• รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251218 #TechRadar

    มินิพีซีราคาสุดคุ้มที่ AI ยังยกนิ้วให้
    เรื่องนี้เล่าถึงการท้าทายตัวเองของนักเขียนที่พยายามประกอบคอมให้แรงกว่ามินิพีซี Machenike ที่ขายในราคาเพียง 379 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายกลับแพ้ เพราะแค่ CPU และ RAM ก็เกือบเท่าราคาทั้งเครื่องแล้ว เมื่อรวมทุกชิ้นส่วน ค่าใช้จ่ายพุ่งไปเกือบ 570 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าไลเซนส์ Windows อีก ทำให้เห็นชัดว่าการซื้อเครื่องสำเร็จรูปในช่วงที่ตลาดชิ้นส่วนแพงขึ้นนั้นคุ้มกว่าเยอะ AI อย่าง ChatGPT ถึงกับบอกว่า “คุ้มสุด ๆ” ส่วน Gemini ก็ว่า “ราคานี้บ้าไปแล้ว” สรุปคือใครที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในงบจำกัด การซื้อสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ไม่เสียเวลาและไม่เจ็บกระเป๋า
    https://www.techradar.com/pro/chatgpt-calls-this-mini-pc-a-steal-while-gemini-says-its-insane-value-for-money-meet-the-usd379-amd-ryzen-7-8745hs-powerhouse-that-ai-is-raving-about

    ปัญหา Windows ล่าสุดที่ทำธุรกิจปวดหัว
    Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนธันวาคม แต่ดันทำให้บริการ MSMQ บน Windows Server และ Windows 10 สำหรับองค์กรมีปัญหา ส่งผลให้แอปและเว็บไซต์ที่ใช้ IIS ทำงานผิดพลาด ทั้งคิวที่ไม่ทำงาน การเขียนข้อมูลล้มเหลว และข้อความแจ้งว่า “ทรัพยากรไม่เพียงพอ” ทั้งที่จริง ๆ มีอยู่เต็ม ๆ ตอนนี้ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร แต่แนะนำให้ธุรกิจติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อหาทางแก้หรือย้อนกลับการอัปเดตไปก่อน
    https://www.techradar.com/pro/security/having-windows-app-issues-microsoft-is-making-businesses-reach-out-directly-to-get-a-fix

    สิ่งที่ต้องจำเมื่อใช้แชตบอท AI
    บทความนี้เตือนว่าเวลาคุยกับแชตบอท AI อย่าลืมว่าข้อมูลที่เราพิมพ์ไปอาจไม่หายไปไหน บางครั้งบริษัทที่พัฒนา AI มีทีมงานที่เห็นข้อมูลจริง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือเลขบัญชี หากไม่ได้ลบออกก่อน การแชร์เอกสารทั้งฉบับกับบอทก็เสี่ยงมาก เพราะข้อมูลอาจถูกนำไปใช้ฝึกโมเดลต่อไปโดยไม่รู้ตัว ผู้เขียนจึงย้ำว่าทั้งธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีวินัยในการจัดการข้อมูล ไม่ใช่แค่ปิดบัง แต่ต้องลบให้ถาวรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ AI ถูกใช้แพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/5-things-businesses-and-users-should-remember-when-using-ai-chatbots

    ช่องโหว่เก่าของ Asus ที่ยังตามหลอกหลอน
    CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ในโปรแกรม Asus Live Update ที่เคยถูกโจมตีตั้งแต่ปี 2018–2019 โดยมีการฝังโค้ดอันตรายลงในเซิร์ฟเวอร์อัปเดต ทำให้เครื่องที่ดาวน์โหลดตัวติดตั้งบางรุ่นถูกควบคุมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดเป็นระดับวิกฤติ และหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขภายในต้นเดือนมกราคม แม้โปรแกรมจะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกับเครื่องที่ใช้เวอร์ชันเก่า ๆ องค์กรเอกชนก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตหรือหยุดใช้งานเช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/cisa-reveals-warning-on-asus-software-flaw-heres-what-you-need-to-do-to-stay-safe

    กริ่งประตู Ring ที่พูดตอบเองได้ด้วย Alexa+
    Ring เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Alexa+ Greetings ที่ใช้ AI ช่วยตอบคนที่มากดกริ่ง โดยมันสามารถแยกแยะว่าใครมา เช่น คนส่งของ เพื่อน หรือแม้แต่เซลส์แมน แล้วตอบกลับตามคำสั่งที่เจ้าของตั้งไว้ เช่น บอกให้วางพัสดุไว้หลังบ้าน หรือปฏิเสธการขายตรงอย่างสุภาพ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตอบคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าต้องเซ็นรับของ Alexa+ ก็จะบอกให้ส่งกลับไปที่ศูนย์ ฟีเจอร์กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ถือเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของบ้านอัจฉริยะอีกขั้น
    https://www.techradar.com/home/smart-home/your-ring-doorbell-can-now-use-alexa-to-identify-whos-calling-and-give-them-an-appropriate-greeting

    ช่องโหว่ใหม่ใน Cisco ที่ถูกโจมตีแล้ว
    Cisco ออกมาเตือนว่ามีการค้นพบช่องโหว่แบบ zero-day ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์จากจีนเป็นผู้เกี่ยวข้อง ช่องโหว่นี้กระทบกับลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Cisco ทำให้ระบบถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นจริง และ Cisco กำลังเร่งออกแพตช์แก้ไขเพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม
    https://www.techradar.com/pro/security/cisco-says-chinese-hackers-are-exploiting-its-customers-with-a-new-zero-day

    รีวิว Agile CRM ปี 2026
    Agile CRM ถูกรีวิวอีกครั้งในปี 2026 โดยเน้นไปที่การใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ทีมงานสามารถติดตามลูกค้าได้ครบวงจร แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและการรองรับการขยายตัวสำหรับองค์กรใหญ่ รีวิวนี้จึงชี้ว่า Agile CRM เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันครบวงจรในราคาที่เข้าถึงได้
    https://www.techradar.com/pro/software-services/agile-crm-review

    จาก SaaS สู่ AI: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำต้องเผชิญ
    บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ผู้นำองค์กรต้องรับมือ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านจาก SaaS ไปสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของทีมงาน วัฒนธรรมองค์กร และการกำกับดูแล การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ
    https://www.techradar.com/pro/from-saas-to-ai-the-technological-and-cultural-shifts-leaders-must-confront

    โค้ดที่ AI สร้างมีบั๊กมากกว่ามนุษย์
    รายงานล่าสุดชี้ว่าโค้ดที่สร้างโดย AI มีแนวโน้มจะมีบั๊กและข้อผิดพลาดมากกว่าที่มนุษย์เขียนเอง แม้ AI จะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขมากขึ้น บทความนี้จึงเตือนว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดควรถูกมองเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนา
    https://www.techradar.com/pro/security/ai-generated-code-contains-more-bugs-and-errors-than-human-output

    รีวิว Geekom AX8 Max mini PC
    Geekom AX8 Max mini PC ถูกรีวิวโดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในเครื่องเล็ก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทั้งงานทั่วไปและการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล็กแต่แรง
    https://www.techradar.com/computing/geekom-ax8-max-mini-pc-review

    Google Maps เข้าใจคำพูดด้วย Gemini
    ผู้เขียนทดลองใช้ Gemini คุยกับ Google Maps ด้วยเสียง พบว่ามันสามารถตีความคำพูดที่ซับซ้อน เช่น “พาไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ และเปิดตอนนี้” ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่ยังรวมถึงเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้การใช้งานแผนที่สะดวกขึ้นมาก ถือเป็นการยกระดับจากการพิมพ์หรือกดเลือกไปสู่การสื่อสารแบบธรรมชาติ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-tried-talking-to-google-maps-with-gemini-and-it-actually-understood-what-i-wanted

    Ford เปลี่ยนโฟกัสจากรถไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี่ยักษ์
    Ford กำลังปรับกลยุทธ์จากการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าไปสู่การสร้างระบบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อใช้กับโครงข่ายไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ โดยมีแผนสร้างกำลังการผลิตถึง 20GWh การเปลี่ยนทิศนี้สะท้อนว่าตลาดรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่เส้นทางเดียว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานก็เป็นโอกาสใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน
    https://www.techradar.com/pro/ford-is-switching-some-battery-focus-from-cars-to-data-centers-with-plans-for-huge-20gwh-capacity

    คนรุ่นใหม่หลงรัก Microsoft Excel
    ผลสำรวจเผยว่าคนทำงานสายการเงินรุ่นใหม่มีความผูกพันกับ Excel มากกว่ารุ่นก่อน ๆ แม้จะมีเครื่องมือคู่แข่งออกมาแข่งหลายสิบปี แต่ Excel ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่พวกเขาเลือกใช้ ความภักดีนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความคุ้นเคยที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการทำงาน
    https://www.techradar.com/pro/security/more-than-half-of-workers-say-they-really-love-excel-and-surprisingly-enough-its-younger-workers-who-are-apparently-more-infatuated

    Nex Playground คอนโซลราคาประหยัดสำหรับครอบครัว
    รีวิว Nex Playground ชี้ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ราคาถูกกว่า แต่ยังมอบประสบการณ์สนุกสำหรับทุกคนในบ้าน แม้จะไม่แรงเท่าคอนโซลใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับเกมที่เล่นร่วมกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากได้ความบันเทิงโดยไม่ต้องจ่ายแพง
    https://www.techradar.com/gaming/nex-playground-review

    ระวังอีเมลปลอมจาก PayPal
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการใช้ระบบสมัครสมาชิกของ PayPal ในทางที่ผิด ส่งอีเมลปลอมแจ้งการซื้อเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว แม้จะดูเหมือนอีเมลจริง แต่จริง ๆ เป็นการฟิชชิ่งที่อันตราย ผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนคลิกลิงก์หรือยืนยันการชำระเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/paypal-user-beware-experts-warn-subscriptions-being-abused-to-send-fake-purchase-emails

    Urban VPN Proxy แอบสอดส่องผู้ใช้
    มีการเปิดเผยว่า Urban VPN Proxy ซึ่งเป็นบริการฟรี กำลังถูกใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้ โดยเก็บข้อมูลการใช้งานและอาจส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้ที่คิดว่าได้ความปลอดภัยจาก VPN กลับเสี่ยงต่อการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว บทความนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ VPN ฟรี และเลือกบริการที่มีความน่าเชื่อถือแทน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/urban-vpn-proxy-is-the-latest-free-vpn-spying-on-users-heres-how-to-stay-safe

    Proton VPN รองรับ Linux มากขึ้น
    Proton VPN ได้ขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ Linux เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้สามารถติดตั้งและใช้งานแอปอย่างเป็นทางการได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/official-proton-vpn-app-lands-on-even-more-linux-devices

    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251218 #TechRadar 🖥️ มินิพีซีราคาสุดคุ้มที่ AI ยังยกนิ้วให้ เรื่องนี้เล่าถึงการท้าทายตัวเองของนักเขียนที่พยายามประกอบคอมให้แรงกว่ามินิพีซี Machenike ที่ขายในราคาเพียง 379 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายกลับแพ้ เพราะแค่ CPU และ RAM ก็เกือบเท่าราคาทั้งเครื่องแล้ว เมื่อรวมทุกชิ้นส่วน ค่าใช้จ่ายพุ่งไปเกือบ 570 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าไลเซนส์ Windows อีก ทำให้เห็นชัดว่าการซื้อเครื่องสำเร็จรูปในช่วงที่ตลาดชิ้นส่วนแพงขึ้นนั้นคุ้มกว่าเยอะ AI อย่าง ChatGPT ถึงกับบอกว่า “คุ้มสุด ๆ” ส่วน Gemini ก็ว่า “ราคานี้บ้าไปแล้ว” สรุปคือใครที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในงบจำกัด การซื้อสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ไม่เสียเวลาและไม่เจ็บกระเป๋า 🔗 https://www.techradar.com/pro/chatgpt-calls-this-mini-pc-a-steal-while-gemini-says-its-insane-value-for-money-meet-the-usd379-amd-ryzen-7-8745hs-powerhouse-that-ai-is-raving-about ⚠️ ปัญหา Windows ล่าสุดที่ทำธุรกิจปวดหัว Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนธันวาคม แต่ดันทำให้บริการ MSMQ บน Windows Server และ Windows 10 สำหรับองค์กรมีปัญหา ส่งผลให้แอปและเว็บไซต์ที่ใช้ IIS ทำงานผิดพลาด ทั้งคิวที่ไม่ทำงาน การเขียนข้อมูลล้มเหลว และข้อความแจ้งว่า “ทรัพยากรไม่เพียงพอ” ทั้งที่จริง ๆ มีอยู่เต็ม ๆ ตอนนี้ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร แต่แนะนำให้ธุรกิจติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อหาทางแก้หรือย้อนกลับการอัปเดตไปก่อน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/having-windows-app-issues-microsoft-is-making-businesses-reach-out-directly-to-get-a-fix 🤖 สิ่งที่ต้องจำเมื่อใช้แชตบอท AI บทความนี้เตือนว่าเวลาคุยกับแชตบอท AI อย่าลืมว่าข้อมูลที่เราพิมพ์ไปอาจไม่หายไปไหน บางครั้งบริษัทที่พัฒนา AI มีทีมงานที่เห็นข้อมูลจริง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือเลขบัญชี หากไม่ได้ลบออกก่อน การแชร์เอกสารทั้งฉบับกับบอทก็เสี่ยงมาก เพราะข้อมูลอาจถูกนำไปใช้ฝึกโมเดลต่อไปโดยไม่รู้ตัว ผู้เขียนจึงย้ำว่าทั้งธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีวินัยในการจัดการข้อมูล ไม่ใช่แค่ปิดบัง แต่ต้องลบให้ถาวรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ AI ถูกใช้แพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/5-things-businesses-and-users-should-remember-when-using-ai-chatbots 🔒 ช่องโหว่เก่าของ Asus ที่ยังตามหลอกหลอน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ในโปรแกรม Asus Live Update ที่เคยถูกโจมตีตั้งแต่ปี 2018–2019 โดยมีการฝังโค้ดอันตรายลงในเซิร์ฟเวอร์อัปเดต ทำให้เครื่องที่ดาวน์โหลดตัวติดตั้งบางรุ่นถูกควบคุมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดเป็นระดับวิกฤติ และหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขภายในต้นเดือนมกราคม แม้โปรแกรมจะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกับเครื่องที่ใช้เวอร์ชันเก่า ๆ องค์กรเอกชนก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตหรือหยุดใช้งานเช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisa-reveals-warning-on-asus-software-flaw-heres-what-you-need-to-do-to-stay-safe 🏠 กริ่งประตู Ring ที่พูดตอบเองได้ด้วย Alexa+ Ring เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Alexa+ Greetings ที่ใช้ AI ช่วยตอบคนที่มากดกริ่ง โดยมันสามารถแยกแยะว่าใครมา เช่น คนส่งของ เพื่อน หรือแม้แต่เซลส์แมน แล้วตอบกลับตามคำสั่งที่เจ้าของตั้งไว้ เช่น บอกให้วางพัสดุไว้หลังบ้าน หรือปฏิเสธการขายตรงอย่างสุภาพ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตอบคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าต้องเซ็นรับของ Alexa+ ก็จะบอกให้ส่งกลับไปที่ศูนย์ ฟีเจอร์กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ถือเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของบ้านอัจฉริยะอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/your-ring-doorbell-can-now-use-alexa-to-identify-whos-calling-and-give-them-an-appropriate-greeting 🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Cisco ที่ถูกโจมตีแล้ว Cisco ออกมาเตือนว่ามีการค้นพบช่องโหว่แบบ zero-day ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์จากจีนเป็นผู้เกี่ยวข้อง ช่องโหว่นี้กระทบกับลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Cisco ทำให้ระบบถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นจริง และ Cisco กำลังเร่งออกแพตช์แก้ไขเพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisco-says-chinese-hackers-are-exploiting-its-customers-with-a-new-zero-day 📊 รีวิว Agile CRM ปี 2026 Agile CRM ถูกรีวิวอีกครั้งในปี 2026 โดยเน้นไปที่การใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ทีมงานสามารถติดตามลูกค้าได้ครบวงจร แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและการรองรับการขยายตัวสำหรับองค์กรใหญ่ รีวิวนี้จึงชี้ว่า Agile CRM เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันครบวงจรในราคาที่เข้าถึงได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/agile-crm-review 🌐 จาก SaaS สู่ AI: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำต้องเผชิญ บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ผู้นำองค์กรต้องรับมือ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านจาก SaaS ไปสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของทีมงาน วัฒนธรรมองค์กร และการกำกับดูแล การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/from-saas-to-ai-the-technological-and-cultural-shifts-leaders-must-confront 🐞 โค้ดที่ AI สร้างมีบั๊กมากกว่ามนุษย์ รายงานล่าสุดชี้ว่าโค้ดที่สร้างโดย AI มีแนวโน้มจะมีบั๊กและข้อผิดพลาดมากกว่าที่มนุษย์เขียนเอง แม้ AI จะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขมากขึ้น บทความนี้จึงเตือนว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดควรถูกมองเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ai-generated-code-contains-more-bugs-and-errors-than-human-output 💻 รีวิว Geekom AX8 Max mini PC Geekom AX8 Max mini PC ถูกรีวิวโดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในเครื่องเล็ก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทั้งงานทั่วไปและการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล็กแต่แรง 🔗 https://www.techradar.com/computing/geekom-ax8-max-mini-pc-review 🗺️ Google Maps เข้าใจคำพูดด้วย Gemini ผู้เขียนทดลองใช้ Gemini คุยกับ Google Maps ด้วยเสียง พบว่ามันสามารถตีความคำพูดที่ซับซ้อน เช่น “พาไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ และเปิดตอนนี้” ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่ยังรวมถึงเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้การใช้งานแผนที่สะดวกขึ้นมาก ถือเป็นการยกระดับจากการพิมพ์หรือกดเลือกไปสู่การสื่อสารแบบธรรมชาติ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-tried-talking-to-google-maps-with-gemini-and-it-actually-understood-what-i-wanted 🔋 Ford เปลี่ยนโฟกัสจากรถไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี่ยักษ์ Ford กำลังปรับกลยุทธ์จากการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าไปสู่การสร้างระบบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อใช้กับโครงข่ายไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ โดยมีแผนสร้างกำลังการผลิตถึง 20GWh การเปลี่ยนทิศนี้สะท้อนว่าตลาดรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่เส้นทางเดียว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานก็เป็นโอกาสใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/ford-is-switching-some-battery-focus-from-cars-to-data-centers-with-plans-for-huge-20gwh-capacity 📈 คนรุ่นใหม่หลงรัก Microsoft Excel ผลสำรวจเผยว่าคนทำงานสายการเงินรุ่นใหม่มีความผูกพันกับ Excel มากกว่ารุ่นก่อน ๆ แม้จะมีเครื่องมือคู่แข่งออกมาแข่งหลายสิบปี แต่ Excel ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่พวกเขาเลือกใช้ ความภักดีนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความคุ้นเคยที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการทำงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/more-than-half-of-workers-say-they-really-love-excel-and-surprisingly-enough-its-younger-workers-who-are-apparently-more-infatuated 🎮 Nex Playground คอนโซลราคาประหยัดสำหรับครอบครัว รีวิว Nex Playground ชี้ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ราคาถูกกว่า แต่ยังมอบประสบการณ์สนุกสำหรับทุกคนในบ้าน แม้จะไม่แรงเท่าคอนโซลใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับเกมที่เล่นร่วมกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากได้ความบันเทิงโดยไม่ต้องจ่ายแพง 🔗 https://www.techradar.com/gaming/nex-playground-review 💳 ระวังอีเมลปลอมจาก PayPal ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการใช้ระบบสมัครสมาชิกของ PayPal ในทางที่ผิด ส่งอีเมลปลอมแจ้งการซื้อเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว แม้จะดูเหมือนอีเมลจริง แต่จริง ๆ เป็นการฟิชชิ่งที่อันตราย ผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนคลิกลิงก์หรือยืนยันการชำระเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/paypal-user-beware-experts-warn-subscriptions-being-abused-to-send-fake-purchase-emails 🌐 Urban VPN Proxy แอบสอดส่องผู้ใช้ มีการเปิดเผยว่า Urban VPN Proxy ซึ่งเป็นบริการฟรี กำลังถูกใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้ โดยเก็บข้อมูลการใช้งานและอาจส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้ที่คิดว่าได้ความปลอดภัยจาก VPN กลับเสี่ยงต่อการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว บทความนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ VPN ฟรี และเลือกบริการที่มีความน่าเชื่อถือแทน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/urban-vpn-proxy-is-the-latest-free-vpn-spying-on-users-heres-how-to-stay-safe 🐧 Proton VPN รองรับ Linux มากขึ้น Proton VPN ได้ขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ Linux เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้สามารถติดตั้งและใช้งานแอปอย่างเป็นทางการได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/official-proton-vpn-app-lands-on-even-more-linux-devices
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • กองทัพบกชี้แจงกรณีฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลกล่าวหาว่าฝ่ายไทยดำเนินการทางทหารกระทบโครงสร้างพื้นฐานและโบราณสถาน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง
    .
    โฆษกกองทัพบกระบุว่า การปฏิบัติการของฝ่ายไทยมุ่งโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น ดำเนินการอย่างจำกัดวงตามความจำเป็น อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและหลักมนุษยธรรมสากล และยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้อง
    .
    สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ระบุว่าภาพรวมการปฏิบัติการเป็นไปตามแผน โดยเป้าหมายสำคัญทางทหารส่วนใหญ่บรรลุผลตามที่กำหนดไว้ ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบกได้กำหนดเป้าหมายการสถาปนาแนวชายแดนตามแนวเส้นปฏิบัติการของไทย และเร่งลดขีดความสามารถทางทหารที่เป็นภัยคุกคามต่อฝ่ายไทย
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122025
    .
    #News1live #News1 #กองทัพบก #สถานการณ์ชายแดน #ความมั่นคง
    กองทัพบกชี้แจงกรณีฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลกล่าวหาว่าฝ่ายไทยดำเนินการทางทหารกระทบโครงสร้างพื้นฐานและโบราณสถาน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง . โฆษกกองทัพบกระบุว่า การปฏิบัติการของฝ่ายไทยมุ่งโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น ดำเนินการอย่างจำกัดวงตามความจำเป็น อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและหลักมนุษยธรรมสากล และยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้อง . สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ระบุว่าภาพรวมการปฏิบัติการเป็นไปตามแผน โดยเป้าหมายสำคัญทางทหารส่วนใหญ่บรรลุผลตามที่กำหนดไว้ ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบกได้กำหนดเป้าหมายการสถาปนาแนวชายแดนตามแนวเส้นปฏิบัติการของไทย และเร่งลดขีดความสามารถทางทหารที่เป็นภัยคุกคามต่อฝ่ายไทย . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122025 . #News1live #News1 #กองทัพบก #สถานการณ์ชายแดน #ความมั่นคง
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • กองทัพเรือเผยได้รับรายงานการพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน เข้าไปก่อกวนบริเวณแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยหลายจุด โดยได้ส่งเรือรบและอากาศยานลาดตระเวนตรวจสอบพื้นที่และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
    .
    ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับแจ้งตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย และมีแท่นขุดเจาะน้ำมันหลายแห่งรายงานเหตุในลักษณะเดียวกัน ยืนยันว่ากองทัพเรือยังคงรักษามาตรการความปลอดภัย และคุ้มครองโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของประเทศอย่างเข้มงวด
    .
    ด้านกองทัพอากาศระบุว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นหน่วยงานหลักด้านการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ พร้อมทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการเชิงรุกและเชิงรับ เพื่อป้องกันภัยคุกคามต่อพื้นที่และสถานที่สำคัญของประเทศ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122015
    .
    #News1live #News1 #กองทัพเรือ #กองทัพอากาศ #โดรน #อ่าวไทย #ความมั่นคง
    กองทัพเรือเผยได้รับรายงานการพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน เข้าไปก่อกวนบริเวณแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยหลายจุด โดยได้ส่งเรือรบและอากาศยานลาดตระเวนตรวจสอบพื้นที่และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง . ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับแจ้งตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย และมีแท่นขุดเจาะน้ำมันหลายแห่งรายงานเหตุในลักษณะเดียวกัน ยืนยันว่ากองทัพเรือยังคงรักษามาตรการความปลอดภัย และคุ้มครองโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของประเทศอย่างเข้มงวด . ด้านกองทัพอากาศระบุว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นหน่วยงานหลักด้านการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ พร้อมทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการเชิงรุกและเชิงรับ เพื่อป้องกันภัยคุกคามต่อพื้นที่และสถานที่สำคัญของประเทศ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122015 . #News1live #News1 #กองทัพเรือ #กองทัพอากาศ #โดรน #อ่าวไทย #ความมั่นคง
    0 Comments 0 Shares 191 Views 0 Reviews
  • “วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จี้ Big Tech – AI Data Center ดันค่าไฟประชาชนพุ่ง”

    สามวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ได้แก่ Elizabeth Warren, Chris Van Hollen และ Richard Blumenthal ได้ส่งจดหมายถึงบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Amazon, Google, Meta, Microsoft และผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลรายอื่น ๆ เพื่อสอบถามถึงผลกระทบของการสร้าง AI Data Center ต่อค่าไฟฟ้าของประชาชน โดยระบุว่าการใช้พลังงานมหาศาลทำให้บริษัทไฟฟ้าต้องลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการอัปเกรดระบบ และผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภค

    รายงานระบุว่า ค่าไฟฟ้าครัวเรือนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7% ภายในปีเดียว โดยบางพื้นที่ที่มีการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่านั้น สะท้อนให้เห็นว่า การเติบโตของ AI ไม่ได้มีแต่ผลดีด้านนวัตกรรม แต่ยังสร้างแรงกดดันต่อโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน

    แม้บางการศึกษาชี้ว่า AI Data Center อาจช่วยแบกรับต้นทุนการอัปเกรดระบบไฟฟ้าแทนประชาชน แต่แนวโน้มค่าไฟที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดข้อสงสัยว่าใครคือผู้ได้ประโยชน์ที่แท้จริง และใครคือผู้แบกรับภาระในระยะยาว

    นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบกับจีนที่ลงทุนด้านพลังงานเพื่อรองรับการเติบโตของ AI อย่างจริงจัง จนบางนักวิเคราะห์เตือนว่าสหรัฐฯ อาจเสียเปรียบใน “การแข่งขัน AI ระดับโลก” หากไม่สามารถแก้ปัญหาความไม่เพียงพอของพลังงานได้ทันเวลา

    สรุปประเด็นสำคัญ
    วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ แสดงความกังวลต่อค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น
    ส่งจดหมายถึง Amazon, Google, Meta และบริษัทอื่น ๆ เพื่อขอคำชี้แจง

    AI Data Center ใช้พลังงานมหาศาล
    บริษัทไฟฟ้าต้องลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการอัปเกรดระบบ

    ค่าไฟฟ้าครัวเรือนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7%
    บางพื้นที่ที่มีศูนย์ข้อมูลใหม่ ค่าไฟเพิ่มขึ้นมากกว่านั้น

    จีนลงทุนด้านพลังงานเพื่อรองรับ AI
    นักวิเคราะห์เตือนว่าสหรัฐฯ อาจเสียเปรียบในระยะยาว

    คำเตือนต่อประชาชน
    ค่าไฟอาจยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง หากไม่มีมาตรการควบคุมหรือการลงทุนด้านพลังงานใหม่

    ความเสี่ยงต่อการแข่งขัน AI
    สหรัฐฯ อาจถูกจีนแซงหน้าในด้าน AI หากปัญหาพลังงานไม่ถูกแก้ไขทันเวลา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elizabeth-warren-other-u-s-senators-concerned-about-big-tech-pushing-up-electricity-costs-demands-explanation-from-amazon-google-meta-as-ai-data-centers-drive-up-residential-energy-bills
    📰 “วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จี้ Big Tech – AI Data Center ดันค่าไฟประชาชนพุ่ง” สามวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ได้แก่ Elizabeth Warren, Chris Van Hollen และ Richard Blumenthal ได้ส่งจดหมายถึงบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Amazon, Google, Meta, Microsoft และผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลรายอื่น ๆ เพื่อสอบถามถึงผลกระทบของการสร้าง AI Data Center ต่อค่าไฟฟ้าของประชาชน โดยระบุว่าการใช้พลังงานมหาศาลทำให้บริษัทไฟฟ้าต้องลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการอัปเกรดระบบ และผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภค รายงานระบุว่า ค่าไฟฟ้าครัวเรือนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7% ภายในปีเดียว โดยบางพื้นที่ที่มีการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่านั้น สะท้อนให้เห็นว่า การเติบโตของ AI ไม่ได้มีแต่ผลดีด้านนวัตกรรม แต่ยังสร้างแรงกดดันต่อโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน แม้บางการศึกษาชี้ว่า AI Data Center อาจช่วยแบกรับต้นทุนการอัปเกรดระบบไฟฟ้าแทนประชาชน แต่แนวโน้มค่าไฟที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดข้อสงสัยว่าใครคือผู้ได้ประโยชน์ที่แท้จริง และใครคือผู้แบกรับภาระในระยะยาว นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบกับจีนที่ลงทุนด้านพลังงานเพื่อรองรับการเติบโตของ AI อย่างจริงจัง จนบางนักวิเคราะห์เตือนว่าสหรัฐฯ อาจเสียเปรียบใน “การแข่งขัน AI ระดับโลก” หากไม่สามารถแก้ปัญหาความไม่เพียงพอของพลังงานได้ทันเวลา 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ แสดงความกังวลต่อค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ➡️ ส่งจดหมายถึง Amazon, Google, Meta และบริษัทอื่น ๆ เพื่อขอคำชี้แจง ✅ AI Data Center ใช้พลังงานมหาศาล ➡️ บริษัทไฟฟ้าต้องลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการอัปเกรดระบบ ✅ ค่าไฟฟ้าครัวเรือนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7% ➡️ บางพื้นที่ที่มีศูนย์ข้อมูลใหม่ ค่าไฟเพิ่มขึ้นมากกว่านั้น ✅ จีนลงทุนด้านพลังงานเพื่อรองรับ AI ➡️ นักวิเคราะห์เตือนว่าสหรัฐฯ อาจเสียเปรียบในระยะยาว ‼️ คำเตือนต่อประชาชน ⛔ ค่าไฟอาจยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง หากไม่มีมาตรการควบคุมหรือการลงทุนด้านพลังงานใหม่ ‼️ ความเสี่ยงต่อการแข่งขัน AI ⛔ สหรัฐฯ อาจถูกจีนแซงหน้าในด้าน AI หากปัญหาพลังงานไม่ถูกแก้ไขทันเวลา https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elizabeth-warren-other-u-s-senators-concerned-about-big-tech-pushing-up-electricity-costs-demands-explanation-from-amazon-google-meta-as-ai-data-centers-drive-up-residential-energy-bills
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • “Liquid Cooling ครองศูนย์ข้อมูล – TSMC นำเทรนด์ฝังระบบระบายความร้อนในซิลิคอน”

    ในอดีตศูนย์ข้อมูลส่วนใหญ่ใช้ Air Cooling เพราะต้นทุนต่ำและโครงสร้างง่าย แต่เมื่อพลังงานต่อแร็คพุ่งสูงถึง 40–140kW จากการใช้งาน AI และ GPU รุ่นใหม่ การระบายความร้อนด้วยอากาศเริ่มไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ Liquid Cooling ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าและสามารถรองรับความหนาแน่นความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ปี 2024 ตลาด Liquid Cooling ครองส่วนแบ่งกว่า 46% ของตลาดทั้งหมด และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจนมีมูลค่า 25.12 พันล้านดอลลาร์ในปี 2031 การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยความต้องการของ AI Data Center ที่ใช้ GPU และ CPU ที่กินไฟมหาศาล เช่น Nvidia Blackwell Ultra ที่ใช้พลังงานสูงถึง 1,400W ต่อชิป

    นอกจาก Liquid Cooling แบบทั่วไปแล้ว ยังมีการพัฒนา Hybrid Cooling ที่ผสมผสานการใช้อากาศและน้ำ รวมถึง Immersion Cooling ที่จุ่มเซิร์ฟเวอร์ทั้งเครื่องลงในน้ำมันหรือของเหลวไดอิเล็กทริก เพื่อรองรับความร้อนระดับ 1,500 W/cm² ซึ่งเป็นตัวเลขที่ Air Cooling ไม่สามารถทำได้

    ไฮไลต์สำคัญคือ TSMC Direct-to-Silicon Cooling ที่ฝังช่องทางระบายความร้อนเข้าไปในซิลิคอนโดยตรง ทำให้สามารถจัดการความร้อนใกล้กับทรานซิสเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เทคโนโลยีนี้ถูกคาดว่าจะพร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2027 และอาจรองรับ GPU รุ่น Feynman ที่กินไฟกว่า 4.4kW ได้อย่างมีเสถียรภาพ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Air Cooling ยังมีบทบาทในศูนย์ข้อมูลเก่า
    ใช้โครงสร้าง Hot Aisle/Cold Aisle และ CRAC/CRAH Units

    Liquid Cooling เติบโตอย่างรวดเร็ว
    ครองตลาด 46% ในปี 2024 และคาดว่าจะโตถึง 25.12 พันล้านดอลลาร์ในปี 2031

    Hybrid และ Immersion Cooling ถูกนำมาใช้
    Hybrid ใช้ทั้งอากาศและน้ำ ส่วน Immersion รองรับความร้อนสูงถึง 1,500 W/cm²

    TSMC พัฒนา Direct-to-Silicon Cooling
    ฝังช่องระบายความร้อนในซิลิคอนโดยตรง รองรับพลังงานกว่า 2.6kW ต่อแพ็กเกจ

    ความท้าทายของ Liquid Cooling
    ต้นทุนสูงขึ้นมาก โดยระบบสำหรับแร็ค Nvidia Blackwell Ultra อาจมีค่าใช้จ่ายถึง 50,000 ดอลลาร์

    ความเสี่ยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน
    ศูนย์ข้อมูลต้องลงทุนใหม่เพื่อรองรับระบบ Liquid และ Immersion Cooling ซึ่งอาจไม่เหมาะกับทุกองค์กร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/the-data-center-cooling-state-of-play-2025-liquid-cooling-is-on-the-rise-thermal-density-demands-skyrocket-in-ai-data-centers-and-tsmc-leads-with-direct-to-silicon-solutions
    📰 “Liquid Cooling ครองศูนย์ข้อมูล – TSMC นำเทรนด์ฝังระบบระบายความร้อนในซิลิคอน” ในอดีตศูนย์ข้อมูลส่วนใหญ่ใช้ Air Cooling เพราะต้นทุนต่ำและโครงสร้างง่าย แต่เมื่อพลังงานต่อแร็คพุ่งสูงถึง 40–140kW จากการใช้งาน AI และ GPU รุ่นใหม่ การระบายความร้อนด้วยอากาศเริ่มไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ Liquid Cooling ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าและสามารถรองรับความหนาแน่นความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปี 2024 ตลาด Liquid Cooling ครองส่วนแบ่งกว่า 46% ของตลาดทั้งหมด และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจนมีมูลค่า 25.12 พันล้านดอลลาร์ในปี 2031 การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยความต้องการของ AI Data Center ที่ใช้ GPU และ CPU ที่กินไฟมหาศาล เช่น Nvidia Blackwell Ultra ที่ใช้พลังงานสูงถึง 1,400W ต่อชิป นอกจาก Liquid Cooling แบบทั่วไปแล้ว ยังมีการพัฒนา Hybrid Cooling ที่ผสมผสานการใช้อากาศและน้ำ รวมถึง Immersion Cooling ที่จุ่มเซิร์ฟเวอร์ทั้งเครื่องลงในน้ำมันหรือของเหลวไดอิเล็กทริก เพื่อรองรับความร้อนระดับ 1,500 W/cm² ซึ่งเป็นตัวเลขที่ Air Cooling ไม่สามารถทำได้ ไฮไลต์สำคัญคือ TSMC Direct-to-Silicon Cooling ที่ฝังช่องทางระบายความร้อนเข้าไปในซิลิคอนโดยตรง ทำให้สามารถจัดการความร้อนใกล้กับทรานซิสเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เทคโนโลยีนี้ถูกคาดว่าจะพร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2027 และอาจรองรับ GPU รุ่น Feynman ที่กินไฟกว่า 4.4kW ได้อย่างมีเสถียรภาพ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Air Cooling ยังมีบทบาทในศูนย์ข้อมูลเก่า ➡️ ใช้โครงสร้าง Hot Aisle/Cold Aisle และ CRAC/CRAH Units ✅ Liquid Cooling เติบโตอย่างรวดเร็ว ➡️ ครองตลาด 46% ในปี 2024 และคาดว่าจะโตถึง 25.12 พันล้านดอลลาร์ในปี 2031 ✅ Hybrid และ Immersion Cooling ถูกนำมาใช้ ➡️ Hybrid ใช้ทั้งอากาศและน้ำ ส่วน Immersion รองรับความร้อนสูงถึง 1,500 W/cm² ✅ TSMC พัฒนา Direct-to-Silicon Cooling ➡️ ฝังช่องระบายความร้อนในซิลิคอนโดยตรง รองรับพลังงานกว่า 2.6kW ต่อแพ็กเกจ ‼️ ความท้าทายของ Liquid Cooling ⛔ ต้นทุนสูงขึ้นมาก โดยระบบสำหรับแร็ค Nvidia Blackwell Ultra อาจมีค่าใช้จ่ายถึง 50,000 ดอลลาร์ ‼️ ความเสี่ยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน ⛔ ศูนย์ข้อมูลต้องลงทุนใหม่เพื่อรองรับระบบ Liquid และ Immersion Cooling ซึ่งอาจไม่เหมาะกับทุกองค์กร https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/the-data-center-cooling-state-of-play-2025-liquid-cooling-is-on-the-rise-thermal-density-demands-skyrocket-in-ai-data-centers-and-tsmc-leads-with-direct-to-silicon-solutions
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • Bank of Canada กำหนดกฎใหม่ Stablecoins – ต้องหนุนด้วยสินทรัพย์คุณภาพสูง

    เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา Tiff Macklem กล่าวว่ากฎเกณฑ์ใหม่สำหรับ Stablecoins จะบังคับให้เหรียญดิจิทัลเหล่านี้ต้องมีการหนุนหลังด้วย High-Quality Liquid Assets (HQLA) เช่น พันธบัตรรัฐบาลหรือบัตรเงินคลัง และต้องผูกค่าแบบ 1:1 กับสกุลเงินของธนาคารกลาง เพื่อให้สามารถแลกคืนเป็นเงินสดได้ตลอดเวลา

    รัฐบาลแคนาดาได้ประกาศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนว่าจะออกกฎหมายควบคุม Stablecoins ในปี 2026 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ระบบการเงินทันสมัยและสอดคล้องกับประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ เช่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ซึ่งกำลังออกกฎควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน

    Macklem ย้ำว่า “Stablecoins ต้องเป็นเงินที่ดีเหมือนกับธนบัตรหรือเงินฝากธนาคาร” และการกำหนดกฎเกณฑ์นี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและธุรกิจในการใช้ Stablecoins ในการชำระเงิน ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีการวางแผนเชื่อมโยงกับระบบ Real-Time Rail ที่จะเปิดตัวในปี 2026 เพื่อรองรับการชำระเงินแบบทันที

    นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังเตรียมผลักดันระบบ Open Banking เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบและเปลี่ยนธนาคารได้ง่ายขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของแคนาดาในยุคดิจิทัล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กฎใหม่สำหรับ Stablecoins
    ต้องหนุนหลังด้วยสินทรัพย์สภาพคล่องคุณภาพสูง (HQLA)
    ต้องผูกค่า 1:1 กับสกุลเงินของธนาคารกลาง

    เป้าหมายของรัฐบาลแคนาดา
    ออกกฎหมายควบคุม Stablecoins ในปี 2026
    ทำให้ระบบการเงินทันสมัยและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

    การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน
    เปิดตัวระบบ Real-Time Rail สำหรับการชำระเงินทันทีในปี 2026
    ผลักดันระบบ Open Banking เพื่อเพิ่มการแข่งขันและความโปร่งใส

    คำเตือนสำหรับผู้ลงทุน Stablecoins
    ต้องตรวจสอบว่าเหรียญที่ถือมีการหนุนหลังด้วยสินทรัพย์คุณภาพจริง
    หากไม่เป็นไปตามกฎใหม่ อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียมูลค่าและการแลกคืน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/17/bank-of-canada-wants-stablecoins-to-be-backed-by-high-quality-liquid-assets
    💵 Bank of Canada กำหนดกฎใหม่ Stablecoins – ต้องหนุนด้วยสินทรัพย์คุณภาพสูง เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา Tiff Macklem กล่าวว่ากฎเกณฑ์ใหม่สำหรับ Stablecoins จะบังคับให้เหรียญดิจิทัลเหล่านี้ต้องมีการหนุนหลังด้วย High-Quality Liquid Assets (HQLA) เช่น พันธบัตรรัฐบาลหรือบัตรเงินคลัง และต้องผูกค่าแบบ 1:1 กับสกุลเงินของธนาคารกลาง เพื่อให้สามารถแลกคืนเป็นเงินสดได้ตลอดเวลา รัฐบาลแคนาดาได้ประกาศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนว่าจะออกกฎหมายควบคุม Stablecoins ในปี 2026 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ระบบการเงินทันสมัยและสอดคล้องกับประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ เช่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ซึ่งกำลังออกกฎควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน Macklem ย้ำว่า “Stablecoins ต้องเป็นเงินที่ดีเหมือนกับธนบัตรหรือเงินฝากธนาคาร” และการกำหนดกฎเกณฑ์นี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและธุรกิจในการใช้ Stablecoins ในการชำระเงิน ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีการวางแผนเชื่อมโยงกับระบบ Real-Time Rail ที่จะเปิดตัวในปี 2026 เพื่อรองรับการชำระเงินแบบทันที นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังเตรียมผลักดันระบบ Open Banking เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบและเปลี่ยนธนาคารได้ง่ายขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของแคนาดาในยุคดิจิทัล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กฎใหม่สำหรับ Stablecoins ➡️ ต้องหนุนหลังด้วยสินทรัพย์สภาพคล่องคุณภาพสูง (HQLA) ➡️ ต้องผูกค่า 1:1 กับสกุลเงินของธนาคารกลาง ✅ เป้าหมายของรัฐบาลแคนาดา ➡️ ออกกฎหมายควบคุม Stablecoins ในปี 2026 ➡️ ทำให้ระบบการเงินทันสมัยและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ✅ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ➡️ เปิดตัวระบบ Real-Time Rail สำหรับการชำระเงินทันทีในปี 2026 ➡️ ผลักดันระบบ Open Banking เพื่อเพิ่มการแข่งขันและความโปร่งใส ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ลงทุน Stablecoins ⛔ ต้องตรวจสอบว่าเหรียญที่ถือมีการหนุนหลังด้วยสินทรัพย์คุณภาพจริง ⛔ หากไม่เป็นไปตามกฎใหม่ อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียมูลค่าและการแลกคืน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/17/bank-of-canada-wants-stablecoins-to-be-backed-by-high-quality-liquid-assets
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bank of Canada wants stablecoins to be backed by high-quality liquid assets
    OTTAWA, Dec 16 (Reuters) - The Bank of Canada says regulations on future Canadian stablecoins must ensure they are backed by high-quality liquid assets and be pegged one-to-one to a central bank currency, Governor Tiff Macklem said on Tuesday.
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • OpenAI จะเป็นยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี หรือ Netscape แห่งยุค AI?

    สามปีหลังจากการเปิดตัว ChatGPT ในปี 2022 ที่สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกและทำลายสถิติการเติบโตของผลิตภัณฑ์ผู้บริโภค OpenAI กลายเป็นชื่อที่ทุกคนรู้จัก ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ทั้งแบบเสียเงินและฟรี แต่ในขณะเดียวกันบริษัทก็ยัง ขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี และไม่คาดว่าจะทำกำไรก่อนปี 2029

    นักลงทุนชื่อดัง Michael Burry เปรียบเทียบ OpenAI ว่าอาจเป็น “Netscape รุ่นใหม่” ที่แม้เคยครองตลาดเว็บเบราว์เซอร์ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับ Microsoft ในยุค 90 ขณะที่นักวิจัยอย่าง Gary Marcus ก็วิจารณ์ว่า OpenAI กำลัง “เผาเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อเดือน” และสูญเสียความได้เปรียบที่เคยมีเมื่อเปิดตัว ChatGPT

    แม้จะมีข้อกังวล แต่ OpenAI ก็ยังได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Microsoft และล่าสุดยังมีการร่วมมือกับ Disney เพื่อนำตัวละครมาใช้ใน ChatGPT และเครื่องมือสร้างวิดีโอ Sora นอกจากนี้บริษัทได้ทำสัญญามูลค่ากว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ กับผู้ผลิตชิปและผู้สร้างดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตของ AI

    นักวิเคราะห์บางรายมองว่าแม้ OpenAI จะเผชิญแรงกดดันจากคู่แข่งอย่าง Google, Amazon และ Meta แต่ตลาด AI ไม่ใช่ “ผู้ชนะกินรวบ” และยังมีพื้นที่ให้หลายบริษัทเติบโตไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการพิสูจน์ว่าเงินลงทุนมหาศาลจะสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเติบโตของ ChatGPT
    เปิดตัวปี 2022 และสร้างปรากฏการณ์ระดับโลก
    มีผู้ใช้งานกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์

    สถานะทางการเงินของ OpenAI
    ขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี
    ไม่คาดว่าจะทำกำไรก่อนปี 2029

    การลงทุนและพันธมิตร
    สัญญามูลค่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์กับผู้ผลิตชิปและดาต้าเซ็นเตอร์
    ร่วมมือกับ Disney ในการใช้ตัวละครและเทคโนโลยี Sora

    มุมมองนักวิเคราะห์
    Michael Burry เปรียบ OpenAI กับ Netscape
    Gary Marcus วิจารณ์ว่าเผาเงินมหาศาลและสูญเสียความได้เปรียบ

    ความเสี่ยงและคำเตือน
    การแข่งขันรุนแรงจาก Google, Amazon, Meta และ Microsoft
    ต้องพิสูจน์ว่าเงินลงทุนมหาศาลจะสร้างผลตอบแทนจริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/16/will-openai-be-the-next-tech-giant-or-next-netscape
    🤖 OpenAI จะเป็นยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี หรือ Netscape แห่งยุค AI? สามปีหลังจากการเปิดตัว ChatGPT ในปี 2022 ที่สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกและทำลายสถิติการเติบโตของผลิตภัณฑ์ผู้บริโภค OpenAI กลายเป็นชื่อที่ทุกคนรู้จัก ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ทั้งแบบเสียเงินและฟรี แต่ในขณะเดียวกันบริษัทก็ยัง ขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี และไม่คาดว่าจะทำกำไรก่อนปี 2029 นักลงทุนชื่อดัง Michael Burry เปรียบเทียบ OpenAI ว่าอาจเป็น “Netscape รุ่นใหม่” ที่แม้เคยครองตลาดเว็บเบราว์เซอร์ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับ Microsoft ในยุค 90 ขณะที่นักวิจัยอย่าง Gary Marcus ก็วิจารณ์ว่า OpenAI กำลัง “เผาเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อเดือน” และสูญเสียความได้เปรียบที่เคยมีเมื่อเปิดตัว ChatGPT แม้จะมีข้อกังวล แต่ OpenAI ก็ยังได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Microsoft และล่าสุดยังมีการร่วมมือกับ Disney เพื่อนำตัวละครมาใช้ใน ChatGPT และเครื่องมือสร้างวิดีโอ Sora นอกจากนี้บริษัทได้ทำสัญญามูลค่ากว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ กับผู้ผลิตชิปและผู้สร้างดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตของ AI นักวิเคราะห์บางรายมองว่าแม้ OpenAI จะเผชิญแรงกดดันจากคู่แข่งอย่าง Google, Amazon และ Meta แต่ตลาด AI ไม่ใช่ “ผู้ชนะกินรวบ” และยังมีพื้นที่ให้หลายบริษัทเติบโตไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการพิสูจน์ว่าเงินลงทุนมหาศาลจะสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเติบโตของ ChatGPT ➡️ เปิดตัวปี 2022 และสร้างปรากฏการณ์ระดับโลก ➡️ มีผู้ใช้งานกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ✅ สถานะทางการเงินของ OpenAI ➡️ ขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี ➡️ ไม่คาดว่าจะทำกำไรก่อนปี 2029 ✅ การลงทุนและพันธมิตร ➡️ สัญญามูลค่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์กับผู้ผลิตชิปและดาต้าเซ็นเตอร์ ➡️ ร่วมมือกับ Disney ในการใช้ตัวละครและเทคโนโลยี Sora ✅ มุมมองนักวิเคราะห์ ➡️ Michael Burry เปรียบ OpenAI กับ Netscape ➡️ Gary Marcus วิจารณ์ว่าเผาเงินมหาศาลและสูญเสียความได้เปรียบ ‼️ ความเสี่ยงและคำเตือน ⛔ การแข่งขันรุนแรงจาก Google, Amazon, Meta และ Microsoft ⛔ ต้องพิสูจน์ว่าเงินลงทุนมหาศาลจะสร้างผลตอบแทนจริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/16/will-openai-be-the-next-tech-giant-or-next-netscape
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Will OpenAI be the next tech giant or next Netscape?
    Three years after ChatGPT made OpenAI the leader in artificial intelligence and a household name, rivals have closed the gap and some investors are wondering if the sensation has the wherewithal to stay dominant.
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • GitHub Actions ปรับราคาใหม่ปี 2026 – ลดค่าใช้จ่าย แต่เพิ่มค่าบริการ Cloud Platform

    ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026 GitHub จะลดราคาสำหรับ GitHub-hosted runners ลงสูงสุดถึง 39% ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องที่ใช้ โดยยังคงโควตาการใช้งานฟรีเหมือนเดิม การปรับราคาครั้งนี้ทำให้การใช้งาน CI/CD บน GitHub เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับนักพัฒนาและทีมงานขนาดเล็กที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม

    อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2026 GitHub จะเริ่มเก็บค่าบริการใหม่ที่เรียกว่า “Actions cloud platform charge” ในอัตรา $0.002 ต่อนาที สำหรับการใช้งาน self-hosted runners โดยค่าใช้จ่ายนี้จะนับรวมกับโควตาการใช้งานที่มีอยู่ในแต่ละแผน ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ที่พึ่งพา self-hosted runners จะต้องวางแผนการใช้งานอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการที่ GitHub ต้องรองรับการเติบโตอย่างมหาศาลของแพลตฟอร์ม Actions ซึ่งปัจจุบันประมวลผลงานกว่า 70 ล้าน jobs ต่อวัน การปรับโครงสร้างราคาจึงเป็นการจัดสมดุลระหว่างการให้บริการที่มีคุณภาพและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น autoscaling ที่รองรับ Windows และแพลตฟอร์มอื่น ๆ นอกเหนือจาก Linux

    ในภาพรวม การปรับราคาครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้อยมาก โดย 96% ของลูกค้า GitHub Actions จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในบิล และในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่จะเห็นค่าใช้จ่ายลดลง ขณะที่มีเพียงส่วนน้อยที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของ GitHub ในการสร้างความเป็นธรรมและความโปร่งใสในการคิดค่าบริการ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การลดราคา GitHub-hosted runners
    ลดสูงสุดถึง 39% ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่อง
    โควตาการใช้งานฟรียังคงเดิม

    การเพิ่มค่าบริการใหม่สำหรับ self-hosted runners
    เริ่มเก็บ $0.002 ต่อนาที ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2026
    นับรวมกับโควตาการใช้งานในแต่ละแผน

    การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่
    รองรับ autoscaling ที่หลากหลายมากขึ้น
    เพิ่มการสนับสนุน Windows และแพลตฟอร์มอื่น ๆ

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ส่วนใหญ่
    96% ของผู้ใช้จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในบิล
    ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจะเห็นค่าใช้จ่ายลดลง

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ self-hosted runners
    ต้องวางแผนการใช้งานเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
    ทีมที่ใช้ workload หนักอาจเห็นบิลเพิ่มขึ้นหลังมีการเก็บค่าบริการใหม่

    https://github.blog/changelog/2025-12-16-coming-soon-simpler-pricing-and-a-better-experience-for-github-actions/
    🖥️ GitHub Actions ปรับราคาใหม่ปี 2026 – ลดค่าใช้จ่าย แต่เพิ่มค่าบริการ Cloud Platform ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026 GitHub จะลดราคาสำหรับ GitHub-hosted runners ลงสูงสุดถึง 39% ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องที่ใช้ โดยยังคงโควตาการใช้งานฟรีเหมือนเดิม การปรับราคาครั้งนี้ทำให้การใช้งาน CI/CD บน GitHub เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับนักพัฒนาและทีมงานขนาดเล็กที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2026 GitHub จะเริ่มเก็บค่าบริการใหม่ที่เรียกว่า “Actions cloud platform charge” ในอัตรา $0.002 ต่อนาที สำหรับการใช้งาน self-hosted runners โดยค่าใช้จ่ายนี้จะนับรวมกับโควตาการใช้งานที่มีอยู่ในแต่ละแผน ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ที่พึ่งพา self-hosted runners จะต้องวางแผนการใช้งานอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการที่ GitHub ต้องรองรับการเติบโตอย่างมหาศาลของแพลตฟอร์ม Actions ซึ่งปัจจุบันประมวลผลงานกว่า 70 ล้าน jobs ต่อวัน การปรับโครงสร้างราคาจึงเป็นการจัดสมดุลระหว่างการให้บริการที่มีคุณภาพและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น autoscaling ที่รองรับ Windows และแพลตฟอร์มอื่น ๆ นอกเหนือจาก Linux ในภาพรวม การปรับราคาครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้อยมาก โดย 96% ของลูกค้า GitHub Actions จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในบิล และในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่จะเห็นค่าใช้จ่ายลดลง ขณะที่มีเพียงส่วนน้อยที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของ GitHub ในการสร้างความเป็นธรรมและความโปร่งใสในการคิดค่าบริการ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การลดราคา GitHub-hosted runners ➡️ ลดสูงสุดถึง 39% ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่อง ➡️ โควตาการใช้งานฟรียังคงเดิม ✅ การเพิ่มค่าบริการใหม่สำหรับ self-hosted runners ➡️ เริ่มเก็บ $0.002 ต่อนาที ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2026 ➡️ นับรวมกับโควตาการใช้งานในแต่ละแผน ✅ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ➡️ รองรับ autoscaling ที่หลากหลายมากขึ้น ➡️ เพิ่มการสนับสนุน Windows และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ส่วนใหญ่ ➡️ 96% ของผู้ใช้จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในบิล ➡️ ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจะเห็นค่าใช้จ่ายลดลง ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ self-hosted runners ⛔ ต้องวางแผนการใช้งานเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ⛔ ทีมที่ใช้ workload หนักอาจเห็นบิลเพิ่มขึ้นหลังมีการเก็บค่าบริการใหม่ https://github.blog/changelog/2025-12-16-coming-soon-simpler-pricing-and-a-better-experience-for-github-actions/
    GITHUB.BLOG
    Coming soon: Simpler pricing and a better experience for GitHub Actions · GitHub Changelog
    On January 1, 2026, GitHub will reduce the price of GitHub-hosted runners by up to 39% depending on the machine type used. The free usage minute quotas will remain the…
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • Nvidia ขยายอาณาจักรโอเพ่นซอร์ส

    เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2025 Nvidia ประกาศเข้าซื้อบริษัท SchedMD ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Slurm ระบบจัดการงาน (job scheduler) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในซูเปอร์คอมพิวเตอร์และศูนย์ข้อมูลทั่วโลก การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า Nvidia ต้องการเสริมความแข็งแกร่งด้าน โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันกับบริษัทจีนและผู้เล่นรายใหม่ทวีความรุนแรงขึ้น

    บทบาทของ Slurm ในโลก AI
    Slurm เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ช่วยจัดการการทำงานของเซิร์ฟเวอร์จำนวนมหาศาลในศูนย์ข้อมูล เช่น การแบ่งทรัพยากร การจัดลำดับงาน และการตรวจสอบสถานะ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ Nvidia ระบุว่า Slurm จะยังคงเปิดให้ใช้งานแบบโอเพ่นซอร์สต่อไป แต่บริษัทจะเพิ่มการสนับสนุนด้านวิศวกรรมและการบำรุงรักษา เพื่อให้ผู้พัฒนาและองค์กรสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    กลยุทธ์การแข่งขันของ Nvidia
    นอกจากการซื้อ SchedMD แล้ว Nvidia ยังเปิดตัว ชุดโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สใหม่ ที่เร็วและถูกกว่ารุ่นก่อนหน้า เพื่อรับมือกับการไหลบ่าเข้ามาของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีน การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Nvidia ที่จะไม่เพียงขายฮาร์ดแวร์ GPU แต่ยังสร้างระบบนิเวศซอฟต์แวร์ที่ครบวงจร ตั้งแต่ CUDA ไปจนถึงเครื่องมือจัดการงานและโมเดล AI

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    การเข้าซื้อ SchedMD อาจทำให้ Nvidia กลายเป็นผู้เล่นที่มีอำนาจมากขึ้นในตลาด AI เพราะสามารถควบคุมทั้ง ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ที่จำเป็นต่อการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยบางส่วนกังวลว่าการรวมศูนย์เช่นนี้อาจทำให้ชุมชนโอเพ่นซอร์สต้องพึ่งพา Nvidia มากเกินไป แม้บริษัทจะยืนยันว่าจะยังคงรักษาความเปิดกว้างของ Slurm ก็ตาม

    สรุปสาระสำคัญ
    Nvidia เข้าซื้อ SchedMD
    เสริมกลยุทธ์โอเพ่นซอร์ส AI และโครงสร้างพื้นฐานการฝึกโมเดล

    Slurm ยังคงเป็นโอเพ่นซอร์ส
    ใช้จัดการงานในซูเปอร์คอมพิวเตอร์และศูนย์ข้อมูลทั่วโลก
    Nvidia จะเพิ่มการสนับสนุนด้านวิศวกรรมและบำรุงรักษา

    กลยุทธ์ใหม่ของ Nvidia
    เปิดตัวโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สรุ่นใหม่ที่เร็วและถูกกว่า
    แข่งขันกับโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีน

    ข้อกังวลจากชุมชน
    การรวมศูนย์อาจทำให้ผู้ใช้พึ่งพา Nvidia มากเกินไป
    เสี่ยงต่อการลดความหลากหลายของระบบนิเวศโอเพ่นซอร์ส

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/16/nvidia-buys-ai-software-provider-schedmd-to-expand-open-source-ai-push
    💻 Nvidia ขยายอาณาจักรโอเพ่นซอร์ส เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2025 Nvidia ประกาศเข้าซื้อบริษัท SchedMD ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Slurm ระบบจัดการงาน (job scheduler) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในซูเปอร์คอมพิวเตอร์และศูนย์ข้อมูลทั่วโลก การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า Nvidia ต้องการเสริมความแข็งแกร่งด้าน โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันกับบริษัทจีนและผู้เล่นรายใหม่ทวีความรุนแรงขึ้น ⚙️ บทบาทของ Slurm ในโลก AI Slurm เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ช่วยจัดการการทำงานของเซิร์ฟเวอร์จำนวนมหาศาลในศูนย์ข้อมูล เช่น การแบ่งทรัพยากร การจัดลำดับงาน และการตรวจสอบสถานะ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ Nvidia ระบุว่า Slurm จะยังคงเปิดให้ใช้งานแบบโอเพ่นซอร์สต่อไป แต่บริษัทจะเพิ่มการสนับสนุนด้านวิศวกรรมและการบำรุงรักษา เพื่อให้ผู้พัฒนาและองค์กรสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 📈 กลยุทธ์การแข่งขันของ Nvidia นอกจากการซื้อ SchedMD แล้ว Nvidia ยังเปิดตัว ชุดโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สใหม่ ที่เร็วและถูกกว่ารุ่นก่อนหน้า เพื่อรับมือกับการไหลบ่าเข้ามาของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีน การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Nvidia ที่จะไม่เพียงขายฮาร์ดแวร์ GPU แต่ยังสร้างระบบนิเวศซอฟต์แวร์ที่ครบวงจร ตั้งแต่ CUDA ไปจนถึงเครื่องมือจัดการงานและโมเดล AI 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม การเข้าซื้อ SchedMD อาจทำให้ Nvidia กลายเป็นผู้เล่นที่มีอำนาจมากขึ้นในตลาด AI เพราะสามารถควบคุมทั้ง ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ที่จำเป็นต่อการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยบางส่วนกังวลว่าการรวมศูนย์เช่นนี้อาจทำให้ชุมชนโอเพ่นซอร์สต้องพึ่งพา Nvidia มากเกินไป แม้บริษัทจะยืนยันว่าจะยังคงรักษาความเปิดกว้างของ Slurm ก็ตาม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Nvidia เข้าซื้อ SchedMD ➡️ เสริมกลยุทธ์โอเพ่นซอร์ส AI และโครงสร้างพื้นฐานการฝึกโมเดล ✅ Slurm ยังคงเป็นโอเพ่นซอร์ส ➡️ ใช้จัดการงานในซูเปอร์คอมพิวเตอร์และศูนย์ข้อมูลทั่วโลก ➡️ Nvidia จะเพิ่มการสนับสนุนด้านวิศวกรรมและบำรุงรักษา ✅ กลยุทธ์ใหม่ของ Nvidia ➡️ เปิดตัวโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สรุ่นใหม่ที่เร็วและถูกกว่า ➡️ แข่งขันกับโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีน ‼️ ข้อกังวลจากชุมชน ⛔ การรวมศูนย์อาจทำให้ผู้ใช้พึ่งพา Nvidia มากเกินไป ⛔ เสี่ยงต่อการลดความหลากหลายของระบบนิเวศโอเพ่นซอร์ส https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/16/nvidia-buys-ai-software-provider-schedmd-to-expand-open-source-ai-push
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Nvidia buys AI software provider SchedMD to expand open-source AI push
    Dec 15 (Reuters) - Nvidia said on Monday it acquired AI software firm SchedMD, as the chip designer doubles down on open-source technology and steps up investments in the artificial intelligence ecosystem to fend off rising competition.
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • ยังปากกล้า! รมต.เขมรออกมาดูแคลนกองทัพไทย อ้างหากไม่มีเครื่องบินรบ กองทัพไทยไม่ใช่คู่ต่อกรของทหารกัมพูชา
    .
    เขียว รามี รัฐมนตรีอาวุโสและประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กโจมตีการปฏิบัติการของไทย พร้อมยกย่องความกล้าหาญของทหารกัมพูชา และอ้างว่ากองทัพไทยจะยอมจำนน หากไม่ได้ใช้เครื่องบินขับไล่สนับสนุน
    .
    รมต.เขมรยังกล่าวหาว่า ไทยขาดประสบการณ์การทำสงคราม และจะเกิดความแตกแยกภายใน พร้อมปลุกระดมให้ทหารกัมพูชาเดินหน้าสู้ต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนที่ยังตึงเครียด
    .
    ขณะเดียวกัน สื่อกัมพูชาบางสำนักยังเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน กล่าวหาไทยใช้อาวุธหนักโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยึดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120788
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพไทย #ข่าวต่างประเทศ #สงครามข้อมูลข่าวสาร
    ยังปากกล้า! รมต.เขมรออกมาดูแคลนกองทัพไทย อ้างหากไม่มีเครื่องบินรบ กองทัพไทยไม่ใช่คู่ต่อกรของทหารกัมพูชา . เขียว รามี รัฐมนตรีอาวุโสและประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กโจมตีการปฏิบัติการของไทย พร้อมยกย่องความกล้าหาญของทหารกัมพูชา และอ้างว่ากองทัพไทยจะยอมจำนน หากไม่ได้ใช้เครื่องบินขับไล่สนับสนุน . รมต.เขมรยังกล่าวหาว่า ไทยขาดประสบการณ์การทำสงคราม และจะเกิดความแตกแยกภายใน พร้อมปลุกระดมให้ทหารกัมพูชาเดินหน้าสู้ต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนที่ยังตึงเครียด . ขณะเดียวกัน สื่อกัมพูชาบางสำนักยังเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน กล่าวหาไทยใช้อาวุธหนักโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยึดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120788 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพไทย #ข่าวต่างประเทศ #สงครามข้อมูลข่าวสาร
    0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
  • แผนที่ 3D ใหญ่ที่สุดในโลก เผยข้อมูลอาคารกว่า 2.75 พันล้านหลัง

    ทีมนักวิจัยจาก Technical University of Munich (TUM) ประเทศเยอรมนี ได้สร้างแผนที่โลกแบบ 3D ที่ครอบคลุมอาคารกว่า 2.75 พันล้านหลัง ถือเป็นฐานข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมและอัลกอริทึม Machine Learning เพื่อคำนวณความสูงและขนาดของอาคารที่ยังไม่มีข้อมูลโดยตรง

    ความสำคัญของแผนที่
    แผนที่ใหม่นี้ชื่อว่า GlobalBuildingAtlas สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความหนาแน่นของเมือง, ความยากจน, และการวางแผนโครงสร้างพื้นฐานได้แม่นยำกว่าการใช้แผนที่ 2D แบบเดิม เพราะนอกจากพื้นที่ (footprint) ยังสามารถวัดปริมาตรของอาคารได้ ทำให้เข้าใจสภาพการอยู่อาศัยและความต้องการบริการสาธารณะ เช่น โรงพยาบาลและโรงเรียน ได้ดียิ่งขึ้น

    เทคโนโลยีและความละเอียด
    ฐานข้อมูลนี้ใช้การแบ่งพื้นที่เป็นบล็อกขนาด 3x3 เมตร ซึ่งละเอียดกว่าฐานข้อมูลเดิมถึง 30 เท่า แม้จะไม่สามารถเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ ของอาคาร แต่ก็เพียงพอสำหรับการวิเคราะห์เชิงปริมาณ เช่น การคำนวณความหนาแน่นประชากร และการออกแบบเมืองที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติ

    ข้อจำกัดและการพัฒนาในอนาคต
    แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ข้อมูลยังมีข้อจำกัด เช่น การประเมินความสูงของตึกสูงที่อาจต่ำกว่าความจริง และบางภูมิภาค เช่น แอฟริกา ยังต้องการข้อมูลฝึกสอนเพิ่มเติมเพื่อให้แม่นยำขึ้น อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยมีแผนปรับปรุงคุณภาพข้อมูลต่อไปเพื่อให้แผนที่นี้เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการวางนโยบายและการจัดการเมืองทั่วโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    โครงการ GlobalBuildingAtlas
    ครอบคลุมอาคารกว่า 2.75 พันล้านหลัง
    ใช้ภาพดาวเทียมและ Machine Learning

    ความสำคัญ
    วิเคราะห์ความหนาแน่นและความยากจนได้แม่นยำ
    ช่วยวางแผนโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ

    เทคโนโลยี
    ความละเอียด 3x3 เมตร ละเอียดกว่าเดิม 30 เท่า
    วัดทั้ง footprint และ volume ของอาคาร

    ข้อจำกัด
    ความสูงตึกสูงอาจถูกประเมินต่ำ
    ภูมิภาคบางแห่งยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความแม่นยำ

    https://www.sciencealert.com/biggest-global-map-of-its-kind-captures-2-75-billion-buildings-in-3d
    🏙️ แผนที่ 3D ใหญ่ที่สุดในโลก เผยข้อมูลอาคารกว่า 2.75 พันล้านหลัง ทีมนักวิจัยจาก Technical University of Munich (TUM) ประเทศเยอรมนี ได้สร้างแผนที่โลกแบบ 3D ที่ครอบคลุมอาคารกว่า 2.75 พันล้านหลัง ถือเป็นฐานข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมและอัลกอริทึม Machine Learning เพื่อคำนวณความสูงและขนาดของอาคารที่ยังไม่มีข้อมูลโดยตรง 🌍 ความสำคัญของแผนที่ แผนที่ใหม่นี้ชื่อว่า GlobalBuildingAtlas สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความหนาแน่นของเมือง, ความยากจน, และการวางแผนโครงสร้างพื้นฐานได้แม่นยำกว่าการใช้แผนที่ 2D แบบเดิม เพราะนอกจากพื้นที่ (footprint) ยังสามารถวัดปริมาตรของอาคารได้ ทำให้เข้าใจสภาพการอยู่อาศัยและความต้องการบริการสาธารณะ เช่น โรงพยาบาลและโรงเรียน ได้ดียิ่งขึ้น 🛠️ เทคโนโลยีและความละเอียด ฐานข้อมูลนี้ใช้การแบ่งพื้นที่เป็นบล็อกขนาด 3x3 เมตร ซึ่งละเอียดกว่าฐานข้อมูลเดิมถึง 30 เท่า แม้จะไม่สามารถเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ ของอาคาร แต่ก็เพียงพอสำหรับการวิเคราะห์เชิงปริมาณ เช่น การคำนวณความหนาแน่นประชากร และการออกแบบเมืองที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติ ⚠️ ข้อจำกัดและการพัฒนาในอนาคต แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ข้อมูลยังมีข้อจำกัด เช่น การประเมินความสูงของตึกสูงที่อาจต่ำกว่าความจริง และบางภูมิภาค เช่น แอฟริกา ยังต้องการข้อมูลฝึกสอนเพิ่มเติมเพื่อให้แม่นยำขึ้น อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยมีแผนปรับปรุงคุณภาพข้อมูลต่อไปเพื่อให้แผนที่นี้เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการวางนโยบายและการจัดการเมืองทั่วโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ โครงการ GlobalBuildingAtlas ➡️ ครอบคลุมอาคารกว่า 2.75 พันล้านหลัง ➡️ ใช้ภาพดาวเทียมและ Machine Learning ✅ ความสำคัญ ➡️ วิเคราะห์ความหนาแน่นและความยากจนได้แม่นยำ ➡️ ช่วยวางแผนโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ ✅ เทคโนโลยี ➡️ ความละเอียด 3x3 เมตร ละเอียดกว่าเดิม 30 เท่า ➡️ วัดทั้ง footprint และ volume ของอาคาร ‼️ ข้อจำกัด ⛔ ความสูงตึกสูงอาจถูกประเมินต่ำ ⛔ ภูมิภาคบางแห่งยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความแม่นยำ https://www.sciencealert.com/biggest-global-map-of-its-kind-captures-2-75-billion-buildings-in-3d
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • Microservices ไม่ใช่คำตอบเสมอไป

    บทความนี้จาก Twilio พูดถึงการเปลี่ยนแปลงแนวคิดจาก Microservices ไปสู่สถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายขึ้น เน้นการลดความซับซ้อนและการจัดการที่ง่ายกว่า โดยชี้ให้เห็นว่าการใช้ microservices ไม่ได้เหมาะสมกับทุกกรณี และบางครั้งอาจสร้างภาระมากกว่าประโยชน์

    บทความอธิบายว่าแม้ microservices จะได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่การนำไปใช้โดยไม่พิจารณาให้เหมาะสมกับบริบท อาจทำให้ระบบซับซ้อนเกินไป ทั้งในด้านการจัดการ การสื่อสารระหว่างบริการ และการบำรุงรักษา ทีมพัฒนาหลายแห่งพบว่าการแยกบริการออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทำให้ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการดูแล

    ปัญหาที่เกิดจาก Microservices
    หนึ่งในปัญหาหลักคือการ overhead ของการสื่อสารระหว่างบริการ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง นอกจากนี้ยังมีความท้าทายในการทำ observability และ debugging เนื่องจากระบบถูกแยกออกเป็นหลายส่วน การ deploy และการจัดการเวอร์ชันก็ซับซ้อนขึ้น ทำให้ทีมต้องใช้เวลาและเครื่องมือมากขึ้นในการควบคุม

    ทางเลือกใหม่: Monolith ที่ปรับปรุงแล้ว
    บทความเสนอว่าในหลายกรณี การใช้ monolith ที่ออกแบบดี อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการและการ deploy ระบบ การรวมโค้ดไว้ในที่เดียวทำให้การตรวจสอบและการแก้ไขง่ายขึ้น อีกทั้งยังลดค่าใช้จ่ายในการดูแลโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อนเกินจำเป็น

    บทเรียนสำหรับนักพัฒนา
    สิ่งสำคัญคือการเลือกสถาปัตยกรรมให้เหมาะสมกับขนาดทีมและความต้องการของระบบ ไม่ใช่การตามกระแสเทคโนโลยี Microservices อาจเหมาะกับองค์กรใหญ่ที่มีทีมแยกชัดเจน แต่สำหรับทีมเล็กหรือโปรเจกต์ที่ไม่ซับซ้อน การใช้ monolith ที่ปรับปรุงแล้วอาจเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Microservices ไม่ได้เหมาะกับทุกระบบ
    อาจสร้างความซับซ้อนในการจัดการและบำรุงรักษา
    มี overhead ในการสื่อสารระหว่างบริการ

    ปัญหาที่พบจากการใช้ Microservices
    Observability และ debugging ยากขึ้น
    การ deploy และจัดการเวอร์ชันซับซ้อน

    ทางเลือกใหม่
    Monolith ที่ออกแบบดีสามารถลดความซับซ้อน
    ง่ายต่อการตรวจสอบและแก้ไข

    คำเตือนสำหรับนักพัฒนา
    อย่าเลือกสถาปัตยกรรมเพียงเพราะเป็นกระแส
    หากทีมเล็กหรือระบบไม่ซับซ้อน Microservices อาจเป็นภาระมากกว่าประโยชน์

    https://www.twilio.com/en-us/blog/developers/best-practices/goodbye-microservices
    🏗️ Microservices ไม่ใช่คำตอบเสมอไป บทความนี้จาก Twilio พูดถึงการเปลี่ยนแปลงแนวคิดจาก Microservices ไปสู่สถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายขึ้น เน้นการลดความซับซ้อนและการจัดการที่ง่ายกว่า โดยชี้ให้เห็นว่าการใช้ microservices ไม่ได้เหมาะสมกับทุกกรณี และบางครั้งอาจสร้างภาระมากกว่าประโยชน์ บทความอธิบายว่าแม้ microservices จะได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่การนำไปใช้โดยไม่พิจารณาให้เหมาะสมกับบริบท อาจทำให้ระบบซับซ้อนเกินไป ทั้งในด้านการจัดการ การสื่อสารระหว่างบริการ และการบำรุงรักษา ทีมพัฒนาหลายแห่งพบว่าการแยกบริการออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทำให้ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการดูแล ⚙️ ปัญหาที่เกิดจาก Microservices หนึ่งในปัญหาหลักคือการ overhead ของการสื่อสารระหว่างบริการ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง นอกจากนี้ยังมีความท้าทายในการทำ observability และ debugging เนื่องจากระบบถูกแยกออกเป็นหลายส่วน การ deploy และการจัดการเวอร์ชันก็ซับซ้อนขึ้น ทำให้ทีมต้องใช้เวลาและเครื่องมือมากขึ้นในการควบคุม 🌐 ทางเลือกใหม่: Monolith ที่ปรับปรุงแล้ว บทความเสนอว่าในหลายกรณี การใช้ monolith ที่ออกแบบดี อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการและการ deploy ระบบ การรวมโค้ดไว้ในที่เดียวทำให้การตรวจสอบและการแก้ไขง่ายขึ้น อีกทั้งยังลดค่าใช้จ่ายในการดูแลโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อนเกินจำเป็น 🔮 บทเรียนสำหรับนักพัฒนา สิ่งสำคัญคือการเลือกสถาปัตยกรรมให้เหมาะสมกับขนาดทีมและความต้องการของระบบ ไม่ใช่การตามกระแสเทคโนโลยี Microservices อาจเหมาะกับองค์กรใหญ่ที่มีทีมแยกชัดเจน แต่สำหรับทีมเล็กหรือโปรเจกต์ที่ไม่ซับซ้อน การใช้ monolith ที่ปรับปรุงแล้วอาจเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Microservices ไม่ได้เหมาะกับทุกระบบ ➡️ อาจสร้างความซับซ้อนในการจัดการและบำรุงรักษา ➡️ มี overhead ในการสื่อสารระหว่างบริการ ✅ ปัญหาที่พบจากการใช้ Microservices ➡️ Observability และ debugging ยากขึ้น ➡️ การ deploy และจัดการเวอร์ชันซับซ้อน ✅ ทางเลือกใหม่ ➡️ Monolith ที่ออกแบบดีสามารถลดความซับซ้อน ➡️ ง่ายต่อการตรวจสอบและแก้ไข ‼️ คำเตือนสำหรับนักพัฒนา ⛔ อย่าเลือกสถาปัตยกรรมเพียงเพราะเป็นกระแส ⛔ หากทีมเล็กหรือระบบไม่ซับซ้อน Microservices อาจเป็นภาระมากกว่าประโยชน์ https://www.twilio.com/en-us/blog/developers/best-practices/goodbye-microservices
    WWW.TWILIO.COM
    Goodbye Microservices
    Discover Twilio’s shift to a single powerful service! Learn cloud communication trends, customer success stories, and how to build scalable apps. Join now!
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251214 #TechRadar

    รีวิวคีย์บอร์ด HHKB Professional Classic Type-S
    เรื่องราวของคีย์บอร์ดรุ่นนี้เริ่มจากแนวคิดของศาสตราจารย์ชาวญี่ปุ่นที่ต้องการสร้างคีย์บอร์ดสำหรับมืออาชีพ โดยตัดปุ่มที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือเพียง 60 ปุ่มในดีไซน์กะทัดรัด ใช้สวิตช์ Topre ที่ขึ้นชื่อเรื่องสัมผัสนุ่มและเงียบ จุดเด่นคือความเล็กและพกพาง่าย แต่ข้อเสียคือไม่มีปุ่มลูกศร ไม่มีแป้นตัวเลข และต้องใช้ปุ่ม Fn เพื่อเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้ต้องปรับตัวใหม่ทั้งหมด ราคาก็สูงพอสมควรเกือบ 300 ดอลลาร์ จึงเป็นคีย์บอร์ดที่คนรักความมินิมอลอาจหลงใหล แต่สำหรับคนทั่วไปอาจรู้สึกว่ามันใช้งานยากและไม่คุ้มค่า
    https://www.techradar.com/computing/keyboards/hhkb-professional-classic-type-s-keyboard-review

    มินิพีซี FEVM FAEX1 ขนาด 1 ลิตร
    นี่คือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่อัดพลังมหาศาลไว้ภายใน ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 พร้อมการ์ดจอ Radeon 8060S เทียบเท่า RTX 4070 Laptop รองรับแรมสูงสุด 128GB และมีสล็อต SSD ถึงสามช่อง แม้ตัวเครื่องเล็กเพียง 220 x 133 x 35 มม. แต่ยังคงประสิทธิภาพระดับสูง มีพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง HDMI, DisplayPort, USB4, และ OCuLink ราคาขายในจีนเริ่มต้นราว 1,550 ดอลลาร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในมินิพีซีที่ทรงพลังที่สุดในตลาด แต่ยังไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/this-is-perhaps-the-smallest-mini-pc-with-a-5060-class-gpu-you-can-buy-right-now-but-you-will-have-to-go-all-the-way-to-china-to-get-it

    ที่ชาร์จไร้สาย Qi2.0 จาก IKEA
    IKEA เปิดตัวที่ชาร์จไร้สายใหม่ 3 รุ่นในซีรีส์ VÄSTMÄRKE ทั้งหมดรองรับมาตรฐาน Qi2.0 กำลังชาร์จสูงสุด 15W รุ่นแรกเป็นที่ชาร์จทรงโดนัทสีแดง ราคาเพียง 9.99 ดอลลาร์ มีฟังก์ชันพิเศษเป็นที่จับโทรศัพท์คล้าย PopSocket รุ่นที่สองเป็นแท่นชาร์จทำจากไม้คอร์ก ราคา 24.99 ดอลลาร์ ใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ส่วนรุ่นสุดท้ายเป็นที่ชาร์จพร้อมไฟส่องสว่างและถาดเล็ก ๆ สำหรับวางของเล็กน้อย เหมาะกับการใช้งานบนโต๊ะหรือหัวเตียง ทั้งสามรุ่นเน้นความเรียบง่ายและราคาย่อมเยาในสไตล์ IKEA
    https://www.techradar.com/phones/phone-accessories/ikea-launches-three-new-qi2-0-wireless-phone-chargers-including-one-with-a-hidden-double-function

    6 คำถามสำคัญในการวางแผน AI Enablement
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าในองค์กรยุคใหม่ พนักงานแทบทุกคนใช้เครื่องมือ AI ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่ และหลายครั้งมีการนำข้อมูลภายในไปใส่ในระบบโดยไม่รู้ความเสี่ยง ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Shadow AI” ผู้เขียนเสนอว่าองค์กรต้องมีแผน AI Enablement ที่ชัดเจน โดยตั้งคำถามสำคัญ เช่น จะใช้ AI ในงานใดบ้าง จะเลือกเครื่องมือที่ปลอดภัยอย่างไร จะจัดการบัญชีส่วนตัวของพนักงานอย่างไร และจะสอนนโยบายให้พนักงานเข้าใจได้อย่างไร หากไม่มีการกำกับดูแล อาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลและความเสียหายทางธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/six-questions-to-ask-when-crafting-an-ai-enablement-plan

    Tesla Model Y Performance รุ่นใหม่
    ครั้งหนึ่ง Tesla เคยสร้างความตื่นตะลึงด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่ารถสปอร์ต แต่ในรุ่น Model Y Performance ล่าสุด แม้จะยังเร็ว 0-60 ไมล์ใน 3.3 วินาที และวิ่งได้ไกลถึง 360 ไมล์ต่อการชาร์จ แต่ความตื่นเต้นกลับไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะคู่แข่งจากยุโรปและจีนก้าวขึ้นมาเทียบชั้นได้หมด การปรับปรุงช่วงล่างและระบบขับเคลื่อนช่วยให้ขับนุ่มนวลขึ้น แต่ไม่ได้สร้างความเร้าใจเหมือนเดิม ผู้ทดสอบเล่าว่าลูกชายถึงกับเวียนหัวเมื่อถูกเร่งความเร็วแรง ๆ สุดท้ายจึงสรุปว่า รุ่น Standard และ Long Range อาจคุ้มค่ากว่าด้วยราคาที่ถูกลงและระยะทางวิ่งที่มากกว่า
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/ive-driven-the-new-tesla-model-y-performance-and-despite-it-being-a-great-car-it-isnt-anywhere-near-as-exciting-as-it-once-was

    Canva เปิดมุมมองใหม่ สร้างยุคแห่ง “Imagination Era”
    Canva กำลังพลิกโฉมตัวเองจากเครื่องมือออกแบบธรรมดาไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “Creative Operating System” หรือระบบปฏิบัติการด้านการสร้างสรรค์ ที่รวมทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบ การทำงานร่วมทีม ไปจนถึงการเผยแพร่และวัดผลในที่เดียว จุดเด่นคือการผสาน AI ที่เข้าใจโครงสร้างงานดีไซน์จริง ไม่ใช่แค่สร้างภาพสวย ๆ แต่สามารถแก้ไข ปรับแต่ง และทำงานต่อได้อย่างยืดหยุ่น อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือ Affinity ซึ่งเคยเป็นซอฟต์แวร์ออกแบบระดับโปร ตอนนี้ถูกทำให้ใช้ฟรีตลอดไป เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงเครื่องมือคุณภาพโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย Canva ยังเสริมด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Ask @Canva ที่ช่วยให้ AI กลายเป็นเพื่อนร่วมคิด ไม่ใช่ตัวแทนแทนความคิด และการเชื่อมต่อกับ Sheets เพื่อสร้างแอปหรือแดชบอร์ดแบบโต้ตอบได้ทันที ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดว่าโลกกำลังเดินเข้าสู่ “Imagination Era” ที่ความคิดสร้างสรรค์คือหัวใจสำคัญของการทำงาน
    https://www.techradar.com/pro/software-services/interview-canva-reveals-what-creativity-in-the-age-of-ai-and-why-affinity-is-free-for-all

    EU ถอยแผนแบนรถเครื่องยนต์สันดาปปี 2035
    สหภาพยุโรปเคยประกาศว่าจะยุติการขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2035 แต่ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเลื่อนเป้าหมายไปเป็นปี 2040 พร้อมปรับเงื่อนไขใหม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ลดการปล่อย CO2 ลง 90% แทนที่จะเป็น 100% เหตุผลหลักคือการรักษางานอุตสาหกรรมจำนวนมหาศาลและตอบรับเสียงจากผู้ผลิตรายใหญ่ที่มองว่ากำหนดเดิมเร็วเกินไป หลายค่ายอย่าง Porsche และ Ford ก็ปรับแผนกลับมาใช้ทั้งเครื่องยนต์น้ำมันและไฮบริดควบคู่ไปกับรถไฟฟ้า แม้จะเลื่อนเวลาออกไป แต่ทิศทางใหญ่ยังคงมุ่งสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพียงแต่ให้เวลามากขึ้นในการเปลี่ยนผ่าน
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/the-inevitable-has-happened-the-eu-has-u-turned-on-its-plan-to-ban-the-sale-of-ice-cars-by-2035

    ยุคใหม่ของ AI: จากโมเดลใหญ่สู่ “Agentic AI”
    ที่ผ่านมาโลก AI เน้นการสร้างโมเดลที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตอนนี้นักวิจัยมองว่าทางออกไม่ใช่การเพิ่มขนาด แต่คือการออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่ที่เรียกว่า “Agentic AI” แนวคิดนี้คือการใช้กลุ่มตัวแทนเล็ก ๆ หลายตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างมีเหตุผลและต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ตอบคำถามแล้วจบ แต่สามารถเฝ้าสังเกต วิเคราะห์ และปรับตัวตามสถานการณ์จริง เช่น การเปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้า หรือความผิดปกติเล็ก ๆ ที่มักหลุดจากสายตา ระบบนี้ต้องอาศัยข้อมูลที่เป็นเอกภาพเพื่อไม่ให้ตัวแทนแต่ละตัวตัดสินใจขัดแย้งกัน จุดสำคัญคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและเรียนรู้ได้ตลอดเวลา โดยมนุษย์ยังคงมีบทบาทในการกำหนดเป้าหมายและขอบเขต ส่วน AI จะทำหน้าที่เป็นแรงขับเคลื่อนที่ไม่รู้จักเหนื่อย
    https://www.techradar.com/pro/the-next-phase-of-ai-is-agentic-and-it-starts-with-data-architecture

    สหรัฐฯ เตรียมตรวจโซเชียลมีเดียย้อนหลัง 5 ปีในการเข้าประเทศ
    นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ อาจต้องเจอกับมาตรการใหม่ที่เข้มงวดกว่าที่เคย โดยหน่วยงาน CBP เสนอให้ตรวจสอบโพสต์โซเชียลมีเดียย้อนหลังถึง 5 ปี รวมถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างอีเมล เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลครอบครัว และข้อมูลชีวมิติ เช่น ลายนิ้วมือ สแกนม่านตา และ DNA แน่นอนว่ามาตรการนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มสิทธิเสรีภาพที่มองว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและไม่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่ามาตรการนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ง่าย เช่น การลบโพสต์เก่า หรือสร้างบัญชีใหม่ที่สะอาด ทำให้เกิดคำถามว่ามันจะได้ผลจริงหรือไม่
    https://www.techradar.com/computing/social-media/new-us-border-checks-could-involve-scanning-your-last-five-years-of-social-media-history-heres-what-you-need-to-know

    AI พาโลกธุรกิจวิ่งสู่ “Zero Downtime”
    ในยุคดิจิทัล ความน่าเชื่อถือของระบบออนไลน์สำคัญไม่แพ้รายได้ เพราะการหยุดทำงานเพียงไม่กี่นาทีอาจสร้างความเสียหายมหาศาล ปัจจุบัน AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกมด้วยการสร้างระบบที่สามารถคาดการณ์และแก้ไขปัญหาได้เองก่อนที่ผู้ใช้จะรู้ตัว แนวคิด “Self-healing Infrastructure” หรือโครงสร้างพื้นฐานที่ซ่อมตัวเองได้ กำลังถูกนำมาใช้จริงในองค์กรใหญ่ ๆ ทำให้การแก้ไขปัญหาที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ผลลัพธ์คือธุรกิจสามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่สะดุด และวิศวกรเองก็มีเวลามากขึ้นในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่แทนที่จะต้องคอยดับไฟ ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในโลกที่ทุกวินาทีมีค่า
    https://www.techradar.com/pro/the-race-to-zero-downtime-is-on-and-ai-is-leading-it



    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251214 #TechRadar 🖥️ รีวิวคีย์บอร์ด HHKB Professional Classic Type-S เรื่องราวของคีย์บอร์ดรุ่นนี้เริ่มจากแนวคิดของศาสตราจารย์ชาวญี่ปุ่นที่ต้องการสร้างคีย์บอร์ดสำหรับมืออาชีพ โดยตัดปุ่มที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือเพียง 60 ปุ่มในดีไซน์กะทัดรัด ใช้สวิตช์ Topre ที่ขึ้นชื่อเรื่องสัมผัสนุ่มและเงียบ จุดเด่นคือความเล็กและพกพาง่าย แต่ข้อเสียคือไม่มีปุ่มลูกศร ไม่มีแป้นตัวเลข และต้องใช้ปุ่ม Fn เพื่อเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้ต้องปรับตัวใหม่ทั้งหมด ราคาก็สูงพอสมควรเกือบ 300 ดอลลาร์ จึงเป็นคีย์บอร์ดที่คนรักความมินิมอลอาจหลงใหล แต่สำหรับคนทั่วไปอาจรู้สึกว่ามันใช้งานยากและไม่คุ้มค่า 🔗 https://www.techradar.com/computing/keyboards/hhkb-professional-classic-type-s-keyboard-review 💻 มินิพีซี FEVM FAEX1 ขนาด 1 ลิตร นี่คือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่อัดพลังมหาศาลไว้ภายใน ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 พร้อมการ์ดจอ Radeon 8060S เทียบเท่า RTX 4070 Laptop รองรับแรมสูงสุด 128GB และมีสล็อต SSD ถึงสามช่อง แม้ตัวเครื่องเล็กเพียง 220 x 133 x 35 มม. แต่ยังคงประสิทธิภาพระดับสูง มีพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง HDMI, DisplayPort, USB4, และ OCuLink ราคาขายในจีนเริ่มต้นราว 1,550 ดอลลาร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในมินิพีซีที่ทรงพลังที่สุดในตลาด แต่ยังไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-is-perhaps-the-smallest-mini-pc-with-a-5060-class-gpu-you-can-buy-right-now-but-you-will-have-to-go-all-the-way-to-china-to-get-it 🔌 ที่ชาร์จไร้สาย Qi2.0 จาก IKEA IKEA เปิดตัวที่ชาร์จไร้สายใหม่ 3 รุ่นในซีรีส์ VÄSTMÄRKE ทั้งหมดรองรับมาตรฐาน Qi2.0 กำลังชาร์จสูงสุด 15W รุ่นแรกเป็นที่ชาร์จทรงโดนัทสีแดง ราคาเพียง 9.99 ดอลลาร์ มีฟังก์ชันพิเศษเป็นที่จับโทรศัพท์คล้าย PopSocket รุ่นที่สองเป็นแท่นชาร์จทำจากไม้คอร์ก ราคา 24.99 ดอลลาร์ ใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ส่วนรุ่นสุดท้ายเป็นที่ชาร์จพร้อมไฟส่องสว่างและถาดเล็ก ๆ สำหรับวางของเล็กน้อย เหมาะกับการใช้งานบนโต๊ะหรือหัวเตียง ทั้งสามรุ่นเน้นความเรียบง่ายและราคาย่อมเยาในสไตล์ IKEA 🔗 https://www.techradar.com/phones/phone-accessories/ikea-launches-three-new-qi2-0-wireless-phone-chargers-including-one-with-a-hidden-double-function 🤖 6 คำถามสำคัญในการวางแผน AI Enablement บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าในองค์กรยุคใหม่ พนักงานแทบทุกคนใช้เครื่องมือ AI ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่ และหลายครั้งมีการนำข้อมูลภายในไปใส่ในระบบโดยไม่รู้ความเสี่ยง ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Shadow AI” ผู้เขียนเสนอว่าองค์กรต้องมีแผน AI Enablement ที่ชัดเจน โดยตั้งคำถามสำคัญ เช่น จะใช้ AI ในงานใดบ้าง จะเลือกเครื่องมือที่ปลอดภัยอย่างไร จะจัดการบัญชีส่วนตัวของพนักงานอย่างไร และจะสอนนโยบายให้พนักงานเข้าใจได้อย่างไร หากไม่มีการกำกับดูแล อาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลและความเสียหายทางธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/six-questions-to-ask-when-crafting-an-ai-enablement-plan 🚗 Tesla Model Y Performance รุ่นใหม่ ครั้งหนึ่ง Tesla เคยสร้างความตื่นตะลึงด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่ารถสปอร์ต แต่ในรุ่น Model Y Performance ล่าสุด แม้จะยังเร็ว 0-60 ไมล์ใน 3.3 วินาที และวิ่งได้ไกลถึง 360 ไมล์ต่อการชาร์จ แต่ความตื่นเต้นกลับไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะคู่แข่งจากยุโรปและจีนก้าวขึ้นมาเทียบชั้นได้หมด การปรับปรุงช่วงล่างและระบบขับเคลื่อนช่วยให้ขับนุ่มนวลขึ้น แต่ไม่ได้สร้างความเร้าใจเหมือนเดิม ผู้ทดสอบเล่าว่าลูกชายถึงกับเวียนหัวเมื่อถูกเร่งความเร็วแรง ๆ สุดท้ายจึงสรุปว่า รุ่น Standard และ Long Range อาจคุ้มค่ากว่าด้วยราคาที่ถูกลงและระยะทางวิ่งที่มากกว่า 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/ive-driven-the-new-tesla-model-y-performance-and-despite-it-being-a-great-car-it-isnt-anywhere-near-as-exciting-as-it-once-was 🖌️ Canva เปิดมุมมองใหม่ สร้างยุคแห่ง “Imagination Era” Canva กำลังพลิกโฉมตัวเองจากเครื่องมือออกแบบธรรมดาไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “Creative Operating System” หรือระบบปฏิบัติการด้านการสร้างสรรค์ ที่รวมทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบ การทำงานร่วมทีม ไปจนถึงการเผยแพร่และวัดผลในที่เดียว จุดเด่นคือการผสาน AI ที่เข้าใจโครงสร้างงานดีไซน์จริง ไม่ใช่แค่สร้างภาพสวย ๆ แต่สามารถแก้ไข ปรับแต่ง และทำงานต่อได้อย่างยืดหยุ่น อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือ Affinity ซึ่งเคยเป็นซอฟต์แวร์ออกแบบระดับโปร ตอนนี้ถูกทำให้ใช้ฟรีตลอดไป เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงเครื่องมือคุณภาพโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย Canva ยังเสริมด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Ask @Canva ที่ช่วยให้ AI กลายเป็นเพื่อนร่วมคิด ไม่ใช่ตัวแทนแทนความคิด และการเชื่อมต่อกับ Sheets เพื่อสร้างแอปหรือแดชบอร์ดแบบโต้ตอบได้ทันที ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดว่าโลกกำลังเดินเข้าสู่ “Imagination Era” ที่ความคิดสร้างสรรค์คือหัวใจสำคัญของการทำงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/interview-canva-reveals-what-creativity-in-the-age-of-ai-and-why-affinity-is-free-for-all 🚗 EU ถอยแผนแบนรถเครื่องยนต์สันดาปปี 2035 สหภาพยุโรปเคยประกาศว่าจะยุติการขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2035 แต่ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเลื่อนเป้าหมายไปเป็นปี 2040 พร้อมปรับเงื่อนไขใหม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ลดการปล่อย CO2 ลง 90% แทนที่จะเป็น 100% เหตุผลหลักคือการรักษางานอุตสาหกรรมจำนวนมหาศาลและตอบรับเสียงจากผู้ผลิตรายใหญ่ที่มองว่ากำหนดเดิมเร็วเกินไป หลายค่ายอย่าง Porsche และ Ford ก็ปรับแผนกลับมาใช้ทั้งเครื่องยนต์น้ำมันและไฮบริดควบคู่ไปกับรถไฟฟ้า แม้จะเลื่อนเวลาออกไป แต่ทิศทางใหญ่ยังคงมุ่งสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพียงแต่ให้เวลามากขึ้นในการเปลี่ยนผ่าน 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/the-inevitable-has-happened-the-eu-has-u-turned-on-its-plan-to-ban-the-sale-of-ice-cars-by-2035 🤖 ยุคใหม่ของ AI: จากโมเดลใหญ่สู่ “Agentic AI” ที่ผ่านมาโลก AI เน้นการสร้างโมเดลที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตอนนี้นักวิจัยมองว่าทางออกไม่ใช่การเพิ่มขนาด แต่คือการออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่ที่เรียกว่า “Agentic AI” แนวคิดนี้คือการใช้กลุ่มตัวแทนเล็ก ๆ หลายตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างมีเหตุผลและต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ตอบคำถามแล้วจบ แต่สามารถเฝ้าสังเกต วิเคราะห์ และปรับตัวตามสถานการณ์จริง เช่น การเปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้า หรือความผิดปกติเล็ก ๆ ที่มักหลุดจากสายตา ระบบนี้ต้องอาศัยข้อมูลที่เป็นเอกภาพเพื่อไม่ให้ตัวแทนแต่ละตัวตัดสินใจขัดแย้งกัน จุดสำคัญคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและเรียนรู้ได้ตลอดเวลา โดยมนุษย์ยังคงมีบทบาทในการกำหนดเป้าหมายและขอบเขต ส่วน AI จะทำหน้าที่เป็นแรงขับเคลื่อนที่ไม่รู้จักเหนื่อย 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-next-phase-of-ai-is-agentic-and-it-starts-with-data-architecture 🛂 สหรัฐฯ เตรียมตรวจโซเชียลมีเดียย้อนหลัง 5 ปีในการเข้าประเทศ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ อาจต้องเจอกับมาตรการใหม่ที่เข้มงวดกว่าที่เคย โดยหน่วยงาน CBP เสนอให้ตรวจสอบโพสต์โซเชียลมีเดียย้อนหลังถึง 5 ปี รวมถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างอีเมล เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลครอบครัว และข้อมูลชีวมิติ เช่น ลายนิ้วมือ สแกนม่านตา และ DNA แน่นอนว่ามาตรการนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มสิทธิเสรีภาพที่มองว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและไม่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่ามาตรการนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ง่าย เช่น การลบโพสต์เก่า หรือสร้างบัญชีใหม่ที่สะอาด ทำให้เกิดคำถามว่ามันจะได้ผลจริงหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/social-media/new-us-border-checks-could-involve-scanning-your-last-five-years-of-social-media-history-heres-what-you-need-to-know ⚙️ AI พาโลกธุรกิจวิ่งสู่ “Zero Downtime” ในยุคดิจิทัล ความน่าเชื่อถือของระบบออนไลน์สำคัญไม่แพ้รายได้ เพราะการหยุดทำงานเพียงไม่กี่นาทีอาจสร้างความเสียหายมหาศาล ปัจจุบัน AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกมด้วยการสร้างระบบที่สามารถคาดการณ์และแก้ไขปัญหาได้เองก่อนที่ผู้ใช้จะรู้ตัว แนวคิด “Self-healing Infrastructure” หรือโครงสร้างพื้นฐานที่ซ่อมตัวเองได้ กำลังถูกนำมาใช้จริงในองค์กรใหญ่ ๆ ทำให้การแก้ไขปัญหาที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ผลลัพธ์คือธุรกิจสามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่สะดุด และวิศวกรเองก็มีเวลามากขึ้นในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่แทนที่จะต้องคอยดับไฟ ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในโลกที่ทุกวินาทีมีค่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-race-to-zero-downtime-is-on-and-ai-is-leading-it
    WWW.TECHRADAR.COM
    I tested the HHKB Professional Classic Type-S — a niche option for those prepared to learn a new keyboard layout to get Topre key mechanisms
    The HHKB Professional Classic Type-S is a radically deconstructed keyboard design that focuses on compact layout rather than easy adaptability.
    0 Comments 0 Shares 514 Views 0 Reviews
  • การโจมตีไซเบอร์ที่โยงถึง GRU

    รัฐบาลเยอรมนีประกาศว่ามีหลักฐานชัดเจนเชื่อมโยง APT28 หรือ Fancy Bear ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่ภายใต้ GRU กับการโจมตีระบบ Deutsche Flugsicherung บริษัทควบคุมการบินพลเรือนของเยอรมนีในปี 2024 แม้การบินไม่หยุดชะงัก แต่ระบบภายในและการสื่อสารได้รับผลกระทบอย่างหนัก

    การแทรกแซงการเลือกตั้ง
    อีกกรณีคือปฏิบัติการชื่อ Storm-1516 ที่พยายามแทรกแซงการเลือกตั้งสหพันธรัฐเยอรมนีในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 โดยใช้ ดีปเฟกเสียงและวิดีโอ รวมถึงเว็บไซต์ที่ดูเหมือนเป็นกลาง แต่ภายหลังถูกใช้เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนและสร้างความสับสนในสังคม

    ปฏิกิริยาทางการทูตและมาตรการตอบโต้
    เยอรมนีจึงเรียกเอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าพบ พร้อมประกาศว่าจะมี มาตรการคว่ำบาตรและการตอบโต้ร่วมกับพันธมิตรยุโรป เช่น การอายัดทรัพย์บุคคลที่เกี่ยวข้อง การห้ามเดินทาง และการเพิ่มมาตรการป้องกันโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

    บทเรียนด้านความมั่นคงไซเบอร์
    เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า สงครามสมัยใหม่ไม่ได้จำกัดอยู่ในสนามรบ แต่ขยายไปสู่โลกไซเบอร์ การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น การบินและการเลือกตั้ง สามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมมหาศาล จึงเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกประเทศต้องลงทุนด้านความมั่นคงไซเบอร์มากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การโจมตีระบบการบินเยอรมนี
    APT28 หรือ Fancy Bear ถูกเชื่อมโยงกับ GRU ในการโจมตี Deutsche Flugsicherung

    การแทรกแซงการเลือกตั้ง
    ปฏิบัติการ Storm-1516 ใช้ดีปเฟกและเว็บไซต์บิดเบือนข้อมูล

    มาตรการตอบโต้ของเยอรมนี
    เรียกทูตรัสเซียเข้าพบ และเตรียมคว่ำบาตรร่วมกับพันธมิตรยุโรป

    บทเรียนด้านความมั่นคงไซเบอร์
    การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญเป็นภัยคุกคามระดับชาติ

    ความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐาน
    ระบบควบคุมการบินและการเลือกตั้งอาจถูกโจมตีซ้ำหากไม่เสริมความปลอดภัย

    การใช้เทคโนโลยีบิดเบือนข้อมูล
    ดีปเฟกและเว็บไซต์ปลอมสามารถสร้างความแตกแยกในสังคมและบ่อนทำลายประชาธิปไตย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/germany-summons-russian-ambassador-over-gru-linked-cyberattacks-on-atc-and-elections
    ⚔️ การโจมตีไซเบอร์ที่โยงถึง GRU รัฐบาลเยอรมนีประกาศว่ามีหลักฐานชัดเจนเชื่อมโยง APT28 หรือ Fancy Bear ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่ภายใต้ GRU กับการโจมตีระบบ Deutsche Flugsicherung บริษัทควบคุมการบินพลเรือนของเยอรมนีในปี 2024 แม้การบินไม่หยุดชะงัก แต่ระบบภายในและการสื่อสารได้รับผลกระทบอย่างหนัก 🗳️ การแทรกแซงการเลือกตั้ง อีกกรณีคือปฏิบัติการชื่อ Storm-1516 ที่พยายามแทรกแซงการเลือกตั้งสหพันธรัฐเยอรมนีในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 โดยใช้ ดีปเฟกเสียงและวิดีโอ รวมถึงเว็บไซต์ที่ดูเหมือนเป็นกลาง แต่ภายหลังถูกใช้เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนและสร้างความสับสนในสังคม 🌍 ปฏิกิริยาทางการทูตและมาตรการตอบโต้ เยอรมนีจึงเรียกเอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าพบ พร้อมประกาศว่าจะมี มาตรการคว่ำบาตรและการตอบโต้ร่วมกับพันธมิตรยุโรป เช่น การอายัดทรัพย์บุคคลที่เกี่ยวข้อง การห้ามเดินทาง และการเพิ่มมาตรการป้องกันโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ 🔐 บทเรียนด้านความมั่นคงไซเบอร์ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า สงครามสมัยใหม่ไม่ได้จำกัดอยู่ในสนามรบ แต่ขยายไปสู่โลกไซเบอร์ การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น การบินและการเลือกตั้ง สามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมมหาศาล จึงเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกประเทศต้องลงทุนด้านความมั่นคงไซเบอร์มากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การโจมตีระบบการบินเยอรมนี ➡️ APT28 หรือ Fancy Bear ถูกเชื่อมโยงกับ GRU ในการโจมตี Deutsche Flugsicherung ✅ การแทรกแซงการเลือกตั้ง ➡️ ปฏิบัติการ Storm-1516 ใช้ดีปเฟกและเว็บไซต์บิดเบือนข้อมูล ✅ มาตรการตอบโต้ของเยอรมนี ➡️ เรียกทูตรัสเซียเข้าพบ และเตรียมคว่ำบาตรร่วมกับพันธมิตรยุโรป ✅ บทเรียนด้านความมั่นคงไซเบอร์ ➡️ การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญเป็นภัยคุกคามระดับชาติ ‼️ ความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐาน ⛔ ระบบควบคุมการบินและการเลือกตั้งอาจถูกโจมตีซ้ำหากไม่เสริมความปลอดภัย ‼️ การใช้เทคโนโลยีบิดเบือนข้อมูล ⛔ ดีปเฟกและเว็บไซต์ปลอมสามารถสร้างความแตกแยกในสังคมและบ่อนทำลายประชาธิปไตย https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/germany-summons-russian-ambassador-over-gru-linked-cyberattacks-on-atc-and-elections
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Germany summons Russian ambassador over GRU-linked cyberattacks — air traffic control and elections systems targeted
    Berlin says it has clear evidence tying Russia’s military intelligence agency to a 2024 attack on aviation IT systems 2025 election interference.
    0 Comments 0 Shares 272 Views 0 Reviews
  • “Koralm Railway – ทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อม Styria และ Carinthia”

    Koralm Railway เป็นส่วนหนึ่งของ Southern Line Vienna–Villach และถือเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานระดับยุโรปที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน จุดเด่นคือการเชื่อมต่อเมือง Graz และ Klagenfurt ผ่านเทือกเขา Koralpe โดยใช้เส้นทางใหม่ที่ทันสมัยและปลอดภัย ทำให้เวลาเดินทางลดลงจากเดิมประมาณ 3 ชั่วโมงเหลือเพียง 45 นาที ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบขนส่งของออสเตรีย

    นอกจากการเดินทางที่รวดเร็วขึ้นแล้ว โครงการนี้ยังช่วยให้การเข้าถึงพื้นที่ Western Styria และ Southern Carinthia สะดวกขึ้น รวมถึงเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ฮังการี และ อิตาลี ได้ง่ายขึ้น ทำให้ Koralm Railway กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Baltic-Adriatic Corridor ซึ่งเป็นเส้นทางเศรษฐกิจสำคัญของยุโรป

    ในเชิงเศรษฐกิจ การก่อสร้างเส้นทางใหม่นี้ช่วยสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยมีการสร้างสถานีและจุดหยุดใหม่กว่า 23 แห่ง พร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น อุโมงค์ยาว 50 กิโลเมตร และ สะพานกว่า 100 แห่ง รวมระยะทางทั้งหมด 130 กิโลเมตร

    ด้านสิ่งแวดล้อม Koralm Railway ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เนื่องจากการขนส่งสินค้าทางรถไฟปล่อย CO₂ น้อยกว่าการขนส่งด้วยรถบรรทุกถึง 15 เท่า ทำให้โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการลงทุนด้านการเดินทาง แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของยุโรป

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Koralm Railway เชื่อม Graz–Klagenfurt ลดเวลาเดินทางจาก 3 ชั่วโมงเหลือ 45 นาที
    เป็นส่วนหนึ่งของ Southern Line Vienna–Villach และ Baltic-Adriatic Corridor
    มีอุโมงค์ยาว 50 กม., สะพานกว่า 100 แห่ง และสถานีใหม่ 23 แห่ง
    ระยะทางรวม 130 กม. ถือเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ระดับยุโรป

    ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Internet
    การขนส่งสินค้าทางรถไฟปล่อย CO₂ น้อยกว่ารถบรรทุกถึง 15 เท่า
    ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานในภูมิภาค Styria และ Carinthia
    เชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ฮังการีและอิตาลี

    คำเตือน
    โครงการมีความซับซ้อนสูง ใช้เวลาสร้างหลายปีและต้องลงทุนมหาศาล
    การก่อสร้างอุโมงค์และสะพานอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่
    หากไม่บริหารจัดการดี อาจเกิดความล่าช้าและต้นทุนบานปลาย

    https://infrastruktur.oebb.at/en/projects-for-austria/railway-lines/southern-line-vienna-villach/koralm-railway
    🚆 “Koralm Railway – ทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อม Styria และ Carinthia” Koralm Railway เป็นส่วนหนึ่งของ Southern Line Vienna–Villach และถือเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานระดับยุโรปที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน จุดเด่นคือการเชื่อมต่อเมือง Graz และ Klagenfurt ผ่านเทือกเขา Koralpe โดยใช้เส้นทางใหม่ที่ทันสมัยและปลอดภัย ทำให้เวลาเดินทางลดลงจากเดิมประมาณ 3 ชั่วโมงเหลือเพียง 45 นาที ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบขนส่งของออสเตรีย นอกจากการเดินทางที่รวดเร็วขึ้นแล้ว โครงการนี้ยังช่วยให้การเข้าถึงพื้นที่ Western Styria และ Southern Carinthia สะดวกขึ้น รวมถึงเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ฮังการี และ อิตาลี ได้ง่ายขึ้น ทำให้ Koralm Railway กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Baltic-Adriatic Corridor ซึ่งเป็นเส้นทางเศรษฐกิจสำคัญของยุโรป ในเชิงเศรษฐกิจ การก่อสร้างเส้นทางใหม่นี้ช่วยสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยมีการสร้างสถานีและจุดหยุดใหม่กว่า 23 แห่ง พร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น อุโมงค์ยาว 50 กิโลเมตร และ สะพานกว่า 100 แห่ง รวมระยะทางทั้งหมด 130 กิโลเมตร ด้านสิ่งแวดล้อม Koralm Railway ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เนื่องจากการขนส่งสินค้าทางรถไฟปล่อย CO₂ น้อยกว่าการขนส่งด้วยรถบรรทุกถึง 15 เท่า ทำให้โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการลงทุนด้านการเดินทาง แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของยุโรป 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Koralm Railway เชื่อม Graz–Klagenfurt ลดเวลาเดินทางจาก 3 ชั่วโมงเหลือ 45 นาที ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของ Southern Line Vienna–Villach และ Baltic-Adriatic Corridor ➡️ มีอุโมงค์ยาว 50 กม., สะพานกว่า 100 แห่ง และสถานีใหม่ 23 แห่ง ➡️ ระยะทางรวม 130 กม. ถือเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ระดับยุโรป ✅ ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Internet ➡️ การขนส่งสินค้าทางรถไฟปล่อย CO₂ น้อยกว่ารถบรรทุกถึง 15 เท่า ➡️ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานในภูมิภาค Styria และ Carinthia ➡️ เชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ฮังการีและอิตาลี ‼️ คำเตือน ⛔ โครงการมีความซับซ้อนสูง ใช้เวลาสร้างหลายปีและต้องลงทุนมหาศาล ⛔ การก่อสร้างอุโมงค์และสะพานอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ⛔ หากไม่บริหารจัดการดี อาจเกิดความล่าช้าและต้นทุนบานปลาย https://infrastruktur.oebb.at/en/projects-for-austria/railway-lines/southern-line-vienna-villach/koralm-railway
    INFRASTRUKTUR.OEBB.AT
    Koralm railway
    A fast and safe service between Styria and Carinthia: That’s the Koralm Railway. It’s part of the new Southern Line in Austria and one of the most important infrastructure projects in Europe.
    0 Comments 0 Shares 220 Views 0 Reviews
  • ศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    China Telecom Inner Mongolia Information Park ถูกกล่าวถึงว่าเป็น ศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่กว่า 10.7 ล้านตารางฟุต ตั้งอยู่ในเมือง Hohhot มณฑล Inner Mongolia ประเทศจีน โดยเป็นโครงการของ China Telecom บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีนที่มีศูนย์ข้อมูลหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ

    ข้อกังขาเรื่องขนาดจริง
    แม้จะมีการรายงานตัวเลขมหาศาล แต่การตรวจสอบด้วยภาพดาวเทียมโดยนักข่าวจาก Data Center Dynamics พบว่าพื้นที่จริงอาจเล็กกว่าที่ประกาศไว้มาก อาจมีเพียง 1 ล้านตารางฟุต ซึ่งยังถือว่าใหญ่ แต่ไม่ถึงระดับที่ถูกกล่าวอ้าง ข้อสันนิษฐานคือโครงการอาจยังไม่เสร็จสมบูรณ์ หรือถูกละทิ้งไปบางส่วน

    ศูนย์ข้อมูลอื่นที่น่าสนใจ
    นอกจาก Inner Mongolia ยังมีศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในจีน เช่น China Mobile Heilongjiang (7.1 ล้านตารางฟุต) และ Range International Hub Langfang (6.3 ล้านตารางฟุต) ส่วนในสหรัฐอเมริกา ศูนย์ข้อมูลของ Switch ที่ Las Vegas ครองสถิติ Guinness World Records ที่ 2.2 ล้านตารางฟุต แม้จะเป็นข้อมูลที่ไม่ได้อัปเดตมานานแล้ว

    ผลกระทบและความสำคัญ
    ศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมาเหล่านี้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้น้ำจำนวนมหาศาล และการใช้พลังงานมหาศาลเพื่อระบายความร้อน ขณะเดียวกันก็เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่รองรับบริการ Cloud, AI และการสื่อสารทั่วโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    China Telecom Inner Mongolia ถูกกล่าวว่าใหญ่ที่สุดในโลก
    รายงานพื้นที่กว่า 10.7 ล้านตารางฟุต
    มีศูนย์ข้อมูลอื่นในจีนและสหรัฐที่ใหญ่เช่นกัน

    ข้อกังขา
    ภาพดาวเทียมชี้ว่าพื้นที่จริงอาจเล็กกว่าที่ประกาศ
    โครงการอาจยังไม่เสร็จหรือถูกละทิ้งบางส่วน

    ผลกระทบ
    ใช้น้ำและพลังงานมหาศาล
    เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของ Cloud และ AI

    คำเตือน
    ตัวเลขที่รายงานอาจไม่ตรงกับความจริง
    การสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรท้องถิ่น

    https://www.slashgear.com/2048539/largest-data-center-china-telecom-inner-mongolia-information-park/
    🏢 ศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก China Telecom Inner Mongolia Information Park ถูกกล่าวถึงว่าเป็น ศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่กว่า 10.7 ล้านตารางฟุต ตั้งอยู่ในเมือง Hohhot มณฑล Inner Mongolia ประเทศจีน โดยเป็นโครงการของ China Telecom บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีนที่มีศูนย์ข้อมูลหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ 🔍 ข้อกังขาเรื่องขนาดจริง แม้จะมีการรายงานตัวเลขมหาศาล แต่การตรวจสอบด้วยภาพดาวเทียมโดยนักข่าวจาก Data Center Dynamics พบว่าพื้นที่จริงอาจเล็กกว่าที่ประกาศไว้มาก อาจมีเพียง 1 ล้านตารางฟุต ซึ่งยังถือว่าใหญ่ แต่ไม่ถึงระดับที่ถูกกล่าวอ้าง ข้อสันนิษฐานคือโครงการอาจยังไม่เสร็จสมบูรณ์ หรือถูกละทิ้งไปบางส่วน 🌐 ศูนย์ข้อมูลอื่นที่น่าสนใจ นอกจาก Inner Mongolia ยังมีศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในจีน เช่น China Mobile Heilongjiang (7.1 ล้านตารางฟุต) และ Range International Hub Langfang (6.3 ล้านตารางฟุต) ส่วนในสหรัฐอเมริกา ศูนย์ข้อมูลของ Switch ที่ Las Vegas ครองสถิติ Guinness World Records ที่ 2.2 ล้านตารางฟุต แม้จะเป็นข้อมูลที่ไม่ได้อัปเดตมานานแล้ว ⚠️ ผลกระทบและความสำคัญ ศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมาเหล่านี้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้น้ำจำนวนมหาศาล และการใช้พลังงานมหาศาลเพื่อระบายความร้อน ขณะเดียวกันก็เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่รองรับบริการ Cloud, AI และการสื่อสารทั่วโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ China Telecom Inner Mongolia ถูกกล่าวว่าใหญ่ที่สุดในโลก ➡️ รายงานพื้นที่กว่า 10.7 ล้านตารางฟุต ➡️ มีศูนย์ข้อมูลอื่นในจีนและสหรัฐที่ใหญ่เช่นกัน ✅ ข้อกังขา ➡️ ภาพดาวเทียมชี้ว่าพื้นที่จริงอาจเล็กกว่าที่ประกาศ ➡️ โครงการอาจยังไม่เสร็จหรือถูกละทิ้งบางส่วน ✅ ผลกระทบ ➡️ ใช้น้ำและพลังงานมหาศาล ➡️ เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของ Cloud และ AI ‼️ คำเตือน ⛔ ตัวเลขที่รายงานอาจไม่ตรงกับความจริง ⛔ การสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรท้องถิ่น https://www.slashgear.com/2048539/largest-data-center-china-telecom-inner-mongolia-information-park/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Who Has The Biggest Data Center In The World? - SlashGear
    Data centers have become increasingly common around the world as the need for larger dedicated spaces crops up, but which one is the largest so far?
    0 Comments 0 Shares 247 Views 0 Reviews
  • ช่องโหว่ใหม่ใน Linux Kernel

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้เปิดเผยช่องโหว่ Use-After-Free (UAF) ในฟีเจอร์ io_uring ของ Linux Kernel ซึ่งถูกใช้เพื่อหลอกระบบ BPF Verifier ให้เชื่อว่าซอร์สโค้ดที่ไม่ปลอดภัยนั้นปลอดภัย ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงหน่วยความจำของ Kernel ได้โดยตรง และทำการ Container Escape ออกจากสภาพแวดล้อมที่ถูกจำกัดสิทธิ์

    กลไกการโจมตี
    ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการหน่วยความจำผิดพลาดใน io_uring ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสร้างเงื่อนไข Use-After-Free และใช้ประโยชน์จากการตรวจสอบที่ผิดพลาดของ BPF Verifier เมื่อโค้ดที่ควรถูกบล็อกกลับถูกอนุญาตให้ทำงาน ผู้โจมตีจึงสามารถรันคำสั่งที่เข้าถึง Kernel Memory ได้โดยตรง ซึ่งเป็นการเปิดทางไปสู่การยกระดับสิทธิ์และการหลบหนีจาก Container

    ผลกระทบต่อระบบ
    ช่องโหว่นี้มีผลกระทบอย่างมากต่อระบบที่ใช้ Linux Kernel เวอร์ชันใหม่ตั้งแต่ 5.4 ขึ้นไป โดยเฉพาะระบบ Cloud และ Container ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงฟีเจอร์ BPF หากถูกโจมตีสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์เป็น root และเข้าถึงระบบ Host ได้ทันที ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐาน

    แนวทางป้องกัน
    ผู้ดูแลระบบควรรีบตรวจสอบเวอร์ชัน Kernel ที่ใช้งาน และติดตั้ง Patch ล่าสุด จากทีมพัฒนา Linux รวมถึงการ ปิดการใช้งาน io_uring ชั่วคราว หากไม่จำเป็น และใช้เครื่องมือ eBPF Monitoring เช่น Falco หรือ Tetragon เพื่อตรวจจับการเรียกใช้งาน io_uring ที่ผิดปกติ

    สรุปสาระสำคัญ
    รายละเอียดช่องโหว่
    เกิดจาก Use-After-Free ใน io_uring
    ใช้หลอก BPF Verifier ให้ยอมรับโค้ดอันตราย

    ผลกระทบ
    เสี่ยงต่อการ Container Escape
    ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์เป็น root

    แนวทางป้องกัน
    อัปเดต Kernel ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    ปิด io_uring หากไม่จำเป็น
    ใช้ eBPF Tools ตรวจสอบการเรียกใช้งานผิดปกติ

    คำเตือน
    ระบบ Cloud และ Container ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึง BPF มีความเสี่ยงสูง
    หากไม่อัปเดต Kernel อาจถูกโจมตีและเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้

    https://securityonline.info/linux-kernel-io_uring-uaf-flaw-used-to-cheat-bpf-verifier-and-achieve-container-escape-poc-releases/
    🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Linux Kernel นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้เปิดเผยช่องโหว่ Use-After-Free (UAF) ในฟีเจอร์ io_uring ของ Linux Kernel ซึ่งถูกใช้เพื่อหลอกระบบ BPF Verifier ให้เชื่อว่าซอร์สโค้ดที่ไม่ปลอดภัยนั้นปลอดภัย ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงหน่วยความจำของ Kernel ได้โดยตรง และทำการ Container Escape ออกจากสภาพแวดล้อมที่ถูกจำกัดสิทธิ์ ⚙️ กลไกการโจมตี ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการหน่วยความจำผิดพลาดใน io_uring ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสร้างเงื่อนไข Use-After-Free และใช้ประโยชน์จากการตรวจสอบที่ผิดพลาดของ BPF Verifier เมื่อโค้ดที่ควรถูกบล็อกกลับถูกอนุญาตให้ทำงาน ผู้โจมตีจึงสามารถรันคำสั่งที่เข้าถึง Kernel Memory ได้โดยตรง ซึ่งเป็นการเปิดทางไปสู่การยกระดับสิทธิ์และการหลบหนีจาก Container 🌐 ผลกระทบต่อระบบ ช่องโหว่นี้มีผลกระทบอย่างมากต่อระบบที่ใช้ Linux Kernel เวอร์ชันใหม่ตั้งแต่ 5.4 ขึ้นไป โดยเฉพาะระบบ Cloud และ Container ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงฟีเจอร์ BPF หากถูกโจมตีสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์เป็น root และเข้าถึงระบบ Host ได้ทันที ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐาน 🔧 แนวทางป้องกัน ผู้ดูแลระบบควรรีบตรวจสอบเวอร์ชัน Kernel ที่ใช้งาน และติดตั้ง Patch ล่าสุด จากทีมพัฒนา Linux รวมถึงการ ปิดการใช้งาน io_uring ชั่วคราว หากไม่จำเป็น และใช้เครื่องมือ eBPF Monitoring เช่น Falco หรือ Tetragon เพื่อตรวจจับการเรียกใช้งาน io_uring ที่ผิดปกติ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายละเอียดช่องโหว่ ➡️ เกิดจาก Use-After-Free ใน io_uring ➡️ ใช้หลอก BPF Verifier ให้ยอมรับโค้ดอันตราย ✅ ผลกระทบ ➡️ เสี่ยงต่อการ Container Escape ➡️ ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์เป็น root ✅ แนวทางป้องกัน ➡️ อัปเดต Kernel ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด ➡️ ปิด io_uring หากไม่จำเป็น ➡️ ใช้ eBPF Tools ตรวจสอบการเรียกใช้งานผิดปกติ ‼️ คำเตือน ⛔ ระบบ Cloud และ Container ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึง BPF มีความเสี่ยงสูง ⛔ หากไม่อัปเดต Kernel อาจถูกโจมตีและเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ https://securityonline.info/linux-kernel-io_uring-uaf-flaw-used-to-cheat-bpf-verifier-and-achieve-container-escape-poc-releases/
    SECURITYONLINE.INFO
    Linux Kernel io_uring UAF Flaw Used to Cheat BPF Verifier and Achieve Container Escape, PoC Releases
    A high-severity UAF (CVE-2025-40364) in Linux io_uring allows root RCE. Researchers demonstrated two kill chains: cheating the BPF verifier and using Dirty Pagetables for container escape. Patch immediately.
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251213 #securityonline

    Core Banking System Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Fineract
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยในระบบธนาคารดิจิทัล Apache Fineract ที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีช่องโหว่หลักคือ IDOR (Insecure Direct Object Reference) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนพารามิเตอร์ เช่น user ID หรือ account number เพื่อเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าคนอื่นได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ นอกจากนี้ยังพบปัญหานโยบายรหัสผ่านที่อ่อนแอ และการเก็บ server key ที่ไม่ถูกป้องกันอย่างเหมาะสม ทีม Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้อัปเกรดเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
    https://securityonline.info/core-banking-system-flaw-apache-fineract-idor-risks-authorization-bypass-customer-data-access

    React Patches Two New Flaws: ช่องโหว่ใหม่ใน React Server Components
    หลังจากที่ React เพิ่งแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงไปไม่นาน นักวิจัยก็พบช่องโหว่ใหม่อีกสองรายการ ช่องโหว่แรกคือการโจมตีแบบ DoS ที่สามารถทำให้เซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานได้ทันทีด้วยการส่ง request ที่ออกแบบมาเฉพาะ ส่วนอีกช่องโหว่หนึ่งคือการเปิดเผย source code ของ server function ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง แม้จะไม่ถึงขั้นยึดระบบได้ แต่ก็ถือว่าเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลภายใน ทีม React ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้วและแนะนำให้อัปเดตทันที
    https://securityonline.info/react-patches-two-new-flaws-risking-server-crashing-dos-and-source-code-disclosure

    Farewell, Tabs: Google เปิดตัวเบราว์เซอร์ AI ชื่อ Disco
    Google Labs กำลังทดลองเบราว์เซอร์ใหม่ชื่อ Disco ที่ใช้ AI มาช่วยจัดการแท็บและสร้าง web apps แบบโต้ตอบได้ทันที จุดเด่นคือระบบ GenTab ที่สามารถเปลี่ยนข้อมูลจากเว็บให้กลายเป็น Progressive Web Apps เช่น การสร้าง itinerary ที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้เหมือนแอปจริงๆ เบราว์เซอร์นี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบบน macOS และเปิดให้ลงชื่อเข้าร่วมใน waitlist เท่านั้น ถือเป็นการทดลองที่อาจเปลี่ยนวิธีการใช้งานเว็บในอนาคต
    https://securityonline.info/farewell-tabs-googles-experimental-disco-browser-generates-web-apps-with-ai

    YouTube TV Plans: สตรีมมิ่งกำลังกลับไปเป็นเคเบิลอีกครั้ง
    YouTube TV ประกาศว่าจะปรับรูปแบบการสมัครสมาชิกใหม่ในปี 2026 โดยเปลี่ยนจากแพ็กเกจรวมทั้งหมดเป็นการเลือก bundle ตามความสนใจ เช่น Sports, News หรือ Family & Entertainment ผู้ใช้สามารถเลือกเฉพาะหมวดที่ต้องการได้ ซึ่งอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายเพื่อคอนเทนต์ที่ไม่ดู อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่านี่คือการย้อนกลับไปสู่โมเดลเคเบิลทีวีในอดีตที่เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่ยืดหยุ่น
    https://securityonline.info/youtube-tvs-new-subscription-bundles-is-streaming-becoming-cable-all-over-again

    The “USB-C of AI”: Google เปิดตัว Managed Servers สำหรับ MCP Protocol
    Google ประกาศสนับสนุนเต็มรูปแบบต่อ MCP (Model Context Protocol) ที่ถูกเรียกว่า “USB-C ของ AI” เพราะเป็นมาตรฐานกลางที่ทำให้ AI เชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดย Google เปิดตัว managed servers ที่รองรับ MCP ทำให้ AI agents สามารถใช้งาน Google Maps, BigQuery และจัดการโครงสร้างพื้นฐานบน Cloud ได้โดยตรงโดยไม่ต้องสร้าง integration เอง นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AI สามารถทำงานเชิงปฏิบัติได้จริงและปลอดภัยมากขึ้น
    https://securityonline.info/the-usb-c-of-ai-is-here-google-launches-managed-servers-for-mcp-protocol

    The AI Super-App: Photoshop & Adobe Express รวมพลังกับ ChatGPT
    Adobe กำลังยกระดับการใช้งาน AI โดยการรวม Photoshop และ Adobe Express เข้ากับ ChatGPT ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้านการออกแบบและแก้ไขภาพได้ด้วยข้อความ เช่น การปรับแต่งรูปภาพหรือสร้างงานกราฟิกใหม่โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมแยกต่างหาก นี่คือการก้าวสู่ “AI Super-App” ที่รวมเครื่องมือสร้างสรรค์เข้ากับระบบสนทนาอัจฉริยะ เพื่อให้การทำงานด้านครีเอทีฟเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น
    https://securityonline.info/the-ai-super-app-rises-photoshop-adobe-express-integrate-into-chatgpt

    The IP Wall Falls: Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI
    Disney สร้างความฮือฮาด้วยการลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI เพื่อเปิดสิทธิ์ใช้ตัวละครกว่า 200 ตัวในระบบ AI นั่นหมายความว่า AI จะสามารถเข้าถึงและใช้ตัวละครจากจักรวาล Disney ได้อย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกบันเทิงและเทคโนโลยี ที่อาจนำไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ผสมผสานระหว่าง AI และตัวละครที่คนทั่วโลกคุ้นเคย
    https://securityonline.info/the-ip-wall-falls-disney-invests-1b-in-openai-to-license-200-characters-for-ai

    OpenAI Fights Back: เปิดตัว GPT-5.2 ท้าชน Gemini 3 Pro
    OpenAI เปิดตัว GPT-5.2 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Gemini 3 Pro ของ Google จุดเด่นคือการปรับปรุงความสามารถในการ reasoning และการทำงานร่วมกับระบบภายนอกได้ดียิ่งขึ้น GPT-5.2 ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้เชิงกลยุทธ์ของ OpenAI เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโมเดลภาษา AI ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด
    https://securityonline.info/openai-fights-back-gpt-5-2-unveiled-to-rival-googles-gemini-3-pro

    Critical React2Shell Vulnerability: ช่องโหว่ใหม่โจมตีบริการ RSC ทั่วโลก
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงชื่อ React2Shell (CVE-2025-55182) ที่กำลังถูกโจมตีเพิ่มขึ้นทั่วโลก ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อบริการที่ใช้ React Server Components (RSC) โดยผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หลายองค์กรต้องเร่งอัปเดตและติดตั้งแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายรุนแรง
    https://securityonline.info/critical-react2shell-vulnerability-cve-2025-55182-analysis-surge-in-attacks-targeting-rsc-enabled-services-worldwide
    📌🔐🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣🔐📌 #รวมข่าวIT #20251213 #securityonline 🛡️ Core Banking System Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Fineract เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยในระบบธนาคารดิจิทัล Apache Fineract ที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีช่องโหว่หลักคือ IDOR (Insecure Direct Object Reference) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนพารามิเตอร์ เช่น user ID หรือ account number เพื่อเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าคนอื่นได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ นอกจากนี้ยังพบปัญหานโยบายรหัสผ่านที่อ่อนแอ และการเก็บ server key ที่ไม่ถูกป้องกันอย่างเหมาะสม ทีม Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้อัปเกรดเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด 🔗 https://securityonline.info/core-banking-system-flaw-apache-fineract-idor-risks-authorization-bypass-customer-data-access ⚠️ React Patches Two New Flaws: ช่องโหว่ใหม่ใน React Server Components หลังจากที่ React เพิ่งแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงไปไม่นาน นักวิจัยก็พบช่องโหว่ใหม่อีกสองรายการ ช่องโหว่แรกคือการโจมตีแบบ DoS ที่สามารถทำให้เซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานได้ทันทีด้วยการส่ง request ที่ออกแบบมาเฉพาะ ส่วนอีกช่องโหว่หนึ่งคือการเปิดเผย source code ของ server function ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง แม้จะไม่ถึงขั้นยึดระบบได้ แต่ก็ถือว่าเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลภายใน ทีม React ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้วและแนะนำให้อัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/react-patches-two-new-flaws-risking-server-crashing-dos-and-source-code-disclosure 🌐 Farewell, Tabs: Google เปิดตัวเบราว์เซอร์ AI ชื่อ Disco Google Labs กำลังทดลองเบราว์เซอร์ใหม่ชื่อ Disco ที่ใช้ AI มาช่วยจัดการแท็บและสร้าง web apps แบบโต้ตอบได้ทันที จุดเด่นคือระบบ GenTab ที่สามารถเปลี่ยนข้อมูลจากเว็บให้กลายเป็น Progressive Web Apps เช่น การสร้าง itinerary ที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้เหมือนแอปจริงๆ เบราว์เซอร์นี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบบน macOS และเปิดให้ลงชื่อเข้าร่วมใน waitlist เท่านั้น ถือเป็นการทดลองที่อาจเปลี่ยนวิธีการใช้งานเว็บในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/farewell-tabs-googles-experimental-disco-browser-generates-web-apps-with-ai 📺 YouTube TV Plans: สตรีมมิ่งกำลังกลับไปเป็นเคเบิลอีกครั้ง YouTube TV ประกาศว่าจะปรับรูปแบบการสมัครสมาชิกใหม่ในปี 2026 โดยเปลี่ยนจากแพ็กเกจรวมทั้งหมดเป็นการเลือก bundle ตามความสนใจ เช่น Sports, News หรือ Family & Entertainment ผู้ใช้สามารถเลือกเฉพาะหมวดที่ต้องการได้ ซึ่งอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายเพื่อคอนเทนต์ที่ไม่ดู อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่านี่คือการย้อนกลับไปสู่โมเดลเคเบิลทีวีในอดีตที่เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่ยืดหยุ่น 🔗 https://securityonline.info/youtube-tvs-new-subscription-bundles-is-streaming-becoming-cable-all-over-again 🔌 The “USB-C of AI”: Google เปิดตัว Managed Servers สำหรับ MCP Protocol Google ประกาศสนับสนุนเต็มรูปแบบต่อ MCP (Model Context Protocol) ที่ถูกเรียกว่า “USB-C ของ AI” เพราะเป็นมาตรฐานกลางที่ทำให้ AI เชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดย Google เปิดตัว managed servers ที่รองรับ MCP ทำให้ AI agents สามารถใช้งาน Google Maps, BigQuery และจัดการโครงสร้างพื้นฐานบน Cloud ได้โดยตรงโดยไม่ต้องสร้าง integration เอง นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AI สามารถทำงานเชิงปฏิบัติได้จริงและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-usb-c-of-ai-is-here-google-launches-managed-servers-for-mcp-protocol 🎨 The AI Super-App: Photoshop & Adobe Express รวมพลังกับ ChatGPT Adobe กำลังยกระดับการใช้งาน AI โดยการรวม Photoshop และ Adobe Express เข้ากับ ChatGPT ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้านการออกแบบและแก้ไขภาพได้ด้วยข้อความ เช่น การปรับแต่งรูปภาพหรือสร้างงานกราฟิกใหม่โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมแยกต่างหาก นี่คือการก้าวสู่ “AI Super-App” ที่รวมเครื่องมือสร้างสรรค์เข้ากับระบบสนทนาอัจฉริยะ เพื่อให้การทำงานด้านครีเอทีฟเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-ai-super-app-rises-photoshop-adobe-express-integrate-into-chatgpt 🏰 The IP Wall Falls: Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI Disney สร้างความฮือฮาด้วยการลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI เพื่อเปิดสิทธิ์ใช้ตัวละครกว่า 200 ตัวในระบบ AI นั่นหมายความว่า AI จะสามารถเข้าถึงและใช้ตัวละครจากจักรวาล Disney ได้อย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกบันเทิงและเทคโนโลยี ที่อาจนำไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ผสมผสานระหว่าง AI และตัวละครที่คนทั่วโลกคุ้นเคย 🔗 https://securityonline.info/the-ip-wall-falls-disney-invests-1b-in-openai-to-license-200-characters-for-ai 🤖 OpenAI Fights Back: เปิดตัว GPT-5.2 ท้าชน Gemini 3 Pro OpenAI เปิดตัว GPT-5.2 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Gemini 3 Pro ของ Google จุดเด่นคือการปรับปรุงความสามารถในการ reasoning และการทำงานร่วมกับระบบภายนอกได้ดียิ่งขึ้น GPT-5.2 ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้เชิงกลยุทธ์ของ OpenAI เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโมเดลภาษา AI ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด 🔗 https://securityonline.info/openai-fights-back-gpt-5-2-unveiled-to-rival-googles-gemini-3-pro 🚨 Critical React2Shell Vulnerability: ช่องโหว่ใหม่โจมตีบริการ RSC ทั่วโลก นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงชื่อ React2Shell (CVE-2025-55182) ที่กำลังถูกโจมตีเพิ่มขึ้นทั่วโลก ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อบริการที่ใช้ React Server Components (RSC) โดยผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หลายองค์กรต้องเร่งอัปเดตและติดตั้งแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายรุนแรง 🔗 https://securityonline.info/critical-react2shell-vulnerability-cve-2025-55182-analysis-surge-in-attacks-targeting-rsc-enabled-services-worldwide
    0 Comments 0 Shares 420 Views 0 Reviews
  • กลยุทธ์ใหม่ของ Intel

    Intel วางแผนจะหันไปเน้นการผลิต ASIC สำหรับงาน inference และการใช้งานเฉพาะทาง แทนที่จะทุ่มแข่งขันกับ Nvidia และ AMD ในตลาด GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI ที่ใช้ทรัพยากรมหาศาล กลยุทธ์นี้คล้ายกับ Broadcom ที่ประสบความสำเร็จในการสร้าง ASIC สำหรับลูกค้ารายใหญ่ เช่น Google และ Meta

    ลดการพึ่งพาตลาด GPU Training
    ตลาด GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ถูกครอบครองโดย Nvidia ที่มี CUDA ecosystem และ H100/H200 GPUs ที่ทรงพลัง Intel มองว่าการแข่งขันตรงนี้เป็นเรื่องยาก จึงเลือกที่จะเน้นไปที่ การใช้งานจริง (inference) ซึ่งมีตลาดกว้างและต้องการโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า

    การใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่
    Intel มีจุดแข็งในด้าน Foundry Services และ Packaging ซึ่งสามารถนำมาใช้สร้าง ASIC ที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าได้โดยตรง กลยุทธ์นี้ช่วยให้ Intel สามารถสร้างรายได้จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ โดยไม่ต้องลงทุนมหาศาลเพื่อแข่งขันในตลาด GPU training ที่มีต้นทุนสูง

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    หาก Intel เดินหน้ากลยุทธ์นี้จริง จะทำให้ตลาด AI มีความหลากหลายมากขึ้น โดยมีผู้เล่นที่เน้น ASIC สำหรับงานเฉพาะทาง ควบคู่ไปกับ GPU ของ Nvidia และ AMD ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับองค์กรที่ต้องการโซลูชัน AI ที่เหมาะสมกับงานของตน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กลยุทธ์ใหม่ของ Intel
    เน้น ASIC สำหรับงาน inference
    คล้ายกับ Broadcom ที่ทำสำเร็จในตลาด

    ลดการพึ่งพาตลาด GPU Training
    Nvidia ครองตลาด GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI
    Intel หันไปเน้นตลาดที่กว้างกว่าและคุ้มค่ากว่า

    ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่
    Foundry Services และ Packaging เป็นจุดแข็ง
    สร้างรายได้โดยไม่ต้องแข่งขันตรงกับ Nvidia

    ผลกระทบเชิงบวก
    เพิ่มความหลากหลายในตลาด AI
    ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับองค์กร

    คำเตือนและข้อจำกัด
    ตลาด ASIC ยังต้องพิสูจน์ความสามารถในการแข่งขันระยะยาว
    หากไม่สามารถสร้าง ecosystem ที่แข็งแรง อาจเสียเปรียบต่อ Nvidia

    https://wccftech.com/intel-ai-strategy-will-favor-a-broadcom-like-asic-model-over-the-training-hype/
    🏭 กลยุทธ์ใหม่ของ Intel Intel วางแผนจะหันไปเน้นการผลิต ASIC สำหรับงาน inference และการใช้งานเฉพาะทาง แทนที่จะทุ่มแข่งขันกับ Nvidia และ AMD ในตลาด GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI ที่ใช้ทรัพยากรมหาศาล กลยุทธ์นี้คล้ายกับ Broadcom ที่ประสบความสำเร็จในการสร้าง ASIC สำหรับลูกค้ารายใหญ่ เช่น Google และ Meta ⚡ ลดการพึ่งพาตลาด GPU Training ตลาด GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ถูกครอบครองโดย Nvidia ที่มี CUDA ecosystem และ H100/H200 GPUs ที่ทรงพลัง Intel มองว่าการแข่งขันตรงนี้เป็นเรื่องยาก จึงเลือกที่จะเน้นไปที่ การใช้งานจริง (inference) ซึ่งมีตลาดกว้างและต้องการโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า 🔧 การใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ Intel มีจุดแข็งในด้าน Foundry Services และ Packaging ซึ่งสามารถนำมาใช้สร้าง ASIC ที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าได้โดยตรง กลยุทธ์นี้ช่วยให้ Intel สามารถสร้างรายได้จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ โดยไม่ต้องลงทุนมหาศาลเพื่อแข่งขันในตลาด GPU training ที่มีต้นทุนสูง 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI หาก Intel เดินหน้ากลยุทธ์นี้จริง จะทำให้ตลาด AI มีความหลากหลายมากขึ้น โดยมีผู้เล่นที่เน้น ASIC สำหรับงานเฉพาะทาง ควบคู่ไปกับ GPU ของ Nvidia และ AMD ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับองค์กรที่ต้องการโซลูชัน AI ที่เหมาะสมกับงานของตน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กลยุทธ์ใหม่ของ Intel ➡️ เน้น ASIC สำหรับงาน inference ➡️ คล้ายกับ Broadcom ที่ทำสำเร็จในตลาด ✅ ลดการพึ่งพาตลาด GPU Training ➡️ Nvidia ครองตลาด GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI ➡️ Intel หันไปเน้นตลาดที่กว้างกว่าและคุ้มค่ากว่า ✅ ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ ➡️ Foundry Services และ Packaging เป็นจุดแข็ง ➡️ สร้างรายได้โดยไม่ต้องแข่งขันตรงกับ Nvidia ✅ ผลกระทบเชิงบวก ➡️ เพิ่มความหลากหลายในตลาด AI ➡️ ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับองค์กร ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ ตลาด ASIC ยังต้องพิสูจน์ความสามารถในการแข่งขันระยะยาว ⛔ หากไม่สามารถสร้าง ecosystem ที่แข็งแรง อาจเสียเปรียบต่อ Nvidia https://wccftech.com/intel-ai-strategy-will-favor-a-broadcom-like-asic-model-over-the-training-hype/
    WCCFTECH.COM
    Intel’s AI Strategy Will Favor a “Broadcom-Like” ASIC Model Over the Training Hype, Offering Customers Foundry & Packaging Services
    Intel's AI plans have been under uncertainity, but it appears that the firm is expected to target two main segments: ASICs and edge AI.
    0 Comments 0 Shares 232 Views 0 Reviews
  • Oracle เลื่อนโครงการศูนย์ข้อมูล AI

    Oracle ได้ปรับกำหนดการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ภายใต้โครงการ Stargate ที่ร่วมกับ OpenAI และ SoftBank จากปี 2027 ไปเป็นปี 2028 โดยสาเหตุหลักคือการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะและวัสดุที่จำเป็นต่อการก่อสร้าง แม้จะเลื่อนเวลา แต่ขอบเขตโครงการยังคงเดิม คือการสร้างศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อรองรับการประมวลผล AI

    ขนาดโครงการที่ทะเยอทะยาน
    ตามสัญญาที่ลงนามในเดือนกรกฎาคม Oracle จะสร้างศูนย์ข้อมูลที่รองรับ 2 ล้าน AI accelerators และใช้พลังงาน 5 GW ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อเสร็จสมบูรณ์ แม้จะมีการเลื่อน แต่ Oracle ยืนยันว่าโครงการยังคงเดินหน้าตามแผน และจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI ขนาดใหญ่

    ตัวอย่างความสำเร็จที่ผ่านมา
    Oracle ยกตัวอย่าง SuperCluster ใน Abilene, Texas ที่สามารถติดตั้ง GPU ของ Nvidia ได้เกือบ 200,000 ตัวภายในเวลาไม่กี่เดือน เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ แม้จะมีอุปสรรคด้านวัสดุและแรงงาน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    การล่าช้าของโครงการนี้สะท้อนถึงปัญหาที่อุตสาหกรรม AI เผชิญทั่วโลก ทั้งการขาดแคลนพลังงาน วัสดุ และแรงงานที่มีทักษะ หากไม่สามารถแก้ไขได้ทันเวลา อาจทำให้การขยายตัวของ AI ชะลอลง และส่งผลต่อความสามารถในการรองรับโมเดลใหม่ ๆ ที่ต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Oracle เลื่อนโครงการ
    จากปี 2027 ไปเป็นปี 2028
    สาเหตุจากการขาดแคลนแรงงานและวัสดุ

    ขนาดโครงการ
    รองรับ 2 ล้าน AI accelerators
    ใช้พลังงาน 5 GW

    ตัวอย่างความสำเร็จ
    SuperCluster ใน Texas ติดตั้ง GPU ได้เกือบ 200,000 ตัว
    แสดงศักยภาพการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    ปัญหาการขาดแคลนพลังงานและวัสดุทั่วโลก
    อาจทำให้การขยายตัวของ AI ชะลอลง

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การล่าช้าอาจกระทบต่อการรองรับโมเดล AI รุ่นใหม่
    ความเสี่ยงจากการพึ่งพาทรัพยากรที่หายากและแรงงานที่มีทักษะ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/oracle-reportedly-delays-several-new-openai-data-centers-because-of-shortages-tight-material-and-labor-supply-frustrate-expansion-plans-possibly-by-a-year-or-more
    🏗️ Oracle เลื่อนโครงการศูนย์ข้อมูล AI Oracle ได้ปรับกำหนดการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ภายใต้โครงการ Stargate ที่ร่วมกับ OpenAI และ SoftBank จากปี 2027 ไปเป็นปี 2028 โดยสาเหตุหลักคือการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะและวัสดุที่จำเป็นต่อการก่อสร้าง แม้จะเลื่อนเวลา แต่ขอบเขตโครงการยังคงเดิม คือการสร้างศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อรองรับการประมวลผล AI ⚡ ขนาดโครงการที่ทะเยอทะยาน ตามสัญญาที่ลงนามในเดือนกรกฎาคม Oracle จะสร้างศูนย์ข้อมูลที่รองรับ 2 ล้าน AI accelerators และใช้พลังงาน 5 GW ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อเสร็จสมบูรณ์ แม้จะมีการเลื่อน แต่ Oracle ยืนยันว่าโครงการยังคงเดินหน้าตามแผน และจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI ขนาดใหญ่ 🔧 ตัวอย่างความสำเร็จที่ผ่านมา Oracle ยกตัวอย่าง SuperCluster ใน Abilene, Texas ที่สามารถติดตั้ง GPU ของ Nvidia ได้เกือบ 200,000 ตัวภายในเวลาไม่กี่เดือน เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ แม้จะมีอุปสรรคด้านวัสดุและแรงงาน 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI การล่าช้าของโครงการนี้สะท้อนถึงปัญหาที่อุตสาหกรรม AI เผชิญทั่วโลก ทั้งการขาดแคลนพลังงาน วัสดุ และแรงงานที่มีทักษะ หากไม่สามารถแก้ไขได้ทันเวลา อาจทำให้การขยายตัวของ AI ชะลอลง และส่งผลต่อความสามารถในการรองรับโมเดลใหม่ ๆ ที่ต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Oracle เลื่อนโครงการ ➡️ จากปี 2027 ไปเป็นปี 2028 ➡️ สาเหตุจากการขาดแคลนแรงงานและวัสดุ ✅ ขนาดโครงการ ➡️ รองรับ 2 ล้าน AI accelerators ➡️ ใช้พลังงาน 5 GW ✅ ตัวอย่างความสำเร็จ ➡️ SuperCluster ใน Texas ติดตั้ง GPU ได้เกือบ 200,000 ตัว ➡️ แสดงศักยภาพการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ ปัญหาการขาดแคลนพลังงานและวัสดุทั่วโลก ➡️ อาจทำให้การขยายตัวของ AI ชะลอลง ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ การล่าช้าอาจกระทบต่อการรองรับโมเดล AI รุ่นใหม่ ⛔ ความเสี่ยงจากการพึ่งพาทรัพยากรที่หายากและแรงงานที่มีทักษะ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/oracle-reportedly-delays-several-new-openai-data-centers-because-of-shortages-tight-material-and-labor-supply-frustrate-expansion-plans-possibly-by-a-year-or-more
    0 Comments 0 Shares 240 Views 0 Reviews
  • Sysadmin ยังเป็นอาชีพที่มั่นคงในปี 2026 หรือไม่?

    บทความจาก It’s FOSS ได้สัมภาษณ์ Hirdaypal Singh Lamba (Salesforce Consultant) ถึงการเปลี่ยนแปลงของบทบาท Sysadmin ในยุคปัจจุบัน เขาอธิบายว่าในอดีต Sysadmin เปรียบเสมือน “ช่างซ่อมเครื่อง” ที่คอยแก้ปัญหาเซิร์ฟเวอร์และดูแลโครงสร้างพื้นฐานแบบ on-premise แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปอย่างมากด้วย Cloud Infrastructure, Automation และ AI

    งานที่เคยต้องทำด้วยมือ เช่น การซ่อมเซิร์ฟเวอร์หรือการดูแลเครือข่าย ตอนนี้ถูกแทนที่ด้วย script และเครื่องมืออัตโนมัติ Sysadmin จึงต้องมีทักษะใหม่ ๆ เช่น การเขียนโค้ด, การใช้ cloud platform และการทำงานร่วมกับระบบ monitoring ที่มี AI เข้ามาช่วย ทำให้บทบาทของ Sysadmin เริ่มทับซ้อนกับ DevOps Engineer มากขึ้น

    Hirday ย้ำว่าอาชีพ Sysadmin ยังไม่ตาย แต่ผู้ที่ไม่ปรับตัวจะเสี่ยงตกงาน Sysadmin รุ่นใหม่ต้องเรียนรู้การใช้ automation tools, cloud services และ AI เพื่อให้ทันต่อความต้องการขององค์กร การพัฒนาทักษะเหล่านี้จะทำให้ Sysadmin สามารถขยายเส้นทางไปสู่อาชีพที่มีการเติบโตสูง เช่น DevOps Engineer, Cloud Engineer, Platform Engineer และ Site Reliability Engineer (SRE)

    สำหรับผู้ที่เริ่มต้นในสาย IT Hirday แนะนำให้เรียนรู้พื้นฐานของ System Administration ก่อน แล้วจึงต่อยอดด้วยทักษะ DevOps และ Cloud เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและความสามารถในการแข่งขันในตลาดงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    สรุปสาระสำคัญ
    บทบาท Sysadmin ในอดีต
    ดูแลเซิร์ฟเวอร์ on-premise, ซ่อมเครื่อง, ทำงาน manual

    การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
    ใช้ cloud, automation, AI แทนงาน manual
    ต้องเขียน script และใช้ monitoring tools

    Sysadmin ใกล้เคียง DevOps มากขึ้น
    ทักษะใหม่: cloud technologies, automation tools, AI integration

    เส้นทางอาชีพต่อยอด
    DevOps Engineer, Cloud Engineer, Platform Engineer, SRE

    คำเตือนสำหรับ Sysadmin รุ่นเก่า
    หากไม่เรียนรู้ automation และ cloud จะเสี่ยงตกงาน
    การยึดติดกับงาน manual แบบเดิมไม่ตอบโจทย์ตลาดอีกต่อไป

    https://itsfoss.com/news/is-sysadmin-good-career-choice/
    📰 Sysadmin ยังเป็นอาชีพที่มั่นคงในปี 2026 หรือไม่? บทความจาก It’s FOSS ได้สัมภาษณ์ Hirdaypal Singh Lamba (Salesforce Consultant) ถึงการเปลี่ยนแปลงของบทบาท Sysadmin ในยุคปัจจุบัน เขาอธิบายว่าในอดีต Sysadmin เปรียบเสมือน “ช่างซ่อมเครื่อง” ที่คอยแก้ปัญหาเซิร์ฟเวอร์และดูแลโครงสร้างพื้นฐานแบบ on-premise แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปอย่างมากด้วย Cloud Infrastructure, Automation และ AI งานที่เคยต้องทำด้วยมือ เช่น การซ่อมเซิร์ฟเวอร์หรือการดูแลเครือข่าย ตอนนี้ถูกแทนที่ด้วย script และเครื่องมืออัตโนมัติ Sysadmin จึงต้องมีทักษะใหม่ ๆ เช่น การเขียนโค้ด, การใช้ cloud platform และการทำงานร่วมกับระบบ monitoring ที่มี AI เข้ามาช่วย ทำให้บทบาทของ Sysadmin เริ่มทับซ้อนกับ DevOps Engineer มากขึ้น Hirday ย้ำว่าอาชีพ Sysadmin ยังไม่ตาย แต่ผู้ที่ไม่ปรับตัวจะเสี่ยงตกงาน Sysadmin รุ่นใหม่ต้องเรียนรู้การใช้ automation tools, cloud services และ AI เพื่อให้ทันต่อความต้องการขององค์กร การพัฒนาทักษะเหล่านี้จะทำให้ Sysadmin สามารถขยายเส้นทางไปสู่อาชีพที่มีการเติบโตสูง เช่น DevOps Engineer, Cloud Engineer, Platform Engineer และ Site Reliability Engineer (SRE) สำหรับผู้ที่เริ่มต้นในสาย IT Hirday แนะนำให้เรียนรู้พื้นฐานของ System Administration ก่อน แล้วจึงต่อยอดด้วยทักษะ DevOps และ Cloud เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและความสามารถในการแข่งขันในตลาดงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ บทบาท Sysadmin ในอดีต ➡️ ดูแลเซิร์ฟเวอร์ on-premise, ซ่อมเครื่อง, ทำงาน manual ✅ การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ➡️ ใช้ cloud, automation, AI แทนงาน manual ➡️ ต้องเขียน script และใช้ monitoring tools ✅ Sysadmin ใกล้เคียง DevOps มากขึ้น ➡️ ทักษะใหม่: cloud technologies, automation tools, AI integration ✅ เส้นทางอาชีพต่อยอด ➡️ DevOps Engineer, Cloud Engineer, Platform Engineer, SRE ‼️ คำเตือนสำหรับ Sysadmin รุ่นเก่า ⛔ หากไม่เรียนรู้ automation และ cloud จะเสี่ยงตกงาน ⛔ การยึดติดกับงาน manual แบบเดิมไม่ตอบโจทย์ตลาดอีกต่อไป https://itsfoss.com/news/is-sysadmin-good-career-choice/
    ITSFOSS.COM
    Is System Administration Still a Good Career Choice in 2026?
    Insights from an Interview with Hirdaypal Singh Lamba, Salesforce Consultant.
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • "SMIC ก้าวสู่ยุค 5 นาโนเมตรด้วย DUV"

    รายงานจาก TechInsights ยืนยันว่า Huawei Kirin 9030 SoC ถูกผลิตด้วยกระบวนการ N+3 ของ SMIC ซึ่งเป็นโหนด 5 นาโนเมตรที่ใช้เทคนิค deep ultraviolet lithography (DUV) แทน EUV ที่จีนไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะข้อจำกัดการส่งออก เทคโนโลยีนี้ถือเป็นการพัฒนาเหนือกว่าโหนด N+2 (7 นาโนเมตร) ที่เคยใช้ในชิป AI และโครงสร้างพื้นฐานของ Huawei

    เทคนิคการผลิตและข้อจำกัด
    แม้ SMIC สามารถใช้ DUV แบบหลายรอบ เช่น self-aligned quadruple patterning (SAQP) เพื่อให้ได้ความละเอียดใกล้ 35 นาโนเมตรต่อการพิมพ์ แต่ ยังมีปัญหาด้าน yield ที่สูงมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงและบางส่วนต้องลดเกรดชิปลง การใช้ DUV แทน EUV จึงเป็นการบรรลุผลทางเทคนิค แต่ยังไม่สามารถแข่งขันด้านประสิทธิภาพและต้นทุนกับผู้ผลิตรายใหญ่ที่ใช้ EUV ได้

    ความหมายต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน
    ความสำเร็จนี้สะท้อนว่า จีนสามารถเดินหน้าผลิตชิปขั้นสูงได้แม้ถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีตะวันตก ถือเป็นสัญญาณของการพึ่งพาตนเองในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ และอาจช่วยให้ Huawei และบริษัทจีนอื่น ๆ ลดการพึ่งพาต่างประเทศในด้าน AI และอุปกรณ์สื่อสาร

    ความท้าทายและอนาคต
    แม้เป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่ง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การใช้ DUV ในระดับ 5 นาโนเมตรเป็นการลงทุนที่เสี่ยงทางเศรษฐกิจ เพราะ yield ต่ำและต้นทุนสูง หากไม่สามารถพัฒนาเครื่อง EUV ในประเทศได้ จีนอาจยังคงตามหลังผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง TSMC และ Samsung ในเชิงประสิทธิภาพและความคุ้มค่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SMIC ผลิตชิป 5 นาโนเมตร (N+3) โดยใช้ DUV
    Huawei Kirin 9030 SoC เป็นตัวอย่างที่ยืนยัน

    เทคนิค SAQP และการพิมพ์หลายรอบช่วยให้บรรลุความละเอียด
    ได้ใกล้เคียง 35 นาโนเมตรต่อการพิมพ์

    ความสำเร็จสะท้อนการพึ่งพาตนเองของจีนในอุตสาหกรรมชิป
    ลดการพึ่งพาต่างประเทศในเทคโนโลยีขั้นสูง

    Yield ต่ำทำให้ต้นทุนการผลิตสูง
    ชิปบางส่วนต้องลดเกรดลง

    การใช้ DUV แทน EUV เป็นข้อจำกัดเชิงเทคนิค
    จีนยังตามหลัง TSMC และ Samsung ในด้านประสิทธิภาพ

    https://www.techpowerup.com/344000/chinese-smic-achieves-5-nm-production-on-n-3-node-without-euv-tools
    🏭 "SMIC ก้าวสู่ยุค 5 นาโนเมตรด้วย DUV" รายงานจาก TechInsights ยืนยันว่า Huawei Kirin 9030 SoC ถูกผลิตด้วยกระบวนการ N+3 ของ SMIC ซึ่งเป็นโหนด 5 นาโนเมตรที่ใช้เทคนิค deep ultraviolet lithography (DUV) แทน EUV ที่จีนไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะข้อจำกัดการส่งออก เทคโนโลยีนี้ถือเป็นการพัฒนาเหนือกว่าโหนด N+2 (7 นาโนเมตร) ที่เคยใช้ในชิป AI และโครงสร้างพื้นฐานของ Huawei ⚙️ เทคนิคการผลิตและข้อจำกัด แม้ SMIC สามารถใช้ DUV แบบหลายรอบ เช่น self-aligned quadruple patterning (SAQP) เพื่อให้ได้ความละเอียดใกล้ 35 นาโนเมตรต่อการพิมพ์ แต่ ยังมีปัญหาด้าน yield ที่สูงมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงและบางส่วนต้องลดเกรดชิปลง การใช้ DUV แทน EUV จึงเป็นการบรรลุผลทางเทคนิค แต่ยังไม่สามารถแข่งขันด้านประสิทธิภาพและต้นทุนกับผู้ผลิตรายใหญ่ที่ใช้ EUV ได้ 🌍 ความหมายต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน ความสำเร็จนี้สะท้อนว่า จีนสามารถเดินหน้าผลิตชิปขั้นสูงได้แม้ถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีตะวันตก ถือเป็นสัญญาณของการพึ่งพาตนเองในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ และอาจช่วยให้ Huawei และบริษัทจีนอื่น ๆ ลดการพึ่งพาต่างประเทศในด้าน AI และอุปกรณ์สื่อสาร ⚠️ ความท้าทายและอนาคต แม้เป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่ง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การใช้ DUV ในระดับ 5 นาโนเมตรเป็นการลงทุนที่เสี่ยงทางเศรษฐกิจ เพราะ yield ต่ำและต้นทุนสูง หากไม่สามารถพัฒนาเครื่อง EUV ในประเทศได้ จีนอาจยังคงตามหลังผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง TSMC และ Samsung ในเชิงประสิทธิภาพและความคุ้มค่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SMIC ผลิตชิป 5 นาโนเมตร (N+3) โดยใช้ DUV ➡️ Huawei Kirin 9030 SoC เป็นตัวอย่างที่ยืนยัน ✅ เทคนิค SAQP และการพิมพ์หลายรอบช่วยให้บรรลุความละเอียด ➡️ ได้ใกล้เคียง 35 นาโนเมตรต่อการพิมพ์ ✅ ความสำเร็จสะท้อนการพึ่งพาตนเองของจีนในอุตสาหกรรมชิป ➡️ ลดการพึ่งพาต่างประเทศในเทคโนโลยีขั้นสูง ‼️ Yield ต่ำทำให้ต้นทุนการผลิตสูง ⛔ ชิปบางส่วนต้องลดเกรดลง ‼️ การใช้ DUV แทน EUV เป็นข้อจำกัดเชิงเทคนิค ⛔ จีนยังตามหลัง TSMC และ Samsung ในด้านประสิทธิภาพ https://www.techpowerup.com/344000/chinese-smic-achieves-5-nm-production-on-n-3-node-without-euv-tools
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Chinese SMIC Achieves 5 nm Production on N+3 Node Without EUV Tools
    Chinese company SMIC has officially achieved volume production of its newest 5 nm-class node called SMIC N+3. This is officially China's most advanced semiconductor node produced without any extreme ultraviolet (EUV) lithography tools, relying on the deep ultraviolet (DUV) to manufacture its silicon...
    0 Comments 0 Shares 225 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251212 #TechRadar

    Adobe เปิด Photoshop ฟรีใน ChatGPT
    ตอนนี้ใครๆ ก็สามารถใช้ Photoshop ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิกเลย เพราะ Adobe ได้รวมเอา Photoshop, Express และ Acrobat เข้าไปอยู่ใน ChatGPT ให้ใช้งานฟรีทั้งหมด เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบก็จะช่วยแก้ไขภาพหรือสร้างเอกสารให้ทันที เช่น การปรับแสงสี ใส่เอฟเฟกต์ หรือแม้แต่รวมไฟล์ PDF หลายไฟล์เป็นหนึ่งเดียว จุดเด่นคือมีตัวเลือกปรับแต่งผ่านแถบควบคุม ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขได้ตามใจโดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมเต็มรูปแบบ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ ChatGPT ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างเนื้อหา แต่กลายเป็นพื้นที่ทำงานด้านการออกแบบและเอกสารครบวงจร
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/adobe-photoshop-is-now-built-into-chatgpt-for-free-and-you-dont-need-graphic-design-skills-to-use-it

    Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome
    Google ได้ปล่อยการอัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงบน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ นี่ถือเป็นครั้งที่ 8 ของปีที่บริษัทต้องแก้ Zero-Day โดยช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการหน่วยความจำใน LibANGLE ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ การอัปเดตได้ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้แล้ว และ Google ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำไปใช้ต่อ
    https://www.techradar.com/pro/security/google-releases-emergency-fix-for-yet-another-zero-day

    สายการบินรัสเซีย Aeroflot ถูกโจมตีผ่านบริษัทซอฟต์แวร์ภายนอก
    เหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ที่ทำให้สายการบิน Aeroflot ต้องหยุดบินหลายสิบเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม ถูกเปิดเผยว่าเกิดจากการโจมตีแบบ Supply Chain ผ่านบริษัท Bakka Soft ที่พัฒนาแอปและระบบให้กับสายการบิน โดยผู้โจมตีใช้ช่องโหว่ที่ไม่มีการป้องกันด้วย 2FA และติดตั้งมัลแวร์จำนวนมากในระบบ ทำให้เที่ยวบินต้องหยุดชะงักและสร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่รายงานนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก
    https://www.techradar.com/pro/security/russian-airline-hack-came-through-third-party-tech-vendor

    สวิตเซอร์แลนด์ถอยร่างกฎหมายขยายการสอดส่อง หลังถูกต้านหนัก
    รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ต้องกลับมาทบทวนร่างกฎหมายที่ต้องการขยายการสอดส่องจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น แอปแชท โซเชียลมีเดีย และ VPN หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากบริษัทเทคโนโลยีและนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ให้บริการอย่าง Proton และ Threema ชี้ว่ากฎหมายนี้จะกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและการเข้ารหัสที่ปลอดภัย แม้การถอยครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะชั่วคราว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ารัฐบาลยังคงมีความตั้งใจจะผลักดันการสอดส่องต่อไป
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/switzerland-will-revise-proposed-law-change-after-backlash-from-tech-industry

    Disney จับมือ OpenAI เปิดทางให้ Sora ใช้ตัวละครดัง
    Disney สร้างความฮือฮาด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปีร่วมกับ OpenAI เพื่อให้ Sora ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถใช้ตัวละครจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ได้ พร้อมลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI นี่ถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีครั้งใหญ่ เพราะที่ผ่านมา Disney เข้มงวดมากกับการใช้ตัวละครของตน การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ สามารถสร้างคอนเทนต์ที่มี Mickey Mouse, Elsa หรือแม้แต่ตัวละครจาก Star Wars ปรากฏในผลงาน AI ได้ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/disney-and-openai-are-set-to-open-the-vault-to-sora-yet-an-ai-mickey-feels-like-magic-lost

    Nvidia พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อติดตามชิปหลังพบการลักลอบ
    หลังจากมีการค้นพบการลักลอบขนส่งชิป Nvidia ได้ออกซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยติดตามเส้นทางการเคลื่อนไหวของชิป เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าชิปแต่ละตัวถูกส่งไปที่ใดบ้าง เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการนำชิปไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ถูกควบคุมหรือประเทศที่มีข้อจำกัดทางการค้า ถือเป็นการเสริมความปลอดภัยและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    https://www.techradar.com/pro/nvidia-develops-new-software-to-help-track-chips-following-smuggling-discovery

    Mullvad ยุติการสนับสนุน OpenVPN บนเดสก์ท็อป หันไปใช้ WireGuard แทน
    บริการ VPN ชื่อดัง Mullvad ประกาศเลิกใช้ OpenVPN บนเดสก์ท็อปทั้งหมด และบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ WireGuard ซึ่งมีความเร็วและความปลอดภัยสูงกว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเพราะ WireGuard มีโครงสร้างที่ทันสมัยและง่ายต่อการบำรุงรักษา ทำให้ Mullvad สามารถให้บริการที่เสถียรและปลอดภัยมากขึ้น แม้ผู้ใช้บางรายอาจต้องปรับตัว แต่บริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นผลดีในระยะยาว
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-retires-openvpn-support-on-desktop-pushing-all-users-to-wireguard

    ICO ปรับ LastPass 1.2 ล้านปอนด์ หลังข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล
    สำนักงานคุ้มครองข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ICO) ได้สั่งปรับ LastPass เป็นเงิน 1.2 ล้านปอนด์ จากเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้กว่า 1.6 ล้านรายถูกละเมิดในปี 2022 โดยการโจมตีเกิดจากการที่แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำรองของบริษัทผ่านบัญชีพนักงานที่ถูกเจาะ การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเป็นการเตือนให้บริษัทด้านความปลอดภัยต้องรักษามาตรฐานสูงสุด
    https://www.techradar.com/pro/security/ico-levies-gbp1-2-million-fine-against-lastpass-data-breach-compromised-info-on-1-6-million-users

    โครงสร้างพื้นฐาน HPC และ AI กำลังบรรจบกัน
    บทความนี้พูดถึงการที่โครงสร้างพื้นฐานด้าน High Performance Computing (HPC) และ AI กำลังถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น เพื่อรองรับงานที่ต้องใช้การประมวลผลมหาศาล เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก แนวโน้มนี้ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมใหม่ที่สามารถรองรับทั้งงาน HPC และ AI ได้ในระบบเดียว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน
    https://www.techradar.com/pro/hpc-and-ai-converging-infrastructures

    ค่าใช้จ่ายแฝงจากช่องว่างด้าน Cloud Sovereignty
    รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการที่หลายองค์กรยังไม่สามารถควบคุมข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์ ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงจำนวนมาก ทั้งในด้านความเสี่ยงทางกฎหมาย ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อบังคับ การขาดความเป็นอิสระในการจัดการข้อมูลทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นการกระตุ้นให้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญกับ Cloud Sovereignty มากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/quantifying-the-hidden-costs-of-cloud-sovereignty-gaps

    หุ้น Oracle ร่วงหลังเผยแผนลงทุน AI เพิ่มอีก 15 พันล้านดอลลาร์
    ราคาหุ้นของ Oracle ตกลงทันทีหลังบริษัทประกาศว่าจะเพิ่มงบลงทุนด้าน AI อีก 15 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่าการใช้จ่ายมหาศาลนี้อาจกระทบต่อผลกำไรระยะสั้น แม้บริษัทเชื่อว่าการลงทุนจะช่วยเสริมศักยภาพด้านคลาวด์และแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ได้ในอนาคต แต่ตลาดกลับตอบสนองด้วยความระมัดระวัง ทำให้หุ้นปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัด
    https://www.techradar.com/pro/oracle-shares-drop-after-usd15bn-higher-ai-spending-revealed

    แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์ของ Mimecast แจกฟิชชิ่งลิงก์นับพัน
    มีการค้นพบว่าฟีเจอร์ Secure-Link ของ Mimecast ถูกนำไปใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อส่งฟิชชิ่งอีเมลจำนวนมาก โดยฟีเจอร์ที่ควรจะช่วยป้องกันกลับถูกใช้เป็นช่องทางให้ผู้โจมตีสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลส่วนตัว การโจมตีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่แม้แต่เครื่องมือด้านความปลอดภัยก็อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-distribute-thousands-of-phishing-attacks-through-mimecasts-secure-link-feature

    OpenAI ดึงตัว CEO ของ Slack มาเป็น Chief Revenue Officer
    OpenAI ประกาศแต่งตั้ง Lidiane Jones อดีต CEO ของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการสร้างรายได้และการขยายธุรกิจ การย้ายครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะ Jones มีประสบการณ์ในการบริหารแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล และคาดว่าจะช่วยให้ OpenAI สามารถต่อยอดโมเดลธุรกิจได้อย่างมั่นคง
    https://www.techradar.com/pro/open-ai-poaches-slack-ceo-as-its-chief-revenue-officer

    ทดลองใช้ Photoshop ใน ChatGPT – ฟีเจอร์ฟรีที่ทรงพลัง
    ผู้เขียนบทความได้ลองใช้ Photoshop ที่ถูกรวมเข้ามาใน ChatGPT และพบว่ามันใช้งานง่ายมาก เพียงอัปโหลดภาพแล้วพิมพ์คำสั่ง เช่น “ทำให้ภาพเป็นขาวดำ” ระบบก็จะแสดงผลพร้อมแถบปรับความเข้มให้เลือกต่อทันที นอกจากนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น Halftone หรือ Glitch ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิก ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/i-tried-photoshop-in-chatgpt-its-an-awesome-free-ai-superpower

    Google DeepMind จับมือรัฐบาลอังกฤษเพื่อวิจัยพลังงานสะอาดและวิทยาศาสตร์
    Google DeepMind ได้ลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อพัฒนาโครงการด้านวิทยาศาสตร์และพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าที่จะใช้ AI ในการค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เชิงลึก ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงบทบาทของ AI ที่ไม่เพียงแต่ใช้ในธุรกิจ แต่ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาสำคัญระดับโลกได้
    https://www.techradar.com/pro/google-deepmind-partners-with-the-uk-government-for-science-breakthroughs-cleaner-energy

    Opera Neon เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ AI Subscription
    Opera ได้เปิดตัว Opera Neon ซึ่งเป็นบริการ AI subscription ที่มาพร้อมฟีเจอร์หลากหลายสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถเพิ่มเติมจากเบราว์เซอร์ทั่วไป ผู้เขียนบทความมองว่าบริการนี้คุ้มค่าที่จะจ่าย เพราะมันรวมเครื่องมือ AI ที่ช่วยทั้งการทำงานและความบันเทิง เช่น การสร้างคอนเทนต์ การช่วยค้นหา และการปรับแต่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ถือเป็นการยกระดับเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าเพิ่ม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neon-is-now-available-and-i-think-its-an-ai-subscription-worth-paying-for

    มือถือ Android รุ่นใหม่สำหรับคนที่คิดถึง Xperia Play และ N-Gage
    มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ยังคิดถึงเครื่องเล่นเกมมือถือยุคเก่าอย่าง Xperia Play และ Nokia N-Gage โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมปุ่มควบคุมเกมแบบจริงจัง ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างสะดวกและสนุกเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพาในอดีต ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนสมัยใหม่กับความ怀旧ของเกมเมอร์ยุคก่อน
    https://www.techradar.com/phones/android/this-new-android-phone-is-designed-for-everyone-who-misses-the-xperia-play-and-n-gage

    Microsoft ปรับปรุง Windows 11 และ Phone Link ให้ดีขึ้น
    Microsoft ได้หยุดการอัปเดตที่ทำให้ Windows 11 มีปัญหาบ่อยครั้ง และหันมาเน้นการปรับปรุงฟีเจอร์ Phone Link ให้ใช้งานร่วมกับแอป Android ได้ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกขึ้น เช่น การใช้แอป Android บน PC โดยตรง ถือเป็นการพัฒนาเพื่อให้ Windows 11 มีเสถียรภาพและตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-stops-breaking-windows-11-instead-it-just-made-phone-link-even-better-with-android-apps

    NordVPN ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากผู้ตรวจสอบอิสระอีกครั้ง
    NordVPN ได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันความปลอดภัยของระบบ และผลการตรวจสอบก็ออกมาว่าบริการยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดไว้ได้ การตรวจสอบนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่า VPN ที่พวกเขาใช้นั้นมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยจริง
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/independent-auditors-inspect-nordvpns-security-once-again-heres-what-they-found

    Android เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยชีวิต – แชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัย
    Android ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัยในกรณีฉุกเฉิน ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต โดยทีมกู้ภัยสามารถเห็นสถานการณ์จริงผ่านกล้องมือถือของผู้ประสบเหตุ ทำให้สามารถให้คำแนะนำหรือเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้โดยตรง
    https://www.techradar.com/phones/android/android-just-got-a-life-saving-upgrade-that-lets-you-share-live-video-with-emergency-rescuers-heres-how-it-works

    ข้อมูลลูกค้า 16TB รั่วไหลจากบริษัทด้านการตลาด
    มีการค้นพบการรั่วไหลของข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 16TB ซึ่งเป็นข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาลจากบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการสร้างฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยข้อมูลติดต่อและรายละเอียดเชิงธุรกิจที่อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในกรณีข้อมูลรั่วไหลที่ใหญ่ที่สุด และเป็นการเตือนให้องค์กรต้องเข้มงวดกับการจัดการข้อมูลมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/16tb-of-corporate-intelligence-data-exposed-in-one-of-the-largest-lead-generation-dataset-leaks
    📌📡🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📡📌 #รวมข่าวIT #20251212 #TechRadar 🖌️ Adobe เปิด Photoshop ฟรีใน ChatGPT ตอนนี้ใครๆ ก็สามารถใช้ Photoshop ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิกเลย เพราะ Adobe ได้รวมเอา Photoshop, Express และ Acrobat เข้าไปอยู่ใน ChatGPT ให้ใช้งานฟรีทั้งหมด เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบก็จะช่วยแก้ไขภาพหรือสร้างเอกสารให้ทันที เช่น การปรับแสงสี ใส่เอฟเฟกต์ หรือแม้แต่รวมไฟล์ PDF หลายไฟล์เป็นหนึ่งเดียว จุดเด่นคือมีตัวเลือกปรับแต่งผ่านแถบควบคุม ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขได้ตามใจโดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมเต็มรูปแบบ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ ChatGPT ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างเนื้อหา แต่กลายเป็นพื้นที่ทำงานด้านการออกแบบและเอกสารครบวงจร 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/adobe-photoshop-is-now-built-into-chatgpt-for-free-and-you-dont-need-graphic-design-skills-to-use-it 🛡️ Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome Google ได้ปล่อยการอัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงบน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ นี่ถือเป็นครั้งที่ 8 ของปีที่บริษัทต้องแก้ Zero-Day โดยช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการหน่วยความจำใน LibANGLE ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ การอัปเดตได้ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้แล้ว และ Google ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำไปใช้ต่อ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-releases-emergency-fix-for-yet-another-zero-day ✈️ สายการบินรัสเซีย Aeroflot ถูกโจมตีผ่านบริษัทซอฟต์แวร์ภายนอก เหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ที่ทำให้สายการบิน Aeroflot ต้องหยุดบินหลายสิบเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม ถูกเปิดเผยว่าเกิดจากการโจมตีแบบ Supply Chain ผ่านบริษัท Bakka Soft ที่พัฒนาแอปและระบบให้กับสายการบิน โดยผู้โจมตีใช้ช่องโหว่ที่ไม่มีการป้องกันด้วย 2FA และติดตั้งมัลแวร์จำนวนมากในระบบ ทำให้เที่ยวบินต้องหยุดชะงักและสร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่รายงานนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/russian-airline-hack-came-through-third-party-tech-vendor 🇨🇭 สวิตเซอร์แลนด์ถอยร่างกฎหมายขยายการสอดส่อง หลังถูกต้านหนัก รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ต้องกลับมาทบทวนร่างกฎหมายที่ต้องการขยายการสอดส่องจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น แอปแชท โซเชียลมีเดีย และ VPN หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากบริษัทเทคโนโลยีและนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ให้บริการอย่าง Proton และ Threema ชี้ว่ากฎหมายนี้จะกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและการเข้ารหัสที่ปลอดภัย แม้การถอยครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะชั่วคราว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ารัฐบาลยังคงมีความตั้งใจจะผลักดันการสอดส่องต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/switzerland-will-revise-proposed-law-change-after-backlash-from-tech-industry 🎬 Disney จับมือ OpenAI เปิดทางให้ Sora ใช้ตัวละครดัง Disney สร้างความฮือฮาด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปีร่วมกับ OpenAI เพื่อให้ Sora ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถใช้ตัวละครจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ได้ พร้อมลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI นี่ถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีครั้งใหญ่ เพราะที่ผ่านมา Disney เข้มงวดมากกับการใช้ตัวละครของตน การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ สามารถสร้างคอนเทนต์ที่มี Mickey Mouse, Elsa หรือแม้แต่ตัวละครจาก Star Wars ปรากฏในผลงาน AI ได้ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/disney-and-openai-are-set-to-open-the-vault-to-sora-yet-an-ai-mickey-feels-like-magic-lost 💻 Nvidia พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อติดตามชิปหลังพบการลักลอบ หลังจากมีการค้นพบการลักลอบขนส่งชิป Nvidia ได้ออกซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยติดตามเส้นทางการเคลื่อนไหวของชิป เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าชิปแต่ละตัวถูกส่งไปที่ใดบ้าง เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการนำชิปไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ถูกควบคุมหรือประเทศที่มีข้อจำกัดทางการค้า ถือเป็นการเสริมความปลอดภัยและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/nvidia-develops-new-software-to-help-track-chips-following-smuggling-discovery 🔒 Mullvad ยุติการสนับสนุน OpenVPN บนเดสก์ท็อป หันไปใช้ WireGuard แทน บริการ VPN ชื่อดัง Mullvad ประกาศเลิกใช้ OpenVPN บนเดสก์ท็อปทั้งหมด และบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ WireGuard ซึ่งมีความเร็วและความปลอดภัยสูงกว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเพราะ WireGuard มีโครงสร้างที่ทันสมัยและง่ายต่อการบำรุงรักษา ทำให้ Mullvad สามารถให้บริการที่เสถียรและปลอดภัยมากขึ้น แม้ผู้ใช้บางรายอาจต้องปรับตัว แต่บริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นผลดีในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-retires-openvpn-support-on-desktop-pushing-all-users-to-wireguard 💰 ICO ปรับ LastPass 1.2 ล้านปอนด์ หลังข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล สำนักงานคุ้มครองข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ICO) ได้สั่งปรับ LastPass เป็นเงิน 1.2 ล้านปอนด์ จากเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้กว่า 1.6 ล้านรายถูกละเมิดในปี 2022 โดยการโจมตีเกิดจากการที่แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำรองของบริษัทผ่านบัญชีพนักงานที่ถูกเจาะ การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเป็นการเตือนให้บริษัทด้านความปลอดภัยต้องรักษามาตรฐานสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ico-levies-gbp1-2-million-fine-against-lastpass-data-breach-compromised-info-on-1-6-million-users ⚙️ โครงสร้างพื้นฐาน HPC และ AI กำลังบรรจบกัน บทความนี้พูดถึงการที่โครงสร้างพื้นฐานด้าน High Performance Computing (HPC) และ AI กำลังถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น เพื่อรองรับงานที่ต้องใช้การประมวลผลมหาศาล เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก แนวโน้มนี้ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมใหม่ที่สามารถรองรับทั้งงาน HPC และ AI ได้ในระบบเดียว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/hpc-and-ai-converging-infrastructures ☁️ ค่าใช้จ่ายแฝงจากช่องว่างด้าน Cloud Sovereignty รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการที่หลายองค์กรยังไม่สามารถควบคุมข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์ ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงจำนวนมาก ทั้งในด้านความเสี่ยงทางกฎหมาย ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อบังคับ การขาดความเป็นอิสระในการจัดการข้อมูลทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นการกระตุ้นให้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญกับ Cloud Sovereignty มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/quantifying-the-hidden-costs-of-cloud-sovereignty-gaps 📉 หุ้น Oracle ร่วงหลังเผยแผนลงทุน AI เพิ่มอีก 15 พันล้านดอลลาร์ ราคาหุ้นของ Oracle ตกลงทันทีหลังบริษัทประกาศว่าจะเพิ่มงบลงทุนด้าน AI อีก 15 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่าการใช้จ่ายมหาศาลนี้อาจกระทบต่อผลกำไรระยะสั้น แม้บริษัทเชื่อว่าการลงทุนจะช่วยเสริมศักยภาพด้านคลาวด์และแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ได้ในอนาคต แต่ตลาดกลับตอบสนองด้วยความระมัดระวัง ทำให้หุ้นปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/oracle-shares-drop-after-usd15bn-higher-ai-spending-revealed 🎣 แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์ของ Mimecast แจกฟิชชิ่งลิงก์นับพัน มีการค้นพบว่าฟีเจอร์ Secure-Link ของ Mimecast ถูกนำไปใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อส่งฟิชชิ่งอีเมลจำนวนมาก โดยฟีเจอร์ที่ควรจะช่วยป้องกันกลับถูกใช้เป็นช่องทางให้ผู้โจมตีสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลส่วนตัว การโจมตีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่แม้แต่เครื่องมือด้านความปลอดภัยก็อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-distribute-thousands-of-phishing-attacks-through-mimecasts-secure-link-feature 👔 OpenAI ดึงตัว CEO ของ Slack มาเป็น Chief Revenue Officer OpenAI ประกาศแต่งตั้ง Lidiane Jones อดีต CEO ของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการสร้างรายได้และการขยายธุรกิจ การย้ายครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะ Jones มีประสบการณ์ในการบริหารแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล และคาดว่าจะช่วยให้ OpenAI สามารถต่อยอดโมเดลธุรกิจได้อย่างมั่นคง 🔗 https://www.techradar.com/pro/open-ai-poaches-slack-ceo-as-its-chief-revenue-officer 🖼️ ทดลองใช้ Photoshop ใน ChatGPT – ฟีเจอร์ฟรีที่ทรงพลัง ผู้เขียนบทความได้ลองใช้ Photoshop ที่ถูกรวมเข้ามาใน ChatGPT และพบว่ามันใช้งานง่ายมาก เพียงอัปโหลดภาพแล้วพิมพ์คำสั่ง เช่น “ทำให้ภาพเป็นขาวดำ” ระบบก็จะแสดงผลพร้อมแถบปรับความเข้มให้เลือกต่อทันที นอกจากนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น Halftone หรือ Glitch ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิก ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/i-tried-photoshop-in-chatgpt-its-an-awesome-free-ai-superpower ⚡ Google DeepMind จับมือรัฐบาลอังกฤษเพื่อวิจัยพลังงานสะอาดและวิทยาศาสตร์ Google DeepMind ได้ลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อพัฒนาโครงการด้านวิทยาศาสตร์และพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าที่จะใช้ AI ในการค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เชิงลึก ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงบทบาทของ AI ที่ไม่เพียงแต่ใช้ในธุรกิจ แต่ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาสำคัญระดับโลกได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-deepmind-partners-with-the-uk-government-for-science-breakthroughs-cleaner-energy 🎨 Opera Neon เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ AI Subscription Opera ได้เปิดตัว Opera Neon ซึ่งเป็นบริการ AI subscription ที่มาพร้อมฟีเจอร์หลากหลายสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถเพิ่มเติมจากเบราว์เซอร์ทั่วไป ผู้เขียนบทความมองว่าบริการนี้คุ้มค่าที่จะจ่าย เพราะมันรวมเครื่องมือ AI ที่ช่วยทั้งการทำงานและความบันเทิง เช่น การสร้างคอนเทนต์ การช่วยค้นหา และการปรับแต่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ถือเป็นการยกระดับเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าเพิ่ม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neon-is-now-available-and-i-think-its-an-ai-subscription-worth-paying-for 📱 มือถือ Android รุ่นใหม่สำหรับคนที่คิดถึง Xperia Play และ N-Gage มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ยังคิดถึงเครื่องเล่นเกมมือถือยุคเก่าอย่าง Xperia Play และ Nokia N-Gage โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมปุ่มควบคุมเกมแบบจริงจัง ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างสะดวกและสนุกเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพาในอดีต ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนสมัยใหม่กับความ怀旧ของเกมเมอร์ยุคก่อน 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/this-new-android-phone-is-designed-for-everyone-who-misses-the-xperia-play-and-n-gage 🔗 Microsoft ปรับปรุง Windows 11 และ Phone Link ให้ดีขึ้น Microsoft ได้หยุดการอัปเดตที่ทำให้ Windows 11 มีปัญหาบ่อยครั้ง และหันมาเน้นการปรับปรุงฟีเจอร์ Phone Link ให้ใช้งานร่วมกับแอป Android ได้ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกขึ้น เช่น การใช้แอป Android บน PC โดยตรง ถือเป็นการพัฒนาเพื่อให้ Windows 11 มีเสถียรภาพและตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-stops-breaking-windows-11-instead-it-just-made-phone-link-even-better-with-android-apps 🔍 NordVPN ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากผู้ตรวจสอบอิสระอีกครั้ง NordVPN ได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันความปลอดภัยของระบบ และผลการตรวจสอบก็ออกมาว่าบริการยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดไว้ได้ การตรวจสอบนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่า VPN ที่พวกเขาใช้นั้นมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยจริง 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/independent-auditors-inspect-nordvpns-security-once-again-heres-what-they-found 🚨 Android เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยชีวิต – แชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัย Android ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัยในกรณีฉุกเฉิน ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต โดยทีมกู้ภัยสามารถเห็นสถานการณ์จริงผ่านกล้องมือถือของผู้ประสบเหตุ ทำให้สามารถให้คำแนะนำหรือเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้โดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/android-just-got-a-life-saving-upgrade-that-lets-you-share-live-video-with-emergency-rescuers-heres-how-it-works 📂 ข้อมูลลูกค้า 16TB รั่วไหลจากบริษัทด้านการตลาด มีการค้นพบการรั่วไหลของข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 16TB ซึ่งเป็นข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาลจากบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการสร้างฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยข้อมูลติดต่อและรายละเอียดเชิงธุรกิจที่อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในกรณีข้อมูลรั่วไหลที่ใหญ่ที่สุด และเป็นการเตือนให้องค์กรต้องเข้มงวดกับการจัดการข้อมูลมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/16tb-of-corporate-intelligence-data-exposed-in-one-of-the-largest-lead-generation-dataset-leaks
    0 Comments 0 Shares 653 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251212 #securityonline


    ช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ของ WordPress
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน WordPress โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ระดับต่ำอย่าง “Subscriber” สามารถยกระดับสิทธิ์และเข้ายึดครองเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ ปัญหานี้เกิดจากฟังก์ชัน penci_update_option ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงการตั้งค่าไซต์สำคัญโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนค่า เช่น เปิดให้ใครก็สมัครสมาชิกได้ และตั้งค่าให้ผู้ใช้ใหม่เป็น “Administrator” ได้ทันที นักพัฒนาของธีมได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 8.6.9.1 โดยเพิ่มการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ที่เข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าว ผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ใช้ธีมนี้จึงควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดครอง
    https://securityonline.info/cve-2025-64188-cvss-9-8-critical-soledad-theme-flaw-lets-subscribers-take-over-wordpress-sites

    แคมเปญฟิชชิ่ง Okta SSO ปลอมตัวเป็นการแจ้งผลเงินเดือน
    ในช่วงที่พนักงานกำลังรอการประเมินผลงานสิ้นปี มีการโจมตีฟิชชิ่งที่ซับซ้อนเกิดขึ้น โดยใช้การหลอกลวงผ่านอีเมลที่ปลอมเป็นฝ่าย HR หรือระบบเงินเดือน เช่น ADP หรือ Salesforce หัวข้ออีเมลมักจะเป็น “Review Your 2026 Salary & Bonus” เพื่อกระตุ้นให้เหยื่อรีบเปิด เมื่อเหยื่อเข้าสู่หน้าเว็บปลอม ระบบฟิชชิ่งนี้จะทำงานเหมือนจริงโดยใช้ proxy เชื่อมต่อกับ Okta ขององค์กร ทำให้หน้าล็อกอินดูสมจริงยิ่งขึ้น จากนั้นสคริปต์ inject.js จะดักจับรหัสผ่านและคุกกี้ session สำคัญเพื่อยึดครองบัญชี ผู้โจมตียังใช้เทคนิคซ่อนเว็บไซต์ผ่าน Cloudflare เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ถือเป็นการโจมตีที่อันตรายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    https://securityonline.info/sophisticated-okta-sso-phishing-bypasses-defenses-to-steal-session-tokens-with-salary-review-lures

    ValleyRAT หลุดสู่สาธารณะ กลายเป็นอาวุธไซเบอร์ในมืออาชญากร
    ValleyRAT ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือสอดแนมระดับสูง ตอนนี้กลายเป็นภัยคุกคามสาธารณะหลังตัวสร้าง (builder) ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ใครก็สามารถสร้างและปรับแต่งมัลแวร์นี้ได้เอง รายงานจาก Check Point Research ระบุว่ามีการตรวจพบการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 85% ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ ValleyRAT คือปลั๊กอิน Driver ที่ทำงานในระดับ kernel สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของ Windows 11 ได้ และยังลบไดรเวอร์ป้องกันของระบบรักษาความปลอดภัยออกไปได้ด้วย เดิมที ValleyRAT เชื่อมโยงกับกลุ่ม Silver Fox แต่เมื่อโค้ดถูกปล่อยสู่สาธารณะ การระบุแหล่งที่มาแทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
    https://securityonline.info/military-grade-valleyrat-goes-rogue-kernel-rootkit-builder-leak-triggers-massive-global-surge

    ช่องโหว่ GeoServer XXE ถูกโจมตีจริง เสี่ยงขโมยข้อมูลและสแกนระบบภายใน

    CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2025-58360 ของ GeoServer เข้าสู่รายการ Known Exploited Vulnerabilities เนื่องจากพบการโจมตีจริง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างคำสั่ง XML ที่อ้างอิงภายนอกเพื่ออ่านไฟล์ลับในเซิร์ฟเวอร์ หรือใช้เป็น SSRF เพื่อเข้าถึงระบบภายในที่ถูกไฟร์วอลล์ป้องกันอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ระบบล่มด้วยการโจมตีแบบ DoS ได้อีกด้วย CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ภายในวันที่ 1 มกราคม 2026 เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-geoserver-xxe-flaw-under-active-attack-risks-data-theft-internal-network-scanning

    Ransomware 01flip โจมตีโครงสร้างพื้นฐานใน APAC ด้วย Rust และ Sliver
    มีการค้นพบแรนซัมแวร์ใหม่ชื่อ “01flip” ที่ถูกเขียนด้วยภาษา Rust ทำให้สามารถโจมตีได้ทั้ง Windows และ Linux โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น ฟิลิปปินส์และไต้หวัน กลุ่มผู้โจมตีใช้วิธีเจาะระบบด้วยช่องโหว่เก่าอย่าง CVE-2019-11580 และติดตั้ง Sliver ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สสำหรับควบคุมระบบจากระยะไกล น่าสนใจว่ามีโค้ดบางส่วนที่หลีกเลี่ยงการเข้ารหัสไฟล์ที่มีนามสกุล “lockbit” ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม LockBit หรือเป็นการสร้างหลักฐานปลอม แม้จำนวนเหยื่อยังไม่มาก แต่มีการยืนยันว่ามีข้อมูลรั่วไหลไปขายในดาร์กเว็บแล้ว
    https://securityonline.info/new-01flip-ransomware-hits-apac-critical-infra-cross-platform-rust-weapon-uses-sliver-c2

    ช่องโหว่ Apache Struts 2 เสี่ยงทำเซิร์ฟเวอร์ล่ม
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Struts 2 ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กยอดนิยมสำหรับพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย Java ช่องโหว่นี้ชื่อว่า CVE-2025-66675 เกิดจากการจัดการไฟล์อัปโหลดที่ผิดพลาด ทำให้ไฟล์ชั่วคราวไม่ถูกลบออก ส่งผลให้พื้นที่ดิสก์เต็มอย่างรวดเร็ว หากถูกโจมตีซ้ำ ๆ เซิร์ฟเวอร์อาจหยุดทำงานทันที นักวิจัยแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน Struts 6.8.0 หรือ 7.1.1 และหากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตั้งโฟลเดอร์ชั่วคราวแยกไว้ หรือปิดการใช้งานฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/apache-struts-2-dos-flaw-cve-2025-66775-risks-server-crash-via-file-leak-in-multipart-request-processing

    EU ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2040
    สหภาพยุโรปประกาศข้อตกลงครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 90% เมื่อเทียบกับปี 1990 ภายในปี 2040 ถือเป็นเป้าหมายที่สูงกว่าหลายประเทศมหาอำนาจ เช่น จีน การเจรจาครั้งนี้มีทั้งเสียงคัดค้านจากบางประเทศที่กังวลเรื่องต้นทุนอุตสาหกรรม และเสียงสนับสนุนจากประเทศที่เร่งผลักดันการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ข้อตกลงนี้ยังมีการผ่อนปรน เช่น เลื่อนการเก็บภาษีคาร์บอนเชื้อเพลิงไปปี 2028 และอนุญาตให้ใช้เครดิตคาร์บอนระหว่างประเทศบางส่วน แต่โดยรวมถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ยุโรปเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050
    https://securityonline.info/eus-green-mandate-parliament-pledges-90-emissions-cut-by-2040

    Instagram เปิดฟีเจอร์ใหม่ “Your Algorithm” ให้ผู้ใช้ควบคุมฟีดได้เอง
    Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Your Algorithm” ที่ให้ผู้ใช้เห็นและปรับแต่งหัวข้อที่ระบบแนะนำในหน้า Reels ได้โดยตรง ผู้ใช้สามารถเลือกดูหัวข้อที่สนใจมากขึ้นหรือน้อยลง รวมถึงแชร์หัวข้อที่ตนสนใจไปยัง Stories ได้ ฟีเจอร์นี้ใช้ AI เป็นหลักในการปรับแต่ง และถือเป็นครั้งแรกที่ Instagram เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานของอัลกอริทึมอย่างชัดเจน แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า Meta ใช้ AI สร้างเนื้อหาที่เกินจริง แต่การเปิดฟีเจอร์นี้ก็เป็นการเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้
    https://securityonline.info/youre-in-control-instagram-launches-your-algorithm-feature-for-reels

    Qualcomm เข้าซื้อ Ventana เสริมทัพพัฒนา CPU RISC-V
    Qualcomm ประกาศเข้าซื้อกิจการ Ventana Micro Systems เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนา CPU โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม RISC-V ที่กำลังได้รับความนิยม การเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยให้ Qualcomm สามารถผสานความเชี่ยวชาญของ Ventana เข้ากับการพัฒนา CPU Oryon ของตนเอง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับ AI มากขึ้น นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของ Qualcomm ที่ต้องการลดการพึ่งพา Arm และสร้างอิสระทางเทคโนโลยีในระยะยาว
    https://securityonline.info/qualcomm-buys-ventana-to-double-down-on-risc-v-and-custom-oryon-cpu

    Intel แพ้คดีต่อต้านการผูกขาด ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร
    หลังจากต่อสู้คดีต่อต้านการผูกขาดกับสหภาพยุโรปยาวนานถึง 16 ปี Intel ก็แพ้การอุทธรณ์ครั้งล่าสุด ศาลตัดสินให้ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร จากเดิมที่เคยถูกปรับ 376 ล้านยูโร คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 โดย Intel ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่าง HP, Acer และ Lenovo เพื่อชะลอหรือหยุดการใช้ชิป AMD ถือเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยตรง แม้ Intel เคยชนะบางส่วนของคดี แต่สุดท้ายก็ยังต้องจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ ซึ่งนับเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์วงการเทคโนโลยี
    https://securityonline.info/16-year-battle-ends-intel-loses-appeal-must-pay-e237-million-eu-fine

    องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง
    ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026
    https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps

    Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล
    Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม
    https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig

    แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม
    กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล
    https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Zoom Rooms เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์
    Zoom ได้ออกแพตช์แก้ไขด่วนสำหรับ Zoom Rooms หลังพบช่องโหว่ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรเป็นความลับได้ โดยเฉพาะในเวอร์ชัน Windows ที่มีช่องโหว่ CVE-2025-67460 ซึ่งเกิดจากการป้องกันการ downgrade ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบอาจถูกบังคับให้กลับไปใช้เวอร์ชันที่ไม่ปลอดภัย ส่วนใน macOS ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-67461 ที่เสี่ยงต่อการเปิดเผยข้อมูลผ่านการจัดการไฟล์ผิดพลาด Zoom ได้ปล่อยเวอร์ชัน 6.6.0 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-zoom-rooms-flaw-risks-privilege-escalation-via-downgrade-protection-bypass

    องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง
    ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026
    https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps

    Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล
    Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม
    https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig

    แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม
    กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล
    https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes


    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251212 #securityonline 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ของ WordPress มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน WordPress โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ระดับต่ำอย่าง “Subscriber” สามารถยกระดับสิทธิ์และเข้ายึดครองเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ ปัญหานี้เกิดจากฟังก์ชัน penci_update_option ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงการตั้งค่าไซต์สำคัญโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนค่า เช่น เปิดให้ใครก็สมัครสมาชิกได้ และตั้งค่าให้ผู้ใช้ใหม่เป็น “Administrator” ได้ทันที นักพัฒนาของธีมได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 8.6.9.1 โดยเพิ่มการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ที่เข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าว ผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ใช้ธีมนี้จึงควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดครอง 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-64188-cvss-9-8-critical-soledad-theme-flaw-lets-subscribers-take-over-wordpress-sites 🎣 แคมเปญฟิชชิ่ง Okta SSO ปลอมตัวเป็นการแจ้งผลเงินเดือน ในช่วงที่พนักงานกำลังรอการประเมินผลงานสิ้นปี มีการโจมตีฟิชชิ่งที่ซับซ้อนเกิดขึ้น โดยใช้การหลอกลวงผ่านอีเมลที่ปลอมเป็นฝ่าย HR หรือระบบเงินเดือน เช่น ADP หรือ Salesforce หัวข้ออีเมลมักจะเป็น “Review Your 2026 Salary & Bonus” เพื่อกระตุ้นให้เหยื่อรีบเปิด เมื่อเหยื่อเข้าสู่หน้าเว็บปลอม ระบบฟิชชิ่งนี้จะทำงานเหมือนจริงโดยใช้ proxy เชื่อมต่อกับ Okta ขององค์กร ทำให้หน้าล็อกอินดูสมจริงยิ่งขึ้น จากนั้นสคริปต์ inject.js จะดักจับรหัสผ่านและคุกกี้ session สำคัญเพื่อยึดครองบัญชี ผู้โจมตียังใช้เทคนิคซ่อนเว็บไซต์ผ่าน Cloudflare เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ถือเป็นการโจมตีที่อันตรายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-okta-sso-phishing-bypasses-defenses-to-steal-session-tokens-with-salary-review-lures 💻 ValleyRAT หลุดสู่สาธารณะ กลายเป็นอาวุธไซเบอร์ในมืออาชญากร ValleyRAT ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือสอดแนมระดับสูง ตอนนี้กลายเป็นภัยคุกคามสาธารณะหลังตัวสร้าง (builder) ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ใครก็สามารถสร้างและปรับแต่งมัลแวร์นี้ได้เอง รายงานจาก Check Point Research ระบุว่ามีการตรวจพบการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 85% ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ ValleyRAT คือปลั๊กอิน Driver ที่ทำงานในระดับ kernel สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของ Windows 11 ได้ และยังลบไดรเวอร์ป้องกันของระบบรักษาความปลอดภัยออกไปได้ด้วย เดิมที ValleyRAT เชื่อมโยงกับกลุ่ม Silver Fox แต่เมื่อโค้ดถูกปล่อยสู่สาธารณะ การระบุแหล่งที่มาแทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป 🔗 https://securityonline.info/military-grade-valleyrat-goes-rogue-kernel-rootkit-builder-leak-triggers-massive-global-surge 🌐 ช่องโหว่ GeoServer XXE ถูกโจมตีจริง เสี่ยงขโมยข้อมูลและสแกนระบบภายใน CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2025-58360 ของ GeoServer เข้าสู่รายการ Known Exploited Vulnerabilities เนื่องจากพบการโจมตีจริง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างคำสั่ง XML ที่อ้างอิงภายนอกเพื่ออ่านไฟล์ลับในเซิร์ฟเวอร์ หรือใช้เป็น SSRF เพื่อเข้าถึงระบบภายในที่ถูกไฟร์วอลล์ป้องกันอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ระบบล่มด้วยการโจมตีแบบ DoS ได้อีกด้วย CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ภายในวันที่ 1 มกราคม 2026 เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/cisa-kev-alert-geoserver-xxe-flaw-under-active-attack-risks-data-theft-internal-network-scanning 💥 Ransomware 01flip โจมตีโครงสร้างพื้นฐานใน APAC ด้วย Rust และ Sliver มีการค้นพบแรนซัมแวร์ใหม่ชื่อ “01flip” ที่ถูกเขียนด้วยภาษา Rust ทำให้สามารถโจมตีได้ทั้ง Windows และ Linux โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น ฟิลิปปินส์และไต้หวัน กลุ่มผู้โจมตีใช้วิธีเจาะระบบด้วยช่องโหว่เก่าอย่าง CVE-2019-11580 และติดตั้ง Sliver ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สสำหรับควบคุมระบบจากระยะไกล น่าสนใจว่ามีโค้ดบางส่วนที่หลีกเลี่ยงการเข้ารหัสไฟล์ที่มีนามสกุล “lockbit” ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม LockBit หรือเป็นการสร้างหลักฐานปลอม แม้จำนวนเหยื่อยังไม่มาก แต่มีการยืนยันว่ามีข้อมูลรั่วไหลไปขายในดาร์กเว็บแล้ว 🔗 https://securityonline.info/new-01flip-ransomware-hits-apac-critical-infra-cross-platform-rust-weapon-uses-sliver-c2 🛡️ ช่องโหว่ Apache Struts 2 เสี่ยงทำเซิร์ฟเวอร์ล่ม มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Struts 2 ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กยอดนิยมสำหรับพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย Java ช่องโหว่นี้ชื่อว่า CVE-2025-66675 เกิดจากการจัดการไฟล์อัปโหลดที่ผิดพลาด ทำให้ไฟล์ชั่วคราวไม่ถูกลบออก ส่งผลให้พื้นที่ดิสก์เต็มอย่างรวดเร็ว หากถูกโจมตีซ้ำ ๆ เซิร์ฟเวอร์อาจหยุดทำงานทันที นักวิจัยแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน Struts 6.8.0 หรือ 7.1.1 และหากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตั้งโฟลเดอร์ชั่วคราวแยกไว้ หรือปิดการใช้งานฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/apache-struts-2-dos-flaw-cve-2025-66775-risks-server-crash-via-file-leak-in-multipart-request-processing 🌍 EU ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2040 สหภาพยุโรปประกาศข้อตกลงครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 90% เมื่อเทียบกับปี 1990 ภายในปี 2040 ถือเป็นเป้าหมายที่สูงกว่าหลายประเทศมหาอำนาจ เช่น จีน การเจรจาครั้งนี้มีทั้งเสียงคัดค้านจากบางประเทศที่กังวลเรื่องต้นทุนอุตสาหกรรม และเสียงสนับสนุนจากประเทศที่เร่งผลักดันการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ข้อตกลงนี้ยังมีการผ่อนปรน เช่น เลื่อนการเก็บภาษีคาร์บอนเชื้อเพลิงไปปี 2028 และอนุญาตให้ใช้เครดิตคาร์บอนระหว่างประเทศบางส่วน แต่โดยรวมถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ยุโรปเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 🔗 https://securityonline.info/eus-green-mandate-parliament-pledges-90-emissions-cut-by-2040 📱 Instagram เปิดฟีเจอร์ใหม่ “Your Algorithm” ให้ผู้ใช้ควบคุมฟีดได้เอง Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Your Algorithm” ที่ให้ผู้ใช้เห็นและปรับแต่งหัวข้อที่ระบบแนะนำในหน้า Reels ได้โดยตรง ผู้ใช้สามารถเลือกดูหัวข้อที่สนใจมากขึ้นหรือน้อยลง รวมถึงแชร์หัวข้อที่ตนสนใจไปยัง Stories ได้ ฟีเจอร์นี้ใช้ AI เป็นหลักในการปรับแต่ง และถือเป็นครั้งแรกที่ Instagram เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานของอัลกอริทึมอย่างชัดเจน แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า Meta ใช้ AI สร้างเนื้อหาที่เกินจริง แต่การเปิดฟีเจอร์นี้ก็เป็นการเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ 🔗 https://securityonline.info/youre-in-control-instagram-launches-your-algorithm-feature-for-reels 💻 Qualcomm เข้าซื้อ Ventana เสริมทัพพัฒนา CPU RISC-V Qualcomm ประกาศเข้าซื้อกิจการ Ventana Micro Systems เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนา CPU โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม RISC-V ที่กำลังได้รับความนิยม การเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยให้ Qualcomm สามารถผสานความเชี่ยวชาญของ Ventana เข้ากับการพัฒนา CPU Oryon ของตนเอง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับ AI มากขึ้น นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของ Qualcomm ที่ต้องการลดการพึ่งพา Arm และสร้างอิสระทางเทคโนโลยีในระยะยาว 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-buys-ventana-to-double-down-on-risc-v-and-custom-oryon-cpu ⚖️ Intel แพ้คดีต่อต้านการผูกขาด ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร หลังจากต่อสู้คดีต่อต้านการผูกขาดกับสหภาพยุโรปยาวนานถึง 16 ปี Intel ก็แพ้การอุทธรณ์ครั้งล่าสุด ศาลตัดสินให้ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร จากเดิมที่เคยถูกปรับ 376 ล้านยูโร คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 โดย Intel ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่าง HP, Acer และ Lenovo เพื่อชะลอหรือหยุดการใช้ชิป AMD ถือเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยตรง แม้ Intel เคยชนะบางส่วนของคดี แต่สุดท้ายก็ยังต้องจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ ซึ่งนับเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์วงการเทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/16-year-battle-ends-intel-loses-appeal-must-pay-e237-million-eu-fine 🧑‍💻 องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026 🔗 https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps 🔐 Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล 🔗 https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes 📹 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Zoom Rooms เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์ Zoom ได้ออกแพตช์แก้ไขด่วนสำหรับ Zoom Rooms หลังพบช่องโหว่ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรเป็นความลับได้ โดยเฉพาะในเวอร์ชัน Windows ที่มีช่องโหว่ CVE-2025-67460 ซึ่งเกิดจากการป้องกันการ downgrade ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบอาจถูกบังคับให้กลับไปใช้เวอร์ชันที่ไม่ปลอดภัย ส่วนใน macOS ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-67461 ที่เสี่ยงต่อการเปิดเผยข้อมูลผ่านการจัดการไฟล์ผิดพลาด Zoom ได้ปล่อยเวอร์ชัน 6.6.0 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-zoom-rooms-flaw-risks-privilege-escalation-via-downgrade-protection-bypass 🧑‍💻 องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026 🔗 https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps 🔐 Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล 🔗 https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes
    0 Comments 0 Shares 515 Views 0 Reviews
  • GPT‑5.2 บนโครงสร้างพื้นฐาน NVIDIA

    OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานของ NVIDIA ทั้ง Hopper และ Blackwell GPUs รวมถึงศูนย์ข้อมูล Azure ของ Microsoft การร่วมมือครั้งนี้ช่วยให้โมเดลใหม่มีความฉลาดขึ้นและสามารถประหยัดเวลาให้ผู้ใช้ระดับองค์กรได้ถึง 40–60 นาทีต่อวัน และผู้ใช้หนักสามารถประหยัดได้มากกว่า 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

    Blackwell Ultra: เร็วกว่า Hopper หลายเท่า
    NVIDIA รายงานว่า Blackwell Ultra มีความเร็วสูงกว่า Hopper H100 ถึง 4.2 เท่า และเร็วกว่า GB200 NVL72 ถึง 1.9 เท่า ในการทดสอบ MLPerf ล่าสุด โดยเฉพาะการฝึกโมเดลขนาดใหญ่ เช่น Llama 3.1 405B ที่ใช้ GPU กว่า 512 ตัว นอกจากนี้ Blackwell ยังให้ ประสิทธิภาพต่อมูลค่า (performance per dollar) สูงกว่า Hopper ถึง 90%

    ประสิทธิภาพและความคุ้มค่า
    แพลตฟอร์ม GB200 NVL72 ของ Blackwell สามารถให้ประสิทธิภาพการฝึกสูงขึ้นถึง 3.2 เท่า เมื่อเทียบกับ Hopper และยังลดต้นทุนการฝึกโมเดลลงอย่างมาก ทำให้การลงทุนใน AI มีความคุ้มค่ามากขึ้นสำหรับบริษัทที่ต้องการฝึกโมเดลขนาดใหญ่

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการ AI
    การเปิดตัว GPT‑5.2 และการใช้ Blackwell Ultra GPUs สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI ระหว่าง NVIDIA, AMD และผู้ผลิตรายใหม่ ๆ ขณะเดียวกันยังชี้ให้เห็นว่า ฮาร์ดแวร์ AI กำลังพัฒนาเร็วกว่ารอบการลงทุน ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการเสื่อมราคาของชิปเร็วเกินไป

    สรุปสาระสำคัญ
    GPT‑5.2 เปิดตัวโดย OpenAI
    ใช้ NVIDIA Hopper และ Blackwell GPUs บน Azure

    Blackwell Ultra เร็วกว่า Hopper H100
    สูงสุด 4.2 เท่า และคุ้มค่ากว่า 90%

    GB200 NVL72 ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น
    3.2 เท่าเมื่อเทียบกับ Hopper

    ผู้ใช้ระดับองค์กรได้ประโยชน์
    ประหยัดเวลา 40–60 นาทีต่อวัน

    ความเสี่ยงด้านการลงทุนฮาร์ดแวร์ AI
    ชิปใหม่ออกเร็ว ทำให้รุ่นเก่าเสื่อมมูลค่าไว

    การแข่งขันในตลาด AI รุนแรง
    บริษัทต้องปรับกลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนจม

    https://wccftech.com/nvidia-ai-gpus-openai-gpt-5-2-blackwell-ultra-faster-performance-value/
    🚀 GPT‑5.2 บนโครงสร้างพื้นฐาน NVIDIA OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานของ NVIDIA ทั้ง Hopper และ Blackwell GPUs รวมถึงศูนย์ข้อมูล Azure ของ Microsoft การร่วมมือครั้งนี้ช่วยให้โมเดลใหม่มีความฉลาดขึ้นและสามารถประหยัดเวลาให้ผู้ใช้ระดับองค์กรได้ถึง 40–60 นาทีต่อวัน และผู้ใช้หนักสามารถประหยัดได้มากกว่า 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ⚡ Blackwell Ultra: เร็วกว่า Hopper หลายเท่า NVIDIA รายงานว่า Blackwell Ultra มีความเร็วสูงกว่า Hopper H100 ถึง 4.2 เท่า และเร็วกว่า GB200 NVL72 ถึง 1.9 เท่า ในการทดสอบ MLPerf ล่าสุด โดยเฉพาะการฝึกโมเดลขนาดใหญ่ เช่น Llama 3.1 405B ที่ใช้ GPU กว่า 512 ตัว นอกจากนี้ Blackwell ยังให้ ประสิทธิภาพต่อมูลค่า (performance per dollar) สูงกว่า Hopper ถึง 90% 📉 ประสิทธิภาพและความคุ้มค่า แพลตฟอร์ม GB200 NVL72 ของ Blackwell สามารถให้ประสิทธิภาพการฝึกสูงขึ้นถึง 3.2 เท่า เมื่อเทียบกับ Hopper และยังลดต้นทุนการฝึกโมเดลลงอย่างมาก ทำให้การลงทุนใน AI มีความคุ้มค่ามากขึ้นสำหรับบริษัทที่ต้องการฝึกโมเดลขนาดใหญ่ 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการ AI การเปิดตัว GPT‑5.2 และการใช้ Blackwell Ultra GPUs สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI ระหว่าง NVIDIA, AMD และผู้ผลิตรายใหม่ ๆ ขณะเดียวกันยังชี้ให้เห็นว่า ฮาร์ดแวร์ AI กำลังพัฒนาเร็วกว่ารอบการลงทุน ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการเสื่อมราคาของชิปเร็วเกินไป 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ GPT‑5.2 เปิดตัวโดย OpenAI ➡️ ใช้ NVIDIA Hopper และ Blackwell GPUs บน Azure ✅ Blackwell Ultra เร็วกว่า Hopper H100 ➡️ สูงสุด 4.2 เท่า และคุ้มค่ากว่า 90% ✅ GB200 NVL72 ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ➡️ 3.2 เท่าเมื่อเทียบกับ Hopper ✅ ผู้ใช้ระดับองค์กรได้ประโยชน์ ➡️ ประหยัดเวลา 40–60 นาทีต่อวัน ‼️ ความเสี่ยงด้านการลงทุนฮาร์ดแวร์ AI ⛔ ชิปใหม่ออกเร็ว ทำให้รุ่นเก่าเสื่อมมูลค่าไว ‼️ การแข่งขันในตลาด AI รุนแรง ⛔ บริษัทต้องปรับกลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนจม https://wccftech.com/nvidia-ai-gpus-openai-gpt-5-2-blackwell-ultra-faster-performance-value/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA's AI GPUs Used To Train OpenAI's GPT-5.2, Blackwell & Blackwell Ultra Continue To Blaze Ahead With Better Performance & Value
    OpenAI has introduced its new GPT-5.2 model, which was trained and deployed on NVIDIA's AI GPUs, including Blackwell & Hopper.
    0 Comments 0 Shares 145 Views 0 Reviews
More Results