เรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> เป็นเรื่องที่ใส่รายละเอียดทางประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์ถังไว้มากพอสมควร แต่ Storyฯ รู้สึกสะดุดตาอย่างมากกับลักษณะการเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมของตัวละครเอกคนหนึ่งคือ หลี่ปี้
ความ ‘เอ๊ะ’ คือว่า ทำไมเขาถึงเสียบปิ่นของมงกฎครอบมวยผมในแนวตรง คือจากหลังมาหน้า (ดูรูปกลางสี่เหลี่ยม) ในขณะที่ตัวละครอื่นเสียบปิ่นในแนวขวางจากขวาไปซ้ายเหมือนกับที่เราเห็นในละครจีนโบราณเรื่องอื่นๆ (ดูเปรียบเทียบตัวละครจากเรื่องเดียวกันในรูปวงกลม)
ไปทำการบ้านมาค่ะ เลยพบว่ามีคนเขียนชมละครเรื่องนี้ว่ามีความพยายามทำให้ใกล้เคียงประวัติศาสตร์จริงมากในเรื่องการแต่งกาย ซึ่งสาเหตุที่หลี่ปี้เสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมในแนวตรงนั้น เป็นเพราะว่าเขาเป็นนักพรต
แต่มันแตกต่างจากเรื่องอื่นที่เราเห็นนักพรตปักปิ่นในแนวขวาง Storyฯ เลยเอารูปวาดโบราณมาเปรียบเทียบให้ดู (ดูภาพเปรียบเทียบในรูปสี่เหลี่ยมที่แปะมา) ก็จะเห็นว่านักพรตในลัทธิเต๋าในช่วงยุคสมัยรัชวงศ์ถังนั้นปักปิ่นในแนวตรงจริงๆ โดยวิธีเสียบปิ่นคือจากข้างหลังมาข้างหน้า หรือที่เรียกว่า ‘จื๋ออู่จ๊าน’ (子午簪)
ดูภาพจากละครจะเห็นว่ามงกฎครอบผมของหลี่ปี้มีสองแบบ มันคือแบบลายดอกพุดตานที่มีกลีบใหญ่ชูเด่น และแบบลายดอกบัว เดิมเรียกแยกสองแบบอย่างนี้ ต่อมาการเวลาผ่านไปถูกเรียกรวมเป็นลายดอกบัว มีเฉพาะนักพรตที่มีระดับสูงจึงจะใช้ได้
จากข้อมูลที่หาได้ ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น นักพรตเต๋ามีเจ็ดระดับ สูงสุดคือระดับเจ็ด มีระเบียบกำหนดเรื่องการแต่งกายไว้อย่างเคร่งครัด แตกต่างกันไปทั้งเนื้อผ้าสีผ้าของชุดและมงกุฎครอบผมตามแต่ละระดับ ตัวอย่างเช่น นักพรตระดับที่ห้า มงกฎครอบผมสีน้ำตาลเข้มรูปทรงดอกบัวกลีบสองชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเหลือง ฯลฯ นักพรตระดับที่หก มงกฎครอบผมรูปทรงดอกบัวกลีบสามชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเขียวฟ้ากระจ่าง ผ้าพาดบ่าสีม่วง ฯลฯ
ในเนื้อเรื่องของละคร <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> Storyฯ ไม่เห็นมีข้อมูลว่าหลี่ปี้เป็นนักพรตระดับใด Storyฯ เองก็ไม่แน่ใจว่ารายละเอียดการแต่งกายในละครถูกต้องหรือไม่ มีบางเพจเขียนว่าปิ่นของหลี่ปี้สั้นไป แต่ที่ดูจะถูกต้องแน่นอนคือวิธีการเสียบปิ่นของหลี่ปี้
แล้วที่เราเห็นในละครเรื่องอื่นที่นักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวางล่ะ?
จากข้อมูลที่ Storyฯ หาเจอ วิธีเสียบปิ่นตามแนวตรงข้างต้นเป็นไปจนสมัยราชวงศ์ซ่ง แต่จากสมัยราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง มีนักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวาง แต่มีจุดสังเกตคือจะต้องเป็นการเสียบจากซ้ายไปขวา ไม่ใช่ขวาไปซ้ายแบบคนทั่วไป และแบบแนวตรงก็ยังคงมีใช้อยู่ ซึ่งที่มาคือแนวคิดที่ว่า แนวตรงคือการแบ่งแยกหยินหยาง แนวขวางจากซ้ายคือการเกิดไปสู่ขวาคือความตาย
แต่คนธรรมดาทั่วไปจะปักปิ่นจากขวาไปซ้ายเป็นส่วนใหญ่เพราะหลายคนถนัดขวา มีเพจหนึ่งที่อ่านเจอเขียนว่า หากคนธรรมดาปักปิ่นจากซ้ายไปขวาแสดงว่าอยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ แต่ข้อมูลนี้ Storyฯ ไม่ได้ไปค้นหาต่อว่าใช่หรือไม่
ต่อมามงกฎทรงดอกบัวถูกนำมาใช้สำหรับสตรีสูงศักดิ์ในวังด้วย แต่ความแตกต่างอยู่ที่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นมงกุฎ เป็นทองคำลวดลายวิจิตรและมีการประดับหินและพลอยให้ดูอลังการ และไม่มีปิ่นปักกลางไว้ยึดผมเหมือนมงกุฎครอบมวยผมนักพรต
ท่านใดที่ชอบละครเรื่องนี้ ลองดูลิ้งค์ที่แปะมาบางลิ้งค์ด้านล่างจะเห็นการเปรียบเทียบว่ามีการอิงประวัติศาสตร์จริงอย่างไร (อ่านไม่ออกก็ดูรูปได้) อย่างเช่นการวาดคิ้วสมัยราชวงศ์ถังแบบต่างๆ ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเมื่อหลายเดือนก่อน ก็มีปรากฎให้เห็นในบรรดาชาวบ้านที่แต่งตัวกันออกมาเที่ยวเทศกาลในเรื่องนี้ด้วย
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)
Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจากในละครและจาก:
https://zhuanlan.zhihu.com/p/72817310
https://new.qq.com/omn/20190716/20190716A0SOED00.html?pc
https://www.behance.net/gallery/84983593/The-Longest-Day-In-Changan-Posters
http://www.xinhuanet.com/ent/2019-07/02/c_1124697419.htm
#ฉางอันสิบสองชั่วยาม #หลี่ปี้ #ปิ่นปักผมจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
ความ ‘เอ๊ะ’ คือว่า ทำไมเขาถึงเสียบปิ่นของมงกฎครอบมวยผมในแนวตรง คือจากหลังมาหน้า (ดูรูปกลางสี่เหลี่ยม) ในขณะที่ตัวละครอื่นเสียบปิ่นในแนวขวางจากขวาไปซ้ายเหมือนกับที่เราเห็นในละครจีนโบราณเรื่องอื่นๆ (ดูเปรียบเทียบตัวละครจากเรื่องเดียวกันในรูปวงกลม)
ไปทำการบ้านมาค่ะ เลยพบว่ามีคนเขียนชมละครเรื่องนี้ว่ามีความพยายามทำให้ใกล้เคียงประวัติศาสตร์จริงมากในเรื่องการแต่งกาย ซึ่งสาเหตุที่หลี่ปี้เสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมในแนวตรงนั้น เป็นเพราะว่าเขาเป็นนักพรต
แต่มันแตกต่างจากเรื่องอื่นที่เราเห็นนักพรตปักปิ่นในแนวขวาง Storyฯ เลยเอารูปวาดโบราณมาเปรียบเทียบให้ดู (ดูภาพเปรียบเทียบในรูปสี่เหลี่ยมที่แปะมา) ก็จะเห็นว่านักพรตในลัทธิเต๋าในช่วงยุคสมัยรัชวงศ์ถังนั้นปักปิ่นในแนวตรงจริงๆ โดยวิธีเสียบปิ่นคือจากข้างหลังมาข้างหน้า หรือที่เรียกว่า ‘จื๋ออู่จ๊าน’ (子午簪)
ดูภาพจากละครจะเห็นว่ามงกฎครอบผมของหลี่ปี้มีสองแบบ มันคือแบบลายดอกพุดตานที่มีกลีบใหญ่ชูเด่น และแบบลายดอกบัว เดิมเรียกแยกสองแบบอย่างนี้ ต่อมาการเวลาผ่านไปถูกเรียกรวมเป็นลายดอกบัว มีเฉพาะนักพรตที่มีระดับสูงจึงจะใช้ได้
จากข้อมูลที่หาได้ ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น นักพรตเต๋ามีเจ็ดระดับ สูงสุดคือระดับเจ็ด มีระเบียบกำหนดเรื่องการแต่งกายไว้อย่างเคร่งครัด แตกต่างกันไปทั้งเนื้อผ้าสีผ้าของชุดและมงกุฎครอบผมตามแต่ละระดับ ตัวอย่างเช่น นักพรตระดับที่ห้า มงกฎครอบผมสีน้ำตาลเข้มรูปทรงดอกบัวกลีบสองชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเหลือง ฯลฯ นักพรตระดับที่หก มงกฎครอบผมรูปทรงดอกบัวกลีบสามชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเขียวฟ้ากระจ่าง ผ้าพาดบ่าสีม่วง ฯลฯ
ในเนื้อเรื่องของละคร <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> Storyฯ ไม่เห็นมีข้อมูลว่าหลี่ปี้เป็นนักพรตระดับใด Storyฯ เองก็ไม่แน่ใจว่ารายละเอียดการแต่งกายในละครถูกต้องหรือไม่ มีบางเพจเขียนว่าปิ่นของหลี่ปี้สั้นไป แต่ที่ดูจะถูกต้องแน่นอนคือวิธีการเสียบปิ่นของหลี่ปี้
แล้วที่เราเห็นในละครเรื่องอื่นที่นักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวางล่ะ?
จากข้อมูลที่ Storyฯ หาเจอ วิธีเสียบปิ่นตามแนวตรงข้างต้นเป็นไปจนสมัยราชวงศ์ซ่ง แต่จากสมัยราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง มีนักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวาง แต่มีจุดสังเกตคือจะต้องเป็นการเสียบจากซ้ายไปขวา ไม่ใช่ขวาไปซ้ายแบบคนทั่วไป และแบบแนวตรงก็ยังคงมีใช้อยู่ ซึ่งที่มาคือแนวคิดที่ว่า แนวตรงคือการแบ่งแยกหยินหยาง แนวขวางจากซ้ายคือการเกิดไปสู่ขวาคือความตาย
แต่คนธรรมดาทั่วไปจะปักปิ่นจากขวาไปซ้ายเป็นส่วนใหญ่เพราะหลายคนถนัดขวา มีเพจหนึ่งที่อ่านเจอเขียนว่า หากคนธรรมดาปักปิ่นจากซ้ายไปขวาแสดงว่าอยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ แต่ข้อมูลนี้ Storyฯ ไม่ได้ไปค้นหาต่อว่าใช่หรือไม่
ต่อมามงกฎทรงดอกบัวถูกนำมาใช้สำหรับสตรีสูงศักดิ์ในวังด้วย แต่ความแตกต่างอยู่ที่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นมงกุฎ เป็นทองคำลวดลายวิจิตรและมีการประดับหินและพลอยให้ดูอลังการ และไม่มีปิ่นปักกลางไว้ยึดผมเหมือนมงกุฎครอบมวยผมนักพรต
ท่านใดที่ชอบละครเรื่องนี้ ลองดูลิ้งค์ที่แปะมาบางลิ้งค์ด้านล่างจะเห็นการเปรียบเทียบว่ามีการอิงประวัติศาสตร์จริงอย่างไร (อ่านไม่ออกก็ดูรูปได้) อย่างเช่นการวาดคิ้วสมัยราชวงศ์ถังแบบต่างๆ ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเมื่อหลายเดือนก่อน ก็มีปรากฎให้เห็นในบรรดาชาวบ้านที่แต่งตัวกันออกมาเที่ยวเทศกาลในเรื่องนี้ด้วย
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)
Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจากในละครและจาก:
https://zhuanlan.zhihu.com/p/72817310
https://new.qq.com/omn/20190716/20190716A0SOED00.html?pc
https://www.behance.net/gallery/84983593/The-Longest-Day-In-Changan-Posters
http://www.xinhuanet.com/ent/2019-07/02/c_1124697419.htm
#ฉางอันสิบสองชั่วยาม #หลี่ปี้ #ปิ่นปักผมจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
เรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> เป็นเรื่องที่ใส่รายละเอียดทางประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์ถังไว้มากพอสมควร แต่ Storyฯ รู้สึกสะดุดตาอย่างมากกับลักษณะการเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมของตัวละครเอกคนหนึ่งคือ หลี่ปี้
ความ ‘เอ๊ะ’ คือว่า ทำไมเขาถึงเสียบปิ่นของมงกฎครอบมวยผมในแนวตรง คือจากหลังมาหน้า (ดูรูปกลางสี่เหลี่ยม) ในขณะที่ตัวละครอื่นเสียบปิ่นในแนวขวางจากขวาไปซ้ายเหมือนกับที่เราเห็นในละครจีนโบราณเรื่องอื่นๆ (ดูเปรียบเทียบตัวละครจากเรื่องเดียวกันในรูปวงกลม)
ไปทำการบ้านมาค่ะ เลยพบว่ามีคนเขียนชมละครเรื่องนี้ว่ามีความพยายามทำให้ใกล้เคียงประวัติศาสตร์จริงมากในเรื่องการแต่งกาย ซึ่งสาเหตุที่หลี่ปี้เสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมในแนวตรงนั้น เป็นเพราะว่าเขาเป็นนักพรต
แต่มันแตกต่างจากเรื่องอื่นที่เราเห็นนักพรตปักปิ่นในแนวขวาง Storyฯ เลยเอารูปวาดโบราณมาเปรียบเทียบให้ดู (ดูภาพเปรียบเทียบในรูปสี่เหลี่ยมที่แปะมา) ก็จะเห็นว่านักพรตในลัทธิเต๋าในช่วงยุคสมัยรัชวงศ์ถังนั้นปักปิ่นในแนวตรงจริงๆ โดยวิธีเสียบปิ่นคือจากข้างหลังมาข้างหน้า หรือที่เรียกว่า ‘จื๋ออู่จ๊าน’ (子午簪)
ดูภาพจากละครจะเห็นว่ามงกฎครอบผมของหลี่ปี้มีสองแบบ มันคือแบบลายดอกพุดตานที่มีกลีบใหญ่ชูเด่น และแบบลายดอกบัว เดิมเรียกแยกสองแบบอย่างนี้ ต่อมาการเวลาผ่านไปถูกเรียกรวมเป็นลายดอกบัว มีเฉพาะนักพรตที่มีระดับสูงจึงจะใช้ได้
จากข้อมูลที่หาได้ ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น นักพรตเต๋ามีเจ็ดระดับ สูงสุดคือระดับเจ็ด มีระเบียบกำหนดเรื่องการแต่งกายไว้อย่างเคร่งครัด แตกต่างกันไปทั้งเนื้อผ้าสีผ้าของชุดและมงกุฎครอบผมตามแต่ละระดับ ตัวอย่างเช่น นักพรตระดับที่ห้า มงกฎครอบผมสีน้ำตาลเข้มรูปทรงดอกบัวกลีบสองชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเหลือง ฯลฯ นักพรตระดับที่หก มงกฎครอบผมรูปทรงดอกบัวกลีบสามชั้นทั้งสี่ด้าน ชุดสีเขียวฟ้ากระจ่าง ผ้าพาดบ่าสีม่วง ฯลฯ
ในเนื้อเรื่องของละคร <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> Storyฯ ไม่เห็นมีข้อมูลว่าหลี่ปี้เป็นนักพรตระดับใด Storyฯ เองก็ไม่แน่ใจว่ารายละเอียดการแต่งกายในละครถูกต้องหรือไม่ มีบางเพจเขียนว่าปิ่นของหลี่ปี้สั้นไป แต่ที่ดูจะถูกต้องแน่นอนคือวิธีการเสียบปิ่นของหลี่ปี้
แล้วที่เราเห็นในละครเรื่องอื่นที่นักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวางล่ะ?
จากข้อมูลที่ Storyฯ หาเจอ วิธีเสียบปิ่นตามแนวตรงข้างต้นเป็นไปจนสมัยราชวงศ์ซ่ง แต่จากสมัยราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง มีนักพรตเสียบปิ่นมงกฎครอบมวยผมแนวขวาง แต่มีจุดสังเกตคือจะต้องเป็นการเสียบจากซ้ายไปขวา ไม่ใช่ขวาไปซ้ายแบบคนทั่วไป และแบบแนวตรงก็ยังคงมีใช้อยู่ ซึ่งที่มาคือแนวคิดที่ว่า แนวตรงคือการแบ่งแยกหยินหยาง แนวขวางจากซ้ายคือการเกิดไปสู่ขวาคือความตาย
แต่คนธรรมดาทั่วไปจะปักปิ่นจากขวาไปซ้ายเป็นส่วนใหญ่เพราะหลายคนถนัดขวา มีเพจหนึ่งที่อ่านเจอเขียนว่า หากคนธรรมดาปักปิ่นจากซ้ายไปขวาแสดงว่าอยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ แต่ข้อมูลนี้ Storyฯ ไม่ได้ไปค้นหาต่อว่าใช่หรือไม่
ต่อมามงกฎทรงดอกบัวถูกนำมาใช้สำหรับสตรีสูงศักดิ์ในวังด้วย แต่ความแตกต่างอยู่ที่ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นมงกุฎ เป็นทองคำลวดลายวิจิตรและมีการประดับหินและพลอยให้ดูอลังการ และไม่มีปิ่นปักกลางไว้ยึดผมเหมือนมงกุฎครอบมวยผมนักพรต
ท่านใดที่ชอบละครเรื่องนี้ ลองดูลิ้งค์ที่แปะมาบางลิ้งค์ด้านล่างจะเห็นการเปรียบเทียบว่ามีการอิงประวัติศาสตร์จริงอย่างไร (อ่านไม่ออกก็ดูรูปได้) อย่างเช่นการวาดคิ้วสมัยราชวงศ์ถังแบบต่างๆ ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเมื่อหลายเดือนก่อน ก็มีปรากฎให้เห็นในบรรดาชาวบ้านที่แต่งตัวกันออกมาเที่ยวเทศกาลในเรื่องนี้ด้วย
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)
Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจากในละครและจาก:
https://zhuanlan.zhihu.com/p/72817310
https://new.qq.com/omn/20190716/20190716A0SOED00.html?pc
https://www.behance.net/gallery/84983593/The-Longest-Day-In-Changan-Posters
http://www.xinhuanet.com/ent/2019-07/02/c_1124697419.htm
#ฉางอันสิบสองชั่วยาม #หลี่ปี้ #ปิ่นปักผมจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
1 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
53 มุมมอง
0 รีวิว