• “โรม” เผย กมธ.ได้ความคืบหน้าปม “ทักษิณ” มีหลายโรค-จ่ายค่ารักษาเองล้านกว่า “ทวี” ยอมรับไม่เคยเหยียบชั้น14 ตรวจสอบทำตามระเบียบหรือไม่ แต่มีแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ตรวจก่อนส่ง รพ.ตำรวจ เตรียมบุกชั้น 14 ค้นหาความจริงต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112400

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “โรม” เผย กมธ.ได้ความคืบหน้าปม “ทักษิณ” มีหลายโรค-จ่ายค่ารักษาเองล้านกว่า “ทวี” ยอมรับไม่เคยเหยียบชั้น14 ตรวจสอบทำตามระเบียบหรือไม่ แต่มีแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ตรวจก่อนส่ง รพ.ตำรวจ เตรียมบุกชั้น 14 ค้นหาความจริงต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112400 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    3
    1 Comments 0 Shares 575 Views 0 Reviews
  • “โรม” กวักมือเรียก “ทักษิณ” เข้าแจง กมธ.ความมั่นคงฯ พิสูจน์ความบริสุทธิ์ ปมนอนชั้น 14 จะเป็นประโยชน์กับตระกูลชินฯ และรัฐบาล ลั่นถ้าป่วยจริง ไม่ได้ใช้บารมี เรื่องก็จบ ปัดวิจารณ์ปม “ยิ่งลักษณ์” เตรียมกลับบ้าน แต่หากใช้วิธีพิสดารก็รับไม่ได้

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000111952

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “โรม” กวักมือเรียก “ทักษิณ” เข้าแจง กมธ.ความมั่นคงฯ พิสูจน์ความบริสุทธิ์ ปมนอนชั้น 14 จะเป็นประโยชน์กับตระกูลชินฯ และรัฐบาล ลั่นถ้าป่วยจริง ไม่ได้ใช้บารมี เรื่องก็จบ ปัดวิจารณ์ปม “ยิ่งลักษณ์” เตรียมกลับบ้าน แต่หากใช้วิธีพิสดารก็รับไม่ได้ อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000111952 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    9
    0 Comments 0 Shares 1088 Views 0 Reviews
  • 21.05.22 แผ่นดินไหวทางเหนือของ
    สฟาลบาร์ด - ทางเข้าสู่โลกกลวงด้านใน

    พื้นหลังของกรีนแลนด์เป็นอย่างไร

    ใต้กรีนแลนด์มีสุสานขนาดใหญ่และสำนักงานใหญ่ของจักรวรรดิโรมันองค์สุดท้ายอยู่ติดกับวาติกัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมวาติกันและเยอรมนีจึงเชื่อมโยงกันโดยตรง
    สิ่งนี้ทำให้จุด/ปริศนาต่างๆ เชื่อมโยงกัน
    >>>>
    🔥 ทฤษฎีกรีนแลนด์ การเล่นแร่แปรธาตุ สัญลักษณ์ของฟรีเมสัน และผู้ปกครองโลก🔥
    --->>>
    https://rumble.com/v2kljfu-amy-says-wtf-the-greenland-theory-alchemy-freemason-symbolism.html

    🔥ทฤษฎีกรีนแลนด์ ดาวน์โหลด
    --->>>
    https://t.me/DUMBSandUnderground/16329

    🔥แผ่นดินไหวในอดีต
    --->>>
    https://t.me/DUMBSandUnderground/12443

    21.04.22 แผ่นดินไหวใน กรีนแลนด์
    --->>>
    https://t.me/DUMBSandUnderground/26623
    --->>>
    https://t.me/DUMBSandUnderground/27049

    21.03.22 จักรวรรดิโรมันในกรีนแลนด์ผ่านเจนีวาถูกเปิดโปง
    --->>>
    https://t.me/DUMBSandUnderground/25955

    ค้นหาในช่องนี้: กรีนแลนด์ วาติกัน จักรพรรดิโรมัน

    ---------------------------------------
    ⚔ สงครามที่มองไม่เห็น ⚔
    @DUMBSandUNDERGROUND
    @DUMBSandCLONING
    ช่วยลูกหลานของเรา
    @EXPOSEthePEDOSendOfTheCABAL
    ---------------------------------------
    21.05.22 แผ่นดินไหวทางเหนือของ สฟาลบาร์ด - ทางเข้าสู่โลกกลวงด้านใน พื้นหลังของกรีนแลนด์เป็นอย่างไร ใต้กรีนแลนด์มีสุสานขนาดใหญ่และสำนักงานใหญ่ของจักรวรรดิโรมันองค์สุดท้ายอยู่ติดกับวาติกัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมวาติกันและเยอรมนีจึงเชื่อมโยงกันโดยตรง สิ่งนี้ทำให้จุด/ปริศนาต่างๆ เชื่อมโยงกัน >>>> 🔥 ทฤษฎีกรีนแลนด์ การเล่นแร่แปรธาตุ สัญลักษณ์ของฟรีเมสัน และผู้ปกครองโลก🔥 --->>> https://rumble.com/v2kljfu-amy-says-wtf-the-greenland-theory-alchemy-freemason-symbolism.html 🔥ทฤษฎีกรีนแลนด์ ดาวน์โหลด --->>> https://t.me/DUMBSandUnderground/16329 🔥แผ่นดินไหวในอดีต --->>> https://t.me/DUMBSandUnderground/12443 21.04.22 แผ่นดินไหวใน กรีนแลนด์ --->>> https://t.me/DUMBSandUnderground/26623 --->>> https://t.me/DUMBSandUnderground/27049 21.03.22 จักรวรรดิโรมันในกรีนแลนด์ผ่านเจนีวาถูกเปิดโปง --->>> https://t.me/DUMBSandUnderground/25955 ค้นหาในช่องนี้: กรีนแลนด์ วาติกัน จักรพรรดิโรมัน --------------------------------------- ⚔ สงครามที่มองไม่เห็น ⚔ @DUMBSandUNDERGROUND @DUMBSandCLONING ช่วยลูกหลานของเรา @EXPOSEthePEDOSendOfTheCABAL ---------------------------------------
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • ช่วงนี้ ทั้งสมมุติสงฆ์ ทั้งฆราวาส...ออกมาอ้างอิง คำสอนของพระพุทธเจ้า กันเป็นแถว...
    ...ส่วนตัวเคารพนับถือพระพุทธเจ้าแน่นอน...
    แต่ ....หลักคิดส่วนตัว....บางอย่าง...ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าจริงไหม? .....มาดูความเป็นจริงกัน....พระไตรปิฎก ถูกสังคายนา 9-10 ครั้ง....ซึ่งในแต่ละครั้ง..มีเรื่อง อำนาจ ชนชั้น และสิ่งแวดล้อมอื่นมาเจอปน..เช่น ความเห็น มุมมอง ทัศนคติ ไม่นับถึงการตีความที่อาจไม่ถูกต้อง ของคณะผู้สังคายนา....เราจะรู้ได้อย่างไร...ว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าจริง.....พระพุทธศาสนา หายไปจากอินเดีย จนต้องไปเอาบันทึกเก่าจากจีน มาคัดลอก...และสังคายนาขึ้นมาใหม่... (จีนเป็นชาติเดียวในโลก ที่คงความเป็นชาติ และมีบันทึกสืบต่อกันมาหลายพันปี อารยธรรมที่ร่วมยุคกัน เช่น กรีก โรมัน ไอยคุปต์ ล้วนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว) .....
    ...ฉะนั้น (ส่วนตัวผู้เขียน) ไม่ต้องถกเถียงกัน...เอาความคิดเราเข้าไปประมวลผลดู ..ถ้าสิ่งนั้น ดำเนินไปควบคู่กับชีวิตเราได้...แบบไม่ลำบาก ...ก็เลือกเอาสิ่งนี้น...
    ....ชีวิตคนหนึ่งคน...ไม่ใช่มีแค่ปลายทาง..เท่านั้น.ว่าจะไปไหน...ระหว่างทางก็สำคัญ........
    #เชื่อในกรรมทั้งดีและชั่วให้ผลแน่นอน#
    ช่วงนี้ ทั้งสมมุติสงฆ์ ทั้งฆราวาส...ออกมาอ้างอิง คำสอนของพระพุทธเจ้า กันเป็นแถว... ...ส่วนตัวเคารพนับถือพระพุทธเจ้าแน่นอน... แต่ ....หลักคิดส่วนตัว....บางอย่าง...ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าจริงไหม? .....มาดูความเป็นจริงกัน....พระไตรปิฎก ถูกสังคายนา 9-10 ครั้ง....ซึ่งในแต่ละครั้ง..มีเรื่อง อำนาจ ชนชั้น และสิ่งแวดล้อมอื่นมาเจอปน..เช่น ความเห็น มุมมอง ทัศนคติ ไม่นับถึงการตีความที่อาจไม่ถูกต้อง ของคณะผู้สังคายนา....เราจะรู้ได้อย่างไร...ว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าจริง.....พระพุทธศาสนา หายไปจากอินเดีย จนต้องไปเอาบันทึกเก่าจากจีน มาคัดลอก...และสังคายนาขึ้นมาใหม่... (จีนเป็นชาติเดียวในโลก ที่คงความเป็นชาติ และมีบันทึกสืบต่อกันมาหลายพันปี อารยธรรมที่ร่วมยุคกัน เช่น กรีก โรมัน ไอยคุปต์ ล้วนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว) ..... ...ฉะนั้น (ส่วนตัวผู้เขียน) ไม่ต้องถกเถียงกัน...เอาความคิดเราเข้าไปประมวลผลดู ..ถ้าสิ่งนั้น ดำเนินไปควบคู่กับชีวิตเราได้...แบบไม่ลำบาก ...ก็เลือกเอาสิ่งนี้น... ....ชีวิตคนหนึ่งคน...ไม่ใช่มีแค่ปลายทาง..เท่านั้น.ว่าจะไปไหน...ระหว่างทางก็สำคัญ........ #เชื่อในกรรมทั้งดีและชั่วให้ผลแน่นอน#
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • 😍 เรียนฟรี!!!!

    ....ใช่จ้า อ่านไม่ผิด เรียนฟรีที่นี่ ร้าน Telvada กับ คลาสผสมน้ำหอมออแกนิค โดยผู้เชี่ยวชาญด้านอโรม่าเธอราพี ที่จบจากศาสตร์น้ำมันหอมระเหยที่นิวยอร์ก เป็นผู้สอน...

    ...เมื่อสั่งซื้อสินค้าครบ 5,000 บาท สามารถมาเรียนฟรีได้เลย เรียนจบแล้ว ยังสามารถต่อยอดผลิตขายได้เลยจ้า...

    ...เฉพาะเดือนพฤศจิกายนนี้นะ ใกล้เทศกาลปีใหม่ คิดไม่ออกเรื่องของขวัญ ผลิตน้ำหอมแทนใจให้กับผู้ที่เรารักได้น่ะจ๊ะ...

    ..LINE : @telvada

    ..น้ำมันหอมระเหยของร้าน Telvada เป็นเกรดออแกนิคแท้ 100 %...

    #telvada #essentialoils #everydayuse #น้ำมันหอมระเหย #สังคมต้องรู้ #tiktokuni #tiktokuni_th #aromatherapy #รู้หรือไม่ #tiktokแนะแนว #fyp #viral #tiktokthailand #foryourpage #fypシ#thaitimes
    😍 เรียนฟรี!!!! ....ใช่จ้า อ่านไม่ผิด เรียนฟรีที่นี่ ร้าน Telvada กับ คลาสผสมน้ำหอมออแกนิค โดยผู้เชี่ยวชาญด้านอโรม่าเธอราพี ที่จบจากศาสตร์น้ำมันหอมระเหยที่นิวยอร์ก เป็นผู้สอน... ...เมื่อสั่งซื้อสินค้าครบ 5,000 บาท สามารถมาเรียนฟรีได้เลย เรียนจบแล้ว ยังสามารถต่อยอดผลิตขายได้เลยจ้า... ...เฉพาะเดือนพฤศจิกายนนี้นะ ใกล้เทศกาลปีใหม่ คิดไม่ออกเรื่องของขวัญ ผลิตน้ำหอมแทนใจให้กับผู้ที่เรารักได้น่ะจ๊ะ... ..LINE : @telvada ..น้ำมันหอมระเหยของร้าน Telvada เป็นเกรดออแกนิคแท้ 100 %... #telvada #essentialoils #everydayuse #น้ำมันหอมระเหย #สังคมต้องรู้ #tiktokuni #tiktokuni_th #aromatherapy #รู้หรือไม่ #tiktokแนะแนว #fyp #viral #tiktokthailand #foryourpage #fypシ゚ #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 680 Views 0 Reviews
  • 'กมธ.มั่นคง' กุมขมับ หน่วยงานรัฐตีกรรเชียง ไม่ให้ข้อมูลกรณีชั้น 14
    .
    การสืบสาวราวของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นที่พักพิงแทนเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร นั้น ปรากฎว่าคณะกรรมาธิการฯ ใกล้เคียงกับคำว่าคว้าน้ำเหลวเข้าไปทุกที
    .
    ทั้งนี้ เป็นเพราะไม่มีหน่วยงานของรัฐให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล หรือแม้แต่บุคคลสำคัญอย่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. รวมไปถึง พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งคณะกรรมาธิการฯคาดว่าจะมาให้ข้อมูล สุดท้ายคดีพลิก เนื่องจากไม่ได้มาร่วมประชุมแต่อย่างใด
    .
    นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ยอมรับว่า ตลอดการทำหน้าที่ของประธาน กมธ. 53 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการน้อยที่สุด และหน่วยงานราชการไม่อยากจะตอบอะไร ทำให้ความสงสัยของสังคมกรณีชั้น 14 ก็คงจะต้องมีอยู่ต่อไป
    .
    "ความจำเป็นที่จะหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป ตนเชื่อว่า ศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทุกฝ่ายต้องมีส่วนช่วยให้กระบวนการยุติธรรมของเราได้รับความเชื่อมั่นอย่างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" นายรังสิมันต์ ระบุ
    .
    ขณะที่ การประชุมคณะกรรมาธิการฯ มีเพียงการมาให้ข้อมูลของอดีตผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจอย่าง พล.ต.ต.สรวุฒิ เหล่ารัตนวรพงษ์ อดีตรองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แต่คณะกรรมาธิการฯก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก เนื่องจากอดีตนายตำรวจรายนี้ แจ้งเพียงว่า ช่วงที่ทำหน้าที่เป็นรองนายแพทย์ใหญ่ ไม่ทราบข้อมูลผู้ป่วย เพราะกำลังทำเรื่องเออรี่รีไทร์ และพักร้อนในช่วงนั้น เมื่อมีหนังสือส่งตัวมาให้รักษา เราก็รักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะผู้ป่วยและความเห็นของแพทย์ที่ดูแลด้วย โดยส่วนตัวเชี่ยวชาญด้านผ่าตัดผ่านกล้อง ไม่ได้เป็นผู้ผ่าตัดนายทักษิณ ส่วนนายทักษิณจะผ่าตัดหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ เพราะตอนนั้นลาพักร้อน 3 สัปดาห์ ส่วนการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจจะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับภาวะของโรค ส่วนตัวไม่เคยไปรักษาชั้น 14 ไม่สามารถตอบได้ ขณะที่เรื่องการบันทึกภาพระหว่างรักษาตัว ก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่จากประสบการณ์ที่เคยรักษาผู้ต้องขังนั้น ไม่เคยเห็นต้องบันทึกภาพ
    ..............
    Sondhi X
    'กมธ.มั่นคง' กุมขมับ หน่วยงานรัฐตีกรรเชียง ไม่ให้ข้อมูลกรณีชั้น 14 . การสืบสาวราวของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นที่พักพิงแทนเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร นั้น ปรากฎว่าคณะกรรมาธิการฯ ใกล้เคียงกับคำว่าคว้าน้ำเหลวเข้าไปทุกที . ทั้งนี้ เป็นเพราะไม่มีหน่วยงานของรัฐให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล หรือแม้แต่บุคคลสำคัญอย่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. รวมไปถึง พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งคณะกรรมาธิการฯคาดว่าจะมาให้ข้อมูล สุดท้ายคดีพลิก เนื่องจากไม่ได้มาร่วมประชุมแต่อย่างใด . นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ยอมรับว่า ตลอดการทำหน้าที่ของประธาน กมธ. 53 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการน้อยที่สุด และหน่วยงานราชการไม่อยากจะตอบอะไร ทำให้ความสงสัยของสังคมกรณีชั้น 14 ก็คงจะต้องมีอยู่ต่อไป . "ความจำเป็นที่จะหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป ตนเชื่อว่า ศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทุกฝ่ายต้องมีส่วนช่วยให้กระบวนการยุติธรรมของเราได้รับความเชื่อมั่นอย่างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" นายรังสิมันต์ ระบุ . ขณะที่ การประชุมคณะกรรมาธิการฯ มีเพียงการมาให้ข้อมูลของอดีตผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจอย่าง พล.ต.ต.สรวุฒิ เหล่ารัตนวรพงษ์ อดีตรองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แต่คณะกรรมาธิการฯก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก เนื่องจากอดีตนายตำรวจรายนี้ แจ้งเพียงว่า ช่วงที่ทำหน้าที่เป็นรองนายแพทย์ใหญ่ ไม่ทราบข้อมูลผู้ป่วย เพราะกำลังทำเรื่องเออรี่รีไทร์ และพักร้อนในช่วงนั้น เมื่อมีหนังสือส่งตัวมาให้รักษา เราก็รักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะผู้ป่วยและความเห็นของแพทย์ที่ดูแลด้วย โดยส่วนตัวเชี่ยวชาญด้านผ่าตัดผ่านกล้อง ไม่ได้เป็นผู้ผ่าตัดนายทักษิณ ส่วนนายทักษิณจะผ่าตัดหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ เพราะตอนนั้นลาพักร้อน 3 สัปดาห์ ส่วนการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจจะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับภาวะของโรค ส่วนตัวไม่เคยไปรักษาชั้น 14 ไม่สามารถตอบได้ ขณะที่เรื่องการบันทึกภาพระหว่างรักษาตัว ก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่จากประสบการณ์ที่เคยรักษาผู้ต้องขังนั้น ไม่เคยเห็นต้องบันทึกภาพ .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 693 Views 0 Reviews
  • ภาพประธานาธิบดีโรมาเนีย Klaus Lohannis มาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดประชาคมการเมืองยุโรปในกรุง Budapest แต่ไม่ต้องการจับมือทักทายผู้นำฮังการีตามธรรมเนียม

    ดูท่าทางของ "วิกเตอร์ ออร์บัน" เขาสนุกกับการได้เห็นทักษะการทูตของเด็กอนุบาล 4 ขวบ

    มีความตึงเครียดทางประวัติศาสตร์ระหว่างโรมาเนียและฮังการีมายาวนานเกี่ยวกับภูมิภาคทรานซิลเวเนียของโรมาเนียซึ่งมีชนกลุ่มน้อยชาวฮังการีจำนวนมากอาศัยอยู่ รัฐบาลของ Orban สนับสนุนการเรียกร้องเอกราชในทรานซิลเวเนีย
    ภาพประธานาธิบดีโรมาเนีย Klaus Lohannis มาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดประชาคมการเมืองยุโรปในกรุง Budapest แต่ไม่ต้องการจับมือทักทายผู้นำฮังการีตามธรรมเนียม ดูท่าทางของ "วิกเตอร์ ออร์บัน" เขาสนุกกับการได้เห็นทักษะการทูตของเด็กอนุบาล 4 ขวบ มีความตึงเครียดทางประวัติศาสตร์ระหว่างโรมาเนียและฮังการีมายาวนานเกี่ยวกับภูมิภาคทรานซิลเวเนียของโรมาเนียซึ่งมีชนกลุ่มน้อยชาวฮังการีจำนวนมากอาศัยอยู่ รัฐบาลของ Orban สนับสนุนการเรียกร้องเอกราชในทรานซิลเวเนีย
    0 Comments 0 Shares 124 Views 20 0 Reviews
  • คนใกล้ตัวตั้มแฉ ทนายคนดังหัวหมอ งัดสกุลเงินยูโรมาต่อรอง ขอกินฉี่เพียง 2 แก้ว จาก 2 ล้านยูโร ไม่กิน 71 แก้ว ตามสกุลเงินบาท 71 ล้าน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    คนใกล้ตัวตั้มแฉ ทนายคนดังหัวหมอ งัดสกุลเงินยูโรมาต่อรอง ขอกินฉี่เพียง 2 แก้ว จาก 2 ล้านยูโร ไม่กิน 71 แก้ว ตามสกุลเงินบาท 71 ล้าน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 388 Views 0 Reviews
  • การสังหารหมู่กำลังดำเนินไป: ชนชั้นสูงกำลังทำให้โลกลดจำนวนประชากรอย่างแข็งขัน—คลาว ชะแว๊บ, Chemtrails และอาวุธชีวภาพ: แผนของ WEF ที่จะกวาดล้างผู้คนนับพันล้านถูกเปิดโปง!

    วาระการลดจำนวนประชากรของ WEF ไม่ใช่ภัยคุกคามที่อยู่ห่างไกล แต่มันเกิดขึ้นที่นี่และตอนนี้ในทุกวิกฤตที่เขย่าโลกของเรา นี่คือสงครามเต็มรูปแบบกับมนุษยชาติ และคุณคือเป้าหมาย

    พวกเขาได้ปลดปล่อยอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดเรา—อย่างช้าๆ แอบๆ และไม่ลดละ W0rld Ec0n0my F0room, คลาว ชะแว๊บ และผู้ควบคุมเงาของพวกเขาได้วางแผนชั่วร้ายที่ซ่อนเร้นอยู่ในที่แจ้งชัด

    การปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ? นี่ไม่ใช่ "การหว่านเมฆ"; พวกเขากำลังบงการพายุ ภัยแล้ง ไฟป่าด้วยเทคโนโลยีระดับทหารเพื่อทำให้ประเทศไม่มั่นคง ทำลายพืชผล และทำให้มวลชนอดอยาก ทุกพายุเฮอริเคน ทุกภัยพิบัติ—ออกแบบมาเพื่อควบคุมจำนวนประชากร
    การย้ายถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมาย? ไม่ใช่เรื่องของ “ผู้ลี้ภัย” แต่เป็นการรุกรานที่ออกแบบมาให้ระบบทำงานหนักเกินไปและทำให้เศรษฐกิจไม่มั่นคง ทำให้มีคนต่อต้านน้อยลง ความวุ่นวาย ความไม่มั่นคง และการเกิดน้อยลง—เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน

    ฟลูออไรด์ในน้ำของคุณ? มันไม่เหมาะกับฟันของคุณ การสัมผัสเป็นเวลานานจะทำให้ไอคิวลดลง ลดการเจริญพันธุ์ และรับรองการปฏิบัติตาม คนรุ่นต่อรุ่นกำลังกลายเป็นแกะที่เป็นหมันและเชื่อง และระดับไอคิวก็ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อภาวะมีบุตรยากเพิ่มขึ้น

    ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการรวมกลุ่ม (DEI) ไม่เกี่ยวกับความยุติธรรม แต่เป็นอาวุธทางจิตวิทยาเพื่อแบ่งแยกสังคม ทำลายค่านิยม และหยุดการเติบโตของประชากร นี่คือสงครามเพื่อความสามัคคีและครอบครัว

    มาพูดถึงจีเอ็มโอกันดีกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พืชผลที่ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างอาวุธเพื่อทำลายสุขภาพและความอุดมสมบูรณ์ โรคเรื้อรังไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรแห่งความตายที่ขับเคลื่อนโดยบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งขายโรคและ "การรักษา"

    Chemtrails? ร่องรอยบนท้องฟ้าเหล่านั้นไม่ใช่เชื้อเพลิงเครื่องบิน แต่เป็นการโจมตีด้วยละอองลอยที่มีสารพิษร้ายแรง เช่น แบเรียมและอะลูมิเนียม โปรยปรายลงมาบนเมือง ทุกลมหายใจทำให้เราเข้าใกล้หลุมศพก่อนวัยอันควร ทำให้ประชากรป่วยและปฏิบัติตาม

    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่เป็นกลวิธีควบคุม ตำนานเรื่องรอยเท้าคาร์บอนมีไว้เพื่อทำให้เรารู้สึกผิดและตกอยู่ในความยากจน ทำให้เราต้องพึ่งพาระบบของชนชั้นนำ พวกเขากำลังทำให้เราเป็นทาสภายใต้หน้ากากของลัทธิอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

    ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เป็นเพียงการทดลอง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังทำให้ความยากจนทั่วโลกแย่ลง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตที่อยู่อาศัย ราคาอาหารที่ถูกบิดเบือน เงินเฟ้อ พวกเขาต้องการให้เราหมดตัวและไม่สามารถต้านทานได้

    และเครื่องมือที่อันตรายที่สุด? อาวุธชีวภาพ โรค "อุบัติใหม่"? การปล่อยโรคตามแผน โควิดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คลื่นลูกต่อไปจะมุ่งเป้าไปที่เครื่องหมายทางพันธุกรรม ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน พวกเขายังต้องนั่งหลบภัยอย่างปลอดภัยในบังเกอร์ โดยเฝ้าดูความโกลาหลที่เกิดขึ้น

    อาณาจักรสื่อของพวกเขายกย่องความเสื่อมโทรม โรคทางจิต การล่มสลายของครอบครัว ฮอลลีวูด เครื่องจักรโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาทั้งหมดเข้ามาเกี่ยวข้องและผลักดันวัฒนธรรมแห่งความเสื่อมโทรม

    แผนการลดจำนวนประชากรโลกในปี 2000 กำลังดำเนินไป โดยมีรากฐานที่หยั่งรากลึก—ตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ คิสซิงเจอร์ สโมสรแห่งโรม คลาว ชะแว๊บ ซึ่งเป็นใบหน้าล่าสุดของวาระนี้ เป็นผู้สานต่อ

    นี่ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นเรื่องจริง และมันอยู่ที่นี่ ตื่นได้แล้ว! พายุมาถึงแล้ว และมันกำลังมาหาเราทุกคน
    การสังหารหมู่กำลังดำเนินไป: ชนชั้นสูงกำลังทำให้โลกลดจำนวนประชากรอย่างแข็งขัน—คลาว ชะแว๊บ, Chemtrails และอาวุธชีวภาพ: แผนของ WEF ที่จะกวาดล้างผู้คนนับพันล้านถูกเปิดโปง! วาระการลดจำนวนประชากรของ WEF ไม่ใช่ภัยคุกคามที่อยู่ห่างไกล แต่มันเกิดขึ้นที่นี่และตอนนี้ในทุกวิกฤตที่เขย่าโลกของเรา นี่คือสงครามเต็มรูปแบบกับมนุษยชาติ และคุณคือเป้าหมาย พวกเขาได้ปลดปล่อยอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดเรา—อย่างช้าๆ แอบๆ และไม่ลดละ W0rld Ec0n0my F0room, คลาว ชะแว๊บ และผู้ควบคุมเงาของพวกเขาได้วางแผนชั่วร้ายที่ซ่อนเร้นอยู่ในที่แจ้งชัด การปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ? นี่ไม่ใช่ "การหว่านเมฆ"; พวกเขากำลังบงการพายุ ภัยแล้ง ไฟป่าด้วยเทคโนโลยีระดับทหารเพื่อทำให้ประเทศไม่มั่นคง ทำลายพืชผล และทำให้มวลชนอดอยาก ทุกพายุเฮอริเคน ทุกภัยพิบัติ—ออกแบบมาเพื่อควบคุมจำนวนประชากร การย้ายถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมาย? ไม่ใช่เรื่องของ “ผู้ลี้ภัย” แต่เป็นการรุกรานที่ออกแบบมาให้ระบบทำงานหนักเกินไปและทำให้เศรษฐกิจไม่มั่นคง ทำให้มีคนต่อต้านน้อยลง ความวุ่นวาย ความไม่มั่นคง และการเกิดน้อยลง—เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน ฟลูออไรด์ในน้ำของคุณ? มันไม่เหมาะกับฟันของคุณ การสัมผัสเป็นเวลานานจะทำให้ไอคิวลดลง ลดการเจริญพันธุ์ และรับรองการปฏิบัติตาม คนรุ่นต่อรุ่นกำลังกลายเป็นแกะที่เป็นหมันและเชื่อง และระดับไอคิวก็ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อภาวะมีบุตรยากเพิ่มขึ้น ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการรวมกลุ่ม (DEI) ไม่เกี่ยวกับความยุติธรรม แต่เป็นอาวุธทางจิตวิทยาเพื่อแบ่งแยกสังคม ทำลายค่านิยม และหยุดการเติบโตของประชากร นี่คือสงครามเพื่อความสามัคคีและครอบครัว มาพูดถึงจีเอ็มโอกันดีกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พืชผลที่ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างอาวุธเพื่อทำลายสุขภาพและความอุดมสมบูรณ์ โรคเรื้อรังไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรแห่งความตายที่ขับเคลื่อนโดยบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งขายโรคและ "การรักษา" Chemtrails? ร่องรอยบนท้องฟ้าเหล่านั้นไม่ใช่เชื้อเพลิงเครื่องบิน แต่เป็นการโจมตีด้วยละอองลอยที่มีสารพิษร้ายแรง เช่น แบเรียมและอะลูมิเนียม โปรยปรายลงมาบนเมือง ทุกลมหายใจทำให้เราเข้าใกล้หลุมศพก่อนวัยอันควร ทำให้ประชากรป่วยและปฏิบัติตาม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่เป็นกลวิธีควบคุม ตำนานเรื่องรอยเท้าคาร์บอนมีไว้เพื่อทำให้เรารู้สึกผิดและตกอยู่ในความยากจน ทำให้เราต้องพึ่งพาระบบของชนชั้นนำ พวกเขากำลังทำให้เราเป็นทาสภายใต้หน้ากากของลัทธิอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เป็นเพียงการทดลอง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังทำให้ความยากจนทั่วโลกแย่ลง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตที่อยู่อาศัย ราคาอาหารที่ถูกบิดเบือน เงินเฟ้อ พวกเขาต้องการให้เราหมดตัวและไม่สามารถต้านทานได้ และเครื่องมือที่อันตรายที่สุด? อาวุธชีวภาพ โรค "อุบัติใหม่"? การปล่อยโรคตามแผน โควิดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คลื่นลูกต่อไปจะมุ่งเป้าไปที่เครื่องหมายทางพันธุกรรม ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน พวกเขายังต้องนั่งหลบภัยอย่างปลอดภัยในบังเกอร์ โดยเฝ้าดูความโกลาหลที่เกิดขึ้น อาณาจักรสื่อของพวกเขายกย่องความเสื่อมโทรม โรคทางจิต การล่มสลายของครอบครัว ฮอลลีวูด เครื่องจักรโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาทั้งหมดเข้ามาเกี่ยวข้องและผลักดันวัฒนธรรมแห่งความเสื่อมโทรม แผนการลดจำนวนประชากรโลกในปี 2000 กำลังดำเนินไป โดยมีรากฐานที่หยั่งรากลึก—ตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ คิสซิงเจอร์ สโมสรแห่งโรม คลาว ชะแว๊บ ซึ่งเป็นใบหน้าล่าสุดของวาระนี้ เป็นผู้สานต่อ นี่ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นเรื่องจริง และมันอยู่ที่นี่ ตื่นได้แล้ว! พายุมาถึงแล้ว และมันกำลังมาหาเราทุกคน
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews
  • ความไม่ชอบมาพากลของการเลือกตั้งประธานาธิบดีมอลโดวา แต่ยุโรปรับรองว่าเป็นไปโดยสุจริตและเป็นประชาธิปไตย

    ภาพวิดีโอเผยให้เห็นว่าประชาชนชาวมอลโดวามารอลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่สถานกงศุลในรัสเซีย แต่รัฐบาลมอลโดวาส่งบัตรลงคะแนนมาเพียง 10,000 ใบเท่านั้น และมีหน่วยลงคะแนนเสียงเพียงสองหน่วย จากตัวเลขชาวมอลโดวาทั้งหมด 500,000 คน ทำให้มีคนไม่ได้ลงคะแนนเป็นจำนวนมาก

    มอลโดวามีพลเมือง 2.5 ล้านคน เป็นผู้อพยพอยู่ในต่างแดนอีก 1.2 ล้านคนที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง จึงมีความสำคัญต่อคะแนนเสียงของนางไมอา ซานดู

    ในขณะที่ชาวมอลโดวาอยู่ในรัสเซีย 500,000 คน และเขตปกครองพิเศษทรานส์นีสเตรียอีก 450,000 คน ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ในโรมาเนีย เยอรมนี และปะเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นๆ นี่จึงเป็นที่มาของการจำกัดบัตรลงคะแนนเลือกตั้งในรัสเซีย

    รัฐบาลรักษาการของมอลโดวานำโดยนางไมอา ซานดู มีข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มผู้อพยพที่อยู่ในรัสเซีย และพยายามขัดขวางกลุ่มคนที่ “ต่อต้านสหภาพยุโรป แต่นิยมรัสเซีย” ไม่ให้ลงคะแนนเสียง การจำกัดบัตรลงคะแนนเพียงหนึ่งหมื่นใบในรัสเซีย นั่นคือเหตุผล

    ในทางกลับกันจำนวนหน่วยเลือกตั้งในยุโรป ที่มีชาวมอลโดวาน้อยกว่า แต่กลับมีหน่วยลงคะแนนเสียงจำนวนมากกว่าในรัสเซียหลายเท่า

    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในรัสเซีย รวมทั้งเขตปกครองพิเศษทรานส์นีสเตรีย พยายามขับรถส่วนตัวเข้ามาในมอลโดวาเพื่อลงคะแนนเสียง แต่ก็ถูกขัดขวางจากเจ้าหน้าที่ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาเข้ามา
    ความไม่ชอบมาพากลของการเลือกตั้งประธานาธิบดีมอลโดวา แต่ยุโรปรับรองว่าเป็นไปโดยสุจริตและเป็นประชาธิปไตย ภาพวิดีโอเผยให้เห็นว่าประชาชนชาวมอลโดวามารอลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่สถานกงศุลในรัสเซีย แต่รัฐบาลมอลโดวาส่งบัตรลงคะแนนมาเพียง 10,000 ใบเท่านั้น และมีหน่วยลงคะแนนเสียงเพียงสองหน่วย จากตัวเลขชาวมอลโดวาทั้งหมด 500,000 คน ทำให้มีคนไม่ได้ลงคะแนนเป็นจำนวนมาก มอลโดวามีพลเมือง 2.5 ล้านคน เป็นผู้อพยพอยู่ในต่างแดนอีก 1.2 ล้านคนที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง จึงมีความสำคัญต่อคะแนนเสียงของนางไมอา ซานดู ในขณะที่ชาวมอลโดวาอยู่ในรัสเซีย 500,000 คน และเขตปกครองพิเศษทรานส์นีสเตรียอีก 450,000 คน ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ในโรมาเนีย เยอรมนี และปะเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นๆ นี่จึงเป็นที่มาของการจำกัดบัตรลงคะแนนเลือกตั้งในรัสเซีย รัฐบาลรักษาการของมอลโดวานำโดยนางไมอา ซานดู มีข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มผู้อพยพที่อยู่ในรัสเซีย และพยายามขัดขวางกลุ่มคนที่ “ต่อต้านสหภาพยุโรป แต่นิยมรัสเซีย” ไม่ให้ลงคะแนนเสียง การจำกัดบัตรลงคะแนนเพียงหนึ่งหมื่นใบในรัสเซีย นั่นคือเหตุผล ในทางกลับกันจำนวนหน่วยเลือกตั้งในยุโรป ที่มีชาวมอลโดวาน้อยกว่า แต่กลับมีหน่วยลงคะแนนเสียงจำนวนมากกว่าในรัสเซียหลายเท่า นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในรัสเซีย รวมทั้งเขตปกครองพิเศษทรานส์นีสเตรีย พยายามขับรถส่วนตัวเข้ามาในมอลโดวาเพื่อลงคะแนนเสียง แต่ก็ถูกขัดขวางจากเจ้าหน้าที่ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาเข้ามา
    0 Comments 0 Shares 75 Views 48 0 Reviews
  • ✨ ล่องเรือ Voyager of the SEAs สัมผัสบรรยากาศความงดงามของสองทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ก่อนเดินทางเข้าชมประวัติศาสตร์ของเมืองท่าต่างๆ และชมไฮไลท์ของทริปอย่างเกาะซานโตรินี 🏖🌅

    🚢 ทัวร์ล่องเรือสำราญ Voyager of the SEAs ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อิตาลี - กรีซ - ตุรกี 11 วัน 8 คืน
    ➡️ วันที่ 16 - 26 ส.ค. 2568

    ⭕️ เส้นทาง : เมืองโบราณปอมเปอี - ชมเมืองเนเปิ้ล - ชมปากปล่องภูเขาไฟเอทน่า (เมสซิน่า) ไฮไลท์ของอิตาลีใต้ - เมืองเอฟฟิซุส เมืองโบราณของตุรกี - ซานโตรินี่ - ชายหาดเอีย - เมืองฟิร่า - เมืองมิโครนอส - ชมมหาวิหาร อโครโปลิส - ช้อปปิ้งย่านพลาก้า

    🔥 ราคาเริ่มต้น : ฿189,900

    ✅ พักโรงแรมโรม 1 คืน
    ✅ พักบนเรือสำราญ Voyager Of The Seas 7 คืน
    ✅ รวมตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ
    ✅ มีหัวหน้าทัวร์อำนวยความสะดวกตลอดทริป

    ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : ROYT-QR-11D8N-CVV-ATH-2508161
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e326b3

    ดูเรือ Royal Caribean ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/648705

    ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/

    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    ☎️: 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือRoyalCaribean #เรือVoyageroftheSEAs #เรือRoyalCaribbean #RoyalCaribbean #Mediterranean #แพ็คเกจทัวร์ล่องเรือสำราญ #Colosseum #Etnacablecar #Trevi #Italy #Santorini #CruiseDomain
    ✨ ล่องเรือ Voyager of the SEAs สัมผัสบรรยากาศความงดงามของสองทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ก่อนเดินทางเข้าชมประวัติศาสตร์ของเมืองท่าต่างๆ และชมไฮไลท์ของทริปอย่างเกาะซานโตรินี 🏖🌅 🚢 ทัวร์ล่องเรือสำราญ Voyager of the SEAs ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อิตาลี - กรีซ - ตุรกี 11 วัน 8 คืน ➡️ วันที่ 16 - 26 ส.ค. 2568 ⭕️ เส้นทาง : เมืองโบราณปอมเปอี - ชมเมืองเนเปิ้ล - ชมปากปล่องภูเขาไฟเอทน่า (เมสซิน่า) ไฮไลท์ของอิตาลีใต้ - เมืองเอฟฟิซุส เมืองโบราณของตุรกี - ซานโตรินี่ - ชายหาดเอีย - เมืองฟิร่า - เมืองมิโครนอส - ชมมหาวิหาร อโครโปลิส - ช้อปปิ้งย่านพลาก้า 🔥 ราคาเริ่มต้น : ฿189,900 ✅ พักโรงแรมโรม 1 คืน ✅ พักบนเรือสำราญ Voyager Of The Seas 7 คืน ✅ รวมตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ✅ มีหัวหน้าทัวร์อำนวยความสะดวกตลอดทริป ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : ROYT-QR-11D8N-CVV-ATH-2508161 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e326b3 ดูเรือ Royal Caribean ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/648705 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือRoyalCaribean #เรือVoyageroftheSEAs #เรือRoyalCaribbean #RoyalCaribbean #Mediterranean #แพ็คเกจทัวร์ล่องเรือสำราญ #Colosseum #Etnacablecar #Trevi #Italy #Santorini #CruiseDomain
    0 Comments 0 Shares 206 Views 0 Reviews
  • "โรม" หวังปาฏิหาริย์ คดีตากใบ 25/10/67 #คดีตากใบ #รังสิมันต์ โรม #พรรคประชาชน #สามจังหวัดชายแดน
    "โรม" หวังปาฏิหาริย์ คดีตากใบ 25/10/67 #คดีตากใบ #รังสิมันต์ โรม #พรรคประชาชน #สามจังหวัดชายแดน
    Like
    Angry
    6
    0 Comments 0 Shares 1811 Views 496 0 Reviews
  • สหรัฐฯ เปิดเผยเป็นครั้งแรก พวกเขาพบเห็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่าเกาหลีเหนือส่งทหาร 3,000 นายไปยังรัสเซีย สำหรับความเป็นไปได้เข้าประจำการในยูเครน ความเคลื่อนไหวที่อาจทำให้สงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟลุกลามบานปลายครั้งใหญ่
    .
    ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในกรุงโรม ว่า "มันจะเป็นเรื่องร้ายแรงมากๆ ถ้าเกาหลีเหนือเตรียมการสู้รบเคียงข้างรัสเซียในยูเครน ตามที่เคียฟกล่าวหา" อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่ายังคงต้องดูว่าทหารเหล่นั้นเข้าไปทำอะไรในรัสเซีย "มีหลักฐานว่าทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซีย" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว
    .
    จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบข่าวให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาในวันพุธ (23 ต.ค.) ระบุสหรัฐฯ เชื่อว่ามีทหารเกาหลีเหนืออย่างน้อย 3,000 นายกำลังฝึกฝนที่ฐานทัพ 3 แห่ง ทางตะวันออกของรัสเซีย
    .
    เคอร์บี ระบุต่อว่าสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปว่า ทหารเกาหลีเหนือถูกลำเลียงทางเรือจากภูมิภาคว็อนซันของเกาหลีเหนือ ไปยังเมืองวลาดิวอสต็อกของรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนจนถึงกลางเดือนตุลาคม ก่อนเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์ฝึกทหาร 3 แห่งทางตะวันออกของยูเครน
    .
    ในกรุงโซล บรรดาสมาชิกรัฐสภาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังได้รับรายงานสรุปจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ ระบุว่าเบื้องต้นเปียงยางส่งทหารเข้าไปยังรัสเซียแล้ว 3,000 นาย และคาดหมายว่ารวมแล้วจะมีกำลังพลเกาหลีเหนือทั้งสิ้นราว 10,000 นาย เมื่อการประจำการเสร็จสมบูรณ์ในเดือนธันวาคม
    .
    ความขัดแย้งในยูเครนปะทุขึ้นมา หลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และนับตั้งแต่นั้นมันได้พัฒนาการเข้าสงครามหนึ่งที่การสู้รบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในแนวหน้าทางตะวันออกของยูเครน และทั้งสองฝ่ายสูญเสียกำลังพลไปอย่างมหาศาล
    .
    สหรัฐฯ บอกว่าการประจำการของทหารเกาหลีเหนือ อาจเป็นหลักฐานเพิ่มเติมที่บ่งชี้ว่ากองทัพรัสเซียกำลังมีปัญหาด้านกำลังพล หลังจากก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่อเมริกาเคยกล่าวอ้างว่ามีทหารของมอสโกเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในสงครามยูเครนไปแล้วมากกว่า 600,000 นาย
    .
    วังเครมลินปฏิเสธคำกล่าวหาโซลเกี่ยวกับการประจำการทหารเกาหลีเหนือว่าเป็น "ข่าวปลอม" และตัวแทนรายหนึ่งของเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ เรียกมันว่าเป็นข่าวลือที่ไร้หลักฐาน
    .
    ที่ผ่านมา ทั้งมอสโกและเปียงยางปฏิเสธเช่นกันเกี่ยวกับการส่งมอบอาวุธ แต่พวกเขาประกาศยกระดับความสัมพันธ์ทางทหาร และลงนามในสนธิสัญญากลาโหมร่วม ณ ที่ประชุมซัมมิต เมื่อเดือนมิถุนายน
    .
    คำกล่าวอ้างล่าสุดเกี่ยวกับการประจำการทหารเกาหลีเหนือในรัสเซีย มีขึ้นหลังจากหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของโซล ระบุเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) ว่าเกาหลีเหนือได้ขนส่งทางเรือ พาบุคลากรกองกำลังพิเศษราว 1,500 นายไปยังรัสเซีย และมีความเป็นไปได้ว่ากำลังพลเหล่านี้จะถูกส่งเข้าประจำการเพื่อสู้รบในสงครามในยุเครน หลังผ่านการฝึกฝนและมีความเคยชินกับสภาพอากาศแล้ว
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวหาเช่นกันว่า เปียงยางกำลังส่งทหาร 10,000 นาย ไปยังรัสเซีย และในวันอังคาร (22 ต.ค.) เขาเรียกร้องให้บรรดาพันธมิตรตอบสนองต่อหลักฐานที่ว่า เกาหลีเหนือเข้ามาพัวพันในสงครามของรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    ในเรื่องนี้ โฆษกของนาโตบอกว่าเหล่าพันธมิตรนาโตกำลังปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับกรณีเกาหลีเหนือส่งทหารเข้าประจำการในรัสเซีย
    .
    เจ้าหน้าที่รายหนึ่งในรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่ามอสโกอาจส่งทหารเกาหลีเหนือไปยังภาคตะวันออกของยูเครน หรือในแคว้นคูร์สก์ของตนเอง ดินแดนที่ทหารรัสเซียกำลังสู้รบขับไล่กองกำลังยูเครนที่ยึดครองพื้นที่หนึ่งๆ ที่พวกเขายึดมาได้ในปฏิบัติการรุกรานตอบโต้ ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
    .
    ไมค์ เทอร์เนอร์ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไฟเขียวเคียฟตอบโต้ด้วยอาวุธที่จัดหาให้โดยอเมริกา หากว่าทหารเกาหลีเหนือโจมตียูเครนมาจากดินแดนของรัสเซีย
    .
    "ถ้าทหารเกาหลีเหนือรุกรานเข้าสู่ดินแดนอธิปไตยของยูเครน สหรัฐฯ จำเป็นต้องพิจารณาอย่างจริงจังในการใช้ปฏิบัติการทางทหารโดยตรงกับกองกำลังเกาหลีเหนือ" เทอร์เนอร์กล่าว
    .
    เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือถอนทหารออกจากรัสเซียในทันที พร้อมเตือนว่าพวกเขาอาจพิจารณาป้อนอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครนเช่นกัน หากว่าความสัมพันธ์ทางทหารระหว่าง 2 ชาตินั้นเลยเถิดเกินไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102308
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ เปิดเผยเป็นครั้งแรก พวกเขาพบเห็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่าเกาหลีเหนือส่งทหาร 3,000 นายไปยังรัสเซีย สำหรับความเป็นไปได้เข้าประจำการในยูเครน ความเคลื่อนไหวที่อาจทำให้สงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟลุกลามบานปลายครั้งใหญ่ . ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในกรุงโรม ว่า "มันจะเป็นเรื่องร้ายแรงมากๆ ถ้าเกาหลีเหนือเตรียมการสู้รบเคียงข้างรัสเซียในยูเครน ตามที่เคียฟกล่าวหา" อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่ายังคงต้องดูว่าทหารเหล่นั้นเข้าไปทำอะไรในรัสเซีย "มีหลักฐานว่าทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซีย" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว . จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบข่าวให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาในวันพุธ (23 ต.ค.) ระบุสหรัฐฯ เชื่อว่ามีทหารเกาหลีเหนืออย่างน้อย 3,000 นายกำลังฝึกฝนที่ฐานทัพ 3 แห่ง ทางตะวันออกของรัสเซีย . เคอร์บี ระบุต่อว่าสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปว่า ทหารเกาหลีเหนือถูกลำเลียงทางเรือจากภูมิภาคว็อนซันของเกาหลีเหนือ ไปยังเมืองวลาดิวอสต็อกของรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนจนถึงกลางเดือนตุลาคม ก่อนเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์ฝึกทหาร 3 แห่งทางตะวันออกของยูเครน . ในกรุงโซล บรรดาสมาชิกรัฐสภาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังได้รับรายงานสรุปจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ ระบุว่าเบื้องต้นเปียงยางส่งทหารเข้าไปยังรัสเซียแล้ว 3,000 นาย และคาดหมายว่ารวมแล้วจะมีกำลังพลเกาหลีเหนือทั้งสิ้นราว 10,000 นาย เมื่อการประจำการเสร็จสมบูรณ์ในเดือนธันวาคม . ความขัดแย้งในยูเครนปะทุขึ้นมา หลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และนับตั้งแต่นั้นมันได้พัฒนาการเข้าสงครามหนึ่งที่การสู้รบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในแนวหน้าทางตะวันออกของยูเครน และทั้งสองฝ่ายสูญเสียกำลังพลไปอย่างมหาศาล . สหรัฐฯ บอกว่าการประจำการของทหารเกาหลีเหนือ อาจเป็นหลักฐานเพิ่มเติมที่บ่งชี้ว่ากองทัพรัสเซียกำลังมีปัญหาด้านกำลังพล หลังจากก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่อเมริกาเคยกล่าวอ้างว่ามีทหารของมอสโกเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในสงครามยูเครนไปแล้วมากกว่า 600,000 นาย . วังเครมลินปฏิเสธคำกล่าวหาโซลเกี่ยวกับการประจำการทหารเกาหลีเหนือว่าเป็น "ข่าวปลอม" และตัวแทนรายหนึ่งของเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ เรียกมันว่าเป็นข่าวลือที่ไร้หลักฐาน . ที่ผ่านมา ทั้งมอสโกและเปียงยางปฏิเสธเช่นกันเกี่ยวกับการส่งมอบอาวุธ แต่พวกเขาประกาศยกระดับความสัมพันธ์ทางทหาร และลงนามในสนธิสัญญากลาโหมร่วม ณ ที่ประชุมซัมมิต เมื่อเดือนมิถุนายน . คำกล่าวอ้างล่าสุดเกี่ยวกับการประจำการทหารเกาหลีเหนือในรัสเซีย มีขึ้นหลังจากหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของโซล ระบุเมื่อวันศุกร์ (18 ต.ค.) ว่าเกาหลีเหนือได้ขนส่งทางเรือ พาบุคลากรกองกำลังพิเศษราว 1,500 นายไปยังรัสเซีย และมีความเป็นไปได้ว่ากำลังพลเหล่านี้จะถูกส่งเข้าประจำการเพื่อสู้รบในสงครามในยุเครน หลังผ่านการฝึกฝนและมีความเคยชินกับสภาพอากาศแล้ว . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวหาเช่นกันว่า เปียงยางกำลังส่งทหาร 10,000 นาย ไปยังรัสเซีย และในวันอังคาร (22 ต.ค.) เขาเรียกร้องให้บรรดาพันธมิตรตอบสนองต่อหลักฐานที่ว่า เกาหลีเหนือเข้ามาพัวพันในสงครามของรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว . ในเรื่องนี้ โฆษกของนาโตบอกว่าเหล่าพันธมิตรนาโตกำลังปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับกรณีเกาหลีเหนือส่งทหารเข้าประจำการในรัสเซีย . เจ้าหน้าที่รายหนึ่งในรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่ามอสโกอาจส่งทหารเกาหลีเหนือไปยังภาคตะวันออกของยูเครน หรือในแคว้นคูร์สก์ของตนเอง ดินแดนที่ทหารรัสเซียกำลังสู้รบขับไล่กองกำลังยูเครนที่ยึดครองพื้นที่หนึ่งๆ ที่พวกเขายึดมาได้ในปฏิบัติการรุกรานตอบโต้ ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา . ไมค์ เทอร์เนอร์ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไฟเขียวเคียฟตอบโต้ด้วยอาวุธที่จัดหาให้โดยอเมริกา หากว่าทหารเกาหลีเหนือโจมตียูเครนมาจากดินแดนของรัสเซีย . "ถ้าทหารเกาหลีเหนือรุกรานเข้าสู่ดินแดนอธิปไตยของยูเครน สหรัฐฯ จำเป็นต้องพิจารณาอย่างจริงจังในการใช้ปฏิบัติการทางทหารโดยตรงกับกองกำลังเกาหลีเหนือ" เทอร์เนอร์กล่าว . เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือถอนทหารออกจากรัสเซียในทันที พร้อมเตือนว่าพวกเขาอาจพิจารณาป้อนอาวุธร้ายแรงแก่ยูเครนเช่นกัน หากว่าความสัมพันธ์ทางทหารระหว่าง 2 ชาตินั้นเลยเถิดเกินไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102308 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    7
    1 Comments 0 Shares 1937 Views 0 Reviews
  • ## รัฐเถื่อน อิสราเอล โจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของ UN ใน เลบานอน ##
    ..
    ..
    ข่าวเมื่อวันที่ 11/10/2567
    .
    กองทัพอิสราเอลยิงถล่มกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน 2 ครั้งในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง ตามที่ UN ระบุ
    .
    เมื่อวันพฤหัสบดี กองกำลังอิสราเอลได้ยิงปืนใส่หอคอยรักษาความปลอดภัยที่สำนักงานใหญ่กองกำลังชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในเลบานอน (UNIFIL) ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    .
    ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
    .
    และเมื่อวันศุกร์ ก็ได้ยิงปืนใส่หอคอยเฝ้าระวัง อีกครั้ง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
    .
    ประเทศสมาชิก UN เล็งเป้าและโจมตีไปที่กองกำลังรักษาสันติภาพของ UN ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    .
    เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี กองกำลังอิสราเอลได้ใช้รถถัง Merkava ยิงใส่หอสังเกตการณ์ที่เป็นของ UNIFIL ในเมืองนาคูรา ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ บริเวณชายแดนทางตอนใต้ของเลบานอน ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ UNIFIL ตั้งแต่ปี 1978
    .
    เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวอินโดนีเซีย 2 นายถูกยิงโดยตรงจนตกลงมา
    .
    “โชคดีที่คราวนี้อาการบาดเจ็บไม่ร้ายแรง แต่ยังคงต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล” แถลงการณ์ของ UN ที่ออกเมื่อวันพฤหัสบดีระบุ
    .
    แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อวันพุธ ทหารอิสราเอลได้ “ยิงใส่และปิดใช้งานกล้องวงจรปิดที่สำนักงานใหญ่ของ UNIFIL โดยเจตนา”
    .
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา UNIFIL ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่สอง โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด 2 ครั้งที่เกิดขึ้นใกล้กับหอสังเกตการณ์
    .
    โดยนายหนึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองไทร์ของเลบานอน ขณะที่อีกนายกำลังเข้ารับการรักษาในเมืองนาคูรา
    .
    การโจมตีของอิสราเอลได้รับการประณามจากสมาชิกในชุมชนระหว่างประเทศ รวมถึงอินโดนีเซีย อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน ไอร์แลนด์ ตุรกี สหภาพยุโรป และแคนาดา
    .
    UNIFIL เป็นกองกำลังรักษาสันติภาพในเลบานอน จัดตั้งขึ้นโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UN ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2521 หลังจากที่อิสราเอลรุกรานเลบานอนเป็นครั้งแรก ในสิ่งที่ต่อมาเรียกว่าความขัดแย้งในเลบานอนใต้
    .
    ในปีพ.ศ. 2521 อิสราเอลได้ส่งกองกำลังไปตามแนวชายแดนที่ติดกับเลบานอน หลังจากสมาชิกองค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์เข้าสู่อิสราเอลจากเลบานอนทางทะเล
    .
    UNIFIL ก่อตั้งขึ้นเพื่อดูแลการถอนทหารของอิสราเอลออกจากเลบานอนและฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงในพื้นที่
    .
    ภายหลังสงคราม 34 วันในเลบานอนระหว่างกลุ่มฮิซบัลเลาะห์กับอิสราเอลในปี 2549 ซึ่งมีชาวเลบานอนเสียชีวิต 1,100 ราย อำนาจหน้าที่ของ UNIFIL จึงขยายออกไปเพื่อติดตามการยุติการสู้รบและสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธของเลบานอนที่ส่งกำลังไปประจำการทั่วเลบานอนตอนใต้
    .
    ณ วันที่ 2 กันยายน มีทหาร UNIFIL จำนวน 10,058 นายที่ประจำการอยู่ในเลบานอน โดยมาจาก 50 ประเทศ
    .
    กองกำลังรักษาสันติภาพของ UNIFIL มีจำนวนมากที่สุด คือ 1,231 นาย มาจากอินโดนีเซีย อิตาลี อินเดีย เนปาล และจีน ต่างก็ส่งทหารจำนวนมากเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพเช่นกัน
    .
    สถานะทางกฎหมายในการกำหนดเป้าหมายกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเป็นอย่างไร?
    .
    การจงใจกำหนดเป้าหมายภารกิจของ UN ถือเป็นอาชญากรรมสงคราม ผู้สังเกตการณ์กล่าว...
    .
    รายงานจากฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) อธิบายว่า “ตามกฎหมายสงคราม เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการรักษาสันติภาพ รวมถึงสมาชิกติดอาวุธ ถือเป็นพลเรือน และการโจมตีโดยเจตนาต่อพวกเขาและสถานที่รักษาสันติภาพถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและถือเป็นอาชญากรรมสงคราม”
    .
    ฮิวแมนไรท์วอทช์อ้างมาตรา 8(2)(b)(iii)ของธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งจัดตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศในกรุงเฮก โดยระบุว่าการกำหนดเป้าหมายโดยเจตนาต่อภารกิจด้านมนุษยธรรมและการรักษาสันติภาพเป็นอาชญากรรมสงคราม
    .
    แถลงการณ์ของสหประชาชาติที่รายงานเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันพฤหัสบดีระบุว่าไม่เพียงแต่การโจมตีโดยเจตนาเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1701 อีกด้วย
    .
    หลังจากที่อิสราเอลโจมตีสำนักงานใหญ่ของ UNIFIL เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหประชาชาติกล่าวว่า “นี่เป็นพัฒนาการที่สำคัญ และ UNIFIL ขอย้ำว่าต้องรับประกันความปลอดภัยของบุคลากรและทรัพย์สินของสหประชาชาติ และต้องเคารพต่อหลักปฏิบัติของสหประชาชาติอย่างไม่ละเมิดในทุกกรณี”
    .
    “การโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพโดยเจตนาถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1701 (2006) อย่างร้ายแรง”
    .
    อิสราเอลเคยโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของ UN มาก่อนหรือไม่?
    .
    เอไลจาห์ แม็กเนียร์ นักวิเคราะห์ทางการทหาร กล่าวกับอัลจาซีราว่าเหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ UNIFIL ตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากอิสราเอล
    .
    ในปีพ.ศ. 2530 หมู่รถถังของอิสราเอลเปิดฉากยิงในหมู่บ้านซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานบัญชาการของ UNIFIL ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวไอริชเสียชีวิต
    .
    ในปี 1996 อิสราเอลได้โจมตีกองพันฟิจิของ UNIFIL ในเมืองคานา ทางตอนใต้ของเลบานอน ทำให้พลเรือนเลบานอนเสียชีวิตมากกว่า 120 ราย และบาดเจ็บอีกประมาณ 500 ราย นอกจากนี้ ยังมีทหารของ UN อีก 4 นายที่ได้รับบาดเจ็บ
    .
    ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 กองกำลังอิสราเอลได้ยิงถล่มหน่วยลาดตระเวนของ UNIFIL ใกล้กับเมือง Aitaroun ทางตอนใต้ของเลบานอน แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพได้รับบาดเจ็บ
    .
    แมกเนียร์กล่าวว่าการโจมตีครั้งล่าสุดเกิดขึ้น "เพราะอิสราเอลจำเป็นต้องผ่านตำแหน่งของ UNIFIL ในนาคูราและเริ่มการรุกรานเลบานอน แกนนี้มีความสำคัญต่อกองทัพอิสราเอล" และเสริมว่าทหารอิสราเอลจำนวนมากพร้อมที่จะบุกเลบานอน
    .
    สามารถระบุกำลังทหาร UNIFIL ได้ชัดเจน เนื่องจากพวกเขาสวมหมวกกันน็อกสีน้ำเงิน และตำแหน่งของพวกเขาเป็นที่ทราบกันดีในกองทัพอิสราเอล
    .
    อ่านข่าวเต็มๆได้ที่ ลิงค์
    .
    https://www.aljazeera.com/news/2024/10/11/israel-attacks-un-peacekeepers-in-lebanon-why-its-such-a-big-deal
    .
    ***
    โพสข่าวแบบนี้บ่อยๆ เฟซบุ๊ค มันถึงได้ "ปิดบัญชี" เอาซะหล่ะมั้ง...🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    ## รัฐเถื่อน อิสราเอล โจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของ UN ใน เลบานอน ## .. .. ข่าวเมื่อวันที่ 11/10/2567 . กองทัพอิสราเอลยิงถล่มกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน 2 ครั้งในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง ตามที่ UN ระบุ . เมื่อวันพฤหัสบดี กองกำลังอิสราเอลได้ยิงปืนใส่หอคอยรักษาความปลอดภัยที่สำนักงานใหญ่กองกำลังชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในเลบานอน (UNIFIL) ซ้ำแล้วซ้ำเล่า . ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย . และเมื่อวันศุกร์ ก็ได้ยิงปืนใส่หอคอยเฝ้าระวัง อีกครั้ง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บเช่นกัน . ประเทศสมาชิก UN เล็งเป้าและโจมตีไปที่กองกำลังรักษาสันติภาพของ UN ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน . เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี กองกำลังอิสราเอลได้ใช้รถถัง Merkava ยิงใส่หอสังเกตการณ์ที่เป็นของ UNIFIL ในเมืองนาคูรา ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ บริเวณชายแดนทางตอนใต้ของเลบานอน ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ UNIFIL ตั้งแต่ปี 1978 . เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวอินโดนีเซีย 2 นายถูกยิงโดยตรงจนตกลงมา . “โชคดีที่คราวนี้อาการบาดเจ็บไม่ร้ายแรง แต่ยังคงต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล” แถลงการณ์ของ UN ที่ออกเมื่อวันพฤหัสบดีระบุ . แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อวันพุธ ทหารอิสราเอลได้ “ยิงใส่และปิดใช้งานกล้องวงจรปิดที่สำนักงานใหญ่ของ UNIFIL โดยเจตนา” . เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา UNIFIL ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่สอง โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด 2 ครั้งที่เกิดขึ้นใกล้กับหอสังเกตการณ์ . โดยนายหนึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองไทร์ของเลบานอน ขณะที่อีกนายกำลังเข้ารับการรักษาในเมืองนาคูรา . การโจมตีของอิสราเอลได้รับการประณามจากสมาชิกในชุมชนระหว่างประเทศ รวมถึงอินโดนีเซีย อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน ไอร์แลนด์ ตุรกี สหภาพยุโรป และแคนาดา . UNIFIL เป็นกองกำลังรักษาสันติภาพในเลบานอน จัดตั้งขึ้นโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UN ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2521 หลังจากที่อิสราเอลรุกรานเลบานอนเป็นครั้งแรก ในสิ่งที่ต่อมาเรียกว่าความขัดแย้งในเลบานอนใต้ . ในปีพ.ศ. 2521 อิสราเอลได้ส่งกองกำลังไปตามแนวชายแดนที่ติดกับเลบานอน หลังจากสมาชิกองค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์เข้าสู่อิสราเอลจากเลบานอนทางทะเล . UNIFIL ก่อตั้งขึ้นเพื่อดูแลการถอนทหารของอิสราเอลออกจากเลบานอนและฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงในพื้นที่ . ภายหลังสงคราม 34 วันในเลบานอนระหว่างกลุ่มฮิซบัลเลาะห์กับอิสราเอลในปี 2549 ซึ่งมีชาวเลบานอนเสียชีวิต 1,100 ราย อำนาจหน้าที่ของ UNIFIL จึงขยายออกไปเพื่อติดตามการยุติการสู้รบและสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธของเลบานอนที่ส่งกำลังไปประจำการทั่วเลบานอนตอนใต้ . ณ วันที่ 2 กันยายน มีทหาร UNIFIL จำนวน 10,058 นายที่ประจำการอยู่ในเลบานอน โดยมาจาก 50 ประเทศ . กองกำลังรักษาสันติภาพของ UNIFIL มีจำนวนมากที่สุด คือ 1,231 นาย มาจากอินโดนีเซีย อิตาลี อินเดีย เนปาล และจีน ต่างก็ส่งทหารจำนวนมากเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพเช่นกัน . สถานะทางกฎหมายในการกำหนดเป้าหมายกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเป็นอย่างไร? . การจงใจกำหนดเป้าหมายภารกิจของ UN ถือเป็นอาชญากรรมสงคราม ผู้สังเกตการณ์กล่าว... . รายงานจากฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) อธิบายว่า “ตามกฎหมายสงคราม เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการรักษาสันติภาพ รวมถึงสมาชิกติดอาวุธ ถือเป็นพลเรือน และการโจมตีโดยเจตนาต่อพวกเขาและสถานที่รักษาสันติภาพถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและถือเป็นอาชญากรรมสงคราม” . ฮิวแมนไรท์วอทช์อ้างมาตรา 8(2)(b)(iii)ของธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งจัดตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศในกรุงเฮก โดยระบุว่าการกำหนดเป้าหมายโดยเจตนาต่อภารกิจด้านมนุษยธรรมและการรักษาสันติภาพเป็นอาชญากรรมสงคราม . แถลงการณ์ของสหประชาชาติที่รายงานเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันพฤหัสบดีระบุว่าไม่เพียงแต่การโจมตีโดยเจตนาเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1701 อีกด้วย . หลังจากที่อิสราเอลโจมตีสำนักงานใหญ่ของ UNIFIL เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหประชาชาติกล่าวว่า “นี่เป็นพัฒนาการที่สำคัญ และ UNIFIL ขอย้ำว่าต้องรับประกันความปลอดภัยของบุคลากรและทรัพย์สินของสหประชาชาติ และต้องเคารพต่อหลักปฏิบัติของสหประชาชาติอย่างไม่ละเมิดในทุกกรณี” . “การโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพโดยเจตนาถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1701 (2006) อย่างร้ายแรง” . อิสราเอลเคยโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของ UN มาก่อนหรือไม่? . เอไลจาห์ แม็กเนียร์ นักวิเคราะห์ทางการทหาร กล่าวกับอัลจาซีราว่าเหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ UNIFIL ตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากอิสราเอล . ในปีพ.ศ. 2530 หมู่รถถังของอิสราเอลเปิดฉากยิงในหมู่บ้านซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานบัญชาการของ UNIFIL ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวไอริชเสียชีวิต . ในปี 1996 อิสราเอลได้โจมตีกองพันฟิจิของ UNIFIL ในเมืองคานา ทางตอนใต้ของเลบานอน ทำให้พลเรือนเลบานอนเสียชีวิตมากกว่า 120 ราย และบาดเจ็บอีกประมาณ 500 ราย นอกจากนี้ ยังมีทหารของ UN อีก 4 นายที่ได้รับบาดเจ็บ . ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 กองกำลังอิสราเอลได้ยิงถล่มหน่วยลาดตระเวนของ UNIFIL ใกล้กับเมือง Aitaroun ทางตอนใต้ของเลบานอน แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพได้รับบาดเจ็บ . แมกเนียร์กล่าวว่าการโจมตีครั้งล่าสุดเกิดขึ้น "เพราะอิสราเอลจำเป็นต้องผ่านตำแหน่งของ UNIFIL ในนาคูราและเริ่มการรุกรานเลบานอน แกนนี้มีความสำคัญต่อกองทัพอิสราเอล" และเสริมว่าทหารอิสราเอลจำนวนมากพร้อมที่จะบุกเลบานอน . สามารถระบุกำลังทหาร UNIFIL ได้ชัดเจน เนื่องจากพวกเขาสวมหมวกกันน็อกสีน้ำเงิน และตำแหน่งของพวกเขาเป็นที่ทราบกันดีในกองทัพอิสราเอล . อ่านข่าวเต็มๆได้ที่ ลิงค์ . https://www.aljazeera.com/news/2024/10/11/israel-attacks-un-peacekeepers-in-lebanon-why-its-such-a-big-deal . *** โพสข่าวแบบนี้บ่อยๆ เฟซบุ๊ค มันถึงได้ "ปิดบัญชี" เอาซะหล่ะมั้ง...🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    WWW.ALJAZEERA.COM
    Israel attacks UN peacekeepers in Lebanon: Why it’s such a big deal
    The international community considers Israel’s attack on UNIFIL’s headquarters a violation of international law.
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่วหาเกาหลีเหนือ ว่ากำลังส่งทหารเข้าช่วยกองทัพรัสเซีย และเป็นอีกครั้งที่ร้องขอแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากบรรดาพันธมิตร เพื่อป้องกัน "สงครามที่ใหญ่โตกว่านี้"
    .
    ความเห็นของเซเลนสกี มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากเขาเดินทางเยือนเมืองหลวงในยุโรปหลายแห่ง เพื่อกดดันขอความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินเพิ่มเติม ในการทำสงครามกับกองกำลังรัสเซีย
    .
    "เราเห็นความเป็นพันธมิตรเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างรัสเซียกับรัฐบาลต่างๆ อย่างเช่นเกาหลีเหนือ" เซเลนสกี กล่าวปราศรัยในช่วงเย็น "มันไม่ใช่แค่การส่งมอบอาวุธแล้ว จริงแล้วมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งมอบกำลังคนจากเกาหลีเหนือไปยังกองทัพของผู้รุกราน"
    .
    "แน่นอนว่า ในกรณีแวดล้อมเช่นนี้เราจำเป็นต้องพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเรากับบรรดาพันธมิตร แนวหน้าจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม" เขากล่าว
    .
    "เมื่อเราพูดถึงศักยภาพพิสัยไกลสำหรับยูเครน และการจัดหาเสบียงที่แน่วแน่กว่าเดิมแก่กองกำลังของเรา มันไม่ใช่แค่รายการยุทโธปกรณ์ทางทหารเหล่านั้น มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเพิ่มแรงกดดันใส่ผู้รุกราน ซึ่งจำเป็นต้องหนักหน่วงเกินกว่าที่รัสเซียจะสามารถยืนหยัดอดทนได้ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการป้องกันสงครามที่ใหญ่กว่านี้" เซเลนสกีระบุ
    .
    เซเลนสกี สิ้นสุดการเดินทางเยือนเมืองหลวงต่างๆ ในยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในนั้นรวมถึงเบอร์ลิน ลอนดอน ปารีส และโรม ระหว่างนั้นเขาได้ร้องขอความช่วยเหลือทางทหารอย่างยั่งยืน ในขณะที่ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซียกำลังขยับเข้าใกล้วาระครบรอบ 3 ปี
    .
    ทริปนี้ถูกจัดขึ้นในนาทีสุดท้าย ตามหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เลื่อนโปรแกรมเยือนเยอรมนี ที่เดิมทีกำหนดไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อหันไปกำกับดูแลเตรียมพร้อมรับมือกับเฮอร์ริเคนมิลตัน ที่ตอนนั้นกำลังมุ่งหน้าสู่ฟลอริดา
    .
    โปรแกรมเดินทางเยือนเยือนเยอรมนีของไบเดนนั้น ตามกำหนดการที่วางเอาไว้ ในนั้นรวมถึงเข้าร่วมในที่ประชุมบรรดาพันธมิตรยูเครนมากกว่า 50 ชาติ หารือเกี่ยวกับแรงสนับสนุนที่จะมอบให้แก่เคียฟเพิ่มเติม ที่ทาง เซเลนสกี คาดหวังไว้อย่างสูง
    .
    แหล่งข่าวรัฐบาลเยอรมนีรายหนึ่ง เปิดเผยในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ว่าเวลานี้ ไบเดน ปรับโปรแกรม เตรียมเดินทางมาเยือนในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ (18 ต.ค.) เป็นเวลา 1 วัน ท่ามกลางความคาดหมายว่ายูเครนและตะวันออกกลาง จะเป็นประเด็นหลักของวาระการหารือ
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) รัสเซียยึดหมู่บ้านทางตะวันออกของยูเครนได้อีกแห่ง ในขณะที่พวกเขาเข้าใกล้เมืองสำคัญอย่างโพครอฟส์กไปทุกขณะ หลังจากกองกำลังของมอสโกสามารถรุกคืบได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสัปดาห์
    .
    ทหารรัสเซียรุกคืบในทิศตะวันตกของแคว้นโดเนตสก์เป็นเวลาหลายเดือน โดยทางเคียฟยอมรับเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าพวกเขากำลังเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากมากๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000098405
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่วหาเกาหลีเหนือ ว่ากำลังส่งทหารเข้าช่วยกองทัพรัสเซีย และเป็นอีกครั้งที่ร้องขอแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากบรรดาพันธมิตร เพื่อป้องกัน "สงครามที่ใหญ่โตกว่านี้" . ความเห็นของเซเลนสกี มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากเขาเดินทางเยือนเมืองหลวงในยุโรปหลายแห่ง เพื่อกดดันขอความช่วยเหลือด้านการทหารและการเงินเพิ่มเติม ในการทำสงครามกับกองกำลังรัสเซีย . "เราเห็นความเป็นพันธมิตรเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างรัสเซียกับรัฐบาลต่างๆ อย่างเช่นเกาหลีเหนือ" เซเลนสกี กล่าวปราศรัยในช่วงเย็น "มันไม่ใช่แค่การส่งมอบอาวุธแล้ว จริงแล้วมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งมอบกำลังคนจากเกาหลีเหนือไปยังกองทัพของผู้รุกราน" . "แน่นอนว่า ในกรณีแวดล้อมเช่นนี้เราจำเป็นต้องพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเรากับบรรดาพันธมิตร แนวหน้าจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม" เขากล่าว . "เมื่อเราพูดถึงศักยภาพพิสัยไกลสำหรับยูเครน และการจัดหาเสบียงที่แน่วแน่กว่าเดิมแก่กองกำลังของเรา มันไม่ใช่แค่รายการยุทโธปกรณ์ทางทหารเหล่านั้น มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเพิ่มแรงกดดันใส่ผู้รุกราน ซึ่งจำเป็นต้องหนักหน่วงเกินกว่าที่รัสเซียจะสามารถยืนหยัดอดทนได้ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการป้องกันสงครามที่ใหญ่กว่านี้" เซเลนสกีระบุ . เซเลนสกี สิ้นสุดการเดินทางเยือนเมืองหลวงต่างๆ ในยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในนั้นรวมถึงเบอร์ลิน ลอนดอน ปารีส และโรม ระหว่างนั้นเขาได้ร้องขอความช่วยเหลือทางทหารอย่างยั่งยืน ในขณะที่ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซียกำลังขยับเข้าใกล้วาระครบรอบ 3 ปี . ทริปนี้ถูกจัดขึ้นในนาทีสุดท้าย ตามหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เลื่อนโปรแกรมเยือนเยอรมนี ที่เดิมทีกำหนดไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อหันไปกำกับดูแลเตรียมพร้อมรับมือกับเฮอร์ริเคนมิลตัน ที่ตอนนั้นกำลังมุ่งหน้าสู่ฟลอริดา . โปรแกรมเดินทางเยือนเยือนเยอรมนีของไบเดนนั้น ตามกำหนดการที่วางเอาไว้ ในนั้นรวมถึงเข้าร่วมในที่ประชุมบรรดาพันธมิตรยูเครนมากกว่า 50 ชาติ หารือเกี่ยวกับแรงสนับสนุนที่จะมอบให้แก่เคียฟเพิ่มเติม ที่ทาง เซเลนสกี คาดหวังไว้อย่างสูง . แหล่งข่าวรัฐบาลเยอรมนีรายหนึ่ง เปิดเผยในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ว่าเวลานี้ ไบเดน ปรับโปรแกรม เตรียมเดินทางมาเยือนในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ (18 ต.ค.) เป็นเวลา 1 วัน ท่ามกลางความคาดหมายว่ายูเครนและตะวันออกกลาง จะเป็นประเด็นหลักของวาระการหารือ . ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) รัสเซียยึดหมู่บ้านทางตะวันออกของยูเครนได้อีกแห่ง ในขณะที่พวกเขาเข้าใกล้เมืองสำคัญอย่างโพครอฟส์กไปทุกขณะ หลังจากกองกำลังของมอสโกสามารถรุกคืบได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสัปดาห์ . ทหารรัสเซียรุกคืบในทิศตะวันตกของแคว้นโดเนตสก์เป็นเวลาหลายเดือน โดยทางเคียฟยอมรับเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าพวกเขากำลังเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากมากๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000098405 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    7
    0 Comments 0 Shares 977 Views 0 Reviews
  • 13/10/67

    คิดถึงพ่อ

    ในหลวง ร.9

    คลิปที่หลายๆคนไม่เคยเห็น ในหลวงเสด็จด้วยรถไฟใต้ดิน ชอบตอนที่ได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์ท่าน...ตอนใกล้ๆจบ #แบ่งปันกันนะ


    พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559) เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีและเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 53 ตามประวัติศาสตร์ไทย ครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ด้วยพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร จนสวรรคต เป็นประมุขแห่งรัฐที่ครองราชย์ยาวนานมากที่สุดตลอดกาลในประเทศไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปเอเชีย[1] พระองค์ยังเป็นประมุขแห่งรัฐที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในโลกในขณะทรงพระชนม์ นับตั้งแต่การสวรรคตของสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะแห่งญี่ปุ่นใน พ.ศ. 2532 กระทั่งสวรรคตใน พ.ศ. 2559[2] อีกทั้งเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดตลอดกาลอันดับที่ 3 ของโลก ด้วยระยะเวลาในราชสมบัติทั้งสิ้น 70 ปี 126 วัน[1]


    พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
    มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
    บรมนาถบพิตร
    พระภัทรมหาราช

    พระบรมฉายาลักษณ์ พ.ศ. 2503
    พระมหากษัตริย์ไทย
    ครองราชย์
    9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559
    (70 ปี 126 วัน)
    ราชาภิเษก
    5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493
    ก่อนหน้า
    พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
    ถัดไป
    พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
    ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
    ดูรายพระนามและรายชื่อ
    นายกรัฐมนตรี
    ดูรายชื่อ
    พระราชสมภพ
    5 ธันวาคม พ.ศ. 2470
    โรงพยาบาลเคมบริดจ์ เคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ
    สวรรคต
    13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 (88 พรรษา)
    โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
    ถวายพระเพลิง
    26 ตุลาคม พ.ศ. 2560
    พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง
    บรรจุพระอัฐิ
    พระวิมานทองกลาง
    บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
    พระอัครมเหสี
    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (สมรส 2493)
    พระราชบุตร
    รายละเอียด
    ดูรายพระนาม
    วัดประจำรัชกาล
    วัดบวรนิเวศวิหาร
    ราชวงศ์
    จักรี
    ราชสกุล
    มหิดล
    พระราชบิดา
    สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
    พระราชมารดา
    สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
    ศาสนา
    พุทธเถรวาท
    ลายพระอภิไธย

    พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
    มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
    บรมนาถบพิตร
    พระภัทรมหาราช

    พระบรมฉายาลักษณ์ พ.ศ. 2503
    พระมหากษัตริย์ไทย
    ครองราชย์
    9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559
    (70 ปี 126 วัน)
    ราชาภิเษก
    5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493
    ก่อนหน้า
    พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
    ถัดไป
    พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
    ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
    ดูรายพระนามและรายชื่อ
    นายกรัฐมนตรี
    ดูรายชื่อ
    พระราชสมภพ
    5 ธันวาคม พ.ศ. 2470
    โรงพยาบาลเคมบริดจ์ เคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ
    สวรรคต
    13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 (88 พรรษา)
    โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
    ถวายพระเพลิง
    26 ตุลาคม พ.ศ. 2560
    พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง
    บรรจุพระอัฐิ
    พระวิมานทองกลาง
    บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
    พระอัครมเหสี
    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (สมรส 2493)
    พระราชบุตร
    รายละเอียด
    ดูรายพระนาม
    วัดประจำรัชกาล
    วัดบวรนิเวศวิหาร
    ราชวงศ์
    จักรี
    ราชสกุล
    มหิดล
    พระราชบิดา
    สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
    พระราชมารดา
    สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
    ศาสนา
    พุทธเถรวาท
    ลายพระอภิไธย

    พระสุรเสียงของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
    ระยะเวลา: 1 minute and 31 seconds1:31
    พระองค์เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ที่โรงพยาบาลเคมบริดจ์ (ปัจจุบัน โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น) เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ เป็นพระราชโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า


    พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ และได้ทรงหยุดยั้งการกบฏ เช่น กบฏเมษาฮาวายใน พ.ศ. 2524 และกบฏทหารนอกราชการใน พ.ศ. 2528 กระนั้น ในสมัยของพระองค์ได้มีการทำรัฐประหารโดยทหารหลายคณะ เช่น จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใน พ.ศ. 2500 กับพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ใน พ.ศ. 2549 ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์ มีนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่ง 26 คน โดยเริ่มต้นที่ปรีดี พนมยงค์ และสิ้นสุดลงที่ประยุทธ์ จันทร์โอชา[3]
    ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่เคารพพระองค์[4][5][6] อนึ่ง ตามรัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ และผู้ใดจะละเมิดมิได้ ส่วนประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติไว้ว่า การดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์เป็นความผิดอาญา[6] คณะรัฐมนตรีหลายชุดที่ได้รับการเลือกตั้งมาก็ถูกคณะทหารล้มล้างไปด้วยข้อกล่าวหาว่านักการเมืองผู้ใหญ่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ[7][8] กระนั้น พระองค์เองได้ตรัสเมื่อ พ.ศ. 2548 ว่า สาธารณชนพึงวิพากษ์วิจารณ์พระองค์ได้[9]
    พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญในประเทศไทยเกี่ยวกับพระราชดำริในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โคฟี แอนนัน เลขาธิการสหประชาชาติได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์แด่พระองค์[10] ด้านสินทรัพย์ของพระองค์ นิตยสาร ฟอบส์ จัดอันดับให้พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระราชทรัพย์มากที่สุดในโลกตั้งแต่ พ.ศ. 2551 ถึง พ.ศ. 2556[11] เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 พระองค์มีพระราชทรัพย์ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ดูหมายเหตุด้านล่าง)[12] สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ใช้ทรัพย์สินเพื่อสวัสดิการสาธารณะ เช่น เพื่อพัฒนาเยาวชน แต่ได้รับการยกเว้นมิต้องจ่ายภาษีและให้เปิดเผยการเงินต่อพระองค์ผู้เดียว[13] พระองค์ยังทรงอุทิศพระราชทรัพย์ในโครงการพัฒนาประเทศไทยหลายโครงการ โดยเฉพาะในทางเกษตรกรรม สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข การส่งเสริมอาชีพ ทรัพยากรน้ำ สวัสดิการทางคมนาคม และสวัสดิการสาธารณะ[14]


    พระชนม์ชีพช่วงต้น
    พระราชสมภพ
    พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชสมภพในราชสกุลมหิดลอันเป็นสายหนึ่งในราชวงศ์จักรี ณ ที่โรงพยาบาลเคมบริดจ์ (ปัจจุบัน โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น) เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ อันเป็นที่ซึ่งพระบรมราชชนกและพระบรมราชชนนีกำลังทรงศึกษาวิชาการอยู่ เมื่อวันจันทร์ ขึ้น 12 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ นพศก จ.ศ. 1289 ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470
    พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพระโอรสองค์ที่สามในสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในกาลต่อมา) และหม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา (สกุลเดิม ตะละภัฎ, สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในกาลต่อมา) มีพระนามเมื่อแรกประสูติอันปรากฏในสูติบัตรว่า "เบบี สงขลา" (อังกฤษ: Baby Songkla)[15] ต่อมาคือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพล อดุลเดช เมื่อได้รับพระราชทานนาม มีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า "เล็ก"[16][17]
    พระนามภูมิพลอดุลเดชนั้นพระบรมราชชนนีได้รับพระราชทานทางโทรเลขจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยทรงกำกับตัวสะกดเป็นอักษรโรมันว่า "Bhumibala Aduladeja" ทำให้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเข้าพระทัยว่าได้รับพระราชทานนามพระโอรสว่า "ภูมิบาล"[16] ในระยะแรกพระนามของพระองค์สะกดเป็นภาษาไทยว่า "ภูมิพลอดุลเดช" ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเองทรงเขียนว่า "ภูมิพลอดุลยเดช" โดยทรงเขียนทั้งสองแบบสลับกันไป จนมาทรงนิยมใช้แบบหลังซึ่งมีตัว "ย" สะกด[16][18]
    พระนามของพระองค์มีความหมายว่า
    ภูมิพล - ภูมิ หมายความว่า "แผ่นดิน" และ พล หมายความว่า "พลัง" รวมกันแล้วหมายถึง "พลังแห่งแผ่นดิน"
    อดุลยเดช - อดุลย หมายความว่า "ไม่อาจเทียบได้" และ เดช หมายความว่า "อำนาจ" รวมกันแล้วหมายถึง "อำนาจที่ไม่อาจเทียบได้"[19]
    เมื่อ พ.ศ. 2471 ได้เสด็จกลับสู่ประเทศไทยพร้อมพระบรมราชชนก ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ และสมเด็จพระเชษฐาธิราช โดยประทับ ณ วังสระปทุม ต่อมาวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 สมเด็จพระบรมราชชนกสวรรคต ขณะที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระชนมายุไม่ถึงสองพรรษา
    การศึกษา
    พ.ศ. 2475 เมื่อเจริญพระชนมายุได้ 4 พรรษา เสด็จเข้าศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยจนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2476 จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยพระบรมราชชนนีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชเพื่อการศึกษาและพระพลานามัยของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนเมียร์มองต์ เมืองโลซาน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2477 ทรงศึกษาวิชาภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาอังกฤษ แล้วทรงเข้าชั้นมัธยมศึกษา ณ เอกอลนูแวลเดอลาซุอิสรอม็องด์ (École Nouvelle de la Suisse Romande) เมืองชายี-ซูร์-โลซาน (Chailly-sur-Lausanne)
    สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ

    รัชกาลที่ 8 (ซ้าย) และเจ้าฟ้าชายภูมิพล (ขวา) เสด็จพระราชดำเนินไปชมรถไฟจำลองที่สวนสราญรมย์ ที่กรุงเทพมหานคร ใน พ.ศ. 2481
    เมื่อพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ก็ได้รับการสถาปนาฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพล อดุลเดช เมื่อได้รับพระราชทานนาม มีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า "เล็ก"[16][17]
    พระนามภูมิพลอดุลเดชนั้นพระบรมราชชนนีได้รับพระราชทานทางโทรเลขจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยทรงกำกับตัวสะกดเป็นอักษรโรมันว่า "Bhumibala Aduladeja" ทำให้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเข้าพระทัยว่าได้รับพระราชทานนามพระโอรสว่า "ภูมิบาล"[16] ในระยะแรกพระนามของพระองค์สะกดเป็นภาษาไทยว่า "ภูมิพลอดุลเดช" ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเองทรงเขียนว่า "ภูมิพลอดุลยเดช" โดยทรงเขียนทั้งสองแบบสลับกันไป จนมาทรงนิยมใช้แบบหลังซึ่งมีตัว "ย" สะกด[16][18]
    พระนามของพระองค์มีความหมายว่า
    ภูมิพล - ภูมิ หมายความว่า "แผ่นดิน" และ พล หมายความว่า "พลัง" รวมกันแล้วหมายถึง "พลังแห่งแผ่นดิน"
    อดุลยเดช - อดุลย หมายความว่า "ไม่อาจเทียบได้" และ เดช หมายความว่า "อำนาจ" รวมกันแล้วหมายถึง "อำนาจที่ไม่อาจเทียบได้"[19]
    เมื่อ พ.ศ. 2471 ได้เสด็จกลับสู่ประเทศไทยพร้อมพระบรมราชชนก ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ และสมเด็จพระเชษฐาธิราช โดยประทับ ณ วังสระปทุม ต่อมาวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 สมเด็จพระบรมราชชนกสวรรคต ขณะที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระชนมายุไม่ถึงสองพรรษา
    การศึกษา
    พ.ศ. 2475 เมื่อเจริญพระชนมายุได้ 4 พรรษา เสด็จเข้าศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยจนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2476 จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยพระบรมราชชนนีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชเพื่อการศึกษาและพระพลานามัยของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนเมียร์มองต์ เมืองโลซาน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2477 ทรงศึกษาวิชาภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาอังกฤษ แล้วทรงเข้าชั้นมัธยมศึกษา ณ เอกอลนูแวลเดอลาซุอิสรอม็องด์ (École Nouvelle de la Suisse Romande) เมืองชายี-ซูร์-โลซาน (Chailly-sur-Lausanne)
    สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ

    รัชกาลที่ 8 (ซ้าย) และเจ้าฟ้าชายภูมิพล (ขวา) เสด็จพระราชดำเนินไปชมรถไฟจำลองที่สวนสราญรมย์ ที่กรุงเทพมหานคร ใน พ.ศ. 2481
    เมื่อพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ก็ได้รับการสถาปนาฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพล อดุลเดช เมื่อได้รับพระราชทานนาม มีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า "เล็ก"[16][17]
    พระนามภูมิพลอดุลเดชนั้นพระบรมราชชนนีได้รับพระราชทานทางโทรเลขจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยทรงกำกับตัวสะกดเป็นอักษรโรมันว่า "Bhumibala Aduladeja" ทำให้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเข้าพระทัยว่าได้รับพระราชทานนามพระโอรสว่า "ภูมิบาล"[16] ในระยะแรกพระนามของพระองค์สะกดเป็นภาษาไทยว่า "ภูมิพลอดุลเดช" ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเองทรงเขียนว่า "ภูมิพลอดุลยเดช" โดยทรงเขียนทั้งสองแบบสลับกันไป จนมาทรงนิยมใช้แบบหลังซึ่งมีตัว "ย" สะกด[16][18]
    พระนามของพระองค์มีความหมายว่า
    ภูมิพล - ภูมิ หมายความว่า "แผ่นดิน" และ พล หมายความว่า "พลัง" รวมกันแล้วหมายถึง "พลังแห่งแผ่นดิน"
    อดุลยเดช - อดุลย หมายความว่า "ไม่อาจเทียบได้" และ เดช หมายความว่า "อำนาจ" รวมกันแล้วหมายถึง "อำนาจที่ไม่อาจเทียบได้"[19]
    เมื่อ พ.ศ. 2471 ได้เสด็จกลับสู่ประเทศไทยพร้อมพระบรมราชชนก ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ และสมเด็จพระเชษฐาธิราช โดยประทับ ณ วังสระปทุม ต่อมาวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 สมเด็จพระบรมราชชนกสวรรคต ขณะที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระชนมายุไม่ถึงสองพรรษา
    การศึกษา
    พ.ศ. 2475 เมื่อเจริญพระชนมายุได้ 4 พรรษา เสด็จเข้าศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยจนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2476 จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยพระบรมราชชนนีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชเพื่อการศึกษาและพระพลานามัยของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนเมียร์มองต์ เมืองโลซาน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2477 ทรงศึกษาวิชาภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาอังกฤษ แล้วทรงเข้าชั้นมัธยมศึกษา ณ เอกอลนูแวลเดอลาซุอิสรอม็องด์ (École Nouvelle de la Suisse Romande) เมืองชายี-ซูร์-โลซาน (Chailly-sur-Lausanne)
    สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ

    รัชกาลที่ 8 (ซ้าย) และเจ้าฟ้าชายภูมิพล (ขวา) เสด็จพระราชดำเนินไปชมรถไฟจำลองที่สวนสราญรมย์ ที่กรุงเทพมหานคร ใน พ.ศ. 2481
    เมื่อพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ก็ได้รับการสถาปนาฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพล
    อดุลเดช เมื่อได้รับพระราชทานนาม มีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า "เล็ก"[16][17]
    พระนามภูมิพลอดุลเดชนั้นพระบรมราชชนนีได้รับพระราชทานทางโทรเลขจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยทรงกำกับตัวสะกดเป็นอักษรโรมันว่า "Bhumibala Aduladeja" ทำให้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเข้าพระทัยว่าได้รับพระราชทานนามพระโอรสว่า "ภูมิบาล"[16] ในระยะแรกพระนามของพระองค์สะกดเป็นภาษาไทยว่า "ภูมิพลอดุลเดช" ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเองทรงเขียนว่า "ภูมิพลอดุลยเดช" โดยทรงเขียนทั้งสองแบบสลับกันไป จนมาทรงนิยมใช้แบบหลังซึ่งมีตัว "ย" สะกด[16][18]
    พระนามของพระองค์มีความหมายว่า
    ภูมิพล - ภูมิ หมายความว่า "แผ่นดิน" และ พล หมายความว่า "พลัง" รวมกันแล้วหมายถึง "พลังแห่งแผ่นดิน"
    อดุลยเดช - อดุลย หมายความว่า "ไม่อาจเทียบได้" และ เดช หมายความว่า "อำนาจ" รวมกันแล้วหมายถึง "อำนาจที่ไม่อาจเทียบได้"[19]
    เมื่อ พ.ศ. 2471 ได้เสด็จกลับสู่ประเทศไทยพร้อมพระบรมราชชนก ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ และสมเด็จพระเชษฐาธิราช โดยประทับ ณ วังสระปทุม ต่อมาวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 สมเด็จพระบรมราชชนกสวรรคต ขณะที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระชนมายุไม่ถึงสองพรรษา
    การศึกษา
    พ.ศ. 2475 เมื่อเจริญพระชนมายุได้ 4 พรรษา เสด็จเข้าศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยจนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2476 จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยพระบรมราชชนนีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชเพื่อการศึกษาและพระพลานามัยของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนเมียร์มองต์ เมืองโลซาน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2477 ทรงศึกษาวิชาภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาอังกฤษ แล้วทรงเข้าชั้นมัธยมศึกษา ณ เอกอลนูแวลเดอลาซุอิสรอม็องด์ (École Nouvelle de la Suisse Romande) เมืองชายี-ซูร์-โลซา น (Chailly-sur-Lausanne)
    13/10/67 คิดถึงพ่อ ในหลวง ร.9 คลิปที่หลายๆคนไม่เคยเห็น ในหลวงเสด็จด้วยรถไฟใต้ดิน ชอบตอนที่ได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์ท่าน...ตอนใกล้ๆจบ #แบ่งปันกันนะ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559) เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีและเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 53 ตามประวัติศาสตร์ไทย ครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ด้วยพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร จนสวรรคต เป็นประมุขแห่งรัฐที่ครองราชย์ยาวนานมากที่สุดตลอดกาลในประเทศไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปเอเชีย[1] พระองค์ยังเป็นประมุขแห่งรัฐที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในโลกในขณะทรงพระชนม์ นับตั้งแต่การสวรรคตของสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะแห่งญี่ปุ่นใน พ.ศ. 2532 กระทั่งสวรรคตใน พ.ศ. 2559[2] อีกทั้งเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดตลอดกาลอันดับที่ 3 ของโลก ด้วยระยะเวลาในราชสมบัติทั้งสิ้น 70 ปี 126 วัน[1] พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระภัทรมหาราช พระบรมฉายาลักษณ์ พ.ศ. 2503 พระมหากษัตริย์ไทย ครองราชย์ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 (70 ปี 126 วัน) ราชาภิเษก 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ก่อนหน้า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ถัดไป พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ดูรายพระนามและรายชื่อ นายกรัฐมนตรี ดูรายชื่อ พระราชสมภพ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โรงพยาบาลเคมบริดจ์ เคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ สวรรคต 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 (88 พรรษา) โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ถวายพระเพลิง 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง บรรจุพระอัฐิ พระวิมานทองกลาง บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระอัครมเหสี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (สมรส 2493) พระราชบุตร รายละเอียด ดูรายพระนาม วัดประจำรัชกาล วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวงศ์ จักรี ราชสกุล มหิดล พระราชบิดา สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระราชมารดา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ศาสนา พุทธเถรวาท ลายพระอภิไธย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระภัทรมหาราช พระบรมฉายาลักษณ์ พ.ศ. 2503 พระมหากษัตริย์ไทย ครองราชย์ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 (70 ปี 126 วัน) ราชาภิเษก 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ก่อนหน้า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ถัดไป พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ดูรายพระนามและรายชื่อ นายกรัฐมนตรี ดูรายชื่อ พระราชสมภพ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โรงพยาบาลเคมบริดจ์ เคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ สวรรคต 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 (88 พรรษา) โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ถวายพระเพลิง 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง บรรจุพระอัฐิ พระวิมานทองกลาง บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระอัครมเหสี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (สมรส 2493) พระราชบุตร รายละเอียด ดูรายพระนาม วัดประจำรัชกาล วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวงศ์ จักรี ราชสกุล มหิดล พระราชบิดา สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระราชมารดา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ศาสนา พุทธเถรวาท ลายพระอภิไธย พระสุรเสียงของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ระยะเวลา: 1 minute and 31 seconds1:31 พระองค์เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ที่โรงพยาบาลเคมบริดจ์ (ปัจจุบัน โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น) เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ เป็นพระราชโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ และได้ทรงหยุดยั้งการกบฏ เช่น กบฏเมษาฮาวายใน พ.ศ. 2524 และกบฏทหารนอกราชการใน พ.ศ. 2528 กระนั้น ในสมัยของพระองค์ได้มีการทำรัฐประหารโดยทหารหลายคณะ เช่น จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใน พ.ศ. 2500 กับพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ใน พ.ศ. 2549 ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์ มีนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่ง 26 คน โดยเริ่มต้นที่ปรีดี พนมยงค์ และสิ้นสุดลงที่ประยุทธ์ จันทร์โอชา[3] ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่เคารพพระองค์[4][5][6] อนึ่ง ตามรัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ และผู้ใดจะละเมิดมิได้ ส่วนประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติไว้ว่า การดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์เป็นความผิดอาญา[6] คณะรัฐมนตรีหลายชุดที่ได้รับการเลือกตั้งมาก็ถูกคณะทหารล้มล้างไปด้วยข้อกล่าวหาว่านักการเมืองผู้ใหญ่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ[7][8] กระนั้น พระองค์เองได้ตรัสเมื่อ พ.ศ. 2548 ว่า สาธารณชนพึงวิพากษ์วิจารณ์พระองค์ได้[9] พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญในประเทศไทยเกี่ยวกับพระราชดำริในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โคฟี แอนนัน เลขาธิการสหประชาชาติได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์แด่พระองค์[10] ด้านสินทรัพย์ของพระองค์ นิตยสาร ฟอบส์ จัดอันดับให้พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระราชทรัพย์มากที่สุดในโลกตั้งแต่ พ.ศ. 2551 ถึง พ.ศ. 2556[11] เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 พระองค์มีพระราชทรัพย์ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ดูหมายเหตุด้านล่าง)[12] สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ใช้ทรัพย์สินเพื่อสวัสดิการสาธารณะ เช่น เพื่อพัฒนาเยาวชน แต่ได้รับการยกเว้นมิต้องจ่ายภาษีและให้เปิดเผยการเงินต่อพระองค์ผู้เดียว[13] พระองค์ยังทรงอุทิศพระราชทรัพย์ในโครงการพัฒนาประเทศไทยหลายโครงการ โดยเฉพาะในทางเกษตรกรรม สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข การส่งเสริมอาชีพ ทรัพยากรน้ำ สวัสดิการทางคมนาคม และสวัสดิการสาธารณะ[14] พระชนม์ชีพช่วงต้น พระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชสมภพในราชสกุลมหิดลอันเป็นสายหนึ่งในราชวงศ์จักรี ณ ที่โรงพยาบาลเคมบริดจ์ (ปัจจุบัน โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น) เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ อันเป็นที่ซึ่งพระบรมราชชนกและพระบรมราชชนนีกำลังทรงศึกษาวิชาการอยู่ เมื่อวันจันทร์ ขึ้น 12 ค่ำ เดือนอ้าย ปีเถาะ นพศก จ.ศ. 1289 ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพระโอรสองค์ที่สามในสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในกาลต่อมา) และหม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา (สกุลเดิม ตะละภัฎ, สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในกาลต่อมา) มีพระนามเมื่อแรกประสูติอันปรากฏในสูติบัตรว่า "เบบี สงขลา" (อังกฤษ: Baby Songkla)[15] ต่อมาคือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพล อดุลเดช เมื่อได้รับพระราชทานนาม มีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า "เล็ก"[16][17] พระนามภูมิพลอดุลเดชนั้นพระบรมราชชนนีได้รับพระราชทานทางโทรเลขจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยทรงกำกับตัวสะกดเป็นอักษรโรมันว่า "Bhumibala Aduladeja" ทำให้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเข้าพระทัยว่าได้รับพระราชทานนามพระโอรสว่า "ภูมิบาล"[16] ในระยะแรกพระนามของพระองค์สะกดเป็นภาษาไทยว่า "ภูมิพลอดุลเดช" ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเองทรงเขียนว่า "ภูมิพลอดุลยเดช" โดยทรงเขียนทั้งสองแบบสลับกันไป จนมาทรงนิยมใช้แบบหลังซึ่งมีตัว "ย" สะกด[16][18] พระนามของพระองค์มีความหมายว่า ภูมิพล - ภูมิ หมายความว่า "แผ่นดิน" และ พล หมายความว่า "พลัง" รวมกันแล้วหมายถึง "พลังแห่งแผ่นดิน" อดุลยเดช - อดุลย หมายความว่า "ไม่อาจเทียบได้" และ เดช หมายความว่า "อำนาจ" รวมกันแล้วหมายถึง "อำนาจที่ไม่อาจเทียบได้"[19] เมื่อ พ.ศ. 2471 ได้เสด็จกลับสู่ประเทศไทยพร้อมพระบรมราชชนก ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ และสมเด็จพระเชษฐาธิราช โดยประทับ ณ วังสระปทุม ต่อมาวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 สมเด็จพระบรมราชชนกสวรรคต ขณะที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระชนมายุไม่ถึงสองพรรษา การศึกษา พ.ศ. 2475 เมื่อเจริญพระชนมายุได้ 4 พรรษา เสด็จเข้าศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยจนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2476 จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยพระบรมราชชนนีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชเพื่อการศึกษาและพระพลานามัยของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนเมียร์มองต์ เมืองโลซาน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2477 ทรงศึกษาวิชาภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาอังกฤษ แล้วทรงเข้าชั้นมัธยมศึกษา ณ เอกอลนูแวลเดอลาซุอิสรอม็องด์ (École Nouvelle de la Suisse Romande) เมืองชายี-ซูร์-โลซาน (Chailly-sur-Lausanne) สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ รัชกาลที่ 8 (ซ้าย) และเจ้าฟ้าชายภูมิพล (ขวา) เสด็จพระราชดำเนินไปชมรถไฟจำลองที่สวนสราญรมย์ ที่กรุงเทพมหานคร ใน พ.ศ. 2481 เมื่อพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ก็ได้รับการสถาปนาฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพล อดุลเดช เมื่อได้รับพระราชทานนาม มีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า "เล็ก"[16][17] พระนามภูมิพลอดุลเดชนั้นพระบรมราชชนนีได้รับพระราชทานทางโทรเลขจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยทรงกำกับตัวสะกดเป็นอักษรโรมันว่า "Bhumibala Aduladeja" ทำให้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเข้าพระทัยว่าได้รับพระราชทานนามพระโอรสว่า "ภูมิบาล"[16] ในระยะแรกพระนามของพระองค์สะกดเป็นภาษาไทยว่า "ภูมิพลอดุลเดช" ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเองทรงเขียนว่า "ภูมิพลอดุลยเดช" โดยทรงเขียนทั้งสองแบบสลับกันไป จนมาทรงนิยมใช้แบบหลังซึ่งมีตัว "ย" สะกด[16][18] พระนามของพระองค์มีความหมายว่า ภูมิพล - ภูมิ หมายความว่า "แผ่นดิน" และ พล หมายความว่า "พลัง" รวมกันแล้วหมายถึง "พลังแห่งแผ่นดิน" อดุลยเดช - อดุลย หมายความว่า "ไม่อาจเทียบได้" และ เดช หมายความว่า "อำนาจ" รวมกันแล้วหมายถึง "อำนาจที่ไม่อาจเทียบได้"[19] เมื่อ พ.ศ. 2471 ได้เสด็จกลับสู่ประเทศไทยพร้อมพระบรมราชชนก ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ และสมเด็จพระเชษฐาธิราช โดยประทับ ณ วังสระปทุม ต่อมาวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 สมเด็จพระบรมราชชนกสวรรคต ขณะที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระชนมายุไม่ถึงสองพรรษา การศึกษา พ.ศ. 2475 เมื่อเจริญพระชนมายุได้ 4 พรรษา เสด็จเข้าศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยจนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2476 จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยพระบรมราชชนนีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชเพื่อการศึกษาและพระพลานามัยของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนเมียร์มองต์ เมืองโลซาน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2477 ทรงศึกษาวิชาภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาอังกฤษ แล้วทรงเข้าชั้นมัธยมศึกษา ณ เอกอลนูแวลเดอลาซุอิสรอม็องด์ (École Nouvelle de la Suisse Romande) เมืองชายี-ซูร์-โลซาน (Chailly-sur-Lausanne) สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ รัชกาลที่ 8 (ซ้าย) และเจ้าฟ้าชายภูมิพล (ขวา) เสด็จพระราชดำเนินไปชมรถไฟจำลองที่สวนสราญรมย์ ที่กรุงเทพมหานคร ใน พ.ศ. 2481 เมื่อพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ก็ได้รับการสถาปนาฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพล อดุลเดช เมื่อได้รับพระราชทานนาม มีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า "เล็ก"[16][17] พระนามภูมิพลอดุลเดชนั้นพระบรมราชชนนีได้รับพระราชทานทางโทรเลขจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยทรงกำกับตัวสะกดเป็นอักษรโรมันว่า "Bhumibala Aduladeja" ทำให้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเข้าพระทัยว่าได้รับพระราชทานนามพระโอรสว่า "ภูมิบาล"[16] ในระยะแรกพระนามของพระองค์สะกดเป็นภาษาไทยว่า "ภูมิพลอดุลเดช" ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเองทรงเขียนว่า "ภูมิพลอดุลยเดช" โดยทรงเขียนทั้งสองแบบสลับกันไป จนมาทรงนิยมใช้แบบหลังซึ่งมีตัว "ย" สะกด[16][18] พระนามของพระองค์มีความหมายว่า ภูมิพล - ภูมิ หมายความว่า "แผ่นดิน" และ พล หมายความว่า "พลัง" รวมกันแล้วหมายถึง "พลังแห่งแผ่นดิน" อดุลยเดช - อดุลย หมายความว่า "ไม่อาจเทียบได้" และ เดช หมายความว่า "อำนาจ" รวมกันแล้วหมายถึง "อำนาจที่ไม่อาจเทียบได้"[19] เมื่อ พ.ศ. 2471 ได้เสด็จกลับสู่ประเทศไทยพร้อมพระบรมราชชนก ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ และสมเด็จพระเชษฐาธิราช โดยประทับ ณ วังสระปทุม ต่อมาวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 สมเด็จพระบรมราชชนกสวรรคต ขณะที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระชนมายุไม่ถึงสองพรรษา การศึกษา พ.ศ. 2475 เมื่อเจริญพระชนมายุได้ 4 พรรษา เสด็จเข้าศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยจนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2476 จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยพระบรมราชชนนีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชเพื่อการศึกษาและพระพลานามัยของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนเมียร์มองต์ เมืองโลซาน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2477 ทรงศึกษาวิชาภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาอังกฤษ แล้วทรงเข้าชั้นมัธยมศึกษา ณ เอกอลนูแวลเดอลาซุอิสรอม็องด์ (École Nouvelle de la Suisse Romande) เมืองชายี-ซูร์-โลซาน (Chailly-sur-Lausanne) สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ รัชกาลที่ 8 (ซ้าย) และเจ้าฟ้าชายภูมิพล (ขวา) เสด็จพระราชดำเนินไปชมรถไฟจำลองที่สวนสราญรมย์ ที่กรุงเทพมหานคร ใน พ.ศ. 2481 เมื่อพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ก็ได้รับการสถาปนาฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพล อดุลเดช เมื่อได้รับพระราชทานนาม มีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า "เล็ก"[16][17] พระนามภูมิพลอดุลเดชนั้นพระบรมราชชนนีได้รับพระราชทานทางโทรเลขจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยทรงกำกับตัวสะกดเป็นอักษรโรมันว่า "Bhumibala Aduladeja" ทำให้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเข้าพระทัยว่าได้รับพระราชทานนามพระโอรสว่า "ภูมิบาล"[16] ในระยะแรกพระนามของพระองค์สะกดเป็นภาษาไทยว่า "ภูมิพลอดุลเดช" ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเองทรงเขียนว่า "ภูมิพลอดุลยเดช" โดยทรงเขียนทั้งสองแบบสลับกันไป จนมาทรงนิยมใช้แบบหลังซึ่งมีตัว "ย" สะกด[16][18] พระนามของพระองค์มีความหมายว่า ภูมิพล - ภูมิ หมายความว่า "แผ่นดิน" และ พล หมายความว่า "พลัง" รวมกันแล้วหมายถึง "พลังแห่งแผ่นดิน" อดุลยเดช - อดุลย หมายความว่า "ไม่อาจเทียบได้" และ เดช หมายความว่า "อำนาจ" รวมกันแล้วหมายถึง "อำนาจที่ไม่อาจเทียบได้"[19] เมื่อ พ.ศ. 2471 ได้เสด็จกลับสู่ประเทศไทยพร้อมพระบรมราชชนก ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ และสมเด็จพระเชษฐาธิราช โดยประทับ ณ วังสระปทุม ต่อมาวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 สมเด็จพระบรมราชชนกสวรรคต ขณะที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระชนมายุไม่ถึงสองพรรษา การศึกษา พ.ศ. 2475 เมื่อเจริญพระชนมายุได้ 4 พรรษา เสด็จเข้าศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยจนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2476 จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยพระบรมราชชนนีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชเพื่อการศึกษาและพระพลานามัยของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา ณ โรงเรียนเมียร์มองต์ เมืองโลซาน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2477 ทรงศึกษาวิชาภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาอังกฤษ แล้วทรงเข้าชั้นมัธยมศึกษา ณ เอกอลนูแวลเดอลาซุอิสรอม็องด์ (École Nouvelle de la Suisse Romande) เมืองชายี-ซูร์-โลซา น (Chailly-sur-Lausanne)
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 462 Views 91 0 Reviews
  • โรมท่องซ้ำ ไม่เอานิติสงคราม 10/10/67 #โรม รังสิมันต์ #นิติสงคราม #การเมือง #พรรคประชาชน
    โรมท่องซ้ำ ไม่เอานิติสงคราม 10/10/67 #โรม รังสิมันต์ #นิติสงคราม #การเมือง #พรรคประชาชน
    Like
    Haha
    Angry
    10
    1 Comments 1 Shares 1557 Views 355 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/watch?v=UruCLtO92OQ
    นิทานเรื่องหมูน้อย 3 ตัว ตอนที่ 1
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากนิทานเรื่องหมูน้อย 3 ตัว ตอนที่ 1
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #listeningtest #listening #englishtest

    Part one ตอน 1

    Once upon a time there were three little pigs, who left their mummy and daddy. All summer long, they roamed through the woods and over the plains, playing games and having fun. None were happier than the three little pigs, and they easily made friends with everyone. Wherever they went, they were given a warm welcome, but as summer drew to a close, they realized that folk were going back to their usual jobs, and preparing for winter. Autumn came and it began to rain. The three little pigs started to feel they needed a real home. Sadly they knew that the fun was over now and they must work like the others, or they'd be left in the cold and rain, for they had no home to stay. They talked about what to do. Each had to decide himself to build his home. The laziest little pig said he'd build a straw hut because it was very easy.

    กาลครั้งหนึ่งมีหมูน้อยสามตัวซึ่งได้เดินทางจากพ่อแม่ของพวกเขา ตลอดทั้งฤดูร้อนพวกเขาได้ท่องเที่ยวไปยังป่าและบนทุ่งกว้างหลายต่อหลายแห่งมีการเล่นเกมส์กันสนุกสนานทีเดียว ไม่มีผู้ใดที่มีความสุขไปกว่าหมูน้อยสามตัวนี้และพวกเขาผูกมิตรกับทุกคนได้อย่างง่ายดาย ที่ไหนก็ตามที่พวกเขาไป พวกเขาได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น แต่พอเมื่อฤดูร้อนได้ใกล้จะสิ้นสุดลง พวกเขาเข้าใจดีว่า ฝูงชนต่างก็กำลังกลับไปทำงานตามปกติของพวกเขา และเพื่อเตรียมตัวสำหรับฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วงได้มาถึงและฝนก็เริ่มตก หมูน้อยเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาจำเป็นต้องการบ้านที่แท้จริงสักหลัง พวกเขารู้อย่างเศร้าๆ ว่าความสนุกสนานได้หมดลงเดี๋ยวนี้แล้ว และพวกเขาต้องไปทำงานเหมือนคนอื่น ๆ หรือไม่ก็ต้องถูกทิ้งอยู่ในที่หนาวเย็นและฝนตกเพราะพวกเขาไม่มีบ้านที่จะอยู่ พวกเขาจึงได้คุยเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ แต่ละตัวต้องตัดสินใจด้วยตัวเองที่จะสร้างบ้านของเขา หมูตัวน้อยที่ขี้เกียจที่สุดพูดว่าเขาอยากสร้างกระท่อมฟางสักหลังเพราะมันง่ายมาก

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)
    little (ลิท'เทิล) คำคุณศัพท์ แปลว่า เล็ก,น้อย
    left (เลฟทฺ) คำกริยาช่องที่ 2 ของ leave (ลีฟว) {leave, left, left, leaving, leaves} แปลว่า จากไป
    mummy (มัม'มี) คำนาม แปลว่า คุณแม่
    daddy (แดด'ดี) คำนาม แปลว่า คุณพ่อ
    summer (ซัม'เมอะ) คำนาม แปลว่า ฤดูร้อน
    roamed คำกริยาช่องที่ 2 ของ roam (โรม) {roam, roamed, roamed} แปลว่า ท่องเที่ยว
    woods (วูดซ) คำนาม แปลว่า ป่าไม้
    plains คำนามพหูพจน์ของ plain (เพลน) แปลว่า ทุ่งกว้าง
    games คำนามพหูพจน์ของ game (เกม) แปลว่า เกม
    fun (ฟัน) คำนามแปลว่า ความสนุกสนาน
    happier ขั้นกว่าของ happy (แฮพ'พี) คำคุณศัพท์ แปลว่า มีความสุข
    easily (อี'ซีลี) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า อย่างง่ายดาย
    friends (เฟรนดฺ) คำนาม แปลว่า เพื่อน
    wherever (แวร์เอฟ'เวอะ) คำกริยาวิเศษณ์แปลว่า ที่ไหนก็ตาม
    given (กิฟ'เวิน) คำกริยาช่องที่ 3 ของ give (กิฟว) {give, gave, given, giving, gives} แปลว่า ให้
    warm (วอร์ม) คำคุณศัพท์ แปลว่า อบอุ่น
    welcome (เวล'คัม) คำนาม แปลว่า การต้อนรับ
    drew (ดรู) คำกริยาช่องที่ 2 ของ draw (ดรอ) {draw, drew, drawn, drawing, draws} แปลว่า ใกล้เข้ามา
    close (โคลส) คำนาม แปลว่า สิ้นสุด
    realized คำกริยาช่องที่ 2 ของ realize (รี'อะไลซ) {realize, realized, realized}แปลว่า เข้าใจ
    folk (โฟล์ค) คำนาม แปลว่า ฝูงชน
    usual (ยู'ชวล) คำคุณศัพท์ แปลว่า ตามปกติ
    jobs คำนามพหูพจน์ของ job (จอบ) แปลว่า งาน
    preparing คำเติม ing ของ prepare (พรีแพร์') แปลว่า เตรียมตัว
    winter (วิน'เทอะ) คำนาม แปลว่า ฤดูหนาว
    autumn (ออ'ทัมน์) คำนาม แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง
    began (บิแกน') คำกริยาช่องที่ 2 ของ begin (บิกิน') {begin, began, begun, beginning, begins} แปลว่า เริ่ม
    rain (เรน) คำกริยา แปลว่า ฝนตก
    started คำกริยาช่องที่ 2 ของ start (สทาร์ท) {start, started, started}แปลว่า เริ่ม, เริ่มต้น
    feel (ฟีล) คำกริยา แปลว่า รู้สึก
    needed คำกริยาช่องที่ 2 ของ need (นีด) {need, needed, needed, needing, needs} แปลว่า จำเป็น
    real (เรียล) คำคุณศัพท์ แปลว่า แท้,จริง
    home (โฮม) คำนาม แปลว่า บ้าน
    knew (นิว) คำกริยาช่องที่ 2 ของ know (โน) {know, knew, known, knowing, knows} แปลว่า รู้
    over (โอ'เวอะ) คำคุณศัพท์ แปลว่า จบสิ้นลง
    now (เนา) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า เดี๋ยวนี้ ตอนนี้
    work (เวิร์ค) คำกริยา แปลว่า ทำงาน
    like (ไลคฺ) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า เหมือนกับ
    cold โคลดฺ) คำนาม แปลว่าหนาว
    decide (ดิไซดฺ') คำกริยา แปลว่า ตัดสินใจ
    build (บิลดฺ) คำกริยา แปลว่า สร้าง
    laziest ขั้นสุดของ lazy (เล'ซิ) คำคุณศัพท์ แปลว่า ขี้เกียจ
    straw (สทรอ) คำนาม แปลว่า ฟาง
    hut (ฮัท) คำนาม แปลว่า กระท่อม
    https://www.youtube.com/watch?v=UruCLtO92OQ นิทานเรื่องหมูน้อย 3 ตัว ตอนที่ 1 (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากนิทานเรื่องหมูน้อย 3 ตัว ตอนที่ 1 มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #listeningtest #listening #englishtest Part one ตอน 1 Once upon a time there were three little pigs, who left their mummy and daddy. All summer long, they roamed through the woods and over the plains, playing games and having fun. None were happier than the three little pigs, and they easily made friends with everyone. Wherever they went, they were given a warm welcome, but as summer drew to a close, they realized that folk were going back to their usual jobs, and preparing for winter. Autumn came and it began to rain. The three little pigs started to feel they needed a real home. Sadly they knew that the fun was over now and they must work like the others, or they'd be left in the cold and rain, for they had no home to stay. They talked about what to do. Each had to decide himself to build his home. The laziest little pig said he'd build a straw hut because it was very easy. กาลครั้งหนึ่งมีหมูน้อยสามตัวซึ่งได้เดินทางจากพ่อแม่ของพวกเขา ตลอดทั้งฤดูร้อนพวกเขาได้ท่องเที่ยวไปยังป่าและบนทุ่งกว้างหลายต่อหลายแห่งมีการเล่นเกมส์กันสนุกสนานทีเดียว ไม่มีผู้ใดที่มีความสุขไปกว่าหมูน้อยสามตัวนี้และพวกเขาผูกมิตรกับทุกคนได้อย่างง่ายดาย ที่ไหนก็ตามที่พวกเขาไป พวกเขาได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น แต่พอเมื่อฤดูร้อนได้ใกล้จะสิ้นสุดลง พวกเขาเข้าใจดีว่า ฝูงชนต่างก็กำลังกลับไปทำงานตามปกติของพวกเขา และเพื่อเตรียมตัวสำหรับฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วงได้มาถึงและฝนก็เริ่มตก หมูน้อยเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาจำเป็นต้องการบ้านที่แท้จริงสักหลัง พวกเขารู้อย่างเศร้าๆ ว่าความสนุกสนานได้หมดลงเดี๋ยวนี้แล้ว และพวกเขาต้องไปทำงานเหมือนคนอื่น ๆ หรือไม่ก็ต้องถูกทิ้งอยู่ในที่หนาวเย็นและฝนตกเพราะพวกเขาไม่มีบ้านที่จะอยู่ พวกเขาจึงได้คุยเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ แต่ละตัวต้องตัดสินใจด้วยตัวเองที่จะสร้างบ้านของเขา หมูตัวน้อยที่ขี้เกียจที่สุดพูดว่าเขาอยากสร้างกระท่อมฟางสักหลังเพราะมันง่ายมาก Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) little (ลิท'เทิล) คำคุณศัพท์ แปลว่า เล็ก,น้อย left (เลฟทฺ) คำกริยาช่องที่ 2 ของ leave (ลีฟว) {leave, left, left, leaving, leaves} แปลว่า จากไป mummy (มัม'มี) คำนาม แปลว่า คุณแม่ daddy (แดด'ดี) คำนาม แปลว่า คุณพ่อ summer (ซัม'เมอะ) คำนาม แปลว่า ฤดูร้อน roamed คำกริยาช่องที่ 2 ของ roam (โรม) {roam, roamed, roamed} แปลว่า ท่องเที่ยว woods (วูดซ) คำนาม แปลว่า ป่าไม้ plains คำนามพหูพจน์ของ plain (เพลน) แปลว่า ทุ่งกว้าง games คำนามพหูพจน์ของ game (เกม) แปลว่า เกม fun (ฟัน) คำนามแปลว่า ความสนุกสนาน happier ขั้นกว่าของ happy (แฮพ'พี) คำคุณศัพท์ แปลว่า มีความสุข easily (อี'ซีลี) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า อย่างง่ายดาย friends (เฟรนดฺ) คำนาม แปลว่า เพื่อน wherever (แวร์เอฟ'เวอะ) คำกริยาวิเศษณ์แปลว่า ที่ไหนก็ตาม given (กิฟ'เวิน) คำกริยาช่องที่ 3 ของ give (กิฟว) {give, gave, given, giving, gives} แปลว่า ให้ warm (วอร์ม) คำคุณศัพท์ แปลว่า อบอุ่น welcome (เวล'คัม) คำนาม แปลว่า การต้อนรับ drew (ดรู) คำกริยาช่องที่ 2 ของ draw (ดรอ) {draw, drew, drawn, drawing, draws} แปลว่า ใกล้เข้ามา close (โคลส) คำนาม แปลว่า สิ้นสุด realized คำกริยาช่องที่ 2 ของ realize (รี'อะไลซ) {realize, realized, realized}แปลว่า เข้าใจ folk (โฟล์ค) คำนาม แปลว่า ฝูงชน usual (ยู'ชวล) คำคุณศัพท์ แปลว่า ตามปกติ jobs คำนามพหูพจน์ของ job (จอบ) แปลว่า งาน preparing คำเติม ing ของ prepare (พรีแพร์') แปลว่า เตรียมตัว winter (วิน'เทอะ) คำนาม แปลว่า ฤดูหนาว autumn (ออ'ทัมน์) คำนาม แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง began (บิแกน') คำกริยาช่องที่ 2 ของ begin (บิกิน') {begin, began, begun, beginning, begins} แปลว่า เริ่ม rain (เรน) คำกริยา แปลว่า ฝนตก started คำกริยาช่องที่ 2 ของ start (สทาร์ท) {start, started, started}แปลว่า เริ่ม, เริ่มต้น feel (ฟีล) คำกริยา แปลว่า รู้สึก needed คำกริยาช่องที่ 2 ของ need (นีด) {need, needed, needed, needing, needs} แปลว่า จำเป็น real (เรียล) คำคุณศัพท์ แปลว่า แท้,จริง home (โฮม) คำนาม แปลว่า บ้าน knew (นิว) คำกริยาช่องที่ 2 ของ know (โน) {know, knew, known, knowing, knows} แปลว่า รู้ over (โอ'เวอะ) คำคุณศัพท์ แปลว่า จบสิ้นลง now (เนา) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ work (เวิร์ค) คำกริยา แปลว่า ทำงาน like (ไลคฺ) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า เหมือนกับ cold โคลดฺ) คำนาม แปลว่าหนาว decide (ดิไซดฺ') คำกริยา แปลว่า ตัดสินใจ build (บิลดฺ) คำกริยา แปลว่า สร้าง laziest ขั้นสุดของ lazy (เล'ซิ) คำคุณศัพท์ แปลว่า ขี้เกียจ straw (สทรอ) คำนาม แปลว่า ฟาง hut (ฮัท) คำนาม แปลว่า กระท่อม
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • 'ณฐพร โตประยูร' ร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรม 'รังสิมันต์ โรม' ใช้อำนาจ กมธ.ล้วงลูกคดี 'ทุน มิน หลัด'

    9 ตุลาคม 2567 - รายงานข่าวไทยโพสต์ระบุว่า นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนและมีความเห็นกรณี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยใช้สถานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ก้าวก่าย แทรกแซงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากส่วนราชการ อ้างวาระประชุมเพื่อพิจารณาศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์คดียาเสพติด การฟอกเงิน และการใช้บัญชีม้าในขบวนการยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยนำคดีของ นายทุน มิน หลัดที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องมาพิจารณา รวม 3 ครั้ง คือ วันที่ 29 ส.ค. 2567 วันที่ 11 ก.ย. 2567 และวันที่ 3 ต.ค. 2567 เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ ในการต่อสู้คดีที่ถูกนายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา ฟ้องหมิ่นประมาทจำนวน 3 คดี ค่าเสียหายรวม 140 ล้านบาท

    นายณฐพร กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการแสวงหาประโยชน์ส่วนตน เพราะหากนายรังสิมันต์จะหาข้อเท็จจริงต้องทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ คือ ต้องมีหนังสือถึงรัฐมนตรีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ส่งข้อเท็จจริงให้ นอกจากนี้ยังเรียกให้ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียมาให้ข้อมูลต่อที่ประชุม ทั้ง ๆ ที่นายอุปกิต ฟ้อง พ.ต.ท.มานะพงษ์ ต่อศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2566 และคดียังอยู่ชั้นศาลอุทธรณ์ ดังนั้นข้อมูลจาก พ.ต.ท.มานะพงษ์ จึงเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นกลาง และทำให้ พ.ต.ท.มานะพงษ์ รู้ข้อมูลเชิงลับ ในการสอบหาข้อเท็จจริงของคณะกรรมาธิการ ถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ฯ และ ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ที่ได้วางมาตรการป้องกันการใช้อำนาจของคณะกรรมาธิการอีกด้วย

    “ในเนื้อหาการประชุมเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า นายรังสิมันต์ มิได้ปฏิบัติหน้าที่ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม เช่น ต้องการให้ดำเนินคดีกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาแม่สายที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง และยังให้ผู้แทนกระทรวงมหาดไทยไปหาแนวทางยกเลิกสัญญาระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินระบุ

    https://www.thaipost.net/x-cite-news/670670/

    #Thaitimes
    'ณฐพร โตประยูร' ร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรม 'รังสิมันต์ โรม' ใช้อำนาจ กมธ.ล้วงลูกคดี 'ทุน มิน หลัด' 9 ตุลาคม 2567 - รายงานข่าวไทยโพสต์ระบุว่า นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนและมีความเห็นกรณี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยใช้สถานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ก้าวก่าย แทรกแซงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากส่วนราชการ อ้างวาระประชุมเพื่อพิจารณาศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์คดียาเสพติด การฟอกเงิน และการใช้บัญชีม้าในขบวนการยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยนำคดีของ นายทุน มิน หลัดที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องมาพิจารณา รวม 3 ครั้ง คือ วันที่ 29 ส.ค. 2567 วันที่ 11 ก.ย. 2567 และวันที่ 3 ต.ค. 2567 เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ ในการต่อสู้คดีที่ถูกนายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา ฟ้องหมิ่นประมาทจำนวน 3 คดี ค่าเสียหายรวม 140 ล้านบาท นายณฐพร กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการแสวงหาประโยชน์ส่วนตน เพราะหากนายรังสิมันต์จะหาข้อเท็จจริงต้องทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ คือ ต้องมีหนังสือถึงรัฐมนตรีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ส่งข้อเท็จจริงให้ นอกจากนี้ยังเรียกให้ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียมาให้ข้อมูลต่อที่ประชุม ทั้ง ๆ ที่นายอุปกิต ฟ้อง พ.ต.ท.มานะพงษ์ ต่อศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2566 และคดียังอยู่ชั้นศาลอุทธรณ์ ดังนั้นข้อมูลจาก พ.ต.ท.มานะพงษ์ จึงเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นกลาง และทำให้ พ.ต.ท.มานะพงษ์ รู้ข้อมูลเชิงลับ ในการสอบหาข้อเท็จจริงของคณะกรรมาธิการ ถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ฯ และ ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ที่ได้วางมาตรการป้องกันการใช้อำนาจของคณะกรรมาธิการอีกด้วย “ในเนื้อหาการประชุมเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่า นายรังสิมันต์ มิได้ปฏิบัติหน้าที่ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม เช่น ต้องการให้ดำเนินคดีกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาแม่สายที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง และยังให้ผู้แทนกระทรวงมหาดไทยไปหาแนวทางยกเลิกสัญญาระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินระบุ https://www.thaipost.net/x-cite-news/670670/ #Thaitimes
    WWW.THAIPOST.NET
    'ณฐพร' ร้องสอบจริยธรรม 'ทั่นโรม' ใช้อำนาจล้วงลูกคดี!
    'ณฐพร' ร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรม 'รังสิมันต์ โรม' ใช้อำนาจ กมธ.ล้วงลูกคดี 'ทุน มิน หลัด'
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 507 Views 0 Reviews
  • ชายคนหนึ่งพยายามจุดไฟเผาตัวเองระหว่างการชุมนุมที่กรุงวอชิงตันเรียกร้องอเมริกายุติการช่วยเหลืออิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (5 ต.ค.) นอกจากนั้น ยังมีผู้คนหลายหมื่นชุมนุมตามเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งทั่วโลก เรียกร้องให้ยุติสงครามนองเลือดในกาซาที่กำลังจะครบรอบ 1 ปี ในวันจันทร์ (7 ต.ค.) รวมทั้งการสู้รบที่กำลังลุกลามไปในตะวันออกกลาง
    .
    ที่กรุงลอนดอน ผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ราว 40,000 คนเดินขบวนไปตามถนนใจกลางเมือง ขณะที่มีผู้ประท้วงจำนวนหลายพันคนรวมตัวกันในหลายเมืองหลวงของยุโรปอย่าง ปารีส โรม มาดริด เมืองหลวงของเอเชียอย่าง มะนิลา จาการ์ตา เมืองใหญ่ๆ ในออสเตรเลียอย่างซิดนีย์ เมืองใหญ่ในแอฟริกา อย่างเคป ทาวน์ ของแอฟริกาใต้ และเมืองหลวงของอเมริกาใต้อย่างบัวโนสไอเรส ตลอดจนหลายเมืองของสหรัฐฯ อย่างนิวยอร์กซิตี้ และกรุงวอชิงตัน โดยที่เมืองหลวงสหรัฐฯ นั้นมีการชุมนุมใกล้ทำเนียบขาวเพื่อประท้วงที่อเมริกายังคงให้การสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลทั้งในกาซาและเลบานอน
    .
    การสู้รบนองเลือดและการเข่นฆ่าพลเรือนกันอย่างไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์ทางมนุษยธรรมครั้งล่าสุดนี้ เปิดฉากขึ้นด้วยการสู้รบขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ซึ่งปะทุจากเหตุการณ์กลุ่มนักรบฮามาสบุกข้ามแดนเข้าไปโจมตีทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว สังหารเหยื่อ 1,200 คน และจับตัวประกันราว 250 คนกลับไปคุมขังในกาซา แล้วอิสราเอลตอบโต้ทันทีด้วยการเปิดปฏิบัติการถล่มโจมตีทางอากาศและการใช้กำลังทหารรุกทางภาคพื้นดินในดินแดนฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้เกือบ 42,000 คน รวมทั้งมีชาวปาเลสไตน์เกือบ 2.3 ล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือน ตลอดจนถูกกองทหารรัฐยิวสั่งอพยพโยกย้ายไปเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อน นำไปสู่วิกฤตความอดอยาก และหลายฝ่ายตั้งข้อกล่าวหาอิสราเอลว่ามีพฤติการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จากนั้นกองทหารอิสราเอลยังปฏิบัติการกวาดล้างในระดับที่เบาบางลงมาในเขตเวสต์แบงก์ และล่าสุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐยิวได้เปิดการโจมตีทางอากาศ ตลอดจนส่งกำลังภาคพื้นดินบุกเข้าไปในเลบานอน
    .
    ในวันเสาร์ ที่กรุงวอชิงตัน ผู้ประท้วงที่โกรธแค้นกว่าพันคนชุมนุมหน้าทำเนียบขาว เรียกร้องให้อเมริกายุติการช่วยเหลือทางทหารและด้านอื่นๆ แก่อิสราเอล หลายคนชูธงปาเลสไตน์และเลบานอน
    .
    หลังจากการชุมนุมผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง มีชายผู้หนึ่งได้เข้าไปยังบริเวณที่มีการชุมนุม และพยายามจุดไฟเผาตัวเอง เขาประสบความสำเร็จในการจุดไฟให้เผาไหม้แขนซ้ายของตัวเอง ก่อนถูกผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ และตำรวจเข้าไปช่วยดับไฟได้ทันและนำส่งโรงพยาบาล โดยมีอาการบาดเจ็บที่ตำรวจระบุว่า ไม่มีอันตรายถึงชีวิต
    .
    ที่นิวยอร์ก คนนับพันชุมนุมกันที่ย่านไทม์สแควร์ บางคนถือรูปผู้เสียชีวิตในการโจมตีกาซาของอิสราเอล นอกจากนี้ ยังมีผู้ประท้วงในลอสแองเจลิสเรียกร้องให้ยุติ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ในกาซา
    .
    สำหรับที่ลอนดอน แอ็กเนส คอรี หนึ่งในผู้เข้าร่วมประท้วงที่นี่บอกว่า รัฐบาลอิสราเอลไม่รับฟังความหวังดีจากทั่วโลก แต่กลับเดินหน้ากระทำการป่าเถื่อนโหดร้ายในกาซา และขยายไปยังเลบานอนและเยเมน นอกจากนั้นยังอาจลามไปถึงอิหร่าน ขณะที่รัฐบาลอังกฤษป่าวประกาศว่า ไม่เห็นด้วย ทว่า ยังคงป้อนอาวุธให้อิสราเอลเช่นเดิม
    .
    อย่างไรก็ดี มีกลุ่มต่อต้านการประท้วงยืนโบกธงชาติอิสราเอลในบางจุดที่ขบวนผู้สนับสนุนปาเลสไตน์เดินขบวนผ่าน และตำรวจเผยว่า มีผู้ถูกจับกุม 15 คน แต่ไม่ได้ระบุสาเหตุการจับกุม และไม่ได้ระบุว่า ผู้ถูกจับเป็นฝ่ายใด
    .
    ที่โรม อิตาลี ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่ฝูงชนหลังมีการปะทะกับตำรวจ รายงานระบุว่า ผู้ประท้วงราว 6,000 คนฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเดินขบวนในย่านใจกลางเมืองก่อนถึงวันครบรอบ 1 ปีการโจมตีอิสราเอลของฮามาส
    .
    ที่เบอร์ลิน ผู้ประท้วงราว 1,000 คนโบกธงปาเลสไตน์ พร้อมตะโกน “1 ปีของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และมีการปะทะกับตำรวจ นอกจากนั้นยังมีการชุมนุมของกลุ่มประท้วงกระแสต่อต้านชาวยิวที่กำลังปะทุขึ้นในเยอรมนี
    .
    ในฝรั่งเศส ผู้คนหลายพันออกมาเดินขบวนในกรุงปารีส ลียง ตูลุส บอร์กโด และสตาร์สบูร์ก เพื่อแดสงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์
    .
    ที่กรุงมาดริด ผู้คนราว 5,000 คนเข้าร่วมการประท้วงเพื่อแสดงความเห็นอกเห็นใจชาวปาเลสไตน์ โดยถือป้ายเขียนข้อความอย่างเช่น “บอยคอตต์อิสราเอล”
    .
    ที่มะนิลา นักเคลื่อนไหวปะทะกับตำรวจปราบจลาจล หลังถูกห้ามไม่ให้ชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตอเมริกาเพื่อแสดงการคัดค้านที่วอชิงตันสนับสนุนอิสราเอล
    .
    ที่จาการ์ตา ผู้สนับสนุนปาเลสไตน์อย่างน้อย 1,000 คนชุมนุมใกล้สถานเอกอัครราชทูตอเมริกาเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) เรียกร้องให้วอชิงตันยุติการจัดหาอาวุธให้อิสราเอล
    .
    รายงานยังคาดว่า จะยังคงมีการชุมนุมต่อต้านสงครามกาซาในหลายเมืองในวันอาทิตย์ (6 ต.ค.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095168
    ..............
    Sondhi X
    ชายคนหนึ่งพยายามจุดไฟเผาตัวเองระหว่างการชุมนุมที่กรุงวอชิงตันเรียกร้องอเมริกายุติการช่วยเหลืออิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (5 ต.ค.) นอกจากนั้น ยังมีผู้คนหลายหมื่นชุมนุมตามเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งทั่วโลก เรียกร้องให้ยุติสงครามนองเลือดในกาซาที่กำลังจะครบรอบ 1 ปี ในวันจันทร์ (7 ต.ค.) รวมทั้งการสู้รบที่กำลังลุกลามไปในตะวันออกกลาง . ที่กรุงลอนดอน ผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ราว 40,000 คนเดินขบวนไปตามถนนใจกลางเมือง ขณะที่มีผู้ประท้วงจำนวนหลายพันคนรวมตัวกันในหลายเมืองหลวงของยุโรปอย่าง ปารีส โรม มาดริด เมืองหลวงของเอเชียอย่าง มะนิลา จาการ์ตา เมืองใหญ่ๆ ในออสเตรเลียอย่างซิดนีย์ เมืองใหญ่ในแอฟริกา อย่างเคป ทาวน์ ของแอฟริกาใต้ และเมืองหลวงของอเมริกาใต้อย่างบัวโนสไอเรส ตลอดจนหลายเมืองของสหรัฐฯ อย่างนิวยอร์กซิตี้ และกรุงวอชิงตัน โดยที่เมืองหลวงสหรัฐฯ นั้นมีการชุมนุมใกล้ทำเนียบขาวเพื่อประท้วงที่อเมริกายังคงให้การสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลทั้งในกาซาและเลบานอน . การสู้รบนองเลือดและการเข่นฆ่าพลเรือนกันอย่างไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์ทางมนุษยธรรมครั้งล่าสุดนี้ เปิดฉากขึ้นด้วยการสู้รบขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ซึ่งปะทุจากเหตุการณ์กลุ่มนักรบฮามาสบุกข้ามแดนเข้าไปโจมตีทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว สังหารเหยื่อ 1,200 คน และจับตัวประกันราว 250 คนกลับไปคุมขังในกาซา แล้วอิสราเอลตอบโต้ทันทีด้วยการเปิดปฏิบัติการถล่มโจมตีทางอากาศและการใช้กำลังทหารรุกทางภาคพื้นดินในดินแดนฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้เกือบ 42,000 คน รวมทั้งมีชาวปาเลสไตน์เกือบ 2.3 ล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือน ตลอดจนถูกกองทหารรัฐยิวสั่งอพยพโยกย้ายไปเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อน นำไปสู่วิกฤตความอดอยาก และหลายฝ่ายตั้งข้อกล่าวหาอิสราเอลว่ามีพฤติการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จากนั้นกองทหารอิสราเอลยังปฏิบัติการกวาดล้างในระดับที่เบาบางลงมาในเขตเวสต์แบงก์ และล่าสุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐยิวได้เปิดการโจมตีทางอากาศ ตลอดจนส่งกำลังภาคพื้นดินบุกเข้าไปในเลบานอน . ในวันเสาร์ ที่กรุงวอชิงตัน ผู้ประท้วงที่โกรธแค้นกว่าพันคนชุมนุมหน้าทำเนียบขาว เรียกร้องให้อเมริกายุติการช่วยเหลือทางทหารและด้านอื่นๆ แก่อิสราเอล หลายคนชูธงปาเลสไตน์และเลบานอน . หลังจากการชุมนุมผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง มีชายผู้หนึ่งได้เข้าไปยังบริเวณที่มีการชุมนุม และพยายามจุดไฟเผาตัวเอง เขาประสบความสำเร็จในการจุดไฟให้เผาไหม้แขนซ้ายของตัวเอง ก่อนถูกผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ และตำรวจเข้าไปช่วยดับไฟได้ทันและนำส่งโรงพยาบาล โดยมีอาการบาดเจ็บที่ตำรวจระบุว่า ไม่มีอันตรายถึงชีวิต . ที่นิวยอร์ก คนนับพันชุมนุมกันที่ย่านไทม์สแควร์ บางคนถือรูปผู้เสียชีวิตในการโจมตีกาซาของอิสราเอล นอกจากนี้ ยังมีผู้ประท้วงในลอสแองเจลิสเรียกร้องให้ยุติ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ในกาซา . สำหรับที่ลอนดอน แอ็กเนส คอรี หนึ่งในผู้เข้าร่วมประท้วงที่นี่บอกว่า รัฐบาลอิสราเอลไม่รับฟังความหวังดีจากทั่วโลก แต่กลับเดินหน้ากระทำการป่าเถื่อนโหดร้ายในกาซา และขยายไปยังเลบานอนและเยเมน นอกจากนั้นยังอาจลามไปถึงอิหร่าน ขณะที่รัฐบาลอังกฤษป่าวประกาศว่า ไม่เห็นด้วย ทว่า ยังคงป้อนอาวุธให้อิสราเอลเช่นเดิม . อย่างไรก็ดี มีกลุ่มต่อต้านการประท้วงยืนโบกธงชาติอิสราเอลในบางจุดที่ขบวนผู้สนับสนุนปาเลสไตน์เดินขบวนผ่าน และตำรวจเผยว่า มีผู้ถูกจับกุม 15 คน แต่ไม่ได้ระบุสาเหตุการจับกุม และไม่ได้ระบุว่า ผู้ถูกจับเป็นฝ่ายใด . ที่โรม อิตาลี ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่ฝูงชนหลังมีการปะทะกับตำรวจ รายงานระบุว่า ผู้ประท้วงราว 6,000 คนฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเดินขบวนในย่านใจกลางเมืองก่อนถึงวันครบรอบ 1 ปีการโจมตีอิสราเอลของฮามาส . ที่เบอร์ลิน ผู้ประท้วงราว 1,000 คนโบกธงปาเลสไตน์ พร้อมตะโกน “1 ปีของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และมีการปะทะกับตำรวจ นอกจากนั้นยังมีการชุมนุมของกลุ่มประท้วงกระแสต่อต้านชาวยิวที่กำลังปะทุขึ้นในเยอรมนี . ในฝรั่งเศส ผู้คนหลายพันออกมาเดินขบวนในกรุงปารีส ลียง ตูลุส บอร์กโด และสตาร์สบูร์ก เพื่อแดสงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ . ที่กรุงมาดริด ผู้คนราว 5,000 คนเข้าร่วมการประท้วงเพื่อแสดงความเห็นอกเห็นใจชาวปาเลสไตน์ โดยถือป้ายเขียนข้อความอย่างเช่น “บอยคอตต์อิสราเอล” . ที่มะนิลา นักเคลื่อนไหวปะทะกับตำรวจปราบจลาจล หลังถูกห้ามไม่ให้ชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตอเมริกาเพื่อแสดงการคัดค้านที่วอชิงตันสนับสนุนอิสราเอล . ที่จาการ์ตา ผู้สนับสนุนปาเลสไตน์อย่างน้อย 1,000 คนชุมนุมใกล้สถานเอกอัครราชทูตอเมริกาเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) เรียกร้องให้วอชิงตันยุติการจัดหาอาวุธให้อิสราเอล . รายงานยังคาดว่า จะยังคงมีการชุมนุมต่อต้านสงครามกาซาในหลายเมืองในวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095168 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Love
    16
    2 Comments 0 Shares 1302 Views 0 Reviews
  • ”วิสุทธิ์“ บอกไม่รู้ตอนนี้ “พิศาล” อยู่ไหน วิปรัฐบาลไม่มีหน้าที่ตามจับใคร ยันไม่ได้ปกป้อง แต่ต้องยึดตามรธน. ระหว่างสมัยประชุม ห้ามจับกุมคุมขัง สส. เว้นแต่สภาฯ อนุญาต ข้องใจเจตนา “โรม” ชงกระทู้ปมตากใบเพื่ออะไรหวั่นทำสังคมแตกแยก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094019

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ”วิสุทธิ์“ บอกไม่รู้ตอนนี้ “พิศาล” อยู่ไหน วิปรัฐบาลไม่มีหน้าที่ตามจับใคร ยันไม่ได้ปกป้อง แต่ต้องยึดตามรธน. ระหว่างสมัยประชุม ห้ามจับกุมคุมขัง สส. เว้นแต่สภาฯ อนุญาต ข้องใจเจตนา “โรม” ชงกระทู้ปมตากใบเพื่ออะไรหวั่นทำสังคมแตกแยก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094019 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    19
    1 Comments 1 Shares 2956 Views 0 Reviews

  • http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=585

    คำสมาทานพระกรรมฐาน
    ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
    ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา


    (นำ) หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เสฯ
    (รับ) นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

    อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจัจชามิ

    ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอมอบกาย ถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออาราธนาบารมี พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ ขอพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ จงมาบังเกิดปรากฏ ในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวะการณ์ต่างๆ ทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิต ที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้ว ขอให้เห็นภาพนั้น ได้ชัดเจนแจ่มใส และพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกประการ เหตุใดที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้น ได้โดยมิต้องกำหนดจิต แม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=585 คำสมาทานพระกรรมฐาน ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา (นำ) หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เสฯ (รับ) นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ) อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจัจชามิ ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอมอบกาย ถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออาราธนาบารมี พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ ขอพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ จงมาบังเกิดปรากฏ ในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวะการณ์ต่างๆ ทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิต ที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้ว ขอให้เห็นภาพนั้น ได้ชัดเจนแจ่มใส และพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกประการ เหตุใดที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้น ได้โดยมิต้องกำหนดจิต แม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    Love
    1
    0 Comments 2 Shares 189 Views 0 Reviews
  • สิ่งที่ หม่องโรม คยอ และขิ่นแก้วตา อยากได้ มิใช่แค่เรื่องแรงงานพม่า และสิทธิเลือกตั้งในไทย แต่จะปูทางไปสู่การรับใช้ไอ้กัน ให้ไทยแอน.ตี้พม่า และให้ความช่วยเหลือทางทหารและการเงิ.นแก่ชนกลุ่มน้อยใช้สู้ร.บกับรัฐบาลทห.ารพม่า พรรคอ้างชื่อประชา.ชน แต่ไม่เคยนึกถึงผลกระทบต่อประช.าชน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    สิ่งที่ หม่องโรม คยอ และขิ่นแก้วตา อยากได้ มิใช่แค่เรื่องแรงงานพม่า และสิทธิเลือกตั้งในไทย แต่จะปูทางไปสู่การรับใช้ไอ้กัน ให้ไทยแอน.ตี้พม่า และให้ความช่วยเหลือทางทหารและการเงิ.นแก่ชนกลุ่มน้อยใช้สู้ร.บกับรัฐบาลทห.ารพม่า พรรคอ้างชื่อประชา.ชน แต่ไม่เคยนึกถึงผลกระทบต่อประช.าชน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Angry
    10
    0 Comments 0 Shares 1091 Views 0 Reviews
  • ♣ ไอติม พริษฐ์ เก่งแค่ไหนก็เป็นแค่สส.เลือดผสม โรมดันการ์ดม็อบ โตโต้ สส.เลือดบาปบริสุทธ์ ปาดหน้า นั่งรองเลขาธิการพรรค
    #7ดอกจิก
    #ไอติมพริษฐ์
    ♣ ไอติม พริษฐ์ เก่งแค่ไหนก็เป็นแค่สส.เลือดผสม โรมดันการ์ดม็อบ โตโต้ สส.เลือดบาปบริสุทธ์ ปาดหน้า นั่งรองเลขาธิการพรรค #7ดอกจิก #ไอติมพริษฐ์
    Haha
    Like
    Wow
    4
    0 Comments 0 Shares 292 Views 0 Reviews
  • ฉีกหน้ากาก“ขิ่นแก้วตา”กับ“หม่องรังสิมันต์ โรม”
    สส.ไทยใจพม่าในพรรคประชาชน
    .
    จริงๆ แล้วผมไม่อยากพูดเรื่องนี้ แต่วันนี้ถึงจุดแตกหัก ต้องพูดแล้ว ทำไมผมถึงไม่อยากพูด รู้ไหม ? เพราะว่าคนที่ชื่อ "ธิษะณา ชุณหะวัณ" หรือที่เรียกว่า "แก้วตา" นั้น พ่อของเขาคือ "ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ" ซึ่งเป็นเพื่อนรักผม และปู่ของเขาคือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งผมเคารพนับถือและเราสนิทสนมกันมาก ครอบครัวนี้ แม้กระทั่งแม่ของเขา ชื่อ "โน" ก็รู้จักกันดี และเป็นหนึ่งในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ออกมาต่อสู้เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณ
    .
    แต่วันนี้ผมคิดว่าเด็กคนนี้ล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว และมันส่อวุฒิภาวะให้เห็นหลายๆมิติ มีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่วันนี้พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
    .
    มาดูคุณสมบัติ คุณวุฒิของคุณแก้วตากันหน่อย จบมหิดลอินเตอร์ เคยไปเรียนนอกตั้งแต่เด็ก แล้วไปจบ“SOAS”( School of Oriental and African Studies) University of London แต่คุณแก้วตายังอ่านตัวเลขมั่ว ผิดแล้วผิดอีก เรื่องนี้มันเป็นเรื่องตลก แต่มันไม่ตลกสำหรับผม และมิหนำซ้ำแล้วยังมีเรื่องเก่าๆ คุณไลฟ์สดถ่อย โชว์ถ่อย ด่าดับเพลิงกู้ภัย 22 มิถุนายน 2567 มันสะท้อนวุฒิภาวะของคุณ
    .
    ล่าสุดคุณธิษะณา ชุณหะวัณ อภิปรายเรื่องพม่า คำพูดของคุณไปเผยแพร่ต่อในโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook, YouTube, TikTok แล้วคนรับไม่ได้ พูดยังไง
    .
    "เรื่องพม่าอย่าหาทำครับ เอาให้คนไทยมีกิน มีใช้ คุณภาพชีวิตดีก่อน คิดจะช่วยประเทศอื่น คนไทยบางคนยังไม่มีบ้านอยู่ ยังไม่มีที่ทำมาหากิน แต่พวกคุณกลับเลือกที่จะช่วยพม่า คนไทยเป็นคนเลือกคุณให้เข้ามาทำงานให้ประชาชนชาวไทย ไม่ใช่พม่านะครับ ผมจะบอกว่าถ้ายังไม่สนใจ รอบหน้าผมไม่เลือกพวกคุณอีกแล้ว ไม่ต้องไปเลือกอีกแล้ว ไอ้พรรคส้มนี่"
    .
    “ เอาเรื่องคนภายในประเทศให้รอดก่อนดีไหม คุณ สส. ใจพม่า คุณมันคือจุดอ่อนของพรรค ทำให้พรรคเสื่อมเสียชื่อเสียง"
    .
    "คนต่างด้าวเข้ามาทำงาน นายจ้างให้เงินตอบแทนค่ะ เขาไม่ได้ใช้งานฟรี อย่าเรียกร้องอะไรให้เท่าเทียมคนไทย อยากเท่าเทียมให้ไปเรียกร้องสิทธิที่บ้านตัวเอง ไม่ควรได้สวัสดิการฟรีเหมือนคนไทย อยากเข้าโรงพยาบาลต้องจ่ายค่ารักษา อยากเรียนต้องจ่ายค่าเทอม ค่าสมุด ค่าหนังสือ ค่าอาหารเอง สุดท้ายนี้ ปัญหาในประเทศก็มากจนแก้ไม่ไหวอยู่แล้ว อย่าเพิ่มปัญหาให้คนในชาติอีกเลย เพราะมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลประทบจากคนต่างด้าวที่เข้ามาทำมาหากินในเมืองไทย เสียงเล็กๆ จากประชาชนที่เลือกคุณมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่"
    .
    ที่ผมอ่านให้ฟังนี่ก็คือแฟนคลับเก่าของพรรคอนาคตใหม่ที่เลือกคุณเข้ามา แล้วคุณไม่สังเกตหรือว่าวันนี้พรรคประชาชน (พม่า) เอาตีนก่ายหน้าผาก ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไร เลยต้องออกคำสั่งให้ "หม่องรังสิมันต์ โรม" ออกมาชี้แจงตามทุกช่องทีวีหลักๆ ที่มันพยายามแก้ตัวว่า แก้ปัญหาพม่าเพื่อคนไทย ตรงไหนวะ ไอ้หม่อง มึงแก้แบบนี้เพื่อกระทืบคนไทย และวันนี้ พรรณิการ์ (ช่อ) วานิช ก็ออกมาแจ๊ดๆๆๆ แก้ตัวว่าพวกที่โจมตีนโยบายพม่าเป็นพวก IO… ใช่ IO เหรอ แฟนคลับคุณทั้งนั้น หยุดแก้ตัวได้แล้ว
    .
    พรรคของคุณนะ คุณแก้วตา เชื่อมโยงกับพรรค NLD ของอองซาน ซูจี ที่อเมริกันและอียูสนับสนุนอยู่ ด้วยเงินด้วยทอง ด้วยกำลังคนเข้าไปฝึกอาวุธให้ แล้วแอบส่งอาวุธเข้าไปให้พวก NLD เพื่อรบกับรัฐบาลของมิน อ่อง หล่าย สำหรับผมแล้วปัญหามันอยู่ที่ว่า พม่าลี้ภัยทางการเมืองเข้ามา แล้วเชื่อผมสิ ขบวนการนี้ เบื้องหลังก็คือตะวันตก และมันรู้ว่ามี สส.(เรือหาย)อย่างคุณแก้วตา คอยหนุนหลังมัน ซึ่งเบื้องหลังก็มีธนารธร จึงรุ่งเรืองกิจ และหม่องรังสิมันต์ โรม ตลอดจนผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาชน(พม่า)คอยสนับสนุนอยู่ เฮ้ย มาเลยๆ อยู่เมืองไทย เรามี สส. พรรคนี้ช่วยเราอยู่ตอนนี้
    .
    อะไรจะเกิดขึ้นล่ะถ้าพม่าเต็มบ้านเต็มเมือง ประเทศไทยวุ่นวาย ซึ่งมันก็สมใจพวกคุณแล้วใช่ไหม พวกพรรคประชาชน (พม่า) สมใจพวกคุณแล้วใช่ไหม เพราะคุณต้องการให้มีความวุ่นวาย ต้องการให้มันมีความฉิบหาย

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/N4prCnutKD6Uxh29/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ฉีกหน้ากาก“ขิ่นแก้วตา”กับ“หม่องรังสิมันต์ โรม” สส.ไทยใจพม่าในพรรคประชาชน . จริงๆ แล้วผมไม่อยากพูดเรื่องนี้ แต่วันนี้ถึงจุดแตกหัก ต้องพูดแล้ว ทำไมผมถึงไม่อยากพูด รู้ไหม ? เพราะว่าคนที่ชื่อ "ธิษะณา ชุณหะวัณ" หรือที่เรียกว่า "แก้วตา" นั้น พ่อของเขาคือ "ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ" ซึ่งเป็นเพื่อนรักผม และปู่ของเขาคือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งผมเคารพนับถือและเราสนิทสนมกันมาก ครอบครัวนี้ แม้กระทั่งแม่ของเขา ชื่อ "โน" ก็รู้จักกันดี และเป็นหนึ่งในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ออกมาต่อสู้เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณ . แต่วันนี้ผมคิดว่าเด็กคนนี้ล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว และมันส่อวุฒิภาวะให้เห็นหลายๆมิติ มีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่วันนี้พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ . มาดูคุณสมบัติ คุณวุฒิของคุณแก้วตากันหน่อย จบมหิดลอินเตอร์ เคยไปเรียนนอกตั้งแต่เด็ก แล้วไปจบ“SOAS”( School of Oriental and African Studies) University of London แต่คุณแก้วตายังอ่านตัวเลขมั่ว ผิดแล้วผิดอีก เรื่องนี้มันเป็นเรื่องตลก แต่มันไม่ตลกสำหรับผม และมิหนำซ้ำแล้วยังมีเรื่องเก่าๆ คุณไลฟ์สดถ่อย โชว์ถ่อย ด่าดับเพลิงกู้ภัย 22 มิถุนายน 2567 มันสะท้อนวุฒิภาวะของคุณ . ล่าสุดคุณธิษะณา ชุณหะวัณ อภิปรายเรื่องพม่า คำพูดของคุณไปเผยแพร่ต่อในโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook, YouTube, TikTok แล้วคนรับไม่ได้ พูดยังไง . "เรื่องพม่าอย่าหาทำครับ เอาให้คนไทยมีกิน มีใช้ คุณภาพชีวิตดีก่อน คิดจะช่วยประเทศอื่น คนไทยบางคนยังไม่มีบ้านอยู่ ยังไม่มีที่ทำมาหากิน แต่พวกคุณกลับเลือกที่จะช่วยพม่า คนไทยเป็นคนเลือกคุณให้เข้ามาทำงานให้ประชาชนชาวไทย ไม่ใช่พม่านะครับ ผมจะบอกว่าถ้ายังไม่สนใจ รอบหน้าผมไม่เลือกพวกคุณอีกแล้ว ไม่ต้องไปเลือกอีกแล้ว ไอ้พรรคส้มนี่" . “ เอาเรื่องคนภายในประเทศให้รอดก่อนดีไหม คุณ สส. ใจพม่า คุณมันคือจุดอ่อนของพรรค ทำให้พรรคเสื่อมเสียชื่อเสียง" . "คนต่างด้าวเข้ามาทำงาน นายจ้างให้เงินตอบแทนค่ะ เขาไม่ได้ใช้งานฟรี อย่าเรียกร้องอะไรให้เท่าเทียมคนไทย อยากเท่าเทียมให้ไปเรียกร้องสิทธิที่บ้านตัวเอง ไม่ควรได้สวัสดิการฟรีเหมือนคนไทย อยากเข้าโรงพยาบาลต้องจ่ายค่ารักษา อยากเรียนต้องจ่ายค่าเทอม ค่าสมุด ค่าหนังสือ ค่าอาหารเอง สุดท้ายนี้ ปัญหาในประเทศก็มากจนแก้ไม่ไหวอยู่แล้ว อย่าเพิ่มปัญหาให้คนในชาติอีกเลย เพราะมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลประทบจากคนต่างด้าวที่เข้ามาทำมาหากินในเมืองไทย เสียงเล็กๆ จากประชาชนที่เลือกคุณมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่" . ที่ผมอ่านให้ฟังนี่ก็คือแฟนคลับเก่าของพรรคอนาคตใหม่ที่เลือกคุณเข้ามา แล้วคุณไม่สังเกตหรือว่าวันนี้พรรคประชาชน (พม่า) เอาตีนก่ายหน้าผาก ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไร เลยต้องออกคำสั่งให้ "หม่องรังสิมันต์ โรม" ออกมาชี้แจงตามทุกช่องทีวีหลักๆ ที่มันพยายามแก้ตัวว่า แก้ปัญหาพม่าเพื่อคนไทย ตรงไหนวะ ไอ้หม่อง มึงแก้แบบนี้เพื่อกระทืบคนไทย และวันนี้ พรรณิการ์ (ช่อ) วานิช ก็ออกมาแจ๊ดๆๆๆ แก้ตัวว่าพวกที่โจมตีนโยบายพม่าเป็นพวก IO… ใช่ IO เหรอ แฟนคลับคุณทั้งนั้น หยุดแก้ตัวได้แล้ว . พรรคของคุณนะ คุณแก้วตา เชื่อมโยงกับพรรค NLD ของอองซาน ซูจี ที่อเมริกันและอียูสนับสนุนอยู่ ด้วยเงินด้วยทอง ด้วยกำลังคนเข้าไปฝึกอาวุธให้ แล้วแอบส่งอาวุธเข้าไปให้พวก NLD เพื่อรบกับรัฐบาลของมิน อ่อง หล่าย สำหรับผมแล้วปัญหามันอยู่ที่ว่า พม่าลี้ภัยทางการเมืองเข้ามา แล้วเชื่อผมสิ ขบวนการนี้ เบื้องหลังก็คือตะวันตก และมันรู้ว่ามี สส.(เรือหาย)อย่างคุณแก้วตา คอยหนุนหลังมัน ซึ่งเบื้องหลังก็มีธนารธร จึงรุ่งเรืองกิจ และหม่องรังสิมันต์ โรม ตลอดจนผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาชน(พม่า)คอยสนับสนุนอยู่ เฮ้ย มาเลยๆ อยู่เมืองไทย เรามี สส. พรรคนี้ช่วยเราอยู่ตอนนี้ . อะไรจะเกิดขึ้นล่ะถ้าพม่าเต็มบ้านเต็มเมือง ประเทศไทยวุ่นวาย ซึ่งมันก็สมใจพวกคุณแล้วใช่ไหม พวกพรรคประชาชน (พม่า) สมใจพวกคุณแล้วใช่ไหม เพราะคุณต้องการให้มีความวุ่นวาย ต้องการให้มันมีความฉิบหาย ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/N4prCnutKD6Uxh29/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    3
    2 Comments 0 Shares 881 Views 0 Reviews
More Results