• แถลงปิดโครงการแจกยาฟ้าทะลายโจร แต่ยังคงความเป็น“สนธิ ฟ้าทะลายโจร”อยู่
    .
    ผมพูดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" ว่าขออนุญาตทุกท่านที่บริจาคช่วยเรื่องฟ้าทะลายโจร นำเงินที่เหลือจากที่ท่านผู้ชมบริจาคมาเพื่อซื้อฟ้าทะลายโจรเพื่อแจกพี่น้องในช่วงโรคระบาด ตอนนี้ยังมีเงินเหลืออยู่ ก็เลยจะขอนำเงินนี้มาใช้ในบัญชีของ "มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน" โดยอาจารย์ปานเทพ เป็นประธาน เราสามารถเอาเงินก้อนนี้เอาไปใช้ช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน เช่น ใช้จ่ายเพื่อดำรงความยุติธรรม จ้างทนายบ้าง ส่งคนไปค้นคว้าวิจัยในเรื่องต่างๆ บ้าง แล้วเราจะมีเว็บไซต์หรือเพจของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินโดยเฉพาะ เราจะเอาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมมาลง แล้วจะคอยติดตามความเคลื่อนไหว ติดตามเรื่องที่เกิดขึ้น
    .
    วันนี้ผมขอแถลงตัวเลขทั้งหมดเพื่อปิดโครงการฟ้าทะลายโจร ดังนี้ (อันนี้เป็นหลักฐานนะครับ) โครงการสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อช่วยเหลือประชาชน ระหว่างวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ถึง วันที่ 25 มีนาคม 2568 ประมาณสี่ปี ทั้งหมดรวมแล้ว เงินบริจาค 82,928,274.51 บาท เราใช้อะไรบ้าง ? เราใช้ค่าใช้จ่ายในการซื้อฟ้าทะลายโจรทั้งหมด 54,329,300 เม็ด เป็นจำนวนเงิน 69,616,569 บาท ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก 12,522,904.01 บาท เช่น เราซื้อเครื่องให้อากาศผสมออกซิเจน 20 เครื่อง 4 ล้านบาท สมัยนั้นจะมีคนหายใจไม่ออก ต้องใช้เครื่องให้อากาศผสมออกซิเจน ซึ่งหายากมากตอนนั้น เรากว้านซื้อมาได้แค่ 20 เครื่อง เรามี Rapid Antigen Test เครื่องตรวจสอบว่าติดโควิดหรือไม่ 14,000 ชิ้น 4,410,000 บาท แล้วเรายังซื้อขิงผงอีก 575,000 ซอง เป็นเงิน 1,725,000 บาท นอกจากนี้แล้ว ยังมีชุด PPE สำหรับคนที่อยู่แนวหน้าในการทำงานกับคนติดโรคอีก 300 ชุด 160,500 บาท ค่าจัดส่งทั้งหมด 857,387 บาท รวมค่าใช้จ่ายแล้ว 82,139,473.01 บาท เงินคงเหลือปัจจุบัน 788,801.50 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้จะโอนไปที่คณะกรรมการมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อเอาไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนในเรื่องการดำรงความยุติธรรม อย่างที่ได้เรียนให้ทราบแล้ว
    .
    ท่านผู้ชมครับ เงินบริจาคของท่านผู้ชมทุกบาททุกสตางค์ที่เข้ามาที่นี่ ท่านผู้ชมสบายใจได้ เรามีรายละเอียด และเรามั่นใจ นี่ไม่ได้คุยนะครับ เราน่าจะเป็นเจ้าเดียวที่ตีแผ่ค่าใช้จ่ายของเราอย่างละเอียดเลย ไม่เชื่อท่านผู้ชมไปดูสิ เงินบริจาคไปหน่วยงานอื่นๆ หรือองค์กรอื่นๆ นั้น ไม่เคยมีใครออกมาแสดงรายละเอียดแบบนี้ ท่านผู้ชม ความจริงมีหนึ่งเดียว ความซื่อสัตย์มีหนึ่งเดียว อยู่ที่นี่ครับ

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แถลงปิดโครงการแจกยาฟ้าทะลายโจร แต่ยังคงความเป็น“สนธิ ฟ้าทะลายโจร”อยู่ . ผมพูดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" ว่าขออนุญาตทุกท่านที่บริจาคช่วยเรื่องฟ้าทะลายโจร นำเงินที่เหลือจากที่ท่านผู้ชมบริจาคมาเพื่อซื้อฟ้าทะลายโจรเพื่อแจกพี่น้องในช่วงโรคระบาด ตอนนี้ยังมีเงินเหลืออยู่ ก็เลยจะขอนำเงินนี้มาใช้ในบัญชีของ "มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน" โดยอาจารย์ปานเทพ เป็นประธาน เราสามารถเอาเงินก้อนนี้เอาไปใช้ช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน เช่น ใช้จ่ายเพื่อดำรงความยุติธรรม จ้างทนายบ้าง ส่งคนไปค้นคว้าวิจัยในเรื่องต่างๆ บ้าง แล้วเราจะมีเว็บไซต์หรือเพจของมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินโดยเฉพาะ เราจะเอาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมมาลง แล้วจะคอยติดตามความเคลื่อนไหว ติดตามเรื่องที่เกิดขึ้น . วันนี้ผมขอแถลงตัวเลขทั้งหมดเพื่อปิดโครงการฟ้าทะลายโจร ดังนี้ (อันนี้เป็นหลักฐานนะครับ) โครงการสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อช่วยเหลือประชาชน ระหว่างวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ถึง วันที่ 25 มีนาคม 2568 ประมาณสี่ปี ทั้งหมดรวมแล้ว เงินบริจาค 82,928,274.51 บาท เราใช้อะไรบ้าง ? เราใช้ค่าใช้จ่ายในการซื้อฟ้าทะลายโจรทั้งหมด 54,329,300 เม็ด เป็นจำนวนเงิน 69,616,569 บาท ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก 12,522,904.01 บาท เช่น เราซื้อเครื่องให้อากาศผสมออกซิเจน 20 เครื่อง 4 ล้านบาท สมัยนั้นจะมีคนหายใจไม่ออก ต้องใช้เครื่องให้อากาศผสมออกซิเจน ซึ่งหายากมากตอนนั้น เรากว้านซื้อมาได้แค่ 20 เครื่อง เรามี Rapid Antigen Test เครื่องตรวจสอบว่าติดโควิดหรือไม่ 14,000 ชิ้น 4,410,000 บาท แล้วเรายังซื้อขิงผงอีก 575,000 ซอง เป็นเงิน 1,725,000 บาท นอกจากนี้แล้ว ยังมีชุด PPE สำหรับคนที่อยู่แนวหน้าในการทำงานกับคนติดโรคอีก 300 ชุด 160,500 บาท ค่าจัดส่งทั้งหมด 857,387 บาท รวมค่าใช้จ่ายแล้ว 82,139,473.01 บาท เงินคงเหลือปัจจุบัน 788,801.50 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้จะโอนไปที่คณะกรรมการมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อเอาไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนในเรื่องการดำรงความยุติธรรม อย่างที่ได้เรียนให้ทราบแล้ว . ท่านผู้ชมครับ เงินบริจาคของท่านผู้ชมทุกบาททุกสตางค์ที่เข้ามาที่นี่ ท่านผู้ชมสบายใจได้ เรามีรายละเอียด และเรามั่นใจ นี่ไม่ได้คุยนะครับ เราน่าจะเป็นเจ้าเดียวที่ตีแผ่ค่าใช้จ่ายของเราอย่างละเอียดเลย ไม่เชื่อท่านผู้ชมไปดูสิ เงินบริจาคไปหน่วยงานอื่นๆ หรือองค์กรอื่นๆ นั้น ไม่เคยมีใครออกมาแสดงรายละเอียดแบบนี้ ท่านผู้ชม ความจริงมีหนึ่งเดียว ความซื่อสัตย์มีหนึ่งเดียว อยู่ที่นี่ครับ #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    24
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 752 มุมมอง 1 รีวิว
  • ประธานมูลนิธิข้าวขวัญเผยสูญที่ดิน 6 ไร่ที่จะใช้สร้างโรงพยาบาลทางเลือก ถูกยึดกลายเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ถาม "แอ๊ด คาราบาว" เงินบริจาคนักธุรกิจ 5 ล้านบาทหายไปไหน ติดต่อไปก็ไม่ได้ แนะเจ้าของเงินและผู้แนะนำช่วยทวงถาม รวมทั้งผู้บริจาคเงินนับหมื่นราย

    วันนี้ (23 มี.ค.) เฟซบุ๊ก Deycha Siripatra ของ อาจารย์เดชา ศิริภัทร หมอพื้นบ้านจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) เพื่อใช้ทางการแพทย์ โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผมและตัวแทนผู้บริจาคฯ​ ได้ไปทำพิธี​อำลา​ที่ดิน​ 6​ ไร่ ที่ดินผืนนี้​ (มี​รั้ว​ ระบบน้ำ​ อาคารสำนักงาน)​ ใช้เงินบริจาค 5​ ล้านบาท​ แต่ถูกยึดครองไปโดยใช้กระบวนการกฎหมาย​ และ​ผู้มีอิทธิพล​ในท้องถิ่น​ จนกลายเป็นทรัพย์สิน​ส่วนบุคคล ผมทำได้เพียง​แจ้งความจริงให้ผู้บริจาค​ ผู้ป่วย​ และผู้รอคอยโรงพยาบาลฯ​ ได้รับทราบ และขอโทษ​ที่มีส่วน​ทำให้ผู้บริจาคคาดหวัง และเชื่อมั่นว่า​เงินบริจาคจะใช้เป็นประโยชน์ แต่กลับถูกคนกลุ่มหนึ่งยักย้ายเอาสิ่งที่เกิดจากเงินบริจาค​ไปเป็นทรัพย์สิน​ส่วนบุคคล จึงต้องยอมรับถึงความไม่รู้เท่าทัน​ ความไว้วางใจนำคนกลุ่มนี้มาร่วมงานด้วย​ตั้งแต่แรก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000027594

    #MGROnline #ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ #โรงพยาบาลทางเลือก

    ประธานมูลนิธิข้าวขวัญเผยสูญที่ดิน 6 ไร่ที่จะใช้สร้างโรงพยาบาลทางเลือก ถูกยึดกลายเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ถาม "แอ๊ด คาราบาว" เงินบริจาคนักธุรกิจ 5 ล้านบาทหายไปไหน ติดต่อไปก็ไม่ได้ แนะเจ้าของเงินและผู้แนะนำช่วยทวงถาม รวมทั้งผู้บริจาคเงินนับหมื่นราย • วันนี้ (23 มี.ค.) เฟซบุ๊ก Deycha Siripatra ของ อาจารย์เดชา ศิริภัทร หมอพื้นบ้านจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) เพื่อใช้ทางการแพทย์ โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผมและตัวแทนผู้บริจาคฯ​ ได้ไปทำพิธี​อำลา​ที่ดิน​ 6​ ไร่ ที่ดินผืนนี้​ (มี​รั้ว​ ระบบน้ำ​ อาคารสำนักงาน)​ ใช้เงินบริจาค 5​ ล้านบาท​ แต่ถูกยึดครองไปโดยใช้กระบวนการกฎหมาย​ และ​ผู้มีอิทธิพล​ในท้องถิ่น​ จนกลายเป็นทรัพย์สิน​ส่วนบุคคล ผมทำได้เพียง​แจ้งความจริงให้ผู้บริจาค​ ผู้ป่วย​ และผู้รอคอยโรงพยาบาลฯ​ ได้รับทราบ และขอโทษ​ที่มีส่วน​ทำให้ผู้บริจาคคาดหวัง และเชื่อมั่นว่า​เงินบริจาคจะใช้เป็นประโยชน์ แต่กลับถูกคนกลุ่มหนึ่งยักย้ายเอาสิ่งที่เกิดจากเงินบริจาค​ไปเป็นทรัพย์สิน​ส่วนบุคคล จึงต้องยอมรับถึงความไม่รู้เท่าทัน​ ความไว้วางใจนำคนกลุ่มนี้มาร่วมงานด้วย​ตั้งแต่แรก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000027594 • #MGROnline #ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ #โรงพยาบาลทางเลือก
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวอุยกูร์ที่ได้กลับบ้าน ยืนยันแล้วว่าไม่เคยเขียนจดหมายที่ไอ้อุยวีร์ กัณกูร์ เอามาอ้าง กัณวีร์ สืบสันดานเฟคนิวส์ เฟคดาต้า ตามพรรคประชาชั่วร์ ถนัดสรรหามาโจมตี เพื่อได้เงินบริจาคไว้แดกหมูกะทะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #หมูกระทะใกล้ฉัน
    ชาวอุยกูร์ที่ได้กลับบ้าน ยืนยันแล้วว่าไม่เคยเขียนจดหมายที่ไอ้อุยวีร์ กัณกูร์ เอามาอ้าง กัณวีร์ สืบสันดานเฟคนิวส์ เฟคดาต้า ตามพรรคประชาชั่วร์ ถนัดสรรหามาโจมตี เพื่อได้เงินบริจาคไว้แดกหมูกะทะ #คิงส์โพธิ์แดง #หมูกระทะใกล้ฉัน
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาจารย์ #เดชา ศิริภัทร เล่าเรื่องราว เกี่ยวกับ #เงินบริจาค สร้าง #โรงพยาบาล #ที่ดิน #ด่านช้าง ที่ #แอ๊ด #คาราบาว นักร้องนักดนตรี #เพื่อชีวิต สร้างปัญหาไว้
    https://www.facebook.com/100090505287636/videos/9857452547620565/?app=fbl
    https://www.facebook.com/100090505287636/videos/9857452547620565/?app=fbl
    อาจารย์ #เดชา ศิริภัทร เล่าเรื่องราว เกี่ยวกับ #เงินบริจาค สร้าง #โรงพยาบาล #ที่ดิน #ด่านช้าง ที่ #แอ๊ด #คาราบาว นักร้องนักดนตรี #เพื่อชีวิต สร้างปัญหาไว้ https://www.facebook.com/100090505287636/videos/9857452547620565/?app=fbl https://www.facebook.com/100090505287636/videos/9857452547620565/?app=fbl
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอกชัย หงส์กังวาน อดีตสามกีบอิสระ จากเคยเฟื่องฟูด้วยเงินบริจาค มาวันนี้ตกอับถึงขั้นเอาพัดลมเก่ามาประมูลขาย แต่เสือกโลภเปิดราคาไว้ 1 พัน ทั้งๆ ที่พัดลมใหม่แค่ 1,200 บาท สุดท้ายไร้คนสนใจ สภาพไร้คนเหลียวแลแม้แต่พวกเดียวกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    เอกชัย หงส์กังวาน อดีตสามกีบอิสระ จากเคยเฟื่องฟูด้วยเงินบริจาค มาวันนี้ตกอับถึงขั้นเอาพัดลมเก่ามาประมูลขาย แต่เสือกโลภเปิดราคาไว้ 1 พัน ทั้งๆ ที่พัดลมใหม่แค่ 1,200 บาท สุดท้ายไร้คนสนใจ สภาพไร้คนเหลียวแลแม้แต่พวกเดียวกัน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่ามกลางเสียงประณามไทย ทั้งจากสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนีและสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(UNHCR) ในกรณีส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังจีน เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ จากการตรวจสอบข่าวเก่าๆพบว่าหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติแห่งนี้เคยปฏิเสธคำร้องจากรัฐบาลไทย ที่ขอให้ช่วยเหลือชาวอุยกูร์ 48 คน ที่ถูกควบคุมตัวในไทยมานานกว่า 10 ปี โดยสาเหตุที่ไม่สู้เต็มใจ ก็คือกลัวจีนโกรธ จนตัดลดความช่วยเหลือและเงินบริจาค
    .
    เว็บไซต์ข่าว The New Humanitarian รายงานพาดหัวข่าว UN declined offers to assist Uyghur asylum seekers detained in Thailand ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2022 อ้างอิงเอกสารภายในของ UNHCR ระบุว่าหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติแห่งนี้ ปฏิเสธรัฐบาลไทย ไม่ยอมเข้าช่วยเหลือผู้ขอลี้ภัยชาวอุยกูร์จากจีน 48 คน ที่ถูกควบคุมตัวในไทยเป็นเวลานานกว่า 10 ปี
    .
    รายงานข่าวระบุว่าในบรรดาผู้ขอลี้ภัยเหล่านั้น มีอยู่ 5 คน ที่ต้องโทษจำคุก ที่เกี่ยวข้องกับความพยายามหลบหนีในปี 2020 ส่วนที่เหลือ 43 คน ถูกควบคุมตัวโดยปราศจากการตั้งข้อหาใดๆในสถานกักตัวคนต่างด้าว ซอนสวนพลู ในกรุงเทพฯ พวกเขาถูกห้ามติดต่อกัยครอบครัว ทนายความ หรือกระทั่งผู้ต้องขังคนอื่นๆ
    .
    เป็นเวลานานหลายปีที่ทาง UNHCR ยืนกรานว่ารัฐบาลไทยขัดขวางหน่วยงานของสหประชาชาติแห่งนี้เข้าถึงคนกลุ่มนี้ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับอนุมัติสถานะผู้ลี้ภัยและอำนวยความสะดวกพวกเขาในการย้ายไปตั้งรกรากในประเทศที่ 3
    .
    อย่างไรก็ตามรายงานของ The New Humanitarian อ้างอิงเอกสารภายใน ย้อนกลับไปในปี 2020 เผยว่ารัฐบาลของไทยได้เริ่มส่งคำร้องอย่างไม่เป็นทางการถึง UNHCR ตั้งแต่เกือบ 5 ปีก่อนหน้านั้น ให้แสดงบทบาทอย่างกระตือรือร้นในการคลี่คลายการคุมตัวชาวอุยกูร์เหล่านี้อย่างไม่มีกำหนด แต่พวกทางเจ้าหน้าที่ UNHCR คัดค้านที่จะทำเช่นนั้น
    .
    The New Humanitarian ระบุว่า UNHCR มอบความช่วยเหลือปกป้องชีวิตแก่ผู้แสวงหาลี้ภัยทั่วโลก แต่รายงานในปี 2023 ที่เผยแพร่โดยครงการสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์(UHRP - Uyghur Human Rights Project) ระบุว่าอิทธิพลที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆของจีนเหนือประเทศเจ้าบ้านบางชาติ "บ่อนทำลายความพยายามทางการเมืองหรือด้านมนุษยธรรมใดๆที่จะรับรองและมอบการปกป้องอย่างเหมาะสมกับพวกผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์" และเอกสารภายในบ่งชี้ว่าอิทธิพลของจีนยังแผ่ลามมาถึงหน่วงานด้านผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติแห่งนี้ด้วย
    .
    "เอกสารแสดงให้เห็นว่า UNHCR ล้มเหวในการยึดถืออานัติในการปกป้องพวกผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์" The New Humanitarian รายงานในตอนนั้น อ้างคำสัมภาษณ์ของ จอห์น ควินลีย์ ผู้อำนวยการองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน Fortify Rights หลังจากได้เห็นเอกสาร "พวกผู้นำของ UNHCR ดูเหมือนจะไม่ทำงานเชิงรุก ในความพยายามหาทางออกสำหรับพวกผู้ลี้ภัยชาวอุยกูรณ์ ผู้ซึ่งใช้ชีวิตในการถูกควบคุมตัวมานานหลายปี"
    .
    บาบาร์ บาลอช โฆษกของ UNHCR บอกกับ The New Humanitarian เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ว่าหน่วยงานแห่งนี้เดินหน้าหยิบยกประเด็นนี้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ไทย "แต่ไม่อยู่ในขั้น ที่เราได้รับอนุญาตให้เข้าถึงคนกลุ่มนี้ หรือประสานงานกับผู้รับผิดชอบคดี ในจุดประสงค์อำนวยความสะดวกหนทางคลี่คลายปัญหา หาไม่แล้ว มันจะสะท้อนความเข้าใจผิดๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น"
    .
    เขาปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางของ UNHCR ต่อคดีนี้ โดยอ้างว่ามันเป็นความลับ
    .
    รายงานของ The New Humanitarian อ้างอิงเอกสารภายในของ UNHCR ฉบับหนึ่งระบุว่า "รัฐบาลไทยเพิ่มความพยายามมากขึ้น ขอให้ทาง UNHCR หาทางออกในประเด็นนี้" และมีความเป็นไปได้ที่ไทยอาจเปิดทางให้ UNHCR เข้าถึงผู้ต้องขังชาวอุยกูร์เหล่านั้น
    .
    อย่างไรก็ตามสำนักงานของ UNHCR ประจำประเทศไทย กลับมองข้อเสนอของ ไทย ด้วยความสงสัย "สำนักงานประจำประเทศไทย มองเรื่องนี้ว่า ไทย อาจใช้ UNHCR เป็นโล่เบี่ยงเบนความโกรธเคืองของจีน" เอกสารฉบับหนึ่งระบุ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ของ UNHCR ประจำในประเทศไทย จึงตัดสินใจในช่วงปลายปี 2020 ไม่แนะนำให้ตอบสนองเชิงรุกใดๆ
    .
    เอกสารฉบับหนึ่งเตือนถึง "ความเสี่ยงของผลกระทบในทาทางลบใดๆต่อปฏิบัติการของ UNHCR ในจีน และผลกระทบในแง่ของเงินทุนและการสนับสนุนที่มีต่อ UNHCR ในนั้นรวมถึงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับล่าง 10 ตำแหน่ง และโครงการต่างๆคิดเป็นมูลค่า 7.7 ล้านดอลลาร์
    .
    "หนึ่งในแง่มุมสุดช็อคของเอกสารนี้ก็คือ ดูเหมือน ไทย เป็นฝ่ายกดดันให้ UNHCR เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น แต่ทาง UNHCR หยุดชะงัก เพราะว่าพวกเขากลัวจีนจะโกรธ และลดความร่วมมือหรือลดเงินบริจาคที่มอบให้หน่วยงานแห่งนี้" ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียขององค์กรฮิวแมนไรท์วอตช์ บอกกับ The New Humanitarian ในตอนนั้น หลังจากได้เห็นเอกสาร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020219
    ..................
    Sondhi X

    ท่ามกลางเสียงประณามไทย ทั้งจากสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนีและสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(UNHCR) ในกรณีส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังจีน เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ จากการตรวจสอบข่าวเก่าๆพบว่าหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติแห่งนี้เคยปฏิเสธคำร้องจากรัฐบาลไทย ที่ขอให้ช่วยเหลือชาวอุยกูร์ 48 คน ที่ถูกควบคุมตัวในไทยมานานกว่า 10 ปี โดยสาเหตุที่ไม่สู้เต็มใจ ก็คือกลัวจีนโกรธ จนตัดลดความช่วยเหลือและเงินบริจาค . เว็บไซต์ข่าว The New Humanitarian รายงานพาดหัวข่าว UN declined offers to assist Uyghur asylum seekers detained in Thailand ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2022 อ้างอิงเอกสารภายในของ UNHCR ระบุว่าหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติแห่งนี้ ปฏิเสธรัฐบาลไทย ไม่ยอมเข้าช่วยเหลือผู้ขอลี้ภัยชาวอุยกูร์จากจีน 48 คน ที่ถูกควบคุมตัวในไทยเป็นเวลานานกว่า 10 ปี . รายงานข่าวระบุว่าในบรรดาผู้ขอลี้ภัยเหล่านั้น มีอยู่ 5 คน ที่ต้องโทษจำคุก ที่เกี่ยวข้องกับความพยายามหลบหนีในปี 2020 ส่วนที่เหลือ 43 คน ถูกควบคุมตัวโดยปราศจากการตั้งข้อหาใดๆในสถานกักตัวคนต่างด้าว ซอนสวนพลู ในกรุงเทพฯ พวกเขาถูกห้ามติดต่อกัยครอบครัว ทนายความ หรือกระทั่งผู้ต้องขังคนอื่นๆ . เป็นเวลานานหลายปีที่ทาง UNHCR ยืนกรานว่ารัฐบาลไทยขัดขวางหน่วยงานของสหประชาชาติแห่งนี้เข้าถึงคนกลุ่มนี้ เพื่อรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับอนุมัติสถานะผู้ลี้ภัยและอำนวยความสะดวกพวกเขาในการย้ายไปตั้งรกรากในประเทศที่ 3 . อย่างไรก็ตามรายงานของ The New Humanitarian อ้างอิงเอกสารภายใน ย้อนกลับไปในปี 2020 เผยว่ารัฐบาลของไทยได้เริ่มส่งคำร้องอย่างไม่เป็นทางการถึง UNHCR ตั้งแต่เกือบ 5 ปีก่อนหน้านั้น ให้แสดงบทบาทอย่างกระตือรือร้นในการคลี่คลายการคุมตัวชาวอุยกูร์เหล่านี้อย่างไม่มีกำหนด แต่พวกทางเจ้าหน้าที่ UNHCR คัดค้านที่จะทำเช่นนั้น . The New Humanitarian ระบุว่า UNHCR มอบความช่วยเหลือปกป้องชีวิตแก่ผู้แสวงหาลี้ภัยทั่วโลก แต่รายงานในปี 2023 ที่เผยแพร่โดยครงการสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์(UHRP - Uyghur Human Rights Project) ระบุว่าอิทธิพลที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆของจีนเหนือประเทศเจ้าบ้านบางชาติ "บ่อนทำลายความพยายามทางการเมืองหรือด้านมนุษยธรรมใดๆที่จะรับรองและมอบการปกป้องอย่างเหมาะสมกับพวกผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์" และเอกสารภายในบ่งชี้ว่าอิทธิพลของจีนยังแผ่ลามมาถึงหน่วงานด้านผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติแห่งนี้ด้วย . "เอกสารแสดงให้เห็นว่า UNHCR ล้มเหวในการยึดถืออานัติในการปกป้องพวกผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์" The New Humanitarian รายงานในตอนนั้น อ้างคำสัมภาษณ์ของ จอห์น ควินลีย์ ผู้อำนวยการองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน Fortify Rights หลังจากได้เห็นเอกสาร "พวกผู้นำของ UNHCR ดูเหมือนจะไม่ทำงานเชิงรุก ในความพยายามหาทางออกสำหรับพวกผู้ลี้ภัยชาวอุยกูรณ์ ผู้ซึ่งใช้ชีวิตในการถูกควบคุมตัวมานานหลายปี" . บาบาร์ บาลอช โฆษกของ UNHCR บอกกับ The New Humanitarian เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ว่าหน่วยงานแห่งนี้เดินหน้าหยิบยกประเด็นนี้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ไทย "แต่ไม่อยู่ในขั้น ที่เราได้รับอนุญาตให้เข้าถึงคนกลุ่มนี้ หรือประสานงานกับผู้รับผิดชอบคดี ในจุดประสงค์อำนวยความสะดวกหนทางคลี่คลายปัญหา หาไม่แล้ว มันจะสะท้อนความเข้าใจผิดๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น" . เขาปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางของ UNHCR ต่อคดีนี้ โดยอ้างว่ามันเป็นความลับ . รายงานของ The New Humanitarian อ้างอิงเอกสารภายในของ UNHCR ฉบับหนึ่งระบุว่า "รัฐบาลไทยเพิ่มความพยายามมากขึ้น ขอให้ทาง UNHCR หาทางออกในประเด็นนี้" และมีความเป็นไปได้ที่ไทยอาจเปิดทางให้ UNHCR เข้าถึงผู้ต้องขังชาวอุยกูร์เหล่านั้น . อย่างไรก็ตามสำนักงานของ UNHCR ประจำประเทศไทย กลับมองข้อเสนอของ ไทย ด้วยความสงสัย "สำนักงานประจำประเทศไทย มองเรื่องนี้ว่า ไทย อาจใช้ UNHCR เป็นโล่เบี่ยงเบนความโกรธเคืองของจีน" เอกสารฉบับหนึ่งระบุ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ของ UNHCR ประจำในประเทศไทย จึงตัดสินใจในช่วงปลายปี 2020 ไม่แนะนำให้ตอบสนองเชิงรุกใดๆ . เอกสารฉบับหนึ่งเตือนถึง "ความเสี่ยงของผลกระทบในทาทางลบใดๆต่อปฏิบัติการของ UNHCR ในจีน และผลกระทบในแง่ของเงินทุนและการสนับสนุนที่มีต่อ UNHCR ในนั้นรวมถึงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับล่าง 10 ตำแหน่ง และโครงการต่างๆคิดเป็นมูลค่า 7.7 ล้านดอลลาร์ . "หนึ่งในแง่มุมสุดช็อคของเอกสารนี้ก็คือ ดูเหมือน ไทย เป็นฝ่ายกดดันให้ UNHCR เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น แต่ทาง UNHCR หยุดชะงัก เพราะว่าพวกเขากลัวจีนจะโกรธ และลดความร่วมมือหรือลดเงินบริจาคที่มอบให้หน่วยงานแห่งนี้" ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียขององค์กรฮิวแมนไรท์วอตช์ บอกกับ The New Humanitarian ในตอนนั้น หลังจากได้เห็นเอกสาร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020219 .................. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    25
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1632 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไซด์ ซาดีค นักการเมือง ที่เป็นนายแบบได้นิดหน่อย

    เป็นอีกนักการเมืองคนรุ่นใหม่ ที่สร้างสีสันการเมืองในมาเลเซีย สำหรับไซด์ ซาดีค (Syed Saddiq) วัย 32 ปี สส.อำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ สังกัดพรรคฝ่ายค้าน มูดา (MUDA) และอดีต รมว.เยาวชนและกีฬามาเลเซีย ล่าสุดเขาออกมายอมรับว่า ต้องจำยอมไปเป็นนายแบบเสื้อผ้าชุดรายอให้กับแบรนด์แฟชั่นแบรนด์หนึ่ง คู่กับ เบลลา อัสติลลาห์ (Bella Astillah) นักร้องและนักแสดงสาวชื่อดัง เพราะรัฐบาลนายอันวาร์ อิบราฮิม จากกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน (PH) ไม่ยอมจัดสรรเงินช่วยเหลือประชาชนในเขตเลือกตั้งของตนเอง

    ซาดีค กล่าวกลางรัฐสภามาเลเซียว่า ได้พยายามเจรจากับรัฐบาลอันวาร์มาหลายครั้งแล้ว ทำตามคำแนะนำนายอันวาร์ เจรจากับนายฟาดิลลาห์ ยูโซฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไปแล้ว 5 ครั้ง ส่งจดหมายไปแล้ว ฉบับแล้วฉบับเล่านานกว่า 400 วัน แต่ความช่วยเหลือจากรัฐบาลต่อรัฐสภาเมืองมัวร์ยังเป็น 0 ริงกิต ถ้าไม่อยากให้งบประมาณก็พูดในรัฐสภาแห่งนี้ไปเลย อย่าพูดเล่นๆ แบบข้างนอกพูดอย่างหนึ่ง แต่ข้างในกลับพูดอีกอย่างหนึ่ง ผมพยายามหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ ก็เลยหนีมาเป็นนายแบบ สส.บางคนโกรธที่ผมเป็นนายแบบ ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดผมก็ได้รับเงินบริจาค 1 ล้านริงกิตให้กับรัฐสภาเมืองมัวร์

    ขณะเดียวกัน ซาดีค ได้ขอให้รัฐบาลอันวาร์ทำการเมืองแบบมีวุฒิภาวะ เพราะไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ชะตากรรมของประชาชนในพื้นที่จะได้รับการปกป้อง และให้ความช่วยเหลือโดยไม่คำนึงถึงสังกัดทางการเมือง มาเลเซียจะกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้อย่างไร แม้แต่เรื่องพื้นฐานก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เราส่งเสียงเรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้วเมื่อเป็นฝ่ายค้าน

    ก่อนหน้านี้ เซียร์ลีนา อับดุล ราชิด (Syerleena Abdul Rashid) สมาชิกรัฐสภาของกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน กลุ่มเดียวกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ซาดีคว่า ละเลยประชาชนในเขตเลือกตั้งตนเอง เพราะเขามักจะร่วมงานกับอัสติลลาห์โปรโมตเสื้อผ้ารายอแบรนด์หนึ่ง กระทั่งซาดีคต้องออกมาตอบโต้ดังกล่าว

    ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ซาดีคตัดสินใจวิ่งจากอำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ ไปยังอาคารรัฐสภามาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร โดยใช้เวลา 4 วัน เพื่อระดมทุนรับบริจาคภายใต้แคมเปญ Langkah Muar (ก้าวเพื่อมัวร์) โดยครั้งนั้นได้เงินบริจาคกว่า 1 แสนริงกิต หรือประมาณ 7.7 แสนบาทในเวลา 48 ชั่วโมง

    #Newskit
    ไซด์ ซาดีค นักการเมือง ที่เป็นนายแบบได้นิดหน่อย เป็นอีกนักการเมืองคนรุ่นใหม่ ที่สร้างสีสันการเมืองในมาเลเซีย สำหรับไซด์ ซาดีค (Syed Saddiq) วัย 32 ปี สส.อำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ สังกัดพรรคฝ่ายค้าน มูดา (MUDA) และอดีต รมว.เยาวชนและกีฬามาเลเซีย ล่าสุดเขาออกมายอมรับว่า ต้องจำยอมไปเป็นนายแบบเสื้อผ้าชุดรายอให้กับแบรนด์แฟชั่นแบรนด์หนึ่ง คู่กับ เบลลา อัสติลลาห์ (Bella Astillah) นักร้องและนักแสดงสาวชื่อดัง เพราะรัฐบาลนายอันวาร์ อิบราฮิม จากกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน (PH) ไม่ยอมจัดสรรเงินช่วยเหลือประชาชนในเขตเลือกตั้งของตนเอง ซาดีค กล่าวกลางรัฐสภามาเลเซียว่า ได้พยายามเจรจากับรัฐบาลอันวาร์มาหลายครั้งแล้ว ทำตามคำแนะนำนายอันวาร์ เจรจากับนายฟาดิลลาห์ ยูโซฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไปแล้ว 5 ครั้ง ส่งจดหมายไปแล้ว ฉบับแล้วฉบับเล่านานกว่า 400 วัน แต่ความช่วยเหลือจากรัฐบาลต่อรัฐสภาเมืองมัวร์ยังเป็น 0 ริงกิต ถ้าไม่อยากให้งบประมาณก็พูดในรัฐสภาแห่งนี้ไปเลย อย่าพูดเล่นๆ แบบข้างนอกพูดอย่างหนึ่ง แต่ข้างในกลับพูดอีกอย่างหนึ่ง ผมพยายามหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ ก็เลยหนีมาเป็นนายแบบ สส.บางคนโกรธที่ผมเป็นนายแบบ ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดผมก็ได้รับเงินบริจาค 1 ล้านริงกิตให้กับรัฐสภาเมืองมัวร์ ขณะเดียวกัน ซาดีค ได้ขอให้รัฐบาลอันวาร์ทำการเมืองแบบมีวุฒิภาวะ เพราะไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ชะตากรรมของประชาชนในพื้นที่จะได้รับการปกป้อง และให้ความช่วยเหลือโดยไม่คำนึงถึงสังกัดทางการเมือง มาเลเซียจะกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้อย่างไร แม้แต่เรื่องพื้นฐานก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เราส่งเสียงเรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้วเมื่อเป็นฝ่ายค้าน ก่อนหน้านี้ เซียร์ลีนา อับดุล ราชิด (Syerleena Abdul Rashid) สมาชิกรัฐสภาของกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน กลุ่มเดียวกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ซาดีคว่า ละเลยประชาชนในเขตเลือกตั้งตนเอง เพราะเขามักจะร่วมงานกับอัสติลลาห์โปรโมตเสื้อผ้ารายอแบรนด์หนึ่ง กระทั่งซาดีคต้องออกมาตอบโต้ดังกล่าว ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ซาดีคตัดสินใจวิ่งจากอำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ ไปยังอาคารรัฐสภามาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร โดยใช้เวลา 4 วัน เพื่อระดมทุนรับบริจาคภายใต้แคมเปญ Langkah Muar (ก้าวเพื่อมัวร์) โดยครั้งนั้นได้เงินบริจาคกว่า 1 แสนริงกิต หรือประมาณ 7.7 แสนบาทในเวลา 48 ชั่วโมง #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 592 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ข่าวรอบดึก (29 มกรา) รัฐบาลญี่ปุ่น🇯🇵โต้กลับยูเอ็น หลังวิจารณ์เรื่องกฎการสืบราชบัลลังก์ญี่ปุ่นว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ

    ✒️นาน ๆ ทีจะเห็นรัฐบาลญี่ปุ่นเกรี้ยวกราดในระดับนานาชาตินะคะ 😅
    📌สาเหตุ

    - ตุลาปีที่แล้วคณะกรรมการสหประชาชาติซึ่งมุ่งเป้าขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี (CEDAW) ได้ออกคำแนะนำให้รัฐบาลญี่ปุ่นแก้ไขกฎมณเฑียรบาลที่กำหนดให้การสืบราชสมบัติเป็นของฝ่ายชาย

    📌 รัฐบาลญี่ปุ่น🇯🇵โต้กลับอย่างร้อนแรง

    🗣️ “คุณสมบัติในการขึ้นครองราชย์ไม่ได้รวมอยู่ในสิทธิมนุษย์ชนขั้นพื้นฐาน ดังนั้นการจำกัดคุณสมบัติการสืบราชสมบัติให้เฉพาะฝ่ายชาย จึงไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติต่อสตรี รูปแบบการสืบราชสมบัติเป็นเรื่องพื้นฐานของประเทศ จึงไม่เหมาะสมที่ CEDAW จะหยิบยกเรื่องกฎมณเฑียรบาลขึ้นมา”

    - นอกจากนี้ยังเรียกร้องต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ซึ่งดูแลกิจกรรมของ CEDAW

    🗣️ “ไม่ให้นำเงินที่ญี่ปุ่นบริจาคไปใช้ในกิจกรรมของ CEDAW และยกเลิกกำหนดการเยือนญี่ปุ่นของคณะกรรมการในปีนี้
    ◾️ตามข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น: รัฐบาลญี่ปุ่นบริจาคเงินให้ OHCHR ประมาณปีละ 20-30 ล้านเยน
    ◾️เท่าที่ตรวจสอบตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา เงินส่วนนี้ไม่เคยถูกนำไปใช้ในกิจกรรมของคณะกรรมการ CEDAW มาก่อน
    ◾️การที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเจตนารมณ์ “ไม่ให้” นำเงินบริจาคไปใช้ในกิจกรรมเฉพาะด้านของสหประชาชาตินั้น ถือเป็นเรื่องผิดวิสัยปรกติของญี่ปุ่น (✒️ปรกติบริจาคอย่างเดียว ไม่รีเควสอะไรเป็นพิเศษ)
    ✒️เดือดของแท้เลยค่ะ 😤💢


    เครดิตเนื้อหา #กิ๊ฟจังนั่งเล่า
    https://web.facebook.com/share/p/14htHYR6ei/
    .
    รายละเอียดข่าวต้นทาง
    https://www3.nhk.or.jp/.../20250129/k10014707141000.html
    #ข่าวรอบดึก (29 มกรา) รัฐบาลญี่ปุ่น🇯🇵โต้กลับยูเอ็น หลังวิจารณ์เรื่องกฎการสืบราชบัลลังก์ญี่ปุ่นว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ✒️นาน ๆ ทีจะเห็นรัฐบาลญี่ปุ่นเกรี้ยวกราดในระดับนานาชาตินะคะ 😅 📌สาเหตุ - ตุลาปีที่แล้วคณะกรรมการสหประชาชาติซึ่งมุ่งเป้าขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี (CEDAW) ได้ออกคำแนะนำให้รัฐบาลญี่ปุ่นแก้ไขกฎมณเฑียรบาลที่กำหนดให้การสืบราชสมบัติเป็นของฝ่ายชาย 📌 รัฐบาลญี่ปุ่น🇯🇵โต้กลับอย่างร้อนแรง 🗣️ “คุณสมบัติในการขึ้นครองราชย์ไม่ได้รวมอยู่ในสิทธิมนุษย์ชนขั้นพื้นฐาน ดังนั้นการจำกัดคุณสมบัติการสืบราชสมบัติให้เฉพาะฝ่ายชาย จึงไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติต่อสตรี รูปแบบการสืบราชสมบัติเป็นเรื่องพื้นฐานของประเทศ จึงไม่เหมาะสมที่ CEDAW จะหยิบยกเรื่องกฎมณเฑียรบาลขึ้นมา” - นอกจากนี้ยังเรียกร้องต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ซึ่งดูแลกิจกรรมของ CEDAW 🗣️ “ไม่ให้นำเงินที่ญี่ปุ่นบริจาคไปใช้ในกิจกรรมของ CEDAW และยกเลิกกำหนดการเยือนญี่ปุ่นของคณะกรรมการในปีนี้ ◾️ตามข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น: รัฐบาลญี่ปุ่นบริจาคเงินให้ OHCHR ประมาณปีละ 20-30 ล้านเยน ◾️เท่าที่ตรวจสอบตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา เงินส่วนนี้ไม่เคยถูกนำไปใช้ในกิจกรรมของคณะกรรมการ CEDAW มาก่อน ◾️การที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเจตนารมณ์ “ไม่ให้” นำเงินบริจาคไปใช้ในกิจกรรมเฉพาะด้านของสหประชาชาตินั้น ถือเป็นเรื่องผิดวิสัยปรกติของญี่ปุ่น (✒️ปรกติบริจาคอย่างเดียว ไม่รีเควสอะไรเป็นพิเศษ) ✒️เดือดของแท้เลยค่ะ 😤💢 เครดิตเนื้อหา #กิ๊ฟจังนั่งเล่า https://web.facebook.com/share/p/14htHYR6ei/ . รายละเอียดข่าวต้นทาง https://www3.nhk.or.jp/.../20250129/k10014707141000.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 492 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยังจำได้ไหม อีป้าช้างลาก ช้างYes หาแดรกจากเงินบริจาคให้ช้าง แล้วทิ้งข้างให้แช่น้ำป่าท่วม แพ้คดีที่มันฟ้องยึดคทนที่ดินจากพี่น้องตัวเอง ขนาดคนในครอบครัวตัวเอง พ่อพี่น้องยังฟ้องรังแก มึงก็ใช้ช้างแค่หากิน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    ยังจำได้ไหม อีป้าช้างลาก ช้างYes หาแดรกจากเงินบริจาคให้ช้าง แล้วทิ้งข้างให้แช่น้ำป่าท่วม แพ้คดีที่มันฟ้องยึดคทนที่ดินจากพี่น้องตัวเอง ขนาดคนในครอบครัวตัวเอง พ่อพี่น้องยังฟ้องรังแก มึงก็ใช้ช้างแค่หากิน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก็ขนาดสส.ยังขอเงินบริจาค พันธุ์อาจ ผู้สมัครนายก อบจ เชียงใหม่ เลยขานรับนโยบาย แบมือขอเงินประชาชน กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นพักไว้ก่อน ขอกระจายเงินบริจาคสู่นักการเมืองท้องถิ่นก่อน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    ก็ขนาดสส.ยังขอเงินบริจาค พันธุ์อาจ ผู้สมัครนายก อบจ เชียงใหม่ เลยขานรับนโยบาย แบมือขอเงินประชาชน กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นพักไว้ก่อน ขอกระจายเงินบริจาคสู่นักการเมืองท้องถิ่นก่อน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถึงเวลา "ทรัมป์ 2.0" ตัวป่วนอเมริกาและโลก
    .
    เมื่อวันจันทร์ที่20 มกราคม ผมได้นั่งฟังสุนทรพจน์เนื่องในพิธีสาบานตนของนายทรัมป์ ยาวประมาณ 30 นาที เขาบอกว่า“ยุคทองของอเมริกา”กำลังจะเริ่มต้นนับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่โผงผาง นิสัยใจคอคล้ายๆผม สุนทรพจน์สนุก มีสีสัน แล้วผมก็ต้องยอมรับว่า นายคนนี้เป็นตัวป่วนโลกจริงๆ สื่ออเมริการ้ายกาจมากนับเลยว่านายทรัมป์พูดได้ 2,885 คำ หรือยาวเป็นสองเท่า มากกว่าสมัยแรกที่พูดพูด 1,433 คำ
    .
    พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีมหาเศรษฐีเข้าร่วมมากมายเลย หลายคนก็เข้ามาซบ เอาอกเอาใจนายทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นนายมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของเฟซบุ๊ก นายเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง Amazon ซันดาร์ พิชัย คนอินเดีย ซีอีอีของ Google นายทิม คุก ซีอีโอของ Apple คนเหล่านี้เคยต่อต้านทรัมป์ และสนับสนุนพรรคเดโมแครตอย่างออกหน้าออกตา จนนายทรัมป์ ประกาศว่าจะเช็กบิลกับคนพวกนี้หลังจากเลือกตั้งชนะ พวกนี้ก็เลยกระโดดเข้ามาร่วมวงก่อน มาแสดงความยินดี เพราะจะต้องยอมสยบกับนายทรัมป์ มิหนำซ้ำ ยังบริจาคเงินก้อนโตให้กับนายทรัมป์ แลกกับความอยู่รอดทางธุรกิจ
    .
    พิธีสาบานตนรับตำแหน่งฯของโดนัลด์ ทรัมป์ ระดมทุนได้ถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ8,500ล้านบาท เป็นสถิติใหม่ในการระดมทุนในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดี ก็มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Apple, Meta, Google, Amzaon, Microsoft และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอื่นๆ ในสหรัฐฯ เมื่ออ่านเกมให้เป็น เงินบริจาคก็เหมือนเป็นค่าต๋ง ค่าคุ้มครอง ถ้าพูดในลักษณะเป็นมาเฟีย เป็นเครื่องบรรณาการซึ่งก็คือเงินสินบนนั่นเอง ใครบอกว่าอเมริกาไม่รับสินบน รับครับ แต่มาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผมเล่าให้ฟังนี้คือ โฉมหน้าที่แท้จริงของการเมืองภายใต้ทุนนิยมของชาวอเมริกันอย่างแท้จริง
    .
    นายทรัมป์ประกาศจะสร้างอเมริกาให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่นายทรัมป์กับนโยบายกลับไม่ยอมรับความหลากหลาย ปฏิเสธความร่วมมือ คิดเฉพาะผลประโยชน์ของตัว และทิ้งคุณค่าที่เป็นรากฐานของสังคมอเมริกัน นอกจากนี้ สหรัฐฯเคยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี แต่นายทรัมป์ กลับหวนกลับไปใช้ จมปลักกับอุตสาหกรรมดั้งเดิมและใช้มาตรการปิดล้อม กีดกันคู่แข่ง ไม่เคยคิดที่จะพัฒนาตัวเอง
    .
    ที่ย้อนแย้งที่สุด คือประชาชนอเมริกันเสียงข้างมาก ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและในวุฒิสภาเลือกคนอย่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นผู้นำประเทศ นี่คือภาวะกบเลือกนาย ที่สุดท้ายแล้วคนที่ได้รับกรรมมากที่สุดก็คือชาวอเมริกันทั้งหลาย
    .
    ทรัมป์พูดบอกว่า เราจะสร้างสังคมที่ไม่แคร์เชื้อชาติ จะเน้นที่คุณสมบัติ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อเมริกาจะมีนโยบายอย่างเป็นทางการที่จะยอมรับบุคคลเพียง 2 เพศ คือ ชายและหญิง ยกเลิกนโยบายต่างๆ ที่มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ
    .
    วันที่ 20 มกราคมในวันรับตำแหน่ง ทรัมป์บ้าเลือดมาก ลงนามยกเลิกคำสั่งบริหารของไบเดน 78 ฉบับ เซ็นยกเลิกๆ เหมือนกับตบหน้านายไบเดน ว่านาทีแรกที่กูเข้ามาเป็นประธานาธิบดี สิ่งที่มึงทำมา กูจะเซ็นออกให้หมด เพราะว่ามันไร้สาระ นั่นคือการตอบโต้ทางการเมือง ในจำนวนนี้รวมถึงคำสั่งสิบกว่าฉบับที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ และต่อต้านการเลือกปฏิบัติต่อเกย์และคนข้ามเพศ ปิดทางไม่ให้นำงบประมาณของรัฐไปใช้โปรโมตอุดมการณ์ทางการเพศ
    .
    นี่ไงล่ะอเมริกาประเทศที่อวดอ้างตัวเองว่าเป็นประเทศต้นฉบับประชาธิปไตย มีสิทธิเสรีภาพ เป็นประเทศในฝัน ดินแดนในอุดมคติของเหล่าพรรคประชาชนและพวกสามกีบ NGO ฝรั่งทั้งหลาย รวมไปถึงพรรคเพื่อไทย ที่พยายามโปรโมตเหลือเกินเรื่อง LGBTQ+ จัด Pride Month สมรสเท่าเทียม ผมก็ฝากไปถึงพรรคประชาชนด้วย คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์และพวกคุณที่เทิดทูนอเมริกาเป็นพ่อ น่าจะเดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องที่สถานทูตอเมริกานะ บอกว่านโยบายทรัมป์ เป็นการริดลอนสิทธิพลเมือง จำกัดสิทธิเสรีภาพ ล้าหลัง พวกคุณกล้าไหม ตอบผมหน่อยซิ ถ้าไม่กล้ามันก็เป็นข้อเท็จจริงว่าคุณเป็นแค่ทาสรับใช้นักการเมืองและทุนนิยมของตะวันตก
    .
    ผมจะฟันธงว่า อีกไม่นานอเมริกาจะเกิดความวุ่นวาย และกระจายมาทางประเทศต่างๆ แน่นอน บรรดาสามนิ้วที่เทิดทูนอเมริกาว่าเป็นพ่อ จะเอาอย่างไรต่อไป คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผลผลิตจากอเมริกาที่ชอบไปผลักดันเรื่องโน้นเรื่องนี้ ใส่เสื้อสีรุ้ง เอาใจแฟนคลับ จะเอาอย่างไรต่อไป ตอบผมหน่อยซิ
    ถึงเวลา "ทรัมป์ 2.0" ตัวป่วนอเมริกาและโลก . เมื่อวันจันทร์ที่20 มกราคม ผมได้นั่งฟังสุนทรพจน์เนื่องในพิธีสาบานตนของนายทรัมป์ ยาวประมาณ 30 นาที เขาบอกว่า“ยุคทองของอเมริกา”กำลังจะเริ่มต้นนับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่โผงผาง นิสัยใจคอคล้ายๆผม สุนทรพจน์สนุก มีสีสัน แล้วผมก็ต้องยอมรับว่า นายคนนี้เป็นตัวป่วนโลกจริงๆ สื่ออเมริการ้ายกาจมากนับเลยว่านายทรัมป์พูดได้ 2,885 คำ หรือยาวเป็นสองเท่า มากกว่าสมัยแรกที่พูดพูด 1,433 คำ . พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีมหาเศรษฐีเข้าร่วมมากมายเลย หลายคนก็เข้ามาซบ เอาอกเอาใจนายทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นนายมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของเฟซบุ๊ก นายเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง Amazon ซันดาร์ พิชัย คนอินเดีย ซีอีอีของ Google นายทิม คุก ซีอีโอของ Apple คนเหล่านี้เคยต่อต้านทรัมป์ และสนับสนุนพรรคเดโมแครตอย่างออกหน้าออกตา จนนายทรัมป์ ประกาศว่าจะเช็กบิลกับคนพวกนี้หลังจากเลือกตั้งชนะ พวกนี้ก็เลยกระโดดเข้ามาร่วมวงก่อน มาแสดงความยินดี เพราะจะต้องยอมสยบกับนายทรัมป์ มิหนำซ้ำ ยังบริจาคเงินก้อนโตให้กับนายทรัมป์ แลกกับความอยู่รอดทางธุรกิจ . พิธีสาบานตนรับตำแหน่งฯของโดนัลด์ ทรัมป์ ระดมทุนได้ถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ8,500ล้านบาท เป็นสถิติใหม่ในการระดมทุนในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดี ก็มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Apple, Meta, Google, Amzaon, Microsoft และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอื่นๆ ในสหรัฐฯ เมื่ออ่านเกมให้เป็น เงินบริจาคก็เหมือนเป็นค่าต๋ง ค่าคุ้มครอง ถ้าพูดในลักษณะเป็นมาเฟีย เป็นเครื่องบรรณาการซึ่งก็คือเงินสินบนนั่นเอง ใครบอกว่าอเมริกาไม่รับสินบน รับครับ แต่มาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผมเล่าให้ฟังนี้คือ โฉมหน้าที่แท้จริงของการเมืองภายใต้ทุนนิยมของชาวอเมริกันอย่างแท้จริง . นายทรัมป์ประกาศจะสร้างอเมริกาให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่นายทรัมป์กับนโยบายกลับไม่ยอมรับความหลากหลาย ปฏิเสธความร่วมมือ คิดเฉพาะผลประโยชน์ของตัว และทิ้งคุณค่าที่เป็นรากฐานของสังคมอเมริกัน นอกจากนี้ สหรัฐฯเคยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี แต่นายทรัมป์ กลับหวนกลับไปใช้ จมปลักกับอุตสาหกรรมดั้งเดิมและใช้มาตรการปิดล้อม กีดกันคู่แข่ง ไม่เคยคิดที่จะพัฒนาตัวเอง . ที่ย้อนแย้งที่สุด คือประชาชนอเมริกันเสียงข้างมาก ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและในวุฒิสภาเลือกคนอย่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นผู้นำประเทศ นี่คือภาวะกบเลือกนาย ที่สุดท้ายแล้วคนที่ได้รับกรรมมากที่สุดก็คือชาวอเมริกันทั้งหลาย . ทรัมป์พูดบอกว่า เราจะสร้างสังคมที่ไม่แคร์เชื้อชาติ จะเน้นที่คุณสมบัติ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อเมริกาจะมีนโยบายอย่างเป็นทางการที่จะยอมรับบุคคลเพียง 2 เพศ คือ ชายและหญิง ยกเลิกนโยบายต่างๆ ที่มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ . วันที่ 20 มกราคมในวันรับตำแหน่ง ทรัมป์บ้าเลือดมาก ลงนามยกเลิกคำสั่งบริหารของไบเดน 78 ฉบับ เซ็นยกเลิกๆ เหมือนกับตบหน้านายไบเดน ว่านาทีแรกที่กูเข้ามาเป็นประธานาธิบดี สิ่งที่มึงทำมา กูจะเซ็นออกให้หมด เพราะว่ามันไร้สาระ นั่นคือการตอบโต้ทางการเมือง ในจำนวนนี้รวมถึงคำสั่งสิบกว่าฉบับที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ และต่อต้านการเลือกปฏิบัติต่อเกย์และคนข้ามเพศ ปิดทางไม่ให้นำงบประมาณของรัฐไปใช้โปรโมตอุดมการณ์ทางการเพศ . นี่ไงล่ะอเมริกาประเทศที่อวดอ้างตัวเองว่าเป็นประเทศต้นฉบับประชาธิปไตย มีสิทธิเสรีภาพ เป็นประเทศในฝัน ดินแดนในอุดมคติของเหล่าพรรคประชาชนและพวกสามกีบ NGO ฝรั่งทั้งหลาย รวมไปถึงพรรคเพื่อไทย ที่พยายามโปรโมตเหลือเกินเรื่อง LGBTQ+ จัด Pride Month สมรสเท่าเทียม ผมก็ฝากไปถึงพรรคประชาชนด้วย คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์และพวกคุณที่เทิดทูนอเมริกาเป็นพ่อ น่าจะเดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องที่สถานทูตอเมริกานะ บอกว่านโยบายทรัมป์ เป็นการริดลอนสิทธิพลเมือง จำกัดสิทธิเสรีภาพ ล้าหลัง พวกคุณกล้าไหม ตอบผมหน่อยซิ ถ้าไม่กล้ามันก็เป็นข้อเท็จจริงว่าคุณเป็นแค่ทาสรับใช้นักการเมืองและทุนนิยมของตะวันตก . ผมจะฟันธงว่า อีกไม่นานอเมริกาจะเกิดความวุ่นวาย และกระจายมาทางประเทศต่างๆ แน่นอน บรรดาสามนิ้วที่เทิดทูนอเมริกาว่าเป็นพ่อ จะเอาอย่างไรต่อไป คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผลผลิตจากอเมริกาที่ชอบไปผลักดันเรื่องโน้นเรื่องนี้ ใส่เสื้อสีรุ้ง เอาใจแฟนคลับ จะเอาอย่างไรต่อไป ตอบผมหน่อยซิ
    Like
    Love
    Haha
    30
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1899 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดเหตุผลสุดพีค! ที่ "อ.เบียร์" ใช้บัญชีพ่อเปิดรับเงินบริจาค (10/01/68) #news1 #newsupdate #ข่าวtiktok #อเบียร์ฅนตื่นธรรม #เงินบริจาค
    เปิดเหตุผลสุดพีค! ที่ "อ.เบียร์" ใช้บัญชีพ่อเปิดรับเงินบริจาค (10/01/68) #news1 #newsupdate #ข่าวtiktok #อเบียร์ฅนตื่นธรรม #เงินบริจาค
    Like
    Haha
    Love
    Sad
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2042 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • คนตื่นธรรมปากแซ่บ พระผู้ใหญ่ติง ระวังจะจบไม่สวย
    อาจารย์เบียร์คนตื่นทํา นักสอนธรรมะคนดังได้เวลาฝ่าด่านดราม่าสําคัญ เมื่ออาจารย์เบียร์ดันไปตอบคําถามเรื่องสังขารสรีระไม่เน่าเปื่อย ของเกจิอาจารย์บางรูป อาจารย์เบียร์ชี้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องความศักดิ์สิทธิ์
    ขนาดหมาแมวก็มีตัวอย่างให้เห็นว่าซากไม่เน่าเปื่อยเหมือนกัน ทําเอาชาวพุทธลุกฮือด้วยความไม่พอใจทัวร์ลงอาจารย์เบียร์ทันที ต้องบอกว่าคําพูดนั้นเป็นสไตล์ปกติของอาจารย์เบียร์ เขาสร้างตัวตนขึ้นมาจากการสอนธรรมะแบบฮาร์ดคอร์พูดจาโผงผาง ดุดัน วางตําแหน่งตัวเองเหมือนเป็นคนคอยจับผิดความเชื่อทางพุทธศาสนา ที่บิดเบี้ยวไปจากเดิม
    มีคนชอบมากก็มี ไม่ชอบมากเช่นกันคราวนี้ถือว่าปากของอาจารย์เบียร์พาตัวเองให้ลําบากดันเปรียบเปรยเกจิอาจารย์กับหมาแมว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าอาจารย์เบียร์จาบจ้วงเกินไปแล้ว มีพระผู้ใหญ่ออกโรงมาปราบอาจารย์เบียร์โดยเจ้าคุณประสาน กล่าวว่าในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อรวย ปาสาทิโกซึ่งสรีระสังขารไม่เน่าเปื่อยรู้สึกว่าอาจารย์เบียร์ขาดสิ่งที่เรียกว่าคารวะตาหรือความเคารพ
    เจ้าคุณประสานแนะนําอาจารย์เบียร์ ว่าคนจะเป็นอาจารย์สอนธรรมะคนอื่น ต้องสอนตัวเองในหลักคารวะตา6 ให้ได้เสียก่อนตามคําสอนของพระพุทธเจ้าการพูดเอามันส์ สนุกแสวงหาคอนเทนต์โดยขาดคารวะตาอาจทําให้เป็นคนก้าวร้าวเกรี้ยวกราดแข็งกระด้าง
    ต้องบอกว่าแรงแบบไม่มีผ่อนคันเร่ง อาจารย์เบียร์เย้ยบรรดาชาวเน็ตที่มาทัวร์ลงว่ามีแต่คนแก่เป็นทัวร์ฟันปลอม ทัวร์ไม้เท้าพร้อมยืนยันคําเดิมซากที่ไม่เน่าเปื่อย ไม่ใช่เรื่องของความศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด ส่วนเรื่องล้มละลายอาจารย์เบียร์ก็ไม่ปฏิเสธว่าเคยถูกฟ้องล้มละลายจริง แต่เป็นธนาคารฟ้องไม่ใช่แฟนเก่าอย่างที่มีการปล่อยข่าว
    มีการตั้งข้อสังเกตว่าการล้มละลายสงสัยจะเป็นการล้มบนฟูก มีเงินแต่ไม่ใช้หนี้อย่างไรก็ตามใช่ว่าอาจารย์เบียร์จะไม่มีพวกที่เป็นเซเลบสายพุทธ อย่างอดีตพุทธอิสระก็ชูว่าอาจารย์เบียร์นี่แหละของแทร้ หรือแพรี่ไพรวัลย์ก็เตือนอาจารย์เบียร์อย่างหวังดีว่าต้องระวังจุดสลบในเรื่องเงินบริจาค ถ้าจัดการไม่ดีล่ะก็อาจารย์เบียร์จะบานเอาได้
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    คนตื่นธรรมปากแซ่บ พระผู้ใหญ่ติง ระวังจะจบไม่สวย อาจารย์เบียร์คนตื่นทํา นักสอนธรรมะคนดังได้เวลาฝ่าด่านดราม่าสําคัญ เมื่ออาจารย์เบียร์ดันไปตอบคําถามเรื่องสังขารสรีระไม่เน่าเปื่อย ของเกจิอาจารย์บางรูป อาจารย์เบียร์ชี้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ขนาดหมาแมวก็มีตัวอย่างให้เห็นว่าซากไม่เน่าเปื่อยเหมือนกัน ทําเอาชาวพุทธลุกฮือด้วยความไม่พอใจทัวร์ลงอาจารย์เบียร์ทันที ต้องบอกว่าคําพูดนั้นเป็นสไตล์ปกติของอาจารย์เบียร์ เขาสร้างตัวตนขึ้นมาจากการสอนธรรมะแบบฮาร์ดคอร์พูดจาโผงผาง ดุดัน วางตําแหน่งตัวเองเหมือนเป็นคนคอยจับผิดความเชื่อทางพุทธศาสนา ที่บิดเบี้ยวไปจากเดิม มีคนชอบมากก็มี ไม่ชอบมากเช่นกันคราวนี้ถือว่าปากของอาจารย์เบียร์พาตัวเองให้ลําบากดันเปรียบเปรยเกจิอาจารย์กับหมาแมว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าอาจารย์เบียร์จาบจ้วงเกินไปแล้ว มีพระผู้ใหญ่ออกโรงมาปราบอาจารย์เบียร์โดยเจ้าคุณประสาน กล่าวว่าในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อรวย ปาสาทิโกซึ่งสรีระสังขารไม่เน่าเปื่อยรู้สึกว่าอาจารย์เบียร์ขาดสิ่งที่เรียกว่าคารวะตาหรือความเคารพ เจ้าคุณประสานแนะนําอาจารย์เบียร์ ว่าคนจะเป็นอาจารย์สอนธรรมะคนอื่น ต้องสอนตัวเองในหลักคารวะตา6 ให้ได้เสียก่อนตามคําสอนของพระพุทธเจ้าการพูดเอามันส์ สนุกแสวงหาคอนเทนต์โดยขาดคารวะตาอาจทําให้เป็นคนก้าวร้าวเกรี้ยวกราดแข็งกระด้าง ต้องบอกว่าแรงแบบไม่มีผ่อนคันเร่ง อาจารย์เบียร์เย้ยบรรดาชาวเน็ตที่มาทัวร์ลงว่ามีแต่คนแก่เป็นทัวร์ฟันปลอม ทัวร์ไม้เท้าพร้อมยืนยันคําเดิมซากที่ไม่เน่าเปื่อย ไม่ใช่เรื่องของความศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด ส่วนเรื่องล้มละลายอาจารย์เบียร์ก็ไม่ปฏิเสธว่าเคยถูกฟ้องล้มละลายจริง แต่เป็นธนาคารฟ้องไม่ใช่แฟนเก่าอย่างที่มีการปล่อยข่าว มีการตั้งข้อสังเกตว่าการล้มละลายสงสัยจะเป็นการล้มบนฟูก มีเงินแต่ไม่ใช้หนี้อย่างไรก็ตามใช่ว่าอาจารย์เบียร์จะไม่มีพวกที่เป็นเซเลบสายพุทธ อย่างอดีตพุทธอิสระก็ชูว่าอาจารย์เบียร์นี่แหละของแทร้ หรือแพรี่ไพรวัลย์ก็เตือนอาจารย์เบียร์อย่างหวังดีว่าต้องระวังจุดสลบในเรื่องเงินบริจาค ถ้าจัดการไม่ดีล่ะก็อาจารย์เบียร์จะบานเอาได้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 747 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครปฐม - ร้อนระอุ อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ปล่อยคลิปอัดหนักคนดิสเครดิต ขณะที่ นายกสมาคมไวยาวัจกร ออกมาจวกไม่ยั้งเดินหน้าถามถึงกรณีล้มละลายแล้วใช้บัญชีผู้เป็นพ่อ เคยแจ้งมาก่อนรับบริจาคหรือไม่ และเคยมีการแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ ถึงแหล่งที่มารายได้ทั้งเงินบริจาค และการขายเสื้อหรือไม่

    กระแสความสนใจกรณี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม มีมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีการเปิดข้อมูลว่าเป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งในโลกโซเชียลมีการถกเถียงแบ่งฝ่ายกันอย่างร้อนแรงทั้งในฝั่งผู้ที่เห็นด้วย และผู้ที่เห็นต่าง ซึ่งประเด็นดังกล่าวเกิดจากคลิปที่ อ.เบียร์ ได้มีการตอบคำถามในคอมเมนต์ในเพจเรื่องเกี่ยวกับสังขารของพระเกจิอาจารย์ที่ละสังขารไปแล้วแต่สรีระไม่เน่าเปื่อย ว่ามีความศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ และมีการแสดงความเห็นว่า เรื่องนี้ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ และได้ยกตัวอย่างเหมือนกับหมาที่ตายไปแล้วในต่างประเทศที่ร่างกายไม่เน่าเปื่อย ทำให้เกิดกระแสแตกในความเห็นดังกล่าวออกเป็นสองทางในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

    โดยในวันนี้ อ.เบียร์ ได้มีการโพสต์คลิปตอบโต้เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่าได้มีการสอนและยกตัวอย่างซึ่งอยากจะให้ไปชมคลิปทั้งหมดโดยภาพรวมในเรื่องดังกล่าว แต่ได้ติดใจในเรื่องของการที่มีคนนำเอกสารคดีดำคดีแดงที่ปรากฏชื่อตนถูกบังคับคดีพิทักษ์ทรัพย์และศาลมีคำสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งได้เตรียมไว้ว่าจะแจ้งกับประชาชนและแฟนคลับอยู่แล้ว แต่มีคนจ้องนำมาเสนอเพื่อดิสเครดิตเสียก่อน โดยได้มีการพาดพิงไปถึงพระรูปหนึ่งว่าไม่มีความเป็นพระ เพราะเอาเรื่องเสียหายของคนอื่นไปเผยแพร่ โดยมีการเปิดเผยเลขที่คดีดำคดีแดง โดยไม่มีความเป็นพระ และมีคลิปหลายชุดที่ปรากฏตอบโต้ประเด็นดังกล่าวซึ่งยังมีบางส่วนได้ชี้แจงว่ามีคนที่อิจฉาจ้องจะดิสเครดิตตน ซึ่งได้เตรียมใจกับทีมงานมาก่อนแล้ว และก็เกิดขึ้นจริงๆ แต่เป็นบทพิสูจน์ที่จะทำให้ตนผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ โดยยืนยันถึงความถูกต้องและชัดเจนกับการเปิดรับบริจาค ซึ่งสวนทางกับการเป็นบุคคลล้มละลายของตนว่าได้มีการดำเนินการที่ชัดเจนและไม่หวั่นแม้จะถูกตรวจสอบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000001345

    #MGROnline #อาจารย์เบียร์คนตื่นธรรม #คนตื่นธรรม
    นครปฐม - ร้อนระอุ อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ปล่อยคลิปอัดหนักคนดิสเครดิต ขณะที่ นายกสมาคมไวยาวัจกร ออกมาจวกไม่ยั้งเดินหน้าถามถึงกรณีล้มละลายแล้วใช้บัญชีผู้เป็นพ่อ เคยแจ้งมาก่อนรับบริจาคหรือไม่ และเคยมีการแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ ถึงแหล่งที่มารายได้ทั้งเงินบริจาค และการขายเสื้อหรือไม่ • กระแสความสนใจกรณี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม มีมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีการเปิดข้อมูลว่าเป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งในโลกโซเชียลมีการถกเถียงแบ่งฝ่ายกันอย่างร้อนแรงทั้งในฝั่งผู้ที่เห็นด้วย และผู้ที่เห็นต่าง ซึ่งประเด็นดังกล่าวเกิดจากคลิปที่ อ.เบียร์ ได้มีการตอบคำถามในคอมเมนต์ในเพจเรื่องเกี่ยวกับสังขารของพระเกจิอาจารย์ที่ละสังขารไปแล้วแต่สรีระไม่เน่าเปื่อย ว่ามีความศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ และมีการแสดงความเห็นว่า เรื่องนี้ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ และได้ยกตัวอย่างเหมือนกับหมาที่ตายไปแล้วในต่างประเทศที่ร่างกายไม่เน่าเปื่อย ทำให้เกิดกระแสแตกในความเห็นดังกล่าวออกเป็นสองทางในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา • โดยในวันนี้ อ.เบียร์ ได้มีการโพสต์คลิปตอบโต้เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่าได้มีการสอนและยกตัวอย่างซึ่งอยากจะให้ไปชมคลิปทั้งหมดโดยภาพรวมในเรื่องดังกล่าว แต่ได้ติดใจในเรื่องของการที่มีคนนำเอกสารคดีดำคดีแดงที่ปรากฏชื่อตนถูกบังคับคดีพิทักษ์ทรัพย์และศาลมีคำสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งได้เตรียมไว้ว่าจะแจ้งกับประชาชนและแฟนคลับอยู่แล้ว แต่มีคนจ้องนำมาเสนอเพื่อดิสเครดิตเสียก่อน โดยได้มีการพาดพิงไปถึงพระรูปหนึ่งว่าไม่มีความเป็นพระ เพราะเอาเรื่องเสียหายของคนอื่นไปเผยแพร่ โดยมีการเปิดเผยเลขที่คดีดำคดีแดง โดยไม่มีความเป็นพระ และมีคลิปหลายชุดที่ปรากฏตอบโต้ประเด็นดังกล่าวซึ่งยังมีบางส่วนได้ชี้แจงว่ามีคนที่อิจฉาจ้องจะดิสเครดิตตน ซึ่งได้เตรียมใจกับทีมงานมาก่อนแล้ว และก็เกิดขึ้นจริงๆ แต่เป็นบทพิสูจน์ที่จะทำให้ตนผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ โดยยืนยันถึงความถูกต้องและชัดเจนกับการเปิดรับบริจาค ซึ่งสวนทางกับการเป็นบุคคลล้มละลายของตนว่าได้มีการดำเนินการที่ชัดเจนและไม่หวั่นแม้จะถูกตรวจสอบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000001345 • #MGROnline #อาจารย์เบียร์คนตื่นธรรม #คนตื่นธรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 626 มุมมอง 0 รีวิว
  • จี้!สอบ"อ.เบียร์"จาบจ้วง? บุคคลล้มละลาย? รับบริจาคเข้าบัญชีม้า? 04/01/68 #อ.เบียร์ #คนตื่นธรรม #เงินบริจาค #ทนายพจน์
    จี้!สอบ"อ.เบียร์"จาบจ้วง? บุคคลล้มละลาย? รับบริจาคเข้าบัญชีม้า? 04/01/68 #อ.เบียร์ #คนตื่นธรรม #เงินบริจาค #ทนายพจน์
    Like
    Haha
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1885 มุมมอง 88 0 รีวิว
  • เล็งตั้งคณะกรรมการรูปแบบสหวิชาชีพขึ้นมาดูแลการใช้จ่ายเงินบริจาคช่วยยายของแบงก์ เลสเตอร์ เน้นใช้จ่ายเพื่อดูแลสุขภาพของยายและค่าครองชีพต่างๆ ด้านยายของแบงก์เผยย้ายมาอยู่อุดรฯก็น่าอยู่ เพื่อนบ้านใจดี กินข้าวเหนียวก็แซบมาก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000393

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เล็งตั้งคณะกรรมการรูปแบบสหวิชาชีพขึ้นมาดูแลการใช้จ่ายเงินบริจาคช่วยยายของแบงก์ เลสเตอร์ เน้นใช้จ่ายเพื่อดูแลสุขภาพของยายและค่าครองชีพต่างๆ ด้านยายของแบงก์เผยย้ายมาอยู่อุดรฯก็น่าอยู่ เพื่อนบ้านใจดี กินข้าวเหนียวก็แซบมาก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000393 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1599 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุดรธานี-เล็งตั้งคณะกรรมการรูปแบบสหวิชาชีพขึ้นมาดูแลการใช้จ่ายเงินบริจาคช่วยยายของแบงก์ เลสเตอร์ เน้นใช้จ่ายเพื่อดูแลสุขภาพของยายและค่าครองชีพต่างๆ ด้านยายของแบงก์เผยย้ายมาอยู่อุดรฯก็น่าอยู่ เพื่อนบ้านใจดี กินข้าวเหนียวก็แซบมาก

    วันนี้ (2ม.ค.68) ที่ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นางพรทิพย์ สังข์ฤทธิ์ อายุ 80 ปี คุณยายของแบงก์ เลสเตอร์ นายประเสริฐ คันธี อายุ 58 ปี พ่อแบงก์ เลสเตอร์ นายพันธุ์เทพ สังฤทธิ์ น้าของแบงก์ เลสเตอร์ ได้เข้าพบนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์( พมจ.)อุดรธานี เพื่อหารือเรื่องการดูแลเงินบริจาค โดยมีนายภานุมาศ จิตวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย และนายเตชธรรม โลหิตดี ทนายความ ร่วมพูดคุย

    ซึ่งนายราชันย์บอกว่า เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายและเจตนาของคุณยาย ทางหน่วยงานราชการจะพยายามหาช่องทางระเบียบกฎหมายว่าตัวไหนทางราชการสามารถเข้ามาช่วยจัดการเรื่องนี้ได้ ซึ่งทางจังหวัดก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือโดยจะมีการหารือเพื่อหาข้อสรุปให้ทางคุณยายและลูกหลานได้ทราบอีกครั้ง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9680000000393

    #MGROnline #อุดรธานี #ยาย #แบงก์เลสเตอร์
    อุดรธานี-เล็งตั้งคณะกรรมการรูปแบบสหวิชาชีพขึ้นมาดูแลการใช้จ่ายเงินบริจาคช่วยยายของแบงก์ เลสเตอร์ เน้นใช้จ่ายเพื่อดูแลสุขภาพของยายและค่าครองชีพต่างๆ ด้านยายของแบงก์เผยย้ายมาอยู่อุดรฯก็น่าอยู่ เพื่อนบ้านใจดี กินข้าวเหนียวก็แซบมาก • วันนี้ (2ม.ค.68) ที่ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นางพรทิพย์ สังข์ฤทธิ์ อายุ 80 ปี คุณยายของแบงก์ เลสเตอร์ นายประเสริฐ คันธี อายุ 58 ปี พ่อแบงก์ เลสเตอร์ นายพันธุ์เทพ สังฤทธิ์ น้าของแบงก์ เลสเตอร์ ได้เข้าพบนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์( พมจ.)อุดรธานี เพื่อหารือเรื่องการดูแลเงินบริจาค โดยมีนายภานุมาศ จิตวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย และนายเตชธรรม โลหิตดี ทนายความ ร่วมพูดคุย • ซึ่งนายราชันย์บอกว่า เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายและเจตนาของคุณยาย ทางหน่วยงานราชการจะพยายามหาช่องทางระเบียบกฎหมายว่าตัวไหนทางราชการสามารถเข้ามาช่วยจัดการเรื่องนี้ได้ ซึ่งทางจังหวัดก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือโดยจะมีการหารือเพื่อหาข้อสรุปให้ทางคุณยายและลูกหลานได้ทราบอีกครั้ง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000000393 • #MGROnline #อุดรธานี #ยาย #แบงก์เลสเตอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ภูมิใจไทย รอดคดียุบพรรค กกต. ยกคำร้องคดีรับเงินบริจาค บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เพราะพรรคไม่รู้ว่าเงินบริจาคได้มาโดยผิดกฎหมาย
    #7ดอกจิก
    ♣ ภูมิใจไทย รอดคดียุบพรรค กกต. ยกคำร้องคดีรับเงินบริจาค บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เพราะพรรคไม่รู้ว่าเงินบริจาคได้มาโดยผิดกฎหมาย #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวยล้นกระทำตนแปลกๆน้าแอ๊ด “แอ๊ด คาราบาว” เคยออกโรงรณรงค์ปลดล็อกกัญชาเต็มตัว แต่วันนี้ละทิ้งคติของคนเลือดสุพรรณดื้อๆ ไม่ว่าหมอเดชาจะพยายามติดต่อยังไง กลับไม่มีสัญญาณตอบรับ กลายเป็นอากาศธาตุไปแล้ว

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #แอ๊ดคาราบาว #หมอเดชา #หายไปกับเงินบริจาค
    รวยล้นกระทำตนแปลกๆน้าแอ๊ด “แอ๊ด คาราบาว” เคยออกโรงรณรงค์ปลดล็อกกัญชาเต็มตัว แต่วันนี้ละทิ้งคติของคนเลือดสุพรรณดื้อๆ ไม่ว่าหมอเดชาจะพยายามติดต่อยังไง กลับไม่มีสัญญาณตอบรับ กลายเป็นอากาศธาตุไปแล้ว #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #แอ๊ดคาราบาว #หมอเดชา #หายไปกับเงินบริจาค
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1272 มุมมอง 56 1 รีวิว
  • คืนนี้ รอคลิปคิงส์ แฉ๋พรรคพม่า YAKYOKเงินบริจาคกว่า 15 ล้าน
    เงินจากสาวก ยังYAKYOK เงินประเทศจะเหลือรึ ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    คืนนี้ รอคลิปคิงส์ แฉ๋พรรคพม่า YAKYOKเงินบริจาคกว่า 15 ล้าน เงินจากสาวก ยังYAKYOK เงินประเทศจะเหลือรึ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 287 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถลุงเงินบริจาคจนร่อยหรอ แบมือขอเงินเพิ่ม แต่สาวกเริ่มตาสว่าง ไม่บริจาคแถมด่ากลับ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ถลุงเงินบริจาคจนร่อยหรอ แบมือขอเงินเพิ่ม แต่สาวกเริ่มตาสว่าง ไม่บริจาคแถมด่ากลับ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคพม่า เคยโอ้อวดตอนเปิดตัว ว่าได้เงินบริจาคทะลุ 23 ล้าน มาวันนี้ แบมือขอเงินจากประชาชนอีกแล้ว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    พรรคพม่า เคยโอ้อวดตอนเปิดตัว ว่าได้เงินบริจาคทะลุ 23 ล้าน มาวันนี้ แบมือขอเงินจากประชาชนอีกแล้ว #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
  • คืนนี้ รอคลิปคิงส์ แฉ๋พรรคพม่า YAKYOKเงินบริจาคกว่า 15 ล้าน
    เงินจากสาวก ยังYAKYOK เงินประเทศจะเหลือรึ ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    คืนนี้ รอคลิปคิงส์ แฉ๋พรรคพม่า YAKYOKเงินบริจาคกว่า 15 ล้าน เงินจากสาวก ยังYAKYOK เงินประเทศจะเหลือรึ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อานนท์ดังมากในแดน
    เรื่องนี้พี่คิงส์ไม่ได้แซะ หรืออำ
    ไม่เชื่อ ใครมีญาติอยู่แดนเดียวกับอานนท์เลย
    เมื่อใดที่มีคนใหม่ๆหน้าอ่อนๆ เข้ามา
    อานนท์จะเอาเงินบริจาคเอามาซื้อหนมแจก
    ละอ่อนเข้ามาก็ไม่รู้ดิ นึกว่าน๊านนท์คนดี
    ที่ไหนได้ กลางคืน คลานต่ำ
    เหมือนตะหารราบ ไปกระซิบข้างหูละอ่อน
    หนมน๊า หนมน๊า จำได้มั๊ย
    เล่นซะละอ่อนต้องtoodระบม
    เฮี้ยมากอะ
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #อานนท์ดังมากในแดน เรื่องนี้พี่คิงส์ไม่ได้แซะ หรืออำ ไม่เชื่อ ใครมีญาติอยู่แดนเดียวกับอานนท์เลย เมื่อใดที่มีคนใหม่ๆหน้าอ่อนๆ เข้ามา อานนท์จะเอาเงินบริจาคเอามาซื้อหนมแจก ละอ่อนเข้ามาก็ไม่รู้ดิ นึกว่าน๊านนท์คนดี ที่ไหนได้ กลางคืน คลานต่ำ เหมือนตะหารราบ ไปกระซิบข้างหูละอ่อน หนมน๊า หนมน๊า จำได้มั๊ย เล่นซะละอ่อนต้องtoodระบม เฮี้ยมากอะ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความน่าสนใจของ TNN World คอลัมน์Editor’s Pick: ประวัติศาสตร์ “อภัยโทษ” ของประธานาธิบดีสหรัฐฯการอภัยโทษไม่ใช่เรื่องผิด เป็นอำนาจที่ประธานาธิบดีสามารถทำได้ ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ แต่นี่คือการอภัยโทษ “ลูกชาย” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา .. แล้วที่ผ่านมา ผู้นำคนก่อน ๆ ของสหรัฐฯ เคยใช้อำนาจในการอภัยโทษให้ใครแล้วบ้าง? และมีใครที่กลายเป็นประเด็นอื้อฉาวแบบนี้อีกหรือไม่? มาค่อย ๆ ย้อนกลับไปทีละคน ◾️◾️◾️🔴โดนัลด์ ทรัมป์เริ่มตั้งแต่ โดนัลด์​ ทรัมป์​ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ​ ที่ออกมาวิจารณ์ประธานาธิบดีโจ ไบเดนอย่างหนัก ว่าการอภัยโทษให้ลูกชาย “ฮันเตอร์ ไบเดน”​ นั้น บิดเบือนความยุติธรรมแต่ทรัมป์ก็อภัยโทษให้ใครหลาย ๆ คนมาแล้ว ตั้งแต่อดีตผู้ช่วยส่วนตัว มาจนถึงล่าสุด ที่ประกาศอภัยโทษให้กับ “ชาลส์ คุชเนอร์” บิดาของจาเร็ด คุชเนอร์​ สามีของอิวางกา ทรัมป์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ดองของเขานั่นเอง จากคดีทุจริต เลี่ยงภาษี 16 กระทง และอื่น ๆ อีก - อีกทั้งล่าสุด ยังแต่ตั้ง ชาลส์ คุชเนอร์คนนี้ เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ​ ประจำฝรั่งเศสอีกด้วยมีดองเป็นประธานาธิบดี..​ก็ดีเช่นนี้เอง◾️◾️◾️🔴 บารัค โอบามาบารัค โอบามา ผู้นำผิวสีรายนี้ ไม่ได้มีการอภัยโทษที่อื้อฉาวมากนัก โดยหนึ่งในคนที่เป็นประเด็นที่สุด คือ “เชลซี แมนนิ่ง” อดีตทหารเมริกัน ที่แฉข้อมูลและเอกสารลับให้กับเว็ปไซต์จอมแฉ WikiLeaks ◾️◾️◾️🔴 บิล คลินตันถัดมา บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดี ผู้เป็นทั้งที่รัก และที่ชัง ของชาวอเมริกัน ที่ใช้อำนาจอภัยโทษให้กับสามีของเศรษฐีนีผู้บริจาครายใหญ่ให้กับพรรค อย่าง “มาร์ก ริช” นักการเงินดัง ที่ถูกตั้งข้อหาเลี่ยงภาษี - เรื่องนี้ถูกแฉ จากการที่สำนักสอบสวนกลาง หรือ FBI ตรวจค้นอีเมล์ของฮิลลารี คลินตัน สมัยที่เธอชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งเพียงแค่ไม่กี่วัน - จึงเป็นเรื่องอื้อฉาวว่า .. อภัยโทษให้มาร์ก ริช เพราะหวังเงินบริจาคนับล้านเข้าพรรคระหว่างหาเสียงหรือไม่?อีกทั้ง บิล คลินตัน ยังอภัยโทษให้กับพี่ชายร่วมสายเลือดอย่าง “โรเจอร์ คลินตัน จูเนียร์” จากความผิดฐานสมคมคิดจำหน่ายโคเคน ในวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งในปี 2001 ด้วย ประโยชน์ แลกประโยชน์ ก็เช่นนี้เอง◾️◾️◾️🔴 แอนดรูว์ จอห์นสันหรือหากย้อนกลับไปไกลหน่อย ในยุคสงครามกลางเมือง กรณีประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ที่พยายามจะรวมประเทศหลังสงครามอันยาวนาน จึงออกคำสั่งนิรโทษกรรมครั้งใหญ่ ให้กับเจ้าหน้าที่ และทหารฝ่ายสมาพันธรัฐ ราว 12,600 นาย ที่กลายเป็นที่ถกเถียงอย่างหนัก ◾️◾️◾️🔴 ริชาร์ด นิกสัน - เจอรัลด์ ฟอร์ดส่วนกรณีสุดอื้อฉาวทางการเมืองของสหรัฐฯ อย่างคดีวอเตอร์เกตส์ ที่เป็นการลักลอบโจรกรรมสำนักงานใหญ่ของพรรคเดโมแครต ที่อาคารวอเตอร์เกตคอมเพลกซ์ ในกรุงวอชิงตันดีซี .. และผลการตรวจสอบพบว่า “ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน” มีส่วนรับรู้เหตุการณ์ดังกล่าวด้วย นำมาสู่การยอมลาออกของเขาในที่สุด และเป็นการลาออกครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐฯก่อนที่ประธานาธิบดีคนต่อมา อย่าง “เจอรัลด์ ฟอร์ด” จะใช้อำนาจในการอภัยโทษให้กับ “ริชาร์ด นิกสัน” ทั้งหมด เมื่อปี 1974 - ซึ่งแม้ประชาชนจะกังวลต่อการอภัยโทษครั้งนี้ แต่ฟอร์ดยืนยันว่า นี่คือผลประโยชน์ที่ดีที่สุดแล้วสำหรับประเทศ - และคาดว่า ผลของการอภัยโทษครั้งนั้นเอง ที่ทำให้ฟอร์ดพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้กับ “จิมมี่ คาร์เตอร์” ในอีก 2 ปีถัดมา (1976)◾️◾️◾️🔴 จิมมี่ คาร์เตอร์จิมมี่ คาร์เตอร์​ เองก็ถูกวิจารณ์อยู่ไม่น้อย จากการอภัยโทษให้กับผู้หลบหนีการเกณฑ์ทหารไปร่วมในสงครามเวียดนามหลายแสนคน ตั้งแต่วันที่ 2 ของการรับตำแหน่ง ซึ่งเป็นนโยบายที่เขาหาเสียงเอาไว้อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นอำนาจที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ​ แต่ก็มีกระแสเรียกร้องว่า ประธานาธิบดีไม่ควรจะมีอำนาจชนิดนี้ เพราะมันจะเป็นผลทางการเมือง มากกว่าที่จะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม—————ภาพ: Reutersอ้างอิง: https://www.independent.co.uk/news/world/americas/us-politics/controversial-presidential-pardons-biden-trump-b2657552.htmlhttps://news.sky.com/story/what-is-the-us-presidential-pardon-and-when-has-it-been-used-13265442#TNNWorldNews #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ #นิรโทษกรรม #สหรัฐ #การเมือง #ประวัติศาสตร์ #ไบเดน————📲ติดตามคอนเทนต์ดี ๆ จาก TNNได้ที่ช่อง YouTube: TNN Originalsที่นี่เลยค่ะ >> https://bit.ly/TNNOriginals
    บทความน่าสนใจของ TNN World คอลัมน์Editor’s Pick: ประวัติศาสตร์ “อภัยโทษ” ของประธานาธิบดีสหรัฐฯการอภัยโทษไม่ใช่เรื่องผิด เป็นอำนาจที่ประธานาธิบดีสามารถทำได้ ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ แต่นี่คือการอภัยโทษ “ลูกชาย” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา .. แล้วที่ผ่านมา ผู้นำคนก่อน ๆ ของสหรัฐฯ เคยใช้อำนาจในการอภัยโทษให้ใครแล้วบ้าง? และมีใครที่กลายเป็นประเด็นอื้อฉาวแบบนี้อีกหรือไม่? มาค่อย ๆ ย้อนกลับไปทีละคน ◾️◾️◾️🔴โดนัลด์ ทรัมป์เริ่มตั้งแต่ โดนัลด์​ ทรัมป์​ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ​ ที่ออกมาวิจารณ์ประธานาธิบดีโจ ไบเดนอย่างหนัก ว่าการอภัยโทษให้ลูกชาย “ฮันเตอร์ ไบเดน”​ นั้น บิดเบือนความยุติธรรมแต่ทรัมป์ก็อภัยโทษให้ใครหลาย ๆ คนมาแล้ว ตั้งแต่อดีตผู้ช่วยส่วนตัว มาจนถึงล่าสุด ที่ประกาศอภัยโทษให้กับ “ชาลส์ คุชเนอร์” บิดาของจาเร็ด คุชเนอร์​ สามีของอิวางกา ทรัมป์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ดองของเขานั่นเอง จากคดีทุจริต เลี่ยงภาษี 16 กระทง และอื่น ๆ อีก - อีกทั้งล่าสุด ยังแต่ตั้ง ชาลส์ คุชเนอร์คนนี้ เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ​ ประจำฝรั่งเศสอีกด้วยมีดองเป็นประธานาธิบดี..​ก็ดีเช่นนี้เอง◾️◾️◾️🔴 บารัค โอบามาบารัค โอบามา ผู้นำผิวสีรายนี้ ไม่ได้มีการอภัยโทษที่อื้อฉาวมากนัก โดยหนึ่งในคนที่เป็นประเด็นที่สุด คือ “เชลซี แมนนิ่ง” อดีตทหารเมริกัน ที่แฉข้อมูลและเอกสารลับให้กับเว็ปไซต์จอมแฉ WikiLeaks ◾️◾️◾️🔴 บิล คลินตันถัดมา บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดี ผู้เป็นทั้งที่รัก และที่ชัง ของชาวอเมริกัน ที่ใช้อำนาจอภัยโทษให้กับสามีของเศรษฐีนีผู้บริจาครายใหญ่ให้กับพรรค อย่าง “มาร์ก ริช” นักการเงินดัง ที่ถูกตั้งข้อหาเลี่ยงภาษี - เรื่องนี้ถูกแฉ จากการที่สำนักสอบสวนกลาง หรือ FBI ตรวจค้นอีเมล์ของฮิลลารี คลินตัน สมัยที่เธอชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งเพียงแค่ไม่กี่วัน - จึงเป็นเรื่องอื้อฉาวว่า .. อภัยโทษให้มาร์ก ริช เพราะหวังเงินบริจาคนับล้านเข้าพรรคระหว่างหาเสียงหรือไม่?อีกทั้ง บิล คลินตัน ยังอภัยโทษให้กับพี่ชายร่วมสายเลือดอย่าง “โรเจอร์ คลินตัน จูเนียร์” จากความผิดฐานสมคมคิดจำหน่ายโคเคน ในวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งในปี 2001 ด้วย ประโยชน์ แลกประโยชน์ ก็เช่นนี้เอง◾️◾️◾️🔴 แอนดรูว์ จอห์นสันหรือหากย้อนกลับไปไกลหน่อย ในยุคสงครามกลางเมือง กรณีประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ที่พยายามจะรวมประเทศหลังสงครามอันยาวนาน จึงออกคำสั่งนิรโทษกรรมครั้งใหญ่ ให้กับเจ้าหน้าที่ และทหารฝ่ายสมาพันธรัฐ ราว 12,600 นาย ที่กลายเป็นที่ถกเถียงอย่างหนัก ◾️◾️◾️🔴 ริชาร์ด นิกสัน - เจอรัลด์ ฟอร์ดส่วนกรณีสุดอื้อฉาวทางการเมืองของสหรัฐฯ อย่างคดีวอเตอร์เกตส์ ที่เป็นการลักลอบโจรกรรมสำนักงานใหญ่ของพรรคเดโมแครต ที่อาคารวอเตอร์เกตคอมเพลกซ์ ในกรุงวอชิงตันดีซี .. และผลการตรวจสอบพบว่า “ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน” มีส่วนรับรู้เหตุการณ์ดังกล่าวด้วย นำมาสู่การยอมลาออกของเขาในที่สุด และเป็นการลาออกครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐฯก่อนที่ประธานาธิบดีคนต่อมา อย่าง “เจอรัลด์ ฟอร์ด” จะใช้อำนาจในการอภัยโทษให้กับ “ริชาร์ด นิกสัน” ทั้งหมด เมื่อปี 1974 - ซึ่งแม้ประชาชนจะกังวลต่อการอภัยโทษครั้งนี้ แต่ฟอร์ดยืนยันว่า นี่คือผลประโยชน์ที่ดีที่สุดแล้วสำหรับประเทศ - และคาดว่า ผลของการอภัยโทษครั้งนั้นเอง ที่ทำให้ฟอร์ดพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้กับ “จิมมี่ คาร์เตอร์” ในอีก 2 ปีถัดมา (1976)◾️◾️◾️🔴 จิมมี่ คาร์เตอร์จิมมี่ คาร์เตอร์​ เองก็ถูกวิจารณ์อยู่ไม่น้อย จากการอภัยโทษให้กับผู้หลบหนีการเกณฑ์ทหารไปร่วมในสงครามเวียดนามหลายแสนคน ตั้งแต่วันที่ 2 ของการรับตำแหน่ง ซึ่งเป็นนโยบายที่เขาหาเสียงเอาไว้อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นอำนาจที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ​ แต่ก็มีกระแสเรียกร้องว่า ประธานาธิบดีไม่ควรจะมีอำนาจชนิดนี้ เพราะมันจะเป็นผลทางการเมือง มากกว่าที่จะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม—————ภาพ: Reutersอ้างอิง: https://www.independent.co.uk/news/world/americas/us-politics/controversial-presidential-pardons-biden-trump-b2657552.htmlhttps://news.sky.com/story/what-is-the-us-presidential-pardon-and-when-has-it-been-used-13265442#TNNWorldNews #TNNOnline #ข่าวต่างประเทศ #ข่าว #ต่างประเทศ #นิรโทษกรรม #สหรัฐ #การเมือง #ประวัติศาสตร์ #ไบเดน————📲ติดตามคอนเทนต์ดี ๆ จาก TNNได้ที่ช่อง YouTube: TNN Originalsที่นี่เลยค่ะ >> https://bit.ly/TNNOriginals
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 841 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts