• จีนกับความพยายาม Reverse Engineering เครื่อง EUV Lithography

    รายงานจาก Reuters และ Tom’s Hardware ระบุว่า จีนได้ตั้งห้องแล็บลับในเซินเจิ้นเพื่อสร้างเครื่อง EUV Lithography ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยอ้างว่าใช้วิธี Reverse Engineering จากเครื่องของ ASML บริษัทเนเธอร์แลนด์ที่เป็นผู้ผลิตรายเดียวในโลกที่สามารถทำเครื่อง EUV ได้สำเร็จ ปัจจุบันเครื่องต้นแบบของจีนสามารถสร้างแสง EUV ที่ความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรได้ แต่ยังไม่สามารถใช้ผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้

    เครื่องดังกล่าวใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML โดยยิงเลเซอร์ไปที่หยดดีบุกขนาดไมครอนเพื่อสร้างพลาสมาที่ปล่อยแสง EUV อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักอยู่ที่ระบบออปติกที่ซับซ้อนมาก เช่น กระจกสะท้อนที่เคลือบด้วยชั้น Mo/Si และระบบ Projection Optics ที่ต้องการความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้สมบูรณ์

    รัฐบาลจีนตั้งเป้าว่าจะมีต้นแบบที่สามารถผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความเป็นจริงอาจต้องรอถึงปี 2030 หรือหลังจากนั้น เนื่องจากการสร้างเครื่อง EUV ต้องอาศัยการบูรณาการมากกว่า 100,000 ชิ้นส่วน และความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ซึ่งปัจจุบันจีนยังต้องพึ่งพาอดีตวิศวกรจาก ASML และนักวิจัยมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจบใหม่

    หากจีนสามารถพัฒนาเครื่อง EUV ได้สำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพราะปัจจุบันจีนถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จากมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐและพันธมิตร แต่ในทางกลับกัน หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาด้านออปติกและระบบกลไกได้ ความพยายามนี้อาจกลายเป็นเพียงการทดลองที่ไม่สามารถใช้จริงในเชิงพาณิชย์

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การสร้างเครื่อง EUV ในจีน
    ห้องแล็บลับในเซินเจิ้นสร้างเครื่องต้นแบบที่สามารถผลิตแสง EUV ได้แล้ว

    เทคนิคที่ใช้
    ใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML

    เป้าหมายรัฐบาลจีน
    ต้องการให้มีต้นแบบที่ผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจช้ากว่านั้น

    ความท้าทายด้านเทคนิค
    ระบบออปติกและกลไกที่ซับซ้อนยังไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์

    คำเตือนด้านความเป็นจริง
    การสร้างเครื่อง EUV ต้องใช้มากกว่า 100,000 ชิ้นส่วนและความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้
    แม้จะมีความก้าวหน้า แต่ยังไม่สามารถผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ในระยะสั้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-may-have-reverse-engineered-euv-lithography-tool-in-covert-lab-report-claims-employees-given-fake-ids-to-avoid-secret-project-being-detected-prototypes-expected-in-2028
    🔬 จีนกับความพยายาม Reverse Engineering เครื่อง EUV Lithography รายงานจาก Reuters และ Tom’s Hardware ระบุว่า จีนได้ตั้งห้องแล็บลับในเซินเจิ้นเพื่อสร้างเครื่อง EUV Lithography ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยอ้างว่าใช้วิธี Reverse Engineering จากเครื่องของ ASML บริษัทเนเธอร์แลนด์ที่เป็นผู้ผลิตรายเดียวในโลกที่สามารถทำเครื่อง EUV ได้สำเร็จ ปัจจุบันเครื่องต้นแบบของจีนสามารถสร้างแสง EUV ที่ความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรได้ แต่ยังไม่สามารถใช้ผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ เครื่องดังกล่าวใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML โดยยิงเลเซอร์ไปที่หยดดีบุกขนาดไมครอนเพื่อสร้างพลาสมาที่ปล่อยแสง EUV อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักอยู่ที่ระบบออปติกที่ซับซ้อนมาก เช่น กระจกสะท้อนที่เคลือบด้วยชั้น Mo/Si และระบบ Projection Optics ที่ต้องการความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้สมบูรณ์ รัฐบาลจีนตั้งเป้าว่าจะมีต้นแบบที่สามารถผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความเป็นจริงอาจต้องรอถึงปี 2030 หรือหลังจากนั้น เนื่องจากการสร้างเครื่อง EUV ต้องอาศัยการบูรณาการมากกว่า 100,000 ชิ้นส่วน และความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ซึ่งปัจจุบันจีนยังต้องพึ่งพาอดีตวิศวกรจาก ASML และนักวิจัยมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจบใหม่ หากจีนสามารถพัฒนาเครื่อง EUV ได้สำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพราะปัจจุบันจีนถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จากมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐและพันธมิตร แต่ในทางกลับกัน หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาด้านออปติกและระบบกลไกได้ ความพยายามนี้อาจกลายเป็นเพียงการทดลองที่ไม่สามารถใช้จริงในเชิงพาณิชย์ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การสร้างเครื่อง EUV ในจีน ➡️ ห้องแล็บลับในเซินเจิ้นสร้างเครื่องต้นแบบที่สามารถผลิตแสง EUV ได้แล้ว ✅ เทคนิคที่ใช้ ➡️ ใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML ✅ เป้าหมายรัฐบาลจีน ➡️ ต้องการให้มีต้นแบบที่ผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจช้ากว่านั้น ✅ ความท้าทายด้านเทคนิค ➡️ ระบบออปติกและกลไกที่ซับซ้อนยังไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์ ‼️ คำเตือนด้านความเป็นจริง ⛔ การสร้างเครื่อง EUV ต้องใช้มากกว่า 100,000 ชิ้นส่วนและความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้ ⛔ แม้จะมีความก้าวหน้า แต่ยังไม่สามารถผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ในระยะสั้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-may-have-reverse-engineered-euv-lithography-tool-in-covert-lab-report-claims-employees-given-fake-ids-to-avoid-secret-project-being-detected-prototypes-expected-in-2028
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีป ทุกสาขาไม่เคยปรุง #อ่อนนุช #กินอะไรดี #ของดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #อาหาร #กิน #อร่อย #food #eat #noodle #thaifood #streetfood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    ❣️ก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีป ทุกสาขาไม่เคยปรุง💖 #อ่อนนุช #กินอะไรดี #ของดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #อาหาร #กิน #อร่อย #food #eat #noodle #thaifood #streetfood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ลองเชิง ตอนที่ 11

    “ลองเชิง”
    ตอน 11
    แค่ปัญหาเรื่องแก๊ส ระหว่าง ค่าย อิหร่าน อิรัค ซีเรีย กับค่าย กาตาร์ ซาอุ ตุรกี 2 ค่ายนี่ ก็ทำให้อเมริกาเต้นเป็นลิงเกาเห็บแล้ว ยังดันเพิ่มเรื่อง ของอิสราเอลเข้าไปอีกด้วย อย่างนี้ ซีเรีย ไม่เดือดก็ผิดสันดานนักล่า
    อิสราเอล แม้จะถูกอุ้มไปอยู่ในตะวันออกกลาง เป็นกาฝากอยู่แถวทะเลทราย แต่ไม่เคยโชคดีมีน้ำมันท่วมเหมือนพวกเจ้าของถิ่นเขา แต่แล้ว เวลาอะไรมันจะมา ไม่ว่าดี ว่าร้าย (ส่วนมากมักเป็นเรื่องร้าย) มักไม่ค่อยรู้ตัวล่วงหน้า ปี ค.ศ.2009 อิสราเอล ก็ได้ข่าวเหมือนกันว่า โนเบิล เอนเนอร์จี Noble Energy หุ้นส่วนจากเท็กซัส (ของใครนะ) ที่อิสราเอลร่วมทุนให้ทำการสำรวจแหล่งแก๊ส ก็เจอหลุมแก๊ส ทามาร์ Tamar ที่แถวไฮฟา Haifa ทางเหนือของอิสราเอล
    ทามาร์ นับเป็นหลุมแก๊สที่ใหญ่ที่สุด ที่เจอกันในปี ค.ศ.2009 และคาดว่า
    ทามาร์ จะให้ผลผลิตได้ ในปี ค.ศ.2012 อิสราเอลให้ชื่อหลุมแก็สนี้ว่า Leviathan ตามชื่อสัตว์ร้ายในทะเลในพระคัมภึร์ แถมคุยว่า สัตวร้ายตัวนี้ สามารถผลิตแก๊สเลี้ยงอิสราเอลไปได้เป็นร้อยปี
    ในช่วงก่อนเจอสัตว์ร้าย อิสราเอลต้องพึ่งแก๊สจากหลุม Yam Tethys ซึ่งผลิตเลี้ยงประเทศได้ประมา ณ 70% ของความต้องการ และคาดว่าไม่นานเกืน 3 ปี หลุมนี้ก็จะแห้งสนิท และอิสราเอลก็คงเหนื่อย แต่ตอนนี้ชะตาพลิกผัน นอกจากไม่ต้องหน้ามืด หาแเก๊สมาเพิ่มแล้ว อิสราเอลกลับจะกลายเป็นเสี่ยถังแก๊สขึ้นมาเสียอีกด้วย ดังนั้นข่าวเรื่องที่ศัตรูคู่อาฆาต อิหร่าน อิรัค เลบานอน จะจับมือกันต่อท่อแก๊สไปถึงยุโรป จึงเป็นเรื่องที่อิสราเอลไม่พอใจอย่างยิ่ง กำลังฝันหวาน จะหิ้วถังแก๊สไปขายแถวยุโรป เอาเงินมาตุนทอง ทำกำไรอีกต่อ ทำท่าจะไม่เป็นอย่างที่ฝัน เราหิ้วเป็นถัง พวกมันส่งไปทางท่อ จะไปทันมันยังไง โอ้ย ยิวปวดใจ
    คิดไปแล้ว อิหร่านเสี่ยนิวเคลียร์ของผม นี่ (ปีเตอร์) อู๋ จริงๆนะ มีทั้งนิวเคลียร์ มีทั้งน้ำมัน มีทั้งแก๊ส มิน่า ไอ้พวกใบตองแห้ง มันถึงน้ำลายไหลเยิ้มยืดหกออกมานอกปาก เวลานึกถึงดินแดนของเสี่ยนิวเคลียร์ แล้วแบบนี้ไอ้ใบตองแห้งมันจะปล่อยให้ลอยนวล ไปจับมือกับคุณพี่ปูติน กับ อาเฮียมังกรซ่อนเล็บได้ยังไง
    อิสราเอลคิดว่า ทางเดียวที่ จะหิ้วแก๊สไปขายยุโรปได้สดวกใจ ต้องให้ท่อส่งของเหล่าชีอะบรรลัยไปสิ้น แต่ช่วงนั้น กลุ่มมุสลิม บราเธอร์ฮูด ก็มาอยู่เต็มซีเรียแล้ว และมุสลิมบราเธอร์ฮูด ก็ไม่ถูกกับอิสราเอลอย่างแรง
    แล้วพวกมุสลิมบราเธอ์ฮูด นี่ มาอยู่ในซีเรียได้อย่างไรล่ะ
    ย้อนกลับไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.1950 กว่า เป็นช่วงที่อเมริกาใช้สถานทูตอเมริกาในอิยิปต์ เหมือนเป็นสำนักงานซีไอเอ สาขา 2 ที่เอาไว้ดูแลจัดการตะวันออกกลางและอาฟริกา ให้เป็นไปตามความต้องการของอเมริกา อเมริกาเอาหัวหน้ามุสลิมบราเธอร์ฮูดชาวอิยิปต์ ลี้ภัยออกจากอิยิปป์มาฝากไว้ที่ซาอุดิอารเบีย และก็ทำให้กลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด ผสมพันธ์ุกับกลุ่มวาหะบีของซาอุดิอารเบีย เกิดเป็นนักรบเพื่อศาสนา จีฮาร์ด มุสลิมบราเธอร์ฮูด
    (โฮ้ย! ทำไมมึงมันช่างคิดแผนชั่วได้ตลอดเวลาอย่างนี่นะ ไม่รู้ชีวิตกูที่เหลือนี่ จะแฉความชั่วมึงหมดไหม)
    เมื่อความไม่สงบในซีเรียเริ่มใหม่ๆ ตุรกีรับหน้าที่ เป็นมือเป็นตีนให้กับอเมริกา เขาว่า ก่อนการเลือกตั้งปี ค.ศ.2011 ที่ทำให้พรรค AKP ของนาย ตอยับ เอร์โดดานชนะเลือกตั้ง ได้คุมเสียงข้างมากในสภา และได้เป็นนายกรัฐมนตรี สั่งการตุรกีได้ตามใจนั้น ราชวงศ์ซาอุด ที่ดูแลนักรบเพื่อศาสนา (แต่จริงๆ ดูเหมือนจะรบเพื่ออเมริกามากก ว่า) ได้มอบเงิน “สนับสนุน” ให้แก่พรรค AKP ของนายตอยับ ถึงหนึ่งหมื่นล้านเหรียญ หลังจากพรรค AKP ชนะขาดลอย นายตอยับ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตุรกี มุสลิมบราเธอร์ฮูดก็ย้ายออกจากซาอุ ไปเข้าแถวออกันเต็ม อยู่ที่ชายแดนของตุรกีที่ติดกับซีเรีย
    ในเดือน ธันวาคม ค.ศ.2011 มีบทความของนาย Philip Giradi อดีตซีไอเอ สรุปว่า
    ….นาโต้ เข้าไปในซีเรียแล้ว โดยมีตุรกี ในฐานะตัวแทนของอเมริกา เป็นหัวหน้านำการรบ นาย Davutoglu รัฐมนตรีการต่างประเทศของตุรกี บอกว่า ประเทศเขาพร้อมบุกซีเรีย เพราะมีข้อตกลงกับประเทศตะวันตก ที่จะดำเนินการเช่นนั้น การบุกจะใช้หลักการเพื่อมนุษยธรรม(หลอก) นำหน้าเข้าไป เช่นเดียวกับวิธีการที่ใช้ตอนบุกลิเบีย และจะเริ่มโดยตั้งแนวเขตกันชน buffer zone ตลอดเส้นแนวเขตระหว่างตุรกี กับซีเรีย หลังจากนั้นก็จะขยายไปเรื่อยๆ และ อาเลปโป Aleppo เมืองใหญ่ของซีเรีย ก็จะกลายเป็นเป้าหมายใหญ่ ที่กลุ่มกบฏซีเรียจะไปยึดครอง
    ….เครื่องบินรบของนาโต้ ที่ไม่ติดเครื่องหมาย บินมาถึงฐานทัพทหารของตุรกี ที่อยู่ใกล้กับเมือง Iskenderum ที่อยู่เขตแดนของซีเรีย เพื่อขนอาวุธที่ยึดมาจากกัดดาฟี หลังจากฆ่าโหดกัดดาฟีไปแล้ว รวมทั้งบรรดาอาสาสมัคร (ที่มีใครจ่ายเงินสนับสนุนให้) ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีเพื่อรบกับกองทหาร เป็นความสามารถที่ได้มาจากการฝึก เอาไว้สู้กับกองทัพของกัดดาฟี….
    …. ที่เมือง Iskenderum ยังมีหน่วยรบพิเศษของฝรั่งเศส และอังกฤษ คอยฝึก ให้กับกลุ่มกบฏของซีเรีย ขณะเดียวกัน ซีไอเอ และหน่วยรบพิเศษ ของอเมริกา ยังคอยเป็นพี่เลี้ยง และช่วยพากลุ่มกบฏ เลี่ยงการปะทะกับกองทัพของซีเรียอีกด้วย…..
    อเมริกาเอง ในช่วงนั้น ก็ดูเหมือนจะให้การสนับสนุนกลุ่มมุสลิม บราเธอร์ฮูด (MB) อย่างไม่ปิดบัง รู้กันทั่วว่า นาง Huma Abedin หัวหน้าฝ่ายบริหาร ของกระทรวงการต่างประเทศของอเมริกา สมัยที่คุณนายคลินตัน นางสิงห์สั่งฆ่า เป็นรัฐมนตรีนั้น นาง Abedin แสดงตัวอย่างเปิดเผยว่า มีความใกล้ชิดกับกลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด และยังมีอีกหลายคน ที่อยู่วงในของคณะทำงานของนายโอบามา ก็สนับสนุนกลุ่ม MB ก็คงสรุปได้ว่า ช่วงนั้น อเมริกาใช้กลุ่ม MB เป็นตัวสกัดเส้นทางการสร้างท่อส่งของกลุ่มอิหร่านซีเรีย
    และขณะเดียวกับที่อเมริกาใช้ตุรกีออกหน้าเข้าฉากซีเรีย ทาง อิสราเอล ซึ่งพักนั้น ไม่ค่อยร้องเพลงทำนองเดียวกับโอ บามา แต่พอมีเรื่องท่อแก๊ส ของซีเรีย โผล่ขึ้นมา อิสราเอล ก็มาเข้าฉากด้วย พอตุรกีบุกซีเรียด้านหนึ่ง หน่วย Israel Defense Force (IDF) ก็สร้างแผนล่อ ด้วยการอัดกองกำลังเข้าไปที่ Golan Height ที่อยู่ตรงเขตแดนระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย เพื่อให้ซีเรีย ห่วงหน้าพะวงหลัง
    แต่เรื่องที่ อเมริกา ใช้ตุรกีออกหน้า รวมทั้ง สมคบกับซาอุ คู่แข่ง ของอิสราเอล ในรายการถล่มซีเรียนี่ ก็ดูเหมือนจะสร้าง “รอย” ระหว่าง อเมริกา กับ อิสราเอล ไว้เหมือนกัน ไอ้ใบตองแห้งนี่ อย่าได้ประเมินความชั่วของมัน ต่ำน้อยไปเชียว
    และ ทั้งหมดก็ เป็นไปตามแผนของอเมริกา ในการสกัดซีเรีย หรือท่อส่งแก๊สกลุ่มอิหร่านซีเรีย โดยอเมริการะดมพล ทั้งกลุ่มนักรบอิสลามสาระพัดพันธ์ุ สาระพัดชื่อ แต่ไม่ว่าพันธุ์ไหน อเมริกาก็มีส่วนกี่ยวข้องทั้งนั้น รวมทั้ง กองกำลังนาโต้ ที่เดินเองพูดเองไม่เป็น ต้องทำตามใบสั่งของอเมริกาเท่านั้น บวกกับ กลุ่มลูกหาบนานาชาติ หรือกลุ่ม 11 ที่มีผลประโยชน์ บุญคุณ หนี้สินติดพันกันเอง และกับอเมริกา
    ผมตกใครไปไหมเนี่ยะ เผื่อมีใครกำลังรวบรวมรายชื่อ ทำบัญชี…
    คนเล่านิทาน
    10 ต.ค. 2558
    ลองเชิง ตอนที่ 11 “ลองเชิง” ตอน 11 แค่ปัญหาเรื่องแก๊ส ระหว่าง ค่าย อิหร่าน อิรัค ซีเรีย กับค่าย กาตาร์ ซาอุ ตุรกี 2 ค่ายนี่ ก็ทำให้อเมริกาเต้นเป็นลิงเกาเห็บแล้ว ยังดันเพิ่มเรื่อง ของอิสราเอลเข้าไปอีกด้วย อย่างนี้ ซีเรีย ไม่เดือดก็ผิดสันดานนักล่า อิสราเอล แม้จะถูกอุ้มไปอยู่ในตะวันออกกลาง เป็นกาฝากอยู่แถวทะเลทราย แต่ไม่เคยโชคดีมีน้ำมันท่วมเหมือนพวกเจ้าของถิ่นเขา แต่แล้ว เวลาอะไรมันจะมา ไม่ว่าดี ว่าร้าย (ส่วนมากมักเป็นเรื่องร้าย) มักไม่ค่อยรู้ตัวล่วงหน้า ปี ค.ศ.2009 อิสราเอล ก็ได้ข่าวเหมือนกันว่า โนเบิล เอนเนอร์จี Noble Energy หุ้นส่วนจากเท็กซัส (ของใครนะ) ที่อิสราเอลร่วมทุนให้ทำการสำรวจแหล่งแก๊ส ก็เจอหลุมแก๊ส ทามาร์ Tamar ที่แถวไฮฟา Haifa ทางเหนือของอิสราเอล ทามาร์ นับเป็นหลุมแก๊สที่ใหญ่ที่สุด ที่เจอกันในปี ค.ศ.2009 และคาดว่า ทามาร์ จะให้ผลผลิตได้ ในปี ค.ศ.2012 อิสราเอลให้ชื่อหลุมแก็สนี้ว่า Leviathan ตามชื่อสัตว์ร้ายในทะเลในพระคัมภึร์ แถมคุยว่า สัตวร้ายตัวนี้ สามารถผลิตแก๊สเลี้ยงอิสราเอลไปได้เป็นร้อยปี ในช่วงก่อนเจอสัตว์ร้าย อิสราเอลต้องพึ่งแก๊สจากหลุม Yam Tethys ซึ่งผลิตเลี้ยงประเทศได้ประมา ณ 70% ของความต้องการ และคาดว่าไม่นานเกืน 3 ปี หลุมนี้ก็จะแห้งสนิท และอิสราเอลก็คงเหนื่อย แต่ตอนนี้ชะตาพลิกผัน นอกจากไม่ต้องหน้ามืด หาแเก๊สมาเพิ่มแล้ว อิสราเอลกลับจะกลายเป็นเสี่ยถังแก๊สขึ้นมาเสียอีกด้วย ดังนั้นข่าวเรื่องที่ศัตรูคู่อาฆาต อิหร่าน อิรัค เลบานอน จะจับมือกันต่อท่อแก๊สไปถึงยุโรป จึงเป็นเรื่องที่อิสราเอลไม่พอใจอย่างยิ่ง กำลังฝันหวาน จะหิ้วถังแก๊สไปขายแถวยุโรป เอาเงินมาตุนทอง ทำกำไรอีกต่อ ทำท่าจะไม่เป็นอย่างที่ฝัน เราหิ้วเป็นถัง พวกมันส่งไปทางท่อ จะไปทันมันยังไง โอ้ย ยิวปวดใจ คิดไปแล้ว อิหร่านเสี่ยนิวเคลียร์ของผม นี่ (ปีเตอร์) อู๋ จริงๆนะ มีทั้งนิวเคลียร์ มีทั้งน้ำมัน มีทั้งแก๊ส มิน่า ไอ้พวกใบตองแห้ง มันถึงน้ำลายไหลเยิ้มยืดหกออกมานอกปาก เวลานึกถึงดินแดนของเสี่ยนิวเคลียร์ แล้วแบบนี้ไอ้ใบตองแห้งมันจะปล่อยให้ลอยนวล ไปจับมือกับคุณพี่ปูติน กับ อาเฮียมังกรซ่อนเล็บได้ยังไง อิสราเอลคิดว่า ทางเดียวที่ จะหิ้วแก๊สไปขายยุโรปได้สดวกใจ ต้องให้ท่อส่งของเหล่าชีอะบรรลัยไปสิ้น แต่ช่วงนั้น กลุ่มมุสลิม บราเธอร์ฮูด ก็มาอยู่เต็มซีเรียแล้ว และมุสลิมบราเธอร์ฮูด ก็ไม่ถูกกับอิสราเอลอย่างแรง แล้วพวกมุสลิมบราเธอ์ฮูด นี่ มาอยู่ในซีเรียได้อย่างไรล่ะ ย้อนกลับไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.1950 กว่า เป็นช่วงที่อเมริกาใช้สถานทูตอเมริกาในอิยิปต์ เหมือนเป็นสำนักงานซีไอเอ สาขา 2 ที่เอาไว้ดูแลจัดการตะวันออกกลางและอาฟริกา ให้เป็นไปตามความต้องการของอเมริกา อเมริกาเอาหัวหน้ามุสลิมบราเธอร์ฮูดชาวอิยิปต์ ลี้ภัยออกจากอิยิปป์มาฝากไว้ที่ซาอุดิอารเบีย และก็ทำให้กลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด ผสมพันธ์ุกับกลุ่มวาหะบีของซาอุดิอารเบีย เกิดเป็นนักรบเพื่อศาสนา จีฮาร์ด มุสลิมบราเธอร์ฮูด (โฮ้ย! ทำไมมึงมันช่างคิดแผนชั่วได้ตลอดเวลาอย่างนี่นะ ไม่รู้ชีวิตกูที่เหลือนี่ จะแฉความชั่วมึงหมดไหม) เมื่อความไม่สงบในซีเรียเริ่มใหม่ๆ ตุรกีรับหน้าที่ เป็นมือเป็นตีนให้กับอเมริกา เขาว่า ก่อนการเลือกตั้งปี ค.ศ.2011 ที่ทำให้พรรค AKP ของนาย ตอยับ เอร์โดดานชนะเลือกตั้ง ได้คุมเสียงข้างมากในสภา และได้เป็นนายกรัฐมนตรี สั่งการตุรกีได้ตามใจนั้น ราชวงศ์ซาอุด ที่ดูแลนักรบเพื่อศาสนา (แต่จริงๆ ดูเหมือนจะรบเพื่ออเมริกามากก ว่า) ได้มอบเงิน “สนับสนุน” ให้แก่พรรค AKP ของนายตอยับ ถึงหนึ่งหมื่นล้านเหรียญ หลังจากพรรค AKP ชนะขาดลอย นายตอยับ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตุรกี มุสลิมบราเธอร์ฮูดก็ย้ายออกจากซาอุ ไปเข้าแถวออกันเต็ม อยู่ที่ชายแดนของตุรกีที่ติดกับซีเรีย ในเดือน ธันวาคม ค.ศ.2011 มีบทความของนาย Philip Giradi อดีตซีไอเอ สรุปว่า ….นาโต้ เข้าไปในซีเรียแล้ว โดยมีตุรกี ในฐานะตัวแทนของอเมริกา เป็นหัวหน้านำการรบ นาย Davutoglu รัฐมนตรีการต่างประเทศของตุรกี บอกว่า ประเทศเขาพร้อมบุกซีเรีย เพราะมีข้อตกลงกับประเทศตะวันตก ที่จะดำเนินการเช่นนั้น การบุกจะใช้หลักการเพื่อมนุษยธรรม(หลอก) นำหน้าเข้าไป เช่นเดียวกับวิธีการที่ใช้ตอนบุกลิเบีย และจะเริ่มโดยตั้งแนวเขตกันชน buffer zone ตลอดเส้นแนวเขตระหว่างตุรกี กับซีเรีย หลังจากนั้นก็จะขยายไปเรื่อยๆ และ อาเลปโป Aleppo เมืองใหญ่ของซีเรีย ก็จะกลายเป็นเป้าหมายใหญ่ ที่กลุ่มกบฏซีเรียจะไปยึดครอง ….เครื่องบินรบของนาโต้ ที่ไม่ติดเครื่องหมาย บินมาถึงฐานทัพทหารของตุรกี ที่อยู่ใกล้กับเมือง Iskenderum ที่อยู่เขตแดนของซีเรีย เพื่อขนอาวุธที่ยึดมาจากกัดดาฟี หลังจากฆ่าโหดกัดดาฟีไปแล้ว รวมทั้งบรรดาอาสาสมัคร (ที่มีใครจ่ายเงินสนับสนุนให้) ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีเพื่อรบกับกองทหาร เป็นความสามารถที่ได้มาจากการฝึก เอาไว้สู้กับกองทัพของกัดดาฟี…. …. ที่เมือง Iskenderum ยังมีหน่วยรบพิเศษของฝรั่งเศส และอังกฤษ คอยฝึก ให้กับกลุ่มกบฏของซีเรีย ขณะเดียวกัน ซีไอเอ และหน่วยรบพิเศษ ของอเมริกา ยังคอยเป็นพี่เลี้ยง และช่วยพากลุ่มกบฏ เลี่ยงการปะทะกับกองทัพของซีเรียอีกด้วย….. อเมริกาเอง ในช่วงนั้น ก็ดูเหมือนจะให้การสนับสนุนกลุ่มมุสลิม บราเธอร์ฮูด (MB) อย่างไม่ปิดบัง รู้กันทั่วว่า นาง Huma Abedin หัวหน้าฝ่ายบริหาร ของกระทรวงการต่างประเทศของอเมริกา สมัยที่คุณนายคลินตัน นางสิงห์สั่งฆ่า เป็นรัฐมนตรีนั้น นาง Abedin แสดงตัวอย่างเปิดเผยว่า มีความใกล้ชิดกับกลุ่มมุสลิมบราเธอร์ฮูด และยังมีอีกหลายคน ที่อยู่วงในของคณะทำงานของนายโอบามา ก็สนับสนุนกลุ่ม MB ก็คงสรุปได้ว่า ช่วงนั้น อเมริกาใช้กลุ่ม MB เป็นตัวสกัดเส้นทางการสร้างท่อส่งของกลุ่มอิหร่านซีเรีย และขณะเดียวกับที่อเมริกาใช้ตุรกีออกหน้าเข้าฉากซีเรีย ทาง อิสราเอล ซึ่งพักนั้น ไม่ค่อยร้องเพลงทำนองเดียวกับโอ บามา แต่พอมีเรื่องท่อแก๊ส ของซีเรีย โผล่ขึ้นมา อิสราเอล ก็มาเข้าฉากด้วย พอตุรกีบุกซีเรียด้านหนึ่ง หน่วย Israel Defense Force (IDF) ก็สร้างแผนล่อ ด้วยการอัดกองกำลังเข้าไปที่ Golan Height ที่อยู่ตรงเขตแดนระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย เพื่อให้ซีเรีย ห่วงหน้าพะวงหลัง แต่เรื่องที่ อเมริกา ใช้ตุรกีออกหน้า รวมทั้ง สมคบกับซาอุ คู่แข่ง ของอิสราเอล ในรายการถล่มซีเรียนี่ ก็ดูเหมือนจะสร้าง “รอย” ระหว่าง อเมริกา กับ อิสราเอล ไว้เหมือนกัน ไอ้ใบตองแห้งนี่ อย่าได้ประเมินความชั่วของมัน ต่ำน้อยไปเชียว และ ทั้งหมดก็ เป็นไปตามแผนของอเมริกา ในการสกัดซีเรีย หรือท่อส่งแก๊สกลุ่มอิหร่านซีเรีย โดยอเมริการะดมพล ทั้งกลุ่มนักรบอิสลามสาระพัดพันธ์ุ สาระพัดชื่อ แต่ไม่ว่าพันธุ์ไหน อเมริกาก็มีส่วนกี่ยวข้องทั้งนั้น รวมทั้ง กองกำลังนาโต้ ที่เดินเองพูดเองไม่เป็น ต้องทำตามใบสั่งของอเมริกาเท่านั้น บวกกับ กลุ่มลูกหาบนานาชาติ หรือกลุ่ม 11 ที่มีผลประโยชน์ บุญคุณ หนี้สินติดพันกันเอง และกับอเมริกา ผมตกใครไปไหมเนี่ยะ เผื่อมีใครกำลังรวบรวมรายชื่อ ทำบัญชี… คนเล่านิทาน 10 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาสิโนพนมเปญ ใต้ทุนมาเลเซีย

    การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ มีประเด็นนักกีฬาทีมชาติกัมพูชาสวมเสื้อแจ็กเก็ตที่มีโลโก้กาสิโน "NAGAWORLD" อยู่บนหน้าอกด้านซ้ายใต้ธงชาติกัมพูชา แม้นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย จะให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายโฆษณาการพนันตามกฎหมายไทยหรือไม่ แต่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่กัมพูชารวม 137 คน ถอนตัวออกจากการแข่งขันเสียก่อน สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในเรื่องนี้คือ นากาเวิลด์ เป็นกาสิโนหนึ่งเดียวในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่นายทุนเป็นชาวมาเลเซีย

    นากาเวิลด์ ก่อตั้งโดย นายเฉิน ลิบ เกียง (Chen Lip Keong) นักธุรกิจชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เกิดในครอบครัวผู้อพยพจากจีนรุ่นที่ 2 เติบโตที่เหมืองแร่ดีบุกบนหุบเขาคินตา ทางตอนกลางของมาเลเซีย จบการศึกษาด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยมาลายา เริ่มต้นเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป แต่กลับสนใจทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผลิตชิ้นส่วนการบิน ต่อมาในปี 2533 นายเฉินไปกัมพูชาเพื่อสำรวจน้ำมันในอ่าวไทย แต่เมื่อรัฐบาลกัมพูชาเปิดประมูลใบอนุญาตกาสิโน เขากลับคว้าใบอนุญาตนั้นมาได้

    นายเฉินจัดตั้งกาสิโนเมื่อปี 2538 โดยใช้เรือเช่าตามแม่น้ำบาสัก (Bassac River) ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำโขง ใกล้กับพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล (พระราชวังหลวง) ในกรุงพนมเปญ กระทั่งได้ซื้อที่ดินและก่อสร้างอาคารนากาเวิลด์ ย้ายมาอยู่ที่ตั้งปัจจุบันในปี 2546 จากนั้นในปี 2549 บริษัทนากาคอร์ปฯ (NagaCorp) ที่จัดตั้งขึ้นในหมู่เกาะเคย์แมนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และขยายอาคารหลังที่สองในปี 2560 โดยมีนากาซิตี้วอล์ก (Naga City Walk) เป็นทางเชื่อมใต้ดิน

    กาสิโนแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตถึงปี 2608 โดยผูกขาดเพียงรายเดียวในรัศมี 200 กิโลเมตร ถึงปี 2588 ประกอบด้วยโรงแรม 1,658 ห้อง ภัตตาคารและไนต์คลับ 20 แห่ง สปา 2 แห่ง ศูนย์การค้าใต้ดิน ร้านค้าปลอดภาษีจาก China Duty Free Group สถานที่จัดประชุมสัมมนา (MICE) รองรับผู้เข้าร่วมประชุม 1,000 คน และโรงละคร NABA ความจุ 2,000 ที่นั่ง

    นายเฉินถูกจัดให้เป็นมหาเศรษฐีมาเลเซียอันดับ 7 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์เมื่อเดือน พ.ค. 2566 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัญฯ เขาเคยมีโครงการก่อตั้งกาสิโนอีกแห่งในเมืองวลาดิโวสต็อก ประเทศรัสเซีย แต่กลับระงับการก่อสร้างอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

    นายเฉินเสียชีวิตที่สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เนื่องจากอาการเจ็บป่วย รวมอายุได้ 75 ปี ส่งมอบอำนาจให้แก่นายเฉิน ยี่ ฟอน (Chen Yiy Fon) ลูกชายเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มคนใหม่

    #Newskit
    กาสิโนพนมเปญ ใต้ทุนมาเลเซีย การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ มีประเด็นนักกีฬาทีมชาติกัมพูชาสวมเสื้อแจ็กเก็ตที่มีโลโก้กาสิโน "NAGAWORLD" อยู่บนหน้าอกด้านซ้ายใต้ธงชาติกัมพูชา แม้นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย จะให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายโฆษณาการพนันตามกฎหมายไทยหรือไม่ แต่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่กัมพูชารวม 137 คน ถอนตัวออกจากการแข่งขันเสียก่อน สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในเรื่องนี้คือ นากาเวิลด์ เป็นกาสิโนหนึ่งเดียวในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่นายทุนเป็นชาวมาเลเซีย นากาเวิลด์ ก่อตั้งโดย นายเฉิน ลิบ เกียง (Chen Lip Keong) นักธุรกิจชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เกิดในครอบครัวผู้อพยพจากจีนรุ่นที่ 2 เติบโตที่เหมืองแร่ดีบุกบนหุบเขาคินตา ทางตอนกลางของมาเลเซีย จบการศึกษาด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยมาลายา เริ่มต้นเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป แต่กลับสนใจทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผลิตชิ้นส่วนการบิน ต่อมาในปี 2533 นายเฉินไปกัมพูชาเพื่อสำรวจน้ำมันในอ่าวไทย แต่เมื่อรัฐบาลกัมพูชาเปิดประมูลใบอนุญาตกาสิโน เขากลับคว้าใบอนุญาตนั้นมาได้ นายเฉินจัดตั้งกาสิโนเมื่อปี 2538 โดยใช้เรือเช่าตามแม่น้ำบาสัก (Bassac River) ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำโขง ใกล้กับพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล (พระราชวังหลวง) ในกรุงพนมเปญ กระทั่งได้ซื้อที่ดินและก่อสร้างอาคารนากาเวิลด์ ย้ายมาอยู่ที่ตั้งปัจจุบันในปี 2546 จากนั้นในปี 2549 บริษัทนากาคอร์ปฯ (NagaCorp) ที่จัดตั้งขึ้นในหมู่เกาะเคย์แมนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และขยายอาคารหลังที่สองในปี 2560 โดยมีนากาซิตี้วอล์ก (Naga City Walk) เป็นทางเชื่อมใต้ดิน กาสิโนแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตถึงปี 2608 โดยผูกขาดเพียงรายเดียวในรัศมี 200 กิโลเมตร ถึงปี 2588 ประกอบด้วยโรงแรม 1,658 ห้อง ภัตตาคารและไนต์คลับ 20 แห่ง สปา 2 แห่ง ศูนย์การค้าใต้ดิน ร้านค้าปลอดภาษีจาก China Duty Free Group สถานที่จัดประชุมสัมมนา (MICE) รองรับผู้เข้าร่วมประชุม 1,000 คน และโรงละคร NABA ความจุ 2,000 ที่นั่ง นายเฉินถูกจัดให้เป็นมหาเศรษฐีมาเลเซียอันดับ 7 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์เมื่อเดือน พ.ค. 2566 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัญฯ เขาเคยมีโครงการก่อตั้งกาสิโนอีกแห่งในเมืองวลาดิโวสต็อก ประเทศรัสเซีย แต่กลับระงับการก่อสร้างอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน นายเฉินเสียชีวิตที่สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เนื่องจากอาการเจ็บป่วย รวมอายุได้ 75 ปี ส่งมอบอำนาจให้แก่นายเฉิน ยี่ ฟอน (Chen Yiy Fon) ลูกชายเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มคนใหม่ #Newskit
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 365 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองเชิง ตอนที่ 10

    “ลองเชิง”
    ตอน 10
    เวลาเกิดเหตุการณ์วุ่นวายรุนแรง นานเป็นปีๆ แถมตัวละครเข้าฉาก ก็หลากหลาย อย่างเรื่องซีเรีย นี่ มันก็น่าให้งง ตกลงใครเป็นคนเริ่ม ใครเป็นตัวชั่ว ใครเป็นตัวช่วย ใครเป็นตัวซวย แล้วจะแก้กันอย่างไร หรือจะจบอย่างไร ยิ่งตอนนี้ แบ่งค่ายแบ่งข้างกันค่อนข้างชัด แต่ก็ไม่แน่ว่า จะทำให้รู้เรื่องขึ้น
    มันดูยาก เพราะเขาวางแผนมาให้เป็นอย่างนั้น
    แน่นอน ฉากซีเรีย อเมริกาเกี่ยวข้องด้วยเต็มร้อย แม้จะไม่ได้ลงมือเองทั้งหมด แต่ที่น่าสงสัยคือ กลุ่มสิบเอ็ด มาเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย แล้วที่น่าสงสัยมากกว่า น่าจะเป็นการจับมือกัน ระหว่างซาอุดิอารเบีย กาตาร์ ตุรกี และอิสราเอล เพื่อถล่มอัสซาดให้พ้นไปจากซีเรียนั่นแหละ จะบอกว่าทั้งหมด เป็นลูกกระเป๋ง ลูกขุนพลอยพยัก หรือลูกหาบของอเมริกา มันก็ใช่ทั้งนั้น แต่มันคงไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์เท่านั้น มันคงมีอะไรมากกว่านั้น
    แก๊สธรรมชาติ ได้กลายเป็นสมบัติมีค่า อีกรายการหนึ่งในตะวันออกกลาง ไม่น่าเชื่อว่า สามล้อจะ
    ฟลุ๊กถูกหวย รางวัลใหญ่ ได้มากกว่า 1 ครั้ง แก๊ส ไม่ได้มีความหมายเฉพาะกับ เจ้าของแหล่งเท่านั้น แต่ยังมีความหมายกับอียู ยูเรเซีย รวมทั้งรัสเซีย ที่เป็นผู้ส่งออกแก๊ส และจีนผู้นำเข้าแก๊สอีกด้วย
    แก๊สธรรมชาติ เป็นพลังงานสะอาด ที่กำลังพุ่งแรง แซงพลังงานถ่านหิน นิวเคลียร์ และพลังไฟฟ้า ในยุโรป โดยเฉพาะที่เยอรมัน หลังจากเกิดเหตุการณ์ฟูกูชิมะของญี่ปุ่น และกำลังเป็นตัวเลือก ที่หลายประเทศในยุโรปกำลังเตรียมเอามาช่วยพยุงสิ่งแวดล้อมของโลก แปลว่า ยุโรป จะเป็นตลาดนำเข้าแก๊สที่ใหญ่มาก อีกตลาดหนึ่ง อย่างนี้ก็ต้องมีการเบียด การแซงกันหน่อย
    การค้นพบแหล่งแก๊สในอิหร่าน กาตาร์ ซีเรีย และอิสราเอล มีส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ฉากซีเรีย ถูกเร่งสร้างขึ้นมา
    ในเดือนกรฏาคม ค.ศ.2011 ขณะที่พวกลูกหาบนานาชาติ และกลุ่มเสี่ยปั๊มใหญ่ปั๊มเล็กในตะวันออกกลาง กำลังสวิงกันเต็มที่อยู่ในซีเรีย เพื่อหวดให้อัสซาดหล่นแท่นให้ได้ รัฐบาลของซีเรีย อิหร่านและอิรัค ก็กำลังลงนามในสัญญาสร้างท่อส่งแก๊ส โดยรอดสายตาอันแสนคมของสื่อตะวันตก ที่มัวแต่ทำข่าวการไล่หวดอัสซาด
    ท่อส่งแก๊สรายการนี้ คาดว่าจะต้องใช้ทุนถึง 1 หมื่นล้านเหรียญ และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี ท่อส่งนี้ จะเริ่มจากท่าเรือ อาซาลลูเย Assalouyeh ของอิหร่าน ซึ่งอยู่ใกล้กับแหล่งแก๊สเซาท์พาส์ South Pars ของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย ท่อส่งจะยาวไปถึงเมืองดามัสกัสของซีเรีย โดยผ่านเข้ามาในเขตแดนของอิรัค นอกจากนี้ อิหร่านยังมีแผน ที่จะขยายเส้นทางท่อส่งนี้ ไปถึงท่าเรือของเลบานอน ที่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วย จะได้ส่งแก๊สให้ถึงหน้าบ้านของพวกอียู ทั้งซีเรียและอิรัค ตกลงทำสัญญา จะซื้อแก๊สของอิหร่านล่วงหน้าแล้วด้วย
    เซาท์พาส์ South Pars ซึ่งเป็นแหล่งแก๊สธรรมชาติ ที่เชื่อกันว่า เป็นแหล่งแก๊สธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้ ที่ค้นพบ อยู่ในอ่าวเปอร์เซีย และมีเจ้าของ 2 ราย แบ่งกันตามเขตแดน รายหนึ่งคือ อิหร่าน อีกรายคือ กาตาร์
    เริ่มเห็นสาเหตุจริง ของความวุ่นวายในซีเรียรางๆ แล้วใช่ไหมครับ
    เส้นทางท่อส่งแก๊สของอิหร่าน จึงถูกมอง และประทับตราว่า มันเป็นท่อส่งของพวกชีอะอิหร่าน ผ่านชีอะอิรัค ไปถึงเพื่อนชีอะ อัล อัสซาดแห่งซีเรีย และบางทีก็เรียกเส้นทางท่อส่งนี้ว่า เส้นทางท่อส่งอิสลาม Islamic Pipeline
    กาตาร์นั้น เหมือนเป็นสาขาต่างประเทศในตะวันออกกลาง ของเพนตากอน Pentagon หน่วยงานด้านความมั่นคงของอเมริกา มีตั้งแต่สำนักงานใหญ่ของ Air Forces Central, หน่วยประจำการรบทางอากาศที่ 83 และหน่วยที่ 379 ของกองทัพอากาศ อยู่ที่กาตาร์ และกาตาร์ยังมีสัมพันธ์ชนิดแน่น แบบแกะแทบไม่ออก กับอีกหลายหน่วยงานของอเมริกา และอังกฤษ รวมทั้งเป็นเจ้าของกิจการโทรทัศน์ อัลจาซีรา ที่กำลังทำรายการ ด่าอัสซาดอย่างรุนแรงทุกวัน อ้อ กาตาร์ยังสนิทกับนาโต้ที่อยู่แถวอ่าวเปอร์เซียอีกด้วย เอาเป็นว่าแนบแน่น กับฝั่งตะวันตกอย่างยิ่งแล้วกัน
    ถ้าเปรียบกาตาร์เป็นเหมือนก๋วยเตี๋ยวชามเล็ก แต่ในชาม คงจะมีแต่เส้นใหญ่ล้นชาม
    และกาตาร์ก็มีแผนของตัวเอง เกี่ยวกับแหล่งแก๊สธรรมชาติเหมือนกัน
    กาตาร์บอกว่า ไม่สนใจจะไปมีส่วนร่วม ในท่อส่งแก๊สชีอะนี้เลย ตรงกันข้าม
    กาตาร์พร้อมที่จะทำทุกอย่าง ที่จะให้แผนท่อส่งของอิหร่านซีเรีย ย่อยยับไปกับมือ
    รวย แล้วยังตอแหล ไม่รู้เอานิสัยใครมา
    เมื่อปี ค.ศ.2009 Emir ผู้ครองนคร ของกาตาร์ ลงทุนบินไปเจรจากับอัสซาด ด้วยตัวเอง เกี่ยวกับแหล่งแก๊ส ส่วนของกาตาร์ ที่เรียกว่า นอร์ทโดม North Dome ที่อยู่ติดกับเซาท์พาส์ของอิหร่าน
    กาตาร์เอง ก็เป็นผู้ผลิตแก๊สรายใหญ่ ส่งขายทางเอเซียอยู่เหมือนกัน เมื่อมี นอร์ทโดมหล่นใส่ตัก จึงต้องการจะขยายตลาดไปทางอียู บ้าง แต่เดิม กาตาร์คิดจะสร้างท่อส่ง เส้นทางกาตาร์ ตุรกี ผ่านซาอุดิอารเบียทางใต้ ไปออกเมดิเตอร์เรเนียน ที่ซีเรีย แต่อัสซาดดันปฏิเสธหน้าตาเฉย บอกว่าเขามีไมตรีใกล้ชิดกับรัสเซีย เราทำแบบนี้กับเพื่อนไม่ได้หรอก
    Emir แห่งกาตาร์ ควันออกหู พกเอาความแค้นขึ้นเครื่องบินส่วนตัว ปีกขลิบทอง บินกลับบ้าน
    อัสซาดไม่เป็นนักการทูตเอาเลย แต่อัสซาดก็ไม่ได้โกหก หลังจากซีเรียทำสัญญาสร้างท่อส่งแก๊สกับอิหร่านในเดือนกรกฎาคม เดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ซีเรียเอง ก็ค้นพบแหล่งแก๊สธรรมชาติของตัว บ้าง ที่เมืองคารา Qara ใกล้กับเขตแดนด้านเลบานอน และใกล้กับท่าเรือทาร์ทัส Tartus ของรัสเซีย ที่เช่ามาจากซีเรีย อยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซีเรียตกลงว่า ไม่ว่าแก๊สจะมาจากอิหร่าน หรือเป็นของซีเรียเอง เวลาขนส่งไปอียู ก็ต้องมาขนกันที่ท่าเรือของรัสเซียนี้แหละ
    และจริงๆ ซีเรียก็ขี้เกียจจะพูด แก๊สของกาตาร์น่ะ ไม่ได้เศษของที่ซีเรียเพิ่งค้นพบ
    Asia Times ลงข่าวในช่วงนั้นว่า … กาตาร์เอง ก็มีแผนที่ส่งแก๊สของตน ออกไปทางอ่าว อคาบา Aqaba ของจอร์แดน ซึ่งพวกมุสลิม บราเธอร์ฮูด Muslim Brotherhood กำลังพยายามกระตุกหนวดกษัตริย์จอร์แดนอยู่ กาตาร์แสบขึ้นชั้น ไปตกลงกับพวกมุสลิมบราเธอร์ฮูด ด้วยข้อแลกเปลี่ยนว่า พวกคุณไปซ่าที่อื่นนอกบ้านกาตาร์นะ แล้วผมจะสนับสนุนพวกคุณเต็มที่….
    …..มุสลิมบราเธอร์ฮูด ที่กระจายอยู่เต็ม จอร์แดนและซีเรีย ซึ่งสนับสนุนโดยกาตาร์ อาจสามารถเปลี่ยนหน้าตาของเกมการเมือง เกี่ยวกับแก๊สที่เล่นกันอยู่ในภูมิภาคนี้ก็ได้ การเดินหมากของ
    กาตาร์นี้ ถ้าสำเร็จ นอกจากจะทำให้ฝั่งของรัสเซีย ซีเรีย อิหร่าน อิรัค เสียเปรียบแล้ว ยังอาจมีผล
    กระทบต่อจีน จนขาลากอีกด้วย…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    9 ต.ค. 2558
    ลองเชิง ตอนที่ 10 “ลองเชิง” ตอน 10 เวลาเกิดเหตุการณ์วุ่นวายรุนแรง นานเป็นปีๆ แถมตัวละครเข้าฉาก ก็หลากหลาย อย่างเรื่องซีเรีย นี่ มันก็น่าให้งง ตกลงใครเป็นคนเริ่ม ใครเป็นตัวชั่ว ใครเป็นตัวช่วย ใครเป็นตัวซวย แล้วจะแก้กันอย่างไร หรือจะจบอย่างไร ยิ่งตอนนี้ แบ่งค่ายแบ่งข้างกันค่อนข้างชัด แต่ก็ไม่แน่ว่า จะทำให้รู้เรื่องขึ้น มันดูยาก เพราะเขาวางแผนมาให้เป็นอย่างนั้น แน่นอน ฉากซีเรีย อเมริกาเกี่ยวข้องด้วยเต็มร้อย แม้จะไม่ได้ลงมือเองทั้งหมด แต่ที่น่าสงสัยคือ กลุ่มสิบเอ็ด มาเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย แล้วที่น่าสงสัยมากกว่า น่าจะเป็นการจับมือกัน ระหว่างซาอุดิอารเบีย กาตาร์ ตุรกี และอิสราเอล เพื่อถล่มอัสซาดให้พ้นไปจากซีเรียนั่นแหละ จะบอกว่าทั้งหมด เป็นลูกกระเป๋ง ลูกขุนพลอยพยัก หรือลูกหาบของอเมริกา มันก็ใช่ทั้งนั้น แต่มันคงไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์เท่านั้น มันคงมีอะไรมากกว่านั้น แก๊สธรรมชาติ ได้กลายเป็นสมบัติมีค่า อีกรายการหนึ่งในตะวันออกกลาง ไม่น่าเชื่อว่า สามล้อจะ ฟลุ๊กถูกหวย รางวัลใหญ่ ได้มากกว่า 1 ครั้ง แก๊ส ไม่ได้มีความหมายเฉพาะกับ เจ้าของแหล่งเท่านั้น แต่ยังมีความหมายกับอียู ยูเรเซีย รวมทั้งรัสเซีย ที่เป็นผู้ส่งออกแก๊ส และจีนผู้นำเข้าแก๊สอีกด้วย แก๊สธรรมชาติ เป็นพลังงานสะอาด ที่กำลังพุ่งแรง แซงพลังงานถ่านหิน นิวเคลียร์ และพลังไฟฟ้า ในยุโรป โดยเฉพาะที่เยอรมัน หลังจากเกิดเหตุการณ์ฟูกูชิมะของญี่ปุ่น และกำลังเป็นตัวเลือก ที่หลายประเทศในยุโรปกำลังเตรียมเอามาช่วยพยุงสิ่งแวดล้อมของโลก แปลว่า ยุโรป จะเป็นตลาดนำเข้าแก๊สที่ใหญ่มาก อีกตลาดหนึ่ง อย่างนี้ก็ต้องมีการเบียด การแซงกันหน่อย การค้นพบแหล่งแก๊สในอิหร่าน กาตาร์ ซีเรีย และอิสราเอล มีส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ฉากซีเรีย ถูกเร่งสร้างขึ้นมา ในเดือนกรฏาคม ค.ศ.2011 ขณะที่พวกลูกหาบนานาชาติ และกลุ่มเสี่ยปั๊มใหญ่ปั๊มเล็กในตะวันออกกลาง กำลังสวิงกันเต็มที่อยู่ในซีเรีย เพื่อหวดให้อัสซาดหล่นแท่นให้ได้ รัฐบาลของซีเรีย อิหร่านและอิรัค ก็กำลังลงนามในสัญญาสร้างท่อส่งแก๊ส โดยรอดสายตาอันแสนคมของสื่อตะวันตก ที่มัวแต่ทำข่าวการไล่หวดอัสซาด ท่อส่งแก๊สรายการนี้ คาดว่าจะต้องใช้ทุนถึง 1 หมื่นล้านเหรียญ และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี ท่อส่งนี้ จะเริ่มจากท่าเรือ อาซาลลูเย Assalouyeh ของอิหร่าน ซึ่งอยู่ใกล้กับแหล่งแก๊สเซาท์พาส์ South Pars ของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย ท่อส่งจะยาวไปถึงเมืองดามัสกัสของซีเรีย โดยผ่านเข้ามาในเขตแดนของอิรัค นอกจากนี้ อิหร่านยังมีแผน ที่จะขยายเส้นทางท่อส่งนี้ ไปถึงท่าเรือของเลบานอน ที่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วย จะได้ส่งแก๊สให้ถึงหน้าบ้านของพวกอียู ทั้งซีเรียและอิรัค ตกลงทำสัญญา จะซื้อแก๊สของอิหร่านล่วงหน้าแล้วด้วย เซาท์พาส์ South Pars ซึ่งเป็นแหล่งแก๊สธรรมชาติ ที่เชื่อกันว่า เป็นแหล่งแก๊สธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้ ที่ค้นพบ อยู่ในอ่าวเปอร์เซีย และมีเจ้าของ 2 ราย แบ่งกันตามเขตแดน รายหนึ่งคือ อิหร่าน อีกรายคือ กาตาร์ เริ่มเห็นสาเหตุจริง ของความวุ่นวายในซีเรียรางๆ แล้วใช่ไหมครับ เส้นทางท่อส่งแก๊สของอิหร่าน จึงถูกมอง และประทับตราว่า มันเป็นท่อส่งของพวกชีอะอิหร่าน ผ่านชีอะอิรัค ไปถึงเพื่อนชีอะ อัล อัสซาดแห่งซีเรีย และบางทีก็เรียกเส้นทางท่อส่งนี้ว่า เส้นทางท่อส่งอิสลาม Islamic Pipeline กาตาร์นั้น เหมือนเป็นสาขาต่างประเทศในตะวันออกกลาง ของเพนตากอน Pentagon หน่วยงานด้านความมั่นคงของอเมริกา มีตั้งแต่สำนักงานใหญ่ของ Air Forces Central, หน่วยประจำการรบทางอากาศที่ 83 และหน่วยที่ 379 ของกองทัพอากาศ อยู่ที่กาตาร์ และกาตาร์ยังมีสัมพันธ์ชนิดแน่น แบบแกะแทบไม่ออก กับอีกหลายหน่วยงานของอเมริกา และอังกฤษ รวมทั้งเป็นเจ้าของกิจการโทรทัศน์ อัลจาซีรา ที่กำลังทำรายการ ด่าอัสซาดอย่างรุนแรงทุกวัน อ้อ กาตาร์ยังสนิทกับนาโต้ที่อยู่แถวอ่าวเปอร์เซียอีกด้วย เอาเป็นว่าแนบแน่น กับฝั่งตะวันตกอย่างยิ่งแล้วกัน ถ้าเปรียบกาตาร์เป็นเหมือนก๋วยเตี๋ยวชามเล็ก แต่ในชาม คงจะมีแต่เส้นใหญ่ล้นชาม และกาตาร์ก็มีแผนของตัวเอง เกี่ยวกับแหล่งแก๊สธรรมชาติเหมือนกัน กาตาร์บอกว่า ไม่สนใจจะไปมีส่วนร่วม ในท่อส่งแก๊สชีอะนี้เลย ตรงกันข้าม กาตาร์พร้อมที่จะทำทุกอย่าง ที่จะให้แผนท่อส่งของอิหร่านซีเรีย ย่อยยับไปกับมือ รวย แล้วยังตอแหล ไม่รู้เอานิสัยใครมา เมื่อปี ค.ศ.2009 Emir ผู้ครองนคร ของกาตาร์ ลงทุนบินไปเจรจากับอัสซาด ด้วยตัวเอง เกี่ยวกับแหล่งแก๊ส ส่วนของกาตาร์ ที่เรียกว่า นอร์ทโดม North Dome ที่อยู่ติดกับเซาท์พาส์ของอิหร่าน กาตาร์เอง ก็เป็นผู้ผลิตแก๊สรายใหญ่ ส่งขายทางเอเซียอยู่เหมือนกัน เมื่อมี นอร์ทโดมหล่นใส่ตัก จึงต้องการจะขยายตลาดไปทางอียู บ้าง แต่เดิม กาตาร์คิดจะสร้างท่อส่ง เส้นทางกาตาร์ ตุรกี ผ่านซาอุดิอารเบียทางใต้ ไปออกเมดิเตอร์เรเนียน ที่ซีเรีย แต่อัสซาดดันปฏิเสธหน้าตาเฉย บอกว่าเขามีไมตรีใกล้ชิดกับรัสเซีย เราทำแบบนี้กับเพื่อนไม่ได้หรอก Emir แห่งกาตาร์ ควันออกหู พกเอาความแค้นขึ้นเครื่องบินส่วนตัว ปีกขลิบทอง บินกลับบ้าน อัสซาดไม่เป็นนักการทูตเอาเลย แต่อัสซาดก็ไม่ได้โกหก หลังจากซีเรียทำสัญญาสร้างท่อส่งแก๊สกับอิหร่านในเดือนกรกฎาคม เดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ซีเรียเอง ก็ค้นพบแหล่งแก๊สธรรมชาติของตัว บ้าง ที่เมืองคารา Qara ใกล้กับเขตแดนด้านเลบานอน และใกล้กับท่าเรือทาร์ทัส Tartus ของรัสเซีย ที่เช่ามาจากซีเรีย อยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซีเรียตกลงว่า ไม่ว่าแก๊สจะมาจากอิหร่าน หรือเป็นของซีเรียเอง เวลาขนส่งไปอียู ก็ต้องมาขนกันที่ท่าเรือของรัสเซียนี้แหละ และจริงๆ ซีเรียก็ขี้เกียจจะพูด แก๊สของกาตาร์น่ะ ไม่ได้เศษของที่ซีเรียเพิ่งค้นพบ Asia Times ลงข่าวในช่วงนั้นว่า … กาตาร์เอง ก็มีแผนที่ส่งแก๊สของตน ออกไปทางอ่าว อคาบา Aqaba ของจอร์แดน ซึ่งพวกมุสลิม บราเธอร์ฮูด Muslim Brotherhood กำลังพยายามกระตุกหนวดกษัตริย์จอร์แดนอยู่ กาตาร์แสบขึ้นชั้น ไปตกลงกับพวกมุสลิมบราเธอร์ฮูด ด้วยข้อแลกเปลี่ยนว่า พวกคุณไปซ่าที่อื่นนอกบ้านกาตาร์นะ แล้วผมจะสนับสนุนพวกคุณเต็มที่…. …..มุสลิมบราเธอร์ฮูด ที่กระจายอยู่เต็ม จอร์แดนและซีเรีย ซึ่งสนับสนุนโดยกาตาร์ อาจสามารถเปลี่ยนหน้าตาของเกมการเมือง เกี่ยวกับแก๊สที่เล่นกันอยู่ในภูมิภาคนี้ก็ได้ การเดินหมากของ กาตาร์นี้ ถ้าสำเร็จ นอกจากจะทำให้ฝั่งของรัสเซีย ซีเรีย อิหร่าน อิรัค เสียเปรียบแล้ว ยังอาจมีผล กระทบต่อจีน จนขาลากอีกด้วย… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 9 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดราม่าในรั้วมหาวิทยาลัย: นักศึกษาปริญญาเอก UC Berkeley ถูกจับฐานทำลายคอมพิวเตอร์เพื่อน

    เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ภาควิชา Electrical Engineering and Computer Sciences ของ UC Berkeley เมื่อศาสตราจารย์สังเกตว่ามีคอมพิวเตอร์ของนักศึกษาคนหนึ่งเสียหายบ่อยผิดปกติ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 46,000 ดอลลาร์สหรัฐ จึงตัดสินใจติดตั้งกล้องแอบถ่ายเพื่อหาสาเหตุ

    กล้องจับภาพขณะก่อเหตุ
    กล้องสามารถบันทึกภาพนักศึกษาปริญญาเอกอีกคนหนึ่งชื่อ Jiarui Zou อายุ 26 ปี กำลังใช้เครื่องมือทำลายคอมพิวเตอร์ของเพื่อนร่วมงาน จนถึงขั้นทำให้เกิดประกายไฟออกจากเครื่อง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงวันที่ 9–10 พฤศจิกายน และสร้างความเสียหายต่อคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 3 เครื่อง

    การดำเนินคดีและข้อกล่าวหา
    Zou ถูกจับกุมที่บ้านพักใน Berkeley เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน และถูกตั้งข้อหา 3 กระทงความผิดฐานทำลายทรัพย์สิน (felony vandalism) โดยแต่ละกรณีมีมูลค่าความเสียหายเกิน 400 ดอลลาร์ แม้จะปฏิเสธการให้การกับตำรวจ แต่หลักฐานจากวิดีโอทำให้คดีถูกนำขึ้นศาลในวันที่ 15 ธันวาคม

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการวิชาการ
    กรณีนี้สะท้อนถึงแรงกดดันและการแข่งขันในระดับบัณฑิตศึกษา โดยเฉพาะในสาขาวิศวกรรมและวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มีการแข่งขันสูง นักวิชาการบางส่วนชี้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างของ “academic sabotage” ซึ่งแม้จะพบไม่บ่อย แต่ก็สร้างผลกระทบต่อชื่อเสียงของสถาบันและความไว้วางใจในชุมชนวิจัย

    สรุปสาระสำคัญ
    ศาสตราจารย์ UC Berkeley ติดตั้งกล้องแอบถ่าย
    พบความเสียหายสะสมกว่า 46,000 ดอลลาร์

    กล้องจับภาพ Jiarui Zou ก่อเหตุ
    ทำลายคอมพิวเตอร์เพื่อนร่วมงานจนเกิดประกายไฟ

    ถูกตั้งข้อหา 3 กระทง felony vandalism
    แต่ละกรณีมีมูลค่าความเสียหายเกิน 400 ดอลลาร์

    ความเสี่ยงจากการแข่งขันในวงการวิชาการ
    อาจนำไปสู่การก่อเหตุทำลายหรือ sabotage

    ผลกระทบต่อชื่อเสียงและความไว้วางใจ
    สร้างบรรยากาศไม่ปลอดภัยในชุมชนวิจัย

    https://www.tomshardware.com/laptops/uc-berkeley-ph-d-candidate-busted-by-hidden-camera-repeatedly-sabotaging-rival-students-computer-arrested-on-three-felony-counts-may-have-caused-usd46-000-in-damage
    🎓 ดราม่าในรั้วมหาวิทยาลัย: นักศึกษาปริญญาเอก UC Berkeley ถูกจับฐานทำลายคอมพิวเตอร์เพื่อน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ภาควิชา Electrical Engineering and Computer Sciences ของ UC Berkeley เมื่อศาสตราจารย์สังเกตว่ามีคอมพิวเตอร์ของนักศึกษาคนหนึ่งเสียหายบ่อยผิดปกติ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 46,000 ดอลลาร์สหรัฐ จึงตัดสินใจติดตั้งกล้องแอบถ่ายเพื่อหาสาเหตุ 🔍 กล้องจับภาพขณะก่อเหตุ กล้องสามารถบันทึกภาพนักศึกษาปริญญาเอกอีกคนหนึ่งชื่อ Jiarui Zou อายุ 26 ปี กำลังใช้เครื่องมือทำลายคอมพิวเตอร์ของเพื่อนร่วมงาน จนถึงขั้นทำให้เกิดประกายไฟออกจากเครื่อง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงวันที่ 9–10 พฤศจิกายน และสร้างความเสียหายต่อคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 3 เครื่อง ⚖️ การดำเนินคดีและข้อกล่าวหา Zou ถูกจับกุมที่บ้านพักใน Berkeley เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน และถูกตั้งข้อหา 3 กระทงความผิดฐานทำลายทรัพย์สิน (felony vandalism) โดยแต่ละกรณีมีมูลค่าความเสียหายเกิน 400 ดอลลาร์ แม้จะปฏิเสธการให้การกับตำรวจ แต่หลักฐานจากวิดีโอทำให้คดีถูกนำขึ้นศาลในวันที่ 15 ธันวาคม 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการวิชาการ กรณีนี้สะท้อนถึงแรงกดดันและการแข่งขันในระดับบัณฑิตศึกษา โดยเฉพาะในสาขาวิศวกรรมและวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มีการแข่งขันสูง นักวิชาการบางส่วนชี้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างของ “academic sabotage” ซึ่งแม้จะพบไม่บ่อย แต่ก็สร้างผลกระทบต่อชื่อเสียงของสถาบันและความไว้วางใจในชุมชนวิจัย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ศาสตราจารย์ UC Berkeley ติดตั้งกล้องแอบถ่าย ➡️ พบความเสียหายสะสมกว่า 46,000 ดอลลาร์ ✅ กล้องจับภาพ Jiarui Zou ก่อเหตุ ➡️ ทำลายคอมพิวเตอร์เพื่อนร่วมงานจนเกิดประกายไฟ ✅ ถูกตั้งข้อหา 3 กระทง felony vandalism ➡️ แต่ละกรณีมีมูลค่าความเสียหายเกิน 400 ดอลลาร์ ‼️ ความเสี่ยงจากการแข่งขันในวงการวิชาการ ⛔ อาจนำไปสู่การก่อเหตุทำลายหรือ sabotage ‼️ ผลกระทบต่อชื่อเสียงและความไว้วางใจ ⛔ สร้างบรรยากาศไม่ปลอดภัยในชุมชนวิจัย https://www.tomshardware.com/laptops/uc-berkeley-ph-d-candidate-busted-by-hidden-camera-repeatedly-sabotaging-rival-students-computer-arrested-on-three-felony-counts-may-have-caused-usd46-000-in-damage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดรับสมัครแล้ว !!!!!!!

    ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดสอนหลักสูตรสรีรวิทยาการแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ) ซึ่งหลักสูตรมุ่งผลิตบัณฑิตที่เชี่ยวชาญด้านทฤษฎีและปฏิบัติทางสรีรวิทยาการแพทย์ มีคุณธรรมและจริยธรรมวิชาชีพ พร้อมใช้งานเทคโนโลยีสมัยใหม่และพัฒนาตนเองตลอดชีวิต โดยเปิดรับสมัครผู้สนใจศึกษาในหลักสูตรฯ ปีการศึกษา 2569 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2569 ทางเว็บไซต์บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล https://graduate.mahidol.ac.th/thai

    ในการนี้ ภาควิชาสรีรวิทยา จึงขอความอนุเคราะห์ประชาสัมพันธ์การเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต และ หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสรีรวิทยาการแพทย์ (นานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2569 ตามรายละเอียดที่ส่งมาด้วย (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุนทรี มีชำนาญ โทร 0 2419 8309, email: soontaree.mee@mahidol.ac.th)
    เปิดรับสมัครแล้ว !!!!!!! ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดสอนหลักสูตรสรีรวิทยาการแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ) ซึ่งหลักสูตรมุ่งผลิตบัณฑิตที่เชี่ยวชาญด้านทฤษฎีและปฏิบัติทางสรีรวิทยาการแพทย์ มีคุณธรรมและจริยธรรมวิชาชีพ พร้อมใช้งานเทคโนโลยีสมัยใหม่และพัฒนาตนเองตลอดชีวิต โดยเปิดรับสมัครผู้สนใจศึกษาในหลักสูตรฯ ปีการศึกษา 2569 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2569 ทางเว็บไซต์บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล https://graduate.mahidol.ac.th/thai ในการนี้ ภาควิชาสรีรวิทยา จึงขอความอนุเคราะห์ประชาสัมพันธ์การเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต และ หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสรีรวิทยาการแพทย์ (นานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2569 ตามรายละเอียดที่ส่งมาด้วย (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุนทรี มีชำนาญ โทร 0 2419 8309, email: soontaree.mee@mahidol.ac.th)
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาป้าลิ้ม สาขาเฉลิมพระเกียรติ #กินอะไรดี #ของดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #ต้องลอง #อาหาร #กิน #อร่อย #food #noodle #eat #thaifood #streetfood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาป้าลิ้ม สาขาเฉลิมพระเกียรติ #กินอะไรดี #ของดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #ต้องลอง #อาหาร #กิน #อร่อย #food #noodle #eat #thaifood #streetfood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷

    #รวมข่าวIT #20251209 #securityonline


    ช่องโหว่ Bluetooth เสี่ยงทำรถอัจฉริยะและ Wear OS ค้าง
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่อาจทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ส่งผลให้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์ Wear OS เกิดการค้างหรือหยุดทำงานได้ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในรหัส CVE-2025-48593 และมีการเผยแพร่ PoC (Proof of Concept) แล้ว ซึ่งหมายความว่ามีตัวอย่างการโจมตีที่สามารถนำไปใช้จริงได้ แม้รายงานฉบับเต็มจะเปิดให้เฉพาะผู้สนับสนุน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความเสี่ยงที่ผู้ใช้รถยนต์และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะต้องเผชิญ หากไม่ได้รับการอัปเดตแก้ไขอย่างทันท่วงที
    https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool เสี่ยงข้อมูลรั่วและระบบล่ม
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในเครื่องมือ Duc ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ใช้สำหรับตรวจสอบและแสดงผลการใช้งานดิสก์บนระบบ Linux ช่องโหว่นี้คือ CVE-2025-13654 เกิดจาก integer underflow ในฟังก์ชัน buffer_get ที่ทำให้เกิด buffer overflow ได้ หากผู้โจมตีส่งข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจง จะสามารถทำให้โปรแกรมล่ม (DoS) หรือดึงข้อมูลจากหน่วยความจำที่ไม่ควรถูกเข้าถึงได้ ปัญหานี้กระทบต่อทุกเวอร์ชันก่อน 1.4.6 และทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow

    มัลแวร์ SeedSnatcher บน Android ล่าขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้คริปโต
    มัลแวร์ใหม่ชื่อว่า “SeedSnatcher” กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใช้คริปโต โดยมันปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินชื่อ “Coin” และถูกเผยแพร่ผ่าน Telegram และโซเชียลต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง มัลแวร์จะสร้างหน้าจอหลอกเลียนแบบกระเป๋าเงินยอดนิยม เช่น MetaMask หรือ Trust Wallet เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase จากนั้นมันจะตรวจสอบคำที่กรอกด้วย wordlist ของ BIP 39 เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้อง ก่อนส่งข้อมูลไปยังผู้โจมตี นอกจากนี้ยังสามารถดักจับ SMS, ข้อมูลติดต่อ, บันทึกการโทร และสั่งการเครื่องจากระยะไกลได้ หลักฐานบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้โจมตีมีการจัดการแบบมืออาชีพและมีต้นทางจากจีนหรือผู้พูดภาษาจีน
    https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases

    Meta ปรับปรุงระบบช่วยเหลือด้วย AI Assistant และ Recovery Hub ใหม่
    Meta ยอมรับว่าระบบช่วยเหลือผู้ใช้ Facebook และ Instagram ที่ผ่านมา “ล้มเหลว” จนผู้ใช้จำนวนมากต้องหาทางแก้ไขด้วยตัวเองหรือแม้กระทั่งฟ้องร้อง ล่าสุดบริษัทประกาศเปิดตัว Support Hub ใหม่ที่รวมทุกเครื่องมือช่วยเหลือไว้ในที่เดียว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI Chat ให้ผู้ใช้สอบถามปัญหาได้ทันที อีกทั้งยังมี AI Assistant ที่ช่วยในกระบวนการกู้คืนบัญชี เช่น การตรวจจับอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย และการยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอเซลฟี่ Meta ระบุว่าการปรับปรุงนี้ทำให้อัตราการกู้คืนบัญชีที่ถูกแฮ็กในสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่มขึ้นกว่า 30% อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้เลย การเข้าถึง Support Hub ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ และการติดต่อเจ้าหน้าที่จริงยังคงต้องพึ่งบริการแบบเสียเงิน
    https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs

    EU ปรับ X €120 ล้าน ฐานละเมิด DSA ด้วยการตรวจสอบ Blue Check ที่หลอกลวง
    สหภาพยุโรปได้สั่งปรับแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เป็นเงิน 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีด้วย Blue Check ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” ระบบดังกล่าวทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าบัญชีที่จ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายนี้เป็นบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบจริง ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจสอบตัวตนอย่างเข้มงวด EU จึงมองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่โปร่งใสและเป็นการละเมิดกฎหมาย การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของ EU ในการบังคับใช้ DSA และอาจเป็นสัญญาณเตือนให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องระมัดระวังมากขึ้น
    https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification

    CastleRAT มัลแวร์ใหม่ใช้ Steam เป็นช่องทางซ่อนตัว
    มีการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อ CastleRAT ที่ถูกออกแบบมาให้แอบแฝงเข้าไปในระบบองค์กรเพื่อขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องจากระยะไกล จุดที่น่ากังวลคือเวอร์ชันที่ถูกเขียนด้วยภาษา C ซึ่งมีความสามารถซ่อนตัวได้แนบเนียนกว่าเวอร์ชัน Python และยังทำได้หลายอย่าง เช่น ดักจับการพิมพ์, แอบถ่ายหน้าจอ, ขโมยข้อมูลจาก clipboard รวมถึงการควบคุมเบราว์เซอร์โดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว ที่สำคัญ CastleRAT ยังใช้หน้า Community ของ Steam เป็นที่ซ่อนคำสั่ง ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนการใช้งานปกติ ปัจจุบันนักวิจัยได้ออกแนวทางตรวจจับเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยนี้ได้
    https://securityonline.info/sophisticated-castlerat-backdoor-uses-steam-community-pages-as-covert-c2-resolver-for-espionage

    LockBit 5.0 กลับมาอีกครั้งพร้อมความร้ายแรงกว่าเดิม
    หลังจากที่ปฏิบัติการ Cronos เคยทำให้กลุ่ม LockBit ถูกปราบไปเมื่อปี 2024 หลายคนคิดว่าภัยนี้จบแล้ว แต่ล่าสุด LockBit ได้กลับมาในเวอร์ชันใหม่ชื่อ LockBit 5.0 ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม จุดเด่นคือสามารถทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Linux และ VMware ESXi พร้อมโหมดล่องหนที่เข้ารหัสไฟล์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และโหมดลบข้อมูลถาวรที่ทำให้การกู้คืนแทบเป็นไปไม่ได้ ที่น่ากลัวคือมันยังปิดการทำงานของระบบ Event Tracing ของ Windows ทำให้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยมองไม่เห็นการโจมตี การกลับมาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มอาชญากรไซเบอร์ยังคงพัฒนาไม่หยุดและองค์กรต้องเตรียมรับมืออย่างจริงจัง
    https://securityonline.info/lockbit-5-0-resurfaces-stronger-new-variant-blinds-defenders-by-disabling-windows-etw-for-stealth-encryption

    Windows 11 เพิ่มตัวเลือกปิดเมนู AI ใน File Explorer
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่าการคลิกขวาไฟล์รูปภาพแล้วเจอเมนู AI มากมาย เช่น การค้นหาด้วย Bing หรือการแก้ไขด้วย Paint, Photos ทำให้เมนูรกและใช้งานไม่สะดวก ล่าสุด Microsoft ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ใน Build 26220.7344 ที่ให้ผู้ใช้สามารถปิดการแสดงเมนู AI ได้ทั้งหมด แม้จะยังไม่สามารถซ่อน shortcut ที่อยู่ด้านล่างเมนูได้ แต่ก็ถือเป็นการตอบรับเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ที่อยากได้เมนูที่เรียบง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในเวอร์ชันทดสอบและจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต
    https://securityonline.info/ai-clutter-solved-windows-11-adds-setting-to-disable-ai-actions-in-file-explorer-menu

    ศาลสหรัฐจำกัดสัญญา Default Search ของ Google เหลือ 1 ปี
    จากคดีฟ้องร้องผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐต่อ Google ล่าสุดผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำสั่งใหม่ที่บังคับให้สัญญาที่ Google ทำกับผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อให้บริการค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้น ต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปีเท่านั้น เดิมที Google มักทำสัญญาระยะยาว เช่น ดีลกับ Apple ที่ทำให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบน iPhone การจำกัดสัญญาเหลือปีต่อปีจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งอย่าง Bing หรือ DuckDuckGo มีสิทธิ์เข้ามาแข่งขันมากขึ้น ถือเป็นการแก้ปัญหาผูกขาดโดยไม่ต้องบังคับให้ Google แยกธุรกิจ Chrome ออกไป
    https://securityonline.info/google-antitrust-remedy-judge-limits-default-search-contracts-to-one-year-term

    INE ได้รับรางวัล G2 Winter 2026 หลายสาขา
    แพลตฟอร์มฝึกอบรมด้าน IT และ Cybersecurity อย่าง INE ได้รับการยอมรับจาก G2 ด้วยรางวัลถึง 7 หมวดหมู่ในฤดูหนาวปี 2026 ทั้งตำแหน่ง Leader และ Momentum Leader รวมถึงการเป็นผู้นำในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และเอเชียแปซิฟิก รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้ทั่วโลกที่เลือก INE เพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคนิคและความปลอดภัยไซเบอร์ หลายรีวิวชื่นชมว่าคอร์สของ INE สามารถนำไปใช้จริงในงานได้ทันที และใบรับรองจาก INE ก็ได้รับการยอมรับในวงการ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ INE ในการสร้างบุคลากรด้าน IT ที่มีคุณภาพ
    https://securityonline.info/ine-earns-g2-winter-2026-badges-across-global-markets

    SpaceX เตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งใหม่
    SpaceX กำลังวางแผนทดสอบการบินของจรวด Starship อีกครั้ง โดยครั้งนี้ตั้งเป้าให้การปล่อยและการลงจอดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่การทดสอบก่อนหน้านี้มีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว จุดเด่นของ Starship คือการออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศอย่างมหาศาล Elon Musk ยังย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดคือการใช้ Starship พามนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร การทดสอบครั้งนี้จึงถูกจับตามองจากทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้สนใจอวกาศทั่วโลก
    https://securityonline.info/spacex-prepares-next-starship-test-flight

    Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่พร้อมฟีเจอร์ AI
    Apple ได้เปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมการผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาในหลายฟังก์ชัน เช่น การปรับแต่งภาพถ่ายอัตโนมัติ, การช่วยเขียนข้อความ และการจัดการงานประจำวันด้วย Siri ที่ฉลาดขึ้น จุดขายสำคัญคือการทำงานแบบ On-device AI ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่และกล้องที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ iPhone รุ่นใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม
    https://securityonline.info/apple-launches-new-iphone-with-ai-features

    Microsoft เปิดตัว Copilot เวอร์ชันใหม่สำหรับธุรกิจ
    Microsoft ได้เปิดตัว Copilot เวอร์ชันล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผสานเข้ากับแอปพลิเคชันหลักอย่าง Word, Excel และ Teams จุดเด่นคือการใช้ AI ช่วยสรุปข้อมูล, สร้างรายงาน และตอบคำถามจากฐานข้อมูลภายในองค์กรได้ทันที ทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น Copilot ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญจะไม่รั่วไหล
    https://securityonline.info/microsoft-unveils-new-copilot-for-business

    เกมใหม่จาก Ubisoft ใช้ AI สร้างโลกเสมือนจริง
    Ubisoft ได้ประกาศเปิดตัวเกมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างโลกเสมือนจริงแบบไดนามิก ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้งที่เล่น ตัวละคร NPC สามารถตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างสมจริงและมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ นี่ถือเป็นการยกระดับวงการเกมที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนาเข้ากับพลังของ AI เพื่อสร้างโลกที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความท้าทาย
    https://securityonline.info/ubisoft-announces-ai-powered-game

    Meta เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับนักข่าว
    Meta ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักข่าวในการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขียนบทความได้รวดเร็วขึ้น เครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกันและสรุปออกมาเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้นักข่าวสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและลดเวลาในการตรวจสอบข่าวปลอม นอกจากนี้ Meta ยังย้ำว่าจะมีระบบตรวจสอบเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างข่าวปลอมเอง ถือเป็นการพยายามสร้างความเชื่อมั่นในวงการสื่อ
    https://securityonline.info/meta-launches-ai-tools-for-journalists

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ที่ถูกโจมตีจริงในอุปกรณ์เครือข่ายสองค่ายใหญ่ คือเร้าเตอร์รุ่นเก่าของ D-Link และระบบ Array Networks ที่ใช้งานในญี่ปุ่น ช่องโหว่แรกเป็น Buffer Overflow ที่ไม่มีการอัปเดตแก้ไขเพราะอุปกรณ์หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบเปลี่ยนเครื่องใหม่ ส่วนช่องโหว่ที่สองคือการ Inject คำสั่งใน ArrayOS ซึ่งแฮกเกอร์ใช้วาง backdoor และ webshell เพื่อควบคุมระบบจากระยะไกล หน่วยงาน JPCERT ของญี่ปุ่นยืนยันว่ามีการโจมตีจริงตั้งแต่เดือนสิงหาคม และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่หรือปิดฟีเจอร์ Desktop Direct เพื่อป้องกันภัย
    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack

    Samsung พลิกฟื้นโรงงานผลิตชิป 4nm
    หลังจากเจอปัญหาผลิตชิปไม่คงที่จนเสียลูกค้ารายใหญ่ไป Samsung Foundry เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อสามารถยกระดับอัตราการผลิตชิป 4nm ให้ได้ผลสำเร็จถึง 60–70% และคว้าออเดอร์ใหญ่จากสตาร์ทอัพ AI สัญชาติอเมริกัน Tsavorite มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ สัญญานี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าซัมซุงยังมีศักยภาพแข่งขันกับ TSMC ได้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี 2nm ที่เตรียมใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy S26 อีกด้วย
    https://securityonline.info/samsung-foundry-hits-60-4nm-yield-secures-100m-ai-chip-order-from-tsavorite

    โค้ดโฆษณาในแอป ChatGPT Android จุดกระแสถกเถียง
    นักพัฒนาพบโค้ดที่ดูเหมือนระบบโฆษณาในแอป ChatGPT เวอร์ชันทดสอบบน Android ทำให้เกิดการคาดเดาว่า OpenAI อาจเตรียมใส่โฆษณาในบริการ แต่ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ OpenAI รีบออกมาปฏิเสธทันทีว่าบริษัทไม่ได้ทดสอบฟีเจอร์โฆษณาในตอนนี้ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ปิดโอกาสในอนาคต โดยย้ำว่าหากมีการนำโฆษณามาใช้จริง จะทำด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เนื่องจาก ChatGPT มีผู้ใช้งานมหาศาลกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์
    https://securityonline.info/ad-code-found-in-chatgpt-android-build-openai-denies-current-advertising-tests

    AI จับได้ GhostPenguin มัลแวร์ลินุกซ์สุดลึกลับ
    นักวิจัยจาก Trend Micro ใช้ระบบ AI ตรวจจับพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ GhostPenguin ที่ซ่อนตัวอยู่ในระบบลินุกซ์โดยไม่ถูกตรวจจับนานหลายเดือน มัลแวร์นี้เขียนด้วย C++ มีความสามารถสูงในการควบคุมเครื่องจากระยะไกลผ่านการสื่อสารแบบ UDP ที่เข้ารหัสด้วย RC5 ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ จุดเด่นคือการทำงานแบบหลายเธรด ทำให้มัลแวร์ยังคงตอบสนองแม้บางส่วนของโค้ดหยุดทำงาน การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าการใช้ AI ในการล่ามัลแวร์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
    https://securityonline.info/ai-uncovers-ghostpenguin-undetectable-linux-backdoor-used-rc5-encrypted-udp-for-covert-c2

    Shanya Crypter เครื่องมือใหม่ของแก๊งแรนซัมแวร์
    Sophos รายงานการพบเครื่องมือใหม่ชื่อ Shanya Crypter ซึ่งเป็นบริการ “packer-as-a-service” ที่ช่วยให้กลุ่มแรนซัมแวร์สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือนี้ใช้เทคนิคซับซ้อน เช่น การซ่อนโค้ดใน DLL ของระบบ Windows และการใช้ driver ที่มีช่องโหว่เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกัน (EDR Killer) ก่อนปล่อยแรนซัมแวร์เข้ามาโจมตี ทำให้การป้องกันยากขึ้นมาก กลุ่ม Akira, Medusa และ Qilin ถูกระบุว่าเป็นผู้ใช้งานหลักของเครื่องมือนี้ และมีการแพร่กระจายไปหลายประเทศแล้ว
    https://securityonline.info/shanya-crypter-is-the-new-ransomware-toolkit-uses-kernel-driver-abuse-to-kill-edr

    Microsoft เปิดตัว Copilot+ PC
    ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Copilot+ PC ซึ่งมาพร้อมชิป Snapdragon X Elite และ X Plus ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานแบบ “AI on-device” เช่น ฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยค้นหาสิ่งที่เคยทำบนเครื่องได้เหมือนย้อนเวลา และการใช้ Copilot ในการสร้างภาพหรือข้อความได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ถือเป็นการยกระดับ Windows ให้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานประจำวัน
    https://securityonline.info/microsoft-unveils-copilot-pc-powered-by-snapdragon-x-elite-and-x-plus

    Google DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3
    DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ที่ใช้ทำนายโครงสร้างโมเลกุลและปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาได้แม่นยำยิ่งขึ้น จากเดิมที่ AlphaFold 2 สร้างความฮือฮาในการทำนายโครงสร้างโปรตีน ตอนนี้ AlphaFold 3 ก้าวไปอีกขั้นด้วยการจำลองการทำงานของ DNA, RNA และโมเลกุลขนาดเล็กที่ซับซ้อนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะช่วยเร่งการค้นคว้ายาใหม่และการวิจัยทางการแพทย์ได้อย่างมหาศาล
    https://securityonline.info/google-deepmind-launches-alphafold-3-ai-model-for-molecular-science

    SpaceX ส่งดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่
    SpaceX ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม ดาวเทียมรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและสามารถให้บริการในพื้นที่ห่างไกลได้ดีกว่าเดิม การปล่อยครั้งนี้ยังตอกย้ำความตั้งใจของ SpaceX ที่จะขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
    https://securityonline.info/spacex-launches-next-gen-starlink-satellites-for-faster-global-internet

    Sony เปิดตัว PlayStation 5 Pro
    Sony เปิดตัวเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 Pro ที่มาพร้อมประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น รองรับการเล่นเกม 8K และมีระบบ Ray Tracing ที่สมจริงกว่าเดิม จุดขายคือการใช้ชิปใหม่ที่ทำให้เฟรมเรตเสถียรขึ้นแม้ในเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ นักวิเคราะห์เชื่อว่า PS5 Pro จะช่วยดึงดูดนักเล่นเกมที่ต้องการประสบการณ์ภาพสมจริงและเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ PS5 รุ่นปัจจุบัน
    https://securityonline.info/sony-unveils-playstation-5-pro-with-8k-gaming-and-ray-tracing

    WHO เตือนการระบาดของโรคใหม่
    องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับการระบาดของโรคใหม่ที่มีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่แพร่กระจายเร็วกว่า โดยพบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศแล้ว และกำลังเร่งตรวจสอบสายพันธุ์เพื่อหาวิธีควบคุมการแพร่ระบาด WHO แนะนำให้ประเทศต่างๆ เตรียมมาตรการรับมือและเพิ่มการตรวจสอบในสนามบินและด่านชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/who-issues-warning-on-new-fast-spreading-flu-like-disease
    📌🔐🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔐📌 #รวมข่าวIT #20251209 #securityonline 🔐 ช่องโหว่ Bluetooth เสี่ยงทำรถอัจฉริยะและ Wear OS ค้าง เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่อาจทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ส่งผลให้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์ Wear OS เกิดการค้างหรือหยุดทำงานได้ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในรหัส CVE-2025-48593 และมีการเผยแพร่ PoC (Proof of Concept) แล้ว ซึ่งหมายความว่ามีตัวอย่างการโจมตีที่สามารถนำไปใช้จริงได้ แม้รายงานฉบับเต็มจะเปิดให้เฉพาะผู้สนับสนุน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความเสี่ยงที่ผู้ใช้รถยนต์และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะต้องเผชิญ หากไม่ได้รับการอัปเดตแก้ไขอย่างทันท่วงที 🔗 https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os 💻 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool เสี่ยงข้อมูลรั่วและระบบล่ม มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในเครื่องมือ Duc ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ใช้สำหรับตรวจสอบและแสดงผลการใช้งานดิสก์บนระบบ Linux ช่องโหว่นี้คือ CVE-2025-13654 เกิดจาก integer underflow ในฟังก์ชัน buffer_get ที่ทำให้เกิด buffer overflow ได้ หากผู้โจมตีส่งข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจง จะสามารถทำให้โปรแกรมล่ม (DoS) หรือดึงข้อมูลจากหน่วยความจำที่ไม่ควรถูกเข้าถึงได้ ปัญหานี้กระทบต่อทุกเวอร์ชันก่อน 1.4.6 และทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow 📱 มัลแวร์ SeedSnatcher บน Android ล่าขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้คริปโต มัลแวร์ใหม่ชื่อว่า “SeedSnatcher” กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใช้คริปโต โดยมันปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินชื่อ “Coin” และถูกเผยแพร่ผ่าน Telegram และโซเชียลต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง มัลแวร์จะสร้างหน้าจอหลอกเลียนแบบกระเป๋าเงินยอดนิยม เช่น MetaMask หรือ Trust Wallet เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase จากนั้นมันจะตรวจสอบคำที่กรอกด้วย wordlist ของ BIP 39 เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้อง ก่อนส่งข้อมูลไปยังผู้โจมตี นอกจากนี้ยังสามารถดักจับ SMS, ข้อมูลติดต่อ, บันทึกการโทร และสั่งการเครื่องจากระยะไกลได้ หลักฐานบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้โจมตีมีการจัดการแบบมืออาชีพและมีต้นทางจากจีนหรือผู้พูดภาษาจีน 🔗 https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases 🤖 Meta ปรับปรุงระบบช่วยเหลือด้วย AI Assistant และ Recovery Hub ใหม่ Meta ยอมรับว่าระบบช่วยเหลือผู้ใช้ Facebook และ Instagram ที่ผ่านมา “ล้มเหลว” จนผู้ใช้จำนวนมากต้องหาทางแก้ไขด้วยตัวเองหรือแม้กระทั่งฟ้องร้อง ล่าสุดบริษัทประกาศเปิดตัว Support Hub ใหม่ที่รวมทุกเครื่องมือช่วยเหลือไว้ในที่เดียว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI Chat ให้ผู้ใช้สอบถามปัญหาได้ทันที อีกทั้งยังมี AI Assistant ที่ช่วยในกระบวนการกู้คืนบัญชี เช่น การตรวจจับอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย และการยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอเซลฟี่ Meta ระบุว่าการปรับปรุงนี้ทำให้อัตราการกู้คืนบัญชีที่ถูกแฮ็กในสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่มขึ้นกว่า 30% อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้เลย การเข้าถึง Support Hub ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ และการติดต่อเจ้าหน้าที่จริงยังคงต้องพึ่งบริการแบบเสียเงิน 🔗 https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs ⚠️ EU ปรับ X €120 ล้าน ฐานละเมิด DSA ด้วยการตรวจสอบ Blue Check ที่หลอกลวง สหภาพยุโรปได้สั่งปรับแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เป็นเงิน 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีด้วย Blue Check ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” ระบบดังกล่าวทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าบัญชีที่จ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายนี้เป็นบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบจริง ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจสอบตัวตนอย่างเข้มงวด EU จึงมองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่โปร่งใสและเป็นการละเมิดกฎหมาย การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของ EU ในการบังคับใช้ DSA และอาจเป็นสัญญาณเตือนให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องระมัดระวังมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification 🏰 CastleRAT มัลแวร์ใหม่ใช้ Steam เป็นช่องทางซ่อนตัว มีการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อ CastleRAT ที่ถูกออกแบบมาให้แอบแฝงเข้าไปในระบบองค์กรเพื่อขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องจากระยะไกล จุดที่น่ากังวลคือเวอร์ชันที่ถูกเขียนด้วยภาษา C ซึ่งมีความสามารถซ่อนตัวได้แนบเนียนกว่าเวอร์ชัน Python และยังทำได้หลายอย่าง เช่น ดักจับการพิมพ์, แอบถ่ายหน้าจอ, ขโมยข้อมูลจาก clipboard รวมถึงการควบคุมเบราว์เซอร์โดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว ที่สำคัญ CastleRAT ยังใช้หน้า Community ของ Steam เป็นที่ซ่อนคำสั่ง ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนการใช้งานปกติ ปัจจุบันนักวิจัยได้ออกแนวทางตรวจจับเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยนี้ได้ 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-castlerat-backdoor-uses-steam-community-pages-as-covert-c2-resolver-for-espionage 💀 LockBit 5.0 กลับมาอีกครั้งพร้อมความร้ายแรงกว่าเดิม หลังจากที่ปฏิบัติการ Cronos เคยทำให้กลุ่ม LockBit ถูกปราบไปเมื่อปี 2024 หลายคนคิดว่าภัยนี้จบแล้ว แต่ล่าสุด LockBit ได้กลับมาในเวอร์ชันใหม่ชื่อ LockBit 5.0 ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม จุดเด่นคือสามารถทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Linux และ VMware ESXi พร้อมโหมดล่องหนที่เข้ารหัสไฟล์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และโหมดลบข้อมูลถาวรที่ทำให้การกู้คืนแทบเป็นไปไม่ได้ ที่น่ากลัวคือมันยังปิดการทำงานของระบบ Event Tracing ของ Windows ทำให้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยมองไม่เห็นการโจมตี การกลับมาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มอาชญากรไซเบอร์ยังคงพัฒนาไม่หยุดและองค์กรต้องเตรียมรับมืออย่างจริงจัง 🔗 https://securityonline.info/lockbit-5-0-resurfaces-stronger-new-variant-blinds-defenders-by-disabling-windows-etw-for-stealth-encryption 🖥️ Windows 11 เพิ่มตัวเลือกปิดเมนู AI ใน File Explorer ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่าการคลิกขวาไฟล์รูปภาพแล้วเจอเมนู AI มากมาย เช่น การค้นหาด้วย Bing หรือการแก้ไขด้วย Paint, Photos ทำให้เมนูรกและใช้งานไม่สะดวก ล่าสุด Microsoft ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ใน Build 26220.7344 ที่ให้ผู้ใช้สามารถปิดการแสดงเมนู AI ได้ทั้งหมด แม้จะยังไม่สามารถซ่อน shortcut ที่อยู่ด้านล่างเมนูได้ แต่ก็ถือเป็นการตอบรับเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ที่อยากได้เมนูที่เรียบง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในเวอร์ชันทดสอบและจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/ai-clutter-solved-windows-11-adds-setting-to-disable-ai-actions-in-file-explorer-menu ⚖️ ศาลสหรัฐจำกัดสัญญา Default Search ของ Google เหลือ 1 ปี จากคดีฟ้องร้องผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐต่อ Google ล่าสุดผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำสั่งใหม่ที่บังคับให้สัญญาที่ Google ทำกับผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อให้บริการค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้น ต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปีเท่านั้น เดิมที Google มักทำสัญญาระยะยาว เช่น ดีลกับ Apple ที่ทำให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบน iPhone การจำกัดสัญญาเหลือปีต่อปีจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งอย่าง Bing หรือ DuckDuckGo มีสิทธิ์เข้ามาแข่งขันมากขึ้น ถือเป็นการแก้ปัญหาผูกขาดโดยไม่ต้องบังคับให้ Google แยกธุรกิจ Chrome ออกไป 🔗 https://securityonline.info/google-antitrust-remedy-judge-limits-default-search-contracts-to-one-year-term 🎓 INE ได้รับรางวัล G2 Winter 2026 หลายสาขา แพลตฟอร์มฝึกอบรมด้าน IT และ Cybersecurity อย่าง INE ได้รับการยอมรับจาก G2 ด้วยรางวัลถึง 7 หมวดหมู่ในฤดูหนาวปี 2026 ทั้งตำแหน่ง Leader และ Momentum Leader รวมถึงการเป็นผู้นำในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และเอเชียแปซิฟิก รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้ทั่วโลกที่เลือก INE เพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคนิคและความปลอดภัยไซเบอร์ หลายรีวิวชื่นชมว่าคอร์สของ INE สามารถนำไปใช้จริงในงานได้ทันที และใบรับรองจาก INE ก็ได้รับการยอมรับในวงการ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ INE ในการสร้างบุคลากรด้าน IT ที่มีคุณภาพ 🔗 https://securityonline.info/ine-earns-g2-winter-2026-badges-across-global-markets 🚀 SpaceX เตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งใหม่ SpaceX กำลังวางแผนทดสอบการบินของจรวด Starship อีกครั้ง โดยครั้งนี้ตั้งเป้าให้การปล่อยและการลงจอดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่การทดสอบก่อนหน้านี้มีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว จุดเด่นของ Starship คือการออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศอย่างมหาศาล Elon Musk ยังย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดคือการใช้ Starship พามนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร การทดสอบครั้งนี้จึงถูกจับตามองจากทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้สนใจอวกาศทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/spacex-prepares-next-starship-test-flight 📱 Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่พร้อมฟีเจอร์ AI Apple ได้เปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมการผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาในหลายฟังก์ชัน เช่น การปรับแต่งภาพถ่ายอัตโนมัติ, การช่วยเขียนข้อความ และการจัดการงานประจำวันด้วย Siri ที่ฉลาดขึ้น จุดขายสำคัญคือการทำงานแบบ On-device AI ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่และกล้องที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ iPhone รุ่นใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม 🔗 https://securityonline.info/apple-launches-new-iphone-with-ai-features 🌐 Microsoft เปิดตัว Copilot เวอร์ชันใหม่สำหรับธุรกิจ Microsoft ได้เปิดตัว Copilot เวอร์ชันล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผสานเข้ากับแอปพลิเคชันหลักอย่าง Word, Excel และ Teams จุดเด่นคือการใช้ AI ช่วยสรุปข้อมูล, สร้างรายงาน และตอบคำถามจากฐานข้อมูลภายในองค์กรได้ทันที ทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น Copilot ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญจะไม่รั่วไหล 🔗 https://securityonline.info/microsoft-unveils-new-copilot-for-business 🎮 เกมใหม่จาก Ubisoft ใช้ AI สร้างโลกเสมือนจริง Ubisoft ได้ประกาศเปิดตัวเกมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างโลกเสมือนจริงแบบไดนามิก ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้งที่เล่น ตัวละคร NPC สามารถตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างสมจริงและมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ นี่ถือเป็นการยกระดับวงการเกมที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนาเข้ากับพลังของ AI เพื่อสร้างโลกที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความท้าทาย 🔗 https://securityonline.info/ubisoft-announces-ai-powered-game 📰 Meta เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับนักข่าว Meta ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักข่าวในการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขียนบทความได้รวดเร็วขึ้น เครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกันและสรุปออกมาเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้นักข่าวสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและลดเวลาในการตรวจสอบข่าวปลอม นอกจากนี้ Meta ยังย้ำว่าจะมีระบบตรวจสอบเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างข่าวปลอมเอง ถือเป็นการพยายามสร้างความเชื่อมั่นในวงการสื่อ 🔗 https://securityonline.info/meta-launches-ai-tools-for-journalists 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ที่ถูกโจมตีจริงในอุปกรณ์เครือข่ายสองค่ายใหญ่ คือเร้าเตอร์รุ่นเก่าของ D-Link และระบบ Array Networks ที่ใช้งานในญี่ปุ่น ช่องโหว่แรกเป็น Buffer Overflow ที่ไม่มีการอัปเดตแก้ไขเพราะอุปกรณ์หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบเปลี่ยนเครื่องใหม่ ส่วนช่องโหว่ที่สองคือการ Inject คำสั่งใน ArrayOS ซึ่งแฮกเกอร์ใช้วาง backdoor และ webshell เพื่อควบคุมระบบจากระยะไกล หน่วยงาน JPCERT ของญี่ปุ่นยืนยันว่ามีการโจมตีจริงตั้งแต่เดือนสิงหาคม และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่หรือปิดฟีเจอร์ Desktop Direct เพื่อป้องกันภัย 🔗 https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack ⚙️ Samsung พลิกฟื้นโรงงานผลิตชิป 4nm หลังจากเจอปัญหาผลิตชิปไม่คงที่จนเสียลูกค้ารายใหญ่ไป Samsung Foundry เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อสามารถยกระดับอัตราการผลิตชิป 4nm ให้ได้ผลสำเร็จถึง 60–70% และคว้าออเดอร์ใหญ่จากสตาร์ทอัพ AI สัญชาติอเมริกัน Tsavorite มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ สัญญานี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าซัมซุงยังมีศักยภาพแข่งขันกับ TSMC ได้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี 2nm ที่เตรียมใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy S26 อีกด้วย 🔗 https://securityonline.info/samsung-foundry-hits-60-4nm-yield-secures-100m-ai-chip-order-from-tsavorite 📱 โค้ดโฆษณาในแอป ChatGPT Android จุดกระแสถกเถียง นักพัฒนาพบโค้ดที่ดูเหมือนระบบโฆษณาในแอป ChatGPT เวอร์ชันทดสอบบน Android ทำให้เกิดการคาดเดาว่า OpenAI อาจเตรียมใส่โฆษณาในบริการ แต่ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ OpenAI รีบออกมาปฏิเสธทันทีว่าบริษัทไม่ได้ทดสอบฟีเจอร์โฆษณาในตอนนี้ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ปิดโอกาสในอนาคต โดยย้ำว่าหากมีการนำโฆษณามาใช้จริง จะทำด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เนื่องจาก ChatGPT มีผู้ใช้งานมหาศาลกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ 🔗 https://securityonline.info/ad-code-found-in-chatgpt-android-build-openai-denies-current-advertising-tests 🐧 AI จับได้ GhostPenguin มัลแวร์ลินุกซ์สุดลึกลับ นักวิจัยจาก Trend Micro ใช้ระบบ AI ตรวจจับพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ GhostPenguin ที่ซ่อนตัวอยู่ในระบบลินุกซ์โดยไม่ถูกตรวจจับนานหลายเดือน มัลแวร์นี้เขียนด้วย C++ มีความสามารถสูงในการควบคุมเครื่องจากระยะไกลผ่านการสื่อสารแบบ UDP ที่เข้ารหัสด้วย RC5 ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ จุดเด่นคือการทำงานแบบหลายเธรด ทำให้มัลแวร์ยังคงตอบสนองแม้บางส่วนของโค้ดหยุดทำงาน การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าการใช้ AI ในการล่ามัลแวร์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ 🔗 https://securityonline.info/ai-uncovers-ghostpenguin-undetectable-linux-backdoor-used-rc5-encrypted-udp-for-covert-c2 💻 Shanya Crypter เครื่องมือใหม่ของแก๊งแรนซัมแวร์ Sophos รายงานการพบเครื่องมือใหม่ชื่อ Shanya Crypter ซึ่งเป็นบริการ “packer-as-a-service” ที่ช่วยให้กลุ่มแรนซัมแวร์สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือนี้ใช้เทคนิคซับซ้อน เช่น การซ่อนโค้ดใน DLL ของระบบ Windows และการใช้ driver ที่มีช่องโหว่เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกัน (EDR Killer) ก่อนปล่อยแรนซัมแวร์เข้ามาโจมตี ทำให้การป้องกันยากขึ้นมาก กลุ่ม Akira, Medusa และ Qilin ถูกระบุว่าเป็นผู้ใช้งานหลักของเครื่องมือนี้ และมีการแพร่กระจายไปหลายประเทศแล้ว 🔗 https://securityonline.info/shanya-crypter-is-the-new-ransomware-toolkit-uses-kernel-driver-abuse-to-kill-edr 🌐 Microsoft เปิดตัว Copilot+ PC ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Copilot+ PC ซึ่งมาพร้อมชิป Snapdragon X Elite และ X Plus ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานแบบ “AI on-device” เช่น ฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยค้นหาสิ่งที่เคยทำบนเครื่องได้เหมือนย้อนเวลา และการใช้ Copilot ในการสร้างภาพหรือข้อความได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ถือเป็นการยกระดับ Windows ให้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานประจำวัน 🔗 https://securityonline.info/microsoft-unveils-copilot-pc-powered-by-snapdragon-x-elite-and-x-plus 🧬 Google DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ที่ใช้ทำนายโครงสร้างโมเลกุลและปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาได้แม่นยำยิ่งขึ้น จากเดิมที่ AlphaFold 2 สร้างความฮือฮาในการทำนายโครงสร้างโปรตีน ตอนนี้ AlphaFold 3 ก้าวไปอีกขั้นด้วยการจำลองการทำงานของ DNA, RNA และโมเลกุลขนาดเล็กที่ซับซ้อนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะช่วยเร่งการค้นคว้ายาใหม่และการวิจัยทางการแพทย์ได้อย่างมหาศาล 🔗 https://securityonline.info/google-deepmind-launches-alphafold-3-ai-model-for-molecular-science 🚀 SpaceX ส่งดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ SpaceX ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม ดาวเทียมรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและสามารถให้บริการในพื้นที่ห่างไกลได้ดีกว่าเดิม การปล่อยครั้งนี้ยังตอกย้ำความตั้งใจของ SpaceX ที่จะขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ 🔗 https://securityonline.info/spacex-launches-next-gen-starlink-satellites-for-faster-global-internet 🎮 Sony เปิดตัว PlayStation 5 Pro Sony เปิดตัวเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 Pro ที่มาพร้อมประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น รองรับการเล่นเกม 8K และมีระบบ Ray Tracing ที่สมจริงกว่าเดิม จุดขายคือการใช้ชิปใหม่ที่ทำให้เฟรมเรตเสถียรขึ้นแม้ในเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ นักวิเคราะห์เชื่อว่า PS5 Pro จะช่วยดึงดูดนักเล่นเกมที่ต้องการประสบการณ์ภาพสมจริงและเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ PS5 รุ่นปัจจุบัน 🔗 https://securityonline.info/sony-unveils-playstation-5-pro-with-8k-gaming-and-ray-tracing 🏥 WHO เตือนการระบาดของโรคใหม่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับการระบาดของโรคใหม่ที่มีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่แพร่กระจายเร็วกว่า โดยพบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศแล้ว และกำลังเร่งตรวจสอบสายพันธุ์เพื่อหาวิธีควบคุมการแพร่ระบาด WHO แนะนำให้ประเทศต่างๆ เตรียมมาตรการรับมือและเพิ่มการตรวจสอบในสนามบินและด่านชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/who-issues-warning-on-new-fast-spreading-flu-like-disease
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 772 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนชั่ว ตอนที่ 9

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 9
    รายได้ของเยเมนประมาณ 70% มาจากการขายน้ำมัน รัฐบาลเยเมน ซึ่งตั้งที่ทำการอยู่ที่
    เมืองซานะ เมืองหลวงของเยเมน แต่อยู่ ในเขตเยเมนเหนือ เป็นผู้ควบคุมรายได้จากน้ำมัน แต่บ่อน้ำมันดันอยู่ในเยเมนใต้ แบบนี้ก็เข้าทาง (ยังไม่รู้ทางใคร!?) เมื่อรัฐบาล Saleh แตกคอกับเยเมนใต้ Saleh ก็เสียงคงอ่อย ค่าขายน้ำมัน สงสัยจะส่งมาไม่ถึงเมืองซานะ
    เยเมน เหมือนจะยังถูกบีบไม่พอ อยู่ดีๆ ในเดือนมกราคม ค.ศ.2009 ก็เกิดมีประกาศในเวบไซท์
    ของอัลไคด้าว่า อัลไคด้าของบินลาเดน จะมาเปิดสาขาใหม่ใหญ่กว่าทุกแห่ง อยู่ในเยเมน เพื่อใช้เป็นฐานสำหรับปฏิบัติการ ทั้งในเยเมน และซาอุดิอารเบีย
    เวบอัลไคด้า โดยหัวหน้าใหญ่ Nasir al-Wanayshi ประกาศรายชื่อ บรรดาหัวกะทิ ที่จะมาประจำอยู่เยเมน ซึ่งมีกะทิระดับที่เคยถูกจับไปอบรม อยู่ในค่ายกวนตานาโมของอเมริกาด้วยหลายคน ไม่ใช่ย่อยนะ แต่ เล่นคัดตัวแสดงแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็เดาออกหมด ว่า ใครอำนวยการสร้าง
    หลังจากนั้น al-Wanayshi ก็ทำวิดีโอออกสู่สาธารณะ เขาเริ่มเรื่องได้น่าหวาดเสียว ว่า
    …เราจะเริ่มต้นที่นี่ และเราจะพบกันที่อัลอัคซา We start from here and we will meet at al-Aqsa (คือโบสถ์ของชาวยิวในเยรูซาเรม)…
    วีดีโอนี้ ประกาศ ข่มขู่ ข่มขวัญ หัวหน้าใหญ่ของมุสลิมตั้งแต่ Saleh ในเยเมนเอง ราชวงศ์ของซาอุ ไปจนถึงประธานาธิบดี มูบารัค ของอียิปต์ อัลไคด้าบอกว่า เรากำลังจะไปต่อสู้อย่างพลีชีพ เพื่อเอาแผ่นดินศักดิ์สิทธิของมุสลิม ตั้งแต่ กาซ่า เยเมน ถึงอิสราเอล กลับคืนมา
    การตั้ง Southern Movement การประกาศตั้งฐานใหม่ของอัลไคด้าในเยเมน การออกมาข่มขวัญของอัลไคด้า แค่นี้ ก็เพียงพอให้อเมริกาใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อยกทัพมาขยี้เยเมนแล้ว เยเมนไม่ใช่ซูดาน ที่ต้องใช้พระเอกเดินนำกล้อง ไม่ใช่คองโก ที่ต้องเอามือมีระดับมาจัดการ ไม่ต้องพูดถึงลิเบีย ที่ต้องขนกันมาครึ่งโลก เยเมนประเทศเล็กกระจ้อย อเมริกาตวาดทีเดียว ก็ราดเต็มกางเกงกันหมดแล้ว
    หลังจากบอกว่า เรื่องภายในประเทศเยเมน เป็นเรื่องของเยเมน แต่อเมริกาก็สั่งให้กองทัพของอ เมริกาบุกเยเมน เพื่อจัดการกับอัลไคด้า ซึ่งอเมริกาอ้างว่า เป็นเรื่องกระทบนานาชาติ ไม่ใช่เรื่องภายในของเยเมน เข้าใจไหม เข้าใจครับ เข้าใจครับ
    อเมริกาอ้างว่า การโจมตีของอเมริกา ในช่วง 17 ถึง 24 ธันวาคม ค.ศ.2009 อเมริกาได้กำจัดอัลไคด้า ระดับหัวหน้าไปแล้ว 3 คน แต่ไม่มีรายชื่อ ไม่มีหลักฐาน กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ใบเล็ก ไม่เห็นขุดมาเล่าให้ฟังบ้างเลย หลังจากนั้น อเมริกาบอกว่า จำเป็นต้องช่วย Saleh เกี่ยวกับเรื่องการกำจัดผู้ก่อการร้ายในเยเมน ให้หมดไปโดยเร็ว เลยจำเป็นต้องทิ้งกองกำลังไว้ในเยเมนต่อไป เฮ้อ…มาแบบเก่า ฟอร์มเดิม ผมเบื่อแล้วนะพี่ ต้องเขียนซ้ำๆ
    กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ รายงานเรื่องอัลไคด้า ที่อเมริกาอ้างว่าต้องยกพลไปถล่มอย่างเสียไม่ได้ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น กระป๋องใส่สีย้อมข่าว เปลี่ยนไป รายงานเรื่อง สลัดโซมาเลีย โจมตีเรือขนส่งสินค้าในอ่าวเอเดน นอกฝั่งโซมาเลีย ตรงข้ามกับเยเมนใต้ และเล่นข่าวสลัดโซมาเลียอย่างใหญ่ โต แถมเล่นซ้ำทุกวัน ไม่ต้อง งง ครับ ตีข่าวเรื่องอัลไคด้า ตามบทจบด้วยกองทัพอเมริกา ไปอยู่ในเยเมน เรียบร้อยฉากแรกแล้ว ตอนนี้ต้องเปิดฉากสองต่อ
    วันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ.2009 สำนักข่าว RIA Novosti ของมอสโคว์ รายงานข่าวว่า สลัดโซมาเลีย ยึดเรือขนส่งสินค้าของกรีก ที่อ่าวเอเดน นอกฝั่งด้านโซมาเลีย
    ก่อนหน้านั้น เรือบรรทุกเคมีของอังกฤษ พร้อมลูกเรือ 26 คน โดนจับที่อ่าวเอเดน หัวหน้าสลัด Mohamed Shakir แน่มาก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอังกฤษ The Times ทางโทรศัพท์ว่า เป็นเรื่องจริง เรายึดเรืออังกฤษไปแล้ว
    รายการสลัดโซมาเลีย ปล้นเรือในช่วงปี 2009 พุ่งสูงมาก นับถึงวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.2009 สลัดโซมาเลียโจมตีเรือไป 174 รายการ เรือ 35 ลำ ถูกยึด ลูกเรือ 587 คน ถูกเรียกค่าไถ่ การปฏิบัติการทุกรายการ ประสพผลสำเร็จ เยี่ยมจริงๆ
    คำถามคือ “ใคร” เป็นคนจัดส่งอาวุธให้สลัดโซมา เลีย รวมทั้งส่งเส้นทาง และตารางการเดินเรือ ของเรือสินค้านานาชาติ มันเป็นข้อมูลชั้นเยี่ยม จนทำให้การปล้น และการหลบจากการถูกจับ โดยเรือลาดตระเวนของนานาชาติ ของสลัดโซมาเลียสำเร็จทุกครั้ง
    น่านน้ำระหว่างเยเมนกับโซมาเลีย มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง มันเป็นบริเวณ ที่มีช่องแคบสำคัญอยู่ด้วยเรียกว่า Bab el-Mandab ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ของรายการช่องแคบสำคัญ ในเส้นทางขนส่งน้ำมัน ที่เรียกว่า choke points จุดรัดคอ!
    สำนักข้อมูลการพลังงานของอเมริกา รายงานว่า หากมีการปิดช่องแคบ Bab el-Mandab จะทำให้เรือขนส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซีย ไม่สามารถเข้าไปถึงคลองสุเอซและ ท่อส่งน้ำมัน Sumed ที่สุเอซ นอกจากแล่นอ้อมลงทางใต้ ผ่านปลายทวีปอาฟริกา ซึ่งเป็นการเพิ่มระยะทาง เวลา และค่าใช้จ่าย ช่องแคบ Bab จึงเป็นจุดที่สามารถ รัดคอ ตัดขาดเส้นทาง ระหว่างอาฟริกากับตะวันออกกลาง ขณะเดียวกัน ก็เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ หรือ จุดตัดขาด ระหว่างทะเลเมดิเตอเรเนียนกับมหาสมุทรอินเดีย มันเป็นจุดเป็น จุดตาย ของเส้นทางเดินของน้ำมัน จริงๆ
    นอกจากนี้ Bab el-Mandab ที่อยู่ระหว่าง เยเมน จิบูตี และอีริเตรีย ยังเป็นตัวเชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดน และทะเลอารบียน น้ำมันและเรือ จากอ่าวเปอร์เซียและมหาสมุทรอินเดีย จะต้องผ่านจุดนี้ ก่อนที่จะผ่านเข้าสุเอซไปสู่เมดิเตอเรเนียน เข้าไปสู่ยุโรป (โปรดดูแผนที่ประกอบนะครับ จะได้เห็นชัด และเข้าใจ)
    สรุปว่า การขนส่งน้ำมันจากทุกแหล่งในโลก ต้องขนส่งกันไปมา ผ่านน่านน้ำต่างๆนั้น ประมาณ 50% ของน้ำมันที่ขนส่งกัน ต้องผ่านช่องรัดคอ Bab นี้ ใครคุม คุณ Bab ก็เท่ากับคุมโลกไป 50%
    อเมริกาจะยอมให้สลัดโซมาเลียคุม หรือ อเมริกาจะปล่อยให้เยเมนประเทศเล็กๆคุม
    และประเทศเสี่ยปั้มกับพวก ที่ขายน้ำมัน จะปล่อยให้เยเมนและโซมาเลีย กำหนดเส้นทางส่งน้ำมันของเขาไหม ปั้มน้ำมันขึ้นมาได้ แต่ส่งไปขายไม่ได้ และประเทศที่ต้องการน้ำมันจากอาฟริกา จะให้นั่งตาลอย อยู่ในกำมือของใครก็ไม่รู้อย่างนั้นหรือ แล้วถ้าพวกเสี่ยปั้มซาอุกับพวก คุม เยเมน คุมคุณ Bab ได้ ผมว่า เสี่ยนิวเคลียร์สองลูก คงจะทำใจยาก ที่จะให้พวกเสี่ยปั้มขี่คอ...
    เยเมน จึงกลายเป็นประเทศ ที่ทุกฝ่ายพยายามเข้าไปคุมอำนาจ เพื่อคุมจุดรัดคอ คุมไม่ได้ก็ ต้องถ่วงอำนาจ ถ่วงไม่ได้ สงสัยเกิดรายการถล่ม
    เรื่องเยเมน จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก อเมริกาคงพยายามทุกทางที่จะคุม คุณ Bab จุดรัดคอ Bab el-Mandeb และเราคงได้ยิน เรื่องความไม่สงบในเยเมนอยู่ตลอดเวลา และเวลานี้การสู้รบในเยเมน จริงๆ ก็กำลังดำเนินอยู่อย่างดุเดือด แต่กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ เสนอข่าวน้อยมาก หรือแทบไม่เสนอเลย ก็ลองถอดรหัสกันดู ว่า แบบนี้แปลว่าใครกำลังเล่นอะไร ในเยเมน และใครกำลังได้เปรียบ เสียเปรียบ และโปรดอย่าลืมว่าเยเมนใต้ เคยชอบพอกับใคร เพื่อนกัน คงไม่ทิ้งกันง่ายๆ เยเมนใต้ อาจจะกลายเป็นสนามประลองกำลังตัวแทน proxy war ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
    และก็คอยตามข่าวกันหน่อย เรื่องแถวเยเมน นี่ อาจทำให้พอประเมินได้ว่า สงครามโลก ใกล้เข้ามาขนาดไหนแล้ว และ ฝ่ายไหนจะได้เปรียบเสียเปรียบ เส้นทางขนส่งน้ำมัน เป็นปัจจัยสำคัญในการทำศึกสงครามครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    22 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 9 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 9 รายได้ของเยเมนประมาณ 70% มาจากการขายน้ำมัน รัฐบาลเยเมน ซึ่งตั้งที่ทำการอยู่ที่ เมืองซานะ เมืองหลวงของเยเมน แต่อยู่ ในเขตเยเมนเหนือ เป็นผู้ควบคุมรายได้จากน้ำมัน แต่บ่อน้ำมันดันอยู่ในเยเมนใต้ แบบนี้ก็เข้าทาง (ยังไม่รู้ทางใคร!?) เมื่อรัฐบาล Saleh แตกคอกับเยเมนใต้ Saleh ก็เสียงคงอ่อย ค่าขายน้ำมัน สงสัยจะส่งมาไม่ถึงเมืองซานะ เยเมน เหมือนจะยังถูกบีบไม่พอ อยู่ดีๆ ในเดือนมกราคม ค.ศ.2009 ก็เกิดมีประกาศในเวบไซท์ ของอัลไคด้าว่า อัลไคด้าของบินลาเดน จะมาเปิดสาขาใหม่ใหญ่กว่าทุกแห่ง อยู่ในเยเมน เพื่อใช้เป็นฐานสำหรับปฏิบัติการ ทั้งในเยเมน และซาอุดิอารเบีย เวบอัลไคด้า โดยหัวหน้าใหญ่ Nasir al-Wanayshi ประกาศรายชื่อ บรรดาหัวกะทิ ที่จะมาประจำอยู่เยเมน ซึ่งมีกะทิระดับที่เคยถูกจับไปอบรม อยู่ในค่ายกวนตานาโมของอเมริกาด้วยหลายคน ไม่ใช่ย่อยนะ แต่ เล่นคัดตัวแสดงแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็เดาออกหมด ว่า ใครอำนวยการสร้าง หลังจากนั้น al-Wanayshi ก็ทำวิดีโอออกสู่สาธารณะ เขาเริ่มเรื่องได้น่าหวาดเสียว ว่า …เราจะเริ่มต้นที่นี่ และเราจะพบกันที่อัลอัคซา We start from here and we will meet at al-Aqsa (คือโบสถ์ของชาวยิวในเยรูซาเรม)… วีดีโอนี้ ประกาศ ข่มขู่ ข่มขวัญ หัวหน้าใหญ่ของมุสลิมตั้งแต่ Saleh ในเยเมนเอง ราชวงศ์ของซาอุ ไปจนถึงประธานาธิบดี มูบารัค ของอียิปต์ อัลไคด้าบอกว่า เรากำลังจะไปต่อสู้อย่างพลีชีพ เพื่อเอาแผ่นดินศักดิ์สิทธิของมุสลิม ตั้งแต่ กาซ่า เยเมน ถึงอิสราเอล กลับคืนมา การตั้ง Southern Movement การประกาศตั้งฐานใหม่ของอัลไคด้าในเยเมน การออกมาข่มขวัญของอัลไคด้า แค่นี้ ก็เพียงพอให้อเมริกาใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อยกทัพมาขยี้เยเมนแล้ว เยเมนไม่ใช่ซูดาน ที่ต้องใช้พระเอกเดินนำกล้อง ไม่ใช่คองโก ที่ต้องเอามือมีระดับมาจัดการ ไม่ต้องพูดถึงลิเบีย ที่ต้องขนกันมาครึ่งโลก เยเมนประเทศเล็กกระจ้อย อเมริกาตวาดทีเดียว ก็ราดเต็มกางเกงกันหมดแล้ว หลังจากบอกว่า เรื่องภายในประเทศเยเมน เป็นเรื่องของเยเมน แต่อเมริกาก็สั่งให้กองทัพของอ เมริกาบุกเยเมน เพื่อจัดการกับอัลไคด้า ซึ่งอเมริกาอ้างว่า เป็นเรื่องกระทบนานาชาติ ไม่ใช่เรื่องภายในของเยเมน เข้าใจไหม เข้าใจครับ เข้าใจครับ อเมริกาอ้างว่า การโจมตีของอเมริกา ในช่วง 17 ถึง 24 ธันวาคม ค.ศ.2009 อเมริกาได้กำจัดอัลไคด้า ระดับหัวหน้าไปแล้ว 3 คน แต่ไม่มีรายชื่อ ไม่มีหลักฐาน กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ใบเล็ก ไม่เห็นขุดมาเล่าให้ฟังบ้างเลย หลังจากนั้น อเมริกาบอกว่า จำเป็นต้องช่วย Saleh เกี่ยวกับเรื่องการกำจัดผู้ก่อการร้ายในเยเมน ให้หมดไปโดยเร็ว เลยจำเป็นต้องทิ้งกองกำลังไว้ในเยเมนต่อไป เฮ้อ…มาแบบเก่า ฟอร์มเดิม ผมเบื่อแล้วนะพี่ ต้องเขียนซ้ำๆ กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ รายงานเรื่องอัลไคด้า ที่อเมริกาอ้างว่าต้องยกพลไปถล่มอย่างเสียไม่ได้ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น กระป๋องใส่สีย้อมข่าว เปลี่ยนไป รายงานเรื่อง สลัดโซมาเลีย โจมตีเรือขนส่งสินค้าในอ่าวเอเดน นอกฝั่งโซมาเลีย ตรงข้ามกับเยเมนใต้ และเล่นข่าวสลัดโซมาเลียอย่างใหญ่ โต แถมเล่นซ้ำทุกวัน ไม่ต้อง งง ครับ ตีข่าวเรื่องอัลไคด้า ตามบทจบด้วยกองทัพอเมริกา ไปอยู่ในเยเมน เรียบร้อยฉากแรกแล้ว ตอนนี้ต้องเปิดฉากสองต่อ วันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ.2009 สำนักข่าว RIA Novosti ของมอสโคว์ รายงานข่าวว่า สลัดโซมาเลีย ยึดเรือขนส่งสินค้าของกรีก ที่อ่าวเอเดน นอกฝั่งด้านโซมาเลีย ก่อนหน้านั้น เรือบรรทุกเคมีของอังกฤษ พร้อมลูกเรือ 26 คน โดนจับที่อ่าวเอเดน หัวหน้าสลัด Mohamed Shakir แน่มาก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอังกฤษ The Times ทางโทรศัพท์ว่า เป็นเรื่องจริง เรายึดเรืออังกฤษไปแล้ว รายการสลัดโซมาเลีย ปล้นเรือในช่วงปี 2009 พุ่งสูงมาก นับถึงวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.2009 สลัดโซมาเลียโจมตีเรือไป 174 รายการ เรือ 35 ลำ ถูกยึด ลูกเรือ 587 คน ถูกเรียกค่าไถ่ การปฏิบัติการทุกรายการ ประสพผลสำเร็จ เยี่ยมจริงๆ คำถามคือ “ใคร” เป็นคนจัดส่งอาวุธให้สลัดโซมา เลีย รวมทั้งส่งเส้นทาง และตารางการเดินเรือ ของเรือสินค้านานาชาติ มันเป็นข้อมูลชั้นเยี่ยม จนทำให้การปล้น และการหลบจากการถูกจับ โดยเรือลาดตระเวนของนานาชาติ ของสลัดโซมาเลียสำเร็จทุกครั้ง น่านน้ำระหว่างเยเมนกับโซมาเลีย มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง มันเป็นบริเวณ ที่มีช่องแคบสำคัญอยู่ด้วยเรียกว่า Bab el-Mandab ซึ่งเป็น 1 ใน 7 ของรายการช่องแคบสำคัญ ในเส้นทางขนส่งน้ำมัน ที่เรียกว่า choke points จุดรัดคอ! สำนักข้อมูลการพลังงานของอเมริกา รายงานว่า หากมีการปิดช่องแคบ Bab el-Mandab จะทำให้เรือขนส่งน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซีย ไม่สามารถเข้าไปถึงคลองสุเอซและ ท่อส่งน้ำมัน Sumed ที่สุเอซ นอกจากแล่นอ้อมลงทางใต้ ผ่านปลายทวีปอาฟริกา ซึ่งเป็นการเพิ่มระยะทาง เวลา และค่าใช้จ่าย ช่องแคบ Bab จึงเป็นจุดที่สามารถ รัดคอ ตัดขาดเส้นทาง ระหว่างอาฟริกากับตะวันออกกลาง ขณะเดียวกัน ก็เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญ หรือ จุดตัดขาด ระหว่างทะเลเมดิเตอเรเนียนกับมหาสมุทรอินเดีย มันเป็นจุดเป็น จุดตาย ของเส้นทางเดินของน้ำมัน จริงๆ นอกจากนี้ Bab el-Mandab ที่อยู่ระหว่าง เยเมน จิบูตี และอีริเตรีย ยังเป็นตัวเชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดน และทะเลอารบียน น้ำมันและเรือ จากอ่าวเปอร์เซียและมหาสมุทรอินเดีย จะต้องผ่านจุดนี้ ก่อนที่จะผ่านเข้าสุเอซไปสู่เมดิเตอเรเนียน เข้าไปสู่ยุโรป (โปรดดูแผนที่ประกอบนะครับ จะได้เห็นชัด และเข้าใจ) สรุปว่า การขนส่งน้ำมันจากทุกแหล่งในโลก ต้องขนส่งกันไปมา ผ่านน่านน้ำต่างๆนั้น ประมาณ 50% ของน้ำมันที่ขนส่งกัน ต้องผ่านช่องรัดคอ Bab นี้ ใครคุม คุณ Bab ก็เท่ากับคุมโลกไป 50% อเมริกาจะยอมให้สลัดโซมาเลียคุม หรือ อเมริกาจะปล่อยให้เยเมนประเทศเล็กๆคุม และประเทศเสี่ยปั้มกับพวก ที่ขายน้ำมัน จะปล่อยให้เยเมนและโซมาเลีย กำหนดเส้นทางส่งน้ำมันของเขาไหม ปั้มน้ำมันขึ้นมาได้ แต่ส่งไปขายไม่ได้ และประเทศที่ต้องการน้ำมันจากอาฟริกา จะให้นั่งตาลอย อยู่ในกำมือของใครก็ไม่รู้อย่างนั้นหรือ แล้วถ้าพวกเสี่ยปั้มซาอุกับพวก คุม เยเมน คุมคุณ Bab ได้ ผมว่า เสี่ยนิวเคลียร์สองลูก คงจะทำใจยาก ที่จะให้พวกเสี่ยปั้มขี่คอ... เยเมน จึงกลายเป็นประเทศ ที่ทุกฝ่ายพยายามเข้าไปคุมอำนาจ เพื่อคุมจุดรัดคอ คุมไม่ได้ก็ ต้องถ่วงอำนาจ ถ่วงไม่ได้ สงสัยเกิดรายการถล่ม เรื่องเยเมน จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก อเมริกาคงพยายามทุกทางที่จะคุม คุณ Bab จุดรัดคอ Bab el-Mandeb และเราคงได้ยิน เรื่องความไม่สงบในเยเมนอยู่ตลอดเวลา และเวลานี้การสู้รบในเยเมน จริงๆ ก็กำลังดำเนินอยู่อย่างดุเดือด แต่กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ เสนอข่าวน้อยมาก หรือแทบไม่เสนอเลย ก็ลองถอดรหัสกันดู ว่า แบบนี้แปลว่าใครกำลังเล่นอะไร ในเยเมน และใครกำลังได้เปรียบ เสียเปรียบ และโปรดอย่าลืมว่าเยเมนใต้ เคยชอบพอกับใคร เพื่อนกัน คงไม่ทิ้งกันง่ายๆ เยเมนใต้ อาจจะกลายเป็นสนามประลองกำลังตัวแทน proxy war ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และก็คอยตามข่าวกันหน่อย เรื่องแถวเยเมน นี่ อาจทำให้พอประเมินได้ว่า สงครามโลก ใกล้เข้ามาขนาดไหนแล้ว และ ฝ่ายไหนจะได้เปรียบเสียเปรียบ เส้นทางขนส่งน้ำมัน เป็นปัจจัยสำคัญในการทำศึกสงครามครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 22 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเรืองสมุทร สาขาปั๊มพีที ท่าจีน #สมุทรสาคร #กินอะไรดี #ของดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #อาหาร #กิน #อร่อย #eat #noodle #food #thaifood #streetfood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเรืองสมุทร สาขาปั๊มพีที ท่าจีน #สมุทรสาคร #กินอะไรดี #ของดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #อาหาร #กิน #อร่อย #eat #noodle #food #thaifood #streetfood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เพลง "ปลงซะ" ของวงพลอย: จุดเริ่มต้นของติ๊ก ชิโร่ อัจฉริยะแห่งวงการเพลงไทยยุค 90

    ในยุคที่เพลงไทยกำลังเบ่งบานด้วยสไตล์ป็อปร็อกผสมผสานกลิ่นอายแดนซ์และคันทรี่ เพลง "ปลงซะ" จากอัลบั้มชุดแรกของวงพลอย ได้กลายเป็นหนึ่งในเพลงฮิตที่จุดประกายให้วงการเพลงไทยคึกคักขึ้นมาในช่วงปลายทศวรรษ 1980s และต้น 1990s เพลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นผลงานที่ทำให้วงพลอยเป็นที่รู้จัก แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในอาชีพนักร้องนำและมือกลองอย่างติ๊ก ชิโร่ (ชื่อจริง: มนัสวิน นันทเสน หรือชื่อเดิม ศิริศักดิ์ นันทเสน) ผู้ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งของวงการเพลงไทยในยุค 90 ด้วยพรสวรรค์ในการแต่งเพลง ร้อง และเล่นดนตรีที่หลากหลาย บทความนี้จะพาไปสำรวจรายละเอียดของวงพลอย ประวัติของติ๊ก ชิโร่ ความดังของเพลง "ปลงซะ" รวมถึงเส้นทางเดี่ยวที่ทำให้เขากลายเป็นศิลปินระดับตำนาน

    ประวัติและการก่อตั้งวงพลอย: จากวงแบ็คอัพสู่ตำนานป็อปร็อก
    วงพลอยเกิดขึ้นจากแนวคิดของ "แจ้" ดนุพล แก้วกาญจน์ อดีตสมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์ นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังที่ต้องการมีวงดนตรีแบ็คอัพสำหรับอัลบั้มเดี่ยวของตนเองภายใต้สังกัดนิธิทัศน์ โปรโมชั่น การก่อตั้งวงเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2529 โดยเดิมใช้ชื่อ "แจ้และพลอย" สมาชิกหลักในช่วงแรกประกอบด้วยนักดนตรีมากพรสวรรค์ที่มาจากหลากหลายพื้นเพ วงพลอยมีแนวเพลงหลักเป็นป็อปร็อก ผสมผสานกับแดนซ์ คันทรี่ กอสเปล และบลูส์ ซึ่งทำให้เพลงของพวกเขามีเอกลักษณ์โดดเด่น ท่ามกลางกระแสเพลงไทยที่กำลังเปลี่ยนจากยุคดิสโก้สู่ร็อกยุคใหม่

    สมาชิกหลักของวงพลอยมีการเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงกิจกรรม แต่บุคคลสำคัญที่ทำให้วงโด่งดัง ได้แก่:
    ติ๊ก ชิโร่ (ศิริศักดิ์ นันทเสน): นักร้องนำและมือกลอง เกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2504 เข้าร่วมวงตั้งแต่ปี 2529 จนถึง 2533 ถือเป็นหัวใจหลักในการผลิตเพลงและการแสดงสด
    วสุ แสงสิงแก้ว: นักร้องนำ คีย์บอร์ด และกีตาร์ เกิดวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2510 เข้าร่วมตั้งแต่เริ่มต้นแต่ลาออกในปี 2531 เพื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศ
    อิศรพงศ์ ชุมสาย ณ อยุธยา: หัวหน้าวงและคีย์บอร์ด
    มืด ไข่มุก: เพอร์คัสชั่น กลองชุด และร้องนำ (เสียชีวิตเมื่อปี 2565)
    รักษ์ สวัสซิตัง: กีตาร์และร้องนำ
    อนุสาร คุณะดิลก: เบสและร้องนำ (เสียชีวิตปี 2557)
    ชาตรี คงสุวรรณ: กีตาร์และแซ็กโซโฟน (ช่วงแรก)
    สมาชิกอื่น ๆ เช่น ปิติ ปิติวงศ์ (คีย์บอร์ด), เดวิด เอง (กีตาร์) และวรดิษฐ์ เมืองทอง (ร้องนำแทนวสุในอัลบั้มสุดท้าย)

    วงพลอยออกอัลบั้มแรกในนาม "แจ้และพลอย" ชื่อ "ฝันสีทอง" ในเดือนกุมภาพันธ์และพฤษภาคม 2529 ตามด้วย "ของขวัญ" ในปลายปีเดียวกัน ปี 2530 เปลี่ยนชื่อเป็น "วงพลอย" อย่างเป็นทางการและออกอัลบั้มเต็มชุดแรก "สุภาพบุรุษนักฝัน" ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้วงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง อัลบั้มนี้ขายดีและมีเพลงฮิตหลายเพลง ตามด้วย "สมาคมคนเจ็บ ๆ" (2531) และ "พลอย 3" (2532) หลังจากนั้นวงประกาศยุบในปี 2533 เนื่องจากสมาชิกหลายคนแยกย้ายไปทำผลงานเดี่ยว แต่ยังมีอัลบั้มรวมฮิตออกตามมา เช่น "รวมฮิต พลอย" (2535) และ "BEST OF พลอย" (2544) รวมถึงคอนเสิร์ตใหญ่เช่น "โลกดนตรี พลอย" (2531-2533)

    วงพลอยถูกยกย่องว่าเป็น "สมาคมสุภาพบุรุษนักดนตรีแห่งทศวรรษ 1980s" ด้วยการผสมผสานดนตรีที่สนุกสนานและเนื้อเพลงที่เข้าถึงอารมณ์คนฟัง ทำให้พวกเขากลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นในยุคนั้น

    ประวัติติ๊ก ชิโร่: จากเด็กโคราชสู่มือกลองและนักร้องอัจฉริยะ
    ติ๊ก ชิโร่ เกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2504 ที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นบุตรของนายชวลิตและนางสุดใจ นันทเสน เขาเติบโตในครอบครัวธรรมดาแต่มีความหลงใหลในดนตรีตั้งแต่เด็ก โดยเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ติ๊กตั้งวงกับเพื่อนชื่อ "แฟมิลี่" และเล่นประจำที่เอส.พี.ไนท์คลับในโคราช ต่อมาเปลี่ยนชื่อวงเป็น "เดอะ ดิสค์" เล่นที่โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น แล้วเป็น "ดิสโก้คิสส์" กลับมาโคราช ระหว่างเรียนที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน) เขาเล่นที่ซิลเวอร์สตาร์ ขอนแก่น จากนั้นย้ายไปพัทยา เปลี่ยนชื่อวงเป็น "ริทึ่มมิ๊กซ์" และ "เซเลเบรชั่น" ซึ่งออกอัลบั้มชุดเดียว "คนชุดขาว" ในปี 2527 โดยสมาชิกแต่งกายชุดขาวและสวมหน้ากาก

    ติ๊กเข้าร่วมวงพลอยในปี 2529 ในตำแหน่งมือกลองและนักร้องนำ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาแจ้งเกิดในวงการเพลงไทยอย่างเต็มตัว เขาไม่เพียงเล่นกลองและร้องนำ แต่ยังแต่งเพลงและเรียบเรียงดนตรีให้วงด้วย พรสวรรค์ของติ๊กในด้านนี้ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น "อัจฉริยะ" เพราะสามารถเล่นเครื่องดนตรีหลายชนิด เช่น กลอง เปียโน และกีตาร์ รวมถึงแต่งเพลงที่ผสมผสานแนวเพลงหลากหลาย ตั้งแต่ป็อป แดนซ์ ร็อก ไปจนถึงลูกทุ่งและคันทรี่
    ด้านชีวิตส่วนตัว ติ๊กสมรสกับพรรทิรา นันทเสน มีบุตรสาวสองคน ชื่อชาเม-ชามันดา และยาหยี-เลอทีญา เขาจบปริญญาตรีสาขารัฐประศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ปริญญาโทจากธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ และปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี นอกจากดนตรี เขายังเป็นนักแสดง พิธีกร และผู้ก่อตั้งค่ายเพลง LOMABin Entertainment ในปี 2564

    ความดังของเพลง "ปลงซะ": เพลงฮิตที่จุดประกายวงพลอย
    เพลง "ปลงซะ" เป็นหนึ่งในเพลงเด่นจากอัลบั้ม "สุภาพบุรุษนักฝัน" (2530) ซึ่งเป็นอัลบั้มเต็มชุดแรกของวงพลอย เพลงนี้แต่งคำร้อง ทำนอง และเรียบเรียงโดยติ๊ก ชิโร่เอง ร้องนำโดยติ๊ก เนื้อเพลงพูดถึงการ "ปลงตก" กับความผิดหวังในชีวิตและความรัก ด้วยจังหวะสนุกสนานผสมร็อกและแดนซ์ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตอย่างรวดเร็ว คำว่า "ปลงซะ" กลายเป็นวลีฮิตที่คนรุ่นนั้นใช้พูดกันติดปาก

    อัลบั้มนี้มีเพลงดังอื่น ๆ เช่น "จดหมายลาครู" (ร้องโดยวสุ), "สูตรรักนักเรียน" (วสุ), และ "ไม่ได้เจตนา" (มืด) ซึ่งช่วยผลักดันให้อัลบั้มขายดีและทำให้วงพลอยได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงนั้น เพลง "ปลงซะ" ไม่เพียงทำให้ติ๊กเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้องนำ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแต่งเพลงที่เข้าถึงอารมณ์คนฟัง ทำให้เพลงนี้ถูกนำไปรวมในอัลบั้มฮิตหลายชุด เช่น "ดีที่สุดแห่งปี 2530" (2549) และ "เพลงฮิตเมื่อวันวาน" (2555) ความดังของเพลงนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ติ๊กก้าวสู่การเป็นศิลปินเดี่ยวในเวลาต่อมา

    การแยกตัวและความดังส่วนตัวของติ๊ก ชิโร่: ยุคทองของศิลปินเดี่ยว
    หลังจากวงพลอยยุบในปี 2533 ติ๊ก ชิโร่ ตัดสินใจแยกตัวออกมาทำผลงานเดี่ยวภายใต้สังกัดนิธิทัศน์ โปรโมชั่น ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเพราะทำให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในยุค 90 อัลบั้มเดี่ยวชุดแรก "โชะ ไชโย" (ธันวาคม 2533) ขายได้มากกว่าล้านตลับ ด้วยเพลงฮิตอย่าง "โชะ ไชโย" ที่ผสมผสานป็อปแดนซ์ร็อก ตามด้วย "เต็มเหนี่ยว" (2535) ซึ่งได้รับรางวัลโปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยมจากสีสันอวอร์ด และขายล้านตลับเช่นกัน

    ตลอดทศวรรษ 1990s ติ๊กออกอัลบั้มอีกหลายชุด เช่น "ยินดีต้อนรับ" (2536) ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลนักร้องชายยอดเยี่ยมสีสันอวอร์ด, "ซ.ต.พ. (Q.E.D.)" (2537), "ติ๊กเบอร์ 5 (มหาชน)" (2539), "ย้อนยุคใหม่" (2540), "ทำปุ๋ย" (2541) และ "โช๊ะ ลูกทุ่ง 1 2 3" (2541) เพลงดังส่วนตัวของเขา ได้แก่ "รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง", "มนุษย์ค้างคาว", "เต็มเหนี่ยว", "โชะ ไชโย" และเพลงรณรงค์อย่าง "แค่ขยับ" (2550) นอกจากนี้ เขายังแต่งเพลงให้ศิลปินอื่น เช่น "จูนหัวใจ" ให้กัญญาณี มุจจลินทร์กุล และ "ก็ดี" ให้ธงไชย แมคอินไตย์

    ความดังของติ๊กในยุค 90 มาจากการผสมผสานแนวเพลงที่หลากหลาย ทำให้เขาเป็นศิลปินที่เข้าถึงผู้ฟังทุกวัย เขาได้รับฉายา "โบราณแมน" จากอัลบั้มในปี 2548 และยังคงผลิตผลงานจนถึงปัจจุบัน รวมถึงอัลบั้มรวมเพลงอย่าง "25 ปี ติ๊ก ชิโร่" (2558) และ "The Legend Of ติ๊ก ชิโร่" (2560) การแยกตัวทำให้ติ๊กประสบความสำเร็จสูงสุด โดยขายอัลบั้มรวมหลายล้านชุดและมีคอนเสิร์ตใหญ่หลายครั้ง

    สรุป: มรดกของติ๊ก ชิโร่และวงพลอยในวงการเพลงไทย
    เพลง "ปลงซะ" ไม่ใช่แค่เพลงฮิต แต่เป็นสัญลักษณ์ของจุดเริ่มต้นที่ทำให้ติ๊ก ชิโร่ ก้าวจากมือกลองในวงพลอยสู่ศิลปินเดี่ยวระดับตำนาน วงพลอยเองก็เป็นส่วนสำคัญที่ปูทางให้ดนตรีไทยในยุค 90 มีความหลากหลายมากขึ้น ติ๊กถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะเพราะความสามารถรอบด้าน ทั้งแต่ง ร้อง และผลิตเพลงที่ยังคงเป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้ แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยน แต่เพลงของเขาและวงพลอยยังคงถูกเปิดฟังและนำไปรีเมค สะท้อนถึงอิทธิพลที่ยั่งยืนในวงการเพลงไทย

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://www.youtube.com/watch?v=Yg1kHho4J-o
    🎵 เพลง "ปลงซะ" ของวงพลอย: จุดเริ่มต้นของติ๊ก ชิโร่ อัจฉริยะแห่งวงการเพลงไทยยุค 90 🕺 🗺️ ในยุคที่เพลงไทยกำลังเบ่งบานด้วยสไตล์ป็อปร็อกผสมผสานกลิ่นอายแดนซ์และคันทรี่ เพลง "ปลงซะ" จากอัลบั้มชุดแรกของวงพลอย ได้กลายเป็นหนึ่งในเพลงฮิตที่จุดประกายให้วงการเพลงไทยคึกคักขึ้นมาในช่วงปลายทศวรรษ 1980s และต้น 1990s เพลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นผลงานที่ทำให้วงพลอยเป็นที่รู้จัก แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในอาชีพนักร้องนำและมือกลองอย่างติ๊ก ชิโร่ (ชื่อจริง: มนัสวิน นันทเสน หรือชื่อเดิม ศิริศักดิ์ นันทเสน) ผู้ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งของวงการเพลงไทยในยุค 90 ด้วยพรสวรรค์ในการแต่งเพลง ร้อง และเล่นดนตรีที่หลากหลาย บทความนี้จะพาไปสำรวจรายละเอียดของวงพลอย ประวัติของติ๊ก ชิโร่ ความดังของเพลง "ปลงซะ" รวมถึงเส้นทางเดี่ยวที่ทำให้เขากลายเป็นศิลปินระดับตำนาน 🌠 ✡️ ประวัติและการก่อตั้งวงพลอย: จากวงแบ็คอัพสู่ตำนานป็อปร็อก วงพลอยเกิดขึ้นจากแนวคิดของ "แจ้" ดนุพล แก้วกาญจน์ อดีตสมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์ นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังที่ต้องการมีวงดนตรีแบ็คอัพสำหรับอัลบั้มเดี่ยวของตนเองภายใต้สังกัดนิธิทัศน์ โปรโมชั่น การก่อตั้งวงเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2529 โดยเดิมใช้ชื่อ "แจ้และพลอย" สมาชิกหลักในช่วงแรกประกอบด้วยนักดนตรีมากพรสวรรค์ที่มาจากหลากหลายพื้นเพ วงพลอยมีแนวเพลงหลักเป็นป็อปร็อก ผสมผสานกับแดนซ์ คันทรี่ กอสเปล และบลูส์ ซึ่งทำให้เพลงของพวกเขามีเอกลักษณ์โดดเด่น ท่ามกลางกระแสเพลงไทยที่กำลังเปลี่ยนจากยุคดิสโก้สู่ร็อกยุคใหม่ 💎 สมาชิกหลักของวงพลอยมีการเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงกิจกรรม แต่บุคคลสำคัญที่ทำให้วงโด่งดัง ได้แก่: 🙎‍♂️ ติ๊ก ชิโร่ (ศิริศักดิ์ นันทเสน): นักร้องนำและมือกลอง เกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2504 เข้าร่วมวงตั้งแต่ปี 2529 จนถึง 2533 ถือเป็นหัวใจหลักในการผลิตเพลงและการแสดงสด 🙎‍♂️ วสุ แสงสิงแก้ว: นักร้องนำ คีย์บอร์ด และกีตาร์ เกิดวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2510 เข้าร่วมตั้งแต่เริ่มต้นแต่ลาออกในปี 2531 เพื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศ 🙎‍♂️ อิศรพงศ์ ชุมสาย ณ อยุธยา: หัวหน้าวงและคีย์บอร์ด 🙎‍♂️ มืด ไข่มุก: เพอร์คัสชั่น กลองชุด และร้องนำ (เสียชีวิตเมื่อปี 2565) 🙎‍♂️ รักษ์ สวัสซิตัง: กีตาร์และร้องนำ 🙎‍♂️ อนุสาร คุณะดิลก: เบสและร้องนำ (เสียชีวิตปี 2557) 🙎‍♂️ ชาตรี คงสุวรรณ: กีตาร์และแซ็กโซโฟน (ช่วงแรก) 🙎‍♂️ สมาชิกอื่น ๆ เช่น ปิติ ปิติวงศ์ (คีย์บอร์ด), เดวิด เอง (กีตาร์) และวรดิษฐ์ เมืองทอง (ร้องนำแทนวสุในอัลบั้มสุดท้าย) 💿 วงพลอยออกอัลบั้มแรกในนาม "แจ้และพลอย" ชื่อ "ฝันสีทอง" ในเดือนกุมภาพันธ์และพฤษภาคม 2529 ตามด้วย "ของขวัญ" ในปลายปีเดียวกัน ปี 2530 เปลี่ยนชื่อเป็น "วงพลอย" อย่างเป็นทางการและออกอัลบั้มเต็มชุดแรก "สุภาพบุรุษนักฝัน" ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้วงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง อัลบั้มนี้ขายดีและมีเพลงฮิตหลายเพลง ตามด้วย "สมาคมคนเจ็บ ๆ" (2531) และ "พลอย 3" (2532) หลังจากนั้นวงประกาศยุบในปี 2533 เนื่องจากสมาชิกหลายคนแยกย้ายไปทำผลงานเดี่ยว แต่ยังมีอัลบั้มรวมฮิตออกตามมา เช่น "รวมฮิต พลอย" (2535) และ "BEST OF พลอย" (2544) รวมถึงคอนเสิร์ตใหญ่เช่น "โลกดนตรี พลอย" (2531-2533) 💎 วงพลอยถูกยกย่องว่าเป็น "สมาคมสุภาพบุรุษนักดนตรีแห่งทศวรรษ 1980s" ด้วยการผสมผสานดนตรีที่สนุกสนานและเนื้อเพลงที่เข้าถึงอารมณ์คนฟัง ทำให้พวกเขากลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นในยุคนั้น 🕺 ประวัติติ๊ก ชิโร่: จากเด็กโคราชสู่มือกลองและนักร้องอัจฉริยะ ติ๊ก ชิโร่ เกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2504 ที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นบุตรของนายชวลิตและนางสุดใจ นันทเสน เขาเติบโตในครอบครัวธรรมดาแต่มีความหลงใหลในดนตรีตั้งแต่เด็ก โดยเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ติ๊กตั้งวงกับเพื่อนชื่อ "แฟมิลี่" และเล่นประจำที่เอส.พี.ไนท์คลับในโคราช ต่อมาเปลี่ยนชื่อวงเป็น "เดอะ ดิสค์" เล่นที่โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น แล้วเป็น "ดิสโก้คิสส์" กลับมาโคราช ระหว่างเรียนที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน) เขาเล่นที่ซิลเวอร์สตาร์ ขอนแก่น จากนั้นย้ายไปพัทยา เปลี่ยนชื่อวงเป็น "ริทึ่มมิ๊กซ์" และ "เซเลเบรชั่น" ซึ่งออกอัลบั้มชุดเดียว "คนชุดขาว" ในปี 2527 โดยสมาชิกแต่งกายชุดขาวและสวมหน้ากาก 🙎‍♂️ ติ๊กเข้าร่วมวงพลอยในปี 2529 ในตำแหน่งมือกลองและนักร้องนำ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาแจ้งเกิดในวงการเพลงไทยอย่างเต็มตัว เขาไม่เพียงเล่นกลองและร้องนำ แต่ยังแต่งเพลงและเรียบเรียงดนตรีให้วงด้วย พรสวรรค์ของติ๊กในด้านนี้ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น "อัจฉริยะ" เพราะสามารถเล่นเครื่องดนตรีหลายชนิด เช่น กลอง เปียโน และกีตาร์ รวมถึงแต่งเพลงที่ผสมผสานแนวเพลงหลากหลาย ตั้งแต่ป็อป แดนซ์ ร็อก ไปจนถึงลูกทุ่งและคันทรี่ ด้านชีวิตส่วนตัว ติ๊กสมรสกับพรรทิรา นันทเสน มีบุตรสาวสองคน ชื่อชาเม-ชามันดา และยาหยี-เลอทีญา เขาจบปริญญาตรีสาขารัฐประศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ปริญญาโทจากธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ และปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี นอกจากดนตรี เขายังเป็นนักแสดง พิธีกร และผู้ก่อตั้งค่ายเพลง LOMABin Entertainment ในปี 2564 🎖️ ความดังของเพลง "ปลงซะ": เพลงฮิตที่จุดประกายวงพลอย เพลง "ปลงซะ" เป็นหนึ่งในเพลงเด่นจากอัลบั้ม "สุภาพบุรุษนักฝัน" (2530) ซึ่งเป็นอัลบั้มเต็มชุดแรกของวงพลอย เพลงนี้แต่งคำร้อง ทำนอง และเรียบเรียงโดยติ๊ก ชิโร่เอง ร้องนำโดยติ๊ก เนื้อเพลงพูดถึงการ "ปลงตก" กับความผิดหวังในชีวิตและความรัก ด้วยจังหวะสนุกสนานผสมร็อกและแดนซ์ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตอย่างรวดเร็ว คำว่า "ปลงซะ" กลายเป็นวลีฮิตที่คนรุ่นนั้นใช้พูดกันติดปาก 🏆 อัลบั้มนี้มีเพลงดังอื่น ๆ เช่น "จดหมายลาครู" (ร้องโดยวสุ), "สูตรรักนักเรียน" (วสุ), และ "ไม่ได้เจตนา" (มืด) ซึ่งช่วยผลักดันให้อัลบั้มขายดีและทำให้วงพลอยได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงนั้น เพลง "ปลงซะ" ไม่เพียงทำให้ติ๊กเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้องนำ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแต่งเพลงที่เข้าถึงอารมณ์คนฟัง ทำให้เพลงนี้ถูกนำไปรวมในอัลบั้มฮิตหลายชุด เช่น "ดีที่สุดแห่งปี 2530" (2549) และ "เพลงฮิตเมื่อวันวาน" (2555) ความดังของเพลงนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ติ๊กก้าวสู่การเป็นศิลปินเดี่ยวในเวลาต่อมา ☢️ การแยกตัวและความดังส่วนตัวของติ๊ก ชิโร่: ยุคทองของศิลปินเดี่ยว หลังจากวงพลอยยุบในปี 2533 ติ๊ก ชิโร่ ตัดสินใจแยกตัวออกมาทำผลงานเดี่ยวภายใต้สังกัดนิธิทัศน์ โปรโมชั่น ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเพราะทำให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในยุค 90 อัลบั้มเดี่ยวชุดแรก "โชะ ไชโย" (ธันวาคม 2533) ขายได้มากกว่าล้านตลับ ด้วยเพลงฮิตอย่าง "โชะ ไชโย" ที่ผสมผสานป็อปแดนซ์ร็อก ตามด้วย "เต็มเหนี่ยว" (2535) ซึ่งได้รับรางวัลโปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยมจากสีสันอวอร์ด และขายล้านตลับเช่นกัน ตลอดทศวรรษ 1990s ติ๊กออกอัลบั้มอีกหลายชุด เช่น "ยินดีต้อนรับ" (2536) ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลนักร้องชายยอดเยี่ยมสีสันอวอร์ด, "ซ.ต.พ. (Q.E.D.)" (2537), "ติ๊กเบอร์ 5 (มหาชน)" (2539), "ย้อนยุคใหม่" (2540), "ทำปุ๋ย" (2541) และ "โช๊ะ ลูกทุ่ง 1 2 3" (2541) เพลงดังส่วนตัวของเขา ได้แก่ "รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง", "มนุษย์ค้างคาว", "เต็มเหนี่ยว", "โชะ ไชโย" และเพลงรณรงค์อย่าง "แค่ขยับ" (2550) นอกจากนี้ เขายังแต่งเพลงให้ศิลปินอื่น เช่น "จูนหัวใจ" ให้กัญญาณี มุจจลินทร์กุล และ "ก็ดี" ให้ธงไชย แมคอินไตย์ 📝 🤍 ความดังของติ๊กในยุค 90 มาจากการผสมผสานแนวเพลงที่หลากหลาย ทำให้เขาเป็นศิลปินที่เข้าถึงผู้ฟังทุกวัย เขาได้รับฉายา "โบราณแมน" จากอัลบั้มในปี 2548 และยังคงผลิตผลงานจนถึงปัจจุบัน รวมถึงอัลบั้มรวมเพลงอย่าง "25 ปี ติ๊ก ชิโร่" (2558) และ "The Legend Of ติ๊ก ชิโร่" (2560) การแยกตัวทำให้ติ๊กประสบความสำเร็จสูงสุด โดยขายอัลบั้มรวมหลายล้านชุดและมีคอนเสิร์ตใหญ่หลายครั้ง ℹ️ℹ️ สรุป: มรดกของติ๊ก ชิโร่และวงพลอยในวงการเพลงไทย🏁 เพลง "ปลงซะ" ไม่ใช่แค่เพลงฮิต แต่เป็นสัญลักษณ์ของจุดเริ่มต้นที่ทำให้ติ๊ก ชิโร่ ก้าวจากมือกลองในวงพลอยสู่ศิลปินเดี่ยวระดับตำนาน วงพลอยเองก็เป็นส่วนสำคัญที่ปูทางให้ดนตรีไทยในยุค 90 มีความหลากหลายมากขึ้น ติ๊กถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะเพราะความสามารถรอบด้าน ทั้งแต่ง ร้อง และผลิตเพลงที่ยังคงเป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้ แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยน แต่เพลงของเขาและวงพลอยยังคงถูกเปิดฟังและนำไปรีเมค สะท้อนถึงอิทธิพลที่ยั่งยืนในวงการเพลงไทย ✨💫 #ลุงเล่าหลานฟัง https://www.youtube.com/watch?v=Yg1kHho4J-o
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 0 รีวิว
  • Deep Blue จุดเริ่มต้นของ AI ในเกมหมากรุก

    ครบรอบ 30 ปีการเปิดตัว Deep Blue ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นหมากรุก และสามารถเอาชนะ Garry Kasparov แชมป์โลกในปี 1997 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์และ AI

    IBM เปิดตัวต้นแบบ Deep Blue ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1995 โดยใช้เวิร์กสเตชัน RS/6000 พร้อม 14 โปรเซสเซอร์สำหรับค้นหาตำแหน่งหมากรุก สามารถวิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที แม้จะยังไม่สามารถเอาชนะโปรแกรมหมากรุกชั้นนำในยุคนั้น แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้ “พลังประมวลผลมหาศาล” เพื่อแข่งขันกับมนุษย์

    การเผชิญหน้ากับ Kasparov
    ปี 1996 Deep Blue พบกับ Kasparov เป็นครั้งแรก และสามารถชนะเกมเปิดได้ แต่สุดท้าย Kasparov เอาชนะไปด้วยคะแนน 4-2 อย่างไรก็ตาม IBM ไม่ยอมแพ้ และในปี 1997 ได้ปรับปรุงระบบใหม่ ใช้ 30 เวิร์กสเตชัน PowerPC ควบคุมชิปหมากรุก 16 ตัวต่อเครื่อง สามารถวิเคราะห์ได้ถึง 200 ล้านตำแหน่งต่อวินาที และในที่สุดก็เอาชนะ Kasparov ด้วยคะแนน 3.5-2.5

    ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี
    ชัยชนะของ Deep Blue ไม่เพียงแต่เป็นการพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์สามารถเอาชนะมนุษย์ในเกมที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการมอง AI ว่าเป็น “คู่แข่งทางความคิด” ของมนุษย์ IBM ใช้ชัยชนะนี้สร้างภาพลักษณ์ใหม่จากบริษัทที่ถูกมองว่า “ล้าหลัง” ให้กลับมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนา AI ในหลายสาขา

    มุมมองจากปัจจุบัน
    แม้ Deep Blue จะใช้วิธี brute force ที่แตกต่างจาก AI ยุคใหม่ซึ่งเน้นการเรียนรู้เชิงสถิติ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการที่เครื่องจักรสามารถท้าทายความคิดมนุษย์ได้ และเป็นรากฐานให้เกิดการพัฒนา AI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในปัจจุบัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    IBM เปิดตัว Deep Blue ปี 1995
    วิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที

    การแข่งกับ Kasparov ปี 1996 และ 1997
    ปีแรกแพ้ 4-2 แต่ปีถัดมาชนะ 3.5-2.5

    ผลกระทบต่อ IBM และวงการ AI
    สร้างภาพลักษณ์ใหม่และเป็นแรงบันดาลใจให้การพัฒนา AI

    คำเตือนจากบทเรียน Deep Blue
    วิธี brute force ไม่ใช่แนวทางเดียวของ AI
    ความสำเร็จในเกมไม่ได้หมายถึงการเข้าใจเชิงลึกแบบมนุษย์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ibm-unveiled-its-deep-blue-chess-supercomputer-prototype-30-years-ago-today-two-years-later-in-its-second-attempt-it-defeated-grandmaster-garry-kasparov
    ♟️ Deep Blue จุดเริ่มต้นของ AI ในเกมหมากรุก ครบรอบ 30 ปีการเปิดตัว Deep Blue ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นหมากรุก และสามารถเอาชนะ Garry Kasparov แชมป์โลกในปี 1997 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์และ AI IBM เปิดตัวต้นแบบ Deep Blue ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1995 โดยใช้เวิร์กสเตชัน RS/6000 พร้อม 14 โปรเซสเซอร์สำหรับค้นหาตำแหน่งหมากรุก สามารถวิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที แม้จะยังไม่สามารถเอาชนะโปรแกรมหมากรุกชั้นนำในยุคนั้น แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้ “พลังประมวลผลมหาศาล” เพื่อแข่งขันกับมนุษย์ 🏆 การเผชิญหน้ากับ Kasparov ปี 1996 Deep Blue พบกับ Kasparov เป็นครั้งแรก และสามารถชนะเกมเปิดได้ แต่สุดท้าย Kasparov เอาชนะไปด้วยคะแนน 4-2 อย่างไรก็ตาม IBM ไม่ยอมแพ้ และในปี 1997 ได้ปรับปรุงระบบใหม่ ใช้ 30 เวิร์กสเตชัน PowerPC ควบคุมชิปหมากรุก 16 ตัวต่อเครื่อง สามารถวิเคราะห์ได้ถึง 200 ล้านตำแหน่งต่อวินาที และในที่สุดก็เอาชนะ Kasparov ด้วยคะแนน 3.5-2.5 🌍 ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี ชัยชนะของ Deep Blue ไม่เพียงแต่เป็นการพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์สามารถเอาชนะมนุษย์ในเกมที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการมอง AI ว่าเป็น “คู่แข่งทางความคิด” ของมนุษย์ IBM ใช้ชัยชนะนี้สร้างภาพลักษณ์ใหม่จากบริษัทที่ถูกมองว่า “ล้าหลัง” ให้กลับมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนา AI ในหลายสาขา ⚠️ มุมมองจากปัจจุบัน แม้ Deep Blue จะใช้วิธี brute force ที่แตกต่างจาก AI ยุคใหม่ซึ่งเน้นการเรียนรู้เชิงสถิติ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการที่เครื่องจักรสามารถท้าทายความคิดมนุษย์ได้ และเป็นรากฐานให้เกิดการพัฒนา AI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในปัจจุบัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ IBM เปิดตัว Deep Blue ปี 1995 ➡️ วิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที ✅ การแข่งกับ Kasparov ปี 1996 และ 1997 ➡️ ปีแรกแพ้ 4-2 แต่ปีถัดมาชนะ 3.5-2.5 ✅ ผลกระทบต่อ IBM และวงการ AI ➡️ สร้างภาพลักษณ์ใหม่และเป็นแรงบันดาลใจให้การพัฒนา AI ‼️ คำเตือนจากบทเรียน Deep Blue ⛔ วิธี brute force ไม่ใช่แนวทางเดียวของ AI ⛔ ความสำเร็จในเกมไม่ได้หมายถึงการเข้าใจเชิงลึกแบบมนุษย์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ibm-unveiled-its-deep-blue-chess-supercomputer-prototype-30-years-ago-today-two-years-later-in-its-second-attempt-it-defeated-grandmaster-garry-kasparov
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก๋วยจั๊บนายน้อย ร.ย.ส. สาขาศรีนครินทร์ #พาราไดซ์พาร์ค #กินอะไรดี #อร่อยบอกต่อ #ของดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #อาหาร #กิน #อร่อย #eat #food #foodie #noodle #thaifood #streetfood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    ก๋วยจั๊บนายน้อย ร.ย.ส. สาขาศรีนครินทร์ #พาราไดซ์พาร์ค #กินอะไรดี #อร่อยบอกต่อ #ของดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #อาหาร #กิน #อร่อย #eat #food #foodie #noodle #thaifood #streetfood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่อง ยากูซ่า…ยังซ่าอยู่
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยากูซ่า…ยังซ่าอยู่”
    ตอน 1
    เพิ่งเล่าไปหมาดๆ ในนิทานเรื่องไม่ตกสะเก็ดว่า ยากูซ่าเป็นหมอตำแยทำคลอดพรรค LPD ของญี่ปุ่น ในคุกซุกาโมช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกใหม่ๆ หลังจากทำคลอด ยากูซ่าสาระพัดลาย ยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงนางนม ช่วยกันป้อนข้าว ป้อนน้ำอุ้มชูดูแล จนพรรค LDP โตไว กล้ามใหญ่ หน้าไหนจะกล้าขัดใจขวางทางเจ้าพ่อยากูซ่า ด้วยเหตุนี้ พรรค LDP จึงคุมการเมืองญี่ปุ่นอยู่มือ อยู่หมัด มาตลอด ตั้งแต่คลอด จนถึงเดี๋ยวนี้ 
    คณะหมอตำแย ประกอบด้วย นายโคดามะ เจ้าพ่อใหญ่ของยากูซ่า หัวหน้าสมาคมมังกรดำ นายซาซากาวา หัวหน้ายากูซ่าอีกกลุ่มที่ ที่มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเป็นมือสำคัญ มือหนึ่ง ที่อยู่ข้างหลังประเทศญี่ปุ่น และอีกหนึ่ง ที่เป็นคนประสานงานระหว่าง ฝ่ายยากูซ่า นักการเมืองญี่ปุ่นกับฝ่ายอเมริกา คือ นายคิชิ โนบูซุเกะ Kishi Nobusuke ตาของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบัน นายชินโซะ อาเบะ นั่นเอง ทีนี่ก็รู้กันแล้วว่า คุณอาเบะ นี่เป็นเด็กเลี้ยงของยากูซ่า อย่าไปขัดใจแกมากนัก
    น่าทึ่งนะครับ นึกถึงญี่ปุ่น อย่านึกถึงแต่ปลาดิบกับกิโมโน เดี๋ยวจะเข้าใจหลายอย่างเกี่ยวกับญี่ปุ่น…ผิดเพี้ยน...
    เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว สื่อฝรั่งต่างพากันลงข่าวว่า ยามากูชิ – กูมิ Yamagushi – gumi ยากูซ่า แก๊งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นขณะนี้ กำลังจะฉลองครบรอบ 100 ปี ของแก๊ง ด้วยการแตกคอกัน และอาจมีการยกพวกตีกันรุนแรง เป็นข่าวหลุดมาจากการประชุมใหญ่ของแก๊ง ที่สำนักงานใหญ่เมืองโกเบ เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคม เขาว่ามันเป็นการเรียกประชุมด่วน บรรดาชายในชุดสูทดำ นิ้วก้อยสั้นทั้งหลาย ต่างทำหน้าเครียด รีบมาเข้าประชุมกันพร้อมหน้า ทั้งหมดเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวสีดำ กระจกติดฟิลม์ดำมืด รถยนต์มีแต่ยี่ห้อเมอร์ซิเดซเบนซ์ หรือโตโยต้าเล็กซัสเท่านั้น ยี่ห้ออื่นสงสัยจะไม่เข้ากับ สูทดำและนิ้วก้อยสั้น
    รายงานข่าวว่า ยามากูชิ-กูมิ กำลังร้าวจัดใกล้แตก พวกหนึ่ง ยังคงสน้บสนุนหัวหน้าใหญ่คนปัจจุบัน หนุ่มใหญ่วัย 73 นายชิโนดะ Kenichi Shinoda หรือที่รู้จักกันในนาม Shinobu Tsukasa ส่วนอีกพวก สนับสนุนคู่แข่งที่อยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ข่าวไม่บอกว่าเป็นใคร
    สาเหตุที่แตกคอ มีเรื่องอ้างสาระพัด แต่เรื่องใหญ่เขาว่า น่าจะเป็นเรื่องการค้ายาเสพติด ที่เจ้าพ่อวัย 73 บอก ตามประเพณี ตั้งแต่ตั้งแก๊งมา เราไม่ค้ายา แต่ลูกแก๊งบอก ถ้าไม่ค้ายา เรารวยไม่พอนะ ค้าคน ค้าเงิน ค้าบ่อน ค้าของเมา ค้ากำลัง ฯลฯ มันไม่พอรวย เอ ค้ากำลังอาวุธ นี่ น่าจะพอนะ หรือ ส่วนแบ่งไม่ลงตัว อันนี้ผม ไม่กล้าเดา
    บางข่าว ยังมีเพิ่มเติมว่า หรือจะเป็นการเตรียมตัวกลับมา ของหัวหน้ายากูซ่าใหญ่อีกคนชื่อ นาย โกโตะ Goto Tadamasa ซึ่งเคยใหญ่มาก แต่ตอนหลังถูกขับออกจากแก๊ง ในปี ค.ศ.2008 หลังมีข่าวว่า กระด้างกระเดื่องแยะ และไปมีข้อตกลงกับ FBI ของอเมริกา เอาความในของพวกไปบอก เพื่อแลกกับการผ่าตัดเปลี่ยนตับของเขา หลังจากหายดี นายโกโตะไม่กลับญี่ปุ่น แต่ไปปักหลัก ฝั่งตัวอยู่ ในกัมพูชา
    เรื่องยามากูชิ-กูมิ กำลังร้าวจัด จวนแตกนี่ ทำให้ตำรวจญี่ปุ่น อยู่ในภาวะเตรียมพร้อม ไม่กล้าง่วงไม่กล้าซึม เขาว่า เมื่อยากูซ่า แตกคอใหญ่ในปี ค.ศ.1984 พวกเขาตีกันไม่เลิกถึง 5 ปี มีการปาระเบิดกลางเมือง ยิงกราดกลางถนนเหมือนในหนัง ขับรถบรรทุกพุ่งใส่บ้านพังเป็นแถบๆ (บ้านเล็กน่าเอ็นดูของญี่ปุ่น ท่าทางพังง่ายอยู่แล้ว) คนตายไปหลายสิบ สมัยนั้นส่วนใหญ่ใช้ ปืนกล กับปาระเบิดใส่กันจะๆ เป้าเจาะจง ไม่ใช่เป้าหว่าน แบบวางระเบิดใกล้สี่แยกเหมือนสมัยนี้ เป้ก็ยังไม่ใช้ วิกก็ไม่ใส่กัน ตำรวจญี่ปุ่นบอก ถ้าตีกันงวดนี้ จากพัฒนาการใช้อาวุธอุปกรณ์กันครบครัน ตำรวจก็ไม่กล้าคาดเดาว่า ญี่ปุ่นจะเละขนาดไหน
    ยากูซ่าในญี่ปุ่นมีประมาณ 24 แก๊งใหญ่ จำนวนยากูซ่าทั้งหมดประมาณ 6 หมื่นกว่าคน ทั้งหมดมีรายได้รวมกันต่อปี อย่างน้อย 45 พันล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยออกไหมครับ จำนวนมหึมามาก แก๊งใหญ่อันดับแรกคือ ยามากูชิ-กูมิ ซึ่งไม่ใช่แค่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เขาเป็นกลุ่มอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่ามาเฟียอิตาลี และอเมริกันอีกนะครับ
    ยามากูชิ-กูมิ มีสมาชิกทางการประมาณ 2 หมื่นกว่าคน แต่ตำรวจญี่ปุ่น บอก ตัวเลขจริงน่าจะใกล้ 4 หมื่นกว่าคน มีสาขาเกือบร้อยสาขา ทั้งในญี่ปุ่น เกาหลี และอเมริกา ไทยมีหรือเปล่า ไม่แน่ใจ เอาว่าไม่มี ดีกว่านะ แก๊งเจ้าพ่อรายนี้ มีบริษัทหน้าฉาก หลายร้อยบริษัท มีบริษัทตรวจสอบบัญชีนับไม่ถ้วนอยู่ในมือ และมีพนักงานทำงานบริหารเป็นพันๆคน เจ้าพ่อเก็บข้อมูลบริษัทธุรกิจ ไว้ใช้ในการ “ทำธุรกิจ” มากมาย และมีข้อมูลส่วนบุคคล ประมาณ 3.2 ล้านคน เอาไว้ทำอะไร คงพอนึกกันออก นอกจากนี้ ยังมีบริษัทนักสืบส่วนบุคคล ไว้ติดตามบุคคล ที่น่าตาม หรือ ต้องตามอีกแยะ
    
###############
ตอน 2
     
    เรื่องยากูซ่าแตกคอกัน นี่น่าสนใจไหม ผมให้ความสนใจ แต่ ไม่ใช่เรื่องเขาจะแตกคอกันผมสนใจเรื่อง “เวลา” ของการเป็นข่าว สนใจคนเขียนข่าว และสนใจเนื้อข่าว บางตอน
     
    “เวลา” ของการเป็นข่าว น่าสนใจเพราะ นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานตาเพื่อนรักยากูซ่า กำลังจะบีบให้สภาสูงของญี่ปุ่นผ่านกฏหมาย เพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองกำลังของตัวเอง ร่อนไปทั่ว
    เพื่อช่วยแบกถาดบริการให้ไอ้นักล่าใบตองแห้ง คอยดักตีห้วเพื่อนบ้าน แถบเอเซียแปซิฟิกได้คล่องตัว ในขณะเดียวกัน ก็มีชาวญี่ปุ่น
    โดยเฉพาะพวกคุณแม่กำลังไม่ยอม ไม่อยากให้ลูกไปทำสงคราม ไม่อยากให้ลูกต้องมีสภาพอย่างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงไม่ต้องการให้สภาผ่านกฏหมายนี้
    และออกมาประท้วงกันแล้ว และอาจจะออกมาประท้วงกันอีก แต่ถ้ายากูซ่ายกพวกตีกัน กลางเมือง พวกคุณแม่คุณลูก ก็คงไม่ค่อยอยากจะเสี่ยงออกมาชุมนุม
    เผลอๆ อาจถูกลากไปอยู่ข้างไหนของยากูซ่าแบบไม่สมัครใจ หรือไม่ก็เอาข่าวยากูซ่าตีกัน มากลบข่าวเอากฏหมายแบกถาดเข้าสภา เรื่องสร้างข่าวหนึ่ง มากลบอีกข่าวหนึ่งนี่ ถนัดกันนัก
    ช่างเลือกเวลาให้ยากูซ่าทะเลาะกันจริงนะ หลานตา
    เรื่องคนเขียนข่าวนี่ก็แปลก สื่อฝรั่งระดับใหญ่อย่าง the Independent, Guardian, Telegraph, Washington Post ลงข่าวกันหมด แต่ดูไปลึกๆ ข่าวมาจากตอ ต้นเดียวกันทั้งนั้น เพราะเป็นข่าวที่เริ่มมาจาก นาย Jake Adelstien
    นายเจค Jake Adelstien นี่ก็แปลกเอาเรื่องอยู่ และก็มีคนสนใจความแปลกของเขา ขนาดจะเอาเรื่องเขาไปทำหนังแล้ว หนังชื่ออะไรไม่รู้ ผมเห็นข่าวแวบๆ จำได้แต่ว่าจะให้ เจ้าหนู ที่เล่นเป็น แฮรี่ พอตเตอร์ เล่นเป็นตัวนายนักข่าวคนนี้
    นาย เจค เป็นยิวอเมริกัน จากมิสซูรี เดินทางมาญี่ปุ่น เมื่อประมาณเกือบยี่สิบปีก่อน ตอนนั้นเขาเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ปี 2 หลงไหลเรื่องญี่ปุ่น เลยขอย้ายมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ระหว่างเรียนก็ทำงานหาเงินเป็นค่าเรียน ค่าอยู่ ค่ากิน งานหนึ่ง ที่เขาเล่าว่า เขาทำก็คือ รับจ้างนวดคุณนายญี่ปุ่นที่ร่ำรวยแต่ขี้เหงา เออ ช่างหางานจริงไอ้หนู ระหว่างนั้น ก็มั่วสุมอยู่กับพวกยากูซ่า จนเกิดความสนใจ ศึกษาติดตามชีวิตยากูซ่า เมื่อเรียนจบ พูดเขียนญี่ปุ่นได้คล่อง เนียนไปกับคนญี่ปุ่นแล้ว ก็ไปสมัครงานเป็นผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ยอดจำหน่ายสุงสุดของญี่ปุ่น
    นายเจค ทำข่าวเกี่ยวกับชีวิตชาวญี่ปุ่นในอีกโลกหนี่ง เป็นชีวิตสีดำของคนกลางคืน ส่วนใหญ่เป็นข่าวอาชญากรรม วันหนึ่ง ตำรวจญี่ปุ่นคุยให้เขาฟังว่า ยากูซ่าสมัยนี้ เปลี่ยนไปแล้ว ไม่เหมือนยากูซ่าสมัยก่อน ที่เป็นสุภาพบุรุษ แม้จะสักลายพร้อยไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ยุ่ง ไม่ทำร้ายคนนอกยากูซ่า นอกจากมีแบล๊กเมล์ หรือทรมานบ้าง แต่ไม่ทำร้ายตำรวจ มาตอนหลัง เกิดยากูซ่าสายพันธ์ใหม่ เช่น พันธุ์ประเภท นายโกโตะ Goto Tadamasa นี่แหละ ยากูซ่าก็ เริ่มเหี้ยมโหด รุนแรงขึ้น เล่นนอกเส้นไปถึงชาวบ้าน จนเดือดร้อนกันไปหมด นายเจคฟังแล้วก็สนใจ คิดจะทำรายงานข่าวพิเศษ เกี่ยวกับนาย โกโตะ เขาว่างั้น
    ก่อนการสนทนานี่ไม่กี่วัน ลูกน้องนายโกโตะที่เข้าใจว่า แปรพักตร์หักหลังเขา ถูกยิงตายที่เมืองไทยของเรานี่เอง หมอนี่ หนีเจ้าพ่อโกโตะอยู่หลายปี แต่ในที่สุดก็หนีไม่พ้น
    เรื่องการถูกยิงตายของยากูซ่าในเมืองไทยนี่เป็นข่าวอยู่ใน นสพ. เนชั่น เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ.2011 ว่าไกด์ไทยสารภาพว่า ยิงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตาย 1 บาดเจ็บสาหัส อีก 1 ระหว่างพาไปปืนเขาท่องเที่ยว อยู่แถวทางเหนือของเมืองไทย จริงๆ ญี่ปุ่นทั้ง 2 คนเป็นยากูซ่า หนีตายจากการรู้เห็นการเก็บกวาด ของยากูซ่าในญี่ปุ่น แต่หนีไม่พ้น ไกด์ไทยเลยงานเข้า เป็นข่าวที่เห็นถึงความไม่เข้าท่า หลายอย่างเหลือเกิน
    
###############
ตอน 3
    เมื่อ นายเจคได้กลิ่นเรื่อง เจ้าพ่อกาโตะ เขาตามติด แล้วนำมาเขียนรายงานข่าวว่า จริงๆเรื่องมันเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นายกาโตะกำลังดำเนินการอยู่ นาย ก ดันเข้ามาขวางทาง นายกาโตะ จึงสั่งลูกน้องหมายเลข 1 ให้ จัดการนาย ก ผลปรากฏว่า นาย ก ถูกแทงตายกลางถนนแห่งหนึ่งแถว Aoyama เมื่อปี ค.ศ.2006 ตำรวจโตเกียว ใช้เวลาอยู่ 4 ปี ในปี ค.ศ.2009 จึงจับลูกน้องหมายเลข 1 ได้ แล้วออกหมายจับลูกน้องหมายเลข 2 ด้วย หมายเลข 1 ถูกพิพากษาติดคุก 13 ปี ส่วนหมายเลข 2 หนีหาย แต่ในที่สุดปรากฏมาถูกยิงตายอยู่ที่เมืองไทยในปี ค.ศ.2011 นั่นเอง
    นายเจค คุ้ยต่อ ได้เรื่องว่า นายกาโตะ เคยได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนตับ ที่ รพ UCLA Medical Center ในอเมริกา พร้อมลูกน้องอีก 2 คน ภายใต้การจัดการออก วีซ่า และอำนวยความสดวกของ FBI แถมลัดคิวไม่ต้องคอย ตัดหน้าคนที่ลงชื่อขอเปลี่ยนตับไปร้อยกว่าคน FBI บอก เราไม่ได้อะไรมากมายจากนายกาโตะหรอก อ้าว แล้วใจดีจัดการพา ยากูซ่ามาผ่าตัดเปลี่ยนตับ ตัดหน้าคนป่วยอเมริกันร้อยกว่าคนทำไม
    จากการคุ้ยแคะเรื่องนายกาโตะ นายเจคอ้างว่า ทำให้เขาโดนขู่ และโดนทำร้าย ลูกและเมียชาวญี่ปุ่นก็โดนขู่ด้วย แต่นายเจค ก็ยังคงอยู่ในญี่ปุ่นต่อไป ต่อมาเขาลาออกจากหนังสือพิมพ์ Yomiuri มาเป็นสื่ออิสระ แต่ก็ยังตามติดเรื่องยากูซ่า การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน ซึ่งเป็นธุรกิจของยากูซ่าต่อ ตัวเขาเองก็ใส่สูทดำ เหมือนพวกยากูซ่าส่วนใหญ่ แถมนั่งรถเมอร์ซิเดซเบนซ์ สีดำ มีคนขับเป็นอดีตยากูซ่านิ่วก้อยซ้ายสั้นหายไป 1 ข้อ เห็นชัด มีคนบอกว่า นายเจคเอง ก็น่าจะเป็น ซีไอเอ ไม่งั้นไม่รอดมาหรอก นายเจคไม่ตอบรับ หรือ ปฏิเสธ เขายังคลุกคลีอยู่กับยากูซ่า ตอนหลังเขาแยกทางกับเมีย ตัวเขายังอยู่ญี่ปุ่นจนทุกวันนี้ ส่วนลูกเมียไปอยู่อเมริกา และมีตำรวจคอยคุ้มกัน
    แต่ นายเจค ยังไม่เลิกเล่น เขาเขียนเรื่องของนายโกโตะ กับ FBI ไปลงใน นสพ. Washington Post และ Los Angeles Times เขารายงานว่า หลังจากผ่าตัดเปลี่ยนตับเรียบร้อย นายโกโตะ ก็กลับมาญี่ปุ่น บริหารกิจการยากูซ่าต่อ และในปี ค.ศ.2008 ก็ถูกขับออกจากแก๊งยากูซ่า จากนั้น นายกาโตะก็หนีไปอยู่ที่กัมพูชาพร้อมพรรคพวก ตัวนายกาโตะ บวชเป็นพระนุ่งเหลืองห่มเหลืองในพุทธศาสนา
    นายเจคเขียนหนังสือ เกี่ยวกับชีวิตด้านมืดของโตเกียวชื่อ “Tokyo Vice” ที่น่าจะเป็นต้นเรื่องของข่าว ที่ว่าจะมีการสร้างหนัง ส่วนนายกาโตะ ก็มาแบบยากูซ่า เขาบอกว่า แม้จะเขาจะบวชเป็นพระแล้ว ก็ใช่ว่า นายเจค จะได้อยู่สบาย หลังจากนั้น มีข่าวว่า ทนายที่นายเจค จ้างเอาไว้ดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเขากับนายกาโตะ ไปพักผ่อนที่ฟิลิปปินส์ เช้าขึ้นมาพบว่านอนตายสนิทอยู่ในห้องพักของโรงแรม มีขวดยานอนหลับกับแก้วไวน์อยู่หัวเตียง ที่ข้อมือมีรอยเชือดยาว แต่ไม่ลึก มีกล่องใส่คัตเตอร์ขนาดต่างๆ วางอยู่ที่หัวเตียงด้วย ตำรวจฟิลิปปินส์ สรุปสำนวนว่า เป็นการฆ่าตัวตาย วิธีการ การสรุปสำนวนไม่ต่างกับตำรวจไทย
    เล่าเรื่องยากูซ่าแตกคอให้ฟังแล้ว ดูเผินๆ เหมือนเรื่องไม่น่าเป็นเรื่อง มาออกข่าวกันทำไม แถมเรื่องก็ไม่เห็นมีอะไร ลุงนิทานเอามาเขียนทำไม
    เรื่องแบบนี้แหละ ที่คนช่างสงสัยอย่างผม อดคิดมากไม่ได้ ผมไม่เชื่อเรื่องบังเอิญ!
    นายเจค สาระพัดจะทำตัวคลุกกับยากูซ่า ตีข่าวเสียน่าสนใจ ว่ายากูซ่าจะแตกกัน ตีกัน แต่ตอนเขียนถึงสาเหตุ กลับแสนเบา ไม่มีน้ำหนัก ส่วนเรื่องนายกาโตะ ก็เช่นเดียวกัน ตีข่าวเรื่องเปลี่ยนตับ กับข้อตกลงกับ FBI เหมือนเร้าใจ แต่พอถูกไล่จากแก๊ง ดันไม่เจาะลึก ว่ามาจากสาเหตุอะไร และที่แปลก จนผมต้องเขียนถึงคือ เรื่องยากูซ่า ดันหนี ไปบวชเป็นพระอยู่ในเขมร ! มีที่ให้ไปตั้งแยะ เลือกไปอยู่เขมร มันไม่สงสัยไม่ได้ แถมช่วงเวลา ที่ ยากูซ่าไปอยู่เขมร ก็น่าสนใจสำหรับผม
    ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนญี่ปุ่นจะยกพลขึ้นบก ผ่านมาทางใต้ของไทย ญี่ปุ่น ก็มาบวชเป็นพระอยู่ทางใต้ของเราอยู่นานหลายคน โดยเฉพาะตัว นายพล Tsuji Masanobu ผู้ที่จะมาบัญชาการรบในไทยก็บวช
    ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง การยึดราชประสงค์ และการซุ่มยิงทหารที่สี่แยกคอกวัว การบุกสถานที่ราชการและโรงพยาบาล ในปี พ.ศ.2553 (ค.ศ.2010) ที่มีชายชุดดำ ซุ่มยิงทหาร วางระเบิด เผากรุงเทพฯ เสียวินาศสันตะโร ชายชุดดำมาจากไหนกัน ใครฝึก พฤติกรรมของชายชุดดำเป็นอย่างไร น่ารังเกียจ เหี้ยมโหดขนาดไหน ไม่ใช่พื้นฝอยหาตะเข็บ แต่เป็นเรื่องเจ็บแล้วต้องจำ และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก
    ทำให้ผมนึก ไปได้อีกหลายเรื่องครับ เรื่องบังเอิญไม่มี เขมรกับไทย อยู่ไม่ไกลกัน เข้าง่ายออกง่าย มารถ มาเรือ มารถไฟได้ทั้งนั้น และญี่ปุ่นในไทยก็มากขึ้นทุกวัน ตอนนี้ก็เร่งฝึกแบกถาดให้ไอ้นักล่าใบตองแห้งอยู่ ระวังกันบ้างก็แล้วกัน ไอ้ใบตองแห้งมันวางแผนเก่ง เรื่องล่อให้หลงทางนี่ กระจอกสำหรับมัน
    
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
7 ก.ย. 2558
    เรื่อง ยากูซ่า…ยังซ่าอยู่ นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยากูซ่า…ยังซ่าอยู่” ตอน 1 เพิ่งเล่าไปหมาดๆ ในนิทานเรื่องไม่ตกสะเก็ดว่า ยากูซ่าเป็นหมอตำแยทำคลอดพรรค LPD ของญี่ปุ่น ในคุกซุกาโมช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกใหม่ๆ หลังจากทำคลอด ยากูซ่าสาระพัดลาย ยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงนางนม ช่วยกันป้อนข้าว ป้อนน้ำอุ้มชูดูแล จนพรรค LDP โตไว กล้ามใหญ่ หน้าไหนจะกล้าขัดใจขวางทางเจ้าพ่อยากูซ่า ด้วยเหตุนี้ พรรค LDP จึงคุมการเมืองญี่ปุ่นอยู่มือ อยู่หมัด มาตลอด ตั้งแต่คลอด จนถึงเดี๋ยวนี้  คณะหมอตำแย ประกอบด้วย นายโคดามะ เจ้าพ่อใหญ่ของยากูซ่า หัวหน้าสมาคมมังกรดำ นายซาซากาวา หัวหน้ายากูซ่าอีกกลุ่มที่ ที่มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเป็นมือสำคัญ มือหนึ่ง ที่อยู่ข้างหลังประเทศญี่ปุ่น และอีกหนึ่ง ที่เป็นคนประสานงานระหว่าง ฝ่ายยากูซ่า นักการเมืองญี่ปุ่นกับฝ่ายอเมริกา คือ นายคิชิ โนบูซุเกะ Kishi Nobusuke ตาของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบัน นายชินโซะ อาเบะ นั่นเอง ทีนี่ก็รู้กันแล้วว่า คุณอาเบะ นี่เป็นเด็กเลี้ยงของยากูซ่า อย่าไปขัดใจแกมากนัก น่าทึ่งนะครับ นึกถึงญี่ปุ่น อย่านึกถึงแต่ปลาดิบกับกิโมโน เดี๋ยวจะเข้าใจหลายอย่างเกี่ยวกับญี่ปุ่น…ผิดเพี้ยน... เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว สื่อฝรั่งต่างพากันลงข่าวว่า ยามากูชิ – กูมิ Yamagushi – gumi ยากูซ่า แก๊งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นขณะนี้ กำลังจะฉลองครบรอบ 100 ปี ของแก๊ง ด้วยการแตกคอกัน และอาจมีการยกพวกตีกันรุนแรง เป็นข่าวหลุดมาจากการประชุมใหญ่ของแก๊ง ที่สำนักงานใหญ่เมืองโกเบ เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคม เขาว่ามันเป็นการเรียกประชุมด่วน บรรดาชายในชุดสูทดำ นิ้วก้อยสั้นทั้งหลาย ต่างทำหน้าเครียด รีบมาเข้าประชุมกันพร้อมหน้า ทั้งหมดเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวสีดำ กระจกติดฟิลม์ดำมืด รถยนต์มีแต่ยี่ห้อเมอร์ซิเดซเบนซ์ หรือโตโยต้าเล็กซัสเท่านั้น ยี่ห้ออื่นสงสัยจะไม่เข้ากับ สูทดำและนิ้วก้อยสั้น รายงานข่าวว่า ยามากูชิ-กูมิ กำลังร้าวจัดใกล้แตก พวกหนึ่ง ยังคงสน้บสนุนหัวหน้าใหญ่คนปัจจุบัน หนุ่มใหญ่วัย 73 นายชิโนดะ Kenichi Shinoda หรือที่รู้จักกันในนาม Shinobu Tsukasa ส่วนอีกพวก สนับสนุนคู่แข่งที่อยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ข่าวไม่บอกว่าเป็นใคร สาเหตุที่แตกคอ มีเรื่องอ้างสาระพัด แต่เรื่องใหญ่เขาว่า น่าจะเป็นเรื่องการค้ายาเสพติด ที่เจ้าพ่อวัย 73 บอก ตามประเพณี ตั้งแต่ตั้งแก๊งมา เราไม่ค้ายา แต่ลูกแก๊งบอก ถ้าไม่ค้ายา เรารวยไม่พอนะ ค้าคน ค้าเงิน ค้าบ่อน ค้าของเมา ค้ากำลัง ฯลฯ มันไม่พอรวย เอ ค้ากำลังอาวุธ นี่ น่าจะพอนะ หรือ ส่วนแบ่งไม่ลงตัว อันนี้ผม ไม่กล้าเดา บางข่าว ยังมีเพิ่มเติมว่า หรือจะเป็นการเตรียมตัวกลับมา ของหัวหน้ายากูซ่าใหญ่อีกคนชื่อ นาย โกโตะ Goto Tadamasa ซึ่งเคยใหญ่มาก แต่ตอนหลังถูกขับออกจากแก๊ง ในปี ค.ศ.2008 หลังมีข่าวว่า กระด้างกระเดื่องแยะ และไปมีข้อตกลงกับ FBI ของอเมริกา เอาความในของพวกไปบอก เพื่อแลกกับการผ่าตัดเปลี่ยนตับของเขา หลังจากหายดี นายโกโตะไม่กลับญี่ปุ่น แต่ไปปักหลัก ฝั่งตัวอยู่ ในกัมพูชา เรื่องยามากูชิ-กูมิ กำลังร้าวจัด จวนแตกนี่ ทำให้ตำรวจญี่ปุ่น อยู่ในภาวะเตรียมพร้อม ไม่กล้าง่วงไม่กล้าซึม เขาว่า เมื่อยากูซ่า แตกคอใหญ่ในปี ค.ศ.1984 พวกเขาตีกันไม่เลิกถึง 5 ปี มีการปาระเบิดกลางเมือง ยิงกราดกลางถนนเหมือนในหนัง ขับรถบรรทุกพุ่งใส่บ้านพังเป็นแถบๆ (บ้านเล็กน่าเอ็นดูของญี่ปุ่น ท่าทางพังง่ายอยู่แล้ว) คนตายไปหลายสิบ สมัยนั้นส่วนใหญ่ใช้ ปืนกล กับปาระเบิดใส่กันจะๆ เป้าเจาะจง ไม่ใช่เป้าหว่าน แบบวางระเบิดใกล้สี่แยกเหมือนสมัยนี้ เป้ก็ยังไม่ใช้ วิกก็ไม่ใส่กัน ตำรวจญี่ปุ่นบอก ถ้าตีกันงวดนี้ จากพัฒนาการใช้อาวุธอุปกรณ์กันครบครัน ตำรวจก็ไม่กล้าคาดเดาว่า ญี่ปุ่นจะเละขนาดไหน ยากูซ่าในญี่ปุ่นมีประมาณ 24 แก๊งใหญ่ จำนวนยากูซ่าทั้งหมดประมาณ 6 หมื่นกว่าคน ทั้งหมดมีรายได้รวมกันต่อปี อย่างน้อย 45 พันล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยออกไหมครับ จำนวนมหึมามาก แก๊งใหญ่อันดับแรกคือ ยามากูชิ-กูมิ ซึ่งไม่ใช่แค่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เขาเป็นกลุ่มอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่ามาเฟียอิตาลี และอเมริกันอีกนะครับ ยามากูชิ-กูมิ มีสมาชิกทางการประมาณ 2 หมื่นกว่าคน แต่ตำรวจญี่ปุ่น บอก ตัวเลขจริงน่าจะใกล้ 4 หมื่นกว่าคน มีสาขาเกือบร้อยสาขา ทั้งในญี่ปุ่น เกาหลี และอเมริกา ไทยมีหรือเปล่า ไม่แน่ใจ เอาว่าไม่มี ดีกว่านะ แก๊งเจ้าพ่อรายนี้ มีบริษัทหน้าฉาก หลายร้อยบริษัท มีบริษัทตรวจสอบบัญชีนับไม่ถ้วนอยู่ในมือ และมีพนักงานทำงานบริหารเป็นพันๆคน เจ้าพ่อเก็บข้อมูลบริษัทธุรกิจ ไว้ใช้ในการ “ทำธุรกิจ” มากมาย และมีข้อมูลส่วนบุคคล ประมาณ 3.2 ล้านคน เอาไว้ทำอะไร คงพอนึกกันออก นอกจากนี้ ยังมีบริษัทนักสืบส่วนบุคคล ไว้ติดตามบุคคล ที่น่าตาม หรือ ต้องตามอีกแยะ 
###############
ตอน 2   เรื่องยากูซ่าแตกคอกัน นี่น่าสนใจไหม ผมให้ความสนใจ แต่ ไม่ใช่เรื่องเขาจะแตกคอกันผมสนใจเรื่อง “เวลา” ของการเป็นข่าว สนใจคนเขียนข่าว และสนใจเนื้อข่าว บางตอน   “เวลา” ของการเป็นข่าว น่าสนใจเพราะ นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานตาเพื่อนรักยากูซ่า กำลังจะบีบให้สภาสูงของญี่ปุ่นผ่านกฏหมาย เพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองกำลังของตัวเอง ร่อนไปทั่ว เพื่อช่วยแบกถาดบริการให้ไอ้นักล่าใบตองแห้ง คอยดักตีห้วเพื่อนบ้าน แถบเอเซียแปซิฟิกได้คล่องตัว ในขณะเดียวกัน ก็มีชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะพวกคุณแม่กำลังไม่ยอม ไม่อยากให้ลูกไปทำสงคราม ไม่อยากให้ลูกต้องมีสภาพอย่างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงไม่ต้องการให้สภาผ่านกฏหมายนี้ และออกมาประท้วงกันแล้ว และอาจจะออกมาประท้วงกันอีก แต่ถ้ายากูซ่ายกพวกตีกัน กลางเมือง พวกคุณแม่คุณลูก ก็คงไม่ค่อยอยากจะเสี่ยงออกมาชุมนุม เผลอๆ อาจถูกลากไปอยู่ข้างไหนของยากูซ่าแบบไม่สมัครใจ หรือไม่ก็เอาข่าวยากูซ่าตีกัน มากลบข่าวเอากฏหมายแบกถาดเข้าสภา เรื่องสร้างข่าวหนึ่ง มากลบอีกข่าวหนึ่งนี่ ถนัดกันนัก ช่างเลือกเวลาให้ยากูซ่าทะเลาะกันจริงนะ หลานตา เรื่องคนเขียนข่าวนี่ก็แปลก สื่อฝรั่งระดับใหญ่อย่าง the Independent, Guardian, Telegraph, Washington Post ลงข่าวกันหมด แต่ดูไปลึกๆ ข่าวมาจากตอ ต้นเดียวกันทั้งนั้น เพราะเป็นข่าวที่เริ่มมาจาก นาย Jake Adelstien นายเจค Jake Adelstien นี่ก็แปลกเอาเรื่องอยู่ และก็มีคนสนใจความแปลกของเขา ขนาดจะเอาเรื่องเขาไปทำหนังแล้ว หนังชื่ออะไรไม่รู้ ผมเห็นข่าวแวบๆ จำได้แต่ว่าจะให้ เจ้าหนู ที่เล่นเป็น แฮรี่ พอตเตอร์ เล่นเป็นตัวนายนักข่าวคนนี้ นาย เจค เป็นยิวอเมริกัน จากมิสซูรี เดินทางมาญี่ปุ่น เมื่อประมาณเกือบยี่สิบปีก่อน ตอนนั้นเขาเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ปี 2 หลงไหลเรื่องญี่ปุ่น เลยขอย้ายมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ระหว่างเรียนก็ทำงานหาเงินเป็นค่าเรียน ค่าอยู่ ค่ากิน งานหนึ่ง ที่เขาเล่าว่า เขาทำก็คือ รับจ้างนวดคุณนายญี่ปุ่นที่ร่ำรวยแต่ขี้เหงา เออ ช่างหางานจริงไอ้หนู ระหว่างนั้น ก็มั่วสุมอยู่กับพวกยากูซ่า จนเกิดความสนใจ ศึกษาติดตามชีวิตยากูซ่า เมื่อเรียนจบ พูดเขียนญี่ปุ่นได้คล่อง เนียนไปกับคนญี่ปุ่นแล้ว ก็ไปสมัครงานเป็นผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ยอดจำหน่ายสุงสุดของญี่ปุ่น นายเจค ทำข่าวเกี่ยวกับชีวิตชาวญี่ปุ่นในอีกโลกหนี่ง เป็นชีวิตสีดำของคนกลางคืน ส่วนใหญ่เป็นข่าวอาชญากรรม วันหนึ่ง ตำรวจญี่ปุ่นคุยให้เขาฟังว่า ยากูซ่าสมัยนี้ เปลี่ยนไปแล้ว ไม่เหมือนยากูซ่าสมัยก่อน ที่เป็นสุภาพบุรุษ แม้จะสักลายพร้อยไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ยุ่ง ไม่ทำร้ายคนนอกยากูซ่า นอกจากมีแบล๊กเมล์ หรือทรมานบ้าง แต่ไม่ทำร้ายตำรวจ มาตอนหลัง เกิดยากูซ่าสายพันธ์ใหม่ เช่น พันธุ์ประเภท นายโกโตะ Goto Tadamasa นี่แหละ ยากูซ่าก็ เริ่มเหี้ยมโหด รุนแรงขึ้น เล่นนอกเส้นไปถึงชาวบ้าน จนเดือดร้อนกันไปหมด นายเจคฟังแล้วก็สนใจ คิดจะทำรายงานข่าวพิเศษ เกี่ยวกับนาย โกโตะ เขาว่างั้น ก่อนการสนทนานี่ไม่กี่วัน ลูกน้องนายโกโตะที่เข้าใจว่า แปรพักตร์หักหลังเขา ถูกยิงตายที่เมืองไทยของเรานี่เอง หมอนี่ หนีเจ้าพ่อโกโตะอยู่หลายปี แต่ในที่สุดก็หนีไม่พ้น เรื่องการถูกยิงตายของยากูซ่าในเมืองไทยนี่เป็นข่าวอยู่ใน นสพ. เนชั่น เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ.2011 ว่าไกด์ไทยสารภาพว่า ยิงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตาย 1 บาดเจ็บสาหัส อีก 1 ระหว่างพาไปปืนเขาท่องเที่ยว อยู่แถวทางเหนือของเมืองไทย จริงๆ ญี่ปุ่นทั้ง 2 คนเป็นยากูซ่า หนีตายจากการรู้เห็นการเก็บกวาด ของยากูซ่าในญี่ปุ่น แต่หนีไม่พ้น ไกด์ไทยเลยงานเข้า เป็นข่าวที่เห็นถึงความไม่เข้าท่า หลายอย่างเหลือเกิน 
###############
ตอน 3 เมื่อ นายเจคได้กลิ่นเรื่อง เจ้าพ่อกาโตะ เขาตามติด แล้วนำมาเขียนรายงานข่าวว่า จริงๆเรื่องมันเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นายกาโตะกำลังดำเนินการอยู่ นาย ก ดันเข้ามาขวางทาง นายกาโตะ จึงสั่งลูกน้องหมายเลข 1 ให้ จัดการนาย ก ผลปรากฏว่า นาย ก ถูกแทงตายกลางถนนแห่งหนึ่งแถว Aoyama เมื่อปี ค.ศ.2006 ตำรวจโตเกียว ใช้เวลาอยู่ 4 ปี ในปี ค.ศ.2009 จึงจับลูกน้องหมายเลข 1 ได้ แล้วออกหมายจับลูกน้องหมายเลข 2 ด้วย หมายเลข 1 ถูกพิพากษาติดคุก 13 ปี ส่วนหมายเลข 2 หนีหาย แต่ในที่สุดปรากฏมาถูกยิงตายอยู่ที่เมืองไทยในปี ค.ศ.2011 นั่นเอง นายเจค คุ้ยต่อ ได้เรื่องว่า นายกาโตะ เคยได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนตับ ที่ รพ UCLA Medical Center ในอเมริกา พร้อมลูกน้องอีก 2 คน ภายใต้การจัดการออก วีซ่า และอำนวยความสดวกของ FBI แถมลัดคิวไม่ต้องคอย ตัดหน้าคนที่ลงชื่อขอเปลี่ยนตับไปร้อยกว่าคน FBI บอก เราไม่ได้อะไรมากมายจากนายกาโตะหรอก อ้าว แล้วใจดีจัดการพา ยากูซ่ามาผ่าตัดเปลี่ยนตับ ตัดหน้าคนป่วยอเมริกันร้อยกว่าคนทำไม จากการคุ้ยแคะเรื่องนายกาโตะ นายเจคอ้างว่า ทำให้เขาโดนขู่ และโดนทำร้าย ลูกและเมียชาวญี่ปุ่นก็โดนขู่ด้วย แต่นายเจค ก็ยังคงอยู่ในญี่ปุ่นต่อไป ต่อมาเขาลาออกจากหนังสือพิมพ์ Yomiuri มาเป็นสื่ออิสระ แต่ก็ยังตามติดเรื่องยากูซ่า การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน ซึ่งเป็นธุรกิจของยากูซ่าต่อ ตัวเขาเองก็ใส่สูทดำ เหมือนพวกยากูซ่าส่วนใหญ่ แถมนั่งรถเมอร์ซิเดซเบนซ์ สีดำ มีคนขับเป็นอดีตยากูซ่านิ่วก้อยซ้ายสั้นหายไป 1 ข้อ เห็นชัด มีคนบอกว่า นายเจคเอง ก็น่าจะเป็น ซีไอเอ ไม่งั้นไม่รอดมาหรอก นายเจคไม่ตอบรับ หรือ ปฏิเสธ เขายังคลุกคลีอยู่กับยากูซ่า ตอนหลังเขาแยกทางกับเมีย ตัวเขายังอยู่ญี่ปุ่นจนทุกวันนี้ ส่วนลูกเมียไปอยู่อเมริกา และมีตำรวจคอยคุ้มกัน แต่ นายเจค ยังไม่เลิกเล่น เขาเขียนเรื่องของนายโกโตะ กับ FBI ไปลงใน นสพ. Washington Post และ Los Angeles Times เขารายงานว่า หลังจากผ่าตัดเปลี่ยนตับเรียบร้อย นายโกโตะ ก็กลับมาญี่ปุ่น บริหารกิจการยากูซ่าต่อ และในปี ค.ศ.2008 ก็ถูกขับออกจากแก๊งยากูซ่า จากนั้น นายกาโตะก็หนีไปอยู่ที่กัมพูชาพร้อมพรรคพวก ตัวนายกาโตะ บวชเป็นพระนุ่งเหลืองห่มเหลืองในพุทธศาสนา นายเจคเขียนหนังสือ เกี่ยวกับชีวิตด้านมืดของโตเกียวชื่อ “Tokyo Vice” ที่น่าจะเป็นต้นเรื่องของข่าว ที่ว่าจะมีการสร้างหนัง ส่วนนายกาโตะ ก็มาแบบยากูซ่า เขาบอกว่า แม้จะเขาจะบวชเป็นพระแล้ว ก็ใช่ว่า นายเจค จะได้อยู่สบาย หลังจากนั้น มีข่าวว่า ทนายที่นายเจค จ้างเอาไว้ดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเขากับนายกาโตะ ไปพักผ่อนที่ฟิลิปปินส์ เช้าขึ้นมาพบว่านอนตายสนิทอยู่ในห้องพักของโรงแรม มีขวดยานอนหลับกับแก้วไวน์อยู่หัวเตียง ที่ข้อมือมีรอยเชือดยาว แต่ไม่ลึก มีกล่องใส่คัตเตอร์ขนาดต่างๆ วางอยู่ที่หัวเตียงด้วย ตำรวจฟิลิปปินส์ สรุปสำนวนว่า เป็นการฆ่าตัวตาย วิธีการ การสรุปสำนวนไม่ต่างกับตำรวจไทย เล่าเรื่องยากูซ่าแตกคอให้ฟังแล้ว ดูเผินๆ เหมือนเรื่องไม่น่าเป็นเรื่อง มาออกข่าวกันทำไม แถมเรื่องก็ไม่เห็นมีอะไร ลุงนิทานเอามาเขียนทำไม เรื่องแบบนี้แหละ ที่คนช่างสงสัยอย่างผม อดคิดมากไม่ได้ ผมไม่เชื่อเรื่องบังเอิญ! นายเจค สาระพัดจะทำตัวคลุกกับยากูซ่า ตีข่าวเสียน่าสนใจ ว่ายากูซ่าจะแตกกัน ตีกัน แต่ตอนเขียนถึงสาเหตุ กลับแสนเบา ไม่มีน้ำหนัก ส่วนเรื่องนายกาโตะ ก็เช่นเดียวกัน ตีข่าวเรื่องเปลี่ยนตับ กับข้อตกลงกับ FBI เหมือนเร้าใจ แต่พอถูกไล่จากแก๊ง ดันไม่เจาะลึก ว่ามาจากสาเหตุอะไร และที่แปลก จนผมต้องเขียนถึงคือ เรื่องยากูซ่า ดันหนี ไปบวชเป็นพระอยู่ในเขมร ! มีที่ให้ไปตั้งแยะ เลือกไปอยู่เขมร มันไม่สงสัยไม่ได้ แถมช่วงเวลา ที่ ยากูซ่าไปอยู่เขมร ก็น่าสนใจสำหรับผม ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนญี่ปุ่นจะยกพลขึ้นบก ผ่านมาทางใต้ของไทย ญี่ปุ่น ก็มาบวชเป็นพระอยู่ทางใต้ของเราอยู่นานหลายคน โดยเฉพาะตัว นายพล Tsuji Masanobu ผู้ที่จะมาบัญชาการรบในไทยก็บวช ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง การยึดราชประสงค์ และการซุ่มยิงทหารที่สี่แยกคอกวัว การบุกสถานที่ราชการและโรงพยาบาล ในปี พ.ศ.2553 (ค.ศ.2010) ที่มีชายชุดดำ ซุ่มยิงทหาร วางระเบิด เผากรุงเทพฯ เสียวินาศสันตะโร ชายชุดดำมาจากไหนกัน ใครฝึก พฤติกรรมของชายชุดดำเป็นอย่างไร น่ารังเกียจ เหี้ยมโหดขนาดไหน ไม่ใช่พื้นฝอยหาตะเข็บ แต่เป็นเรื่องเจ็บแล้วต้องจำ และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ทำให้ผมนึก ไปได้อีกหลายเรื่องครับ เรื่องบังเอิญไม่มี เขมรกับไทย อยู่ไม่ไกลกัน เข้าง่ายออกง่าย มารถ มาเรือ มารถไฟได้ทั้งนั้น และญี่ปุ่นในไทยก็มากขึ้นทุกวัน ตอนนี้ก็เร่งฝึกแบกถาดให้ไอ้นักล่าใบตองแห้งอยู่ ระวังกันบ้างก็แล้วกัน ไอ้ใบตองแห้งมันวางแผนเก่ง เรื่องล่อให้หลงทางนี่ กระจอกสำหรับมัน 
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
7 ก.ย. 2558
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 797 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด บทส่งท้าย ตอนที่ 1-4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” 
    บทส่งท้าย

ตอน 1
    ตกลง ดูๆไป เหมือนญี่ปุ่นลอยตัวอยู่เหนือสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงไม่เป็นผู้ชนะ แต่ก็เหมือนไม่ได้เป็นผู้แพ้ มีชาวญี่ปุ่น ตายแยะ บ้านเมืองฉิบหายเยอะก็จริงอยู่ แต่ที่ญี่ปุ่นไปรุกรานย่ำยีเขา เขาก็แหลกราญ ยับเยินไม่น้อยกว่า หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนญี่ปุ่นไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย เมื่อเทียบกับการกระทำของญี่ปุ่น
    ตั้งแต่อเมริกาเข้าไปใช้อำนาจปกครองญี่ปุ่นโดย SCAP ฝ่ายญี่ปุ่น ที่น่าจะมีผู้รับผิดชอบ ในการนำหรือส่งเสริมให้ญี่ปุ่นทำสงคราม ก็แทบจะหาผู้รับผิดชอบอย่างแท้จริงไม่เจอ เห็นแต่เงารางๆ กับคำขอโทษที่ยังกำกวม และไม่ช่วยทำให้ผู้ที่ถูกญี่ปุ่นย่ำยี นอนตาหลับ
    การชดใช้ค่าเสียหายของญี่ปุ่นกับเยอรมัน ในฐานะผู้ทำแพ้สงคราม ต่างกันสื้นเชิง
    เยอรมันถูกฝ่ายอังกฤษและยุโรปตอกหมุด ดิ้นไม่ออก จ่ายค่าเสียหายไปประมาณ 3 หมื่นล้านเหรียญ และค่าชดเชยรายเดือน อยู่อีกหลายสิบปี
    ส่วนญี่ปุ่น อเมริกาบอกว่า ญี่ปุ่นล้มละลาย ทั้งด้านทรัพย์สิน และด้านจิตใจ หลังจากกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป เพราะฉะนั้น จ่ายค่าเสียหายเพียง 2 พันล้านเหรียญ ที่เหลือ SCAP บอกว่า รอรับเป็นอาวุธ (เหลือสงคราม) และเครื่องจักรเก่า หรือเครื่องจักรใหม่ ที่ผลิต จากทรัพยากร ที่ไปขโมยเขามาได้ไหม หรือจะเอาเป็นเครื่องจักรใหม่เอี่ยม ที่อเมริกาจะให้ผลิต แต่ไม่ได้ให้ฟรีนะ ให้แบบลดราคา ส่วนต่างจ่ายเป็นอาหาร โอ้ย เงื่อนไขแยะ สรุปว่า แทบไม่มีใครได้อะไรจากญี่ปุ่น นอกจากอเมริกา
    ฝ่ายอังกฤษและยุโรปบอก แล้วพวกทหารของฝ่ายเรา ที่ญี่ปุ่นจับไปขังให้กินขี้ กินโคลน อยู่ค่ายกักกันที่สิงคโปร์ ประมาณ 5 หมื่นกว่าคน กว่าจะหลุดออกมาหลังสงครามโลก ตายไป เกือบครึ่ง ลืมไปแล้วหรือ นี่ยังไม่ได้นับการสร้างสพานข้ามแม่น้ำแควอันโด่งดังว่า พวกทหารฝรั่งถูกทารุณกันขนาดไหน จะชดเชย จะขอโทษอย่างไร
    ในที่สุด ไม่รู้อเมริกาตกลงอะไรกับอังกฤษ ตอนหลัง เสียงบ่นของชาวเกาะใหญ่ เงียบเช่นเป่าสาก
    ฝ่ายเอเซียเองบอกว่า เราก็ไม่ลืม เรื่องนานกิง เรื่องเมียหมอนข้าง ที่ญี่ปุ่นกวาดต้อนเอา ไปใช้สอยในช่วงสงครามอย่างทารุณ ข่มขืนทั้งร่างกายและจิตใจ มีประมาณกว่าแสนคน ส่วนใหญ่ อายุ 14 ถึง 18 และไม่ลืมเรื่องการปล้นบ้านเมืองของเราอย่างตะกระทารุณและเหี้ยมโหด แต่ไม่มีใครมาตกลงกับจีน ไม่มีคำขอโทษ โลกแทบไม่รู้เรื่อง เพราะฮอลลีวู้ดมัวแต่ทำหนังเรื่องยิว สำหรับเกาหลี ญี่ปุ่นบอกเสียใจ แต่ไม่เคยขอโทษ เพิ่งมาพูดปีนี้ แต่ก็บอกว่า ชนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น ไม่ต้องรับผิดชอบ เรื่องผ่านไปแล้ว (เดี๋ยวจะสับสนกับเรื่องใหม่ ที่กำลังจะต้องทำ ?!)
    สำหรับเยอรมัน ฝ่ายใช้อำนาจปกครอง คุ้ยแคะทอง เพชร แม้กระทั่งฝันทองในปากชาวยิว ฮอลลีวู้ด ยังทำเอาไปทำหนัง งัดฟันทองยิวให้ดู จนคนด่าเช็ดเยอรมันทั้งโรงหนัง ด้านเยอรมัน ถูกแจงทุกรายการ เพราะมียิวคอยจ้อง คอยฟ้อง และเพราะคนคอยแบ่ง มีหลายพวก จ้องกันทั้งตาทั้งปากมันแผลบ ส่วนการดำเนินคดีกับพวกนาซีที่ฆ่าโหดชาวยิว ถูกจับมาดำเนินคดีไปแล้วหลายคน ผ่านไป 70 ปี คดียังไม่จบก็มี ยังต้องพยุงกันมาศาล เมื่อ 2,3 ก็ยังมีข่าวอยู่ ส่วนพวกที่หนีรอด ก็เผ่นไปกบดาน เปลี่ยนชื่ออยู่แถวบราซิล อเมริกาใต้ จนแถวนั้น มีแต่ผิวน้ำตาล แต่ผมทอง ตาสีฟ้า กลายเป็นนางแบบ ค่าตัวแพง
    แต่สำหรับญี่ปุ่น ดูเหมือนเรื่องจะหายเงียบแทบไม่มีอะไรโผล่ ( เหมือนนิทานเรื่องจริง ที่ถูกบีบท่อ ไม่ให้นิทานโผล่ ผมไปตกลงแพ้สงครามกับมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ หือ !) จะมีก็แต่ นายพลโตโจผู้บัญชาการรบ และนายทหารคนสนิทไม่กี่คน ที่แอ่นอก (นี่ถ้าอดีตนายกฯ คนหนึ่งมาอ่าน หล่อนจะอ่านออกไหม เดี๋ยวจะงงว่า แอ่ นอก คืออะไร อ๋อ ไม่อ่านหรือครับ ไม่ชอบอ่านหนังสือ… มิน่า..) ยอมรับกรรม (แทนคนอื่นๆอีกหลายคน) เมื่อมีคนมากล่อมเขา ให้บอกว่า เขาเป็นคนสั่งให้กองทัพญี่ปุ่นทำสงคราม และเคลื่อนพล ลงมาทางแปซืฟิกใต้ โตโจ บอกไม่มีปัญหา เขารู้หน้าที่ ไม่กี่วันหลังจากนั้น เขาก็ยิงขมับตัวเองฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตาย ไปนอนโรงพยาบาลอยู่ในคุกซุกาโมแทน พอหาย ก็ไปรับโทษ ถูกแขวนคอ พร้อมกับลูกน้อง ไม่กี่คน
###############
ตอน 2
    หลังจาก นาย Atcheson เครื่องบินตกตาย มีคนแคลงใจ เรื่องที่ SCAP บอก ญี่ปุ่นล้มละลาย เสนอให้ประธานาธิบดีทรูแมน ส่งคนมาตรวจสอบ ทรูแมน ส่ง นาย Edwin S Pauley เศรษฐี น้ำมัน จากพรรค Democrat มาประเมินเศรษฐกิจ ของญีปุ่น ว่า เจ๊งจริงหรือเปล่า จะมีปัญญาใช้หนี้ชาวบ้าน เขาบ้างไหม ไหนว่าปล้นทรัพย์เขามาแยะ นาย Pauley บินมาตรวจสอบที่ญี่ปุ่น เขาตามเจอ บัญชีลับต่างๆ ที่อยู่นอกประเทศ เช่นที่ สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ และอาร์เจนตินา เขา รายงานว่า บัญชีพวกนั้น เป็น ทรัพย์สินส่วนตัว ของ พวกนักธุรกิจใหญ่ zaibatsu ที่ไม่เกี่ยวกับการทำสงครามเลยนะ อ้าว
    แต่ ในช่วงไม่กี่เดือน ก่อนสงครามจะจบ ทหารพรานอเมริกัน ลูกครึ่ง อเมริกัน-ฟิลิปปิโน นาย Servino Garcia Santa Romana สังกัดหน่วย โอเอสเอส (หน่วยข่าวกรองของอเมริกา ก่อน เปลี่ยนชื่อ เป็น ซีไอเอ) ที่ปฏิบัติหน้าที่ อยู่แถวภูเขาที่เกาะลูซอน ฟิลิปปีนส์ แอบเห็นกองทัพญี่ปุ่น ใช้รถบรรทุก เป็นขบวน ขนหีบ ท่าทางหนักอึ้ง เข้าไปในถ้ำ หลายรอบจนนับไม่ถ้วน เลย แอบตามไปล็อคคอทหารญี่ปุ่นมาสอบถาม ได้ความว่า เป็นหีบบรรจุทองแท่งทั้งนั้น ส้มหล่นใส่อย่างไม่นึกฝัน ฝ่ายทหารอเมริกันจึงสั่งปิดตายถ้ำ วางกับระเบิดกันไว้ พร้อมจัดยามเฝ้า
    หลังสงครามเลิก นายพลแมค กลับมาลูซอน พร้อมนายพล Charles Willoughby ลูกน้องคนสนิท และพวกหน่วยข่าวกรองอีกหลายโหล ช่วยกันเปิดถ้ำ ขนทองออกไป หลังจากนั้น ก็ปิดตายถ้ำอีกรอบ
    เขาว่า ทองที่ขนกันไป ทอง Santa Romana พวกเขาเรียกกันอย่างนั้น นอกจาก 2 นายพลใหญ่ จะรู้แล้ว หัวหน้าใหญ่ OSS นายพล Donovan ก็รู้ และ แน่นอน Herbert Hoover ก็รู้ ทอง Santa Romana ไม่ได้ส่งคืนเจ้าของ แต่ ฝ่ายอเมริกัน ขนขึ้นเรือรบ นำไปฝาก ใน ธนาคาร 42 ประเทศ แยกเป็น 176 บัญชี ตัวเลขที่เปิดเผย คือ ทอง จำนวน 20,000 ตัน ตันนะครับ ไม่ใช่กิโล ไม่ใช่บาท
    บางส่วนของทอง แบ่งเอาไปใช้ในกิจการ นอกระบบ ของ ซีไอเอ เหมือน รายได้จากพวกฝิ่น เฮโรอีน แถวฉาน พม่า ลาว สามเหลี่ยมทองคำ นั่นแหละ ไม่ต้องกวนภาษีประชาชนคนอเมริกัน และไม่ต้องขออนุญาตรัฐสภา เวลาจะปฏิบัติการ ไม่ต้องแจงรายละเอียด ส่วนที่เหลือไปไหนบ้าง หนังสือที่อ่านไม่บอก ผมรู้แต่ว่า คนเขียนหนังสือ ที่เล่าข้อมูลฝ่ายญี่ปุ่น เขียนเสร็จ พอหนังสือออกขาย เขาต้องย้ายบ้าน ย้ายประเทศ
###############
ตอน 3
    หลังครามโลก พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP ที่คลอดในคุกซุกาโม มียากูซ่า เป็นหมอตำแย ก็เป็นผู้ใช้อำนาจบริหารญี่ปุ่น มาจนถึงทุกวันนี้
    หลังสงครามโลก กลุ่มอเมริกัน มอร์แกน เสียตำแหน่งเจ้าพ่อใหญ่ ที่คุมทุกปีกในอเมริกา ให้แก่ กลุ่มอเมริกัน ร้อกกี้เฟลเลอร์ เขาว่า เพราะมอร์แกน แทงม้าผิดตัว ทุ่มผิดที่ นึกว่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ จะเคี้ยวเหยื่อ เหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ มันไม่มีอะไรแน่นอนตลอดเวลาหรอก พวกเอ็งควรศึกษาศาสนาพุทธ ให้เข้าใจ ถึงเรื่องการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเสียบ้าง จะได้ไม่ตะกระตะกรามขนาดนี้ ส่วนร้อกกี้ อาศัยเทคนิคใหม่ ล่าเหยื่อ โดยไม่ต้องใช้เงินถม ไม่ต้องใช้กองทัพคนมากมาย อย่างชาวเกาะใหญ่ แค่ใช้กองทัพลมปาก กับตั้งโรงงานฟอกย้อมความคิดให้มากหน่อย ลงทุนครั้งเดียว ผ่านมา 70 ปี สีย้อมยังติดทนดีอยู่เลย เฮ้ย เหนื่อยใจ
    หลังสงครามโลก John McCloy เป็นผู้อำนวยการ สถาบัน CFR ตั้งแต่ ปี คศ 1953 ถึง 1970
    MacCloy เป็นใคร สำคัญอย่างไร 
    MacCloy เดิมเป็นทนาย (ทนายอีกแล้ว!) อยู่ในกลุ่มวอลสตรีทกับพวกมอร์แกน ต่อมาแปรพักตร์ ย้ายมาอยู่กลุ่มร้อกกี้ เขาคงมองเห็นอะไร แวบ ๆ พวกทนายพันธุ์นี้ มักจมูกดี ได้กลิ่นเน่าไว เลยย้าย มาอยู่ สนง กฏหมาย Milbank Tweed ซึ่งทำงานให้ตระกูลร้อกกี้ the great กับ เป็นที่ปรึกษากฏหมายใหญ่ ให้ ธนาคาร Chase หลังจากนั้นได้เลื่อนชั้น เป็นประธานกรรมการ ธนาคาร Chase อย่างไม่ต้องรอคิว
    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ร้อกกี้ ปราบดา เขี่ยมอร์แกน ไปจนพ้นทาง จึงส่ง MacCloy มาเป็น ประธาน CFR ซึ่งก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกมอร์แกนยึดเก้าอี้ CFR ไว้แน่น นาย MacCloy นี้ เป็นคนไปค้นพบ Henry A Kissinger พวกพันธุ์พิเศษอีกเหมือนกันและเอามามอบตัว ถวายหัวรับใช้ ร้อกกี้ the great เขาเป็นคนกำกับ ควบคุม นโยบายต่างประเทศ ที่ทรงอืทธิพลที่สุด คนหนึ่งของอเมริกา โดยเฉพาะ เกี่ยวกับ เรื่องโซเวียต จีน เวียตนาม อืหร่าน อเมริกาใต้ ใน ช่วงปี 1969 ถึง 1977
    และ เพื่อให้ Grand Area ส่วนที่เป็นเอเซียแปซิฟิก เป็นไปตามแผน ของ War and Peace Studies โดยเฉพาะในเรื่องการใช้ญี่ปุ่น เป็น ฐานสำคัญ ด้านอุตสาหกรรมและ “อื่นๆ” ให้อเมริกา ในปี คศ 1973 ร้อกกี้ MacCloy และ Kissinger ก็จัดตั้ง Trilateral Commission ขึ้นมา เป็น สาขาลูกของ CFR ภายใต้การสนับสนุนด้านเงินทุน และ “อื่นๆ” จากมูลนิธิร้อกกี้เฟลเลอร์ เพื่อรับนโยบาย การดำเนืนงาน และประสานงาน ในภูมิภาคนี้ ให้สอดคล้องกับนโยบายของ CFR ในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ให้เหมือนกันทั้งโลก ตามที่อเมริกา หรือ CFR ต้องการ สรุปสั้นๆ ตามภาษาแถวบ้านผม แปลว่า “พวกมึงต้องทำตามที่กูบอก” ทำนองนั้นนะครับ
    สมาชิกส่วนใหญ่ ของ Trilateral เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ นักธุรกิจใหญ่ นักการเมืองใหญ่ ใหญ่ๆทั้งนั้น และ ส่วนใหญ่ มาจากอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี มีส่วนน้อยจากอินโดนีเซีย และชาติอื่นๆ ในเอเซีย และอเมริกาใต้
    แล้วมีคนไทยเป็นสมาชิก Trilatteral นี้ไหม มีครับ เปลี่ยนมาหลายรุ่น และผมก็เคยใส่ชื่อ ไปแล้วหลายรอบ เพจพังเกือบทุกรอบ ถ้าใส่อีกรอบ กลัวจะพังมากกว่าเพจ ลองไปค้นหาอ่านกันดู กดดูจากกูเกิลได้ เด็ดๆ ทั้งนั้น หาไม่เจอบอกมาครับ จะเอามาลงให้ ดูซิ มันจะพังอีกรอบไหม ไหนๆ โดยรวนรายวันอยู่แล้ว
##############
ตอน 4
ร้อกกี้ the great น่าจะใช้วิธี “กำกับ ” รัฐบาลอเมริกัน ผ่าน 4 หน่วยงานหลัก คือ กระทรวงต่างประเทศ, สภาความมั่นคง National Security Council (NSC) , ซีไอเอ และ CFR
    CFR ทำหน้าที่เป็นมันสมอง และ เป็นผู้ “กำกับ” รัฐบาล อีกต่อหนึ่ง
    อิทธิพล ของ CFR มากมายอย่างที่เรานึกไม่ถึง เอาว่า ประธานาธิบดี เกือบทุกคน ไม่ว่าจะสังกัดพรรคไหน ก็สังกัด CFR ทั้งสิ้น และ เขาว่า ถ้า CFR ไม่เห็นชอบคนไหน คนนั้นก็อย่าเสียเวลา ไปสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เสียเงินเปล่าๆ
    นอกจากนี้ CFR เป็นผู้ส่งสมาชิกของตัว ไปเป็นหัวหน้า และระดับ ผู้บริหาร สำคัญ ในหน่วยงานข้างต้น ทั้ง 3 หน่วย ด้วย รายชื่อสมาชิก ของ CFR มีทั้ง นักการเมือง นักธุรกิจ
    นักการเงิน นักกฏหมาย นักวิชาการ สื่อ รวมถึง ดารา ทั้งหมด ต้องเป็น รุ่นใหญ่ ระดับ class A ใครสนใจในรายละเอียด ในกูเกิลมีเช่นเดียวกัน
    สำหรับญี่ปุ่น เด็กสร้าง ตัวสำคัญ ของอเมริกา (หรือ ร้อกกี้ ) ในการกินเอเซียแปซิฟิก ที่มีพรรค LDP เป็นผู้บริหารประเทศญี่ปุ่นมาเกือบตลอดเวลา ตั้งแต่หลังสงครามโลก ทำหน้าที่ เป็น ฐานอุตสาหกรรมต้นทุนต่ำ ทำกำไรให้อเมริกามากมาย เศรษฐกิจญี่ปุ่น จะขึ้น จะลง ดี เลว ขึ้นอยู่กับความเมตตาของอเมริกาทั้งสิ้น การเมือง การศึกษา สังคม วัฒนธรรมของญี่ปุ่น เปลี่ยนไปตามแม่พิมพ์ ที่อเมริกาจัดส่งให้ อเมริกาต้องการอะไร ฐานทัพหรือ ได้ จัดให้ และ ตอนนี้ ญี่ปุ่น ก็กำลังมีภาระกิจใหญ่ ต้องเป็นซามูไรแบกถาดรับใช้อเมริกา อีกแล้ว ไม่มีปัญหา แบกถาดรับใช้มาตลอดอยู่แล้ว แต่โลกไม่รู้ เพิ่มถาดใหญ่ อีกถาดเป็นไรไป
    และ จีน ก็ยังอยู่ ยังยั่วน้ำลาย น่ากิน เหมือนร้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่จะเคี้ยวทีไร มีอันเป็นไปทุกที
    ร้อยปีก่อน อังกฤษ ปั่นหัวญี่ปุ่น ให้ตีรวนจีน ให้จีนน่วม ก่อนที่อังกฤษ จะไปกิน แต่แล้วอังกฤษ ก็งับลม อเมริกาวางแผนจะกิน จีนพลิกตัว ปิดประตูเมือง เป็นคอมมิวนิสต์ ดีกว่าเป็นอาณานิคมขี้ข้าฝรั่ง
    มาถึงปีนี้ คศ 2015 ผ่านมาร้อยกว่าปี ยังมีคนไม่สิ้นความอยาก และความพยายาม
    CFR ออกรายงาน Revising U.S Grand Strategy Toward China เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา พอสรุปได้ว่า อเมริกา เห็นจีน เป็นคู่แข็งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา ในขณะนี้ และต่อไปอีก หลายๆสิบปี … จีนกำลังดำเนินยุทธศาสตร์ ที่มีเป้าหมายจะเข้าไปแทนที่อเมริกา ที่มีสถานะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในเอเซีย ….อเมริกา จึงจำเป็นต้องถ่วงดุลยอำนาจจีน …. และการทำให้รากฐานของจีนล่มสลาย (fundamental collapse) จึงเป็นทางเดียว ที่จะทำให้อเมริกา พ้น “ภาระ” การถ่วงดุลยกับจีน …
    อ่านแล้วงง เอาภาษาแถวบ้านผมดีกว่า อเมริกา กำลังบอกจีน ว่า ” …มึงโตไป กูปล่อยให้มึงโตแบบนี้ไม่ได้ กูต้องทำลายมึงให้สิ้นซาก...”
    อเมริกา คงไม่ปล่อยให้จีน ยืนตัวโตค้ำหัวอเมริกา อีกต่อไป อเมริกา ต้อง “ทำอะไร” แล้ว และ Grand Strategy แนะนำ (สั่ง) ให้อเมริกา มอบหมายให้ญี่ปุ่น เป็นหัวหน้า เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ในการ “ทำอะไร” ดังนั้น สิ่งที่ อเมริกา และญี่ปุ่นกำลังจับมือกัน ทำเป็นการด่วน คือ ปลดโซ่ล่ามกองทัพญี่ปุ่น ที่ท่านนายพลแมค ล่ามด้วยรัฐธรรมนูญของญึ่ปุ่น มาตรา 9 ที่ห้ามไม่ให้ญี่ปุ่น มีกองกำลัง เว้นแต่เพื่อป้องกันตัวเอง
    วันนี้อเมริกา ต้องการให้ญี่ปุ่น ผู้ชำนาญการป่วนจีน กลับไปใช้ความชำนาญเดิมอีกรอบหนึ่ง เรื่องนี้ รัฐสภาของอเมริกาให้การสนับสนุน ญี่ปุ่นท่วมท้น ให้ญี่ปุ่น มีกองกำลังร่อนไปทั่ว ( และจริงๆ เขาว่า ก็ร่อนออกมาแล้วด้วย ) เรื่อง สงครามโลก การรบกัน การกินดอกเห็ดจนตายเกลื่อน ลืมกันหมดแล้ว ส่วนที่ญี่ปุ่นเอง สภาล่าง ที่ตาหลาน หลานตา คุมอยู่หมัด ผ่านมตินี้แล้วเมื่อเดือนก่อน (กรกฏาคม) เหลือแต่สภาสูง ที่คาดว่าจะลงมติผ่านในเดือนกันยายน ก่อนที่สภาสูงจะปิดในสิ้นเดือนกันยา เพราะตาหลาน หลานตา ก็คุมอยู่เช่นกัน
    แต่ก็น่าสนใจ ล่าสุด ชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ไม่อยากให้สภาผ่านกฏหมายนี้ ไม่อยากเข้าทำสงคราม ไม่อยากแบกถาดอีก กำลังเริ่มออกมาประท้วงหลานตา มากขึ้น ตั้งแต่เดือนที่แล้ว และเมื่อวันที่ 30 สิงหา นี้เอง ชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งแสนสองหมื่นคน ออกมาชุมนุมใหญ่ คัดค้านการออกกฏหมายแบกถาด และเรียกร้องให้หลานตาลาออก ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวเรื่องยากูซ่าเเก๊งใหญ่ที่สุดในญี่ปั่น แตกคอกันเอง ทางการญี่ปุ่น อ้างอาจมีการซัดกันกลางเมือง
    เรื่องบังเอิญอีกแล้วหรือ ก็ต้องดูว่า ใบสั่ง หรือ พลังของประชาชนญี่ปุ่นจะชนะ
    ผมเล่าประวัติศาสตร์ เพื่อให้เข้าใจปัจจุบัน ว่าตอนนี้ เขากำลังทำอะไรกัน เพราะเหตุใด และเมื่อมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น มันน่าจะมาจากเรื่องไหน และน่าจะพอให้เรามองออกว่า แล้วมันจะไปต่อทางไหน ถ้าจะให้ดี สำหรับท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ช่วยกลับไปอ่านนิทาน เรื่อง แผนสอยมังกร กับ เรื่อง ซามูไรแบกถาด ประกอบกับนิทานเรื่องนี้ จะเข้าใจขี้น ว่า การระเบิดต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่า ในจีน หรือที่ไหน ร่วมทั้งเรื่อง รัสเซีย อิหร่าน ตุรกี เลบานอน และ ล่าสุด มาเลเซีย มันเกี่ยวพันกันหรือไม่ และจะกระทบบ้านเรา หรือไม่อย่างไร
    แล้วก็โปรดอย่าลืม สูตรสำเร็จ ของนักล่า ไม่ว่ารุ่นไหน ยุคไหน กินคำเดียวไม่ไหว ก็ทุบให้น่วมก่อนเคี้ยว แล้วตอนนี้ มันจะทุบที่ไหนบ้าง
    ส่วน เรื่องจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา เมื่อ 100 ปีก่อน มาจนถึงตอนนี้ คงสรุปกันได้แล้ว ว่า ตกลง ใครต้ม ใครซ้อน ใครเจ็บ ใครช้ำ ใครซ่อน ใครรวย ใครโหด ใครเหี้ยม
    แบบนี้ แผล มันก็คงจะตกสะเก็ดยาก….
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
1 ก.ย. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด บทส่งท้าย ตอนที่ 1-4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”  บทส่งท้าย

ตอน 1 ตกลง ดูๆไป เหมือนญี่ปุ่นลอยตัวอยู่เหนือสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงไม่เป็นผู้ชนะ แต่ก็เหมือนไม่ได้เป็นผู้แพ้ มีชาวญี่ปุ่น ตายแยะ บ้านเมืองฉิบหายเยอะก็จริงอยู่ แต่ที่ญี่ปุ่นไปรุกรานย่ำยีเขา เขาก็แหลกราญ ยับเยินไม่น้อยกว่า หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนญี่ปุ่นไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย เมื่อเทียบกับการกระทำของญี่ปุ่น ตั้งแต่อเมริกาเข้าไปใช้อำนาจปกครองญี่ปุ่นโดย SCAP ฝ่ายญี่ปุ่น ที่น่าจะมีผู้รับผิดชอบ ในการนำหรือส่งเสริมให้ญี่ปุ่นทำสงคราม ก็แทบจะหาผู้รับผิดชอบอย่างแท้จริงไม่เจอ เห็นแต่เงารางๆ กับคำขอโทษที่ยังกำกวม และไม่ช่วยทำให้ผู้ที่ถูกญี่ปุ่นย่ำยี นอนตาหลับ การชดใช้ค่าเสียหายของญี่ปุ่นกับเยอรมัน ในฐานะผู้ทำแพ้สงคราม ต่างกันสื้นเชิง เยอรมันถูกฝ่ายอังกฤษและยุโรปตอกหมุด ดิ้นไม่ออก จ่ายค่าเสียหายไปประมาณ 3 หมื่นล้านเหรียญ และค่าชดเชยรายเดือน อยู่อีกหลายสิบปี ส่วนญี่ปุ่น อเมริกาบอกว่า ญี่ปุ่นล้มละลาย ทั้งด้านทรัพย์สิน และด้านจิตใจ หลังจากกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป เพราะฉะนั้น จ่ายค่าเสียหายเพียง 2 พันล้านเหรียญ ที่เหลือ SCAP บอกว่า รอรับเป็นอาวุธ (เหลือสงคราม) และเครื่องจักรเก่า หรือเครื่องจักรใหม่ ที่ผลิต จากทรัพยากร ที่ไปขโมยเขามาได้ไหม หรือจะเอาเป็นเครื่องจักรใหม่เอี่ยม ที่อเมริกาจะให้ผลิต แต่ไม่ได้ให้ฟรีนะ ให้แบบลดราคา ส่วนต่างจ่ายเป็นอาหาร โอ้ย เงื่อนไขแยะ สรุปว่า แทบไม่มีใครได้อะไรจากญี่ปุ่น นอกจากอเมริกา ฝ่ายอังกฤษและยุโรปบอก แล้วพวกทหารของฝ่ายเรา ที่ญี่ปุ่นจับไปขังให้กินขี้ กินโคลน อยู่ค่ายกักกันที่สิงคโปร์ ประมาณ 5 หมื่นกว่าคน กว่าจะหลุดออกมาหลังสงครามโลก ตายไป เกือบครึ่ง ลืมไปแล้วหรือ นี่ยังไม่ได้นับการสร้างสพานข้ามแม่น้ำแควอันโด่งดังว่า พวกทหารฝรั่งถูกทารุณกันขนาดไหน จะชดเชย จะขอโทษอย่างไร ในที่สุด ไม่รู้อเมริกาตกลงอะไรกับอังกฤษ ตอนหลัง เสียงบ่นของชาวเกาะใหญ่ เงียบเช่นเป่าสาก ฝ่ายเอเซียเองบอกว่า เราก็ไม่ลืม เรื่องนานกิง เรื่องเมียหมอนข้าง ที่ญี่ปุ่นกวาดต้อนเอา ไปใช้สอยในช่วงสงครามอย่างทารุณ ข่มขืนทั้งร่างกายและจิตใจ มีประมาณกว่าแสนคน ส่วนใหญ่ อายุ 14 ถึง 18 และไม่ลืมเรื่องการปล้นบ้านเมืองของเราอย่างตะกระทารุณและเหี้ยมโหด แต่ไม่มีใครมาตกลงกับจีน ไม่มีคำขอโทษ โลกแทบไม่รู้เรื่อง เพราะฮอลลีวู้ดมัวแต่ทำหนังเรื่องยิว สำหรับเกาหลี ญี่ปุ่นบอกเสียใจ แต่ไม่เคยขอโทษ เพิ่งมาพูดปีนี้ แต่ก็บอกว่า ชนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น ไม่ต้องรับผิดชอบ เรื่องผ่านไปแล้ว (เดี๋ยวจะสับสนกับเรื่องใหม่ ที่กำลังจะต้องทำ ?!) สำหรับเยอรมัน ฝ่ายใช้อำนาจปกครอง คุ้ยแคะทอง เพชร แม้กระทั่งฝันทองในปากชาวยิว ฮอลลีวู้ด ยังทำเอาไปทำหนัง งัดฟันทองยิวให้ดู จนคนด่าเช็ดเยอรมันทั้งโรงหนัง ด้านเยอรมัน ถูกแจงทุกรายการ เพราะมียิวคอยจ้อง คอยฟ้อง และเพราะคนคอยแบ่ง มีหลายพวก จ้องกันทั้งตาทั้งปากมันแผลบ ส่วนการดำเนินคดีกับพวกนาซีที่ฆ่าโหดชาวยิว ถูกจับมาดำเนินคดีไปแล้วหลายคน ผ่านไป 70 ปี คดียังไม่จบก็มี ยังต้องพยุงกันมาศาล เมื่อ 2,3 ก็ยังมีข่าวอยู่ ส่วนพวกที่หนีรอด ก็เผ่นไปกบดาน เปลี่ยนชื่ออยู่แถวบราซิล อเมริกาใต้ จนแถวนั้น มีแต่ผิวน้ำตาล แต่ผมทอง ตาสีฟ้า กลายเป็นนางแบบ ค่าตัวแพง แต่สำหรับญี่ปุ่น ดูเหมือนเรื่องจะหายเงียบแทบไม่มีอะไรโผล่ ( เหมือนนิทานเรื่องจริง ที่ถูกบีบท่อ ไม่ให้นิทานโผล่ ผมไปตกลงแพ้สงครามกับมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ หือ !) จะมีก็แต่ นายพลโตโจผู้บัญชาการรบ และนายทหารคนสนิทไม่กี่คน ที่แอ่นอก (นี่ถ้าอดีตนายกฯ คนหนึ่งมาอ่าน หล่อนจะอ่านออกไหม เดี๋ยวจะงงว่า แอ่ นอก คืออะไร อ๋อ ไม่อ่านหรือครับ ไม่ชอบอ่านหนังสือ… มิน่า..) ยอมรับกรรม (แทนคนอื่นๆอีกหลายคน) เมื่อมีคนมากล่อมเขา ให้บอกว่า เขาเป็นคนสั่งให้กองทัพญี่ปุ่นทำสงคราม และเคลื่อนพล ลงมาทางแปซืฟิกใต้ โตโจ บอกไม่มีปัญหา เขารู้หน้าที่ ไม่กี่วันหลังจากนั้น เขาก็ยิงขมับตัวเองฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตาย ไปนอนโรงพยาบาลอยู่ในคุกซุกาโมแทน พอหาย ก็ไปรับโทษ ถูกแขวนคอ พร้อมกับลูกน้อง ไม่กี่คน
###############
ตอน 2 หลังจาก นาย Atcheson เครื่องบินตกตาย มีคนแคลงใจ เรื่องที่ SCAP บอก ญี่ปุ่นล้มละลาย เสนอให้ประธานาธิบดีทรูแมน ส่งคนมาตรวจสอบ ทรูแมน ส่ง นาย Edwin S Pauley เศรษฐี น้ำมัน จากพรรค Democrat มาประเมินเศรษฐกิจ ของญีปุ่น ว่า เจ๊งจริงหรือเปล่า จะมีปัญญาใช้หนี้ชาวบ้าน เขาบ้างไหม ไหนว่าปล้นทรัพย์เขามาแยะ นาย Pauley บินมาตรวจสอบที่ญี่ปุ่น เขาตามเจอ บัญชีลับต่างๆ ที่อยู่นอกประเทศ เช่นที่ สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ และอาร์เจนตินา เขา รายงานว่า บัญชีพวกนั้น เป็น ทรัพย์สินส่วนตัว ของ พวกนักธุรกิจใหญ่ zaibatsu ที่ไม่เกี่ยวกับการทำสงครามเลยนะ อ้าว แต่ ในช่วงไม่กี่เดือน ก่อนสงครามจะจบ ทหารพรานอเมริกัน ลูกครึ่ง อเมริกัน-ฟิลิปปิโน นาย Servino Garcia Santa Romana สังกัดหน่วย โอเอสเอส (หน่วยข่าวกรองของอเมริกา ก่อน เปลี่ยนชื่อ เป็น ซีไอเอ) ที่ปฏิบัติหน้าที่ อยู่แถวภูเขาที่เกาะลูซอน ฟิลิปปีนส์ แอบเห็นกองทัพญี่ปุ่น ใช้รถบรรทุก เป็นขบวน ขนหีบ ท่าทางหนักอึ้ง เข้าไปในถ้ำ หลายรอบจนนับไม่ถ้วน เลย แอบตามไปล็อคคอทหารญี่ปุ่นมาสอบถาม ได้ความว่า เป็นหีบบรรจุทองแท่งทั้งนั้น ส้มหล่นใส่อย่างไม่นึกฝัน ฝ่ายทหารอเมริกันจึงสั่งปิดตายถ้ำ วางกับระเบิดกันไว้ พร้อมจัดยามเฝ้า หลังสงครามเลิก นายพลแมค กลับมาลูซอน พร้อมนายพล Charles Willoughby ลูกน้องคนสนิท และพวกหน่วยข่าวกรองอีกหลายโหล ช่วยกันเปิดถ้ำ ขนทองออกไป หลังจากนั้น ก็ปิดตายถ้ำอีกรอบ เขาว่า ทองที่ขนกันไป ทอง Santa Romana พวกเขาเรียกกันอย่างนั้น นอกจาก 2 นายพลใหญ่ จะรู้แล้ว หัวหน้าใหญ่ OSS นายพล Donovan ก็รู้ และ แน่นอน Herbert Hoover ก็รู้ ทอง Santa Romana ไม่ได้ส่งคืนเจ้าของ แต่ ฝ่ายอเมริกัน ขนขึ้นเรือรบ นำไปฝาก ใน ธนาคาร 42 ประเทศ แยกเป็น 176 บัญชี ตัวเลขที่เปิดเผย คือ ทอง จำนวน 20,000 ตัน ตันนะครับ ไม่ใช่กิโล ไม่ใช่บาท บางส่วนของทอง แบ่งเอาไปใช้ในกิจการ นอกระบบ ของ ซีไอเอ เหมือน รายได้จากพวกฝิ่น เฮโรอีน แถวฉาน พม่า ลาว สามเหลี่ยมทองคำ นั่นแหละ ไม่ต้องกวนภาษีประชาชนคนอเมริกัน และไม่ต้องขออนุญาตรัฐสภา เวลาจะปฏิบัติการ ไม่ต้องแจงรายละเอียด ส่วนที่เหลือไปไหนบ้าง หนังสือที่อ่านไม่บอก ผมรู้แต่ว่า คนเขียนหนังสือ ที่เล่าข้อมูลฝ่ายญี่ปุ่น เขียนเสร็จ พอหนังสือออกขาย เขาต้องย้ายบ้าน ย้ายประเทศ
###############
ตอน 3 หลังครามโลก พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP ที่คลอดในคุกซุกาโม มียากูซ่า เป็นหมอตำแย ก็เป็นผู้ใช้อำนาจบริหารญี่ปุ่น มาจนถึงทุกวันนี้ หลังสงครามโลก กลุ่มอเมริกัน มอร์แกน เสียตำแหน่งเจ้าพ่อใหญ่ ที่คุมทุกปีกในอเมริกา ให้แก่ กลุ่มอเมริกัน ร้อกกี้เฟลเลอร์ เขาว่า เพราะมอร์แกน แทงม้าผิดตัว ทุ่มผิดที่ นึกว่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ จะเคี้ยวเหยื่อ เหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ มันไม่มีอะไรแน่นอนตลอดเวลาหรอก พวกเอ็งควรศึกษาศาสนาพุทธ ให้เข้าใจ ถึงเรื่องการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเสียบ้าง จะได้ไม่ตะกระตะกรามขนาดนี้ ส่วนร้อกกี้ อาศัยเทคนิคใหม่ ล่าเหยื่อ โดยไม่ต้องใช้เงินถม ไม่ต้องใช้กองทัพคนมากมาย อย่างชาวเกาะใหญ่ แค่ใช้กองทัพลมปาก กับตั้งโรงงานฟอกย้อมความคิดให้มากหน่อย ลงทุนครั้งเดียว ผ่านมา 70 ปี สีย้อมยังติดทนดีอยู่เลย เฮ้ย เหนื่อยใจ หลังสงครามโลก John McCloy เป็นผู้อำนวยการ สถาบัน CFR ตั้งแต่ ปี คศ 1953 ถึง 1970 MacCloy เป็นใคร สำคัญอย่างไร  MacCloy เดิมเป็นทนาย (ทนายอีกแล้ว!) อยู่ในกลุ่มวอลสตรีทกับพวกมอร์แกน ต่อมาแปรพักตร์ ย้ายมาอยู่กลุ่มร้อกกี้ เขาคงมองเห็นอะไร แวบ ๆ พวกทนายพันธุ์นี้ มักจมูกดี ได้กลิ่นเน่าไว เลยย้าย มาอยู่ สนง กฏหมาย Milbank Tweed ซึ่งทำงานให้ตระกูลร้อกกี้ the great กับ เป็นที่ปรึกษากฏหมายใหญ่ ให้ ธนาคาร Chase หลังจากนั้นได้เลื่อนชั้น เป็นประธานกรรมการ ธนาคาร Chase อย่างไม่ต้องรอคิว หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ร้อกกี้ ปราบดา เขี่ยมอร์แกน ไปจนพ้นทาง จึงส่ง MacCloy มาเป็น ประธาน CFR ซึ่งก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกมอร์แกนยึดเก้าอี้ CFR ไว้แน่น นาย MacCloy นี้ เป็นคนไปค้นพบ Henry A Kissinger พวกพันธุ์พิเศษอีกเหมือนกันและเอามามอบตัว ถวายหัวรับใช้ ร้อกกี้ the great เขาเป็นคนกำกับ ควบคุม นโยบายต่างประเทศ ที่ทรงอืทธิพลที่สุด คนหนึ่งของอเมริกา โดยเฉพาะ เกี่ยวกับ เรื่องโซเวียต จีน เวียตนาม อืหร่าน อเมริกาใต้ ใน ช่วงปี 1969 ถึง 1977 และ เพื่อให้ Grand Area ส่วนที่เป็นเอเซียแปซิฟิก เป็นไปตามแผน ของ War and Peace Studies โดยเฉพาะในเรื่องการใช้ญี่ปุ่น เป็น ฐานสำคัญ ด้านอุตสาหกรรมและ “อื่นๆ” ให้อเมริกา ในปี คศ 1973 ร้อกกี้ MacCloy และ Kissinger ก็จัดตั้ง Trilateral Commission ขึ้นมา เป็น สาขาลูกของ CFR ภายใต้การสนับสนุนด้านเงินทุน และ “อื่นๆ” จากมูลนิธิร้อกกี้เฟลเลอร์ เพื่อรับนโยบาย การดำเนืนงาน และประสานงาน ในภูมิภาคนี้ ให้สอดคล้องกับนโยบายของ CFR ในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ให้เหมือนกันทั้งโลก ตามที่อเมริกา หรือ CFR ต้องการ สรุปสั้นๆ ตามภาษาแถวบ้านผม แปลว่า “พวกมึงต้องทำตามที่กูบอก” ทำนองนั้นนะครับ สมาชิกส่วนใหญ่ ของ Trilateral เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ นักธุรกิจใหญ่ นักการเมืองใหญ่ ใหญ่ๆทั้งนั้น และ ส่วนใหญ่ มาจากอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี มีส่วนน้อยจากอินโดนีเซีย และชาติอื่นๆ ในเอเซีย และอเมริกาใต้ แล้วมีคนไทยเป็นสมาชิก Trilatteral นี้ไหม มีครับ เปลี่ยนมาหลายรุ่น และผมก็เคยใส่ชื่อ ไปแล้วหลายรอบ เพจพังเกือบทุกรอบ ถ้าใส่อีกรอบ กลัวจะพังมากกว่าเพจ ลองไปค้นหาอ่านกันดู กดดูจากกูเกิลได้ เด็ดๆ ทั้งนั้น หาไม่เจอบอกมาครับ จะเอามาลงให้ ดูซิ มันจะพังอีกรอบไหม ไหนๆ โดยรวนรายวันอยู่แล้ว
##############
ตอน 4
ร้อกกี้ the great น่าจะใช้วิธี “กำกับ ” รัฐบาลอเมริกัน ผ่าน 4 หน่วยงานหลัก คือ กระทรวงต่างประเทศ, สภาความมั่นคง National Security Council (NSC) , ซีไอเอ และ CFR CFR ทำหน้าที่เป็นมันสมอง และ เป็นผู้ “กำกับ” รัฐบาล อีกต่อหนึ่ง อิทธิพล ของ CFR มากมายอย่างที่เรานึกไม่ถึง เอาว่า ประธานาธิบดี เกือบทุกคน ไม่ว่าจะสังกัดพรรคไหน ก็สังกัด CFR ทั้งสิ้น และ เขาว่า ถ้า CFR ไม่เห็นชอบคนไหน คนนั้นก็อย่าเสียเวลา ไปสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เสียเงินเปล่าๆ นอกจากนี้ CFR เป็นผู้ส่งสมาชิกของตัว ไปเป็นหัวหน้า และระดับ ผู้บริหาร สำคัญ ในหน่วยงานข้างต้น ทั้ง 3 หน่วย ด้วย รายชื่อสมาชิก ของ CFR มีทั้ง นักการเมือง นักธุรกิจ นักการเงิน นักกฏหมาย นักวิชาการ สื่อ รวมถึง ดารา ทั้งหมด ต้องเป็น รุ่นใหญ่ ระดับ class A ใครสนใจในรายละเอียด ในกูเกิลมีเช่นเดียวกัน สำหรับญี่ปุ่น เด็กสร้าง ตัวสำคัญ ของอเมริกา (หรือ ร้อกกี้ ) ในการกินเอเซียแปซิฟิก ที่มีพรรค LDP เป็นผู้บริหารประเทศญี่ปุ่นมาเกือบตลอดเวลา ตั้งแต่หลังสงครามโลก ทำหน้าที่ เป็น ฐานอุตสาหกรรมต้นทุนต่ำ ทำกำไรให้อเมริกามากมาย เศรษฐกิจญี่ปุ่น จะขึ้น จะลง ดี เลว ขึ้นอยู่กับความเมตตาของอเมริกาทั้งสิ้น การเมือง การศึกษา สังคม วัฒนธรรมของญี่ปุ่น เปลี่ยนไปตามแม่พิมพ์ ที่อเมริกาจัดส่งให้ อเมริกาต้องการอะไร ฐานทัพหรือ ได้ จัดให้ และ ตอนนี้ ญี่ปุ่น ก็กำลังมีภาระกิจใหญ่ ต้องเป็นซามูไรแบกถาดรับใช้อเมริกา อีกแล้ว ไม่มีปัญหา แบกถาดรับใช้มาตลอดอยู่แล้ว แต่โลกไม่รู้ เพิ่มถาดใหญ่ อีกถาดเป็นไรไป และ จีน ก็ยังอยู่ ยังยั่วน้ำลาย น่ากิน เหมือนร้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่จะเคี้ยวทีไร มีอันเป็นไปทุกที ร้อยปีก่อน อังกฤษ ปั่นหัวญี่ปุ่น ให้ตีรวนจีน ให้จีนน่วม ก่อนที่อังกฤษ จะไปกิน แต่แล้วอังกฤษ ก็งับลม อเมริกาวางแผนจะกิน จีนพลิกตัว ปิดประตูเมือง เป็นคอมมิวนิสต์ ดีกว่าเป็นอาณานิคมขี้ข้าฝรั่ง มาถึงปีนี้ คศ 2015 ผ่านมาร้อยกว่าปี ยังมีคนไม่สิ้นความอยาก และความพยายาม CFR ออกรายงาน Revising U.S Grand Strategy Toward China เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา พอสรุปได้ว่า อเมริกา เห็นจีน เป็นคู่แข็งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา ในขณะนี้ และต่อไปอีก หลายๆสิบปี … จีนกำลังดำเนินยุทธศาสตร์ ที่มีเป้าหมายจะเข้าไปแทนที่อเมริกา ที่มีสถานะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในเอเซีย ….อเมริกา จึงจำเป็นต้องถ่วงดุลยอำนาจจีน …. และการทำให้รากฐานของจีนล่มสลาย (fundamental collapse) จึงเป็นทางเดียว ที่จะทำให้อเมริกา พ้น “ภาระ” การถ่วงดุลยกับจีน … อ่านแล้วงง เอาภาษาแถวบ้านผมดีกว่า อเมริกา กำลังบอกจีน ว่า ” …มึงโตไป กูปล่อยให้มึงโตแบบนี้ไม่ได้ กูต้องทำลายมึงให้สิ้นซาก...” อเมริกา คงไม่ปล่อยให้จีน ยืนตัวโตค้ำหัวอเมริกา อีกต่อไป อเมริกา ต้อง “ทำอะไร” แล้ว และ Grand Strategy แนะนำ (สั่ง) ให้อเมริกา มอบหมายให้ญี่ปุ่น เป็นหัวหน้า เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ในการ “ทำอะไร” ดังนั้น สิ่งที่ อเมริกา และญี่ปุ่นกำลังจับมือกัน ทำเป็นการด่วน คือ ปลดโซ่ล่ามกองทัพญี่ปุ่น ที่ท่านนายพลแมค ล่ามด้วยรัฐธรรมนูญของญึ่ปุ่น มาตรา 9 ที่ห้ามไม่ให้ญี่ปุ่น มีกองกำลัง เว้นแต่เพื่อป้องกันตัวเอง วันนี้อเมริกา ต้องการให้ญี่ปุ่น ผู้ชำนาญการป่วนจีน กลับไปใช้ความชำนาญเดิมอีกรอบหนึ่ง เรื่องนี้ รัฐสภาของอเมริกาให้การสนับสนุน ญี่ปุ่นท่วมท้น ให้ญี่ปุ่น มีกองกำลังร่อนไปทั่ว ( และจริงๆ เขาว่า ก็ร่อนออกมาแล้วด้วย ) เรื่อง สงครามโลก การรบกัน การกินดอกเห็ดจนตายเกลื่อน ลืมกันหมดแล้ว ส่วนที่ญี่ปุ่นเอง สภาล่าง ที่ตาหลาน หลานตา คุมอยู่หมัด ผ่านมตินี้แล้วเมื่อเดือนก่อน (กรกฏาคม) เหลือแต่สภาสูง ที่คาดว่าจะลงมติผ่านในเดือนกันยายน ก่อนที่สภาสูงจะปิดในสิ้นเดือนกันยา เพราะตาหลาน หลานตา ก็คุมอยู่เช่นกัน แต่ก็น่าสนใจ ล่าสุด ชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ไม่อยากให้สภาผ่านกฏหมายนี้ ไม่อยากเข้าทำสงคราม ไม่อยากแบกถาดอีก กำลังเริ่มออกมาประท้วงหลานตา มากขึ้น ตั้งแต่เดือนที่แล้ว และเมื่อวันที่ 30 สิงหา นี้เอง ชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งแสนสองหมื่นคน ออกมาชุมนุมใหญ่ คัดค้านการออกกฏหมายแบกถาด และเรียกร้องให้หลานตาลาออก ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวเรื่องยากูซ่าเเก๊งใหญ่ที่สุดในญี่ปั่น แตกคอกันเอง ทางการญี่ปุ่น อ้างอาจมีการซัดกันกลางเมือง เรื่องบังเอิญอีกแล้วหรือ ก็ต้องดูว่า ใบสั่ง หรือ พลังของประชาชนญี่ปุ่นจะชนะ ผมเล่าประวัติศาสตร์ เพื่อให้เข้าใจปัจจุบัน ว่าตอนนี้ เขากำลังทำอะไรกัน เพราะเหตุใด และเมื่อมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น มันน่าจะมาจากเรื่องไหน และน่าจะพอให้เรามองออกว่า แล้วมันจะไปต่อทางไหน ถ้าจะให้ดี สำหรับท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ช่วยกลับไปอ่านนิทาน เรื่อง แผนสอยมังกร กับ เรื่อง ซามูไรแบกถาด ประกอบกับนิทานเรื่องนี้ จะเข้าใจขี้น ว่า การระเบิดต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่า ในจีน หรือที่ไหน ร่วมทั้งเรื่อง รัสเซีย อิหร่าน ตุรกี เลบานอน และ ล่าสุด มาเลเซีย มันเกี่ยวพันกันหรือไม่ และจะกระทบบ้านเรา หรือไม่อย่างไร แล้วก็โปรดอย่าลืม สูตรสำเร็จ ของนักล่า ไม่ว่ารุ่นไหน ยุคไหน กินคำเดียวไม่ไหว ก็ทุบให้น่วมก่อนเคี้ยว แล้วตอนนี้ มันจะทุบที่ไหนบ้าง ส่วน เรื่องจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา เมื่อ 100 ปีก่อน มาจนถึงตอนนี้ คงสรุปกันได้แล้ว ว่า ตกลง ใครต้ม ใครซ้อน ใครเจ็บ ใครช้ำ ใครซ่อน ใครรวย ใครโหด ใครเหี้ยม แบบนี้ แผล มันก็คงจะตกสะเก็ดยาก….
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
1 ก.ย. 2558
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 975 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 20 (จบ)
    เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ
    แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้
    บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น
    เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น
    ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน
    ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก
    แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว
    ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง
    หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ
    ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
    ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง
    แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน
    แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย
    ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ
    และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก…
    ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu
    Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ
    สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน
    นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ
    ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน
    นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่
    หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา
    ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ
    ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great
    Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว….
    (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม)

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    31 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 20 (จบ) เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้ บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก… ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่ หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว…. (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม) สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 31 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 849 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 1-12-68
    .
    สวัสดีวันแรกของเดือนธันวาคม 2568 เช้าวันนี้ที่บ้านพระอาทิตย์อากาศเย็นสบายประมาณ 23-24 องศาเซลเซียส คุณสนธินั่งประชุมพร้อมรับประทานอาหารเช้ากับ อ.ปานเทพ และทีมงานบ้านพระอาทิตย์ โดยเมนูเป็นข้ามต้มกระเพาะหมูร้อน ๆ โดยหัวข้อสนทนาหลักคือ ความยากลำบากของพ่อแม่พี่น้องชาวหาดใหญ่ ที่แม้น้ำจะลดลงแล้ว แต่ก็ยังต้องการความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน-รายการ Sondhi Talk และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ได้ไปตั้งโรงครัวจำนวน 3 จุดที่หาดใหญ่ โดยทั้ง 3 จุดแม้จะสามารถแจกจ่ายอาหารได้ราว 6,000-9,000 มื้อต่อวัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และยังมีความต้องการอีกมาก
    .
    ถ้าใครอยากร่วมบริจาคสิ่งของต่างๆ ทยอยส่งมาได้เลย หรือ หากต้องการสมทบทุน บริจากได้ที่ บัญชี มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางลำภู ประเภทออมทรัพย์ เลขที่ 103-1-93140-8
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=uFGnxoDrxqY
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #น้ำท่วมหาดใหญ่
    สนธิเล่าเรื่อง 1-12-68 . สวัสดีวันแรกของเดือนธันวาคม 2568 เช้าวันนี้ที่บ้านพระอาทิตย์อากาศเย็นสบายประมาณ 23-24 องศาเซลเซียส คุณสนธินั่งประชุมพร้อมรับประทานอาหารเช้ากับ อ.ปานเทพ และทีมงานบ้านพระอาทิตย์ โดยเมนูเป็นข้ามต้มกระเพาะหมูร้อน ๆ โดยหัวข้อสนทนาหลักคือ ความยากลำบากของพ่อแม่พี่น้องชาวหาดใหญ่ ที่แม้น้ำจะลดลงแล้ว แต่ก็ยังต้องการความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน-รายการ Sondhi Talk และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ได้ไปตั้งโรงครัวจำนวน 3 จุดที่หาดใหญ่ โดยทั้ง 3 จุดแม้จะสามารถแจกจ่ายอาหารได้ราว 6,000-9,000 มื้อต่อวัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และยังมีความต้องการอีกมาก . ถ้าใครอยากร่วมบริจาคสิ่งของต่างๆ ทยอยส่งมาได้เลย หรือ หากต้องการสมทบทุน บริจากได้ที่ บัญชี มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางลำภู ประเภทออมทรัพย์ เลขที่ 103-1-93140-8 . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=uFGnxoDrxqY . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #น้ำท่วมหาดใหญ่
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศาสตราจารย์ในสหรัฐฯ ร่วมกระแสห้ามใช้แล็ปท็อปในห้องเรียน”

    ศาสตราจารย์หลายคนในสหรัฐฯ กำลังเข้าร่วมกระแส ห้ามใช้แล็ปท็อปและสมาร์ตโฟนในห้องเรียน โดยให้เหตุผลว่าการจดบันทึกด้วยมือช่วยให้นักศึกษามีสมาธิและเข้าใจเนื้อหาลึกซึ้งกว่า การใช้เครื่องมือดิจิทัลมักทำให้เกิดการเสียสมาธิจากการเล่นโซเชียลมีเดียหรือทำกิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียน

    ผลต่อการเรียนรู้
    งานวิจัยหลายชิ้นสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยพบว่าการจดบันทึกด้วยมือช่วยให้สมองประมวลผลและจดจำข้อมูลได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับการพิมพ์ลงบนแล็ปท็อป นอกจากนี้ยังช่วยให้นักศึกษามีส่วนร่วมกับการเรียนมากขึ้น และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีที่อาจสร้างความเครียดหรือการเสพติด

    ตัวอย่างจากมหาวิทยาลัย
    เช่นที่ Temple University ศาสตราจารย์ Jody Hey ได้ทดลองห้ามใช้แล็ปท็อปในชั้นเรียนวิชาชีววิทยา นักศึกษาจึงต้องใช้สมุดและปากกาในการจดบันทึก ผลลัพธ์คือบรรยากาศการเรียนที่มีสมาธิและการมีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อคุณภาพการเรียนรู้ได้

    แนวโน้มระดับโลก
    แม้การห้ามใช้แล็ปท็อปในห้องเรียนอาจดูย้อนยุค แต่กระแสนี้กำลังขยายตัวในหลายประเทศ โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งเริ่มมีการถกเถียงถึงบทบาทของเทคโนโลยีในห้องเรียน ว่าควรใช้เพื่อเสริมการเรียนรู้ ไม่ใช่แทนที่วิธีการเรียนรู้แบบดั้งเดิมทั้งหมด

    สรุปสาระสำคัญ
    เหตุผลในการห้ามใช้แล็ปท็อป
    ลดการเสียสมาธิจากโซเชียลมีเดีย
    ส่งเสริมการจดจำและเข้าใจเนื้อหาลึกซึ้งขึ้น

    ผลลัพธ์ที่พบในห้องเรียน
    นักศึกษามีสมาธิมากขึ้น
    การมีส่วนร่วมกับการเรียนสูงขึ้น

    งานวิจัยสนับสนุน
    การจดบันทึกด้วยมือช่วยให้สมองประมวลผลข้อมูลได้ดีกว่า
    ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีที่อาจสร้างความเครียด

    ข้อควรระวัง
    อาจไม่เหมาะกับนักศึกษาที่ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง
    เสี่ยงต่อการลดทักษะการใช้เทคโนโลยีในบางสาขา

    ผลกระทบระยะยาว
    ต้องหาสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีและการเรียนรู้แบบดั้งเดิม
    อาจสร้างความแตกต่างระหว่างมหาวิทยาลัยที่เลือกนโยบายต่างกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/29/these-professors-say-theyre-part-of-a-growing-movement-banning-laptops-from-the-classroom
    📰 “ศาสตราจารย์ในสหรัฐฯ ร่วมกระแสห้ามใช้แล็ปท็อปในห้องเรียน” ศาสตราจารย์หลายคนในสหรัฐฯ กำลังเข้าร่วมกระแส ห้ามใช้แล็ปท็อปและสมาร์ตโฟนในห้องเรียน โดยให้เหตุผลว่าการจดบันทึกด้วยมือช่วยให้นักศึกษามีสมาธิและเข้าใจเนื้อหาลึกซึ้งกว่า การใช้เครื่องมือดิจิทัลมักทำให้เกิดการเสียสมาธิจากการเล่นโซเชียลมีเดียหรือทำกิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียน 🧠 ผลต่อการเรียนรู้ งานวิจัยหลายชิ้นสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยพบว่าการจดบันทึกด้วยมือช่วยให้สมองประมวลผลและจดจำข้อมูลได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับการพิมพ์ลงบนแล็ปท็อป นอกจากนี้ยังช่วยให้นักศึกษามีส่วนร่วมกับการเรียนมากขึ้น และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีที่อาจสร้างความเครียดหรือการเสพติด 👩‍🏫 ตัวอย่างจากมหาวิทยาลัย เช่นที่ Temple University ศาสตราจารย์ Jody Hey ได้ทดลองห้ามใช้แล็ปท็อปในชั้นเรียนวิชาชีววิทยา นักศึกษาจึงต้องใช้สมุดและปากกาในการจดบันทึก ผลลัพธ์คือบรรยากาศการเรียนที่มีสมาธิและการมีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อคุณภาพการเรียนรู้ได้ 🌍 แนวโน้มระดับโลก แม้การห้ามใช้แล็ปท็อปในห้องเรียนอาจดูย้อนยุค แต่กระแสนี้กำลังขยายตัวในหลายประเทศ โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งเริ่มมีการถกเถียงถึงบทบาทของเทคโนโลยีในห้องเรียน ว่าควรใช้เพื่อเสริมการเรียนรู้ ไม่ใช่แทนที่วิธีการเรียนรู้แบบดั้งเดิมทั้งหมด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เหตุผลในการห้ามใช้แล็ปท็อป ➡️ ลดการเสียสมาธิจากโซเชียลมีเดีย ➡️ ส่งเสริมการจดจำและเข้าใจเนื้อหาลึกซึ้งขึ้น ✅ ผลลัพธ์ที่พบในห้องเรียน ➡️ นักศึกษามีสมาธิมากขึ้น ➡️ การมีส่วนร่วมกับการเรียนสูงขึ้น ✅ งานวิจัยสนับสนุน ➡️ การจดบันทึกด้วยมือช่วยให้สมองประมวลผลข้อมูลได้ดีกว่า ➡️ ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีที่อาจสร้างความเครียด ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ อาจไม่เหมาะกับนักศึกษาที่ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง ⛔ เสี่ยงต่อการลดทักษะการใช้เทคโนโลยีในบางสาขา ‼️ ผลกระทบระยะยาว ⛔ ต้องหาสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีและการเรียนรู้แบบดั้งเดิม ⛔ อาจสร้างความแตกต่างระหว่างมหาวิทยาลัยที่เลือกนโยบายต่างกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/29/these-professors-say-theyre-part-of-a-growing-movement-banning-laptops-from-the-classroom
    WWW.THESTAR.COM.MY
    These professors say they’re part of a growing movement banning laptops from the classroom
    A growing number of professors who have chosen to keep laptop and phone use out of class, with exceptions for students with disabilities who require accommodations.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251127 #securityonline

    Meta ถูกกล่าวหาปกปิดข้อมูลภายในที่ชี้ว่า Facebook ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
    เรื่องนี้เริ่มจากเอกสารในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มที่โรงเรียนหลายแห่งในสหรัฐฯ ยื่นต่อบริษัทโซเชียลมีเดีย โดยมีการเปิดเผยว่า Meta เคยทำการศึกษาในโครงการชื่อ Project Mercury ร่วมกับบริษัท Nielsen ตั้งแต่ปี 2020 ผลการวิจัยพบว่าการเลิกใช้ Facebook ช่วยลดความรู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล และความเหงา แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลที่มีอคติและถูกกระทบจากกระแสสื่อ ขณะเดียวกันมีเสียงจากนักวิจัยภายในที่เปรียบเทียบการกระทำนี้เหมือนกับอุตสาหกรรมบุหรี่ที่เคยปกปิดผลวิจัยเรื่องอันตรายของการสูบบุหรี่ ปัจจุบันคดีนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาในศาล และสะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจที่รัฐบาลทั่วโลกมีต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี
    https://securityonline.info/meta-accused-of-hiding-internal-data-showing-facebook-causes-depression-anxiety

    Tor Project พัฒนาอัลกอริทึมเข้ารหัสใหม่ CGO แทน Tor1 ที่มีช่องโหว่
    เครือข่าย Tor ที่ใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานนั้น แม้จะมีชื่อเสียงด้านการรักษาความลับ แต่ก็ไม่ปลอดภัยเสมอไป โดยโปรโตคอลเก่า Tor1 มีช่องโหว่สำคัญ เช่น การโจมตีแบบ tagging attack ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถติดตามเส้นทางข้อมูลได้ อีกทั้งยังมีการใช้คีย์ AES ซ้ำและตัวตรวจสอบที่อ่อนแอ เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ Tor Project จึงพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ชื่อ Counter Galois Onion (CGO) ที่เมื่อมีการพยายามแก้ไขข้อมูล ข้อความทั้งหมดในเส้นทางนั้นจะเสียหายทันที ทำให้การโจมตีแทบเป็นไปไม่ได้ แม้จะยังไม่มีตารางเวลาชัดเจนในการนำมาใช้กับ Tor Browser แต่ทีมงานกำลังปรับปรุงให้เหมาะกับ CPU รุ่นใหม่
    https://securityonline.info/tor-project-develops-new-cgo-encryption-to-replace-vulnerable-tor1-protocol

    PoC Exploit สำหรับช่องโหว่ Windows NTLM Elevation of Privilege ถูกเผยแพร่แล้ว
    มีการเปิดเผยโค้ดตัวอย่างการโจมตี (PoC Exploit) ที่เจาะช่องโหว่ในระบบ NTLM ของ Windows ซึ่งสามารถนำไปสู่การยกระดับสิทธิ์การเข้าถึงได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ Channel Binding และ LDAPS โดยเนื้อหาละเอียดถูกจำกัดให้เฉพาะผู้สนับสนุนที่ลงทะเบียนเท่านั้น แต่การที่ PoC ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะถือเป็นสัญญาณเตือนว่าผู้โจมตีอาจนำไปใช้จริงได้
    https://securityonline.info/poc-exploit-releases-for-windows-ntlm-elevation-of-privilege-vulnerability

    NVIDIA ออกแพตช์ด่วนแก้ช่องโหว่ร้ายแรงใน DGX Spark เสี่ยงถูกยึดระบบ
    AI NVIDIA ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับแพลตฟอร์ม DGX Spark ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ขนาดกะทัดรัดที่ใช้ในงานวิจัยและพัฒนา โดยมีช่องโหว่รวม 14 รายการ หนึ่งในนั้นคือ CVE-2025-33187 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ช่องโหว่นี้อยู่ในส่วน SROOT ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ระดับสูงสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ปกป้องโดยชิป SoC และควบคุมระบบได้อย่างสมบูรณ์ หากไม่อัปเดตทันที ข้อมูลวิจัยและโมเดล AI อาจถูกขโมยหรือแก้ไขโดยไม่รู้ตัว NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดต DGX Spark ไปยังเวอร์ชัน OTA0 โดยเร็วที่สุด
    https://securityonline.info/critical-patch-nvidia-dgx-spark-flaw-cve-2025-33187-cvss-9-3-exposes-ai-secrets-to-takeover

    WormGPT 4 และ KawaiiGPT: AI ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมืออาชญากรรมไซเบอร์
    รายงานจาก Unit 42 เปิดเผยว่าโมเดล AI ที่ควรใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ กลับถูกนำไปใช้สร้างภัยคุกคาม WormGPT 4 ถูกโฆษณาในฟอรั่มใต้ดินว่าเป็น “AI ที่ไร้ข้อจำกัด” สามารถสร้างมัลแวร์และสคริปต์เรียกค่าไถ่ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเขียนโน้ตข่มขู่ที่ทำให้เหยื่อหวาดกลัว ส่วน KawaiiGPT ถูกนำเสนอในรูปแบบ “Waifu pentesting” ที่ดูน่ารักแต่จริง ๆ แล้วสามารถสร้างอีเมลฟิชชิ่งและสคริปต์โจมตีได้ง่ายมาก ทั้งสองโมเดลนี้ทำให้การโจมตีไซเบอร์เข้าถึงได้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทักษะสูง สะท้อนถึงการ “ทำให้อาชญากรรมไซเบอร์เป็นประชาธิปไตย” ที่ใครก็สามารถโจมตีได้เพียงแค่พิมพ์คำสั่ง
    https://securityonline.info/silent-fast-brutal-how-wormgpt-4-and-kawaiigpt-democratize-cybercrime

    Anthropic เปิดตัว Opus 4.5: AI สำหรับองค์กรที่เชื่อม Excel และแชทได้ไม่สิ้นสุด
    Anthropic ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ชื่อ Opus 4.5 ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในระดับองค์กร จุดเด่นคือสามารถเชื่อมต่อกับ Excel ได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงานได้อย่างอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ “Infinite Chat” ที่ช่วยให้การสนทนากับ AI ต่อเนื่องได้ไม่จำกัด ไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้งที่หมด session ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน AI ให้เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและการจัดการข้อมูลจำนวนมาก
    https://securityonline.info/anthropic-unleashes-opus-4-5-excel-integration-infinite-chat-for-enterprise-ai

    Perplexity เปิดตัว AI Shopping พร้อม PayPal Instant Buy และค้นหาสินค้าแบบเฉพาะบุคคล
    Perplexity กำลังขยายขอบเขตการใช้งาน AI จากการค้นหาข้อมูลไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าผ่าน PayPal ได้ทันที (Instant Buy) และยังมีระบบค้นหาสินค้าแบบ Personalized ที่ปรับตามความสนใจและพฤติกรรมของผู้ใช้ จุดนี้ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกขึ้นและตรงใจมากขึ้น ถือเป็นการผสมผสานระหว่าง AI และอีคอมเมิร์ซที่น่าจับตามอง
    https://securityonline.info/perplexity-launches-ai-shopping-with-paypal-instant-buy-personalized-product-search

    Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 5: CPU เร็วขึ้น 36% และพลัง AI เพิ่มขึ้น 46%
    Qualcomm ได้เปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Snapdragon 8 Gen 5 ที่มาพร้อมกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งด้านความเร็วของ CPU ที่เพิ่มขึ้น 36% และพลังการประมวลผล AI ที่มากขึ้นถึง 46% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นอีกอย่างคือการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เหมาะกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่จะออกในปีหน้า ซึ่งจะรองรับการใช้งานที่หนักหน่วงทั้งเกมและงานด้าน AI ได้อย่างลื่นไหล
    https://securityonline.info/qualcomm-unveils-snapdragon-8-gen-5-36-faster-cpu-46-more-ai-power

    INE ขยายการเรียนรู้แบบ Cross-Skilling เพื่อเพิ่มทักษะหลากหลายให้ผู้เรียน
    INE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่เน้นการ Cross-Skilling หรือการเรียนรู้ทักษะข้ามสาขา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะที่หลากหลายและนำไปใช้ในงานจริงได้มากขึ้น แนวทางนี้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานที่ต้องการคนที่มีความสามารถหลายด้าน ไม่จำกัดอยู่แค่สายงานเดียว ถือเป็นการปรับตัวของแพลตฟอร์มการศึกษาให้เข้ากับโลกการทำงานยุคใหม่
    https://securityonline.info/ine-expands-cross-skilling-innovations

    GitLab ออกแพตช์แก้ช่องโหว่ร้ายแรง ทั้ง DoS และการขโมย Credential ใน CI/CD
    GitLab ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดที่แก้ไขช่องโหว่หลายรายการ ทั้งการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ที่ไม่ต้องล็อกอินก็ทำได้ และช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ใช้ระดับต่ำสามารถขโมย Credential ของผู้ใช้ระดับสูงในระบบ CI/CD ได้ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านการ bypass authentication และการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ควรเข้าถึง GitLab แนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
    https://securityonline.info/gitlab-patch-fixes-ci-cd-credential-theft-unauthenticated-dos-attacks

    Hidden Theft: ส่วนขยาย Chrome “Crypto Copilot” ดูดเงินจากกระเป๋า Solana
    เรื่องนี้เริ่มจากนักเทรดคริปโตที่อยากได้ความสะดวกในการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม X จึงติดตั้งส่วนขยาย Chrome ที่ชื่อว่า Crypto Copilot ซึ่งโฆษณาว่าสามารถทำให้การเทรดรวดเร็วขึ้น แต่เบื้องหลังกลับเป็นกับดักที่ซ่อนการโอนเงินไปยังกระเป๋าของแฮกเกอร์โดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ผู้ใช้ทำการ swap เหรียญ ระบบจะเพิ่มคำสั่งลับที่โอนเงินส่วนหนึ่งไปยังที่อยู่กระเป๋าที่ถูกควบคุมโดยผู้โจมตี โดยที่หน้าจอผู้ใช้ไม่แสดงให้เห็นเลย ทำให้หลายคนสูญเสียเงินไปโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันส่วนขยายนี้ยังคงอยู่บน Chrome Web Store และนักวิจัยได้ส่งคำร้องให้ Google ลบออกแล้ว
    https://securityonline.info/hidden-theft-crypto-copilot-chrome-extension-drains-solana-wallets-on-x

    Critical Ray AI Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Ray Framework ผ่าน Safari และ Firefox
    Ray เป็นเฟรมเวิร์กโอเพ่นซอร์สที่นักพัฒนาใช้ในการทำงานด้าน Machine Learning แต่ล่าสุดพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องของนักพัฒนาได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตรวจสอบ User-Agent ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้เทคนิค DNS Rebinding หลอกเบราว์เซอร์ Safari และ Firefox ให้ส่งคำสั่งไปยัง Ray Dashboard ที่รันอยู่ในเครื่องของเหยื่อ ผลลัพธ์คือโค้ดอันตรายสามารถถูกประมวลผลได้ทันที ทีมงาน Ray ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 2.52.0 และแนะนำให้อัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง
    https://securityonline.info/critical-ray-ai-flaw-exposes-devs-via-safari-firefox-cve-2025-62593

    Water Gamayun Weaponizes “MSC EvilTwin”: กลุ่ม APT รัสเซียใช้ช่องโหว่ Windows เจาะระบบ
    กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับรัสเซียชื่อ Water Gamayun ถูกเปิดโปงว่ากำลังใช้ช่องโหว่ใหม่ใน Microsoft Management Console (MMC) ที่เรียกว่า “MSC EvilTwin” เพื่อเจาะระบบองค์กรที่มีมูลค่าสูง วิธีการคือหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็น payload ที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกใช้ช่องโหว่เพื่อรัน PowerShell ลับและติดตั้งมัลแวร์ต่อเนื่อง เป้าหมายของกลุ่มนี้คือการขโมยข้อมูลเชิงกลยุทธ์และสร้างช่องทางเข้าถึงระบบอย่างยาวนาน
    https://securityonline.info/water-gamayun-weaponizes-msc-eviltwin-zero-day-for-stealthy-backdoor-attacks

    Fragging Your Data: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Crack และ Trainer ของ Battlefield 6
    การเปิดตัวเกม Battlefield 6 กลายเป็นโอกาสทองของอาชญากรไซเบอร์ พวกเขาปล่อยไฟล์ “Crack” และ “Trainer” ปลอมบนเว็บแชร์ไฟล์และฟอรั่มใต้ดิน โดยอ้างว่าเป็นผลงานของกลุ่มแคร็กชื่อดัง แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลผู้ใช้ เช่น กระเป๋าเงินคริปโต คุกกี้เบราว์เซอร์ และโทเคน Discord บางเวอร์ชันยังซ่อนตัวเก่ง ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนทำงาน และบางตัวทำหน้าที่เป็น backdoor ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าผู้เล่นที่ดาวน์โหลดไฟล์เหล่านี้ควรรีบสแกนเครื่องและเปลี่ยนรหัสผ่านทันที
    https://securityonline.info/fragging-your-data-fake-battlefield-6-cracks-trainers-spread-infostealers

    Hidden Danger in 3D: ไฟล์ Blender ปลอมแพร่กระจาย StealC V2 Infostealer
    วงการนักออกแบบ 3D และเกมถูกโจมตีด้วยวิธีใหม่ แฮกเกอร์ปล่อยไฟล์โมเดล 3D ที่ดูเหมือนงานจริง เช่น โมเดลชุดอวกาศ Apollo 11 แต่ภายในฝังสคริปต์ Python อันตราย เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ใน Blender และเปิดใช้งาน Auto Run Python Scripts มัลแวร์จะทำงานทันทีโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจะดาวน์โหลด payload ต่อเนื่องและติดตั้ง StealC V2 ซึ่งเป็น infostealer ที่สามารถดูดข้อมูลจากเบราว์เซอร์ กระเป๋าเงินคริปโต และแอปต่าง ๆ เช่น Discord หรือ Telegram จุดอันตรายคือไฟล์เหล่านี้ตรวจจับได้ยากมากในระบบป้องกันทั่วไป ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังเป็นพิเศษ
    https://securityonline.info/hidden-danger-in-3d-malicious-blender-files-unleash-stealc-v2-infostealer

    Zero-Day Warning: ช่องโหว่ Twonky Server เปิดทางยึดระบบสื่อ
    มีการค้นพบช่องโหว่ใหม่ใน Twonky Server ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับสตรีมสื่อในบ้านและองค์กร ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ เมื่อผู้ใช้เปิดใช้งานเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้แพตช์ แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลเพื่อเข้าถึงไฟล์สื่อและแม้กระทั่งติดตั้งมัลแวร์เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอย่างมาก
    https://securityonline.info/zero-day-warning-unpatched-twonky-server-flaws-expose-media-to-total-takeover

    UNMASKED: การรั่วไหลครั้งใหญ่เปิดโปงหน่วยไซเบอร์ “Department 40” ของอิหร่าน
    มีการเปิดเผยข้อมูลครั้งใหญ่ที่แสดงให้เห็นการทำงานของหน่วยไซเบอร์ลับในอิหร่านที่ชื่อว่า Department 40 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ระดับโลก เอกสารที่รั่วไหลออกมาเผยให้เห็นโครงสร้างการทำงาน วิธีการโจมตี และเป้าหมายที่พวกเขาใช้ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือที่ซับซ้อนเพื่อเจาะระบบขององค์กรและรัฐบาลต่างประเทศ การเปิดโปงครั้งนี้ทำให้หลายประเทศเริ่มตรวจสอบและเพิ่มมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/unmasked-massive-leak-exposes-irans-department-40-cyber-terror-unit

    Angular Alert: ช่องโหว่ Protocol-Relative URLs ทำให้ XSRF Tokens รั่วไหล
    นักวิจัยพบว่าการใช้ URL แบบ protocol-relative ใน Angular สามารถทำให้โทเคน XSRF รั่วไหลไปยังโดเมนที่ไม่ปลอดภัยได้ ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อขโมย session และเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ปัญหานี้เกิดจากการที่เฟรมเวิร์กไม่ได้ตรวจสอบเส้นทาง URL อย่างเข้มงวดพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัยแต่จริง ๆ แล้วส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยแฮกเกอร์
    https://securityonline.info/angular-alert-protocol-relative-urls-leak-xsrf-tokens-cve-2025-66035

    Holiday Heist: ร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งโจมตี Black Friday
    ในช่วง Black Friday มีการตรวจพบร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งที่เลียนแบบ Amazon และแพลตฟอร์มช้อปปิ้งชื่อดังอื่น ๆ เว็บไซต์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้ผู้ซื้อกรอกข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว โดยใช้ดีไซน์และโลโก้ที่เหมือนจริงมาก ผู้ใช้ที่ไม่ทันระวังอาจสูญเสียเงินและข้อมูลไปโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนว่าควรตรวจสอบ URL และรีวิวร้านค้าให้ละเอียดก่อนทำการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลลดราคา
    https://securityonline.info/holiday-heist-200000-fake-shops-amazon-clones-target-black-friday

    Security Alert: ช่องโหว่ Stored XSS ใน Apache SkyWalking
    Apache SkyWalking ซึ่งเป็นระบบ APM ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการตรวจสอบและติดตามระบบแบบ distributed พบช่องโหว่ Stored XSS ที่อันตรายมาก เพราะโค้ดอันตรายจะถูกบันทึกถาวรในเซิร์ฟเวอร์และทำงานทุกครั้งที่ผู้ดูแลเปิดหน้า dashboard ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้เพื่อขโมย session cookies, redirect ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย หรือแม้กระทั่งแก้ไขข้อมูลการแสดงผลเพื่อปกปิดกิจกรรมที่ผิดปกติ ทีมงาน Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 10.3.0 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที
    https://securityonline.info/security-alert-apache-skywalking-stored-xss-vulnerability-cve-2025-54057

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251127 #securityonline 📰 Meta ถูกกล่าวหาปกปิดข้อมูลภายในที่ชี้ว่า Facebook ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล เรื่องนี้เริ่มจากเอกสารในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มที่โรงเรียนหลายแห่งในสหรัฐฯ ยื่นต่อบริษัทโซเชียลมีเดีย โดยมีการเปิดเผยว่า Meta เคยทำการศึกษาในโครงการชื่อ Project Mercury ร่วมกับบริษัท Nielsen ตั้งแต่ปี 2020 ผลการวิจัยพบว่าการเลิกใช้ Facebook ช่วยลดความรู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล และความเหงา แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลที่มีอคติและถูกกระทบจากกระแสสื่อ ขณะเดียวกันมีเสียงจากนักวิจัยภายในที่เปรียบเทียบการกระทำนี้เหมือนกับอุตสาหกรรมบุหรี่ที่เคยปกปิดผลวิจัยเรื่องอันตรายของการสูบบุหรี่ ปัจจุบันคดีนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาในศาล และสะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจที่รัฐบาลทั่วโลกมีต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/meta-accused-of-hiding-internal-data-showing-facebook-causes-depression-anxiety 🔐 Tor Project พัฒนาอัลกอริทึมเข้ารหัสใหม่ CGO แทน Tor1 ที่มีช่องโหว่ เครือข่าย Tor ที่ใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานนั้น แม้จะมีชื่อเสียงด้านการรักษาความลับ แต่ก็ไม่ปลอดภัยเสมอไป โดยโปรโตคอลเก่า Tor1 มีช่องโหว่สำคัญ เช่น การโจมตีแบบ tagging attack ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถติดตามเส้นทางข้อมูลได้ อีกทั้งยังมีการใช้คีย์ AES ซ้ำและตัวตรวจสอบที่อ่อนแอ เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ Tor Project จึงพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ชื่อ Counter Galois Onion (CGO) ที่เมื่อมีการพยายามแก้ไขข้อมูล ข้อความทั้งหมดในเส้นทางนั้นจะเสียหายทันที ทำให้การโจมตีแทบเป็นไปไม่ได้ แม้จะยังไม่มีตารางเวลาชัดเจนในการนำมาใช้กับ Tor Browser แต่ทีมงานกำลังปรับปรุงให้เหมาะกับ CPU รุ่นใหม่ 🔗 https://securityonline.info/tor-project-develops-new-cgo-encryption-to-replace-vulnerable-tor1-protocol ⚠️ PoC Exploit สำหรับช่องโหว่ Windows NTLM Elevation of Privilege ถูกเผยแพร่แล้ว มีการเปิดเผยโค้ดตัวอย่างการโจมตี (PoC Exploit) ที่เจาะช่องโหว่ในระบบ NTLM ของ Windows ซึ่งสามารถนำไปสู่การยกระดับสิทธิ์การเข้าถึงได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ Channel Binding และ LDAPS โดยเนื้อหาละเอียดถูกจำกัดให้เฉพาะผู้สนับสนุนที่ลงทะเบียนเท่านั้น แต่การที่ PoC ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะถือเป็นสัญญาณเตือนว่าผู้โจมตีอาจนำไปใช้จริงได้ 🔗 https://securityonline.info/poc-exploit-releases-for-windows-ntlm-elevation-of-privilege-vulnerability 💻 NVIDIA ออกแพตช์ด่วนแก้ช่องโหว่ร้ายแรงใน DGX Spark เสี่ยงถูกยึดระบบ AI NVIDIA ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับแพลตฟอร์ม DGX Spark ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ขนาดกะทัดรัดที่ใช้ในงานวิจัยและพัฒนา โดยมีช่องโหว่รวม 14 รายการ หนึ่งในนั้นคือ CVE-2025-33187 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ช่องโหว่นี้อยู่ในส่วน SROOT ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ระดับสูงสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ปกป้องโดยชิป SoC และควบคุมระบบได้อย่างสมบูรณ์ หากไม่อัปเดตทันที ข้อมูลวิจัยและโมเดล AI อาจถูกขโมยหรือแก้ไขโดยไม่รู้ตัว NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดต DGX Spark ไปยังเวอร์ชัน OTA0 โดยเร็วที่สุด 🔗 https://securityonline.info/critical-patch-nvidia-dgx-spark-flaw-cve-2025-33187-cvss-9-3-exposes-ai-secrets-to-takeover 🕵️‍♂️ WormGPT 4 และ KawaiiGPT: AI ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมืออาชญากรรมไซเบอร์ รายงานจาก Unit 42 เปิดเผยว่าโมเดล AI ที่ควรใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ กลับถูกนำไปใช้สร้างภัยคุกคาม WormGPT 4 ถูกโฆษณาในฟอรั่มใต้ดินว่าเป็น “AI ที่ไร้ข้อจำกัด” สามารถสร้างมัลแวร์และสคริปต์เรียกค่าไถ่ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเขียนโน้ตข่มขู่ที่ทำให้เหยื่อหวาดกลัว ส่วน KawaiiGPT ถูกนำเสนอในรูปแบบ “Waifu pentesting” ที่ดูน่ารักแต่จริง ๆ แล้วสามารถสร้างอีเมลฟิชชิ่งและสคริปต์โจมตีได้ง่ายมาก ทั้งสองโมเดลนี้ทำให้การโจมตีไซเบอร์เข้าถึงได้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทักษะสูง สะท้อนถึงการ “ทำให้อาชญากรรมไซเบอร์เป็นประชาธิปไตย” ที่ใครก็สามารถโจมตีได้เพียงแค่พิมพ์คำสั่ง 🔗 https://securityonline.info/silent-fast-brutal-how-wormgpt-4-and-kawaiigpt-democratize-cybercrime 📊 Anthropic เปิดตัว Opus 4.5: AI สำหรับองค์กรที่เชื่อม Excel และแชทได้ไม่สิ้นสุด Anthropic ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ชื่อ Opus 4.5 ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในระดับองค์กร จุดเด่นคือสามารถเชื่อมต่อกับ Excel ได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงานได้อย่างอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ “Infinite Chat” ที่ช่วยให้การสนทนากับ AI ต่อเนื่องได้ไม่จำกัด ไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้งที่หมด session ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน AI ให้เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและการจัดการข้อมูลจำนวนมาก 🔗 https://securityonline.info/anthropic-unleashes-opus-4-5-excel-integration-infinite-chat-for-enterprise-ai 🛒 Perplexity เปิดตัว AI Shopping พร้อม PayPal Instant Buy และค้นหาสินค้าแบบเฉพาะบุคคล Perplexity กำลังขยายขอบเขตการใช้งาน AI จากการค้นหาข้อมูลไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าผ่าน PayPal ได้ทันที (Instant Buy) และยังมีระบบค้นหาสินค้าแบบ Personalized ที่ปรับตามความสนใจและพฤติกรรมของผู้ใช้ จุดนี้ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกขึ้นและตรงใจมากขึ้น ถือเป็นการผสมผสานระหว่าง AI และอีคอมเมิร์ซที่น่าจับตามอง 🔗 https://securityonline.info/perplexity-launches-ai-shopping-with-paypal-instant-buy-personalized-product-search ⚡ Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 5: CPU เร็วขึ้น 36% และพลัง AI เพิ่มขึ้น 46% Qualcomm ได้เปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Snapdragon 8 Gen 5 ที่มาพร้อมกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งด้านความเร็วของ CPU ที่เพิ่มขึ้น 36% และพลังการประมวลผล AI ที่มากขึ้นถึง 46% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นอีกอย่างคือการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เหมาะกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่จะออกในปีหน้า ซึ่งจะรองรับการใช้งานที่หนักหน่วงทั้งเกมและงานด้าน AI ได้อย่างลื่นไหล 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-unveils-snapdragon-8-gen-5-36-faster-cpu-46-more-ai-power 🎓 INE ขยายการเรียนรู้แบบ Cross-Skilling เพื่อเพิ่มทักษะหลากหลายให้ผู้เรียน INE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่เน้นการ Cross-Skilling หรือการเรียนรู้ทักษะข้ามสาขา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะที่หลากหลายและนำไปใช้ในงานจริงได้มากขึ้น แนวทางนี้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานที่ต้องการคนที่มีความสามารถหลายด้าน ไม่จำกัดอยู่แค่สายงานเดียว ถือเป็นการปรับตัวของแพลตฟอร์มการศึกษาให้เข้ากับโลกการทำงานยุคใหม่ 🔗 https://securityonline.info/ine-expands-cross-skilling-innovations 🛡️ GitLab ออกแพตช์แก้ช่องโหว่ร้ายแรง ทั้ง DoS และการขโมย Credential ใน CI/CD GitLab ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดที่แก้ไขช่องโหว่หลายรายการ ทั้งการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ที่ไม่ต้องล็อกอินก็ทำได้ และช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ใช้ระดับต่ำสามารถขโมย Credential ของผู้ใช้ระดับสูงในระบบ CI/CD ได้ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านการ bypass authentication และการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ควรเข้าถึง GitLab แนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น 🔗 https://securityonline.info/gitlab-patch-fixes-ci-cd-credential-theft-unauthenticated-dos-attacks 🕵️‍♂️ Hidden Theft: ส่วนขยาย Chrome “Crypto Copilot” ดูดเงินจากกระเป๋า Solana เรื่องนี้เริ่มจากนักเทรดคริปโตที่อยากได้ความสะดวกในการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม X จึงติดตั้งส่วนขยาย Chrome ที่ชื่อว่า Crypto Copilot ซึ่งโฆษณาว่าสามารถทำให้การเทรดรวดเร็วขึ้น แต่เบื้องหลังกลับเป็นกับดักที่ซ่อนการโอนเงินไปยังกระเป๋าของแฮกเกอร์โดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ผู้ใช้ทำการ swap เหรียญ ระบบจะเพิ่มคำสั่งลับที่โอนเงินส่วนหนึ่งไปยังที่อยู่กระเป๋าที่ถูกควบคุมโดยผู้โจมตี โดยที่หน้าจอผู้ใช้ไม่แสดงให้เห็นเลย ทำให้หลายคนสูญเสียเงินไปโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันส่วนขยายนี้ยังคงอยู่บน Chrome Web Store และนักวิจัยได้ส่งคำร้องให้ Google ลบออกแล้ว 🔗 https://securityonline.info/hidden-theft-crypto-copilot-chrome-extension-drains-solana-wallets-on-x 💻 Critical Ray AI Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Ray Framework ผ่าน Safari และ Firefox Ray เป็นเฟรมเวิร์กโอเพ่นซอร์สที่นักพัฒนาใช้ในการทำงานด้าน Machine Learning แต่ล่าสุดพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องของนักพัฒนาได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตรวจสอบ User-Agent ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้เทคนิค DNS Rebinding หลอกเบราว์เซอร์ Safari และ Firefox ให้ส่งคำสั่งไปยัง Ray Dashboard ที่รันอยู่ในเครื่องของเหยื่อ ผลลัพธ์คือโค้ดอันตรายสามารถถูกประมวลผลได้ทันที ทีมงาน Ray ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 2.52.0 และแนะนำให้อัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง 🔗 https://securityonline.info/critical-ray-ai-flaw-exposes-devs-via-safari-firefox-cve-2025-62593 🎯 Water Gamayun Weaponizes “MSC EvilTwin”: กลุ่ม APT รัสเซียใช้ช่องโหว่ Windows เจาะระบบ กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับรัสเซียชื่อ Water Gamayun ถูกเปิดโปงว่ากำลังใช้ช่องโหว่ใหม่ใน Microsoft Management Console (MMC) ที่เรียกว่า “MSC EvilTwin” เพื่อเจาะระบบองค์กรที่มีมูลค่าสูง วิธีการคือหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็น payload ที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกใช้ช่องโหว่เพื่อรัน PowerShell ลับและติดตั้งมัลแวร์ต่อเนื่อง เป้าหมายของกลุ่มนี้คือการขโมยข้อมูลเชิงกลยุทธ์และสร้างช่องทางเข้าถึงระบบอย่างยาวนาน 🔗 https://securityonline.info/water-gamayun-weaponizes-msc-eviltwin-zero-day-for-stealthy-backdoor-attacks 🎮 Fragging Your Data: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Crack และ Trainer ของ Battlefield 6 การเปิดตัวเกม Battlefield 6 กลายเป็นโอกาสทองของอาชญากรไซเบอร์ พวกเขาปล่อยไฟล์ “Crack” และ “Trainer” ปลอมบนเว็บแชร์ไฟล์และฟอรั่มใต้ดิน โดยอ้างว่าเป็นผลงานของกลุ่มแคร็กชื่อดัง แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลผู้ใช้ เช่น กระเป๋าเงินคริปโต คุกกี้เบราว์เซอร์ และโทเคน Discord บางเวอร์ชันยังซ่อนตัวเก่ง ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนทำงาน และบางตัวทำหน้าที่เป็น backdoor ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าผู้เล่นที่ดาวน์โหลดไฟล์เหล่านี้ควรรีบสแกนเครื่องและเปลี่ยนรหัสผ่านทันที 🔗 https://securityonline.info/fragging-your-data-fake-battlefield-6-cracks-trainers-spread-infostealers 🎨 Hidden Danger in 3D: ไฟล์ Blender ปลอมแพร่กระจาย StealC V2 Infostealer วงการนักออกแบบ 3D และเกมถูกโจมตีด้วยวิธีใหม่ แฮกเกอร์ปล่อยไฟล์โมเดล 3D ที่ดูเหมือนงานจริง เช่น โมเดลชุดอวกาศ Apollo 11 แต่ภายในฝังสคริปต์ Python อันตราย เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ใน Blender และเปิดใช้งาน Auto Run Python Scripts มัลแวร์จะทำงานทันทีโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจะดาวน์โหลด payload ต่อเนื่องและติดตั้ง StealC V2 ซึ่งเป็น infostealer ที่สามารถดูดข้อมูลจากเบราว์เซอร์ กระเป๋าเงินคริปโต และแอปต่าง ๆ เช่น Discord หรือ Telegram จุดอันตรายคือไฟล์เหล่านี้ตรวจจับได้ยากมากในระบบป้องกันทั่วไป ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังเป็นพิเศษ 🔗 https://securityonline.info/hidden-danger-in-3d-malicious-blender-files-unleash-stealc-v2-infostealer 📺 Zero-Day Warning: ช่องโหว่ Twonky Server เปิดทางยึดระบบสื่อ มีการค้นพบช่องโหว่ใหม่ใน Twonky Server ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับสตรีมสื่อในบ้านและองค์กร ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ เมื่อผู้ใช้เปิดใช้งานเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้แพตช์ แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลเพื่อเข้าถึงไฟล์สื่อและแม้กระทั่งติดตั้งมัลแวร์เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/zero-day-warning-unpatched-twonky-server-flaws-expose-media-to-total-takeover 🕶️ UNMASKED: การรั่วไหลครั้งใหญ่เปิดโปงหน่วยไซเบอร์ “Department 40” ของอิหร่าน มีการเปิดเผยข้อมูลครั้งใหญ่ที่แสดงให้เห็นการทำงานของหน่วยไซเบอร์ลับในอิหร่านที่ชื่อว่า Department 40 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ระดับโลก เอกสารที่รั่วไหลออกมาเผยให้เห็นโครงสร้างการทำงาน วิธีการโจมตี และเป้าหมายที่พวกเขาใช้ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือที่ซับซ้อนเพื่อเจาะระบบขององค์กรและรัฐบาลต่างประเทศ การเปิดโปงครั้งนี้ทำให้หลายประเทศเริ่มตรวจสอบและเพิ่มมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/unmasked-massive-leak-exposes-irans-department-40-cyber-terror-unit ⚠️ Angular Alert: ช่องโหว่ Protocol-Relative URLs ทำให้ XSRF Tokens รั่วไหล นักวิจัยพบว่าการใช้ URL แบบ protocol-relative ใน Angular สามารถทำให้โทเคน XSRF รั่วไหลไปยังโดเมนที่ไม่ปลอดภัยได้ ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อขโมย session และเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ปัญหานี้เกิดจากการที่เฟรมเวิร์กไม่ได้ตรวจสอบเส้นทาง URL อย่างเข้มงวดพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัยแต่จริง ๆ แล้วส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยแฮกเกอร์ 🔗 https://securityonline.info/angular-alert-protocol-relative-urls-leak-xsrf-tokens-cve-2025-66035 🛍️ Holiday Heist: ร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งโจมตี Black Friday ในช่วง Black Friday มีการตรวจพบร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งที่เลียนแบบ Amazon และแพลตฟอร์มช้อปปิ้งชื่อดังอื่น ๆ เว็บไซต์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้ผู้ซื้อกรอกข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว โดยใช้ดีไซน์และโลโก้ที่เหมือนจริงมาก ผู้ใช้ที่ไม่ทันระวังอาจสูญเสียเงินและข้อมูลไปโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนว่าควรตรวจสอบ URL และรีวิวร้านค้าให้ละเอียดก่อนทำการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลลดราคา 🔗 https://securityonline.info/holiday-heist-200000-fake-shops-amazon-clones-target-black-friday 🛡️ Security Alert: ช่องโหว่ Stored XSS ใน Apache SkyWalking Apache SkyWalking ซึ่งเป็นระบบ APM ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการตรวจสอบและติดตามระบบแบบ distributed พบช่องโหว่ Stored XSS ที่อันตรายมาก เพราะโค้ดอันตรายจะถูกบันทึกถาวรในเซิร์ฟเวอร์และทำงานทุกครั้งที่ผู้ดูแลเปิดหน้า dashboard ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้เพื่อขโมย session cookies, redirect ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย หรือแม้กระทั่งแก้ไขข้อมูลการแสดงผลเพื่อปกปิดกิจกรรมที่ผิดปกติ ทีมงาน Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 10.3.0 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/security-alert-apache-skywalking-stored-xss-vulnerability-cve-2025-54057
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 858 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเสี่ยงใหญ่ของ CISO – ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยลาออก

    บทความจาก CSO Online ชี้ให้เห็นว่า CISO (Chief Information Security Officer) กำลังเผชิญความเสี่ยงสำคัญ ไม่ใช่แค่ภัยไซเบอร์ แต่คือการสูญเสีย ผู้นำระดับแผนก (functional security leaders) ที่กำลังหมดไฟและพร้อมจะลาออก เนื่องจากภาระงานที่หนักเกินไปแต่ไม่ได้รับการยอมรับหรือผลตอบแทนที่เหมาะสม

    สาเหตุของการลาออกและความเหนื่อยล้า
    ภาระงานเกินกำลัง: ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยต้องรับผิดชอบทั้งการปกป้องระบบและสนับสนุนผลลัพธ์ทางธุรกิจ พร้อมทั้งจัดการกับกฎระเบียบใหม่และเทคโนโลยีที่ซับซ้อน
    ทรัพยากรจำกัด: ทีมงานขาดบุคลากรและงบประมาณ ทำให้ต้องทำงานมากขึ้นโดยไม่สามารถควบคุมความเสี่ยงได้เต็มที่
    วัฒนธรรมที่ไม่ยั่งยืน: ถูกคาดหวังให้ “ถูกต้องทุกครั้ง” ในขณะที่แฮกเกอร์ต้องการแค่ครั้งเดียวในการเจาะระบบ สร้างความกดดันอย่างต่อเนื่อง
    ขาดเส้นทางความก้าวหน้า: หลายองค์กรมีโครงสร้างที่ทำให้ผู้นำระดับกลางไม่เห็นโอกาสเติบโตไปสู่ตำแหน่งสูงกว่า เช่น CISO

    แนวทางแก้ไขที่แนะนำ
    ปรับโครงสร้างงาน: ลดการสวมหมวกหลายใบ และให้ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยมีอำนาจตัดสินใจจริง
    สนับสนุนการเติบโตในสายอาชีพ: สร้างเส้นทางความก้าวหน้าที่ชัดเจน ไม่จำกัดแค่ตำแหน่ง CISO แต่รวมถึงสาขาใหม่ เช่น AI governance หรือ privacy
    เพิ่มการมีส่วนร่วมเชิงกลยุทธ์: ให้ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยมีที่นั่งในโต๊ะผู้บริหาร เพื่อสะท้อนความต้องการและทรัพยากรที่จำเป็น
    ใช้ตัวชี้วัดใหม่: วัดความสำเร็จจากการป้องกัน downtime และลดความเสี่ยง แทนที่จะเน้นเฉพาะการตอบสนองต่อเหตุการณ์

    สรุปสาระสำคัญ
    ความเสี่ยงใหม่ของ CISO
    การสูญเสียผู้นำฝ่ายความปลอดภัยที่หมดไฟและลาออก

    สาเหตุหลักของการลาออก
    ภาระงานหนักเกินไปและทรัพยากรจำกัด
    ความกดดันจากความคาดหวังที่ไม่สมดุล
    ขาดเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ

    แนวทางแก้ไข
    ปรับโครงสร้างงานและให้อำนาจตัดสินใจ
    สร้างเส้นทางอาชีพใหม่ เช่น AI governance
    เพิ่มบทบาทเชิงกลยุทธ์ในระดับผู้บริหาร

    คำเตือนสำหรับองค์กร
    หากไม่แก้ไข อาจสูญเสียบุคลากรสำคัญ
    ความต่อเนื่องและนวัตกรรมด้านความปลอดภัยจะถูกกระทบ
    การมอง cybersecurity เป็น cost center ทำให้เสี่ยงต่อการตัดงบประมาณ

    https://www.csoonline.com/article/4094734/the-cisos-greatest-risk-department-leaders-quitting.html
    📰 ความเสี่ยงใหญ่ของ CISO – ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยลาออก บทความจาก CSO Online ชี้ให้เห็นว่า CISO (Chief Information Security Officer) กำลังเผชิญความเสี่ยงสำคัญ ไม่ใช่แค่ภัยไซเบอร์ แต่คือการสูญเสีย ผู้นำระดับแผนก (functional security leaders) ที่กำลังหมดไฟและพร้อมจะลาออก เนื่องจากภาระงานที่หนักเกินไปแต่ไม่ได้รับการยอมรับหรือผลตอบแทนที่เหมาะสม 🔥 สาเหตุของการลาออกและความเหนื่อยล้า 💠 ภาระงานเกินกำลัง: ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยต้องรับผิดชอบทั้งการปกป้องระบบและสนับสนุนผลลัพธ์ทางธุรกิจ พร้อมทั้งจัดการกับกฎระเบียบใหม่และเทคโนโลยีที่ซับซ้อน 💠 ทรัพยากรจำกัด: ทีมงานขาดบุคลากรและงบประมาณ ทำให้ต้องทำงานมากขึ้นโดยไม่สามารถควบคุมความเสี่ยงได้เต็มที่ 💠 วัฒนธรรมที่ไม่ยั่งยืน: ถูกคาดหวังให้ “ถูกต้องทุกครั้ง” ในขณะที่แฮกเกอร์ต้องการแค่ครั้งเดียวในการเจาะระบบ สร้างความกดดันอย่างต่อเนื่อง 💠 ขาดเส้นทางความก้าวหน้า: หลายองค์กรมีโครงสร้างที่ทำให้ผู้นำระดับกลางไม่เห็นโอกาสเติบโตไปสู่ตำแหน่งสูงกว่า เช่น CISO 💡 แนวทางแก้ไขที่แนะนำ 💠 ปรับโครงสร้างงาน: ลดการสวมหมวกหลายใบ และให้ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยมีอำนาจตัดสินใจจริง 💠 สนับสนุนการเติบโตในสายอาชีพ: สร้างเส้นทางความก้าวหน้าที่ชัดเจน ไม่จำกัดแค่ตำแหน่ง CISO แต่รวมถึงสาขาใหม่ เช่น AI governance หรือ privacy 💠 เพิ่มการมีส่วนร่วมเชิงกลยุทธ์: ให้ผู้นำฝ่ายความปลอดภัยมีที่นั่งในโต๊ะผู้บริหาร เพื่อสะท้อนความต้องการและทรัพยากรที่จำเป็น 💠 ใช้ตัวชี้วัดใหม่: วัดความสำเร็จจากการป้องกัน downtime และลดความเสี่ยง แทนที่จะเน้นเฉพาะการตอบสนองต่อเหตุการณ์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ความเสี่ยงใหม่ของ CISO ➡️ การสูญเสียผู้นำฝ่ายความปลอดภัยที่หมดไฟและลาออก ✅ สาเหตุหลักของการลาออก ➡️ ภาระงานหนักเกินไปและทรัพยากรจำกัด ➡️ ความกดดันจากความคาดหวังที่ไม่สมดุล ➡️ ขาดเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ ✅ แนวทางแก้ไข ➡️ ปรับโครงสร้างงานและให้อำนาจตัดสินใจ ➡️ สร้างเส้นทางอาชีพใหม่ เช่น AI governance ➡️ เพิ่มบทบาทเชิงกลยุทธ์ในระดับผู้บริหาร ‼️ คำเตือนสำหรับองค์กร ⛔ หากไม่แก้ไข อาจสูญเสียบุคลากรสำคัญ ⛔ ความต่อเนื่องและนวัตกรรมด้านความปลอดภัยจะถูกกระทบ ⛔ การมอง cybersecurity เป็น cost center ทำให้เสี่ยงต่อการตัดงบประมาณ https://www.csoonline.com/article/4094734/the-cisos-greatest-risk-department-leaders-quitting.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The CISO’s greatest risk? Department leaders quitting
    A security exec’s job is not just to manage cyber risk. Protecting personnel from burnout, championing cyber’s business value, and fostering career growth are just as vital to building a resilient, sustainable organization.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: SonicWall เตือนช่องโหว่ SSLVPN ใหม่ CVE-2025-40601

    SonicWall ได้เผยแพร่คำเตือนด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับช่องโหว่ Pre-authentication Stack-based Buffer Overflow ในบริการ SSLVPN ของ SonicOS โดยผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อทำให้ไฟร์วอลล์ที่เปิดใช้งาน SSLVPN ล่มทันที (Denial of Service) โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบหรือมีสิทธิ์ใด ๆ

    ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อทั้ง Gen7 และ Gen8 Firewalls รวมถึงรุ่น Virtual (NSv) ที่ทำงานบน ESX, KVM, Hyper-V, AWS และ Azure โดยมีเวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ เช่น 7.3.0-7012 และเก่ากว่า (สำหรับ Gen7) และ 8.0.2-8011 และเก่ากว่า (สำหรับ Gen8) ขณะที่สาขา 7.0.1 ไม่ได้รับผลกระทบ

    เพื่อแก้ไขปัญหา SonicWall ได้ออกแพตช์สำหรับทุกแพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบ พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันชั่วคราว เช่น จำกัดการเข้าถึง SSLVPN เฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือ ปิดการใช้งาน SSLVPN จากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย โดยปรับแต่งกฎการเข้าถึงใน SonicOS

    การค้นพบนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่องค์กรต้องเผชิญ เนื่องจาก SSLVPN เป็นช่องทางสำคัญในการเชื่อมต่อระยะไกล หากถูกโจมตีจนไฟร์วอลล์ล่ม อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียการเข้าถึงระบบเครือข่ายที่สำคัญ

    สรุปสาระสำคัญ
    รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-40601
    เป็น Pre-authentication Buffer Overflow ใน SonicOS SSLVPN
    คะแนน CVSS 7.5 (High Severity)

    ระบบที่ได้รับผลกระทบ
    Gen7 Firewalls (TZ270, TZ370, TZ470, TZ570, TZ670, NSa series, NSsp series)
    Gen8 Firewalls (TZ80–TZ680, NSa 2800–5800)
    Gen7 Virtual Firewalls (NSv270, NSv470, NSv870 บน ESX, KVM, Hyper-V, AWS, Azure)

    ความเสี่ยงต่อองค์กร
    ผู้โจมตีสามารถทำให้ไฟร์วอลล์ล่มโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียการเชื่อมต่อเครือข่ายสำคัญ

    ข้อควรระวังและการป้องกัน
    รีบอัปเดตแพตช์ที่ SonicWall ปล่อยออกมา
    จำกัดการเข้าถึง SSLVPN เฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือปิดการใช้งานจากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย

    https://securityonline.info/sonicwall-warns-of-new-sonicos-sslvpn-pre-auth-buffer-overflow-vulnerability-cve-2025-40601/
    🔐 ข่าวใหญ่: SonicWall เตือนช่องโหว่ SSLVPN ใหม่ CVE-2025-40601 SonicWall ได้เผยแพร่คำเตือนด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับช่องโหว่ Pre-authentication Stack-based Buffer Overflow ในบริการ SSLVPN ของ SonicOS โดยผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อทำให้ไฟร์วอลล์ที่เปิดใช้งาน SSLVPN ล่มทันที (Denial of Service) โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบหรือมีสิทธิ์ใด ๆ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อทั้ง Gen7 และ Gen8 Firewalls รวมถึงรุ่น Virtual (NSv) ที่ทำงานบน ESX, KVM, Hyper-V, AWS และ Azure โดยมีเวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ เช่น 7.3.0-7012 และเก่ากว่า (สำหรับ Gen7) และ 8.0.2-8011 และเก่ากว่า (สำหรับ Gen8) ขณะที่สาขา 7.0.1 ไม่ได้รับผลกระทบ เพื่อแก้ไขปัญหา SonicWall ได้ออกแพตช์สำหรับทุกแพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบ พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันชั่วคราว เช่น จำกัดการเข้าถึง SSLVPN เฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือ ปิดการใช้งาน SSLVPN จากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย โดยปรับแต่งกฎการเข้าถึงใน SonicOS การค้นพบนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่องค์กรต้องเผชิญ เนื่องจาก SSLVPN เป็นช่องทางสำคัญในการเชื่อมต่อระยะไกล หากถูกโจมตีจนไฟร์วอลล์ล่ม อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียการเข้าถึงระบบเครือข่ายที่สำคัญ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-40601 ➡️ เป็น Pre-authentication Buffer Overflow ใน SonicOS SSLVPN ➡️ คะแนน CVSS 7.5 (High Severity) ✅ ระบบที่ได้รับผลกระทบ ➡️ Gen7 Firewalls (TZ270, TZ370, TZ470, TZ570, TZ670, NSa series, NSsp series) ➡️ Gen8 Firewalls (TZ80–TZ680, NSa 2800–5800) ➡️ Gen7 Virtual Firewalls (NSv270, NSv470, NSv870 บน ESX, KVM, Hyper-V, AWS, Azure) ‼️ ความเสี่ยงต่อองค์กร ⛔ ผู้โจมตีสามารถทำให้ไฟร์วอลล์ล่มโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ⛔ อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียการเชื่อมต่อเครือข่ายสำคัญ ‼️ ข้อควรระวังและการป้องกัน ⛔ รีบอัปเดตแพตช์ที่ SonicWall ปล่อยออกมา ⛔ จำกัดการเข้าถึง SSLVPN เฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือปิดการใช้งานจากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย https://securityonline.info/sonicwall-warns-of-new-sonicos-sslvpn-pre-auth-buffer-overflow-vulnerability-cve-2025-40601/
    SECURITYONLINE.INFO
    SonicWall Warns of New SonicOS SSLVPN Pre-Auth Buffer Overflow Vulnerability (CVE-2025-40601)
    SonicWall reports a pre-auth stack-based buffer overflow flaw (CVE-2025-40601) in SonicOS SSLVPN, allowing remote DoS attacks. Patches and mitigation are available.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Taiwan AI Island – ก้าวสู่ศูนย์กลางคอมพิวต์โลก”

    รัฐบาลไต้หวันได้ประกาศทุ่มงบประมาณกว่า NT$100 พันล้าน (ประมาณ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อผลักดันโครงการระดับชาติในการสร้างเกาะให้เป็นศูนย์กลางด้าน Artificial Intelligence (AI) โดยมีเป้าหมายให้ไต้หวันติดอันดับ Top 5 ของโลกด้านพลังคอมพิวต์ ภายในปี 2028 และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจสูงถึง NT$15 ล้านล้านภายในปี 2040

    โครงการนี้จะเน้นการวิจัยและพัฒนาในสาขา Silicon Photonics, Quantum Computing และ AI Robotics พร้อมสร้าง AI Data Center แห่งชาติในเมือง Tainan และสนับสนุนการลงทุนจากภาคเอกชน เช่น Foxconn และ Nvidia ที่กำลังสร้างศูนย์ข้อมูลในเมือง Kaohsiung โดยใช้แพลตฟอร์ม Nvidia Blackwell ซึ่งคาดว่าจะมีกำลังไฟฟ้าสูงถึง 100 เมกะวัตต์เมื่อเสร็จสมบูรณ์

    อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานนี้กำลังเผชิญกับ ข้อจำกัดด้านพลังงาน เนื่องจากไต้หวันได้ปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งสุดท้ายไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนยังไม่ถึงเป้าหมาย โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมนอกชายฝั่งที่ยังมีปัญหาล่าช้า รวมถึงระบบส่งไฟฟ้าในภาคใต้ที่ยังไม่ทันต่อการขยายตัวของศูนย์ข้อมูล

    เพื่อแก้ปัญหา ไต้หวันและพันธมิตรเทคโนโลยี เช่น Nvidia และ GMI Cloud กำลังผลักดันโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น ระบบส่งไฟฟ้าแบบ 800-volt DC busbar และการติดตั้ง GPU รุ่นใหม่กว่า 7,000 ตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและรองรับงาน AI ที่ซับซ้อนมากขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ
    รัฐบาลไต้หวันลงทุน NT$100 พันล้าน (US$3.2 พันล้าน)
    ตั้งเป้าเป็น Top 5 ของโลกด้านพลังคอมพิวต์

    โครงการเน้น R&D ใน Silicon Photonics, Quantum Computing และ AI Robotics
    พร้อมสร้าง AI Data Center ใน Tainan

    Foxconn และ Nvidia ร่วมลงทุนใน Kaohsiung
    ใช้แพลตฟอร์ม Nvidia Blackwell กำลังไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์

    GMI Cloud ติดตั้ง 7,000 Blackwell GPUs
    รองรับงาน inference workloads ขนาดใหญ่

    ความท้าทายด้านพลังงาน
    ปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์, พลังงานหมุนเวียนยังต่ำกว่าเป้า

    ระบบส่งไฟฟ้าในภาคใต้ยังไม่ทันต่อการขยายตัว
    อาจกระทบการเปิดใช้งานศูนย์ข้อมูลใหม่ตามแผน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/taiwan-announces-3bn-spend-on-ai-island-ambitions
    📰 “Taiwan AI Island – ก้าวสู่ศูนย์กลางคอมพิวต์โลก” รัฐบาลไต้หวันได้ประกาศทุ่มงบประมาณกว่า NT$100 พันล้าน (ประมาณ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อผลักดันโครงการระดับชาติในการสร้างเกาะให้เป็นศูนย์กลางด้าน Artificial Intelligence (AI) โดยมีเป้าหมายให้ไต้หวันติดอันดับ Top 5 ของโลกด้านพลังคอมพิวต์ ภายในปี 2028 และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจสูงถึง NT$15 ล้านล้านภายในปี 2040 โครงการนี้จะเน้นการวิจัยและพัฒนาในสาขา Silicon Photonics, Quantum Computing และ AI Robotics พร้อมสร้าง AI Data Center แห่งชาติในเมือง Tainan และสนับสนุนการลงทุนจากภาคเอกชน เช่น Foxconn และ Nvidia ที่กำลังสร้างศูนย์ข้อมูลในเมือง Kaohsiung โดยใช้แพลตฟอร์ม Nvidia Blackwell ซึ่งคาดว่าจะมีกำลังไฟฟ้าสูงถึง 100 เมกะวัตต์เมื่อเสร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานนี้กำลังเผชิญกับ ข้อจำกัดด้านพลังงาน เนื่องจากไต้หวันได้ปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งสุดท้ายไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนยังไม่ถึงเป้าหมาย โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมนอกชายฝั่งที่ยังมีปัญหาล่าช้า รวมถึงระบบส่งไฟฟ้าในภาคใต้ที่ยังไม่ทันต่อการขยายตัวของศูนย์ข้อมูล เพื่อแก้ปัญหา ไต้หวันและพันธมิตรเทคโนโลยี เช่น Nvidia และ GMI Cloud กำลังผลักดันโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น ระบบส่งไฟฟ้าแบบ 800-volt DC busbar และการติดตั้ง GPU รุ่นใหม่กว่า 7,000 ตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและรองรับงาน AI ที่ซับซ้อนมากขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รัฐบาลไต้หวันลงทุน NT$100 พันล้าน (US$3.2 พันล้าน) ➡️ ตั้งเป้าเป็น Top 5 ของโลกด้านพลังคอมพิวต์ ✅ โครงการเน้น R&D ใน Silicon Photonics, Quantum Computing และ AI Robotics ➡️ พร้อมสร้าง AI Data Center ใน Tainan ✅ Foxconn และ Nvidia ร่วมลงทุนใน Kaohsiung ➡️ ใช้แพลตฟอร์ม Nvidia Blackwell กำลังไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ ✅ GMI Cloud ติดตั้ง 7,000 Blackwell GPUs ➡️ รองรับงาน inference workloads ขนาดใหญ่ ‼️ ความท้าทายด้านพลังงาน ⛔ ปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์, พลังงานหมุนเวียนยังต่ำกว่าเป้า ‼️ ระบบส่งไฟฟ้าในภาคใต้ยังไม่ทันต่อการขยายตัว ⛔ อาจกระทบการเปิดใช้งานศูนย์ข้อมูลใหม่ตามแผน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/taiwan-announces-3bn-spend-on-ai-island-ambitions
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • “The Fall of Icarus – ภาพถ่ายดาราศาสตร์ที่ไม่เคยมีมาก่อน”

    ภาพนี้เป็นผลงานร่วมกันของ Andrew McCarthy นักถ่ายภาพดาราศาสตร์ และ Gabriel C. Brown นักกระโดดร่ม โดยพวกเขาวางแผนให้ Brown กระโดดร่มในจังหวะที่ตรงกับการถ่ายภาพดวงอาทิตย์ในแสง Hydrogen-alpha ซึ่งเผยให้เห็นพื้นผิวที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วนและจุดดับบนดวงอาทิตย์ ผลลัพธ์คือภาพเงาของนักกระโดดร่มที่พุ่งลงมาพอดีกับตำแหน่งระหว่างจุดดับดวงอาทิตย์ สร้างความสมบูรณ์แบบทั้งด้านศิลปะและวิทยาศาสตร์

    การถ่ายภาพครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมงานต้องใช้ หลายกล้องและการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ระหว่างนักบินพารามอเตอร์, McCarthy และ Brown เพื่อให้การจัดตำแหน่งเป็นไปอย่างแม่นยำ หลังจากความพยายามถึง 6 ครั้ง พวกเขาจึงได้ภาพที่สมบูรณ์แบบตามที่ตั้งใจไว้

    สิ่งที่ทำให้ภาพนี้โดดเด่นคือการนำ กิจกรรมสุดขั้วอย่างการกระโดดร่ม มาผสมผสานกับ การถ่ายภาพดาราศาสตร์เชิงลึก ซึ่งปกติแล้วมักจะเป็นงานที่ต้องใช้ความนิ่งและความแม่นยำสูง การสร้างสรรค์ครั้งนี้จึงถูกยกย่องว่าเป็น “การยกระดับมาตรฐานของวงการ Astrophotography” และได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกในฐานะผลงานศิลป์ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

    นอกจากความงดงามทางศิลปะแล้ว ภาพนี้ยังสะท้อนถึง ความร่วมมือระหว่างศาสตร์ต่าง ๆ ทั้งวิทยาศาสตร์การบิน, ดาราศาสตร์ และศิลปะการถ่ายภาพ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างสรรค์ที่เกิดจากการคิดนอกกรอบและการทำงานร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญต่างสาขา

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลงานของ Andrew McCarthy และ Gabriel C. Brown
    ผสมผสานการถ่ายภาพดาราศาสตร์กับการกระโดดร่ม

    ใช้แสง Hydrogen-alpha ในการถ่ายดวงอาทิตย์
    เผยให้เห็นพื้นผิวที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วนและจุดดับ

    การวางแผนซับซ้อนและพยายามถึง 6 ครั้ง
    เพื่อให้ตำแหน่งกระโดดร่มตรงกับดวงอาทิตย์อย่างสมบูรณ์

    ได้รับการยกย่องว่าเป็นการยกระดับ Astrophotography
    สร้างความตื่นตะลึงและเผยแพร่ไปทั่วโลก

    ความเสี่ยงจากการกระโดดร่มและการจัดตำแหน่งที่ซับซ้อน
    ต้องอาศัยการสื่อสารและการควบคุมที่แม่นยำเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย

    การผสมผสานกิจกรรมสุดขั้วกับงานวิทยาศาสตร์
    หากผิดพลาดอาจทำให้ทั้งการถ่ายภาพและการกระโดดร่มล้มเหลว

    https://www.iflscience.com/the-fall-of-icarus-you-have-never-seen-an-astrophotography-picture-like-this-81570
    📰 “The Fall of Icarus – ภาพถ่ายดาราศาสตร์ที่ไม่เคยมีมาก่อน” ภาพนี้เป็นผลงานร่วมกันของ Andrew McCarthy นักถ่ายภาพดาราศาสตร์ และ Gabriel C. Brown นักกระโดดร่ม โดยพวกเขาวางแผนให้ Brown กระโดดร่มในจังหวะที่ตรงกับการถ่ายภาพดวงอาทิตย์ในแสง Hydrogen-alpha ซึ่งเผยให้เห็นพื้นผิวที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วนและจุดดับบนดวงอาทิตย์ ผลลัพธ์คือภาพเงาของนักกระโดดร่มที่พุ่งลงมาพอดีกับตำแหน่งระหว่างจุดดับดวงอาทิตย์ สร้างความสมบูรณ์แบบทั้งด้านศิลปะและวิทยาศาสตร์ การถ่ายภาพครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมงานต้องใช้ หลายกล้องและการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ระหว่างนักบินพารามอเตอร์, McCarthy และ Brown เพื่อให้การจัดตำแหน่งเป็นไปอย่างแม่นยำ หลังจากความพยายามถึง 6 ครั้ง พวกเขาจึงได้ภาพที่สมบูรณ์แบบตามที่ตั้งใจไว้ สิ่งที่ทำให้ภาพนี้โดดเด่นคือการนำ กิจกรรมสุดขั้วอย่างการกระโดดร่ม มาผสมผสานกับ การถ่ายภาพดาราศาสตร์เชิงลึก ซึ่งปกติแล้วมักจะเป็นงานที่ต้องใช้ความนิ่งและความแม่นยำสูง การสร้างสรรค์ครั้งนี้จึงถูกยกย่องว่าเป็น “การยกระดับมาตรฐานของวงการ Astrophotography” และได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกในฐานะผลงานศิลป์ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน นอกจากความงดงามทางศิลปะแล้ว ภาพนี้ยังสะท้อนถึง ความร่วมมือระหว่างศาสตร์ต่าง ๆ ทั้งวิทยาศาสตร์การบิน, ดาราศาสตร์ และศิลปะการถ่ายภาพ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างสรรค์ที่เกิดจากการคิดนอกกรอบและการทำงานร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญต่างสาขา 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลงานของ Andrew McCarthy และ Gabriel C. Brown ➡️ ผสมผสานการถ่ายภาพดาราศาสตร์กับการกระโดดร่ม ✅ ใช้แสง Hydrogen-alpha ในการถ่ายดวงอาทิตย์ ➡️ เผยให้เห็นพื้นผิวที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วนและจุดดับ ✅ การวางแผนซับซ้อนและพยายามถึง 6 ครั้ง ➡️ เพื่อให้ตำแหน่งกระโดดร่มตรงกับดวงอาทิตย์อย่างสมบูรณ์ ✅ ได้รับการยกย่องว่าเป็นการยกระดับ Astrophotography ➡️ สร้างความตื่นตะลึงและเผยแพร่ไปทั่วโลก ‼️ ความเสี่ยงจากการกระโดดร่มและการจัดตำแหน่งที่ซับซ้อน ⛔ ต้องอาศัยการสื่อสารและการควบคุมที่แม่นยำเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย ‼️ การผสมผสานกิจกรรมสุดขั้วกับงานวิทยาศาสตร์ ⛔ หากผิดพลาดอาจทำให้ทั้งการถ่ายภาพและการกระโดดร่มล้มเหลว https://www.iflscience.com/the-fall-of-icarus-you-have-never-seen-an-astrophotography-picture-like-this-81570
    WWW.IFLSCIENCE.COM
    “The Fall Of Icarus”: You Have Never Seen An Astrophotography Picture Like This!
    This is not photoshopped. That’s really a person falling in front of the Sun.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซีไอเอ็มบีไทยขอลา ยกเลิกบริการบัตรเดบิตในไทย

    ผู้ใช้บริการบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ชิลดี พร้อมกับบัตรเดบิตชิลดี ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีจุดขายฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดอายุบัตร ถอนเงินสดฟรีทุกตู้ ATM ทั่วไทยไม่จำกัดจำนวนครั้ง และตู้ ATM ธนาคารในกลุ่มซีไอเอ็มบี ที่ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย กัมพูชา มากกว่า 5,900 เครื่อง รวมทั้งลูกค้าบัตรเดบิตซีไอเอ็มบีไทยทุกประเภท อาจต้องเตรียมเก็บบัตรไว้ในลิ้นชัก

    เมื่อธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทยอยแจ้งลูกค้าที่เข้ามาสอบถามผ่านเฟซบุ๊กของธนาคาร ว่า บัตรเดบิต ซีไอเอ็มบี ไทย จะสิ้นสุดการให้บริการในวันที่ 3 เม.ย. 2569 เป็นต้นไป เพื่อความสะดวกและต่อเนื่องในการทำธุรกรรมกับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย นอกจากการถอนเงินสดผ่านสาขาของธนาคารแล้ว สามารถใช้บริการแอปฯ CIMB THAI เพื่อทำธุรกรรมถอนเงินไม่ใช้บัตรที่เครื่องเอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป

    ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ออกบัตรเดบิตรองรับระบบวีซ่า เพย์เวฟ (VISA Paywave) เป็นแห่งแรกเมื่อปี 2558 คิดค่าธรรมเนียมรายปี 300 บาท ก่อนที่จะออกผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ดิจิทัล ซีไอเอ็มบี ไทย เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2562 ชูจุดขายดอกเบี้ย 2% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ฟรีค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตทุกอย่าง ยกเว้นกรณีบัตรหาย กระทั่งวันที่ 21 ก.ค. 2563 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ชิลดี ซีไอเอ็มบี ไทย และบัตรเดบิต ชิลดี ระหว่างนั้น ธนาคารก็ประกาศยกเลิกบริการตู้เอทีเอ็ม และเอทีเอ็มแบบทรีอินวันในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 เป็นต้นมา แต่บัตรเดบิตของธนาคารยังสามารถทำรายการได้ฟรีผ่านตู้ ATM ทุกธนาคารทั่วไทย ไม่มีค่าธรรมเนียม

    ผลกระทบที่ตามมา หนึ่งในนั้นคือนักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนหนึ่ง ที่นิยมไปท่องเที่ยวประเทศใกล้เคียงอย่างมาเลเซีย ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่กลุ่มซีไอเอ็มบี ที่ผ่านมาสามารถกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคาร CIMB และ CIMB Islamic ได้ฟรี แต่เมื่อไม่มีบัตรเดบิตซีไอเอ็มบี ไทย ในปีหน้า อาจต้องหาทางเลือกอื่น เช่น ใช้บัญชีและบัตรเดบิตธนาคารยูโอบี ซึ่งฟรีค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสด หรือสอบถามยอดเงิน ได้จากตู้เอทีเอ็มของธนาคารยูโอบีที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย แต่ก็มีค่าธรรมเนียมรายปี 300 บาท หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องแลกเงินที่สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ ขั้นต่ำ 50 ริงกิต หรือที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนเข้าประเทศมาเลเซีย

    #Newskit
    ซีไอเอ็มบีไทยขอลา ยกเลิกบริการบัตรเดบิตในไทย ผู้ใช้บริการบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ชิลดี พร้อมกับบัตรเดบิตชิลดี ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีจุดขายฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดอายุบัตร ถอนเงินสดฟรีทุกตู้ ATM ทั่วไทยไม่จำกัดจำนวนครั้ง และตู้ ATM ธนาคารในกลุ่มซีไอเอ็มบี ที่ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย กัมพูชา มากกว่า 5,900 เครื่อง รวมทั้งลูกค้าบัตรเดบิตซีไอเอ็มบีไทยทุกประเภท อาจต้องเตรียมเก็บบัตรไว้ในลิ้นชัก เมื่อธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ทยอยแจ้งลูกค้าที่เข้ามาสอบถามผ่านเฟซบุ๊กของธนาคาร ว่า บัตรเดบิต ซีไอเอ็มบี ไทย จะสิ้นสุดการให้บริการในวันที่ 3 เม.ย. 2569 เป็นต้นไป เพื่อความสะดวกและต่อเนื่องในการทำธุรกรรมกับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย นอกจากการถอนเงินสดผ่านสาขาของธนาคารแล้ว สามารถใช้บริการแอปฯ CIMB THAI เพื่อทำธุรกรรมถอนเงินไม่ใช้บัตรที่เครื่องเอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ออกบัตรเดบิตรองรับระบบวีซ่า เพย์เวฟ (VISA Paywave) เป็นแห่งแรกเมื่อปี 2558 คิดค่าธรรมเนียมรายปี 300 บาท ก่อนที่จะออกผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ดิจิทัล ซีไอเอ็มบี ไทย เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2562 ชูจุดขายดอกเบี้ย 2% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ฟรีค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตทุกอย่าง ยกเว้นกรณีบัตรหาย กระทั่งวันที่ 21 ก.ค. 2563 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ชิลดี ซีไอเอ็มบี ไทย และบัตรเดบิต ชิลดี ระหว่างนั้น ธนาคารก็ประกาศยกเลิกบริการตู้เอทีเอ็ม และเอทีเอ็มแบบทรีอินวันในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 เป็นต้นมา แต่บัตรเดบิตของธนาคารยังสามารถทำรายการได้ฟรีผ่านตู้ ATM ทุกธนาคารทั่วไทย ไม่มีค่าธรรมเนียม ผลกระทบที่ตามมา หนึ่งในนั้นคือนักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนหนึ่ง ที่นิยมไปท่องเที่ยวประเทศใกล้เคียงอย่างมาเลเซีย ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่กลุ่มซีไอเอ็มบี ที่ผ่านมาสามารถกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคาร CIMB และ CIMB Islamic ได้ฟรี แต่เมื่อไม่มีบัตรเดบิตซีไอเอ็มบี ไทย ในปีหน้า อาจต้องหาทางเลือกอื่น เช่น ใช้บัญชีและบัตรเดบิตธนาคารยูโอบี ซึ่งฟรีค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสด หรือสอบถามยอดเงิน ได้จากตู้เอทีเอ็มของธนาคารยูโอบีที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย แต่ก็มีค่าธรรมเนียมรายปี 300 บาท หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องแลกเงินที่สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ ขั้นต่ำ 50 ริงกิต หรือที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนเข้าประเทศมาเลเซีย #Newskit
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 533 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts