Lenovo เปิดวิสัยทัศน์สุดล้ำ: ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งอนาคตจะลอยฟ้า แช่น้ำร้อน และอยู่ใต้ดิน!
Lenovo เผยแนวคิดสุดล้ำสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคต ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่รวมถึงการออกแบบเพื่อความยั่งยืนและประสิทธิภาพด้านพลังงาน โดยเสนอ 3 รูปแบบใหม่ ได้แก่ “Floating Cloud” ลอยเหนือพื้นโลก, “Data Spa” แช่น้ำร้อนจากพลังงานใต้พิภพ และ “Data Center Bunker” ฝังใต้ดินเพื่อความปลอดภัยและการระบายความร้อนตามธรรมชาติ
แนวคิดเหล่านี้เกิดจากความต้องการเร่งด่วนในการรองรับการเติบโตของ AI และการใช้พลังงานมหาศาลของระบบประมวลผลยุคใหม่ ซึ่งดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป
Floating Cloud: ดาต้าเซ็นเตอร์ลอยฟ้า
ลอยอยู่ระหว่าง 20–30 กม.เหนือพื้นโลก ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100%
ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแรงดันสูง
ลดการใช้พื้นที่บนดิน แต่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากการโจมตีทางอากาศ
Data Spa: ดาต้าเซ็นเตอร์แช่น้ำร้อน
ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำพุร้อนหรือพลังงานใต้พิภพ
ผสมผสานธรรมชาติกับเทคโนโลยีอย่างกลมกลืน
เสี่ยงต่อความปลอดภัยจากการอยู่ใกล้แหล่งน้ำและผู้คน
Data Center Bunker: ดาต้าเซ็นเตอร์ใต้ดิน
ใช้พื้นที่รกร้าง เช่น อุโมงค์เก่า หรือสถานีรถไฟใต้ดิน
ได้เปรียบด้านการระบายความร้อนตามธรรมชาติและความปลอดภัย
อาจมีข้อจำกัดด้านอุณหภูมิใต้ดินที่ไม่เหมาะสม
Neptune Liquid Cooling: เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่ของ Lenovo
ดึงความร้อนออกจากแหล่งกำเนิดได้ถึง 98%
ลดการใช้พลังงานเมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ
แรงผลักดันจาก AI และกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม
ความต้องการประมวลผล AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
กฎด้านการปล่อยคาร์บอนและความมั่นคงของข้อมูลผลักดันให้ต้องออกแบบใหม่
คำเตือน: ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
Floating Cloud อาจถูกโจมตีหรือควบคุมได้ยาก
Data Spa เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลและอุบัติเหตุจากน้ำ
คำเตือน: ความท้าทายด้านการใช้งานจริง
แนวคิดเหล่านี้ยังเป็นต้นแบบ ไม่พร้อมใช้งานในเชิงพาณิชย์
ต้องใช้การลงทุนสูงและการทดสอบด้านวิศวกรรมอย่างเข้มข้น
https://www.techradar.com/pro/lenovo-goes-literal-with-its-view-of-the-future-of-the-cloud-heres-what-it-thinks-future-data-centers-will-really-look-like
Lenovo เผยแนวคิดสุดล้ำสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคต ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่รวมถึงการออกแบบเพื่อความยั่งยืนและประสิทธิภาพด้านพลังงาน โดยเสนอ 3 รูปแบบใหม่ ได้แก่ “Floating Cloud” ลอยเหนือพื้นโลก, “Data Spa” แช่น้ำร้อนจากพลังงานใต้พิภพ และ “Data Center Bunker” ฝังใต้ดินเพื่อความปลอดภัยและการระบายความร้อนตามธรรมชาติ
แนวคิดเหล่านี้เกิดจากความต้องการเร่งด่วนในการรองรับการเติบโตของ AI และการใช้พลังงานมหาศาลของระบบประมวลผลยุคใหม่ ซึ่งดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป
Floating Cloud: ดาต้าเซ็นเตอร์ลอยฟ้า
ลอยอยู่ระหว่าง 20–30 กม.เหนือพื้นโลก ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100%
ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแรงดันสูง
ลดการใช้พื้นที่บนดิน แต่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากการโจมตีทางอากาศ
Data Spa: ดาต้าเซ็นเตอร์แช่น้ำร้อน
ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำพุร้อนหรือพลังงานใต้พิภพ
ผสมผสานธรรมชาติกับเทคโนโลยีอย่างกลมกลืน
เสี่ยงต่อความปลอดภัยจากการอยู่ใกล้แหล่งน้ำและผู้คน
Data Center Bunker: ดาต้าเซ็นเตอร์ใต้ดิน
ใช้พื้นที่รกร้าง เช่น อุโมงค์เก่า หรือสถานีรถไฟใต้ดิน
ได้เปรียบด้านการระบายความร้อนตามธรรมชาติและความปลอดภัย
อาจมีข้อจำกัดด้านอุณหภูมิใต้ดินที่ไม่เหมาะสม
Neptune Liquid Cooling: เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่ของ Lenovo
ดึงความร้อนออกจากแหล่งกำเนิดได้ถึง 98%
ลดการใช้พลังงานเมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ
แรงผลักดันจาก AI และกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม
ความต้องการประมวลผล AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
กฎด้านการปล่อยคาร์บอนและความมั่นคงของข้อมูลผลักดันให้ต้องออกแบบใหม่
คำเตือน: ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
Floating Cloud อาจถูกโจมตีหรือควบคุมได้ยาก
Data Spa เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลและอุบัติเหตุจากน้ำ
คำเตือน: ความท้าทายด้านการใช้งานจริง
แนวคิดเหล่านี้ยังเป็นต้นแบบ ไม่พร้อมใช้งานในเชิงพาณิชย์
ต้องใช้การลงทุนสูงและการทดสอบด้านวิศวกรรมอย่างเข้มข้น
https://www.techradar.com/pro/lenovo-goes-literal-with-its-view-of-the-future-of-the-cloud-heres-what-it-thinks-future-data-centers-will-really-look-like
☁️ Lenovo เปิดวิสัยทัศน์สุดล้ำ: ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งอนาคตจะลอยฟ้า แช่น้ำร้อน และอยู่ใต้ดิน!
Lenovo เผยแนวคิดสุดล้ำสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคต ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่รวมถึงการออกแบบเพื่อความยั่งยืนและประสิทธิภาพด้านพลังงาน โดยเสนอ 3 รูปแบบใหม่ ได้แก่ “Floating Cloud” ลอยเหนือพื้นโลก, “Data Spa” แช่น้ำร้อนจากพลังงานใต้พิภพ และ “Data Center Bunker” ฝังใต้ดินเพื่อความปลอดภัยและการระบายความร้อนตามธรรมชาติ
แนวคิดเหล่านี้เกิดจากความต้องการเร่งด่วนในการรองรับการเติบโตของ AI และการใช้พลังงานมหาศาลของระบบประมวลผลยุคใหม่ ซึ่งดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป
✅ Floating Cloud: ดาต้าเซ็นเตอร์ลอยฟ้า
➡️ ลอยอยู่ระหว่าง 20–30 กม.เหนือพื้นโลก ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100%
➡️ ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแรงดันสูง
➡️ ลดการใช้พื้นที่บนดิน แต่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากการโจมตีทางอากาศ
✅ Data Spa: ดาต้าเซ็นเตอร์แช่น้ำร้อน
➡️ ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำพุร้อนหรือพลังงานใต้พิภพ
➡️ ผสมผสานธรรมชาติกับเทคโนโลยีอย่างกลมกลืน
➡️ เสี่ยงต่อความปลอดภัยจากการอยู่ใกล้แหล่งน้ำและผู้คน
✅ Data Center Bunker: ดาต้าเซ็นเตอร์ใต้ดิน
➡️ ใช้พื้นที่รกร้าง เช่น อุโมงค์เก่า หรือสถานีรถไฟใต้ดิน
➡️ ได้เปรียบด้านการระบายความร้อนตามธรรมชาติและความปลอดภัย
➡️ อาจมีข้อจำกัดด้านอุณหภูมิใต้ดินที่ไม่เหมาะสม
✅ Neptune Liquid Cooling: เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่ของ Lenovo
➡️ ดึงความร้อนออกจากแหล่งกำเนิดได้ถึง 98%
➡️ ลดการใช้พลังงานเมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ
✅ แรงผลักดันจาก AI และกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม
➡️ ความต้องการประมวลผล AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
➡️ กฎด้านการปล่อยคาร์บอนและความมั่นคงของข้อมูลผลักดันให้ต้องออกแบบใหม่
‼️ คำเตือน: ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
⛔ Floating Cloud อาจถูกโจมตีหรือควบคุมได้ยาก
⛔ Data Spa เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลและอุบัติเหตุจากน้ำ
‼️ คำเตือน: ความท้าทายด้านการใช้งานจริง
⛔ แนวคิดเหล่านี้ยังเป็นต้นแบบ ไม่พร้อมใช้งานในเชิงพาณิชย์
⛔ ต้องใช้การลงทุนสูงและการทดสอบด้านวิศวกรรมอย่างเข้มข้น
https://www.techradar.com/pro/lenovo-goes-literal-with-its-view-of-the-future-of-the-cloud-heres-what-it-thinks-future-data-centers-will-really-look-like
0 Comments
0 Shares
26 Views
0 Reviews