• โครงสร้างสังคมยุคใหม่ 2-10-68 …ภายใต้ระบอบพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข
    2/10/68
     ภาระหน้าที่ของรัฐ : หนุนช่วยภาคประชาชนและสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมดปัญหาความเหลื่อมล้ำ - หมดปัญหาคนยากไร้
     ทั้งนี้เพื่อไม่เกิดปัญหาสังคมที่ครอบครัวแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันเมื่อลูกหลานเติบโตขึ้น สายใยความรักแห่งครอบครัวและเครือญาติก็จะมั่นคงยั่งยืนและสุขใจ
     ปัญหาความขัดแย้งลูกจ้าง-นายจ้างก็จะหมดไป
     ปัญหาความโลภความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองและส.ส.ก็จะสลายไป
     การเรียน เรียนที่ใจชอบ ที่ไม่ชอบไม่ต้องเสียเวลาเรียน จบแล้วให้อาชีพทำเลย (มีระบบทดสอบความชอบตั้งแต่เตรียมอนุบาล รู้ชัดแล้วแววชอบและทักษะไปทางใหนก็เสริมวิชาไปทางนั้น จัดให้เลย)
     การค้ายาเสบติด และ คอร์รัปชั่น โทษติดคุกและถึงขั้นประหารชีวิต ต้องเฉียบขาด

    1. ก่อนอื่น ลดค่าครองชีพประชาชน สร้างกำลังซื้อ สร้างภาวะหมุนเวียน
    - บ้านพักฟรี สถานที่ประกอบอาชีพฟรี การศึกษาฟรี
    - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เป็นรายบุคคล
    - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เครื่องมือพัฒนาจัดให้เลย เป็นคณะ นำโดยผู้นำ กรณีเกษตร ควรเป็นคณะ-ควรเป็นชุมชน ที่ดินจะได้ผืนใหญ่ ง่ายต่อเครื่องจักรใหญ่ การเป็นชุมชนการแปรพืชผลเกตรได้หลากหลาย (อาจต้องเสริมผู้จบหลักสูตรทำอาหารและชนม) ซึ่งนำโดยผู้นำและผู้บริหาร
    -สนองเครื่องเทคโนโลยี-ไฮเทค หุ้นส่วน+ภาครัฐ นำโดยผู้นำและผู้บริหาร

     ภาคประชาชน หนุนช่วยรัฐ :
    1.เมื่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆในการประกอบอาชีพ ภาครัฐนั้นสนองให้ทั้งหมดแล้ว
    ส่วนภาคประชาชน การหนุนช่วยต่อภาครัฐ นั้น คือ ภาระหน้าที่ เสียภาษีแก่รัฐ (เพื่อรัฐจะได้ช่วยด้านต่างๆได้มากขึ้น) กิจการเล็ก-ใหญ่ล้วนต้องเสียภาษีตามรายได้-ตามยอดขาย โดยผ่านระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อให้เงินภาษีไหลเวียนสู่การคลังได้ทันที เพื่อให้ภาครัฐมีกำลังเงินคล่องตัวหมุนเวียน
    # อุทิศเพื่อสังคม : หนุนช่วยภาครัฐในด้านต่างๆ
    # สนับสนุนหนุนช่วยต่อชนรุ่นใหม่ อาชีพเกิดใหม่
    *คำขวัญ คือ ช่วยชาติ ช่วยรัฐ ช่วยคนรุ่นใหม่- สิ่งเกิดใหม่!

    2.ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” จะต้องไม่ให้มี ในประเทศไทย (อย่าเหมือนจีนที่ประสพปัญหาเช่น วิกฤติอสังหาฯ และการศึกษาเอกชน(การเรียนแข่งกันสูงและแพง) เป็นภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้คนหนุ่มสาวไม่ยอมแต่งงาน ถ้าจะแต่งก็ไม่ยอมมีลูก เป็นผลให้ประชากรประเทศลดลง (ไม่สน ที่รัฐบาลมี นโยบายให้มีลูกสามคน – จากหนึ่งคน)

    *ประเทศไทย ต้องไม่มี ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” เช่น
    - ธุรกิจอสังหาฯ
    - ธุรกิจซื้อขายที่ดิน
    -ธุรกิจตลาดหลักทรัพย์
    -ธุรกิจปล่อยกู้
    -ธุรกิจการธนาคารเอกชน (ยกเว้นภาครัฐ่)
    -ธุรกิจการศึกษาเอกชนทั้งปวง
    • นับตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ: รวมทั้งสอนพิเศษ (เป็นหน้าที่โดยรัฐ่เท่านั้น)
    2.1 ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจปล่อยกู้
    พักหนี้ทั้งหมด 3 ปี ภาครัฐจะชดเชยให้แทน

    หมายเหตุ โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ที่เขียนมานี้ เป็นเพียง ”รูปแบบโครงสร้างสังคมตัวอย่าง” จึงต้อง ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเข็มทิศรูปธรรมแก่สังคม เป็นเป้าหมายให้มุ่งไป
    - ซึ่งการเคลื่อนไหวนั้น
    - ต้องมีเข็มทิศรูปธรรมเพื่อเป็นเป้าหมายนำพา และเป็นเป้าหมายของการตั้งพรรคของเราด้วย
    - คือต้อง “มีสามสิ่งนี้พร้อม!” ประเทศไทยเปลี่ยน!
    - 1.พลังของประชาชน (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร=ต่างมีความพร้อม) สิ่งที่1นี้พร้อม
    - 2.เข็มทิศเป้าหมายรูปธรรม (รูปแบบโครงสร้างสังคมยุคใหม่ที่ตกผลึกกันแล้ว) สิ่งที่2นี้พร้อม
    - 3. โฉมหน้า “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่นี้” ตั้งพรรคสำเร็จ คือ สิ่งที่3นี้พร้อม
    -
    อาวุธวิเศษสามสิ่งนี้ จะขาด จะหย่อนสิ่งใดไม่ได้

    การเลือกตั้งปี70ครั้งนี้(ช่วง28มิย.2570}
    ต้องตั้ง “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่”เกิดขึ้นและ ชนะเลือกตั้ง ให้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอ

    A---------------------------------------------
    (คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ : ที่สำคัญ “การเลือกตั้ง”เป็นกระบวนการสำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตยทางผู้แทน เพื่อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย อาจกล่าวได้ว่าหากการปกครองใดไม่มีการเลือกตั้งย่อมไม่ใช่การปกครองระบอบประชาธิปไตย
    ประเทศไทยจึงเกิดภาวการณ์ ส.ส.และ นักการเมืองใช้หลากกลวิธีสกปรกแย่งชิงกันเพื่อเอาชนะเลือกตั้ง เพื่อมีสิทธิ์เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อยึดอำนาจอธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตยของบ้านเมือง
    เพื่อยึดอำนาจ เพื่อเข้ากอบโกย

    จึงเป็นกติกาประเทศ ผู้ใดพรรคใดชนะเลือกตั้งก็มีสิทธ์มีอำนาจปกครองประเทศแทนประชาชน
    เจ้าของประเทศ

    a--------------------------------------
    พอดีช่วง28มิย.2570 จะมีการเลือกตั้ง
    จึงเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่กระแสเหล่าพรรคการเมืองตกต่ำ
    จึงเป็นโอกาสตั้งพรรคการเมืองของเรา ซึ่งไม่ใช่ความต้องการส่วนตัว “อยากดัง” เลิกมองแบบนี้ได้เลย คำๆนี้ เป็นคำ”บอนไซ อนาคตประเทศ”
    เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องมีพรรค “เป็นกองหน้า” พรรคหนึ่งชื่อว่า พรรคการเมืองใหม่หรือพรรคการเมืองยุคใหม่ โดยมีนโยบายรูปธรรมเป็นเป้าหมาย
    การลงสมัครพรรคการเมือง (จึงมีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง)
    การลงเลือกตั้ง(จีงจะมีสิทธิคว้าอำนาจทางการเมืองมันเป็นกติกาของบ้านเมือง) ความคิดจึงจะเป็นจริง

    การเคลื่อนไหว “ (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร )สร้างความตื่นตัวของประชาชน
    คือ รูปการที่1 ส่วน (การตั้งพรรคการเมือง) เพื่อมุ่งสู่ยึดอำนาจรัฐ ด้วยรูปแบบตามกติกา “เลือกตั้ง”คือรูปการที่2 ทั้งสองรูปการต้องเดินคู่ขนานกันไป



    a------------------------------------

    ประเทศเนปาล ปัญหาเปราะบางของเขา คือ มีความเหลื่อมล้ำสูง จากการคอรัปชั่นของนักการเมือง คือการลงถนน 20 กว่าปี ของเขาต้องการเปลี่ยนแปลง อันดับแรกก็คือ “กษัตริย์” ที่ปกครองอยู่ ลงถนนกดดันขับไล่ จนกษัตริย์ลาออก ฝูงชนดีใจร้องรำทำเพลงกันเต็มท้องถนนที่จะได้ “ระบอบประชาธิปไตย”กันแล้ว จึงได้ “นักการเมือง -ส.ส.” มา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าครองอำนาจ ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ก็แก้ความเหลื่อมล้ำไม่ได้ ด้วยเนปาลพื้นที่ทำเกษตรเป็นป่าเขาเยอะจึงดึงพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามา ทั้งเหมาอีดส์ และมาร์กซ์ ทำสงครามรบ ร่วม10ปี มีตายและบาดเจ็บ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นลงจับมือกับหัวหน้าพรรคฯออกกฎหมาย “พรรคคอมมิวต์ถูกต้องตามกฎหมาย สมัครเป็นพรรคการเมืองได้ จึงทำให้ประชาชนพากันผิดหวังกันไป ซึ่งปัญหาความเหลื่อมล้ำก็ไม่ได้รับการแก้ไข ขณะเดียวกันก็อัญเชิญกษัตรย์องค์เดิมมาปกครองต่อ อีกทั้งเห็นลูกหลานนักการเมืองใช้ชีวิตหรูหราใส่ชุดแบนด์หรู ออกสื่อโชว์ความสุขสำราญของพวกเขา ประจวบกับเหล่านักการเมืองในสภาผ่านเพิ่มเงินเดือนให้กันเอง ออกภาพสื่อร้องรำเต้นด้วยความดีใจกัน มีการคุมวัยเจนชีไม่ให้เข้าถึง แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เท่านั้นแหละ การเคลื่อนไหวลงถนนลุกลามไปใหญ่ ถึงแม้ ประกดาศยกเลิกการห้ามดูเน็ตก็เอาไม่อยู่ มีการเผาสภา เผาสถานที่ราชการ เผาบ้านนายกรัฐมนตรี ต่างๆ ไล่ทำร้ายรัฐมนตรีคลัง หนีลงน้ำยังถูกตามไล่ทำร้าย จนทหารออกมาระงับสถานการณ์ แต่เอาไม่อยู่ จนนายพลทับบกต้องออกมาเอง ขอคุยกับผู้นำกลุ่มเจนซี
    ตกลงจะมอบให้“สุศิลา คาร์กี”อดีตประธานศาลฎีกาเนปาล เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการของเนปาล
    จัดให้การเลือกตั้งภายใน 6 เดือน (หลังเลือกตั้งเนปาลก็ยังคงเหมือนเดิม) พรรคการเมืองใหญ่8พรรคยังคงอยู่ : พรรคการเมืองหลัก 8 พรรคของเนปาล รวมถึง พรรคคองเกรสเนปาล (Nepali Congress) พรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (รวมลัทธิมาร์กซ์-เลนินิสต์) (CPN-UML) และพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (ลัทธิเหมา) เนปาลจะไม่มีทางเปลี่ยนโฉมได้เลย
    สาเหตุเพราะ ขาดพรรคนำ ขาดเข็มทิศโครงสร้างสังคมเป็นเป้าหมาย ขาดพลังมวลชนที่ตื่นตัวทางทฤษฎี










    โครงสร้างสังคมยุคใหม่ 2-10-68 …ภายใต้ระบอบพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข 2/10/68  ภาระหน้าที่ของรัฐ : หนุนช่วยภาคประชาชนและสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมดปัญหาความเหลื่อมล้ำ - หมดปัญหาคนยากไร้  ทั้งนี้เพื่อไม่เกิดปัญหาสังคมที่ครอบครัวแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันเมื่อลูกหลานเติบโตขึ้น สายใยความรักแห่งครอบครัวและเครือญาติก็จะมั่นคงยั่งยืนและสุขใจ  ปัญหาความขัดแย้งลูกจ้าง-นายจ้างก็จะหมดไป  ปัญหาความโลภความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองและส.ส.ก็จะสลายไป  การเรียน เรียนที่ใจชอบ ที่ไม่ชอบไม่ต้องเสียเวลาเรียน จบแล้วให้อาชีพทำเลย (มีระบบทดสอบความชอบตั้งแต่เตรียมอนุบาล รู้ชัดแล้วแววชอบและทักษะไปทางใหนก็เสริมวิชาไปทางนั้น จัดให้เลย)  การค้ายาเสบติด และ คอร์รัปชั่น โทษติดคุกและถึงขั้นประหารชีวิต ต้องเฉียบขาด 1. ก่อนอื่น ลดค่าครองชีพประชาชน สร้างกำลังซื้อ สร้างภาวะหมุนเวียน - บ้านพักฟรี สถานที่ประกอบอาชีพฟรี การศึกษาฟรี - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เป็นรายบุคคล - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เครื่องมือพัฒนาจัดให้เลย เป็นคณะ นำโดยผู้นำ กรณีเกษตร ควรเป็นคณะ-ควรเป็นชุมชน ที่ดินจะได้ผืนใหญ่ ง่ายต่อเครื่องจักรใหญ่ การเป็นชุมชนการแปรพืชผลเกตรได้หลากหลาย (อาจต้องเสริมผู้จบหลักสูตรทำอาหารและชนม) ซึ่งนำโดยผู้นำและผู้บริหาร -สนองเครื่องเทคโนโลยี-ไฮเทค หุ้นส่วน+ภาครัฐ นำโดยผู้นำและผู้บริหาร  ภาคประชาชน หนุนช่วยรัฐ : 1.เมื่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆในการประกอบอาชีพ ภาครัฐนั้นสนองให้ทั้งหมดแล้ว ส่วนภาคประชาชน การหนุนช่วยต่อภาครัฐ นั้น คือ ภาระหน้าที่ เสียภาษีแก่รัฐ (เพื่อรัฐจะได้ช่วยด้านต่างๆได้มากขึ้น) กิจการเล็ก-ใหญ่ล้วนต้องเสียภาษีตามรายได้-ตามยอดขาย โดยผ่านระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อให้เงินภาษีไหลเวียนสู่การคลังได้ทันที เพื่อให้ภาครัฐมีกำลังเงินคล่องตัวหมุนเวียน # อุทิศเพื่อสังคม : หนุนช่วยภาครัฐในด้านต่างๆ # สนับสนุนหนุนช่วยต่อชนรุ่นใหม่ อาชีพเกิดใหม่ *คำขวัญ คือ ช่วยชาติ ช่วยรัฐ ช่วยคนรุ่นใหม่- สิ่งเกิดใหม่! 2.ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” จะต้องไม่ให้มี ในประเทศไทย (อย่าเหมือนจีนที่ประสพปัญหาเช่น วิกฤติอสังหาฯ และการศึกษาเอกชน(การเรียนแข่งกันสูงและแพง) เป็นภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้คนหนุ่มสาวไม่ยอมแต่งงาน ถ้าจะแต่งก็ไม่ยอมมีลูก เป็นผลให้ประชากรประเทศลดลง (ไม่สน ที่รัฐบาลมี นโยบายให้มีลูกสามคน – จากหนึ่งคน) *ประเทศไทย ต้องไม่มี ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” เช่น - ธุรกิจอสังหาฯ - ธุรกิจซื้อขายที่ดิน -ธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ -ธุรกิจปล่อยกู้ -ธุรกิจการธนาคารเอกชน (ยกเว้นภาครัฐ่) -ธุรกิจการศึกษาเอกชนทั้งปวง • นับตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ: รวมทั้งสอนพิเศษ (เป็นหน้าที่โดยรัฐ่เท่านั้น) 2.1 ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจปล่อยกู้ พักหนี้ทั้งหมด 3 ปี ภาครัฐจะชดเชยให้แทน หมายเหตุ โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ที่เขียนมานี้ เป็นเพียง ”รูปแบบโครงสร้างสังคมตัวอย่าง” จึงต้อง ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเข็มทิศรูปธรรมแก่สังคม เป็นเป้าหมายให้มุ่งไป - ซึ่งการเคลื่อนไหวนั้น - ต้องมีเข็มทิศรูปธรรมเพื่อเป็นเป้าหมายนำพา และเป็นเป้าหมายของการตั้งพรรคของเราด้วย - คือต้อง “มีสามสิ่งนี้พร้อม!” ประเทศไทยเปลี่ยน! - 1.พลังของประชาชน (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร=ต่างมีความพร้อม) สิ่งที่1นี้พร้อม - 2.เข็มทิศเป้าหมายรูปธรรม (รูปแบบโครงสร้างสังคมยุคใหม่ที่ตกผลึกกันแล้ว) สิ่งที่2นี้พร้อม - 3. โฉมหน้า “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่นี้” ตั้งพรรคสำเร็จ คือ สิ่งที่3นี้พร้อม - อาวุธวิเศษสามสิ่งนี้ จะขาด จะหย่อนสิ่งใดไม่ได้ – การเลือกตั้งปี70ครั้งนี้(ช่วง28มิย.2570} ต้องตั้ง “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่”เกิดขึ้นและ ชนะเลือกตั้ง ให้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอ A--------------------------------------------- (คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ : ที่สำคัญ “การเลือกตั้ง”เป็นกระบวนการสำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตยทางผู้แทน เพื่อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย อาจกล่าวได้ว่าหากการปกครองใดไม่มีการเลือกตั้งย่อมไม่ใช่การปกครองระบอบประชาธิปไตย ประเทศไทยจึงเกิดภาวการณ์ ส.ส.และ นักการเมืองใช้หลากกลวิธีสกปรกแย่งชิงกันเพื่อเอาชนะเลือกตั้ง เพื่อมีสิทธิ์เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อยึดอำนาจอธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตยของบ้านเมือง เพื่อยึดอำนาจ เพื่อเข้ากอบโกย จึงเป็นกติกาประเทศ ผู้ใดพรรคใดชนะเลือกตั้งก็มีสิทธ์มีอำนาจปกครองประเทศแทนประชาชน เจ้าของประเทศ a-------------------------------------- พอดีช่วง28มิย.2570 จะมีการเลือกตั้ง จึงเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่กระแสเหล่าพรรคการเมืองตกต่ำ จึงเป็นโอกาสตั้งพรรคการเมืองของเรา ซึ่งไม่ใช่ความต้องการส่วนตัว “อยากดัง” เลิกมองแบบนี้ได้เลย คำๆนี้ เป็นคำ”บอนไซ อนาคตประเทศ” เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องมีพรรค “เป็นกองหน้า” พรรคหนึ่งชื่อว่า พรรคการเมืองใหม่หรือพรรคการเมืองยุคใหม่ โดยมีนโยบายรูปธรรมเป็นเป้าหมาย การลงสมัครพรรคการเมือง (จึงมีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง) การลงเลือกตั้ง(จีงจะมีสิทธิคว้าอำนาจทางการเมืองมันเป็นกติกาของบ้านเมือง) ความคิดจึงจะเป็นจริง การเคลื่อนไหว “ (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร )สร้างความตื่นตัวของประชาชน คือ รูปการที่1 ส่วน (การตั้งพรรคการเมือง) เพื่อมุ่งสู่ยึดอำนาจรัฐ ด้วยรูปแบบตามกติกา “เลือกตั้ง”คือรูปการที่2 ทั้งสองรูปการต้องเดินคู่ขนานกันไป a------------------------------------ ประเทศเนปาล ปัญหาเปราะบางของเขา คือ มีความเหลื่อมล้ำสูง จากการคอรัปชั่นของนักการเมือง คือการลงถนน 20 กว่าปี ของเขาต้องการเปลี่ยนแปลง อันดับแรกก็คือ “กษัตริย์” ที่ปกครองอยู่ ลงถนนกดดันขับไล่ จนกษัตริย์ลาออก ฝูงชนดีใจร้องรำทำเพลงกันเต็มท้องถนนที่จะได้ “ระบอบประชาธิปไตย”กันแล้ว จึงได้ “นักการเมือง -ส.ส.” มา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าครองอำนาจ ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ก็แก้ความเหลื่อมล้ำไม่ได้ ด้วยเนปาลพื้นที่ทำเกษตรเป็นป่าเขาเยอะจึงดึงพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามา ทั้งเหมาอีดส์ และมาร์กซ์ ทำสงครามรบ ร่วม10ปี มีตายและบาดเจ็บ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นลงจับมือกับหัวหน้าพรรคฯออกกฎหมาย “พรรคคอมมิวต์ถูกต้องตามกฎหมาย สมัครเป็นพรรคการเมืองได้ จึงทำให้ประชาชนพากันผิดหวังกันไป ซึ่งปัญหาความเหลื่อมล้ำก็ไม่ได้รับการแก้ไข ขณะเดียวกันก็อัญเชิญกษัตรย์องค์เดิมมาปกครองต่อ อีกทั้งเห็นลูกหลานนักการเมืองใช้ชีวิตหรูหราใส่ชุดแบนด์หรู ออกสื่อโชว์ความสุขสำราญของพวกเขา ประจวบกับเหล่านักการเมืองในสภาผ่านเพิ่มเงินเดือนให้กันเอง ออกภาพสื่อร้องรำเต้นด้วยความดีใจกัน มีการคุมวัยเจนชีไม่ให้เข้าถึง แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เท่านั้นแหละ การเคลื่อนไหวลงถนนลุกลามไปใหญ่ ถึงแม้ ประกดาศยกเลิกการห้ามดูเน็ตก็เอาไม่อยู่ มีการเผาสภา เผาสถานที่ราชการ เผาบ้านนายกรัฐมนตรี ต่างๆ ไล่ทำร้ายรัฐมนตรีคลัง หนีลงน้ำยังถูกตามไล่ทำร้าย จนทหารออกมาระงับสถานการณ์ แต่เอาไม่อยู่ จนนายพลทับบกต้องออกมาเอง ขอคุยกับผู้นำกลุ่มเจนซี ตกลงจะมอบให้“สุศิลา คาร์กี”อดีตประธานศาลฎีกาเนปาล เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการของเนปาล จัดให้การเลือกตั้งภายใน 6 เดือน (หลังเลือกตั้งเนปาลก็ยังคงเหมือนเดิม) พรรคการเมืองใหญ่8พรรคยังคงอยู่ : พรรคการเมืองหลัก 8 พรรคของเนปาล รวมถึง พรรคคองเกรสเนปาล (Nepali Congress) พรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (รวมลัทธิมาร์กซ์-เลนินิสต์) (CPN-UML) และพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (ลัทธิเหมา) เนปาลจะไม่มีทางเปลี่ยนโฉมได้เลย สาเหตุเพราะ ขาดพรรคนำ ขาดเข็มทิศโครงสร้างสังคมเป็นเป้าหมาย ขาดพลังมวลชนที่ตื่นตัวทางทฤษฎี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เปิดเบื้องหลังพรรคเพื่อไทยยึด มท.1 เมื่อกลับจากการติดตาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปเยือนกัมพูชา เพื่อนโทรมาบอกว่า รู้ไหมที่เขาไม่ให้คุณเข้าที่ประชุมหลายที่ เขาไปแจ้งผู้นำเขาว่า ไม่ต้องคุยอะไรกับคุณมาก เขาจะปลดคุณออกจาก มท.1 จากนั้นได้รับแจ้งจาก น.ส.แพทองธาร ว่าพรรคเพื่อไทยต้องการกระทรวงมหาดไทยคืน ขอให้ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะใกล้เลือกตั้งพรรคเพื่อไทยต้องได้มหาดไทย เผยที่มา MOA ไม่ได้พิสดาร มาจากการพูดคุยกับพรรคประชาชนเพื่อทำงานเป็นฝ่ายค้าน แต่ น.ส.แพทองธาร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ ไม่มีคนยุบสภา จึงพูดคุยกับพรรคประชาชนว่าจะทำอย่างไรดี โดยวันที่ 14-15 ตุลาคม นี้ จะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันยุบสภาไม่เกินวันที่ 31 มกราคม 2569

    -สงสัยประเพณีรมว.ดีอี 40 ล้าน
    -หนุนแก้ปัญหาชายแดนใต้
    -ตำแหน่งคุ้มกะลาหัว
    -ใช้สีแยกบัตรประชามติ
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เปิดเบื้องหลังพรรคเพื่อไทยยึด มท.1 เมื่อกลับจากการติดตาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปเยือนกัมพูชา เพื่อนโทรมาบอกว่า รู้ไหมที่เขาไม่ให้คุณเข้าที่ประชุมหลายที่ เขาไปแจ้งผู้นำเขาว่า ไม่ต้องคุยอะไรกับคุณมาก เขาจะปลดคุณออกจาก มท.1 จากนั้นได้รับแจ้งจาก น.ส.แพทองธาร ว่าพรรคเพื่อไทยต้องการกระทรวงมหาดไทยคืน ขอให้ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะใกล้เลือกตั้งพรรคเพื่อไทยต้องได้มหาดไทย เผยที่มา MOA ไม่ได้พิสดาร มาจากการพูดคุยกับพรรคประชาชนเพื่อทำงานเป็นฝ่ายค้าน แต่ น.ส.แพทองธาร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ ไม่มีคนยุบสภา จึงพูดคุยกับพรรคประชาชนว่าจะทำอย่างไรดี โดยวันที่ 14-15 ตุลาคม นี้ จะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันยุบสภาไม่เกินวันที่ 31 มกราคม 2569 -สงสัยประเพณีรมว.ดีอี 40 ล้าน -หนุนแก้ปัญหาชายแดนใต้ -ตำแหน่งคุ้มกะลาหัว -ใช้สีแยกบัตรประชามติ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 6:2 เดินหน้าวินิจฉัยคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' ปมใช้ DSI แทรกแซงการเลือกตั้ง สว. ขัดหลักจริยธรรม
    https://www.thai-tai.tv/news/21689/
    .
    #ศาลรัฐธรรมนูญ #ภูมิธรรมเวชยชัย #ทวีสอดส่อง #สว #DSI #แทรกแซงการเมือง #มาตรฐานจริยธรรม #ความซื่อสัตย์สุจริต

    ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 6:2 เดินหน้าวินิจฉัยคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' ปมใช้ DSI แทรกแซงการเลือกตั้ง สว. ขัดหลักจริยธรรม https://www.thai-tai.tv/news/21689/ . #ศาลรัฐธรรมนูญ #ภูมิธรรมเวชยชัย #ทวีสอดส่อง #สว #DSI #แทรกแซงการเมือง #มาตรฐานจริยธรรม #ความซื่อสัตย์สุจริต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฉ "อิ๊งค์" แอบกระซิบเขมร ยึดมท.เตรียมเลือกตั้ง : [THE MESSAGE]
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ชี้แจงการอภิปรายของ น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ยืนยัน ไม่รู้จักผู้นำกัมพูชาในนามส่วนตัวซักคนเดียว เปิดเบื้องหลัง เมื่อกลับจากการติดตาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปเยือนกัมพูชา เพื่อนที่รู้จักกันเขาโทรมาบอกว่า รู้ไหมที่เขาไม่ให้คุณเข้าไปในที่ประชุมหลายที่ เขาไปแจ้งผู้นำเขาว่า ไม่ต้องคุยอะไรกับคุณมาก เขาจะปลดคุณออกจาก มท.1 อยู่แล้ว จากนั้นได้รับแจ้งจาก น.ส.แพทองธาร ว่าพรรคเพื่อไทยต้องการกระทรวงมหาดไทยคืน ขอให้ตนไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะใกล้เลือกตั้งแล้ว พรรคเพื่อไทยต้องได้กระทรวงมหาดไทย เผย ที่มา MOA ไม่ได้พิสดาร มาจากการพูดคุยกับพรรคประชาชนเพื่อประสานทำงานเป็นฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ไหวแล้ว ประชาชนขาดความเชื่อมั่น จึงรอให้ยุบสภา แต่หลังจากนั้น น.ส.แพทองธาร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ จึงไม่มีคนยุบสภา จึงได้พูดคุยกับพรรคประชาชนว่าจะทำอย่างไรดี ท่านไม่ได้อยู่ตรงนั้น จะมาบอกดราม่าได้ยังไ...
    แฉ "อิ๊งค์" แอบกระซิบเขมร ยึดมท.เตรียมเลือกตั้ง : [THE MESSAGE] นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ชี้แจงการอภิปรายของ น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ยืนยัน ไม่รู้จักผู้นำกัมพูชาในนามส่วนตัวซักคนเดียว เปิดเบื้องหลัง เมื่อกลับจากการติดตาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปเยือนกัมพูชา เพื่อนที่รู้จักกันเขาโทรมาบอกว่า รู้ไหมที่เขาไม่ให้คุณเข้าไปในที่ประชุมหลายที่ เขาไปแจ้งผู้นำเขาว่า ไม่ต้องคุยอะไรกับคุณมาก เขาจะปลดคุณออกจาก มท.1 อยู่แล้ว จากนั้นได้รับแจ้งจาก น.ส.แพทองธาร ว่าพรรคเพื่อไทยต้องการกระทรวงมหาดไทยคืน ขอให้ตนไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะใกล้เลือกตั้งแล้ว พรรคเพื่อไทยต้องได้กระทรวงมหาดไทย เผย ที่มา MOA ไม่ได้พิสดาร มาจากการพูดคุยกับพรรคประชาชนเพื่อประสานทำงานเป็นฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ไหวแล้ว ประชาชนขาดความเชื่อมั่น จึงรอให้ยุบสภา แต่หลังจากนั้น น.ส.แพทองธาร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ จึงไม่มีคนยุบสภา จึงได้พูดคุยกับพรรคประชาชนว่าจะทำอย่างไรดี ท่านไม่ได้อยู่ตรงนั้น จะมาบอกดราม่าได้ยังไ...
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ศ.ดร.ไชยันต์ เสนอทางออกจริยธรรมนักการเมือง แนะ สส. ลาออกเอง และฝ่ายค้านทำงานจริงจัง ไม่จำเป็นต้องพึ่งศาล รธน.
    https://www.thai-tai.tv/news/21638/
    .
    #ไทยไท #จริยธรรมนักการเมือง #ศาลรัฐธรรมนูญ #ไชยันต์ไชยพร #รัฐศาสตร์จุฬาฯ #ฝ่ายค้าน #การเมืองไทย #ลาออก
    ศ.ดร.ไชยันต์ เสนอทางออกจริยธรรมนักการเมือง แนะ สส. ลาออกเอง และฝ่ายค้านทำงานจริงจัง ไม่จำเป็นต้องพึ่งศาล รธน. https://www.thai-tai.tv/news/21638/ . #ไทยไท #จริยธรรมนักการเมือง #ศาลรัฐธรรมนูญ #ไชยันต์ไชยพร #รัฐศาสตร์จุฬาฯ #ฝ่ายค้าน #การเมืองไทย #ลาออก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • LaLiga ไล่ล่าลิขสิทธิ์ฟุตบอล แต่กลับทำอินเทอร์เน็ตสเปนล่ม — เมื่อการปราบละเมิดกลายเป็นการเซ็นเซอร์

    ฤดูกาลฟุตบอล 2025/2026 ของ LaLiga เริ่มต้นด้วยมาตรการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีการส่งคำสั่งลบเนื้อหามากกว่า 26 ล้านครั้งในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นถึง 142% จากปี 2024 แต่เบื้องหลังตัวเลขนี้คือความเสียหายมหาศาลต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งานในสเปน

    LaLiga ร่วมมือกับ Telefónica และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ เช่น Movistar, Vodafone, Orange และ DIGI เพื่อบล็อก IP ที่สงสัยว่าใช้สตรีมเถื่อน แต่แทนที่จะบล็อกเฉพาะเนื้อหาผิดกฎหมาย กลับเลือกบล็อก “ช่วง IP” ทั้งกลุ่ม ซึ่งมักมีเว็บไซต์บริสุทธิ์หลายพันแห่งอยู่ร่วมกัน ส่งผลให้บริการอย่าง Amazon, GitHub, Cloudflare, Twitch และแม้แต่ Google Fonts ถูกบล็อกไปด้วย

    TrueNAS ซึ่งเป็นระบบ NAS แบบโอเพ่นซอร์ส ต้องเปลี่ยนวิธีแจกซอฟต์แวร์เป็นผ่าน BitTorrent หลัง CDN ถูกบล็อกซ้ำ ๆ ทำให้ผู้ใช้ในสเปนเข้าถึงอัปเดตด้านความปลอดภัยไม่ได้ ขณะที่ผู้ใช้บางรายหันไปใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก แต่แม้แต่บริการ WARP ของ Cloudflare ก็ถูกบล็อกในช่วงเวลาถ่ายทอดสดการแข่งขัน

    แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากผู้ใช้ทั่วไป นักพัฒนา และแม้แต่ CEO ของ Cloudflare ที่กล่าวว่า “กลยุทธ์นี้บ้าไปแล้ว” เพราะทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงบริการฉุกเฉินและธุรกิจสำคัญได้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญของสเปนยังคงสนับสนุนแนวทางนี้ โดยปฏิเสธคำร้องของ Cloudflare และองค์กร RootedCON ที่ขอให้ยุติการบล็อกแบบครอบคลุม

    LaLiga เพิ่มมาตรการปราบละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเข้มข้น
    ส่ง takedown notice กว่า 26 ล้านครั้งในครึ่งปีแรกของ 2025
    เพิ่มขึ้น 142% จากปี 2024

    ร่วมมือกับ Telefónica และ ISP รายใหญ่ในสเปน
    ใช้การบล็อก IP ที่สงสัยว่าเกี่ยวข้องกับสตรีมเถื่อน
    บล็อกเป็นช่วง IP ทำให้เว็บไซต์บริสุทธิ์ถูกบล็อกไปด้วย

    เว็บไซต์และบริการสำคัญได้รับผลกระทบ
    Amazon, GitHub, Cloudflare, Twitch, Google Fonts ถูกบล็อก
    TrueNAS ต้องเปลี่ยนวิธีแจกซอฟต์แวร์เป็น BitTorrent

    ผู้ใช้หันไปใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก
    แม้แต่ Cloudflare WARP ก็ถูกบล็อกในช่วงถ่ายทอดสด
    ผู้ใช้ในสเปน อิตาลี และฝรั่งเศสรายงานปัญหาอย่างต่อเนื่อง

    Cloudflare และ RootedCON ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
    ขอให้ยุติการบล็อกแบบครอบคลุม
    ศาลปฏิเสธคำร้อง โดยอ้างว่าไม่มีหลักฐานความเสียหาย

    https://reclaimthenet.org/laligas-anti-piracy-crackdown-triggers-widespread-internet-disruptions
    📰 LaLiga ไล่ล่าลิขสิทธิ์ฟุตบอล แต่กลับทำอินเทอร์เน็ตสเปนล่ม — เมื่อการปราบละเมิดกลายเป็นการเซ็นเซอร์ ฤดูกาลฟุตบอล 2025/2026 ของ LaLiga เริ่มต้นด้วยมาตรการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีการส่งคำสั่งลบเนื้อหามากกว่า 26 ล้านครั้งในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นถึง 142% จากปี 2024 แต่เบื้องหลังตัวเลขนี้คือความเสียหายมหาศาลต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งานในสเปน LaLiga ร่วมมือกับ Telefónica และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ เช่น Movistar, Vodafone, Orange และ DIGI เพื่อบล็อก IP ที่สงสัยว่าใช้สตรีมเถื่อน แต่แทนที่จะบล็อกเฉพาะเนื้อหาผิดกฎหมาย กลับเลือกบล็อก “ช่วง IP” ทั้งกลุ่ม ซึ่งมักมีเว็บไซต์บริสุทธิ์หลายพันแห่งอยู่ร่วมกัน ส่งผลให้บริการอย่าง Amazon, GitHub, Cloudflare, Twitch และแม้แต่ Google Fonts ถูกบล็อกไปด้วย TrueNAS ซึ่งเป็นระบบ NAS แบบโอเพ่นซอร์ส ต้องเปลี่ยนวิธีแจกซอฟต์แวร์เป็นผ่าน BitTorrent หลัง CDN ถูกบล็อกซ้ำ ๆ ทำให้ผู้ใช้ในสเปนเข้าถึงอัปเดตด้านความปลอดภัยไม่ได้ ขณะที่ผู้ใช้บางรายหันไปใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก แต่แม้แต่บริการ WARP ของ Cloudflare ก็ถูกบล็อกในช่วงเวลาถ่ายทอดสดการแข่งขัน แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากผู้ใช้ทั่วไป นักพัฒนา และแม้แต่ CEO ของ Cloudflare ที่กล่าวว่า “กลยุทธ์นี้บ้าไปแล้ว” เพราะทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงบริการฉุกเฉินและธุรกิจสำคัญได้ แต่ศาลรัฐธรรมนูญของสเปนยังคงสนับสนุนแนวทางนี้ โดยปฏิเสธคำร้องของ Cloudflare และองค์กร RootedCON ที่ขอให้ยุติการบล็อกแบบครอบคลุม ✅ LaLiga เพิ่มมาตรการปราบละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเข้มข้น ➡️ ส่ง takedown notice กว่า 26 ล้านครั้งในครึ่งปีแรกของ 2025 ➡️ เพิ่มขึ้น 142% จากปี 2024 ✅ ร่วมมือกับ Telefónica และ ISP รายใหญ่ในสเปน ➡️ ใช้การบล็อก IP ที่สงสัยว่าเกี่ยวข้องกับสตรีมเถื่อน ➡️ บล็อกเป็นช่วง IP ทำให้เว็บไซต์บริสุทธิ์ถูกบล็อกไปด้วย ✅ เว็บไซต์และบริการสำคัญได้รับผลกระทบ ➡️ Amazon, GitHub, Cloudflare, Twitch, Google Fonts ถูกบล็อก ➡️ TrueNAS ต้องเปลี่ยนวิธีแจกซอฟต์แวร์เป็น BitTorrent ✅ ผู้ใช้หันไปใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก ➡️ แม้แต่ Cloudflare WARP ก็ถูกบล็อกในช่วงถ่ายทอดสด ➡️ ผู้ใช้ในสเปน อิตาลี และฝรั่งเศสรายงานปัญหาอย่างต่อเนื่อง ✅ Cloudflare และ RootedCON ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ➡️ ขอให้ยุติการบล็อกแบบครอบคลุม ➡️ ศาลปฏิเสธคำร้อง โดยอ้างว่าไม่มีหลักฐานความเสียหาย https://reclaimthenet.org/laligas-anti-piracy-crackdown-triggers-widespread-internet-disruptions
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'พีระพันธุ์' ลั่นไม่ร่วมรัฐบาลเบี้ยล่างพรรคส้ม พร้อมนำทัพ รทสช. สู้ศึกเลือกตั้ง

    //////////////////


    รวมไทยสร้างชาติไปต่อ! "พีระพันธุ์" พร้อมเดินหน้านำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง ย้ำทำเต็มที่ เชื่อมั่นพรรคสามารถผ่านทุกอุปสรรคไปได้ เชิญชวนชาวไทยหัวใจรักชาติร่วมทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

    18 กันยายน 2568 - เวลา 19.00 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงทิศทางการทำงานของพรรคท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองว่า ในลำดับแรกตนขอยืนยันว่าพร้อมเดินหน้าในการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเป็นแม่ทัพของพรรครวมไทยสร้างชาติในการทำงานทางการเมืองต่อไป

    สำหรับกระแสข่าวเลือดไหลออกจากพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ในวันนี้ยังไม่มีเลือดไหลออกจากพรรค เพราะทุกคนยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ และยังมีผู้สนใจมาสมัครสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน
    นายพีระพันธุ์ยังได้เปิดเผยถึงจุดยืนของตนเกี่ยวกับการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาว่า หลังจากที่มีการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ การเมืองของไทยก็มีพัฒนาการทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ประเด็นสำคัญก็คือ มีการพยายามนำพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติได้ประกาศตั้งแต่ต้นว่าพรรครวมไทยสร้างชาติไม่สามารถร่วมมือด้วยได้ เนื่องจากมีอุดมการณ์ทางการเมืองและแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก และมีการใช้วิธีการให้พรรคการเมืองนั้นมาลงมติสนับสนุนผู้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ได้เป็นการร่วมรัฐบาล แต่เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกัน ซึ่งสำหรับตนเห็นว่าแนวทางเช่นนี้ไม่ถูกต้องทางการเมือง เพราะจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นเบี้ยล่างทางการเมืองของพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล
    นอกจากนี้ตนยังเห็นว่า วิธีการดังกล่าวอาจเป็นการผิดกฎหมายพรรคการเมืองในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ซึ่งจาก 2 เหตุผลข้างต้น ทำให้ตนมีความเห็นว่าไม่สามารถลงคะแนนเสียงสนับสนุนท่านอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีได้ในขณะนั้น ทั้งที่โดยส่วนตัวตนเคารพและรักท่านอนุทินมาก และคิดว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ แต่วิธีการในการจัดตั้งรัฐบาลในรูปแบบนี้ ไม่ใช่วิธีทางที่ถูกต้อง

    ต่อมาทางพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการติดต่อในการเพิ่มเสียงสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ด้วยแนวทางแลกเปลี่ยนผลประโยชน์แต่ไม่ร่วมรัฐบาลนั้น ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ ดังนั้นตนจึงมีความเห็นว่าถ้าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลด้วยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ก็ไม่สามารถสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้เลย

    “สำหรับผมคิดว่า นี่เป็นวิธีการทางการเมืองที่ไม่ถูกต้อง และจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นเบี้ยล่างของพรรคการเมืองอื่นซึ่งไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งในทางการเมืองเป็นสิ่งที่เกิดไม่น่าจะเกิดขึ้น และผมรับไม่ได้ ” นายพีระพันธุ์กล่าว

    อย่างไรก็ดี ในส่วนการบริหารจัดการพรรคจะต้องมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเบื้องต้นนายพีระพันธุ์ได้มีการหารือกับผู้บริหารระดับสูงของพรรคว่า หากแนวทางเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องทางการเมืองเช่นนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติก็ไม่สามารถร่วมรัฐบาลได้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม โดยก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ สส. พรรค นายพีระพันธุ์มองว่าเมื่อการเมืองเดินมาถึงสถานการณ์เช่นนี้น่าจะจบลงด้วยการยุบสภา จึงยังไม่มีมติของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเพียงการหารือแลกเปลี่ยนความเห็นกันเท่านั้น
    ต่อมาปรากฏว่าการยุบสภาไม่สามารถทำได้ ประกอบกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของพรรคหลายคนได้สอบถามและแสดงความคิดเห็นว่า กรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติควรมีมติที่ชัดเจนเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงมีการเชิญประชุมกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเร่งด่วน ในวันพุธก่อนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี
    นายพีระพันธุ์เปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมการบริหารพรรคครั้งนั้น กรรมการบริหารพรรค 3 ท่าน เห็นด้วยกับแนวทางของตน มีกรรมการบริหารพรรค 1 ท่าน เห็นว่าหากท่านอนุทินยืนยันว่าจะไม่มีการแตะต้องมาตรา 112 และยืนยันว่าจะไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 1 และหมวด 2 ควรจะต้องสนับสนุนท่านอนุทิน ส่วนกรรมการบริหารพรรค 2 ท่านเห็นว่าควรให้เป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วหากมีมติทางใดทางหนึ่งจะทำให้เกิดปัญหาในพรรคได้ จึงไม่มีการพูดถึงมติของกรรมการบริหารพรรค แต่แจ้งผลความเห็นของกรรมการบริหารพรรคว่ามีความเห็นกี่แนวทาง อย่างไรบ้าง และให้เป็นเอกสิทธิ์ดุลพินิจของ สส. โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติได้ลงมติเลือกท่านอนุทิน 33 เสียง
    ไม่ประสงค์ลงคะแนน 3 เสียง ซึ่งตนยืนยันว่าในพรรคไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น และทุกอย่างก็เดินหน้าตามกระบวนการต่อไป

    นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกระแสข่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาติถูกซื้อ ตนขอยืนยันในส่วนของตนว่าตนไม่มีทางโดนซื้อเด็ดขาด ส่วนกรณีที่มีการโจมตีว่าตนหวังตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่มีการหารือในการเสนอชื่อของตนในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะหากคิดในทางการเมืองแล้วเมื่อพรรคมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วแต่ไปดึงแคนดิเดตทางการเมืองจากพรรคอื่นมาแทน แบบนี้ในทางการเมืองจะเสียหายเป็นอย่างมาก ตนจึงยืนยันได้ว่าเรื่องที่ว่ามานี้ไม่เป็นความจริง และสำหรับตนถ้าจะได้รับเลือกนายกรัฐมนตรีจะต้องมีศักดิ์ศรี ซึ่งแนวทางนี้ไม่ใช่แนวทางที่มีศักดิ์ศรี
    “พรรคการเมืองก็เหมือนกับชีวิตมนุษย์ ทุกคนเกิดมาก็ต้องมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้น ไม่มีใครที่ชีวิตราบรื่นมีแต่ความสำเร็จมีแต่ความสุข เพียงแต่ว่าแต่ละคนเมื่อเจอปัญหาแล้วท้อไหม พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ใช่เป็นพรรคแรกที่เพิ่งเกิดและเจอปัญหา แต่พรรครวมไทยสร้างชาติจะผ่านปัญหาทุกอย่างไปได้ ส่วนตัวผมไม่เคยท้อ เพราะว่าความจริงในชีวิตก็เจอปัญหามาเยอะอยู่แล้ว นี่ก็เป็นอีกแค่เสี้ยวหนึ่งของชีวิต แนวทางการทำงานของผมคือทำทุกอย่างให้ดีที่สุดทำให้เต็มที่ที่เราทำได้ ทำไม่สำเร็จก็ต้องยอมรับว่ามันทำไม่สำเร็จ แต่ว่าทำให้ดีที่สุด ทำให้มากที่สุด ทำให้เต็มที่ ได้เท่านี้ ก็เท่านี้ ผมจะไม่ติดยึดกับคำพูดคนอื่น
    เพราะว่าคนอื่นไม่รู้ดีเท่าตัวเรา ผมติดยึดกับตัวเราเองว่าเราทำดีหรือยัง เราทำถูกต้องไหม เราไม่มีทางทำให้คนทุกคนถูกใจ ไม่มีวันทำให้ทุกคนพอใจ แต่เราทำในสิ่งที่ต้องทำหรือเปล่า ทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบ้านเมืองกับส่วนรวมหรือเปล่า ผมคิดว่าแนวทางการทำงานของผมแบบนี้ที่ทำให้ผมเดินหน้ามาจนถึงวันนี้ได้” นายพีระพันธุ์กล่าว
    นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อไปในเรื่องของการแก้ไขเรื่องของพลังงานว่า เรื่องการจัดการกับปัญหาพลังงานของตนนั้นสะท้อนถึงแนวทางการทำงานของตนเป็นอย่างดี ยกตัวอย่าง เช่น ค่าไฟที่เมื่อตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ค่าไฟอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย แต่ในวันนี้ค่าไฟเหลือเพียง 3.94 บาทต่อหน่วยเท่านั้น และไม่มีการปรับขึ้นค่าไฟ และค่าแก๊สแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากวิธีการทำงานของตน คือทำให้ดีที่สุด ทำให้เต็มที่ สุดท้ายแล้วได้เท่าไร ได้เท่านั้น และหากเดินหน้าต่อไปจนครบวาระ ตนยืนยันว่าราคาน้ำมันจะ
    สามารถควบคุมได้ และประเทศไทยจะมีคลังน้ำมันสำรองของประเทศ ที่เป็นของรัฐเพื่อความมั่นคงไม่ใช่ของเอกชน

    สำหรับความคืบหน้าของกฎหมายต่าง ๆ นั้น กฎหมายฉบับแรกคือกฎหมายส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์นั้น ตนหวังว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะเดินหน้าต่อ ในส่วนของกฎหมายควบคุมราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และกฎหมายคลังน้ำมันนั้น กฎหมายฉบับแรกคือการควบคุมราคาน้ำมันเสร็จเรียบร้อย และกฎหมายคลังน้ำมันนั้นใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้จะต้องเสนอคู่กัน เพื่อปรับโครงสร้างราคาน้ำมันได้ทั้งกระบวนการ โดยนายพีระพันธุ์ยืนยันว่าจะต้องมีการเดินหน้ากฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ต่อโดยผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎร แต่ด้วยเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่จะต้องยุบสภาใน 4 เดือนนี้ คาดว่าไม่น่าจะสำเร็จได้ด้วยสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้
    นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งหลังการยุบสภาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง 4 เดือนนี้ว่า เมื่อเป็นพรรคการเมืองจะต้องมีความพร้อมในการลงรับเลือกตั้งตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อมีความชัดเจนเช่นนี้เกิดขึ้น จะต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ทุกด้าน โดยเฉพาะผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยทางพรรคพร้อมที่จะหาตัวแทนที่พร้อมจะเดินหน้า สู้ให้ทุกปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะเรื่องของพลังงาน และเรื่องของความไม่เป็นธรรมในสังคม ซึ่งในระยะเวลาของการทำงานที่ผ่านมาตนเชื่อว่า ทางพรรครวมไทยสร้างชาติได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราพูดแล้วเราทำ และเราเดินหน้าทำงานตลอดเวลา
    “ทุกคนที่สนใจร่วมอุดมการณ์และเดินหน้าทำงานตามแนวทางของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือพรรคที่มาทำงานการเมืองเพื่อประโยชน์ของชาติ ไม่ได้มาเพื่อเล่นการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เพื่อยศถาบรรดาศักดิ์ เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติคือพรรคของคนทำงาน หากใครมีแนวทางเดียวกันขอเชิญชวนให้มาร่วมทำงานด้วยกันครับ” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กล่าวในตอนท้าย
    อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการตั้งคำถามถึงข้อเท็จจริงกรณีปัญหาความขัดแย้งกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่ได้ลาออกจากเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งนายพีระพันธุ์ไม่ได้ชี้แจงหรือพูดถึงในประเด็นดังกล่าว
    'พีระพันธุ์' ลั่นไม่ร่วมรัฐบาลเบี้ยล่างพรรคส้ม พร้อมนำทัพ รทสช. สู้ศึกเลือกตั้ง ////////////////// รวมไทยสร้างชาติไปต่อ! "พีระพันธุ์" พร้อมเดินหน้านำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง ย้ำทำเต็มที่ เชื่อมั่นพรรคสามารถผ่านทุกอุปสรรคไปได้ เชิญชวนชาวไทยหัวใจรักชาติร่วมทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน 18 กันยายน 2568 - เวลา 19.00 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงทิศทางการทำงานของพรรคท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองว่า ในลำดับแรกตนขอยืนยันว่าพร้อมเดินหน้าในการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเป็นแม่ทัพของพรรครวมไทยสร้างชาติในการทำงานทางการเมืองต่อไป สำหรับกระแสข่าวเลือดไหลออกจากพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ในวันนี้ยังไม่มีเลือดไหลออกจากพรรค เพราะทุกคนยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ และยังมีผู้สนใจมาสมัครสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน นายพีระพันธุ์ยังได้เปิดเผยถึงจุดยืนของตนเกี่ยวกับการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาว่า หลังจากที่มีการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ การเมืองของไทยก็มีพัฒนาการทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ประเด็นสำคัญก็คือ มีการพยายามนำพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติได้ประกาศตั้งแต่ต้นว่าพรรครวมไทยสร้างชาติไม่สามารถร่วมมือด้วยได้ เนื่องจากมีอุดมการณ์ทางการเมืองและแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก และมีการใช้วิธีการให้พรรคการเมืองนั้นมาลงมติสนับสนุนผู้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ได้เป็นการร่วมรัฐบาล แต่เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกัน ซึ่งสำหรับตนเห็นว่าแนวทางเช่นนี้ไม่ถูกต้องทางการเมือง เพราะจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นเบี้ยล่างทางการเมืองของพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล นอกจากนี้ตนยังเห็นว่า วิธีการดังกล่าวอาจเป็นการผิดกฎหมายพรรคการเมืองในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ซึ่งจาก 2 เหตุผลข้างต้น ทำให้ตนมีความเห็นว่าไม่สามารถลงคะแนนเสียงสนับสนุนท่านอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีได้ในขณะนั้น ทั้งที่โดยส่วนตัวตนเคารพและรักท่านอนุทินมาก และคิดว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ แต่วิธีการในการจัดตั้งรัฐบาลในรูปแบบนี้ ไม่ใช่วิธีทางที่ถูกต้อง ต่อมาทางพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการติดต่อในการเพิ่มเสียงสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ด้วยแนวทางแลกเปลี่ยนผลประโยชน์แต่ไม่ร่วมรัฐบาลนั้น ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ ดังนั้นตนจึงมีความเห็นว่าถ้าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลด้วยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ก็ไม่สามารถสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้เลย “สำหรับผมคิดว่า นี่เป็นวิธีการทางการเมืองที่ไม่ถูกต้อง และจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นเบี้ยล่างของพรรคการเมืองอื่นซึ่งไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งในทางการเมืองเป็นสิ่งที่เกิดไม่น่าจะเกิดขึ้น และผมรับไม่ได้ ” นายพีระพันธุ์กล่าว อย่างไรก็ดี ในส่วนการบริหารจัดการพรรคจะต้องมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเบื้องต้นนายพีระพันธุ์ได้มีการหารือกับผู้บริหารระดับสูงของพรรคว่า หากแนวทางเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องทางการเมืองเช่นนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติก็ไม่สามารถร่วมรัฐบาลได้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม โดยก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ สส. พรรค นายพีระพันธุ์มองว่าเมื่อการเมืองเดินมาถึงสถานการณ์เช่นนี้น่าจะจบลงด้วยการยุบสภา จึงยังไม่มีมติของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเพียงการหารือแลกเปลี่ยนความเห็นกันเท่านั้น ต่อมาปรากฏว่าการยุบสภาไม่สามารถทำได้ ประกอบกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของพรรคหลายคนได้สอบถามและแสดงความคิดเห็นว่า กรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติควรมีมติที่ชัดเจนเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงมีการเชิญประชุมกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเร่งด่วน ในวันพุธก่อนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์เปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมการบริหารพรรคครั้งนั้น กรรมการบริหารพรรค 3 ท่าน เห็นด้วยกับแนวทางของตน มีกรรมการบริหารพรรค 1 ท่าน เห็นว่าหากท่านอนุทินยืนยันว่าจะไม่มีการแตะต้องมาตรา 112 และยืนยันว่าจะไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 1 และหมวด 2 ควรจะต้องสนับสนุนท่านอนุทิน ส่วนกรรมการบริหารพรรค 2 ท่านเห็นว่าควรให้เป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วหากมีมติทางใดทางหนึ่งจะทำให้เกิดปัญหาในพรรคได้ จึงไม่มีการพูดถึงมติของกรรมการบริหารพรรค แต่แจ้งผลความเห็นของกรรมการบริหารพรรคว่ามีความเห็นกี่แนวทาง อย่างไรบ้าง และให้เป็นเอกสิทธิ์ดุลพินิจของ สส. โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติได้ลงมติเลือกท่านอนุทิน 33 เสียง ไม่ประสงค์ลงคะแนน 3 เสียง ซึ่งตนยืนยันว่าในพรรคไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น และทุกอย่างก็เดินหน้าตามกระบวนการต่อไป นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกระแสข่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาติถูกซื้อ ตนขอยืนยันในส่วนของตนว่าตนไม่มีทางโดนซื้อเด็ดขาด ส่วนกรณีที่มีการโจมตีว่าตนหวังตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่มีการหารือในการเสนอชื่อของตนในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะหากคิดในทางการเมืองแล้วเมื่อพรรคมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วแต่ไปดึงแคนดิเดตทางการเมืองจากพรรคอื่นมาแทน แบบนี้ในทางการเมืองจะเสียหายเป็นอย่างมาก ตนจึงยืนยันได้ว่าเรื่องที่ว่ามานี้ไม่เป็นความจริง และสำหรับตนถ้าจะได้รับเลือกนายกรัฐมนตรีจะต้องมีศักดิ์ศรี ซึ่งแนวทางนี้ไม่ใช่แนวทางที่มีศักดิ์ศรี “พรรคการเมืองก็เหมือนกับชีวิตมนุษย์ ทุกคนเกิดมาก็ต้องมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้น ไม่มีใครที่ชีวิตราบรื่นมีแต่ความสำเร็จมีแต่ความสุข เพียงแต่ว่าแต่ละคนเมื่อเจอปัญหาแล้วท้อไหม พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ใช่เป็นพรรคแรกที่เพิ่งเกิดและเจอปัญหา แต่พรรครวมไทยสร้างชาติจะผ่านปัญหาทุกอย่างไปได้ ส่วนตัวผมไม่เคยท้อ เพราะว่าความจริงในชีวิตก็เจอปัญหามาเยอะอยู่แล้ว นี่ก็เป็นอีกแค่เสี้ยวหนึ่งของชีวิต แนวทางการทำงานของผมคือทำทุกอย่างให้ดีที่สุดทำให้เต็มที่ที่เราทำได้ ทำไม่สำเร็จก็ต้องยอมรับว่ามันทำไม่สำเร็จ แต่ว่าทำให้ดีที่สุด ทำให้มากที่สุด ทำให้เต็มที่ ได้เท่านี้ ก็เท่านี้ ผมจะไม่ติดยึดกับคำพูดคนอื่น เพราะว่าคนอื่นไม่รู้ดีเท่าตัวเรา ผมติดยึดกับตัวเราเองว่าเราทำดีหรือยัง เราทำถูกต้องไหม เราไม่มีทางทำให้คนทุกคนถูกใจ ไม่มีวันทำให้ทุกคนพอใจ แต่เราทำในสิ่งที่ต้องทำหรือเปล่า ทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบ้านเมืองกับส่วนรวมหรือเปล่า ผมคิดว่าแนวทางการทำงานของผมแบบนี้ที่ทำให้ผมเดินหน้ามาจนถึงวันนี้ได้” นายพีระพันธุ์กล่าว นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อไปในเรื่องของการแก้ไขเรื่องของพลังงานว่า เรื่องการจัดการกับปัญหาพลังงานของตนนั้นสะท้อนถึงแนวทางการทำงานของตนเป็นอย่างดี ยกตัวอย่าง เช่น ค่าไฟที่เมื่อตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ค่าไฟอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย แต่ในวันนี้ค่าไฟเหลือเพียง 3.94 บาทต่อหน่วยเท่านั้น และไม่มีการปรับขึ้นค่าไฟ และค่าแก๊สแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากวิธีการทำงานของตน คือทำให้ดีที่สุด ทำให้เต็มที่ สุดท้ายแล้วได้เท่าไร ได้เท่านั้น และหากเดินหน้าต่อไปจนครบวาระ ตนยืนยันว่าราคาน้ำมันจะ สามารถควบคุมได้ และประเทศไทยจะมีคลังน้ำมันสำรองของประเทศ ที่เป็นของรัฐเพื่อความมั่นคงไม่ใช่ของเอกชน สำหรับความคืบหน้าของกฎหมายต่าง ๆ นั้น กฎหมายฉบับแรกคือกฎหมายส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์นั้น ตนหวังว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะเดินหน้าต่อ ในส่วนของกฎหมายควบคุมราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และกฎหมายคลังน้ำมันนั้น กฎหมายฉบับแรกคือการควบคุมราคาน้ำมันเสร็จเรียบร้อย และกฎหมายคลังน้ำมันนั้นใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้จะต้องเสนอคู่กัน เพื่อปรับโครงสร้างราคาน้ำมันได้ทั้งกระบวนการ โดยนายพีระพันธุ์ยืนยันว่าจะต้องมีการเดินหน้ากฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ต่อโดยผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎร แต่ด้วยเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่จะต้องยุบสภาใน 4 เดือนนี้ คาดว่าไม่น่าจะสำเร็จได้ด้วยสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งหลังการยุบสภาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง 4 เดือนนี้ว่า เมื่อเป็นพรรคการเมืองจะต้องมีความพร้อมในการลงรับเลือกตั้งตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อมีความชัดเจนเช่นนี้เกิดขึ้น จะต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ทุกด้าน โดยเฉพาะผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยทางพรรคพร้อมที่จะหาตัวแทนที่พร้อมจะเดินหน้า สู้ให้ทุกปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะเรื่องของพลังงาน และเรื่องของความไม่เป็นธรรมในสังคม ซึ่งในระยะเวลาของการทำงานที่ผ่านมาตนเชื่อว่า ทางพรรครวมไทยสร้างชาติได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราพูดแล้วเราทำ และเราเดินหน้าทำงานตลอดเวลา “ทุกคนที่สนใจร่วมอุดมการณ์และเดินหน้าทำงานตามแนวทางของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือพรรคที่มาทำงานการเมืองเพื่อประโยชน์ของชาติ ไม่ได้มาเพื่อเล่นการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เพื่อยศถาบรรดาศักดิ์ เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติคือพรรคของคนทำงาน หากใครมีแนวทางเดียวกันขอเชิญชวนให้มาร่วมทำงานด้วยกันครับ” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กล่าวในตอนท้าย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการตั้งคำถามถึงข้อเท็จจริงกรณีปัญหาความขัดแย้งกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่ได้ลาออกจากเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งนายพีระพันธุ์ไม่ได้ชี้แจงหรือพูดถึงในประเด็นดังกล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ศาลรัฐธรรมนูญรอหลักฐานจากเลขาฯ กกต. ก่อนวินิจฉัยปมสถานะ รมต.ของ "ภูมิธรรม-ทวี" กรณีมีมติให้คดีฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ ใช้อำนาจแทรกแซงครอบงำฝ่ายนิติบัญญัติ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088974

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    ศาลรัฐธรรมนูญรอหลักฐานจากเลขาฯ กกต. ก่อนวินิจฉัยปมสถานะ รมต.ของ "ภูมิธรรม-ทวี" กรณีมีมติให้คดีฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ ใช้อำนาจแทรกแซงครอบงำฝ่ายนิติบัญญัติ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088974 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ศาลรัฐธรรมนูญ' มีมติ ไม่รับคำร้อง ปม ‘อนุทิน’ ใช้ถนนทำรันเวย์
    https://www.thai-tai.tv/news/21514/
    .
    #ไทยไท #ศาลรัฐธรรมนูญ #อนุทินชาญวีรกูล #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    'ศาลรัฐธรรมนูญ' มีมติ ไม่รับคำร้อง ปม ‘อนุทิน’ ใช้ถนนทำรันเวย์ https://www.thai-tai.tv/news/21514/ . #ไทยไท #ศาลรัฐธรรมนูญ #อนุทินชาญวีรกูล #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..คดี44 คน รวมสส.พรรคก้าวไกล ที่ย้ายมาพรรคประชาชน เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผิด ม.157บ้างมั้ยนะ ลงหน้างานทำงานช้าเกินไปมั้ยนะ

    ..ตลอด หลายคนมากที่ออกสื่อทั้งเชียร์ทั้งเห็นด้วยในการแก้ไข ม.112 พยามหลักฐานชัดเต็มคลิปโซเชียลต่างๆที่เรา..ประชาชนทั่วประเทศพากันนำเสนอช่วยให้อีกในแต่ละช่องกูรูต่างๆท่านที่กล้าหาญนั้น,พวกร่วมขบวนการแก้ ม.112นี้ทางรัฐฯทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเด็ดขาดจบหรือยัง.

    อาทิคนเหล่านี้ด้วยก็ว่าที่สื่อลงชี้ชัดให้แล้ว.

    กลุ่มที่หนึ่ง บุคคลที่ยังเป็นสส.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) จำนวน 25 คน
    1. ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (หัวหน้าพรรคประชาชน ในช่วงเกิดเหตุเป็น สส. กทม.)
    2. ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    3. ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    4. วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    5. ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ (นายทะเบียนสมาชิกพรรคประชาชน)
    6. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    7. รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    8. วุฒินันท์ บุญชู สส.สมุทรปราการ
    9. ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.
    10. เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.
    11. นิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ
    12. นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. (ในช่วงเกิดเหตุเป็น สส. บัญชีรายชื่อ)
    13. ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ
    14. ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี
    15. วรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ
    16. คำพอง เทพาคำ สส.บัญชีรายชื่อ
    17. ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ
    18. องค์การ ชัยบุตร สส.บัญชีรายชื่อ
    19. มานพ คีรีภูวดล สส.บัญชีรายชื่อ
    20. จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา
    21. วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ
    22. จรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี
    23. สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ
    24. ศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด
    25. สุรวาท ทองบุ สส.บัญชีรายชื่อ

    กลุ่มที่สอง บุคคลที่ไม่ได้เป็นสส.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) จำนวน 11 คน
    1. พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์
    2. กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี
    3. สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา
    4. สมเกียรติ ถนอมสินธุ์
    5. ทองแดง เบ็ญจะปัก
    6. พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์
    7. ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์
    8. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ
    9. ณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์
    10. ทวีศักดิ์ ทักษิณ
    11. สมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล

    กลุ่มที่สาม บุคคลที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีจากการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งทั้งหมดเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค จำนวน 8 คน
    1. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
    2. เบญจา แสงจันทร์
    3. อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
    4. ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์
    5. สุเทพ อู่อ้น
    6. อภิชาติ ศิริสุนทร
    7. ปดิพัทธ์ สันติภาดา
    8. สมชาย ฝั่งชลจิตร


    https://www.ilaw.or.th/articles/52795
    ..คดี44 คน รวมสส.พรรคก้าวไกล ที่ย้ายมาพรรคประชาชน เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผิด ม.157บ้างมั้ยนะ ลงหน้างานทำงานช้าเกินไปมั้ยนะ ..ตลอด หลายคนมากที่ออกสื่อทั้งเชียร์ทั้งเห็นด้วยในการแก้ไข ม.112 พยามหลักฐานชัดเต็มคลิปโซเชียลต่างๆที่เรา..ประชาชนทั่วประเทศพากันนำเสนอช่วยให้อีกในแต่ละช่องกูรูต่างๆท่านที่กล้าหาญนั้น,พวกร่วมขบวนการแก้ ม.112นี้ทางรัฐฯทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเด็ดขาดจบหรือยัง. อาทิคนเหล่านี้ด้วยก็ว่าที่สื่อลงชี้ชัดให้แล้ว. กลุ่มที่หนึ่ง บุคคลที่ยังเป็นสส.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) จำนวน 25 คน 1. ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (หัวหน้าพรรคประชาชน ในช่วงเกิดเหตุเป็น สส. กทม.) 2. ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 3. ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 4. วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 5. ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ (นายทะเบียนสมาชิกพรรคประชาชน) 6. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 7. รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 8. วุฒินันท์ บุญชู สส.สมุทรปราการ 9. ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. 10. เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. 11. นิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ 12. นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. (ในช่วงเกิดเหตุเป็น สส. บัญชีรายชื่อ) 13. ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ 14. ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี 15. วรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ 16. คำพอง เทพาคำ สส.บัญชีรายชื่อ 17. ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ 18. องค์การ ชัยบุตร สส.บัญชีรายชื่อ 19. มานพ คีรีภูวดล สส.บัญชีรายชื่อ 20. จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา 21. วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ 22. จรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี 23. สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ 24. ศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด 25. สุรวาท ทองบุ สส.บัญชีรายชื่อ กลุ่มที่สอง บุคคลที่ไม่ได้เป็นสส.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) จำนวน 11 คน 1. พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ 2. กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี 3. สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา 4. สมเกียรติ ถนอมสินธุ์ 5. ทองแดง เบ็ญจะปัก 6. พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ 7. ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ 8. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ 9. ณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ 10. ทวีศักดิ์ ทักษิณ 11. สมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล กลุ่มที่สาม บุคคลที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีจากการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งทั้งหมดเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค จำนวน 8 คน 1. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 2. เบญจา แสงจันทร์ 3. อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 4. ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ 5. สุเทพ อู่อ้น 6. อภิชาติ ศิริสุนทร 7. ปดิพัทธ์ สันติภาดา 8. สมชาย ฝั่งชลจิตร https://www.ilaw.or.th/articles/52795
    WWW.ILAW.OR.TH
    สรุปข้อเท็จจริงคดี 44 สส.ก้าวไกล เสนอแก้ 112 ถูกสอบ 'มาตรฐานจริยธรรม' - iLaw
    ชวนทำความเข้าใจว่า ทำไม 44 สส. ถึงต้องโดนป.ป.ช. สอบสวนดูกรอบระยะเวลาอาจจะนำไปสู่วันตัดสินคดี และผลลัพธ์ที่ตามมาหากสส. จากอดีตพรรคก้าวไกลถูกตัดสินว่า "ผิด"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ศศิกานต์' ยัน 'พีระพันธุ์' บริสุทธิ์! ศาล รธน. ตีตกคำร้องถือหุ้น ปิดฉากเกมการเมือง!
    https://www.thai-tai.tv/news/21420/
    .
    #ไทยไท #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #รวมไทยสร้างชาติ #ศาลรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    'ศศิกานต์' ยัน 'พีระพันธุ์' บริสุทธิ์! ศาล รธน. ตีตกคำร้องถือหุ้น ปิดฉากเกมการเมือง! https://www.thai-tai.tv/news/21420/ . #ไทยไท #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #รวมไทยสร้างชาติ #ศาลรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 2 เปิดช่องให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนลงประชามติเสียก่อน และมีมติ 6 ต่อ 1 ต้องทำประชามติ 3 ครั้ง ได้แก่ สมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ มีวิธีการและเนื้อหาสำคัญอย่างไร ครั้งสุดท้ายเมื่อร่างเสร็จแล้วเห็นชอบหรือไม่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000086719

    #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 2 เปิดช่องให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนลงประชามติเสียก่อน และมีมติ 6 ต่อ 1 ต้องทำประชามติ 3 ครั้ง ได้แก่ สมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ มีวิธีการและเนื้อหาสำคัญอย่างไร ครั้งสุดท้ายเมื่อร่างเสร็จแล้วเห็นชอบหรือไม่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000086719 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 750 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน ! ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 1 แก้รัฐธรรมนูญต้องทำประชามติ 3 รอบ! ห้ามชัด ไม่ให้ประชาชน เลือกผู้ร่างโดยตรง
    https://www.thai-tai.tv/news/21400/
    .
    #ไทยไท #ศาลรัฐธรรมนูญ #รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ #ประชามติ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ด่วน ! ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 1 แก้รัฐธรรมนูญต้องทำประชามติ 3 รอบ! ห้ามชัด ไม่ให้ประชาชน เลือกผู้ร่างโดยตรง https://www.thai-tai.tv/news/21400/ . #ไทยไท #ศาลรัฐธรรมนูญ #รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ #ประชามติ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภูมิธรรม เผยแค่หยิบมาดูรายละเอียด ลั่นไม่ได้หมายถึงถอนหรือไม่ ปมยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย “อนุทิน-ณัฐพงษ์” พ้น สส.ปม MOA (9/9/68)
    #MOAสะเทือนสภา #ภูมิธรรมแจงปมร้องศาล #วินิจฉัยสถานะสส #อนุทินณัฐพงษ์จะรอดไหม #ศาลรัฐธรรมนูญ2568 #พ้นสสหรือไม่ #เกมกฎหมายการเมือง #TruthFromThailand #news1 #thaitimes #shorts
    ภูมิธรรม เผยแค่หยิบมาดูรายละเอียด ลั่นไม่ได้หมายถึงถอนหรือไม่ ปมยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย “อนุทิน-ณัฐพงษ์” พ้น สส.ปม MOA (9/9/68) #MOAสะเทือนสภา #ภูมิธรรมแจงปมร้องศาล #วินิจฉัยสถานะสส #อนุทินณัฐพงษ์จะรอดไหม #ศาลรัฐธรรมนูญ2568 #พ้นสสหรือไม่ #เกมกฎหมายการเมือง #TruthFromThailand #news1 #thaitimes #shorts
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อนุทินกำจัดจุดอ่อน ฟอร์ม ครม.คนนอก-ฟื้นคนละครึ่ง

    ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 สำหรับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หลังลาออกจากรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ไปเมื่อกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพราะนายทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ต้องการเก้าอี้คืน แล้วตกลงกันไม่ได้ กระทั่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณีคลิปเสียงคุยโทรศัพท์กับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในที่สุดดีลโหวตเลือกนายกฯ กับพรรคประชาชน เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ก็ลงตัว ชนะนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย 311 ต่อ 152 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง ภายใต้เงื่อนไขต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน และเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ

    4 ปัญหาบ้านเมืองที่นายอนุทินจะแก้ไข คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความมั่นคง ปัญหาภัยธรรมชาติ และปัญหาภัยสังคม จึงได้พบเห็นการฟอร์มรัฐมนตรีคนนอก ได้แก่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ จะมาเป็น รมว.คลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตซีอีโอ ปตท. และ โออาร์ จะมาเป็น รมว.พลังงาน และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะมาเป็น รมว.ต่างประเทศ โดยให้เหตุผลว่า อยากได้คนที่มีความรู้ความสามารถ ทำงานได้เลย ไม่ต้องเรียนรู้งานอะไรมาก สร้างความมั่นใจว่าทุกอย่างจะเดินหน้าได้ และล่าสุด เปิดตัวนายวรภัค ธันยาวงษ์ ประธานที่ปรึกษา นายพิชัย ชุณหวชิร อดีต รมว.คลังในรัฐบาลแพทองธาร ที่เป็นหนึ่งในทีมเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จะมาเป็น รมช.คลัง

    นอกจากนี้ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จะฟื้นโครงการคนละครึ่ง สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมา หลังนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เรียกร้องให้สนับสนุนโครงการ Co-payment เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน และผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศกว่า 7 แสนราย ที่ต้องเผชิญพิษเศรษฐกิจและยอดขายตกต่ำ เรียกเสียงฮือฮาจากสังคม เพราะเป็นโครงการในตำนานที่เห็นภาพและจับต้องได้

    อีกทั้งระบบหลังบ้าน ธนาคารกรุงไทยมีประสบการณ์อยู่แล้ว มีฐานผู้ใช้งานแอปฯ เป๋าตังกว่า 40 ล้านราย เมื่อเทียบกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ต้องเขียนแอปฯ ใหม่ สุดท้ายทำไม่ได้จริง ได้แค่แจกเงินผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางผ่านระบบพร้อมเพย์ แม้จะมีการปลุกกระแสทำให้ผู้ค้าส่วนหนึ่งกลัวถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังก็ตาม แต่การจ่ายภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน โดยปกติหากรายได้ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้ว

    #Newskit
    อนุทินกำจัดจุดอ่อน ฟอร์ม ครม.คนนอก-ฟื้นคนละครึ่ง ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 สำหรับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หลังลาออกจากรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ไปเมื่อกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพราะนายทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ต้องการเก้าอี้คืน แล้วตกลงกันไม่ได้ กระทั่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณีคลิปเสียงคุยโทรศัพท์กับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในที่สุดดีลโหวตเลือกนายกฯ กับพรรคประชาชน เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ก็ลงตัว ชนะนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย 311 ต่อ 152 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง ภายใต้เงื่อนไขต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน และเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ 4 ปัญหาบ้านเมืองที่นายอนุทินจะแก้ไข คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความมั่นคง ปัญหาภัยธรรมชาติ และปัญหาภัยสังคม จึงได้พบเห็นการฟอร์มรัฐมนตรีคนนอก ได้แก่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ จะมาเป็น รมว.คลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตซีอีโอ ปตท. และ โออาร์ จะมาเป็น รมว.พลังงาน และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะมาเป็น รมว.ต่างประเทศ โดยให้เหตุผลว่า อยากได้คนที่มีความรู้ความสามารถ ทำงานได้เลย ไม่ต้องเรียนรู้งานอะไรมาก สร้างความมั่นใจว่าทุกอย่างจะเดินหน้าได้ และล่าสุด เปิดตัวนายวรภัค ธันยาวงษ์ ประธานที่ปรึกษา นายพิชัย ชุณหวชิร อดีต รมว.คลังในรัฐบาลแพทองธาร ที่เป็นหนึ่งในทีมเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จะมาเป็น รมช.คลัง นอกจากนี้ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จะฟื้นโครงการคนละครึ่ง สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมา หลังนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เรียกร้องให้สนับสนุนโครงการ Co-payment เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน และผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศกว่า 7 แสนราย ที่ต้องเผชิญพิษเศรษฐกิจและยอดขายตกต่ำ เรียกเสียงฮือฮาจากสังคม เพราะเป็นโครงการในตำนานที่เห็นภาพและจับต้องได้ อีกทั้งระบบหลังบ้าน ธนาคารกรุงไทยมีประสบการณ์อยู่แล้ว มีฐานผู้ใช้งานแอปฯ เป๋าตังกว่า 40 ล้านราย เมื่อเทียบกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ต้องเขียนแอปฯ ใหม่ สุดท้ายทำไม่ได้จริง ได้แค่แจกเงินผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางผ่านระบบพร้อมเพย์ แม้จะมีการปลุกกระแสทำให้ผู้ค้าส่วนหนึ่งกลัวถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังก็ตาม แต่การจ่ายภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน โดยปกติหากรายได้ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้ว #Newskit
    Love
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 501 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดหนังสือ สส. เข้าชื่อยื่น "ศาล รธน." ฟัน "อนุทิน-ณัฐพงษ์" พ้นสมาชิกภาพ สส. ชี้ทำผิด รธน. คดีฮั้วจัดตั้งรัฐบาล
    https://www.thai-tai.tv/news/21350/
    .
    #ไทยไท #อนุทินชาญวีรกูล #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ศาลรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    เปิดหนังสือ สส. เข้าชื่อยื่น "ศาล รธน." ฟัน "อนุทิน-ณัฐพงษ์" พ้นสมาชิกภาพ สส. ชี้ทำผิด รธน. คดีฮั้วจัดตั้งรัฐบาล https://www.thai-tai.tv/news/21350/ . #ไทยไท #อนุทินชาญวีรกูล #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ศาลรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • สส.เพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือถึง ปธ.สภา ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย “อนุทิน-ณัฐพงษ์” พ้น สส. อ้างทำ MOA โหวตนายกฯ เสียงข้างน้อย ขัด รธน. ม.101(3) ม.185 (1)(2)

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085491

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    สส.เพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือถึง ปธ.สภา ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย “อนุทิน-ณัฐพงษ์” พ้น สส. อ้างทำ MOA โหวตนายกฯ เสียงข้างน้อย ขัด รธน. ม.101(3) ม.185 (1)(2) อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085491 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • อนุทินนายกฯ 4 เดือน นับถอยหลังเพื่อไทย

    การเมืองไทยหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ช่วงนี้จะได้เห็นการชิงไหวชิงพริบเพื่อช่วงชิงอำนาจ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. พรรคประชาชน ที่มีเสียงในสภาฯ 143 เสียง มีมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แต่มีเงื่อนไข 5 ข้อ คือ ต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันแถลงนโยบาย การเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ใช้สภาร่างรัฐธรรมนูญมาจากการเลือกตั้ง ห้ามพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และพรรคประชาชนจะขอเป็นฝ่ายค้าน

    ขณะที่พรรคเพื่อไทย ของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่เหลืออยู่ เมื่อรู้ว่าพรรคประชาชนจับมือกับพรรคภูมิใจไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งสถานะตอนนี้เพียงปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่รักษาการนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีตัวจริงพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ก็เปิดเผยว่ายื่นทูลเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว โดยไม่ฟังเสียงกฤษฎีกาและบรรดานักกฎหมายที่ท้วงติงว่าทำไม่ได้ กระทั่งมีรายงานข่าวว่า สำนักองคมนตรี ส่งคืนร่างดังกล่าวไปแล้ว เพราะไม่เป็นไปตามระเบียบ รัฐบาลรักษาการไม่สามารถกราบบังคมทูลฯ ยุบสภาได้

    ด้านสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุวาระเรื่องด่วน พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 5 ก.ย.ที่จะถึงนี้

    ก่อนหน้านี้มีความเปลี่ยนแปลงขั้วทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคกล้าธรรม ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประกาศสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะถูกนายทักษิณตัดพ้อว่า ผิดที่ไว้ใจ แต่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก เพราะเป็นการหาทางออกให้บ้านเมือง หรือจะเป็น สส.พรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งย้ายไปสนับสนุนนายอนุทิน ทำให้พรรคเพื่อไทยเลือดไหลออกไม่หยุด และมีผลไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่มีชนักติดหลังเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

    ขณะที่พรรคประชาชน แม้จะอธิบายว่าการโหวตเลือกนายอนุทินเพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง แต่ก็ถูกวิจารณ์จากกลุ่มนักเคลื่อนไหว เช่น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน อดีตแกนนำม็อบราษฎร ผู้ต้องหาคดี 112 ที่หลบหนีไปต่างประเทศ เตือนว่าสุดท้ายพรรคภูมิใจไทยจะทรยศและใช้อำนาจทำร้ายพรรคประชาชน รวมทั้งทำร้ายขบวนการประชาธิปไตยทั้งองคาพยพ การสนับสนุนนายอนุทิน ทำให้การปฏิรูปการเมืองถดถอย และทรยศหักหลังการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในปี 2563 อย่างรุนแรง

    #Newskit
    อนุทินนายกฯ 4 เดือน นับถอยหลังเพื่อไทย การเมืองไทยหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ช่วงนี้จะได้เห็นการชิงไหวชิงพริบเพื่อช่วงชิงอำนาจ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. พรรคประชาชน ที่มีเสียงในสภาฯ 143 เสียง มีมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แต่มีเงื่อนไข 5 ข้อ คือ ต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันแถลงนโยบาย การเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ใช้สภาร่างรัฐธรรมนูญมาจากการเลือกตั้ง ห้ามพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และพรรคประชาชนจะขอเป็นฝ่ายค้าน ขณะที่พรรคเพื่อไทย ของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่เหลืออยู่ เมื่อรู้ว่าพรรคประชาชนจับมือกับพรรคภูมิใจไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งสถานะตอนนี้เพียงปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่รักษาการนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีตัวจริงพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ก็เปิดเผยว่ายื่นทูลเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว โดยไม่ฟังเสียงกฤษฎีกาและบรรดานักกฎหมายที่ท้วงติงว่าทำไม่ได้ กระทั่งมีรายงานข่าวว่า สำนักองคมนตรี ส่งคืนร่างดังกล่าวไปแล้ว เพราะไม่เป็นไปตามระเบียบ รัฐบาลรักษาการไม่สามารถกราบบังคมทูลฯ ยุบสภาได้ ด้านสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุวาระเรื่องด่วน พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 5 ก.ย.ที่จะถึงนี้ ก่อนหน้านี้มีความเปลี่ยนแปลงขั้วทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคกล้าธรรม ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประกาศสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะถูกนายทักษิณตัดพ้อว่า ผิดที่ไว้ใจ แต่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก เพราะเป็นการหาทางออกให้บ้านเมือง หรือจะเป็น สส.พรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งย้ายไปสนับสนุนนายอนุทิน ทำให้พรรคเพื่อไทยเลือดไหลออกไม่หยุด และมีผลไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่มีชนักติดหลังเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่พรรคประชาชน แม้จะอธิบายว่าการโหวตเลือกนายอนุทินเพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง แต่ก็ถูกวิจารณ์จากกลุ่มนักเคลื่อนไหว เช่น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน อดีตแกนนำม็อบราษฎร ผู้ต้องหาคดี 112 ที่หลบหนีไปต่างประเทศ เตือนว่าสุดท้ายพรรคภูมิใจไทยจะทรยศและใช้อำนาจทำร้ายพรรคประชาชน รวมทั้งทำร้ายขบวนการประชาธิปไตยทั้งองคาพยพ การสนับสนุนนายอนุทิน ทำให้การปฏิรูปการเมืองถดถอย และทรยศหักหลังการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในปี 2563 อย่างรุนแรง #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวหน้าพรรคประชาชน เผยข้อตกลง 5 ข้อแก่พรรคภูมิใจไทย ก่อนโหวตให้อนุทินเป็นนายกฯ ทั้งให้ยุบสภาใน 4 เดือนหลังแถลงนโยบาย เดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และต้องไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ยืนยันขอเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลต่อไป เผยอาจมีบวกลบเล็กน้อยในขั้นตอนจัดทำรัฐธรรมนูญ ด้านรองหัวหน้าพรรคเผย ถ้าบรรจุวาระโหวตเลือกนายกฯ วันนี้ คาดโหวตเลือกนายกฯ เร็วที่สุดวันศุกร์นี้ (5 ก.ย.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084151

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    หัวหน้าพรรคประชาชน เผยข้อตกลง 5 ข้อแก่พรรคภูมิใจไทย ก่อนโหวตให้อนุทินเป็นนายกฯ ทั้งให้ยุบสภาใน 4 เดือนหลังแถลงนโยบาย เดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และต้องไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ยืนยันขอเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลต่อไป เผยอาจมีบวกลบเล็กน้อยในขั้นตอนจัดทำรัฐธรรมนูญ ด้านรองหัวหน้าพรรคเผย ถ้าบรรจุวาระโหวตเลือกนายกฯ วันนี้ คาดโหวตเลือกนายกฯ เร็วที่สุดวันศุกร์นี้ (5 ก.ย.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084151 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 703 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปรดเกล้าฯ “สราวุธ ทรงศิวิไล” เป็นตุลาการศาลรธน. แทน “ปัญญา อุดชาชน”
    https://www.thai-tai.tv/news/21262/
    .
    #ไทยไท #ศาลรัฐธรรมนูญ #ตุลาการ #สราวุธทรงศิวิไล #แพทองธารชินวัตร #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้

    โปรดเกล้าฯ “สราวุธ ทรงศิวิไล” เป็นตุลาการศาลรธน. แทน “ปัญญา อุดชาชน” https://www.thai-tai.tv/news/21262/ . #ไทยไท #ศาลรัฐธรรมนูญ #ตุลาการ #สราวุธทรงศิวิไล #แพทองธารชินวัตร #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘เรืองไกร’ ลุยต่อ! นำคำวินิจฉัยศาล รธน. ส่ง กกต. ชี้ช่องยุบพรรคเพื่อไทย อ้างทำผิด ม.92 พ.ร.ป.พรรคการเมือง
    https://www.thai-tai.tv/news/21236/
    .
    #ไทยไท #เรืองไกรลีกิจวัฒนะ #พรรคเพื่อไทย #ยุบพรรค #กกต #ศาลรัฐธรรมนูญ #แพทองธาร #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ‘เรืองไกร’ ลุยต่อ! นำคำวินิจฉัยศาล รธน. ส่ง กกต. ชี้ช่องยุบพรรคเพื่อไทย อ้างทำผิด ม.92 พ.ร.ป.พรรคการเมือง https://www.thai-tai.tv/news/21236/ . #ไทยไท #เรืองไกรลีกิจวัฒนะ #พรรคเพื่อไทย #ยุบพรรค #กกต #ศาลรัฐธรรมนูญ #แพทองธาร #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 1-9-68
    .
    สวัสดีวันแรกของเดือนกันยายน 2568 เช้านี้หลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงาน โดยเมนูเป็น ข้าวเปล่ากับเกาเหลาหมูตุ๋น ประเด็นที่ฮอตที่สุด ณ เวลานี้หนีไม่พ้นเรื่องความเป็นไปทางการเมือง และสถานการณ์บ้านเมืองของเรา ณ เวลานี้ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีคลิปลับฮุนเซน "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร" ว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จัดตั้งรัฐบาลกันใหม่ เวลานี้จึงเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองอย่างรุนแรง
    .
    คุณสนธิคิดและมองอย่างไรกับความเป็นอยู่ และเป็นไปของบ้านเมือง ณ เวลานี้ ? ... ต้องติดตาม !
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=8K_5ZnKnZbA
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #รัฐบาล #นายกคนใหม่ #เพื่อไทย #ภูมิใจไทย #ประชาชน #ทักษิณ #อนุทิน #ชัยเกษม
    สนธิเล่าเรื่อง 1-9-68 . สวัสดีวันแรกของเดือนกันยายน 2568 เช้านี้หลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงาน โดยเมนูเป็น ข้าวเปล่ากับเกาเหลาหมูตุ๋น ประเด็นที่ฮอตที่สุด ณ เวลานี้หนีไม่พ้นเรื่องความเป็นไปทางการเมือง และสถานการณ์บ้านเมืองของเรา ณ เวลานี้ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีคลิปลับฮุนเซน "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร" ว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จัดตั้งรัฐบาลกันใหม่ เวลานี้จึงเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองอย่างรุนแรง . คุณสนธิคิดและมองอย่างไรกับความเป็นอยู่ และเป็นไปของบ้านเมือง ณ เวลานี้ ? ... ต้องติดตาม ! . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=8K_5ZnKnZbA . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #รัฐบาล #นายกคนใหม่ #เพื่อไทย #ภูมิใจไทย #ประชาชน #ทักษิณ #อนุทิน #ชัยเกษม
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 417 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทสรุปคดีแพทองธาร ขาดความรอบคอบ เสื่อมเกียรติภูมิชาติ

    วันศุกร์แห่งชาติ 29 ส.ค.2568 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ให้ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลง ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีคลิปเสียงสนทนากับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา

    เริ่มต้นที่ข้อกล่าวหาไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ศาลเห็นว่ายังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เพราะไม่ได้ตอบรับข้อเสนอจากนายฮุน เซน ไม่มีการเปลี่ยนตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 และไม่เปิดด่านชายแดน จึงแสดงออกว่าไม่นิ่งเฉย รักษาผลประโยชน์ชาติและความสงบสุขของประเทศ

    แต่ข้อกล่าวหาฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ศาลเห็นว่านายกฯ เป็นหัวหน้ารัฐบาล มี 2 สถานะ คือ ประชาชนที่มีเสรีภาพ และการเป็นนายกฯ ที่ถูกจำกัดเสรีภาพ โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคง ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศเหนือประโยชน์ส่วนตน รวมถึงศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิประเทศ แม้จะสนทนากันส่วนตัว แต่เรื่องการเปิดด่านเป็นความมั่นคงประเทศ จึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว

    ส่วนที่กล่าวถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลบ) อ้างว่าใช้เทคนิคการเจรจา แก้ปัญหาออกจากตัวบุคคลเพื่อลดความตึงเครียด ศาลเห็นว่าเป็นการแสดงความอ่อนแอทางการเมือง เป็นช่องให้กัมพูชาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ แม้จะใช้เทคนิคใดก็ต้องปฏิบัติตามกรอบรัฐธรรมนูญ และใช้อำนาจด้วยความรอบคอบ คำนึงกรอบจริยธรรม ไม่ใช่เจรจาตามอำเภอใจ ยิ่งเมื่อเลือกใช้วิธีนี้ต้องใช้ความรับผิดชอบและความรอบคอบ

    ส่วนถ้อยคำที่ขอความเห็นใจจากนายฮุน เซน (เห็นใจหลานหน่อย จะเอาอะไรขอให้บอก) ศาลเห็นว่าเป็นไปเพื่อลดการวิพากษ์วิจารณ์ มุ่งหวังเพียงคะแนนนิยมโดยไม่ได้ดูสถานการณ์ความมั่นคง ทำให้เกิดความสงสัยว่าจะทำตามที่กัมพูชาร้องขอเพราะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว แม้จะเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชุดเล็กภายหลัง แต่ไม่ได้ชี้แจงเรื่องคลิปเสียง จึงเห็นว่าไม่ใช่เทคนิคการเจรจาแต่ขาดความรอบคอบไม่ระมัดระวัง

    แม้ น.ส.แพทองธารจะระบุว่าเป็นการเจรจาส่วนตัว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง แต่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์นายกฯ ทำให้สาธารณชนเคลือบแคลงสงสัยว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชาหรือไม่ เกิดความเสียหายร้ายแรง เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ต่อการดำรงตำแหน่งนายกฯ ไม่ยึดความถูกต้องชอบธรรม ดังนั้น จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้ขาดคุณสมบัติ ความเป็นรัฐมนตรีจึงสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ (1 ก.ค.) คณะรัฐมนตรีจะต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ แต่ให้อยู่รักษาการจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่

    #Newskit
    บทสรุปคดีแพทองธาร ขาดความรอบคอบ เสื่อมเกียรติภูมิชาติ วันศุกร์แห่งชาติ 29 ส.ค.2568 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 ให้ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลง ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีคลิปเสียงสนทนากับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เริ่มต้นที่ข้อกล่าวหาไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ศาลเห็นว่ายังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เพราะไม่ได้ตอบรับข้อเสนอจากนายฮุน เซน ไม่มีการเปลี่ยนตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 และไม่เปิดด่านชายแดน จึงแสดงออกว่าไม่นิ่งเฉย รักษาผลประโยชน์ชาติและความสงบสุขของประเทศ แต่ข้อกล่าวหาฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ศาลเห็นว่านายกฯ เป็นหัวหน้ารัฐบาล มี 2 สถานะ คือ ประชาชนที่มีเสรีภาพ และการเป็นนายกฯ ที่ถูกจำกัดเสรีภาพ โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคง ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศเหนือประโยชน์ส่วนตน รวมถึงศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิประเทศ แม้จะสนทนากันส่วนตัว แต่เรื่องการเปิดด่านเป็นความมั่นคงประเทศ จึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ส่วนที่กล่าวถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลบ) อ้างว่าใช้เทคนิคการเจรจา แก้ปัญหาออกจากตัวบุคคลเพื่อลดความตึงเครียด ศาลเห็นว่าเป็นการแสดงความอ่อนแอทางการเมือง เป็นช่องให้กัมพูชาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ แม้จะใช้เทคนิคใดก็ต้องปฏิบัติตามกรอบรัฐธรรมนูญ และใช้อำนาจด้วยความรอบคอบ คำนึงกรอบจริยธรรม ไม่ใช่เจรจาตามอำเภอใจ ยิ่งเมื่อเลือกใช้วิธีนี้ต้องใช้ความรับผิดชอบและความรอบคอบ ส่วนถ้อยคำที่ขอความเห็นใจจากนายฮุน เซน (เห็นใจหลานหน่อย จะเอาอะไรขอให้บอก) ศาลเห็นว่าเป็นไปเพื่อลดการวิพากษ์วิจารณ์ มุ่งหวังเพียงคะแนนนิยมโดยไม่ได้ดูสถานการณ์ความมั่นคง ทำให้เกิดความสงสัยว่าจะทำตามที่กัมพูชาร้องขอเพราะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว แม้จะเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชุดเล็กภายหลัง แต่ไม่ได้ชี้แจงเรื่องคลิปเสียง จึงเห็นว่าไม่ใช่เทคนิคการเจรจาแต่ขาดความรอบคอบไม่ระมัดระวัง แม้ น.ส.แพทองธารจะระบุว่าเป็นการเจรจาส่วนตัว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง แต่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์นายกฯ ทำให้สาธารณชนเคลือบแคลงสงสัยว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชาหรือไม่ เกิดความเสียหายร้ายแรง เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ต่อการดำรงตำแหน่งนายกฯ ไม่ยึดความถูกต้องชอบธรรม ดังนั้น จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้ขาดคุณสมบัติ ความเป็นรัฐมนตรีจึงสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ (1 ก.ค.) คณะรัฐมนตรีจะต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ แต่ให้อยู่รักษาการจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ศรีสุวรรณ’ ส่งคำวินิจฉัยศาล รธน.ถึง ป.ป.ช. ทันที ย้ำไม่ต้องแสวงหาหลักฐานเพิ่ม ชี้มูลความผิด ‘แพทองธาร’ ได้เลย
    https://www.thai-tai.tv/news/21232/
    .
    #ไทยไท #ศรีสุวรรณจรรยา #ปปช #ศาลรัฐธรรมนูญ #แพทองธาร #ข่าวการเมือง #การเมืองไทย #ข่าววันนี้
    ‘ศรีสุวรรณ’ ส่งคำวินิจฉัยศาล รธน.ถึง ป.ป.ช. ทันที ย้ำไม่ต้องแสวงหาหลักฐานเพิ่ม ชี้มูลความผิด ‘แพทองธาร’ ได้เลย https://www.thai-tai.tv/news/21232/ . #ไทยไท #ศรีสุวรรณจรรยา #ปปช #ศาลรัฐธรรมนูญ #แพทองธาร #ข่าวการเมือง #การเมืองไทย #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสิ้นสุดความเป็นนายกฯ “อุ๊งอิ๊ง” ครม.อยู่ต่อปฏิบัติหน้าที่ภายใต้มาตรา 168 “ภูมิธรรม” รักษาราชการแทนไม่ใช่ “ครม.รักษาการ” รัฐบาลยังมีอำนาจเฉพาะเรื่องจำเป็น–เร่งด่วน ห้ามผลักดันนโยบายใหม่ ข้าราชการการเมือง-ผู้ช่วย รมต. สิ้นสภาพทันที ต้องแต่งตั้งใหม่ตามกฎหมาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000082862

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสิ้นสุดความเป็นนายกฯ “อุ๊งอิ๊ง” ครม.อยู่ต่อปฏิบัติหน้าที่ภายใต้มาตรา 168 “ภูมิธรรม” รักษาราชการแทนไม่ใช่ “ครม.รักษาการ” รัฐบาลยังมีอำนาจเฉพาะเรื่องจำเป็น–เร่งด่วน ห้ามผลักดันนโยบายใหม่ ข้าราชการการเมือง-ผู้ช่วย รมต. สิ้นสภาพทันที ต้องแต่งตั้งใหม่ตามกฎหมาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000082862 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    5
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 747 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts