• “ปชน.” อยู่ไม่ไหวโร่แจงยันปืน 5 กระบอกของสมาชิกพรรคปราจีนฯมีทะเบียนไม่ใช่ปืนเถื่อน-พกพาในที่สาธารณะ ชี้ไม่ได้ทำผิดเมินขับพ้นพรรค บอกตอนนี้เจ้าตัวไม่ไม่มีตำแหน่ง โบ้ยฝ่ายตรงข้ามวางงาน

    วันที่ (20 ธ.ค.2567) ที่รัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 นำหมายศาล เข้าตรวจค้นบ้านพักของประธานสาขาพรรคประชาชนจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมตรวจยึดอาวุธปืน 5 กระบอกและเครื่องกระสุน โดยแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ว่า ผู้ที่ปรากฏในข่าวดังกล่าวไม่ใช่ผอ.พรรค นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม เคยเป็นอดีตผู้ประสานงาน จ.ปราจีนบุรี ของพรรคก้าวไกล และเคยเป็นผู้ช่วย สส. ของน.ส.เบญจา แสงจันทร์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เมื่อน.ส.เบญจาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง นายสุเมธจึงไม่ได้เป็นทั้งผู้ช่วย สส. และผู้ประสานงานประจำจังหวัดแล้ว แต่ก่อนหน้านี้นายสุเมธ เป็นประธานคัดเลือกผู้สมัครท้องถิ่นปราจีนบุรี ซึ่งมันจบไปแล้ว ปัจจุบันเป็นนายสุเมธ ไสลวงษ์ ที่เป็น ผอ.พรรคประชาชน จ.ปราจีนบุรี ไม่ใช่นายสุเมธที่ถูกจับกุมเรื่องอาวุธปืน อาจจะเป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากชื่อสุเมธเหมือนกัน ยืนยันว่าขณะนี้นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ในพรรคเนื่องจากการคัดเลือกผู้สมัครท้องถิ่นจบเรียบร้อย เราได้ผู้สมัครและประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000122229

    #MGROnline #รองโฆษกพรรคประชาชน #พรรคประชาชน

    “ปชน.” อยู่ไม่ไหวโร่แจงยันปืน 5 กระบอกของสมาชิกพรรคปราจีนฯมีทะเบียนไม่ใช่ปืนเถื่อน-พกพาในที่สาธารณะ ชี้ไม่ได้ทำผิดเมินขับพ้นพรรค บอกตอนนี้เจ้าตัวไม่ไม่มีตำแหน่ง โบ้ยฝ่ายตรงข้ามวางงาน • วันที่ (20 ธ.ค.2567) ที่รัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 นำหมายศาล เข้าตรวจค้นบ้านพักของประธานสาขาพรรคประชาชนจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมตรวจยึดอาวุธปืน 5 กระบอกและเครื่องกระสุน โดยแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ว่า ผู้ที่ปรากฏในข่าวดังกล่าวไม่ใช่ผอ.พรรค นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม เคยเป็นอดีตผู้ประสานงาน จ.ปราจีนบุรี ของพรรคก้าวไกล และเคยเป็นผู้ช่วย สส. ของน.ส.เบญจา แสงจันทร์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เมื่อน.ส.เบญจาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง นายสุเมธจึงไม่ได้เป็นทั้งผู้ช่วย สส. และผู้ประสานงานประจำจังหวัดแล้ว แต่ก่อนหน้านี้นายสุเมธ เป็นประธานคัดเลือกผู้สมัครท้องถิ่นปราจีนบุรี ซึ่งมันจบไปแล้ว ปัจจุบันเป็นนายสุเมธ ไสลวงษ์ ที่เป็น ผอ.พรรคประชาชน จ.ปราจีนบุรี ไม่ใช่นายสุเมธที่ถูกจับกุมเรื่องอาวุธปืน อาจจะเป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากชื่อสุเมธเหมือนกัน ยืนยันว่าขณะนี้นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ในพรรคเนื่องจากการคัดเลือกผู้สมัครท้องถิ่นจบเรียบร้อย เราได้ผู้สมัครและประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000122229 • #MGROnline #รองโฆษกพรรคประชาชน #พรรคประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • มอบตัวแล้วมือยิงพ่อ สส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ที่แท้หลานชายเจ้าของร้านข้าวต้มจุดเกิดเหตุ ปมทะเลาะวิวาทถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ลูกสาวยันไม่เกี่ยวการเมืองขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ด้าน ตร.ตั้งข้อหาพยายามฆ่า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000118693

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    มอบตัวแล้วมือยิงพ่อ สส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ที่แท้หลานชายเจ้าของร้านข้าวต้มจุดเกิดเหตุ ปมทะเลาะวิวาทถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ลูกสาวยันไม่เกี่ยวการเมืองขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ด้าน ตร.ตั้งข้อหาพยายามฆ่า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000118693 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 755 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัดบานได้ที เข้มงวดคัดกรองแรงงานต่างด้าว เน้นตะเพิดพวกฝักใฝ่พรรคก้าวไกล-ประชาชวย ที่เข้ามาหาแดรกแต่กลับร่วมบ่.อนทำล..ายชาติ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    รัดบานได้ที เข้มงวดคัดกรองแรงงานต่างด้าว เน้นตะเพิดพวกฝักใฝ่พรรคก้าวไกล-ประชาชวย ที่เข้ามาหาแดรกแต่กลับร่วมบ่.อนทำล..ายชาติ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลไม่รับคดีล้มล้าง ขาดหลักฐานชัดเจน จับตาคดีในมือ กกต.-ปปช.
    .
    ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติยกคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัย
    .
    สำหรับคำร้องที่นายธีรยุทธยื่นมี 6 ประเด็น ประกอบด้วย ประเด็นที่ 1 นายทักษิณสั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่นายทักษิณ ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต
    .
    ประเด็นที่ 2 นายทักษิณสั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา
    .
    ประเด็นที่ 3 นายทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิม ที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
    .
    ประเด็นที่ 4 นายทักษิณสั่งการแทนพรรคเพื่อไทย โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมตรี เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของนายทักษิณ
    .
    ประเด็นที่ 5 นายทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยมีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล
    .
    ประเด็นที่ 6 นายทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยนำนโยบายของนายทักษิณที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา
    .
    ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้แม้ผู้ร้องจะใช้สิทธิยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดแล้วและอัยการสูงสุดไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ อันทำให้ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ก็ตาม แต่การพิจารณาว่า บุคคลใดจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งหมาย และความประสงค์ระดับที่วิญญูชนคาดเห็นได้ว่าน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการกระทำนั้นจะต้องกำลังดำเนินอยู่และไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ
    .
    ข้อกล่าวอ้างในประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3 ถึงประเด็นที่ 6 ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ดังนั้น กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัยในประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3 ถึงประเด็นที่ 6
    .
    สำหรับประเด็นที่ 2 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ 2) มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
    .
    ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก จำนวน 7 คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ เห็นว่า ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
    .
    ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 2 คน คือ นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายนภดล เทพพิทักษ์ เห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผล เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้
    .
    ด้านดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย อดีตส.ว. แสดงความคิดเห็นว่าแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ์ สุวรรณเกษรที่ขอให้สั่งหยุดการกระทำของคุณทักษิณและ พท.ทั้ง 6 ประเด็น เพราะข้อเท็จจริงยังไม่เพียงพอที่จะชี้ว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯแต่ข้อเท็จจริงทั้ง 6 ประเด็นก็ยังมีผู้ยื่นคำร้องต่อ ปปช.และ กกต.กล่าวหานายทักษิณ พรรคเพื่อไทยและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องร่วมทำผิดตามกฎหมายอื่นที่มีโทษรุนแรงทั้งต่อบุคคลและพรรคการเมือง ที่อยู่ระหว่างการเสนอเรื่องไปสิ้นสุดการพิจารณาที่ศาลยุติธรรมหรือ ศาลรัฐธรรมนูญได้อีกเป็นหลายกรณี ประชาชนพลเมืองดีของไทยจึงยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องติดตามกันต่อไป
    ..............
    Sondhi X
    ศาลไม่รับคดีล้มล้าง ขาดหลักฐานชัดเจน จับตาคดีในมือ กกต.-ปปช. . ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติยกคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัย . สำหรับคำร้องที่นายธีรยุทธยื่นมี 6 ประเด็น ประกอบด้วย ประเด็นที่ 1 นายทักษิณสั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่นายทักษิณ ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต . ประเด็นที่ 2 นายทักษิณสั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา . ประเด็นที่ 3 นายทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิม ที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข . ประเด็นที่ 4 นายทักษิณสั่งการแทนพรรคเพื่อไทย โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมตรี เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของนายทักษิณ . ประเด็นที่ 5 นายทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยมีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล . ประเด็นที่ 6 นายทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยนำนโยบายของนายทักษิณที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา . ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้แม้ผู้ร้องจะใช้สิทธิยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดแล้วและอัยการสูงสุดไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ อันทำให้ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ก็ตาม แต่การพิจารณาว่า บุคคลใดจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งหมาย และความประสงค์ระดับที่วิญญูชนคาดเห็นได้ว่าน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการกระทำนั้นจะต้องกำลังดำเนินอยู่และไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ . ข้อกล่าวอ้างในประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3 ถึงประเด็นที่ 6 ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ดังนั้น กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัยในประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3 ถึงประเด็นที่ 6 . สำหรับประเด็นที่ 2 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ 2) มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย . ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก จำนวน 7 คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ เห็นว่า ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง . ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 2 คน คือ นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายนภดล เทพพิทักษ์ เห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผล เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้ . ด้านดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย อดีตส.ว. แสดงความคิดเห็นว่าแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ์ สุวรรณเกษรที่ขอให้สั่งหยุดการกระทำของคุณทักษิณและ พท.ทั้ง 6 ประเด็น เพราะข้อเท็จจริงยังไม่เพียงพอที่จะชี้ว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯแต่ข้อเท็จจริงทั้ง 6 ประเด็นก็ยังมีผู้ยื่นคำร้องต่อ ปปช.และ กกต.กล่าวหานายทักษิณ พรรคเพื่อไทยและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องร่วมทำผิดตามกฎหมายอื่นที่มีโทษรุนแรงทั้งต่อบุคคลและพรรคการเมือง ที่อยู่ระหว่างการเสนอเรื่องไปสิ้นสุดการพิจารณาที่ศาลยุติธรรมหรือ ศาลรัฐธรรมนูญได้อีกเป็นหลายกรณี ประชาชนพลเมืองดีของไทยจึงยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องติดตามกันต่อไป .............. Sondhi X
    Sad
    Like
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1713 มุมมอง 0 รีวิว
  • ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน "ชัยธวัช" อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลรวย 19.3 ล้านบาท ‘อภิชาติ ศิริสุนทร’ 13.2 ล้านบาท ‘ก่อแก้ว พิกุลทอง’ อู้ฟู่ 263 ล้านบาท มีหนี้สินแค่แสนกว่าบาท เก็บปืน เครื่องประดับ นาฬิกาหรู ทองคำแท่ง กระเป๋าแบรนด์เนมเพียบ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000111988

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน "ชัยธวัช" อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลรวย 19.3 ล้านบาท ‘อภิชาติ ศิริสุนทร’ 13.2 ล้านบาท ‘ก่อแก้ว พิกุลทอง’ อู้ฟู่ 263 ล้านบาท มีหนี้สินแค่แสนกว่าบาท เก็บปืน เครื่องประดับ นาฬิกาหรู ทองคำแท่ง กระเป๋าแบรนด์เนมเพียบ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000111988 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    Yay
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1419 มุมมอง 1 รีวิว
  • 'พิธา' โต้เดือด 'ทักษิณ' เกลียดรัฐประหาร แต่จับมือลุง
    .
    ช่วงนี้อุดรธานีต้องคอยต้อนรับผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อไม่นานมานี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งลงทุนลงแรงช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยทิ้งวาทกรรมให้มากมายก่อนจากไป มาคราวนี้ถึงคิว 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ช่วยผู้สมัครของพรรคประชาชนบ้าง พร้อมกับประกาศว่าอีก 9 ปีจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี
    .
    ประโยคเด็ดที่ว่านี้เกิดระหว่าง 'พิธา' เดินหาเสียงที่ตลาดนิยม อ.บ้านผือ อุดรธานี และได้พบกับนางสวาท วังดู่ อายุ 86 ปี ที่เดินทางมาให้กำลังใจ โดยพิธาบอกว่า "ขอให้คุณยายอายุมั่นขวัญยืนนะครับคุณยาย รออีก 9 ปี กลับมาจะเป็นนายกฯ ให้ดีกว่านี้"
    .
    จากนั้นอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการตอบโต้พรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ
    .
    “คุณทักษิณ บอกว่าประชาชนยังไม่หายจน เพราะถูกยึดอำนาจไป 2 ครั้ง คุณทักษิณพูดถูก แต่ทำไมไปจับมือกับพรรคจากรัฐประหาร อันนี้ตนเองไม่เข้าใจจริงๆ พี่น้องเข้าใจหรือเปล่า คุณทักษิณก็บอกว่ารู้อยู่แล้วปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาความยากจนประชาชนตลอด 18 ปีที่ผ่านมา มาจากการทำรัฐประหาร เสร็จแล้วสละมือกับฝ่ายประชาธิปไตย ไปจับมือกับพรรค 2 ลุง ไปจับทำไม แบบนี้ไม่อยากจะบอกว่า เกลียดตัวกินไข่ เกียดปลาไหลกินน้ำแกง หรือเปล่า"
    ...............
    Sondhi X
    'พิธา' โต้เดือด 'ทักษิณ' เกลียดรัฐประหาร แต่จับมือลุง . ช่วงนี้อุดรธานีต้องคอยต้อนรับผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อไม่นานมานี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งลงทุนลงแรงช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยทิ้งวาทกรรมให้มากมายก่อนจากไป มาคราวนี้ถึงคิว 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ช่วยผู้สมัครของพรรคประชาชนบ้าง พร้อมกับประกาศว่าอีก 9 ปีจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี . ประโยคเด็ดที่ว่านี้เกิดระหว่าง 'พิธา' เดินหาเสียงที่ตลาดนิยม อ.บ้านผือ อุดรธานี และได้พบกับนางสวาท วังดู่ อายุ 86 ปี ที่เดินทางมาให้กำลังใจ โดยพิธาบอกว่า "ขอให้คุณยายอายุมั่นขวัญยืนนะครับคุณยาย รออีก 9 ปี กลับมาจะเป็นนายกฯ ให้ดีกว่านี้" . จากนั้นอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการตอบโต้พรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ . “คุณทักษิณ บอกว่าประชาชนยังไม่หายจน เพราะถูกยึดอำนาจไป 2 ครั้ง คุณทักษิณพูดถูก แต่ทำไมไปจับมือกับพรรคจากรัฐประหาร อันนี้ตนเองไม่เข้าใจจริงๆ พี่น้องเข้าใจหรือเปล่า คุณทักษิณก็บอกว่ารู้อยู่แล้วปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาความยากจนประชาชนตลอด 18 ปีที่ผ่านมา มาจากการทำรัฐประหาร เสร็จแล้วสละมือกับฝ่ายประชาธิปไตย ไปจับมือกับพรรค 2 ลุง ไปจับทำไม แบบนี้ไม่อยากจะบอกว่า เกลียดตัวกินไข่ เกียดปลาไหลกินน้ำแกง หรือเปล่า" ............... Sondhi X
    Haha
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 913 มุมมอง 1 รีวิว
  • ทักษิณ-ธนาธร โต้เดือด อย่ารื้อโครงสร้าง ม.112 สวนกลับไม่เคยพูด-ตั้งแง่ร่วมรัฐบาล
    .
    ทักษิณให้สัมภาษณ์พาดพิงธนาธร เคยคุยเรื่องมาตรา 112 ว่าตัวเองก็โดน ขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ด้านธนาธรโต้ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับทักษิณ และไม่ใช่เงื่อนไขร่วมรัฐบาล ทักษิณก็รู้ดี เหน็บแทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา
    .
    วันนี้ (15 พ.ย.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พาดพิงเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ว่า นายทักษิณรู้ดีที่สุด ว่าเหตุผลที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 สิ่งที่นายทักษิณกล่าว อาจทำให้คนทั่วเข้าใจไปได้ว่า ตนเคยคุยกับคุณทักษิณเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หรือมีความคิดรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่ได้พูดคุยตกลงอะไรกันเรื่องนี้เลย การพูดคลุมเครือยังเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งต่อพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน เพื่อพยายามสร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชนว่าเหตุที่ดีลร่วมรัฐบาลล่ม เป็นเพราะพรรคก้าวไกลไม่ยอมลดราวาศอกเรื่อง 112
    .
    "มาตรา 112 ไม่ใช่เงื่อนไขการร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลเสนอให้การแก้ไขมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล และเมื่อถูกทักท้วงจากพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นแล้วก็ไม่ยอมถอย มาตรา 112 ไม่เคยอยู่ในเงื่อนไขตั้งแต่แรกต่างหาก ไม่มีอยู่ในเอ็มโอยูร่วมรัฐบาลที่เซ็นร่วมกันและเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะ คุณทักษิณรู้ดีที่สุด ไม่ใช่แกนนำพรรคก้าวไกลมุทะลุ ไม่มีวุฒิภาวะ แต่มีเหตุผลอื่นที่จะไม่ร่วมกัน แล้วใช้มาตรา 112 เป็นข้ออ้างต่างหาก ในทางกลับกัน คุณทักษิณเอง น่าจะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด แทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา" นายธนาธร กล่าว
    .
    นายธนาธร กล่าวว่า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ไม่เคยโฆษณาหรือใช้เรื่องมาตรา 112 เป็นประเด็นหลักในการรณรงค์เพื่อคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง ซึ่งจะตอบหรือพูดเรื่องมาตรา 112 เมื่อถูกสื่อมวลชนหรือประชาชนถามเท่านั้น ตนทราบดีว่าการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่สั่งสมมาหลายสิบปีของประเทศไม่ใช่สิ่งที่ลัดขั้นตอนได้ แต่ต้องทำงานความคิดอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมเห็นชอบร่วมกัน และแก้ปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตนเห็นว่าถ้าไม่แก้ปัญหาโครงสร้าง ก็ปะผุประเทศไทยกันต่อไป ประเทศจะเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน มีแต่การให้คนในสังคมมีวุฒิภาวะพอ กล้ายอมรับปัญหา เผชิญหน้า และค่อยๆ พูดคุยหาทางออกร่วมกัน
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายทักษิณให้สัมภาษณ์ระหว่างช่วยหาเสียงตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ว่า คดีมาตรา 112 เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้สัตยาบันไว้ว่า จะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่แตะเรื่อง 112 แต่จริงๆ แล้วปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ตนก็เป็นเหยื่อรายหนึ่ง ในการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 คนที่รับคดีครั้งแรกบอกว่าเดี๋ยวจะหาว่าไม่จงรักภักดี ฟ้องไปก่อน ทั้งที่หลักฐานไม่มี คนที่สองไม่ฟ้องเดี๋ยวโดนอีก ก็ฟ้อง โดยที่ไม่ได้ดูความถูกต้องของพยานหลักฐาน จึงทำให้การจงรักภักดีและรักสถาบันฯ ไม่ถูกต้อง การจงรักภักดีที่ถูกต้อง คือการรักษากฎหมายที่เป็นธรรม เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ง่ายในการแก้ซึ่งต้องใช้เวลา
    .
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแต่ละเหตุการณ์มีบริบทเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ทั้งเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549, 2557 จนถึงพรรคการเมืองโดนยุบเพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นายทักษิณ กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเคยคุยกับนายธนาธร ว่าตนก็โดน 3 พรรค ต้องไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ดังนั้นขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ถ้าแก้ปัญหาด้วยหลักการ และเอาบ้านเมืองให้อยู่ได้จะดีที่สุด อย่าไปคิดถึงสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่คนไทยเคารพนับถือ ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของสถาบันฯ เราต้องจรรโลงอย่างเดียว ตนไม่ได้บอกว่านายธนาธรหรือพรรคก้าวไกลไม่จงรักภักดี แต่ต้องยึดหลักให้ถูกต้อง อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดที่โฆษณามันอันตรายกว่าความตั้งใจที่จะทำ
    ..............
    Sondhi X
    ทักษิณ-ธนาธร โต้เดือด อย่ารื้อโครงสร้าง ม.112 สวนกลับไม่เคยพูด-ตั้งแง่ร่วมรัฐบาล . ทักษิณให้สัมภาษณ์พาดพิงธนาธร เคยคุยเรื่องมาตรา 112 ว่าตัวเองก็โดน ขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ด้านธนาธรโต้ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับทักษิณ และไม่ใช่เงื่อนไขร่วมรัฐบาล ทักษิณก็รู้ดี เหน็บแทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา . วันนี้ (15 พ.ย.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พาดพิงเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ว่า นายทักษิณรู้ดีที่สุด ว่าเหตุผลที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 สิ่งที่นายทักษิณกล่าว อาจทำให้คนทั่วเข้าใจไปได้ว่า ตนเคยคุยกับคุณทักษิณเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หรือมีความคิดรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่ได้พูดคุยตกลงอะไรกันเรื่องนี้เลย การพูดคลุมเครือยังเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งต่อพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน เพื่อพยายามสร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชนว่าเหตุที่ดีลร่วมรัฐบาลล่ม เป็นเพราะพรรคก้าวไกลไม่ยอมลดราวาศอกเรื่อง 112 . "มาตรา 112 ไม่ใช่เงื่อนไขการร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลเสนอให้การแก้ไขมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล และเมื่อถูกทักท้วงจากพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นแล้วก็ไม่ยอมถอย มาตรา 112 ไม่เคยอยู่ในเงื่อนไขตั้งแต่แรกต่างหาก ไม่มีอยู่ในเอ็มโอยูร่วมรัฐบาลที่เซ็นร่วมกันและเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะ คุณทักษิณรู้ดีที่สุด ไม่ใช่แกนนำพรรคก้าวไกลมุทะลุ ไม่มีวุฒิภาวะ แต่มีเหตุผลอื่นที่จะไม่ร่วมกัน แล้วใช้มาตรา 112 เป็นข้ออ้างต่างหาก ในทางกลับกัน คุณทักษิณเอง น่าจะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด แทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา" นายธนาธร กล่าว . นายธนาธร กล่าวว่า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ไม่เคยโฆษณาหรือใช้เรื่องมาตรา 112 เป็นประเด็นหลักในการรณรงค์เพื่อคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง ซึ่งจะตอบหรือพูดเรื่องมาตรา 112 เมื่อถูกสื่อมวลชนหรือประชาชนถามเท่านั้น ตนทราบดีว่าการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่สั่งสมมาหลายสิบปีของประเทศไม่ใช่สิ่งที่ลัดขั้นตอนได้ แต่ต้องทำงานความคิดอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมเห็นชอบร่วมกัน และแก้ปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตนเห็นว่าถ้าไม่แก้ปัญหาโครงสร้าง ก็ปะผุประเทศไทยกันต่อไป ประเทศจะเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน มีแต่การให้คนในสังคมมีวุฒิภาวะพอ กล้ายอมรับปัญหา เผชิญหน้า และค่อยๆ พูดคุยหาทางออกร่วมกัน . ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายทักษิณให้สัมภาษณ์ระหว่างช่วยหาเสียงตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ว่า คดีมาตรา 112 เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้สัตยาบันไว้ว่า จะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่แตะเรื่อง 112 แต่จริงๆ แล้วปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ตนก็เป็นเหยื่อรายหนึ่ง ในการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 คนที่รับคดีครั้งแรกบอกว่าเดี๋ยวจะหาว่าไม่จงรักภักดี ฟ้องไปก่อน ทั้งที่หลักฐานไม่มี คนที่สองไม่ฟ้องเดี๋ยวโดนอีก ก็ฟ้อง โดยที่ไม่ได้ดูความถูกต้องของพยานหลักฐาน จึงทำให้การจงรักภักดีและรักสถาบันฯ ไม่ถูกต้อง การจงรักภักดีที่ถูกต้อง คือการรักษากฎหมายที่เป็นธรรม เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ง่ายในการแก้ซึ่งต้องใช้เวลา . ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแต่ละเหตุการณ์มีบริบทเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ทั้งเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549, 2557 จนถึงพรรคการเมืองโดนยุบเพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นายทักษิณ กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเคยคุยกับนายธนาธร ว่าตนก็โดน 3 พรรค ต้องไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ดังนั้นขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ถ้าแก้ปัญหาด้วยหลักการ และเอาบ้านเมืองให้อยู่ได้จะดีที่สุด อย่าไปคิดถึงสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่คนไทยเคารพนับถือ ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของสถาบันฯ เราต้องจรรโลงอย่างเดียว ตนไม่ได้บอกว่านายธนาธรหรือพรรคก้าวไกลไม่จงรักภักดี แต่ต้องยึดหลักให้ถูกต้อง อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดที่โฆษณามันอันตรายกว่าความตั้งใจที่จะทำ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1341 มุมมอง 0 รีวิว
  • อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน
    โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ https://www.facebook.com/surawich.verawan

    การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท.จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้”

    กำลังท้าทายกับกระแสสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นบรรทัดฐานของประเทศ เข้าใจครับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองในคดีที่การรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน แต่นัยของคำสั่งนั้นหากอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองแล้ว จะพบว่า ศาลต้องการให้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อเพิกถอนสิทธิการถือครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ผู้ถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 37 แปลงฟ้องการรถไฟฯ (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8027/2561 และ 842-876/260 ) แต่คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งศาลปกครองหมายรวมถึงแปลงอื่นที่อยู่นอกเหนือแปลงที่นำขึ้นสู่ศาลฎีกาด้วย

    แต่กรมที่ดินซึ่งตั้งกรรมการขึ้นตามคำสั่งศาลปกครองกลับมีมติว่า การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินเขากระโดงทั้งที่ศาลฎีกาชี้แล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯแม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ไม่ได้สั่งการอะไรกรมที่ดิน แต่คำถามว่า มีใครบ้างที่จะเชื่อ

    อนุทินอ้างว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองตั้งขึ้นมาก่อนที่พรรคภูมิใจไทยและตัวเองจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จุดหมายสำคัญก็คือ กรรมการชุดนี้สามารถมีมติได้ในวันที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในกระทรวงมหาดไทย และอนุทินมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีและเมื่อไม่นานมานี้อธิบดีกรมที่ดินคนหนึ่งก็ได้ชิงลาออกไป ซึ่งกล่าวขานกันว่า เพราะปมที่ดินเขากระโดงนั่นเอง

    เป็นที่รู้กันว่า ในจำนวนที่ดิน 800 กว่าแปลงในพื้นที่เขากระโดงนั้น ผู้ถือครองรายใหญ่ก็คือ ตระกูลชิดชอบ ไปถามพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในสภาฯ เพียงแต่วันนี้ พ.ต.อ.ทวีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แน่นอนถึงตอนนี้พ.ต.อ.ทวีก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกับที่เคยหวงแหนสมบัติของชาติในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน

    และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทยก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงในทางพฤตินัย จะเห็นได้ว่าในงานวันเกิดของนายเนวินนั้นข้าราชการระดับสูงที่อยู่ภายใต้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับนั้นจะต้องเข้าไปร่วมงานถึงบุรีรัมย์เพื่อแสดงตัวให้เห็น เพราะเขารู้ว่าใครคือ คนที่ให้คุณให้โทษได้ และในหมู่ข้าราชการก็รู้กันว่า การโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยนั้นคนที่มีบทบาทสำคัญคือใคร

    ก็ต้องรอดูต่อไปว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความยุติธรรมทางกฎหมายที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองอย่างไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน คำสั่งของกรมที่ดินจะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาไหม

    แต่ต้องยอมรับนะครับว่า การเล่นการเมืองอยู่หลังม่านของคนคนหนึ่งวันนี้นั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบคนที่อยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือแม้แต่เป็นผู้บริหารพรรค เพียงแต่เป็นสมาชิกของพรรคที่สามารถเตะตูดหัวหน้าพรรคได้เท่านั้น ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองอยู่หลังฉาก แต่มีอำนาจสั่งการทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคที่ข้าราชการทุกคนต้องเกรงใจและหวั่นกลัว

    มาที่เรื่อง สว.นอกจากในวันนี้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่รู้กันว่า สว.กว่า 150 คนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของใครที่เรียกว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินนั่นเอง แล้วอำนาจที่สำคัญของ สว.ก็คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งทำให้หากใครจะขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวก็จะต้องวิ่งเข้าหาเจ้าของ สว.เพื่อให้ สว.ยกมือให้ หากผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่วุฒิสภามา

    ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกและเป็นอันตรายมากหากอำนาจการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่ในอำนาจของใครบางคนหรือคนเพียงคนเดียวในทางพฤตินัย

    และหากมีการประชุมรัฐสภาคือประชุมร่วมระหว่าง สส. และ สว.เสียงของพรรคภูมิใจไทยและ สว.จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา และการดำเนินการใดที่จะต้องผ่านรัฐสภาเช่น การแก้รัฐธรรมนูญก็จะตกอยู่ภายใต้การกำกับของเจ้าของสว.ที่จะต้องการให้เป็นไปในทิศทางไหนก็ได้

    วันนี้พรรคภูมิใจไทยแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง แต่ก็มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลไปแล้ว แม้ว่า เราจะเห็นอนุทินนอบน้อมต่ออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพร้อมจะยืนเป็นวอลเปเปอร์หรือพี่เลี้ยงของอุ๊งอิ๊งค์ตลอดเวลาก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจึงขบเหลี่ยมอยู่กับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถสลัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลได้

    แล้วคอยดูว่า กรณีที่ดินเขากระโดง แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า ไม่อาจยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการของกรมที่ดินในกรณีที่ดินเขากระโดงได้ แต่ก็ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วเป็นเพียงการแสดงออกไปตามบทบาทที่ตัวเองเล่นอยู่ แต่จะรุกไล่เอาจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจนสุดทางไหม หรือเป็นเพียงการแสดงอำนาจออกมาให้เห็นเพียงเพื่อคะคานแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กันทางการเมืองเท่านั้นเอง

    อิทธิพลของคนโตแห่งบุรีรัมย์ยังสะท้อนอยู่ในองค์กรอิสระอย่าง กกต. เห็นไหมว่า เมื่อไม่นานอยู่ดีๆ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็ออกมาบอกว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกร้องเรียนในลักษณะความผิดที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกลที่ถูกศาลวินิจฉัยยุบพรรคนั้น ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลยไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นยังไม่มีบทสรุปออกมา จึงไม่ใช่เรื่องที่เลขาธิการ กกต.จะออกมาแถลงชี้นำหรือออกมาแถลงแม้หลายคนจะตั้งคำถามว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะใช้เวลานานมากก็ตาม

    วันนี้เราคงเห็นแล้วว่า สำหรับนักการเมืองแล้วระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับผลประโยชน์ของตัวเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่าในบทบาทของคนที่เข้ามาเล่นการเมือง จะมีคนกี่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง และมีกฎเกณฑ์กติกาไหนที่จะตรวจสอบนักการเมืองที่มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและพวกพ้องได้อย่างแท้จริง

    วันนี้เราคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยพรรคสีน้ำเงินจึงเล่นการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น


    ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483

    #Thaitimes
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ https://www.facebook.com/surawich.verawan การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท.จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้” กำลังท้าทายกับกระแสสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นบรรทัดฐานของประเทศ เข้าใจครับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองในคดีที่การรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน แต่นัยของคำสั่งนั้นหากอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองแล้ว จะพบว่า ศาลต้องการให้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อเพิกถอนสิทธิการถือครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ผู้ถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 37 แปลงฟ้องการรถไฟฯ (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8027/2561 และ 842-876/260 ) แต่คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งศาลปกครองหมายรวมถึงแปลงอื่นที่อยู่นอกเหนือแปลงที่นำขึ้นสู่ศาลฎีกาด้วย แต่กรมที่ดินซึ่งตั้งกรรมการขึ้นตามคำสั่งศาลปกครองกลับมีมติว่า การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินเขากระโดงทั้งที่ศาลฎีกาชี้แล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯแม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ไม่ได้สั่งการอะไรกรมที่ดิน แต่คำถามว่า มีใครบ้างที่จะเชื่อ อนุทินอ้างว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองตั้งขึ้นมาก่อนที่พรรคภูมิใจไทยและตัวเองจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จุดหมายสำคัญก็คือ กรรมการชุดนี้สามารถมีมติได้ในวันที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในกระทรวงมหาดไทย และอนุทินมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีและเมื่อไม่นานมานี้อธิบดีกรมที่ดินคนหนึ่งก็ได้ชิงลาออกไป ซึ่งกล่าวขานกันว่า เพราะปมที่ดินเขากระโดงนั่นเอง เป็นที่รู้กันว่า ในจำนวนที่ดิน 800 กว่าแปลงในพื้นที่เขากระโดงนั้น ผู้ถือครองรายใหญ่ก็คือ ตระกูลชิดชอบ ไปถามพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในสภาฯ เพียงแต่วันนี้ พ.ต.อ.ทวีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แน่นอนถึงตอนนี้พ.ต.อ.ทวีก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกับที่เคยหวงแหนสมบัติของชาติในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทยก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงในทางพฤตินัย จะเห็นได้ว่าในงานวันเกิดของนายเนวินนั้นข้าราชการระดับสูงที่อยู่ภายใต้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับนั้นจะต้องเข้าไปร่วมงานถึงบุรีรัมย์เพื่อแสดงตัวให้เห็น เพราะเขารู้ว่าใครคือ คนที่ให้คุณให้โทษได้ และในหมู่ข้าราชการก็รู้กันว่า การโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยนั้นคนที่มีบทบาทสำคัญคือใคร ก็ต้องรอดูต่อไปว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความยุติธรรมทางกฎหมายที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองอย่างไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน คำสั่งของกรมที่ดินจะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาไหม แต่ต้องยอมรับนะครับว่า การเล่นการเมืองอยู่หลังม่านของคนคนหนึ่งวันนี้นั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบคนที่อยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือแม้แต่เป็นผู้บริหารพรรค เพียงแต่เป็นสมาชิกของพรรคที่สามารถเตะตูดหัวหน้าพรรคได้เท่านั้น ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองอยู่หลังฉาก แต่มีอำนาจสั่งการทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคที่ข้าราชการทุกคนต้องเกรงใจและหวั่นกลัว มาที่เรื่อง สว.นอกจากในวันนี้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่รู้กันว่า สว.กว่า 150 คนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของใครที่เรียกว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินนั่นเอง แล้วอำนาจที่สำคัญของ สว.ก็คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งทำให้หากใครจะขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวก็จะต้องวิ่งเข้าหาเจ้าของ สว.เพื่อให้ สว.ยกมือให้ หากผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่วุฒิสภามา ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกและเป็นอันตรายมากหากอำนาจการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่ในอำนาจของใครบางคนหรือคนเพียงคนเดียวในทางพฤตินัย และหากมีการประชุมรัฐสภาคือประชุมร่วมระหว่าง สส. และ สว.เสียงของพรรคภูมิใจไทยและ สว.จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา และการดำเนินการใดที่จะต้องผ่านรัฐสภาเช่น การแก้รัฐธรรมนูญก็จะตกอยู่ภายใต้การกำกับของเจ้าของสว.ที่จะต้องการให้เป็นไปในทิศทางไหนก็ได้ วันนี้พรรคภูมิใจไทยแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง แต่ก็มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลไปแล้ว แม้ว่า เราจะเห็นอนุทินนอบน้อมต่ออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพร้อมจะยืนเป็นวอลเปเปอร์หรือพี่เลี้ยงของอุ๊งอิ๊งค์ตลอดเวลาก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจึงขบเหลี่ยมอยู่กับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถสลัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลได้ แล้วคอยดูว่า กรณีที่ดินเขากระโดง แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า ไม่อาจยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการของกรมที่ดินในกรณีที่ดินเขากระโดงได้ แต่ก็ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วเป็นเพียงการแสดงออกไปตามบทบาทที่ตัวเองเล่นอยู่ แต่จะรุกไล่เอาจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจนสุดทางไหม หรือเป็นเพียงการแสดงอำนาจออกมาให้เห็นเพียงเพื่อคะคานแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กันทางการเมืองเท่านั้นเอง อิทธิพลของคนโตแห่งบุรีรัมย์ยังสะท้อนอยู่ในองค์กรอิสระอย่าง กกต. เห็นไหมว่า เมื่อไม่นานอยู่ดีๆ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็ออกมาบอกว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกร้องเรียนในลักษณะความผิดที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกลที่ถูกศาลวินิจฉัยยุบพรรคนั้น ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลยไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นยังไม่มีบทสรุปออกมา จึงไม่ใช่เรื่องที่เลขาธิการ กกต.จะออกมาแถลงชี้นำหรือออกมาแถลงแม้หลายคนจะตั้งคำถามว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะใช้เวลานานมากก็ตาม วันนี้เราคงเห็นแล้วว่า สำหรับนักการเมืองแล้วระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับผลประโยชน์ของตัวเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่าในบทบาทของคนที่เข้ามาเล่นการเมือง จะมีคนกี่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง และมีกฎเกณฑ์กติกาไหนที่จะตรวจสอบนักการเมืองที่มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและพวกพ้องได้อย่างแท้จริง วันนี้เราคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยพรรคสีน้ำเงินจึงเล่นการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน
    การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1204 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'อุดรธานี' จ่อไฟลุก 'พิธา' พร้อมชน 'ทักษิณ' ชิงดำเก้าอี้นายกอบจ.โค้งสุดท้าย
    .
    ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถือว่ามีความเข้มข้นและดุเดือดอย่างยิ่ง ภายหลังรุ่นใหญ่พรรคเพื่อไทยและรุ่นใหม่พรรคประชาชนเตรียมวัดพลังกันครั้งสำคัญ โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า เตรียมลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน เพื่อช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียงพร้อมกับพบปะประชาชนในหลายอำเภอ
    .
    ขณะที่ พรรคประชาชน 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะบินกลับมาจากสหรัฐอเมริกา มาลงพื้นที่ช่วยนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครของพรรคหาเสียงระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน หลังจากก่อนหน้านี้มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มาร่วมขบวนหาเสียงด้วย เพื่อหวังว่าจังหวัดอุดรธานีจะเป็นจังหวัดแรกที่จะสามารถปักธงส้มในพื้นที่สีแดงให้ได้เป็นครั้งแรก
    .
    ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงรอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า ผลงานของนายทักษิณในอดีต ยังอยู่ในใจพี่น้องประชาชน การเดินทางไปแต่ละที่ประชาชนยังพูดถึงความสำเร็จของท่านในอดีตอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดอื่นๆของนายทักษิณ ถือเป็นเรื่องปกติเพราะท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งจะเดินทางไปไหนก็ได้
    ..............
    Sondhi X
    'อุดรธานี' จ่อไฟลุก 'พิธา' พร้อมชน 'ทักษิณ' ชิงดำเก้าอี้นายกอบจ.โค้งสุดท้าย . ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถือว่ามีความเข้มข้นและดุเดือดอย่างยิ่ง ภายหลังรุ่นใหญ่พรรคเพื่อไทยและรุ่นใหม่พรรคประชาชนเตรียมวัดพลังกันครั้งสำคัญ โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า เตรียมลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน เพื่อช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียงพร้อมกับพบปะประชาชนในหลายอำเภอ . ขณะที่ พรรคประชาชน 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะบินกลับมาจากสหรัฐอเมริกา มาลงพื้นที่ช่วยนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครของพรรคหาเสียงระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน หลังจากก่อนหน้านี้มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มาร่วมขบวนหาเสียงด้วย เพื่อหวังว่าจังหวัดอุดรธานีจะเป็นจังหวัดแรกที่จะสามารถปักธงส้มในพื้นที่สีแดงให้ได้เป็นครั้งแรก . ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงรอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า ผลงานของนายทักษิณในอดีต ยังอยู่ในใจพี่น้องประชาชน การเดินทางไปแต่ละที่ประชาชนยังพูดถึงความสำเร็จของท่านในอดีตอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดอื่นๆของนายทักษิณ ถือเป็นเรื่องปกติเพราะท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งจะเดินทางไปไหนก็ได้ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1088 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จิรัฏฐ์ "สส.แปดริ้ว อดีตพรรคก้าวไกล สู้คดีปลอมแปลงเอกสารใบเกณฑ์ทหาร สด.43 เตรียมพยานเข้าสืบ 4 ปาก ด้านอัยการนำพยานเอกสารมัดตัว ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก 17 ต.ค.ปีหน้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000106259

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "จิรัฏฐ์ "สส.แปดริ้ว อดีตพรรคก้าวไกล สู้คดีปลอมแปลงเอกสารใบเกณฑ์ทหาร สด.43 เตรียมพยานเข้าสืบ 4 ปาก ด้านอัยการนำพยานเอกสารมัดตัว ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก 17 ต.ค.ปีหน้า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000106259 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2189 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..พันธมิตรน่าจะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง,แล้วยึดอำนาจโดยภาคมหาประชาชนจริงครั้งแรกของประเทศไทยเลย,เสียศูนย์แล้วในยุคเก่า,หมาเอาไปแดกและเสียของด้วย,ยึดอำนาจเสร็จ เป็นนายกฯจากภาคมหาประชาชนเลย,ตัังคณะบริหารประเทศเอง ยึดคืนทรัพยากรมีค่ามากมายคืนสู่สามัญแผ่นดินไทยทั้งหมดจากทุกๆเอกชนไม่ว่าใครหน้าไหนร่วมเอกชนต่างชาติด้วย,คืนมาเป็นของแผ่นดินไทยใหม่หมด อาทิบ่อปิโตรเลียมบ่อน้ำมันทั้งบนบกบนทะเล,บ่อทองคำ เป็นต้นซึ่งมีมากมายตีมูลค่าเป็นตังทุกๆทรัพยากรมีค่าของชาติกว่าแสนล้านล้านล้านแน่นอน พื้นๆคือแสนล้านล้านบาทอย่างสบาย,เมื่อชาติเรามีวัตถุดิบเป็นของตนเองจากอดีตที่ฝรั่งปล้นชิงบ่อน้ำมันเราก็ว่าเป็นต้น เราไม่สามารถทำอะไรสะดวกรื่นไหลใดๆเลย อเมริกาฝ่ายดำอีลิทแรปทีเลี่ยนยิวผสมพันธุ์ท่านลอร์ดมันยึดครองไทยเบื้องหลังก็ว่า,เมื่อเราได้คืนทั้งหมดมันย่อมง่ายที่จะเจริญรุ่งเรืองสาระพัดทิศรอบด้านสะดวกสบายค้าขายควบคุมต้นทุนและแบ่งปันมิตรสหายชาติที่ขาดแคลนได้สบาย ในเอเชียเราเองร่วมกัน,ปัญหาในเอเชียทั้งหมดเพราะฝรั่งนี้ล่ะ ยุยงก่อกวนแทรกแซงไปทั่วแบบunมายุ่งวุ่นวายคดียุบพรรคก้าวไกลและบอกเราให้รับเลี้ยงดูคนพม่าด้วยโน้นธรรมดาที่ไหน,
    ..พันธมิตรจะมารุ่งโรจน์อีกแน่,คนเก่งคนดีๆแค่เตรียมอุดมฯขึ้นร่วมปกครองบ้านเมืองสู่ยุคศิวิไลซ์แค่นั้น,เรายังมีคนไทย คนดี คนเก่งๆคนล้ำคู่คุณธรรมความดีที่รักชาติบ้านเมืองในหมู่พันธมิตรอีกเพรียบ.,สามารถผลักดันคนรุ่นหลังเรานี้สามัคคีปกป้องชาติและแผ่นดินไทยเราได้สบายมาก.
    ..พันธมิตรน่าจะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง,แล้วยึดอำนาจโดยภาคมหาประชาชนจริงครั้งแรกของประเทศไทยเลย,เสียศูนย์แล้วในยุคเก่า,หมาเอาไปแดกและเสียของด้วย,ยึดอำนาจเสร็จ เป็นนายกฯจากภาคมหาประชาชนเลย,ตัังคณะบริหารประเทศเอง ยึดคืนทรัพยากรมีค่ามากมายคืนสู่สามัญแผ่นดินไทยทั้งหมดจากทุกๆเอกชนไม่ว่าใครหน้าไหนร่วมเอกชนต่างชาติด้วย,คืนมาเป็นของแผ่นดินไทยใหม่หมด อาทิบ่อปิโตรเลียมบ่อน้ำมันทั้งบนบกบนทะเล,บ่อทองคำ เป็นต้นซึ่งมีมากมายตีมูลค่าเป็นตังทุกๆทรัพยากรมีค่าของชาติกว่าแสนล้านล้านล้านแน่นอน พื้นๆคือแสนล้านล้านบาทอย่างสบาย,เมื่อชาติเรามีวัตถุดิบเป็นของตนเองจากอดีตที่ฝรั่งปล้นชิงบ่อน้ำมันเราก็ว่าเป็นต้น เราไม่สามารถทำอะไรสะดวกรื่นไหลใดๆเลย อเมริกาฝ่ายดำอีลิทแรปทีเลี่ยนยิวผสมพันธุ์ท่านลอร์ดมันยึดครองไทยเบื้องหลังก็ว่า,เมื่อเราได้คืนทั้งหมดมันย่อมง่ายที่จะเจริญรุ่งเรืองสาระพัดทิศรอบด้านสะดวกสบายค้าขายควบคุมต้นทุนและแบ่งปันมิตรสหายชาติที่ขาดแคลนได้สบาย ในเอเชียเราเองร่วมกัน,ปัญหาในเอเชียทั้งหมดเพราะฝรั่งนี้ล่ะ ยุยงก่อกวนแทรกแซงไปทั่วแบบunมายุ่งวุ่นวายคดียุบพรรคก้าวไกลและบอกเราให้รับเลี้ยงดูคนพม่าด้วยโน้นธรรมดาที่ไหน, ..พันธมิตรจะมารุ่งโรจน์อีกแน่,คนเก่งคนดีๆแค่เตรียมอุดมฯขึ้นร่วมปกครองบ้านเมืองสู่ยุคศิวิไลซ์แค่นั้น,เรายังมีคนไทย คนดี คนเก่งๆคนล้ำคู่คุณธรรมความดีที่รักชาติบ้านเมืองในหมู่พันธมิตรอีกเพรียบ.,สามารถผลักดันคนรุ่นหลังเรานี้สามัคคีปกป้องชาติและแผ่นดินไทยเราได้สบายมาก.
    ความจริงมีหนึ่งเดียว#3 : การเดินครั้งสุดท้ายของสนธิ

    'สนธิ' ประกาศจะทำ 3 เรื่อง ใครทุจริตผิดจริยธรรม เจอพันธมิตรฯแน่ นอกจากนี้ สนธิยังทิ้งมรดกชิ้นสุดท้ายให้คนไทย นั่นคือ แอพพลิเคชั่น Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 2793 0 รีวิว
  • อเมริกามีไม่ต่ำกว่า10,000ลูกกระจายไปทั่วในตาสมุนขี้ข้ารับใช้อเมริกาและเก็บในชั้นใต้ดินตรึม,อิสราเอลเคยได้ยินมาลอยๆว่ามีกว่า100ลูกอาจถึง1,000ลูกนิวเคลียร์ก็ได้ตามชั้นใต้ดิน,อิหร่านก็มีตรึมจริง,พวกนี้ขนส่งผ่านรถไฟฟ้าความเร็วสูงใต้ผิวเปลือกโลก,ผีบ้ามโนเอาเองว่า ในอดีตๆที่เราพบเห็นการระเบิดแผ่นดินไหวทั้งหลาย นั้นอาจคือการระเบิดเจาะทำถนนหนทางรถไฟฟ้าล้ำๆก็ว่า บางสายวิ่งที่ความเร็วกว่า2-3พันกม.ต่อนาทีเลย,มันเชื่อมทวีปโลกหากันได้หมด,ที่เห็นๆบนผิวโลกแค่ฐานเด็กๆหลอกๆ,อุดรเราที่เห็นฐานล้างๆอเมริกาสร้างแล้วเผาทิ้งทำลายหลักฐาน ใต้ฐานแบบอู่ตะเภาหรือกทม.ที่อุดรก็มีสายอุโมงค์ตรึมล่ะอาจเป็นพรุนเป็นโพรงทั่วอีสานทะลุลาวไปจีนถึงเขื่อนสามผาแหล่งค้ามนุษย์ฟอกเงินค้าอวัยวะร่วมถึงbtcที่ปั่นๆตรึม,ไฟฟ้าเพียงพอ เครื่องขุดปั่นระดับโลกโน้น,เชื่อมแอเรีย51เชื่อมอิสราเอลยูเครนวาติกันตรึมอีก,
    ..ที่แน่ๆสมุนท่านลอร์ดในไทยเยอะจริงๆ เร่งงานบ่อน้ำมันไทยเขมรก็ท่านลอร์ดสั่งให้รีบดำเนินการแน่ๆจะเสียแผนagendaควบคุมทาสโลกก็ด้วย.
    ..ถ้าทหารพระราชาเราจะจัดการต้องเร่งรีบเคลียร์เลย,หมากเกมส์ต่างๆจะหายทันที ไทยเราจะรอด ความโกลาหลต่างๆจะควบคุมได้ ปลอดภัยทุกๆตารางนิ้วแก่คนไทยเราเอง,และเร่งรีบผลักดันต่างด้าว&ต่างชาติที่มิใช่สัญชาติไทยออกจากประเทศไทยทั้งหมดชั่วคราวอย่างเร่งด่วนทั้งหมดโดยเร็วคนพวกนี้จะเป็นมือเท้าสร้างความโกลาหลในไทยอย่างง่ายๆและเจ้าหน้าที่เราจะระวังภัยลำบาก,ควบคุมยาก&เปิดโอกาสให้กมากเกมส์ที่เป็นมือชั่วพร้อมแทรกแซงแบบยุบพรรคก้าวไกลหรือบอกไทยชุบเลี้ยงพม่าทัังหมดนั้นล่ะแทรกแซงสบายๆ,ไทยจะเป็นกลางลำบาก,ภัยหรือระเบิดนิวเคลียร์จะลงไทย คนอเมริกามันลงอุโมงค์ใต้ดินที่ขุดไว้แล้วทางภาคเหนือและกระจายอยู่ทั่วไทยทั้งที่เก่าและที่ใหม่แน่นอนพวกมันจะช่วยแค่คนของชาติมัน,คนไทยจะแย่,ตัดตอนคือถีบต่างด้าวและต่างชาติออกไปก่อนทั้งหมดดีที่สุดก่อนสิ้นปีนี้แล้วเราจะเห็นศัตรูข้าศึกบวกภัยของไทยได้สะดวกชัดเจนขึ้นอีกหลายร้อยเท่า.
    อเมริกามีไม่ต่ำกว่า10,000ลูกกระจายไปทั่วในตาสมุนขี้ข้ารับใช้อเมริกาและเก็บในชั้นใต้ดินตรึม,อิสราเอลเคยได้ยินมาลอยๆว่ามีกว่า100ลูกอาจถึง1,000ลูกนิวเคลียร์ก็ได้ตามชั้นใต้ดิน,อิหร่านก็มีตรึมจริง,พวกนี้ขนส่งผ่านรถไฟฟ้าความเร็วสูงใต้ผิวเปลือกโลก,ผีบ้ามโนเอาเองว่า ในอดีตๆที่เราพบเห็นการระเบิดแผ่นดินไหวทั้งหลาย นั้นอาจคือการระเบิดเจาะทำถนนหนทางรถไฟฟ้าล้ำๆก็ว่า บางสายวิ่งที่ความเร็วกว่า2-3พันกม.ต่อนาทีเลย,มันเชื่อมทวีปโลกหากันได้หมด,ที่เห็นๆบนผิวโลกแค่ฐานเด็กๆหลอกๆ,อุดรเราที่เห็นฐานล้างๆอเมริกาสร้างแล้วเผาทิ้งทำลายหลักฐาน ใต้ฐานแบบอู่ตะเภาหรือกทม.ที่อุดรก็มีสายอุโมงค์ตรึมล่ะอาจเป็นพรุนเป็นโพรงทั่วอีสานทะลุลาวไปจีนถึงเขื่อนสามผาแหล่งค้ามนุษย์ฟอกเงินค้าอวัยวะร่วมถึงbtcที่ปั่นๆตรึม,ไฟฟ้าเพียงพอ เครื่องขุดปั่นระดับโลกโน้น,เชื่อมแอเรีย51เชื่อมอิสราเอลยูเครนวาติกันตรึมอีก, ..ที่แน่ๆสมุนท่านลอร์ดในไทยเยอะจริงๆ เร่งงานบ่อน้ำมันไทยเขมรก็ท่านลอร์ดสั่งให้รีบดำเนินการแน่ๆจะเสียแผนagendaควบคุมทาสโลกก็ด้วย. ..ถ้าทหารพระราชาเราจะจัดการต้องเร่งรีบเคลียร์เลย,หมากเกมส์ต่างๆจะหายทันที ไทยเราจะรอด ความโกลาหลต่างๆจะควบคุมได้ ปลอดภัยทุกๆตารางนิ้วแก่คนไทยเราเอง,และเร่งรีบผลักดันต่างด้าว&ต่างชาติที่มิใช่สัญชาติไทยออกจากประเทศไทยทั้งหมดชั่วคราวอย่างเร่งด่วนทั้งหมดโดยเร็วคนพวกนี้จะเป็นมือเท้าสร้างความโกลาหลในไทยอย่างง่ายๆและเจ้าหน้าที่เราจะระวังภัยลำบาก,ควบคุมยาก&เปิดโอกาสให้กมากเกมส์ที่เป็นมือชั่วพร้อมแทรกแซงแบบยุบพรรคก้าวไกลหรือบอกไทยชุบเลี้ยงพม่าทัังหมดนั้นล่ะแทรกแซงสบายๆ,ไทยจะเป็นกลางลำบาก,ภัยหรือระเบิดนิวเคลียร์จะลงไทย คนอเมริกามันลงอุโมงค์ใต้ดินที่ขุดไว้แล้วทางภาคเหนือและกระจายอยู่ทั่วไทยทั้งที่เก่าและที่ใหม่แน่นอนพวกมันจะช่วยแค่คนของชาติมัน,คนไทยจะแย่,ตัดตอนคือถีบต่างด้าวและต่างชาติออกไปก่อนทั้งหมดดีที่สุดก่อนสิ้นปีนี้แล้วเราจะเห็นศัตรูข้าศึกบวกภัยของไทยได้สะดวกชัดเจนขึ้นอีกหลายร้อยเท่า.
    ตุลาเดือด?
    เพนตากอน บอกว่าเป็นข่าวที่ตั้งใจปกปิดแต่ (ตั้งใจให้ ) รั่ว จนรู้ไปทั้งโลกว่า “ สหรัฐหนุนอิสราเอลใช้นิวเคลียร์จัดการกับอิหร่าน”
    ในคำให้สัมภาษณ์ของโฆษกรัฐบาล ตามคลิปนี้ (ในcomment) ยืนยันว่า แท้จริงสนับสนุนให้จัดการ

    ทีนี้อะไรจะเกิดขึ้น หรือที่ทำเป็นข่าวรั่วออกไปเพื่อจะเป็นการข่มขู่ให้ไม่ทำสงครามต่อ (คิดในแง่ดี)
    หรือ เป็นการแสดงความแข็งแกร่งมีอิทธิพลเต็มที่ว่าเอาแน่
    แต่ขณะนี้ BRICS เริ่มมีการประชุมและที่สำคัญเป็นการ dethrone dollar ถอดดอลล่าร์ออกจากสกุลสำคัญของโลก ในขณะเดียวกัน เป็นการกระชับความสัมพันธ์และความมั่นคงไม่ใช่แต่เศรษฐกิจแต่เป็นเรื่องทางการทหารและการปกป้องพันธมิตรในเครือ
    และจีนขณะนี้ประกาศให้เตรียมตัวภาวะสงครามเต็มที่ ไม่นับไต้หวันซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่ไม่น่าจะลุยกัน มั้ย?
    เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ประกาศว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง และ ทำลายพื้นที่บัฟเฟอร์ระหว่างประเทศไปแล้ว

    ยูเครนกับรัสเซีย คล้ายกับฝ่ายแรกขาดทุนต่อเนื่อง และขอปัจจัยจากตะวันตกอีกมหาศาลนัยว่า เป็นกำแพงยอมตาย เพื่อปกป้องยุโรปและสหรัฐ (จริงหรือ?)

    และตามที่ศาสตราจารย์ Jeffrey Sachs ให้ความเห็นต่อเนื่องว่าเหมือนกับอิสราเอลสามารถชักนำสหรัฐได้ตลอดทุกรัฐบาลและเพื่อให้คงอำนาจไว้ทั้งสองฝ่าย และอิสราเอลจะได้บรรลุจุดประสงค์ของ greater Israel ตามแผนที่ที่ได้แสดงว่าจะรวบ ตะวันออกกลางให้หมด และสหรัฐยังคงเป็น นัมเบอร์วัน
    จึงดูไม่น่าแปลกใจที่ อิสราเอล ทำการลดประชากรอย่างต่อเนื่องในกาซาร์ และพยายามในเลบานอน และประเทศอื่นๆ จะให้สูญพันธุ์เลยหรือ?
    คำถามคือใครจะยอมและศักยภาพทาง
    ขีปนาวุธและนิวเคลียร์ ของภาคีต้านอิสราเอลมีมหาศาลเช่นกันรวมทั้งมีจีน เกาหลีเหนือ รัสเซียอยู่ด้วย
    Deep state New World order
    คิดคำนึงยืดยาว คงเป็นเพราะ
    • ประเทศไทยใกล้จะกลายเป็นมหาอำนาจของโลกแล้ว เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เพราะที่อื่นรบกันไม่เหลือ
    • ข้อสำคัญประเทศไทยต้องรีบกำจัดการคอรัปชั่น การโกงหั่นแหลก ความโลภบ้าคลั่ง สถาบันองค์กรฉิบหาย จากผู้บริหาร
    และไทยจะได้เป็นแผ่นดินทองจริง
    • แต่ต้องเอาผีโกงเหล่านี้ไป ถ่วงน้ำโสโครกให้หมดชั่วกัปชั่วกัลป์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุด ขอทราบการดำเนินการ-รวบรวมหลักฐาน ตามคำร้อง "ธีรยุทธ " ปม "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครองฯ ภายใน 15 วัน

    22 ตุลาคม .2567- ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นเป็นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 (เรื่องพิจารณาที่ 36/2567)

    นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 3) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 6 ประเด็น ดังนี้

    ประเด็นที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต

    ประเด็นที่ 2 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา

    ประเด็นที่ 3 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิมที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธธธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

    ประเด็นที่ 4 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการแทนผู้ถูกร้องที่ 2 โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมตรี เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของผู้ถูกร้องที่ 1

    ประเด็นที่ 5 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

    ประเด็นที่ 6 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 นำนโยบายของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา

    ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2567 ขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำ แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสาม ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญญเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกกระทำการดังกล่าวและให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกยินยอมให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการดังกล่าว

    ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในชั้นนี้ ให้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/AQ6ESAWFP4idRqEr/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุด ขอทราบการดำเนินการ-รวบรวมหลักฐาน ตามคำร้อง "ธีรยุทธ " ปม "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครองฯ ภายใน 15 วัน 22 ตุลาคม .2567- ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นเป็นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 (เรื่องพิจารณาที่ 36/2567) นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 3) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 6 ประเด็น ดังนี้ ประเด็นที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต ประเด็นที่ 2 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา ประเด็นที่ 3 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิมที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธธธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประเด็นที่ 4 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการแทนผู้ถูกร้องที่ 2 โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมตรี เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของผู้ถูกร้องที่ 1 ประเด็นที่ 5 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ประเด็นที่ 6 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 นำนโยบายของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2567 ขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำ แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสาม ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญญเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกกระทำการดังกล่าวและให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกยินยอมให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการดังกล่าว ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในชั้นนี้ ให้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/AQ6ESAWFP4idRqEr/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 781 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทักษิณ พท.มีเสียว คดีล้มล้าง ยุบพรรค ศาล รธน.ขอเคลียร์ อสส. ก่อน 15 วัน
    .
    วันนี้ (22ต.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายในคำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 โดยกล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข 6 ประเด็น ประกอบด้วย ประเด็นที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาล ตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษ จำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต
    .
    ประเด็นที่ 2 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตย ทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา
    .
    ประเด็นที่ 3 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิมที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้าง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
    .
    ประเด็นที่ 4 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการแทนผู้ถูกร้องที่ 2 โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่น ที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของผู้ถูกร้องที่ 1
    .
    ประเด็นที่ 5 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล
    .
    ประเด็นที่ 6 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 นำนโยบายของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา
    .
    โดยนายธีรยุทธได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 ขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำ แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสาม นายธีรยุทธจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกกระทำการดังกล่าว และให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกยินยอมให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการดังกล่าว
    .
    ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาของ ศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในชั้นนี้ ให้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่า ได้ดำเนินการตามคำร้องของนายธีรยุทธไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ
    ..............
    Sondhi X
    ทักษิณ พท.มีเสียว คดีล้มล้าง ยุบพรรค ศาล รธน.ขอเคลียร์ อสส. ก่อน 15 วัน . วันนี้ (22ต.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายในคำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 โดยกล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข 6 ประเด็น ประกอบด้วย ประเด็นที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาล ตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษ จำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต . ประเด็นที่ 2 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตย ทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา . ประเด็นที่ 3 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิมที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้าง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข . ประเด็นที่ 4 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการแทนผู้ถูกร้องที่ 2 โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่น ที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของผู้ถูกร้องที่ 1 . ประเด็นที่ 5 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล . ประเด็นที่ 6 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 นำนโยบายของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา . โดยนายธีรยุทธได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 67 ขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำ แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสาม นายธีรยุทธจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกกระทำการดังกล่าว และให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกยินยอมให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการดังกล่าว . ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาของ ศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในชั้นนี้ ให้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่า ได้ดำเนินการตามคำร้องของนายธีรยุทธไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1171 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..แปลกนะ,ถ้ากรณีซื้อกินซื้อใช้เบื้องต้นแบบนี้,เครือข่ายขายตรงมีมากมายเลยล่ะ,คนไปสมัครสมาชิกเสียตังหลักร้อยหลักพันหลักหมื่นหรือหลักแสนหลักล้านเนียนๆเลยล่ะ,อาทิขายตรงที่เห็นชัดจากฝรั่งตะวันตกโซนท่านลอร์ดเหมือนกันก็แอมเวย์นี้ล่ะตรึม,นักศึกษา&ชาวบ้านเสียตังเสียเงินเสียทองเสียเวลากันมากมาย,สิ้นอายุสมาชิกก็ตัดออกจากระบบแล้ว,หัวได้เต็มๆแน่ๆไม่ได้ต่างจากพวกนี้หรอก,mlmควรไม่มีในประเทศไทยจริงๆ ขายฝันบวกรักษายอดในตัวแบบสไตล์ทาสกิจการพื้นๆอยู่แล้ว ไม่ทำงาน หยุดก็หลุดออกจากระบบ,คนมาก่อนได้เต็มยึดทั้งทางตรงทางอ้อม ติดสายบ้าง ต่อตรงระดับบนบ้าง พวกเหี้ยนี้ออกแบบระบบโง่ๆที่ไหน เนียนๆแบบอ้างกฎหมายว่าถูกกฎหมายโน้น,ถ้ายึดอำนาจแล้วเขียนกฎหมายใหม่ว่า ขายตรงยกเลิกในประเทศไทยทุกๆกิจการเครือข่ายจะเป็นแบบไหนนะ,ท่านลอร์ดคงไม่ปลื้มด้วยแน่ๆ,ในไทยมีกิจการขายตรงเยอะจริงๆ.ไม่รวมสไตล์เงินบุญด้วยนะ.,ขัดแข้งขัดขาธุรกิจท่านลอร์ดก็สามารถไปวัดได้เหมือนกันนะ.ร่ำรวยมืด ร่ำรวยใต้ดินไม่เป็นข่าว ร่ำรวยแปลก หลอกสายตรงหน้าบ้านก็กิจการเครือข่ายขายตรงนี้ล่ะ,มีทั้งอ้างตนว่าจดทะเบียนถูกกฎหมายก็เพราะไปเปิดช่องให้มันนั้นล่ะ,ส่วนไม่ถูกกฎหมายยิ่งอนาถก็ยังสามารถหลอกลวงได้เสรีปกติ,ตังแบงค์ชาติสามารถเห็นกระแสการเคลื่อนไหวผิดปกติเข้าบัญชีใครถึงคนไหนบ้าง ดูได้หมดล่ะ,ประเทศไทยเราส่วนมากจะเขียนกฎหมายให้โจรมาปล้นอย่างสนุกสนานแบบชอบธรรม&ถูกกฎหมายได้ด้วยโน้น บทพิสูจน์ว่ามีจริงชัดเจนคือกฎหมายพรบ.ปิโตรเลียมบ่อน้ำมันไทยเรานี้ล่ะ,เขียนโคตรชั่วและสุดยอดของความสาระเลวในบรรดานักกฎหมายที่โคตรเหง้าวงศ์ตระกูลที่เลวทรยศแผ่นดินไทยช่วงสมัยเขียนกฎหมายปิโตรเลียนปฐมบทนั้น,ยกบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยตนแท้ๆให้ต่างชาติทำแดกเต็มที่โดยเฉพาะฝรั่งตะวันตกชัดเจนและของจริง ย่อชัดๆคือยิวอเมริกาท่านลอร์ดมัน,ยึดบ่อน้ำมันไทยไปหมดสิ้น คนไทยใช้น้ำมันราคาโคตรแพงไง ส่งผลกระทบค่าครองชีพเสาหลักทั้งแผ่นดินหรือแพงทัังประเทศนั้นเอง,อิหร่านขายลิตรละ1-2บาทแบบเพียวๆไม่เติมเอทานอลอะไร,จะดีเชลหรือจะเบนชินลิตรละ1-2บาทแค่นั้นในปัจจุบัน ไทย4ลิตร100 ยุคเหี้ยๆ2ลิตร100กันเลยแถวบ้านนอก,ราคาอ้างอิงสิงคโปร์โคตรพ่อมัน,ขี้ข้าสิงคโปร์ตามท่านลอร์ดสั่งอีก,ภาคใต้คงเร็วๆนี้จะยึดเอาละมั้ง พม่า&โรฮิงญาตรึม แขกมุสลิมcia&unจัดตั้งอีกเพรียบจะยึดภาคใต้เราก็ว่าทั้งทองคำทั้งบ่อน้ำมันทัังแลนด์บริดจ์ท่านลอร์ดจะยึดครองเองเบ็ดเสร็จจริงจังในยุคสมัยนี้พะนะ,unรับรองเองอนุมัติให้ประเทศไทยต้องเลี้ยงดูคนพม่าโน้น,แทรกแซงคดียุบพรรคก้าวไกลแบบออกหน้าออกตาอีก,สมควรที่จีนบวกรัสเชียบวกอาหรับบวกเกาหลีเหนือถล่มฝรั่งตะวันตกจริงๆโลกไม่มียักษ์ฝรั่งเหล่านี้ก็อยู่กันได้สบาย,ไปแทรกแซงปั่นป่วนทุกๆชาติ&แย่งชิงทรัพยากรชาติคนอื่นไปทั่ว,สันดานและนิสัยเลวลงถึงdnaจริง,การกำจัดสายพันธุ์หนักโลกนี้ผสมแรปทีเลี่ยนไฮบริดจ์อีกอนาถจริงๆฝรั่งพวกสาระเลวนี้.
    ..สรุปเครือข่ายขายตรงทั้งหมดที่มีบนแผ่นดินไทยสมควรยุบพรบ.ขายตรงเสีย,ให้พวกมันขายคืนทรัพย์สินแล้วจ่ายชดเชยสมาชิกมันในคนไทยทั้งหมดไปแล้วถีบออกจากแผ่นดินไทยเสีย,เราอยู่แบบพอเพียงตามพ่อร.9ได้สบาย,ถ้าเกิดสงครามโลกที่3จริงเร็วๆนี้ยอดขายจะทำไม่ได้ต่อเดือนหรือต่อปี ความซวยที่ไร้ยอดขายคือดาวน์ไลน์ตัวเล็กที่สมัครเข้าไปฝหม่เหยื่อตัวใหม่ช่วงทดลองงานมันหรือคนไทยเก่าๆก็เถอะไร้ยอดขายช่วงสงครามจบแน่ หลุดจากเป็นคนเครือข่ายมัน ตังเงินพวกมันก็ยึดครองเข้าระบบมันอีกเพราะดาวน์ไลน์พวกนี้ทำได้ไม่ตามเงื่อนไข อ้างข้อกฎหมายและกฎกติกาในกิจการมันเขียนเองนั้นล่ะ,สินค้าซื้อมาตุนหรือรอขาย ขายไม่ออกเพราะทุกๆคนเก็บตังไว้ใช้ในความจำเป็นช่วงภัยพิบัติโลก,หัวสายขายโปร แม่สายพ่อสายมันหอบตังหอบเงินร่ำรวยไปอย่างสบายล่ะ,เนียนๆไม่เถื่อนๆแบบพวกนี้หรอก,มีกฎหมายรองรับโว้ย,ดังนั้นยุบ&ฉีกพรบ.ขายตรง แล้วให้ทุกๆกิจการขายตรงในไทยคืนตังแก่สมาชิกมันไปทั้งหมด,กอบโกยกำไรร่ำรวยมหาศาลหลายสิบปีแล้วในไทยเรานี้,ฉีกรัฐธรรมนูญยังฉีกยังกับเศษกระดาษ ปี57ล่าสุดฉีกให้เห็นชัดเจนแล้ว,ไม่ฉีกพรบ.ปิโตรเลียมกฎหมายลูกด้วยเลยตัวทาสชัดๆ,ฉีกตอนนั้นแผ่นดินไทยจะสุดยอดแห่งความเป็นไทและได้อิสระภาพอธิปไตยด้านความมั่นคงทางพลังงานกลับมาด้วยโน้น,ยึดอำนาจเสียของมากๆ.
    ..แปลกนะ,ถ้ากรณีซื้อกินซื้อใช้เบื้องต้นแบบนี้,เครือข่ายขายตรงมีมากมายเลยล่ะ,คนไปสมัครสมาชิกเสียตังหลักร้อยหลักพันหลักหมื่นหรือหลักแสนหลักล้านเนียนๆเลยล่ะ,อาทิขายตรงที่เห็นชัดจากฝรั่งตะวันตกโซนท่านลอร์ดเหมือนกันก็แอมเวย์นี้ล่ะตรึม,นักศึกษา&ชาวบ้านเสียตังเสียเงินเสียทองเสียเวลากันมากมาย,สิ้นอายุสมาชิกก็ตัดออกจากระบบแล้ว,หัวได้เต็มๆแน่ๆไม่ได้ต่างจากพวกนี้หรอก,mlmควรไม่มีในประเทศไทยจริงๆ ขายฝันบวกรักษายอดในตัวแบบสไตล์ทาสกิจการพื้นๆอยู่แล้ว ไม่ทำงาน หยุดก็หลุดออกจากระบบ,คนมาก่อนได้เต็มยึดทั้งทางตรงทางอ้อม ติดสายบ้าง ต่อตรงระดับบนบ้าง พวกเหี้ยนี้ออกแบบระบบโง่ๆที่ไหน เนียนๆแบบอ้างกฎหมายว่าถูกกฎหมายโน้น,ถ้ายึดอำนาจแล้วเขียนกฎหมายใหม่ว่า ขายตรงยกเลิกในประเทศไทยทุกๆกิจการเครือข่ายจะเป็นแบบไหนนะ,ท่านลอร์ดคงไม่ปลื้มด้วยแน่ๆ,ในไทยมีกิจการขายตรงเยอะจริงๆ.ไม่รวมสไตล์เงินบุญด้วยนะ.,ขัดแข้งขัดขาธุรกิจท่านลอร์ดก็สามารถไปวัดได้เหมือนกันนะ.ร่ำรวยมืด ร่ำรวยใต้ดินไม่เป็นข่าว ร่ำรวยแปลก หลอกสายตรงหน้าบ้านก็กิจการเครือข่ายขายตรงนี้ล่ะ,มีทั้งอ้างตนว่าจดทะเบียนถูกกฎหมายก็เพราะไปเปิดช่องให้มันนั้นล่ะ,ส่วนไม่ถูกกฎหมายยิ่งอนาถก็ยังสามารถหลอกลวงได้เสรีปกติ,ตังแบงค์ชาติสามารถเห็นกระแสการเคลื่อนไหวผิดปกติเข้าบัญชีใครถึงคนไหนบ้าง ดูได้หมดล่ะ,ประเทศไทยเราส่วนมากจะเขียนกฎหมายให้โจรมาปล้นอย่างสนุกสนานแบบชอบธรรม&ถูกกฎหมายได้ด้วยโน้น บทพิสูจน์ว่ามีจริงชัดเจนคือกฎหมายพรบ.ปิโตรเลียมบ่อน้ำมันไทยเรานี้ล่ะ,เขียนโคตรชั่วและสุดยอดของความสาระเลวในบรรดานักกฎหมายที่โคตรเหง้าวงศ์ตระกูลที่เลวทรยศแผ่นดินไทยช่วงสมัยเขียนกฎหมายปิโตรเลียนปฐมบทนั้น,ยกบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยตนแท้ๆให้ต่างชาติทำแดกเต็มที่โดยเฉพาะฝรั่งตะวันตกชัดเจนและของจริง ย่อชัดๆคือยิวอเมริกาท่านลอร์ดมัน,ยึดบ่อน้ำมันไทยไปหมดสิ้น คนไทยใช้น้ำมันราคาโคตรแพงไง ส่งผลกระทบค่าครองชีพเสาหลักทั้งแผ่นดินหรือแพงทัังประเทศนั้นเอง,อิหร่านขายลิตรละ1-2บาทแบบเพียวๆไม่เติมเอทานอลอะไร,จะดีเชลหรือจะเบนชินลิตรละ1-2บาทแค่นั้นในปัจจุบัน ไทย4ลิตร100 ยุคเหี้ยๆ2ลิตร100กันเลยแถวบ้านนอก,ราคาอ้างอิงสิงคโปร์โคตรพ่อมัน,ขี้ข้าสิงคโปร์ตามท่านลอร์ดสั่งอีก,ภาคใต้คงเร็วๆนี้จะยึดเอาละมั้ง พม่า&โรฮิงญาตรึม แขกมุสลิมcia&unจัดตั้งอีกเพรียบจะยึดภาคใต้เราก็ว่าทั้งทองคำทั้งบ่อน้ำมันทัังแลนด์บริดจ์ท่านลอร์ดจะยึดครองเองเบ็ดเสร็จจริงจังในยุคสมัยนี้พะนะ,unรับรองเองอนุมัติให้ประเทศไทยต้องเลี้ยงดูคนพม่าโน้น,แทรกแซงคดียุบพรรคก้าวไกลแบบออกหน้าออกตาอีก,สมควรที่จีนบวกรัสเชียบวกอาหรับบวกเกาหลีเหนือถล่มฝรั่งตะวันตกจริงๆโลกไม่มียักษ์ฝรั่งเหล่านี้ก็อยู่กันได้สบาย,ไปแทรกแซงปั่นป่วนทุกๆชาติ&แย่งชิงทรัพยากรชาติคนอื่นไปทั่ว,สันดานและนิสัยเลวลงถึงdnaจริง,การกำจัดสายพันธุ์หนักโลกนี้ผสมแรปทีเลี่ยนไฮบริดจ์อีกอนาถจริงๆฝรั่งพวกสาระเลวนี้. ..สรุปเครือข่ายขายตรงทั้งหมดที่มีบนแผ่นดินไทยสมควรยุบพรบ.ขายตรงเสีย,ให้พวกมันขายคืนทรัพย์สินแล้วจ่ายชดเชยสมาชิกมันในคนไทยทั้งหมดไปแล้วถีบออกจากแผ่นดินไทยเสีย,เราอยู่แบบพอเพียงตามพ่อร.9ได้สบาย,ถ้าเกิดสงครามโลกที่3จริงเร็วๆนี้ยอดขายจะทำไม่ได้ต่อเดือนหรือต่อปี ความซวยที่ไร้ยอดขายคือดาวน์ไลน์ตัวเล็กที่สมัครเข้าไปฝหม่เหยื่อตัวใหม่ช่วงทดลองงานมันหรือคนไทยเก่าๆก็เถอะไร้ยอดขายช่วงสงครามจบแน่ หลุดจากเป็นคนเครือข่ายมัน ตังเงินพวกมันก็ยึดครองเข้าระบบมันอีกเพราะดาวน์ไลน์พวกนี้ทำได้ไม่ตามเงื่อนไข อ้างข้อกฎหมายและกฎกติกาในกิจการมันเขียนเองนั้นล่ะ,สินค้าซื้อมาตุนหรือรอขาย ขายไม่ออกเพราะทุกๆคนเก็บตังไว้ใช้ในความจำเป็นช่วงภัยพิบัติโลก,หัวสายขายโปร แม่สายพ่อสายมันหอบตังหอบเงินร่ำรวยไปอย่างสบายล่ะ,เนียนๆไม่เถื่อนๆแบบพวกนี้หรอก,มีกฎหมายรองรับโว้ย,ดังนั้นยุบ&ฉีกพรบ.ขายตรง แล้วให้ทุกๆกิจการขายตรงในไทยคืนตังแก่สมาชิกมันไปทั้งหมด,กอบโกยกำไรร่ำรวยมหาศาลหลายสิบปีแล้วในไทยเรานี้,ฉีกรัฐธรรมนูญยังฉีกยังกับเศษกระดาษ ปี57ล่าสุดฉีกให้เห็นชัดเจนแล้ว,ไม่ฉีกพรบ.ปิโตรเลียมกฎหมายลูกด้วยเลยตัวทาสชัดๆ,ฉีกตอนนั้นแผ่นดินไทยจะสุดยอดแห่งความเป็นไทและได้อิสระภาพอธิปไตยด้านความมั่นคงทางพลังงานกลับมาด้วยโน้น,ยึดอำนาจเสียของมากๆ.
    อวสานดิไอคอนกรุ๊ป

    การจับกุมผู้ต้องหา 18 ราย ที่มีส่วนพัวพันกับ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด นำโดย นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล รวมทั้งดารานักแสดงอย่าง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแซม น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือบอสมิน และนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกัน ตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ แม้จะยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่ ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ปี 2527 แต่เมื่อมีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก ตำรวจจึงเตรียมคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล

    ก่อนหน้านี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ประกาศอายัดทรัพย์สินของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล นายณิชพน ทองมี น.ส.ฐิตตญา หงษ์อุปถุมภ์ไชย และนายกันต์ กันตถาวร ได้แก่ เงินในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ (พอร์ตหุ้น) บัญชีกระแสรายวัน บัญชีออมทรัพย์ และบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัล 11 รายการ รวม 125.54 ล้านบาท ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าอายัดที่ดิน 63 ไร่ ริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์กาญจนาภิเษก ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ที่จะก่อสร้างดิไอคอนซิตี้ หอประชุม บ้านของผู้บริหาร และอาคารศูนย์การเรียนรู้ออนไลน์

    การจับกุมผู้บริหาร รวมทั้งการอายัดทรัพย์สินเบื้องต้นเหล่านี้ แม้กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยเป็นระบบกล่าวหา และตามหลักกฎหมายทุกคนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา จะต้องได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าผิดจริง แต่ชื่อเสียงของดิไอคอนกรุ๊ป ล่มสลายมาตั้งแต่วันที่สื่อมวลชนอย่างนายกรรชัย กำเนิดพลอย เปิดประเด็น ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายเกิดขึ้นจริง เพราะหลงเชื่อวิธีการของแม่ทีมที่ใช้การสอนการตลาดออนไลน์บังหน้า แต่เบื้องหลังชักชวนให้เปิดบิล ตั้งแต่หลักพันถึงหลักล้านบาท ทำให้สิ้นเนื้อประดาตัว บางคนต้องจบชีวิตตัวเองไปเลยก็มี

    ในวันนี้บิลบอร์ดดิไอคอนกรุ๊ปที่ทุ่มซื้อโฆษณากว่า 500 ล้านบาท ทั้งอาคารสูง ป้ายโฆษณาทั่วประเทศ และโฆษณาบนรถเมล์กรุงเทพฯ ถูกถอดออกหมดแล้ว เหลือแม่ข่ายและลูกข่ายรวมแล้วกว่า 368,257 คน ตั้งแต่ระดับดิสทริบิวเตอร์ 285,833 คน ซึ่งเน้นซื้อกินซื้อใช้ ซูเปอร์ไวเซอร์ 43,976 คน มินิดีลเลอร์ 6,476 คน ที่เปิดบิลประมาณ 50,000 บาท และดีลเลอร์ที่เปิดบิล 250,000 บาท จำนวน 31,972 คน เหลือไว้เพียงแค่สินค้าที่ยังเหลืออยู่ และอนาคตบรรดาแม่ข่ายที่อาจต้องแยกย้ายกันไป ปิดตำนานความยิ่งใหญ่ที่ขายฝันคนไทยมานานถึง 7 ปี

    #Newskit #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheIconGroup
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 493 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณิตศาสตร์การเมือง สนามเลือกตั้งราชบุรี

    การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2567 นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือกำนันตุ้ย อดีตนายก อบจ.ราชบุรี ได้ 242,297 คะแนน เอาชนะ นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ หรือ หวุน ผู้สมัครจากพรรคประชาชน อดีตพรรคก้าวไกล ได้ 175,353 คะแนน ห่างกัน 66,944 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 455,400 คน คิดเป็น 67.31% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 676,526 คน มีบัตรดี 417,650 ใบ บัตรเสีย 16,500 ใบ และบัตรไม่เลือกผู้สมัครรายใด 21,250 ใบ คิดเป็น 4.67%

    เมื่อพิจารณาผลคะแนนเลือกตั้งแบบรายอำเภอทั้ง 10 อำเภอ พบว่านายชัยรัตน์มีคะแนนสูสีกับนายวิวัฒน์ในอำเภอเมืองราชบุรี นายชัยรัตน์ได้ 43,584 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 45,390 คะแนน ห่างกัน 1,806 คะแนน หรือ 3.98% และอำเภอสวนผึ้ง นายชัยรัตน์ได้ 7,468 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 8,027 คะแนน ห่างกัน 559 คะแนน หรือ 6.96% ส่วนอำเภอที่มีคะแนนห่างกันมากที่สุด คืออำเภอโพธาราม นายชัยรัตน์ได้ 27,833 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 46,354 คะแนน ห่างกัน 18,521 คะแนน หรือ 39.96%

    ถึงกระนั้น เมื่อเทียบกับผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน พบว่า นายวิวัฒน์ได้ 241,952 คะแนน เทียบกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพิ่มขึ้น 345 คะแนน ส่วนนางภรมน นรการกุมพล ผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าของนายธนาธร ได้ 74,929 คะแนน เทียบกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพิ่มขึ้น 100,424 คะแนน อันดับสาม นายอรรถพงศ์ ห้องริ้ว ผู้สมัครกลุ่ม New Gen ที่พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน ได้ 54,153 คะแนน

    เนื่องจากการเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรีครั้งนี้ พรรคประชาชนและผู้สนับสนุนคนสำคัญลงพื้นที่ อาทิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ สส.พรรคคนอื่นๆ รวมทั้งสื่อมวลชนให้พื้นที่ข่าวนายชัยรัตน์ เปรียบได้กับสนามการเมืองระดับชาติ แต่นายวิวัฒน์แทบไม่มีพื้นที่ข่าวบนหน้าสื่อมวลชนเลย จึงต้องพิจารณาสนามเลือกตั้ง สส.ราชบุรี เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา

    แม้เก้าอี้ สส.แบบแบ่งเขตจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐ 3 ที่นั่ง และพรรครวมไทยสร้างชาติ 2 ที่นั่ง แต่คะแนนบัตรเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) พบว่า พรรคก้าวไกลนำเป็นอันดับหนึ่ง รวม 5 เขตได้ไป 233,608 คะแนน ส่วนอันดับ 2 เป็นของพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่ได้ สส. แต่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มากถึง 102,757 คะแนน ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 90,598 คะแนน และพรรคพลังประชารัฐ ได้ 10,192 คะแนน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว คะแนนพรรคก้าวไกลหายไป 58,255 คะแนน

    นักการเมืองในพื้นที่ราชบุรีวิเคราะห์กันว่า คะแนนนิยมของนายชัยรัตน์และพรรคประชาชนช่วงแรก โดยเฉพาะหลังยุบพรรคก้าวไกลคะแนนดีมาก ทำให้ตระกูลนิติกาญจนาหวั่นไหวพอสมควร แต่ถูกโจมตีจากการปราศรัยพาดพิงโรงเรียนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ขณะที่หลายกลุ่มการเมืองในราชบุรีช่วยกันจับมือช่วยนายวิวัฒน์สู้กับพรรคประชาชน หลังพรรคก้าวไกลแม้ไม่ได้ สส.เขต แต่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์อันดับหนึ่ง จึงช่วยกันสกัดไม่ให้พรรคประชาชนแจ้งเกิดการเมืองท้องถิ่นที่นี่

    #Newskit #อบจราชบุรี #เลือกตั้งราชบุรี
    คณิตศาสตร์การเมือง สนามเลือกตั้งราชบุรี การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2567 นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือกำนันตุ้ย อดีตนายก อบจ.ราชบุรี ได้ 242,297 คะแนน เอาชนะ นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ หรือ หวุน ผู้สมัครจากพรรคประชาชน อดีตพรรคก้าวไกล ได้ 175,353 คะแนน ห่างกัน 66,944 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 455,400 คน คิดเป็น 67.31% จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 676,526 คน มีบัตรดี 417,650 ใบ บัตรเสีย 16,500 ใบ และบัตรไม่เลือกผู้สมัครรายใด 21,250 ใบ คิดเป็น 4.67% เมื่อพิจารณาผลคะแนนเลือกตั้งแบบรายอำเภอทั้ง 10 อำเภอ พบว่านายชัยรัตน์มีคะแนนสูสีกับนายวิวัฒน์ในอำเภอเมืองราชบุรี นายชัยรัตน์ได้ 43,584 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 45,390 คะแนน ห่างกัน 1,806 คะแนน หรือ 3.98% และอำเภอสวนผึ้ง นายชัยรัตน์ได้ 7,468 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 8,027 คะแนน ห่างกัน 559 คะแนน หรือ 6.96% ส่วนอำเภอที่มีคะแนนห่างกันมากที่สุด คืออำเภอโพธาราม นายชัยรัตน์ได้ 27,833 คะแนน นายวิวัฒน์ได้ 46,354 คะแนน ห่างกัน 18,521 คะแนน หรือ 39.96% ถึงกระนั้น เมื่อเทียบกับผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน พบว่า นายวิวัฒน์ได้ 241,952 คะแนน เทียบกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพิ่มขึ้น 345 คะแนน ส่วนนางภรมน นรการกุมพล ผู้สมัครจากคณะก้าวหน้าของนายธนาธร ได้ 74,929 คะแนน เทียบกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพิ่มขึ้น 100,424 คะแนน อันดับสาม นายอรรถพงศ์ ห้องริ้ว ผู้สมัครกลุ่ม New Gen ที่พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน ได้ 54,153 คะแนน เนื่องจากการเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรีครั้งนี้ พรรคประชาชนและผู้สนับสนุนคนสำคัญลงพื้นที่ อาทิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ สส.พรรคคนอื่นๆ รวมทั้งสื่อมวลชนให้พื้นที่ข่าวนายชัยรัตน์ เปรียบได้กับสนามการเมืองระดับชาติ แต่นายวิวัฒน์แทบไม่มีพื้นที่ข่าวบนหน้าสื่อมวลชนเลย จึงต้องพิจารณาสนามเลือกตั้ง สส.ราชบุรี เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา แม้เก้าอี้ สส.แบบแบ่งเขตจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐ 3 ที่นั่ง และพรรครวมไทยสร้างชาติ 2 ที่นั่ง แต่คะแนนบัตรเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) พบว่า พรรคก้าวไกลนำเป็นอันดับหนึ่ง รวม 5 เขตได้ไป 233,608 คะแนน ส่วนอันดับ 2 เป็นของพรรคเพื่อไทย แม้จะไม่ได้ สส. แต่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มากถึง 102,757 คะแนน ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 90,598 คะแนน และพรรคพลังประชารัฐ ได้ 10,192 คะแนน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว คะแนนพรรคก้าวไกลหายไป 58,255 คะแนน นักการเมืองในพื้นที่ราชบุรีวิเคราะห์กันว่า คะแนนนิยมของนายชัยรัตน์และพรรคประชาชนช่วงแรก โดยเฉพาะหลังยุบพรรคก้าวไกลคะแนนดีมาก ทำให้ตระกูลนิติกาญจนาหวั่นไหวพอสมควร แต่ถูกโจมตีจากการปราศรัยพาดพิงโรงเรียนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ขณะที่หลายกลุ่มการเมืองในราชบุรีช่วยกันจับมือช่วยนายวิวัฒน์สู้กับพรรคประชาชน หลังพรรคก้าวไกลแม้ไม่ได้ สส.เขต แต่ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์อันดับหนึ่ง จึงช่วยกันสกัดไม่ให้พรรคประชาชนแจ้งเกิดการเมืองท้องถิ่นที่นี่ #Newskit #อบจราชบุรี #เลือกตั้งราชบุรี
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1295 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าพรรคก้าวไกล ไม่ทำให้โครงการฝายกั้นน้ำซีเมนต์ทั่วประเทศถูกยกเลิก สถานการณ์น้ำจะไม่รุนแรงขนาดนี้
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ถ้าพรรคก้าวไกล ไม่ทำให้โครงการฝายกั้นน้ำซีเมนต์ทั่วประเทศถูกยกเลิก สถานการณ์น้ำจะไม่รุนแรงขนาดนี้ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • สะพัด 'ชัยเกษม' นายกรัฐมนตรีคนที่ 31

    หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ จากกรณีนําความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่นายพิชิตเคยถูกศาลฎีกาสั่งจําคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอํานาจศาล เป็นบุคคลที่กระทําการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ

    นับเป็นการปิดฉากนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย จากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สู่นักการเมือง หลังดำรงตำแหน่งได้เพียง 358 วัน นับตั้งแต่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา

    เมื่อพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ปล่อยให้บรรยากาศทางการเมืองตกอยู่ในภาวะสูญญากาศ การหารือระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 14 ส.ค. โดยมีรายงานว่า พรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งเป็นหนึ่งในแคนดิเดต เป็นนายกรัฐมนตรี

    ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งให้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 16 ส.ค. 2567 เวลา 10.00 น. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ โดยก่อนหน้านี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งต่อที่ประชุมเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่า จำนวน สส.ในสภาปัจจุบันเท่าที่มีและปฏิบัติหน้าที่ได้ มีจำนวน 493 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งคือ 247 คน หลังจากพรรคก้าวไกลถูกยุบและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค

    ปัจจุบันเสียง สส.ฝ่ายรัฐบาล รวม 315 เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคท้องที่ไทย พรรคละ 1 เสียง หากเป็นไปในทิศทางเดียวกันย่อมได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งไม่ยาก เว้นเสียแต่การเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้

    สำหรับนายชัยเกษม นิติสิริ อายุ 75 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับสอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท กฎหมายระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา เคยเป็นอดีตประธาน ก.ล.ต. อดีตอัยการสูงสุด อดีต รมว.ยุติธรรม ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม พรรคเพื่อไทย

    ก่อนหน้านี้นายชัยเกษมมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ป่วยกะทันหันหลังจากลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่ จ.น่าน เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2566 เมื่อตรวจซีทีสแกนพบว่ามีก้อนเลือดแห้งอยู่ในสมอง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า สุขภาพกลับมาแข็งแรงแล้ว ที่ผ่านมาก็เข้ามาช่วยทำงานกับพรรคมาโดยตลอด

    #Newskit #ชัยเกษม #นายกรัฐมนตรี
    สะพัด 'ชัยเกษม' นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ จากกรณีนําความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่นายพิชิตเคยถูกศาลฎีกาสั่งจําคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอํานาจศาล เป็นบุคคลที่กระทําการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ นับเป็นการปิดฉากนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย จากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สู่นักการเมือง หลังดำรงตำแหน่งได้เพียง 358 วัน นับตั้งแต่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา เมื่อพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ปล่อยให้บรรยากาศทางการเมืองตกอยู่ในภาวะสูญญากาศ การหารือระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 14 ส.ค. โดยมีรายงานว่า พรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งเป็นหนึ่งในแคนดิเดต เป็นนายกรัฐมนตรี ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งให้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 16 ส.ค. 2567 เวลา 10.00 น. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ โดยก่อนหน้านี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งต่อที่ประชุมเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่า จำนวน สส.ในสภาปัจจุบันเท่าที่มีและปฏิบัติหน้าที่ได้ มีจำนวน 493 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งคือ 247 คน หลังจากพรรคก้าวไกลถูกยุบและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค ปัจจุบันเสียง สส.ฝ่ายรัฐบาล รวม 315 เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคท้องที่ไทย พรรคละ 1 เสียง หากเป็นไปในทิศทางเดียวกันย่อมได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งไม่ยาก เว้นเสียแต่การเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ สำหรับนายชัยเกษม นิติสิริ อายุ 75 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับสอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท กฎหมายระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา เคยเป็นอดีตประธาน ก.ล.ต. อดีตอัยการสูงสุด อดีต รมว.ยุติธรรม ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม พรรคเพื่อไทย ก่อนหน้านี้นายชัยเกษมมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ป่วยกะทันหันหลังจากลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่ จ.น่าน เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2566 เมื่อตรวจซีทีสแกนพบว่ามีก้อนเลือดแห้งอยู่ในสมอง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า สุขภาพกลับมาแข็งแรงแล้ว ที่ผ่านมาก็เข้ามาช่วยทำงานกับพรรคมาโดยตลอด #Newskit #ชัยเกษม #นายกรัฐมนตรี
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1166 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนี่ยพวกเมิงก็เป็นแบบนี้ สั-น-ด-า-น หมา
    พอเมิงหมิ่นเบื้องสูง พอกฏหมายจัดการ
    ไอ่ช้างลาก เมิงบอกคิดต่างทางการเมือง
    ไฮปาร์ค ให้ร้าย ด-่า ท-อ .ในหลวงและสถาบัน
    โดนกฏหมายจัดการ ก็อ้างคิดต่างทางการเมือง
    ขนาดข้อหา ที่ถูกยุบพรรคก้าวไกลชัดเจน
    ว่าคือการล้มล้างการปกครอง ที่จะไปแก้กฏหมาย
    112 สถาบันท่านทรงห่วงใยพสกนิกรของท่าน
    เมิงจะไปแก้กฏหมายที่ปกป้องสถาบันทำไม
    แถสารพัด คนไทยที่ดีๆไม่มีใครต้องเดือดร้อน
    กรูเห็นมีแต่พวกเมิงนี่แหละ ดันสุดลิ่มทิ่มประตู
    จะแก้ให้ได้ เมิงกราบสหรัฐมานาน เชิดชู
    ว่าเป็นประเทศประชาธิปไตย์
    ล่าสุด แค่ขู่ไบเด้น fbi ชู๊ดซะตุยไปเลย
    ถ้ามาตรฐานเดียวกัน เมิงเมิงเฝ้ารากมะม่วงแบบไม่สมัครใจไปแล้ว
    อิดิว อิเทยนรกส่งมาเกิด วันที่ 12 สิงหาคม เมิงทำคลิปแบบนี้
    เมิงไม่รอดแน่ แล้วพอถูกจับได้ แถแซดๆๆ
    ไม่เห็นหมากีบซักตัวที่กล้าทำกล้ารับ
    กรูในฐานะที่ข้อมูลมีเยอะ บอกพวกเมิงไว้แล้ว
    กฏหมายไม่ปล่อยพวกเมิงไว้แน่นอน
    ไม่ใช่แค่เบาๆเหมือนที่เมิงย่ามใจ
    ครุกคือครุก ไม่รอลงอาญา
    สร้างกรรมใหม่ให้เยอะๆไว้ รวมๆกันจะได้ไม่ต่ำกว่า 100 ปี
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เนี่ยพวกเมิงก็เป็นแบบนี้ สั-น-ด-า-น หมา พอเมิงหมิ่นเบื้องสูง พอกฏหมายจัดการ ไอ่ช้างลาก เมิงบอกคิดต่างทางการเมือง ไฮปาร์ค ให้ร้าย ด-่า ท-อ .ในหลวงและสถาบัน โดนกฏหมายจัดการ ก็อ้างคิดต่างทางการเมือง ขนาดข้อหา ที่ถูกยุบพรรคก้าวไกลชัดเจน ว่าคือการล้มล้างการปกครอง ที่จะไปแก้กฏหมาย 112 สถาบันท่านทรงห่วงใยพสกนิกรของท่าน เมิงจะไปแก้กฏหมายที่ปกป้องสถาบันทำไม แถสารพัด คนไทยที่ดีๆไม่มีใครต้องเดือดร้อน กรูเห็นมีแต่พวกเมิงนี่แหละ ดันสุดลิ่มทิ่มประตู จะแก้ให้ได้ เมิงกราบสหรัฐมานาน เชิดชู ว่าเป็นประเทศประชาธิปไตย์ ล่าสุด แค่ขู่ไบเด้น fbi ชู๊ดซะตุยไปเลย ถ้ามาตรฐานเดียวกัน เมิงเมิงเฝ้ารากมะม่วงแบบไม่สมัครใจไปแล้ว อิดิว อิเทยนรกส่งมาเกิด วันที่ 12 สิงหาคม เมิงทำคลิปแบบนี้ เมิงไม่รอดแน่ แล้วพอถูกจับได้ แถแซดๆๆ ไม่เห็นหมากีบซักตัวที่กล้าทำกล้ารับ กรูในฐานะที่ข้อมูลมีเยอะ บอกพวกเมิงไว้แล้ว กฏหมายไม่ปล่อยพวกเมิงไว้แน่นอน ไม่ใช่แค่เบาๆเหมือนที่เมิงย่ามใจ ครุกคือครุก ไม่รอลงอาญา สร้างกรรมใหม่ให้เยอะๆไว้ รวมๆกันจะได้ไม่ต่ำกว่า 100 ปี ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภานักศึกษาจุฬาก็กร่าง เรียกสอบอาจารย์หนึ่งในศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงตัดสินขัดใจยุบพรรคก้าวไกล นัดแจงวันตัดสินนายกนิด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    สภานักศึกษาจุฬาก็กร่าง เรียกสอบอาจารย์หนึ่งในศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงตัดสินขัดใจยุบพรรคก้าวไกล นัดแจงวันตัดสินนายกนิด #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 421 มุมมอง 0 รีวิว
  • ได้ยอดแค่ 22 ล้าน คุยส้มทั้งแผ่นดิน
    ถถถถถถ กวิ้น รุ้ง คงขำกลิ้ง
    เมกาเริ่มขรี้ตืดเฉยเลย
    เฉพาะกวิ้น ตรวจสอบบช. พบ 60 ล.
    รุ้งเบาะก็ 30 ล. อ้าวๆๆๆ ทั้งพรรค
    ยังสู้รุ้งคนเดียวยังไม่ได้เลย
    แล้วมีคุยด้วย เดี๋ยวจะส้มทั้งแผ่นดิน
    ทั้งแผ่นดินยังกี่โมงก่อน ไอ่กีบทุยเอ๊ย
    ตั้งสตินะ ไอ่เท้งเต้งหัวหน้าพรรคอะ อยู่ใน 44 สส.ที่จะถูกเช็คบิล
    ว่าว ปิดฉากไปได้เลย มีคดีย์ที่ถูกตัดสินแล้ว จำ 4 เดือน
    ถึงรอลงอาญาก็ถือว่า เป็นนายกไม่ได้ เป็นรมต.ก็ไมได่้
    แล้วถูกตัดสิทธิ์ 10 ดูข่าวบ้างหรือเปล่า
    ส่วนไหมเส้นหย่อย ก็อยู่ใน 44 สส.
    หรือจะมึนๆ ให้ไอซ์ โหบี๋เป็นนายกอันนั้ก็ละเมอไปเลย
    เพราะไอซ์ โดนตัดสินแล้ว 6 ปี แต่มันดึงเช็งขออุทธรแค่นั้น
    มาดูเรื่องกระแสบ้าง ไอ่ฉัด
    ส่งท้องถิ่นลง ว่าว กับว่าวทุกเขต
    มีแต่นิเดาโพล ที่ให้อันดับ 1 สวนทางความจริงทุกสนาม
    สว.อุตส่าห์ส่งตัวตึงลงมา แว่นคางส้ม กะได้คะแนนล้นหลาม
    สุดท้ายเป็นไง ตอนนี้ 19 ยังไม่ถึงเลย
    นี่ไม่อยากจะรื้อฟื้นเรื่องหนังส้งทรีนของไอ่ทวย
    ทั้งให้ ทั้งมีป๊อปคอนมีกระเป๋ามาล่อ ว่างจนถูกถอดออกจากโรงภายในไม่กี่วัน
    ใช้แผนเก่าเอาคนไม่ถึงสิบแถลงโดน นศ.ราม แล้วตีข่าวว่าม.รามไม่ยอมให้ยุบก้าวไกล
    เอาอีกซักเรื่องสองเรื่อง ไลฟ์สดรอบสุดท้ายที่ว่าวและชัยทวาลแถลง
    เพจหลักพรรคมีคนดูห้าร้อยกว่าคน
    วันที่ไปฟังแถลง ปิยะบุตรหวังปลุกระแส เป็นไง
    มีแต่คนแก่ที่หน้าตาคุ้นๆไป คนรุ่นใหม่ไปไหนหมด
    ทะลุวังก็ไม่เอากะมาน มีแต่สรย้วยเอามาออกรัวๆ บีบน้ำตา
    พอสั่งคัท แม่มเซลฟี่กันยิ้มแย้มแจ่มใส
    ตกเย็น ไอ่ว่าวไปบีบน้ำตา คนกรี๊ดๆ พอค่ำ
    เอาค่าสมาชิกพรรคก้าวไกลที่คงค้างไหนๆก็ยุบ
    ไปจัดปาตี้กันสนุกสนาน
    กีบ เมื่อไหร่จะตื่นซักทีฟร๊ะ
    คือ พี่คิงส์ชักลำใยในความหลงมโนกับเรื่องที่ตื้นเขินพวกนี้ซักที
    แต่เต็มที่แล้วนะ จะนอนฝันบนฟางหญ้า เคี้ยวเรื่องมโนจากพรรคส้มต่อก็แล้วแต่ จะบอกอีกเรื่องนะ ไอ่หัวหน้าพรรคที่ชื่อเท้งเต้ง ชื่อก็ไม่มงคลอยู่แล้ว
    พบว่า มีหลักฐานเป็นผู้ปลุกระดม 112 แล้วยืนยันว่าจะดัน 112 ต่อ
    คิดว่ามันจะพ้นจากล้มล้างการปกครองมั๊ย
    ชะตาจะขาดทั้งคนทั้งพรรค ยังจะไม่ตื่นจากกองหญ้าซักที
    ไอ่สามกีบ ไอ่ทุยส้ม จั๊ดง่าวแต้ๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ได้ยอดแค่ 22 ล้าน คุยส้มทั้งแผ่นดิน ถถถถถถ กวิ้น รุ้ง คงขำกลิ้ง เมกาเริ่มขรี้ตืดเฉยเลย เฉพาะกวิ้น ตรวจสอบบช. พบ 60 ล. รุ้งเบาะก็ 30 ล. อ้าวๆๆๆ ทั้งพรรค ยังสู้รุ้งคนเดียวยังไม่ได้เลย แล้วมีคุยด้วย เดี๋ยวจะส้มทั้งแผ่นดิน ทั้งแผ่นดินยังกี่โมงก่อน ไอ่กีบทุยเอ๊ย ตั้งสตินะ ไอ่เท้งเต้งหัวหน้าพรรคอะ อยู่ใน 44 สส.ที่จะถูกเช็คบิล ว่าว ปิดฉากไปได้เลย มีคดีย์ที่ถูกตัดสินแล้ว จำ 4 เดือน ถึงรอลงอาญาก็ถือว่า เป็นนายกไม่ได้ เป็นรมต.ก็ไมได่้ แล้วถูกตัดสิทธิ์ 10 ดูข่าวบ้างหรือเปล่า ส่วนไหมเส้นหย่อย ก็อยู่ใน 44 สส. หรือจะมึนๆ ให้ไอซ์ โหบี๋เป็นนายกอันนั้ก็ละเมอไปเลย เพราะไอซ์ โดนตัดสินแล้ว 6 ปี แต่มันดึงเช็งขออุทธรแค่นั้น มาดูเรื่องกระแสบ้าง ไอ่ฉัด ส่งท้องถิ่นลง ว่าว กับว่าวทุกเขต มีแต่นิเดาโพล ที่ให้อันดับ 1 สวนทางความจริงทุกสนาม สว.อุตส่าห์ส่งตัวตึงลงมา แว่นคางส้ม กะได้คะแนนล้นหลาม สุดท้ายเป็นไง ตอนนี้ 19 ยังไม่ถึงเลย นี่ไม่อยากจะรื้อฟื้นเรื่องหนังส้งทรีนของไอ่ทวย ทั้งให้ ทั้งมีป๊อปคอนมีกระเป๋ามาล่อ ว่างจนถูกถอดออกจากโรงภายในไม่กี่วัน ใช้แผนเก่าเอาคนไม่ถึงสิบแถลงโดน นศ.ราม แล้วตีข่าวว่าม.รามไม่ยอมให้ยุบก้าวไกล เอาอีกซักเรื่องสองเรื่อง ไลฟ์สดรอบสุดท้ายที่ว่าวและชัยทวาลแถลง เพจหลักพรรคมีคนดูห้าร้อยกว่าคน วันที่ไปฟังแถลง ปิยะบุตรหวังปลุกระแส เป็นไง มีแต่คนแก่ที่หน้าตาคุ้นๆไป คนรุ่นใหม่ไปไหนหมด ทะลุวังก็ไม่เอากะมาน มีแต่สรย้วยเอามาออกรัวๆ บีบน้ำตา พอสั่งคัท แม่มเซลฟี่กันยิ้มแย้มแจ่มใส ตกเย็น ไอ่ว่าวไปบีบน้ำตา คนกรี๊ดๆ พอค่ำ เอาค่าสมาชิกพรรคก้าวไกลที่คงค้างไหนๆก็ยุบ ไปจัดปาตี้กันสนุกสนาน กีบ เมื่อไหร่จะตื่นซักทีฟร๊ะ คือ พี่คิงส์ชักลำใยในความหลงมโนกับเรื่องที่ตื้นเขินพวกนี้ซักที แต่เต็มที่แล้วนะ จะนอนฝันบนฟางหญ้า เคี้ยวเรื่องมโนจากพรรคส้มต่อก็แล้วแต่ จะบอกอีกเรื่องนะ ไอ่หัวหน้าพรรคที่ชื่อเท้งเต้ง ชื่อก็ไม่มงคลอยู่แล้ว พบว่า มีหลักฐานเป็นผู้ปลุกระดม 112 แล้วยืนยันว่าจะดัน 112 ต่อ คิดว่ามันจะพ้นจากล้มล้างการปกครองมั๊ย ชะตาจะขาดทั้งคนทั้งพรรค ยังจะไม่ตื่นจากกองหญ้าซักที ไอ่สามกีบ ไอ่ทุยส้ม จั๊ดง่าวแต้ๆ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 856 มุมมอง 0 รีวิว
  • เท้งเต้งน่าจะไม่ได้ฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนะครับ
    #ที่พรรคก้าวไกลล้มล้างการปกครองฯ
    #ถึงแม้จะอ้างว่าได้ลบโพสปลุกระดม
    ก็ถือว่าความผิดนั้นได้ทำสำเร็จแล้ว
    สงสัยเท้งเต้งจะส่องเพจคิงส์ฯอยู่ครับ
    เรียนแจ้ง กกต. และศาลรัฐธรรมนูญครับ
    เท้งเต้งหัวหน้าพรรคส้มคนใหม่
    พรรคประชาโจน เป็นตัวหลักอีกตัว
    ของกลุ่มผู้ล้มล้างการปกครองในระบบประชาธิปไตย
    อันมีพระมหากษัตริทรงเป็นประมุข ครับ
    ถึงจะลบโพสไปวันนี้ กลัวจนอุนจิขึ้นหัวไปแล้ว
    แต่เพจคิงส์โพธิ์แดงแคปไว้ทันครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เท้งเต้ง
    เท้งเต้งน่าจะไม่ได้ฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนะครับ #ที่พรรคก้าวไกลล้มล้างการปกครองฯ #ถึงแม้จะอ้างว่าได้ลบโพสปลุกระดม ก็ถือว่าความผิดนั้นได้ทำสำเร็จแล้ว สงสัยเท้งเต้งจะส่องเพจคิงส์ฯอยู่ครับ เรียนแจ้ง กกต. และศาลรัฐธรรมนูญครับ เท้งเต้งหัวหน้าพรรคส้มคนใหม่ พรรคประชาโจน เป็นตัวหลักอีกตัว ของกลุ่มผู้ล้มล้างการปกครองในระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริทรงเป็นประมุข ครับ ถึงจะลบโพสไปวันนี้ กลัวจนอุนจิขึ้นหัวไปแล้ว แต่เพจคิงส์โพธิ์แดงแคปไว้ทันครับ #คิงส์โพธิ์แดง #เท้งเต้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'แก้วสรร อติโพธิ' เผยแพร่บทความ 'ก้าวใหม่ของก้าวไกล' เสนอแก้มาตรา 112 อย่างไร จึงจะไม่ถูกยุบพรรคอีก

    10 สิงหาคม 2567-นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "ก้าวใหม่...ของก้าวไกล? ในรูปแบบถาม-ตอบ มีเนื้อหาดังนี้

    “ ที่ผ่านมาเราไม่เคยสื่อสารลดเพดานเรื่องอะไร....เราเองก็ไม่ประมาททำทุกอย่างรอบคอบ คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาจนนำมาสู่การยุบพรรคก้าวไกล เราต้องกลับมาศึกษาอย่างดี พวกเรายังคงต้องผลักดันเดินหน้าปรับปรุงแก้กฎหมายในส่วนนี้ ที่ปัจจุบันก็ยังมีปัญหาอยู่ ”ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน

    ถาม พรรคประชาชนต้องเสนอร่างกฎหมายแก้ ม.๑๑๒ อย่างไร..จึงจะไม่ถูกศาลสั่งยุบอีก ครับ ?

    ตอบ เสนอร่างเดิมไม่ปรับปรุงอะไรเลยก็ยังได้ครับ ขอแต่ให้เสนอด้วยกระบวนการนิติบัญญัติที่ชอบเท่านั้น คุณต้องอ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้ดีๆว่า ความผิดที่ผ่านมา มันอยู่ที่ ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มุ่งเอาการเสนอกฎหมายมาบังหน้า บังความเคลื่อนไหวใหญ่อย่างเป็นขบวนการที่มุ่งกร่อนเซาะสถาบันกษัตริย์ ความข้อนี้ศาลพูดไว้ชัดแล้วในคำวินิจฉัยแรก เมื่อ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๗
    “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองมีพฤติการณ์ในการใช้สิทธิหรือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเพื่อทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดย ซ่อนเร้นหรือผ่านการนำเสนอร่างกฎหมาย ...มีลักษณะดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการ ใช้หลายพฤติการณ์ประกอบกัน ทั้งการชุมนุม การจัดกิจการ การรณรงค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การเสนอร่างแก้ไขกฎหมายเข้าสู่สภา และการใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ”

    “ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า สั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกทั้ง ไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย”

    ถาม อะไรคือการแก้ไขกฎหมาย “ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ”

    ตอบ คือการใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่สุจริต ผิดวิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญ มุ่งวี้ดบึ้มให้การมีอยู่ของสถาบันกษัตริย์กลายเป็นปัญหาของชาติ ชูเป็นนโยบายหลัก จัดกิจกรรม จัดชุมนุม รณรงค์ผ่านสื่อ และสอดประสานกับกลุ่มต่างๆ ใช้โซเชียลใส่ร้าย ทำลาย ปล่อยแฟลชม๊อบออกมาอาละวาด ด่าทอ เกิดคดี ๑๑๒ ถูกจับกุมเสียอนาคตเป็นร้อยคดี
    พฤติการณ์ทั้งหมดนี้ในคำวินิจฉัยยุบพรรค ศาลระบุไว้เป็นเอกฉันท์ว่าเป็นขบวนการกว้างกว่ากิจกรรมเสนอร่างกฎหมายในสภา มีผลเป็นการล้มล้างการปกครอง ส่วนตัวตนของคนที่เคลื่อนไหวถึงขั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่นั้น ตรงนี้เสียง ๘ : ๑ ยืนยันว่าเป็นปฏิปักษ์

    ถาม อ้าว...ถ้าชี้ว่าเป็นปฏิปักษ์อย่างนี้ สส.ก้าวไกล ๔๔ คน ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่างกฎหมาย ก็โดนตัดสิทธิสมัครเลือกตั้งไปตลอดชีวิตเลยสิครับ

    ตอบ ปปช.เขากำลังเริ่มตรวจสอบอยู่ ถ้าพบว่ามีมูล ก็จะกล่าวหาว่าใครมีพฤติการณ์ประพฤติผิดจรรยาบรรณอย่างไรบ้าง จากนั้นก็ให้ชี้แจงเข้าสู่กระบวนการไต่สวนแล้วเสนอ คณะกรรมการ ปปช. มีมติในที่สุดว่า ควรส่งให้ศาลฏีกาพิพากษาตัดสิทธิ ฐานประพฤติผิดมาตรฐานจริยธรรมผู้แทนราษฎร ข้อนี้หรือไม่?

    “ ข้อ ๖ สมาชิกและกรรมาธิการต้องจงรักภักดีและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ”

    ถาม ผมเป็น สส.ก้าวไกล เห็นว่า การใช้ ม.๑๑๒ โดยไม่ถูกต้องมันมีอยู่จริง ก็ร่วมลงชื่อเสนอร่างกฎหมายไปโดยสุจริต ผมก็โดนฆ่าโดนตัดสิทธิทางการเมืองเลยหรือ

    ตอบ ถ้าเราเข้าใจชัดแล้วว่า ความผิดที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้บ่งนั้น มันอยู่ที่การกร่อนเซาะสถาบันโดยจัดตั้งและเคลื่อนไหวจนเป็นขบวนการใหญ่ ซ่อนเร้นอยู่หลังการนำเสนอร่างกฎหมาย อีกทีหนึ่ง ถ้าเข้าใจตรงกันเช่นนี้คุณก็ไม่ผิด เพราะใช้อำนาจหน้าที่ไปโดยสุจริต ไม่ได้รู้เห็นสุมหัวร่วมอยู่ในขบวนการกร่อนเซาะนั้น

    ถาม ถ้าถือตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว ร่างกฎหมายที่ผมลงชื่อไปนั้น มันระบุให้ความผิดหมิ่นกษัตริย์เป็นความผิดอันยอมความได้เช่นหมิ่นชาวบ้านทั่วไปนะครับ แก้กฎหมายอย่างนี้ตำรวจไปจับคนด่าในหลวงเลยไม่ได้ ต้องให้ในวังแจ้งความเอาเรื่องก่อน อย่างนี้มันหมายความว่าเราเลิกไม่คุ้มครองกษัตริย์ในฐานะสถาบันของชาติอีกต่อไป แล้วมันไม่ขัดรัฐธรรมนูญหรือครับ ผมจะรอด หลุดคดีจริยธรรมแน่หรือเมื่อเสนอกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญ

    ตอบ ถ้าร่างนี้ผ่านเป็นกฎหมาย ผมว่าศาลรัฐธรรมนูญต้องตีตก ว่าขัดรัฐธรรมนูญแน่ แต่ปัญหาว่าคนเสนอร่างกฎหมาย เคลื่อนไหวเป็นปฏิปักษ์หรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    ถาม หมายความว่า ใน สส. ๔๔ คนนี้ อาจเป็นผิดเพียงบางคนเท่านั้น อย่างนั้นหรือ

    ตอบ ครับเป็นเช่นนั้น...คดีนี้ลงโทษที่คน เอาเฉพาะที่เป็น สส. และเฉพาะคนที่เป็นภัยต่อรัฐธรรมนูญออกไปจากการเมือง แต่ละคนต้องมีพฤติการณ์ส่วนตนประกอบชัดเจนด้วยว่าร่วมอยู่ในขบวนการกร่อนเซาะด้วยจริงๆ
    เยอรมันหลังสงครามเขาก็ออกกฎหมายตัดสิทธิทางการเมืองของแกนนำนาซีเหมือนกัน

    ถาม อาจารย์เห็นใครบ้างไหม

    ตอบ มีหลายคนหลายพฤติการณ์ คำวินิจฉัยศาลระบุไว้เหมือนกันว่ามีอยู่ในพรรคนี้แน่ ทั้งขึ้นปราศัย ทั้งต้องคดี ๑๑๒ ทั้งช่วยประกันตัว ฯลฯ

    ก็แล้วแต่ ปปช.จะไต่สวนเจอใครไหม หลักฐานไปได้แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่เพียงพอก็ไม่เป็นไร เราอย่าไปแทรกแซง

    ถาม ปปช.น่าจะขอหมายศาล ค้นโพสต์ในโซเชียลของ สส.พวกนี้ได้ไหมครับ น่าจะเจออะไรมากมายทีเดียว

    ตอบ ป่านนี้ไม่เหลืออะไรแล้วล่ะครับ

    ถาม สรุปแล้ว มาวันนี้ที่ หัวหน้าเท้งพรรคประชาชนบอกว่ายังจะเสนอร่างกฎหมาย ๑๑๒ อยู่อีก ก็ทำได้โดยชอบ อย่างนั้นใช่ไหมครับ

    ตอบ ถ้าทำโดยสุจริต ไม่มุ่งวี้ดบึ้มสร้างความขัดแย้ง เกลียดชังสถาบัน ก็เชิญเลยครับ

    ถาม เขาก็จะข่มใจไหวหรือครับ ผมเห็นชูสโลแกนปฏิวัติฝรั่งเศสครั้งปฏิวัติล้มล้างกษัตริย์ว่า “ เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ ” แล้วยังโบกธง “ ชาติ ศาสนา ประชาชน ” ชี้นำสังคมไทยเสียด้วย แล้วอย่างนี้ดูจะลดเพดานยากอยู่นะครับ

    ตอบ เรื่องของเขา เราดูให้ออกก็พอแล้วครับ ว่าเขารักความสามัคคีมีภราดรภาพในหมู่คนไทยจริงไหม รักชาติไม่รับเงินไม่รับอาณัติไม่ชักศึกเข้าบ้าน จนบ้านเมืองชิบหายเหมือน เซเลนสกี้หรือไม่ ดูไม่ยากหรอกครับ

    ถาม เขามีเสียงศรัทธาถึง ๑๔ ล้านเสียง อาจารย์อยากให้เขาใช้พลังนี้ทำอะไร

    ตอบ เลิกบ้าการเมืองเลิกหมกมุ่นแก้รัฐธรรมนูญ เดินเข้ามาเป็นรัฐบาลทำเรื่องนี้ให้เป็นจริงเถิดครับ ผมพร้อมจะเดินหาเสียงให้ทั้งซอยบ้านผมเลย

    - ปฏิรูปเกษตรกรรม ให้เกษตรกรคนเล็กคนน้อยมีอนาคตสร้างผลิตภาพในการผลิตต่างๆ ได้พอๆกับธุรกิจอาหารของซีพี อย่างที่อินเดียเขากำลังทำ

    - ปฏิรูปการจัดการความเจริญ ทำเชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก หาดใหญ่ เป็นเมืองรองให้เป็นฐานความเจริญของภูมิภาค ตามที่ธนาคารโลกเขาแนะนำ

    - ปฏิรูปการศึกษา ให้คนหลายสิบล้าน ยืนขึ้นมาสร้างตนเอง เลิกแบมือรอเงินดิจิตอล อย่างทุกวันนี้

    ตัวอย่างปฏิรูประดับโครงสร้างอย่างนี้ต่างหากครับ คือ “ก้าวไกล” ที่แท้จริง ที่พวกคุณคนรุ่นใหม่ต้องทุ่มเทเพื่ออนาคตของคุณเองให้จงได้

    ที่มา: ไทยโพสต์

    #Thaitimes
    'แก้วสรร อติโพธิ' เผยแพร่บทความ 'ก้าวใหม่ของก้าวไกล' เสนอแก้มาตรา 112 อย่างไร จึงจะไม่ถูกยุบพรรคอีก 10 สิงหาคม 2567-นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "ก้าวใหม่...ของก้าวไกล? ในรูปแบบถาม-ตอบ มีเนื้อหาดังนี้ “ ที่ผ่านมาเราไม่เคยสื่อสารลดเพดานเรื่องอะไร....เราเองก็ไม่ประมาททำทุกอย่างรอบคอบ คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาจนนำมาสู่การยุบพรรคก้าวไกล เราต้องกลับมาศึกษาอย่างดี พวกเรายังคงต้องผลักดันเดินหน้าปรับปรุงแก้กฎหมายในส่วนนี้ ที่ปัจจุบันก็ยังมีปัญหาอยู่ ”ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถาม พรรคประชาชนต้องเสนอร่างกฎหมายแก้ ม.๑๑๒ อย่างไร..จึงจะไม่ถูกศาลสั่งยุบอีก ครับ ? ตอบ เสนอร่างเดิมไม่ปรับปรุงอะไรเลยก็ยังได้ครับ ขอแต่ให้เสนอด้วยกระบวนการนิติบัญญัติที่ชอบเท่านั้น คุณต้องอ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้ดีๆว่า ความผิดที่ผ่านมา มันอยู่ที่ ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มุ่งเอาการเสนอกฎหมายมาบังหน้า บังความเคลื่อนไหวใหญ่อย่างเป็นขบวนการที่มุ่งกร่อนเซาะสถาบันกษัตริย์ ความข้อนี้ศาลพูดไว้ชัดแล้วในคำวินิจฉัยแรก เมื่อ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๗ “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองมีพฤติการณ์ในการใช้สิทธิหรือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเพื่อทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดย ซ่อนเร้นหรือผ่านการนำเสนอร่างกฎหมาย ...มีลักษณะดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการ ใช้หลายพฤติการณ์ประกอบกัน ทั้งการชุมนุม การจัดกิจการ การรณรงค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การเสนอร่างแก้ไขกฎหมายเข้าสู่สภา และการใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ” “ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า สั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกทั้ง ไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย” ถาม อะไรคือการแก้ไขกฎหมาย “ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ” ตอบ คือการใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่สุจริต ผิดวิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญ มุ่งวี้ดบึ้มให้การมีอยู่ของสถาบันกษัตริย์กลายเป็นปัญหาของชาติ ชูเป็นนโยบายหลัก จัดกิจกรรม จัดชุมนุม รณรงค์ผ่านสื่อ และสอดประสานกับกลุ่มต่างๆ ใช้โซเชียลใส่ร้าย ทำลาย ปล่อยแฟลชม๊อบออกมาอาละวาด ด่าทอ เกิดคดี ๑๑๒ ถูกจับกุมเสียอนาคตเป็นร้อยคดี พฤติการณ์ทั้งหมดนี้ในคำวินิจฉัยยุบพรรค ศาลระบุไว้เป็นเอกฉันท์ว่าเป็นขบวนการกว้างกว่ากิจกรรมเสนอร่างกฎหมายในสภา มีผลเป็นการล้มล้างการปกครอง ส่วนตัวตนของคนที่เคลื่อนไหวถึงขั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่นั้น ตรงนี้เสียง ๘ : ๑ ยืนยันว่าเป็นปฏิปักษ์ ถาม อ้าว...ถ้าชี้ว่าเป็นปฏิปักษ์อย่างนี้ สส.ก้าวไกล ๔๔ คน ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่างกฎหมาย ก็โดนตัดสิทธิสมัครเลือกตั้งไปตลอดชีวิตเลยสิครับ ตอบ ปปช.เขากำลังเริ่มตรวจสอบอยู่ ถ้าพบว่ามีมูล ก็จะกล่าวหาว่าใครมีพฤติการณ์ประพฤติผิดจรรยาบรรณอย่างไรบ้าง จากนั้นก็ให้ชี้แจงเข้าสู่กระบวนการไต่สวนแล้วเสนอ คณะกรรมการ ปปช. มีมติในที่สุดว่า ควรส่งให้ศาลฏีกาพิพากษาตัดสิทธิ ฐานประพฤติผิดมาตรฐานจริยธรรมผู้แทนราษฎร ข้อนี้หรือไม่? “ ข้อ ๖ สมาชิกและกรรมาธิการต้องจงรักภักดีและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ” ถาม ผมเป็น สส.ก้าวไกล เห็นว่า การใช้ ม.๑๑๒ โดยไม่ถูกต้องมันมีอยู่จริง ก็ร่วมลงชื่อเสนอร่างกฎหมายไปโดยสุจริต ผมก็โดนฆ่าโดนตัดสิทธิทางการเมืองเลยหรือ ตอบ ถ้าเราเข้าใจชัดแล้วว่า ความผิดที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้บ่งนั้น มันอยู่ที่การกร่อนเซาะสถาบันโดยจัดตั้งและเคลื่อนไหวจนเป็นขบวนการใหญ่ ซ่อนเร้นอยู่หลังการนำเสนอร่างกฎหมาย อีกทีหนึ่ง ถ้าเข้าใจตรงกันเช่นนี้คุณก็ไม่ผิด เพราะใช้อำนาจหน้าที่ไปโดยสุจริต ไม่ได้รู้เห็นสุมหัวร่วมอยู่ในขบวนการกร่อนเซาะนั้น ถาม ถ้าถือตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว ร่างกฎหมายที่ผมลงชื่อไปนั้น มันระบุให้ความผิดหมิ่นกษัตริย์เป็นความผิดอันยอมความได้เช่นหมิ่นชาวบ้านทั่วไปนะครับ แก้กฎหมายอย่างนี้ตำรวจไปจับคนด่าในหลวงเลยไม่ได้ ต้องให้ในวังแจ้งความเอาเรื่องก่อน อย่างนี้มันหมายความว่าเราเลิกไม่คุ้มครองกษัตริย์ในฐานะสถาบันของชาติอีกต่อไป แล้วมันไม่ขัดรัฐธรรมนูญหรือครับ ผมจะรอด หลุดคดีจริยธรรมแน่หรือเมื่อเสนอกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญ ตอบ ถ้าร่างนี้ผ่านเป็นกฎหมาย ผมว่าศาลรัฐธรรมนูญต้องตีตก ว่าขัดรัฐธรรมนูญแน่ แต่ปัญหาว่าคนเสนอร่างกฎหมาย เคลื่อนไหวเป็นปฏิปักษ์หรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถาม หมายความว่า ใน สส. ๔๔ คนนี้ อาจเป็นผิดเพียงบางคนเท่านั้น อย่างนั้นหรือ ตอบ ครับเป็นเช่นนั้น...คดีนี้ลงโทษที่คน เอาเฉพาะที่เป็น สส. และเฉพาะคนที่เป็นภัยต่อรัฐธรรมนูญออกไปจากการเมือง แต่ละคนต้องมีพฤติการณ์ส่วนตนประกอบชัดเจนด้วยว่าร่วมอยู่ในขบวนการกร่อนเซาะด้วยจริงๆ เยอรมันหลังสงครามเขาก็ออกกฎหมายตัดสิทธิทางการเมืองของแกนนำนาซีเหมือนกัน ถาม อาจารย์เห็นใครบ้างไหม ตอบ มีหลายคนหลายพฤติการณ์ คำวินิจฉัยศาลระบุไว้เหมือนกันว่ามีอยู่ในพรรคนี้แน่ ทั้งขึ้นปราศัย ทั้งต้องคดี ๑๑๒ ทั้งช่วยประกันตัว ฯลฯ ก็แล้วแต่ ปปช.จะไต่สวนเจอใครไหม หลักฐานไปได้แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่เพียงพอก็ไม่เป็นไร เราอย่าไปแทรกแซง ถาม ปปช.น่าจะขอหมายศาล ค้นโพสต์ในโซเชียลของ สส.พวกนี้ได้ไหมครับ น่าจะเจออะไรมากมายทีเดียว ตอบ ป่านนี้ไม่เหลืออะไรแล้วล่ะครับ ถาม สรุปแล้ว มาวันนี้ที่ หัวหน้าเท้งพรรคประชาชนบอกว่ายังจะเสนอร่างกฎหมาย ๑๑๒ อยู่อีก ก็ทำได้โดยชอบ อย่างนั้นใช่ไหมครับ ตอบ ถ้าทำโดยสุจริต ไม่มุ่งวี้ดบึ้มสร้างความขัดแย้ง เกลียดชังสถาบัน ก็เชิญเลยครับ ถาม เขาก็จะข่มใจไหวหรือครับ ผมเห็นชูสโลแกนปฏิวัติฝรั่งเศสครั้งปฏิวัติล้มล้างกษัตริย์ว่า “ เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ ” แล้วยังโบกธง “ ชาติ ศาสนา ประชาชน ” ชี้นำสังคมไทยเสียด้วย แล้วอย่างนี้ดูจะลดเพดานยากอยู่นะครับ ตอบ เรื่องของเขา เราดูให้ออกก็พอแล้วครับ ว่าเขารักความสามัคคีมีภราดรภาพในหมู่คนไทยจริงไหม รักชาติไม่รับเงินไม่รับอาณัติไม่ชักศึกเข้าบ้าน จนบ้านเมืองชิบหายเหมือน เซเลนสกี้หรือไม่ ดูไม่ยากหรอกครับ ถาม เขามีเสียงศรัทธาถึง ๑๔ ล้านเสียง อาจารย์อยากให้เขาใช้พลังนี้ทำอะไร ตอบ เลิกบ้าการเมืองเลิกหมกมุ่นแก้รัฐธรรมนูญ เดินเข้ามาเป็นรัฐบาลทำเรื่องนี้ให้เป็นจริงเถิดครับ ผมพร้อมจะเดินหาเสียงให้ทั้งซอยบ้านผมเลย - ปฏิรูปเกษตรกรรม ให้เกษตรกรคนเล็กคนน้อยมีอนาคตสร้างผลิตภาพในการผลิตต่างๆ ได้พอๆกับธุรกิจอาหารของซีพี อย่างที่อินเดียเขากำลังทำ - ปฏิรูปการจัดการความเจริญ ทำเชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก หาดใหญ่ เป็นเมืองรองให้เป็นฐานความเจริญของภูมิภาค ตามที่ธนาคารโลกเขาแนะนำ - ปฏิรูปการศึกษา ให้คนหลายสิบล้าน ยืนขึ้นมาสร้างตนเอง เลิกแบมือรอเงินดิจิตอล อย่างทุกวันนี้ ตัวอย่างปฏิรูประดับโครงสร้างอย่างนี้ต่างหากครับ คือ “ก้าวไกล” ที่แท้จริง ที่พวกคุณคนรุ่นใหม่ต้องทุ่มเทเพื่ออนาคตของคุณเองให้จงได้ ที่มา: ไทยโพสต์ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 953 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยไม่ทน อเมริกาต้องยุติแทรกแซงไทย! นายบุญญ์พัชรเกษม เสริมวัฒนากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท 189 คอมมิวนิเคชั่นส์ อินเทลลิเจนซ์ เผยแพร่จดหมายประท้วงการกระทำไม่เหมาะสมของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้ยุติการแทรกแซงไม่เหมาะสมต่อประเทศไทย กรณีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567

    เนื้อหาในจดหมายประท้วงมีดังนี้
    "To Mr. Spokesperson of U.S. Department of State, Office of the Spokesperson

    Attached to His Excellency the United States Ambassador to Thailand

    Subject: Urgent Request for Cessation of Inappropriate Intervention shown in the Immediate Release issued on August 7, 2024 on the dissolution of Move Forward Party in Thailand which is regarded to Thailand's Internal Affairs.

    Your Excellency,
    As far as my concern, I am writing on behalf of the Thai people to express our profound concern and condemnation regarding the recent inappropriate interventions by the United States Embassy in Thailand's internal affairs, regarding to the Constituition Court's judgement on the dissolution of the Move Forward Party.

    As widely mentioned, It pointed to a party proposal to amend the law on March 25, 2021, policy statements during its campaign for the May 14, 2023 election, and expressions of intent to amend the law through many political activities and channels. Thus, the court said that the party proposed Section 112 be amended to separate wrongdoings under the section from other offences against national security, make wrongdoers eligible for pardon and enable settlement. According to the court, such attempts diminished the value of the royal institution, showed intention to abuse the royal institution for political gain in the general election, hurt people’s faith in the institution and affected national security.
    (Bangkok Post Website, August 7, 2024)

    From points of view shown in the Immediate Release, I truly believe that such actions are a clear violation of international norms and diplomatic protocol. They have unnecessarily escalated tensions between our two nations, which have historically enjoyed a strong and mutually beneficial relationship.

    While we, Thai people, do recognize the importance of freedom of expression and the right to peaceful assembly, we thoroughly cannot condone foreign interference in our domestic affairs. The United States Spokesperson's action has emboldened certain elements within Thailand to challenge the authority of our democratConstituitional affairs.

    The timing of these interventions is particularly troubling, given the current political situation of heightened bilateral tensions. It is imperative that we should maintain stability and cooperation between our nations, especially in the face of mutually shared challenges.
    We urge you to immediately cease any further interference in Thailand's internal affairs. Your actions are not only inappropriate but also counterproductive to the long-term interests of both our countries.

    We believe that the United States Spokesperson Office and Embassy in Thailand can play a constructive role in promoting dialogue and understanding between Thailand and the United States. However, this can only be achieved through respectful and non-interfering diplomacy.
    Last but not least, failure to address this issue promptly could have serious consequences for the future of our diplomatic relations between Thailand and the United States of America..

    We trust that you will give this matter the utmost attention and consideration.

    Sincerely yours,
    Mr. Boonpachakasem Sermwatanarkul

    Link of the Immediate​ Release:
    https://th.usembassy.gov/statement-by-matthew-miller.../

    สำหรับนายบุญญ์พัชรเกษม เสริมวัฒนากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท 189 คอมมิวนิเคชั่นส์ อินเทลลิเจนซ์ จำกัด ที่คนในวงการทีวี.เรียกขานว่า “เจ็ง” เป็นศิษย์เก่าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 15 เขาคือ ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์การันตีด้วยรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ประจำปี 2554 ประเภท รายการสารคดีเฉลิมพระเกียรติ จากสารคดีเฉลิมพระเกียรติชุด “ประเทศไทยโชคดีที่มีในหลวง” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี และ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และยังเป็นคนเดียวกันกับผู้ผลิตรายการสารคดีเฉลิมพระเกียรติอีก 2 ชุด ได้แก่ “ทำไมเราถึงรักพระเจ้าอยู่หัว” และ “เพราะพ่อเหนื่อยนักหนามามากแล้ว”
    “ทำไมเราถึงรักพระเจ้าอยู่หัว” เป็นสารคดีเฉลิมพระเกียรติชุดแรกที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น เป็นการสัมภาษณ์บุคคลในวงการบันเทิง ตามมาด้วย “เพราะพ่อเหนื่อยนักหนามามากแล้ว” สัมภาษณ์ชาวบ้าน ชาวนา ชาวไร่ และชุด “ประเทศไทยโชคดีที่มีในหลวง” เป็นการสัมภาษณ์ความรู้สึกของเด็กเล็กถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

    #Thaitimes
    ไทยไม่ทน อเมริกาต้องยุติแทรกแซงไทย! นายบุญญ์พัชรเกษม เสริมวัฒนากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท 189 คอมมิวนิเคชั่นส์ อินเทลลิเจนซ์ เผยแพร่จดหมายประท้วงการกระทำไม่เหมาะสมของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้ยุติการแทรกแซงไม่เหมาะสมต่อประเทศไทย กรณีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 เนื้อหาในจดหมายประท้วงมีดังนี้ "To Mr. Spokesperson of U.S. Department of State, Office of the Spokesperson Attached to His Excellency the United States Ambassador to Thailand Subject: Urgent Request for Cessation of Inappropriate Intervention shown in the Immediate Release issued on August 7, 2024 on the dissolution of Move Forward Party in Thailand which is regarded to Thailand's Internal Affairs. Your Excellency, As far as my concern, I am writing on behalf of the Thai people to express our profound concern and condemnation regarding the recent inappropriate interventions by the United States Embassy in Thailand's internal affairs, regarding to the Constituition Court's judgement on the dissolution of the Move Forward Party. As widely mentioned, It pointed to a party proposal to amend the law on March 25, 2021, policy statements during its campaign for the May 14, 2023 election, and expressions of intent to amend the law through many political activities and channels. Thus, the court said that the party proposed Section 112 be amended to separate wrongdoings under the section from other offences against national security, make wrongdoers eligible for pardon and enable settlement. According to the court, such attempts diminished the value of the royal institution, showed intention to abuse the royal institution for political gain in the general election, hurt people’s faith in the institution and affected national security. (Bangkok Post Website, August 7, 2024) From points of view shown in the Immediate Release, I truly believe that such actions are a clear violation of international norms and diplomatic protocol. They have unnecessarily escalated tensions between our two nations, which have historically enjoyed a strong and mutually beneficial relationship. While we, Thai people, do recognize the importance of freedom of expression and the right to peaceful assembly, we thoroughly cannot condone foreign interference in our domestic affairs. The United States Spokesperson's action has emboldened certain elements within Thailand to challenge the authority of our democratConstituitional affairs. The timing of these interventions is particularly troubling, given the current political situation of heightened bilateral tensions. It is imperative that we should maintain stability and cooperation between our nations, especially in the face of mutually shared challenges. We urge you to immediately cease any further interference in Thailand's internal affairs. Your actions are not only inappropriate but also counterproductive to the long-term interests of both our countries. We believe that the United States Spokesperson Office and Embassy in Thailand can play a constructive role in promoting dialogue and understanding between Thailand and the United States. However, this can only be achieved through respectful and non-interfering diplomacy. Last but not least, failure to address this issue promptly could have serious consequences for the future of our diplomatic relations between Thailand and the United States of America.. We trust that you will give this matter the utmost attention and consideration. Sincerely yours, Mr. Boonpachakasem Sermwatanarkul Link of the Immediate​ Release: https://th.usembassy.gov/statement-by-matthew-miller.../ สำหรับนายบุญญ์พัชรเกษม เสริมวัฒนากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท 189 คอมมิวนิเคชั่นส์ อินเทลลิเจนซ์ จำกัด ที่คนในวงการทีวี.เรียกขานว่า “เจ็ง” เป็นศิษย์เก่าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 15 เขาคือ ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์การันตีด้วยรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ประจำปี 2554 ประเภท รายการสารคดีเฉลิมพระเกียรติ จากสารคดีเฉลิมพระเกียรติชุด “ประเทศไทยโชคดีที่มีในหลวง” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี และ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และยังเป็นคนเดียวกันกับผู้ผลิตรายการสารคดีเฉลิมพระเกียรติอีก 2 ชุด ได้แก่ “ทำไมเราถึงรักพระเจ้าอยู่หัว” และ “เพราะพ่อเหนื่อยนักหนามามากแล้ว” “ทำไมเราถึงรักพระเจ้าอยู่หัว” เป็นสารคดีเฉลิมพระเกียรติชุดแรกที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น เป็นการสัมภาษณ์บุคคลในวงการบันเทิง ตามมาด้วย “เพราะพ่อเหนื่อยนักหนามามากแล้ว” สัมภาษณ์ชาวบ้าน ชาวนา ชาวไร่ และชุด “ประเทศไทยโชคดีที่มีในหลวง” เป็นการสัมภาษณ์ความรู้สึกของเด็กเล็กถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 #Thaitimes
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 990 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sondhitalk EP 254 : ยุบก้าวไกล แล้วยังไงต่อ? (Full)

    - นักกีฬาไทย คว้าชัยโอลิมปิก
    - ยุบพรรคก้าวไกล
    - “โจ๊ก” ถึงเวลาใช้กรรม
    - ทวงคืน “ฟ้าทะลายโจร”
    - จีนเปลี่ยนโลกด้วย “STEM”

    ช่องการการติดตาม SONDHITALK
    facebook : https://www.facebook.com/sondhitalk/
    youtube : https://www.youtube.com/@sondhitalk
    thaitimes : https://thaitimes.co/pages/sondhix
    tiktok : https://www.tiktok.com/@sondhitalk
    twitter X : https://x.com/sondhitalk
    sondhitalk : https://sondhitalk.com/

    #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #ก้าวไกล #ยุบพรรคก้าวไกล #สุรเชชษฐ์ #บิ๊กโจ๊ก #โอลิมปิก2024 #เทนนิสพาณิภัค #วิวกุลวุฒิ #ฟ้าทะลายโจร #STEM #จีน
    Sondhitalk EP 254 : ยุบก้าวไกล แล้วยังไงต่อ? (Full) - นักกีฬาไทย คว้าชัยโอลิมปิก - ยุบพรรคก้าวไกล - “โจ๊ก” ถึงเวลาใช้กรรม - ทวงคืน “ฟ้าทะลายโจร” - จีนเปลี่ยนโลกด้วย “STEM” ช่องการการติดตาม SONDHITALK facebook : https://www.facebook.com/sondhitalk/ youtube : https://www.youtube.com/@sondhitalk thaitimes : https://thaitimes.co/pages/sondhix tiktok : https://www.tiktok.com/@sondhitalk twitter X : https://x.com/sondhitalk sondhitalk : https://sondhitalk.com/ #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #ก้าวไกล #ยุบพรรคก้าวไกล #สุรเชชษฐ์ #บิ๊กโจ๊ก #โอลิมปิก2024 #เทนนิสพาณิภัค #วิวกุลวุฒิ #ฟ้าทะลายโจร #STEM #จีน
    Like
    Love
    22
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10998 มุมมอง 914 0 รีวิว
Pages Boosts