• "อิ๊งค์" ปัดตอบปมหุ้นรูดแตะ 1,200 จุด มีแนวทางที่จะปลุกตลาดหุ้นขึ้นมาอย่างไร แค่ยิ้มพร้อมพยักหน้า ก่อนเดินออกไปโดยไม่ตอบคำถามใดๆ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000018576

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "อิ๊งค์" ปัดตอบปมหุ้นรูดแตะ 1,200 จุด มีแนวทางที่จะปลุกตลาดหุ้นขึ้นมาอย่างไร แค่ยิ้มพร้อมพยักหน้า ก่อนเดินออกไปโดยไม่ตอบคำถามใดๆ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000018576 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Sad
    2
    1 Comments 0 Shares 273 Views 0 Reviews
  • บางส่วนที่ปูตินตอบคำถามระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย:

    - รัสเซียพร้อมที่จะมอบโอกาสให้สหรัฐฯ ได้ทำงานร่วมกันในด้านแร่ธาตุหายาก

    - เซเลนสกีไม่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งหากเขาลงแข่งขัน คะแนนนิยมของเซเลนสกีต่ำกว่า "ซาลูซนีย์" (อดีตผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพยูเครน) ถึงสองเท่า

    - รัสเซียไม่ได้ต่อต้านการรักษาสถานะความเป็นรัฐของยูเครน แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ใช้ดินแดนยูเครนเป็นภัยคุกคามต่อมอสโก

    - รัสเซียพร้อมหารือกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลดงบประมาณกลาโหม การลดงบประมาณลง 50% ถือเป็นความคิดที่ดี

    - รัสเซียพร้อมที่จะเสนอความร่วมมือด้านแร่หายากแก่หุ้นส่วนต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ โดยยกตัวอย่าง เช่น อาจเป็นความร่วมมือกันในโครงการขุดอะลูมิเนียม เช่น ในเขตครัสโนยาสก์ ซึ่งคาดว่าจะมีอยู่ราว 2 ล้านตันให้กับตลาดสหรัฐฯ ซึ่งอาจสร้างเม็ดเงินได้ถึง 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าสู่เศรษฐกิจของรัสเซีย หรือแม้แต่แร่หายากอื่นๆในภูมิภาคใหม่ทั้งสี่

    - โดยพื้นฐานแล้ว การแก้ไขความขัดแย้งในยูเครนยังไม่ได้มีการหารือกับทรัมป์อย่างจริงจัง

    - ผู้นำสหภาพยุโรปชุดปัจจุบันมุ่งมั่นกับระบอบเคียฟมากเกินไป จนไม่อาจถอนตัวจากจุดยืนนี้ได้โดยไม่เสียหน้า

    - ปูตินไม่ขัดขวางหากยุโรปจะเข้าร่วมในกระบวนการเจรจา พวกเขาเพียงแค่ปฏิเสธไม่อยากเข้าร่วมเอง

    - เกี่ยวกับยุโรปและคำขาดของพวกเขา: “ปล่อยให้พวกเขาอยู่กับข้อเรียกร้องเหล่านั้น และให้พวกเขาได้คิดว่าพวกเขาลงเอยแบบนี้ได้อย่างไร”
    บางส่วนที่ปูตินตอบคำถามระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย: - รัสเซียพร้อมที่จะมอบโอกาสให้สหรัฐฯ ได้ทำงานร่วมกันในด้านแร่ธาตุหายาก - เซเลนสกีไม่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งหากเขาลงแข่งขัน คะแนนนิยมของเซเลนสกีต่ำกว่า "ซาลูซนีย์" (อดีตผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพยูเครน) ถึงสองเท่า - รัสเซียไม่ได้ต่อต้านการรักษาสถานะความเป็นรัฐของยูเครน แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ใช้ดินแดนยูเครนเป็นภัยคุกคามต่อมอสโก - รัสเซียพร้อมหารือกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลดงบประมาณกลาโหม การลดงบประมาณลง 50% ถือเป็นความคิดที่ดี - รัสเซียพร้อมที่จะเสนอความร่วมมือด้านแร่หายากแก่หุ้นส่วนต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ โดยยกตัวอย่าง เช่น อาจเป็นความร่วมมือกันในโครงการขุดอะลูมิเนียม เช่น ในเขตครัสโนยาสก์ ซึ่งคาดว่าจะมีอยู่ราว 2 ล้านตันให้กับตลาดสหรัฐฯ ซึ่งอาจสร้างเม็ดเงินได้ถึง 15,000 ล้านดอลลาร์เข้าสู่เศรษฐกิจของรัสเซีย หรือแม้แต่แร่หายากอื่นๆในภูมิภาคใหม่ทั้งสี่ - โดยพื้นฐานแล้ว การแก้ไขความขัดแย้งในยูเครนยังไม่ได้มีการหารือกับทรัมป์อย่างจริงจัง - ผู้นำสหภาพยุโรปชุดปัจจุบันมุ่งมั่นกับระบอบเคียฟมากเกินไป จนไม่อาจถอนตัวจากจุดยืนนี้ได้โดยไม่เสียหน้า - ปูตินไม่ขัดขวางหากยุโรปจะเข้าร่วมในกระบวนการเจรจา พวกเขาเพียงแค่ปฏิเสธไม่อยากเข้าร่วมเอง - เกี่ยวกับยุโรปและคำขาดของพวกเขา: “ปล่อยให้พวกเขาอยู่กับข้อเรียกร้องเหล่านั้น และให้พวกเขาได้คิดว่าพวกเขาลงเอยแบบนี้ได้อย่างไร”
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • มีการประท้วงทั่วประเทศที่มุ่งโจมตี Elon Musk และบริษัท Tesla ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว การเคลื่อนไหวนี้เน้นที่การส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของ Tesla และเพื่อตอบโต้มุมมองทางการเมืองของ Musk ที่ออกมาต่อต้านหลายสิ่ง

    เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2025 การประท้วงในซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ได้รวมกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนที่ชุมนุมกันที่ทางเข้าห้างสรรพสินค้า University Village รวมถึงหน้าร้านโชว์รูมของ Tesla เป้าหมายของการเคลื่อนไหวนี้คือการเรียกร้องให้คนขายรถ Tesla และขายหุ้น Tesla เพื่อกดดันให้ราคาหุ้นตก

    หนึ่งในผู้จัดงานคือ Alex Winter นักแสดงและผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง เขากล่าวว่า "การเคลื่อนไหวนี้มีเป้าหมายเพื่อเตือนผู้ถือหุ้นและประชาชนว่า Tesla เป็นส่วนสำคัญในมูลค่าของ Musk และการประท้วงนี้อาจส่งผลให้ราคาหุ้นของ Tesla ตกลง"

    Tesla ซึ่ง Musk ดำรงตำแหน่ง CEO ตั้งแต่ปี 2008 มีมูลค่าตลาดกว่า 1.14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และ Musk ถือหุ้นประมาณ 13% ของบริษัท ที่มูลค่าประมาณ 73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การประท้วงครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงกดดันต่อบริษัทและทำให้มูลค่าหุ้นลดลง ส่งผลกระทบต่อมูลค่าของ Musk

    แม้ว่าราคาหุ้น Tesla จะลดลงถึง 15% ในเดือนที่ผ่านมา แต่หุ้น Tesla ยังมีสุขภาพดีในระยะยาว ในปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นได้เพิ่มขึ้น 87% และปัจจุบันอยู่ที่ 360 ดอลลาร์สหรัฐ แต่บริษัทกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากตลาด ในยุโรป ยอดขายของ Tesla ลดลง 59% ในเยอรมนี และ 63% ในฝรั่งเศสเมื่อเทียบปีต่อปี

    รายได้สุทธิของ Tesla ในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 ลดลง 71% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลงจาก 7.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลือเพียง 2.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    การเคลื่อนไหวประท้วงนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระแสความไม่พอใจต่อบริษัทขนาดใหญ่ เช่น การประท้วง Bud-Light ในปี 2023 และการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Target ที่เกิดจากแรงกดดันจากผู้บริโภค

    เป้าหมายของการประท้วงนี้คือการกดดันให้ผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการบริหารของ Tesla พิจารณาถึงความเสี่ยงและผลกระทบจากการเป็นผู้นำของ Musk

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/24/the-tesla-takedown-has-begun-a-national-protest-movement-seeks-to-strike-a-blow-to-elon-musks-net-worth
    มีการประท้วงทั่วประเทศที่มุ่งโจมตี Elon Musk และบริษัท Tesla ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว การเคลื่อนไหวนี้เน้นที่การส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของ Tesla และเพื่อตอบโต้มุมมองทางการเมืองของ Musk ที่ออกมาต่อต้านหลายสิ่ง เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2025 การประท้วงในซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ได้รวมกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนที่ชุมนุมกันที่ทางเข้าห้างสรรพสินค้า University Village รวมถึงหน้าร้านโชว์รูมของ Tesla เป้าหมายของการเคลื่อนไหวนี้คือการเรียกร้องให้คนขายรถ Tesla และขายหุ้น Tesla เพื่อกดดันให้ราคาหุ้นตก หนึ่งในผู้จัดงานคือ Alex Winter นักแสดงและผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง เขากล่าวว่า "การเคลื่อนไหวนี้มีเป้าหมายเพื่อเตือนผู้ถือหุ้นและประชาชนว่า Tesla เป็นส่วนสำคัญในมูลค่าของ Musk และการประท้วงนี้อาจส่งผลให้ราคาหุ้นของ Tesla ตกลง" Tesla ซึ่ง Musk ดำรงตำแหน่ง CEO ตั้งแต่ปี 2008 มีมูลค่าตลาดกว่า 1.14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และ Musk ถือหุ้นประมาณ 13% ของบริษัท ที่มูลค่าประมาณ 73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การประท้วงครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงกดดันต่อบริษัทและทำให้มูลค่าหุ้นลดลง ส่งผลกระทบต่อมูลค่าของ Musk แม้ว่าราคาหุ้น Tesla จะลดลงถึง 15% ในเดือนที่ผ่านมา แต่หุ้น Tesla ยังมีสุขภาพดีในระยะยาว ในปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นได้เพิ่มขึ้น 87% และปัจจุบันอยู่ที่ 360 ดอลลาร์สหรัฐ แต่บริษัทกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากตลาด ในยุโรป ยอดขายของ Tesla ลดลง 59% ในเยอรมนี และ 63% ในฝรั่งเศสเมื่อเทียบปีต่อปี รายได้สุทธิของ Tesla ในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 ลดลง 71% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลงจาก 7.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลือเพียง 2.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การเคลื่อนไหวประท้วงนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระแสความไม่พอใจต่อบริษัทขนาดใหญ่ เช่น การประท้วง Bud-Light ในปี 2023 และการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Target ที่เกิดจากแรงกดดันจากผู้บริโภค เป้าหมายของการประท้วงนี้คือการกดดันให้ผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการบริหารของ Tesla พิจารณาถึงความเสี่ยงและผลกระทบจากการเป็นผู้นำของ Musk https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/24/the-tesla-takedown-has-begun-a-national-protest-movement-seeks-to-strike-a-blow-to-elon-musks-net-worth
    WWW.THESTAR.COM.MY
    The Tesla takedown has begun. A national protest movement seeks to strike a blow to Elon Musk’s net worth
    As DOGE barrels through D.C., Americans on the ground are starting to mobilize outside Tesla dealerships.
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • ดีลทักษิณ-เนวินไม่เกิด แต่คิงเพาเวอร์ขาดทุนจริง

    สะพัดตั้งแต่เช้าวันที่ 24 ก.พ. รายงานข่าวแจ้งว่า นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย จะนัดเจอกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นลูกสาว เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเอาพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

    แต่พอเอาเข้าจริงกลับพบภาพของนายเนวิน ไปที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) เพียงคนเดียว โดยที่สื่อบางสำนักระบุว่าดีลล่ม ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ซึ่งไปปฎิบัติภารกิจที่ช่อง 11 ถนนวิภาวดีรังสิต ปฎิเสธพร้อมกล่าวว่า ไม่ไป จะกลับบ้าน ไปหาน้องธาษิณ (ลูกชาย) และคิดว่านายทักษิณไม่น่าจะไป ส่วนนายอนุทิน ไปรับเสด็จที่วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม อ.แม่จัน จ.เชียงราย ไม่รู้เรื่องข่าวนี้ และระบุว่าการที่นายเนวินไปโรงแรมพูลแมนฯ เป็นเรื่องปกติ

    อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุด้วยว่าในการพบกันระหว่าง "ทักษิณ-เนวิน" ซึ่งภายหลังก็ไม่ได้เจอกัน จะมีนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ทายาทนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าพ่อดิวตี้ฟรี เข้าร่วมพูดคุยด้วย โดยเป็นที่น่าจับตามองว่า อาจจะมีการเจรจาด้านธุรกิจ เนื่องจากรายงานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) ระบุว่า คิง เพาเวอร์ ประสบกับปัญหาขาดทุนกว่า 651 ล้านบาท

    แม้ดีลระหว่าง "ทักษิณ-เนวิน" จะไม่เกิดขึ้น แต่เรื่องที่ คิง เพาเวอร์ขาดทุนเป็นเรื่องจริง ก่อนหน้านี้ นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ระบุว่า รายได้ของ AOT มีปัญหาเพราะผู้รับสัมปทานเช่าพื้นที่ ซึ่งหมายถึง คิง เพาเวอร์ ซึ่งรับสัมปทานร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) 4 สนามบิน มีปัญหาขาดสภาพคล่อง ขอยืดเวลาการชำระผลตอบแทนขั้นต่ำออกไปเป็นระยะเวลา 18 เดือน โดยยอมจ่ายค่าปรับ 18% ต่อปี ทำเอาราคาหุ้น AOT ร่วงลงมา

    แต่ถึงกระนั้น นายอัยยวัฒน์เคยยืนยันกับสื่อค่ายยักษ์แห่งหนึ่งว่า การขอเลื่อนเวลาชำระค่าตอบแทน เป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหา ผู้ประกอบการหลายรายยื่นขอเลื่อนการจ่ายค่าตอบแทน เพราะรายได้ที่ประเมินไว้ไม่เข้าเป้า ที่ผ่านมารายได้ที่หายไปในช่วงโควิด ถึงวันนี้ยังไม่กลับมา ยังมีกรณีของดาราจีน "ซิง ซิง" ที่ถูกหลอกลวงไปเมียนมา เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหยุดเดินทางมาไทย ในฐานะผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องขอความกรุณาและช่วยเหลือจากรัฐ

    #Newskit
    ดีลทักษิณ-เนวินไม่เกิด แต่คิงเพาเวอร์ขาดทุนจริง สะพัดตั้งแต่เช้าวันที่ 24 ก.พ. รายงานข่าวแจ้งว่า นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย จะนัดเจอกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นลูกสาว เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเอาพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่พอเอาเข้าจริงกลับพบภาพของนายเนวิน ไปที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) เพียงคนเดียว โดยที่สื่อบางสำนักระบุว่าดีลล่ม ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ซึ่งไปปฎิบัติภารกิจที่ช่อง 11 ถนนวิภาวดีรังสิต ปฎิเสธพร้อมกล่าวว่า ไม่ไป จะกลับบ้าน ไปหาน้องธาษิณ (ลูกชาย) และคิดว่านายทักษิณไม่น่าจะไป ส่วนนายอนุทิน ไปรับเสด็จที่วัดหมื่นพุทธเมตตาคุณาราม อ.แม่จัน จ.เชียงราย ไม่รู้เรื่องข่าวนี้ และระบุว่าการที่นายเนวินไปโรงแรมพูลแมนฯ เป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุด้วยว่าในการพบกันระหว่าง "ทักษิณ-เนวิน" ซึ่งภายหลังก็ไม่ได้เจอกัน จะมีนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ทายาทนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าพ่อดิวตี้ฟรี เข้าร่วมพูดคุยด้วย โดยเป็นที่น่าจับตามองว่า อาจจะมีการเจรจาด้านธุรกิจ เนื่องจากรายงานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) ระบุว่า คิง เพาเวอร์ ประสบกับปัญหาขาดทุนกว่า 651 ล้านบาท แม้ดีลระหว่าง "ทักษิณ-เนวิน" จะไม่เกิดขึ้น แต่เรื่องที่ คิง เพาเวอร์ขาดทุนเป็นเรื่องจริง ก่อนหน้านี้ นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ระบุว่า รายได้ของ AOT มีปัญหาเพราะผู้รับสัมปทานเช่าพื้นที่ ซึ่งหมายถึง คิง เพาเวอร์ ซึ่งรับสัมปทานร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) 4 สนามบิน มีปัญหาขาดสภาพคล่อง ขอยืดเวลาการชำระผลตอบแทนขั้นต่ำออกไปเป็นระยะเวลา 18 เดือน โดยยอมจ่ายค่าปรับ 18% ต่อปี ทำเอาราคาหุ้น AOT ร่วงลงมา แต่ถึงกระนั้น นายอัยยวัฒน์เคยยืนยันกับสื่อค่ายยักษ์แห่งหนึ่งว่า การขอเลื่อนเวลาชำระค่าตอบแทน เป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหา ผู้ประกอบการหลายรายยื่นขอเลื่อนการจ่ายค่าตอบแทน เพราะรายได้ที่ประเมินไว้ไม่เข้าเป้า ที่ผ่านมารายได้ที่หายไปในช่วงโควิด ถึงวันนี้ยังไม่กลับมา ยังมีกรณีของดาราจีน "ซิง ซิง" ที่ถูกหลอกลวงไปเมียนมา เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหยุดเดินทางมาไทย ในฐานะผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องขอความกรุณาและช่วยเหลือจากรัฐ #Newskit
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
  • ไมโรสลาฟ โอเลชโก (Myroslav Oleshko) บล็อกเกอร์ชาวยูเครนโพสต์วิดีพร้อมคำบรรยายเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ยูเครนที่บังคับจับชายชาวยูเครนเข้าสู่แนวหน้า หรือบางครั้งรีดไถเงินเพื่อไม่ต้องถูกส่งตัวเข้าแนวหน้า:

    ชาวอเมริกันและยุโรป จงดูวิดีโอนี้!
    นี่คือยูเครนของผม ประเทศที่ผู้คนถูกลักพาตัวบนท้องถนน ถูกจับขังไว้ในห้องใต้ดิน แล้วปล่อยให้อดอาหารและน้ำ เพื่อบังคับให้พวกเขาเข้าสู่แนวหน้า

    บางรายจะถูกข่มขู่รีดไถเงินระหว่าง 5,000 ถึง 20,000 ดอลลาร์ เพื่อแลกกับการไปเสี่ยงชีวิตที่แนวหน้า และถ้าหากไม่ยอมจ่ายเงิน แน่นอนว่าจุดหมายปลายทางของพวกเขาคือแนวหน้าของสงคราม

    หลายคนถูกต้องจบชีวิตลงที่แนวหน้าจากการปลิดชีวิตตัวเอง เนื่องจากความยากจน ไม่มีเงินจ่ายในการหลบเลี่ยงสู่แนวหน้า

    สื่อของพวกคุณคงไม่มีใครรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้หรอก เพราะพวกเขากำลังโกหกคุณ นักการเมืองของพวกคุณก็โกหกเช่นกัน เพื่อช่วยกันปกป้องเผด็จการเซเลนสกี ซึ่งตอนนี้ได้แซงหน้ารัสเซียไปแล้ว

    ขณะนี้ผู้ชายยูเครนจำนวนมากกลัวการออกไปนอกบ้าน ส่วนผู้หญิงที่มีลูกชายในวัย 17 ปี กำลังหาทางหนีออกนอกประเทศอย่างสิ้นหวัง เพราะพรมแดนของเราถูกปิดสำหรับทุกคน ยกเว้นเพื่อนและหุ้นส่วนทางธุรกิจของเซเลนสกี

    ส่วนชาวยูเครนคนไหนที่ยอมเสี่ยงหลบหนีข้ามพรมแดนผ่านภูเขาและทุ่งนาจะถูกสังหารทันที

    ผู้ที่ต้อต้านเซเลนสกี รวมทั้งตัวผมเอง ต้องเผชิญกับคดีอาญาที่ถูกจัดฉากขึ้น บางรายถูกจับกุม และถูกทรมานในเรือนจำเพื่อบังคับให้รับสารภาพจากข้อหาที่พวกเขาไม่ได้ทำ

    และหากผู้ต่อต้านเหล่านั้น หลบหนีออกนอกประเทศไปได้ เซเลนสกีจะจับกุมญาติของพวกเขาและตั้งขอหา เช่น แม่ เพียงแค่แชร์วิดีโอบน Facebook ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล

    เราต้องการการเลือกตั้ง ความจริงที่ว่าผู้นำสหภาพยุโรปประกาศในวันนี้ว่าพวกเขาสนับสนุนการตัดสินใจของเซเลนสกีที่จะไม่จัดการเลือกตั้งนั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก พวกเขากำลังสนับสนุนการสังหาร การจับกุม และการทรมานผู้คนเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนโยนความผิดไปให้ทางรัสเซีย”



    ไมโรสลาฟ โอเลชโก (Myroslav Oleshko) บล็อกเกอร์ชาวยูเครนโพสต์วิดีพร้อมคำบรรยายเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ยูเครนที่บังคับจับชายชาวยูเครนเข้าสู่แนวหน้า หรือบางครั้งรีดไถเงินเพื่อไม่ต้องถูกส่งตัวเข้าแนวหน้า: ชาวอเมริกันและยุโรป จงดูวิดีโอนี้! นี่คือยูเครนของผม ประเทศที่ผู้คนถูกลักพาตัวบนท้องถนน ถูกจับขังไว้ในห้องใต้ดิน แล้วปล่อยให้อดอาหารและน้ำ เพื่อบังคับให้พวกเขาเข้าสู่แนวหน้า บางรายจะถูกข่มขู่รีดไถเงินระหว่าง 5,000 ถึง 20,000 ดอลลาร์ เพื่อแลกกับการไปเสี่ยงชีวิตที่แนวหน้า และถ้าหากไม่ยอมจ่ายเงิน แน่นอนว่าจุดหมายปลายทางของพวกเขาคือแนวหน้าของสงคราม หลายคนถูกต้องจบชีวิตลงที่แนวหน้าจากการปลิดชีวิตตัวเอง เนื่องจากความยากจน ไม่มีเงินจ่ายในการหลบเลี่ยงสู่แนวหน้า สื่อของพวกคุณคงไม่มีใครรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้หรอก เพราะพวกเขากำลังโกหกคุณ นักการเมืองของพวกคุณก็โกหกเช่นกัน เพื่อช่วยกันปกป้องเผด็จการเซเลนสกี ซึ่งตอนนี้ได้แซงหน้ารัสเซียไปแล้ว ขณะนี้ผู้ชายยูเครนจำนวนมากกลัวการออกไปนอกบ้าน ส่วนผู้หญิงที่มีลูกชายในวัย 17 ปี กำลังหาทางหนีออกนอกประเทศอย่างสิ้นหวัง เพราะพรมแดนของเราถูกปิดสำหรับทุกคน ยกเว้นเพื่อนและหุ้นส่วนทางธุรกิจของเซเลนสกี ส่วนชาวยูเครนคนไหนที่ยอมเสี่ยงหลบหนีข้ามพรมแดนผ่านภูเขาและทุ่งนาจะถูกสังหารทันที ผู้ที่ต้อต้านเซเลนสกี รวมทั้งตัวผมเอง ต้องเผชิญกับคดีอาญาที่ถูกจัดฉากขึ้น บางรายถูกจับกุม และถูกทรมานในเรือนจำเพื่อบังคับให้รับสารภาพจากข้อหาที่พวกเขาไม่ได้ทำ และหากผู้ต่อต้านเหล่านั้น หลบหนีออกนอกประเทศไปได้ เซเลนสกีจะจับกุมญาติของพวกเขาและตั้งขอหา เช่น แม่ เพียงแค่แชร์วิดีโอบน Facebook ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล เราต้องการการเลือกตั้ง ความจริงที่ว่าผู้นำสหภาพยุโรปประกาศในวันนี้ว่าพวกเขาสนับสนุนการตัดสินใจของเซเลนสกีที่จะไม่จัดการเลือกตั้งนั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก พวกเขากำลังสนับสนุนการสังหาร การจับกุม และการทรมานผู้คนเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนโยนความผิดไปให้ทางรัสเซีย”
    Angry
    1
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • บริษัท Meta ได้อนุมัติการจ่ายโบนัสสูงถึง 200% ของเงินเดือนให้กับผู้บริหารระดับสูง จากที่ก่อนหน้านี้ประเมินการจ่ายโบนัสอยู่ที่ 75%

    การอนุมัติจ่ายโบนัสครั้งนี้ มาพร้อมกับความกังวลของพนักงาน หลังบริษัทมีแผนการเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด 5% หรืออย่างน้อย 4,000 คนในอนาคต ซึ่งจะกระทบทั้งหมดกับพนักงานในอเมริกา, ยุโรป, เอเชีย

    บริษัทยังได้ระบุอีกว่า แผนการให้ผลตอบแทนสูงโดยการันตีโบนัสสูงสุด 200% ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับ รวมทั้งผู้ก่อตั้งอย่าง ‘มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก’ จะไม่รวมในแผนจ่ายโบนัสสูงครั้งนี้ด้วย

    อย่างไรก็ตาม หุ้นของ Meta ก็เพิ่มขึ้น 47% ในปีที่ผ่านมา และรายได้ในไตรมาสที่ 4 ก็เพิ่มขึ้น 21% และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    บริษัท Meta ได้อนุมัติการจ่ายโบนัสสูงถึง 200% ของเงินเดือนให้กับผู้บริหารระดับสูง จากที่ก่อนหน้านี้ประเมินการจ่ายโบนัสอยู่ที่ 75% การอนุมัติจ่ายโบนัสครั้งนี้ มาพร้อมกับความกังวลของพนักงาน หลังบริษัทมีแผนการเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด 5% หรืออย่างน้อย 4,000 คนในอนาคต ซึ่งจะกระทบทั้งหมดกับพนักงานในอเมริกา, ยุโรป, เอเชีย บริษัทยังได้ระบุอีกว่า แผนการให้ผลตอบแทนสูงโดยการันตีโบนัสสูงสุด 200% ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับ รวมทั้งผู้ก่อตั้งอย่าง ‘มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก’ จะไม่รวมในแผนจ่ายโบนัสสูงครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม หุ้นของ Meta ก็เพิ่มขึ้น 47% ในปีที่ผ่านมา และรายได้ในไตรมาสที่ 4 ก็เพิ่มขึ้น 21% และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการซื้อกิจการของบริษัท Seagate ที่มีเป้าหมายจะเข้าซื้อบริษัท Intevac ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตฮาร์ดดิสก์แบบ HAMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) การซื้อกิจการนี้มีความสำคัญเพราะ HAMR ถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำฮาร์ดดิสก์ให้มีความจุสูงถึง 100TB หรือมากกว่าในอนาคต

    Seagate ประกาศการซื้อ Intevac ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2025 หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวฮาร์ดดิสก์ขนาด 36TB และประกาศว่าจะมีรุ่น 60TB ตามมาในไม่ช้า ด้วยการเข้าซื้อ Intevac ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตระบบ sputtering สำหรับการเคลือบวัสดุบาง ๆ เช่น โลหะผสมเหล็ก-แพลทินัม (FePt) ลงบนแผ่นฮาร์ดดิสก์ จะช่วยให้ Seagate สามารถผลิตชั้นแม่เหล็กที่มีความสม่ำเสมอสูง มีอัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนที่ดีขึ้น และมีข้อบกพร่องน้อยลง ส่งผลให้การเก็บข้อมูลมีความหนาแน่นมากขึ้น

    เทคโนโลยี HAMR ใช้ความร้อนในการลดความต้านทานแม่เหล็ก ทำให้สามารถเขียนข้อมูลเป็นหน่วยที่เล็กและเสถียรกว่า ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความจุของฮาร์ดดิสก์

    การซื้อกิจการนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของ Intevac แล้ว โดยมีข้อตกลงให้ Seagate ซื้อ Intevac ด้วยเงินสดในราคาหุ้นละ $4 การซื้อขายนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน 2025

    อย่างไรก็ตาม การซื้อกิจการนี้อาจถูกคัดค้านจากคู่แข่งอย่าง Western Digital และ Resonac ซึ่งเป็นลูกค้าของ Toshiba เนื่องจากกังวลว่าการซื้อกิจการจะทำให้การแข่งขันลดลงและอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตฮาร์ดดิสก์แบบ HAMR ของพวกเขา

    Seagate คาดว่าจะสามารถเพิ่มการผลิตฮาร์ดดิสก์แบบ HAMR ได้หลังจากการซื้อกิจการนี้ แต่การกระทำดังกล่าวอาจทำให้ Western Digital และ Toshiba ต้องซื้อเครื่องมือ sputtering จาก Seagate ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญ

    https://www.techradar.com/pro/race-to-100tb-hdd-heats-up-as-seagate-pulls-rug-under-western-digital-toshiba-feet-by-acquiring-hamr-specialist
    ข่าวนี้กล่าวถึงการซื้อกิจการของบริษัท Seagate ที่มีเป้าหมายจะเข้าซื้อบริษัท Intevac ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตฮาร์ดดิสก์แบบ HAMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) การซื้อกิจการนี้มีความสำคัญเพราะ HAMR ถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำฮาร์ดดิสก์ให้มีความจุสูงถึง 100TB หรือมากกว่าในอนาคต Seagate ประกาศการซื้อ Intevac ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2025 หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวฮาร์ดดิสก์ขนาด 36TB และประกาศว่าจะมีรุ่น 60TB ตามมาในไม่ช้า ด้วยการเข้าซื้อ Intevac ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตระบบ sputtering สำหรับการเคลือบวัสดุบาง ๆ เช่น โลหะผสมเหล็ก-แพลทินัม (FePt) ลงบนแผ่นฮาร์ดดิสก์ จะช่วยให้ Seagate สามารถผลิตชั้นแม่เหล็กที่มีความสม่ำเสมอสูง มีอัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนที่ดีขึ้น และมีข้อบกพร่องน้อยลง ส่งผลให้การเก็บข้อมูลมีความหนาแน่นมากขึ้น เทคโนโลยี HAMR ใช้ความร้อนในการลดความต้านทานแม่เหล็ก ทำให้สามารถเขียนข้อมูลเป็นหน่วยที่เล็กและเสถียรกว่า ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความจุของฮาร์ดดิสก์ การซื้อกิจการนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของ Intevac แล้ว โดยมีข้อตกลงให้ Seagate ซื้อ Intevac ด้วยเงินสดในราคาหุ้นละ $4 การซื้อขายนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน 2025 อย่างไรก็ตาม การซื้อกิจการนี้อาจถูกคัดค้านจากคู่แข่งอย่าง Western Digital และ Resonac ซึ่งเป็นลูกค้าของ Toshiba เนื่องจากกังวลว่าการซื้อกิจการจะทำให้การแข่งขันลดลงและอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตฮาร์ดดิสก์แบบ HAMR ของพวกเขา Seagate คาดว่าจะสามารถเพิ่มการผลิตฮาร์ดดิสก์แบบ HAMR ได้หลังจากการซื้อกิจการนี้ แต่การกระทำดังกล่าวอาจทำให้ Western Digital และ Toshiba ต้องซื้อเครื่องมือ sputtering จาก Seagate ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญ https://www.techradar.com/pro/race-to-100tb-hdd-heats-up-as-seagate-pulls-rug-under-western-digital-toshiba-feet-by-acquiring-hamr-specialist
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • Intel บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนหลังจากการลาออกของ CEO Pat Gelsinger ในเดือนธันวาคม 2024 และปัจจุบันยังไม่มี CEO คนใหม่ จากรายงานของ Wall Street Journal พบว่า TSMC และ Broadcom กำลังพิจารณาที่จะแยกธุรกิจของ Intel ออกเป็นสองส่วน โดยที่ TSMC สนใจในการเข้าควบคุมโรงงานผลิตชิปของ Intel ในขณะที่ Broadcom กำลังสนใจด้านการออกแบบและการตลาดชิปของบริษัท

    อย่างไรก็ตาม การทำข้อตกลงนี้จะต้องผ่านการพิจารณาจากรัฐบาลสหรัฐฯ และเจอกับอุปสรรคหลายประการ เช่น กฎระเบียบของรัฐบาล การปรับปรุงเครื่องจักรในโรงงาน และการต่อต้านทางการเมือง ซึ่งทำให้การเจรจายังอยู่ในขั้นตอนเบื้องต้นและยังไม่แน่นอน

    สิ่งที่น่าสนใจคือ การแยกธุรกิจนี้อาจทำให้ Intel กลับมาอยู่ในสภาพที่แข็งแกร่งกว่าเดิม แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการสิ้นสุดยุคของ Intel อย่างไรก็ตาม ตลาดเทคโนโลยีกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และการแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทอื่น ๆ เช่น Nvidia และ AMD

    ปัจจุบัน Nvidia เป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับสองของโลก รองจาก Apple โดยมีมูลค่าประมาณ 3.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ AMD อยู่ในอันดับที่ 80 โดยมีมูลค่า 183.27 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ Intel อยู่ในอันดับที่ 173 โดยมีมูลค่า 102.18 พันล้านเหรียญสหรัฐ

    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้กฎหมาย Chips Act 2022 ได้กำหนดเงื่อนไขในการรับเงินทุนสนับสนุน 53 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเพิ่มการผลิตชิปในประเทศ โดย Intel ได้รับส่วนแบ่งใหญ่ที่สุดถึง 7.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีข้อกำหนดว่าบริษัทต้องถือหุ้นส่วนใหญ่ในโรงงานของตนหากมีการแยกออกเป็นหน่วยงานย่อย

    นอกจากนี้ การปรับปรุงโรงงานของ Intel ให้สามารถผลิตชิปขั้นสูงตามแบบของ TSMC จะเป็นความท้าทายด้านวิศวกรรมและมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้การทำข้อตกลงนี้ยังต้องรอดูว่าจะเป็นไปได้หรือไม่

    ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงอนาคตที่ไม่แน่นอนของ Intel และความท้าทายที่บริษัทจะต้องเผชิญในตลาดชิปที่มีการแข่งขันสูงอย่างในปัจจุบัน

    สำหรับลุงแล้วอยากให้บริษัทในยุโรปเข้ามาเทคโอเวอร์ Intel มากกว่า จะได้ Balance อำนาจและราคากันมากขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/the-end-of-an-era-tsmc-broadcom-could-tear-apart-intels-legendary-business-after-57-years-by-separating-its-foundry-and-chip-design
    Intel บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนหลังจากการลาออกของ CEO Pat Gelsinger ในเดือนธันวาคม 2024 และปัจจุบันยังไม่มี CEO คนใหม่ จากรายงานของ Wall Street Journal พบว่า TSMC และ Broadcom กำลังพิจารณาที่จะแยกธุรกิจของ Intel ออกเป็นสองส่วน โดยที่ TSMC สนใจในการเข้าควบคุมโรงงานผลิตชิปของ Intel ในขณะที่ Broadcom กำลังสนใจด้านการออกแบบและการตลาดชิปของบริษัท อย่างไรก็ตาม การทำข้อตกลงนี้จะต้องผ่านการพิจารณาจากรัฐบาลสหรัฐฯ และเจอกับอุปสรรคหลายประการ เช่น กฎระเบียบของรัฐบาล การปรับปรุงเครื่องจักรในโรงงาน และการต่อต้านทางการเมือง ซึ่งทำให้การเจรจายังอยู่ในขั้นตอนเบื้องต้นและยังไม่แน่นอน สิ่งที่น่าสนใจคือ การแยกธุรกิจนี้อาจทำให้ Intel กลับมาอยู่ในสภาพที่แข็งแกร่งกว่าเดิม แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการสิ้นสุดยุคของ Intel อย่างไรก็ตาม ตลาดเทคโนโลยีกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และการแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทอื่น ๆ เช่น Nvidia และ AMD ปัจจุบัน Nvidia เป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับสองของโลก รองจาก Apple โดยมีมูลค่าประมาณ 3.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ AMD อยู่ในอันดับที่ 80 โดยมีมูลค่า 183.27 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ Intel อยู่ในอันดับที่ 173 โดยมีมูลค่า 102.18 พันล้านเหรียญสหรัฐ รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้กฎหมาย Chips Act 2022 ได้กำหนดเงื่อนไขในการรับเงินทุนสนับสนุน 53 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเพิ่มการผลิตชิปในประเทศ โดย Intel ได้รับส่วนแบ่งใหญ่ที่สุดถึง 7.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีข้อกำหนดว่าบริษัทต้องถือหุ้นส่วนใหญ่ในโรงงานของตนหากมีการแยกออกเป็นหน่วยงานย่อย นอกจากนี้ การปรับปรุงโรงงานของ Intel ให้สามารถผลิตชิปขั้นสูงตามแบบของ TSMC จะเป็นความท้าทายด้านวิศวกรรมและมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้การทำข้อตกลงนี้ยังต้องรอดูว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงอนาคตที่ไม่แน่นอนของ Intel และความท้าทายที่บริษัทจะต้องเผชิญในตลาดชิปที่มีการแข่งขันสูงอย่างในปัจจุบัน สำหรับลุงแล้วอยากให้บริษัทในยุโรปเข้ามาเทคโอเวอร์ Intel มากกว่า จะได้ Balance อำนาจและราคากันมากขึ้น https://www.techradar.com/pro/the-end-of-an-era-tsmc-broadcom-could-tear-apart-intels-legendary-business-after-57-years-by-separating-its-foundry-and-chip-design
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • ในช่วงหลังนี้มีการวิจัยเกี่ยวกับระบบเบรกอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking - AEB) ที่ถูกติดตั้งในรถยนต์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งพบว่าระบบ AEB นี้อาจมี "จุดบอด" สำหรับเสื้อผ้าที่มีแถบสะท้อนแสง การศึกษาโดยสถาบัน Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) ในสหรัฐอเมริกาได้ทดสอบการชนกันของหุ่นทดสอบกับรถยนต์สามคันที่วิ่งด้วยความเร็ว 40 กม./ชม.: Honda CR-V, Mazda CX-5 และ Subaru Forester

    ผลการทดสอบพบว่า รถ Honda และ Mazda ชนกับหุ่นทดสอบที่สวมแถบสะท้อนแสง ขณะที่ Honda ไม่ชะลอตัวเมื่อหุ่นสวมเสื้อกั๊กสะท้อนแสง สำหรับ Subaru ชะลอตัวลงในทุกการทดสอบยกเว้นเมื่อหุ่นทดสอบสวมแถบสะท้อนแสงในสภาพแสงน้อยมาก

    David Harkey ประธาน IIHS กล่าวว่า "ผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์บางรายต้องปรับปรุงระบบเบรกอัตโนมัติเพื่อการรับรู้ผู้ใช้ถนนที่สวมเสื้อผ้าสะท้อนแสงได้ดีขึ้น" เขายังเสริมว่า "นี่เป็นจุดบอดที่น่ากังวลมาก"

    Mazda ได้แถลงว่า "ความปลอดภัยบนถนนสำหรับทุกคนรวมถึงผู้ที่อยู่รอบๆ รถของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด วิศวกรของเรากำลังทำงานอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงระบบหลีกเลี่ยงการชนของ Mazda"

    สิ่งที่น่าสนใจคือการจัดวางแถบสะท้อนแสงบนข้อต่อและแขนขาของเสื้อผ้าและกางเกงช่วยให้คนขับรับรู้การเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว แต่แถบสะท้อนแสงนี้กลับสร้างความสับสนให้กับเซ็นเซอร์ของระบบเบรกอัตโนมัติ

    การวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนาระบบ AEB ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่ซับซ้อน เช่น ในเวลากลางคืนที่มีการสวมเสื้อผ้าสะท้อนแสง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/22/car-safety-tech-has-blind-spot-for-high-vis-jackets-study-suggests
    ในช่วงหลังนี้มีการวิจัยเกี่ยวกับระบบเบรกอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking - AEB) ที่ถูกติดตั้งในรถยนต์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งพบว่าระบบ AEB นี้อาจมี "จุดบอด" สำหรับเสื้อผ้าที่มีแถบสะท้อนแสง การศึกษาโดยสถาบัน Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) ในสหรัฐอเมริกาได้ทดสอบการชนกันของหุ่นทดสอบกับรถยนต์สามคันที่วิ่งด้วยความเร็ว 40 กม./ชม.: Honda CR-V, Mazda CX-5 และ Subaru Forester ผลการทดสอบพบว่า รถ Honda และ Mazda ชนกับหุ่นทดสอบที่สวมแถบสะท้อนแสง ขณะที่ Honda ไม่ชะลอตัวเมื่อหุ่นสวมเสื้อกั๊กสะท้อนแสง สำหรับ Subaru ชะลอตัวลงในทุกการทดสอบยกเว้นเมื่อหุ่นทดสอบสวมแถบสะท้อนแสงในสภาพแสงน้อยมาก David Harkey ประธาน IIHS กล่าวว่า "ผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์บางรายต้องปรับปรุงระบบเบรกอัตโนมัติเพื่อการรับรู้ผู้ใช้ถนนที่สวมเสื้อผ้าสะท้อนแสงได้ดีขึ้น" เขายังเสริมว่า "นี่เป็นจุดบอดที่น่ากังวลมาก" Mazda ได้แถลงว่า "ความปลอดภัยบนถนนสำหรับทุกคนรวมถึงผู้ที่อยู่รอบๆ รถของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด วิศวกรของเรากำลังทำงานอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงระบบหลีกเลี่ยงการชนของ Mazda" สิ่งที่น่าสนใจคือการจัดวางแถบสะท้อนแสงบนข้อต่อและแขนขาของเสื้อผ้าและกางเกงช่วยให้คนขับรับรู้การเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว แต่แถบสะท้อนแสงนี้กลับสร้างความสับสนให้กับเซ็นเซอร์ของระบบเบรกอัตโนมัติ การวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนาระบบ AEB ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่ซับซ้อน เช่น ในเวลากลางคืนที่มีการสวมเสื้อผ้าสะท้อนแสง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/22/car-safety-tech-has-blind-spot-for-high-vis-jackets-study-suggests
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Car safety tech has 'blind spot' for high-vis jackets, study suggests
    A study by the US-based Insurance Institute for Highway Safety indicated the systems may have a 'blind spot' for reflective items.
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
  • เป็นเรื่องราวของคนหนุ่มที่น่าติดตามมากครับ

    Wang Xingxing วัย 35 ปี ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Unitree Robotics บริษัทผู้นำในด้านหุ่นยนต์ของจีน ได้ทำให้เกิดความสนใจอย่างมากเมื่อเขาได้รับเชิญให้นั่งแถวหน้าในงานสัมมนาธุรกิจระดับสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดในปี 1990 Wang เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมประชุม

    Wang กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังจากที่หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ของ Unitree ได้แสดงการเต้นฟอร์คแดนซ์ในงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ CCTV เมื่อเดือนที่แล้ว Wang บอกกับ CCTV ว่าหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์นั้นกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์จะก้าวขึ้นไปอีกขั้นก่อนสิ้นปีนี้

    แม้ว่า Unitree จะยังคงเป็นบริษัทเอกชน แต่นักลงทุนก็หันมาสนใจซัพพลายเออร์ของบริษัทนี้ เช่น หุ้นของ Zhejiang Changsheng Sliding Bearings ที่กระโดดขึ้น 62% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 600% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Ningbo Shuanglin Auto Parts ก็พุ่งขึ้น 575% จากปีที่แล้ว

    Wang มีความหลงใหลในด้านหุ่นยนต์ตั้งแต่วัยเด็ก เกิดในเมืองหนิงโป จังหวัดเจ้อเจียง เขามักใช้เวลาว่างสร้างแบบจำลองเครื่องบินและทำการทดลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่มัธยมต้น เขาได้สร้างเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ตขนาดเล็ก Wang ศึกษาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ที่มหาวิทยาลัย Zhejiang Sci-Tech และสร้างหุ่นยนต์เดินสองขาตัวแรกของเขาด้วยงบประมาณเพียง 200 หยวน

    หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาได้รับสิทธิบัตรแรกสำหรับอุปกรณ์ฟีดแบ็กหลายแรง แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และในปี 2016 เขาได้ก่อตั้ง Unitree ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 2 ล้านหยวน

    Unitree กลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่ขายหุ่นยนต์ขาหนาและฮิวมานอยด์ประสิทธิภาพสูงให้กับประชาชนทั่วไป ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้รับการแสดงในงานใหญ่เช่นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่หางโจวในปี 2023 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังสนับสนุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในท้องถิ่นด้วยแนวทางและเงินทุนจากรัฐ

    Wang บอกกับนักศึกษาในงานต้อนรับที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้วว่า “หาสิ่งที่คุณรัก ทำงานหนัก เรียนรู้ตลอดเวลา และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ตั้งแต่เด็กผมมีแรงบันดาลใจที่จะใช้เทคโนโลยีสร้างสิ่งมีค่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลงโลก นั่นเป็นแรงขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม”

    นี่คือเรื่องราวของ Wang Xingxing ที่กลายมาเป็นดาวรุ่งในวงการหุ่นยนต์ของจีน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/meet-wang-xingxing-the-young-chinese-robotics-star-from-unitree-at-xi-jinpings-symposium
    เป็นเรื่องราวของคนหนุ่มที่น่าติดตามมากครับ Wang Xingxing วัย 35 ปี ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Unitree Robotics บริษัทผู้นำในด้านหุ่นยนต์ของจีน ได้ทำให้เกิดความสนใจอย่างมากเมื่อเขาได้รับเชิญให้นั่งแถวหน้าในงานสัมมนาธุรกิจระดับสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดในปี 1990 Wang เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมประชุม Wang กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังจากที่หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ของ Unitree ได้แสดงการเต้นฟอร์คแดนซ์ในงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ CCTV เมื่อเดือนที่แล้ว Wang บอกกับ CCTV ว่าหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์นั้นกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์จะก้าวขึ้นไปอีกขั้นก่อนสิ้นปีนี้ แม้ว่า Unitree จะยังคงเป็นบริษัทเอกชน แต่นักลงทุนก็หันมาสนใจซัพพลายเออร์ของบริษัทนี้ เช่น หุ้นของ Zhejiang Changsheng Sliding Bearings ที่กระโดดขึ้น 62% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 600% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Ningbo Shuanglin Auto Parts ก็พุ่งขึ้น 575% จากปีที่แล้ว Wang มีความหลงใหลในด้านหุ่นยนต์ตั้งแต่วัยเด็ก เกิดในเมืองหนิงโป จังหวัดเจ้อเจียง เขามักใช้เวลาว่างสร้างแบบจำลองเครื่องบินและทำการทดลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่มัธยมต้น เขาได้สร้างเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ตขนาดเล็ก Wang ศึกษาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ที่มหาวิทยาลัย Zhejiang Sci-Tech และสร้างหุ่นยนต์เดินสองขาตัวแรกของเขาด้วยงบประมาณเพียง 200 หยวน หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาได้รับสิทธิบัตรแรกสำหรับอุปกรณ์ฟีดแบ็กหลายแรง แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และในปี 2016 เขาได้ก่อตั้ง Unitree ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 2 ล้านหยวน Unitree กลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่ขายหุ่นยนต์ขาหนาและฮิวมานอยด์ประสิทธิภาพสูงให้กับประชาชนทั่วไป ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้รับการแสดงในงานใหญ่เช่นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่หางโจวในปี 2023 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังสนับสนุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในท้องถิ่นด้วยแนวทางและเงินทุนจากรัฐ Wang บอกกับนักศึกษาในงานต้อนรับที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้วว่า “หาสิ่งที่คุณรัก ทำงานหนัก เรียนรู้ตลอดเวลา และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ตั้งแต่เด็กผมมีแรงบันดาลใจที่จะใช้เทคโนโลยีสร้างสิ่งมีค่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลงโลก นั่นเป็นแรงขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม” นี่คือเรื่องราวของ Wang Xingxing ที่กลายมาเป็นดาวรุ่งในวงการหุ่นยนต์ของจีน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/meet-wang-xingxing-the-young-chinese-robotics-star-from-unitree-at-xi-jinpings-symposium
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meet Wang Xingxing, the young Chinese robotics star from Unitree at Xi Jinping’s symposium
    Wang, 35, is the founder and CEO of Unitree – one of China's top developers of quadrupedal and humanoid robots.
    0 Comments 0 Shares 311 Views 0 Reviews
  • นโยบายพรรคการเมือง: การปฏิรูปการศึกษาเพื่ออนาคต ด้วยเทคโนโลยีและ STEM

    วิสัยทัศน์

    สร้างระบบการศึกษาที่ทันสมัย เปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนเข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม พัฒนาเยาวชนให้เป็นนักคิด นักแก้ปัญหา และนักนวัตกรรมที่พร้อมแข่งขันในเวทีโลก


    ---

    1. การพัฒนา STEM Education ให้เป็นรากฐานของระบบการศึกษา

    ✅ ปรับหลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับแนวทาง STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา
    ✅ ส่งเสริมโครงการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Project-Based Learning) ให้นักเรียนได้ทดลอง คิดวิเคราะห์ และพัฒนาทักษะผ่านโครงงานจริง
    ✅ เพิ่มวิชาหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเขียนโค้ด (Coding) เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรมาตรฐาน
    ✅ สนับสนุนการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น โอลิมปิกวิชาการ การแข่งขันหุ่นยนต์ และแฮ็กกาธอน


    ---

    2. การนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงการเรียนการสอน

    ✅ จัดหาอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้โรงเรียนทั่วประเทศ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียน
    ✅ พัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์ (E-Learning & Hybrid Learning) เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
    ✅ ใช้ AI และ Big Data วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ เพื่อออกแบบการสอนที่เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน
    ✅ พัฒนาคลังสื่อดิจิทัล (Open Educational Resources - OER) รวมถึงแพลตฟอร์มบทเรียนออนไลน์ฟรีสำหรับทุกคน


    ---

    3. การพัฒนาครูให้พร้อมสำหรับยุคดิจิทัล

    ✅ อบรมและพัฒนาครูด้านเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้และพัฒนาทักษะของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ✅ สร้างเครือข่ายครูและนักวิชาการด้านเทคโนโลยี เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนาแนวทางการสอนที่ทันสมัย
    ✅ เพิ่มแรงจูงใจให้ครูพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น การให้ทุนอบรมหรือการเลื่อนขั้นสำหรับครูที่ผ่านการรับรองทักษะเทคโนโลยี


    ---

    4. สร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนและอุตสาหกรรม

    ✅ เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้การเรียนการสอนสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
    ✅ ส่งเสริมการฝึกงานและโครงการนักศึกษาฝึกงานในสายงานเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์จริงก่อนจบการศึกษา
    ✅ จัดตั้งกองทุนส่งเสริมนวัตกรรมทางการศึกษา สนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech)


    ---

    5. ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

    ✅ ให้ทุนการศึกษาและอุปกรณ์เรียนฟรีสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและห่างไกล
    ✅ สร้างโรงเรียนต้นแบบด้านเทคโนโลยีในทุกภูมิภาค เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ STEM ในแต่ละพื้นที่
    ✅ พัฒนาระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมและอินเทอร์เน็ต เพื่อให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียมกับเมืองใหญ่


    ---

    ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

    ✅ นักเรียนไทยมีทักษะด้านเทคโนโลยีและ STEM ที่แข็งแกร่ง พร้อมแข่งขันในระดับนานาชาติ
    ✅ ครูมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
    ✅ ระบบการศึกษาของไทยสามารถตอบโจทย์ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจดิจิทัล
    ✅ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้โอกาสเด็กทุกคนเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ


    ---

    "การศึกษาไทยก้าวไกล เทคโนโลยีล้ำหน้า STEM นำอนาคต"
    #พรรคเพื่อการศึกษายุคใหม่

    นโยบายพรรคการเมือง: การปฏิรูปการศึกษาเพื่ออนาคต ด้วยเทคโนโลยีและ STEM วิสัยทัศน์ สร้างระบบการศึกษาที่ทันสมัย เปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนเข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม พัฒนาเยาวชนให้เป็นนักคิด นักแก้ปัญหา และนักนวัตกรรมที่พร้อมแข่งขันในเวทีโลก --- 1. การพัฒนา STEM Education ให้เป็นรากฐานของระบบการศึกษา ✅ ปรับหลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับแนวทาง STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา ✅ ส่งเสริมโครงการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Project-Based Learning) ให้นักเรียนได้ทดลอง คิดวิเคราะห์ และพัฒนาทักษะผ่านโครงงานจริง ✅ เพิ่มวิชาหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเขียนโค้ด (Coding) เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรมาตรฐาน ✅ สนับสนุนการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น โอลิมปิกวิชาการ การแข่งขันหุ่นยนต์ และแฮ็กกาธอน --- 2. การนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงการเรียนการสอน ✅ จัดหาอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้โรงเรียนทั่วประเทศ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียน ✅ พัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์ (E-Learning & Hybrid Learning) เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ✅ ใช้ AI และ Big Data วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ เพื่อออกแบบการสอนที่เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน ✅ พัฒนาคลังสื่อดิจิทัล (Open Educational Resources - OER) รวมถึงแพลตฟอร์มบทเรียนออนไลน์ฟรีสำหรับทุกคน --- 3. การพัฒนาครูให้พร้อมสำหรับยุคดิจิทัล ✅ อบรมและพัฒนาครูด้านเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้และพัฒนาทักษะของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ สร้างเครือข่ายครูและนักวิชาการด้านเทคโนโลยี เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนาแนวทางการสอนที่ทันสมัย ✅ เพิ่มแรงจูงใจให้ครูพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น การให้ทุนอบรมหรือการเลื่อนขั้นสำหรับครูที่ผ่านการรับรองทักษะเทคโนโลยี --- 4. สร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนและอุตสาหกรรม ✅ เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้การเรียนการสอนสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ✅ ส่งเสริมการฝึกงานและโครงการนักศึกษาฝึกงานในสายงานเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์จริงก่อนจบการศึกษา ✅ จัดตั้งกองทุนส่งเสริมนวัตกรรมทางการศึกษา สนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech) --- 5. ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ✅ ให้ทุนการศึกษาและอุปกรณ์เรียนฟรีสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและห่างไกล ✅ สร้างโรงเรียนต้นแบบด้านเทคโนโลยีในทุกภูมิภาค เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ STEM ในแต่ละพื้นที่ ✅ พัฒนาระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมและอินเทอร์เน็ต เพื่อให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียมกับเมืองใหญ่ --- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ✅ นักเรียนไทยมีทักษะด้านเทคโนโลยีและ STEM ที่แข็งแกร่ง พร้อมแข่งขันในระดับนานาชาติ ✅ ครูมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ✅ ระบบการศึกษาของไทยสามารถตอบโจทย์ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจดิจิทัล ✅ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้โอกาสเด็กทุกคนเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ --- "การศึกษาไทยก้าวไกล เทคโนโลยีล้ำหน้า STEM นำอนาคต" #พรรคเพื่อการศึกษายุคใหม่
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 386 Views 0 Reviews
  • นโยบายพรรคการเมือง: การปฏิรูปการศึกษาเพื่ออนาคต ด้วยเทคโนโลยีและ STEM

    วิสัยทัศน์

    สร้างระบบการศึกษาที่ทันสมัย เปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนเข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม พัฒนาเยาวชนให้เป็นนักคิด นักแก้ปัญหา และนักนวัตกรรมที่พร้อมแข่งขันในเวทีโลก


    ---

    1. การพัฒนา STEM Education ให้เป็นรากฐานของระบบการศึกษา

    ✅ ปรับหลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับแนวทาง STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา
    ✅ ส่งเสริมโครงการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Project-Based Learning) ให้นักเรียนได้ทดลอง คิดวิเคราะห์ และพัฒนาทักษะผ่านโครงงานจริง
    ✅ เพิ่มวิชาหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเขียนโค้ด (Coding) เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรมาตรฐาน
    ✅ สนับสนุนการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น โอลิมปิกวิชาการ การแข่งขันหุ่นยนต์ และแฮ็กกาธอน


    ---

    2. การนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงการเรียนการสอน

    ✅ จัดหาอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้โรงเรียนทั่วประเทศ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียน
    ✅ พัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์ (E-Learning & Hybrid Learning) เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
    ✅ ใช้ AI และ Big Data วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ เพื่อออกแบบการสอนที่เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน
    ✅ พัฒนาคลังสื่อดิจิทัล (Open Educational Resources - OER) รวมถึงแพลตฟอร์มบทเรียนออนไลน์ฟรีสำหรับทุกคน


    ---

    3. การพัฒนาครูให้พร้อมสำหรับยุคดิจิทัล

    ✅ อบรมและพัฒนาครูด้านเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้และพัฒนาทักษะของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ✅ สร้างเครือข่ายครูและนักวิชาการด้านเทคโนโลยี เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนาแนวทางการสอนที่ทันสมัย
    ✅ เพิ่มแรงจูงใจให้ครูพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น การให้ทุนอบรมหรือการเลื่อนขั้นสำหรับครูที่ผ่านการรับรองทักษะเทคโนโลยี


    ---

    4. สร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนและอุตสาหกรรม

    ✅ เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้การเรียนการสอนสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
    ✅ ส่งเสริมการฝึกงานและโครงการนักศึกษาฝึกงานในสายงานเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์จริงก่อนจบการศึกษา
    ✅ จัดตั้งกองทุนส่งเสริมนวัตกรรมทางการศึกษา สนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech)


    ---

    5. ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

    ✅ ให้ทุนการศึกษาและอุปกรณ์เรียนฟรีสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและห่างไกล
    ✅ สร้างโรงเรียนต้นแบบด้านเทคโนโลยีในทุกภูมิภาค เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ STEM ในแต่ละพื้นที่
    ✅ พัฒนาระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมและอินเทอร์เน็ต เพื่อให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียมกับเมืองใหญ่


    ---

    ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

    ✅ นักเรียนไทยมีทักษะด้านเทคโนโลยีและ STEM ที่แข็งแกร่ง พร้อมแข่งขันในระดับนานาชาติ
    ✅ ครูมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
    ✅ ระบบการศึกษาของไทยสามารถตอบโจทย์ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจดิจิทัล
    ✅ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้โอกาสเด็กทุกคนเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ


    ---

    "การศึกษาไทยก้าวไกล เทคโนโลยีล้ำหน้า STEM นำอนาคต"
    #พรรคเพื่อการศึกษายุคใหม่

    นโยบายพรรคการเมือง: การปฏิรูปการศึกษาเพื่ออนาคต ด้วยเทคโนโลยีและ STEM วิสัยทัศน์ สร้างระบบการศึกษาที่ทันสมัย เปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนเข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม พัฒนาเยาวชนให้เป็นนักคิด นักแก้ปัญหา และนักนวัตกรรมที่พร้อมแข่งขันในเวทีโลก --- 1. การพัฒนา STEM Education ให้เป็นรากฐานของระบบการศึกษา ✅ ปรับหลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับแนวทาง STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา ✅ ส่งเสริมโครงการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Project-Based Learning) ให้นักเรียนได้ทดลอง คิดวิเคราะห์ และพัฒนาทักษะผ่านโครงงานจริง ✅ เพิ่มวิชาหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเขียนโค้ด (Coding) เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรมาตรฐาน ✅ สนับสนุนการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น โอลิมปิกวิชาการ การแข่งขันหุ่นยนต์ และแฮ็กกาธอน --- 2. การนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงการเรียนการสอน ✅ จัดหาอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้โรงเรียนทั่วประเทศ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียน ✅ พัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์ (E-Learning & Hybrid Learning) เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ✅ ใช้ AI และ Big Data วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ เพื่อออกแบบการสอนที่เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน ✅ พัฒนาคลังสื่อดิจิทัล (Open Educational Resources - OER) รวมถึงแพลตฟอร์มบทเรียนออนไลน์ฟรีสำหรับทุกคน --- 3. การพัฒนาครูให้พร้อมสำหรับยุคดิจิทัล ✅ อบรมและพัฒนาครูด้านเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้และพัฒนาทักษะของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ สร้างเครือข่ายครูและนักวิชาการด้านเทคโนโลยี เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนาแนวทางการสอนที่ทันสมัย ✅ เพิ่มแรงจูงใจให้ครูพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น การให้ทุนอบรมหรือการเลื่อนขั้นสำหรับครูที่ผ่านการรับรองทักษะเทคโนโลยี --- 4. สร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนและอุตสาหกรรม ✅ เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้การเรียนการสอนสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ✅ ส่งเสริมการฝึกงานและโครงการนักศึกษาฝึกงานในสายงานเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์จริงก่อนจบการศึกษา ✅ จัดตั้งกองทุนส่งเสริมนวัตกรรมทางการศึกษา สนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech) --- 5. ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ✅ ให้ทุนการศึกษาและอุปกรณ์เรียนฟรีสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและห่างไกล ✅ สร้างโรงเรียนต้นแบบด้านเทคโนโลยีในทุกภูมิภาค เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ STEM ในแต่ละพื้นที่ ✅ พัฒนาระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมและอินเทอร์เน็ต เพื่อให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียมกับเมืองใหญ่ --- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ✅ นักเรียนไทยมีทักษะด้านเทคโนโลยีและ STEM ที่แข็งแกร่ง พร้อมแข่งขันในระดับนานาชาติ ✅ ครูมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ✅ ระบบการศึกษาของไทยสามารถตอบโจทย์ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจดิจิทัล ✅ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้โอกาสเด็กทุกคนเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ --- "การศึกษาไทยก้าวไกล เทคโนโลยีล้ำหน้า STEM นำอนาคต" #พรรคเพื่อการศึกษายุคใหม่
    0 Comments 0 Shares 379 Views 0 Reviews
  • Jim Keller, ผู้เชี่ยวชาญด้านชิปและอดีตวิศวกรของ Intel ได้ออกมากล่าวว่า Intel ที่ยอดเยี่ยมควรมีมูลค่าประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยที่การแยกส่วนธุรกิจออกไปนั้นเป็นเหมือนการขายสินค้าที่มีราคาถูกเกินไป เขาเชื่อว่ามูลค่าที่แท้จริงของ Intel ควรสูงกว่านี้เนื่องจากบริษัทมีความทะเยอทะยานสูง

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของ Qualcomm แต่ตอนนี้บริษัทอย่าง TSMC และ Broadcom ได้เข้ามาแข่งขันเพื่อซื้อธุรกิจบางส่วนของ Intel โดยเฉพาะส่วนการผลิตและโรงงาน ซึ่งการแยกส่วนนี้อาจช่วยเพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้น แต่จะไม่ส่งผลดีกับตลาดเซมิคอนดักเตอร์

    Jim Keller กล่าวว่า การแยกส่วนธุรกิจนี้ไม่ใช่การ "ปลดล็อคมูลค่าผู้ถือหุ้น" แต่เป็นเหมือนการขายสินค้าราคาถูกที่ต่ำกว่าราคาตลาดมาก

    ที่น่าสนใจคือ การที่ TSMC และ Broadcom สนใจซื้อกิจการส่วนนี้อาจทำให้การผลิตของ Intel ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ยังไม่แน่นอน และการบริหารใหม่ในสหรัฐอเมริกานั้นอาจจะไม่อนุญาตให้การซื้อขายนี้ดำเนินไปได้ เนื่องจากมีการกล่าวว่า Trump อาจจะตั้งภาษีสูงถึง 100% บนชิปจากไต้หวัน

    สิ่งที่แน่ชัดคือ ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐอเมริกาจะมีอนาคตที่สดใสมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทอย่าง TSMC พยายามที่จะหลีกเลี่ยงภาษีของ Trump โดยความร่วมมือกับการบริหารงานในทุกรูปแบบที่เป็นไปได้

    เห็นได้ชัดว่าอนาคตของ Intel นั้นยังไม่แน่นอน แต่การที่หุ้นของ Intel เพิ่มขึ้นถึง 18% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าตลาดมีความหวังในทางที่ดีสำหรับบริษัทนี้

    https://wccftech.com/a-great-intel-should-be-worth-1-trillion-claims-chip-expert-jim-keller/
    Jim Keller, ผู้เชี่ยวชาญด้านชิปและอดีตวิศวกรของ Intel ได้ออกมากล่าวว่า Intel ที่ยอดเยี่ยมควรมีมูลค่าประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยที่การแยกส่วนธุรกิจออกไปนั้นเป็นเหมือนการขายสินค้าที่มีราคาถูกเกินไป เขาเชื่อว่ามูลค่าที่แท้จริงของ Intel ควรสูงกว่านี้เนื่องจากบริษัทมีความทะเยอทะยานสูง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของ Qualcomm แต่ตอนนี้บริษัทอย่าง TSMC และ Broadcom ได้เข้ามาแข่งขันเพื่อซื้อธุรกิจบางส่วนของ Intel โดยเฉพาะส่วนการผลิตและโรงงาน ซึ่งการแยกส่วนนี้อาจช่วยเพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้น แต่จะไม่ส่งผลดีกับตลาดเซมิคอนดักเตอร์ Jim Keller กล่าวว่า การแยกส่วนธุรกิจนี้ไม่ใช่การ "ปลดล็อคมูลค่าผู้ถือหุ้น" แต่เป็นเหมือนการขายสินค้าราคาถูกที่ต่ำกว่าราคาตลาดมาก ที่น่าสนใจคือ การที่ TSMC และ Broadcom สนใจซื้อกิจการส่วนนี้อาจทำให้การผลิตของ Intel ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ยังไม่แน่นอน และการบริหารใหม่ในสหรัฐอเมริกานั้นอาจจะไม่อนุญาตให้การซื้อขายนี้ดำเนินไปได้ เนื่องจากมีการกล่าวว่า Trump อาจจะตั้งภาษีสูงถึง 100% บนชิปจากไต้หวัน สิ่งที่แน่ชัดคือ ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐอเมริกาจะมีอนาคตที่สดใสมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทอย่าง TSMC พยายามที่จะหลีกเลี่ยงภาษีของ Trump โดยความร่วมมือกับการบริหารงานในทุกรูปแบบที่เป็นไปได้ เห็นได้ชัดว่าอนาคตของ Intel นั้นยังไม่แน่นอน แต่การที่หุ้นของ Intel เพิ่มขึ้นถึง 18% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าตลาดมีความหวังในทางที่ดีสำหรับบริษัทนี้ https://wccftech.com/a-great-intel-should-be-worth-1-trillion-claims-chip-expert-jim-keller/
    WCCFTECH.COM
    A "Great" Intel Should Be Worth $1 Trillion; Claims Chip Expert Jim Keller, Calling Business Split-Off A "Fire Sale"
    A "great" Intel should be worth around $1 trillion, claims the renowned chip expert and ex-Intel engineer Jim Keller.
    0 Comments 0 Shares 264 Views 0 Reviews

  • #วัดหนองป่าพง
    #อุบลราชธานี

    วัดหนองป่าพง – ย้อนรำลึกความหลัง เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ผมได้มีโอกาสสัมผัส วัดหนองป่าพง ด้วยความไม่รู้ และไม่ลึกซึ้งถึงแวดวงพระพุทธศาสนา เลยทำให้การไปวัดหนองป่าพง ครั้งแรก ผมไม่ได้อะไรติดมือติดใจกลับมาเป็นวิทยาทานเลย จนเมื่อครั้งล่าสุดที่ไป ชีวิตมีประสบการณ์ และพอมีพื้นฐานพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นบ้าง ครั้งนี้ เป็นการใช้เวลาอยู่ที่วัดนานขึ้น พร้อมพกพาความรู้สึก ความประทับใจที่ต่างออกไป กลับออกมาด้วยอย่างปลื้มอกปลื้มใจ ล้อมวงมาฟังกันครับ วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี (ยาวสักหน่อยนะครับ)

    คงจะไม่ถูกต้อง ถ้าจะกล่าวถึงวัดหนองป่าพง โดยไม่กล่าวถึง หลวงปู่ชา

    หลวงปู่ชา พระสำคัญผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ ให้สามารถไปเผยแพร่พุทธศาสนาได้กว้างไกล ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย หากแต่ไปไกลถึงสิบกว่าประเทศทั่วโลก หลวงปู่ชา พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ต้นแบบของพระป่าทั่วโลก ด้วยวัตรปฎิบัติที่เคร่งครัดสายวิปัสสนากรรมฐานที่มีต้นแบบจาก"พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต"

    หลวงปู่ชา หรือ พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) เกิดเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับ วันศุกร์ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ณ บ้านจิกก่อ หมู่ที่ 9 ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดาชื่อนายมา ช่วงโชติ มารดาชื่อ นางพิมพ์ ช่วงโชติ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันจำนวน 10 คน ในวัยเด็ก หลวงปู่ชาเรียนชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนบ้านก่อ ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จนจบชั้นประถม 1 จึงขอลาออกเพื่อมาบวชเรียนตามความสนใจของตนเอง โดยช่วงอายุ 13 ปี หลังจากลาออกจากโรงเรียนประถมศึกษา โยมบิดาได้นำไปฝากกับเจ้าอาวาสเพื่อเรียนรู้บุพกิจเบื้องต้นเกี่ยวกับบรรพชาวิธี จึงได้รับอนุญาตให้บรรพชาเป็น “สามเณรชา โชติช่วง” จนอยู่ปฏิบัติครูอาจารย์ เป็นเวลา 3 ปี ได้แล้วจึงได้ลาสิกขาบทมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา แต่ด้วยจิตใจที่ใฝ่ในทางธรรม เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงลาพ่อแม่มาบวชเป็นพระ โดยอุปสมบทเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 เวลา 13.55 น. ณ พัทธสีมา วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี พระชา สุภทฺโท ได้จำพรรษาอยู่ ณ วัดก่อนอก 2 พรรษา ตั้งใจศึกษาปริยัติธรรม ทั้งจากตำรับตำราและจากครูอาจารย์ จนสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในสำนักวัดแห่งนี้ แต่โชคร้าย ช่วงนั้น หลวงพ่อชา ได้ว่างเว้นจากการศึกษา เพื่อไปดูแลโยมบิดาที่ป่วย แม้หลวงพ่อชา ก็เกิดความลังเลใจ พะว้าพะวง ห่วงการศึกษาก็ห่วง ห่วงโยมบิดาก็ห่วง แต่ความห่วงผู้บังเกิดเกล้ามีน้ำหนักมากกว่า เพราะโยมบิดาเป็นผู้มีพระคุณอย่างเหลือล้น หลวงปู่จึงตัดสินใจกลับไปดูแลโยมพ่อทั้งที่วันสอบนักธรรมก็ใกล้เข้ามาทุกที แต่ก็เลือกที่จะเดินในเส้นทางสายกตัญญุตา โดยที่สุด มาอยู่เฝ้าดูแลอาการป่วยของโยมพ่อนับเป็นเวลา 13 วัน โยมพ่อจึงได้ถึงแก่กรรม (ปี 2483)

    หลังจากนั้น หลวงปู่ชา ก็ได้เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนยังที่ต่างๆ เช่น ที่สำนักของหลวงพ่อเภา วัดเขาวงกฏ จ.ลพบุรี และพระอาจารย์ชาวกัมพูชาที่เป็นพระธุดงค์ซึ่งได้พบกันที่วัดเขาวงกฏ หลวงปู่กินรี อาจารย์คำดี หลวงปู่ทองรัตน์ พระอาจารย์มั่น เป็นต้น พออินทรีย์แก่กล้าแล้วก็ออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมต่อไปเรื่อยๆ โดยยังดำรงสมณเพศเป็นพระมหานิกายอยู่ตลอดเวลา

    กิจที่หลวงปู่ฯ โปรดปราน คือการได้ธุดงค์ไปยังที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อโปรดสานุศิษย์และเผยแพร่พุทธศาสนา จนที่สุดเมื่อคณะศิษย์ และหลวงพ่อได้เดินทางมาถึงชายดงป่าพง ตรงกับวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2497 พอเช้าวันที่ 9 มีนาคม 2497 จึงได้พากันเข้าสำรวจ สถานที่พักในดงป่านี้ และได้ช่วยกันดำเนินการสร้างวัดป่าขึ้น ซึ่งเรารู้จักในปัจจุบัน คือ “วัดหนองป่าพง”

    จนภายหลังมีสานุศิษย์มากมายทั้งไทยและเทศ ขยายไปหลายสาขา ดังที่กล่าวไปข้างต้น และท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้มาโดยตลอด และถึงแก่มรณภาพเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ที่ วัดหนองป่าพง อย่างสงบท่ามกลางธรรมสังเวชของศิษยานุศิษย์จากทุกสารทิศทั่วโลก ด้วยความที่วัดหนองป่าพง มีพระสงฆ์ต่างชาติ เป็นจำนวนมาก เคยมีคนไปถามหลวงปู่ว่า พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วจะสอนชาวต่างชาติได้อย่างไร หลวงปู่ท่านเมตตาตอบว่า น้ำร้อน ที่ฝรั่งว่ากันว่า ฮ๊อตวอเตอร์ เอามือลงไปสัมผัส ทุกชาติก็รู้ว่าร้อน ไม่เห็นต้องรู้ภาษาก่อนเลย นัยว่า ธรรมะ เรียนรู้ได้จากการสัมผัส การปฏิบัติ มิใช่การอ่านเขียนเท่านั้น

    ปัจจุบัน แม้หลวงปู่ชาฯ จะละสังขารไปแล้วกว่าสามสิบปีกว่าปี คำสอนและวัตรปฏิบัติอันดีงาม ก็ยังอยู่ในความทรงจำสานุศิษย์ทั้งหลาย เห็นได้จากการที่กลับไปสัมผัส วัดหนองป่าพง อีกครั้ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ความสงบ และ ความเคร่งครัด แบบพระป่า ยังคงมีให้เห็นและสัมผัสได้ มีโอกาสได้แวะเข้าไปชม พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) โดยจะจัดแสดงเครื่องอัฐบริขารและหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ชา สุภัทโท มีเครื่องทองเหลือง พระพุทธรูป และ เจดีย์ศรีโพธิญาณ เป็นสถานที่พระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ชาอีกด้วย จุดเด่นที่ประทับใจ คือ ป้าย คำสอนต่าง ๆ ที่ติดไว้ตามต้นไม้ อ่านแล้วทำให้เราได้นึกทบทวนชีวิตเราไปด้วยขณะเดินชมไปเงียบ ๆ นอกจากนี้ ได้มีโอกาสเข้าไปที่ อุโบสถด้านใน ทางเข้าเขตสังฆาวาส ที่พระสงฆ์ใช้ทำวัด ทำให้พอนึกเห็นภาพบรรยากาศเมื่อสมัยก่อน ที่หลวงปู่ ลงมาเทศนาธรรม

    รวม ๆ แล้วประทับใจมาก ครับ ผมกราบเรียนเชิญ ท่านที่มีโอกาสไป อุบลราชธานี อยากให้ไปสัมผัส วัดหนองป่าพง สักครั้งครับ

    #ชีวิตนี้ต้องมี1000วัด #เที่ยวไทยไปกับส้มโจ #เที่ยววัด #วัด #ไหว้พระ #ทำบุญ #travel #thailand #amazingthailand #thaitour #temple #history #architecture #culture #thaitemple #ท่องเที่ยว #CultureTrip
    #วัดหนองป่าพง #อุบลราชธานี วัดหนองป่าพง – ย้อนรำลึกความหลัง เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ผมได้มีโอกาสสัมผัส วัดหนองป่าพง ด้วยความไม่รู้ และไม่ลึกซึ้งถึงแวดวงพระพุทธศาสนา เลยทำให้การไปวัดหนองป่าพง ครั้งแรก ผมไม่ได้อะไรติดมือติดใจกลับมาเป็นวิทยาทานเลย จนเมื่อครั้งล่าสุดที่ไป ชีวิตมีประสบการณ์ และพอมีพื้นฐานพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นบ้าง ครั้งนี้ เป็นการใช้เวลาอยู่ที่วัดนานขึ้น พร้อมพกพาความรู้สึก ความประทับใจที่ต่างออกไป กลับออกมาด้วยอย่างปลื้มอกปลื้มใจ ล้อมวงมาฟังกันครับ วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี (ยาวสักหน่อยนะครับ) คงจะไม่ถูกต้อง ถ้าจะกล่าวถึงวัดหนองป่าพง โดยไม่กล่าวถึง หลวงปู่ชา หลวงปู่ชา พระสำคัญผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ ให้สามารถไปเผยแพร่พุทธศาสนาได้กว้างไกล ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย หากแต่ไปไกลถึงสิบกว่าประเทศทั่วโลก หลวงปู่ชา พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ต้นแบบของพระป่าทั่วโลก ด้วยวัตรปฎิบัติที่เคร่งครัดสายวิปัสสนากรรมฐานที่มีต้นแบบจาก"พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต" หลวงปู่ชา หรือ พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) เกิดเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับ วันศุกร์ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ณ บ้านจิกก่อ หมู่ที่ 9 ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดาชื่อนายมา ช่วงโชติ มารดาชื่อ นางพิมพ์ ช่วงโชติ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันจำนวน 10 คน ในวัยเด็ก หลวงปู่ชาเรียนชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนบ้านก่อ ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จนจบชั้นประถม 1 จึงขอลาออกเพื่อมาบวชเรียนตามความสนใจของตนเอง โดยช่วงอายุ 13 ปี หลังจากลาออกจากโรงเรียนประถมศึกษา โยมบิดาได้นำไปฝากกับเจ้าอาวาสเพื่อเรียนรู้บุพกิจเบื้องต้นเกี่ยวกับบรรพชาวิธี จึงได้รับอนุญาตให้บรรพชาเป็น “สามเณรชา โชติช่วง” จนอยู่ปฏิบัติครูอาจารย์ เป็นเวลา 3 ปี ได้แล้วจึงได้ลาสิกขาบทมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา แต่ด้วยจิตใจที่ใฝ่ในทางธรรม เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงลาพ่อแม่มาบวชเป็นพระ โดยอุปสมบทเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 เวลา 13.55 น. ณ พัทธสีมา วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี พระชา สุภทฺโท ได้จำพรรษาอยู่ ณ วัดก่อนอก 2 พรรษา ตั้งใจศึกษาปริยัติธรรม ทั้งจากตำรับตำราและจากครูอาจารย์ จนสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในสำนักวัดแห่งนี้ แต่โชคร้าย ช่วงนั้น หลวงพ่อชา ได้ว่างเว้นจากการศึกษา เพื่อไปดูแลโยมบิดาที่ป่วย แม้หลวงพ่อชา ก็เกิดความลังเลใจ พะว้าพะวง ห่วงการศึกษาก็ห่วง ห่วงโยมบิดาก็ห่วง แต่ความห่วงผู้บังเกิดเกล้ามีน้ำหนักมากกว่า เพราะโยมบิดาเป็นผู้มีพระคุณอย่างเหลือล้น หลวงปู่จึงตัดสินใจกลับไปดูแลโยมพ่อทั้งที่วันสอบนักธรรมก็ใกล้เข้ามาทุกที แต่ก็เลือกที่จะเดินในเส้นทางสายกตัญญุตา โดยที่สุด มาอยู่เฝ้าดูแลอาการป่วยของโยมพ่อนับเป็นเวลา 13 วัน โยมพ่อจึงได้ถึงแก่กรรม (ปี 2483) หลังจากนั้น หลวงปู่ชา ก็ได้เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนยังที่ต่างๆ เช่น ที่สำนักของหลวงพ่อเภา วัดเขาวงกฏ จ.ลพบุรี และพระอาจารย์ชาวกัมพูชาที่เป็นพระธุดงค์ซึ่งได้พบกันที่วัดเขาวงกฏ หลวงปู่กินรี อาจารย์คำดี หลวงปู่ทองรัตน์ พระอาจารย์มั่น เป็นต้น พออินทรีย์แก่กล้าแล้วก็ออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมต่อไปเรื่อยๆ โดยยังดำรงสมณเพศเป็นพระมหานิกายอยู่ตลอดเวลา กิจที่หลวงปู่ฯ โปรดปราน คือการได้ธุดงค์ไปยังที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อโปรดสานุศิษย์และเผยแพร่พุทธศาสนา จนที่สุดเมื่อคณะศิษย์ และหลวงพ่อได้เดินทางมาถึงชายดงป่าพง ตรงกับวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2497 พอเช้าวันที่ 9 มีนาคม 2497 จึงได้พากันเข้าสำรวจ สถานที่พักในดงป่านี้ และได้ช่วยกันดำเนินการสร้างวัดป่าขึ้น ซึ่งเรารู้จักในปัจจุบัน คือ “วัดหนองป่าพง” จนภายหลังมีสานุศิษย์มากมายทั้งไทยและเทศ ขยายไปหลายสาขา ดังที่กล่าวไปข้างต้น และท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้มาโดยตลอด และถึงแก่มรณภาพเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ที่ วัดหนองป่าพง อย่างสงบท่ามกลางธรรมสังเวชของศิษยานุศิษย์จากทุกสารทิศทั่วโลก ด้วยความที่วัดหนองป่าพง มีพระสงฆ์ต่างชาติ เป็นจำนวนมาก เคยมีคนไปถามหลวงปู่ว่า พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วจะสอนชาวต่างชาติได้อย่างไร หลวงปู่ท่านเมตตาตอบว่า น้ำร้อน ที่ฝรั่งว่ากันว่า ฮ๊อตวอเตอร์ เอามือลงไปสัมผัส ทุกชาติก็รู้ว่าร้อน ไม่เห็นต้องรู้ภาษาก่อนเลย นัยว่า ธรรมะ เรียนรู้ได้จากการสัมผัส การปฏิบัติ มิใช่การอ่านเขียนเท่านั้น ปัจจุบัน แม้หลวงปู่ชาฯ จะละสังขารไปแล้วกว่าสามสิบปีกว่าปี คำสอนและวัตรปฏิบัติอันดีงาม ก็ยังอยู่ในความทรงจำสานุศิษย์ทั้งหลาย เห็นได้จากการที่กลับไปสัมผัส วัดหนองป่าพง อีกครั้ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ความสงบ และ ความเคร่งครัด แบบพระป่า ยังคงมีให้เห็นและสัมผัสได้ มีโอกาสได้แวะเข้าไปชม พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) โดยจะจัดแสดงเครื่องอัฐบริขารและหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ชา สุภัทโท มีเครื่องทองเหลือง พระพุทธรูป และ เจดีย์ศรีโพธิญาณ เป็นสถานที่พระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ชาอีกด้วย จุดเด่นที่ประทับใจ คือ ป้าย คำสอนต่าง ๆ ที่ติดไว้ตามต้นไม้ อ่านแล้วทำให้เราได้นึกทบทวนชีวิตเราไปด้วยขณะเดินชมไปเงียบ ๆ นอกจากนี้ ได้มีโอกาสเข้าไปที่ อุโบสถด้านใน ทางเข้าเขตสังฆาวาส ที่พระสงฆ์ใช้ทำวัด ทำให้พอนึกเห็นภาพบรรยากาศเมื่อสมัยก่อน ที่หลวงปู่ ลงมาเทศนาธรรม รวม ๆ แล้วประทับใจมาก ครับ ผมกราบเรียนเชิญ ท่านที่มีโอกาสไป อุบลราชธานี อยากให้ไปสัมผัส วัดหนองป่าพง สักครั้งครับ #ชีวิตนี้ต้องมี1000วัด #เที่ยวไทยไปกับส้มโจ #เที่ยววัด #วัด #ไหว้พระ #ทำบุญ #travel #thailand #amazingthailand #thaitour #temple #history #architecture #culture #thaitemple #ท่องเที่ยว #CultureTrip
    0 Comments 0 Shares 577 Views 0 Reviews
  • ยูเครนชนะกี่โมง? ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์"
    ฟันธงรัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ
    .
    ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ยอดนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศสายส้ม วิเคราะห์สงครามยูเครนแบบมั่นหน้า ด้วยการฟันธงว่า รัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ ปูตินจะถูกรัฐประหารเงียบ จนชาวเน็ตผู้มาจากอนาคตเข้าไปรุมคอมเมนต์เดือด เตือนความทรงจำ ถามเมื่อไหร่รัสเซียจะแพ้-ยูเครนจะชนะ?
    .
    ในสถานการณ์ทางการเมืองโลกที่ผันผวนภายหลังการยกหูโทรศัพท์พูดคุยกันนานกว่า 90 นาทีระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 โดยในประเด็นสงครามยูเครนนั้น นายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะยุติสงครามไร้สาระนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการสังหารและการทำลายล้างที่ไม่จำเป็นเลย ขอพระเจ้าอวยพรประชาชนชาวรัสเซียและยูเครน!”
    .
    การเริ่มต้นพูดคุยระหว่าง ทรัมป์และปูติน อันนำมาสู่เหตุการณ์เมื่อ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 สหรัฐฯ และรัสเซียนำโดย นายมาร์ค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งดำเนินการเปิดโต๊ะการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนกันเพียง 2 ฝ่าย อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยปราศจากตัวแทนของยูเครน และชาติต่าง ๆ ในยุโรปร่วมโต๊ะเลย แม้แต่คนเดียว
    .
    สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้กับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนและผู้นำชาติต่างๆ ในยุโรปอย่างมาก เพราะการเปิดโต๊ะเจรจาดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า ยูเครนและยุโรปน่าจะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง และพ่ายแพ้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางซากปรักหักพัง รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เข้ารุมเร้าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การแย่งชิงบีบบังคับเอาทรัพยากรเพื่อชดใช้เงินช่วยเหลือในสงคราม ความวุ่นวายทางการเมืองภายใน รวมไปถึงปัญหาสังคมและผู้อพยพ ฯลฯ
    .
    ในส่วนของผู้ที่ติดตามข่าวสารเรื่องสงครามยูเครนในประเทศไทยส่วนหนึ่ง ได้มีผู้ย้อนไปหยิบยกการวิเคราะห์สถานการณ์สงครามยูเครนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ และอดีตเป็นพิธีกรรายการข่าวทางช่องวอยซ์ทีวี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งโฆษกคณะก้าวหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 หรือเกือบ 3 ปีที่แล้ว ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เอาไว้ในยูทูปช่อง คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ความยาวกว่า 25 นาที ในหัวเรื่องว่า "ช่อฟันธง! รัสเซียแพ้ย่อยยับ ปูตินชักศึกเข้าบ้าน!" (ลิงก์ >> https://www.youtube.com/watch?v=ytfIw1BHnEM)
    .
    ทั้งนี้ในรายการดังกล่าว "ช่อ พรรณิการ์" แห่งคณะก้าวหน้าได้กล่าวในตอนต้นว่า "ดิฉันขอฟันธง รัสเซียเธอแพ้แน่นอน นับวันแพ้ ทำไมถึงจะแพ้ เป็นเพราะอะไรเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะอะไร?"
    .
    จากนั้น อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าววิเคราะห์ต่อว่า สาเหตุที่รัสเซียจะพ่ายแพ้ต่อยูเครนและชาติพันธมิตรยุโรปนั้นมาจาก การบีบบังคับด้วยการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ-การเงินต่อยุโรป
    "มาตรการหลัก ๆ ที่ตอนนี้นำโดยสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ใช้อยู่จริง ๆ คือ มาตรการการเงิน ซึ่งมากไปกว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจการค้านะ แต่เรียกว่าเป็นการทุบค่าเงินและตัดตอนทางการเงินแบบขนานใหญ่ อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา นานาประเทศตัดรัสเซียออกจากระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ S.W.I.F.T., ระบบการเงินของธนาคารต่าง ๆ, มีการฟรีซแอสเสท หรือสินทรัพย์ของรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงประกาศไม่ให้มีการค้าขายกับรัสเซีย ..." น.ส.พรรณิการ์กล่าว และวิเคราะห์ต่อว่า นี่เองเป็นสาเหตุที่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกต่ำลงอย่างมาก จนแทบจะไม่มีค่า แทบจะกลายเป็นเศษกระดาษ
    .
    นอกจากนี้ ช่อ พรรณิการ์ ยังวิเคราะห์ต่ออย่างออกรสด้วยว่า ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดคือ ท่าทีของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เลือกจะทำตามมาตรการคว่ำบาตรของอียู คือ การอายัดทรัพย์สินของรัสเซียที่อยู่ในแบงก์สวิตเซอร์แลนด์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่ใช่แค่การอายัดเฉพาะทรัพย์สินของรัฐ แต่เป็นทรัพย์สินของเอกชน และมหาเศรษฐีต่าง ๆ ของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับนายปูตินด้วยจะเป็นปัจจัยชี้ขายให้รัสเซียและนายปูตินพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
    .
    "ดิฉันคิดว่า เมื่อสวิตเซอร์แลนด์ทำขนาดนี้แล้ว ปูตินนับวันแพ้ได้เลยนะคะ" โฆษกคณะก้าวหน้าฟันธง
    .
    ล่วงเลยมาถึงวันนี้ เมื่อทีมงาน Sondhi X กลับไปสำรวจความเห็นของผู้ที่เข้ามาชมคลิปการวิเคราะห์สถานการณ์โลกดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ ทางยูทูปของคณะก้าวหน้าแล้วก็พบว่า มีผู้เข้าไปย้อนดูคลิปดังกล่าวและแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น
    • สวัสดีเรามาจากอนาคต 2025 ตอนนี้ทรัมป์กับปูตินเจรจากันแล้วนะเรื่องยูเครนโดยไม่มีไอ้กี้ หรือใช้คำว่าไม่เห็นหัวไอ้กี้ ก็คงไม่ผิดนัก ส่วนไอ้กี้ก็หัวซุกหัวซุนเกาะยุโรปที่เหลืออย่างแนบแน่น จริงแล้วตอนนี้ ยูเครนต้องเลือกปธน.ใหม่แล้วนะ แต่ไอ้กี้ไม่ยอม และไม่ฟังเสียงปชช.เลย โคจรหวงอำนาจเลย ยังไงรบกวนคุณช่อประท้วงแทนปชช.ชาวยูเครนด้วยนะ หรือส่งให้ว่าที่ เลขา UN ด้วยนะครับ
    • เมื่อไรจะแพ้ รออยู่นะคับ
    • ทายแค่ ซ้ายขวายังผิดยังคิดจะมาบริหารประเทศ อายมั้ยส้ม
    • 20-2-2025 ทายผิดจนขนลุก ยูเครนเละโดนรุมทึ้งแบ่งเค้กผลประโยชน์ของชาติ แถมไม่มีสิทธิแม้แต่เข้าร่วมเจรจาสันติภาพเลือกชะตากรรมของชาติตัวเอง 😂
    • ยูเครนชนะยังครับ รอจนเมื่อยแล้ว
    • สรุปทำไมวิเคราะห์ผิดหมดเลย ไม่มีข้อมูลเพียงพอรอบด้าน หรือไม่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ ถ้าได้บริหารประเทศวิเคราะห์ผิดแบบนี้แย่แน่นอน
    • สวัสดีเรามาจากอนาคต สภาพ ผิดทุกเรื่องตรงข้ามทุกอย่าง 5555
    • วิเคราะห์มาถึงขนาดนี้ ปัจจุบันคุณเห็นหรือยังใครเป็นคนทำสงคราม นาโต้ทำสงครามกับรัสเซีย ยูเครนเป็นสนามรบ ผู้สนับสนุนหลักคืออเมริกา
    รัสเซียบุกยูเครน ก็เพราะนาโต้ขยายอาณาเขตเข้ามาในยูเครน รัสเซียแค่ป้องกันตนเองจากกลุ่มนาโต้ มีหัวเรือเป็นสหรัฐอเมริกา ตัวตลกยูเครนคือหุ่นเชิด
    • ธงหักหมดแล้ว จากคนเคยเลือกและลาขาด
    .
    สำหรับคลิปการวิเคราะห์ดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ เรื่องสงครามยูเครน นับถึงเวลา 20.00น. ที่ผ่านมาของวันที่ 20 ก.พ. 68 มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 1.49 ล้านครั้ง
    ยูเครนชนะกี่โมง? ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ฟันธงรัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ . ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ยอดนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศสายส้ม วิเคราะห์สงครามยูเครนแบบมั่นหน้า ด้วยการฟันธงว่า รัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ ปูตินจะถูกรัฐประหารเงียบ จนชาวเน็ตผู้มาจากอนาคตเข้าไปรุมคอมเมนต์เดือด เตือนความทรงจำ ถามเมื่อไหร่รัสเซียจะแพ้-ยูเครนจะชนะ? . ในสถานการณ์ทางการเมืองโลกที่ผันผวนภายหลังการยกหูโทรศัพท์พูดคุยกันนานกว่า 90 นาทีระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 โดยในประเด็นสงครามยูเครนนั้น นายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะยุติสงครามไร้สาระนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการสังหารและการทำลายล้างที่ไม่จำเป็นเลย ขอพระเจ้าอวยพรประชาชนชาวรัสเซียและยูเครน!” . การเริ่มต้นพูดคุยระหว่าง ทรัมป์และปูติน อันนำมาสู่เหตุการณ์เมื่อ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 สหรัฐฯ และรัสเซียนำโดย นายมาร์ค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งดำเนินการเปิดโต๊ะการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนกันเพียง 2 ฝ่าย อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยปราศจากตัวแทนของยูเครน และชาติต่าง ๆ ในยุโรปร่วมโต๊ะเลย แม้แต่คนเดียว . สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้กับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนและผู้นำชาติต่างๆ ในยุโรปอย่างมาก เพราะการเปิดโต๊ะเจรจาดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า ยูเครนและยุโรปน่าจะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง และพ่ายแพ้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางซากปรักหักพัง รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เข้ารุมเร้าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การแย่งชิงบีบบังคับเอาทรัพยากรเพื่อชดใช้เงินช่วยเหลือในสงคราม ความวุ่นวายทางการเมืองภายใน รวมไปถึงปัญหาสังคมและผู้อพยพ ฯลฯ . ในส่วนของผู้ที่ติดตามข่าวสารเรื่องสงครามยูเครนในประเทศไทยส่วนหนึ่ง ได้มีผู้ย้อนไปหยิบยกการวิเคราะห์สถานการณ์สงครามยูเครนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ และอดีตเป็นพิธีกรรายการข่าวทางช่องวอยซ์ทีวี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งโฆษกคณะก้าวหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 หรือเกือบ 3 ปีที่แล้ว ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เอาไว้ในยูทูปช่อง คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ความยาวกว่า 25 นาที ในหัวเรื่องว่า "ช่อฟันธง! รัสเซียแพ้ย่อยยับ ปูตินชักศึกเข้าบ้าน!" (ลิงก์ >> https://www.youtube.com/watch?v=ytfIw1BHnEM) . ทั้งนี้ในรายการดังกล่าว "ช่อ พรรณิการ์" แห่งคณะก้าวหน้าได้กล่าวในตอนต้นว่า "ดิฉันขอฟันธง รัสเซียเธอแพ้แน่นอน นับวันแพ้ ทำไมถึงจะแพ้ เป็นเพราะอะไรเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะอะไร?" . จากนั้น อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าววิเคราะห์ต่อว่า สาเหตุที่รัสเซียจะพ่ายแพ้ต่อยูเครนและชาติพันธมิตรยุโรปนั้นมาจาก การบีบบังคับด้วยการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ-การเงินต่อยุโรป "มาตรการหลัก ๆ ที่ตอนนี้นำโดยสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ใช้อยู่จริง ๆ คือ มาตรการการเงิน ซึ่งมากไปกว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจการค้านะ แต่เรียกว่าเป็นการทุบค่าเงินและตัดตอนทางการเงินแบบขนานใหญ่ อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา นานาประเทศตัดรัสเซียออกจากระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ S.W.I.F.T., ระบบการเงินของธนาคารต่าง ๆ, มีการฟรีซแอสเสท หรือสินทรัพย์ของรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงประกาศไม่ให้มีการค้าขายกับรัสเซีย ..." น.ส.พรรณิการ์กล่าว และวิเคราะห์ต่อว่า นี่เองเป็นสาเหตุที่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกต่ำลงอย่างมาก จนแทบจะไม่มีค่า แทบจะกลายเป็นเศษกระดาษ . นอกจากนี้ ช่อ พรรณิการ์ ยังวิเคราะห์ต่ออย่างออกรสด้วยว่า ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดคือ ท่าทีของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เลือกจะทำตามมาตรการคว่ำบาตรของอียู คือ การอายัดทรัพย์สินของรัสเซียที่อยู่ในแบงก์สวิตเซอร์แลนด์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่ใช่แค่การอายัดเฉพาะทรัพย์สินของรัฐ แต่เป็นทรัพย์สินของเอกชน และมหาเศรษฐีต่าง ๆ ของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับนายปูตินด้วยจะเป็นปัจจัยชี้ขายให้รัสเซียและนายปูตินพ่ายแพ้อย่างแน่นอน . "ดิฉันคิดว่า เมื่อสวิตเซอร์แลนด์ทำขนาดนี้แล้ว ปูตินนับวันแพ้ได้เลยนะคะ" โฆษกคณะก้าวหน้าฟันธง . ล่วงเลยมาถึงวันนี้ เมื่อทีมงาน Sondhi X กลับไปสำรวจความเห็นของผู้ที่เข้ามาชมคลิปการวิเคราะห์สถานการณ์โลกดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ ทางยูทูปของคณะก้าวหน้าแล้วก็พบว่า มีผู้เข้าไปย้อนดูคลิปดังกล่าวและแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น • สวัสดีเรามาจากอนาคต 2025 ตอนนี้ทรัมป์กับปูตินเจรจากันแล้วนะเรื่องยูเครนโดยไม่มีไอ้กี้ หรือใช้คำว่าไม่เห็นหัวไอ้กี้ ก็คงไม่ผิดนัก ส่วนไอ้กี้ก็หัวซุกหัวซุนเกาะยุโรปที่เหลืออย่างแนบแน่น จริงแล้วตอนนี้ ยูเครนต้องเลือกปธน.ใหม่แล้วนะ แต่ไอ้กี้ไม่ยอม และไม่ฟังเสียงปชช.เลย โคจรหวงอำนาจเลย ยังไงรบกวนคุณช่อประท้วงแทนปชช.ชาวยูเครนด้วยนะ หรือส่งให้ว่าที่ เลขา UN ด้วยนะครับ • เมื่อไรจะแพ้ รออยู่นะคับ • ทายแค่ ซ้ายขวายังผิดยังคิดจะมาบริหารประเทศ อายมั้ยส้ม • 20-2-2025 ทายผิดจนขนลุก ยูเครนเละโดนรุมทึ้งแบ่งเค้กผลประโยชน์ของชาติ แถมไม่มีสิทธิแม้แต่เข้าร่วมเจรจาสันติภาพเลือกชะตากรรมของชาติตัวเอง 😂 • ยูเครนชนะยังครับ รอจนเมื่อยแล้ว • สรุปทำไมวิเคราะห์ผิดหมดเลย ไม่มีข้อมูลเพียงพอรอบด้าน หรือไม่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ ถ้าได้บริหารประเทศวิเคราะห์ผิดแบบนี้แย่แน่นอน • สวัสดีเรามาจากอนาคต สภาพ ผิดทุกเรื่องตรงข้ามทุกอย่าง 5555 • วิเคราะห์มาถึงขนาดนี้ ปัจจุบันคุณเห็นหรือยังใครเป็นคนทำสงคราม นาโต้ทำสงครามกับรัสเซีย ยูเครนเป็นสนามรบ ผู้สนับสนุนหลักคืออเมริกา รัสเซียบุกยูเครน ก็เพราะนาโต้ขยายอาณาเขตเข้ามาในยูเครน รัสเซียแค่ป้องกันตนเองจากกลุ่มนาโต้ มีหัวเรือเป็นสหรัฐอเมริกา ตัวตลกยูเครนคือหุ่นเชิด • ธงหักหมดแล้ว จากคนเคยเลือกและลาขาด . สำหรับคลิปการวิเคราะห์ดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ เรื่องสงครามยูเครน นับถึงเวลา 20.00น. ที่ผ่านมาของวันที่ 20 ก.พ. 68 มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 1.49 ล้านครั้ง
    Haha
    Like
    6
    1 Comments 0 Shares 572 Views 0 Reviews
  • INTUCH
    ถึงฟีโบ แนว 61.8% ละ วัดตามภาพ

    แต่ถ้าจะต่อ แนว pe แถว 20x ก็แถว 80

    ☀️แต่พิจารณาด้วย
    เดี๋ยวจะควบรวมเป็นตัวใหม่ INTUCH+GULF
    ตัวใหม่จะเล่น pe แบบไหนล่ะ
    แล้วระดับราคาเปิดของตัวใหม่…
    เอาแบบปกติ ก็ไม่ควรจะต่ำกว่าฐานที่พุ่งขึ้นมามั้ง(เทียบดูในกราฟ)

    INTUCH, GULF🪴
    กำหนด วันปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะได้สิทธิ์ ได้จัดสรรหุ้นใหม่ ชื่อ บมจ กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์
    คือ วันที่ 25 มีค 2568

    💥หุ้นเดิม จะหยุดซื้อขาย ตั้งแต่ 21 มีนาคม - 2 เมษายน 2568

    ตัวใหม่จะเทรดวันไหน ยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัด
    INTUCH ถึงฟีโบ แนว 61.8% ละ วัดตามภาพ แต่ถ้าจะต่อ แนว pe แถว 20x ก็แถว 80 ☀️แต่พิจารณาด้วย เดี๋ยวจะควบรวมเป็นตัวใหม่ INTUCH+GULF ตัวใหม่จะเล่น pe แบบไหนล่ะ แล้วระดับราคาเปิดของตัวใหม่… เอาแบบปกติ ก็ไม่ควรจะต่ำกว่าฐานที่พุ่งขึ้นมามั้ง(เทียบดูในกราฟ) INTUCH, GULF🪴 กำหนด วันปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะได้สิทธิ์ ได้จัดสรรหุ้นใหม่ ชื่อ บมจ กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ คือ วันที่ 25 มีค 2568 💥หุ้นเดิม จะหยุดซื้อขาย ตั้งแต่ 21 มีนาคม - 2 เมษายน 2568 ตัวใหม่จะเทรดวันไหน ยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัด
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • 📌10 เทคนิควางแผนการเงินเพื่อชีวิตวัยเกษียณสำหรับ Generation X
    1. กำหนดเป้าหมายเกษียณ – คำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องการและระยะเวลาการออม

    2. สร้างกองทุนฉุกเฉิน – มีเงินสำรอง 6-12 เดือนเผื่อค่าใช้จ่ายไม่คาดคิด

    3. ออมเงินอย่างสม่ำเสมอ – กันเงินเก็บทุกเดือน สร้างนิสัยออมก่อนใช้

    4. ลงทุนเพื่ออนาคต – กระจายความเสี่ยงในหุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์

    5. ลดหนี้สินก่อนเกษียณ – จัดการหนี้ให้หมดเร็ว ลดภาระดอกเบี้ย

    6. วางแผนประกันสุขภาพ – เลือกประกันคุ้มครองระยะยาวลดภาระค่ารักษาพยาบาล

    7. ศึกษาสิทธิ์ประกันสังคม – ตรวจสอบเงินบำนาญและสวัสดิการที่ได้รับ

    8. หารายได้เสริม – ลงทุนหรือทำธุรกิจขนาดเล็กสร้างรายได้ต่อเนื่อง

    9. ควบคุมค่าใช้จ่าย – ตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือย บริหารเงินให้มีประสิทธิภาพ

    10. วางแผนมรดก – จัดการพินัยกรรมเพื่อป้องกันปัญหาทรัพย์สินในอนาคต

    เตรียมตัวดี มีเงินใช้ เกษียณอย่างมั่นคง!

    📌10 เทคนิควางแผนการเงินเพื่อชีวิตวัยเกษียณสำหรับ Generation X 1. กำหนดเป้าหมายเกษียณ – คำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องการและระยะเวลาการออม 2. สร้างกองทุนฉุกเฉิน – มีเงินสำรอง 6-12 เดือนเผื่อค่าใช้จ่ายไม่คาดคิด 3. ออมเงินอย่างสม่ำเสมอ – กันเงินเก็บทุกเดือน สร้างนิสัยออมก่อนใช้ 4. ลงทุนเพื่ออนาคต – กระจายความเสี่ยงในหุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์ 5. ลดหนี้สินก่อนเกษียณ – จัดการหนี้ให้หมดเร็ว ลดภาระดอกเบี้ย 6. วางแผนประกันสุขภาพ – เลือกประกันคุ้มครองระยะยาวลดภาระค่ารักษาพยาบาล 7. ศึกษาสิทธิ์ประกันสังคม – ตรวจสอบเงินบำนาญและสวัสดิการที่ได้รับ 8. หารายได้เสริม – ลงทุนหรือทำธุรกิจขนาดเล็กสร้างรายได้ต่อเนื่อง 9. ควบคุมค่าใช้จ่าย – ตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือย บริหารเงินให้มีประสิทธิภาพ 10. วางแผนมรดก – จัดการพินัยกรรมเพื่อป้องกันปัญหาทรัพย์สินในอนาคต เตรียมตัวดี มีเงินใช้ เกษียณอย่างมั่นคง!
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสคนใหม่ประจำสิงคโปร์แถลงว่า ยุโรปไม่ต้องการให้ชาติเอเชียต้องเลือกระหว่างสหรัฐฯ และจีน ท่ามกลางกระแสการแข่งขันโลกเชี่ยวกราก ปูทางประธานาธิบดี เอ็มมานุเอล มาครง ขึ้นเวทีการประชุมแชงกรีลาไดอะล็อกฟอรัม พฤษภาคมนี้ ขณะที่สิงคโปร์เปิดอกรับเอเชียมองวอชิงตันทำตัวเหมือนเจ้าของที่กำลังเรียกเก็บค่าเช่า
    .
    รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (18 ก.พ.) ว่า เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสคนใหม่ประจำสิงคโปร์ สตีเฟน มาร์กีซีโอ (Stephen Marchisio) เริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่วันอังคาร (18) เปิดใจว่า ฝรั่งเศสเห็นแรงกดดันเพิ่มขึ้น “บางทีมาจากฝั่งสหรัฐฯ” ที่พันธมิตรในเอเชียจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกข้าง”
    .
    เขาย้ำว่า “มันมีความสำคัญที่ต้องกล่าวว่าพวกเราสามารถพูดคุยได้กับทุกคน” และเสริมว่า “พวกเราไม่ต้องการให้ใครต้องเลือก”
    .
    ทูตแดนน้ำหอมคนใหม่ของประธานาธิบดีเอ็มมานุเอล มาครงให้สัมภาษณ์กับนักข่าวระหว่างอาหารค่ำในสิงคโปร์ที่ซึ่งมาครงจะเดินทางมาที่นี่เพื่อขึ้นกล่าวในการประชุมความมั่นคงแชงกรีลาฟอรัมในวันที่ 30 พ.ค.ที่จะถึง
    .
    มาร์กีซีโอกล่าวว่า ประธานาธิบดีมาครงจะขึ้นกล่าวยืนยันบนเวทีว่า ทุกชาติภายในภูมิภาคสามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติตัวเองได้
    .
    “พวกคุณสามารถทำได้ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วยกับรูปแบบทางการเมืองของจีน และคุณสามารถทำได้ถึงแม้คุณจะไม่ต้องการฐานทัพจากสหรัฐฯ ในดินแดนของพวกคุณก็ตาม”
    .
    สถานทูตสหรัฐฯ ในสิงคโปร์ได้ตอบคำถามรอยเตอร์ไปยังแถลงการณ์ของกลุ่ม G-7 ที่ลงนามในมิวนิกโดยฝรั่งเศสและสหรัฐฯ ที่กล่าวว่า สมาชิกทุกชาติมีพันธต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรี เปิดกว้าง และมั่นคง
    .
    ตามแถลงการณ์ทูตฝรั่งเศสชี้ว่า ยุโรปต้องสามัคคี
    .
    มาร์กีซีโอยังชี้ว่า ยุโรปต้องมีความสามัคคีที่รวมไปถึงการสั่งซื้ออาวุธอเมริกัน ที่ชี้ว่าเป็นการตอบโต้คำแถลงจากรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดีเจ แวนซ์ ในมิวนิกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    ทูตแดนน้ำหอมกล่าวว่า มีบางประเทศมองความเกี่ยวข้องในการซื้ออาวุธเป็นหนทางที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก แต่ทว่ามุมมองนี้เปลี่ยนไปแล้วโดยเฉพาะหลังจากที่รองประธานาธิบดีแวนซ์ของสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณผ่านำแถลงที่เผ็ดร้อนในการประชุมมิวนิกฟอรัมในยุโรป
    .
    “เกิดอะไรขึ้นในมิวนิก? เขาพยายามโจมตีแก่นกลางของประชาธิปไตย” และเสริมต่อว่า “ดังนั้นมันจึงทำให้เกิดไปสู่คำถามอื่นต่อ”
    .
    ดังนั้นเวลานี้ประเทศในยุโรปอาจจะไม่ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อเมริกัน และเสริมต่อว่าเป็นเพราะไม่มีหลักประกันในการทำเช่นนั้นจะช่วยผ่อนคลายความกดดันของสหรัฐฯ ลงหรือวาทะโจมตีแสดงความเป็นปรปักษ์
    .
    “พวกเราไม่ต้องการที่จะกล่าวว่า ..แต่พวกเราจะตอบโต้หากว่าพวกเราต้องทำ” โดยอ้างไปถึงภาษีและแรงกดดันอื่นๆ ของสหรัฐฯ
    .
    มาร์กีซีโอรายงานว่า สถานการณ์ที่ดีที่สุดของฝรั่งเศสคือการไม่ต้องการตอบโต้เอาคืนจากการที่ทั้งสหรัฐอเมริกาและชาติยุโรปต่างมีผลประโยชน์ร่วมกันมากมายรวมไปถึงอุตสาหกรรม
    .
    การแสดงความเห็นของทูตฝรั่งเศสคนใหม่สะท้อนความเห็นรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ อึ้ง เอ็ง เฮง (Ng Eng Hen) ที่แถลงในการประชุมความมั่นคงยุโรปว่า “ภาพของอเมริกาที่มีต่อเอเชียได้เปลี่ยนไป”
    .
    “ภาพลักษณ์เปลี่ยนไปจากผู้ปลดปล่อยไปสู่ผู้สร้างความปั่นป่วนไปสู่เจ้าของที่ต้องการเรียกเก็บค่าเช่า”
    .
    บลูมเบิร์กรายงานวันจันทร์ (17) ว่า อึ้ง เอ็ง เฮง แถลงในการประชุมนอกรอบที่การประชุมความมั่นคงมิวนิกว่า แนวคิดที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายปีหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
    .
    ทั้งนี้ เว็บไซต์รัฐบาลสิงคโปร์ได้โพสต์เมื่อสุดสัปดาห์ในคำแถลงของรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์กล่าววิจารณ์สหรัฐฯ ในการประชุมมิวนิก
    .
    คำแถลงเกิดขึ้นหลังรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่สมัยทรัมป์มืดมัวตาบอดไม่สนใจต่อประวัติศาสตร์ที่เป็นมาของพันธมิตรนาโตเปิดฉากแผนการหารือตรงกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินต่ออนาคตของสงครามเครมลินในยูเครน
    .
    บลูมเบิร์กวิเคราะห์ว่า สิงคโปร์เป็นเหมือนเช่นชาติส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องการแสวงหาทางสายกลางในการเพิ่มขึ้นของภาพที่ซับซ้อนทางการเมืองเชิงภูมิศาสตร์ เพื่อเสาะหาความสัมพันธ์ที่สมดุลกับสหรัฐอเมริกาในฐานะหุ้นส่วนความมั่นคงหลักและต่อจีนในฐานะแหล่งของการพัฒนาและหนึ่งในพันธมิตรทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดของตัวเอง
    .
    ทั้งนี้สหรัฐฯ ในสมัยอดีตรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน อเมริกาได้ทำงานเพื่อสร้างข้อผูกพันทางความมั่นคงภายในภูมิภาคต่อต้านการรุกคืบจากจีนในทะเลจีนใต้ และเป็นความวิตกทางความมั่นคงที่ยังคงเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของปักกิ่งในการนำไต้หวันกลับสู่อ้อมอกอีกครั้งในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการใช้กำลังหรือไม่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016775
    ..............
    Sondhi X
    เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสคนใหม่ประจำสิงคโปร์แถลงว่า ยุโรปไม่ต้องการให้ชาติเอเชียต้องเลือกระหว่างสหรัฐฯ และจีน ท่ามกลางกระแสการแข่งขันโลกเชี่ยวกราก ปูทางประธานาธิบดี เอ็มมานุเอล มาครง ขึ้นเวทีการประชุมแชงกรีลาไดอะล็อกฟอรัม พฤษภาคมนี้ ขณะที่สิงคโปร์เปิดอกรับเอเชียมองวอชิงตันทำตัวเหมือนเจ้าของที่กำลังเรียกเก็บค่าเช่า . รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (18 ก.พ.) ว่า เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสคนใหม่ประจำสิงคโปร์ สตีเฟน มาร์กีซีโอ (Stephen Marchisio) เริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่วันอังคาร (18) เปิดใจว่า ฝรั่งเศสเห็นแรงกดดันเพิ่มขึ้น “บางทีมาจากฝั่งสหรัฐฯ” ที่พันธมิตรในเอเชียจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกข้าง” . เขาย้ำว่า “มันมีความสำคัญที่ต้องกล่าวว่าพวกเราสามารถพูดคุยได้กับทุกคน” และเสริมว่า “พวกเราไม่ต้องการให้ใครต้องเลือก” . ทูตแดนน้ำหอมคนใหม่ของประธานาธิบดีเอ็มมานุเอล มาครงให้สัมภาษณ์กับนักข่าวระหว่างอาหารค่ำในสิงคโปร์ที่ซึ่งมาครงจะเดินทางมาที่นี่เพื่อขึ้นกล่าวในการประชุมความมั่นคงแชงกรีลาฟอรัมในวันที่ 30 พ.ค.ที่จะถึง . มาร์กีซีโอกล่าวว่า ประธานาธิบดีมาครงจะขึ้นกล่าวยืนยันบนเวทีว่า ทุกชาติภายในภูมิภาคสามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติตัวเองได้ . “พวกคุณสามารถทำได้ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วยกับรูปแบบทางการเมืองของจีน และคุณสามารถทำได้ถึงแม้คุณจะไม่ต้องการฐานทัพจากสหรัฐฯ ในดินแดนของพวกคุณก็ตาม” . สถานทูตสหรัฐฯ ในสิงคโปร์ได้ตอบคำถามรอยเตอร์ไปยังแถลงการณ์ของกลุ่ม G-7 ที่ลงนามในมิวนิกโดยฝรั่งเศสและสหรัฐฯ ที่กล่าวว่า สมาชิกทุกชาติมีพันธต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรี เปิดกว้าง และมั่นคง . ตามแถลงการณ์ทูตฝรั่งเศสชี้ว่า ยุโรปต้องสามัคคี . มาร์กีซีโอยังชี้ว่า ยุโรปต้องมีความสามัคคีที่รวมไปถึงการสั่งซื้ออาวุธอเมริกัน ที่ชี้ว่าเป็นการตอบโต้คำแถลงจากรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดีเจ แวนซ์ ในมิวนิกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา . ทูตแดนน้ำหอมกล่าวว่า มีบางประเทศมองความเกี่ยวข้องในการซื้ออาวุธเป็นหนทางที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก แต่ทว่ามุมมองนี้เปลี่ยนไปแล้วโดยเฉพาะหลังจากที่รองประธานาธิบดีแวนซ์ของสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณผ่านำแถลงที่เผ็ดร้อนในการประชุมมิวนิกฟอรัมในยุโรป . “เกิดอะไรขึ้นในมิวนิก? เขาพยายามโจมตีแก่นกลางของประชาธิปไตย” และเสริมต่อว่า “ดังนั้นมันจึงทำให้เกิดไปสู่คำถามอื่นต่อ” . ดังนั้นเวลานี้ประเทศในยุโรปอาจจะไม่ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อเมริกัน และเสริมต่อว่าเป็นเพราะไม่มีหลักประกันในการทำเช่นนั้นจะช่วยผ่อนคลายความกดดันของสหรัฐฯ ลงหรือวาทะโจมตีแสดงความเป็นปรปักษ์ . “พวกเราไม่ต้องการที่จะกล่าวว่า ..แต่พวกเราจะตอบโต้หากว่าพวกเราต้องทำ” โดยอ้างไปถึงภาษีและแรงกดดันอื่นๆ ของสหรัฐฯ . มาร์กีซีโอรายงานว่า สถานการณ์ที่ดีที่สุดของฝรั่งเศสคือการไม่ต้องการตอบโต้เอาคืนจากการที่ทั้งสหรัฐอเมริกาและชาติยุโรปต่างมีผลประโยชน์ร่วมกันมากมายรวมไปถึงอุตสาหกรรม . การแสดงความเห็นของทูตฝรั่งเศสคนใหม่สะท้อนความเห็นรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ อึ้ง เอ็ง เฮง (Ng Eng Hen) ที่แถลงในการประชุมความมั่นคงยุโรปว่า “ภาพของอเมริกาที่มีต่อเอเชียได้เปลี่ยนไป” . “ภาพลักษณ์เปลี่ยนไปจากผู้ปลดปล่อยไปสู่ผู้สร้างความปั่นป่วนไปสู่เจ้าของที่ต้องการเรียกเก็บค่าเช่า” . บลูมเบิร์กรายงานวันจันทร์ (17) ว่า อึ้ง เอ็ง เฮง แถลงในการประชุมนอกรอบที่การประชุมความมั่นคงมิวนิกว่า แนวคิดที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายปีหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง . ทั้งนี้ เว็บไซต์รัฐบาลสิงคโปร์ได้โพสต์เมื่อสุดสัปดาห์ในคำแถลงของรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์กล่าววิจารณ์สหรัฐฯ ในการประชุมมิวนิก . คำแถลงเกิดขึ้นหลังรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่สมัยทรัมป์มืดมัวตาบอดไม่สนใจต่อประวัติศาสตร์ที่เป็นมาของพันธมิตรนาโตเปิดฉากแผนการหารือตรงกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินต่ออนาคตของสงครามเครมลินในยูเครน . บลูมเบิร์กวิเคราะห์ว่า สิงคโปร์เป็นเหมือนเช่นชาติส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องการแสวงหาทางสายกลางในการเพิ่มขึ้นของภาพที่ซับซ้อนทางการเมืองเชิงภูมิศาสตร์ เพื่อเสาะหาความสัมพันธ์ที่สมดุลกับสหรัฐอเมริกาในฐานะหุ้นส่วนความมั่นคงหลักและต่อจีนในฐานะแหล่งของการพัฒนาและหนึ่งในพันธมิตรทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดของตัวเอง . ทั้งนี้สหรัฐฯ ในสมัยอดีตรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน อเมริกาได้ทำงานเพื่อสร้างข้อผูกพันทางความมั่นคงภายในภูมิภาคต่อต้านการรุกคืบจากจีนในทะเลจีนใต้ และเป็นความวิตกทางความมั่นคงที่ยังคงเกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของปักกิ่งในการนำไต้หวันกลับสู่อ้อมอกอีกครั้งในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการใช้กำลังหรือไม่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016775 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    12
    0 Comments 0 Shares 2271 Views 0 Reviews
  • STECON🔥
    ยังไม่เห็น งบการเงินของบริษัทใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนมาเมื่อปลายปีก่อน
    แต่ถ้าอ้างอิงจากงบการเงินเดิม จำนวนหุ้นเดิม
    Book value แบบตัด equity ส่วนของ สินทรัพย์อสังหาออกทั้งก้อน
    ได้ ประมาณ 8 บาท…
    STECON🔥 ยังไม่เห็น งบการเงินของบริษัทใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนมาเมื่อปลายปีก่อน แต่ถ้าอ้างอิงจากงบการเงินเดิม จำนวนหุ้นเดิม Book value แบบตัด equity ส่วนของ สินทรัพย์อสังหาออกทั้งก้อน ได้ ประมาณ 8 บาท…
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • ฟิตหุ่น ฝึกความแข็งแรงกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ลงลึกได้ก้น
    เพิ่ม แรงต้านสร้างกล้ามเนื้อด้วย Dumbbell นน.ที่เหมาะสม
    ฟิตหุ่น ฝึกความแข็งแรงกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ลงลึกได้ก้น เพิ่ม แรงต้านสร้างกล้ามเนื้อด้วย Dumbbell นน.ที่เหมาะสม
    0 Comments 0 Shares 134 Views 1 0 Reviews
  • ไพ่อยากบอกอะไร? 17-23 ก.พ.68

    #วิธีเสริมดวงทั้ง 7 วัน...ให้ดูแลผู้มีพระคุณให้ดี ใครที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ ให้ไปขอขมาเพราะมีส่วนทำให้ชีวิตติดขัด พยายามรักษาศีล 5 มีโอกาสพลาดทำผิดศีลข้อที่ 3 แล้วจะทำให้ดวงชะตามีความติดขัด ให้สวดมนต์ทุกวัน บทที่แนะนำ บทพระมหาจักรพรรดิ/มหาสมัยสูตร/มหาเมตตาใหญ่

    #คนเกิดวันจันทร์...ดวงเดินทางเด่น/ระวังจะทะเลาะขัดแย้งกับผู้ร่วมงาน หรือคนใกล้ตัวใกล้ชิด/ไม่ควรลงทุนธุรกิจใดๆในช่วงนี้เพราะมีโอกาสขาดทุน หรือทะเลาะแตกแยกจากหุ้นส่วน /การเงินต้องบริหารให้ดีเพราะมีโอกาสที่จะติดขัดได้/เลขนำโชค 2/9 /สุขภาพให้ระวังอันตรายจากสัตว์ ระวังกระดูก ข้อเข่า โรคอ้วนถ้าเจ็บป่วยอยู่ต้องรีบไปหาหมอเพราะมีโอกาสที่จะเป็นหนัก

    #คนเกิดวันอังคาร...จะมีผู้หลักผู้ใหญ่อุปถัมภ์ช่วยเหลือเรื่องงานหรือเรื่องเงิน/จะเป็นช่วงที่มีเสน่ห์ หากมีแฟนอยู่แล้ว ระวังจะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบเพิ่มเติม ทำให้ความรักมีปัญหาอุปสรรค มีโอกาสที่จะเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องกับคนที่มีเจ้าของแล้ว/มีเรื่องเสียเงินเกี่ยวกับรถ/เลขนำโชค4/8/ให้ระวังเกี่ยวกับโรคในช่องท้อง

    #คนเกิดวันพุธ...มีโอกาสได้โชคได้เงิน ให้เสี่ยงโชคติดไว้บ้าง/อาจได้ซื้อของชิ้นใหญ่ หรือของราคาแพงๆ/คนโสดมีโอกาสพบคนถูกใจ หรือจะได้แฟน/เลขนำโชค 9/7/3/สุขภาพต้องระวังเกี่ยวกับระบบประสาท ขี้หลงขี้ลืม

    #คนเกิดวันพฤหัสบดี...ใครที่มีเรื่องติดค้างกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องรีบไปแก้ไข เพราะมีส่วนที่จะทำให้ดวงชะตามีความติดขัด/หากทะเลาะกับคนรักมีโอกาสที่จะได้คืนดีกันหรือปรับความเข้าใจ/สุขภาพต้องระวังเกี่ยวกับสายตาปวดตา สายตาไม่ดี/มีโอกาสได้ไปกินเลี้ยงพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือถ้านัดเดทกับใครไว้มีโอกาสที่จะได้ไป/เลขนำโชค 5/6/8

    #คนเกิดวันศุกร์...ใครมีเรื่องติดกรรมเกี่ยวกับวิญญาณเด็ก ต้องพยายามสวดมนต์แผ่เมตตาและรักษาศีล 5 ถึงจะรอดพ้น เพราะชีวิตจะติดขัดเป็นอย่างมาก/เรื่องความรักมีโอกาสจะมีปัญหาเรื่องมือที่สาม หรือถ้าใครมีแอบคบคุยซ้อนจะถูกจับได้ /สุขภาพต้องระวังเกี่ยวกับปวดขา ข้อเข่าโรคอ้วน หรือเจ็บป่วยจากอาหารการกิน/ให้ระวังเรื่องคำพูดคำจาเพราะอาจจะมีศัตรูเกิดขึ้นได้/เลขนำโชค5/4/9

    #คนเกิดวันเสาร์...ระวังของหายข้าวของเสียหาย/ระวังโรคในช่องท้อง หรือเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์/มีโอกาสได้โชคลาภ แต่อาจจะมาแบบทุกขลาภ เช่นจะต้องมีเรื่องเสียเงินหรือเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นก่อนแล้วจะได้รับโชคตามมาในภายหลัง/เลขนำโชค8/3

    #คนเกิดวันอาทิตย์...ใครที่ช่วงนี้ฝันร้าย นอนไม่ค่อยหลับ ฝันถึงคนที่เสียชีวิตไปแล้ว มีโอกาสว่าอาจจะถูกรบกวนกับสิ่งที่มองไม่เห็น ควรจะต้องปั่นสวดมนต์แผ่เมตตาและทำบุญทำทาน/การเงินมีรายจ่ายมาก จะหมดกับหนี้สินถ้าติดเงินใครไว้ต้องรีบใช้คืนเพราะอาจจะเป็นปัญหาบานปลายใหญ่โต หรืออาจถูกทวงถาม/เป็นช่วงที่มีเสน่ห์จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบเพิ่มเติม แล้วจะทำให้มีปัญหาในชีวิตคู่ได้/สุขภาพพักผ่อนไม่เพียงพอ ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น/เลขนำโชค 4/9
    ------
    #หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    ไพ่อยากบอกอะไร? 17-23 ก.พ.68 #วิธีเสริมดวงทั้ง 7 วัน...ให้ดูแลผู้มีพระคุณให้ดี ใครที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ ให้ไปขอขมาเพราะมีส่วนทำให้ชีวิตติดขัด พยายามรักษาศีล 5 มีโอกาสพลาดทำผิดศีลข้อที่ 3 แล้วจะทำให้ดวงชะตามีความติดขัด ให้สวดมนต์ทุกวัน บทที่แนะนำ บทพระมหาจักรพรรดิ/มหาสมัยสูตร/มหาเมตตาใหญ่ #คนเกิดวันจันทร์...ดวงเดินทางเด่น/ระวังจะทะเลาะขัดแย้งกับผู้ร่วมงาน หรือคนใกล้ตัวใกล้ชิด/ไม่ควรลงทุนธุรกิจใดๆในช่วงนี้เพราะมีโอกาสขาดทุน หรือทะเลาะแตกแยกจากหุ้นส่วน /การเงินต้องบริหารให้ดีเพราะมีโอกาสที่จะติดขัดได้/เลขนำโชค 2/9 /สุขภาพให้ระวังอันตรายจากสัตว์ ระวังกระดูก ข้อเข่า โรคอ้วนถ้าเจ็บป่วยอยู่ต้องรีบไปหาหมอเพราะมีโอกาสที่จะเป็นหนัก #คนเกิดวันอังคาร...จะมีผู้หลักผู้ใหญ่อุปถัมภ์ช่วยเหลือเรื่องงานหรือเรื่องเงิน/จะเป็นช่วงที่มีเสน่ห์ หากมีแฟนอยู่แล้ว ระวังจะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบเพิ่มเติม ทำให้ความรักมีปัญหาอุปสรรค มีโอกาสที่จะเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องกับคนที่มีเจ้าของแล้ว/มีเรื่องเสียเงินเกี่ยวกับรถ/เลขนำโชค4/8/ให้ระวังเกี่ยวกับโรคในช่องท้อง #คนเกิดวันพุธ...มีโอกาสได้โชคได้เงิน ให้เสี่ยงโชคติดไว้บ้าง/อาจได้ซื้อของชิ้นใหญ่ หรือของราคาแพงๆ/คนโสดมีโอกาสพบคนถูกใจ หรือจะได้แฟน/เลขนำโชค 9/7/3/สุขภาพต้องระวังเกี่ยวกับระบบประสาท ขี้หลงขี้ลืม #คนเกิดวันพฤหัสบดี...ใครที่มีเรื่องติดค้างกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องรีบไปแก้ไข เพราะมีส่วนที่จะทำให้ดวงชะตามีความติดขัด/หากทะเลาะกับคนรักมีโอกาสที่จะได้คืนดีกันหรือปรับความเข้าใจ/สุขภาพต้องระวังเกี่ยวกับสายตาปวดตา สายตาไม่ดี/มีโอกาสได้ไปกินเลี้ยงพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือถ้านัดเดทกับใครไว้มีโอกาสที่จะได้ไป/เลขนำโชค 5/6/8 #คนเกิดวันศุกร์...ใครมีเรื่องติดกรรมเกี่ยวกับวิญญาณเด็ก ต้องพยายามสวดมนต์แผ่เมตตาและรักษาศีล 5 ถึงจะรอดพ้น เพราะชีวิตจะติดขัดเป็นอย่างมาก/เรื่องความรักมีโอกาสจะมีปัญหาเรื่องมือที่สาม หรือถ้าใครมีแอบคบคุยซ้อนจะถูกจับได้ /สุขภาพต้องระวังเกี่ยวกับปวดขา ข้อเข่าโรคอ้วน หรือเจ็บป่วยจากอาหารการกิน/ให้ระวังเรื่องคำพูดคำจาเพราะอาจจะมีศัตรูเกิดขึ้นได้/เลขนำโชค5/4/9 #คนเกิดวันเสาร์...ระวังของหายข้าวของเสียหาย/ระวังโรคในช่องท้อง หรือเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์/มีโอกาสได้โชคลาภ แต่อาจจะมาแบบทุกขลาภ เช่นจะต้องมีเรื่องเสียเงินหรือเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นก่อนแล้วจะได้รับโชคตามมาในภายหลัง/เลขนำโชค8/3 #คนเกิดวันอาทิตย์...ใครที่ช่วงนี้ฝันร้าย นอนไม่ค่อยหลับ ฝันถึงคนที่เสียชีวิตไปแล้ว มีโอกาสว่าอาจจะถูกรบกวนกับสิ่งที่มองไม่เห็น ควรจะต้องปั่นสวดมนต์แผ่เมตตาและทำบุญทำทาน/การเงินมีรายจ่ายมาก จะหมดกับหนี้สินถ้าติดเงินใครไว้ต้องรีบใช้คืนเพราะอาจจะเป็นปัญหาบานปลายใหญ่โต หรืออาจถูกทวงถาม/เป็นช่วงที่มีเสน่ห์จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบเพิ่มเติม แล้วจะทำให้มีปัญหาในชีวิตคู่ได้/สุขภาพพักผ่อนไม่เพียงพอ ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น/เลขนำโชค 4/9 ------ #หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 397 Views 0 Reviews
  • ร้านเปิดใหม่ ถวายน้ำมันเครื่อง บูชาหุ่นยนต์ “ออฟติมัส ไพรม์” ปรากฎขายดีจนต้องจ้างนางรำไปรำถวาย กลายเป็นคลิปไวรัลในโซเชียล
    ร้านเปิดใหม่ ถวายน้ำมันเครื่อง บูชาหุ่นยนต์ “ออฟติมัส ไพรม์” ปรากฎขายดีจนต้องจ้างนางรำไปรำถวาย กลายเป็นคลิปไวรัลในโซเชียล
    Haha
    Like
    Wow
    9
    0 Comments 0 Shares 780 Views 53 0 Reviews
  • หุ้นที่มี เงินสด สินทรัพย์สภาพคล่อง มากกว่า หนี้สินทั้งหมด💰

    แต่ปกติแล้ว แนวโน้มระดับราคาหุ้น จะไปตามอิทธิพลของ กำไร รายได้ มากกว่า🪴
    หุ้นที่มี เงินสด สินทรัพย์สภาพคล่อง มากกว่า หนี้สินทั้งหมด💰 แต่ปกติแล้ว แนวโน้มระดับราคาหุ้น จะไปตามอิทธิพลของ กำไร รายได้ มากกว่า🪴
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • บริษัท Samsung Electronics ประกาศเสนอชื่อผู้บริหารฝ่ายธุรกิจชิป Jun Young-hyun และ Chief Technology Officer Song Jai-hyuk เข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังประสบปัญหา นอกจากนี้ยังเสนอชื่อ ศาสตราจารย์ Lee Hyuk-jae จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลเป็นกรรมการบริหารภายนอก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชิปและเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยเซมิคอนดักเตอร์ของมหาวิทยาลัย

    การเปลี่ยนแปลงนี้มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung ที่พยายามกลับมาเป็นผู้นำตลาดอีกครั้ง หลังจากที่เสียตำแหน่งให้กับคู่แข่งภายในประเทศอย่าง SK Hynix ในด้านชิป HBM ที่ใช้ในหน่วยประมวลผลกราฟิก AI ของ Nvidia การเสนอชื่อผู้บริหารใหม่จะต้องผ่านการอนุมัติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 มีนาคม

    เรื่องที่น่าสนใจคือการที่ Samsung พยายามกลับมาเป็นผู้นำในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเซมิคอนดักเตอร์เป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีหลายๆ อย่างในยุคปัจจุบัน ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยนต์อัจฉริยะ ความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจนี้จึงมีผลกระทบอย่างมากต่อทั้งบริษัทและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั้งหมด

    ในขณะนี้ Samsung กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่เข้มข้นจากคู่แข่งหลายราย ไม่ว่าจะเป็นในประเทศอย่าง SK Hynix หรือบริษัทระดับโลกอย่าง Intel และ TSMC การเสริมความแข็งแกร่งในการบริหารธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อความอยู่รอดและความสำเร็จในอนาคตของบริษัท.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/18/samsung-electronics-nominates-chip-execs-as-new-board-members
    บริษัท Samsung Electronics ประกาศเสนอชื่อผู้บริหารฝ่ายธุรกิจชิป Jun Young-hyun และ Chief Technology Officer Song Jai-hyuk เข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังประสบปัญหา นอกจากนี้ยังเสนอชื่อ ศาสตราจารย์ Lee Hyuk-jae จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลเป็นกรรมการบริหารภายนอก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชิปและเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยเซมิคอนดักเตอร์ของมหาวิทยาลัย การเปลี่ยนแปลงนี้มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung ที่พยายามกลับมาเป็นผู้นำตลาดอีกครั้ง หลังจากที่เสียตำแหน่งให้กับคู่แข่งภายในประเทศอย่าง SK Hynix ในด้านชิป HBM ที่ใช้ในหน่วยประมวลผลกราฟิก AI ของ Nvidia การเสนอชื่อผู้บริหารใหม่จะต้องผ่านการอนุมัติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 มีนาคม เรื่องที่น่าสนใจคือการที่ Samsung พยายามกลับมาเป็นผู้นำในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเซมิคอนดักเตอร์เป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีหลายๆ อย่างในยุคปัจจุบัน ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยนต์อัจฉริยะ ความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจนี้จึงมีผลกระทบอย่างมากต่อทั้งบริษัทและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั้งหมด ในขณะนี้ Samsung กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่เข้มข้นจากคู่แข่งหลายราย ไม่ว่าจะเป็นในประเทศอย่าง SK Hynix หรือบริษัทระดับโลกอย่าง Intel และ TSMC การเสริมความแข็งแกร่งในการบริหารธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อความอยู่รอดและความสำเร็จในอนาคตของบริษัท. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/18/samsung-electronics-nominates-chip-execs-as-new-board-members
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Samsung Electronics nominates chip execs as new board members
    SEOUL (Reuters) - Samsung Electronics on Tuesday nominated its chip business chief Jun Young-hyun and Chief Technology Officer Song Jai-hyuk to join its board, as the tech giant looks to boost competitiveness in its struggling semiconductor business.
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้พูดถึงการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ใช้พลังงานจาก AI โดย Meta ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการทำงานบ้าน เช่น การพับผ้าและการล้างจาน โดย Meta ได้ก่อตั้งแผนกใหม่ใน Reality Labs เพื่อมุ่งเน้นการใช้โมเดล AI ของ Meta ในการปฏิบัติงานเหล่านี้

    Meta จะพัฒนาเซ็นเซอร์ ซอฟต์แวร์ และ AI สำหรับหุ่นยนต์ ซึ่งจะถูกส่งมอบให้กับบริษัทต่าง ๆ เพื่อผลิตหุ่นยนต์เหล่านี้ ในขั้นแรก หุ่นยนต์จะไม่ถูกทำการตลาดในชื่อของ Meta โดยบริษัทได้มีการหารือกับบริษัทหุ่นยนต์อื่น ๆ เช่น Unitree Robotics และ Figure AI สำหรับโครงการนี้

    Andrew Bosworth, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Meta ได้กล่าวว่า Meta ได้ลงทุนใน Reality Labs และ AI อย่างมากเพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ นอกจากนี้ Meta ยังได้จ้าง Marc Whitten อดีต CEO ของ Cruise มาเป็นรองประธานฝ่ายหุ่นยนต์ ซึ่งมีประสบการณ์กับ Microsoft, Unity, และ Amazon

    สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ Meta ไม่ใช่บริษัทเดียวที่กำลังพิจารณาการพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับบ้าน Apple เองก็มีแผนที่จะเพิ่มหุ่นยนต์เข้ามาในผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮม และ Google ก็มีความก้าวหน้าในการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์เช่นกัน

    การพัฒนาหุ่นยนต์ที่ใช้พลังงานจาก AI นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิด แต่กำลังกลายเป็นความจริง โดยเป็นการนำแนวคิดจาก Rosey Robot ในการ์ตูน The Jetsons มาใช้ในชีวิตประจำวัน

    https://wccftech.com/meta-is-developing-ai-powered-humanoid-robots-set-to-transform-household-chores-bringing-jetsons-rosey-to-life/
    ข่าวนี้พูดถึงการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ใช้พลังงานจาก AI โดย Meta ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการทำงานบ้าน เช่น การพับผ้าและการล้างจาน โดย Meta ได้ก่อตั้งแผนกใหม่ใน Reality Labs เพื่อมุ่งเน้นการใช้โมเดล AI ของ Meta ในการปฏิบัติงานเหล่านี้ Meta จะพัฒนาเซ็นเซอร์ ซอฟต์แวร์ และ AI สำหรับหุ่นยนต์ ซึ่งจะถูกส่งมอบให้กับบริษัทต่าง ๆ เพื่อผลิตหุ่นยนต์เหล่านี้ ในขั้นแรก หุ่นยนต์จะไม่ถูกทำการตลาดในชื่อของ Meta โดยบริษัทได้มีการหารือกับบริษัทหุ่นยนต์อื่น ๆ เช่น Unitree Robotics และ Figure AI สำหรับโครงการนี้ Andrew Bosworth, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Meta ได้กล่าวว่า Meta ได้ลงทุนใน Reality Labs และ AI อย่างมากเพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ นอกจากนี้ Meta ยังได้จ้าง Marc Whitten อดีต CEO ของ Cruise มาเป็นรองประธานฝ่ายหุ่นยนต์ ซึ่งมีประสบการณ์กับ Microsoft, Unity, และ Amazon สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ Meta ไม่ใช่บริษัทเดียวที่กำลังพิจารณาการพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับบ้าน Apple เองก็มีแผนที่จะเพิ่มหุ่นยนต์เข้ามาในผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮม และ Google ก็มีความก้าวหน้าในการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์เช่นกัน การพัฒนาหุ่นยนต์ที่ใช้พลังงานจาก AI นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิด แต่กำลังกลายเป็นความจริง โดยเป็นการนำแนวคิดจาก Rosey Robot ในการ์ตูน The Jetsons มาใช้ในชีวิตประจำวัน https://wccftech.com/meta-is-developing-ai-powered-humanoid-robots-set-to-transform-household-chores-bringing-jetsons-rosey-to-life/
    WCCFTECH.COM
    Meta Is Developing AI-Powered Humanoid Robots Set To Transform Household Chores, Bringing Rosey From The Jetsons To Life
    Meta is reportedly working on humanoid robots driven by AI and augmented reality to handle household chores and aimed at the consumers.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
More Results