• การเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบดิจิทัล (Digital Divide) เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย โดยความเหลื่อมล้ำนี้สามารถแบ่งออกได้หลายมิติ ดังนี้:

    ### 1. **ความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างพื้นฐาน**
    - **พื้นที่เมือง vs. ชนบท**: ในเขตเมืองมักมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีกว่า ในขณะที่พื้นที่ห่างไกลหรือชนบทอาจขาดแคลนสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือไฟฟ้า
    - **ความเร็วและความเสถียร**: แม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ความเร็วและความเสถียรอาจไม่เท่ากัน ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพต่างกัน

    ### 2. **ความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ**
    - **ค่าใช้จ่าย**: การเข้าถึงอุปกรณ์ดิจิทัล (เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์) และค่าบริการอินเทอร์เน็ตอาจเป็นภาระสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
    - **รายได้และโอกาส**: กลุ่มที่มีรายได้สูงมักมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีและทักษะดิจิทัลได้ดีกว่า ส่งผลให้เกิดช่องว่างทางเศรษฐกิจมากขึ้น

    ### 3. **ความเหลื่อมล้ำด้านทักษะและการศึกษา**
    - **ทักษะดิจิทัล**: กลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่ขาดโอกาสในการเรียนรู้อาจไม่มีความรู้เพียงพอในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
    - **การศึกษา**: โรงเรียนในเมืองอาจมีทรัพยากรด้านดิจิทัล (เช่น อุปกรณ์การเรียนออนไลน์) ดีกว่าโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล

    ### 4. **ความเหลื่อมล้ำด้านสังคมและประชากรศาสตร์**
    - **วัย**: คนรุ่นใหม่อาจปรับตัวกับเทคโนโลยีได้ดีกว่าผู้สูงอายุ
    - **เพศ**: ในบางสังคม ผู้หญิงอาจมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยกว่าผู้ชายเนื่องจากอคติทางวัฒนธรรม

    ### 5. **นโยบายและการสนับสนุนจากรัฐ**
    - **การกระจายทรัพยากร**: นโยบายของรัฐอาจไม่ทั่วถึง ทำให้บางพื้นที่หรือกลุ่มคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
    - **การส่งเสริมทักษะดิจิทัล**: โครงการฝึกอบรมอาจไม่เพียงพอหรือไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม

    ### ผลกระทบของความเหลื่อมล้ำดิจิทัล
    - **เศรษฐกิจ**: กลุ่มที่ขาดแคลนโอกาสดิจิทัลอาจถูกกีดกันจากตลาดงานสมัยใหม่
    - **การศึกษา**: นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลอาจเสียเปรียบเนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนออนไลน์
    - **สุขภาพ**: การเข้าถึงบริการสุขภาพดิจิทัล (Telemedicine) อาจจำกัดในบางพื้นที่
    - **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำอาจทำให้เกิดช่องว่างทางสังคมระหว่างกลุ่มคนที่เข้าถึงเทคโนโลยีและกลุ่มที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

    ### แนทางแก้ไข
    - **พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน** โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล
    - **ลดค่าใช้จ่าย** ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ดิจิทัล
    - **ส่งเสริมการศึกษาและฝึกทักษะดิจิทัล** ให้กับทุกกลุ่มวัย
    - **ออกนโยบายที่ครอบคลุม** เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เช่น โครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านหรือแจกแท็บเล็ตสำหรับนักเรียน

    ความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต การเข้าถึงดิจิทัลอย่างเท่าเทียมจะช่วยลดความไม่เสมอภาคทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
    การเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบดิจิทัล (Digital Divide) เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย โดยความเหลื่อมล้ำนี้สามารถแบ่งออกได้หลายมิติ ดังนี้: ### 1. **ความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างพื้นฐาน** - **พื้นที่เมือง vs. ชนบท**: ในเขตเมืองมักมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีกว่า ในขณะที่พื้นที่ห่างไกลหรือชนบทอาจขาดแคลนสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือไฟฟ้า - **ความเร็วและความเสถียร**: แม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ความเร็วและความเสถียรอาจไม่เท่ากัน ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพต่างกัน ### 2. **ความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ** - **ค่าใช้จ่าย**: การเข้าถึงอุปกรณ์ดิจิทัล (เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์) และค่าบริการอินเทอร์เน็ตอาจเป็นภาระสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย - **รายได้และโอกาส**: กลุ่มที่มีรายได้สูงมักมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีและทักษะดิจิทัลได้ดีกว่า ส่งผลให้เกิดช่องว่างทางเศรษฐกิจมากขึ้น ### 3. **ความเหลื่อมล้ำด้านทักษะและการศึกษา** - **ทักษะดิจิทัล**: กลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่ขาดโอกาสในการเรียนรู้อาจไม่มีความรู้เพียงพอในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล - **การศึกษา**: โรงเรียนในเมืองอาจมีทรัพยากรด้านดิจิทัล (เช่น อุปกรณ์การเรียนออนไลน์) ดีกว่าโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ### 4. **ความเหลื่อมล้ำด้านสังคมและประชากรศาสตร์** - **วัย**: คนรุ่นใหม่อาจปรับตัวกับเทคโนโลยีได้ดีกว่าผู้สูงอายุ - **เพศ**: ในบางสังคม ผู้หญิงอาจมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยกว่าผู้ชายเนื่องจากอคติทางวัฒนธรรม ### 5. **นโยบายและการสนับสนุนจากรัฐ** - **การกระจายทรัพยากร**: นโยบายของรัฐอาจไม่ทั่วถึง ทำให้บางพื้นที่หรือกลุ่มคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง - **การส่งเสริมทักษะดิจิทัล**: โครงการฝึกอบรมอาจไม่เพียงพอหรือไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม ### ผลกระทบของความเหลื่อมล้ำดิจิทัล - **เศรษฐกิจ**: กลุ่มที่ขาดแคลนโอกาสดิจิทัลอาจถูกกีดกันจากตลาดงานสมัยใหม่ - **การศึกษา**: นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลอาจเสียเปรียบเนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ - **สุขภาพ**: การเข้าถึงบริการสุขภาพดิจิทัล (Telemedicine) อาจจำกัดในบางพื้นที่ - **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำอาจทำให้เกิดช่องว่างทางสังคมระหว่างกลุ่มคนที่เข้าถึงเทคโนโลยีและกลุ่มที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ### แนทางแก้ไข - **พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน** โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล - **ลดค่าใช้จ่าย** ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ดิจิทัล - **ส่งเสริมการศึกษาและฝึกทักษะดิจิทัล** ให้กับทุกกลุ่มวัย - **ออกนโยบายที่ครอบคลุม** เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เช่น โครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านหรือแจกแท็บเล็ตสำหรับนักเรียน ความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต การเข้าถึงดิจิทัลอย่างเท่าเทียมจะช่วยลดความไม่เสมอภาคทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการพิจารณาของศาลในกรณีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ต้องการให้ Google ขาย Chrome ซึ่งเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 66% การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ถูกตัดสินว่ามีการผูกขาดในตลาดการค้นหา

    Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Chrome ได้ให้การในศาล โดยยืนยันว่า Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google และมีฟีเจอร์สำคัญ เช่น การแจ้งเตือนเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ถูกละเมิด ซึ่งพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google นอกจากนี้ เธอยังระบุว่า Google ลงทุนใน Chromium ซึ่งเป็นโครงการโอเพ่นซอร์สมากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015

    DOJ ยังเรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง และห้ามการจ่ายเงินเพื่อให้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในเบราว์เซอร์อื่น เช่น Safari ของ Apple

    ✅ การตัดสินใจของ DOJ
    - DOJ ต้องการให้ Google ขาย Chrome เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด
    - เรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง

    ✅ การให้การของ Parisa Tabriz
    - Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google
    - Google ลงทุนใน Chromium มากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015

    ✅ ผลกระทบต่อ Chrome
    - Chrome มีฟีเจอร์สำคัญที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google
    - การขาย Chrome อาจทำให้ฟีเจอร์บางอย่างไม่สามารถใช้งานได้

    ✅ ความสนใจจากบริษัทอื่น
    - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome

    https://www.neowin.net/news/chrome-general-manager-tells-judge-that-only-google-can-run-chrome/
    บทความนี้กล่าวถึงการพิจารณาของศาลในกรณีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ต้องการให้ Google ขาย Chrome ซึ่งเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 66% การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ถูกตัดสินว่ามีการผูกขาดในตลาดการค้นหา Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Chrome ได้ให้การในศาล โดยยืนยันว่า Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google และมีฟีเจอร์สำคัญ เช่น การแจ้งเตือนเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ถูกละเมิด ซึ่งพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google นอกจากนี้ เธอยังระบุว่า Google ลงทุนใน Chromium ซึ่งเป็นโครงการโอเพ่นซอร์สมากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015 DOJ ยังเรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง และห้ามการจ่ายเงินเพื่อให้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในเบราว์เซอร์อื่น เช่น Safari ของ Apple ✅ การตัดสินใจของ DOJ - DOJ ต้องการให้ Google ขาย Chrome เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด - เรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง ✅ การให้การของ Parisa Tabriz - Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google - Google ลงทุนใน Chromium มากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015 ✅ ผลกระทบต่อ Chrome - Chrome มีฟีเจอร์สำคัญที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google - การขาย Chrome อาจทำให้ฟีเจอร์บางอย่างไม่สามารถใช้งานได้ ✅ ความสนใจจากบริษัทอื่น - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome https://www.neowin.net/news/chrome-general-manager-tells-judge-that-only-google-can-run-chrome/
    WWW.NEOWIN.NET
    Chrome general manager tells Judge that only Google can run Chrome
    The General Manager of Google Chrome testified in court and insisted on the company's unmatched ability to run the Chrome browser.
    0 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • Nvidia ได้เปิดตัวระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบปิด (Closed-loop liquid cooling) สำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่ GB200 NVL72 และ GB300 NVL72 ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดการใช้พลังงานและน้ำในศูนย์ข้อมูล ระบบนี้ช่วยให้เซิร์ฟเวอร์สามารถรองรับการประมวลผลที่มีความหนาแน่นสูง โดยใช้พลังงานระหว่าง 120 ถึง 140 กิโลวัตต์ต่อแร็ค ซึ่งสูงกว่าระบบทั่วไปถึงเจ็ดเท่า

    ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบปิดของ Nvidia ใช้แผ่นเย็น (Cold plates) ที่ติดตั้งตรงกับ GPU และ CPU เพื่อถ่ายเทความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบนี้สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 25 เท่า และลดการใช้น้ำได้ถึง 300 เท่า เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบอากาศ นอกจากนี้ ระบบยังใช้เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบของเหลวต่อของเหลว (Liquid-to-liquid heat exchangers) ที่พัฒนาโดยพันธมิตร เช่น CoolIT และ Motivair เพื่อรองรับความร้อนสูงสุดถึง สองเมกะวัตต์

    อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนมาใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวต้องการการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงในระยะแรก Nvidia ได้ร่วมมือกับ Schneider Electric เพื่อพัฒนาโครงสร้างอ้างอิงที่ช่วยเร่งการติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวในศูนย์ข้อมูล

    ✅ การออกแบบระบบระบายความร้อน
    - ใช้แผ่นเย็นที่ติดตั้งตรงกับ GPU และ CPU เพื่อถ่ายเทความร้อน
    - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 25 เท่า และลดการใช้น้ำได้ถึง 300 เท่า

    ✅ สมรรถนะของระบบ
    - รองรับการประมวลผลที่มีความหนาแน่นสูง โดยใช้พลังงานระหว่าง 120 ถึง 140 กิโลวัตต์ต่อแร็ค
    - ใช้เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบของเหลวต่อของเหลวที่รองรับความร้อนสูงสุดถึงสองเมกะวัตต์

    ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตร
    - Nvidia ร่วมมือกับ Schneider Electric เพื่อพัฒนาโครงสร้างอ้างอิงสำหรับการติดตั้งระบบ

    ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูล
    - ระบบช่วยลดการใช้พลังงานและน้ำในศูนย์ข้อมูล

    https://www.techspot.com/news/107680-closed-loop-liquid-cooling-powers-nvidia-push-greener.html
    Nvidia ได้เปิดตัวระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบปิด (Closed-loop liquid cooling) สำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่ GB200 NVL72 และ GB300 NVL72 ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดการใช้พลังงานและน้ำในศูนย์ข้อมูล ระบบนี้ช่วยให้เซิร์ฟเวอร์สามารถรองรับการประมวลผลที่มีความหนาแน่นสูง โดยใช้พลังงานระหว่าง 120 ถึง 140 กิโลวัตต์ต่อแร็ค ซึ่งสูงกว่าระบบทั่วไปถึงเจ็ดเท่า ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบปิดของ Nvidia ใช้แผ่นเย็น (Cold plates) ที่ติดตั้งตรงกับ GPU และ CPU เพื่อถ่ายเทความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบนี้สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 25 เท่า และลดการใช้น้ำได้ถึง 300 เท่า เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบอากาศ นอกจากนี้ ระบบยังใช้เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบของเหลวต่อของเหลว (Liquid-to-liquid heat exchangers) ที่พัฒนาโดยพันธมิตร เช่น CoolIT และ Motivair เพื่อรองรับความร้อนสูงสุดถึง สองเมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนมาใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวต้องการการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงในระยะแรก Nvidia ได้ร่วมมือกับ Schneider Electric เพื่อพัฒนาโครงสร้างอ้างอิงที่ช่วยเร่งการติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวในศูนย์ข้อมูล ✅ การออกแบบระบบระบายความร้อน - ใช้แผ่นเย็นที่ติดตั้งตรงกับ GPU และ CPU เพื่อถ่ายเทความร้อน - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 25 เท่า และลดการใช้น้ำได้ถึง 300 เท่า ✅ สมรรถนะของระบบ - รองรับการประมวลผลที่มีความหนาแน่นสูง โดยใช้พลังงานระหว่าง 120 ถึง 140 กิโลวัตต์ต่อแร็ค - ใช้เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบของเหลวต่อของเหลวที่รองรับความร้อนสูงสุดถึงสองเมกะวัตต์ ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตร - Nvidia ร่วมมือกับ Schneider Electric เพื่อพัฒนาโครงสร้างอ้างอิงสำหรับการติดตั้งระบบ ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูล - ระบบช่วยลดการใช้พลังงานและน้ำในศูนย์ข้อมูล https://www.techspot.com/news/107680-closed-loop-liquid-cooling-powers-nvidia-push-greener.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia's liquid-cooled AI racks promise 25x energy and 300x water efficiency
    Nowhere is this shift more evident than in Nvidia's latest offerings. The company's GB200 NVL72 and GB300 NVL72 rack-scale systems represent a significant leap in computational density,...
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • Aurora Innovation บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับจาก Pittsburgh ได้เริ่มต้นการใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง I-45 ระหว่างเมืองดัลลัสและฮูสตันในรัฐเท็กซัส โดยการเปิดตัวนี้ถือเป็นหนึ่งในครั้งแรกที่รถบรรทุกไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ Aurora วางแผนที่จะเริ่มต้นด้วยรถบรรทุกไร้คนขับเพียงคันเดียว และจะขยายการดำเนินงานในอนาคต

    รัฐเท็กซัสได้รับการยอมรับว่าเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่กว้างขวาง กฎหมายที่เอื้อต่อธุรกิจ และสภาพอากาศที่คาดการณ์ได้ง่าย การใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับถูกมองว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งที่เผชิญกับความท้าทาย เช่น การขาดแคลนแรงงานและต้นทุนการดำเนินงานที่สูง

    อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ขับขี่รถบรรทุกแบบดั้งเดิมแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถไร้คนขับบนทางหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยในระดับรัฐบาลกลาง

    ✅ การเปิดตัวรถบรรทุกไร้คนขับ
    - Aurora เริ่มต้นการใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง I-45 ในรัฐเท็กซัส
    - การเปิดตัวนี้ถือเป็นครั้งแรกที่รถบรรทุกไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ

    ✅ ความสำคัญของรัฐเท็กซัส
    - รัฐเท็กซัสเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการขนส่ง
    - รถบรรทุกไร้คนขับช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน

    ✅ การสนับสนุนจากบริษัทอื่น
    - Volvo และ Daimler กำลังพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับเช่นกัน โดยมีเป้าหมายการใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2027

    https://www.techspot.com/news/107687-texas-highways-welcome-first-wave-self-driving-freight.html
    Aurora Innovation บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับจาก Pittsburgh ได้เริ่มต้นการใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง I-45 ระหว่างเมืองดัลลัสและฮูสตันในรัฐเท็กซัส โดยการเปิดตัวนี้ถือเป็นหนึ่งในครั้งแรกที่รถบรรทุกไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ Aurora วางแผนที่จะเริ่มต้นด้วยรถบรรทุกไร้คนขับเพียงคันเดียว และจะขยายการดำเนินงานในอนาคต รัฐเท็กซัสได้รับการยอมรับว่าเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่กว้างขวาง กฎหมายที่เอื้อต่อธุรกิจ และสภาพอากาศที่คาดการณ์ได้ง่าย การใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับถูกมองว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งที่เผชิญกับความท้าทาย เช่น การขาดแคลนแรงงานและต้นทุนการดำเนินงานที่สูง อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ขับขี่รถบรรทุกแบบดั้งเดิมแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถไร้คนขับบนทางหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยในระดับรัฐบาลกลาง ✅ การเปิดตัวรถบรรทุกไร้คนขับ - Aurora เริ่มต้นการใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง I-45 ในรัฐเท็กซัส - การเปิดตัวนี้ถือเป็นครั้งแรกที่รถบรรทุกไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ ✅ ความสำคัญของรัฐเท็กซัส - รัฐเท็กซัสเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการขนส่ง - รถบรรทุกไร้คนขับช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ✅ การสนับสนุนจากบริษัทอื่น - Volvo และ Daimler กำลังพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับเช่นกัน โดยมีเป้าหมายการใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2027 https://www.techspot.com/news/107687-texas-highways-welcome-first-wave-self-driving-freight.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Texas highways welcome first wave of self-driving freight trucks
    According to Axios, the company plans to start with a single autonomous truck and gradually expand its operations. The rollout marks one of the first real-world deployments...
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • Super Micro Computer (SMCI) ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญในตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI โดยครองส่วนแบ่งรายได้ถึง 8% ของตลาดทั่วโลก บริษัทนี้มีชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการ GPU-as-a-Service และผู้ค้าปลีกชั้นนำของระบบ AI แบบระบายความร้อนด้วยของเหลว

    Citi ได้เริ่มต้นการวิเคราะห์หุ้นของ SMCI ด้วยการตั้งเป้าหมายราคาหุ้นที่ 39 ดอลลาร์ พร้อมให้คะแนน "Neutral/High Risk" โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า SMCI จะยังคงได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างไรก็ตาม ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ที่มีการแข่งขันสูงและแรงกดดันด้านกำไรอาจเป็นความท้าทาย

    นอกจากนี้ Apple ยังได้สั่งซื้อระบบ NVIDIA GB300 NVL72 racks มูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ จาก SMCI และ Dell เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI สำหรับ Siri

    ✅ ส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI
    - SMCI ครองส่วนแบ่งรายได้ 8% ของตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ทั่วโลก
    - เป็นผู้ให้บริการ GPU-as-a-Service และระบบ AI ระบายความร้อนด้วยของเหลว

    ✅ การวิเคราะห์หุ้นโดย Citi
    - ตั้งเป้าหมายราคาหุ้นที่ 39 ดอลลาร์ พร้อมคะแนน "Neutral/High Risk"
    - ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ที่แข่งขันสูงอาจส่งผลต่อกำไร

    ✅ ความร่วมมือกับ Apple
    - Apple สั่งซื้อระบบ NVIDIA GB300 NVL72 racks มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์
    - ใช้สำหรับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ Siri

    ✅ ผลการดำเนินงานของ SMCI
    - หุ้นของ SMCI เพิ่มขึ้นกว่า 20% ในปีนี้

    https://wccftech.com/citi-super-micro-computer-smci-has-captured-8-percent-of-the-global-ai-server-revenue-share/
    Super Micro Computer (SMCI) ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญในตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI โดยครองส่วนแบ่งรายได้ถึง 8% ของตลาดทั่วโลก บริษัทนี้มีชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการ GPU-as-a-Service และผู้ค้าปลีกชั้นนำของระบบ AI แบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Citi ได้เริ่มต้นการวิเคราะห์หุ้นของ SMCI ด้วยการตั้งเป้าหมายราคาหุ้นที่ 39 ดอลลาร์ พร้อมให้คะแนน "Neutral/High Risk" โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า SMCI จะยังคงได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างไรก็ตาม ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ที่มีการแข่งขันสูงและแรงกดดันด้านกำไรอาจเป็นความท้าทาย นอกจากนี้ Apple ยังได้สั่งซื้อระบบ NVIDIA GB300 NVL72 racks มูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ จาก SMCI และ Dell เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI สำหรับ Siri ✅ ส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI - SMCI ครองส่วนแบ่งรายได้ 8% ของตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ทั่วโลก - เป็นผู้ให้บริการ GPU-as-a-Service และระบบ AI ระบายความร้อนด้วยของเหลว ✅ การวิเคราะห์หุ้นโดย Citi - ตั้งเป้าหมายราคาหุ้นที่ 39 ดอลลาร์ พร้อมคะแนน "Neutral/High Risk" - ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ที่แข่งขันสูงอาจส่งผลต่อกำไร ✅ ความร่วมมือกับ Apple - Apple สั่งซื้อระบบ NVIDIA GB300 NVL72 racks มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ - ใช้สำหรับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ Siri ✅ ผลการดำเนินงานของ SMCI - หุ้นของ SMCI เพิ่มขึ้นกว่า 20% ในปีนี้ https://wccftech.com/citi-super-micro-computer-smci-has-captured-8-percent-of-the-global-ai-server-revenue-share/
    WCCFTECH.COM
    Citi: Super Micro Computer (SMCI) Has Captured 8 Percent Of The Global AI Server Revenue Share
    Super Micro Computer is currently trading at a multiple of just 9-10x its NTM P/E, which is below the 5-year median multiple of 11-12x.
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นใน Exchange Online ซึ่งเป็นบริการอีเมลของบริษัท โดยปัญหานี้ทำให้ระบบป้องกันสแปมที่ใช้ Machine Learning (ML) เข้าใจผิดและระบุอีเมลที่ถูกต้องตามกฎหมายจาก Adobe ว่าเป็นสแปม ปัญหานี้เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 22-24 เมษายน 2025 และส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานบางส่วนที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบ

    Microsoft อธิบายว่า ML ของระบบป้องกันสแปมได้ระบุอีเมลที่มี URL ของ Adobe ว่าเป็นสแปม เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับอีเมลที่ใช้ในการโจมตีแบบสแปมจริงๆ เพื่อแก้ไขปัญหา Microsoft ได้ใช้กระบวนการ Replay Time Travel (RTT) เพื่อปรับปรุงการวิเคราะห์และแก้ไขผลกระทบ

    นอกจากนี้ บริการวิเคราะห์มัลแวร์ ANY.RUN ยังพบว่ามีการส่งลิงก์ Adobe Acrobat Cloud ที่ถูกระบุผิดพลาดไปยังระบบของพวกเขา ซึ่งทำให้มีการอัปโหลดไฟล์ที่มีข้อมูลสำคัญของบริษัทหลายแห่งมากกว่า 1,000 ไฟล์ ANY.RUN ได้ดำเนินการแก้ไขโดยทำให้การวิเคราะห์ทั้งหมดเป็นแบบส่วนตัวเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล

    ✅ ปัญหาที่เกิดขึ้น
    - ระบบ ML ของ Exchange Online ระบุอีเมล Adobe ว่าเป็นสแปมโดยผิดพลาด
    - ปัญหาเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2025

    ✅ การแก้ไขปัญหา
    - Microsoft ใช้กระบวนการ Replay Time Travel (RTT) เพื่อแก้ไขผลกระทบ
    - ปรับปรุงการวิเคราะห์ของระบบ ML

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
    - ผู้ใช้งานบางส่วนที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบอาจไม่ได้รับอีเมลที่ถูกต้อง

    ✅ การตอบสนองของ ANY.RUN
    - ทำให้การวิเคราะห์ไฟล์ที่เกี่ยวข้องเป็นแบบส่วนตัวเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-fixes-annoying-bug-which-marked-adobe-emails-as-spam
    Microsoft ได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นใน Exchange Online ซึ่งเป็นบริการอีเมลของบริษัท โดยปัญหานี้ทำให้ระบบป้องกันสแปมที่ใช้ Machine Learning (ML) เข้าใจผิดและระบุอีเมลที่ถูกต้องตามกฎหมายจาก Adobe ว่าเป็นสแปม ปัญหานี้เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 22-24 เมษายน 2025 และส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานบางส่วนที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบ Microsoft อธิบายว่า ML ของระบบป้องกันสแปมได้ระบุอีเมลที่มี URL ของ Adobe ว่าเป็นสแปม เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับอีเมลที่ใช้ในการโจมตีแบบสแปมจริงๆ เพื่อแก้ไขปัญหา Microsoft ได้ใช้กระบวนการ Replay Time Travel (RTT) เพื่อปรับปรุงการวิเคราะห์และแก้ไขผลกระทบ นอกจากนี้ บริการวิเคราะห์มัลแวร์ ANY.RUN ยังพบว่ามีการส่งลิงก์ Adobe Acrobat Cloud ที่ถูกระบุผิดพลาดไปยังระบบของพวกเขา ซึ่งทำให้มีการอัปโหลดไฟล์ที่มีข้อมูลสำคัญของบริษัทหลายแห่งมากกว่า 1,000 ไฟล์ ANY.RUN ได้ดำเนินการแก้ไขโดยทำให้การวิเคราะห์ทั้งหมดเป็นแบบส่วนตัวเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ✅ ปัญหาที่เกิดขึ้น - ระบบ ML ของ Exchange Online ระบุอีเมล Adobe ว่าเป็นสแปมโดยผิดพลาด - ปัญหาเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2025 ✅ การแก้ไขปัญหา - Microsoft ใช้กระบวนการ Replay Time Travel (RTT) เพื่อแก้ไขผลกระทบ - ปรับปรุงการวิเคราะห์ของระบบ ML ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน - ผู้ใช้งานบางส่วนที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบอาจไม่ได้รับอีเมลที่ถูกต้อง ✅ การตอบสนองของ ANY.RUN - ทำให้การวิเคราะห์ไฟล์ที่เกี่ยวข้องเป็นแบบส่วนตัวเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-fixes-annoying-bug-which-marked-adobe-emails-as-spam
    WWW.TECHRADAR.COM
    Microsoft fixes annoying bug which marked Adobe emails as spam
    Thankfully short-lived bug proved frustrating for Microsoft users
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • รายงานจากคณะกรรมการพิเศษของรัฐสภาสหรัฐฯ เปิดเผยว่า DeepSeek AI ซึ่งเป็นแชทบอท AI จากจีน มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน โดยพบว่ามีการรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน เช่น ประวัติการแชท รายละเอียดอุปกรณ์ และรูปแบบการพิมพ์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถูกส่งกลับไปยังจีนผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงกับบริษัทโทรคมนาคมจีนที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน

    DeepSeek ยังถูกวิจารณ์ว่ามีการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของจีน การเซ็นเซอร์ข้อมูล และการใช้โมเดล AI ของสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการใช้ชิป Nvidia ที่ถูกจำกัดการส่งออก

    คณะกรรมการแนะนำให้ขยายการควบคุมการส่งออกและจัดการความเสี่ยงจากโมเดล AI ของจีน พร้อมเตรียมรับมือกับความท้าทายทางยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ขั้นสูง

    ✅ การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน
    - รวบรวมข้อมูล เช่น ประวัติการแชท รายละเอียดอุปกรณ์ และรูปแบบการพิมพ์
    - ข้อมูลถูกส่งกลับไปยังจีนผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ปลอดภัย

    ✅ การเชื่อมโยงกับบริษัทโทรคมนาคมจีน
    - เชื่อมโยงกับ China Mobile ซึ่งถูกสหรัฐฯ แบนในปี 2019 และถูกจัดว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงในปี 2022

    ✅ การเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อและการเซ็นเซอร์ข้อมูล
    - มีการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของจีนและการเซ็นเซอร์ข้อมูลตามกฎหมายจีน

    ✅ การใช้โมเดล AI และชิป Nvidia โดยไม่ได้รับอนุญาต
    - ใช้โมเดล AI ของสหรัฐฯ และชิป Nvidia ที่ถูกจำกัดการส่งออก

    ✅ คำแนะนำจากคณะกรรมการ
    - ขยายการควบคุมการส่งออกและจัดการความเสี่ยงจากโมเดล AI ของจีน
    - เตรียมรับมือกับความท้าทายทางยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ขั้นสูง

    https://www.techradar.com/computing/cyber-security/deepseek-is-a-profound-threat-to-national-security-and-privacy-according-to-the-us-congress
    รายงานจากคณะกรรมการพิเศษของรัฐสภาสหรัฐฯ เปิดเผยว่า DeepSeek AI ซึ่งเป็นแชทบอท AI จากจีน มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน โดยพบว่ามีการรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน เช่น ประวัติการแชท รายละเอียดอุปกรณ์ และรูปแบบการพิมพ์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถูกส่งกลับไปยังจีนผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงกับบริษัทโทรคมนาคมจีนที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน DeepSeek ยังถูกวิจารณ์ว่ามีการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของจีน การเซ็นเซอร์ข้อมูล และการใช้โมเดล AI ของสหรัฐฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการใช้ชิป Nvidia ที่ถูกจำกัดการส่งออก คณะกรรมการแนะนำให้ขยายการควบคุมการส่งออกและจัดการความเสี่ยงจากโมเดล AI ของจีน พร้อมเตรียมรับมือกับความท้าทายทางยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ขั้นสูง ✅ การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน - รวบรวมข้อมูล เช่น ประวัติการแชท รายละเอียดอุปกรณ์ และรูปแบบการพิมพ์ - ข้อมูลถูกส่งกลับไปยังจีนผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ปลอดภัย ✅ การเชื่อมโยงกับบริษัทโทรคมนาคมจีน - เชื่อมโยงกับ China Mobile ซึ่งถูกสหรัฐฯ แบนในปี 2019 และถูกจัดว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงในปี 2022 ✅ การเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อและการเซ็นเซอร์ข้อมูล - มีการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของจีนและการเซ็นเซอร์ข้อมูลตามกฎหมายจีน ✅ การใช้โมเดล AI และชิป Nvidia โดยไม่ได้รับอนุญาต - ใช้โมเดล AI ของสหรัฐฯ และชิป Nvidia ที่ถูกจำกัดการส่งออก ✅ คำแนะนำจากคณะกรรมการ - ขยายการควบคุมการส่งออกและจัดการความเสี่ยงจากโมเดล AI ของจีน - เตรียมรับมือกับความท้าทายทางยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ขั้นสูง https://www.techradar.com/computing/cyber-security/deepseek-is-a-profound-threat-to-national-security-and-privacy-according-to-the-us-congress
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • รายงานจาก FBI ในปี 2024 เปิดเผยว่าการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ (ransomware) มีค่าเสียหายสูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 33% จากปี 2023 โดยการโจมตีเหล่านี้เพิ่มขึ้น 9% และมีเป้าหมายสำคัญคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ระบบพลังงานและการขนส่ง ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการร้องเรียนทั้งหมด การโจมตีเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการสนับสนุนจากรัฐ

    นอกจากนี้ การฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซีก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีมูลค่าความเสียหายถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 โดยการฉ้อโกงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนปลอม

    FBI ได้ดำเนินการตอบโต้ เช่น การแจกจ่ายคีย์ถอดรหัสให้กับเหยื่อแรนซัมแวร์ ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์

    ✅ ค่าเสียหายจากแรนซัมแวร์
    - มีค่าเสียหายสูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2023
    - การโจมตีเพิ่มขึ้น 9% โดยเป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ

    ✅ การฉ้อโกงคริปโตเคอเรนซี
    - มูลค่าความเสียหายถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023
    - การฉ้อโกงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนปลอม

    ✅ การตอบโต้ของ FBI
    - แจกจ่ายคีย์ถอดรหัสให้กับเหยื่อแรนซัมแวร์
    - ช่วยหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการโจมตี
    - การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามและการฟิชชิงเพิ่มขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-cost-us-victims-usd16-6-billion-in-2024-fbi-warns
    รายงานจาก FBI ในปี 2024 เปิดเผยว่าการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ (ransomware) มีค่าเสียหายสูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 33% จากปี 2023 โดยการโจมตีเหล่านี้เพิ่มขึ้น 9% และมีเป้าหมายสำคัญคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ระบบพลังงานและการขนส่ง ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการร้องเรียนทั้งหมด การโจมตีเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการสนับสนุนจากรัฐ นอกจากนี้ การฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซีก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีมูลค่าความเสียหายถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 โดยการฉ้อโกงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนปลอม FBI ได้ดำเนินการตอบโต้ เช่น การแจกจ่ายคีย์ถอดรหัสให้กับเหยื่อแรนซัมแวร์ ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์ ✅ ค่าเสียหายจากแรนซัมแวร์ - มีค่าเสียหายสูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2023 - การโจมตีเพิ่มขึ้น 9% โดยเป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ✅ การฉ้อโกงคริปโตเคอเรนซี - มูลค่าความเสียหายถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 - การฉ้อโกงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนปลอม ✅ การตอบโต้ของ FBI - แจกจ่ายคีย์ถอดรหัสให้กับเหยื่อแรนซัมแวร์ - ช่วยหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์ ✅ การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการโจมตี - การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามและการฟิชชิงเพิ่มขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-cost-us-victims-usd16-6-billion-in-2024-fbi-warns
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • 2/
    ภาพชัดๆกลางกรุงเคียฟเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา

    BBC รายงานว่าเป็นขีปนาวุธ Iskander ของรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของยูเครนในเคียฟ

    น่าสังเกตว่าการโจมตีเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ยังไม่มีรายงานโครงสร้างด้านพลังงานตกเป็นเป้าหมายแต่อย่างใด
    2/ ภาพชัดๆกลางกรุงเคียฟเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา BBC รายงานว่าเป็นขีปนาวุธ Iskander ของรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของยูเครนในเคียฟ น่าสังเกตว่าการโจมตีเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ยังไม่มีรายงานโครงสร้างด้านพลังงานตกเป็นเป้าหมายแต่อย่างใด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 224 Views 24 0 Reviews
  • Ofcom ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านดิจิทัลของสหราชอาณาจักร ได้ประกาศห้ามการเช่าหมายเลขโทรศัพท์ Global Titles เพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด โดยหมายเลขเหล่านี้สามารถถูกใช้โดยผู้ไม่หวังดีในการเบี่ยงเบนสายโทรศัพท์และข้อความ รวมถึงรหัสความปลอดภัยที่ส่งจากธนาคาร นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ผู้ไม่หวังดีสามารถติดตามตำแหน่งของผู้ใช้ได้

    ✅ Ofcom ห้ามการเช่าหมายเลข Global Titles เพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด
    - Global Titles เป็นหมายเลขโทรศัพท์พิเศษที่ใช้ในเครือข่ายมือถือเพื่อให้สายโทรศัพท์และข้อความถึงผู้รับที่ตั้งใจ
    - ผู้ไม่หวังดีสามารถใช้หมายเลขเหล่านี้เพื่อเบี่ยงเบนสายโทรศัพท์และข้อความ รวมถึงรหัสความปลอดภัย

    ✅ การห้ามเช่า Global Titles มีผลตั้งแต่วันนี้
    - การห้ามเช่าใหม่มีผลทันที และการเช่าที่มีอยู่จะถูกยกเลิกในวันที่ 22 เมษายน 2026
    - ธุรกิจที่ใช้ Global Titles อย่างถูกต้องจะมีเวลาในการจัดการทางเลือกอื่น

    ✅ Ofcom ระบุว่าการห้ามนี้จะช่วยเพิ่มการป้องกันผู้บริโภค
    - การห้ามนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้หมายเลข Global Titles ตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี
    - ช่วยปกป้องผู้ใช้มือถือและโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่สำคัญ

    ✅ Ofcom ดำเนินการหลังจากความพยายามของอุตสาหกรรมล้มเหลว
    - อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NCSC) ทราบถึงภัยคุกคามจาก Global Titles มานานแล้ว

    https://www.neowin.net/news/ofcom-takes-decisive-action-against-powerful-tool-of-malicious-actors/
    Ofcom ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านดิจิทัลของสหราชอาณาจักร ได้ประกาศห้ามการเช่าหมายเลขโทรศัพท์ Global Titles เพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด โดยหมายเลขเหล่านี้สามารถถูกใช้โดยผู้ไม่หวังดีในการเบี่ยงเบนสายโทรศัพท์และข้อความ รวมถึงรหัสความปลอดภัยที่ส่งจากธนาคาร นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ผู้ไม่หวังดีสามารถติดตามตำแหน่งของผู้ใช้ได้ ✅ Ofcom ห้ามการเช่าหมายเลข Global Titles เพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด - Global Titles เป็นหมายเลขโทรศัพท์พิเศษที่ใช้ในเครือข่ายมือถือเพื่อให้สายโทรศัพท์และข้อความถึงผู้รับที่ตั้งใจ - ผู้ไม่หวังดีสามารถใช้หมายเลขเหล่านี้เพื่อเบี่ยงเบนสายโทรศัพท์และข้อความ รวมถึงรหัสความปลอดภัย ✅ การห้ามเช่า Global Titles มีผลตั้งแต่วันนี้ - การห้ามเช่าใหม่มีผลทันที และการเช่าที่มีอยู่จะถูกยกเลิกในวันที่ 22 เมษายน 2026 - ธุรกิจที่ใช้ Global Titles อย่างถูกต้องจะมีเวลาในการจัดการทางเลือกอื่น ✅ Ofcom ระบุว่าการห้ามนี้จะช่วยเพิ่มการป้องกันผู้บริโภค - การห้ามนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้หมายเลข Global Titles ตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี - ช่วยปกป้องผู้ใช้มือถือและโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่สำคัญ ✅ Ofcom ดำเนินการหลังจากความพยายามของอุตสาหกรรมล้มเหลว - อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NCSC) ทราบถึงภัยคุกคามจาก Global Titles มานานแล้ว https://www.neowin.net/news/ofcom-takes-decisive-action-against-powerful-tool-of-malicious-actors/
    WWW.NEOWIN.NET
    Ofcom takes decisive action against powerful tool of malicious actors
    Ofcom has announced that it's banning the leasing of Global Titles to help protect people from malicious actors who use Global Titles to intercept calls and messages.
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 Reviews
  • มีรายงานความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพในยูเครน:

    รายละเอียดข้อตกลงเริ่มหลุดมาถึงมือสื่อเพิ่มมากขึ้น หลังการเจรจาที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสโดยมีพันธมิตรยุโรปเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเมื่อสัปดาห์ก่อน รวมทั้งที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซียเมื่อต้นเดือน และหากครั้งนี้ล้มเหลว สหรัฐอาถอนตัวจากการมีส่วนร่วมในการเจรจา ตามที่ รูบิโอ รัฐมนตรีต่างสหรัฐกล่าวเมื่อวันก่อน

    สหรัฐต้องการให้ยูเครนยอมรับไครเมียเป็นดินแดนของรัสเซีย และยอมรับว่ารัสเซียควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ยึดครองมาตั้งแต่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในปี 2022 อ้างอิงตามแหล่งข่าวที่ทราบผลการเจรจาดังกล่าว

    นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมคือ:
    👉สิ่งที่รัสเซียจะได้รับ:
    - การรับรองทางกฎหมายของสหรัฐฯ ว่าไครเมียเป็นของรัสเซีย
    - การยอมรับภูมิภาคโดเนตสค์ ลูฮันสค์ เคอร์ซอน และซาโปริซเซีย ในส่วนที่รัสเซียปลดปล่อยไปแล้ว ดินแดนส่วนที่เหลือที่รัสเซียยังไม่ได้ปลดปล่อย อาจต้องอยู่ในการครอบครองของยูเครนต่อไป
    - คำมั่นสัญญาว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมนาโต แต่การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอาจยังคงเป็นไปได้
    - การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหลังปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่หลังจากรัสเซียเข้ายึดครองไครเมีย

    👉สิ่งที่ยูเครนจะได้รับ:
    - “การรับประกันความปลอดภัยที่มั่นคง” แม้ว่าขณะนี้ยังมีความสับสน และยังไม่ลงตัวท้ังหมด แต่เบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนที่พันธมิตรของยุโรปให้การรับประกันแล้ว และพยายามโน้มน้าวให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม
    - รัสเซียต้องคืนพื้นที่ในภูมิภาคคาร์คิฟที่ยึดไว้ตอนนี้ (มีไม่มากเท่าไหร่)
    - มีสิทธิเหนือน่านน้ำนีเปอร์ (Dnipro) อย่างเต็มที่ เพื่อใช้ในการเดินเรือออกสู่ทะเลดำ (Black Sea)
    - ความช่วยเหลือเพื่อการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ระบบเศรษฐกิจของยูเครน แต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องแหล่งที่มาของเงินทุน

    👉สิ่งที่สหรัฐจะได้รับ: (เรียกเก็บค่าดำเนินการ 😂)
    - โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (ZNPP) จะอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครน แต่สหรัฐจะเป็นฝ่ายบริหารจัดการแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะมีหน้าที่ให้บริการระบบไฟฟ้าแก่ทั้งสองฝ่าย รายได้จากการดำเนินงาน จะเข้ากองทุนส่วนกลางที่สหรัฐและยูเครนร่วมกันจัดตั้ง
    - ข้อตกลงด้านแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนคาดว่าจะลงนามในวันพฤหัสบดี
    - ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านพลังงานและอุตสาหกรรม
    มีรายงานความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพในยูเครน: รายละเอียดข้อตกลงเริ่มหลุดมาถึงมือสื่อเพิ่มมากขึ้น หลังการเจรจาที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสโดยมีพันธมิตรยุโรปเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเมื่อสัปดาห์ก่อน รวมทั้งที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซียเมื่อต้นเดือน และหากครั้งนี้ล้มเหลว สหรัฐอาถอนตัวจากการมีส่วนร่วมในการเจรจา ตามที่ รูบิโอ รัฐมนตรีต่างสหรัฐกล่าวเมื่อวันก่อน สหรัฐต้องการให้ยูเครนยอมรับไครเมียเป็นดินแดนของรัสเซีย และยอมรับว่ารัสเซียควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ยึดครองมาตั้งแต่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในปี 2022 อ้างอิงตามแหล่งข่าวที่ทราบผลการเจรจาดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมคือ: 👉สิ่งที่รัสเซียจะได้รับ: - การรับรองทางกฎหมายของสหรัฐฯ ว่าไครเมียเป็นของรัสเซีย - การยอมรับภูมิภาคโดเนตสค์ ลูฮันสค์ เคอร์ซอน และซาโปริซเซีย ในส่วนที่รัสเซียปลดปล่อยไปแล้ว ดินแดนส่วนที่เหลือที่รัสเซียยังไม่ได้ปลดปล่อย อาจต้องอยู่ในการครอบครองของยูเครนต่อไป - คำมั่นสัญญาว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วมนาโต แต่การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอาจยังคงเป็นไปได้ - การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหลังปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่หลังจากรัสเซียเข้ายึดครองไครเมีย 👉สิ่งที่ยูเครนจะได้รับ: - “การรับประกันความปลอดภัยที่มั่นคง” แม้ว่าขณะนี้ยังมีความสับสน และยังไม่ลงตัวท้ังหมด แต่เบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนที่พันธมิตรของยุโรปให้การรับประกันแล้ว และพยายามโน้มน้าวให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม - รัสเซียต้องคืนพื้นที่ในภูมิภาคคาร์คิฟที่ยึดไว้ตอนนี้ (มีไม่มากเท่าไหร่) - มีสิทธิเหนือน่านน้ำนีเปอร์ (Dnipro) อย่างเต็มที่ เพื่อใช้ในการเดินเรือออกสู่ทะเลดำ (Black Sea) - ความช่วยเหลือเพื่อการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ระบบเศรษฐกิจของยูเครน แต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องแหล่งที่มาของเงินทุน 👉สิ่งที่สหรัฐจะได้รับ: (เรียกเก็บค่าดำเนินการ 😂) - โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (ZNPP) จะอยู่ภายใต้การปกครองของยูเครน แต่สหรัฐจะเป็นฝ่ายบริหารจัดการแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะมีหน้าที่ให้บริการระบบไฟฟ้าแก่ทั้งสองฝ่าย รายได้จากการดำเนินงาน จะเข้ากองทุนส่วนกลางที่สหรัฐและยูเครนร่วมกันจัดตั้ง - ข้อตกลงด้านแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนคาดว่าจะลงนามในวันพฤหัสบดี - ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านพลังงานและอุตสาหกรรม
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • เซเลนสกีทนไม่ไหว ขอเรียกร้องหยุดยิงอีกครั้ง!!

    เซเลนสกีโพสต์วิดีโอความเสียหายจากการโจมตีจากรัสเซีย พร้อมเรียกร้องให้มีการขยายเวลาหยุดยิงต่อจากวันอิสเตอร์ออกไปอีก


    ยูเครนเสนอให้ขยายเวลาหยุดยิงหลังอีสเตอร์และทำให้ครอบคลุมทุกด้าน ข้อเสนอของเราในการหยุดการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนยังคงอยู่บนโต๊ะเจรจาเช่นกัน สิ่งที่จำเป็นคือความพร้อมอย่างแท้จริงจากรัสเซียในการเข้าร่วมการสนทนานี้ ไม่มีและจะไม่มีทางตันใดๆ ในฝั่งยูเครน

    Ukraine proposed to extend the ceasefire after Easter and make it comprehensive. Our proposal to halt strikes on civilian infrastructure remains on the table as well. What’s needed is genuine readiness from Russia to engage in this conversation. There are and will be no impasses on the Ukrainian side.
    เซเลนสกีทนไม่ไหว ขอเรียกร้องหยุดยิงอีกครั้ง!! เซเลนสกีโพสต์วิดีโอความเสียหายจากการโจมตีจากรัสเซีย พร้อมเรียกร้องให้มีการขยายเวลาหยุดยิงต่อจากวันอิสเตอร์ออกไปอีก ยูเครนเสนอให้ขยายเวลาหยุดยิงหลังอีสเตอร์และทำให้ครอบคลุมทุกด้าน ข้อเสนอของเราในการหยุดการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนยังคงอยู่บนโต๊ะเจรจาเช่นกัน สิ่งที่จำเป็นคือความพร้อมอย่างแท้จริงจากรัสเซียในการเข้าร่วมการสนทนานี้ ไม่มีและจะไม่มีทางตันใดๆ ในฝั่งยูเครน Ukraine proposed to extend the ceasefire after Easter and make it comprehensive. Our proposal to halt strikes on civilian infrastructure remains on the table as well. What’s needed is genuine readiness from Russia to engage in this conversation. There are and will be no impasses on the Ukrainian side.
    0 Comments 0 Shares 205 Views 14 0 Reviews
  • NVIDIA และ AMD กำลังแข่งขันกันเพื่อสร้างอิทธิพลในตลาด AI ของญี่ปุ่น หลังจากที่ทั้งสองบริษัทส่งซีอีโอไปเยือนประเทศในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายการลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในญี่ปุ่น

    ✅ ญี่ปุ่นต้องการเป็นศูนย์กลางการพัฒนา AI ระดับโลก
    - รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังผลักดันให้ประเทศเป็น "ประเทศที่ง่ายที่สุดในการพัฒนาและใช้ AI"
    - มีการลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI เพื่อแข่งขันในตลาดโลก

    ✅ ซีอีโอของ NVIDIA และ AMD พบกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
    - Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ได้หารือกับนายกรัฐมนตรี Shigeru Ishiba เกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับอุตสาหกรรม AI
    - Lisa Su ซีอีโอของ AMD ก็เดินทางไปพบกับนายกรัฐมนตรีและพันธมิตรทางธุรกิจในญี่ปุ่น

    ✅ NVIDIA มอบ DGX Spark AI Supercomputer ให้กับรัฐบาลญี่ปุ่น
    - เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่าง NVIDIA และญี่ปุ่นในการพัฒนา AI

    ✅ AMD กำลังขยายความร่วมมือกับญี่ปุ่นในด้าน AI
    - รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสนใจในการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ AMD

    https://wccftech.com/nvidia-and-amd-ceos-pay-a-visit-to-japan-in-quick-succession/
    NVIDIA และ AMD กำลังแข่งขันกันเพื่อสร้างอิทธิพลในตลาด AI ของญี่ปุ่น หลังจากที่ทั้งสองบริษัทส่งซีอีโอไปเยือนประเทศในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายการลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในญี่ปุ่น ✅ ญี่ปุ่นต้องการเป็นศูนย์กลางการพัฒนา AI ระดับโลก - รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังผลักดันให้ประเทศเป็น "ประเทศที่ง่ายที่สุดในการพัฒนาและใช้ AI" - มีการลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI เพื่อแข่งขันในตลาดโลก ✅ ซีอีโอของ NVIDIA และ AMD พบกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น - Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ได้หารือกับนายกรัฐมนตรี Shigeru Ishiba เกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับอุตสาหกรรม AI - Lisa Su ซีอีโอของ AMD ก็เดินทางไปพบกับนายกรัฐมนตรีและพันธมิตรทางธุรกิจในญี่ปุ่น ✅ NVIDIA มอบ DGX Spark AI Supercomputer ให้กับรัฐบาลญี่ปุ่น - เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่าง NVIDIA และญี่ปุ่นในการพัฒนา AI ✅ AMD กำลังขยายความร่วมมือกับญี่ปุ่นในด้าน AI - รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสนใจในการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ AMD https://wccftech.com/nvidia-and-amd-ceos-pay-a-visit-to-japan-in-quick-succession/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA and AMD CEOs Pay a Visit To Japan In Quick Succession, Meet with PM Ishiba to Capitalize on the Nation's AI Ambitions
    The CEOs of NVIDIA and AMD have reportedly visited Japan in quick succession, as both firms are eager to capitalize on a growing AI market.
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้เปิดเผยความคืบหน้าของ Secure Future Initiative (SFI) ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการปรับปรุงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และบริการ โดยขณะนี้ 5 จาก 28 เป้าหมาย กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ และมี

    ✅ Microsoft กำลังดำเนินการปรับปรุงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และบริการ
    - SFI เป็นโครงการที่เริ่มต้นในปี 2023 หลังจาก Microsoft เผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่
    - เป้าหมายของโครงการคือการออกแบบ, ทดสอบ และดำเนินการผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด

    ✅ พนักงานกว่า 99% ได้รับการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย
    - หลักสูตร Security Foundations และ Trust Code ช่วยเพิ่มความตระหนักด้านความปลอดภัย
    - พนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมมีแนวโน้มที่จะตกเป็นเหยื่อของฟิชชิงน้อยลงถึง 50%

    ✅ Microsoft เพิ่มการตรวจจับภัยคุกคามกว่า 200 รายการในโครงสร้างพื้นฐาน
    - การตรวจจับนี้ช่วยให้สามารถระบุพฤติกรรมของผู้โจมตีได้ดีขึ้น
    - ข้อมูลที่ได้รับจะถูกนำไปใช้ใน Microsoft Defender เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน

    ✅ Azure เปิดตัวฟีเจอร์ป้องกันการฉ้อโกงด้วย Multi-Factor Authentication (MFA)
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - Microsoft ได้บังคับใช้ MFA สำหรับผู้ใช้ Microsoft 365 admin center

    https://www.csoonline.com/article/3966122/microsoft-sfi-update-five-of-28-security-objectives-nearly-complete.html
    Microsoft ได้เปิดเผยความคืบหน้าของ Secure Future Initiative (SFI) ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการปรับปรุงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และบริการ โดยขณะนี้ 5 จาก 28 เป้าหมาย กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ และมี ✅ Microsoft กำลังดำเนินการปรับปรุงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และบริการ - SFI เป็นโครงการที่เริ่มต้นในปี 2023 หลังจาก Microsoft เผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ - เป้าหมายของโครงการคือการออกแบบ, ทดสอบ และดำเนินการผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ✅ พนักงานกว่า 99% ได้รับการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย - หลักสูตร Security Foundations และ Trust Code ช่วยเพิ่มความตระหนักด้านความปลอดภัย - พนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมมีแนวโน้มที่จะตกเป็นเหยื่อของฟิชชิงน้อยลงถึง 50% ✅ Microsoft เพิ่มการตรวจจับภัยคุกคามกว่า 200 รายการในโครงสร้างพื้นฐาน - การตรวจจับนี้ช่วยให้สามารถระบุพฤติกรรมของผู้โจมตีได้ดีขึ้น - ข้อมูลที่ได้รับจะถูกนำไปใช้ใน Microsoft Defender เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน ✅ Azure เปิดตัวฟีเจอร์ป้องกันการฉ้อโกงด้วย Multi-Factor Authentication (MFA) - ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต - Microsoft ได้บังคับใช้ MFA สำหรับผู้ใช้ Microsoft 365 admin center https://www.csoonline.com/article/3966122/microsoft-sfi-update-five-of-28-security-objectives-nearly-complete.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Microsoft SFI update: Five of 28 security objectives nearly complete
    Executive “supersatisified” with work so far on project to overhaul company security culture and application design.
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
  • การสร้างสมดุลของจักรวาลมนุษย์ชาติ (Human Universe) เป็นแนวคิดที่ซับซ้อน ครอบคลุมทั้งมิติทางสังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และจิตวิญญาณ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและความปรองดองร่วมกัน ต่อไปนี้คือแนวทางหลักที่อาจนำไปสู่การสร้างสมดุลดังกล่าว:

    ### 1. **สมดุลทางสิ่งแวดล้อม**
    - **เปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด**: ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล หันไปใช้พลังงานหมุนเวียน (เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม) และส่งเสริมเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ
    - **ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)**: ลดการผลิตของเสียโดยออกแบบระบบการใช้วัสดุใหม่ (Reuse-Recycle) และส่งเสริมการบริโภคอย่างรับผิดชอบ
    - **ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ**: ฟื้นฟูระบบนิเวศ สร้างพื้นที่อนุรักษ์ และควบคุมการตัดไม้ทำลายป่า

    ### 2. **สมดุลทางสังคม**
    - **ลดความเหลื่อมล้ำ**: สร้างระบบสวัสดิการที่ทั่วถึง สนับสนุนการศึกษาและสุขภาพฟรีหรือราคาเข้าถึงได้ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ห่างไกล
    - **ส่งเสริมความเท่าเทียม**: ขจัดการเลือกปฏิบัติทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา และสถานะทางสังคม
    - **สร้างชุมชนเข้มแข็ง**: สนับสนุนการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นในการตัดสินใจ และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน

    ### 3. **สมดุลทางเศรษฐกิจ**
    - **เศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์**: ลดการผูกขาดโดยบริษัทขนาดใหญ่ สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นและสตาร์ทอัพ
    - **วัดความเจริญด้วยดัชนีใหม่**: ไม่ใช้เพียง GDP แต่รวมถึงความสุขมวลรวม (Gross National Happiness) หรือดัชนีความยั่งยืน
    - **ภาษีโปรเกรสซีฟ**: เก็บภาษีจากกลุ่มรายได้สูงและบริษัทข้ามชาติเพื่อกระจายความมั่งคั่ง

    ### 4. **สมดุลทางเทคโนโลยี**
    - **จริยธรรมเทคโนโลยี**: ควบคุมการใช้ AI และข้อมูลส่วนตัวเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ
    - **เทคโนโลยีเพื่อสังคม**: พัฒนานวัตกรรมที่แก้ปัญหาสังคม เช่น เทคโนโลยีช่วยเกษตรกรหรือระบบสุขภาพดิจิทัล
    - **ลดช่องว่างดิจิทัล**: ให้ทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและความรู้ดิจิทัล

    ### 5. **สมดุลทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ**
    - **เคารพความหลากหลาย**: ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
    - **สร้างจิตสำนึกใหม่**: ปลูกฝังค่านิยมเช่นความพอเพียง (ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง) และความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
    - **ส่งเสริมสติและสุขภาพจิต**: บูรณาการ mindfulness ในการศึกษาและการทำงาน

    ### 6. **สมดุลทางการเมืองและการปกครอง**
    - **ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม**: เปิดช่องทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมนโยบายผ่าน Digital Platform
    - **ความร่วมมือระดับโลก**: เสริมสร้างองค์กรระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาร่วม เช่น ภาวะโลกร้อนหรือการค้ามนุษย์
    - **ต่อต้านการทุจริต**: สร้างระบบตรวจสอบที่โปร่งใส และส่งเสริมหลักนิติธรรม

    ### 7. **การศึกษาเพื่อการเปลี่ยนแปลง**
    - **เรียนรู้นอกกรอบ**: สอนทักษะศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) และทักษะการอยู่ร่วมกัน
    - **การศึกษาเชิงบูรณาการ**: ผสมผสานความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับศิลปะและมนุษยศาสตร์

    ### บทสรุป
    สมดุลของจักรวาลมนุษย์ชาติไม่ใช่สถานะที่ตายตัว แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องอาศัยการปรับตัว ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และการมองมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ ไม่ใช่ผู้ครอบครอง การสร้างสมดุลนี้ต้องเริ่มจาก "การเปลี่ยนแปลงภายใน" ของแต่ละคน สู่การขับเคลื่อนนโยบายระดับโลก พร้อมกันนั้น ต้องไม่ลืมว่าความหลากหลายทางความคิดและวัฒนธรรมคือพลังขับเคลื่อน ไม่ใช่สิ่งต้องกำจัด!
    การสร้างสมดุลของจักรวาลมนุษย์ชาติ (Human Universe) เป็นแนวคิดที่ซับซ้อน ครอบคลุมทั้งมิติทางสังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และจิตวิญญาณ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและความปรองดองร่วมกัน ต่อไปนี้คือแนวทางหลักที่อาจนำไปสู่การสร้างสมดุลดังกล่าว: ### 1. **สมดุลทางสิ่งแวดล้อม** - **เปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด**: ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล หันไปใช้พลังงานหมุนเวียน (เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม) และส่งเสริมเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ - **ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)**: ลดการผลิตของเสียโดยออกแบบระบบการใช้วัสดุใหม่ (Reuse-Recycle) และส่งเสริมการบริโภคอย่างรับผิดชอบ - **ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ**: ฟื้นฟูระบบนิเวศ สร้างพื้นที่อนุรักษ์ และควบคุมการตัดไม้ทำลายป่า ### 2. **สมดุลทางสังคม** - **ลดความเหลื่อมล้ำ**: สร้างระบบสวัสดิการที่ทั่วถึง สนับสนุนการศึกษาและสุขภาพฟรีหรือราคาเข้าถึงได้ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ห่างไกล - **ส่งเสริมความเท่าเทียม**: ขจัดการเลือกปฏิบัติทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา และสถานะทางสังคม - **สร้างชุมชนเข้มแข็ง**: สนับสนุนการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นในการตัดสินใจ และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ### 3. **สมดุลทางเศรษฐกิจ** - **เศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์**: ลดการผูกขาดโดยบริษัทขนาดใหญ่ สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นและสตาร์ทอัพ - **วัดความเจริญด้วยดัชนีใหม่**: ไม่ใช้เพียง GDP แต่รวมถึงความสุขมวลรวม (Gross National Happiness) หรือดัชนีความยั่งยืน - **ภาษีโปรเกรสซีฟ**: เก็บภาษีจากกลุ่มรายได้สูงและบริษัทข้ามชาติเพื่อกระจายความมั่งคั่ง ### 4. **สมดุลทางเทคโนโลยี** - **จริยธรรมเทคโนโลยี**: ควบคุมการใช้ AI และข้อมูลส่วนตัวเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ - **เทคโนโลยีเพื่อสังคม**: พัฒนานวัตกรรมที่แก้ปัญหาสังคม เช่น เทคโนโลยีช่วยเกษตรกรหรือระบบสุขภาพดิจิทัล - **ลดช่องว่างดิจิทัล**: ให้ทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและความรู้ดิจิทัล ### 5. **สมดุลทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ** - **เคารพความหลากหลาย**: ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น - **สร้างจิตสำนึกใหม่**: ปลูกฝังค่านิยมเช่นความพอเพียง (ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง) และความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ - **ส่งเสริมสติและสุขภาพจิต**: บูรณาการ mindfulness ในการศึกษาและการทำงาน ### 6. **สมดุลทางการเมืองและการปกครอง** - **ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม**: เปิดช่องทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมนโยบายผ่าน Digital Platform - **ความร่วมมือระดับโลก**: เสริมสร้างองค์กรระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาร่วม เช่น ภาวะโลกร้อนหรือการค้ามนุษย์ - **ต่อต้านการทุจริต**: สร้างระบบตรวจสอบที่โปร่งใส และส่งเสริมหลักนิติธรรม ### 7. **การศึกษาเพื่อการเปลี่ยนแปลง** - **เรียนรู้นอกกรอบ**: สอนทักษะศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) และทักษะการอยู่ร่วมกัน - **การศึกษาเชิงบูรณาการ**: ผสมผสานความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับศิลปะและมนุษยศาสตร์ ### บทสรุป สมดุลของจักรวาลมนุษย์ชาติไม่ใช่สถานะที่ตายตัว แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องอาศัยการปรับตัว ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และการมองมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ ไม่ใช่ผู้ครอบครอง การสร้างสมดุลนี้ต้องเริ่มจาก "การเปลี่ยนแปลงภายใน" ของแต่ละคน สู่การขับเคลื่อนนโยบายระดับโลก พร้อมกันนั้น ต้องไม่ลืมว่าความหลากหลายทางความคิดและวัฒนธรรมคือพลังขับเคลื่อน ไม่ใช่สิ่งต้องกำจัด!
    0 Comments 0 Shares 271 Views 0 Reviews
  • NTT Japan ได้พัฒนา ระบบโดรนป้องกันฟ้าผ่า ซึ่งเป็นระบบแรกของโลกที่สามารถ กระตุ้นและนำทางฟ้าผ่า เพื่อปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน โดยระบบนี้ใช้โดรนที่ติดตั้งในกรงป้องกันฟ้าผ่า และสามารถตรวจจับสภาพอากาศเพื่อส่งโดรนขึ้นไปสกัดฟ้าผ่าก่อนที่มันจะสร้างความเสียหาย

    ✅ NTT Japan พัฒนาระบบโดรนที่สามารถกระตุ้นและนำทางฟ้าผ่า
    - โดรนถูกออกแบบให้สามารถบินเข้าใกล้เมฆพายุและกระตุ้นฟ้าผ่า
    - ใช้กรงป้องกันฟ้าผ่าเพื่อให้โดรนสามารถบินต่อไปได้แม้ถูกฟ้าผ่า

    ✅ การทดลองครั้งแรกประสบความสำเร็จในการกระตุ้นฟ้าผ่า
    - ในการทดสอบเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2024 โดรนสามารถกระตุ้นฟ้าผ่าได้จริง
    - ระบบสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้าและส่งโดรนขึ้นไปสกัดฟ้าผ่า

    ✅ ระบบนี้สามารถช่วยปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน
    - ฟ้าผ่าทำให้เกิดความเสียหายกว่า 100-200 พันล้านเยนต่อปีในญี่ปุ่น
    - ระบบโดรนสามารถช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกังหันลมและอาคารสูง

    ✅ NTT กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเก็บพลังงานจากฟ้าผ่า
    - มีแผนที่จะวิจัยวิธีการเก็บพลังงานจากฟ้าผ่าเพื่อใช้ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-drone-system-for-fighting-lightning-protects-cities-and-infrastructure
    NTT Japan ได้พัฒนา ระบบโดรนป้องกันฟ้าผ่า ซึ่งเป็นระบบแรกของโลกที่สามารถ กระตุ้นและนำทางฟ้าผ่า เพื่อปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน โดยระบบนี้ใช้โดรนที่ติดตั้งในกรงป้องกันฟ้าผ่า และสามารถตรวจจับสภาพอากาศเพื่อส่งโดรนขึ้นไปสกัดฟ้าผ่าก่อนที่มันจะสร้างความเสียหาย ✅ NTT Japan พัฒนาระบบโดรนที่สามารถกระตุ้นและนำทางฟ้าผ่า - โดรนถูกออกแบบให้สามารถบินเข้าใกล้เมฆพายุและกระตุ้นฟ้าผ่า - ใช้กรงป้องกันฟ้าผ่าเพื่อให้โดรนสามารถบินต่อไปได้แม้ถูกฟ้าผ่า ✅ การทดลองครั้งแรกประสบความสำเร็จในการกระตุ้นฟ้าผ่า - ในการทดสอบเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2024 โดรนสามารถกระตุ้นฟ้าผ่าได้จริง - ระบบสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้าและส่งโดรนขึ้นไปสกัดฟ้าผ่า ✅ ระบบนี้สามารถช่วยปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน - ฟ้าผ่าทำให้เกิดความเสียหายกว่า 100-200 พันล้านเยนต่อปีในญี่ปุ่น - ระบบโดรนสามารถช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกังหันลมและอาคารสูง ✅ NTT กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเก็บพลังงานจากฟ้าผ่า - มีแผนที่จะวิจัยวิธีการเก็บพลังงานจากฟ้าผ่าเพื่อใช้ในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-drone-system-for-fighting-lightning-protects-cities-and-infrastructure
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    World's first drone system for fighting lightning protects cities and infrastructure
    NNT's drones flew in lightning-resistant cages and hope to, some day, tap and store the power of thunderclouds.
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • Bloomberg รายงานว่า ด้วยความช่วยเหลือจากรัสเซีย อิหร่านกำลังสร้างโครงการอวกาศที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในตะวันออกกลาง

    อิหร่านจะมีความสามารถในการปล่อยดาวเทียม จรวด และขีปนาวุธพิสัยไกลจากเขตชาบาฮาร์ ที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ และตั้งอยู่บริเวณพรมแดนของอิหร่านติดกับปากีสถาน


    ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่สำหรับจุดประสงค์ดังกล่าวได้รับการสร้างขึ้นมาเป็นเวลา 4 ปี โดยเทียบเท่ากับแหลมคานาเวอรัลของรัฐฟลอริดา
    Bloomberg รายงานว่า ด้วยความช่วยเหลือจากรัสเซีย อิหร่านกำลังสร้างโครงการอวกาศที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในตะวันออกกลาง อิหร่านจะมีความสามารถในการปล่อยดาวเทียม จรวด และขีปนาวุธพิสัยไกลจากเขตชาบาฮาร์ ที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ และตั้งอยู่บริเวณพรมแดนของอิหร่านติดกับปากีสถาน ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่สำหรับจุดประสงค์ดังกล่าวได้รับการสร้างขึ้นมาเป็นเวลา 4 ปี โดยเทียบเท่ากับแหลมคานาเวอรัลของรัฐฟลอริดา
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 233 Views 0 Reviews
  • บทความนี้รายงานเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้เครื่องมือ ClickFix ซึ่งพัฒนาโดยอาชญากรไซเบอร์และถูกนำไปใช้โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เช่น Kimsuky จากเกาหลีเหนือ, MuddyWater จากอิหร่าน และ APT28 จากรัสเซีย เครื่องมือนี้เป็นการพัฒนาจากเทคนิควิศวกรรมสังคมแบบเก่า โดยเริ่มต้นด้วยป๊อปอัปที่หลอกลวงให้ผู้ใช้ดำเนินการ เช่น การคัดลอกและวางคำสั่งในโปรแกรม Run ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถติดตั้งมัลแวร์ได้

    ✅ ClickFix เป็นเครื่องมือที่พัฒนาโดยอาชญากรไซเบอร์
    - ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคม เช่น ป๊อปอัปที่หลอกลวงให้ผู้ใช้ดำเนินการ
    - ผู้ใช้บางครั้งถูกขอให้ทำ CAPTCHA หรือยืนยันตัวตน

    ✅ กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐนำ ClickFix ไปใช้ในแคมเปญโจมตี
    - กลุ่มที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ Kimsuky, MuddyWater, และ APT28
    - การโจมตีส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการจารกรรมไซเบอร์

    ✅ ClickFix เป็นการพัฒนาจากเทคนิคหลอกลวงแบบเก่า
    - เดิมทีใช้ป๊อปอัปที่หลอกให้ดาวน์โหลดโปรแกรมแอนตี้ไวรัสปลอม
    - ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นการหลอกให้คัดลอกคำสั่งเพื่อรันในระบบ

    ✅ Proofpoint รายงานว่า ClickFix ถูกใช้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024
    - การโจมตีมุ่งเป้าไปที่องค์กรสำคัญ เช่น โครงสร้างพื้นฐานและหน่วยงานทางการทูต

    https://www.techradar.com/pro/security/state-sponsored-actors-spotted-using-clickfix-hacking-tool-developed-by-criminals
    บทความนี้รายงานเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้เครื่องมือ ClickFix ซึ่งพัฒนาโดยอาชญากรไซเบอร์และถูกนำไปใช้โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เช่น Kimsuky จากเกาหลีเหนือ, MuddyWater จากอิหร่าน และ APT28 จากรัสเซีย เครื่องมือนี้เป็นการพัฒนาจากเทคนิควิศวกรรมสังคมแบบเก่า โดยเริ่มต้นด้วยป๊อปอัปที่หลอกลวงให้ผู้ใช้ดำเนินการ เช่น การคัดลอกและวางคำสั่งในโปรแกรม Run ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถติดตั้งมัลแวร์ได้ ✅ ClickFix เป็นเครื่องมือที่พัฒนาโดยอาชญากรไซเบอร์ - ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคม เช่น ป๊อปอัปที่หลอกลวงให้ผู้ใช้ดำเนินการ - ผู้ใช้บางครั้งถูกขอให้ทำ CAPTCHA หรือยืนยันตัวตน ✅ กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐนำ ClickFix ไปใช้ในแคมเปญโจมตี - กลุ่มที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ Kimsuky, MuddyWater, และ APT28 - การโจมตีส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการจารกรรมไซเบอร์ ✅ ClickFix เป็นการพัฒนาจากเทคนิคหลอกลวงแบบเก่า - เดิมทีใช้ป๊อปอัปที่หลอกให้ดาวน์โหลดโปรแกรมแอนตี้ไวรัสปลอม - ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นการหลอกให้คัดลอกคำสั่งเพื่อรันในระบบ ✅ Proofpoint รายงานว่า ClickFix ถูกใช้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 - การโจมตีมุ่งเป้าไปที่องค์กรสำคัญ เช่น โครงสร้างพื้นฐานและหน่วยงานทางการทูต https://www.techradar.com/pro/security/state-sponsored-actors-spotted-using-clickfix-hacking-tool-developed-by-criminals
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนามมีแผนที่จะเข้าถือหุ้นใหญ่ใน FPT Telecom ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับชาติ การดำเนินการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมภาคส่วนอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคมของประเทศ

    ✅ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะมีบทบาทเพิ่มขึ้นในภาคส่วนอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคม
    - กระทรวงฯ ได้เข้าควบคุม MobiFone ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับสามของประเทศเมื่อปีที่แล้ว
    - มีการออกกฎระเบียบด้านการปกป้องข้อมูลที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งสร้างความกังวลให้กับบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติ

    ✅ การเข้าถือหุ้นใหญ่ใน FPT Telecom มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์
    - การดำเนินการนี้ช่วยให้รัฐบาลสามารถ ควบคุมโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น
    - เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับชาติ

    ✅ FPT Telecom เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ในเวียดนาม
    - บริษัทมีบทบาทสำคัญในการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ประชาชนและองค์กรต่างๆ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/vietnam039s-public-security-ministry-aims-to-take-majority-stake-in-internet-firm-document-shows
    กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนามมีแผนที่จะเข้าถือหุ้นใหญ่ใน FPT Telecom ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับชาติ การดำเนินการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมภาคส่วนอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคมของประเทศ ✅ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะมีบทบาทเพิ่มขึ้นในภาคส่วนอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคม - กระทรวงฯ ได้เข้าควบคุม MobiFone ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับสามของประเทศเมื่อปีที่แล้ว - มีการออกกฎระเบียบด้านการปกป้องข้อมูลที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งสร้างความกังวลให้กับบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติ ✅ การเข้าถือหุ้นใหญ่ใน FPT Telecom มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ - การดำเนินการนี้ช่วยให้รัฐบาลสามารถ ควบคุมโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น - เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับชาติ ✅ FPT Telecom เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ในเวียดนาม - บริษัทมีบทบาทสำคัญในการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่ประชาชนและองค์กรต่างๆ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/18/vietnam039s-public-security-ministry-aims-to-take-majority-stake-in-internet-firm-document-shows
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Vietnam's public security ministry aims to take majority stake in internet firm, document shows
    HANOI (Reuters) - Vietnam's Ministry of Public Security plans to take a majority stake in FPT Telecom, one of the country's largest internet providers, as part of its efforts to boost national cybersecurity, according to a document seen by Reuters.
    0 Comments 0 Shares 171 Views 0 Reviews
  • “สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินสะสม ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2568 จำนวน 79,054 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 45% ของเป้าหมายทั้งปี”นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2568 สคร. มีเป้าหมายในการจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 (เงินนำส่งรายได้แผ่นดินฯ) จำนวน 176,500 ล้านบาท โดยไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 - 31 มีนาคม 2568) มีประมาณการเงินนำส่งรายได้แผ่นดินฯ สะสมจำนวน 62,975 ล้านบาท และ สคร. สามารถจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินฯ สะสมรวมทั้งสิ้นจำนวน 79,054 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการสะสมอยู่ที่จำนวน 16,079 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 126 ของประมาณการสะสม และคิดเป็นร้อยละ 45 ของเป้าหมายการจัดเก็บทั้งปี ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 ที่นำส่งรายได้แผ่นดินสูงสุด 10 อันดับแรก (ไม่รวมภาษีหรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ) แสดงได้ตามตาราง ดังนี้ลำดับที่ รัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 จำนวน (ล้านบาท)1) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย1 26,349 2) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 22,610 3) ธนาคารออมสิน 8,323 4) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (10,000 of 14,285.7) 7,900 5) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 7,226 6) การไฟฟ้านครหลวง 3,468 7) การประปาส่วนภูมิภาค 1,820 8) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) 739 9) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย 197 10) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย 109 หมายเหตุ: 1รวมเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากการจัดสรรกำไรสุทธิปี 2566 จำนวน 20,566 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักนโยบายและแผนรัฐวิสาหกิจ โทร. 0 2298 5880 ต่อ 60113
    “สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินสะสม ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2568 จำนวน 79,054 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 45% ของเป้าหมายทั้งปี”นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2568 สคร. มีเป้าหมายในการจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 (เงินนำส่งรายได้แผ่นดินฯ) จำนวน 176,500 ล้านบาท โดยไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2568 (1 ตุลาคม 2567 - 31 มีนาคม 2568) มีประมาณการเงินนำส่งรายได้แผ่นดินฯ สะสมจำนวน 62,975 ล้านบาท และ สคร. สามารถจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินฯ สะสมรวมทั้งสิ้นจำนวน 79,054 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการสะสมอยู่ที่จำนวน 16,079 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 126 ของประมาณการสะสม และคิดเป็นร้อยละ 45 ของเป้าหมายการจัดเก็บทั้งปี ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 ที่นำส่งรายได้แผ่นดินสูงสุด 10 อันดับแรก (ไม่รวมภาษีหรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ) แสดงได้ตามตาราง ดังนี้ลำดับที่ รัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 จำนวน (ล้านบาท)1) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย1 26,349 2) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 22,610 3) ธนาคารออมสิน 8,323 4) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (10,000 of 14,285.7) 7,900 5) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 7,226 6) การไฟฟ้านครหลวง 3,468 7) การประปาส่วนภูมิภาค 1,820 8) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) 739 9) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย 197 10) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย 109 หมายเหตุ: 1รวมเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากการจัดสรรกำไรสุทธิปี 2566 จำนวน 20,566 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักนโยบายและแผนรัฐวิสาหกิจ โทร. 0 2298 5880 ต่อ 60113
    0 Comments 0 Shares 317 Views 0 Reviews
  • ยูเลีย สวีรีเดนโก (Yulia Svyrydenko) รองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง และรมต.กระทรวงเศรษฐกิจและการค้ายูเครน ประกาศการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (Memorandum) เกี่ยวกับข้อตกลงด้านแร่ธาตุกับสหรัฐแล้ว (บันทึกความเข้าใจยังไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย)

    สวีรีเดนโก กล่าวอีกว่า ทั้งสองประเทศจะเร่งสรุปกรอบของข้อตกลงด้านแร่ธาตุและลงนามในข้อตกลงอย่างเป็นทางการต่อไป


    ทางด้านเซเลนสกีได้ยืนยันถึงการลงนามตามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ (Memorandum) และยังกล่าวอีกว่า "นี่ยังไม่ใช่ข้อตกลงขั้นตอนสุดท้ายที่แท้จริง"

    ขณะเดียวกันทรัมป์ได้กล่าวในวันนี้ว่า ข้อตกลงขั้นสุดท้ายกับยูเครนในเรื่องทรัพยากรแร่ธาตุจะมีการ "ลงนามข้อตกลง" ในวันพฤหัสบดีหน้านี้


    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว The New York Times เปิดเผยเกี่ยวกับรายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯและยูเครน โดยระบุว่า:

    ยูเครนจะต้องคืนเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐส่งความช่วยเหลือทางการทหารตลอดระยะเวลา 3 ปีของการต่อสู้กับรัสเซียให้แก่สหรัฐฯ

    ยูเครนจะต้องแบ่งรายได้ครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดจากการทำธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งรายได้จากโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เช่น ท่าเรือ ท่อส่งน้ำมันและก๊าซ เข้ากองทุนที่สหรัฐกำลังจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนต่อในด้านโครงการทรัพยากรธรรมชาติของยูเครน แต่ยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าสหรัฐจะร่วมลงทุนในสัดส่วนเท่าไหร่

    ข้อตกลงนี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนกว่ายูเครนจะคืนเงินค่าใช้จ่ายความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯ พร้อมดอกเบี้ย 4% ต่อปี

    นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงการรับประกันความปลอดภัยสำหรับยูเครน แม้ว่าฝ่ายยูเครนจะเคยยืนยันหนักแน่นว่าจะต้องรวมข้อกำหนดนี้ไว้ในข้อตกลงแร่ธาตุด้วยก็ตาม

    ยูเลีย สวีรีเดนโก (Yulia Svyrydenko) รองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง และรมต.กระทรวงเศรษฐกิจและการค้ายูเครน ประกาศการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (Memorandum) เกี่ยวกับข้อตกลงด้านแร่ธาตุกับสหรัฐแล้ว (บันทึกความเข้าใจยังไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย) สวีรีเดนโก กล่าวอีกว่า ทั้งสองประเทศจะเร่งสรุปกรอบของข้อตกลงด้านแร่ธาตุและลงนามในข้อตกลงอย่างเป็นทางการต่อไป ทางด้านเซเลนสกีได้ยืนยันถึงการลงนามตามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ (Memorandum) และยังกล่าวอีกว่า "นี่ยังไม่ใช่ข้อตกลงขั้นตอนสุดท้ายที่แท้จริง" ขณะเดียวกันทรัมป์ได้กล่าวในวันนี้ว่า ข้อตกลงขั้นสุดท้ายกับยูเครนในเรื่องทรัพยากรแร่ธาตุจะมีการ "ลงนามข้อตกลง" ในวันพฤหัสบดีหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว The New York Times เปิดเผยเกี่ยวกับรายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงแร่ธาตุระหว่างสหรัฐฯและยูเครน โดยระบุว่า: ยูเครนจะต้องคืนเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐส่งความช่วยเหลือทางการทหารตลอดระยะเวลา 3 ปีของการต่อสู้กับรัสเซียให้แก่สหรัฐฯ ยูเครนจะต้องแบ่งรายได้ครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดจากการทำธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งรายได้จากโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เช่น ท่าเรือ ท่อส่งน้ำมันและก๊าซ เข้ากองทุนที่สหรัฐกำลังจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนต่อในด้านโครงการทรัพยากรธรรมชาติของยูเครน แต่ยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าสหรัฐจะร่วมลงทุนในสัดส่วนเท่าไหร่ ข้อตกลงนี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนกว่ายูเครนจะคืนเงินค่าใช้จ่ายความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯ พร้อมดอกเบี้ย 4% ต่อปี นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงการรับประกันความปลอดภัยสำหรับยูเครน แม้ว่าฝ่ายยูเครนจะเคยยืนยันหนักแน่นว่าจะต้องรวมข้อกำหนดนี้ไว้ในข้อตกลงแร่ธาตุด้วยก็ตาม
    0 Comments 0 Shares 386 Views 0 Reviews
  • รายงานจาก TechSpot ระบุว่า ความหนาแน่นของพลังงานและความร้อนที่เพิ่มขึ้น กำลังเป็นภัยคุกคามต่ออนาคตของเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง โดยปัญหานี้เกิดจาก การสิ้นสุดของ Dennard scaling ซึ่งเคยช่วยให้สามารถลดแรงดันไฟฟ้าพร้อมกับการเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์

    ✅ ความหนาแน่นของพลังงานที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดวิกฤตความร้อนในชิปยุคใหม่
    - อุณหภูมิที่สูงขึ้นส่งผลต่อ ประสิทธิภาพและการใช้พลังงานของชิป
    - ความร้อนที่มากเกินไปสามารถ ชะลอการส่งสัญญาณ, ลดประสิทธิภาพ และเพิ่มการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า

    ✅ การสิ้นสุดของ Dennard scaling ทำให้แรงดันไฟฟ้าไม่สามารถลดลงได้อีก
    - ก่อนปี 2000 วิศวกรสามารถ ลดแรงดันไฟฟ้าพร้อมกับการเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์
    - แต่ในปัจจุบัน แรงดันไฟฟ้าไม่สามารถลดลงได้อีก ทำให้พลังงานที่ใช้ต่อพื้นที่เพิ่มขึ้น

    ✅ เทคโนโลยีใหม่ เช่น CFETs อาจทำให้ปัญหาความร้อนรุนแรงขึ้น
    - CFETs (Complementary Field-Effect Transistors) เพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์โดยการซ้อนกัน
    - การจำลองแสดงให้เห็นว่า CFETs อาจเพิ่มอุณหภูมิของชิปขึ้น 9°C

    ✅ นักวิจัยกำลังพัฒนาแนวทางใหม่ในการจัดการความร้อน
    - Microfluidic cooling: ใช้ของเหลวไหลผ่านช่องทางระดับไมโครภายในชิป
    - Jet impingement: ใช้กระแสของเหลวความเร็วสูงเพื่อระบายความร้อน
    - Immersion cooling: จุ่มบอร์ดทั้งหมดลงในของเหลวที่นำความร้อนได้ดี

    ✅ แนวทางใหม่ในการจัดการพลังงานของชิป
    - Backside power delivery network (BSPDN): ย้ายเครือข่ายจ่ายไฟไปด้านหลังของชิปเพื่อลดความต้านทานไฟฟ้า
    - BSPDN อาจช่วยลดแรงดันไฟฟ้า แต่ อาจเพิ่มอุณหภูมิของชิปขึ้น 14°C

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - หากปัญหาความร้อนยังคงเพิ่มขึ้น อาจทำให้ การพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ต้องชะลอตัว

    ℹ️ ความท้าทายในการใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่
    - เทคโนโลยีเช่น microfluidic cooling และ immersion cooling อาจมีต้นทุนสูงและต้องปรับโครงสร้างพื้นฐาน

    ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต
    - หาก BSPDN ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม อาจช่วยให้ ชิปสามารถทำงานที่แรงดันไฟฟ้าต่ำลงและลดความร้อน

    https://www.techspot.com/news/107585-rising-power-density-heat-threaten-future-advanced-semiconductors.html
    รายงานจาก TechSpot ระบุว่า ความหนาแน่นของพลังงานและความร้อนที่เพิ่มขึ้น กำลังเป็นภัยคุกคามต่ออนาคตของเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง โดยปัญหานี้เกิดจาก การสิ้นสุดของ Dennard scaling ซึ่งเคยช่วยให้สามารถลดแรงดันไฟฟ้าพร้อมกับการเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์ ✅ ความหนาแน่นของพลังงานที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดวิกฤตความร้อนในชิปยุคใหม่ - อุณหภูมิที่สูงขึ้นส่งผลต่อ ประสิทธิภาพและการใช้พลังงานของชิป - ความร้อนที่มากเกินไปสามารถ ชะลอการส่งสัญญาณ, ลดประสิทธิภาพ และเพิ่มการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า ✅ การสิ้นสุดของ Dennard scaling ทำให้แรงดันไฟฟ้าไม่สามารถลดลงได้อีก - ก่อนปี 2000 วิศวกรสามารถ ลดแรงดันไฟฟ้าพร้อมกับการเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์ - แต่ในปัจจุบัน แรงดันไฟฟ้าไม่สามารถลดลงได้อีก ทำให้พลังงานที่ใช้ต่อพื้นที่เพิ่มขึ้น ✅ เทคโนโลยีใหม่ เช่น CFETs อาจทำให้ปัญหาความร้อนรุนแรงขึ้น - CFETs (Complementary Field-Effect Transistors) เพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์โดยการซ้อนกัน - การจำลองแสดงให้เห็นว่า CFETs อาจเพิ่มอุณหภูมิของชิปขึ้น 9°C ✅ นักวิจัยกำลังพัฒนาแนวทางใหม่ในการจัดการความร้อน - Microfluidic cooling: ใช้ของเหลวไหลผ่านช่องทางระดับไมโครภายในชิป - Jet impingement: ใช้กระแสของเหลวความเร็วสูงเพื่อระบายความร้อน - Immersion cooling: จุ่มบอร์ดทั้งหมดลงในของเหลวที่นำความร้อนได้ดี ✅ แนวทางใหม่ในการจัดการพลังงานของชิป - Backside power delivery network (BSPDN): ย้ายเครือข่ายจ่ายไฟไปด้านหลังของชิปเพื่อลดความต้านทานไฟฟ้า - BSPDN อาจช่วยลดแรงดันไฟฟ้า แต่ อาจเพิ่มอุณหภูมิของชิปขึ้น 14°C ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - หากปัญหาความร้อนยังคงเพิ่มขึ้น อาจทำให้ การพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ต้องชะลอตัว ℹ️ ความท้าทายในการใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่ - เทคโนโลยีเช่น microfluidic cooling และ immersion cooling อาจมีต้นทุนสูงและต้องปรับโครงสร้างพื้นฐาน ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต - หาก BSPDN ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม อาจช่วยให้ ชิปสามารถทำงานที่แรงดันไฟฟ้าต่ำลงและลดความร้อน https://www.techspot.com/news/107585-rising-power-density-heat-threaten-future-advanced-semiconductors.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Rising power density and heat threaten the future of advanced semiconductors
    The underlying issue is closely linked to the end of Dennard scaling, a principle that once allowed engineers to shrink transistors and reduce voltage simultaneously – keeping...
    0 Comments 0 Shares 173 Views 0 Reviews
  • รัสเซียเตือนเยอรมนีว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในสงคราม หากขีปนาวุธทอรัสโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัสเซีย

    กระทรวงต่างประเทศรัสเซียเตือนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัสเซียด้วยขีปนาวุธทอรัส (Taurus) จะถือว่าเยอรมัน "มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในสงครามกับฝ่ายเคียฟ"

    เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฟรีดริช เมิร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประกาศเต็มใจส่งขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล Taurus ให้กับยูเครน และมีแนวโน้มว่าสะพานไครเมียจะเป็นเป้าหมายแรกๆของขีปนาวุธนี้
    รัสเซียเตือนเยอรมนีว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในสงคราม หากขีปนาวุธทอรัสโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัสเซีย กระทรวงต่างประเทศรัสเซียเตือนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัสเซียด้วยขีปนาวุธทอรัส (Taurus) จะถือว่าเยอรมัน "มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในสงครามกับฝ่ายเคียฟ" เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฟรีดริช เมิร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประกาศเต็มใจส่งขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล Taurus ให้กับยูเครน และมีแนวโน้มว่าสะพานไครเมียจะเป็นเป้าหมายแรกๆของขีปนาวุธนี้
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 204 Views 0 Reviews
  • Intel กำลังผลักดันการใช้ High-NA EUV lithography ในการผลิตชิป โดยติดตั้งเครื่องมือใหม่และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ต้นทุนสูงและข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาจทำให้การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมล่าช้า

    ✅ Intel ติดตั้งเครื่อง High-NA EUV และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
    - บริษัทได้ติดตั้ง ASML Twinscan EXE:5000 และพัฒนา reticles, optical proximity correction (OPC) และ photomasks
    - มีการประมวลผล 30,000 wafers เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี

    ✅ ต้นทุนของ High-NA EUV สูงกว่าระบบเดิม
    - เครื่องมือแต่ละเครื่องมีราคาประมาณ $380 - $400 ล้าน ซึ่งสูงกว่ารุ่น Low-NA EUV
    - การใช้ High-NA EUV มีค่าใช้จ่ายต่อการผลิตสูงกว่าถึง 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับ Low-NA EUV

    ✅ Intel ใช้ High-NA EUV ในกระบวนการผลิต 14A (1.4nm-class)
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดจำนวนขั้นตอนจาก 30 ขั้นตอนเหลือเพียง 1 ขั้นตอน ในบางชั้นของชิป
    - ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า คุณภาพของ High-NA EUV เทียบเท่ากับเทคนิคเดิม

    ✅ ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานและการผลิต
    - ขนาดของ exposure field เล็กลง ทำให้ต้องใช้ การซ้อนภาพ (stitched fields) ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพ
    - Intel เสนอให้ใช้ photomask ขนาดใหญ่ขึ้น (6×12 นิ้วแทน 6×6 นิ้ว) เพื่อแก้ปัญหานี้

    ✅ แนวโน้มของการนำ High-NA EUV มาใช้ในอุตสาหกรรม
    - Intel คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้ในวงกว้างเมื่อ กระบวนการผลิตต้องการ triple หรือ quadruple patterning
    - อาจต้องรอจนถึง 1.0nm-class generation เพื่อให้ต้นทุนและโครงสร้างพื้นฐานพร้อม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-has-championed-high-na-euv-chipmaking-tools-but-costs-and-other-limitations-could-delay-industry-wide-adoption-report
    Intel กำลังผลักดันการใช้ High-NA EUV lithography ในการผลิตชิป โดยติดตั้งเครื่องมือใหม่และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ต้นทุนสูงและข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาจทำให้การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมล่าช้า ✅ Intel ติดตั้งเครื่อง High-NA EUV และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง - บริษัทได้ติดตั้ง ASML Twinscan EXE:5000 และพัฒนา reticles, optical proximity correction (OPC) และ photomasks - มีการประมวลผล 30,000 wafers เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี ✅ ต้นทุนของ High-NA EUV สูงกว่าระบบเดิม - เครื่องมือแต่ละเครื่องมีราคาประมาณ $380 - $400 ล้าน ซึ่งสูงกว่ารุ่น Low-NA EUV - การใช้ High-NA EUV มีค่าใช้จ่ายต่อการผลิตสูงกว่าถึง 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับ Low-NA EUV ✅ Intel ใช้ High-NA EUV ในกระบวนการผลิต 14A (1.4nm-class) - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดจำนวนขั้นตอนจาก 30 ขั้นตอนเหลือเพียง 1 ขั้นตอน ในบางชั้นของชิป - ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า คุณภาพของ High-NA EUV เทียบเท่ากับเทคนิคเดิม ✅ ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานและการผลิต - ขนาดของ exposure field เล็กลง ทำให้ต้องใช้ การซ้อนภาพ (stitched fields) ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพ - Intel เสนอให้ใช้ photomask ขนาดใหญ่ขึ้น (6×12 นิ้วแทน 6×6 นิ้ว) เพื่อแก้ปัญหานี้ ✅ แนวโน้มของการนำ High-NA EUV มาใช้ในอุตสาหกรรม - Intel คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้ในวงกว้างเมื่อ กระบวนการผลิตต้องการ triple หรือ quadruple patterning - อาจต้องรอจนถึง 1.0nm-class generation เพื่อให้ต้นทุนและโครงสร้างพื้นฐานพร้อม https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-has-championed-high-na-euv-chipmaking-tools-but-costs-and-other-limitations-could-delay-industry-wide-adoption-report
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • OpenAI กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อ Windsurf ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดด้วย AI โดยมีมูลค่าประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากข้อตกลงนี้สำเร็จ จะเป็นการเข้าซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของ OpenAI

    ✅ OpenAI กำลังเจรจาเพื่อซื้อ Windsurf ในมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์
    - Windsurf เคยใช้ชื่อว่า Codeium และเป็นเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดด้วย AI
    - ข้อตกลงยังไม่สิ้นสุด และอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกได้

    ✅ Windsurf เคยได้รับเงินลงทุน 150 ล้านดอลลาร์จาก General Catalyst
    - การลงทุนครั้งล่าสุดทำให้ Windsurf มีมูลค่า 1.25 พันล้านดอลลาร์
    - ก่อนหน้านี้ Windsurf อยู่ระหว่างการเจรจากับ Kleiner Perkins และ General Catalyst เพื่อระดมทุนที่มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์

    ✅ OpenAI มีแผนระดมทุนสูงถึง 40 พันล้านดอลลาร์
    - หากสำเร็จ จะทำให้ OpenAI มีมูลค่าประมาณ 300 พันล้านดอลลาร์
    - การลงทุนใน Windsurf อาจช่วยให้ OpenAI ขยายความสามารถด้าน AI สำหรับนักพัฒนา

    ✅ OpenAI เคยเข้าซื้อ Rockset เพื่อเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล
    - Rockset เป็นบริษัทด้าน การวิเคราะห์ฐานข้อมูลและการค้นหา
    - การเข้าซื้อกิจการช่วยให้ OpenAI มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ระดับองค์กร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/17/openai-in-talks-to-buy-windsurf-for-about-3-billion-bloomberg-news-reports
    OpenAI กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อ Windsurf ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดด้วย AI โดยมีมูลค่าประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากข้อตกลงนี้สำเร็จ จะเป็นการเข้าซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของ OpenAI ✅ OpenAI กำลังเจรจาเพื่อซื้อ Windsurf ในมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ - Windsurf เคยใช้ชื่อว่า Codeium และเป็นเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดด้วย AI - ข้อตกลงยังไม่สิ้นสุด และอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกได้ ✅ Windsurf เคยได้รับเงินลงทุน 150 ล้านดอลลาร์จาก General Catalyst - การลงทุนครั้งล่าสุดทำให้ Windsurf มีมูลค่า 1.25 พันล้านดอลลาร์ - ก่อนหน้านี้ Windsurf อยู่ระหว่างการเจรจากับ Kleiner Perkins และ General Catalyst เพื่อระดมทุนที่มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ✅ OpenAI มีแผนระดมทุนสูงถึง 40 พันล้านดอลลาร์ - หากสำเร็จ จะทำให้ OpenAI มีมูลค่าประมาณ 300 พันล้านดอลลาร์ - การลงทุนใน Windsurf อาจช่วยให้ OpenAI ขยายความสามารถด้าน AI สำหรับนักพัฒนา ✅ OpenAI เคยเข้าซื้อ Rockset เพื่อเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล - Rockset เป็นบริษัทด้าน การวิเคราะห์ฐานข้อมูลและการค้นหา - การเข้าซื้อกิจการช่วยให้ OpenAI มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ระดับองค์กร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/17/openai-in-talks-to-buy-windsurf-for-about-3-billion-bloomberg-news-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    OpenAI in talks to buy Windsurf for about $3 billion, Bloomberg News reports
    (Reuters) - OpenAI is in discussions to buy artificial intelligence-assisted coding tool Windsurf for about $3 billion, Bloomberg News reported on Wednesday, citing a person familiar with the matter.
    0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
More Results