• 25-11-67/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP3 ตื่นได้แย้ว..มาสายเรียก "กาก๊า"จับตาครูบาอาจารย์ให้ดีดี ช่วงหลัง ลุงสนธิ LIVE ถี่ขึ้น ถี่ยิบทุกวัน ไม่ใช่แค่เรื่องขี้หมาอย่างทนายเหี้ยชะตาขาดอย่างเดียว แต่หากดูทรง และรู้จักลุงสนธิดีดี นี่มันคือการส่งสัญญานความพร้อม เพราะ "ใกล้ถึงวัน D-DAY" แล้วนั่นเอง ขุนศึกจะไม่รบ หากไม่เตรียมความพร้อมให้ดีก่อน ที่มา LIVE ถี่รายวัน แต่ก่อน สัปดาห์ละครั้ง เดี๋ยวนี้ วันละ 1-2 ครั้ง หลังจับยาม 3 ตาดูแล้ว เบื้องหลังที่ต้องมี "สงครามครั้งสุดท้าย" ยกมากันทั้งแผ่นดิน ชาวอโยธยา+ทหารกล้า+แม่ทัพ งวดนี้ เราไม่ได้เจอหม่องแบบในอดีตหลายร้อยปี แต่เรากำลังจะสู้กับนักล่าอาณานิคมโลกขาลง ตอนชะตาใกล้จะขาด อโยธยาไม่ได้มามือเปล่า พ่วงลูกหลานราสปูตินกับจิ๋นซี ฮ่องเต้มาด้วย พ่วงลูกหลานซาลาดิน เข้าไปอีก งานนี้ ต้องเรียกระดับ "จักรวาลมาเวล" ของจริง ไม่ต้องมีอีแอบ ไม่ปิดไม่บังหน้ากันอีกแล้ว ยิวเหี้ยไซออนนิสต์กำลังจะตายคาตรีนชาวโลก ดิ้นเฮือกสุดท้าย ไม่มรึงก็กู ต้องตายกันไปข้าง? ส่วนตัวมองว่า "ออกยังไงก็ชนะชัวร์" อะไรที่เค้าไม่พร้อม จะไม่จัดฉากแสดงพลัง ฉลองชัยชนะในบั้นปลาย เพื่อการรวมชาติเป็นหนึ่งเดียว สลัดไอ้อีควายไร้ปัญญาทั้งหลายออกให้หมด จับควายแหกตาดูอาจมที่มรึงแดร๊กมานานนับศตวรรษ ถึงเวลาล้างป่าช้ากันแล้ว! HAITER สูตรทลายคราบเหี้ยฝังใน งานนี้ ควายดิ้น เหี้ยดิ้นพล่าน ทั่วอโยธยาแน่ "รองเท้าผ้าใบ กับใจถึงๆ" ไปปัดฝุ่นยัง?หนังคนละม้วน! ทันที ที่ปูตินรู้ล่วงหน้าว่าอีทรัมปป์มาชัวร์? สั่งยกระดับการบุกแบบสายฟ้าผ่าทุกพื้นที่ ขับไล่กองกำลังอียูเครน ถอยจนหลังผิงฝา รอตายอย่างเดียว แค่ 2 สัปดาห์ หลังอีทรัมปป์ชนะเลือกตั้ง ยูเครนเสียพื้นที่ดูแลในการปกครองไปถึง 12 เมือง และจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เส้นทางลำเลียง เส้นทางเชื่อมไคร์เมียร์ ถูกเก็บกวาดเรียบวุธ แปลว่าอะไร? ปูตินมองขาด อีทรัมปป์มาเพื่อจะหยุดสงคราม ตามที่ประกาศหาเสียง ใครจะไปรู้ว่า อีทรัมปป์อาจคุยหลังไมค์กับปูตินไว้ล่วงหน้าแล้ว มรึงบุกสุดตรีนไปเลย กูสาบานตนเสร็จ ประกาศถอนกำลังทันที เอาเท่าที่มรึงยึดได้ไป จบน่ะ? เมื่อเหี้ยมะกันไม่หนุนยูเครนต่อ ไอ้อีขี้ข้าหน้าไหนจะยอมจ่ายค่าโง่ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำต่ออีกล่ะ? ทุกชาติสมาชิก NATO ต่างรู้ดี แผนแบ่งเค็กหั่นยูเครนมันจบแล้ว สุดท้ายรัสเซียรวบแดร๊กหมดเกลี้ยง ยุโรปยังต้องพึ่งพาพลังงานรัสเซีย จะมีใครโง่เอาชาติไปแลก สิ้นชาติ สูญพันธุ์ เพื่อไอ้กระจอกนีโอนาซีกันล่ะ? ดอกนี้ ภาพชัด อียิวตกกระป๋องแล้วนั่นเอง!ถุยส์! นึกว่าจะแน่ ดีออก? ทั้งอีสายบัว อีเด สายเหลือง เผ่นหางจุกตูดกันหมด ไม่ได้กลัวแพ้คดีดอกน่ะ ไม่ได้กลัวเสียหน้า แต่กลัวโดนลุงสนธิ สาวไส้ ล้วงตับไตไส้พุงจนหมดเกลี้ยง พ่วงหางเลขคุกรอปลายทางน่ะสิ เพราะสืบไปสืบมา แม่งมีเอี่ยว สมรู้ร่วมคิด อยู่เบื้องหลังคดีบิดเบือน ปลอมแปลง และชี้โพรงเหี้ยรอด ต่างกรรม ต่างวาระ กี่ปีไปนับเอา? เค้าถึงบอกไงล่ะว่า ควายกับคน ต่างกันที่สติปัญญา มรึงจะหาเรื่องใครก็ได้ แต่เสือกคิดวัดรอยตรีน? ไม่สำเหนียกดูสารรูปตัวเอง แค่ไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คิดเทียบรุ่นใหญ่ เป็นไงล่ะ? ขี้แตก เผ่นหางจุกตูด ยามเมื่อเจอของจริง ของหนัก! บทเรียนสอนให้ไอ้อีทนายหาแดร๊กเหี้ยทั้งหลาย พึงระวังตัวเอาไว้ สัดนรกอย่างพวกมรึงที่หาแดร๊กบนความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน เวรกรรมมันมีจริง? ช่วยคนรวย ช่วยคนเหี้ย มรึงก็ไม่พ้นบ่วงกรรมที่ก่อร่วมกันดอกน่ะ ศีลเสมอกัน ถึงคบกันได้ เหี้ยคบเหี้ย จึงได้ชุมชนเหี้ย ควายคบควาย จึงได้ชุมชนควาย!หลายคนสงสัย จีนรวยที่สุดในโลก แต่ทำไมยังไม่ยอมเปิดเผยทองคำ 3 หมื่นตันให้โลกตะลึงซักกะที ล่าสุด จีนค้นพบแหล่งทองคำมหึมาในมณฑลหูหนาน มีอย่างต่ำ 800-1000 ตัน หากเอาชาวจีนทั้งหมด แร่ทองคำจีนทั้งหมด มรึงคิดว่าจีนจะมีทะลุ 100000 ตันมั้ย? ขนาดที่ทั้งโลก เหี้ยมะกันอ้างมีทองคำเยอะสุด ยังมีแค่ 3000 ตัน(ของปลอม ทองเก๊) แล้วทำไม จีนไม่เผด็จศึกเลย ตอบง่ายมาก 1.เงินจีนยังอยู่กับเหี้ยอีกเยอะ การค้ายังมี หากหักดิบ กูมีแต่เสียหนี้สูญ 2.ยังไม่ถึงเวลาแบกโลกทั้งใบ เพราะความได้เปรียบที่เป็นเบอร์ 2 เนี่ยแหละ ทำให้โลกไม่ต้องมาโฟกัสที่จีน ทำตัวจนเข้าไว้ แดร๊กเงียบไปเรื่อยๆ นี่แหละ "ศาสตร์การค้าจีน รวยไม่ต้องโชว์เยอะ" 3.เมื่อสงครามโลกก่อเกิด หลังจบสงครามต่างหากที่จำเป็นต้องประกาศศักดา จีนจะโชว์หลังจบศึก เพื่อดึงทั้งโลกมาเป็นพวก ยอมรับกติกาจีน เจ้ามือโลกคนใหม่ รวยอยู่แล้ว ไม่ต้องโชว์ ไม่ต้องแบก จีนสะสมแต้มอยู่ปล.เทลอาวีฟ ไซเรนดังตลอด 48 ชม. ที่ผ่านมา ไม่ได้หลับได้นอน เพราะถูกเฮซบอเลาะห์ดาหน้าถล่มยับ ล่อจุดเสี่ยง ล่อแหลมทุกดอก ชาวเมืองมุดลงท่อกันหมดแล้ว ชีวิตดี๊ดี ไอ้สัส! รัสเซียไล่ที่ยูเครน อาหรับไล่ที่อียิว สุดท้ายมันจะไปจบที่ไหน? คืนแผ่นดินเค้าไป แล้วแยกย้าย มันจะง่ายขนาดนี้เหรอ หลังอีทรัมปป์ไม่รบ ปิดหลังบ้านซ่อมแซมตัวเองก่อน นั่นแค่ปาก ไม่มีใครควบคุมความคิดอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ได้ หมาบ้าจนตรอก ทำอะไรได้ทุกอย่าง แม้แต่ระเบิดฆ่าตัวตายเพื่อลากศัตรูตายห่าไปด้วย มันไม่ได้แคร์เยรูซาเล็มนานแล้ว ถึงได้บ้าคลั่งท้าชาวโลกไปทั่ว ทำเหี้ยให้หนักกว่าเก่า เพื่อดึงโลกมารบกันให้หมด แผนหนีหนี้ ดอลล่าร์ที่ก่อไว้ ชาติไหนก็จ่ายไม่หมด? ล่าสุดอีมาครง ยังเสี้ยนไม่เลิก ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธเศษฝรั่งโจมตีรัสเซียได้ กูถามจริง อาวุธห่วยๆ มรึงยังกล้าเอามาโชว์โง่หลอกควายได้อีก? ก็แค่ละครปาหี่ หลังฉาก กราบตรีนปูตินเช้าเย็น มรึงรู้ตัวดี ชะตาขาดนานแล้ว ปูตินกาหัวหมาไว้หมด ทั้งอีปารีส อีเบียร์ อีลอนดอน อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง พูดง่ายๆ "กูจะแดร๊กทั้งทวีปยุโรป" มีปัญหามั้ย? โปรดแหกตาดู ยุโรปฝั่งตะวันออกกว่า 10 ชาติ เค้าเตรียมกลับบ้านเก่ากันหมดแล้ว มรึงจะเหลือใครล่ะ เหลือแค่ชาติเล็ก ไม้ประดับ สุดท้ายเค้าต้องย้ายตามขั้วใหม่ เพราะมีพลังงานมั่นคงระยะยาวให้พวกเขาได้ใช้ในราคามิตรภาพ! เกมส์โลกใกล้สุกงอมแล้ว เฉกเช่นเดียวกับเกมส์ไทย มันมาตรงเวลานัดเสมอ ไทยจะกลายเป็นโมเดลโลก "พ่อปกครองลูก" และจะกลายเป็นที่นิยมให้โลกยุคใหม่ในไม่ช้านี้ ถีบส่งปชต.ตอแหลลวงโลกตกขุมนรกตามอียิวไปซะ!หมี CNN(เดินให้สุดซอยคือนักสู้ ทุกความอัปรีย์จัญไรที่เกิดขึ้นบนโลกตอนนี้ มันถูกกำหนดให้เป็นไปตามแผนการสวรรค์ ไม่ว่าจะคิดแผนอะไรไว้ หากไม่ใช่ทางสวรรค์ชี้เป้า มันก็จะนำไปสู่หนทางออกของตัวมันเอง ดังนั้น สิ่งที่มรึงคิดจะล้างแค้นให้คนไทย ล้างแค้นให้แผ่นดิน สวรรค์เค้ามีแผนที่เด็ดขาดกว่านี้ โหดเหี้ยมกว่านี้ เกินกว่ามรึงจะจินตนาการได้ เพราะการลงโทษจากสวรรค์ทรมานที่สุดแล้ว แทบไม่ต้องนึกว่าจะขอตายยังดีกว่า? ไม่ให้ตายง่ายๆ ต้องชดใช้กรรมก่อน จนหมดสภาพ และไปใช้กรรมต่อในขุมนรก)25 พฤศจิกายน 6710.10 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    25-11-67/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP3 ตื่นได้แย้ว..มาสายเรียก "กาก๊า"จับตาครูบาอาจารย์ให้ดีดี ช่วงหลัง ลุงสนธิ LIVE ถี่ขึ้น ถี่ยิบทุกวัน ไม่ใช่แค่เรื่องขี้หมาอย่างทนายเหี้ยชะตาขาดอย่างเดียว แต่หากดูทรง และรู้จักลุงสนธิดีดี นี่มันคือการส่งสัญญานความพร้อม เพราะ "ใกล้ถึงวัน D-DAY" แล้วนั่นเอง ขุนศึกจะไม่รบ หากไม่เตรียมความพร้อมให้ดีก่อน ที่มา LIVE ถี่รายวัน แต่ก่อน สัปดาห์ละครั้ง เดี๋ยวนี้ วันละ 1-2 ครั้ง หลังจับยาม 3 ตาดูแล้ว เบื้องหลังที่ต้องมี "สงครามครั้งสุดท้าย" ยกมากันทั้งแผ่นดิน ชาวอโยธยา+ทหารกล้า+แม่ทัพ งวดนี้ เราไม่ได้เจอหม่องแบบในอดีตหลายร้อยปี แต่เรากำลังจะสู้กับนักล่าอาณานิคมโลกขาลง ตอนชะตาใกล้จะขาด อโยธยาไม่ได้มามือเปล่า พ่วงลูกหลานราสปูตินกับจิ๋นซี ฮ่องเต้มาด้วย พ่วงลูกหลานซาลาดิน เข้าไปอีก งานนี้ ต้องเรียกระดับ "จักรวาลมาเวล" ของจริง ไม่ต้องมีอีแอบ ไม่ปิดไม่บังหน้ากันอีกแล้ว ยิวเหี้ยไซออนนิสต์กำลังจะตายคาตรีนชาวโลก ดิ้นเฮือกสุดท้าย ไม่มรึงก็กู ต้องตายกันไปข้าง? ส่วนตัวมองว่า "ออกยังไงก็ชนะชัวร์" อะไรที่เค้าไม่พร้อม จะไม่จัดฉากแสดงพลัง ฉลองชัยชนะในบั้นปลาย เพื่อการรวมชาติเป็นหนึ่งเดียว สลัดไอ้อีควายไร้ปัญญาทั้งหลายออกให้หมด จับควายแหกตาดูอาจมที่มรึงแดร๊กมานานนับศตวรรษ ถึงเวลาล้างป่าช้ากันแล้ว! HAITER สูตรทลายคราบเหี้ยฝังใน งานนี้ ควายดิ้น เหี้ยดิ้นพล่าน ทั่วอโยธยาแน่ "รองเท้าผ้าใบ กับใจถึงๆ" ไปปัดฝุ่นยัง?หนังคนละม้วน! ทันที ที่ปูตินรู้ล่วงหน้าว่าอีทรัมปป์มาชัวร์? สั่งยกระดับการบุกแบบสายฟ้าผ่าทุกพื้นที่ ขับไล่กองกำลังอียูเครน ถอยจนหลังผิงฝา รอตายอย่างเดียว แค่ 2 สัปดาห์ หลังอีทรัมปป์ชนะเลือกตั้ง ยูเครนเสียพื้นที่ดูแลในการปกครองไปถึง 12 เมือง และจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เส้นทางลำเลียง เส้นทางเชื่อมไคร์เมียร์ ถูกเก็บกวาดเรียบวุธ แปลว่าอะไร? ปูตินมองขาด อีทรัมปป์มาเพื่อจะหยุดสงคราม ตามที่ประกาศหาเสียง ใครจะไปรู้ว่า อีทรัมปป์อาจคุยหลังไมค์กับปูตินไว้ล่วงหน้าแล้ว มรึงบุกสุดตรีนไปเลย กูสาบานตนเสร็จ ประกาศถอนกำลังทันที เอาเท่าที่มรึงยึดได้ไป จบน่ะ? เมื่อเหี้ยมะกันไม่หนุนยูเครนต่อ ไอ้อีขี้ข้าหน้าไหนจะยอมจ่ายค่าโง่ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำต่ออีกล่ะ? ทุกชาติสมาชิก NATO ต่างรู้ดี แผนแบ่งเค็กหั่นยูเครนมันจบแล้ว สุดท้ายรัสเซียรวบแดร๊กหมดเกลี้ยง ยุโรปยังต้องพึ่งพาพลังงานรัสเซีย จะมีใครโง่เอาชาติไปแลก สิ้นชาติ สูญพันธุ์ เพื่อไอ้กระจอกนีโอนาซีกันล่ะ? ดอกนี้ ภาพชัด อียิวตกกระป๋องแล้วนั่นเอง!ถุยส์! นึกว่าจะแน่ ดีออก? ทั้งอีสายบัว อีเด สายเหลือง เผ่นหางจุกตูดกันหมด ไม่ได้กลัวแพ้คดีดอกน่ะ ไม่ได้กลัวเสียหน้า แต่กลัวโดนลุงสนธิ สาวไส้ ล้วงตับไตไส้พุงจนหมดเกลี้ยง พ่วงหางเลขคุกรอปลายทางน่ะสิ เพราะสืบไปสืบมา แม่งมีเอี่ยว สมรู้ร่วมคิด อยู่เบื้องหลังคดีบิดเบือน ปลอมแปลง และชี้โพรงเหี้ยรอด ต่างกรรม ต่างวาระ กี่ปีไปนับเอา? เค้าถึงบอกไงล่ะว่า ควายกับคน ต่างกันที่สติปัญญา มรึงจะหาเรื่องใครก็ได้ แต่เสือกคิดวัดรอยตรีน? ไม่สำเหนียกดูสารรูปตัวเอง แค่ไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คิดเทียบรุ่นใหญ่ เป็นไงล่ะ? ขี้แตก เผ่นหางจุกตูด ยามเมื่อเจอของจริง ของหนัก! บทเรียนสอนให้ไอ้อีทนายหาแดร๊กเหี้ยทั้งหลาย พึงระวังตัวเอาไว้ สัดนรกอย่างพวกมรึงที่หาแดร๊กบนความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน เวรกรรมมันมีจริง? ช่วยคนรวย ช่วยคนเหี้ย มรึงก็ไม่พ้นบ่วงกรรมที่ก่อร่วมกันดอกน่ะ ศีลเสมอกัน ถึงคบกันได้ เหี้ยคบเหี้ย จึงได้ชุมชนเหี้ย ควายคบควาย จึงได้ชุมชนควาย!หลายคนสงสัย จีนรวยที่สุดในโลก แต่ทำไมยังไม่ยอมเปิดเผยทองคำ 3 หมื่นตันให้โลกตะลึงซักกะที ล่าสุด จีนค้นพบแหล่งทองคำมหึมาในมณฑลหูหนาน มีอย่างต่ำ 800-1000 ตัน หากเอาชาวจีนทั้งหมด แร่ทองคำจีนทั้งหมด มรึงคิดว่าจีนจะมีทะลุ 100000 ตันมั้ย? ขนาดที่ทั้งโลก เหี้ยมะกันอ้างมีทองคำเยอะสุด ยังมีแค่ 3000 ตัน(ของปลอม ทองเก๊) แล้วทำไม จีนไม่เผด็จศึกเลย ตอบง่ายมาก 1.เงินจีนยังอยู่กับเหี้ยอีกเยอะ การค้ายังมี หากหักดิบ กูมีแต่เสียหนี้สูญ 2.ยังไม่ถึงเวลาแบกโลกทั้งใบ เพราะความได้เปรียบที่เป็นเบอร์ 2 เนี่ยแหละ ทำให้โลกไม่ต้องมาโฟกัสที่จีน ทำตัวจนเข้าไว้ แดร๊กเงียบไปเรื่อยๆ นี่แหละ "ศาสตร์การค้าจีน รวยไม่ต้องโชว์เยอะ" 3.เมื่อสงครามโลกก่อเกิด หลังจบสงครามต่างหากที่จำเป็นต้องประกาศศักดา จีนจะโชว์หลังจบศึก เพื่อดึงทั้งโลกมาเป็นพวก ยอมรับกติกาจีน เจ้ามือโลกคนใหม่ รวยอยู่แล้ว ไม่ต้องโชว์ ไม่ต้องแบก จีนสะสมแต้มอยู่ปล.เทลอาวีฟ ไซเรนดังตลอด 48 ชม. ที่ผ่านมา ไม่ได้หลับได้นอน เพราะถูกเฮซบอเลาะห์ดาหน้าถล่มยับ ล่อจุดเสี่ยง ล่อแหลมทุกดอก ชาวเมืองมุดลงท่อกันหมดแล้ว ชีวิตดี๊ดี ไอ้สัส! รัสเซียไล่ที่ยูเครน อาหรับไล่ที่อียิว สุดท้ายมันจะไปจบที่ไหน? คืนแผ่นดินเค้าไป แล้วแยกย้าย มันจะง่ายขนาดนี้เหรอ หลังอีทรัมปป์ไม่รบ ปิดหลังบ้านซ่อมแซมตัวเองก่อน นั่นแค่ปาก ไม่มีใครควบคุมความคิดอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ได้ หมาบ้าจนตรอก ทำอะไรได้ทุกอย่าง แม้แต่ระเบิดฆ่าตัวตายเพื่อลากศัตรูตายห่าไปด้วย มันไม่ได้แคร์เยรูซาเล็มนานแล้ว ถึงได้บ้าคลั่งท้าชาวโลกไปทั่ว ทำเหี้ยให้หนักกว่าเก่า เพื่อดึงโลกมารบกันให้หมด แผนหนีหนี้ ดอลล่าร์ที่ก่อไว้ ชาติไหนก็จ่ายไม่หมด? ล่าสุดอีมาครง ยังเสี้ยนไม่เลิก ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธเศษฝรั่งโจมตีรัสเซียได้ กูถามจริง อาวุธห่วยๆ มรึงยังกล้าเอามาโชว์โง่หลอกควายได้อีก? ก็แค่ละครปาหี่ หลังฉาก กราบตรีนปูตินเช้าเย็น มรึงรู้ตัวดี ชะตาขาดนานแล้ว ปูตินกาหัวหมาไว้หมด ทั้งอีปารีส อีเบียร์ อีลอนดอน อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง พูดง่ายๆ "กูจะแดร๊กทั้งทวีปยุโรป" มีปัญหามั้ย? โปรดแหกตาดู ยุโรปฝั่งตะวันออกกว่า 10 ชาติ เค้าเตรียมกลับบ้านเก่ากันหมดแล้ว มรึงจะเหลือใครล่ะ เหลือแค่ชาติเล็ก ไม้ประดับ สุดท้ายเค้าต้องย้ายตามขั้วใหม่ เพราะมีพลังงานมั่นคงระยะยาวให้พวกเขาได้ใช้ในราคามิตรภาพ! เกมส์โลกใกล้สุกงอมแล้ว เฉกเช่นเดียวกับเกมส์ไทย มันมาตรงเวลานัดเสมอ ไทยจะกลายเป็นโมเดลโลก "พ่อปกครองลูก" และจะกลายเป็นที่นิยมให้โลกยุคใหม่ในไม่ช้านี้ ถีบส่งปชต.ตอแหลลวงโลกตกขุมนรกตามอียิวไปซะ!หมี CNN(เดินให้สุดซอยคือนักสู้ ทุกความอัปรีย์จัญไรที่เกิดขึ้นบนโลกตอนนี้ มันถูกกำหนดให้เป็นไปตามแผนการสวรรค์ ไม่ว่าจะคิดแผนอะไรไว้ หากไม่ใช่ทางสวรรค์ชี้เป้า มันก็จะนำไปสู่หนทางออกของตัวมันเอง ดังนั้น สิ่งที่มรึงคิดจะล้างแค้นให้คนไทย ล้างแค้นให้แผ่นดิน สวรรค์เค้ามีแผนที่เด็ดขาดกว่านี้ โหดเหี้ยมกว่านี้ เกินกว่ามรึงจะจินตนาการได้ เพราะการลงโทษจากสวรรค์ทรมานที่สุดแล้ว แทบไม่ต้องนึกว่าจะขอตายยังดีกว่า? ไม่ให้ตายง่ายๆ ต้องชดใช้กรรมก่อน จนหมดสภาพ และไปใช้กรรมต่อในขุมนรก)25 พฤศจิกายน 6710.10 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • "นพดล" สวน "หมอวรงค์" ย้ำไทยไม่เคยยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา ขอเลิกคิดเองเออเอง และเลิกบิดเบือนประเด็นนี้ บอกคนไทยรักชาติทุกคนแต่ต้องยึดข้อเท็จจริง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112529

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "นพดล" สวน "หมอวรงค์" ย้ำไทยไม่เคยยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา ขอเลิกคิดเองเออเอง และเลิกบิดเบือนประเด็นนี้ บอกคนไทยรักชาติทุกคนแต่ต้องยึดข้อเท็จจริง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112529 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    Haha
    Like
    Love
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2396 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/1nJ7t3Um5l0
    AH 4845 หลงดุนยาพาชีวาวอดวาย
    โดย อาจารย์รอซีดีน หมัดละ
    16.11.67 @ มัสยิดเนียะมะตุลลอฮ์ ซ.ประชาอุทิศ 72 ทุ่งครุ กทม.
    .....................................................................
    😍เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน📕
    ติดตามงานของ Alhamdulillah GROUP ได้ที่
    🌐 website http://www.alhamdtv.com​​
    ▶️ Youtube : https://www.youtube.com/user/AlhamdTV
    🎧 Podcast : https://alhamdtv.podbean.com/
    🔵 Facebook : https://www.facebook.com/alhamtv/​​
    ติดต่อ และร่วมสนับสนุนกลุ่ม "อัลฮัมดุลิลลาฮฺ" ได้ที่
    ธนาคารกสิกรไทย
    บัญชี นายกิระเดช ชวานนท์
    A/C No. 013-3-47916-3 หรือ
    พร้อมเพย์ 0864018121
    ❤ เรียนให้พี่น้องทราบว่า ทุกคลิปที่เผยแพร่ผ่าน Facebook หรือ Youtube : Alhamdulillah Group ทางทีมงาน"ฮาลาล" ให้พี่น้องในการนำไปเผยแพร่ต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตมาทางทีมงานครับ
    (ยกเว้นผู้ที่นำไปตัดต่อบิดเบือนเนื้อหา หรือ เพื่อนำไปทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดต่อความรู้ในอิสลาม และสร้างความแตกแยกในสังคม ทางทีมงานฯ ขอที่จะ "ไม่ฮาลาล" ให้ครับ)
    จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคม ทำหน้าที่ "เป็นสะพานของงานดะอฺวะฮฺ" ด้วยกันครับ
    ญะซากุมุลลอฮุค็อยรอน
    #alhamdulillahGROUP #อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺกรุ๊ป #สะพานของงานดะอฺวะฮฺ
    https://youtu.be/1nJ7t3Um5l0 AH 4845 หลงดุนยาพาชีวาวอดวาย โดย อาจารย์รอซีดีน หมัดละ 16.11.67 @ มัสยิดเนียะมะตุลลอฮ์ ซ.ประชาอุทิศ 72 ทุ่งครุ กทม. ..................................................................... 😍เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน📕 ติดตามงานของ Alhamdulillah GROUP ได้ที่ 🌐 website http://www.alhamdtv.com​​ ▶️ Youtube : https://www.youtube.com/user/AlhamdTV 🎧 Podcast : https://alhamdtv.podbean.com/ 🔵 Facebook : https://www.facebook.com/alhamtv/​​ ติดต่อ และร่วมสนับสนุนกลุ่ม "อัลฮัมดุลิลลาฮฺ" ได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย บัญชี นายกิระเดช ชวานนท์ A/C No. 013-3-47916-3 หรือ พร้อมเพย์ 0864018121 ❤ เรียนให้พี่น้องทราบว่า ทุกคลิปที่เผยแพร่ผ่าน Facebook หรือ Youtube : Alhamdulillah Group ทางทีมงาน"ฮาลาล" ให้พี่น้องในการนำไปเผยแพร่ต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตมาทางทีมงานครับ (ยกเว้นผู้ที่นำไปตัดต่อบิดเบือนเนื้อหา หรือ เพื่อนำไปทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดต่อความรู้ในอิสลาม และสร้างความแตกแยกในสังคม ทางทีมงานฯ ขอที่จะ "ไม่ฮาลาล" ให้ครับ) จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคม ทำหน้าที่ "เป็นสะพานของงานดะอฺวะฮฺ" ด้วยกันครับ ญะซากุมุลลอฮุค็อยรอน #alhamdulillahGROUP #อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺกรุ๊ป #สะพานของงานดะอฺวะฮฺ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/400nmpg6m8o
    AH 4844 ซูเราะฮฺ อัลอัศรฺ
    โดย อาจารย์ฮาบีบุ้ลลอฮฺ ศรีอุทัย
    15.11.67 @ มัสยิดมิฟตาฮุ้ลยีนาน (คลองลำเจียก)
    .....................................................................
    😍เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน📕
    ติดตามงานของ Alhamdulillah GROUP ได้ที่
    🌐 website http://www.alhamdtv.com​​
    ▶️ Youtube : https://www.youtube.com/user/AlhamdTV
    🎧 Podcast : https://alhamdtv.podbean.com/
    🔵 Facebook : https://www.facebook.com/alhamtv/​​
    ติดต่อ และร่วมสนับสนุนกลุ่ม "อัลฮัมดุลิลลาฮฺ" ได้ที่
    ธนาคารกสิกรไทย
    บัญชี นายกิระเดช ชวานนท์
    A/C No. 013-3-47916-3 หรือ
    พร้อมเพย์ 0864018121
    ❤ เรียนให้พี่น้องทราบว่า ทุกคลิปที่เผยแพร่ผ่าน Facebook หรือ Youtube : Alhamdulillah Group ทางทีมงาน"ฮาลาล" ให้พี่น้องในการนำไปเผยแพร่ต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตมาทางทีมงานครับ
    (ยกเว้นผู้ที่นำไปตัดต่อบิดเบือนเนื้อหา หรือ เพื่อนำไปทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดต่อความรู้ในอิสลาม และสร้างความแตกแยกในสังคม ทางทีมงานฯ ขอที่จะ "ไม่ฮาลาล" ให้ครับ)
    จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคม ทำหน้าที่ "เป็นสะพานของงานดะอฺวะฮฺ" ด้วยกันครับ
    ญะซากุมุลลอฮุค็อยรอน
    #alhamdulillahGROUP #อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺกรุ๊ป #สะพานของงานดะอฺวะฮฺ
    https://youtu.be/400nmpg6m8o AH 4844 ซูเราะฮฺ อัลอัศรฺ โดย อาจารย์ฮาบีบุ้ลลอฮฺ ศรีอุทัย 15.11.67 @ มัสยิดมิฟตาฮุ้ลยีนาน (คลองลำเจียก) ..................................................................... 😍เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน📕 ติดตามงานของ Alhamdulillah GROUP ได้ที่ 🌐 website http://www.alhamdtv.com​​ ▶️ Youtube : https://www.youtube.com/user/AlhamdTV 🎧 Podcast : https://alhamdtv.podbean.com/ 🔵 Facebook : https://www.facebook.com/alhamtv/​​ ติดต่อ และร่วมสนับสนุนกลุ่ม "อัลฮัมดุลิลลาฮฺ" ได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย บัญชี นายกิระเดช ชวานนท์ A/C No. 013-3-47916-3 หรือ พร้อมเพย์ 0864018121 ❤ เรียนให้พี่น้องทราบว่า ทุกคลิปที่เผยแพร่ผ่าน Facebook หรือ Youtube : Alhamdulillah Group ทางทีมงาน"ฮาลาล" ให้พี่น้องในการนำไปเผยแพร่ต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตมาทางทีมงานครับ (ยกเว้นผู้ที่นำไปตัดต่อบิดเบือนเนื้อหา หรือ เพื่อนำไปทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดต่อความรู้ในอิสลาม และสร้างความแตกแยกในสังคม ทางทีมงานฯ ขอที่จะ "ไม่ฮาลาล" ให้ครับ) จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคม ทำหน้าที่ "เป็นสะพานของงานดะอฺวะฮฺ" ด้วยกันครับ ญะซากุมุลลอฮุค็อยรอน #alhamdulillahGROUP #อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺกรุ๊ป #สะพานของงานดะอฺวะฮฺ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 463 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20-11-67/04 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP2 เพิ่งตื่น..มาบ่ายเรียก "กุ๊กกุ๊ก"ยังหมาไม่เลิก! อะไรน่ะ อียิวบุกเหรอ? แล้วไหงไปติดกับดักเฮซบอเลาะห์อีกล่ะ คราวนี้ ตายห่าเป็นหมู่คณะ หนีออกอีกทาง นึกว่ารอด ถูกกับดักซ้ำอีกชั้น 500 ตัว หายวัยสิจ๊ะ ตกดึกส่งเหี้ยมาตามเก็บศพเพื่อนพ้อง นี่มรึงบุกเค้า หรือถูกเค้าสวนทวารกันแน่เนี่ย? หลังบ้านมรึงยังไม่รอด? เฮซบอเลาะห์มรึงมีกี่มือ กี่ตรีน กันแน่ฟ่ะเนี่ย? เพิ่งจะฆ่าอียิวในเบลานอนเสร็จ หันมาอีกที ไล่ฆ่าอียิวต่อในเมืองท่าไฮฟา และเทลอาวีฟ ระเบิดลงกลางเมืองตึกสูง ไอ้อียิวที่มั่นใจ ว่ากูปลอดภัย เยี่ยวแตก โกลาหลทั้งเมือง ไอรอน โดม หายไปไหนจ๊ะ? อ๋อ..มองไม่เห็น ก็ของมันห่วย มีเอาไว้หลอกควายกันเองไงล่ะ?ลุงสนธิ ส่งรหัสลับสวรรค์ "นรกแตก" แปลเป็นไทยได้ว่า อีต้มตุ๊ด มรึงโดนคุก 100 ปี แน่ คดียาวเป็นหางว่าว มาครบหมด ทั้งซ่องโจร โกง ปลอมแปลงเอกสาร หลอกลวง ไม่มีไกล่เกลี่ย ไม่รับเงินคืน เอาชีวิตมรึงง่ายกว่ามุย? ท้าแดร๊กเยี่ยว 71 แก้ว ตอนนี้ เยี่ยวแตกไปแล้ว อีทนายสายบัว เผ่นหางจุกตูด เล่นข้ามรุ่น ไม่ดูกะลาตัวเอง ไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! ถูกแฉ รวยผิดปกติ แหงล่ะ ศีลเสมอกัน เหี้ยไม่แตกต่าง? อีเด สายเหลือง งานนี้ มรึงได้เข้าไปนอนคุกสมใจแน่ ดีออก? มีเพ่น้องสายเหลือง รอมรึงเพี๊ยบ เรียงคิวกันเมามันส์แน่มรึงเอ๋ย? ปากดี ผลงานห่วย แพ้เด็ก ทนายนีด้า อายหมา? แม่นกฎหมายเกิน จนหมายังอาย? สัญญานชัดจากแสง ฆ่าล้างบางเหี้ย ไม่มีเมตตา พอกันดีกับไอ้พวกเหี้ยจัญไร หนักแผ่นดินทั้งหลาย กลับขุมนรกมรึงไปได้แล้ว?อะไรน่ะ? อีเสี้ยนยาสั่งลุย ขีปนาวุธโคตรห่วยยิงใส่รัสเซีย(ตั้งใจปล่อยให้ยิงเข้ามา ไอ้โง่!) ปูตินถาม "ทำอะไรอ่ะ" ไม่รู้สึก เบาไปป่ะ? ใบเสร็จมาพร้อม ชอบธรรมมาเต็ม ตากูยิงกลับบ้าง อย่าร้องขอชีวิตน่ะมรึง? รอมรึงนานเกินไปแล้ว กว่าจะยิงที นึกว่าจะแน่? ไอ้ยิงแบบนี้ เค้าเรียก ปากกล้า ขาสั่น เพราะรู้ดีว่ายิงยังไง ก็เข้าไม่ถึง เพราะระบบป้องันภัยรัสเซีย "ของจริง" ไม่ใช่ของปลอมแบบที่เหี้ยมะกัน อียิว มันใช้ ปูติน ใช้ความเงียบ สะกดความเคลื่อนไหว มรึงไม่รู้ดอกว่า "เชเชน" เค้าไปกระดิกตรีนรอปูพรม เก็บกวาดอยู่นานแล้ว แค่รอคำสั่งเท่านั้น? WAGNER ไปอยู่กันเต็มพื้นที่พรมแดนอีโปลนานแล้ว สร้างอุโมงค์ลับกันเมามันส์ จะรอดมั้ยเนี่ย?ฮาแตก ทั้ังอโยธยา! โชว์โง่ไม่เลิก "อีช่อบาน" แดร๊กน้ำท่ออวด นึกว่าสะอาด แดร๊กได้ แดร๊กโชว์ เครื่องตรวจวัด เจอเต็มตรีน ปนเปื้อนอาซาชิ หนีไปอ๊วกก็ไม่ทัน กล้องจับภาพค้างอยู่ โง่ยังพอทน แต่แถจนหมาอายเนี่ยสิ มรึงเอาตำแหน่ง "ตัวตลกแห่งปี" ไปครองได้เลย ไม่มีใครแย่ง? โง่แล้วโง่อีก แถแล้วแถอีก กูไม่สงสัยดอกว่า มรึงมันสมองปัญญาควาย แต่ที่ฮายิ่งกว่า คือไอ้อีตัวไหนกันล่ะ ที่เลือกพรรคเดรัจฉานมรึงเข้ามาต่างหาก "โคตรควายยิ่งกว่า?" อะไรน่ะ 14 ล้านเสียง ไปผูกคอตายห่ากันหมดแล้วเหรอ? ช้าไปป่ะ? ปล่อยให้แผ่นดินหนักอยู่ตั้งนานศาลเหี้ยม สั่ง "ประหารชีวิต" แอม ไซยาไนด์ เพราะเหี้ยผิดมนุษย์มนา แสงทำงาน แผ่นดินสูงขึ้นทันตาเห็น ไม่สร้างกรรม ก็ไม่ต้องรับกรรม เมืองไทยยังมีโทษประหารอยู่น่ะ แต่เพราะพระเมตตา คนคุกเดนตายถึงได้รอด แต่ยกเว้นบางคดีที่ให้อภัยไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด ล่าสุด ปูติน ขยายหลักการนิวเคลียร์ ออกกฎหมายรับรองผ่านแล้ว พร้อมใช้นิวเคลียร์ได้ทุกเมื่อ ทุกสถานการณ์ ทุกเวลา ส่งสัญญาน "ได้เวลาทดสอบ ลองของจริง จะเอาใครเป็นเป้าดีล่ะ?" มีให้เลือกเยอะเกิน อีเสี้ยนยาไม่รอด อีโปลก็น่าโดน อีลอนดอน ไม่ต้องถามถึง ส่วนอีวอชิงตัน ให้ JOHN KIM เอาไปทดสอบแทน แปลว่าอะไร? หัวรบนิวเคลียร์ ติดได้ทุกภาคส่วน ทุกเครื่องมือ อุปกรณ์ ทั้งทัพเรือ อากาศ บก แม้แต่ส่งต่อให้เพื่อนยืมยังได้? ไม่ต้องถามว่าแรงแค่ไหน เอาแบบเล็กสุด ก็แค่ แรงกว่าฮิโรชิมา นางาซากิ 100 เท่า ไม่กลัวโลกแหว่งรึจ๊ะ?ใครบอก? ไทยไม่มีโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ กกพ.เตรียมเซ็นต์ MOU เน้นเล็ก ปลอดภัย กำลังการผลิตไม่เกิน 300 เมกะวัตต์ ต่อโมดูล โดยวางไว้แค่ 1% จากพลังงานสะอาดในอนาคต 50% ไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องกังวล แค่เอามาทดแทนพลังงานฟอสซิลที่ทำลายชั้นบรรยากาศ ไทยเราตามน้ำเก่งที่สุด ตะวันออกกลางเริ่มใช้มากขึ้น เอเซียเริ่มแพร่หลายมากขึ้น แล้วทำไม เราจะต้องอยู่กับที่กันล่ะ? ใครบอกว่าจะใช้น้ำมันไปจนวันตายกันล่ะ? แค่พลังงานแสงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์ที่ 2 ของไทย ที่ร่วมกับจีน ก็ต่อยอดไม่จบสิ้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้น หาก 22 นี้ ศาลรับมีมูล เพื่อไทย อีเหลี่ยม ตายคาที่ แม้แต่อีอุ้งอุ้ง อาจโดนสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ พ่วงรมต.อีก 3 ตัว สูญญากาศมาเต็ม ที่มาว่าทำไม เร่งแจกเงิน 10000 เฟสสุดท้ายให้ทัน ก่อนเกมส์ OVER เพื่อเอามาอ้างผลงาน แจกเงินควาย ไม่ได้พัฒนาประเทศตรงไหนเลย? ควายปลื้มเพราะรับเงิน ไม่แคร์ว่าเงินจากภาษีมรึงเองทั้งนั้น ใครจะมาเครมเอาดีเข้าตัว ช่างแม่ง? เมื่อศาลรับแล้ว ยังจะมีอีกหลายหน่วยงานโดนเอี่ยว โดนหางเลข ไปด้วยชัวร์ งานนี้ ลากไส้ทั้งขบวนการขายชาติ ไม่ได้ตายแค่หัว หางก็ไม่รอด? ศาลฟัน ชีวิตเปลี่ยนทันที!3 นิ้วครึ่ง ฮ่องกง นำร่องไปก่อนน่ะ อีโจชัวร์ แหว่ง โดน 10 ปี พ่วงม็อบรับจ้างโดนกันบานตะไท ศาลเชือดจริง ใครจะเก็บเอาไว้ให้หนักแผ่นดิน นี่แค่จุดเริ่มต้น เข้าไปในคุก ยังมีขนมปังแจกอีกเยอะ ถั่วดำก็มี บานแน่มรึงเอ๋ย? 3 นิ้วครึ่งไทย อีลูกหลานเนรคุณแผ่นดิน รู้รสชาดขี้คุกแล้วรึยัง? ใครที่รอสู้ถึงฎีกา กูบอกเลย มีแต่จะโดนหนักกว่าเยอะ เอาให้สุดซอย อย่ายอม มรึงเหี้ยได้ซะขนาดนี้แล้ว เหี้ยต่อจะเป็นไรไป? เอาให้โลกจารึกว่าพวกมรึง มัน "หนักแผ่นดิน" ไอ้อีทะลุนรก ก็โดนรวบจนหมดแล้ว ใครนกรู้ ก็เผ่นไปกบดานชาติขี้ข้ายิว อีเหี้ย CIA มันรับเลี้ยงเหี้ยโดยเฉพาะ วังวนสัดเดรัจฉานอีสำส่อน ร่วงกราวรูด พลาดถูกแย่งบังลังก์ เพราะไม่พัฒนาชิปได้เร็วและเก่งเท่ามังกรจีน หวังจะแดร๊กใบบุญของเก่า ขณะที่หัวเว่ย พุ่งสู่อวกาศไปแล้ว คุยภาษาคนไม่รู้เรื่อง เพราะเทคโนโลนีก้าวกระโดดไปจนตามไม่ทัน สูญเสียมูลค่าการตลาดไป 4 ล้าน ล้าน บาท โลกธุรกิจไฮเทค เค้าแข่งกันวันต่อวัน เผลอหลับตา หลับใน ถูกแซงเฉย? เอาไงดีล่ะ? รัสเซียรุกหนัก จนสู้ต่อไม่ไหว? จะบุกเค้า ถุกเค้าสวนส้นตรีนกลับมา เละสิจ๊ะ? ของปลอมจะสู้กับของหนัก ของแท้ ของจริง ได้อย่างไร? รัสเซียรอให้เหี้ยเข้ามาตายหมู่ ก็สำเร็จแล้ว รอให้เหี้ยเจ๊งกันทั้งทวีป ก็สำเร็จแล้ว รอให้เหี้ยมอบความชอบธรรมใช้นุ๊ก ก็สำเร็จแล้ว แล้วรอเหี้ยอะไรอีกจ๊ะ? คำตอบคือ "เขมือบยูเครน มันของตาย อยู่ในมือ" แต่รออี NATO EU เข้ามาเต็มวงตรีนก่อน เพราะกูจะรวบแดร๊กทั้งทวีปยุโรป นี่คือเป้าหมาย ส่วนอีวอชิงตัน ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวมันก็ฆ่ากันเองแล้ว อ๋อ..นิ่งเสีย ตำลึงทอง มันเป็นเช่นนี้นี่เอง?ปล.ทั่วโลก แห่กันหนีเข้ามาเมืองไทยและอาเซียน เพราะค่าครองชีพ เพราะรายได้ไม่คุ้ม เพราะไทยคือฮับ ใครเล่นโซเชี่ยล ไม่มาไทย ไม่ได้เกิด? ส่วนใหญ่ NO NAME เข้ามาปุ๊บ ดังปั๊บ นี่คือเสน่ห์ไทย อ่านทุกอย่าง ดูทุกอย่างที่ใครเสนอมุมไทยในสายตาชาวโลก แต่เสือกลืมดูตัวเอง แค่มีสติ มรึงจะรู้ว่า ไอ้อีตัวไหน หน้าไหน ที่เป็นขี้ข้าเหี้ย CIA ที่สวมรอยมาเป็น U-TUBER เสนอแง่คิดคลั่งปชต.ตอแหล แถจนหมายังอาย แม้แต่ U-TUBER ไทย ที่อย฿่ต่างแดน แล้วโพสเรื่องราวมากมาย มียอดติดตามเป็นล้าน นั่นฝีมือเหี้ย C ทั้งนั้น มันใช้โซเชี่ยลขี้ข้าปั่นหัว เบี่ยงเบน ให้ข้อมูลเท็จ บิดเบือนประจำ ไม่ต้องเดา แค่ใช้สติ จะรู้ทันที ว่าใครของจริง ใครของปลอม? กูไม่เคยเชื่อเลย ไอ้พวกมีคนติดตามเป็นล้าน ทำสคริปต์เหมือนถูกสั่งมา ภาพ แสง สี เสียง จัดเต็ม ตัดต่อขั้นเซียน ใช้เงินทั้งนั้น เดาไม่ยาก? แม้แต่โฆษณาอีแอปเปิ้ลบันกล้าเหยียดคนไทย ออกมาแถหน้าด้านๆ แค่มุมมองแตกต่าง พ่องดิ? เมืองไทยรับคนเพิ่มอีก 10 ล้านไหวมั้ย? ตอบว่าได้ หากเทียบขนาดพื้นที่แล้ว ประชากรไปอัดแน่นที่เมืองหลวง หากกระจายไปตามภูมิภาค ทุกอย่างจะสมดุล เชียงใหม่ ภูเก็ต คือจุดยุทธศาสตร์ของไทย จะให้ไอ้อีหน้าไหน มาหั่นออกจากแผ่นดินหลักไม่ได้ โทษคือ "ประหาร 7 ชั่วโคตร" ดั่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วนี้ เรื่องดินแดนพิพาก แยกดินแดน ศาลกำลังจะใช้กรณีนี้ เชือดเหี้ยให้เหี้ยดู บทจะแรง บทจะโหด อย่าร้องขอชีวิต ไทยแค่ชิลด์ แต่บทร้าย กูก็เล่นเป็น? คดีเหี้ยไอ้อีทั้งหลาย มันมาสุดทาง สุดซอยกันแล้ว รอแค่ "ลงดาบ" ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปตลอดกาล ฟ้าสีทองจะเริ่มปรากฎให้เห็นทันทีหมี CNN(กุ๊กกู ยามเย็น ฟ้าแจ้งจางปาง มาตอนไหน ก็ปลุกตอนนั้น ปลุกให้ตื่น ให้คิด ให้เตรียมพร้อม ประเทศไทยยังมีอะไรอีกเยอะให้เรียนรู้ อีเหี้ยยิว และเหี้ยตะวันตก มันจะไม่มีวันเข้าใจคนไทยได้ดี จนกว่า มรึงจะเข้าใจว่าพวกกูแท้จริงมาจากไหน แล้วพวกมรึงมาจากไหน แผ่นดินทองสำหรับเทวดา ส่วนแผ่นดินดำทมิฬ สำหรับเปรต สัดเดรัจฉาน มรึงถึงได้หนีมาอยู่ที่นี่ไงล่ะ แต่อยู่ได้ไม่นาน แสงโผล่ มรึงก็ไหม้เกรียมอยู่ดี! รักแผ่นดินกูมากชิมิ ตายซะที่นี่เลยเป็นไง? จะได้อยู่เป็นปุ๋ยให้สัดเดรัจฉานแดร๊กแทน)20 พฤศจิกายน 6717.40 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    20-11-67/04 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP2 เพิ่งตื่น..มาบ่ายเรียก "กุ๊กกุ๊ก"ยังหมาไม่เลิก! อะไรน่ะ อียิวบุกเหรอ? แล้วไหงไปติดกับดักเฮซบอเลาะห์อีกล่ะ คราวนี้ ตายห่าเป็นหมู่คณะ หนีออกอีกทาง นึกว่ารอด ถูกกับดักซ้ำอีกชั้น 500 ตัว หายวัยสิจ๊ะ ตกดึกส่งเหี้ยมาตามเก็บศพเพื่อนพ้อง นี่มรึงบุกเค้า หรือถูกเค้าสวนทวารกันแน่เนี่ย? หลังบ้านมรึงยังไม่รอด? เฮซบอเลาะห์มรึงมีกี่มือ กี่ตรีน กันแน่ฟ่ะเนี่ย? เพิ่งจะฆ่าอียิวในเบลานอนเสร็จ หันมาอีกที ไล่ฆ่าอียิวต่อในเมืองท่าไฮฟา และเทลอาวีฟ ระเบิดลงกลางเมืองตึกสูง ไอ้อียิวที่มั่นใจ ว่ากูปลอดภัย เยี่ยวแตก โกลาหลทั้งเมือง ไอรอน โดม หายไปไหนจ๊ะ? อ๋อ..มองไม่เห็น ก็ของมันห่วย มีเอาไว้หลอกควายกันเองไงล่ะ?ลุงสนธิ ส่งรหัสลับสวรรค์ "นรกแตก" แปลเป็นไทยได้ว่า อีต้มตุ๊ด มรึงโดนคุก 100 ปี แน่ คดียาวเป็นหางว่าว มาครบหมด ทั้งซ่องโจร โกง ปลอมแปลงเอกสาร หลอกลวง ไม่มีไกล่เกลี่ย ไม่รับเงินคืน เอาชีวิตมรึงง่ายกว่ามุย? ท้าแดร๊กเยี่ยว 71 แก้ว ตอนนี้ เยี่ยวแตกไปแล้ว อีทนายสายบัว เผ่นหางจุกตูด เล่นข้ามรุ่น ไม่ดูกะลาตัวเอง ไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! ถูกแฉ รวยผิดปกติ แหงล่ะ ศีลเสมอกัน เหี้ยไม่แตกต่าง? อีเด สายเหลือง งานนี้ มรึงได้เข้าไปนอนคุกสมใจแน่ ดีออก? มีเพ่น้องสายเหลือง รอมรึงเพี๊ยบ เรียงคิวกันเมามันส์แน่มรึงเอ๋ย? ปากดี ผลงานห่วย แพ้เด็ก ทนายนีด้า อายหมา? แม่นกฎหมายเกิน จนหมายังอาย? สัญญานชัดจากแสง ฆ่าล้างบางเหี้ย ไม่มีเมตตา พอกันดีกับไอ้พวกเหี้ยจัญไร หนักแผ่นดินทั้งหลาย กลับขุมนรกมรึงไปได้แล้ว?อะไรน่ะ? อีเสี้ยนยาสั่งลุย ขีปนาวุธโคตรห่วยยิงใส่รัสเซีย(ตั้งใจปล่อยให้ยิงเข้ามา ไอ้โง่!) ปูตินถาม "ทำอะไรอ่ะ" ไม่รู้สึก เบาไปป่ะ? ใบเสร็จมาพร้อม ชอบธรรมมาเต็ม ตากูยิงกลับบ้าง อย่าร้องขอชีวิตน่ะมรึง? รอมรึงนานเกินไปแล้ว กว่าจะยิงที นึกว่าจะแน่? ไอ้ยิงแบบนี้ เค้าเรียก ปากกล้า ขาสั่น เพราะรู้ดีว่ายิงยังไง ก็เข้าไม่ถึง เพราะระบบป้องันภัยรัสเซีย "ของจริง" ไม่ใช่ของปลอมแบบที่เหี้ยมะกัน อียิว มันใช้ ปูติน ใช้ความเงียบ สะกดความเคลื่อนไหว มรึงไม่รู้ดอกว่า "เชเชน" เค้าไปกระดิกตรีนรอปูพรม เก็บกวาดอยู่นานแล้ว แค่รอคำสั่งเท่านั้น? WAGNER ไปอยู่กันเต็มพื้นที่พรมแดนอีโปลนานแล้ว สร้างอุโมงค์ลับกันเมามันส์ จะรอดมั้ยเนี่ย?ฮาแตก ทั้ังอโยธยา! โชว์โง่ไม่เลิก "อีช่อบาน" แดร๊กน้ำท่ออวด นึกว่าสะอาด แดร๊กได้ แดร๊กโชว์ เครื่องตรวจวัด เจอเต็มตรีน ปนเปื้อนอาซาชิ หนีไปอ๊วกก็ไม่ทัน กล้องจับภาพค้างอยู่ โง่ยังพอทน แต่แถจนหมาอายเนี่ยสิ มรึงเอาตำแหน่ง "ตัวตลกแห่งปี" ไปครองได้เลย ไม่มีใครแย่ง? โง่แล้วโง่อีก แถแล้วแถอีก กูไม่สงสัยดอกว่า มรึงมันสมองปัญญาควาย แต่ที่ฮายิ่งกว่า คือไอ้อีตัวไหนกันล่ะ ที่เลือกพรรคเดรัจฉานมรึงเข้ามาต่างหาก "โคตรควายยิ่งกว่า?" อะไรน่ะ 14 ล้านเสียง ไปผูกคอตายห่ากันหมดแล้วเหรอ? ช้าไปป่ะ? ปล่อยให้แผ่นดินหนักอยู่ตั้งนานศาลเหี้ยม สั่ง "ประหารชีวิต" แอม ไซยาไนด์ เพราะเหี้ยผิดมนุษย์มนา แสงทำงาน แผ่นดินสูงขึ้นทันตาเห็น ไม่สร้างกรรม ก็ไม่ต้องรับกรรม เมืองไทยยังมีโทษประหารอยู่น่ะ แต่เพราะพระเมตตา คนคุกเดนตายถึงได้รอด แต่ยกเว้นบางคดีที่ให้อภัยไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด ล่าสุด ปูติน ขยายหลักการนิวเคลียร์ ออกกฎหมายรับรองผ่านแล้ว พร้อมใช้นิวเคลียร์ได้ทุกเมื่อ ทุกสถานการณ์ ทุกเวลา ส่งสัญญาน "ได้เวลาทดสอบ ลองของจริง จะเอาใครเป็นเป้าดีล่ะ?" มีให้เลือกเยอะเกิน อีเสี้ยนยาไม่รอด อีโปลก็น่าโดน อีลอนดอน ไม่ต้องถามถึง ส่วนอีวอชิงตัน ให้ JOHN KIM เอาไปทดสอบแทน แปลว่าอะไร? หัวรบนิวเคลียร์ ติดได้ทุกภาคส่วน ทุกเครื่องมือ อุปกรณ์ ทั้งทัพเรือ อากาศ บก แม้แต่ส่งต่อให้เพื่อนยืมยังได้? ไม่ต้องถามว่าแรงแค่ไหน เอาแบบเล็กสุด ก็แค่ แรงกว่าฮิโรชิมา นางาซากิ 100 เท่า ไม่กลัวโลกแหว่งรึจ๊ะ?ใครบอก? ไทยไม่มีโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ กกพ.เตรียมเซ็นต์ MOU เน้นเล็ก ปลอดภัย กำลังการผลิตไม่เกิน 300 เมกะวัตต์ ต่อโมดูล โดยวางไว้แค่ 1% จากพลังงานสะอาดในอนาคต 50% ไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องกังวล แค่เอามาทดแทนพลังงานฟอสซิลที่ทำลายชั้นบรรยากาศ ไทยเราตามน้ำเก่งที่สุด ตะวันออกกลางเริ่มใช้มากขึ้น เอเซียเริ่มแพร่หลายมากขึ้น แล้วทำไม เราจะต้องอยู่กับที่กันล่ะ? ใครบอกว่าจะใช้น้ำมันไปจนวันตายกันล่ะ? แค่พลังงานแสงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์ที่ 2 ของไทย ที่ร่วมกับจีน ก็ต่อยอดไม่จบสิ้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้น หาก 22 นี้ ศาลรับมีมูล เพื่อไทย อีเหลี่ยม ตายคาที่ แม้แต่อีอุ้งอุ้ง อาจโดนสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ พ่วงรมต.อีก 3 ตัว สูญญากาศมาเต็ม ที่มาว่าทำไม เร่งแจกเงิน 10000 เฟสสุดท้ายให้ทัน ก่อนเกมส์ OVER เพื่อเอามาอ้างผลงาน แจกเงินควาย ไม่ได้พัฒนาประเทศตรงไหนเลย? ควายปลื้มเพราะรับเงิน ไม่แคร์ว่าเงินจากภาษีมรึงเองทั้งนั้น ใครจะมาเครมเอาดีเข้าตัว ช่างแม่ง? เมื่อศาลรับแล้ว ยังจะมีอีกหลายหน่วยงานโดนเอี่ยว โดนหางเลข ไปด้วยชัวร์ งานนี้ ลากไส้ทั้งขบวนการขายชาติ ไม่ได้ตายแค่หัว หางก็ไม่รอด? ศาลฟัน ชีวิตเปลี่ยนทันที!3 นิ้วครึ่ง ฮ่องกง นำร่องไปก่อนน่ะ อีโจชัวร์ แหว่ง โดน 10 ปี พ่วงม็อบรับจ้างโดนกันบานตะไท ศาลเชือดจริง ใครจะเก็บเอาไว้ให้หนักแผ่นดิน นี่แค่จุดเริ่มต้น เข้าไปในคุก ยังมีขนมปังแจกอีกเยอะ ถั่วดำก็มี บานแน่มรึงเอ๋ย? 3 นิ้วครึ่งไทย อีลูกหลานเนรคุณแผ่นดิน รู้รสชาดขี้คุกแล้วรึยัง? ใครที่รอสู้ถึงฎีกา กูบอกเลย มีแต่จะโดนหนักกว่าเยอะ เอาให้สุดซอย อย่ายอม มรึงเหี้ยได้ซะขนาดนี้แล้ว เหี้ยต่อจะเป็นไรไป? เอาให้โลกจารึกว่าพวกมรึง มัน "หนักแผ่นดิน" ไอ้อีทะลุนรก ก็โดนรวบจนหมดแล้ว ใครนกรู้ ก็เผ่นไปกบดานชาติขี้ข้ายิว อีเหี้ย CIA มันรับเลี้ยงเหี้ยโดยเฉพาะ วังวนสัดเดรัจฉานอีสำส่อน ร่วงกราวรูด พลาดถูกแย่งบังลังก์ เพราะไม่พัฒนาชิปได้เร็วและเก่งเท่ามังกรจีน หวังจะแดร๊กใบบุญของเก่า ขณะที่หัวเว่ย พุ่งสู่อวกาศไปแล้ว คุยภาษาคนไม่รู้เรื่อง เพราะเทคโนโลนีก้าวกระโดดไปจนตามไม่ทัน สูญเสียมูลค่าการตลาดไป 4 ล้าน ล้าน บาท โลกธุรกิจไฮเทค เค้าแข่งกันวันต่อวัน เผลอหลับตา หลับใน ถูกแซงเฉย? เอาไงดีล่ะ? รัสเซียรุกหนัก จนสู้ต่อไม่ไหว? จะบุกเค้า ถุกเค้าสวนส้นตรีนกลับมา เละสิจ๊ะ? ของปลอมจะสู้กับของหนัก ของแท้ ของจริง ได้อย่างไร? รัสเซียรอให้เหี้ยเข้ามาตายหมู่ ก็สำเร็จแล้ว รอให้เหี้ยเจ๊งกันทั้งทวีป ก็สำเร็จแล้ว รอให้เหี้ยมอบความชอบธรรมใช้นุ๊ก ก็สำเร็จแล้ว แล้วรอเหี้ยอะไรอีกจ๊ะ? คำตอบคือ "เขมือบยูเครน มันของตาย อยู่ในมือ" แต่รออี NATO EU เข้ามาเต็มวงตรีนก่อน เพราะกูจะรวบแดร๊กทั้งทวีปยุโรป นี่คือเป้าหมาย ส่วนอีวอชิงตัน ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวมันก็ฆ่ากันเองแล้ว อ๋อ..นิ่งเสีย ตำลึงทอง มันเป็นเช่นนี้นี่เอง?ปล.ทั่วโลก แห่กันหนีเข้ามาเมืองไทยและอาเซียน เพราะค่าครองชีพ เพราะรายได้ไม่คุ้ม เพราะไทยคือฮับ ใครเล่นโซเชี่ยล ไม่มาไทย ไม่ได้เกิด? ส่วนใหญ่ NO NAME เข้ามาปุ๊บ ดังปั๊บ นี่คือเสน่ห์ไทย อ่านทุกอย่าง ดูทุกอย่างที่ใครเสนอมุมไทยในสายตาชาวโลก แต่เสือกลืมดูตัวเอง แค่มีสติ มรึงจะรู้ว่า ไอ้อีตัวไหน หน้าไหน ที่เป็นขี้ข้าเหี้ย CIA ที่สวมรอยมาเป็น U-TUBER เสนอแง่คิดคลั่งปชต.ตอแหล แถจนหมายังอาย แม้แต่ U-TUBER ไทย ที่อย฿่ต่างแดน แล้วโพสเรื่องราวมากมาย มียอดติดตามเป็นล้าน นั่นฝีมือเหี้ย C ทั้งนั้น มันใช้โซเชี่ยลขี้ข้าปั่นหัว เบี่ยงเบน ให้ข้อมูลเท็จ บิดเบือนประจำ ไม่ต้องเดา แค่ใช้สติ จะรู้ทันที ว่าใครของจริง ใครของปลอม? กูไม่เคยเชื่อเลย ไอ้พวกมีคนติดตามเป็นล้าน ทำสคริปต์เหมือนถูกสั่งมา ภาพ แสง สี เสียง จัดเต็ม ตัดต่อขั้นเซียน ใช้เงินทั้งนั้น เดาไม่ยาก? แม้แต่โฆษณาอีแอปเปิ้ลบันกล้าเหยียดคนไทย ออกมาแถหน้าด้านๆ แค่มุมมองแตกต่าง พ่องดิ? เมืองไทยรับคนเพิ่มอีก 10 ล้านไหวมั้ย? ตอบว่าได้ หากเทียบขนาดพื้นที่แล้ว ประชากรไปอัดแน่นที่เมืองหลวง หากกระจายไปตามภูมิภาค ทุกอย่างจะสมดุล เชียงใหม่ ภูเก็ต คือจุดยุทธศาสตร์ของไทย จะให้ไอ้อีหน้าไหน มาหั่นออกจากแผ่นดินหลักไม่ได้ โทษคือ "ประหาร 7 ชั่วโคตร" ดั่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วนี้ เรื่องดินแดนพิพาก แยกดินแดน ศาลกำลังจะใช้กรณีนี้ เชือดเหี้ยให้เหี้ยดู บทจะแรง บทจะโหด อย่าร้องขอชีวิต ไทยแค่ชิลด์ แต่บทร้าย กูก็เล่นเป็น? คดีเหี้ยไอ้อีทั้งหลาย มันมาสุดทาง สุดซอยกันแล้ว รอแค่ "ลงดาบ" ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปตลอดกาล ฟ้าสีทองจะเริ่มปรากฎให้เห็นทันทีหมี CNN(กุ๊กกู ยามเย็น ฟ้าแจ้งจางปาง มาตอนไหน ก็ปลุกตอนนั้น ปลุกให้ตื่น ให้คิด ให้เตรียมพร้อม ประเทศไทยยังมีอะไรอีกเยอะให้เรียนรู้ อีเหี้ยยิว และเหี้ยตะวันตก มันจะไม่มีวันเข้าใจคนไทยได้ดี จนกว่า มรึงจะเข้าใจว่าพวกกูแท้จริงมาจากไหน แล้วพวกมรึงมาจากไหน แผ่นดินทองสำหรับเทวดา ส่วนแผ่นดินดำทมิฬ สำหรับเปรต สัดเดรัจฉาน มรึงถึงได้หนีมาอยู่ที่นี่ไงล่ะ แต่อยู่ได้ไม่นาน แสงโผล่ มรึงก็ไหม้เกรียมอยู่ดี! รักแผ่นดินกูมากชิมิ ตายซะที่นี่เลยเป็นไง? จะได้อยู่เป็นปุ๋ยให้สัดเดรัจฉานแดร๊กแทน)20 พฤศจิกายน 6717.40 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 689 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/e5c06MM0qmg
    AH 4679 อิสลาม กับ ภูตผีปีศาจ
    โดย อาจารย์อาดัม พรภาพงาม คุณอามีน สัมพันธ์
    15.09.67 @ AREA 53 รามฯ53 ซอยบ่อปลา
    .....................................................................
    😍เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน📕
    ติดตามงานของ Alhamdulillah GROUP ได้ที่
    🌐 website http://www.alhamdtv.com​​
    ▶️ Youtube : https://www.youtube.com/user/AlhamdTV
    🎧 Podcast : https://alhamdtv.podbean.com/
    🔵 Facebook : https://www.facebook.com/alhamtv/​​
    ติดต่อ และร่วมสนับสนุนกลุ่ม "อัลฮัมดุลิลลาฮฺ" ได้ที่
    ธนาคารกสิกรไทย
    บัญชี นายกิระเดช ชวานนท์
    A/C No. 013-3-47916-3 หรือ
    พร้อมเพย์ 0864018121
    ❤ เรียนให้พี่น้องทราบว่า ทุกคลิปที่เผยแพร่ผ่าน Facebook หรือ Youtube : Alhamdulillah Group ทางทีมงาน"ฮาลาล" ให้พี่น้องในการนำไปเผยแพร่ต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตมาทางทีมงานครับ
    (ยกเว้นผู้ที่นำไปตัดต่อบิดเบือนเนื้อหา หรือ เพื่อนำไปทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดต่อความรู้ในอิสลาม และสร้างความแตกแยกในสังคม ทางทีมงานฯ ขอที่จะ "ไม่ฮาลาล" ให้ครับ)
    จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคม ทำหน้าที่ "เป็นสะพานของงานดะอฺวะฮฺ" ด้วยกันครับ
    ญะซากุมุลลอฮุค็อยรอน
    #alhamdulillahGROUP #อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺกรุ๊ป #สะพานของงานดะอฺวะฮฺ
    https://youtu.be/e5c06MM0qmg AH 4679 อิสลาม กับ ภูตผีปีศาจ โดย อาจารย์อาดัม พรภาพงาม คุณอามีน สัมพันธ์ 15.09.67 @ AREA 53 รามฯ53 ซอยบ่อปลา ..................................................................... 😍เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน📕 ติดตามงานของ Alhamdulillah GROUP ได้ที่ 🌐 website http://www.alhamdtv.com​​ ▶️ Youtube : https://www.youtube.com/user/AlhamdTV 🎧 Podcast : https://alhamdtv.podbean.com/ 🔵 Facebook : https://www.facebook.com/alhamtv/​​ ติดต่อ และร่วมสนับสนุนกลุ่ม "อัลฮัมดุลิลลาฮฺ" ได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย บัญชี นายกิระเดช ชวานนท์ A/C No. 013-3-47916-3 หรือ พร้อมเพย์ 0864018121 ❤ เรียนให้พี่น้องทราบว่า ทุกคลิปที่เผยแพร่ผ่าน Facebook หรือ Youtube : Alhamdulillah Group ทางทีมงาน"ฮาลาล" ให้พี่น้องในการนำไปเผยแพร่ต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตมาทางทีมงานครับ (ยกเว้นผู้ที่นำไปตัดต่อบิดเบือนเนื้อหา หรือ เพื่อนำไปทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดต่อความรู้ในอิสลาม และสร้างความแตกแยกในสังคม ทางทีมงานฯ ขอที่จะ "ไม่ฮาลาล" ให้ครับ) จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคม ทำหน้าที่ "เป็นสะพานของงานดะอฺวะฮฺ" ด้วยกันครับ ญะซากุมุลลอฮุค็อยรอน #alhamdulillahGROUP #อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺกรุ๊ป #สะพานของงานดะอฺวะฮฺ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เดชาพาชวยอีกช่อง
    หลังจากท็อปนิวส์แถลงขอโทษ
    ช่องวันก็ต้องออกมาขอโทษสนธิเช่นกัน
    กรณีเผยแพร่บทสัมภาษณ์ และข้อความ
    ของนายเด ถั่วดำ ที่พาดพิงและบิดเบือนข้อมูล
    สนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2567
    เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่จะเกิดกับช่อง
    เรียกว่า คนอย่างเดชา คือตัวสกั๊งแห่งวงการข่าวสาร
    แค่เปิดคลิป ความชิพหายบังเกิด
    คิงส์ฯเชื่อว่า สนธิ ให้อภัยสำหรับสื่อที่ออกมาขอโทษ
    ยกเว้น จุ๊กกรูนี่แหละ พี่คิงส์รับรอง ไม่รอด ฟันธง
    ปีหน้า เข้าไปหาเพื่อนตั้ม แน่นวล
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    #เดชาพาชวยอีกช่อง หลังจากท็อปนิวส์แถลงขอโทษ ช่องวันก็ต้องออกมาขอโทษสนธิเช่นกัน กรณีเผยแพร่บทสัมภาษณ์ และข้อความ ของนายเด ถั่วดำ ที่พาดพิงและบิดเบือนข้อมูล สนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2567 เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่จะเกิดกับช่อง เรียกว่า คนอย่างเดชา คือตัวสกั๊งแห่งวงการข่าวสาร แค่เปิดคลิป ความชิพหายบังเกิด คิงส์ฯเชื่อว่า สนธิ ให้อภัยสำหรับสื่อที่ออกมาขอโทษ ยกเว้น จุ๊กกรูนี่แหละ พี่คิงส์รับรอง ไม่รอด ฟันธง ปีหน้า เข้าไปหาเพื่อนตั้ม แน่นวล #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • #โพสนี้อยากให้ใจเย็นๆแล้วทบทวนกัน
    ถ้าป้าไม่ใช้จังหวะช่วงท้ายๆเข้ามาแสดงบทบาทเหมือนเป็นเจ้าของสาวอุนจินั้น คงไม่พังแบบนี้
    - เพราะป้าไปเชื่อมจิตให้คนในกลุ่ม ชังสุดหล่อ ฝังหัวเรื่องนาซีซีส
    ..ถ้าวันนั้น ป้าไม่เริ่มทำแบบนั้น ถึงสุดหล่อกับสาวอุนจิจะเลิกกัน มันจะไม่มีอะไรกระทบกระทั่งกันเลยกับแฟนคลับทั้งสองฝ่าย แต่ป้าเลือกใช้สูตรการแบ่งแยกและปกครอง หาพวกสร้างกลุ่มและสะกดจิตให้ชังฝ่ายหนึ่งและปกป้องอีกฝ่ายหนึ่ง
    - ป้าสร้างสตอรี่ แบบผิดๆถูกๆ เชื่อมจิตให้แฟนคลับสาวอุนจิเชื่อ
    ..ถ้าวันนั้น ป้าไม่คิดสร้างวาทะกรรม เรื่องแม่ เรื่องพี่ชาย เรื่องกันจอมพลัง ฯลฯ สร้างเรื่องสตอรี่เวอร์วังให้สาวอุนจิ ก็คงไม่มีใครมาจับโป๊ะได้แบบนี้ ทำให้แฟนคลับฝั่งสุดหล่อก็ขำ เยาะเย้ย ฝั่งแฟนคลับสาวอุนจิ ก็หัวเสีย ต้องเป็นวิวาทะกันในโซเชียล ฝีมือป้าทั้งนั้น
    - ถ้าป้าไม่ปากเก่ง พยายามยั่วยุพี่คิงส์ ทั้งๆที่พี่คิงส์ก็หยุดแล้วจะไปทำเรื่องอื่นแล้ว ป้าก็ยังมาท้าทายถึงเพจ ถ้าป้าไม่ทำแบบนั้นพี่ก็ไม่ต้องมานั่งเสียเวลามาตอบโต้แบบที่ผ่านมา
    - ป้าไปเอาสาวอุนจิ มาแถลงฟ๊องคนไทย
    อันนี้ ก็ได้ข้อมูลจากฝั่งป้าเอง ว่าป้าเป็นคนรบเร้าให้สาวอุนจิฟ๊องคนไทย
    ซึ่ง เอาจริงๆ ก็ไม่ได้เป็นผลดีกับทางสาวอุนจิเลย มีแต่เสียกับเสีย
    โดยใช้วาทะกรรมว่า ปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิง
    ซึ่ง ผู้หญิงที่ว่า น่าจะเป็นตัวป้าเอง
    เพราะทุกอย่างเริ่มที่ป้า
    เพราะถ้าป้าไม่มาสร้างเรื่องปั่นป่วนจนสร้างความชิงชัง
    และส่งผลประทบทางจิตใจของสุดหล่อ
    จนทำให้สุดหล่อต้องออกมาพูดหลายๆอย่างแบบโต้รุ่ง
    เพื่อชี้แจงความจริงที่ป้าบิดเบือนสร้างความเสียหาย
    จนทำให้คนไทยหลายคน รวมถึงพี่คิงส์ต้องออกมา
    เพื่อปกป้องสุดหล่อ ที่ถูกอธรรม
    เค้าว่าการฟ๊องคนไทยครั้งนี้ คนที่ได้กับได้คือป้า
    ป้า เอาคืนคนที่ว่าตัวเอง โดยยืมมือสาวอุนจิ
    ป้า เอาคืนคนที่ว่าตัวเอง โดยไม่ต้องใช้เงินตัวเอง
    ป้า ได้ผลประโยชน์จากสาวอุนจิในเรื่องการจัดแถลงข่าว
    พวกนี้ ล้วนแล้วเป็นข้อมูลที่เปิดเผยจากฝั่งสาวอุนจิทั้งนั้นนะครับ
    อย่ามาทำเป็นถามหาหลักฐานอะไร ไปหาที่ฝั่งเดียวกันเอาครับ
    และที่สำคัญ ป้ารักสาวอุนจิยังไงไม่รู้
    ป้าให้สาวอุนจิมีkadeeกับคนไทย แปลว่าสาวอุนจิต้องบินลงมาขึ้นศาn
    แล้วถ้าอีกฝ่ายเค้าสู้ ก็จะมีฟ๊องกลับ หรือตั้งเรื่องใหม่
    สมมุติง่ายๆนะครับ มีอีก 20 kadee หรือมากกว่านั้น
    แล้วฟ๊อกคนละจังหวัด สาวอุนจิต้องบินมาไทยอีกกี่รอบ
    ต้องชีวิตต้องวุ่นวายอยู่กับเรื่อง Kadee เนี่ยแหละครับ
    ที่พี่คิงส์งง ป้ารักของป้ายังไงฟร๊ะ
    - ป้า พาแฟนคลับสาวอุนจิ แบ่งแยกกันเป็นฝักเป็นฝ่าย โดยป้าจะถีบทิ้งทุกคนที่ไม่อยู่ในอาณัติป้า มันไม่ผิดเลย ที่เทพที่เคยเชียร์เห็นบทบาทป้าแล้วเบื่อหน่าย ทนไม่ไหวต้องกลับมาพาคนที่รักสาวอุนจิพากันไปในทางที่ถูกที่ควร
    เอาจริงๆ ถ้าไม่มีป้า ป่านนี้ แฟนคลับแต่ละฝ่าย ก็แยกย้ายกันเชียร์
    อย่าลืมว่า สิ่งที่ป้าบอกว่า สาวอุนจิพูดแบบนั้นแบบนี้ คนไทยฟังไม่ออก
    หรือคนไทยพูดแบบไหน สาวอุนจิก็ฟังไม่ออกเช่นกัน
    แต่ป้า คือเครื่องปั่นชั้นดี ที่ไปเล่าแบบไหนไม่รู้
    รู้แต่ว่า สุดท้ายเหมือนป้าจะคุมได้หมด
    คุมได้ทั้งฝั่งสาวอุนจิ คุมได้ทั้งแฟนคลับสาวอุนจิ
    และสร้างภาพว่าตนเองเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริง
    แม้กระทั่ง คำตักเตือนของแฟนคลับรุ่นแรก
    ก็ไม่ยอมรับฟัง แถมแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
    ว่าคนที่เป็นแฟนคลับตัวจริงต้องสายป้าเท่านั้น
    เอาจริงๆแล้ว เรื่องการชอบดารา ชอบนักร้อง
    มันมีทุกวงการ แต่ไม่เห็นจะมีปัญหาเฮี้ยอะไรเลย
    เค้าแยกกันเลิกกัน ก็จบ แต่คนที่มันไม่จบ
    ก็เพราะมีคนแบบป้านี่แหละ
    พาแฟนคลับสายตัวเอง ไม่ถล่มคนนั้นคนนี้
    สร้างสัตรูไว้รอบด้าน แม้กระทั่ง บอสณวัฒน์
    คนที่ไม่ควรไปแตะ ก็ไปไฝ้กับเค้า
    ก้องห้วยไร่งี้ ไม่ควรไปยุ่ง ปากก้องไม่ธรรมดา
    ก็ยังไปไฝ้กับเค้า
    แต่ละคนที่เอ่ย มีฐานแฟนคลับหลายล้านคน
    แต่อ้างว่า ทำเพื่อสาวอุนจิ โคตะระย้อนแย้ง
    อยากช่วยสาวต่างด้าว ให้มีที่ยืนในประเทศไทย
    ด้วยการไปไฝ้กับคนไทยที่มีแฟนคลับหลายล้านคน
    มันต้องใช้ซ้งทรีนคิดแน่ๆ ใช้สมองคิดไม่ทำแบบนี้
    มันต้องทำให้คนไทยรักนางดิ ไม่ใช่ทำให้คนอื่นชิงชังแบบนี้
    แค่นึกเล่นๆนะ ถ้าไม่มีป้า เข้ามาวุ่นวายกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก
    แฟนคลับทั้งสองฝ่าย คงแยกย้ายกัน
    ไปมีความสุขกับสุดหล่อ หรือสาวอุนจิที่ตัวเองรัก
    ไม่ต้องมานั่งเสียเวลา วิวาทะกันเหมือนทุกวันนี้จริงๆ
    อย่างที่มีคนพูดไว้ ทุกอย่างจะพังเพราะป้าจริงๆ
    และสาวอุนจิก็พังเพราะป้าเช่นกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    #โพสนี้อยากให้ใจเย็นๆแล้วทบทวนกัน ถ้าป้าไม่ใช้จังหวะช่วงท้ายๆเข้ามาแสดงบทบาทเหมือนเป็นเจ้าของสาวอุนจินั้น คงไม่พังแบบนี้ - เพราะป้าไปเชื่อมจิตให้คนในกลุ่ม ชังสุดหล่อ ฝังหัวเรื่องนาซีซีส ..ถ้าวันนั้น ป้าไม่เริ่มทำแบบนั้น ถึงสุดหล่อกับสาวอุนจิจะเลิกกัน มันจะไม่มีอะไรกระทบกระทั่งกันเลยกับแฟนคลับทั้งสองฝ่าย แต่ป้าเลือกใช้สูตรการแบ่งแยกและปกครอง หาพวกสร้างกลุ่มและสะกดจิตให้ชังฝ่ายหนึ่งและปกป้องอีกฝ่ายหนึ่ง - ป้าสร้างสตอรี่ แบบผิดๆถูกๆ เชื่อมจิตให้แฟนคลับสาวอุนจิเชื่อ ..ถ้าวันนั้น ป้าไม่คิดสร้างวาทะกรรม เรื่องแม่ เรื่องพี่ชาย เรื่องกันจอมพลัง ฯลฯ สร้างเรื่องสตอรี่เวอร์วังให้สาวอุนจิ ก็คงไม่มีใครมาจับโป๊ะได้แบบนี้ ทำให้แฟนคลับฝั่งสุดหล่อก็ขำ เยาะเย้ย ฝั่งแฟนคลับสาวอุนจิ ก็หัวเสีย ต้องเป็นวิวาทะกันในโซเชียล ฝีมือป้าทั้งนั้น - ถ้าป้าไม่ปากเก่ง พยายามยั่วยุพี่คิงส์ ทั้งๆที่พี่คิงส์ก็หยุดแล้วจะไปทำเรื่องอื่นแล้ว ป้าก็ยังมาท้าทายถึงเพจ ถ้าป้าไม่ทำแบบนั้นพี่ก็ไม่ต้องมานั่งเสียเวลามาตอบโต้แบบที่ผ่านมา - ป้าไปเอาสาวอุนจิ มาแถลงฟ๊องคนไทย อันนี้ ก็ได้ข้อมูลจากฝั่งป้าเอง ว่าป้าเป็นคนรบเร้าให้สาวอุนจิฟ๊องคนไทย ซึ่ง เอาจริงๆ ก็ไม่ได้เป็นผลดีกับทางสาวอุนจิเลย มีแต่เสียกับเสีย โดยใช้วาทะกรรมว่า ปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิง ซึ่ง ผู้หญิงที่ว่า น่าจะเป็นตัวป้าเอง เพราะทุกอย่างเริ่มที่ป้า เพราะถ้าป้าไม่มาสร้างเรื่องปั่นป่วนจนสร้างความชิงชัง และส่งผลประทบทางจิตใจของสุดหล่อ จนทำให้สุดหล่อต้องออกมาพูดหลายๆอย่างแบบโต้รุ่ง เพื่อชี้แจงความจริงที่ป้าบิดเบือนสร้างความเสียหาย จนทำให้คนไทยหลายคน รวมถึงพี่คิงส์ต้องออกมา เพื่อปกป้องสุดหล่อ ที่ถูกอธรรม เค้าว่าการฟ๊องคนไทยครั้งนี้ คนที่ได้กับได้คือป้า ป้า เอาคืนคนที่ว่าตัวเอง โดยยืมมือสาวอุนจิ ป้า เอาคืนคนที่ว่าตัวเอง โดยไม่ต้องใช้เงินตัวเอง ป้า ได้ผลประโยชน์จากสาวอุนจิในเรื่องการจัดแถลงข่าว พวกนี้ ล้วนแล้วเป็นข้อมูลที่เปิดเผยจากฝั่งสาวอุนจิทั้งนั้นนะครับ อย่ามาทำเป็นถามหาหลักฐานอะไร ไปหาที่ฝั่งเดียวกันเอาครับ และที่สำคัญ ป้ารักสาวอุนจิยังไงไม่รู้ ป้าให้สาวอุนจิมีkadeeกับคนไทย แปลว่าสาวอุนจิต้องบินลงมาขึ้นศาn แล้วถ้าอีกฝ่ายเค้าสู้ ก็จะมีฟ๊องกลับ หรือตั้งเรื่องใหม่ สมมุติง่ายๆนะครับ มีอีก 20 kadee หรือมากกว่านั้น แล้วฟ๊อกคนละจังหวัด สาวอุนจิต้องบินมาไทยอีกกี่รอบ ต้องชีวิตต้องวุ่นวายอยู่กับเรื่อง Kadee เนี่ยแหละครับ ที่พี่คิงส์งง ป้ารักของป้ายังไงฟร๊ะ - ป้า พาแฟนคลับสาวอุนจิ แบ่งแยกกันเป็นฝักเป็นฝ่าย โดยป้าจะถีบทิ้งทุกคนที่ไม่อยู่ในอาณัติป้า มันไม่ผิดเลย ที่เทพที่เคยเชียร์เห็นบทบาทป้าแล้วเบื่อหน่าย ทนไม่ไหวต้องกลับมาพาคนที่รักสาวอุนจิพากันไปในทางที่ถูกที่ควร เอาจริงๆ ถ้าไม่มีป้า ป่านนี้ แฟนคลับแต่ละฝ่าย ก็แยกย้ายกันเชียร์ อย่าลืมว่า สิ่งที่ป้าบอกว่า สาวอุนจิพูดแบบนั้นแบบนี้ คนไทยฟังไม่ออก หรือคนไทยพูดแบบไหน สาวอุนจิก็ฟังไม่ออกเช่นกัน แต่ป้า คือเครื่องปั่นชั้นดี ที่ไปเล่าแบบไหนไม่รู้ รู้แต่ว่า สุดท้ายเหมือนป้าจะคุมได้หมด คุมได้ทั้งฝั่งสาวอุนจิ คุมได้ทั้งแฟนคลับสาวอุนจิ และสร้างภาพว่าตนเองเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริง แม้กระทั่ง คำตักเตือนของแฟนคลับรุ่นแรก ก็ไม่ยอมรับฟัง แถมแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ว่าคนที่เป็นแฟนคลับตัวจริงต้องสายป้าเท่านั้น เอาจริงๆแล้ว เรื่องการชอบดารา ชอบนักร้อง มันมีทุกวงการ แต่ไม่เห็นจะมีปัญหาเฮี้ยอะไรเลย เค้าแยกกันเลิกกัน ก็จบ แต่คนที่มันไม่จบ ก็เพราะมีคนแบบป้านี่แหละ พาแฟนคลับสายตัวเอง ไม่ถล่มคนนั้นคนนี้ สร้างสัตรูไว้รอบด้าน แม้กระทั่ง บอสณวัฒน์ คนที่ไม่ควรไปแตะ ก็ไปไฝ้กับเค้า ก้องห้วยไร่งี้ ไม่ควรไปยุ่ง ปากก้องไม่ธรรมดา ก็ยังไปไฝ้กับเค้า แต่ละคนที่เอ่ย มีฐานแฟนคลับหลายล้านคน แต่อ้างว่า ทำเพื่อสาวอุนจิ โคตะระย้อนแย้ง อยากช่วยสาวต่างด้าว ให้มีที่ยืนในประเทศไทย ด้วยการไปไฝ้กับคนไทยที่มีแฟนคลับหลายล้านคน มันต้องใช้ซ้งทรีนคิดแน่ๆ ใช้สมองคิดไม่ทำแบบนี้ มันต้องทำให้คนไทยรักนางดิ ไม่ใช่ทำให้คนอื่นชิงชังแบบนี้ แค่นึกเล่นๆนะ ถ้าไม่มีป้า เข้ามาวุ่นวายกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แฟนคลับทั้งสองฝ่าย คงแยกย้ายกัน ไปมีความสุขกับสุดหล่อ หรือสาวอุนจิที่ตัวเองรัก ไม่ต้องมานั่งเสียเวลา วิวาทะกันเหมือนทุกวันนี้จริงๆ อย่างที่มีคนพูดไว้ ทุกอย่างจะพังเพราะป้าจริงๆ และสาวอุนจิก็พังเพราะป้าเช่นกัน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💰💵เมื่อ FDA รับทรัพย์ รับเงินผลประโยชน์มานานมากแล้ว โลกจึงโดนหลอก ว่า "ไขมันสัตว์เลว ไขมันพืชดี"😱

    บริษัทบุหรี่😈 ใช้นักวิทยาศาสตร์เก่งๆคิดค้นผลิตสูตรเคมี เพื่อทำให้บุหรี่ติดง่ายขึ้น หลังจากเจอแรงกดดันและคนเริ่มรู้ว่าบุหรี่อันตราย บริษัทบุหรี่จึงเข้าไปซื้อบริษัทผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ของโลก ใช้นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น คิดสูตรให้คนเสพติดอาหารได้ง่ายขึ้น และเอาส่วนผสมเหล่านั้นมาใช้ในอาหารแปรรูป ตั้งใจให้เด็กติดงอมแงม สร้าง "ลูกค้าถาวรตลอดชีวิต"

    ด้วยความรวยจึงจ่ายเงินใต้โต๊ะหรือให้ผลประโยชน์ต่างๆนานากับ FDA, USDA รวมไปถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Harvard, Standford ✨เพื่อให้ตั้งธงผลิตงานวิจัยที่ส่งเสริมยอดขายของบริษัทตนเอง (คาร์โบไฮเดรตดี น้ำตาลไม่เป็นอันตราย) รวมถึงบิดเบือนข้อมูลว่า ไขมันสัตว์ไม่ดี น้ำมันพืชดีกว่า

    จอห์น ดี ร็อคเคเฟลเลอร์ 💰😈 มหาเศรษฐีน้ำมันผู้มากอิทธิพล ใช้อำนาจเงินเข้าล็อบบี้ FDA เพื่ออนุมัติให้น้ำมันพืชถูกนำมาใช้เป็นอาหารได้ ทั้งที่มันถูกผลิตมาเพื่อใช้ "หล่อลื่นเครื่องจักร" แต่การเอามาขายให้คน มันได้ยอดขายเยอะกว่า!

    มันเป็นสัจธรรม!💰อำนาจเงินซื้อได้ทุกสิ่ง!! แม้กระทั่ง FDA WHO ☠องค์การอนามัยโลก
    https://t.me/awakened_thailand/521
    💰💵เมื่อ FDA รับทรัพย์ รับเงินผลประโยชน์มานานมากแล้ว โลกจึงโดนหลอก ว่า "ไขมันสัตว์เลว ไขมันพืชดี"😱 บริษัทบุหรี่😈 ใช้นักวิทยาศาสตร์เก่งๆคิดค้นผลิตสูตรเคมี เพื่อทำให้บุหรี่ติดง่ายขึ้น หลังจากเจอแรงกดดันและคนเริ่มรู้ว่าบุหรี่อันตราย บริษัทบุหรี่จึงเข้าไปซื้อบริษัทผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ของโลก ใช้นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น คิดสูตรให้คนเสพติดอาหารได้ง่ายขึ้น และเอาส่วนผสมเหล่านั้นมาใช้ในอาหารแปรรูป ตั้งใจให้เด็กติดงอมแงม สร้าง "ลูกค้าถาวรตลอดชีวิต" ด้วยความรวยจึงจ่ายเงินใต้โต๊ะหรือให้ผลประโยชน์ต่างๆนานากับ FDA, USDA รวมไปถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Harvard, Standford ✨เพื่อให้ตั้งธงผลิตงานวิจัยที่ส่งเสริมยอดขายของบริษัทตนเอง (คาร์โบไฮเดรตดี น้ำตาลไม่เป็นอันตราย) รวมถึงบิดเบือนข้อมูลว่า ไขมันสัตว์ไม่ดี น้ำมันพืชดีกว่า จอห์น ดี ร็อคเคเฟลเลอร์ 💰😈 มหาเศรษฐีน้ำมันผู้มากอิทธิพล ใช้อำนาจเงินเข้าล็อบบี้ FDA เพื่ออนุมัติให้น้ำมันพืชถูกนำมาใช้เป็นอาหารได้ ทั้งที่มันถูกผลิตมาเพื่อใช้ "หล่อลื่นเครื่องจักร" แต่การเอามาขายให้คน มันได้ยอดขายเยอะกว่า! มันเป็นสัจธรรม!💰อำนาจเงินซื้อได้ทุกสิ่ง!! แม้กระทั่ง FDA WHO ☠องค์การอนามัยโลก https://t.me/awakened_thailand/521
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 390 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • 💬 รมว.ต่างประเทศลาฟรอฟ: ตะวันตกกำลังใช้แคมเปญข่าวปลอมที่ไม่เคยมีมาก่อนเป็นส่วนหนึ่งของสงครามลูกผสมที่กำลังดำเนินอยู่กับรัสเซียและรัฐอิสระทั้งหมด

    เครื่องมือดิจิทัลทำให้ผู้ก่ออาชญากรรมสามารถบิดเบือนประวัติศาสตร์, โจมตีฝ่ายตรงข้าม, แทนที่แนวคิด และบิดเบือนข้อเท็จจริงในรูปแบบต่างๆ

    เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ, รัฐที่ปฏิเสธการแทรกแซงที่ก้าวร้าวและเป็นอันตรายในภูมิทัศน์ข้อมูลระหว่างประเทศและในประเทศ จะต้องร่วมมือกัน
    .
    💬 FM Lavrov: The West is using an unprecedented disinformation campaign as an integral part of the hybrid war it is waging against Russia and all independent states.

    Digital tools enable the perpetrators to falsify history, demonise opponents, substitute concepts and manipulate facts in various ways.

    To effectively respond to this challenge, states that reject aggressive and malicious interference in the international and national information landscape must combine their efforts.

    http://t.me/RusEmbUK/1853
    .
    5:19 PM · Nov 15, 2024 · 14.8K Views
    https://x.com/RussianEmbassy/status/1857367920352858527
    💬 รมว.ต่างประเทศลาฟรอฟ: ตะวันตกกำลังใช้แคมเปญข่าวปลอมที่ไม่เคยมีมาก่อนเป็นส่วนหนึ่งของสงครามลูกผสมที่กำลังดำเนินอยู่กับรัสเซียและรัฐอิสระทั้งหมด เครื่องมือดิจิทัลทำให้ผู้ก่ออาชญากรรมสามารถบิดเบือนประวัติศาสตร์, โจมตีฝ่ายตรงข้าม, แทนที่แนวคิด และบิดเบือนข้อเท็จจริงในรูปแบบต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ, รัฐที่ปฏิเสธการแทรกแซงที่ก้าวร้าวและเป็นอันตรายในภูมิทัศน์ข้อมูลระหว่างประเทศและในประเทศ จะต้องร่วมมือกัน . 💬 FM Lavrov: The West is using an unprecedented disinformation campaign as an integral part of the hybrid war it is waging against Russia and all independent states. Digital tools enable the perpetrators to falsify history, demonise opponents, substitute concepts and manipulate facts in various ways. To effectively respond to this challenge, states that reject aggressive and malicious interference in the international and national information landscape must combine their efforts. http://t.me/RusEmbUK/1853 . 5:19 PM · Nov 15, 2024 · 14.8K Views https://x.com/RussianEmbassy/status/1857367920352858527
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต

    รัฐบาลใหม่สหรัฐ ประกาศแล้วว่าเรื่องวัคซีนมีผลกระทบข้างเคียงจะต้องยอมรับและนำไปสู่การเยียวยา

    นอกจากนั้นทหารที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนและถูกปลดรัฐบาลใหม่ประกาศแล้วว่าจะรับกลับเข้ากองทัพและจำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชย

    รัฐบาลใหม่ประกาศแล้วว่าจะทำการจัดการรื้อ องค์กรของรัฐทั้ง CDC และ FDA

    รัฐบาลใหม่ประกาศแล้วว่าจะจัดการเรื่องการสมคบคิดป้ายสี ผู้ที่ได้รับผลกระทบและผู้ที่ให้หลักฐานความเป็นจริงว่าเป็นผู้ให้ข้อมูลไม่จริง

    และจะมีการเช็คบิล และต่อจากนี้ถ้ามีการทำอีกคือไล่ออก และถ้ามีการสมคบคิดกับนักวิชาการมหาวิทยาลัยโรงเรียนแพทย์ จะจัดการยุติทุนสนับสนุนแก่นักวิจัยและมหาวิทยาลัยนั้น

    การที่สถาบันวัคซีนจะมีการประชุมและนำนักวิชาการมากล่าวว่ามีการบิดเบือนว่าวัคซีนมีผลแทรกซ้อนข้างเคียง แสดงว่ายืนข้างวัคซีนและปฏิเสธความเสียหายต่อชีวิตคนไทย
    เช่นนี้ ทางการ สถาบันวัคซีน คนที่อ้างตัวว่าเป็นนักวิชาการและจะมาพูดสมควรที่จะถูกดำเนินคดีและลงโทษหรือไม่?

    'หมอเดชา' ยืนข้าง 'หมอธีระวัฒน์' เชื่อมีข้อมูล​ผลกระทบจากการฉีดวัคซีน​โควิด https://thaipost.net/human-life-news/689671/

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0PG782N6yBM2SWucuLViwALi4f1nmKCtmjs7cLw2H4hW7GvRNZq8W9PMoW3xwkp1Ql&id=100064749694453
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต รัฐบาลใหม่สหรัฐ ประกาศแล้วว่าเรื่องวัคซีนมีผลกระทบข้างเคียงจะต้องยอมรับและนำไปสู่การเยียวยา นอกจากนั้นทหารที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนและถูกปลดรัฐบาลใหม่ประกาศแล้วว่าจะรับกลับเข้ากองทัพและจำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชย รัฐบาลใหม่ประกาศแล้วว่าจะทำการจัดการรื้อ องค์กรของรัฐทั้ง CDC และ FDA  รัฐบาลใหม่ประกาศแล้วว่าจะจัดการเรื่องการสมคบคิดป้ายสี ผู้ที่ได้รับผลกระทบและผู้ที่ให้หลักฐานความเป็นจริงว่าเป็นผู้ให้ข้อมูลไม่จริง และจะมีการเช็คบิล และต่อจากนี้ถ้ามีการทำอีกคือไล่ออก และถ้ามีการสมคบคิดกับนักวิชาการมหาวิทยาลัยโรงเรียนแพทย์ จะจัดการยุติทุนสนับสนุนแก่นักวิจัยและมหาวิทยาลัยนั้น การที่สถาบันวัคซีนจะมีการประชุมและนำนักวิชาการมากล่าวว่ามีการบิดเบือนว่าวัคซีนมีผลแทรกซ้อนข้างเคียง แสดงว่ายืนข้างวัคซีนและปฏิเสธความเสียหายต่อชีวิตคนไทย เช่นนี้ ทางการ สถาบันวัคซีน คนที่อ้างตัวว่าเป็นนักวิชาการและจะมาพูดสมควรที่จะถูกดำเนินคดีและลงโทษหรือไม่? 'หมอเดชา' ยืนข้าง 'หมอธีระวัฒน์' เชื่อมีข้อมูล​ผลกระทบจากการฉีดวัคซีน​โควิด https://thaipost.net/human-life-news/689671/ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0PG782N6yBM2SWucuLViwALi4f1nmKCtmjs7cLw2H4hW7GvRNZq8W9PMoW3xwkp1Ql&id=100064749694453
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา"ฟ้อง"ณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง

    13 พฤศจิกายน 2567- เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ พ1135/2564 ที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เป็นโจทก์ฟ้อง ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง ผู้เขียนวิทยานิพนธ์และหนังสือ เป็นจำเลยที่ 1 รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เป็นจำเลยที่ 2 นายชัยธวัช ตุลาธน บรรณาธิการหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ เป็นจำเลยที่ 3 น.ส.อัญชลี มณีโรจน์ บรรณาธิการหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี เป็นจำเลยที่ 4 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือทั้ง 2 เล่ม เป็นจำเลยที่ 5 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหา “ละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง” และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท

    กรณีจำเลยเกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์ การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500), หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อและ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี

    ต่อมาเมื่อเดือน มิถุนายน 2566 โจทก์ได้ถอนฟ้อง รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด

    ศาลแพ่ง พิเคราะห์ประเด็นข้อพิพาทที่ต้องวินิจฉัยประการแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งหกร่วมกันรับผิดฐานละเมิดโดยอ้างว่าร่วมกันกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ ทางทำมาหาได้ และทางเจริญของโจทก์ การกระทำจะเป็นการละเมิดและจำเลยทั้งหกต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ ต่อเมื่อข้อความที่กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายฝ่าฝืนความจริงและโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ซึ่งหมายถึงเป็นความเสียหายแก่โจทก์ผู้ฟ้องโดยเฉพาะ มิใช่ความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวว่าเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จำเลยทั้งหกร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์โดยนำข้อความอันเป็นเท็จจัดทำเอกสารไขข่าวแพร่หลายสู่สาธารณะเพื่อมุ่งประสงค์กล่าวหาให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยทำเป็นกระบวนการเพื่อใช้ในการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เริ่มจากจำเลยที่ 1 โดยความเห็นชอบและร่วมมือของจำเลยที่ 2 ปั้นแต่งความเท็จขึ้นใส่ความสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการว่าทรงประพฤติตนไม่สมต่อตำแหน่งหน้าที่ ทั้งการใช้พระราชอำนาจสนับสนุนรับรองการรัฐประหารปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการปกครองในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.เพื่อปูทางการเมืองที่ราบรื่นให้แก่สถาบันกษัตริย์ โดยเจตนาเพื่อให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการทำวิทยานิพนธ์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และโจทก์ได้บรรยายฟ้องระบุถึงข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ หน้า 63 วรรคแรก และหน้า 105 วรรคแรก และบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 นำข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ไปพูดในการเสวนาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2553 กล่าวหากรมขุนชัยนาทนเรนทรว่าก้าวก่ายรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ด้วยการเข้าไปนั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี อันเป็นความเท็จ และเมื่อปี 2556 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขอฝันใฝ่ในผันอันเหลือเชื่อ : ความเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม (พ.ศ.2475-2500) เนื้อหาโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ต่อเนื่องจนถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ด้วยความเท็จ และโจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความอันเป็นเท็จ เนื้อหาหน้า 120 -121 และหน้า 124-125 และเมื่อปี 2563 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี กล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และมีข้อความโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หลายแห่ง และโจทก์บรรยายฟ้องข้อความอันเป็นเท็จที่หน้า 60,63,66,73,77และข้อความเท็จใต้ภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หน้า 69 และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 แต่งความเท็จใส่ร้ายกล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และสถาบันพระมหากษัตริย์ในหนังสือต่างประเทศที่จำหน่ายทั่วโลก ชื่อ “Saying the Unsayable Monarchy and Democracy in Thailand” ใส่ร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่ามีส่วนร่วมในการรัฐประหาร ปี 2490 แทรกแซงการเมืองโดยการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี

    เมื่อข้อความอันเป็นเท็จตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ มิได้กล่าวพาดพิงถึงโจทก์หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของโจทก์และครอบครัว ทั้งเรื่องการรับรองรัฐประหาร ปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการเมืองสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ไม่ปรากฏว่ามีความเกี่ยวข้องกับโจทก์ อันจะทำให้ผู้ที่อ่านข้อความในวิทยานิพนธ์และในหนังสือที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวเข้าใจผิดในตัวโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็บรรยายฟ้องว่าการที่จำเลยที่ 1 เขียนข้อความเท็จในวิทยานิพนธ์และหนังสือดังกล่าว ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เป็นผู้ไม่นิยมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฝักใฝ่อำนาจทางการเมือง สนับสนุนการรัฐประหาร กระทำการก้าวก่ายการบริหารราชการของรัฐบาล ฟ้องของโจทก์จึงมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ทั้งการบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ระบุว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้สิ้นพระชนม์แล้วก่อนที่จะมีการกระทำอันเป็นละเมิดตามคำฟ้อง จึงเป็นฟ้องที่กล่าวอ้างว่ามีการกระทำละเมิดต่อหรือความเสียหายของผู้ที่ไม่มีสภาพบุคคลแล้ว แม้โจทก์เป็นหลานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งสิ้นพระชนม์แล้วและข้อความกล่าวพาดพิงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร

    แม้หากฟังได้ว่าข้อความดังกล่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริงตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง และทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ก็ไม่ได้เสียหายต่อโจทก์ทายาทชั้นหลานด้วย เพราะข้อความตามคำบรรยายฟ้องมิได้กล่าวหรือแสดงเรื่องราวที่ไม่ตรงต่อความจริงเกี่ยวกับโจทก์และครอบครัวและไม่ได้สื่อความหมายเกี่ยวกับโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านว่าหนังสือขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ รวมถึงวิทยานิพนธ์ของจำเลยที่ 1 กล่าวถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ไม่ได้กล่าวถึงโจทก์และทายาทของโจทก์ ข้อเท็จจริงตามข้อความในวิทยานิพนธ์ดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ โจทก์ไม่ทราบเนื่องจากขณะนั้นโจทก์ยังไม่เกิด ดังนั้น เมื่อข้อความที่จำเลยที่ 1 แสดงในวิทยานิพนธ์ ในหนังสือ และที่จำเลยที่ 1 นำไปพูดตามคำฟ้องไม่ได้สื่อความหมายถึงโจทก์ ย่อมไม่อาจทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจผิดในตัวโจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นหลานอันจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ และทางทำมาหาได้หรือทางเจริญ

    ส่วนที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมและอาฆาดมาดร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร โดยมีผู้นำสีแดงมาสาดใส่ที่พระอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งประดิษฐานอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขนั้น เหตุการณ์ตามภาพข่าวและสถานที่เกิดเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์ ไม่ปรากฏว่าบุคคลผู้ก่อเหตุเป็นใครและการกระทำสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด และที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนที่ถนนวิภาวดีรังสิตปลุกระดมให้มีการยกเลิกชื่อถนนซึ่งเป็นพระนามของพระเจ้าวงวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ก็มิได้ระบุว่าเป็นการชุมนุมปลุกระดมสืบเนื่องจากข้อความในวิทยานิพนธ์หรือในหนังสือคดีนี้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์โดยตรง

    ทั้งการฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์ โจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านถึงมูลเหตุที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000,000 บาท เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงทำคุณความดีและประโยชน์ให้ประเทศไทยเป็นจำนวนมากมายมหาศาล การฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์จึงมิได้มีความสัมพันธ์กับที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้รับความเสียหายจากข้อความของจำเลยที่ 1 ตามคำฟ้องและไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิ

    ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงตามคำฟ้องทำให้ราชสกุลรังสิต รวมถึงโจทก์ผู้สืบราชสกุลและเป็นผู้แทนราชสกุลได้รับความเสียหายนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์มิได้ว่าระบุว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นในราชสกุลรังสิตด้วย ทั้งราชสกุลรังสิตก็ไม่ปรากฏว่ามีสภาพบุคคลตามกฎหมายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีนี้ในฐานะส่วนตัว มิได้เป็นการฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นด้วย โจทก์จึงมิอาจกล่าวอ้างความเสียหายของราชสกุลรังสิตซึ่งไม่มีสภาพบุคคล ส่วนที่โจทก์ฟ้องและเบิกความว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อมูลนิธิวิภาวดีรังสิต ที่โจทก์เป็นประธานและมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ซึ่งโจทก์เป็นกรรมการ กระทบต่อการหารายได้โดยการรับบริจาคเงินจากสาธารณชนซึ่งรายได้นำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสนั้น เมื่อมูลนิธิดังกล่าวมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างหากจากโจทก์ และโจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะส่วนตัวไม่ได้ฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากมูลนิธิ

    โจทก์จึงไม่อาจอ้างว่ามูลนิธิดังกล่าว ซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดีนี้ได้รับความเสียหายเพื่อให้มีการใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไป พิพากษายกฟ้อง

    https://mgronline.com/crime/detail/9670000109449#google_vignette

    #Thaitimes
    ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา"ฟ้อง"ณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง 13 พฤศจิกายน 2567- เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ พ1135/2564 ที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เป็นโจทก์ฟ้อง ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง ผู้เขียนวิทยานิพนธ์และหนังสือ เป็นจำเลยที่ 1 รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เป็นจำเลยที่ 2 นายชัยธวัช ตุลาธน บรรณาธิการหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ เป็นจำเลยที่ 3 น.ส.อัญชลี มณีโรจน์ บรรณาธิการหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี เป็นจำเลยที่ 4 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือทั้ง 2 เล่ม เป็นจำเลยที่ 5 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหา “ละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง” และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท กรณีจำเลยเกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์ การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500), หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อและ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี ต่อมาเมื่อเดือน มิถุนายน 2566 โจทก์ได้ถอนฟ้อง รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด ศาลแพ่ง พิเคราะห์ประเด็นข้อพิพาทที่ต้องวินิจฉัยประการแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งหกร่วมกันรับผิดฐานละเมิดโดยอ้างว่าร่วมกันกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ ทางทำมาหาได้ และทางเจริญของโจทก์ การกระทำจะเป็นการละเมิดและจำเลยทั้งหกต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ ต่อเมื่อข้อความที่กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายฝ่าฝืนความจริงและโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ซึ่งหมายถึงเป็นความเสียหายแก่โจทก์ผู้ฟ้องโดยเฉพาะ มิใช่ความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวว่าเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จำเลยทั้งหกร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์โดยนำข้อความอันเป็นเท็จจัดทำเอกสารไขข่าวแพร่หลายสู่สาธารณะเพื่อมุ่งประสงค์กล่าวหาให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยทำเป็นกระบวนการเพื่อใช้ในการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เริ่มจากจำเลยที่ 1 โดยความเห็นชอบและร่วมมือของจำเลยที่ 2 ปั้นแต่งความเท็จขึ้นใส่ความสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการว่าทรงประพฤติตนไม่สมต่อตำแหน่งหน้าที่ ทั้งการใช้พระราชอำนาจสนับสนุนรับรองการรัฐประหารปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการปกครองในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.เพื่อปูทางการเมืองที่ราบรื่นให้แก่สถาบันกษัตริย์ โดยเจตนาเพื่อให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการทำวิทยานิพนธ์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และโจทก์ได้บรรยายฟ้องระบุถึงข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ หน้า 63 วรรคแรก และหน้า 105 วรรคแรก และบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 นำข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ไปพูดในการเสวนาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2553 กล่าวหากรมขุนชัยนาทนเรนทรว่าก้าวก่ายรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ด้วยการเข้าไปนั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี อันเป็นความเท็จ และเมื่อปี 2556 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขอฝันใฝ่ในผันอันเหลือเชื่อ : ความเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม (พ.ศ.2475-2500) เนื้อหาโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ต่อเนื่องจนถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ด้วยความเท็จ และโจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความอันเป็นเท็จ เนื้อหาหน้า 120 -121 และหน้า 124-125 และเมื่อปี 2563 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี กล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และมีข้อความโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หลายแห่ง และโจทก์บรรยายฟ้องข้อความอันเป็นเท็จที่หน้า 60,63,66,73,77และข้อความเท็จใต้ภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หน้า 69 และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 แต่งความเท็จใส่ร้ายกล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และสถาบันพระมหากษัตริย์ในหนังสือต่างประเทศที่จำหน่ายทั่วโลก ชื่อ “Saying the Unsayable Monarchy and Democracy in Thailand” ใส่ร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่ามีส่วนร่วมในการรัฐประหาร ปี 2490 แทรกแซงการเมืองโดยการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อข้อความอันเป็นเท็จตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ มิได้กล่าวพาดพิงถึงโจทก์หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของโจทก์และครอบครัว ทั้งเรื่องการรับรองรัฐประหาร ปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการเมืองสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ไม่ปรากฏว่ามีความเกี่ยวข้องกับโจทก์ อันจะทำให้ผู้ที่อ่านข้อความในวิทยานิพนธ์และในหนังสือที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวเข้าใจผิดในตัวโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็บรรยายฟ้องว่าการที่จำเลยที่ 1 เขียนข้อความเท็จในวิทยานิพนธ์และหนังสือดังกล่าว ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เป็นผู้ไม่นิยมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฝักใฝ่อำนาจทางการเมือง สนับสนุนการรัฐประหาร กระทำการก้าวก่ายการบริหารราชการของรัฐบาล ฟ้องของโจทก์จึงมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ทั้งการบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ระบุว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้สิ้นพระชนม์แล้วก่อนที่จะมีการกระทำอันเป็นละเมิดตามคำฟ้อง จึงเป็นฟ้องที่กล่าวอ้างว่ามีการกระทำละเมิดต่อหรือความเสียหายของผู้ที่ไม่มีสภาพบุคคลแล้ว แม้โจทก์เป็นหลานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งสิ้นพระชนม์แล้วและข้อความกล่าวพาดพิงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร แม้หากฟังได้ว่าข้อความดังกล่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริงตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง และทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ก็ไม่ได้เสียหายต่อโจทก์ทายาทชั้นหลานด้วย เพราะข้อความตามคำบรรยายฟ้องมิได้กล่าวหรือแสดงเรื่องราวที่ไม่ตรงต่อความจริงเกี่ยวกับโจทก์และครอบครัวและไม่ได้สื่อความหมายเกี่ยวกับโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านว่าหนังสือขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ รวมถึงวิทยานิพนธ์ของจำเลยที่ 1 กล่าวถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ไม่ได้กล่าวถึงโจทก์และทายาทของโจทก์ ข้อเท็จจริงตามข้อความในวิทยานิพนธ์ดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ โจทก์ไม่ทราบเนื่องจากขณะนั้นโจทก์ยังไม่เกิด ดังนั้น เมื่อข้อความที่จำเลยที่ 1 แสดงในวิทยานิพนธ์ ในหนังสือ และที่จำเลยที่ 1 นำไปพูดตามคำฟ้องไม่ได้สื่อความหมายถึงโจทก์ ย่อมไม่อาจทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจผิดในตัวโจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นหลานอันจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ และทางทำมาหาได้หรือทางเจริญ ส่วนที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมและอาฆาดมาดร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร โดยมีผู้นำสีแดงมาสาดใส่ที่พระอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งประดิษฐานอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขนั้น เหตุการณ์ตามภาพข่าวและสถานที่เกิดเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์ ไม่ปรากฏว่าบุคคลผู้ก่อเหตุเป็นใครและการกระทำสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด และที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนที่ถนนวิภาวดีรังสิตปลุกระดมให้มีการยกเลิกชื่อถนนซึ่งเป็นพระนามของพระเจ้าวงวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ก็มิได้ระบุว่าเป็นการชุมนุมปลุกระดมสืบเนื่องจากข้อความในวิทยานิพนธ์หรือในหนังสือคดีนี้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์โดยตรง ทั้งการฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์ โจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านถึงมูลเหตุที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000,000 บาท เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงทำคุณความดีและประโยชน์ให้ประเทศไทยเป็นจำนวนมากมายมหาศาล การฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์จึงมิได้มีความสัมพันธ์กับที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้รับความเสียหายจากข้อความของจำเลยที่ 1 ตามคำฟ้องและไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิ ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงตามคำฟ้องทำให้ราชสกุลรังสิต รวมถึงโจทก์ผู้สืบราชสกุลและเป็นผู้แทนราชสกุลได้รับความเสียหายนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์มิได้ว่าระบุว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นในราชสกุลรังสิตด้วย ทั้งราชสกุลรังสิตก็ไม่ปรากฏว่ามีสภาพบุคคลตามกฎหมายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีนี้ในฐานะส่วนตัว มิได้เป็นการฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นด้วย โจทก์จึงมิอาจกล่าวอ้างความเสียหายของราชสกุลรังสิตซึ่งไม่มีสภาพบุคคล ส่วนที่โจทก์ฟ้องและเบิกความว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อมูลนิธิวิภาวดีรังสิต ที่โจทก์เป็นประธานและมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ซึ่งโจทก์เป็นกรรมการ กระทบต่อการหารายได้โดยการรับบริจาคเงินจากสาธารณชนซึ่งรายได้นำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสนั้น เมื่อมูลนิธิดังกล่าวมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างหากจากโจทก์ และโจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะส่วนตัวไม่ได้ฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากมูลนิธิ โจทก์จึงไม่อาจอ้างว่ามูลนิธิดังกล่าว ซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดีนี้ได้รับความเสียหายเพื่อให้มีการใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไป พิพากษายกฟ้อง https://mgronline.com/crime/detail/9670000109449#google_vignette #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา" ฟ้อง"ณัฐพล-ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ ชี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
    ศาลแพ่งยกฟ้อง ม.ร.ว.ปรียนันทนาฟ้องณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 746 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✳ ขอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทินรีบดำเนินการทบทวนการอนุญาตวัคซีนโควิดของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา
    วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

    เอกสารแนบ
    ๑. สำเนาหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ลงวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
    ๒. สำเนาหนังสือที่กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ส่งให้ส่วนราชการภายใต้ความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับปัญหาของวัคซีนโควิด

    ตามที่ท่านเป็นรัฐมนตรีที่รักษาการตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ โดยมาตรา ๘๖ ได้บัญญัติไว้ว่า “ยาใดที่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้แล้ว หากภายหลัง ปรากฏว่ายานั้นไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ หรืออาจไม่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ .............ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยานั้นได้ การเพิกถอน ให้กระทำโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา คำสั่งของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด” ปัจจุบันมีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า วัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา ไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ กล่าวคือ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ ไม่สามารถป้องกันการแพร่เชื้อ ไม่สามารถลดการป่วยหนัก และไม่สามารถลดการเสียชีวิตลงได้ อีกทั้งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตต่อผู้บริโภค อาจไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ท่านในฐานะรัฐมนตรีที่รักษาการตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงมีอำนาจและหน้าที่ ในการสั่งให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาดังกล่าว ทั้งนี้หากท่านไม่รีบดำเนินการทันทีที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ อาจเข้าข่ายการกระทำผิดในฐาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งส่งผลให้ท่านต้องรับผิดทางอาญาและรับผิดทางละเมิดหากมีผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนดังกล่าวฟ้องร้องกล่าวโทษท่านในอนาคต ในทางตรงกันข้ามหากท่านดำเนินการเพิกถอนทะเบียนตำรับยาวัคซีน mRNA ท่านจะกลายเป็นวีรบุรุษของประชาชน และยังเปิดโอกาสให้มีการพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อใช้ในการรักษาผลข้างเคียงจากวัคซีนดังกล่าวด้วย

    อนึ่งจากผลการเลือกตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศนโยบายในการปฏิรูปสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของประเทศสหรัฐ พร้อมทั้งฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทยาทั้งสองข้างต้นในข้อหาให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน อีกทั้งยังจะทำการสอบสวนสื่อมวลชนในการให้ข้อมูลเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวัคซีนโควิดด้วย นโยบายดังกล่าวย่อมสงผลให้ประชาคมโลกรวมทั้งประเทศไทยรับรู้ข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน mRNA อันจะส่งผลให้ ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนดังกล่าวฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทยา และหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลความปลอดภัยของผู้บริโภคในที่สุด
    จึงเรียนมาเพื่อให้ท่านดำเนินการเพิกถอนตำรับยา และแถลงข่าวในเรื่องนี้ให้สาธารณชนได้รับรู้โดยเร็วต่อไป

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    เอกสารแนบ
    🔸️๑. วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ สำเนาหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี ขอให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา https://drive.google.com/file/d/194Tdo5zsHVbln0QgcEHR4w0vqQKkKKT8/view?usp=drivesdk

    🔸️๒. วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๗ ขอให้กรมควบคุมโรคให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชน https://docs.google.com/document/d/1UiTSqJLYwCJjMDHVKdLxvsRYSJt-pTkY/edit?usp=drive_link&ouid=114317915619449341642&rtpof=true&sd=true

    วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอให้ทบทวนการอนุญาตให้ใช้วัคซีนชนิด mRNA
    https://docs.google.com/document/d/1VE4buQ0_cFnq0skvZZBeMsrhKj4Y1WWO/edit?usp=drive_link&ouid=114317915619449341642&rtpof=true&sd=true

    วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย สัญญาทาส ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์
    https://drive.google.com/file/d/1yJ0G2ZYqtSiGLyqfNcYh815zAw4wPt21/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้ชี้แจงกับสังคมว่ายาฉีด mRNA เป็นวัคซีนหรือพันธุกรรมบำบัด (gene therapy) https://drive.google.com/file/d/1ywJleVBY-n4azNvy-Vq8VZXkX16J8gP2/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้เพิกถอนกสนอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด ชนิด mRNA
    https://drive.google.com/file/d/19mD3aUoAB3t-ciwUXNS9QY4EqtWS7LJ5/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้สอบสวนพฤติกรรมการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยากรณีปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโคเมอร์เนตี้
    https://drive.google.com/file/d/17-QJnIzFImsBVN2ELU_3NxOIQxo5pzW3/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ https://drive.google.com/file/d/1GIDGcv1jafx3O9bwgDUOgfohvuxNat0q/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขยืนยันการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย
    https://drive.google.com/file/d/1lvGImexMXmKdpRPdvJSq9Oqm3wrVovKK/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ กระทรวงสาธารณสุขมีเจตนาที่จะบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย https://drive.google.com/file/d/1uuKi_PTKtO48LBRbcLV_JbsVHTo6zKzI/view?usp=drive_link

    วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๗ ขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทไฟเซอร์
    https://drive.google.com/file/d/1bGwVKoRQUyNt7dXpWbTJJ_AzRyRRsgMH/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที”
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ขอให้รมต.สธ. ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
    https://drive.google.com/file/d/1BR1vKiDPMrlXMykJqZUVgj3aAK-KkyjH/view?usp=drivesdk

    รวมจดหมายเปิดผนึกและหนังสือต่างๆที่ทางกลุ่มฯได้ยื่นให้หน่วยงานภาครัฐ
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    ✳ ขอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทินรีบดำเนินการทบทวนการอนุญาตวัคซีนโควิดของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เอกสารแนบ ๑. สำเนาหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ลงวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ๒. สำเนาหนังสือที่กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ส่งให้ส่วนราชการภายใต้ความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับปัญหาของวัคซีนโควิด ตามที่ท่านเป็นรัฐมนตรีที่รักษาการตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ โดยมาตรา ๘๖ ได้บัญญัติไว้ว่า “ยาใดที่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้แล้ว หากภายหลัง ปรากฏว่ายานั้นไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ หรืออาจไม่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ .............ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยานั้นได้ การเพิกถอน ให้กระทำโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา คำสั่งของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด” ปัจจุบันมีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า วัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา ไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ กล่าวคือ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ ไม่สามารถป้องกันการแพร่เชื้อ ไม่สามารถลดการป่วยหนัก และไม่สามารถลดการเสียชีวิตลงได้ อีกทั้งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตต่อผู้บริโภค อาจไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ท่านในฐานะรัฐมนตรีที่รักษาการตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงมีอำนาจและหน้าที่ ในการสั่งให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาดังกล่าว ทั้งนี้หากท่านไม่รีบดำเนินการทันทีที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ อาจเข้าข่ายการกระทำผิดในฐาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งส่งผลให้ท่านต้องรับผิดทางอาญาและรับผิดทางละเมิดหากมีผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนดังกล่าวฟ้องร้องกล่าวโทษท่านในอนาคต ในทางตรงกันข้ามหากท่านดำเนินการเพิกถอนทะเบียนตำรับยาวัคซีน mRNA ท่านจะกลายเป็นวีรบุรุษของประชาชน และยังเปิดโอกาสให้มีการพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อใช้ในการรักษาผลข้างเคียงจากวัคซีนดังกล่าวด้วย อนึ่งจากผลการเลือกตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศนโยบายในการปฏิรูปสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของประเทศสหรัฐ พร้อมทั้งฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทยาทั้งสองข้างต้นในข้อหาให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน อีกทั้งยังจะทำการสอบสวนสื่อมวลชนในการให้ข้อมูลเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวัคซีนโควิดด้วย นโยบายดังกล่าวย่อมสงผลให้ประชาคมโลกรวมทั้งประเทศไทยรับรู้ข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน mRNA อันจะส่งผลให้ ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนดังกล่าวฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทยา และหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลความปลอดภัยของผู้บริโภคในที่สุด จึงเรียนมาเพื่อให้ท่านดำเนินการเพิกถอนตำรับยา และแถลงข่าวในเรื่องนี้ให้สาธารณชนได้รับรู้โดยเร็วต่อไป กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เอกสารแนบ 🔸️๑. วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ สำเนาหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี ขอให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา https://drive.google.com/file/d/194Tdo5zsHVbln0QgcEHR4w0vqQKkKKT8/view?usp=drivesdk 🔸️๒. วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๗ ขอให้กรมควบคุมโรคให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชน https://docs.google.com/document/d/1UiTSqJLYwCJjMDHVKdLxvsRYSJt-pTkY/edit?usp=drive_link&ouid=114317915619449341642&rtpof=true&sd=true วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอให้ทบทวนการอนุญาตให้ใช้วัคซีนชนิด mRNA https://docs.google.com/document/d/1VE4buQ0_cFnq0skvZZBeMsrhKj4Y1WWO/edit?usp=drive_link&ouid=114317915619449341642&rtpof=true&sd=true วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย สัญญาทาส ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์ https://drive.google.com/file/d/1yJ0G2ZYqtSiGLyqfNcYh815zAw4wPt21/view?usp=drivesdk วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้ชี้แจงกับสังคมว่ายาฉีด mRNA เป็นวัคซีนหรือพันธุกรรมบำบัด (gene therapy) https://drive.google.com/file/d/1ywJleVBY-n4azNvy-Vq8VZXkX16J8gP2/view?usp=drivesdk วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้เพิกถอนกสนอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด ชนิด mRNA https://drive.google.com/file/d/19mD3aUoAB3t-ciwUXNS9QY4EqtWS7LJ5/view?usp=drivesdk วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้สอบสวนพฤติกรรมการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยากรณีปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโคเมอร์เนตี้ https://drive.google.com/file/d/17-QJnIzFImsBVN2ELU_3NxOIQxo5pzW3/view?usp=drivesdk วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ https://drive.google.com/file/d/1GIDGcv1jafx3O9bwgDUOgfohvuxNat0q/view?usp=drivesdk วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขยืนยันการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย https://drive.google.com/file/d/1lvGImexMXmKdpRPdvJSq9Oqm3wrVovKK/view?usp=drivesdk วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ กระทรวงสาธารณสุขมีเจตนาที่จะบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย https://drive.google.com/file/d/1uuKi_PTKtO48LBRbcLV_JbsVHTo6zKzI/view?usp=drive_link วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๗ ขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทไฟเซอร์ https://drive.google.com/file/d/1bGwVKoRQUyNt7dXpWbTJJ_AzRyRRsgMH/view?usp=drivesdk วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ขอให้รมต.สธ. ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา https://drive.google.com/file/d/1BR1vKiDPMrlXMykJqZUVgj3aAK-KkyjH/view?usp=drivesdk รวมจดหมายเปิดผนึกและหนังสือต่างๆที่ทางกลุ่มฯได้ยื่นให้หน่วยงานภาครัฐ https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 751 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลิงก์นี้ลงในเฟสบุ๊กไม่ได้ครับ

    WHO กลับคำหลัง trump มา เคยประกาศเข้ม เรื่องต้องฉีดวัคซีนและต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตจนกระทั่งถึงมีข้อมูลวัคซีนประจำตัวที่เป็นดิจิทัลไม่ใช่นั้นจะประสบปัญหา หลังtrump ขึ้น เปลี่ยนคำทันที
    การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง
    ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส ทุจริต

    เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกา รวม CDC FDA ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ

    เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการกับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี -เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด

    เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้

    ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้ง บริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วน หาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้

    ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ
    เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง
    รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการ และไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน

    องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต
    ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำไม่นานมานี้ สนับสนุนสหภาพยุโรป ที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง

    ซึ่งเป็นแผนแต่ต้น ของ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน มีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน

    แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ

    น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ
    ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว

    ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้

    ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
    https://youtu.be/XMTYBPqIM-I?si=jztZCg1I4k3_eLLR
    ลิงก์นี้ลงในเฟสบุ๊กไม่ได้ครับ WHO กลับคำหลัง trump มา เคยประกาศเข้ม เรื่องต้องฉีดวัคซีนและต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตจนกระทั่งถึงมีข้อมูลวัคซีนประจำตัวที่เป็นดิจิทัลไม่ใช่นั้นจะประสบปัญหา หลังtrump ขึ้น เปลี่ยนคำทันที การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส ทุจริต เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกา รวม CDC FDA ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน เรื่องจัดการกับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี -เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้ ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้ง บริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วน หาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้ ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการ และไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำไม่นานมานี้ สนับสนุนสหภาพยุโรป ที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง ซึ่งเป็นแผนแต่ต้น ของ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน มีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้ ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ https://youtu.be/XMTYBPqIM-I?si=jztZCg1I4k3_eLLR
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 979 มุมมอง 65 0 รีวิว
  • เรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกทำเป็น 'วัฒนธรรมป๊อป' มากที่สุดตอนหนึ่ง มีทั้งนิยาย ภาพยนต์ และล่าสุดคือละครหรือซีรีส์

    อาจเป็นเพราะเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ให้อารมณ์หวาบหวิวจากการแอบลอบคบชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศาธิราช) ทำให้มีการขยายความตอนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักเรื่องนี้เพียง

    ในเวลาต่อมาคอนเทนท์บันเทิงบางยุคเริ่มมีการใช้คำว่า 'แม่หยัว' เรียกท้าวศรีสุดาจันทร์ ทำให้คนเข้าใจผิดไม่น้อยว่า 'แม่หยัว' น่าจะหมายถึงอาการยั่วยวนเรื่องกามราคะ แต่ความจริง 'แม่หยัว' หมายถึง 'แม่อยู่หัว' ที่หมายถึงมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน

    คำว่าแม่อยู่หัวนั้นในบันทึกโบราณเรียกเพี้ยนเป็น แม่อยัว แม่หญัว แม่อยั่ว ฯลฯ แต่พอตอนนี้ของประวัติศาสตร์ถูกวัฒนธรรมป๊อปปั้นภาพลักษณ์ยั่วยวนของท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นมา ทำให้คนเข้าใจคำว่า 'แม่หยัว' ผิดไป

    แต่นั้นมาคำว่า 'แม่หยัว' ก็กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่มันเกิดจากภาพจำผิดๆ ที่ 'นิยายอิงประวัติศาสตร์' สร้างขึ้นมา

    ย้ำอีกครั้งว่าเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นมีเนื้อหาไม่มากนักในทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นถ้าจะทำเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงหลีกกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง "มโนเอาเอง" กันบ้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการสร้างคอนเทนต์บันเทิงกับบุคคลทางประวัติศาสตร์บางคนด้วย

    ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อจะเท้าความ 'กรณีพิพาท' ระหว่างที่คนคิดว่าการทำละครอิงประวัติศาสตร์แบบเรื่อง 'แม่หยัว' ไม่เห็นจะต้องทำให้ตรงประวัติศาสตร์เป๊ะๆ กับฝ่ายที่ย้ำว่าไม่ควรที่จะมโนกันเกินไป

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำ Historical fiction เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า มันมี "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" (Historically Accurate) แค่ไหน? เพราะนิยายอิงประวัติศาสตร์จะต้องอาศัยการมโนในสัดส่วนที่มากพอสมควร เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้เสพ

    ในกรณีของแม่หยัว อย่าไปถามเรื่อง "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" เพราะเนื้อหาในประวัติศาสตร์มีนิดเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้จินตนาการได้มากมาย

    แต่การมโนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมของทางประวัติศาสตร์ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เนียน เช่น ท้างศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุการณ์สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ถ้าไปจับแม่อยู่หัวไปสวมมงกุฏสมัยละโว้มันก็หาได้เนียนไม่ เพราะเมื่อถึงยุค 'แม่หยัว' เขาเลิกใส่เครื่องหัวแบบนั้นกันแล้ว แล้วยังมีกฎมณเฑียรบาลที่ตราไว้ในสมัยอยุธยาตอนนั้นระบุการแต่งกายของแม่อยู่หัวเอาไว้แล้ว และยังมีภาพเขียนในสมุดภาพไตรภูมิสมัยอยุธยา (ที่ผมเชื่อว่าคัดมาจากต้นฉบับสมัยอยุธยาตอนต้น) ชี้ทางเอาไว้แล้วว่าสตรีชั้นสูงยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร

    ความไม่เนียนแบบนี้เองที่จะทำให้ Historical fiction กลายเป็น Historical fantasy ซึ่งมีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างเดียวคือฉากย้อนยุค ส่วนเรื่องอื่นๆ มโนตามใจฉัน

    แต่ในเมืองไทยเรื่องความเนียนไม่เนียนทางประวัติศาสตร์ยังไม่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะประวัติศาสร์บ้านเรากระท่อนกระแท่นและคนไทยแคร์ประวัติศาสตร์มากเท่ากับคนในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศพวกนี้นอกจากต้องทำละครให้เนียนแบบ Historically Accurate แล้ว ยังต้องทำให้ถูกต้องในแบบ Politically correct ด้วย

    ผมจะยกตัวอย่างการสังเกตส่วนตัวจากกรณีของเกาหลีใต้ที่สร้างซีรีส์ย้อนยุคอยู่บ่อยๆ และมักเกิดกรณี "ซีรีส์เรื่องนี้บิดเบือนประวัติศาสตร์"

    ตัวอย่างเช่นซีรีส์เรื่อง Queen Seondeok ในปี 2009 ซึ่งสร้างจากยุคที่บันทึกประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดมากนัก แต่สามารถยืดออกได้มากถึง 62 ตอน ในแง่ของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มีน้อย แถมคอสตูมยังไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ถูกตำหนิในเกาหลีว่า "มโนประวัติศาสตร์" มากเกินไป และยังอ้างบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกปลอมขึ้นมา

    Queen Seondeok ถูกผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ตำหนิอย่างมาก เพราะแม้ว่าบันทึกสมัยชิลลาจะมีไม่มาก แต่มันก็เป็นบันทึกที่เที่ยงแท้ในทางประวัติศาสร์ การจะบิดเบือนความสัมพันธ์ของ 'ตัวละคร' หรือพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้จริงๆ จึงไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น ความจริงแล้ว Queen Seondeok ควรจะเดินตามเส้นตรงของประวัติศาสตร์ เพราะโอกาสที่จะออกนอกประวัติศาสตร์มีแต่บทสนทนาเท่านั้น

    โปรดสังเกตว่าเรื่องนี้สร้างก่อนยุคโซเชียลจะแพร่หลาย

    พอโซเชียลมีเดียทรงพลังขึ้นมา การโจมตีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เริ่มจะสะเปะสะปะขึ้นทุกวัน เพราะแทนที่จะโจมตีความถูกต้อง กลับไปโจมตีเรื่องการเมือง

    ตัวอย่างเช่น Joseon Exorcist เมื่อปี 2021 ที่ฉายได้แค่ 2 ตอนก็แท้งซะก่อน เพราะถูกตำหนิว่าใช้ฉากประกอบที่อ้างว่าไม่ตรงกับความจริงทางประวัติศาสตร์ เช่น ใช้ อุปกรณ์ของจีนในเกาหลีโบราณ

    ในปี 2022 เกิดกรณี Under the Queen's Umbrella ถูกตำหนิว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะใช้ตัวอักษรจีนแบบตัวย่อ (ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นในยุคสมัยใหม่ ส่วนเกาหลีใช้อักษรจีนตัวเต็ม)

    ในปี 2024 มีกรณี Queen Woo ถูกตำหนิว่าเครื่องแต่งกายของตัวละครมีความเป็นจีนมากเกินไป ไม่น่าจะสอดคล้องกับคนเกาหลีในยุคโคกูรยอ (ทั้งที่โคกูรยอก็รับวัฒนธรรมจากจีน)

    กรณีเหล่านี้มีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ 'กระแสต่อต้านจีน' ในเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่เกาหลีเป็นเขตอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ แค่เรื่องนี้เป็น 'อคติ' ของผู้ชมเกาหลีใต้เองที่เกลียด เหยียด และกลัวจีนมากขึ้น

    แต่ในแง่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ กรณีพวกนี้เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เกิดขึ้นในยุคโชซอน ซึ่งมีการบันทึกประวัติศาสตร์ทางการอย่างละเอียด กระทั่งบันทึกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสถ้อยคำไว้อย่างไร

    ในยุคสมัยที่บันทึกละเอียดแบบนี้การมโนจึงทำไม่ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ว่างให้จินตนาการได้อีก ตรงกันข้ามกับเรื่อง Queen Woo ซึ่งเกิดในยุคโคกูรยอ ซึ่งมีประวัติศาสตร์บันทึกกระท่อนกระแท่นเหมือนประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้มโนได้มากตามใจปรารถนา

    แต่ถึงจะมโนได้มาก แต่อารมณ์ชาตินิยมที่รุนแรงในเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มโนได้ตามใจชอบอีก ไม่ใช่เพราะผู้สร้างบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ทำงานออกมาไม่ถูกใจพวกชาตินิยมสุดโต่งต่างหาก

    ดังนั้น ในโลกของนิยายอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีคำว่าถูกต้องเป๊ะๆ ยิ่งในปัจจุบันมีแต่คำว่า "ถูกใจคนดูหรือไม่" โดยที่ความถูกใจของคนดูไม่ใช่ถูกใจเพราะดาราแสดงดี หรือเครื่องแต่งกายสวย แต่ยังต้องคล้องจองกับ 'วาระทางการเมือง' ของคนดูด้วย

    ยกตัวอย่างจีน ซึ่งบางคนยังเชื่อว่าจีนทำซีรีส์พีเรียดมากมายเพราะอนุญาตให้มโนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด

    สังคมจีนและสถาบันรัฐจีน (ที่ชาตินิยมขึ้นทุกวัน) ไม่ได้อนุญาตให้มโนประวัติศาสตร์ได้ สิ่งที่คนไทยเห็นว่าจีนจินตนาการประวัติศาสตร์นั้น คือ สิ่งที่เรียกว่า Historical fantasy คือใช้ฉากย้อนยุคที่กำกวม ใช้คอสตูมที่อาจจะอยู่ในยุคที่คาดเดาได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นั้นจริงๆ เช่นเรื่อง Nirvana In Fire เมื่อปี 2015 ที่ทำให้เชื่อว่าอยู่ในยุคหนานเป่ยเฉา แต่เอาจริงๆ มันไม่มีสถานการณ์จริงและตัวบุคคลจริงอยู่เลย

    หากมีซีรีส์ที่ทำเนื้อหาจริงๆ ทางประวัติศาสตร์ หากเลินเล่อเกินไปก็จะถูกโจมตีอย่างหนัก เช่น Legend of Miyue ที่อิงประวัติศาสตร์ยุคจ้านกั๋ว แต่ถูกวิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้มีความเห็นที่น่าสนใจจาก หลีเสี่ยวเหว่ย บรรณาธิการบริหารของ "จงกั๋วชิงเหนียนหว่าง" (中国青年网) ของทางการจีน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกตำหนิ เขากล่าวว่า

    "จักรพรรดินีองค์แรกของจีนในเรื่อง "Legend of Miyue" ซีรีส์ทางทีวีใช้ตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พื้นฐาน และถึงกับแต่งเรื่องขึ้นมาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้ช่างน่าเป็นห่วง ประการแรก มันจะนำพาผู้คนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และก่อให้เกิดข่าวลือ ประการที่สอง นี่คือทิศทางที่ผิดปกติของการพัฒนาละครประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด"

    ในเรื่องนี้ทางเกาหลีก็เห็นด้วยกับจีน

    จากกรณีของ Queen Seondeok อีจองโฮ ผู้สื่อข่าวของ "ยอนเซ ชุนชู" (연세춘추) สื่อของมหาวิทยาลัยยอนเซ ถึงกับบอกว่า "Queen Seondeok คือเรื่องโกหก" และได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งชี้แนะว่า"ตามที่ศาสตราจารย์ ชาฮเยวอน (ภาควิชาศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน) กล่าวไว้ ละครประวัติศาสตร์จีนมักจะมีความเที่ยงตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแตกต่างจากละครประวัติศาสตร์เกาหลี ความจริงของละครประวัติศาสตร์เกาหลีคือความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกละเลยเพื่อความบันเทิงและเรตติ้งผู้ชม เพื่อแก้ปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองภายในอุตสาหกรรมการออกอากาศ"

    แม้ว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์ที่เบาบางต่างจากจีนและเกาหลี แต่เราสามารถใช้มาตรฐานแบบนี้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องเป๊ะคือแกนหลักในประวัติศาสตร์ อย่าตีความมากเกินไปเพราะต้องเคารพ "ผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งไม่มีโอกาสร้องอุทรณ์แก้ต่างให้ตัวเอง" ด้วย ส่วนสิ่งที่จินตนาการได้ก็ควรทำให้ตรงกับบริบทแวดล้อมของยุคนั้น

    หากทำเอาสนุกอย่างเดียว ก็ "จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด"

    บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better
    ภาพโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์เรื่อง แม่หยัว และ Queen Seondeok

    ที่มา https://www.thebetter.co.th/news/world/23351?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3w6ch-KVjjFiWzTmp8gh2-HSMqAh7UX0lxC3jm2_5RD0J97vIDxYCrljo_aem_wMoYw4S-NqnmnAfELQfeSA

    #Thaitimes
    เรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกทำเป็น 'วัฒนธรรมป๊อป' มากที่สุดตอนหนึ่ง มีทั้งนิยาย ภาพยนต์ และล่าสุดคือละครหรือซีรีส์ อาจเป็นเพราะเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ให้อารมณ์หวาบหวิวจากการแอบลอบคบชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศาธิราช) ทำให้มีการขยายความตอนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักเรื่องนี้เพียง ในเวลาต่อมาคอนเทนท์บันเทิงบางยุคเริ่มมีการใช้คำว่า 'แม่หยัว' เรียกท้าวศรีสุดาจันทร์ ทำให้คนเข้าใจผิดไม่น้อยว่า 'แม่หยัว' น่าจะหมายถึงอาการยั่วยวนเรื่องกามราคะ แต่ความจริง 'แม่หยัว' หมายถึง 'แม่อยู่หัว' ที่หมายถึงมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน คำว่าแม่อยู่หัวนั้นในบันทึกโบราณเรียกเพี้ยนเป็น แม่อยัว แม่หญัว แม่อยั่ว ฯลฯ แต่พอตอนนี้ของประวัติศาสตร์ถูกวัฒนธรรมป๊อปปั้นภาพลักษณ์ยั่วยวนของท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นมา ทำให้คนเข้าใจคำว่า 'แม่หยัว' ผิดไป แต่นั้นมาคำว่า 'แม่หยัว' ก็กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่มันเกิดจากภาพจำผิดๆ ที่ 'นิยายอิงประวัติศาสตร์' สร้างขึ้นมา ย้ำอีกครั้งว่าเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นมีเนื้อหาไม่มากนักในทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นถ้าจะทำเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงหลีกกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง "มโนเอาเอง" กันบ้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการสร้างคอนเทนต์บันเทิงกับบุคคลทางประวัติศาสตร์บางคนด้วย ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อจะเท้าความ 'กรณีพิพาท' ระหว่างที่คนคิดว่าการทำละครอิงประวัติศาสตร์แบบเรื่อง 'แม่หยัว' ไม่เห็นจะต้องทำให้ตรงประวัติศาสตร์เป๊ะๆ กับฝ่ายที่ย้ำว่าไม่ควรที่จะมโนกันเกินไป ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำ Historical fiction เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า มันมี "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" (Historically Accurate) แค่ไหน? เพราะนิยายอิงประวัติศาสตร์จะต้องอาศัยการมโนในสัดส่วนที่มากพอสมควร เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้เสพ ในกรณีของแม่หยัว อย่าไปถามเรื่อง "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" เพราะเนื้อหาในประวัติศาสตร์มีนิดเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้จินตนาการได้มากมาย แต่การมโนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมของทางประวัติศาสตร์ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เนียน เช่น ท้างศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุการณ์สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ถ้าไปจับแม่อยู่หัวไปสวมมงกุฏสมัยละโว้มันก็หาได้เนียนไม่ เพราะเมื่อถึงยุค 'แม่หยัว' เขาเลิกใส่เครื่องหัวแบบนั้นกันแล้ว แล้วยังมีกฎมณเฑียรบาลที่ตราไว้ในสมัยอยุธยาตอนนั้นระบุการแต่งกายของแม่อยู่หัวเอาไว้แล้ว และยังมีภาพเขียนในสมุดภาพไตรภูมิสมัยอยุธยา (ที่ผมเชื่อว่าคัดมาจากต้นฉบับสมัยอยุธยาตอนต้น) ชี้ทางเอาไว้แล้วว่าสตรีชั้นสูงยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร ความไม่เนียนแบบนี้เองที่จะทำให้ Historical fiction กลายเป็น Historical fantasy ซึ่งมีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างเดียวคือฉากย้อนยุค ส่วนเรื่องอื่นๆ มโนตามใจฉัน แต่ในเมืองไทยเรื่องความเนียนไม่เนียนทางประวัติศาสตร์ยังไม่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะประวัติศาสร์บ้านเรากระท่อนกระแท่นและคนไทยแคร์ประวัติศาสตร์มากเท่ากับคนในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศพวกนี้นอกจากต้องทำละครให้เนียนแบบ Historically Accurate แล้ว ยังต้องทำให้ถูกต้องในแบบ Politically correct ด้วย ผมจะยกตัวอย่างการสังเกตส่วนตัวจากกรณีของเกาหลีใต้ที่สร้างซีรีส์ย้อนยุคอยู่บ่อยๆ และมักเกิดกรณี "ซีรีส์เรื่องนี้บิดเบือนประวัติศาสตร์" ตัวอย่างเช่นซีรีส์เรื่อง Queen Seondeok ในปี 2009 ซึ่งสร้างจากยุคที่บันทึกประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดมากนัก แต่สามารถยืดออกได้มากถึง 62 ตอน ในแง่ของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มีน้อย แถมคอสตูมยังไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ถูกตำหนิในเกาหลีว่า "มโนประวัติศาสตร์" มากเกินไป และยังอ้างบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกปลอมขึ้นมา Queen Seondeok ถูกผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ตำหนิอย่างมาก เพราะแม้ว่าบันทึกสมัยชิลลาจะมีไม่มาก แต่มันก็เป็นบันทึกที่เที่ยงแท้ในทางประวัติศาสร์ การจะบิดเบือนความสัมพันธ์ของ 'ตัวละคร' หรือพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้จริงๆ จึงไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น ความจริงแล้ว Queen Seondeok ควรจะเดินตามเส้นตรงของประวัติศาสตร์ เพราะโอกาสที่จะออกนอกประวัติศาสตร์มีแต่บทสนทนาเท่านั้น โปรดสังเกตว่าเรื่องนี้สร้างก่อนยุคโซเชียลจะแพร่หลาย พอโซเชียลมีเดียทรงพลังขึ้นมา การโจมตีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เริ่มจะสะเปะสะปะขึ้นทุกวัน เพราะแทนที่จะโจมตีความถูกต้อง กลับไปโจมตีเรื่องการเมือง ตัวอย่างเช่น Joseon Exorcist เมื่อปี 2021 ที่ฉายได้แค่ 2 ตอนก็แท้งซะก่อน เพราะถูกตำหนิว่าใช้ฉากประกอบที่อ้างว่าไม่ตรงกับความจริงทางประวัติศาสตร์ เช่น ใช้ อุปกรณ์ของจีนในเกาหลีโบราณ ในปี 2022 เกิดกรณี Under the Queen's Umbrella ถูกตำหนิว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะใช้ตัวอักษรจีนแบบตัวย่อ (ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นในยุคสมัยใหม่ ส่วนเกาหลีใช้อักษรจีนตัวเต็ม) ในปี 2024 มีกรณี Queen Woo ถูกตำหนิว่าเครื่องแต่งกายของตัวละครมีความเป็นจีนมากเกินไป ไม่น่าจะสอดคล้องกับคนเกาหลีในยุคโคกูรยอ (ทั้งที่โคกูรยอก็รับวัฒนธรรมจากจีน) กรณีเหล่านี้มีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ 'กระแสต่อต้านจีน' ในเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่เกาหลีเป็นเขตอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ แค่เรื่องนี้เป็น 'อคติ' ของผู้ชมเกาหลีใต้เองที่เกลียด เหยียด และกลัวจีนมากขึ้น แต่ในแง่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ กรณีพวกนี้เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เกิดขึ้นในยุคโชซอน ซึ่งมีการบันทึกประวัติศาสตร์ทางการอย่างละเอียด กระทั่งบันทึกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสถ้อยคำไว้อย่างไร ในยุคสมัยที่บันทึกละเอียดแบบนี้การมโนจึงทำไม่ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ว่างให้จินตนาการได้อีก ตรงกันข้ามกับเรื่อง Queen Woo ซึ่งเกิดในยุคโคกูรยอ ซึ่งมีประวัติศาสตร์บันทึกกระท่อนกระแท่นเหมือนประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้มโนได้มากตามใจปรารถนา แต่ถึงจะมโนได้มาก แต่อารมณ์ชาตินิยมที่รุนแรงในเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มโนได้ตามใจชอบอีก ไม่ใช่เพราะผู้สร้างบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ทำงานออกมาไม่ถูกใจพวกชาตินิยมสุดโต่งต่างหาก ดังนั้น ในโลกของนิยายอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีคำว่าถูกต้องเป๊ะๆ ยิ่งในปัจจุบันมีแต่คำว่า "ถูกใจคนดูหรือไม่" โดยที่ความถูกใจของคนดูไม่ใช่ถูกใจเพราะดาราแสดงดี หรือเครื่องแต่งกายสวย แต่ยังต้องคล้องจองกับ 'วาระทางการเมือง' ของคนดูด้วย ยกตัวอย่างจีน ซึ่งบางคนยังเชื่อว่าจีนทำซีรีส์พีเรียดมากมายเพราะอนุญาตให้มโนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด สังคมจีนและสถาบันรัฐจีน (ที่ชาตินิยมขึ้นทุกวัน) ไม่ได้อนุญาตให้มโนประวัติศาสตร์ได้ สิ่งที่คนไทยเห็นว่าจีนจินตนาการประวัติศาสตร์นั้น คือ สิ่งที่เรียกว่า Historical fantasy คือใช้ฉากย้อนยุคที่กำกวม ใช้คอสตูมที่อาจจะอยู่ในยุคที่คาดเดาได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นั้นจริงๆ เช่นเรื่อง Nirvana In Fire เมื่อปี 2015 ที่ทำให้เชื่อว่าอยู่ในยุคหนานเป่ยเฉา แต่เอาจริงๆ มันไม่มีสถานการณ์จริงและตัวบุคคลจริงอยู่เลย หากมีซีรีส์ที่ทำเนื้อหาจริงๆ ทางประวัติศาสตร์ หากเลินเล่อเกินไปก็จะถูกโจมตีอย่างหนัก เช่น Legend of Miyue ที่อิงประวัติศาสตร์ยุคจ้านกั๋ว แต่ถูกวิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้มีความเห็นที่น่าสนใจจาก หลีเสี่ยวเหว่ย บรรณาธิการบริหารของ "จงกั๋วชิงเหนียนหว่าง" (中国青年网) ของทางการจีน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกตำหนิ เขากล่าวว่า "จักรพรรดินีองค์แรกของจีนในเรื่อง "Legend of Miyue" ซีรีส์ทางทีวีใช้ตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พื้นฐาน และถึงกับแต่งเรื่องขึ้นมาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้ช่างน่าเป็นห่วง ประการแรก มันจะนำพาผู้คนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และก่อให้เกิดข่าวลือ ประการที่สอง นี่คือทิศทางที่ผิดปกติของการพัฒนาละครประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด" ในเรื่องนี้ทางเกาหลีก็เห็นด้วยกับจีน จากกรณีของ Queen Seondeok อีจองโฮ ผู้สื่อข่าวของ "ยอนเซ ชุนชู" (연세춘추) สื่อของมหาวิทยาลัยยอนเซ ถึงกับบอกว่า "Queen Seondeok คือเรื่องโกหก" และได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งชี้แนะว่า"ตามที่ศาสตราจารย์ ชาฮเยวอน (ภาควิชาศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน) กล่าวไว้ ละครประวัติศาสตร์จีนมักจะมีความเที่ยงตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแตกต่างจากละครประวัติศาสตร์เกาหลี ความจริงของละครประวัติศาสตร์เกาหลีคือความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกละเลยเพื่อความบันเทิงและเรตติ้งผู้ชม เพื่อแก้ปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองภายในอุตสาหกรรมการออกอากาศ" แม้ว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์ที่เบาบางต่างจากจีนและเกาหลี แต่เราสามารถใช้มาตรฐานแบบนี้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องเป๊ะคือแกนหลักในประวัติศาสตร์ อย่าตีความมากเกินไปเพราะต้องเคารพ "ผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งไม่มีโอกาสร้องอุทรณ์แก้ต่างให้ตัวเอง" ด้วย ส่วนสิ่งที่จินตนาการได้ก็ควรทำให้ตรงกับบริบทแวดล้อมของยุคนั้น หากทำเอาสนุกอย่างเดียว ก็ "จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด" บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better ภาพโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์เรื่อง แม่หยัว และ Queen Seondeok ที่มา https://www.thebetter.co.th/news/world/23351?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3w6ch-KVjjFiWzTmp8gh2-HSMqAh7UX0lxC3jm2_5RD0J97vIDxYCrljo_aem_wMoYw4S-NqnmnAfELQfeSA #Thaitimes
    WWW.THEBETTER.CO.TH
    ความไม่เนียนของ'ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์' ต้องเป๊ะประวัติศาสตร์แค่ไหน?
    ความไม่เนียนของ'ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์' ต้องเป๊ะประวัติศาสตร์แค่ไหน?
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 790 มุมมอง 0 รีวิว
  • การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง
    ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส

    เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกาที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ

    เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด

    เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้

    ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้งบริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วนหาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้

    ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ
    เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง
    รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการและไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน

    องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต
    ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำ สนับสนุนสหภาพยุโรปที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง ซึ่งเป็นแผนที่ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนมีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน

    แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ

    น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ
    ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว

    ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้

    ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
    การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกาที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน เรื่องจัดการบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้ ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้งบริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วนหาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้ ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการและไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำ สนับสนุนสหภาพยุโรปที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง ซึ่งเป็นแผนที่ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนมีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้ ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 704 มุมมอง 124 1 รีวิว
  • บทบรรณาธิการซินหัวชี้กฎหมายของฟิลิปปินส์ทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ซับซ้อนขึ้น

    10 พฤศจิกายน 2567 -รายงานข่าวซินหัวระบุว่า ฟิลิปปินส์ก่อปัญหาอีกครั้งด้วยการตรากฎหมายในประเทศ 2 ฉบับ ซึ่งละเมิดอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนและสิทธิทางทะเลและผลประโยชน์ของจีนในทะเลจีนใต้ ทำให้เกิดการประณามอย่างรุนแรงและการประท้วงจากปักกิ่งอย่างรุนแรง

    กฎหมายที่เรียกว่า "เขตน่านน้ำทางทะเลของฟิลิปปินส์" ได้รวมเกาะหวงหยานของจีน เกาะและแนวปะการังส่วนใหญ่ในหนานซา คุนเต่าของจีน และน่านน้ำที่เกี่ยวข้องเข้าไปในเขตน่านน้ำทางทะเลของฟิลิปปินส์โดยผิดกฎหมาย ส่วนต่างๆ ของ "กฎหมายเส้นทางเดินเรือหมู่เกาะฟิลิปปินส์" ไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและมติขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ

    ฟิลิปปินส์กลายเป็นผู้แสวงหาผลประโยชน์และใช้ประโยชน์จากกฎหมายระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอ้างว่าเป็นพันธมิตรกับฟิลิปปินส์ และเป็นผู้ก่อปัญหาและผู้ทำลายสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค

    การอ้างคำตัดสินที่ผิดกฎหมายของอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นพื้นฐานของกฎหมาย การเคลื่อนไหวล่าสุดของมะนิลาเพียงแค่ซ้ำเติมความผิดพลาดของตนในการทำให้การเรียกร้องทางทะเลที่ผิดกฎหมายของตนมีความชอบธรรม โดยเสี่ยงต่อการเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคอย่างรุนแรง คำตัดสินที่เรียกว่าอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและเป็นโมฆะ คณะอนุญาโตตุลาการได้พิจารณาคดีนี้โดยเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่และตัดสินให้คำตัดสินบิดเบือนกฎหมาย ดังนั้น คำตัดสินดังกล่าวจึงละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS)

    กระบวนการอนุญาโตตุลาการทั้งหมดเป็นเรื่องตลกทางการเมืองโดยสิ้นเชิง จีนไม่ยอมรับหรือมีส่วนร่วมในการอนุญาโตตุลาการ และจีนก็ไม่ยอมรับหรือรับรองคำตัดสินดังกล่าว กฎหมายที่เรียกว่าของฟิลิปปินส์พยายามที่จะกำหนดให้คำตัดสินที่ผิดกฎหมายของอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นกฎหมายในประเทศ จีนจะไม่ยอมรับการเรียกร้องหรือการดำเนินการใดๆ ที่อิงตามคำตัดสินดังกล่าว

    โดยพื้นฐานแล้ว กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การออกกฎหมายเท่านั้น แต่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายฟิลิปปินส์เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายดินแดนและเพื่อผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศภายนอกบางประเทศ การเคลื่อนไหวที่ไร้ความรอบคอบของมะนิลาถือเป็นการละเมิดปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้โดยเจตนา

    ผลกระทบเชิงลบของกฎหมายเหล่านี้มีให้เห็นอย่างชัดเจนและอาจเกิดขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีและสันติภาพในภูมิภาคอีกด้วย หากมะนิลาดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายทั้งสองฉบับนี้ ก็จะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากันมากขึ้น การนำกฎหมายเหล่านี้มาใช้จะทำให้ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ทวีความรุนแรงขึ้น และจำกัดพื้นที่ในการแก้ไขข้อพิพาทผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือระหว่างทั้งสองประเทศ

    อำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของจีน สิทธิทางทะเล และผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้มีรากฐานที่มั่นคงในประวัติศาสตร์และกฎหมาย สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึง UNCLOS และจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการบังคับใช้กฎหมายของมะนิลา

    จีนมุ่งมั่นที่จะจัดการปัญหาทางทะเลกับฟิลิปปินส์อย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ของฟิลิปปินส์ในการส่งไวน์และขายน้ำส้มสายชูเพื่อบิดเบือนกฎหมายทางทะเลและละเมิดอำนาจอธิปไตยของผู้อื่นนั้นต้องถูกปฏิเสธ ในการเจรจาครั้งก่อน ฟิลิปปินส์
    ตกลงที่จะรักษาสถานการณ์ทางทะเลและความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยรวมให้มั่นคงโดยร่วมมือกับจีน อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวบ่งชี้ว่าฟิลิปปินส์ทำสิ่งต่างๆ ในทิศทางตรงกันข้าม

    การละเมิดโดยเจตนาและการยั่วยุที่ไม่สมเหตุสมผลต่อจีนจะส่งผลให้ผู้ริเริ่มยิงเท้าตัวเอง จีนจะดำเนินการที่เหมาะสมและมาตรการตอบโต้ที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสิทธิของตน

    https://english.news.cn/20241110/7bf252deefff4b06a0de32134db5406e/c.html

    #Thaitimes
    บทบรรณาธิการซินหัวชี้กฎหมายของฟิลิปปินส์ทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ซับซ้อนขึ้น 10 พฤศจิกายน 2567 -รายงานข่าวซินหัวระบุว่า ฟิลิปปินส์ก่อปัญหาอีกครั้งด้วยการตรากฎหมายในประเทศ 2 ฉบับ ซึ่งละเมิดอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนและสิทธิทางทะเลและผลประโยชน์ของจีนในทะเลจีนใต้ ทำให้เกิดการประณามอย่างรุนแรงและการประท้วงจากปักกิ่งอย่างรุนแรง กฎหมายที่เรียกว่า "เขตน่านน้ำทางทะเลของฟิลิปปินส์" ได้รวมเกาะหวงหยานของจีน เกาะและแนวปะการังส่วนใหญ่ในหนานซา คุนเต่าของจีน และน่านน้ำที่เกี่ยวข้องเข้าไปในเขตน่านน้ำทางทะเลของฟิลิปปินส์โดยผิดกฎหมาย ส่วนต่างๆ ของ "กฎหมายเส้นทางเดินเรือหมู่เกาะฟิลิปปินส์" ไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและมติขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ฟิลิปปินส์กลายเป็นผู้แสวงหาผลประโยชน์และใช้ประโยชน์จากกฎหมายระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอ้างว่าเป็นพันธมิตรกับฟิลิปปินส์ และเป็นผู้ก่อปัญหาและผู้ทำลายสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค การอ้างคำตัดสินที่ผิดกฎหมายของอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นพื้นฐานของกฎหมาย การเคลื่อนไหวล่าสุดของมะนิลาเพียงแค่ซ้ำเติมความผิดพลาดของตนในการทำให้การเรียกร้องทางทะเลที่ผิดกฎหมายของตนมีความชอบธรรม โดยเสี่ยงต่อการเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคอย่างรุนแรง คำตัดสินที่เรียกว่าอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและเป็นโมฆะ คณะอนุญาโตตุลาการได้พิจารณาคดีนี้โดยเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่และตัดสินให้คำตัดสินบิดเบือนกฎหมาย ดังนั้น คำตัดสินดังกล่าวจึงละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) กระบวนการอนุญาโตตุลาการทั้งหมดเป็นเรื่องตลกทางการเมืองโดยสิ้นเชิง จีนไม่ยอมรับหรือมีส่วนร่วมในการอนุญาโตตุลาการ และจีนก็ไม่ยอมรับหรือรับรองคำตัดสินดังกล่าว กฎหมายที่เรียกว่าของฟิลิปปินส์พยายามที่จะกำหนดให้คำตัดสินที่ผิดกฎหมายของอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้เป็นกฎหมายในประเทศ จีนจะไม่ยอมรับการเรียกร้องหรือการดำเนินการใดๆ ที่อิงตามคำตัดสินดังกล่าว โดยพื้นฐานแล้ว กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การออกกฎหมายเท่านั้น แต่เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายฟิลิปปินส์เพื่อบรรลุเป้าหมายการขยายดินแดนและเพื่อผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศภายนอกบางประเทศ การเคลื่อนไหวที่ไร้ความรอบคอบของมะนิลาถือเป็นการละเมิดปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้โดยเจตนา ผลกระทบเชิงลบของกฎหมายเหล่านี้มีให้เห็นอย่างชัดเจนและอาจเกิดขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีและสันติภาพในภูมิภาคอีกด้วย หากมะนิลาดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายทั้งสองฉบับนี้ ก็จะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากันมากขึ้น การนำกฎหมายเหล่านี้มาใช้จะทำให้ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ทวีความรุนแรงขึ้น และจำกัดพื้นที่ในการแก้ไขข้อพิพาทผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือระหว่างทั้งสองประเทศ อำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของจีน สิทธิทางทะเล และผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้มีรากฐานที่มั่นคงในประวัติศาสตร์และกฎหมาย สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึง UNCLOS และจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการบังคับใช้กฎหมายของมะนิลา จีนมุ่งมั่นที่จะจัดการปัญหาทางทะเลกับฟิลิปปินส์อย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ของฟิลิปปินส์ในการส่งไวน์และขายน้ำส้มสายชูเพื่อบิดเบือนกฎหมายทางทะเลและละเมิดอำนาจอธิปไตยของผู้อื่นนั้นต้องถูกปฏิเสธ ในการเจรจาครั้งก่อน ฟิลิปปินส์ ตกลงที่จะรักษาสถานการณ์ทางทะเลและความสัมพันธ์ทวิภาคีโดยรวมให้มั่นคงโดยร่วมมือกับจีน อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวบ่งชี้ว่าฟิลิปปินส์ทำสิ่งต่างๆ ในทิศทางตรงกันข้าม การละเมิดโดยเจตนาและการยั่วยุที่ไม่สมเหตุสมผลต่อจีนจะส่งผลให้ผู้ริเริ่มยิงเท้าตัวเอง จีนจะดำเนินการที่เหมาะสมและมาตรการตอบโต้ที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสิทธิของตน https://english.news.cn/20241110/7bf252deefff4b06a0de32134db5406e/c.html #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 441 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาสื่อตะวันตกหลายแห่ง เช่น WSJ และที่อื่นๆ เริ่มต้นการรายงานข่าวบิดเบือนว่า "เจ้าหน้าที่ฮามาสถูกขับออกจากกาตาร์" เนื่องจากไม่ยอมรับข้อเสนอหยุดยิง

    ข่าวได้แพร่กระจายสู่โซเชียลอย่างรวดเร็ว
    ในที่สุดกาตาร์ต้องออกแถลงการณ์สยบ "ข่าวปลอม" นี้ ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

    เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ยืนยันได้ว่าตะวันตกคือ "ต้นตอ" ของการปล่อยข่าวลวงไปทั่วโลก
    ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาสื่อตะวันตกหลายแห่ง เช่น WSJ และที่อื่นๆ เริ่มต้นการรายงานข่าวบิดเบือนว่า "เจ้าหน้าที่ฮามาสถูกขับออกจากกาตาร์" เนื่องจากไม่ยอมรับข้อเสนอหยุดยิง ข่าวได้แพร่กระจายสู่โซเชียลอย่างรวดเร็ว ในที่สุดกาตาร์ต้องออกแถลงการณ์สยบ "ข่าวปลอม" นี้ ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ยืนยันได้ว่าตะวันตกคือ "ต้นตอ" ของการปล่อยข่าวลวงไปทั่วโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศแผนในการทำลายกลุ่มรัฐลึก (Deep State) ที่เป็นอุปสรรคต่ออเมริกามาตลอด วิดีโอความยาว 3 นาทีนี้จึงถือเป็นวิดีโอที่สำคัญที่สุดบนอินเทอร์เน็ตในขณะนี้

    1. “ออกคำสั่งฝ่ายบริหารปี 2020 ของเขาใหม่ทันที เพื่อคืนอำนาจของประธานาธิบดีในการปลดข้าราชการที่ทุจริต”

    2. “กำจัดผู้ทุจริตทั้งหมดในหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยข่าวกรองของอเมริกา”

    3. “ปฏิรูปศาล FISA ให้สิ้นซาก ซึ่งทุจริตมากจนผู้พิพากษาไม่สนใจเลยเมื่อถูกโกหกในคำร้องขอหมายจับ”
    (FISA - Foreign Intelligence Surveillance Act เป็นกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาที่กำหนดขั้นตอนสำหรับการเฝ้าระวังและรวบรวมข่าวกรองต่างประเทศเพื่อจัดเก็บไว้ภายในประเทศ)

    4. “เปิดโปงการหลอกลวงและการใช้อำนาจในทางที่ผิดซึ่งกำลังทำให้ประเทศอเมริกาแตกแยก”

    5. “การปราบปรามอย่างจริงจังต่อบุคคลที่พยายามปล่อยข้อมูลบิดเบือนของรัฐบาลเพื่อสร้างเป็นทฤษฎีสมคบคิดร่วมกับข่าวปลอม เพื่อจงใจสร้างข้อเท็จและโค่นล้มรัฐบาลและประชาธิปไตยของอเมริกา”

    6. “ให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทุกแห่งเป็นอิสระ และแยกออกจากหน่วยงานที่พวกเขากำกับดูแล เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ผลประโยชน์จากรัฐลึก(deep state)”

    7. “จะขอให้รัฐสภาจัดตั้งระบบการตรวจสอบที่เป็นอิสระ เพื่อเฝ้าติดตามหน่วยข่าวกรองของอเมริกาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ใช้อำนาจของตัวเองสอดส่องพลเมืองของอเมริกา และป้อนข้อมูลข่าวปลอมต่อชาวอเมริกัน หรือไปแอบสอดส่องบุคคลสำคัญใดๆก็ตาม เช่นเดียวกับที่ตัวของทรัมป์เคยโดนมาแล้ว”

    8. “สานต่อความพยายามที่ริเริ่มโดยรัฐบาลทรัมป์ในสมัยแรก เพื่อย้ายบางส่วนของระบบราชการของรัฐบาลกลางออกไป เพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากใครบางคน หรือจากบางหน่วยงาน”

    9. “จะสั่งห้ามไม่ให้ข้าราชการของรัฐบาลกลางเข้าทำงานในบริษัทที่พวกเขาติดต่อด้วยและบริษัทที่พวกเขากำกับดูแล เพื่อตัดเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน”

    10. “ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคัดค้านการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกรัฐสภา”
    ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศแผนในการทำลายกลุ่มรัฐลึก (Deep State) ที่เป็นอุปสรรคต่ออเมริกามาตลอด วิดีโอความยาว 3 นาทีนี้จึงถือเป็นวิดีโอที่สำคัญที่สุดบนอินเทอร์เน็ตในขณะนี้ 1. “ออกคำสั่งฝ่ายบริหารปี 2020 ของเขาใหม่ทันที เพื่อคืนอำนาจของประธานาธิบดีในการปลดข้าราชการที่ทุจริต” 2. “กำจัดผู้ทุจริตทั้งหมดในหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยข่าวกรองของอเมริกา” 3. “ปฏิรูปศาล FISA ให้สิ้นซาก ซึ่งทุจริตมากจนผู้พิพากษาไม่สนใจเลยเมื่อถูกโกหกในคำร้องขอหมายจับ” (FISA - Foreign Intelligence Surveillance Act เป็นกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาที่กำหนดขั้นตอนสำหรับการเฝ้าระวังและรวบรวมข่าวกรองต่างประเทศเพื่อจัดเก็บไว้ภายในประเทศ) 4. “เปิดโปงการหลอกลวงและการใช้อำนาจในทางที่ผิดซึ่งกำลังทำให้ประเทศอเมริกาแตกแยก” 5. “การปราบปรามอย่างจริงจังต่อบุคคลที่พยายามปล่อยข้อมูลบิดเบือนของรัฐบาลเพื่อสร้างเป็นทฤษฎีสมคบคิดร่วมกับข่าวปลอม เพื่อจงใจสร้างข้อเท็จและโค่นล้มรัฐบาลและประชาธิปไตยของอเมริกา” 6. “ให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทุกแห่งเป็นอิสระ และแยกออกจากหน่วยงานที่พวกเขากำกับดูแล เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ผลประโยชน์จากรัฐลึก(deep state)” 7. “จะขอให้รัฐสภาจัดตั้งระบบการตรวจสอบที่เป็นอิสระ เพื่อเฝ้าติดตามหน่วยข่าวกรองของอเมริกาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ใช้อำนาจของตัวเองสอดส่องพลเมืองของอเมริกา และป้อนข้อมูลข่าวปลอมต่อชาวอเมริกัน หรือไปแอบสอดส่องบุคคลสำคัญใดๆก็ตาม เช่นเดียวกับที่ตัวของทรัมป์เคยโดนมาแล้ว” 8. “สานต่อความพยายามที่ริเริ่มโดยรัฐบาลทรัมป์ในสมัยแรก เพื่อย้ายบางส่วนของระบบราชการของรัฐบาลกลางออกไป เพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากใครบางคน หรือจากบางหน่วยงาน” 9. “จะสั่งห้ามไม่ให้ข้าราชการของรัฐบาลกลางเข้าทำงานในบริษัทที่พวกเขาติดต่อด้วยและบริษัทที่พวกเขากำกับดูแล เพื่อตัดเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน” 10. “ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคัดค้านการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกรัฐสภา”
    Like
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 68 0 รีวิว
  • ทรัมป์ไม่เพียงชนะเลือกตั้ง แต่มีชัยเหนือภาพลวงตาที่ฝั่งหัวประชาชนมานาน ..... โดยทนง ขันทอง
    .
    ในการเลือกตั้งปี 2020 โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง ได้คะแนนเสียงจากคนอเมริกันทั้งหมด (popular votes) 74 ล้านเสียง ถือว่าเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว แต่ทรัมป์กลับต้องพ่ายแพ้ต่อโจ ไบเดนที่ได้คะแนน 81ล้านเสียง ที่เหนือกว่าประวัติการณ์เสียอีก
    .
    มองด้วยสามัญสำนึกธรรมดาจะเห็นทันทีเลยว่า ไม่มีทางที่นักการเมืองที่น่าเบื่ออย่างไบเดนที่เป็นส่วนหนึ่งของพวกอำนาจรัฐ (Establishment) จะได้คะแนนความนิยมมากมายอย่างนี้ มันเป็นเรื่องยากที่ไบเดนจะสามารถเอาชนะทรัมป์ที่ครองอำนาจอยู่ในทำเนียบขาวอยู่แล้ว และมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่ไบเดนจะมีคะแนนความนิยมมากกว่าโอบามาที่ได้คะแนนความนิยมเสียง 65ล้านเสียง ในการชนะการเลือกตั้งในปี 2012 หรือฮิลลารี่ที่ได้คะแนนความนิยม 65 ล้านเสียงในปี 2016 อย่างมีนัยสำคัญ
    .
    หันกลับมาดูการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรัมป์ชนะเลือกตั้งกลับมาเป็นประธานาธิบดีในสมัยที่สองด้วยคะแนนความนิยม 72 ล้านเสียง เทียบกับกมลา แฮร์ริสที่ได้ 67ล้านเสียง โดยชนะแบบแลนด์สไลด์ขาดลอย
    .
    สรุปภาพรวมแล้ว ตัวแทนจากเดโมแครตที่ลงเลือกตั้งประธานาธิบดี ไม่ว่าจะเป็นโอบามา ฮิลลารี่ หรือแฮร์ริสมีฐานเสียงคะแนนความนิยมพอๆกันที่ประมาณ 65 ล้านเสียง แล้วจู่ๆ ไบเดนจะชนะการเลือกต้ังในปี 2020 ได้อย่างไรด้วยคะแนนความนิยมที่นำโด่งที่ 81ล้านเสียง มากกว่าฐานเสียงคะแนนความนิยมของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเดโมแครตถึง 20 ล้านเสียง!!!!
    .
    เรื่องนี้จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ยกเว้นว่า พวกเดโมแครต และไบเดนปล้นชัยชนะจากทรัมป์ในการเลือกต้ัง โดยโมเมตัวเลขคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นมาถึง 20 ล้านเสียง ผ่านคะแนนที่มาจากจากโหวตทางไปรษณีย์ หรือเครื่องนับคะแนนDominionที่มีการตั้งโปรแกรมการนับคะแนนแบบมีข้อกังขา คะแนนของทรัมป์ที่ได้ 74 ล้านเสียง ในการแข่งกับไบเดนคร้ังนั้นถือว่าเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ เดโมแครตทำโพลแบบลับๆเห็นตัวเลขคะแนนความนิยมที่สูงเป็นประวัติการณ์ของทรัมป์อยู่แล้วจึงต้องหาทางปั่นตัวเลขให้ไบเดนให้ได้คะแนนความนิยมสูงเสียดฟ้าไม่งั้นไม่ชนะ โดยใช้ conspiracy ของการแพร่ระขาดของไวรัสโควิดเพื่อทำลายเศรษฐกิจของจีน และผลกระทบข้างเคียงที่ตามมาในการกักคนห้ามออกนอกบ้าน ทำให้คนอเมริกันไปโหวตที่ศูนย์เลือกตั้งไม่ได้ ต้องโหวตผ่านไปรษณีย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการโกงการเลือกตั้งได้ง่ายผ่านบัตรผี หรือทำลายบัตรที่ลงคะแนนให้ทรัมป์
    .
    องคายพของระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐถูกควบคุมโดยเดโมแครตเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิ นักการเมืองท้องถิ่น อัยการ ศาล รวมท้ังสื่อท้ังกระแสหลัก และสื่อออนไลน์ต่างก็ให้การสนับสนุนฝ่ายลิเบอรัลเดโมแครตอยู่แล้ว การโกงชัยชนะของทรัมป์จึงสามารถทำได้ โดยที่ไบเดนแทบที่จะไม่ต้องแคมเปญอะไรมาก เพราะรู้ผลการเลือกตั้งล่วงหน้าอยู่แล้ว ผลประโยชน์ของการเข้ามามีอำนาจทางการเมืองในวอชิงตันดี ซีมากมายมหาศาลจึงเป็นเรื่องที่เดโมแครตต้องทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ
    .
    แต่การเลือกต้ังเมื่อวานนี้ เดโมแครตทำอะไรทรัมป์ไม่ได้ เพราะว่ากระแสความนิยมในตัวทรัมป์เดิมทีดีอยู่แล้ว จะโกงทรัมป์อีกรอบเป็นเรื่องยากดั่งเข็นครกขึ้นภูเขา และยิ่งตลอดระยะเวลา4ปีที่ผ่านมาของการบริหารงานของไบเดน และแฮร์ริสเป็นไปอย่างล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจ และการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของชาวต่างชาติ คนอเมริกันส่วนมากปากกัดตีนถีบเพราะของแพงเงินเฟ้อ ค่าเช่าบ้านแทบจะจ่ายไม่ไหวจึงไม่พอใจไบเดนเป็นอย่างมาก ยิ่งแฮร์ริสหาเสียงด้วยธีมที่ว่าเธอจะสานต่อนโยบายของไบเดนต่อไป ก็เท่ากับว่าเธอจะเดินหน้าดำเนินนโยบายที่ล้มเหลวต่อไปอีก 4 ปี ถ้าหากชนะเลือกตั้ง ซึ่งถือว่าเป็นฝันร้ายสำหรับคนอเมริกันที่มีสิทธิ์โหวต
    .
    CNN ทำสำรวจ exit poll ที่เผยแพร่ในวันเลือกตั้งประธานาธิบดี ปรากฏว่าคนอเมริกันประมาณ 70% ไม่พอใจในสภาพของบ้านเมืองอเมริกัน และต้องการความเปลี่ยนแปลง ตรงกันข้ามกับข้อมูลที่รัฐบาลสหรัฐเผยแพร่มาตลอดว่าเศรษฐกิจดี การจ้างงานยังแข็งแกร่ง ตลาดหุ้นตลาดการเงินไปโลดสร้างสถิติใหม่ตลอด ท้ังนี้เพราะว่าตลาดการเงินแยกตัวออกจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริงมาตั้งนานแล้ว คนที่มีทรัพย์สินในตลาดการเงินจึงพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ เพราะว่าทรัพย์สินทางการเงินเพิ่มมูลค่าอย่างมาก ในขณะที่คนส่วนมากที่อยู่กับเศรษฐกิจที่แท้จริงต่างลำบากกันถ้วนหน้ากับเงินเฟ้อ และงานที่ให้ค่าจ้างดีๆที่หายากลำบาก
    .
    Chris Wallace ผู้ประกาศข่าวของ CNN จึงพูดในรายการที่รายงานการเลือกต้ังว่า ด้วยตัวเลขจากเอ็กซิตโพลที่คนอเมริกันส่วนมากไม่พอใจกับสภาพเศรษฐกิจ หรือปัญหาของบ้านเมือง มันจะเป็นส่ิงมหัศจรรย์สำหรับแฮร์ริสที่จะชนะการเลือกต้ัง และมันก็เป็นเช่นนั้น ไม่มีสิ่งมหัศจรรย์สำหรับแฮร์ริสในการพลิกผลของการเลือกตั้ง เพราะว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ออกมาใช้สิทธิ์คร้ังแรก หรือคนที่ไม่สังกัดพรรคใดโหวตให้ทรัมป์ เพราะว่าต้องการความเปลี่ยนแปลง เห็นทรัมป์เป็นความหวังว่าจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น เพราะว่าทรัมป์เป็นคนนอก ไม่ใช่เป็นคนในของระบบการเมืองอเมริกันที่ผูกขาดอำนาจ
    .
    ชัยชนะของทรัมป์ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่าโพลต่างๆเชื่อถือไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะส่วนมากให้แฮร์ริสชนะ สื่อกระแสหลักและสื่อออนไลน์ที่ทรงพลังก็ไม่มีความน่าเชื่อถือพอๆกัน เพราะว่าถือหางแฮร์ริส และรายงานทรัมป์ในแง่ลบมาตลอด คนที่เชื่อในโพลของสื่อหรือสำนักกระแสหลัก หรือเชื่อในสื่อกระแสหลักของสื่อออนไลน์ที่ทรงพลังจะได้ข้อมูลที่บิดเบือนหรือไม่ก็โกหกกันอย่างโจ่งแจ้ง เมื่อปรากฎผลว่าทรัมป์ชนะแฮร์ริสอย่างถล่มทลาย หลายคนยอมรับไม่ได้ เพราะว่ายังติดหล่มกับความเชื่อเดิมที่ถูกฝังหัว แต่คนส่วนมากเริ่มที่จะตื่นรู้ว่าถูกแหกตามาตลอด
    .
    ได้เวลาปฏิรูประบบเสียที เพื่อว่าสังคมจะได้กลับเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่โลกที่ถูกบิดเบือนด้วยภาพลวงตา
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ไม่เพียงชนะเลือกตั้ง แต่มีชัยเหนือภาพลวงตาที่ฝั่งหัวประชาชนมานาน ..... โดยทนง ขันทอง . ในการเลือกตั้งปี 2020 โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง ได้คะแนนเสียงจากคนอเมริกันทั้งหมด (popular votes) 74 ล้านเสียง ถือว่าเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว แต่ทรัมป์กลับต้องพ่ายแพ้ต่อโจ ไบเดนที่ได้คะแนน 81ล้านเสียง ที่เหนือกว่าประวัติการณ์เสียอีก . มองด้วยสามัญสำนึกธรรมดาจะเห็นทันทีเลยว่า ไม่มีทางที่นักการเมืองที่น่าเบื่ออย่างไบเดนที่เป็นส่วนหนึ่งของพวกอำนาจรัฐ (Establishment) จะได้คะแนนความนิยมมากมายอย่างนี้ มันเป็นเรื่องยากที่ไบเดนจะสามารถเอาชนะทรัมป์ที่ครองอำนาจอยู่ในทำเนียบขาวอยู่แล้ว และมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่ไบเดนจะมีคะแนนความนิยมมากกว่าโอบามาที่ได้คะแนนความนิยมเสียง 65ล้านเสียง ในการชนะการเลือกตั้งในปี 2012 หรือฮิลลารี่ที่ได้คะแนนความนิยม 65 ล้านเสียงในปี 2016 อย่างมีนัยสำคัญ . หันกลับมาดูการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรัมป์ชนะเลือกตั้งกลับมาเป็นประธานาธิบดีในสมัยที่สองด้วยคะแนนความนิยม 72 ล้านเสียง เทียบกับกมลา แฮร์ริสที่ได้ 67ล้านเสียง โดยชนะแบบแลนด์สไลด์ขาดลอย . สรุปภาพรวมแล้ว ตัวแทนจากเดโมแครตที่ลงเลือกตั้งประธานาธิบดี ไม่ว่าจะเป็นโอบามา ฮิลลารี่ หรือแฮร์ริสมีฐานเสียงคะแนนความนิยมพอๆกันที่ประมาณ 65 ล้านเสียง แล้วจู่ๆ ไบเดนจะชนะการเลือกต้ังในปี 2020 ได้อย่างไรด้วยคะแนนความนิยมที่นำโด่งที่ 81ล้านเสียง มากกว่าฐานเสียงคะแนนความนิยมของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเดโมแครตถึง 20 ล้านเสียง!!!! . เรื่องนี้จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ยกเว้นว่า พวกเดโมแครต และไบเดนปล้นชัยชนะจากทรัมป์ในการเลือกต้ัง โดยโมเมตัวเลขคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นมาถึง 20 ล้านเสียง ผ่านคะแนนที่มาจากจากโหวตทางไปรษณีย์ หรือเครื่องนับคะแนนDominionที่มีการตั้งโปรแกรมการนับคะแนนแบบมีข้อกังขา คะแนนของทรัมป์ที่ได้ 74 ล้านเสียง ในการแข่งกับไบเดนคร้ังนั้นถือว่าเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ เดโมแครตทำโพลแบบลับๆเห็นตัวเลขคะแนนความนิยมที่สูงเป็นประวัติการณ์ของทรัมป์อยู่แล้วจึงต้องหาทางปั่นตัวเลขให้ไบเดนให้ได้คะแนนความนิยมสูงเสียดฟ้าไม่งั้นไม่ชนะ โดยใช้ conspiracy ของการแพร่ระขาดของไวรัสโควิดเพื่อทำลายเศรษฐกิจของจีน และผลกระทบข้างเคียงที่ตามมาในการกักคนห้ามออกนอกบ้าน ทำให้คนอเมริกันไปโหวตที่ศูนย์เลือกตั้งไม่ได้ ต้องโหวตผ่านไปรษณีย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการโกงการเลือกตั้งได้ง่ายผ่านบัตรผี หรือทำลายบัตรที่ลงคะแนนให้ทรัมป์ . องคายพของระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐถูกควบคุมโดยเดโมแครตเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิ นักการเมืองท้องถิ่น อัยการ ศาล รวมท้ังสื่อท้ังกระแสหลัก และสื่อออนไลน์ต่างก็ให้การสนับสนุนฝ่ายลิเบอรัลเดโมแครตอยู่แล้ว การโกงชัยชนะของทรัมป์จึงสามารถทำได้ โดยที่ไบเดนแทบที่จะไม่ต้องแคมเปญอะไรมาก เพราะรู้ผลการเลือกตั้งล่วงหน้าอยู่แล้ว ผลประโยชน์ของการเข้ามามีอำนาจทางการเมืองในวอชิงตันดี ซีมากมายมหาศาลจึงเป็นเรื่องที่เดโมแครตต้องทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ . แต่การเลือกต้ังเมื่อวานนี้ เดโมแครตทำอะไรทรัมป์ไม่ได้ เพราะว่ากระแสความนิยมในตัวทรัมป์เดิมทีดีอยู่แล้ว จะโกงทรัมป์อีกรอบเป็นเรื่องยากดั่งเข็นครกขึ้นภูเขา และยิ่งตลอดระยะเวลา4ปีที่ผ่านมาของการบริหารงานของไบเดน และแฮร์ริสเป็นไปอย่างล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจ และการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของชาวต่างชาติ คนอเมริกันส่วนมากปากกัดตีนถีบเพราะของแพงเงินเฟ้อ ค่าเช่าบ้านแทบจะจ่ายไม่ไหวจึงไม่พอใจไบเดนเป็นอย่างมาก ยิ่งแฮร์ริสหาเสียงด้วยธีมที่ว่าเธอจะสานต่อนโยบายของไบเดนต่อไป ก็เท่ากับว่าเธอจะเดินหน้าดำเนินนโยบายที่ล้มเหลวต่อไปอีก 4 ปี ถ้าหากชนะเลือกตั้ง ซึ่งถือว่าเป็นฝันร้ายสำหรับคนอเมริกันที่มีสิทธิ์โหวต . CNN ทำสำรวจ exit poll ที่เผยแพร่ในวันเลือกตั้งประธานาธิบดี ปรากฏว่าคนอเมริกันประมาณ 70% ไม่พอใจในสภาพของบ้านเมืองอเมริกัน และต้องการความเปลี่ยนแปลง ตรงกันข้ามกับข้อมูลที่รัฐบาลสหรัฐเผยแพร่มาตลอดว่าเศรษฐกิจดี การจ้างงานยังแข็งแกร่ง ตลาดหุ้นตลาดการเงินไปโลดสร้างสถิติใหม่ตลอด ท้ังนี้เพราะว่าตลาดการเงินแยกตัวออกจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริงมาตั้งนานแล้ว คนที่มีทรัพย์สินในตลาดการเงินจึงพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ เพราะว่าทรัพย์สินทางการเงินเพิ่มมูลค่าอย่างมาก ในขณะที่คนส่วนมากที่อยู่กับเศรษฐกิจที่แท้จริงต่างลำบากกันถ้วนหน้ากับเงินเฟ้อ และงานที่ให้ค่าจ้างดีๆที่หายากลำบาก . Chris Wallace ผู้ประกาศข่าวของ CNN จึงพูดในรายการที่รายงานการเลือกต้ังว่า ด้วยตัวเลขจากเอ็กซิตโพลที่คนอเมริกันส่วนมากไม่พอใจกับสภาพเศรษฐกิจ หรือปัญหาของบ้านเมือง มันจะเป็นส่ิงมหัศจรรย์สำหรับแฮร์ริสที่จะชนะการเลือกต้ัง และมันก็เป็นเช่นนั้น ไม่มีสิ่งมหัศจรรย์สำหรับแฮร์ริสในการพลิกผลของการเลือกตั้ง เพราะว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ออกมาใช้สิทธิ์คร้ังแรก หรือคนที่ไม่สังกัดพรรคใดโหวตให้ทรัมป์ เพราะว่าต้องการความเปลี่ยนแปลง เห็นทรัมป์เป็นความหวังว่าจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น เพราะว่าทรัมป์เป็นคนนอก ไม่ใช่เป็นคนในของระบบการเมืองอเมริกันที่ผูกขาดอำนาจ . ชัยชนะของทรัมป์ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่าโพลต่างๆเชื่อถือไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะส่วนมากให้แฮร์ริสชนะ สื่อกระแสหลักและสื่อออนไลน์ที่ทรงพลังก็ไม่มีความน่าเชื่อถือพอๆกัน เพราะว่าถือหางแฮร์ริส และรายงานทรัมป์ในแง่ลบมาตลอด คนที่เชื่อในโพลของสื่อหรือสำนักกระแสหลัก หรือเชื่อในสื่อกระแสหลักของสื่อออนไลน์ที่ทรงพลังจะได้ข้อมูลที่บิดเบือนหรือไม่ก็โกหกกันอย่างโจ่งแจ้ง เมื่อปรากฎผลว่าทรัมป์ชนะแฮร์ริสอย่างถล่มทลาย หลายคนยอมรับไม่ได้ เพราะว่ายังติดหล่มกับความเชื่อเดิมที่ถูกฝังหัว แต่คนส่วนมากเริ่มที่จะตื่นรู้ว่าถูกแหกตามาตลอด . ได้เวลาปฏิรูประบบเสียที เพื่อว่าสังคมจะได้กลับเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่โลกที่ถูกบิดเบือนด้วยภาพลวงตา .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 958 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะจับกุมชนชั้นสูงที่เป็นพวกชอบล่วงละเมิดเด็กและผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บิดเบือนข้อเท็จจริง Pizzagate
    https://thepeoplesvoice.tv/trump-vows-to-lock-up-pedophile-elite-and-fact-checkers-who-falsely-debunked-pizzagate/
    ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะจับกุมชนชั้นสูงที่เป็นพวกชอบล่วงละเมิดเด็กและผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บิดเบือนข้อเท็จจริง Pizzagate https://thepeoplesvoice.tv/trump-vows-to-lock-up-pedophile-elite-and-fact-checkers-who-falsely-debunked-pizzagate/
    THEPEOPLESVOICE.TV
    Trump Vows To Lock Up Pedophile Elite and Fact Checkers Who Falsely Debunked Pizzagate
    President-elect Donald Trump has vowed to lock up the pedophile elite and punish the fact checkers who falsely debunked the so-called "conspiracy theory," and the celebrities who desperately rallied around Kamala Harris during her ill-fated campaign are desperately maneuvering to avoid the "hammer of justice" as we speak.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน คว้าชัยในรัฐอินดีแอนา, รัฐเคนทักกี และรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันอังคาร(5พ.ย.) ขณะที่ กมลา แฮร์ริส คว้าชัยได้ที่เวอร์มอนต์ จากการคาดการณ์ของสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ขณะที่หน่วยเลือกตั้งต่างๆทยอยปิดหีบไปแล้ว 9 รัฐ ในนั้นรวมถึงรัฐสมรภูมิสำคัญอย่างจอร์เจียและนอร์ทแคโรไลนา
    .
    ทั้งนี้ในรัฐจอร์เจียนั้น หลังการนับคะแนนผ่านพ้นไปราวๆ 21.7% ทางสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ระบุว่า ทรัมป์ ได้คะแนนเสียงไป 59.8% ทิ้งห่าง แฮร์ริส ที่ได้ไป 39.8%
    .
    ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นของรัฐดังกล่าวข้างต้นที่ไม่ใช่รัฐสมรภูมิถือว่าเป็นไปตามความคาดหมาย ดังนั้นศึกชิงชัยครั้งนี้จึงน่าจะไปตัดสินกันที่รัฐสมรภูมิ 7 รัฐ อันประกอบด้วยจอร์เจีย, นอร์ทโคไรนา, แอริโซนา, มิชิแกน, เนวาดา, เพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆก่อนหน้านี้ เผยให้เห็นว่าทั้งคู่มีคะแนนนิยมแบบหายใจรดต้นคอจนถึงวันเลือกตั้ง
    .
    ไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดหีบ ทรัมป์กล่าวอ้างบนแพลตฟอร์มทรัสต์ โซเชียล โดยไม่ให้หลักฐานใดๆ ว่า "มีการพูดกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งในฟิลาเดลเฟีย" หลังจากเขาเคยกล่าวอ้างแบบเดียวกันนี้เมื่อปี 2020 ในเมืองที่ชาวเดโมแครตเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งนี้ในโพสต์ต่อมา ทรัมป์ อ้างอีกว่ามีการโกงในดีทรอยต์เช่นกัน
    .
    เซธ บลูสเตน คณะกรรมการการเลือกตั้งเมืองฟิลาเดลเฟีย ตอบโต้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่า "ข้อกล่าวหานี้ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย มันเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบิดเบือนข้อมูล การโหวตในฟิลาเดลเฟียเป็นไปอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้"
    .
    ทีมหาเสียงของทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาอาจประกาศชัยชนะในคืนวันเลือกตั้ง แม้ว่าบัตรเลือกตั้งหลายล้านใบยังไม่ถูกนับ แบบเดียวกับที่เขาเคยทำเมื่อ 4 ปีก่อน อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะทราบว่าใครเป็นฝ่ายชนะ หากว่าระยะห่างของคะแนนในบรรดารัฐสมรภูมินั้นออกมาฉิวเฉียดอย่างที่คาดหมายไว้
    .
    ทรัมป์ มีแผนรับชมผลการเลือกตั้งที่บ้านพักตากอากาศในมาร์อาโก ก่อนปราศรัยกับบรรดาผู้สนับสนุน ณ ศูนย์ประชุมที่อยู่ใกล้เคียง ส่วน กมลา แฮร์ริส คู่แข่งของทรัมป์ มีรายงานว่าเธอจะอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และให้สัมภาษณ์ทางวิทยุ จากนั้นจะไปร่วมติดตามการนับคะแนนที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เธอเคยเรียน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106770
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน คว้าชัยในรัฐอินดีแอนา, รัฐเคนทักกี และรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันอังคาร(5พ.ย.) ขณะที่ กมลา แฮร์ริส คว้าชัยได้ที่เวอร์มอนต์ จากการคาดการณ์ของสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ขณะที่หน่วยเลือกตั้งต่างๆทยอยปิดหีบไปแล้ว 9 รัฐ ในนั้นรวมถึงรัฐสมรภูมิสำคัญอย่างจอร์เจียและนอร์ทแคโรไลนา . ทั้งนี้ในรัฐจอร์เจียนั้น หลังการนับคะแนนผ่านพ้นไปราวๆ 21.7% ทางสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ระบุว่า ทรัมป์ ได้คะแนนเสียงไป 59.8% ทิ้งห่าง แฮร์ริส ที่ได้ไป 39.8% . ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นของรัฐดังกล่าวข้างต้นที่ไม่ใช่รัฐสมรภูมิถือว่าเป็นไปตามความคาดหมาย ดังนั้นศึกชิงชัยครั้งนี้จึงน่าจะไปตัดสินกันที่รัฐสมรภูมิ 7 รัฐ อันประกอบด้วยจอร์เจีย, นอร์ทโคไรนา, แอริโซนา, มิชิแกน, เนวาดา, เพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆก่อนหน้านี้ เผยให้เห็นว่าทั้งคู่มีคะแนนนิยมแบบหายใจรดต้นคอจนถึงวันเลือกตั้ง . ไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดหีบ ทรัมป์กล่าวอ้างบนแพลตฟอร์มทรัสต์ โซเชียล โดยไม่ให้หลักฐานใดๆ ว่า "มีการพูดกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งในฟิลาเดลเฟีย" หลังจากเขาเคยกล่าวอ้างแบบเดียวกันนี้เมื่อปี 2020 ในเมืองที่ชาวเดโมแครตเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งนี้ในโพสต์ต่อมา ทรัมป์ อ้างอีกว่ามีการโกงในดีทรอยต์เช่นกัน . เซธ บลูสเตน คณะกรรมการการเลือกตั้งเมืองฟิลาเดลเฟีย ตอบโต้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่า "ข้อกล่าวหานี้ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย มันเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบิดเบือนข้อมูล การโหวตในฟิลาเดลเฟียเป็นไปอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้" . ทีมหาเสียงของทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาอาจประกาศชัยชนะในคืนวันเลือกตั้ง แม้ว่าบัตรเลือกตั้งหลายล้านใบยังไม่ถูกนับ แบบเดียวกับที่เขาเคยทำเมื่อ 4 ปีก่อน อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะทราบว่าใครเป็นฝ่ายชนะ หากว่าระยะห่างของคะแนนในบรรดารัฐสมรภูมินั้นออกมาฉิวเฉียดอย่างที่คาดหมายไว้ . ทรัมป์ มีแผนรับชมผลการเลือกตั้งที่บ้านพักตากอากาศในมาร์อาโก ก่อนปราศรัยกับบรรดาผู้สนับสนุน ณ ศูนย์ประชุมที่อยู่ใกล้เคียง ส่วน กมลา แฮร์ริส คู่แข่งของทรัมป์ มีรายงานว่าเธอจะอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และให้สัมภาษณ์ทางวิทยุ จากนั้นจะไปร่วมติดตามการนับคะแนนที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เธอเคยเรียน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106770 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1345 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ธีระชัย” เปิดหลักฐาน กัมพูชาลากเส้นในทะเล ผิดทั้งสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ที่ระบุถึงการเล็งยอดเขาบนเกาะกูดสำหรับแบ่งเขตบนแผ่นดินเท่านั้น และผิดอนุสัญญาเจนีวา 1958 ที่ห้ามมิให้อ้างเหตุแห่งสิทธิทางประวัติศาสตร์ในการประกาศเขตไหล่ทวีป MOU2544 จึงส่อผิดกฎหมายไปด้วย

    4 พฤศจิกายน 2567-นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ในหัวข้อด่วน! กัมพูชาไม่อาจอ้างสนธิสัญญาฯ มีรายละเอียดดังนี้

    อาจารย์พนัส ทัศนียานนท์ อดีตอัยการและอดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้กรุณาส่งข้อมูลแจ้งผม ทำให้ผมเห็นว่ากัมพูชาไม่อาจอ้างสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ. 1907

    อนุสัญญาเจนีวาว่าด้วย “ไหล่ทวีป” 1958 ไม่มีการรับรองสิทธิทางประวัติศาสตร์ รับรองไว้เฉพาะกรณีของ “ทะเลอาณาเขต”

    เว็บไซต์ของกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ระบุว่า
    [“ทะเลอาณาเขต” (territorial sea) มีความกว้างไม่เกิน 12 ไมล์ทะเล โดยวัดจากเส้นฐานออกไป
    รัฐชายฝั่งมีอำนาจอธิปไตย (sovereignty) เหนือทะเลอาณาเขต

    “ไหล่ทวีป” (continental shelf) หมายถึง พื้นดินท้องทะเลและดินใต้ผิวดินของบริเวณใต้ทะเล ซึ่งขยายเลยทะเลอาณาเขตออกไปตามธรรมชาติของดินแดนจนถึงริมนอกของขอบทวีป หรือจนถึงระยะ 200 ไมล์ทะเลจากเส้นฐานซึ่งใช้วัดความกว้างของทะเลอาณาเขต…

    ในบริเวณไหล่ทวีป รัฐชายฝั่งสามารถใช้สิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติบน ไหล่ทวีป]

    ดังนั้น พื้นที่ในอ่าวไทย บริเวณที่ระบุอ้างกันว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ดังปรากฏใน MOU44 นั้น จึงไม่ใช่พื้นที่ “ทะเลอาณาเขต” ที่ครอบคลุมความกว้างเพียง 12 ไมล์ทะเล

    แต่เป็นพื้นที่ “ไหล่ทวีป” ที่ครอบคลุมความกว้างถึง 200 ไมล์ทะเล และเป็นอาณาเขตสำหรับพัฒนาทรัพยากรปิโตรเลียม

    รูป 1-4 ในประกาศ เรื่อง ใช้อนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ซึ่งมีพระบรมราชโองการโดยล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 รับสนองฯ โดย จอมพล ถนอม กิตติขจร เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2512 ในหัวข้อ ทะเลอาณาเขต ข้อ 12 ข้อย่อย 1 อนุญาตให้ยกเว้นได้สำหรับ “เหตุแห่งสิทธิทางประวัติศาสตร์”

    รูป 5-6 กฤษฎีกาของรัฐบาลกัมพูชา ที่ลากเส้น “ไหล่ทวีป” พาดผ่านเกาะกูดนั้น ระบุชัดเจนว่า เป็นการประกาศพื้นที่ Plateau Continental ซึ่งแปลว่า ไหล่ทวีป และมิใช่อ้างอิงอนุสัญญากรุงเจนีวา 1958 อย่างเดียว แต่อ้างอิงสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ค.ศ. 1907 ประกอบด้วย

    “ สาเหตุที่กัมพูชาอ้างอิงสนธิสัญญาฯ เพื่อลากเส้นผ่านเกาะกูดนั้น เป็นเพราะสนธิสัญญาฯ มีเอกสารแนบที่ระบุข้อความ “ตั้งแต่ชายทะเลที่ตรงข้ามจากยอดเขาสูงสุดของเกาะกูดเป็นหลัก” จึงได้ลากเส้นจากชายทะเลผ่านยอดเขาสูงสุดของเกาะกูดไปทางทิศตะวันตกกินแดนเข้ามาในอ่าวไทย

    ** ผิดกฎหมายกระทงที่หนึ่ง
    การกระทำดังกล่าวผิดกฏหมายกระทงที่หนึ่ง เพราะเนื้อความในสนธิสัญญาฯ บรรยายถึงการแบ่งเขตแดนบนแผ่นดิน มิได้เกี่ยวข้องกับการแบ่งเขตแดนในทะเล จึงเป็นการอ้างอิงสนธิสัญญาฯ ที่บิดเบือน

    อีกทั้งเกาะกูดอยู่ห่างชายฝั่ง 44 ไมล์ทะเล จึงอยู่นอก “ทะเลอาณาเขต” อยู่แล้วด้วย

    ** ผิดกฎหมายกระทงที่สอง
    การกำหนดเส้นเขตไหล่ทวีปพาดผ่านเกาะกูดโดยอ้างสนธิสัญญาฯ เป็น “เหตุแห่งสิทธิทางประวัติศาสตร์” นั้น ก็เป็นการบิดเบือน เอาข้อยกเว้นในเรื่องของ “ทะเลอาณาเขต” มาใช้กับเรื่องของ “ไหล่ทวีป”

    สรุปแล้ว กฤษฎีกากำหนดเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา ขัดกับอนุสัญญากรุงเจนีวา 1958 โดยสิ้นเชิง

    เป็นการอ้างผิดมาตราอย่างจัง!

    และการที่รัฐบาลไทยในสมัยของอดีตนายกทักษิณ ไปทำ MOU44 โดยไม่ได้คำนึงถึงประเด็นนี้ ผมมีความเห็นว่า อาจเป็นการผิดกฎหมาย

    กัมพูชาจะลากเส้นที่ไม่ตรงกับอนุสัญญากรุงเจนีวา อย่างไรก็ได้ ถ้าไทยไม่รับ ข้ออ้างดังกล่าวก็จะค้างอยู่ในอากาศ แต่การที่รัฐบาลไทยไปรับรู้เส้นที่ไม่ตรงกับอนุสัญญากรุงเจนีวา เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

    จึงขอขอบคุณอาจารย์พนัส ทัศนียานนท์ เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้กรุณาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มหาศาลแก่ประชาชน”

    ที่มา News1
    https://news1live.com/detail/9670000106288?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2E5ivC8YLJ80XZFnfxkqNzQw-E48lM3Ly7iYy_GAtAVxhcMf3h4UJzl_o_aem_oBxuft0VBnaCm-WW-Z_8rw

    #Thaitimes
    “ธีระชัย” เปิดหลักฐาน กัมพูชาลากเส้นในทะเล ผิดทั้งสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ที่ระบุถึงการเล็งยอดเขาบนเกาะกูดสำหรับแบ่งเขตบนแผ่นดินเท่านั้น และผิดอนุสัญญาเจนีวา 1958 ที่ห้ามมิให้อ้างเหตุแห่งสิทธิทางประวัติศาสตร์ในการประกาศเขตไหล่ทวีป MOU2544 จึงส่อผิดกฎหมายไปด้วย 4 พฤศจิกายน 2567-นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ในหัวข้อด่วน! กัมพูชาไม่อาจอ้างสนธิสัญญาฯ มีรายละเอียดดังนี้ อาจารย์พนัส ทัศนียานนท์ อดีตอัยการและอดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้กรุณาส่งข้อมูลแจ้งผม ทำให้ผมเห็นว่ากัมพูชาไม่อาจอ้างสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 อนุสัญญาเจนีวาว่าด้วย “ไหล่ทวีป” 1958 ไม่มีการรับรองสิทธิทางประวัติศาสตร์ รับรองไว้เฉพาะกรณีของ “ทะเลอาณาเขต” เว็บไซต์ของกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ระบุว่า [“ทะเลอาณาเขต” (territorial sea) มีความกว้างไม่เกิน 12 ไมล์ทะเล โดยวัดจากเส้นฐานออกไป รัฐชายฝั่งมีอำนาจอธิปไตย (sovereignty) เหนือทะเลอาณาเขต “ไหล่ทวีป” (continental shelf) หมายถึง พื้นดินท้องทะเลและดินใต้ผิวดินของบริเวณใต้ทะเล ซึ่งขยายเลยทะเลอาณาเขตออกไปตามธรรมชาติของดินแดนจนถึงริมนอกของขอบทวีป หรือจนถึงระยะ 200 ไมล์ทะเลจากเส้นฐานซึ่งใช้วัดความกว้างของทะเลอาณาเขต… ในบริเวณไหล่ทวีป รัฐชายฝั่งสามารถใช้สิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติบน ไหล่ทวีป] ดังนั้น พื้นที่ในอ่าวไทย บริเวณที่ระบุอ้างกันว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ดังปรากฏใน MOU44 นั้น จึงไม่ใช่พื้นที่ “ทะเลอาณาเขต” ที่ครอบคลุมความกว้างเพียง 12 ไมล์ทะเล แต่เป็นพื้นที่ “ไหล่ทวีป” ที่ครอบคลุมความกว้างถึง 200 ไมล์ทะเล และเป็นอาณาเขตสำหรับพัฒนาทรัพยากรปิโตรเลียม รูป 1-4 ในประกาศ เรื่อง ใช้อนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทะเล ซึ่งมีพระบรมราชโองการโดยล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 รับสนองฯ โดย จอมพล ถนอม กิตติขจร เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2512 ในหัวข้อ ทะเลอาณาเขต ข้อ 12 ข้อย่อย 1 อนุญาตให้ยกเว้นได้สำหรับ “เหตุแห่งสิทธิทางประวัติศาสตร์” รูป 5-6 กฤษฎีกาของรัฐบาลกัมพูชา ที่ลากเส้น “ไหล่ทวีป” พาดผ่านเกาะกูดนั้น ระบุชัดเจนว่า เป็นการประกาศพื้นที่ Plateau Continental ซึ่งแปลว่า ไหล่ทวีป และมิใช่อ้างอิงอนุสัญญากรุงเจนีวา 1958 อย่างเดียว แต่อ้างอิงสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ค.ศ. 1907 ประกอบด้วย “ สาเหตุที่กัมพูชาอ้างอิงสนธิสัญญาฯ เพื่อลากเส้นผ่านเกาะกูดนั้น เป็นเพราะสนธิสัญญาฯ มีเอกสารแนบที่ระบุข้อความ “ตั้งแต่ชายทะเลที่ตรงข้ามจากยอดเขาสูงสุดของเกาะกูดเป็นหลัก” จึงได้ลากเส้นจากชายทะเลผ่านยอดเขาสูงสุดของเกาะกูดไปทางทิศตะวันตกกินแดนเข้ามาในอ่าวไทย ** ผิดกฎหมายกระทงที่หนึ่ง การกระทำดังกล่าวผิดกฏหมายกระทงที่หนึ่ง เพราะเนื้อความในสนธิสัญญาฯ บรรยายถึงการแบ่งเขตแดนบนแผ่นดิน มิได้เกี่ยวข้องกับการแบ่งเขตแดนในทะเล จึงเป็นการอ้างอิงสนธิสัญญาฯ ที่บิดเบือน อีกทั้งเกาะกูดอยู่ห่างชายฝั่ง 44 ไมล์ทะเล จึงอยู่นอก “ทะเลอาณาเขต” อยู่แล้วด้วย ** ผิดกฎหมายกระทงที่สอง การกำหนดเส้นเขตไหล่ทวีปพาดผ่านเกาะกูดโดยอ้างสนธิสัญญาฯ เป็น “เหตุแห่งสิทธิทางประวัติศาสตร์” นั้น ก็เป็นการบิดเบือน เอาข้อยกเว้นในเรื่องของ “ทะเลอาณาเขต” มาใช้กับเรื่องของ “ไหล่ทวีป” สรุปแล้ว กฤษฎีกากำหนดเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา ขัดกับอนุสัญญากรุงเจนีวา 1958 โดยสิ้นเชิง เป็นการอ้างผิดมาตราอย่างจัง! และการที่รัฐบาลไทยในสมัยของอดีตนายกทักษิณ ไปทำ MOU44 โดยไม่ได้คำนึงถึงประเด็นนี้ ผมมีความเห็นว่า อาจเป็นการผิดกฎหมาย กัมพูชาจะลากเส้นที่ไม่ตรงกับอนุสัญญากรุงเจนีวา อย่างไรก็ได้ ถ้าไทยไม่รับ ข้ออ้างดังกล่าวก็จะค้างอยู่ในอากาศ แต่การที่รัฐบาลไทยไปรับรู้เส้นที่ไม่ตรงกับอนุสัญญากรุงเจนีวา เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จึงขอขอบคุณอาจารย์พนัส ทัศนียานนท์ เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้กรุณาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มหาศาลแก่ประชาชน” ที่มา News1 https://news1live.com/detail/9670000106288?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2E5ivC8YLJ80XZFnfxkqNzQw-E48lM3Ly7iYy_GAtAVxhcMf3h4UJzl_o_aem_oBxuft0VBnaCm-WW-Z_8rw #Thaitimes
    NEWS1LIVE.COM
    “ธีระชัย” เปิดข้อมูล กัมพูชาลากเส้นในทะเลผิดหลักสากล 2 เด้ง MOU44 ส่อผิดไปด้วย
    “ธีระชัย” เปิดหลักฐาน กัมพูชาลากเส้นในทะเล ผิดทั้งสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ที่ระบุถึงการเล็งยอดเขาบนเกาะกูดสำหรับแบ่งเขตบนแผ่นดินเท่านั้น และผิดอนุสัญญาเจนีวา 1958 ที่ห้ามมิให้อ้างเหตุแห่งสิทธิทางประวัติศาสตร์ในการประกาศเขตไหล่ทวีป
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 742 มุมมอง 0 รีวิว
  • การสังหารหมู่กำลังดำเนินไป: ชนชั้นสูงกำลังทำให้โลกลดจำนวนประชากรอย่างแข็งขัน—คลาว ชะแว๊บ, Chemtrails และอาวุธชีวภาพ: แผนของ WEF ที่จะกวาดล้างผู้คนนับพันล้านถูกเปิดโปง!

    วาระการลดจำนวนประชากรของ WEF ไม่ใช่ภัยคุกคามที่อยู่ห่างไกล แต่มันเกิดขึ้นที่นี่และตอนนี้ในทุกวิกฤตที่เขย่าโลกของเรา นี่คือสงครามเต็มรูปแบบกับมนุษยชาติ และคุณคือเป้าหมาย

    พวกเขาได้ปลดปล่อยอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดเรา—อย่างช้าๆ แอบๆ และไม่ลดละ W0rld Ec0n0my F0room, คลาว ชะแว๊บ และผู้ควบคุมเงาของพวกเขาได้วางแผนชั่วร้ายที่ซ่อนเร้นอยู่ในที่แจ้งชัด

    การปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ? นี่ไม่ใช่ "การหว่านเมฆ"; พวกเขากำลังบงการพายุ ภัยแล้ง ไฟป่าด้วยเทคโนโลยีระดับทหารเพื่อทำให้ประเทศไม่มั่นคง ทำลายพืชผล และทำให้มวลชนอดอยาก ทุกพายุเฮอริเคน ทุกภัยพิบัติ—ออกแบบมาเพื่อควบคุมจำนวนประชากร
    การย้ายถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมาย? ไม่ใช่เรื่องของ “ผู้ลี้ภัย” แต่เป็นการรุกรานที่ออกแบบมาให้ระบบทำงานหนักเกินไปและทำให้เศรษฐกิจไม่มั่นคง ทำให้มีคนต่อต้านน้อยลง ความวุ่นวาย ความไม่มั่นคง และการเกิดน้อยลง—เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน

    ฟลูออไรด์ในน้ำของคุณ? มันไม่เหมาะกับฟันของคุณ การสัมผัสเป็นเวลานานจะทำให้ไอคิวลดลง ลดการเจริญพันธุ์ และรับรองการปฏิบัติตาม คนรุ่นต่อรุ่นกำลังกลายเป็นแกะที่เป็นหมันและเชื่อง และระดับไอคิวก็ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อภาวะมีบุตรยากเพิ่มขึ้น

    ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการรวมกลุ่ม (DEI) ไม่เกี่ยวกับความยุติธรรม แต่เป็นอาวุธทางจิตวิทยาเพื่อแบ่งแยกสังคม ทำลายค่านิยม และหยุดการเติบโตของประชากร นี่คือสงครามเพื่อความสามัคคีและครอบครัว

    มาพูดถึงจีเอ็มโอกันดีกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พืชผลที่ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างอาวุธเพื่อทำลายสุขภาพและความอุดมสมบูรณ์ โรคเรื้อรังไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรแห่งความตายที่ขับเคลื่อนโดยบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งขายโรคและ "การรักษา"

    Chemtrails? ร่องรอยบนท้องฟ้าเหล่านั้นไม่ใช่เชื้อเพลิงเครื่องบิน แต่เป็นการโจมตีด้วยละอองลอยที่มีสารพิษร้ายแรง เช่น แบเรียมและอะลูมิเนียม โปรยปรายลงมาบนเมือง ทุกลมหายใจทำให้เราเข้าใกล้หลุมศพก่อนวัยอันควร ทำให้ประชากรป่วยและปฏิบัติตาม

    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่เป็นกลวิธีควบคุม ตำนานเรื่องรอยเท้าคาร์บอนมีไว้เพื่อทำให้เรารู้สึกผิดและตกอยู่ในความยากจน ทำให้เราต้องพึ่งพาระบบของชนชั้นนำ พวกเขากำลังทำให้เราเป็นทาสภายใต้หน้ากากของลัทธิอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

    ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เป็นเพียงการทดลอง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังทำให้ความยากจนทั่วโลกแย่ลง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตที่อยู่อาศัย ราคาอาหารที่ถูกบิดเบือน เงินเฟ้อ พวกเขาต้องการให้เราหมดตัวและไม่สามารถต้านทานได้

    และเครื่องมือที่อันตรายที่สุด? อาวุธชีวภาพ โรค "อุบัติใหม่"? การปล่อยโรคตามแผน โควิดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คลื่นลูกต่อไปจะมุ่งเป้าไปที่เครื่องหมายทางพันธุกรรม ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน พวกเขายังต้องนั่งหลบภัยอย่างปลอดภัยในบังเกอร์ โดยเฝ้าดูความโกลาหลที่เกิดขึ้น

    อาณาจักรสื่อของพวกเขายกย่องความเสื่อมโทรม โรคทางจิต การล่มสลายของครอบครัว ฮอลลีวูด เครื่องจักรโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาทั้งหมดเข้ามาเกี่ยวข้องและผลักดันวัฒนธรรมแห่งความเสื่อมโทรม

    แผนการลดจำนวนประชากรโลกในปี 2000 กำลังดำเนินไป โดยมีรากฐานที่หยั่งรากลึก—ตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ คิสซิงเจอร์ สโมสรแห่งโรม คลาว ชะแว๊บ ซึ่งเป็นใบหน้าล่าสุดของวาระนี้ เป็นผู้สานต่อ

    นี่ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นเรื่องจริง และมันอยู่ที่นี่ ตื่นได้แล้ว! พายุมาถึงแล้ว และมันกำลังมาหาเราทุกคน
    การสังหารหมู่กำลังดำเนินไป: ชนชั้นสูงกำลังทำให้โลกลดจำนวนประชากรอย่างแข็งขัน—คลาว ชะแว๊บ, Chemtrails และอาวุธชีวภาพ: แผนของ WEF ที่จะกวาดล้างผู้คนนับพันล้านถูกเปิดโปง! วาระการลดจำนวนประชากรของ WEF ไม่ใช่ภัยคุกคามที่อยู่ห่างไกล แต่มันเกิดขึ้นที่นี่และตอนนี้ในทุกวิกฤตที่เขย่าโลกของเรา นี่คือสงครามเต็มรูปแบบกับมนุษยชาติ และคุณคือเป้าหมาย พวกเขาได้ปลดปล่อยอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดเรา—อย่างช้าๆ แอบๆ และไม่ลดละ W0rld Ec0n0my F0room, คลาว ชะแว๊บ และผู้ควบคุมเงาของพวกเขาได้วางแผนชั่วร้ายที่ซ่อนเร้นอยู่ในที่แจ้งชัด การปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ? นี่ไม่ใช่ "การหว่านเมฆ"; พวกเขากำลังบงการพายุ ภัยแล้ง ไฟป่าด้วยเทคโนโลยีระดับทหารเพื่อทำให้ประเทศไม่มั่นคง ทำลายพืชผล และทำให้มวลชนอดอยาก ทุกพายุเฮอริเคน ทุกภัยพิบัติ—ออกแบบมาเพื่อควบคุมจำนวนประชากร การย้ายถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมาย? ไม่ใช่เรื่องของ “ผู้ลี้ภัย” แต่เป็นการรุกรานที่ออกแบบมาให้ระบบทำงานหนักเกินไปและทำให้เศรษฐกิจไม่มั่นคง ทำให้มีคนต่อต้านน้อยลง ความวุ่นวาย ความไม่มั่นคง และการเกิดน้อยลง—เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน ฟลูออไรด์ในน้ำของคุณ? มันไม่เหมาะกับฟันของคุณ การสัมผัสเป็นเวลานานจะทำให้ไอคิวลดลง ลดการเจริญพันธุ์ และรับรองการปฏิบัติตาม คนรุ่นต่อรุ่นกำลังกลายเป็นแกะที่เป็นหมันและเชื่อง และระดับไอคิวก็ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อภาวะมีบุตรยากเพิ่มขึ้น ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการรวมกลุ่ม (DEI) ไม่เกี่ยวกับความยุติธรรม แต่เป็นอาวุธทางจิตวิทยาเพื่อแบ่งแยกสังคม ทำลายค่านิยม และหยุดการเติบโตของประชากร นี่คือสงครามเพื่อความสามัคคีและครอบครัว มาพูดถึงจีเอ็มโอกันดีกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พืชผลที่ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างอาวุธเพื่อทำลายสุขภาพและความอุดมสมบูรณ์ โรคเรื้อรังไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรแห่งความตายที่ขับเคลื่อนโดยบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งขายโรคและ "การรักษา" Chemtrails? ร่องรอยบนท้องฟ้าเหล่านั้นไม่ใช่เชื้อเพลิงเครื่องบิน แต่เป็นการโจมตีด้วยละอองลอยที่มีสารพิษร้ายแรง เช่น แบเรียมและอะลูมิเนียม โปรยปรายลงมาบนเมือง ทุกลมหายใจทำให้เราเข้าใกล้หลุมศพก่อนวัยอันควร ทำให้ประชากรป่วยและปฏิบัติตาม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่เป็นกลวิธีควบคุม ตำนานเรื่องรอยเท้าคาร์บอนมีไว้เพื่อทำให้เรารู้สึกผิดและตกอยู่ในความยากจน ทำให้เราต้องพึ่งพาระบบของชนชั้นนำ พวกเขากำลังทำให้เราเป็นทาสภายใต้หน้ากากของลัทธิอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เป็นเพียงการทดลอง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังทำให้ความยากจนทั่วโลกแย่ลง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตที่อยู่อาศัย ราคาอาหารที่ถูกบิดเบือน เงินเฟ้อ พวกเขาต้องการให้เราหมดตัวและไม่สามารถต้านทานได้ และเครื่องมือที่อันตรายที่สุด? อาวุธชีวภาพ โรค "อุบัติใหม่"? การปล่อยโรคตามแผน โควิดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คลื่นลูกต่อไปจะมุ่งเป้าไปที่เครื่องหมายทางพันธุกรรม ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน พวกเขายังต้องนั่งหลบภัยอย่างปลอดภัยในบังเกอร์ โดยเฝ้าดูความโกลาหลที่เกิดขึ้น อาณาจักรสื่อของพวกเขายกย่องความเสื่อมโทรม โรคทางจิต การล่มสลายของครอบครัว ฮอลลีวูด เครื่องจักรโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาทั้งหมดเข้ามาเกี่ยวข้องและผลักดันวัฒนธรรมแห่งความเสื่อมโทรม แผนการลดจำนวนประชากรโลกในปี 2000 กำลังดำเนินไป โดยมีรากฐานที่หยั่งรากลึก—ตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ คิสซิงเจอร์ สโมสรแห่งโรม คลาว ชะแว๊บ ซึ่งเป็นใบหน้าล่าสุดของวาระนี้ เป็นผู้สานต่อ นี่ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นเรื่องจริง และมันอยู่ที่นี่ ตื่นได้แล้ว! พายุมาถึงแล้ว และมันกำลังมาหาเราทุกคน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 347 มุมมอง 0 รีวิว
  • หม่อมโจ้
    สิ่งที่ควรรู้เรื่องอิสราเอลหม่อมโจ้ โต้ทูตอิสราเอล ยันต้องเปิดความจริง ช่วยคนไทยพ้นภาวะทาส
    เพื่อนๆคงจะรู้จัก คุณปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล อดีตนางงามจักรวาลชาวไทยคนแรก ที่เรียกว่ามิสยูนิเวอร์ส คุณอาภัสราจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.ศ.3) ปี 2506 จาก ร.ร.ศึกษาวิทยา ถนนสีลม แล้วไปเรียนอาชีวศึกษาที่ ร.ร.เลขานุการที่นครรัฐปีนัง ในมาเลเซีย จบชั้นปีที่ 2 เธอมาประกวดนางสาวไทย ได้ตำแหน่งปี 2507 จากนั้นไปเรียนต่อแล้วกลับมาปี 2508 เดินทางไปประกวดมิสยูนิเวอร์สที่นครไมอามี่ รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ได้ตำแหน่งขณะมีอายุ18ปี คุณปุ๊กเกิดวันที่16 มกราคม 2490 ปีกุนปีเดียวกับผม ปี 2510 ขณะมีอายุ 20ปีได้สมรสครั้งแรกกับหม่อมราชวงศ์เกียรติคุณ กิติยากร มีบุตรชายคนแรกคือหม่อมหลวงรุ่งคุณ กิติยากร
    ปัจจุบัน หม่อมโจ้ บุตรชายคนแรกของคุณปุ๊ก อายุได้ 53 ปีแล้ว หม่อมโจ้เรียนจบจากต่างประเทศที่สหรัฐอเมริกาในระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจเคยทำงานบริษัทต่างประเทศจนได้ลาออกไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุในสายวัดป่าอยู่หลายปีได้มาซื้อที่ดินที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 45 ไร่ ปลูกพืชและผลไม้สายพันธุ์ของต่างประเทศที่ไม่มีใครทำมาก่อนจนผลไม้ขายได้ในราคาสูง หม่อมหลวงรุ่งคุณได้ศึกษาและวิเคราะห์เขียนหนังสือหลายเรื่องเกี่ยวกับอิสราเอล ไว้มากจนเป็นข่าวตอบโต้กับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยดังนี้
    เรียน ท่านเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นายไซม่อน โรดเด็ด
    ข้าพเจ้ารับทราบถึงความไม่พอใจของท่านกับบทความของข้าพเจ้า ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่ข้าพเจ้าได้เขียน เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้าโดยบริสุทธิ์ใจ อันเป็นสิทธิที่ข้าพเจ้าจะแสดงได้ โดยความเห็นของข้าพเจ้านั้น เป็นไปตามข้อมูลหลักฐานอันมีจริงทางประวัติศาสตร์ที่ได้มีความพยายามในการกลบและบิดเบือน
    แม้กระนั้น ท่านอาจแปลกใจคิดว่า แล้วไฉนทั้งที่ข้าพเจ้าและประเทศไทยที่ไม่ได้มีส่วนได้เสีย ข้าพเจ้าจึงต้องไปเขียนในเรื่องราวสร้างความบาดหมางให้แก่ท่าน ข้าพเจ้าจึงใคร่ที่จะชี้แจงตรงนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนเพื่อที่จะก่อความบาดหมางให้แก่ท่านหรือแก่ผู้ใด และ เรื่องราวที่ข้าพเจ้าเขียนนั้น มีความเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าและต่อประเทศไทยอย่างไรบ้าง
    อย่างแรก 'กลุ่มทุนธนาคารยิว Zionist' ที่ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงนั้น ข้าพเจ้ากล่าวถึงคนเพียงกลุ่มหนึ่ง มิใช่ชาวยิวทั้งหมด โดยคำว่า 'Zionist' แม้แต่ชาวยิวแท้ Orthodox Jews ที่ยึดมั่นใน Torah จำนวนมากก็ไม่ได้เห็นด้วยเลย ดังที่พวกเขาได้ออกมาประท้วง ประกาศว่า 'Zionism' ไม่ใช่ 'Judaism' เอง ท่านทูตน่าจะพอทราบอยู่ เพราะใน Israel ก็มีการจับชาวยิวแท้ ที่มีอัธยาศัยดีเหล่านี้ ไปจำคุกอยู่จำนวนหนึ่ง
    'ทุนธนาคาร Zionist' ที่ข้าพเจ้าพูดถึง หมายถึงกลุ่มทุนธนาคารที่เป็นผู้มีอำนาจที่สุดในโลก มีอำนาจเหนือรัฐหลายรัฐ รวมถึงมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา เขาคุมการเงินโดยกลุ่มของเขาเอง เป็นเจ้าของ Federal Reserve Bank ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ที่พิมพ์เงินให้รัฐบาลสหรัฐฯต้องกู้ มิใช่ของประชาชนชาวอเมริกันตามที่ควรจะเป็นแต่อย่างใด กลุ่มทุนธนาคารของเขาเป็นหุ้นใหญ่ในบริษัทยักษ์ใหญ่แทบทั้งสิ้นทั่วโลก รวมถึง 6 บริษัทที่คุม 90% ของสื่อในสหรัฐอเมริกา เขาคุมแหล่งนํ้ามันและก๊าซหลัก ๆ ทั่วโลก และกำลังรุกเพื่อควบคุมผูกขาดอาหารของโลกโดยการผลิต GMO แม้แต่องค์กรโลก เช่น UN ที่ให้กำเนิด World Bank และ IMF ล้วนเป็นองค์กรที่พวกเขาจัดตั้งขึ้น และควบคุมทั้งสิ้น
    ชื่อตระกูลที่โดดเด่นมีอิทธิพลสูงสุดใน 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้ ได้แก่ 'Rothschild' และ 'Rockefeller' ชื่อ 'Rothschild' ท่านทูตย่อมรู้จักเป็นอย่างดี โดยใน 'Independence Hall' ที่ Tel Aviv เมืองหลวงของท่านเอง ก็มีนิทรรศการเอกสารชิ้นสำคัญมากชิ้นหนึ่งเรียกว่า 'The Balfour Declaration' เป็นจดหมายจากรัฐบาลอังกฤษ จ่าหัวถึง 'Lord Rothschild' ใน 1917 แสดงถึงการที่รัฐบาลอังกฤษสนับสนุนให้เกิด บ้านอยู่ (national home) ของชาวยิว ที่ Palestine แก่ 'Lord Rothschild' Baron Edmond (Abraham Benjamin) Rothschild จึงมีสถานะเป็น "the Father of the Settlements" (Avi ha-Yishuv) หรือบิดาแห่งอิสราเอล
    ใน4บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก หรือ 'The Four Horsemen of Oil' ที่อยู่เบื้องหลังนโยบายการครอบครองน้ำมันของสหรัฐฯ 2 บริษัท คือ BP Amoco และ Royal Dutch/Shell อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูล Rothschild ที่ถือหุ้นใหญ่ ส่วน อีกสอง Exxon Mobil และ Chevron คือ บริษัทที่มาจาก Standard Oil ของ John D. Rockefeller โดยกรรมการของบริษัทน้ำมันเหล่านี้จำนวนหนึ่ง ไขว้กันเองเป็นใย และไขว้เป็นกรรมการของธนาคารยักษ์ใหญ่ เช่น JP Morgan Chase ของ Rockefeller และ Citigroup, Bank of America, Wells Fargo, N. M. Rothschild & Sons โดยตระกูล Rothschild ควบคุม และมีการเชื่อมโยงถือหุ้นไขว้กันกับกลุ่มทุนนอมินียักษ์ เช่น BlackRock, State Street, Vanguard และ Fidelity ที่ถือหุ้นใหญ่บริษัทยักษ์ใหญ่ แทบทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย
    ในการสร้างอำนาจเหนือรัฐต่าง ๆ 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้ ได้จัดตั้งองค์กร Front ของเขา เช่น The Bilderberg Group, Council on Foreign Relations (CFR) และ The Trilateral Commission (TC) โดยองค์กรเหล่านี้จะรวมกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' และบรรดาผู้มีอิทธิผล เช่น อดีตประธานาธิบดี บริวารมือขวาของเขา Henry Kissinger นักการเมืองทุกขั้ว ทหาร หัวหน้าหน่วยงานลับ ของประเทศสำคัญในยุโรป และสหรัฐฯ โดยใน Trilateral Commission จะมีสมาชิกเป็นบุคคลสำคัญของประเทศในทวีปเอเชียต่าง ๆ ที่รับใช้พวกเขา 'ทุนธนาคาร Zionist' จึงมีอิทธิพลอำนาจเหนือรัฐ เช่นมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา
    ด้วยความละโมบของพวกเขา ในการล่าอาณานิคมยุคใหม่ โดยกำลังก็ดี โดยวิธีแห่งการให้สินบนแก่ผู้ขายชาติตนเองก็ดี โดยการบีบบังคับด้วยหนี้สินก็ดี โดยการแทรกแซงการเมืองภายในก็ดี 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้ ได้เข้ายึดครองทรัพยากร พลังงาน เศรษฐกิจ และการเงิน ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้ประชาชนของประเทศนั้น ๆ ตกเป็นทาสของพวกเขา โดยในประเทศไทยเอง ปรากฏหลักฐานชัดเจนถึงการกระทำ ที่ 'ทุนธนาคาร Zionist' พร้อมการร่วมมือของ 'คนไทย' ที่ได้ขายตัวขายจิตวิญญาณให้พวกเขา ได้ร่วมกระทำ ดังต่อไปนี้ (1) การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ จากประชาชนคนไทย (2) การทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ ตามด้วยการยึดครองเศรษฐกิจการเงิน (3) การชักใยอยู่เบื้องหลังทุกฝ่าย ในการสร้างความแตกแยก ตามยุทธศาสตร์ 'แบ่งแยกแล้วปกครอง' เพื่อการยึดครองประเทศเป็นเมืองขึ้นยิ่งขึ้นไป มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ :
    (1) การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ จากประชาชนคนไทย โดย 'ทุนธนาคาร Zionist'
    ทั้งที่ประเทศไทย มีอธิปไตยของตนเอง โดยอธิปไตย นั้นเป็นของปวงชนชาวไทย อันหมายความว่าทรัพยากรของชาตินั้นเป็นของประชาชนคนไทย แต่ปรากฏว่า กฎหมายว่าด้วยน้ำมันและก๊าซ (พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2514) มิได้มีการเขียนขึ้นไม่ว่าจะ 'โดย' ประชาชน หรือ 'เพื่อ' ประชาชน แต่อย่างใด แต่ได้ถูกเขียนขึ้นโดย Walter James Levi สมาชิกทั้ง CFR และ The Trilateral Commission ผู้ทำงานให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขั้นขึ้นชื่อว่าเป็น หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์พลังงานของสหรัฐอเมริกา (the dean of United States oil economists) และ ได้เป็นผู้บริหารบริษัทของตระกูล Rockefeller เองคือ Standard Oil Company of New York หรือ Socony (ปัจจุบันคือ Exxon) คนที่เขียนกฎหมายนี้ของประเทศไทย ไม่ใช่คนไทย แต่คือคนของ 'ทุนธนาคาร Zionist'
    เนื้อหาของกฎหมายดังกล่าวเอง ก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ของ 'ทุนธนาคาร Zionist' โดยมีลักษณะของกฎหมายสำหรับเมืองขึ้นอันไม่เป็นธรรม คือ น้ำมันและก๊าซทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับสัมปทาน การได้สัมปทานเป็นไปโดยไม่มีการประมูลอย่างโปร่งใส ค่าตอบแทนเป็นไปอย่างต่ำ และ ประชาชนคนไทยที่เป็นเจ้าของโดยแท้จริง ไม่สามารถตรวจสอบรับทราบความจริงได้เลย โดยวิธีที่สามารถจะเรียกว่าโปร่งใสได้ ว่าปริมาณทรัพยากรที่มีการขุดไปนั้นมีปริมาณที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด ประเทศไทยมีพลังงานมากน้อยแค่ไหนโดยต้องยอมรับตามตัวเลข ที่บริษัทพลังงานต่าง ๆ แจ้งเท่านั้น
    การปล้นอธิปไตยโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นไปได้ด้วยการข่มขู่ไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมการให้สินบนแก่ 'คนไทยที่ขายชาติตัวเอง' ซึ่งจากนั้นมา การรุกครอบครองน้ำมันและก๊าซของประชาชนคนไทย โดยวิธีการดังกล่าวได้ขยายไปเรื่อย ๆ มีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม ให้เอื้ออำนวยแก่ผู้รับสัมปทานอย่างล้นพ้นโดยภายหลังจะเห็นได้ชัดเจนถึงผู้เข้ามามีอำนาจในไทย ไม่ว่าขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ได้สานต่อไปในทาง 'ขายชาติตัวเอง' ให้แก่ 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้เพื่อค่าคอมมิสชั่น ถึงขั้นร่วมกันชง ส่งลูกกันข้ามรัฐบาล ยกดินแดนไทยให้กัมพูชา อันส่งผลให้พื้นที่ไทยในทะเลอ่าวไทย 27,000 ตารางกิโลเมตรอันอุดมด้วยน้ำมันและก๊าซที่สุดแห่งหนึ่ง ต้องตกกลายเป็นพื้นที่พิพาท ระหว่างไทยกับกัมพูชา
    ซึ่งในพื้นที่นี้ บริษัท Chevron คือบริษัทที่จ่อล็อกจะถือสัมปทานจากทั้ง 2 ประเทศ ในกรณีนี้ที่มีการพิพาทเรื่องพื้นที่ในอ่าวไทย หากไทยและกัมพูชา ให้สัมปทานในพื้นที่นี้ ผู้ที่จะมีอิทธิพลสูงสุดในการครอบครอง ย่อมมิใช่ไทยหรือกัมพูชาอีกทั้งนั้น แต่จะเป็นสหรัฐอเมริกาภายใต้กลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' เพราะสัมปทานจะเป็นของ Chevron โดยเอกฉันท์ ฝ่ายใดที่ให้ประโยชน์แก่สหรัฐฯ สูงสุด สหรัฐฯ ย่อมสนับสนุนฝ่ายนั้น
    ในปัจจุบัน การถูกปล้นอธิปไตย การตกเป็นอาณานิคมของ 'ทุนธนาคาร Zionist' อย่างเต็มรูปแบบในเรื่องพลังงาน ก็ประจักษ์ชัดเจนอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยในปัจจุบัน นาย ณรงค์ชัย อัครเศรณี ผู้เข้ามาดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก่อนเข้ามารับตำแหน่ง ได้เป็นสมาชิก The Trilateral Commission (TC) องค์กรของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ยาวนานถึง 30 ปี โดยเมื่อเข้ามาแล้ว ก็ไม่รีรอที่จะประกาศผลักดันเปิดสัมปทานในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจ และไม่มีการชี้แจงอันใดเกี่ยวกับการเสียดินแดนของประเทศไทย ทั้งที่มีการคัดค้าน
    ด้วยประการฉะนี้ การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ โดย 'ทุนธนาคาร Zionist' จึงมิได้ครอบคลุมเพียงแค่น้ำมันและก๊าซอีกต่อไป แต่ได้ขยายไปเป็นการปล้นดินแดนไทย จากประชาชนคนไทย ไปโดยเรียบร้อย
    (2) การทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ ตามด้วยการยึดครองเศรษฐกิจการเงินของประเทศ
    การที่เถ้าแก่สามานย์รายใดจะต้องการยึดที่ดินสวย ๆ ของชาวนา วิธีที่เขาจะกระทำคือ ให้ชาวนากู้เงิน ทำให้จ่ายหนี้ไม่ได้ เมื่อจ่ายช้าก็อายัดที่ดินนั้น บังคับขายในราคาต่ำกว่าจริงสิบเท่า แล้วเข้าซื้อเอง
    วิธีการของ 'ทุนธนาคาร Zionist' ก็เป็นเช่นนั้น ทำให้ประเทศเป็นหนี้ หลังการปล่อยกู้เงินให้แก่ประเทศไทยจำนวนมากให้คน น้อยกว่า 1% อย่างฟุ่มเฟือย George Soros สมาชิกอาวุโส CFR ได้นำกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' มาโจมตีค่าเงินบาท จาก 25 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ กลายเป็น 56 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เพราะกู้เงินจากต่างชาติมามาก เศรษฐกิจไทยได้เข้าสู่วิกฤต มีการล่มสลายของธุรกิจจำนวนมาก(ในปี 2540 – 2542)
    ต่อมาก็เป็นไปตามแบบแผนวิธีการของ IMF และ World Bank ที่ 51% เป็นของ US Treasury ควบคุมโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' ของ Rothschild ตามขั้นตอนที่ Joseph Stiglitz ผู้เป็นอดีตประธานที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจของ President Bill Clinton อดีตรองประธาน และ Chief Economist ของ World Bank ได้เปิดโปงให้แก่หนังสือ The Observer และ Newsweek หลังมีเอกสารลับหลุดออกมาจาก World Bank คือในการขอความช่วยเหลือทางการเงิน จำต้องเซ็นสัญญา โดยในสัญญาจะตกลงใน (a) Privatization การแปรรูป โดยรัฐจะต้องยินยอมขายสมบัติของชาติเกี่ยวเนื่องกับสิ่งจำเป็น เช่น น้ำ ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ (b) Capital Market Liberalization การเปิดให้ทุนไหลเข้าออก โดยส่วนใหญ่มักจะไหลออก (c) Market-based pricing การขึ้นราคา อาหาร ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ โดยอ้างว่าเป็นราคาตลาดโลก (d) Free Trade การค้าเสรี ตามกฎของ WTO และ World Bank
    Stiglitz ได้ระบุในการสัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า การยินยอมในการตกลงนั้นเกิดขึ้นไม่ยากโดย (ก) World Bank IMF สามารถสั่ง Financial Blockage การกีดกันทางการเงินหากไม่ร่วมมือ และ (ข) นักการเมืองในประเทศนั้น ๆ ยินดีที่จะยกบริษัท น้ำ ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ ให้โดย 'เขาจะตาโตกันเลย เมือเขานึกถึงค่าคอมมิสชั่นที่เขาจะได้กัน จากการลดราคาเป็นพัน ๆ ล้านในการแปรรูป' โดยเขาจะสามารถใช้ข้ออ้างว่า ถูก World Bank IMF บังคับ
    แล้วการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ก็ได้ตามมา พร้อมการขายสมบัติชาติแบบล็อกสเปคในราคาที่ต่ำกว่าทุนถึง 5 เท่า ตามด้วยการแปรรูปบริษัทน้ำมัน-ก๊าซของชาติ โดยสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ว่าจะในกรณี การยกดินแดนให้ต่างชาติ หรือ การแปรรูป จะเกิดขึ้นโดยการร่วมมือของมากกว่าหนึ่งรัฐบาล โดยฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายชง อีกฝ่ายเป็นฝ่ายจัดการ ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นไปเพื่อการสามารถโยนความผิดกันไปมาได้ โดยไม่มีใครผิดเต็ม ๆ โดยในกรณีนี้ แม้ขั้วนักการเมืองกลุ่มที่รับข้อตกลงรับรายละเอียดในการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับจาก 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้พยายามจะโยนความผิดให้ผู้ริเริ่มการตกลง แต่ก็ปรากฏให้เห็นได้ถึงการตอบแทน เมื่อคนของเขาได้ไปนั่งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ WTO
    โดยการโจมตีค่าเงิน การบีบข่มขู่ การให้สินบนแก่ผู้เข้ามามีอำนาจทุกขั้ว ที่ร่วมกันขายชาติตนเอง 'ทุนธนาคาร Zionist' เช่น JP Morgan Chase, BlackRock, State Street, Vanguard และ Fidelity ได้เข้ามายึดครองควบคุม บริษัทน้ำมันก๊าซ ธนาคาร และ เศรษฐกิจการเงินของประเทศไทย ไปจากคนไทย และยังรุกคืบยิ่ง ณ ปัจจุบัน ตามข่าวการแปรรูปที่ปรากฏอยู่
    (3) การชักใยอยู่เบื้องหลัง ในการสร้างความแตกแยก ตามยุทธศาสตร์ 'แบ่งแยกแล้วปกครอง' (Divide and Conquer) เพื่อการยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จ
    เป็นที่ประจักษ์ว่าไม่ว่าจะขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ที่เข้ามามีอำนาจ ล้วนให้ความร่วมมือกับ 'ทุนธนาคาร Zionist' ในการขายทำลายชาติ โดยมีค่าคอมมิสชั่น ทั้งในทรัพยากรและในการแปรรูป เป็นตัวเชื่อม สามารถควบคุม ชักใยได้ทุกฝ่าย ยุทธศาสตร์ แบ่งแยกแล้วปกครอง เป็นยุทธศาสตร์ที่มีตัวอย่างเห็นได้ในโลกปัจจุบันมากมายในการเข้ายึดครองประเทศต่าง ๆ ของ 'ทุนธนาคาร Zionist' โดยการยุยงให้เหยื่อตีกันเอง บางกรณีให้อาวุธทั้ง 2 ฝ่าย ทำลายภูมิคุ้มกันความสามัคคีของชนชาตินั้น ๆ สร้างความแตกแยก โดยเมื่อมีรอยแตก ก็สามารถจะแทรกเข้าไป ยึดครองประเทศนั้น ๆ
    ความแตกแยก ปัญหาความขัดแย้งเสื้อสี ที่ปรากฏอยู่ในประเทศไทย ล้วนมีการชักใย มีการสนับสนุน ทั้ง 2 ฝ่ายการเมือง โดยมีกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนักการเมืองทั้ง 2 ขั้ว โดยทั้ง 2 ขั้ว นั้นล้วนมีผลประโยชน์ในเรื่องคอมมิสชั่น จากกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' และถูกชักใยให้ปลุกปั่นประชาชน ให้มาตีกันเองโดยการรู้ไม่เท่าทันของประชาชน ว่าโดยแท้จริงแล้ว นักการเมืองและผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ล้วนให้ความร่วมมือ ขายชาติตนเองแก่ 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งสิ้น
    หลักฐานปรากฏชัดเจนว่าสมาชิก CFR ของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' อาทิ (a) Robert Blackville สมาชิก CFR มือขวาการต่างประเทศของ Henry Kissinger จาก Barbour Griffif & Rogers (CFR) (b) Keneth Adelman สมาชิก CFR อดีตทูต UN ของสหรัฐ จาก Baker & Botts Robert (CFR) (c) Robert Amsterdam จาก Amsterdam & Peroff (Chatham House) ได้ทำหน้าที่เป็น lobbyist ให้อดีตนักการเมืองที่หลบอยู่ที่ Dubai และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการเสื้อแดง และองค์กร NED ได้ให้เงินสนับสนุน Website ของเสื้อแดงจำนวนมาก โดยต้องเป็นที่กล่าวว่า นักการเมืองไทยที่หลบหนีอยู่ที่ Dubai นั้น โดยแท้จริงแล้วเป็นเพียงหุ่นเชิด ที่ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งโดยลำพังเขาไม่สามารถที่จะทำเองได้เลย (นั่นคือทักษิณ ชินวัตร)
    ส่วนนักการเมืองผู้เข้ามามีอำนาจ ฝ่ายอื่น ๆ ที่โหน อ้าง ปกป้อง สถาบันสำคัญ ๆ ฝ่ายนี้ โดยการขายตัวขายชาติ การปรารถนาได้ค่าคอมมิสชั่น ทั้งในน้ำมันก๊าซ และในการแปรรูป เป็นตัวเชื่อม ก็ไม่พ้นการอยู่ภายใต้อำนาจการชักใยของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ที่เป็นผู้กำกับการแสดง จูงทั้งสองสามฝ่าย ให้ชงและส่งลูกให้กัน เสี้ยมให้ชาติ ล่มสลาย เพื่อการปล้นยึดครองอย่างเบ็ดเสร็จ ในระหว่างที่สหรัฐ แขนขวาของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' สนับสนุนฝ่ายหนึ่ง แขนซ้าย ก็ทำตัวเข้าสนับสนุนอีกฝ่าย
    ข้าพเจ้าจึงจะประกาศ ณ ที่นี้ว่าข้าพเจ้ามิได้รังเกียจประชาชนของชนชาติใด จะเป็นชาวอเมริกันหรือชาวยิวหรือชาติใด ๆ ทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ข้าพเจ้ารังเกียจ คือพฤติกรรม เอาเปรียบ เบียดเบียน แทรกแซง ปล้นทั้งทรัพยากรและดินแดน ทำลายชาติอื่น ที่ 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้ได้กระทำทั่วโลก
    ดังนั้น กับคำกล่าวของท่านว่าข้าพเจ้าเหยียดชนชาติ เมื่อความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นข้าพเจ้าจึงไม่เดือดร้อนใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ว่าในโลกปัจจุบัน เท่าที่ข้าพเจ้าทราบ ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าจะมีค่ายนักโทษอันใดที่กระทำความทารุณโหดร้ายเท่ากับที่สถานที่ชื่อ Gaza และในเมื่อประเทศของท่านเองยังกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาว Palestine อย่างที่กระทำอยู่ ท่านยังจะกล้าบังอาจเรียกผู้ใดว่าเหยียดชนชาติได้เสียอย่างไร
    จะเรียกใครว่าอย่างไรท่านจงมองตัวเองบ้างเสียเถิด ท่านจงสำเหนียกเสียบ้างเถิดว่า พฤติกรรมร้องทำจะเป็นจะตายว่าพวกตนถูกทำร้าย ทั้งที่พวกตนนั่นแหละคือผู้ที่กระทำชำเราเขาไปทั่ว ท่านคิดว่าอย่างไร พฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมที่น่าสมเพชหรือไม่
    ไม่ว่าจะประชาชนชนชาติใด เขาก็ย่อมปรารถนาความสงบสุข เขาย่อมปรารถนาอธิปไตยในชาติของเขาเอง เขาย่อมปรารถนาที่จะตัดสินอนาคตเขาเอง เขาย่อมปรารถนาว่าทรัพยากรของเขาจะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของเขาด้วยความเป็นธรรม เขาย่อมไม่ต้องการให้ใครมาเอาดินแดนของเขาไป แต่ในประเทศไทย ด้วยการชักใย การซื้อคนไทยที่ขายชาติตนเองทุกขั้ว การซื้อสื่อ การปลุกปั้นโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น
    ผลคือ คนไทย แทนที่จะรักใครสามัคคีกัน แทนที่จะได้รับผลประโยชน์จากสมบัติอันมีค่าของเขา แทนที่จะมีรัฐสวัสดิการ การรักษาพยาบาล การศึกษา ที่มีคุณภาพ แทนที่จะมีชีวิตที่มีคุณภาพความสุขที่พวกเขาควรได้รับ เขากลับต้องมาเกลียดชังกันเอง ทะเลาะสู้กันเอง เขากลับต้องมาเป็นทาสของ 'ทุนธนาคาร Zionist' ต้องมาเป็นทาสที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายสู้กันเอง แทนที่จะสามัคคีกันเพื่อปลดปล่อยพวกตนจากความเป็นทาส เพราะความไม่รู้เท่าทัน เพราะการหลอกลวงโดยนักการเมือง ผู้เข้ามามีอำนาจที่หิวโหย ที่ล้วนทำเพื่อตนเอง โดยรับใช้ ถูกชักใยจากนายคนเดียวกันคือ 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งนั้น
    ข้าพเจ้าจึงมีความจำเป็นที่จะเปิดเผยความจริง ความจริงโดยรอบด้าน และความจริงที่จริงที่สุด โดย เมื่อประชาชนชาวไทยตื่นรู้กับความจริง การเป็นทาสที่ถูกหลอกให้สู้กันเองย่อมหมดไป ความสามัคคีย่อมกลับมา โดยสิ่งนี้สิ่งเดียว คือ การตื่นรู้เท่านั้น ที่จะทำให้ชนชาติไทยรอดพ้นภัยไปได้
    ทั้งนี้ทั้งนั้น มิใช่ว่าประชาชนชาวไทยจะต้องไปเป็นศัตรูกับใคร การตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดังฉันใด และ เมื่อคนไทยตื่นรู้เลิกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นหนึ่งอันเดียวกัน รวมกันปราบปรามเหล่าคนไทยที่ขายชาติตนเองทั้งหลายแล้ว ประเทศและประชาชนชาวไทยย่อมพ้นจากการเป็นอาณานิคม พ้นจากการเป็นเป็นทาส ไม่ว่าจะเป็น ทาสของ 'ทุนธนาคาร Zionist' หรือ กลุ่มทุนอื่นใด
    จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร
    หม่อมโจ้ สิ่งที่ควรรู้เรื่องอิสราเอลหม่อมโจ้ โต้ทูตอิสราเอล ยันต้องเปิดความจริง ช่วยคนไทยพ้นภาวะทาส เพื่อนๆคงจะรู้จัก คุณปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล อดีตนางงามจักรวาลชาวไทยคนแรก ที่เรียกว่ามิสยูนิเวอร์ส คุณอาภัสราจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.ศ.3) ปี 2506 จาก ร.ร.ศึกษาวิทยา ถนนสีลม แล้วไปเรียนอาชีวศึกษาที่ ร.ร.เลขานุการที่นครรัฐปีนัง ในมาเลเซีย จบชั้นปีที่ 2 เธอมาประกวดนางสาวไทย ได้ตำแหน่งปี 2507 จากนั้นไปเรียนต่อแล้วกลับมาปี 2508 เดินทางไปประกวดมิสยูนิเวอร์สที่นครไมอามี่ รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ได้ตำแหน่งขณะมีอายุ18ปี คุณปุ๊กเกิดวันที่16 มกราคม 2490 ปีกุนปีเดียวกับผม ปี 2510 ขณะมีอายุ 20ปีได้สมรสครั้งแรกกับหม่อมราชวงศ์เกียรติคุณ กิติยากร มีบุตรชายคนแรกคือหม่อมหลวงรุ่งคุณ กิติยากร ปัจจุบัน หม่อมโจ้ บุตรชายคนแรกของคุณปุ๊ก อายุได้ 53 ปีแล้ว หม่อมโจ้เรียนจบจากต่างประเทศที่สหรัฐอเมริกาในระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจเคยทำงานบริษัทต่างประเทศจนได้ลาออกไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุในสายวัดป่าอยู่หลายปีได้มาซื้อที่ดินที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 45 ไร่ ปลูกพืชและผลไม้สายพันธุ์ของต่างประเทศที่ไม่มีใครทำมาก่อนจนผลไม้ขายได้ในราคาสูง หม่อมหลวงรุ่งคุณได้ศึกษาและวิเคราะห์เขียนหนังสือหลายเรื่องเกี่ยวกับอิสราเอล ไว้มากจนเป็นข่าวตอบโต้กับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยดังนี้ เรียน ท่านเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นายไซม่อน โรดเด็ด ข้าพเจ้ารับทราบถึงความไม่พอใจของท่านกับบทความของข้าพเจ้า ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่ข้าพเจ้าได้เขียน เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้าโดยบริสุทธิ์ใจ อันเป็นสิทธิที่ข้าพเจ้าจะแสดงได้ โดยความเห็นของข้าพเจ้านั้น เป็นไปตามข้อมูลหลักฐานอันมีจริงทางประวัติศาสตร์ที่ได้มีความพยายามในการกลบและบิดเบือน แม้กระนั้น ท่านอาจแปลกใจคิดว่า แล้วไฉนทั้งที่ข้าพเจ้าและประเทศไทยที่ไม่ได้มีส่วนได้เสีย ข้าพเจ้าจึงต้องไปเขียนในเรื่องราวสร้างความบาดหมางให้แก่ท่าน ข้าพเจ้าจึงใคร่ที่จะชี้แจงตรงนี้ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนเพื่อที่จะก่อความบาดหมางให้แก่ท่านหรือแก่ผู้ใด และ เรื่องราวที่ข้าพเจ้าเขียนนั้น มีความเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าและต่อประเทศไทยอย่างไรบ้าง อย่างแรก 'กลุ่มทุนธนาคารยิว Zionist' ที่ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงนั้น ข้าพเจ้ากล่าวถึงคนเพียงกลุ่มหนึ่ง มิใช่ชาวยิวทั้งหมด โดยคำว่า 'Zionist' แม้แต่ชาวยิวแท้ Orthodox Jews ที่ยึดมั่นใน Torah จำนวนมากก็ไม่ได้เห็นด้วยเลย ดังที่พวกเขาได้ออกมาประท้วง ประกาศว่า 'Zionism' ไม่ใช่ 'Judaism' เอง ท่านทูตน่าจะพอทราบอยู่ เพราะใน Israel ก็มีการจับชาวยิวแท้ ที่มีอัธยาศัยดีเหล่านี้ ไปจำคุกอยู่จำนวนหนึ่ง 'ทุนธนาคาร Zionist' ที่ข้าพเจ้าพูดถึง หมายถึงกลุ่มทุนธนาคารที่เป็นผู้มีอำนาจที่สุดในโลก มีอำนาจเหนือรัฐหลายรัฐ รวมถึงมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา เขาคุมการเงินโดยกลุ่มของเขาเอง เป็นเจ้าของ Federal Reserve Bank ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ที่พิมพ์เงินให้รัฐบาลสหรัฐฯต้องกู้ มิใช่ของประชาชนชาวอเมริกันตามที่ควรจะเป็นแต่อย่างใด กลุ่มทุนธนาคารของเขาเป็นหุ้นใหญ่ในบริษัทยักษ์ใหญ่แทบทั้งสิ้นทั่วโลก รวมถึง 6 บริษัทที่คุม 90% ของสื่อในสหรัฐอเมริกา เขาคุมแหล่งนํ้ามันและก๊าซหลัก ๆ ทั่วโลก และกำลังรุกเพื่อควบคุมผูกขาดอาหารของโลกโดยการผลิต GMO แม้แต่องค์กรโลก เช่น UN ที่ให้กำเนิด World Bank และ IMF ล้วนเป็นองค์กรที่พวกเขาจัดตั้งขึ้น และควบคุมทั้งสิ้น ชื่อตระกูลที่โดดเด่นมีอิทธิพลสูงสุดใน 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้ ได้แก่ 'Rothschild' และ 'Rockefeller' ชื่อ 'Rothschild' ท่านทูตย่อมรู้จักเป็นอย่างดี โดยใน 'Independence Hall' ที่ Tel Aviv เมืองหลวงของท่านเอง ก็มีนิทรรศการเอกสารชิ้นสำคัญมากชิ้นหนึ่งเรียกว่า 'The Balfour Declaration' เป็นจดหมายจากรัฐบาลอังกฤษ จ่าหัวถึง 'Lord Rothschild' ใน 1917 แสดงถึงการที่รัฐบาลอังกฤษสนับสนุนให้เกิด บ้านอยู่ (national home) ของชาวยิว ที่ Palestine แก่ 'Lord Rothschild' Baron Edmond (Abraham Benjamin) Rothschild จึงมีสถานะเป็น "the Father of the Settlements" (Avi ha-Yishuv) หรือบิดาแห่งอิสราเอล ใน4บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก หรือ 'The Four Horsemen of Oil' ที่อยู่เบื้องหลังนโยบายการครอบครองน้ำมันของสหรัฐฯ 2 บริษัท คือ BP Amoco และ Royal Dutch/Shell อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูล Rothschild ที่ถือหุ้นใหญ่ ส่วน อีกสอง Exxon Mobil และ Chevron คือ บริษัทที่มาจาก Standard Oil ของ John D. Rockefeller โดยกรรมการของบริษัทน้ำมันเหล่านี้จำนวนหนึ่ง ไขว้กันเองเป็นใย และไขว้เป็นกรรมการของธนาคารยักษ์ใหญ่ เช่น JP Morgan Chase ของ Rockefeller และ Citigroup, Bank of America, Wells Fargo, N. M. Rothschild & Sons โดยตระกูล Rothschild ควบคุม และมีการเชื่อมโยงถือหุ้นไขว้กันกับกลุ่มทุนนอมินียักษ์ เช่น BlackRock, State Street, Vanguard และ Fidelity ที่ถือหุ้นใหญ่บริษัทยักษ์ใหญ่ แทบทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ในการสร้างอำนาจเหนือรัฐต่าง ๆ 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้ ได้จัดตั้งองค์กร Front ของเขา เช่น The Bilderberg Group, Council on Foreign Relations (CFR) และ The Trilateral Commission (TC) โดยองค์กรเหล่านี้จะรวมกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' และบรรดาผู้มีอิทธิผล เช่น อดีตประธานาธิบดี บริวารมือขวาของเขา Henry Kissinger นักการเมืองทุกขั้ว ทหาร หัวหน้าหน่วยงานลับ ของประเทศสำคัญในยุโรป และสหรัฐฯ โดยใน Trilateral Commission จะมีสมาชิกเป็นบุคคลสำคัญของประเทศในทวีปเอเชียต่าง ๆ ที่รับใช้พวกเขา 'ทุนธนาคาร Zionist' จึงมีอิทธิพลอำนาจเหนือรัฐ เช่นมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา ด้วยความละโมบของพวกเขา ในการล่าอาณานิคมยุคใหม่ โดยกำลังก็ดี โดยวิธีแห่งการให้สินบนแก่ผู้ขายชาติตนเองก็ดี โดยการบีบบังคับด้วยหนี้สินก็ดี โดยการแทรกแซงการเมืองภายในก็ดี 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้ ได้เข้ายึดครองทรัพยากร พลังงาน เศรษฐกิจ และการเงิน ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้ประชาชนของประเทศนั้น ๆ ตกเป็นทาสของพวกเขา โดยในประเทศไทยเอง ปรากฏหลักฐานชัดเจนถึงการกระทำ ที่ 'ทุนธนาคาร Zionist' พร้อมการร่วมมือของ 'คนไทย' ที่ได้ขายตัวขายจิตวิญญาณให้พวกเขา ได้ร่วมกระทำ ดังต่อไปนี้ (1) การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ จากประชาชนคนไทย (2) การทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ ตามด้วยการยึดครองเศรษฐกิจการเงิน (3) การชักใยอยู่เบื้องหลังทุกฝ่าย ในการสร้างความแตกแยก ตามยุทธศาสตร์ 'แบ่งแยกแล้วปกครอง' เพื่อการยึดครองประเทศเป็นเมืองขึ้นยิ่งขึ้นไป มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ : (1) การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ จากประชาชนคนไทย โดย 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งที่ประเทศไทย มีอธิปไตยของตนเอง โดยอธิปไตย นั้นเป็นของปวงชนชาวไทย อันหมายความว่าทรัพยากรของชาตินั้นเป็นของประชาชนคนไทย แต่ปรากฏว่า กฎหมายว่าด้วยน้ำมันและก๊าซ (พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2514) มิได้มีการเขียนขึ้นไม่ว่าจะ 'โดย' ประชาชน หรือ 'เพื่อ' ประชาชน แต่อย่างใด แต่ได้ถูกเขียนขึ้นโดย Walter James Levi สมาชิกทั้ง CFR และ The Trilateral Commission ผู้ทำงานให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขั้นขึ้นชื่อว่าเป็น หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์พลังงานของสหรัฐอเมริกา (the dean of United States oil economists) และ ได้เป็นผู้บริหารบริษัทของตระกูล Rockefeller เองคือ Standard Oil Company of New York หรือ Socony (ปัจจุบันคือ Exxon) คนที่เขียนกฎหมายนี้ของประเทศไทย ไม่ใช่คนไทย แต่คือคนของ 'ทุนธนาคาร Zionist' เนื้อหาของกฎหมายดังกล่าวเอง ก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ของ 'ทุนธนาคาร Zionist' โดยมีลักษณะของกฎหมายสำหรับเมืองขึ้นอันไม่เป็นธรรม คือ น้ำมันและก๊าซทั้งหมดเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับสัมปทาน การได้สัมปทานเป็นไปโดยไม่มีการประมูลอย่างโปร่งใส ค่าตอบแทนเป็นไปอย่างต่ำ และ ประชาชนคนไทยที่เป็นเจ้าของโดยแท้จริง ไม่สามารถตรวจสอบรับทราบความจริงได้เลย โดยวิธีที่สามารถจะเรียกว่าโปร่งใสได้ ว่าปริมาณทรัพยากรที่มีการขุดไปนั้นมีปริมาณที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด ประเทศไทยมีพลังงานมากน้อยแค่ไหนโดยต้องยอมรับตามตัวเลข ที่บริษัทพลังงานต่าง ๆ แจ้งเท่านั้น การปล้นอธิปไตยโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นไปได้ด้วยการข่มขู่ไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมการให้สินบนแก่ 'คนไทยที่ขายชาติตัวเอง' ซึ่งจากนั้นมา การรุกครอบครองน้ำมันและก๊าซของประชาชนคนไทย โดยวิธีการดังกล่าวได้ขยายไปเรื่อย ๆ มีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม ให้เอื้ออำนวยแก่ผู้รับสัมปทานอย่างล้นพ้นโดยภายหลังจะเห็นได้ชัดเจนถึงผู้เข้ามามีอำนาจในไทย ไม่ว่าขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ได้สานต่อไปในทาง 'ขายชาติตัวเอง' ให้แก่ 'ทุนธนาคาร Zionist' เหล่านี้เพื่อค่าคอมมิสชั่น ถึงขั้นร่วมกันชง ส่งลูกกันข้ามรัฐบาล ยกดินแดนไทยให้กัมพูชา อันส่งผลให้พื้นที่ไทยในทะเลอ่าวไทย 27,000 ตารางกิโลเมตรอันอุดมด้วยน้ำมันและก๊าซที่สุดแห่งหนึ่ง ต้องตกกลายเป็นพื้นที่พิพาท ระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งในพื้นที่นี้ บริษัท Chevron คือบริษัทที่จ่อล็อกจะถือสัมปทานจากทั้ง 2 ประเทศ ในกรณีนี้ที่มีการพิพาทเรื่องพื้นที่ในอ่าวไทย หากไทยและกัมพูชา ให้สัมปทานในพื้นที่นี้ ผู้ที่จะมีอิทธิพลสูงสุดในการครอบครอง ย่อมมิใช่ไทยหรือกัมพูชาอีกทั้งนั้น แต่จะเป็นสหรัฐอเมริกาภายใต้กลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' เพราะสัมปทานจะเป็นของ Chevron โดยเอกฉันท์ ฝ่ายใดที่ให้ประโยชน์แก่สหรัฐฯ สูงสุด สหรัฐฯ ย่อมสนับสนุนฝ่ายนั้น ในปัจจุบัน การถูกปล้นอธิปไตย การตกเป็นอาณานิคมของ 'ทุนธนาคาร Zionist' อย่างเต็มรูปแบบในเรื่องพลังงาน ก็ประจักษ์ชัดเจนอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยในปัจจุบัน นาย ณรงค์ชัย อัครเศรณี ผู้เข้ามาดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก่อนเข้ามารับตำแหน่ง ได้เป็นสมาชิก The Trilateral Commission (TC) องค์กรของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ยาวนานถึง 30 ปี โดยเมื่อเข้ามาแล้ว ก็ไม่รีรอที่จะประกาศผลักดันเปิดสัมปทานในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจ และไม่มีการชี้แจงอันใดเกี่ยวกับการเสียดินแดนของประเทศไทย ทั้งที่มีการคัดค้าน ด้วยประการฉะนี้ การปล้นโกงน้ำมันและก๊าซ โดย 'ทุนธนาคาร Zionist' จึงมิได้ครอบคลุมเพียงแค่น้ำมันและก๊าซอีกต่อไป แต่ได้ขยายไปเป็นการปล้นดินแดนไทย จากประชาชนคนไทย ไปโดยเรียบร้อย (2) การทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ ตามด้วยการยึดครองเศรษฐกิจการเงินของประเทศ การที่เถ้าแก่สามานย์รายใดจะต้องการยึดที่ดินสวย ๆ ของชาวนา วิธีที่เขาจะกระทำคือ ให้ชาวนากู้เงิน ทำให้จ่ายหนี้ไม่ได้ เมื่อจ่ายช้าก็อายัดที่ดินนั้น บังคับขายในราคาต่ำกว่าจริงสิบเท่า แล้วเข้าซื้อเอง วิธีการของ 'ทุนธนาคาร Zionist' ก็เป็นเช่นนั้น ทำให้ประเทศเป็นหนี้ หลังการปล่อยกู้เงินให้แก่ประเทศไทยจำนวนมากให้คน น้อยกว่า 1% อย่างฟุ่มเฟือย George Soros สมาชิกอาวุโส CFR ได้นำกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' มาโจมตีค่าเงินบาท จาก 25 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ กลายเป็น 56 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เพราะกู้เงินจากต่างชาติมามาก เศรษฐกิจไทยได้เข้าสู่วิกฤต มีการล่มสลายของธุรกิจจำนวนมาก(ในปี 2540 – 2542) ต่อมาก็เป็นไปตามแบบแผนวิธีการของ IMF และ World Bank ที่ 51% เป็นของ US Treasury ควบคุมโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' ของ Rothschild ตามขั้นตอนที่ Joseph Stiglitz ผู้เป็นอดีตประธานที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจของ President Bill Clinton อดีตรองประธาน และ Chief Economist ของ World Bank ได้เปิดโปงให้แก่หนังสือ The Observer และ Newsweek หลังมีเอกสารลับหลุดออกมาจาก World Bank คือในการขอความช่วยเหลือทางการเงิน จำต้องเซ็นสัญญา โดยในสัญญาจะตกลงใน (a) Privatization การแปรรูป โดยรัฐจะต้องยินยอมขายสมบัติของชาติเกี่ยวเนื่องกับสิ่งจำเป็น เช่น น้ำ ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ (b) Capital Market Liberalization การเปิดให้ทุนไหลเข้าออก โดยส่วนใหญ่มักจะไหลออก (c) Market-based pricing การขึ้นราคา อาหาร ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ โดยอ้างว่าเป็นราคาตลาดโลก (d) Free Trade การค้าเสรี ตามกฎของ WTO และ World Bank Stiglitz ได้ระบุในการสัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า การยินยอมในการตกลงนั้นเกิดขึ้นไม่ยากโดย (ก) World Bank IMF สามารถสั่ง Financial Blockage การกีดกันทางการเงินหากไม่ร่วมมือ และ (ข) นักการเมืองในประเทศนั้น ๆ ยินดีที่จะยกบริษัท น้ำ ไฟฟ้า น้ำมันและก๊าซ ให้โดย 'เขาจะตาโตกันเลย เมือเขานึกถึงค่าคอมมิสชั่นที่เขาจะได้กัน จากการลดราคาเป็นพัน ๆ ล้านในการแปรรูป' โดยเขาจะสามารถใช้ข้ออ้างว่า ถูก World Bank IMF บังคับ แล้วการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ก็ได้ตามมา พร้อมการขายสมบัติชาติแบบล็อกสเปคในราคาที่ต่ำกว่าทุนถึง 5 เท่า ตามด้วยการแปรรูปบริษัทน้ำมัน-ก๊าซของชาติ โดยสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ว่าจะในกรณี การยกดินแดนให้ต่างชาติ หรือ การแปรรูป จะเกิดขึ้นโดยการร่วมมือของมากกว่าหนึ่งรัฐบาล โดยฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายชง อีกฝ่ายเป็นฝ่ายจัดการ ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นไปเพื่อการสามารถโยนความผิดกันไปมาได้ โดยไม่มีใครผิดเต็ม ๆ โดยในกรณีนี้ แม้ขั้วนักการเมืองกลุ่มที่รับข้อตกลงรับรายละเอียดในการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับจาก 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้พยายามจะโยนความผิดให้ผู้ริเริ่มการตกลง แต่ก็ปรากฏให้เห็นได้ถึงการตอบแทน เมื่อคนของเขาได้ไปนั่งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ WTO โดยการโจมตีค่าเงิน การบีบข่มขู่ การให้สินบนแก่ผู้เข้ามามีอำนาจทุกขั้ว ที่ร่วมกันขายชาติตนเอง 'ทุนธนาคาร Zionist' เช่น JP Morgan Chase, BlackRock, State Street, Vanguard และ Fidelity ได้เข้ามายึดครองควบคุม บริษัทน้ำมันก๊าซ ธนาคาร และ เศรษฐกิจการเงินของประเทศไทย ไปจากคนไทย และยังรุกคืบยิ่ง ณ ปัจจุบัน ตามข่าวการแปรรูปที่ปรากฏอยู่ (3) การชักใยอยู่เบื้องหลัง ในการสร้างความแตกแยก ตามยุทธศาสตร์ 'แบ่งแยกแล้วปกครอง' (Divide and Conquer) เพื่อการยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จ เป็นที่ประจักษ์ว่าไม่ว่าจะขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ที่เข้ามามีอำนาจ ล้วนให้ความร่วมมือกับ 'ทุนธนาคาร Zionist' ในการขายทำลายชาติ โดยมีค่าคอมมิสชั่น ทั้งในทรัพยากรและในการแปรรูป เป็นตัวเชื่อม สามารถควบคุม ชักใยได้ทุกฝ่าย ยุทธศาสตร์ แบ่งแยกแล้วปกครอง เป็นยุทธศาสตร์ที่มีตัวอย่างเห็นได้ในโลกปัจจุบันมากมายในการเข้ายึดครองประเทศต่าง ๆ ของ 'ทุนธนาคาร Zionist' โดยการยุยงให้เหยื่อตีกันเอง บางกรณีให้อาวุธทั้ง 2 ฝ่าย ทำลายภูมิคุ้มกันความสามัคคีของชนชาตินั้น ๆ สร้างความแตกแยก โดยเมื่อมีรอยแตก ก็สามารถจะแทรกเข้าไป ยึดครองประเทศนั้น ๆ ความแตกแยก ปัญหาความขัดแย้งเสื้อสี ที่ปรากฏอยู่ในประเทศไทย ล้วนมีการชักใย มีการสนับสนุน ทั้ง 2 ฝ่ายการเมือง โดยมีกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนักการเมืองทั้ง 2 ขั้ว โดยทั้ง 2 ขั้ว นั้นล้วนมีผลประโยชน์ในเรื่องคอมมิสชั่น จากกลุ่ม 'ทุนธนาคาร Zionist' และถูกชักใยให้ปลุกปั่นประชาชน ให้มาตีกันเองโดยการรู้ไม่เท่าทันของประชาชน ว่าโดยแท้จริงแล้ว นักการเมืองและผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะขั้วไหน เข้ามาด้วยวิธีใด ล้วนให้ความร่วมมือ ขายชาติตนเองแก่ 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งสิ้น หลักฐานปรากฏชัดเจนว่าสมาชิก CFR ของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' อาทิ (a) Robert Blackville สมาชิก CFR มือขวาการต่างประเทศของ Henry Kissinger จาก Barbour Griffif & Rogers (CFR) (b) Keneth Adelman สมาชิก CFR อดีตทูต UN ของสหรัฐ จาก Baker & Botts Robert (CFR) (c) Robert Amsterdam จาก Amsterdam & Peroff (Chatham House) ได้ทำหน้าที่เป็น lobbyist ให้อดีตนักการเมืองที่หลบอยู่ที่ Dubai และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการเสื้อแดง และองค์กร NED ได้ให้เงินสนับสนุน Website ของเสื้อแดงจำนวนมาก โดยต้องเป็นที่กล่าวว่า นักการเมืองไทยที่หลบหนีอยู่ที่ Dubai นั้น โดยแท้จริงแล้วเป็นเพียงหุ่นเชิด ที่ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งโดยลำพังเขาไม่สามารถที่จะทำเองได้เลย (นั่นคือทักษิณ ชินวัตร) ส่วนนักการเมืองผู้เข้ามามีอำนาจ ฝ่ายอื่น ๆ ที่โหน อ้าง ปกป้อง สถาบันสำคัญ ๆ ฝ่ายนี้ โดยการขายตัวขายชาติ การปรารถนาได้ค่าคอมมิสชั่น ทั้งในน้ำมันก๊าซ และในการแปรรูป เป็นตัวเชื่อม ก็ไม่พ้นการอยู่ภายใต้อำนาจการชักใยของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' ที่เป็นผู้กำกับการแสดง จูงทั้งสองสามฝ่าย ให้ชงและส่งลูกให้กัน เสี้ยมให้ชาติ ล่มสลาย เพื่อการปล้นยึดครองอย่างเบ็ดเสร็จ ในระหว่างที่สหรัฐ แขนขวาของ 'กลุ่มทุนธนาคาร Zionist' สนับสนุนฝ่ายหนึ่ง แขนซ้าย ก็ทำตัวเข้าสนับสนุนอีกฝ่าย ข้าพเจ้าจึงจะประกาศ ณ ที่นี้ว่าข้าพเจ้ามิได้รังเกียจประชาชนของชนชาติใด จะเป็นชาวอเมริกันหรือชาวยิวหรือชาติใด ๆ ทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ข้าพเจ้ารังเกียจ คือพฤติกรรม เอาเปรียบ เบียดเบียน แทรกแซง ปล้นทั้งทรัพยากรและดินแดน ทำลายชาติอื่น ที่ 'ทุนธนาคาร Zionist' นี้ได้กระทำทั่วโลก ดังนั้น กับคำกล่าวของท่านว่าข้าพเจ้าเหยียดชนชาติ เมื่อความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นข้าพเจ้าจึงไม่เดือดร้อนใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ว่าในโลกปัจจุบัน เท่าที่ข้าพเจ้าทราบ ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าจะมีค่ายนักโทษอันใดที่กระทำความทารุณโหดร้ายเท่ากับที่สถานที่ชื่อ Gaza และในเมื่อประเทศของท่านเองยังกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาว Palestine อย่างที่กระทำอยู่ ท่านยังจะกล้าบังอาจเรียกผู้ใดว่าเหยียดชนชาติได้เสียอย่างไร จะเรียกใครว่าอย่างไรท่านจงมองตัวเองบ้างเสียเถิด ท่านจงสำเหนียกเสียบ้างเถิดว่า พฤติกรรมร้องทำจะเป็นจะตายว่าพวกตนถูกทำร้าย ทั้งที่พวกตนนั่นแหละคือผู้ที่กระทำชำเราเขาไปทั่ว ท่านคิดว่าอย่างไร พฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมที่น่าสมเพชหรือไม่ ไม่ว่าจะประชาชนชนชาติใด เขาก็ย่อมปรารถนาความสงบสุข เขาย่อมปรารถนาอธิปไตยในชาติของเขาเอง เขาย่อมปรารถนาที่จะตัดสินอนาคตเขาเอง เขาย่อมปรารถนาว่าทรัพยากรของเขาจะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของเขาด้วยความเป็นธรรม เขาย่อมไม่ต้องการให้ใครมาเอาดินแดนของเขาไป แต่ในประเทศไทย ด้วยการชักใย การซื้อคนไทยที่ขายชาติตนเองทุกขั้ว การซื้อสื่อ การปลุกปั้นโดย 'ทุนธนาคาร Zionist' เป็นอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ผลคือ คนไทย แทนที่จะรักใครสามัคคีกัน แทนที่จะได้รับผลประโยชน์จากสมบัติอันมีค่าของเขา แทนที่จะมีรัฐสวัสดิการ การรักษาพยาบาล การศึกษา ที่มีคุณภาพ แทนที่จะมีชีวิตที่มีคุณภาพความสุขที่พวกเขาควรได้รับ เขากลับต้องมาเกลียดชังกันเอง ทะเลาะสู้กันเอง เขากลับต้องมาเป็นทาสของ 'ทุนธนาคาร Zionist' ต้องมาเป็นทาสที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายสู้กันเอง แทนที่จะสามัคคีกันเพื่อปลดปล่อยพวกตนจากความเป็นทาส เพราะความไม่รู้เท่าทัน เพราะการหลอกลวงโดยนักการเมือง ผู้เข้ามามีอำนาจที่หิวโหย ที่ล้วนทำเพื่อตนเอง โดยรับใช้ ถูกชักใยจากนายคนเดียวกันคือ 'ทุนธนาคาร Zionist' ทั้งนั้น ข้าพเจ้าจึงมีความจำเป็นที่จะเปิดเผยความจริง ความจริงโดยรอบด้าน และความจริงที่จริงที่สุด โดย เมื่อประชาชนชาวไทยตื่นรู้กับความจริง การเป็นทาสที่ถูกหลอกให้สู้กันเองย่อมหมดไป ความสามัคคีย่อมกลับมา โดยสิ่งนี้สิ่งเดียว คือ การตื่นรู้เท่านั้น ที่จะทำให้ชนชาติไทยรอดพ้นภัยไปได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น มิใช่ว่าประชาชนชาวไทยจะต้องไปเป็นศัตรูกับใคร การตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดังฉันใด และ เมื่อคนไทยตื่นรู้เลิกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นหนึ่งอันเดียวกัน รวมกันปราบปรามเหล่าคนไทยที่ขายชาติตนเองทั้งหลายแล้ว ประเทศและประชาชนชาวไทยย่อมพ้นจากการเป็นอาณานิคม พ้นจากการเป็นเป็นทาส ไม่ว่าจะเป็น ทาสของ 'ทุนธนาคาร Zionist' หรือ กลุ่มทุนอื่นใด จึงเรียนมาเพื่อทราบ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 716 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts