• 🚨 แผ่นดินไหวเขย่าไทย รัฐไร้แผนฉุกเฉินรับมือ ถือโอกาสรีดเงิน เมินน้ำใจเพื่อนร่วมชาติ ขาดระบบขนส่งสาธารณะ รถเมล์ไม่เพียงพอ รอรถไฟฟ้า ประชาชนเดินเท้า ประชาชนรอความช่วยเหลือกลางถนน 🚷

    ✍️ เหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 95 ปี เผยให้เห็นการขาดแผนฉุกเฉินของรัฐ ขนส่งสาธารณะล่มทั่วกรุงเทพฯ ประชาชนไร้ทางเลือก ต้องเดินเท้ากลับบ้าน ฝ่าวิกฤตกลางเมืองหลวง

    🧭 เมื่อภัยธรรมชาติกระชากหน้ากาก "ระบบที่ไร้หัวใจ" บ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกติจูด จุดศูนย์กลางอยู่ในเมียนมา แต่แรงสั่นสะเทือนไม่ได้หยุดที่พรมแดน 🇲🇲 มันพัดผ่านเข้ามาในไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และภาคเหนืออย่างรุนแรง อาคารสูงโยกเยก 🚨 ผู้คนแตกตื่น วิ่งอพยพลงจากตึก

    แต่อะไรคือสิ่งที่น่าตกใจที่สุด? ไม่ใช่แค่แรงสั่นสะเทือน แต่คือ "ความไร้การเตรียมพร้อม" ของรัฐ และ "การล่มสลาย" ของระบบขนส่งสาธารณะ 🚆🛑

    📌 แผ่นดินไหวคือภัยธรรมชาติ แต่การไร้แผนคือภัยจากรัฐ ไม่มีแผนการ ไม่มีการแจ้งเตือน ไม่มีทางเลือกในการเดินทาง
    คนจำนวนมากออกจากตึก กลับบ้านไม่ได้
    🚇 รถไฟฟ้าหยุด
    🚌 รถเมล์ไม่พอ
    🚕 แท็กซี่แพง 💸
    ประชาชน “เดินเท้า” เป็นกิโลๆ เพื่อหาความปลอดภัย

    “หยุดให้บริการโดยไม่มีแผน คือการทิ้งประชาชนไว้กลางสนามรบ” 🪖

    “นี่ไม่ใช่แค่ระบบขนส่งที่ล่ม แต่คือภาพสะท้อนของการบริหารจัดการ ที่ไม่มีหัวใจ” ❤️‍🩹

    📉 ระบบขนส่งที่ “หยุดก่อนจำเป็น” ทำให้แย่ยิ่งกว่าเดิม 🚆 รถไฟฟ้าหยุดเดินโดยไม่มีกรอบเวลา รถไฟฟ้าทุกสายหยุดเดินรถมากกว่า 10 ชั่วโมง แต่ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีการแจ้งเวลาชัดเจน ประชาชน “ไร้ทิศทาง” ผู้คนอพยพล่าช้า ช่วยเหลือทำไม่ได้

    นี่คือการแสดงให้เห็นว่า ระบบขนส่งในประเทศไทย ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อวิกฤต

    🚌 รถเมล์ไม่พอวิ่ง-ไม่พอคน ถึงรัฐบอกจะส่งรถเมล์เพิ่ม แต่ความเป็นจริงคือ... รถติดทำให้รถเข้าไม่ถึง จำนวนเที่ยวไม่พอ ไม่มีการบริหารจัดการแบบคล่องตัว

    🚖 ค่าโดยสารแพงเกินจริง
    🚦 วินมอเตอร์ไซค์
    🚘 แกร็บ
    🛻 แท็กซี่

    ต่างอัพราคาค่าโดยสารสูงกว่าปกติ 2-3 เท่า เพราะ "ดีมานด์พุ่ง" แต่ "ซัพพลายหาย"

    🏃‍♂️ เดินเท้าคือทางเลือกสุดท้าย ของคนไม่มีทางเลือก ในวันที่ขนส่งล่มทั้งเมือง คนหลายหมื่นต้องเดินเท้ากลับบ้าน ระยะทาง 5-10 กิโลเมตร 🚶‍♀️

    ภาพที่เห็น
    - ผู้สูงอายุเดินจับมือกับหลานเล็ก
    - คนทำงานเดินกลับบ้านกลางดึก
    - เด็กนักเรียนที่ตกค้าง ต้องขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการเดินทาง แต่มันคือการเอาชีวิตรอด ในเมืองหลวงที่ไร้แผน

    ❗ ประเทศไทย "ยังไม่มี" แผนขนส่งฉุกเฉินที่ตอบโจทย์ แม้จะมีกฎหมาย พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แต่สิ่งที่หายไปคือ

    ✅ ความเร็วในการตอบสนอง
    ✅ ความเข้าใจพฤติกรรมผู้คน
    ✅ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน

    ภัยพิบัติแผ่นดินไหว ไม่มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า รัฐต้องมี "แผนไว้ก่อน" ไม่ใช่ "แผนหลังเกิดเหตุ"

    📊 ถอดบทเรียนจากต่างประเทศ ญี่ปุ่นทำอย่างไร? ญี่ปุ่น 🇯🇵 เผชิญแผ่นดินไหวบ่อย แต่ยังเดินรถไฟฟ้าได้
    เพราะอะไร?

    ✅ ญี่ปุ่นมีระบบเหล่านี้
    - เดินรถไฟด้วยความเร็วต่ำ เมื่อเกิดแผ่นดินไหว
    - แจ้งเตือนล่วงหน้าผ่านแอป-SMS ภายในไม่กี่วินาที
    - วางแผนเส้นทางขนส่งสำรอง
    - ซักซ้อมแผนอพยพทุกปี
    - มีจุดรวมตัวปลอดภัยพร้อมน้ำ อาหาร แพทย์

    ในขณะที่ไทย... ยังใช้เวลามากกว่า 30 นาที ในการแจ้งเตือนจากกรมอุตุ และกว่า 5 ชั่วโมงกว่าข้อความ SMS จะส่งถึงมือถือประชาชน 😓📵

    🧭 แนวทางที่ไทยควรทำ และยังไม่ได้ทำ
    - สร้างระบบแจ้งเตือนภัยแบบ Real-time ไม่ใช่ให้คนไปรู้ข่าวจาก Facebook ก่อน

    - เตรียมเส้นทางขนส่งสำรอง พร้อมแผนขนย้ายมวลชน ไม่ใช่หยุดรถไฟฟ้าแล้วไม่บอกอะไรเลย

    - กำหนดเกณฑ์การปิดระบบขนส่งให้ชัดเจน และสมเหตุสมผล หยุดเดินรถได้ แต่ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมา

    - ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรแบบ AI ให้รถฉุกเฉิน-รถช่วยเหลือเดินทางได้ง่ายขึ้น

    - สื่อสารแบบรวมศูนย์ ไม่ใช่หลายหน่วยงานพูดคนละทาง

    💬 เสียงประชาชน เหนื่อย ใจหาย และรู้สึกโดดเดี่ยว
    “ตอนแผ่นดินไหว ตึกสั่น เราวิ่งลงมา แต่พอถึงพื้นดิน กลับไม่มีทางกลับบ้าน”

    “แท็กซี่ไม่รับ รถเมล์ก็ไม่มี ต้องเดินจากอโศกไปบางนา”

    “ถ้ารัฐมีแผนที่ดีกว่านี้ เราคงไม่ต้องเสี่ยงชีวิตแบบนี้”

    🔚 อย่าปล่อยให้ภัยธรรมชาติ กลายเป็นภัยมนุษย์ แผ่นดินไหวครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ความรุนแรงทางธรรมชาติ แต่มันเปิดโปง “ความไร้ระบบ” ของรัฐในการรับมือวิกฤต

    ขนส่งล่ม = ความล้มเหลวของระบบราชการ

    ความเงียบของรัฐ = การทอดทิ้งประชาชน

    🎯 อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ครั้งหน้า เราต้องเตรียมพร้อมให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่เพื่อ “ความสะดวก” แต่เพื่อ “ความอยู่รอด” ของคนไทยทุกคน 🛑🇹🇭

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 291636 มี.ค. 2568

    📱 #แผ่นดินไหวเขย่าไทย #รัฐไร้แผน #ขนส่งล่ม #ไม่มีทางกลับบ้าน #รถไฟฟ้าหยุด #ภัยพิบัติ2025 #ต้องเดินเท้า #บริหารล้มเหลว #ข่าวปลอมภัยพิบัติ #ภัยธรรมชาติหรือมนุษย์
    🚨 แผ่นดินไหวเขย่าไทย รัฐไร้แผนฉุกเฉินรับมือ ถือโอกาสรีดเงิน เมินน้ำใจเพื่อนร่วมชาติ ขาดระบบขนส่งสาธารณะ รถเมล์ไม่เพียงพอ รอรถไฟฟ้า ประชาชนเดินเท้า ประชาชนรอความช่วยเหลือกลางถนน 🚷 ✍️ เหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 95 ปี เผยให้เห็นการขาดแผนฉุกเฉินของรัฐ ขนส่งสาธารณะล่มทั่วกรุงเทพฯ ประชาชนไร้ทางเลือก ต้องเดินเท้ากลับบ้าน ฝ่าวิกฤตกลางเมืองหลวง 🧭 เมื่อภัยธรรมชาติกระชากหน้ากาก "ระบบที่ไร้หัวใจ" บ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกติจูด จุดศูนย์กลางอยู่ในเมียนมา แต่แรงสั่นสะเทือนไม่ได้หยุดที่พรมแดน 🇲🇲 มันพัดผ่านเข้ามาในไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และภาคเหนืออย่างรุนแรง อาคารสูงโยกเยก 🚨 ผู้คนแตกตื่น วิ่งอพยพลงจากตึก แต่อะไรคือสิ่งที่น่าตกใจที่สุด? ไม่ใช่แค่แรงสั่นสะเทือน แต่คือ "ความไร้การเตรียมพร้อม" ของรัฐ และ "การล่มสลาย" ของระบบขนส่งสาธารณะ 🚆🛑 📌 แผ่นดินไหวคือภัยธรรมชาติ แต่การไร้แผนคือภัยจากรัฐ ไม่มีแผนการ ไม่มีการแจ้งเตือน ไม่มีทางเลือกในการเดินทาง คนจำนวนมากออกจากตึก กลับบ้านไม่ได้ 🚇 รถไฟฟ้าหยุด 🚌 รถเมล์ไม่พอ 🚕 แท็กซี่แพง 💸 ประชาชน “เดินเท้า” เป็นกิโลๆ เพื่อหาความปลอดภัย “หยุดให้บริการโดยไม่มีแผน คือการทิ้งประชาชนไว้กลางสนามรบ” 🪖 “นี่ไม่ใช่แค่ระบบขนส่งที่ล่ม แต่คือภาพสะท้อนของการบริหารจัดการ ที่ไม่มีหัวใจ” ❤️‍🩹 📉 ระบบขนส่งที่ “หยุดก่อนจำเป็น” ทำให้แย่ยิ่งกว่าเดิม 🚆 รถไฟฟ้าหยุดเดินโดยไม่มีกรอบเวลา รถไฟฟ้าทุกสายหยุดเดินรถมากกว่า 10 ชั่วโมง แต่ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีการแจ้งเวลาชัดเจน ประชาชน “ไร้ทิศทาง” ผู้คนอพยพล่าช้า ช่วยเหลือทำไม่ได้ นี่คือการแสดงให้เห็นว่า ระบบขนส่งในประเทศไทย ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อวิกฤต 🚌 รถเมล์ไม่พอวิ่ง-ไม่พอคน ถึงรัฐบอกจะส่งรถเมล์เพิ่ม แต่ความเป็นจริงคือ... รถติดทำให้รถเข้าไม่ถึง จำนวนเที่ยวไม่พอ ไม่มีการบริหารจัดการแบบคล่องตัว 🚖 ค่าโดยสารแพงเกินจริง 🚦 วินมอเตอร์ไซค์ 🚘 แกร็บ 🛻 แท็กซี่ ต่างอัพราคาค่าโดยสารสูงกว่าปกติ 2-3 เท่า เพราะ "ดีมานด์พุ่ง" แต่ "ซัพพลายหาย" 🏃‍♂️ เดินเท้าคือทางเลือกสุดท้าย ของคนไม่มีทางเลือก ในวันที่ขนส่งล่มทั้งเมือง คนหลายหมื่นต้องเดินเท้ากลับบ้าน ระยะทาง 5-10 กิโลเมตร 🚶‍♀️ ภาพที่เห็น - ผู้สูงอายุเดินจับมือกับหลานเล็ก - คนทำงานเดินกลับบ้านกลางดึก - เด็กนักเรียนที่ตกค้าง ต้องขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการเดินทาง แต่มันคือการเอาชีวิตรอด ในเมืองหลวงที่ไร้แผน ❗ ประเทศไทย "ยังไม่มี" แผนขนส่งฉุกเฉินที่ตอบโจทย์ แม้จะมีกฎหมาย พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แต่สิ่งที่หายไปคือ ✅ ความเร็วในการตอบสนอง ✅ ความเข้าใจพฤติกรรมผู้คน ✅ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ภัยพิบัติแผ่นดินไหว ไม่มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า รัฐต้องมี "แผนไว้ก่อน" ไม่ใช่ "แผนหลังเกิดเหตุ" 📊 ถอดบทเรียนจากต่างประเทศ ญี่ปุ่นทำอย่างไร? ญี่ปุ่น 🇯🇵 เผชิญแผ่นดินไหวบ่อย แต่ยังเดินรถไฟฟ้าได้ เพราะอะไร? ✅ ญี่ปุ่นมีระบบเหล่านี้ - เดินรถไฟด้วยความเร็วต่ำ เมื่อเกิดแผ่นดินไหว - แจ้งเตือนล่วงหน้าผ่านแอป-SMS ภายในไม่กี่วินาที - วางแผนเส้นทางขนส่งสำรอง - ซักซ้อมแผนอพยพทุกปี - มีจุดรวมตัวปลอดภัยพร้อมน้ำ อาหาร แพทย์ ในขณะที่ไทย... ยังใช้เวลามากกว่า 30 นาที ในการแจ้งเตือนจากกรมอุตุ และกว่า 5 ชั่วโมงกว่าข้อความ SMS จะส่งถึงมือถือประชาชน 😓📵 🧭 แนวทางที่ไทยควรทำ และยังไม่ได้ทำ - สร้างระบบแจ้งเตือนภัยแบบ Real-time ไม่ใช่ให้คนไปรู้ข่าวจาก Facebook ก่อน - เตรียมเส้นทางขนส่งสำรอง พร้อมแผนขนย้ายมวลชน ไม่ใช่หยุดรถไฟฟ้าแล้วไม่บอกอะไรเลย - กำหนดเกณฑ์การปิดระบบขนส่งให้ชัดเจน และสมเหตุสมผล หยุดเดินรถได้ แต่ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมา - ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรแบบ AI ให้รถฉุกเฉิน-รถช่วยเหลือเดินทางได้ง่ายขึ้น - สื่อสารแบบรวมศูนย์ ไม่ใช่หลายหน่วยงานพูดคนละทาง 💬 เสียงประชาชน เหนื่อย ใจหาย และรู้สึกโดดเดี่ยว “ตอนแผ่นดินไหว ตึกสั่น เราวิ่งลงมา แต่พอถึงพื้นดิน กลับไม่มีทางกลับบ้าน” “แท็กซี่ไม่รับ รถเมล์ก็ไม่มี ต้องเดินจากอโศกไปบางนา” “ถ้ารัฐมีแผนที่ดีกว่านี้ เราคงไม่ต้องเสี่ยงชีวิตแบบนี้” 🔚 อย่าปล่อยให้ภัยธรรมชาติ กลายเป็นภัยมนุษย์ แผ่นดินไหวครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ความรุนแรงทางธรรมชาติ แต่มันเปิดโปง “ความไร้ระบบ” ของรัฐในการรับมือวิกฤต ขนส่งล่ม = ความล้มเหลวของระบบราชการ ความเงียบของรัฐ = การทอดทิ้งประชาชน 🎯 อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ครั้งหน้า เราต้องเตรียมพร้อมให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่เพื่อ “ความสะดวก” แต่เพื่อ “ความอยู่รอด” ของคนไทยทุกคน 🛑🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 291636 มี.ค. 2568 📱 #แผ่นดินไหวเขย่าไทย #รัฐไร้แผน #ขนส่งล่ม #ไม่มีทางกลับบ้าน #รถไฟฟ้าหยุด #ภัยพิบัติ2025 #ต้องเดินเท้า #บริหารล้มเหลว #ข่าวปลอมภัยพิบัติ #ภัยธรรมชาติหรือมนุษย์
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบันคือ **ระบบ Earthquake Early Warning (EEW)** ของญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า **"ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้า (緊急地震速報, Kinkyū Jishin Sokuhō)"** ซึ่งดำเนินการโดย **Japan Meteorological Agency (JMA)**

    ### 🔍 **เหตุผลที่ญี่ปุ่นมีระบบที่ดีที่สุด**:
    1. **ความเร็วในการตรวจจับ**:
    - ญี่ปุ่นใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (Seismometers) จำนวนมากทั่วประเทศ ที่สามารถตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว (คลื่น P) ได้ทันทีและส่งสัญญาณเตือนภายในเวลา **ไม่กี่วินาที** ก่อนที่คลื่นทำลายล้าง (คลื่น S) จะมาถึง
    - ในบางกรณี สามารถแจ้งเตือนได้ **5-30 วินาที** ก่อนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง

    2. **การบูรณาการกับระบบสาธารณะ**:
    - การแจ้งเตือนถูกส่งไปยัง **โทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง** ในพื้นที่เสี่ยงผ่านระบบ **J-Alert**
    - ระบบกระจายเสียงผ่าน **ทีวี วิทยุ และลำโพงฉุกเฉิน**
    - บางเมืองยังเชื่อมกับระบบขนส่ง เช่น **รถไฟชินคันเซน** ที่หยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อได้รับสัญญาณเตือน

    3. **ความแม่นยำสูง**:
    - ญี่ปุ่นลงทุนในเทคโนโลยี AI และระบบประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อลด **ผลบวกปลอม (False Alarms)** และปรับปรุงความแม่นยำ

    4. **ประสบการณ์กับแผ่นดินไหว**:
    - ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย จึงมีการพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง เช่น หลังเหตุการณ์ **แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน (1995)** และ **โทโฮกุ (2011)**

    ### 🌍 **ระบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ**:
    - **สหรัฐอเมริกา (ShakeAlert)** – ใช้ในแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตัน
    - **เม็กซิโก (SASMEX)** – แจ้งเตือนในเม็กซิโกซิตี้
    - **ไต้หวัน** – มีระบบที่คล้ายญี่ปุ่น แต่ครอบคลุมพื้นที่เล็กกว่า
    - **จีนและอินโดนีเซีย** – กำลังพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ### ⚠️ **ข้อจำกัดของระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว**:
    - **เวลาเตือนสั้นมาก** (มักไม่เกิน 1 นาที)
    - **ไม่สามารถทำนายแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้า** แต่แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบคลื่นแรกเท่านั้น
    - **ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดศูนย์กลาง** (ถ้าอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ อาจได้รับแจ้งเตือนช้าหรือไม่ทัน)

    ### 🚨 **สรุป**:
    ญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน แต่ละประเทศก็พยายามปรับปรุงระบบของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดความสูญเสียจากภัยพิบัตินี้
    ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบันคือ **ระบบ Earthquake Early Warning (EEW)** ของญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า **"ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้า (緊急地震速報, Kinkyū Jishin Sokuhō)"** ซึ่งดำเนินการโดย **Japan Meteorological Agency (JMA)** ### 🔍 **เหตุผลที่ญี่ปุ่นมีระบบที่ดีที่สุด**: 1. **ความเร็วในการตรวจจับ**: - ญี่ปุ่นใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (Seismometers) จำนวนมากทั่วประเทศ ที่สามารถตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว (คลื่น P) ได้ทันทีและส่งสัญญาณเตือนภายในเวลา **ไม่กี่วินาที** ก่อนที่คลื่นทำลายล้าง (คลื่น S) จะมาถึง - ในบางกรณี สามารถแจ้งเตือนได้ **5-30 วินาที** ก่อนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง 2. **การบูรณาการกับระบบสาธารณะ**: - การแจ้งเตือนถูกส่งไปยัง **โทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง** ในพื้นที่เสี่ยงผ่านระบบ **J-Alert** - ระบบกระจายเสียงผ่าน **ทีวี วิทยุ และลำโพงฉุกเฉิน** - บางเมืองยังเชื่อมกับระบบขนส่ง เช่น **รถไฟชินคันเซน** ที่หยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อได้รับสัญญาณเตือน 3. **ความแม่นยำสูง**: - ญี่ปุ่นลงทุนในเทคโนโลยี AI และระบบประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อลด **ผลบวกปลอม (False Alarms)** และปรับปรุงความแม่นยำ 4. **ประสบการณ์กับแผ่นดินไหว**: - ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย จึงมีการพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง เช่น หลังเหตุการณ์ **แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน (1995)** และ **โทโฮกุ (2011)** ### 🌍 **ระบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ**: - **สหรัฐอเมริกา (ShakeAlert)** – ใช้ในแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตัน - **เม็กซิโก (SASMEX)** – แจ้งเตือนในเม็กซิโกซิตี้ - **ไต้หวัน** – มีระบบที่คล้ายญี่ปุ่น แต่ครอบคลุมพื้นที่เล็กกว่า - **จีนและอินโดนีเซีย** – กำลังพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ### ⚠️ **ข้อจำกัดของระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว**: - **เวลาเตือนสั้นมาก** (มักไม่เกิน 1 นาที) - **ไม่สามารถทำนายแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้า** แต่แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบคลื่นแรกเท่านั้น - **ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดศูนย์กลาง** (ถ้าอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ อาจได้รับแจ้งเตือนช้าหรือไม่ทัน) ### 🚨 **สรุป**: ญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน แต่ละประเทศก็พยายามปรับปรุงระบบของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดความสูญเสียจากภัยพิบัตินี้
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • แบตเตอรี่รุ่นใหม่ในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านความจุ ความเร็วในการชาร์จ ความปลอดภัย และอายุการใช้งาน นี่คือความคืบหน้าล่าสุดและเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง:

    ### 1. **แบตเตอรี่ Solid-State**
    - **ความคืบหน้า**: หลายบริษัทเช่น Toyota, QuantumScape และ Samsung SDI กำลังเร่งพัฒนาสู่การผลิตมวลชน คาดว่าจะเริ่มใช้ในรถไฟฟ้า (EV) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในปี 2025-2030
    - **จุดเด่น**:
    - ความหนาแน่นพลังงานสูงขึ้น (อาจถึง 2-3 เท่าของ Li-ion)
    - ชาร์จเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงการระเบิดหรือ overheating
    - อายุการใช้งานยาวนานกว่า

    ### 2. **แบตเตอรี่ Lithium-Sulfur (Li-S)**
    - **ความคืบหน้า**: บริษัทเช่น Oxis Energy และ Sion Power กำลังทดสอบในโดรนและอากาศยาน
    - **จุดเด่น**:
    - ความจุพลังงานสูงกว่าลิเธียม-ไอออนถึง 5 เท่า
    - วัสดุราคาถูกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่า

    ### 3. **เทคโนโลยี Silicon Anode**
    - **ความคืบหน้า**: Tesla, Panasonic และ Sila Nanotechnologies เริ่มใช้ซิลิกอนแทนกราไฟต์ในแอโนด
    - **จุดเด่น**:
    - เพิ่มความจุพลังงาน 20-40%
    - ชาร์จเร็วขึ้นโดยไม่ลดอายุการใช้งาน

    ### 4. **แบตเตอรี่ Sodium-Ion (แทน Lithium)**
    - **ความคืบหน้า**: CATL (ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีน) เริ่มผลิตแล้วในปี 2023
    - **จุดเด่น**:
    - ราคาถูกกว่าเพราะใช้โซเดียม (มีมากในธรรมชาติ)
    - ทำงานได้ดีในอุณหภูมิต่ำ

    ### 5. **นวัตกรรมการชาร์จ**
    - **Ultra-Fast Charging**: แบตเตอรี่รุ่นใหม่บางชนิดชาร์จได้ 80% ใน 15 นาที (เช่นในรถไฟฟ้ารุ่นล่าสุด)
    - **Wireless Charging**: เริ่มใช้ในสมาร์ทโฟนและรถไฟฟ้าแบบไร้สาย

    ### **สรุปการพัฒนา**
    - **ดีขึ้นชัดเจน** ในด้านความจุและความเร็ว แต่ยังมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและการผลิตมวลชน
    - **รถไฟฟ้าได้ประโยชน์มากสุด** จากแบตเตอรี่ความจุสูงและปลอดภัยขึ้น
    - **อุปกรณ์พกพา** เช่น สมาร์ทโฟนอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงช้ากว่า เน้นการชาร์จเร็วและอายุการใช้งาน

    คาดการณ์ว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้า แบตเตอรี่รุ่นใหม่จะลดราคาและแพร่หลาย ส่งผลให้รถไฟฟ้าราคาถูกลงและเก็บพลังงานสะอาดได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น!
    แบตเตอรี่รุ่นใหม่ในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านความจุ ความเร็วในการชาร์จ ความปลอดภัย และอายุการใช้งาน นี่คือความคืบหน้าล่าสุดและเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง: ### 1. **แบตเตอรี่ Solid-State** - **ความคืบหน้า**: หลายบริษัทเช่น Toyota, QuantumScape และ Samsung SDI กำลังเร่งพัฒนาสู่การผลิตมวลชน คาดว่าจะเริ่มใช้ในรถไฟฟ้า (EV) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในปี 2025-2030 - **จุดเด่น**: - ความหนาแน่นพลังงานสูงขึ้น (อาจถึง 2-3 เท่าของ Li-ion) - ชาร์จเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงการระเบิดหรือ overheating - อายุการใช้งานยาวนานกว่า ### 2. **แบตเตอรี่ Lithium-Sulfur (Li-S)** - **ความคืบหน้า**: บริษัทเช่น Oxis Energy และ Sion Power กำลังทดสอบในโดรนและอากาศยาน - **จุดเด่น**: - ความจุพลังงานสูงกว่าลิเธียม-ไอออนถึง 5 เท่า - วัสดุราคาถูกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่า ### 3. **เทคโนโลยี Silicon Anode** - **ความคืบหน้า**: Tesla, Panasonic และ Sila Nanotechnologies เริ่มใช้ซิลิกอนแทนกราไฟต์ในแอโนด - **จุดเด่น**: - เพิ่มความจุพลังงาน 20-40% - ชาร์จเร็วขึ้นโดยไม่ลดอายุการใช้งาน ### 4. **แบตเตอรี่ Sodium-Ion (แทน Lithium)** - **ความคืบหน้า**: CATL (ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีน) เริ่มผลิตแล้วในปี 2023 - **จุดเด่น**: - ราคาถูกกว่าเพราะใช้โซเดียม (มีมากในธรรมชาติ) - ทำงานได้ดีในอุณหภูมิต่ำ ### 5. **นวัตกรรมการชาร์จ** - **Ultra-Fast Charging**: แบตเตอรี่รุ่นใหม่บางชนิดชาร์จได้ 80% ใน 15 นาที (เช่นในรถไฟฟ้ารุ่นล่าสุด) - **Wireless Charging**: เริ่มใช้ในสมาร์ทโฟนและรถไฟฟ้าแบบไร้สาย ### **สรุปการพัฒนา** - **ดีขึ้นชัดเจน** ในด้านความจุและความเร็ว แต่ยังมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและการผลิตมวลชน - **รถไฟฟ้าได้ประโยชน์มากสุด** จากแบตเตอรี่ความจุสูงและปลอดภัยขึ้น - **อุปกรณ์พกพา** เช่น สมาร์ทโฟนอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงช้ากว่า เน้นการชาร์จเร็วและอายุการใช้งาน คาดการณ์ว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้า แบตเตอรี่รุ่นใหม่จะลดราคาและแพร่หลาย ส่งผลให้รถไฟฟ้าราคาถูกลงและเก็บพลังงานสะอาดได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น!
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • นายกฯ นั่งรถไฟใต้ดินดูความเรียบร้อยขนส่งสาธารณะ หลังเหตุแผ่นดินไหว ขอมั่นใจระบบขนส่งปลอดภัย สงสัยเหมือนชาวเน็ตถล่มแค่ตึกเดียว สั่งกรมโยธาฯ ตั้ง กก.สอบ ขีดเส้นใน 1 สัปดาห์

    เวลา 11.45 น. วันที่ 29 มี.ค.สถานีสนามไชย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมาขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสนามไชย เพื่อดูความเรียบร้อยด้านการคมนาคมและขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้าใต้ดิน ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อมาถึงรับฟังรายงานจาก นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รักษาการแทนผู้ว่าฯ ซึ่งรายงานว่าเมื่อเกิดเหตุได้อพยพผู้โดยสารขึ้นไปข้างบนเพื่อความปลอดภัยโดยไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ นายกฯยังสอบถามในวันเกิดเหตุมีส่วนใดของรถไฟฟ้าใต้ดินขัดข้องบ้าง ซึ่งได้รับรายงานว่า โครงสร้างไม่มีปัญหา มีแค่เศษฝาท่อที่อาจหลุดออกมา ซึ่งได้มีการแก้ไขแล้ว แต่ในส่วนของรถไฟสายสีชมพูและสีเหลืองยังปิดให้บริการชั่วคราวอีก 1 วันเพื่อตรวจสอบระบบความปลอดภัย เนื่องจากระบบค่อนข้างละเอียดและบอบบาง ซึ่งก่อนเปิดให้บริการจะทดลองวิ่งก่อน

    จากนั้นนายกฯ ขึ้นรถไฟใต้ดินร่วมขบวนกับประชาชน มาลงที่สถานีสีลม โดยได้ทักทายประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ให้ความสนใจ เมื่อมาถึงชาวต่างชาติได้เข้ามาพูดคุย โดย น.ส.แพทองธาร ได้สอบถามถึงความรู้สึกเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000029992

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    นายกฯ นั่งรถไฟใต้ดินดูความเรียบร้อยขนส่งสาธารณะ หลังเหตุแผ่นดินไหว ขอมั่นใจระบบขนส่งปลอดภัย สงสัยเหมือนชาวเน็ตถล่มแค่ตึกเดียว สั่งกรมโยธาฯ ตั้ง กก.สอบ ขีดเส้นใน 1 สัปดาห์ • เวลา 11.45 น. วันที่ 29 มี.ค.สถานีสนามไชย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมาขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสนามไชย เพื่อดูความเรียบร้อยด้านการคมนาคมและขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้าใต้ดิน ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อมาถึงรับฟังรายงานจาก นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รักษาการแทนผู้ว่าฯ ซึ่งรายงานว่าเมื่อเกิดเหตุได้อพยพผู้โดยสารขึ้นไปข้างบนเพื่อความปลอดภัยโดยไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ นายกฯยังสอบถามในวันเกิดเหตุมีส่วนใดของรถไฟฟ้าใต้ดินขัดข้องบ้าง ซึ่งได้รับรายงานว่า โครงสร้างไม่มีปัญหา มีแค่เศษฝาท่อที่อาจหลุดออกมา ซึ่งได้มีการแก้ไขแล้ว แต่ในส่วนของรถไฟสายสีชมพูและสีเหลืองยังปิดให้บริการชั่วคราวอีก 1 วันเพื่อตรวจสอบระบบความปลอดภัย เนื่องจากระบบค่อนข้างละเอียดและบอบบาง ซึ่งก่อนเปิดให้บริการจะทดลองวิ่งก่อน • จากนั้นนายกฯ ขึ้นรถไฟใต้ดินร่วมขบวนกับประชาชน มาลงที่สถานีสีลม โดยได้ทักทายประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ให้ความสนใจ เมื่อมาถึงชาวต่างชาติได้เข้ามาพูดคุย โดย น.ส.แพทองธาร ได้สอบถามถึงความรู้สึกเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000029992 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    0 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • "เปิดโฉมผู้รับเหมา หลังตึก สตง.ถล่ม! เจาะลึกโครงสร้างหุ้น 'ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10' ไทย-จีน ถือหุ้นสัดส่วนสูงสุดตามกฎหมาย พบกรรมการคนไทยร่วมถือหุ้นหลายบริษัท ด้านงบก่อสร้างพุ่ง 40% ใน 7 ปี ย้อนเกล็ด แม้ใช้ 'ข้อตกลงคุณธรรม'" แต่ความโปร่งใสแท้จริงอยู่ที่ไหน

    ข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งร่วมก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ หรือ สตง. ที่ถล่มลงมาจากเหตุการณ์แผนดินไหววานนี้ ( 28 มีนาคม) โดยจดทะเบียนเมื่อ 10 ส.ค. 2561 ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั้งอาคารสำนักงาน ทางรถไฟ และรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยมี นายชวนหลิง จาง และ นายโสภณ มีชัย เป็นกรรมการ

    ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดคือ ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จากประเทศจีน ถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 49% ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงสุดที่กฎหมายไทยอนุญาตให้ต่างชาติถือ ส่วนผู้ถือหุ้นไทยได้แก่

    1.นายโสภณ มีชัย (กรรมการ) ถือหุ้น 40.80% หรือ 407,997 หุ้น
    2.นายประจวบ ศิริเขตร ถือหุ้นย 10.20% หรือ 102,000 หุ้น
    3.นายมานัส ศรีอนันท์ ถือหุ้นเพียง 3 หุ้น

    นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบ นายโสภณ และ นายประจวบ ยังถือหุ้นในบริษัทอื่นอีก 5-6 แห่งขณะที่นายมานัสลงทุนในบริษัทอื่นๆอีกกว่า 11 บริษัท

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000029980

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    "เปิดโฉมผู้รับเหมา หลังตึก สตง.ถล่ม! เจาะลึกโครงสร้างหุ้น 'ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10' ไทย-จีน ถือหุ้นสัดส่วนสูงสุดตามกฎหมาย พบกรรมการคนไทยร่วมถือหุ้นหลายบริษัท ด้านงบก่อสร้างพุ่ง 40% ใน 7 ปี ย้อนเกล็ด แม้ใช้ 'ข้อตกลงคุณธรรม'" แต่ความโปร่งใสแท้จริงอยู่ที่ไหน • ข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งร่วมก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ หรือ สตง. ที่ถล่มลงมาจากเหตุการณ์แผนดินไหววานนี้ ( 28 มีนาคม) โดยจดทะเบียนเมื่อ 10 ส.ค. 2561 ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั้งอาคารสำนักงาน ทางรถไฟ และรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยมี นายชวนหลิง จาง และ นายโสภณ มีชัย เป็นกรรมการ • ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดคือ ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จากประเทศจีน ถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 49% ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงสุดที่กฎหมายไทยอนุญาตให้ต่างชาติถือ ส่วนผู้ถือหุ้นไทยได้แก่ • 1.นายโสภณ มีชัย (กรรมการ) ถือหุ้น 40.80% หรือ 407,997 หุ้น 2.นายประจวบ ศิริเขตร ถือหุ้นย 10.20% หรือ 102,000 หุ้น 3.นายมานัส ศรีอนันท์ ถือหุ้นเพียง 3 หุ้น • นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบ นายโสภณ และ นายประจวบ ยังถือหุ้นในบริษัทอื่นอีก 5-6 แห่งขณะที่นายมานัสลงทุนในบริษัทอื่นๆอีกกว่า 11 บริษัท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000029980 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • รีโพสต์จากเพจEnvironman 28 มีนาคม 2568 “ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แผ่นดินไหว แต่เห็นได้ชัดเลยว่าประเทศไทยและรัฐบาลยังไม่ไหว.เหตุการณ์วันนี้ยิ่งสาดส่องสปอตไลท์ในสิ่งที่ชัดอยู่แล้วให้ชัดยิ่งขึ้นไปอีก ว่าเราไม่มีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รู้ว่าจะถอดกันอีกกี่บทเรียน กว่าที่รัฐจะมีมาตรการเตรียมพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ .ใครมีความคิดเห็น มีอะไรจะเพิ่มก็เต็มที่เลยนะ แต่นี่คือสิ่งที่รับรู้ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้และนี่ไม่ใช่การถอดบทเรียนอะไรทั้งนั้น นี่คือการเล่าระบายล้วน ๆ.⚫️ 1. ประชาชนต้อง Emergency Alert กันเอง.จนถึงตอนนี้ ณ เวลาที่กำลังเขียน (19:52 น.) ข้าพเจ้ายังไม่ได้ SMS จากกระทรวงทบวงกรมใดๆ เลยขอรับ คือเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อย แต่หลังจากท่านนายกออกมาแถลงว่าจะมีการแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วงบ่ายสอง ตอนนี้อาฟเตอร์กันไปแล้วไม่รู้กี่ช็อค ก็ยังเงียบกริบ .อีกพาร์ทนึงก็ต้องชมคนไทยที่ใส่ใจโซเชียล ที่ช่วยกันอัพเดท แชร์ข้อมูล คอยรายงานให้ได้ติดตามกัน แต่มันคือช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่หรอ ที่ประชาชนอย่างเราจะหันไปหวังพึ่งรัฐ ที่ผู้เสียภาษีอย่างเราจะหวังพึ่งคุณภาพชีวิตพื้นฐานที่ควรได้รับ กลายเป็นว่าเราต้องเช็คกันเองว่าเกิดอะไรขึ้น เอาตรงๆ คือผมเป็นคนหนึ่งที่หาแถลงการณ์จากรัฐตอนเกิดเหตุ เพราะบางทีก็กลัวว่าชาวเน็ตบางกลุ่มจะเฟคนิวส์ล่อเอ็นเกจ แต่ก็ต้องผิดหวังต่อไป.⚫️ 2. หน้ามืด นอนน้อยกันทั้งแผ่นดิน.เชื่อแล้วว่าคนไทยทำงานหนักครับ 90% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คิดว่าตัวเองไม่สบาย’ ไม่มีใครคิดว่ามันคือแผ่นดินไหวเลย แต่ก็เข้าใจได้ ใครจะไปคิดว่าจะมีแผ่นดินไหวในไทย โดยเฉพาะชาวกทม. คือทุกคนเทไปว่าตัวเองโหมงาน นอนน้อยกันหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แอบเศร้าหน่อย ๆ นะ.ส่วนอีกเรื่องคือ 90% ของคนที่อยู่คอนโดอพาร์ตเม้นตท์ มีสัตว์เลี้ยงที่นิติไม่รู้ แต่จะมารู้ก็วันนี้แหละ ถ้าพูดให้ไม่ติดตลก ผมคิดว่าอยากให้สถานที่คำนึงถึงความเป็น Pet-Friendly ให้มากขึ้น ปัจจุบันมีคนมีสัตว์เลี้ยงเยอะมาก จะด้วยเพื่อแก้เหงาหรือเป็นยุคที่ไม่ค่อยอยากมีลูกหรืออะไรก็ว่าไป แต่ผมเห็นว่าพื้นที่ที่สามารถพาสัตว์ไปร่วมกิจกรรมกับเจ้าของนั้นมีน้อยมาก.⚫️ 3. ระบบขนส่งสาธารณะล่มสลาย.สัญชาตญาณแรกของคนหลังเกิดแผ่นดินไหวคือหาที่ปลอดภัย ซึ่งส่วนมากก็น่าจะนึกถึงบ้าน แต่ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดดูเหมือนจะไม่เพียงพอ ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีโปรโตคอลฉุกเฉิน ไม่มีช่องทางพิเศษ ไม่มีอะไรเลย การจราจรติดแหง็ก ผู้คนติดแหง็ก ไร้ทางออก เกิดอะไรขึ้นก็ไม่บอก จะเดินทางไปไหนก็ไม่ได้ .ญี่ปุ่นเวลาเจอแผ่นดินไหว ประเทศเขาจะสวิตช์เป็นโหมดฉุกเฉินทันที รถไฟฟ้าก็จะมีมาตรการฉุกเฉินในการรับมือ รัฐมีการตกลงกับบริษัทขนส่งเอกชน แท็กซี่ ให้ออกมาช่วยอพยพหรือขนถ่ายคนในช่วงที่รถไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ มีการจัดการควบคุมจราจรอย่างเข้มงวดให้คนไม่ติดแหง็กอยู่อย่างนั้น อีกเรื่องคือญี่ปุ่นมีศูนย์พักพิง คือใครที่ยังกลับบ้านไม่ได้ ก็มาพักรอก่อนได้ เอาจริงศูนย์พักพิงญี่ปุ่นคือมีอาหาร มีน้ำ มีอุปกรณ์พื้นฐานให้พร้อม ไม่ปล่อยให้ใครต้องเร่ร่อนอยู่บนถนน.ผมดักไว้ก่อนเลยว่าจะมีคนอ้างว่า ญี่ปุ่นเจอกับแผ่นดินไหวบ่อยจนชิน ของเรานี่แทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของใครหลายคนเลยนะ จะวิจารณ์ขนาดนั้นก็เกินไป แต่ต้องบอกว่าตอนนี้โลกเรารวนไปหมดแล้ว ปีนี้เราเห็นว่าเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมากมายทั่วโลก อยากลองชวนคนที่แย้งเรื่องทำไมผมถึงเอาเราไปเทียบกับญี่ปุ่น มาแลกเปลี่ยนโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดการเหตุฉุกเฉินพื้นฐานของบ้านเรามากกว่า พื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ควรรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดภัยพิบัติอื่นใดก็ตาม เพราะนี่คือโครงสร้างที่เราต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราติดท็อป 10 ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบจาก Climate Change ซึ่งจะมาในรูปแบบใดบ้างก็ไม่รู้.⚫️ 4. ระบบสาธารณสุขยังเปราะบาง.อันนี้เรามีบทเรียนจากโควิด-19 มาแล้ว แต่เหมือนจะยังถอดบทเรียนกันไม่เสร็จ การอพยพผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน หรือโซนที่ให้โรงพยาบาลยังสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยในช่วงวิกฤต ตามข่าวยังเห็นโรงพยาบาลเอาคนไข้ออกมาผ่าตัดกลางแจ้งเพราะเป็นเคสด่วนอยู่เลย ซึ่งนี่คือคำถาม นี่คือโจทย์ที่เราเอามาคิดตั้งแต่ตอนนี้จนถึงอนาคตว่าเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ เราจะรับมือและจะมีมาตรการอย่างไร .นี่ไม่ใช่การสักแต่ว่าจะด่าก็ด่านะครับ และใครจะหาว่าการเมืองก็เอาเถอะ แต่นี่เห็นได้ชัดเลยว่ารัฐบาลขาดความพร้อมอย่างมากในการรับมือ จริงอยู่ที่เราไม่ได้เจอแผ่นดินไหวเป็นประจำ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้น่ากลัวมาก ผมคิดว่ายิ่งช่วงเวลาแบบนี้ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี่แหละ ที่จะยิ่งเป็นตัววัดว่าเราโครงสร้างพื้นฐานเราพร้อมแค่ไหน ซึ่งผมคิดว่าไม่มีใครใกล้เคียงกับพร้อมเลย ไม่รู้ทุกคนว่ายังไง.เรื่องความปลอดภัยมันมากับความเชื่อมั่นด้วยนะ วันนี้ในกรุ๊ปแชทก็คือมีเพื่อนๆ พิมพ์มาว่า ‘กูจะมั่นใจโครงสร้างตึกไทยได้มากขนาดไหน’ ซึ่งเป็นตลกร้ายมาก ๆ ที่ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นกับอะไรพวกนี้ต่ำมาก ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นตรงกันข้าม .วันนี้เป็นวันที่ทุกคนควรจะมีคำถาม เราเคยเจอน้ำท่วม เจอพายุ เจอโควิด แต่เราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง ‘หรือเปล่า’ ? ผมเองมีคำว่าทำไมเยอะมาก ทำไมการแจ้งเตือนล่าช้ามาก ทำไมระบบขนส่งสาธารณะและสาธารณสุขถึงไม่พร้อม ทำไมคุณภาพชีวิตของเรามันเปราะบางขนาดนี้ ขออภัยที่ยาวและวนยืดเยื้อ แต่มันคือความอัดอั้นที่อยากแชร์ออกมา.สุดท้ายนี้ เราขอแสดงความเสียใจให้กับผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วยนะครับและขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยครับ
    รีโพสต์จากเพจEnvironman 28 มีนาคม 2568 “ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แผ่นดินไหว แต่เห็นได้ชัดเลยว่าประเทศไทยและรัฐบาลยังไม่ไหว.เหตุการณ์วันนี้ยิ่งสาดส่องสปอตไลท์ในสิ่งที่ชัดอยู่แล้วให้ชัดยิ่งขึ้นไปอีก ว่าเราไม่มีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รู้ว่าจะถอดกันอีกกี่บทเรียน กว่าที่รัฐจะมีมาตรการเตรียมพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ .ใครมีความคิดเห็น มีอะไรจะเพิ่มก็เต็มที่เลยนะ แต่นี่คือสิ่งที่รับรู้ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้และนี่ไม่ใช่การถอดบทเรียนอะไรทั้งนั้น นี่คือการเล่าระบายล้วน ๆ.⚫️ 1. ประชาชนต้อง Emergency Alert กันเอง.จนถึงตอนนี้ ณ เวลาที่กำลังเขียน (19:52 น.) ข้าพเจ้ายังไม่ได้ SMS จากกระทรวงทบวงกรมใดๆ เลยขอรับ คือเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อย แต่หลังจากท่านนายกออกมาแถลงว่าจะมีการแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วงบ่ายสอง ตอนนี้อาฟเตอร์กันไปแล้วไม่รู้กี่ช็อค ก็ยังเงียบกริบ .อีกพาร์ทนึงก็ต้องชมคนไทยที่ใส่ใจโซเชียล ที่ช่วยกันอัพเดท แชร์ข้อมูล คอยรายงานให้ได้ติดตามกัน แต่มันคือช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่หรอ ที่ประชาชนอย่างเราจะหันไปหวังพึ่งรัฐ ที่ผู้เสียภาษีอย่างเราจะหวังพึ่งคุณภาพชีวิตพื้นฐานที่ควรได้รับ กลายเป็นว่าเราต้องเช็คกันเองว่าเกิดอะไรขึ้น เอาตรงๆ คือผมเป็นคนหนึ่งที่หาแถลงการณ์จากรัฐตอนเกิดเหตุ เพราะบางทีก็กลัวว่าชาวเน็ตบางกลุ่มจะเฟคนิวส์ล่อเอ็นเกจ แต่ก็ต้องผิดหวังต่อไป.⚫️ 2. หน้ามืด นอนน้อยกันทั้งแผ่นดิน.เชื่อแล้วว่าคนไทยทำงานหนักครับ 90% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คิดว่าตัวเองไม่สบาย’ ไม่มีใครคิดว่ามันคือแผ่นดินไหวเลย แต่ก็เข้าใจได้ ใครจะไปคิดว่าจะมีแผ่นดินไหวในไทย โดยเฉพาะชาวกทม. คือทุกคนเทไปว่าตัวเองโหมงาน นอนน้อยกันหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แอบเศร้าหน่อย ๆ นะ.ส่วนอีกเรื่องคือ 90% ของคนที่อยู่คอนโดอพาร์ตเม้นตท์ มีสัตว์เลี้ยงที่นิติไม่รู้ แต่จะมารู้ก็วันนี้แหละ ถ้าพูดให้ไม่ติดตลก ผมคิดว่าอยากให้สถานที่คำนึงถึงความเป็น Pet-Friendly ให้มากขึ้น ปัจจุบันมีคนมีสัตว์เลี้ยงเยอะมาก จะด้วยเพื่อแก้เหงาหรือเป็นยุคที่ไม่ค่อยอยากมีลูกหรืออะไรก็ว่าไป แต่ผมเห็นว่าพื้นที่ที่สามารถพาสัตว์ไปร่วมกิจกรรมกับเจ้าของนั้นมีน้อยมาก.⚫️ 3. ระบบขนส่งสาธารณะล่มสลาย.สัญชาตญาณแรกของคนหลังเกิดแผ่นดินไหวคือหาที่ปลอดภัย ซึ่งส่วนมากก็น่าจะนึกถึงบ้าน แต่ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดดูเหมือนจะไม่เพียงพอ ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีโปรโตคอลฉุกเฉิน ไม่มีช่องทางพิเศษ ไม่มีอะไรเลย การจราจรติดแหง็ก ผู้คนติดแหง็ก ไร้ทางออก เกิดอะไรขึ้นก็ไม่บอก จะเดินทางไปไหนก็ไม่ได้ .ญี่ปุ่นเวลาเจอแผ่นดินไหว ประเทศเขาจะสวิตช์เป็นโหมดฉุกเฉินทันที รถไฟฟ้าก็จะมีมาตรการฉุกเฉินในการรับมือ รัฐมีการตกลงกับบริษัทขนส่งเอกชน แท็กซี่ ให้ออกมาช่วยอพยพหรือขนถ่ายคนในช่วงที่รถไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ มีการจัดการควบคุมจราจรอย่างเข้มงวดให้คนไม่ติดแหง็กอยู่อย่างนั้น อีกเรื่องคือญี่ปุ่นมีศูนย์พักพิง คือใครที่ยังกลับบ้านไม่ได้ ก็มาพักรอก่อนได้ เอาจริงศูนย์พักพิงญี่ปุ่นคือมีอาหาร มีน้ำ มีอุปกรณ์พื้นฐานให้พร้อม ไม่ปล่อยให้ใครต้องเร่ร่อนอยู่บนถนน.ผมดักไว้ก่อนเลยว่าจะมีคนอ้างว่า ญี่ปุ่นเจอกับแผ่นดินไหวบ่อยจนชิน ของเรานี่แทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของใครหลายคนเลยนะ จะวิจารณ์ขนาดนั้นก็เกินไป แต่ต้องบอกว่าตอนนี้โลกเรารวนไปหมดแล้ว ปีนี้เราเห็นว่าเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมากมายทั่วโลก อยากลองชวนคนที่แย้งเรื่องทำไมผมถึงเอาเราไปเทียบกับญี่ปุ่น มาแลกเปลี่ยนโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดการเหตุฉุกเฉินพื้นฐานของบ้านเรามากกว่า พื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ควรรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดภัยพิบัติอื่นใดก็ตาม เพราะนี่คือโครงสร้างที่เราต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราติดท็อป 10 ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบจาก Climate Change ซึ่งจะมาในรูปแบบใดบ้างก็ไม่รู้.⚫️ 4. ระบบสาธารณสุขยังเปราะบาง.อันนี้เรามีบทเรียนจากโควิด-19 มาแล้ว แต่เหมือนจะยังถอดบทเรียนกันไม่เสร็จ การอพยพผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน หรือโซนที่ให้โรงพยาบาลยังสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยในช่วงวิกฤต ตามข่าวยังเห็นโรงพยาบาลเอาคนไข้ออกมาผ่าตัดกลางแจ้งเพราะเป็นเคสด่วนอยู่เลย ซึ่งนี่คือคำถาม นี่คือโจทย์ที่เราเอามาคิดตั้งแต่ตอนนี้จนถึงอนาคตว่าเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ เราจะรับมือและจะมีมาตรการอย่างไร .นี่ไม่ใช่การสักแต่ว่าจะด่าก็ด่านะครับ และใครจะหาว่าการเมืองก็เอาเถอะ แต่นี่เห็นได้ชัดเลยว่ารัฐบาลขาดความพร้อมอย่างมากในการรับมือ จริงอยู่ที่เราไม่ได้เจอแผ่นดินไหวเป็นประจำ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้น่ากลัวมาก ผมคิดว่ายิ่งช่วงเวลาแบบนี้ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี่แหละ ที่จะยิ่งเป็นตัววัดว่าเราโครงสร้างพื้นฐานเราพร้อมแค่ไหน ซึ่งผมคิดว่าไม่มีใครใกล้เคียงกับพร้อมเลย ไม่รู้ทุกคนว่ายังไง.เรื่องความปลอดภัยมันมากับความเชื่อมั่นด้วยนะ วันนี้ในกรุ๊ปแชทก็คือมีเพื่อนๆ พิมพ์มาว่า ‘กูจะมั่นใจโครงสร้างตึกไทยได้มากขนาดไหน’ ซึ่งเป็นตลกร้ายมาก ๆ ที่ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นกับอะไรพวกนี้ต่ำมาก ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นตรงกันข้าม .วันนี้เป็นวันที่ทุกคนควรจะมีคำถาม เราเคยเจอน้ำท่วม เจอพายุ เจอโควิด แต่เราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง ‘หรือเปล่า’ ? ผมเองมีคำว่าทำไมเยอะมาก ทำไมการแจ้งเตือนล่าช้ามาก ทำไมระบบขนส่งสาธารณะและสาธารณสุขถึงไม่พร้อม ทำไมคุณภาพชีวิตของเรามันเปราะบางขนาดนี้ ขออภัยที่ยาวและวนยืดเยื้อ แต่มันคือความอัดอั้นที่อยากแชร์ออกมา.สุดท้ายนี้ เราขอแสดงความเสียใจให้กับผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วยนะครับและขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยครับ
    Like
    2
    1 Comments 1 Shares 147 Views 0 Reviews
  • รฟฟท. ส่งทีมงานวิศวกรและทีมงานความปลอดภัย เร่งตรวจสอบความปลอดภัยรถไฟสายสีแดงทุกระบบ โดยละเอียด สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ

    จากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นวันนี้ (28 มี.ค.68) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ได้ส่งทีมงานวิศวกรและทีมงานด้านความปลอดภัยลงพื้นที่เพื่อดำเนินการตรวจสอบระบบต่างๆทันที ได้แก่ ระบบรางรถไฟฟ้า ระบบสายส่งกระแสไฟฟ้า ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบสื่อสาร รวมถึงอาคารสถานีทุกสถานีอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้โดยสารเกิดความมั่นใจว่า รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงมีมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุดเพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชน

    โดยรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง มีความจำเป็นต้องหยุดให้บริการเป็นการชั่วคราว ซึ่งขณะนี้ ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือความเสียหายที่อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อการเปิดให้บริการประชาชน โดยบริษัทฯจะดำเนินการตรวจสอบทุกระบบตามขั้นตอนโดยละเอียด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้บริการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000029783

    #MGROnline #รถไฟสายสีแดง #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา
    รฟฟท. ส่งทีมงานวิศวกรและทีมงานความปลอดภัย เร่งตรวจสอบความปลอดภัยรถไฟสายสีแดงทุกระบบ โดยละเอียด สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ • จากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นวันนี้ (28 มี.ค.68) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ได้ส่งทีมงานวิศวกรและทีมงานด้านความปลอดภัยลงพื้นที่เพื่อดำเนินการตรวจสอบระบบต่างๆทันที ได้แก่ ระบบรางรถไฟฟ้า ระบบสายส่งกระแสไฟฟ้า ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบสื่อสาร รวมถึงอาคารสถานีทุกสถานีอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้โดยสารเกิดความมั่นใจว่า รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงมีมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุดเพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชน • โดยรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง มีความจำเป็นต้องหยุดให้บริการเป็นการชั่วคราว ซึ่งขณะนี้ ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือความเสียหายที่อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อการเปิดให้บริการประชาชน โดยบริษัทฯจะดำเนินการตรวจสอบทุกระบบตามขั้นตอนโดยละเอียด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้บริการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000029783 • #MGROnline #รถไฟสายสีแดง #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • "อิ๊งค์" โพสต์บินด่วนเข้ากรุง ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเหตุแผ่นดินไหว ขอยืนยันพื้นที่เสียหายอยู่ในวงจำกัด After Shock จะไม่รุนแรง ไม่มีทางเกิดสินามึ เผยกลับเข้าคอนโดได้ รถไฟฟ้าคาดเปิดบริการพรุ่งนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029741
    "อิ๊งค์" โพสต์บินด่วนเข้ากรุง ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเหตุแผ่นดินไหว ขอยืนยันพื้นที่เสียหายอยู่ในวงจำกัด After Shock จะไม่รุนแรง ไม่มีทางเกิดสินามึ เผยกลับเข้าคอนโดได้ รถไฟฟ้าคาดเปิดบริการพรุ่งนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029741
    Like
    3
    3 Comments 0 Shares 372 Views 0 Reviews
  • การจราจรในกรุงเทพมหานครรถติดเป็นอัมพาตหลังแผ่นดินไหว รถไฟฟ้าทุกสายหยุดให้บริการ ขณะที่ ขสมก. และไทยสมายล์บัส ให้บริการตามปกติ ทางด่วนเฉลิมมหานครปิดทางขึ้น-ลงด่านดินแดงชั่วคราว ส่วนถนนพระราม 2 ใช้งานได้ตามปกติ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000029698
    การจราจรในกรุงเทพมหานครรถติดเป็นอัมพาตหลังแผ่นดินไหว รถไฟฟ้าทุกสายหยุดให้บริการ ขณะที่ ขสมก. และไทยสมายล์บัส ให้บริการตามปกติ ทางด่วนเฉลิมมหานครปิดทางขึ้น-ลงด่านดินแดงชั่วคราว ส่วนถนนพระราม 2 ใช้งานได้ตามปกติ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000029698
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 590 Views 0 Reviews
  • คืบหน้ารอยเลื่อนสะกายเขย่า แผ่นดินไหวในเมียนมาครั้งใหญ่..แรงสั่นสะเทือนทำคานคอนกรีตทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ที่กำลังก่อสร้างถึงกับถล่ม ทับรถยนต์พังเสียหายหลายคัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029595
    คืบหน้ารอยเลื่อนสะกายเขย่า แผ่นดินไหวในเมียนมาครั้งใหญ่..แรงสั่นสะเทือนทำคานคอนกรีตทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ที่กำลังก่อสร้างถึงกับถล่ม ทับรถยนต์พังเสียหายหลายคัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029595
    Like
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 436 Views 0 Reviews
  • 5/
    ด่วน!!
    เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม.
    ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ

    เครดิตวิดีโอ "เปาบุ้นจุ้น"

    https://web.facebook.com/share/v/1GyEErbPh2/
    5/ ด่วน!! เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม. ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ เครดิตวิดีโอ "เปาบุ้นจุ้น" https://web.facebook.com/share/v/1GyEErbPh2/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 166 Views 30 0 Reviews
  • 4/
    ด่วน!!
    เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม.
    ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ

    เครดิตวิดีโอ "ออยศรีและผองเผือก"
    https://web.facebook.com/share/v/14x8WFQWYf/
    4/ ด่วน!! เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม. ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ เครดิตวิดีโอ "ออยศรีและผองเผือก" https://web.facebook.com/share/v/14x8WFQWYf/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 166 Views 23 0 Reviews
  • 3/
    ด่วน!!
    เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม.
    ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ
    .
    เครดิตวิดีโอ "คนสู้ชีวิต อดีตไม่สวยหลอกนะ"
    https://web.facebook.com/share/v/15W6D3B668/
    3/ ด่วน!! เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม. ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ . เครดิตวิดีโอ "คนสู้ชีวิต อดีตไม่สวยหลอกนะ" https://web.facebook.com/share/v/15W6D3B668/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 165 Views 31 0 Reviews
  • 2/
    ด่วน!!
    เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม.
    ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ
    .
    เครดิตวิดีโอ "คนสู้ชีวิต อดีตไม่สวยหลอกนะ"
    https://web.facebook.com/share/v/15W6D3B668/
    2/ ด่วน!! เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม. ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ . เครดิตวิดีโอ "คนสู้ชีวิต อดีตไม่สวยหลอกนะ" https://web.facebook.com/share/v/15W6D3B668/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 160 Views 27 0 Reviews
  • 1/
    ด่วน!!
    เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม.
    ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ
    .
    เครดิตวิดีโอ "คนสู้ชีวิต อดีตไม่สวยหลอกนะ"
    https://web.facebook.com/share/v/15W6D3B668/
    1/ ด่วน!! เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม. ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ . เครดิตวิดีโอ "คนสู้ชีวิต อดีตไม่สวยหลอกนะ" https://web.facebook.com/share/v/15W6D3B668/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • ตกลงเมิงสืบสัน.ดาน มิใช่สืบแสง ฟูมฟักดีเอ็นเอชั่ว แล้วยกระดับการปล้นแค่รถไฟไปสู่การปล้นทำล.ายชาติบ้านเมือง ไอ้กัณวีร์ เฟคมลายู หมูกะทะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #กัณวีร์
    #กัณวีร์หมูกระทะ
    ตกลงเมิงสืบสัน.ดาน มิใช่สืบแสง ฟูมฟักดีเอ็นเอชั่ว แล้วยกระดับการปล้นแค่รถไฟไปสู่การปล้นทำล.ายชาติบ้านเมือง ไอ้กัณวีร์ เฟคมลายู หมูกะทะ #คิงส์โพธิ์แดง #กัณวีร์ #กัณวีร์หมูกระทะ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • บอร์ด รฟท.เคาะแก้สัญญารถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ซี.พี.วางแบงก์การันตีเพิ่ม 1.52 แสนล้านบาท รัฐควักจ่ายเร็วสร้าง 5 ปีเสร็จ ไม่เสียเปรียบแถมประหยัดดอกเบี้ย 2.4 หมื่นล้าน และโอนทรัพย์สินเป็นของรัฐทันที ไม่ซ้ำรอยโฮปเวลล์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029288
    บอร์ด รฟท.เคาะแก้สัญญารถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ซี.พี.วางแบงก์การันตีเพิ่ม 1.52 แสนล้านบาท รัฐควักจ่ายเร็วสร้าง 5 ปีเสร็จ ไม่เสียเปรียบแถมประหยัดดอกเบี้ย 2.4 หมื่นล้าน และโอนทรัพย์สินเป็นของรัฐทันที ไม่ซ้ำรอยโฮปเวลล์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029288
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 665 Views 0 Reviews
  • Nissan กำลังคืนฟอร์มด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 3 รุ่น ทั้ง Leaf โฉมใหม่ในร่าง SUV ที่วิ่งได้ไกลกว่าเดิม Micra รุ่นน่ารักที่ดึงดูดลูกค้า และ Juke ที่ออกแบบทันสมัยเพื่อตลาดยุโรป การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ Nissan กลับมาสู่เส้นทางนวัตกรรมและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดรถไฟฟ้าได้อย่างลงตัว

    Leaf โฉมใหม่ในร่าง SUV:
    - Nissan Leaf รุ่นใหม่จะใช้แพลตฟอร์ม CMF-EV เดียวกับรุ่น Ariya พร้อมเพิ่มระยะการวิ่งได้เกินกว่า 372 ไมล์ เหมาะสำหรับการเดินทางไกล นอกจากนี้ยังเปลี่ยนมาใช้พอร์ตชาร์จ NACS ซึ่งสามารถใช้กับเครือข่าย Supercharger ของ Tesla ได้ เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าในอเมริกา.

    การออกแบบของ Micra รุ่นใหม่:
    - Micra ซึ่งใช้พื้นฐานร่วมกับ Renault 5 ถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ที่ "น่ารัก" และมีไฟหน้าแบบกลม LED ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากคอนเซปต์ 20-23 ที่เคยเปิดตัว.

    การกลับมาของ Juke รุ่นที่ 3:
    - Juke รุ่นใหม่จะมีการออกแบบที่ได้รับอิทธิพลจากแนวคิด Hyper Punk ซึ่งเพิ่มความทันสมัยและดึงดูดตลาดยุโรปอีกครั้ง.

    การตอบสนองต่อการแข่งขัน:
    - เมื่อเทียบกับคู่แข่งเช่น Kia, Hyundai และ Peugeot ที่มีไลน์อัพรถไฟฟ้าหลากหลาย Nissan มีความท้าทายอย่างมากในตลาด แต่การพัฒนานี้แสดงให้เห็นถึงการกลับมาสู่รากฐานของความคิดสร้างสรรค์และความกล้าที่เคยเป็นเอกลักษณ์.

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/nissan-is-back-to-its-bold-best-with-new-ev-lineup-thats-led-by-a-third-generation-leaf-and-yes-its-an-suv
    Nissan กำลังคืนฟอร์มด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 3 รุ่น ทั้ง Leaf โฉมใหม่ในร่าง SUV ที่วิ่งได้ไกลกว่าเดิม Micra รุ่นน่ารักที่ดึงดูดลูกค้า และ Juke ที่ออกแบบทันสมัยเพื่อตลาดยุโรป การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ Nissan กลับมาสู่เส้นทางนวัตกรรมและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดรถไฟฟ้าได้อย่างลงตัว Leaf โฉมใหม่ในร่าง SUV: - Nissan Leaf รุ่นใหม่จะใช้แพลตฟอร์ม CMF-EV เดียวกับรุ่น Ariya พร้อมเพิ่มระยะการวิ่งได้เกินกว่า 372 ไมล์ เหมาะสำหรับการเดินทางไกล นอกจากนี้ยังเปลี่ยนมาใช้พอร์ตชาร์จ NACS ซึ่งสามารถใช้กับเครือข่าย Supercharger ของ Tesla ได้ เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าในอเมริกา. การออกแบบของ Micra รุ่นใหม่: - Micra ซึ่งใช้พื้นฐานร่วมกับ Renault 5 ถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ที่ "น่ารัก" และมีไฟหน้าแบบกลม LED ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากคอนเซปต์ 20-23 ที่เคยเปิดตัว. การกลับมาของ Juke รุ่นที่ 3: - Juke รุ่นใหม่จะมีการออกแบบที่ได้รับอิทธิพลจากแนวคิด Hyper Punk ซึ่งเพิ่มความทันสมัยและดึงดูดตลาดยุโรปอีกครั้ง. การตอบสนองต่อการแข่งขัน: - เมื่อเทียบกับคู่แข่งเช่น Kia, Hyundai และ Peugeot ที่มีไลน์อัพรถไฟฟ้าหลากหลาย Nissan มีความท้าทายอย่างมากในตลาด แต่การพัฒนานี้แสดงให้เห็นถึงการกลับมาสู่รากฐานของความคิดสร้างสรรค์และความกล้าที่เคยเป็นเอกลักษณ์. https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/nissan-is-back-to-its-bold-best-with-new-ev-lineup-thats-led-by-a-third-generation-leaf-and-yes-its-an-suv
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ “การทูตประเทศใหญ่” ทางไชน่ามีเดียกรุ๊ป (CMG)

    เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษทางโทรศัพท์ในรายการ “การทูตประเทศใหญ่” ของทางไชน่ามีเดียกรุ๊ป (CMG) โดยมีการพูดคุยในประเด็นความสัมพันธ์จีน-ไทยในวาระ 50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การหลอกลวงทางโทรคมนาคม รวมถึงความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทยระยะที่ 2 โดยรายการสัมภาษณ์ดังกล่าวออกอากาศเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568

    ผู้สื่อข่าว CMG: ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวระหว่างการพบปะกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรของไทยว่ามิตรภาพจีน-ไทยมีรากฐานลึกซึ้งนับพันปี และคำกล่าวที่ว่า “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ยังมั่นคงเหนียวแน่นตลอดมา ในฐานะเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ท่านมองแนวคิดนี้อย่างไร และปีนี้มีความหมายพิเศษต่อความสัมพันธ์จีน-ไทยอย่างไร

    เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” มีความหมาย 3 ประการ คือจีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีที่เชื่อมต่อกันด้วยภูเขาและแม่น้ำ เป็นเครือญาติที่ดีที่เชื่อมต่อกันด้วยสายเลือด และเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่มีอนาคตร่วมกัน จีนและไทยร่วมมือกันบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน ความเท่าเทียม ความไว้วางใจระหว่างกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยเป็นแบบอย่างของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและการพัฒนาร่วมกัน เดือนพฤศจิกายน ปี 2565 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เดินทางเยือนประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ และได้ร่วมกับผู้นำไทยในการกำหนดวิสัยทัศน์การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน-ไทย ซึ่งเป็นการเติมเต็มความหมายของคำว่า “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ให้มีความหมายที่ทันสมัยมากขึ้น และชี้นำทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในอนาคต

    ปีนี้เป็นปีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับความสัมพันธ์จีน-ไทย เราได้กำหนดให้เป็น “ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย 50 ปี” รวมทั้งคำขวัญร่วมกันว่า “จีน - ไทยสานใจกัน ร่วมสร้างฝันประชาคม” สำหรับปีนี้ เราจะใช้โอกาสสำคัญนี้ในการสรุปประสบการณ์อันเป็นประโยชน์จากการร่วมมือกันตลอด 50 ปีที่ผ่านมา และเปิดศักราชใหม่แห่งความสัมพันธ์จีน-ไทยในอนาคต

    ผู้สื่อข่าว CMG: ปัจจุบัน จีนและไทยกำลังดำเนินความร่วมมือหลายโครงการเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์ เช่น การหลอกลวงทางโทรศัพท์และออนไลน์ โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองเมียวดีของเมียนมา ความคืบหน้าของปฏิบัติการนี้เป็นอย่างไร

    เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: การหลอกลวงทางไซเบอร์เป็นภัยคุกคามข้ามพรมแดนที่มีความซับซ้อน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะในเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของแก๊งอาชญากรรมทางไซเบอร์ ช่วงที่ผ่านมา จีน-ไทย-เมียนมา ได้ร่วมมือกันเปิดปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ ทำให้สามารถทำลายเครือข่ายอาชญากรรมได้หลายจุด และจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสามประเทศในการปราบปรามการหลอกลวงทางไซเบอร์และปกป้องความมั่นคงในภูมิภาค

    ก้าวต่อไป จีน-ไทย-เมียนมาจะดำเนินมาตรการปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดนเช่นการหลอกลวงทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง เราจะขยายความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกบังคับให้กระทำผิด จับกุมตัวการใหญ่ของกลุ่มอาชญากรและกวาดล้างศูนย์คอลเซ็นเตอร์ เพื่อปกป้องความปลอดภัยทางชีวิตและทรัพย์สินของพลเมืองจีนและประชาชนของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค

    ผู้สื่อข่าว CMG: คณะรัฐมนตรีไทยได้อนุมัติแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-ไทย ระยะที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2573 แม้ว่าระยะที่ 1 ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลไทยตัดสินใจเดินหน้าโครงการนี้

    เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: ในระหว่างการเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ผู้นำทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟจีน-ไทย และการส่งเสริมแนวคิดการเชื่อมโยงระหว่างจีน-ลาว-ไทยอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายไทยได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟจีน-ไทย ระยะที่ 1 และจะเริ่มต้นโครงการระยะที่ 2 ภายในปีนี้

    ฝ่ายไทยได้อนุมัติแผนการก่อสร้างโครงการระยะที่ 2 ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยต่อโครงการรถไฟจีน-ไทย และมีความหมายสำคัญต่อการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เราชื่นชมในการตัดสินใจของฝ่ายไทย และท่าทีที่แสดงถึงความมุ่งมั่นนี้อย่างสูง ฝ่ายจีนก็จะให้การสนับสนุนและความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อให้โครงการดำเนินไปอย่างราบรื่น

    ในความเป็นจริงนั้น รถไฟจีน-ไทยเป็นเส้นทางการคมนาคมทางบกเส้นใหม่ระหว่างจีนและไทย และยังเป็นส่วนสำคัญของเส้นทางการคมนาคมหลักในคาบสมุทรอินโดจีน ทุกคนทราบดีว่า รถไฟจีน-ลาว ได้เปิดให้บริการมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว การที่รถไฟจีน-ไทยแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการเชื่อมโยงระหว่างจีน-ลาว-ไทย และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนทั้งสามประเทศ ในอนาคต รถไฟจีน-ไทยจะขยายไปทางทิศใต้เชื่อมต่อกับเครือข่ายรถไฟของมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างจีนกับประเทศในอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

    ผู้สื่อข่าว CMG: ไทยเพิ่งได้รับการรับรองให้เป็นหุ้นส่วนพันธมิตรของกลุ่มประเทศ BRICS อย่างเป็นทางการ อีกทั้งในกลไกต่าง ๆ เช่น ความร่วมมือจีน-อาเซียน และความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ไทยก็มีบทบาทสำคัญ ในสถานการณ์ปัจจุบัน จีนและไทยจะร่วมกันเสริมสร้างบทบาทกลไกพหุภาคีของประเทศโลกใต้ (Global South) อย่างไร

    เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: ไทยเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือพันธมิตรที่สำคัญของจีนในกลไกพหุภาคี อีกทั้งเป็นสมาชิกสำคัญของอาเซียน และได้เข้าร่วมกลุ่ม BRICS อย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังเป็นประธานร่วมของความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง และมีบทบาทสำคัญในหลายองค์กรระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค

    จากสถานการณ์ระหว่างประเทศในปัจจุบันที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง กลุ่มประเทศโลกใต้ กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทาย ไทยได้แสดงการสนับสนุนอย่างชัดเจนต่อแนวคิดการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างมนุษยชาติ รวมถึงการสนับสนุนแนวคิดการพัฒนาระดับโลก แนวคิดความมั่นคงระดับโลก และแนวคิดอารยธรรมระดับโลก ซึ่งเสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน จีนและไทยควรเสริมสร้างการสื่อสารและความร่วมมือให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งผลักดันและปฏิบัติตามหลักการพหุภาคีและการเปิดกว้างในระดับภูมิภาคให้เห็นเป็นรูปธรรมที่แท้จริง เพื่อร่วมส่งเสริมความหลากหลายและความเป็นระเบียบของโลก ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและเป็นธรรม เพื่อร่วมกันสร้างระบบการปกครองโลกตามหลักธรรมาภิบาลอย่างสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/18t7wHFRgk/?mibextid=wwXIfr
    เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ “การทูตประเทศใหญ่” ทางไชน่ามีเดียกรุ๊ป (CMG) เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษทางโทรศัพท์ในรายการ “การทูตประเทศใหญ่” ของทางไชน่ามีเดียกรุ๊ป (CMG) โดยมีการพูดคุยในประเด็นความสัมพันธ์จีน-ไทยในวาระ 50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การหลอกลวงทางโทรคมนาคม รวมถึงความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทยระยะที่ 2 โดยรายการสัมภาษณ์ดังกล่าวออกอากาศเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าว CMG: ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวระหว่างการพบปะกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรของไทยว่ามิตรภาพจีน-ไทยมีรากฐานลึกซึ้งนับพันปี และคำกล่าวที่ว่า “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ยังมั่นคงเหนียวแน่นตลอดมา ในฐานะเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ท่านมองแนวคิดนี้อย่างไร และปีนี้มีความหมายพิเศษต่อความสัมพันธ์จีน-ไทยอย่างไร เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” มีความหมาย 3 ประการ คือจีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีที่เชื่อมต่อกันด้วยภูเขาและแม่น้ำ เป็นเครือญาติที่ดีที่เชื่อมต่อกันด้วยสายเลือด และเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่มีอนาคตร่วมกัน จีนและไทยร่วมมือกันบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน ความเท่าเทียม ความไว้วางใจระหว่างกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยเป็นแบบอย่างของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและการพัฒนาร่วมกัน เดือนพฤศจิกายน ปี 2565 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เดินทางเยือนประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ และได้ร่วมกับผู้นำไทยในการกำหนดวิสัยทัศน์การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน-ไทย ซึ่งเป็นการเติมเต็มความหมายของคำว่า “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ให้มีความหมายที่ทันสมัยมากขึ้น และชี้นำทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในอนาคต ปีนี้เป็นปีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับความสัมพันธ์จีน-ไทย เราได้กำหนดให้เป็น “ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย 50 ปี” รวมทั้งคำขวัญร่วมกันว่า “จีน - ไทยสานใจกัน ร่วมสร้างฝันประชาคม” สำหรับปีนี้ เราจะใช้โอกาสสำคัญนี้ในการสรุปประสบการณ์อันเป็นประโยชน์จากการร่วมมือกันตลอด 50 ปีที่ผ่านมา และเปิดศักราชใหม่แห่งความสัมพันธ์จีน-ไทยในอนาคต ผู้สื่อข่าว CMG: ปัจจุบัน จีนและไทยกำลังดำเนินความร่วมมือหลายโครงการเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์ เช่น การหลอกลวงทางโทรศัพท์และออนไลน์ โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองเมียวดีของเมียนมา ความคืบหน้าของปฏิบัติการนี้เป็นอย่างไร เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: การหลอกลวงทางไซเบอร์เป็นภัยคุกคามข้ามพรมแดนที่มีความซับซ้อน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะในเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของแก๊งอาชญากรรมทางไซเบอร์ ช่วงที่ผ่านมา จีน-ไทย-เมียนมา ได้ร่วมมือกันเปิดปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ ทำให้สามารถทำลายเครือข่ายอาชญากรรมได้หลายจุด และจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสามประเทศในการปราบปรามการหลอกลวงทางไซเบอร์และปกป้องความมั่นคงในภูมิภาค ก้าวต่อไป จีน-ไทย-เมียนมาจะดำเนินมาตรการปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดนเช่นการหลอกลวงทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง เราจะขยายความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกบังคับให้กระทำผิด จับกุมตัวการใหญ่ของกลุ่มอาชญากรและกวาดล้างศูนย์คอลเซ็นเตอร์ เพื่อปกป้องความปลอดภัยทางชีวิตและทรัพย์สินของพลเมืองจีนและประชาชนของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค ผู้สื่อข่าว CMG: คณะรัฐมนตรีไทยได้อนุมัติแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-ไทย ระยะที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2573 แม้ว่าระยะที่ 1 ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลไทยตัดสินใจเดินหน้าโครงการนี้ เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: ในระหว่างการเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ผู้นำทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟจีน-ไทย และการส่งเสริมแนวคิดการเชื่อมโยงระหว่างจีน-ลาว-ไทยอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายไทยได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟจีน-ไทย ระยะที่ 1 และจะเริ่มต้นโครงการระยะที่ 2 ภายในปีนี้ ฝ่ายไทยได้อนุมัติแผนการก่อสร้างโครงการระยะที่ 2 ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยต่อโครงการรถไฟจีน-ไทย และมีความหมายสำคัญต่อการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เราชื่นชมในการตัดสินใจของฝ่ายไทย และท่าทีที่แสดงถึงความมุ่งมั่นนี้อย่างสูง ฝ่ายจีนก็จะให้การสนับสนุนและความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อให้โครงการดำเนินไปอย่างราบรื่น ในความเป็นจริงนั้น รถไฟจีน-ไทยเป็นเส้นทางการคมนาคมทางบกเส้นใหม่ระหว่างจีนและไทย และยังเป็นส่วนสำคัญของเส้นทางการคมนาคมหลักในคาบสมุทรอินโดจีน ทุกคนทราบดีว่า รถไฟจีน-ลาว ได้เปิดให้บริการมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว การที่รถไฟจีน-ไทยแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการเชื่อมโยงระหว่างจีน-ลาว-ไทย และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนทั้งสามประเทศ ในอนาคต รถไฟจีน-ไทยจะขยายไปทางทิศใต้เชื่อมต่อกับเครือข่ายรถไฟของมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างจีนกับประเทศในอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผู้สื่อข่าว CMG: ไทยเพิ่งได้รับการรับรองให้เป็นหุ้นส่วนพันธมิตรของกลุ่มประเทศ BRICS อย่างเป็นทางการ อีกทั้งในกลไกต่าง ๆ เช่น ความร่วมมือจีน-อาเซียน และความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ไทยก็มีบทบาทสำคัญ ในสถานการณ์ปัจจุบัน จีนและไทยจะร่วมกันเสริมสร้างบทบาทกลไกพหุภาคีของประเทศโลกใต้ (Global South) อย่างไร เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: ไทยเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือพันธมิตรที่สำคัญของจีนในกลไกพหุภาคี อีกทั้งเป็นสมาชิกสำคัญของอาเซียน และได้เข้าร่วมกลุ่ม BRICS อย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังเป็นประธานร่วมของความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง และมีบทบาทสำคัญในหลายองค์กรระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค จากสถานการณ์ระหว่างประเทศในปัจจุบันที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง กลุ่มประเทศโลกใต้ กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทาย ไทยได้แสดงการสนับสนุนอย่างชัดเจนต่อแนวคิดการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างมนุษยชาติ รวมถึงการสนับสนุนแนวคิดการพัฒนาระดับโลก แนวคิดความมั่นคงระดับโลก และแนวคิดอารยธรรมระดับโลก ซึ่งเสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน จีนและไทยควรเสริมสร้างการสื่อสารและความร่วมมือให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งผลักดันและปฏิบัติตามหลักการพหุภาคีและการเปิดกว้างในระดับภูมิภาคให้เห็นเป็นรูปธรรมที่แท้จริง เพื่อร่วมส่งเสริมความหลากหลายและความเป็นระเบียบของโลก ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและเป็นธรรม เพื่อร่วมกันสร้างระบบการปกครองโลกตามหลักธรรมาภิบาลอย่างสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น ที่มา https://www.facebook.com/share/p/18t7wHFRgk/?mibextid=wwXIfr
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
  • ตะลึงทั้งงาน! 🚘💦 นี่คือรถ ไม่ใช่เรือ BYD YANGWANG U8 รถไฟฟ้าลอยน้ำได้ บุกไทยแล้ว! ลุยน้ำลึก 1.6 เมตร อยู่ได้นาน 30 นาที 👉🏻 https://www.ejan.co/auto/ja0hre2qaf5
    ตะลึงทั้งงาน! 🚘💦 นี่คือรถ ไม่ใช่เรือ BYD YANGWANG U8 รถไฟฟ้าลอยน้ำได้ บุกไทยแล้ว! ลุยน้ำลึก 1.6 เมตร อยู่ได้นาน 30 นาที 👉🏻 https://www.ejan.co/auto/ja0hre2qaf5
    WWW.EJAN.CO
    BYD YANGWANG U8 EVลอยน้ำได้! เปิดตัวในไทยที่ Motor Show 2025
    ครั้งแรกในไทย! BYD YANGWANG U8 รถ SUV ไฟฟ้าสุดล้ำ ลุยน้ำลึก 1.6 เมตรและลอยน้ำได…
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • 🌸✨ ทัวร์ไต้หวันสงกรานต์! ✨🌸
    10-14 เม.ย. 2025 ราคาเพียง 24,990 บาท 💥
    ⏳ เหลือ 5 ท่านสุดท้าย! รีบจองด่วน! 🚨

    🚂 เที่ยวครบจบใน 5 วัน!
    - เมืองเจียอี้ 🏙️
    - อุทยานแห่งชาติอาลีซาน 🌲
    - รถไฟสายโบราณ 🚋
    - ร้านชาอู่หลง 🍵
    - ร้านเอ็นไซม์ 🧴
    - วัดต้าซี 🏯
    - เมืองไทเป 🏙️
    - หมู่บ้านประวัติศาสตร์ซื่อซื่อหนันซุน ⛩️
    - ถ่ายรูปคู่ตึกไทเป 101 🏢
    - วัดหลงซาน 🛕
    - ศูนย์สร้อยสุขภาพ 💎
    - ร้านขนมพายสับปะรด 🍍
    - อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก 🇹🇼
    - ซีเหมินติง 🛍️
    - ร้านเครื่องสำอาง 💄
    - บูราโนแห่งไต้หวัน 🌊
    - หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น 🏘️
    - เมืองผิงซี 🌄
    - ช้อปปิ้งที่ห้างเอาท์เล็ทมิตซุย 🛒

    📅 ทัวร์สงกรานต์ 5 วัน 4 คืน ครบทุกไฮไลต์! 🌟

    #ทัวร์ไต้หวัน #สงกรานต์2025 #เที่ยวไต้หวัน #ทัวร์ไต้หวันราคาถูก #สงกรานต์สุดคุ้ม #อาลีซาน #ไทเป #เที่ยวไทเป #ทัวร์ลดราคา #สงกรานต์กับเพื่อน

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e09e92

    ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/b999ee

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395
    🌸✨ ทัวร์ไต้หวันสงกรานต์! ✨🌸 10-14 เม.ย. 2025 ราคาเพียง 24,990 บาท 💥 ⏳ เหลือ 5 ท่านสุดท้าย! รีบจองด่วน! 🚨 🚂 เที่ยวครบจบใน 5 วัน! - เมืองเจียอี้ 🏙️ - อุทยานแห่งชาติอาลีซาน 🌲 - รถไฟสายโบราณ 🚋 - ร้านชาอู่หลง 🍵 - ร้านเอ็นไซม์ 🧴 - วัดต้าซี 🏯 - เมืองไทเป 🏙️ - หมู่บ้านประวัติศาสตร์ซื่อซื่อหนันซุน ⛩️ - ถ่ายรูปคู่ตึกไทเป 101 🏢 - วัดหลงซาน 🛕 - ศูนย์สร้อยสุขภาพ 💎 - ร้านขนมพายสับปะรด 🍍 - อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก 🇹🇼 - ซีเหมินติง 🛍️ - ร้านเครื่องสำอาง 💄 - บูราโนแห่งไต้หวัน 🌊 - หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น 🏘️ - เมืองผิงซี 🌄 - ช้อปปิ้งที่ห้างเอาท์เล็ทมิตซุย 🛒 📅 ทัวร์สงกรานต์ 5 วัน 4 คืน ครบทุกไฮไลต์! 🌟 #ทัวร์ไต้หวัน #สงกรานต์2025 #เที่ยวไต้หวัน #ทัวร์ไต้หวันราคาถูก #สงกรานต์สุดคุ้ม #อาลีซาน #ไทเป #เที่ยวไทเป #ทัวร์ลดราคา #สงกรานต์กับเพื่อน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e09e92 ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/b999ee LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • ภาพถนนยุบตัว เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่เหนืออุโมงค์รถไฟใต้ดินที่กำลังก่อสร้างในกรุงโซล เกาหลีใต้ ชายขี่มอเตอร์ไซค์วัย 33 ปี เคราะห์ร้ายเสียชีวิตหลังตกลงไปในหลุมที่ลึก 20 เมตร และต้องใช้เวลานานถึง 18 ชั่วโมงในการนำร่างของเขาขึ้นจากหลุม
    ภาพถนนยุบตัว เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่เหนืออุโมงค์รถไฟใต้ดินที่กำลังก่อสร้างในกรุงโซล เกาหลีใต้ ชายขี่มอเตอร์ไซค์วัย 33 ปี เคราะห์ร้ายเสียชีวิตหลังตกลงไปในหลุมที่ลึก 20 เมตร และต้องใช้เวลานานถึง 18 ชั่วโมงในการนำร่างของเขาขึ้นจากหลุม
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 229 Views 31 0 Reviews
  • มาเลย์ฯ ซื้อรถไฟเพิ่ม ป้อน Komuter สายเหนือ

    การตรวจเยี่ยมการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ของนายแอนโธนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เริ่มตั้งแต่การไปเยือนสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าขยายเส้นทางการให้บริการรถไฟฟ้าทางไกล ETS ช่วงเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru) ระยะทาง 192 กิโลเมตร ที่คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2568 ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางระหว่างสถานี KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ กับสถานี JB Sentral เมืองยะโฮร์บาห์รู ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง 30 นาที

    รมว.คมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวเบอร์นามาว่า การขยายเส้นทางเดินรถไฟ ETS แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะแรกไปยังสถานีเซกามัต ระยะที่สองไปยังสถานีกลวง (Kluang) และระยะที่สามไปยังสถานี JB Sentral พร้อมกันนี้ รถไฟรุ่นใหม่ ETS3 ที่สั่งซื้อจากประเทศจีน 2 ขบวนแรกจากทั้งหมด 10 ขบวน คาดว่าจะมาถึงประเทศมาเลเซียในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งจะนำมาประกอบที่ศูนย์ซ่อมบำรุงเมืองบาตูกาจาห์ รัฐเปรัก ก่อนทดสอบระบบและนำมาใช้ในเดือน ส.ค. ไม่ต้องรอให้ครบ 10 ขบวน

    นับจากนี้รถไฟ ETS จะเดินรถตลอดแนวประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ชายแดนมาเลเซีย-ไทยทางตอนเหนือ และชายแดนมาเลเซีย-สิงคโปร์ทางตอนใต้ พร้อมกันนี้ จะเสนอบริการชั้นธุรกิจแบบพรีเมียมเพื่อมอบความสะดวกแก่ผู้โดยสาร

    วันต่อมา นายแอนโธนี่ไปยังสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) รัฐเปอร์ลิส เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการท่าเรือบกเปอร์ลิส (PIP) ระยะที่ 1 ก่อนจะเดินทางต่อด้วยรถไฟ KTM Komuter Utara จากสถานีปาดังเบซาร์ไปยังสถานีอลอร์สตาร์ (Alor Setar) รัฐเคดะห์ โดยเปิดเผยว่ารัฐบาลกลางมาเลเซียได้จัดหารถไฟชุดใหม่แบบ 3 ตู้โดยสาร จำนวน 12 ขบวนเพื่อให้บริการเพิ่มเติม งบประมาณ 283 ล้านริงกิต (2,164.34 ล้านบาท) คาดว่ารถไฟขบวนแรกจะถูกส่งมอบภายใน 22 เดือน

    อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญในการให้บริการคือการโจรกรรมสายเคเบิล ซึ่งกระทบต่อการเดินรถอย่างมาก สร้างความเสียหายกว่า 1.35 ล้านริงกิต (10.32 ล้านบาท) ซึ่งกระทรวงคมนาคมมาเลเซียจะร่วมกับตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมปรับปรุงอุปกรณ์เครือข่าย เครื่องนับเพลา (Axle Counter) งบประมาณ 12.8 ล้านริงกิต (97.89 ล้านบาท) ใช้ระยะเวลา 3 ปี รวมทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิด การใช้โดรน การติดตั้งรั้วป้องกันการปีน และติดตั้งฝาปิดท่อระบายน้ำแบบล็อกขั้นสูง

    อนึ่ง ในปี 2567 รถไฟ KTM Komuter Utara สายเหนือ ช่วงบัตเตอร์เวิร์ธ-ปาดังเบซาร์ และบัตเตอร์เวิร์ธ-อิโปห์ มีผู้โดยสารเฉลี่ย 16,363 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ผู้โดยสารเฉลี่ย 12,668 คนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 29%

    #Newskit
    มาเลย์ฯ ซื้อรถไฟเพิ่ม ป้อน Komuter สายเหนือ การตรวจเยี่ยมการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ของนายแอนโธนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เริ่มตั้งแต่การไปเยือนสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าขยายเส้นทางการให้บริการรถไฟฟ้าทางไกล ETS ช่วงเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru) ระยะทาง 192 กิโลเมตร ที่คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2568 ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางระหว่างสถานี KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ กับสถานี JB Sentral เมืองยะโฮร์บาห์รู ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง 30 นาที รมว.คมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวเบอร์นามาว่า การขยายเส้นทางเดินรถไฟ ETS แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะแรกไปยังสถานีเซกามัต ระยะที่สองไปยังสถานีกลวง (Kluang) และระยะที่สามไปยังสถานี JB Sentral พร้อมกันนี้ รถไฟรุ่นใหม่ ETS3 ที่สั่งซื้อจากประเทศจีน 2 ขบวนแรกจากทั้งหมด 10 ขบวน คาดว่าจะมาถึงประเทศมาเลเซียในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งจะนำมาประกอบที่ศูนย์ซ่อมบำรุงเมืองบาตูกาจาห์ รัฐเปรัก ก่อนทดสอบระบบและนำมาใช้ในเดือน ส.ค. ไม่ต้องรอให้ครบ 10 ขบวน นับจากนี้รถไฟ ETS จะเดินรถตลอดแนวประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ชายแดนมาเลเซีย-ไทยทางตอนเหนือ และชายแดนมาเลเซีย-สิงคโปร์ทางตอนใต้ พร้อมกันนี้ จะเสนอบริการชั้นธุรกิจแบบพรีเมียมเพื่อมอบความสะดวกแก่ผู้โดยสาร วันต่อมา นายแอนโธนี่ไปยังสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) รัฐเปอร์ลิส เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการท่าเรือบกเปอร์ลิส (PIP) ระยะที่ 1 ก่อนจะเดินทางต่อด้วยรถไฟ KTM Komuter Utara จากสถานีปาดังเบซาร์ไปยังสถานีอลอร์สตาร์ (Alor Setar) รัฐเคดะห์ โดยเปิดเผยว่ารัฐบาลกลางมาเลเซียได้จัดหารถไฟชุดใหม่แบบ 3 ตู้โดยสาร จำนวน 12 ขบวนเพื่อให้บริการเพิ่มเติม งบประมาณ 283 ล้านริงกิต (2,164.34 ล้านบาท) คาดว่ารถไฟขบวนแรกจะถูกส่งมอบภายใน 22 เดือน อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญในการให้บริการคือการโจรกรรมสายเคเบิล ซึ่งกระทบต่อการเดินรถอย่างมาก สร้างความเสียหายกว่า 1.35 ล้านริงกิต (10.32 ล้านบาท) ซึ่งกระทรวงคมนาคมมาเลเซียจะร่วมกับตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมปรับปรุงอุปกรณ์เครือข่าย เครื่องนับเพลา (Axle Counter) งบประมาณ 12.8 ล้านริงกิต (97.89 ล้านบาท) ใช้ระยะเวลา 3 ปี รวมทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิด การใช้โดรน การติดตั้งรั้วป้องกันการปีน และติดตั้งฝาปิดท่อระบายน้ำแบบล็อกขั้นสูง อนึ่ง ในปี 2567 รถไฟ KTM Komuter Utara สายเหนือ ช่วงบัตเตอร์เวิร์ธ-ปาดังเบซาร์ และบัตเตอร์เวิร์ธ-อิโปห์ มีผู้โดยสารเฉลี่ย 16,363 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ผู้โดยสารเฉลี่ย 12,668 คนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 29% #Newskit
    1 Comments 0 Shares 308 Views 0 Reviews
  • "ผู้ว่าการรถไฟ" ส่งหนังสือขอให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดีข้อพิพาทเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ระบุ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน 5,083 ไร่ ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ให้ชนะคดี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000028107
    "ผู้ว่าการรถไฟ" ส่งหนังสือขอให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดีข้อพิพาทเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ระบุ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน 5,083 ไร่ ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ให้ชนะคดี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000028107
    Like
    11
    0 Comments 0 Shares 598 Views 0 Reviews
  • เปิดแล้วสถานีขนส่ง TBG มีรถทัวร์รันเตาปันยังไป KL

    สถานีขนส่งผู้โดยสารแบบบูรณาการกอมบัค (ภาษามาเลย์ Terminal Bersepadu Gombak หรือ TBG) เมืองกอมบัค รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เปิดทดลองให้บริการเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อต้อนรับวันหยุดฮารีรายา อีดิลฟิฏร์ (Hari Raya Aidilfitri) ที่จะมีชาวมาเลเซียเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก

    เบื้องต้นพบว่ามีผู้ประกอบการเดินรถบางบริษัทให้บริการไปยังปลายทางชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย เช่น เมืองกัวลาตรังกานู (Kuala Terengganu) รัฐตรังกานู (Terengganu), เมืองโกตาบารู (Kota Bharu) รัฐกลันตัน (Kelantan) และเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง (Pahang) โดยช่องทางสำรองที่นั่งมีทั้งช่องทางออนไลน์ของสถานีขนส่ง TBG เว็บไซต์ www.tbg.com.my ช่องทางออนไลน์ของผู้ประกอบการเดินรถ และแพลตฟอร์มจองตั๋วรถบัสออนไลน์ซึ่งมีหลายแห่ง

    เช่น บริษัทปันจารัน มาตาฮาริ (Pancaran Matahari) มีรถจากรัฐกลันตัน แวะส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่ง TBG ก่อนไปต่อที่สถานีขนส่งแบบบูรณาการ TBS (ภาษามาเลย์ Terminal Bersepadu Selatan) และชาห์อลาม (Shah Alam) ส่วนบริษัท ซานิ เอ็กซ์เพรส (Sani Express) จะเริ่มให้บริการระหว่างสถานีขนส่ง TBG ไปยัง 3 เมืองในรัฐกลันตัน ได้แก่ ทานาห์ เมราห์ (Tanah Merah) ปาเซร์มัส (Pasir Mas) และรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. โดยเปิดให้สำรองที่นั่งแล้วผ่านเว็บไซต์ www.tbg.com.my และ www.saniexpress.com.my

    การเดินทางจากใจกลางเมือง เช่น สถานีเคแอลเซ็นทรัล (KL Sentral) สถานีเคแอลซีซี (KLCC) สถานีอัมปังพาร์ค (Ampang Park) ไปยังสถานีขนส่ง TBG สามารถใช้บริการรถไฟฟ้ารางเบาสายเกลานา จายา (LRT Kelana Jaya Line) ลงที่สถานีกอมบัค (Gombak) จากนั้นเดินเท้าออกจากสถานีรถไฟฟ้าไปยังด้านหลังสถานีขนส่ง TBG กดลิฟต์ไปที่ชั้น 2 แล้วเดินเข้าอาคารผู้โดยสาร ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าและร้านอาหารจำนวนมาก

    สำหรับประเทศไทย รถทัวร์ที่จะไปสถานีขนส่ง TBG มีเพียงสถานีขนส่งรันเตาปันยัง ใกล้กับด่าน ICQS รันเตาปันยัง ตรงข้ามด่านพรมแดนสุไหงโกลก จ.นราธิวาส มีรถของบริษัทซานิ เอ็กซ์เพรส ให้บริการวันละ 1 เที่ยว รถออกเวลา 21.00 น. (ตามเวลามาเลเซีย) ถึงสถานีขนส่ง TBG เวลาประมาณ 05.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 82.50 ริงกิต (633 บาท) แต่ที่ท่ารถเป็งกาลันกูโบ (Pengkalan Kubor) ตรงข้าม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มีแต่รถไปสถานี TBS ยังไม่มีรถไปถึงสถานีขนส่ง TBG

    #Newskit
    เปิดแล้วสถานีขนส่ง TBG มีรถทัวร์รันเตาปันยังไป KL สถานีขนส่งผู้โดยสารแบบบูรณาการกอมบัค (ภาษามาเลย์ Terminal Bersepadu Gombak หรือ TBG) เมืองกอมบัค รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เปิดทดลองให้บริการเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อต้อนรับวันหยุดฮารีรายา อีดิลฟิฏร์ (Hari Raya Aidilfitri) ที่จะมีชาวมาเลเซียเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก เบื้องต้นพบว่ามีผู้ประกอบการเดินรถบางบริษัทให้บริการไปยังปลายทางชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย เช่น เมืองกัวลาตรังกานู (Kuala Terengganu) รัฐตรังกานู (Terengganu), เมืองโกตาบารู (Kota Bharu) รัฐกลันตัน (Kelantan) และเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง (Pahang) โดยช่องทางสำรองที่นั่งมีทั้งช่องทางออนไลน์ของสถานีขนส่ง TBG เว็บไซต์ www.tbg.com.my ช่องทางออนไลน์ของผู้ประกอบการเดินรถ และแพลตฟอร์มจองตั๋วรถบัสออนไลน์ซึ่งมีหลายแห่ง เช่น บริษัทปันจารัน มาตาฮาริ (Pancaran Matahari) มีรถจากรัฐกลันตัน แวะส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่ง TBG ก่อนไปต่อที่สถานีขนส่งแบบบูรณาการ TBS (ภาษามาเลย์ Terminal Bersepadu Selatan) และชาห์อลาม (Shah Alam) ส่วนบริษัท ซานิ เอ็กซ์เพรส (Sani Express) จะเริ่มให้บริการระหว่างสถานีขนส่ง TBG ไปยัง 3 เมืองในรัฐกลันตัน ได้แก่ ทานาห์ เมราห์ (Tanah Merah) ปาเซร์มัส (Pasir Mas) และรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. โดยเปิดให้สำรองที่นั่งแล้วผ่านเว็บไซต์ www.tbg.com.my และ www.saniexpress.com.my การเดินทางจากใจกลางเมือง เช่น สถานีเคแอลเซ็นทรัล (KL Sentral) สถานีเคแอลซีซี (KLCC) สถานีอัมปังพาร์ค (Ampang Park) ไปยังสถานีขนส่ง TBG สามารถใช้บริการรถไฟฟ้ารางเบาสายเกลานา จายา (LRT Kelana Jaya Line) ลงที่สถานีกอมบัค (Gombak) จากนั้นเดินเท้าออกจากสถานีรถไฟฟ้าไปยังด้านหลังสถานีขนส่ง TBG กดลิฟต์ไปที่ชั้น 2 แล้วเดินเข้าอาคารผู้โดยสาร ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าและร้านอาหารจำนวนมาก สำหรับประเทศไทย รถทัวร์ที่จะไปสถานีขนส่ง TBG มีเพียงสถานีขนส่งรันเตาปันยัง ใกล้กับด่าน ICQS รันเตาปันยัง ตรงข้ามด่านพรมแดนสุไหงโกลก จ.นราธิวาส มีรถของบริษัทซานิ เอ็กซ์เพรส ให้บริการวันละ 1 เที่ยว รถออกเวลา 21.00 น. (ตามเวลามาเลเซีย) ถึงสถานีขนส่ง TBG เวลาประมาณ 05.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 82.50 ริงกิต (633 บาท) แต่ที่ท่ารถเป็งกาลันกูโบ (Pengkalan Kubor) ตรงข้าม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มีแต่รถไปสถานี TBS ยังไม่มีรถไปถึงสถานีขนส่ง TBG #Newskit
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 328 Views 0 Reviews
More Results