• นายกฯ อนุทิน ประกาศจุดยืนใหม่ ปฏิญญาไทย-กัมพูชา "ผู้ลงนามกับเราไม่ปฏิบัติ" ชี้กลับมาทำใหม่ไม่ได้
    https://www.thai-tai.tv/news/22322/
    .
    #ไทยไท #อนุทิน #NDC68 #บูรณาการ #กิโยตินทางกฎหมาย #สมช. #ปฏิญญากัมพูชา

    นายกฯ อนุทิน ประกาศจุดยืนใหม่ ปฏิญญาไทย-กัมพูชา "ผู้ลงนามกับเราไม่ปฏิบัติ" ชี้กลับมาทำใหม่ไม่ได้ https://www.thai-tai.tv/news/22322/ . #ไทยไท #อนุทิน #NDC68 #บูรณาการ #กิโยตินทางกฎหมาย #สมช. #ปฏิญญากัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอวิเคราะห์ทิศทางของ Bitcoin ในอนาคตจากมุมมองผู้เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมข้อดีและข้อเสียอย่างเป็นกลาง:

    ข้อมองในแง่บวก (Bull Case)

    1. การยอมรับในระดับสถาบัน

    · กองทุนขนาดใหญ่ (BlackRock, Fidelity) เปิดกองทุน Bitcoin ETF
    · บริษัทมหาชนเพิ่ม Bitcoin ในงบดุล (เช่น MicroStrategy, Tesla)
    · ธนาคารกลางหลายประเทศศึกษาสกุลเงินดิจิทัศ (CBDC)

    2. อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น

    · กลไก Halving ลดอุปทานใหม่ทุก 4 ปี
    · มีผู้ใช้งานและนักลงทุนรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    · การใช้เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ (Digital Gold)

    3. นวัตกรรมทางเทคโนโลยี

    · การพัฒนาระบบ Layer 2 (เช่น Lightning Network)
    · การบูรณาการกับ DeFi และ Smart Contract
    · การปรับปรุงความสามารถในการขยายขนาด (Scalability)

    ข้อกังวลในแง่ลบ (Bear Case)

    1. ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ

    · การควบคุมที่เข้มงวดจากรัฐบาลต่างๆ
    · นโยบายการเก็บภาษีที่ยังไม่ชัดเจนในหลายประเทศ
    · ความเสี่ยงจากการแบนในบางเขตอำนาจศาล

    2. ความผันผวนสูง

    · ราคายังคงมีความผันผวนในระดับที่เสี่ยง
    · การเก็งกำไรระยะสั้นมีอิทธิพลต่อราคา
    · ความเชื่อมั่นที่อ่อนไหวต่อข่าวลือและทวีต

    3. ความท้าทายทางเทคนิค

    · ปัญหาการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    · ความเร็วในการทำธุรกรรมที่จำกัด
    · ค่า Fee ที่อาจสูงในช่วงความนิยม

    มุมมองโดยรวม

    ผู้มองในแง่บวก เห็นว่า Bitcoin จะเติบโตเป็น:

    · สินทรัพย์ปลอดภัยรูปแบบดิจิทัล
    · ระบบการชำระเงินข้ามพรมแดน
    · พื้นฐานของระบบการเงินใหม่

    ผู้มองในแง่ลบ กังวลเกี่ยวกับ:

    · ฟองสบู่ทางราคาที่อาจแตก
    · การแข่งขันจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น
    · ความไม่แน่นอนในระยะยาว

    คำแนะนำการลงทุน

    · ลงทุนเพียงส่วนที่ยอมเสียได้
    · ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด
    · กระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน

    ตลาดคริปโตยังคงมีความไม่แน่นอนสูง การตัดสินใจลงทุนควรอยู่บนพื้นฐานการศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงที่ยอมรับได้
    ขอวิเคราะห์ทิศทางของ Bitcoin ในอนาคตจากมุมมองผู้เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมข้อดีและข้อเสียอย่างเป็นกลาง: ข้อมองในแง่บวก (Bull Case) 1. การยอมรับในระดับสถาบัน · กองทุนขนาดใหญ่ (BlackRock, Fidelity) เปิดกองทุน Bitcoin ETF · บริษัทมหาชนเพิ่ม Bitcoin ในงบดุล (เช่น MicroStrategy, Tesla) · ธนาคารกลางหลายประเทศศึกษาสกุลเงินดิจิทัศ (CBDC) 2. อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น · กลไก Halving ลดอุปทานใหม่ทุก 4 ปี · มีผู้ใช้งานและนักลงทุนรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง · การใช้เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ (Digital Gold) 3. นวัตกรรมทางเทคโนโลยี · การพัฒนาระบบ Layer 2 (เช่น Lightning Network) · การบูรณาการกับ DeFi และ Smart Contract · การปรับปรุงความสามารถในการขยายขนาด (Scalability) ข้อกังวลในแง่ลบ (Bear Case) 1. ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ · การควบคุมที่เข้มงวดจากรัฐบาลต่างๆ · นโยบายการเก็บภาษีที่ยังไม่ชัดเจนในหลายประเทศ · ความเสี่ยงจากการแบนในบางเขตอำนาจศาล 2. ความผันผวนสูง · ราคายังคงมีความผันผวนในระดับที่เสี่ยง · การเก็งกำไรระยะสั้นมีอิทธิพลต่อราคา · ความเชื่อมั่นที่อ่อนไหวต่อข่าวลือและทวีต 3. ความท้าทายทางเทคนิค · ปัญหาการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม · ความเร็วในการทำธุรกรรมที่จำกัด · ค่า Fee ที่อาจสูงในช่วงความนิยม มุมมองโดยรวม ผู้มองในแง่บวก เห็นว่า Bitcoin จะเติบโตเป็น: · สินทรัพย์ปลอดภัยรูปแบบดิจิทัล · ระบบการชำระเงินข้ามพรมแดน · พื้นฐานของระบบการเงินใหม่ ผู้มองในแง่ลบ กังวลเกี่ยวกับ: · ฟองสบู่ทางราคาที่อาจแตก · การแข่งขันจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น · ความไม่แน่นอนในระยะยาว คำแนะนำการลงทุน · ลงทุนเพียงส่วนที่ยอมเสียได้ · ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด · กระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน ตลาดคริปโตยังคงมีความไม่แน่นอนสูง การตัดสินใจลงทุนควรอยู่บนพื้นฐานการศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงที่ยอมรับได้
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดร.คเณศ ไทยก้าวใหม่ ชี้ “เงินสีเทา แทรกซึมเศรษฐกิจไทย” จี้รัฐบาลบูรณาการ สตช.-ปปง.-ธปท. เร่งสกัดเงินสีเทาและปัญหาการทุ่มตลาด เพื่อปกป้องธุรกิจ SMEs ไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/22108/
    .
    #ไทยไท #เงินสีเทา #ฟอกเงินข้ามชาติ #ทุนสำรองระหว่างประเทศ #ดรคเณศ #SMEsไทย
    ดร.คเณศ ไทยก้าวใหม่ ชี้ “เงินสีเทา แทรกซึมเศรษฐกิจไทย” จี้รัฐบาลบูรณาการ สตช.-ปปง.-ธปท. เร่งสกัดเงินสีเทาและปัญหาการทุ่มตลาด เพื่อปกป้องธุรกิจ SMEs ไทย https://www.thai-tai.tv/news/22108/ . #ไทยไท #เงินสีเทา #ฟอกเงินข้ามชาติ #ทุนสำรองระหว่างประเทศ #ดรคเณศ #SMEsไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘แบงก์ไทย’ ตั้งการ์ด สกัด ‘เงินเทา’ : [Biz Talk]
    ธปท.บูรณาการหน่วยงานกำกับดูแลทั้งใน-ต่างประเทศ ป้องกันไม่ให้เกิดธุรกรรมเทา ในระบบสถาบันการเงินไทย ย้ำ‘สแกมเมอร์’ปัญหาใหญ่ เป็นความท้าทายระดับโลกที่กระทบความมั่นคงทางการเงิน ภาพลักษณ์ประเทศ พร้อมเฝ้าระวังผลกระทบต่อความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย
    ‘แบงก์ไทย’ ตั้งการ์ด สกัด ‘เงินเทา’ : [Biz Talk] ธปท.บูรณาการหน่วยงานกำกับดูแลทั้งใน-ต่างประเทศ ป้องกันไม่ให้เกิดธุรกรรมเทา ในระบบสถาบันการเงินไทย ย้ำ‘สแกมเมอร์’ปัญหาใหญ่ เป็นความท้าทายระดับโลกที่กระทบความมั่นคงทางการเงิน ภาพลักษณ์ประเทศ พร้อมเฝ้าระวังผลกระทบต่อความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย
    Like
    Love
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • วธ.พร้อมจัดงานพระราชพิธี สมพระเกียรติสูงสุด : [NEWS UPDATE]
    นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยถึงภารกิจหน่วยงานในสังกัด ทั้งการจัดพิธีทางศาสนาถวายเป็นพระราชกุศล และเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้แก่ 1.กรมการศาสนา ประสานองค์การทางศาสนาจัดพิธีตามหลักศาสนบัญญัติของเเต่ละศาสนา 2.กรมศิลปากร ดำเนินการรูปแบบพิธีการและจัดสร้างพระเมรุมาศ พร้อมทั้งอาคารประกอบ 3.กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประสานศิลปินแห่งชาติ จัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ 4.หอภาพยนตร์ เผยแพร่ภาพยนตร์และสื่อเคลื่อนไหวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ 5.กิจกรรมจิตอาสา 6.สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ข้อปฏิบัติแนวทางเข้าร่วมงานพระราชพิธี ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมยังตั้งคณะกรรมการอำนวยการ เพื่อบูรณาการการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสำนักนายกรัฐมนตรี และปรับแผนงาน-งบประมาณ ให้เหมาะสมกับกิจกรรม



    เตรียมร่างแบบพระเมรุมาศ

    แนวปฏิบัติมีเดียเอเยนซี่

    คุย"ฮุน มาเนต"ลดความขัดแย้ง

    ยังไม่ใช่เวลาเปิดด่าน
    วธ.พร้อมจัดงานพระราชพิธี สมพระเกียรติสูงสุด : [NEWS UPDATE] นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยถึงภารกิจหน่วยงานในสังกัด ทั้งการจัดพิธีทางศาสนาถวายเป็นพระราชกุศล และเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้แก่ 1.กรมการศาสนา ประสานองค์การทางศาสนาจัดพิธีตามหลักศาสนบัญญัติของเเต่ละศาสนา 2.กรมศิลปากร ดำเนินการรูปแบบพิธีการและจัดสร้างพระเมรุมาศ พร้อมทั้งอาคารประกอบ 3.กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประสานศิลปินแห่งชาติ จัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ 4.หอภาพยนตร์ เผยแพร่ภาพยนตร์และสื่อเคลื่อนไหวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ 5.กิจกรรมจิตอาสา 6.สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ข้อปฏิบัติแนวทางเข้าร่วมงานพระราชพิธี ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมยังตั้งคณะกรรมการอำนวยการ เพื่อบูรณาการการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสำนักนายกรัฐมนตรี และปรับแผนงาน-งบประมาณ ให้เหมาะสมกับกิจกรรม เตรียมร่างแบบพระเมรุมาศ แนวปฏิบัติมีเดียเอเยนซี่ คุย"ฮุน มาเนต"ลดความขัดแย้ง ยังไม่ใช่เวลาเปิดด่าน
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Warlock Ransomware: จู่โจมองค์กรสหรัฐฯ ผ่านช่องโหว่ SharePoint โดยกลุ่มแฮกเกอร์จีน CamoFei

    ภัยคุกคามไซเบอร์ครั้งใหม่กำลังเขย่าโลกธุรกิจสหรัฐฯ เมื่อ Warlock ransomware ปรากฏตัวในเดือนมิถุนายน 2025 และถูกใช้ในการโจมตีองค์กรต่างๆ โดยอาศัยช่องโหว่ ToolShell zero-day ใน Microsoft SharePoint (CVE-2025-53770) ซึ่งสามารถเจาะระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน

    สิ่งที่ทำให้ Warlock แตกต่างจาก ransomware ทั่วไปคือความเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์จีนสายข่าวกรอง เช่น CamoFei (หรือ ChamelGang) และ Storm-2603 ซึ่งเคยใช้เครื่องมือจารกรรมอย่าง Cobalt Strike และเทคนิค DLL sideloading ในการแทรกซึมระบบมาก่อน

    Warlock ถูกพบว่ามีลักษณะคล้ายกับ Anylock ransomware โดยใช้ extension .x2anylock และมีโครงสร้าง payload ที่ใกล้เคียงกัน บ่งชี้ว่าอาจเป็นการรีแบรนด์หรือพัฒนาต่อยอดจาก LockBit 3.0

    หนึ่งในเทคนิคที่น่ากังวลที่สุดคือการใช้ BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) โดยแฮกเกอร์นำ driver จาก Baidu Antivirus ปี 2016 ที่มีช่องโหว่มาใช้ร่วมกับ certificate ปลอมจากนักพัฒนาชื่อ “coolschool” เพื่อปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันไวรัสในระบบเป้าหมาย

    การโจมตีครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเรียกค่าไถ่ แต่ยังสะท้อนถึงการบูรณาการระหว่างกลุ่มแฮกเกอร์สายข่าวกรองกับกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งอาจเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของการโจมตีระดับประเทศ

    ลักษณะของ Warlock ransomware
    ปรากฏตัวครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2025
    ใช้ช่องโหว่ CVE-2025-53770 ใน SharePoint
    เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์จีน เช่น CamoFei และ Storm-2603

    เทคนิคการโจมตี
    ใช้ BYOVD ด้วย driver จาก Baidu Antivirus ปี 2016
    ใช้ certificate ปลอมจากนักพัฒนาชื่อ “coolschool”
    ใช้ DLL sideloading และ toolkit “Project AK47”

    ความสัมพันธ์กับ ransomware อื่น
    มีลักษณะคล้าย Anylock และ LockBit 3.0
    ใช้ extension .x2anylock ในการเข้ารหัสไฟล์
    อาจเป็นการรีแบรนด์หรือพัฒนาต่อยอดจาก ransomware เดิม

    กลุ่มเป้าหมาย
    องค์กรในสหรัฐฯ และหน่วยงานรัฐบาล
    ใช้ช่องโหว่ zero-day เพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    มีการโจมตีแบบผสมระหว่างจารกรรมและเรียกค่าไถ่

    https://securityonline.info/warlock-ransomware-hits-us-firms-exploiting-sharepoint-zero-day-linked-to-chinas-camofei-apt/
    🧨 Warlock Ransomware: จู่โจมองค์กรสหรัฐฯ ผ่านช่องโหว่ SharePoint โดยกลุ่มแฮกเกอร์จีน CamoFei ภัยคุกคามไซเบอร์ครั้งใหม่กำลังเขย่าโลกธุรกิจสหรัฐฯ เมื่อ Warlock ransomware ปรากฏตัวในเดือนมิถุนายน 2025 และถูกใช้ในการโจมตีองค์กรต่างๆ โดยอาศัยช่องโหว่ ToolShell zero-day ใน Microsoft SharePoint (CVE-2025-53770) ซึ่งสามารถเจาะระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน สิ่งที่ทำให้ Warlock แตกต่างจาก ransomware ทั่วไปคือความเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์จีนสายข่าวกรอง เช่น CamoFei (หรือ ChamelGang) และ Storm-2603 ซึ่งเคยใช้เครื่องมือจารกรรมอย่าง Cobalt Strike และเทคนิค DLL sideloading ในการแทรกซึมระบบมาก่อน Warlock ถูกพบว่ามีลักษณะคล้ายกับ Anylock ransomware โดยใช้ extension .x2anylock และมีโครงสร้าง payload ที่ใกล้เคียงกัน บ่งชี้ว่าอาจเป็นการรีแบรนด์หรือพัฒนาต่อยอดจาก LockBit 3.0 หนึ่งในเทคนิคที่น่ากังวลที่สุดคือการใช้ BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) โดยแฮกเกอร์นำ driver จาก Baidu Antivirus ปี 2016 ที่มีช่องโหว่มาใช้ร่วมกับ certificate ปลอมจากนักพัฒนาชื่อ “coolschool” เพื่อปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันไวรัสในระบบเป้าหมาย การโจมตีครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเรียกค่าไถ่ แต่ยังสะท้อนถึงการบูรณาการระหว่างกลุ่มแฮกเกอร์สายข่าวกรองกับกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งอาจเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของการโจมตีระดับประเทศ ✅ ลักษณะของ Warlock ransomware ➡️ ปรากฏตัวครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2025 ➡️ ใช้ช่องโหว่ CVE-2025-53770 ใน SharePoint ➡️ เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์จีน เช่น CamoFei และ Storm-2603 ✅ เทคนิคการโจมตี ➡️ ใช้ BYOVD ด้วย driver จาก Baidu Antivirus ปี 2016 ➡️ ใช้ certificate ปลอมจากนักพัฒนาชื่อ “coolschool” ➡️ ใช้ DLL sideloading และ toolkit “Project AK47” ✅ ความสัมพันธ์กับ ransomware อื่น ➡️ มีลักษณะคล้าย Anylock และ LockBit 3.0 ➡️ ใช้ extension .x2anylock ในการเข้ารหัสไฟล์ ➡️ อาจเป็นการรีแบรนด์หรือพัฒนาต่อยอดจาก ransomware เดิม ✅ กลุ่มเป้าหมาย ➡️ องค์กรในสหรัฐฯ และหน่วยงานรัฐบาล ➡️ ใช้ช่องโหว่ zero-day เพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ➡️ มีการโจมตีแบบผสมระหว่างจารกรรมและเรียกค่าไถ่ https://securityonline.info/warlock-ransomware-hits-us-firms-exploiting-sharepoint-zero-day-linked-to-chinas-camofei-apt/
    SECURITYONLINE.INFO
    Warlock Ransomware Hits US Firms Exploiting SharePoint Zero-Day, Linked to China’s CamoFei APT
    Symantec exposed Warlock ransomware (a probable Anylock rebrand) used by China-linked Storm-2603. It exploits the SharePoint zero-day and BYOVD to disable security and encrypt files with the .x2anylock extension.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนีตายเคเค-พาร์ค แห่เข้าไทย(อีกแล้ว) : [NEWS UPDATE]

    พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยกรณีทหารเมียนมาควบคุมพื้นที่โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษจีน เคเค-พาร์ค เมียนมา เข้าตรวจสอบโครงการฯ ส่งผลให้กลุ่มทุนพนักงาน ชาวต่างชาติ ในโครงการฯ หวาดกลัวหลบหนีมาฝั่งไทยจำนวนมาก พบข้ามมาฝั่งไทยบริเวณช่องทางบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง จ.ตาก จำนวน 677 คน ยืนยัน ดำเนินการทุกขั้นตอนตามกฎหมายและหลักมนุษยธรรม พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา อย่างใกล้ชิด

    -4 ประเด็น เขมรทำจริง?

    -ตกลงได้ระดับหนึ่ง

    -เร่งสอบข่าวลักพาตัวเกาหลี

    -ดวงจันทร์ที่ 2 บริวารโลก
    หนีตายเคเค-พาร์ค แห่เข้าไทย(อีกแล้ว) : [NEWS UPDATE] พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยกรณีทหารเมียนมาควบคุมพื้นที่โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษจีน เคเค-พาร์ค เมียนมา เข้าตรวจสอบโครงการฯ ส่งผลให้กลุ่มทุนพนักงาน ชาวต่างชาติ ในโครงการฯ หวาดกลัวหลบหนีมาฝั่งไทยจำนวนมาก พบข้ามมาฝั่งไทยบริเวณช่องทางบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง จ.ตาก จำนวน 677 คน ยืนยัน ดำเนินการทุกขั้นตอนตามกฎหมายและหลักมนุษยธรรม พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา อย่างใกล้ชิด -4 ประเด็น เขมรทำจริง? -ตกลงได้ระดับหนึ่ง -เร่งสอบข่าวลักพาตัวเกาหลี -ดวงจันทร์ที่ 2 บริวารโลก
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • แก๊งค์ callcenter
    มันเหมือน ย้อนแย้ง ระบบราชการไทย เพราะเวลาติดต่ออะไร ไม่เห็นบูรณาการ แบบ callcenter เลย
    มันทำให้คิดว่า ทำไมระบบราชการในแก๊งค์ callcenter มันโอนสายหน่วยงานราชการเร็วจัง
    ทั้งๆ ทีเวลาเราไปติดต่ออะไร เดวก็โยนไปทางนู้นที ทางนี้ที
    (เห็นข้อแตกต่างเลย ถ้าราชการเราทำงานไวได้เท่าแก๊งค์ callcenter นะ)
    ป่านี้เราคงไม่เป็นแบบนี้อ่ะ ระบบมาเร็ว เคลมเร็ว ซ่อมเร็ว ต้อง "ระบบทรราช แล้วอ่ะ จริงปะ"
    แก๊งค์ callcenter มันเหมือน ย้อนแย้ง ระบบราชการไทย เพราะเวลาติดต่ออะไร ไม่เห็นบูรณาการ แบบ callcenter เลย มันทำให้คิดว่า ทำไมระบบราชการในแก๊งค์ callcenter มันโอนสายหน่วยงานราชการเร็วจัง ทั้งๆ ทีเวลาเราไปติดต่ออะไร เดวก็โยนไปทางนู้นที ทางนี้ที (เห็นข้อแตกต่างเลย ถ้าราชการเราทำงานไวได้เท่าแก๊งค์ callcenter นะ) ป่านี้เราคงไม่เป็นแบบนี้อ่ะ ระบบมาเร็ว เคลมเร็ว ซ่อมเร็ว ต้อง "ระบบทรราช แล้วอ่ะ จริงปะ"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • “9 เครื่องมือจัดการ Attack Surface ที่องค์กรควรรู้ – ป้องกันภัยไซเบอร์ก่อนถูกเจาะ!”

    ในยุคที่ระบบ IT เชื่อมต่อกับโลกภายนอกตลอดเวลา การรู้ว่า “อะไรเปิดเผยอยู่บ้าง” คือกุญแจสำคัญในการป้องกันการโจมตี เครื่องมือประเภท CAASM (Cyber Asset Attack Surface Management) และ EASM (External Attack Surface Management) จึงกลายเป็นหัวใจของการรักษาความปลอดภัยระดับองค์กร

    บทความจาก CSO Online ได้รวบรวม 9 เครื่องมือเด่นที่ช่วยค้นหาและจัดการช่องโหว่ในระบบขององค์กร โดยแต่ละตัวมีจุดเด่นต่างกัน เช่น การมองจากมุมของแฮกเกอร์, การเชื่อมต่อกับระบบภายใน, หรือการวิเคราะห์ความเสี่ยงเชิงธุรกิจ

    เป้าหมายของเครื่องมือเหล่านี้คือการลด “ข้อมูลที่แฮกเกอร์มองเห็น” ให้เหลือน้อยที่สุด โดยยังคงให้บริการธุรกิจได้ตามปกติ และสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ เช่น การเพิ่ม asset ใหม่ หรือการเปลี่ยน config ที่อาจเกิดจาก human error หรือการโจมตี

    ความเข้าใจพื้นฐานของ Attack Surface
    หมายถึงทรัพยากรทั้งหมดที่เข้าถึงได้จากอินเทอร์เน็ต เช่น IP, domain, application
    รวมถึง open ports, SSL, server platform และ protocol ที่ใช้งาน
    ช่องโหว่เกิดจาก config ผิดพลาดหรือ software ที่ยังไม่ได้ patch
    แม้ asset จะอยู่ใน data center ก็ยังเสี่ยง หากไม่มีการ monitor ที่ดี

    ความสามารถของเครื่องมือ CAASM/EASM
    ตรวจจับ asset ใหม่และ config drift แบบเรียลไทม์
    วิเคราะห์ความเสี่ยงจากทั้งมุมเทคนิคและมุมธุรกิจ
    เชื่อมต่อกับระบบภายใน เช่น Jira, ServiceNow, Slack
    บางตัวสามารถทำ remediation อัตโนมัติหรือผ่าน playbook

    เครื่องมือเด่นที่แนะนำ
    Axonius – เน้น asset inventory และ policy compliance เช่น PCI/HIPAA
    CrowdStrike Falcon Surface – มองจากมุมแฮกเกอร์ พร้อม remediation ผ่าน integration
    CyCognito – วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง asset และจัดลำดับความเสี่ยง
    Informer – ค้นหา asset บน web/API พร้อม pen testing เสริม
    JupiterOne – แสดง asset แบบ visual map พร้อม query ขั้นสูง
    Microsoft Defender EASM – ค้นหา shadow IT และ probe ทุก layer ของ tech stack
    Rapid7 InsightVM – มีสิทธิ์ออก CVE ใหม่ พร้อม dashboard วิเคราะห์แบบเจาะลึก
    SOCRadar AttackMapper – ตรวจ SSL, DNS, defacement และ correlate กับวิธีโจมตี
    Tenable.asm – วิเคราะห์ asset ด้วย metadata กว่า 200 field พร้อม context เชิงธุรกิจ

    ข้อควรระวังและคำเตือน
    การ scan แบบ periodic ไม่เพียงพอ ต้องใช้ monitoring แบบต่อเนื่อง
    การไม่จัดการ config drift อาจเปิดช่องให้โจมตีโดยไม่รู้ตัว
    หากไม่เชื่อมโยง asset กับ context ธุรกิจ อาจจัดลำดับความเสี่ยงผิด
    การใช้หลายเครื่องมือโดยไม่มีการบูรณาการ อาจทำให้ข้อมูลกระจัดกระจาย
    การไม่ฝึกซ้อม incident response ทำให้ 57% ของเหตุการณ์จริงไม่เคยถูกจำลองมาก่อน

    https://www.csoonline.com/article/574797/9-attack-surface-discovery-and-management-tools.html
    🛡️ “9 เครื่องมือจัดการ Attack Surface ที่องค์กรควรรู้ – ป้องกันภัยไซเบอร์ก่อนถูกเจาะ!” ในยุคที่ระบบ IT เชื่อมต่อกับโลกภายนอกตลอดเวลา การรู้ว่า “อะไรเปิดเผยอยู่บ้าง” คือกุญแจสำคัญในการป้องกันการโจมตี เครื่องมือประเภท CAASM (Cyber Asset Attack Surface Management) และ EASM (External Attack Surface Management) จึงกลายเป็นหัวใจของการรักษาความปลอดภัยระดับองค์กร บทความจาก CSO Online ได้รวบรวม 9 เครื่องมือเด่นที่ช่วยค้นหาและจัดการช่องโหว่ในระบบขององค์กร โดยแต่ละตัวมีจุดเด่นต่างกัน เช่น การมองจากมุมของแฮกเกอร์, การเชื่อมต่อกับระบบภายใน, หรือการวิเคราะห์ความเสี่ยงเชิงธุรกิจ เป้าหมายของเครื่องมือเหล่านี้คือการลด “ข้อมูลที่แฮกเกอร์มองเห็น” ให้เหลือน้อยที่สุด โดยยังคงให้บริการธุรกิจได้ตามปกติ และสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ เช่น การเพิ่ม asset ใหม่ หรือการเปลี่ยน config ที่อาจเกิดจาก human error หรือการโจมตี ✅ ความเข้าใจพื้นฐานของ Attack Surface ➡️ หมายถึงทรัพยากรทั้งหมดที่เข้าถึงได้จากอินเทอร์เน็ต เช่น IP, domain, application ➡️ รวมถึง open ports, SSL, server platform และ protocol ที่ใช้งาน ➡️ ช่องโหว่เกิดจาก config ผิดพลาดหรือ software ที่ยังไม่ได้ patch ➡️ แม้ asset จะอยู่ใน data center ก็ยังเสี่ยง หากไม่มีการ monitor ที่ดี ✅ ความสามารถของเครื่องมือ CAASM/EASM ➡️ ตรวจจับ asset ใหม่และ config drift แบบเรียลไทม์ ➡️ วิเคราะห์ความเสี่ยงจากทั้งมุมเทคนิคและมุมธุรกิจ ➡️ เชื่อมต่อกับระบบภายใน เช่น Jira, ServiceNow, Slack ➡️ บางตัวสามารถทำ remediation อัตโนมัติหรือผ่าน playbook ✅ เครื่องมือเด่นที่แนะนำ ➡️ Axonius – เน้น asset inventory และ policy compliance เช่น PCI/HIPAA ➡️ CrowdStrike Falcon Surface – มองจากมุมแฮกเกอร์ พร้อม remediation ผ่าน integration ➡️ CyCognito – วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง asset และจัดลำดับความเสี่ยง ➡️ Informer – ค้นหา asset บน web/API พร้อม pen testing เสริม ➡️ JupiterOne – แสดง asset แบบ visual map พร้อม query ขั้นสูง ➡️ Microsoft Defender EASM – ค้นหา shadow IT และ probe ทุก layer ของ tech stack ➡️ Rapid7 InsightVM – มีสิทธิ์ออก CVE ใหม่ พร้อม dashboard วิเคราะห์แบบเจาะลึก ➡️ SOCRadar AttackMapper – ตรวจ SSL, DNS, defacement และ correlate กับวิธีโจมตี ➡️ Tenable.asm – วิเคราะห์ asset ด้วย metadata กว่า 200 field พร้อม context เชิงธุรกิจ ‼️ ข้อควรระวังและคำเตือน ⛔ การ scan แบบ periodic ไม่เพียงพอ ต้องใช้ monitoring แบบต่อเนื่อง ⛔ การไม่จัดการ config drift อาจเปิดช่องให้โจมตีโดยไม่รู้ตัว ⛔ หากไม่เชื่อมโยง asset กับ context ธุรกิจ อาจจัดลำดับความเสี่ยงผิด ⛔ การใช้หลายเครื่องมือโดยไม่มีการบูรณาการ อาจทำให้ข้อมูลกระจัดกระจาย ⛔ การไม่ฝึกซ้อม incident response ทำให้ 57% ของเหตุการณ์จริงไม่เคยถูกจำลองมาก่อน https://www.csoonline.com/article/574797/9-attack-surface-discovery-and-management-tools.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    CAASM and EASM: Top 12 attack surface discovery and management tools
    The main goal of cyber asset attack surface management (CAASM) and external attack surface management (EASM) tools is to protect information about a company’s security measures from attackers. Here are 9 tools to consider when deciding what is best for the business.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • 112. วันที่ 1 ม.ค.2568 ประกาศถามหาจรรยาบรรณวิชาชีพของแพทยสภา https://drive.google.com/file/d/1kV3jlyTl_JNAzYo5HJ_nrw9Hx8DJTl6R/view?usp=drive_link
    ตามที่ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ได้ทำหนังสือถึงแพทยสภา ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ ขอให้ดำเนินการสอบสวนจริยธรรมของ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข https://drive.google.com/file/d/1sypT-zqTStHuo4CGJa1EevEt9cixfNhl/view?usp=drivesdk เนื่องจากปล่อยให้มีการใช้ใบยินยอมอันเป็นเท็จให้ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งนี้ได้มีการทำหนังสือ ขอให้ทบทวนแก้ไขใบยินยอมดังกล่าวแล้ว แต่กระทรวงฯกลับไม่ใส่ใจที่จะทำให้ถูกต้อง ทางกลุ่มจึงจำเป็นต้อง ยื่นหนังสือให้แพทยสภา ดำเนินการสอบสวนเรื่องดังกล่าวกับ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่มีหน้าที่กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ดี แทนที่ แพทยสภา จะดำเนินการสอบสวนและเสนอให้มีการแก้ไขใบยินยอมดังกล่าวให้ถูกต้อง แพทยสภากลับเลือกที่จะปกป้อง ปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยอ้างว่าการกระทำดังกล่าวมิได้เป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม แต่เป็นการกระทำในตำแหน่งบริหาร การปกป้องปลัดกระทรวงสาธารณสุขของแพทยสภาดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า กรรมการแพทยสภา มิได้สนใจที่จะปกป้อง สิทธิของผู้ป่วยที่จะได้รับข้อมูลที่เป็นจริงเกี่ยวกับการรักษา อันเป็นจรรยาบรรณขั้นพื้นฐานของการเป็นแพทย์ ทั้งที่ใบยินยอมดังกล่าว มิได้ให้ข้อมูลสำคัญที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้การรับรองไว้ในเอกสารกำกับยา ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า วัคซีนดังกล่าว เป็นสารพันธุกรรมดัดแปลงที่ยังอยู่ระหว่างการทำวิจัย และไม่ได้ทดสอบความปลอดภัยว่าก่อให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือไม่ได้ทดสอบว่า mRNA วัคซีนสามารถก่อมะเร็งหรือไม่
    ั้งนี้ หากแพทยสภามีเจตนาที่จะปกป้องความปลอดภัยเด็กและเยาวชน และยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์ แพทยสภาสามารถจัดแถลงข่าว เรียกร้องให้มีการแก้ไขข้อมูลในใบยินยอมดังกล่าวให้ถูกต้อง และลงโทษสถานเบาโดยการว่ากล่าวตักเตือนปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ แต่แพทยสภากลับทำหนังสือ “ลับ” (ที่ พส.๐๑๑/๑/๑๗๔๐๖ วันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๗) พยายามปกป้องผู้ที่กระทำผิดโดยไม่ใส่ใจในความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนแม้แต่น้อย การกระทำดังกล่าวของ คณะกรรมการแพทยสภา รวมทั้งพฤติกรรมของนายกแพทยสภา เลขาธิการนายกแพทยสภา และรองเลขาธิการแพทยสภา แสดงให้เห็นว่า มิได้ยึดถือจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์
    113. วันที่ 3 ม.ค.2568 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้ส่งจดหมาย เรื่อง ขอให้ปกป้องความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนก่อนการปกป้องปลัดกระทรวงสาธารณสุข https://drive.google.com/file/d/12c_6_kI3Q9wMaIbahsz5t-P_fAqbyesj/view?usp=drive_link
    เรียน พ.ญ.นางสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา น.พ. นายอิทธิพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา น.พ. นายวิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ รองเลขาธิการแพทยสภา
    สำเนาเรียน (ส่งวันที่ 9มค.) กรรมการแพทยสภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ทุกสถาบัน สื่อสารมวลชน และสำนักข่าวทุกสำนัก
    114. วันที่ 5 ม.ค.2568 ประกาศข่าว คนไทยตายเพิ่มขึ้นในปี 2567
    https://drive.google.com/file/d/1mfgjiKEyCTfccFf_TcdVjDmS0jvJwzPa/view?usp=drive_link
    https://www.facebook.com/share/p/1AHaC6eSK8/
    115. วันที่ 17 ม.ค.2568 กลุ่มฯได้ส่งจดหมายถึงเลขาธิการแพทยสภา ขอข้อมูลข่าวสาร
    https://drive.google.com/file/d/172-XOvnm43P4LUntgyydYHHM7ZTOtH8Y/view?usp=drive_link
    116. วันที่ 2 ก.พ.2568 รูต่ายส่ายสะโพก Special (หมออรรถพล x เทนโด้) วัคซีน mRNA ... มือที่มองไม่เห็นและปลายเข็มแห่งซาตาน (วัคซีน mRNA ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไง)
    https://rumble.com/v6gea87--mrna-...-.html
    117. วันที่ 11 ก.พ.2568 บ๊วยLive EP.16 I Full Disclosure การเปิดโปงขั้นสุด กับคุณซันนี่
    https://www.youtube.com/watch?v=8d3zRy35Iqw
    118. วันที่ 26 ก.พ.2568 อัพเดทผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิด ที่มีผลต่อร่างกาย | ปากซอย105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://www.youtube.com/watch?v=nMawgnjhgcc
    119. วันที่ 6 มี.ค.2568 วัคซีนโควิด ยิ่งฉีดเยอะ ยิ่งเปลี่ยนชีวิต |ปากซอย105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://www.youtube.com/watch?v=B3H0bySl-24
    120. วันที่ 2 มี.ค.2568 รูต่ายส่ายสะโพก Special (หมออรรถพล x เทนโด้)
    เปิดแฟ้มลับ...มือสังหารหมู่โลก (วัคซีน mRNA, เชื้อโควิด และการทุจริตในอเมริกา)
    https://rumble.com/v6q1hmg-...-mrna-.html?start=179
    121. วันที่ 14 มี.ค.2568 บ๊วยLive EP.18 l เข้าถึงปัญญาญาณ เข้าถึงDNA! กับคุณหมออรรถพล
    https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=B6_Z7LtIwBk
    122. วันที่ 30 มี.ค.2568 เปิดจักรวาล 'รายการมืด' หมออรรถพล นิลฉงน นลเฉลย ชวนพูดคุย พร้อมตอบคำถามใน ไลฟ์ "เปิดแฟ้มลับ...มือสังหาร JFK" #รต่ายส่ายสะโพก EP3
    (หมออรรถพล x เทนโด้ x อาจารย์ต้น ตำนานนักล้วงข้อมูลลับแห่งประเทศไทย)
    https://www.facebook.com/share/v/16YMx4sWn6/
    รับชมคลิปที่ https://rumble.com/v6rewkc-...-jfk-ep3.html
    หรือ https://zap.stream/naddr1qq9rzde5xqurjvfcx5mqz9thwden5te0wfjkccte9ejxzmt4wvhxjme0qgsfwrl76z6zy0tjhsdnlaj6tkqweyx5w9vdyja5n788vl07p3nw3ugrqsqqqan8vzj3gy
    123. วันที่ 1 เม.ย.2568 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาและนพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ จัดรายการ Health Nexus
    ตอนที่ 1 เปิดเผยที่มาของการเซ็นเซอร์ข้อมูลข่าวสาร เซ็นเซอร์กำเนิดโควิดซึ่งมาจากการสร้างไวรัสใหม่และหลุดรั่วออกจากห้องปฏิบัติการ วัคซีนซึ่งเตรียมพร้อมมาก่อนการระบาด และการปกปิดข้อมูลผลข้างเคียงของวัคซีน
    https://youtu.be/aexZXA0QSKg?si=qoQxKZtu255RUhq1
    ตอนที่ 2 นโยบายใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ส่งผลกระทบด้านสาธารณสุขทั้งในและต่างประเทศอย่างไร ?
    https://youtu.be/cuU1QmYGZtI?si=ftzZdTtK0bxen9PP
    ตอนที่ 3 วัคซีนโควิดและผลกระทบ
    https://youtu.be/ys_ykPbyMks?si=sOZ4BZpb1Zhg-MTz
    ตอนที่ 4 เกิดอะไรขึ้นหลังรับวัคซีนโควิด ?
    https://youtu.be/vfNhMVNZWNg?si=yS65NMKehklN7szQ
    https://t.me/ThaiPitaksithData/6914
    124. วันที่ 14 เม.ย.2568 กลุ่มฯได้ส่งหนังสือ ขอแสดงความเห็น “คัดค้าน” การยอมรับกฎ
    อนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ.๒๐๒๔ ถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ
    กระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ประธาน
    รัฐสภา และสื่อมวลชนทุกสํานัก
    และเรียกร้องการจัดเวทีสาธารณะให้คนไทยทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
    https://www.facebook.com/share/p/1639NvU9RX/
    https://drive.google.com/file/d/1eOHJXX2DczIsh33Z1wzZ_dtaQ1sJccKU/view?u
    จดหมายที่เกี่ยวข้องที่เคยยื่นหน่วยงานทั้งหมด
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-
    r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    125. วันที่ 22 เม.ย.2568 คุณอดิเทพ จาวลาห์ ตัวแทนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์เข้ารับฟังการสัมมนาประชุมเชิงปฏิบัติการ
    ต่อกฎอนามัยระหว่างประเทศและมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น
    ⭐️เหตุผลว่าทำไมต้องปฏิเสธ
    https://www.facebook.com/share/p/1EfD6VWF7A/?mibextid=wwXIfr
    ⭐️ร่าง กฏหมาย อนามัย
    https://drive.google.com/drive/folders/1aIfGOD-CE2dwcR1lFunjEFz4_yDriC-n
    รายการปากซอย 105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://www.youtube.com/live/O62sTRIcOKE?si=TygTglExUaiNUein
    126. วันที่ 25 เม.ย. 2568
    ยื่นจดหมายขอแสดงความคิดเห็น “คัดค้าน” การยอมรับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับ
    แก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ๒๐๒๔
    เรียน อธิบดีกรมควบคุมโรค
    สําเนาเรียน นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
    ต่างประเทศ ประธานรัฐสภา และสื่อมวลชนทุกสํานัก
    ข้าพเจ้าอดิเทพ จาวลาห์ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ขอแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการแก้ไขที่ได้รับการรับรองในการประชุมสมัชชา องค์การอนามัยโลก ครั้งที่ 77 ผ่านมติ WHA77.17 ในปี 2024 ซึ่งข้าพเจ้ามีความกังวลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขระเบียบสุขภาพระหว่างประเทศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิพื้นฐานและเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งการใช้อํานาจในทางที่ผิดโดยไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างเพียงพอ ข้าพเจ้าจึงขอใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย คัดค้าน และเรียกร้องให้มีการพิจารณาและทบทวนข้อกําหนดดังกล่าวอย่างรอบคอบ
    ไฟล์เอกสาร
    https://drive.google.com/file/d/1l0OQkErvfCimQrYl68IcrKQIT0VjuVGD/view?usp
    =drivesdk
    https://www.facebook.com/share/p/192ygrBgKv/
    127. วันที่ 28 เม.ย.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นจดหมายถึงอธิบดีกรม
    ควบคุมโรค ขอความโปร่งใสในการดําเนินงานเกี่ยวกับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไข
    เพิ่มเติม ค.ศ.2024 พร้อมเรียกร้องให้เปิดเผยเอกสารสําคัญและรายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใน
    7 วันทําการ
    https://mgronline.com/qol/detail/9680000039977
    https://drive.google.com/file/d/1lOx-z6YYotg4x6sm3w0aWb3k3xyimC4U/view?usp=drivesdk
    128.วันที่ 15 พ.ค. 2568 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 หัวข้อ โลกรับรู้มนุษย์ทําไวรัสเขา
    มีเจตนาอะไร? คิดกุศลหรืออกุศล สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    ยูทูบ https://www.youtube.com/live/LQcoOjcPNkQ?si=QFfCzxuYBKx14God
    เฟสบุ๊กไลฟ์ https://www.facebook.com/share/v/15PyyQ8pgE/
    129.วันที่ 19 พ.ค.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการยา ตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐
    เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และ คณะกรรมการยาทุกท่าน ขอให้ดำเนินการระงับการอนุญาตให้ใช้วัคซีน mRNA ในมนุษย์
    https://drive.google.com/file/d/1BR1vKiDPMrlXMykJqZUVgj3aAK-KkyjH/view?usp=drivesdk
    ข้อมูลเหล่านั้นบางส่วนได้รับการเปิดเผยในเว็บไซต์ทางการของทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา https://www.whitehouse.gov/lab-leak-true-origins-of-covid-19/
    https://www.facebook.com/share/p/1F5cKBiQSK/
    https://www.facebook.com/share/p/16EB5JToNy/
    ไฟล์จดหมายฉบับนี้
    https://drive.google.com/file/d/1zx62n7IaqEdPYL-SFeNcrS2s8cpnLuDE/view?usp=drivesdk
    130.วันที่ 22 พ.ค.2568 ผู้ที่ได้รับยาฉีดโควิดแล้วมีผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ ร่างกายไม่เหมือนเดิม และญาติผู้เสียชีวิต รว่มกับ คุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ
    ประธานชมรมสันติประชาธรรม พอ.นพ.พงษฺศักดิ์ ตั้งคณา นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.ชนิฎา ศิริประภารัตน์ ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ และจิตอาสากลุ่มคนไทยพิทักษฺสิทธิ์ ร่วมยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ในการรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด และให้มีการจัดเวทีทางวิชาการ ถึงท่านประธานรัฐสภาไทย และประธานสภาผู้แทนราษฎร พณฯท่าน วันมูหะมัดนอร์ มะทา
    จดหมายยื่นรัฐสภา
    https://drive.google.com/drive/folders/114MB4aBXnhPjSOb5iZKhThk0d9B0rs6f
    ไลฟ์สด https://www.facebook.com/share/v/189S4WxV6j/
    https://www.thaipithaksith.com/my-posta3c48515
    https://www.facebook.com/share/p/1NaPKfhgkD/
    https://www.khaosod.co.th/politics/news_9770255
    https://www.facebook.com/share/v/189S4WxV6j/
    https://www.facebook.com/share/19RpSX1zVx/
    131. วันที่ 29พ.ค.2568 กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด-19 พร้อมด้วย
    อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    และ คุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม
    ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
    เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขสั่งการโดยเร่งด่วน กรณีปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโควิด19
    https://drive.google.com/file/d/167IaJuYpekFBg7Le5GleNykqNsZzbJz_/view?usp=dri
    ve_link
    ในหนังสือฉบับนี้ มีข้อเรียกร้องหลัก 6 ประการ ได้แก่:
    1. ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ในเด็กและเยาวชน จนกว่าจะมีผลการสอบสวนผลข้างเคียงอย่าง
    เป็นระบบ
    2. ให้สํานักงาน อย. ทบทวนการอนุญาตวัคซีน mRNA ทุกยี่ห้อ โดยโปร่งใส พร้อมเปิดข้อมูลจาก
    ต่างประเทศประกอบการพิจารณา
    3. เปิดเผยสัญญาจัดซื้อวัคซีน โดยเฉพาะในกลุ่ม mRNA ที่รัฐทําไว้กับบริษัทเอกชน
    4. เปิดให้รับคําร้องเรียนจากผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อจัดทําทะเบียนผู้เดือดร้อน
    5. จัดเวทีวิชาการสาธารณะ โดยกรมควบคุมโรคร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่ออภิปรายอย่าง
    เปิดเผยเรื่องผลกระทบจากวัคซีน โดยเชิญทั้งนักวิชาการและผู้ป่วยเข้าร่วม
    6. ให้แพทยสภาสอบสวนกรณีจริยธรรมทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ใบยินยอมที่อาจเป็น
    เท็จ

    การยื่นหนังสือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เกิดกระบวนการตรวจสอบอย่างโปร่งใส เป็นธรรม
    และมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้ง
    ในปัจจุบันและอนาคต

    รายการจดหมายทั้งหมดที่ยื่นหน่วยงานต่างๆ
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    132. วันที่ 13ก.ย.2568 อสมท MCOT News FM100.5 ในรายการ สีสันชีวิต ช่วง เร้นไม่ลับกับเซเลบฯ คุณลักขณา จำปา อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ สัมภาษณ์ อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.facebook.com/share/p/1Gj4PLybRN/
    https://www.facebook.com/share/p/166ByWxQNb/
    https://www.youtube.com/watch?v=sbfllJghw7w
    133. วันที่ 6 ต.ค.2568 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค เรื่อง ขอให้กรมควบคุมโรคปรับแก้ข้อมูล แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ในเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค
    https://drive.google.com/file/d/1zKmgZ-nGb7mJnKQYbkX9AbbXi-8S0VpZ/view?usp=drivesdk
    134. วันที่ 21ม.ค.-21ต.ค.2568 ศ.นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข
    และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เผยแพร่บทความ
    โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย
    ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/newspaper/2756723
    ตอนที่ 2 https://mgronline.com/daily/detail/9670000008184
    ตอนที่ 3 https://mgronline.com/daily/detail/9670000010320
    ตอนที่ 4 https://mgronline.com/daily/detail/9670000012549
    ตอนที่ 5 https://mgronline.com/daily/detail/9670000014922
    ตอนที่ 6 https://www.thairath.co.th/news/local/2765797
    ตอนที่ 7 https://www.facebook.com/share/p/19ohqtKnpQ/
    ตอนที่ 8 https://www.facebook.com/share/p/1FaswKgAHT/
    ตอนที่ 9 https://www.facebook.com/share/p/19fp8ufNYM/
    ตอน 10
    https://www.facebook.com/share/14MV2xoK5Bq/?mibextid=wwXIfr
    ตอน 11
    https://www.facebook.com/share/p/1JHQybX6oW/?mibextid=wwXIfr
    ตอน 12
    https://www.facebook.com/share/17XgRhXGNF/?mibextid=wwXIfr
    135. วันที่ 22ต.ค.2568 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยายสั้นๆ ในภาควิชา จุฬาฯ เรื่องโควิด ข้อมูลที่จะเป็นดั่งรูรั่วเล็กๆที่จะทำให้ เขื่อน ที่ปิดกั้นความจริงพังทลายลงในไม่ช้า
    https://www.facebook.com/share/1D7vvevs4h/
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7563880418664107280

    รวบรวมข้อมูลโดยแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    🇹🇭112. วันที่ 1 ม.ค.2568 ประกาศถามหาจรรยาบรรณวิชาชีพของแพทยสภา https://drive.google.com/file/d/1kV3jlyTl_JNAzYo5HJ_nrw9Hx8DJTl6R/view?usp=drive_link ตามที่ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ได้ทำหนังสือถึงแพทยสภา ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ ขอให้ดำเนินการสอบสวนจริยธรรมของ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข https://drive.google.com/file/d/1sypT-zqTStHuo4CGJa1EevEt9cixfNhl/view?usp=drivesdk เนื่องจากปล่อยให้มีการใช้ใบยินยอมอันเป็นเท็จให้ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ทั้งนี้ได้มีการทำหนังสือ ขอให้ทบทวนแก้ไขใบยินยอมดังกล่าวแล้ว แต่กระทรวงฯกลับไม่ใส่ใจที่จะทำให้ถูกต้อง ทางกลุ่มจึงจำเป็นต้อง ยื่นหนังสือให้แพทยสภา ดำเนินการสอบสวนเรื่องดังกล่าวกับ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่มีหน้าที่กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ดี แทนที่ แพทยสภา จะดำเนินการสอบสวนและเสนอให้มีการแก้ไขใบยินยอมดังกล่าวให้ถูกต้อง แพทยสภากลับเลือกที่จะปกป้อง ปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยอ้างว่าการกระทำดังกล่าวมิได้เป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม แต่เป็นการกระทำในตำแหน่งบริหาร การปกป้องปลัดกระทรวงสาธารณสุขของแพทยสภาดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า กรรมการแพทยสภา มิได้สนใจที่จะปกป้อง สิทธิของผู้ป่วยที่จะได้รับข้อมูลที่เป็นจริงเกี่ยวกับการรักษา อันเป็นจรรยาบรรณขั้นพื้นฐานของการเป็นแพทย์ ทั้งที่ใบยินยอมดังกล่าว มิได้ให้ข้อมูลสำคัญที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้การรับรองไว้ในเอกสารกำกับยา ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า ⚠️วัคซีนดังกล่าว เป็นสารพันธุกรรมดัดแปลงที่ยังอยู่ระหว่างการทำวิจัย และไม่ได้ทดสอบความปลอดภัยว่าก่อให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือไม่ได้ทดสอบว่า mRNA วัคซีนสามารถก่อมะเร็งหรือไม่ ⁉️ ั้งนี้ หากแพทยสภามีเจตนาที่จะปกป้องความปลอดภัยเด็กและเยาวชน และยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์ แพทยสภาสามารถจัดแถลงข่าว เรียกร้องให้มีการแก้ไขข้อมูลในใบยินยอมดังกล่าวให้ถูกต้อง และลงโทษสถานเบาโดยการว่ากล่าวตักเตือนปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ แต่แพทยสภากลับทำหนังสือ “ลับ” (ที่ พส.๐๑๑/๑/๑๗๔๐๖ วันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๗) พยายามปกป้องผู้ที่กระทำผิดโดยไม่ใส่ใจในความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนแม้แต่น้อย การกระทำดังกล่าวของ คณะกรรมการแพทยสภา รวมทั้งพฤติกรรมของนายกแพทยสภา เลขาธิการนายกแพทยสภา และรองเลขาธิการแพทยสภา แสดงให้เห็นว่า มิได้ยึดถือจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์ 🇹🇭113. วันที่ 3 ม.ค.2568 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้ส่งจดหมาย เรื่อง ขอให้ปกป้องความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนก่อนการปกป้องปลัดกระทรวงสาธารณสุข https://drive.google.com/file/d/12c_6_kI3Q9wMaIbahsz5t-P_fAqbyesj/view?usp=drive_link เรียน พ.ญ.นางสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา น.พ. นายอิทธิพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา น.พ. นายวิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ รองเลขาธิการแพทยสภา สำเนาเรียน (ส่งวันที่ 9มค.) กรรมการแพทยสภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ทุกสถาบัน สื่อสารมวลชน และสำนักข่าวทุกสำนัก 🇹🇭114. วันที่ 5 ม.ค.2568 ประกาศข่าว คนไทยตายเพิ่มขึ้นในปี 2567 https://drive.google.com/file/d/1mfgjiKEyCTfccFf_TcdVjDmS0jvJwzPa/view?usp=drive_link https://www.facebook.com/share/p/1AHaC6eSK8/ 🇹🇭115. วันที่ 17 ม.ค.2568 กลุ่มฯได้ส่งจดหมายถึงเลขาธิการแพทยสภา ขอข้อมูลข่าวสาร https://drive.google.com/file/d/172-XOvnm43P4LUntgyydYHHM7ZTOtH8Y/view?usp=drive_link 🇹🇭116. วันที่ 2 ก.พ.2568 รูต่ายส่ายสะโพก Special (หมออรรถพล x เทนโด้) วัคซีน mRNA ... มือที่มองไม่เห็นและปลายเข็มแห่งซาตาน (วัคซีน mRNA ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไง) https://rumble.com/v6gea87--mrna-...-.html 🇹🇭117. วันที่ 11 ก.พ.2568 บ๊วยLive EP.16 I Full Disclosure การเปิดโปงขั้นสุด กับคุณซันนี่ https://www.youtube.com/watch?v=8d3zRy35Iqw 🇹🇭118. วันที่ 26 ก.พ.2568 อัพเดทผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิด ที่มีผลต่อร่างกาย | ปากซอย105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://www.youtube.com/watch?v=nMawgnjhgcc 🇹🇭119. วันที่ 6 มี.ค.2568 วัคซีนโควิด ยิ่งฉีดเยอะ ยิ่งเปลี่ยนชีวิต |ปากซอย105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://www.youtube.com/watch?v=B3H0bySl-24 🇹🇭120. วันที่ 2 มี.ค.2568 รูต่ายส่ายสะโพก Special (หมออรรถพล x เทนโด้) เปิดแฟ้มลับ...มือสังหารหมู่โลก (วัคซีน mRNA, เชื้อโควิด และการทุจริตในอเมริกา) https://rumble.com/v6q1hmg-...-mrna-.html?start=179 🇹🇭121. วันที่ 14 มี.ค.2568 บ๊วยLive EP.18 l เข้าถึงปัญญาญาณ เข้าถึงDNA! กับคุณหมออรรถพล https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=B6_Z7LtIwBk 🇹🇭122. วันที่ 30 มี.ค.2568 เปิดจักรวาล 'รายการมืด' หมออรรถพล นิลฉงน นลเฉลย ชวนพูดคุย พร้อมตอบคำถามใน ไลฟ์ "เปิดแฟ้มลับ...มือสังหาร JFK" #รต่ายส่ายสะโพก EP3 (หมออรรถพล x เทนโด้ x อาจารย์ต้น ตำนานนักล้วงข้อมูลลับแห่งประเทศไทย) https://www.facebook.com/share/v/16YMx4sWn6/ รับชมคลิปที่ https://rumble.com/v6rewkc-...-jfk-ep3.html หรือ https://zap.stream/naddr1qq9rzde5xqurjvfcx5mqz9thwden5te0wfjkccte9ejxzmt4wvhxjme0qgsfwrl76z6zy0tjhsdnlaj6tkqweyx5w9vdyja5n788vl07p3nw3ugrqsqqqan8vzj3gy 🇹🇭123. วันที่ 1 เม.ย.2568 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาและนพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ จัดรายการ Health Nexus ตอนที่ 1 เปิดเผยที่มาของการเซ็นเซอร์ข้อมูลข่าวสาร เซ็นเซอร์กำเนิดโควิดซึ่งมาจากการสร้างไวรัสใหม่และหลุดรั่วออกจากห้องปฏิบัติการ วัคซีนซึ่งเตรียมพร้อมมาก่อนการระบาด และการปกปิดข้อมูลผลข้างเคียงของวัคซีน https://youtu.be/aexZXA0QSKg?si=qoQxKZtu255RUhq1 ตอนที่ 2 นโยบายใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ส่งผลกระทบด้านสาธารณสุขทั้งในและต่างประเทศอย่างไร ? https://youtu.be/cuU1QmYGZtI?si=ftzZdTtK0bxen9PP ตอนที่ 3 วัคซีนโควิดและผลกระทบ https://youtu.be/ys_ykPbyMks?si=sOZ4BZpb1Zhg-MTz ตอนที่ 4 เกิดอะไรขึ้นหลังรับวัคซีนโควิด ? https://youtu.be/vfNhMVNZWNg?si=yS65NMKehklN7szQ https://t.me/ThaiPitaksithData/6914 🇹🇭124. วันที่ 14 เม.ย.2568 กลุ่มฯได้ส่งหนังสือ ขอแสดงความเห็น “คัดค้าน” การยอมรับกฎ อนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ.๒๐๒๔ ถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ประธาน รัฐสภา และสื่อมวลชนทุกสํานัก และเรียกร้องการจัดเวทีสาธารณะให้คนไทยทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น https://www.facebook.com/share/p/1639NvU9RX/ https://drive.google.com/file/d/1eOHJXX2DczIsh33Z1wzZ_dtaQ1sJccKU/view?u จดหมายที่เกี่ยวข้องที่เคยยื่นหน่วยงานทั้งหมด https://drive.google.com/drive/folders/1xAV- r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna 🇹🇭125. วันที่ 22 เม.ย.2568 คุณอดิเทพ จาวลาห์ ตัวแทนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์เข้ารับฟังการสัมมนาประชุมเชิงปฏิบัติการ ต่อกฎอนามัยระหว่างประเทศและมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น ⭐️เหตุผลว่าทำไมต้องปฏิเสธ https://www.facebook.com/share/p/1EfD6VWF7A/?mibextid=wwXIfr ⭐️ร่าง กฏหมาย อนามัย https://drive.google.com/drive/folders/1aIfGOD-CE2dwcR1lFunjEFz4_yDriC-n รายการปากซอย 105 สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://www.youtube.com/live/O62sTRIcOKE?si=TygTglExUaiNUein 🇹🇭126. วันที่ 25 เม.ย. 2568 ยื่นจดหมายขอแสดงความคิดเห็น “คัดค้าน” การยอมรับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับ แก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ๒๐๒๔ เรียน อธิบดีกรมควบคุมโรค สําเนาเรียน นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ต่างประเทศ ประธานรัฐสภา และสื่อมวลชนทุกสํานัก ข้าพเจ้าอดิเทพ จาวลาห์ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ขอแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการแก้ไขที่ได้รับการรับรองในการประชุมสมัชชา องค์การอนามัยโลก ครั้งที่ 77 ผ่านมติ WHA77.17 ในปี 2024 ซึ่งข้าพเจ้ามีความกังวลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขระเบียบสุขภาพระหว่างประเทศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิพื้นฐานและเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งการใช้อํานาจในทางที่ผิดโดยไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างเพียงพอ ข้าพเจ้าจึงขอใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย คัดค้าน และเรียกร้องให้มีการพิจารณาและทบทวนข้อกําหนดดังกล่าวอย่างรอบคอบ ไฟล์เอกสาร https://drive.google.com/file/d/1l0OQkErvfCimQrYl68IcrKQIT0VjuVGD/view?usp =drivesdk https://www.facebook.com/share/p/192ygrBgKv/ 🇹🇭127. วันที่ 28 เม.ย.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นจดหมายถึงอธิบดีกรม ควบคุมโรค ขอความโปร่งใสในการดําเนินงานเกี่ยวกับกฎอนามัยระหว่างประเทศ ฉบับแก้ไข เพิ่มเติม ค.ศ.2024 พร้อมเรียกร้องให้เปิดเผยเอกสารสําคัญและรายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใน 7 วันทําการ https://mgronline.com/qol/detail/9680000039977 https://drive.google.com/file/d/1lOx-z6YYotg4x6sm3w0aWb3k3xyimC4U/view?usp=drivesdk 🇹🇭128.วันที่ 15 พ.ค. 2568 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 หัวข้อ โลกรับรู้มนุษย์ทําไวรัสเขา มีเจตนาอะไร? คิดกุศลหรืออกุศล สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ยูทูบ https://www.youtube.com/live/LQcoOjcPNkQ?si=QFfCzxuYBKx14God เฟสบุ๊กไลฟ์ https://www.facebook.com/share/v/15PyyQ8pgE/ 🇹🇭129.วันที่ 19 พ.ค.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการยา ตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และ คณะกรรมการยาทุกท่าน ขอให้ดำเนินการระงับการอนุญาตให้ใช้วัคซีน mRNA ในมนุษย์ https://drive.google.com/file/d/1BR1vKiDPMrlXMykJqZUVgj3aAK-KkyjH/view?usp=drivesdk ข้อมูลเหล่านั้นบางส่วนได้รับการเปิดเผยในเว็บไซต์ทางการของทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา https://www.whitehouse.gov/lab-leak-true-origins-of-covid-19/ https://www.facebook.com/share/p/1F5cKBiQSK/ https://www.facebook.com/share/p/16EB5JToNy/ ไฟล์จดหมายฉบับนี้ https://drive.google.com/file/d/1zx62n7IaqEdPYL-SFeNcrS2s8cpnLuDE/view?usp=drivesdk 🇹🇭130.วันที่ 22 พ.ค.2568 ผู้ที่ได้รับยาฉีดโควิดแล้วมีผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ ร่างกายไม่เหมือนเดิม และญาติผู้เสียชีวิต รว่มกับ คุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พอ.นพ.พงษฺศักดิ์ ตั้งคณา นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.ชนิฎา ศิริประภารัตน์ ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ และจิตอาสากลุ่มคนไทยพิทักษฺสิทธิ์ ร่วมยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ในการรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด และให้มีการจัดเวทีทางวิชาการ ถึงท่านประธานรัฐสภาไทย และประธานสภาผู้แทนราษฎร พณฯท่าน วันมูหะมัดนอร์ มะทา จดหมายยื่นรัฐสภา https://drive.google.com/drive/folders/114MB4aBXnhPjSOb5iZKhThk0d9B0rs6f ไลฟ์สด https://www.facebook.com/share/v/189S4WxV6j/ https://www.thaipithaksith.com/my-posta3c48515 https://www.facebook.com/share/p/1NaPKfhgkD/ https://www.khaosod.co.th/politics/news_9770255 https://www.facebook.com/share/v/189S4WxV6j/ https://www.facebook.com/share/19RpSX1zVx/ 🇹🇭131. วันที่ 29พ.ค.2568 กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด-19 พร้อมด้วย อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ และ คุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขสั่งการโดยเร่งด่วน กรณีปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโควิด19 https://drive.google.com/file/d/167IaJuYpekFBg7Le5GleNykqNsZzbJz_/view?usp=dri ve_link ในหนังสือฉบับนี้ มีข้อเรียกร้องหลัก 6 ประการ ได้แก่: 1. ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ในเด็กและเยาวชน จนกว่าจะมีผลการสอบสวนผลข้างเคียงอย่าง เป็นระบบ 2. ให้สํานักงาน อย. ทบทวนการอนุญาตวัคซีน mRNA ทุกยี่ห้อ โดยโปร่งใส พร้อมเปิดข้อมูลจาก ต่างประเทศประกอบการพิจารณา 3. เปิดเผยสัญญาจัดซื้อวัคซีน โดยเฉพาะในกลุ่ม mRNA ที่รัฐทําไว้กับบริษัทเอกชน 4. เปิดให้รับคําร้องเรียนจากผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อจัดทําทะเบียนผู้เดือดร้อน 5. จัดเวทีวิชาการสาธารณะ โดยกรมควบคุมโรคร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่ออภิปรายอย่าง เปิดเผยเรื่องผลกระทบจากวัคซีน โดยเชิญทั้งนักวิชาการและผู้ป่วยเข้าร่วม 6. ให้แพทยสภาสอบสวนกรณีจริยธรรมทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ใบยินยอมที่อาจเป็น เท็จ การยื่นหนังสือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เกิดกระบวนการตรวจสอบอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน โดยเฉพาะในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้ง ในปัจจุบันและอนาคต รายการจดหมายทั้งหมดที่ยื่นหน่วยงานต่างๆ https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna 🇹🇭132. วันที่ 13ก.ย.2568 อสมท MCOT News FM100.5 ในรายการ สีสันชีวิต ช่วง เร้นไม่ลับกับเซเลบฯ คุณลักขณา จำปา อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ สัมภาษณ์ อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.facebook.com/share/p/1Gj4PLybRN/ https://www.facebook.com/share/p/166ByWxQNb/ https://www.youtube.com/watch?v=sbfllJghw7w 🇹🇭133. วันที่ 6 ต.ค.2568 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค เรื่อง ขอให้กรมควบคุมโรคปรับแก้ข้อมูล แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ในเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค https://drive.google.com/file/d/1zKmgZ-nGb7mJnKQYbkX9AbbXi-8S0VpZ/view?usp=drivesdk 🇹🇭134. วันที่ 21ม.ค.-21ต.ค.2568 ศ.นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เผยแพร่บทความ ✍️โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/newspaper/2756723 ตอนที่ 2 https://mgronline.com/daily/detail/9670000008184 ตอนที่ 3 https://mgronline.com/daily/detail/9670000010320 ตอนที่ 4 https://mgronline.com/daily/detail/9670000012549 ตอนที่ 5 https://mgronline.com/daily/detail/9670000014922 ตอนที่ 6 https://www.thairath.co.th/news/local/2765797 ตอนที่ 7 https://www.facebook.com/share/p/19ohqtKnpQ/ ตอนที่ 8 https://www.facebook.com/share/p/1FaswKgAHT/ ตอนที่ 9 https://www.facebook.com/share/p/19fp8ufNYM/ ตอน 10 https://www.facebook.com/share/14MV2xoK5Bq/?mibextid=wwXIfr ตอน 11 https://www.facebook.com/share/p/1JHQybX6oW/?mibextid=wwXIfr ตอน 12 https://www.facebook.com/share/17XgRhXGNF/?mibextid=wwXIfr 🇹🇭135. วันที่ 22ต.ค.2568 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยายสั้นๆ ในภาควิชา จุฬาฯ เรื่องโควิด ข้อมูลที่จะเป็นดั่งรูรั่วเล็กๆที่จะทำให้ เขื่อน ที่ปิดกั้นความจริงพังทลายลงในไม่ช้า https://www.facebook.com/share/1D7vvevs4h/ https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7563880418664107280 รวบรวมข้อมูลโดยแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 694 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ครั้งที่ 1/2569 โดยเน้นย้ำการให้ความสำคัญและยกระดับกลไกการป้องกันสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ให้ทุกภาคส่วนทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแผนขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 แผน ดังนี้ 1.เสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2568-2570 2.แผนปฏิบัติการความมั่นคงรองรับพื้นที่บังคับใช้พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 3.โครงสร้างการจัดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 และ 4.อัตราเฉพาะกิจ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569

    -หวั่นกัมพูชารู้ข้อมูลไทย
    -ลุ้นคนละครึ่งพลัส เฟส 2
    -พปชร.ตั้งเป้าร่วมรัฐบาล
    -กู้อุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ครั้งที่ 1/2569 โดยเน้นย้ำการให้ความสำคัญและยกระดับกลไกการป้องกันสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ให้ทุกภาคส่วนทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแผนขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 แผน ดังนี้ 1.เสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2568-2570 2.แผนปฏิบัติการความมั่นคงรองรับพื้นที่บังคับใช้พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 3.โครงสร้างการจัดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 และ 4.อัตราเฉพาะกิจ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 -หวั่นกัมพูชารู้ข้อมูลไทย -ลุ้นคนละครึ่งพลัส เฟส 2 -พปชร.ตั้งเป้าร่วมรัฐบาล -กู้อุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 382 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “22 ความเชื่อผิด ๆ ด้านไซเบอร์ที่องค์กรควรเลิกเชื่อ” — เมื่อแนวทางความปลอดภัยแบบเดิมกลายเป็นกับดักในยุค AI

    บทความจาก CSO Online ได้รวบรวม 22 ความเชื่อผิด ๆ ที่องค์กรจำนวนมากยังยึดติดอยู่ แม้โลกไซเบอร์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI และการโจมตีแบบซับซ้อนเข้ามาเปลี่ยนเกม

    ตัวอย่างเช่น ความเชื่อว่า “AI จะมาแทนที่มนุษย์ในงานด้านความปลอดภัย” นั้นไม่เป็นความจริง เพราะแม้ AI จะช่วยกรองข้อมูลและตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วขึ้น แต่มันยังขาดความเข้าใจบริบทและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่มนุษย์ทำได้

    อีกหนึ่งความเชื่อที่อันตรายคือ “การยืนยันตัวตนแบบวิดีโอหรือเสียงสามารถป้องกันการปลอมแปลงได้” ซึ่งในยุค deepfake นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะแฮกเกอร์สามารถสร้างวิดีโอปลอมที่หลอกระบบได้ภายในเวลาไม่ถึงวัน

    นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจผิดว่า “การซื้อเครื่องมือมากขึ้นจะทำให้ปลอดภัยขึ้น” ทั้งที่ความจริงแล้ว ปัญหาหลักมักอยู่ที่การขาดกลยุทธ์และการบูรณาการ ไม่ใช่จำนวนเครื่องมือ

    บทความยังเตือนว่า “การเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ” อาจทำให้ผู้ใช้สร้างรหัสผ่านที่คาดเดาง่ายขึ้น เช่น เปลี่ยนจาก Summer2025! เป็น Winter2025! ซึ่งไม่ได้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง

    รายการ 13 ความเชื่อผิด ๆ ด้านไซเบอร์
    AI จะมาแทนที่มนุษย์ในงานด้านความปลอดภัย
    แพลตฟอร์มเทคโนโลยีขนาดใหญ่มีระบบยืนยันตัวตนที่แข็งแรงพอจะป้องกันการปลอมแปลง
    การลงทุนในผู้ให้บริการยืนยันตัวตนจะป้องกันการโจมตีล่าสุดได้
    การซื้อเครื่องมือมากขึ้นจะทำให้ปลอดภัยขึ้น
    การจ้างคนเพิ่มจะช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยไซเบอร์ได้
    หากเราป้องกันการโจมตีล่าสุดได้ เราก็ปลอดภัยแล้ว
    การทดสอบและวิเคราะห์ระบบอย่างละเอียดจะครอบคลุมช่องโหว่ทั้งหมด
    ควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย
    สามารถจัดการใบรับรองดิจิทัลทั้งหมดด้วยสเปรดชีตได้
    การปฏิบัติตามกฎระเบียบ (compliance) เท่ากับความปลอดภัย
    ภัยจากควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ไกล ไม่ต้องกังวลตอนนี้
    ควรอนุญาตให้หน่วยงานรัฐเข้าถึงการเข้ารหัสแบบ end-to-end เพื่อความปลอดภัย
    การปล่อยให้ AI เติบโตโดยไม่มีการควบคุมจะช่วยเร่งนวัตกรรม

    https://www.csoonline.com/article/571943/22-cybersecurity-myths-organizations-need-to-stop-believing-in-2022.html
    🛡️ “22 ความเชื่อผิด ๆ ด้านไซเบอร์ที่องค์กรควรเลิกเชื่อ” — เมื่อแนวทางความปลอดภัยแบบเดิมกลายเป็นกับดักในยุค AI บทความจาก CSO Online ได้รวบรวม 22 ความเชื่อผิด ๆ ที่องค์กรจำนวนมากยังยึดติดอยู่ แม้โลกไซเบอร์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI และการโจมตีแบบซับซ้อนเข้ามาเปลี่ยนเกม ตัวอย่างเช่น ความเชื่อว่า “AI จะมาแทนที่มนุษย์ในงานด้านความปลอดภัย” นั้นไม่เป็นความจริง เพราะแม้ AI จะช่วยกรองข้อมูลและตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วขึ้น แต่มันยังขาดความเข้าใจบริบทและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่มนุษย์ทำได้ อีกหนึ่งความเชื่อที่อันตรายคือ “การยืนยันตัวตนแบบวิดีโอหรือเสียงสามารถป้องกันการปลอมแปลงได้” ซึ่งในยุค deepfake นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะแฮกเกอร์สามารถสร้างวิดีโอปลอมที่หลอกระบบได้ภายในเวลาไม่ถึงวัน นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจผิดว่า “การซื้อเครื่องมือมากขึ้นจะทำให้ปลอดภัยขึ้น” ทั้งที่ความจริงแล้ว ปัญหาหลักมักอยู่ที่การขาดกลยุทธ์และการบูรณาการ ไม่ใช่จำนวนเครื่องมือ บทความยังเตือนว่า “การเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ” อาจทำให้ผู้ใช้สร้างรหัสผ่านที่คาดเดาง่ายขึ้น เช่น เปลี่ยนจาก Summer2025! เป็น Winter2025! ซึ่งไม่ได้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง 🧠 รายการ 13 ความเชื่อผิด ๆ ด้านไซเบอร์ 🪙 AI จะมาแทนที่มนุษย์ในงานด้านความปลอดภัย 🪙 แพลตฟอร์มเทคโนโลยีขนาดใหญ่มีระบบยืนยันตัวตนที่แข็งแรงพอจะป้องกันการปลอมแปลง 🪙 การลงทุนในผู้ให้บริการยืนยันตัวตนจะป้องกันการโจมตีล่าสุดได้ 🪙 การซื้อเครื่องมือมากขึ้นจะทำให้ปลอดภัยขึ้น 🪙 การจ้างคนเพิ่มจะช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยไซเบอร์ได้ 🪙 หากเราป้องกันการโจมตีล่าสุดได้ เราก็ปลอดภัยแล้ว 🪙 การทดสอบและวิเคราะห์ระบบอย่างละเอียดจะครอบคลุมช่องโหว่ทั้งหมด 🪙 ควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย 🪙 สามารถจัดการใบรับรองดิจิทัลทั้งหมดด้วยสเปรดชีตได้ 🪙 การปฏิบัติตามกฎระเบียบ (compliance) เท่ากับความปลอดภัย 🪙 ภัยจากควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ไกล ไม่ต้องกังวลตอนนี้ 🪙 ควรอนุญาตให้หน่วยงานรัฐเข้าถึงการเข้ารหัสแบบ end-to-end เพื่อความปลอดภัย 🪙 การปล่อยให้ AI เติบโตโดยไม่มีการควบคุมจะช่วยเร่งนวัตกรรม https://www.csoonline.com/article/571943/22-cybersecurity-myths-organizations-need-to-stop-believing-in-2022.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    13 cybersecurity myths organizations need to stop believing
    Security teams trying to defend their organizations need to adapt quickly to new challenges. Yesterday's best practices have become today's myths.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถอดรหัสโอกาสทางการตลาด: ข้อมูลเชิงลึกสำคัญจากงานวิจัยตลาดโรคนอนไม่หลับ

    งานวิจัยตลาดโรคนอนไม่หลับล่าสุดชี้ให้เห็นว่าความคาดหวังของผู้ป่วยที่เปลี่ยนแปลงไปและการบูรณาการเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการรักษา งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าโรคนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่มากกว่าหนึ่งในสามทั่วโลก ส่งผลให้ต้นทุนการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นและสูญเสียประสิทธิภาพการทำงาน ผลกระทบทางจิตวิทยาและสรีรวิทยาของโรคนี้กำลังกระตุ้นให้บริษัทยาและเทคโนโลยีพัฒนานวัตกรรมที่ก้าวล้ำกว่าการบำบัดด้วยยาแบบดั้งเดิม การบำบัดพฤติกรรม แพลตฟอร์มดิจิทัล และอุปกรณ์ติดตามแบบสวมใส่ได้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในวิวัฒนาการนี้ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นในการรักษาแบบไม่ใช้ยากำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การแข่งขัน ช่วยให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่และสตาร์ทอัพสามารถเติบโตได้

    อ้างอิง - https://www.marketresearchfuture.com/reports/insomnia-market-545
    อ่านน้อยลง
    ถอดรหัสโอกาสทางการตลาด: ข้อมูลเชิงลึกสำคัญจากงานวิจัยตลาดโรคนอนไม่หลับ งานวิจัยตลาดโรคนอนไม่หลับล่าสุดชี้ให้เห็นว่าความคาดหวังของผู้ป่วยที่เปลี่ยนแปลงไปและการบูรณาการเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการรักษา งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าโรคนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่มากกว่าหนึ่งในสามทั่วโลก ส่งผลให้ต้นทุนการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นและสูญเสียประสิทธิภาพการทำงาน ผลกระทบทางจิตวิทยาและสรีรวิทยาของโรคนี้กำลังกระตุ้นให้บริษัทยาและเทคโนโลยีพัฒนานวัตกรรมที่ก้าวล้ำกว่าการบำบัดด้วยยาแบบดั้งเดิม การบำบัดพฤติกรรม แพลตฟอร์มดิจิทัล และอุปกรณ์ติดตามแบบสวมใส่ได้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในวิวัฒนาการนี้ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นในการรักษาแบบไม่ใช้ยากำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์การแข่งขัน ช่วยให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่และสตาร์ทอัพสามารถเติบโตได้ อ้างอิง - https://www.marketresearchfuture.com/reports/insomnia-market-545 อ่านน้อยลง
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Insomnia Market Size, Trends Analysis, Growth Report 2035
    Insomnia Market growth is projected to reach 8.64 USD billion, at a 5.8% CAGR by driving industry size, share, top company analysis, segments research, trends and forecast report 2024 to 2032.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบช.ตชด.ห่วงใยอธิปไตยของชาติ สนองนโยบาย ผบ.ตร. สั่งเสริมกำลังบูรณาการร่วม ทหาร-ตำรวจภูธรภาค 2 ลงพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว พร้อมดูแลประชาชน ปกป้องอธิปไตย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000097447

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    ผบช.ตชด.ห่วงใยอธิปไตยของชาติ สนองนโยบาย ผบ.ตร. สั่งเสริมกำลังบูรณาการร่วม ทหาร-ตำรวจภูธรภาค 2 ลงพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว พร้อมดูแลประชาชน ปกป้องอธิปไตย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000097447 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ตร.สั่งบูรณาการทุกหน่วย ลุยตรวจเข้ม “นอมินีต่างชาติ” ถือครองที่ดินเกาะสมุย–พะงัน สอบเส้นทางการเงิน–ธุรกิจต้องสงสัย ย้ำเอาผิดเด็ดขาดทั้งผู้ถือแทนและเจ้าหน้าที่เอี่ยว ดำเนินการ 4 ด้านเข้มงวดจัดการ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000097249

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    ผบ.ตร.สั่งบูรณาการทุกหน่วย ลุยตรวจเข้ม “นอมินีต่างชาติ” ถือครองที่ดินเกาะสมุย–พะงัน สอบเส้นทางการเงิน–ธุรกิจต้องสงสัย ย้ำเอาผิดเด็ดขาดทั้งผู้ถือแทนและเจ้าหน้าที่เอี่ยว ดำเนินการ 4 ด้านเข้มงวดจัดการ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000097249 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI โตเร็วกว่าอินเทอร์เน็ต 4 เท่า — รายงานใหม่เผยพฤติกรรมผู้ใช้ทั่วโลกเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน”

    รายงานจาก Financial Times เผยว่า “การใช้งาน AI ทั่วโลกเติบโตเร็วกว่าการใช้อินเทอร์เน็ตในยุคแรกถึง 4 เท่า” โดยเฉพาะ ChatGPT ที่มีผู้ใช้งานเกือบ 800 ล้านคนภายในเวลาเพียง 3 ปี ขณะที่อินเทอร์เน็ตใช้เวลากว่า 13 ปีจึงถึงระดับเดียวกัน

    Meta รายงานว่า AI Assistant ของตนที่ฝังอยู่ใน WhatsApp, Instagram และแว่น Ray-Ban มีผู้ใช้งานถึง 1 พันล้านคนต่อเดือน ขณะที่ Google ระบุว่า AI overview บนหน้าผลการค้นหามีผู้ใช้ถึง 2 พันล้านคนต่อเดือน และ 70% ของผู้ใช้ Google Docs และ Gmail ใช้ฟีเจอร์ช่วยเขียนเมื่อระบบแนะนำ

    Microsoft Copilot มีผู้ใช้งาน 100 ล้านคนต่อเดือน ส่วน Claude ของ Anthropic ถูกใช้เพื่อช่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และโปรแกรมมิ่งเป็นหลัก โดยมีแนวโน้มถูกใช้เพื่อ “ทำงานแทน” มากขึ้นเรื่อย ๆ

    ประเทศที่มีอัตราการใช้งาน AI สูงสุดคือสิงคโปร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยมีผู้ใช้งาน AI ถึง 60% ของประชากรที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดย UAE แจก ChatGPT Plus ให้ประชาชนใช้ฟรี และมีการสอน AI ตั้งแต่เด็กอายุ 4 ขวบ

    อย่างไรก็ตาม รายงานยังเตือนถึง “Shadow AI” หรือการใช้ AI โดยพนักงานโดยไม่แจ้งบริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหลายองค์กรยังติดอยู่ในขั้นทดลองและไม่สามารถบูรณาการ AI เข้ากับระบบงานได้จริง

    MIT ยังเผยผลวิจัยว่า การใช้ AI เขียนงานแบบเต็มรูปแบบอาจทำให้ผู้ใช้เกิด “หนี้ทางปัญญา” และลดทักษะการเรียนรู้ โดยผู้ใช้ไม่สามารถอธิบายงานที่ตนเอง “สร้างร่วมกับ AI” ได้อย่างชัดเจน

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ChatGPT มีผู้ใช้งานเกือบ 800 ล้านคนภายใน 3 ปี
    Meta AI Assistant มีผู้ใช้งาน 1 พันล้านคนต่อเดือน
    Google AI overview มีผู้ใช้ 2 พันล้านคนต่อเดือน
    70% ของผู้ใช้ Google Docs และ Gmail ใช้ฟีเจอร์ช่วยเขียน
    Microsoft Copilot มีผู้ใช้งาน 100 ล้านคนต่อเดือน
    Claude ถูกใช้เพื่อช่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และโปรแกรมมิ่ง
    สิงคโปร์และ UAE มีอัตราการใช้งาน AI สูงสุด (60%)
    UAE แจก ChatGPT Plus ฟรี และสอน AI ตั้งแต่เด็ก
    Shadow AI เพิ่มขึ้นในองค์กรที่ยังไม่บูรณาการ AI
    MIT พบว่าการใช้ AI เขียนงานเต็มรูปแบบอาจลดทักษะการเรียนรู้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ChatGPT เป็นแอปที่โตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีผู้ใช้ 100 ล้านคนภายใน 2 เดือน
    Claude ของ Anthropic เน้นความปลอดภัยและความแม่นยำในการตอบคำถาม
    Gemini ของ Google เป็น AI ผู้ช่วยที่เน้นบริบทและการเรียนรู้จากผู้ใช้
    Shadow AI เป็นปัญหาที่องค์กรต้องจัดการผ่านนโยบายและการอบรม
    การใช้ AI ในงานเขียนควรเป็น “ผู้ช่วย” ไม่ใช่ “ผู้แทน” เพื่อรักษาทักษะของผู้ใช้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/ai-adoption-far-outpaces-that-of-the-early-internet-report-sheds-light-on-worldwide-ai-penetration-and-usage-patterns
    🌍 “AI โตเร็วกว่าอินเทอร์เน็ต 4 เท่า — รายงานใหม่เผยพฤติกรรมผู้ใช้ทั่วโลกเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน” รายงานจาก Financial Times เผยว่า “การใช้งาน AI ทั่วโลกเติบโตเร็วกว่าการใช้อินเทอร์เน็ตในยุคแรกถึง 4 เท่า” โดยเฉพาะ ChatGPT ที่มีผู้ใช้งานเกือบ 800 ล้านคนภายในเวลาเพียง 3 ปี ขณะที่อินเทอร์เน็ตใช้เวลากว่า 13 ปีจึงถึงระดับเดียวกัน Meta รายงานว่า AI Assistant ของตนที่ฝังอยู่ใน WhatsApp, Instagram และแว่น Ray-Ban มีผู้ใช้งานถึง 1 พันล้านคนต่อเดือน ขณะที่ Google ระบุว่า AI overview บนหน้าผลการค้นหามีผู้ใช้ถึง 2 พันล้านคนต่อเดือน และ 70% ของผู้ใช้ Google Docs และ Gmail ใช้ฟีเจอร์ช่วยเขียนเมื่อระบบแนะนำ Microsoft Copilot มีผู้ใช้งาน 100 ล้านคนต่อเดือน ส่วน Claude ของ Anthropic ถูกใช้เพื่อช่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และโปรแกรมมิ่งเป็นหลัก โดยมีแนวโน้มถูกใช้เพื่อ “ทำงานแทน” มากขึ้นเรื่อย ๆ ประเทศที่มีอัตราการใช้งาน AI สูงสุดคือสิงคโปร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยมีผู้ใช้งาน AI ถึง 60% ของประชากรที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดย UAE แจก ChatGPT Plus ให้ประชาชนใช้ฟรี และมีการสอน AI ตั้งแต่เด็กอายุ 4 ขวบ อย่างไรก็ตาม รายงานยังเตือนถึง “Shadow AI” หรือการใช้ AI โดยพนักงานโดยไม่แจ้งบริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหลายองค์กรยังติดอยู่ในขั้นทดลองและไม่สามารถบูรณาการ AI เข้ากับระบบงานได้จริง MIT ยังเผยผลวิจัยว่า การใช้ AI เขียนงานแบบเต็มรูปแบบอาจทำให้ผู้ใช้เกิด “หนี้ทางปัญญา” และลดทักษะการเรียนรู้ โดยผู้ใช้ไม่สามารถอธิบายงานที่ตนเอง “สร้างร่วมกับ AI” ได้อย่างชัดเจน ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ChatGPT มีผู้ใช้งานเกือบ 800 ล้านคนภายใน 3 ปี ➡️ Meta AI Assistant มีผู้ใช้งาน 1 พันล้านคนต่อเดือน ➡️ Google AI overview มีผู้ใช้ 2 พันล้านคนต่อเดือน ➡️ 70% ของผู้ใช้ Google Docs และ Gmail ใช้ฟีเจอร์ช่วยเขียน ➡️ Microsoft Copilot มีผู้ใช้งาน 100 ล้านคนต่อเดือน ➡️ Claude ถูกใช้เพื่อช่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และโปรแกรมมิ่ง ➡️ สิงคโปร์และ UAE มีอัตราการใช้งาน AI สูงสุด (60%) ➡️ UAE แจก ChatGPT Plus ฟรี และสอน AI ตั้งแต่เด็ก ➡️ Shadow AI เพิ่มขึ้นในองค์กรที่ยังไม่บูรณาการ AI ➡️ MIT พบว่าการใช้ AI เขียนงานเต็มรูปแบบอาจลดทักษะการเรียนรู้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ChatGPT เป็นแอปที่โตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีผู้ใช้ 100 ล้านคนภายใน 2 เดือน ➡️ Claude ของ Anthropic เน้นความปลอดภัยและความแม่นยำในการตอบคำถาม ➡️ Gemini ของ Google เป็น AI ผู้ช่วยที่เน้นบริบทและการเรียนรู้จากผู้ใช้ ➡️ Shadow AI เป็นปัญหาที่องค์กรต้องจัดการผ่านนโยบายและการอบรม ➡️ การใช้ AI ในงานเขียนควรเป็น “ผู้ช่วย” ไม่ใช่ “ผู้แทน” เพื่อรักษาทักษะของผู้ใช้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/ai-adoption-far-outpaces-that-of-the-early-internet-report-sheds-light-on-worldwide-ai-penetration-and-usage-patterns
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าการ กกท. นำทีมสำรวจสนามแข่งขัน จ.สงขลา เตรียมรับซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ชื่นชมสงขลา เจ้าภาพซีเกมส์ไร้ข้อกังวล
    https://www.thai-tai.tv/news/21752/
    .
    #ซีเกมส์2568 #สงขลาเจ้าภาพ #กกท. #สนามกีฬาติณสูลานนท์ #มหกรรมกีฬา #นโยบายกีฬา #การบริหารท้องถิ่น #บูรณาการงาน
    ผู้ว่าการ กกท. นำทีมสำรวจสนามแข่งขัน จ.สงขลา เตรียมรับซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ชื่นชมสงขลา เจ้าภาพซีเกมส์ไร้ข้อกังวล https://www.thai-tai.tv/news/21752/ . #ซีเกมส์2568 #สงขลาเจ้าภาพ #กกท. #สนามกีฬาติณสูลานนท์ #มหกรรมกีฬา #นโยบายกีฬา #การบริหารท้องถิ่น #บูรณาการงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก EEG: เมื่อ ChatGPT ไม่ได้แค่ช่วยเขียน แต่กำลัง “เขียนใหม่” ระบบประสาทของเรา

    งานวิจัยล่าสุดจาก MIT Media Lab ชื่อว่า “Your Brain on ChatGPT” ได้ทดลองให้ผู้เข้าร่วม 54 คนแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม: กลุ่มที่เขียนด้วยสมองตัวเอง, กลุ่มที่ใช้ Search Engine, และกลุ่มที่ใช้ LLM (เช่น ChatGPT หรือ Grok) เพื่อช่วยเขียนเรียงความ SAT โดยใช้ EEG สแกนสมองระหว่างทำงาน

    ผลลัพธ์ชัดเจน: กลุ่มที่ใช้ LLM มีการเชื่อมต่อของสมองลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในคลื่น alpha, beta, delta และ theta ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจดจ่อ, การมองเห็น, และการประมวลผลเชิงลึก

    ที่น่าตกใจคือ เมื่อให้เขียนโดยไม่ใช้ AI ใน Session 4 ผู้ที่เคยใช้ LLM กลับไม่สามารถฟื้นฟูการทำงานของสมองได้เหมือนเดิม—แสดงถึง “ความเสียหายตกค้าง” ที่อาจกลายเป็นภาวะถดถอยทางปัญญาระยะยาว

    นอกจากนี้ 83.3% ของผู้ใช้ LLM ไม่สามารถจำแม้แต่ประโยคเดียวจากเรียงความที่เพิ่งเขียนได้ ขณะที่กลุ่มที่ใช้สมองหรือ Search Engine สามารถอ้างอิงได้อย่างแม่นยำ และยังรู้สึกเป็นเจ้าของงานเขียนของตัวเองมากกว่า

    นักวิจัยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “cognitive offloading” คือสมองเริ่มปรับตัวให้ใช้พลังงานน้อยลงเมื่อมีเครื่องมือช่วย—แต่ผลที่ตามมาคือการลดลงของการเรียนรู้เชิงลึก, การสังเคราะห์ข้อมูล, และความพยายามในการแก้ปัญหา

    ผลกระทบของการใช้ LLM ต่อสมอง
    EEG แสดงการลดลงของการเชื่อมต่อสมองในหลายคลื่นความถี่
    การใช้ LLM ทำให้สมองไม่กระตุ้นเครือข่ายการมองเห็นและความสนใจ
    ผู้ใช้ LLM มีความจำและการจดจำเนื้อหาลดลงอย่างชัดเจน

    ความรู้สึกของผู้ใช้ต่อผลงานของตัวเอง
    ผู้ใช้ LLM มักตอบว่า “50/50” หรือ “ไม่แน่ใจว่าเป็นของตัวเอง”
    กลุ่มที่ใช้สมองเองรายงานความรู้สึกเป็นเจ้าของงานอย่างชัดเจน
    การใช้ AI ทำให้เกิดความรู้สึกแยกตัวจากกระบวนการสร้างสรรค์

    ผลกระทบระยะยาวจากการใช้ AI
    ผู้ใช้ LLM ที่เปลี่ยนกลับมาเขียนเองยังคงมีการทำงานของสมองต่ำกว่าปกติ
    สมองปรับตัวให้ “ประหยัดพลังงาน” แต่แลกด้วยการลดความสามารถในการเรียนรู้
    งานเขียนจาก LLM มักสั้นลง, มีโครงสร้างจำกัด, และขาดการบูรณาการเชิงกลยุทธ์

    ข้อเสนอจากนักวิจัย
    ควรใช้ AI อย่างมีขอบเขต และให้สมองได้ทำงานจริงเป็นระยะ
    การใช้ AI เพื่อความสะดวกอาจนำไปสู่ “หนี้ทางปัญญา” ที่สะสมเรื่อย ๆ
    การเรียนรู้ที่แท้จริงต้องใช้ความพยายาม ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ที่ดูดี

    https://publichealthpolicyjournal.com/mit-study-finds-artificial-intelligence-use-reprograms-the-brain-leading-to-cognitive-decline/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก EEG: เมื่อ ChatGPT ไม่ได้แค่ช่วยเขียน แต่กำลัง “เขียนใหม่” ระบบประสาทของเรา งานวิจัยล่าสุดจาก MIT Media Lab ชื่อว่า “Your Brain on ChatGPT” ได้ทดลองให้ผู้เข้าร่วม 54 คนแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม: กลุ่มที่เขียนด้วยสมองตัวเอง, กลุ่มที่ใช้ Search Engine, และกลุ่มที่ใช้ LLM (เช่น ChatGPT หรือ Grok) เพื่อช่วยเขียนเรียงความ SAT โดยใช้ EEG สแกนสมองระหว่างทำงาน ผลลัพธ์ชัดเจน: กลุ่มที่ใช้ LLM มีการเชื่อมต่อของสมองลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในคลื่น alpha, beta, delta และ theta ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจดจ่อ, การมองเห็น, และการประมวลผลเชิงลึก ที่น่าตกใจคือ เมื่อให้เขียนโดยไม่ใช้ AI ใน Session 4 ผู้ที่เคยใช้ LLM กลับไม่สามารถฟื้นฟูการทำงานของสมองได้เหมือนเดิม—แสดงถึง “ความเสียหายตกค้าง” ที่อาจกลายเป็นภาวะถดถอยทางปัญญาระยะยาว นอกจากนี้ 83.3% ของผู้ใช้ LLM ไม่สามารถจำแม้แต่ประโยคเดียวจากเรียงความที่เพิ่งเขียนได้ ขณะที่กลุ่มที่ใช้สมองหรือ Search Engine สามารถอ้างอิงได้อย่างแม่นยำ และยังรู้สึกเป็นเจ้าของงานเขียนของตัวเองมากกว่า นักวิจัยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “cognitive offloading” คือสมองเริ่มปรับตัวให้ใช้พลังงานน้อยลงเมื่อมีเครื่องมือช่วย—แต่ผลที่ตามมาคือการลดลงของการเรียนรู้เชิงลึก, การสังเคราะห์ข้อมูล, และความพยายามในการแก้ปัญหา ✅ ผลกระทบของการใช้ LLM ต่อสมอง ➡️ EEG แสดงการลดลงของการเชื่อมต่อสมองในหลายคลื่นความถี่ ➡️ การใช้ LLM ทำให้สมองไม่กระตุ้นเครือข่ายการมองเห็นและความสนใจ ➡️ ผู้ใช้ LLM มีความจำและการจดจำเนื้อหาลดลงอย่างชัดเจน ✅ ความรู้สึกของผู้ใช้ต่อผลงานของตัวเอง ➡️ ผู้ใช้ LLM มักตอบว่า “50/50” หรือ “ไม่แน่ใจว่าเป็นของตัวเอง” ➡️ กลุ่มที่ใช้สมองเองรายงานความรู้สึกเป็นเจ้าของงานอย่างชัดเจน ➡️ การใช้ AI ทำให้เกิดความรู้สึกแยกตัวจากกระบวนการสร้างสรรค์ ✅ ผลกระทบระยะยาวจากการใช้ AI ➡️ ผู้ใช้ LLM ที่เปลี่ยนกลับมาเขียนเองยังคงมีการทำงานของสมองต่ำกว่าปกติ ➡️ สมองปรับตัวให้ “ประหยัดพลังงาน” แต่แลกด้วยการลดความสามารถในการเรียนรู้ ➡️ งานเขียนจาก LLM มักสั้นลง, มีโครงสร้างจำกัด, และขาดการบูรณาการเชิงกลยุทธ์ ✅ ข้อเสนอจากนักวิจัย ➡️ ควรใช้ AI อย่างมีขอบเขต และให้สมองได้ทำงานจริงเป็นระยะ ➡️ การใช้ AI เพื่อความสะดวกอาจนำไปสู่ “หนี้ทางปัญญา” ที่สะสมเรื่อย ๆ ➡️ การเรียนรู้ที่แท้จริงต้องใช้ความพยายาม ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ที่ดูดี https://publichealthpolicyjournal.com/mit-study-finds-artificial-intelligence-use-reprograms-the-brain-leading-to-cognitive-decline/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากสมองถึงซิลิคอน: เมื่อจีนเปิดศึก BCI ด้วยแผน 17 ข้อจาก 7 กระทรวง

    ในเดือนสิงหาคม 2025 รัฐบาลจีนได้เผยแพร่เอกสารนโยบายขนาดใหญ่ชื่อ “Implementation Plan for Promoting Innovation and Development of the Brain-Computer Interface (BCI) Industry” ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติที่มีเป้าหมายชัดเจน: สร้างอุตสาหกรรม BCI ที่แข่งขันได้ในระดับโลกภายใน 5 ปี และผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เข้าสู่การใช้งานจริงภายในปี 2027

    แผนนี้ไม่ใช่แค่การวิจัย แต่เป็นการบูรณาการระหว่าง 7 กระทรวงที่รวมการวางแผนอุตสาหกรรม, การกำกับดูแลทางการแพทย์, และการควบคุมการวิจัยไว้ใน playbook เดียว เพื่อเร่งการอนุมัติและลดเวลาจากห้องแล็บสู่ตลาดให้เหลือเพียงไม่กี่ปี—ต่างจากสหรัฐฯ ที่ต้องผ่านด่าน FDA หลายชั้น

    ในแผนมี 17 ข้อที่ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนา chip ฝังสมองที่ใช้พลังงานต่ำ, การออกแบบอิเล็กโทรดที่ลดการเกิดแผล, การสร้างอัลกอริธึมถอดรหัสความคิดแบบ real-time ไปจนถึงการผลิตอุปกรณ์แบบ non-invasive สำหรับตลาดผู้บริโภค เช่น อุปกรณ์ตรวจความตื่นตัวของคนขับรถ หรือหมวกนิรภัยที่ตรวจจับอันตรายในเหมือง

    ที่สำคัญคือ จีนได้เริ่มทดลองจริงแล้ว—ผู้ป่วยที่ได้รับการฝังอิเล็กโทรดสามารถเล่นหมากรุกและใช้งานแอปมือถือด้วยความคิดล้วน ๆ โดยใช้อิเล็กโทรด 128 ช่องที่ออกแบบให้เสถียรและลดการอักเสบในระยะยาว

    แผนยุทธศาสตร์ BCI ของจีน
    มีชื่อว่า “Implementation Plan for Promoting Innovation and Development of the BCI Industry”
    ร่วมกันจัดทำโดย 7 กระทรวงของรัฐบาลจีน
    ตั้งเป้าให้มีการใช้งานจริงในคลินิกภายในปี 2027 และมีบริษัทชั้นนำภายในปี 2030

    รายละเอียดของแผน 17 ข้อ
    พัฒนา chip ฝังสมองที่ใช้พลังงานต่ำ
    ออกแบบอิเล็กโทรดที่ลดการเกิดแผลและอยู่ในสมองได้นาน
    สร้างอัลกอริธึมถอดรหัสความคิดแบบ real-time
    ขยายสายการผลิตอุปกรณ์ non-invasive สำหรับผู้บริโภค

    ความคืบหน้าทางเทคนิค
    ทีมวิจัยจีนพัฒนาอิเล็กโทรด 128 ช่องที่เสถียรและลดการอักเสบ
    ผู้ป่วยสามารถเล่นหมากรุกและใช้งานแอปมือถือด้วยความคิด
    มีการทดลองในสัตว์, ลิง, และมนุษย์แล้ว

    การขยายสู่ตลาดผู้บริโภค
    สนับสนุนอุปกรณ์ non-invasive เช่น หมวกนิรภัยอัจฉริยะและเซนเซอร์ตรวจความตื่นตัว
    วางตำแหน่ง BCI เป็นทั้งเทคโนโลยีการแพทย์และแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค
    คาดว่าจะมีผู้ป่วย 1–2 ล้านคนที่ได้รับประโยชน์จาก BCI ภายในไม่กี่ปี

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-bci-blueprint
    🎙️ เรื่องเล่าจากสมองถึงซิลิคอน: เมื่อจีนเปิดศึก BCI ด้วยแผน 17 ข้อจาก 7 กระทรวง ในเดือนสิงหาคม 2025 รัฐบาลจีนได้เผยแพร่เอกสารนโยบายขนาดใหญ่ชื่อ “Implementation Plan for Promoting Innovation and Development of the Brain-Computer Interface (BCI) Industry” ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติที่มีเป้าหมายชัดเจน: สร้างอุตสาหกรรม BCI ที่แข่งขันได้ในระดับโลกภายใน 5 ปี และผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เข้าสู่การใช้งานจริงภายในปี 2027 แผนนี้ไม่ใช่แค่การวิจัย แต่เป็นการบูรณาการระหว่าง 7 กระทรวงที่รวมการวางแผนอุตสาหกรรม, การกำกับดูแลทางการแพทย์, และการควบคุมการวิจัยไว้ใน playbook เดียว เพื่อเร่งการอนุมัติและลดเวลาจากห้องแล็บสู่ตลาดให้เหลือเพียงไม่กี่ปี—ต่างจากสหรัฐฯ ที่ต้องผ่านด่าน FDA หลายชั้น ในแผนมี 17 ข้อที่ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนา chip ฝังสมองที่ใช้พลังงานต่ำ, การออกแบบอิเล็กโทรดที่ลดการเกิดแผล, การสร้างอัลกอริธึมถอดรหัสความคิดแบบ real-time ไปจนถึงการผลิตอุปกรณ์แบบ non-invasive สำหรับตลาดผู้บริโภค เช่น อุปกรณ์ตรวจความตื่นตัวของคนขับรถ หรือหมวกนิรภัยที่ตรวจจับอันตรายในเหมือง ที่สำคัญคือ จีนได้เริ่มทดลองจริงแล้ว—ผู้ป่วยที่ได้รับการฝังอิเล็กโทรดสามารถเล่นหมากรุกและใช้งานแอปมือถือด้วยความคิดล้วน ๆ โดยใช้อิเล็กโทรด 128 ช่องที่ออกแบบให้เสถียรและลดการอักเสบในระยะยาว ✅ แผนยุทธศาสตร์ BCI ของจีน ➡️ มีชื่อว่า “Implementation Plan for Promoting Innovation and Development of the BCI Industry” ➡️ ร่วมกันจัดทำโดย 7 กระทรวงของรัฐบาลจีน ➡️ ตั้งเป้าให้มีการใช้งานจริงในคลินิกภายในปี 2027 และมีบริษัทชั้นนำภายในปี 2030 ✅ รายละเอียดของแผน 17 ข้อ ➡️ พัฒนา chip ฝังสมองที่ใช้พลังงานต่ำ ➡️ ออกแบบอิเล็กโทรดที่ลดการเกิดแผลและอยู่ในสมองได้นาน ➡️ สร้างอัลกอริธึมถอดรหัสความคิดแบบ real-time ➡️ ขยายสายการผลิตอุปกรณ์ non-invasive สำหรับผู้บริโภค ✅ ความคืบหน้าทางเทคนิค ➡️ ทีมวิจัยจีนพัฒนาอิเล็กโทรด 128 ช่องที่เสถียรและลดการอักเสบ ➡️ ผู้ป่วยสามารถเล่นหมากรุกและใช้งานแอปมือถือด้วยความคิด ➡️ มีการทดลองในสัตว์, ลิง, และมนุษย์แล้ว ✅ การขยายสู่ตลาดผู้บริโภค ➡️ สนับสนุนอุปกรณ์ non-invasive เช่น หมวกนิรภัยอัจฉริยะและเซนเซอร์ตรวจความตื่นตัว ➡️ วางตำแหน่ง BCI เป็นทั้งเทคโนโลยีการแพทย์และแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ➡️ คาดว่าจะมีผู้ป่วย 1–2 ล้านคนที่ได้รับประโยชน์จาก BCI ภายในไม่กี่ปี https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-bci-blueprint
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    China plans to outpace Neuralink with a state-backed brain chip blitz — seven ministries, a 17-point roadmap, and clinical trials where patients play chess
    Plan aims to streamline approval by bringing regulators in at the beginning, potentially shaving years off the lab-to-market timeline.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผงชูรส กับหัวใจเต้นผิดปกติ

    Monosodium Glutamate (MSG) ใช้กันแพร่หลายมหาศาลทั่วไป แม้จะมีข้อมูลที่มีผลข้างเคียงก็ตาม
    รายงานนี้ อยู่ในวารสาร Ann Intern Med 19/8/2025

    ผู้ป่วยอายุ 78 มีโรคประจำตัว อ้วน ความดันสูง และมีปวดเรื้อรัง ทำให้ทำกิจกรรมกายลำบาก ไม่มีความผิดปกติของหัวใจ กล้ามเนื้อ และลิ้นหัวใจ ไม่มีโรคไทรอยด์
    หลังจากที่พบ ว่าการเต้นของหัวใจ ผิดปกติแบบระริก (atrial fibrillation) ตลอดเวลา และได้รับการรักษา ด้วยยาลดความดัน และควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ และยาละลายลิ่มเลือด
    ผู้ป่วยได้รับการรักษาอยู่ตลอดแปดเดือน โดยหัวใจเต้นผิดปกติตลอดเวลา ได้มีการประเมินการบริโภคอาหาร พบว่าผู้ป่วยทานผงชูรส ในปริมาณสูง เทียบเท่า 6 กรัมต่อวัน
    ผู้ป่วยได้รับคำแนะนำ ให้งดผงชูรสเด็ดขาด ปรากฏว่าภายในเวลาสามเดือน หัวใจกลับเต้นเป็นปกติ ทำให้หยุดยาได้ทั้งหมด เหลือแต่ยาความดัน

    จากการทบทวนรายงานพบว่า ผงชูรสดังกล่าวมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์ กับความอ้วน และโรคเมตบอลิค ทั้งหลาย
    รายงานการเต้นของหัวใจผิดปกติมีมาตลอด แต่ทั้งนี้ อาจร่วมกับที่มีภาวะทางสุขภาพ ที่ไม่ใช่หัวใจ ร่วมด้วย
    กลไกการกระตุ้นหัวใจให้เต้นผิดปกติ เป็นไปได้ว่าเป็นการออกฤทธิ์ที่สมอง ในส่วน hypothalamus ใน บริเวณ circumventricular และเกี่ยวพันกับสารกลูตาเมท

    น่าจะเป็นอุทาหรณ์ ว่าการได้ความหวานจากอาหารธรรมชาติ ผักผลไม้ ที่ไม่มีสารเคมีเจือปน เป็นเรื่องดีที่สุดครับ

    บทความ
    Monosodium Glutamate and Atrial Fibrillation in a 78-Year-Old Woman: A Case Report และมีการ รวบรวมรายงานที่ผ่านมา

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข
    และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    ✍️ผงชูรส กับหัวใจเต้นผิดปกติ Monosodium Glutamate (MSG) ใช้กันแพร่หลายมหาศาลทั่วไป แม้จะมีข้อมูลที่มีผลข้างเคียงก็ตาม รายงานนี้ อยู่ในวารสาร Ann Intern Med 19/8/2025 ผู้ป่วยอายุ 78 มีโรคประจำตัว อ้วน ความดันสูง และมีปวดเรื้อรัง ทำให้ทำกิจกรรมกายลำบาก ไม่มีความผิดปกติของหัวใจ กล้ามเนื้อ และลิ้นหัวใจ ไม่มีโรคไทรอยด์ หลังจากที่พบ ว่าการเต้นของหัวใจ ผิดปกติแบบระริก (atrial fibrillation) ตลอดเวลา และได้รับการรักษา ด้วยยาลดความดัน และควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ และยาละลายลิ่มเลือด ผู้ป่วยได้รับการรักษาอยู่ตลอดแปดเดือน โดยหัวใจเต้นผิดปกติตลอดเวลา ได้มีการประเมินการบริโภคอาหาร พบว่าผู้ป่วยทานผงชูรส ในปริมาณสูง เทียบเท่า 6 กรัมต่อวัน ผู้ป่วยได้รับคำแนะนำ ให้งดผงชูรสเด็ดขาด ปรากฏว่าภายในเวลาสามเดือน หัวใจกลับเต้นเป็นปกติ ทำให้หยุดยาได้ทั้งหมด เหลือแต่ยาความดัน จากการทบทวนรายงานพบว่า ผงชูรสดังกล่าวมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์ กับความอ้วน และโรคเมตบอลิค ทั้งหลาย รายงานการเต้นของหัวใจผิดปกติมีมาตลอด แต่ทั้งนี้ อาจร่วมกับที่มีภาวะทางสุขภาพ ที่ไม่ใช่หัวใจ ร่วมด้วย กลไกการกระตุ้นหัวใจให้เต้นผิดปกติ เป็นไปได้ว่าเป็นการออกฤทธิ์ที่สมอง ในส่วน hypothalamus ใน บริเวณ circumventricular และเกี่ยวพันกับสารกลูตาเมท น่าจะเป็นอุทาหรณ์ ว่าการได้ความหวานจากอาหารธรรมชาติ ผักผลไม้ ที่ไม่มีสารเคมีเจือปน เป็นเรื่องดีที่สุดครับ บทความ Monosodium Glutamate and Atrial Fibrillation in a 78-Year-Old Woman: A Case Report และมีการ รวบรวมรายงานที่ผ่านมา ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว

  • เทคโนโลยีขนาดใหญ่วางแผนที่จะใช้ชิปสมองเพื่ออ่านผู้ใช้’ ความคิด: การศึกษา

    25 สิงหาคม 2568

    Big Tech กําลังวางแผนที่จะปรับใช้ชิปสมองที่สามารถอ่านความคิดของผู้ใช้’ ตามการศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเกี่ยวกับการปลูกถ่ายระบบประสาทหรือที่เรียกว่าอินเทอร์เฟซคอมพิวเตอร์สมอง (BCI) ซึ่งอาจเปิดเผยความลับภายในสุดในขณะที่ปลอมตัวเป็นตัวช่วยสําหรับบุคคลที่เป็นอัมพาตในการ สื่อสาร

    ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ เซลล์การวิจัยแสดงให้เห็นว่าอุปกรณ์เหล่านี้ถอดรหัสสัญญาณสมองเพื่อสร้างคําพูดสังเคราะห์ด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อนและความพยายามเพียงเล็กน้อย ทําให้เกิดสัญญาณเตือนเกี่ยวกับการบุกรุกความเป็นส่วนตัวในขณะที่บริษัทอย่าง Neuralink ผลักดันให้มีการนําไปใช้อย่างกว้างขวาง ในขณะที่ผู้เสนอเสนอผลประโยชน์สําหรับผู้พิการ นักวิจารณ์เตือนว่าการบูรณาการที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอาจทําให้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสามารถเก็บเกี่ยวข้อมูลประสาทเพื่อการเฝ้าระวัง การจัดการ หรือผลกําไร โดยเปลี่ยนการรับรู้ส่วนบุคคลให้เป็นทรัพยากรที่เป็นสินค้าโดยไม่ได้รับความยินยอม

    ความทันสมัย.ข่าวสาร รายงาน: BCI ทํางานโดยใช้อาร์เรย์อิเล็กโทรดขนาดเล็กเพื่อตรวจสอบกิจกรรมในเยื่อหุ้มสมองสั่งการของสมอง, ภูมิภาคที่ควบคุมกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการพูด จนถึงขณะนี้ เทคโนโลยีนี้อาศัยสัญญาณจากบุคคลที่เป็นอัมพาตที่พยายามพูดอย่างแข็งขัน อย่างไรก็ตาม ทีมงานสแตนฟอร์ดค้นพบว่าแม้แต่คําพูดในจินตนาการก็ยังสร้างสัญญาณที่คล้ายกันในเยื่อหุ้มสมองสั่งการ แม้ว่าจะอ่อนแอกว่าก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือของปัญญาประดิษฐ์, พวกเขาแปลสัญญาณจาง ๆ เหล่านั้นเป็นคําที่มีความแม่นยําสูงสุด 74% จากคําศัพท์ 125,000 คํา

    “เรากําลังบันทึกสัญญาณขณะที่พวกเขากําลังพยายามพูดและแปลสัญญาณประสาทเหล่านั้นเป็นคําที่พวกเขาพยายามจะพูด ” erin Kunz นักวิจัยหลังปริญญาเอกจาก Neural Prosthetics Translational Laboratory ของ Stanford กล่าว

    แต่การก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีนี้ทําให้เกิดธงแดงในหมู่นักวิจารณ์ที่เตือนถึงอนาคตดิสโทเปียที่ความคิดส่วนตัวของคุณอาจถูกเปิดเผย

    Nita Farahany ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายและปรัชญาของมหาวิทยาลัย Duke และผู้เขียน การต่อสู้เพื่อสมองของคุณ, ส่งเสียงสัญญาณเตือนภัยบอก เอ็นพีอาร์, “ยิ่งเราผลักดันงานวิจัยนี้ไปข้างหน้า สมองของเราก็จะโปร่งใสมากขึ้นเท่านั้น”

    ฟาราฮานีแสดงความกังวลว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple, Google และ Meta สามารถใช้ประโยชน์จาก BCI เพื่อเข้าถึงจิตใจของผู้บริโภคโดยไม่ได้รับความยินยอม โดยเรียกร้องให้มีการป้องกัน เช่น รหัสผ่าน เพื่อปกป้องความคิดที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เป็นส่วนตัว

    “เราต้องตระหนักว่ายุคใหม่ของความโปร่งใสของสมองนี้เป็นขอบเขตใหม่สําหรับเราจริงๆ,” Farahany กล่าว

    ในขณะที่โลกจับจ้องไปที่ปัญญาประดิษฐ์ผู้หวดที่หนักที่สุดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีบางคนกําลังทุ่มเงินหลายพันล้านให้กับ BCI Elon Musk ชายที่ร่ํารวยที่สุดในโลกได้ระดมทุน 1.2 พันล้านดอลลาร์สําหรับกิจการ Neuralink ของเขาซึ่งขณะนี้กําลังดําเนินการทดลองทางคลินิกร่วมกับสถาบันชั้นนําเช่น Barrow Neurological Institute, The Miami Project to Cure Paralysis และ Cleveland Clinic Abu Dhabi

    ตอนนี้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอีกคนกําลังเข้าสู่การต่อสู้

    Sam Altman ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI กําลังเปิดตัว Merge Labs เพื่อท้าทาย Neuralink ของ Musk Merge Labs ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทร่วมทุนของ OpenAI และมีมูลค่า 850 ล้านดอลลาร์ โดยกําลังมองหาเงินทุน 250 ล้านดอลลาร์ ไฟแนนเชียลไทมส์● แม้ว่าอัลท์แมนจะทําหน้าที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งร่วมกับอเล็กซ์ บลาเนียในโครงการสแกนม่านตาโลก แต่แหล่งข่าวระบุว่าเขาจะไม่รับบทบาทปฏิบัติการ



    เทคโนโลยีขนาดใหญ่วางแผนที่จะใช้ชิปสมองเพื่ออ่านผู้ใช้’ ความคิด: การศึกษา 25 สิงหาคม 2568 Big Tech กําลังวางแผนที่จะปรับใช้ชิปสมองที่สามารถอ่านความคิดของผู้ใช้’ ตามการศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเกี่ยวกับการปลูกถ่ายระบบประสาทหรือที่เรียกว่าอินเทอร์เฟซคอมพิวเตอร์สมอง (BCI) ซึ่งอาจเปิดเผยความลับภายในสุดในขณะที่ปลอมตัวเป็นตัวช่วยสําหรับบุคคลที่เป็นอัมพาตในการ สื่อสาร ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ เซลล์การวิจัยแสดงให้เห็นว่าอุปกรณ์เหล่านี้ถอดรหัสสัญญาณสมองเพื่อสร้างคําพูดสังเคราะห์ด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อนและความพยายามเพียงเล็กน้อย ทําให้เกิดสัญญาณเตือนเกี่ยวกับการบุกรุกความเป็นส่วนตัวในขณะที่บริษัทอย่าง Neuralink ผลักดันให้มีการนําไปใช้อย่างกว้างขวาง ในขณะที่ผู้เสนอเสนอผลประโยชน์สําหรับผู้พิการ นักวิจารณ์เตือนว่าการบูรณาการที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอาจทําให้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสามารถเก็บเกี่ยวข้อมูลประสาทเพื่อการเฝ้าระวัง การจัดการ หรือผลกําไร โดยเปลี่ยนการรับรู้ส่วนบุคคลให้เป็นทรัพยากรที่เป็นสินค้าโดยไม่ได้รับความยินยอม ความทันสมัย.ข่าวสาร รายงาน: BCI ทํางานโดยใช้อาร์เรย์อิเล็กโทรดขนาดเล็กเพื่อตรวจสอบกิจกรรมในเยื่อหุ้มสมองสั่งการของสมอง, ภูมิภาคที่ควบคุมกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการพูด จนถึงขณะนี้ เทคโนโลยีนี้อาศัยสัญญาณจากบุคคลที่เป็นอัมพาตที่พยายามพูดอย่างแข็งขัน อย่างไรก็ตาม ทีมงานสแตนฟอร์ดค้นพบว่าแม้แต่คําพูดในจินตนาการก็ยังสร้างสัญญาณที่คล้ายกันในเยื่อหุ้มสมองสั่งการ แม้ว่าจะอ่อนแอกว่าก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือของปัญญาประดิษฐ์, พวกเขาแปลสัญญาณจาง ๆ เหล่านั้นเป็นคําที่มีความแม่นยําสูงสุด 74% จากคําศัพท์ 125,000 คํา “เรากําลังบันทึกสัญญาณขณะที่พวกเขากําลังพยายามพูดและแปลสัญญาณประสาทเหล่านั้นเป็นคําที่พวกเขาพยายามจะพูด ” erin Kunz นักวิจัยหลังปริญญาเอกจาก Neural Prosthetics Translational Laboratory ของ Stanford กล่าว แต่การก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีนี้ทําให้เกิดธงแดงในหมู่นักวิจารณ์ที่เตือนถึงอนาคตดิสโทเปียที่ความคิดส่วนตัวของคุณอาจถูกเปิดเผย Nita Farahany ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายและปรัชญาของมหาวิทยาลัย Duke และผู้เขียน การต่อสู้เพื่อสมองของคุณ, ส่งเสียงสัญญาณเตือนภัยบอก เอ็นพีอาร์, “ยิ่งเราผลักดันงานวิจัยนี้ไปข้างหน้า สมองของเราก็จะโปร่งใสมากขึ้นเท่านั้น” ฟาราฮานีแสดงความกังวลว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple, Google และ Meta สามารถใช้ประโยชน์จาก BCI เพื่อเข้าถึงจิตใจของผู้บริโภคโดยไม่ได้รับความยินยอม โดยเรียกร้องให้มีการป้องกัน เช่น รหัสผ่าน เพื่อปกป้องความคิดที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เป็นส่วนตัว “เราต้องตระหนักว่ายุคใหม่ของความโปร่งใสของสมองนี้เป็นขอบเขตใหม่สําหรับเราจริงๆ,” Farahany กล่าว ในขณะที่โลกจับจ้องไปที่ปัญญาประดิษฐ์ผู้หวดที่หนักที่สุดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีบางคนกําลังทุ่มเงินหลายพันล้านให้กับ BCI Elon Musk ชายที่ร่ํารวยที่สุดในโลกได้ระดมทุน 1.2 พันล้านดอลลาร์สําหรับกิจการ Neuralink ของเขาซึ่งขณะนี้กําลังดําเนินการทดลองทางคลินิกร่วมกับสถาบันชั้นนําเช่น Barrow Neurological Institute, The Miami Project to Cure Paralysis และ Cleveland Clinic Abu Dhabi ตอนนี้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอีกคนกําลังเข้าสู่การต่อสู้ Sam Altman ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI กําลังเปิดตัว Merge Labs เพื่อท้าทาย Neuralink ของ Musk Merge Labs ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทร่วมทุนของ OpenAI และมีมูลค่า 850 ล้านดอลลาร์ โดยกําลังมองหาเงินทุน 250 ล้านดอลลาร์ ไฟแนนเชียลไทมส์● แม้ว่าอัลท์แมนจะทําหน้าที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งร่วมกับอเล็กซ์ บลาเนียในโครงการสแกนม่านตาโลก แต่แหล่งข่าวระบุว่าเขาจะไม่รับบทบาทปฏิบัติการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 429 มุมมอง 0 รีวิว

  • ..ประเทศโยนหินถามทางด้วยภาษีปี70 จะใช้บังคับกับประชาชนที่ต้องยื่นแบบภาษีทุกๆคน มีเชื่อมโยงสุขภาพด้วยคือใช้ NIT บังหน้านั้นเอง กลัวประชาชนต่อต้านอย่างหนักเหมือน14ตุลาบ้าคลั่งได้ซึ่งต่างจากเม็กซิโกสิ้นเชิง ,ใจคนไทยเด็ดขาดกว่ามาก เช่นนั้นจะไม่ปรากฎการมีอยู่แบบทหารผีแห่งสยามเรา.,deep stateโลกกำลังบีบชาวโลกในแต่ละประเทศให้ทำตามระเบียบมัน รัฐสอดแนมสอดรู้สอดเห็นทุกๆคนในประเทศมัน,ส่องหมดหรือทั้งหมดต้องถูกมันส่องและส่องตลอดเวลาด้วย,อาจหนักกว่าสไตล์เกาหลีเหนือแคปหน้าจอมือถือประชาชนทุกๆ3-5นาทีโน้น,ไอ้นี้ควอนตัมอาจบันทึกทุกๆกิจกรรมธุรกรรมซึ่งสามารถตรวจสอบเรียลไทม์และตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมดตั้งแต่ต้นก็ยังได้จนถึงปัจจุบัน.,มันจะกำจัดมนุษย์ลงเพื่อให้เหลือน้อยที่สุดนั้นเอง.,ยุคแห่งAIปกครองมนุษย์แทนคนก็ได้,มันจึงพยายามให้ขี้ข้าสมุนลูกน้องมันเอาaiเข้าไปใช้แทนคน ทดแทนคนจริงในบริษัทแล้ว ธนาคารบางเนมจ้างพนักงานออกแล้ว ถีบออกก่อนกำหนด เพื่อเอาAIมาใช้แทนคนจริงจังแล้วนั้นเองในการตอบสนองนายใหญ่deep stateมัน.,ผู้นำจึงสำคัญมากในยุคเปลี่ยนแปลงนี้ เลือกเล่นๆแบบนายกฯคลิปหลุดอีกไม่ได้ สงครามโลก สงครามใช้AIมาควบคุมทดแทนคนจริงอีก.

    ............................................................................

    เม็กซิโกออกคําสั่งให้ Bill Gates’ Biometric Digital ID พร้อมข้อมูล Iris และลายนิ้วมือสําหรับประชากรทั้งหมด

    5 สิงหาคม 2568

    เม็กซิโกได้บังคับใช้บัตรประจําตัวดิจิทัลไบโอเมตริกซ์อย่างเป็นทางการสําหรับพลเมืองทุกคน ซึ่งจะทําให้ระบบที่ Bill Gates และ World Economic Forum (WEF) ผลักดันมายาวนาน สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นข้อเสนอเพิ่มเติมโดยชนชั้นสูงระดับโลกในปัจจุบันคือกฎหมายของรัฐบาลกลาง ขณะนี้ชาวเม็กซิกันทุกคนจําเป็นต้องส่งข้อมูลใบหน้า ลายนิ้วมือ และม่านตาของตนไปยังแพลตฟอร์มข้อมูลประจําตัวดิจิทัลแบบรวมศูนย์ ไม่ว่าพวกเขาจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

    การเปลี่ยนแปลง ลงนามในกฎหมาย ตามพระราชกฤษฎีกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้เปลี่ยน CURP ที่เป็นทางเลือกก่อนหน้านี้ (Clave Única de Registro de Población) ให้เป็นเอกสารไบโอเมตริกซ์ภาคบังคับที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มข้อมูลประจําตัวดิจิทัลแบบรวมศูนย์

    CURP ใหม่จะรวมภาพถ่ายใบหน้า ลายนิ้วมือ และข้อมูลม่านตาที่ฝังอยู่ในรหัส QR และจําเป็นสําหรับการเข้าถึงทุกสิ่งตั้งแต่บริการสาธารณะและการศึกษา ไปจนถึงการธนาคารและการจ้างงาน กฎหมายกําหนดให้มีการบูรณาการทั่วทั้งระบบภาครัฐและเอกชนภายในปี 2569 และการเปิดตัวจะเริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลไบโอเมตริกซ์จํานวนมาก—รวมถึง Children—เริ่มปีนี้

    การยกเครื่องใหม่สะท้อนให้เห็นถึงพิมพ์เขียวของ WEF สําหรับโครงสร้างพื้นฐาน ID ดิจิทัลทั่วโลก เป็นเวลาหลายปีที่ฟอรัมได้ส่งเสริมระบบข้อมูลประจําตัวดิจิทัลให้เป็นเครื่องมือสําคัญ สําหรับผู้ที่มีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในสังคมต่อไป, โต้แย้งพวกเขามีความจําเป็นสําหรับการเข้าถึงบริการทางการเงิน, การดูแลสุขภาพ, การเดินทาง, และสิทธิพลเมือง

    ในเอกสารและแผง WEF รหัสดิจิทัลมักถูกวางกรอบว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาการรวมทางสังคม แต่ผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัวเตือนว่าระบบเหล่านี้ปูทางสําหรับการเฝ้าระวังประชากรและการควบคุมแบบรวมศูนย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

    ประธานาธิบดีคลอเดีย ชีนบัม แห่งเม็กซิโกได้แสดงการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในเวทีระหว่างประเทศก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่หลายคนที่เกี่ยวข้องกับภาคเทคโนโลยีและการกํากับดูแลของเม็กซิโกก็มีความเชื่อมโยงกับโครงการริเริ่มของ WEF Digital Transformation Agency—ตอนนี้ดูแลการดําเนินการยกเครื่อง CURP—ได้นําภาษาและลําดับความสําคัญที่คล้ายกันมาใช้กับโปรแกรมการกํากับดูแลดิจิทัลของ WEF

    บิล เกตส์เป็นผู้เสนอกฎหมายเม็กซิโกคนสําคัญ ผู้ให้ทุนหลักและผู้สนับสนุนระบบอัตลักษณ์ไบโอเมตริกซ์ ในประเทศกําลังพัฒนาผ่านทางมูลนิธิ Bill & Melinda Gates และ Gavi, Vaccine Alliance— ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของ WEF มูลนิธิของเขายังสนับสนุน Modular Open Source Identity Platform (MOSIP) ซึ่งเป็นกรอบการทํางานโอเพ่นซอร์สสําหรับรหัสไบโอเมตริกซ์ที่กําลังถูกนํามาใช้ในบางส่วนของแอฟริกาและเอเชีย


    องค์กรความเป็นส่วนตัวในเม็กซิโกส่งเสียงเตือน กฎหมายใหม่ไม่ได้กําหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูลไบโอเมตริกซ์ของตน และไม่ได้รวมบทลงโทษที่ชัดเจนสําหรับการใช้ในทางที่ผิดหรือการละเมิด กลุ่มสิทธิพลเมืองเตือนว่าระบบอาจถูกนําไปใช้ประโยชน์โดยหน่วยข่าวกรอง เจ้าหน้าที่ทุจริต หรือแม้แต่รัฐบาลต่างประเทศ เนื่องจากกฎหมายอนุญาตให้มีข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น— รวมถึงกับหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา

    ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รัฐบาลจะสร้างแพลตฟอร์ม Unified Identity เพื่อรวมโปรไฟล์ไบโอเมตริกซ์ของ Citizens’ ไว้ในฐานข้อมูลต่างๆ รวมถึง National Registry of Missing and Unlocated Persons และ National Forensic Data Bank

    เจ้าหน้าที่กล่าวว่าระบบจะปรับปรุงความปลอดภัยสาธารณะและช่วยแก้ปัญหาการสูญหาย แต่นักวิจารณ์แย้งว่าโครงสร้างพื้นฐานกําลังถูกจัดเตรียมไว้สําหรับรัฐสอดแนมที่อาจกัดกร่อนเสรีภาพของพลเมืองภายใต้หน้ากากของความทันสมัย

    นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิถีดิจิทัลของเม็กซิโก แม้ว่าเป้าหมายที่ระบุไว้คือประสิทธิภาพการบริหารและความมั่นคงของชาติ แต่ความกังวลที่ลึกซึ้งกว่านั้นก็คือ ประเทศกําลังกลายเป็นประเทศล่าสุดที่ยอมจํานนต่อกลไกการควบคุมดิจิทัลระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีบทบาทข้ามชาติชั้นยอด



    ..ประเทศโยนหินถามทางด้วยภาษีปี70 จะใช้บังคับกับประชาชนที่ต้องยื่นแบบภาษีทุกๆคน มีเชื่อมโยงสุขภาพด้วยคือใช้ NIT บังหน้านั้นเอง กลัวประชาชนต่อต้านอย่างหนักเหมือน14ตุลาบ้าคลั่งได้ซึ่งต่างจากเม็กซิโกสิ้นเชิง ,ใจคนไทยเด็ดขาดกว่ามาก เช่นนั้นจะไม่ปรากฎการมีอยู่แบบทหารผีแห่งสยามเรา.,deep stateโลกกำลังบีบชาวโลกในแต่ละประเทศให้ทำตามระเบียบมัน รัฐสอดแนมสอดรู้สอดเห็นทุกๆคนในประเทศมัน,ส่องหมดหรือทั้งหมดต้องถูกมันส่องและส่องตลอดเวลาด้วย,อาจหนักกว่าสไตล์เกาหลีเหนือแคปหน้าจอมือถือประชาชนทุกๆ3-5นาทีโน้น,ไอ้นี้ควอนตัมอาจบันทึกทุกๆกิจกรรมธุรกรรมซึ่งสามารถตรวจสอบเรียลไทม์และตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมดตั้งแต่ต้นก็ยังได้จนถึงปัจจุบัน.,มันจะกำจัดมนุษย์ลงเพื่อให้เหลือน้อยที่สุดนั้นเอง.,ยุคแห่งAIปกครองมนุษย์แทนคนก็ได้,มันจึงพยายามให้ขี้ข้าสมุนลูกน้องมันเอาaiเข้าไปใช้แทนคน ทดแทนคนจริงในบริษัทแล้ว ธนาคารบางเนมจ้างพนักงานออกแล้ว ถีบออกก่อนกำหนด เพื่อเอาAIมาใช้แทนคนจริงจังแล้วนั้นเองในการตอบสนองนายใหญ่deep stateมัน.,ผู้นำจึงสำคัญมากในยุคเปลี่ยนแปลงนี้ เลือกเล่นๆแบบนายกฯคลิปหลุดอีกไม่ได้ สงครามโลก สงครามใช้AIมาควบคุมทดแทนคนจริงอีก. ............................................................................ เม็กซิโกออกคําสั่งให้ Bill Gates’ Biometric Digital ID พร้อมข้อมูล Iris และลายนิ้วมือสําหรับประชากรทั้งหมด 5 สิงหาคม 2568 เม็กซิโกได้บังคับใช้บัตรประจําตัวดิจิทัลไบโอเมตริกซ์อย่างเป็นทางการสําหรับพลเมืองทุกคน ซึ่งจะทําให้ระบบที่ Bill Gates และ World Economic Forum (WEF) ผลักดันมายาวนาน สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นข้อเสนอเพิ่มเติมโดยชนชั้นสูงระดับโลกในปัจจุบันคือกฎหมายของรัฐบาลกลาง ขณะนี้ชาวเม็กซิกันทุกคนจําเป็นต้องส่งข้อมูลใบหน้า ลายนิ้วมือ และม่านตาของตนไปยังแพลตฟอร์มข้อมูลประจําตัวดิจิทัลแบบรวมศูนย์ ไม่ว่าพวกเขาจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม การเปลี่ยนแปลง ลงนามในกฎหมาย ตามพระราชกฤษฎีกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้เปลี่ยน CURP ที่เป็นทางเลือกก่อนหน้านี้ (Clave Única de Registro de Población) ให้เป็นเอกสารไบโอเมตริกซ์ภาคบังคับที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มข้อมูลประจําตัวดิจิทัลแบบรวมศูนย์ CURP ใหม่จะรวมภาพถ่ายใบหน้า ลายนิ้วมือ และข้อมูลม่านตาที่ฝังอยู่ในรหัส QR และจําเป็นสําหรับการเข้าถึงทุกสิ่งตั้งแต่บริการสาธารณะและการศึกษา ไปจนถึงการธนาคารและการจ้างงาน กฎหมายกําหนดให้มีการบูรณาการทั่วทั้งระบบภาครัฐและเอกชนภายในปี 2569 และการเปิดตัวจะเริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลไบโอเมตริกซ์จํานวนมาก—รวมถึง Children—เริ่มปีนี้ การยกเครื่องใหม่สะท้อนให้เห็นถึงพิมพ์เขียวของ WEF สําหรับโครงสร้างพื้นฐาน ID ดิจิทัลทั่วโลก เป็นเวลาหลายปีที่ฟอรัมได้ส่งเสริมระบบข้อมูลประจําตัวดิจิทัลให้เป็นเครื่องมือสําคัญ สําหรับผู้ที่มีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในสังคมต่อไป, โต้แย้งพวกเขามีความจําเป็นสําหรับการเข้าถึงบริการทางการเงิน, การดูแลสุขภาพ, การเดินทาง, และสิทธิพลเมือง ในเอกสารและแผง WEF รหัสดิจิทัลมักถูกวางกรอบว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาการรวมทางสังคม แต่ผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัวเตือนว่าระบบเหล่านี้ปูทางสําหรับการเฝ้าระวังประชากรและการควบคุมแบบรวมศูนย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ประธานาธิบดีคลอเดีย ชีนบัม แห่งเม็กซิโกได้แสดงการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในเวทีระหว่างประเทศก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่หลายคนที่เกี่ยวข้องกับภาคเทคโนโลยีและการกํากับดูแลของเม็กซิโกก็มีความเชื่อมโยงกับโครงการริเริ่มของ WEF Digital Transformation Agency—ตอนนี้ดูแลการดําเนินการยกเครื่อง CURP—ได้นําภาษาและลําดับความสําคัญที่คล้ายกันมาใช้กับโปรแกรมการกํากับดูแลดิจิทัลของ WEF บิล เกตส์เป็นผู้เสนอกฎหมายเม็กซิโกคนสําคัญ ผู้ให้ทุนหลักและผู้สนับสนุนระบบอัตลักษณ์ไบโอเมตริกซ์ ในประเทศกําลังพัฒนาผ่านทางมูลนิธิ Bill & Melinda Gates และ Gavi, Vaccine Alliance— ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของ WEF มูลนิธิของเขายังสนับสนุน Modular Open Source Identity Platform (MOSIP) ซึ่งเป็นกรอบการทํางานโอเพ่นซอร์สสําหรับรหัสไบโอเมตริกซ์ที่กําลังถูกนํามาใช้ในบางส่วนของแอฟริกาและเอเชีย องค์กรความเป็นส่วนตัวในเม็กซิโกส่งเสียงเตือน กฎหมายใหม่ไม่ได้กําหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูลไบโอเมตริกซ์ของตน และไม่ได้รวมบทลงโทษที่ชัดเจนสําหรับการใช้ในทางที่ผิดหรือการละเมิด กลุ่มสิทธิพลเมืองเตือนว่าระบบอาจถูกนําไปใช้ประโยชน์โดยหน่วยข่าวกรอง เจ้าหน้าที่ทุจริต หรือแม้แต่รัฐบาลต่างประเทศ เนื่องจากกฎหมายอนุญาตให้มีข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น— รวมถึงกับหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รัฐบาลจะสร้างแพลตฟอร์ม Unified Identity เพื่อรวมโปรไฟล์ไบโอเมตริกซ์ของ Citizens’ ไว้ในฐานข้อมูลต่างๆ รวมถึง National Registry of Missing and Unlocated Persons และ National Forensic Data Bank เจ้าหน้าที่กล่าวว่าระบบจะปรับปรุงความปลอดภัยสาธารณะและช่วยแก้ปัญหาการสูญหาย แต่นักวิจารณ์แย้งว่าโครงสร้างพื้นฐานกําลังถูกจัดเตรียมไว้สําหรับรัฐสอดแนมที่อาจกัดกร่อนเสรีภาพของพลเมืองภายใต้หน้ากากของความทันสมัย นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิถีดิจิทัลของเม็กซิโก แม้ว่าเป้าหมายที่ระบุไว้คือประสิทธิภาพการบริหารและความมั่นคงของชาติ แต่ความกังวลที่ลึกซึ้งกว่านั้นก็คือ ประเทศกําลังกลายเป็นประเทศล่าสุดที่ยอมจํานนต่อกลไกการควบคุมดิจิทัลระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีบทบาทข้ามชาติชั้นยอด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 623 มุมมอง 0 รีวิว
  • รางรถไฟ ECRL มาเลเซีย กับรถไฟไทยไม่เท่ากัน

    ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย (Dewan Rakyat) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ตอบคำถามนายอะห์หมัด ฟาดลี ชะอารี สส.อำเภอปาเซร์มัส รัฐกลันตัน ที่ถามถึงความตั้งใจของรัฐบาลกลางมาเลเซียในการขยายเส้นทางโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) พร้อมถามถึงการศึกษาทางเทคนิค และการประเมินความเสี่ยงต่อน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ นายโลคกล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางไปยังเมืองรันเตาปันยังก่อน

    แม้โครงการ ECRL อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ข้อเสนอขยายเส้นทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) ไปยังเมืองรันเตาปันยัง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งต้องเจรจาเพิ่มเติมกับจีน รวมทั้งผู้รับเหมาหลักอย่างบริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน หรือ CCCC ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่รับไว้จะนำเสนอต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีต้นทุนก่อสร้างที่สูง เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่พื้นที่เมืองรันเตาปันยัง หากโครงการ ECRL จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย กระทรวงคมนาคมมาเลเซียแจ้งว่า พบปัญหาทางเทคนิค

    เพราะรางรถไฟที่ใช้ในโครงการ ECRL (ขนาด 1.435 เมตร) ต่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. (ขนาด 1 เมตร) จึงยังไม่เข้ากัน จำเป็นต้องมีพื้นที่ลานขนถ่ายสินค้า และเพื่อให้บูรณาการร่วมกัน รางรถไฟของ ร.ฟ.ท. ต้องติดกับรางรถไฟ ECRL เพื่อให้สามารถขนถ่ายสินค้าได้ ขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอที่จะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวที่ดีที่สุดแก่มาเลเซีย และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนนั้น โครงการ ECRL จะต้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย แทนที่จะสิ้นสุดที่เมืองรันเตาปันจังเท่านั้น

    โครงการ ECRL เชื่อมระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ผ่านเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง ซึ่งมีท่าเรือตั้งอยู่ กับท่าเรือแคลง (Port Klang) รัฐสลังงอร์ ระยะทาง 665 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางยกระดับยาว 154 กิโลเมตร อุโมงค์ 41 แห่ง และทางข้ามสัตว์ป่า 28 แห่ง มีแผนเปิดให้บริการระยะที่ 1 ระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ถึงสถานีกอมบัค (Gombak) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2569 เริ่มให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ส่วนระยะที่ 2 ไปยังท่าเรือแคลง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2570 และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค.2571

    #Newskit
    รางรถไฟ ECRL มาเลเซีย กับรถไฟไทยไม่เท่ากัน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย (Dewan Rakyat) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ตอบคำถามนายอะห์หมัด ฟาดลี ชะอารี สส.อำเภอปาเซร์มัส รัฐกลันตัน ที่ถามถึงความตั้งใจของรัฐบาลกลางมาเลเซียในการขยายเส้นทางโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) พร้อมถามถึงการศึกษาทางเทคนิค และการประเมินความเสี่ยงต่อน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ นายโลคกล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางไปยังเมืองรันเตาปันยังก่อน แม้โครงการ ECRL อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ข้อเสนอขยายเส้นทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) ไปยังเมืองรันเตาปันยัง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งต้องเจรจาเพิ่มเติมกับจีน รวมทั้งผู้รับเหมาหลักอย่างบริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน หรือ CCCC ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่รับไว้จะนำเสนอต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีต้นทุนก่อสร้างที่สูง เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่พื้นที่เมืองรันเตาปันยัง หากโครงการ ECRL จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย กระทรวงคมนาคมมาเลเซียแจ้งว่า พบปัญหาทางเทคนิค เพราะรางรถไฟที่ใช้ในโครงการ ECRL (ขนาด 1.435 เมตร) ต่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. (ขนาด 1 เมตร) จึงยังไม่เข้ากัน จำเป็นต้องมีพื้นที่ลานขนถ่ายสินค้า และเพื่อให้บูรณาการร่วมกัน รางรถไฟของ ร.ฟ.ท. ต้องติดกับรางรถไฟ ECRL เพื่อให้สามารถขนถ่ายสินค้าได้ ขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอที่จะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวที่ดีที่สุดแก่มาเลเซีย และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนนั้น โครงการ ECRL จะต้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย แทนที่จะสิ้นสุดที่เมืองรันเตาปันจังเท่านั้น โครงการ ECRL เชื่อมระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ผ่านเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง ซึ่งมีท่าเรือตั้งอยู่ กับท่าเรือแคลง (Port Klang) รัฐสลังงอร์ ระยะทาง 665 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางยกระดับยาว 154 กิโลเมตร อุโมงค์ 41 แห่ง และทางข้ามสัตว์ป่า 28 แห่ง มีแผนเปิดให้บริการระยะที่ 1 ระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ถึงสถานีกอมบัค (Gombak) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2569 เริ่มให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ส่วนระยะที่ 2 ไปยังท่าเรือแคลง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2570 และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค.2571 #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 485 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ ขบวนนี้คงไม่ขายฝัน?

    การประชุมร่วมระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (SRT) และการรถไฟมาลายา (KTMB) ประเทศมาเลเซีย ครั้งที่ 43 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค. ที่ จ.นนทบุรี ภายใต้แนวคิด Railnaissance หรือ การฟื้นคืนพลังของระบบราง สาระสำคัญอยู่ที่การยกระดับความร่วมมือระบบรางระหว่างสองประเทศ ได้แก่ การฟื้นฟูเดินรถข้ามแดน กรุงเทพอภิวัฒน์-บัตเตอร์เวอร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง การพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ การบูรณาการระบบตั๋วโดยสาร การตรวจสอบและรับรองรถโดยสารข้ามแดน การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟร่วมกัน และการจัดทำ Joint SOP ในภาวะฉุกเฉิน

    การฟื้นฟูเดินรถข้ามแดน กรุงเทพ-บัตเตอร์เวอร์ธ เคยเป็นที่พูดถึงในการประชุม SRT-KTMB ครั้งที่ 42 ที่รัฐซาบาห์ เมื่อปี 2567 แต่ไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก แม้นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เคยกล่าวว่าจะเดินรถในเดือน ก.ค.นี้ก็ตาม โดยก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือน ก.ค.การรถไฟฯ และ KTMB จัดการเดินรถขบวนพิเศษทดสอบ กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ ไปแล้ว โดยใช้รถโดยสารปรับอากาศของ KTMB จำนวน 2 คัน รถ Power Car ของ KTMB จำนวน 1 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 ของ รฟท. จำนวน 3 คัน รถนั่งชั้น 3 (บชส.) จำนวน 1 คัน และรถ SRT Prestige จำนวน 2 คัน

    อุปสรรคสำคัญในการให้บริการก็คือ การรถไฟฯ ไม่มีขบวนรถโดยสารที่ทันสมัยเพียงพอ และอาจไม่ได้ใช้รถโดยสาร ชุด 115 คัน (CNR) ที่ทันสมัยที่สุด แม้จะเก่ามา 9 ปีนับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2559 เพราะนำไปใช้เดินรถในเส้นทางเชียงใหม่ หนองคาย อุบลราชธานี และชุมทางหาดใหญ่หมดแล้ว เหลือสำรองเพียงไม่กี่คัน จึงเป็นไปได้ว่าอาจใช้รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 รุ่นเก่าของการรถไฟฯ ร่วมกับรถโดยสารปรับอากาศของ KTMB โดยช่วงที่เดินรถในประเทศไทยใช้หัวรถจักรของการรถไฟฯ และช่วงที่เดินรถในประเทศมาเลเซียใช้หัวรถจักรของ KTMB

    การรถไฟฯ เคยเดินรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศ กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ มาตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2465 จากสถานีบางกอกน้อย ทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันเสาร์ ก่อนย้ายมาที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2470 แต่หยุดเดินรถชั่วคราวช่วงที่สะพานพระราม 6 ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วจึงกลับมาเดินรถอีกครั้ง โดยเดินรถแบบวันเว้นวัน ก่อนเปิดให้บริการทุกวัน วันละ 1 เที่ยว กระทั่งประเทศมาเลเซียได้ปรับปรุงทางรถไฟ และให้บริการรถไฟ ETS และ KTM Komuter ทำให้การรถไฟฯ ยกเลิกเดินรถถึงสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2559 เป็นต้นมา โดยหมดระยะที่สถานีปาดังเบซาร์

    #Newskit
    กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ ขบวนนี้คงไม่ขายฝัน? การประชุมร่วมระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (SRT) และการรถไฟมาลายา (KTMB) ประเทศมาเลเซีย ครั้งที่ 43 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค. ที่ จ.นนทบุรี ภายใต้แนวคิด Railnaissance หรือ การฟื้นคืนพลังของระบบราง สาระสำคัญอยู่ที่การยกระดับความร่วมมือระบบรางระหว่างสองประเทศ ได้แก่ การฟื้นฟูเดินรถข้ามแดน กรุงเทพอภิวัฒน์-บัตเตอร์เวอร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง การพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ การบูรณาการระบบตั๋วโดยสาร การตรวจสอบและรับรองรถโดยสารข้ามแดน การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟร่วมกัน และการจัดทำ Joint SOP ในภาวะฉุกเฉิน การฟื้นฟูเดินรถข้ามแดน กรุงเทพ-บัตเตอร์เวอร์ธ เคยเป็นที่พูดถึงในการประชุม SRT-KTMB ครั้งที่ 42 ที่รัฐซาบาห์ เมื่อปี 2567 แต่ไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก แม้นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เคยกล่าวว่าจะเดินรถในเดือน ก.ค.นี้ก็ตาม โดยก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือน ก.ค.การรถไฟฯ และ KTMB จัดการเดินรถขบวนพิเศษทดสอบ กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ ไปแล้ว โดยใช้รถโดยสารปรับอากาศของ KTMB จำนวน 2 คัน รถ Power Car ของ KTMB จำนวน 1 คัน รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 ของ รฟท. จำนวน 3 คัน รถนั่งชั้น 3 (บชส.) จำนวน 1 คัน และรถ SRT Prestige จำนวน 2 คัน อุปสรรคสำคัญในการให้บริการก็คือ การรถไฟฯ ไม่มีขบวนรถโดยสารที่ทันสมัยเพียงพอ และอาจไม่ได้ใช้รถโดยสาร ชุด 115 คัน (CNR) ที่ทันสมัยที่สุด แม้จะเก่ามา 9 ปีนับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2559 เพราะนำไปใช้เดินรถในเส้นทางเชียงใหม่ หนองคาย อุบลราชธานี และชุมทางหาดใหญ่หมดแล้ว เหลือสำรองเพียงไม่กี่คัน จึงเป็นไปได้ว่าอาจใช้รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 รุ่นเก่าของการรถไฟฯ ร่วมกับรถโดยสารปรับอากาศของ KTMB โดยช่วงที่เดินรถในประเทศไทยใช้หัวรถจักรของการรถไฟฯ และช่วงที่เดินรถในประเทศมาเลเซียใช้หัวรถจักรของ KTMB การรถไฟฯ เคยเดินรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศ กรุงเทพฯ-บัตเตอร์เวอร์ธ มาตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2465 จากสถานีบางกอกน้อย ทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันเสาร์ ก่อนย้ายมาที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2470 แต่หยุดเดินรถชั่วคราวช่วงที่สะพานพระราม 6 ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วจึงกลับมาเดินรถอีกครั้ง โดยเดินรถแบบวันเว้นวัน ก่อนเปิดให้บริการทุกวัน วันละ 1 เที่ยว กระทั่งประเทศมาเลเซียได้ปรับปรุงทางรถไฟ และให้บริการรถไฟ ETS และ KTM Komuter ทำให้การรถไฟฯ ยกเลิกเดินรถถึงสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2559 เป็นต้นมา โดยหมดระยะที่สถานีปาดังเบซาร์ #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 659 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เขมรเปิดก่อน2.
    #ยกเลิกmou43และ44หากรัฐบาลชุดนี้ยังกอดไว้คือกบฎแผ่นดินที่เจตนาให้ไทยสูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน.
    #เขมรวางกับระเบิดเปิดสงครามก่อน.
    #ทหารไทยขาขาดแล้วขาอีกทำไม!!!
    #ใครสั่งห้ามต้องลงพื้นที่ลาดตะเวนทันที.

    #กฎอัยการศึกทั่วประเทศทันที

    ..ตอนนี้มาเลย์นำโดยciaอเมริกาปั่นภาคใต้ไทยสุมหัวกับเขมรจะตียึดอีสานใต้ไทยและยึดภาคใต้ไทยด้วยแล้ว,ไทยเราต้องแจกกฐินสามัคคีจริงจังแล้วด้วย ตัดตอนมิให้อเมริกาหรือจีนมามุกให้อาเชียนเราเป็นสมรภูมิรบสงครามโลกที่3เด็ดขาด ชาติอาเชียนต้องตั้งตนเป็นอิสระได้แล้ว ห้ามอเมริกาหรือต่างชาติใดๆคุกคามอาเชียน มาเลย์สิงตโปร์หากทรยศอาเชียนต้องกำจัดออกจากอาเชียนขับออกทันที,ถือว่าเป็นภัยต่ออาเชียนนำเข้าอเมริกามาตั้งทัพในภูมิภาคอาเชียนและฟิลิปปินส์ก็ด้วย,สร้างความไม่สงบในอาเชียนชัดเจน,อาเชียนต้องบูรณาการใหม่จริงๆ,นี้มิใช่ศึกแค่ไทยกับเขมรอีกต่อไป แต่คือศึกของชาติทรยศอาเชียนนำเข้าอเมริกามาทำสงครามใหญ่ในภูมิภาคตนสร้างความเสียหายครั้งใหญ่แก่ประชาชนคนอาเชียนในภูมิภาคนี้แน่นอน,ทั้งละโมบอยากยึดไทยเป็นที่ตั้งฐานทัพของพวกฝรั่งตะวันตกด้วยโดยชาติทรยศที่เปิดเผยชัดเจนคือเขมรต้องการยึดดินแดนอีสานใต้ของไทยเป็นฐานทัพฝรั่งต้องการทหารฝรั่งต่างๆจะพันธมิตรอเมริกาหรือทหารอเมริกามาอยู่อาศัยตั้งฐานรบในไทยชัดเจน,บวกมาเลย์ก็หมายยึดภาคใต้ไทยตีไทยพร้อมกับเขมรโจมตีไทย,เพื่อให้ฝรั่งและพันธมิตรฝรั่งต่างๆแบบอเมริกามาตั้งฐานทัพในไทยอีกแห่งได้ด้วยเช่นกันอาจคือพังงาที่ตั้งธงไว้ กั้นขนส่งน้ำมันเข้าออกไปจีนเด็ดขาดด้วยนั้นเอง.,และเป็นฐานฮับการค้าระดับโลกในอนาคตด้วย กินทั้งทางสงครามฆ่าเจ้าหนี้แบบจีน กินไทยทั้งเม็ดเงินมหาศาลในพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจการเงินการค้าการตลาดสำคัญระดับโลกด้วย,ยึดพื้นที่ครอบครองพื้นที่ปล้นชิงแย่งชิงพื้นที่ทำเงินของไทยอย่างหน้ามึนหน้าด้านหน้าหนาไม่มีความละอายใจใดๆได้นั้นเองแบบปล้นบ่อน้ำมันของไทยทั้งประเทศไปแล้ว.
    ..ทหารไทยต้องประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศจริงๆจังหวะหมดสมขึ้นอยู่กับท่านแล้ว,จะตัดกำลังตัดจังหวะตัดตอนเตะตัดขาเสียจังหวะพวกมันในแผนการต่างๆที่วางไว้ไม่น้อยเลย,แม้มันเตรียมแผนรับมือไว้ก็จริงแต่ในทางหน้างานมีอักเสบแน่นอน,แค่ทำพร้อมกับอายัดกระแสเงินสดไหลเข้าไหลออกจากประเทศทันทีคือเงินใดๆโอนเข้าโอนออกอายัดไว้ทั้งหมดก่อนทันที เจ้าของตัวจริงสามารถเข้าไปติดต่อชี้แจ้งขอดำเนินการปลดอายัดได้ แต่ต้องผ่านการตรวจสอบทุกๆประการตามมาตราความมั่นคงปลอดภัยทั้งหมดก่อนจึงสามารถปลดปล่อยการอายัดได้,ทุกๆบาททุกสตางค์โดนหมด,ทุนต่างชาติใดๆจะใช้ตังเคลื่อนไหวมีลำบากแน่เพราะทุกๆอย่างมันใช้เงินนั้นเอง.โจรเองขนาดตังไม่มางานก็ไม่เดินนั้นเอง.และสาระพัดยุทธวิธีเชือดพวกกบฎทรยศต่ออธิปไตยไทยได้,นี้คือสงครามเต็มรูปแบบ สงครามตังคือที่พูดๆกันคือสงครามเศรษฐกิจ สงครามเชื้อโรคแบบวัคซีนโควิด สงครามตัวแทนแบบเขมรตบมือข้างเดียวอยู่นี้ที่ทหารไทยไม่เป็นตัวแทนใครเหมือนเขมร,และไม่หลงกลรัฐบาลที่นายกฯถูกพักงานจากข้อหาร้ายแรงที่สุดที่มองว่าทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามตน ตนซึ่งสมรู้ร่วมคิดเข้าด้วยกับเขมรเป็นพวกเขมรฮุนเซนอังเคิลตนชัดเจนว่าเข้าด้วยกับศัตรูเป็นฝ่ายเดียวกันกับศัตรูภัยรุกรานคุกคามประเทศไทยตนจึงสรุปว่าเป็นกบฎชัดเจนต่อราชอาณาจักรตนทั้งคณะทีมชุดรัฐบาลยังไม่ยินยอมแก้ไขต้นเหตุของปัญหาคือไม่ยอมยกเลิกmou43และ44นั้นย่อมแสดงชัดเจนเป็นประจักษ์ชัด มีเจตนาทำให้ประเทศเสียดินแดนและอธิปไตยไทยต่อเขมรภัยความมั่นคงอธิปไตยชาติตนเองที่ละเมิดข้อตกลงกว่า600ครั้งที่บันทึกไว้เป็นทางการและไม่เป็นทางการกว่า1,000ครั้งมีประชาชนคนบริสุทธิ์เสียชีวิตชัดเจนตลอดทหารไทยที่สูญเสียชีวิตเช่นกันทั้งพิการและบาดเจ็บมีจำนวนสะสมไม่น้อยในการยึด1:200,000ที่ทั้งความจริงมีการปักปันแดนดินในอดีตอยู่แล้ว เช่นสันปันน้ำ อัตรา1:50,000ที่สากลใช้กับลาวกับเวียดนาม ,จึงชี้ชัดเจนว่ารัฐบาลปัจจุบันมีเจตนานั้นพร้อมพยานหลักฐานชัดเจน พรรคหลักและพรรคร่วมรวมคือรัฐบาลทั้งชุดคณะเป็นกบฎต่ออธิปไตยดินแดนไทยตนชัดเจน.,และพิสูจน์ชัดเจนว่ามีผู้กระทำผิดในอดีตด้วย.,จากบิ๊กกุ้งยึดดินแดนจากเขมรพื้นที่จากเขมรสำเร็จตลอดพรมแดนภายใต้อำนาจปฏิบัติหน้าที่ดูแลที่เป็นหลักจุดๆคือ11จุด ,ผู้กระทำการละเว้นในหน้าที่ในอดีตต้องถูกลงโทษร่วมด้วยทุกๆคน.
    ..
    ..กฎอัยการศึกไทยใครจะมีแทรกแซงในราชอาณาจักรเราไม่ได้,เราสามารถเชิญฑูตต่างชาติที่เห็นต่างออกนอกประเทศได้ทันที,ฑูตลักษณะนี้เสียการแทรกแซงแทรกซึมไม่สามารถสร้างความไม่สงบ ไม่สามารถเป็นมือที่สาม ไม่สามารถก่อจราจรทางลับ ไม่สามารถก่อความวุ่นวายหลักฉาก ไม่สามารถก่อโกลาหลหรือก่ออาชญากรรมทางการปกครองในประเทศนั้นๆได้นั่นเองจึงโว้ยวายตอแหลดัดจริตแกล้งรับไม่ได้ ตนเสียประโยชน์ทำลายประเทศนั้นเอง จึงสามารถคิดการณ์เป็นอื่นไม่ได้ เสี่ยงคือภัยความมั่นคงภายในเราต้องเชิญออกนอกประเทศไทยทันทีเช่นกัน.



    https://youtube.com/watch?v=Q-Ep7cOkQPw&si=OgQTm2Y43ZFo4cok
    #เขมรเปิดก่อน2. #ยกเลิกmou43และ44หากรัฐบาลชุดนี้ยังกอดไว้คือกบฎแผ่นดินที่เจตนาให้ไทยสูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน. #เขมรวางกับระเบิดเปิดสงครามก่อน. #ทหารไทยขาขาดแล้วขาอีกทำไม!!! #ใครสั่งห้ามต้องลงพื้นที่ลาดตะเวนทันที. #กฎอัยการศึกทั่วประเทศทันที ..ตอนนี้มาเลย์นำโดยciaอเมริกาปั่นภาคใต้ไทยสุมหัวกับเขมรจะตียึดอีสานใต้ไทยและยึดภาคใต้ไทยด้วยแล้ว,ไทยเราต้องแจกกฐินสามัคคีจริงจังแล้วด้วย ตัดตอนมิให้อเมริกาหรือจีนมามุกให้อาเชียนเราเป็นสมรภูมิรบสงครามโลกที่3เด็ดขาด ชาติอาเชียนต้องตั้งตนเป็นอิสระได้แล้ว ห้ามอเมริกาหรือต่างชาติใดๆคุกคามอาเชียน มาเลย์สิงตโปร์หากทรยศอาเชียนต้องกำจัดออกจากอาเชียนขับออกทันที,ถือว่าเป็นภัยต่ออาเชียนนำเข้าอเมริกามาตั้งทัพในภูมิภาคอาเชียนและฟิลิปปินส์ก็ด้วย,สร้างความไม่สงบในอาเชียนชัดเจน,อาเชียนต้องบูรณาการใหม่จริงๆ,นี้มิใช่ศึกแค่ไทยกับเขมรอีกต่อไป แต่คือศึกของชาติทรยศอาเชียนนำเข้าอเมริกามาทำสงครามใหญ่ในภูมิภาคตนสร้างความเสียหายครั้งใหญ่แก่ประชาชนคนอาเชียนในภูมิภาคนี้แน่นอน,ทั้งละโมบอยากยึดไทยเป็นที่ตั้งฐานทัพของพวกฝรั่งตะวันตกด้วยโดยชาติทรยศที่เปิดเผยชัดเจนคือเขมรต้องการยึดดินแดนอีสานใต้ของไทยเป็นฐานทัพฝรั่งต้องการทหารฝรั่งต่างๆจะพันธมิตรอเมริกาหรือทหารอเมริกามาอยู่อาศัยตั้งฐานรบในไทยชัดเจน,บวกมาเลย์ก็หมายยึดภาคใต้ไทยตีไทยพร้อมกับเขมรโจมตีไทย,เพื่อให้ฝรั่งและพันธมิตรฝรั่งต่างๆแบบอเมริกามาตั้งฐานทัพในไทยอีกแห่งได้ด้วยเช่นกันอาจคือพังงาที่ตั้งธงไว้ กั้นขนส่งน้ำมันเข้าออกไปจีนเด็ดขาดด้วยนั้นเอง.,และเป็นฐานฮับการค้าระดับโลกในอนาคตด้วย กินทั้งทางสงครามฆ่าเจ้าหนี้แบบจีน กินไทยทั้งเม็ดเงินมหาศาลในพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจการเงินการค้าการตลาดสำคัญระดับโลกด้วย,ยึดพื้นที่ครอบครองพื้นที่ปล้นชิงแย่งชิงพื้นที่ทำเงินของไทยอย่างหน้ามึนหน้าด้านหน้าหนาไม่มีความละอายใจใดๆได้นั้นเองแบบปล้นบ่อน้ำมันของไทยทั้งประเทศไปแล้ว. ..ทหารไทยต้องประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศจริงๆจังหวะหมดสมขึ้นอยู่กับท่านแล้ว,จะตัดกำลังตัดจังหวะตัดตอนเตะตัดขาเสียจังหวะพวกมันในแผนการต่างๆที่วางไว้ไม่น้อยเลย,แม้มันเตรียมแผนรับมือไว้ก็จริงแต่ในทางหน้างานมีอักเสบแน่นอน,แค่ทำพร้อมกับอายัดกระแสเงินสดไหลเข้าไหลออกจากประเทศทันทีคือเงินใดๆโอนเข้าโอนออกอายัดไว้ทั้งหมดก่อนทันที เจ้าของตัวจริงสามารถเข้าไปติดต่อชี้แจ้งขอดำเนินการปลดอายัดได้ แต่ต้องผ่านการตรวจสอบทุกๆประการตามมาตราความมั่นคงปลอดภัยทั้งหมดก่อนจึงสามารถปลดปล่อยการอายัดได้,ทุกๆบาททุกสตางค์โดนหมด,ทุนต่างชาติใดๆจะใช้ตังเคลื่อนไหวมีลำบากแน่เพราะทุกๆอย่างมันใช้เงินนั้นเอง.โจรเองขนาดตังไม่มางานก็ไม่เดินนั้นเอง.และสาระพัดยุทธวิธีเชือดพวกกบฎทรยศต่ออธิปไตยไทยได้,นี้คือสงครามเต็มรูปแบบ สงครามตังคือที่พูดๆกันคือสงครามเศรษฐกิจ สงครามเชื้อโรคแบบวัคซีนโควิด สงครามตัวแทนแบบเขมรตบมือข้างเดียวอยู่นี้ที่ทหารไทยไม่เป็นตัวแทนใครเหมือนเขมร,และไม่หลงกลรัฐบาลที่นายกฯถูกพักงานจากข้อหาร้ายแรงที่สุดที่มองว่าทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามตน ตนซึ่งสมรู้ร่วมคิดเข้าด้วยกับเขมรเป็นพวกเขมรฮุนเซนอังเคิลตนชัดเจนว่าเข้าด้วยกับศัตรูเป็นฝ่ายเดียวกันกับศัตรูภัยรุกรานคุกคามประเทศไทยตนจึงสรุปว่าเป็นกบฎชัดเจนต่อราชอาณาจักรตนทั้งคณะทีมชุดรัฐบาลยังไม่ยินยอมแก้ไขต้นเหตุของปัญหาคือไม่ยอมยกเลิกmou43และ44นั้นย่อมแสดงชัดเจนเป็นประจักษ์ชัด มีเจตนาทำให้ประเทศเสียดินแดนและอธิปไตยไทยต่อเขมรภัยความมั่นคงอธิปไตยชาติตนเองที่ละเมิดข้อตกลงกว่า600ครั้งที่บันทึกไว้เป็นทางการและไม่เป็นทางการกว่า1,000ครั้งมีประชาชนคนบริสุทธิ์เสียชีวิตชัดเจนตลอดทหารไทยที่สูญเสียชีวิตเช่นกันทั้งพิการและบาดเจ็บมีจำนวนสะสมไม่น้อยในการยึด1:200,000ที่ทั้งความจริงมีการปักปันแดนดินในอดีตอยู่แล้ว เช่นสันปันน้ำ อัตรา1:50,000ที่สากลใช้กับลาวกับเวียดนาม ,จึงชี้ชัดเจนว่ารัฐบาลปัจจุบันมีเจตนานั้นพร้อมพยานหลักฐานชัดเจน พรรคหลักและพรรคร่วมรวมคือรัฐบาลทั้งชุดคณะเป็นกบฎต่ออธิปไตยดินแดนไทยตนชัดเจน.,และพิสูจน์ชัดเจนว่ามีผู้กระทำผิดในอดีตด้วย.,จากบิ๊กกุ้งยึดดินแดนจากเขมรพื้นที่จากเขมรสำเร็จตลอดพรมแดนภายใต้อำนาจปฏิบัติหน้าที่ดูแลที่เป็นหลักจุดๆคือ11จุด ,ผู้กระทำการละเว้นในหน้าที่ในอดีตต้องถูกลงโทษร่วมด้วยทุกๆคน. .. ..กฎอัยการศึกไทยใครจะมีแทรกแซงในราชอาณาจักรเราไม่ได้,เราสามารถเชิญฑูตต่างชาติที่เห็นต่างออกนอกประเทศได้ทันที,ฑูตลักษณะนี้เสียการแทรกแซงแทรกซึมไม่สามารถสร้างความไม่สงบ ไม่สามารถเป็นมือที่สาม ไม่สามารถก่อจราจรทางลับ ไม่สามารถก่อความวุ่นวายหลักฉาก ไม่สามารถก่อโกลาหลหรือก่ออาชญากรรมทางการปกครองในประเทศนั้นๆได้นั่นเองจึงโว้ยวายตอแหลดัดจริตแกล้งรับไม่ได้ ตนเสียประโยชน์ทำลายประเทศนั้นเอง จึงสามารถคิดการณ์เป็นอื่นไม่ได้ เสี่ยงคือภัยความมั่นคงภายในเราต้องเชิญออกนอกประเทศไทยทันทีเช่นกัน. https://youtube.com/watch?v=Q-Ep7cOkQPw&si=OgQTm2Y43ZFo4cok
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 659 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts