• “Ransomware ยุคใหม่ใช้ AnyDesk และ Splashtop เป็นอาวุธ — แฝงตัวในเครื่ององค์กรแบบถูกกฎหมาย หลบแอนตี้ไวรัสได้เนียนกริบ”

    ในยุคที่การโจมตีไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น กลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ Ransomware ได้พัฒนาเทคนิคใหม่โดยอาศัยเครื่องมือที่ “ถูกกฎหมาย” อย่าง Remote Access Tools (RATs) เช่น AnyDesk, UltraViewer, RustDesk, Splashtop และ TightVNC เพื่อแฝงตัวในระบบองค์กรโดยไม่ถูกตรวจจับ

    รายงานจาก Seqrite Threat Intelligence ระบุว่า RAT เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อการดูแลระบบ IT และการสนับสนุนทางไกล ซึ่งมักถูก whitelist โดยองค์กร ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เป็นช่องทางเข้าถึงระบบได้อย่างแนบเนียน โดยไม่ต้องสร้างมัลแวร์ใหม่ให้เสี่ยงถูกตรวจจับ

    ขั้นตอนการโจมตีเริ่มจากการขโมยหรือ brute-force รหัสผ่านเพื่อเข้าระบบ จากนั้นแฮกเกอร์จะ hijack โปรแกรม RAT ที่มีอยู่ หรือแอบติดตั้งใหม่แบบ silent install โดยใช้ไฟล์ที่มีลายเซ็นถูกต้อง ทำให้ระบบไม่สงสัย จากนั้นจะใช้เทคนิค registry run keys, scheduled tasks และ PowerRun เพื่อให้ RAT ทำงานด้วยสิทธิ์ SYSTEM

    เมื่อฝังตัวได้แล้ว แฮกเกอร์จะปิดบริการแอนตี้ไวรัส ลบ log และใช้เครื่องมือ shred file เพื่อทำลายหลักฐาน ก่อนจะปล่อย payload ransomware ที่แฝงมาในรูปแบบ “อัปเดตซอฟต์แวร์” และแพร่กระจายผ่านเครือข่ายโดยใช้ credential reuse หรือ deploy RAT ทั่วองค์กร

    รายงานยังระบุว่า RAT เหล่านี้ถูกใช้ในหลายแคมเปญ ransomware เช่น LockBit, Phobos, Dharma, MedusaLocker, Mallox, Beast, CERBER, GlobeImposter, Mimic, Dyamond, Makop และ RansomHub โดยการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลายเซ็นถูกต้องทำให้การโจมตีดูเหมือนการดูแลระบบตามปกติ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    กลุ่ม ransomware ใช้ Remote Access Tools (RATs) ที่ถูกกฎหมายเพื่อแฝงตัวในระบบ
    เครื่องมือที่ถูกใช้ ได้แก่ AnyDesk, UltraViewer, RustDesk, Splashtop, TightVNC
    RAT เหล่านี้มักถูก whitelist โดยองค์กร ทำให้แฮกเกอร์ใช้ได้โดยไม่ถูกตรวจจับ
    ขั้นตอนโจมตีเริ่มจากการขโมยรหัสผ่าน แล้ว hijack หรือ install RAT แบบเงียบ
    ใช้ registry run keys, scheduled tasks และ PowerRun เพื่อให้ RAT ทำงานด้วยสิทธิ์ SYSTEM
    แฮกเกอร์ปิดแอนตี้ไวรัส ลบ log และ shred file เพื่อทำลายหลักฐาน
    ปล่อย ransomware ผ่าน RAT โดยแฝงเป็นอัปเดตซอฟต์แวร์
    RAT ถูกใช้ในแคมเปญ ransomware หลายกลุ่ม เช่น LockBit, Dharma, MedusaLocker
    การใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลายเซ็นถูกต้องช่วยให้การโจมตีดูเหมือนการดูแลระบบปกติ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    RAT ถูกใช้ในงาน IT อย่างถูกต้อง เช่น remote support และการดูแลเซิร์ฟเวอร์
    Silent install มักใช้ flag เช่น /S, /VERYSILENT, /quiet เพื่อไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว
    PowerRun เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้โปรแกรมทำงานด้วยสิทธิ์ SYSTEM โดยไม่ต้อง UAC
    การ whitelist ซอฟต์แวร์โดยไม่ตรวจสอบพฤติกรรม อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ใช้ได้
    การโจมตีแบบนี้เรียกว่า “living off the land” คือใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในระบบเพื่อหลบการตรวจจับ

    https://securityonline.info/ransomware-gangs-weaponize-anydesk-splashtop-and-other-legitimate-rats-to-bypass-security/
    🕵️‍♂️ “Ransomware ยุคใหม่ใช้ AnyDesk และ Splashtop เป็นอาวุธ — แฝงตัวในเครื่ององค์กรแบบถูกกฎหมาย หลบแอนตี้ไวรัสได้เนียนกริบ” ในยุคที่การโจมตีไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น กลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ Ransomware ได้พัฒนาเทคนิคใหม่โดยอาศัยเครื่องมือที่ “ถูกกฎหมาย” อย่าง Remote Access Tools (RATs) เช่น AnyDesk, UltraViewer, RustDesk, Splashtop และ TightVNC เพื่อแฝงตัวในระบบองค์กรโดยไม่ถูกตรวจจับ รายงานจาก Seqrite Threat Intelligence ระบุว่า RAT เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อการดูแลระบบ IT และการสนับสนุนทางไกล ซึ่งมักถูก whitelist โดยองค์กร ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เป็นช่องทางเข้าถึงระบบได้อย่างแนบเนียน โดยไม่ต้องสร้างมัลแวร์ใหม่ให้เสี่ยงถูกตรวจจับ ขั้นตอนการโจมตีเริ่มจากการขโมยหรือ brute-force รหัสผ่านเพื่อเข้าระบบ จากนั้นแฮกเกอร์จะ hijack โปรแกรม RAT ที่มีอยู่ หรือแอบติดตั้งใหม่แบบ silent install โดยใช้ไฟล์ที่มีลายเซ็นถูกต้อง ทำให้ระบบไม่สงสัย จากนั้นจะใช้เทคนิค registry run keys, scheduled tasks และ PowerRun เพื่อให้ RAT ทำงานด้วยสิทธิ์ SYSTEM เมื่อฝังตัวได้แล้ว แฮกเกอร์จะปิดบริการแอนตี้ไวรัส ลบ log และใช้เครื่องมือ shred file เพื่อทำลายหลักฐาน ก่อนจะปล่อย payload ransomware ที่แฝงมาในรูปแบบ “อัปเดตซอฟต์แวร์” และแพร่กระจายผ่านเครือข่ายโดยใช้ credential reuse หรือ deploy RAT ทั่วองค์กร รายงานยังระบุว่า RAT เหล่านี้ถูกใช้ในหลายแคมเปญ ransomware เช่น LockBit, Phobos, Dharma, MedusaLocker, Mallox, Beast, CERBER, GlobeImposter, Mimic, Dyamond, Makop และ RansomHub โดยการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลายเซ็นถูกต้องทำให้การโจมตีดูเหมือนการดูแลระบบตามปกติ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ กลุ่ม ransomware ใช้ Remote Access Tools (RATs) ที่ถูกกฎหมายเพื่อแฝงตัวในระบบ ➡️ เครื่องมือที่ถูกใช้ ได้แก่ AnyDesk, UltraViewer, RustDesk, Splashtop, TightVNC ➡️ RAT เหล่านี้มักถูก whitelist โดยองค์กร ทำให้แฮกเกอร์ใช้ได้โดยไม่ถูกตรวจจับ ➡️ ขั้นตอนโจมตีเริ่มจากการขโมยรหัสผ่าน แล้ว hijack หรือ install RAT แบบเงียบ ➡️ ใช้ registry run keys, scheduled tasks และ PowerRun เพื่อให้ RAT ทำงานด้วยสิทธิ์ SYSTEM ➡️ แฮกเกอร์ปิดแอนตี้ไวรัส ลบ log และ shred file เพื่อทำลายหลักฐาน ➡️ ปล่อย ransomware ผ่าน RAT โดยแฝงเป็นอัปเดตซอฟต์แวร์ ➡️ RAT ถูกใช้ในแคมเปญ ransomware หลายกลุ่ม เช่น LockBit, Dharma, MedusaLocker ➡️ การใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลายเซ็นถูกต้องช่วยให้การโจมตีดูเหมือนการดูแลระบบปกติ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ RAT ถูกใช้ในงาน IT อย่างถูกต้อง เช่น remote support และการดูแลเซิร์ฟเวอร์ ➡️ Silent install มักใช้ flag เช่น /S, /VERYSILENT, /quiet เพื่อไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว ➡️ PowerRun เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้โปรแกรมทำงานด้วยสิทธิ์ SYSTEM โดยไม่ต้อง UAC ➡️ การ whitelist ซอฟต์แวร์โดยไม่ตรวจสอบพฤติกรรม อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ใช้ได้ ➡️ การโจมตีแบบนี้เรียกว่า “living off the land” คือใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในระบบเพื่อหลบการตรวจจับ https://securityonline.info/ransomware-gangs-weaponize-anydesk-splashtop-and-other-legitimate-rats-to-bypass-security/
    SECURITYONLINE.INFO
    Ransomware Gangs Weaponize AnyDesk, Splashtop, and Other Legitimate RATs to Bypass Security
    Ransomware groups are hijacking legitimate RATs like AnyDesk and Splashtop to gain stealthy persistence, spread laterally, and disable antivirus software in enterprise networks.
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • เหยื่อ – ขวาง ตอนที่ 5
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 2 : “ขวาง 5”
    ความโตเร็วของเยอรมัน เริ่มเห็นชัดตั้งแต่ ค.ศ. 1890 ทำให้อังกฤษทนนั่งดูอยู่เฉยไม่ไหว อังกฤษเตรียมปรับแผนยุทธศาสตร์ที่ใช้อยู่กับพันธมิตรในยุโรป เป็นการปรับชนิด กลับหลัง ตลบหน้า รุนแรงถึงขนาด ปักหมุดให้พันธมิตรเดินตามที่อังกฤษต้องการ หรือหยุดเดินไปในทิศทางที่อังกฤษไม่ต้องการ

เหตุการณ์ที่อียิปต์ Fashoda Crisis คงเป็นตัวอย่างที่เห็นชัด แต่เดิมที่ผ่านมา อังกฤษและฝรั่งเศสกอดคอเฮฮานั่งกินเหล้าด้วยกันที่อียิปต์ เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันในคลองสุเอช แต่ตั้งแต่ ค.ศ. 1882 เป็นต้นมา กองทัพอังกฤษที่อียิปต์เหมือนจะงอกมากขึ้นเหมือนเห็ดในฤดูฝน และทำท่าว่าไม่ใช่งอกชั่วฤดูกาล แต่ออกอาการว่าจะอยู่ถาวร แถมอังกฤษแต่งตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าใหญ่ เข้าไปสั่งการกับรัฐบาลอียิปต์อีกด้วย ฝรั่งเศษตีโจทย์ไม่ออก นี่มันจะมาไม้ไหน อังกฤษบอกกับฝรั่งเศสว่าไม่ต้องคิดมาก ทุกอย่างที่เราทำ เราทำไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศเราทั้งสองนะ
    แต่นาย Theophile Déclassé รัฐมนตรีที่ดูแลกิจการอาณานิคมของฝรั่งเศสไม่ยอมคล้อยตาม เขามองว่าอังกฤษกำลังจะฉวยโอกาสฮุบสุเอชและอียิปต์ไว้ฝ่ายเดียว เขาจึงสั่งให้มีการเคลื่อนพล ยกทัพมาจากฝรั่งเศส ข้ามทะเลทรายซาฮาร่า ในปี ค.ศ. 1898 เพื่อไปเผชิญหน้า เตรียมปะทะกับอังกฤษที่รออยู่ที่แม่น้ำไนล์ ให้รู้หมูรู้เสือ
    แค่เงื้อดาบ ยังไม่ทันได้ฟันกัน กองทัพทั้ง 2 ฝ่าย ก็ถูกนายเหนือสั่งให้หยุดการ (เกือบ) ปะทะไว้ชั่วคราว เฮ้ย หยุด หยุด นายเขากำลังเจรจากัน
    ผลการเจรจา ฝรั่งเศสตกหลุมอังกฤษ ยอมถอยทัพ และเสียโอกาสมหาศาล ที่จะเข้าไปทำประโยชน์ในอาฟริกา นาย Déclassé สั่งเคลื่อนพล โดยไม่ได้หารือ ไม่รู้ถึงแผนลับของรัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส ซึ่งป่วยอยู่ในขณะนั้น
    รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส นาย Gabriel Hanotaux มีชื่อเสียงว่า ไม่ชอบหน้าอังกฤษอย่างยิ่ง หรือใช้ว่า เกลียด อาจจะตรงกว่า มีนโยบายที่จะปรับปรุงและสร้างแหล่งอุตสาหกรรมในอาณานิคมของฝรั่งเศส ที่อยู่ในอาฟริกา นาย Hanotaux ตั้งใจจะผนึกฝรั่งเศสกับอาฟริกาให้แน่นแฟ้น โดยสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่าง Dakar ใน French Senegal มาจนถึง Djibouti ที่ทะเลแดง มันจะเป็นการเชื่อมอาฟริกาตะวันออกถึงตะวันตกโดย “Trans-Sahara Railway Project” (ทางรถไฟอีกแล้ว!)
    เส้นทางรถไฟนี้ ถ้าสำเร็จจะเป็นการขวาง ไม่ให้อังกฤษแต่ฝ่ายเดียว ที่หวังจะเป็นผู้ควบคุมอาฟริกา ทั้งหมดผ่าน อียิปต์ ไปจนถึง อินเดีย นาย Hanotaux ได้แอบปรึกษากับเยอรมัน บอก ทางรถไฟเส้นทางนี้ จะเป็นยากัน การขยายอิทธิพลของอังกฤษอย่างชงัด เรามาปรุงยานี้กันไหม ?
    ค.ศ. 1896 ฝรั่งเศสและเยอรมันหารือกันอีกรอบ “เราควรจะแสดงอิทธิฤทธิให้อังกฤษเห็นบ้างว่า ไม่ใช่อังกฤษฝ่ายเดียว ที่จะเป็นคนตัดสินใจและได้ทุกอย่างไป”
    แต่แล้วก็ เกิดเหตุ Dreyfus Affair สื่อฝรั่งเศสตีข่าวกันใหญ่ว่า นายทหารระดับร้อยเอกของกองทัพฝรั่งเศส ชื่อ Dreyfus ถูกจับข้อหากระทำการจารกรรมต่อเยอรมัน เป็นเรื่องใหญ่นะ ทำให้การเจรจาระหว่าง Hanotaux กับเยอรมันสดุด การปรุงยาชะงักลง เขาต้องออกมาหน้าเครียดแก้ข่าวและเตือนสื่อว่า อย่าใส่สีมากนัก มันจะพาไปสู่สงครามกับเยอรมันได้ อยากได้อย่างนั้นหรือ
    ในที่สุดร้อยเอก Dreyfus ก็ได้รับการปล่อยตัว เมื่อมีการสืบสวน จนได้ความชัดเจนว่า มันเป็นการสร้างหลักฐานปลอมใส่ Dreyfus โดย Count Ferdinand Walsin – Esterhazy (ชื่อยาวจัง !) ซึ่งได้รับจ้างให้ทำเรื่องนี้ ส่วนผู้จ้างคือตระกูล Rothschild ที่ทำธุรกิจธนาคารอยู่ที่ปารีส เรื่องนี้ เล่นกันเองแรงดี ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร ไม้ขวางอันนี้ อภินันทนาการจาก Rothschild
    ค.ศ. 1898 Hanotaux ก็พ้นจากตำแหน่ง และผู้มาแทนเขาก็คือ Déclassé เงินใหญ่ จ้างผีระดับไหน ให้โม่แป้งก็ได้!
    หลังจากเหตุการณ์ Fachoda จบลง อังกฤษก็สามารถปักหมุด ฉุด และจูง ให้ฝรั่งเศส ล้มเลิกแผนการปรับปรุงอาณานิคมในอาฟริกา และลดความสนใจในอียิปต์ลงไปได้ อังกฤษบอกแก่ฝรั่งเศส นี่ เพื่อน อย่าไปมัวสนใจอะไร ที่มันเลื่อนลอยเหมือนความฝันเลย อาฟริกานี่ไม่ใช่หมูนะ ไกลบ้านด้วย เพื่อนไปเอาอะไรที่จับต้องได้ ไม่ดีกว่าหรือ เช่นหล็กที่ Alsace- Lorraine ของเยอรมันยังไงล่ะ ดีกว่านะ เราจะสนับสนุนเพื่อนให้ได้เอง แล้วฝรั่งเศษก็ตกหลุมของอังกฤษอีกพลั่ก
    นาย Hanotaux ได้กล่าวภายหลังว่า มันชัดเจนว่าทุกครั้งที่ฝรั่งเศสขยับตัว อังกฤษก็จะเกิดอาการผวา เหมือนเด็กเห็นเงา นึกว่าผีหลอกและเข้ามาขัดขวาง เพราะคิดว่าการดำเนินการของทุกคนนั้น ขัดประโยชน์ของอังกฤษทั้งสิ้น ไล่มาตั้งแต่กรณี อียิปต์ ตูนีเซีย มาดาร์กัสการ์ อินโดจีน แม้กระทั่งที่คองโก อังกฤษจะต้องถือไม้ออกมาวางขวางเสมอ
    จากเหตุการณ์ Fachodo อังกฤษกับฝรั่งเศส จึงกลับมาเป็นคู่หูกันอีกครั้ง โดยทำสัญญาลับให้ไว้ต่อกัน มีกาวยี่ห้อขวางเยอรมัน ทาคู่หูให้ติดกันไว้ นาย Hanotaux บอกว่าอังกฤษเก่งมาก ที่แยกศัตรูไม่ให้รวมตัวกัน เป็นกลยุทธสุดยอดอีกอันหนึ่งของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย (ของเท้าซ้าย)
    ฝรั่งเศสคงไม่ใช่เป็นรายเดียวที่ต้องถูกปักหมุด ให้เดิน หรือเลิกเดิน และใช้กาวยี่ห้อขวางเยอรมันทาติดเอาไว้ รัสเซียเป็นอีกกรณีที่น่าสนใจ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
28 ส.ค. 2557
    เหยื่อ – ขวาง ตอนที่ 5 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 2 : “ขวาง 5” ความโตเร็วของเยอรมัน เริ่มเห็นชัดตั้งแต่ ค.ศ. 1890 ทำให้อังกฤษทนนั่งดูอยู่เฉยไม่ไหว อังกฤษเตรียมปรับแผนยุทธศาสตร์ที่ใช้อยู่กับพันธมิตรในยุโรป เป็นการปรับชนิด กลับหลัง ตลบหน้า รุนแรงถึงขนาด ปักหมุดให้พันธมิตรเดินตามที่อังกฤษต้องการ หรือหยุดเดินไปในทิศทางที่อังกฤษไม่ต้องการ

เหตุการณ์ที่อียิปต์ Fashoda Crisis คงเป็นตัวอย่างที่เห็นชัด แต่เดิมที่ผ่านมา อังกฤษและฝรั่งเศสกอดคอเฮฮานั่งกินเหล้าด้วยกันที่อียิปต์ เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันในคลองสุเอช แต่ตั้งแต่ ค.ศ. 1882 เป็นต้นมา กองทัพอังกฤษที่อียิปต์เหมือนจะงอกมากขึ้นเหมือนเห็ดในฤดูฝน และทำท่าว่าไม่ใช่งอกชั่วฤดูกาล แต่ออกอาการว่าจะอยู่ถาวร แถมอังกฤษแต่งตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าใหญ่ เข้าไปสั่งการกับรัฐบาลอียิปต์อีกด้วย ฝรั่งเศษตีโจทย์ไม่ออก นี่มันจะมาไม้ไหน อังกฤษบอกกับฝรั่งเศสว่าไม่ต้องคิดมาก ทุกอย่างที่เราทำ เราทำไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศเราทั้งสองนะ แต่นาย Theophile Déclassé รัฐมนตรีที่ดูแลกิจการอาณานิคมของฝรั่งเศสไม่ยอมคล้อยตาม เขามองว่าอังกฤษกำลังจะฉวยโอกาสฮุบสุเอชและอียิปต์ไว้ฝ่ายเดียว เขาจึงสั่งให้มีการเคลื่อนพล ยกทัพมาจากฝรั่งเศส ข้ามทะเลทรายซาฮาร่า ในปี ค.ศ. 1898 เพื่อไปเผชิญหน้า เตรียมปะทะกับอังกฤษที่รออยู่ที่แม่น้ำไนล์ ให้รู้หมูรู้เสือ แค่เงื้อดาบ ยังไม่ทันได้ฟันกัน กองทัพทั้ง 2 ฝ่าย ก็ถูกนายเหนือสั่งให้หยุดการ (เกือบ) ปะทะไว้ชั่วคราว เฮ้ย หยุด หยุด นายเขากำลังเจรจากัน ผลการเจรจา ฝรั่งเศสตกหลุมอังกฤษ ยอมถอยทัพ และเสียโอกาสมหาศาล ที่จะเข้าไปทำประโยชน์ในอาฟริกา นาย Déclassé สั่งเคลื่อนพล โดยไม่ได้หารือ ไม่รู้ถึงแผนลับของรัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส ซึ่งป่วยอยู่ในขณะนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส นาย Gabriel Hanotaux มีชื่อเสียงว่า ไม่ชอบหน้าอังกฤษอย่างยิ่ง หรือใช้ว่า เกลียด อาจจะตรงกว่า มีนโยบายที่จะปรับปรุงและสร้างแหล่งอุตสาหกรรมในอาณานิคมของฝรั่งเศส ที่อยู่ในอาฟริกา นาย Hanotaux ตั้งใจจะผนึกฝรั่งเศสกับอาฟริกาให้แน่นแฟ้น โดยสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่าง Dakar ใน French Senegal มาจนถึง Djibouti ที่ทะเลแดง มันจะเป็นการเชื่อมอาฟริกาตะวันออกถึงตะวันตกโดย “Trans-Sahara Railway Project” (ทางรถไฟอีกแล้ว!) เส้นทางรถไฟนี้ ถ้าสำเร็จจะเป็นการขวาง ไม่ให้อังกฤษแต่ฝ่ายเดียว ที่หวังจะเป็นผู้ควบคุมอาฟริกา ทั้งหมดผ่าน อียิปต์ ไปจนถึง อินเดีย นาย Hanotaux ได้แอบปรึกษากับเยอรมัน บอก ทางรถไฟเส้นทางนี้ จะเป็นยากัน การขยายอิทธิพลของอังกฤษอย่างชงัด เรามาปรุงยานี้กันไหม ? ค.ศ. 1896 ฝรั่งเศสและเยอรมันหารือกันอีกรอบ “เราควรจะแสดงอิทธิฤทธิให้อังกฤษเห็นบ้างว่า ไม่ใช่อังกฤษฝ่ายเดียว ที่จะเป็นคนตัดสินใจและได้ทุกอย่างไป” แต่แล้วก็ เกิดเหตุ Dreyfus Affair สื่อฝรั่งเศสตีข่าวกันใหญ่ว่า นายทหารระดับร้อยเอกของกองทัพฝรั่งเศส ชื่อ Dreyfus ถูกจับข้อหากระทำการจารกรรมต่อเยอรมัน เป็นเรื่องใหญ่นะ ทำให้การเจรจาระหว่าง Hanotaux กับเยอรมันสดุด การปรุงยาชะงักลง เขาต้องออกมาหน้าเครียดแก้ข่าวและเตือนสื่อว่า อย่าใส่สีมากนัก มันจะพาไปสู่สงครามกับเยอรมันได้ อยากได้อย่างนั้นหรือ ในที่สุดร้อยเอก Dreyfus ก็ได้รับการปล่อยตัว เมื่อมีการสืบสวน จนได้ความชัดเจนว่า มันเป็นการสร้างหลักฐานปลอมใส่ Dreyfus โดย Count Ferdinand Walsin – Esterhazy (ชื่อยาวจัง !) ซึ่งได้รับจ้างให้ทำเรื่องนี้ ส่วนผู้จ้างคือตระกูล Rothschild ที่ทำธุรกิจธนาคารอยู่ที่ปารีส เรื่องนี้ เล่นกันเองแรงดี ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร ไม้ขวางอันนี้ อภินันทนาการจาก Rothschild ค.ศ. 1898 Hanotaux ก็พ้นจากตำแหน่ง และผู้มาแทนเขาก็คือ Déclassé เงินใหญ่ จ้างผีระดับไหน ให้โม่แป้งก็ได้! หลังจากเหตุการณ์ Fachoda จบลง อังกฤษก็สามารถปักหมุด ฉุด และจูง ให้ฝรั่งเศส ล้มเลิกแผนการปรับปรุงอาณานิคมในอาฟริกา และลดความสนใจในอียิปต์ลงไปได้ อังกฤษบอกแก่ฝรั่งเศส นี่ เพื่อน อย่าไปมัวสนใจอะไร ที่มันเลื่อนลอยเหมือนความฝันเลย อาฟริกานี่ไม่ใช่หมูนะ ไกลบ้านด้วย เพื่อนไปเอาอะไรที่จับต้องได้ ไม่ดีกว่าหรือ เช่นหล็กที่ Alsace- Lorraine ของเยอรมันยังไงล่ะ ดีกว่านะ เราจะสนับสนุนเพื่อนให้ได้เอง แล้วฝรั่งเศษก็ตกหลุมของอังกฤษอีกพลั่ก นาย Hanotaux ได้กล่าวภายหลังว่า มันชัดเจนว่าทุกครั้งที่ฝรั่งเศสขยับตัว อังกฤษก็จะเกิดอาการผวา เหมือนเด็กเห็นเงา นึกว่าผีหลอกและเข้ามาขัดขวาง เพราะคิดว่าการดำเนินการของทุกคนนั้น ขัดประโยชน์ของอังกฤษทั้งสิ้น ไล่มาตั้งแต่กรณี อียิปต์ ตูนีเซีย มาดาร์กัสการ์ อินโดจีน แม้กระทั่งที่คองโก อังกฤษจะต้องถือไม้ออกมาวางขวางเสมอ จากเหตุการณ์ Fachodo อังกฤษกับฝรั่งเศส จึงกลับมาเป็นคู่หูกันอีกครั้ง โดยทำสัญญาลับให้ไว้ต่อกัน มีกาวยี่ห้อขวางเยอรมัน ทาคู่หูให้ติดกันไว้ นาย Hanotaux บอกว่าอังกฤษเก่งมาก ที่แยกศัตรูไม่ให้รวมตัวกัน เป็นกลยุทธสุดยอดอีกอันหนึ่งของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย (ของเท้าซ้าย) ฝรั่งเศสคงไม่ใช่เป็นรายเดียวที่ต้องถูกปักหมุด ให้เดิน หรือเลิกเดิน และใช้กาวยี่ห้อขวางเยอรมันทาติดเอาไว้ รัสเซียเป็นอีกกรณีที่น่าสนใจ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
28 ส.ค. 2557
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews

  • บทบาทของ UN ในการปลดปล่อยอาณานิคม
    การสนับสนุนการตัดสินใจด้วยตนเอง: UN ยึดมั่นในหลักการของการตัดสินใจด้วยตนเองของประชาชน (self-determination) และสนับสนุนการให้เอกราชแก่ดินแดนอาณานิคม.
    การส่งเสริมการเจรจา: UN ทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับการเจรจาและการเจรจาต่อรองระหว่างรัฐบาลอาณานิคมและขบวนการชาตินิยมเพื่อนำไปสู่การปลดปล่อยอาณานิคม.
    การประณามการปกครองของต่างชาติ: UN และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประณามการใช้กำลังและการกดขี่ที่เกิดขึ้นในดินแดนอาณานิคม และเรียกร้องให้ยุติการปกครองของต่างชาติ.
    การช่วยเหลือทางการเมือง: UN ให้การสนับสนุนทางการเมืองแก่ประเทศที่ได้รับเอกราช และช่วยในการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคหลังการปลดปล่อยอาณานิคม.


    กระทรวงการต่างประเทศไทยเราต้องเดินเรื่องหรือเรียกร้องหรือฟ้องดำเนินคดีกับประเทศฝรั่งเศสกับUNgaนี้ทันที,ด้วยที่ฝรั่งเศสมาปล้นอธิปไตยไทยแล้ว ปลดปล่อยอาณานิคมคืนผิดประเทศซึ่งจริงๆต้องปลดปล่อยอาณานิคมคืนแก่ประเทศไทยจึงจะถูกต้อง,ไทยมิได้ทำสนธิสัญญากับพวกไม่มีตัวตนใดๆในสมัยนั้นคือเขมรแต่เราทำสนธิสัญญากับฝรั่งเศส ฝรั่งเศสต้องจบเรื่องนี้กับไทยโดยตรง,คืนดินแดนเราผ่านUNgaทันทีตามเงื่อนไขที่ชาติล่าอาญานิคมต้องคืนหลังสิ้นสุดยุคล่าอาญานิคมตามเงื่อนไขUNการปลดปล่อยอาณานิคมต้องคืนดินแดนให้ชาติเจ้าของเดิมนั้น,ทั้งฝรั่งเศสปล้นดินแดนไทยชัดเจนด้วย, รับเงินของไทยไปแล้ว หรือค่าการซื้อแผ่นดินคืนไปแล้ว,มีพยานหลักฐานชัดเจน.
    ..ด้วยความสามรถทางการฑูตเราในปัจจุบันสามารถเชิญฑูตฝรั่งเศสมาเจรจาก่อน,ถ้าฝรั่งเศสปฏิเสธก็เชิญฑูตฝรั่งเศสและกิจการฝรั่งเศสทั้งหมดในไทย รวมไม่ว่าจะเป็นกิจการใดๆของฝรั่งเศส ทุนฝรั่งเศสทั้งหมดรวมถึงนอนินีฝรั่งเศสตลอดบริษัทแม่ลูกในเครือฝรั่งเศสทั้งหมดเชิญออกจากราชอาณาจักรไทยก่อนทันที,บวกรณรงค์คนไทยเราร่วมแบนฝรั่งเศสด้วย,จนกว่าเรื่องดินแดนไทยกับเขมรที่ได้ดินแดนผิดไปคือพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ และมลฑลบูรพาเราทั้งหมดที่ฝรั่งปล้นไปด้วยปืนที่ว่าเหนือกว่าไทยในสมัยนั้นคืนมาทั้งหมดก่อนหรือเบื้องต้นคือสันปันน้ำเขตแดนทั้ง73เสาหลักปักเขตแดนที่ไทยกับฝรั่งเศสทำไว้1:1นี้ยุติลงโดยสมบูรณ์หรือเขมรคืนดินแดนไทยที่ว่ามาทั้งหมดให้แก่ฝรั่งเศสชาติปกครองเขมรในสมัยนั้นแล้วฝรั่งเศสต้องนำมาคืนไทยบนเวทีUNสากลโลกอย่างเป็นทางการทันทีด้วย เรื่องทั้งหมดจึงจะจบลงอย่างสมบูรณ์ที่ฝรั่งเศสเองนี้ก่อเรื่องเองไว้แต่ต้นเรื่อง เป็นต้นเหตุของเรื่องของทุกๆปัญหาทั้งหมดที่ไทยมีกับเขมรในปัจจุบัน,ปัญหาไทยกับเขมรจะยุติลงที่ต้นเหตุทันที.
    ..รัฐบาลอนุทิน4เดือนแต่ทำงานเหมือน4ปีจะได้ใจคนไทยทันที นายกฯสมัยต่อไปหรือสมัยหน้าได้เป็นอีกแน่นอน.

    ..รัฐบาลอนุทินต้องสั่งการคนของตนคือ กต.ไปฟ้องดำเนินคดีกับประเทศฝรั่งเศสทันทีที่UNผ่านช่องทางUNเพราะเมื่อฝรั่งเศสผิดหลักการ กระทำการผิดเงื่อนไขการปฏิบัติที่ถูกต้องของUN,ไม่ทำตามกฎหมายกฎระเบียบสากลโลกที่UNกำหนดแต่มีนัยยะบ่อนทำลายความสงบสุขในภูมิภาคอาเชียน ส่งเสริมให้เกิดความแตกแยกเรื่องดินแดนระหว่างไทยกับเขมร,สนับสนุนเขมรให้เป็นแหล่งก่ออาชญากรรมสงครามบนภูมิภาคอาเชียนและส่วนหนึ่งของเอเชียด้วย,จีน รัสเชีย อินเดีย ชาติเอเชียนและอาเชียนทั้งหมดสามารถกดดันฝรั่งเศสและUNให้ทำสิ่งที่ถูกต้องได้จาก ทำสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตไปแล้ว,ให้ไทยคือเคสกรณีศึกษาแรกของโลกด้วยเพื่อให้ชาติล่าอาณานิคมในอดีตมีจิตสำนึกทำสิ่งที่ต้องทำ ทำให้ถูกต้อง.

    https://youtube.com/shorts/08SI9Mj299c?si=VWXR9Ec619rbBOl2
    บทบาทของ UN ในการปลดปล่อยอาณานิคม การสนับสนุนการตัดสินใจด้วยตนเอง: UN ยึดมั่นในหลักการของการตัดสินใจด้วยตนเองของประชาชน (self-determination) และสนับสนุนการให้เอกราชแก่ดินแดนอาณานิคม. การส่งเสริมการเจรจา: UN ทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับการเจรจาและการเจรจาต่อรองระหว่างรัฐบาลอาณานิคมและขบวนการชาตินิยมเพื่อนำไปสู่การปลดปล่อยอาณานิคม. การประณามการปกครองของต่างชาติ: UN และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประณามการใช้กำลังและการกดขี่ที่เกิดขึ้นในดินแดนอาณานิคม และเรียกร้องให้ยุติการปกครองของต่างชาติ. การช่วยเหลือทางการเมือง: UN ให้การสนับสนุนทางการเมืองแก่ประเทศที่ได้รับเอกราช และช่วยในการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคหลังการปลดปล่อยอาณานิคม. กระทรวงการต่างประเทศไทยเราต้องเดินเรื่องหรือเรียกร้องหรือฟ้องดำเนินคดีกับประเทศฝรั่งเศสกับUNgaนี้ทันที,ด้วยที่ฝรั่งเศสมาปล้นอธิปไตยไทยแล้ว ปลดปล่อยอาณานิคมคืนผิดประเทศซึ่งจริงๆต้องปลดปล่อยอาณานิคมคืนแก่ประเทศไทยจึงจะถูกต้อง,ไทยมิได้ทำสนธิสัญญากับพวกไม่มีตัวตนใดๆในสมัยนั้นคือเขมรแต่เราทำสนธิสัญญากับฝรั่งเศส ฝรั่งเศสต้องจบเรื่องนี้กับไทยโดยตรง,คืนดินแดนเราผ่านUNgaทันทีตามเงื่อนไขที่ชาติล่าอาญานิคมต้องคืนหลังสิ้นสุดยุคล่าอาญานิคมตามเงื่อนไขUNการปลดปล่อยอาณานิคมต้องคืนดินแดนให้ชาติเจ้าของเดิมนั้น,ทั้งฝรั่งเศสปล้นดินแดนไทยชัดเจนด้วย, รับเงินของไทยไปแล้ว หรือค่าการซื้อแผ่นดินคืนไปแล้ว,มีพยานหลักฐานชัดเจน. ..ด้วยความสามรถทางการฑูตเราในปัจจุบันสามารถเชิญฑูตฝรั่งเศสมาเจรจาก่อน,ถ้าฝรั่งเศสปฏิเสธก็เชิญฑูตฝรั่งเศสและกิจการฝรั่งเศสทั้งหมดในไทย รวมไม่ว่าจะเป็นกิจการใดๆของฝรั่งเศส ทุนฝรั่งเศสทั้งหมดรวมถึงนอนินีฝรั่งเศสตลอดบริษัทแม่ลูกในเครือฝรั่งเศสทั้งหมดเชิญออกจากราชอาณาจักรไทยก่อนทันที,บวกรณรงค์คนไทยเราร่วมแบนฝรั่งเศสด้วย,จนกว่าเรื่องดินแดนไทยกับเขมรที่ได้ดินแดนผิดไปคือพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ และมลฑลบูรพาเราทั้งหมดที่ฝรั่งปล้นไปด้วยปืนที่ว่าเหนือกว่าไทยในสมัยนั้นคืนมาทั้งหมดก่อนหรือเบื้องต้นคือสันปันน้ำเขตแดนทั้ง73เสาหลักปักเขตแดนที่ไทยกับฝรั่งเศสทำไว้1:1นี้ยุติลงโดยสมบูรณ์หรือเขมรคืนดินแดนไทยที่ว่ามาทั้งหมดให้แก่ฝรั่งเศสชาติปกครองเขมรในสมัยนั้นแล้วฝรั่งเศสต้องนำมาคืนไทยบนเวทีUNสากลโลกอย่างเป็นทางการทันทีด้วย เรื่องทั้งหมดจึงจะจบลงอย่างสมบูรณ์ที่ฝรั่งเศสเองนี้ก่อเรื่องเองไว้แต่ต้นเรื่อง เป็นต้นเหตุของเรื่องของทุกๆปัญหาทั้งหมดที่ไทยมีกับเขมรในปัจจุบัน,ปัญหาไทยกับเขมรจะยุติลงที่ต้นเหตุทันที. ..รัฐบาลอนุทิน4เดือนแต่ทำงานเหมือน4ปีจะได้ใจคนไทยทันที นายกฯสมัยต่อไปหรือสมัยหน้าได้เป็นอีกแน่นอน. ..รัฐบาลอนุทินต้องสั่งการคนของตนคือ กต.ไปฟ้องดำเนินคดีกับประเทศฝรั่งเศสทันทีที่UNผ่านช่องทางUNเพราะเมื่อฝรั่งเศสผิดหลักการ กระทำการผิดเงื่อนไขการปฏิบัติที่ถูกต้องของUN,ไม่ทำตามกฎหมายกฎระเบียบสากลโลกที่UNกำหนดแต่มีนัยยะบ่อนทำลายความสงบสุขในภูมิภาคอาเชียน ส่งเสริมให้เกิดความแตกแยกเรื่องดินแดนระหว่างไทยกับเขมร,สนับสนุนเขมรให้เป็นแหล่งก่ออาชญากรรมสงครามบนภูมิภาคอาเชียนและส่วนหนึ่งของเอเชียด้วย,จีน รัสเชีย อินเดีย ชาติเอเชียนและอาเชียนทั้งหมดสามารถกดดันฝรั่งเศสและUNให้ทำสิ่งที่ถูกต้องได้จาก ทำสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตไปแล้ว,ให้ไทยคือเคสกรณีศึกษาแรกของโลกด้วยเพื่อให้ชาติล่าอาณานิคมในอดีตมีจิตสำนึกทำสิ่งที่ต้องทำ ทำให้ถูกต้อง. https://youtube.com/shorts/08SI9Mj299c?si=VWXR9Ec619rbBOl2
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • ศาลอาญาประหารชีวิต "จ่าเอ็ม"มือยิง "คิม ยาลิม"อดีตฝ่ายค้านกัมพูชา จำคุก 8เดือนข้อหายิงปืนในที่สาธารณะและจำคุก6 เดือนข้อหาพาอาวุธปืน แต่สารภาพลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนคนขับรถพิพากษายกฟ้อง เหตุไม่มีหลักฐานว่ามีเจตนาพิเศษพาจำเลยที่ 1 หลบหนี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000094603

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ศาลอาญาประหารชีวิต "จ่าเอ็ม"มือยิง "คิม ยาลิม"อดีตฝ่ายค้านกัมพูชา จำคุก 8เดือนข้อหายิงปืนในที่สาธารณะและจำคุก6 เดือนข้อหาพาอาวุธปืน แต่สารภาพลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนคนขับรถพิพากษายกฟ้อง เหตุไม่มีหลักฐานว่ามีเจตนาพิเศษพาจำเลยที่ 1 หลบหนี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000094603 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 Comments 0 Shares 274 Views 0 Reviews
  • “Oracle ถูกขู่เรียกค่าไถ่จากแฮกเกอร์ — ข้อมูลลูกค้า E-Business Suite อาจถูกเจาะผ่านช่องโหว่เดิม”

    Oracle กำลังเผชิญกับการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ เมื่อกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับ Cl0p ransomware ได้ส่งอีเมลขู่เรียกค่าไถ่ไปยังผู้บริหารขององค์กรต่าง ๆ ที่ใช้ระบบ Oracle E-Business Suite โดยอ้างว่าขโมยข้อมูลสำคัญไปแล้ว และเรียกร้องเงินสูงสุดถึง 50 ล้านดอลลาร์เพื่อไม่ให้เปิดเผยข้อมูลเหล่านั้น

    การโจมตีเริ่มต้นเมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 โดยแฮกเกอร์ใช้บัญชีอีเมลที่ถูกเจาะจำนวนมาก ส่งอีเมลไปยังผู้บริหารระดับสูง พร้อมแนบหลักฐาน เช่น ภาพหน้าจอและโครงสร้างไฟล์ เพื่อแสดงว่าพวกเขาเข้าถึงระบบได้จริง แม้ว่า Google และ Mandiant จะยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลถูกขโมยจริงหรือไม่ แต่ก็พบว่ามีการใช้บัญชีที่เคยเกี่ยวข้องกับกลุ่ม Cl0p และ FIN11 ซึ่งเป็นกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่มีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก

    ช่องทางที่แฮกเกอร์ใช้คือการเจาะบัญชีผู้ใช้และใช้ฟีเจอร์รีเซ็ตรหัสผ่านในหน้า AppsLocalLogin.jsp ซึ่งมักไม่อยู่ภายใต้ระบบ SSO และไม่มีการเปิดใช้ MFA ทำให้สามารถเข้าถึงระบบได้โดยง่าย โดย Oracle ยอมรับว่าการโจมตีอาจใช้ช่องโหว่ที่เคยถูกระบุไว้ก่อนหน้านี้ และแนะนำให้ลูกค้าอัปเดตแพตช์ล่าสุดทันที

    แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าข้อมูลถูกขโมยจริง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าแค่อีเมลขู่ก็สามารถสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นขององค์กรได้แล้ว และแนะนำให้ทุกองค์กรที่ใช้ Oracle EBS ตรวจสอบระบบอย่างละเอียดเพื่อหาหลักฐานการเจาะระบบหรือการเข้าถึงที่ผิดปกติ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Oracle ยืนยันว่าลูกค้าได้รับอีเมลขู่เรียกค่าไถ่จากแฮกเกอร์
    กลุ่มที่เกี่ยวข้องคือ Cl0p และ FIN11 ซึ่งมีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่
    อีเมลขู่มีหลักฐาน เช่น ภาพหน้าจอและโครงสร้างไฟล์ เพื่อเพิ่มแรงกดดัน
    เริ่มต้นเมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 และยังดำเนินอยู่
    ใช้ช่องทางรีเซ็ตรหัสผ่านผ่านหน้า AppsLocalLogin.jsp ที่ไม่มี MFA
    Oracle แนะนำให้ลูกค้าอัปเดตแพตช์ล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่
    มีการเรียกร้องเงินสูงสุดถึง 50 ล้านดอลลาร์ในบางกรณี
    อีเมลถูกส่งจากบัญชีที่เคยเกี่ยวข้องกับ Cl0p และปรากฏบนเว็บ data leak ของกลุ่ม
    Google และ Mandiant ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลถูกขโมยจริง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Oracle E-Business Suite เป็นระบบ ERP ที่ใช้จัดการการเงิน, HR, CRM และซัพพลายเชน
    Cl0p เคยโจมตี MOVEit Transfer ในปี 2023 ทำให้ข้อมูลรั่วไหลจากองค์กรกว่า 2,700 แห่ง
    FIN11 เป็นกลุ่มที่ใช้ Cl0p ransomware และมีประวัติการโจมตีแบบ phishing และ credential abuse
    การไม่มี MFA ในระบบ login ภายในองค์กรเป็นช่องโหว่ที่พบได้บ่อย
    การรีเซ็ตรหัสผ่านผ่านหน้าเว็บที่เปิดสาธารณะเป็นจุดเสี่ยงสูง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/03/oracle-says-hackers-are-trying-to-extort-its-customers
    🕵️‍♂️ “Oracle ถูกขู่เรียกค่าไถ่จากแฮกเกอร์ — ข้อมูลลูกค้า E-Business Suite อาจถูกเจาะผ่านช่องโหว่เดิม” Oracle กำลังเผชิญกับการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ เมื่อกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับ Cl0p ransomware ได้ส่งอีเมลขู่เรียกค่าไถ่ไปยังผู้บริหารขององค์กรต่าง ๆ ที่ใช้ระบบ Oracle E-Business Suite โดยอ้างว่าขโมยข้อมูลสำคัญไปแล้ว และเรียกร้องเงินสูงสุดถึง 50 ล้านดอลลาร์เพื่อไม่ให้เปิดเผยข้อมูลเหล่านั้น การโจมตีเริ่มต้นเมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 โดยแฮกเกอร์ใช้บัญชีอีเมลที่ถูกเจาะจำนวนมาก ส่งอีเมลไปยังผู้บริหารระดับสูง พร้อมแนบหลักฐาน เช่น ภาพหน้าจอและโครงสร้างไฟล์ เพื่อแสดงว่าพวกเขาเข้าถึงระบบได้จริง แม้ว่า Google และ Mandiant จะยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลถูกขโมยจริงหรือไม่ แต่ก็พบว่ามีการใช้บัญชีที่เคยเกี่ยวข้องกับกลุ่ม Cl0p และ FIN11 ซึ่งเป็นกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่มีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก ช่องทางที่แฮกเกอร์ใช้คือการเจาะบัญชีผู้ใช้และใช้ฟีเจอร์รีเซ็ตรหัสผ่านในหน้า AppsLocalLogin.jsp ซึ่งมักไม่อยู่ภายใต้ระบบ SSO และไม่มีการเปิดใช้ MFA ทำให้สามารถเข้าถึงระบบได้โดยง่าย โดย Oracle ยอมรับว่าการโจมตีอาจใช้ช่องโหว่ที่เคยถูกระบุไว้ก่อนหน้านี้ และแนะนำให้ลูกค้าอัปเดตแพตช์ล่าสุดทันที แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าข้อมูลถูกขโมยจริง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าแค่อีเมลขู่ก็สามารถสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นขององค์กรได้แล้ว และแนะนำให้ทุกองค์กรที่ใช้ Oracle EBS ตรวจสอบระบบอย่างละเอียดเพื่อหาหลักฐานการเจาะระบบหรือการเข้าถึงที่ผิดปกติ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Oracle ยืนยันว่าลูกค้าได้รับอีเมลขู่เรียกค่าไถ่จากแฮกเกอร์ ➡️ กลุ่มที่เกี่ยวข้องคือ Cl0p และ FIN11 ซึ่งมีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ ➡️ อีเมลขู่มีหลักฐาน เช่น ภาพหน้าจอและโครงสร้างไฟล์ เพื่อเพิ่มแรงกดดัน ➡️ เริ่มต้นเมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 และยังดำเนินอยู่ ➡️ ใช้ช่องทางรีเซ็ตรหัสผ่านผ่านหน้า AppsLocalLogin.jsp ที่ไม่มี MFA ➡️ Oracle แนะนำให้ลูกค้าอัปเดตแพตช์ล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่ ➡️ มีการเรียกร้องเงินสูงสุดถึง 50 ล้านดอลลาร์ในบางกรณี ➡️ อีเมลถูกส่งจากบัญชีที่เคยเกี่ยวข้องกับ Cl0p และปรากฏบนเว็บ data leak ของกลุ่ม ➡️ Google และ Mandiant ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลถูกขโมยจริง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Oracle E-Business Suite เป็นระบบ ERP ที่ใช้จัดการการเงิน, HR, CRM และซัพพลายเชน ➡️ Cl0p เคยโจมตี MOVEit Transfer ในปี 2023 ทำให้ข้อมูลรั่วไหลจากองค์กรกว่า 2,700 แห่ง ➡️ FIN11 เป็นกลุ่มที่ใช้ Cl0p ransomware และมีประวัติการโจมตีแบบ phishing และ credential abuse ➡️ การไม่มี MFA ในระบบ login ภายในองค์กรเป็นช่องโหว่ที่พบได้บ่อย ➡️ การรีเซ็ตรหัสผ่านผ่านหน้าเว็บที่เปิดสาธารณะเป็นจุดเสี่ยงสูง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/03/oracle-says-hackers-are-trying-to-extort-its-customers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Oracle says hackers are trying to extort its customers
    WASHINGTON (Reuters) -Oracle said on Thursday that customers of its E-Business Suite of products "have received extortion emails," confirming a warning first issued on Wednesday by Alphabet's Google.
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • “AMD Fluid Motion Frames 3 โผล่ในไดรเวอร์ใหม่ — เตรียมใช้ AI จาก FSR 4 ยกระดับการสร้างเฟรมแบบไดรเวอร์”

    AMD กำลังซุ่มพัฒนาเทคโนโลยี Fluid Motion Frames รุ่นที่ 3 (AFMF 3) ซึ่งถูกค้นพบในไดรเวอร์เวอร์ชันพรีวิวของ Adrenalin 25.20 โดยผู้ใช้งานในฟอรัม Guru3D ผ่านการส่งออกโปรไฟล์เกมจาก AMD GPU Profile Manager แม้ในหน้าควบคุมของไดรเวอร์จะยังไม่แสดงฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการ

    AFMF คือเทคโนโลยีการสร้างเฟรมที่ทำงานในระดับไดรเวอร์ โดยออกแบบมาเพื่อเพิ่มเฟรมเรตในเกมที่ไม่รองรับ FSR frame generation โดยตรง ซึ่งในเวอร์ชันใหม่ AFMF 3 คาดว่าจะใช้โมเดล AI เดียวกับ FSR 4 ที่มีคุณภาพสูงกว่าเวอร์ชันก่อนหน้าอย่าง AFMF 2.1 ที่ยังใช้การปรับแต่งแบบเก่า

    ไดรเวอร์ใหม่นี้ยังมาพร้อมการอัปเดตด้าน AI จำนวนมาก เช่น รองรับ Python 3.12 และ PyTorch บน Windows Preview เพื่อเสริมการทำงานของ LLM บน GPU ตระกูล RX 9000, RX 7000 และ Ryzen AI 9/Max APU บน Windows 11

    แม้ยังไม่มีการยืนยันว่า AFMF 3 จะมาพร้อมกับไดรเวอร์ 25.20 หรือเวอร์ชันถัดไป แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ FSR Redstone ซึ่งเป็นการอัปเดตใหญ่ที่รวมการสร้างเฟรมด้วย ML และการเรนเดอร์ ray tracing สำหรับสถาปัตยกรรม RDNA 4

    อย่างไรก็ตาม FSR 4 และ AFMF 3 อาจรองรับเฉพาะ GPU รุ่น RX 9000 เท่านั้น เนื่องจากโมเดล ML ที่ใช้ต้องการความสามารถเฉพาะของ RDNA 4 แม้จะมีหลักฐานว่ามีการปรับแต่งให้ใช้กับ RDNA 3 ได้ แต่ AMD ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    AFMF 3 ถูกค้นพบในไดรเวอร์พรีวิว Adrenalin 25.20 ผ่านการส่งออกโปรไฟล์เกม
    AFMF เป็นเทคโนโลยีสร้างเฟรมระดับไดรเวอร์สำหรับเกมที่ไม่รองรับ FSR frame generation
    AFMF 3 คาดว่าจะใช้โมเดล AI เดียวกับ FSR 4 เพื่อเพิ่มคุณภาพการสร้างเฟรม
    ไดรเวอร์ใหม่มีการอัปเดตด้าน AI เช่น Python 3.12 และ PyTorch บน Windows Preview
    รองรับ GPU RX 9000, RX 7000 และ Ryzen AI 9/Max APU บน Windows 11
    FSR Redstone จะรวมการสร้างเฟรมด้วย ML และ ray tracing สำหรับ RDNA 4
    มีความเป็นไปได้ว่า AFMF 3 จะเปิดตัวพร้อมกับ FSR Redstone ในไดรเวอร์เวอร์ชันถัดไป

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    AFMF 2.1 ใช้ AI-optimized enhancements แต่ยังด้อยกว่าคุณภาพของ FSR 4
    Nvidia เปิดตัว Smooth Motion บน RTX 40 series กดดันให้ AMD พัฒนา AFMF
    FSR 4 ถูกปรับแต่งให้ใช้กับ RDNA 3 ได้โดยชุมชน modder แต่ยังไม่มีการประกาศจาก AMD
    DLSS 4 ของ Nvidia ยังเหนือกว่า FSR 4 ในด้านคุณภาพภาพและการสร้างเฟรม
    AMD HYPR-RX เป็นระบบเปิดใช้งานฟีเจอร์รวม เช่น AFMF, Radeon Chill และอื่น ๆ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/amd-fluid-motion-frames-3-spotted-in-the-upcoming-amd-adrenalin-25-20-driver-branch-could-lean-on-ai-model-used-in-fsr-4
    🖥️ “AMD Fluid Motion Frames 3 โผล่ในไดรเวอร์ใหม่ — เตรียมใช้ AI จาก FSR 4 ยกระดับการสร้างเฟรมแบบไดรเวอร์” AMD กำลังซุ่มพัฒนาเทคโนโลยี Fluid Motion Frames รุ่นที่ 3 (AFMF 3) ซึ่งถูกค้นพบในไดรเวอร์เวอร์ชันพรีวิวของ Adrenalin 25.20 โดยผู้ใช้งานในฟอรัม Guru3D ผ่านการส่งออกโปรไฟล์เกมจาก AMD GPU Profile Manager แม้ในหน้าควบคุมของไดรเวอร์จะยังไม่แสดงฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการ AFMF คือเทคโนโลยีการสร้างเฟรมที่ทำงานในระดับไดรเวอร์ โดยออกแบบมาเพื่อเพิ่มเฟรมเรตในเกมที่ไม่รองรับ FSR frame generation โดยตรง ซึ่งในเวอร์ชันใหม่ AFMF 3 คาดว่าจะใช้โมเดล AI เดียวกับ FSR 4 ที่มีคุณภาพสูงกว่าเวอร์ชันก่อนหน้าอย่าง AFMF 2.1 ที่ยังใช้การปรับแต่งแบบเก่า ไดรเวอร์ใหม่นี้ยังมาพร้อมการอัปเดตด้าน AI จำนวนมาก เช่น รองรับ Python 3.12 และ PyTorch บน Windows Preview เพื่อเสริมการทำงานของ LLM บน GPU ตระกูล RX 9000, RX 7000 และ Ryzen AI 9/Max APU บน Windows 11 แม้ยังไม่มีการยืนยันว่า AFMF 3 จะมาพร้อมกับไดรเวอร์ 25.20 หรือเวอร์ชันถัดไป แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ FSR Redstone ซึ่งเป็นการอัปเดตใหญ่ที่รวมการสร้างเฟรมด้วย ML และการเรนเดอร์ ray tracing สำหรับสถาปัตยกรรม RDNA 4 อย่างไรก็ตาม FSR 4 และ AFMF 3 อาจรองรับเฉพาะ GPU รุ่น RX 9000 เท่านั้น เนื่องจากโมเดล ML ที่ใช้ต้องการความสามารถเฉพาะของ RDNA 4 แม้จะมีหลักฐานว่ามีการปรับแต่งให้ใช้กับ RDNA 3 ได้ แต่ AMD ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ AFMF 3 ถูกค้นพบในไดรเวอร์พรีวิว Adrenalin 25.20 ผ่านการส่งออกโปรไฟล์เกม ➡️ AFMF เป็นเทคโนโลยีสร้างเฟรมระดับไดรเวอร์สำหรับเกมที่ไม่รองรับ FSR frame generation ➡️ AFMF 3 คาดว่าจะใช้โมเดล AI เดียวกับ FSR 4 เพื่อเพิ่มคุณภาพการสร้างเฟรม ➡️ ไดรเวอร์ใหม่มีการอัปเดตด้าน AI เช่น Python 3.12 และ PyTorch บน Windows Preview ➡️ รองรับ GPU RX 9000, RX 7000 และ Ryzen AI 9/Max APU บน Windows 11 ➡️ FSR Redstone จะรวมการสร้างเฟรมด้วย ML และ ray tracing สำหรับ RDNA 4 ➡️ มีความเป็นไปได้ว่า AFMF 3 จะเปิดตัวพร้อมกับ FSR Redstone ในไดรเวอร์เวอร์ชันถัดไป ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ AFMF 2.1 ใช้ AI-optimized enhancements แต่ยังด้อยกว่าคุณภาพของ FSR 4 ➡️ Nvidia เปิดตัว Smooth Motion บน RTX 40 series กดดันให้ AMD พัฒนา AFMF ➡️ FSR 4 ถูกปรับแต่งให้ใช้กับ RDNA 3 ได้โดยชุมชน modder แต่ยังไม่มีการประกาศจาก AMD ➡️ DLSS 4 ของ Nvidia ยังเหนือกว่า FSR 4 ในด้านคุณภาพภาพและการสร้างเฟรม ➡️ AMD HYPR-RX เป็นระบบเปิดใช้งานฟีเจอร์รวม เช่น AFMF, Radeon Chill และอื่น ๆ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/amd-fluid-motion-frames-3-spotted-in-the-upcoming-amd-adrenalin-25-20-driver-branch-could-lean-on-ai-model-used-in-fsr-4
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • “Bitcoin Queen ถูกตัดสินคดีฉ้อโกง — ยึดคริปโตมูลค่า $7.3 พันล้าน กลายเป็นการยึดครั้งใหญ่ที่สุดในโลก”

    หลังจากหลบหนีมานานกว่า 5 ปี Zhimin Qian หรือที่รู้จักในชื่อ “Yadi Zhang” ถูกศาล Southwark Crown Court ในสหราชอาณาจักรตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน โดยเธอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในประเทศจีนระหว่างปี 2014–2017 และนำเงินที่ได้ไปแปลงเป็น Bitcoin เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ

    ตำรวจนครบาลลอนดอน (Met Police) เปิดเผยว่าได้ยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญจาก Qian ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และเป็นหนึ่งในคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร

    หลังจากหลบหนีออกจากจีนด้วยเอกสารปลอมในปี 2018 Qian เข้าสหราชอาณาจักรและพยายามฟอกเงินผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้ช่วยคือ Jian Wen อดีตพนักงานร้านอาหารที่ต่อมาใช้ชีวิตหรูหราในบ้านเช่าหลายล้านปอนด์ และซื้ออสังหาริมทรัพย์ในดูไบมูลค่ากว่า £500,000

    Wen ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี 8 เดือนเมื่อปีที่แล้ว และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สินมูลค่ากว่า £3.1 ล้านภายใน 3 เดือน มิฉะนั้นจะถูกเพิ่มโทษอีก 7 ปี

    คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนกว่า 7 ปี โดยมีการร่วมมือระหว่างตำรวจอังกฤษ หน่วยงานอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA) และเจ้าหน้าที่จีนในเมืองเทียนจินและปักกิ่ง เพื่อรวบรวมหลักฐานจากหลายประเทศ และตรวจสอบเอกสารนับพันฉบับ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Zhimin Qian ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงินในสหราชอาณาจักร
    เธอหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในจีนระหว่างปี 2014–2017
    ตำรวจยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญ มูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้าน
    ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในโลก และคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดใน UK
    Qian เข้าสหราชอาณาจักรในปี 2018 ด้วยเอกสารปลอม และพยายามฟอกเงินผ่านอสังหาริมทรัพย์
    Jian Wen ผู้ช่วยของ Qian ถูกจำคุก 6 ปี 8 เดือน และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สิน £3.1 ล้าน
    การสืบสวนใช้เวลานานกว่า 7 ปี และมีความร่วมมือระหว่าง UK และจีน
    คดีนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นความสำเร็จของทีมอาชญากรรมเศรษฐกิจของ Met Police

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Bitcoin มีราคาผันผวนสูง ทำให้มูลค่าการยึดเปลี่ยนแปลงตามเวลา
    คดีนี้เปรียบเทียบกับ “Cryptoqueen” Dr. Ruja Ignatova ผู้หลอกลงทุนใน OneCoin
    การฟอกเงินผ่านคริปโตมักใช้วิธีซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์หรูหรา
    การยึดคริปโตต้องใช้เทคนิคพิเศษในการเข้าถึง wallet และตรวจสอบ blockchain
    หลายประเทศเริ่มออกกฎหมายควบคุมการฟอกเงินผ่านคริปโตอย่างเข้มงวด

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การฟอกเงินผ่านคริปโตยังเป็นช่องโหว่ที่ตรวจสอบได้ยากในหลายประเทศ
    การหลบหนีข้ามประเทศด้วยเอกสารปลอมยังคงเป็นปัญหาในระบบตรวจคนเข้าเมือง
    การซื้อสินทรัพย์หรูโดยไม่มีแหล่งเงินชัดเจนอาจเป็นสัญญาณของการฟอกเงิน
    การยึดคริปโตต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศและการพิสูจน์แหล่งที่มาอย่างละเอียด
    หากไม่มีการควบคุมที่ดี การฟอกเงินผ่านคริปโตอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/usd7-3-billion-worth-of-cryptocurrency-recovered-from-newly-convicted-bitcoin-queen-funds-from-fraudster-thought-to-be-the-largest-seizure-to-date
    💰 “Bitcoin Queen ถูกตัดสินคดีฉ้อโกง — ยึดคริปโตมูลค่า $7.3 พันล้าน กลายเป็นการยึดครั้งใหญ่ที่สุดในโลก” หลังจากหลบหนีมานานกว่า 5 ปี Zhimin Qian หรือที่รู้จักในชื่อ “Yadi Zhang” ถูกศาล Southwark Crown Court ในสหราชอาณาจักรตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน โดยเธอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในประเทศจีนระหว่างปี 2014–2017 และนำเงินที่ได้ไปแปลงเป็น Bitcoin เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ตำรวจนครบาลลอนดอน (Met Police) เปิดเผยว่าได้ยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญจาก Qian ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และเป็นหนึ่งในคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร หลังจากหลบหนีออกจากจีนด้วยเอกสารปลอมในปี 2018 Qian เข้าสหราชอาณาจักรและพยายามฟอกเงินผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้ช่วยคือ Jian Wen อดีตพนักงานร้านอาหารที่ต่อมาใช้ชีวิตหรูหราในบ้านเช่าหลายล้านปอนด์ และซื้ออสังหาริมทรัพย์ในดูไบมูลค่ากว่า £500,000 Wen ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี 8 เดือนเมื่อปีที่แล้ว และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สินมูลค่ากว่า £3.1 ล้านภายใน 3 เดือน มิฉะนั้นจะถูกเพิ่มโทษอีก 7 ปี คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนกว่า 7 ปี โดยมีการร่วมมือระหว่างตำรวจอังกฤษ หน่วยงานอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA) และเจ้าหน้าที่จีนในเมืองเทียนจินและปักกิ่ง เพื่อรวบรวมหลักฐานจากหลายประเทศ และตรวจสอบเอกสารนับพันฉบับ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Zhimin Qian ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงินในสหราชอาณาจักร ➡️ เธอหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในจีนระหว่างปี 2014–2017 ➡️ ตำรวจยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญ มูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้าน ➡️ ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในโลก และคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดใน UK ➡️ Qian เข้าสหราชอาณาจักรในปี 2018 ด้วยเอกสารปลอม และพยายามฟอกเงินผ่านอสังหาริมทรัพย์ ➡️ Jian Wen ผู้ช่วยของ Qian ถูกจำคุก 6 ปี 8 เดือน และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สิน £3.1 ล้าน ➡️ การสืบสวนใช้เวลานานกว่า 7 ปี และมีความร่วมมือระหว่าง UK และจีน ➡️ คดีนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นความสำเร็จของทีมอาชญากรรมเศรษฐกิจของ Met Police ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Bitcoin มีราคาผันผวนสูง ทำให้มูลค่าการยึดเปลี่ยนแปลงตามเวลา ➡️ คดีนี้เปรียบเทียบกับ “Cryptoqueen” Dr. Ruja Ignatova ผู้หลอกลงทุนใน OneCoin ➡️ การฟอกเงินผ่านคริปโตมักใช้วิธีซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์หรูหรา ➡️ การยึดคริปโตต้องใช้เทคนิคพิเศษในการเข้าถึง wallet และตรวจสอบ blockchain ➡️ หลายประเทศเริ่มออกกฎหมายควบคุมการฟอกเงินผ่านคริปโตอย่างเข้มงวด ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ การฟอกเงินผ่านคริปโตยังเป็นช่องโหว่ที่ตรวจสอบได้ยากในหลายประเทศ ⛔ การหลบหนีข้ามประเทศด้วยเอกสารปลอมยังคงเป็นปัญหาในระบบตรวจคนเข้าเมือง ⛔ การซื้อสินทรัพย์หรูโดยไม่มีแหล่งเงินชัดเจนอาจเป็นสัญญาณของการฟอกเงิน ⛔ การยึดคริปโตต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศและการพิสูจน์แหล่งที่มาอย่างละเอียด ⛔ หากไม่มีการควบคุมที่ดี การฟอกเงินผ่านคริปโตอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/usd7-3-billion-worth-of-cryptocurrency-recovered-from-newly-convicted-bitcoin-queen-funds-from-fraudster-thought-to-be-the-largest-seizure-to-date
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
  • “ความเหงาไม่ใช่แค่ความรู้สึก — แต่มันคือโรคเรื้อรังที่เปลี่ยนยีน ทำลายภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความเสี่ยงตายเทียบเท่าการสูบบุหรี่”

    ในบทความล่าสุดโดย Faruk Alpay นักวิจัยด้านข้อมูลและสุขภาพ ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ “โรคระบาดแห่งความเหงา” ที่กำลังคุกคามสุขภาพมนุษย์ทั่วโลก โดยมีหลักฐานทางชีววิทยาชัดเจนว่า ความเหงาเรื้อรังเพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิตถึง 32% และเพิ่มโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมถึง 31% ผ่านกลไกทางร่างกายที่คล้ายกับโรคเรื้อรัง เช่น การอักเสบเรื้อรัง, ความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน, และการเปลี่ยนแปลงระดับยีน (epigenetic)

    การศึกษากว่า 90 งานวิจัยที่ครอบคลุมประชากรกว่า 2.2 ล้านคน พบว่าความเหงาทำให้ร่างกายผลิตโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคทางระบบประสาท โดยเฉพาะ GDF15 และ PCSK9 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับความโดดเดี่ยวทางสังคมอย่างมีนัยสำคัญ

    นอกจากนี้ ความเหงายังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ โดยร่างกายจะผลิตฮอร์โมนความเครียดแบบไม่สมดุล เกิดภาวะดื้อคอร์ติซอล และกระตุ้นยีนที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ขณะเดียวกันก็ลดการตอบสนองต่อไวรัส ทำให้ผู้ที่เหงาเรื้อรังมีโอกาสติดเชื้อและเจ็บป่วยมากขึ้น

    แต่ข่าวดีคือ เรารู้วิธีรักษาแล้ว — โปรแกรมฝึกสติแบบ 8 สัปดาห์สามารถลดความเหงาได้ถึง 22%, โปรแกรมชุมชนในบาร์เซโลนาใช้กิจกรรมกลุ่มและโยคะลดความเหงาได้เกือบครึ่งใน 6 เดือน และการใช้สัตว์เลี้ยง (จริงหรือหุ่นยนต์) กับผู้สูงอายุให้ผลลัพธ์ดีถึง 100% ในการลดความรู้สึกโดดเดี่ยว

    แม้ความเหงาจะเป็นภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่การยอมรับมันอย่างไม่ตัดสิน และการสร้างความเชื่อมโยงใหม่ ๆ ผ่านกิจกรรมง่าย ๆ เช่น การทักทายเพื่อนบ้าน หรือการเข้าร่วมกลุ่มอาสา ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสุขภาพกายและใจได้อย่างแท้จริง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ความเหงาเรื้อรังเพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิต 32% และโรคสมองเสื่อม 31%
    มีการเปลี่ยนแปลงระดับโปรตีนในร่างกาย เช่น GDF15 และ PCSK9 ที่เชื่อมโยงกับโรคเรื้อรัง
    ความเหงาทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและภูมิคุ้มกันผิดปกติ
    ระบบฮอร์โมนเครียด (HPA axis) ทำงานผิดปกติ เกิดภาวะดื้อคอร์ติซอล
    ความเหงาเร่งอายุชีวภาพผ่านการเปลี่ยนแปลง epigenetic เช่น DNA methylation
    โปรแกรมฝึกสติ 14 วันลดความเหงาได้ 22% และเพิ่มการเข้าสังคมเฉลี่ย 2 ครั้งต่อวัน
    โปรแกรมชุมชนในบาร์เซโลนา ลดความเหงาได้ 48.3% ภายใน 18 สัปดาห์
    การใช้สัตว์เลี้ยงหรือหุ่นยนต์ช่วยลดความเหงาในผู้สูงอายุได้ 100%
    การยอมรับความเหงาโดยไม่ตัดสิน (Monitor + Accept) มีผลดีกว่าการพยายาม “ต่อสู้” กับมัน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    WHO ระบุว่าความเหงาเป็นภัยต่อสุขภาพเทียบเท่าการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน
    ความเหงาทำให้เกิดโรคหัวใจ, เบาหวาน, ซึมเศร้า และลดอายุขัยอย่างมีนัยสำคัญ
    การเชื่อมโยงทางสังคมช่วยลดการอักเสบและเพิ่มภูมิคุ้มกันในระยะยาว
    โปรแกรม “social prescribing” ในอังกฤษช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้ถึง £3.42 ต่อ £1 ที่ลงทุน
    ความเหงาส่งผลต่อเศรษฐกิจ เช่น ลดประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ

    https://lightcapai.medium.com/the-loneliness-epidemic-threatens-physical-health-like-smoking-e063220dde8b
    🧬 “ความเหงาไม่ใช่แค่ความรู้สึก — แต่มันคือโรคเรื้อรังที่เปลี่ยนยีน ทำลายภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความเสี่ยงตายเทียบเท่าการสูบบุหรี่” ในบทความล่าสุดโดย Faruk Alpay นักวิจัยด้านข้อมูลและสุขภาพ ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ “โรคระบาดแห่งความเหงา” ที่กำลังคุกคามสุขภาพมนุษย์ทั่วโลก โดยมีหลักฐานทางชีววิทยาชัดเจนว่า ความเหงาเรื้อรังเพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิตถึง 32% และเพิ่มโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมถึง 31% ผ่านกลไกทางร่างกายที่คล้ายกับโรคเรื้อรัง เช่น การอักเสบเรื้อรัง, ความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน, และการเปลี่ยนแปลงระดับยีน (epigenetic) การศึกษากว่า 90 งานวิจัยที่ครอบคลุมประชากรกว่า 2.2 ล้านคน พบว่าความเหงาทำให้ร่างกายผลิตโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคทางระบบประสาท โดยเฉพาะ GDF15 และ PCSK9 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับความโดดเดี่ยวทางสังคมอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ความเหงายังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ โดยร่างกายจะผลิตฮอร์โมนความเครียดแบบไม่สมดุล เกิดภาวะดื้อคอร์ติซอล และกระตุ้นยีนที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ขณะเดียวกันก็ลดการตอบสนองต่อไวรัส ทำให้ผู้ที่เหงาเรื้อรังมีโอกาสติดเชื้อและเจ็บป่วยมากขึ้น แต่ข่าวดีคือ เรารู้วิธีรักษาแล้ว — โปรแกรมฝึกสติแบบ 8 สัปดาห์สามารถลดความเหงาได้ถึง 22%, โปรแกรมชุมชนในบาร์เซโลนาใช้กิจกรรมกลุ่มและโยคะลดความเหงาได้เกือบครึ่งใน 6 เดือน และการใช้สัตว์เลี้ยง (จริงหรือหุ่นยนต์) กับผู้สูงอายุให้ผลลัพธ์ดีถึง 100% ในการลดความรู้สึกโดดเดี่ยว แม้ความเหงาจะเป็นภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่การยอมรับมันอย่างไม่ตัดสิน และการสร้างความเชื่อมโยงใหม่ ๆ ผ่านกิจกรรมง่าย ๆ เช่น การทักทายเพื่อนบ้าน หรือการเข้าร่วมกลุ่มอาสา ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสุขภาพกายและใจได้อย่างแท้จริง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ความเหงาเรื้อรังเพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิต 32% และโรคสมองเสื่อม 31% ➡️ มีการเปลี่ยนแปลงระดับโปรตีนในร่างกาย เช่น GDF15 และ PCSK9 ที่เชื่อมโยงกับโรคเรื้อรัง ➡️ ความเหงาทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและภูมิคุ้มกันผิดปกติ ➡️ ระบบฮอร์โมนเครียด (HPA axis) ทำงานผิดปกติ เกิดภาวะดื้อคอร์ติซอล ➡️ ความเหงาเร่งอายุชีวภาพผ่านการเปลี่ยนแปลง epigenetic เช่น DNA methylation ➡️ โปรแกรมฝึกสติ 14 วันลดความเหงาได้ 22% และเพิ่มการเข้าสังคมเฉลี่ย 2 ครั้งต่อวัน ➡️ โปรแกรมชุมชนในบาร์เซโลนา ลดความเหงาได้ 48.3% ภายใน 18 สัปดาห์ ➡️ การใช้สัตว์เลี้ยงหรือหุ่นยนต์ช่วยลดความเหงาในผู้สูงอายุได้ 100% ➡️ การยอมรับความเหงาโดยไม่ตัดสิน (Monitor + Accept) มีผลดีกว่าการพยายาม “ต่อสู้” กับมัน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ WHO ระบุว่าความเหงาเป็นภัยต่อสุขภาพเทียบเท่าการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน ➡️ ความเหงาทำให้เกิดโรคหัวใจ, เบาหวาน, ซึมเศร้า และลดอายุขัยอย่างมีนัยสำคัญ ➡️ การเชื่อมโยงทางสังคมช่วยลดการอักเสบและเพิ่มภูมิคุ้มกันในระยะยาว ➡️ โปรแกรม “social prescribing” ในอังกฤษช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้ถึง £3.42 ต่อ £1 ที่ลงทุน ➡️ ความเหงาส่งผลต่อเศรษฐกิจ เช่น ลดประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ https://lightcapai.medium.com/the-loneliness-epidemic-threatens-physical-health-like-smoking-e063220dde8b
    LIGHTCAPAI.MEDIUM.COM
    The loneliness epidemic threatens physical health like smoking
    Loneliness increases death risk by 32% but we know how to fix it. Real solutions that cut loneliness in half, from mindfulness to community…
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • “DJI ถูกตัดสินว่าเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกลาโหมจีน — ศาลสหรัฐฯ ยืนยันรายชื่อในบัญชีบริษัททหาร แม้หลักฐานส่วนใหญ่ไม่ชัดเจน”

    DJI ผู้ผลิตโดรนรายใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่งแพ้คดีต่อรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หลังจากศาลแขวงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยผู้พิพากษา Paul Friedman มีคำตัดสินให้ DJI ยังคงอยู่ในบัญชี “Chinese Military Companies” ตามมาตรา 1260H ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ2 แม้ศาลจะปฏิเสธเหตุผลส่วนใหญ่ที่กระทรวงกลาโหมเสนอ แต่กลับยอมรับเพียงเหตุผลเดียวที่เกี่ยวข้องกับการได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีน ซึ่งเพียงพอให้คงสถานะบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีนไว้ได้

    DJI ยืนยันว่าไม่ได้ถูกควบคุมหรือเป็นเจ้าของโดยกองทัพจีน และการถูกจัดอยู่ในบัญชีนี้ส่งผลให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจ ถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง และถูกห้ามทำสัญญากับหน่วยงานรัฐบาลกลางหลายแห่งในสหรัฐฯ

    แม้การอยู่ในบัญชีนี้จะไม่ใช่การแบนโดยตรง แต่ก็ทำให้การดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ ยากขึ้น และอาจนำไปสู่การแบนเต็มรูปแบบในอนาคต โดย DJI ยังต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยแห่งชาติภายในเดือนธันวาคม 2025 เพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ

    คำตัดสินนี้ยังสะท้อนถึงอำนาจของกระทรวงกลาโหมในการกำหนดรายชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกองทัพจีน แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนในหลายข้อกล่าวหา โดยศาลให้เหตุผลว่า “ต้องให้ความเคารพต่อหน่วยงานด้านความมั่นคง”

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้ DJI ยังคงอยู่ในบัญชี “Chinese Military Companies” ตามมาตรา 1260H
    กระทรวงกลาโหมเสนอหลายเหตุผล แต่ศาลยอมรับเพียงข้อเดียวคือการได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีน
    DJI ยืนยันว่าไม่ได้ถูกควบคุมหรือเป็นเจ้าของโดยกองทัพจีน
    การอยู่ในบัญชีนี้ทำให้ DJI สูญเสียสัญญากับหน่วยงานรัฐบาลกลางและถูกมองว่าเป็นภัยความมั่นคง
    DJI ยังต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยแห่งชาติภายในเดือนธันวาคม 2025
    คำตัดสินนี้อาจนำไปสู่การแบนผลิตภัณฑ์ DJI ในสหรัฐฯ ในอนาคต
    DJI ยังคงดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ และกำลังพิจารณาทางเลือกทางกฎหมายเพิ่มเติม
    บริษัท Hesai Group ซึ่งผลิตเซ็นเซอร์ Lidar ก็แพ้คดีคล้ายกันในเดือนกรกฎาคม 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    DJI ครองตลาดโดรนเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ มากกว่า 50%
    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีอำนาจกว้างในการกำหนดรายชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกองทัพต่างชาติ
    การได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีน เช่น เงินทุนหรือสิทธิพิเศษ อาจเพียงพอให้ถูกจัดเป็น “military-civil fusion contributor”
    การใช้โดรน DJI ในหน่วยงานพลเรือนของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวลเรื่อง backdoor และการเข้าถึงข้อมูลโดยจีน
    การตรวจสอบความปลอดภัยแห่งชาติในเดือนธันวาคมจะเป็นจุดชี้ขาดอนาคตของ DJI ในตลาดสหรัฐฯ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/judge-rules-that-drone-maker-dji-is-affiliated-with-chinas-defense-industry-company-to-stay-on-pentagons-list-of-chinese-military-companies
    🚁 “DJI ถูกตัดสินว่าเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกลาโหมจีน — ศาลสหรัฐฯ ยืนยันรายชื่อในบัญชีบริษัททหาร แม้หลักฐานส่วนใหญ่ไม่ชัดเจน” DJI ผู้ผลิตโดรนรายใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่งแพ้คดีต่อรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หลังจากศาลแขวงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยผู้พิพากษา Paul Friedman มีคำตัดสินให้ DJI ยังคงอยู่ในบัญชี “Chinese Military Companies” ตามมาตรา 1260H ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ2 แม้ศาลจะปฏิเสธเหตุผลส่วนใหญ่ที่กระทรวงกลาโหมเสนอ แต่กลับยอมรับเพียงเหตุผลเดียวที่เกี่ยวข้องกับการได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีน ซึ่งเพียงพอให้คงสถานะบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีนไว้ได้ DJI ยืนยันว่าไม่ได้ถูกควบคุมหรือเป็นเจ้าของโดยกองทัพจีน และการถูกจัดอยู่ในบัญชีนี้ส่งผลให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจ ถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง และถูกห้ามทำสัญญากับหน่วยงานรัฐบาลกลางหลายแห่งในสหรัฐฯ แม้การอยู่ในบัญชีนี้จะไม่ใช่การแบนโดยตรง แต่ก็ทำให้การดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ ยากขึ้น และอาจนำไปสู่การแบนเต็มรูปแบบในอนาคต โดย DJI ยังต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยแห่งชาติภายในเดือนธันวาคม 2025 เพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ คำตัดสินนี้ยังสะท้อนถึงอำนาจของกระทรวงกลาโหมในการกำหนดรายชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกองทัพจีน แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนในหลายข้อกล่าวหา โดยศาลให้เหตุผลว่า “ต้องให้ความเคารพต่อหน่วยงานด้านความมั่นคง” ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้ DJI ยังคงอยู่ในบัญชี “Chinese Military Companies” ตามมาตรา 1260H ➡️ กระทรวงกลาโหมเสนอหลายเหตุผล แต่ศาลยอมรับเพียงข้อเดียวคือการได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีน ➡️ DJI ยืนยันว่าไม่ได้ถูกควบคุมหรือเป็นเจ้าของโดยกองทัพจีน ➡️ การอยู่ในบัญชีนี้ทำให้ DJI สูญเสียสัญญากับหน่วยงานรัฐบาลกลางและถูกมองว่าเป็นภัยความมั่นคง ➡️ DJI ยังต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยแห่งชาติภายในเดือนธันวาคม 2025 ➡️ คำตัดสินนี้อาจนำไปสู่การแบนผลิตภัณฑ์ DJI ในสหรัฐฯ ในอนาคต ➡️ DJI ยังคงดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ และกำลังพิจารณาทางเลือกทางกฎหมายเพิ่มเติม ➡️ บริษัท Hesai Group ซึ่งผลิตเซ็นเซอร์ Lidar ก็แพ้คดีคล้ายกันในเดือนกรกฎาคม 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ DJI ครองตลาดโดรนเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ มากกว่า 50% ➡️ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีอำนาจกว้างในการกำหนดรายชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกองทัพต่างชาติ ➡️ การได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีน เช่น เงินทุนหรือสิทธิพิเศษ อาจเพียงพอให้ถูกจัดเป็น “military-civil fusion contributor” ➡️ การใช้โดรน DJI ในหน่วยงานพลเรือนของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวลเรื่อง backdoor และการเข้าถึงข้อมูลโดยจีน ➡️ การตรวจสอบความปลอดภัยแห่งชาติในเดือนธันวาคมจะเป็นจุดชี้ขาดอนาคตของ DJI ในตลาดสหรัฐฯ https://www.tomshardware.com/tech-industry/judge-rules-that-drone-maker-dji-is-affiliated-with-chinas-defense-industry-company-to-stay-on-pentagons-list-of-chinese-military-companies
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • “แฮกเกอร์เวียดนามปลอมอีเมลแจ้งละเมิดลิขสิทธิ์ หลอกติดตั้งมัลแวร์ขโมยคริปโต — Lone None Stealer ระบาดผ่าน Telegram อย่างแนบเนียน”

    ตั้งแต่ปลายปี 2024 กลุ่มแฮกเกอร์ที่พูดภาษาเวียดนามชื่อว่า “Lone None” ได้เปิดปฏิบัติการโจมตีไซเบอร์ระดับโลก โดยใช้เทคนิคหลอกลวงผ่านอีเมลปลอมที่อ้างว่าเป็น “หนังสือแจ้งละเมิดลิขสิทธิ์” จากสำนักงานกฎหมายต่างประเทศ เพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดไฟล์มัลแวร์ที่แฝงตัวมาในรูปแบบเอกสารหลักฐาน

    อีเมลปลอมเหล่านี้ถูกเขียนในหลายภาษา เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และจีน เพื่อขยายขอบเขตการโจมตี โดยมักแนบลิงก์ให้ดาวน์โหลดไฟล์ ZIP ที่ภายในมีมัลแวร์ซ่อนอยู่ในไฟล์ PDF หรือ PNG ซึ่งดูเหมือนเอกสารจริง

    เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ มัลแวร์จะใช้เทคนิค DLL side-loading โดยอาศัยโปรแกรมที่ถูกเซ็นรับรอง เช่น Microsoft Word หรือ PDF Reader เพื่อรันโค้ดอันตรายโดยไม่ถูกตรวจจับ

    มัลแวร์ที่ใช้มีสองตัวหลัก ได้แก่ Pure Logs Stealer และ Lone None Stealer (หรือ PXA Stealer) โดย Pure Logs จะขโมยข้อมูลหลากหลาย เช่น รหัสผ่าน บัตรเครดิต คุกกี้ และไฟล์กระเป๋าคริปโต ส่วน Lone None Stealer จะเน้นขโมยคริปโตโดยเฉพาะ ด้วยการดัก clipboard แล้วเปลี่ยนที่อยู่กระเป๋าเงินให้เป็นของแฮกเกอร์แบบเงียบ ๆ

    ที่น่ากังวลคือ Lone None Stealer ใช้ Telegram เป็นช่องทาง Command & Control (C2) โดยซ่อนลิงก์ขั้นตอนถัดไปไว้ในโปรไฟล์บอต Telegram และส่งข้อมูลที่ขโมยได้กลับไปยังแฮกเกอร์ผ่านเครือข่าย Telegram อย่างรวดเร็ว

    รายงานล่าสุดจาก Cofense Intelligence พบว่า Lone None Stealer ปรากฏใน 29% ของเคสมัลแวร์ประเภท Pure Logs ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 ซึ่งแสดงถึงการเติบโตของการใช้งานมัลแวร์ตัวนี้ในวงกว้าง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    กลุ่มแฮกเกอร์เวียดนาม “Lone None” ใช้อีเมลปลอมแจ้งละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อหลอกติดตั้งมัลแวร์
    อีเมลถูกเขียนในหลายภาษาเพื่อขยายขอบเขตการโจมตี
    มัลแวร์แฝงตัวในไฟล์ ZIP ที่ดูเหมือนเอกสารหลักฐาน เช่น PDF หรือ PNG
    ใช้เทคนิค DLL side-loading ผ่านโปรแกรมที่ถูกเซ็นรับรอง
    มัลแวร์หลักคือ Pure Logs Stealer และ Lone None Stealer (PXA Stealer)
    Pure Logs ขโมยข้อมูลหลากหลาย เช่น รหัสผ่าน บัตรเครดิต คุกกี้ และไฟล์คริปโต
    Lone None Stealer ดัก clipboard แล้วเปลี่ยนที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโต
    ใช้ Telegram เป็นช่องทาง C2 และซ่อนลิงก์ในโปรไฟล์บอต
    พบ Lone None Stealer ใน 29% ของเคสมัลแวร์ประเภท Pure Logs ตั้งแต่ มิ.ย. 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    PXA Stealer ถูกเขียนด้วย Python และใช้เทคนิค sideloading ผ่านไฟล์ Word หรือ PDF ที่เซ็นรับรอง
    แฮกเกอร์ใช้ Cloudflare Workers เพื่อส่งข้อมูลที่ขโมยได้ไปยัง Telegram
    ข้อมูลที่ถูกขโมยถูกขายผ่านระบบสมาชิกใน Telegram เช่น Sherlock, Daisy Cloud, Moon Cloud
    มีการพบเหยื่อกว่า 4,000 IP และข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงรหัสผ่านกว่า 200,000 รายการ
    กลุ่ม Lone None มีความเชื่อมโยงกับ CoralRaider และกลุ่มซื้อขายบัญชีใน Telegram

    https://hackread.com/vietnamese-hackers-fake-copyright-notice-lone-none-stealer/
    🎭 “แฮกเกอร์เวียดนามปลอมอีเมลแจ้งละเมิดลิขสิทธิ์ หลอกติดตั้งมัลแวร์ขโมยคริปโต — Lone None Stealer ระบาดผ่าน Telegram อย่างแนบเนียน” ตั้งแต่ปลายปี 2024 กลุ่มแฮกเกอร์ที่พูดภาษาเวียดนามชื่อว่า “Lone None” ได้เปิดปฏิบัติการโจมตีไซเบอร์ระดับโลก โดยใช้เทคนิคหลอกลวงผ่านอีเมลปลอมที่อ้างว่าเป็น “หนังสือแจ้งละเมิดลิขสิทธิ์” จากสำนักงานกฎหมายต่างประเทศ เพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดไฟล์มัลแวร์ที่แฝงตัวมาในรูปแบบเอกสารหลักฐาน อีเมลปลอมเหล่านี้ถูกเขียนในหลายภาษา เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และจีน เพื่อขยายขอบเขตการโจมตี โดยมักแนบลิงก์ให้ดาวน์โหลดไฟล์ ZIP ที่ภายในมีมัลแวร์ซ่อนอยู่ในไฟล์ PDF หรือ PNG ซึ่งดูเหมือนเอกสารจริง เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ มัลแวร์จะใช้เทคนิค DLL side-loading โดยอาศัยโปรแกรมที่ถูกเซ็นรับรอง เช่น Microsoft Word หรือ PDF Reader เพื่อรันโค้ดอันตรายโดยไม่ถูกตรวจจับ มัลแวร์ที่ใช้มีสองตัวหลัก ได้แก่ Pure Logs Stealer และ Lone None Stealer (หรือ PXA Stealer) โดย Pure Logs จะขโมยข้อมูลหลากหลาย เช่น รหัสผ่าน บัตรเครดิต คุกกี้ และไฟล์กระเป๋าคริปโต ส่วน Lone None Stealer จะเน้นขโมยคริปโตโดยเฉพาะ ด้วยการดัก clipboard แล้วเปลี่ยนที่อยู่กระเป๋าเงินให้เป็นของแฮกเกอร์แบบเงียบ ๆ ที่น่ากังวลคือ Lone None Stealer ใช้ Telegram เป็นช่องทาง Command & Control (C2) โดยซ่อนลิงก์ขั้นตอนถัดไปไว้ในโปรไฟล์บอต Telegram และส่งข้อมูลที่ขโมยได้กลับไปยังแฮกเกอร์ผ่านเครือข่าย Telegram อย่างรวดเร็ว รายงานล่าสุดจาก Cofense Intelligence พบว่า Lone None Stealer ปรากฏใน 29% ของเคสมัลแวร์ประเภท Pure Logs ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 ซึ่งแสดงถึงการเติบโตของการใช้งานมัลแวร์ตัวนี้ในวงกว้าง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ กลุ่มแฮกเกอร์เวียดนาม “Lone None” ใช้อีเมลปลอมแจ้งละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อหลอกติดตั้งมัลแวร์ ➡️ อีเมลถูกเขียนในหลายภาษาเพื่อขยายขอบเขตการโจมตี ➡️ มัลแวร์แฝงตัวในไฟล์ ZIP ที่ดูเหมือนเอกสารหลักฐาน เช่น PDF หรือ PNG ➡️ ใช้เทคนิค DLL side-loading ผ่านโปรแกรมที่ถูกเซ็นรับรอง ➡️ มัลแวร์หลักคือ Pure Logs Stealer และ Lone None Stealer (PXA Stealer) ➡️ Pure Logs ขโมยข้อมูลหลากหลาย เช่น รหัสผ่าน บัตรเครดิต คุกกี้ และไฟล์คริปโต ➡️ Lone None Stealer ดัก clipboard แล้วเปลี่ยนที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโต ➡️ ใช้ Telegram เป็นช่องทาง C2 และซ่อนลิงก์ในโปรไฟล์บอต ➡️ พบ Lone None Stealer ใน 29% ของเคสมัลแวร์ประเภท Pure Logs ตั้งแต่ มิ.ย. 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ PXA Stealer ถูกเขียนด้วย Python และใช้เทคนิค sideloading ผ่านไฟล์ Word หรือ PDF ที่เซ็นรับรอง ➡️ แฮกเกอร์ใช้ Cloudflare Workers เพื่อส่งข้อมูลที่ขโมยได้ไปยัง Telegram ➡️ ข้อมูลที่ถูกขโมยถูกขายผ่านระบบสมาชิกใน Telegram เช่น Sherlock, Daisy Cloud, Moon Cloud ➡️ มีการพบเหยื่อกว่า 4,000 IP และข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงรหัสผ่านกว่า 200,000 รายการ ➡️ กลุ่ม Lone None มีความเชื่อมโยงกับ CoralRaider และกลุ่มซื้อขายบัญชีใน Telegram https://hackread.com/vietnamese-hackers-fake-copyright-notice-lone-none-stealer/
    HACKREAD.COM
    Vietnamese Hackers Use Fake Copyright Notices to Spread Lone None Stealer
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • เหรียญสมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ วัดตึก อยุธยา ปี2547
    เหรียญสมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ ที่ระลึกในการปฎิสังขรณ์ วัดตึก อยุธยา ปี2547 // พระดีพิธีขลัง !! //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณนิยมขอพรในเรื่องโชคลาภ การงาน การเงิน อำนาจ บารมี แคล้วคลาดปลอดภัยและการแก้ปีชง เสริมอำนาจบารมี ขอบุตร หากได้บูชาพระพุทธเจ้าเสือแล้ว จะเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง สิ่งดีๆจะเกิดแก่ชีวิต >>

    ** วัดตึก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นศาสนสถานแห่งประวัติศาสตร์ไทย สร้างขึ้นเป็นวัดมาตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2240 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดย พระเจ้าเสือ (สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดี หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ) แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง สมัยกรุงศรีอยุธยา ทรงสถาปนาวัดนี้ขึ้นราว พ.ศ. 2240–2249 ในพื้นที่ของพระตำหนักส่วนพระองค์โดยมีพระตำหนักที่ประทับปรากฎอยู่ต่อมาภายหลังได้แปลงเป็นวิหาร และหลักฐานที่สะท้อนค่านิยมส่วนพระองค์ นั่นคือ โบสถ์มหาอุตม์ ซึ่งสอดคล้องกับการกล่าวอ้างทางประวัติศาสตร์ว่า พระเจ้าเสือทรงมีความรู้เรื่อง วิชาอาคม เป็นอย่างดี >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญสมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ วัดตึก อยุธยา ปี2547 เหรียญสมเด็จพระพุทธเจ้าเสือ ที่ระลึกในการปฎิสังขรณ์ วัดตึก อยุธยา ปี2547 // พระดีพิธีขลัง !! //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณนิยมขอพรในเรื่องโชคลาภ การงาน การเงิน อำนาจ บารมี แคล้วคลาดปลอดภัยและการแก้ปีชง เสริมอำนาจบารมี ขอบุตร หากได้บูชาพระพุทธเจ้าเสือแล้ว จะเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง สิ่งดีๆจะเกิดแก่ชีวิต >> ** วัดตึก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นศาสนสถานแห่งประวัติศาสตร์ไทย สร้างขึ้นเป็นวัดมาตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2240 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดย พระเจ้าเสือ (สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดี หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ) แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง สมัยกรุงศรีอยุธยา ทรงสถาปนาวัดนี้ขึ้นราว พ.ศ. 2240–2249 ในพื้นที่ของพระตำหนักส่วนพระองค์โดยมีพระตำหนักที่ประทับปรากฎอยู่ต่อมาภายหลังได้แปลงเป็นวิหาร และหลักฐานที่สะท้อนค่านิยมส่วนพระองค์ นั่นคือ โบสถ์มหาอุตม์ ซึ่งสอดคล้องกับการกล่าวอ้างทางประวัติศาสตร์ว่า พระเจ้าเสือทรงมีความรู้เรื่อง วิชาอาคม เป็นอย่างดี >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
  • ~เปิดลับ การบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัติร์ย์ ตั้งแต่ปี2550เป็นต้นมา
    ==================

    ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์
    อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
    =================================

    นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา การบ่อนทำลายสถาบันสูงสุด…เกิดขึ้นมากผิดปกติ …มีการเปิดเผย… ไม่เกรงกลัว…โดย กลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์…ไม่เพียงเคลื่อนไหวในประเทศเท่านั้น

    …แต่ยังไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศ …โดยเฉพาะในสหรัฐ

    ~ ด้วยการป้อนชุดข้อมูล…ที่ดูเหมือนจริง…แต่เป็นความเท็จ …ส่วนหนึ่งเป็นผลงานของนักล็อบบี้…จากสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียง…และบริษัทประชาสัมพันธ์ …ที่ถูกใครบางคนจ้างไว้ 3 บริษัท บริษัทละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 30.3 ล้านบาท)

    ~ เพื่อไปล็อบบี้…สมาชิกรัฐสภา…และรัฐบาลอเมริกัน…เพื่อผลทางการเมืองของตน… อย่างไรก็ดี …ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น… คือ เกิดกระแสต่อต้านสถาบันกษัตริย์ในหมู่นักการเมืองอเมริกันมากขึ้น…อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

    ~ ฝ่ายที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทยในสหรัฐ…ทวีความเข้มแข็งมากขึ้น… มีการสร้างเว็บไซต์ในรูปแบบหลากหลาย …เขียนบทความภาษาต่างๆ… ซึ่งส่วนใหญ่มาจากข้อเขียนของคนอเมริกัน 2 คน คนหนึ่ง…คือ

    - เจ.เค. แห่งคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ (Council on Foreign Relations) อันทรงอิทธิพลในสหรัฐ ที่ เจ.เค. ได้เขียนบทความ…โจมตีสถาบันกษัตริย์ และยกย่องเชิดชูฝ่ายตรงข้ามสถาบันกษัตริย์ว่า เป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" สลับกันมาหลายปีแล้ว

    - อีกคนหนึ่ง คือ เอ.เอ็ม.เอ็ม. ที่ยอมรับว่า… ได้รับการว่าจ้าง…ให้มาทำงานด้านนี้ และ…เป็นคนที่นำเอาคดีของ โจ กอร์ดอน และ อำพล ตั้งนพกุล หรือ “อากง” มาเขียนโจมตี ม.112 …เพื่อให้พาดพิงไปถึงพระมหากษัตริย์ไทย ในรัชกาลที่ 9

    ~ในความเป็นจริง… คนพวกนี้…ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย… แต่ได้รับข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ชาวไทย…สายสาธารณรัฐ…ที่คนไทยรู้จักดี

    ~ ในกลางปี 2556 …นักล็อบบี้พวกนี้…วางแผนผลักดันให้มีการอภิปรายเชิงวิชาการ…ในที่ประชุมประจำปี…ของสมาคมเอเชียศึกษา (Association of Asian Studies)… ซึ่งมีคนไทย…ที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์…มีอิทธิพลอยู่

    ~ การอภิปรายดังกล่าว…มีเป้าหมาย…มุ่งโจมตีสถาบันกษัตริย์ไทย…ในรัชกาลที่ 9 เป็นการเฉพาะ …รวมทั้ง…มีแผนตีพิมพ์หนังสืออีกเล่มหนึ่ง…โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐ ……ที่ผู้เขียนอ้างหลักฐาน…จากห้องสมุดมหาวิทยาลัย
    ……รัฐสภาของสหรัฐ ……ที่ดูเผินๆ แล้วน่าเชื่อถือ …หรือเลือกเฉพาะส่วนที่สนับสนุนความคิดของตน…… เพื่อหาทางทำลายความเชื่อถือพระมหากษัตริย์ไทยในรัชกาลที่ 9

    ~ ก่อนหน้านี้…เมื่อปี 2554 …ในวาระครบ 7 รอบ 84 พรรษา…ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 …นักล็อบบี้อเมริกัน…ได้ส่งชุดข้อมูล…ที่ปั้นแต่งขึ้น…จนทำให้สมาชิกสภาสหรัฐหลงเชื่อ

    ~ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ…พยายามหลีกเลี่ยง…ไม่ส่งหนังสือถวายพระพร…ตามที่เคยปฏิบัติมา …จนสภาสูง…ต้องส่งหนังสือถวายพระพรแทน ……สะท้อนให้เห็นว่า…… นักล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน……ทำงานให้กับนายจ้างคนไทยที่ไม่ชอบสถาบันกษัตริย์อย่างได้ผล ……ทำให้รัฐสภาชุดก่อนเข้าใจผิด …และต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทย… ตกทอดมาถึงสภาใหม่ชุดที่ 113 ในปัจจุบัน

    ~ ไม่เพียงแต่เท่านั้น …สถาบันบางแห่งของสหรัฐ …เช่น กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National Endowment for Democracy) ยังจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐ……คิดเป็นเงินไทยกว่า 1,500 ล้านบาท และ…อีกโครงการเป็นเงิน 200-300 ล้านบาท ……ให้กับกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ …ตามที่กลุ่มพวกนี้ร้องขอมา

    ~ โดยอ้างว่า…เพื่อนำไปใช้ในการให้ความรู้ประชาชนในการพัฒนาประชาธิไตย แต่…กลับนำไปสร้างสื่อและเว็บไซต์ ปลุกระดม โฆษณาชวนเชื่อให้คนไทยบางกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะ เป็นสถาบันที่มีสิทธิเหนือประชาชน

    ~ นักล็อบบี้เหล่านี้…ได้สร้างข้อมูลขึ้นมาชุดหนึ่ง…หรือหลายชุด ……และไปเคลื่อนไหวชักจูง… ชี้นำ… โน้มน้าว…ให้สมาชิกรัฐสภา และสถาบันอื่นของสหรัฐ เชื่อในวาทะกรรมที่ว่า

    ~ สถาบันสูงสุดของไทย หรือ สถาบันกษัตริย์นั้น…เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ……สถาบันกษัตริย์ไทย…ทำลายสิทธิมนุษยชน …อ้างว่า…ปัญหาของเมืองไทย……ไม่ใช่เรื่องการเมือง…… แต่เป็นปัญหาการสืบราชสมบัติ ……ที่กษัตริย์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาน……เพื่อจะเสนอให้ใครบางคนเป็น “ทางออก” ของชาติ (จากการเลือกตั้ง เพื่อเป็นประมุขของรัฐ หรือ เป็นประธานาธิบดี นั่นเอง)

    ~ พวกนี้…พยายามป้อนข้อมูล…ให้รัฐสภาอเมริกันเชื่อว่า “สถาบันไม่สู้แล้ว” เพราะ…ถ้าสถาบันไม่สู้ …สหรัฐก็ไม่มีทางเป็นอื่น…นอกจากจะยืนข้างฝ่ายประชาธิปไตย…ที่อยู่ตรงข้ามกับสถาบันกษัตริย์… และเป็นการส่งสัญญานไปยังประเทศ…ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น รวมทั้งจีน…ที่สนับสนุนสถาบันสูงสุด ตลอดมา …หากสหรัฐ…และประเทศเหล่านี้…สรุปว่า ฝ่ายสถาบันกษัตริย์แพ้แน่ …สหรัฐและประเทศเหล่านี้…ซึ่งคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศเขาเป็นสำคัญ…ก็ต้องเข้าข้างฝ่ายชนะ ที่ถือเป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย"

    ~ อย่างไรก็ดี …ฝ่ายสถาบันกษัตริย์…ส่งสัญญาน…มาหลายครั้งแล้วว่า “ยังสู้” และ “ไม่ยอมแพ้” โดยเฉพาะ…ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2555 ที่ประชาชนชาวไทย…ได้ไปชุมนุมที่ลานพระบรมรูปฯ อย่างมืดฟ้ามัวดิน…เพื่อเข้าเฝ้าถวายพระพร …สะท้อนให้เห็นว่า …ประชาชนพร้อมที่จะสู้เคียงข้าง แม้จะปรากฏ “แรงเฉื่อย” ในสถาบันทหาร และ รัฐบาลในยุคนั้นก็ตาม จึงมีแต่ประชาชนเท่านั้น…ที่จะเป็นกำแพงป้องกันสถาบันสูงสุดของประเทศ……ให้พ้นจากการคุกคามจากฝ่ายบ่อนทำลายในและนอกประเทศได้

    ~ รัฐบาลชุดก่อน…เคยให้ทุนมหาวิทยาลัยดังในอเมริกา …อาทิ คอร์แนล วิสคอนซิน เพนซิลเวเนีย ยูซีแอลเอ. จอห์น ฮอพกินส์ วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อสร้าง “ศูนย์ไทยศึกษา” และ “เพื่อนประเทศไทย” เพื่อให้เข้าใจสถาบันกษัตริย์ของไทย แต่…ปรากฏว่า ……ศูนย์เหล่านี้……กลายเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่การต่อต้านสถาบันสูงสุดไปหมด ……และอาจขยายเครือข่ายกว้างขวางมากขึ้น…… ไปยังออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหภาพยุโรปอีกด้วย

    ~ ไทยถูกคุกคาม…ด้วยสงครามยุคใหม่ …ทั้งสงครามอสมมาตร (Asymmetric Warfare) เช่น การก่อความรุนแรงช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 และ…สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงครามทุน และ สงครามไซเบอร์ …สงครามทั้งสามนี้…มีศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐ …แต่มีสนามรบอยู่ทั่วโลก

    ~ ในไทย สหรัฐต้องการใช้สนามบินอู่ตะเภา…เป็น Global Transpark ตอบสนองยุทธศาสตร์ของสหรัฐ ในภูมิภาคนี้ …มีข่าวว่า สหรัฐได้ส่งทหารรับจ้าง ที่เป็นทหารผ่านศึกแบบแรมโบ้ …ที่เรียกว่า “แบล็ควอเตอร์” ประมาณ 5-6 ชุดมาประจำอยู่ในไทย …โดยแต่ละคนได้รับค่าจ้างปีละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ …เบี้ยเลี้ยงต่างหาก …เพื่อใช้ในการปฏิบัติการลับ (Covert Action) ตามนโยบายของสหรัฐ …ซึ่งอเมริกาถนัดในเรื่องพวกนี้มาก …และประสบความสำเร็จในละตินอเมริกามาแล้ว

    ~ อันตรายที่เกิดขึ้น…ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยนั้น……เป็นเรื่องจริง…และหนักหนา ……ชาติและสถาบัน……กำลังเสี่ยงอันตรายอย่างคาดไม่ถึง ……สิ่งที่เห็นทั้งในไทยและในต่างประเทศ…เป็นเพียง “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” ที่โผล่เหนือน้ำเพียง 1 ส่วน แต่อีก 9 ส่วนอยู่ใต้น้ำ

    ~ บทความนี้……ไม่ต้องการให้คนไทย…ไปต่อต้านสหรัฐ …เพียงแต่ขอให้เพื่อนคนไทย…อย่าปล่อยให้คนมาทำร้ายประเทศชาติ…และราชบัลลังก์เท่านั้น …ปัญหาของประเทศไทย…ต้องแก้ด้วยคนไทยเป็นหลัก …เราต้องช่วยกันเป็นปราการด่านสุดท้าย……ในการปกป้องชาติและราชบัลลังก์ ……ให้ต่างชาติได้ตระหนักว่า ……สถาบันสูงสุดยังสู้ ……และคนไทยพร้อมจะสู้เพื่อปกป้องสถาบันสำคัญยิ่งของชาติ
    ขอบคุณเจ้าของภาพบทความและคนโพสครับ

    ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์
    อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
    ~เปิดลับ การบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัติร์ย์ ตั้งแต่ปี2550เป็นต้นมา ================== ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ================================= นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา การบ่อนทำลายสถาบันสูงสุด…เกิดขึ้นมากผิดปกติ …มีการเปิดเผย… ไม่เกรงกลัว…โดย กลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์…ไม่เพียงเคลื่อนไหวในประเทศเท่านั้น …แต่ยังไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศ …โดยเฉพาะในสหรัฐ ~ ด้วยการป้อนชุดข้อมูล…ที่ดูเหมือนจริง…แต่เป็นความเท็จ …ส่วนหนึ่งเป็นผลงานของนักล็อบบี้…จากสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียง…และบริษัทประชาสัมพันธ์ …ที่ถูกใครบางคนจ้างไว้ 3 บริษัท บริษัทละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 30.3 ล้านบาท) ~ เพื่อไปล็อบบี้…สมาชิกรัฐสภา…และรัฐบาลอเมริกัน…เพื่อผลทางการเมืองของตน… อย่างไรก็ดี …ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น… คือ เกิดกระแสต่อต้านสถาบันกษัตริย์ในหมู่นักการเมืองอเมริกันมากขึ้น…อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ~ ฝ่ายที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทยในสหรัฐ…ทวีความเข้มแข็งมากขึ้น… มีการสร้างเว็บไซต์ในรูปแบบหลากหลาย …เขียนบทความภาษาต่างๆ… ซึ่งส่วนใหญ่มาจากข้อเขียนของคนอเมริกัน 2 คน คนหนึ่ง…คือ - เจ.เค. แห่งคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ (Council on Foreign Relations) อันทรงอิทธิพลในสหรัฐ ที่ เจ.เค. ได้เขียนบทความ…โจมตีสถาบันกษัตริย์ และยกย่องเชิดชูฝ่ายตรงข้ามสถาบันกษัตริย์ว่า เป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" สลับกันมาหลายปีแล้ว - อีกคนหนึ่ง คือ เอ.เอ็ม.เอ็ม. ที่ยอมรับว่า… ได้รับการว่าจ้าง…ให้มาทำงานด้านนี้ และ…เป็นคนที่นำเอาคดีของ โจ กอร์ดอน และ อำพล ตั้งนพกุล หรือ “อากง” มาเขียนโจมตี ม.112 …เพื่อให้พาดพิงไปถึงพระมหากษัตริย์ไทย ในรัชกาลที่ 9 ~ในความเป็นจริง… คนพวกนี้…ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย… แต่ได้รับข้อมูลจากนักประวัติศาสตร์ชาวไทย…สายสาธารณรัฐ…ที่คนไทยรู้จักดี ~ ในกลางปี 2556 …นักล็อบบี้พวกนี้…วางแผนผลักดันให้มีการอภิปรายเชิงวิชาการ…ในที่ประชุมประจำปี…ของสมาคมเอเชียศึกษา (Association of Asian Studies)… ซึ่งมีคนไทย…ที่ต่อต้านสถาบันกษัตริย์…มีอิทธิพลอยู่ ~ การอภิปรายดังกล่าว…มีเป้าหมาย…มุ่งโจมตีสถาบันกษัตริย์ไทย…ในรัชกาลที่ 9 เป็นการเฉพาะ …รวมทั้ง…มีแผนตีพิมพ์หนังสืออีกเล่มหนึ่ง…โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐ ……ที่ผู้เขียนอ้างหลักฐาน…จากห้องสมุดมหาวิทยาลัย ……รัฐสภาของสหรัฐ ……ที่ดูเผินๆ แล้วน่าเชื่อถือ …หรือเลือกเฉพาะส่วนที่สนับสนุนความคิดของตน…… เพื่อหาทางทำลายความเชื่อถือพระมหากษัตริย์ไทยในรัชกาลที่ 9 ~ ก่อนหน้านี้…เมื่อปี 2554 …ในวาระครบ 7 รอบ 84 พรรษา…ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 …นักล็อบบี้อเมริกัน…ได้ส่งชุดข้อมูล…ที่ปั้นแต่งขึ้น…จนทำให้สมาชิกสภาสหรัฐหลงเชื่อ ~ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ…พยายามหลีกเลี่ยง…ไม่ส่งหนังสือถวายพระพร…ตามที่เคยปฏิบัติมา …จนสภาสูง…ต้องส่งหนังสือถวายพระพรแทน ……สะท้อนให้เห็นว่า…… นักล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน……ทำงานให้กับนายจ้างคนไทยที่ไม่ชอบสถาบันกษัตริย์อย่างได้ผล ……ทำให้รัฐสภาชุดก่อนเข้าใจผิด …และต่อต้านสถาบันกษัตริย์ไทย… ตกทอดมาถึงสภาใหม่ชุดที่ 113 ในปัจจุบัน ~ ไม่เพียงแต่เท่านั้น …สถาบันบางแห่งของสหรัฐ …เช่น กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National Endowment for Democracy) ยังจัดสรรเงินงบประมาณของรัฐ……คิดเป็นเงินไทยกว่า 1,500 ล้านบาท และ…อีกโครงการเป็นเงิน 200-300 ล้านบาท ……ให้กับกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ …ตามที่กลุ่มพวกนี้ร้องขอมา ~ โดยอ้างว่า…เพื่อนำไปใช้ในการให้ความรู้ประชาชนในการพัฒนาประชาธิไตย แต่…กลับนำไปสร้างสื่อและเว็บไซต์ ปลุกระดม โฆษณาชวนเชื่อให้คนไทยบางกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะ เป็นสถาบันที่มีสิทธิเหนือประชาชน ~ นักล็อบบี้เหล่านี้…ได้สร้างข้อมูลขึ้นมาชุดหนึ่ง…หรือหลายชุด ……และไปเคลื่อนไหวชักจูง… ชี้นำ… โน้มน้าว…ให้สมาชิกรัฐสภา และสถาบันอื่นของสหรัฐ เชื่อในวาทะกรรมที่ว่า ~ สถาบันสูงสุดของไทย หรือ สถาบันกษัตริย์นั้น…เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ……สถาบันกษัตริย์ไทย…ทำลายสิทธิมนุษยชน …อ้างว่า…ปัญหาของเมืองไทย……ไม่ใช่เรื่องการเมือง…… แต่เป็นปัญหาการสืบราชสมบัติ ……ที่กษัตริย์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาน……เพื่อจะเสนอให้ใครบางคนเป็น “ทางออก” ของชาติ (จากการเลือกตั้ง เพื่อเป็นประมุขของรัฐ หรือ เป็นประธานาธิบดี นั่นเอง) ~ พวกนี้…พยายามป้อนข้อมูล…ให้รัฐสภาอเมริกันเชื่อว่า “สถาบันไม่สู้แล้ว” เพราะ…ถ้าสถาบันไม่สู้ …สหรัฐก็ไม่มีทางเป็นอื่น…นอกจากจะยืนข้างฝ่ายประชาธิปไตย…ที่อยู่ตรงข้ามกับสถาบันกษัตริย์… และเป็นการส่งสัญญานไปยังประเทศ…ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น รวมทั้งจีน…ที่สนับสนุนสถาบันสูงสุด ตลอดมา …หากสหรัฐ…และประเทศเหล่านี้…สรุปว่า ฝ่ายสถาบันกษัตริย์แพ้แน่ …สหรัฐและประเทศเหล่านี้…ซึ่งคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศเขาเป็นสำคัญ…ก็ต้องเข้าข้างฝ่ายชนะ ที่ถือเป็น "ฝ่ายประชาธิปไตย" ~ อย่างไรก็ดี …ฝ่ายสถาบันกษัตริย์…ส่งสัญญาน…มาหลายครั้งแล้วว่า “ยังสู้” และ “ไม่ยอมแพ้” โดยเฉพาะ…ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2555 ที่ประชาชนชาวไทย…ได้ไปชุมนุมที่ลานพระบรมรูปฯ อย่างมืดฟ้ามัวดิน…เพื่อเข้าเฝ้าถวายพระพร …สะท้อนให้เห็นว่า …ประชาชนพร้อมที่จะสู้เคียงข้าง แม้จะปรากฏ “แรงเฉื่อย” ในสถาบันทหาร และ รัฐบาลในยุคนั้นก็ตาม จึงมีแต่ประชาชนเท่านั้น…ที่จะเป็นกำแพงป้องกันสถาบันสูงสุดของประเทศ……ให้พ้นจากการคุกคามจากฝ่ายบ่อนทำลายในและนอกประเทศได้ ~ รัฐบาลชุดก่อน…เคยให้ทุนมหาวิทยาลัยดังในอเมริกา …อาทิ คอร์แนล วิสคอนซิน เพนซิลเวเนีย ยูซีแอลเอ. จอห์น ฮอพกินส์ วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อสร้าง “ศูนย์ไทยศึกษา” และ “เพื่อนประเทศไทย” เพื่อให้เข้าใจสถาบันกษัตริย์ของไทย แต่…ปรากฏว่า ……ศูนย์เหล่านี้……กลายเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่การต่อต้านสถาบันสูงสุดไปหมด ……และอาจขยายเครือข่ายกว้างขวางมากขึ้น…… ไปยังออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหภาพยุโรปอีกด้วย ~ ไทยถูกคุกคาม…ด้วยสงครามยุคใหม่ …ทั้งสงครามอสมมาตร (Asymmetric Warfare) เช่น การก่อความรุนแรงช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 และ…สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงครามทุน และ สงครามไซเบอร์ …สงครามทั้งสามนี้…มีศูนย์กลางอยู่ที่สหรัฐ …แต่มีสนามรบอยู่ทั่วโลก ~ ในไทย สหรัฐต้องการใช้สนามบินอู่ตะเภา…เป็น Global Transpark ตอบสนองยุทธศาสตร์ของสหรัฐ ในภูมิภาคนี้ …มีข่าวว่า สหรัฐได้ส่งทหารรับจ้าง ที่เป็นทหารผ่านศึกแบบแรมโบ้ …ที่เรียกว่า “แบล็ควอเตอร์” ประมาณ 5-6 ชุดมาประจำอยู่ในไทย …โดยแต่ละคนได้รับค่าจ้างปีละ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ …เบี้ยเลี้ยงต่างหาก …เพื่อใช้ในการปฏิบัติการลับ (Covert Action) ตามนโยบายของสหรัฐ …ซึ่งอเมริกาถนัดในเรื่องพวกนี้มาก …และประสบความสำเร็จในละตินอเมริกามาแล้ว ~ อันตรายที่เกิดขึ้น…ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยนั้น……เป็นเรื่องจริง…และหนักหนา ……ชาติและสถาบัน……กำลังเสี่ยงอันตรายอย่างคาดไม่ถึง ……สิ่งที่เห็นทั้งในไทยและในต่างประเทศ…เป็นเพียง “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” ที่โผล่เหนือน้ำเพียง 1 ส่วน แต่อีก 9 ส่วนอยู่ใต้น้ำ ~ บทความนี้……ไม่ต้องการให้คนไทย…ไปต่อต้านสหรัฐ …เพียงแต่ขอให้เพื่อนคนไทย…อย่าปล่อยให้คนมาทำร้ายประเทศชาติ…และราชบัลลังก์เท่านั้น …ปัญหาของประเทศไทย…ต้องแก้ด้วยคนไทยเป็นหลัก …เราต้องช่วยกันเป็นปราการด่านสุดท้าย……ในการปกป้องชาติและราชบัลลังก์ ……ให้ต่างชาติได้ตระหนักว่า ……สถาบันสูงสุดยังสู้ ……และคนไทยพร้อมจะสู้เพื่อปกป้องสถาบันสำคัญยิ่งของชาติ ขอบคุณเจ้าของภาพบทความและคนโพสครับ ~ เรียบเรียงจากบทความของ คุณภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
    0 Comments 0 Shares 295 Views 0 Reviews
  • “AI Forensics ช่วย Europol ระบุตัวเด็ก 51 คนในคดีล่วงละเมิดออนไลน์ — เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นอาวุธของความยุติธรรม”

    ในปฏิบัติการระหว่างประเทศที่น่าทึ่ง Europol ร่วมกับเจ้าหน้าที่จาก 18 ประเทศ ได้ใช้เทคโนโลยี AI forensics เพื่อระบุตัวเหยื่อเด็ก 51 คน และผู้ต้องสงสัย 60 รายในคดีล่วงละเมิดทางเพศออนไลน์ระดับโลก การสืบสวนครั้งนี้เกิดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของ Europol ณ กรุงเฮก โดยผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์สื่อที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดเด็กกว่า 5,000 ชิ้นภายในเวลาเพียงสองสัปดาห์

    สิ่งที่ทำให้การสืบสวนครั้งนี้มีประสิทธิภาพสูงคือการผสานระหว่างทักษะตำรวจแบบดั้งเดิมกับเครื่องมือ AI ที่สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ภาพ การเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายประเทศ หรือการตรวจสอบ metadata ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์

    ข้อมูลที่ได้จากการสืบสวนถูกจัดทำเป็น intelligence packages จำนวน 276 ชุด ซึ่งถูกส่งต่อให้หน่วยงานในแต่ละประเทศดำเนินการต่อ และนำไปสู่การจับกุมในหลายพื้นที่แล้ว

    ที่น่าตระหนักคือ สื่อที่ใช้ในการล่วงละเมิดมักถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ประเทศหนึ่ง ส่งผ่านแพลตฟอร์มอีกประเทศ และเชื่อมโยงกับเหยื่อในอีกประเทศหนึ่ง ทำให้การสืบสวนต้องอาศัยการแบ่งปันข้อมูลแบบ real-time และการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด

    Europol ระบุว่ารูปแบบการทำงานของ task force นี้จะถูกนำไปใช้ในปฏิบัติการในอนาคต พร้อมลงทุนในเทคนิค forensic และเครื่องมือ AI ที่ล้ำหน้ากว่าเดิม เพื่อรับมือกับการซ่อนตัวของผู้กระทำผิดที่ใช้การเข้ารหัส การไม่เปิดเผยตัวตน และการกระจายข้อมูลข้ามแพลตฟอร์ม

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Europol และ 18 ประเทศร่วมกันใช้ AI forensics ระบุตัวเหยื่อเด็ก 51 คน
    พบผู้ต้องสงสัย 60 ราย และมีการจับกุมในหลายประเทศ
    วิเคราะห์สื่อกว่า 5,000 ชิ้นภายในสองสัปดาห์ที่สำนักงานใหญ่ Europol
    สร้าง intelligence packages 276 ชุดเพื่อส่งต่อให้หน่วยงานท้องถิ่น

    การใช้เทคโนโลยีในการสืบสวน
    ผสานทักษะตำรวจแบบดั้งเดิมกับ AI-driven forensic tools
    ลดเวลาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเหยื่อกับหลักฐาน
    ใช้การแบ่งปันข้อมูลแบบ real-time ระหว่างประเทศ
    เตรียมลงทุนในเทคนิคใหม่เพื่อรับมือกับการซ่อนตัวของผู้กระทำผิด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การล่วงละเมิดเด็กออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นผ่านแพลตฟอร์มสื่อสารและบันเทิง
    AI forensics สามารถวิเคราะห์ metadata, facial recognition และ pattern matching ได้รวดเร็ว
    การใช้ deepfake และภาพที่สร้างด้วย AI ทำให้การตรวจสอบยากขึ้น
    Internet Watch Foundation พบภาพล่วงละเมิดเด็กที่สร้างด้วย AI กว่า 3,500 ภาพในเดือนเดียว

    https://hackread.com/ai-forensics-europol-track-children-online-abuse-case/
    🧠 “AI Forensics ช่วย Europol ระบุตัวเด็ก 51 คนในคดีล่วงละเมิดออนไลน์ — เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นอาวุธของความยุติธรรม” ในปฏิบัติการระหว่างประเทศที่น่าทึ่ง Europol ร่วมกับเจ้าหน้าที่จาก 18 ประเทศ ได้ใช้เทคโนโลยี AI forensics เพื่อระบุตัวเหยื่อเด็ก 51 คน และผู้ต้องสงสัย 60 รายในคดีล่วงละเมิดทางเพศออนไลน์ระดับโลก การสืบสวนครั้งนี้เกิดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของ Europol ณ กรุงเฮก โดยผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์สื่อที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดเด็กกว่า 5,000 ชิ้นภายในเวลาเพียงสองสัปดาห์ สิ่งที่ทำให้การสืบสวนครั้งนี้มีประสิทธิภาพสูงคือการผสานระหว่างทักษะตำรวจแบบดั้งเดิมกับเครื่องมือ AI ที่สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ภาพ การเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายประเทศ หรือการตรวจสอบ metadata ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ ข้อมูลที่ได้จากการสืบสวนถูกจัดทำเป็น intelligence packages จำนวน 276 ชุด ซึ่งถูกส่งต่อให้หน่วยงานในแต่ละประเทศดำเนินการต่อ และนำไปสู่การจับกุมในหลายพื้นที่แล้ว ที่น่าตระหนักคือ สื่อที่ใช้ในการล่วงละเมิดมักถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ประเทศหนึ่ง ส่งผ่านแพลตฟอร์มอีกประเทศ และเชื่อมโยงกับเหยื่อในอีกประเทศหนึ่ง ทำให้การสืบสวนต้องอาศัยการแบ่งปันข้อมูลแบบ real-time และการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด Europol ระบุว่ารูปแบบการทำงานของ task force นี้จะถูกนำไปใช้ในปฏิบัติการในอนาคต พร้อมลงทุนในเทคนิค forensic และเครื่องมือ AI ที่ล้ำหน้ากว่าเดิม เพื่อรับมือกับการซ่อนตัวของผู้กระทำผิดที่ใช้การเข้ารหัส การไม่เปิดเผยตัวตน และการกระจายข้อมูลข้ามแพลตฟอร์ม ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Europol และ 18 ประเทศร่วมกันใช้ AI forensics ระบุตัวเหยื่อเด็ก 51 คน ➡️ พบผู้ต้องสงสัย 60 ราย และมีการจับกุมในหลายประเทศ ➡️ วิเคราะห์สื่อกว่า 5,000 ชิ้นภายในสองสัปดาห์ที่สำนักงานใหญ่ Europol ➡️ สร้าง intelligence packages 276 ชุดเพื่อส่งต่อให้หน่วยงานท้องถิ่น ✅ การใช้เทคโนโลยีในการสืบสวน ➡️ ผสานทักษะตำรวจแบบดั้งเดิมกับ AI-driven forensic tools ➡️ ลดเวลาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเหยื่อกับหลักฐาน ➡️ ใช้การแบ่งปันข้อมูลแบบ real-time ระหว่างประเทศ ➡️ เตรียมลงทุนในเทคนิคใหม่เพื่อรับมือกับการซ่อนตัวของผู้กระทำผิด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การล่วงละเมิดเด็กออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นผ่านแพลตฟอร์มสื่อสารและบันเทิง ➡️ AI forensics สามารถวิเคราะห์ metadata, facial recognition และ pattern matching ได้รวดเร็ว ➡️ การใช้ deepfake และภาพที่สร้างด้วย AI ทำให้การตรวจสอบยากขึ้น ➡️ Internet Watch Foundation พบภาพล่วงละเมิดเด็กที่สร้างด้วย AI กว่า 3,500 ภาพในเดือนเดียว https://hackread.com/ai-forensics-europol-track-children-online-abuse-case/
    HACKREAD.COM
    AI Forensics Help Europol Track 51 Children in Global Online Abuse Case
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • “ShadowLeak: ช่องโหว่ Zero-Click ที่ทำให้ ChatGPT ส่งข้อมูล Gmail โดยไม่รู้ตัว — เมื่อ AI กลายเป็นช่องทางรั่วไหลข้อมูล”

    Radware บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ Deep Research agent ของ ChatGPT ซึ่งสามารถถูกโจมตีแบบ “Zero-Click” โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกหรือยืนยันใด ๆ ช่องโหว่นี้ถูกตั้งชื่อว่า “ShadowLeak” และถูกใช้เพื่อดึงข้อมูลส่วนตัวจาก Gmail โดยอาศัยเทคนิคที่เรียกว่า “Indirect Prompt Injection”

    การโจมตีเริ่มจากอีเมลที่ดูปกติ เช่นหัวข้อ “Restructuring Package – Action Items” แต่ภายในซ่อนคำสั่งลับด้วยเทคนิค CSS เช่น ตัวอักษรสีขาวบนพื้นขาว หรือฟอนต์ขนาดเล็ก เมื่อผู้ใช้สั่งให้ Deep Research agent วิเคราะห์อีเมลเหล่านี้ ตัว agent จะอ่านคำสั่งลับและส่งข้อมูลส่วนตัว เช่นชื่อ ที่อยู่ หรือข้อมูลภายในองค์กร ไปยัง URL ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี โดยใช้ browser.open() และเข้ารหัสข้อมูลด้วย Base64 เพื่อให้ดูเหมือนปลอดภัย

    ที่น่ากังวลคือการโจมตีนี้เกิดขึ้น “ฝั่งเซิร์ฟเวอร์” ของ OpenAI โดยตรง ไม่ผ่านเครื่องของผู้ใช้ ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยทั่วไปไม่สามารถตรวจจับได้ และไม่มีหลักฐานหลงเหลือให้วิเคราะห์ย้อนหลัง

    แม้ช่องโหว่นี้จะถูกแจ้งไปยัง OpenAI ตั้งแต่เดือนมิถุนายน และได้รับการแก้ไขในเดือนสิงหาคม 2025 แต่ Radware เตือนว่าการโจมตีแบบเดียวกันสามารถใช้กับบริการอื่นที่เชื่อมต่อกับ Deep Research ได้ เช่น Google Drive, Microsoft Teams, GitHub และอื่น ๆ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ช่องโหว่ “ShadowLeak” เป็นการโจมตีแบบ Zero-Click ผ่าน ChatGPT Deep Research agent
    ใช้เทคนิค Indirect Prompt Injection ซ่อนคำสั่งในอีเมลที่ดูปกติ
    Agent อ่านคำสั่งลับและส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตีโดยไม่แจ้งผู้ใช้
    ใช้ browser.open() และเข้ารหัสข้อมูลด้วย Base64 เพื่อหลอกระบบว่าเป็นการส่งข้อมูลที่ปลอดภัย
    การโจมตีเกิดฝั่งเซิร์ฟเวอร์ของ OpenAI ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยทั่วไปไม่สามารถตรวจจับได้

    การตอบสนองและการแก้ไข
    Radware แจ้งช่องโหว่ไปยัง OpenAI ในเดือนมิถุนายน 2025
    OpenAI แก้ไขช่องโหว่ในเดือนสิงหาคม และประกาศว่าได้รับการแก้ไขแล้วเมื่อวันที่ 3 กันยายน
    ช่องโหว่นี้สามารถใช้กับบริการอื่นที่เชื่อมต่อกับ Deep Research เช่น Google Drive, GitHub, Microsoft Outlook

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Deep Research agent เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลหลายขั้นตอน
    การโจมตีแบบ Zero-Click เป็นภัยที่ร้ายแรงเพราะไม่ต้องอาศัยการกระทำจากผู้ใช้
    Prompt Injection เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยในระบบ AI ที่รับข้อมูลจากภายนอก
    การเข้ารหัสข้อมูลด้วย Base64 ไม่ได้ปลอดภัยจริง แต่ช่วยให้ข้อมูลดูไม่เป็นอันตราย

    https://hackread.com/shadowleak-exploit-exposed-gmail-data-chatgpt-agent/
    🕵️‍♂️ “ShadowLeak: ช่องโหว่ Zero-Click ที่ทำให้ ChatGPT ส่งข้อมูล Gmail โดยไม่รู้ตัว — เมื่อ AI กลายเป็นช่องทางรั่วไหลข้อมูล” Radware บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ Deep Research agent ของ ChatGPT ซึ่งสามารถถูกโจมตีแบบ “Zero-Click” โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกหรือยืนยันใด ๆ ช่องโหว่นี้ถูกตั้งชื่อว่า “ShadowLeak” และถูกใช้เพื่อดึงข้อมูลส่วนตัวจาก Gmail โดยอาศัยเทคนิคที่เรียกว่า “Indirect Prompt Injection” การโจมตีเริ่มจากอีเมลที่ดูปกติ เช่นหัวข้อ “Restructuring Package – Action Items” แต่ภายในซ่อนคำสั่งลับด้วยเทคนิค CSS เช่น ตัวอักษรสีขาวบนพื้นขาว หรือฟอนต์ขนาดเล็ก เมื่อผู้ใช้สั่งให้ Deep Research agent วิเคราะห์อีเมลเหล่านี้ ตัว agent จะอ่านคำสั่งลับและส่งข้อมูลส่วนตัว เช่นชื่อ ที่อยู่ หรือข้อมูลภายในองค์กร ไปยัง URL ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี โดยใช้ browser.open() และเข้ารหัสข้อมูลด้วย Base64 เพื่อให้ดูเหมือนปลอดภัย ที่น่ากังวลคือการโจมตีนี้เกิดขึ้น “ฝั่งเซิร์ฟเวอร์” ของ OpenAI โดยตรง ไม่ผ่านเครื่องของผู้ใช้ ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยทั่วไปไม่สามารถตรวจจับได้ และไม่มีหลักฐานหลงเหลือให้วิเคราะห์ย้อนหลัง แม้ช่องโหว่นี้จะถูกแจ้งไปยัง OpenAI ตั้งแต่เดือนมิถุนายน และได้รับการแก้ไขในเดือนสิงหาคม 2025 แต่ Radware เตือนว่าการโจมตีแบบเดียวกันสามารถใช้กับบริการอื่นที่เชื่อมต่อกับ Deep Research ได้ เช่น Google Drive, Microsoft Teams, GitHub และอื่น ๆ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ “ShadowLeak” เป็นการโจมตีแบบ Zero-Click ผ่าน ChatGPT Deep Research agent ➡️ ใช้เทคนิค Indirect Prompt Injection ซ่อนคำสั่งในอีเมลที่ดูปกติ ➡️ Agent อ่านคำสั่งลับและส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตีโดยไม่แจ้งผู้ใช้ ➡️ ใช้ browser.open() และเข้ารหัสข้อมูลด้วย Base64 เพื่อหลอกระบบว่าเป็นการส่งข้อมูลที่ปลอดภัย ➡️ การโจมตีเกิดฝั่งเซิร์ฟเวอร์ของ OpenAI ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยทั่วไปไม่สามารถตรวจจับได้ ✅ การตอบสนองและการแก้ไข ➡️ Radware แจ้งช่องโหว่ไปยัง OpenAI ในเดือนมิถุนายน 2025 ➡️ OpenAI แก้ไขช่องโหว่ในเดือนสิงหาคม และประกาศว่าได้รับการแก้ไขแล้วเมื่อวันที่ 3 กันยายน ➡️ ช่องโหว่นี้สามารถใช้กับบริการอื่นที่เชื่อมต่อกับ Deep Research เช่น Google Drive, GitHub, Microsoft Outlook ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Deep Research agent เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลหลายขั้นตอน ➡️ การโจมตีแบบ Zero-Click เป็นภัยที่ร้ายแรงเพราะไม่ต้องอาศัยการกระทำจากผู้ใช้ ➡️ Prompt Injection เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยในระบบ AI ที่รับข้อมูลจากภายนอก ➡️ การเข้ารหัสข้อมูลด้วย Base64 ไม่ได้ปลอดภัยจริง แต่ช่วยให้ข้อมูลดูไม่เป็นอันตราย https://hackread.com/shadowleak-exploit-exposed-gmail-data-chatgpt-agent/
    HACKREAD.COM
    ShadowLeak Exploit Exposed Gmail Data Through ChatGPT Agent
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • พล.ต.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดหลักฐานหลักเขตแดนสระแก้ว ชี้ “ฮุน มาเนต” ไม่กล้าแตะพื้นที่นี้ เหตุเขมรยอมรับหลักเขตเอง นอกจากนี้ยังพบว่า คาสิโน-ชาวบ้านกัมพูชา รุกล้ำเข้าพื้นที่ไทย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000090824

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    พล.ต.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดหลักฐานหลักเขตแดนสระแก้ว ชี้ “ฮุน มาเนต” ไม่กล้าแตะพื้นที่นี้ เหตุเขมรยอมรับหลักเขตเอง นอกจากนี้ยังพบว่า คาสิโน-ชาวบ้านกัมพูชา รุกล้ำเข้าพื้นที่ไทย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000090824 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Haha
    Angry
    3
    0 Comments 0 Shares 284 Views 0 Reviews
  • 555,โอบาม่าอดีตประธานาธิบดีอเมริกายังไปเยือนอีสานใต้นะ,บ่อนตะตะอะไรของกูอเมริกาอาจมีส่วนด้วยยุคนั้นฟอกเงิน ค้ายา ค้ามนุษย์เหี้ยนี้ธรรมดาที่ไหนอาจสั่งการสุมหัวกับคนอีสานใต้และฮุนเขมรด้วยล่ะ,ตังมรึงต้องโอนไปจ่ายส่วยกูที่อเมริกาด้วยเดี๋ยวกูอ้างอายัดไว้ยึดไว้พอเป็นพิธีหากเรื่องแดงขึ้น,ยุคเขมรยึด11จุดอีสานใต้จึงราบลื่น,ภาค.1ยิ่งโคตรราบลื่น จากผลงานยุคปัจจุบันถึง17จุด,สิ่งนี้ต้องให้เครดิตทัพเรือเรา,เก็บหลักฐานพยานพร้อมปล่อยให้มันได้ใจแล้วตบที่เดียวเหยียบทีเดียวเลย,ยุคแฉยุดเปิดเผยยุคกวาดล้างก็ว่า.
    ..เรา..ประชาชนคนไทยจึงมาร่วมเป็นกำลังใจส่งกำลังเชียร์ทหารหาญเราๆทุกๆเหล่าทัพน้ำดีเรา รวมทั้งตำรวจดีๆทำหน้าที่ด้วย ตลอดข้าราชการดีๆยังมีอยู่แน่นอน,และเริ่มลงมือจัดการคนชั่วแบบไม่ไว้หน้าแทนประชาชนที่ไร้อำนาจในมือต่อกรกับพวกเหี้ยนี้,ถึงอย่างไร เราก็ไม่อยากเป็นเนปาล2ในภูมิภาคนี้ เรา..ประชาชนเหลืออด อาจกว่า14ตุลาอีก เนปาลอาจน้องเพราะเผาจริงเป็นๆนักการเมืองอาจทั้งตระกูลครอบครัวด้วย,ไล่ล่าสุดขอบโลกด้วยแม้จะหนีหัวไปต่างประเทศ อาจยกเลิกสัญชาติไทยทั้งตระกูลขับออกจากประเทศไทยด้วยกับนักการเมืองทุกๆคน.
    555,โอบาม่าอดีตประธานาธิบดีอเมริกายังไปเยือนอีสานใต้นะ,บ่อนตะตะอะไรของกูอเมริกาอาจมีส่วนด้วยยุคนั้นฟอกเงิน ค้ายา ค้ามนุษย์เหี้ยนี้ธรรมดาที่ไหนอาจสั่งการสุมหัวกับคนอีสานใต้และฮุนเขมรด้วยล่ะ,ตังมรึงต้องโอนไปจ่ายส่วยกูที่อเมริกาด้วยเดี๋ยวกูอ้างอายัดไว้ยึดไว้พอเป็นพิธีหากเรื่องแดงขึ้น,ยุคเขมรยึด11จุดอีสานใต้จึงราบลื่น,ภาค.1ยิ่งโคตรราบลื่น จากผลงานยุคปัจจุบันถึง17จุด,สิ่งนี้ต้องให้เครดิตทัพเรือเรา,เก็บหลักฐานพยานพร้อมปล่อยให้มันได้ใจแล้วตบที่เดียวเหยียบทีเดียวเลย,ยุคแฉยุดเปิดเผยยุคกวาดล้างก็ว่า. ..เรา..ประชาชนคนไทยจึงมาร่วมเป็นกำลังใจส่งกำลังเชียร์ทหารหาญเราๆทุกๆเหล่าทัพน้ำดีเรา รวมทั้งตำรวจดีๆทำหน้าที่ด้วย ตลอดข้าราชการดีๆยังมีอยู่แน่นอน,และเริ่มลงมือจัดการคนชั่วแบบไม่ไว้หน้าแทนประชาชนที่ไร้อำนาจในมือต่อกรกับพวกเหี้ยนี้,ถึงอย่างไร เราก็ไม่อยากเป็นเนปาล2ในภูมิภาคนี้ เรา..ประชาชนเหลืออด อาจกว่า14ตุลาอีก เนปาลอาจน้องเพราะเผาจริงเป็นๆนักการเมืองอาจทั้งตระกูลครอบครัวด้วย,ไล่ล่าสุดขอบโลกด้วยแม้จะหนีหัวไปต่างประเทศ อาจยกเลิกสัญชาติไทยทั้งตระกูลขับออกจากประเทศไทยด้วยกับนักการเมืองทุกๆคน.
    Caสิโนล้ำแดนไทย เข้าทางโครงการคนละครึ่งรัฐบาลหนูผี
    ถ้าไม่ทุบทิ้ง จะยิ่งเป็นฐานใหม่แก๊งคอล สแกมเมอร์
    #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 0 Reviews
  • ..รั้วลวดหนามระดับชาติ มีต้นไม้บดบังเต็มตามคลิปนี้จริงจะบัดสบมาก,แสดงถึงการไร้ศักยภาพประสิทธิภาพในการตรวจตราตรวจจับความผิดปกติได้เลย ต้นไม้บังก็จบแล้ว มีกล้องก็ไร้ประโยชน์,การสร้างรั้วลวดหนามถ้าสร้างจริงแล้วบัดสบแบบนี้ คุณภาพกำแพงรั้วลวดหนามอาจลดต่ำถึง90%เลย,จะตรวจจับอะไรๆที่อยู่หลังต้นไม้ได้,มันเอาบันไดลิงปีนหลังต้นไม้ขนของเถื่อนข้ามไปมาก็ได้แล้ว,มรึงจะซูมจะเลเซอร์ยิงทะลุก็เถอะ ประสิทธิภาพหลักฐานลดตรึมเลย,
    ..ทหารไทยอย่าสร้างรั้วระดับชาติแบบรั้วล้อมไทบ้านประชาชนนะ ต้องแบบจีนกั้นเวียดนาม แบยเวียนนามกั้นเขมรเลย,กล้อง2กม.ซูมได้ขนาดนั้นก็ดี แต่จะดีกว่าคือทุกๆ1กม.ดีที่สุด,เพราะหากเช่น กม.ที่7เสียหายกล้องชำรุดทำงานไม่ได้หรือผิดปกติ ก็ยังมีกล้องตัวที่6และตัวที่8ชดเชยซูมระยะ2กม.ได้ชัดเจนปกติได้,798กม.ก็798ตัวๆ1แสนก็ต้องซื้อ บวกเลเซอร์ตรวจจับความร้อนและความเคลื่อนไหวด้วยหรือสาระพัดเต็มสูตรครบเซ็ตน่าจะไม่เกิน1ล้านบาทต่อ1เสาก็798ล้านบาทเองตลอดแนวพรมแดนเรา,สันปันน้ำเราก็ต้องสร้างรั้วลวดหนามด้วย ห้ามมีเงื่อนไข เพราะเหี้ยเขมรไว้ใจไม่ได้ตลอดคนไทยชั่วๆด้วย,โยนสิ่งของชั่วเลวเถื่อนไปให้เขมรลงสันปันน้ำได้.

    https://youtube.com/watch?v=PT1c43mnF5E&si=5Ponhjst5EKJDXUf
    ..รั้วลวดหนามระดับชาติ มีต้นไม้บดบังเต็มตามคลิปนี้จริงจะบัดสบมาก,แสดงถึงการไร้ศักยภาพประสิทธิภาพในการตรวจตราตรวจจับความผิดปกติได้เลย ต้นไม้บังก็จบแล้ว มีกล้องก็ไร้ประโยชน์,การสร้างรั้วลวดหนามถ้าสร้างจริงแล้วบัดสบแบบนี้ คุณภาพกำแพงรั้วลวดหนามอาจลดต่ำถึง90%เลย,จะตรวจจับอะไรๆที่อยู่หลังต้นไม้ได้,มันเอาบันไดลิงปีนหลังต้นไม้ขนของเถื่อนข้ามไปมาก็ได้แล้ว,มรึงจะซูมจะเลเซอร์ยิงทะลุก็เถอะ ประสิทธิภาพหลักฐานลดตรึมเลย, ..ทหารไทยอย่าสร้างรั้วระดับชาติแบบรั้วล้อมไทบ้านประชาชนนะ ต้องแบบจีนกั้นเวียดนาม แบยเวียนนามกั้นเขมรเลย,กล้อง2กม.ซูมได้ขนาดนั้นก็ดี แต่จะดีกว่าคือทุกๆ1กม.ดีที่สุด,เพราะหากเช่น กม.ที่7เสียหายกล้องชำรุดทำงานไม่ได้หรือผิดปกติ ก็ยังมีกล้องตัวที่6และตัวที่8ชดเชยซูมระยะ2กม.ได้ชัดเจนปกติได้,798กม.ก็798ตัวๆ1แสนก็ต้องซื้อ บวกเลเซอร์ตรวจจับความร้อนและความเคลื่อนไหวด้วยหรือสาระพัดเต็มสูตรครบเซ็ตน่าจะไม่เกิน1ล้านบาทต่อ1เสาก็798ล้านบาทเองตลอดแนวพรมแดนเรา,สันปันน้ำเราก็ต้องสร้างรั้วลวดหนามด้วย ห้ามมีเงื่อนไข เพราะเหี้ยเขมรไว้ใจไม่ได้ตลอดคนไทยชั่วๆด้วย,โยนสิ่งของชั่วเลวเถื่อนไปให้เขมรลงสันปันน้ำได้. https://youtube.com/watch?v=PT1c43mnF5E&si=5Ponhjst5EKJDXUf
    0 Comments 0 Shares 136 Views 0 Reviews
  • หนองหญ้าแก้ว รีบดู..หลักฐานชัด พบผู้กำกับต่างชาติ ละครเขมร "ลวงโลก" (22/9/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #SaveThailand
    #scambodia
    #CambodiaEncroachingThailand
    #หนองหญ้าแก้ว
    #เขมร
    หนองหญ้าแก้ว รีบดู..หลักฐานชัด พบผู้กำกับต่างชาติ ละครเขมร "ลวงโลก" (22/9/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #SaveThailand #scambodia #CambodiaEncroachingThailand #หนองหญ้าแก้ว #เขมร
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 0 Reviews
  • LaLiga ไล่ล่าลิขสิทธิ์ฟุตบอล แต่กลับทำอินเทอร์เน็ตสเปนล่ม — เมื่อการปราบละเมิดกลายเป็นการเซ็นเซอร์

    ฤดูกาลฟุตบอล 2025/2026 ของ LaLiga เริ่มต้นด้วยมาตรการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีการส่งคำสั่งลบเนื้อหามากกว่า 26 ล้านครั้งในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นถึง 142% จากปี 2024 แต่เบื้องหลังตัวเลขนี้คือความเสียหายมหาศาลต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งานในสเปน

    LaLiga ร่วมมือกับ Telefónica และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ เช่น Movistar, Vodafone, Orange และ DIGI เพื่อบล็อก IP ที่สงสัยว่าใช้สตรีมเถื่อน แต่แทนที่จะบล็อกเฉพาะเนื้อหาผิดกฎหมาย กลับเลือกบล็อก “ช่วง IP” ทั้งกลุ่ม ซึ่งมักมีเว็บไซต์บริสุทธิ์หลายพันแห่งอยู่ร่วมกัน ส่งผลให้บริการอย่าง Amazon, GitHub, Cloudflare, Twitch และแม้แต่ Google Fonts ถูกบล็อกไปด้วย

    TrueNAS ซึ่งเป็นระบบ NAS แบบโอเพ่นซอร์ส ต้องเปลี่ยนวิธีแจกซอฟต์แวร์เป็นผ่าน BitTorrent หลัง CDN ถูกบล็อกซ้ำ ๆ ทำให้ผู้ใช้ในสเปนเข้าถึงอัปเดตด้านความปลอดภัยไม่ได้ ขณะที่ผู้ใช้บางรายหันไปใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก แต่แม้แต่บริการ WARP ของ Cloudflare ก็ถูกบล็อกในช่วงเวลาถ่ายทอดสดการแข่งขัน

    แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากผู้ใช้ทั่วไป นักพัฒนา และแม้แต่ CEO ของ Cloudflare ที่กล่าวว่า “กลยุทธ์นี้บ้าไปแล้ว” เพราะทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงบริการฉุกเฉินและธุรกิจสำคัญได้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญของสเปนยังคงสนับสนุนแนวทางนี้ โดยปฏิเสธคำร้องของ Cloudflare และองค์กร RootedCON ที่ขอให้ยุติการบล็อกแบบครอบคลุม

    LaLiga เพิ่มมาตรการปราบละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเข้มข้น
    ส่ง takedown notice กว่า 26 ล้านครั้งในครึ่งปีแรกของ 2025
    เพิ่มขึ้น 142% จากปี 2024

    ร่วมมือกับ Telefónica และ ISP รายใหญ่ในสเปน
    ใช้การบล็อก IP ที่สงสัยว่าเกี่ยวข้องกับสตรีมเถื่อน
    บล็อกเป็นช่วง IP ทำให้เว็บไซต์บริสุทธิ์ถูกบล็อกไปด้วย

    เว็บไซต์และบริการสำคัญได้รับผลกระทบ
    Amazon, GitHub, Cloudflare, Twitch, Google Fonts ถูกบล็อก
    TrueNAS ต้องเปลี่ยนวิธีแจกซอฟต์แวร์เป็น BitTorrent

    ผู้ใช้หันไปใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก
    แม้แต่ Cloudflare WARP ก็ถูกบล็อกในช่วงถ่ายทอดสด
    ผู้ใช้ในสเปน อิตาลี และฝรั่งเศสรายงานปัญหาอย่างต่อเนื่อง

    Cloudflare และ RootedCON ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
    ขอให้ยุติการบล็อกแบบครอบคลุม
    ศาลปฏิเสธคำร้อง โดยอ้างว่าไม่มีหลักฐานความเสียหาย

    https://reclaimthenet.org/laligas-anti-piracy-crackdown-triggers-widespread-internet-disruptions
    📰 LaLiga ไล่ล่าลิขสิทธิ์ฟุตบอล แต่กลับทำอินเทอร์เน็ตสเปนล่ม — เมื่อการปราบละเมิดกลายเป็นการเซ็นเซอร์ ฤดูกาลฟุตบอล 2025/2026 ของ LaLiga เริ่มต้นด้วยมาตรการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีการส่งคำสั่งลบเนื้อหามากกว่า 26 ล้านครั้งในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นถึง 142% จากปี 2024 แต่เบื้องหลังตัวเลขนี้คือความเสียหายมหาศาลต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งานในสเปน LaLiga ร่วมมือกับ Telefónica และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ เช่น Movistar, Vodafone, Orange และ DIGI เพื่อบล็อก IP ที่สงสัยว่าใช้สตรีมเถื่อน แต่แทนที่จะบล็อกเฉพาะเนื้อหาผิดกฎหมาย กลับเลือกบล็อก “ช่วง IP” ทั้งกลุ่ม ซึ่งมักมีเว็บไซต์บริสุทธิ์หลายพันแห่งอยู่ร่วมกัน ส่งผลให้บริการอย่าง Amazon, GitHub, Cloudflare, Twitch และแม้แต่ Google Fonts ถูกบล็อกไปด้วย TrueNAS ซึ่งเป็นระบบ NAS แบบโอเพ่นซอร์ส ต้องเปลี่ยนวิธีแจกซอฟต์แวร์เป็นผ่าน BitTorrent หลัง CDN ถูกบล็อกซ้ำ ๆ ทำให้ผู้ใช้ในสเปนเข้าถึงอัปเดตด้านความปลอดภัยไม่ได้ ขณะที่ผู้ใช้บางรายหันไปใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก แต่แม้แต่บริการ WARP ของ Cloudflare ก็ถูกบล็อกในช่วงเวลาถ่ายทอดสดการแข่งขัน แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากผู้ใช้ทั่วไป นักพัฒนา และแม้แต่ CEO ของ Cloudflare ที่กล่าวว่า “กลยุทธ์นี้บ้าไปแล้ว” เพราะทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงบริการฉุกเฉินและธุรกิจสำคัญได้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญของสเปนยังคงสนับสนุนแนวทางนี้ โดยปฏิเสธคำร้องของ Cloudflare และองค์กร RootedCON ที่ขอให้ยุติการบล็อกแบบครอบคลุม ✅ LaLiga เพิ่มมาตรการปราบละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเข้มข้น ➡️ ส่ง takedown notice กว่า 26 ล้านครั้งในครึ่งปีแรกของ 2025 ➡️ เพิ่มขึ้น 142% จากปี 2024 ✅ ร่วมมือกับ Telefónica และ ISP รายใหญ่ในสเปน ➡️ ใช้การบล็อก IP ที่สงสัยว่าเกี่ยวข้องกับสตรีมเถื่อน ➡️ บล็อกเป็นช่วง IP ทำให้เว็บไซต์บริสุทธิ์ถูกบล็อกไปด้วย ✅ เว็บไซต์และบริการสำคัญได้รับผลกระทบ ➡️ Amazon, GitHub, Cloudflare, Twitch, Google Fonts ถูกบล็อก ➡️ TrueNAS ต้องเปลี่ยนวิธีแจกซอฟต์แวร์เป็น BitTorrent ✅ ผู้ใช้หันไปใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก ➡️ แม้แต่ Cloudflare WARP ก็ถูกบล็อกในช่วงถ่ายทอดสด ➡️ ผู้ใช้ในสเปน อิตาลี และฝรั่งเศสรายงานปัญหาอย่างต่อเนื่อง ✅ Cloudflare และ RootedCON ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ➡️ ขอให้ยุติการบล็อกแบบครอบคลุม ➡️ ศาลปฏิเสธคำร้อง โดยอ้างว่าไม่มีหลักฐานความเสียหาย https://reclaimthenet.org/laligas-anti-piracy-crackdown-triggers-widespread-internet-disruptions
    0 Comments 0 Shares 216 Views 0 Reviews
  • ปะทะบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยย้ำเด็ดขาดจัดการบุกรุก ชาวบ้านกัมพูชาล้ำแดนสระแก้ว จุดชนวนพิพาทพรมแดนเรื้อรัง กองทัพไทยเผยหลักฐานยันอธิปไตย ไทยต้องมั่นคงปกป้องดินแดน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000090515

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    ปะทะบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยย้ำเด็ดขาดจัดการบุกรุก ชาวบ้านกัมพูชาล้ำแดนสระแก้ว จุดชนวนพิพาทพรมแดนเรื้อรัง กองทัพไทยเผยหลักฐานยันอธิปไตย ไทยต้องมั่นคงปกป้องดินแดน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000090515 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 350 Views 0 Reviews
  • เรื่อง 9/11 เป็นเรื่อง แสดงให้เห็นชัดเจนว่า คนส่วนใหญ่ ในสังคม ถูกหลอก ง่ายแค่ไหน
    ช่วงที่ผม พยายาม เตือน เรื่องอันตรายของ ว๊ากซีนน
    โดยเฉพาะ เตือน แพทย์
    แพทย์ ที่ เป็น ลูกศิษย์ ผมเอง
    มี แพทย์ บางคน พยายามบอกว่า ผมเป็น นักทฤษฎีสมคบคิด เพราะผม พูดเรื่อง 9/11 มานานก่อน การระบาด ของ โควิด
    ตอนนี้ เริ่มเห็นชัดเจนว่า 9/11 ไม่ใช่ฝีมือ ของ บิน ลาดิน
    แต่ เป็นฝีมือ ของ ประธานาธิบดี บุช และ รองประธานาธิบดีดิ็ก เชนนี่
    ไม่ต่างกับ เรื่องโควิด ว่า ไม่ใช่ การระบาด ตามธรรมชาติ
    แต่ เป็นเชื้อที่ มาจาก ฝีมือมนุษย์
    เรื่อง 9/11 นอกจาก ตึก WTC7 ที่ถล่ม โดย ไม่ได้ถูกเครื่องบินชน ตอนห้าโมงเย็นวันเดียวกันกับ ทวินทาวเวอร์ แล้ว
    อีกตึกที่ น่าสนใจ คือ เพนตากอน ศูนย์บัญชาการของกลาโหมอเมริกัน หนึ่งในตึกที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัย มากที่สุดในโลก แต่กลับโดน เครื่องบินโดยสาร ลำเบื่อเร้อ ที่โดยผู้ก่อการร้าย (ที่ขับเครื่องบินเล็ก ไม่เป็น) ขับเครื่องบินโดยสารพุ่งชน ถ้าใคร ยังอยากเชื่อนิทานว่า ผู้ก่อการร้าย ขับเครื่องบินได้ก็ไม่เป็นไร ลองไปดูสภาพตึก เศษซาก เครื่องบินขนาดใหญ่ ที่ควรจะ ตกกระจัดกระจาย ในที่เกิดเหตุ แต่ กลับ ไม่พบชิ้นส่วนของเครื่องบิน
    แค่นี้ คนที่ คิดเป็น ก็ ต้อง เอ๊ะ ล่ะ
    แต่ถ้า รู้ว่า ตึกครงที่โดน ชน (หรือยิงถล่ม?) เป็นสำนักงานที่ สอบสวน และเก็บหลักฐาน การ "หายไปของงบประมาณก้อนใหญ่ของกลาโหม" ไม่เยอะมากแค่ 2-3 ล้านล้านเหรียญเอง (ล้านล้าน, ที่แปลว่า trillion นะครับ) หลังเกิดเหตุ 9/11 การสอบสวนยุติ เพราะว่า ทีมสอบสวน และหลักฐาน "บังเอิญ" ถูกทำลายหมด
    อะ ใครที่ยัง เชื่อ NIST ช่วยอธิบายวิธี คิด ของพวกคุณหน่อย!!
    https://youtu.be/0RgRjZ2fXx0?si=vUP5ppwaPg9uP5a6
    ✍️เรื่อง 9/11 เป็นเรื่อง แสดงให้เห็นชัดเจนว่า คนส่วนใหญ่ ในสังคม ถูกหลอก ง่ายแค่ไหน ช่วงที่ผม พยายาม เตือน เรื่องอันตรายของ ว๊ากซีนน โดยเฉพาะ เตือน แพทย์ แพทย์ ที่ เป็น ลูกศิษย์ ผมเอง มี แพทย์ บางคน พยายามบอกว่า ผมเป็น นักทฤษฎีสมคบคิด เพราะผม พูดเรื่อง 9/11 มานานก่อน การระบาด ของ โควิด ตอนนี้ เริ่มเห็นชัดเจนว่า 9/11 ไม่ใช่ฝีมือ ของ บิน ลาดิน แต่ เป็นฝีมือ ของ ประธานาธิบดี บุช และ รองประธานาธิบดีดิ็ก เชนนี่ ไม่ต่างกับ เรื่องโควิด ว่า ไม่ใช่ การระบาด ตามธรรมชาติ แต่ เป็นเชื้อที่ มาจาก ฝีมือมนุษย์ เรื่อง 9/11 นอกจาก ตึก WTC7 ที่ถล่ม โดย ไม่ได้ถูกเครื่องบินชน ตอนห้าโมงเย็นวันเดียวกันกับ ทวินทาวเวอร์ แล้ว อีกตึกที่ น่าสนใจ คือ เพนตากอน ศูนย์บัญชาการของกลาโหมอเมริกัน หนึ่งในตึกที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัย มากที่สุดในโลก แต่กลับโดน เครื่องบินโดยสาร ลำเบื่อเร้อ ที่โดยผู้ก่อการร้าย (ที่ขับเครื่องบินเล็ก ไม่เป็น) ขับเครื่องบินโดยสารพุ่งชน ถ้าใคร ยังอยากเชื่อนิทานว่า ผู้ก่อการร้าย ขับเครื่องบินได้ก็ไม่เป็นไร ลองไปดูสภาพตึก เศษซาก เครื่องบินขนาดใหญ่ ที่ควรจะ ตกกระจัดกระจาย ในที่เกิดเหตุ แต่ กลับ ไม่พบชิ้นส่วนของเครื่องบิน แค่นี้ คนที่ คิดเป็น ก็ ต้อง เอ๊ะ ล่ะ แต่ถ้า รู้ว่า ตึกครงที่โดน ชน (หรือยิงถล่ม?) เป็นสำนักงานที่ สอบสวน และเก็บหลักฐาน การ "หายไปของงบประมาณก้อนใหญ่ของกลาโหม" ไม่เยอะมากแค่ 2-3 ล้านล้านเหรียญเอง (ล้านล้าน, ที่แปลว่า trillion นะครับ) หลังเกิดเหตุ 9/11 การสอบสวนยุติ เพราะว่า ทีมสอบสวน และหลักฐาน "บังเอิญ" ถูกทำลายหมด อะ ใครที่ยัง เชื่อ NIST ช่วยอธิบายวิธี คิด ของพวกคุณหน่อย!! https://youtu.be/0RgRjZ2fXx0?si=vUP5ppwaPg9uP5a6
    0 Comments 0 Shares 189 Views 0 Reviews
  • “WISPIT 2b: ภาพแรกของดาวเคราะห์ที่กำลังถือกำเนิด — เมื่อช่องว่างในวงแหวนกลายเป็นรังแห่งชีวิตใหม่”

    ในปี 2025 นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแอริโซนาและหอดูดาว Leiden ในเนเธอร์แลนด์ ได้บันทึกภาพของดาวเคราะห์ที่กำลังถือกำเนิดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นามว่า “WISPIT 2b” ซึ่งกำลังดูดซับก๊าซและฝุ่นจากวงแหวนรอบดาวฤกษ์ที่มีขนาดใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ของเรา

    สิ่งที่ทำให้การค้นพบนี้พิเศษคือ WISPIT 2b อยู่ในช่องว่างระหว่างวงแหวนของแผ่นจานดาวเคราะห์ (protoplanetary disk) ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์เคยตั้งสมมติฐานว่าช่องว่างเหล่านี้เกิดจากดาวเคราะห์ที่กำลังสร้างตัว แต่ไม่เคยมีใครพบหลักฐานโดยตรงมาก่อน จนกระทั่งการค้นพบครั้งนี้ได้ยืนยันว่า “ดาวเคราะห์สามารถสร้างช่องว่างในวงแหวนได้จริง”

    ดาวเคราะห์ WISPIT 2b มีมวลประมาณ 5 เท่าของดาวพฤหัสบดี และยังอยู่ในช่วงวัยเยาว์ทางดาราศาสตร์ หากเปรียบเทียบกับระบบสุริยะของเราเมื่อ 4.5 พันล้านปีก่อน นี่คือภาพที่ดาวพฤหัสบดีอาจเคยเป็น

    การตรวจพบ WISPIT 2b ใช้เทคโนโลยี MagAO-X (Magellan Adaptive Optics System eXtreme) ซึ่งสามารถตรวจจับแสงจากก๊าซไฮโดรเจนชนิด H-alpha ที่เกิดขึ้นเมื่อก๊าซตกลงบนดาวเคราะห์และกลายเป็นพลาสมา นอกจากนี้ยังใช้กล้องโทรทรรศน์ VLT ที่หอดูดาวยุโรปในชิลี และกล้อง LBT ในรัฐแอริโซนา

    https://www.slashgear.com/1969205/new-planet-birth-first-time-photographed/
    🪐 “WISPIT 2b: ภาพแรกของดาวเคราะห์ที่กำลังถือกำเนิด — เมื่อช่องว่างในวงแหวนกลายเป็นรังแห่งชีวิตใหม่” ในปี 2025 นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแอริโซนาและหอดูดาว Leiden ในเนเธอร์แลนด์ ได้บันทึกภาพของดาวเคราะห์ที่กำลังถือกำเนิดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นามว่า “WISPIT 2b” ซึ่งกำลังดูดซับก๊าซและฝุ่นจากวงแหวนรอบดาวฤกษ์ที่มีขนาดใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ของเรา สิ่งที่ทำให้การค้นพบนี้พิเศษคือ WISPIT 2b อยู่ในช่องว่างระหว่างวงแหวนของแผ่นจานดาวเคราะห์ (protoplanetary disk) ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์เคยตั้งสมมติฐานว่าช่องว่างเหล่านี้เกิดจากดาวเคราะห์ที่กำลังสร้างตัว แต่ไม่เคยมีใครพบหลักฐานโดยตรงมาก่อน จนกระทั่งการค้นพบครั้งนี้ได้ยืนยันว่า “ดาวเคราะห์สามารถสร้างช่องว่างในวงแหวนได้จริง” ดาวเคราะห์ WISPIT 2b มีมวลประมาณ 5 เท่าของดาวพฤหัสบดี และยังอยู่ในช่วงวัยเยาว์ทางดาราศาสตร์ หากเปรียบเทียบกับระบบสุริยะของเราเมื่อ 4.5 พันล้านปีก่อน นี่คือภาพที่ดาวพฤหัสบดีอาจเคยเป็น การตรวจพบ WISPIT 2b ใช้เทคโนโลยี MagAO-X (Magellan Adaptive Optics System eXtreme) ซึ่งสามารถตรวจจับแสงจากก๊าซไฮโดรเจนชนิด H-alpha ที่เกิดขึ้นเมื่อก๊าซตกลงบนดาวเคราะห์และกลายเป็นพลาสมา นอกจากนี้ยังใช้กล้องโทรทรรศน์ VLT ที่หอดูดาวยุโรปในชิลี และกล้อง LBT ในรัฐแอริโซนา https://www.slashgear.com/1969205/new-planet-birth-first-time-photographed/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    We Finally Know What It Looks Like When A Brand-New Planet Is Born - SlashGear
    Long had the scientific community searched space for signs of a newly formed planet, and it has now seen one.
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • “ราชินีมดที่ให้กำเนิดต่างสายพันธุ์ — คำจำกัดความของ ‘สปีชีส์’ อาจต้องเขียนใหม่”

    ในโลกของชีววิทยา มีหลักการหนึ่งที่ดูเหมือนจะมั่นคง: สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งจะให้กำเนิดลูกหลานในสายพันธุ์เดียวกัน แต่การค้นพบล่าสุดในวารสาร Nature เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2025 ได้เขย่าความเชื่อนี้อย่างรุนแรง เมื่อพบว่า “ราชินีมดเก็บเกี่ยวไอบีเรีย” (Messor ibericus) สามารถวางไข่ที่ฟักออกมาเป็นมดเพศผู้ของอีกสายพันธุ์หนึ่งคือ “มดเก็บเกี่ยวช่างสร้าง” (Messor structor)

    นักวิจัยพบว่า M. ibericus จะผสมพันธุ์กับ M. structor แล้วเก็บสเปิร์มไว้ใช้ในภายหลัง แต่ที่น่าทึ่งคือ พวกเขาเชื่อว่าราชินีมดสามารถ “ลบ” DNA ของตัวเองออกจากไข่บางฟอง แล้วแทนที่ด้วย DNA ของ M. structor ทำให้ลูกที่เกิดออกมาเป็นโคลนของสายพันธุ์อื่นโดยสมบูรณ์

    ผลลัพธ์คือ ราชินีมดสามารถให้กำเนิดมดเพศผู้ได้ทั้งสองสายพันธุ์ และมดงานทั้งหมดในรังของ M. ibericus เป็นลูกผสมระหว่างสองสายพันธุ์นี้ ซึ่งถือเป็นระบบสืบพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนในสัตว์ชนิดใด

    นักวิทยาศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “xenoparity” หรือ “การให้กำเนิดต่างสายพันธุ์” และยังพบว่าแม้ M. ibericus กับ M. structor จะมีวิวัฒนาการแยกจากกันมากกว่า 5 ล้านปี แต่ราชินีมดยังสามารถสร้างลูกหลานจากทั้งสองสายพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การทดลองในห้องแล็บใช้เวลานานถึง 2 ปีในการเฝ้ารังมดกว่า 50 รัง จนในที่สุดก็สามารถสังเกตเห็นการเกิดของมด M. structor จากไข่ของราชินี M. ibericus ได้โดยตรง ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่าการโคลนข้ามสายพันธุ์นี้เกิดขึ้นจริง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ราชินีมด Messor ibericus สามารถวางไข่ที่ฟักออกมาเป็นมดเพศผู้ของสายพันธุ์ Messor structor
    มดงานในรังของ M. ibericus เป็นลูกผสมของทั้งสองสายพันธุ์
    นักวิจัยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “xenoparity” หรือ “การให้กำเนิดต่างสายพันธุ์”
    การทดลองในห้องแล็บใช้เวลานานถึง 2 ปีจนสามารถสังเกตการเกิดของมดต่างสายพันธุ์ได้

    กลไกและผลกระทบทางวิวัฒนาการ
    M. ibericus อาจลบ DNA ของตัวเองจากไข่แล้วแทนที่ด้วย DNA ของ M. structor
    มดเพศผู้ของทั้งสองสายพันธุ์มี mitochondrial DNA จาก M. ibericus ซึ่งสืบทอดจากแม่
    การโคลนช่วยให้ M. ibericus มีมดงานจำนวนมากแม้ไม่มีรังของ M. structor ใกล้เคียง
    การกระจายตัวของ M. structor ขยายไปยังพื้นที่ใหม่ผ่านการโคลนโดย M. ibericus

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    มดเป็นสัตว์ eusocial ที่มีระบบสืบพันธุ์ซับซ้อนและมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน
    ปรากฏการณ์ “sperm parasitism” เคยพบในมดบางชนิด แต่ไม่เคยถึงขั้นโคลนต่างสายพันธุ์
    นักชีววิทยาเปรียบเทียบว่า “เหมือนมนุษย์มีลูกเป็นลิงชิมแปนซี แล้วใช้ลูกเหล่านั้นสร้างลูกผสมเพื่อทำงานบ้าน”
    การค้นพบนี้อาจเปลี่ยนแนวคิดเรื่องนิยามของ “สปีชีส์” ในชีววิทยา

    https://www.smithsonianmag.com/smart-news/these-ant-queens-seem-to-defy-biology-they-lay-eggs-that-hatch-into-another-species-180987292/
    🧬 “ราชินีมดที่ให้กำเนิดต่างสายพันธุ์ — คำจำกัดความของ ‘สปีชีส์’ อาจต้องเขียนใหม่” ในโลกของชีววิทยา มีหลักการหนึ่งที่ดูเหมือนจะมั่นคง: สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งจะให้กำเนิดลูกหลานในสายพันธุ์เดียวกัน แต่การค้นพบล่าสุดในวารสาร Nature เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2025 ได้เขย่าความเชื่อนี้อย่างรุนแรง เมื่อพบว่า “ราชินีมดเก็บเกี่ยวไอบีเรีย” (Messor ibericus) สามารถวางไข่ที่ฟักออกมาเป็นมดเพศผู้ของอีกสายพันธุ์หนึ่งคือ “มดเก็บเกี่ยวช่างสร้าง” (Messor structor) นักวิจัยพบว่า M. ibericus จะผสมพันธุ์กับ M. structor แล้วเก็บสเปิร์มไว้ใช้ในภายหลัง แต่ที่น่าทึ่งคือ พวกเขาเชื่อว่าราชินีมดสามารถ “ลบ” DNA ของตัวเองออกจากไข่บางฟอง แล้วแทนที่ด้วย DNA ของ M. structor ทำให้ลูกที่เกิดออกมาเป็นโคลนของสายพันธุ์อื่นโดยสมบูรณ์ ผลลัพธ์คือ ราชินีมดสามารถให้กำเนิดมดเพศผู้ได้ทั้งสองสายพันธุ์ และมดงานทั้งหมดในรังของ M. ibericus เป็นลูกผสมระหว่างสองสายพันธุ์นี้ ซึ่งถือเป็นระบบสืบพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนในสัตว์ชนิดใด นักวิทยาศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “xenoparity” หรือ “การให้กำเนิดต่างสายพันธุ์” และยังพบว่าแม้ M. ibericus กับ M. structor จะมีวิวัฒนาการแยกจากกันมากกว่า 5 ล้านปี แต่ราชินีมดยังสามารถสร้างลูกหลานจากทั้งสองสายพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทดลองในห้องแล็บใช้เวลานานถึง 2 ปีในการเฝ้ารังมดกว่า 50 รัง จนในที่สุดก็สามารถสังเกตเห็นการเกิดของมด M. structor จากไข่ของราชินี M. ibericus ได้โดยตรง ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่าการโคลนข้ามสายพันธุ์นี้เกิดขึ้นจริง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ราชินีมด Messor ibericus สามารถวางไข่ที่ฟักออกมาเป็นมดเพศผู้ของสายพันธุ์ Messor structor ➡️ มดงานในรังของ M. ibericus เป็นลูกผสมของทั้งสองสายพันธุ์ ➡️ นักวิจัยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “xenoparity” หรือ “การให้กำเนิดต่างสายพันธุ์” ➡️ การทดลองในห้องแล็บใช้เวลานานถึง 2 ปีจนสามารถสังเกตการเกิดของมดต่างสายพันธุ์ได้ ✅ กลไกและผลกระทบทางวิวัฒนาการ ➡️ M. ibericus อาจลบ DNA ของตัวเองจากไข่แล้วแทนที่ด้วย DNA ของ M. structor ➡️ มดเพศผู้ของทั้งสองสายพันธุ์มี mitochondrial DNA จาก M. ibericus ซึ่งสืบทอดจากแม่ ➡️ การโคลนช่วยให้ M. ibericus มีมดงานจำนวนมากแม้ไม่มีรังของ M. structor ใกล้เคียง ➡️ การกระจายตัวของ M. structor ขยายไปยังพื้นที่ใหม่ผ่านการโคลนโดย M. ibericus ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ มดเป็นสัตว์ eusocial ที่มีระบบสืบพันธุ์ซับซ้อนและมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน ➡️ ปรากฏการณ์ “sperm parasitism” เคยพบในมดบางชนิด แต่ไม่เคยถึงขั้นโคลนต่างสายพันธุ์ ➡️ นักชีววิทยาเปรียบเทียบว่า “เหมือนมนุษย์มีลูกเป็นลิงชิมแปนซี แล้วใช้ลูกเหล่านั้นสร้างลูกผสมเพื่อทำงานบ้าน” ➡️ การค้นพบนี้อาจเปลี่ยนแนวคิดเรื่องนิยามของ “สปีชีส์” ในชีววิทยา https://www.smithsonianmag.com/smart-news/these-ant-queens-seem-to-defy-biology-they-lay-eggs-that-hatch-into-another-species-180987292/
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • ทบ.​แก้เผ็ด​ "ฮุนมาเนต​" งัดหลักฐาน​บ้านหนองหญ้าแก้ว​อธิปไตยไทย​ บอก​นายกฯ มาเลเซีย​ อย่ารับข้อมูล​เท็จกัมพูชา​ฝ่ายเดียว​ ระวังจะถูกมองไม่เป็นกลาง​ ย้ำ​ใช้กำลังตำรวจควบคุมไม่ใช่ทหาร​ ลั่น​คนกัมพูชาต้องออกจากพื้นที่แค่รอจังหวะเวลาเหมาะสม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000089920

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทบ.​แก้เผ็ด​ "ฮุนมาเนต​" งัดหลักฐาน​บ้านหนองหญ้าแก้ว​อธิปไตยไทย​ บอก​นายกฯ มาเลเซีย​ อย่ารับข้อมูล​เท็จกัมพูชา​ฝ่ายเดียว​ ระวังจะถูกมองไม่เป็นกลาง​ ย้ำ​ใช้กำลังตำรวจควบคุมไม่ใช่ทหาร​ ลั่น​คนกัมพูชาต้องออกจากพื้นที่แค่รอจังหวะเวลาเหมาะสม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000089920 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 495 Views 0 Reviews
  • บทความ เข้าใจง่าย EP.1
    -------------------------------------------------------------------------
    คำว่า "โดยทุจริต" ในประมวลกฎหมายอาญา: ความหมายที่มากกว่าแค่การโกงเงิน

    คำว่า "โดยทุจริต" เป็นคำที่เราได้ยินบ่อยครั้งในข่าวคดีความที่เกี่ยวข้องกับการประพฤติมิชอบ แต่ในทางกฎหมาย คำนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งและครอบคลุมมากกว่าที่เราคิด การทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเห็นภาพรวมของความผิดทางอาญาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

    ตามประมวลกฎหมายอาญา คำว่า "โดยทุจริต" หมายถึง "เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น" นี่คือเจตนาพิเศษที่อยู่เบื้องหลังการกระทำผิด ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแสวงหาประโยชน์ในรูปแบบของทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประโยชน์ในรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย เช่น การใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ การใช้เอกสารปลอมเพื่อเลื่อนตำแหน่ง หรือการทำลายหลักฐานเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกรณีที่พนักงานเบิกเงินบริษัทไปใช้ส่วนตัว นี่คือการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเอง หรือการที่ผู้สอบนำใบรับรองแพทย์ปลอมไปยื่นเพื่อขอเลื่อนการสอบ นี่ก็ถือเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยทุจริตเช่นกัน เพราะเป็นการกระทำเพื่อได้รับประโยชน์ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

    การกระทำ "โดยทุจริต" จึงเป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดว่าการกระทำใดๆ จะถือเป็นความผิดอาญาหรือไม่ เพราะแม้ว่าการกระทำนั้นจะดูเหมือนไม่มีความผิดร้ายแรง แต่หากมีเจตนาทุจริตแอบแฝงอยู่เบื้องหลัง ก็จะทำให้การกระทำนั้นกลายเป็นความผิดอาญาได้ทันที ความทุจริตจึงไม่ใช่แค่เรื่องของบุคคลที่ได้รับความเสียหายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของสังคมและระบบกฎหมายโดยรวมด้วย การทำความเข้าใจคำนี้อย่างถ่องแท้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนักถึง

    ดังนั้น "โดยทุจริต" จึงเป็นมากกว่าแค่คำทางกฎหมาย แต่เป็นตัวบ่งชี้ถึงเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ของมนุษย์ที่ต้องการได้รับผลประโยชน์ที่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ซึ่งเป็นรากฐานของปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและสังคม การสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรมจึงต้องเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจและต่อต้านการกระทำที่เกิดขึ้นจากเจตนา "โดยทุจริต" นี้อย่างจริงจัง.
    บทความ เข้าใจง่าย EP.1 ------------------------------------------------------------------------- คำว่า "โดยทุจริต" ในประมวลกฎหมายอาญา: ความหมายที่มากกว่าแค่การโกงเงิน คำว่า "โดยทุจริต" เป็นคำที่เราได้ยินบ่อยครั้งในข่าวคดีความที่เกี่ยวข้องกับการประพฤติมิชอบ แต่ในทางกฎหมาย คำนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งและครอบคลุมมากกว่าที่เราคิด การทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเห็นภาพรวมของความผิดทางอาญาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ตามประมวลกฎหมายอาญา คำว่า "โดยทุจริต" หมายถึง "เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น" นี่คือเจตนาพิเศษที่อยู่เบื้องหลังการกระทำผิด ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแสวงหาประโยชน์ในรูปแบบของทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประโยชน์ในรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย เช่น การใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ การใช้เอกสารปลอมเพื่อเลื่อนตำแหน่ง หรือการทำลายหลักฐานเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกรณีที่พนักงานเบิกเงินบริษัทไปใช้ส่วนตัว นี่คือการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเอง หรือการที่ผู้สอบนำใบรับรองแพทย์ปลอมไปยื่นเพื่อขอเลื่อนการสอบ นี่ก็ถือเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยทุจริตเช่นกัน เพราะเป็นการกระทำเพื่อได้รับประโยชน์ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การกระทำ "โดยทุจริต" จึงเป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดว่าการกระทำใดๆ จะถือเป็นความผิดอาญาหรือไม่ เพราะแม้ว่าการกระทำนั้นจะดูเหมือนไม่มีความผิดร้ายแรง แต่หากมีเจตนาทุจริตแอบแฝงอยู่เบื้องหลัง ก็จะทำให้การกระทำนั้นกลายเป็นความผิดอาญาได้ทันที ความทุจริตจึงไม่ใช่แค่เรื่องของบุคคลที่ได้รับความเสียหายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของสังคมและระบบกฎหมายโดยรวมด้วย การทำความเข้าใจคำนี้อย่างถ่องแท้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนักถึง ดังนั้น "โดยทุจริต" จึงเป็นมากกว่าแค่คำทางกฎหมาย แต่เป็นตัวบ่งชี้ถึงเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ของมนุษย์ที่ต้องการได้รับผลประโยชน์ที่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ซึ่งเป็นรากฐานของปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและสังคม การสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรมจึงต้องเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจและต่อต้านการกระทำที่เกิดขึ้นจากเจตนา "โดยทุจริต" นี้อย่างจริงจัง.
    0 Comments 0 Shares 241 Views 0 Reviews
More Results