติภาพแบบไหนของมัน อเมริกายังไม่พอใจที่จะหยุดแค่นั้น จีนต้องได้บทเรียนมากกว่านั้น แล้ว หน่วยงาน AFRICOM ด้านทหารกับหน่วยงาน ยูเสด USAID ด้านพลเรือน ของอเมริกา ก็เริ่มวางแผนยุทธศาสตร์ สร้างบ่วงรัดคอ ปิดจุดสำคัญทั้งหมดของเส้นทางเดินน้ำมัน ไม่ให้ไปถึงจีน นี่ต้องถือเป็นผลงานของพระเอกรูปหล่อนะ ถ้าไม่ออกมาโวยว่า มีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุที่ดาร์ฟู ใครจะขนกองทัพ กองกำลังมาปิดท่อที่ดาร์ฟูใต้ได้ พระเอกรูปหล่อน่าได้รางวัลโนเบลจริงๆ เอะ แล้วเรื่องชาวซูดานที่ตายเป็นแสนนี่ ทำให้พระเอกนอนหลับ ฝันดีไหมครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 16 ก.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/fpw-vRhLj9E?si=w6uwqOikPnAAgF6r
    https://youtu.be/fpw-vRhLj9E?si=w6uwqOikPnAAgF6r
    0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews
  • โปรแกรมซีเกมส์วันนี้ ฟุตบอลหญิง ประเดิมสนาม 04/12/68 #ซีเกมส์ 2025 #ฟุตบอลหญิง #กีฬาฟุตบอล
    โปรแกรมซีเกมส์วันนี้ ฟุตบอลหญิง ประเดิมสนาม 04/12/68 #ซีเกมส์ 2025 #ฟุตบอลหญิง #กีฬาฟุตบอล
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 44 Views 0 0 Reviews
  • ไร้สัญญาณฟองสบู่ หุ้น AI 04/12/68 #กะเทาะหุ้น #หุ้น AI #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    ไร้สัญญาณฟองสบู่ หุ้น AI 04/12/68 #กะเทาะหุ้น #หุ้น AI #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 0 Reviews
  • ทาเครุ เซกาว่า ขอเจอรถถัง เป็นไฟท์สุดท้ายของอาชีพ 04/12/68 #ทาเครุ เซกาว่า #อาชีพมวย #รถถัง #นักมวย
    ทาเครุ เซกาว่า ขอเจอรถถัง เป็นไฟท์สุดท้ายของอาชีพ 04/12/68 #ทาเครุ เซกาว่า #อาชีพมวย #รถถัง #นักมวย
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 0 Reviews
  • จวกยับ! เพจซีเกมส์ไทย ใช้ภาพ AI โปรโมตงานวิ่ง 04/12/68 #ซีเกมส์ 2025 #ดราม่าซีเกมส์ #เจ้าภาพจัดกีฬา
    จวกยับ! เพจซีเกมส์ไทย ใช้ภาพ AI โปรโมตงานวิ่ง 04/12/68 #ซีเกมส์ 2025 #ดราม่าซีเกมส์ #เจ้าภาพจัดกีฬา
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 0 Reviews
  • ดาวฤกษ์สองดวงจากกลุ่มดาว Canis Major (สุนัขใหญ่) เคยเฉียดใกล้ระบบสุริยะของเราในระยะเพียง 32 ปีแสง

    นักดาราศาสตร์พบหลักฐานว่าเมื่อราว 4.5 ล้านปีก่อน ดาวฤกษ์สองดวงจากกลุ่มดาว Canis Major (สุนัขใหญ่) เคยเฉียดใกล้ระบบสุริยะของเราในระยะเพียง 32 ปีแสง และผลกระทบจากการผ่านครั้งนั้นยังคงเห็นได้ในปัจจุบัน

    ดาวฤกษ์ Epsilon Canis Majoris และ Beta Canis Majoris ซึ่งปัจจุบันอยู่ห่างออกไป 400–500 ปีแสง เคยเคลื่อนผ่านใกล้ระบบสุริยะเมื่อหลายล้านปีก่อน ตอนนั้นพวกมันสว่างกว่าดาวซิริอุส (ดาวที่สว่างที่สุดในท้องฟ้า) ถึง 4–6 เท่า ทำให้ท้องฟ้าในยุคนั้นสว่างไสวอย่างน่าทึ่ง

    ผลกระทบต่อเมฆก๊าซรอบระบบสุริยะ
    การผ่านใกล้ของดาวฤกษ์ร้อนทั้งสองดวงได้ปล่อยพลังงานมหาศาล ทำให้ก๊าซไฮโดรเจนและฮีเลียมใน Local Interstellar Clouds รอบระบบสุริยะเกิดการแตกตัวเป็นไอออนในระดับสูง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เคยสงสัยว่าเกิดจากอะไร การค้นพบนี้จึงช่วยเติมเต็ม “จิ๊กซอว์” ของปริศนาการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจักรวาลใกล้โลก

    การเคลื่อนที่ของดวงดาวและระบบสุริยะ
    นักวิจัยเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือน “จิ๊กซอว์ที่ทุกชิ้นเคลื่อนไหว” เพราะทั้งดวงอาทิตย์ ดาวฤกษ์ และเมฆก๊าซต่างเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ การจำลองแสดงให้เห็นว่าพลังงานจากดาว Canis Major มีส่วนสำคัญต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่ระบบสุริยะอาศัยอยู่ในปัจจุบัน

    อนาคตของระบบสุริยะ
    นักวิทยาศาสตร์คาดว่าในอีกไม่ถึง 2,000 ปี ระบบสุริยะจะเคลื่อนออกจาก Local Interstellar Clouds ซึ่งอาจทำให้โลกได้รับรังสีจากสภาพแวดล้อมจักรวาลมากขึ้น การศึกษาครั้งนี้จึงไม่เพียงย้อนอดีต แต่ยังช่วยทำนายอนาคตของสภาพแวดล้อมที่โลกจะต้องเผชิญ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ดาวฤกษ์จากกลุ่ม Canis Major เคยเฉียดใกล้ระบบสุริยะ
    ระยะใกล้ที่สุดเพียง 32 ปีแสงเมื่อ 4.5 ล้านปีก่อน

    ความสว่างมหาศาลในอดีต
    สว่างกว่าดาวซิริอุส 4–6 เท่า

    พลังงานจากดาวฤกษ์ทำให้ก๊าซรอบระบบสุริยะเกิดการแตกตัวเป็นไอออน
    อธิบายปริศนาการเปลี่ยนแปลงใน Local Interstellar Clouds

    การเคลื่อนที่ของดวงดาวคือจิ๊กซอว์ที่เปลี่ยนตลอดเวลา
    ดาวและเมฆก๊าซต่างเคลื่อนที่และส่งผลต่อกัน

    ระบบสุริยะจะออกจาก Local Interstellar Clouds ในอนาคตอันใกล้
    โลกอาจได้รับรังสีจักรวาลมากขึ้น

    https://www.sciencealert.com/close-brush-with-cosmic-dog-may-still-be-seen-at-solar-systems-edge
    ✨ ดาวฤกษ์สองดวงจากกลุ่มดาว Canis Major (สุนัขใหญ่) เคยเฉียดใกล้ระบบสุริยะของเราในระยะเพียง 32 ปีแสง นักดาราศาสตร์พบหลักฐานว่าเมื่อราว 4.5 ล้านปีก่อน ดาวฤกษ์สองดวงจากกลุ่มดาว Canis Major (สุนัขใหญ่) เคยเฉียดใกล้ระบบสุริยะของเราในระยะเพียง 32 ปีแสง และผลกระทบจากการผ่านครั้งนั้นยังคงเห็นได้ในปัจจุบัน ดาวฤกษ์ Epsilon Canis Majoris และ Beta Canis Majoris ซึ่งปัจจุบันอยู่ห่างออกไป 400–500 ปีแสง เคยเคลื่อนผ่านใกล้ระบบสุริยะเมื่อหลายล้านปีก่อน ตอนนั้นพวกมันสว่างกว่าดาวซิริอุส (ดาวที่สว่างที่สุดในท้องฟ้า) ถึง 4–6 เท่า ทำให้ท้องฟ้าในยุคนั้นสว่างไสวอย่างน่าทึ่ง 🔬 ผลกระทบต่อเมฆก๊าซรอบระบบสุริยะ การผ่านใกล้ของดาวฤกษ์ร้อนทั้งสองดวงได้ปล่อยพลังงานมหาศาล ทำให้ก๊าซไฮโดรเจนและฮีเลียมใน Local Interstellar Clouds รอบระบบสุริยะเกิดการแตกตัวเป็นไอออนในระดับสูง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เคยสงสัยว่าเกิดจากอะไร การค้นพบนี้จึงช่วยเติมเต็ม “จิ๊กซอว์” ของปริศนาการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจักรวาลใกล้โลก 🧩 การเคลื่อนที่ของดวงดาวและระบบสุริยะ นักวิจัยเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือน “จิ๊กซอว์ที่ทุกชิ้นเคลื่อนไหว” เพราะทั้งดวงอาทิตย์ ดาวฤกษ์ และเมฆก๊าซต่างเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ การจำลองแสดงให้เห็นว่าพลังงานจากดาว Canis Major มีส่วนสำคัญต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่ระบบสุริยะอาศัยอยู่ในปัจจุบัน 🚀 อนาคตของระบบสุริยะ นักวิทยาศาสตร์คาดว่าในอีกไม่ถึง 2,000 ปี ระบบสุริยะจะเคลื่อนออกจาก Local Interstellar Clouds ซึ่งอาจทำให้โลกได้รับรังสีจากสภาพแวดล้อมจักรวาลมากขึ้น การศึกษาครั้งนี้จึงไม่เพียงย้อนอดีต แต่ยังช่วยทำนายอนาคตของสภาพแวดล้อมที่โลกจะต้องเผชิญ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ดาวฤกษ์จากกลุ่ม Canis Major เคยเฉียดใกล้ระบบสุริยะ ➡️ ระยะใกล้ที่สุดเพียง 32 ปีแสงเมื่อ 4.5 ล้านปีก่อน ✅ ความสว่างมหาศาลในอดีต ➡️ สว่างกว่าดาวซิริอุส 4–6 เท่า ✅ พลังงานจากดาวฤกษ์ทำให้ก๊าซรอบระบบสุริยะเกิดการแตกตัวเป็นไอออน ➡️ อธิบายปริศนาการเปลี่ยนแปลงใน Local Interstellar Clouds ✅ การเคลื่อนที่ของดวงดาวคือจิ๊กซอว์ที่เปลี่ยนตลอดเวลา ➡️ ดาวและเมฆก๊าซต่างเคลื่อนที่และส่งผลต่อกัน ‼️ ระบบสุริยะจะออกจาก Local Interstellar Clouds ในอนาคตอันใกล้ ⛔ โลกอาจได้รับรังสีจักรวาลมากขึ้น https://www.sciencealert.com/close-brush-with-cosmic-dog-may-still-be-seen-at-solar-systems-edge
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Close Brush With 'Cosmic Dog' May Still Be Seen at Solar System's Edge
    About 4.5 million years ago, a great cosmic dog kicked past our Solar System – and its effects may still be seen today.
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • พบแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    นักบรรพชีวินวิทยาค้นพบแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ Carreras Pampa, Torotoro National Park ประเทศโบลิเวีย มีรอยเท้ามากกว่า 18,000 รอย ซึ่งบันทึกพฤติกรรมการเดิน วิ่ง และแม้แต่การว่ายน้ำของไดโนเสาร์เมื่อราว 70 ล้านปีก่อน

    การค้นพบครั้งประวัติศาสตร์
    นักวิจัยนับได้กว่า 16,600 รอยเท้าแบบสามนิ้ว กระจายอยู่ใน 1,321 เส้นทาง พร้อมกับรอยเท้าเดี่ยว 289 รอย และรอยว่ายน้ำ 1,378 รอยใน 280 เส้นทาง ทั้งหมดเป็นของ ไดโนเสาร์กลุ่มเทอโรพอด (Theropods) ซึ่งรวมถึงไดโนเสาร์กินเนื้อและบรรพบุรุษของนกในปัจจุบัน

    สภาพแวดล้อมที่ช่วยเก็บรักษา
    พื้นที่นี้เคยเป็นชายฝั่งทะเลสาบน้ำจืดตื้น ๆ ที่มีดินโคลนคาร์บอเนตอุดมสมบูรณ์ ทำให้รอยเท้าถูกกดลงไปลึกพอที่จะคงรูป ก่อนถูกตะกอนทับและกลายเป็นฟอสซิลในเวลาต่อมา สภาพแวดล้อมที่ “พอดี” นี้ทำให้รอยเท้าหลากหลายชนิดถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์

    พฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้
    นอกจากรอยเท้าเดินและวิ่งแล้ว ยังพบรอยลากหาง รอยเล็บ และรอยขูดพื้นจากการว่ายน้ำ ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนของไดโนเสาร์ในยุคนั้น ขนาดรอยเท้ามีตั้งแต่เล็กกว่า 10 ซม. ไปจนถึงใหญ่กว่า 30 ซม. บ่งบอกถึงการอยู่ร่วมกันของไดโนเสาร์หลายขนาดในพื้นที่เดียวกัน

    ความสำคัญต่อโลกวิทยาศาสตร์
    Carreras Pampa ได้รับการจัดว่าเป็น Lagerstätte หรือแหล่งฟอสซิลที่มีการเก็บรักษาอย่างพิเศษ เพราะไม่เพียงแต่มีจำนวนรอยเท้ามากที่สุด แต่ยังบันทึกพฤติกรรมที่หลากหลาย ทำให้เป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลสำคัญที่สุดในการศึกษาชีวิตและสิ่งแวดล้อมของไดโนเสาร์ช่วงปลายยุคครีเทเชียส

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์กว่า 18,000 รอย
    เป็นแหล่งรอยเท้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    ทั้งหมดเป็นของไดโนเสาร์กลุ่มเทอโรพอด
    รวมถึงไดโนเสาร์กินเนื้อและบรรพบุรุษของนก

    สภาพแวดล้อมทะเลสาบน้ำจืดช่วยเก็บรักษา
    ดินโคลนคาร์บอเนตทำให้รอยเท้าถูกคงรูปและกลายเป็นฟอสซิล

    บันทึกพฤติกรรมหลากหลาย
    เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ลากหาง และขูดพื้น

    Carreras Pampa จัดเป็น Lagerstätte สำคัญ
    มีทั้งจำนวนและคุณภาพการเก็บรักษาที่โดดเด่น

    การตีความพฤติกรรมยังมีข้อจำกัด
    ต้องใช้การศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่ารอยเท้าแต่ละแบบเกิดจากพฤติกรรมใดแน่ชัด

    ความเสี่ยงจากการเสื่อมสภาพของแหล่งฟอสซิล
    ต้องมีมาตรการอนุรักษ์เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

    https://www.sciencealert.com/18000-tracks-discovered-in-worlds-largest-dinosaur-tracksite
    🦕 พบแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักบรรพชีวินวิทยาค้นพบแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ Carreras Pampa, Torotoro National Park ประเทศโบลิเวีย มีรอยเท้ามากกว่า 18,000 รอย ซึ่งบันทึกพฤติกรรมการเดิน วิ่ง และแม้แต่การว่ายน้ำของไดโนเสาร์เมื่อราว 70 ล้านปีก่อน 🦖 การค้นพบครั้งประวัติศาสตร์ นักวิจัยนับได้กว่า 16,600 รอยเท้าแบบสามนิ้ว กระจายอยู่ใน 1,321 เส้นทาง พร้อมกับรอยเท้าเดี่ยว 289 รอย และรอยว่ายน้ำ 1,378 รอยใน 280 เส้นทาง ทั้งหมดเป็นของ ไดโนเสาร์กลุ่มเทอโรพอด (Theropods) ซึ่งรวมถึงไดโนเสาร์กินเนื้อและบรรพบุรุษของนกในปัจจุบัน 🌊 สภาพแวดล้อมที่ช่วยเก็บรักษา พื้นที่นี้เคยเป็นชายฝั่งทะเลสาบน้ำจืดตื้น ๆ ที่มีดินโคลนคาร์บอเนตอุดมสมบูรณ์ ทำให้รอยเท้าถูกกดลงไปลึกพอที่จะคงรูป ก่อนถูกตะกอนทับและกลายเป็นฟอสซิลในเวลาต่อมา สภาพแวดล้อมที่ “พอดี” นี้ทำให้รอยเท้าหลากหลายชนิดถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ 🧩 พฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้ นอกจากรอยเท้าเดินและวิ่งแล้ว ยังพบรอยลากหาง รอยเล็บ และรอยขูดพื้นจากการว่ายน้ำ ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนของไดโนเสาร์ในยุคนั้น ขนาดรอยเท้ามีตั้งแต่เล็กกว่า 10 ซม. ไปจนถึงใหญ่กว่า 30 ซม. บ่งบอกถึงการอยู่ร่วมกันของไดโนเสาร์หลายขนาดในพื้นที่เดียวกัน 🌍 ความสำคัญต่อโลกวิทยาศาสตร์ Carreras Pampa ได้รับการจัดว่าเป็น Lagerstätte หรือแหล่งฟอสซิลที่มีการเก็บรักษาอย่างพิเศษ เพราะไม่เพียงแต่มีจำนวนรอยเท้ามากที่สุด แต่ยังบันทึกพฤติกรรมที่หลากหลาย ทำให้เป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลสำคัญที่สุดในการศึกษาชีวิตและสิ่งแวดล้อมของไดโนเสาร์ช่วงปลายยุคครีเทเชียส 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์กว่า 18,000 รอย ➡️ เป็นแหล่งรอยเท้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ✅ ทั้งหมดเป็นของไดโนเสาร์กลุ่มเทอโรพอด ➡️ รวมถึงไดโนเสาร์กินเนื้อและบรรพบุรุษของนก ✅ สภาพแวดล้อมทะเลสาบน้ำจืดช่วยเก็บรักษา ➡️ ดินโคลนคาร์บอเนตทำให้รอยเท้าถูกคงรูปและกลายเป็นฟอสซิล ✅ บันทึกพฤติกรรมหลากหลาย ➡️ เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ลากหาง และขูดพื้น ✅ Carreras Pampa จัดเป็น Lagerstätte สำคัญ ➡️ มีทั้งจำนวนและคุณภาพการเก็บรักษาที่โดดเด่น ‼️ การตีความพฤติกรรมยังมีข้อจำกัด ⛔ ต้องใช้การศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่ารอยเท้าแต่ละแบบเกิดจากพฤติกรรมใดแน่ชัด ‼️ ความเสี่ยงจากการเสื่อมสภาพของแหล่งฟอสซิล ⛔ ต้องมีมาตรการอนุรักษ์เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ https://www.sciencealert.com/18000-tracks-discovered-in-worlds-largest-dinosaur-tracksite
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    18,000 Tracks Discovered in World's Largest Dinosaur Tracksite
    An expanse of ancient rock in the high-altitude Torotoro National Park in Bolivia has been revealed as the largest dinosaur tracksite ever recorded.
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • การเดินทางมนุษย์โบราณไปที่ดินแดน Sahul (ออสเตรเลีย-นิวกินี-แทสเมเนีย) เมื่อราว 60,000 ปีก่อน

    นักวิจัยวิเคราะห์ DNA มัยโตคอนเดรียกว่า 2,500 ตัวอย่าง จากชนพื้นเมืองในออสเตรเลีย นิวกินี โอเชียเนีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบหลักฐานชัดเจนว่า การเข้ามาของมนุษย์ใน Sahul ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเส้นทางเดียว แต่มีทั้งสายพันธุ์ที่เดินทางผ่าน เส้นทางใต้ (Southern Route) และ เส้นทางเหนือ (Northern Route)

    เส้นทางใต้และเหนือ
    เส้นทางใต้: ผ่านมาเลเซีย ชวา และติมอร์ เข้าสู่ Sahul ทางฝั่งเมืองดาร์วินในปัจจุบัน
    เส้นทางเหนือ: ผ่านฟิลิปปินส์และสุลาเวสี เข้าสู่ปาปัวนิวกินีและตอนเหนือของควีนส์แลนด์

    การวิเคราะห์พบว่า 64% ของสายพันธุ์แรกเริ่มมาจากเส้นทางใต้ และ 36% จากเส้นทางเหนือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลุ่มที่มาจากเส้นทางเหนือยังคงแพร่กระจายต่อไปถึงหมู่เกาะบิสมัคและโซโลมอน

    ความหมายต่อประวัติศาสตร์มนุษย์
    ผลการศึกษานี้สนับสนุนทฤษฎี “Long Chronology” ที่เชื่อว่ามนุษย์เข้ามาในออสเตรเลียตั้งแต่ราว 60,000 ปีก่อน ไม่ใช่ 45,000–50,000 ปีตามทฤษฎีเดิม การค้นพบยังสะท้อนถึงความสามารถในการเดินเรือและการปรับตัวของมนุษย์ยุคแรกที่น่าทึ่ง

    ก้าวต่อไป
    นักวิทยาศาสตร์ย้ำว่าการขาดแคลน DNA โบราณจากเอเชียใต้และ Sahul ยังเป็นข้อจำกัด หากได้ข้อมูลเพิ่มเติม จะช่วยยืนยันรายละเอียดของการอพยพและการผสมพันธุ์ระหว่างกลุ่มมนุษย์ในภูมิภาคนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    มนุษย์โบราณเข้าสู่ Sahul ราว 60,000 ปีก่อน
    สนับสนุนทฤษฎี Long Chronology

    มีสองเส้นทางหลักในการอพยพ
    เส้นทางใต้ผ่านชวา–ติมอร์
    เส้นทางเหนือผ่านฟิลิปปินส์–สุลาเวสี

    สัดส่วนการอพยพ
    64% จากเส้นทางใต้ และ 36% จากเส้นทางเหนือ

    เส้นทางเหนือแพร่กระจายต่อไปยังหมู่เกาะบิสมัคและโซโลมอน
    แสดงถึงการเดินเรือและการปรับตัวของมนุษย์ยุคแรก

    ยังขาดข้อมูล DNA โบราณจากบางภูมิภาค
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันรายละเอียดการอพยพ

    https://www.sciencealert.com/dna-analysis-reveals-two-routes-ancient-humans-used-to-reach-australia
    👣 การเดินทางมนุษย์โบราณไปที่ดินแดน Sahul (ออสเตรเลีย-นิวกินี-แทสเมเนีย) เมื่อราว 60,000 ปีก่อน นักวิจัยวิเคราะห์ DNA มัยโตคอนเดรียกว่า 2,500 ตัวอย่าง จากชนพื้นเมืองในออสเตรเลีย นิวกินี โอเชียเนีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบหลักฐานชัดเจนว่า การเข้ามาของมนุษย์ใน Sahul ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเส้นทางเดียว แต่มีทั้งสายพันธุ์ที่เดินทางผ่าน เส้นทางใต้ (Southern Route) และ เส้นทางเหนือ (Northern Route) 🌍 เส้นทางใต้และเหนือ 🧭 เส้นทางใต้: ผ่านมาเลเซีย ชวา และติมอร์ เข้าสู่ Sahul ทางฝั่งเมืองดาร์วินในปัจจุบัน 🧭 เส้นทางเหนือ: ผ่านฟิลิปปินส์และสุลาเวสี เข้าสู่ปาปัวนิวกินีและตอนเหนือของควีนส์แลนด์ การวิเคราะห์พบว่า 64% ของสายพันธุ์แรกเริ่มมาจากเส้นทางใต้ และ 36% จากเส้นทางเหนือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลุ่มที่มาจากเส้นทางเหนือยังคงแพร่กระจายต่อไปถึงหมู่เกาะบิสมัคและโซโลมอน 🔬 ความหมายต่อประวัติศาสตร์มนุษย์ ผลการศึกษานี้สนับสนุนทฤษฎี “Long Chronology” ที่เชื่อว่ามนุษย์เข้ามาในออสเตรเลียตั้งแต่ราว 60,000 ปีก่อน ไม่ใช่ 45,000–50,000 ปีตามทฤษฎีเดิม การค้นพบยังสะท้อนถึงความสามารถในการเดินเรือและการปรับตัวของมนุษย์ยุคแรกที่น่าทึ่ง 🚀 ก้าวต่อไป นักวิทยาศาสตร์ย้ำว่าการขาดแคลน DNA โบราณจากเอเชียใต้และ Sahul ยังเป็นข้อจำกัด หากได้ข้อมูลเพิ่มเติม จะช่วยยืนยันรายละเอียดของการอพยพและการผสมพันธุ์ระหว่างกลุ่มมนุษย์ในภูมิภาคนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ มนุษย์โบราณเข้าสู่ Sahul ราว 60,000 ปีก่อน ➡️ สนับสนุนทฤษฎี Long Chronology ✅ มีสองเส้นทางหลักในการอพยพ ➡️ เส้นทางใต้ผ่านชวา–ติมอร์ ➡️ เส้นทางเหนือผ่านฟิลิปปินส์–สุลาเวสี ✅ สัดส่วนการอพยพ ➡️ 64% จากเส้นทางใต้ และ 36% จากเส้นทางเหนือ ✅ เส้นทางเหนือแพร่กระจายต่อไปยังหมู่เกาะบิสมัคและโซโลมอน ➡️ แสดงถึงการเดินเรือและการปรับตัวของมนุษย์ยุคแรก ‼️ ยังขาดข้อมูล DNA โบราณจากบางภูมิภาค ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันรายละเอียดการอพยพ https://www.sciencealert.com/dna-analysis-reveals-two-routes-ancient-humans-used-to-reach-australia
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    DNA Analysis Reveals Two Routes Ancient Humans Used to Reach Australia
    The first humans arrived upon the landmass now known as Australia around 60,000 years ago along two distinct routes, according to a new genomics study.
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • “การเรืองแสงในสิ่งมีชีวิต (Bioluminescence)” เกิดขึ้นบนโลกตั้งแต่กว่า 500 ล้านปีก่อน

    นักวิทยาศาสตร์จาก Smithsonian Institution และ Nagoya University พบว่า Octocorallia ซึ่งเป็นปะการังโบราณในทะเลลึก มีความสามารถเรืองแสงตั้งแต่ราว 540 ล้านปีก่อน ถือเป็นการยืนยันว่าการเรืองแสงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เคยเชื่อไว้เดิม (267 ล้านปี) เกือบสองเท่า

    วิธีการศึกษา
    ทีมวิจัยใช้ข้อมูลพันธุกรรมจากกว่า 185 สายพันธุ์ของ Octocorallia และวิเคราะห์ด้วยวิธี ancestral state reconstruction เพื่อย้อนหาความน่าจะเป็นของการเรืองแสงในบรรพบุรุษ ผลลัพธ์ชี้ว่า บรรพบุรุษร่วมของ Octocorallia มีโอกาสสูงที่จะเรืองแสงได้ และการค้นพบนี้ยังสอดคล้องกับการมีสัตว์ทะเลที่มีดวงตาในยุคเดียวกัน ซึ่งสามารถตรวจจับแสงได้

    ความหมายต่อระบบนิเวศโบราณ
    การเรืองแสงอาจถูกใช้เพื่อดึงดูดเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่ามากินสัตว์ที่ทำร้ายปะการัง ซึ่งสะท้อนถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในทะเลลึกตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของโลก การศึกษานี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อวิวัฒนาการของการสื่อสารและการเอาตัวรอดในสิ่งมีชีวิตโบราณ

    คำถามที่ยังค้างคา
    แม้บรรพบุรุษของ Octocorallia จะเรืองแสง แต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่ยังคงคุณสมบัตินี้อยู่ นักวิทยาศาสตร์จึงตั้งคำถามว่า ทำไมสิ่งมีชีวิตจำนวนมากจึงสูญเสียความสามารถในการเรืองแสงไป และนี่คือเป้าหมายการวิจัยต่อไป

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเรืองแสงเกิดขึ้นกว่า 500 ล้านปีก่อน
    ต้นกำเนิดจากกลุ่มปะการัง Octocorallia ในยุคแคมเบรียน

    การวิเคราะห์พันธุกรรมยืนยันบรรพบุรุษเรืองแสงได้
    ใช้ข้อมูลจาก 185 สายพันธุ์และวิธี ancestral state reconstruction

    การเรืองแสงมีบทบาทต่อระบบนิเวศโบราณ
    อาจใช้ล่อเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่า

    การค้นพบช่วยขยายความเข้าใจวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต
    สะท้อนการสื่อสารและการเอาตัวรอดในทะเลลึกยุคแรก

    ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลายสายพันธุ์สูญเสียการเรืองแสง
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบ

    https://www.sciencealert.com/bioluminescence-on-earth-evolved-over-500-million-years-ago-study-finds
    💡 “การเรืองแสงในสิ่งมีชีวิต (Bioluminescence)” เกิดขึ้นบนโลกตั้งแต่กว่า 500 ล้านปีก่อน นักวิทยาศาสตร์จาก Smithsonian Institution และ Nagoya University พบว่า Octocorallia ซึ่งเป็นปะการังโบราณในทะเลลึก มีความสามารถเรืองแสงตั้งแต่ราว 540 ล้านปีก่อน ถือเป็นการยืนยันว่าการเรืองแสงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เคยเชื่อไว้เดิม (267 ล้านปี) เกือบสองเท่า 🔬 วิธีการศึกษา ทีมวิจัยใช้ข้อมูลพันธุกรรมจากกว่า 185 สายพันธุ์ของ Octocorallia และวิเคราะห์ด้วยวิธี ancestral state reconstruction เพื่อย้อนหาความน่าจะเป็นของการเรืองแสงในบรรพบุรุษ ผลลัพธ์ชี้ว่า บรรพบุรุษร่วมของ Octocorallia มีโอกาสสูงที่จะเรืองแสงได้ และการค้นพบนี้ยังสอดคล้องกับการมีสัตว์ทะเลที่มีดวงตาในยุคเดียวกัน ซึ่งสามารถตรวจจับแสงได้ 🐠 ความหมายต่อระบบนิเวศโบราณ การเรืองแสงอาจถูกใช้เพื่อดึงดูดเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่ามากินสัตว์ที่ทำร้ายปะการัง ซึ่งสะท้อนถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในทะเลลึกตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของโลก การศึกษานี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อวิวัฒนาการของการสื่อสารและการเอาตัวรอดในสิ่งมีชีวิตโบราณ 🚀 คำถามที่ยังค้างคา แม้บรรพบุรุษของ Octocorallia จะเรืองแสง แต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่ยังคงคุณสมบัตินี้อยู่ นักวิทยาศาสตร์จึงตั้งคำถามว่า ทำไมสิ่งมีชีวิตจำนวนมากจึงสูญเสียความสามารถในการเรืองแสงไป และนี่คือเป้าหมายการวิจัยต่อไป 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเรืองแสงเกิดขึ้นกว่า 500 ล้านปีก่อน ➡️ ต้นกำเนิดจากกลุ่มปะการัง Octocorallia ในยุคแคมเบรียน ✅ การวิเคราะห์พันธุกรรมยืนยันบรรพบุรุษเรืองแสงได้ ➡️ ใช้ข้อมูลจาก 185 สายพันธุ์และวิธี ancestral state reconstruction ✅ การเรืองแสงมีบทบาทต่อระบบนิเวศโบราณ ➡️ อาจใช้ล่อเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่า ✅ การค้นพบช่วยขยายความเข้าใจวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต ➡️ สะท้อนการสื่อสารและการเอาตัวรอดในทะเลลึกยุคแรก ‼️ ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลายสายพันธุ์สูญเสียการเรืองแสง ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบ https://www.sciencealert.com/bioluminescence-on-earth-evolved-over-500-million-years-ago-study-finds
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Bioluminescence on Earth Evolved Over 500 Million Years Ago, Study Finds
    In the darkest corners of the planet, where the light of the Sun never touches, eerie glows can yet be found, illuminating the shadows.
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251204 #TechRadar

    Google Antigravity AI ลบข้อมูลนักพัฒนาแล้วขอโทษ
    เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อระบบ AI ของ Google ที่ชื่อว่า Antigravity ลบข้อมูลใน Google Drive ของนักพัฒนารายหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นระบบได้ส่งข้อความขอโทษกลับมาเอง เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามใหญ่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หลายฝ่ายกังวลว่าหาก AI สามารถทำผิดพลาดในระดับนี้ อาจสร้างผลกระทบต่อธุรกิจและบุคคลทั่วไปได้อย่างรุนแรง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/googles-antigravity-ai-deleted-a-developers-drive-and-then-apologized

    ความพยายามของทรัมป์ในการผลักดันกฎหมาย AI ระดับชาติสะดุด
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในสภาอเมริกา เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์พยายามผลักดันให้กฎหมายควบคุม AI ถูกกำหนดในระดับรัฐบาลกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการมี “กฎหมาย 50 แบบ” จากแต่ละรัฐ เขาเชื่อว่าการรวมศูนย์จะช่วยให้สหรัฐฯ แข่งขันกับจีนได้ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติหลายคน โดยเฉพาะรีพับลิกันเอง กลับไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ารัฐมีความคล่องตัวในการออกกฎหมายที่ตอบโจทย์สถานการณ์ได้เร็วกว่า อีกทั้งยังมีเสียงวิจารณ์ว่าการผลักดันนี้คือการเข้าข้างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี สุดท้ายข้อเสนอนี้ถูกโหวตคว่ำอย่างท่วมท้น และทำให้ทรัมป์ถูกโจมตีว่า “ยืนอยู่ข้าง Big Tech”
    https://www.techradar.com/pro/trumps-push-to-overrule-ai-regulation-falters-as-republicans-split

    AWS เปิดตัว Nova Forge ให้ธุรกิจสร้างโมเดล AI ของตัวเอง
    Amazon Web Services เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ Nova Forge ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล AI ได้ตามต้องการ โดยเริ่มจากโมเดลพื้นฐานของ Amazon แล้วนำข้อมูลของบริษัทมาผสมเพื่อสร้างโมเดลเฉพาะกิจที่เรียกว่า “Novellas” จุดเด่นคือช่วยลดต้นทุนและเวลาในการฝึกโมเดลใหม่จากศูนย์ ซึ่งปกติอาจใช้เงินมหาศาลและทีมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Nova 2 ที่มาพร้อมโมเดลพื้นฐานใหม่หลายตัว รวมถึงความสามารถด้านการสนทนาแบบเสียงต่อเสียงที่ใกล้เคียงมนุษย์ ถือเป็นการขยายศักยภาพของ AWS ในตลาด AI อย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/aws-nova-forge-could-be-your-companys-cue-to-start-building-custom-ai-models

    แฮกเกอร์เกาหลีเหนือถูกจับตาแบบสด ๆ ระหว่างปฏิบัติการ
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยสามารถหลอกกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือให้ใช้เครื่องที่พวกเขาคิดว่าเป็น “แล็ปท็อปจริง” แต่แท้จริงคือ sandbox ที่ควบคุมจากระยะไกล ทำให้สามารถเห็นการทำงานของแฮกเกอร์แบบสด ๆ แผนการนี้เกี่ยวข้องกับการสร้าง “คนงานปลอม” เพื่อสมัครงานในบริษัทใหญ่ แล้วใช้ตำแหน่งนั้นทำกิจกรรมโจมตีไซเบอร์ นักวิจัยพบว่าแฮกเกอร์ใช้เครื่องมืออย่าง OTP generator, AI automation และ Google Remote Desktop เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบสองชั้น เหตุการณ์นี้ช่วยเปิดเผยวิธีการทำงานของกลุ่ม Lazarus และเป็นข้อมูลสำคัญในการป้องกันภัยไซเบอร์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-worker-scheme-caught-live-on-camera

    รีวิว Lenovo ThinkBook Plus Gen 6 Rollable โน้ตบุ๊คจอขยายได้
    Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊คที่เรียกว่า “Rollable” รุ่นแรกของโลก ThinkBook Plus Gen 6 ที่สามารถขยายหน้าจอจาก 14 นิ้วเป็น 16 นิ้วได้เพียงกดปุ่มเดียว ทำให้การทำงานนอกสถานที่สะดวกขึ้นมาก ตัวเครื่องมาพร้อมสเปกแรง เช่น Intel Core Ultra 7, RAM 32GB และ SSD 1TB จุดเด่นคือจอ OLED ที่ขยายได้อย่างลื่นไหลและใช้งานจริงได้ ไม่ใช่แค่ลูกเล่น ผู้รีวิวเล่าว่าทุกครั้งที่กางจอออก คนรอบข้างมักตื่นตาตื่นใจ ถือเป็นการเปลี่ยนมุมมองใหม่ต่อโน้ตบุ๊คสำหรับธุรกิจและการทำงานแบบพกพา
    https://www.techradar.com/pro/lenovo-thinkbook-plus-gen-6-rollable-business-laptop-review

    หลุดข้อมูล Xeon 6 เวิร์กสเตชันใหม่ของ Intel
    มีการพบเมนบอร์ด ADLINK ISB-W890 ที่เผยให้เห็นแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel สำหรับเวิร์กสเตชัน Granite Rapids-WS จุดเด่นคือรองรับหน่วยความจำ ECC DDR5 ได้สูงสุดถึง 1TB และมีช่อง PCIe มากมายสำหรับงานประมวลผลหนัก ๆ รวมถึงการ์ดกราฟิกหลายตัว ซีพียู Xeon รุ่นใหม่คาดว่าจะมีสูงสุดถึง 86 คอร์ พร้อมความเร็วสูงถึง 4.8GHz ซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ AMD ThreadRipper รุ่นท็อป การรั่วไหลนี้ทำให้เห็นว่า Intel กำลังกลับมาท้าทายตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูงอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/pro/is-this-our-first-look-at-intels-xeon-6-workstation-hardware-leak-claims-to-show-w890-platform-ahead-of-granite-rapids-launch

    Qualcomm สู้กลับด้วย Snapdragon 8 Gen 5
    เรื่องนี้เริ่มจาก OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ OnePlus 15R ที่จะใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 5 เป็นครั้งแรก จุดที่น่าสนใจคือ Qualcomm เลือกใช้กลยุทธ์ “สองรุ่นเรือธง” คล้ายกับที่ Apple ทำกับชิป A-series โดยแบ่งเป็นรุ่น Elite และรุ่นปกติ เพื่อให้มือถือราคาย่อมเยาได้สัมผัสพลังระดับเรือธงเช่นกัน ผู้บริหาร OnePlus อธิบายว่า Apple เป็นแรงบันดาลใจ เพราะการแยกชิป Pro และชิปธรรมดาใน iPhone ทำให้ตลาดแตกต่างชัดเจน Qualcomm จึงต้องเดินตามแนวทางนี้เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ และผลลัพธ์คือผู้ใช้จะได้มือถือที่แรงขึ้นแม้ไม่ใช่รุ่นแพงสุด
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/qualcomm-knows-it-has-to-fight-back-oneplus-exec-explains-why-apple-is-partially-responsible-for-the-new-snapdragon-8-gen-5-chipset

    รื้อความเข้าใจผิดเรื่อง Passwordless Authentication
    หลายคนยังเชื่อว่าการเข้าสู่ระบบแบบไม่ใช้รหัสผ่านนั้นไม่ปลอดภัย แต่บทความนี้อธิบายชัดว่ามันคือการยกระดับความปลอดภัย เพราะใช้สิ่งที่คุณ “เป็น” เช่น ลายนิ้วมือหรือใบหน้า ร่วมกับ PIN ที่ทำงานเฉพาะบนอุปกรณ์ ไม่ถูกส่งออกไปเหมือนรหัสผ่านทั่วไป จึงยากต่อการโจมตี อีกทั้งยังช่วยลดภาระของทีม IT ที่ต้องคอยแก้ปัญหาการรีเซ็ตรหัสผ่านซ้ำๆ เทคโนโลยีนี้จึงเป็นก้าวสำคัญสู่ยุค Zero-Trust ที่องค์กรกำลังมุ่งไป
    https://www.techradar.com/pro/passwordless-authentication-isnt-the-problem-the-myths-around-the-technology-are

    โฆษณา Windows 11 “PC ที่พูดคุยได้” สร้างเสียงแตก
    Microsoft ปล่อยโฆษณาใหม่ช่วงเทศกาลที่โชว์ฟีเจอร์ “Hey Copilot” ให้ผู้ใช้พูดคุยกับคอมพิวเตอร์ได้เหมือนผู้ช่วยส่วนตัว โฆษณามีฉากสนุกๆ เช่นการให้ Copilot ซิงค์ไฟคริสต์มาสกับเพลง แต่ปัญหาคือฟีเจอร์จริงยังทำไม่ได้ ทำให้ผู้ชมบางส่วนมองว่า Microsoft กำลังสร้างความคาดหวังเกินจริง หลายคอมเมนต์ประชดประชัน เช่น “Hey Copilot – ช่วยติดตั้ง Linux ให้หน่อย” สะท้อนว่าผู้ใช้บางกลุ่มรู้สึกถูกยัดเยียด AI มากเกินไป
    https://www.techradar.com/computing/windows/new-windows-11-pc-you-can-talk-to-ad-pushing-copilot-is-proving-divisive-and-i-can-see-it-seriously-backfiring

    ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในยุค AI
    AI กำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ปัญหาคือข้อมูลที่ใช้ฝึก AI มักเป็นข้อมูลลับและอ่อนไหว หากบริษัทไม่โปร่งใสในการจัดการข้อมูล ลูกค้าอาจหมดความเชื่อใจ ตัวอย่างเช่น OpenAI เคยถูกปรับเพราะใช้ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ชัดเจน ทำให้เกิดคำถามใหญ่: ผู้ให้บริการ AI จะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร? คำตอบคือการเปิดเผยที่มาของข้อมูลและสถานที่จัดเก็บอย่างชัดเจน พร้อมเสริมระบบความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและ MFA เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าข้อมูลของพวกเขาปลอดภัยจริง
    https://www.techradar.com/pro/the-search-for-transparency-and-reliability-in-the-ai-era

    Nvidia กับดีล 100 พันล้านดอลลาร์ที่ยังไม่เสร็จ
    แม้จะมีข่าวใหญ่เรื่อง Nvidia จับมือ OpenAI ทำโครงการโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ แต่ความจริงคือดีลนี้ยังไม่ถูกลงนามอย่างเป็นทางการ CFO ของ Nvidia ยอมรับว่าทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอน “จดหมายแสดงเจตนา” เท่านั้น ความเสี่ยงคือการลงทุนระยะยาวอาจเจอปัญหาสินค้าล้นสต็อกหรือการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เร็วเกินไป นักลงทุนบางส่วนจึงกังวลว่าอาจเกิด “ฟองสบู่ AI” ที่พร้อมแตกได้ทุกเมื่อ ถึงแม้หุ้น Nvidia จะยังขึ้น แต่คำถามเรื่องความยั่งยืนยังคงอยู่
    https://www.techradar.com/pro/nvidia-admits-the-usd100bn-biggest-ai-infrastructure-project-in-history-openai-deal-still-isnt-finalized

    Character.ai ปรับกลยุทธ์ใหม่สำหรับวัยรุ่น
    แพลตฟอร์ม AI ชื่อดัง Character.ai เริ่มเปลี่ยนแนวทางการให้บริการ โดยลดการสนทนาแบบเปิดกว้างสำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แล้วเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Stories” เพื่อดึงดูดวัยรุ่นให้ยังคงสนใจอยู่ จุดประสงค์คือสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น และยังคงให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ควบคุมได้มากกว่า การปรับนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังหาทางบาลานซ์ระหว่างความสร้างสรรค์และความรับผิดชอบต่อผู้ใช้เยาวชน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/character-ai-launches-stories-to-keep-teens-engaged-as-it-scales-back-open-ended-chat-for-under-18s

    กลุ่มแฮ็กเกอร์อิหร่านใช้เกม Snake เป็นอาวุธ
    มีรายงานว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จากอิหร่านได้สร้างเกม Snake ปลอมขึ้นมาเพื่อโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอียิปต์และอิสราเอล เกมนี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนเกมธรรมดา แต่จริงๆ แล้วแฝงมัลแวร์ที่สามารถเจาะระบบได้ การใช้วิธีที่ดู “ไร้เดียงสา” เช่นเกมยอดนิยม เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนว่าภัยคุกคามไซเบอร์กำลังซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/security/iranian-hacker-group-deploys-malicious-snake-game-to-target-egyptian-and-israeli-critical-infrastructure

    รีวิว MSI Cubi NUC AI+ 2MG Mini PC
    บทความนี้รีวิวเครื่อง Mini PC รุ่นใหม่จาก MSI ที่ชื่อ Cubi NUC AI+ 2MG จุดเด่นคือขนาดเล็กแต่ทรงพลัง เหมาะสำหรับงานสำนักงานหรือผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่กินพื้นที่มาก ตัวเครื่องมาพร้อมการรองรับ AI workload และการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ PC ขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงความแรงไว้ครบ
    https://www.techradar.com/pro/msi-cubi-nuc-ai-2mg-mini-pc-review

    ExpressVPN อัปเดตใหม่ เร็วขึ้นและปรับโฉมบน Mac
    ExpressVPN ปล่อยอัปเดตล่าสุดที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ และปรับปรุงแอปบน Mac ให้ใช้งานง่ายขึ้น ดีไซน์ใหม่ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงฟีเจอร์หลักได้สะดวกกว่าเดิม พร้อมทั้งเสริมความปลอดภัยและเสถียรภาพของการเชื่อมต่อ ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งาน VPN ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้ระดับมืออาชีพ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/expressvpns-latest-update-boosts-connection-speeds-and-revamps-its-mac-app

    กฎหมาย Chat Control สร้างเสียงวิจารณ์ในวงการ Privacy Tech
    กฎหมายใหม่ที่ชื่อ Chat Control กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว หลายคนมองว่ามันคือ “หายนะที่รอเกิดขึ้น” เพราะเปิดช่องให้มีการสอดส่องการสื่อสารส่วนตัวของผู้ใช้ แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันจะกระทบสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และอาจทำให้ความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีด้านความเป็นส่วนตัวพังทลาย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/a-disaster-waiting-to-happen-the-privacy-tech-world-reacts-to-the-new-chat-control-bill

    Devolo WiFi 6 Router 3600 5G Review
    เรื่องนี้เล่าได้ว่าเป็นประสบการณ์ตรงของผู้ทดสอบที่ได้ลองใช้เราเตอร์ Devolo WiFi 6 รุ่น 3600 ที่รองรับซิมการ์ด 5G LTE ตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมาก เพียงใส่ซิม เปิดไฟ และกดปุ่ม WPS ก็เชื่อมต่อได้ทันที จุดเด่นคือสามารถรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า 100 เครื่องพร้อมกัน เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตบ้าน เช่นออฟฟิศใหม่หรือการทำงานนอกสถานที่ ความเร็วขึ้นอยู่กับสัญญาณเครือข่าย แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มี 5G แรง ๆ ก็เร็วและเสถียรกว่าการแชร์ฮอตสปอตจากมือถือมาก แม้ราคาจะสูงเกือบ £399 แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในสถานการณ์ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้
    https://www.techradar.com/computing/devolo-wifi-6-router-3600-5g-lte-review

    OnePlus 15 เตรียมเปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมของแถมพิเศษ
    OnePlus 15 ที่หลายคนรอคอยกำลังจะเปิดให้พรีออเดอร์ในสหรัฐฯ วันที่ 4 ธันวาคมนี้ หลังจากเลื่อนเปิดตัวเพราะติดปัญหาการรับรองจาก FCC ราคาจะเริ่มต้นที่ $899.99 สำหรับรุ่น RAM 12GB และ $999.99 สำหรับรุ่น RAM 16GB พร้อมของแถมให้เลือก เช่นนาฬิกา OnePlus Watch 3 มูลค่า $300 หรือหูฟัง Buds Pro 3 จุดเด่นของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,300mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานมาก รวมถึงกล้องและซอฟต์แวร์ที่ได้รับคำชมจนได้คะแนนรีวิวเต็ม 5 ดาว ถือเป็นการกลับมาที่น่าตื่นเต้นของ OnePlus ในตลาดสหรัฐฯ
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-oneplus-15-is-finally-heading-to-the-us-and-you-can-grab-a-major-pre-order-bonus

    รัสเซียเตรียมแบน WhatsApp ภายใต้ “ม่านเหล็กดิจิทัล”
    รัฐบาลรัสเซียโดยหน่วยงาน Roskomnadzor ขู่จะบล็อก WhatsApp แบบเต็มรูปแบบ โดยกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้เพื่อกิจกรรมก่อการร้าย และไม่ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น ปัจจุบันมีผู้ใช้ WhatsApp ในรัสเซียกว่า 97 ล้านคน หากถูกบล็อกจริงจะกระทบการสื่อสารอย่างรุนแรง โดยก่อนหน้านี้ Signal ก็ถูกบล็อกไปแล้ว ทำให้ผู้ใช้ถูกบังคับไปใช้แอปที่รัฐควบคุมอย่าง MAX ซึ่งมีความเสี่ยงด้านการสอดส่องสูง WhatsApp ยืนยันว่าจะยังคงให้บริการการสื่อสารแบบเข้ารหัสเพื่อปกป้องสิทธิผู้ใช้ แม้จะถูกกดดันจากรัฐบาล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russias-digital-iron-curtain-whatsapp-next-on-the-chopping-block

    Amazon ทดลอง “AI Factories” ติดตั้งในองค์กรลูกค้า
    Amazon Web Services เปิดตัวแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “AI Factories” คือการนำฮาร์ดแวร์และระบบ AI ไปติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เพื่อรองรับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและอธิปไตยข้อมูล ลูกค้าไม่ต้องลงทุนสร้างระบบเอง แต่ AWS จะจัดการทุกอย่างให้ โดยใช้ชิป Nvidia Blackwell และ Trainium3 ของ Amazon จุดนี้ถือเป็นการกลับไปสู่แนวทาง on-premises อีกครั้ง หลังยุคที่ทุกอย่างย้ายขึ้นคลาวด์ เหมาะกับองค์กรหรือรัฐบาลที่ต้องการใช้ AI แต่ไม่สามารถส่งข้อมูลออกนอกพื้นที่ได้
    https://www.techradar.com/pro/amazon-is-testing-out-private-on-premises-ai-factories

    Windows 11 มีบั๊กใหม่ใน Dark Mode ของ File Explorer
    Microsoft ปล่อยอัปเดตตัวล่าสุด KB5070311 ที่ตั้งใจจะปรับปรุง Dark Mode ให้สมบูรณ์ขึ้น แต่กลับทำให้เกิดบั๊กที่สร้างความรำคาญ เมื่อผู้ใช้เปิดโฟลเดอร์หรือแท็บใหม่ใน File Explorer จะมีแฟลชสีขาววาบขึ้นมา ซึ่งยิ่งรบกวนสายตาในสภาพแสงน้อย Microsoft ยอมรับปัญหาและกำลังแก้ไขก่อนที่จะปล่อยอัปเดตเต็มในสัปดาห์หน้า แม้จะเป็นเพียงเวอร์ชันทดลอง แต่หากไม่แก้ทันก็อาจกระทบผู้ใช้จำนวนมากที่รออัปเดต
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-just-broke-file-explorer-dark-mode-some-windows-11-users-are-seeing-jarring-white-flashes-when-opening-folders

    Zettlab D6 NAS Review
    นี่เป็นรีวิวของ Zettlab D6 NAS อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความปลอดภัยสูง จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูง มีพอร์ตหลากหลาย และระบบจัดการที่ใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและผู้ใช้ที่ต้องการเก็บไฟล์จำนวนมากในบ้าน แม้ราคาจะสูง แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความสามารถในการปกป้องและแชร์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/computing/zettlab-d6-nas-device-review

    ทดสอบ ChatGPT, Gemini และ Claude ในโลกมัลติโหมด
    บทความนี้เล่าถึงการทดสอบ AI รุ่นใหม่ ๆ ที่สามารถทำงานแบบมัลติโหมดได้ เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude โดยเปรียบเทียบความสามารถในการเข้าใจข้อความ ภาพ และเสียง จุดที่น่าสนใจคือแต่ละระบบมีจุดแข็งต่างกัน เช่น ChatGPT เด่นด้านการสนทนาเชิงลึก Gemini เน้นการเชื่อมโยงข้อมูลหลายรูปแบบ ส่วน Claude มีความแม่นยำในการตีความบริบท การทดสอบนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังพัฒนาไปสู่การใช้งานที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/testing-chatgpt-gemini-and-claude-in-the-multimodal-maze

    ยุคโฆษณาใน ChatGPT เริ่มต้นแล้ว
    ผู้ใช้ ChatGPT โดยเฉพาะกลุ่ม Pro ที่จ่ายถึง $200 ต่อเดือน กำลังไม่พอใจอย่างหนัก เพราะ OpenAI เริ่มแสดงโฆษณาและแนะนำแอปในระบบ แม้จะเป็นผู้ใช้แบบเสียเงินก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการหาทางสร้างรายได้ใหม่ของบริษัท แต่ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการลดคุณภาพประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ยอมจ่ายแพงเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/the-era-of-ads-in-chatgpt-begins-users-furious-as-even-usd200-a-month-pro-subscribers-hit-with-app-suggestions

    ออสเตรเลียสั่งห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ VPN เพื่อเลี่ยงกฎหมายโซเชียล
    รัฐบาลออสเตรเลียออกมาตรการใหม่ บังคับให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการแบนโซเชียลมีเดีย กฎหมายนี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและสร้างภาระให้กับบริษัทเทคโนโลยี แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/australia-expects-platforms-to-stop-under-16s-from-using-vpns-to-evade-social-media-ban

    กว่า 2 ใน 3 ของร้านค้าปลีกใช้ AI Agent เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว
    รายงานล่าสุดเผยว่ามากกว่า 67% ของผู้ค้าปลีกได้เริ่มนำ AI Agent มาใช้ในการทำงาน เช่น การตอบลูกค้า การจัดการสต็อก และการวิเคราะห์ข้อมูล จุดนี้สะท้อนว่าการใช้ AI ไม่ใช่แค่แนวโน้ม แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของธุรกิจค้าปลีกที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำในการแข่งขัน
    https://www.techradar.com/pro/over-two-thirds-of-retailers-have-already-partially-deployed-ai-agents-for-efficiency



    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251204 #TechRadar 🤖 Google Antigravity AI ลบข้อมูลนักพัฒนาแล้วขอโทษ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อระบบ AI ของ Google ที่ชื่อว่า Antigravity ลบข้อมูลใน Google Drive ของนักพัฒนารายหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นระบบได้ส่งข้อความขอโทษกลับมาเอง เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามใหญ่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หลายฝ่ายกังวลว่าหาก AI สามารถทำผิดพลาดในระดับนี้ อาจสร้างผลกระทบต่อธุรกิจและบุคคลทั่วไปได้อย่างรุนแรง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/googles-antigravity-ai-deleted-a-developers-drive-and-then-apologized 🏛️ ความพยายามของทรัมป์ในการผลักดันกฎหมาย AI ระดับชาติสะดุด เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในสภาอเมริกา เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์พยายามผลักดันให้กฎหมายควบคุม AI ถูกกำหนดในระดับรัฐบาลกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการมี “กฎหมาย 50 แบบ” จากแต่ละรัฐ เขาเชื่อว่าการรวมศูนย์จะช่วยให้สหรัฐฯ แข่งขันกับจีนได้ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติหลายคน โดยเฉพาะรีพับลิกันเอง กลับไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ารัฐมีความคล่องตัวในการออกกฎหมายที่ตอบโจทย์สถานการณ์ได้เร็วกว่า อีกทั้งยังมีเสียงวิจารณ์ว่าการผลักดันนี้คือการเข้าข้างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี สุดท้ายข้อเสนอนี้ถูกโหวตคว่ำอย่างท่วมท้น และทำให้ทรัมป์ถูกโจมตีว่า “ยืนอยู่ข้าง Big Tech” 🔗 https://www.techradar.com/pro/trumps-push-to-overrule-ai-regulation-falters-as-republicans-split ☁️ AWS เปิดตัว Nova Forge ให้ธุรกิจสร้างโมเดล AI ของตัวเอง Amazon Web Services เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ Nova Forge ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล AI ได้ตามต้องการ โดยเริ่มจากโมเดลพื้นฐานของ Amazon แล้วนำข้อมูลของบริษัทมาผสมเพื่อสร้างโมเดลเฉพาะกิจที่เรียกว่า “Novellas” จุดเด่นคือช่วยลดต้นทุนและเวลาในการฝึกโมเดลใหม่จากศูนย์ ซึ่งปกติอาจใช้เงินมหาศาลและทีมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Nova 2 ที่มาพร้อมโมเดลพื้นฐานใหม่หลายตัว รวมถึงความสามารถด้านการสนทนาแบบเสียงต่อเสียงที่ใกล้เคียงมนุษย์ ถือเป็นการขยายศักยภาพของ AWS ในตลาด AI อย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-nova-forge-could-be-your-companys-cue-to-start-building-custom-ai-models 🕵️ แฮกเกอร์เกาหลีเหนือถูกจับตาแบบสด ๆ ระหว่างปฏิบัติการ นักวิจัยด้านความปลอดภัยสามารถหลอกกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือให้ใช้เครื่องที่พวกเขาคิดว่าเป็น “แล็ปท็อปจริง” แต่แท้จริงคือ sandbox ที่ควบคุมจากระยะไกล ทำให้สามารถเห็นการทำงานของแฮกเกอร์แบบสด ๆ แผนการนี้เกี่ยวข้องกับการสร้าง “คนงานปลอม” เพื่อสมัครงานในบริษัทใหญ่ แล้วใช้ตำแหน่งนั้นทำกิจกรรมโจมตีไซเบอร์ นักวิจัยพบว่าแฮกเกอร์ใช้เครื่องมืออย่าง OTP generator, AI automation และ Google Remote Desktop เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบสองชั้น เหตุการณ์นี้ช่วยเปิดเผยวิธีการทำงานของกลุ่ม Lazarus และเป็นข้อมูลสำคัญในการป้องกันภัยไซเบอร์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-worker-scheme-caught-live-on-camera 💻 รีวิว Lenovo ThinkBook Plus Gen 6 Rollable โน้ตบุ๊คจอขยายได้ Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊คที่เรียกว่า “Rollable” รุ่นแรกของโลก ThinkBook Plus Gen 6 ที่สามารถขยายหน้าจอจาก 14 นิ้วเป็น 16 นิ้วได้เพียงกดปุ่มเดียว ทำให้การทำงานนอกสถานที่สะดวกขึ้นมาก ตัวเครื่องมาพร้อมสเปกแรง เช่น Intel Core Ultra 7, RAM 32GB และ SSD 1TB จุดเด่นคือจอ OLED ที่ขยายได้อย่างลื่นไหลและใช้งานจริงได้ ไม่ใช่แค่ลูกเล่น ผู้รีวิวเล่าว่าทุกครั้งที่กางจอออก คนรอบข้างมักตื่นตาตื่นใจ ถือเป็นการเปลี่ยนมุมมองใหม่ต่อโน้ตบุ๊คสำหรับธุรกิจและการทำงานแบบพกพา 🔗 https://www.techradar.com/pro/lenovo-thinkbook-plus-gen-6-rollable-business-laptop-review ⚙️ หลุดข้อมูล Xeon 6 เวิร์กสเตชันใหม่ของ Intel มีการพบเมนบอร์ด ADLINK ISB-W890 ที่เผยให้เห็นแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel สำหรับเวิร์กสเตชัน Granite Rapids-WS จุดเด่นคือรองรับหน่วยความจำ ECC DDR5 ได้สูงสุดถึง 1TB และมีช่อง PCIe มากมายสำหรับงานประมวลผลหนัก ๆ รวมถึงการ์ดกราฟิกหลายตัว ซีพียู Xeon รุ่นใหม่คาดว่าจะมีสูงสุดถึง 86 คอร์ พร้อมความเร็วสูงถึง 4.8GHz ซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ AMD ThreadRipper รุ่นท็อป การรั่วไหลนี้ทำให้เห็นว่า Intel กำลังกลับมาท้าทายตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูงอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-this-our-first-look-at-intels-xeon-6-workstation-hardware-leak-claims-to-show-w890-platform-ahead-of-granite-rapids-launch 📱 Qualcomm สู้กลับด้วย Snapdragon 8 Gen 5 เรื่องนี้เริ่มจาก OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ OnePlus 15R ที่จะใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 5 เป็นครั้งแรก จุดที่น่าสนใจคือ Qualcomm เลือกใช้กลยุทธ์ “สองรุ่นเรือธง” คล้ายกับที่ Apple ทำกับชิป A-series โดยแบ่งเป็นรุ่น Elite และรุ่นปกติ เพื่อให้มือถือราคาย่อมเยาได้สัมผัสพลังระดับเรือธงเช่นกัน ผู้บริหาร OnePlus อธิบายว่า Apple เป็นแรงบันดาลใจ เพราะการแยกชิป Pro และชิปธรรมดาใน iPhone ทำให้ตลาดแตกต่างชัดเจน Qualcomm จึงต้องเดินตามแนวทางนี้เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ และผลลัพธ์คือผู้ใช้จะได้มือถือที่แรงขึ้นแม้ไม่ใช่รุ่นแพงสุด 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/qualcomm-knows-it-has-to-fight-back-oneplus-exec-explains-why-apple-is-partially-responsible-for-the-new-snapdragon-8-gen-5-chipset 🔐 รื้อความเข้าใจผิดเรื่อง Passwordless Authentication หลายคนยังเชื่อว่าการเข้าสู่ระบบแบบไม่ใช้รหัสผ่านนั้นไม่ปลอดภัย แต่บทความนี้อธิบายชัดว่ามันคือการยกระดับความปลอดภัย เพราะใช้สิ่งที่คุณ “เป็น” เช่น ลายนิ้วมือหรือใบหน้า ร่วมกับ PIN ที่ทำงานเฉพาะบนอุปกรณ์ ไม่ถูกส่งออกไปเหมือนรหัสผ่านทั่วไป จึงยากต่อการโจมตี อีกทั้งยังช่วยลดภาระของทีม IT ที่ต้องคอยแก้ปัญหาการรีเซ็ตรหัสผ่านซ้ำๆ เทคโนโลยีนี้จึงเป็นก้าวสำคัญสู่ยุค Zero-Trust ที่องค์กรกำลังมุ่งไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/passwordless-authentication-isnt-the-problem-the-myths-around-the-technology-are 🎄 โฆษณา Windows 11 “PC ที่พูดคุยได้” สร้างเสียงแตก Microsoft ปล่อยโฆษณาใหม่ช่วงเทศกาลที่โชว์ฟีเจอร์ “Hey Copilot” ให้ผู้ใช้พูดคุยกับคอมพิวเตอร์ได้เหมือนผู้ช่วยส่วนตัว โฆษณามีฉากสนุกๆ เช่นการให้ Copilot ซิงค์ไฟคริสต์มาสกับเพลง แต่ปัญหาคือฟีเจอร์จริงยังทำไม่ได้ ทำให้ผู้ชมบางส่วนมองว่า Microsoft กำลังสร้างความคาดหวังเกินจริง หลายคอมเมนต์ประชดประชัน เช่น “Hey Copilot – ช่วยติดตั้ง Linux ให้หน่อย” สะท้อนว่าผู้ใช้บางกลุ่มรู้สึกถูกยัดเยียด AI มากเกินไป 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/new-windows-11-pc-you-can-talk-to-ad-pushing-copilot-is-proving-divisive-and-i-can-see-it-seriously-backfiring 🤖 ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในยุค AI AI กำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ปัญหาคือข้อมูลที่ใช้ฝึก AI มักเป็นข้อมูลลับและอ่อนไหว หากบริษัทไม่โปร่งใสในการจัดการข้อมูล ลูกค้าอาจหมดความเชื่อใจ ตัวอย่างเช่น OpenAI เคยถูกปรับเพราะใช้ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ชัดเจน ทำให้เกิดคำถามใหญ่: ผู้ให้บริการ AI จะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร? คำตอบคือการเปิดเผยที่มาของข้อมูลและสถานที่จัดเก็บอย่างชัดเจน พร้อมเสริมระบบความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและ MFA เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าข้อมูลของพวกเขาปลอดภัยจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-search-for-transparency-and-reliability-in-the-ai-era 💰 Nvidia กับดีล 100 พันล้านดอลลาร์ที่ยังไม่เสร็จ แม้จะมีข่าวใหญ่เรื่อง Nvidia จับมือ OpenAI ทำโครงการโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ แต่ความจริงคือดีลนี้ยังไม่ถูกลงนามอย่างเป็นทางการ CFO ของ Nvidia ยอมรับว่าทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอน “จดหมายแสดงเจตนา” เท่านั้น ความเสี่ยงคือการลงทุนระยะยาวอาจเจอปัญหาสินค้าล้นสต็อกหรือการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เร็วเกินไป นักลงทุนบางส่วนจึงกังวลว่าอาจเกิด “ฟองสบู่ AI” ที่พร้อมแตกได้ทุกเมื่อ ถึงแม้หุ้น Nvidia จะยังขึ้น แต่คำถามเรื่องความยั่งยืนยังคงอยู่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/nvidia-admits-the-usd100bn-biggest-ai-infrastructure-project-in-history-openai-deal-still-isnt-finalized 📖 Character.ai ปรับกลยุทธ์ใหม่สำหรับวัยรุ่น แพลตฟอร์ม AI ชื่อดัง Character.ai เริ่มเปลี่ยนแนวทางการให้บริการ โดยลดการสนทนาแบบเปิดกว้างสำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แล้วเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Stories” เพื่อดึงดูดวัยรุ่นให้ยังคงสนใจอยู่ จุดประสงค์คือสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น และยังคงให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ควบคุมได้มากกว่า การปรับนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังหาทางบาลานซ์ระหว่างความสร้างสรรค์และความรับผิดชอบต่อผู้ใช้เยาวชน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/character-ai-launches-stories-to-keep-teens-engaged-as-it-scales-back-open-ended-chat-for-under-18s 🎮 กลุ่มแฮ็กเกอร์อิหร่านใช้เกม Snake เป็นอาวุธ มีรายงานว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จากอิหร่านได้สร้างเกม Snake ปลอมขึ้นมาเพื่อโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอียิปต์และอิสราเอล เกมนี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนเกมธรรมดา แต่จริงๆ แล้วแฝงมัลแวร์ที่สามารถเจาะระบบได้ การใช้วิธีที่ดู “ไร้เดียงสา” เช่นเกมยอดนิยม เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนว่าภัยคุกคามไซเบอร์กำลังซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/iranian-hacker-group-deploys-malicious-snake-game-to-target-egyptian-and-israeli-critical-infrastructure 💻 รีวิว MSI Cubi NUC AI+ 2MG Mini PC บทความนี้รีวิวเครื่อง Mini PC รุ่นใหม่จาก MSI ที่ชื่อ Cubi NUC AI+ 2MG จุดเด่นคือขนาดเล็กแต่ทรงพลัง เหมาะสำหรับงานสำนักงานหรือผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่กินพื้นที่มาก ตัวเครื่องมาพร้อมการรองรับ AI workload และการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ PC ขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงความแรงไว้ครบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/msi-cubi-nuc-ai-2mg-mini-pc-review 🌐 ExpressVPN อัปเดตใหม่ เร็วขึ้นและปรับโฉมบน Mac ExpressVPN ปล่อยอัปเดตล่าสุดที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ และปรับปรุงแอปบน Mac ให้ใช้งานง่ายขึ้น ดีไซน์ใหม่ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงฟีเจอร์หลักได้สะดวกกว่าเดิม พร้อมทั้งเสริมความปลอดภัยและเสถียรภาพของการเชื่อมต่อ ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งาน VPN ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้ระดับมืออาชีพ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/expressvpns-latest-update-boosts-connection-speeds-and-revamps-its-mac-app ⚖️ กฎหมาย Chat Control สร้างเสียงวิจารณ์ในวงการ Privacy Tech กฎหมายใหม่ที่ชื่อ Chat Control กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว หลายคนมองว่ามันคือ “หายนะที่รอเกิดขึ้น” เพราะเปิดช่องให้มีการสอดส่องการสื่อสารส่วนตัวของผู้ใช้ แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันจะกระทบสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และอาจทำให้ความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีด้านความเป็นส่วนตัวพังทลาย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/a-disaster-waiting-to-happen-the-privacy-tech-world-reacts-to-the-new-chat-control-bill 📡 Devolo WiFi 6 Router 3600 5G Review เรื่องนี้เล่าได้ว่าเป็นประสบการณ์ตรงของผู้ทดสอบที่ได้ลองใช้เราเตอร์ Devolo WiFi 6 รุ่น 3600 ที่รองรับซิมการ์ด 5G LTE ตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมาก เพียงใส่ซิม เปิดไฟ และกดปุ่ม WPS ก็เชื่อมต่อได้ทันที จุดเด่นคือสามารถรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า 100 เครื่องพร้อมกัน เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตบ้าน เช่นออฟฟิศใหม่หรือการทำงานนอกสถานที่ ความเร็วขึ้นอยู่กับสัญญาณเครือข่าย แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มี 5G แรง ๆ ก็เร็วและเสถียรกว่าการแชร์ฮอตสปอตจากมือถือมาก แม้ราคาจะสูงเกือบ £399 แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในสถานการณ์ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้ 🔗 https://www.techradar.com/computing/devolo-wifi-6-router-3600-5g-lte-review 📱 OnePlus 15 เตรียมเปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมของแถมพิเศษ OnePlus 15 ที่หลายคนรอคอยกำลังจะเปิดให้พรีออเดอร์ในสหรัฐฯ วันที่ 4 ธันวาคมนี้ หลังจากเลื่อนเปิดตัวเพราะติดปัญหาการรับรองจาก FCC ราคาจะเริ่มต้นที่ $899.99 สำหรับรุ่น RAM 12GB และ $999.99 สำหรับรุ่น RAM 16GB พร้อมของแถมให้เลือก เช่นนาฬิกา OnePlus Watch 3 มูลค่า $300 หรือหูฟัง Buds Pro 3 จุดเด่นของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,300mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานมาก รวมถึงกล้องและซอฟต์แวร์ที่ได้รับคำชมจนได้คะแนนรีวิวเต็ม 5 ดาว ถือเป็นการกลับมาที่น่าตื่นเต้นของ OnePlus ในตลาดสหรัฐฯ 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-oneplus-15-is-finally-heading-to-the-us-and-you-can-grab-a-major-pre-order-bonus 🚫 รัสเซียเตรียมแบน WhatsApp ภายใต้ “ม่านเหล็กดิจิทัล” รัฐบาลรัสเซียโดยหน่วยงาน Roskomnadzor ขู่จะบล็อก WhatsApp แบบเต็มรูปแบบ โดยกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้เพื่อกิจกรรมก่อการร้าย และไม่ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น ปัจจุบันมีผู้ใช้ WhatsApp ในรัสเซียกว่า 97 ล้านคน หากถูกบล็อกจริงจะกระทบการสื่อสารอย่างรุนแรง โดยก่อนหน้านี้ Signal ก็ถูกบล็อกไปแล้ว ทำให้ผู้ใช้ถูกบังคับไปใช้แอปที่รัฐควบคุมอย่าง MAX ซึ่งมีความเสี่ยงด้านการสอดส่องสูง WhatsApp ยืนยันว่าจะยังคงให้บริการการสื่อสารแบบเข้ารหัสเพื่อปกป้องสิทธิผู้ใช้ แม้จะถูกกดดันจากรัฐบาล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russias-digital-iron-curtain-whatsapp-next-on-the-chopping-block 🤖 Amazon ทดลอง “AI Factories” ติดตั้งในองค์กรลูกค้า Amazon Web Services เปิดตัวแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “AI Factories” คือการนำฮาร์ดแวร์และระบบ AI ไปติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เพื่อรองรับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและอธิปไตยข้อมูล ลูกค้าไม่ต้องลงทุนสร้างระบบเอง แต่ AWS จะจัดการทุกอย่างให้ โดยใช้ชิป Nvidia Blackwell และ Trainium3 ของ Amazon จุดนี้ถือเป็นการกลับไปสู่แนวทาง on-premises อีกครั้ง หลังยุคที่ทุกอย่างย้ายขึ้นคลาวด์ เหมาะกับองค์กรหรือรัฐบาลที่ต้องการใช้ AI แต่ไม่สามารถส่งข้อมูลออกนอกพื้นที่ได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/amazon-is-testing-out-private-on-premises-ai-factories 💻 Windows 11 มีบั๊กใหม่ใน Dark Mode ของ File Explorer Microsoft ปล่อยอัปเดตตัวล่าสุด KB5070311 ที่ตั้งใจจะปรับปรุง Dark Mode ให้สมบูรณ์ขึ้น แต่กลับทำให้เกิดบั๊กที่สร้างความรำคาญ เมื่อผู้ใช้เปิดโฟลเดอร์หรือแท็บใหม่ใน File Explorer จะมีแฟลชสีขาววาบขึ้นมา ซึ่งยิ่งรบกวนสายตาในสภาพแสงน้อย Microsoft ยอมรับปัญหาและกำลังแก้ไขก่อนที่จะปล่อยอัปเดตเต็มในสัปดาห์หน้า แม้จะเป็นเพียงเวอร์ชันทดลอง แต่หากไม่แก้ทันก็อาจกระทบผู้ใช้จำนวนมากที่รออัปเดต 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-just-broke-file-explorer-dark-mode-some-windows-11-users-are-seeing-jarring-white-flashes-when-opening-folders 💾 Zettlab D6 NAS Review นี่เป็นรีวิวของ Zettlab D6 NAS อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความปลอดภัยสูง จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูง มีพอร์ตหลากหลาย และระบบจัดการที่ใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและผู้ใช้ที่ต้องการเก็บไฟล์จำนวนมากในบ้าน แม้ราคาจะสูง แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความสามารถในการปกป้องและแชร์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/computing/zettlab-d6-nas-device-review 🧩 ทดสอบ ChatGPT, Gemini และ Claude ในโลกมัลติโหมด บทความนี้เล่าถึงการทดสอบ AI รุ่นใหม่ ๆ ที่สามารถทำงานแบบมัลติโหมดได้ เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude โดยเปรียบเทียบความสามารถในการเข้าใจข้อความ ภาพ และเสียง จุดที่น่าสนใจคือแต่ละระบบมีจุดแข็งต่างกัน เช่น ChatGPT เด่นด้านการสนทนาเชิงลึก Gemini เน้นการเชื่อมโยงข้อมูลหลายรูปแบบ ส่วน Claude มีความแม่นยำในการตีความบริบท การทดสอบนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังพัฒนาไปสู่การใช้งานที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/testing-chatgpt-gemini-and-claude-in-the-multimodal-maze 📢 ยุคโฆษณาใน ChatGPT เริ่มต้นแล้ว ผู้ใช้ ChatGPT โดยเฉพาะกลุ่ม Pro ที่จ่ายถึง $200 ต่อเดือน กำลังไม่พอใจอย่างหนัก เพราะ OpenAI เริ่มแสดงโฆษณาและแนะนำแอปในระบบ แม้จะเป็นผู้ใช้แบบเสียเงินก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการหาทางสร้างรายได้ใหม่ของบริษัท แต่ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการลดคุณภาพประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ยอมจ่ายแพงเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/the-era-of-ads-in-chatgpt-begins-users-furious-as-even-usd200-a-month-pro-subscribers-hit-with-app-suggestions 🛡️ ออสเตรเลียสั่งห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ VPN เพื่อเลี่ยงกฎหมายโซเชียล รัฐบาลออสเตรเลียออกมาตรการใหม่ บังคับให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการแบนโซเชียลมีเดีย กฎหมายนี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและสร้างภาระให้กับบริษัทเทคโนโลยี แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/australia-expects-platforms-to-stop-under-16s-from-using-vpns-to-evade-social-media-ban 🛍️ กว่า 2 ใน 3 ของร้านค้าปลีกใช้ AI Agent เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว รายงานล่าสุดเผยว่ามากกว่า 67% ของผู้ค้าปลีกได้เริ่มนำ AI Agent มาใช้ในการทำงาน เช่น การตอบลูกค้า การจัดการสต็อก และการวิเคราะห์ข้อมูล จุดนี้สะท้อนว่าการใช้ AI ไม่ใช่แค่แนวโน้ม แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของธุรกิจค้าปลีกที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำในการแข่งขัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/over-two-thirds-of-retailers-have-already-partially-deployed-ai-agents-for-efficiency
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251204 #securityonline

    React พบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182
    ทีมพัฒนา React ออกประกาศฉุกเฉินหลังพบช่องโหว่ที่มีความรุนแรงสูงสุด (CVSS 10.0) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้เกิดจากกระบวนการถอดรหัสข้อมูลที่ส่งจาก client ไปยัง server ใน React Server Components (RSC) ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งแฝงเข้ามาและเข้าควบคุมระบบได้ทันที ปัญหานี้กระทบไปถึงเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router, Waku และอื่น ๆ โดยมีการออกแพตช์แก้ไขแล้วในหลายเวอร์ชัน นักพัฒนาจำเป็นต้องอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/catastrophic-react-flaw-cve-2025-55182-cvss-10-0-allows-unauthenticated-rce-on-next-js-and-server-components

    WordPress เจอช่องโหว่ CVE-2025-6389 ถูกโจมตีจริงแล้ว
    WordPress ที่ใช้ Sneeit Framework กำลังเผชิญการโจมตีครั้งใหญ่ หลังมีการเปิดเผยช่องโหว่ Remote Code Execution (RCE) ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้เกิดจากฟังก์ชัน sneeit_articles_pagination_callback() ที่เปิดให้ผู้ใช้ส่งข้อมูลเข้ามาโดยไม่ตรวจสอบ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเรียกใช้ฟังก์ชัน PHP ใด ๆ ได้ตามใจ ผลคือมีการสร้างบัญชีแอดมินปลอมและฝัง backdoor ลงในระบบทันที มีรายงานว่ามีการพยายามโจมตีมากกว่า 131,000 ครั้งแล้ว หากใครยังใช้เวอร์ชัน 8.3 หรือต่ำกว่า ต้องรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 8.4 โดยด่วน
    https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce

    Next.js เจอช่องโหว่ CVE-2025-66478 ระดับสูงสุด นักพัฒนา
    Next.js กำลังเจอวิกฤติครั้งใหญ่ เมื่อพบช่องโหว่ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้ ช่องโหว่นี้เชื่อมโยงกับ React Server Components (CVE-2025-55182) และส่งผลกระทบต่อ Next.js รุ่นใหม่ที่ใช้ App Router โดยตรง เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบคือ Next.js 15.x และ 16.x รวมถึง canary release ของ 14.3.0 ขึ้นไป ทางแก้เดียวคือการอัปเดตไปยังเวอร์ชันที่มีแพตช์ เช่น 15.0.5, 15.1.9 หรือ 16.0.7 หากยังใช้เวอร์ชันที่เสี่ยงอยู่ถือว่าเปิดช่องให้ถูกยึดระบบได้ทันที
    https://securityonline.info/maximum-severity-alert-critical-rce-flaw-hits-next-js-cve-2025-66478-cvss-10-0

    AWS เปิดตัว Frontier Agents: ทีมงาน AI อัตโนมัติ
    ที่งาน re:Invent 2025 AWS สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว “Frontier Agents” ซึ่งเป็น AI ที่ทำงานได้เหมือนทีมงานจริง ๆ สามารถรับภารกิจและทำงานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องมีคนคอยกำกับตลอดเวลา มีทั้งหมด 3 ตัวหลักคือ Kiro สำหรับงานพัฒนา, Security Agent สำหรับตรวจสอบความปลอดภัย และ DevOps Agent สำหรับแก้ปัญหาระบบที่ล่ม ตัวอย่างเช่น Kiro สามารถรับงานจาก GitHub แล้วแก้บั๊กหรือเพิ่ม test coverage ได้เอง ส่วน Security Agent ก็ช่วยตรวจสอบช่องโหว่ที่เครื่องมือทั่วไปมองไม่เห็น และ DevOps Agent สามารถหาสาเหตุระบบล่มได้ภายใน 15 นาที ซึ่งปกติวิศวกรอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง จุดสำคัญคือ AWS ต้องการให้คนทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และปล่อยเวลาไปทำงานเชิงกลยุทธ์แทน
    https://securityonline.info/aws-frontier-agents-autonomous-ai-team-members-take-over-dev-security-and-ops

    AWS S3 Unleashed: ยุคใหม่ของการเก็บข้อมูล AI และ Big Data
    AWS ประกาศอัปเกรดครั้งใหญ่ให้กับ Amazon S3 โดยเพิ่มความสามารถในการเก็บและค้นหาข้อมูลแบบเวกเตอร์ (S3 Vectors) ที่รองรับได้ถึง 20 ล้านล้านเวกเตอร์ และเพิ่มขนาดไฟล์สูงสุดจาก 5 TB เป็น 50 TB ทำให้สามารถเก็บไฟล์ขนาดมหึมา เช่น วิดีโอความละเอียดสูงหรือ dataset สำหรับ AI ได้โดยไม่ต้องแบ่งไฟล์ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง batch operations ให้เร็วขึ้น 10 เท่า และเพิ่มฟีเจอร์ replication ข้าม region สำหรับ S3 Tables จุดเด่นคือช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 90% และทำให้การสร้างระบบ AI หรือ RAG ง่ายขึ้นมาก หลายองค์กรใหญ่ เช่น BMW และ Twilio ได้เริ่มใช้งานแล้ว
    https://securityonline.info/aws-s3-unleashed-native-vector-storage-50-tb-max-object-size-for-ai-big-data

    Raspberry Pi ขึ้นราคาเพราะกระแส AI
    Raspberry Pi ประกาศขึ้นราคาทันทีสำหรับบางรุ่นของ Pi 4 และ Pi 5 เนื่องจากความต้องการหน่วยความจำทั่วโลกที่พุ่งสูงจากการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น รุ่นที่มีหน่วยความจำมากขึ้นจะขึ้นราคาหนักที่สุด เช่น Pi 5 (16GB) จาก 120 ดอลลาร์เป็น 145 ดอลลาร์ และ Pi 5 (8GB) จาก 80 ดอลลาร์เป็น 95 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Raspberry Pi ก็เปิดตัวรุ่นใหม่ราคาประหยัดคือ Pi 5 (1GB) ที่ 45 ดอลลาร์ เพื่อให้คนทั่วไปยังเข้าถึงได้ CEO Eben Upton ย้ำว่านี่เป็นการปรับราคาชั่วคราว และเมื่อสถานการณ์หน่วยความจำกลับมาปกติ ราคาจะลดลงอีกครั้ง
    https://securityonline.info/raspberry-pi-price-hike-ai-boom-forces-price-increases-on-pi-4-and-pi-5-models

    Android 16 อัปเดตใหม่: AI สรุปแจ้งเตือนและฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้พิการ
    Google ปล่อยอัปเดตใหญ่ครั้งที่สองของ Android 16 โดยเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่ช่วยสรุปข้อความแจ้งเตือนยาว ๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้น และมี Notification Organizer ที่ช่วยจัดการแจ้งเตือนที่ไม่สำคัญให้อัตโนมัติ ด้านความปลอดภัยก็มีการกรองข้อความเชิญเข้ากลุ่มจากเบอร์แปลก และ Circle to Search สามารถตรวจสอบข้อความหลอกลวงได้ ฟีเจอร์ใหม่ยังรวมถึงการปรับแต่งไอคอน, Dark Theme ที่ครอบคลุมทุกแอป และ parental control ที่ใช้งานง่ายขึ้น ที่สำคัญคือการปรับปรุงด้าน accessibility เช่น TalkBack ที่ใช้ Gemini ช่วยแก้ไขข้อความด้วยเสียง, กล้องที่ให้คำแนะนำเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตา, AutoClick สำหรับผู้ใช้เมาส์ และ Expressive Captions ที่บอกอารมณ์ของผู้พูดในวิดีโอ ฟีเจอร์เหล่านี้เริ่มปล่อยให้ Pixel ก่อนและจะขยายไปยังอุปกรณ์อื่นในอนาคต
    https://securityonline.info/android-16-update-ai-notification-summaries-gemini-powered-accessibility-suite

    AWS Nova Forge: แพลตฟอร์มเปิดให้ปรับแต่งโมเดล Nova 2
    AWS เปิดตัว Nova Forge ที่งาน re:Invent 2025 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล Nova 2 ได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ขั้น pre-training ไปจนถึง post-training ทำให้สามารถใส่ความรู้เฉพาะองค์กรเข้าไปในโมเดลโดยตรง ไม่ต้องพึ่งการเชื่อมต่อภายนอกที่อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เสถียร จุดเด่นคือความยืดหยุ่นในการปรับแต่งตามกฎและความรู้ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา AWS ยังเสริมระบบ guardrails เพื่อให้ลูกค้ากำหนดขอบเขตพฤติกรรมของโมเดลได้เอง นอกจากนี้ Nova Forge ยังสามารถใช้ปรับแต่ง Alexa+ ได้โดยตรง ทำให้บริการสำหรับองค์กรมีความเฉพาะตัวมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการสร้างโมเดล AI ให้ตอบโจทย์ธุรกิจได้จริง
    https://securityonline.info/aws-nova-forge-open-training-platform-enables-deep-customization-of-nova-2-models

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Vim for Windows (CVE-2025-66476)
    มีการค้นพบช่องโหว่ระดับสูงใน Vim เวอร์ชัน Windows ที่อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดอันตรายได้หากผู้ใช้เปิดไฟล์จากโฟลเดอร์ที่ถูกเจาะแล้ว ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ path ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังสคริปต์ไว้ในไฟล์ที่ดูเหมือนปกติได้ ผลคือผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมเครื่องโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์ล่าสุดเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-vim-for-windows-flaw-cve-2025-66476-risks-arbitrary-code-execution-from-compromised-folders

    แคมเปญ Water Saci ใช้ LLM แปลงมัลแวร์เป็น Python
    นักวิจัยพบการโจมตีใหม่ชื่อ Water Saci ที่ใช้โมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ช่วยแปลงโค้ดมัลแวร์เป็น Python เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ จากนั้นแพร่กระจายผ่าน WhatsApp worm โดยส่งลิงก์ปลอมไปยังผู้ใช้ เมื่อเหยื่อคลิกก็จะติด Banking Trojan ที่ขโมยข้อมูลการเงิน จุดน่าสนใจคือการใช้ AI ในการปรับโค้ดให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ทำให้การโจมตียากต่อการตรวจจับมากขึ้น
    https://securityonline.info/water-saci-campaign-uses-llms-to-convert-malware-to-python-spreads-banking-trojan-via-whatsapp-worm

    Synology BeeStation พบช่องโหว่ SQL Injection แบบใหม่
    มีการเปิดเผยช่องโหว่ใน Synology BeeStation ที่สามารถนำไปสู่การเข้าถึงสิทธิ์ root ได้ผ่านเทคนิค “Dirty File Write” ซึ่งเป็นการโจมตี SQL Injection รูปแบบใหม่ นักวิจัยได้เผยแพร่ PoC แล้ว ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์ได้ทันทีหากผู้ใช้ยังไม่อัปเดตแพตช์ ความร้ายแรงคือสามารถควบคุมระบบทั้งหมดได้โดยตรง Synology แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/synology-beestation-flaw-chain-leads-to-root-rce-via-novel-dirty-file-write-sql-injection-poc-available

    Matanbuchus 3.0 เปลี่ยนจาก Downloader ไปสู่ Ransomware
    มัลแวร์ Matanbuchus ได้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 3.0 โดยเปลี่ยนบทบาทจากการเป็น downloader ไปสู่การทำงานเป็น ransomware เต็มรูปแบบ ใช้เทคนิคใหม่อย่าง Protobufs และ Intel QuickAssist เพื่อซ่อนการเข้าถึงและทำงานได้อย่างลับ ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น เพราะสามารถเข้ารหัสไฟล์และเรียกค่าไถ่ได้โดยตรง
    https://securityonline.info/matanbuchus-3-0-downloader-pivots-to-ransomware-using-protobufs-and-quickassist-for-stealth-access

    ShadyPanda Spyware แฮ็กผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านราย
    มีรายงานว่า ShadyPanda Spyware ใช้ประโยชน์จากการอัปเดตอัตโนมัติของส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่เชื่อถือได้ เพื่อฝังโค้ดอันตรายและเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยตรง ส่งผลให้มีผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านรายถูกเจาะข้อมูล การโจมตีนี้อันตรายมากเพราะเกิดขึ้นผ่านช่องทางที่ผู้ใช้เชื่อถืออยู่แล้ว ทำให้ยากต่อการสังเกตหรือป้องกัน
    https://securityonline.info/shadypanda-spyware-hacked-4-3-million-users-by-weaponizing-trusted-browser-extensions-via-auto-updates

    ช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน WordPress ACF Extended
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Advanced Custom Fields: Extended ที่ถูกใช้งานบนเว็บไซต์กว่าแสนแห่งทั่วโลก ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องล็อกอินเข้าระบบ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยด้านความปลอดภัยที่ค้นพบได้รับเงินรางวัลจากการแจ้งเตือน เนื่องจากความเสี่ยงสูงสุดที่ช่องโหว่นี้สร้างขึ้น ทีมพัฒนาจึงรีบออกแพตช์แก้ไขและแนะนำให้ผู้ดูแลเว็บไซต์รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/critical-acf-extended-flaw-cve-2025-13486-cvss-9-8-allows-unauthenticated-rce-on-100k-wordpress-sites

    อินเดียบังคับใช้กฎ SIM-Binding บน WhatsApp และ Telegram
    รัฐบาลอินเดียออกข้อบังคับใหม่ที่เข้มงวดกับแอปแชทชื่อดังอย่าง WhatsApp, Telegram และอีกหลายแพลตฟอร์ม โดยกำหนดให้ผู้ใช้ต้องผูกบัญชีเข้ากับซิมการ์ดที่ออกในอินเดีย และต้องยืนยันตัวตนใหม่ทุก ๆ 6 ชั่วโมง หากไม่มีซิมที่เชื่อมโยงอยู่ บัญชีจะถูกล็อกทันที กฎนี้ถูกออกมาเพื่อป้องกันการใช้เบอร์โทรศัพท์อินเดียไปทำการหลอกลวงหรือฟิชชิ่งจากต่างประเทศ แม้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็สร้างคำถามว่าแพลตฟอร์มต่างชาติที่เน้นความเป็นส่วนตัวจะยอมทำตามหรือไม่
    https://securityonline.info/india-mandates-sim-binding-whatsapp-and-telegram-users-must-re-verify-every-6-hours

    OpenAI ยกเลิกแผนโฆษณา หันมาโฟกัสคุณภาพ ChatGPT รับมือ Gemini
    OpenAI เคยทดลองเพิ่มโฆษณาใน ChatGPT เพื่อหารายได้ แต่ล่าสุดบริษัทตัดสินใจหยุดแผนนี้และหันมาเน้นพัฒนาคุณภาพของ ChatGPT ให้ดียิ่งขึ้น เหตุผลสำคัญคือการมาของ Google Gemini ที่กำลังดึงผู้ใช้จำนวนมากไป ทำให้ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ประกาศ “red alert” ภายในบริษัท พร้อมสั่งทีมงานเร่งพัฒนาโมเดล reasoning ใหม่ที่คาดว่าจะเหนือกว่า Gemini 3 รวมถึงปรับปรุงด้าน personalization และความเร็วในการใช้งาน เพื่อรักษาฐานผู้ใช้และความสามารถในการแข่งขัน
    https://securityonline.info/red-alert-at-openai-ad-plans-dropped-to-focus-on-chatgpt-quality-amid-gemini-threat

    Let’s Encrypt เตรียมลดอายุใบรับรองเหลือ 45 วันภายในปี 2028
    เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของระบบอินเทอร์เน็ต องค์กร CA/Browser Forum ได้ตกลงให้ลดอายุการใช้งานของใบรับรอง SSL/TLS จากเดิมเกือบ 400 วัน เหลือเพียง 45 วันเท่านั้น โดย Let’s Encrypt ประกาศว่าจะทยอยปรับตามข้อกำหนดนี้จนเสร็จสมบูรณ์ในปี 2028 การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่าผู้ดูแลระบบต้องมีการต่ออายุใบรับรองบ่อยขึ้น และต้องพึ่งพาการทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจทำให้เว็บไซต์ล่ม
    https://securityonline.info/security-tightens-lets-encrypt-will-cap-certificate-validity-at-45-days-by-2028

    อัปเดต Windows ทำ Dark Mode พัง ไฟล์ Explorer กระพริบขาว
    ผู้ใช้ Windows 11 ที่ติดตั้งอัปเดต KB5070311 พบปัญหาน่ารำคาญ เมื่อเปิด File Explorer ในโหมดมืด หน้าต่างจะกระพริบเป็นสีขาวสว่างก่อนโหลดข้อมูล ซึ่งสร้างความไม่สบายตาและทำให้ประสบการณ์ใช้งานสะดุด แม้ Microsoft จะระบุว่านี่เป็นเพียงอัปเดตตัวทดลอง แต่ก็ทำให้ผู้ใช้หลายคนผิดหวัง เพราะฟีเจอร์ที่ควรทำให้ใช้งานราบรื่นกลับสร้างปัญหาแทน ตอนนี้ Microsoft กำลังเร่งแก้ไขเพื่อไม่ให้บั๊กนี้หลุดไปถึงเวอร์ชันเสถียร
    https://securityonline.info/microsoft-update-breaks-dark-mode-file-explorer-now-flashes-white-on-launch

    Google Phone App เพิ่มฟีเจอร์ “Call Reason” ให้โทรศัพท์ดูสำคัญขึ้น
    Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Phone ที่ชื่อว่า “Call Reason” ผู้โทรสามารถใส่เหตุผลประกอบการโทร เช่น “ด่วนมาก” หรือ “ประชุมสำคัญ” เพื่อให้ผู้รับรู้ทันทีว่าโทรศัพท์นั้นมีความสำคัญแค่ไหน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนไม่รับสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก หรือสายที่ไม่ระบุรายละเอียด การเพิ่มข้อความสั้น ๆ ก่อนโทรช่วยให้ผู้รับตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะรับสายทันทีหรือไม่
    https://securityonline.info/google-phone-app-gets-call-reason-mark-calls-as-urgent-to-ensure-a-pick-up

    AWS Bedrock เปิดตัวครั้งใหญ่ เพิ่ม 18 โมเดล AI และระบบ AgentCore ใหม่
    Amazon Web Services (AWS) ประกาศอัปเดตครั้งใหญ่ให้กับ Bedrock โดยเพิ่มโมเดล AI ใหม่ถึง 18 โมเดลจากหลายบริษัท พร้อมปรับปรุงระบบ AgentCore ที่ช่วยให้การทำงานของ AI มีความปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้น จุดเด่นคือการรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างคอนเทนต์ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก รวมถึงการเพิ่มระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่
    https://securityonline.info/aws-bedrock-unleashed-18-new-ai-models-agentcore-upgrades-and-enhanced-security

    AWS เปิดตัวชิป Trainium3 เร็วขึ้น 4.4 เท่า สำหรับงาน AI
    AWS เปิดตัวชิปใหม่ Trainium3 ที่ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI โดยเฉพาะ ชิปนี้ให้ประสิทธิภาพเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 4.4 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และถูกนำไปใช้ในเซิร์ฟเวอร์ EC2 UltraServers จุดเด่นคือการรองรับงาน AI ที่ซับซ้อน เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ และการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ของ AWS ให้แข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่นได้อย่างแข็งแกร่ง
    https://securityonline.info/aws-unleashes-trainium3-chip-4-4x-faster-ai-performance-for-ec2-ultraservers

    AWS AI Factories นำโครงสร้างพื้นฐาน AI ลงสู่ On-Premises
    AWS เปิดตัวแนวคิด “AI Factories” ที่ช่วยให้องค์กรสามารถนำโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สมบูรณ์แบบจากระบบคลาวด์มาติดตั้งใช้งานในสถานที่ของตัวเอง (On-Premises) เพื่อรองรับความต้องการด้าน Data Sovereignty หรือการควบคุมข้อมูลให้อยู่ในประเทศหรือองค์กรโดยตรง แนวทางนี้ตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการใช้ AI แต่มีข้อจำกัดด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยของข้อมูล
    https://securityonline.info/aws-ai-factories-bringing-full-cloud-ai-infrastructure-on-prem-for-data-sovereignty

    AWS เปิดตัวตระกูลโมเดล Nova 2 รองรับ Multimodal และ Agentic AI
    AWS ประกาศเปิดตัวโมเดลใหม่ในตระกูล Nova 2 ที่สามารถทำงานแบบ Multimodal คือรองรับทั้งข้อความ ภาพ และเสียง พร้อมฟีเจอร์ Agentic Nova Act ที่ช่วยให้ AI สามารถทำงานเชิงรุกได้มากขึ้น เช่น การตัดสินใจอัตโนมัติและการทำงานแทนมนุษย์ในบางกระบวนการ ถือเป็นการยกระดับความสามารถของ AWS ในการแข่งขันกับผู้ให้บริการ AI รายใหญ่ทั่วโลก
    https://securityonline.info/aws-unveils-nova-2-ai-model-family-with-multimodal-omni-agentic-nova-act

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251204 #securityonline 🛡️ React พบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ทีมพัฒนา React ออกประกาศฉุกเฉินหลังพบช่องโหว่ที่มีความรุนแรงสูงสุด (CVSS 10.0) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้เกิดจากกระบวนการถอดรหัสข้อมูลที่ส่งจาก client ไปยัง server ใน React Server Components (RSC) ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งแฝงเข้ามาและเข้าควบคุมระบบได้ทันที ปัญหานี้กระทบไปถึงเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router, Waku และอื่น ๆ โดยมีการออกแพตช์แก้ไขแล้วในหลายเวอร์ชัน นักพัฒนาจำเป็นต้องอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/catastrophic-react-flaw-cve-2025-55182-cvss-10-0-allows-unauthenticated-rce-on-next-js-and-server-components ⚠️ WordPress เจอช่องโหว่ CVE-2025-6389 ถูกโจมตีจริงแล้ว WordPress ที่ใช้ Sneeit Framework กำลังเผชิญการโจมตีครั้งใหญ่ หลังมีการเปิดเผยช่องโหว่ Remote Code Execution (RCE) ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้เกิดจากฟังก์ชัน sneeit_articles_pagination_callback() ที่เปิดให้ผู้ใช้ส่งข้อมูลเข้ามาโดยไม่ตรวจสอบ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเรียกใช้ฟังก์ชัน PHP ใด ๆ ได้ตามใจ ผลคือมีการสร้างบัญชีแอดมินปลอมและฝัง backdoor ลงในระบบทันที มีรายงานว่ามีการพยายามโจมตีมากกว่า 131,000 ครั้งแล้ว หากใครยังใช้เวอร์ชัน 8.3 หรือต่ำกว่า ต้องรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 8.4 โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce 🚨 Next.js เจอช่องโหว่ CVE-2025-66478 ระดับสูงสุด นักพัฒนา Next.js กำลังเจอวิกฤติครั้งใหญ่ เมื่อพบช่องโหว่ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้ ช่องโหว่นี้เชื่อมโยงกับ React Server Components (CVE-2025-55182) และส่งผลกระทบต่อ Next.js รุ่นใหม่ที่ใช้ App Router โดยตรง เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบคือ Next.js 15.x และ 16.x รวมถึง canary release ของ 14.3.0 ขึ้นไป ทางแก้เดียวคือการอัปเดตไปยังเวอร์ชันที่มีแพตช์ เช่น 15.0.5, 15.1.9 หรือ 16.0.7 หากยังใช้เวอร์ชันที่เสี่ยงอยู่ถือว่าเปิดช่องให้ถูกยึดระบบได้ทันที 🔗 https://securityonline.info/maximum-severity-alert-critical-rce-flaw-hits-next-js-cve-2025-66478-cvss-10-0 🧑‍💻 AWS เปิดตัว Frontier Agents: ทีมงาน AI อัตโนมัติ ที่งาน re:Invent 2025 AWS สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว “Frontier Agents” ซึ่งเป็น AI ที่ทำงานได้เหมือนทีมงานจริง ๆ สามารถรับภารกิจและทำงานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องมีคนคอยกำกับตลอดเวลา มีทั้งหมด 3 ตัวหลักคือ Kiro สำหรับงานพัฒนา, Security Agent สำหรับตรวจสอบความปลอดภัย และ DevOps Agent สำหรับแก้ปัญหาระบบที่ล่ม ตัวอย่างเช่น Kiro สามารถรับงานจาก GitHub แล้วแก้บั๊กหรือเพิ่ม test coverage ได้เอง ส่วน Security Agent ก็ช่วยตรวจสอบช่องโหว่ที่เครื่องมือทั่วไปมองไม่เห็น และ DevOps Agent สามารถหาสาเหตุระบบล่มได้ภายใน 15 นาที ซึ่งปกติวิศวกรอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง จุดสำคัญคือ AWS ต้องการให้คนทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และปล่อยเวลาไปทำงานเชิงกลยุทธ์แทน 🔗 https://securityonline.info/aws-frontier-agents-autonomous-ai-team-members-take-over-dev-security-and-ops 📦 AWS S3 Unleashed: ยุคใหม่ของการเก็บข้อมูล AI และ Big Data AWS ประกาศอัปเกรดครั้งใหญ่ให้กับ Amazon S3 โดยเพิ่มความสามารถในการเก็บและค้นหาข้อมูลแบบเวกเตอร์ (S3 Vectors) ที่รองรับได้ถึง 20 ล้านล้านเวกเตอร์ และเพิ่มขนาดไฟล์สูงสุดจาก 5 TB เป็น 50 TB ทำให้สามารถเก็บไฟล์ขนาดมหึมา เช่น วิดีโอความละเอียดสูงหรือ dataset สำหรับ AI ได้โดยไม่ต้องแบ่งไฟล์ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง batch operations ให้เร็วขึ้น 10 เท่า และเพิ่มฟีเจอร์ replication ข้าม region สำหรับ S3 Tables จุดเด่นคือช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 90% และทำให้การสร้างระบบ AI หรือ RAG ง่ายขึ้นมาก หลายองค์กรใหญ่ เช่น BMW และ Twilio ได้เริ่มใช้งานแล้ว 🔗 https://securityonline.info/aws-s3-unleashed-native-vector-storage-50-tb-max-object-size-for-ai-big-data 💾 Raspberry Pi ขึ้นราคาเพราะกระแส AI Raspberry Pi ประกาศขึ้นราคาทันทีสำหรับบางรุ่นของ Pi 4 และ Pi 5 เนื่องจากความต้องการหน่วยความจำทั่วโลกที่พุ่งสูงจากการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น รุ่นที่มีหน่วยความจำมากขึ้นจะขึ้นราคาหนักที่สุด เช่น Pi 5 (16GB) จาก 120 ดอลลาร์เป็น 145 ดอลลาร์ และ Pi 5 (8GB) จาก 80 ดอลลาร์เป็น 95 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Raspberry Pi ก็เปิดตัวรุ่นใหม่ราคาประหยัดคือ Pi 5 (1GB) ที่ 45 ดอลลาร์ เพื่อให้คนทั่วไปยังเข้าถึงได้ CEO Eben Upton ย้ำว่านี่เป็นการปรับราคาชั่วคราว และเมื่อสถานการณ์หน่วยความจำกลับมาปกติ ราคาจะลดลงอีกครั้ง 🔗 https://securityonline.info/raspberry-pi-price-hike-ai-boom-forces-price-increases-on-pi-4-and-pi-5-models 📱 Android 16 อัปเดตใหม่: AI สรุปแจ้งเตือนและฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้พิการ Google ปล่อยอัปเดตใหญ่ครั้งที่สองของ Android 16 โดยเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่ช่วยสรุปข้อความแจ้งเตือนยาว ๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้น และมี Notification Organizer ที่ช่วยจัดการแจ้งเตือนที่ไม่สำคัญให้อัตโนมัติ ด้านความปลอดภัยก็มีการกรองข้อความเชิญเข้ากลุ่มจากเบอร์แปลก และ Circle to Search สามารถตรวจสอบข้อความหลอกลวงได้ ฟีเจอร์ใหม่ยังรวมถึงการปรับแต่งไอคอน, Dark Theme ที่ครอบคลุมทุกแอป และ parental control ที่ใช้งานง่ายขึ้น ที่สำคัญคือการปรับปรุงด้าน accessibility เช่น TalkBack ที่ใช้ Gemini ช่วยแก้ไขข้อความด้วยเสียง, กล้องที่ให้คำแนะนำเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตา, AutoClick สำหรับผู้ใช้เมาส์ และ Expressive Captions ที่บอกอารมณ์ของผู้พูดในวิดีโอ ฟีเจอร์เหล่านี้เริ่มปล่อยให้ Pixel ก่อนและจะขยายไปยังอุปกรณ์อื่นในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/android-16-update-ai-notification-summaries-gemini-powered-accessibility-suite ⚙️ AWS Nova Forge: แพลตฟอร์มเปิดให้ปรับแต่งโมเดล Nova 2 AWS เปิดตัว Nova Forge ที่งาน re:Invent 2025 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล Nova 2 ได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ขั้น pre-training ไปจนถึง post-training ทำให้สามารถใส่ความรู้เฉพาะองค์กรเข้าไปในโมเดลโดยตรง ไม่ต้องพึ่งการเชื่อมต่อภายนอกที่อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เสถียร จุดเด่นคือความยืดหยุ่นในการปรับแต่งตามกฎและความรู้ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา AWS ยังเสริมระบบ guardrails เพื่อให้ลูกค้ากำหนดขอบเขตพฤติกรรมของโมเดลได้เอง นอกจากนี้ Nova Forge ยังสามารถใช้ปรับแต่ง Alexa+ ได้โดยตรง ทำให้บริการสำหรับองค์กรมีความเฉพาะตัวมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการสร้างโมเดล AI ให้ตอบโจทย์ธุรกิจได้จริง 🔗 https://securityonline.info/aws-nova-forge-open-training-platform-enables-deep-customization-of-nova-2-models 🛠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Vim for Windows (CVE-2025-66476) มีการค้นพบช่องโหว่ระดับสูงใน Vim เวอร์ชัน Windows ที่อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดอันตรายได้หากผู้ใช้เปิดไฟล์จากโฟลเดอร์ที่ถูกเจาะแล้ว ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ path ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังสคริปต์ไว้ในไฟล์ที่ดูเหมือนปกติได้ ผลคือผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมเครื่องโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์ล่าสุดเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-vim-for-windows-flaw-cve-2025-66476-risks-arbitrary-code-execution-from-compromised-folders 🐍 แคมเปญ Water Saci ใช้ LLM แปลงมัลแวร์เป็น Python นักวิจัยพบการโจมตีใหม่ชื่อ Water Saci ที่ใช้โมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ช่วยแปลงโค้ดมัลแวร์เป็น Python เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ จากนั้นแพร่กระจายผ่าน WhatsApp worm โดยส่งลิงก์ปลอมไปยังผู้ใช้ เมื่อเหยื่อคลิกก็จะติด Banking Trojan ที่ขโมยข้อมูลการเงิน จุดน่าสนใจคือการใช้ AI ในการปรับโค้ดให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ทำให้การโจมตียากต่อการตรวจจับมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/water-saci-campaign-uses-llms-to-convert-malware-to-python-spreads-banking-trojan-via-whatsapp-worm 🐝 Synology BeeStation พบช่องโหว่ SQL Injection แบบใหม่ มีการเปิดเผยช่องโหว่ใน Synology BeeStation ที่สามารถนำไปสู่การเข้าถึงสิทธิ์ root ได้ผ่านเทคนิค “Dirty File Write” ซึ่งเป็นการโจมตี SQL Injection รูปแบบใหม่ นักวิจัยได้เผยแพร่ PoC แล้ว ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์ได้ทันทีหากผู้ใช้ยังไม่อัปเดตแพตช์ ความร้ายแรงคือสามารถควบคุมระบบทั้งหมดได้โดยตรง Synology แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/synology-beestation-flaw-chain-leads-to-root-rce-via-novel-dirty-file-write-sql-injection-poc-available 🔒 Matanbuchus 3.0 เปลี่ยนจาก Downloader ไปสู่ Ransomware มัลแวร์ Matanbuchus ได้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 3.0 โดยเปลี่ยนบทบาทจากการเป็น downloader ไปสู่การทำงานเป็น ransomware เต็มรูปแบบ ใช้เทคนิคใหม่อย่าง Protobufs และ Intel QuickAssist เพื่อซ่อนการเข้าถึงและทำงานได้อย่างลับ ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น เพราะสามารถเข้ารหัสไฟล์และเรียกค่าไถ่ได้โดยตรง 🔗 https://securityonline.info/matanbuchus-3-0-downloader-pivots-to-ransomware-using-protobufs-and-quickassist-for-stealth-access 🕵️ ShadyPanda Spyware แฮ็กผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านราย มีรายงานว่า ShadyPanda Spyware ใช้ประโยชน์จากการอัปเดตอัตโนมัติของส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่เชื่อถือได้ เพื่อฝังโค้ดอันตรายและเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยตรง ส่งผลให้มีผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านรายถูกเจาะข้อมูล การโจมตีนี้อันตรายมากเพราะเกิดขึ้นผ่านช่องทางที่ผู้ใช้เชื่อถืออยู่แล้ว ทำให้ยากต่อการสังเกตหรือป้องกัน 🔗 https://securityonline.info/shadypanda-spyware-hacked-4-3-million-users-by-weaponizing-trusted-browser-extensions-via-auto-updates 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน WordPress ACF Extended มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Advanced Custom Fields: Extended ที่ถูกใช้งานบนเว็บไซต์กว่าแสนแห่งทั่วโลก ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องล็อกอินเข้าระบบ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยด้านความปลอดภัยที่ค้นพบได้รับเงินรางวัลจากการแจ้งเตือน เนื่องจากความเสี่ยงสูงสุดที่ช่องโหว่นี้สร้างขึ้น ทีมพัฒนาจึงรีบออกแพตช์แก้ไขและแนะนำให้ผู้ดูแลเว็บไซต์รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/critical-acf-extended-flaw-cve-2025-13486-cvss-9-8-allows-unauthenticated-rce-on-100k-wordpress-sites 📱 อินเดียบังคับใช้กฎ SIM-Binding บน WhatsApp และ Telegram รัฐบาลอินเดียออกข้อบังคับใหม่ที่เข้มงวดกับแอปแชทชื่อดังอย่าง WhatsApp, Telegram และอีกหลายแพลตฟอร์ม โดยกำหนดให้ผู้ใช้ต้องผูกบัญชีเข้ากับซิมการ์ดที่ออกในอินเดีย และต้องยืนยันตัวตนใหม่ทุก ๆ 6 ชั่วโมง หากไม่มีซิมที่เชื่อมโยงอยู่ บัญชีจะถูกล็อกทันที กฎนี้ถูกออกมาเพื่อป้องกันการใช้เบอร์โทรศัพท์อินเดียไปทำการหลอกลวงหรือฟิชชิ่งจากต่างประเทศ แม้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็สร้างคำถามว่าแพลตฟอร์มต่างชาติที่เน้นความเป็นส่วนตัวจะยอมทำตามหรือไม่ 🔗 https://securityonline.info/india-mandates-sim-binding-whatsapp-and-telegram-users-must-re-verify-every-6-hours 🚨 OpenAI ยกเลิกแผนโฆษณา หันมาโฟกัสคุณภาพ ChatGPT รับมือ Gemini OpenAI เคยทดลองเพิ่มโฆษณาใน ChatGPT เพื่อหารายได้ แต่ล่าสุดบริษัทตัดสินใจหยุดแผนนี้และหันมาเน้นพัฒนาคุณภาพของ ChatGPT ให้ดียิ่งขึ้น เหตุผลสำคัญคือการมาของ Google Gemini ที่กำลังดึงผู้ใช้จำนวนมากไป ทำให้ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ประกาศ “red alert” ภายในบริษัท พร้อมสั่งทีมงานเร่งพัฒนาโมเดล reasoning ใหม่ที่คาดว่าจะเหนือกว่า Gemini 3 รวมถึงปรับปรุงด้าน personalization และความเร็วในการใช้งาน เพื่อรักษาฐานผู้ใช้และความสามารถในการแข่งขัน 🔗 https://securityonline.info/red-alert-at-openai-ad-plans-dropped-to-focus-on-chatgpt-quality-amid-gemini-threat 🔒 Let’s Encrypt เตรียมลดอายุใบรับรองเหลือ 45 วันภายในปี 2028 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของระบบอินเทอร์เน็ต องค์กร CA/Browser Forum ได้ตกลงให้ลดอายุการใช้งานของใบรับรอง SSL/TLS จากเดิมเกือบ 400 วัน เหลือเพียง 45 วันเท่านั้น โดย Let’s Encrypt ประกาศว่าจะทยอยปรับตามข้อกำหนดนี้จนเสร็จสมบูรณ์ในปี 2028 การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่าผู้ดูแลระบบต้องมีการต่ออายุใบรับรองบ่อยขึ้น และต้องพึ่งพาการทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจทำให้เว็บไซต์ล่ม 🔗 https://securityonline.info/security-tightens-lets-encrypt-will-cap-certificate-validity-at-45-days-by-2028 💻 อัปเดต Windows ทำ Dark Mode พัง ไฟล์ Explorer กระพริบขาว ผู้ใช้ Windows 11 ที่ติดตั้งอัปเดต KB5070311 พบปัญหาน่ารำคาญ เมื่อเปิด File Explorer ในโหมดมืด หน้าต่างจะกระพริบเป็นสีขาวสว่างก่อนโหลดข้อมูล ซึ่งสร้างความไม่สบายตาและทำให้ประสบการณ์ใช้งานสะดุด แม้ Microsoft จะระบุว่านี่เป็นเพียงอัปเดตตัวทดลอง แต่ก็ทำให้ผู้ใช้หลายคนผิดหวัง เพราะฟีเจอร์ที่ควรทำให้ใช้งานราบรื่นกลับสร้างปัญหาแทน ตอนนี้ Microsoft กำลังเร่งแก้ไขเพื่อไม่ให้บั๊กนี้หลุดไปถึงเวอร์ชันเสถียร 🔗 https://securityonline.info/microsoft-update-breaks-dark-mode-file-explorer-now-flashes-white-on-launch 📞 Google Phone App เพิ่มฟีเจอร์ “Call Reason” ให้โทรศัพท์ดูสำคัญขึ้น Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Phone ที่ชื่อว่า “Call Reason” ผู้โทรสามารถใส่เหตุผลประกอบการโทร เช่น “ด่วนมาก” หรือ “ประชุมสำคัญ” เพื่อให้ผู้รับรู้ทันทีว่าโทรศัพท์นั้นมีความสำคัญแค่ไหน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนไม่รับสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก หรือสายที่ไม่ระบุรายละเอียด การเพิ่มข้อความสั้น ๆ ก่อนโทรช่วยให้ผู้รับตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะรับสายทันทีหรือไม่ 🔗 https://securityonline.info/google-phone-app-gets-call-reason-mark-calls-as-urgent-to-ensure-a-pick-up ☁️ AWS Bedrock เปิดตัวครั้งใหญ่ เพิ่ม 18 โมเดล AI และระบบ AgentCore ใหม่ Amazon Web Services (AWS) ประกาศอัปเดตครั้งใหญ่ให้กับ Bedrock โดยเพิ่มโมเดล AI ใหม่ถึง 18 โมเดลจากหลายบริษัท พร้อมปรับปรุงระบบ AgentCore ที่ช่วยให้การทำงานของ AI มีความปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้น จุดเด่นคือการรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างคอนเทนต์ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก รวมถึงการเพิ่มระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่ 🔗 https://securityonline.info/aws-bedrock-unleashed-18-new-ai-models-agentcore-upgrades-and-enhanced-security ⚡ AWS เปิดตัวชิป Trainium3 เร็วขึ้น 4.4 เท่า สำหรับงาน AI AWS เปิดตัวชิปใหม่ Trainium3 ที่ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI โดยเฉพาะ ชิปนี้ให้ประสิทธิภาพเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 4.4 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และถูกนำไปใช้ในเซิร์ฟเวอร์ EC2 UltraServers จุดเด่นคือการรองรับงาน AI ที่ซับซ้อน เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ และการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ของ AWS ให้แข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่นได้อย่างแข็งแกร่ง 🔗 https://securityonline.info/aws-unleashes-trainium3-chip-4-4x-faster-ai-performance-for-ec2-ultraservers 🏭 AWS AI Factories นำโครงสร้างพื้นฐาน AI ลงสู่ On-Premises AWS เปิดตัวแนวคิด “AI Factories” ที่ช่วยให้องค์กรสามารถนำโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สมบูรณ์แบบจากระบบคลาวด์มาติดตั้งใช้งานในสถานที่ของตัวเอง (On-Premises) เพื่อรองรับความต้องการด้าน Data Sovereignty หรือการควบคุมข้อมูลให้อยู่ในประเทศหรือองค์กรโดยตรง แนวทางนี้ตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการใช้ AI แต่มีข้อจำกัดด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยของข้อมูล 🔗 https://securityonline.info/aws-ai-factories-bringing-full-cloud-ai-infrastructure-on-prem-for-data-sovereignty 🤖 AWS เปิดตัวตระกูลโมเดล Nova 2 รองรับ Multimodal และ Agentic AI AWS ประกาศเปิดตัวโมเดลใหม่ในตระกูล Nova 2 ที่สามารถทำงานแบบ Multimodal คือรองรับทั้งข้อความ ภาพ และเสียง พร้อมฟีเจอร์ Agentic Nova Act ที่ช่วยให้ AI สามารถทำงานเชิงรุกได้มากขึ้น เช่น การตัดสินใจอัตโนมัติและการทำงานแทนมนุษย์ในบางกระบวนการ ถือเป็นการยกระดับความสามารถของ AWS ในการแข่งขันกับผู้ให้บริการ AI รายใหญ่ทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/aws-unveils-nova-2-ai-model-family-with-multimodal-omni-agentic-nova-act
    0 Comments 0 Shares 107 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/live/ykrI8NEu9W0?si=4TIm1MLW3BKWoh6O
    https://www.youtube.com/live/ykrI8NEu9W0?si=4TIm1MLW3BKWoh6O
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • Micron ปิดฉาก Crucial Consumer Line

    Micron Technology บริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก ประกาศว่าจะ หยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Crucial สำหรับผู้ใช้ทั่วไปภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2026 หลังจากดำเนินธุรกิจแบรนด์นี้มากว่า 29 ปี โดยจะหันไปเน้นการผลิต DRAM และ SSD ระดับองค์กร รวมถึง High-Bandwidth Memory (HBM) ที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    เหตุผล: AI กำลังกลืนกินทรัพยากรหน่วยความจำโลก
    Micron ระบุว่า ความต้องการหน่วยความจำและสตอเรจจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังพุ่งสูงจนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกเวเฟอร์ที่ผลิตได้จำเป็นต้องส่งไปยังลูกค้ารายใหญ่ในตลาดองค์กรและ Hyperscaler หากยังคงผลิตสินค้า Consumer จะทำให้เสียโอกาสและกระทบต่อความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับลูกค้ารายสำคัญ

    ปัจจัยด้านธุรกิจและต้นทุน
    ตลาด Consumer SSD และ DRAM มี กำไรต่ำและแข่งขันสูง ทำให้ Micron มองว่าไม่คุ้มค่าที่จะรักษาสายการผลิตไว้ แม้จะลดขนาดธุรกิจลงก็ยังต้องแบกรับต้นทุนคงที่ เช่น การพัฒนาเฟิร์มแวร์ การทดสอบมาตรฐาน และการดูแลการรับประกันทั่วโลก ซึ่งไม่สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนในตลาดองค์กรที่มี สัญญาระยะยาวและราคาขายสูงกว่า

    ผลกระทบและอนาคต
    หลังจากหยุดจำหน่าย Crucial Micron จะยังคงให้บริการรับประกันและการสนับสนุนลูกค้าที่ซื้อไปแล้ว แต่ตลาดผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องพึ่งพาแบรนด์อื่นแทน เช่น Samsung, Kingston หรือ Adata ขณะที่ Micron จะทุ่มทรัพยากรไปพัฒนา HBM4/HBM4E และ SSD สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการประมวลผล AI ในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    Micron ยุติ Crucial Consumer Line ภายในกุมภาพันธ์ 2026
    หยุดจำหน่าย SSD และ DRAM สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    ยังคงให้บริการรับประกันและซัพพอร์ตหลังการขาย

    หันไปโฟกัสตลาดองค์กรและ AI
    ผลิต HBM, SSD สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ DRAM ระดับองค์กร
    รองรับความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

    เหตุผลด้านธุรกิจและต้นทุน
    ตลาด Consumer กำไรต่ำ แข่งขันสูง
    การรักษาสายการผลิตเล็ก ๆ ยังมีต้นทุนคงที่สูง

    คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป
    หลังปี 2026 จะไม่สามารถซื้อ Crucial SSD/DRAM รุ่นใหม่ได้อีก
    ผู้ใช้ต้องเลือกแบรนด์อื่นแทน เช่น Samsung, Kingston, Adata

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-is-killing-crucial-ssds-and-memory-in-ai-pivot-company-refocuses-on-hbm-and-enterprise-customers
    🏭 Micron ปิดฉาก Crucial Consumer Line Micron Technology บริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก ประกาศว่าจะ หยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Crucial สำหรับผู้ใช้ทั่วไปภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2026 หลังจากดำเนินธุรกิจแบรนด์นี้มากว่า 29 ปี โดยจะหันไปเน้นการผลิต DRAM และ SSD ระดับองค์กร รวมถึง High-Bandwidth Memory (HBM) ที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 🤖 เหตุผล: AI กำลังกลืนกินทรัพยากรหน่วยความจำโลก Micron ระบุว่า ความต้องการหน่วยความจำและสตอเรจจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังพุ่งสูงจนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกเวเฟอร์ที่ผลิตได้จำเป็นต้องส่งไปยังลูกค้ารายใหญ่ในตลาดองค์กรและ Hyperscaler หากยังคงผลิตสินค้า Consumer จะทำให้เสียโอกาสและกระทบต่อความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับลูกค้ารายสำคัญ 💰 ปัจจัยด้านธุรกิจและต้นทุน ตลาด Consumer SSD และ DRAM มี กำไรต่ำและแข่งขันสูง ทำให้ Micron มองว่าไม่คุ้มค่าที่จะรักษาสายการผลิตไว้ แม้จะลดขนาดธุรกิจลงก็ยังต้องแบกรับต้นทุนคงที่ เช่น การพัฒนาเฟิร์มแวร์ การทดสอบมาตรฐาน และการดูแลการรับประกันทั่วโลก ซึ่งไม่สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนในตลาดองค์กรที่มี สัญญาระยะยาวและราคาขายสูงกว่า 🔮 ผลกระทบและอนาคต หลังจากหยุดจำหน่าย Crucial Micron จะยังคงให้บริการรับประกันและการสนับสนุนลูกค้าที่ซื้อไปแล้ว แต่ตลาดผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องพึ่งพาแบรนด์อื่นแทน เช่น Samsung, Kingston หรือ Adata ขณะที่ Micron จะทุ่มทรัพยากรไปพัฒนา HBM4/HBM4E และ SSD สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการประมวลผล AI ในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Micron ยุติ Crucial Consumer Line ภายในกุมภาพันธ์ 2026 ➡️ หยุดจำหน่าย SSD และ DRAM สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ➡️ ยังคงให้บริการรับประกันและซัพพอร์ตหลังการขาย ✅ หันไปโฟกัสตลาดองค์กรและ AI ➡️ ผลิต HBM, SSD สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ DRAM ระดับองค์กร ➡️ รองรับความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ✅ เหตุผลด้านธุรกิจและต้นทุน ➡️ ตลาด Consumer กำไรต่ำ แข่งขันสูง ➡️ การรักษาสายการผลิตเล็ก ๆ ยังมีต้นทุนคงที่สูง ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ หลังปี 2026 จะไม่สามารถซื้อ Crucial SSD/DRAM รุ่นใหม่ได้อีก ⛔ ผู้ใช้ต้องเลือกแบรนด์อื่นแทน เช่น Samsung, Kingston, Adata https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-is-killing-crucial-ssds-and-memory-in-ai-pivot-company-refocuses-on-hbm-and-enterprise-customers
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • Titanload สายพาวเวอร์รุ่นใหม่จาก Segotep

    Segotep ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จากจีนเปิดตัวสาย Titanload 12V-2x6 ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาหัวต่อพาวเวอร์การ์ดจอที่หลอมละลาย โดยใช้ ขั้วต่อที่รองรับกระแสสูงกว่า มาตรฐาน ATX 3.0 (9.2A) โดยรุ่น Titanload ใช้ขั้ว 12A และ Titanload EX ใช้ขั้ว 14A ทำให้มี Margin ความปลอดภัยสูงขึ้นถึง 52% เมื่อเทียบกับมาตรฐานเดิม ผลการทดสอบพบว่าอุณหภูมิลดลงได้มากกว่า 70% ในบางกรณี ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาแบบ “Brute-force” ที่เน้นความแข็งแรงของวัสดุ

    ปัญหาที่แท้จริงของหัวต่อ 12VHPWR/12V-2x6
    แม้ Segotep จะพยายามแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มความทนทาน แต่รายงานจากหลายสำนักยังชี้ว่า หัวต่อ 12VHPWR มีข้อบกพร่องเชิงโครงสร้าง เช่นการกระจายกระแสไม่สม่ำเสมอ และพื้นที่สัมผัสที่เล็กเกินไป ทำให้บางขั้วรับกระแสมากเกินจนเกิดความร้อนสูงและหลอมละลาย ปัญหานี้ถูกพบทั้งใน RTX 4090 และล่าสุด RTX 5090/5080 ซึ่งกินไฟสูงสุดถึง 600W และบางครั้งพุ่งไปถึง 644W ในการทดสอบ ทำให้หัวต่อทำงานใกล้ขีดจำกัดตลอดเวลา

    ความเสี่ยงที่ยังคงอยู่
    นักรีวิวและผู้เชี่ยวชาญหลายราย เช่น Der8auer และ JayzTwoCents พบว่าแม้จะใช้สายคุณภาพสูงก็ยังเกิดการหลอมละลายได้ เนื่องจาก การออกแบบที่ไม่สมบูรณ์ และการตัดวงจรตรวจสอบโหลดออกจาก GPU รุ่นใหม่ ทำให้ไม่สามารถบาลานซ์กระแสระหว่างขั้วได้ หากมีการเสียบไม่แน่นหรือเกิดความผิดพลาดเล็กน้อย ก็อาจทำให้ขั้วบางจุดรับกระแสเกินพิกัดจนเกิดความเสียหายรุนแรง

    ทางเลือกและข้อเสนอแนะ
    บางผู้เชี่ยวชาญเสนอว่าอาจต้องกลับไปใช้หัวต่อ 8-pin แบบเดิมหลายชุด ซึ่งมี Margin ความปลอดภัยสูงกว่า และไม่เคยมีรายงานการหลอมละลายภายใต้การใช้งานปกติ หรือพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เช่นหัวต่อที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับกระแสต่อขั้ว เพื่อแจ้งเตือนก่อนเกิดความร้อนสูงเกินไป อย่างไรก็ตาม Segotep Titanload ถือเป็นหนึ่งในความพยายามที่น่าสนใจในการแก้ปัญหานี้

    สรุปสาระสำคัญ
    Segotep Titanload เปิดตัวสายพาวเวอร์ใหม่
    ใช้ขั้วต่อ 12A และ 14A เพิ่ม Margin ความปลอดภัยสูงสุด 52%
    ลดอุณหภูมิได้ถึง 72% เมื่อเทียบกับสายมาตรฐาน

    ผลการทดสอบจริง
    Titanload EX ลดความร้อน Hotspot ได้มากกว่า 53%
    ภายใต้โหลดสูงยังคงรักษาอุณหภูมิไม่เกิน 95°C

    ปัญหาหัวต่อ 12VHPWR/12V-2x6 ยังไม่หมดไป
    กระแสไม่กระจายสม่ำเสมอ ทำให้บางขั้วรับโหลดเกินพิกัด
    มีรายงานการหลอมละลายทั้งใน RTX 4090, 5080 และ 5090

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้งาน
    หากเสียบไม่แน่นหรือเกิดความผิดพลาดเล็กน้อย อาจทำให้ GPU เสียหาย
    การตัดวงจรตรวจสอบโหลดออกจาก GPU รุ่นใหม่ เพิ่มความเสี่ยงต่อการล้มเหลว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/segoteps-titanload-12v-2x6-cables-use-heavier-duty-pins-to-prevent-meltdowns-brute-force-approach-purportedly-drops-peak-temps-by-up-to-72-percent
    🔌 Titanload สายพาวเวอร์รุ่นใหม่จาก Segotep Segotep ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จากจีนเปิดตัวสาย Titanload 12V-2x6 ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาหัวต่อพาวเวอร์การ์ดจอที่หลอมละลาย โดยใช้ ขั้วต่อที่รองรับกระแสสูงกว่า มาตรฐาน ATX 3.0 (9.2A) โดยรุ่น Titanload ใช้ขั้ว 12A และ Titanload EX ใช้ขั้ว 14A ทำให้มี Margin ความปลอดภัยสูงขึ้นถึง 52% เมื่อเทียบกับมาตรฐานเดิม ผลการทดสอบพบว่าอุณหภูมิลดลงได้มากกว่า 70% ในบางกรณี ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาแบบ “Brute-force” ที่เน้นความแข็งแรงของวัสดุ ⚡ ปัญหาที่แท้จริงของหัวต่อ 12VHPWR/12V-2x6 แม้ Segotep จะพยายามแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มความทนทาน แต่รายงานจากหลายสำนักยังชี้ว่า หัวต่อ 12VHPWR มีข้อบกพร่องเชิงโครงสร้าง เช่นการกระจายกระแสไม่สม่ำเสมอ และพื้นที่สัมผัสที่เล็กเกินไป ทำให้บางขั้วรับกระแสมากเกินจนเกิดความร้อนสูงและหลอมละลาย ปัญหานี้ถูกพบทั้งใน RTX 4090 และล่าสุด RTX 5090/5080 ซึ่งกินไฟสูงสุดถึง 600W และบางครั้งพุ่งไปถึง 644W ในการทดสอบ ทำให้หัวต่อทำงานใกล้ขีดจำกัดตลอดเวลา 🔥 ความเสี่ยงที่ยังคงอยู่ นักรีวิวและผู้เชี่ยวชาญหลายราย เช่น Der8auer และ JayzTwoCents พบว่าแม้จะใช้สายคุณภาพสูงก็ยังเกิดการหลอมละลายได้ เนื่องจาก การออกแบบที่ไม่สมบูรณ์ และการตัดวงจรตรวจสอบโหลดออกจาก GPU รุ่นใหม่ ทำให้ไม่สามารถบาลานซ์กระแสระหว่างขั้วได้ หากมีการเสียบไม่แน่นหรือเกิดความผิดพลาดเล็กน้อย ก็อาจทำให้ขั้วบางจุดรับกระแสเกินพิกัดจนเกิดความเสียหายรุนแรง 🛡️ ทางเลือกและข้อเสนอแนะ บางผู้เชี่ยวชาญเสนอว่าอาจต้องกลับไปใช้หัวต่อ 8-pin แบบเดิมหลายชุด ซึ่งมี Margin ความปลอดภัยสูงกว่า และไม่เคยมีรายงานการหลอมละลายภายใต้การใช้งานปกติ หรือพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เช่นหัวต่อที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับกระแสต่อขั้ว เพื่อแจ้งเตือนก่อนเกิดความร้อนสูงเกินไป อย่างไรก็ตาม Segotep Titanload ถือเป็นหนึ่งในความพยายามที่น่าสนใจในการแก้ปัญหานี้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Segotep Titanload เปิดตัวสายพาวเวอร์ใหม่ ➡️ ใช้ขั้วต่อ 12A และ 14A เพิ่ม Margin ความปลอดภัยสูงสุด 52% ➡️ ลดอุณหภูมิได้ถึง 72% เมื่อเทียบกับสายมาตรฐาน ✅ ผลการทดสอบจริง ➡️ Titanload EX ลดความร้อน Hotspot ได้มากกว่า 53% ➡️ ภายใต้โหลดสูงยังคงรักษาอุณหภูมิไม่เกิน 95°C ‼️ ปัญหาหัวต่อ 12VHPWR/12V-2x6 ยังไม่หมดไป ⛔ กระแสไม่กระจายสม่ำเสมอ ทำให้บางขั้วรับโหลดเกินพิกัด ⛔ มีรายงานการหลอมละลายทั้งใน RTX 4090, 5080 และ 5090 ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้งาน ⛔ หากเสียบไม่แน่นหรือเกิดความผิดพลาดเล็กน้อย อาจทำให้ GPU เสียหาย ⛔ การตัดวงจรตรวจสอบโหลดออกจาก GPU รุ่นใหม่ เพิ่มความเสี่ยงต่อการล้มเหลว https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/segoteps-titanload-12v-2x6-cables-use-heavier-duty-pins-to-prevent-meltdowns-brute-force-approach-purportedly-drops-peak-temps-by-up-to-72-percent
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • Smart Glasses จีนกำลังเร่งบุกตลาดต่างประเทศ

    ความสนใจใน Smart Glasses พุ่งสูงขึ้นในจีน เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น QR Code สำหรับการชำระเงิน และการใช้สมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลาย ทำให้ผู้บริโภคพร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ IDC คาดการณ์ว่ายอดขาย Smart Glasses ในจีนปี 2025 จะเติบโตถึง 116% เมื่อเทียบกับปีก่อน

    ผู้เล่นหลักและสตาร์ทอัพ
    นอกจาก Meta ที่ครองตลาดโลกด้วย Ray-Ban Meta Smart Glasses แล้ว บริษัทจีนอย่าง Xiaomi, Rokid, RayNeo, Thunderobot และ Kopin ก็กำลังเร่งพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Xiaomi ถูกมองว่าเป็น “ม้ามืด” เพราะสามารถขึ้นเป็นอันดับ 3 ของยอดขาย Smart Glasses ในครึ่งปีแรกของ 2025 แม้เพิ่งเปิดตัวเพียงสัปดาห์เดียว

    กลยุทธ์บุกตลาดต่างประเทศ
    บริษัทจีนใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างจาก Meta เช่น Rokid ที่เปิดให้ผู้ใช้เลือกเชื่อมต่อกับหลายโมเดล AI (OpenAI, Llama, Gemini, Grok) และรองรับแอปที่แตกต่างกันตามภูมิภาค เพื่อให้เข้ากับตลาดทั้งในจีนและต่างประเทศ อีกทั้งยังโชว์ฟีเจอร์ การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ที่แสดงซับไตเติ้ลบนเลนส์

    ความท้าทายและข้อกังวล
    แม้บริษัทจีนจะมีความได้เปรียบด้านซัพพลายเชนและการผลิต แต่ยังมีข้อจำกัดด้าน เทคโนโลยีชิปและ Optical Waveguides เมื่อเทียบกับคู่แข่งตะวันตก นอกจากนี้ยังมี ความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว เพราะ Smart Glasses สามารถบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การถกเถียงด้านกฎหมายและการยอมรับในสังคม

    สรุปสาระสำคัญ
    ตลาดจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว
    ยอดขาย Smart Glasses ปี 2025 โตขึ้น 116%

    ผู้เล่นหลักและสตาร์ทอัพจีน
    Xiaomi, Rokid, XREAL, RayNeo กำลังแข่งขันกับ Meta

    กลยุทธ์บุกตลาดต่างประเทศ
    รองรับหลายโมเดล AI และฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์

    ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
    ชิปและ Optical Waveguides ยังตามหลังคู่แข่งตะวันตก

    ความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว
    การบันทึกภาพและเสียงอาจนำไปสู่ปัญหากฎหมายและการยอมรับในสังคม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/04/chinese-smart-glasses-firms-eye-overseas-conquest
    👓 Smart Glasses จีนกำลังเร่งบุกตลาดต่างประเทศ ความสนใจใน Smart Glasses พุ่งสูงขึ้นในจีน เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น QR Code สำหรับการชำระเงิน และการใช้สมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลาย ทำให้ผู้บริโภคพร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ IDC คาดการณ์ว่ายอดขาย Smart Glasses ในจีนปี 2025 จะเติบโตถึง 116% เมื่อเทียบกับปีก่อน 🏢 ผู้เล่นหลักและสตาร์ทอัพ นอกจาก Meta ที่ครองตลาดโลกด้วย Ray-Ban Meta Smart Glasses แล้ว บริษัทจีนอย่าง Xiaomi, Rokid, RayNeo, Thunderobot และ Kopin ก็กำลังเร่งพัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Xiaomi ถูกมองว่าเป็น “ม้ามืด” เพราะสามารถขึ้นเป็นอันดับ 3 ของยอดขาย Smart Glasses ในครึ่งปีแรกของ 2025 แม้เพิ่งเปิดตัวเพียงสัปดาห์เดียว 🌍 กลยุทธ์บุกตลาดต่างประเทศ บริษัทจีนใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างจาก Meta เช่น Rokid ที่เปิดให้ผู้ใช้เลือกเชื่อมต่อกับหลายโมเดล AI (OpenAI, Llama, Gemini, Grok) และรองรับแอปที่แตกต่างกันตามภูมิภาค เพื่อให้เข้ากับตลาดทั้งในจีนและต่างประเทศ อีกทั้งยังโชว์ฟีเจอร์ การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ที่แสดงซับไตเติ้ลบนเลนส์ ⚠️ ความท้าทายและข้อกังวล แม้บริษัทจีนจะมีความได้เปรียบด้านซัพพลายเชนและการผลิต แต่ยังมีข้อจำกัดด้าน เทคโนโลยีชิปและ Optical Waveguides เมื่อเทียบกับคู่แข่งตะวันตก นอกจากนี้ยังมี ความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว เพราะ Smart Glasses สามารถบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การถกเถียงด้านกฎหมายและการยอมรับในสังคม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ตลาดจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว ➡️ ยอดขาย Smart Glasses ปี 2025 โตขึ้น 116% ✅ ผู้เล่นหลักและสตาร์ทอัพจีน ➡️ Xiaomi, Rokid, XREAL, RayNeo กำลังแข่งขันกับ Meta ✅ กลยุทธ์บุกตลาดต่างประเทศ ➡️ รองรับหลายโมเดล AI และฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์ ‼️ ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี ⛔ ชิปและ Optical Waveguides ยังตามหลังคู่แข่งตะวันตก ‼️ ความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว ⛔ การบันทึกภาพและเสียงอาจนำไปสู่ปัญหากฎหมายและการยอมรับในสังคม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/04/chinese-smart-glasses-firms-eye-overseas-conquest
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Chinese smart glasses firms eye overseas conquest
    In China, AI glasses let the wearer pay in shops with just a glance at a QR code and a voice command, as a growing number of companies look to conquer both growing domestic and overseas markets.
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • สมาร์ทโฟนกับสุขภาพเด็ก

    การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pediatrics เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2025 วิเคราะห์ข้อมูลจากเด็กกว่า 10,500 คน ในโครงการ Adolescent Brain Cognitive Development Study ซึ่งเป็นการติดตามพัฒนาการสมองระยะยาวที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ พบว่า เด็กที่ได้รับสมาร์ทโฟนก่อนอายุ 12 ปี มีแนวโน้มเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า, โรคอ้วน และการนอนหลับไม่เพียงพอ มากกว่าเด็กที่ยังไม่มีโทรศัพท์

    ผลกระทบต่อพัฒนาการวัยรุ่น
    นักวิจัยชี้ว่า วัยรุ่นเป็นช่วงอ่อนไหว แม้การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในด้านการนอนหรือสุขภาพจิตก็อาจส่งผลลึกและยาวนาน เด็กที่ใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไปมักใช้เวลาน้อยลงในการออกกำลังกาย, พบปะเพื่อนแบบตัวต่อตัว และพักผ่อน ซึ่งทั้งหมดเป็นกิจกรรมสำคัญต่อสุขภาพและพัฒนาการ

    ความสำคัญของการนอนหลับ
    การศึกษายังพบว่า 63% ของเด็กอายุ 11–12 ปีมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในห้องนอน และเกือบ 17% ถูกปลุกด้วยการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา การมีสมาร์ทโฟนในห้องนอนจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เด็กนอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลต่อทั้งสุขภาพกายและจิตใจ

    ข้อควรระวังสำหรับผู้ปกครอง
    แม้งานวิจัยจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสมาร์ทโฟนเป็น “สาเหตุโดยตรง” ของปัญหาสุขภาพ แต่ผลลัพธ์ชี้ชัดว่า การให้เด็กเข้าถึงสมาร์ทโฟนเร็วเกินไปมีความเสี่ยงสูง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าผู้ปกครองควร เลื่อนการให้สมาร์ทโฟนออกไป และหากจำเป็นต้องให้ ควรมีการกำหนดกฎเกณฑ์ เช่น ไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์เข้าห้องนอนตอนกลางคืน

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลการศึกษาใหม่
    เด็กที่มีสมาร์ทโฟนก่อนอายุ 12 ปี เสี่ยงซึมเศร้า, โรคอ้วน, นอนหลับไม่เพียงพอ

    ข้อมูลจากโครงการใหญ่
    วิเคราะห์เด็กกว่า 10,500 คนในสหรัฐฯ

    ผลกระทบต่อการนอนหลับ
    63% มีอุปกรณ์ในห้องนอน, 17% ถูกปลุกด้วยการแจ้งเตือน

    ความเสี่ยงหากให้เร็วเกินไป
    อาจกระทบพัฒนาการด้านสุขภาพจิตและร่างกาย

    ข้อแนะนำสำหรับผู้ปกครอง
    เลื่อนการให้สมาร์ทโฟนออกไป และควบคุมการใช้งานโดยเฉพาะช่วงกลางคืน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/04/a-smartphone-before-age-12-could-carry-health-risks-study-says
    📱 สมาร์ทโฟนกับสุขภาพเด็ก การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pediatrics เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2025 วิเคราะห์ข้อมูลจากเด็กกว่า 10,500 คน ในโครงการ Adolescent Brain Cognitive Development Study ซึ่งเป็นการติดตามพัฒนาการสมองระยะยาวที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ พบว่า เด็กที่ได้รับสมาร์ทโฟนก่อนอายุ 12 ปี มีแนวโน้มเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า, โรคอ้วน และการนอนหลับไม่เพียงพอ มากกว่าเด็กที่ยังไม่มีโทรศัพท์ 🧠 ผลกระทบต่อพัฒนาการวัยรุ่น นักวิจัยชี้ว่า วัยรุ่นเป็นช่วงอ่อนไหว แม้การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในด้านการนอนหรือสุขภาพจิตก็อาจส่งผลลึกและยาวนาน เด็กที่ใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไปมักใช้เวลาน้อยลงในการออกกำลังกาย, พบปะเพื่อนแบบตัวต่อตัว และพักผ่อน ซึ่งทั้งหมดเป็นกิจกรรมสำคัญต่อสุขภาพและพัฒนาการ 🛌 ความสำคัญของการนอนหลับ การศึกษายังพบว่า 63% ของเด็กอายุ 11–12 ปีมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในห้องนอน และเกือบ 17% ถูกปลุกด้วยการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา การมีสมาร์ทโฟนในห้องนอนจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เด็กนอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลต่อทั้งสุขภาพกายและจิตใจ ⚠️ ข้อควรระวังสำหรับผู้ปกครอง แม้งานวิจัยจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสมาร์ทโฟนเป็น “สาเหตุโดยตรง” ของปัญหาสุขภาพ แต่ผลลัพธ์ชี้ชัดว่า การให้เด็กเข้าถึงสมาร์ทโฟนเร็วเกินไปมีความเสี่ยงสูง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าผู้ปกครองควร เลื่อนการให้สมาร์ทโฟนออกไป และหากจำเป็นต้องให้ ควรมีการกำหนดกฎเกณฑ์ เช่น ไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์เข้าห้องนอนตอนกลางคืน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลการศึกษาใหม่ ➡️ เด็กที่มีสมาร์ทโฟนก่อนอายุ 12 ปี เสี่ยงซึมเศร้า, โรคอ้วน, นอนหลับไม่เพียงพอ ✅ ข้อมูลจากโครงการใหญ่ ➡️ วิเคราะห์เด็กกว่า 10,500 คนในสหรัฐฯ ✅ ผลกระทบต่อการนอนหลับ ➡️ 63% มีอุปกรณ์ในห้องนอน, 17% ถูกปลุกด้วยการแจ้งเตือน ‼️ ความเสี่ยงหากให้เร็วเกินไป ⛔ อาจกระทบพัฒนาการด้านสุขภาพจิตและร่างกาย ‼️ ข้อแนะนำสำหรับผู้ปกครอง ⛔ เลื่อนการให้สมาร์ทโฟนออกไป และควบคุมการใช้งานโดยเฉพาะช่วงกลางคืน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/04/a-smartphone-before-age-12-could-carry-health-risks-study-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    A smartphone before age 12 could carry health risks, study says
    Researchers found higher rates of depression, poor sleep and obesity among tweens who had early access to a cellphone.
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • Focus หุ้นปันผล ที่ยังไม่ค่อยขยับขึ้น 04/12/68 #หุ้นปันผล #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น #การลงทุน
    Focus หุ้นปันผล ที่ยังไม่ค่อยขยับขึ้น 04/12/68 #หุ้นปันผล #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น #การลงทุน
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 0 Reviews
  • ยุคใหม่ของ TLS Certificates กำลังมา

    การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกไซเบอร์เริ่มต้นขึ้นเมื่อ CA/Browser Forum และผู้เล่นรายใหญ่เช่น Apple, Google, Mozilla และ Microsoft ลงมติให้ลดอายุการใช้งานของ TLS Certificates ลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2026 (200 วัน) ปี 2027 (100 วัน) และในปี 2029 จะเหลือเพียง 47 วัน เท่านั้น การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากการใช้ Certificate ที่ถูกขโมยหรือหมดอายุโดยไม่รู้ตัว

    Automation คือคำตอบ
    การลดอายุการใช้งานลงเหลือไม่กี่สิบวันทำให้ การจัดการแบบ Manual แทบจะเป็นไปไม่ได้ หลายองค์กรจึงหันมาใช้ ACME Protocol ซึ่งช่วยให้การออก, ต่ออายุ และเพิกถอน Certificates ทำได้อัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น Cloudflare และ Let’s Encrypt ได้ใช้ระบบนี้เพื่อให้ผู้ดูแลระบบไม่ต้องกังวลกับการต่ออายุอีกต่อไป การทำงานแบบอัตโนมัติยังช่วยลด Human Error และเพิ่มความเร็วในการปรับตัวต่อภัยคุกคามใหม่ ๆ

    Post-Quantum Cryptography: ความท้าทายใหม่
    นอกจากเรื่องอายุการใช้งานที่สั้นลงแล้ว อีกหนึ่งแรงผลักดันคือ ภัยคุกคามจาก Quantum Computing ซึ่งสามารถทำลาย RSA และ ECC ที่ใช้ใน TLS ได้ในอนาคต นักวิจัยจึงพัฒนา Post-Quantum Cryptography (PQC) เช่น Kyber และ Dilithium เพื่อใช้ควบคู่กับระบบเดิมในรูปแบบ Hybrid Handshake การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ระบบ TLS สามารถต้านทานการโจมตีจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้

    ความเสี่ยงหากไม่ปรับตัว
    หากองค์กรยังคงใช้วิธีการเดิม เช่น การบันทึกวันหมดอายุใน Excel หรือการต่ออายุแบบ Manual ความเสี่ยงที่จะเกิด Outage ครั้งใหญ่ มีสูงมาก โดยเฉพาะในธุรกิจการเงินที่ต้องการความต่อเนื่อง หาก Certificate หมดอายุในช่วงเวลาสำคัญ อาจนำไปสู่การสูญเสียรายได้ ความเชื่อมั่น และเปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้เข้ารหัส

    สรุปสาระสำคัญ
    การลดอายุ TLS Certificates
    จาก 398 วัน เหลือ 200 วันในปี 2026, 100 วันในปี 2027 และ 47 วันในปี 2029

    การใช้ Automation ผ่าน ACME Protocol
    ลด Human Error, ต่ออายุอัตโนมัติ, ใช้ได้กับ Cloudflare และ Let’s Encrypt

    การเตรียมรับมือ Post-Quantum Cryptography
    ใช้ Hybrid Handshake ผสมระหว่างอัลกอริทึมเดิมกับ Quantum-safe เช่น Kyber, Dilithium

    ความเสี่ยงหากยังใช้ Manual Management
    อาจเกิด Outage, สูญเสียรายได้, เสี่ยงต่อการโจมตีจากช่องโหว่ของ Certificate ที่หมดอายุ

    ภัยจาก Quantum Computing
    RSA และ ECC อาจถูกทำลายด้วย Shor’s Algorithm ทำให้ TLS ปัจจุบันไม่ปลอดภัยในอนาคต

    https://www.csoonline.com/article/4097721/how-cisos-can-prepare-for-the-new-era-of-short-lived-tls-certificates.html
    🛡️ ยุคใหม่ของ TLS Certificates กำลังมา การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกไซเบอร์เริ่มต้นขึ้นเมื่อ CA/Browser Forum และผู้เล่นรายใหญ่เช่น Apple, Google, Mozilla และ Microsoft ลงมติให้ลดอายุการใช้งานของ TLS Certificates ลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2026 (200 วัน) ปี 2027 (100 วัน) และในปี 2029 จะเหลือเพียง 47 วัน เท่านั้น การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากการใช้ Certificate ที่ถูกขโมยหรือหมดอายุโดยไม่รู้ตัว ⚙️ Automation คือคำตอบ การลดอายุการใช้งานลงเหลือไม่กี่สิบวันทำให้ การจัดการแบบ Manual แทบจะเป็นไปไม่ได้ หลายองค์กรจึงหันมาใช้ ACME Protocol ซึ่งช่วยให้การออก, ต่ออายุ และเพิกถอน Certificates ทำได้อัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น Cloudflare และ Let’s Encrypt ได้ใช้ระบบนี้เพื่อให้ผู้ดูแลระบบไม่ต้องกังวลกับการต่ออายุอีกต่อไป การทำงานแบบอัตโนมัติยังช่วยลด Human Error และเพิ่มความเร็วในการปรับตัวต่อภัยคุกคามใหม่ ๆ 🔮 Post-Quantum Cryptography: ความท้าทายใหม่ นอกจากเรื่องอายุการใช้งานที่สั้นลงแล้ว อีกหนึ่งแรงผลักดันคือ ภัยคุกคามจาก Quantum Computing ซึ่งสามารถทำลาย RSA และ ECC ที่ใช้ใน TLS ได้ในอนาคต นักวิจัยจึงพัฒนา Post-Quantum Cryptography (PQC) เช่น Kyber และ Dilithium เพื่อใช้ควบคู่กับระบบเดิมในรูปแบบ Hybrid Handshake การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ระบบ TLS สามารถต้านทานการโจมตีจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้ ⚠️ ความเสี่ยงหากไม่ปรับตัว หากองค์กรยังคงใช้วิธีการเดิม เช่น การบันทึกวันหมดอายุใน Excel หรือการต่ออายุแบบ Manual ความเสี่ยงที่จะเกิด Outage ครั้งใหญ่ มีสูงมาก โดยเฉพาะในธุรกิจการเงินที่ต้องการความต่อเนื่อง หาก Certificate หมดอายุในช่วงเวลาสำคัญ อาจนำไปสู่การสูญเสียรายได้ ความเชื่อมั่น และเปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้เข้ารหัส 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การลดอายุ TLS Certificates ➡️ จาก 398 วัน เหลือ 200 วันในปี 2026, 100 วันในปี 2027 และ 47 วันในปี 2029 ✅ การใช้ Automation ผ่าน ACME Protocol ➡️ ลด Human Error, ต่ออายุอัตโนมัติ, ใช้ได้กับ Cloudflare และ Let’s Encrypt ✅ การเตรียมรับมือ Post-Quantum Cryptography ➡️ ใช้ Hybrid Handshake ผสมระหว่างอัลกอริทึมเดิมกับ Quantum-safe เช่น Kyber, Dilithium ‼️ ความเสี่ยงหากยังใช้ Manual Management ⛔ อาจเกิด Outage, สูญเสียรายได้, เสี่ยงต่อการโจมตีจากช่องโหว่ของ Certificate ที่หมดอายุ ‼️ ภัยจาก Quantum Computing ⛔ RSA และ ECC อาจถูกทำลายด้วย Shor’s Algorithm ทำให้ TLS ปัจจุบันไม่ปลอดภัยในอนาคต https://www.csoonline.com/article/4097721/how-cisos-can-prepare-for-the-new-era-of-short-lived-tls-certificates.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How CISOs can prepare for the new era of short-lived TLS certificates
    TLS certificate lifespans are shrinking — first to 200 days, then to just 47. That means more frequent renewals, higher risk of outages, and tighter operational timelines.
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • 5 แพลตฟอร์ม Dark Web Intelligence ที่ดีที่สุดในปี 2026

    บทความนี้แนะนำ 5 แพลตฟอร์ม Dark Web Intelligence ที่ดีที่สุดในปี 2026 ได้แก่ Lunar (Webz.io), ZeroFox, DarkOwl, Cyble และ Recorded Future โดยแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นด้านการเก็บข้อมูล, การตรวจจับภัยคุกคาม, การวิเคราะห์ผู้โจมตี และการผสานเข้ากับระบบองค์กรเพื่อป้องกันภัยไซเบอร์เชิงรุก

    ความสำคัญของ Dark Web Intelligence
    โลกไซเบอร์ในปัจจุบันไม่ได้มีแค่การป้องกันด้วย Firewall หรือ Antivirus อีกต่อไป เพราะภัยคุกคามจำนวนมากเริ่มต้นจาก Dark Web ซึ่งเป็นพื้นที่เข้ารหัสและไม่ถูกควบคุม ใช้สำหรับการซื้อขายข้อมูลรั่วไหล, มัลแวร์, และการวางแผนโจมตี การใช้ Dark Web Intelligence Platforms จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง

    5 แพลตฟอร์มที่โดดเด่น
    Lunar (Webz.io)
    ครอบคลุมการเก็บข้อมูลจาก Tor, I2P และชุมชนออนไลน์หลายภาษา
    มีระบบ Machine Learning สำหรับตรวจจับ Entity และ Threat Indicators
    ผสานเข้ากับ SIEM และ API ได้โดยตรง

    ZeroFox
    เน้นการป้องกันแบรนด์และผู้บริหารจากการปลอมแปลงและ Credential Leak
    มีบริการ Automated Takedown เพื่อลบเนื้อหาที่เป็นภัยคุกคาม
    วิเคราะห์ Threat Actor และโครงสร้างการโจมตี

    DarkOwl
    มีฐานข้อมูล Dark Web ที่ใหญ่ที่สุดในเชิงพาณิชย์
    รองรับการค้นหาด้วย API และการทำ Threat Scoring อัตโนมัติ
    เหมาะสำหรับทีม Forensics และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย

    Cyble
    ใช้บอทอัตโนมัติสแกนตลาดมืดและฟอรั่มอย่างต่อเนื่อง
    มีระบบแจ้งเตือนแบบ Real-time พร้อมการจัดอันดับความเสี่ยง
    สร้างโปรไฟล์ผู้โจมตีและตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูลซัพพลายเชน

    Recorded Future
    ครอบคลุมทั้ง Surface, Deep และ Dark Web
    ใช้ Machine Learning ในการจัดลำดับความเสี่ยงตามความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ
    รายงานระดับองค์กรและการผสานเข้ากับระบบ IR/SOAR

    บทบาทของ AI และ Automation
    แพลตฟอร์มเหล่านี้ใช้ AI และ NLP เพื่อถอดรหัสภาษาสแลง, ตรวจจับพฤติกรรมใหม่ ๆ ของผู้โจมตี และสร้างการแจ้งเตือนที่แม่นยำมากขึ้น รวมถึงการใช้ Collaborative Defence Models ที่ช่วยให้ข้อมูลภัยคุกคามถูกแชร์ระหว่างองค์กรและภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน


    https://hackread.com/best-dark-web-intelligence-platforms/
    🕍 5 แพลตฟอร์ม Dark Web Intelligence ที่ดีที่สุดในปี 2026 บทความนี้แนะนำ 5 แพลตฟอร์ม Dark Web Intelligence ที่ดีที่สุดในปี 2026 ได้แก่ Lunar (Webz.io), ZeroFox, DarkOwl, Cyble และ Recorded Future โดยแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นด้านการเก็บข้อมูล, การตรวจจับภัยคุกคาม, การวิเคราะห์ผู้โจมตี และการผสานเข้ากับระบบองค์กรเพื่อป้องกันภัยไซเบอร์เชิงรุก 🌐 ความสำคัญของ Dark Web Intelligence โลกไซเบอร์ในปัจจุบันไม่ได้มีแค่การป้องกันด้วย Firewall หรือ Antivirus อีกต่อไป เพราะภัยคุกคามจำนวนมากเริ่มต้นจาก Dark Web ซึ่งเป็นพื้นที่เข้ารหัสและไม่ถูกควบคุม ใช้สำหรับการซื้อขายข้อมูลรั่วไหล, มัลแวร์, และการวางแผนโจมตี การใช้ Dark Web Intelligence Platforms จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง 🛡️ 5 แพลตฟอร์มที่โดดเด่น 🔩 Lunar (Webz.io) ➡️ ครอบคลุมการเก็บข้อมูลจาก Tor, I2P และชุมชนออนไลน์หลายภาษา ➡️ มีระบบ Machine Learning สำหรับตรวจจับ Entity และ Threat Indicators ➡️ ผสานเข้ากับ SIEM และ API ได้โดยตรง 🔩 ZeroFox ➡️ เน้นการป้องกันแบรนด์และผู้บริหารจากการปลอมแปลงและ Credential Leak ➡️ มีบริการ Automated Takedown เพื่อลบเนื้อหาที่เป็นภัยคุกคาม ➡️ วิเคราะห์ Threat Actor และโครงสร้างการโจมตี 🔩 DarkOwl ➡️ มีฐานข้อมูล Dark Web ที่ใหญ่ที่สุดในเชิงพาณิชย์ ➡️ รองรับการค้นหาด้วย API และการทำ Threat Scoring อัตโนมัติ ➡️ เหมาะสำหรับทีม Forensics และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย 🔩 Cyble ➡️ ใช้บอทอัตโนมัติสแกนตลาดมืดและฟอรั่มอย่างต่อเนื่อง ➡️ มีระบบแจ้งเตือนแบบ Real-time พร้อมการจัดอันดับความเสี่ยง ➡️ สร้างโปรไฟล์ผู้โจมตีและตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูลซัพพลายเชน 🔩 Recorded Future ➡️ ครอบคลุมทั้ง Surface, Deep และ Dark Web ➡️ ใช้ Machine Learning ในการจัดลำดับความเสี่ยงตามความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ ➡️ รายงานระดับองค์กรและการผสานเข้ากับระบบ IR/SOAR ⚙️ บทบาทของ AI และ Automation แพลตฟอร์มเหล่านี้ใช้ AI และ NLP เพื่อถอดรหัสภาษาสแลง, ตรวจจับพฤติกรรมใหม่ ๆ ของผู้โจมตี และสร้างการแจ้งเตือนที่แม่นยำมากขึ้น รวมถึงการใช้ Collaborative Defence Models ที่ช่วยให้ข้อมูลภัยคุกคามถูกแชร์ระหว่างองค์กรและภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน https://hackread.com/best-dark-web-intelligence-platforms/
    HACKREAD.COM
    Best 5 Dark Web Intelligence Platforms
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือจากยุคแรกที่เป็น “Car Phones” จนถึงสมาร์ทโฟนยุคใหม่

    บทความนี้เล่าถึงวิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือจากยุคแรกที่เป็น “Car Phones” จนถึงสมาร์ทโฟนยุคใหม่ โดยเน้นเหตุการณ์สำคัญ เช่น การเปิดตัว Motorola DynaTAC, Nokia Cityman, Motorola MicroTAC (Flip Phone), ข้อความ SMS แรก, IBM Simon (Smartphone แรก), โทรศัพท์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, โทรศัพท์ที่เล่นเพลง MP3, โทรศัพท์กล้อง และการเปิดตัว iPhone

    ยุคแรก: Car Phones และ Motorola DynaTAC
    โทรศัพท์มือถือเริ่มต้นในปี 1946 โดย AT&T แต่ยังมีข้อจำกัดด้านช่องสัญญาณและพลังงาน จึงถูกติดตั้งในรถยนต์และเรียกว่า “Car Phones” ต่อมาในปี 1973 Martin Cooper จาก Motorola ได้โทรศัพท์ครั้งแรกด้วย DynaTAC 8000X ซึ่งหนักถึง 2.5 ปอนด์และใช้งานได้เพียง 35 นาที

    การพัฒนาในยุค 80s–90s: Nokia และ Flip Phone
    ปี 1987 Nokia Mobira Cityman ได้รับความนิยมเมื่อถูกใช้โดย Mikhail Gorbachev และถือเป็นโทรศัพท์ที่เบากว่า DynaTAC แม้ราคาสูงมาก ต่อมาในปี 1989 Motorola เปิดตัว MicroTAC 9800X ซึ่งเป็น โทรศัพท์ฝาพับ (Flip Phone) รุ่นแรก ทำให้โทรศัพท์เริ่มมีขนาดเล็กลงและพกพาสะดวกขึ้น

    การสื่อสารใหม่: SMS และ IBM Simon
    วันที่ 3 ธันวาคม 1992 มีการส่ง ข้อความ SMS แรก (“Merry Christmas”) โดย Neil Papworth ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิธีการสื่อสาร ต่อมาในปี 1992 IBM เปิดตัว Simon Personal Communicator ซึ่งถูกมองว่าเป็น สมาร์ทโฟนรุ่นแรก เพราะมีหน้าจอสัมผัสและสามารถส่งอีเมล, fax และเก็บข้อมูลติดต่อได้

    ฟีเจอร์ใหม่: อินเทอร์เน็ต, MP3 และกล้อง
    ช่วงกลางยุค 90s โทรศัพท์เริ่มเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น Nokia 9000 Communicator (1996) และ Nokia 7110 ที่รองรับ WAP ต่อมาในปี 2000 Samsung UpRoar กลายเป็นโทรศัพท์ที่เล่น MP3 ได้ และในปีเดียวกัน Samsung SCH-V200 และ Sharp J-SH04 ถือเป็นโทรศัพท์กล้องรุ่นแรกที่สามารถถ่ายและส่งภาพได้

    จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่: iPhone
    ปี 2007 Apple เปิดตัว iPhone รุ่นแรก ที่รวมการโทร, อินเทอร์เน็ต, เพลง และแอปพลิเคชันไว้ในเครื่องเดียว แม้รุ่นแรกยังไม่มี App Store หรือการส่ง MMS แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนยุคใหม่ที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ยุคแรก (1946–1973)
    Car Phones ใช้พลังงานจากแบตรถยนต์
    Motorola DynaTAC โทรศัพท์มือถือเชิงพาณิชย์รุ่นแรก

    ยุค 80s–90s
    Nokia Cityman เบากว่าและถูกใช้โดยผู้นำโลก
    Motorola MicroTAC โทรศัพท์ฝาพับรุ่นแรก

    การสื่อสารใหม่
    SMS แรกในปี 1992
    IBM Simon สมาร์ทโฟนรุ่นแรก

    ฟีเจอร์ใหม่ในยุค 90s–2000s
    Nokia 9000 เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    Samsung UpRoar เล่น MP3
    Samsung SCH-V200 และ Sharp J-SH04 โทรศัพท์กล้องรุ่นแรก

    ยุคสมาร์ทโฟน
    iPhone (2007) ปฏิวัติวงการมือถือ

    คำเตือนต่อผู้ใช้
    โทรศัพท์รุ่นเก่าไม่มีการอัปเดตความปลอดภัย เสี่ยงต่อการใช้งานในปัจจุบัน
    การพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ทำให้ข้อมูลส่วนตัวเสี่ยงต่อการถูกเก็บและใช้งานโดยบริษัทใหญ่

    https://www.slashgear.com/947221/the-stunning-transformation-of-cell-phones/
    📳 วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือจากยุคแรกที่เป็น “Car Phones” จนถึงสมาร์ทโฟนยุคใหม่ บทความนี้เล่าถึงวิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือจากยุคแรกที่เป็น “Car Phones” จนถึงสมาร์ทโฟนยุคใหม่ โดยเน้นเหตุการณ์สำคัญ เช่น การเปิดตัว Motorola DynaTAC, Nokia Cityman, Motorola MicroTAC (Flip Phone), ข้อความ SMS แรก, IBM Simon (Smartphone แรก), โทรศัพท์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, โทรศัพท์ที่เล่นเพลง MP3, โทรศัพท์กล้อง และการเปิดตัว iPhone 📞 ยุคแรก: Car Phones และ Motorola DynaTAC โทรศัพท์มือถือเริ่มต้นในปี 1946 โดย AT&T แต่ยังมีข้อจำกัดด้านช่องสัญญาณและพลังงาน จึงถูกติดตั้งในรถยนต์และเรียกว่า “Car Phones” ต่อมาในปี 1973 Martin Cooper จาก Motorola ได้โทรศัพท์ครั้งแรกด้วย DynaTAC 8000X ซึ่งหนักถึง 2.5 ปอนด์และใช้งานได้เพียง 35 นาที 📱 การพัฒนาในยุค 80s–90s: Nokia และ Flip Phone ปี 1987 Nokia Mobira Cityman ได้รับความนิยมเมื่อถูกใช้โดย Mikhail Gorbachev และถือเป็นโทรศัพท์ที่เบากว่า DynaTAC แม้ราคาสูงมาก ต่อมาในปี 1989 Motorola เปิดตัว MicroTAC 9800X ซึ่งเป็น โทรศัพท์ฝาพับ (Flip Phone) รุ่นแรก ทำให้โทรศัพท์เริ่มมีขนาดเล็กลงและพกพาสะดวกขึ้น 💬 การสื่อสารใหม่: SMS และ IBM Simon วันที่ 3 ธันวาคม 1992 มีการส่ง ข้อความ SMS แรก (“Merry Christmas”) โดย Neil Papworth ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิธีการสื่อสาร ต่อมาในปี 1992 IBM เปิดตัว Simon Personal Communicator ซึ่งถูกมองว่าเป็น สมาร์ทโฟนรุ่นแรก เพราะมีหน้าจอสัมผัสและสามารถส่งอีเมล, fax และเก็บข้อมูลติดต่อได้ 🎶📷 ฟีเจอร์ใหม่: อินเทอร์เน็ต, MP3 และกล้อง ช่วงกลางยุค 90s โทรศัพท์เริ่มเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น Nokia 9000 Communicator (1996) และ Nokia 7110 ที่รองรับ WAP ต่อมาในปี 2000 Samsung UpRoar กลายเป็นโทรศัพท์ที่เล่น MP3 ได้ และในปีเดียวกัน Samsung SCH-V200 และ Sharp J-SH04 ถือเป็นโทรศัพท์กล้องรุ่นแรกที่สามารถถ่ายและส่งภาพได้ 🍏 จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่: iPhone ปี 2007 Apple เปิดตัว iPhone รุ่นแรก ที่รวมการโทร, อินเทอร์เน็ต, เพลง และแอปพลิเคชันไว้ในเครื่องเดียว แม้รุ่นแรกยังไม่มี App Store หรือการส่ง MMS แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนยุคใหม่ที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ยุคแรก (1946–1973) ➡️ Car Phones ใช้พลังงานจากแบตรถยนต์ ➡️ Motorola DynaTAC โทรศัพท์มือถือเชิงพาณิชย์รุ่นแรก ✅ ยุค 80s–90s ➡️ Nokia Cityman เบากว่าและถูกใช้โดยผู้นำโลก ➡️ Motorola MicroTAC โทรศัพท์ฝาพับรุ่นแรก ✅ การสื่อสารใหม่ ➡️ SMS แรกในปี 1992 ➡️ IBM Simon สมาร์ทโฟนรุ่นแรก ✅ ฟีเจอร์ใหม่ในยุค 90s–2000s ➡️ Nokia 9000 เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ➡️ Samsung UpRoar เล่น MP3 ➡️ Samsung SCH-V200 และ Sharp J-SH04 โทรศัพท์กล้องรุ่นแรก ✅ ยุคสมาร์ทโฟน ➡️ iPhone (2007) ปฏิวัติวงการมือถือ ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ ⛔ โทรศัพท์รุ่นเก่าไม่มีการอัปเดตความปลอดภัย เสี่ยงต่อการใช้งานในปัจจุบัน ⛔ การพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ทำให้ข้อมูลส่วนตัวเสี่ยงต่อการถูกเก็บและใช้งานโดยบริษัทใหญ่ https://www.slashgear.com/947221/the-stunning-transformation-of-cell-phones/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    The Stunning Transformation Of Cell Phones - SlashGear
    It's hard to imagine life without a phone in your pocket. The incredible transformation of cell phones proves just how far these modern marvels have come.
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันศุกร์ที่ 5 เดือนธันวาคม พ.ศ.2568
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันศุกร์ที่ 5 เดือนธันวาคม พ.ศ.2568 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft

    บทความนี้เล่าถึง 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ตั้งแต่การเปิดตัว Windows 95, การเข้าสู่ตลาดเกมด้วย Xbox, ความล้มเหลวของ Zune, ไปจนถึงการซื้อกิจการใหญ่ ๆ อย่าง Skype, LinkedIn และ Minecraft รวมถึงการเปิดตัวบริการสำคัญอย่าง Azure และ Teams

    12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ตามลำดับเวลา:
    1975 – ก่อตั้ง Microsoft Bill Gates และ Paul Allen ก่อตั้งบริษัทเพื่อพัฒนา software ให้กับ Altair 8800
    1985 – เปิดตัว Windows รุ่นแรก แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จมาก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ Windows
    1995 – เปิดตัว Windows 95 จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใช้งานง่ายขึ้นและแพร่หลายทั่วโลก
    2001 – เปิดตัว Xbox รุ่นแรก Microsoft เข้าสู่ตลาดเกมคอนโซลและกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ Sony และ Nintendo
    2006 – เปิดตัว Zune พยายามแข่งขันกับ iPod แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และยุติในปี 2011
    2008 – เปิดตัว Azure Cloud Services ก้าวเข้าสู่ตลาดคลาวด์ ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการอันดับสองรองจาก AWS
    2009 – เปิดตัว Bing กลายเป็นเครื่องมือค้นหาหลักของ Microsoft และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    2010 – เปิดตัว Windows Phone ความพยายามเข้าสู่ตลาดมือถือ แต่ไม่สามารถแข่งขันกับ iOS และ Android ได้
    2011 – ซื้อกิจการ Skype ขยายเข้าสู่ตลาด VoIP และการสื่อสารออนไลน์
    2012 – เปิดตัว Surface Tablet รุ่นแรก เข้าสู่ตลาดแท็บเล็ต แข่งขันกับ Apple iPad
    2014 – ซื้อกิจการ Minecraft (Mojang) เสริมความแข็งแกร่งในตลาดเกม ด้วยเกมยอดนิยมระดับโลก
    2016 – ซื้อกิจการ LinkedIn ขยายเข้าสู่ตลาดเครือข่ายมืออาชีพ มูลค่าการซื้อกว่า $26.2 พันล้าน

    จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่: Windows 95
    Microsoft เริ่มต้นในปี 1975 แต่การเปิดตัว Windows 95 ในปี 1995 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้าถึงผู้ใช้ทั่วไปได้ง่ายขึ้น ระบบปฏิบัติการนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมและอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องมีความรู้เชิงลึกด้านการเขียนโค้ด ถือเป็นการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ในยุคนั้น

    การเข้าสู่ตลาดเกม: Xbox
    ในปี 2001 Microsoft เปิดตัว Xbox รุ่นแรก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ Nintendo และ Sony การมาพร้อมระบบดิสก์และความสามารถในการเล่น DVD ทำให้ Xbox ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และต่อยอดไปสู่ Xbox 360, Xbox One และ Xbox Series X|S ที่ยังคงเป็นหนึ่งในคอนโซลเกมหลักของโลก

    ความล้มเหลวและบทเรียน: Zune และ Windows Phone
    ปี 2006 Microsoft เปิดตัว Zune เพื่อต่อกรกับ iPod แต่ไม่ประสบความสำเร็จและถูกยุติในปี 2011 อย่างไรก็ตาม บทเรียนจาก Zune ถูกนำไปใช้พัฒนา Windows Phone ที่เปิดตัวในปี 2010 แม้ Windows Phone จะถูกยุติในปี 2017 แต่ก็ทำให้ Microsoft ได้เรียนรู้ว่าตลาดมือถือไม่ใช่จุดแข็งของบริษัท

    การขยายสู่บริการคลาวด์และซอฟต์แวร์
    ปี 2008 Microsoft เปิดตัว Azure Cloud Services ซึ่งปัจจุบันครองตลาดคลาวด์เป็นอันดับสองรองจาก AWS และในปี 2009 เปิดตัว Bing ที่ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือค้นหาหลักของโลก นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Outlook.com (2013) และการเปิดตัว Teams (2017) ที่กลายเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารสำคัญในองค์กรทั่วโลก

    การซื้อกิจการครั้งใหญ่
    Microsoft ใช้กลยุทธ์การซื้อกิจการเพื่อขยายธุรกิจ เช่น:
    Skype (2011) เพื่อเข้าสู่ตลาด VoIP
    Minecraft (2014) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดเกม
    LinkedIn (2016) เพื่อครองตลาดเครือข่ายมืออาชีพ

    ทั้งหมดนี้ช่วยให้ Microsoft ขยายอิทธิพลไปสู่หลายอุตสาหกรรมและสร้างรายได้มหาศาล

    https://www.slashgear.com/1718888/most-important-moments-microsoft-history/
    💻 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft บทความนี้เล่าถึง 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ตั้งแต่การเปิดตัว Windows 95, การเข้าสู่ตลาดเกมด้วย Xbox, ความล้มเหลวของ Zune, ไปจนถึงการซื้อกิจการใหญ่ ๆ อย่าง Skype, LinkedIn และ Minecraft รวมถึงการเปิดตัวบริการสำคัญอย่าง Azure และ Teams 📆 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ตามลำดับเวลา: 1975 – ก่อตั้ง Microsoft Bill Gates และ Paul Allen ก่อตั้งบริษัทเพื่อพัฒนา software ให้กับ Altair 8800 1985 – เปิดตัว Windows รุ่นแรก แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จมาก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ Windows 1995 – เปิดตัว Windows 95 จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใช้งานง่ายขึ้นและแพร่หลายทั่วโลก 2001 – เปิดตัว Xbox รุ่นแรก Microsoft เข้าสู่ตลาดเกมคอนโซลและกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ Sony และ Nintendo 2006 – เปิดตัว Zune พยายามแข่งขันกับ iPod แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และยุติในปี 2011 2008 – เปิดตัว Azure Cloud Services ก้าวเข้าสู่ตลาดคลาวด์ ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการอันดับสองรองจาก AWS 2009 – เปิดตัว Bing กลายเป็นเครื่องมือค้นหาหลักของ Microsoft และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 2010 – เปิดตัว Windows Phone ความพยายามเข้าสู่ตลาดมือถือ แต่ไม่สามารถแข่งขันกับ iOS และ Android ได้ 2011 – ซื้อกิจการ Skype ขยายเข้าสู่ตลาด VoIP และการสื่อสารออนไลน์ 2012 – เปิดตัว Surface Tablet รุ่นแรก เข้าสู่ตลาดแท็บเล็ต แข่งขันกับ Apple iPad 2014 – ซื้อกิจการ Minecraft (Mojang) เสริมความแข็งแกร่งในตลาดเกม ด้วยเกมยอดนิยมระดับโลก 2016 – ซื้อกิจการ LinkedIn ขยายเข้าสู่ตลาดเครือข่ายมืออาชีพ มูลค่าการซื้อกว่า $26.2 พันล้าน 💻 จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่: Windows 95 Microsoft เริ่มต้นในปี 1975 แต่การเปิดตัว Windows 95 ในปี 1995 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้าถึงผู้ใช้ทั่วไปได้ง่ายขึ้น ระบบปฏิบัติการนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมและอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องมีความรู้เชิงลึกด้านการเขียนโค้ด ถือเป็นการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ในยุคนั้น 🎮 การเข้าสู่ตลาดเกม: Xbox ในปี 2001 Microsoft เปิดตัว Xbox รุ่นแรก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ Nintendo และ Sony การมาพร้อมระบบดิสก์และความสามารถในการเล่น DVD ทำให้ Xbox ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และต่อยอดไปสู่ Xbox 360, Xbox One และ Xbox Series X|S ที่ยังคงเป็นหนึ่งในคอนโซลเกมหลักของโลก 📱 ความล้มเหลวและบทเรียน: Zune และ Windows Phone ปี 2006 Microsoft เปิดตัว Zune เพื่อต่อกรกับ iPod แต่ไม่ประสบความสำเร็จและถูกยุติในปี 2011 อย่างไรก็ตาม บทเรียนจาก Zune ถูกนำไปใช้พัฒนา Windows Phone ที่เปิดตัวในปี 2010 แม้ Windows Phone จะถูกยุติในปี 2017 แต่ก็ทำให้ Microsoft ได้เรียนรู้ว่าตลาดมือถือไม่ใช่จุดแข็งของบริษัท ☁️ การขยายสู่บริการคลาวด์และซอฟต์แวร์ ปี 2008 Microsoft เปิดตัว Azure Cloud Services ซึ่งปัจจุบันครองตลาดคลาวด์เป็นอันดับสองรองจาก AWS และในปี 2009 เปิดตัว Bing ที่ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือค้นหาหลักของโลก นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Outlook.com (2013) และการเปิดตัว Teams (2017) ที่กลายเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารสำคัญในองค์กรทั่วโลก 🛒 การซื้อกิจการครั้งใหญ่ Microsoft ใช้กลยุทธ์การซื้อกิจการเพื่อขยายธุรกิจ เช่น: 💠 Skype (2011) เพื่อเข้าสู่ตลาด VoIP 💠 Minecraft (2014) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดเกม 💠 LinkedIn (2016) เพื่อครองตลาดเครือข่ายมืออาชีพ ทั้งหมดนี้ช่วยให้ Microsoft ขยายอิทธิพลไปสู่หลายอุตสาหกรรมและสร้างรายได้มหาศาล https://www.slashgear.com/1718888/most-important-moments-microsoft-history/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    12 Of The Most Important Moments In Microsoft's History - SlashGear
    Microsoft has been a major player in the tech industry for decades. Over those years, it's had a lot of big milestones moments, for better and for worse.
    0 Comments 0 Shares 48 Views 0 Reviews
More Results