• "การเมืองโรมาเนียเพิ่มระดับความวุ่ยวายขึ้นไปอีก!!"

    ศาลอุทธรณ์ในเมืองโปลเยสตี มีคำตัดสินยกเลิก คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแห่งโรมาเนียในการยกเลิกการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว!!!

    ผู้พิพากษาอเล็กซานดรู วาสิเล (Alexandru Vasile) แห่งศาลอุทธรณ์เมืองโปลเยสตี มีคำสั่งสั่งระงับการบังคับใช้คำตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งศาลอุทธรณ์ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

    ในคำประกาศของศาลอุทธรณ์ระบุว่า “ระงับการบังคับใช้คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีขั้นสุดท้าย โดยการยอมรับการยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำตัดสินดังกล่าวจากศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024”

    จากประกาศของศาลอุทธรณ์ ทำให้เกิดกระแสการพูดถึงอย่างมากมายในโซเชียลของโรมาเนีย ถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ "คาลิน จอร์เจสคู" กลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่สองต่อไป

    ศาลอุทธรณ์ให้เวลา 5 วัน ในการยื่นเรื่องคัดค้านคำตัดสินนี้

    ทางด้านสื่อของโรมาเนีย รายงานว่า เหตุผลของคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการยกเลิกการเลือกตั้ง หลังจากได้ให้การรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนนั้นแล้ว

    นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถพิสูจหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาผู้สมัครที่ได้รับชัยชนะ จนนำไปสู่การตัดสินระงับการเลือกตั้งได้ เนื่องจากเอกสารหลักฐานต่างๆในการอ้างอิงเพื่อระงับการเลือกตั้ง จะต้องได้รับการพิจารณาโดยฝ่ายตุลาการ ไม่ใช่โดยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีจากการแต่งตั้งของฝ่ายการเมือง ซึ่งทำให้เกิดความคลางแคลงใจในกระบวนการพิจรณาดังกล่าว

    จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ออกมา การเมืองโรมาเนียจะไปในทิศทางใด และ Calin Georgescu ซึ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งรอบแรก จะได้กลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกหรือไม่
    "การเมืองโรมาเนียเพิ่มระดับความวุ่ยวายขึ้นไปอีก!!" ศาลอุทธรณ์ในเมืองโปลเยสตี มีคำตัดสินยกเลิก คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแห่งโรมาเนียในการยกเลิกการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว!!! ผู้พิพากษาอเล็กซานดรู วาสิเล (Alexandru Vasile) แห่งศาลอุทธรณ์เมืองโปลเยสตี มีคำสั่งสั่งระงับการบังคับใช้คำตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งศาลอุทธรณ์ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ในคำประกาศของศาลอุทธรณ์ระบุว่า “ระงับการบังคับใช้คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีขั้นสุดท้าย โดยการยอมรับการยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำตัดสินดังกล่าวจากศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024” จากประกาศของศาลอุทธรณ์ ทำให้เกิดกระแสการพูดถึงอย่างมากมายในโซเชียลของโรมาเนีย ถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ "คาลิน จอร์เจสคู" กลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่สองต่อไป ศาลอุทธรณ์ให้เวลา 5 วัน ในการยื่นเรื่องคัดค้านคำตัดสินนี้ ทางด้านสื่อของโรมาเนีย รายงานว่า เหตุผลของคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการยกเลิกการเลือกตั้ง หลังจากได้ให้การรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนนั้นแล้ว นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถพิสูจหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาผู้สมัครที่ได้รับชัยชนะ จนนำไปสู่การตัดสินระงับการเลือกตั้งได้ เนื่องจากเอกสารหลักฐานต่างๆในการอ้างอิงเพื่อระงับการเลือกตั้ง จะต้องได้รับการพิจารณาโดยฝ่ายตุลาการ ไม่ใช่โดยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีจากการแต่งตั้งของฝ่ายการเมือง ซึ่งทำให้เกิดความคลางแคลงใจในกระบวนการพิจรณาดังกล่าว จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ออกมา การเมืองโรมาเนียจะไปในทิศทางใด และ Calin Georgescu ซึ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งรอบแรก จะได้กลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกหรือไม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังเผชิญกับความท้าทายในการขายชิป AI PC รุ่นใหม่ เช่น Lunar Lake และ Meteor Lake ซึ่งมีราคาสูงกว่าชิป Raptor Lake รุ่นก่อนหน้าอย่างมาก ผู้บริโภคและ OEMs เลือกใช้ชิปรุ่นเก่าที่มีราคาย่อมเยาแทน ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิตสำหรับชิปรุ่นเก่าในกระบวนการผลิต Intel 7 นอกจากนี้ Intel ยังประกาศแผนการปรับโครงสร้างองค์กรและการลดต้นทุน รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานเพื่อรับมือกับผลประกอบการที่ลดลง

    Intel ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนาเพื่อเพิ่มการใช้งานชิป AI PC อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนแอปพลิเคชันที่ดึงดูดผู้บริโภคยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ

    ✅ ปัญหาการขายชิป AI PC รุ่นใหม่
    - Lunar Lake และ Meteor Lake มีราคาสูงกว่าชิปรุ่นก่อนหน้า
    - ผู้บริโภคและ OEMs เลือกใช้ชิปรุ่นเก่า เช่น Raptor Lake

    ✅ ปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิต
    - Intel เผชิญกับปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิตสำหรับชิปรุ่นเก่าในกระบวนการผลิต Intel 7
    - ความต้องการชิปรุ่นเก่าเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาที่เหมาะสม

    ✅ แผนการปรับโครงสร้างองค์กร
    - Intel ประกาศแผนการลดต้นทุนและการเลิกจ้างพนักงาน
    - มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยี AI
    - Intel ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-ai-pc-chips-arent-selling-instead-last-gen-raptor-lake-booms-and-creates-a-shortage
    Intel กำลังเผชิญกับความท้าทายในการขายชิป AI PC รุ่นใหม่ เช่น Lunar Lake และ Meteor Lake ซึ่งมีราคาสูงกว่าชิป Raptor Lake รุ่นก่อนหน้าอย่างมาก ผู้บริโภคและ OEMs เลือกใช้ชิปรุ่นเก่าที่มีราคาย่อมเยาแทน ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิตสำหรับชิปรุ่นเก่าในกระบวนการผลิต Intel 7 นอกจากนี้ Intel ยังประกาศแผนการปรับโครงสร้างองค์กรและการลดต้นทุน รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานเพื่อรับมือกับผลประกอบการที่ลดลง Intel ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนาเพื่อเพิ่มการใช้งานชิป AI PC อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนแอปพลิเคชันที่ดึงดูดผู้บริโภคยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ✅ ปัญหาการขายชิป AI PC รุ่นใหม่ - Lunar Lake และ Meteor Lake มีราคาสูงกว่าชิปรุ่นก่อนหน้า - ผู้บริโภคและ OEMs เลือกใช้ชิปรุ่นเก่า เช่น Raptor Lake ✅ ปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิต - Intel เผชิญกับปัญหาขาดแคลนกำลังการผลิตสำหรับชิปรุ่นเก่าในกระบวนการผลิต Intel 7 - ความต้องการชิปรุ่นเก่าเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาที่เหมาะสม ✅ แผนการปรับโครงสร้างองค์กร - Intel ประกาศแผนการลดต้นทุนและการเลิกจ้างพนักงาน - มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา ✅ การพัฒนาเทคโนโลยี AI - Intel ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และสร้างระบบนิเวศสำหรับนักพัฒนา https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-ai-pc-chips-arent-selling-instead-last-gen-raptor-lake-booms-and-creates-a-shortage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC ได้ประกาศเริ่มการผลิตชิป N2 (2nm-class) ในปริมาณมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเทคโนโลยีนี้ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ นอกจากนี้ TSMC ยังได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม เช่น N2P และ A16 ที่จะเข้าสู่การผลิตในปี 2026 และ N2X ที่มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วสูงสุดในปี 2027

    ✅ การเริ่มต้นการผลิตชิป N2
    - ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน
    - ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 25–30% และเพิ่มประสิทธิภาพ 10–15% เมื่อเทียบกับ N3E

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม
    - N2P: เพิ่มประสิทธิภาพ 5–10% และลดการใช้พลังงาน 5–10% เมื่อเทียบกับ N2
    - A16: ใช้ Super Power Rail (SPR) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งพลังงาน
    - N2X: มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วสูงสุดสำหรับ CPU และศูนย์ข้อมูล

    ✅ การนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ต่างๆ
    - AMD EPYC 'Venice' CPUs สำหรับศูนย์ข้อมูล
    - ชิปสำหรับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และ PC ของ Apple ในปี 2025

    ✅ การตอบสนองของตลาด
    - N2 มีการนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า N5 ถึง 4 เท่าในปีที่สอง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmcs-2nm-n2-process-node-enters-production-this-year-a16-and-n2p-arriving-next-year
    TSMC ได้ประกาศเริ่มการผลิตชิป N2 (2nm-class) ในปริมาณมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเทคโนโลยีนี้ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ นอกจากนี้ TSMC ยังได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม เช่น N2P และ A16 ที่จะเข้าสู่การผลิตในปี 2026 และ N2X ที่มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วสูงสุดในปี 2027 ✅ การเริ่มต้นการผลิตชิป N2 - ใช้ Gate-All-Around (GAA) nanosheet transistors เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน - ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 25–30% และเพิ่มประสิทธิภาพ 10–15% เมื่อเทียบกับ N3E ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม - N2P: เพิ่มประสิทธิภาพ 5–10% และลดการใช้พลังงาน 5–10% เมื่อเทียบกับ N2 - A16: ใช้ Super Power Rail (SPR) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งพลังงาน - N2X: มุ่งเน้นการเพิ่มความเร็วสูงสุดสำหรับ CPU และศูนย์ข้อมูล ✅ การนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ต่างๆ - AMD EPYC 'Venice' CPUs สำหรับศูนย์ข้อมูล - ชิปสำหรับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และ PC ของ Apple ในปี 2025 ✅ การตอบสนองของตลาด - N2 มีการนำไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า N5 ถึง 4 เท่าในปีที่สอง https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmcs-2nm-n2-process-node-enters-production-this-year-a16-and-n2p-arriving-next-year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ เช่น Lenovo, HP และ Dell ต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย โดยนโยบายภาษีที่สูงถึง 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

    ซาอุดีอาระเบียได้เสนอสิ่งจูงใจที่น่าสนใจ เช่น การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด และการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ซึ่งมีมูลค่าถึง 620 พันล้านดอลลาร์ โดย Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบียเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา

    ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย
    - Lenovo, HP และ Dell กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย
    - Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบีย

    ✅ สิ่งจูงใจจากซาอุดีอาระเบีย
    - ซาอุดีอาระเบียเสนอการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด
    - กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

    ✅ ผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์
    - ภาษี 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิต
    - ซาอุดีอาระเบียมีภาษีเพียง 10% ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

    ✅ การขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา
    - การย้ายฐานการผลิตช่วยเพิ่มการเข้าถึงตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา

    https://www.techspot.com/news/107672-trump-tariffs-push-world-top-pc-makers-toward.html
    ข่าวนี้กล่าวถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ เช่น Lenovo, HP และ Dell ต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย โดยนโยบายภาษีที่สูงถึง 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซาอุดีอาระเบียได้เสนอสิ่งจูงใจที่น่าสนใจ เช่น การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด และการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ซึ่งมีมูลค่าถึง 620 พันล้านดอลลาร์ โดย Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบียเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย - Lenovo, HP และ Dell กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย - Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบีย ✅ สิ่งจูงใจจากซาอุดีอาระเบีย - ซาอุดีอาระเบียเสนอการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด - กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ✅ ผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ - ภาษี 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิต - ซาอุดีอาระเบียมีภาษีเพียง 10% ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ✅ การขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา - การย้ายฐานการผลิตช่วยเพิ่มการเข้าถึงตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา https://www.techspot.com/news/107672-trump-tariffs-push-world-top-pc-makers-toward.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump tariffs push top PC makers Lenovo, HP, and Dell toward Saudi Arabia
    The so-called "reciprocal tariffs" imposed by the Trump administration could push major PC manufacturers to find new production hubs, and it likely won't be in the US....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ประกาศนโยบายใหม่ที่เข้มงวดขึ้นสำหรับพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล โดยกำหนดให้พนักงานที่ทำงานจากบ้านต้องกลับมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ มิฉะนั้นอาจต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง นโยบายนี้เริ่มต้นในปี 2023 โดย Google ได้ติดตามการเข้าทำงานของพนักงานผ่านบัตรประจำตัว และใช้ข้อมูลนี้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน

    ในปี 2025 Google ได้ขยายมาตรการนี้ไปยังพนักงานในหน่วยงานต่างๆ เช่น Google Technical Services และ People Operations โดยเสนอแพ็กเกจการออกจากงานโดยสมัครใจ และค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่สำหรับพนักงานที่ต้องการย้ายไปอยู่ใกล้สำนักงาน

    ✅ การกำหนดให้พนักงานกลับมาทำงานที่สำนักงาน
    - พนักงานที่ทำงานจากบ้านต้องกลับมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์
    - พนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามอาจต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง

    ✅ การติดตามการเข้าทำงานของพนักงาน
    - Google ใช้ข้อมูลจากบัตรประจำตัวในการติดตามการเข้าทำงาน
    - ข้อมูลนี้ถูกนำมาใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน

    ✅ การขยายมาตรการไปยังหน่วยงานต่างๆ
    - Google Technical Services และ People Operations ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้
    - มีการเสนอแพ็กเกจการออกจากงานโดยสมัครใจ และค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่

    ✅ เป้าหมายของนโยบาย
    - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสนับสนุนการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง

    https://www.techspot.com/news/107669-google-tells-remote-workers-return-office-or-face.html
    Google ได้ประกาศนโยบายใหม่ที่เข้มงวดขึ้นสำหรับพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล โดยกำหนดให้พนักงานที่ทำงานจากบ้านต้องกลับมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ มิฉะนั้นอาจต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง นโยบายนี้เริ่มต้นในปี 2023 โดย Google ได้ติดตามการเข้าทำงานของพนักงานผ่านบัตรประจำตัว และใช้ข้อมูลนี้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน ในปี 2025 Google ได้ขยายมาตรการนี้ไปยังพนักงานในหน่วยงานต่างๆ เช่น Google Technical Services และ People Operations โดยเสนอแพ็กเกจการออกจากงานโดยสมัครใจ และค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่สำหรับพนักงานที่ต้องการย้ายไปอยู่ใกล้สำนักงาน ✅ การกำหนดให้พนักงานกลับมาทำงานที่สำนักงาน - พนักงานที่ทำงานจากบ้านต้องกลับมาทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ - พนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามอาจต้องเผชิญกับการเลิกจ้าง ✅ การติดตามการเข้าทำงานของพนักงาน - Google ใช้ข้อมูลจากบัตรประจำตัวในการติดตามการเข้าทำงาน - ข้อมูลนี้ถูกนำมาใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน ✅ การขยายมาตรการไปยังหน่วยงานต่างๆ - Google Technical Services และ People Operations ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ - มีการเสนอแพ็กเกจการออกจากงานโดยสมัครใจ และค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่ ✅ เป้าหมายของนโยบาย - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสนับสนุนการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง https://www.techspot.com/news/107669-google-tells-remote-workers-return-office-or-face.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google tells some remote workers to return to the office or face termination
    Google was one of the companies who decided to play it safe when it came to bringing workers back following the pandemic. It introduced hybrid work models...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Perplexity ซึ่งเป็นบริษัท AI-powered answer engine ได้ประกาศแผนการพัฒนาเบราว์เซอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Comet โดยมีเป้าหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้ เพื่อสร้างโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง (hyper-personalized ads) CEO ของ Perplexity, Aravind Srinivas ระบุว่า การรวบรวมข้อมูลจากการค้นหาในแอป Perplexity เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ครอบคลุม การพัฒนาเบราว์เซอร์ Comet จึงเป็นก้าวสำคัญในการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ประวัติการซื้อสินค้า แผนการเดินทาง และความชอบในการรับประทานอาหาร

    นอกจากนี้ Perplexity ยังตั้งเป้าที่จะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อพัฒนา feed การค้นพบ (discover feed) ที่สามารถแสดงโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025

    ✅ การพัฒนาเบราว์เซอร์ Comet
    - เบราว์เซอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้
    - ข้อมูลที่เก็บรวมถึงประวัติการซื้อสินค้า แผนการเดินทาง และความชอบในการรับประทานอาหาร

    ✅ เป้าหมายของการพัฒนา
    - สร้างโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง (hyper-personalized ads)
    - ใช้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ครอบคลุม

    ✅ การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet
    - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025
    - Srinivas ระบุว่า Comet จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญอันดับสองของ Perplexity

    ✅ การแข่งขันในตลาด
    - Perplexity ตั้งเป้าที่จะแข่งขันกับธุรกิจโฆษณาหลักของ Google
    - Perplexity และ OpenAI แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย

    https://www.neowin.net/news/perplexity-wants-to-collect-data-on-everything-users-do-online-for-hyper-personalized-ads/
    Perplexity ซึ่งเป็นบริษัท AI-powered answer engine ได้ประกาศแผนการพัฒนาเบราว์เซอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Comet โดยมีเป้าหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้ เพื่อสร้างโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง (hyper-personalized ads) CEO ของ Perplexity, Aravind Srinivas ระบุว่า การรวบรวมข้อมูลจากการค้นหาในแอป Perplexity เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ครอบคลุม การพัฒนาเบราว์เซอร์ Comet จึงเป็นก้าวสำคัญในการเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ประวัติการซื้อสินค้า แผนการเดินทาง และความชอบในการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ Perplexity ยังตั้งเป้าที่จะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อพัฒนา feed การค้นพบ (discover feed) ที่สามารถแสดงโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025 ✅ การพัฒนาเบราว์เซอร์ Comet - เบราว์เซอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้ - ข้อมูลที่เก็บรวมถึงประวัติการซื้อสินค้า แผนการเดินทาง และความชอบในการรับประทานอาหาร ✅ เป้าหมายของการพัฒนา - สร้างโฆษณาที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง (hyper-personalized ads) - ใช้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ครอบคลุม ✅ การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Comet - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2025 - Srinivas ระบุว่า Comet จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญอันดับสองของ Perplexity ✅ การแข่งขันในตลาด - Perplexity ตั้งเป้าที่จะแข่งขันกับธุรกิจโฆษณาหลักของ Google - Perplexity และ OpenAI แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย https://www.neowin.net/news/perplexity-wants-to-collect-data-on-everything-users-do-online-for-hyper-personalized-ads/
    WWW.NEOWIN.NET
    Perplexity wants to collect data on everything users do online for 'hyper personalized' ads
    On TBPN, Perplexity's CEO outlined plans to tackle challenges by tracking users online and using that data for ads.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ประกาศการสนับสนุน PyTorch บน Windows สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM โดยการอัปเดตนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถติดตั้ง PyTorch ได้ง่ายขึ้นผ่าน pip โดยไม่ต้องคอมไพล์จากซอร์สโค้ด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน การสนับสนุนนี้มาพร้อมกับ PyTorch เวอร์ชัน 2.7 ที่รองรับ Python 3.12 และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64 เช่น Copilot+ PC

    นอกจากนี้ Microsoft ยังได้แนะนำการใช้งาน PyTorch สำหรับการพัฒนา AI เช่น การจำแนกภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ Generative AI เช่น Stable Diffusion โดยนักพัฒนาสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยคำแนะนำที่ชัดเจนและการติดตั้งที่สะดวก

    ✅ การติดตั้ง PyTorch บน Windows สำหรับ ARM
    - PyTorch เวอร์ชัน 2.7 รองรับ Python 3.12 และสามารถติดตั้งผ่าน pip ได้
    - นักพัฒนาต้องติดตั้ง Visual Studio Build Tools และ Rust เพื่อใช้งาน

    ✅ การใช้งาน PyTorch สำหรับ AI
    - รองรับการพัฒนา AI เช่น การจำแนกภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ Generative AI
    - Microsoft แนะนำให้สร้าง Virtual Environment (venv) เพื่อจัดการ dependencies

    ✅ การสนับสนุน LibTorch
    - LibTorch ซึ่งเป็น front-end ของ PyTorch สำหรับ C++ มี native binaries สำหรับ Windows บน ARM

    ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพของ Arm64
    - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64

    https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-native-pytorch-arm-support-to-windows-devices/
    Microsoft ได้ประกาศการสนับสนุน PyTorch บน Windows สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM โดยการอัปเดตนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถติดตั้ง PyTorch ได้ง่ายขึ้นผ่าน pip โดยไม่ต้องคอมไพล์จากซอร์สโค้ด ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน การสนับสนุนนี้มาพร้อมกับ PyTorch เวอร์ชัน 2.7 ที่รองรับ Python 3.12 และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64 เช่น Copilot+ PC นอกจากนี้ Microsoft ยังได้แนะนำการใช้งาน PyTorch สำหรับการพัฒนา AI เช่น การจำแนกภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ Generative AI เช่น Stable Diffusion โดยนักพัฒนาสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยคำแนะนำที่ชัดเจนและการติดตั้งที่สะดวก ✅ การติดตั้ง PyTorch บน Windows สำหรับ ARM - PyTorch เวอร์ชัน 2.7 รองรับ Python 3.12 และสามารถติดตั้งผ่าน pip ได้ - นักพัฒนาต้องติดตั้ง Visual Studio Build Tools และ Rust เพื่อใช้งาน ✅ การใช้งาน PyTorch สำหรับ AI - รองรับการพัฒนา AI เช่น การจำแนกภาพ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และ Generative AI - Microsoft แนะนำให้สร้าง Virtual Environment (venv) เพื่อจัดการ dependencies ✅ การสนับสนุน LibTorch - LibTorch ซึ่งเป็น front-end ของ PyTorch สำหรับ C++ มี native binaries สำหรับ Windows บน ARM ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพของ Arm64 - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm64 https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-native-pytorch-arm-support-to-windows-devices/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft brings native PyTorch Arm support to Windows devices
    The Windows on Arm developer tent just got bigger, as Microsoft has announced native PyTorch builds for the platform.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ Surface Pro X ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM โดยจะหยุดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2025 การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft ที่มุ่งเน้นการรวมเทคโนโลยี ARM เข้ากับผลิตภัณฑ์ในตระกูล Surface Pro รุ่นใหม่ เช่น Surface Pro 11th Edition ที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite และมีฟีเจอร์ AI-powered Copilot+

    ✅ การยุติการสนับสนุน Surface Pro X
    - Microsoft จะหยุดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2025
    - อุปกรณ์ยังคงใช้งานได้ แต่จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยและฟีเจอร์ใหม่

    ✅ การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft
    - Microsoft รวมเทคโนโลยี ARM เข้ากับผลิตภัณฑ์ Surface Pro รุ่นใหม่
    - Surface Pro 11th Edition ใช้ชิป Snapdragon X Elite ที่มีประสิทธิภาพสูง

    ✅ คุณสมบัติของ Surface Pro X
    - ใช้ชิป Microsoft SQ1 และ SQ2 ที่พัฒนาร่วมกับ Qualcomm
    - มีหน้าจอ PixelSense ขนาด 13 นิ้ว และรองรับ LTE Advanced Pro

    ✅ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคต
    - Surface Pro รุ่นใหม่จะมีฟีเจอร์ AI-powered Copilot+ และหน้าจอ OLED

    https://computercity.com/tablets/surface-pro-x-dimensions
    Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ Surface Pro X ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM โดยจะหยุดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2025 การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft ที่มุ่งเน้นการรวมเทคโนโลยี ARM เข้ากับผลิตภัณฑ์ในตระกูล Surface Pro รุ่นใหม่ เช่น Surface Pro 11th Edition ที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite และมีฟีเจอร์ AI-powered Copilot+ ✅ การยุติการสนับสนุน Surface Pro X - Microsoft จะหยุดการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในวันที่ 10 สิงหาคม 2025 - อุปกรณ์ยังคงใช้งานได้ แต่จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยและฟีเจอร์ใหม่ ✅ การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Microsoft - Microsoft รวมเทคโนโลยี ARM เข้ากับผลิตภัณฑ์ Surface Pro รุ่นใหม่ - Surface Pro 11th Edition ใช้ชิป Snapdragon X Elite ที่มีประสิทธิภาพสูง ✅ คุณสมบัติของ Surface Pro X - ใช้ชิป Microsoft SQ1 และ SQ2 ที่พัฒนาร่วมกับ Qualcomm - มีหน้าจอ PixelSense ขนาด 13 นิ้ว และรองรับ LTE Advanced Pro ✅ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคต - Surface Pro รุ่นใหม่จะมีฟีเจอร์ AI-powered Copilot+ และหน้าจอ OLED https://computercity.com/tablets/surface-pro-x-dimensions
    COMPUTERCITY.COM
    Microsoft Has Officially Discontinued The Surface Pro X Line
    The Surface Pro X—Microsoft’s ambitious experiment with ARM-based computing—has officially reached the end of its road. While there hasn’t been a grand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟูดเดลิเวอรี ถึงยุคกึ่งผูกขาด

    การประกาศปิดกิจการของฟู้ดแพนด้า (Foodpanda) แพลตฟอร์มสั่งอาหารและของกินของใช้ออนไลน์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.2568 นับเป็นการปิดฉากหนึ่งในผู้แข่งขันฟูดเดลิเวอรี (Food Delivery) ที่ให้บริการแก่ผู้บริโภคชาวไทยมานานถึง 13 ปี นับตั้งแต่สตาร์ทอัพจากประเทศเยอรมนี เปิดให้บริการเป็นเจ้าแรกในไทยเมื่อปี 2555 ท่ามกลางการแข่งขันของผู้ให้บริการรายอื่น ตั้งแต่อูเบอร์อีท (Uber Eats) แกร็บฟู้ด (Grab Food) ไลน์แมน (LINE MAN) โกเจ็ก (Gojek) โรบินฮู้ด (Robinhood) และช้อปปี้ฟู้ด (Shopee Food) ซึ่งแต่ละรายต่างช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากผู้บริโภคด้วยวิธีแตกต่างกันไป

    หากย้อนไปถึงงบกำไรขาดทุนของฟู้ดแพนด้าย้อนหลัง 9 ปี พบว่าขาดทุนสุทธิทุกปี โดยในช่วงแรกมีรายได้รวมหลักร้อยล้านบาท แต่ก็ขาดทุนสุทธิเกือบ 100 ล้านบาท แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผู้คนไม่ออกจากบ้าน พบว่าปี 2563 มีรายได้รวมกว่า 4,375.12 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิ 3,595.90 ล้านบาท ส่วนปี 2564 มีรายได้รวม 6,786.56 ล้านบาท แต่ก็ขาดทุนสุทธิถึง 4,721.59 ล้านบาท มาถึง 2 ปีหลังล่าสุด รายได้ลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง โดยปีที่ส่งงบการเงินล่าสุด 2566 รายได้รวม 3,843.30 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 522.48 ล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดปัจจุบันเหลือเพียง 5%

    การปิดกิจการของฟู้ดแพนด้า ทำให้แพลตฟอร์มฟูดเดลิเวอรีรายใหญ่สองเจ้าอย่าง LINE MAN Wongnai และ Grab ต่างสะท้อนมุมมองว่าการแข่งขันอาจเปลี่ยนแปลงไปสู่การแข่งขันแบบกึ่งผูกขาดอย่างชัดเจน ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai มองว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนจากสงครามราคา สู่สงครามคุณภาพ โดยจัดสมดุลระหว่างคุณภาพ บริการ และการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ขณะที่ จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้ปรับกลยุทธ์โดยรักษาสมดุลวงจรธุรกิจเป็นอันดับแรก และสามารถทำกำไรต่อเนื่องมาแล้ว 2 ปี

    "จากในยุคแรกที่เริ่มด้วยการเผาเงินผ่านการให้ส่วนลดมากๆ เพื่อสร้างตลาด ซึ่งถือเป็นการสร้างเฟกดีมานด์ (อุปสงค์เทียม) มาเป็นการโฟกัสที่คุณภาพและมาตรฐานของการให้บริการเป็นหัวใจสำคัญ" จันต์สุดา จากแกร็บ ประเทศไทย ระบุ

    อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของไรเดอร์ (Rider) เฟซบุ๊กเพจสหภาพไรเดอร์กลับมองว่า การที่ผู้บริหารฟูดเดลิเวอรีรายใหญ่ระบุว่าจากสงครามราคามาเป็นสงครามคุณภาพ คนแบกรับเงื่อนไขการทำธุรกิจที่แสนเอาเปรียบคือไรเดอร์ ที่ผ่านมาประสบปัญหาถูกกดค่ารอบไรเดอร์ พ่วงงานให้ลูกค้ารอไป 1-2 ชั่วโมง ทำงานแล้วเงินลดทุกปีเพราะอ้างว่าขาดทุน

    #Newskit
    ฟูดเดลิเวอรี ถึงยุคกึ่งผูกขาด การประกาศปิดกิจการของฟู้ดแพนด้า (Foodpanda) แพลตฟอร์มสั่งอาหารและของกินของใช้ออนไลน์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.2568 นับเป็นการปิดฉากหนึ่งในผู้แข่งขันฟูดเดลิเวอรี (Food Delivery) ที่ให้บริการแก่ผู้บริโภคชาวไทยมานานถึง 13 ปี นับตั้งแต่สตาร์ทอัพจากประเทศเยอรมนี เปิดให้บริการเป็นเจ้าแรกในไทยเมื่อปี 2555 ท่ามกลางการแข่งขันของผู้ให้บริการรายอื่น ตั้งแต่อูเบอร์อีท (Uber Eats) แกร็บฟู้ด (Grab Food) ไลน์แมน (LINE MAN) โกเจ็ก (Gojek) โรบินฮู้ด (Robinhood) และช้อปปี้ฟู้ด (Shopee Food) ซึ่งแต่ละรายต่างช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากผู้บริโภคด้วยวิธีแตกต่างกันไป หากย้อนไปถึงงบกำไรขาดทุนของฟู้ดแพนด้าย้อนหลัง 9 ปี พบว่าขาดทุนสุทธิทุกปี โดยในช่วงแรกมีรายได้รวมหลักร้อยล้านบาท แต่ก็ขาดทุนสุทธิเกือบ 100 ล้านบาท แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผู้คนไม่ออกจากบ้าน พบว่าปี 2563 มีรายได้รวมกว่า 4,375.12 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิ 3,595.90 ล้านบาท ส่วนปี 2564 มีรายได้รวม 6,786.56 ล้านบาท แต่ก็ขาดทุนสุทธิถึง 4,721.59 ล้านบาท มาถึง 2 ปีหลังล่าสุด รายได้ลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง โดยปีที่ส่งงบการเงินล่าสุด 2566 รายได้รวม 3,843.30 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 522.48 ล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดปัจจุบันเหลือเพียง 5% การปิดกิจการของฟู้ดแพนด้า ทำให้แพลตฟอร์มฟูดเดลิเวอรีรายใหญ่สองเจ้าอย่าง LINE MAN Wongnai และ Grab ต่างสะท้อนมุมมองว่าการแข่งขันอาจเปลี่ยนแปลงไปสู่การแข่งขันแบบกึ่งผูกขาดอย่างชัดเจน ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai มองว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนจากสงครามราคา สู่สงครามคุณภาพ โดยจัดสมดุลระหว่างคุณภาพ บริการ และการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ขณะที่ จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้ปรับกลยุทธ์โดยรักษาสมดุลวงจรธุรกิจเป็นอันดับแรก และสามารถทำกำไรต่อเนื่องมาแล้ว 2 ปี "จากในยุคแรกที่เริ่มด้วยการเผาเงินผ่านการให้ส่วนลดมากๆ เพื่อสร้างตลาด ซึ่งถือเป็นการสร้างเฟกดีมานด์ (อุปสงค์เทียม) มาเป็นการโฟกัสที่คุณภาพและมาตรฐานของการให้บริการเป็นหัวใจสำคัญ" จันต์สุดา จากแกร็บ ประเทศไทย ระบุ อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของไรเดอร์ (Rider) เฟซบุ๊กเพจสหภาพไรเดอร์กลับมองว่า การที่ผู้บริหารฟูดเดลิเวอรีรายใหญ่ระบุว่าจากสงครามราคามาเป็นสงครามคุณภาพ คนแบกรับเงื่อนไขการทำธุรกิจที่แสนเอาเปรียบคือไรเดอร์ ที่ผ่านมาประสบปัญหาถูกกดค่ารอบไรเดอร์ พ่วงงานให้ลูกค้ารอไป 1-2 ชั่วโมง ทำงานแล้วเงินลดทุกปีเพราะอ้างว่าขาดทุน #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปากีสถานประกาศตอบโต้อินเดียขั้นสูงสุด!

    หลังการประชุมหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของปากีสถานสิ้นสุดลงด้วยการตัดสินใจครั้งสำคัญ:

    ➡️ปากีสถานตัดความสัมพันธ์กับอินเดียทุกช่องทาง

    ➡️ยุติการค้าตามแนวพรมแดนของสองประเทศอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ผ่านประเทศที่สามก็ถูกสั่งห้ามด้วย

    ➡️ปิดกั้นน่านฟ้าทั้งหมดของเครื่องบินที่จะผ่านเข้าสู่อินเดีย

    ➡️ยกเลิกวีซ่าของเจ้าหน้าที่อินเดีย รวมทั้งพลเมืองทั้งหมด และมีคำสั่งให้ต้องออกจากประเทศภายใน 48 ชั่วโมง ยกเว้นผู้แสวงบุญชาวซิกข์
    ปากีสถานประกาศตอบโต้อินเดียขั้นสูงสุด! หลังการประชุมหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของปากีสถานสิ้นสุดลงด้วยการตัดสินใจครั้งสำคัญ: ➡️ปากีสถานตัดความสัมพันธ์กับอินเดียทุกช่องทาง ➡️ยุติการค้าตามแนวพรมแดนของสองประเทศอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ผ่านประเทศที่สามก็ถูกสั่งห้ามด้วย ➡️ปิดกั้นน่านฟ้าทั้งหมดของเครื่องบินที่จะผ่านเข้าสู่อินเดีย ➡️ยกเลิกวีซ่าของเจ้าหน้าที่อินเดีย รวมทั้งพลเมืองทั้งหมด และมีคำสั่งให้ต้องออกจากประเทศภายใน 48 ชั่วโมง ยกเว้นผู้แสวงบุญชาวซิกข์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานที่มีอาวุธนิวเคลียร์ท้ังคู่กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลังเหตุก่อการร้ายในแค้วนแคชเมียร์ จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย


    👉 ปากีสถานประกาศ 'เขตห้ามบิน' (NO-FLY ZONE) บริเวณที่เรือบรรทุกเครื่องบินของอินเดียจอดลอยลำอยู่ นอกจากนี้ยังเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก

    ทางด้านอินเดียทะยอยออกมาตรการตอบโต้ปากีสถานดังต่อไปนี้:
    👉ระงับการดำเนินการตามสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960)
    👉ยกเลิกวีซ่าทั้งหมดของชาวปากีสถาน ส่งผลให้พลเมืองปากีสถานต้องออกจากอินเดียภายใน 48 ชั่วโมง
    👉ที่ปรึกษาฝ่ายกลาโหม ทหาร กองทัพเรือ และอากาศของสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานถูกสั่งให้ออกจากประเทศ
    👉สั่งปิดสถานทูตปากีสถาน
    👉สั่งปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border)
    👉นายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดีย ประกาศจะตามล่าและล้างแค้นการกระทำครั้งนี้ให้ถึงที่สุด

    สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานที่มีอาวุธนิวเคลียร์ท้ังคู่กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลังเหตุก่อการร้ายในแค้วนแคชเมียร์ จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย 👉 ปากีสถานประกาศ 'เขตห้ามบิน' (NO-FLY ZONE) บริเวณที่เรือบรรทุกเครื่องบินของอินเดียจอดลอยลำอยู่ นอกจากนี้ยังเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก ทางด้านอินเดียทะยอยออกมาตรการตอบโต้ปากีสถานดังต่อไปนี้: 👉ระงับการดำเนินการตามสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960) 👉ยกเลิกวีซ่าทั้งหมดของชาวปากีสถาน ส่งผลให้พลเมืองปากีสถานต้องออกจากอินเดียภายใน 48 ชั่วโมง 👉ที่ปรึกษาฝ่ายกลาโหม ทหาร กองทัพเรือ และอากาศของสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานถูกสั่งให้ออกจากประเทศ 👉สั่งปิดสถานทูตปากีสถาน 👉สั่งปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border) 👉นายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดีย ประกาศจะตามล่าและล้างแค้นการกระทำครั้งนี้ให้ถึงที่สุด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • อินเดียประกาศมาตรการตอบโต้ต่อปากีสถานหลังเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายต่อนักท่องเที่ยวชาวฮินดู จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย โดยผู้ก่อการร้ายเชื่อมโยงกับปากีสถาน:

    1. ยกเลิกวีซ่าสำหรับชาวปากีสถานทุกคน
    2. ระงับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960)
    3. ปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border)

    เมื่อวันอังคารที่ 22 เม.ย. เกิดเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บอีก 17 ราย ในแคว้นแคชเมียร์ ซึ่งถือเป็นเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับอินเดียในรอบเกือบ 20 ปี โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาวอินเดีย 25 คน และชาวเนปาลอีก 1 คน

    กลุ่มต่อต้านแห่งแคชเมียร์ (Kashmir Resistance) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีครั้งนี้ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยมีสาเหตุการโจมตีมาจากความไม่พอใจที่มีผู้คนต่างเชื้อชาติกว่า 85,000 คน อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในจัมมูและแคชเมียร์ จนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางค่านิยมเดิยของท้องถิ่น

    หน่วยงานความมั่นคงอินเดียระบุว่ากลุ่มก่อการร้าย Kashmir Resistance เป็นกองกำลังในสังกัดขององค์กรติดอาวุธในปากีสถานอย่าง Lashkar-e-Taiba และ Hizbul Mujahideen

    ทางด้านรัฐบาลปากีสถานไม่ได้ออกมาปฏิเสธอย่างเต็มตัว โดยพวกเขาอ้างว่าถึงความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้าย มีเพียงทางกาทูตเท่านั้น ไม่ได้มีการสนับสนุนด้านอาวุธแต่อย่างใด

    สำหรับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ปากีสถานเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า การยุติสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ (IWT) อาจเท่ากับการประกาศสงคราม

    สนธิสัญญาฉบับนี้ มีธนาคารโลกเป็นตัวกลางในการจัดสรรน้ำจากแม่น้ำ 6 สายหลักในลุ่มแม่น้ำสินธุ

    อินเดียควบคุมแม่น้ำสายตะวันออก (Sutlej, Beas, Ravi) โดยไม่มีข้อจำกัด ในขณะที่ปากีสถานมีสิทธิ์หลักเหนือแม่น้ำสายตะวันตก (Indus, Jhelum, Chenab) แม้ว่าอินเดียจะใช้แม่น้ำเหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การบริโภค เช่น พลังงานน้ำก็ตาม

    หากอินเดียเริ่มปิดกั้นการเข้าถึงน้ำจากแม่น้ำทั้ง 6 สาย ปากีสถานจะประสบกับวิกฤตขาดแคลนน้ำและเศรษฐกิจจะประสบปัญหาใหญ่เนื่องจากความต้องการน้ำของปากีสถาน 70% มาจากแม่น้ำเหล่านี้
    อินเดียประกาศมาตรการตอบโต้ต่อปากีสถานหลังเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายต่อนักท่องเที่ยวชาวฮินดู จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย โดยผู้ก่อการร้ายเชื่อมโยงกับปากีสถาน: 1. ยกเลิกวีซ่าสำหรับชาวปากีสถานทุกคน 2. ระงับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960) 3. ปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border) เมื่อวันอังคารที่ 22 เม.ย. เกิดเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บอีก 17 ราย ในแคว้นแคชเมียร์ ซึ่งถือเป็นเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับอินเดียในรอบเกือบ 20 ปี โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาวอินเดีย 25 คน และชาวเนปาลอีก 1 คน กลุ่มต่อต้านแห่งแคชเมียร์ (Kashmir Resistance) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีครั้งนี้ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยมีสาเหตุการโจมตีมาจากความไม่พอใจที่มีผู้คนต่างเชื้อชาติกว่า 85,000 คน อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในจัมมูและแคชเมียร์ จนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางค่านิยมเดิยของท้องถิ่น หน่วยงานความมั่นคงอินเดียระบุว่ากลุ่มก่อการร้าย Kashmir Resistance เป็นกองกำลังในสังกัดขององค์กรติดอาวุธในปากีสถานอย่าง Lashkar-e-Taiba และ Hizbul Mujahideen ทางด้านรัฐบาลปากีสถานไม่ได้ออกมาปฏิเสธอย่างเต็มตัว โดยพวกเขาอ้างว่าถึงความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้าย มีเพียงทางกาทูตเท่านั้น ไม่ได้มีการสนับสนุนด้านอาวุธแต่อย่างใด สำหรับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ปากีสถานเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า การยุติสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ (IWT) อาจเท่ากับการประกาศสงคราม สนธิสัญญาฉบับนี้ มีธนาคารโลกเป็นตัวกลางในการจัดสรรน้ำจากแม่น้ำ 6 สายหลักในลุ่มแม่น้ำสินธุ อินเดียควบคุมแม่น้ำสายตะวันออก (Sutlej, Beas, Ravi) โดยไม่มีข้อจำกัด ในขณะที่ปากีสถานมีสิทธิ์หลักเหนือแม่น้ำสายตะวันตก (Indus, Jhelum, Chenab) แม้ว่าอินเดียจะใช้แม่น้ำเหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การบริโภค เช่น พลังงานน้ำก็ตาม หากอินเดียเริ่มปิดกั้นการเข้าถึงน้ำจากแม่น้ำทั้ง 6 สาย ปากีสถานจะประสบกับวิกฤตขาดแคลนน้ำและเศรษฐกิจจะประสบปัญหาใหญ่เนื่องจากความต้องการน้ำของปากีสถาน 70% มาจากแม่น้ำเหล่านี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • Telegram ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มส่งข้อความที่มีชื่อเสียงในด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ได้ประกาศว่าจะออกจากตลาดที่ต้องการให้มีการสร้าง backdoor ในระบบเข้ารหัส โดย Pavel Durov CEO ของ Telegram ยืนยันว่าแพลตฟอร์มจะไม่แลกเปลี่ยนความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาด การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ ในยุโรปพยายามผลักดันกฎหมายที่อนุญาตให้ตำรวจเข้าถึงข้อความส่วนตัวและข้อความที่เข้ารหัส

    ✅ Telegram ยืนยันความมุ่งมั่นในความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
    - Telegram ไม่เคยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา
    - Pavel Durov ยืนยันว่าแพลตฟอร์มจะไม่สร้าง backdoor ในระบบเข้ารหัส

    ✅ การผลักดันกฎหมาย backdoor ในยุโรป
    - กฎหมายที่เสนอในฝรั่งเศสถูกปฏิเสธ เนื่องจากอาจทำให้ความปลอดภัยของผู้ใช้งานลดลง
    - Cryptographers ระบุว่า backdoor อาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์และหน่วยงานต่างประเทศ

    ✅ ผลกระทบต่อการใช้งาน Telegram
    - Telegram อาจออกจากตลาดที่ต้องการให้มีการสร้าง backdoor
    - การประกาศนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

    ✅ ความสำคัญของการเข้ารหัสในยุคดิจิทัล
    - การเข้ารหัสช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวและลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/telegram-pledges-to-exit-the-market-rather-than-undermine-encryption-with-backdoors
    Telegram ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มส่งข้อความที่มีชื่อเสียงในด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ได้ประกาศว่าจะออกจากตลาดที่ต้องการให้มีการสร้าง backdoor ในระบบเข้ารหัส โดย Pavel Durov CEO ของ Telegram ยืนยันว่าแพลตฟอร์มจะไม่แลกเปลี่ยนความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาด การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ ในยุโรปพยายามผลักดันกฎหมายที่อนุญาตให้ตำรวจเข้าถึงข้อความส่วนตัวและข้อความที่เข้ารหัส ✅ Telegram ยืนยันความมุ่งมั่นในความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน - Telegram ไม่เคยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา - Pavel Durov ยืนยันว่าแพลตฟอร์มจะไม่สร้าง backdoor ในระบบเข้ารหัส ✅ การผลักดันกฎหมาย backdoor ในยุโรป - กฎหมายที่เสนอในฝรั่งเศสถูกปฏิเสธ เนื่องจากอาจทำให้ความปลอดภัยของผู้ใช้งานลดลง - Cryptographers ระบุว่า backdoor อาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์และหน่วยงานต่างประเทศ ✅ ผลกระทบต่อการใช้งาน Telegram - Telegram อาจออกจากตลาดที่ต้องการให้มีการสร้าง backdoor - การประกาศนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ✅ ความสำคัญของการเข้ารหัสในยุคดิจิทัล - การเข้ารหัสช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวและลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/telegram-pledges-to-exit-the-market-rather-than-undermine-encryption-with-backdoors
    WWW.TECHRADAR.COM
    Telegram pledges to exit the market rather than "undermine encryption with backdoors"
    "We don’t trade privacy for market share," said Telegram's CEO, Pavel Durov
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • AWS และ Microsoft ได้ประกาศหยุดโครงการศูนย์ข้อมูลบางส่วนในต่างประเทศ เนื่องจากความกังวลเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทไม่ได้ยกเลิกโครงการที่ได้ลงนามไว้แล้ว โดย AWS ยังคงเห็นความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับ Generative AI และงานพื้นฐานบนแพลตฟอร์มของตน การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการปรับตัวของบริษัทในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน

    ✅ AWS หยุดการเจรจาเช่าศูนย์ข้อมูลบางส่วนในต่างประเทศ
    - การหยุดนี้เป็นการจัดการความจุที่เป็นกิจวัตร ไม่ใช่การลดความสนใจใน AI
    - โครงการที่ลงนามแล้วจะยังคงดำเนินการต่อไป

    ✅ Microsoft หยุดโครงการศูนย์ข้อมูลมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ในโอไฮโอ
    - การหยุดนี้เป็นผลจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

    ✅ การลงทุนในศูนย์ข้อมูลทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป
    - AWS ลงทุน 8.3 พันล้านดอลลาร์ในรัฐมหาราษฏระ อินเดีย และ 11 พันล้านดอลลาร์ในจอร์เจีย
    - Microsoft ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคต่างๆ

    ✅ ผลกระทบจากภาษีของทรัมป์
    - ภาษีที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อการลงทุนในต่างประเทศ

    https://www.techradar.com/pro/aws-joins-microsoft-in-pausing-data-center-projects-is-ai-demand-falling-off
    AWS และ Microsoft ได้ประกาศหยุดโครงการศูนย์ข้อมูลบางส่วนในต่างประเทศ เนื่องจากความกังวลเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทไม่ได้ยกเลิกโครงการที่ได้ลงนามไว้แล้ว โดย AWS ยังคงเห็นความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับ Generative AI และงานพื้นฐานบนแพลตฟอร์มของตน การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการปรับตัวของบริษัทในยุคที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน ✅ AWS หยุดการเจรจาเช่าศูนย์ข้อมูลบางส่วนในต่างประเทศ - การหยุดนี้เป็นการจัดการความจุที่เป็นกิจวัตร ไม่ใช่การลดความสนใจใน AI - โครงการที่ลงนามแล้วจะยังคงดำเนินการต่อไป ✅ Microsoft หยุดโครงการศูนย์ข้อมูลมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ในโอไฮโอ - การหยุดนี้เป็นผลจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ✅ การลงทุนในศูนย์ข้อมูลทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป - AWS ลงทุน 8.3 พันล้านดอลลาร์ในรัฐมหาราษฏระ อินเดีย และ 11 พันล้านดอลลาร์ในจอร์เจีย - Microsoft ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคต่างๆ ✅ ผลกระทบจากภาษีของทรัมป์ - ภาษีที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อการลงทุนในต่างประเทศ https://www.techradar.com/pro/aws-joins-microsoft-in-pausing-data-center-projects-is-ai-demand-falling-off
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • Avicena บริษัทเทคโนโลยีจาก Sunnyvale, CA ได้ประกาศความร่วมมือกับ TSMC เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี LightBundle ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อแบบ microLED ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเทคโนโลยีนี้สามารถรองรับการเชื่อมต่อข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงถึง 1Tbps/mm และลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครือข่าย AI ขนาดใหญ่ที่ต้องการการเชื่อมต่อระหว่าง GPU หลายตัวในระยะทางไกล

    ✅ LightBundle รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูง
    - รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลที่ความหนาแน่นสูงถึง 1Tbps/mm
    - ลดการใช้พลังงานด้วยประสิทธิภาพต่ำกว่า 1pJ/bit

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ TSMC
    - TSMC ใช้เทคโนโลยี CMOS image sensor (CIS) เพื่อพัฒนา photodetector (PD) arrays
    - การผลิต PD arrays ที่เหมาะสมกับแสงที่ส่งผ่าน microLED

    ✅ การใช้งานในเครือข่าย AI ขนาดใหญ่
    - รองรับการเชื่อมต่อระหว่าง GPU หลายตัวในระยะทางไกลกว่า 10 เมตร
    - ลดข้อจำกัดของการเชื่อมต่อด้วยสายทองแดงในปัจจุบัน

    ✅ การนำเสนอเทคโนโลยีในงาน TSMC 2025 North America Technology Symposium
    - Avicena จะจัดแสดงเทคโนโลยี LightBundle ในงานนี้

    https://www.techpowerup.com/335873/avicena-works-with-tsmc-to-enable-pd-arrays-for-lightbundle-microled-based-interconnects
    Avicena บริษัทเทคโนโลยีจาก Sunnyvale, CA ได้ประกาศความร่วมมือกับ TSMC เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี LightBundle ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อแบบ microLED ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเทคโนโลยีนี้สามารถรองรับการเชื่อมต่อข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงถึง 1Tbps/mm และลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครือข่าย AI ขนาดใหญ่ที่ต้องการการเชื่อมต่อระหว่าง GPU หลายตัวในระยะทางไกล ✅ LightBundle รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูง - รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลที่ความหนาแน่นสูงถึง 1Tbps/mm - ลดการใช้พลังงานด้วยประสิทธิภาพต่ำกว่า 1pJ/bit ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ TSMC - TSMC ใช้เทคโนโลยี CMOS image sensor (CIS) เพื่อพัฒนา photodetector (PD) arrays - การผลิต PD arrays ที่เหมาะสมกับแสงที่ส่งผ่าน microLED ✅ การใช้งานในเครือข่าย AI ขนาดใหญ่ - รองรับการเชื่อมต่อระหว่าง GPU หลายตัวในระยะทางไกลกว่า 10 เมตร - ลดข้อจำกัดของการเชื่อมต่อด้วยสายทองแดงในปัจจุบัน ✅ การนำเสนอเทคโนโลยีในงาน TSMC 2025 North America Technology Symposium - Avicena จะจัดแสดงเทคโนโลยี LightBundle ในงานนี้ https://www.techpowerup.com/335873/avicena-works-with-tsmc-to-enable-pd-arrays-for-lightbundle-microled-based-interconnects
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Avicena Works with TSMC to Enable PD Arrays for LightBundle MicroLED-Based Interconnects
    Avicena, headquartered in Sunnyvale, CA, announced today that the company will work with TSMC to optimize photodetector (PD) arrays for Avicena's revolutionary LightBundle microLED-based interconnects. LightBundle supports > 1Tbps/mm shoreline density and extends ultra-high density die-to-die (D2D) ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียได้ประกาศแผนการผลิตชิป 28nm ในโรงงานภายในประเทศภายในปี 2030 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 โดยแผนนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ หลังจากที่ไต้หวันจำกัดการส่งออกชิปขั้นสูงไปยังรัสเซียและเบลารุสในปี 2022 อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทาย เช่น การสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการใช้งานชิป Elbrus และการพัฒนาทักษะบุคลากรที่สามารถปรับซอฟต์แวร์ให้เข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่ได้

    ✅ การผลิตชิป 28nm ในโรงงานภายในประเทศ
    - รัสเซียตั้งเป้าหมายผลิตชิป 28nm ภายในปี 2030
    - ชิป Elbrus จะถูกผลิตในโรงงานภายในประเทศเพื่อรองรับความต้องการขององค์กรในรัสเซีย

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิป
    - โรงงานในรัสเซียกำลังพัฒนาเครื่องมือ lithography สำหรับการผลิตชิป 350nm และ 130nm
    - มีการลักลอบนำเข้าเครื่องมือจาก ASML เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี

    ✅ ความสำคัญของชิป Elbrus
    - ชิป Elbrus ใช้สถาปัตยกรรมที่แตกต่างจาก x86 และ ARM
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพา CPU ต่างประเทศ

    ✅ การสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการใช้งานชิป Elbrus
    - รัฐบาลรัสเซียควรสนับสนุนการศึกษาและการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากร
    - การสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/russia-says-its-on-track-to-manufacture-28nm-chips-in-its-own-fabs-by-2030-the-tech-first-debuted-15-years-ago
    รัสเซียได้ประกาศแผนการผลิตชิป 28nm ในโรงงานภายในประเทศภายในปี 2030 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 โดยแผนนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ หลังจากที่ไต้หวันจำกัดการส่งออกชิปขั้นสูงไปยังรัสเซียและเบลารุสในปี 2022 อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทาย เช่น การสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการใช้งานชิป Elbrus และการพัฒนาทักษะบุคลากรที่สามารถปรับซอฟต์แวร์ให้เข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่ได้ ✅ การผลิตชิป 28nm ในโรงงานภายในประเทศ - รัสเซียตั้งเป้าหมายผลิตชิป 28nm ภายในปี 2030 - ชิป Elbrus จะถูกผลิตในโรงงานภายในประเทศเพื่อรองรับความต้องการขององค์กรในรัสเซีย ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิป - โรงงานในรัสเซียกำลังพัฒนาเครื่องมือ lithography สำหรับการผลิตชิป 350nm และ 130nm - มีการลักลอบนำเข้าเครื่องมือจาก ASML เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี ✅ ความสำคัญของชิป Elbrus - ชิป Elbrus ใช้สถาปัตยกรรมที่แตกต่างจาก x86 และ ARM - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพา CPU ต่างประเทศ ✅ การสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการใช้งานชิป Elbrus - รัฐบาลรัสเซียควรสนับสนุนการศึกษาและการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากร - การสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน https://www.tomshardware.com/tech-industry/russia-says-its-on-track-to-manufacture-28nm-chips-in-its-own-fabs-by-2030-the-tech-first-debuted-15-years-ago
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • Keyboardio ผู้ผลิตคีย์บอร์ดแบบกำหนดเองที่มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และเหมาะกับการใช้งาน ได้ประกาศหยุดรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2025 เนื่องจากผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและการยกเลิกกฎ "de minimis" ซึ่งเคยยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์

    ✅ การหยุดรับคำสั่งซื้อในสหรัฐฯ
    - Keyboardio หยุดรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2025
    - การตัดสินใจนี้เป็นผลมาจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและการยกเลิกกฎ "de minimis"

    ✅ ผลกระทบจากภาษีนำเข้า
    - สินค้าที่ส่งถึงสหรัฐฯ หลังวันที่ 1 พฤษภาคม 2025 จะถูกเก็บภาษีนำเข้า 20%
    - HK Post จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมสูงสุดถึง 90% ต่อพัสดุ

    ✅ การผลิตและการจัดส่งของ Keyboardio
    - สินค้าของ Keyboardio ออกแบบในสหรัฐฯ แต่ผลิตในจีนและจัดส่งผ่านฮ่องกง
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้การจัดส่งไปยังสหรัฐฯ มีความซับซ้อนมากขึ้น

    ✅ การให้บริการลูกค้านอกสหรัฐฯ
    - Keyboardio ยังคงให้บริการลูกค้าในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

    https://www.tomshardware.com/peripherals/keyboards/custom-keyboard-maker-stopping-us-orders-entirely-amidst-tariff-impacts-keyboardio-cites-tariffs-axed-de-minimis-rule
    Keyboardio ผู้ผลิตคีย์บอร์ดแบบกำหนดเองที่มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และเหมาะกับการใช้งาน ได้ประกาศหยุดรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2025 เนื่องจากผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและการยกเลิกกฎ "de minimis" ซึ่งเคยยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ ✅ การหยุดรับคำสั่งซื้อในสหรัฐฯ - Keyboardio หยุดรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2025 - การตัดสินใจนี้เป็นผลมาจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและการยกเลิกกฎ "de minimis" ✅ ผลกระทบจากภาษีนำเข้า - สินค้าที่ส่งถึงสหรัฐฯ หลังวันที่ 1 พฤษภาคม 2025 จะถูกเก็บภาษีนำเข้า 20% - HK Post จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมสูงสุดถึง 90% ต่อพัสดุ ✅ การผลิตและการจัดส่งของ Keyboardio - สินค้าของ Keyboardio ออกแบบในสหรัฐฯ แต่ผลิตในจีนและจัดส่งผ่านฮ่องกง - การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้การจัดส่งไปยังสหรัฐฯ มีความซับซ้อนมากขึ้น ✅ การให้บริการลูกค้านอกสหรัฐฯ - Keyboardio ยังคงให้บริการลูกค้าในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก https://www.tomshardware.com/peripherals/keyboards/custom-keyboard-maker-stopping-us-orders-entirely-amidst-tariff-impacts-keyboardio-cites-tariffs-axed-de-minimis-rule
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ประกาศเปลี่ยนแผนเกี่ยวกับการยกเลิกการใช้ third-party cookies ในเบราว์เซอร์ Chrome ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลอย่างมาก โดยเดิมที Google มีแผนที่จะยกเลิกการใช้ third-party cookies เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หลังจากได้รับความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมและการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น UK's Competition and Markets Authority (CMA) Google ตัดสินใจที่จะคงการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในรูปแบบเดิมไว้

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ได้พยายามพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในโครงการ Privacy Sandbox เช่น Topics API และเครื่องมือวัดผลโฆษณา แต่พบว่ามีข้อจำกัดในด้านความสามารถในการประมวลผลแบบเรียลไทม์และความซับซ้อนทางเทคนิค นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียรายได้ของผู้เผยแพร่โฆษณาและความเป็นธรรมในตลาด

    https://www.techspot.com/news/107649-google-abandons-plans-phase-out-third-party-cookies.html
    Google ได้ประกาศเปลี่ยนแผนเกี่ยวกับการยกเลิกการใช้ third-party cookies ในเบราว์เซอร์ Chrome ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลอย่างมาก โดยเดิมที Google มีแผนที่จะยกเลิกการใช้ third-party cookies เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หลังจากได้รับความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมและการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น UK's Competition and Markets Authority (CMA) Google ตัดสินใจที่จะคงการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในรูปแบบเดิมไว้ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ได้พยายามพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในโครงการ Privacy Sandbox เช่น Topics API และเครื่องมือวัดผลโฆษณา แต่พบว่ามีข้อจำกัดในด้านความสามารถในการประมวลผลแบบเรียลไทม์และความซับซ้อนทางเทคนิค นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียรายได้ของผู้เผยแพร่โฆษณาและความเป็นธรรมในตลาด https://www.techspot.com/news/107649-google-abandons-plans-phase-out-third-party-cookies.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google Chrome abandons plans to phase out third-party cookies
    The announcement, delivered by Anthony Chavez, VPt of Privacy Sandbox at Google, confirmed that Chrome users will continue to manage their third-party cookie preferences through existing privacy...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการเพิ่มมูลค่าของเหรียญคริปโต $TRUMP ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมีการประกาศเชิญชวนผู้ถือเหรียญระดับสูงเข้าร่วมงานดินเนอร์สุดพิเศษกับประธานาธิบดีที่สนามกอล์ฟ Trump National Golf Club ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นอกจากนี้ยังมีการจัดงาน VIP Reception และทัวร์พิเศษสำหรับผู้ถือเหรียญ 25 อันดับแรก

    เหรียญนี้ถูกเปิดตัวก่อนการเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ และมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าอย่างมากในตลาดคริปโต โดยมีการเลื่อนการปลดล็อกเหรียญใหม่ออกไป 90 วัน ซึ่งช่วยเพิ่มความสนใจในเหรียญนี้อีกครั้ง

    ✅ การเพิ่มมูลค่าเหรียญ $TRUMP:
    - เหรียญมีมนี้เพิ่มมูลค่ากว่า 60% หลังการประกาศเชิญชวนผู้ถือเหรียญเข้าร่วมงานดินเนอร์สุดพิเศษ.

    ✅ งานดินเนอร์สุดพิเศษ:
    - ผู้ถือเหรียญ 220 อันดับแรกจะได้รับเชิญเข้าร่วมงานดินเนอร์กับประธานาธิบดีทรัมป์ และผู้ถือเหรียญ 25 อันดับแรกจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม.

    ✅ การเลื่อนการปลดล็อกเหรียญ:
    - การเลื่อนการปลดล็อกเหรียญใหม่ช่วยเพิ่มความสนใจในเหรียญนี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/24/dinner-with-the-president-trump-meme-coin-surges-on-offer-to-top-buyers
    ข่าวนี้เล่าถึงการเพิ่มมูลค่าของเหรียญคริปโต $TRUMP ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมีการประกาศเชิญชวนผู้ถือเหรียญระดับสูงเข้าร่วมงานดินเนอร์สุดพิเศษกับประธานาธิบดีที่สนามกอล์ฟ Trump National Golf Club ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นอกจากนี้ยังมีการจัดงาน VIP Reception และทัวร์พิเศษสำหรับผู้ถือเหรียญ 25 อันดับแรก เหรียญนี้ถูกเปิดตัวก่อนการเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ และมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าอย่างมากในตลาดคริปโต โดยมีการเลื่อนการปลดล็อกเหรียญใหม่ออกไป 90 วัน ซึ่งช่วยเพิ่มความสนใจในเหรียญนี้อีกครั้ง ✅ การเพิ่มมูลค่าเหรียญ $TRUMP: - เหรียญมีมนี้เพิ่มมูลค่ากว่า 60% หลังการประกาศเชิญชวนผู้ถือเหรียญเข้าร่วมงานดินเนอร์สุดพิเศษ. ✅ งานดินเนอร์สุดพิเศษ: - ผู้ถือเหรียญ 220 อันดับแรกจะได้รับเชิญเข้าร่วมงานดินเนอร์กับประธานาธิบดีทรัมป์ และผู้ถือเหรียญ 25 อันดับแรกจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม. ✅ การเลื่อนการปลดล็อกเหรียญ: - การเลื่อนการปลดล็อกเหรียญใหม่ช่วยเพิ่มความสนใจในเหรียญนี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/24/dinner-with-the-president-trump-meme-coin-surges-on-offer-to-top-buyers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Dinner with the president: Trump meme coin surges on offer to top buyers
    NEW YORK (Reuters) -President Donald Trump's meme coin surged more than 60% on Wednesday after a post announcing "the most EXCLUSIVE INVITATION in the world" promised the top 220 buyers of $TRUMP a private gala dinner with the president on May 22.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • กฎหมายที่ถูกท้าทายนี้มีเป้าหมายป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่ถูกสร้างขึ้นโดย AI เช่น รูปภาพ เสียง หรือวิดีโอที่ดูเหมือนจริง เพื่อใช้ในการโน้มน้าวประชาชนในการเลือกตั้ง หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดในทางการเมือง อย่างไรก็ตาม บริษัท X แย้งว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอาจก่อให้เกิดการเซ็นเซอร์ความคิดเห็นทางการเมือง

    นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า ณ ปัจจุบัน มีอย่างน้อย 22 รัฐในสหรัฐฯ ที่มีการออกกฎหมายควบคุมการใช้ดีพเฟคในเลือกตั้ง

    ✅ บริษัท X ยื่นฟ้องรัฐมินนิโซตาเนื่องจากกฎหมายห้ามใช้ AI เพื่อสร้างดีพเฟคในการเลือกตั้ง

    ✅ บริษัท X อ้างว่ากฎหมายดังกล่าวละเมิดสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี

    ✅ X ขอให้ศาลประกาศว่ากฎหมายนี้ละเมิดรัฐธรรมนูญและขัดกับ Section 230 กฎหมายที่ปกป้องบริษัทสื่อสังคมจากการถูกฟ้องเรื่องเนื้อหาของผู้ใช้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/24/musk039s-x-sues-to-block-minnesota-039deepfake039-law-over-free-speech-concerns
    กฎหมายที่ถูกท้าทายนี้มีเป้าหมายป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่ถูกสร้างขึ้นโดย AI เช่น รูปภาพ เสียง หรือวิดีโอที่ดูเหมือนจริง เพื่อใช้ในการโน้มน้าวประชาชนในการเลือกตั้ง หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดในทางการเมือง อย่างไรก็ตาม บริษัท X แย้งว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอาจก่อให้เกิดการเซ็นเซอร์ความคิดเห็นทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า ณ ปัจจุบัน มีอย่างน้อย 22 รัฐในสหรัฐฯ ที่มีการออกกฎหมายควบคุมการใช้ดีพเฟคในเลือกตั้ง ✅ บริษัท X ยื่นฟ้องรัฐมินนิโซตาเนื่องจากกฎหมายห้ามใช้ AI เพื่อสร้างดีพเฟคในการเลือกตั้ง ✅ บริษัท X อ้างว่ากฎหมายดังกล่าวละเมิดสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี ✅ X ขอให้ศาลประกาศว่ากฎหมายนี้ละเมิดรัฐธรรมนูญและขัดกับ Section 230 กฎหมายที่ปกป้องบริษัทสื่อสังคมจากการถูกฟ้องเรื่องเนื้อหาของผู้ใช้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/24/musk039s-x-sues-to-block-minnesota-039deepfake039-law-over-free-speech-concerns
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Musk's X sues to block Minnesota 'deepfake' law over free speech concerns
    WILMINGTON, Delaware (Reuters) -Elon Musk's social media platform X sued Minnesota on Wednesday over a state law that bans people from using AI-generated "deepfakes" to influence an election, which the company said violated protections of free speech.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • IBM ได้ประกาศว่ามีสัญญากับรัฐบาลสหรัฐฯ จำนวน 15 ฉบับที่ถูกยกเลิก เนื่องจากนโยบายลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่ปรึกษาของ IBM อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกที่ดีกว่าคาดการณ์ และยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้อย่างน้อย 5% ในปี 2025

    ✅ สัญญากับรัฐบาลสหรัฐฯ ถูกยกเลิก 15 ฉบับ
    - สัญญาที่ถูกยกเลิกมีมูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านดอลลาร์
    - คิดเป็นน้อยกว่า 1% ของงานที่ค้างอยู่ในหน่วยธุรกิจที่ปรึกษาของ IBM

    ✅ ผลประกอบการไตรมาสแรกที่ดีกว่าคาดการณ์
    - รายได้เพิ่มขึ้น 1% เป็น 14.5 พันล้านดอลลาร์
    - กำไรต่อหุ้นปรับปรุงอยู่ที่ 1.60 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์ที่ 1.40 ดอลลาร์

    ✅ การเติบโตในธุรกิจซอฟต์แวร์ที่มีอัตรากำไรสูง
    - IBM มีรายได้จากธุรกิจ AI มากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์

    ✅ การให้คำแนะนำรายได้ไตรมาสที่สอง
    - คาดการณ์รายได้ระหว่าง 16.40 ถึง 16.75 พันล้านดอลลาร์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/24/ibm-forecasts-second-quarter-revenue-above-estimates-soothing-tariff-worries
    IBM ได้ประกาศว่ามีสัญญากับรัฐบาลสหรัฐฯ จำนวน 15 ฉบับที่ถูกยกเลิก เนื่องจากนโยบายลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่ปรึกษาของ IBM อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกที่ดีกว่าคาดการณ์ และยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้อย่างน้อย 5% ในปี 2025 ✅ สัญญากับรัฐบาลสหรัฐฯ ถูกยกเลิก 15 ฉบับ - สัญญาที่ถูกยกเลิกมีมูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ - คิดเป็นน้อยกว่า 1% ของงานที่ค้างอยู่ในหน่วยธุรกิจที่ปรึกษาของ IBM ✅ ผลประกอบการไตรมาสแรกที่ดีกว่าคาดการณ์ - รายได้เพิ่มขึ้น 1% เป็น 14.5 พันล้านดอลลาร์ - กำไรต่อหุ้นปรับปรุงอยู่ที่ 1.60 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์ที่ 1.40 ดอลลาร์ ✅ การเติบโตในธุรกิจซอฟต์แวร์ที่มีอัตรากำไรสูง - IBM มีรายได้จากธุรกิจ AI มากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ ✅ การให้คำแนะนำรายได้ไตรมาสที่สอง - คาดการณ์รายได้ระหว่าง 16.40 ถึง 16.75 พันล้านดอลลาร์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/24/ibm-forecasts-second-quarter-revenue-above-estimates-soothing-tariff-worries
    WWW.THESTAR.COM.MY
    IBM says 15 contracts impacted by DOGE cost cuts, shares drop
    (Reuters) -International Business Machines said 15 of its government contracts were shelved under a cost-cutting drive by the Trump administration, a setback that eclipsed its upbeat revenue forecast and dragged its shares down over 6% after hours.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า System on Wafer-X ซึ่งช่วยให้สามารถรวมชิปประมวลผลขนาดใหญ่ได้ถึง 16 ตัวในแพ็กเกจเดียว พร้อมทั้งชิปหน่วยความจำและการเชื่อมต่อแบบออปติคัลที่รวดเร็ว เทคโนโลยีนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ TSMC ยังประกาศแผนการสร้างโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เพื่อรองรับการผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีนี้

    ✅ System on Wafer-X ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล
    - สามารถรวมชิปประมวลผลขนาดใหญ่ได้ถึง 16 ตัวในแพ็กเกจเดียว
    - รองรับการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น AI และการวิเคราะห์ข้อมูล

    ✅ เทคโนโลยี A14 จะเปิดตัวในปี 2028
    - ช่วยเพิ่มความเร็วของชิปได้ถึง 15% หรือประหยัดพลังงานได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับชิป N2

    ✅ แผนการสร้างโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนา
    - TSMC วางแผนสร้างโรงงาน 6 แห่ง รวมถึงโรงงานบรรจุภัณฑ์และศูนย์วิจัยและพัฒนา

    ✅ การแข่งขันในตลาดชิปประมวลผล
    - Intel กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อแข่งขันกับ TSMC

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/24/tsmc-shows-off-new-tech-for-stitching-together-bigger-faster-chips
    TSMC ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า System on Wafer-X ซึ่งช่วยให้สามารถรวมชิปประมวลผลขนาดใหญ่ได้ถึง 16 ตัวในแพ็กเกจเดียว พร้อมทั้งชิปหน่วยความจำและการเชื่อมต่อแบบออปติคัลที่รวดเร็ว เทคโนโลยีนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ TSMC ยังประกาศแผนการสร้างโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เพื่อรองรับการผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ✅ System on Wafer-X ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล - สามารถรวมชิปประมวลผลขนาดใหญ่ได้ถึง 16 ตัวในแพ็กเกจเดียว - รองรับการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น AI และการวิเคราะห์ข้อมูล ✅ เทคโนโลยี A14 จะเปิดตัวในปี 2028 - ช่วยเพิ่มความเร็วของชิปได้ถึง 15% หรือประหยัดพลังงานได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับชิป N2 ✅ แผนการสร้างโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนา - TSMC วางแผนสร้างโรงงาน 6 แห่ง รวมถึงโรงงานบรรจุภัณฑ์และศูนย์วิจัยและพัฒนา ✅ การแข่งขันในตลาดชิปประมวลผล - Intel กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อแข่งขันกับ TSMC https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/24/tsmc-shows-off-new-tech-for-stitching-together-bigger-faster-chips
    WWW.THESTAR.COM.MY
    TSMC shows off new tech for stitching together bigger, faster chips
    SANTA CLARA, California (Reuters) -Taiwan Semiconductor Manufacturing Co on Wednesday unveiled technology for making faster chips and putting them together in dinner-plate-sized packages that will boost performance needed for artificial intelligence applications.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุน Cortana ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 โดย Cortana เคยเป็นส่วนสำคัญของระบบปฏิบัติการ Windows และแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Microsoft อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในตลาด AI และการมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีใหม่ เช่น Microsoft Copilot ทำให้ Cortana ถูกแทนที่ด้วยเครื่องมือที่มีความสามารถมากขึ้น

    ✅ Cortana เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014
    - เปิดตัวพร้อมกับ Windows Phone 8.1 และได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครในเกม Halo
    - มีฟีเจอร์เด่น เช่น การสั่งงานด้วยเสียง การตั้งค่าการแจ้งเตือน และการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม

    ✅ เหตุผลที่ Microsoft ยุติการสนับสนุน Cortana
    - การแข่งขันที่รุนแรงจาก Siri, Google Assistant และ Alexa
    - Cortana ไม่สามารถแข่งขันในตลาดมือถือได้ เนื่องจาก Windows Phone ไม่ประสบความสำเร็จ
    - การเปลี่ยนกลยุทธ์ไปสู่การรวมฟีเจอร์ AI ใน Microsoft 365 และ Windows

    ✅ การแทนที่ด้วย Microsoft Copilot
    - Copilot ใช้เทคโนโลยี GPT-4 เพื่อช่วยสร้างเนื้อหา สรุปอีเมล และทำงานอัตโนมัติ
    - มีความสามารถที่เหนือกว่า Cortana เช่น การเขียนรายงานและตอบคำถามที่ซับซ้อน

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดผู้ช่วย AI
    - ผู้ช่วย AI ในยุคใหม่เน้นการสร้างภาษาและการรวมเข้ากับเครื่องมือผลิตภาพ

    https://computercity.com/software/windows/goodbye-cortana-why-microsoft-pulled-the-plug-on-its-ai-assistant
    Microsoft ได้ประกาศยุติการสนับสนุน Cortana ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 โดย Cortana เคยเป็นส่วนสำคัญของระบบปฏิบัติการ Windows และแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Microsoft อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในตลาด AI และการมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีใหม่ เช่น Microsoft Copilot ทำให้ Cortana ถูกแทนที่ด้วยเครื่องมือที่มีความสามารถมากขึ้น ✅ Cortana เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 - เปิดตัวพร้อมกับ Windows Phone 8.1 และได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครในเกม Halo - มีฟีเจอร์เด่น เช่น การสั่งงานด้วยเสียง การตั้งค่าการแจ้งเตือน และการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ✅ เหตุผลที่ Microsoft ยุติการสนับสนุน Cortana - การแข่งขันที่รุนแรงจาก Siri, Google Assistant และ Alexa - Cortana ไม่สามารถแข่งขันในตลาดมือถือได้ เนื่องจาก Windows Phone ไม่ประสบความสำเร็จ - การเปลี่ยนกลยุทธ์ไปสู่การรวมฟีเจอร์ AI ใน Microsoft 365 และ Windows ✅ การแทนที่ด้วย Microsoft Copilot - Copilot ใช้เทคโนโลยี GPT-4 เพื่อช่วยสร้างเนื้อหา สรุปอีเมล และทำงานอัตโนมัติ - มีความสามารถที่เหนือกว่า Cortana เช่น การเขียนรายงานและตอบคำถามที่ซับซ้อน ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดผู้ช่วย AI - ผู้ช่วย AI ในยุคใหม่เน้นการสร้างภาษาและการรวมเข้ากับเครื่องมือผลิตภาพ https://computercity.com/software/windows/goodbye-cortana-why-microsoft-pulled-the-plug-on-its-ai-assistant
    COMPUTERCITY.COM
    Goodbye, Cortana: Why Microsoft Pulled the Plug on Its AI Assistant
    Microsoft’s once-promising virtual assistant, Cortana, has reached the end of the road. Originally introduced in 2014 as a bold step into the AI assistant
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • Discord ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตำแหน่งผู้นำ โดย Jason Citron ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO จะก้าวลงจากตำแหน่งในวันที่ 28 เมษายน 2025 และ Humam Sakhnini จะเข้ามารับตำแหน่ง CEO คนใหม่ Sakhnini มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเกมจากการทำงานที่ Activision Blizzard และ King Digital ซึ่งเป็นจุดเด่นที่เหมาะสมกับทิศทางของ Discord ในการเตรียมตัวสำหรับการเติบโตในอนาคต

    Citron จะยังคงมีบทบาทในบริษัทในฐานะที่ปรึกษาและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร โดยเขาได้กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็นการส่งต่อภารกิจให้กับผู้นำที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านเพื่อช่วยให้ Discord ก้าวไปสู่บทใหม่ของการเติบโต

    ✅ Jason Citron ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO
    - Citron จะยังคงมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร
    - เขาเน้นว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเร่งการเติบโตของ Discord

    ✅ Humam Sakhnini เข้ารับตำแหน่ง CEO คนใหม่
    - Sakhnini มีประสบการณ์จาก Activision Blizzard และ King Digital
    - การแต่งตั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวสำหรับการเป็นบริษัทมหาชนในอนาคต

    ✅ Discord ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับเกมเมอร์
    - มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น PC overlay และการปรับปรุง UI
    - Discord กำลังสำรวจวิธีการสร้างรายได้เพิ่มเติม เช่น การโฆษณาและการซื้อในแอป

    https://www.neowin.net/news/discord-appoints-new-ceo-as-jason-citron-prepares-to-step-down/
    Discord ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตำแหน่งผู้นำ โดย Jason Citron ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO จะก้าวลงจากตำแหน่งในวันที่ 28 เมษายน 2025 และ Humam Sakhnini จะเข้ามารับตำแหน่ง CEO คนใหม่ Sakhnini มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเกมจากการทำงานที่ Activision Blizzard และ King Digital ซึ่งเป็นจุดเด่นที่เหมาะสมกับทิศทางของ Discord ในการเตรียมตัวสำหรับการเติบโตในอนาคต Citron จะยังคงมีบทบาทในบริษัทในฐานะที่ปรึกษาและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร โดยเขาได้กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็นการส่งต่อภารกิจให้กับผู้นำที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านเพื่อช่วยให้ Discord ก้าวไปสู่บทใหม่ของการเติบโต ✅ Jason Citron ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO - Citron จะยังคงมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร - เขาเน้นว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเร่งการเติบโตของ Discord ✅ Humam Sakhnini เข้ารับตำแหน่ง CEO คนใหม่ - Sakhnini มีประสบการณ์จาก Activision Blizzard และ King Digital - การแต่งตั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวสำหรับการเป็นบริษัทมหาชนในอนาคต ✅ Discord ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับเกมเมอร์ - มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น PC overlay และการปรับปรุง UI - Discord กำลังสำรวจวิธีการสร้างรายได้เพิ่มเติม เช่น การโฆษณาและการซื้อในแอป https://www.neowin.net/news/discord-appoints-new-ceo-as-jason-citron-prepares-to-step-down/
    WWW.NEOWIN.NET
    Discord appoints new CEO as Jason Citron prepares to step down
    After almost a decade as Discord's CEO, Jason Citron is stepping down, and a replacement will take over in the next few days.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้ประกาศว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ในงาน Computex 2025 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม โดยมีการเปิดเผยว่าจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI-powered PCs, เกม, และ โซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูล AI นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า AMD อาจเปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ในซีรีส์ Radeon RX 9000 เช่น RX 9060 XT และโปรเซสเซอร์ Gordon Point ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งาน AI

    ✅ AMD จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน Computex 2025
    - ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI-powered PCs และโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูล AI
    - การนำเสนอเทคโนโลยีใหม่สำหรับเกมบนเดสก์ท็อป มือถือ และอุปกรณ์พกพา

    ✅ การคาดการณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
    - AMD อาจเปิดตัวกราฟิกการ์ด RX 9060 XT ในงานนี้
    - โปรเซสเซอร์ Gordon Point ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งาน AI

    ✅ การร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรม
    - Jack Huynh รองประธานอาวุโสของ AMD จะร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์

    ✅ การจัดงานเพิ่มเติมในเดือนมิถุนายน
    - AMD จะจัดงานแยกต่างหากในวันที่ 12 มิถุนายน โดยมี Lisa Su เป็นผู้ดำเนินการ

    https://www.neowin.net/news/amd-confirms-new-product-announcements-at-computex-2025-in-may/
    AMD ได้ประกาศว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ในงาน Computex 2025 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม โดยมีการเปิดเผยว่าจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI-powered PCs, เกม, และ โซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูล AI นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า AMD อาจเปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ในซีรีส์ Radeon RX 9000 เช่น RX 9060 XT และโปรเซสเซอร์ Gordon Point ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งาน AI ✅ AMD จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน Computex 2025 - ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI-powered PCs และโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูล AI - การนำเสนอเทคโนโลยีใหม่สำหรับเกมบนเดสก์ท็อป มือถือ และอุปกรณ์พกพา ✅ การคาดการณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ - AMD อาจเปิดตัวกราฟิกการ์ด RX 9060 XT ในงานนี้ - โปรเซสเซอร์ Gordon Point ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งาน AI ✅ การร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรม - Jack Huynh รองประธานอาวุโสของ AMD จะร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ✅ การจัดงานเพิ่มเติมในเดือนมิถุนายน - AMD จะจัดงานแยกต่างหากในวันที่ 12 มิถุนายน โดยมี Lisa Su เป็นผู้ดำเนินการ https://www.neowin.net/news/amd-confirms-new-product-announcements-at-computex-2025-in-may/
    WWW.NEOWIN.NET
    AMD confirms new product announcements at Computex 2025 in May
    AMD fans should mark May 21 on the calendar as the company has just confirmed its presence and product announcements at Computex 2025.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts