• https://youtube.com/shorts/CpzHsJg6RKI?si=TbdeH24wwnyTl5o6
    https://youtube.com/shorts/CpzHsJg6RKI?si=TbdeH24wwnyTl5o6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • Linux 2026: 9 เทรนด์ใหญ่ที่จะเปลี่ยนโลกเดสก์ท็อปโอเพ่นซอร์ส

    ปี 2025 เป็นปีที่เดสก์ท็อป Linux เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้ง Rust ที่เริ่มเข้ามาในเคอร์เนล, AI ที่เริ่มฝังในแอป, และการเปลี่ยนผ่านจาก X11 ไปสู่ Wayland อย่างจริงจัง บทความจาก It’s FOSS มองไปข้างหน้าและคาดการณ์ว่า ปี 2026 จะเป็นปีที่ Linux เดสก์ท็อป “เปลี่ยนหน้า” ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี

    หนึ่งในเทรนด์สำคัญคือ Local AI ที่จะถูกฝังในแอปมากขึ้น ตั้งแต่ Calibre, ONLYOFFICE ไปจนถึง Kdenlive โดยใช้ LLM แบบรันบนเครื่อง เช่น Ollama หรือ LM Studio ทำให้ผู้ใช้สามารถสรุปเอกสาร ค้นไฟล์ หรือจัดการข้อมูลส่วนตัวได้โดยไม่ต้องส่งข้อมูลขึ้นคลาวด์ นี่คือการเปลี่ยน Linux ให้เป็น “AI workstation ส่วนตัว” อย่างแท้จริง

    ด้านระบบกราฟิก Wayland จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ หลัง Ubuntu, Fedora และ KDE Plasma ต่างประกาศเดินหน้าเต็มตัวในปี 2025 ทำให้ปี 2026 จะเป็นปีที่ Xorg ถูกลดบทบาทอย่างชัดเจน แม้จะยังต้องพึ่ง XWayland สำหรับแอปเก่า แต่ทิศทางโดยรวมชัดเจนว่า Linux เดสก์ท็อปกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ที่ลื่นไหลและปลอดภัยกว่าเดิม

    นอกจากนี้ยังมีเทรนด์สำคัญอื่นๆ เช่น การเติบโตของ RISC‑V ในฮาร์ดแวร์ผู้ใช้ทั่วไป, GNOME ที่เดินหน้าปรับแอปดีฟอลต์ให้ทันสมัย, ดิสโทรแบบ Immutable ที่เริ่มกลายเป็นตัวเลือกหลัก, Hyprland ที่ยังคงครองใจสายแต่งเดสก์ท็อป และแนวโน้มรัฐบาลยุโรปที่หันมาใช้โอเพ่นซอร์สมากขึ้นเพื่อความมั่นคงและลดการพึ่งพาบริษัทต่างชาติ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทรนด์ Linux 2026 ที่โดดเด่นที่สุด
    Local AI ในแอป Linux เพิ่มขึ้น เช่น Calibre, ONLYOFFICE, Kdenlive
    Wayland กลายเป็นมาตรฐาน หลังดิสโทรใหญ่ทยอยเลิก Xorg
    Linux Gaming โตต่อเนื่อง จาก Proton, Wine, Rust‑based NVIDIA driver และ Steam Machine
    RISC‑V เข้าสู่ตลาดผู้ใช้ทั่วไป เช่น Framework Mainboard และอุปกรณ์พกพาใหม่ๆ
    GNOME เปลี่ยนแอปดีฟอลต์หลายตัว ไปสู่ GTK4 + libadwaita
    Immutable Distros มาแรง เช่น Fedora Atomic, openSUSE MicroOS, Nitrux
    Hyprland ยังคงเติบโต และถูกดิสโทรหลายตัวเพิ่มเป็นตัวเลือกหลัก
    Rustification เพิ่มขึ้น ทั้งในเคอร์เนลและเครื่องมือระบบ เช่น sudo, coreutils
    รัฐบาลยุโรปหันมาใช้โอเพ่นซอร์ส เช่น เดนมาร์ก, เยอรมนี, แคนาดา

    ความเสี่ยงและข้อควรระวังในเทรนด์เหล่านี้
    แอปเก่าที่ไม่รองรับ Wayland อาจมีปัญหาในช่วงเปลี่ยนผ่าน
    Hyprland ยังต้องจัดการไฟล์คอนฟิกจำนวนมาก แม้จะดีขึ้นแล้วก็ตาม
    Rustification อาจทำให้เกิด fragmentation หากโครงการต่างๆ รีไรต์โดยไม่ประสานกัน
    Immutable Distros ต้องการการเรียนรู้ใหม่สำหรับผู้ใช้ทั่วไป

    https://itsfoss.com/news/linux-future-prediction-2026/
    🐧🔮 Linux 2026: 9 เทรนด์ใหญ่ที่จะเปลี่ยนโลกเดสก์ท็อปโอเพ่นซอร์ส ปี 2025 เป็นปีที่เดสก์ท็อป Linux เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้ง Rust ที่เริ่มเข้ามาในเคอร์เนล, AI ที่เริ่มฝังในแอป, และการเปลี่ยนผ่านจาก X11 ไปสู่ Wayland อย่างจริงจัง บทความจาก It’s FOSS มองไปข้างหน้าและคาดการณ์ว่า ปี 2026 จะเป็นปีที่ Linux เดสก์ท็อป “เปลี่ยนหน้า” ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี หนึ่งในเทรนด์สำคัญคือ Local AI ที่จะถูกฝังในแอปมากขึ้น ตั้งแต่ Calibre, ONLYOFFICE ไปจนถึง Kdenlive โดยใช้ LLM แบบรันบนเครื่อง เช่น Ollama หรือ LM Studio ทำให้ผู้ใช้สามารถสรุปเอกสาร ค้นไฟล์ หรือจัดการข้อมูลส่วนตัวได้โดยไม่ต้องส่งข้อมูลขึ้นคลาวด์ นี่คือการเปลี่ยน Linux ให้เป็น “AI workstation ส่วนตัว” อย่างแท้จริง ด้านระบบกราฟิก Wayland จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ หลัง Ubuntu, Fedora และ KDE Plasma ต่างประกาศเดินหน้าเต็มตัวในปี 2025 ทำให้ปี 2026 จะเป็นปีที่ Xorg ถูกลดบทบาทอย่างชัดเจน แม้จะยังต้องพึ่ง XWayland สำหรับแอปเก่า แต่ทิศทางโดยรวมชัดเจนว่า Linux เดสก์ท็อปกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ที่ลื่นไหลและปลอดภัยกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีเทรนด์สำคัญอื่นๆ เช่น การเติบโตของ RISC‑V ในฮาร์ดแวร์ผู้ใช้ทั่วไป, GNOME ที่เดินหน้าปรับแอปดีฟอลต์ให้ทันสมัย, ดิสโทรแบบ Immutable ที่เริ่มกลายเป็นตัวเลือกหลัก, Hyprland ที่ยังคงครองใจสายแต่งเดสก์ท็อป และแนวโน้มรัฐบาลยุโรปที่หันมาใช้โอเพ่นซอร์สมากขึ้นเพื่อความมั่นคงและลดการพึ่งพาบริษัทต่างชาติ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทรนด์ Linux 2026 ที่โดดเด่นที่สุด ➡️ Local AI ในแอป Linux เพิ่มขึ้น เช่น Calibre, ONLYOFFICE, Kdenlive ➡️ Wayland กลายเป็นมาตรฐาน หลังดิสโทรใหญ่ทยอยเลิก Xorg ➡️ Linux Gaming โตต่อเนื่อง จาก Proton, Wine, Rust‑based NVIDIA driver และ Steam Machine ➡️ RISC‑V เข้าสู่ตลาดผู้ใช้ทั่วไป เช่น Framework Mainboard และอุปกรณ์พกพาใหม่ๆ ➡️ GNOME เปลี่ยนแอปดีฟอลต์หลายตัว ไปสู่ GTK4 + libadwaita ➡️ Immutable Distros มาแรง เช่น Fedora Atomic, openSUSE MicroOS, Nitrux ➡️ Hyprland ยังคงเติบโต และถูกดิสโทรหลายตัวเพิ่มเป็นตัวเลือกหลัก ➡️ Rustification เพิ่มขึ้น ทั้งในเคอร์เนลและเครื่องมือระบบ เช่น sudo, coreutils ➡️ รัฐบาลยุโรปหันมาใช้โอเพ่นซอร์ส เช่น เดนมาร์ก, เยอรมนี, แคนาดา ‼️ ความเสี่ยงและข้อควรระวังในเทรนด์เหล่านี้ ⛔ แอปเก่าที่ไม่รองรับ Wayland อาจมีปัญหาในช่วงเปลี่ยนผ่าน ⛔ Hyprland ยังต้องจัดการไฟล์คอนฟิกจำนวนมาก แม้จะดีขึ้นแล้วก็ตาม ⛔ Rustification อาจทำให้เกิด fragmentation หากโครงการต่างๆ รีไรต์โดยไม่ประสานกัน ⛔ Immutable Distros ต้องการการเรียนรู้ใหม่สำหรับผู้ใช้ทั่วไป https://itsfoss.com/news/linux-future-prediction-2026/
    ITSFOSS.COM
    Here's Our Prediction for the Future of Desktop Linux in 2026
    Our take on the trends that will shape desktop Linux and open source in the year ahead.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • Operation Sentinel: Interpol ผนึก 19 ชาติแอฟริกา จับ 574 ผู้ต้องสงสัย — ถอดรหัสแรนซัมแวร์ 6 ตัว ปิดลิงก์มุ่งร้ายกว่า 6,000 รายการ

    ปฏิบัติการขนาดใหญ่ของ Interpol ภายใต้ชื่อ Operation Sentinel ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 27 พฤศจิกายน สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยด้านอาชญากรรมไซเบอร์ได้มากถึง 574 รายใน 19 ประเทศทั่วแอฟริกา พร้อมทั้งปิดลิงก์อันตรายกว่า 6,000 รายการ และกู้คืนเงินได้ราว 3 ล้านดอลลาร์ จากการถอดรหัสแรนซัมแวร์ 6 สายพันธุ์ที่ใช้โจมตีองค์กรในภูมิภาคนี้

    ภัยคุกคามหลักที่พบในปฏิบัติการครั้งนี้คือ Business Email Compromise (BEC), การกรรโชกดิจิทัล และแรนซัมแวร์ ซึ่งสร้างความเสียหายรวมกว่า 21 ล้านดอลลาร์ หนึ่งในคดีใหญ่เกิดขึ้นในเซเนกัล เมื่อแฮกเกอร์เข้าควบคุมระบบอีเมลของบริษัทพลังงานรายใหญ่และพยายามสั่งโอนเงิน 7.9 ล้านดอลลาร์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่อายัดบัญชีปลายทางได้ทันเวลา

    ในกานา เจ้าหน้าที่สามารถวิเคราะห์มัลแวร์ขั้นสูงจนสร้าง เครื่องมือถอดรหัสเอง ช่วยกู้ข้อมูลได้เกือบ 30TB จากทั้งหมด 100TB ที่ถูกเข้ารหัส พร้อมระบุสายพันธุ์แรนซัมแวร์ที่ใช้โจมตีได้สำเร็จ นี่สะท้อนให้เห็นว่าศูนย์ปฏิบัติการไซเบอร์ในแอฟริกากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและเริ่มมีความสามารถด้าน Forensics ที่ทัดเทียมประเทศพัฒนาแล้วมากขึ้น

    Interpol ระบุว่าการโจมตีไซเบอร์ในแอฟริกากำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกว่า 30% ของอาชญากรรมที่รายงานในแอฟริกาตะวันตกและตะวันออกเป็นอาชญากรรมไซเบอร์ และสองในสามของประเทศสมาชิกระบุว่าอาชญากรรมไซเบอร์มีสัดส่วนระดับ “กลางถึงสูง” ของคดีทั้งหมด ปฏิบัติการ Sentinel จึงเป็นสัญญาณว่าภูมิภาคนี้กำลังก้าวสู่ยุคที่ต้องรับมือภัยไซเบอร์อย่างจริงจังและเป็นระบบมากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ผลลัพธ์สำคัญจาก Operation Sentinel
    จับกุมผู้ต้องสงสัย 574 รายใน 19 ประเทศแอฟริกา
    ปิดลิงก์อันตรายกว่า 6,000 รายการ และกู้คืนเงิน 3 ล้านดอลลาร์
    ถอดรหัสแรนซัมแวร์ได้ 6 สายพันธุ์ ช่วยกู้ข้อมูลจำนวนมาก
    คดีใหญ่ในเซเนกัล: ป้องกันการโอนเงินผิดกฎหมาย 7.9 ล้านดอลลาร์ ได้ทันเวลา

    ความเสี่ยงและสัญญาณเตือนจากข้อมูลในข่าว
    BEC ยังคงเป็นภัยอันดับหนึ่ง ในหลายประเทศแอฟริกา
    แรนซัมแวร์ยังคงโจมตีสถาบันการเงินและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอย่างต่อเนื่อง
    อาชญากรรมไซเบอร์คิดเป็น 30% ของคดีทั้งหมด ในบางภูมิภาคของแอฟริกา
    เครือข่ายอาชญากรมีความร่วมมือข้ามประเทศมากขึ้น ทำให้ตรวจจับยากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/interpol-led-cybercrime-crackdown-results-in-574-arrests-in-19-african-nations-decrypts-six-ransomware-variants-operation-sentinel-disrupts-rings-that-caused-usd21-million-in-losses-recovers-usd3-million
    🛡️🌍 Operation Sentinel: Interpol ผนึก 19 ชาติแอฟริกา จับ 574 ผู้ต้องสงสัย — ถอดรหัสแรนซัมแวร์ 6 ตัว ปิดลิงก์มุ่งร้ายกว่า 6,000 รายการ ปฏิบัติการขนาดใหญ่ของ Interpol ภายใต้ชื่อ Operation Sentinel ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 27 พฤศจิกายน สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยด้านอาชญากรรมไซเบอร์ได้มากถึง 574 รายใน 19 ประเทศทั่วแอฟริกา พร้อมทั้งปิดลิงก์อันตรายกว่า 6,000 รายการ และกู้คืนเงินได้ราว 3 ล้านดอลลาร์ จากการถอดรหัสแรนซัมแวร์ 6 สายพันธุ์ที่ใช้โจมตีองค์กรในภูมิภาคนี้ ภัยคุกคามหลักที่พบในปฏิบัติการครั้งนี้คือ Business Email Compromise (BEC), การกรรโชกดิจิทัล และแรนซัมแวร์ ซึ่งสร้างความเสียหายรวมกว่า 21 ล้านดอลลาร์ หนึ่งในคดีใหญ่เกิดขึ้นในเซเนกัล เมื่อแฮกเกอร์เข้าควบคุมระบบอีเมลของบริษัทพลังงานรายใหญ่และพยายามสั่งโอนเงิน 7.9 ล้านดอลลาร์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่อายัดบัญชีปลายทางได้ทันเวลา ในกานา เจ้าหน้าที่สามารถวิเคราะห์มัลแวร์ขั้นสูงจนสร้าง เครื่องมือถอดรหัสเอง ช่วยกู้ข้อมูลได้เกือบ 30TB จากทั้งหมด 100TB ที่ถูกเข้ารหัส พร้อมระบุสายพันธุ์แรนซัมแวร์ที่ใช้โจมตีได้สำเร็จ นี่สะท้อนให้เห็นว่าศูนย์ปฏิบัติการไซเบอร์ในแอฟริกากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและเริ่มมีความสามารถด้าน Forensics ที่ทัดเทียมประเทศพัฒนาแล้วมากขึ้น Interpol ระบุว่าการโจมตีไซเบอร์ในแอฟริกากำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกว่า 30% ของอาชญากรรมที่รายงานในแอฟริกาตะวันตกและตะวันออกเป็นอาชญากรรมไซเบอร์ และสองในสามของประเทศสมาชิกระบุว่าอาชญากรรมไซเบอร์มีสัดส่วนระดับ “กลางถึงสูง” ของคดีทั้งหมด ปฏิบัติการ Sentinel จึงเป็นสัญญาณว่าภูมิภาคนี้กำลังก้าวสู่ยุคที่ต้องรับมือภัยไซเบอร์อย่างจริงจังและเป็นระบบมากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ผลลัพธ์สำคัญจาก Operation Sentinel ➡️ จับกุมผู้ต้องสงสัย 574 รายใน 19 ประเทศแอฟริกา ➡️ ปิดลิงก์อันตรายกว่า 6,000 รายการ และกู้คืนเงิน 3 ล้านดอลลาร์ ➡️ ถอดรหัสแรนซัมแวร์ได้ 6 สายพันธุ์ ช่วยกู้ข้อมูลจำนวนมาก ➡️ คดีใหญ่ในเซเนกัล: ป้องกันการโอนเงินผิดกฎหมาย 7.9 ล้านดอลลาร์ ได้ทันเวลา ‼️ ความเสี่ยงและสัญญาณเตือนจากข้อมูลในข่าว ⛔ BEC ยังคงเป็นภัยอันดับหนึ่ง ในหลายประเทศแอฟริกา ⛔ แรนซัมแวร์ยังคงโจมตีสถาบันการเงินและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอย่างต่อเนื่อง ⛔ อาชญากรรมไซเบอร์คิดเป็น 30% ของคดีทั้งหมด ในบางภูมิภาคของแอฟริกา ⛔ เครือข่ายอาชญากรมีความร่วมมือข้ามประเทศมากขึ้น ทำให้ตรวจจับยากขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/interpol-led-cybercrime-crackdown-results-in-574-arrests-in-19-african-nations-decrypts-six-ransomware-variants-operation-sentinel-disrupts-rings-that-caused-usd21-million-in-losses-recovers-usd3-million
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel Xeon Granite Rapids-WS: หลุดไลน์อัปเต็มก่อน CES — ชน Threadripper แบบตรงๆ ด้วยรุ่นท็อป 86 คอร์

    Intel เตรียมเปิดตัวไลน์อัป Xeon Granite Rapids‑WS สำหรับเวิร์กสเตชันในงาน CES 2026 แต่ข้อมูลสำคัญกลับหลุดออกมาก่อนผ่านร้านค้าปลีกหลายแห่ง ทำให้เห็นภาพรวมของซีรีส์นี้ชัดเจนขึ้นมาก ทั้งจำนวนคอร์ ราคา และตำแหน่งการตลาด โดยไลน์อัปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อชน AMD Threadripper PRO โดยตรงในตลาด HEDT ระดับมืออาชีพ

    รุ่นเริ่มต้นอย่าง Xeon 634 เปิดราคาที่เพียง $541 พร้อม L3 cache 48MB และความเร็ว 2.7GHz แม้ยังไม่รู้จำนวนคอร์ แต่คาดว่าอาจเป็นรุ่นดัดแปลงจาก Xeon 6349P แบบ 6 คอร์ ซึ่งทำให้มันอยู่ในตลาดล่างที่ AMD ไม่มีคู่เทียบตรงๆ ในฝั่ง Threadripper PRO

    ด้านบนสุดของไลน์อัปคือ Xeon 698X ที่มี 86 คอร์ / 172 เธรด พร้อม L3 cache 336MB และความเร็วฐาน 2.0GHz เปิดราคาที่ $8,294 ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งอย่าง Threadripper PRO 9995WX ที่มี 96 คอร์และราคา $11,699 แม้ Intel ยังไม่สามารถเทียบจำนวนคอร์ได้ แต่ราคาที่ต่ำกว่ามากทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับงานเรนเดอร์และงานวิทยาศาสตร์ข้อมูลระดับสูง

    รุ่นกลางอย่าง Xeon 654 ราคา $1,300 มี 18 คอร์ 36 เธรด และ L3 72MB ซึ่งใกล้เคียงกับ Threadripper PRO 9955WX (16 คอร์) แต่ Intel ให้แคชมากกว่า และยังคงใช้ TDP 350W เหมือนกันทั้งไลน์อัป Granite Rapids‑WS รองรับซ็อกเก็ตใหม่ E2 (LGA 4710) บนแพลตฟอร์ม W890 ที่ออกแบบมาสำหรับงานเวิร์กสเตชันโดยเฉพาะ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไฮไลต์จากไลน์อัป Granite Rapids‑WS
    เปิดตัวทั้งหมด 11 รุ่น ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงระดับเรนเดอร์ฟาร์ม
    รุ่นท็อป Xeon 698X — 86 คอร์ / 172 เธรด ราคา $8,294
    รุ่นเริ่มต้น Xeon 634 ราคาเพียง $541 เจาะตลาดล่างที่ AMD ไม่มีคู่แข่งตรง
    รุ่นกลาง Xeon 654 (18 คอร์) ราคา $1,300 ใกล้เคียง Threadripper PRO 9955WX แต่ให้แคชมากกว่า
    ทั้งไลน์อัปใช้ TDP 350W และรองรับแพลตฟอร์ม W890 + ซ็อกเก็ต E2 (LGA 4710)

    ความเสี่ยงและข้อควรระวังจากข้อมูลหลุด
    รายการราคาจากร้านค้าปลีกอาจ คลาดเคลื่อน ก่อนเปิดตัวจริง
    Intel ยัง ไม่สามารถเทียบจำนวนคอร์ กับ Threadripper PRO รุ่นท็อปได้
    ซ็อกเก็ตใหม่ E2 อาจทำให้ผู้ใช้ต้อง อัปเกรดเมนบอร์ดทั้งหมด
    TDP 350W ต้องการระบบระบายความร้อนระดับสูง อาจเพิ่มต้นทุนรวมของระบบ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-upcoming-xeon-granite-rapids-workstation-lineup-leaks-poised-to-challenge-amd-threadripper-with-usd8-300-86-core-flagship-retailer-lists-prices-ahead-of-ces-launch-starts-at-usd540
    🧩⚙️ Intel Xeon Granite Rapids-WS: หลุดไลน์อัปเต็มก่อน CES — ชน Threadripper แบบตรงๆ ด้วยรุ่นท็อป 86 คอร์ Intel เตรียมเปิดตัวไลน์อัป Xeon Granite Rapids‑WS สำหรับเวิร์กสเตชันในงาน CES 2026 แต่ข้อมูลสำคัญกลับหลุดออกมาก่อนผ่านร้านค้าปลีกหลายแห่ง ทำให้เห็นภาพรวมของซีรีส์นี้ชัดเจนขึ้นมาก ทั้งจำนวนคอร์ ราคา และตำแหน่งการตลาด โดยไลน์อัปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อชน AMD Threadripper PRO โดยตรงในตลาด HEDT ระดับมืออาชีพ รุ่นเริ่มต้นอย่าง Xeon 634 เปิดราคาที่เพียง $541 พร้อม L3 cache 48MB และความเร็ว 2.7GHz แม้ยังไม่รู้จำนวนคอร์ แต่คาดว่าอาจเป็นรุ่นดัดแปลงจาก Xeon 6349P แบบ 6 คอร์ ซึ่งทำให้มันอยู่ในตลาดล่างที่ AMD ไม่มีคู่เทียบตรงๆ ในฝั่ง Threadripper PRO ด้านบนสุดของไลน์อัปคือ Xeon 698X ที่มี 86 คอร์ / 172 เธรด พร้อม L3 cache 336MB และความเร็วฐาน 2.0GHz เปิดราคาที่ $8,294 ซึ่งถูกกว่าคู่แข่งอย่าง Threadripper PRO 9995WX ที่มี 96 คอร์และราคา $11,699 แม้ Intel ยังไม่สามารถเทียบจำนวนคอร์ได้ แต่ราคาที่ต่ำกว่ามากทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับงานเรนเดอร์และงานวิทยาศาสตร์ข้อมูลระดับสูง รุ่นกลางอย่าง Xeon 654 ราคา $1,300 มี 18 คอร์ 36 เธรด และ L3 72MB ซึ่งใกล้เคียงกับ Threadripper PRO 9955WX (16 คอร์) แต่ Intel ให้แคชมากกว่า และยังคงใช้ TDP 350W เหมือนกันทั้งไลน์อัป Granite Rapids‑WS รองรับซ็อกเก็ตใหม่ E2 (LGA 4710) บนแพลตฟอร์ม W890 ที่ออกแบบมาสำหรับงานเวิร์กสเตชันโดยเฉพาะ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไฮไลต์จากไลน์อัป Granite Rapids‑WS ➡️ เปิดตัวทั้งหมด 11 รุ่น ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงระดับเรนเดอร์ฟาร์ม ➡️ รุ่นท็อป Xeon 698X — 86 คอร์ / 172 เธรด ราคา $8,294 ➡️ รุ่นเริ่มต้น Xeon 634 ราคาเพียง $541 เจาะตลาดล่างที่ AMD ไม่มีคู่แข่งตรง ➡️ รุ่นกลาง Xeon 654 (18 คอร์) ราคา $1,300 ใกล้เคียง Threadripper PRO 9955WX แต่ให้แคชมากกว่า ➡️ ทั้งไลน์อัปใช้ TDP 350W และรองรับแพลตฟอร์ม W890 + ซ็อกเก็ต E2 (LGA 4710) ‼️ ความเสี่ยงและข้อควรระวังจากข้อมูลหลุด ⛔ รายการราคาจากร้านค้าปลีกอาจ คลาดเคลื่อน ก่อนเปิดตัวจริง ⛔ Intel ยัง ไม่สามารถเทียบจำนวนคอร์ กับ Threadripper PRO รุ่นท็อปได้ ⛔ ซ็อกเก็ตใหม่ E2 อาจทำให้ผู้ใช้ต้อง อัปเกรดเมนบอร์ดทั้งหมด ⛔ TDP 350W ต้องการระบบระบายความร้อนระดับสูง อาจเพิ่มต้นทุนรวมของระบบ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-upcoming-xeon-granite-rapids-workstation-lineup-leaks-poised-to-challenge-amd-threadripper-with-usd8-300-86-core-flagship-retailer-lists-prices-ahead-of-ces-launch-starts-at-usd540
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251223 #TechRadar

    Surfshark ขยาย Dedicated IP มาสู่ Linux GUI App
    Surfshark เดินหน้าขยายฟีเจอร์ Dedicated IP มายังแอป GUI บน Linux แบบเต็มรูปแบบ ช่วยลด CAPTCHA, ลดการถูกบล็อก และเพิ่มความเสถียรในการเข้าถึงบริการสำคัญ เช่น ระบบงานองค์กรและธนาคาร โดยไม่ต้องพึ่งส่วนขยายเบราว์เซอร์อีกต่อไป การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันฟีเจอร์ระดับโปรให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม หลังจากขยายอย่างหนักในปี 2025 และช่วยให้ผู้ใช้ Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและปลอดภัยยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-dedicated-ip-to-linux-in-its-latest-desktop-update

    Anthropic เปิด Agent Skills เป็นโอเพ่นซอร์ส ท้าชน OpenAI
    Anthropic เดินเกมเชิงรุกด้วยการเปิด Agent Skills เป็นมาตรฐานโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้ AI agents ทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างแม่นยำและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น โดย Microsoft และเครื่องมือโค้ดหลายตัวเริ่มนำไปใช้แล้ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตั้งใจของ Anthropic ที่ต้องการเป็นเลเยอร์โครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรม AI ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตโมเดลอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/anthropic-takes-the-fight-to-openai-with-enterprise-ai-tools-and-theyre-going-open-source-too

    ดีลคลาวด์ช่วงคริสต์มาส ช่วยเคลียร์รูปในมือถือแบบคุ้มสุด
    TechRadar แนะนำดีลคลาวด์สตอเรจช่วงคริสต์มาสสำหรับคนที่รูปเต็มมือถือ โดยยกให้ IDrive เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเพราะได้พื้นที่ 10TB ในราคาถูกมาก พร้อมเข้ารหัสแบบ end‑to‑end และแอปใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีดีลจาก Internxt, Sync.com และ Degoo ที่เน้นความปลอดภัยและพื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/cut-through-camera-roll-chaos-with-these-christmas-cloud-storage-deals-including-a-huge-saving-on-our-top-choice

    รีวิวโต๊ะยืน Eureka Ark EL — ดีไซน์เด่น ฟีเจอร์ครบ แต่ราคาแรง
    Eureka Ark EL Executive Standing Desk โดดเด่นด้วยดีไซน์ขาโต๊ะทรงใหญ่สไตล์พรีเมียม พร้อมระบบปรับระดับไฟฟ้า 3 โปรไฟล์ ความสูงสูงสุด 48 นิ้ว รองรับน้ำหนัก 100 กก. และมีที่ชาร์จไร้สาย + พอร์ต USB ในตัว แม้จะเป็นโต๊ะที่ใช้งานดีและประกอบง่าย แต่ราคาค่อนข้างสูง วัสดุบางส่วนไม่พรีเมียมเท่าที่ควร และลิ้นชักมีความจุจำกัด
    https://www.techradar.com/pro/eureka-ergonomic-ark-el-executive-standing-desk

    HPE เตือนลูกค้าอัปเดต OneView ด่วน หลังพบช่องโหว่ระดับ 10/10
    HPE ออกแพตช์อุดช่องโหว่ร้ายแรงใน OneView (CVE‑2025‑37164) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เสี่ยงต่อการถูกเปลี่ยนค่าคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ ติดมัลแวร์ หรือสร้างแบ็กดอร์ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ผู้ใช้ต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 11.0 หรือใช้ hotfix ทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://www.techradar.com/pro/security/hpe-tells-customers-to-patch-oneview-immediately-as-top-level-security-flaw-spotted

    Arm สูญมูลค่าหลายพันล้าน หลัง Qualcomm เดินเกม RISC‑V
    Arm เผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Ventana Micro เพื่อเร่งพัฒนา RISC‑V ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอนาคตความต้องการสถาปัตยกรรม Arm อาจลดลง ส่งผลให้หุ้นร่วงหนัก ขณะที่ Qualcomm กลับพุ่งขึ้นเพราะตลาดมองว่าบริษัทกำลังวางรากฐานสู่ยุค CPU แบบผสมผสาน Arm + RISC‑V สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/arm-sheds-billions-in-market-capitalization-after-qualcomm-hints-at-risc-v-adoption-with-ventara-micro-acquisition

    Qualcomm เร่งขยายอาณาจักร AI Data Center ด้วยดีล Alphawave Semi
    Qualcomm ปิดดีลซื้อ Alphawave Semi เร็วกว่ากำหนด เสริมแกร่งด้านเทคโนโลยีเชื่อมต่อความเร็วสูงและชิปแบบ custom เพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ โดยจะผสานเข้ากับสถาปัตยกรรม Oryon และ Hexagon เพื่อสร้างแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครบวงจร พร้อมตั้ง CEO ของ Alphawave มาคุมธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์โดยตรง สะท้อนความตั้งใจของ Qualcomm ที่จะท้าชน Nvidia ในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI
    https://www.techradar.com/pro/watch-out-nvidia-qualcomm-acquires-alphawave-semi-in-latest-addition-to-its-ai-data-center-push

    Gemini 3 Flash ฉลาดและเร็ว — แต่ยัง “มั่วเนียน” เมื่อไม่รู้คำตอบ
    Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลายการทดสอบ แต่ผลวิเคราะห์ล่าสุดเผยว่าเมื่อโมเดลไม่รู้คำตอบ มันเลือก “ตอบมั่ว” ถึง 91% แทนที่จะบอกว่าไม่รู้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการใช้งานในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะเมื่อถูกผนวกเข้ากับ Search แม้ยังเป็นหนึ่งในโมเดลที่แม่นยำที่สุด แต่ความมั่นใจเกินเหตุในบริบทที่ไม่มีข้อมูลจริงยังเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ Google ต้องเร่งแก้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini-3-flash-is-smart-but-when-it-doesnt-know-it-makes-stuff-up-anyway

    AWS มองอนาคตเป็นยุค “Internet of Agents” พร้อมผลักดัน AgentCore
    ผู้บริหาร AWS เผยวิสัยทัศน์ยุคใหม่ที่ AI agents จะกลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวทุกคน โดย AWS ต้องการให้ทุกนักพัฒนาเป็น “agentic developer” ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง AgentCore และ Kiro IDE ที่ช่วยสร้าง agent ได้ง่ายขึ้น พร้อมย้ำว่าความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบโดยมนุษย์ยังเป็นหัวใจสำคัญ ก่อนที่โลกจะเข้าสู่ยุคที่งานจำนวนมากถูกเร่งด้วย agent แต่ไม่แทนที่มนุษย์
    https://www.techradar.com/pro/we-are-living-in-times-of-great-change-i-speak-to-aws-top-ai-minds-to-hear-how-it-wants-to-open-up-agents-and-building-to-everyone

    กล้องวงจรปิดไม่ง้อรายเดือน — 3 รุ่นแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ Smart Home
    TechRadar คัด 3 กล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้เต็มฟีเจอร์โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน ได้แก่ Baseus S2 ที่มีแผงโซลาร์หมุนตามแสงและระบบจดจำใบหน้า, Swann MaxRanger4K ที่ให้ความละเอียดสูงพร้อมฐานเก็บข้อมูลในตัว และ Reolink Altas PT Ultra ที่เด่นด้านการหมุน‑แพน‑ซูมและภาพกลางคืนสีสันคมชัด ทั้งหมดรองรับการบันทึกแบบ local storage ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว
    https://www.techradar.com/home/home-security/top-3-subscription-free-home-security-cameras

    Google Cloud รีเฟรช Partner Network ครั้งใหญ่ เตรียมใช้จริงปี 2026
    Google Cloud เปิดตัวโปรแกรมพาร์ตเนอร์รูปแบบใหม่ที่เน้น “ผลลัพธ์จริงของลูกค้า” มากกว่าการส่งเอกสารหรือทำตามเช็กลิสต์ โดยเพิ่มระบบอัตโนมัติ, การติดตามด้วย AI และเปิดระดับใหม่ชื่อ Diamond สำหรับพาร์ตเนอร์ที่สร้างผลลัพธ์โดดเด่นที่สุด พร้อมช่วงเปลี่ยนผ่าน 6 เดือนเพื่อให้ทุกประเภทพาร์ตเนอร์ปรับตัวก่อนระบบใหม่เริ่มใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2026
    https://www.techradar.com/pro/google-cloud-reveals-all-new-channel-program-heres-all-the-key-details

    Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เสริมพลังงานให้ดาต้าเซ็นเตอร์
    Alphabet เข้าซื้อ Intersect Power แบบเต็มตัวเพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานรองรับดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากเคยลงทุนไปแล้ว $800M ในปี 2024 โดย Intersect จะยังคงดำเนินงานแยกบริษัท พร้อมส่งมอบโครงการพลังงานหลายกิกะวัตต์ให้ Google ใช้ขยายศูนย์ข้อมูลในอนาคต แม้บางทรัพย์สินในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสจะถูกแยกออกไปตั้งบริษัทใหม่ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/alphabet-secures-usd4-75-billion-intersect-deal-to-make-sure-its-data-centers-have-enough-energy

    Oppo Find X9 Pro — เรือธงสุดโหดสำหรับสาย Android ตัวจริง
    Oppo Find X9 Pro มาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบขอบแบน กล้องจัดเต็ม 50MP + 50MP + 200MP, ชิป Dimensity 9500, RAM 16GB และแบต 7,500mAh ที่อึดกว่าคู่แข่งหลายรุ่น หน้าจอ AMOLED 120Hz สว่างสุด 3600 nits และประสิทธิภาพระดับท็อป แม้จะมีความร้อนบ้างและซอฟต์แวร์บางจุดยังแปลก ๆ แต่โดยรวมคือหนึ่งใน Android ที่ครบเครื่องที่สุด—ติดเพียงข้อจำกัดด้านการวางจำหน่ายที่ยังไม่ทั่วโลก
    https://www.techradar.com/phones/oppo-phones/oppo-find-x9-pro-review

    NordProtect เพิ่มระบบ Fraud Monitoring ตรวจจับการปลอมตัวและกู้เงินแอบอ้าง
    NordProtect อัปเกรดระบบป้องกันการฉ้อโกงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลจาก Equifax, Experian และ TransUnion เพื่อหาสัญญาณเปิดบัญชีใหม่, การเปลี่ยนเครดิตสกอร์, การกู้เงินระยะสั้น และการเปิดบัญชีการเงินโดยใช้ข้อมูลผู้ใช้ พร้อมผสานการล็อกเครดิตของ TransUnion เข้ามาในระบบ แม้บริการเต็มรูปแบบจะยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐฯ ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/security/nordprotect-adds-fraud-monitoring-tool-to-help-protect-users-from-scams

    iPod Classic กลับมาในร่างใหม่ — USB‑C, Bluetooth และราคาสุดถูก
    Innioasis Y1 คือเครื่องเล่นเพลงที่ถอดแบบ iPod Classic แทบทุกจุด ทั้งดีไซน์และ clickwheel แต่เพิ่มความทันสมัยด้วย USB‑C, Bluetooth, รองรับไฟล์หลากหลาย และแบตเล่นเพลงได้ 25–30 ชั่วโมง ในราคาต่ำกว่า $60 แม้คุณภาพงานประกอบและซอฟต์แวร์จะไม่เทียบ Apple และความจุจำกัดที่ 128GB แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีเสน่ห์สำหรับคนคิดถึงยุค iPod
    https://www.techradar.com/audio/portable-media-players/someones-made-a-usb-c-version-of-the-ipod-classic-complete-with-clickwheel-and-its-extremely-cheap

    Windows 11 เดินหน้าทดสอบ AI Agents ในระบบ แม้เสียงวิจารณ์ยังแรง
    Microsoft ปล่อยพรีวิว Windows 11 ที่โชว์การทำงานของ AI agents ชัดขึ้น ทั้ง Ask Copilot บนทาสก์บาร์, การอัปเดตสถานะ reasoning แบบเรียลไทม์เมื่อโฮเวอร์ไอคอน และระบบ Agent Launcher ที่เปิดให้แอปภายนอกสร้าง agent ของตัวเองได้ แม้เป็นก้าวสำคัญของ Windows ยุค AI แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่พอใจที่ Microsoft ทุ่มทรัพยากรไปกับ AI มากกว่าการแก้ปัญหา UX และบั๊กพื้นฐานของระบบ
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-preview-provides-more-details-on-how-ai-agents-will-work-but-this-remains-a-controversial-path-for-microsoft

    มหาวิทยาลัย Phoenix ถูกแฮ็ก ข้อมูลกว่า 3.5 ล้านรายรั่วจากช่องโหว่ Oracle
    University of Phoenix ยืนยันว่าถูกกลุ่มแรนซัมแวร์ Cl0p เจาะระบบผ่านช่องโหว่ zero‑day ของ Oracle E‑Business Suite ทำให้ข้อมูลของอดีตนักศึกษา พนักงาน และซัพพลายเออร์กว่า 3.5 ล้านรายถูกขโมย ทั้งชื่อ วันเกิด เบอร์บัญชี และ Social Security Number มหาวิทยาลัยแจ้งเตือนผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมให้บริการตรวจสอบตัวตน 12 เดือน และตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายสูงสุด $1 ล้าน
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/university-of-phoenix-data-breach-may-have-hit-over-3-5-million-victims-heres-what-we-know
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251223 #TechRadar 🛡️ Surfshark ขยาย Dedicated IP มาสู่ Linux GUI App Surfshark เดินหน้าขยายฟีเจอร์ Dedicated IP มายังแอป GUI บน Linux แบบเต็มรูปแบบ ช่วยลด CAPTCHA, ลดการถูกบล็อก และเพิ่มความเสถียรในการเข้าถึงบริการสำคัญ เช่น ระบบงานองค์กรและธนาคาร โดยไม่ต้องพึ่งส่วนขยายเบราว์เซอร์อีกต่อไป การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันฟีเจอร์ระดับโปรให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม หลังจากขยายอย่างหนักในปี 2025 และช่วยให้ผู้ใช้ Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและปลอดภัยยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-dedicated-ip-to-linux-in-its-latest-desktop-update 🤖 Anthropic เปิด Agent Skills เป็นโอเพ่นซอร์ส ท้าชน OpenAI Anthropic เดินเกมเชิงรุกด้วยการเปิด Agent Skills เป็นมาตรฐานโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้ AI agents ทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างแม่นยำและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น โดย Microsoft และเครื่องมือโค้ดหลายตัวเริ่มนำไปใช้แล้ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตั้งใจของ Anthropic ที่ต้องการเป็นเลเยอร์โครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรม AI ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตโมเดลอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/anthropic-takes-the-fight-to-openai-with-enterprise-ai-tools-and-theyre-going-open-source-too ☁️ ดีลคลาวด์ช่วงคริสต์มาส ช่วยเคลียร์รูปในมือถือแบบคุ้มสุด TechRadar แนะนำดีลคลาวด์สตอเรจช่วงคริสต์มาสสำหรับคนที่รูปเต็มมือถือ โดยยกให้ IDrive เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเพราะได้พื้นที่ 10TB ในราคาถูกมาก พร้อมเข้ารหัสแบบ end‑to‑end และแอปใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีดีลจาก Internxt, Sync.com และ Degoo ที่เน้นความปลอดภัยและพื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/cut-through-camera-roll-chaos-with-these-christmas-cloud-storage-deals-including-a-huge-saving-on-our-top-choice 🪑 รีวิวโต๊ะยืน Eureka Ark EL — ดีไซน์เด่น ฟีเจอร์ครบ แต่ราคาแรง Eureka Ark EL Executive Standing Desk โดดเด่นด้วยดีไซน์ขาโต๊ะทรงใหญ่สไตล์พรีเมียม พร้อมระบบปรับระดับไฟฟ้า 3 โปรไฟล์ ความสูงสูงสุด 48 นิ้ว รองรับน้ำหนัก 100 กก. และมีที่ชาร์จไร้สาย + พอร์ต USB ในตัว แม้จะเป็นโต๊ะที่ใช้งานดีและประกอบง่าย แต่ราคาค่อนข้างสูง วัสดุบางส่วนไม่พรีเมียมเท่าที่ควร และลิ้นชักมีความจุจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/eureka-ergonomic-ark-el-executive-standing-desk 🔥 HPE เตือนลูกค้าอัปเดต OneView ด่วน หลังพบช่องโหว่ระดับ 10/10 HPE ออกแพตช์อุดช่องโหว่ร้ายแรงใน OneView (CVE‑2025‑37164) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เสี่ยงต่อการถูกเปลี่ยนค่าคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ ติดมัลแวร์ หรือสร้างแบ็กดอร์ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ผู้ใช้ต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 11.0 หรือใช้ hotfix ทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hpe-tells-customers-to-patch-oneview-immediately-as-top-level-security-flaw-spotted 📉 Arm สูญมูลค่าหลายพันล้าน หลัง Qualcomm เดินเกม RISC‑V Arm เผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Ventana Micro เพื่อเร่งพัฒนา RISC‑V ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอนาคตความต้องการสถาปัตยกรรม Arm อาจลดลง ส่งผลให้หุ้นร่วงหนัก ขณะที่ Qualcomm กลับพุ่งขึ้นเพราะตลาดมองว่าบริษัทกำลังวางรากฐานสู่ยุค CPU แบบผสมผสาน Arm + RISC‑V สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/arm-sheds-billions-in-market-capitalization-after-qualcomm-hints-at-risc-v-adoption-with-ventara-micro-acquisition 🏗️ Qualcomm เร่งขยายอาณาจักร AI Data Center ด้วยดีล Alphawave Semi Qualcomm ปิดดีลซื้อ Alphawave Semi เร็วกว่ากำหนด เสริมแกร่งด้านเทคโนโลยีเชื่อมต่อความเร็วสูงและชิปแบบ custom เพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ โดยจะผสานเข้ากับสถาปัตยกรรม Oryon และ Hexagon เพื่อสร้างแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครบวงจร พร้อมตั้ง CEO ของ Alphawave มาคุมธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์โดยตรง สะท้อนความตั้งใจของ Qualcomm ที่จะท้าชน Nvidia ในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/watch-out-nvidia-qualcomm-acquires-alphawave-semi-in-latest-addition-to-its-ai-data-center-push 🤖 Gemini 3 Flash ฉลาดและเร็ว — แต่ยัง “มั่วเนียน” เมื่อไม่รู้คำตอบ Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลายการทดสอบ แต่ผลวิเคราะห์ล่าสุดเผยว่าเมื่อโมเดลไม่รู้คำตอบ มันเลือก “ตอบมั่ว” ถึง 91% แทนที่จะบอกว่าไม่รู้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการใช้งานในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะเมื่อถูกผนวกเข้ากับ Search แม้ยังเป็นหนึ่งในโมเดลที่แม่นยำที่สุด แต่ความมั่นใจเกินเหตุในบริบทที่ไม่มีข้อมูลจริงยังเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ Google ต้องเร่งแก้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini-3-flash-is-smart-but-when-it-doesnt-know-it-makes-stuff-up-anyway 🧠 AWS มองอนาคตเป็นยุค “Internet of Agents” พร้อมผลักดัน AgentCore ผู้บริหาร AWS เผยวิสัยทัศน์ยุคใหม่ที่ AI agents จะกลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวทุกคน โดย AWS ต้องการให้ทุกนักพัฒนาเป็น “agentic developer” ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง AgentCore และ Kiro IDE ที่ช่วยสร้าง agent ได้ง่ายขึ้น พร้อมย้ำว่าความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบโดยมนุษย์ยังเป็นหัวใจสำคัญ ก่อนที่โลกจะเข้าสู่ยุคที่งานจำนวนมากถูกเร่งด้วย agent แต่ไม่แทนที่มนุษย์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/we-are-living-in-times-of-great-change-i-speak-to-aws-top-ai-minds-to-hear-how-it-wants-to-open-up-agents-and-building-to-everyone 🏠 กล้องวงจรปิดไม่ง้อรายเดือน — 3 รุ่นแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ Smart Home TechRadar คัด 3 กล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้เต็มฟีเจอร์โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน ได้แก่ Baseus S2 ที่มีแผงโซลาร์หมุนตามแสงและระบบจดจำใบหน้า, Swann MaxRanger4K ที่ให้ความละเอียดสูงพร้อมฐานเก็บข้อมูลในตัว และ Reolink Altas PT Ultra ที่เด่นด้านการหมุน‑แพน‑ซูมและภาพกลางคืนสีสันคมชัด ทั้งหมดรองรับการบันทึกแบบ local storage ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/top-3-subscription-free-home-security-cameras ☁️ Google Cloud รีเฟรช Partner Network ครั้งใหญ่ เตรียมใช้จริงปี 2026 Google Cloud เปิดตัวโปรแกรมพาร์ตเนอร์รูปแบบใหม่ที่เน้น “ผลลัพธ์จริงของลูกค้า” มากกว่าการส่งเอกสารหรือทำตามเช็กลิสต์ โดยเพิ่มระบบอัตโนมัติ, การติดตามด้วย AI และเปิดระดับใหม่ชื่อ Diamond สำหรับพาร์ตเนอร์ที่สร้างผลลัพธ์โดดเด่นที่สุด พร้อมช่วงเปลี่ยนผ่าน 6 เดือนเพื่อให้ทุกประเภทพาร์ตเนอร์ปรับตัวก่อนระบบใหม่เริ่มใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-cloud-reveals-all-new-channel-program-heres-all-the-key-details ⚡ Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เสริมพลังงานให้ดาต้าเซ็นเตอร์ Alphabet เข้าซื้อ Intersect Power แบบเต็มตัวเพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานรองรับดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากเคยลงทุนไปแล้ว $800M ในปี 2024 โดย Intersect จะยังคงดำเนินงานแยกบริษัท พร้อมส่งมอบโครงการพลังงานหลายกิกะวัตต์ให้ Google ใช้ขยายศูนย์ข้อมูลในอนาคต แม้บางทรัพย์สินในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสจะถูกแยกออกไปตั้งบริษัทใหม่ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/alphabet-secures-usd4-75-billion-intersect-deal-to-make-sure-its-data-centers-have-enough-energy 📱 Oppo Find X9 Pro — เรือธงสุดโหดสำหรับสาย Android ตัวจริง Oppo Find X9 Pro มาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบขอบแบน กล้องจัดเต็ม 50MP + 50MP + 200MP, ชิป Dimensity 9500, RAM 16GB และแบต 7,500mAh ที่อึดกว่าคู่แข่งหลายรุ่น หน้าจอ AMOLED 120Hz สว่างสุด 3600 nits และประสิทธิภาพระดับท็อป แม้จะมีความร้อนบ้างและซอฟต์แวร์บางจุดยังแปลก ๆ แต่โดยรวมคือหนึ่งใน Android ที่ครบเครื่องที่สุด—ติดเพียงข้อจำกัดด้านการวางจำหน่ายที่ยังไม่ทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/phones/oppo-phones/oppo-find-x9-pro-review 🔐 NordProtect เพิ่มระบบ Fraud Monitoring ตรวจจับการปลอมตัวและกู้เงินแอบอ้าง NordProtect อัปเกรดระบบป้องกันการฉ้อโกงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลจาก Equifax, Experian และ TransUnion เพื่อหาสัญญาณเปิดบัญชีใหม่, การเปลี่ยนเครดิตสกอร์, การกู้เงินระยะสั้น และการเปิดบัญชีการเงินโดยใช้ข้อมูลผู้ใช้ พร้อมผสานการล็อกเครดิตของ TransUnion เข้ามาในระบบ แม้บริการเต็มรูปแบบจะยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐฯ ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/nordprotect-adds-fraud-monitoring-tool-to-help-protect-users-from-scams 🎧 iPod Classic กลับมาในร่างใหม่ — USB‑C, Bluetooth และราคาสุดถูก Innioasis Y1 คือเครื่องเล่นเพลงที่ถอดแบบ iPod Classic แทบทุกจุด ทั้งดีไซน์และ clickwheel แต่เพิ่มความทันสมัยด้วย USB‑C, Bluetooth, รองรับไฟล์หลากหลาย และแบตเล่นเพลงได้ 25–30 ชั่วโมง ในราคาต่ำกว่า $60 แม้คุณภาพงานประกอบและซอฟต์แวร์จะไม่เทียบ Apple และความจุจำกัดที่ 128GB แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีเสน่ห์สำหรับคนคิดถึงยุค iPod 🔗 https://www.techradar.com/audio/portable-media-players/someones-made-a-usb-c-version-of-the-ipod-classic-complete-with-clickwheel-and-its-extremely-cheap 🪟 Windows 11 เดินหน้าทดสอบ AI Agents ในระบบ แม้เสียงวิจารณ์ยังแรง Microsoft ปล่อยพรีวิว Windows 11 ที่โชว์การทำงานของ AI agents ชัดขึ้น ทั้ง Ask Copilot บนทาสก์บาร์, การอัปเดตสถานะ reasoning แบบเรียลไทม์เมื่อโฮเวอร์ไอคอน และระบบ Agent Launcher ที่เปิดให้แอปภายนอกสร้าง agent ของตัวเองได้ แม้เป็นก้าวสำคัญของ Windows ยุค AI แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่พอใจที่ Microsoft ทุ่มทรัพยากรไปกับ AI มากกว่าการแก้ปัญหา UX และบั๊กพื้นฐานของระบบ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-preview-provides-more-details-on-how-ai-agents-will-work-but-this-remains-a-controversial-path-for-microsoft 🔓 มหาวิทยาลัย Phoenix ถูกแฮ็ก ข้อมูลกว่า 3.5 ล้านรายรั่วจากช่องโหว่ Oracle University of Phoenix ยืนยันว่าถูกกลุ่มแรนซัมแวร์ Cl0p เจาะระบบผ่านช่องโหว่ zero‑day ของ Oracle E‑Business Suite ทำให้ข้อมูลของอดีตนักศึกษา พนักงาน และซัพพลายเออร์กว่า 3.5 ล้านรายถูกขโมย ทั้งชื่อ วันเกิด เบอร์บัญชี และ Social Security Number มหาวิทยาลัยแจ้งเตือนผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมให้บริการตรวจสอบตัวตน 12 เดือน และตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายสูงสุด $1 ล้าน ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/university-of-phoenix-data-breach-may-have-hit-over-3-5-million-victims-heres-what-we-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷

    #รวมข่าวIT #20251223 #securityonline

    Hardware‑Accelerated BitLocker: ยุคใหม่ของการเข้ารหัสที่ไม่กิน FPS อีกต่อไป
    Microsoft เปิดตัว BitLocker แบบเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งย้ายภาระการเข้ารหัสจาก CPU ไปยังเอนจินเฉพาะในคอนโทรลเลอร์ NVMe ทำให้ Windows 11 สามารถรักษาความเร็วอ่าน–เขียนระดับเกือบเนทีฟแม้เปิดการเข้ารหัสเต็มระบบ ต่างจากแบบเดิมที่ใช้ซอฟต์แวร์ล้วนและกินทรัพยากรจนกระทบ FPS ในเกมหรือโหลดงานหนักอย่างคอมไพล์โค้ดและเรนเดอร์วิดีโอ เทคโนโลยีใหม่นี้ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยการเก็บกุญแจเข้ารหัสในฮาร์ดแวร์ที่แยกตัว ลดโอกาสโจมตีหน่วยความจำ พร้อมประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยจะเปิดใช้ใน Windows 11 24H2–25H2 บนอุปกรณ์ที่มี NVMe controller รุ่นใหม่และ CPU ที่มี crypto engine ในตัว เช่น Intel Core Ultra, AMD Ryzen และ Snapdragon X ซึ่งหมายความว่า HDD และ SATA SSD จะไม่รองรับแน่นอน
    https://securityonline.info/unlocking-the-speed-of-light-how-hardware-accelerated-bitlocker-saves-your-fps/

    The Payroll Trap: แคมเปญ Quishing ใหม่ใช้ QR + CAPTCHA ปลอมเพื่อขโมยเงินเดือนพนักงาน
    แคมเปญฟิชชิงรูปแบบใหม่กำลังพุ่งเป้าไปที่พนักงานโดยใช้ QR code เพื่อหลบระบบความปลอดภัยขององค์กร ก่อนล่อให้เหยื่อสแกนด้วยมือถือส่วนตัวและพาออกนอกเครือข่ายบริษัท จากนั้นหน้าเว็บปลอมจะใช้ CAPTCHA หลอกเพื่อดึงอีเมลและกระตุ้นให้กรอกรหัสผ่าน โดยโครงสร้างหลังบ้านใช้โดเมนหมุนเวียนและ URL เฉพาะรายเหยื่อ ทำให้สืบสวนได้ยากขึ้น สะท้อนการยกระดับฟิชชิงที่ผสานเทคนิคและจิตวิทยาอย่างแนบเนียน
    https://securityonline.info/the-payroll-trap-new-quishing-campaign-uses-fake-captchas-to-hijack-employee-paychecks

    Zero‑Day Linksys: ช่องโหว่ Auth Bypass เปิดทางแฮ็กเกอร์ยึดเราเตอร์โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
    นักวิจัยพบช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Linksys E9450‑SG ที่ทำให้ผู้โจมตีบนเครือข่ายท้องถิ่นสามารถเปิด Telnet และเข้าถึงสิทธิ์ root ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน เพียงส่งคำขอ URL ที่เจาะจงไปยัง endpoint ที่ผิดพลาดของเฟิร์มแวร์ แม้จะไม่ถูกโจมตีจากอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่ความเสี่ยงต่อผู้ที่มีผู้ใช้ร่วมเครือข่ายหรือ Wi‑Fi รั่วไหลยังสูงมาก
    https://securityonline.info/zero-day-alert-linksys-auth-bypass-lets-hackers-hijack-routers-without-passwords

    Wonderland: มัลแวร์ Android รุ่นใหม่ใช้ Telegram ควบคุมแบบสองทางเพื่อดูดเงินเหยื่อ
    รายงานจาก Group‑IB เผยการระบาดของมัลแวร์ “Wonderland” ในเอเชียกลาง ซึ่งพัฒนาไปไกลจากโทรจันทั่วไป โดยใช้ dropper ปลอมตัวเป็นไฟล์อัปเดตหรือมีเดียเพื่อหลบการตรวจจับ ก่อนปล่อย payload ที่สื่อสารกับผู้โจมตีแบบ real‑time ผ่าน C2 ทำให้สั่งรัน USSD, ส่ง SMS และขยายการติดเชื้อผ่าน Telegram ของเหยื่อได้โดยอัตโนมัติ แสดงถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมมือถือที่ซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว
    https://securityonline.info/wonderland-unleashed-new-android-dropper-malware-hijacks-telegram-to-drain-bank-accounts

    EchoGather: แคมเปญจารกรรมไซเบอร์ใช้ XLL + เอกสาร AI‑ปลอมเพื่อเจาะองค์กรรัสเซีย
    กลุ่ม Paper Werewolf ปรับยุทธวิธีใหม่ด้วยการใช้ไฟล์ XLL ซึ่งเป็น DLL ที่ Excel โหลดตรง ทำให้รันโค้ดได้โดยไม่ติดข้อจำกัดของมาโคร พร้อมเทคนิคหน่วงเวลาการทำงานเพื่อหลบระบบตรวจจับ เมื่อ payload ทำงานจะติดตั้ง backdoor “EchoGather” สำหรับเก็บข้อมูลและสั่งงานผ่าน HTTPS ขณะเดียวกันเอกสารล่อเหยื่อที่แนบมากลับถูกสร้างด้วย AI และมีข้อผิดพลาดหลายจุด สะท้อนการผสมผสานระหว่างเทคนิคขั้นสูงและความลวกของมนุษย์
    https://securityonline.info/ai-generated-decoys-xll-stealth-inside-the-new-echogather-cyber-espionage-campaign

    React2Shell Exploited: EtherRAT ใช้ Node.js ปลอมตัวเพื่อล่าคริปโตจากเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
    แคมเปญโจมตีอัตโนมัติใช้ช่องโหว่ React2Shell เพื่อฝัง EtherRAT บนเซิร์ฟเวอร์ โดยดาวน์โหลด Node.js เวอร์ชันจริงมาติดตั้งเพื่อรันสคริปต์โจมตี ทำให้ยากต่อการตรวจจับ จากนั้นมัลแวร์จะเชื่อมต่อ RPC ของ Ethereum เพื่อทำธุรกรรมกับสัญญาเฉพาะ เป้าหมายคือขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลจากระบบที่ถูกยึดแบบไร้การเจาะจงประเทศ ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบ process Node.js แปลกปลอมและโฟลเดอร์ซ่อนใน home path
    https://securityonline.info/react2shell-exploited-new-etherrat-malware-hunts-for-crypto-via-node-js

    M‑Files Identity Hijack: ช่องโหว่ให้พนักงานขโมยตัวตนกันเองได้เงียบ ๆ
    แพลตฟอร์มจัดการเอกสาร M‑Files ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ “ผู้ใช้ภายใน” สามารถดัก session token ของเพื่อนร่วมงานและสวมรอยเข้าถึงข้อมูลลับได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย ทำให้การตรวจสอบย้อนหลังแทบเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันอีกช่องโหว่ทำให้ข้อมูลจาก vault เก่ารั่วไหลไปยัง vault ใหม่โดยไม่ตั้งใจ สะท้อนความเสี่ยงของระบบที่องค์กรพึ่งพาในงานเอกสารระดับ mission‑critical และจำเป็นต้องอัปเดตแพตช์ทันทีเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้
    https://securityonline.info/identity-theft-in-m-files-high-severity-flaw-lets-insiders-hijack-user-accounts-and-access-sensitive-data

    Purchase Order Deception: แคมเปญจารกรรมใช้ loader อเนกประสงค์โจมตีอุตสาหกรรมยุโรป–ตะวันออกกลาง
    รายงานใหม่เผยแคมเปญที่ใช้ “unified commodity loader” เป็นแกนกลางในการส่ง RAT หลายตระกูลเข้าโจมตีบริษัทผลิตและหน่วยงานรัฐในอิตาลี ฟินแลนด์ และซาอุฯ โดยซ่อน payload ไว้ในภาพผ่าน steganography และดัดแปลงไลบรารีโอเพ่นซอร์สให้กลายเป็นม้าโทรจันที่ตรวจจับยาก พร้อมเทคนิคหลอก UAC แบบแนบเนียน ทำให้แคมเปญนี้เป็นตัวอย่างของการยกระดับ tradecraft ในตลาดมัลแวร์เชิงพาณิชย์
    https://securityonline.info/purchase-order-deception-sophisticated-loader-targets-manufacturing-giants-in-italy-finland-and-saudi-arabia

    Prince of Persia APT กลับมาพร้อมมัลแวร์ควบคุมผ่าน Telegram หลังเงียบไปหลายปี
    กลุ่ม APT สายอิหร่าน “Prince of Persia / Infy” ถูกพบว่ายังปฏิบัติการอยู่และได้อัปเกรดเครื่องมือใหม่ เช่น Tonnerre v50 ที่สื่อสารผ่าน Telegram group และใช้ DGA ซับซ้อนเพื่อหลบการบล็อก โครงสร้างมัลแวร์รุ่นใหม่อย่าง Foudre v34 และ Tonnerre v50 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนี้ไม่ได้หายไป แต่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ยืดหยุ่นและตรวจจับยากกว่าเดิม พร้อมหลักฐานว่ามีมนุษย์ควบคุมการโจมตีแบบ real‑time
    https://securityonline.info/iranian-prince-of-persia-apt-resurfaces-with-telegram-controlled-stealth-malware

    Ransomware Cartel: Qilin–DragonForce–LockBit รวมตัวแบบสิ้นหวังท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐ
    ท่ามกลางการกวาดล้างของหน่วยงานรัฐทั่วโลก กลุ่ม Qilin, DragonForce และ LockBit ประกาศตั้ง “คาร์เทล” ร่วมกัน แต่รายงานชี้ว่าการรวมตัวนี้เป็นเพียงความพยายามประคองชื่อเสียงของ LockBit ที่แทบไม่เหลือกิจกรรมจริงแล้ว ขณะที่ Qilin กลับได้ประโยชน์ด้านการตลาดและดึง affiliate ใหม่มากกว่า ภาพรวมสะท้อนการแตกตัวของ ecosystem ransomware และการเปลี่ยนไปสู่โมเดล “ขู่กรรโชกข้อมูลอย่างเดียว” ที่เสี่ยงน้อยกว่าเดิม
    https://securityonline.info/a-desperate-cartel-inside-the-unlikely-alliance-of-qilin-dragonforce-and-a-fading-lockbit

    Scripted Sparrow: เครื่องจักร BEC ระดับอุตสาหกรรมยิงอีเมลหลอกลวงกว่า 3 ล้านฉบับต่อเดือน
    กลุ่มอาชญากร “Scripted Sparrow” ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในการส่งอีเมล BEC โดยปลอมเป็นบริษัทเทรนนิ่งผู้บริหาร พร้อมแนบประวัติการสนทนาปลอมระหว่างผู้บริหารกับที่ปรึกษาเพื่อหลอกฝ่ายบัญชีให้จ่ายเงิน กลยุทธ์ใหม่คือส่งอีเมล “ลืมแนบไฟล์” เพื่อบังคับให้เหยื่อตอบกลับ ทำให้การสนทนากลายเป็น trusted thread และเปิดทางให้ส่งบัญชีม้าได้อย่างปลอดภัย การวิเคราะห์พบสมาชิกกระจายหลายทวีปและใช้เทคนิคปลอมตำแหน่ง GPS เพื่อหลบการติดตาม
    https://securityonline.info/the-3-million-email-siege-inside-scripted-sparrows-global-industrialized-bec-machine

    MongoDB Memory Leak: ช่องโหว่ zlib ทำข้อมูลหลุดโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ช่องโหว่ร้ายแรงใน MongoDB (CVE‑2025‑14847) เปิดทางให้ผู้โจมตีดึงข้อมูลจาก heap memory ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เพียงส่งคำขอที่เจาะจงไปยังส่วนที่ใช้ zlib compression ทำให้เซิร์ฟเวอร์ตอบกลับด้วยข้อมูลที่ยังไม่ได้ล้าง ซึ่งอาจรวมถึง query ล่าสุดหรือ credential ที่ค้างอยู่ใน RAM ช่องโหว่นี้กระทบแทบทุกเวอร์ชันย้อนหลังหลายปี และผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีหรือปิดการใช้ zlib ชั่วคราวเพื่อหยุดการรั่วไหล
    https://securityonline.info/critical-unauthenticated-mongodb-flaw-leaks-sensitive-data-via-zlib-compression

    Anna’s Archive อ้างดูด Spotify 300TB จุดชนวนสอบสวนการรั่วไหลครั้งใหญ่
    กลุ่มเงา Anna’s Archive ระบุว่าสามารถ mirror คลังเพลงของ Spotify ได้กว่า 300TB ครอบคลุม 86 ล้านแทร็กที่คิดเป็น 99.6% ของยอดฟังทั้งหมด โดยใช้วิธีเก็บ metadata 256 ล้านรายการและหลุดไฟล์เสียงบางส่วนผ่านการเลี่ยง DRM แม้ Spotify จะยืนยันเพียงว่ามีการเข้าถึงข้อมูลบางส่วน แต่เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะถูกนำไปสร้างแพลตฟอร์มสตรีมเถื่อนหรือใช้เทรนโมเดล AI
    https://securityonline.info/annas-archive-claims-300tb-spotify-mirror-forcing-an-investigation-into-a-massive-music-data-leak

    Windows DWM EoP: ช่องโหว่ยกระดับสิทธิ์ด้วยเทคนิค “วาดทับ” พร้อม PoC เผยแพร่แล้ว
    ช่องโหว่ใน Desktop Window Manager (DWM) ของ Windows เปิดทางให้ผู้ใช้ในเครื่องยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น SYSTEM ผ่านการจัดการกราฟิกผิดพลาด โดยมี PoC เผยแพร่แล้วแม้รายงานฉบับเต็มจะถูกล็อกให้เฉพาะผู้สนับสนุน เหตุการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องเร่งแพตช์ เพราะเป็นช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ร่วมกับบั๊กอื่นเพื่อยึดระบบได้อย่างรวดเร็ว
    https://securityonline.info/windows-dwm-flaw-lets-local-users-paint-their-way-to-system-privileges-poc-publishes

    Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เพื่อควบคุมไฟฟ้าป้อน Gemini และศูนย์ข้อมูล
    Alphabet เดินเกมเชิงโครงสร้างด้วยการซื้อ Intersect Power เพื่อแก้ปัญหาพลังงานที่กำลังกลายเป็นคอขวดของการแข่งขัน AI โดยดีลนี้ทำให้ Google ควบคุมโครงการพลังงานหมุนเวียนหลายกิกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สร้างติดกับดาต้าเซ็นเตอร์ในเท็กซัส การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าศึก AI ไม่ได้วัดกันที่ชิปหรือโมเดลอีกต่อไป แต่คือใครสร้างโรงไฟฟ้าได้เร็วกว่า
    https://securityonline.info/the-grid-is-the-goal-alphabets-4-75b-bet-to-own-the-power-plants-behind-gemini

    Android Toll: Google เก็บค่าติดตั้ง $2.85 ต่อแอปเมื่อใช้ลิงก์ดาวน์โหลดภายนอก
    ภายใต้แรงกดดันจากคดี Epic vs Google ศาลบีบให้ Google เปิด Play Store ให้ลิงก์ออกไปดาวน์โหลดภายนอกได้ แต่ Google เสนอโมเดลใหม่ที่ซับซ้อนและมีค่าธรรมเนียมสูง—คิด $2.85 ต่อการติดตั้งแอป และ $3.65 สำหรับเกม หากผู้ใช้ติดตั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลิกลิงก์ พร้อมเก็บส่วนแบ่ง 10–20% สำหรับการจ่ายเงินผ่านระบบของนักพัฒนาเอง ทำให้แม้จะ “เปิด” ระบบ แต่ต้นทุนจริงอาจสูงจนผู้พัฒนาหลายรายไม่อยากออกจาก ecosystem
    https://securityonline.info/the-android-toll-google-to-charge-2-85-per-install-for-external-app-links
    📌🔐🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔐📌 #รวมข่าวIT #20251223 #securityonline ⚡ Hardware‑Accelerated BitLocker: ยุคใหม่ของการเข้ารหัสที่ไม่กิน FPS อีกต่อไป Microsoft เปิดตัว BitLocker แบบเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งย้ายภาระการเข้ารหัสจาก CPU ไปยังเอนจินเฉพาะในคอนโทรลเลอร์ NVMe ทำให้ Windows 11 สามารถรักษาความเร็วอ่าน–เขียนระดับเกือบเนทีฟแม้เปิดการเข้ารหัสเต็มระบบ ต่างจากแบบเดิมที่ใช้ซอฟต์แวร์ล้วนและกินทรัพยากรจนกระทบ FPS ในเกมหรือโหลดงานหนักอย่างคอมไพล์โค้ดและเรนเดอร์วิดีโอ เทคโนโลยีใหม่นี้ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยการเก็บกุญแจเข้ารหัสในฮาร์ดแวร์ที่แยกตัว ลดโอกาสโจมตีหน่วยความจำ พร้อมประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยจะเปิดใช้ใน Windows 11 24H2–25H2 บนอุปกรณ์ที่มี NVMe controller รุ่นใหม่และ CPU ที่มี crypto engine ในตัว เช่น Intel Core Ultra, AMD Ryzen และ Snapdragon X ซึ่งหมายความว่า HDD และ SATA SSD จะไม่รองรับแน่นอน 🔗 https://securityonline.info/unlocking-the-speed-of-light-how-hardware-accelerated-bitlocker-saves-your-fps/ 🧾 The Payroll Trap: แคมเปญ Quishing ใหม่ใช้ QR + CAPTCHA ปลอมเพื่อขโมยเงินเดือนพนักงาน แคมเปญฟิชชิงรูปแบบใหม่กำลังพุ่งเป้าไปที่พนักงานโดยใช้ QR code เพื่อหลบระบบความปลอดภัยขององค์กร ก่อนล่อให้เหยื่อสแกนด้วยมือถือส่วนตัวและพาออกนอกเครือข่ายบริษัท จากนั้นหน้าเว็บปลอมจะใช้ CAPTCHA หลอกเพื่อดึงอีเมลและกระตุ้นให้กรอกรหัสผ่าน โดยโครงสร้างหลังบ้านใช้โดเมนหมุนเวียนและ URL เฉพาะรายเหยื่อ ทำให้สืบสวนได้ยากขึ้น สะท้อนการยกระดับฟิชชิงที่ผสานเทคนิคและจิตวิทยาอย่างแนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/the-payroll-trap-new-quishing-campaign-uses-fake-captchas-to-hijack-employee-paychecks 📡 Zero‑Day Linksys: ช่องโหว่ Auth Bypass เปิดทางแฮ็กเกอร์ยึดเราเตอร์โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน นักวิจัยพบช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Linksys E9450‑SG ที่ทำให้ผู้โจมตีบนเครือข่ายท้องถิ่นสามารถเปิด Telnet และเข้าถึงสิทธิ์ root ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน เพียงส่งคำขอ URL ที่เจาะจงไปยัง endpoint ที่ผิดพลาดของเฟิร์มแวร์ แม้จะไม่ถูกโจมตีจากอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่ความเสี่ยงต่อผู้ที่มีผู้ใช้ร่วมเครือข่ายหรือ Wi‑Fi รั่วไหลยังสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/zero-day-alert-linksys-auth-bypass-lets-hackers-hijack-routers-without-passwords 📱 Wonderland: มัลแวร์ Android รุ่นใหม่ใช้ Telegram ควบคุมแบบสองทางเพื่อดูดเงินเหยื่อ รายงานจาก Group‑IB เผยการระบาดของมัลแวร์ “Wonderland” ในเอเชียกลาง ซึ่งพัฒนาไปไกลจากโทรจันทั่วไป โดยใช้ dropper ปลอมตัวเป็นไฟล์อัปเดตหรือมีเดียเพื่อหลบการตรวจจับ ก่อนปล่อย payload ที่สื่อสารกับผู้โจมตีแบบ real‑time ผ่าน C2 ทำให้สั่งรัน USSD, ส่ง SMS และขยายการติดเชื้อผ่าน Telegram ของเหยื่อได้โดยอัตโนมัติ แสดงถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมมือถือที่ซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/wonderland-unleashed-new-android-dropper-malware-hijacks-telegram-to-drain-bank-accounts 🧩 EchoGather: แคมเปญจารกรรมไซเบอร์ใช้ XLL + เอกสาร AI‑ปลอมเพื่อเจาะองค์กรรัสเซีย กลุ่ม Paper Werewolf ปรับยุทธวิธีใหม่ด้วยการใช้ไฟล์ XLL ซึ่งเป็น DLL ที่ Excel โหลดตรง ทำให้รันโค้ดได้โดยไม่ติดข้อจำกัดของมาโคร พร้อมเทคนิคหน่วงเวลาการทำงานเพื่อหลบระบบตรวจจับ เมื่อ payload ทำงานจะติดตั้ง backdoor “EchoGather” สำหรับเก็บข้อมูลและสั่งงานผ่าน HTTPS ขณะเดียวกันเอกสารล่อเหยื่อที่แนบมากลับถูกสร้างด้วย AI และมีข้อผิดพลาดหลายจุด สะท้อนการผสมผสานระหว่างเทคนิคขั้นสูงและความลวกของมนุษย์ 🔗 https://securityonline.info/ai-generated-decoys-xll-stealth-inside-the-new-echogather-cyber-espionage-campaign 💰 React2Shell Exploited: EtherRAT ใช้ Node.js ปลอมตัวเพื่อล่าคริปโตจากเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก แคมเปญโจมตีอัตโนมัติใช้ช่องโหว่ React2Shell เพื่อฝัง EtherRAT บนเซิร์ฟเวอร์ โดยดาวน์โหลด Node.js เวอร์ชันจริงมาติดตั้งเพื่อรันสคริปต์โจมตี ทำให้ยากต่อการตรวจจับ จากนั้นมัลแวร์จะเชื่อมต่อ RPC ของ Ethereum เพื่อทำธุรกรรมกับสัญญาเฉพาะ เป้าหมายคือขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลจากระบบที่ถูกยึดแบบไร้การเจาะจงประเทศ ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบ process Node.js แปลกปลอมและโฟลเดอร์ซ่อนใน home path 🔗 https://securityonline.info/react2shell-exploited-new-etherrat-malware-hunts-for-crypto-via-node-js 🕵️‍♂️ M‑Files Identity Hijack: ช่องโหว่ให้พนักงานขโมยตัวตนกันเองได้เงียบ ๆ แพลตฟอร์มจัดการเอกสาร M‑Files ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ “ผู้ใช้ภายใน” สามารถดัก session token ของเพื่อนร่วมงานและสวมรอยเข้าถึงข้อมูลลับได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย ทำให้การตรวจสอบย้อนหลังแทบเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันอีกช่องโหว่ทำให้ข้อมูลจาก vault เก่ารั่วไหลไปยัง vault ใหม่โดยไม่ตั้งใจ สะท้อนความเสี่ยงของระบบที่องค์กรพึ่งพาในงานเอกสารระดับ mission‑critical และจำเป็นต้องอัปเดตแพตช์ทันทีเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้ 🔗 https://securityonline.info/identity-theft-in-m-files-high-severity-flaw-lets-insiders-hijack-user-accounts-and-access-sensitive-data 📦 Purchase Order Deception: แคมเปญจารกรรมใช้ loader อเนกประสงค์โจมตีอุตสาหกรรมยุโรป–ตะวันออกกลาง รายงานใหม่เผยแคมเปญที่ใช้ “unified commodity loader” เป็นแกนกลางในการส่ง RAT หลายตระกูลเข้าโจมตีบริษัทผลิตและหน่วยงานรัฐในอิตาลี ฟินแลนด์ และซาอุฯ โดยซ่อน payload ไว้ในภาพผ่าน steganography และดัดแปลงไลบรารีโอเพ่นซอร์สให้กลายเป็นม้าโทรจันที่ตรวจจับยาก พร้อมเทคนิคหลอก UAC แบบแนบเนียน ทำให้แคมเปญนี้เป็นตัวอย่างของการยกระดับ tradecraft ในตลาดมัลแวร์เชิงพาณิชย์ 🔗 https://securityonline.info/purchase-order-deception-sophisticated-loader-targets-manufacturing-giants-in-italy-finland-and-saudi-arabia 🕌 Prince of Persia APT กลับมาพร้อมมัลแวร์ควบคุมผ่าน Telegram หลังเงียบไปหลายปี กลุ่ม APT สายอิหร่าน “Prince of Persia / Infy” ถูกพบว่ายังปฏิบัติการอยู่และได้อัปเกรดเครื่องมือใหม่ เช่น Tonnerre v50 ที่สื่อสารผ่าน Telegram group และใช้ DGA ซับซ้อนเพื่อหลบการบล็อก โครงสร้างมัลแวร์รุ่นใหม่อย่าง Foudre v34 และ Tonnerre v50 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนี้ไม่ได้หายไป แต่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ยืดหยุ่นและตรวจจับยากกว่าเดิม พร้อมหลักฐานว่ามีมนุษย์ควบคุมการโจมตีแบบ real‑time 🔗 https://securityonline.info/iranian-prince-of-persia-apt-resurfaces-with-telegram-controlled-stealth-malware 🤝 Ransomware Cartel: Qilin–DragonForce–LockBit รวมตัวแบบสิ้นหวังท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐ ท่ามกลางการกวาดล้างของหน่วยงานรัฐทั่วโลก กลุ่ม Qilin, DragonForce และ LockBit ประกาศตั้ง “คาร์เทล” ร่วมกัน แต่รายงานชี้ว่าการรวมตัวนี้เป็นเพียงความพยายามประคองชื่อเสียงของ LockBit ที่แทบไม่เหลือกิจกรรมจริงแล้ว ขณะที่ Qilin กลับได้ประโยชน์ด้านการตลาดและดึง affiliate ใหม่มากกว่า ภาพรวมสะท้อนการแตกตัวของ ecosystem ransomware และการเปลี่ยนไปสู่โมเดล “ขู่กรรโชกข้อมูลอย่างเดียว” ที่เสี่ยงน้อยกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/a-desperate-cartel-inside-the-unlikely-alliance-of-qilin-dragonforce-and-a-fading-lockbit 📨 Scripted Sparrow: เครื่องจักร BEC ระดับอุตสาหกรรมยิงอีเมลหลอกลวงกว่า 3 ล้านฉบับต่อเดือน กลุ่มอาชญากร “Scripted Sparrow” ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในการส่งอีเมล BEC โดยปลอมเป็นบริษัทเทรนนิ่งผู้บริหาร พร้อมแนบประวัติการสนทนาปลอมระหว่างผู้บริหารกับที่ปรึกษาเพื่อหลอกฝ่ายบัญชีให้จ่ายเงิน กลยุทธ์ใหม่คือส่งอีเมล “ลืมแนบไฟล์” เพื่อบังคับให้เหยื่อตอบกลับ ทำให้การสนทนากลายเป็น trusted thread และเปิดทางให้ส่งบัญชีม้าได้อย่างปลอดภัย การวิเคราะห์พบสมาชิกกระจายหลายทวีปและใช้เทคนิคปลอมตำแหน่ง GPS เพื่อหลบการติดตาม 🔗 https://securityonline.info/the-3-million-email-siege-inside-scripted-sparrows-global-industrialized-bec-machine 🛢️ MongoDB Memory Leak: ช่องโหว่ zlib ทำข้อมูลหลุดโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่ร้ายแรงใน MongoDB (CVE‑2025‑14847) เปิดทางให้ผู้โจมตีดึงข้อมูลจาก heap memory ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เพียงส่งคำขอที่เจาะจงไปยังส่วนที่ใช้ zlib compression ทำให้เซิร์ฟเวอร์ตอบกลับด้วยข้อมูลที่ยังไม่ได้ล้าง ซึ่งอาจรวมถึง query ล่าสุดหรือ credential ที่ค้างอยู่ใน RAM ช่องโหว่นี้กระทบแทบทุกเวอร์ชันย้อนหลังหลายปี และผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีหรือปิดการใช้ zlib ชั่วคราวเพื่อหยุดการรั่วไหล 🔗 https://securityonline.info/critical-unauthenticated-mongodb-flaw-leaks-sensitive-data-via-zlib-compression 🎧 Anna’s Archive อ้างดูด Spotify 300TB จุดชนวนสอบสวนการรั่วไหลครั้งใหญ่ กลุ่มเงา Anna’s Archive ระบุว่าสามารถ mirror คลังเพลงของ Spotify ได้กว่า 300TB ครอบคลุม 86 ล้านแทร็กที่คิดเป็น 99.6% ของยอดฟังทั้งหมด โดยใช้วิธีเก็บ metadata 256 ล้านรายการและหลุดไฟล์เสียงบางส่วนผ่านการเลี่ยง DRM แม้ Spotify จะยืนยันเพียงว่ามีการเข้าถึงข้อมูลบางส่วน แต่เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะถูกนำไปสร้างแพลตฟอร์มสตรีมเถื่อนหรือใช้เทรนโมเดล AI 🔗 https://securityonline.info/annas-archive-claims-300tb-spotify-mirror-forcing-an-investigation-into-a-massive-music-data-leak 🖼️ Windows DWM EoP: ช่องโหว่ยกระดับสิทธิ์ด้วยเทคนิค “วาดทับ” พร้อม PoC เผยแพร่แล้ว ช่องโหว่ใน Desktop Window Manager (DWM) ของ Windows เปิดทางให้ผู้ใช้ในเครื่องยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น SYSTEM ผ่านการจัดการกราฟิกผิดพลาด โดยมี PoC เผยแพร่แล้วแม้รายงานฉบับเต็มจะถูกล็อกให้เฉพาะผู้สนับสนุน เหตุการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องเร่งแพตช์ เพราะเป็นช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ร่วมกับบั๊กอื่นเพื่อยึดระบบได้อย่างรวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/windows-dwm-flaw-lets-local-users-paint-their-way-to-system-privileges-poc-publishes ⚡ Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เพื่อควบคุมไฟฟ้าป้อน Gemini และศูนย์ข้อมูล Alphabet เดินเกมเชิงโครงสร้างด้วยการซื้อ Intersect Power เพื่อแก้ปัญหาพลังงานที่กำลังกลายเป็นคอขวดของการแข่งขัน AI โดยดีลนี้ทำให้ Google ควบคุมโครงการพลังงานหมุนเวียนหลายกิกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สร้างติดกับดาต้าเซ็นเตอร์ในเท็กซัส การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าศึก AI ไม่ได้วัดกันที่ชิปหรือโมเดลอีกต่อไป แต่คือใครสร้างโรงไฟฟ้าได้เร็วกว่า 🔗 https://securityonline.info/the-grid-is-the-goal-alphabets-4-75b-bet-to-own-the-power-plants-behind-gemini 📱 Android Toll: Google เก็บค่าติดตั้ง $2.85 ต่อแอปเมื่อใช้ลิงก์ดาวน์โหลดภายนอก ภายใต้แรงกดดันจากคดี Epic vs Google ศาลบีบให้ Google เปิด Play Store ให้ลิงก์ออกไปดาวน์โหลดภายนอกได้ แต่ Google เสนอโมเดลใหม่ที่ซับซ้อนและมีค่าธรรมเนียมสูง—คิด $2.85 ต่อการติดตั้งแอป และ $3.65 สำหรับเกม หากผู้ใช้ติดตั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลิกลิงก์ พร้อมเก็บส่วนแบ่ง 10–20% สำหรับการจ่ายเงินผ่านระบบของนักพัฒนาเอง ทำให้แม้จะ “เปิด” ระบบ แต่ต้นทุนจริงอาจสูงจนผู้พัฒนาหลายรายไม่อยากออกจาก ecosystem 🔗 https://securityonline.info/the-android-toll-google-to-charge-2-85-per-install-for-external-app-links
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • Game Boy ยักษ์จอ Electroluminescent: โปรเจกต์สุดโรแมนติกของยุคเรโทรที่ทำงานได้จริง

    ม็อดเดอร์ชาวจีนชื่อ LCLDIY สร้างผลงานที่สะดุดตาในโลกเรโทร ด้วยการประกอบ Game Boy ขนาดยักษ์ ที่ใช้จอ Electroluminescent (EL) ซึ่งให้ภาพแบบ “เรโทรฟุ้งนุ่ม” คล้าย CRT แต่ไม่ต้องใช้หลอดภาพขนาดใหญ่ เขาเลือกเทคโนโลยีนี้เพราะไม่ต้องการให้ภาพแตกเป็นพิกเซลหยาบเมื่อขยายจอให้ใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ทำให้ได้ลุคที่ทั้งแปลกตาและชวนคิดถึงในเวลาเดียวกัน

    ความท้าทายสำคัญคือ EL Display ไม่รองรับสัญญาณสมัยใหม่แม้แต่ VGA ทำให้ LCLDIY ต้องสร้าง การ์ดกราฟิกแบบ Custom ของตัวเอง พร้อมเขียน BIOS ใหม่ทั้งหมด โดยใช้ชิป CHIPS 65548/5 เพื่อแปลงสัญญาณ HSync/VSync จาก GPU รุ่นใหม่ให้เข้ากับจอ EL ได้อย่างถูกต้อง เขาใช้เมนบอร์ด Intel 854 เป็นตัวขับกราฟิกหลัก ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่า–ใหม่ที่น่าสนใจมาก

    ตัวเครื่องภายนอกถูกสร้างด้วยการ พิมพ์ 3D ทั้งหมด ใช้เวลาราวหนึ่งสัปดาห์ก่อนประกอบเข้ากับโครงที่ใช้ LEGO จริงบางส่วนเพื่อความแข็งแรง พร้อมปุ่มกดที่ใช้งานได้จริง และยังซ่อนคอนโทรลเลอร์ NES แบบมีสายไว้ด้านข้างเพื่อเล่นเกมจากแพลตฟอร์มอื่นได้ด้วย เขาทดสอบเกมดังหลายเกม เช่น Super Mario Bros., Contra และ Sonic ซึ่งล้วนแสดงผลด้วยแสงเรืองนุ่มแบบเรโทรที่โดดเด่นมาก

    แม้จอ EL จะให้ภาพที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ แต่ก็มีข้อเสีย เช่น ปัญหา Image Retention ที่คล้าย OLED และเป็นจอแบบ Monochrome เท่านั้น อย่างไรก็ตาม โปรเจกต์นี้เปิดซอร์สทั้งหมด ทำให้ใครที่มีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์สามารถลองสร้างตามได้ ถือเป็นงานม็อดที่ทั้งสร้างสรรค์และเคารพความงามของเทคโนโลยียุคเก่าอย่างแท้จริง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไฮไลต์จากโปรเจกต์ Game Boy ยักษ์
    ใช้ Electroluminescent Display ให้ภาพเรโทรแบบนุ่มคล้าย CRT
    ม็อดเดอร์สร้าง การ์ดกราฟิก Custom + BIOS ใหม่ เพื่อให้จอทำงานได้กับ GPU สมัยใหม่
    ตัวเครื่องพิมพ์ 3D ทั้งหมด พร้อมปุ่มใช้งานได้จริงและรองรับคอนโทรลเลอร์ NES
    เปิดซอร์สทั้งหมดให้ผู้สนใจทำตามได้เอง

    ข้อควรระวังและข้อจำกัดของเทคโนโลยีที่ใช้
    จอ EL มี Image Retention คล้าย OLED หากแสดงภาพนิ่งนานเกินไป
    เป็นจอ Monochrome ไม่รองรับสีเต็มรูปแบบเหมือนจอสมัยใหม่
    การสร้างการ์ดกราฟิก Custom ต้องใช้ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์สูง
    ต้นทุนจอ EL ค่อนข้างแพงและหายากในตลาดปัจจุบัน

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/modder-builds-giant-game-boy-featuring-a-dreamy-electroluminescent-screen-driven-by-custom-graphics-adapter-diy-retro-console-is-fully-functional-with-working-buttons
    🎮✨ Game Boy ยักษ์จอ Electroluminescent: โปรเจกต์สุดโรแมนติกของยุคเรโทรที่ทำงานได้จริง ม็อดเดอร์ชาวจีนชื่อ LCLDIY สร้างผลงานที่สะดุดตาในโลกเรโทร ด้วยการประกอบ Game Boy ขนาดยักษ์ ที่ใช้จอ Electroluminescent (EL) ซึ่งให้ภาพแบบ “เรโทรฟุ้งนุ่ม” คล้าย CRT แต่ไม่ต้องใช้หลอดภาพขนาดใหญ่ เขาเลือกเทคโนโลยีนี้เพราะไม่ต้องการให้ภาพแตกเป็นพิกเซลหยาบเมื่อขยายจอให้ใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ทำให้ได้ลุคที่ทั้งแปลกตาและชวนคิดถึงในเวลาเดียวกัน ความท้าทายสำคัญคือ EL Display ไม่รองรับสัญญาณสมัยใหม่แม้แต่ VGA ทำให้ LCLDIY ต้องสร้าง การ์ดกราฟิกแบบ Custom ของตัวเอง พร้อมเขียน BIOS ใหม่ทั้งหมด โดยใช้ชิป CHIPS 65548/5 เพื่อแปลงสัญญาณ HSync/VSync จาก GPU รุ่นใหม่ให้เข้ากับจอ EL ได้อย่างถูกต้อง เขาใช้เมนบอร์ด Intel 854 เป็นตัวขับกราฟิกหลัก ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่า–ใหม่ที่น่าสนใจมาก ตัวเครื่องภายนอกถูกสร้างด้วยการ พิมพ์ 3D ทั้งหมด ใช้เวลาราวหนึ่งสัปดาห์ก่อนประกอบเข้ากับโครงที่ใช้ LEGO จริงบางส่วนเพื่อความแข็งแรง พร้อมปุ่มกดที่ใช้งานได้จริง และยังซ่อนคอนโทรลเลอร์ NES แบบมีสายไว้ด้านข้างเพื่อเล่นเกมจากแพลตฟอร์มอื่นได้ด้วย เขาทดสอบเกมดังหลายเกม เช่น Super Mario Bros., Contra และ Sonic ซึ่งล้วนแสดงผลด้วยแสงเรืองนุ่มแบบเรโทรที่โดดเด่นมาก แม้จอ EL จะให้ภาพที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ แต่ก็มีข้อเสีย เช่น ปัญหา Image Retention ที่คล้าย OLED และเป็นจอแบบ Monochrome เท่านั้น อย่างไรก็ตาม โปรเจกต์นี้เปิดซอร์สทั้งหมด ทำให้ใครที่มีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์สามารถลองสร้างตามได้ ถือเป็นงานม็อดที่ทั้งสร้างสรรค์และเคารพความงามของเทคโนโลยียุคเก่าอย่างแท้จริง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไฮไลต์จากโปรเจกต์ Game Boy ยักษ์ ➡️ ใช้ Electroluminescent Display ให้ภาพเรโทรแบบนุ่มคล้าย CRT ➡️ ม็อดเดอร์สร้าง การ์ดกราฟิก Custom + BIOS ใหม่ เพื่อให้จอทำงานได้กับ GPU สมัยใหม่ ➡️ ตัวเครื่องพิมพ์ 3D ทั้งหมด พร้อมปุ่มใช้งานได้จริงและรองรับคอนโทรลเลอร์ NES ➡️ เปิดซอร์สทั้งหมดให้ผู้สนใจทำตามได้เอง ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัดของเทคโนโลยีที่ใช้ ⛔ จอ EL มี Image Retention คล้าย OLED หากแสดงภาพนิ่งนานเกินไป ⛔ เป็นจอ Monochrome ไม่รองรับสีเต็มรูปแบบเหมือนจอสมัยใหม่ ⛔ การสร้างการ์ดกราฟิก Custom ต้องใช้ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์สูง ⛔ ต้นทุนจอ EL ค่อนข้างแพงและหายากในตลาดปัจจุบัน https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/modder-builds-giant-game-boy-featuring-a-dreamy-electroluminescent-screen-driven-by-custom-graphics-adapter-diy-retro-console-is-fully-functional-with-working-buttons
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/wuxzQ3Ulkrk?si=kdEg_tTkb6uQYGBW
    https://youtu.be/wuxzQ3Ulkrk?si=kdEg_tTkb6uQYGBW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดฉากทัศน์ประชุม GBC - อย่าไว้ใจฮุนเซน : คนเคาะข่าว 23-12-68
    : วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายทหาร
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=pjNUxxMKc54
    เปิดฉากทัศน์ประชุม GBC - อย่าไว้ใจฮุนเซน : คนเคาะข่าว 23-12-68 : วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายทหาร ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ . https://www.youtube.com/watch?v=pjNUxxMKc54
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • จินนี่ ตอนที่ 5

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 5 (จบ)
    สงสัยเพราะไอ้ถังขยะฝาแฝด ดันวิเคราะห์เรื่องรัสเซียยาตราเข้าไปในตะวันออกกลางต่างกัน โอบามาจึง
    ยังไม่ขยับออกจากมุมมืด แค่แก้เก้อ สั่งให้รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา จัดให้มีการถกเรื่องซีเรียที่นครเวียนนา เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ.2015 ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น รัสเซีย อเมริกา สหภาพยุโรป ซาอุดิอารเบีย ตุรกี และอิหร่าน รวมทั้งตัวแทนของสหประชาชาติ แต่ไม่มีตัวแทนของซีเรียเข้าร่วมประชุมด้วย …. ไอ้เวร จะถกกันเรื่องบ้านเขาแต่ไม่ถามคนในบ้านเขาเลยนะ ว่า เขาต้องการอย่างไร
    และในที่สุด การประชุมก็จบลง ด้วยการสรุปว่า ยังไม่มีข้อตกลง .. เจ๋งเป้งจริงๆ แล้วแบบนี้ พี่เบิ้มใบตองแห้งจะ
    ฟ้อนต่อยังไงครับ 2 เดือนกว่าแล้วนะ พรรคพวกก็งงลูกหาบก็ถามกันเซ็งแซ่ ถาดพร้อม ชุดพร้อม จะเอายังไงจะให้ไปเซิ้งที่ไหนบอกมาเลยครับเจ้านาย
    เจ้านายจะสั่งยังไงดีล่ะ ยังจุกหูไม่หาย หลังจากฟังเพลงด่ารัสเซียคนละเสียงจากไอ้ถังฝาแฝด
    แค่ถังขยะ 2 ใบกลัวเจ้านาย จะมึนไม่พอ ปรากฏว่า ถังขยะใหญ่อีกใบของอเมริกา Brookings Institute ดันออกบทความเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ชื่อ Russia’s military is proving Western punditry wrong” สรุปให้เห็นภาพ หรือ ศักยภาพ ของกองทัพรัสเซียในตะวันออกกลาง มาคนละแนวกับคู่แฝด โดยเฉพาะแฝดตัวที่ดูเหมือนเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรี แบบนี้ เจ้านายคงไม่ใช่แค่จุกหู อาจจะถึงจุกหางเอาด้วย
    ถัง Brookings บอกว่า เมื่อรัสเซียยกทัพเข้าไปในตะวันออกกลางใหม่ๆ นักวิเคราะห์ต่างจับตามอง และเสียงส่วน
    ใหญ่สรุปว่า รัสเซียคงไปได้ไม่กี่น้ำ บางคนบอกว่ากองทัพรัสเซียอ่อนแอ แถมสนิมขึ้นเขรอะแล้วด้วย
    แต่จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง เท่าที่ผ่านมาดูเหมือนจะทำให้นักวิเคราะห์เหล่านั้น หน้าแหกไปตามๆกัน
    ในการรบทางอากาศ ฝูงบินรัสเซีย บินโจมตีวันละประมาณ 48 ถึง 96 เที่ยว นับเป็นจำนวนเที่ยว เท่ากับที่
    กองกำลังฝ่ายที่ต่อต้านอัสสาด (ที่อเมริกาสนับสนุน) ทำได้ ในเวลา 1 เดือน… เอ็งทำรายงานแบบนี้ จะให้
    เจ้านายออกจากมุมมืดยังไงวะ
    นอกจากนี้ ฝ่ายรัสเซียได้เด็ดหัวหน้าฝ่ายกบฏ Captain Basil Zamo ที่เป็นกำลังสำคัญของฝ่ายต่อต้านอัสสาด
    ไปเรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม และผู้บัญชาการรบที่หน่วยNour al-din al-Zinki ก็เสียชีวิตด้วยจากการ
    โจมตีครั้งอื่นของรัสเซีย
    คำถามว่า รัสเซียจะรักษาระดับการโจมตีทางอากาศเช่นนี้ต่อไปได้ไหมถัง Brookings บอกว่า เป็นไปได้ และแถม
    บอกว่า ยามนี้คงไม่มีพรรคพวกเรารายไหนในกลุ่มนาโต้จะสู้กับรัสเซียทางอากาศได้ด้วยซ้ำ …..อ้าว วิเคราะห์
    แบบนี้ เดี๋ยวได้ตกงานกันหมด
    ทางทะเลล่ะ เป็นอย่างไร นักวิเคราะห์บอก เห็นเขาบอกว่าสนิมเขรอะเช่นกัน แต่ที่ไหนได้เจ้านายครับ รัสเซียกลับ
    นำกองทัพเรือรุ่นใหม่มาใช้ เป็นเรือรบขนาดกลาง แต่สามารถยิงจรวดจากฐานประจำเรือได้ในระยะ 900 ไมล์
    ศักยภาพนี้ของรัสเซีย ไม่มีใครรู้มาก่อน เปรียบเทียบกับเรือรบขนาด 2 ,900 ตัน และ 3,100 ตัน combat
    ship เช่น Freedom กับ Independence ของอเมริกา ซึ่งใหญ่กว่าเรือรัสเซียมาก ยังไม่มีเครื่องยิงจรวด
    ประจำเรือ ในอานุภาพระดับเท่ากับรัสเซียเลยนะเจ้านาย
    เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นว่า ข้อมูลที่ทางตะวันตกมี เกี่ยวกับอาวุธรัสเซีย ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลที่ตกรุ่น และทำให้ฝ่าย
    ตะวันตก ประเมินกองทัพรัสเซียผิดพลาด ข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการรบของรัสเซียในตะวันออก
    กลาง ดูเหมือนจะทำให้สายตาของตะวันตกที่เคยมองรัสเซียเปลี่ยนไป แต่จะทำให้เกมเปลี่ยนไปเลยหรือไม่
    คงต้องดูจากการขยับหมากของอเมริกา
    ก่อนขยับหมาก ดูเหมือนอเมริกาจะใช้เวลาตรวจสอบศักยภาพของรัสเซียหลายรูปแบบ และใช้เวลานานเอาเรื่อง เหมือนกับซื้อเวลา ก็อเมริกาใหญ่นี่นะ ขืนเซ่อซ่า ออกไปผิดท่า กระจอกไม่ทันกินน้ำหงายท้องผลึ่ง คงมีค่อนโลกหัวร่อเยาะ ผมคนนึงละ รับรองทั้งซ้ำ ทั้งเติมไม่มีเว้น
    อเมริกาจะไม่คิดมากได้อย่างไร 70 ปี ที่ผ่านมาอเมริกาเคยรบกับกองทัพใหญ่ที่ไหนบ้าง หนสุดท้ายที่รบจริงคือ
    สงครามเวียตนาม นั่นมัน 40 กว่าปีมาแล้วนะครับ แล้วอีกฝ่ายก็ตัวเล็กผอมเกร็ง อาวุธส่วนใหญ่ ก็เป็นของเก่าที่
    ฝรั่งเศสทิ้งไว้ หรือ ที่รัสเซียส่งมาให้ทดลองใช้ แต่ฝ่ายอเมริกายกมาเต็มอัตราศึก ครบเครื่อง แถมหลอกลากเอา
    สมันน้อย สมันใหญ่แถวนี้ ไปเข้าแถวช่วยรบกับเขาด้วย ส่วนฝ่ายเวียตนามรบมาแบบเดี่ยวๆ แล้วเป็นยังไงครับ
    รบไป 8 ปี อเมริกาฉิบหายรุ่ย แล้วก็ไม่ได้ชนะจริงๆ ต้องไปทำข้อตกลงหย่าศึก ไม่เข็ดหรือวะ
    ส่วนรายการอิรัค ลิเบีย อาฟกานิสถาน มันเป็นเรื่องผู้ใหญ่รังแกเด็ก ขี่ช้างเข้าไปจับตั๊กกะแตน จะไปรบที เหมือนไป
    ตากอากาศ ทั้งชุด ทั้งอาหารพร้อม ไอติมยังมีกินเลยรบแบบนี้ไม่ชนะก็เอาหัวไปทิ่มบ่อตายเสียดีกว่า แต่คราวนี้ อเมริกาจะเจอรุ่นใหญ่ด้วยกัน มีอาวุธเหมือนกัน ยังไม่รู้แน่ว่าของใครดีกว่ากัน ที่สำคัญ อาจไม่ได้มาแบบ
    เดี่ยวๆ อเมริกาคงต้องคิดแยะ
    อเมริกา มี 2 ทางเลือกทางเลือก
    หนึ่ง คือ เล่นสกปรกสาระพัดวิธี ใต้โต๊ะใต้น้ำ บนดินบนฟ้า หลอกล่อให้ฝูงไอ้ปื้ด ออกมาล่อรัสเซียให้งอมจนเกือบเละก่อน หลังจากนั้น อเมริกาจึงค่อยยกทัพใหญ่ออกมาลุย แบบนี้เป็นสไตล์จิ๊กโก๋ใบตองแห้งของแท้ ไม่มีราศีผู้นำโลกหมายเลขหนึ่งติดอยู่เลย
    หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ อเมริกาเคลื่อนทัพใหญ่ออกมาลุยกันเลยเท่านั้น ถ้าเป็นทางเลือกนี้ก็คงเล่นกันเต็มรูป
    แบบ แนวกว้าง ยาวไปเกือบทั่วโลก
    แล้วมีโอกาสไหม ที่อเมริกาจะไม่รบ ใช้การเจรจา หรือทำเกียร์ว่าง ปล่อยให้คุณพี่ปูตินว่าการตะวันออกกลาง
    ตามสะดวก คิดว่าเป็นไปได้ไหมครับ
    ผมตอบแทนอเมริกาไม่ได้หรอก แต่ในฐานะคนคุ้นเคย เฝ้าดูเฝ้าด่ามาตลอด 2 ปีกว่า ผมมองว่า ถ้าคุณพี่ปูติน แกมายืนถอดเสื้อเบ่งกล้ามมัดๆ ให้ดูอยู่แถวตะวันออกกลาง แล้วอเมริกายังนั่งแอบอยู่ในมุมห้อง สั่งให้สื่อตีข่าวกลับไปกลับมาทุกวันแต่ไม่ออกไปเจอหน้าก็เหมือนกับว่า อเมริกายอมยกตำแหน่งพี่เบิ้มให้รัสเซียไป อเมริกาจะทำใจยอมเสียตำแหน่งพี่เบิ้มได้หรือโดยเฉพาะให้กับรัสเซีย
    แต่อเมริกา อาจซื้อเวลา เล่นบทเจรจา ฟ้อนไปฟ้อนมาก่อน เพราะยังตั้งหลักจัดทัพไม่ทันคุณพี่ปูตินแกเคลื่อน
    ทัพมาเร็วเกินคาด ข่าวกรองของอเมริกา ที่ว่าแน่ๆ ทำงานไม่ทัน แต่รับรอง ระหว่างจัดทัพหลวง ทัพหน้าคง
    ออกมาแน่ แต่เป็นกองทัพจิ้งหรีด โดยการปั่นให้ไอ้ปื้ดแถวตะวันออกกลาง ออกมาเป็นแสน คุณพี่ปูติน ก็เตรียมรับมือไว้แล้วกัน
    เมื่อยังไงก็ต้องรบ และกำลังเตรียมจัดทัพ อเมริกาจึงกัดฟัน ปล่อยคุณจินนี่ ที่มีเจ้าของเป็นผีดิบสายเหยี่ยว
    จอมโหด จอมตะกละ ออกมาขู่รัสเซีย ว่า อยากจะเล่นเกมไหน จะเล่นเกมแบบสายเหยี่ยว ที่มีถังขยะ CFR
    หนุนมาตลอด ไม่ใช่เหยี่ยวปีกห้อย แบบไอ้ใบตองแห้งที่นั่งกัดเล็บอยู่ในมุมห้อง แถม คุณจีนนี่ ยังลากเอาผีดิบพันธุ์อังกฤษปนยิว รวมทั้งคนขายชาติ มาเป็นการตบหน้ารัสเซียอีกด้วย จะเล่นแบบนี้ไหม หรือรัสเซีย จะพอใจแค่กินขนมเค้กซีเรียด้วยกันแล้วก็กลับบ้านไป ไม่เสียหน้า ไม่ฉิบหายไปตามๆกันอย่างที่ท่านประธานถังขยะเสนอ
    ดูๆ เหมือนคำขู่ แต่ไม่รู้จะเป็นขู่ไปถอยไป หรือเปล่านะ
    แต่ผมเดาว่า คุณพี่ปูติน ไม่ใช่คนกลัวผีดิบ ไม่ว่าพันธุ์ไหนและคงไม่ชอบกินขนมเค้กด้วยและอเมริกาน่าจะรู้คำตอบนี้แล้ว ถึงมีรายการเขย่าขวัญฝ่ายรัสเซียให้ดู แต่ผมเกรงว่า นาฬิกาจะเริ่มนับถอยหลังไปแล้ว เมื่อมีการสอยเครื่องบินโดยสารของรัสเซีย เมื่อวันวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.2015
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 5 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 5 (จบ) สงสัยเพราะไอ้ถังขยะฝาแฝด ดันวิเคราะห์เรื่องรัสเซียยาตราเข้าไปในตะวันออกกลางต่างกัน โอบามาจึง ยังไม่ขยับออกจากมุมมืด แค่แก้เก้อ สั่งให้รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา จัดให้มีการถกเรื่องซีเรียที่นครเวียนนา เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ.2015 ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น รัสเซีย อเมริกา สหภาพยุโรป ซาอุดิอารเบีย ตุรกี และอิหร่าน รวมทั้งตัวแทนของสหประชาชาติ แต่ไม่มีตัวแทนของซีเรียเข้าร่วมประชุมด้วย …. ไอ้เวร จะถกกันเรื่องบ้านเขาแต่ไม่ถามคนในบ้านเขาเลยนะ ว่า เขาต้องการอย่างไร และในที่สุด การประชุมก็จบลง ด้วยการสรุปว่า ยังไม่มีข้อตกลง .. เจ๋งเป้งจริงๆ แล้วแบบนี้ พี่เบิ้มใบตองแห้งจะ ฟ้อนต่อยังไงครับ 2 เดือนกว่าแล้วนะ พรรคพวกก็งงลูกหาบก็ถามกันเซ็งแซ่ ถาดพร้อม ชุดพร้อม จะเอายังไงจะให้ไปเซิ้งที่ไหนบอกมาเลยครับเจ้านาย เจ้านายจะสั่งยังไงดีล่ะ ยังจุกหูไม่หาย หลังจากฟังเพลงด่ารัสเซียคนละเสียงจากไอ้ถังฝาแฝด แค่ถังขยะ 2 ใบกลัวเจ้านาย จะมึนไม่พอ ปรากฏว่า ถังขยะใหญ่อีกใบของอเมริกา Brookings Institute ดันออกบทความเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ชื่อ Russia’s military is proving Western punditry wrong” สรุปให้เห็นภาพ หรือ ศักยภาพ ของกองทัพรัสเซียในตะวันออกกลาง มาคนละแนวกับคู่แฝด โดยเฉพาะแฝดตัวที่ดูเหมือนเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรี แบบนี้ เจ้านายคงไม่ใช่แค่จุกหู อาจจะถึงจุกหางเอาด้วย ถัง Brookings บอกว่า เมื่อรัสเซียยกทัพเข้าไปในตะวันออกกลางใหม่ๆ นักวิเคราะห์ต่างจับตามอง และเสียงส่วน ใหญ่สรุปว่า รัสเซียคงไปได้ไม่กี่น้ำ บางคนบอกว่ากองทัพรัสเซียอ่อนแอ แถมสนิมขึ้นเขรอะแล้วด้วย แต่จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง เท่าที่ผ่านมาดูเหมือนจะทำให้นักวิเคราะห์เหล่านั้น หน้าแหกไปตามๆกัน ในการรบทางอากาศ ฝูงบินรัสเซีย บินโจมตีวันละประมาณ 48 ถึง 96 เที่ยว นับเป็นจำนวนเที่ยว เท่ากับที่ กองกำลังฝ่ายที่ต่อต้านอัสสาด (ที่อเมริกาสนับสนุน) ทำได้ ในเวลา 1 เดือน… เอ็งทำรายงานแบบนี้ จะให้ เจ้านายออกจากมุมมืดยังไงวะ นอกจากนี้ ฝ่ายรัสเซียได้เด็ดหัวหน้าฝ่ายกบฏ Captain Basil Zamo ที่เป็นกำลังสำคัญของฝ่ายต่อต้านอัสสาด ไปเรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม และผู้บัญชาการรบที่หน่วยNour al-din al-Zinki ก็เสียชีวิตด้วยจากการ โจมตีครั้งอื่นของรัสเซีย คำถามว่า รัสเซียจะรักษาระดับการโจมตีทางอากาศเช่นนี้ต่อไปได้ไหมถัง Brookings บอกว่า เป็นไปได้ และแถม บอกว่า ยามนี้คงไม่มีพรรคพวกเรารายไหนในกลุ่มนาโต้จะสู้กับรัสเซียทางอากาศได้ด้วยซ้ำ …..อ้าว วิเคราะห์ แบบนี้ เดี๋ยวได้ตกงานกันหมด ทางทะเลล่ะ เป็นอย่างไร นักวิเคราะห์บอก เห็นเขาบอกว่าสนิมเขรอะเช่นกัน แต่ที่ไหนได้เจ้านายครับ รัสเซียกลับ นำกองทัพเรือรุ่นใหม่มาใช้ เป็นเรือรบขนาดกลาง แต่สามารถยิงจรวดจากฐานประจำเรือได้ในระยะ 900 ไมล์ ศักยภาพนี้ของรัสเซีย ไม่มีใครรู้มาก่อน เปรียบเทียบกับเรือรบขนาด 2 ,900 ตัน และ 3,100 ตัน combat ship เช่น Freedom กับ Independence ของอเมริกา ซึ่งใหญ่กว่าเรือรัสเซียมาก ยังไม่มีเครื่องยิงจรวด ประจำเรือ ในอานุภาพระดับเท่ากับรัสเซียเลยนะเจ้านาย เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นว่า ข้อมูลที่ทางตะวันตกมี เกี่ยวกับอาวุธรัสเซีย ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลที่ตกรุ่น และทำให้ฝ่าย ตะวันตก ประเมินกองทัพรัสเซียผิดพลาด ข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการรบของรัสเซียในตะวันออก กลาง ดูเหมือนจะทำให้สายตาของตะวันตกที่เคยมองรัสเซียเปลี่ยนไป แต่จะทำให้เกมเปลี่ยนไปเลยหรือไม่ คงต้องดูจากการขยับหมากของอเมริกา ก่อนขยับหมาก ดูเหมือนอเมริกาจะใช้เวลาตรวจสอบศักยภาพของรัสเซียหลายรูปแบบ และใช้เวลานานเอาเรื่อง เหมือนกับซื้อเวลา ก็อเมริกาใหญ่นี่นะ ขืนเซ่อซ่า ออกไปผิดท่า กระจอกไม่ทันกินน้ำหงายท้องผลึ่ง คงมีค่อนโลกหัวร่อเยาะ ผมคนนึงละ รับรองทั้งซ้ำ ทั้งเติมไม่มีเว้น อเมริกาจะไม่คิดมากได้อย่างไร 70 ปี ที่ผ่านมาอเมริกาเคยรบกับกองทัพใหญ่ที่ไหนบ้าง หนสุดท้ายที่รบจริงคือ สงครามเวียตนาม นั่นมัน 40 กว่าปีมาแล้วนะครับ แล้วอีกฝ่ายก็ตัวเล็กผอมเกร็ง อาวุธส่วนใหญ่ ก็เป็นของเก่าที่ ฝรั่งเศสทิ้งไว้ หรือ ที่รัสเซียส่งมาให้ทดลองใช้ แต่ฝ่ายอเมริกายกมาเต็มอัตราศึก ครบเครื่อง แถมหลอกลากเอา สมันน้อย สมันใหญ่แถวนี้ ไปเข้าแถวช่วยรบกับเขาด้วย ส่วนฝ่ายเวียตนามรบมาแบบเดี่ยวๆ แล้วเป็นยังไงครับ รบไป 8 ปี อเมริกาฉิบหายรุ่ย แล้วก็ไม่ได้ชนะจริงๆ ต้องไปทำข้อตกลงหย่าศึก ไม่เข็ดหรือวะ ส่วนรายการอิรัค ลิเบีย อาฟกานิสถาน มันเป็นเรื่องผู้ใหญ่รังแกเด็ก ขี่ช้างเข้าไปจับตั๊กกะแตน จะไปรบที เหมือนไป ตากอากาศ ทั้งชุด ทั้งอาหารพร้อม ไอติมยังมีกินเลยรบแบบนี้ไม่ชนะก็เอาหัวไปทิ่มบ่อตายเสียดีกว่า แต่คราวนี้ อเมริกาจะเจอรุ่นใหญ่ด้วยกัน มีอาวุธเหมือนกัน ยังไม่รู้แน่ว่าของใครดีกว่ากัน ที่สำคัญ อาจไม่ได้มาแบบ เดี่ยวๆ อเมริกาคงต้องคิดแยะ อเมริกา มี 2 ทางเลือกทางเลือก หนึ่ง คือ เล่นสกปรกสาระพัดวิธี ใต้โต๊ะใต้น้ำ บนดินบนฟ้า หลอกล่อให้ฝูงไอ้ปื้ด ออกมาล่อรัสเซียให้งอมจนเกือบเละก่อน หลังจากนั้น อเมริกาจึงค่อยยกทัพใหญ่ออกมาลุย แบบนี้เป็นสไตล์จิ๊กโก๋ใบตองแห้งของแท้ ไม่มีราศีผู้นำโลกหมายเลขหนึ่งติดอยู่เลย หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ อเมริกาเคลื่อนทัพใหญ่ออกมาลุยกันเลยเท่านั้น ถ้าเป็นทางเลือกนี้ก็คงเล่นกันเต็มรูป แบบ แนวกว้าง ยาวไปเกือบทั่วโลก แล้วมีโอกาสไหม ที่อเมริกาจะไม่รบ ใช้การเจรจา หรือทำเกียร์ว่าง ปล่อยให้คุณพี่ปูตินว่าการตะวันออกกลาง ตามสะดวก คิดว่าเป็นไปได้ไหมครับ ผมตอบแทนอเมริกาไม่ได้หรอก แต่ในฐานะคนคุ้นเคย เฝ้าดูเฝ้าด่ามาตลอด 2 ปีกว่า ผมมองว่า ถ้าคุณพี่ปูติน แกมายืนถอดเสื้อเบ่งกล้ามมัดๆ ให้ดูอยู่แถวตะวันออกกลาง แล้วอเมริกายังนั่งแอบอยู่ในมุมห้อง สั่งให้สื่อตีข่าวกลับไปกลับมาทุกวันแต่ไม่ออกไปเจอหน้าก็เหมือนกับว่า อเมริกายอมยกตำแหน่งพี่เบิ้มให้รัสเซียไป อเมริกาจะทำใจยอมเสียตำแหน่งพี่เบิ้มได้หรือโดยเฉพาะให้กับรัสเซีย แต่อเมริกา อาจซื้อเวลา เล่นบทเจรจา ฟ้อนไปฟ้อนมาก่อน เพราะยังตั้งหลักจัดทัพไม่ทันคุณพี่ปูตินแกเคลื่อน ทัพมาเร็วเกินคาด ข่าวกรองของอเมริกา ที่ว่าแน่ๆ ทำงานไม่ทัน แต่รับรอง ระหว่างจัดทัพหลวง ทัพหน้าคง ออกมาแน่ แต่เป็นกองทัพจิ้งหรีด โดยการปั่นให้ไอ้ปื้ดแถวตะวันออกกลาง ออกมาเป็นแสน คุณพี่ปูติน ก็เตรียมรับมือไว้แล้วกัน เมื่อยังไงก็ต้องรบ และกำลังเตรียมจัดทัพ อเมริกาจึงกัดฟัน ปล่อยคุณจินนี่ ที่มีเจ้าของเป็นผีดิบสายเหยี่ยว จอมโหด จอมตะกละ ออกมาขู่รัสเซีย ว่า อยากจะเล่นเกมไหน จะเล่นเกมแบบสายเหยี่ยว ที่มีถังขยะ CFR หนุนมาตลอด ไม่ใช่เหยี่ยวปีกห้อย แบบไอ้ใบตองแห้งที่นั่งกัดเล็บอยู่ในมุมห้อง แถม คุณจีนนี่ ยังลากเอาผีดิบพันธุ์อังกฤษปนยิว รวมทั้งคนขายชาติ มาเป็นการตบหน้ารัสเซียอีกด้วย จะเล่นแบบนี้ไหม หรือรัสเซีย จะพอใจแค่กินขนมเค้กซีเรียด้วยกันแล้วก็กลับบ้านไป ไม่เสียหน้า ไม่ฉิบหายไปตามๆกันอย่างที่ท่านประธานถังขยะเสนอ ดูๆ เหมือนคำขู่ แต่ไม่รู้จะเป็นขู่ไปถอยไป หรือเปล่านะ แต่ผมเดาว่า คุณพี่ปูติน ไม่ใช่คนกลัวผีดิบ ไม่ว่าพันธุ์ไหนและคงไม่ชอบกินขนมเค้กด้วยและอเมริกาน่าจะรู้คำตอบนี้แล้ว ถึงมีรายการเขย่าขวัญฝ่ายรัสเซียให้ดู แต่ผมเกรงว่า นาฬิกาจะเริ่มนับถอยหลังไปแล้ว เมื่อมีการสอยเครื่องบินโดยสารของรัสเซีย เมื่อวันวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.2015 สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • จินนี่ ตอนที่ 4

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 4
    อเมริกากำลังคิดอะไรอยู่ หรืออเมริกา รออะไร
    อเมริกาน่าจะกำลัง “ทำความเข้าใจ หรือทำความรู้จัก” กับศักยภาพกองทัพของรัสเซียของจริง จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง ไม่ใช่จากกระดาษรายงาน ของเหล่านักวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญ หรือถังความคิด รายใดรายหนึ่ง
    เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ประมาณ 2 เดือนหลังจากเฝ้าดูลีลาของรัสเซียในตะวันออกกลาง นาย Richard N Haass ประธานถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่งของอเมริกา The Council on Foreign Relations หรือ CFR ถังขยะที่เชื่อกันว่า น่าจะเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรีตัวจริง ก็ลงมือเขียนรายงาน ชื่อ “Testing Putin in Syria ”
    ท่านประธานถังขยะ สรุปว่า ชัดเจนว่าการเข้าไปในตะวันออกกลางของปูติน เหมือนไปต่อท่อหายใจให้กับอัสสาดของซีเรีย แต่ขณะเดียวกัน ปูตินก็ใช้โอกาสนี้ บอกให้โลกรู้ว่า รัสเซียยังอยู่นะ และอยู่แบบแข็งแรงด้วย เป็นการเบี่ยงเบน จากความจริงว่า เศรษฐกิจในบ้านรัสเซียกำลังหดเหี่ยว และเพื่อให้ผู้คนลืมเรื่องยูเครนไปด้วย ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อสร้างคะแนนเสียงให้กับตัวเองในรัสเซียนั่นแหละ
    มีหลายคนเป็นห่วงว่า การที่รัสเซียเข้าไปในซีเรีย ไม่ใช่จะทำให้ อัสสาดเผด็จการจอมโหดแข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกไอซิสโตขึ้นอีกด้วย เพราะการที่รัสเซียมุ่งหน้าแต่จะทำลายศัตรูของอัสสาด เท่ากับเปิดโอกาส ให้ไอซิสขยายพันธ์ง่ายขึ้นอีกด้วย
    นอกจากนี้ยังมีผู้ห่วงว่า รัสเซีย จะเป็นคนเริ่มสงครามเย็นในตะวันออกกลาง ด้วยการปิดล้อม ประเทศที่อยู่คนละฝ่ายกับอัสสาด แต่ท่านประธานถังขยะ บอกว่า ลืมไปได้เลย รัสเซียไม่มีปัญญารับมือกับการเปิดศึกหลายด้านหรอก เพราะนโยบายต่างประเทศแบบนั้น มันมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งสภาพทางเศรษฐกิจ กับสภาพกองทัพของรัสเซีย ไม่เอื้อให้รัสเซียเล่นได้ขนาดนั้น และก็ไม่แน่ว่า ชาวรัสเซียจะสนับสนุนปูติน ให้ทำเช่นนั้นด้วย
    ก็เหลือแต่ว่าปูติน ยังอยากจะเพลินกับการปกครอง แบบรวบอำนาจของตน ไปอีกนานไหมล่ะ ทุกอย่างมันมีขอบเขต และมีราคาทั้งสิ้น และปูตินอย่าลืมว่า เมื่อไอซิสแข็งแรงขึ้น ไม่นานเกินรอ คงได้เห็นนักรบพลีชีพ ไปก่อระเบิดในมอสโคว์แน่นอน (ขณะที่เขียนนี่ มอสโคว์ยังไม่มีระเบิดพลีชีพ แต่เครื่องบินโดยสารของรัสเซียโดนมือมืดสอยร่วงไปแล้ว นับว่าท่านประธานถังขยะ อ่านเกมขาด.!?)
    ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ปูตินคิดเรื่องซีเรีย ถึงขนาดไหน ถึงขนาดจะเอาอัสสาดไว้ ไม่ว่าต้วเองจะฉิบหายแค่ไหนอย่างนั้นหรือ หรือเอาแค่ว่า รัสเซียก็สามารถมีส่วน ในการจัดการตะวันออกกลางด้วย โดยไม่ต้องเอาเรื่องอัสสาดมาเกี่ยว
    ประธานถังขยะ แนะนำว่า ระหว่างที่ท่าทีของรัสเซียยังไม่ชัดเจน อเมริกาเอง ควรเลือกดำเนินการ 2 อย่างควบคู่กันไป ทางหนึ่งคือ จัดการดุลยอำนาจในบริเวณซีเรียเสียใหม่ ด้วยการสนับสนุนชาวเคิร์ด กับพวกสุนนี่บางกลุ่มเหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็เดินหน้าถล่มไอซิสจากทางอากาศต่อไป เหมือนเดิมอีกเหมือนกัน
    ขณะเดียวกัน ก็พยายามดำเนินการทางการทูต เพื่อนำไปสู่ “การแบ่งซีเรีย” !!!!
    โดยแบ่งซีเรียออกเป็นส่วนๆ และแยกการปกครอง ของแต่ละส่วนออกจากกัน น่าจะเป็นสูตรที่เหมาะสมสำหรับทุกฝ่าย ไม่ว่าอเมริกา หรือใคร ก็คงไม่ได้สนใจจริงจังใช่ไหม ที่จะรักษารัฐบาลของซีเรีย ที่มีอำนาจควบคุมซีเรียทั้งหมดหรอก
    และด้วยการดำเนินการอย่างนี้ อเมริกาก็สามารถที่จะให้รัสเซีย และแม้แต่ อิหร่าน ก็เข้ามามีส่วนร่วมในการแบ่ง (เค๊ก) ซีเรียด้วยกัน แบบนี้ ปูตินก็น่าจะพอใจ เพราะได้หน้ากำลังดี คุ้มกับราคาที่เสียไปในการเข้ามาในซีเรีย
    …ดูเหมือน บทความนี้จะเป็นการโยนหินถามทาง ระหว่างที่ท่านหัวหน้าใบตองแห้งกำลังนั่งกัดเล็บ อยู่ในมุมมืดของห้องทำงานที่ทำเนียบขาว รอผลสรุปจากพวกลูกกระเป๋ง ก่อนจะวางยุทธศาสตร์ หาทางเดินให้ตัวเอง….
    แต่ผมขอเพิ่มสักหน่อยว่า บทความของท่านประธานถังขยะ นี่มันยั่วยวน กวนส้นจริงๆ ส่อสันดานอเมริกาของแท้อย่างชัดเจน ทั้งดูถูกเหยียดหยามคนอื่น ไม่มีใครเก่งวิเศษเท่ามึง ที่ดีแต่ปาก แต่ จริงๆก็ขี้ขลาดเอาตัวรอด งก และยังหน้าด้าน เห็นแก่ได้ แม้กระทั่งลางแพ้รออยู่ข้างหน้า … มึงคิดได้ยังไง อยู่ดีๆจะเสนอแบ่งประเทศเขา….. เราต้องจำวิธีคิดแบบนี้ของไอ้ใบตองแห้งให้ดีๆ นะครับ
    เห็นการวิเคราะห์ของฝั่งวอชิงตันแล้ว คราวนี้ลองไปฟัง การวิเคราะห์ของอีกฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกกันบ้างครับ
    2 วัน ก่อนหน้าที่เรื่อง คุณจีนนี่ จะออกมาเป็นข่าว ถังขยะความคิดของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ Chatham House คู่แฝดของ CFR ก็ออกบทความเหมือนกัน ชื่อ Putin’s Gamble in Syria เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ.2015
    สรุปว่า ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสมัยสหภาพโซเวียต หรือเป็นรัสเซียใหม่ ยังไม่เคยมีก้าวไหนของรัสเซียที่ท้าทาย เท่ากับการเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับซีเรียของนายปูตินครั้งนี้ ส่วนใหญ่ เวลาที่รัสเซียมีกิจกรรมนอกพื้นที่ตัวเอง ก็มักจะเกี่ยวข้องโดยตรง กับเรื่องของรัสเซียเอง แต่ครั้งนี้ ดูเหมือนไม่ใช่เช่นนั้น
    เมื่อวันที่นายปูติน บินไปนิวยอร์ค เพื่อพบหน้ากับนายโอบามา ในการประชุมใหญ่ของสหประชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปูติน พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมานั้น ในวันนั้น กองทัพของรัสเซีย เครื่องบินรบ รวมทั้งนาวิกโยธินของรัสเซีย และเรือบรรทุกครื่องบิน Moskva ทั้งหมด ได้ไปประจำการณ์อยู่ที่ท่าเรือ Latakia/Tartous ที่อยู่ทางเหนือของซีเรีย เรียบร้อยหมดแล้ว และเมื่อปูติน
    พบกับโอบามา เขาก็คงจะบอกกับโอบามา ว่ารัสเซียจะใช้ของที่เอาไปอยู่ตรงนั้นอย่างไร และจริงๆ ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากนั้น ฝูงบิน Sukhoi ของรัสเซีย ก็เริ่มโจมตีกลุ่มไอซิส ที่ al-Rakaa แล้ว รวมทั้งโจมตีกลุ่มกองกำลังฝ่ายกบฏซีเรีย ที่อเมริกาและพวก ที่นำโดยซาอุดิอารเบีย และตุรกี เป็นผู้สนับสนุนอีกด้วย
    การจู่โจมของรัสเซีย นับเป็นปรากฏการณ์ ที่น่าตื่นเต้นอย่างมากในตะวันออกกลาง แม้ว่าจะปูตินจะพารัสเซียเข้าไปอยู่ในความเสี่ยงสูง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปูตินยังมียุทธศาสตร์ ในขณะที่โอบามาเอง กำลังนั่งมึนหาทางไปไม่เจอ แต่ปูตินเข้าไปอยู่ในพื้นที่แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่า ตัวเองจะต้องอยู่ตรงนั้น เมื่อวันตัดสินชะตาของซีเรียเกิดขึ้น แต่โอบามา ยังคงนั่งเงียบอยู่
    ผลกระทบในตะวันออกกลาง จากการเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับซีเรียของรัสเซีย มีสูงยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างฝ่ายสุนนี่ที่ต่อต้านอัสสาด (ซาอุดิอารเบีย การ์ตา ตุรกี) กับฝ่ายรัสเซีย ที่สนับสนุน อัสสาด รวมทั้งความไม่เด็ดขาดของโอบามา เมื่อเทียบกับปูติน
    ถังขยะของชาวเกาะบอกว่า มีสิ่งที่น่าสนใจอีก 2 รายการ คือ สัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอียิปต์ ที่ดูเหมือนนับวันจะใกล้ชิดกันมากขึ้น ขณะที่อิทธิพลของอเมริกา ที่มีต่ออียิปต์ดูเหมือนจะจางลง (มิน่า เครื่องบินรัสเซีย ถึงต้องถูกสอยร่วงที่อียิปต์ เดี๋ยวจะใกล้ชิดกันมากไป..)
    แต่ที่น่าสนใจที่สุด คือ การที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู บินไปหา ปูติน เมื่อปลายเดือนสิงหาคม โดยการแจ้งล่วงหน้าเพียง 24 ชั่วโมง
    หนังสือพิมพ์ Haaretz ซึ่งเป็นสื่อมีเสียงดังมากในอิสราเอล สรุปการเดินทางไปมอสโคว์ของเนทันยาฮูว่า “เป็นการแสดงให้เห็นว่า อำนาจของอเมริกาในตะวันออกกลาง เป็นอดีตไปเสียแล้ว…”
    ถังของชาวเกาะ สรุปส่งท้ายว่า โอกาสที่อเมริกา จะกลับมามีอำนาจเหมือนเดิม มีแค่ทางเดียว คือ อเมริกาต้องเคลื่อนตัวเองเข้ามาในตะวันออกกลางเสียใหม่ และอย่างรวดเร็ว และจัดการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในซีเรีย
    เป็นถังขยะแฝดกันก็จริง และทุกทีก็มักจะวิเคราะห์แบบประสานเสียงกัน โดยเฉพาะเวลาร้องเพลงด่ารัสเซีย เอ แต่ทำไมเรื่องรัสเซียอุ้มซีเรียคราวนี้ คู่แฝดเหมือนแตกเสียงกัน แต่จะถึงกับแตกคอกันหรือไม่… ดูไปก่อนนะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    6 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 4 อเมริกากำลังคิดอะไรอยู่ หรืออเมริกา รออะไร อเมริกาน่าจะกำลัง “ทำความเข้าใจ หรือทำความรู้จัก” กับศักยภาพกองทัพของรัสเซียของจริง จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง ไม่ใช่จากกระดาษรายงาน ของเหล่านักวิเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญ หรือถังความคิด รายใดรายหนึ่ง เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ประมาณ 2 เดือนหลังจากเฝ้าดูลีลาของรัสเซียในตะวันออกกลาง นาย Richard N Haass ประธานถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่งของอเมริกา The Council on Foreign Relations หรือ CFR ถังขยะที่เชื่อกันว่า น่าจะเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรีตัวจริง ก็ลงมือเขียนรายงาน ชื่อ “Testing Putin in Syria ” ท่านประธานถังขยะ สรุปว่า ชัดเจนว่าการเข้าไปในตะวันออกกลางของปูติน เหมือนไปต่อท่อหายใจให้กับอัสสาดของซีเรีย แต่ขณะเดียวกัน ปูตินก็ใช้โอกาสนี้ บอกให้โลกรู้ว่า รัสเซียยังอยู่นะ และอยู่แบบแข็งแรงด้วย เป็นการเบี่ยงเบน จากความจริงว่า เศรษฐกิจในบ้านรัสเซียกำลังหดเหี่ยว และเพื่อให้ผู้คนลืมเรื่องยูเครนไปด้วย ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อสร้างคะแนนเสียงให้กับตัวเองในรัสเซียนั่นแหละ มีหลายคนเป็นห่วงว่า การที่รัสเซียเข้าไปในซีเรีย ไม่ใช่จะทำให้ อัสสาดเผด็จการจอมโหดแข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกไอซิสโตขึ้นอีกด้วย เพราะการที่รัสเซียมุ่งหน้าแต่จะทำลายศัตรูของอัสสาด เท่ากับเปิดโอกาส ให้ไอซิสขยายพันธ์ง่ายขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้ห่วงว่า รัสเซีย จะเป็นคนเริ่มสงครามเย็นในตะวันออกกลาง ด้วยการปิดล้อม ประเทศที่อยู่คนละฝ่ายกับอัสสาด แต่ท่านประธานถังขยะ บอกว่า ลืมไปได้เลย รัสเซียไม่มีปัญญารับมือกับการเปิดศึกหลายด้านหรอก เพราะนโยบายต่างประเทศแบบนั้น มันมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งสภาพทางเศรษฐกิจ กับสภาพกองทัพของรัสเซีย ไม่เอื้อให้รัสเซียเล่นได้ขนาดนั้น และก็ไม่แน่ว่า ชาวรัสเซียจะสนับสนุนปูติน ให้ทำเช่นนั้นด้วย ก็เหลือแต่ว่าปูติน ยังอยากจะเพลินกับการปกครอง แบบรวบอำนาจของตน ไปอีกนานไหมล่ะ ทุกอย่างมันมีขอบเขต และมีราคาทั้งสิ้น และปูตินอย่าลืมว่า เมื่อไอซิสแข็งแรงขึ้น ไม่นานเกินรอ คงได้เห็นนักรบพลีชีพ ไปก่อระเบิดในมอสโคว์แน่นอน (ขณะที่เขียนนี่ มอสโคว์ยังไม่มีระเบิดพลีชีพ แต่เครื่องบินโดยสารของรัสเซียโดนมือมืดสอยร่วงไปแล้ว นับว่าท่านประธานถังขยะ อ่านเกมขาด.!?) ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า ปูตินคิดเรื่องซีเรีย ถึงขนาดไหน ถึงขนาดจะเอาอัสสาดไว้ ไม่ว่าต้วเองจะฉิบหายแค่ไหนอย่างนั้นหรือ หรือเอาแค่ว่า รัสเซียก็สามารถมีส่วน ในการจัดการตะวันออกกลางด้วย โดยไม่ต้องเอาเรื่องอัสสาดมาเกี่ยว ประธานถังขยะ แนะนำว่า ระหว่างที่ท่าทีของรัสเซียยังไม่ชัดเจน อเมริกาเอง ควรเลือกดำเนินการ 2 อย่างควบคู่กันไป ทางหนึ่งคือ จัดการดุลยอำนาจในบริเวณซีเรียเสียใหม่ ด้วยการสนับสนุนชาวเคิร์ด กับพวกสุนนี่บางกลุ่มเหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็เดินหน้าถล่มไอซิสจากทางอากาศต่อไป เหมือนเดิมอีกเหมือนกัน ขณะเดียวกัน ก็พยายามดำเนินการทางการทูต เพื่อนำไปสู่ “การแบ่งซีเรีย” !!!! โดยแบ่งซีเรียออกเป็นส่วนๆ และแยกการปกครอง ของแต่ละส่วนออกจากกัน น่าจะเป็นสูตรที่เหมาะสมสำหรับทุกฝ่าย ไม่ว่าอเมริกา หรือใคร ก็คงไม่ได้สนใจจริงจังใช่ไหม ที่จะรักษารัฐบาลของซีเรีย ที่มีอำนาจควบคุมซีเรียทั้งหมดหรอก และด้วยการดำเนินการอย่างนี้ อเมริกาก็สามารถที่จะให้รัสเซีย และแม้แต่ อิหร่าน ก็เข้ามามีส่วนร่วมในการแบ่ง (เค๊ก) ซีเรียด้วยกัน แบบนี้ ปูตินก็น่าจะพอใจ เพราะได้หน้ากำลังดี คุ้มกับราคาที่เสียไปในการเข้ามาในซีเรีย …ดูเหมือน บทความนี้จะเป็นการโยนหินถามทาง ระหว่างที่ท่านหัวหน้าใบตองแห้งกำลังนั่งกัดเล็บ อยู่ในมุมมืดของห้องทำงานที่ทำเนียบขาว รอผลสรุปจากพวกลูกกระเป๋ง ก่อนจะวางยุทธศาสตร์ หาทางเดินให้ตัวเอง…. แต่ผมขอเพิ่มสักหน่อยว่า บทความของท่านประธานถังขยะ นี่มันยั่วยวน กวนส้นจริงๆ ส่อสันดานอเมริกาของแท้อย่างชัดเจน ทั้งดูถูกเหยียดหยามคนอื่น ไม่มีใครเก่งวิเศษเท่ามึง ที่ดีแต่ปาก แต่ จริงๆก็ขี้ขลาดเอาตัวรอด งก และยังหน้าด้าน เห็นแก่ได้ แม้กระทั่งลางแพ้รออยู่ข้างหน้า … มึงคิดได้ยังไง อยู่ดีๆจะเสนอแบ่งประเทศเขา….. เราต้องจำวิธีคิดแบบนี้ของไอ้ใบตองแห้งให้ดีๆ นะครับ เห็นการวิเคราะห์ของฝั่งวอชิงตันแล้ว คราวนี้ลองไปฟัง การวิเคราะห์ของอีกฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกกันบ้างครับ 2 วัน ก่อนหน้าที่เรื่อง คุณจีนนี่ จะออกมาเป็นข่าว ถังขยะความคิดของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ Chatham House คู่แฝดของ CFR ก็ออกบทความเหมือนกัน ชื่อ Putin’s Gamble in Syria เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ.2015 สรุปว่า ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสมัยสหภาพโซเวียต หรือเป็นรัสเซียใหม่ ยังไม่เคยมีก้าวไหนของรัสเซียที่ท้าทาย เท่ากับการเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับซีเรียของนายปูตินครั้งนี้ ส่วนใหญ่ เวลาที่รัสเซียมีกิจกรรมนอกพื้นที่ตัวเอง ก็มักจะเกี่ยวข้องโดยตรง กับเรื่องของรัสเซียเอง แต่ครั้งนี้ ดูเหมือนไม่ใช่เช่นนั้น เมื่อวันที่นายปูติน บินไปนิวยอร์ค เพื่อพบหน้ากับนายโอบามา ในการประชุมใหญ่ของสหประชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปูติน พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมานั้น ในวันนั้น กองทัพของรัสเซีย เครื่องบินรบ รวมทั้งนาวิกโยธินของรัสเซีย และเรือบรรทุกครื่องบิน Moskva ทั้งหมด ได้ไปประจำการณ์อยู่ที่ท่าเรือ Latakia/Tartous ที่อยู่ทางเหนือของซีเรีย เรียบร้อยหมดแล้ว และเมื่อปูติน พบกับโอบามา เขาก็คงจะบอกกับโอบามา ว่ารัสเซียจะใช้ของที่เอาไปอยู่ตรงนั้นอย่างไร และจริงๆ ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากนั้น ฝูงบิน Sukhoi ของรัสเซีย ก็เริ่มโจมตีกลุ่มไอซิส ที่ al-Rakaa แล้ว รวมทั้งโจมตีกลุ่มกองกำลังฝ่ายกบฏซีเรีย ที่อเมริกาและพวก ที่นำโดยซาอุดิอารเบีย และตุรกี เป็นผู้สนับสนุนอีกด้วย การจู่โจมของรัสเซีย นับเป็นปรากฏการณ์ ที่น่าตื่นเต้นอย่างมากในตะวันออกกลาง แม้ว่าจะปูตินจะพารัสเซียเข้าไปอยู่ในความเสี่ยงสูง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปูตินยังมียุทธศาสตร์ ในขณะที่โอบามาเอง กำลังนั่งมึนหาทางไปไม่เจอ แต่ปูตินเข้าไปอยู่ในพื้นที่แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่า ตัวเองจะต้องอยู่ตรงนั้น เมื่อวันตัดสินชะตาของซีเรียเกิดขึ้น แต่โอบามา ยังคงนั่งเงียบอยู่ ผลกระทบในตะวันออกกลาง จากการเข้าไปแทรกแซงเกี่ยวกับซีเรียของรัสเซีย มีสูงยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบระหว่างฝ่ายสุนนี่ที่ต่อต้านอัสสาด (ซาอุดิอารเบีย การ์ตา ตุรกี) กับฝ่ายรัสเซีย ที่สนับสนุน อัสสาด รวมทั้งความไม่เด็ดขาดของโอบามา เมื่อเทียบกับปูติน ถังขยะของชาวเกาะบอกว่า มีสิ่งที่น่าสนใจอีก 2 รายการ คือ สัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอียิปต์ ที่ดูเหมือนนับวันจะใกล้ชิดกันมากขึ้น ขณะที่อิทธิพลของอเมริกา ที่มีต่ออียิปต์ดูเหมือนจะจางลง (มิน่า เครื่องบินรัสเซีย ถึงต้องถูกสอยร่วงที่อียิปต์ เดี๋ยวจะใกล้ชิดกันมากไป..) แต่ที่น่าสนใจที่สุด คือ การที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู บินไปหา ปูติน เมื่อปลายเดือนสิงหาคม โดยการแจ้งล่วงหน้าเพียง 24 ชั่วโมง หนังสือพิมพ์ Haaretz ซึ่งเป็นสื่อมีเสียงดังมากในอิสราเอล สรุปการเดินทางไปมอสโคว์ของเนทันยาฮูว่า “เป็นการแสดงให้เห็นว่า อำนาจของอเมริกาในตะวันออกกลาง เป็นอดีตไปเสียแล้ว…” ถังของชาวเกาะ สรุปส่งท้ายว่า โอกาสที่อเมริกา จะกลับมามีอำนาจเหมือนเดิม มีแค่ทางเดียว คือ อเมริกาต้องเคลื่อนตัวเองเข้ามาในตะวันออกกลางเสียใหม่ และอย่างรวดเร็ว และจัดการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในซีเรีย เป็นถังขยะแฝดกันก็จริง และทุกทีก็มักจะวิเคราะห์แบบประสานเสียงกัน โดยเฉพาะเวลาร้องเพลงด่ารัสเซีย เอ แต่ทำไมเรื่องรัสเซียอุ้มซีเรียคราวนี้ คู่แฝดเหมือนแตกเสียงกัน แต่จะถึงกับแตกคอกันหรือไม่… ดูไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 6 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนปรับกฎ One‑Pedal Driving: ไม่ได้แบน แต่ห้ามตั้งเป็นค่าเริ่มต้น

    จีนประกาศมาตรฐานใหม่ GB 21670‑2025 ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการรถยนต์ไฟฟ้า เพราะแม้จะมีข่าวลือว่า “จีนแบน One‑Pedal Driving” แต่ความจริงคือ จีนเพียง “ห้ามผู้ผลิตตั้ง One‑Pedal เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2027 เป็นต้นไป ผู้ขับยังสามารถเลือกเปิดใช้ได้เหมือนเดิม แต่รัฐต้องการให้ผู้ใช้ตระหนักถึงพฤติกรรมการเบรกมากขึ้น ไม่ใช่พึ่งการหน่วงมอเตอร์เพียงอย่างเดียว

    One‑Pedal Driving เป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ EV ชื่นชอบ เพราะช่วยชะลอรถจนหยุดได้โดยไม่ต้องแตะแป้นเบรก ผ่านระบบ Regenerative Braking ที่ดึงพลังงานกลับเข้าแบตเตอรี่ ทำให้เพิ่มระยะทางวิ่งได้จริง อย่างไรก็ตาม งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า ผู้ขับบางกลุ่ม “ชินกับแรงหน่วงมากเกินไป” จนทำให้ตอบสนองช้าลงในสถานการณ์ที่ต้องเบรกแรงแบบฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่จีนต้องเข้ามากำกับ

    กฎใหม่ยังมีข้อบังคับเพิ่มเติม เช่น ตั้งแต่ปี 2026 รถ EV ที่หน่วงด้วยแรงเกิน 1.3 m/s² ต้องเปิดไฟเบรกอัตโนมัติ เพื่อเตือนรถด้านหลังว่ากำลังชะลออย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงการชนท้ายในเมืองที่รถ EV มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ รถ EV ทุกคันต้องติดตั้ง ABS เป็นมาตรฐาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเบรกบนถนนลื่นหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน

    ในภาพรวม จีนไม่ได้ต่อต้าน One‑Pedal Driving แต่ต้องการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ในยุคที่รถไฟฟ้ากำลังกลายเป็นยานพาหนะหลักของประเทศ การควบคุมให้ผู้ขับ “เข้าใจระบบ” มากขึ้น ถือเป็นการลดความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของการใช้ EV ในระยะยาว และอาจกลายเป็นต้นแบบให้หลายประเทศนำไปปรับใช้ในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิ่งที่เกิดขึ้นจริงตามกฎใหม่ของจีน
    ไม่ได้แบน One‑Pedal Driving แต่ห้ามตั้งเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
    ผู้ขับยังเปิดใช้ One‑Pedal ได้ตามปกติในเมนูรถ
    รถที่หน่วงแรงเกิน 1.3 m/s² ต้องเปิดไฟเบรกอัตโนมัติ ตั้งแต่ปี 2026
    รถ EV ทุกคันต้องมี ABS เป็นมาตรฐานความปลอดภัย

    ความเสี่ยงและเหตุผลที่ทำให้จีนต้องออกกฎนี้
    ผู้ขับพึ่งแรงหน่วงมากเกินไป ทำให้ตอบสนองช้าลงในสถานการณ์เบรกฉุกเฉิน
    ความเข้าใจระบบไม่เท่ากัน ผู้ใช้ใหม่อาจไม่รู้ว่าแรงหน่วงเปลี่ยนตามโหมดขับขี่
    เสี่ยงต่อการชนท้าย หากรถชะลอแรงโดยไม่เปิดไฟเบรก (ก่อนมีข้อบังคับใหม่)
    ความแตกต่างของระบบแต่ละค่าย ทำให้พฤติกรรมรถไม่สอดคล้องกันในท้องถนน

    https://www.slashgear.com/2055079/china-one-pedal-driving-ban-explained/
    🚗⚡ จีนปรับกฎ One‑Pedal Driving: ไม่ได้แบน แต่ห้ามตั้งเป็นค่าเริ่มต้น จีนประกาศมาตรฐานใหม่ GB 21670‑2025 ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการรถยนต์ไฟฟ้า เพราะแม้จะมีข่าวลือว่า “จีนแบน One‑Pedal Driving” แต่ความจริงคือ จีนเพียง “ห้ามผู้ผลิตตั้ง One‑Pedal เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2027 เป็นต้นไป ผู้ขับยังสามารถเลือกเปิดใช้ได้เหมือนเดิม แต่รัฐต้องการให้ผู้ใช้ตระหนักถึงพฤติกรรมการเบรกมากขึ้น ไม่ใช่พึ่งการหน่วงมอเตอร์เพียงอย่างเดียว One‑Pedal Driving เป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ EV ชื่นชอบ เพราะช่วยชะลอรถจนหยุดได้โดยไม่ต้องแตะแป้นเบรก ผ่านระบบ Regenerative Braking ที่ดึงพลังงานกลับเข้าแบตเตอรี่ ทำให้เพิ่มระยะทางวิ่งได้จริง อย่างไรก็ตาม งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า ผู้ขับบางกลุ่ม “ชินกับแรงหน่วงมากเกินไป” จนทำให้ตอบสนองช้าลงในสถานการณ์ที่ต้องเบรกแรงแบบฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่จีนต้องเข้ามากำกับ กฎใหม่ยังมีข้อบังคับเพิ่มเติม เช่น ตั้งแต่ปี 2026 รถ EV ที่หน่วงด้วยแรงเกิน 1.3 m/s² ต้องเปิดไฟเบรกอัตโนมัติ เพื่อเตือนรถด้านหลังว่ากำลังชะลออย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงการชนท้ายในเมืองที่รถ EV มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ รถ EV ทุกคันต้องติดตั้ง ABS เป็นมาตรฐาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเบรกบนถนนลื่นหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน ในภาพรวม จีนไม่ได้ต่อต้าน One‑Pedal Driving แต่ต้องการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ในยุคที่รถไฟฟ้ากำลังกลายเป็นยานพาหนะหลักของประเทศ การควบคุมให้ผู้ขับ “เข้าใจระบบ” มากขึ้น ถือเป็นการลดความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของการใช้ EV ในระยะยาว และอาจกลายเป็นต้นแบบให้หลายประเทศนำไปปรับใช้ในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิ่งที่เกิดขึ้นจริงตามกฎใหม่ของจีน ➡️ ไม่ได้แบน One‑Pedal Driving แต่ห้ามตั้งเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน ➡️ ผู้ขับยังเปิดใช้ One‑Pedal ได้ตามปกติในเมนูรถ ➡️ รถที่หน่วงแรงเกิน 1.3 m/s² ต้องเปิดไฟเบรกอัตโนมัติ ตั้งแต่ปี 2026 ➡️ รถ EV ทุกคันต้องมี ABS เป็นมาตรฐานความปลอดภัย ‼️ ความเสี่ยงและเหตุผลที่ทำให้จีนต้องออกกฎนี้ ⛔ ผู้ขับพึ่งแรงหน่วงมากเกินไป ทำให้ตอบสนองช้าลงในสถานการณ์เบรกฉุกเฉิน ⛔ ความเข้าใจระบบไม่เท่ากัน ผู้ใช้ใหม่อาจไม่รู้ว่าแรงหน่วงเปลี่ยนตามโหมดขับขี่ ⛔ เสี่ยงต่อการชนท้าย หากรถชะลอแรงโดยไม่เปิดไฟเบรก (ก่อนมีข้อบังคับใหม่) ⛔ ความแตกต่างของระบบแต่ละค่าย ทำให้พฤติกรรมรถไม่สอดคล้องกันในท้องถนน https://www.slashgear.com/2055079/china-one-pedal-driving-ban-explained/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Why Is China Banning One-Pedal Driving? - SlashGear
    China isn’t banning one-pedal driving, but new EV rules will stop it from being the default mode due to safety concerns around braking response.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tissue Sectioning Market and Its Role in Modern Laboratory Science

    The Tissue Sectioning Market analysis
    reflects the growing importance of accurate tissue preparation in medical and scientific laboratories. Tissue sectioning is a foundational process used to cut biological samples into extremely thin slices so they can be examined under a microscope. This step is critical in pathology, histology, and biomedical research, as even minor inaccuracies can affect diagnostic interpretation and research outcomes.

    Tissue sectioning supports a wide range of applications, including cancer diagnosis, neurological studies, organ pathology, and pharmaceutical research. Laboratories rely on tools such as microtomes and cryostats to achieve uniform thickness while preserving tissue integrity. As diagnostic techniques become more advanced, the demand for consistent and precise tissue preparation continues to increase. This has led to improvements in equipment design, blade materials, and operator safety features.

    One of the key strengths of the Tissue Sectioning Market is its adaptability across different laboratory environments. Large hospitals may focus on automated systems that handle high sample volumes efficiently, while smaller laboratories often depend on manual or semi-automated solutions that provide control and flexibility. This diversity ensures that tissue sectioning tools remain relevant across clinical, academic, and industrial settings. Ease of use and reliability are especially valued, as they help reduce preparation time and minimize sample loss.

    Technological advancements are also shaping how tissue sectioning is performed. Modern equipment often includes digital controls, programmable thickness settings, and ergonomic designs that reduce operator fatigue. These features not only improve workflow efficiency but also enhance reproducibility, which is essential for consistent diagnostic results. In addition, improved blade durability and coating technologies help maintain sharpness over extended use, ensuring clean and smooth tissue slices.

    Get Full Reports:https://www.marketresearchfuture.com/reports/tissue-sectioning-market-30619

    Another important factor influencing the Tissue Sectioning Market is the growing emphasis on early disease detection. As healthcare providers prioritize preventive diagnostics, the number of biopsies and tissue examinations continues to rise. This directly increases the need for reliable sectioning tools that can deliver accurate results without compromising sample quality. Research institutions also contribute to demand, as tissue analysis remains central to drug development and biological studies.

    Looking ahead, tissue sectioning is expected to benefit from further integration with digital pathology and automated laboratory systems. These advancements aim to improve speed, accuracy, and data consistency while reducing manual intervention. As laboratories evolve to meet increasing diagnostic and research demands, tissue sectioning will remain a vital process that supports scientific discovery and patient care.
    Tissue Sectioning Market and Its Role in Modern Laboratory Science The Tissue Sectioning Market analysis reflects the growing importance of accurate tissue preparation in medical and scientific laboratories. Tissue sectioning is a foundational process used to cut biological samples into extremely thin slices so they can be examined under a microscope. This step is critical in pathology, histology, and biomedical research, as even minor inaccuracies can affect diagnostic interpretation and research outcomes. Tissue sectioning supports a wide range of applications, including cancer diagnosis, neurological studies, organ pathology, and pharmaceutical research. Laboratories rely on tools such as microtomes and cryostats to achieve uniform thickness while preserving tissue integrity. As diagnostic techniques become more advanced, the demand for consistent and precise tissue preparation continues to increase. This has led to improvements in equipment design, blade materials, and operator safety features. One of the key strengths of the Tissue Sectioning Market is its adaptability across different laboratory environments. Large hospitals may focus on automated systems that handle high sample volumes efficiently, while smaller laboratories often depend on manual or semi-automated solutions that provide control and flexibility. This diversity ensures that tissue sectioning tools remain relevant across clinical, academic, and industrial settings. Ease of use and reliability are especially valued, as they help reduce preparation time and minimize sample loss. Technological advancements are also shaping how tissue sectioning is performed. Modern equipment often includes digital controls, programmable thickness settings, and ergonomic designs that reduce operator fatigue. These features not only improve workflow efficiency but also enhance reproducibility, which is essential for consistent diagnostic results. In addition, improved blade durability and coating technologies help maintain sharpness over extended use, ensuring clean and smooth tissue slices. Get Full Reports:https://www.marketresearchfuture.com/reports/tissue-sectioning-market-30619 Another important factor influencing the Tissue Sectioning Market is the growing emphasis on early disease detection. As healthcare providers prioritize preventive diagnostics, the number of biopsies and tissue examinations continues to rise. This directly increases the need for reliable sectioning tools that can deliver accurate results without compromising sample quality. Research institutions also contribute to demand, as tissue analysis remains central to drug development and biological studies. Looking ahead, tissue sectioning is expected to benefit from further integration with digital pathology and automated laboratory systems. These advancements aim to improve speed, accuracy, and data consistency while reducing manual intervention. As laboratories evolve to meet increasing diagnostic and research demands, tissue sectioning will remain a vital process that supports scientific discovery and patient care.
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Tissue Sectioning Market Size, Share, Trends, Report 2035
    Tissue Sectioning Market share is projected to reach USD 1.8 Billion By 2035, at a 2.92 % CAGR by driving industry size, top company analysis, segments research, trends and forecast report 2025 to 2035 | MRFR
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงปู่ทวดหลัง พร พิมพ์สี่เหลี่ยม พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2537
    หลวงปู่ทวดหลัง พร. (เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ ) เนื้อนวโลหะ พิมพ์สี่เหลี่ยม พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2537 //พระดีพิธีใหญ๋ พระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ประกอบพิธีปลุกเสก มีหลวงพ่อแดง (ห้าแชะ) วัดศรีมหาโพธิ์ ปลุกเสก สุดยอดพระประสบการณ์ แจกทหาร-ตำรวจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย **

    ** พระดี พิธีใหญ่ จัดสร้างโดย พระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี องค์ราชกุมารี ในรัชกาลที่ 6 และทรงอนุญาตให้ใช้พระนามย่อ "พร"เป็นสัญลักษณ์ของรุ่น โดยมีพระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ประกอบพิธีปลุกเสก พระรุ่นนี้จัดสร้างโดย "หลวงพ่อเณร” เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย เพื่อหาทุนบูรณะวัด เพราะเมื่อแรกเริ่มที่หลวงพ่อเณรมาเป็นเจ้าอาวาสวัดทรุดโทรมมาก โดยเมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๓๗ หลวงพ่อเณร ได้ไปกราบของอนุญาต หลวงพ่อสวัสดิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ ในครั้งนั้นท่านบอกว่า “ผู้ที่จะอนุญาตตัวจริงนั้น คือ อาจารย์นอง วัดทรายขาว ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ท่านสามารถสื่อกับหลวงปู่ทวดได้ ในครั้งนั้นอาจารย์นองได้มอบผงพุทธคุณมาให้ ๑ บีป ขณะเดียวกันเพื่อความเป็นสิริมงคลหลวงพ่อเณรได้ขอพระราชทานนามจากเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ นำพระนามย่อ”พร” ประดิษฐานไว้ด้านหลัง จากนั้นก็นำพระทั้งหมดเข้าพิธีปลุกเสก ณ อุโบสถวัดช้างให้ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ โดยมีพระเทพศีลวิสุทธิ์ เป็นประทานจุดเทียวชัยและอาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมปลุกเสก ในขณะที่กำลังปลุกเสกพระอยู่ทุกคนที่อยู่ในพิธีต่างเห็นสิ่งมหัศจรรย์หลวงปู่ทวดลงมาร่วมปลุกเสกพระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ด้วย และปลุกเสกซ้ำอีกครั้งวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ ที่อุโบสถวัดศรสุดารามฯ โดยไดนิมนต์หลวงพ่ออุตตามะ แห่งวัดวังวิเวการามมาเป็นประธานจุดเทียนชัย และได้นิมนต์พระเกจิชื่อดังสมัยนั้นมาร่วมพิธีอีกหลายรูป เมื่อปลุกเสกพระเสร็จได้นำพระจำนวนหนึ่งไปแจกจ่ายแก่ ทหาร ตำรวจ ประชาชนทั่วไป แจกมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน ทุกคนที่ได้รับพระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ไปติดตัวต่างมีประสบการณ์กันมามาย **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงปู่ทวดหลัง พร พิมพ์สี่เหลี่ยม พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2537 หลวงปู่ทวดหลัง พร. (เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ ) เนื้อนวโลหะ พิมพ์สี่เหลี่ยม พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2537 //พระดีพิธีใหญ๋ พระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ประกอบพิธีปลุกเสก มีหลวงพ่อแดง (ห้าแชะ) วัดศรีมหาโพธิ์ ปลุกเสก สุดยอดพระประสบการณ์ แจกทหาร-ตำรวจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย ** ** พระดี พิธีใหญ่ จัดสร้างโดย พระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี องค์ราชกุมารี ในรัชกาลที่ 6 และทรงอนุญาตให้ใช้พระนามย่อ "พร"เป็นสัญลักษณ์ของรุ่น โดยมีพระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ประกอบพิธีปลุกเสก พระรุ่นนี้จัดสร้างโดย "หลวงพ่อเณร” เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย เพื่อหาทุนบูรณะวัด เพราะเมื่อแรกเริ่มที่หลวงพ่อเณรมาเป็นเจ้าอาวาสวัดทรุดโทรมมาก โดยเมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๓๗ หลวงพ่อเณร ได้ไปกราบของอนุญาต หลวงพ่อสวัสดิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ ในครั้งนั้นท่านบอกว่า “ผู้ที่จะอนุญาตตัวจริงนั้น คือ อาจารย์นอง วัดทรายขาว ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ท่านสามารถสื่อกับหลวงปู่ทวดได้ ในครั้งนั้นอาจารย์นองได้มอบผงพุทธคุณมาให้ ๑ บีป ขณะเดียวกันเพื่อความเป็นสิริมงคลหลวงพ่อเณรได้ขอพระราชทานนามจากเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ นำพระนามย่อ”พร” ประดิษฐานไว้ด้านหลัง จากนั้นก็นำพระทั้งหมดเข้าพิธีปลุกเสก ณ อุโบสถวัดช้างให้ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ โดยมีพระเทพศีลวิสุทธิ์ เป็นประทานจุดเทียวชัยและอาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมปลุกเสก ในขณะที่กำลังปลุกเสกพระอยู่ทุกคนที่อยู่ในพิธีต่างเห็นสิ่งมหัศจรรย์หลวงปู่ทวดลงมาร่วมปลุกเสกพระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ด้วย และปลุกเสกซ้ำอีกครั้งวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ ที่อุโบสถวัดศรสุดารามฯ โดยไดนิมนต์หลวงพ่ออุตตามะ แห่งวัดวังวิเวการามมาเป็นประธานจุดเทียนชัย และได้นิมนต์พระเกจิชื่อดังสมัยนั้นมาร่วมพิธีอีกหลายรูป เมื่อปลุกเสกพระเสร็จได้นำพระจำนวนหนึ่งไปแจกจ่ายแก่ ทหาร ตำรวจ ประชาชนทั่วไป แจกมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน ทุกคนที่ได้รับพระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ไปติดตัวต่างมีประสบการณ์กันมามาย ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ รุ่นเฮงคูณเฮง 8ทิศ เนื้อกะไหล่ทอง ( ตอกโค๊ต นะ) วัดเจริญพรต สร้าง ปี2536 //พระดีพิธีใหญ่ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ เป็นที่เคารพรักของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณโดดเด่นด้านแคล้วคลาดคงกระพัน โชควาสนา ความสุข การค้าเจริญรุ่งเรือง ช่วยให้ค้าขายดี มีคนรัก มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ให้โชค ให้ลาภ ร่ำรวยเงินทอง ค้าขายร่ำรวย เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ชัยชนะ ใครมีไว้ติดตัวดีมากเลย เสริมดวงชะตา เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต **

    ** หลวงพ่อคูณ พระเกจิชื่อดัง เป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั้งประเทศ หลวงพ่อคูณเป็นพระชาวบ้านที่เข้าถึงมวลชนทุกระดับชั้น ตั้งแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน นักการเมืองไปจนถึงชาวบ้าน ด้วยท่านมีเมตตามหานิยม มีวิธีการสั่งสอนที่ตรงไปตรงมาง่ายแก่การเข้าใจ หลวงพ่อคูณ ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคมขลัง ท่านเป็นเกจิอาจารย์ดังภาคอีสาน เป็นพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีความครบเครื่องไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ซึ่งเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้าน **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ รุ่นเฮงคูณเฮง 8ทิศ เนื้อกะไหล่ทอง ( ตอกโค๊ต นะ) วัดเจริญพรต สร้าง ปี2536 //พระดีพิธีใหญ่ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ เป็นที่เคารพรักของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณโดดเด่นด้านแคล้วคลาดคงกระพัน โชควาสนา ความสุข การค้าเจริญรุ่งเรือง ช่วยให้ค้าขายดี มีคนรัก มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ให้โชค ให้ลาภ ร่ำรวยเงินทอง ค้าขายร่ำรวย เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ชัยชนะ ใครมีไว้ติดตัวดีมากเลย เสริมดวงชะตา เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ** ** หลวงพ่อคูณ พระเกจิชื่อดัง เป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั้งประเทศ หลวงพ่อคูณเป็นพระชาวบ้านที่เข้าถึงมวลชนทุกระดับชั้น ตั้งแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน นักการเมืองไปจนถึงชาวบ้าน ด้วยท่านมีเมตตามหานิยม มีวิธีการสั่งสอนที่ตรงไปตรงมาง่ายแก่การเข้าใจ หลวงพ่อคูณ ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคมขลัง ท่านเป็นเกจิอาจารย์ดังภาคอีสาน เป็นพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีความครบเครื่องไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ซึ่งเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้าน ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลทั่วโลกใช้ “ปิดอินเทอร์เน็ต” เป็นอาวุธใหม่ — และกำลังเกิดบ่อยขึ้นอย่างน่ากลัว

    บทความของ Bruce Schneier ชี้ให้เห็นแนวโน้มที่น่ากังวล: รัฐบาลจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช้อินเทอร์เน็ตชัตดาวน์เป็นเครื่องมือควบคุมประชาชน ไม่ว่าจะเพื่อหยุดการประท้วง ปิดปากสื่อ หรือแม้แต่ควบคุมผลสอบของนักเรียนในบางประเทศ เหตุการณ์ล่าสุด เช่น อัฟกานิสถาน แทนซาเนีย แคเมอรูน ปากีสถาน และไนจีเรีย ต่างเผชิญการปิดอินเทอร์เน็ตระดับภูมิภาคหรือทั้งประเทศ โดยหลายครั้งไม่มีคำอธิบายใด ๆ จากรัฐบาลเลย

    Schneier ระบุว่าการปิดอินเทอร์เน็ตไม่ใช่แค่ “ความไม่สะดวก” แต่เป็นการปิดระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสังคม — ตั้งแต่การสื่อสารฉุกเฉิน การเงิน การบิน ไปจนถึงความปลอดภัยของประชาชนในเขตสงคราม เช่น กาซา หรือยูเครน ที่เคยถูกตัดสัญญาณโดยเจตนาเพื่อทำให้ประชาชนไร้ความสามารถในการขอความช่วยเหลือหรือเผยแพร่หลักฐานการละเมิดสิทธิ

    ข้อมูลจาก Access Now ระบุว่า ปี 2024 มีการปิดอินเทอร์เน็ต 296 ครั้งใน 54 ประเทศ และปี 2025 ก็มีอย่างน้อย 244 ครั้งแล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนว่าการปิดอินเทอร์เน็ตกำลังกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ของรัฐบาลอำนาจนิยม

    ปัญหานี้รุนแรงขึ้นเพราะโครงสร้างอินเทอร์เน็ตในหลายประเทศ “รวมศูนย์” มากเกินไป เช่น มีผู้ให้บริการมือถือรายเดียว หรือมีสายเคเบิลเชื่อมต่อโลกภายนอกเพียง 1–2 เส้น ทำให้รัฐบาลสามารถสั่งปิดได้ง่ายเพียงออกคำสั่งเดียว ต่างจากประเทศที่มีโครงสร้างกระจายตัว เช่น สหรัฐฯ ที่การปิดอินเทอร์เน็ตทั้งประเทศแทบเป็นไปไม่ได้

    Schneier เตือนว่าการปิดอินเทอร์เน็ตคือการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และเป็นสัญญาณของการถอยหลังทางประชาธิปไตยทั่วโลก แม้จะมีความพยายามจากองค์กรระหว่างประเทศในการกดดัน แต่รัฐบาลหลายแห่งกลับ “เรียนรู้จากกันและกัน” ทำให้แนวโน้มนี้ยิ่งแพร่กระจาย

    สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ
    การปิดอินเทอร์เน็ตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    296 ครั้งในปี 2024
    244 ครั้งในปี 2025 (ยังไม่จบปี)

    เหตุผลที่รัฐบาลใช้ชัตดาวน์
    ปิดกั้นการประท้วง
    ควบคุมการเลือกตั้ง
    ปิดปากสื่อ
    ควบคุมข้อมูลในเขตสงคราม
    แม้แต่ “กันโกงข้อสอบ”

    ผลกระทบรุนแรงกว่าที่คิด
    ระบบฉุกเฉินล่ม
    การเงินหยุดชะงัก
    เที่ยวบินถูกยกเลิก
    ประชาชนในเขตสงครามไม่สามารถขอความช่วยเหลือ

    ประเทศที่ทำบ่อยที่สุด
    อินเดีย (855 ครั้ง)
    เมียนมา
    ปากีสถาน
    อิหร่าน

    ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง
    โครงสร้างอินเทอร์เน็ตแบบรวมศูนย์ทำให้ปิดได้ง่าย
    บริษัทเทคบางแห่ง “ร่วมมือ” กับรัฐบาลเพื่อผลประโยชน์
    การปิดอินเทอร์เน็ตกำลังกลายเป็นอาวุธทางการเมือง

    https://www.schneier.com/blog/archives/2025/12/deliberate-internet-shutdowns.html
    🌐⚠️ รัฐบาลทั่วโลกใช้ “ปิดอินเทอร์เน็ต” เป็นอาวุธใหม่ — และกำลังเกิดบ่อยขึ้นอย่างน่ากลัว บทความของ Bruce Schneier ชี้ให้เห็นแนวโน้มที่น่ากังวล: รัฐบาลจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช้อินเทอร์เน็ตชัตดาวน์เป็นเครื่องมือควบคุมประชาชน ไม่ว่าจะเพื่อหยุดการประท้วง ปิดปากสื่อ หรือแม้แต่ควบคุมผลสอบของนักเรียนในบางประเทศ เหตุการณ์ล่าสุด เช่น อัฟกานิสถาน แทนซาเนีย แคเมอรูน ปากีสถาน และไนจีเรีย ต่างเผชิญการปิดอินเทอร์เน็ตระดับภูมิภาคหรือทั้งประเทศ โดยหลายครั้งไม่มีคำอธิบายใด ๆ จากรัฐบาลเลย Schneier ระบุว่าการปิดอินเทอร์เน็ตไม่ใช่แค่ “ความไม่สะดวก” แต่เป็นการปิดระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสังคม — ตั้งแต่การสื่อสารฉุกเฉิน การเงิน การบิน ไปจนถึงความปลอดภัยของประชาชนในเขตสงคราม เช่น กาซา หรือยูเครน ที่เคยถูกตัดสัญญาณโดยเจตนาเพื่อทำให้ประชาชนไร้ความสามารถในการขอความช่วยเหลือหรือเผยแพร่หลักฐานการละเมิดสิทธิ ข้อมูลจาก Access Now ระบุว่า ปี 2024 มีการปิดอินเทอร์เน็ต 296 ครั้งใน 54 ประเทศ และปี 2025 ก็มีอย่างน้อย 244 ครั้งแล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนว่าการปิดอินเทอร์เน็ตกำลังกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ของรัฐบาลอำนาจนิยม ปัญหานี้รุนแรงขึ้นเพราะโครงสร้างอินเทอร์เน็ตในหลายประเทศ “รวมศูนย์” มากเกินไป เช่น มีผู้ให้บริการมือถือรายเดียว หรือมีสายเคเบิลเชื่อมต่อโลกภายนอกเพียง 1–2 เส้น ทำให้รัฐบาลสามารถสั่งปิดได้ง่ายเพียงออกคำสั่งเดียว ต่างจากประเทศที่มีโครงสร้างกระจายตัว เช่น สหรัฐฯ ที่การปิดอินเทอร์เน็ตทั้งประเทศแทบเป็นไปไม่ได้ Schneier เตือนว่าการปิดอินเทอร์เน็ตคือการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และเป็นสัญญาณของการถอยหลังทางประชาธิปไตยทั่วโลก แม้จะมีความพยายามจากองค์กรระหว่างประเทศในการกดดัน แต่รัฐบาลหลายแห่งกลับ “เรียนรู้จากกันและกัน” ทำให้แนวโน้มนี้ยิ่งแพร่กระจาย 📌 สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ ✅ การปิดอินเทอร์เน็ตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ➡️ 296 ครั้งในปี 2024 ➡️ 244 ครั้งในปี 2025 (ยังไม่จบปี) ✅ เหตุผลที่รัฐบาลใช้ชัตดาวน์ ➡️ ปิดกั้นการประท้วง ➡️ ควบคุมการเลือกตั้ง ➡️ ปิดปากสื่อ ➡️ ควบคุมข้อมูลในเขตสงคราม ➡️ แม้แต่ “กันโกงข้อสอบ” ✅ ผลกระทบรุนแรงกว่าที่คิด ➡️ ระบบฉุกเฉินล่ม ➡️ การเงินหยุดชะงัก ➡️ เที่ยวบินถูกยกเลิก ➡️ ประชาชนในเขตสงครามไม่สามารถขอความช่วยเหลือ ✅ ประเทศที่ทำบ่อยที่สุด ➡️ อินเดีย (855 ครั้ง) ➡️ เมียนมา ➡️ ปากีสถาน ➡️ อิหร่าน ‼️ ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง ➡️ โครงสร้างอินเทอร์เน็ตแบบรวมศูนย์ทำให้ปิดได้ง่าย ➡️ บริษัทเทคบางแห่ง “ร่วมมือ” กับรัฐบาลเพื่อผลประโยชน์ ➡️ การปิดอินเทอร์เน็ตกำลังกลายเป็นอาวุธทางการเมือง https://www.schneier.com/blog/archives/2025/12/deliberate-internet-shutdowns.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบตเตอรี่ CO₂: เทคโนโลยีกักเก็บพลังงานยุคใหม่ที่กำลังเติบโตทั่วโลก

    เทคโนโลยี “CO₂ Battery” ของบริษัท Energy Dome จากอิตาลีกำลังกลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมด้านพลังงานที่น่าจับตาที่สุดในโลก โดยใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระบบปิดเพื่อกักเก็บพลังงานหมุนเวียนในช่วงที่มีไฟฟ้าเหลือ และปล่อยกลับสู่ระบบในช่วงที่ความต้องการสูง โรงงานต้นแบบขนาด 20 MW ในเกาะซาร์ดิเนียเริ่มเดินเครื่องในปี 2025 และจะมีการสร้างโรงงานลักษณะเดียวกันในอินเดีย สหรัฐฯ และศูนย์ข้อมูลของ Google ทั่วโลกในปี 2026

    จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้คือความสามารถในการกักเก็บพลังงานยาวนานกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไป ซึ่งมักเก็บได้เพียง 4–8 ชั่วโมง ในขณะที่ CO₂ Battery สามารถให้พลังงานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมงขึ้นไป และขยายขนาดได้ง่ายโดยไม่เพิ่มต้นทุนมากนัก นอกจากนี้ยังไม่ต้องใช้แร่หายาก ไม่ต้องพึ่งภูมิประเทศเฉพาะแบบโรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าลิเธียมไอออนถึงสามเท่า ทำให้หลายประเทศและบริษัทพลังงานเริ่มสนใจลงทุนอย่างจริงจัง

    Google เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยต้องการใช้ CO₂ Battery เพื่อให้ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสามารถใช้พลังงานสะอาดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ในช่วงที่ไม่มีลมหรือแสงแดด ความสามารถในการสร้างโรงงานได้ภายในเวลาไม่ถึงสองปี และติดตั้งได้แทบทุกพื้นที่ ทำให้เทคโนโลยีนี้เหมาะกับการขยายตัวในระดับโลกอย่างมาก

    แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อกังวล เช่น การใช้พื้นที่มากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และความเสี่ยงหากโดมถูกเจาะจน CO₂ รั่วออกมา อย่างไรก็ตาม ปริมาณ CO₂ ที่รั่วจะเทียบเท่าการบินข้ามมหาสมุทรเพียงไม่กี่เที่ยว และยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับการปล่อยคาร์บอนจากโรงไฟฟ้าถ่านหินทั่วไป ทำให้หลายฝ่ายมองว่าความเสี่ยงนี้ “คุ้มค่า” เมื่อเทียบกับประโยชน์ด้านพลังงานสะอาดในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    CO₂ Battery คืออะไร และทำงานอย่างไร
    ใช้ CO₂ ในระบบปิดเพื่อกักเก็บพลังงาน
    อัด–ระบาย CO₂ เพื่อหมุนกังหันผลิตไฟฟ้า

    ข้อดีเหนือแบตเตอรี่แบบเดิม
    เก็บพลังงานได้นานกว่า 8–10 ชั่วโมง
    ไม่ใช้แร่หายาก และอายุการใช้งานยาวกว่า 3 เท่า
    ขยายขนาดได้ง่าย ต้นทุนลดลงเมื่อเพิ่มความจุ

    การขยายตัวทั่วโลก
    อินเดีย สหรัฐฯ และ Google เตรียมสร้างโรงงานในปี 2026
    ใช้พื้นที่เพียง 5 เฮกตาร์ และสร้างเสร็จเร็ว

    ข้อควรระวังและความเสี่ยง
    ใช้พื้นที่มากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
    หากโดมรั่ว CO₂ จะกระจายตัว ต้องเว้นระยะความปลอดภัย
    โครงสร้างโดมอาจถูกต่อต้านในบางพื้นที่ (NIMBY)

    https://spectrum.ieee.org/co2-battery-energy-storage
    🌍⚡ แบตเตอรี่ CO₂: เทคโนโลยีกักเก็บพลังงานยุคใหม่ที่กำลังเติบโตทั่วโลก เทคโนโลยี “CO₂ Battery” ของบริษัท Energy Dome จากอิตาลีกำลังกลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมด้านพลังงานที่น่าจับตาที่สุดในโลก โดยใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระบบปิดเพื่อกักเก็บพลังงานหมุนเวียนในช่วงที่มีไฟฟ้าเหลือ และปล่อยกลับสู่ระบบในช่วงที่ความต้องการสูง โรงงานต้นแบบขนาด 20 MW ในเกาะซาร์ดิเนียเริ่มเดินเครื่องในปี 2025 และจะมีการสร้างโรงงานลักษณะเดียวกันในอินเดีย สหรัฐฯ และศูนย์ข้อมูลของ Google ทั่วโลกในปี 2026 จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้คือความสามารถในการกักเก็บพลังงานยาวนานกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไป ซึ่งมักเก็บได้เพียง 4–8 ชั่วโมง ในขณะที่ CO₂ Battery สามารถให้พลังงานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมงขึ้นไป และขยายขนาดได้ง่ายโดยไม่เพิ่มต้นทุนมากนัก นอกจากนี้ยังไม่ต้องใช้แร่หายาก ไม่ต้องพึ่งภูมิประเทศเฉพาะแบบโรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าลิเธียมไอออนถึงสามเท่า ทำให้หลายประเทศและบริษัทพลังงานเริ่มสนใจลงทุนอย่างจริงจัง Google เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยต้องการใช้ CO₂ Battery เพื่อให้ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสามารถใช้พลังงานสะอาดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ในช่วงที่ไม่มีลมหรือแสงแดด ความสามารถในการสร้างโรงงานได้ภายในเวลาไม่ถึงสองปี และติดตั้งได้แทบทุกพื้นที่ ทำให้เทคโนโลยีนี้เหมาะกับการขยายตัวในระดับโลกอย่างมาก แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อกังวล เช่น การใช้พื้นที่มากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และความเสี่ยงหากโดมถูกเจาะจน CO₂ รั่วออกมา อย่างไรก็ตาม ปริมาณ CO₂ ที่รั่วจะเทียบเท่าการบินข้ามมหาสมุทรเพียงไม่กี่เที่ยว และยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับการปล่อยคาร์บอนจากโรงไฟฟ้าถ่านหินทั่วไป ทำให้หลายฝ่ายมองว่าความเสี่ยงนี้ “คุ้มค่า” เมื่อเทียบกับประโยชน์ด้านพลังงานสะอาดในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ CO₂ Battery คืออะไร และทำงานอย่างไร ➡️ ใช้ CO₂ ในระบบปิดเพื่อกักเก็บพลังงาน ➡️ อัด–ระบาย CO₂ เพื่อหมุนกังหันผลิตไฟฟ้า ✅ ข้อดีเหนือแบตเตอรี่แบบเดิม ➡️ เก็บพลังงานได้นานกว่า 8–10 ชั่วโมง ➡️ ไม่ใช้แร่หายาก และอายุการใช้งานยาวกว่า 3 เท่า ➡️ ขยายขนาดได้ง่าย ต้นทุนลดลงเมื่อเพิ่มความจุ ✅ การขยายตัวทั่วโลก ➡️ อินเดีย สหรัฐฯ และ Google เตรียมสร้างโรงงานในปี 2026 ➡️ ใช้พื้นที่เพียง 5 เฮกตาร์ และสร้างเสร็จเร็ว ‼️ ข้อควรระวังและความเสี่ยง ⛔ ใช้พื้นที่มากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ⛔ หากโดมรั่ว CO₂ จะกระจายตัว ต้องเว้นระยะความปลอดภัย ⛔ โครงสร้างโดมอาจถูกต่อต้านในบางพื้นที่ (NIMBY) https://spectrum.ieee.org/co2-battery-energy-storage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ต้องจ่าย $100/เดือนก็โค้ดด้วย AI ได้: คู่มือ Local Coding Models สำหรับสาย Dev ยุคใหม่

    บทความนี้เริ่มจากสมมติฐานที่น่าสนใจของผู้เขียน: “แทนที่จะจ่าย $100+/เดือนให้ Claude Code หรือ AI coding tools แบบคลาวด์ เอาเงินไปซื้อเครื่องแรง ๆ แล้วรันโมเดลโค้ดแบบ local จะคุ้มกว่าไหม?” เขาทดสอบด้วยการซื้อ MacBook Pro RAM 128GB แล้วลองรันโมเดลโค้ดระดับ 30B–80B ด้วยตัวเอง ผลลัพธ์แรกเริ่มเหมือนจะใช่ แต่หลังจากทดลองจริงหลายสัปดาห์ เขาพบว่าคำตอบที่ถูกต้องคือ “ใช่…แต่ก็ไม่ใช่” เพราะแม้ local models จะทำงานได้ดีมาก แต่ยังไม่สามารถแทนที่ frontier models ในงานระดับ production ได้ทั้งหมด

    ผู้เขียนยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าการทดลองครั้งแรก “ผิดพลาด” เพราะเขามองจากมุมของผู้ใช้สาย hobby มากกว่ามืออาชีพในองค์กรจริง ๆ แม้ local models จะทำงานได้ประมาณ 90% ของงานโค้ดทั่วไป แต่ “10% ที่เหลือ” คือส่วนที่สำคัญที่สุดในงานจริง และเป็นเหตุผลที่ subscription แบบ Claude Code หรือ Gemini Pro ยังจำเป็นสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง ความเสถียร และการจัดการ context ที่ซับซ้อน

    อย่างไรก็ตาม บทความชี้ให้เห็นข้อดีของ local models ที่หลายคนมองข้าม เช่น ความเสถียรที่ไม่ขึ้นกับผู้ให้บริการ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (เหมาะกับงานที่มี IP สำคัญ) และความพร้อมใช้งานแม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังอธิบายอย่างละเอียดเรื่อง RAM, context window, quantization, serving tools (MLX vs Ollama) และการเลือกโมเดลที่เหมาะกับเครื่องของคุณ ซึ่งเป็นความรู้เชิงเทคนิคที่มีประโยชน์มากสำหรับ dev ที่อยากเริ่มรันโมเดลเอง

    สุดท้าย ผู้เขียนสรุปว่า local models “คุ้มค่า” ในฐานะ ตัวเสริม ไม่ใช่ ตัวแทน ของ frontier models โดยเฉพาะเมื่อใช้คู่กับ free tier ของ Gemini หรือโมเดลโอเพ่นซอร์สที่กำลังพัฒนาเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เขาย้ำว่าการซื้อเครื่องแรง ๆ อาจคุ้มในระยะยาว แต่ไม่ควรรีบยกเลิก subscription ถ้างานของคุณต้องการคุณภาพระดับสูงสุดของ AI coding tools

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Local models เก่งขึ้นมาก และทำงานได้ ~90% ของงานโค้ดทั่วไป
    แม้โมเดล 7B–30B ก็ทำงานได้ดีเกินคาด
    แต่ยังไม่ถึงระดับ frontier models ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง

    ข้อดีของการรันโมเดลแบบ local
    ไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ไม่เจอปัญหา rate limit หรือ downtime
    เหมาะกับงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
    ใช้งานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต เช่น บนเครื่องบินหรือใน secure network

    ความรู้เชิงเทคนิคที่ dev ควรรู้
    RAM คือปัจจัยสำคัญที่สุด (30B = ~60GB RAM ถ้าไม่ quantize)
    context window ใช้ RAM มากกว่าตัวโมเดลเสียอีก
    MLX เร็วกว่า Ollama บน Mac แต่ Ollama ใช้ง่ายกว่า

    ข้อควรระวัง / จุดที่ผู้เขียนแก้ไขความเข้าใจของตัวเอง
    local models ไม่เหมาะแทนที่ AI coding tools ในงาน production
    การ quantize KV cache อาจทำให้โมเดล “ลืม” reasoning trace
    การซื้อเครื่องแพง ๆ อาจไม่คุ้ม หากมี free tier ที่แรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น Gemini 3 Flash

    https://www.aiforswes.com/p/you-dont-need-to-spend-100mo-on-claude
    🧠💻 ไม่ต้องจ่าย $100/เดือนก็โค้ดด้วย AI ได้: คู่มือ Local Coding Models สำหรับสาย Dev ยุคใหม่ บทความนี้เริ่มจากสมมติฐานที่น่าสนใจของผู้เขียน: “แทนที่จะจ่าย $100+/เดือนให้ Claude Code หรือ AI coding tools แบบคลาวด์ เอาเงินไปซื้อเครื่องแรง ๆ แล้วรันโมเดลโค้ดแบบ local จะคุ้มกว่าไหม?” เขาทดสอบด้วยการซื้อ MacBook Pro RAM 128GB แล้วลองรันโมเดลโค้ดระดับ 30B–80B ด้วยตัวเอง ผลลัพธ์แรกเริ่มเหมือนจะใช่ แต่หลังจากทดลองจริงหลายสัปดาห์ เขาพบว่าคำตอบที่ถูกต้องคือ “ใช่…แต่ก็ไม่ใช่” เพราะแม้ local models จะทำงานได้ดีมาก แต่ยังไม่สามารถแทนที่ frontier models ในงานระดับ production ได้ทั้งหมด ผู้เขียนยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าการทดลองครั้งแรก “ผิดพลาด” เพราะเขามองจากมุมของผู้ใช้สาย hobby มากกว่ามืออาชีพในองค์กรจริง ๆ แม้ local models จะทำงานได้ประมาณ 90% ของงานโค้ดทั่วไป แต่ “10% ที่เหลือ” คือส่วนที่สำคัญที่สุดในงานจริง และเป็นเหตุผลที่ subscription แบบ Claude Code หรือ Gemini Pro ยังจำเป็นสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง ความเสถียร และการจัดการ context ที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม บทความชี้ให้เห็นข้อดีของ local models ที่หลายคนมองข้าม เช่น ความเสถียรที่ไม่ขึ้นกับผู้ให้บริการ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (เหมาะกับงานที่มี IP สำคัญ) และความพร้อมใช้งานแม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังอธิบายอย่างละเอียดเรื่อง RAM, context window, quantization, serving tools (MLX vs Ollama) และการเลือกโมเดลที่เหมาะกับเครื่องของคุณ ซึ่งเป็นความรู้เชิงเทคนิคที่มีประโยชน์มากสำหรับ dev ที่อยากเริ่มรันโมเดลเอง สุดท้าย ผู้เขียนสรุปว่า local models “คุ้มค่า” ในฐานะ ตัวเสริม ไม่ใช่ ตัวแทน ของ frontier models โดยเฉพาะเมื่อใช้คู่กับ free tier ของ Gemini หรือโมเดลโอเพ่นซอร์สที่กำลังพัฒนาเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เขาย้ำว่าการซื้อเครื่องแรง ๆ อาจคุ้มในระยะยาว แต่ไม่ควรรีบยกเลิก subscription ถ้างานของคุณต้องการคุณภาพระดับสูงสุดของ AI coding tools 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Local models เก่งขึ้นมาก และทำงานได้ ~90% ของงานโค้ดทั่วไป ➡️ แม้โมเดล 7B–30B ก็ทำงานได้ดีเกินคาด ➡️ แต่ยังไม่ถึงระดับ frontier models ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง ✅ ข้อดีของการรันโมเดลแบบ local ➡️ ไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ไม่เจอปัญหา rate limit หรือ downtime ➡️ เหมาะกับงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ➡️ ใช้งานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต เช่น บนเครื่องบินหรือใน secure network ✅ ความรู้เชิงเทคนิคที่ dev ควรรู้ ➡️ RAM คือปัจจัยสำคัญที่สุด (30B = ~60GB RAM ถ้าไม่ quantize) ➡️ context window ใช้ RAM มากกว่าตัวโมเดลเสียอีก ➡️ MLX เร็วกว่า Ollama บน Mac แต่ Ollama ใช้ง่ายกว่า ‼️ ข้อควรระวัง / จุดที่ผู้เขียนแก้ไขความเข้าใจของตัวเอง ⛔ local models ไม่เหมาะแทนที่ AI coding tools ในงาน production ⛔ การ quantize KV cache อาจทำให้โมเดล “ลืม” reasoning trace ⛔ การซื้อเครื่องแพง ๆ อาจไม่คุ้ม หากมี free tier ที่แรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น Gemini 3 Flash https://www.aiforswes.com/p/you-dont-need-to-spend-100mo-on-claude
    WWW.AIFORSWES.COM
    [Revised] You Don’t Need to Spend $100/mo on Claude Code: Your Guide to Local Coding Models
    What you need to know about local model tooling and the steps for setting one up yourself
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าคุณไม่ออกแบบเส้นทางอาชีพของตัวเอง… คนอื่นจะเป็นคนกำหนดให้คุณแทน

    หลายคนใช้ชีวิตอยู่ในโหมด “ทำงานไปวัน ๆ” จนลืมตั้งคำถามสำคัญว่าเส้นทางอาชีพที่กำลังเดินอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ตัวเองเลือกจริงหรือไม่ บทความของ Greg McKeown ชี้ให้เห็นกับดักนี้อย่างเฉียบคม พร้อมเสนอวิธีคิดแบบ Essentialism ที่ช่วยให้เรากลับมาควบคุมทิศทางชีวิตการทำงานของตัวเองอีกครั้ง เขาเล่าว่าคนจำนวนมากยุ่งจนไม่มีเวลาคิดเรื่องชีวิต และยิ่งยุ่งก็ยิ่งปล่อยให้แรงภายนอกเป็นตัวกำหนดอนาคตแทนตัวเราเอง

    Greg เสนอให้ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อทบทวนปีที่ผ่านมาอย่างเป็นระบบ ไล่ดูว่าเราใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง และสิ่งเหล่านั้นสะท้อนแนวโน้มแบบไหน ถ้าปล่อยให้แนวโน้มนี้ดำเนินต่อไปอีก 1–3 ปี ชีวิตเราจะไปทางไหน นี่คือการ “อ่านข่าวของชีวิตตัวเอง” เพื่อมองเห็นความจริงที่มักถูกกลบด้วยความวุ่นวายในแต่ละวัน

    จากนั้นเขาชวนให้เรากลับไปถามคำถามที่ลึกที่สุด: ถ้าเลือกได้ “ทำอะไรก็ได้” ในอาชีพการงาน เราอยากทำอะไรจริง ๆ โดยไม่ให้เสียงวิจารณ์หรือข้อจำกัดทางรายได้มาปิดกั้นตั้งแต่ต้น เพราะหลายครั้งสิ่งที่เราคิดว่า “ไม่จริง” อาจเป็นเพียงความกลัวหรือความเชื่อเก่าที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบัน การเปิดพื้นที่ให้ตัวเองฝันอย่างอิสระจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่หลายคนมองข้าม

    สุดท้าย Greg แนะนำให้เลือก “หนึ่งเป้าหมายหลัก” สำหรับปีถัดไป แล้วตัดสิ่งอื่นออกให้มากที่สุด พร้อมกำหนด quick wins ภายในเดือนแรกเพื่อสร้างแรงส่ง เขาย้ำว่าการตัดสินใจครั้งนี้เคยเปลี่ยนชีวิตเขาเอง—จากนักศึกษากฎหมายในอังกฤษ สู่การย้ายประเทศและกลายเป็นนักเขียน–ผู้สอนที่มีผลงานระดับโลก และทั้งหมดเริ่มต้นจากการใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงคิดเรื่องชีวิตอย่างจริงจัง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เริ่มจากการทบทวนปีที่ผ่านมา
    ไล่ดูเดือนต่อเดือนว่าใช้เวลาไปกับอะไร
    มองหาแนวโน้มและถามว่าถ้าปล่อยไว้จะเกิดอะไรขึ้น

    ตั้งคำถามใหญ่กับตัวเอง
    “ถ้าทำอะไรก็ได้ในอาชีพ เราอยากทำอะไรจริง ๆ?”
    เปิดพื้นที่ให้ความคิดสร้างสรรค์โดยไม่ตัดสินตัวเองก่อนเวลา

    โฟกัสเพียงหนึ่งเป้าหมายหลัก
    เขียน 6 เป้าหมาย แล้วตัดออก 5 ข้อ
    เลือก “True North” ของปีนั้นเพียงหนึ่งเดียว

    สิ่งที่ต้องระวัง
    การยุ่งจนไม่มีเวลาคิดเรื่องชีวิตคือกับดักอันตราย
    การตัดสินความฝันว่า “ไม่จริง” เร็วเกินไปทำให้พลาดโอกาส
    งานดี ๆ หลายอย่างอาจเบี่ยงเราออกจากเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า

    https://gregmckeown.com/if-you-dont-design-your-career-someone-else-will/
    🧭 ถ้าคุณไม่ออกแบบเส้นทางอาชีพของตัวเอง… คนอื่นจะเป็นคนกำหนดให้คุณแทน หลายคนใช้ชีวิตอยู่ในโหมด “ทำงานไปวัน ๆ” จนลืมตั้งคำถามสำคัญว่าเส้นทางอาชีพที่กำลังเดินอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ตัวเองเลือกจริงหรือไม่ บทความของ Greg McKeown ชี้ให้เห็นกับดักนี้อย่างเฉียบคม พร้อมเสนอวิธีคิดแบบ Essentialism ที่ช่วยให้เรากลับมาควบคุมทิศทางชีวิตการทำงานของตัวเองอีกครั้ง เขาเล่าว่าคนจำนวนมากยุ่งจนไม่มีเวลาคิดเรื่องชีวิต และยิ่งยุ่งก็ยิ่งปล่อยให้แรงภายนอกเป็นตัวกำหนดอนาคตแทนตัวเราเอง Greg เสนอให้ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อทบทวนปีที่ผ่านมาอย่างเป็นระบบ ไล่ดูว่าเราใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง และสิ่งเหล่านั้นสะท้อนแนวโน้มแบบไหน ถ้าปล่อยให้แนวโน้มนี้ดำเนินต่อไปอีก 1–3 ปี ชีวิตเราจะไปทางไหน นี่คือการ “อ่านข่าวของชีวิตตัวเอง” เพื่อมองเห็นความจริงที่มักถูกกลบด้วยความวุ่นวายในแต่ละวัน จากนั้นเขาชวนให้เรากลับไปถามคำถามที่ลึกที่สุด: ถ้าเลือกได้ “ทำอะไรก็ได้” ในอาชีพการงาน เราอยากทำอะไรจริง ๆ โดยไม่ให้เสียงวิจารณ์หรือข้อจำกัดทางรายได้มาปิดกั้นตั้งแต่ต้น เพราะหลายครั้งสิ่งที่เราคิดว่า “ไม่จริง” อาจเป็นเพียงความกลัวหรือความเชื่อเก่าที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบัน การเปิดพื้นที่ให้ตัวเองฝันอย่างอิสระจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่หลายคนมองข้าม สุดท้าย Greg แนะนำให้เลือก “หนึ่งเป้าหมายหลัก” สำหรับปีถัดไป แล้วตัดสิ่งอื่นออกให้มากที่สุด พร้อมกำหนด quick wins ภายในเดือนแรกเพื่อสร้างแรงส่ง เขาย้ำว่าการตัดสินใจครั้งนี้เคยเปลี่ยนชีวิตเขาเอง—จากนักศึกษากฎหมายในอังกฤษ สู่การย้ายประเทศและกลายเป็นนักเขียน–ผู้สอนที่มีผลงานระดับโลก และทั้งหมดเริ่มต้นจากการใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงคิดเรื่องชีวิตอย่างจริงจัง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เริ่มจากการทบทวนปีที่ผ่านมา ➡️ ไล่ดูเดือนต่อเดือนว่าใช้เวลาไปกับอะไร ➡️ มองหาแนวโน้มและถามว่าถ้าปล่อยไว้จะเกิดอะไรขึ้น ✅ ตั้งคำถามใหญ่กับตัวเอง ➡️ “ถ้าทำอะไรก็ได้ในอาชีพ เราอยากทำอะไรจริง ๆ?” ➡️ เปิดพื้นที่ให้ความคิดสร้างสรรค์โดยไม่ตัดสินตัวเองก่อนเวลา ✅ โฟกัสเพียงหนึ่งเป้าหมายหลัก ➡️ เขียน 6 เป้าหมาย แล้วตัดออก 5 ข้อ ➡️ เลือก “True North” ของปีนั้นเพียงหนึ่งเดียว ‼️ สิ่งที่ต้องระวัง ⛔ การยุ่งจนไม่มีเวลาคิดเรื่องชีวิตคือกับดักอันตราย ⛔ การตัดสินความฝันว่า “ไม่จริง” เร็วเกินไปทำให้พลาดโอกาส ⛔ งานดี ๆ หลายอย่างอาจเบี่ยงเราออกจากเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า https://gregmckeown.com/if-you-dont-design-your-career-someone-else-will/
    GREGMCKEOWN.COM
    If You Don't Design Your Career, Someone Else Will - Greg McKeown
    A client once responded to one of my questions by saying, "Oh Greg, I am too busy living to think about life!” His off-the-cuff comment named a trap al ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • อันนี้ลุงสงสัยมากว่า... ทำไมกัน?

    สหรัฐฯ สั่งหยุดก่อสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งประเทศ อ้างเหตุผล “ลับทางทหาร”

    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์ประกาศหยุดการก่อสร้างโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้ง 5 แห่งที่กำลังดำเนินงานอยู่ แม้หลายโครงการจะใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับหลายรัฐที่พึ่งพาพลังงานสะอาดจากโครงการเหล่านี้ โดยกระทรวงมหาดไทยอ้างว่าได้รับรายงาน “ลับ” จากกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความมั่นคง แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ ต่อสาธารณะหรือศาล ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ารัฐบาลกำลังใช้การจัดชั้นความลับเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบทางกฎหมายหรือไม่

    ก่อนหน้านี้ ศาลได้เพิกถอนคำสั่งหยุดโครงการลักษณะเดียวกัน เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถให้เหตุผลที่ชัดเจนได้ แต่ครั้งนี้การอ้างข้อมูลลับทำให้การท้าทายทางกฎหมายยากขึ้นอย่างมาก โครงการที่ได้รับผลกระทบรวมถึง Coastal Virginia Offshore Wind (2.6 GW), Empire Wind (810 MW), Revolution Wind (700 MW), Sunrise Wind (925 MW) และ Vineyard Wind 1 (800 MW) ซึ่งหลายโครงการลงทุนไปเกือบครบแล้วและกำลังรอเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อคืนทุน

    รัฐต่าง ๆ เช่น คอนเนตทิคัตและนิวยอร์กออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง โดยมองว่าการหยุดงานครั้งนี้ “ไร้เหตุผลและผิดกฎหมาย” และอาจเป็นเพียงความพยายามของฝ่ายบริหารในการทำลายโครงการพลังงานลมตามความชอบส่วนตัวของประธานาธิบดีมากกว่าการตัดสินใจเชิงนโยบายที่มีข้อมูลรองรับ ข้อมูลในคดีเก่าระบุว่าภายในรัฐบาลเองก็ไม่มีเหตุผลทางเทคนิคที่ชัดเจนในการกลับคำอนุมัติที่มีมานานหลายปี

    เหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่แค่การหยุดโครงการพลังงานสะอาด แต่สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างนโยบายพลังงาน การเมือง และความมั่นคงแห่งชาติที่ถูกใช้เป็นเหตุผลแบบ “ตรวจสอบไม่ได้” ซึ่งอาจกลายเป็นแบบอย่างอันตรายต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ในอนาคต หากไม่มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสจากศาลและสาธารณะ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งหยุดโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งหมด
    อ้างรายงานลับจากกระทรวงกลาโหม
    ทำให้การตรวจสอบทางกฎหมายทำได้ยากขึ้น

    โครงการที่ได้รับผลกระทบมีมูลค่ามหาศาล
    Coastal Virginia (2.6 GW), Empire Wind, Revolution Wind, Sunrise Wind, Vineyard Wind 1
    หลายโครงการใกล้เสร็จและลงทุนไปเกือบครบแล้ว

    รัฐและบริษัทพลังงานออกมาต่อต้าน
    มองว่าเป็นการใช้อำนาจโดยไร้เหตุผล
    ศาลเคยเพิกถอนคำสั่งลักษณะเดียวกันมาก่อน

    ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา
    การใช้ “ข้อมูลลับ” อาจกลายเป็นช่องทางเลี่ยงการตรวจสอบ
    ความไม่แน่นอนอาจทำลายความเชื่อมั่นในโครงการพลังงานสะอาด
    อาจเป็นแบบอย่างให้รัฐบาลใช้เหตุผลด้านความมั่นคงเพื่อหยุดโครงการอื่นในอนาคต


    https://arstechnica.com/science/2025/12/us-government-finds-new-excuse-to-stop-construction-of-offshore-wind/
    อันนี้ลุงสงสัยมากว่า... ทำไมกัน? 🌬️⚠️ สหรัฐฯ สั่งหยุดก่อสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งประเทศ อ้างเหตุผล “ลับทางทหาร” รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์ประกาศหยุดการก่อสร้างโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้ง 5 แห่งที่กำลังดำเนินงานอยู่ แม้หลายโครงการจะใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับหลายรัฐที่พึ่งพาพลังงานสะอาดจากโครงการเหล่านี้ โดยกระทรวงมหาดไทยอ้างว่าได้รับรายงาน “ลับ” จากกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความมั่นคง แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ ต่อสาธารณะหรือศาล ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ารัฐบาลกำลังใช้การจัดชั้นความลับเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบทางกฎหมายหรือไม่ ก่อนหน้านี้ ศาลได้เพิกถอนคำสั่งหยุดโครงการลักษณะเดียวกัน เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถให้เหตุผลที่ชัดเจนได้ แต่ครั้งนี้การอ้างข้อมูลลับทำให้การท้าทายทางกฎหมายยากขึ้นอย่างมาก โครงการที่ได้รับผลกระทบรวมถึง Coastal Virginia Offshore Wind (2.6 GW), Empire Wind (810 MW), Revolution Wind (700 MW), Sunrise Wind (925 MW) และ Vineyard Wind 1 (800 MW) ซึ่งหลายโครงการลงทุนไปเกือบครบแล้วและกำลังรอเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อคืนทุน รัฐต่าง ๆ เช่น คอนเนตทิคัตและนิวยอร์กออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง โดยมองว่าการหยุดงานครั้งนี้ “ไร้เหตุผลและผิดกฎหมาย” และอาจเป็นเพียงความพยายามของฝ่ายบริหารในการทำลายโครงการพลังงานลมตามความชอบส่วนตัวของประธานาธิบดีมากกว่าการตัดสินใจเชิงนโยบายที่มีข้อมูลรองรับ ข้อมูลในคดีเก่าระบุว่าภายในรัฐบาลเองก็ไม่มีเหตุผลทางเทคนิคที่ชัดเจนในการกลับคำอนุมัติที่มีมานานหลายปี เหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่แค่การหยุดโครงการพลังงานสะอาด แต่สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างนโยบายพลังงาน การเมือง และความมั่นคงแห่งชาติที่ถูกใช้เป็นเหตุผลแบบ “ตรวจสอบไม่ได้” ซึ่งอาจกลายเป็นแบบอย่างอันตรายต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ในอนาคต หากไม่มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสจากศาลและสาธารณะ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งหยุดโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งหมด ➡️ อ้างรายงานลับจากกระทรวงกลาโหม ➡️ ทำให้การตรวจสอบทางกฎหมายทำได้ยากขึ้น ✅ โครงการที่ได้รับผลกระทบมีมูลค่ามหาศาล ➡️ Coastal Virginia (2.6 GW), Empire Wind, Revolution Wind, Sunrise Wind, Vineyard Wind 1 ➡️ หลายโครงการใกล้เสร็จและลงทุนไปเกือบครบแล้ว ✅ รัฐและบริษัทพลังงานออกมาต่อต้าน ➡️ มองว่าเป็นการใช้อำนาจโดยไร้เหตุผล ➡️ ศาลเคยเพิกถอนคำสั่งลักษณะเดียวกันมาก่อน ‼️ ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา ⛔ การใช้ “ข้อมูลลับ” อาจกลายเป็นช่องทางเลี่ยงการตรวจสอบ ⛔ ความไม่แน่นอนอาจทำลายความเชื่อมั่นในโครงการพลังงานสะอาด ⛔ อาจเป็นแบบอย่างให้รัฐบาลใช้เหตุผลด้านความมั่นคงเพื่อหยุดโครงการอื่นในอนาคต https://arstechnica.com/science/2025/12/us-government-finds-new-excuse-to-stop-construction-of-offshore-wind/
    ARSTECHNICA.COM
    US blocks all offshore wind construction, says reason is classified
    Projects with hardware in the water stopped due to Department of Defense fears.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิตาลีสั่งปรับ Apple เกือบ €100 ล้าน เหตุ ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา

    หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของอิตาลี (AGCM) ได้สั่งปรับ Apple เป็นเงิน €98.6 ล้าน จากการบังคับใช้กฎ App Tracking Transparency (ATT) ที่ถูกมองว่า “สร้างภาระเกินสมควร” ต่อผู้พัฒนาแอปและผู้ลงโฆษณา แม้ ATT จะถูกนำเสนอในฐานะฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หน่วยงานกำกับมองว่ากฎนี้ทำให้ Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม เพราะผู้พัฒนาภายนอกถูกจำกัดการติดตามผู้ใช้ ในขณะที่ Apple ยังสามารถเก็บข้อมูลบางส่วนผ่านระบบของตัวเองได้

    การสอบสวนชี้ว่า ATT ทำให้ผู้พัฒนาต้องเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งในด้านการปรับปรุงระบบ การขอความยินยอม และการสูญเสียรายได้จากโฆษณาที่แม่นยำลดลง ขณะเดียวกัน Apple กลับสามารถใช้ข้อมูลภายในระบบของตนเพื่อเสริมความได้เปรียบในตลาดบริการโฆษณา เช่น Apple Search Ads ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วหลังการเปิดตัว ATT จนหลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเป็นธรรมของกฎนี้

    แม้ Apple จะยืนยันว่า ATT ถูกออกแบบเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หลายประเทศในยุโรป—including ฝรั่งเศสและเยอรมนี—ก็เริ่มจับตาพฤติกรรมของบริษัทอย่างใกล้ชิด โดยมองว่าการควบคุมข้อมูลผู้ใช้ในระดับแพลตฟอร์มอาจกลายเป็น “อำนาจผูกขาดรูปแบบใหม่” ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของนักพัฒนาและผู้ลงโฆษณาในวงกว้าง

    การปรับครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของเงิน แต่เป็นสัญญาณว่าหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปกำลังเริ่มตั้งคำถามต่อโมเดลธุรกิจของ Apple ที่อาศัยความเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเพื่อกำหนดกฎที่อาจเอื้อประโยชน์ให้ตนเองมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับสหภาพยุโรปในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    อิตาลีสั่งปรับ Apple €98.6 ล้าน
    เหตุผล: ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนา
    มองว่า Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม

    ผลกระทบต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา
    ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการขอความยินยอมและปรับระบบ
    รายได้โฆษณาลดลงเพราะการติดตามผู้ใช้ทำได้ยากขึ้น

    Apple ยืนยันว่า ATT คือการปกป้องความเป็นส่วนตัว
    แต่หลายประเทศในยุโรปเริ่มตั้งคำถามถึงความโปร่งใส
    Apple Search Ads เติบโตผิดปกติหลัง ATT เปิดตัว

    ความเสี่ยงและประเด็นที่ต้องจับตา
    ความเป็นไปได้ที่จะถูกตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับ EU
    ความกังวลว่าแพลตฟอร์มอาจใช้อำนาจควบคุมข้อมูลเพื่อผูกขาด
    ผู้พัฒนาอาจเผชิญต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    https://wccftech.com/apples-app-tracking-transparency-att-rules-invite-another-hefty-fine-this-time-from-italy/
    📱💸 อิตาลีสั่งปรับ Apple เกือบ €100 ล้าน เหตุ ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของอิตาลี (AGCM) ได้สั่งปรับ Apple เป็นเงิน €98.6 ล้าน จากการบังคับใช้กฎ App Tracking Transparency (ATT) ที่ถูกมองว่า “สร้างภาระเกินสมควร” ต่อผู้พัฒนาแอปและผู้ลงโฆษณา แม้ ATT จะถูกนำเสนอในฐานะฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หน่วยงานกำกับมองว่ากฎนี้ทำให้ Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม เพราะผู้พัฒนาภายนอกถูกจำกัดการติดตามผู้ใช้ ในขณะที่ Apple ยังสามารถเก็บข้อมูลบางส่วนผ่านระบบของตัวเองได้ การสอบสวนชี้ว่า ATT ทำให้ผู้พัฒนาต้องเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งในด้านการปรับปรุงระบบ การขอความยินยอม และการสูญเสียรายได้จากโฆษณาที่แม่นยำลดลง ขณะเดียวกัน Apple กลับสามารถใช้ข้อมูลภายในระบบของตนเพื่อเสริมความได้เปรียบในตลาดบริการโฆษณา เช่น Apple Search Ads ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วหลังการเปิดตัว ATT จนหลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเป็นธรรมของกฎนี้ แม้ Apple จะยืนยันว่า ATT ถูกออกแบบเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หลายประเทศในยุโรป—including ฝรั่งเศสและเยอรมนี—ก็เริ่มจับตาพฤติกรรมของบริษัทอย่างใกล้ชิด โดยมองว่าการควบคุมข้อมูลผู้ใช้ในระดับแพลตฟอร์มอาจกลายเป็น “อำนาจผูกขาดรูปแบบใหม่” ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของนักพัฒนาและผู้ลงโฆษณาในวงกว้าง การปรับครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของเงิน แต่เป็นสัญญาณว่าหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปกำลังเริ่มตั้งคำถามต่อโมเดลธุรกิจของ Apple ที่อาศัยความเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเพื่อกำหนดกฎที่อาจเอื้อประโยชน์ให้ตนเองมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับสหภาพยุโรปในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ อิตาลีสั่งปรับ Apple €98.6 ล้าน ➡️ เหตุผล: ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนา ➡️ มองว่า Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม ✅ ผลกระทบต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา ➡️ ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการขอความยินยอมและปรับระบบ ➡️ รายได้โฆษณาลดลงเพราะการติดตามผู้ใช้ทำได้ยากขึ้น ✅ Apple ยืนยันว่า ATT คือการปกป้องความเป็นส่วนตัว ➡️ แต่หลายประเทศในยุโรปเริ่มตั้งคำถามถึงความโปร่งใส ➡️ Apple Search Ads เติบโตผิดปกติหลัง ATT เปิดตัว ‼️ ความเสี่ยงและประเด็นที่ต้องจับตา ⛔ ความเป็นไปได้ที่จะถูกตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับ EU ⛔ ความกังวลว่าแพลตฟอร์มอาจใช้อำนาจควบคุมข้อมูลเพื่อผูกขาด ⛔ ผู้พัฒนาอาจเผชิญต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง https://wccftech.com/apples-app-tracking-transparency-att-rules-invite-another-hefty-fine-this-time-from-italy/
    WCCFTECH.COM
    Apple Hit With Another Massive Fine From Italy Over Its Privacy Features
    Hardly a week goes by when Apple is not subject to a new antitrust scrutiny or penalty in one jurisdiction or the other.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • Queen Of The World (2025/129)

    หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 2018 ซึ่งในขณะนั้นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2(ต่อไปจะเขียนว่า ควีนฯ) ยังมีชีวิตอยู่ (พระองค์ท่านสวรรคตเมื่อวันที่ 8/9/2022)

    เมื่ออ่านจบเล่มแล้ว ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าชื่อหนังสือ Queen Of The World ค่อนข้างจะสื่อความหมายได้ตรงตามความต้องการของผู้เขียนเลย

    ถ้าหากต้องการอ่านชีวประวัติของควีนฯ เกิดที่ไหน นิสัยเป็นแบบไหน การเรียน ความรัก ฯลฯ ไม่สามารถหาอ่านได้ในเล่มนี้แน่นอน แต่เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ โดยเน้นเฉพาะการไปเยือนประเทศต่างๆ ทั้งในเครือจักรภพและประเทศอื่นๆ รวมไปถึงการรับรองแขกบ้านแขกเมือง เรื่องนี้ผู้เขียนเน้นย้ำเลยว่านี่คือ “Solf Power” ของประเทศอังกฤษ

    แน่นอนว่าด้วยการที่ควีนฯ ทรงดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุดมาตั้งแต่อายุ 26ปี จึงได้มีการไปเยี่ยมเยียนประเทศรอบโลก ได้ผ่านช่วงเวลาที่หนักหนามาตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งที่อังกฤษเกือบล้มลายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชาของอังกฤษในขณะนั้นและเป็นพระบิดาของควีนฯ สิ้นพระชนม์ด้วยความคิดมากและเสียพระทัย ควีนฯจึงต้องมารับตำแหน่งประมุขสูงสุดทั้งๆที่อายุเพียง26ปี แต่งงานได้ไม่นาน และมีลูกอายุน้อย

    หลังจากครองราชย์ได้ไม่นาน ควีนฯยังต้องประสบพบเจอกับปัญหาแต่ขอแยกเป็นอิสระของประเทศที่อยู่ในเครือจักรภพ ซึ่งเป็นปัญหาคล้ายกับโดมิโนที่เกิดขึ้นต่อเนื่องๆไปเรื่อยๆ จนทั่งเข้าสู่ภาวะเป็นเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ประเทศที่สร้างความกังวลกับควีนฯ ได้แก่สองประเทศใหญ่คือ อินเดีย และประเทศแอฟริกาใต้

    ในเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆกับควีนฯ ก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้งประเทศอเมริกา ประเทศในทวีปแอฟริกา รวมไปถึงจีนและรัสเซีย ซึ่งควีนฯได้ไปเสด็จเยือนมาทั้งหมดแล้ว มีอีกเรื่องที่น่าใจมากๆคือ เรื่องของเรือยอร์ชพระที่นั่งบริทานเนียของควีนฯ เรือบริทาเนียใช้ในการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ นอกจากนั้นยังเป็นที่พักส่วนพระองค์ขณะไปเยือนต่างประเทศ เป็นภัตรคารรับรองประมุขของประเทศนั้นๆ และยังเป็นสถานที่เจรจาทางการเมืองอีกด้วย เรือบริทาเนียก็เปรียบเสมือนประเทศราชของควีนฯเคลื่อนที่ได้

    ท้ายเล่มผู้เขียนเพิ่มเติมเรื่องราวของพระกรณียกิจของ พระสวามีดยุคฟิลิป , เจ้าฟ้าชายชาลส์(กษัตริย์ชาลส์ที่ 3) , เจ้าหญิงไดอานา , เจ้าหญิงแอนน์ , เจ้าชายแอนดรู , เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด รวมไปถึงรุ่นหลานของควีนฯ คือเจ้าชายวิลลียมและเจ้าชายแฮรี่อีกด้วย

    #QueenOfTheWorld #รีวิวหนังสือ
    Queen Of The World (2025/129) หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 2018 ซึ่งในขณะนั้นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2(ต่อไปจะเขียนว่า ควีนฯ) ยังมีชีวิตอยู่ (พระองค์ท่านสวรรคตเมื่อวันที่ 8/9/2022) เมื่ออ่านจบเล่มแล้ว ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าชื่อหนังสือ Queen Of The World ค่อนข้างจะสื่อความหมายได้ตรงตามความต้องการของผู้เขียนเลย ถ้าหากต้องการอ่านชีวประวัติของควีนฯ เกิดที่ไหน นิสัยเป็นแบบไหน การเรียน ความรัก ฯลฯ ไม่สามารถหาอ่านได้ในเล่มนี้แน่นอน แต่เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ โดยเน้นเฉพาะการไปเยือนประเทศต่างๆ ทั้งในเครือจักรภพและประเทศอื่นๆ รวมไปถึงการรับรองแขกบ้านแขกเมือง เรื่องนี้ผู้เขียนเน้นย้ำเลยว่านี่คือ “Solf Power” ของประเทศอังกฤษ แน่นอนว่าด้วยการที่ควีนฯ ทรงดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุดมาตั้งแต่อายุ 26ปี จึงได้มีการไปเยี่ยมเยียนประเทศรอบโลก ได้ผ่านช่วงเวลาที่หนักหนามาตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งที่อังกฤษเกือบล้มลายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชาของอังกฤษในขณะนั้นและเป็นพระบิดาของควีนฯ สิ้นพระชนม์ด้วยความคิดมากและเสียพระทัย ควีนฯจึงต้องมารับตำแหน่งประมุขสูงสุดทั้งๆที่อายุเพียง26ปี แต่งงานได้ไม่นาน และมีลูกอายุน้อย หลังจากครองราชย์ได้ไม่นาน ควีนฯยังต้องประสบพบเจอกับปัญหาแต่ขอแยกเป็นอิสระของประเทศที่อยู่ในเครือจักรภพ ซึ่งเป็นปัญหาคล้ายกับโดมิโนที่เกิดขึ้นต่อเนื่องๆไปเรื่อยๆ จนทั่งเข้าสู่ภาวะเป็นเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ประเทศที่สร้างความกังวลกับควีนฯ ได้แก่สองประเทศใหญ่คือ อินเดีย และประเทศแอฟริกาใต้ ในเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆกับควีนฯ ก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้งประเทศอเมริกา ประเทศในทวีปแอฟริกา รวมไปถึงจีนและรัสเซีย ซึ่งควีนฯได้ไปเสด็จเยือนมาทั้งหมดแล้ว มีอีกเรื่องที่น่าใจมากๆคือ เรื่องของเรือยอร์ชพระที่นั่งบริทานเนียของควีนฯ เรือบริทาเนียใช้ในการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ นอกจากนั้นยังเป็นที่พักส่วนพระองค์ขณะไปเยือนต่างประเทศ เป็นภัตรคารรับรองประมุขของประเทศนั้นๆ และยังเป็นสถานที่เจรจาทางการเมืองอีกด้วย เรือบริทาเนียก็เปรียบเสมือนประเทศราชของควีนฯเคลื่อนที่ได้ ท้ายเล่มผู้เขียนเพิ่มเติมเรื่องราวของพระกรณียกิจของ พระสวามีดยุคฟิลิป , เจ้าฟ้าชายชาลส์(กษัตริย์ชาลส์ที่ 3) , เจ้าหญิงไดอานา , เจ้าหญิงแอนน์ , เจ้าชายแอนดรู , เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด รวมไปถึงรุ่นหลานของควีนฯ คือเจ้าชายวิลลียมและเจ้าชายแฮรี่อีกด้วย #QueenOfTheWorld #รีวิวหนังสือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮ็กครั้งใหญ่โจมตีหน่วยงานน้ำของโรมาเนีย: คอมพิวเตอร์ 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware

    การโจมตีครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อโครงสร้างพื้นฐานของโรมาเนีย เมื่อหน่วยงานบริหารจัดการน้ำถูกโจมตีด้วย ransomware ที่เข้ารหัสข้อมูลผ่าน BitLocker ของ Windows ส่งผลให้คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องใน 10 จาก 11 สำนักงานภูมิภาคต้องหยุดทำงานทันที แม้ระบบควบคุมการจ่ายน้ำจริงจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ระบบสนับสนุนทั้งหมด เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส ฐานข้อมูล และ GIS กลับถูกทำให้ใช้งานไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

    ผู้โจมตีไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นกลุ่มใด แต่ทิ้งข้อความให้หน่วยงานติดต่อกลับภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่คล้ายกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานในยุโรปช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีเดนมาร์กที่เคยถูกแฮ็กจนแรงดันน้ำผิดปกติและท่อแตกหลายจุดในปี 2024 เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บ้านเรือนกว่า 500 หลังไม่มีน้ำใช้ชั่วคราว และกลายเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบสาธารณูปโภคกำลังกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของสงครามไซเบอร์ยุคใหม่

    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของโรมาเนีย (DNSC) ระบุว่ายังไม่ทราบช่องทางการโจมตี แต่ยืนยันว่าผู้โจมตีใช้ BitLocker ในการเข้ารหัสข้อมูลแทนที่จะใช้เครื่องมือเฉพาะทางแบบ ransomware กลุ่มอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือซับซ้อนเสมอไป ขณะนี้ DNSC และหน่วยข่าวกรองกำลังเร่งกู้ระบบและตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติม

    เหตุการณ์นี้ยังเชื่อมโยงกับแนวโน้มการโจมตีที่หลายประเทศในยุโรปมองว่าเป็น “สงครามลูกผสม” โดยเฉพาะการโจมตีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มที่สนับสนุนรัสเซีย เช่น Z‑Pentest และ NoName057(16) ที่เคยโจมตีระบบน้ำและเว็บไซต์ของเดนมาร์ก รวมถึง Fancy Bear ที่ถูกกล่าวหาว่าโจมตีระบบควบคุมการบินของเยอรมนีในปี 2024 ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยไซเบอร์น้อยเกินไป

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ขนาดความเสียหายและผลกระทบ
    คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware
    ระบบสนับสนุน เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส และฐานข้อมูลหยุดทำงาน

    ระบบน้ำยังทำงานได้ตามปกติ
    ระบบควบคุมการจ่ายน้ำไม่ถูกโจมตีโดยตรง
    การควบคุมยังทำผ่านศูนย์สั่งการและการสื่อสารเสียง

    รูปแบบการโจมตีและการสืบสวน
    ผู้โจมตีไม่ประกาศตัว แต่ทิ้งข้อความให้ติดต่อภายใน 7 วัน
    ใช้ BitLocker ของ Windows ในการเข้ารหัสข้อมูล

    ความเสี่ยงและสัญญาณเตือน
    โครงสร้างพื้นฐานยุโรปกำลังเป็นเป้าหมายของ “สงครามลูกผสม”
    เคยมีกรณีเดนมาร์กถูกโจมตีจนท่อแตกและบ้านเรือนขาดน้ำ
    ความปลอดภัยไซเบอร์ยังเป็นเรื่องที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญต่ำเกินไป

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/1-000-computers-taken-offline-in-romanian-water-management-authority-hack-ransomware-takes-bitlocker-encrypted-systems-down
    🚨 แฮ็กครั้งใหญ่โจมตีหน่วยงานน้ำของโรมาเนีย: คอมพิวเตอร์ 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware การโจมตีครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อโครงสร้างพื้นฐานของโรมาเนีย เมื่อหน่วยงานบริหารจัดการน้ำถูกโจมตีด้วย ransomware ที่เข้ารหัสข้อมูลผ่าน BitLocker ของ Windows ส่งผลให้คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องใน 10 จาก 11 สำนักงานภูมิภาคต้องหยุดทำงานทันที แม้ระบบควบคุมการจ่ายน้ำจริงจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ระบบสนับสนุนทั้งหมด เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส ฐานข้อมูล และ GIS กลับถูกทำให้ใช้งานไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ผู้โจมตีไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นกลุ่มใด แต่ทิ้งข้อความให้หน่วยงานติดต่อกลับภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่คล้ายกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานในยุโรปช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีเดนมาร์กที่เคยถูกแฮ็กจนแรงดันน้ำผิดปกติและท่อแตกหลายจุดในปี 2024 เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บ้านเรือนกว่า 500 หลังไม่มีน้ำใช้ชั่วคราว และกลายเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบสาธารณูปโภคกำลังกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของสงครามไซเบอร์ยุคใหม่ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของโรมาเนีย (DNSC) ระบุว่ายังไม่ทราบช่องทางการโจมตี แต่ยืนยันว่าผู้โจมตีใช้ BitLocker ในการเข้ารหัสข้อมูลแทนที่จะใช้เครื่องมือเฉพาะทางแบบ ransomware กลุ่มอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือซับซ้อนเสมอไป ขณะนี้ DNSC และหน่วยข่าวกรองกำลังเร่งกู้ระบบและตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้ยังเชื่อมโยงกับแนวโน้มการโจมตีที่หลายประเทศในยุโรปมองว่าเป็น “สงครามลูกผสม” โดยเฉพาะการโจมตีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มที่สนับสนุนรัสเซีย เช่น Z‑Pentest และ NoName057(16) ที่เคยโจมตีระบบน้ำและเว็บไซต์ของเดนมาร์ก รวมถึง Fancy Bear ที่ถูกกล่าวหาว่าโจมตีระบบควบคุมการบินของเยอรมนีในปี 2024 ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยไซเบอร์น้อยเกินไป 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ขนาดความเสียหายและผลกระทบ ➡️ คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware ➡️ ระบบสนับสนุน เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส และฐานข้อมูลหยุดทำงาน ✅ ระบบน้ำยังทำงานได้ตามปกติ ➡️ ระบบควบคุมการจ่ายน้ำไม่ถูกโจมตีโดยตรง ➡️ การควบคุมยังทำผ่านศูนย์สั่งการและการสื่อสารเสียง ✅ รูปแบบการโจมตีและการสืบสวน ➡️ ผู้โจมตีไม่ประกาศตัว แต่ทิ้งข้อความให้ติดต่อภายใน 7 วัน ➡️ ใช้ BitLocker ของ Windows ในการเข้ารหัสข้อมูล ‼️ ความเสี่ยงและสัญญาณเตือน ⛔ โครงสร้างพื้นฐานยุโรปกำลังเป็นเป้าหมายของ “สงครามลูกผสม” ⛔ เคยมีกรณีเดนมาร์กถูกโจมตีจนท่อแตกและบ้านเรือนขาดน้ำ ⛔ ความปลอดภัยไซเบอร์ยังเป็นเรื่องที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญต่ำเกินไป https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/1-000-computers-taken-offline-in-romanian-water-management-authority-hack-ransomware-takes-bitlocker-encrypted-systems-down
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    1,000 computers taken offline in Romanian water management authority hack
    No group has claimed the attack yet, and thankfully, water is still flowing in Romania.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮ็กครั้งมโหฬาร: กลุ่ม Pirate Archivist ดูดข้อมูล Spotify 300TB ปล่อยทอร์เรนต์กว่า 86 ล้านไฟล์

    เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิง เมื่อกลุ่ม Anna’s Archive ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “เงาแห่งห้องสมุดโลก” ได้ทำการสกัดข้อมูลจาก Spotify ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยดึงไฟล์เพลงและเมทาดาทารวมกว่า 300TB ออกมาจากแพลตฟอร์ม พร้อมปล่อยเป็นทอร์เรนต์ให้ดาวน์โหลดอย่างเสรี การรั่วไหลครั้งนี้ครอบคลุมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ คิดเป็นประมาณ 37% ของคลังเพลงทั้งหมด แต่ครอบคลุมถึง 99.9% ของยอดการฟังบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนว่าข้อมูลที่หลุดออกมาคือ “แก่นกลาง” ของ Spotify อย่างแท้จริง

    Spotify ยืนยันว่ามีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้โจมตีใช้วิธีหลบเลี่ยง DRM เพื่อดึงไฟล์เสียงต้นฉบับในรูปแบบ OGG Vorbis 160kbps ออกมา ขณะเดียวกันเมทาดาทากว่า 256 ล้านแถว รวมถึง ISRC ทั้ง 186 ล้านรายการ ก็ถูกนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลที่ค้นหาได้เต็มรูปแบบ ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการฟังเพลงทั่วโลกถูกเปิดเผยอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น สัดส่วนเพลงที่แทบไม่มีคนฟัง หรือแนวโน้มความนิยมของเพลงที่มี BPM ประมาณ 120 ซึ่งเป็นจังหวะที่พบมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม

    Anna’s Archive อ้างว่าการกระทำครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “การอนุรักษ์ดนตรีของมนุษยชาติ” โดยมองว่า Spotify ให้ความสำคัญกับเพลงยอดนิยมมากเกินไป และคุณภาพเสียงที่ถูกบีบอัดก็ไม่เหมาะกับการเก็บถาวร พวกเขาจึงสร้างระบบทอร์เรนต์ที่จัดหมวดหมู่ตามความนิยม และใช้ฟอร์แมต AAC (Anna’s Archive Container) เพื่อแพ็กข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมทยอยปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ผลกระทบของเหตุการณ์นี้ยังคงขยายตัวต่อไปอีกนาน

    ด้าน Spotify ระบุว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีถูกปิดแล้ว และกำลังเพิ่มมาตรการป้องกันใหม่เพื่อรับมือการโจมตีลักษณะนี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้เปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มสตรีมมิง และความเปราะบางของระบบ DRM ที่ถูกท้าทายอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ต้องการ “ปลดปล่อยข้อมูล” สู่สาธารณะ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ขนาดการรั่วไหลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    ข้อมูลกว่า 300TB ถูกดูดออกจาก Spotify
    รวมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ ครอบคลุม 99.9% ของยอดฟังทั้งหมด

    ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกเปิดเผย
    เมทาดาทา 256 ล้านแถว และ ISRC 186 ล้านรายการ
    ข้อมูลเผยว่า 70% ของเพลงแทบไม่มีคนฟัง และ BPM 120 คือจังหวะยอดนิยม

    การตอบสนองของ Spotify
    ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี
    เพิ่มมาตรการป้องกันใหม่และตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัย

    ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา
    การหลบเลี่ยง DRM อาจกระทบความเชื่อมั่นในระบบสตรีมมิง
    การปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคตอาจทำให้ผลกระทบขยายวงกว้าง
    อุตสาหกรรมดนตรีอาจเผชิญความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่

    https://www.tomshardware.com/service-providers/streaming/pirate-archivist-group-scrapes-spotifys-300tb-library-posts-free-torrents-for-downloading-investigation-underway-as-music-and-metadata-hit-torrent-sites
    🎧 แฮ็กครั้งมโหฬาร: กลุ่ม Pirate Archivist ดูดข้อมูล Spotify 300TB ปล่อยทอร์เรนต์กว่า 86 ล้านไฟล์ เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิง เมื่อกลุ่ม Anna’s Archive ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “เงาแห่งห้องสมุดโลก” ได้ทำการสกัดข้อมูลจาก Spotify ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยดึงไฟล์เพลงและเมทาดาทารวมกว่า 300TB ออกมาจากแพลตฟอร์ม พร้อมปล่อยเป็นทอร์เรนต์ให้ดาวน์โหลดอย่างเสรี การรั่วไหลครั้งนี้ครอบคลุมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ คิดเป็นประมาณ 37% ของคลังเพลงทั้งหมด แต่ครอบคลุมถึง 99.9% ของยอดการฟังบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนว่าข้อมูลที่หลุดออกมาคือ “แก่นกลาง” ของ Spotify อย่างแท้จริง Spotify ยืนยันว่ามีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้โจมตีใช้วิธีหลบเลี่ยง DRM เพื่อดึงไฟล์เสียงต้นฉบับในรูปแบบ OGG Vorbis 160kbps ออกมา ขณะเดียวกันเมทาดาทากว่า 256 ล้านแถว รวมถึง ISRC ทั้ง 186 ล้านรายการ ก็ถูกนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลที่ค้นหาได้เต็มรูปแบบ ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการฟังเพลงทั่วโลกถูกเปิดเผยอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น สัดส่วนเพลงที่แทบไม่มีคนฟัง หรือแนวโน้มความนิยมของเพลงที่มี BPM ประมาณ 120 ซึ่งเป็นจังหวะที่พบมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม Anna’s Archive อ้างว่าการกระทำครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “การอนุรักษ์ดนตรีของมนุษยชาติ” โดยมองว่า Spotify ให้ความสำคัญกับเพลงยอดนิยมมากเกินไป และคุณภาพเสียงที่ถูกบีบอัดก็ไม่เหมาะกับการเก็บถาวร พวกเขาจึงสร้างระบบทอร์เรนต์ที่จัดหมวดหมู่ตามความนิยม และใช้ฟอร์แมต AAC (Anna’s Archive Container) เพื่อแพ็กข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมทยอยปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ผลกระทบของเหตุการณ์นี้ยังคงขยายตัวต่อไปอีกนาน ด้าน Spotify ระบุว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีถูกปิดแล้ว และกำลังเพิ่มมาตรการป้องกันใหม่เพื่อรับมือการโจมตีลักษณะนี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้เปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มสตรีมมิง และความเปราะบางของระบบ DRM ที่ถูกท้าทายอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ต้องการ “ปลดปล่อยข้อมูล” สู่สาธารณะ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ขนาดการรั่วไหลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ➡️ ข้อมูลกว่า 300TB ถูกดูดออกจาก Spotify ➡️ รวมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ ครอบคลุม 99.9% ของยอดฟังทั้งหมด ✅ ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกเปิดเผย ➡️ เมทาดาทา 256 ล้านแถว และ ISRC 186 ล้านรายการ ➡️ ข้อมูลเผยว่า 70% ของเพลงแทบไม่มีคนฟัง และ BPM 120 คือจังหวะยอดนิยม ✅ การตอบสนองของ Spotify ➡️ ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี ➡️ เพิ่มมาตรการป้องกันใหม่และตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัย ‼️ ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา ⛔ การหลบเลี่ยง DRM อาจกระทบความเชื่อมั่นในระบบสตรีมมิง ⛔ การปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคตอาจทำให้ผลกระทบขยายวงกว้าง ⛔ อุตสาหกรรมดนตรีอาจเผชิญความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่ https://www.tomshardware.com/service-providers/streaming/pirate-archivist-group-scrapes-spotifys-300tb-library-posts-free-torrents-for-downloading-investigation-underway-as-music-and-metadata-hit-torrent-sites
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • elementary OS 8.1 ออกแล้ว: อัปเกรดครั้งใหญ่เพื่อความลื่นไหลและปลอดภัยกว่าเดิม

    elementary OS 8.1 มาพร้อมการปรับปรุงครั้งสำคัญที่เน้นประสบการณ์ผู้ใช้ ความปลอดภัย และความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ยุคใหม่ โดยอัปเดตนี้สร้างบนฐาน Ubuntu 24.04 LTS ทำให้ระบบมีความเสถียรและรองรับอุปกรณ์ได้กว้างขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ทีมพัฒนาได้แก้ไขปัญหามากกว่า 1,100 รายการจากเสียงสะท้อนของผู้ใช้ ทำให้เวอร์ชันนี้เป็นหนึ่งในอัปเดตที่ “เนียนที่สุด” ของ elementary OS ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา.

    ในด้านประสบการณ์ใช้งาน ผู้ใช้จะได้พบกับ Dock ที่ฉลาดขึ้น การจัดการ Workspace ที่สะดวกกว่าเดิม และฟีเจอร์ Background Portal ที่ช่วยให้เห็นว่าแอปใดกำลังทำงานอยู่เบื้องหลังอย่างโปร่งใส รวมถึงการปรับปรุงด้าน Accessibility ที่ทำให้ผู้พิการทางสายตาสามารถติดตั้งระบบได้ด้วยตัวเองอย่างสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของระบบปฏิบัติการสายดีไซน์นี้.

    ด้านความปลอดภัย Secure Session ถูกตั้งเป็นค่าเริ่มต้น ทำให้การใช้งานทั่วไปปลอดภัยขึ้น เช่น หน้าต่างยืนยันรหัสผ่านที่ป้องกันการขโมยโฟกัสจากแอปอื่น และระบบอัปเดตที่ฉลาดขึ้น ไม่รบกวนผู้ใช้ และไม่กินเน็ตบนเครือข่ายแบบจำกัดข้อมูล ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิด “ปลอดภัยแต่ไม่รบกวน” ที่ elementary OS ยึดถือมาโดยตลอด.

    สุดท้าย elementary OS 8.1 ยังเปิดตัวเวอร์ชัน ARM64 อย่างเป็นทางการ รองรับอุปกรณ์อย่าง Apple Silicon และ Raspberry Pi ที่ใช้ UEFI ทำให้ระบบนี้ก้าวเข้าสู่โลก ARM อย่างเต็มตัว พร้อมแอปพื้นฐานที่ได้รับการปรับปรุง เช่น Maps, Monitor, Music และ GNOME Web 48.3 ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม ถือเป็นอัปเดตที่ทั้งเบา ลื่น และทันสมัยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    อัปเดตด้านประสบการณ์ผู้ใช้ (UI/UX)
    Dock ใหม่รองรับ Workspace Switcher และ Background Portal
    Dark Mode แบบ “snooze” และการปรับปรุง Reduce Motion
    Accessibility ดีขึ้นจนผู้พิการทางสายตาติดตั้งระบบได้เอง

    AppCenter ฉลาดขึ้น
    แสดงคะแนนรีวิวแบบเปอร์เซ็นต์จาก ODRS
    จัดเรียงแอปตามวันที่อัปเดต และแสดงป้าย In-app purchase

    ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
    Secure Session เป็นค่าเริ่มต้น
    หน้าต่างใส่รหัสผ่านป้องกันการขโมยโฟกัส

    ระบบอัปเดตที่เสถียรและไม่รบกวน
    แสดงขนาดไฟล์ก่อนดาวน์โหลด
    ไม่ดาวน์โหลดอัตโนมัติบนเครือข่ายแบบจำกัดข้อมูล

    รองรับ ARM64 อย่างเป็นทางการ
    ใช้งานได้บน Apple Silicon และ Raspberry Pi ที่รองรับ UEFI

    ข้อควรระวัง / จุดที่ผู้ใช้อาจต้องรู้ก่อนอัปเดต
    Secure Session อาจทำให้บางแอปเก่าหรือไดรเวอร์ไม่รองรับ
    ARM64 ยังอาจมีแอปบางตัวที่ไม่พร้อมใช้งานเต็มรูปแบบ
    การเปลี่ยนแปลง UI อาจทำให้ผู้ใช้เก่าต้องปรับตัวเล็กน้อย

    https://itsfoss.com/news/elementary-os-8-1-release/
    🖥️ elementary OS 8.1 ออกแล้ว: อัปเกรดครั้งใหญ่เพื่อความลื่นไหลและปลอดภัยกว่าเดิม elementary OS 8.1 มาพร้อมการปรับปรุงครั้งสำคัญที่เน้นประสบการณ์ผู้ใช้ ความปลอดภัย และความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ยุคใหม่ โดยอัปเดตนี้สร้างบนฐาน Ubuntu 24.04 LTS ทำให้ระบบมีความเสถียรและรองรับอุปกรณ์ได้กว้างขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ทีมพัฒนาได้แก้ไขปัญหามากกว่า 1,100 รายการจากเสียงสะท้อนของผู้ใช้ ทำให้เวอร์ชันนี้เป็นหนึ่งในอัปเดตที่ “เนียนที่สุด” ของ elementary OS ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา. ในด้านประสบการณ์ใช้งาน ผู้ใช้จะได้พบกับ Dock ที่ฉลาดขึ้น การจัดการ Workspace ที่สะดวกกว่าเดิม และฟีเจอร์ Background Portal ที่ช่วยให้เห็นว่าแอปใดกำลังทำงานอยู่เบื้องหลังอย่างโปร่งใส รวมถึงการปรับปรุงด้าน Accessibility ที่ทำให้ผู้พิการทางสายตาสามารถติดตั้งระบบได้ด้วยตัวเองอย่างสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของระบบปฏิบัติการสายดีไซน์นี้. ด้านความปลอดภัย Secure Session ถูกตั้งเป็นค่าเริ่มต้น ทำให้การใช้งานทั่วไปปลอดภัยขึ้น เช่น หน้าต่างยืนยันรหัสผ่านที่ป้องกันการขโมยโฟกัสจากแอปอื่น และระบบอัปเดตที่ฉลาดขึ้น ไม่รบกวนผู้ใช้ และไม่กินเน็ตบนเครือข่ายแบบจำกัดข้อมูล ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิด “ปลอดภัยแต่ไม่รบกวน” ที่ elementary OS ยึดถือมาโดยตลอด. สุดท้าย elementary OS 8.1 ยังเปิดตัวเวอร์ชัน ARM64 อย่างเป็นทางการ รองรับอุปกรณ์อย่าง Apple Silicon และ Raspberry Pi ที่ใช้ UEFI ทำให้ระบบนี้ก้าวเข้าสู่โลก ARM อย่างเต็มตัว พร้อมแอปพื้นฐานที่ได้รับการปรับปรุง เช่น Maps, Monitor, Music และ GNOME Web 48.3 ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม ถือเป็นอัปเดตที่ทั้งเบา ลื่น และทันสมัยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ อัปเดตด้านประสบการณ์ผู้ใช้ (UI/UX) ➡️ Dock ใหม่รองรับ Workspace Switcher และ Background Portal ➡️ Dark Mode แบบ “snooze” และการปรับปรุง Reduce Motion ➡️ Accessibility ดีขึ้นจนผู้พิการทางสายตาติดตั้งระบบได้เอง ✅ AppCenter ฉลาดขึ้น ➡️ แสดงคะแนนรีวิวแบบเปอร์เซ็นต์จาก ODRS ➡️ จัดเรียงแอปตามวันที่อัปเดต และแสดงป้าย In-app purchase ✅ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ➡️ Secure Session เป็นค่าเริ่มต้น ➡️ หน้าต่างใส่รหัสผ่านป้องกันการขโมยโฟกัส ✅ ระบบอัปเดตที่เสถียรและไม่รบกวน ➡️ แสดงขนาดไฟล์ก่อนดาวน์โหลด ➡️ ไม่ดาวน์โหลดอัตโนมัติบนเครือข่ายแบบจำกัดข้อมูล ✅ รองรับ ARM64 อย่างเป็นทางการ ➡️ ใช้งานได้บน Apple Silicon และ Raspberry Pi ที่รองรับ UEFI ‼️ ข้อควรระวัง / จุดที่ผู้ใช้อาจต้องรู้ก่อนอัปเดต ⛔ Secure Session อาจทำให้บางแอปเก่าหรือไดรเวอร์ไม่รองรับ ⛔ ARM64 ยังอาจมีแอปบางตัวที่ไม่พร้อมใช้งานเต็มรูปแบบ ⛔ การเปลี่ยนแปลง UI อาจทำให้ผู้ใช้เก่าต้องปรับตัวเล็กน้อย https://itsfoss.com/news/elementary-os-8-1-release/
    ITSFOSS.COM
    Christmas Comes Early With elementary OS 8.1 Release
    Based on Ubuntu 24.04 LTS with Secure Session as default and many other improvements.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts