• ดินเนอร์ฝ่ายค้านคึกคัก แกนนำตบเข้าร่วม ไร้เงา “สส.ปูอัด” แม้แต่ป้ายชื่อ “ไทยก้าวหน้า” ยังไม่มี ขณะ “เสรีพิศุทธ์” โผล่ยื่นหนังสือ-มีเก้าอี้ร่วมแถลงข่าวครบ แม้ไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012592

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ดินเนอร์ฝ่ายค้านคึกคัก แกนนำตบเข้าร่วม ไร้เงา “สส.ปูอัด” แม้แต่ป้ายชื่อ “ไทยก้าวหน้า” ยังไม่มี ขณะ “เสรีพิศุทธ์” โผล่ยื่นหนังสือ-มีเก้าอี้ร่วมแถลงข่าวครบ แม้ไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012592 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เก้าอี้สนามพับเก็บได้ลายทหาร #ลายพราง
    #เก้าอี้ปิคนิค #พกพาได้สะดวก #แข็งแรง #น้ำหนักเบา #ราคาถูก #เก้าอี้พับ #เก้าอี้ตกปลา #เก้าอี้
    พิกัด📍
    Shopee:
    https://s.shopee.co.th/6V871CgdI0
    รหัสสินค้า BGD-YQF-KYZ
    LAZADA:
    https://s.lazada.co.th/s.uYwpQ
    รหัสสินค้า $bf7c4$
    TikTok:
    https://vt.tiktok.com/ZSM1YLGsg/

    .
    .
    #เก้าอี้สนามพับเก็บได้ลายทหาร #ลายพราง #เก้าอี้ปิคนิค #พกพาได้สะดวก #แข็งแรง #น้ำหนักเบา #ราคาถูก #เก้าอี้พับ #เก้าอี้ตกปลา #เก้าอี้ พิกัด📍 Shopee: https://s.shopee.co.th/6V871CgdI0 รหัสสินค้า BGD-YQF-KYZ LAZADA: https://s.lazada.co.th/s.uYwpQ รหัสสินค้า $bf7c4$ TikTok: https://vt.tiktok.com/ZSM1YLGsg/ . .
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหล่งข่าวเผย เคาะแล้ว! คลังชงชื่อ "สมชัย สัจจพงษ์" ชิงเก้าอี้ ประธานบอร์ด ธปท. คนใหม่ ด้าน ธปท. เสนอชื่อ "สุรพล" คนเดียว เหตุ "กุลิศ" มีปัญหาคุณสมบัติแบบ "กิตติรัตน์"

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012207

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แหล่งข่าวเผย เคาะแล้ว! คลังชงชื่อ "สมชัย สัจจพงษ์" ชิงเก้าอี้ ประธานบอร์ด ธปท. คนใหม่ ด้าน ธปท. เสนอชื่อ "สุรพล" คนเดียว เหตุ "กุลิศ" มีปัญหาคุณสมบัติแบบ "กิตติรัตน์" อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012207 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 781 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งบริหารฉบับหนึ่ง หาทางห้ามนักกีฬาคนข้ามเพศจากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาประเภทหญิง ในความเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาในการเล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนข้ามเพศ นับตั้งแต่กลับเข้าสู่เก้าอี้ทำเนียบขาว
    .
    "ภายใต้คำสั่งบริหารนี้ สงครามในด้านกีฬาของผู้หญิงสิ้นสุดลงแล้ว" ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้าลงนามคำสั่งที่ทำเนียบขาว ล้อมรอบด้วยนักกีฬาเด็กและนักกีฬาหญิงหลายสิบคน ในขณะที่บรรดาสมาชิกระดับสูงของรีพับลิกันหลายคน ในนั้นรวมถึง ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ และส.ส.มาร์โจรี กรีน เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมชมพิธีลงนามครั้งนี้ด้วย
    .
    "เราจะปกป้องความภาคภูมิใจของนักกีฬาหญิงดั้งเดิม และเราจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายทำร้าย ก่ออาการบาดเจ็บ โกงคุณผู้หญิงและเด็กผู้หญิงของเรา นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กีฬาประเภทหญิงจะมีไว้เฉพาะกับผู้หญิง" ทรัมป์ กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ
    .
    คำสั่งนี้ให้อำนาจหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล ปฏิเสธจัดสรรเงินทุนต่างๆของรัฐบาลกลาง มอบแก่โรงเรียนทั้งหลายที่อนุญาตให้พวกกลุ่มคนข้ามเพศเข้าแข่งขันกับนักกีฬาหญิง "มันคือนโยบายของสหรัฐอเมริกา ที่จะยกเลิกเงินทุนทั้งหมดจากโปรแกรมด้านการศึกษาต่างๆนานา ที่กีดกันโอกาสแข่งขันกีฬาอย่างยุติธรรมของพวกผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ซึ่งผลลัพธ์คือก่ออันตราย เป็นการลบหลู่และปิดปากผู้หญิงและเด็ก รวมถึงลิดรอนสิทธิความเป็นส่วนตัวของพวกเขา"
    .
    นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังเผยด้วยว่าเขากำลังกดดันให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับนักกีฬาคนข้ามเพศ ก่อนที่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ จะหวนคืนสู่แผ่นดินสหรัฐฯ ในลอสแองเจลิส ปี 2028
    .
    ทรัมป์ เผยว่าเขาได้ออกคำสั่งถึง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ว่า "เราต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างที่ต้องทำเกี่ยวกับโอลิมปิก และดำเนินการกับประเด็นอันไร้สาระนี้"
    .
    ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ ระบุเพิ่มเติมว่าเขาสั่งการให้ . คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ปฏิเสธวีซ่า "พวกผู้ชายที่พยายามหาทางตลบตะแลงเข้าสู่สหรัฐฯ ด้วยการแอบอ้างตัวเป็นนักกีฬาหญิง เดินทางมาเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์"
    .
    ทรัมป์ จากรีพับลิกัน เล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนที่แสดงออก ทางเพศไม่ตรงตามบรรทัดฐานของสังคมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในการออกคำสั่งแบบสายฟ้าแลบผลักดันวาระนโยบายขวาจัดสุดขั้วของเขา นับตั้งแต่เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งสมัย 2 เมื่อวันที่ 20 มกราคม
    .
    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้ลงนามกำจัดสิ่งที่เขาเรียกว่า "อุดมการณ์คนข้ามเพศ" ออกจากกองทัพ ผลก็คือการแบนกำลังพลคนข้ามเพศ นอกจากนี้แล้วเขายังได้ออกคำสั่งห้ามผ่าตัดแปลงเพศสำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 19 ปี
    .
    ความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้มีขึ้นแม้ในข้อเท็จจริงที่ว่ากลุ่มคนข้ามเพศ ถือเป็นสัดส่วนเล็กน้อยมากๆในประชากรสหรัฐฯ
    .
    คำสั่้งบริหารของทรัมป์ในวันพุธ(5ก.พ.) มีขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยรีพับลิกัน เมื่อเดือนมกราคม ลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่จำกัดอย่างรุนแรงขวางนักกีฬาข้ามเพศจากการแข่งขันกีฬากับเด็กผู้หญิงและผู้หญิง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011934
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งบริหารฉบับหนึ่ง หาทางห้ามนักกีฬาคนข้ามเพศจากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาประเภทหญิง ในความเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาในการเล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนข้ามเพศ นับตั้งแต่กลับเข้าสู่เก้าอี้ทำเนียบขาว . "ภายใต้คำสั่งบริหารนี้ สงครามในด้านกีฬาของผู้หญิงสิ้นสุดลงแล้ว" ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้าลงนามคำสั่งที่ทำเนียบขาว ล้อมรอบด้วยนักกีฬาเด็กและนักกีฬาหญิงหลายสิบคน ในขณะที่บรรดาสมาชิกระดับสูงของรีพับลิกันหลายคน ในนั้นรวมถึง ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ และส.ส.มาร์โจรี กรีน เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมชมพิธีลงนามครั้งนี้ด้วย . "เราจะปกป้องความภาคภูมิใจของนักกีฬาหญิงดั้งเดิม และเราจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายทำร้าย ก่ออาการบาดเจ็บ โกงคุณผู้หญิงและเด็กผู้หญิงของเรา นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กีฬาประเภทหญิงจะมีไว้เฉพาะกับผู้หญิง" ทรัมป์ กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ . คำสั่งนี้ให้อำนาจหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล ปฏิเสธจัดสรรเงินทุนต่างๆของรัฐบาลกลาง มอบแก่โรงเรียนทั้งหลายที่อนุญาตให้พวกกลุ่มคนข้ามเพศเข้าแข่งขันกับนักกีฬาหญิง "มันคือนโยบายของสหรัฐอเมริกา ที่จะยกเลิกเงินทุนทั้งหมดจากโปรแกรมด้านการศึกษาต่างๆนานา ที่กีดกันโอกาสแข่งขันกีฬาอย่างยุติธรรมของพวกผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ซึ่งผลลัพธ์คือก่ออันตราย เป็นการลบหลู่และปิดปากผู้หญิงและเด็ก รวมถึงลิดรอนสิทธิความเป็นส่วนตัวของพวกเขา" . นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังเผยด้วยว่าเขากำลังกดดันให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับนักกีฬาคนข้ามเพศ ก่อนที่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ จะหวนคืนสู่แผ่นดินสหรัฐฯ ในลอสแองเจลิส ปี 2028 . ทรัมป์ เผยว่าเขาได้ออกคำสั่งถึง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ว่า "เราต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างที่ต้องทำเกี่ยวกับโอลิมปิก และดำเนินการกับประเด็นอันไร้สาระนี้" . ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ ระบุเพิ่มเติมว่าเขาสั่งการให้ . คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ปฏิเสธวีซ่า "พวกผู้ชายที่พยายามหาทางตลบตะแลงเข้าสู่สหรัฐฯ ด้วยการแอบอ้างตัวเป็นนักกีฬาหญิง เดินทางมาเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์" . ทรัมป์ จากรีพับลิกัน เล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนที่แสดงออก ทางเพศไม่ตรงตามบรรทัดฐานของสังคมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในการออกคำสั่งแบบสายฟ้าแลบผลักดันวาระนโยบายขวาจัดสุดขั้วของเขา นับตั้งแต่เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งสมัย 2 เมื่อวันที่ 20 มกราคม . ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้ลงนามกำจัดสิ่งที่เขาเรียกว่า "อุดมการณ์คนข้ามเพศ" ออกจากกองทัพ ผลก็คือการแบนกำลังพลคนข้ามเพศ นอกจากนี้แล้วเขายังได้ออกคำสั่งห้ามผ่าตัดแปลงเพศสำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 19 ปี . ความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้มีขึ้นแม้ในข้อเท็จจริงที่ว่ากลุ่มคนข้ามเพศ ถือเป็นสัดส่วนเล็กน้อยมากๆในประชากรสหรัฐฯ . คำสั่้งบริหารของทรัมป์ในวันพุธ(5ก.พ.) มีขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยรีพับลิกัน เมื่อเดือนมกราคม ลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่จำกัดอย่างรุนแรงขวางนักกีฬาข้ามเพศจากการแข่งขันกีฬากับเด็กผู้หญิงและผู้หญิง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011934 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    22
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1299 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลารอรถเมล์ 2-3 แสน แพงสมฐานะยุคชัชชาติ

    กลายเป็นที่วิจารณ์สนั่นโซเชียลฯ เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยโฉมศาลาที่พักผู้โดยสารฯ โฉมใหม่ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ Type C2 ขนาด 2x3 เมตร 3 ที่นั่ง และ Type C3 ขนาด 2x6 เมตร 6 ที่นั่ง โดยในปีงบประมาณ 2566 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 30 หลัง ปีงบประมาณ 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 60 หลัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29 หลัง และปีงบประมาณ 2568 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง 300 หลัง ทั่วกรุงเทพฯ

    ปรากฎว่ากลายเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะตามรายงานข่าวระบุว่า ศาลารอรถเมล์ Type C2 แบบ 3 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 230,000 บาทต่อหลัง และ Type C3 แบบ 6 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 320,000 บาทต่อหลัง ซึ่งพิจารณาจากวัสดุแล้วแพงกว่าบ้านน็อกดาวน์

    ไม่นับรวมเสียงสะท้อนจากผู้ใช้รถเมล์ว่า แม้จะดูดีทันสมัย แต่แทบใช้ประโยชน์หลบแดดหลบฝนไม่ได้เลย เพราะที่นั่งริมสุดและด้านหลังพอดีกับขอบหลังคา อีกทั้งทำหลังคาเชิดขึ้น แดดส่องถึง ฝนตกลงมาถึง แถมจำนวนที่นั่งน้อยเกินไป ส่วนที่นั่งที่ทำจากพลาสติก เกรงว่าจะไม่คงทนถาวรเมื่อเทียบกับที่นั่งสแตนเลสหรือปูน อีกทั้งบางจุดยังติดตั้งทับทางเดินสำหรับผู้พิการ บางจุดเช่น BTS กรุงธนบุรี เป็นมุมอับสายตามีต้นไม้บัง รถเมล์ไม่จอด

    ร้อนไปถึงนายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ชี้แจงว่า งบประมาณก่อสร้างครอบคลุมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค งานฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก งานเชื่อมประกอบโครงสร้างเหล็ก งานหลังคาเมทัลชีท งานรางน้ำ งานม้านั่ง งานระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายใน และงานบรรจบไฟฟ้าสาธารณะกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นต้น

    ยืนยันว่าราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเมื่อประกวดราคาอิเล็คทรอนิกส์ (e-bidding) ราคาจึงต่ำลงอีก นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่ม มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถบังแดดบังฝนด้วยหลังคาขนาดใหญ่และแผ่นอะคริลิกใสด้านหลัง มีพื้นที่นั่งคอยเหมาะสม สวยงามกลมกลืน ไม่บดบังทัศนียภาพ ไม่สร้างจุดอับสายตา และประหยัดพื้นที่ทางเท้า ไม่กีดขวางทางเดินอีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกรายละเอียดค่าก่อสร้างจากเอกสารประกวดราคา พบว่าราคากลางบวกค่าแฟคเตอร์ (Factor) หนักไปทางงานโครงสร้างประมาณ 88,000-131,000 บาท โดยเฉพาะงานเสา งานโครงรับเก้าอี้ งานโครงรับแผ่นอลูมิเนียมและอครีลิคที่เชื่อมประกอบจากโรงงาน ประกอบกับงานไฟฟ้าแสงสว่างประมาณ 46,000-47,000 บาท ส่วนงานตกแต่ง สัญลักษณ์และป้ายข้อมูลประมาณ 39,000-48,000 บาทเศษ จึงเป็นที่กังขาว่าจะคุ้มค่ากับเงินภาษีประชาชนหรือไม่

    #Newskit
    ศาลารอรถเมล์ 2-3 แสน แพงสมฐานะยุคชัชชาติ กลายเป็นที่วิจารณ์สนั่นโซเชียลฯ เมื่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยโฉมศาลาที่พักผู้โดยสารฯ โฉมใหม่ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ Type C2 ขนาด 2x3 เมตร 3 ที่นั่ง และ Type C3 ขนาด 2x6 เมตร 6 ที่นั่ง โดยในปีงบประมาณ 2566 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 30 หลัง ปีงบประมาณ 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จ 60 หลัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29 หลัง และปีงบประมาณ 2568 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง 300 หลัง ทั่วกรุงเทพฯ ปรากฎว่ากลายเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะตามรายงานข่าวระบุว่า ศาลารอรถเมล์ Type C2 แบบ 3 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 230,000 บาทต่อหลัง และ Type C3 แบบ 6 ที่นั่ง ใช้งบประมาณ 320,000 บาทต่อหลัง ซึ่งพิจารณาจากวัสดุแล้วแพงกว่าบ้านน็อกดาวน์ ไม่นับรวมเสียงสะท้อนจากผู้ใช้รถเมล์ว่า แม้จะดูดีทันสมัย แต่แทบใช้ประโยชน์หลบแดดหลบฝนไม่ได้เลย เพราะที่นั่งริมสุดและด้านหลังพอดีกับขอบหลังคา อีกทั้งทำหลังคาเชิดขึ้น แดดส่องถึง ฝนตกลงมาถึง แถมจำนวนที่นั่งน้อยเกินไป ส่วนที่นั่งที่ทำจากพลาสติก เกรงว่าจะไม่คงทนถาวรเมื่อเทียบกับที่นั่งสแตนเลสหรือปูน อีกทั้งบางจุดยังติดตั้งทับทางเดินสำหรับผู้พิการ บางจุดเช่น BTS กรุงธนบุรี เป็นมุมอับสายตามีต้นไม้บัง รถเมล์ไม่จอด ร้อนไปถึงนายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ชี้แจงว่า งบประมาณก่อสร้างครอบคลุมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค งานฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก งานเชื่อมประกอบโครงสร้างเหล็ก งานหลังคาเมทัลชีท งานรางน้ำ งานม้านั่ง งานระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายใน และงานบรรจบไฟฟ้าสาธารณะกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นต้น ยืนยันว่าราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเมื่อประกวดราคาอิเล็คทรอนิกส์ (e-bidding) ราคาจึงต่ำลงอีก นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่ม มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถบังแดดบังฝนด้วยหลังคาขนาดใหญ่และแผ่นอะคริลิกใสด้านหลัง มีพื้นที่นั่งคอยเหมาะสม สวยงามกลมกลืน ไม่บดบังทัศนียภาพ ไม่สร้างจุดอับสายตา และประหยัดพื้นที่ทางเท้า ไม่กีดขวางทางเดินอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกรายละเอียดค่าก่อสร้างจากเอกสารประกวดราคา พบว่าราคากลางบวกค่าแฟคเตอร์ (Factor) หนักไปทางงานโครงสร้างประมาณ 88,000-131,000 บาท โดยเฉพาะงานเสา งานโครงรับเก้าอี้ งานโครงรับแผ่นอลูมิเนียมและอครีลิคที่เชื่อมประกอบจากโรงงาน ประกอบกับงานไฟฟ้าแสงสว่างประมาณ 46,000-47,000 บาท ส่วนงานตกแต่ง สัญลักษณ์และป้ายข้อมูลประมาณ 39,000-48,000 บาทเศษ จึงเป็นที่กังขาว่าจะคุ้มค่ากับเงินภาษีประชาชนหรือไม่ #Newskit
    Like
    Haha
    Angry
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทักษิณหมดสเน่ห์ ภูมิใจไทย ประชาชน ได้ส่วนแบ่งการตลาดเกินครึ่ง
    ผลการเลือกตั้ง นายก อบจ. ที่เสร็จสิ้นแล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นสัญญาณที่ทําให้ภาพการเมืองของประเทศไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มีความชัดเจนระดับหนึ่งโดยเฉพาะขั้วการเมืองสามสี แดง ส้ม น้ําเงิน แม้ว่าถ้ามองในตัวเลขของจํานวนเก้าอี้ที่เพื่อไทยได้มาถึง 10 เก้าอี้นั้น เมื่อพิจารณาถึงจุดคุ้มทุนแล้วต้องยอมรับว่าด้านหนึ่งพรรคเพื่อไทยก็ขาดทุนไปไม่น้อยเช่นกัน
    เพราะแต่ละสนามที่เพื่อไทยลงแข่งขันนั้นทักษิณชินวัตรนายใหญ่ผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับปราศรัยด้วยท่าทีดุดัน แต่ก็สามารถชนะคู่แข่งได้เพียงหนึ่งที่นั่งเท่านั้น
    โดยอันดับสองอย่างภาคภูมิใจไทยที่ไม่ได้ประกาศส่งผู้สมัครอย่างเป็นทางการแต่ใช้วิธีกาสนับสนุนอยู่แบบห่างห่างอย่างห่วงห่วงกลับได้เก้าอี้มาถึงเก้าที่นั่ง ด้วยเหตุนี้เองจึงกลายเป็นคําถามตัวใหญ่ขึ้นมาว่าทักษิณเสื่อมมนต์ขลังแล้วหรือไม่
    ย้อนกลับไปที่เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมามักจะประกาศว่าต้องการชนะในทุกพื้นที่ที่ได้ส่งผู้สมัครเพื่อจะประกาศชัยชนะ แบบแลนด์สไลด์ก่อนไปศึกใหญ่อย่างการเลือกตั้งระดับประเทศ จึงเป็นที่มาที่ทําให้ครอบครัวชินวัตรต้องลงแรงหาเสียงให้สมศักดิ์ศรีกับการกลับมาประเทศไทยของทักษิณ เพราะหากทักษิณลงสนามแล้วแพ้ แน่นอนว่าขวัญและกําลังใจของเหล่าสาวกในพรรคเพื่อไทยน่าจะกระเจิง
    แต่ดูเหมือนที่ผ่านมาทักษิณและพรรคเพื่อไทยเองก็เดินเกมผิดพลาดมาตลอดเพราะแต่ละเวทีปราศรัยของทักษิณมักจะเน้นไปที่นโยบายของรัฐบาล
    เพื่ออวยแพทองธารชินวัตร มากกว่าการช่วยโปรโมทสรรพคุณผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยและนโยบายการทํางานเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งเป็นหัวใจของการเลือกตั้งท้องถิ่น
    ก่อนเข้าสู่ศึกใหญ่ในปี ๒๕๗๐การเมืองไทยนับจากนี้จะเป็นลักษณะของ ๓ ขั้วใหญ่แดง ส้ม น้ําเงิน ถึงผลการเลือกตั้งท้องถิ่น อาจจะไม่ได้เป็นตัวชี้วัดอนาคตทางการเมืองอย่างเด็ดขาด แต่ทุกขั้วการเมือง มีการบ้านที่ต้องรับไปทําอย่างลึกซึ้ง แน่นอน
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ทักษิณหมดสเน่ห์ ภูมิใจไทย ประชาชน ได้ส่วนแบ่งการตลาดเกินครึ่ง ผลการเลือกตั้ง นายก อบจ. ที่เสร็จสิ้นแล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นสัญญาณที่ทําให้ภาพการเมืองของประเทศไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มีความชัดเจนระดับหนึ่งโดยเฉพาะขั้วการเมืองสามสี แดง ส้ม น้ําเงิน แม้ว่าถ้ามองในตัวเลขของจํานวนเก้าอี้ที่เพื่อไทยได้มาถึง 10 เก้าอี้นั้น เมื่อพิจารณาถึงจุดคุ้มทุนแล้วต้องยอมรับว่าด้านหนึ่งพรรคเพื่อไทยก็ขาดทุนไปไม่น้อยเช่นกัน เพราะแต่ละสนามที่เพื่อไทยลงแข่งขันนั้นทักษิณชินวัตรนายใหญ่ผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับปราศรัยด้วยท่าทีดุดัน แต่ก็สามารถชนะคู่แข่งได้เพียงหนึ่งที่นั่งเท่านั้น โดยอันดับสองอย่างภาคภูมิใจไทยที่ไม่ได้ประกาศส่งผู้สมัครอย่างเป็นทางการแต่ใช้วิธีกาสนับสนุนอยู่แบบห่างห่างอย่างห่วงห่วงกลับได้เก้าอี้มาถึงเก้าที่นั่ง ด้วยเหตุนี้เองจึงกลายเป็นคําถามตัวใหญ่ขึ้นมาว่าทักษิณเสื่อมมนต์ขลังแล้วหรือไม่ ย้อนกลับไปที่เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมามักจะประกาศว่าต้องการชนะในทุกพื้นที่ที่ได้ส่งผู้สมัครเพื่อจะประกาศชัยชนะ แบบแลนด์สไลด์ก่อนไปศึกใหญ่อย่างการเลือกตั้งระดับประเทศ จึงเป็นที่มาที่ทําให้ครอบครัวชินวัตรต้องลงแรงหาเสียงให้สมศักดิ์ศรีกับการกลับมาประเทศไทยของทักษิณ เพราะหากทักษิณลงสนามแล้วแพ้ แน่นอนว่าขวัญและกําลังใจของเหล่าสาวกในพรรคเพื่อไทยน่าจะกระเจิง แต่ดูเหมือนที่ผ่านมาทักษิณและพรรคเพื่อไทยเองก็เดินเกมผิดพลาดมาตลอดเพราะแต่ละเวทีปราศรัยของทักษิณมักจะเน้นไปที่นโยบายของรัฐบาล เพื่ออวยแพทองธารชินวัตร มากกว่าการช่วยโปรโมทสรรพคุณผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยและนโยบายการทํางานเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งเป็นหัวใจของการเลือกตั้งท้องถิ่น ก่อนเข้าสู่ศึกใหญ่ในปี ๒๕๗๐การเมืองไทยนับจากนี้จะเป็นลักษณะของ ๓ ขั้วใหญ่แดง ส้ม น้ําเงิน ถึงผลการเลือกตั้งท้องถิ่น อาจจะไม่ได้เป็นตัวชี้วัดอนาคตทางการเมืองอย่างเด็ดขาด แต่ทุกขั้วการเมือง มีการบ้านที่ต้องรับไปทําอย่างลึกซึ้ง แน่นอน ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอนนักเรียนสานเก้าอี้หวาย ที่โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม จ.ศรีสะเกษ
    ติดต่องานวิทยากร 0637618879
    สอนนักเรียนสานเก้าอี้หวาย ที่โรงเรียนไพรบึงวิทยาคม จ.ศรีสะเกษ ติดต่องานวิทยากร 0637618879
    Like
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 1 1 รีวิว

  • 🌿 เฮ้! รู้มั้ยว่าชั้นวางต้นไม้นี่ทำได้จากทุกอย่างที่คุณเห็น ตั้งแต่ไม้พาเลทเก่าๆ ที่เคยแบกของหนักๆ (ตอนนี้มาแบกความน่ารักของต้นไม้แทน) ไปจนถึงท่อ PVC ที่ดูเหมือนจะน่าเบื่อ
    .
    แต่จัดให้ดีๆ มันเท่ได้แบบไม่น่าเชื่อ! แถมถ้าคุณมีเก้าอี้เก่าผุพังที่แฟนบอกให้ทิ้ง อย่าเพิ่งทิ้ง! เอามาทำชั้นวางต้นไม้สุดชิค ให้แฟนหันมามองใหม่ด้วยสายตาประทับใจ
    .
    เอาจริงๆ นะ... ถ้าให้เลือกระหว่างชั้นวางไม้สนราคาแพงจากห้าง กับเก้าอี้เก่าที่เราเอามาแปลงโฉม คุณว่าอันไหนจะเล่าเรื่องราวได้เจ๋งกว่ากัน? 🤔 #อยากรู้จังคุณจะเลือกอะไร
    .
    พิกัด ชั้นวางต้นไม้ ลด 50%📌 https://s.shopee.co.th/6fSANr2JSI
    .
    _____________
    #ไอเดียจัดสวน #เนรมิตสวนสวย #มุมสีเขียว #การจัดสวน #สวนในบ้าน
    #ชั้นวางต้นไม้
    #ชั้นวางต้นไม้เหล็ก
    #ชั้นวางต้นไม้นอกบ้านแบบไหนดี
    #ชั้นวางต้นไม้กลางแจ้ง
    #ชั้นวางต้นไม้เหล็ก
    #ชั้นวางต้นไม้นอกบ้าน
    #ชั้นวางต้นไม้ขั้นบันได
    #ชั้นวางต้นไม้ในสวน
    #ชั้นวางต้นไม้ไทวัสดุ
    #ชั้นวางต้นไม้อิฐบล็อก
    #ชั้นวางต้นไม้diy
    #ชั้นวางต้นไม้ประหยัดพื้นที่
    #ชั้นวางต้นไม้ทําเอง
    #ชั้นวางต้นไม้ikea
    #ชั้นวางต้นไม้homepro
    #ชั้นวางต้นไม้pvc
    #ชั้นวางต้นไม้กลางแจ้ง
    #ชั้นวางต้นไม้เหล็ก
    #ชั้นวางต้นไม้ติดผนัง
    #แบบชั้นวางต้นไม้
    🌿 เฮ้! รู้มั้ยว่าชั้นวางต้นไม้นี่ทำได้จากทุกอย่างที่คุณเห็น ตั้งแต่ไม้พาเลทเก่าๆ ที่เคยแบกของหนักๆ (ตอนนี้มาแบกความน่ารักของต้นไม้แทน) ไปจนถึงท่อ PVC ที่ดูเหมือนจะน่าเบื่อ . แต่จัดให้ดีๆ มันเท่ได้แบบไม่น่าเชื่อ! แถมถ้าคุณมีเก้าอี้เก่าผุพังที่แฟนบอกให้ทิ้ง อย่าเพิ่งทิ้ง! เอามาทำชั้นวางต้นไม้สุดชิค ให้แฟนหันมามองใหม่ด้วยสายตาประทับใจ . เอาจริงๆ นะ... ถ้าให้เลือกระหว่างชั้นวางไม้สนราคาแพงจากห้าง กับเก้าอี้เก่าที่เราเอามาแปลงโฉม คุณว่าอันไหนจะเล่าเรื่องราวได้เจ๋งกว่ากัน? 🤔 #อยากรู้จังคุณจะเลือกอะไร . พิกัด ชั้นวางต้นไม้ ลด 50%📌 https://s.shopee.co.th/6fSANr2JSI . _____________ #ไอเดียจัดสวน #เนรมิตสวนสวย #มุมสีเขียว #การจัดสวน #สวนในบ้าน #ชั้นวางต้นไม้ #ชั้นวางต้นไม้เหล็ก #ชั้นวางต้นไม้นอกบ้านแบบไหนดี #ชั้นวางต้นไม้กลางแจ้ง #ชั้นวางต้นไม้เหล็ก #ชั้นวางต้นไม้นอกบ้าน #ชั้นวางต้นไม้ขั้นบันได #ชั้นวางต้นไม้ในสวน #ชั้นวางต้นไม้ไทวัสดุ #ชั้นวางต้นไม้อิฐบล็อก #ชั้นวางต้นไม้diy #ชั้นวางต้นไม้ประหยัดพื้นที่ #ชั้นวางต้นไม้ทําเอง #ชั้นวางต้นไม้ikea #ชั้นวางต้นไม้homepro #ชั้นวางต้นไม้pvc #ชั้นวางต้นไม้กลางแจ้ง #ชั้นวางต้นไม้เหล็ก #ชั้นวางต้นไม้ติดผนัง #แบบชั้นวางต้นไม้
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • “เรวัต อารีรอบ” หัวหน้าทีมภูเก็ตหยัดได้ ดับฝันพรรคประชาชนต่อจิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย ที่ภูเก็ต ส่ง “หมอโอ” นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ. แต่ไปไม่ถึงฝัน พ่าย “เรวัต อารีรอบ” หัวหน้าทีมภูเก็ตหยัดได้ รักษาแชมป์ไว้ได้ นั่งเก้าอี้นายก อบจ.ภูเก็ต ต่ออีกสมัย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010507

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “เรวัต อารีรอบ” หัวหน้าทีมภูเก็ตหยัดได้ ดับฝันพรรคประชาชนต่อจิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย ที่ภูเก็ต ส่ง “หมอโอ” นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ. แต่ไปไม่ถึงฝัน พ่าย “เรวัต อารีรอบ” หัวหน้าทีมภูเก็ตหยัดได้ รักษาแชมป์ไว้ได้ นั่งเก้าอี้นายก อบจ.ภูเก็ต ต่ออีกสมัย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010507 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 913 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกชิงนายก อบจ. ดุเดือดจนทักษิณยังหนาวหลัง
    ทักษิณ ชินวัตร ออกปากยอมรับ สนามเลือกตั้งนายกอบจ ศรีสะเกษ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล สูสีกัน ทักษิณยอมรับความจริง เพราะแม้พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยจะกวาด สส. เกือบค่อนจังหวัด
    แต่เมื่อเจาะลงไปในสนามท้องถิ่นบ้านใหญ่ ไตรสรณกุล ได้ตําแหน่งมาหลายปีสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ในขณะที่ผู้สมัครนายกอบจของพรรคเพื่อไทยอย่างเสี่ยปู๊วิวัฒน์ชัย เป็นพวกกระดูกคนละเบอร์กับแชมป์เก่าอย่างนายกส้มเกลี้ยง เทียบกันให้ชัดชัดสนามเลือกตั้งส.ส.ศรีสะเกษที่เพิ่งผ่านมา พรรคเพื่อไทยหอบส.ส.เข้าสภาเกือบจะยกจังหวัดตกอยู่ไม่กี่เขต
    แต่หนึ่งในนั้นมีเสี่ยปู๊รวมอยู่ด้วย กระแสพรรคเพื่อไทยในศรีสะเกษเมื่อก่อนมีมาก โดยเฉพาะแคมเปญไล่หนูตีงูเห่า ที่เล่นเอาภาคภูมิใจไทยช็อตปั่นแต้มไม่ขึ้นพรรคเพื่อไทยแทบไม่ต้องออกแรงมาก นักการเมืองที่นั่นพาเหรดกันเข้าวิน แต่เสี่ยปู๊ดันตกขบวนทั้งที่ทําตัวเป็นหัวโจกค่ายสีแดงในจังหวัดถึงขั้นต้องพิจารณากันว่าต้องไม่เอาอ่าวขนาดไหน ขนาดกระแสพรรคเพื่อไทยดีขนาดนี้แต่ดันสอบตก
    หลังการเลือกตั้งเสี่ยปู๊ เข้ามาสังกัดก๊ก สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ท่อน้ําเลี้ยงนัมเบอร์วันของพรรคเพื่อไทยก่อนจะได้รับการปลอบใจให้มีตําแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
    พอได้อยู่กับท่อน้ําเลี้ยงแล้วคึกมีความหวัง กระแสไม่ได้ หันไปพึ่งกระสุนขอลงชิงชัยเก้าอี้นายก อบจ ศรีสะเกษ ดูสักตั้ง กระแสส่วนตัวในจังหวัดเป็นรองแต่ขอพึ่งบารมีทักษิณและสุริยะ เพื่อเข้าไปบริหารการเมืองท้องถิ่นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟก็ยัง
    ยอมรับตรงๆว่าคะแนนสูสี ทั้งที่ความเป็นจริง ความนิยมในจังหวัดแชมป์เก่าเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่นายกส้มเกลี้ยง เหนือกว่า เสี่ยปู๊ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าพื้นเพเป็นคนอุบลราชธานีด้วยซ้ํา
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    ศึกชิงนายก อบจ. ดุเดือดจนทักษิณยังหนาวหลัง ทักษิณ ชินวัตร ออกปากยอมรับ สนามเลือกตั้งนายกอบจ ศรีสะเกษ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล สูสีกัน ทักษิณยอมรับความจริง เพราะแม้พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยจะกวาด สส. เกือบค่อนจังหวัด แต่เมื่อเจาะลงไปในสนามท้องถิ่นบ้านใหญ่ ไตรสรณกุล ได้ตําแหน่งมาหลายปีสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ในขณะที่ผู้สมัครนายกอบจของพรรคเพื่อไทยอย่างเสี่ยปู๊วิวัฒน์ชัย เป็นพวกกระดูกคนละเบอร์กับแชมป์เก่าอย่างนายกส้มเกลี้ยง เทียบกันให้ชัดชัดสนามเลือกตั้งส.ส.ศรีสะเกษที่เพิ่งผ่านมา พรรคเพื่อไทยหอบส.ส.เข้าสภาเกือบจะยกจังหวัดตกอยู่ไม่กี่เขต แต่หนึ่งในนั้นมีเสี่ยปู๊รวมอยู่ด้วย กระแสพรรคเพื่อไทยในศรีสะเกษเมื่อก่อนมีมาก โดยเฉพาะแคมเปญไล่หนูตีงูเห่า ที่เล่นเอาภาคภูมิใจไทยช็อตปั่นแต้มไม่ขึ้นพรรคเพื่อไทยแทบไม่ต้องออกแรงมาก นักการเมืองที่นั่นพาเหรดกันเข้าวิน แต่เสี่ยปู๊ดันตกขบวนทั้งที่ทําตัวเป็นหัวโจกค่ายสีแดงในจังหวัดถึงขั้นต้องพิจารณากันว่าต้องไม่เอาอ่าวขนาดไหน ขนาดกระแสพรรคเพื่อไทยดีขนาดนี้แต่ดันสอบตก หลังการเลือกตั้งเสี่ยปู๊ เข้ามาสังกัดก๊ก สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ท่อน้ําเลี้ยงนัมเบอร์วันของพรรคเพื่อไทยก่อนจะได้รับการปลอบใจให้มีตําแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พอได้อยู่กับท่อน้ําเลี้ยงแล้วคึกมีความหวัง กระแสไม่ได้ หันไปพึ่งกระสุนขอลงชิงชัยเก้าอี้นายก อบจ ศรีสะเกษ ดูสักตั้ง กระแสส่วนตัวในจังหวัดเป็นรองแต่ขอพึ่งบารมีทักษิณและสุริยะ เพื่อเข้าไปบริหารการเมืองท้องถิ่นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟก็ยัง ยอมรับตรงๆว่าคะแนนสูสี ทั้งที่ความเป็นจริง ความนิยมในจังหวัดแชมป์เก่าเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่นายกส้มเกลี้ยง เหนือกว่า เสี่ยปู๊ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าพื้นเพเป็นคนอุบลราชธานีด้วยซ้ํา ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัยที่ผมยังเด็ก...

    ลมหนาวจางๆ เริ่มพัดมาแล้ว...
    ระดับนํ้าในแม่นํ้าโขงเริ่มลดลง พอให้ชาวบ้านที่อยู่ติดริมนํ้าได้เริ่มลงมือปลูกผักสวนครัวไว้ใช้ในบ้าน

    เมื่อลมหนาว เริ่มพัดมา ก็หมายความว่า ฤดูฝนกำลังจะหมดไป
    งานบุญเดือน 11 กำลังมาถึง..

    งานบุญออกพรรษา...

    สิ่งที่มีมาคู่กับงานออกพรรษาคือ
    งานบุญแข่งเรือ

    ช่วงก่อนจะใกล้งานบุญแข่งเรือสักหนึ่งเดือน...
    ช่วงเย็นๆ ที่ลำนํ้าโขงจะปรากฎเสียงกระตุ้นเร้าเป็นระยะๆ ดังพร้อมๆ กับเสียงนกหวีด ให้ออกแรง พายจํ้า
    เรือแข่งหลายสิบฝีพาย หลายๆลำมักจะใช้แม่นํ้าโขงเป็นสนามฝึกซ้อม

    หน้าต่างฝั่งนํ้าโขงของบ้านผมนั้น เป็นที่ที่ผมปีนขึ้นไปนั่งได้อย่างสะดวก แค่เหยียบเก้าอี้ขึ้นไป ก็นั่งขอบหน้าต่างได้แล้ว

    ปกติแล้วผมมักจะชอบนั่งดูแม่นํ้าอยู่ริมหน้าต่างที่บ้านเก่า และบ่อยครั้งก็อุตริขึ้นไปนั่งอ่านนิยายที่ขอบหน้าต่าง

    คราวที่ กำลังง่วนกับการละเล่น พอได้ยินเสียงนกหวีดให้จังหวะฝีพาย ผมจะทิ้งทุกอย่างวิ่งมาเกาะหน้าต่างดู ฝีพายที่ขะมักเขม้น จ้วงพายลงในนํ้า ในจังหวะที่พร้อมเพรียงกัน

    ฝีพายทั้งหลายต่างพร้อมใจกันมาซ้อมทุกเช้าเย็น...

    จวบจนวันบุญแข่งเรือ และงานวันออกพรรษา มาถึง....

    ถนนสุนทรวิจิตร หน้าบ้านผมในสมัย40กว่าปีก่อนนั้น...
    นับได้ว่าเป็นถนนเศรษฐกิจเลยทีเดียว ทั้งรถราวิ่งกันขวักไขว่ ร้านอาหาร บาร์ ก็ผุดเป็นดอกเห็ดยามหน้าฝน
    เวลามีงานบุญต่างๆ ขบวนแห่ทั้งหลาย ก็ต้องผ่านเส้นนี้ทั้งนั้น

    วันออกพรรษา ที่เป็นวันเต็ง คือวันขึ้น15 คํ่าเดือน11 .....

    ลานหญ้าริมเขื่อนฝั่งโขง หน้าบ้านพักผู้พิพากษา ยาวไปถึงสถานีตำรวจ และเลยไปถึงโรงเรียนสุนทรวิจิตร
    จะเต็มไปด้วยซุ้มต่างๆของแต่ละอำเภอ แต่ละท้องถิ่น พากันมาออกร้าน ทั้งไม้ไผ่ ทางมะพร้าว ไพหญ้า ต่างถูกใช้เป็นวัสดุหลักในการทำโครงสร้างรวมทั้งการตกแต่ง ที่เรียบง่าย แต่น่าสนใจเหลือเกินสำหรับเด็กในวัย6-7ขวบอย่างผม

    ตั้งแต่เช้า....
    ผู้คนเริ่มทะยอยกัน ออกมาเดินเท้าบนถนน ถนนหน้าบ้านผมคราครํ่าไปด้วยผู้คน

    แม่บ้านที่เลี้ยงผมในยามนั้น
    แกชอบออกมานั่งดู ผู้คนเดินไปมา ผมซึ่งยังเป็นเด็กมากในขณะนั้นกลับรู้สึกว่า ไม่เห็นจะน่าสนใจอะไรเลย
    สู้ลูกโป่งสีสวยในมือพ่อค้าไม่ได้

    หรือเสาไม้ไผ่ที่พ่อค้าแบกพาดไว้บนไหล่ถูกเจาะรู รอบๆเป็นระยะๆ เอาไว้เสียบเครื่องเล่น ของเล่น นานาชนิด...

    เครื่องบินที่แพนหางเป็นกระดาษ ส่วนหัว มีเชือกป่านผูกกับปลายไม้ที่เป็นก้านจับ พอแกว่งให้ปะทะอากาศก็จะมีเสียงดังวี้ด ๆ

    ยังมี "จั๊กจั่น" ที่เป็นกล่องกระดาษทรงกระบอกเล็กๆ ฝั่งหนึ่งเจาะรูมีเชือกร้อยห้อยติดกับไม้ พอเหวี่ยงกล่องกระดาษที่ปลายมันจะเกิดเสียงแหลมๆคล้ายจั๊กจั่น

    และที่ลืมไม่ได้...
    ป๋องแป๋งกระดาษแก้ว..
    ที่หน้าของตัวป๋องแป๋งขึงด้วยการะดาษแก้วหลากสี
    ตัวป๋องแป๋งมีลักษณะคล้ายกลองขนาดเล็ก ขึงหน้าด้วยกระดาษแก้วสี ด้านข้างมีเชือกป่านร้อยไว้ทั้ง2ด้านปลายด้านหนึ่ง มีดินเหนียวแห้งเป็นตุ้มถ่วง พอแกว่งป๋องแป๋ง ดินเหนียวนี้ก็จะไปปะทะหน้าป๋องแป๋ง เกิดเสียงกังวานขึ้น
    เตี่ยผมเคย ช่วยซ่อมป๋องแป๋งนี้ในยามที่หน้ากระดาษแก้วมันหย่อน
    แกเอาผ้าชุบนํ้าพอหมาดๆ แล้วเช็ดหน้ากระดาษแก้วไวๆ น่าประหลาดที่มันกลับมาตึงและดังกังวานได้อีกครั้ง

    แกบอกว่า กระดาษแก้วพอถูกนํ้าจะตึงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ทำบ่อยๆก็ไม่ไหว มันจะหมดสภาพไป...
    .
    .
    .
    ฝูงชนยังคงคราครํ่า บนถนน...
    แม่บ้านผมก็ยังคงนั่งมองผู้คนอยู่อย่างนั้น...

    มาบัดนี้ ด้วยที่ผ่านวัยนั้นมา ผมเข้าใจแล้วว่า
    แกคงมองดูหนุ่มสาวที่มาด้วยกัน บางครั้งคงแอบมองหนุ่มๆที่มาคนเดียว หรือมาร่วมกลุ่มกัน นั่นก็คงทำให้แกมีความสุขเล็กๆได้
    .
    .
    พอตกบ่าย...
    หลังจากการแข่งเรือในท้องนํ้าที่กว้างใหญ่ผ่านไป
    มักจะมีเรือเล็กติดเครื่องยนต์ วิ่งไปมาใกล้ตลิ่ง
    หนุ่มๆบนเรือ บ้างก็เปลื้องผ้าท่อนบน บ้างก็มีสภาพมึนเมา บ่อยครั้งที่จะมีคำร้องกลอนพื้นบ้าน พร้อมเสียงกลองเสียงเคาะขวด ลอยตามเรือมาเป็นระยะๆ
    สาวบ้านไหนอยู่ในระยะสายตา มักจะโดนหนุ่มๆขี้เมาทั้งหลายในเรือลำจิ๋ว แซวไปซะทุกครั้ง และแน่นอน คำร้องแซว นั้น อยู่ในระดับ หยาบถึงหยาบมาก
    .
    .
    ขบวนแห่ปราสาทผึ้งเริ่มแล้ว
    การตกแต่ง ริ้วขบวนเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ทั้งดนตรีปี่กลอง ผู้ร่วมขบวนนั้นมีมากมาย และมีทุกวัย
    บางคราวก็จะเห็น ตา หรือ ยายแก่ๆ ฟ้อนเข้าจังหวะ แต่จังหวะสับขานั้นเต็มไปด้วยควมสับสนอาจจะเพราะฤทธิ์ 40 ดีกรี ที่ดวดเข้าไปเต็มคราบ ถึงกับถอยหน้าถอยหลัง ไปไม่ถึงไหน
    ร้อนถึงเพื่อน ในขบวนต้องช่วยกันรุนหลังให้ตามขบวนไป
    บ้างก็หมดสภาพขนาดเพื่อนๆ ต้องหิ้วปีกตามขบวนกันเลย ก็ยังเคยมีให้เห็น
    .
    .
    งานบุญแบบนี้ สิ่งที่เด็กๆอย่างผมตั้งตารอ ก็คงจะหนีไม่พ้น ขนม นม เนย ที่วางขายกัน

    ของกิน ของซื้อมากมายเหลือเกินในงานออกร้าน

    รถเข็นขายลูกชิ้นปิ้ง
    ซึ่งผมและเด็กอีกหลายๆคนมักจะทำคล้ายๆกัน คือ ใช้ไม้ที่มีลูกชิ้นนั้น จิ้มนํ้าจิ้ม และดูดกินนํ้าจิ้มนั้น เรื่อยๆก่อน เหมือนกลัวว่า ถ้ารีบกินลูกชิ้นนั้น จะหมดลงไวเกินไป อีกมือที่ว่างก็ล้วงไปที่ถุงพลาสติกที่มีกระหลํ่าปลีหั่น เอาออกมาจิ้มนํ้าจิ้มกินอย่างเอร็ดอร่อย
    จนควรแก่เวลา ถึงได้บรรเลงลูกชิ้นที่เหลือไว้ ลงท้อง

    รถเข็นขายซาละเปา
    ซาละเปาร้อนๆ หอมฉุยทุกครั้งที่เปิดฝาซึ้งที่ใช้นึ่งซาละเปา ยังมีขนมปังที่กินกับไอศครีมตัก พ่อค้านำมาประยุกต์ ใส่ไส้สังขยาลงไป แล้วเอามานึ่งพร้อมซาละเปา ก็อร่อยไปอีกแบบ

    และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานออกพรรษาสมัยนั้น คือ ลูกเดือยต้ม

    มันจะถูกแบ่งเป็นกำๆ กำหนึ่งมีหลายก้าน ปลายก้านจะมีลูกเดือยอยู่แต่มันถูกหุ้มด้วยเปลือกแข็งๆ ต้องแทะเปลือกออกถึงจะได้ลิ้มรส ไอ้ลูกเดือยนี่แหละทำให้คนกวาดถนนออกมาบ่นทุกครั้งที่จบงาน เพราะมันถูกทิ้งเกลื่อนและเปลือกมีขนาดเล็ก ทำให้ยากต่อการเก็บกวาด

    งานดำเนินไปค่อนคืน...
    งานเลี้ยงก็ถึงเวลาต้องเลิกรา...
    .
    .
    .
    หลายสิบปีผ่านไป...
    งานออกพรรษา เปลี่ยนไปแล้ว...

    ความเรียบง่ายแฝงเสน่ห์บ้านๆถูกแทนที่ด้วยความยิ่งใหญ่ จ้าแจ่ม ของความทันสมัยที่ถูกใส่เข้ามาแทนที่

    ของเล่นในวัยเด็กที่พ่อค้าแบกท่อนไม้ไผ่เจาะรู ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว

    ของกินที่แสนอร่อยในวัยเด็กถูกแทนที่ด้วยของกินหน้าตาแปลกใหม่ และอาจจะอร่อยกว่าของเดิม

    ลูกเดือยต้ม แทบจะหาไม่ได้อีกแล้วในงานบุญออกพรรษา

    พร้อมๆกับที่ หนุ่มวัยรุ่นขี้เมาล่องเรือแซวสาว...
    ก็หายไปจากท้องนํ้า....
    .
    .
    .
    มีเพียงความทรงจำสีจางๆ...
    ภาพเก่าๆ ให้ระลึกถึง...

    ก็ทำให้ ใครบางคน...
    สถานที่บางสถานที่...
    ที่เคยสลายไปแล้วนั้น
    กลับมามีชีวิตอีกครั้ง...
    แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ก็ตาม....
    .
    .
    .
    ***ปล. ขอบคุณท่านเจ้าของภาพที่ผมนำมาใช้ประกอบบทความครับ

    ***ออกพรรษา
    เผยแพร่ครั้งแรก เมื่อ 7 ตุลาคม 2560 ที่เพจ ล ม ห ว น
    สมัยที่ผมยังเด็ก... ลมหนาวจางๆ เริ่มพัดมาแล้ว... ระดับนํ้าในแม่นํ้าโขงเริ่มลดลง พอให้ชาวบ้านที่อยู่ติดริมนํ้าได้เริ่มลงมือปลูกผักสวนครัวไว้ใช้ในบ้าน เมื่อลมหนาว เริ่มพัดมา ก็หมายความว่า ฤดูฝนกำลังจะหมดไป งานบุญเดือน 11 กำลังมาถึง.. งานบุญออกพรรษา... สิ่งที่มีมาคู่กับงานออกพรรษาคือ งานบุญแข่งเรือ ช่วงก่อนจะใกล้งานบุญแข่งเรือสักหนึ่งเดือน... ช่วงเย็นๆ ที่ลำนํ้าโขงจะปรากฎเสียงกระตุ้นเร้าเป็นระยะๆ ดังพร้อมๆ กับเสียงนกหวีด ให้ออกแรง พายจํ้า เรือแข่งหลายสิบฝีพาย หลายๆลำมักจะใช้แม่นํ้าโขงเป็นสนามฝึกซ้อม หน้าต่างฝั่งนํ้าโขงของบ้านผมนั้น เป็นที่ที่ผมปีนขึ้นไปนั่งได้อย่างสะดวก แค่เหยียบเก้าอี้ขึ้นไป ก็นั่งขอบหน้าต่างได้แล้ว ปกติแล้วผมมักจะชอบนั่งดูแม่นํ้าอยู่ริมหน้าต่างที่บ้านเก่า และบ่อยครั้งก็อุตริขึ้นไปนั่งอ่านนิยายที่ขอบหน้าต่าง คราวที่ กำลังง่วนกับการละเล่น พอได้ยินเสียงนกหวีดให้จังหวะฝีพาย ผมจะทิ้งทุกอย่างวิ่งมาเกาะหน้าต่างดู ฝีพายที่ขะมักเขม้น จ้วงพายลงในนํ้า ในจังหวะที่พร้อมเพรียงกัน ฝีพายทั้งหลายต่างพร้อมใจกันมาซ้อมทุกเช้าเย็น... จวบจนวันบุญแข่งเรือ และงานวันออกพรรษา มาถึง.... ถนนสุนทรวิจิตร หน้าบ้านผมในสมัย40กว่าปีก่อนนั้น... นับได้ว่าเป็นถนนเศรษฐกิจเลยทีเดียว ทั้งรถราวิ่งกันขวักไขว่ ร้านอาหาร บาร์ ก็ผุดเป็นดอกเห็ดยามหน้าฝน เวลามีงานบุญต่างๆ ขบวนแห่ทั้งหลาย ก็ต้องผ่านเส้นนี้ทั้งนั้น วันออกพรรษา ที่เป็นวันเต็ง คือวันขึ้น15 คํ่าเดือน11 ..... ลานหญ้าริมเขื่อนฝั่งโขง หน้าบ้านพักผู้พิพากษา ยาวไปถึงสถานีตำรวจ และเลยไปถึงโรงเรียนสุนทรวิจิตร จะเต็มไปด้วยซุ้มต่างๆของแต่ละอำเภอ แต่ละท้องถิ่น พากันมาออกร้าน ทั้งไม้ไผ่ ทางมะพร้าว ไพหญ้า ต่างถูกใช้เป็นวัสดุหลักในการทำโครงสร้างรวมทั้งการตกแต่ง ที่เรียบง่าย แต่น่าสนใจเหลือเกินสำหรับเด็กในวัย6-7ขวบอย่างผม ตั้งแต่เช้า.... ผู้คนเริ่มทะยอยกัน ออกมาเดินเท้าบนถนน ถนนหน้าบ้านผมคราครํ่าไปด้วยผู้คน แม่บ้านที่เลี้ยงผมในยามนั้น แกชอบออกมานั่งดู ผู้คนเดินไปมา ผมซึ่งยังเป็นเด็กมากในขณะนั้นกลับรู้สึกว่า ไม่เห็นจะน่าสนใจอะไรเลย สู้ลูกโป่งสีสวยในมือพ่อค้าไม่ได้ หรือเสาไม้ไผ่ที่พ่อค้าแบกพาดไว้บนไหล่ถูกเจาะรู รอบๆเป็นระยะๆ เอาไว้เสียบเครื่องเล่น ของเล่น นานาชนิด... เครื่องบินที่แพนหางเป็นกระดาษ ส่วนหัว มีเชือกป่านผูกกับปลายไม้ที่เป็นก้านจับ พอแกว่งให้ปะทะอากาศก็จะมีเสียงดังวี้ด ๆ ยังมี "จั๊กจั่น" ที่เป็นกล่องกระดาษทรงกระบอกเล็กๆ ฝั่งหนึ่งเจาะรูมีเชือกร้อยห้อยติดกับไม้ พอเหวี่ยงกล่องกระดาษที่ปลายมันจะเกิดเสียงแหลมๆคล้ายจั๊กจั่น และที่ลืมไม่ได้... ป๋องแป๋งกระดาษแก้ว.. ที่หน้าของตัวป๋องแป๋งขึงด้วยการะดาษแก้วหลากสี ตัวป๋องแป๋งมีลักษณะคล้ายกลองขนาดเล็ก ขึงหน้าด้วยกระดาษแก้วสี ด้านข้างมีเชือกป่านร้อยไว้ทั้ง2ด้านปลายด้านหนึ่ง มีดินเหนียวแห้งเป็นตุ้มถ่วง พอแกว่งป๋องแป๋ง ดินเหนียวนี้ก็จะไปปะทะหน้าป๋องแป๋ง เกิดเสียงกังวานขึ้น เตี่ยผมเคย ช่วยซ่อมป๋องแป๋งนี้ในยามที่หน้ากระดาษแก้วมันหย่อน แกเอาผ้าชุบนํ้าพอหมาดๆ แล้วเช็ดหน้ากระดาษแก้วไวๆ น่าประหลาดที่มันกลับมาตึงและดังกังวานได้อีกครั้ง แกบอกว่า กระดาษแก้วพอถูกนํ้าจะตึงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ทำบ่อยๆก็ไม่ไหว มันจะหมดสภาพไป... . . . ฝูงชนยังคงคราครํ่า บนถนน... แม่บ้านผมก็ยังคงนั่งมองผู้คนอยู่อย่างนั้น... มาบัดนี้ ด้วยที่ผ่านวัยนั้นมา ผมเข้าใจแล้วว่า แกคงมองดูหนุ่มสาวที่มาด้วยกัน บางครั้งคงแอบมองหนุ่มๆที่มาคนเดียว หรือมาร่วมกลุ่มกัน นั่นก็คงทำให้แกมีความสุขเล็กๆได้ . . พอตกบ่าย... หลังจากการแข่งเรือในท้องนํ้าที่กว้างใหญ่ผ่านไป มักจะมีเรือเล็กติดเครื่องยนต์ วิ่งไปมาใกล้ตลิ่ง หนุ่มๆบนเรือ บ้างก็เปลื้องผ้าท่อนบน บ้างก็มีสภาพมึนเมา บ่อยครั้งที่จะมีคำร้องกลอนพื้นบ้าน พร้อมเสียงกลองเสียงเคาะขวด ลอยตามเรือมาเป็นระยะๆ สาวบ้านไหนอยู่ในระยะสายตา มักจะโดนหนุ่มๆขี้เมาทั้งหลายในเรือลำจิ๋ว แซวไปซะทุกครั้ง และแน่นอน คำร้องแซว นั้น อยู่ในระดับ หยาบถึงหยาบมาก . . ขบวนแห่ปราสาทผึ้งเริ่มแล้ว การตกแต่ง ริ้วขบวนเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ทั้งดนตรีปี่กลอง ผู้ร่วมขบวนนั้นมีมากมาย และมีทุกวัย บางคราวก็จะเห็น ตา หรือ ยายแก่ๆ ฟ้อนเข้าจังหวะ แต่จังหวะสับขานั้นเต็มไปด้วยควมสับสนอาจจะเพราะฤทธิ์ 40 ดีกรี ที่ดวดเข้าไปเต็มคราบ ถึงกับถอยหน้าถอยหลัง ไปไม่ถึงไหน ร้อนถึงเพื่อน ในขบวนต้องช่วยกันรุนหลังให้ตามขบวนไป บ้างก็หมดสภาพขนาดเพื่อนๆ ต้องหิ้วปีกตามขบวนกันเลย ก็ยังเคยมีให้เห็น . . งานบุญแบบนี้ สิ่งที่เด็กๆอย่างผมตั้งตารอ ก็คงจะหนีไม่พ้น ขนม นม เนย ที่วางขายกัน ของกิน ของซื้อมากมายเหลือเกินในงานออกร้าน รถเข็นขายลูกชิ้นปิ้ง ซึ่งผมและเด็กอีกหลายๆคนมักจะทำคล้ายๆกัน คือ ใช้ไม้ที่มีลูกชิ้นนั้น จิ้มนํ้าจิ้ม และดูดกินนํ้าจิ้มนั้น เรื่อยๆก่อน เหมือนกลัวว่า ถ้ารีบกินลูกชิ้นนั้น จะหมดลงไวเกินไป อีกมือที่ว่างก็ล้วงไปที่ถุงพลาสติกที่มีกระหลํ่าปลีหั่น เอาออกมาจิ้มนํ้าจิ้มกินอย่างเอร็ดอร่อย จนควรแก่เวลา ถึงได้บรรเลงลูกชิ้นที่เหลือไว้ ลงท้อง รถเข็นขายซาละเปา ซาละเปาร้อนๆ หอมฉุยทุกครั้งที่เปิดฝาซึ้งที่ใช้นึ่งซาละเปา ยังมีขนมปังที่กินกับไอศครีมตัก พ่อค้านำมาประยุกต์ ใส่ไส้สังขยาลงไป แล้วเอามานึ่งพร้อมซาละเปา ก็อร่อยไปอีกแบบ และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานออกพรรษาสมัยนั้น คือ ลูกเดือยต้ม มันจะถูกแบ่งเป็นกำๆ กำหนึ่งมีหลายก้าน ปลายก้านจะมีลูกเดือยอยู่แต่มันถูกหุ้มด้วยเปลือกแข็งๆ ต้องแทะเปลือกออกถึงจะได้ลิ้มรส ไอ้ลูกเดือยนี่แหละทำให้คนกวาดถนนออกมาบ่นทุกครั้งที่จบงาน เพราะมันถูกทิ้งเกลื่อนและเปลือกมีขนาดเล็ก ทำให้ยากต่อการเก็บกวาด งานดำเนินไปค่อนคืน... งานเลี้ยงก็ถึงเวลาต้องเลิกรา... . . . หลายสิบปีผ่านไป... งานออกพรรษา เปลี่ยนไปแล้ว... ความเรียบง่ายแฝงเสน่ห์บ้านๆถูกแทนที่ด้วยความยิ่งใหญ่ จ้าแจ่ม ของความทันสมัยที่ถูกใส่เข้ามาแทนที่ ของเล่นในวัยเด็กที่พ่อค้าแบกท่อนไม้ไผ่เจาะรู ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว ของกินที่แสนอร่อยในวัยเด็กถูกแทนที่ด้วยของกินหน้าตาแปลกใหม่ และอาจจะอร่อยกว่าของเดิม ลูกเดือยต้ม แทบจะหาไม่ได้อีกแล้วในงานบุญออกพรรษา พร้อมๆกับที่ หนุ่มวัยรุ่นขี้เมาล่องเรือแซวสาว... ก็หายไปจากท้องนํ้า.... . . . มีเพียงความทรงจำสีจางๆ... ภาพเก่าๆ ให้ระลึกถึง... ก็ทำให้ ใครบางคน... สถานที่บางสถานที่... ที่เคยสลายไปแล้วนั้น กลับมามีชีวิตอีกครั้ง... แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ก็ตาม.... . . . ***ปล. ขอบคุณท่านเจ้าของภาพที่ผมนำมาใช้ประกอบบทความครับ ***ออกพรรษา เผยแพร่ครั้งแรก เมื่อ 7 ตุลาคม 2560 ที่เพจ ล ม ห ว น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกมเก็บเหรียญ Jagat น่าสงสัยความเสี่ยงสูง

    Jagat ภาษาอินโดนีเซียแปลว่าจักรวาล ระบุตัวเองว่าเป็นแอปพลิเคชันค้นหาครอบครัวและเพื่อน แต่มีกิจกรรมที่ชื่อว่า Jagat Coin Hunt เปิดให้ทำภารกิจล่าเหรียญเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และเชียงราย โดยนำเหรียญที่จัดทำขึ้นไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่างๆ แล้วให้คนที่เล่นเกมไปตามหาเหรียญบนแผนที่ เปิดระบบตั้งแต่เวลา 08.00-24.00 น. เมื่อพบเหรียญจะต้องกรอกรหัสบนเหรียญ ถ่ายคลิปและภาพนิ่งลงในติ๊กต็อกพร้อมแฮชแท็กที่กำหนด จะได้เงินรางวัลตั้งแต่ 500 บาท ถึง 200,000 บาท

    เมื่อมีการโปรโมตเกมผ่านติ๊กต็อก ทำให้วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน รวมทั้งคนที่ทำอาชีพอิสระ เช่น ไรเดอร์ ออกตามหาเหรียญโดยรวมตัวกันในสถานที่ซึ่งถูกบอกใบ้ว่ามีเหรียญซ่อนอยู่จำนวนมาก และบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือบางคนรื้อสถานที่สาธารณะทั้งต้นไม้ใบหญ้า งัดฝาท่อ งัดอิฐตัวหนอน งัดเก้าอี้ ทรัพย์สินเสียหาย ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชนต่างโดดเรียนเพื่อตามหาเหรียญโดยไม่บอกผู้ปกครอง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายต่อสังคม

    แอปพลิเคชัน Jagat พัฒนาโดยบริษัท JAGAT TECHNOLOGY PTE. LTD. จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ใช้ที่อยู่ในอาคาร OUE Downtown ข้อมูลจาก RocketReach ระบุว่าประธานบริษัทคือ Barry Beagen อยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และซีอีโอคือ Xing Loy อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีพนักงานจำนวน 19 คน จากการค้นหาเว็บไซต์ LinkedIn พบว่าพนักงานมีทั้งอยู่ในอินโดนีเซีย ประเทศจีน (เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน) สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แต่ไม่พบว่าจดทะเบียนหรือประกอบธุรกิจในประเทศไทย

    ที่น่าเป็นห่วงก็คือ จากการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 พบว่าไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง อาทิ การให้เสียเงินจำนวนมากเพื่อบอกคำใบ้ที่ซ่อนเหรียญ เริ่มต้นที่ 149 บาท ถ้าต้องการคำใบ้เพิ่ม ต้องซื้อเพิ่มตั้งแต่ 29 ถึง 300 บาท ซึ่งมีเยาวชนจำนวนมากเสียเงินเพื่อซื้อคำใบ้ ส่วนผู้สื่อข่าวพอพบเหรียญกลับถูกยกเลิกเพราะผู้ดูแลระบบรู้ว่าเป็นผู้สื่อข่าว การเพิ่มเพื่อนที่พบว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลหลายอย่าง อีกฝ่ายสามารถติดตามได้ถ้าเสียเงินสมัครสมาชิก ทั้งการเคลื่อนย้าย พิกัดโลเกชัน การใช้โทรศัพท์ การชาร์จแบตเตอรี แม้กระทั่งการนอนหลับและการตื่นนอน ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับคนที่ประสงค์ร้ายต่อเด็ก

    ล่าสุดพบว่าการโอนเงินรางวัลผ่านทรูวอลเล็ตไม่ใช่บัญชีบริษัท แต่เป็นบุคคลสัญชาติไทย และมีผู้ได้รับเงินรางวัลรายหนึ่ง ไปให้การกับตำรวจไซเบอร์ตามหมายเรียก แล้วถูกผู้ดูแลระบบตัดออกจากเกม

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    เกมเก็บเหรียญ Jagat น่าสงสัยความเสี่ยงสูง Jagat ภาษาอินโดนีเซียแปลว่าจักรวาล ระบุตัวเองว่าเป็นแอปพลิเคชันค้นหาครอบครัวและเพื่อน แต่มีกิจกรรมที่ชื่อว่า Jagat Coin Hunt เปิดให้ทำภารกิจล่าเหรียญเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และเชียงราย โดยนำเหรียญที่จัดทำขึ้นไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่างๆ แล้วให้คนที่เล่นเกมไปตามหาเหรียญบนแผนที่ เปิดระบบตั้งแต่เวลา 08.00-24.00 น. เมื่อพบเหรียญจะต้องกรอกรหัสบนเหรียญ ถ่ายคลิปและภาพนิ่งลงในติ๊กต็อกพร้อมแฮชแท็กที่กำหนด จะได้เงินรางวัลตั้งแต่ 500 บาท ถึง 200,000 บาท เมื่อมีการโปรโมตเกมผ่านติ๊กต็อก ทำให้วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน รวมทั้งคนที่ทำอาชีพอิสระ เช่น ไรเดอร์ ออกตามหาเหรียญโดยรวมตัวกันในสถานที่ซึ่งถูกบอกใบ้ว่ามีเหรียญซ่อนอยู่จำนวนมาก และบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือบางคนรื้อสถานที่สาธารณะทั้งต้นไม้ใบหญ้า งัดฝาท่อ งัดอิฐตัวหนอน งัดเก้าอี้ ทรัพย์สินเสียหาย ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชนต่างโดดเรียนเพื่อตามหาเหรียญโดยไม่บอกผู้ปกครอง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายต่อสังคม แอปพลิเคชัน Jagat พัฒนาโดยบริษัท JAGAT TECHNOLOGY PTE. LTD. จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ใช้ที่อยู่ในอาคาร OUE Downtown ข้อมูลจาก RocketReach ระบุว่าประธานบริษัทคือ Barry Beagen อยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และซีอีโอคือ Xing Loy อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีพนักงานจำนวน 19 คน จากการค้นหาเว็บไซต์ LinkedIn พบว่าพนักงานมีทั้งอยู่ในอินโดนีเซีย ประเทศจีน (เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน) สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แต่ไม่พบว่าจดทะเบียนหรือประกอบธุรกิจในประเทศไทย ที่น่าเป็นห่วงก็คือ จากการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 พบว่าไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง อาทิ การให้เสียเงินจำนวนมากเพื่อบอกคำใบ้ที่ซ่อนเหรียญ เริ่มต้นที่ 149 บาท ถ้าต้องการคำใบ้เพิ่ม ต้องซื้อเพิ่มตั้งแต่ 29 ถึง 300 บาท ซึ่งมีเยาวชนจำนวนมากเสียเงินเพื่อซื้อคำใบ้ ส่วนผู้สื่อข่าวพอพบเหรียญกลับถูกยกเลิกเพราะผู้ดูแลระบบรู้ว่าเป็นผู้สื่อข่าว การเพิ่มเพื่อนที่พบว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลหลายอย่าง อีกฝ่ายสามารถติดตามได้ถ้าเสียเงินสมัครสมาชิก ทั้งการเคลื่อนย้าย พิกัดโลเกชัน การใช้โทรศัพท์ การชาร์จแบตเตอรี แม้กระทั่งการนอนหลับและการตื่นนอน ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับคนที่ประสงค์ร้ายต่อเด็ก ล่าสุดพบว่าการโอนเงินรางวัลผ่านทรูวอลเล็ตไม่ใช่บัญชีบริษัท แต่เป็นบุคคลสัญชาติไทย และมีผู้ได้รับเงินรางวัลรายหนึ่ง ไปให้การกับตำรวจไซเบอร์ตามหมายเรียก แล้วถูกผู้ดูแลระบบตัดออกจากเกม #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีอเมริกันชนราว 47% ที่เห็นชอบการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของทรัมป์ หลังจากเขาคืนสู่เก้าอี้ทำเนียบขาวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาณบ่งชี้ว่าประเทศแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยการแบ่งขั้ว หลังตัวแทนจากรีพับลิกันคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน จากผลโพลของรอยเตอร์/อิปซอส ที่ปิดการสำรวจในวันอังคาร (21 ม.ค.)
    .
    ผลสำรวจที่ดำเนินการในวันจันทร์ (20 ม.ค.) และวันอังคาร (21 ม.ค.) ตามหลัง ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี แสดงให้เห็นว่าคะแนนนิยมของเขาสูงกว่าตลอดช่วงเวลาเกือบทั้งหมดในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017-2021
    .
    อย่างไรก็ตาม ผลโพลพบด้วยว่าชาวอเมริกาพากันขุ่นเคืองต่อความเคลื่อนไหวแรกๆ บางอย่างของประธานาธิบดีรายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ตอบแบบสอบถามราว 58% บอกว่า ทรัมป์ ไม่ควรนิรโทษกรรมทุกคนที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดทางอาญา ระหว่างเหตุจลาจลบุกจู่โจมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021
    .
    ทรัมป์ ดำเนินการดังกล่าว นิรโทษกรรมเหล่าผู้สนับสนุนเกือบ 1,600 ราย ที่ถูกดำเนินคดีตามข้อกล่าวหา ร่วมกันปิดล้อมอาคารรัฐสภา ไม่กี่ชั่วโมงหลังดำรงตำแหน่งสมัย 2 อย่างเป็นทางการ ในระหว่างที่กำลังจัดทำโพล
    .
    มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงแค่ 29% ที่เห็นชอบแนวทางของทรัมป์ ในการจัดการกับสิ่งที่รับรู้กันว่าเป็นระบบตุลาการเชิงการเมือง ทรัมป์กล่าวหา โจ ไบเดน ผู้นำคนก่อนก่อความบิดเบี้ยวแก่กระบวนการยุติธรรม ด้วยความพยายามดำเนินคดีต่างๆ กับเขา ในเจตนาขัดขวางเขาจากการดำรงตำแหน่ง ข้อกล่าวหาที่ทางฝั่งเดโมแครตปฏิเสธ นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังบอกว่าเขาอาจใช้ระบบยุติธรรมหาทางแก้แค้นคู่ปรับทางการเมืองด้วย
    .
    พวกผู้ตอบแบบสอบถามให้การสนับสนุนแนวทางทรัมป์ มากกว่าในการจัดการกับประเด็นอื่นๆ โดยมี 46% ที่เห็นชอบแนวทางการรับมือพวกผู้อพยพของทรัมป์ ประเด็นที่อเมริกันชนจำนวนมากอยากเห็นมันเป็นประเด็นที่รัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญในลำดับสูงสุด
    .
    ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้ง 2024 เหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากเดโมแครต ด้วยคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 312 ต่อ 226 เสียง แต่ในส่วนของคะแนนป็อบปูลาร์โหวตนั้น เขาได้คะแนนเสียงแค่ 49.8% เฉือน แฮร์ริส ที่ได้ไป 48.3%
    .
    ผลสำรวจเท่ากับเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับทรัมป์ ผู้ซึ่งเริ่มต้นวาระดำรงตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017 ด้วยคะแนนนิยม 43% ก่อนคะแนนนิยมจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 49% ในช่วงปลายเดือนมกราคมปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ปิดฉากการเป็นประธานาธิบดี ด้วยคะแนนนิยม 34% ตามหลังเหตุปิดล้อมอาคารรัฐสภา พยายามโค่นล้มผลเลือกตั้งปี 2020 ที่เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
    .
    คล้ายกับ ไบเดน ซึ่งพ้นจากตำแหน่งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) คะแนนนิยมของทรัมป์ ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่า 45% ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของการดำรงตำแหน่งสมัยแรก และเคยดำดิ่งลงไปในระดับต่ำสุดเหลือแค่ 33% ในเดือนธันวาคม 2017
    .
    ไบเดน เริ่มต้นทำหน้าที่ประธานาธิบดี ด้วยคะแนนนิยม 55% แต่เรตติ้งของเขาปักหัวลงอย่างรวดเร็ว และเคยดำดิ่งแตะระดับแค่ 35% ในช่วงก่อนหน้าศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ภาวะที่ไม่ได้รับความนิยมของตัวแทนจากพรรคเดโมแครตรายนี้ ถูกมองอย่างกว้างขวางว่ากลายเป็นตัวส่งเสริมคะแนนนิยมของทรัมป์ ระหว่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
    .
    การคืนสู่อำนาจของทรัมป์ เพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาชาติเพื่อนบ้านและทั่วโลก แต่ผลสำรวจพบว่ามีอเมริกันชนเพียงเล็กน้อยที่สนับสนุนแผนขยายเขตแดนอเมริกาของทรัมป์ เช่นเดียวกับมาตรการรีดภาษีที่อาจทำให้ราคาเชื้อเพลิงดีดตัวสูงขึ้น
    .
    ผลสำรวจพบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงแค่ 16% ที่เห็นด้วยกับถ้อยแถลงของทรัมป์ที่ว่า สหรัฐฯ ควรกดดันให้เดนมาร์ก ยอมขายเกาะกรีนแลนด์แก่อเมริกา
    .
    เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ กล่าวว่าสหรัฐฯ มีความจำเป็นต้องควบคุมเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก เพื่อรับประกันความมั่นคงระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เดนมาร์ก และ กรีนแลนด์ บอกว่าเกาะยักษ์แห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย
    .
    ขณะเดียวกัน มีเพียงราว 29% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ที่บอกว่าสหรัฐฯ ควรทวงคืนการควบคุมคลองปานามา มาจากปานามา อีกหนึ่งเป้าหมายระหว่างประเทศของทรัมป์ อเมริกายอมปล่อยมือการควบคุมน่านน้ำยุทธศาสตร์แห่งนี้ให้แก่แคนาดาในปี 1999 แต่ ทรัมป์ กล่าวหา ปานามา ยกให้จีนดูแลปฏิบัติการต่างๆ ของคลองแห่งนี้ คำกล่าวหาที่ทางรัฐบาลปานามาปฏิเสธโดยสิ้นเชิงเช่นกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006615
    ..............
    Sondhi X
    มีอเมริกันชนราว 47% ที่เห็นชอบการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของทรัมป์ หลังจากเขาคืนสู่เก้าอี้ทำเนียบขาวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาณบ่งชี้ว่าประเทศแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยการแบ่งขั้ว หลังตัวแทนจากรีพับลิกันคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน จากผลโพลของรอยเตอร์/อิปซอส ที่ปิดการสำรวจในวันอังคาร (21 ม.ค.) . ผลสำรวจที่ดำเนินการในวันจันทร์ (20 ม.ค.) และวันอังคาร (21 ม.ค.) ตามหลัง ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี แสดงให้เห็นว่าคะแนนนิยมของเขาสูงกว่าตลอดช่วงเวลาเกือบทั้งหมดในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017-2021 . อย่างไรก็ตาม ผลโพลพบด้วยว่าชาวอเมริกาพากันขุ่นเคืองต่อความเคลื่อนไหวแรกๆ บางอย่างของประธานาธิบดีรายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ตอบแบบสอบถามราว 58% บอกว่า ทรัมป์ ไม่ควรนิรโทษกรรมทุกคนที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดทางอาญา ระหว่างเหตุจลาจลบุกจู่โจมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 . ทรัมป์ ดำเนินการดังกล่าว นิรโทษกรรมเหล่าผู้สนับสนุนเกือบ 1,600 ราย ที่ถูกดำเนินคดีตามข้อกล่าวหา ร่วมกันปิดล้อมอาคารรัฐสภา ไม่กี่ชั่วโมงหลังดำรงตำแหน่งสมัย 2 อย่างเป็นทางการ ในระหว่างที่กำลังจัดทำโพล . มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงแค่ 29% ที่เห็นชอบแนวทางของทรัมป์ ในการจัดการกับสิ่งที่รับรู้กันว่าเป็นระบบตุลาการเชิงการเมือง ทรัมป์กล่าวหา โจ ไบเดน ผู้นำคนก่อนก่อความบิดเบี้ยวแก่กระบวนการยุติธรรม ด้วยความพยายามดำเนินคดีต่างๆ กับเขา ในเจตนาขัดขวางเขาจากการดำรงตำแหน่ง ข้อกล่าวหาที่ทางฝั่งเดโมแครตปฏิเสธ นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังบอกว่าเขาอาจใช้ระบบยุติธรรมหาทางแก้แค้นคู่ปรับทางการเมืองด้วย . พวกผู้ตอบแบบสอบถามให้การสนับสนุนแนวทางทรัมป์ มากกว่าในการจัดการกับประเด็นอื่นๆ โดยมี 46% ที่เห็นชอบแนวทางการรับมือพวกผู้อพยพของทรัมป์ ประเด็นที่อเมริกันชนจำนวนมากอยากเห็นมันเป็นประเด็นที่รัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญในลำดับสูงสุด . ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้ง 2024 เหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากเดโมแครต ด้วยคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 312 ต่อ 226 เสียง แต่ในส่วนของคะแนนป็อบปูลาร์โหวตนั้น เขาได้คะแนนเสียงแค่ 49.8% เฉือน แฮร์ริส ที่ได้ไป 48.3% . ผลสำรวจเท่ากับเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับทรัมป์ ผู้ซึ่งเริ่มต้นวาระดำรงตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017 ด้วยคะแนนนิยม 43% ก่อนคะแนนนิยมจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 49% ในช่วงปลายเดือนมกราคมปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ปิดฉากการเป็นประธานาธิบดี ด้วยคะแนนนิยม 34% ตามหลังเหตุปิดล้อมอาคารรัฐสภา พยายามโค่นล้มผลเลือกตั้งปี 2020 ที่เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ . คล้ายกับ ไบเดน ซึ่งพ้นจากตำแหน่งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) คะแนนนิยมของทรัมป์ ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่า 45% ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของการดำรงตำแหน่งสมัยแรก และเคยดำดิ่งลงไปในระดับต่ำสุดเหลือแค่ 33% ในเดือนธันวาคม 2017 . ไบเดน เริ่มต้นทำหน้าที่ประธานาธิบดี ด้วยคะแนนนิยม 55% แต่เรตติ้งของเขาปักหัวลงอย่างรวดเร็ว และเคยดำดิ่งแตะระดับแค่ 35% ในช่วงก่อนหน้าศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ภาวะที่ไม่ได้รับความนิยมของตัวแทนจากพรรคเดโมแครตรายนี้ ถูกมองอย่างกว้างขวางว่ากลายเป็นตัวส่งเสริมคะแนนนิยมของทรัมป์ ระหว่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง . การคืนสู่อำนาจของทรัมป์ เพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาชาติเพื่อนบ้านและทั่วโลก แต่ผลสำรวจพบว่ามีอเมริกันชนเพียงเล็กน้อยที่สนับสนุนแผนขยายเขตแดนอเมริกาของทรัมป์ เช่นเดียวกับมาตรการรีดภาษีที่อาจทำให้ราคาเชื้อเพลิงดีดตัวสูงขึ้น . ผลสำรวจพบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงแค่ 16% ที่เห็นด้วยกับถ้อยแถลงของทรัมป์ที่ว่า สหรัฐฯ ควรกดดันให้เดนมาร์ก ยอมขายเกาะกรีนแลนด์แก่อเมริกา . เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ กล่าวว่าสหรัฐฯ มีความจำเป็นต้องควบคุมเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก เพื่อรับประกันความมั่นคงระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เดนมาร์ก และ กรีนแลนด์ บอกว่าเกาะยักษ์แห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย . ขณะเดียวกัน มีเพียงราว 29% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ที่บอกว่าสหรัฐฯ ควรทวงคืนการควบคุมคลองปานามา มาจากปานามา อีกหนึ่งเป้าหมายระหว่างประเทศของทรัมป์ อเมริกายอมปล่อยมือการควบคุมน่านน้ำยุทธศาสตร์แห่งนี้ให้แก่แคนาดาในปี 1999 แต่ ทรัมป์ กล่าวหา ปานามา ยกให้จีนดูแลปฏิบัติการต่างๆ ของคลองแห่งนี้ คำกล่าวหาที่ทางรัฐบาลปานามาปฏิเสธโดยสิ้นเชิงเช่นกัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006615 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1455 มุมมอง 0 รีวิว
  • อมนครวัดมาพูดก็คงไม่เชื่อ อ้างคดีลิม กิมยา เป็นเรื่องส่วนตัว
    นักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชากำลังดาหน้าออกมาโวยในลักษณะฟ้องโลก ประมาณว่าตำรวจไทยกำลังเป่าคดี เหตุเกิดจาก บิ๊กต่ายไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ว่าปมส่วนตัวที่ว่านั้นมันคืออะไร ยังไง เท่านั้นเอง
    ในกรณีเช่นนี้ต้องเข้าใจว่า จะกี่ยุคกี่สมัย ผบ.ตร.ที่ถูกกำกับดูแลโดยนักการเมือง ก็ไม่สามารถมีอิสระในการทำงานได้เต็มที่ ไม่ว่าใครก็ตาม หากอยู่ในสถานการณ์แบบบิ๊กต่าย คงต้องยอมเสียรังวัด ดีกว่าเสี่ยงจะเสียเก้าอี้
    โดยเฉพาะเมื่อนายทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ ไทย มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นยาวนานกับสมเด็จฯ ฮุนเซน พ่อนายกฯ กัมพูชา มีไมตรีเกื้อหนุนกัน จนคนสงสัย “ทักษิณ-ฮุนเซน” จะแยกแยะได้หรือไม่ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ของแต่ละชาติ
    คำพูดของบิ๊กต่าย ที่ว่าคดีนี้ฆ่ากันด้วยเรื่องส่วนตัว เลยยิ่งฟังไม่มีน้ำหนัก เหมือนว่าตำรวจไทยโดนใบสั่งให้รีบสรุปรวบรัดให้มันจบๆ
    และในเรื่องนี้หมากตัวสำคัญก็คือ คนชี้เป้า ซึ่งนั่งรถบัสตามประกบนายลิม กิมยา จากฝั่งเขมรมาถึงใจกลางกรุง คนชี้เป้าที่แท้เป็นน้องชายของนักการเมืองซีกรัฐบาลในปัจจุบัน อาศัยในกรุงพนมเปญ แต่รายนี้ตำรวจไทยและกัมพูชาไม่สามารถตามจับตัวได้
    กลายเป็น “ขอมดำดิน” จนบัดนี้ โดยตำรวจกัมพูชา คลำไม่เจอตัวซะแล้ว ไม่เหมือนตอนตะครุบตัวจ่าเอ็มที่จับได้อย่างไว ขบวนการสังหาร จึงมีคนที่รู้จักนายลิม กิมยา เพียงคนเดียว คือคนชี้เป้า น้องชายนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล
    ส่วนจ่าเอ็ม ก็ไม่รู้ว่าเป้าสังหารของตนเป็นใคร รอให้คนชี้เป้าส่งสัญญาณอย่างเดียว ให้ยิงใครก็ยิง ขบวนการใหญ่แบบนี้ หากใครจะนั่งยันนอนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองเลือด ต้อง “อมนครวัด” มาพูดกันเลยทีเดียว หากจะให้คนเชื่อ
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    อมนครวัดมาพูดก็คงไม่เชื่อ อ้างคดีลิม กิมยา เป็นเรื่องส่วนตัว นักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชากำลังดาหน้าออกมาโวยในลักษณะฟ้องโลก ประมาณว่าตำรวจไทยกำลังเป่าคดี เหตุเกิดจาก บิ๊กต่ายไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ว่าปมส่วนตัวที่ว่านั้นมันคืออะไร ยังไง เท่านั้นเอง ในกรณีเช่นนี้ต้องเข้าใจว่า จะกี่ยุคกี่สมัย ผบ.ตร.ที่ถูกกำกับดูแลโดยนักการเมือง ก็ไม่สามารถมีอิสระในการทำงานได้เต็มที่ ไม่ว่าใครก็ตาม หากอยู่ในสถานการณ์แบบบิ๊กต่าย คงต้องยอมเสียรังวัด ดีกว่าเสี่ยงจะเสียเก้าอี้ โดยเฉพาะเมื่อนายทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ ไทย มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นยาวนานกับสมเด็จฯ ฮุนเซน พ่อนายกฯ กัมพูชา มีไมตรีเกื้อหนุนกัน จนคนสงสัย “ทักษิณ-ฮุนเซน” จะแยกแยะได้หรือไม่ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ของแต่ละชาติ คำพูดของบิ๊กต่าย ที่ว่าคดีนี้ฆ่ากันด้วยเรื่องส่วนตัว เลยยิ่งฟังไม่มีน้ำหนัก เหมือนว่าตำรวจไทยโดนใบสั่งให้รีบสรุปรวบรัดให้มันจบๆ และในเรื่องนี้หมากตัวสำคัญก็คือ คนชี้เป้า ซึ่งนั่งรถบัสตามประกบนายลิม กิมยา จากฝั่งเขมรมาถึงใจกลางกรุง คนชี้เป้าที่แท้เป็นน้องชายของนักการเมืองซีกรัฐบาลในปัจจุบัน อาศัยในกรุงพนมเปญ แต่รายนี้ตำรวจไทยและกัมพูชาไม่สามารถตามจับตัวได้ กลายเป็น “ขอมดำดิน” จนบัดนี้ โดยตำรวจกัมพูชา คลำไม่เจอตัวซะแล้ว ไม่เหมือนตอนตะครุบตัวจ่าเอ็มที่จับได้อย่างไว ขบวนการสังหาร จึงมีคนที่รู้จักนายลิม กิมยา เพียงคนเดียว คือคนชี้เป้า น้องชายนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ส่วนจ่าเอ็ม ก็ไม่รู้ว่าเป้าสังหารของตนเป็นใคร รอให้คนชี้เป้าส่งสัญญาณอย่างเดียว ให้ยิงใครก็ยิง ขบวนการใหญ่แบบนี้ หากใครจะนั่งยันนอนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองเลือด ต้อง “อมนครวัด” มาพูดกันเลยทีเดียว หากจะให้คนเชื่อ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว

  • ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกเมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) พร้อมเดินหน้ามาตรการเนรเทศผู้อพยพกลับสู่ประเทศต้นทาง โดยให้กองทัพสหรัฐฯ ทำงานกับหน่วยป้องกันชายแดน ขณะเดียวกัน ก็สั่งแบนผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ และจะเริ่มจำกัดการให้สัญชาติแก่เด็กที่เกิดในสหรัฐฯ แต่พ่อแม่ไม่ใช่ชาวอเมริกัน

    ในการประการภาวะฉุกเฉินแห่งชาติว่าด้วยผู้อพยพผิดกฎหมาย ทรัมป์ ได้สั่งให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สนับสนุนการสร้างกำแพงกั้นชายแดน ศูนย์กักกัน และระบบขนส่งผู้อพยพ นอกจากนี้ ยังให้อำนาจแก่รัฐมนตรีกลาโหมในการส่งทหารไปตรึงชายแดนหากมีความจำเป็น

    ทรัมป์ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลรื้อฟื้นโครงการ “remain in Mexico” ที่ตนเคยบังคับใช้ในช่วงเทอมแรก โดยผู้อพยพที่ไม่ใช่ชาวเม็กซิโกจะต้องรอผลการพิจารณาของสหรัฐฯ อยู่ในเขตแดนของเม็กซิโก

    หลัง ทรัมป์ สาบานตนได้ไม่นาน หน่วยงานควบคุมพรมแดนของสหรัฐฯ ได้ประกาศปิดตัวโครงการ CBP One ของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่อนุญาตให้ผู้อพยพหลายแสนคนสามารถลงทะเบียนนัดหมายเดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างถูกต้องผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งการปิดตัวโครงการลงเช่นนี้ทำให้ผู้อพยพที่ได้ลงทะเบียนไปแล้วอยู่ในภาวะเคว้งคว้าง ไม่รู้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป

    ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้นำสายรีพับลิกัน หวนคืนสู่เก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะยกระดับป้องกันชายแดนสหรัฐฯ และเนรเทศผู้อพยพมากเป็นประวัติการณ์ โดยเขายังวิจารณ์รัฐบาล ไบเดน ว่าปล่อยให้ผู้อพยพผิดกฎหมายไหลเข้าสหรัฐฯ มากเกินไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000006346

    #MGROnline #PresidentTrump #โดนัลด์ทรัมป์ #เม็กซิโก
    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกเมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) พร้อมเดินหน้ามาตรการเนรเทศผู้อพยพกลับสู่ประเทศต้นทาง โดยให้กองทัพสหรัฐฯ ทำงานกับหน่วยป้องกันชายแดน ขณะเดียวกัน ก็สั่งแบนผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ และจะเริ่มจำกัดการให้สัญชาติแก่เด็กที่เกิดในสหรัฐฯ แต่พ่อแม่ไม่ใช่ชาวอเมริกัน • ในการประการภาวะฉุกเฉินแห่งชาติว่าด้วยผู้อพยพผิดกฎหมาย ทรัมป์ ได้สั่งให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สนับสนุนการสร้างกำแพงกั้นชายแดน ศูนย์กักกัน และระบบขนส่งผู้อพยพ นอกจากนี้ ยังให้อำนาจแก่รัฐมนตรีกลาโหมในการส่งทหารไปตรึงชายแดนหากมีความจำเป็น • ทรัมป์ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลรื้อฟื้นโครงการ “remain in Mexico” ที่ตนเคยบังคับใช้ในช่วงเทอมแรก โดยผู้อพยพที่ไม่ใช่ชาวเม็กซิโกจะต้องรอผลการพิจารณาของสหรัฐฯ อยู่ในเขตแดนของเม็กซิโก • หลัง ทรัมป์ สาบานตนได้ไม่นาน หน่วยงานควบคุมพรมแดนของสหรัฐฯ ได้ประกาศปิดตัวโครงการ CBP One ของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่อนุญาตให้ผู้อพยพหลายแสนคนสามารถลงทะเบียนนัดหมายเดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างถูกต้องผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งการปิดตัวโครงการลงเช่นนี้ทำให้ผู้อพยพที่ได้ลงทะเบียนไปแล้วอยู่ในภาวะเคว้งคว้าง ไม่รู้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป • ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้นำสายรีพับลิกัน หวนคืนสู่เก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะยกระดับป้องกันชายแดนสหรัฐฯ และเนรเทศผู้อพยพมากเป็นประวัติการณ์ โดยเขายังวิจารณ์รัฐบาล ไบเดน ว่าปล่อยให้ผู้อพยพผิดกฎหมายไหลเข้าสหรัฐฯ มากเกินไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000006346 • #MGROnline #PresidentTrump #โดนัลด์ทรัมป์ #เม็กซิโก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจุด "ยุคทองใหม่ ในสหรัฐฯ เริ่มขึ้นแล้ว" หลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัย 2 ในวันจันทร์ (20 ม.ค.) แต่โฟกัสเกือบทั้งหมดจับตาไปที่คำกล่าวสุนทรพจน์อันเข้มข้นของเขา ที่อวดอ้างจะใช้นโยบายแข็งกร้าวต่างๆ ในการกอบกู้สิ่งที่เขาเรียกว่า "การเสื่อมถอยของสังคมอเมริกา"
    .
    ในคำกล่าวสุนทรพจน์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ยังได้กล่าวโจมตีพวกผู้อพยพผิดกฎหมาย และวัฒนธรรมสงคราม "ยุคทองของอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้วในเวลานี้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประเทศของเราจะมีแต่ความรุ่งเรืองและได้รับความเคารพจากทั่วโลกอีกครั้ง "ทรัมป์ กล่าวในอาคารรัฐสภา บริเวณที่พิธีสาบานตนของเขาถูกจัดขึ้นในร่มเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ สืบเนื่องจากอากาศหนาวจัด
    .
    ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ยังพาดพิงถึงกรณีที่กระสุนของมือสังหารที่เฉียดเข้าไป ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ที่เขาได้รับชัยชนะ ว่า "ผมได้รับการปกป้องจากพระเจ้า ให้ทำอเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง"
    .
    นอกจากเน้นย้ำคำสัญญาต่างๆ แล้ว ทรัมป์ได้ประณามอย่างดุเดือดต่อสิ่งที่เขาเรียกว่า "การทรยศหักหลังอเมริกา โดยสถาบันหัวรุนแรงและคอร์รัปชัน" ภายใต้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง "การเสื่อมถอยของอเมริกาจบลงแล้ว"
    .
    ไบเดน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงน้ำชาต้อนรับ ทรัมป์ และเมลาเนีย ภรรยา ที่ทำเนียบขาว เฝ้ามองพิธีด้วยใบหน้าเรียบเฉย ระหว่างที่ศัตรูทางการเมืองของเขา กล่าวสุนทรพจน์โจมตียุคสมัยการดำรงตำแหน่งสมัยเดียวของเขา
    .
    นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังวางกรอบนโยบายต่างประเทศ บอกว่าเขาต้องการเป็นผู้สร้างสันติภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่จากนั้นกลับบอกว่าสหรัฐฯ จะทวงคืนคลองปานามา และเตือนว่าจะใช้สงครามการค้าโดยอิสระเสรี พร้อมประกาศปักธงชาติอเมริกา บนดาวอังคาร
    .
    มหาเศรษฐีวัย 78 ปีรายนี้ ซึ่งกลายมาเป็นบุคคลมีอายุมากที่สุดที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เตรียมเริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งสมัยล่าสุด ด้วยการเซ็นคำสั่งพิเศษต่างๆ "ผมจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ ณ ชายแดนทางใต้ของเรา" ติดกับเม็กซิโก ทรัมป์กล่าวท่ามกลางเสียงเชียร์ดังสนั่นหวั่นไหวในห้องประชุม Rotunda พร้อมประกาศขับไล่พวกผู้อพยพผิดกฎหมายหลายล้านคน
    .
    ทรัมป์ บอกว่ารัฐบาลของเขาจะยอมรับเพียง "2 เพศ เพศชายและเพศหญิง" ยุติแนวทางปฏิบัติในปัจจุบันที่มองทางเลือกแก่เพศที่ 3 ในทางออกบางอย่าง ขณะเดียวกัน เขาจะถอนวอชิงตันออกจากข้อตกลงโลกร้อนปารีส ที่มีเป้าหมายหยุดภาวะโลกร้อน
    .
    ในขณะที่ ทรัมป์ เป็นเพียงคนวงนอกทางการเมืองครั้งที่สาบานตนรับตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017 ในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ แต่คราวนี้เขาถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มคนมั่งมีและเหล่าคนทรงอิทธิพลของอเมริกา
    .
    อีลอน มัสก์ ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก บอสของเมตา เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งแอมะซอน และซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิล ทั้งหมดล้วนแต่ได้นั่งในเก้าอี้แถวหน้าในอาคารรัฐสภา เคียงข้างครอบครัวของทรัมป์และเหล่าคณะรัฐมนตรี ในขณะที่ มัสก์ จะเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนลดค่าใช้จ่ายในรัฐบาลใหม่
    .
    อดีตประธานาธิบดีอย่าง บารัค โอบามา จอร์จ ดับเบิลยู.บุช และ บิล คลินตัน ต่างเข้าร่วมพิธีพร้อมกับภริยา ยกเว้น มิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลย 1 ที่ไม่ได้เข้าร่วม
    .
    กลุ่มกองเชียร์เฝ้ามองพิธีสาบานตน ผ่านโทรศัพท์มือถือด้านนอกของอาคารัฐสภา จากปกติแล้วจะมีผู้คนหลายหมื่นคนเข้ามาร่วมพิธีทอดยาวไปจนถึงอุทยานเนชั่นแนล มอลล์
    .
    หลังจาก ทรัมป์ เคยไม่ยอมเข้าร่วมพิธีสาบานตนของ ไบเดน ในปี 2021 อ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง จนกระทั่งปลุกปั่นให้พวกผู้สนับสนุนบุกจู่โจมอาคารรัฐสภา แต่คราวนี้ ไบเดน เลือกที่จะกลับคืนสู่บรรยากาศดั้งเดิม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน" ไบเดน บอกกับ ทรัมป์ ตอนที่เขาเดินทางมายังทำเนียบขาว เพื่อดื่มชา
    .
    ในช่วงท้ายๆ ก่อนอำลาตำแหน่งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ไบเดน ได้เซ็นคำสั่งนิรโทษกรรมล่วงหน้าเป็นชุดๆ ให้แก่พวกลูกน้องและคู่สมรสของพวกเขา เพื่อปกป้องคนเหลานี้จากการถูกสืบสวนที่มีแรงจูงใจทางการเมือง
    .
    นอกจากนี้แล้ว เขายังนิรโทษกรรมให้แก่ แอนโทนี เฟาซี อดีตที่ปรึกษาโควิด-19 มาร์ค มิลลีย์ นายพลปลดเกษียณ และสมาชิกคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุจลาจลโมตีอาคารรัฐสภา 6 มกราคม 2021 โดยฝีมือของพวกผู้สนับสนุนทรัมป์
    .
    ทรัมป์ โจมตีในเรื่องดังกล่าวไม่นานหลังจากสาบานตนรับตำแหน่ง กล่าวอ้างว่า ไบเดน นิรโทษกรรมให้บุคคล "ที่มีความผิดในคดีอาญาที่ร้ายแรงมาก"
    .
    มหาเศรษฐีรายนี้กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่สามารถกลับมาครองอำนาจได้อีกสมัย หลังจากตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสมัยก่อนหน้านั้น โดยคนแรกได้แก่ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในปี 1893
    .
    สำหรับทั่วทั้งโลกแล้ว การกลับคืนสู่ตำแหน่งของ ทรัมป์ นั่นหมายความว่า พวกเขาคาดหมายได้เลยว่า ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
    .
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ก่อนสาบานตน และบอกในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ว่าเขาเปิดกว้างสำหรับพูดคุยเกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครน ซึ่ง ทรัมป์ ไม่ได้พาดพิงระหว่างกล่าวสุนทรพจน์
    .
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ก็แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ เช่นกัน โดยบอกว่า "วันที่ดีที่สุดของความเป็นพันธมิตรระหว่างเรายังมาไม่ถึง" หลังจากก่อนหน้านี้ไม่นาน ทีมงานของทรัมป์ เพิ่งช่วยเป็นคนกลางบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ระหว่างอิสราเอลกับฮามาส
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006232
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจุด "ยุคทองใหม่ ในสหรัฐฯ เริ่มขึ้นแล้ว" หลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัย 2 ในวันจันทร์ (20 ม.ค.) แต่โฟกัสเกือบทั้งหมดจับตาไปที่คำกล่าวสุนทรพจน์อันเข้มข้นของเขา ที่อวดอ้างจะใช้นโยบายแข็งกร้าวต่างๆ ในการกอบกู้สิ่งที่เขาเรียกว่า "การเสื่อมถอยของสังคมอเมริกา" . ในคำกล่าวสุนทรพจน์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ยังได้กล่าวโจมตีพวกผู้อพยพผิดกฎหมาย และวัฒนธรรมสงคราม "ยุคทองของอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้วในเวลานี้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประเทศของเราจะมีแต่ความรุ่งเรืองและได้รับความเคารพจากทั่วโลกอีกครั้ง "ทรัมป์ กล่าวในอาคารรัฐสภา บริเวณที่พิธีสาบานตนของเขาถูกจัดขึ้นในร่มเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ สืบเนื่องจากอากาศหนาวจัด . ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ยังพาดพิงถึงกรณีที่กระสุนของมือสังหารที่เฉียดเข้าไป ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ที่เขาได้รับชัยชนะ ว่า "ผมได้รับการปกป้องจากพระเจ้า ให้ทำอเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง" . นอกจากเน้นย้ำคำสัญญาต่างๆ แล้ว ทรัมป์ได้ประณามอย่างดุเดือดต่อสิ่งที่เขาเรียกว่า "การทรยศหักหลังอเมริกา โดยสถาบันหัวรุนแรงและคอร์รัปชัน" ภายใต้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง "การเสื่อมถอยของอเมริกาจบลงแล้ว" . ไบเดน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงน้ำชาต้อนรับ ทรัมป์ และเมลาเนีย ภรรยา ที่ทำเนียบขาว เฝ้ามองพิธีด้วยใบหน้าเรียบเฉย ระหว่างที่ศัตรูทางการเมืองของเขา กล่าวสุนทรพจน์โจมตียุคสมัยการดำรงตำแหน่งสมัยเดียวของเขา . นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังวางกรอบนโยบายต่างประเทศ บอกว่าเขาต้องการเป็นผู้สร้างสันติภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่จากนั้นกลับบอกว่าสหรัฐฯ จะทวงคืนคลองปานามา และเตือนว่าจะใช้สงครามการค้าโดยอิสระเสรี พร้อมประกาศปักธงชาติอเมริกา บนดาวอังคาร . มหาเศรษฐีวัย 78 ปีรายนี้ ซึ่งกลายมาเป็นบุคคลมีอายุมากที่สุดที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เตรียมเริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งสมัยล่าสุด ด้วยการเซ็นคำสั่งพิเศษต่างๆ "ผมจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ ณ ชายแดนทางใต้ของเรา" ติดกับเม็กซิโก ทรัมป์กล่าวท่ามกลางเสียงเชียร์ดังสนั่นหวั่นไหวในห้องประชุม Rotunda พร้อมประกาศขับไล่พวกผู้อพยพผิดกฎหมายหลายล้านคน . ทรัมป์ บอกว่ารัฐบาลของเขาจะยอมรับเพียง "2 เพศ เพศชายและเพศหญิง" ยุติแนวทางปฏิบัติในปัจจุบันที่มองทางเลือกแก่เพศที่ 3 ในทางออกบางอย่าง ขณะเดียวกัน เขาจะถอนวอชิงตันออกจากข้อตกลงโลกร้อนปารีส ที่มีเป้าหมายหยุดภาวะโลกร้อน . ในขณะที่ ทรัมป์ เป็นเพียงคนวงนอกทางการเมืองครั้งที่สาบานตนรับตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017 ในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ แต่คราวนี้เขาถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มคนมั่งมีและเหล่าคนทรงอิทธิพลของอเมริกา . อีลอน มัสก์ ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก บอสของเมตา เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งแอมะซอน และซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิล ทั้งหมดล้วนแต่ได้นั่งในเก้าอี้แถวหน้าในอาคารรัฐสภา เคียงข้างครอบครัวของทรัมป์และเหล่าคณะรัฐมนตรี ในขณะที่ มัสก์ จะเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนลดค่าใช้จ่ายในรัฐบาลใหม่ . อดีตประธานาธิบดีอย่าง บารัค โอบามา จอร์จ ดับเบิลยู.บุช และ บิล คลินตัน ต่างเข้าร่วมพิธีพร้อมกับภริยา ยกเว้น มิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลย 1 ที่ไม่ได้เข้าร่วม . กลุ่มกองเชียร์เฝ้ามองพิธีสาบานตน ผ่านโทรศัพท์มือถือด้านนอกของอาคารัฐสภา จากปกติแล้วจะมีผู้คนหลายหมื่นคนเข้ามาร่วมพิธีทอดยาวไปจนถึงอุทยานเนชั่นแนล มอลล์ . หลังจาก ทรัมป์ เคยไม่ยอมเข้าร่วมพิธีสาบานตนของ ไบเดน ในปี 2021 อ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง จนกระทั่งปลุกปั่นให้พวกผู้สนับสนุนบุกจู่โจมอาคารรัฐสภา แต่คราวนี้ ไบเดน เลือกที่จะกลับคืนสู่บรรยากาศดั้งเดิม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน" ไบเดน บอกกับ ทรัมป์ ตอนที่เขาเดินทางมายังทำเนียบขาว เพื่อดื่มชา . ในช่วงท้ายๆ ก่อนอำลาตำแหน่งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ไบเดน ได้เซ็นคำสั่งนิรโทษกรรมล่วงหน้าเป็นชุดๆ ให้แก่พวกลูกน้องและคู่สมรสของพวกเขา เพื่อปกป้องคนเหลานี้จากการถูกสืบสวนที่มีแรงจูงใจทางการเมือง . นอกจากนี้แล้ว เขายังนิรโทษกรรมให้แก่ แอนโทนี เฟาซี อดีตที่ปรึกษาโควิด-19 มาร์ค มิลลีย์ นายพลปลดเกษียณ และสมาชิกคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุจลาจลโมตีอาคารรัฐสภา 6 มกราคม 2021 โดยฝีมือของพวกผู้สนับสนุนทรัมป์ . ทรัมป์ โจมตีในเรื่องดังกล่าวไม่นานหลังจากสาบานตนรับตำแหน่ง กล่าวอ้างว่า ไบเดน นิรโทษกรรมให้บุคคล "ที่มีความผิดในคดีอาญาที่ร้ายแรงมาก" . มหาเศรษฐีรายนี้กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่สามารถกลับมาครองอำนาจได้อีกสมัย หลังจากตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสมัยก่อนหน้านั้น โดยคนแรกได้แก่ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในปี 1893 . สำหรับทั่วทั้งโลกแล้ว การกลับคืนสู่ตำแหน่งของ ทรัมป์ นั่นหมายความว่า พวกเขาคาดหมายได้เลยว่า ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ . ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ก่อนสาบานตน และบอกในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ว่าเขาเปิดกว้างสำหรับพูดคุยเกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครน ซึ่ง ทรัมป์ ไม่ได้พาดพิงระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ . เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ก็แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ เช่นกัน โดยบอกว่า "วันที่ดีที่สุดของความเป็นพันธมิตรระหว่างเรายังมาไม่ถึง" หลังจากก่อนหน้านี้ไม่นาน ทีมงานของทรัมป์ เพิ่งช่วยเป็นคนกลางบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ระหว่างอิสราเอลกับฮามาส . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006232 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 969 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภูมิใจไทยกระตุ้นแรงเพื่อไทย หวังจบเรื่องเขากระโดง
    เพื่อไทยกับภูมิใจไทย สองพรรคใหญ่ในรัฐบาล ยังเล่นเกม ชิงไหวชิงพริบกันเป็นระยะๆ อย่างล่าสุด ถึงขั้นทำให้ หนูอิ๊งค์ แพทองธาร ฉาวในเรื่องที่ดินอัลไพน์
    เคยสังเกตหรือไม่ เพราะอะไรทั้งที่เงียบไปแล้ว นั่นก็ต้องมองกลับไปที่ต้นตอของข่าว จุดเริ่มต้นมาจากที่อยู่ดีๆ มีแหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยออกมาระบุว่า ชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้เซ็นก่อนจะหลุดเก้าอี้ รมช.มหาดไทยไม่กี่วัน ให้เพิกถอนที่ดินอัลไพน์ กลับไปเป็นธรณีสงฆ์ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และศาล
    อุ๊งอิ๊ง เคยถือหุ้นอัลไพน์ที่เพิ่งจะโอนไปก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ซึ่งหากมีการเพิกถอนจริง ย่อมมีผลกระทบเหมือนกัน การที่มีข่าวเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ออกมามันก็อนุมานได้เหมือนกันว่า จงใจสะกิดอีกฝั่งให้รู้ว่า …ลูกสาวก็อยู่ในกำมือ สามารถให้คุณให้โทษได้ จะบีบก็ตายจะคายก็รอด…?
    เรื่องที่ดินอัลไพน์ อยู่ในอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย โดยมี เสี่ยหนู เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
    เมื่อเป็นเช่นนี้หลายฝ่ายจึงจับจ้องว่าเป็นเกมเขย่าจากค่ายสีน้ำเงิน และนั่นเมื่อนำไปโยงกับคำพูด “สังเกตไหมล่ะ” ของ หนูอิ๊งค์ มันก็ชวนให้วิเคราะห์ ต่อยอด แตกแขนงได้เหมือนกันว่า เจ้าตัวก็รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร!
    เรื่องที่ดินอัลไพน์ก็มีผลในทางการเมืองกับตัวนายกฯ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของทักษิณ ผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง เมื่อเป็นเรื่องนี้ก็เหมือนเปิดให้ต้องมาคุยกันในเรื่องที่ค้างคา ไม่จบ ดีลไม่ลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกาสิโน หรือแม้แต่เรื่องที่ดินเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    หลายฝ่ายมองว่าเป็นการต่อรอง ยื่นหมูยื่นแมว ในลักษณะว่า ถ้า รฟท.เลิกรากันไปในเรื่องเขากระโดง ทางฝั่งค่ายสีน้ำเงินก็จะไม่เล่นเรื่องนี้เหมือนกัน ฉะนั้น มันจึงถูกมองว่าค่ายสีน้ำเงินกำลังใช้เรื่องที่หนักหน่วงที่สุดของหนูอิ๊งค์ ขึ้นมาต่อรองกับผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง
    เพราะถ้าค่ายสีน้ำเงินหวังน็อกเลยโดยไม่ต่อรอง คงไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อ ป่านนี้คงเซ็นเพิกถอนไปแล้ว
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ

    ภูมิใจไทยกระตุ้นแรงเพื่อไทย หวังจบเรื่องเขากระโดง เพื่อไทยกับภูมิใจไทย สองพรรคใหญ่ในรัฐบาล ยังเล่นเกม ชิงไหวชิงพริบกันเป็นระยะๆ อย่างล่าสุด ถึงขั้นทำให้ หนูอิ๊งค์ แพทองธาร ฉาวในเรื่องที่ดินอัลไพน์ เคยสังเกตหรือไม่ เพราะอะไรทั้งที่เงียบไปแล้ว นั่นก็ต้องมองกลับไปที่ต้นตอของข่าว จุดเริ่มต้นมาจากที่อยู่ดีๆ มีแหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยออกมาระบุว่า ชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้เซ็นก่อนจะหลุดเก้าอี้ รมช.มหาดไทยไม่กี่วัน ให้เพิกถอนที่ดินอัลไพน์ กลับไปเป็นธรณีสงฆ์ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และศาล อุ๊งอิ๊ง เคยถือหุ้นอัลไพน์ที่เพิ่งจะโอนไปก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ซึ่งหากมีการเพิกถอนจริง ย่อมมีผลกระทบเหมือนกัน การที่มีข่าวเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ออกมามันก็อนุมานได้เหมือนกันว่า จงใจสะกิดอีกฝั่งให้รู้ว่า …ลูกสาวก็อยู่ในกำมือ สามารถให้คุณให้โทษได้ จะบีบก็ตายจะคายก็รอด…? เรื่องที่ดินอัลไพน์ อยู่ในอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย โดยมี เสี่ยหนู เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เมื่อเป็นเช่นนี้หลายฝ่ายจึงจับจ้องว่าเป็นเกมเขย่าจากค่ายสีน้ำเงิน และนั่นเมื่อนำไปโยงกับคำพูด “สังเกตไหมล่ะ” ของ หนูอิ๊งค์ มันก็ชวนให้วิเคราะห์ ต่อยอด แตกแขนงได้เหมือนกันว่า เจ้าตัวก็รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร! เรื่องที่ดินอัลไพน์ก็มีผลในทางการเมืองกับตัวนายกฯ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของทักษิณ ผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง เมื่อเป็นเรื่องนี้ก็เหมือนเปิดให้ต้องมาคุยกันในเรื่องที่ค้างคา ไม่จบ ดีลไม่ลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกาสิโน หรือแม้แต่เรื่องที่ดินเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลายฝ่ายมองว่าเป็นการต่อรอง ยื่นหมูยื่นแมว ในลักษณะว่า ถ้า รฟท.เลิกรากันไปในเรื่องเขากระโดง ทางฝั่งค่ายสีน้ำเงินก็จะไม่เล่นเรื่องนี้เหมือนกัน ฉะนั้น มันจึงถูกมองว่าค่ายสีน้ำเงินกำลังใช้เรื่องที่หนักหน่วงที่สุดของหนูอิ๊งค์ ขึ้นมาต่อรองกับผู้นำจิตวิญญาณค่ายสีแดง เพราะถ้าค่ายสีน้ำเงินหวังน็อกเลยโดยไม่ต่อรอง คงไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อ ป่านนี้คงเซ็นเพิกถอนไปแล้ว ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 0 รีวิว
  • 171/68

    วินทร์ เลียววาริณ
    15 มกราคม 2568

    ลูกค้าคนล่าสุดในคืนนี้เป็นฝรั่งผมสีทอง ร่างหนาใหญ่ หน้าตาคุ้นๆ

    หลายคนทักเขา "ท่านเอง"

    'ท่านเอง' วางก้นบนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์บาร์ บอกข้าพเจ้า "วันนี้อยากกินกรีนแลนด์"

    ข้าพเจ้าเลิกคิ้ว ถาม "ท่านหมายถึง Greenland Cocktail?"

    "ผมหมายถึงกรีนแลนด์จริงๆ"

    "ท่านจะยึดเกรียนแลนด์?"

    "กรีนแลนด์ ไม่ใช่เกรียนแลนด์ เกรียนแลนด์ยึดไปให้ปวดหัวทำไม"

    "ขออภัย ยึดกรีนแลนด์ไปทำไมครับ มันเป็นดินแดนน้ำแข็ง ถ้าท่านชอบที่เย็นๆ มาเมืองไทยตอนนี้ดีที่สุด อุณหภูมิที่กรุงเทพฯ 18 องศา กำลังดี ยกเว้นฝุ่น 2.5 นิดหน่อย ผู้ว่าฯบอกว่าไม่เป็นไร แค่ work from home ก็จบ"

    "ผมต้องยึดเกรียนแลนด์ เอ๊ย! กรีนแลนด์ เพราะต้องขัดขวางพวกจีน สายลับของผมสืบมาว่าจีนจะสร้างเส้นทางค้าขายข้ามกรีนแลนด์ เรียกว่า Ice Silk Road"

    "แล้วพวกกรีนแลนด์จะยอมให้ท่านยึดหรือไฉน?"

    "เราเป็นพี่เบิ้ม ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด"

    "งั้นท่านก็ควรฉลองการยึดล่วงหน้า ด้วยค็อคเทล Greenland ดื่มให้สบายใจดีกว่า"

    "ค็อคเทลนี้ทำยังไง?"

    "Greenland Cocktail ทำมาจากน้ำส้มผสมว็อดกา เติม Amaretto almond liqueur กับ Blue Curacao liqueur และไข่ อ้อ! ใส่เชอร์รีและใบมินท์เข้าไปด้วยเพื่อให้สวย"

    'ท่านเอง' ดื่ม Greenland Cocktail จนหมดแก้ว แล้วเอ่ย "คราวนี้ผมอยากกินปานามา"

    "ท่านหมายถึงค็อคเทล Panama ที่ทำด้วย บรั่นดี Creme de Cacao น้ำแข็ง ครีม?"

    "ค็อคเทลที่คุณว่ามานี้ก็เอา แต่จะยึดปานามาด้วย"

    "ยึดไปทำไมครับ?"

    "พวกจีนไปคุมคลองปานามา เราต้องไปยึดคืนมา"

    "งั้นฉลองด้วยค็อคเทล Panama นะครับ"

    ค็อคเทล Panama หายลงท้อง 'ท่านเอง' กล่าว "คราวนี้ผมอยากกินรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ"

    "ท่านหมายถึงเบียร์ยี่ห้อ 51st State?"

    "เบียร์ก็เอา แต่เวลาพูดถึงรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ ผมหมายถึงแคนาดา"

    "ท่านจะยึดแคนาดาไปทำไมครับ ในเมื่อผู้นำแคนาดาก็เป็นลูกน้องท่านอยู่แล้ว สั่งให้ทำอะไรก็ทำ"

    "ก็อยากยึด ยึดแล้วเท่ เข้าใจมั้ย? เราเป็นพี่เบิ้ม ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด"

    "จริงครับ งั้นดื่มรัฐที่ 51 เลยครับ"

    ข้าพเจ้าเสิร์ฟเบียร์ 51st State ให้ 'ท่านเอง' แล้วกล่าวว่า "เห็นท่านยึดประเทศนั้นประเทศนี้แล้วผมกลัวมากว่าท่านจะมายึดไทยแลนด์ด้วย"

    'ท่านเอง' สำลักเบียร์ สั่นหัว

    "โน! โน! โน! ไม่เอา ไม่ยึดไทยแลนด์ ยึดไปแล้วเหนื่อย ต้องแก้ปัญหามากมาย บ้านคุณมีปัญหาเยอะ นักโทษไม่ต้องเข้าคุก คิดอะไรไม่ออกก็แจกเงินช่วยคนจน กับสร้างบ่อนเพื่อชาติ แก้ฝุ่น 2.5 ไม่ได้ก็ work from home อ่านหนังสือแปดบรรทัดก็รู้หมดทุกอย่าง เรียนหนังสือก็จ่ายครบจบแน่ มาตรฐานการศึกษาแย่ก็แจกแท็บเล็ต แท็กซี่ตีหัวนักท่องเที่ยวกับมอเตอร์ไซค์บนทางเท้าก็ไม่เห็น ไม่ขายผ้าขาวม้าก็ขาย soft power นี่นั่นโน่น พูดแล้วหมด'รมณ์ ผมไปก่อนละ"

    "เดี๋ยว! ท่านยังไม่จ่ายค่าเครื่องดื่ม"

    "ค่าเครื่องดื่มนี่ขอยึดนะ เราเป็นพี่เบิ้ม ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด"
    ..............................

    หมายเหตุ เหล้าทั้งหมดนี้มีจริง
    171/68 วินทร์ เลียววาริณ 15 มกราคม 2568 ลูกค้าคนล่าสุดในคืนนี้เป็นฝรั่งผมสีทอง ร่างหนาใหญ่ หน้าตาคุ้นๆ หลายคนทักเขา "ท่านเอง" 'ท่านเอง' วางก้นบนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์บาร์ บอกข้าพเจ้า "วันนี้อยากกินกรีนแลนด์" ข้าพเจ้าเลิกคิ้ว ถาม "ท่านหมายถึง Greenland Cocktail?" "ผมหมายถึงกรีนแลนด์จริงๆ" "ท่านจะยึดเกรียนแลนด์?" "กรีนแลนด์ ไม่ใช่เกรียนแลนด์ เกรียนแลนด์ยึดไปให้ปวดหัวทำไม" "ขออภัย ยึดกรีนแลนด์ไปทำไมครับ มันเป็นดินแดนน้ำแข็ง ถ้าท่านชอบที่เย็นๆ มาเมืองไทยตอนนี้ดีที่สุด อุณหภูมิที่กรุงเทพฯ 18 องศา กำลังดี ยกเว้นฝุ่น 2.5 นิดหน่อย ผู้ว่าฯบอกว่าไม่เป็นไร แค่ work from home ก็จบ" "ผมต้องยึดเกรียนแลนด์ เอ๊ย! กรีนแลนด์ เพราะต้องขัดขวางพวกจีน สายลับของผมสืบมาว่าจีนจะสร้างเส้นทางค้าขายข้ามกรีนแลนด์ เรียกว่า Ice Silk Road" "แล้วพวกกรีนแลนด์จะยอมให้ท่านยึดหรือไฉน?" "เราเป็นพี่เบิ้ม ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด" "งั้นท่านก็ควรฉลองการยึดล่วงหน้า ด้วยค็อคเทล Greenland ดื่มให้สบายใจดีกว่า" "ค็อคเทลนี้ทำยังไง?" "Greenland Cocktail ทำมาจากน้ำส้มผสมว็อดกา เติม Amaretto almond liqueur กับ Blue Curacao liqueur และไข่ อ้อ! ใส่เชอร์รีและใบมินท์เข้าไปด้วยเพื่อให้สวย" 'ท่านเอง' ดื่ม Greenland Cocktail จนหมดแก้ว แล้วเอ่ย "คราวนี้ผมอยากกินปานามา" "ท่านหมายถึงค็อคเทล Panama ที่ทำด้วย บรั่นดี Creme de Cacao น้ำแข็ง ครีม?" "ค็อคเทลที่คุณว่ามานี้ก็เอา แต่จะยึดปานามาด้วย" "ยึดไปทำไมครับ?" "พวกจีนไปคุมคลองปานามา เราต้องไปยึดคืนมา" "งั้นฉลองด้วยค็อคเทล Panama นะครับ" ค็อคเทล Panama หายลงท้อง 'ท่านเอง' กล่าว "คราวนี้ผมอยากกินรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ" "ท่านหมายถึงเบียร์ยี่ห้อ 51st State?" "เบียร์ก็เอา แต่เวลาพูดถึงรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ ผมหมายถึงแคนาดา" "ท่านจะยึดแคนาดาไปทำไมครับ ในเมื่อผู้นำแคนาดาก็เป็นลูกน้องท่านอยู่แล้ว สั่งให้ทำอะไรก็ทำ" "ก็อยากยึด ยึดแล้วเท่ เข้าใจมั้ย? เราเป็นพี่เบิ้ม ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด" "จริงครับ งั้นดื่มรัฐที่ 51 เลยครับ" ข้าพเจ้าเสิร์ฟเบียร์ 51st State ให้ 'ท่านเอง' แล้วกล่าวว่า "เห็นท่านยึดประเทศนั้นประเทศนี้แล้วผมกลัวมากว่าท่านจะมายึดไทยแลนด์ด้วย" 'ท่านเอง' สำลักเบียร์ สั่นหัว "โน! โน! โน! ไม่เอา ไม่ยึดไทยแลนด์ ยึดไปแล้วเหนื่อย ต้องแก้ปัญหามากมาย บ้านคุณมีปัญหาเยอะ นักโทษไม่ต้องเข้าคุก คิดอะไรไม่ออกก็แจกเงินช่วยคนจน กับสร้างบ่อนเพื่อชาติ แก้ฝุ่น 2.5 ไม่ได้ก็ work from home อ่านหนังสือแปดบรรทัดก็รู้หมดทุกอย่าง เรียนหนังสือก็จ่ายครบจบแน่ มาตรฐานการศึกษาแย่ก็แจกแท็บเล็ต แท็กซี่ตีหัวนักท่องเที่ยวกับมอเตอร์ไซค์บนทางเท้าก็ไม่เห็น ไม่ขายผ้าขาวม้าก็ขาย soft power นี่นั่นโน่น พูดแล้วหมด'รมณ์ ผมไปก่อนละ" "เดี๋ยว! ท่านยังไม่จ่ายค่าเครื่องดื่ม" "ค่าเครื่องดื่มนี่ขอยึดนะ เราเป็นพี่เบิ้ม ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด" .............................. หมายเหตุ เหล้าทั้งหมดนี้มีจริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิศรา เผย นายกฯส่อขัดจริยธรรมร้ายแรง ปูดข้อมูลลับ “ชาดา” เซ็นทิ้งทวนเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์แล้ว ลงนามคำสั่งก่อนพ้นเก้าอี้รมช.มท. 3 วัน ระบุเป็นหน้าที่ต้องพิจารณา หลังกฤษฎีกา-ศาล มีคำวินิจฉัยให้ที่ดินตกเป็นธรณีสงฆ์ แยกเยียวยาแก้ปัญหาออกจากกัน

    วันนี้ (14 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าการดำเนินการเพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร เพื่อเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน หลังก่อนหน้านี้ ลูกบ้านโครงการอัลไพน์ 2 ได้ร้องขอให้กระทรวงมหาดไทย เพิกถอนโฉนดที่ดินที่อยู่ในที่ธรณีสงฆ์ และจ่ายเงินเยียวยาแทน หลังเกิดปัญหาการทุจริตนาน 20 ปี แต่ไม่มีการเยียวยา

    ล่าสุด แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 67 ก่อนที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.มหาดไทย จะพ้นตำแหน่งรมช.มหาดไทย ในวันที่ 6 ก.ย. 67 ได้ลงนามคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหารเป็นทางการแล้ว ตามที่กรมที่ดินเสนอ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000004151

    #MGROnline #ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ #ที่ธรณีสงฆ์ #วัดธรรมิการามวรวิหาร
    อิศรา เผย นายกฯส่อขัดจริยธรรมร้ายแรง ปูดข้อมูลลับ “ชาดา” เซ็นทิ้งทวนเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์แล้ว ลงนามคำสั่งก่อนพ้นเก้าอี้รมช.มท. 3 วัน ระบุเป็นหน้าที่ต้องพิจารณา หลังกฤษฎีกา-ศาล มีคำวินิจฉัยให้ที่ดินตกเป็นธรณีสงฆ์ แยกเยียวยาแก้ปัญหาออกจากกัน • วันนี้ (14 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าการดำเนินการเพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร เพื่อเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน หลังก่อนหน้านี้ ลูกบ้านโครงการอัลไพน์ 2 ได้ร้องขอให้กระทรวงมหาดไทย เพิกถอนโฉนดที่ดินที่อยู่ในที่ธรณีสงฆ์ และจ่ายเงินเยียวยาแทน หลังเกิดปัญหาการทุจริตนาน 20 ปี แต่ไม่มีการเยียวยา • ล่าสุด แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 67 ก่อนที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.มหาดไทย จะพ้นตำแหน่งรมช.มหาดไทย ในวันที่ 6 ก.ย. 67 ได้ลงนามคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหารเป็นทางการแล้ว ตามที่กรมที่ดินเสนอ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000004151 • #MGROnline #ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ #ที่ธรณีสงฆ์ #วัดธรรมิการามวรวิหาร
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 463 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังพิจารณาประกาศนิรโทษกรรมล่วงหน้าให้บุคคลต่างๆ ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของรัฐบาลว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
    .
    ทรัมป์ ซึ่งเอาชนะ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน จากพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 เตรียมหวนคืนสู่เก้าอี้ทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคมนี้
    .
    "มันยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยังไม่มีการตัดสินใจ" ไบเดน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) ตอบคำถามหนึ่งในเรื่องเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะนิรโทษกรรมล่วงหน้า
    .
    ไบเดน ถอนตัวจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 ในเดือนกรกฎาคม ท่ามกลางความกังวลที่โผล่ขึ้นมาภายในพรรคเดโมแครต ตามหลังผลงานการดีเบตกับทรัมป์ ที่ก่อความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนพรรค ท้ายที่สุดแล้วเขาก็หันไปรับรองแฮร์ริส แต่ว่าเธอก็พ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้ทรัมป์
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงถึงเจตนาจะเอาผิดกับทุกคนที่เขามองเป็นศัตรู "ในนั้นรวมถึงแฮร์ริส และโจ ไบเดน บุคคลที่เขามองว่าเป็นประธานาธิบดีคอร์รัปชันเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา รวมถึงครอบครัวอาชญากรของเขาด้วย"
    .
    นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังวิพากษ์วิจารณ์ไบเดน สำหรับกรณีนิรโทษกรรมให้ ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายตนเองในเดือนธันวาคม กลับลำจากที่เคยประกาศไว้ว่าจะไม่ทำเช่นนนั้น ทั้งนี้ ไบเดน อภัยโทษให้ ฮันเตอร์ แม้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษีและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และศาลมีกำหนดตัดสินระวางโทษในเดือนธันวาคม
    .
    ทรัมป์ เรียกการตัดสินใจดังกล่าวว่าเป็น "การบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม" และหยิบยกเรื่องนี้พาดพิงถึงบรรดาผู้สนับสนุนของเขาที่ถูกจำคุกฐานก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 "การนิรโทษกรรมที่ไบเดนมอบให้ฮันเตอร์ ได้นับรวมกลุ่ม J-6 Hostages ด้วยหรือเปล่า เวลานี้พวกเขาถูกคุมขังมานานหลายปีแล้ว มันเป็นการละเมิดและบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม!" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล
    .
    นอกจากนี้ ว่าที่ประธานาธิบดียังเรียกร้องให้สืบสวนอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา และลิซ เชนีย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน ที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์มาตลอด
    .
    ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ทรัมป์ขู่ดำเนินคดีอย่างที่ไม่มีมาก่อน กับบุคคลต่างๆ ที่เขากล่าวหาว่าโกงเลือกตั้ง "ขอให้ทราบว่าความเสี่ยงถูกดำเนินการทางกฎหมายนี้ ครอบคลุมถึงพวกทนายความ พวกผู้ใช้อุบายในทางการเมือง บรรดาผู้บริจาค ผู้ใช้สิทธิใช้เสียงแบบผิดกฎหมายและพวกเจ้าหน้าที่เลือกตั้งที่คอร์รัปชัน" ทรัมป์โพสต์บนทรัสต์โซเชียล หลังจากก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้งอย่างกว้างขวางในปี 2020
    .
    ทรัมป์ ยังได้เน้นย้ำเมื่อปีที่แล้ว ว่าเขาจะไล่ออก แจ็ค สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงยุติธรรม ที่กำกับดูแลการสืบสวนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากรีพับลิกันรายนี้ จนกระทั่ง สมิธ ตัดสินใจลาออกเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.)
    .
    เมื่อถามว่าเขาจะนิรโทษกรรมให้ตนเองหรือไม่ ทาง ไบเดน ปฏิเสธความคิดนี้ โดยบอกว่า "ผมไม่ได้ทำอะไรผิด"
    .
    มีความเป็นไปได้ว่าประธานาธิบดีอาจมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญที่จะประกาศนิรโทษกรรมล่วงหน้าอย่างกว้างขวาง ต่อการกระทำผิดใดๆ ตามกฎหมายรัฐบาลกลางในอดีตที่ผ่านมา แม้กระทั่งยังไม่ถูกยื่นฟ้องดำเนินคดีก็ตาม อย่างไรก็ตาม อำนาจนี้ไม่สามารถใช้กับความผิดทางอาญาตามกฎหมายในแต่ละรัฐหรือความผิดใดๆ ในอนาคต
    .
    ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่ารูปแบบการนิรโทษกรรมที่ไบเดนกำลังพิจารณาอยู่นั้น น่าจะเป็นการนิรโทษกรรมภายใต้ขอบเขตอำนาจพิเศษของประธานาธิบดี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003513
    ..............
    Sondhi X
    โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังพิจารณาประกาศนิรโทษกรรมล่วงหน้าให้บุคคลต่างๆ ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของรัฐบาลว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ . ทรัมป์ ซึ่งเอาชนะ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน จากพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 เตรียมหวนคืนสู่เก้าอี้ทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคมนี้ . "มันยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยังไม่มีการตัดสินใจ" ไบเดน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) ตอบคำถามหนึ่งในเรื่องเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะนิรโทษกรรมล่วงหน้า . ไบเดน ถอนตัวจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 ในเดือนกรกฎาคม ท่ามกลางความกังวลที่โผล่ขึ้นมาภายในพรรคเดโมแครต ตามหลังผลงานการดีเบตกับทรัมป์ ที่ก่อความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนพรรค ท้ายที่สุดแล้วเขาก็หันไปรับรองแฮร์ริส แต่ว่าเธอก็พ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้ทรัมป์ . ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงถึงเจตนาจะเอาผิดกับทุกคนที่เขามองเป็นศัตรู "ในนั้นรวมถึงแฮร์ริส และโจ ไบเดน บุคคลที่เขามองว่าเป็นประธานาธิบดีคอร์รัปชันเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา รวมถึงครอบครัวอาชญากรของเขาด้วย" . นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังวิพากษ์วิจารณ์ไบเดน สำหรับกรณีนิรโทษกรรมให้ ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายตนเองในเดือนธันวาคม กลับลำจากที่เคยประกาศไว้ว่าจะไม่ทำเช่นนนั้น ทั้งนี้ ไบเดน อภัยโทษให้ ฮันเตอร์ แม้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษีและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และศาลมีกำหนดตัดสินระวางโทษในเดือนธันวาคม . ทรัมป์ เรียกการตัดสินใจดังกล่าวว่าเป็น "การบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม" และหยิบยกเรื่องนี้พาดพิงถึงบรรดาผู้สนับสนุนของเขาที่ถูกจำคุกฐานก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 "การนิรโทษกรรมที่ไบเดนมอบให้ฮันเตอร์ ได้นับรวมกลุ่ม J-6 Hostages ด้วยหรือเปล่า เวลานี้พวกเขาถูกคุมขังมานานหลายปีแล้ว มันเป็นการละเมิดและบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม!" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล . นอกจากนี้ ว่าที่ประธานาธิบดียังเรียกร้องให้สืบสวนอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา และลิซ เชนีย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน ที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์มาตลอด . ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ทรัมป์ขู่ดำเนินคดีอย่างที่ไม่มีมาก่อน กับบุคคลต่างๆ ที่เขากล่าวหาว่าโกงเลือกตั้ง "ขอให้ทราบว่าความเสี่ยงถูกดำเนินการทางกฎหมายนี้ ครอบคลุมถึงพวกทนายความ พวกผู้ใช้อุบายในทางการเมือง บรรดาผู้บริจาค ผู้ใช้สิทธิใช้เสียงแบบผิดกฎหมายและพวกเจ้าหน้าที่เลือกตั้งที่คอร์รัปชัน" ทรัมป์โพสต์บนทรัสต์โซเชียล หลังจากก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้งอย่างกว้างขวางในปี 2020 . ทรัมป์ ยังได้เน้นย้ำเมื่อปีที่แล้ว ว่าเขาจะไล่ออก แจ็ค สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงยุติธรรม ที่กำกับดูแลการสืบสวนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากรีพับลิกันรายนี้ จนกระทั่ง สมิธ ตัดสินใจลาออกเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) . เมื่อถามว่าเขาจะนิรโทษกรรมให้ตนเองหรือไม่ ทาง ไบเดน ปฏิเสธความคิดนี้ โดยบอกว่า "ผมไม่ได้ทำอะไรผิด" . มีความเป็นไปได้ว่าประธานาธิบดีอาจมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญที่จะประกาศนิรโทษกรรมล่วงหน้าอย่างกว้างขวาง ต่อการกระทำผิดใดๆ ตามกฎหมายรัฐบาลกลางในอดีตที่ผ่านมา แม้กระทั่งยังไม่ถูกยื่นฟ้องดำเนินคดีก็ตาม อย่างไรก็ตาม อำนาจนี้ไม่สามารถใช้กับความผิดทางอาญาตามกฎหมายในแต่ละรัฐหรือความผิดใดๆ ในอนาคต . ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่ารูปแบบการนิรโทษกรรมที่ไบเดนกำลังพิจารณาอยู่นั้น น่าจะเป็นการนิรโทษกรรมภายใต้ขอบเขตอำนาจพิเศษของประธานาธิบดี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003513 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Angry
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1336 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์พวกผู้นำแคลิฟอร์เนียหนักหน่วงขึ้น ต่อกรณีจัดการกับไฟฟ้าที่กำลังเผาผลาญลอสแองเจลิส ทำให้ทางผู้ว่าการรัฐตอบโต้ ด้วยการกระตุ้นให้เขาลงพื้นที่มาดูสภาพความเสียหายด้วยตนเอง
    .
    "ไฟป่ายังคงโหมกระพือในแอลเอ พวกนักการเมืองที่ไร้ความสามารถ ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะดับไฟได้" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง "นี่คือหนึ่งในหายนะครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศของเรา พวกเขาไม่ใช่แค่ไม่สามารถดับไฟเท่านั้น มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?"
    .
    กาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย จากพรรคเดโมแครต ซึ่งตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์มาช้านาน ตอบโต้กลับระหว่างการสัมภาษณ์หนึ่งซึ่งออกอากาศในวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) แต่ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงประนีประนอม "การตอบโต้กลับคำดูหมิ่นด่าทอของทรัมป์ เราอาจต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือน" เขากล่าวกับเอ็นบีซี "เจ้าหน้าที่ที่มาจากการเลือกตั้งทุกคนที่เขาทะเลาะด้วยคุ้นเคยกับสิ่งนี้ดี"
    .
    ผู้ว่าการรัฐกล่าวต่อว่า "แต่ผมเรียกร้องให้เขาเดินทางมาดูด้วยตาตนเอง เราต้องการทำมันด้วยสปิริตแห่งการเปิดกว้าง ไม่ใช่ใจที่ปิดกั้น เขาคือว่าที่ประธานาธิบดี" พร้อมเผยว่าจนถึงตอนนี้ ทรัมป์ ยังไม่ตอบสนองใดๆ ต่อคำเชิญของเขา
    .
    บ่อยครั้งที่ ทรัมป์ กระทบกระทั่งกับ นิวซัม บุคคลที่ถูกมองว่าอาจก้าวมาเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2028 และแม้วิพากษ์วิจารณ์แนวทางรับมือกับวิกฤตครั้งนี้ของผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าในอดีตที่ผ่านมา ทรัมป์ เองก็เคยขู่ตัดงบบริหารจัดการไฟป่าของรัฐบาลที่ป้อนแก่แคลิฟอร์เนีย หากได้รับเลือกตั้ง ท่ามกลางข้อพิพาทกับ นิวซัม เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ
    .
    "ในจิตวิญญาณของประเทศที่ยิ่งใหญ่นี้ เราต้องไม่นำโศกนาฏกรรมของมนุษย์มาเป็นเรื่องทางการเมือง หรือแพร่กระจายข้อมูลบิดเบือน" นิวซัม เขียนตอบโต้ทรัมป์ แชร์บนสื่อสังคมออนไลน์ "ผมขอเชิญคุณมายังแคลิฟอร์เนียอีกครั้ง พบเจอกับอเมริกันชนที่ได้รับผลกระทบจากไฟไหม้นี้ มาดูหายนะด้วยตาตนเอง เข้าร่วมกับผลและคนอื่นๆ ในการขอบคุณวีรบุรุษนักดับเพลิงและทีมตอบสนองสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่เอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง นี่คือสไตล์ของเขา เราจริงจังกับคำพูดของเขา" ผู้ว่าการรัฐอ้างถึงคำขู่ของทรัมป์ เกี่ยวกับการตัดงบช่วยเหลือ
    .
    พวกเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและระดับท้องถิ่นในแคลิฟอร์เนีย ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในขณะที่ทรัมป์และสมาชิกรีพับลิกันรายอื่นๆ เช่นเดียวกันประชาชนที่บ้านถูกไฟเผาไหม้หรือเสี่ยงถูกเพลิงทำลายล้าง ส่งเสียงเรียกร้องขอคำตอบเกี่ยวกับแผนและการเตรียมการรับมือวิกฤตของทางรัฐ
    .
    จนถึงตอนนี้ไฟป่าครั้งเลวร้ายได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 16 ราย ไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 150,000 คน และสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 12,000 หลัง ถูกทำลาย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัฐ "บ้านอันงดงามหลายพันหลังหายวับไป และอีกมากจะสูญเสียเร็วๆ นี้ มีคนเสียชีวิตอยู่ในทุกพื้นที่" ทรัมป์โพสต์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003511
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์พวกผู้นำแคลิฟอร์เนียหนักหน่วงขึ้น ต่อกรณีจัดการกับไฟฟ้าที่กำลังเผาผลาญลอสแองเจลิส ทำให้ทางผู้ว่าการรัฐตอบโต้ ด้วยการกระตุ้นให้เขาลงพื้นที่มาดูสภาพความเสียหายด้วยตนเอง . "ไฟป่ายังคงโหมกระพือในแอลเอ พวกนักการเมืองที่ไร้ความสามารถ ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะดับไฟได้" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง "นี่คือหนึ่งในหายนะครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศของเรา พวกเขาไม่ใช่แค่ไม่สามารถดับไฟเท่านั้น มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?" . กาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย จากพรรคเดโมแครต ซึ่งตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์มาช้านาน ตอบโต้กลับระหว่างการสัมภาษณ์หนึ่งซึ่งออกอากาศในวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) แต่ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงประนีประนอม "การตอบโต้กลับคำดูหมิ่นด่าทอของทรัมป์ เราอาจต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือน" เขากล่าวกับเอ็นบีซี "เจ้าหน้าที่ที่มาจากการเลือกตั้งทุกคนที่เขาทะเลาะด้วยคุ้นเคยกับสิ่งนี้ดี" . ผู้ว่าการรัฐกล่าวต่อว่า "แต่ผมเรียกร้องให้เขาเดินทางมาดูด้วยตาตนเอง เราต้องการทำมันด้วยสปิริตแห่งการเปิดกว้าง ไม่ใช่ใจที่ปิดกั้น เขาคือว่าที่ประธานาธิบดี" พร้อมเผยว่าจนถึงตอนนี้ ทรัมป์ ยังไม่ตอบสนองใดๆ ต่อคำเชิญของเขา . บ่อยครั้งที่ ทรัมป์ กระทบกระทั่งกับ นิวซัม บุคคลที่ถูกมองว่าอาจก้าวมาเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2028 และแม้วิพากษ์วิจารณ์แนวทางรับมือกับวิกฤตครั้งนี้ของผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าในอดีตที่ผ่านมา ทรัมป์ เองก็เคยขู่ตัดงบบริหารจัดการไฟป่าของรัฐบาลที่ป้อนแก่แคลิฟอร์เนีย หากได้รับเลือกตั้ง ท่ามกลางข้อพิพาทกับ นิวซัม เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ . "ในจิตวิญญาณของประเทศที่ยิ่งใหญ่นี้ เราต้องไม่นำโศกนาฏกรรมของมนุษย์มาเป็นเรื่องทางการเมือง หรือแพร่กระจายข้อมูลบิดเบือน" นิวซัม เขียนตอบโต้ทรัมป์ แชร์บนสื่อสังคมออนไลน์ "ผมขอเชิญคุณมายังแคลิฟอร์เนียอีกครั้ง พบเจอกับอเมริกันชนที่ได้รับผลกระทบจากไฟไหม้นี้ มาดูหายนะด้วยตาตนเอง เข้าร่วมกับผลและคนอื่นๆ ในการขอบคุณวีรบุรุษนักดับเพลิงและทีมตอบสนองสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่เอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง นี่คือสไตล์ของเขา เราจริงจังกับคำพูดของเขา" ผู้ว่าการรัฐอ้างถึงคำขู่ของทรัมป์ เกี่ยวกับการตัดงบช่วยเหลือ . พวกเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและระดับท้องถิ่นในแคลิฟอร์เนีย ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในขณะที่ทรัมป์และสมาชิกรีพับลิกันรายอื่นๆ เช่นเดียวกันประชาชนที่บ้านถูกไฟเผาไหม้หรือเสี่ยงถูกเพลิงทำลายล้าง ส่งเสียงเรียกร้องขอคำตอบเกี่ยวกับแผนและการเตรียมการรับมือวิกฤตของทางรัฐ . จนถึงตอนนี้ไฟป่าครั้งเลวร้ายได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 16 ราย ไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 150,000 คน และสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 12,000 หลัง ถูกทำลาย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัฐ "บ้านอันงดงามหลายพันหลังหายวับไป และอีกมากจะสูญเสียเร็วๆ นี้ มีคนเสียชีวิตอยู่ในทุกพื้นที่" ทรัมป์โพสต์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003511 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1257 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11ม.ค.2568 เมื่อเวลา 19.00 น.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กทม. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.) ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยถึงทิศทางการจัดกิจกรรม “ปีเช็คบิลป่วยทิพย์ชั้น 14 แพทยสภาถึงเวลารักษาความยุติธรรม หยุด-ระบอบชินวัตร หยุด-เอ็มโอยู 44 หยุด-บ่อนคาสิโน” ว่า จากที่เราประกาศชุมนุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ม.ค.67 ซึ่งเป็นวันเด็ก จนถึงวันนี้เราชุมนุมครอบรอบ 1 ปีพอดี การต่อสู้กับระบอบชินวัตรที่ผ่านมาของพวกเรา เห็นผลได้ชัดเจนจากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน รวมถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.คลัง ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติในการมาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (บอร์ดแบงค์ชาติ) ผ่านมาจนปีนี้มีเรื่องที่เราต้องติดตาม ตนอยากชวนให้ทุกคนเตรียมรองเท้าผ้าใบให้พร้อม ปีนี้เราจะเช็คบิลเทวดาชั้น 14 เพื่อสร้างระบบนิติรัฐ
    นิติธรรม

    นายพิชิต กล่าวต่อว่า เรามี 2 ข้อเรียกร้อง คือ 1.ขอให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม แสดงความรับผิดชอบกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ที่ไปช่วยทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยการลาออก 2.เรียกร้องให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง ลาออก จากกรณีเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ เป็นประธานบอร์แบงค์ชาติ จนไม่ผ่านคุณสมบัติ ขณะที่ 5 เรื่องที่ต้องคัดค้าน คือ 1.ยกเลิก MOU44 2.คัดค้านบ่อนคาสิโน 3.คัดค้านพนันออนไลน์ 4.เช่าที่ 99 ปี ที่เป็นการขายชาติ และ 5.คัดค้านการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทำให้ประเทศเสียหาย

    ส่วน 2 เรื่องที่ต้องให้กำลังใจ คือ 1.ให้กำลังใจป.ป.ช. เดินหน้าเอานักโทษมาติดคุกให้ได้ และ 2.ให้กำลังใจแพทยสภาในการเรียกเวชระเบียนมาตรวจสอบเพื่อผดุงจรรยาบรรณทางการแพทย์ แพทยสภาต้องฉีดยาความจริงให้ประเทศ อย่าไปเอื้อแพทย์ด้วยกันที่ทำผิด ทั้งนี้ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ เวลา 10.30 น. ขอให้ทุกคนใส่รองเท้าผ้าใบ เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อทวงถามเวชระเบียนจากโรงพยาบาลตำรวจ และวันที่ 15 ม.ค. จะเดินทางไปที่แพทยสภา ที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กำลังใจในการทวงถามเอกสารสำคัญเพื่อยืนยันอาการป่วยของนายทักษิณ แต่ถ้าในวันดังกล่าวแพทยสภาบอกว่ายังไม่ได้รับเอกสารใดๆ เราก็จะพร้อมใส่รองเท้าผ้าใบมาทวงถามที่ทำเนียบรัฐบาล

    นายพิชิต กล่าวว่า และอีก 1 เรื่องต้องจับตาที่จะเป็นชนวนในการเช็คบิลนายทักษิณ คือการที่นายทักษิณประกาศพาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ น้องสาว กลับบ้านในเดือนเม.ย.นี้ ถ้ากลับมาแล้วเป็นนักโทษนางฟ้าเหมือนพี่ชาย เราก็เตรียมออกมาไล่รัฐบาลของน.ส.แพทองธารได้ทันที อย่างไรก็ตาม เรามีสิ่งต้องตามทวงถาม โดยเฉพาะกรณีชั้น 14 นอกเหนือจากการทำลายกระบวนการยุติธรรมแล้ว ยังทำลายประเทศเราด้วย ด้วยการที่มีบุคคลหนึ่งทำลายเสาหลักของระบบนิติรัฐ นิติธรรม นอกจากที่แพทยสภาแล้ว ผบ.ตร.ต้องสั่งการให้ส่งเวชระเบียนนายทักษิณไปที่ป.ป.ช.ที่มีการเรียกขอมาก่อนหน้านี้ด้วย เพราะตามหลักการแล้วหลักฐานอยู่ในมือตำรวจก็ต้องมาแสดง แต่ถ้ากลับทำลายหลักฐานเสียเอง หรือยับนิ่งเฉย ผบ.ตร.ก็ต้องลาออกด้วย

    นายพิชิต กล่าวต่อว่า นายทักษิณ ใช้อำนาจเหนือรัฐ เป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ไปประกาศว่า จะนำกำลังไปบุกประเทศเพื่อนบ้าน ประกาศทุบค่าไฟ ใช้อำนาจอะไรสั่งการ วันนี้ประเทศไทยมีอำนาจซ้อนอำนาจ มีอำนาจเหนือรัฐ นายทักษิณใช้อำนาจเต็มที่ กลายเป็นรัฐบาลไม่กล้าใช้อำนาจรัฐ ขณะเดียวกันวันนี้เป็นวันเด็ก มีเด็กๆไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีถ่ายรูปด้วยความภาคภูมิใจ แต่ตนบอกว่าเรามีเด็กนั่งเป็นนายกฯมานานหลายเดือนแล้ว อย่าว่าแต่เด็กไปนั่งเก้าอี้นายกฯเลย ทุกวันนี้นายกฯยังเป็นนั่งอยู่ในเก้าอี้อยู่เลย นายกฯไม่มีผลงานอะไรเด่นเลยสักเรื่อง มีเด่นอยู่อย่างเดียว คือแต่งตัวให้ถูกเขาด่าได้ทุกวันทั้งประเทศ

    นายพิชิต กล่าวด้วยว่า ที่นายทักษิณ บอกว่าเป็นโรคเอ็นเปื่อย ทางการแพทย์ไม่มีระบุ มันมีที่ไหน มันไม่ใช่ลูกชิ้นเนื้อเปื่อย คนเป็นโรคเอ็นเปื่อยจะไปตีกอล์ฟออกแรงสวิงได้อย่างไร คนป่วยติดเตียง 180 วันออกมามันจะแข็งแรงได้อย่างไร และที่นายทักษิณ บอกว่ายังไงก็เอาเขากลับเข้าเรือนจำไม่ได้ เมื่อความจริงปรากฎ แนวร่วมเริ่มเกิดขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุดกองกฐินที่มาเรื่อยๆจะมาไหลรวมกันที่ทำเนียบรัฐบาล มันหนีไม่ออก น.ส.แพทองธาร ก็ต้องรับผิดชอบทางการเมืองด้วยเช่นกัน

    “ที่นายทักษิณบอกว่าให้นำพนันออนไลน์ขึ้นมาบนดิน แล้วจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส บอกว่าสามารถทำได้ ทักษิณพูดรัฐมนตรีทำแบบนี้ไม่เรียกสั่งการครอบงำได้อย่างไร คนเห็นทั้งประเทศ ที่มองไม่เห็นอยู่ 5 คนคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. วันนี้กกต.เริ่มพูด การหาเสียงท้องถิ่นหากไปพูดนโยบายรัฐ สุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย เข้าข่ายการซื้อเสียงผ่านนโยบายรัฐหรือไม่ เราก็ไปยื่นให้กกต.ตรวจสอบแล้ว ตามสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ พอเข้าไปตรวจสอบ ก็หาว่าก่อความวุ่นวาย ตกลงจะให้เราจะนั่งอยู่เฉยๆ ปล่อยให้พวกคุณโกงกันหรือไง พอเข้าไปตรวจสอบตามระบบ ก็บอกว่าจะฟ้องกลับ ผมก็ยินดี คดีผมเยอะแล้ว เพิ่มอีกคดีไม่เห็นเป็นอะไร“ แกนนำคปท. กล่าว

    ที่มา : แนวหน้า
    https://www.naewna.com/politic/852717?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR19m8JG0ju8L-nNUgU4KBHxiBlnVnUyNAETuDlRU-38FCSvoWDScdrkQ5A_aem_xZPNNwpQAvULZKuNZxIqKQ#nwrsmlxrnogt5ygxo7xkpqorilo2jdzh
    11ม.ค.2568 เมื่อเวลา 19.00 น.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กทม. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.) ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยถึงทิศทางการจัดกิจกรรม “ปีเช็คบิลป่วยทิพย์ชั้น 14 แพทยสภาถึงเวลารักษาความยุติธรรม หยุด-ระบอบชินวัตร หยุด-เอ็มโอยู 44 หยุด-บ่อนคาสิโน” ว่า จากที่เราประกาศชุมนุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ม.ค.67 ซึ่งเป็นวันเด็ก จนถึงวันนี้เราชุมนุมครอบรอบ 1 ปีพอดี การต่อสู้กับระบอบชินวัตรที่ผ่านมาของพวกเรา เห็นผลได้ชัดเจนจากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน รวมถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.คลัง ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติในการมาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (บอร์ดแบงค์ชาติ) ผ่านมาจนปีนี้มีเรื่องที่เราต้องติดตาม ตนอยากชวนให้ทุกคนเตรียมรองเท้าผ้าใบให้พร้อม ปีนี้เราจะเช็คบิลเทวดาชั้น 14 เพื่อสร้างระบบนิติรัฐ นิติธรรม นายพิชิต กล่าวต่อว่า เรามี 2 ข้อเรียกร้อง คือ 1.ขอให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม แสดงความรับผิดชอบกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ที่ไปช่วยทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยการลาออก 2.เรียกร้องให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง ลาออก จากกรณีเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ เป็นประธานบอร์แบงค์ชาติ จนไม่ผ่านคุณสมบัติ ขณะที่ 5 เรื่องที่ต้องคัดค้าน คือ 1.ยกเลิก MOU44 2.คัดค้านบ่อนคาสิโน 3.คัดค้านพนันออนไลน์ 4.เช่าที่ 99 ปี ที่เป็นการขายชาติ และ 5.คัดค้านการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทำให้ประเทศเสียหาย ส่วน 2 เรื่องที่ต้องให้กำลังใจ คือ 1.ให้กำลังใจป.ป.ช. เดินหน้าเอานักโทษมาติดคุกให้ได้ และ 2.ให้กำลังใจแพทยสภาในการเรียกเวชระเบียนมาตรวจสอบเพื่อผดุงจรรยาบรรณทางการแพทย์ แพทยสภาต้องฉีดยาความจริงให้ประเทศ อย่าไปเอื้อแพทย์ด้วยกันที่ทำผิด ทั้งนี้ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ เวลา 10.30 น. ขอให้ทุกคนใส่รองเท้าผ้าใบ เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อทวงถามเวชระเบียนจากโรงพยาบาลตำรวจ และวันที่ 15 ม.ค. จะเดินทางไปที่แพทยสภา ที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กำลังใจในการทวงถามเอกสารสำคัญเพื่อยืนยันอาการป่วยของนายทักษิณ แต่ถ้าในวันดังกล่าวแพทยสภาบอกว่ายังไม่ได้รับเอกสารใดๆ เราก็จะพร้อมใส่รองเท้าผ้าใบมาทวงถามที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต กล่าวว่า และอีก 1 เรื่องต้องจับตาที่จะเป็นชนวนในการเช็คบิลนายทักษิณ คือการที่นายทักษิณประกาศพาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ น้องสาว กลับบ้านในเดือนเม.ย.นี้ ถ้ากลับมาแล้วเป็นนักโทษนางฟ้าเหมือนพี่ชาย เราก็เตรียมออกมาไล่รัฐบาลของน.ส.แพทองธารได้ทันที อย่างไรก็ตาม เรามีสิ่งต้องตามทวงถาม โดยเฉพาะกรณีชั้น 14 นอกเหนือจากการทำลายกระบวนการยุติธรรมแล้ว ยังทำลายประเทศเราด้วย ด้วยการที่มีบุคคลหนึ่งทำลายเสาหลักของระบบนิติรัฐ นิติธรรม นอกจากที่แพทยสภาแล้ว ผบ.ตร.ต้องสั่งการให้ส่งเวชระเบียนนายทักษิณไปที่ป.ป.ช.ที่มีการเรียกขอมาก่อนหน้านี้ด้วย เพราะตามหลักการแล้วหลักฐานอยู่ในมือตำรวจก็ต้องมาแสดง แต่ถ้ากลับทำลายหลักฐานเสียเอง หรือยับนิ่งเฉย ผบ.ตร.ก็ต้องลาออกด้วย นายพิชิต กล่าวต่อว่า นายทักษิณ ใช้อำนาจเหนือรัฐ เป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ไปประกาศว่า จะนำกำลังไปบุกประเทศเพื่อนบ้าน ประกาศทุบค่าไฟ ใช้อำนาจอะไรสั่งการ วันนี้ประเทศไทยมีอำนาจซ้อนอำนาจ มีอำนาจเหนือรัฐ นายทักษิณใช้อำนาจเต็มที่ กลายเป็นรัฐบาลไม่กล้าใช้อำนาจรัฐ ขณะเดียวกันวันนี้เป็นวันเด็ก มีเด็กๆไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีถ่ายรูปด้วยความภาคภูมิใจ แต่ตนบอกว่าเรามีเด็กนั่งเป็นนายกฯมานานหลายเดือนแล้ว อย่าว่าแต่เด็กไปนั่งเก้าอี้นายกฯเลย ทุกวันนี้นายกฯยังเป็นนั่งอยู่ในเก้าอี้อยู่เลย นายกฯไม่มีผลงานอะไรเด่นเลยสักเรื่อง มีเด่นอยู่อย่างเดียว คือแต่งตัวให้ถูกเขาด่าได้ทุกวันทั้งประเทศ นายพิชิต กล่าวด้วยว่า ที่นายทักษิณ บอกว่าเป็นโรคเอ็นเปื่อย ทางการแพทย์ไม่มีระบุ มันมีที่ไหน มันไม่ใช่ลูกชิ้นเนื้อเปื่อย คนเป็นโรคเอ็นเปื่อยจะไปตีกอล์ฟออกแรงสวิงได้อย่างไร คนป่วยติดเตียง 180 วันออกมามันจะแข็งแรงได้อย่างไร และที่นายทักษิณ บอกว่ายังไงก็เอาเขากลับเข้าเรือนจำไม่ได้ เมื่อความจริงปรากฎ แนวร่วมเริ่มเกิดขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุดกองกฐินที่มาเรื่อยๆจะมาไหลรวมกันที่ทำเนียบรัฐบาล มันหนีไม่ออก น.ส.แพทองธาร ก็ต้องรับผิดชอบทางการเมืองด้วยเช่นกัน “ที่นายทักษิณบอกว่าให้นำพนันออนไลน์ขึ้นมาบนดิน แล้วจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส บอกว่าสามารถทำได้ ทักษิณพูดรัฐมนตรีทำแบบนี้ไม่เรียกสั่งการครอบงำได้อย่างไร คนเห็นทั้งประเทศ ที่มองไม่เห็นอยู่ 5 คนคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. วันนี้กกต.เริ่มพูด การหาเสียงท้องถิ่นหากไปพูดนโยบายรัฐ สุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย เข้าข่ายการซื้อเสียงผ่านนโยบายรัฐหรือไม่ เราก็ไปยื่นให้กกต.ตรวจสอบแล้ว ตามสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ พอเข้าไปตรวจสอบ ก็หาว่าก่อความวุ่นวาย ตกลงจะให้เราจะนั่งอยู่เฉยๆ ปล่อยให้พวกคุณโกงกันหรือไง พอเข้าไปตรวจสอบตามระบบ ก็บอกว่าจะฟ้องกลับ ผมก็ยินดี คดีผมเยอะแล้ว เพิ่มอีกคดีไม่เห็นเป็นอะไร“ แกนนำคปท. กล่าว ที่มา : แนวหน้า https://www.naewna.com/politic/852717?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR19m8JG0ju8L-nNUgU4KBHxiBlnVnUyNAETuDlRU-38FCSvoWDScdrkQ5A_aem_xZPNNwpQAvULZKuNZxIqKQ#nwrsmlxrnogt5ygxo7xkpqorilo2jdzh
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 928 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเห็นอกเห็นใจจุดยืนของรัสเซีย ที่คัดค้านยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และเสียดายที่ไม่มีโอกาสพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ก่อนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
    .
    ระหว่างการแถลงข่าวที่รีสอร์ตมาร์อาลาโกของเขา ในปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ทรัมป์ยังกล่าวโทษ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีที่กำลังพ้นตำแหน่ง ต่อการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของอเมริกา ในประเด็นสถานภาพสมาชิกนาโตของยูเครน
    .
    "ส่วนใหญ่ของปัญหานี้ก็คือ รัสเซีย ตั้งแต่หลายปีก่อนหน้า ปูติน พวกเขาบอกว่า คุณไม่ควรมีนาโตที่เกี่ยวข้องกับยูเครน ตอนนี้พวกเขาก็พูดแบบนั้น มันเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แล้วจู่ๆ วันหนึ่ง ไบเดน ก็พูดขึ้นว่า พวกเขาควรมีสิทธิเข้าร่วมนาโต เท่ากับว่าจู่ๆ รัสเซียก็มีใครบางคนมายืนอยู่ตรงบันไดหน้าบ้าน และผมเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาดีเกี่ยวกับเรื่องนี้"
    .
    บรรดาสมาชิกนาโต แสดงจุดยืนอย่างเป็นทางการสนับสนุนสถานภาพความเป็นสมาชิกของยูเครน นับตั้งแต่ที่ประชุมซัมมิตในบูคาเรตส์ ปี 2008 และรัฐบาลของไบเดน เดินหน้าให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ต่อการที่ยูเครนจะได้เข้าร่วมนาโตในท้ายที่สุด อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันเคียฟยังไม่เคยได้รับเชิญใดๆ
    .
    บรรดาผู้ช่วยและพันธมิตรของทรัมป์ โดยทั่วไปแล้วคัดค้านสถานภาพความเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน อย่างน้อยๆ ก็ในอนาคตอันใกล้ มองว่ามันเป็นการยั่วยุรัสเซียโดยไม่จำเป็น แต่ทางพวกผู้นำยูเครน ยังคงผลักดันเชิงรุกให้นาโตออกคำเชิญ อ้างว่ามันเป็นกุญแจสำคัญสำหรับป้องปรมการรุกรานใดๆ ของมอสโกในอนาคต
    .
    ทรัมป์ เคยกล่าวระหว่างหาเสียงก่อนศึกเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายน ว่าเขาจะคลี่คลายสงครามในยูเครนในทันที แม้กระทั่งก่อนนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ แม้เวลานี้เขายังคงเน้นย้ำว่าจะหาทางออกของวิกฤตนี้อย่างรวดเร็ว แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาเลิกพูดถึงกรอบเวลาดังกล่าว และเวลานี้เหลืออีกแค่ไม่ถึง 2 สัปดาห์ เขาก็จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง
    .
    เมื่อถูกถามว่าเขาจะคลี่คลายสงครามได้ภายในครึ่งปีหรือไม่ ทรัมป์ ตอบว่า "ผมหวังว่ามันจะเกิดขึ้นใน 6 เดือนหรือไม่ ไม่ ผมหวังมานานว่ามันจะเกิดขึ้นก่อน 6 เดือน" ทรัมป์ ระบุ พร้อมบอกต่อว่า "คุณดูสิ รัสเซียสูญเสียคนหนุ่มสาวจำนวนมาก ยูเครนก็เช่นกัน มันไม่ควรเริ่มต้นขึ้นด้วยซ้ำ"
    .
    นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ยังคร่ำครวญว่าเขาคงไม่สามารถพบปะกับ ปูติน ก่อนหน้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เนื่องจากการพบเจอดังกล่าวจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม "ผมรู้ว่า ปูติน อยากพบปะพูดคุยกัน แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่ผมจะพบกับเขา จนกว่าจะหลังจากวันที่ 20 มกราคม ผมไม่ชอบเลย เพราะว่า คุณก็รู้ว่า ในทุกๆ วัน มีคนหนุ่มสาวเสียชีวิตมากมายเหลือเกิน"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001964
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเห็นอกเห็นใจจุดยืนของรัสเซีย ที่คัดค้านยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และเสียดายที่ไม่มีโอกาสพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ก่อนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง . ระหว่างการแถลงข่าวที่รีสอร์ตมาร์อาลาโกของเขา ในปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ทรัมป์ยังกล่าวโทษ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีที่กำลังพ้นตำแหน่ง ต่อการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของอเมริกา ในประเด็นสถานภาพสมาชิกนาโตของยูเครน . "ส่วนใหญ่ของปัญหานี้ก็คือ รัสเซีย ตั้งแต่หลายปีก่อนหน้า ปูติน พวกเขาบอกว่า คุณไม่ควรมีนาโตที่เกี่ยวข้องกับยูเครน ตอนนี้พวกเขาก็พูดแบบนั้น มันเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แล้วจู่ๆ วันหนึ่ง ไบเดน ก็พูดขึ้นว่า พวกเขาควรมีสิทธิเข้าร่วมนาโต เท่ากับว่าจู่ๆ รัสเซียก็มีใครบางคนมายืนอยู่ตรงบันไดหน้าบ้าน และผมเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาดีเกี่ยวกับเรื่องนี้" . บรรดาสมาชิกนาโต แสดงจุดยืนอย่างเป็นทางการสนับสนุนสถานภาพความเป็นสมาชิกของยูเครน นับตั้งแต่ที่ประชุมซัมมิตในบูคาเรตส์ ปี 2008 และรัฐบาลของไบเดน เดินหน้าให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ต่อการที่ยูเครนจะได้เข้าร่วมนาโตในท้ายที่สุด อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันเคียฟยังไม่เคยได้รับเชิญใดๆ . บรรดาผู้ช่วยและพันธมิตรของทรัมป์ โดยทั่วไปแล้วคัดค้านสถานภาพความเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน อย่างน้อยๆ ก็ในอนาคตอันใกล้ มองว่ามันเป็นการยั่วยุรัสเซียโดยไม่จำเป็น แต่ทางพวกผู้นำยูเครน ยังคงผลักดันเชิงรุกให้นาโตออกคำเชิญ อ้างว่ามันเป็นกุญแจสำคัญสำหรับป้องปรมการรุกรานใดๆ ของมอสโกในอนาคต . ทรัมป์ เคยกล่าวระหว่างหาเสียงก่อนศึกเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายน ว่าเขาจะคลี่คลายสงครามในยูเครนในทันที แม้กระทั่งก่อนนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ แม้เวลานี้เขายังคงเน้นย้ำว่าจะหาทางออกของวิกฤตนี้อย่างรวดเร็ว แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาเลิกพูดถึงกรอบเวลาดังกล่าว และเวลานี้เหลืออีกแค่ไม่ถึง 2 สัปดาห์ เขาก็จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง . เมื่อถูกถามว่าเขาจะคลี่คลายสงครามได้ภายในครึ่งปีหรือไม่ ทรัมป์ ตอบว่า "ผมหวังว่ามันจะเกิดขึ้นใน 6 เดือนหรือไม่ ไม่ ผมหวังมานานว่ามันจะเกิดขึ้นก่อน 6 เดือน" ทรัมป์ ระบุ พร้อมบอกต่อว่า "คุณดูสิ รัสเซียสูญเสียคนหนุ่มสาวจำนวนมาก ยูเครนก็เช่นกัน มันไม่ควรเริ่มต้นขึ้นด้วยซ้ำ" . นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ยังคร่ำครวญว่าเขาคงไม่สามารถพบปะกับ ปูติน ก่อนหน้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เนื่องจากการพบเจอดังกล่าวจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม "ผมรู้ว่า ปูติน อยากพบปะพูดคุยกัน แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่ผมจะพบกับเขา จนกว่าจะหลังจากวันที่ 20 มกราคม ผมไม่ชอบเลย เพราะว่า คุณก็รู้ว่า ในทุกๆ วัน มีคนหนุ่มสาวเสียชีวิตมากมายเหลือเกิน" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001964 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1022 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัดปรับเก้าอี้พีระพันธุ์ - ตั้งเป้าค่าไฟ 3.70 บาท (07/01/68) #news1 #ลดค่าไฟฟ้า #ปรับครม.
    ปัดปรับเก้าอี้พีระพันธุ์ - ตั้งเป้าค่าไฟ 3.70 บาท (07/01/68) #news1 #ลดค่าไฟฟ้า #ปรับครม.
    Haha
    Love
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1395 มุมมอง 46 0 รีวิว
  • จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ยืนยันว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังอยู่ในอำนาจมา 9 ปี ยอมจำนนต่อแรงกดดันจากบรรดาสมาชิกรัฐสภาจากพรรคลิเบอรัลของเขาเอง
    .
    ทรูโด ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำหัวก้าวหน้าที่โดดเด่นที่สุดในโลก กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่าเขาจะยังอยู่ในตำแหน่งทั้งนายกรัฐมนตรีและผู้นำพรรคลิเบอรัลต่อไป จนกว่าพรรคจะเลือกผู้นำคนหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
    .
    "ประเทศแห่งนี้ควรได้เลือกอย่างแท้จริงในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า และมันชัดเจนกับผมว่า ถ้าผมอยากต่อสู้ภายใน ผมคงไม่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในศึกเลือกตั้งดังกล่าว" ทรูโดกล่าว
    .
    อย่างไรก็ตาม ด้วยที่เขาบอกเช่นกันว่ารัฐสภาจะปิดสมัยการประชุมไปจนถึงวันที่ 24 มีนาคม ศึกเลือกตั้งอย่างเร็วที่สุดไม่น่าจะเกิดขึ้นก่อนเดือนพฤษภาคม ดังนั้น ทรูโด จึงจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป อย่างน้อยๆ ในเบื้องต้น เพื่อรับมือกับคำขู่รีดภาษีของว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีกำหนดสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
    .
    เดิมทีศึกเลือกตั้งครั้งถัดไปมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม และผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ แสดงให้เห็นว่าความโกรธเคืองของประชาชนต่อราคาที่พุ่งสูงและขาดแคลนบ้านในราคาที่เอื้อมถึง จะผลักพวกเขาหันไปเลือกพรรคคอนเซอร์เวทีฟ พรรคฝ่ายค้านและมอบความพ่ายแพ้แก่พรรคลิเบอรัล ไม่สำคัญว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนพรรค
    .
    ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาสมาชิกพรรคลิเบอรัลเอง เรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ ทรูโด ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากรัฐมนตรีคลังของเขาลาออกไป และกล่าวหาเขาพยายามใช้ลูกเล่นทางการเมืองเพื่อหวังดึงคะแนนนิยมกลับมา
    .
    ทรูโด วัย 53 ปี เข้ารับตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน 2015 ด้วยสารแห่งความหวัง และชนะเลือกตั้ง 2 รอบ กลายเป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่ครองเก้าอี้ยาวนานที่สุดของแคนาดา และได้รับเสียงชื่นชมจากบรรดาพวกหัวก้าวหน้าทั้งหลาย ต่อกรณีที่มุ่งเน้นนโยบายความเสมอภาคทางเพศ
    .
    อย่างไรก็ตาม คะแนนนิยมของเขาดำดิ่งลงเมื่อราว 2 ปีก่อน ท่ามกลางราคาสินค้าและบ้านที่พุ่งสูงในยุคหลังโควิด-19 และนับตั้งแต่นั้นคะแนนนิยมของเขาก็ไม่ฟื้นกลับมาอีกเลย
    .
    ผลสำรวจความคิดเห็นของอิปซอส แคนาดา ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พบว่าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่ตัดสินใจแล้วถึง 45% ขณะที่พรรคลิเบอรัลและพรรคนิวเดโมแครตส์ หัวเอียงซ้าย มีเสียงสนับสนุนพรรคละ 20% ซึ่งหากผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ มันจะหมายความว่าพรรคอนุรักษนิยมจะคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001574
    ..............
    Sondhi X
    จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ยืนยันว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังอยู่ในอำนาจมา 9 ปี ยอมจำนนต่อแรงกดดันจากบรรดาสมาชิกรัฐสภาจากพรรคลิเบอรัลของเขาเอง . ทรูโด ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำหัวก้าวหน้าที่โดดเด่นที่สุดในโลก กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่าเขาจะยังอยู่ในตำแหน่งทั้งนายกรัฐมนตรีและผู้นำพรรคลิเบอรัลต่อไป จนกว่าพรรคจะเลือกผู้นำคนหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า . "ประเทศแห่งนี้ควรได้เลือกอย่างแท้จริงในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า และมันชัดเจนกับผมว่า ถ้าผมอยากต่อสู้ภายใน ผมคงไม่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในศึกเลือกตั้งดังกล่าว" ทรูโดกล่าว . อย่างไรก็ตาม ด้วยที่เขาบอกเช่นกันว่ารัฐสภาจะปิดสมัยการประชุมไปจนถึงวันที่ 24 มีนาคม ศึกเลือกตั้งอย่างเร็วที่สุดไม่น่าจะเกิดขึ้นก่อนเดือนพฤษภาคม ดังนั้น ทรูโด จึงจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป อย่างน้อยๆ ในเบื้องต้น เพื่อรับมือกับคำขู่รีดภาษีของว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีกำหนดสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม . เดิมทีศึกเลือกตั้งครั้งถัดไปมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม และผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ แสดงให้เห็นว่าความโกรธเคืองของประชาชนต่อราคาที่พุ่งสูงและขาดแคลนบ้านในราคาที่เอื้อมถึง จะผลักพวกเขาหันไปเลือกพรรคคอนเซอร์เวทีฟ พรรคฝ่ายค้านและมอบความพ่ายแพ้แก่พรรคลิเบอรัล ไม่สำคัญว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนพรรค . ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาสมาชิกพรรคลิเบอรัลเอง เรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ ทรูโด ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากรัฐมนตรีคลังของเขาลาออกไป และกล่าวหาเขาพยายามใช้ลูกเล่นทางการเมืองเพื่อหวังดึงคะแนนนิยมกลับมา . ทรูโด วัย 53 ปี เข้ารับตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน 2015 ด้วยสารแห่งความหวัง และชนะเลือกตั้ง 2 รอบ กลายเป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่ครองเก้าอี้ยาวนานที่สุดของแคนาดา และได้รับเสียงชื่นชมจากบรรดาพวกหัวก้าวหน้าทั้งหลาย ต่อกรณีที่มุ่งเน้นนโยบายความเสมอภาคทางเพศ . อย่างไรก็ตาม คะแนนนิยมของเขาดำดิ่งลงเมื่อราว 2 ปีก่อน ท่ามกลางราคาสินค้าและบ้านที่พุ่งสูงในยุคหลังโควิด-19 และนับตั้งแต่นั้นคะแนนนิยมของเขาก็ไม่ฟื้นกลับมาอีกเลย . ผลสำรวจความคิดเห็นของอิปซอส แคนาดา ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พบว่าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่ตัดสินใจแล้วถึง 45% ขณะที่พรรคลิเบอรัลและพรรคนิวเดโมแครตส์ หัวเอียงซ้าย มีเสียงสนับสนุนพรรคละ 20% ซึ่งหากผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ มันจะหมายความว่าพรรคอนุรักษนิยมจะคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001574 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1026 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts