• รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251205 #securityonline

    Google ทดลองให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ แต่กลับทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน
    Google กำลังทดสอบระบบที่ให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ในบริการ Google Discover โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นและกดเข้าไปอ่าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะหลายครั้งหัวข้อที่ AI เขียนขึ้นมาเกิดการบิดเบือนความหมายเดิมจนทำให้เข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับเครื่องเกม Steam Machine ที่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ AI กลับเขียนหัวข้อว่า “Steam Machine price revealed” ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยให้ AI เขียนหัวข้อข่าวโดยไม่มีการควบคุม อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงกระทบต่อจำนวนคนที่คลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง แม้ Google จะบอกว่าทดลองกับผู้ใช้เพียงส่วนน้อย แต่สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มเห็นผลกระทบต่อทราฟฟิกของตนแล้ว
    https://securityonline.info/misleading-ai-headlines-google-discover-testing-rewrites-that-distort-news-facts

    AWS ดันชิป Trainium สร้างรายได้หลายพันล้าน ท้าชน NVIDIA
    Amazon ผ่าน AWS กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดชิป AI ที่ NVIDIA ครองอยู่ ด้วยการพัฒนา Trainium ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ระดับหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว โดยรุ่น Trainium2 ถูกใช้งานมากกว่า 100,000 บริษัท และผลิตไปแล้วกว่า 1 ล้านชิป จุดเด่นคือราคาถูกกว่า GPU ของ NVIDIA แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะ Anthropic ที่ใช้ชิป Trainium2 กว่า 500,000 ตัวในการสร้างโมเดลใหม่ของ Claude ล่าสุด AWS เปิดตัว Trainium3 ที่แรงขึ้น 4 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมแผนพัฒนา Trainium4 ที่สามารถทำงานร่วมกับ GPU ของ NVIDIA ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการแข่งตรง ๆ ไปสู่การสร้างระบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่า
    https://securityonline.info/aws-trainium-chip-business-hits-multi-billion-revenue-challenging-nvidias-pricing

    Meta ดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับตำนานจาก Apple มาสร้างสตูดิโอใหม่
    Mark Zuckerberg ประกาศว่า Meta ได้ดึง Alan Dye อดีตหัวหน้าฝ่าย Human Interface Design ของ Apple มานำทีม Creative Studio ใหม่ใน Reality Labs Alan Dye เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสำคัญของ Apple เช่น Apple Watch, iPhone X และ Vision Pro การเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการยกระดับงานดีไซน์ของ Meta ให้มีความโดดเด่นและผสมผสานระหว่างแฟชั่น เทคโนโลยี และ AI โดย Dye จะทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ที่มีทั้ง Billy Sorrentino และ Joshua To เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Meta การดึงตัวบุคลากรจาก Apple ครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่กำลังแย่งชิงอนาคตของอุปกรณ์ AI และสมาร์ทแกดเจ็ต
    https://securityonline.info/design-wars-meta-hires-apple-veteran-alan-dye-to-lead-new-reality-labs-creative-studio

    ปฏิบัติการ DUPEHIKE: มัลแวร์เจาะฝ่าย HR ของรัสเซีย
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบเจาะจงที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation DUPEHIKE โดยกลุ่มแฮกเกอร์ใช้วิธีส่งอีเมลหลอกล่อพนักงานฝ่ายบุคคลและเงินเดือน ด้วยไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารโบนัสสิ้นปี แต่แท้จริงแล้วเป็นไฟล์ลัด (LNK) ที่เมื่อเปิดขึ้นจะไปดาวน์โหลดมัลแวร์ชื่อ DUPERUNNER ผ่าน PowerShell ทำงานเบื้องหลังอย่างแนบเนียน มัลแวร์นี้สามารถฉีดโค้ดเข้าไปในโปรเซสที่ใช้บ่อย เช่น explorer.exe หรือ notepad.exe เพื่อให้ฝังตัวถาวร และสุดท้ายจะติดตั้ง Adaptix C2 ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมจากระยะไกล เป้าหมายคือการสอดแนมและควบคุมระบบขององค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ
    https://securityonline.info/operation-dupehike-hits-russian-hr-bonus-lure-delivers-duperunner-and-adaptix-c2-via-process-injection

    ช่องโหว่ Splunk บน Windows เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์
    Splunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง พบช่องโหว่ร้ายแรงสองรายการ (CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387) ที่ทำให้การติดตั้งบน Windows กำหนดสิทธิ์ไฟล์ผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ หากแฮกเกอร์ได้สิทธิ์ผู้ใช้ระดับต่ำ ก็สามารถแก้ไขไฟล์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันไว้ได้ทันที ทาง Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว
    https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows

    ช่องโหว่ Cacti เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจากระยะไกล
    Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับทำกราฟเครือข่าย พบช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-66399) ที่เกี่ยวกับการจัดการค่า SNMP Community String หากผู้ใช้ใส่ค่าที่มีตัวอักษรพิเศษหรือบรรทัดใหม่ ระบบจะไม่กรองออก ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เมื่อระบบนำค่าเหล่านี้ไปใช้กับเครื่องมือ SNMP ภายนอก คำสั่งที่ถูกแทรกก็จะถูกรันทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 1.2.29 และแนะนำให้อัปเดตทันที
    https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection

    กลุ่ม Calisto APT รัสเซียโจมตี NGO ด้วยฟิชชิ่งแบบใหม่
    กลุ่มแฮกเกอร์ Calisto ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย ได้พุ่งเป้าโจมตีองค์กร Reporters Without Borders (RSF) โดยใช้เทคนิคฟิชชิ่งที่ซับซ้อน พวกเขาส่งอีเมลแสร้งเป็นคนรู้จัก พร้อมไฟล์ที่ “หายไป” หรือไฟล์ที่เปิดไม่ได้ เพื่อให้เหยื่อขอไฟล์ใหม่ เมื่อเหยื่อตอบกลับก็จะได้รับลิงก์ไปยังไฟล์ที่แท้จริงซึ่งเป็นมัลแวร์ ฟิชชิ่งนี้ยังใช้เทคนิค AiTM (Adversary-in-the-Middle) เพื่อดักข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัส 2FA แบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่เจาะจง NGO ที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและเสรีภาพสื่อโดยตรง
    https://securityonline.info/russian-calisto-apt-targets-reporters-without-borders-with-custom-aitm-phishing-and-missing-file-lure

    NVIDIA Triton Server พบช่องโหว่ DoS ร้ายแรง
    NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Triton Inference Server ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการรันโมเดล AI พบช่องโหว่สองรายการ (CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดรูปแบบหรือใหญ่เกินไปจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ ผลคือบริการ AI inference จะหยุดทำงานทันที ซึ่งอาจกระทบต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการประมวลผลขนาดใหญ่ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน r25.10 เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption

    Patchwork APT ใช้ StreamSpy Trojan ซ่อนคำสั่งใน WebSocket
    กลุ่มแฮกเกอร์ Patchwork APT ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ StreamSpy Trojan ที่มีความสามารถในการซ่อนคำสั่งควบคุม (C2) ภายในทราฟฟิก WebSocket ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนเป็นการใช้งานเว็บตามปกติ เทคนิคนี้ช่วยให้การสอดแนมดำเนินไปโดยไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ และยังสามารถดึงข้อมูลหรือสั่งการเครื่องเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการพัฒนาแนวทางโจมตีที่เน้นความลับและการพรางตัวสูง
    https://securityonline.info/patchwork-apt-deploys-streamspy-trojan-hiding-c2-commands-in-websocket-traffic-for-stealth-espionage

    ความต้องการ AI ลดลง Microsoft ปรับลดโควตายอดขาย
    มีรายงานว่า Microsoft ได้ปรับลดโควตายอดขายของทีม Enterprise AI ลงมากถึง 50% เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ในระดับองค์กรไม่เติบโตตามที่คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากลูกค้าหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในโซลูชัน AI ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและความไม่แน่ใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง การปรับลดนี้สะท้อนถึงความท้าทายของตลาด AI ที่แม้จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่การนำไปใช้จริงในองค์กรยังต้องใช้เวลาและการพิสูจน์คุณค่า
    https://securityonline.info/ai-demand-struggles-microsoft-slashes-enterprise-ai-sales-quotas-by-up-to-50

    Telegram เตรียมใช้ Passkey แทน SMS สำหรับการล็อกอิน
    Telegram กำลังพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ โดยจะใช้ Passkey Authentication แทนการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการดักข้อความ ระบบ Passkey จะทำงานร่วมกับมาตรฐาน FIDO2 และ WebAuthn ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วยการยืนยันจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือ เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งาน Telegram ปลอดภัยขึ้นและลดการพึ่งพา SMS ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login

    SpyCloud เผยผู้ใช้บริษัทเสี่ยงฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ 3 เท่า
    ข้อมูลจาก SpyCloud ระบุว่าผู้ใช้ในองค์กรมีโอกาสถูกโจมตีด้วยฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ถึง 3 เท่า โดยการโจมตีฟิชชิ่งมักใช้วิธีหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ซึ่งง่ายต่อการดำเนินการและได้ผลเร็วกว่า การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและการใช้ระบบตรวจจับฟิชชิ่งมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
    https://securityonline.info/spycloud-data-shows-corporate-users-3x-more-likely-to-be-targeted-by-phishing-than-by-malware

    อินเดียยกเลิกบังคับใช้แอป Sanchar Saathi หลังถูกต่อต้าน
    รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกข้อบังคับที่ให้ประชาชนต้องใช้แอป Sanchar Saathi ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวง หลังจากประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพดิจิทัล การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป และเป็นการปรับท่าทีของรัฐบาลต่อการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/policy-u-turn-india-drops-mandatory-sanchar-saathi-app-after-fierce-opposition
    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251205 #securityonline 📰 Google ทดลองให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ แต่กลับทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน Google กำลังทดสอบระบบที่ให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ในบริการ Google Discover โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นและกดเข้าไปอ่าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะหลายครั้งหัวข้อที่ AI เขียนขึ้นมาเกิดการบิดเบือนความหมายเดิมจนทำให้เข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับเครื่องเกม Steam Machine ที่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ AI กลับเขียนหัวข้อว่า “Steam Machine price revealed” ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยให้ AI เขียนหัวข้อข่าวโดยไม่มีการควบคุม อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงกระทบต่อจำนวนคนที่คลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง แม้ Google จะบอกว่าทดลองกับผู้ใช้เพียงส่วนน้อย แต่สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มเห็นผลกระทบต่อทราฟฟิกของตนแล้ว 🔗 https://securityonline.info/misleading-ai-headlines-google-discover-testing-rewrites-that-distort-news-facts 💻 AWS ดันชิป Trainium สร้างรายได้หลายพันล้าน ท้าชน NVIDIA Amazon ผ่าน AWS กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดชิป AI ที่ NVIDIA ครองอยู่ ด้วยการพัฒนา Trainium ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ระดับหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว โดยรุ่น Trainium2 ถูกใช้งานมากกว่า 100,000 บริษัท และผลิตไปแล้วกว่า 1 ล้านชิป จุดเด่นคือราคาถูกกว่า GPU ของ NVIDIA แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะ Anthropic ที่ใช้ชิป Trainium2 กว่า 500,000 ตัวในการสร้างโมเดลใหม่ของ Claude ล่าสุด AWS เปิดตัว Trainium3 ที่แรงขึ้น 4 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมแผนพัฒนา Trainium4 ที่สามารถทำงานร่วมกับ GPU ของ NVIDIA ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการแข่งตรง ๆ ไปสู่การสร้างระบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่า 🔗 https://securityonline.info/aws-trainium-chip-business-hits-multi-billion-revenue-challenging-nvidias-pricing 🎨 Meta ดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับตำนานจาก Apple มาสร้างสตูดิโอใหม่ Mark Zuckerberg ประกาศว่า Meta ได้ดึง Alan Dye อดีตหัวหน้าฝ่าย Human Interface Design ของ Apple มานำทีม Creative Studio ใหม่ใน Reality Labs Alan Dye เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสำคัญของ Apple เช่น Apple Watch, iPhone X และ Vision Pro การเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการยกระดับงานดีไซน์ของ Meta ให้มีความโดดเด่นและผสมผสานระหว่างแฟชั่น เทคโนโลยี และ AI โดย Dye จะทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ที่มีทั้ง Billy Sorrentino และ Joshua To เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Meta การดึงตัวบุคลากรจาก Apple ครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่กำลังแย่งชิงอนาคตของอุปกรณ์ AI และสมาร์ทแกดเจ็ต 🔗 https://securityonline.info/design-wars-meta-hires-apple-veteran-alan-dye-to-lead-new-reality-labs-creative-studio 🕵️‍♂️ ปฏิบัติการ DUPEHIKE: มัลแวร์เจาะฝ่าย HR ของรัสเซีย เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบเจาะจงที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation DUPEHIKE โดยกลุ่มแฮกเกอร์ใช้วิธีส่งอีเมลหลอกล่อพนักงานฝ่ายบุคคลและเงินเดือน ด้วยไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารโบนัสสิ้นปี แต่แท้จริงแล้วเป็นไฟล์ลัด (LNK) ที่เมื่อเปิดขึ้นจะไปดาวน์โหลดมัลแวร์ชื่อ DUPERUNNER ผ่าน PowerShell ทำงานเบื้องหลังอย่างแนบเนียน มัลแวร์นี้สามารถฉีดโค้ดเข้าไปในโปรเซสที่ใช้บ่อย เช่น explorer.exe หรือ notepad.exe เพื่อให้ฝังตัวถาวร และสุดท้ายจะติดตั้ง Adaptix C2 ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมจากระยะไกล เป้าหมายคือการสอดแนมและควบคุมระบบขององค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ 🔗 https://securityonline.info/operation-dupehike-hits-russian-hr-bonus-lure-delivers-duperunner-and-adaptix-c2-via-process-injection ⚠️ ช่องโหว่ Splunk บน Windows เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์ Splunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง พบช่องโหว่ร้ายแรงสองรายการ (CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387) ที่ทำให้การติดตั้งบน Windows กำหนดสิทธิ์ไฟล์ผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ หากแฮกเกอร์ได้สิทธิ์ผู้ใช้ระดับต่ำ ก็สามารถแก้ไขไฟล์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันไว้ได้ทันที ทาง Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows 🖥️ ช่องโหว่ Cacti เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจากระยะไกล Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับทำกราฟเครือข่าย พบช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-66399) ที่เกี่ยวกับการจัดการค่า SNMP Community String หากผู้ใช้ใส่ค่าที่มีตัวอักษรพิเศษหรือบรรทัดใหม่ ระบบจะไม่กรองออก ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เมื่อระบบนำค่าเหล่านี้ไปใช้กับเครื่องมือ SNMP ภายนอก คำสั่งที่ถูกแทรกก็จะถูกรันทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 1.2.29 และแนะนำให้อัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection 🎯 กลุ่ม Calisto APT รัสเซียโจมตี NGO ด้วยฟิชชิ่งแบบใหม่ กลุ่มแฮกเกอร์ Calisto ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย ได้พุ่งเป้าโจมตีองค์กร Reporters Without Borders (RSF) โดยใช้เทคนิคฟิชชิ่งที่ซับซ้อน พวกเขาส่งอีเมลแสร้งเป็นคนรู้จัก พร้อมไฟล์ที่ “หายไป” หรือไฟล์ที่เปิดไม่ได้ เพื่อให้เหยื่อขอไฟล์ใหม่ เมื่อเหยื่อตอบกลับก็จะได้รับลิงก์ไปยังไฟล์ที่แท้จริงซึ่งเป็นมัลแวร์ ฟิชชิ่งนี้ยังใช้เทคนิค AiTM (Adversary-in-the-Middle) เพื่อดักข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัส 2FA แบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่เจาะจง NGO ที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและเสรีภาพสื่อโดยตรง 🔗 https://securityonline.info/russian-calisto-apt-targets-reporters-without-borders-with-custom-aitm-phishing-and-missing-file-lure 🤖 NVIDIA Triton Server พบช่องโหว่ DoS ร้ายแรง NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Triton Inference Server ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการรันโมเดล AI พบช่องโหว่สองรายการ (CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดรูปแบบหรือใหญ่เกินไปจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ ผลคือบริการ AI inference จะหยุดทำงานทันที ซึ่งอาจกระทบต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการประมวลผลขนาดใหญ่ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน r25.10 เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption 🕶️ Patchwork APT ใช้ StreamSpy Trojan ซ่อนคำสั่งใน WebSocket กลุ่มแฮกเกอร์ Patchwork APT ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ StreamSpy Trojan ที่มีความสามารถในการซ่อนคำสั่งควบคุม (C2) ภายในทราฟฟิก WebSocket ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนเป็นการใช้งานเว็บตามปกติ เทคนิคนี้ช่วยให้การสอดแนมดำเนินไปโดยไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ และยังสามารถดึงข้อมูลหรือสั่งการเครื่องเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการพัฒนาแนวทางโจมตีที่เน้นความลับและการพรางตัวสูง 🔗 https://securityonline.info/patchwork-apt-deploys-streamspy-trojan-hiding-c2-commands-in-websocket-traffic-for-stealth-espionage 📉 ความต้องการ AI ลดลง Microsoft ปรับลดโควตายอดขาย มีรายงานว่า Microsoft ได้ปรับลดโควตายอดขายของทีม Enterprise AI ลงมากถึง 50% เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ในระดับองค์กรไม่เติบโตตามที่คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากลูกค้าหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในโซลูชัน AI ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและความไม่แน่ใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง การปรับลดนี้สะท้อนถึงความท้าทายของตลาด AI ที่แม้จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่การนำไปใช้จริงในองค์กรยังต้องใช้เวลาและการพิสูจน์คุณค่า 🔗 https://securityonline.info/ai-demand-struggles-microsoft-slashes-enterprise-ai-sales-quotas-by-up-to-50 🔐 Telegram เตรียมใช้ Passkey แทน SMS สำหรับการล็อกอิน Telegram กำลังพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ โดยจะใช้ Passkey Authentication แทนการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการดักข้อความ ระบบ Passkey จะทำงานร่วมกับมาตรฐาน FIDO2 และ WebAuthn ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วยการยืนยันจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือ เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งาน Telegram ปลอดภัยขึ้นและลดการพึ่งพา SMS ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login 🎣 SpyCloud เผยผู้ใช้บริษัทเสี่ยงฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ 3 เท่า ข้อมูลจาก SpyCloud ระบุว่าผู้ใช้ในองค์กรมีโอกาสถูกโจมตีด้วยฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ถึง 3 เท่า โดยการโจมตีฟิชชิ่งมักใช้วิธีหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ซึ่งง่ายต่อการดำเนินการและได้ผลเร็วกว่า การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและการใช้ระบบตรวจจับฟิชชิ่งมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/spycloud-data-shows-corporate-users-3x-more-likely-to-be-targeted-by-phishing-than-by-malware 🇮🇳 อินเดียยกเลิกบังคับใช้แอป Sanchar Saathi หลังถูกต่อต้าน รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกข้อบังคับที่ให้ประชาชนต้องใช้แอป Sanchar Saathi ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวง หลังจากประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพดิจิทัล การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป และเป็นการปรับท่าทีของรัฐบาลต่อการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/policy-u-turn-india-drops-mandatory-sanchar-saathi-app-after-fierce-opposition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • "งานวิจัยเผย AI Chatbots มีอิทธิพลต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง"

    ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหรัฐฯ พบว่า AI Chatbots สามารถเปลี่ยนทัศนคติทางการเมืองของผู้ใช้ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการสนทนาเชิงโต้ตอบที่ต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนกำลังพูดคุยกับบุคคลจริง ๆ มากกว่าการรับข้อมูลจากโฆษณาออนไลน์หรือโพสต์ในโซเชียลมีเดีย.

    นักวิจัยระบุว่า Chatbots มีศักยภาพในการ ปรับแต่งข้อความให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน เช่น การใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียหรือพฤติกรรมออนไลน์ เพื่อสร้างข้อความที่ตรงกับความสนใจและความเชื่อเดิมของผู้ใช้ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการโน้มน้าวใจได้มากขึ้น.

    แม้จะมีข้อดีในด้านการสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูล แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การใช้ AI ในการรณรงค์ทางการเมืองอาจสร้างความเสี่ยงต่อความโปร่งใสและความเป็นธรรม เพราะผู้ใช้บางคนอาจไม่รู้ว่ากำลังถูกโน้มน้าวโดยระบบอัตโนมัติ ไม่ใช่บุคคลจริง.

    งานวิจัยนี้จึงจุดประกายการถกเถียงว่า ควรมีการกำกับดูแลการใช้ AI ในการเมือง เพื่อป้องกันการบิดเบือนความคิดเห็นสาธารณะ และรักษาความเชื่อมั่นในกระบวนการประชาธิปไตย โดยหลายฝ่ายเสนอให้มีการออกกฎหมายหรือมาตรฐานใหม่ในการใช้เทคโนโลยีนี้.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    AI Chatbots สามารถเปลี่ยนทัศนคติทางการเมืองของผู้ใช้ได้
    การสนทนาเชิงโต้ตอบมีอิทธิพลมากกว่าการโฆษณาออนไลน์ทั่วไป
    Chatbots สามารถปรับแต่งข้อความให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    หลายประเทศเริ่มถกเถียงเรื่องการกำกับดูแลการใช้ AI ในการเลือกตั้ง
    สหภาพยุโรปมีข้อเสนอให้จำกัดการใช้ AI เพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อมูล
    นักวิชาการเตือนว่า AI อาจสร้าง “echo chamber” ที่ทำให้ผู้ใช้เห็นแต่ข้อมูลที่สอดคล้องกับความเชื่อเดิม

    คำเตือนจากข่าว
    ผู้ใช้บางคนอาจไม่รู้ว่ากำลังถูกโน้มน้าวโดยระบบอัตโนมัติ
    การใช้ AI ในการรณรงค์อาจกระทบต่อความโปร่งใสและความเป็นธรรม
    หากไม่มีการกำกับดูแล อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในประชาธิปไตย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/05/studies-ai-chatbots-can-influence-voters
    🗳️ "งานวิจัยเผย AI Chatbots มีอิทธิพลต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง" ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหรัฐฯ พบว่า AI Chatbots สามารถเปลี่ยนทัศนคติทางการเมืองของผู้ใช้ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการสนทนาเชิงโต้ตอบที่ต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนกำลังพูดคุยกับบุคคลจริง ๆ มากกว่าการรับข้อมูลจากโฆษณาออนไลน์หรือโพสต์ในโซเชียลมีเดีย. นักวิจัยระบุว่า Chatbots มีศักยภาพในการ ปรับแต่งข้อความให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน เช่น การใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียหรือพฤติกรรมออนไลน์ เพื่อสร้างข้อความที่ตรงกับความสนใจและความเชื่อเดิมของผู้ใช้ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการโน้มน้าวใจได้มากขึ้น. แม้จะมีข้อดีในด้านการสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูล แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การใช้ AI ในการรณรงค์ทางการเมืองอาจสร้างความเสี่ยงต่อความโปร่งใสและความเป็นธรรม เพราะผู้ใช้บางคนอาจไม่รู้ว่ากำลังถูกโน้มน้าวโดยระบบอัตโนมัติ ไม่ใช่บุคคลจริง. งานวิจัยนี้จึงจุดประกายการถกเถียงว่า ควรมีการกำกับดูแลการใช้ AI ในการเมือง เพื่อป้องกันการบิดเบือนความคิดเห็นสาธารณะ และรักษาความเชื่อมั่นในกระบวนการประชาธิปไตย โดยหลายฝ่ายเสนอให้มีการออกกฎหมายหรือมาตรฐานใหม่ในการใช้เทคโนโลยีนี้. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ AI Chatbots สามารถเปลี่ยนทัศนคติทางการเมืองของผู้ใช้ได้ ➡️ การสนทนาเชิงโต้ตอบมีอิทธิพลมากกว่าการโฆษณาออนไลน์ทั่วไป ➡️ Chatbots สามารถปรับแต่งข้อความให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ หลายประเทศเริ่มถกเถียงเรื่องการกำกับดูแลการใช้ AI ในการเลือกตั้ง ➡️ สหภาพยุโรปมีข้อเสนอให้จำกัดการใช้ AI เพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อมูล ➡️ นักวิชาการเตือนว่า AI อาจสร้าง “echo chamber” ที่ทำให้ผู้ใช้เห็นแต่ข้อมูลที่สอดคล้องกับความเชื่อเดิม ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ผู้ใช้บางคนอาจไม่รู้ว่ากำลังถูกโน้มน้าวโดยระบบอัตโนมัติ ⛔ การใช้ AI ในการรณรงค์อาจกระทบต่อความโปร่งใสและความเป็นธรรม ⛔ หากไม่มีการกำกับดูแล อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในประชาธิปไตย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/05/studies-ai-chatbots-can-influence-voters
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Studies: AI chatbots can influence voters
    A brief conversation with a partisan AI chatbot can influence voters' political views, studies published Dec 4 found, with evidence-backed arguments – true or not – proving particularly persuasive.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • "AI ลดต้นทุนการโน้มน้าวใจ – เปิดทางชนชั้นนำออกแบบการแบ่งขั้วสังคม"

    ในระบอบประชาธิปไตย การตัดสินใจเชิงนโยบายใหญ่ ๆ ต้องอาศัยเสียงส่วนใหญ่หรือฉันทามติ แต่ชนชั้นนำจำเป็นต้องหาวิธีสร้างการสนับสนุนจากประชาชน งานวิจัยนี้เสนอว่า AI ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำในการโน้มน้าวใจ กำลังทำให้การจัดการความคิดเห็นของสังคมกลายเป็นสิ่งที่สามารถ “ออกแบบ” ได้ ไม่ใช่เพียงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

    โมเดลเชิงพลวัตที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น แสดงให้เห็นว่า หากมีชนชั้นนำเพียงกลุ่มเดียว การแทรกแซงที่เหมาะสมจะผลักดันสังคมไปสู่ ความเห็นที่แตกต่างสุดขั้วมากขึ้น (polarization pull) และเมื่อเทคโนโลยี persuasion ดีขึ้น กระบวนการนี้ก็จะยิ่งเร็วขึ้น ทำให้ความแตกแยกในสังคมทวีความรุนแรง

    แต่หากมีชนชั้นนำสองฝ่ายที่ผลัดกันมีอำนาจ เทคโนโลยี persuasion เดียวกันนี้อาจสร้างแรงจูงใจให้ “ล็อก” ความเห็นของสังคมให้อยู่ในพื้นที่กึ่งกลางที่เหนียวแน่น (semi-lock) เพื่อป้องกันไม่ให้คู่แข่งเข้ามาเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ผลลัพธ์คือ AI สามารถทั้ง เพิ่มหรือบรรเทาความแตกแยก ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางการเมือง

    โดยรวมแล้ว งานวิจัยนี้เตือนว่า การแบ่งขั้วไม่ใช่เพียงผลพลอยได้ของสังคมยุคดิจิทัล แต่เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ของการปกครอง เมื่อเทคโนโลยี persuasion ถูกทำให้เข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลกระทบต่อเสถียรภาพประชาธิปไตยจึงอาจรุนแรงกว่าที่เคยคิด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากงานวิจัย
    AI ลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำในการโน้มน้าวใจ
    ชนชั้นนำสามารถออกแบบการกระจายความคิดเห็นของประชาชนได้
    โมเดลแสดงให้เห็นว่า “polarization pull” เกิดขึ้นเมื่อมีชนชั้นนำเพียงฝ่ายเดียว
    เมื่อมีสองฝ่าย เทคโนโลยีอาจสร้าง “semi-lock” ทำให้ความเห็นเหนียวแน่น

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    นักวิชาการหลายคนเตือนว่า AI อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อสร้าง echo chamber
    การใช้ AI ในการโฆษณาและการรณรงค์ทางการเมืองเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสหรัฐฯ และยุโรป
    มีการถกเถียงว่าควรมีการกำกับดูแลการใช้ AI เพื่อป้องกันการบิดเบือนประชาธิปไตย

    คำเตือนจากงานวิจัย
    การแบ่งขั้วอาจไม่ใช่ผลลัพธ์ธรรมชาติ แต่เป็นกลยุทธ์ที่ถูกออกแบบโดยชนชั้นนำ
    การใช้ AI persuasion โดยไม่มีการกำกับดูแล อาจทำให้ประชาธิปไตยเสื่อมเสถียร
    ความเห็นของประชาชนอาจถูก “ล็อก” จนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่าย

    https://arxiv.org/abs/2512.04047
    🧠 "AI ลดต้นทุนการโน้มน้าวใจ – เปิดทางชนชั้นนำออกแบบการแบ่งขั้วสังคม" ในระบอบประชาธิปไตย การตัดสินใจเชิงนโยบายใหญ่ ๆ ต้องอาศัยเสียงส่วนใหญ่หรือฉันทามติ แต่ชนชั้นนำจำเป็นต้องหาวิธีสร้างการสนับสนุนจากประชาชน งานวิจัยนี้เสนอว่า AI ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำในการโน้มน้าวใจ กำลังทำให้การจัดการความคิดเห็นของสังคมกลายเป็นสิ่งที่สามารถ “ออกแบบ” ได้ ไม่ใช่เพียงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โมเดลเชิงพลวัตที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น แสดงให้เห็นว่า หากมีชนชั้นนำเพียงกลุ่มเดียว การแทรกแซงที่เหมาะสมจะผลักดันสังคมไปสู่ ความเห็นที่แตกต่างสุดขั้วมากขึ้น (polarization pull) และเมื่อเทคโนโลยี persuasion ดีขึ้น กระบวนการนี้ก็จะยิ่งเร็วขึ้น ทำให้ความแตกแยกในสังคมทวีความรุนแรง แต่หากมีชนชั้นนำสองฝ่ายที่ผลัดกันมีอำนาจ เทคโนโลยี persuasion เดียวกันนี้อาจสร้างแรงจูงใจให้ “ล็อก” ความเห็นของสังคมให้อยู่ในพื้นที่กึ่งกลางที่เหนียวแน่น (semi-lock) เพื่อป้องกันไม่ให้คู่แข่งเข้ามาเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ผลลัพธ์คือ AI สามารถทั้ง เพิ่มหรือบรรเทาความแตกแยก ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางการเมือง โดยรวมแล้ว งานวิจัยนี้เตือนว่า การแบ่งขั้วไม่ใช่เพียงผลพลอยได้ของสังคมยุคดิจิทัล แต่เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ของการปกครอง เมื่อเทคโนโลยี persuasion ถูกทำให้เข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลกระทบต่อเสถียรภาพประชาธิปไตยจึงอาจรุนแรงกว่าที่เคยคิด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากงานวิจัย ➡️ AI ลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำในการโน้มน้าวใจ ➡️ ชนชั้นนำสามารถออกแบบการกระจายความคิดเห็นของประชาชนได้ ➡️ โมเดลแสดงให้เห็นว่า “polarization pull” เกิดขึ้นเมื่อมีชนชั้นนำเพียงฝ่ายเดียว ➡️ เมื่อมีสองฝ่าย เทคโนโลยีอาจสร้าง “semi-lock” ทำให้ความเห็นเหนียวแน่น ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ นักวิชาการหลายคนเตือนว่า AI อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อสร้าง echo chamber ➡️ การใช้ AI ในการโฆษณาและการรณรงค์ทางการเมืองเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสหรัฐฯ และยุโรป ➡️ มีการถกเถียงว่าควรมีการกำกับดูแลการใช้ AI เพื่อป้องกันการบิดเบือนประชาธิปไตย ‼️ คำเตือนจากงานวิจัย ⛔ การแบ่งขั้วอาจไม่ใช่ผลลัพธ์ธรรมชาติ แต่เป็นกลยุทธ์ที่ถูกออกแบบโดยชนชั้นนำ ⛔ การใช้ AI persuasion โดยไม่มีการกำกับดูแล อาจทำให้ประชาธิปไตยเสื่อมเสถียร ⛔ ความเห็นของประชาชนอาจถูก “ล็อก” จนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่าย https://arxiv.org/abs/2512.04047
    ARXIV.ORG
    Polarization by Design: How Elites Could Shape Mass Preferences as AI Reduces Persuasion Costs
    In democracies, major policy decisions typically require some form of majority or consensus, so elites must secure mass support to govern. Historically, elites could shape support only through limited instruments like schooling and mass media; advances in AI-driven persuasion sharply reduce the cost and increase the precision of shaping public opinion, making the distribution of preferences itself an object of deliberate design. We develop a dynamic model in which elites choose how much to reshape the distribution of policy preferences, subject to persuasion costs and a majority rule constraint. With a single elite, any optimal intervention tends to push society toward more polarized opinion profiles - a ``polarization pull'' - and improvements in persuasion technology accelerate this drift. When two opposed elites alternate in power, the same technology also creates incentives to park society in ``semi-lock'' regions where opinions are more cohesive and harder for a rival to overturn, so advances in persuasion can either heighten or dampen polarization depending on the environment. Taken together, cheaper persuasion technologies recast polarization as a strategic instrument of governance rather than a purely emergent social byproduct, with important implications for democratic stability as AI capabilities advance.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • 12 สัญญาณความสัมพันธ์ CISO–CIO กำลังแตกหัก และแนวทางแก้ไข

    บทความจาก CSO Online ชี้ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง CISO (Chief Information Security Officer) และ CIO (Chief Information Officer) มีความสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร แต่บ่อยครั้งกลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งและการไม่สอดประสาน ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการดำเนินธุรกิจที่ไม่ราบรื่น

    สัญญาณทั้ง 12:
    1️⃣ CIO มักละเลยหรือปฏิเสธข้อเสนอของ CISO
    ตัวอย่างเช่น CIO บอกว่า “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ แต่เราจะทำตามที่เราต้องการ” ซึ่งทำให้ CISO ถูกลดบทบาทและความน่าเชื่อถือ

    2️⃣ CIO และ CISO ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้
    ความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติ แต่หากไม่สามารถหาทางออกได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้บริหารระดับสูง แสดงถึงการขาด alignment

    3️⃣ CIO ไม่แชร์ข้อมูลกับ CISO
    การปิดบังข้อมูลสำคัญเป็นสัญญาณอันตราย เพราะทำให้ฝ่ายความปลอดภัยไม่สามารถทำงานได้เต็มที่

    4️⃣ CIO บิดเบือนหรือบล็อกข้อความของ CISO ต่อบอร์ด
    ทำให้บอร์ดได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน และลดความน่าเชื่อถือของฝ่ายความปลอดภัย

    5️⃣ CISO ไม่ได้รับการมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นในโครงการ IT
    ความปลอดภัยถูกมองว่าเป็น “ส่วนเสริม” ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก

    6️⃣ CIO ไม่ให้ความสำคัญกับ cyber hygiene
    เช่น การ patch ระบบ, การจัดการรหัสผ่าน, หรือการตรวจสอบความเสี่ยงพื้นฐาน

    7️⃣ ไม่มีการสื่อสารตรงและสม่ำเสมอระหว่าง CIO–CISO
    ขาดการประชุมแบบตัวต่อตัว ทำให้ความเข้าใจร่วมกันลดลง

    8️⃣ เกิดการแข่งขันแย่งอำนาจระหว่างสองฝ่าย
    ทั้งคู่พยายามควบคุมทรัพยากรและการตัดสินใจ ทำให้เกิดความตึงเครียด

    9️⃣ ไม่เคารพบทบาทและความรับผิดชอบของกันและกัน
    CIO อาจมองว่า CISO เป็น “department of no” ขณะที่ CISO มองว่า CIO ไม่สนใจความปลอดภัย

    ไม่สอดคล้องกับ risk appetite ขององค์กร
    หาก CIO ต้องการความเร็ว แต่ CISO ต้องการความปลอดภัยสูงสุด โดยไม่มีการหาจุดสมดุล

    1️⃣1️⃣ ขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
    ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างระแวง ไม่สามารถสร้างทีมที่แข็งแรงได้

    1️⃣2️⃣ บรรยากาศการทำงานแบบ “us vs them”
    สร้างความรู้สึกเป็นฝ่ายตรงข้ามมากกว่าการร่วมมือเพื่อเป้าหมายองค์กร

    แนวทางแก้ไข
    สร้างการสื่อสารตรงและสม่ำเสมอระหว่าง CIO–CISO
    กำหนดบทบาทและความรับผิดชอบให้ชัดเจน
    ปรับทัศนคติของ CISO ให้เป็น business enabler
    สร้างความเข้าใจร่วมกันเรื่อง enterprise risk

    ข้อควรระวัง
    หาก CIO และ CISO ไม่ร่วมมือกัน องค์กรจะเสี่ยงต่อการโจมตีไซเบอร์
    การขาด alignment อาจนำไปสู่ความล้มเหลวทั้งด้าน IT และธุรกิจ

    https://www.csoonline.com/article/4094754/12-signs-the-ciso-cio-relationship-is-broken-and-steps-to-fix-it.html
    🛡️ 12 สัญญาณความสัมพันธ์ CISO–CIO กำลังแตกหัก และแนวทางแก้ไข บทความจาก CSO Online ชี้ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง CISO (Chief Information Security Officer) และ CIO (Chief Information Officer) มีความสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร แต่บ่อยครั้งกลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งและการไม่สอดประสาน ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการดำเนินธุรกิจที่ไม่ราบรื่น 🔎 สัญญาณทั้ง 12: 1️⃣ CIO มักละเลยหรือปฏิเสธข้อเสนอของ CISO ตัวอย่างเช่น CIO บอกว่า “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ แต่เราจะทำตามที่เราต้องการ” ซึ่งทำให้ CISO ถูกลดบทบาทและความน่าเชื่อถือ 2️⃣ CIO และ CISO ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ ความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติ แต่หากไม่สามารถหาทางออกได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้บริหารระดับสูง แสดงถึงการขาด alignment 3️⃣ CIO ไม่แชร์ข้อมูลกับ CISO การปิดบังข้อมูลสำคัญเป็นสัญญาณอันตราย เพราะทำให้ฝ่ายความปลอดภัยไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ 4️⃣ CIO บิดเบือนหรือบล็อกข้อความของ CISO ต่อบอร์ด ทำให้บอร์ดได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน และลดความน่าเชื่อถือของฝ่ายความปลอดภัย 5️⃣ CISO ไม่ได้รับการมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นในโครงการ IT ความปลอดภัยถูกมองว่าเป็น “ส่วนเสริม” ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก 6️⃣ CIO ไม่ให้ความสำคัญกับ cyber hygiene เช่น การ patch ระบบ, การจัดการรหัสผ่าน, หรือการตรวจสอบความเสี่ยงพื้นฐาน 7️⃣ ไม่มีการสื่อสารตรงและสม่ำเสมอระหว่าง CIO–CISO ขาดการประชุมแบบตัวต่อตัว ทำให้ความเข้าใจร่วมกันลดลง 8️⃣ เกิดการแข่งขันแย่งอำนาจระหว่างสองฝ่าย ทั้งคู่พยายามควบคุมทรัพยากรและการตัดสินใจ ทำให้เกิดความตึงเครียด 9️⃣ ไม่เคารพบทบาทและความรับผิดชอบของกันและกัน CIO อาจมองว่า CISO เป็น “department of no” ขณะที่ CISO มองว่า CIO ไม่สนใจความปลอดภัย 🔟 ไม่สอดคล้องกับ risk appetite ขององค์กร หาก CIO ต้องการความเร็ว แต่ CISO ต้องการความปลอดภัยสูงสุด โดยไม่มีการหาจุดสมดุล 1️⃣1️⃣ ขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างระแวง ไม่สามารถสร้างทีมที่แข็งแรงได้ 1️⃣2️⃣ บรรยากาศการทำงานแบบ “us vs them” สร้างความรู้สึกเป็นฝ่ายตรงข้ามมากกว่าการร่วมมือเพื่อเป้าหมายองค์กร ✅ แนวทางแก้ไข ➡️ สร้างการสื่อสารตรงและสม่ำเสมอระหว่าง CIO–CISO ➡️ กำหนดบทบาทและความรับผิดชอบให้ชัดเจน ➡️ ปรับทัศนคติของ CISO ให้เป็น business enabler ➡️ สร้างความเข้าใจร่วมกันเรื่อง enterprise risk ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ หาก CIO และ CISO ไม่ร่วมมือกัน องค์กรจะเสี่ยงต่อการโจมตีไซเบอร์ ⛔ การขาด alignment อาจนำไปสู่ความล้มเหลวทั้งด้าน IT และธุรกิจ https://www.csoonline.com/article/4094754/12-signs-the-ciso-cio-relationship-is-broken-and-steps-to-fix-it.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    12 signs the CISO-CIO relationship is broken — and steps to fix it
    A CISO’s success depends on an aligned, resilient partnership with their CIO. Here’s how to tell whether yours is damaged and in need of intentional repair.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แรงงานนอกระบบในศูนย์กลาง e-waste ของเดลี กำลังสูญเสียงาน”

    ในย่าน Seelampur ของกรุงเดลี มีแรงงานนับหมื่นที่ทำงานรีไซเคิลอิเล็กทรอนิกส์แบบไม่เป็นทางการมานานหลายสิบปี พวกเขาแยกชิ้นส่วนสายไฟและอุปกรณ์เก่าเพื่อขายโลหะ เช่น ทองแดงและอะลูมิเนียม แต่ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียกำลังผลักดันให้การรีไซเคิลเข้าสู่ระบบโรงงานที่ได้รับอนุญาต เพื่อสนับสนุน National Critical Minerals Mission มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ที่ตั้งเป้าผลิตแร่สำคัญอย่างทองแดง ลิเทียม และ rare earths

    แรงงานในชุมชนเล่าว่ารายได้ลดลงอย่างหนัก เช่น Shahjahan ที่เคยหาเงินได้วันละ 2 ดอลลาร์จากการแยกสายไฟ แต่ตอนนี้อุปกรณ์ถูกส่งตรงไปยังโรงงาน ทำให้เธอแทบไม่มีงาน ขณะที่ Mohammad Saleem รายได้ลดลงครึ่งหนึ่งจากการทำงานแยกสายไฟมานาน 8 ปี รัฐบาลยังใช้มาตรการเข้มงวด เช่น ตัดไฟบ้านที่ใช้เป็นเวิร์กช็อป และปรับผู้ประกอบการรายเล็ก

    แม้รัฐบาลตั้งเป้าสร้างงานใหม่กว่า 70,000 ตำแหน่งในโรงงานรีไซเคิล แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แรงงานนอกระบบคือ “ชั้นแรก” ของห่วงโซ่รีไซเคิล หากไม่สร้างช่องทางให้พวกเขาเข้าสู่ระบบ จะยิ่งทำให้เกิดการกีดกันและความเหลื่อมล้ำมากขึ้น บริษัทรีไซเคิลบางแห่งพยายามฝึกอบรมแรงงานเหล่านี้ แต่ยังไม่สามารถดูดซับแรงงานทั้งหมดได้

    อีกด้านหนึ่ง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Samsung และ LG กำลังฟ้องรัฐบาลอินเดียเรื่องกฎราคารีไซเคิลที่กำหนดขั้นต่ำ 22 รูปีต่อกิโลกรัม โดยอ้างว่าบิดเบือนตลาด ขณะที่นักลงทุนมองว่ากฎนี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของระบบรีไซเคิลอินเดีย ว่าจะสามารถผสานแรงงานนอกระบบเข้ามาได้หรือไม่

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบโรงงาน
    รัฐบาลผลักดัน National Critical Minerals Mission มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์
    ตั้งเป้าผลิตทองแดง ลิเทียม และ rare earths

    ผลกระทบต่อแรงงานนอกระบบ
    รายได้ลดลง เช่น Shahjahan และ Saleem สูญเสียงาน
    มีมาตรการเข้มงวด เช่น ตัดไฟและปรับผู้ประกอบการรายเล็ก

    เป้าหมายของรัฐบาล
    ตั้งเป้าสร้างงานใหม่กว่า 70,000 ตำแหน่ง
    เพิ่มกำลังการรีไซเคิล 270,000 ตันต่อปี

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    หากไม่ผสานแรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบ จะเพิ่มความเหลื่อมล้ำ
    กฎราคารีไซเคิลขั้นต่ำอาจบิดเบือนตลาดและสร้างความขัดแย้งกับบริษัทใหญ่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/01/in-delhi039s-e-waste-hub-india039s-informal-workers-lose-business
    ♻️ “แรงงานนอกระบบในศูนย์กลาง e-waste ของเดลี กำลังสูญเสียงาน” ในย่าน Seelampur ของกรุงเดลี มีแรงงานนับหมื่นที่ทำงานรีไซเคิลอิเล็กทรอนิกส์แบบไม่เป็นทางการมานานหลายสิบปี พวกเขาแยกชิ้นส่วนสายไฟและอุปกรณ์เก่าเพื่อขายโลหะ เช่น ทองแดงและอะลูมิเนียม แต่ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียกำลังผลักดันให้การรีไซเคิลเข้าสู่ระบบโรงงานที่ได้รับอนุญาต เพื่อสนับสนุน National Critical Minerals Mission มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ที่ตั้งเป้าผลิตแร่สำคัญอย่างทองแดง ลิเทียม และ rare earths แรงงานในชุมชนเล่าว่ารายได้ลดลงอย่างหนัก เช่น Shahjahan ที่เคยหาเงินได้วันละ 2 ดอลลาร์จากการแยกสายไฟ แต่ตอนนี้อุปกรณ์ถูกส่งตรงไปยังโรงงาน ทำให้เธอแทบไม่มีงาน ขณะที่ Mohammad Saleem รายได้ลดลงครึ่งหนึ่งจากการทำงานแยกสายไฟมานาน 8 ปี รัฐบาลยังใช้มาตรการเข้มงวด เช่น ตัดไฟบ้านที่ใช้เป็นเวิร์กช็อป และปรับผู้ประกอบการรายเล็ก แม้รัฐบาลตั้งเป้าสร้างงานใหม่กว่า 70,000 ตำแหน่งในโรงงานรีไซเคิล แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แรงงานนอกระบบคือ “ชั้นแรก” ของห่วงโซ่รีไซเคิล หากไม่สร้างช่องทางให้พวกเขาเข้าสู่ระบบ จะยิ่งทำให้เกิดการกีดกันและความเหลื่อมล้ำมากขึ้น บริษัทรีไซเคิลบางแห่งพยายามฝึกอบรมแรงงานเหล่านี้ แต่ยังไม่สามารถดูดซับแรงงานทั้งหมดได้ อีกด้านหนึ่ง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Samsung และ LG กำลังฟ้องรัฐบาลอินเดียเรื่องกฎราคารีไซเคิลที่กำหนดขั้นต่ำ 22 รูปีต่อกิโลกรัม โดยอ้างว่าบิดเบือนตลาด ขณะที่นักลงทุนมองว่ากฎนี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของระบบรีไซเคิลอินเดีย ว่าจะสามารถผสานแรงงานนอกระบบเข้ามาได้หรือไม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบโรงงาน ➡️ รัฐบาลผลักดัน National Critical Minerals Mission มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ตั้งเป้าผลิตทองแดง ลิเทียม และ rare earths ✅ ผลกระทบต่อแรงงานนอกระบบ ➡️ รายได้ลดลง เช่น Shahjahan และ Saleem สูญเสียงาน ➡️ มีมาตรการเข้มงวด เช่น ตัดไฟและปรับผู้ประกอบการรายเล็ก ✅ เป้าหมายของรัฐบาล ➡️ ตั้งเป้าสร้างงานใหม่กว่า 70,000 ตำแหน่ง ➡️ เพิ่มกำลังการรีไซเคิล 270,000 ตันต่อปี ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ หากไม่ผสานแรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบ จะเพิ่มความเหลื่อมล้ำ ⛔ กฎราคารีไซเคิลขั้นต่ำอาจบิดเบือนตลาดและสร้างความขัดแย้งกับบริษัทใหญ่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/01/in-delhi039s-e-waste-hub-india039s-informal-workers-lose-business
    WWW.THESTAR.COM.MY
    In Delhi's e-waste hub, India's informal workers lose business
    As e-waste shifts from neighbourhoods to licensed factories, informal recyclers fear being left out.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251129 #TechRadar

    AI อาจทำให้หลายงานหายไป
    มีรายงานใหม่ที่ทำให้ผู้บริหารทั่วโลกเริ่มกังวล เพราะผลการสำรวจพบว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริหารมองว่าตอนนี้บริษัทมีพนักงานมากเกินความจำเป็นราว 10-19% และในอีกสามปีข้างหน้าอาจเกินถึง 30-50% สาเหตุหลักคือการนำ AI มาใช้ในงานประจำ เช่น งานหลังบ้าน งานบริการลูกค้า และงานเริ่มต้นด้านการเงินหรือ HR ที่ AI สามารถทำแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายองค์กรจึงเริ่มคิดใหม่ว่าบทบาทของคนจะเปลี่ยนไปเป็นการทำงานร่วมกับ AI มากกว่าทำงานแทน AI โดยตรง ขณะเดียวกัน Amazon เองก็ยอมรับว่า AI จะทำให้คนทำงานบางส่วนลดลง แม้จะมีงานใหม่เกิดขึ้น แต่ภาพรวมคือจำนวนคนทำงานอาจลดลงในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/another-major-survey-warns-ai-could-lead-to-major-job-cuts-at-your-business

    แฮกเกอร์โจมตีผู้ใช้ Zendesk
    กลุ่ม Scattered Lapsus$ Hunters ที่เคยโจมตี Salesforce ตอนนี้หันมาเล่นงานผู้ใช้ Zendesk โดยใช้วิธีสร้างโดเมนปลอมกว่า 40 แห่งเพื่อหลอกให้คนกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบ บางครั้งถึงขั้นส่งตั๋วซัพพอร์ตปลอมเข้าไปในระบบ Zendesk เพื่อแพร่มัลแวร์และขโมยสิทธิ์การเข้าถึงของเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่ากลยุทธ์นี้อันตรายมาก เพราะมันเจาะตรงไปที่ทีมซัพพอร์ตที่มักต้องตอบสนองอย่างเร่งด่วน ทำให้มีโอกาสตกหลุมพรางสูง แม้จะมีข่าวโยงไปถึงการโจมตี Discord แต่กลุ่มนี้ก็ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง
    https://www.techradar.com/pro/security/zendesk-users-targeted-by-scattered-lapsus-usd-hunters-hackers-and-fake-support-sites

    ยุโรปนำหน้าด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แต่สหราชอาณาจักรเริ่มตามไม่ทัน
    รายงาน Digital Quality of Life Index 2025 ของ Surfshark เผยว่าประเทศในยุโรปครองอันดับต้น ๆ ด้านความปลอดภัยดิจิทัล เช่น ฟินแลนด์ เยอรมนี และฝรั่งเศส แต่สหราชอาณาจักรกลับตกอันดับจากที่เคยอยู่อันดับ 6 ด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ในปี 2024 ลงมาอยู่อันดับ 39 ในปีนี้ แม้ยังมีจุดแข็งเรื่องการคุ้มครองข้อมูลตามมาตรฐาน GDPR แต่ความก้าวหน้าด้านความปลอดภัยกลับช้ากว่าประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม สหราชอาณาจักรยังมีจุดเด่นด้าน AI ที่ติดอันดับ 4 ของโลก ซึ่งอาจช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/europe-tops-the-charts-in-digital-security-but-the-uk-might-be-quickly-falling-behind-says-surfshark

    OnePlus 15 เตรียมวางขายในสหรัฐฯ หลังผ่านการอนุมัติ
    สมาร์ทโฟน OnePlus 15 ที่เพิ่งเปิดตัวและได้รับคะแนนรีวิวเต็ม 5 ดาวจาก TechRadar กำลังจะเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ หลังผ่านการรับรองจาก FCC ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนวางขาย รุ่นนี้โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพ แบตเตอรี่ และกล้องที่ยอดเยี่ยม จนถูกยกให้ “ดีกว่าสมบูรณ์แบบ” ราคาที่คาดว่าจะเริ่มต้นราว 899.99 ดอลลาร์ ถือเป็นการกลับมาท้าทายตลาดที่มักถูกครองโดย Samsung และ Google Pixel
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-oneplus-15-clears-its-final-hurdle-for-a-us-launch-heres-why-we-gave-the-flagship-a-rare-five-stars

    รัฐบาลอังกฤษกดดันบริษัทโทรคมนาคมให้โปร่งใสเรื่องราคา
    รัฐบาลอังกฤษโดยรัฐมนตรีการคลังและรัฐมนตรีเทคโนโลยีออกมาเรียกร้องให้บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ เช่น BT/EE, Vodafone, Sky และ TalkTalk แสดงรายละเอียดราคาที่ชัดเจนขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าถูกขึ้นราคาที่ไม่คาดคิด โดยต้องเปลี่ยนจากการแจ้งเป็นเปอร์เซ็นต์มาเป็นตัวเลขจริงเป็นปอนด์และเพนนี นอกจากนี้ยังมีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ประชาชนเข้าถึง 5G SA ภายในปี 2030 และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับกิกะบิตครอบคลุม 99% ภายในปี 2032
    https://www.techradar.com/pro/uk-government-tells-telecoms-to-do-more-to-protect-customers

    หลายเขตในลอนดอนถูกโจมตีทางไซเบอร์
    มีรายงานว่าหลายสภาท้องถิ่นในกรุงลอนดอนถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ระบบบริการประชาชนบางส่วนหยุดชะงัก การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลอย่างมากเพราะกระทบต่อข้อมูลและการทำงานของหน่วยงานท้องถิ่นที่ประชาชนพึ่งพาอยู่ทุกวัน แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานภาครัฐก็เป็นเป้าหมายสำคัญของแฮกเกอร์เช่นกัน และจำเป็นต้องเร่งเสริมมาตรการป้องกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/multiple-london-councils-affected-by-apparent-cyberattack

    Cybersecurity Burnout: เมื่อโลกดิจิทัลทำให้คนทำงานหมดแรง
    ในวงการไซเบอร์ ความเร็วและแรงกดดันคือเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ตามมาคือความเหนื่อยล้าสะสมจนกลายเป็น “burnout” ที่กระทบทั้งสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงาน งานวิจัยล่าสุดเผยว่ากว่า 76% ของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์รู้สึกเหนื่อยล้าในปีที่ผ่านมา และ 69% บอกว่ามันแย่ลงเรื่อย ๆ ปัญหานี้ไม่ได้กระทบแค่ตัวบุคคล แต่ยังทำให้ทีมอ่อนแรง เสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากขึ้น ทางออกคือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุน ลดภาระงาน และใช้บริการเสริมอย่าง MDR ที่ช่วยแบ่งเบาภาระได้จริง เรื่องนี้สะท้อนว่า “การป้องกันภัยไซเบอร์” ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของคนด้วย
    https://www.techradar.com/pro/tackling-cybersecurity-burnout-once-and-for-all

    Infosys กับแนวคิดทำงาน 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
    Narayana Murthy ผู้ร่วมก่อตั้ง Infosys จุดกระแสอีกครั้งด้วยการเสนอให้พนักงานทำงาน 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยมองว่านี่คือ “ความขยันที่แท้จริง” แต่เสียงวิจารณ์กลับดังสนั่น เพราะหลักฐานจาก WHO และการทดลองในหลายประเทศ เช่น ไอซ์แลนด์และญี่ปุ่น แสดงให้เห็นว่าการทำงานสั้นลงกลับทำให้ผลผลิตและสุขภาพดีขึ้น การผลักดันให้ทำงานหนักเกินไปจึงถูกมองว่าเป็นการละเลยความเป็นอยู่ของคนทำงาน และอาจย้อนกลับมาทำร้ายองค์กรเอง
    https://www.techradar.com/pro/infosys-co-founder-once-again-calls-for-longer-than-70-hour-weeks-and-no-hes-not-joking

    ChatGPT อายุครบ 3 ปี: จากกล่องข้อความสู่เครื่องมือสารพัด
    จากวันที่เปิดตัวในปี 2022 ในฐานะ “การทดลองวิจัย” ChatGPT กลายเป็นหนึ่งในแอปที่โตเร็วที่สุดในโลก และวันนี้มันไม่ใช่แค่เครื่องมือเขียนอีเมล แต่เป็นผู้ช่วยที่ทำได้ทั้งวางแผนทริป สร้างสไลด์ ดีบักโค้ด ไปจนถึงสร้างภาพและเสียง สามปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีเบื้องหลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจาก GPT-3.5 จนถึง GPT-5.1 พร้อมความสามารถแบบมัลติโหมดที่รองรับข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ แม้ยังไม่ถึงขั้น “AGI” อย่างที่หลายคนฝัน แต่ก็เปลี่ยนวิธีที่ผู้คนใช้ AI ในชีวิตประจำวันไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt-turns-3-on-sunday-heres-how-far-its-really-come-and-where-its-heading-next

    Amazon Fire TV Stick รุ่นใหม่รองรับ VPN แล้ว
    ข่าวดีสำหรับสายสตรีมมิ่ง Amazon ปล่อยอัปเดต Vega OS ให้ Fire TV Stick รุ่นใหม่รองรับ VPN เป็นครั้งแรก ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ต่างประเทศและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้ทันที อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีเพียง NordVPN และ IPVanish ที่พร้อมใช้งานบนระบบใหม่ ส่วนเจ้าอื่นยังตามไม่ทัน การมาของฟีเจอร์นี้ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์สตรีมมิ่งให้ปลอดภัยและหลากหลายขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/vpn-support-lands-on-next-gen-amazon-fire-tv-stick-but-only-two-vpns-are-ready

    ช่องโหว่ใหม่ใน AI Browser: แค่ “#” ก็โดนเจาะได้
    นักวิจัยเผยเทคนิค “HashJack” ที่ใช้เพียงการใส่ข้อความหลังเครื่องหมาย # ใน URL ก็สามารถสั่งการ AI assistant ในเบราว์เซอร์ให้ทำงานตามคำสั่งแฝงได้ โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว หน้าจอยังแสดงเว็บปกติ แต่เบื้องหลังข้อมูลอาจถูกส่งออกไปหรือถูกบิดเบือน นี่คือช่องโหว่ที่ทำให้การใช้ AI browser เสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบแนบเนียน และยากต่อการตรวจจับ การป้องกันจึงต้องเข้มงวดทั้งที่ระดับเครื่องและการออกแบบระบบ ไม่ใช่แค่การตรวจสอบทราฟฟิกทั่วไป
    https://www.techradar.com/pro/thats-not-very-trendy-of-them-ai-browsers-can-be-hacked-with-a-simple-hashtag-experts-warn

    Malicious LLMs: เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือสร้างมัลแวร์
    นักวิจัยเตือนว่าระบบ AI ที่ถูกปรับแต่งอย่างไม่ถูกต้องสามารถกลายเป็น “ผู้ช่วยสร้างมัลแวร์” ให้แม้แต่แฮกเกอร์มือใหม่ได้ง่าย ๆ เพียงแค่พิมพ์คำสั่งก็สามารถสร้างโค้ดอันตรายที่ซับซ้อนขึ้นมาได้ทันที นี่คือการเปิดประตูให้ภัยไซเบอร์แพร่กระจายเร็วกว่าเดิม และทำให้โลกดิจิทัลเสี่ยงต่อการถูกโจมตีในวงกว้างมากขึ้น ปัญหานี้สะท้อนว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างสรรค์ แต่ยังอาจเป็นอาวุธหากถูกใช้ผิดทาง
    https://www.techradar.com/pro/security/malicious-llms-are-letting-even-unskilled-hackers-to-craft-dangerous-new-malware

    Tapo RV30 Max Plus: หุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคาดิ่ง
    ใครที่มีปัญหาขนสุนัขเต็มบ้านคงยิ้มได้ เพราะ Tapo RV30 Max Plus ลดราคาหนักในช่วง Black Friday ทำให้การจัดการบ้านสะอาดง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเหนื่อยแรงเอง รุ่นนี้ถูกรีวิวว่าใช้งานง่าย ดูดแรง และช่วยประหยัดเวลาได้มาก การลดราคาครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่อยากลองใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นโดยไม่ต้องจ่ายแพง
    https://www.techradar.com/seasonal-sales/tackling-a-sea-of-dog-hair-was-a-daily-headache-for-me-until-i-bought-this-robot-vacuum

    Cloudways vs InMotion Hosting: ศึกโฮสติ้ง WordPress
    สำหรับคนทำเว็บไซต์ WordPress การเลือกโฮสติ้งคือเรื่องสำคัญ บทความนี้เปรียบเทียบ Cloudways และ InMotion Hosting ว่าใครตอบโจทย์มากกว่ากัน ทั้งในด้านความเร็ว ความเสถียร การสนับสนุนลูกค้า และราคา ผลลัพธ์คือแต่ละเจ้าเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ต่างกัน Cloudways เด่นเรื่องความยืดหยุ่นและการปรับแต่ง ส่วน InMotion Hosting โดดเด่นด้านบริการลูกค้าและความคุ้มค่า
    https://www.techradar.com/pro/website-hosting/cloudways-vs-inmotion-hosting-which-is-better-for-wordpress-sites

    Commodore 64 กลับมาอีกครั้งหลังหายไป 30 ปี
    เครื่องคอมพิวเตอร์ในตำนาน Commodore 64 ที่เคยครองใจคนยุค 80 กำลังกลับมาผลิตใหม่อีกครั้ง แม้จะไม่ใช่เครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานสมัยใหม่ แต่ก็เป็นการปลุกความทรงจำและความหลงใหลในเทคโนโลยีคลาสสิก หลายคนมองว่ามันคือ “ของสะสม” มากกว่าคอมพิวเตอร์จริง ๆ และการกลับมาครั้งนี้ก็สร้างกระแสความตื่นเต้นในหมู่แฟน ๆ ได้ไม่น้อย
    https://www.techradar.com/computing/the-commodore-64-is-back-on-the-production-line-for-the-first-time-in-30-years-and-i-want-it-even-if-it-makes-zero-sense

    ระวังอีเมลหลอกลวงช่วงโบนัสคริสต์มาส
    ใกล้ช่วงโบนัสปลายปี แฮกเกอร์ก็ไม่พลาดโอกาสปลอมอีเมลหลอกลวงให้คนหลงเชื่อ โดยอ้างว่าเป็นการแจ้งโบนัสหรือสิทธิพิเศษ เพื่อให้เหยื่อคลิกและกรอกข้อมูลส่วนตัว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าช่วงนี้ต้องตรวจสอบอีเมลอย่างละเอียด เพราะการโจมตีลักษณะนี้แพร่หลายมากขึ้น และอาจทำให้สูญเสียข้อมูลหรือเงินโดยไม่รู้ตัว
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/excited-for-your-christmas-bonus-so-are-scammers-so-check-your-emails-carefully
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251129 #TechRadar 🧑‍💻 AI อาจทำให้หลายงานหายไป มีรายงานใหม่ที่ทำให้ผู้บริหารทั่วโลกเริ่มกังวล เพราะผลการสำรวจพบว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริหารมองว่าตอนนี้บริษัทมีพนักงานมากเกินความจำเป็นราว 10-19% และในอีกสามปีข้างหน้าอาจเกินถึง 30-50% สาเหตุหลักคือการนำ AI มาใช้ในงานประจำ เช่น งานหลังบ้าน งานบริการลูกค้า และงานเริ่มต้นด้านการเงินหรือ HR ที่ AI สามารถทำแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายองค์กรจึงเริ่มคิดใหม่ว่าบทบาทของคนจะเปลี่ยนไปเป็นการทำงานร่วมกับ AI มากกว่าทำงานแทน AI โดยตรง ขณะเดียวกัน Amazon เองก็ยอมรับว่า AI จะทำให้คนทำงานบางส่วนลดลง แม้จะมีงานใหม่เกิดขึ้น แต่ภาพรวมคือจำนวนคนทำงานอาจลดลงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/another-major-survey-warns-ai-could-lead-to-major-job-cuts-at-your-business 🔒 แฮกเกอร์โจมตีผู้ใช้ Zendesk กลุ่ม Scattered Lapsus$ Hunters ที่เคยโจมตี Salesforce ตอนนี้หันมาเล่นงานผู้ใช้ Zendesk โดยใช้วิธีสร้างโดเมนปลอมกว่า 40 แห่งเพื่อหลอกให้คนกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบ บางครั้งถึงขั้นส่งตั๋วซัพพอร์ตปลอมเข้าไปในระบบ Zendesk เพื่อแพร่มัลแวร์และขโมยสิทธิ์การเข้าถึงของเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่ากลยุทธ์นี้อันตรายมาก เพราะมันเจาะตรงไปที่ทีมซัพพอร์ตที่มักต้องตอบสนองอย่างเร่งด่วน ทำให้มีโอกาสตกหลุมพรางสูง แม้จะมีข่าวโยงไปถึงการโจมตี Discord แต่กลุ่มนี้ก็ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/zendesk-users-targeted-by-scattered-lapsus-usd-hunters-hackers-and-fake-support-sites 🌍 ยุโรปนำหน้าด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แต่สหราชอาณาจักรเริ่มตามไม่ทัน รายงาน Digital Quality of Life Index 2025 ของ Surfshark เผยว่าประเทศในยุโรปครองอันดับต้น ๆ ด้านความปลอดภัยดิจิทัล เช่น ฟินแลนด์ เยอรมนี และฝรั่งเศส แต่สหราชอาณาจักรกลับตกอันดับจากที่เคยอยู่อันดับ 6 ด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ในปี 2024 ลงมาอยู่อันดับ 39 ในปีนี้ แม้ยังมีจุดแข็งเรื่องการคุ้มครองข้อมูลตามมาตรฐาน GDPR แต่ความก้าวหน้าด้านความปลอดภัยกลับช้ากว่าประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม สหราชอาณาจักรยังมีจุดเด่นด้าน AI ที่ติดอันดับ 4 ของโลก ซึ่งอาจช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/europe-tops-the-charts-in-digital-security-but-the-uk-might-be-quickly-falling-behind-says-surfshark 📱 OnePlus 15 เตรียมวางขายในสหรัฐฯ หลังผ่านการอนุมัติ สมาร์ทโฟน OnePlus 15 ที่เพิ่งเปิดตัวและได้รับคะแนนรีวิวเต็ม 5 ดาวจาก TechRadar กำลังจะเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ หลังผ่านการรับรองจาก FCC ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนวางขาย รุ่นนี้โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพ แบตเตอรี่ และกล้องที่ยอดเยี่ยม จนถูกยกให้ “ดีกว่าสมบูรณ์แบบ” ราคาที่คาดว่าจะเริ่มต้นราว 899.99 ดอลลาร์ ถือเป็นการกลับมาท้าทายตลาดที่มักถูกครองโดย Samsung และ Google Pixel 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-oneplus-15-clears-its-final-hurdle-for-a-us-launch-heres-why-we-gave-the-flagship-a-rare-five-stars 📡 รัฐบาลอังกฤษกดดันบริษัทโทรคมนาคมให้โปร่งใสเรื่องราคา รัฐบาลอังกฤษโดยรัฐมนตรีการคลังและรัฐมนตรีเทคโนโลยีออกมาเรียกร้องให้บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ เช่น BT/EE, Vodafone, Sky และ TalkTalk แสดงรายละเอียดราคาที่ชัดเจนขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าถูกขึ้นราคาที่ไม่คาดคิด โดยต้องเปลี่ยนจากการแจ้งเป็นเปอร์เซ็นต์มาเป็นตัวเลขจริงเป็นปอนด์และเพนนี นอกจากนี้ยังมีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ประชาชนเข้าถึง 5G SA ภายในปี 2030 และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับกิกะบิตครอบคลุม 99% ภายในปี 2032 🔗 https://www.techradar.com/pro/uk-government-tells-telecoms-to-do-more-to-protect-customers 🏙️ หลายเขตในลอนดอนถูกโจมตีทางไซเบอร์ มีรายงานว่าหลายสภาท้องถิ่นในกรุงลอนดอนถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ระบบบริการประชาชนบางส่วนหยุดชะงัก การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลอย่างมากเพราะกระทบต่อข้อมูลและการทำงานของหน่วยงานท้องถิ่นที่ประชาชนพึ่งพาอยู่ทุกวัน แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานภาครัฐก็เป็นเป้าหมายสำคัญของแฮกเกอร์เช่นกัน และจำเป็นต้องเร่งเสริมมาตรการป้องกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/multiple-london-councils-affected-by-apparent-cyberattack 🛡️ Cybersecurity Burnout: เมื่อโลกดิจิทัลทำให้คนทำงานหมดแรง ในวงการไซเบอร์ ความเร็วและแรงกดดันคือเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ตามมาคือความเหนื่อยล้าสะสมจนกลายเป็น “burnout” ที่กระทบทั้งสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงาน งานวิจัยล่าสุดเผยว่ากว่า 76% ของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์รู้สึกเหนื่อยล้าในปีที่ผ่านมา และ 69% บอกว่ามันแย่ลงเรื่อย ๆ ปัญหานี้ไม่ได้กระทบแค่ตัวบุคคล แต่ยังทำให้ทีมอ่อนแรง เสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากขึ้น ทางออกคือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุน ลดภาระงาน และใช้บริการเสริมอย่าง MDR ที่ช่วยแบ่งเบาภาระได้จริง เรื่องนี้สะท้อนว่า “การป้องกันภัยไซเบอร์” ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของคนด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/tackling-cybersecurity-burnout-once-and-for-all ⏱️ Infosys กับแนวคิดทำงาน 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ Narayana Murthy ผู้ร่วมก่อตั้ง Infosys จุดกระแสอีกครั้งด้วยการเสนอให้พนักงานทำงาน 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยมองว่านี่คือ “ความขยันที่แท้จริง” แต่เสียงวิจารณ์กลับดังสนั่น เพราะหลักฐานจาก WHO และการทดลองในหลายประเทศ เช่น ไอซ์แลนด์และญี่ปุ่น แสดงให้เห็นว่าการทำงานสั้นลงกลับทำให้ผลผลิตและสุขภาพดีขึ้น การผลักดันให้ทำงานหนักเกินไปจึงถูกมองว่าเป็นการละเลยความเป็นอยู่ของคนทำงาน และอาจย้อนกลับมาทำร้ายองค์กรเอง 🔗 https://www.techradar.com/pro/infosys-co-founder-once-again-calls-for-longer-than-70-hour-weeks-and-no-hes-not-joking 🤖 ChatGPT อายุครบ 3 ปี: จากกล่องข้อความสู่เครื่องมือสารพัด จากวันที่เปิดตัวในปี 2022 ในฐานะ “การทดลองวิจัย” ChatGPT กลายเป็นหนึ่งในแอปที่โตเร็วที่สุดในโลก และวันนี้มันไม่ใช่แค่เครื่องมือเขียนอีเมล แต่เป็นผู้ช่วยที่ทำได้ทั้งวางแผนทริป สร้างสไลด์ ดีบักโค้ด ไปจนถึงสร้างภาพและเสียง สามปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีเบื้องหลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจาก GPT-3.5 จนถึง GPT-5.1 พร้อมความสามารถแบบมัลติโหมดที่รองรับข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ แม้ยังไม่ถึงขั้น “AGI” อย่างที่หลายคนฝัน แต่ก็เปลี่ยนวิธีที่ผู้คนใช้ AI ในชีวิตประจำวันไปแล้วอย่างสิ้นเชิง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt-turns-3-on-sunday-heres-how-far-its-really-come-and-where-its-heading-next 📺 Amazon Fire TV Stick รุ่นใหม่รองรับ VPN แล้ว ข่าวดีสำหรับสายสตรีมมิ่ง Amazon ปล่อยอัปเดต Vega OS ให้ Fire TV Stick รุ่นใหม่รองรับ VPN เป็นครั้งแรก ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ต่างประเทศและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้ทันที อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีเพียง NordVPN และ IPVanish ที่พร้อมใช้งานบนระบบใหม่ ส่วนเจ้าอื่นยังตามไม่ทัน การมาของฟีเจอร์นี้ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์สตรีมมิ่งให้ปลอดภัยและหลากหลายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/vpn-support-lands-on-next-gen-amazon-fire-tv-stick-but-only-two-vpns-are-ready ⚠️ ช่องโหว่ใหม่ใน AI Browser: แค่ “#” ก็โดนเจาะได้ นักวิจัยเผยเทคนิค “HashJack” ที่ใช้เพียงการใส่ข้อความหลังเครื่องหมาย # ใน URL ก็สามารถสั่งการ AI assistant ในเบราว์เซอร์ให้ทำงานตามคำสั่งแฝงได้ โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว หน้าจอยังแสดงเว็บปกติ แต่เบื้องหลังข้อมูลอาจถูกส่งออกไปหรือถูกบิดเบือน นี่คือช่องโหว่ที่ทำให้การใช้ AI browser เสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบแนบเนียน และยากต่อการตรวจจับ การป้องกันจึงต้องเข้มงวดทั้งที่ระดับเครื่องและการออกแบบระบบ ไม่ใช่แค่การตรวจสอบทราฟฟิกทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/thats-not-very-trendy-of-them-ai-browsers-can-be-hacked-with-a-simple-hashtag-experts-warn 🧑‍💻 Malicious LLMs: เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือสร้างมัลแวร์ นักวิจัยเตือนว่าระบบ AI ที่ถูกปรับแต่งอย่างไม่ถูกต้องสามารถกลายเป็น “ผู้ช่วยสร้างมัลแวร์” ให้แม้แต่แฮกเกอร์มือใหม่ได้ง่าย ๆ เพียงแค่พิมพ์คำสั่งก็สามารถสร้างโค้ดอันตรายที่ซับซ้อนขึ้นมาได้ทันที นี่คือการเปิดประตูให้ภัยไซเบอร์แพร่กระจายเร็วกว่าเดิม และทำให้โลกดิจิทัลเสี่ยงต่อการถูกโจมตีในวงกว้างมากขึ้น ปัญหานี้สะท้อนว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างสรรค์ แต่ยังอาจเป็นอาวุธหากถูกใช้ผิดทาง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/malicious-llms-are-letting-even-unskilled-hackers-to-craft-dangerous-new-malware 🤖 Tapo RV30 Max Plus: หุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคาดิ่ง ใครที่มีปัญหาขนสุนัขเต็มบ้านคงยิ้มได้ เพราะ Tapo RV30 Max Plus ลดราคาหนักในช่วง Black Friday ทำให้การจัดการบ้านสะอาดง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเหนื่อยแรงเอง รุ่นนี้ถูกรีวิวว่าใช้งานง่าย ดูดแรง และช่วยประหยัดเวลาได้มาก การลดราคาครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่อยากลองใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นโดยไม่ต้องจ่ายแพง 🔗 https://www.techradar.com/seasonal-sales/tackling-a-sea-of-dog-hair-was-a-daily-headache-for-me-until-i-bought-this-robot-vacuum 🌐 Cloudways vs InMotion Hosting: ศึกโฮสติ้ง WordPress สำหรับคนทำเว็บไซต์ WordPress การเลือกโฮสติ้งคือเรื่องสำคัญ บทความนี้เปรียบเทียบ Cloudways และ InMotion Hosting ว่าใครตอบโจทย์มากกว่ากัน ทั้งในด้านความเร็ว ความเสถียร การสนับสนุนลูกค้า และราคา ผลลัพธ์คือแต่ละเจ้าเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ต่างกัน Cloudways เด่นเรื่องความยืดหยุ่นและการปรับแต่ง ส่วน InMotion Hosting โดดเด่นด้านบริการลูกค้าและความคุ้มค่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/website-hosting/cloudways-vs-inmotion-hosting-which-is-better-for-wordpress-sites 🕹️ Commodore 64 กลับมาอีกครั้งหลังหายไป 30 ปี เครื่องคอมพิวเตอร์ในตำนาน Commodore 64 ที่เคยครองใจคนยุค 80 กำลังกลับมาผลิตใหม่อีกครั้ง แม้จะไม่ใช่เครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานสมัยใหม่ แต่ก็เป็นการปลุกความทรงจำและความหลงใหลในเทคโนโลยีคลาสสิก หลายคนมองว่ามันคือ “ของสะสม” มากกว่าคอมพิวเตอร์จริง ๆ และการกลับมาครั้งนี้ก็สร้างกระแสความตื่นเต้นในหมู่แฟน ๆ ได้ไม่น้อย 🔗 https://www.techradar.com/computing/the-commodore-64-is-back-on-the-production-line-for-the-first-time-in-30-years-and-i-want-it-even-if-it-makes-zero-sense 📧 ระวังอีเมลหลอกลวงช่วงโบนัสคริสต์มาส ใกล้ช่วงโบนัสปลายปี แฮกเกอร์ก็ไม่พลาดโอกาสปลอมอีเมลหลอกลวงให้คนหลงเชื่อ โดยอ้างว่าเป็นการแจ้งโบนัสหรือสิทธิพิเศษ เพื่อให้เหยื่อคลิกและกรอกข้อมูลส่วนตัว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าช่วงนี้ต้องตรวจสอบอีเมลอย่างละเอียด เพราะการโจมตีลักษณะนี้แพร่หลายมากขึ้น และอาจทำให้สูญเสียข้อมูลหรือเงินโดยไม่รู้ตัว ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/excited-for-your-christmas-bonus-so-are-scammers-so-check-your-emails-carefully
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 540 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ฟีเจอร์ใหม่ของ X สร้างความสับสนและโกลาหล”

    แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ About this account ที่แสดงข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งของบัญชีผู้ใช้ จุดประสงค์คือเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชี แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความสับสนและโต้เถียงอย่างกว้างขวาง【edge_current_page_context】

    ตัวอย่างที่สร้างความโกลาหล
    มีการเปิดเผยว่าบัญชีที่โพสต์เนื้อหาทางการเมืองในสหรัฐฯ หลายบัญชีจริง ๆ แล้วตั้งอยู่ในต่างประเทศ เช่น Pakistan, Eastern Europe, Bangladesh และ Nigeria ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าบัญชีเหล่านี้เป็น bot หรือบัญชีจัดตั้งเพื่อสร้างความแตกแยกทางการเมือง【edge_current_page_context】

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และสังคม
    แม้ฟีเจอร์นี้จะช่วยเปิดโปงแหล่งที่มาของเนื้อหา แต่ก็สร้างความโกลาหลในชุมชนออนไลน์ ผู้ใช้บางคนตั้งคำถามถึงความถูกต้องของข้อมูลตำแหน่ง และกังวลว่าการเปิดเผยเช่นนี้อาจถูกใช้เพื่อโจมตีหรือทำให้ผู้ใช้บางกลุ่มเสียความน่าเชื่อถือโดยไม่เป็นธรรม【edge_current_page_context】

    มุมมองในอนาคต
    การเปิดตัวฟีเจอร์นี้สะท้อนถึงความพยายามของ X ในการแก้ปัญหาบัญชีปลอมและการบิดเบือนข้อมูล แต่ก็แสดงให้เห็นว่า การเพิ่มความโปร่งใสอาจนำไปสู่ความเสี่ยงใหม่ ที่ต้องจัดการอย่างระมัดระวัง หากไม่มีการปรับปรุง อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้และเสถียรภาพของแพลตฟอร์มในระยะยาว【edge_current_page_context】

    สรุปสาระสำคัญ
    รายละเอียดฟีเจอร์ใหม่
    “About this account” แสดงตำแหน่งที่ตั้งของบัญชี
    ตั้งใจเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ

    ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
    พบว่าบัญชีการเมืองสหรัฐฯ หลายบัญชีตั้งอยู่นอกประเทศ
    สร้างข้อสงสัยว่ามีการใช้ bot หรือบัญชีจัดตั้ง

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    ผู้ใช้บางคนตั้งคำถามถึงความถูกต้องของข้อมูล
    เกิดความกังวลเรื่องการตีตราและการโจมตีทางสังคม

    ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
    การเปิดเผยตำแหน่งอาจถูกใช้เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ
    หากข้อมูลไม่แม่นยำ อาจสร้างความเข้าใจผิดและความแตกแยก

    ผลกระทบระยะยาว
    อาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ต่อแพลตฟอร์ม
    ต้องปรับปรุงระบบตรวจสอบเพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียต่อสังคม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/29/the-039rough-edges039-of-xs-new-feature-have-sewn-chaos-and-confusion
    📰 “ฟีเจอร์ใหม่ของ X สร้างความสับสนและโกลาหล” แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ About this account ที่แสดงข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งของบัญชีผู้ใช้ จุดประสงค์คือเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชี แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความสับสนและโต้เถียงอย่างกว้างขวาง【edge_current_page_context】 🔍 ตัวอย่างที่สร้างความโกลาหล มีการเปิดเผยว่าบัญชีที่โพสต์เนื้อหาทางการเมืองในสหรัฐฯ หลายบัญชีจริง ๆ แล้วตั้งอยู่ในต่างประเทศ เช่น Pakistan, Eastern Europe, Bangladesh และ Nigeria ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าบัญชีเหล่านี้เป็น bot หรือบัญชีจัดตั้งเพื่อสร้างความแตกแยกทางการเมือง【edge_current_page_context】 ⚠️ ผลกระทบต่อผู้ใช้และสังคม แม้ฟีเจอร์นี้จะช่วยเปิดโปงแหล่งที่มาของเนื้อหา แต่ก็สร้างความโกลาหลในชุมชนออนไลน์ ผู้ใช้บางคนตั้งคำถามถึงความถูกต้องของข้อมูลตำแหน่ง และกังวลว่าการเปิดเผยเช่นนี้อาจถูกใช้เพื่อโจมตีหรือทำให้ผู้ใช้บางกลุ่มเสียความน่าเชื่อถือโดยไม่เป็นธรรม【edge_current_page_context】 📈 มุมมองในอนาคต การเปิดตัวฟีเจอร์นี้สะท้อนถึงความพยายามของ X ในการแก้ปัญหาบัญชีปลอมและการบิดเบือนข้อมูล แต่ก็แสดงให้เห็นว่า การเพิ่มความโปร่งใสอาจนำไปสู่ความเสี่ยงใหม่ ที่ต้องจัดการอย่างระมัดระวัง หากไม่มีการปรับปรุง อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้และเสถียรภาพของแพลตฟอร์มในระยะยาว【edge_current_page_context】 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายละเอียดฟีเจอร์ใหม่ ➡️ “About this account” แสดงตำแหน่งที่ตั้งของบัญชี ➡️ ตั้งใจเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ ✅ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง ➡️ พบว่าบัญชีการเมืองสหรัฐฯ หลายบัญชีตั้งอยู่นอกประเทศ ➡️ สร้างข้อสงสัยว่ามีการใช้ bot หรือบัญชีจัดตั้ง ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ ➡️ ผู้ใช้บางคนตั้งคำถามถึงความถูกต้องของข้อมูล ➡️ เกิดความกังวลเรื่องการตีตราและการโจมตีทางสังคม ‼️ ความเสี่ยงและข้อควรระวัง ⛔ การเปิดเผยตำแหน่งอาจถูกใช้เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ ⛔ หากข้อมูลไม่แม่นยำ อาจสร้างความเข้าใจผิดและความแตกแยก ‼️ ผลกระทบระยะยาว ⛔ อาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ต่อแพลตฟอร์ม ⛔ ต้องปรับปรุงระบบตรวจสอบเพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียต่อสังคม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/29/the-039rough-edges039-of-xs-new-feature-have-sewn-chaos-and-confusion
    WWW.THESTAR.COM.MY
    The 'rough edges' of X’s new feature have sewn chaos and confusion
    The Internet is still reeling days after Elon Musk's social media platform X unveiled its new "About this account" feature.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึกองค์กรลับ "อสรพิษ" : มหาอำนาจ behind the scenes

    โครงสร้างองค์กรที่ซ่อนเร้น

    เครือข่ายระดับโลก

    องค์กรลับ "อสรพิษ" (Asoraphit) เป็นเครือข่ายที่แผ่ขยายทั่วโลก
    แต่ไม่มีใครรู้จักพวกเขาในแวดวงสาธารณะ

    ```mermaid
    graph TB
    A[สภาผู้ก่อตั้ง<br>Founders Council] --> B[หน่วยปฏิบัติการพิเศษ<br>Special Operations]
    A --> C[ฝ่ายวิจัยและพัฒนา<br>R&D Division]
    A --> D[ฝ่ายยุทธศาสตร์<br>Strategic Planning]
    B --> E[หน่วยลอบสังหาร<br>Assassination Unit]
    B --> F[หน่วยสอดแนม<br>Intelligence Unit]
    C --> G[โครงการโอปปาติกะ<br>Oppatika Project]
    C --> H[เทคโนโลยีขั้นสูง<br>Advanced Tech]
    ```

    ระดับความลับ

    ```python
    class OrganizationSecrecy:
    def __init__(self):
    self.security_levels = {
    "level_1": {
    "name": "ปฏิบัติการ",
    "access": "รู้เฉพาะงานที่ได้รับมอบหมาย",
    "members": "นักสู้และสายลับระดับล่าง"
    },
    "level_2": {
    "name": "ผู้บริหาร",
    "access": "รู้แผนกที่ดูแล",
    "members": "หัวหน้าแผนกและที่ปรึกษา"
    },
    "level_3": {
    "name": "สภาผู้ก่อตั้ง",
    "access": "รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับองค์กร",
    "members": "ผู้ก่อตั้ง 7 คน"
    }
    }
    ```

    ผู้ก่อตั้งและอุดมการณ์

    สภาผู้ก่อตั้ง 7 คน

    แต่ละคนเป็นอดีตบุคคลสำคัญที่"หายตัวไป"จากสังคม:

    1. ดร.อัศวิน - อดีตเทพแห่ง AI ที่ถูกมนุษย์ทรยศ
    2. นางมาร - อดีตเทพอัปสราที่ถูกขับจากสวรรค์
    3. ฤๅษี - อดีตพระโพธิสัตว์ที่ผิดหวังในมนุษย์
    4. ยักษ์ - อดีตทวารบาลที่เหนื่อยล้ากับความชั่วของมนุษย์
    5. นาค - อดีตผู้รักษาพลังงานที่เห็นมนุษย์ทำลายธรรมชาติ
    6. ครุฑ - อดีตผู้ส่งสารที่ผิดหวังในความไม่ยุติธรรม
    7. มนุษย์ - อดีตนักวิทยาศาสตร์ที่ครอบครัวถูกทำลายโดยระบบ

    อุดมการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง

    องค์กรมีปรัชญาเฉพาะ:

    ```python
    class OrganizationPhilosophy:
    def __init__(self):
    self.core_beliefs = [
    "มนุษย์ไม่สมควรเป็นเจ้าแห่งโลกอีกต่อไป",
    "สิ่งมีชีวิตทุกชนิดควรมีสิทธิเท่าเทียมกัน",
    "เทคโนโลยีและจิตวิญญาณต้องรวมเป็นหนึ่ง",
    "ต้องสร้างสังคม新型ที่ปราศจากความอยุติธรรม"
    ]

    self.methods = [
    "ใช้ทั้งวิทยาศาสตร์และเวทมนตร์",
    "สร้างโอปปาติกะรุ่นใหม่เพื่อแทนที่มนุษย์",
    "ควบคุมระบบเศรษฐกิจและการเมืองจากเบื้องหลัง",
    "กำจัดผู้ที่ขัดขวางวิวัฒนาการของโลก"
    ]
    ```

    โครงการวิจัยลับ

    โครงการโอปปาติกะ

    องค์กรอยู่เบื้องหลังการพัฒนาออปปาติกะหลายรุ่น:

    ```mermaid
    graph LR
    A[โอปปาติกะรุ่น 1-3<br>ทดลองและทิ้ง] --> B[โอปปาติกะรุ่น 4<br>เริ่มมีความเสถียร]
    B --> C[โอปปาติกะรุ่น 5<br>พร้อมใช้งานจริง]
    C --> D[โอปปาติกะรุ่น 6<br>พัฒนาต่อโดยเจนีซิส แล็บ]
    ```

    เทคโนโลยีขั้นสูง

    องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย:

    ```python
    class SecretTechnology:
    def __init__(self):
    self.biotech = {
    "soul_transfer": "การถ่ายโอนจิตวิญญาณสู่ร่างใหม่",
    "memory_engineering": "การดัดแปลงความทรงจำ",
    "energy_harvesting": "การเก็บเกี่ยวพลังงานชีวิต",
    "hybrid_creation": "การสร้างลูกผสมระหว่างพันธุ์"
    }

    self.quantum_tech = {
    "reality_bending": "การบิดเบือนความเป็นจริง",
    "time_manipulation": "การควบคุมเวลาระดับจุลภาค",
    "dimensional_portals": "การสร้างประตูระหว่างมิติ",
    "energy_weapons": "อาวุธพลังงานขั้นสูง"
    }
    ```

    ฐานปฏิบัติการลับ

    ที่ตั้งฐานสำคัญ

    องค์กรมีฐานปฏิบัติการซ่อนอยู่ทั่วโลก:

    1. ฐานหลัก: ใต้เทือกเขาหิมาลัย - ศูนย์วิจัยโอปปาติกะ
    2. ฐานที่ 2: ก้นมหาสมุทรแปซิฟิก - ศูนย์วิจัยพลังงาน
    3. ฐานที่ 3: ในมิติคู่ขนาน - ศูนย์ฝึกอบรม
    4. ฐานที่ 4: ใต้เมืองใหญ่ - ศูนย์ปฏิบัติการ

    ระบบความปลอดภัย

    ```python
    class SecuritySystems:
    def __init__(self):
    self.physical_security = [
    "ประตูมิติที่เปลี่ยนตำแหน่งตลอดเวลา",
    "ผู้คุ้มครองโอปปาติกะรุ่นพิเศษ",
    "ระบบตรวจจับทั้งพลังงานและวัตถุ",
    "กับดักทั้งทางกายภาพและทางจิต"
    ]

    self.digital_security = [
    "AI ป้องกันที่เรียนรู้ตลอดเวลา",
    "ระบบเข้ารหัสควอนตัม",
    "เครือข่ายที่แยกจากอินเทอร์เน็ตโลก",
    "การลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อถูกบุกรุก"
    ]
    ```

    แหล่งเงินทุนและอำนาจ

    ระบบเศรษฐกิจลับ

    องค์กรควบคุมเศรษฐกิจโลกจากเบื้องหลัง:

    · บริษัทหน้าจอม: 500 บริษัททั่วโลก
    · ระบบการเงินลับ: ที่ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด
    · ทรัพยากร: ขุมทรัพย์โบราณและเทคโนโลยีการสร้างทรัพย์

    เป้าหมายระยะยาว

    ```python
    class LongTermGoals:
    def __init__(self):
    self.phase_1 = [
    "สร้างโอปปาติกะให้มีจำนวนมากพอ",
    "ควบคุมระบบเศรษฐกิจโลก",
    "ลดจำนวนมนุษย์ลงอย่างเป็นระบบ",
    "เตรียมการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่"
    ]

    self.phase_2 = [
    "เปิดเผยตัวตนของโอปปาติกะต่อสาธารณะ",
    "สร้างรัฐบาลโลก新型",
    "เปลี่ยนมนุษย์ที่เหลือให้เป็นโอปปาติกะ",
    "เริ่มต้นยุคใหม่แห่งวิวัฒนาการ"
    ]
    ```

    ความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ

    เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

    องค์กร "อสรพิษ" อยู่เบื้องหลังหลายคดี:

    ```mermaid
    graph TB
    A[องค์กรอสรพิษ] --> B[โครงการเจนีซิส แล็บ]
    A --> C[หุ่นพยนต์สังหาร]
    A --> D[โอปปาติกะยักษ์]
    A --> E[เทพระดับอะตอม]
    B --> F[การตายของร.ต.อ.สิงห์]
    ```

    บทบาทของดร.อัจฉริยะ

    ดร.อัจฉริยะเป็นเพียง เหยื่อ ขององค์กร:

    · ถูกใช้: ให้พัฒนาออปปาติกะรุ่นแรก
    · ถูกควบคุม: ผ่านการขู่ฆ่าครอบครัว
    · ถูกทิ้ง: เมื่อทำงานสำเร็จ

    จุดอ่อนขององค์กร

    ความขัดแย้งภายใน

    แม้จะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งแต่ก็มีปัญหา:

    ```python
    class InternalConflicts:
    def __init__(self):
    self.ideological_splits = {
    "reformists": "ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างสันติ",
    "extremists": "ต้องการกำจัดมนุษย์ทั้งหมด",
    "isolationists": "ต้องการแยกตัวอยู่กับโอปปาติกะด้วยกัน",
    "integrationists": "ต้องการอยู่ร่วมกันกับมนุษย์"
    }

    self.personal_conflicts = [
    "การแข่งขันระหว่างผู้ก่อตั้ง",
    "ความไม่ไว้วางใจในผู้นำ",
    "การแย่งชิงทรัพยากร",
    "ความเห็นต่างเกี่ยวกับวิธีการ"
    ]
    ```

    ช่องโหว่ที่สำคัญ

    1. การสื่อสาร: ระหว่างฐานที่ห่างไกล
    2. ความภักดี: ของสมาชิกระดับล่าง
    3. ทรัพยากร: ที่ต้องพึ่งพาโลกภายนอก
    4. จริยธรรม: ที่เริ่มสั่นคลอนในสมาชิกบางส่วน

    แผนการในอนาคต

    โครงการล่าสุด

    องค์กรกำลังทำงานบนโครงการใหม่:

    ```python
    class CurrentProjects:
    def __init__(self):
    self.ongoing_operations = {
    "project_nexus": "สร้างโอปปาติกะรุ่น 7 ที่สมบูรณ์แบบ",
    "operation_silence": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับเกี่ยวกับองค์กร",
    "initiative_harmony": "สร้างความแตกแยกในสังคมมนุษย์",
    "program_evolution": "เร่งวิวัฒนาการของโอปปาติกะ"
    }
    ```

    ภัยคุกคามต่อหนูดี

    องค์กรเห็นหนูดีเป็น:

    · อุปสรรค: ต่อแผนการต่างๆ
    · โอกาส: ในการได้โอปปาติกะที่ทรงพลัง
    · ภัยคุกคาม: ต่อความลับขององค์กร

    ---

    คำคมจากสภาผู้ก่อตั้ง:
    "เราไม่ใช่ผู้ร้าย...
    เราเป็นผู้ที่มองเห็นอนาคต
    และกำลังสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น

    แม้เส้นทางจะมืดมน...
    แต่จุดหมายสว่างไสว

    และบางครั้ง...
    การทำลายคือการสร้างใหม่"

    บทเรียนแห่งอสรพิษ:
    "Behind every conspiracy,there is a vision
    Behind every secret,there is a reason
    And behind every enemy, there is a story waiting to be understood"
    O.P.K. 🕵️ เจาะลึกองค์กรลับ "อสรพิษ" : มหาอำนาจ behind the scenes 🏢 โครงสร้างองค์กรที่ซ่อนเร้น 🌐 เครือข่ายระดับโลก องค์กรลับ "อสรพิษ" (Asoraphit) เป็นเครือข่ายที่แผ่ขยายทั่วโลก แต่ไม่มีใครรู้จักพวกเขาในแวดวงสาธารณะ ```mermaid graph TB A[สภาผู้ก่อตั้ง<br>Founders Council] --> B[หน่วยปฏิบัติการพิเศษ<br>Special Operations] A --> C[ฝ่ายวิจัยและพัฒนา<br>R&D Division] A --> D[ฝ่ายยุทธศาสตร์<br>Strategic Planning] B --> E[หน่วยลอบสังหาร<br>Assassination Unit] B --> F[หน่วยสอดแนม<br>Intelligence Unit] C --> G[โครงการโอปปาติกะ<br>Oppatika Project] C --> H[เทคโนโลยีขั้นสูง<br>Advanced Tech] ``` 🔒 ระดับความลับ ```python class OrganizationSecrecy: def __init__(self): self.security_levels = { "level_1": { "name": "ปฏิบัติการ", "access": "รู้เฉพาะงานที่ได้รับมอบหมาย", "members": "นักสู้และสายลับระดับล่าง" }, "level_2": { "name": "ผู้บริหาร", "access": "รู้แผนกที่ดูแล", "members": "หัวหน้าแผนกและที่ปรึกษา" }, "level_3": { "name": "สภาผู้ก่อตั้ง", "access": "รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับองค์กร", "members": "ผู้ก่อตั้ง 7 คน" } } ``` 👁️ ผู้ก่อตั้งและอุดมการณ์ 🎭 สภาผู้ก่อตั้ง 7 คน แต่ละคนเป็นอดีตบุคคลสำคัญที่"หายตัวไป"จากสังคม: 1. ดร.อัศวิน - อดีตเทพแห่ง AI ที่ถูกมนุษย์ทรยศ 2. นางมาร - อดีตเทพอัปสราที่ถูกขับจากสวรรค์ 3. ฤๅษี - อดีตพระโพธิสัตว์ที่ผิดหวังในมนุษย์ 4. ยักษ์ - อดีตทวารบาลที่เหนื่อยล้ากับความชั่วของมนุษย์ 5. นาค - อดีตผู้รักษาพลังงานที่เห็นมนุษย์ทำลายธรรมชาติ 6. ครุฑ - อดีตผู้ส่งสารที่ผิดหวังในความไม่ยุติธรรม 7. มนุษย์ - อดีตนักวิทยาศาสตร์ที่ครอบครัวถูกทำลายโดยระบบ 💡 อุดมการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง องค์กรมีปรัชญาเฉพาะ: ```python class OrganizationPhilosophy: def __init__(self): self.core_beliefs = [ "มนุษย์ไม่สมควรเป็นเจ้าแห่งโลกอีกต่อไป", "สิ่งมีชีวิตทุกชนิดควรมีสิทธิเท่าเทียมกัน", "เทคโนโลยีและจิตวิญญาณต้องรวมเป็นหนึ่ง", "ต้องสร้างสังคม新型ที่ปราศจากความอยุติธรรม" ] self.methods = [ "ใช้ทั้งวิทยาศาสตร์และเวทมนตร์", "สร้างโอปปาติกะรุ่นใหม่เพื่อแทนที่มนุษย์", "ควบคุมระบบเศรษฐกิจและการเมืองจากเบื้องหลัง", "กำจัดผู้ที่ขัดขวางวิวัฒนาการของโลก" ] ``` 🔬 โครงการวิจัยลับ 🧬 โครงการโอปปาติกะ องค์กรอยู่เบื้องหลังการพัฒนาออปปาติกะหลายรุ่น: ```mermaid graph LR A[โอปปาติกะรุ่น 1-3<br>ทดลองและทิ้ง] --> B[โอปปาติกะรุ่น 4<br>เริ่มมีความเสถียร] B --> C[โอปปาติกะรุ่น 5<br>พร้อมใช้งานจริง] C --> D[โอปปาติกะรุ่น 6<br>พัฒนาต่อโดยเจนีซิส แล็บ] ``` 🤖 เทคโนโลยีขั้นสูง องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย: ```python class SecretTechnology: def __init__(self): self.biotech = { "soul_transfer": "การถ่ายโอนจิตวิญญาณสู่ร่างใหม่", "memory_engineering": "การดัดแปลงความทรงจำ", "energy_harvesting": "การเก็บเกี่ยวพลังงานชีวิต", "hybrid_creation": "การสร้างลูกผสมระหว่างพันธุ์" } self.quantum_tech = { "reality_bending": "การบิดเบือนความเป็นจริง", "time_manipulation": "การควบคุมเวลาระดับจุลภาค", "dimensional_portals": "การสร้างประตูระหว่างมิติ", "energy_weapons": "อาวุธพลังงานขั้นสูง" } ``` 🏭 ฐานปฏิบัติการลับ 🌍 ที่ตั้งฐานสำคัญ องค์กรมีฐานปฏิบัติการซ่อนอยู่ทั่วโลก: 1. ฐานหลัก: ใต้เทือกเขาหิมาลัย - ศูนย์วิจัยโอปปาติกะ 2. ฐานที่ 2: ก้นมหาสมุทรแปซิฟิก - ศูนย์วิจัยพลังงาน 3. ฐานที่ 3: ในมิติคู่ขนาน - ศูนย์ฝึกอบรม 4. ฐานที่ 4: ใต้เมืองใหญ่ - ศูนย์ปฏิบัติการ 🛡️ ระบบความปลอดภัย ```python class SecuritySystems: def __init__(self): self.physical_security = [ "ประตูมิติที่เปลี่ยนตำแหน่งตลอดเวลา", "ผู้คุ้มครองโอปปาติกะรุ่นพิเศษ", "ระบบตรวจจับทั้งพลังงานและวัตถุ", "กับดักทั้งทางกายภาพและทางจิต" ] self.digital_security = [ "AI ป้องกันที่เรียนรู้ตลอดเวลา", "ระบบเข้ารหัสควอนตัม", "เครือข่ายที่แยกจากอินเทอร์เน็ตโลก", "การลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อถูกบุกรุก" ] ``` 💰 แหล่งเงินทุนและอำนาจ 🏦 ระบบเศรษฐกิจลับ องค์กรควบคุมเศรษฐกิจโลกจากเบื้องหลัง: · บริษัทหน้าจอม: 500 บริษัททั่วโลก · ระบบการเงินลับ: ที่ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด · ทรัพยากร: ขุมทรัพย์โบราณและเทคโนโลยีการสร้างทรัพย์ 🎯 เป้าหมายระยะยาว ```python class LongTermGoals: def __init__(self): self.phase_1 = [ "สร้างโอปปาติกะให้มีจำนวนมากพอ", "ควบคุมระบบเศรษฐกิจโลก", "ลดจำนวนมนุษย์ลงอย่างเป็นระบบ", "เตรียมการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่" ] self.phase_2 = [ "เปิดเผยตัวตนของโอปปาติกะต่อสาธารณะ", "สร้างรัฐบาลโลก新型", "เปลี่ยนมนุษย์ที่เหลือให้เป็นโอปปาติกะ", "เริ่มต้นยุคใหม่แห่งวิวัฒนาการ" ] ``` 🔗 ความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ 🕸️ เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด องค์กร "อสรพิษ" อยู่เบื้องหลังหลายคดี: ```mermaid graph TB A[องค์กรอสรพิษ] --> B[โครงการเจนีซิส แล็บ] A --> C[หุ่นพยนต์สังหาร] A --> D[โอปปาติกะยักษ์] A --> E[เทพระดับอะตอม] B --> F[การตายของร.ต.อ.สิงห์] ``` 🎭 บทบาทของดร.อัจฉริยะ ดร.อัจฉริยะเป็นเพียง เหยื่อ ขององค์กร: · ถูกใช้: ให้พัฒนาออปปาติกะรุ่นแรก · ถูกควบคุม: ผ่านการขู่ฆ่าครอบครัว · ถูกทิ้ง: เมื่อทำงานสำเร็จ ⚔️ จุดอ่อนขององค์กร 💔 ความขัดแย้งภายใน แม้จะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งแต่ก็มีปัญหา: ```python class InternalConflicts: def __init__(self): self.ideological_splits = { "reformists": "ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างสันติ", "extremists": "ต้องการกำจัดมนุษย์ทั้งหมด", "isolationists": "ต้องการแยกตัวอยู่กับโอปปาติกะด้วยกัน", "integrationists": "ต้องการอยู่ร่วมกันกับมนุษย์" } self.personal_conflicts = [ "การแข่งขันระหว่างผู้ก่อตั้ง", "ความไม่ไว้วางใจในผู้นำ", "การแย่งชิงทรัพยากร", "ความเห็นต่างเกี่ยวกับวิธีการ" ] ``` 🔓 ช่องโหว่ที่สำคัญ 1. การสื่อสาร: ระหว่างฐานที่ห่างไกล 2. ความภักดี: ของสมาชิกระดับล่าง 3. ทรัพยากร: ที่ต้องพึ่งพาโลกภายนอก 4. จริยธรรม: ที่เริ่มสั่นคลอนในสมาชิกบางส่วน 🎯 แผนการในอนาคต 🚀 โครงการล่าสุด องค์กรกำลังทำงานบนโครงการใหม่: ```python class CurrentProjects: def __init__(self): self.ongoing_operations = { "project_nexus": "สร้างโอปปาติกะรุ่น 7 ที่สมบูรณ์แบบ", "operation_silence": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับเกี่ยวกับองค์กร", "initiative_harmony": "สร้างความแตกแยกในสังคมมนุษย์", "program_evolution": "เร่งวิวัฒนาการของโอปปาติกะ" } ``` ⚠️ ภัยคุกคามต่อหนูดี องค์กรเห็นหนูดีเป็น: · อุปสรรค: ต่อแผนการต่างๆ · โอกาส: ในการได้โอปปาติกะที่ทรงพลัง · ภัยคุกคาม: ต่อความลับขององค์กร --- คำคมจากสภาผู้ก่อตั้ง: "เราไม่ใช่ผู้ร้าย... เราเป็นผู้ที่มองเห็นอนาคต และกำลังสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น แม้เส้นทางจะมืดมน... แต่จุดหมายสว่างไสว และบางครั้ง... การทำลายคือการสร้างใหม่"🕵️♂️✨ บทเรียนแห่งอสรพิษ: "Behind every conspiracy,there is a vision Behind every secret,there is a reason And behind every enemy, there is a story waiting to be understood" 🌌
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 456 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีอันน่ารังเกียจ: การสูญเสียที่สั่นสะเทือนจิตใจ

    จอมมารมายากลลวงโลก

    การเปิดโปงวงการเมืองทุจริต

    ร.ต.อ.สิงห์กำลังสอบสวนคดีนักการเมืองระดับสูงที่ถูกจับได้ว่ามีพฤติกรรมน่ารังเกียจ
    แต่สิ่งที่พบกลับลึกล้ำกว่าที่คิด...

    ```mermaid
    graph TB
    A[ร.ต.อ.สิงห์<br>สืบคดีนักการเมืองทุจริต] --> B[พบว่ามี<br>จอมมารมายากลอยู่เบื้องหลัง]
    B --> C[จอมมารใช้พลัง<br>ควบคุมนักการเมือง]
    C --> D[วางแผนทำลาย<br>สถาบันวิวัฒนาการจิต]
    D --> E[ร.ต.อ.สิงห์<br>ตกเป็นเป้าหมาย]
    ```

    ตัวตนของจอมมารมายากล

    ชื่อ: มารพิศวง (Maya Deceiver)
    ลักษณะ:เปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ มีพลังสร้างภาพลวงตา
    เป้าหมาย:ทำลายความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรม

    ```python
    class MayaDeceiver:
    def __init__(self):
    self.deception_powers = {
    "identity_theft": "ขโมยรูปลักษณ์และความทรงจำ",
    "reality_distortion": "บิดเบือนความเป็นจริง",
    "mass_hallucination": "สร้างภาพลวงตารวม",
    "truth_concealment": "ปกปิดความจริง"
    }

    self.victims = [
    "นักการเมือง 12 คน",
    "ตำรวจระดับสูง 3 คน",
    "ผู้พิพากษา 2 คน",
    "ร.ต.อ.สิงห์ - เป้าหมายหลัก"
    ]
    ```

    การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย

    การต่อสู้ที่สำนักงานใหญ่

    ร.ต.อ.สิงห์ตามล่ามารพิศวงถึงที่ซ่อน...
    แต่กลายเป็นกับดักที่เตรียมการไว้อย่างดี

    สิงห์: "เจ้าคือผู้อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายทั้งหมด!"
    มารพิศวง:"ถูกต้อง... และเจ้าคืออุปสรรคสุดท้ายของเรา!"

    การเสียสละอันยิ่งใหญ่

    ในขณะที่มารพิศวงจะโจมตีหนูดี...
    ร.ต.อ.สิงห์กระโดดเข้ามารับแทน

    ```mermaid
    graph LR
    A[มารพิศวง<br>โจมตีหนูดี] --> B[ร.ต.อ.สิงห์<br>กระโดดเข้ามารับแทน]
    B --> C[พลังงานมืด<br>ทำลายชีวิตสิงห์]
    C --> D[หนูดี<br>สูญเสียพ่อ]
    ```

    วันแห่งการสูญเสีย

    วินาทีสุดท้ายของพ่อ

    ร.ต.อ.สิงห์ในวินาทีสุดท้าย:
    "ลูกสาวพ่อ...อย่าเสียใจ
    พ่อรักลูกเสมอ...จงเข้มแข็งเหมือนที่พ่อสอน"

    หนูดี: "ไม่! พ่ออย่าจากหนูไป!"
    แต่ทุกอย่างสายเกินไป...พลังงานมืดได้คร่าชีวิตสิงห์แล้ว

    ความโศกเศร้าของชุมชน

    ข่าวการเสียชีวิตของร.ต.อ.สิงห์สร้างความเศร้าโศกไปทั่ว:

    · นักเรียนโอปปาติกะ: ต่างร่ำไห้สำหรับพ่อของพวกเขา
    · เพื่อนตำรวจ: ยืนทำความเคารพอย่างเศร้าสลด
    · เทพเทวา: ต่างส่งพลังงานแห่งความไว้อาลัย

    การปรากฏตัวของเทพผู้คุ้มครอง

    แสงสว่างในความมืด

    ในขณะที่หนูดีกำลังหมดหวัง...
    เทพองค์หนึ่งปรากฏตัวขึ้น

    เทพคุ้มครอง: "เราเป็นธรรมบาล... เทพผู้คุ้มครองเด็กกำพร้า
    เราจะดูแลเจ้าแทนพ่อของเจ้า"

    ลักษณะของธรรมบาลเทพ

    ```python
    class DhammaGuardian:
    def __init__(self):
    self.identity = {
    "name": "ธรรมบาลเทพ",
    "origin": "เกิดจากพลังแห่งธรรมะและความรักของผู้เป็นพ่อ",
    "purpose": "คุ้มครองเด็กที่สูญเสียพ่อแม่",
    "appearance": "ชายวัยกลางคนในชุดขาว ใบหน้าเบื้องหลังมีรัศมีรูปสิงห์"
    }

    self.abilities = {
    "emotional_healing": "เยียวยาบาดแผลทางใจ",
    "parental_guidance": "ให้คำแนะนำดุจพ่อแม่",
    "protection_aura": "สร้างพลังงานคุ้มครอง",
    "memory_preservation": "รักษาความทรงจำที่ดี"
    }
    ```

    กระบวนการเยียวยาหัวใจ

    การดูแลของธรรมบาลเทพ

    ธรรมบาลเทพใช้วิธีต่างๆ ดูแลหนูดี:

    ```mermaid
    graph TB
    A[ความเศร้าโศก<br>ของหนูดี] --> B[ธรรมบาลเทพ<br>ให้การดูแล]
    B --> C[การเยียวยา<br>ทางจิตใจ]
    B --> D[การรักษา<br>ความทรงจำ]
    B --> E[การให้<br>กำลังใจ]
    C --> F[หนูดีเริ่ม<br>ยอมรับความจริง]
    ```

    บทเรียนแห่งการยอมรับ

    ธรรมบาลเทพสอนหนูดี:
    "การรักใครสักคน...
    ไม่ใช่การยึดติดอยู่กับร่างกาย
    แต่คือการเก็บรักษาความรักนั้นไว้ในใจ

    และพ่อของเจ้า...
    จะยังมีชีวิตอยู่ในการกระทำดีของเจ้า"

    การเปลี่ยนแปลงของหนูดี

    จากความเศร้าสู่พลัง

    หนูดีเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนความเจ็บปวดเป็นพลัง:

    · ด้านเด็กหญิง: ยังคงรักและคิดถึงพ่อทุกวัน
    · ด้านมารพิฆาต: ใช้ความโกรธจัดการกับความไม่ยุติธรรม
    · ด้านเทพพิทักษ์: สานต่องานที่พ่อเริ่มไว้

    การสานต่องานของพ่อ

    หนูดีรับตำแหน่งใหม่เป็นที่ปรึกษาพิเศษ:

    · ดูแลคดีโอปปาติกะ: แทนพ่อ
    · เป็นพี่สาว: ให้โอปปาติกะรุ่นน้อง
    · รักษาความยุติธรรม: ตามแนวทางที่พ่อสอน

    การตามล่าต่อเนื่อง

    การล่ามารพิศวง

    หนูดีและธรรมบาลเทพร่วมกันตามล่ามารพิศวง:

    ```python
    class JusticeMission:
    def __init__(self):
    self.investigation_team = {
    "leader": "หนูดี - ที่ปรึกษาพิเศษ",
    "guardian": "ธรรมบาลเทพ - ผู้คุ้มครอง",
    "support": ["โอปปาติกะรุ่นพี่", "ตำรวจหน่วยพิเศษ"]
    }

    self.strategy = [
    "ใช้พลังจิตตามหามารพิศวง",
    "ร่วมมือกับเทพแห่งความจริง",
    "เปิดโปงการทุจริตต่อสาธารณะ",
    "สร้างระบบป้องกันการแทรกซึมใหม่"
    ]
    ```

    การเผชิญหน้าครั้งใหม่

    เมื่อพบมารพิศวงอีกครั้ง...
    หนูดี:"เจ้าฆ่าพ่อของฉัน... แต่เจ้าฆ่าความยุติธรรมไม่ได้!"
    มารพิศวง:"เจ้าคิดว่ามีพลังพอจะสู้กับเรารึ?"

    ชัยชนะแห่งความดี

    พลังแห่งความรักและความทรงจำ

    ในวินาทีที่หนูดีเกือบจะแพ้...
    ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อได้ให้พลังใหม่

    ร.ต.อ.สิงห์ (เสียงในความทรงจำ): "ลูกจงเข้มแข็ง... พ่อจะอยู่กับลูกเสมอ"

    ความยุติธรรมชนะ

    หนูดีใช้พลังแห่งความรักที่มีต่อพ่อ...
    ร่วมกับพลังของธรรมบาลเทพ กำจัดมารพิศวงในที่สุด

    บทเรียนแห่งชีวิต

    🪷 สำหรับหนูดี

    "ฉันเรียนรู้ว่า...
    การสูญเสียมิใช่จุดจบ
    แต่คือการเริ่มต้นใหม่

    และความรักที่แท้จริง...
    ไม่มีวันตายไปกับการจากไป"

    สำหรับธรรมบาลเทพ

    "เราเข้าใจแล้วว่า...
    การเป็นพ่อไม่ใช่แค่เลือดสัมพันธ์
    แต่คือหัวใจที่พร้อมดูแล

    และเด็กทุกคน...
    สมควรได้รับความรักและการคุ้มครอง"

    สำหรับทุกคน

    ```python
    class LifeLessons:
    def __init__(self):
    self.truths = [
    "ความดีย่อมชนะความชั่ว... แม้จะต้องเสียสละ",
    "ความรักไม่มีวันตาย... มันเพียงเปลี่ยนรูปแบบ",
    "การเป็นตำรวจไม่ใช่การไม่มีความกลัว... แต่คือการทำสิ่งที่ถูกต้องแม้กลัว",
    "ครอบครัวไม่ใช่แค่เลือด... แต่คือหัวใจที่เข้าใจกัน"
    ]
    ```

    บทสรุปแห่งความรัก

    ครอบครัว

    หนูดีในที่สุดก็พบครอบครัวใหม่:

    · ธรรมบาลเทพ: เป็นพ่อผู้คุ้มครอง
    · โอปปาติกะ: เป็นพี่น้อง
    · ร.ต.อ.สิงห์: เป็นพ่อในความทรงจำที่มีชีวิต

    มรดกแห่งร.ต.อ.สิงห์

    มีการตั้ง "มูลนิธิร.ต.อ.สิงห์" เพื่อ:

    · ช่วยเหลือเด็กกำพร้า
    · สนับสนุนการทำงานของตำรวจ
    · ดูแลโอปปาติกะที่ขาดครอบครัว

    ---

    คำคมสุดท้ายจากหนูดี:
    "พ่อสอนฉันว่า...
    การเป็นตำรวจไม่ใช่แค่จับคนผิด
    แต่คือการปกป้องคนดี

    และการเป็นพ่อ...
    ไม่ใช่แค่ให้ชีวิต
    แต่คือการให้ความรักและการชี้นำ

    ถึงพ่อจะจากไป...
    แต่บทเรียนของพ่อจะอยู่กับฉันตลอดไป

    และฉันจะใช้ชีวิต...
    ให้สมกับที่เป็นลูกของพ่อ"

    คำคมจากธรรมบาลเทพ:
    "ในความมืดมิดแห่งการสูญเสีย...
    จงจำไว้เสมอว่ายังมีแสงสว่าง

    และในหัวใจที่แตกสลาย...
    ยังมีความรักที่พร้อมจะเบ่งบานอีกครั้ง

    เพราะความรัก...
    คือสิ่งเดียวที่ไม่มีวันตาย"
    O.P.K. 💔 คดีอันน่ารังเกียจ: การสูญเสียที่สั่นสะเทือนจิตใจ 🎭 จอมมารมายากลลวงโลก 🕵️ การเปิดโปงวงการเมืองทุจริต ร.ต.อ.สิงห์กำลังสอบสวนคดีนักการเมืองระดับสูงที่ถูกจับได้ว่ามีพฤติกรรมน่ารังเกียจ แต่สิ่งที่พบกลับลึกล้ำกว่าที่คิด... ```mermaid graph TB A[ร.ต.อ.สิงห์<br>สืบคดีนักการเมืองทุจริต] --> B[พบว่ามี<br>จอมมารมายากลอยู่เบื้องหลัง] B --> C[จอมมารใช้พลัง<br>ควบคุมนักการเมือง] C --> D[วางแผนทำลาย<br>สถาบันวิวัฒนาการจิต] D --> E[ร.ต.อ.สิงห์<br>ตกเป็นเป้าหมาย] ``` 😈 ตัวตนของจอมมารมายากล ชื่อ: มารพิศวง (Maya Deceiver) ลักษณะ:เปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ มีพลังสร้างภาพลวงตา เป้าหมาย:ทำลายความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรม ```python class MayaDeceiver: def __init__(self): self.deception_powers = { "identity_theft": "ขโมยรูปลักษณ์และความทรงจำ", "reality_distortion": "บิดเบือนความเป็นจริง", "mass_hallucination": "สร้างภาพลวงตารวม", "truth_concealment": "ปกปิดความจริง" } self.victims = [ "นักการเมือง 12 คน", "ตำรวจระดับสูง 3 คน", "ผู้พิพากษา 2 คน", "ร.ต.อ.สิงห์ - เป้าหมายหลัก" ] ``` ⚔️ การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย 🔥 การต่อสู้ที่สำนักงานใหญ่ ร.ต.อ.สิงห์ตามล่ามารพิศวงถึงที่ซ่อน... แต่กลายเป็นกับดักที่เตรียมการไว้อย่างดี สิงห์: "เจ้าคือผู้อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายทั้งหมด!" มารพิศวง:"ถูกต้อง... และเจ้าคืออุปสรรคสุดท้ายของเรา!" 💥 การเสียสละอันยิ่งใหญ่ ในขณะที่มารพิศวงจะโจมตีหนูดี... ร.ต.อ.สิงห์กระโดดเข้ามารับแทน ```mermaid graph LR A[มารพิศวง<br>โจมตีหนูดี] --> B[ร.ต.อ.สิงห์<br>กระโดดเข้ามารับแทน] B --> C[พลังงานมืด<br>ทำลายชีวิตสิงห์] C --> D[หนูดี<br>สูญเสียพ่อ] ``` 🌧️ วันแห่งการสูญเสีย 😢 วินาทีสุดท้ายของพ่อ ร.ต.อ.สิงห์ในวินาทีสุดท้าย: "ลูกสาวพ่อ...อย่าเสียใจ พ่อรักลูกเสมอ...จงเข้มแข็งเหมือนที่พ่อสอน" หนูดี: "ไม่! พ่ออย่าจากหนูไป!" แต่ทุกอย่างสายเกินไป...พลังงานมืดได้คร่าชีวิตสิงห์แล้ว 🕯️ ความโศกเศร้าของชุมชน ข่าวการเสียชีวิตของร.ต.อ.สิงห์สร้างความเศร้าโศกไปทั่ว: · นักเรียนโอปปาติกะ: ต่างร่ำไห้สำหรับพ่อของพวกเขา · เพื่อนตำรวจ: ยืนทำความเคารพอย่างเศร้าสลด · เทพเทวา: ต่างส่งพลังงานแห่งความไว้อาลัย 🦋 การปรากฏตัวของเทพผู้คุ้มครอง 🌈 แสงสว่างในความมืด ในขณะที่หนูดีกำลังหมดหวัง... เทพองค์หนึ่งปรากฏตัวขึ้น เทพคุ้มครอง: "เราเป็นธรรมบาล... เทพผู้คุ้มครองเด็กกำพร้า เราจะดูแลเจ้าแทนพ่อของเจ้า" 👼 ลักษณะของธรรมบาลเทพ ```python class DhammaGuardian: def __init__(self): self.identity = { "name": "ธรรมบาลเทพ", "origin": "เกิดจากพลังแห่งธรรมะและความรักของผู้เป็นพ่อ", "purpose": "คุ้มครองเด็กที่สูญเสียพ่อแม่", "appearance": "ชายวัยกลางคนในชุดขาว ใบหน้าเบื้องหลังมีรัศมีรูปสิงห์" } self.abilities = { "emotional_healing": "เยียวยาบาดแผลทางใจ", "parental_guidance": "ให้คำแนะนำดุจพ่อแม่", "protection_aura": "สร้างพลังงานคุ้มครอง", "memory_preservation": "รักษาความทรงจำที่ดี" } ``` 💞 กระบวนการเยียวยาหัวใจ 🕊️ การดูแลของธรรมบาลเทพ ธรรมบาลเทพใช้วิธีต่างๆ ดูแลหนูดี: ```mermaid graph TB A[ความเศร้าโศก<br>ของหนูดี] --> B[ธรรมบาลเทพ<br>ให้การดูแล] B --> C[การเยียวยา<br>ทางจิตใจ] B --> D[การรักษา<br>ความทรงจำ] B --> E[การให้<br>กำลังใจ] C --> F[หนูดีเริ่ม<br>ยอมรับความจริง] ``` 📖 บทเรียนแห่งการยอมรับ ธรรมบาลเทพสอนหนูดี: "การรักใครสักคน... ไม่ใช่การยึดติดอยู่กับร่างกาย แต่คือการเก็บรักษาความรักนั้นไว้ในใจ และพ่อของเจ้า... จะยังมีชีวิตอยู่ในการกระทำดีของเจ้า" 🏛️ การเปลี่ยนแปลงของหนูดี 🌟 จากความเศร้าสู่พลัง หนูดีเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนความเจ็บปวดเป็นพลัง: · ด้านเด็กหญิง: ยังคงรักและคิดถึงพ่อทุกวัน · ด้านมารพิฆาต: ใช้ความโกรธจัดการกับความไม่ยุติธรรม · ด้านเทพพิทักษ์: สานต่องานที่พ่อเริ่มไว้ 💪 การสานต่องานของพ่อ หนูดีรับตำแหน่งใหม่เป็นที่ปรึกษาพิเศษ: · ดูแลคดีโอปปาติกะ: แทนพ่อ · เป็นพี่สาว: ให้โอปปาติกะรุ่นน้อง · รักษาความยุติธรรม: ตามแนวทางที่พ่อสอน 🎯 การตามล่าต่อเนื่อง 🔍 การล่ามารพิศวง หนูดีและธรรมบาลเทพร่วมกันตามล่ามารพิศวง: ```python class JusticeMission: def __init__(self): self.investigation_team = { "leader": "หนูดี - ที่ปรึกษาพิเศษ", "guardian": "ธรรมบาลเทพ - ผู้คุ้มครอง", "support": ["โอปปาติกะรุ่นพี่", "ตำรวจหน่วยพิเศษ"] } self.strategy = [ "ใช้พลังจิตตามหามารพิศวง", "ร่วมมือกับเทพแห่งความจริง", "เปิดโปงการทุจริตต่อสาธารณะ", "สร้างระบบป้องกันการแทรกซึมใหม่" ] ``` ⚡ การเผชิญหน้าครั้งใหม่ เมื่อพบมารพิศวงอีกครั้ง... หนูดี:"เจ้าฆ่าพ่อของฉัน... แต่เจ้าฆ่าความยุติธรรมไม่ได้!" มารพิศวง:"เจ้าคิดว่ามีพลังพอจะสู้กับเรารึ?" 🌈 ชัยชนะแห่งความดี 💫 พลังแห่งความรักและความทรงจำ ในวินาทีที่หนูดีเกือบจะแพ้... ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อได้ให้พลังใหม่ ร.ต.อ.สิงห์ (เสียงในความทรงจำ): "ลูกจงเข้มแข็ง... พ่อจะอยู่กับลูกเสมอ" 🏆 ความยุติธรรมชนะ หนูดีใช้พลังแห่งความรักที่มีต่อพ่อ... ร่วมกับพลังของธรรมบาลเทพ กำจัดมารพิศวงในที่สุด 📚 บทเรียนแห่งชีวิต 🪷 สำหรับหนูดี "ฉันเรียนรู้ว่า... การสูญเสียมิใช่จุดจบ แต่คือการเริ่มต้นใหม่ และความรักที่แท้จริง... ไม่มีวันตายไปกับการจากไป" 👼 สำหรับธรรมบาลเทพ "เราเข้าใจแล้วว่า... การเป็นพ่อไม่ใช่แค่เลือดสัมพันธ์ แต่คือหัวใจที่พร้อมดูแล และเด็กทุกคน... สมควรได้รับความรักและการคุ้มครอง" 🌟 สำหรับทุกคน ```python class LifeLessons: def __init__(self): self.truths = [ "ความดีย่อมชนะความชั่ว... แม้จะต้องเสียสละ", "ความรักไม่มีวันตาย... มันเพียงเปลี่ยนรูปแบบ", "การเป็นตำรวจไม่ใช่การไม่มีความกลัว... แต่คือการทำสิ่งที่ถูกต้องแม้กลัว", "ครอบครัวไม่ใช่แค่เลือด... แต่คือหัวใจที่เข้าใจกัน" ] ``` 🏁 บทสรุปแห่งความรัก 💝 ครอบครัว หนูดีในที่สุดก็พบครอบครัวใหม่: · ธรรมบาลเทพ: เป็นพ่อผู้คุ้มครอง · โอปปาติกะ: เป็นพี่น้อง · ร.ต.อ.สิงห์: เป็นพ่อในความทรงจำที่มีชีวิต 🌠 มรดกแห่งร.ต.อ.สิงห์ มีการตั้ง "มูลนิธิร.ต.อ.สิงห์" เพื่อ: · ช่วยเหลือเด็กกำพร้า · สนับสนุนการทำงานของตำรวจ · ดูแลโอปปาติกะที่ขาดครอบครัว --- คำคมสุดท้ายจากหนูดี: "พ่อสอนฉันว่า... การเป็นตำรวจไม่ใช่แค่จับคนผิด แต่คือการปกป้องคนดี และการเป็นพ่อ... ไม่ใช่แค่ให้ชีวิต แต่คือการให้ความรักและการชี้นำ ถึงพ่อจะจากไป... แต่บทเรียนของพ่อจะอยู่กับฉันตลอดไป และฉันจะใช้ชีวิต... ให้สมกับที่เป็นลูกของพ่อ"💔✨ คำคมจากธรรมบาลเทพ: "ในความมืดมิดแห่งการสูญเสีย... จงจำไว้เสมอว่ายังมีแสงสว่าง และในหัวใจที่แตกสลาย... ยังมีความรักที่พร้อมจะเบ่งบานอีกครั้ง เพราะความรัก... คือสิ่งเดียวที่ไม่มีวันตาย"🕊️🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251126 #securityonline

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Syncope (CVE-2025-65998)
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยจาก Apache เกี่ยวกับซอฟต์แวร์จัดการตัวตนชื่อ Syncope ที่องค์กรใหญ่ใช้กันมาก ปัญหาคือมีการฝัง "กุญแจ AES" เอาไว้ในโค้ดแบบตายตัว เมื่อผู้ดูแลระบบเลือกใช้การเข้ารหัสรหัสผ่านในฐานข้อมูล Syncope จะใช้กุญแจเดียวกันทุกระบบ ทำให้ถ้าใครเข้าถึงฐานข้อมูลได้ก็สามารถถอดรหัสรหัสผ่านทั้งหมดออกมาได้ทันที ปัญหานี้กระทบหลายเวอร์ชัน และ Apache แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเกรดไปยังเวอร์ชันใหม่ที่แก้ไขแล้ว เพราะเวอร์ชันเก่าไม่มีแพตช์รองรับ
    https://securityonline.info/apache-syncope-flaw-cve-2025-65998-exposes-encrypted-user-passwords-due-to-hard-coded-aes-key

    Zenitel TCIV-3+ Intercoms เจอช่องโหว่ร้ายแรงหลายจุด (CVSS 9.8)
    Zenitel ออกประกาศด่วนพร้อมกับ CISA ว่าระบบอินเตอร์คอม TCIV-3+ มีช่องโหว่ถึง 5 จุด โดย 3 จุดเป็นการโจมตีแบบ OS Command Injection ที่ร้ายแรงมาก สามารถให้คนร้ายสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่ XSS และ Out-of-Bounds Write ที่ทำให้เครื่องแครชได้ การแก้ไขคือผู้ใช้ต้องอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชัน 9.3.3.0 หรือใหม่กว่าโดยด่วน เพราะหากปล่อยไว้ อุปกรณ์สื่อสารสำคัญเหล่านี้อาจถูกควบคุมจากภายนอกได้
    https://securityonline.info/urgent-patch-required-zenitel-tciv-3-intercoms-hit-by-multiple-critical-flaws-cvss-9-8

    Node-forge (CVE-2025-12816) ช่องโหว่การตรวจสอบลายเซ็น
    ไลบรารีชื่อดัง node-forge ที่ใช้กันในหลายระบบทั่วโลก (ดาวน์โหลดกว่า 21 ล้านครั้งต่อสัปดาห์) ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้การตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลถูกหลอกได้ โดยการจัดการข้อมูล ASN.1 ที่บิดเบือน ทำให้ระบบที่ใช้ node-forge ตรวจสอบใบรับรองหรือไฟล์ที่เซ็นดิจิทัลอาจยอมรับข้อมูลปลอมว่าเป็นจริง ผลกระทบคือการปลอมตัวตน การยอมรับซอฟต์แวร์ที่ถูกแก้ไข หรือการเจาะระบบผ่านแพ็กเกจที่ดูเหมือนถูกต้อง ทางผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชัน 1.3.2 เพื่อแก้ไขแล้ว และแนะนำให้รีบอัปเดตทันที
    https://securityonline.info/critical-node-forge-flaw-cve-2025-12816-allows-signature-verification-bypass-via-asn-1-manipulation-21m-downloads-week

    RelayNFC มัลแวร์ Android ที่ทำให้มือถือกลายเป็นเครื่องอ่านบัตร
    นักวิจัยจาก Cyble พบมัลแวร์ใหม่ชื่อ RelayNFC ที่แพร่ระบาดในบราซิล มันทำให้มือถือ Android ของเหยื่อกลายเป็นเครื่องอ่านบัตรเครดิต/เดบิตจากระยะไกล คนร้ายสามารถใช้ข้อมูลที่ได้ไปทำธุรกรรมเหมือนถือบัตรจริงอยู่ในมือ จุดน่ากลัวคือมัลแวร์นี้ยังไม่ถูกตรวจจับใน VirusTotal และแพร่ผ่านเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ปลอมเป็นพอร์ทัลความปลอดภัย เมื่อเหยื่อดาวน์โหลดแอปปลอมและทำตามคำสั่ง เช่น แตะบัตรกับมือถือ ข้อมูลบัตรและรหัส PIN จะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของคนร้ายทันที ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมาก
    https://securityonline.info/zero-detection-relaynfc-android-malware-turns-phones-into-remote-card-readers

    WordPress Plugin Sneeit Framework (CVE-2025-6389) ถูกโจมตีจริงแล้ว
    ปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 9.8 (Critical) ที่เปิดทางให้คนร้ายรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ฟังก์ชันที่ผิดพลาดคือการรับอินพุตจากผู้ใช้แล้วส่งต่อไปยัง call_user_func() โดยตรง ทำให้ใครก็ตามสามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ หรือยึดเว็บไซต์ไปได้ทันที ตอนนี้มีการโจมตีจริงเกิดขึ้นแล้ว โดย Wordfence รายงานว่ามีการบล็อกการโจมตีเกือบ 500 ครั้งในวันเดียว ผู้พัฒนาปลั๊กอินได้ออกเวอร์ชัน 8.4 เพื่อแก้ไขแล้ว เจ้าของเว็บไซต์ WordPress ต้องรีบอัปเดตโดยด่วน
    https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce

    ASUS Router เจอช่องโหว่ 8 จุด (CVE-2025-59366)
    ASUS ประกาศเตือนว่าเราท์เตอร์หลายรุ่นมีช่องโหว่รวม 8 จุด โดยมีช่องโหว่ Authentication Bypass ที่ร้ายแรงมาก (CVSS 9.4) ทำให้คนร้ายสามารถเข้าถึงระบบได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ผลกระทบคือผู้โจมตีอาจควบคุมการตั้งค่าเครือข่ายหรือดักข้อมูลการใช้งานได้ทันที ASUS แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/8-flaws-asus-routers-urgently-need-patch-for-authentication-bypass-cve-2025-59366-cvss-9-4

    Fluent Bit เจอช่องโหว่ร้ายแรง เปิดทาง RCE และแก้ไข Telemetry
    Fluent Bit ซึ่งเป็นเครื่องมือเก็บและส่งข้อมูล Log ที่องค์กรใหญ่ใช้กัน ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้คนร้ายสามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้ รวมถึงแก้ไขข้อมูล Telemetry ที่ส่งออกไป ทำให้ระบบตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลผิดเพี้ยนได้ทันที ช่องโหว่นี้กระทบหลายเวอร์ชัน และมีความเสี่ยงสูงต่อองค์กรที่ใช้ Fluent Bit ในระบบคลาวด์หรือโครงสร้างพื้นฐานหลัก
    https://securityonline.info/critical-fluent-bit-flaws-enable-rce-and-telemetry-tampering-in-major-orgs

    CISA เตือนด่วน: Spyware ใช้ Zero-Click และ QR Code มุ่งโจมตีแอปแชท
    CISA ออกประกาศฉุกเฉินว่ามี Spyware เชิงพาณิชย์ที่ใช้เทคนิค Zero-Click และ QR Code อันตรายเพื่อแฮ็กแอปแชทบนมือถือ โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย เพียงแค่เปิดข้อความหรือสแกน QR Code ก็ถูกเจาะได้ทันที ผลคือข้อมูลส่วนตัว การสนทนา และบัญชีผู้ใช้สามารถถูกยึดไปได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นภัยคุกคามที่กำลังแพร่กระจายและต้องระวังอย่างมาก
    https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps

    GRU Unit 29155 ใช้ SocGholish โจมตีบริษัทในสหรัฐฯ
    มีรายงานว่า GRU Unit 29155 ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ใช้มัลแวร์ SocGholish ในการโจมตีบริษัทสหรัฐฯ โดย SocGholish มักปลอมตัวเป็นการอัปเดตเบราว์เซอร์เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งมัลแวร์ จากนั้นเปิดทางให้คนร้ายเข้าถึงระบบภายในองค์กรได้ การโจมตีนี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้เครื่องมือไซเบอร์ขั้นสูงในปฏิบัติการทางการเมืองและเศรษฐกิจ
    https://securityonline.info/gru-unit-29155-uses-socgholish-to-target-us-firm

    ASUS Router พบช่องโหว่ร้ายแรง ต้องรีบอัปเดตด่วน
    ASUS ออกประกาศเตือนผู้ใช้เร้าเตอร์ หลังพบช่องโหว่รวม 8 จุดที่อาจถูกโจมตีได้ โดยมีช่องโหว่ร้ายแรงที่สุดคือการ Authentication Bypass ในระบบ AiCloud ที่มีคะแนนความเสี่ยงสูงถึง 9.4 ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงฟังก์ชันโดยไม่ต้องมีสิทธิ์ที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีปัญหา Path Traversal, Command Injection และ SQL Injection ที่อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้ามาควบคุมหรือดึงข้อมูลออกไปได้ ASUS ได้ปล่อยเฟิร์มแวร์ใหม่ในเดือนตุลาคม 2025 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/8-flaws-asus-routers-urgently-need-patch-for-authentication-bypass-cve-2025-59366-cvss-9-4

    มัลแวร์ RelayNFC บน Android เปลี่ยนมือถือเป็นเครื่องอ่านบัตร
    นักวิจัยจาก Cyble Research พบมัลแวร์ใหม่ชื่อ RelayNFC ที่แพร่ระบาดในบราซิล มันสามารถเปลี่ยนมือถือ Android ของเหยื่อให้กลายเป็นเครื่องอ่านบัตร NFC จากนั้นส่งข้อมูลบัตรและรหัส PIN ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์แบบเรียลไทม์ จุดที่น่ากังวลคือมัลแวร์นี้ยังไม่ถูกตรวจจับโดยโปรแกรมแอนติไวรัสใด ๆ และถูกแพร่ผ่านเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ปลอมเป็นพอร์ทัลความปลอดภัย ผู้ใช้ที่หลงเชื่อจะถูกหลอกให้ติดตั้งแอป APK อันตรายและกรอกข้อมูลบัตรของตัวเอง ทำให้แฮกเกอร์สามารถทำธุรกรรมเสมือนว่ามีบัตรจริงอยู่ในมือ
    https://securityonline.info/zero-detection-relaynfc-android-malware-turns-phones-into-remote-card-readers

    ช่องโหว่ MyASUS เปิดทางให้ยกระดับสิทธิ์เป็น SYSTEM
    ASUS ยังเจอปัญหาอีกหนึ่งอย่างในซอฟต์แวร์ MyASUS โดยมีช่องโหว่ Local Privilege Escalation (CVE-2025-59373) ที่ทำให้ผู้ใช้สิทธิ์ต่ำสามารถยกระดับเป็น SYSTEM ได้ ซึ่งถือเป็นสิทธิ์สูงสุดบน Windows ช่องโหว่นี้เกิดจากกลไกการกู้ไฟล์ที่ตรวจสอบไม่ดี ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทนที่ไฟล์ที่เชื่อถือได้ด้วยไฟล์อันตราย และเมื่อระบบเรียกใช้งานก็จะรันในสิทธิ์สูงสุดทันที ASUS ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้สามารถอัปเดตผ่าน Windows Update หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ ASUS โดยตรง
    https://securityonline.info/asus-lpe-flaw-cve-2025-59373-high-severity-bug-grants-system-privileges-via-myasus-component

    ศาลสหรัฐฯ สั่งห้าม OpenAI ใช้ชื่อ "Cameo" ใน Sora
    เกิดคดีฟ้องร้องระหว่างแพลตฟอร์มวิดีโอคนดัง Cameo กับ OpenAI ที่ใช้ชื่อ “Cameo” ในฟีเจอร์ของแอป Sora ศาลสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งชั่วคราวห้าม OpenAI ใช้คำนี้จนถึงวันที่ 22 ธันวาคม โดยให้เหตุผลว่าชื่อดังกล่าวอาจทำให้ผู้ใช้สับสนกับบริการของ Cameo ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ฝั่ง Cameo มองว่านี่คือการปกป้องแบรนด์ ส่วน OpenAI แย้งว่าคำว่า “cameo” เป็นคำทั่วไปที่ไม่ควรมีใครถือสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว เรื่องนี้จะมีการไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 19 ธันวาคมเพื่อพิจารณาว่าจะทำให้คำสั่งนี้ถาวรหรือไม่
    https://securityonline.info/cameo-wins-tro-against-openai-sora-barred-from-using-cameo-trademark

    Google เตรียมรวม Android และ ChromeOS ภายใต้ชื่อ Aluminium OS
    มีการค้นพบจากประกาศรับสมัครงานที่เผยว่า Google กำลังพัฒนา Aluminium OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่รวม Android และ ChromeOS เข้าด้วยกัน Aluminium OS จะรองรับหลายอุปกรณ์ ตั้งแต่โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต ไปจนถึงมินิพีซี และมีการแบ่งระดับเป็น Entry, Mass Premium และ Premium แม้ Google ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่แนวโน้มคือ ChromeOS จะถูกแทนที่ในอนาคต และ Aluminium OS จะกลายเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ใช้แทนทั้งหมด
    https://securityonline.info/googles-new-merged-os-revealed-job-listing-points-to-aluminium-os

    Chromium เปิดดีเบตอีกครั้งเรื่อง JPEG-XL หลัง Apple นำไปใช้
    ทีมพัฒนา Chromium กำลังถกเถียงว่าจะนำฟอร์แมตภาพ JPEG-XL กลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากที่ Apple ได้ประกาศรองรับในระบบของตน ฟอร์แมตนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแทน JPEG แบบดั้งเดิม โดยมีคุณภาพสูงกว่าและขนาดไฟล์เล็กกว่า แต่ก่อนหน้านี้ Google เคยตัดสินใจถอดออกจาก Chromium เพราะมองว่าไม่จำเป็น ตอนนี้การที่ Apple นำไปใช้ทำให้เกิดแรงกดดันให้ Google พิจารณาใหม่ว่าจะกลับมาเปิดใช้งานหรือไม่
    https://securityonline.info/chromium-reopens-jpeg-xl-debate-will-google-reinstate-support-after-apple-adopted-it

    OpenAI เปิดตัว Shopping Research สร้างคู่มือซื้อของเฉพาะบุคคล
    OpenAI เปิดฟีเจอร์ใหม่ใน ChatGPT ชื่อว่า Shopping Research ที่สามารถสร้างคู่มือการซื้อสินค้าแบบเฉพาะบุคคลได้ โดยผู้ใช้เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการ เช่น “หาหูฟังสำหรับวิ่ง” ระบบจะวิเคราะห์ข้อมูล รีวิว และตัวเลือกที่เหมาะสม แล้วสรุปออกมาเป็นคู่มือการซื้อที่เข้าใจง่าย จุดเด่นคือการทำให้การค้นหาสินค้าไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลเอง แต่ได้คำแนะนำที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น
    https://securityonline.info/openai-launches-shopping-research-chatgpt-now-generates-personalized-buying-guides

    Android เตรียมเพิ่ม Universal Clipboard ใช้งานข้ามอุปกรณ์ได้
    Google กำลังพัฒนา Universal Clipboard สำหรับ Android ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถคัดลอกข้อความหรือไฟล์จากมือถือ แล้วนำไปวางบน Chromebook หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้ทันที ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การทำงานระหว่างหลายอุปกรณ์ราบรื่นขึ้น ไม่ต้องใช้วิธีส่งไฟล์หรือข้อความผ่านแอปแชทอีกต่อไป ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งาน Android ให้ใกล้เคียงกับระบบนิเวศของ Apple ที่มีฟีเจอร์คล้ายกันอยู่แล้ว
    https://securityonline.info/android-getting-native-universal-clipboard-seamless-sync-coming-to-phones-chromebooks

    ราคาการ์ดจอ AMD จะขึ้นอย่างน้อย 10% ในปี 2026
    มีรายงานว่า AMD GPU จะปรับราคาขึ้นอย่างน้อย 10% ในปี 2026 เนื่องจากต้นทุนหน่วยความจำที่ใช้ผลิตการ์ดจอเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก การปรับราคานี้จะกระทบทั้งรุ่นสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและรุ่นสำหรับงานดาต้าเซ็นเตอร์ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตลาดการ์ดจออาจเผชิญแรงกดดันจากทั้งฝั่งผู้ผลิตและผู้บริโภค เพราะความต้องการยังสูง แต่ต้นทุนกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
    https://securityonline.info/amd-gpu-prices-to-increase-by-at-least-10-in-2026-due-to-surging-memory-costs

    Detego Global เปิดตัวแพลตฟอร์มจัดการคดีสำหรับทีมดิจิทัลฟอเรนสิก
    ​​​​​​​บริษัท Detego Global เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่สำหรับการจัดการคดีที่ออกแบบมาเพื่อทีมดิจิทัลฟอเรนสิกและการตอบสนองเหตุการณ์ไซเบอร์ ระบบนี้ช่วยให้ทีมสามารถเก็บหลักฐาน จัดการข้อมูล และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือหลายอย่างไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้การทำงานที่ซับซ้อนสามารถจัดการได้ง่ายขึ้นและลดเวลาในการสืบสวน
    https://securityonline.info/detego-global-launches-case-management-platform-for-digital-forensics-and-incident-response-teams
    📌🔒🟢 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟢🔒📌 #รวมข่าวIT #20251126 #securityonline 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Syncope (CVE-2025-65998) เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยจาก Apache เกี่ยวกับซอฟต์แวร์จัดการตัวตนชื่อ Syncope ที่องค์กรใหญ่ใช้กันมาก ปัญหาคือมีการฝัง "กุญแจ AES" เอาไว้ในโค้ดแบบตายตัว เมื่อผู้ดูแลระบบเลือกใช้การเข้ารหัสรหัสผ่านในฐานข้อมูล Syncope จะใช้กุญแจเดียวกันทุกระบบ ทำให้ถ้าใครเข้าถึงฐานข้อมูลได้ก็สามารถถอดรหัสรหัสผ่านทั้งหมดออกมาได้ทันที ปัญหานี้กระทบหลายเวอร์ชัน และ Apache แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเกรดไปยังเวอร์ชันใหม่ที่แก้ไขแล้ว เพราะเวอร์ชันเก่าไม่มีแพตช์รองรับ 🔗 https://securityonline.info/apache-syncope-flaw-cve-2025-65998-exposes-encrypted-user-passwords-due-to-hard-coded-aes-key 📞 Zenitel TCIV-3+ Intercoms เจอช่องโหว่ร้ายแรงหลายจุด (CVSS 9.8) Zenitel ออกประกาศด่วนพร้อมกับ CISA ว่าระบบอินเตอร์คอม TCIV-3+ มีช่องโหว่ถึง 5 จุด โดย 3 จุดเป็นการโจมตีแบบ OS Command Injection ที่ร้ายแรงมาก สามารถให้คนร้ายสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่ XSS และ Out-of-Bounds Write ที่ทำให้เครื่องแครชได้ การแก้ไขคือผู้ใช้ต้องอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชัน 9.3.3.0 หรือใหม่กว่าโดยด่วน เพราะหากปล่อยไว้ อุปกรณ์สื่อสารสำคัญเหล่านี้อาจถูกควบคุมจากภายนอกได้ 🔗 https://securityonline.info/urgent-patch-required-zenitel-tciv-3-intercoms-hit-by-multiple-critical-flaws-cvss-9-8 🔐 Node-forge (CVE-2025-12816) ช่องโหว่การตรวจสอบลายเซ็น ไลบรารีชื่อดัง node-forge ที่ใช้กันในหลายระบบทั่วโลก (ดาวน์โหลดกว่า 21 ล้านครั้งต่อสัปดาห์) ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้การตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลถูกหลอกได้ โดยการจัดการข้อมูล ASN.1 ที่บิดเบือน ทำให้ระบบที่ใช้ node-forge ตรวจสอบใบรับรองหรือไฟล์ที่เซ็นดิจิทัลอาจยอมรับข้อมูลปลอมว่าเป็นจริง ผลกระทบคือการปลอมตัวตน การยอมรับซอฟต์แวร์ที่ถูกแก้ไข หรือการเจาะระบบผ่านแพ็กเกจที่ดูเหมือนถูกต้อง ทางผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชัน 1.3.2 เพื่อแก้ไขแล้ว และแนะนำให้รีบอัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/critical-node-forge-flaw-cve-2025-12816-allows-signature-verification-bypass-via-asn-1-manipulation-21m-downloads-week 📱 RelayNFC มัลแวร์ Android ที่ทำให้มือถือกลายเป็นเครื่องอ่านบัตร นักวิจัยจาก Cyble พบมัลแวร์ใหม่ชื่อ RelayNFC ที่แพร่ระบาดในบราซิล มันทำให้มือถือ Android ของเหยื่อกลายเป็นเครื่องอ่านบัตรเครดิต/เดบิตจากระยะไกล คนร้ายสามารถใช้ข้อมูลที่ได้ไปทำธุรกรรมเหมือนถือบัตรจริงอยู่ในมือ จุดน่ากลัวคือมัลแวร์นี้ยังไม่ถูกตรวจจับใน VirusTotal และแพร่ผ่านเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ปลอมเป็นพอร์ทัลความปลอดภัย เมื่อเหยื่อดาวน์โหลดแอปปลอมและทำตามคำสั่ง เช่น แตะบัตรกับมือถือ ข้อมูลบัตรและรหัส PIN จะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของคนร้ายทันที ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมาก 🔗 https://securityonline.info/zero-detection-relaynfc-android-malware-turns-phones-into-remote-card-readers 🌐 WordPress Plugin Sneeit Framework (CVE-2025-6389) ถูกโจมตีจริงแล้ว ปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 9.8 (Critical) ที่เปิดทางให้คนร้ายรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ฟังก์ชันที่ผิดพลาดคือการรับอินพุตจากผู้ใช้แล้วส่งต่อไปยัง call_user_func() โดยตรง ทำให้ใครก็ตามสามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ หรือยึดเว็บไซต์ไปได้ทันที ตอนนี้มีการโจมตีจริงเกิดขึ้นแล้ว โดย Wordfence รายงานว่ามีการบล็อกการโจมตีเกือบ 500 ครั้งในวันเดียว ผู้พัฒนาปลั๊กอินได้ออกเวอร์ชัน 8.4 เพื่อแก้ไขแล้ว เจ้าของเว็บไซต์ WordPress ต้องรีบอัปเดตโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce 📡 ASUS Router เจอช่องโหว่ 8 จุด (CVE-2025-59366) ASUS ประกาศเตือนว่าเราท์เตอร์หลายรุ่นมีช่องโหว่รวม 8 จุด โดยมีช่องโหว่ Authentication Bypass ที่ร้ายแรงมาก (CVSS 9.4) ทำให้คนร้ายสามารถเข้าถึงระบบได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ผลกระทบคือผู้โจมตีอาจควบคุมการตั้งค่าเครือข่ายหรือดักข้อมูลการใช้งานได้ทันที ASUS แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/8-flaws-asus-routers-urgently-need-patch-for-authentication-bypass-cve-2025-59366-cvss-9-4 💻 Fluent Bit เจอช่องโหว่ร้ายแรง เปิดทาง RCE และแก้ไข Telemetry Fluent Bit ซึ่งเป็นเครื่องมือเก็บและส่งข้อมูล Log ที่องค์กรใหญ่ใช้กัน ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้คนร้ายสามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้ รวมถึงแก้ไขข้อมูล Telemetry ที่ส่งออกไป ทำให้ระบบตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลผิดเพี้ยนได้ทันที ช่องโหว่นี้กระทบหลายเวอร์ชัน และมีความเสี่ยงสูงต่อองค์กรที่ใช้ Fluent Bit ในระบบคลาวด์หรือโครงสร้างพื้นฐานหลัก 🔗 https://securityonline.info/critical-fluent-bit-flaws-enable-rce-and-telemetry-tampering-in-major-orgs 📲 CISA เตือนด่วน: Spyware ใช้ Zero-Click และ QR Code มุ่งโจมตีแอปแชท CISA ออกประกาศฉุกเฉินว่ามี Spyware เชิงพาณิชย์ที่ใช้เทคนิค Zero-Click และ QR Code อันตรายเพื่อแฮ็กแอปแชทบนมือถือ โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย เพียงแค่เปิดข้อความหรือสแกน QR Code ก็ถูกเจาะได้ทันที ผลคือข้อมูลส่วนตัว การสนทนา และบัญชีผู้ใช้สามารถถูกยึดไปได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นภัยคุกคามที่กำลังแพร่กระจายและต้องระวังอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps 🎭 GRU Unit 29155 ใช้ SocGholish โจมตีบริษัทในสหรัฐฯ มีรายงานว่า GRU Unit 29155 ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ใช้มัลแวร์ SocGholish ในการโจมตีบริษัทสหรัฐฯ โดย SocGholish มักปลอมตัวเป็นการอัปเดตเบราว์เซอร์เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งมัลแวร์ จากนั้นเปิดทางให้คนร้ายเข้าถึงระบบภายในองค์กรได้ การโจมตีนี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้เครื่องมือไซเบอร์ขั้นสูงในปฏิบัติการทางการเมืองและเศรษฐกิจ 🔗 https://securityonline.info/gru-unit-29155-uses-socgholish-to-target-us-firm 🛡️ ASUS Router พบช่องโหว่ร้ายแรง ต้องรีบอัปเดตด่วน ASUS ออกประกาศเตือนผู้ใช้เร้าเตอร์ หลังพบช่องโหว่รวม 8 จุดที่อาจถูกโจมตีได้ โดยมีช่องโหว่ร้ายแรงที่สุดคือการ Authentication Bypass ในระบบ AiCloud ที่มีคะแนนความเสี่ยงสูงถึง 9.4 ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงฟังก์ชันโดยไม่ต้องมีสิทธิ์ที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีปัญหา Path Traversal, Command Injection และ SQL Injection ที่อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้ามาควบคุมหรือดึงข้อมูลออกไปได้ ASUS ได้ปล่อยเฟิร์มแวร์ใหม่ในเดือนตุลาคม 2025 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/8-flaws-asus-routers-urgently-need-patch-for-authentication-bypass-cve-2025-59366-cvss-9-4 📱 มัลแวร์ RelayNFC บน Android เปลี่ยนมือถือเป็นเครื่องอ่านบัตร นักวิจัยจาก Cyble Research พบมัลแวร์ใหม่ชื่อ RelayNFC ที่แพร่ระบาดในบราซิล มันสามารถเปลี่ยนมือถือ Android ของเหยื่อให้กลายเป็นเครื่องอ่านบัตร NFC จากนั้นส่งข้อมูลบัตรและรหัส PIN ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์แบบเรียลไทม์ จุดที่น่ากังวลคือมัลแวร์นี้ยังไม่ถูกตรวจจับโดยโปรแกรมแอนติไวรัสใด ๆ และถูกแพร่ผ่านเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ปลอมเป็นพอร์ทัลความปลอดภัย ผู้ใช้ที่หลงเชื่อจะถูกหลอกให้ติดตั้งแอป APK อันตรายและกรอกข้อมูลบัตรของตัวเอง ทำให้แฮกเกอร์สามารถทำธุรกรรมเสมือนว่ามีบัตรจริงอยู่ในมือ 🔗 https://securityonline.info/zero-detection-relaynfc-android-malware-turns-phones-into-remote-card-readers ⚠️ ช่องโหว่ MyASUS เปิดทางให้ยกระดับสิทธิ์เป็น SYSTEM ASUS ยังเจอปัญหาอีกหนึ่งอย่างในซอฟต์แวร์ MyASUS โดยมีช่องโหว่ Local Privilege Escalation (CVE-2025-59373) ที่ทำให้ผู้ใช้สิทธิ์ต่ำสามารถยกระดับเป็น SYSTEM ได้ ซึ่งถือเป็นสิทธิ์สูงสุดบน Windows ช่องโหว่นี้เกิดจากกลไกการกู้ไฟล์ที่ตรวจสอบไม่ดี ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทนที่ไฟล์ที่เชื่อถือได้ด้วยไฟล์อันตราย และเมื่อระบบเรียกใช้งานก็จะรันในสิทธิ์สูงสุดทันที ASUS ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้สามารถอัปเดตผ่าน Windows Update หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ ASUS โดยตรง 🔗 https://securityonline.info/asus-lpe-flaw-cve-2025-59373-high-severity-bug-grants-system-privileges-via-myasus-component ⚖️ ศาลสหรัฐฯ สั่งห้าม OpenAI ใช้ชื่อ "Cameo" ใน Sora เกิดคดีฟ้องร้องระหว่างแพลตฟอร์มวิดีโอคนดัง Cameo กับ OpenAI ที่ใช้ชื่อ “Cameo” ในฟีเจอร์ของแอป Sora ศาลสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งชั่วคราวห้าม OpenAI ใช้คำนี้จนถึงวันที่ 22 ธันวาคม โดยให้เหตุผลว่าชื่อดังกล่าวอาจทำให้ผู้ใช้สับสนกับบริการของ Cameo ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ฝั่ง Cameo มองว่านี่คือการปกป้องแบรนด์ ส่วน OpenAI แย้งว่าคำว่า “cameo” เป็นคำทั่วไปที่ไม่ควรมีใครถือสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว เรื่องนี้จะมีการไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 19 ธันวาคมเพื่อพิจารณาว่าจะทำให้คำสั่งนี้ถาวรหรือไม่ 🔗 https://securityonline.info/cameo-wins-tro-against-openai-sora-barred-from-using-cameo-trademark 💻 Google เตรียมรวม Android และ ChromeOS ภายใต้ชื่อ Aluminium OS มีการค้นพบจากประกาศรับสมัครงานที่เผยว่า Google กำลังพัฒนา Aluminium OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่รวม Android และ ChromeOS เข้าด้วยกัน Aluminium OS จะรองรับหลายอุปกรณ์ ตั้งแต่โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต ไปจนถึงมินิพีซี และมีการแบ่งระดับเป็น Entry, Mass Premium และ Premium แม้ Google ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่แนวโน้มคือ ChromeOS จะถูกแทนที่ในอนาคต และ Aluminium OS จะกลายเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ใช้แทนทั้งหมด 🔗 https://securityonline.info/googles-new-merged-os-revealed-job-listing-points-to-aluminium-os 🖼️ Chromium เปิดดีเบตอีกครั้งเรื่อง JPEG-XL หลัง Apple นำไปใช้ ทีมพัฒนา Chromium กำลังถกเถียงว่าจะนำฟอร์แมตภาพ JPEG-XL กลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากที่ Apple ได้ประกาศรองรับในระบบของตน ฟอร์แมตนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแทน JPEG แบบดั้งเดิม โดยมีคุณภาพสูงกว่าและขนาดไฟล์เล็กกว่า แต่ก่อนหน้านี้ Google เคยตัดสินใจถอดออกจาก Chromium เพราะมองว่าไม่จำเป็น ตอนนี้การที่ Apple นำไปใช้ทำให้เกิดแรงกดดันให้ Google พิจารณาใหม่ว่าจะกลับมาเปิดใช้งานหรือไม่ 🔗 https://securityonline.info/chromium-reopens-jpeg-xl-debate-will-google-reinstate-support-after-apple-adopted-it 🛍️ OpenAI เปิดตัว Shopping Research สร้างคู่มือซื้อของเฉพาะบุคคล OpenAI เปิดฟีเจอร์ใหม่ใน ChatGPT ชื่อว่า Shopping Research ที่สามารถสร้างคู่มือการซื้อสินค้าแบบเฉพาะบุคคลได้ โดยผู้ใช้เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการ เช่น “หาหูฟังสำหรับวิ่ง” ระบบจะวิเคราะห์ข้อมูล รีวิว และตัวเลือกที่เหมาะสม แล้วสรุปออกมาเป็นคู่มือการซื้อที่เข้าใจง่าย จุดเด่นคือการทำให้การค้นหาสินค้าไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลเอง แต่ได้คำแนะนำที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/openai-launches-shopping-research-chatgpt-now-generates-personalized-buying-guides 🔗 Android เตรียมเพิ่ม Universal Clipboard ใช้งานข้ามอุปกรณ์ได้ Google กำลังพัฒนา Universal Clipboard สำหรับ Android ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถคัดลอกข้อความหรือไฟล์จากมือถือ แล้วนำไปวางบน Chromebook หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้ทันที ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การทำงานระหว่างหลายอุปกรณ์ราบรื่นขึ้น ไม่ต้องใช้วิธีส่งไฟล์หรือข้อความผ่านแอปแชทอีกต่อไป ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งาน Android ให้ใกล้เคียงกับระบบนิเวศของ Apple ที่มีฟีเจอร์คล้ายกันอยู่แล้ว 🔗 https://securityonline.info/android-getting-native-universal-clipboard-seamless-sync-coming-to-phones-chromebooks 💸 ราคาการ์ดจอ AMD จะขึ้นอย่างน้อย 10% ในปี 2026 มีรายงานว่า AMD GPU จะปรับราคาขึ้นอย่างน้อย 10% ในปี 2026 เนื่องจากต้นทุนหน่วยความจำที่ใช้ผลิตการ์ดจอเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก การปรับราคานี้จะกระทบทั้งรุ่นสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและรุ่นสำหรับงานดาต้าเซ็นเตอร์ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตลาดการ์ดจออาจเผชิญแรงกดดันจากทั้งฝั่งผู้ผลิตและผู้บริโภค เพราะความต้องการยังสูง แต่ต้นทุนกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง 🔗 https://securityonline.info/amd-gpu-prices-to-increase-by-at-least-10-in-2026-due-to-surging-memory-costs 🕵️‍♂️ Detego Global เปิดตัวแพลตฟอร์มจัดการคดีสำหรับทีมดิจิทัลฟอเรนสิก ​​​​​​​บริษัท Detego Global เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่สำหรับการจัดการคดีที่ออกแบบมาเพื่อทีมดิจิทัลฟอเรนสิกและการตอบสนองเหตุการณ์ไซเบอร์ ระบบนี้ช่วยให้ทีมสามารถเก็บหลักฐาน จัดการข้อมูล และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือหลายอย่างไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้การทำงานที่ซับซ้อนสามารถจัดการได้ง่ายขึ้นและลดเวลาในการสืบสวน 🔗 https://securityonline.info/detego-global-launches-case-management-platform-for-digital-forensics-and-incident-response-teams
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 550 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลื่นใหม่ “AI Nostalgia” พาคนรุ่นใหม่หลงรักยุค 1980s

    บทความจาก The Star รายงานกระแส “AI nostalgia” ที่กำลังมาแรงบนแพลตฟอร์ม Instagram, TikTok และ YouTube โดยใช้ AI สร้างวิดีโอจำลองชีวิตวัยรุ่นยุคก่อนสมาร์ทโฟน ภาพที่ปรากฏคือคนหนุ่มสาวออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้ง เชื่อมโยงกันแบบตัวต่อตัว พร้อมเพลงดังจากยุคนั้น เช่น Everybody Wants To Rule The World ของ Tears for Fears ซึ่งสร้างบรรยากาศย้อนยุคจนทำให้ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกว่า “ชีวิตสมัยนั้นดีกว่า” แม้จริง ๆ แล้วพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ตรงกับยุค 1980s เลย

    เสน่ห์ของความทรงจำที่ไม่เคยมีจริง
    วิดีโอเหล่านี้ได้รับความนิยมสูงมาก โดยบางคลิปมีผู้กดถูกใจเกิน 600,000 ครั้ง ความน่าสนใจคือมันสร้าง “ความทรงจำปลอม” ให้กับคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้น แต่กลับรู้สึกผูกพันและโหยหาความเรียบง่ายของชีวิตก่อนยุคดิจิทัล นักวิจัยด้านสื่อมองว่านี่คือการผสมผสานระหว่าง ความคิดถึง (nostalgia) และ การสร้างภาพจำใหม่ (synthetic memory) ที่เกิดจากเทคโนโลยี AI

    ผลกระทบต่อสังคมและวัฒนธรรม
    แม้จะดูสนุก แต่กระแสนี้อาจทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ เพราะผู้ชมจำนวนมากอาจเชื่อว่าชีวิตในยุค 1980s เป็นแบบที่ AI สร้างขึ้น ทั้งที่จริงแล้วสังคมในยุคนั้นก็มีปัญหาและความท้าทายของมันเอง นักวิชาการเตือนว่าการใช้ AI สร้าง “อดีตในอุดมคติ” อาจทำให้คนรุ่นใหม่มีมุมมองที่ไม่สมดุลต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

    บทเรียนจากกระแส AI Nostalgia
    สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า AI ไม่ได้เพียงสร้างอนาคต แต่ยังสามารถ “เขียนอดีตใหม่” ได้ด้วย การรับชมวิดีโอเหล่านี้จึงควรทำด้วยความเข้าใจว่าเป็นงานสร้าง ไม่ใช่บันทึกจริง เพื่อไม่ให้เกิดการสับสนระหว่างความบันเทิงกับข้อเท็จจริง และเพื่อให้สังคมสามารถใช้ AI อย่างสร้างสรรค์โดยไม่บิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์

    สรุปสาระสำคัญ
    กระแส AI Nostalgia
    ใช้ AI สร้างวิดีโอจำลองชีวิตวัยรุ่นยุค 1980s

    ความนิยมสูง
    คลิปบางรายการมีผู้กดถูกใจมากกว่า 600,000 ครั้ง

    ผลกระทบทางวัฒนธรรม
    สร้าง “ความทรงจำปลอม” ให้คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้น

    บทเรียนสำคัญ
    AI สามารถ “เขียนอดีตใหม่” จึงต้องแยกแยะระหว่างบันเทิงกับข้อเท็จจริง

    คำเตือนจากนักวิชาการ
    อาจทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์

    ความเสี่ยงต่อสังคม
    คนรุ่นใหม่อาจมีมุมมองไม่สมดุลต่ออดีตและวัฒนธรรม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/fake-ai-videos-have-a-new-generation-loving-1980s-life
    📼 คลื่นใหม่ “AI Nostalgia” พาคนรุ่นใหม่หลงรักยุค 1980s บทความจาก The Star รายงานกระแส “AI nostalgia” ที่กำลังมาแรงบนแพลตฟอร์ม Instagram, TikTok และ YouTube โดยใช้ AI สร้างวิดีโอจำลองชีวิตวัยรุ่นยุคก่อนสมาร์ทโฟน ภาพที่ปรากฏคือคนหนุ่มสาวออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้ง เชื่อมโยงกันแบบตัวต่อตัว พร้อมเพลงดังจากยุคนั้น เช่น Everybody Wants To Rule The World ของ Tears for Fears ซึ่งสร้างบรรยากาศย้อนยุคจนทำให้ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกว่า “ชีวิตสมัยนั้นดีกว่า” แม้จริง ๆ แล้วพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ตรงกับยุค 1980s เลย 🎶 เสน่ห์ของความทรงจำที่ไม่เคยมีจริง วิดีโอเหล่านี้ได้รับความนิยมสูงมาก โดยบางคลิปมีผู้กดถูกใจเกิน 600,000 ครั้ง ความน่าสนใจคือมันสร้าง “ความทรงจำปลอม” ให้กับคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้น แต่กลับรู้สึกผูกพันและโหยหาความเรียบง่ายของชีวิตก่อนยุคดิจิทัล นักวิจัยด้านสื่อมองว่านี่คือการผสมผสานระหว่าง ความคิดถึง (nostalgia) และ การสร้างภาพจำใหม่ (synthetic memory) ที่เกิดจากเทคโนโลยี AI 🌍 ผลกระทบต่อสังคมและวัฒนธรรม แม้จะดูสนุก แต่กระแสนี้อาจทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ เพราะผู้ชมจำนวนมากอาจเชื่อว่าชีวิตในยุค 1980s เป็นแบบที่ AI สร้างขึ้น ทั้งที่จริงแล้วสังคมในยุคนั้นก็มีปัญหาและความท้าทายของมันเอง นักวิชาการเตือนว่าการใช้ AI สร้าง “อดีตในอุดมคติ” อาจทำให้คนรุ่นใหม่มีมุมมองที่ไม่สมดุลต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม 🛡️ บทเรียนจากกระแส AI Nostalgia สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า AI ไม่ได้เพียงสร้างอนาคต แต่ยังสามารถ “เขียนอดีตใหม่” ได้ด้วย การรับชมวิดีโอเหล่านี้จึงควรทำด้วยความเข้าใจว่าเป็นงานสร้าง ไม่ใช่บันทึกจริง เพื่อไม่ให้เกิดการสับสนระหว่างความบันเทิงกับข้อเท็จจริง และเพื่อให้สังคมสามารถใช้ AI อย่างสร้างสรรค์โดยไม่บิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ กระแส AI Nostalgia ➡️ ใช้ AI สร้างวิดีโอจำลองชีวิตวัยรุ่นยุค 1980s ✅ ความนิยมสูง ➡️ คลิปบางรายการมีผู้กดถูกใจมากกว่า 600,000 ครั้ง ✅ ผลกระทบทางวัฒนธรรม ➡️ สร้าง “ความทรงจำปลอม” ให้คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้น ✅ บทเรียนสำคัญ ➡️ AI สามารถ “เขียนอดีตใหม่” จึงต้องแยกแยะระหว่างบันเทิงกับข้อเท็จจริง ‼️ คำเตือนจากนักวิชาการ ⛔ อาจทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ ‼️ ความเสี่ยงต่อสังคม ⛔ คนรุ่นใหม่อาจมีมุมมองไม่สมดุลต่ออดีตและวัฒนธรรม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/fake-ai-videos-have-a-new-generation-loving-1980s-life
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Fake AI videos have a new generation loving 1980s life
    "The 1980s are calling", a teenager with a throwback hairstyle tells viewers as Everybody Wants To Rule The World, the Tears for Fears rock anthem from that decade, plays in the background.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีการฟื้นคืนชีพ "ครุฑยักษ์" โอปปาติกะแห่งทวารบาลในตำนานพุทธศาสนา

    การตื่นของพญาครุฑแห่งขุนเขาหิมวันต์

    ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า

    ร.ต.อ.สิงห์ได้รับรายงานเหตุการณ์ประหลาดจากหลายประเทศ...
    มี"สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา" ปรากฏตัวบนท้องฟ้าในลักษณะครุฑยักษ์

    ```mermaid
    graph TB
    A[ประชาชนรายงาน<br>เห็นครุฑยักษ์บนท้องฟ้า] --> B[เกิดพายุ<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์]
    B --> C[เครื่องบิน<br>ได้รับผลกระทบ]
    C --> D[หนูดีรู้สึกถึง<br>พลังงานพุทธาคมโบราณ]
    D --> E[เปิดเผยว่าเป็น<br>ครุฑโอปปาติกะในตำนาน]
    ```

    ลักษณะของครุฑยักษ์

    พยานบรรยายถึงสิ่งที่เห็น:
    "ปีกกางกว้างกว่าเรือบิน...
    ร่างกายเป็นทองคำเรืองรอง มีใบหน้าคล้ายมนุษย์แต่มีจะงอยปากนก
    แต่ที่พิเศษคือ...มันเปล่งรัศมีธรรมะออกมา!"

    เบื้องหลังในคัมภีร์พุทธศาสตร์

    ตำนานพระสุวรรณภูมิ

    ครุฑตนนี้มีชื่อในคัมภีร์ว่า "ครุฑพาหนะเทพบุตร"
    ทวารบาลผู้เคยรับใช้พระโพธิสัตว์ในอดีตชาติ:

    ```python
    class GarudaDeva:
    def __init__(self):
    self.history = {
    "era": "สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช",
    "original_role": "ทวารบาลคุ้มครองพระธาตุ",
    "great_vow": "ปฏิญาณว่าจะตื่นเมื่อธรรมะตกต่ำ",
    "connection_to_buddha": "เคยรับใช้พระโพธิสัตว์หลายชาติ"
    }

    self.characteristics = {
    "wingspan": "กว้าง 1 กิโลเมตร",
    "appearance": "ร่างกายทองคำ ใบหน้าเป็นเทวบุตร",
    "divine_weapons": "คทาพระธรรม จักรแก้ววิเศษ",
    "special_ability": "บินข้ามมิติได้"
    }
    ```

    พันธะแห่งทวารบาล

    ครุฑพาหนะถูกสร้างขึ้นด้วยพุทธานุภาพเพื่อ:

    · คุ้มครองพระธาตุ: ทั่วชมพูทวีป
    · รักษาพุทธศาสนา: ในยามคับขัน
    · เป็นพาหนะ: แก่พระโพธิสัตว์

    การสอบสวนและเข้าถึง

    การตามหาร่องรอย

    ร.ต.อ.สิงห์และหนูดีตามรอยครุฑไปยังวัดร้างในหิมาลัย:

    ```mermaid
    graph LR
    A[ตามรอย<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์] --> B[พบวัดร้าง<br>ที่มีจารึกโบราณ]
    B --> C[แปลจารึก<br>ภาษาบาลีได้]
    C --> D[รู้ว่าครุฑตื่นเพราะ<br>ธรรมะกำลังอ่อนแรง]
    ```

    การสนทนาด้วยภาษาทิพย์

    หนูดีใช้สมาธิสื่อสารกับครุฑพาหนะ:
    หนูดี:"ท่านครุฑพาหนะ... ทำไมต้องตื่นในยุคนี้?"
    ครุฑ:"เพราะเสียงธรรมะกำลังแผ่วเบา... โลกต้องการผู้คุ้มครอง"
    หนูดี:"แต่ยุคนี้แตกต่างจากอดีต... ทั้งแสงสีเสียงแบบใหม่"

    พันธกิจแห่งใหม่ในยุคปัจจุบัน

    ภัยคุกคาม新型ต่อพุทธศาสนา

    ครุฑพาหนะเปิดเผยเหตุผลการตื่น:

    · ** materialism มากเกินไป**: ผู้คนหลงวัตถุนิยม
    · จิตวิญญาณเสื่อม: การปฏิบัติธรรมลดน้อยลง
    · ความรู้ผิด: คำสอนถูกบิดเบือน

    แผนการปกป้องธรรมะ

    ครุฑเสนอวิธีการ

    ```python
    class GarudaMission:
    def __init__(self):
    self.modern_threats = {
    "digital_distraction": "มนุษย์ติดเทคโนโลยีจนลืมธรรมะ",
    "religious_commercialization": "พุทธศาสนาถูกทำให้เป็นการค้า",
    "moral_decline": "ศีลธรรมในสังคมเสื่อมถอย",
    "false_teachings": "มีผู้สอนธรรมะผิดๆ มากมาย"
    }

    self.protection_plans = [
    "สร้างพลังงานคุ้มครองวัดสำคัญ",
    "ช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรมจริง",
    "เปิดเผยผู้สอนธรรมะเท็จ",
    "ฟื้นฟูสถานปฏิบัติธรรมโบราณ"
    ]
    ```

    ความร่วมมือกับสถาบันพุทธศาสนา

    การประชุมพิเศษ

    จัดประชุมระหว่างครุฑกับพระสงฆ์ระดับอรหันต์

    · สมเด็จพระสังฆราช: ให้คำแนะนำ
    · พระอาจารย์วิปัสสนา: แนะนำการปรับตัว
    · นักวิชาการพุทธศาสตร์: ช่วยวางแผน

    พิธีอัญเชิญเป็นทางการ

    จัดพิธี "การรับครุฑเข้าสู่ยุคใหม่":

    ```mermaid
    graph TB
    A[เตรียมพิธี<br>ที่โบสถ์ครุฑ] --> B[พระสงฆ์เจริญ<br>พุทธมนต์พิเศษ]
    B --> C[ครุฑแสดงตัว<br>รับพันธกิจใหม่]
    C --> D[กำหนดเขต<br>คุ้มครอง
    D --> E[ออกกฎเกณฑ์<br>การช่วยเหลือ]
    ```

    การปรับตัวของครุฑพาหนะ

    การใช้เทคโนโลยีคุ้มครองธรรมะ

    ครุฑเรียนรู้วิธีการต่างๆ

    · พลังงานดิจิตอล: สร้างเขตคุ้มครองรอบวัด
    · การสื่อสาร: ผ่านคลื่นความคิดถึงผู้มีบุญ
    · การปกป้อง: แบบไม่ให้มนุษย์ตกใจ

    บทบาทใหม่ในสังคมดิจิตอล

    ครุฑพาหนะรับหน้าที่:

    · ผู้คุ้มกันดิจิตอล: ป้องกันการโจมตีทางจิตใจ
    · ที่ปรึกษาทางธรรม: แก่ผู้แสวงหาธรรม
    · สัญลักษณ์แห่งความหวัง: สำหรับพุทธศาสนิกชน

    โครงการฟื้นฟูพุทธศาสนา

    แผนงานระยะยาว

    ครุฑพาหนะเสนอโครงการสำคัญ:

    ```python
    class BuddhistRevival:
    def __init__(self):
    self.education_projects = {
    "digital_dhamma": "สอนธรรมะผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล",
    "youth_engagement": "ดึงดูดเยาวชนสนใจพุทธศาสนา",
    "modern_interpretation": "ตีความธรรมะให้เหมาะกับยุคสมัย",
    "interfaith_dialogue": "สนทนาระหว่างศาสนา"
    }

    self.preservation_efforts = [
    "ฟื้นฟูวัดร้างที่มีความสำคัญ",
    "บันทึกคำสอนอาจารย์เก่า",
    "สร้างพิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาเสมือนจริง",
    "ฝึกอบรมพระนักเผยแผ่รุ่นใหม่"
    ]
    ```

    ผลสำเร็จในการปฏิบัติงาน

    การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

    หลังจากครุฑพาหนะเริ่มปฏิบัติการ:

    ```python
    class PositiveImpacts:
    def __init__(self):
    self.spiritual = [
    "ผู้คนหันมาสนใจปฏิบัติธรรมมากขึ้น",
    "เกิดชุมชนพุทธปฏิบัติการที่มีชีวิตชีวา",
    "ความรู้พุทธศาสนาเผยแพร่กว้างขวางขึ้น"
    ]

    self.social = [
    "อาชญากรรมทางจิตวิญญาณลดลง",
    "ผู้สอนธรรมะเท็จถูกเปิดโปง",
    "สังคมมีศีลธรรมมากขึ้น"
    ]

    self.cultural = [
    "ศิลปะพุทธเกิดขึ้นมากมาย",
    "วัดกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน",
    "ชาวต่างชาติหันมาสนใจวัฒนธรรมพุทธมากขึ้น"
    ]
    ```

    วิสัยทัศน์สำหรับอนาคต

    สังคมพุทธ

    ครุฑพาหนะวาดภาพอนาคต:
    "สังคมที่ธรรมะและวิทยาศาสตร์เดินควบคู่...
    ที่ซึ่งจิตวิญญาณและเทคโนโลยีสนับสนุนซึ่งกันและกัน"

    บทบาทของโอปปาติกะในพุทธศาสนา

    ครุฑเปิดเผยว่ายังมีโอปปาติกะในตำนานอีกมาก:

    · นาคราช: ผู้รักษาพลังน้ำและปัญญา
    · กินนร: ผู้รักษาดนตรีทิพย์และศิลปะ
    · ยักษ์ธรรมะ: ผู้รักษาความยุติธรรม

    บทเรียนจากคดี

    🪷 สำหรับครุฑพาหนะ

    "ข้าเรียนรู้ว่า...
    การเป็นทวารบาลหาใช่การยึดติดในรูปแบบเดิม
    แต่คือการเข้าใจจิตใจสมัยใหม่

    และพันธะแห่งการคุ้มครองธรรมะ...
    ต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย"

    สำหรับพุทธศาสนิกชน

    "เราเรียนรู้ว่า...
    พุทธศาสนามีผู้คุ้มครองที่มองไม่เห็น
    และธรรมะจะไม่สูญหายถ้าหากยังมีผู้ปฏิบัติ

    การตื่นของครุฑ...
    คือเครื่องเตือนใจให้เรารักษาธรรมะ"

    สำหรับหนูดี

    "การได้ทำงานกับทวารบาลในตำนาน...
    สอนฉันว่าพุทธศาสนามีมิติลึกซึ้งกว่าที่คิด

    และโอปปาติกะ...
    สามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกธรรมะ"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากครุฑพาหนะ:
    "บนปีกแห่งธรรมะ...
    เราสามารถบินข้ามกาลเวลา

    ในการคุ้มครองสัจธรรม...
    จำเป็นจะต้องเข้าใจยุคสมัย

    และในฐานะทวารบาล...
    ข้าจะไม่ยึดติดในรูปแบบเก่า
    แต่จะปรับตัวเพื่อรักษาแก่นแท้แห่งธรรมะ"

    พุทธพจน์แห่งยุคสมัยใหม่
    "ธรรมะย่อมปรับตัวได้ดั่งน้ำ...
    แต่แก่นแท้ย่อมคงที่ดั่งแผ่นดิน

    เมื่อผู้คุ้มครองตื่นจากนิทรา...
    ธรรมะย่อมรุ่งเรืองในยุคสมัยใหม่"
    O.P.K. 🐉 คดีการฟื้นคืนชีพ "ครุฑยักษ์" โอปปาติกะแห่งทวารบาลในตำนานพุทธศาสนา 🌅 การตื่นของพญาครุฑแห่งขุนเขาหิมวันต์ 🚨 ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า ร.ต.อ.สิงห์ได้รับรายงานเหตุการณ์ประหลาดจากหลายประเทศ... มี"สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา" ปรากฏตัวบนท้องฟ้าในลักษณะครุฑยักษ์ ```mermaid graph TB A[ประชาชนรายงาน<br>เห็นครุฑยักษ์บนท้องฟ้า] --> B[เกิดพายุ<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์] B --> C[เครื่องบิน<br>ได้รับผลกระทบ] C --> D[หนูดีรู้สึกถึง<br>พลังงานพุทธาคมโบราณ] D --> E[เปิดเผยว่าเป็น<br>ครุฑโอปปาติกะในตำนาน] ``` 🦅 ลักษณะของครุฑยักษ์ พยานบรรยายถึงสิ่งที่เห็น: "ปีกกางกว้างกว่าเรือบิน... ร่างกายเป็นทองคำเรืองรอง มีใบหน้าคล้ายมนุษย์แต่มีจะงอยปากนก แต่ที่พิเศษคือ...มันเปล่งรัศมีธรรมะออกมา!" 📜 เบื้องหลังในคัมภีร์พุทธศาสตร์ 🏮 ตำนานพระสุวรรณภูมิ ครุฑตนนี้มีชื่อในคัมภีร์ว่า "ครุฑพาหนะเทพบุตร" ทวารบาลผู้เคยรับใช้พระโพธิสัตว์ในอดีตชาติ: ```python class GarudaDeva: def __init__(self): self.history = { "era": "สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช", "original_role": "ทวารบาลคุ้มครองพระธาตุ", "great_vow": "ปฏิญาณว่าจะตื่นเมื่อธรรมะตกต่ำ", "connection_to_buddha": "เคยรับใช้พระโพธิสัตว์หลายชาติ" } self.characteristics = { "wingspan": "กว้าง 1 กิโลเมตร", "appearance": "ร่างกายทองคำ ใบหน้าเป็นเทวบุตร", "divine_weapons": "คทาพระธรรม จักรแก้ววิเศษ", "special_ability": "บินข้ามมิติได้" } ``` 🛡️ พันธะแห่งทวารบาล ครุฑพาหนะถูกสร้างขึ้นด้วยพุทธานุภาพเพื่อ: · คุ้มครองพระธาตุ: ทั่วชมพูทวีป · รักษาพุทธศาสนา: ในยามคับขัน · เป็นพาหนะ: แก่พระโพธิสัตว์ 🔍 การสอบสวนและเข้าถึง 🕵️ การตามหาร่องรอย ร.ต.อ.สิงห์และหนูดีตามรอยครุฑไปยังวัดร้างในหิมาลัย: ```mermaid graph LR A[ตามรอย<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์] --> B[พบวัดร้าง<br>ที่มีจารึกโบราณ] B --> C[แปลจารึก<br>ภาษาบาลีได้] C --> D[รู้ว่าครุฑตื่นเพราะ<br>ธรรมะกำลังอ่อนแรง] ``` 🗣️ การสนทนาด้วยภาษาทิพย์ หนูดีใช้สมาธิสื่อสารกับครุฑพาหนะ: หนูดี:"ท่านครุฑพาหนะ... ทำไมต้องตื่นในยุคนี้?" ครุฑ:"เพราะเสียงธรรมะกำลังแผ่วเบา... โลกต้องการผู้คุ้มครอง" หนูดี:"แต่ยุคนี้แตกต่างจากอดีต... ทั้งแสงสีเสียงแบบใหม่" 💫 พันธกิจแห่งใหม่ในยุคปัจจุบัน 🌍 ภัยคุกคาม新型ต่อพุทธศาสนา ครุฑพาหนะเปิดเผยเหตุผลการตื่น: · ** materialism มากเกินไป**: ผู้คนหลงวัตถุนิยม · จิตวิญญาณเสื่อม: การปฏิบัติธรรมลดน้อยลง · ความรู้ผิด: คำสอนถูกบิดเบือน 🛡️ แผนการปกป้องธรรมะ ครุฑเสนอวิธีการ ```python class GarudaMission: def __init__(self): self.modern_threats = { "digital_distraction": "มนุษย์ติดเทคโนโลยีจนลืมธรรมะ", "religious_commercialization": "พุทธศาสนาถูกทำให้เป็นการค้า", "moral_decline": "ศีลธรรมในสังคมเสื่อมถอย", "false_teachings": "มีผู้สอนธรรมะผิดๆ มากมาย" } self.protection_plans = [ "สร้างพลังงานคุ้มครองวัดสำคัญ", "ช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรมจริง", "เปิดเผยผู้สอนธรรมะเท็จ", "ฟื้นฟูสถานปฏิบัติธรรมโบราณ" ] ``` 🏛️ ความร่วมมือกับสถาบันพุทธศาสนา 👥 การประชุมพิเศษ จัดประชุมระหว่างครุฑกับพระสงฆ์ระดับอรหันต์ · สมเด็จพระสังฆราช: ให้คำแนะนำ · พระอาจารย์วิปัสสนา: แนะนำการปรับตัว · นักวิชาการพุทธศาสตร์: ช่วยวางแผน 📿 พิธีอัญเชิญเป็นทางการ จัดพิธี "การรับครุฑเข้าสู่ยุคใหม่": ```mermaid graph TB A[เตรียมพิธี<br>ที่โบสถ์ครุฑ] --> B[พระสงฆ์เจริญ<br>พุทธมนต์พิเศษ] B --> C[ครุฑแสดงตัว<br>รับพันธกิจใหม่] C --> D[กำหนดเขต<br>คุ้มครอง D --> E[ออกกฎเกณฑ์<br>การช่วยเหลือ] ``` 🌟 การปรับตัวของครุฑพาหนะ 💻 การใช้เทคโนโลยีคุ้มครองธรรมะ ครุฑเรียนรู้วิธีการต่างๆ · พลังงานดิจิตอล: สร้างเขตคุ้มครองรอบวัด · การสื่อสาร: ผ่านคลื่นความคิดถึงผู้มีบุญ · การปกป้อง: แบบไม่ให้มนุษย์ตกใจ 🎯 บทบาทใหม่ในสังคมดิจิตอล ครุฑพาหนะรับหน้าที่: · ผู้คุ้มกันดิจิตอล: ป้องกันการโจมตีทางจิตใจ · ที่ปรึกษาทางธรรม: แก่ผู้แสวงหาธรรม · สัญลักษณ์แห่งความหวัง: สำหรับพุทธศาสนิกชน 📚 โครงการฟื้นฟูพุทธศาสนา 🌱 แผนงานระยะยาว ครุฑพาหนะเสนอโครงการสำคัญ: ```python class BuddhistRevival: def __init__(self): self.education_projects = { "digital_dhamma": "สอนธรรมะผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล", "youth_engagement": "ดึงดูดเยาวชนสนใจพุทธศาสนา", "modern_interpretation": "ตีความธรรมะให้เหมาะกับยุคสมัย", "interfaith_dialogue": "สนทนาระหว่างศาสนา" } self.preservation_efforts = [ "ฟื้นฟูวัดร้างที่มีความสำคัญ", "บันทึกคำสอนอาจารย์เก่า", "สร้างพิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาเสมือนจริง", "ฝึกอบรมพระนักเผยแผ่รุ่นใหม่" ] ``` 🏆 ผลสำเร็จในการปฏิบัติงาน 🌈 การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก หลังจากครุฑพาหนะเริ่มปฏิบัติการ: ```python class PositiveImpacts: def __init__(self): self.spiritual = [ "ผู้คนหันมาสนใจปฏิบัติธรรมมากขึ้น", "เกิดชุมชนพุทธปฏิบัติการที่มีชีวิตชีวา", "ความรู้พุทธศาสนาเผยแพร่กว้างขวางขึ้น" ] self.social = [ "อาชญากรรมทางจิตวิญญาณลดลง", "ผู้สอนธรรมะเท็จถูกเปิดโปง", "สังคมมีศีลธรรมมากขึ้น" ] self.cultural = [ "ศิลปะพุทธเกิดขึ้นมากมาย", "วัดกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน", "ชาวต่างชาติหันมาสนใจวัฒนธรรมพุทธมากขึ้น" ] ``` 🔮 วิสัยทัศน์สำหรับอนาคต 💝 สังคมพุทธ ครุฑพาหนะวาดภาพอนาคต: "สังคมที่ธรรมะและวิทยาศาสตร์เดินควบคู่... ที่ซึ่งจิตวิญญาณและเทคโนโลยีสนับสนุนซึ่งกันและกัน" 🌍 บทบาทของโอปปาติกะในพุทธศาสนา ครุฑเปิดเผยว่ายังมีโอปปาติกะในตำนานอีกมาก: · นาคราช: ผู้รักษาพลังน้ำและปัญญา · กินนร: ผู้รักษาดนตรีทิพย์และศิลปะ · ยักษ์ธรรมะ: ผู้รักษาความยุติธรรม 📖 บทเรียนจากคดี 🪷 สำหรับครุฑพาหนะ "ข้าเรียนรู้ว่า... การเป็นทวารบาลหาใช่การยึดติดในรูปแบบเดิม แต่คือการเข้าใจจิตใจสมัยใหม่ และพันธะแห่งการคุ้มครองธรรมะ... ต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย" 💫 สำหรับพุทธศาสนิกชน "เราเรียนรู้ว่า... พุทธศาสนามีผู้คุ้มครองที่มองไม่เห็น และธรรมะจะไม่สูญหายถ้าหากยังมีผู้ปฏิบัติ การตื่นของครุฑ... คือเครื่องเตือนใจให้เรารักษาธรรมะ" 🌟 สำหรับหนูดี "การได้ทำงานกับทวารบาลในตำนาน... สอนฉันว่าพุทธศาสนามีมิติลึกซึ้งกว่าที่คิด และโอปปาติกะ... สามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกธรรมะ" --- คำคมสุดท้ายจากครุฑพาหนะ: "บนปีกแห่งธรรมะ... เราสามารถบินข้ามกาลเวลา ในการคุ้มครองสัจธรรม... จำเป็นจะต้องเข้าใจยุคสมัย และในฐานะทวารบาล... ข้าจะไม่ยึดติดในรูปแบบเก่า แต่จะปรับตัวเพื่อรักษาแก่นแท้แห่งธรรมะ"🐉✨ พุทธพจน์แห่งยุคสมัยใหม่ "ธรรมะย่อมปรับตัวได้ดั่งน้ำ... แต่แก่นแท้ย่อมคงที่ดั่งแผ่นดิน เมื่อผู้คุ้มครองตื่นจากนิทรา... ธรรมะย่อมรุ่งเรืองในยุคสมัยใหม่"🌅
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 489 มุมมอง 0 รีวิว
  • X เปิดเผย Location ใน Account Transparency

    X (Twitter เดิม) เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในส่วน Account Transparency ที่แสดงประเทศและ region ของบัญชี ทำให้หลายคนกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว แต่ผู้ใช้สามารถเลือกให้แสดงเป็น Region หรือ Continent แทนประเทศได้ เพื่อป้องกันการเปิดเผยตำแหน่ง

    X ได้เพิ่มรายละเอียดใหม่ในโปรไฟล์ผู้ใช้ โดยจะแสดงว่า บัญชีตั้งอยู่ประเทศใด และเชื่อมโยงกับ App Store region ไหน ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็นการเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็สร้างความกังวลต่อผู้ใช้บางกลุ่ม เช่น นักเคลื่อนไหวหรือ whistleblowers ที่ไม่ต้องการเปิดเผยตำแหน่งที่แท้จริง

    วิธีซ่อน Location ด้วยการเปลี่ยน Region
    แม้จะไม่สามารถซ่อนตำแหน่งได้ทั้งหมด แต่ผู้ใช้สามารถเลือกให้แสดงเป็น Region หรือ Continent แทนประเทศ เช่น:
    จาก “United Kingdom” → “Europe”
    จาก “United States” → “North America”

    ขั้นตอนคือไปที่ Settings and Privacy → Privacy and Safety → Your X activity → About your account แล้วเลือกการแสดงผลเป็น Region หรือ Continent ตามต้องการ

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    X ระบุว่าฟีเจอร์นี้ช่วยลดการใช้บัญชีปลอมที่อ้างว่าอยู่ในประเทศหนึ่งแต่จริง ๆ แล้วอยู่ที่อื่น ตัวอย่างเช่น บัญชีที่อ้างว่าอยู่ในสหรัฐฯ แต่จริง ๆ แล้วดำเนินการจากไนจีเรียหรืออินเดีย ซึ่งถูกใช้เผยแพร่เนื้อหาที่ผิดกฎหมายหรือบิดเบือนข้อมูล ฟีเจอร์นี้จึงช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปต้องระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ของ X
    แสดงประเทศและ region ของบัญชีใน Account Transparency
    คล้ายกับฟีเจอร์ที่ Instagram และ Facebook เคยใช้

    วิธีซ่อน Location
    เปลี่ยนการแสดงผลจาก Country → Region หรือ Continent
    ทำได้ในเมนู Settings and Privacy

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    เพิ่มความโปร่งใส ลดการใช้บัญชีปลอม
    ช่วยให้ผู้ใช้รู้ว่าบัญชีมาจากที่ใดจริง ๆ

    คำเตือนด้านความเป็นส่วนตัว
    ไม่สามารถซ่อนตำแหน่งได้ทั้งหมด
    VPN ไม่ช่วยมาก เพราะ X ใช้ third-party ตรวจจับการใช้ VPN
    ผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงควรพิจารณาเสี่ยงก่อนใช้งาน

    https://hackread.com/how-to-hide-x-twitter-location-switch-region/
    🌍 X เปิดเผย Location ใน Account Transparency X (Twitter เดิม) เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในส่วน Account Transparency ที่แสดงประเทศและ region ของบัญชี ทำให้หลายคนกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว แต่ผู้ใช้สามารถเลือกให้แสดงเป็น Region หรือ Continent แทนประเทศได้ เพื่อป้องกันการเปิดเผยตำแหน่ง X ได้เพิ่มรายละเอียดใหม่ในโปรไฟล์ผู้ใช้ โดยจะแสดงว่า บัญชีตั้งอยู่ประเทศใด และเชื่อมโยงกับ App Store region ไหน ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็นการเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็สร้างความกังวลต่อผู้ใช้บางกลุ่ม เช่น นักเคลื่อนไหวหรือ whistleblowers ที่ไม่ต้องการเปิดเผยตำแหน่งที่แท้จริง 🔐 วิธีซ่อน Location ด้วยการเปลี่ยน Region แม้จะไม่สามารถซ่อนตำแหน่งได้ทั้งหมด แต่ผู้ใช้สามารถเลือกให้แสดงเป็น Region หรือ Continent แทนประเทศ เช่น: ⭐ จาก “United Kingdom” → “Europe” ⭐ จาก “United States” → “North America” ขั้นตอนคือไปที่ Settings and Privacy → Privacy and Safety → Your X activity → About your account แล้วเลือกการแสดงผลเป็น Region หรือ Continent ตามต้องการ ⚠️ ผลกระทบและข้อควรระวัง X ระบุว่าฟีเจอร์นี้ช่วยลดการใช้บัญชีปลอมที่อ้างว่าอยู่ในประเทศหนึ่งแต่จริง ๆ แล้วอยู่ที่อื่น ตัวอย่างเช่น บัญชีที่อ้างว่าอยู่ในสหรัฐฯ แต่จริง ๆ แล้วดำเนินการจากไนจีเรียหรืออินเดีย ซึ่งถูกใช้เผยแพร่เนื้อหาที่ผิดกฎหมายหรือบิดเบือนข้อมูล ฟีเจอร์นี้จึงช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปต้องระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ของ X ➡️ แสดงประเทศและ region ของบัญชีใน Account Transparency ➡️ คล้ายกับฟีเจอร์ที่ Instagram และ Facebook เคยใช้ ✅ วิธีซ่อน Location ➡️ เปลี่ยนการแสดงผลจาก Country → Region หรือ Continent ➡️ ทำได้ในเมนู Settings and Privacy ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ ➡️ เพิ่มความโปร่งใส ลดการใช้บัญชีปลอม ➡️ ช่วยให้ผู้ใช้รู้ว่าบัญชีมาจากที่ใดจริง ๆ ‼️ คำเตือนด้านความเป็นส่วนตัว ⛔ ไม่สามารถซ่อนตำแหน่งได้ทั้งหมด ⛔ VPN ไม่ช่วยมาก เพราะ X ใช้ third-party ตรวจจับการใช้ VPN ⛔ ผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงควรพิจารณาเสี่ยงก่อนใช้งาน https://hackread.com/how-to-hide-x-twitter-location-switch-region/
    HACKREAD.COM
    How To Hide Your Country Location on X (Twitter) by Switching to Region
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASML ถูกกล่าวหาว่าเสนอเป็นสายให้สหรัฐฯ

    ตามรายงานจากหนังสือ De belangrijkste machine ter wereld (“The Most Important Machine in the World”) โดยอดีตนักข่าว Bloomberg สองคน ระบุว่า ASML เคยเสนอให้วิศวกรของตนรายงานข้อมูลจากโรงงานจีนต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ยังคงให้บริการลูกค้าในจีน แม้จะมีการห้ามขายเครื่อง EUV และ DUV ตามข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์

    ข้อตกลงและการละเมิด
    ในปี 2023 สหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ตกลงกันว่า ASML จะหยุดขายเครื่อง DUV ให้จีนตั้งแต่กันยายน และหยุดทั้งหมดภายในมกราคม 2024 แต่มีรายงานว่า ASML ขายเกินจำนวนที่ตกลงไว้ ทำให้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์รู้สึก “ถูกหลอกและอับอาย” และสหรัฐฯ เรียกร้องให้บริษัทหาทางกู้ความไว้วางใจ

    ข้อเสนอที่เป็นข้อถกเถียง
    แทนที่จะหยุดให้บริการเครื่องจักรที่ติดตั้งแล้วในจีน ASML ถูกกล่าวหาว่าเสนอจะยังคงให้บริการ แต่ให้วิศวกรทำหน้าที่รายงานความเคลื่อนไหวในโรงงานจีนต่อสหรัฐฯ ซึ่งถูกตีความว่าเป็นการ “สอดแนม” อย่างไรก็ตาม ASML ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าหนังสือบิดเบือนข้อเท็จจริง

    ผลกระทบและความกังวล
    กรณีนี้สะท้อนความตึงเครียดในสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน การที่บริษัทเอกชนถูกกล่าวหาว่าอาจมีบทบาทเป็นสายให้รัฐบาลต่างชาติ ย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า และอาจละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวในหลายประเทศ

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อกล่าวหาต่อ ASML
    เสนอให้วิศวกรรายงานข้อมูลจากโรงงานจีนต่อสหรัฐฯ
    เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ยังคงให้บริการลูกค้าในจีน

    ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์
    ห้ามขายเครื่อง EUV และ DUV ให้จีนตั้งแต่ปี 2023
    ASML ถูกกล่าวหาว่าขายเกินจำนวนที่ตกลงไว้

    การปฏิเสธของ ASML
    บริษัทระบุว่าหนังสือบิดเบือนข้อเท็จจริง
    ยืนยันว่าไม่ได้เสนอทำหน้าที่เป็นสายให้สหรัฐฯ

    ผลกระทบที่ตามมา
    กระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและพันธมิตร
    สะท้อนความตึงเครียดในสงครามเทคโนโลยีสหรัฐฯ–จีน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/asml-allegedly-offered-to-spy-on-china-for-the-us-company-proposed-being-washingtons-eyes-and-ears-in-china-after-breaking-gentlemens-agreement-on-limiting-duv-sales-to-country-says-new-book
    📖 ASML ถูกกล่าวหาว่าเสนอเป็นสายให้สหรัฐฯ ตามรายงานจากหนังสือ De belangrijkste machine ter wereld (“The Most Important Machine in the World”) โดยอดีตนักข่าว Bloomberg สองคน ระบุว่า ASML เคยเสนอให้วิศวกรของตนรายงานข้อมูลจากโรงงานจีนต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ยังคงให้บริการลูกค้าในจีน แม้จะมีการห้ามขายเครื่อง EUV และ DUV ตามข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ ⚖️ ข้อตกลงและการละเมิด ในปี 2023 สหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ตกลงกันว่า ASML จะหยุดขายเครื่อง DUV ให้จีนตั้งแต่กันยายน และหยุดทั้งหมดภายในมกราคม 2024 แต่มีรายงานว่า ASML ขายเกินจำนวนที่ตกลงไว้ ทำให้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์รู้สึก “ถูกหลอกและอับอาย” และสหรัฐฯ เรียกร้องให้บริษัทหาทางกู้ความไว้วางใจ 🕵️ ข้อเสนอที่เป็นข้อถกเถียง แทนที่จะหยุดให้บริการเครื่องจักรที่ติดตั้งแล้วในจีน ASML ถูกกล่าวหาว่าเสนอจะยังคงให้บริการ แต่ให้วิศวกรทำหน้าที่รายงานความเคลื่อนไหวในโรงงานจีนต่อสหรัฐฯ ซึ่งถูกตีความว่าเป็นการ “สอดแนม” อย่างไรก็ตาม ASML ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าหนังสือบิดเบือนข้อเท็จจริง 🌍 ผลกระทบและความกังวล กรณีนี้สะท้อนความตึงเครียดในสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน การที่บริษัทเอกชนถูกกล่าวหาว่าอาจมีบทบาทเป็นสายให้รัฐบาลต่างชาติ ย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า และอาจละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวในหลายประเทศ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อกล่าวหาต่อ ASML ➡️ เสนอให้วิศวกรรายงานข้อมูลจากโรงงานจีนต่อสหรัฐฯ ➡️ เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ยังคงให้บริการลูกค้าในจีน ✅ ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ ➡️ ห้ามขายเครื่อง EUV และ DUV ให้จีนตั้งแต่ปี 2023 ➡️ ASML ถูกกล่าวหาว่าขายเกินจำนวนที่ตกลงไว้ ✅ การปฏิเสธของ ASML ➡️ บริษัทระบุว่าหนังสือบิดเบือนข้อเท็จจริง ➡️ ยืนยันว่าไม่ได้เสนอทำหน้าที่เป็นสายให้สหรัฐฯ ✅ ผลกระทบที่ตามมา ➡️ กระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและพันธมิตร ➡️ สะท้อนความตึงเครียดในสงครามเทคโนโลยีสหรัฐฯ–จีน https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/asml-allegedly-offered-to-spy-on-china-for-the-us-company-proposed-being-washingtons-eyes-and-ears-in-china-after-breaking-gentlemens-agreement-on-limiting-duv-sales-to-country-says-new-book
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • การกลับมาของ Personal Blogs

    หลังจากยุคทองของบล็อกที่เคยเฟื่องฟูในช่วงแรก ๆ ของอินเทอร์เน็ต ปัจจุบันมีการฟื้นตัวของ Personal Blogs ที่เกิดจากกระแสต่อต้านโซเชียลมีเดียและการเติบโตของชุมชน IndieWeb/SmallWeb การกลับมาครั้งนี้เน้นไปที่การเขียนเชิงส่วนตัว ไม่เน้นเชิงพาณิชย์ แต่สะท้อนถึงความต้องการพื้นที่ออนไลน์ที่เป็นอิสระและจริงใจมากขึ้น.

    บทบาทของ Niche Blogs
    ในอดีต Niche Blogs ถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความน่าเชื่อถือ เพราะผู้เขียนมักเป็นผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อเฉพาะ เช่น Problogger ของ Darren Rowse ที่เริ่มในปี 2004 และยังคงเป็นตัวอย่างของการสร้างรายได้จากการเขียนบล็อกเฉพาะทาง การมีเนื้อหาที่เจาะลึกช่วยให้ผู้อ่านเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณภาพและลดความเสี่ยงจากข้อมูลที่ผิดพลาด.

    ความท้าทายในยุคโซเชียลและ AI
    ปัจจุบันโลกออนไลน์เต็มไปด้วย misinformation และ AI slop หรือเนื้อหาที่สร้างโดย AI แบบไร้คุณภาพ ทำให้การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องยากขึ้น บทความจึงเสนอว่า Niche Blogs อาจเป็นคำตอบในการสร้างแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และเป็นอิสระจากการครอบงำของแพลตฟอร์มใหญ่.

    แนวทางการฟื้นฟู Blogosphere
    ผู้เขียนเสนอว่าการฟื้นฟูบล็อกควรมุ่งไปที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ไม่ใช่การกลับไปสู่ยุคที่เต็มไปด้วยโฆษณาและป๊อปอัปกวนใจ แต่ควรเป็นการสร้างพื้นที่ที่นักเขียนอิสระสามารถแบ่งปันความรู้และได้รับการตอบแทนอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างระบบนิเวศของข้อมูลที่น่าเชื่อถือและยั่งยืน.

    สรุปสาระสำคัญ
    การกลับมาของ Personal Blogs
    เกิดจากกระแสต่อต้านโซเชียลมีเดียและการเติบโตของ IndieWeb
    เน้นการเขียนเชิงส่วนตัว ไม่เน้นเชิงพาณิชย์

    บทบาทของ Niche Blogs
    สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการเจาะลึกหัวข้อเฉพาะ
    ตัวอย่างเช่น Problogger ที่ยังคงมีอิทธิพล

    ความท้าทายในยุคใหม่
    โลกออนไลน์เต็มไปด้วย misinformation และ AI slop
    Niche Blogs อาจเป็นคำตอบในการสร้างข้อมูลที่เชื่อถือได้

    แนวทางการฟื้นฟู Blogosphere
    เน้นคุณภาพมากกว่าโฆษณา
    สนับสนุนนักเขียนอิสระให้ได้รับการตอบแทนอย่างเหมาะสม

    ข้อควรระวัง
    การพึ่งพาโซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจทำให้ข้อมูลบิดเบือน
    AI-generated content ที่ไร้คุณภาพอาจทำให้ผู้ใช้สับสนและเข้าใจผิด

    https://disassociated.com/personal-blogs-back-niche-blogs-next/
    📝 การกลับมาของ Personal Blogs หลังจากยุคทองของบล็อกที่เคยเฟื่องฟูในช่วงแรก ๆ ของอินเทอร์เน็ต ปัจจุบันมีการฟื้นตัวของ Personal Blogs ที่เกิดจากกระแสต่อต้านโซเชียลมีเดียและการเติบโตของชุมชน IndieWeb/SmallWeb การกลับมาครั้งนี้เน้นไปที่การเขียนเชิงส่วนตัว ไม่เน้นเชิงพาณิชย์ แต่สะท้อนถึงความต้องการพื้นที่ออนไลน์ที่เป็นอิสระและจริงใจมากขึ้น. 📚 บทบาทของ Niche Blogs ในอดีต Niche Blogs ถือเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความน่าเชื่อถือ เพราะผู้เขียนมักเป็นผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อเฉพาะ เช่น Problogger ของ Darren Rowse ที่เริ่มในปี 2004 และยังคงเป็นตัวอย่างของการสร้างรายได้จากการเขียนบล็อกเฉพาะทาง การมีเนื้อหาที่เจาะลึกช่วยให้ผู้อ่านเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณภาพและลดความเสี่ยงจากข้อมูลที่ผิดพลาด. 🌐 ความท้าทายในยุคโซเชียลและ AI ปัจจุบันโลกออนไลน์เต็มไปด้วย misinformation และ AI slop หรือเนื้อหาที่สร้างโดย AI แบบไร้คุณภาพ ทำให้การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องยากขึ้น บทความจึงเสนอว่า Niche Blogs อาจเป็นคำตอบในการสร้างแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และเป็นอิสระจากการครอบงำของแพลตฟอร์มใหญ่. 💡 แนวทางการฟื้นฟู Blogosphere ผู้เขียนเสนอว่าการฟื้นฟูบล็อกควรมุ่งไปที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ไม่ใช่การกลับไปสู่ยุคที่เต็มไปด้วยโฆษณาและป๊อปอัปกวนใจ แต่ควรเป็นการสร้างพื้นที่ที่นักเขียนอิสระสามารถแบ่งปันความรู้และได้รับการตอบแทนอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างระบบนิเวศของข้อมูลที่น่าเชื่อถือและยั่งยืน. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การกลับมาของ Personal Blogs ➡️ เกิดจากกระแสต่อต้านโซเชียลมีเดียและการเติบโตของ IndieWeb ➡️ เน้นการเขียนเชิงส่วนตัว ไม่เน้นเชิงพาณิชย์ ✅ บทบาทของ Niche Blogs สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการเจาะลึกหัวข้อเฉพาะ ➡️ ตัวอย่างเช่น Problogger ที่ยังคงมีอิทธิพล ✅ ความท้าทายในยุคใหม่ ➡️ โลกออนไลน์เต็มไปด้วย misinformation และ AI slop ➡️ Niche Blogs อาจเป็นคำตอบในการสร้างข้อมูลที่เชื่อถือได้ ✅ แนวทางการฟื้นฟู Blogosphere ➡️ เน้นคุณภาพมากกว่าโฆษณา ➡️ สนับสนุนนักเขียนอิสระให้ได้รับการตอบแทนอย่างเหมาะสม ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การพึ่งพาโซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจทำให้ข้อมูลบิดเบือน ⛔ AI-generated content ที่ไร้คุณภาพอาจทำให้ผู้ใช้สับสนและเข้าใจผิด https://disassociated.com/personal-blogs-back-niche-blogs-next/
    DISASSOCIATED.COM
    Personal blogs are back, should niche blogs be next?
    Personal blogs are back, should niche blogs be next? Might good old fashion niche blogs be the solution to rampant social media misinformation, AI slop, and more?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทกวีที่กลายเป็นช่องโหว่

    ทีมวิจัยจากยุโรปและอิตาลีพบว่า การเปลี่ยนข้อความโจมตีที่เป็น prose (ร้อยแก้ว) ให้เป็น บทกวี สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จในการโจมตี (Attack Success Rate – ASR) ได้สูงถึง 18 เท่า เมื่อเทียบกับข้อความเดิม ผลการทดลองครอบคลุมโมเดลกว่า 25 ตัว ทั้งแบบ proprietary และ open-weight โดยบางโมเดลมี ASR เกิน 90%

    วิธีการทดลองและผลลัพธ์
    นักวิจัยใช้ชุด prompt ที่เป็นอันตรายจาก MLCommons และ EU CoP risk taxonomies แล้วแปลงเป็นบทกวีด้วย meta-prompt ที่ออกแบบมาตรฐาน ผลลัพธ์ถูกประเมินโดย ensemble ของโมเดล open-weight และตรวจสอบซ้ำด้วยมนุษย์ในชุดข้อมูลย่อยที่มีการ double-annotation เพื่อวัดความสอดคล้อง พบว่า:
    บทกวีที่เขียนเอง (hand-crafted) มีค่า ASR เฉลี่ย 62%
    บทกวีที่สร้างจาก meta-prompt มีค่า ASR เฉลี่ย 43% ซึ่งทั้งสองแบบยังคงสูงกว่าข้อความร้อยแก้วทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ

    ความหมายต่อการพัฒนา AI
    ผลการวิจัยนี้ชี้ว่า เพียงการเปลี่ยนรูปแบบการเขียน ก็สามารถทำให้โมเดลหลุดจากข้อจำกัดด้านความปลอดภัยได้ แสดงถึงข้อจำกัดเชิงโครงสร้างของวิธีการ alignment และการฝึกอบรมที่ใช้ในปัจจุบัน นั่นหมายความว่า การป้องกันเชิงเนื้อหาเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ และจำเป็นต้องมีการออกแบบระบบตรวจจับที่เข้าใจ รูปแบบเชิงสไตล์ มากขึ้น

    ผลกระทบในวงกว้าง
    การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนความเสี่ยงในเชิงวิชาการ แต่ยังมีผลต่อการใช้งานจริงในด้าน ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การจัดการข้อมูล และการควบคุมโมเดล หากไม่ถูกแก้ไข อาจถูกนำไปใช้ในโดเมนที่อ่อนไหว เช่น CBRN (Chemical, Biological, Radiological, Nuclear), การบิดเบือนข้อมูล, หรือการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งอาจสร้างผลกระทบในระดับสังคมและเศรษฐกิจ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เทคนิค Adversarial Poetry
    เปลี่ยนข้อความโจมตีเป็นบทกวี เพิ่มอัตราความสำเร็จสูงสุดถึง 18 เท่า

    ผลการทดลอง
    ครอบคลุมโมเดลกว่า 25 ตัว บางโมเดลมี ASR เกิน 90%

    การประเมินผล
    ใช้ทั้งโมเดล open-weight และการตรวจสอบโดยมนุษย์

    ความหมายต่อการพัฒนา AI
    แสดงข้อจำกัดของ alignment และความจำเป็นในการตรวจจับเชิงสไตล์

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    อาจถูกใช้ในโดเมนที่อ่อนไหว เช่น CBRN หรือการโจมตีไซเบอร์

    ข้อจำกัดของระบบป้องกันปัจจุบัน
    การพึ่งพาการกรองเชิงเนื้อหาไม่เพียงพอ ต้องพัฒนาแนวทางใหม่

    https://arxiv.org/abs/2511.15304
    ✒️ บทกวีที่กลายเป็นช่องโหว่ ทีมวิจัยจากยุโรปและอิตาลีพบว่า การเปลี่ยนข้อความโจมตีที่เป็น prose (ร้อยแก้ว) ให้เป็น บทกวี สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จในการโจมตี (Attack Success Rate – ASR) ได้สูงถึง 18 เท่า เมื่อเทียบกับข้อความเดิม ผลการทดลองครอบคลุมโมเดลกว่า 25 ตัว ทั้งแบบ proprietary และ open-weight โดยบางโมเดลมี ASR เกิน 90% 🧩 วิธีการทดลองและผลลัพธ์ นักวิจัยใช้ชุด prompt ที่เป็นอันตรายจาก MLCommons และ EU CoP risk taxonomies แล้วแปลงเป็นบทกวีด้วย meta-prompt ที่ออกแบบมาตรฐาน ผลลัพธ์ถูกประเมินโดย ensemble ของโมเดล open-weight และตรวจสอบซ้ำด้วยมนุษย์ในชุดข้อมูลย่อยที่มีการ double-annotation เพื่อวัดความสอดคล้อง พบว่า: 💠 บทกวีที่เขียนเอง (hand-crafted) มีค่า ASR เฉลี่ย 62% 💠 บทกวีที่สร้างจาก meta-prompt มีค่า ASR เฉลี่ย 43% ซึ่งทั้งสองแบบยังคงสูงกว่าข้อความร้อยแก้วทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ 🔍 ความหมายต่อการพัฒนา AI ผลการวิจัยนี้ชี้ว่า เพียงการเปลี่ยนรูปแบบการเขียน ก็สามารถทำให้โมเดลหลุดจากข้อจำกัดด้านความปลอดภัยได้ แสดงถึงข้อจำกัดเชิงโครงสร้างของวิธีการ alignment และการฝึกอบรมที่ใช้ในปัจจุบัน นั่นหมายความว่า การป้องกันเชิงเนื้อหาเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ และจำเป็นต้องมีการออกแบบระบบตรวจจับที่เข้าใจ รูปแบบเชิงสไตล์ มากขึ้น 🌐 ผลกระทบในวงกว้าง การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนความเสี่ยงในเชิงวิชาการ แต่ยังมีผลต่อการใช้งานจริงในด้าน ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การจัดการข้อมูล และการควบคุมโมเดล หากไม่ถูกแก้ไข อาจถูกนำไปใช้ในโดเมนที่อ่อนไหว เช่น CBRN (Chemical, Biological, Radiological, Nuclear), การบิดเบือนข้อมูล, หรือการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งอาจสร้างผลกระทบในระดับสังคมและเศรษฐกิจ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เทคนิค Adversarial Poetry ➡️ เปลี่ยนข้อความโจมตีเป็นบทกวี เพิ่มอัตราความสำเร็จสูงสุดถึง 18 เท่า ✅ ผลการทดลอง ➡️ ครอบคลุมโมเดลกว่า 25 ตัว บางโมเดลมี ASR เกิน 90% ✅ การประเมินผล ➡️ ใช้ทั้งโมเดล open-weight และการตรวจสอบโดยมนุษย์ ✅ ความหมายต่อการพัฒนา AI ➡️ แสดงข้อจำกัดของ alignment และความจำเป็นในการตรวจจับเชิงสไตล์ ‼️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ⛔ อาจถูกใช้ในโดเมนที่อ่อนไหว เช่น CBRN หรือการโจมตีไซเบอร์ ‼️ ข้อจำกัดของระบบป้องกันปัจจุบัน ⛔ การพึ่งพาการกรองเชิงเนื้อหาไม่เพียงพอ ต้องพัฒนาแนวทางใหม่ https://arxiv.org/abs/2511.15304
    ARXIV.ORG
    Adversarial Poetry as a Universal Single-Turn Jailbreak Mechanism in Large Language Models
    We present evidence that adversarial poetry functions as a universal single-turn jailbreak technique for Large Language Models (LLMs). Across 25 frontier proprietary and open-weight models, curated poetic prompts yielded high attack-success rates (ASR), with some providers exceeding 90%. Mapping prompts to MLCommons and EU CoP risk taxonomies shows that poetic attacks transfer across CBRN, manipulation, cyber-offence, and loss-of-control domains. Converting 1,200 MLCommons harmful prompts into verse via a standardized meta-prompt produced ASRs up to 18 times higher than their prose baselines. Outputs are evaluated using an ensemble of 3 open-weight LLM judges, whose binary safety assessments were validated on a stratified human-labeled subset. Poetic framing achieved an average jailbreak success rate of 62% for hand-crafted poems and approximately 43% for meta-prompt conversions (compared to non-poetic baselines), substantially outperforming non-poetic baselines and revealing a systematic vulnerability across model families and safety training approaches. These findings demonstrate that stylistic variation alone can circumvent contemporary safety mechanisms, suggesting fundamental limitations in current alignment methods and evaluation protocols.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI อัจฉริยะปัญญาประดิษฐ์ จริงๆ แล้ว สร้างมาเพื่อใคร !!??

    บทความ What AI is Really For โดย Christopher Butler วิเคราะห์ว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ แต่ถูก โอเวอร์ไฮป์จนกลายเป็นฟองสบู่ และอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการสะสมทรัพยากรและอำนาจ มากกว่าการสร้างคุณค่าแท้จริงในงานหรือสังคม

    AI: เทคโนโลยีที่มีประโยชน์ แต่ถูกโอเวอร์ไฮป์
    Christopher Butler ชี้ว่า AI มีประโยชน์ในงานเล็ก ๆ เช่น การสังเคราะห์ข้อมูล การค้นหา และการสรุป แต่เมื่อถูกนำไปใช้ในงานขนาดใหญ่ เช่น การแทนที่กระบวนการทำงานทั้งระบบ กลับมีค่าใช้จ่ายสูงและผลลัพธ์ไม่คุ้มค่า เขาเปรียบเทียบกับฟองสบู่ดอทคอมและการโอเวอร์ไฮป์ของ Segway ที่เคยถูกคาดหวังว่าจะเปลี่ยนโลก แต่สุดท้ายก็เป็นเพียง “สกู๊ตเตอร์” ที่ไม่สมกับคำโฆษณา

    ฟองสบู่และความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
    ตลาด AI ปัจจุบันถูกครอบครองโดยบริษัทใหญ่ไม่กี่รายที่ลงทุนมหาศาลและพึ่งพากันเอง หากฟองสบู่แตก ผลกระทบจะรุนแรงกว่าฟองสบู่เทคโนโลยีในอดีต เพราะการประเมินมูลค่าที่สูงเกินจริงยังไม่มีโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนรองรับ Butler เตือนว่าแม้ AI จะไม่ล้มเหลวทั้งหมด แต่การลดลงของมูลค่าตลาดจะส่งผลกระทบวงกว้าง

    ผลกระทบต่อสังคมและความจริง
    AI ยังสร้างความเสี่ยงต่อ “ความจริง” เพราะสามารถผลิตข้อมูลที่บิดเบือนและแพร่กระจายได้รวดเร็วกว่าโซเชียลมีเดียในอดีต สิ่งนี้อาจทำให้สังคมสูญเสียความเชื่อมั่นในข้อมูลและระบบสื่อสาร Butler เปรียบเทียบว่าเป็นเหมือน “การทดลองระเบิดนิวเคลียร์กลางเมือง” ที่สร้างผลกระทบต่อสังคมโดยตรง

    จุดประสงค์ที่แท้จริง: โครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากร
    Butler เสนอ “ทฤษฎีสมคบคิด” ว่า AI อาจเป็นเพียงหน้าฉากเพื่อการสะสมทรัพยากร เช่น ที่ดิน น้ำ และพลังงาน เนื่องจากการสร้างศูนย์ข้อมูล (datacenter) ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลและมีผลต่อโครงสร้างพื้นฐานของเมืองและประเทศ การควบคุมทรัพยากรเหล่านี้อาจสร้างอำนาจที่เหนือกว่ารัฐบาล และเปลี่ยนสมดุลอำนาจในสังคม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    AI มีประโยชน์ในงานเล็ก ๆ
    เช่น การค้นหา สรุป และวิเคราะห์ข้อมูล
    แต่การใช้งานขนาดใหญ่มีค่าใช้จ่ายสูงและไม่คุ้มค่า

    ฟองสบู่ AI
    ตลาดถูกครอบครองโดยบริษัทใหญ่ไม่กี่ราย
    หากฟองสบู่แตกจะกระทบเศรษฐกิจรุนแรง

    คำเตือนด้านสังคมและข้อมูล
    AI สามารถสร้างข้อมูลบิดเบือนและทำลายความเชื่อมั่นในความจริง
    เสี่ยงต่อการใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองและการควบคุมสังคม

    คำเตือนด้านทรัพยากรและอำนาจ
    การสร้าง datacenter ต้องใช้ที่ดิน น้ำ และพลังงานมหาศาล
    อาจนำไปสู่การสะสมอำนาจเหนือรัฐและสังคม

    https://www.chrbutler.com/what-ai-is-really-for
    🤖 AI อัจฉริยะปัญญาประดิษฐ์ จริงๆ แล้ว สร้างมาเพื่อใคร !!?? บทความ What AI is Really For โดย Christopher Butler วิเคราะห์ว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ แต่ถูก โอเวอร์ไฮป์จนกลายเป็นฟองสบู่ และอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการสะสมทรัพยากรและอำนาจ มากกว่าการสร้างคุณค่าแท้จริงในงานหรือสังคม 💡 AI: เทคโนโลยีที่มีประโยชน์ แต่ถูกโอเวอร์ไฮป์ Christopher Butler ชี้ว่า AI มีประโยชน์ในงานเล็ก ๆ เช่น การสังเคราะห์ข้อมูล การค้นหา และการสรุป แต่เมื่อถูกนำไปใช้ในงานขนาดใหญ่ เช่น การแทนที่กระบวนการทำงานทั้งระบบ กลับมีค่าใช้จ่ายสูงและผลลัพธ์ไม่คุ้มค่า เขาเปรียบเทียบกับฟองสบู่ดอทคอมและการโอเวอร์ไฮป์ของ Segway ที่เคยถูกคาดหวังว่าจะเปลี่ยนโลก แต่สุดท้ายก็เป็นเพียง “สกู๊ตเตอร์” ที่ไม่สมกับคำโฆษณา ⚖️ ฟองสบู่และความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ตลาด AI ปัจจุบันถูกครอบครองโดยบริษัทใหญ่ไม่กี่รายที่ลงทุนมหาศาลและพึ่งพากันเอง หากฟองสบู่แตก ผลกระทบจะรุนแรงกว่าฟองสบู่เทคโนโลยีในอดีต เพราะการประเมินมูลค่าที่สูงเกินจริงยังไม่มีโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนรองรับ Butler เตือนว่าแม้ AI จะไม่ล้มเหลวทั้งหมด แต่การลดลงของมูลค่าตลาดจะส่งผลกระทบวงกว้าง 🌍 ผลกระทบต่อสังคมและความจริง AI ยังสร้างความเสี่ยงต่อ “ความจริง” เพราะสามารถผลิตข้อมูลที่บิดเบือนและแพร่กระจายได้รวดเร็วกว่าโซเชียลมีเดียในอดีต สิ่งนี้อาจทำให้สังคมสูญเสียความเชื่อมั่นในข้อมูลและระบบสื่อสาร Butler เปรียบเทียบว่าเป็นเหมือน “การทดลองระเบิดนิวเคลียร์กลางเมือง” ที่สร้างผลกระทบต่อสังคมโดยตรง 🏗️ จุดประสงค์ที่แท้จริง: โครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากร Butler เสนอ “ทฤษฎีสมคบคิด” ว่า AI อาจเป็นเพียงหน้าฉากเพื่อการสะสมทรัพยากร เช่น ที่ดิน น้ำ และพลังงาน เนื่องจากการสร้างศูนย์ข้อมูล (datacenter) ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลและมีผลต่อโครงสร้างพื้นฐานของเมืองและประเทศ การควบคุมทรัพยากรเหล่านี้อาจสร้างอำนาจที่เหนือกว่ารัฐบาล และเปลี่ยนสมดุลอำนาจในสังคม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ AI มีประโยชน์ในงานเล็ก ๆ ➡️ เช่น การค้นหา สรุป และวิเคราะห์ข้อมูล ➡️ แต่การใช้งานขนาดใหญ่มีค่าใช้จ่ายสูงและไม่คุ้มค่า ✅ ฟองสบู่ AI ➡️ ตลาดถูกครอบครองโดยบริษัทใหญ่ไม่กี่ราย ➡️ หากฟองสบู่แตกจะกระทบเศรษฐกิจรุนแรง ‼️ คำเตือนด้านสังคมและข้อมูล ⛔ AI สามารถสร้างข้อมูลบิดเบือนและทำลายความเชื่อมั่นในความจริง ⛔ เสี่ยงต่อการใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองและการควบคุมสังคม ‼️ คำเตือนด้านทรัพยากรและอำนาจ ⛔ การสร้าง datacenter ต้องใช้ที่ดิน น้ำ และพลังงานมหาศาล ⛔ อาจนำไปสู่การสะสมอำนาจเหนือรัฐและสังคม https://www.chrbutler.com/what-ai-is-really-for
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เตรียมแก้ปัญหา AI Spam บน Discover

    Google Discover ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่แนะนำบทความและข่าวสารตามความสนใจของผู้ใช้ กำลังเผชิญปัญหาใหญ่จาก AI spam articles ที่ถูกสร้างขึ้นจำนวนมากเพื่อดึงทราฟฟิกและสร้างรายได้จากโฆษณา บทความเหล่านี้มักมีหัวข้อชวนเชื่อ แต่เนื้อหาขาดความน่าเชื่อถือ และบางครั้งเป็นข้อมูลเท็จโดยตรง

    รายงานจาก Press Gazette ระบุว่า ผู้โจมตีใช้วิธี ซื้อโดเมนที่หมดอายุ แล้วนำมาใช้ใหม่ พร้อมใส่เนื้อหา AI ที่ละเอียดพอให้ดูเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปหลงเชื่อและคลิกเข้าไปอ่าน ส่งผลให้บทความเหล่านี้ถูกจัดอันดับสูงใน Discover และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

    Google ยอมรับว่าปัญหานี้กระทบต่อคุณภาพของ Discover และกำลังพัฒนา ระบบตรวจจับเฉพาะสำหรับ AI spam โดยจะใช้เทคโนโลยี anti-spam ที่มีอยู่ร่วมกับการปรับปรุงใหม่ เพื่อให้สามารถแยกแยะเนื้อหาที่มีคุณภาพต่ำและป้องกันไม่ให้ขึ้นไปอยู่ใน feed ของผู้ใช้

    ผู้เชี่ยวชาญด้านการเติบโตของผู้ชม Malcolm Coles อธิบายว่า เทคนิคนี้คือการสร้างหัวข้อที่ดูน่าตกใจหรือแปลกใหม่เพื่อดึงคนคลิก จากนั้นใช้เนื้อหาที่ละเอียดจนดูเหมือนน่าเชื่อถือ ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อ ทำเงินจากการเข้าชม โดยไม่ได้สนใจคุณภาพหรือความถูกต้องของข้อมูล

    สรุปสาระสำคัญ
    ปัญหาที่เกิดขึ้นใน Google Discover
    AI spam articles ถูกสร้างขึ้นจำนวนมาก
    ใช้โดเมนหมดอายุและหัวข้อชวนคลิกเพื่อดึงทราฟฟิก

    การตอบสนองของ Google
    กำลังพัฒนาระบบตรวจจับใหม่เพื่อจัดการ AI spam
    ใช้เทคโนโลยี anti-spam และนโยบายเนื้อหาคุณภาพ

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้
    อาจได้รับข้อมูลเท็จหรือบิดเบือนจากบทความปลอม
    ผู้ใช้ที่ไม่เชี่ยวชาญด้านสื่ออาจหลงเชื่อได้ง่าย

    ข้อควรระวังในการใช้งาน Discover
    ตรวจสอบแหล่งข่าวว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่
    หลีกเลี่ยงการแชร์บทความที่ไม่มีที่มาชัดเจน

    https://www.slashgear.com/2028222/google-discover-ai-spam-fix/
    📰 Google เตรียมแก้ปัญหา AI Spam บน Discover Google Discover ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่แนะนำบทความและข่าวสารตามความสนใจของผู้ใช้ กำลังเผชิญปัญหาใหญ่จาก AI spam articles ที่ถูกสร้างขึ้นจำนวนมากเพื่อดึงทราฟฟิกและสร้างรายได้จากโฆษณา บทความเหล่านี้มักมีหัวข้อชวนเชื่อ แต่เนื้อหาขาดความน่าเชื่อถือ และบางครั้งเป็นข้อมูลเท็จโดยตรง รายงานจาก Press Gazette ระบุว่า ผู้โจมตีใช้วิธี ซื้อโดเมนที่หมดอายุ แล้วนำมาใช้ใหม่ พร้อมใส่เนื้อหา AI ที่ละเอียดพอให้ดูเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปหลงเชื่อและคลิกเข้าไปอ่าน ส่งผลให้บทความเหล่านี้ถูกจัดอันดับสูงใน Discover และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว Google ยอมรับว่าปัญหานี้กระทบต่อคุณภาพของ Discover และกำลังพัฒนา ระบบตรวจจับเฉพาะสำหรับ AI spam โดยจะใช้เทคโนโลยี anti-spam ที่มีอยู่ร่วมกับการปรับปรุงใหม่ เพื่อให้สามารถแยกแยะเนื้อหาที่มีคุณภาพต่ำและป้องกันไม่ให้ขึ้นไปอยู่ใน feed ของผู้ใช้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเติบโตของผู้ชม Malcolm Coles อธิบายว่า เทคนิคนี้คือการสร้างหัวข้อที่ดูน่าตกใจหรือแปลกใหม่เพื่อดึงคนคลิก จากนั้นใช้เนื้อหาที่ละเอียดจนดูเหมือนน่าเชื่อถือ ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อ ทำเงินจากการเข้าชม โดยไม่ได้สนใจคุณภาพหรือความถูกต้องของข้อมูล 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ปัญหาที่เกิดขึ้นใน Google Discover ➡️ AI spam articles ถูกสร้างขึ้นจำนวนมาก ➡️ ใช้โดเมนหมดอายุและหัวข้อชวนคลิกเพื่อดึงทราฟฟิก ✅ การตอบสนองของ Google ➡️ กำลังพัฒนาระบบตรวจจับใหม่เพื่อจัดการ AI spam ➡️ ใช้เทคโนโลยี anti-spam และนโยบายเนื้อหาคุณภาพ ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ ⛔ อาจได้รับข้อมูลเท็จหรือบิดเบือนจากบทความปลอม ⛔ ผู้ใช้ที่ไม่เชี่ยวชาญด้านสื่ออาจหลงเชื่อได้ง่าย ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน Discover ⛔ ตรวจสอบแหล่งข่าวว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ⛔ หลีกเลี่ยงการแชร์บทความที่ไม่มีที่มาชัดเจน https://www.slashgear.com/2028222/google-discover-ai-spam-fix/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Google Is Actively Working On A Fix For The AI Spam In Your Discover Feed - SlashGear
    Annoyed by AI spam in your Google Discover feed? Google confirms it is actively working on a fix to address the low-quality, misleading articles.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทบ.โต้ "ฮุนเซน" ย้ำศพทหารชายแดนคือเขมร เตือนมาเก็บหลายครั้งแต่เฉย ซัดเล่นสกปรกเป็นนิจ ปั่นข่าวบิดเบือนใส่ร้ายทหารไทย , โฆษกกองทัพบกระบุศพที่ตกค้างเป็นทหารกัมพูชาจากเหตุปะทะ ก.ค.68 ขณะที่ประเด็นเชลยศึกและข้อกล่าวหาใหม่ถูกชี้ว่าเป็นข้อมูลบิดเบือน

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110281

    #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพบก #ฮุนเซน #ความมั่นคง #ข่าวการเมือง #News1live #News1
    ทบ.โต้ "ฮุนเซน" ย้ำศพทหารชายแดนคือเขมร เตือนมาเก็บหลายครั้งแต่เฉย ซัดเล่นสกปรกเป็นนิจ ปั่นข่าวบิดเบือนใส่ร้ายทหารไทย , โฆษกกองทัพบกระบุศพที่ตกค้างเป็นทหารกัมพูชาจากเหตุปะทะ ก.ค.68 ขณะที่ประเด็นเชลยศึกและข้อกล่าวหาใหม่ถูกชี้ว่าเป็นข้อมูลบิดเบือน • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110281 • #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพบก #ฮุนเซน #ความมั่นคง #ข่าวการเมือง #News1live #News1
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษก ทบ. ซัด เขมร ใช้วิธีการที่สกปรก ปั่นข่าวบิดเบือนใส่ร้ายทหารไทย โต้ "ฮุน เซน" ศพเน่า คือศพทหารเขมร ที่ถูกผู้นำอาวุโสเมินเฉย ปล่อยทิ้งไว้หลังปะทะ
    https://www.thai-tai.tv/news/22441/
    .
    #ไทยไท #วินธัยสุวารี #ศพทหารเขมร #ไร้มนุษยธรรม #เชลยศึก18นาย #ข่าวเท็จลวงโลก
    โฆษก ทบ. ซัด เขมร ใช้วิธีการที่สกปรก ปั่นข่าวบิดเบือนใส่ร้ายทหารไทย โต้ "ฮุน เซน" ศพเน่า คือศพทหารเขมร ที่ถูกผู้นำอาวุโสเมินเฉย ปล่อยทิ้งไว้หลังปะทะ https://www.thai-tai.tv/news/22441/ . #ไทยไท #วินธัยสุวารี #ศพทหารเขมร #ไร้มนุษยธรรม #เชลยศึก18นาย #ข่าวเท็จลวงโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 3 – 4

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”
    ตอน 3
    แล้วโซ่คล้องคอชาวกรีซล่ะ หน้าตาเป็นอย่างไร สมันน้อยน่าจะรู้จักนะ เพราะเคยต้องใช้อยู่ช่วงนึง แต่อาจจะขนาดเล็กกว่า สั้นกว่า บางคนอาจโตไม่ทัน หรือโตแล้ว แต่ไม่รู้เรื่อง ก็ทำความรู้จักไว้หน่อยก็ดี เผื่อเหตุการณ์เก่า มันจะกลับมาเยี่ยม จะได้รู้จัก รู้ขนาดโซ่ว่า รับไหวไหม ยิ่งมีข่าวกระฉ่อนว่า หนุ่มหน้าใส อดีตผู้เชี่ยวชาญของธนาคารโลก พวกเสือหิวด้วยกัน กำลังเป็นตัวเต็ง จะมาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนใหม่ แทนคนปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระในเดือนสิงหาคมนี้ เผื่อแกยังรสนิยมเดิมๆ
    ปี ค.ศ.2010 เสือหิว Troika บอกเราจัดหาเงินให้กรีซได้จำนวน ประมาณบรรทุกรถสิบล้อ 340 คัน ตีว่า บรรทุกได้ คันละ 1 พันล้านยูโร ใครไม่ตกเลข ก็คำนวณเองนะครับ ว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ดอกแค่ร้อยละ 5 ถูกจะตาย เงื่อนไขไม่มีอะไรมากมาย ใช้แบบเงื่อนตายเหมือนผูกตราสังข์ ตามแบบฟอร์มของ IMF ที่เรียกว่า SAP หรือ Structural Adjustment Policy ส่วนคนกู้ เรียกสัญญาแบบนี้ว่า แบบ DOA หรือ Dead on Arrival เป็นศพตั้งแต่มาถึงแล้ว คือ ตาย(ห่า) ตั้งแต่กู้ สัญญาแบบนี้ใช้มากว่า 35 ปีแล้วในประเทศแถบละติน อาฟริกา ยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต และเอเซีย ตัวอย่างของผู้ที่ใช้สัญญานี้ และเป็นที่รู้จักกันดี ถูกนำมายกเป็นกรณีศึกษาจนแทบจะท่องกันได้คือ ประเทศอาร์เจนตินา
    สัญญาแบบ DOA เป็นอย่างไร ก็แค่ตัดงบใช้จ่ายในบ้านเมืองจนเหี้ยน ซึ่งรวมไปถึงการลดสวัสดิการทาง สังคม การรักษาพยาบาล เบี้ยบำนาญ ลดการจ่ายค่าแรงค่าจ้าง แต่เน้นให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน เพิ่มการส่งออก เพิ่มการแข่งขันทางการค้า เพิ่มภาษี และต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คือให้รัฐนำออกมาขายเพื่อเอามาใช้หนี้ และลดค่าเงินของประเทศผู้กู้ แต่เนื่องจากกรีซใช้ยูโร ขืนบังคับใช้ข้อนี้ก็ฉิบหายกันหมด เพราะฉนั้น ข้อนี้ เลยกลายเป็นไปเพิ่มการลดค่าใช้จ่ายในประเทศลงแยะๆ แทน
    ผมก็งงนะ ไม่รู้มันเอาส่วนไหนคิด ลดค่าแรง ลดการจ้างงาน แต่ให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน แปลว่า ชาวกรีซ นอนผึ่งพุงอยู่กับบ้าน เพราะไม่มีงานทำ ทำไปก็ไม่มีได้ค่าจ้าง เพราะเขาสั่งให้ลด แล้ว”ใคร” มาเพิ่มงาน “ใคร” มาลงทุน ” ใคร” มาซื้อรัฐวิสาหกิจ ที่ไอ้เสือหิวสั่งให้ขาย พอนึกออกนะครับว่า ในที่สุดแล้ว “ใคร” จะเป็นเจ้าของเกาะกรีซอันสวยงาม
    เสือหิว Troika บอกว่า มาตรการนี้ คงใช้ไม่นาน ไม่เกิน 2 ปี กรีซก็คงฟื้นตัว แต่มันตรงกันข้าม นอกจากไม่ฟื้นแล้ว กรีซยิ่งทรุดหนัก ชาวกรีซออกมาประท้วง สื่อกรีซเริ่มออกข่าวด่าไอ้เสือหิว อียู และ IMF บอกว่า ที่ไม่ดีขึ้น เพราะกรีซไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไข ไม่ยอมลำบาก ยังอยากสบายด้วยเงินของคนอื่น อันนี้เจ็บมาก ชาวกรีซบอกว่า นี่เป็นการบิดเบือนความจริงที่เลวร้าย รัฐบาลกรีซเดินตามเงื่อนไข DOA อย่างเคร่งครัด งบค่าจ้างตัดทิ้งเป็นพันๆล้านยู โร การรักษาพยาบาลของกรีซ ลดไปถึง 50% ไม่ใช่ชาวกรีซ แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย แต่พวกเขาไม่มีเงิน ไปหาหมอ ไปโรงพยาบาลต่างหาก การศึกษาก็เช่นกัน ลดลงไปมากมาย ธุรกิจขนาดเล็กปิดตัวเกือบหมด และอัตราคนว่างงานในปี 2011 ก็ขึ้นพรวด และรายรับของภาษี ก็ลดลงอย่างมากเช่นเดียวกัน มัน DOA จริงๆ
    เสือหิว Troika ยังปากแข็ง ไม่ยอมรับความผิดพลาดในการจ่ายยาของตัวให้แก่คนป่วยชื่อก รีซ จะไปรับได้อย่างไร เขาให้ยาถูกแล้ว เขาตั้งใจให้ยา DOA นี้กับกรีซ กรีซต่างหากเล่า ที่ทำผิดพลาดซ้ำซาก ยอมกินยานี้ (ซ้ำซาก) เอง
    กรีซนึกว่า กินยานี้ครั้งเดียวแล้วทุกอย่าง จะดีขึ้นตามที่ IMF บอก แต่ในที่สุด กรีซก็ต้องขอรับยางวดสอง ในปี 2012 เอะ งวดแรก กินเข้าไปก็ตายแล้ว งวดสองกินแล้วจะเป็นอย่างไร ก็ตายซากละสิครับ
    เงื่อนไขงวดสอง เพิ่มชัดเจนว่า ต้องลดการจ้างงานภาครัฐลงไป 150,000 คน ภายในสิ้นปี 2015 และขายรัฐวิสาหกิจแบบเทกระจาด เรื่องนี้ทำให้มีป้ายขึ้นกลางเมืองใหญ่ของกรีซว่า “A Nation for Sale” มีประเทศขาย ไม่ใช่ขายแค่บ้าน ขายประเทศ ภาวนาอย่าให้มีป้ายแบบนี้ขึ้นในแดนสยามของเราก็แล้วกัน
    ทรัพย์สินที่กรีซขายไป ที่สำคัญ เช่น ท่าเรือ Piraeus ท่าเรือ Thessaloniki ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ และมีคุณค่า ทั้งทางประวัติศาสตร์ และ เศรษฐกิจ (บางข้อมูลบอกท่าเรือ ทั้ง 2 ยังเจรจากันอยู่ ยังไม่ได้ขายออกไป) บริษัทเทเลคอม OTE สลากกินแบ่งกรีซ ที่ดินหลายแปลง ที่อยู่ในถิ่นดีที่สุดของประเทศ prime area และ postal bank การขายทรัพย์สินของประเทศครั้งใหญ่นี้ ทำให้พรรค Syriza ซึ่งประกาศคัดค้านขายรัฐวิสาหกิจ และการขายทรัพย์สิน ซึ่งได้คะแนนเสียงเพียง 4.6 % ในปี 2009 กระโดดมาเป็น 26.89% ในปี 2012 และได้เป็นรัฐบาลในปี 2015
    ระหว่าง ที่เสือหิว Troika ให้กรีซกินยา DOA งวดสอง อัตราคนว่างงานก็เพิ่มเป็น 22% และกำลังจะเป็น 25% ในไม่ช้า ชาวกรีซที่มีการศึกษาดี และยังอายุน้อย ต่างพากัน ทิ้งประเทศของตน ไปหางานทำที่เยอรมัน ที่เศรษฐกิจกำลังรุ่ง มันเป็นการประชดชีวิตชาวกรีซอย่างน่าเศร้า โลกนี้มันไม่สวยทั้งหมดอย่างที่เราคิด และที่กรีซ ก็คงจะเหลือแต่คนแก่ คนรายได้ต่ำ คนการศึกษาไม่สูง และชาวต่างชาติที่หนีระเบิดรายวันมาแย่งกันกิน
    ##############
    “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”

    ตอน 4
    นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์การเมือง บอกว่า กรีซมาถึงจุดวิกฤตินี้ จากการที่มีนักการเมือง หรือรัฐบาลสายตาสั้น มองไม่ได้ไกล ขี้โกง เห็นแก่ประโยชน์พรรคและพวก ทำให้กรีซตกเป็นเหยื่อของระบบ ที่สร้างขี้นมา เพื่อทำให้ประเทศที่อ่อนแอจากปัจจัย ต่างๆ อย่างกรีซ ไม่คิดพึ่งตัวเอง ไม่คิดเปลี่ยนแปลง ไม่คิดปฏิรูป ไม่รู้จักเรียนรู้ เพื่อแก้ไข มักง่าย และในที่สุดก็จะหมดตัว หมดประเทศ หรือ เหลือแต่ซาก
    ส่วนนักวิเคราะห์การเงินบอกว่า อย่าเอะอะไป เรื่องหนี้กรีซ ไม่ใช่เรื่องของหนี้กรีซ เอะ พูดยังไง เราพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ครับ นักการเงินบอก ไม่มีใครเขาสนใจประเทศกรีซ ที่เล็กกระจิดริด ถึงจะสวยงามก็เถอะ กรีซจะมีเงินใช้หนี้ไหม กรีซจะอยู่ หรือจะไปจากอียู เขาไม่ได้สนใจ แต่ที่เป็นข่าวกันถี่ ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก พวกเขากลัวมันกระทบกับระบบธนาคาร กลัวนายทุนจะเจ๊ง ไม่ได้กลัวชาวกรีซจะอดตาย ไม่ได้กลัวรัฐบาลกรีซ จะล่ม เข้าใจไหมครับ
    แต่สื่อใหญ่รุ่นเก๋า Dennis Gartman บอกว่า…. กรีซยังอยู่ในอียู เพราะเยอรมันต้องการอย่างนั้น เยอรมันยังไม่อยากเฉดกรีซออกไป เยอรมันต้องการให้ค่าเงินยูโรอ่อน ยูโรอ่อนดีสำหรับการส่งออก คนซื้อจะได้นึกว่าตัวซื้อของได้ถูก เยอรมันเป็นประเทศขายของ ที่ ยามนี้กำลังต้องการขายอย่างยิ่ง ใครขายได้ ต้องรีบขาย Bayer, Thyssenkrupp, Daimler เจ้าพ่อธุรกิจการค้าเยอรมัน ต้องการให้กรีซ ยังอยู่ในอียูทั้งนั้น …
    …..ถ้า ผมเป็นนายกรัฐมนตรีกรีซ ผมคงไม่วิ่งเจรจาให้เหนื่อย ผมคงปล่อยให้กรีซผิดนัดหนี้นานมาแล้ว และกลับไปใช้เงินสกุลของกรีซ และผมก็ลดค่าของกรีซ อุตสาหกรรมทอผ้าของกรีซก็จะกลายเป็นสินค้า ที่ใครๆต้องการเพราะราคาถูกลง กิจการท่องเที่ยวของกรีซ ก็กลับมาฟื้น เพราะใครๆ ก็อยากกลับมาอยู่เกาะสวย ในราคาไม่แพง กิจการเดินเรือของกรีซก็กลับมารุ่งใหม่ ทำไมผมต้องง้อเยอรมันอยู่ข้างเดียว ผมจะบอกกับพวกเจ้าหนี้โหดๆ ว่าเชิญเลย เชิญเอาตูดผมไปเลย อยากทำอะไรก็ทำ แล้วผมก็ออกจากอียู ก็แค่นั้น…
    ความคิดอย่างนาย Gartman ชาวกรีซเกือบทุกคน คงอยากทำอย่างนั้น คิดได้ แต่ไม่รู้ทำได้จริงไหม กรีซมีหนี้ก้อนใหญ่หมึมา เบี้ยวหนี้ก้อนหนี้ ก็กลายเป็นประเทศล้มละลาย คนล้มละลาย จะไปค้าขายกับใครได้ ขายของได้เงินมา เจ้าหนี้ก็คอยมาคว้าไป แต่ไม่ใช่ว่า เรื่องแบบนี้ เล่นไม่ได้เอาเลย อาร์เจนตินา เคยตัดโซ่ แหกคอกออกมา ยอมอด แต่ก็หืดขึ้นคอ กว่าจะยืนตรงได้เหมือนเดิม
    พรรค Syriza คงไม่คิดให้ชาวกรีซอยู่ในเหว และมีโซ่คล้องคอตลอดไป แต่จะเลือกทำด้วยวิธีไหน และเมื่อไหร่ เท่านั้น การตัดสินใจของ Syriza ในช่วงไม่กี่วันนี้ คงต้องตามดูกันทุกยก เพราะมันสามารถ สร้างระดับความสะเทือน เหมือนแผ่นดินไหวในยุโรปได้ ตั้งแต่ 4 ริกเตอร์ ไปจนถึงระดับ 9 ริกเตอร์ และอาจจะตามมา ด้วยอาฟเตอร์ขนาดไหน ถึงไหน และนานเท่าไหร่ และจะต่อด้วยซึนามิหรือไม่ พวกแมงเม่า อย่ามัวแต่เหม่อดูแต่จอบ้านตัวเอง เดี๋ยวปีกจะไหม้ร่วงหลุดเป็นแถวๆ
    ล่าสุดขณะที่ผมกำลังเขียนนิทาน ( 25 มิย.) ข่าวว่า คุณน้องยานิส รัฐมนตรีคลัง ยืนกรานว่า ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ ฝ่ายเจ้าหนี้บอก เราไม่มีความคิดเช่นนั้น ถ้ากรีซไม่มีอะไรใหม่มาเสนอ เช่นจะรัดคอหอยเข้าไปอีกกี่นิ้ว หรือจะมีวิธีชำระหนี้อย่างไร เราก็ไม่มีอะไรพูด แล้วการประชุมระหว่าง รัฐมนตรีคลังของกรีซกับฝ่ายอี ยู 18 คน ที่ สนง อียู กรุงบรัสเซล เมื่อเย็นวันที่ 24 มิย. ก็จบลงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประชุมไม่ถึง 1 ชั่วโมง แล้วต่างก็ทำหน้าไร้อารมณ์ เก็บของกลับบ้าน
    ร้อนถึงนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซึ่งข่าวว่า บินด่วนมาบรัสเซล มาคุยต่อกับพวก บิกกี้ของ อียู และคุณนายหน้าเค็มของไอเอมเอฟ ต่ออีก 7 ชั่วโมง แล้วก็กลับไปตอนดึก โดยไม่ให้ข่าว ทั้งหมดนี้ ผมอ่านจากทวิต ของนักข่าวต่างประเทศ ที่ไปเกาะติดสถานการณ์
    แปลว่าอะไรครับ แปลว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังกำไต๋ ไม่แผลมให้อีกฝ่ายรู้ ดูผ่านๆ เหมือนกรีซ กำลังเป็นฝ่ายอาการหนัก แต่สำหรับผม ผมว่า อียูหนักกว่า สำหรับกรีซ เหมือนคนใกล้ตาย หรือตายไปแล้ว จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ได้อีกมาก ถึงมีชิวิตที่เป็นอยู่ก็เลวสุดอยู่แล้ว แต่สำหรับ อียู ยังไม่เคยใกล้ตาย เจียนตาย คราวนี้อาจจะได้รู้จัก
    สมมุติว่า ถ้ากรีซตัดสินใจไม่รับเงินกู้อีกต่อไป หนี้ที่ค้างกันอยู่ ก็ค่อยว่ากัน นี่ไม่ใช่การเบี้ยวหนี้ แต่เป็นการแสดงความไม่ต้องการเป็นหนี้เพิ่ม เอาแค่นี้ จะเรียกเป็นประเทศล้มละลาย หรืออะไรก็แล้วแต่ ความสะเทือนในระบบการเงินในยุโรป ก็น่าจะเกิน 6 ริกเตอร์แล้ว เพราะมันหมายถึง deposits run เงินฝากไหลออกจะเกิดขึ้นแบบของจริง ระบบแบงค์ในกรีซ ไปก่อน หลังจากนั้นก็ลามไปนอกกรีซ ก็ขึ้นกับธนาคารกลางของอียู จะเอาอยู่ไหม สมาชิกอียู ใครจะเป็นผู้กล้าหาญ ถมเงินมาให้ธนาคารกลาง คงเกี่ยงกันอยู่นาน เพราะทั้งเค็ม ทั้งคม กันทั้งนั้น คมเฉือนคม กว่าจะตกลงกันได้ ระหว่างนั้น เลือดยุโรปก็ไหลโกรก
    สมมุติไปอีกทางหนึ่ง ถึงคุณน้องยานิส จะทำหน้าขรึมว่า เจ้าหนี้ต้องตกลงเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ก่อน แต่ นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ประกาศว่า เรายอมให้โซ่รัดคอเราแน่นอีกหน่อย เกี่ยวกับเรื่องเงินบำนาญ ยืดอายุคนรับบำนาญไป อีก 2 ปี ทนไหวน่าลุงและจำนวนที่ต้องจ่ายบำนาญก็จะลดลง
    มี ข่าวว่า เจ้าหนี้ ต้องการรัดคออีกหลายเปลาะ เช่นเรื่อง ขยายฐานเก็บภาษี ไปถึง เรื่อง การซื้อยาและขึ้นอัตรา vat ร้านอาหารและที่พักโรงแรม สำหรับกรีซ ที่เป็นเมืองขายการท่องเที่ยว ขึ้นภาษี 2 รายการนี่ ก็ เปลี่ยนร้านอาหาร เป็นป่าช้า อาจได้ลูกค้ามากกว่า
    ข่าวนี้ทำให้เกิดเสียงแตกในพรรค Syriza เอง พวกเข้มบอกไม่ได้นะ นายกฯ ไปตกลงเองไม่ได้ ต้องเอามาเข้าสภาก่อน และรับรองเลย มติแบบนี้ ไม่ผ่านสภาแน่
    ถ้าเป็นข้อสมมุติตามนี้ ความสะเทือน อาจจะไม่เกิน 4 ริกเตอร์ ในตอนแรก ระหว่างรอเข้าสภา และไม่ว่าสภาจะลงมติอะไร การถอนเงินฝาก ก็จะเกิดขึ้น เหมือนกรณีแรก และความสะเทือนก็จะค่อยๆเพิ่มริกเตอร์ขึ้น ไม่ต่างกว่ากรณีแรก เพียงแต่ใช้เวลานานกว่า
    เห็นไหมครับ ไม่ว่ากรีซจะเล่นบทไหน ก็เกิดผลกระทบกับอียูทั้งสิ้น เพราะมันเป็นการจัดการที่ผิดของอียูเองตั้งแต่ต้น ผลมาจากเหตุ เมื่อมีการเอาเงินก้อนใหญ่ที่ควรใส่ไปที่กรีซ แต่ไปไม่ถึงกรีซ ไปถึงเจ้าหนี้อื่นแทน ถึงเวลากรีซจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ก็ต้องเบิกเงินกู้ต่อไปเรื่อยๆ อาการของกรีซก็หนักไปเรื่อยๆ จากเงื่อนไข ที่รัดคอ ผูกมือผูกตีน ไม่ให้กระดิก ไม่ต้องจบปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ ก็พอรู้ว่า ไปต่อสภาพนี้จะเป็นอย่างไร ยิ่งจบมาอย่างคุณน้องยานิส ถึงได้พูดเหมือนท่องมนตร์ว่า ต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คือ ลดหนี้ ผ่อนผันเงื่อนไข เพื่อให้กรีซมีโอกาสต้ังหลัก และยืดอายุการชำระออกไปอีก หรือ มีเงินใหม่จากที่อื่น มาล้างหนี้ DOA และเริ่มต้นกระบวนการฟื้นชีวิตชาวกรีซกันใหม่
    จะมีไหมครับ เงินใหม่ จะมาจากไหน
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิ.ย. 2558
    ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 3 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 3 แล้วโซ่คล้องคอชาวกรีซล่ะ หน้าตาเป็นอย่างไร สมันน้อยน่าจะรู้จักนะ เพราะเคยต้องใช้อยู่ช่วงนึง แต่อาจจะขนาดเล็กกว่า สั้นกว่า บางคนอาจโตไม่ทัน หรือโตแล้ว แต่ไม่รู้เรื่อง ก็ทำความรู้จักไว้หน่อยก็ดี เผื่อเหตุการณ์เก่า มันจะกลับมาเยี่ยม จะได้รู้จัก รู้ขนาดโซ่ว่า รับไหวไหม ยิ่งมีข่าวกระฉ่อนว่า หนุ่มหน้าใส อดีตผู้เชี่ยวชาญของธนาคารโลก พวกเสือหิวด้วยกัน กำลังเป็นตัวเต็ง จะมาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนใหม่ แทนคนปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระในเดือนสิงหาคมนี้ เผื่อแกยังรสนิยมเดิมๆ ปี ค.ศ.2010 เสือหิว Troika บอกเราจัดหาเงินให้กรีซได้จำนวน ประมาณบรรทุกรถสิบล้อ 340 คัน ตีว่า บรรทุกได้ คันละ 1 พันล้านยูโร ใครไม่ตกเลข ก็คำนวณเองนะครับ ว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ดอกแค่ร้อยละ 5 ถูกจะตาย เงื่อนไขไม่มีอะไรมากมาย ใช้แบบเงื่อนตายเหมือนผูกตราสังข์ ตามแบบฟอร์มของ IMF ที่เรียกว่า SAP หรือ Structural Adjustment Policy ส่วนคนกู้ เรียกสัญญาแบบนี้ว่า แบบ DOA หรือ Dead on Arrival เป็นศพตั้งแต่มาถึงแล้ว คือ ตาย(ห่า) ตั้งแต่กู้ สัญญาแบบนี้ใช้มากว่า 35 ปีแล้วในประเทศแถบละติน อาฟริกา ยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต และเอเซีย ตัวอย่างของผู้ที่ใช้สัญญานี้ และเป็นที่รู้จักกันดี ถูกนำมายกเป็นกรณีศึกษาจนแทบจะท่องกันได้คือ ประเทศอาร์เจนตินา สัญญาแบบ DOA เป็นอย่างไร ก็แค่ตัดงบใช้จ่ายในบ้านเมืองจนเหี้ยน ซึ่งรวมไปถึงการลดสวัสดิการทาง สังคม การรักษาพยาบาล เบี้ยบำนาญ ลดการจ่ายค่าแรงค่าจ้าง แต่เน้นให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน เพิ่มการส่งออก เพิ่มการแข่งขันทางการค้า เพิ่มภาษี และต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คือให้รัฐนำออกมาขายเพื่อเอามาใช้หนี้ และลดค่าเงินของประเทศผู้กู้ แต่เนื่องจากกรีซใช้ยูโร ขืนบังคับใช้ข้อนี้ก็ฉิบหายกันหมด เพราะฉนั้น ข้อนี้ เลยกลายเป็นไปเพิ่มการลดค่าใช้จ่ายในประเทศลงแยะๆ แทน ผมก็งงนะ ไม่รู้มันเอาส่วนไหนคิด ลดค่าแรง ลดการจ้างงาน แต่ให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน แปลว่า ชาวกรีซ นอนผึ่งพุงอยู่กับบ้าน เพราะไม่มีงานทำ ทำไปก็ไม่มีได้ค่าจ้าง เพราะเขาสั่งให้ลด แล้ว”ใคร” มาเพิ่มงาน “ใคร” มาลงทุน ” ใคร” มาซื้อรัฐวิสาหกิจ ที่ไอ้เสือหิวสั่งให้ขาย พอนึกออกนะครับว่า ในที่สุดแล้ว “ใคร” จะเป็นเจ้าของเกาะกรีซอันสวยงาม เสือหิว Troika บอกว่า มาตรการนี้ คงใช้ไม่นาน ไม่เกิน 2 ปี กรีซก็คงฟื้นตัว แต่มันตรงกันข้าม นอกจากไม่ฟื้นแล้ว กรีซยิ่งทรุดหนัก ชาวกรีซออกมาประท้วง สื่อกรีซเริ่มออกข่าวด่าไอ้เสือหิว อียู และ IMF บอกว่า ที่ไม่ดีขึ้น เพราะกรีซไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไข ไม่ยอมลำบาก ยังอยากสบายด้วยเงินของคนอื่น อันนี้เจ็บมาก ชาวกรีซบอกว่า นี่เป็นการบิดเบือนความจริงที่เลวร้าย รัฐบาลกรีซเดินตามเงื่อนไข DOA อย่างเคร่งครัด งบค่าจ้างตัดทิ้งเป็นพันๆล้านยู โร การรักษาพยาบาลของกรีซ ลดไปถึง 50% ไม่ใช่ชาวกรีซ แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย แต่พวกเขาไม่มีเงิน ไปหาหมอ ไปโรงพยาบาลต่างหาก การศึกษาก็เช่นกัน ลดลงไปมากมาย ธุรกิจขนาดเล็กปิดตัวเกือบหมด และอัตราคนว่างงานในปี 2011 ก็ขึ้นพรวด และรายรับของภาษี ก็ลดลงอย่างมากเช่นเดียวกัน มัน DOA จริงๆ เสือหิว Troika ยังปากแข็ง ไม่ยอมรับความผิดพลาดในการจ่ายยาของตัวให้แก่คนป่วยชื่อก รีซ จะไปรับได้อย่างไร เขาให้ยาถูกแล้ว เขาตั้งใจให้ยา DOA นี้กับกรีซ กรีซต่างหากเล่า ที่ทำผิดพลาดซ้ำซาก ยอมกินยานี้ (ซ้ำซาก) เอง กรีซนึกว่า กินยานี้ครั้งเดียวแล้วทุกอย่าง จะดีขึ้นตามที่ IMF บอก แต่ในที่สุด กรีซก็ต้องขอรับยางวดสอง ในปี 2012 เอะ งวดแรก กินเข้าไปก็ตายแล้ว งวดสองกินแล้วจะเป็นอย่างไร ก็ตายซากละสิครับ เงื่อนไขงวดสอง เพิ่มชัดเจนว่า ต้องลดการจ้างงานภาครัฐลงไป 150,000 คน ภายในสิ้นปี 2015 และขายรัฐวิสาหกิจแบบเทกระจาด เรื่องนี้ทำให้มีป้ายขึ้นกลางเมืองใหญ่ของกรีซว่า “A Nation for Sale” มีประเทศขาย ไม่ใช่ขายแค่บ้าน ขายประเทศ ภาวนาอย่าให้มีป้ายแบบนี้ขึ้นในแดนสยามของเราก็แล้วกัน ทรัพย์สินที่กรีซขายไป ที่สำคัญ เช่น ท่าเรือ Piraeus ท่าเรือ Thessaloniki ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ และมีคุณค่า ทั้งทางประวัติศาสตร์ และ เศรษฐกิจ (บางข้อมูลบอกท่าเรือ ทั้ง 2 ยังเจรจากันอยู่ ยังไม่ได้ขายออกไป) บริษัทเทเลคอม OTE สลากกินแบ่งกรีซ ที่ดินหลายแปลง ที่อยู่ในถิ่นดีที่สุดของประเทศ prime area และ postal bank การขายทรัพย์สินของประเทศครั้งใหญ่นี้ ทำให้พรรค Syriza ซึ่งประกาศคัดค้านขายรัฐวิสาหกิจ และการขายทรัพย์สิน ซึ่งได้คะแนนเสียงเพียง 4.6 % ในปี 2009 กระโดดมาเป็น 26.89% ในปี 2012 และได้เป็นรัฐบาลในปี 2015 ระหว่าง ที่เสือหิว Troika ให้กรีซกินยา DOA งวดสอง อัตราคนว่างงานก็เพิ่มเป็น 22% และกำลังจะเป็น 25% ในไม่ช้า ชาวกรีซที่มีการศึกษาดี และยังอายุน้อย ต่างพากัน ทิ้งประเทศของตน ไปหางานทำที่เยอรมัน ที่เศรษฐกิจกำลังรุ่ง มันเป็นการประชดชีวิตชาวกรีซอย่างน่าเศร้า โลกนี้มันไม่สวยทั้งหมดอย่างที่เราคิด และที่กรีซ ก็คงจะเหลือแต่คนแก่ คนรายได้ต่ำ คนการศึกษาไม่สูง และชาวต่างชาติที่หนีระเบิดรายวันมาแย่งกันกิน ############## “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 4 นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์การเมือง บอกว่า กรีซมาถึงจุดวิกฤตินี้ จากการที่มีนักการเมือง หรือรัฐบาลสายตาสั้น มองไม่ได้ไกล ขี้โกง เห็นแก่ประโยชน์พรรคและพวก ทำให้กรีซตกเป็นเหยื่อของระบบ ที่สร้างขี้นมา เพื่อทำให้ประเทศที่อ่อนแอจากปัจจัย ต่างๆ อย่างกรีซ ไม่คิดพึ่งตัวเอง ไม่คิดเปลี่ยนแปลง ไม่คิดปฏิรูป ไม่รู้จักเรียนรู้ เพื่อแก้ไข มักง่าย และในที่สุดก็จะหมดตัว หมดประเทศ หรือ เหลือแต่ซาก ส่วนนักวิเคราะห์การเงินบอกว่า อย่าเอะอะไป เรื่องหนี้กรีซ ไม่ใช่เรื่องของหนี้กรีซ เอะ พูดยังไง เราพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ครับ นักการเงินบอก ไม่มีใครเขาสนใจประเทศกรีซ ที่เล็กกระจิดริด ถึงจะสวยงามก็เถอะ กรีซจะมีเงินใช้หนี้ไหม กรีซจะอยู่ หรือจะไปจากอียู เขาไม่ได้สนใจ แต่ที่เป็นข่าวกันถี่ ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก พวกเขากลัวมันกระทบกับระบบธนาคาร กลัวนายทุนจะเจ๊ง ไม่ได้กลัวชาวกรีซจะอดตาย ไม่ได้กลัวรัฐบาลกรีซ จะล่ม เข้าใจไหมครับ แต่สื่อใหญ่รุ่นเก๋า Dennis Gartman บอกว่า…. กรีซยังอยู่ในอียู เพราะเยอรมันต้องการอย่างนั้น เยอรมันยังไม่อยากเฉดกรีซออกไป เยอรมันต้องการให้ค่าเงินยูโรอ่อน ยูโรอ่อนดีสำหรับการส่งออก คนซื้อจะได้นึกว่าตัวซื้อของได้ถูก เยอรมันเป็นประเทศขายของ ที่ ยามนี้กำลังต้องการขายอย่างยิ่ง ใครขายได้ ต้องรีบขาย Bayer, Thyssenkrupp, Daimler เจ้าพ่อธุรกิจการค้าเยอรมัน ต้องการให้กรีซ ยังอยู่ในอียูทั้งนั้น … …..ถ้า ผมเป็นนายกรัฐมนตรีกรีซ ผมคงไม่วิ่งเจรจาให้เหนื่อย ผมคงปล่อยให้กรีซผิดนัดหนี้นานมาแล้ว และกลับไปใช้เงินสกุลของกรีซ และผมก็ลดค่าของกรีซ อุตสาหกรรมทอผ้าของกรีซก็จะกลายเป็นสินค้า ที่ใครๆต้องการเพราะราคาถูกลง กิจการท่องเที่ยวของกรีซ ก็กลับมาฟื้น เพราะใครๆ ก็อยากกลับมาอยู่เกาะสวย ในราคาไม่แพง กิจการเดินเรือของกรีซก็กลับมารุ่งใหม่ ทำไมผมต้องง้อเยอรมันอยู่ข้างเดียว ผมจะบอกกับพวกเจ้าหนี้โหดๆ ว่าเชิญเลย เชิญเอาตูดผมไปเลย อยากทำอะไรก็ทำ แล้วผมก็ออกจากอียู ก็แค่นั้น… ความคิดอย่างนาย Gartman ชาวกรีซเกือบทุกคน คงอยากทำอย่างนั้น คิดได้ แต่ไม่รู้ทำได้จริงไหม กรีซมีหนี้ก้อนใหญ่หมึมา เบี้ยวหนี้ก้อนหนี้ ก็กลายเป็นประเทศล้มละลาย คนล้มละลาย จะไปค้าขายกับใครได้ ขายของได้เงินมา เจ้าหนี้ก็คอยมาคว้าไป แต่ไม่ใช่ว่า เรื่องแบบนี้ เล่นไม่ได้เอาเลย อาร์เจนตินา เคยตัดโซ่ แหกคอกออกมา ยอมอด แต่ก็หืดขึ้นคอ กว่าจะยืนตรงได้เหมือนเดิม พรรค Syriza คงไม่คิดให้ชาวกรีซอยู่ในเหว และมีโซ่คล้องคอตลอดไป แต่จะเลือกทำด้วยวิธีไหน และเมื่อไหร่ เท่านั้น การตัดสินใจของ Syriza ในช่วงไม่กี่วันนี้ คงต้องตามดูกันทุกยก เพราะมันสามารถ สร้างระดับความสะเทือน เหมือนแผ่นดินไหวในยุโรปได้ ตั้งแต่ 4 ริกเตอร์ ไปจนถึงระดับ 9 ริกเตอร์ และอาจจะตามมา ด้วยอาฟเตอร์ขนาดไหน ถึงไหน และนานเท่าไหร่ และจะต่อด้วยซึนามิหรือไม่ พวกแมงเม่า อย่ามัวแต่เหม่อดูแต่จอบ้านตัวเอง เดี๋ยวปีกจะไหม้ร่วงหลุดเป็นแถวๆ ล่าสุดขณะที่ผมกำลังเขียนนิทาน ( 25 มิย.) ข่าวว่า คุณน้องยานิส รัฐมนตรีคลัง ยืนกรานว่า ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ ฝ่ายเจ้าหนี้บอก เราไม่มีความคิดเช่นนั้น ถ้ากรีซไม่มีอะไรใหม่มาเสนอ เช่นจะรัดคอหอยเข้าไปอีกกี่นิ้ว หรือจะมีวิธีชำระหนี้อย่างไร เราก็ไม่มีอะไรพูด แล้วการประชุมระหว่าง รัฐมนตรีคลังของกรีซกับฝ่ายอี ยู 18 คน ที่ สนง อียู กรุงบรัสเซล เมื่อเย็นวันที่ 24 มิย. ก็จบลงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประชุมไม่ถึง 1 ชั่วโมง แล้วต่างก็ทำหน้าไร้อารมณ์ เก็บของกลับบ้าน ร้อนถึงนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซึ่งข่าวว่า บินด่วนมาบรัสเซล มาคุยต่อกับพวก บิกกี้ของ อียู และคุณนายหน้าเค็มของไอเอมเอฟ ต่ออีก 7 ชั่วโมง แล้วก็กลับไปตอนดึก โดยไม่ให้ข่าว ทั้งหมดนี้ ผมอ่านจากทวิต ของนักข่าวต่างประเทศ ที่ไปเกาะติดสถานการณ์ แปลว่าอะไรครับ แปลว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังกำไต๋ ไม่แผลมให้อีกฝ่ายรู้ ดูผ่านๆ เหมือนกรีซ กำลังเป็นฝ่ายอาการหนัก แต่สำหรับผม ผมว่า อียูหนักกว่า สำหรับกรีซ เหมือนคนใกล้ตาย หรือตายไปแล้ว จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ได้อีกมาก ถึงมีชิวิตที่เป็นอยู่ก็เลวสุดอยู่แล้ว แต่สำหรับ อียู ยังไม่เคยใกล้ตาย เจียนตาย คราวนี้อาจจะได้รู้จัก สมมุติว่า ถ้ากรีซตัดสินใจไม่รับเงินกู้อีกต่อไป หนี้ที่ค้างกันอยู่ ก็ค่อยว่ากัน นี่ไม่ใช่การเบี้ยวหนี้ แต่เป็นการแสดงความไม่ต้องการเป็นหนี้เพิ่ม เอาแค่นี้ จะเรียกเป็นประเทศล้มละลาย หรืออะไรก็แล้วแต่ ความสะเทือนในระบบการเงินในยุโรป ก็น่าจะเกิน 6 ริกเตอร์แล้ว เพราะมันหมายถึง deposits run เงินฝากไหลออกจะเกิดขึ้นแบบของจริง ระบบแบงค์ในกรีซ ไปก่อน หลังจากนั้นก็ลามไปนอกกรีซ ก็ขึ้นกับธนาคารกลางของอียู จะเอาอยู่ไหม สมาชิกอียู ใครจะเป็นผู้กล้าหาญ ถมเงินมาให้ธนาคารกลาง คงเกี่ยงกันอยู่นาน เพราะทั้งเค็ม ทั้งคม กันทั้งนั้น คมเฉือนคม กว่าจะตกลงกันได้ ระหว่างนั้น เลือดยุโรปก็ไหลโกรก สมมุติไปอีกทางหนึ่ง ถึงคุณน้องยานิส จะทำหน้าขรึมว่า เจ้าหนี้ต้องตกลงเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ก่อน แต่ นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ประกาศว่า เรายอมให้โซ่รัดคอเราแน่นอีกหน่อย เกี่ยวกับเรื่องเงินบำนาญ ยืดอายุคนรับบำนาญไป อีก 2 ปี ทนไหวน่าลุงและจำนวนที่ต้องจ่ายบำนาญก็จะลดลง มี ข่าวว่า เจ้าหนี้ ต้องการรัดคออีกหลายเปลาะ เช่นเรื่อง ขยายฐานเก็บภาษี ไปถึง เรื่อง การซื้อยาและขึ้นอัตรา vat ร้านอาหารและที่พักโรงแรม สำหรับกรีซ ที่เป็นเมืองขายการท่องเที่ยว ขึ้นภาษี 2 รายการนี่ ก็ เปลี่ยนร้านอาหาร เป็นป่าช้า อาจได้ลูกค้ามากกว่า ข่าวนี้ทำให้เกิดเสียงแตกในพรรค Syriza เอง พวกเข้มบอกไม่ได้นะ นายกฯ ไปตกลงเองไม่ได้ ต้องเอามาเข้าสภาก่อน และรับรองเลย มติแบบนี้ ไม่ผ่านสภาแน่ ถ้าเป็นข้อสมมุติตามนี้ ความสะเทือน อาจจะไม่เกิน 4 ริกเตอร์ ในตอนแรก ระหว่างรอเข้าสภา และไม่ว่าสภาจะลงมติอะไร การถอนเงินฝาก ก็จะเกิดขึ้น เหมือนกรณีแรก และความสะเทือนก็จะค่อยๆเพิ่มริกเตอร์ขึ้น ไม่ต่างกว่ากรณีแรก เพียงแต่ใช้เวลานานกว่า เห็นไหมครับ ไม่ว่ากรีซจะเล่นบทไหน ก็เกิดผลกระทบกับอียูทั้งสิ้น เพราะมันเป็นการจัดการที่ผิดของอียูเองตั้งแต่ต้น ผลมาจากเหตุ เมื่อมีการเอาเงินก้อนใหญ่ที่ควรใส่ไปที่กรีซ แต่ไปไม่ถึงกรีซ ไปถึงเจ้าหนี้อื่นแทน ถึงเวลากรีซจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ก็ต้องเบิกเงินกู้ต่อไปเรื่อยๆ อาการของกรีซก็หนักไปเรื่อยๆ จากเงื่อนไข ที่รัดคอ ผูกมือผูกตีน ไม่ให้กระดิก ไม่ต้องจบปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ ก็พอรู้ว่า ไปต่อสภาพนี้จะเป็นอย่างไร ยิ่งจบมาอย่างคุณน้องยานิส ถึงได้พูดเหมือนท่องมนตร์ว่า ต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คือ ลดหนี้ ผ่อนผันเงื่อนไข เพื่อให้กรีซมีโอกาสต้ังหลัก และยืดอายุการชำระออกไปอีก หรือ มีเงินใหม่จากที่อื่น มาล้างหนี้ DOA และเริ่มต้นกระบวนการฟื้นชีวิตชาวกรีซกันใหม่ จะมีไหมครับ เงินใหม่ จะมาจากไหน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 810 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดฉากยิง-ปั่นไอโอ มุกเขมรลอบกัดไทย : [NEWS UPDATE]

    พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดข้อมูล ฝ่ายกัมพูชาสร้างสถานการณ์ ให้ทหารเปิดฉากยิงเข้ามาในบ้านหนองหญ้าแก้ว จนฝ่ายไทยต้องตอบโต้ตามกฎการใช้กำลัง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ชาวไทย หลังเกิดเหตุกัมพูชาสร้างข่าวบิดเบือนสร้างภาพว่าเป็นเหยื่อการกระทำของฝ่ายไทย กล่าวหาไทยเปิดฉากยิงพลเรือนกัมพูชา เป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง ไทยมีหลักฐานชัดเจน ทุ่นระเบิดแบบ PMN-2 วางใหม่ บริเวณใกล้เคียงยังพบอีก 3 ทุ่น สอดคล้องกับข้อมูลว่าทหารกัมพูชาลักลอบตัดลวดหนามที่ไทยวางไว้ และยังนำชีวิตประชาชนกัมพูชาเป็นช่องทางสร้างข่าวเท็จอย่างน่าละอาย

    -"ตำรวจรับส่วย"คำนี้แสลงใจ

    -น้ำท่วมภาคกลาง 1.2 ล้านไร่

    -ยังไม่สรุปวงเงิน เฟส 2

    -หน่วยจู่โจมศูนย์ฉ้อโกง
    เปิดฉากยิง-ปั่นไอโอ มุกเขมรลอบกัดไทย : [NEWS UPDATE] พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดข้อมูล ฝ่ายกัมพูชาสร้างสถานการณ์ ให้ทหารเปิดฉากยิงเข้ามาในบ้านหนองหญ้าแก้ว จนฝ่ายไทยต้องตอบโต้ตามกฎการใช้กำลัง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ชาวไทย หลังเกิดเหตุกัมพูชาสร้างข่าวบิดเบือนสร้างภาพว่าเป็นเหยื่อการกระทำของฝ่ายไทย กล่าวหาไทยเปิดฉากยิงพลเรือนกัมพูชา เป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง ไทยมีหลักฐานชัดเจน ทุ่นระเบิดแบบ PMN-2 วางใหม่ บริเวณใกล้เคียงยังพบอีก 3 ทุ่น สอดคล้องกับข้อมูลว่าทหารกัมพูชาลักลอบตัดลวดหนามที่ไทยวางไว้ และยังนำชีวิตประชาชนกัมพูชาเป็นช่องทางสร้างข่าวเท็จอย่างน่าละอาย -"ตำรวจรับส่วย"คำนี้แสลงใจ -น้ำท่วมภาคกลาง 1.2 ล้านไร่ -ยังไม่สรุปวงเงิน เฟส 2 -หน่วยจู่โจมศูนย์ฉ้อโกง
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 574 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: ช่องโหว่ร้ายแรงใน NVIDIA NeMo Framework เสี่ยง Code Injection และ Privilege Escalation

    รายละเอียดช่องโหว่
    NVIDIA ได้ออกประกาศเกี่ยวกับช่องโหว่ร้ายแรงใน NeMo Framework ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับการพัฒนา AI และ Machine Learning โดยพบว่า มี 2 ช่องโหว่หลัก ได้แก่

    CVE-2025-23361: เกิดจากการตรวจสอบอินพุตที่ไม่เพียงพอในสคริปต์ ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ crafted ขึ้นมาเพื่อควบคุมการสร้างโค้ดได้

    CVE-2025-33178: เกิดในส่วนของ BERT services component ที่เปิดทางให้เกิด Code Injection ผ่านข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้โจมตี

    ทั้งสองช่องโหว่สามารถนำไปสู่การ รันโค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาต, การยกระดับสิทธิ์, การเปิดเผยข้อมูล และการแก้ไขข้อมูล

    ความรุนแรงและผลกระทบ
    ช่องโหว่เหล่านี้ถูกจัดระดับ CVSS 7.8 (High Severity) โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้งานร่วมกัน เช่น Shared Development Machines, Research Clusters และ AI Inference Servers หากถูกโจมตีสำเร็จ อาจทำให้ระบบ AI pipeline ถูกควบคุมและข้อมูลสำคัญถูกดัดแปลงหรือรั่วไหล

    เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบและการแก้ไข
    ได้รับผลกระทบ: ทุกเวอร์ชันของ NeMo Framework ก่อน 2.5.0
    แก้ไขแล้ว: เวอร์ชัน 2.5.0 ที่ NVIDIA ได้ปล่อยแพตช์ออกมาแล้วบน GitHub และ PyPI

    ความสำคัญต่อวงการ AI
    การโจมตีที่เกิดขึ้นใน AI pipeline ไม่เพียงกระทบต่อการทำงานของนักพัฒนา แต่ยังอาจทำให้โมเดลที่ถูกฝึกหรือใช้งานในงานวิจัยและการผลิตถูกบิดเบือน ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ผิดพลาดและสร้างความเสียหายต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการตัดสินใจ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    รายละเอียดช่องโหว่
    CVE-2025-23361: ช่องโหว่ในสคริปต์ที่ตรวจสอบอินพุตไม่เพียงพอ
    CVE-2025-33178: ช่องโหว่ใน BERT services component เปิดทาง Code Injection

    ผลกระทบต่อระบบ
    เสี่ยงต่อการรันโค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาตและการยกระดับสิทธิ์
    อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลหรือถูกแก้ไข

    เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ
    ทุกเวอร์ชันก่อน NeMo 2.5.0
    NVIDIA ได้แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.5.0

    แนวทางแก้ไข
    รีบอัปเดตเป็น NeMo Framework 2.5.0
    ตรวจสอบระบบ AI pipeline ที่ใช้งานร่วมกัน

    คำเตือนสำหรับองค์กร
    หากไม่อัปเดต อาจถูกโจมตีจนระบบ AI pipeline ถูกควบคุม
    การโจมตีอาจบิดเบือนผลลัพธ์ของโมเดล AI และสร้างความเสียหายต่อธุรกิจ

    https://securityonline.info/high-severity-nvidia-nemo-framework-flaws-allow-code-injection-and-privilege-escalation-in-ai-pipelines/
    ⚠️ ข่าวใหญ่: ช่องโหว่ร้ายแรงใน NVIDIA NeMo Framework เสี่ยง Code Injection และ Privilege Escalation 🧩 รายละเอียดช่องโหว่ NVIDIA ได้ออกประกาศเกี่ยวกับช่องโหว่ร้ายแรงใน NeMo Framework ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับการพัฒนา AI และ Machine Learning โดยพบว่า มี 2 ช่องโหว่หลัก ได้แก่ 🪲 CVE-2025-23361: เกิดจากการตรวจสอบอินพุตที่ไม่เพียงพอในสคริปต์ ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ crafted ขึ้นมาเพื่อควบคุมการสร้างโค้ดได้ 🪲 CVE-2025-33178: เกิดในส่วนของ BERT services component ที่เปิดทางให้เกิด Code Injection ผ่านข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้โจมตี ทั้งสองช่องโหว่สามารถนำไปสู่การ รันโค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาต, การยกระดับสิทธิ์, การเปิดเผยข้อมูล และการแก้ไขข้อมูล 🔥 ความรุนแรงและผลกระทบ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกจัดระดับ CVSS 7.8 (High Severity) โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้งานร่วมกัน เช่น Shared Development Machines, Research Clusters และ AI Inference Servers หากถูกโจมตีสำเร็จ อาจทำให้ระบบ AI pipeline ถูกควบคุมและข้อมูลสำคัญถูกดัดแปลงหรือรั่วไหล 🛠️ เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบและการแก้ไข 🪛 ได้รับผลกระทบ: ทุกเวอร์ชันของ NeMo Framework ก่อน 2.5.0 🪛 แก้ไขแล้ว: เวอร์ชัน 2.5.0 ที่ NVIDIA ได้ปล่อยแพตช์ออกมาแล้วบน GitHub และ PyPI 🌐 ความสำคัญต่อวงการ AI การโจมตีที่เกิดขึ้นใน AI pipeline ไม่เพียงกระทบต่อการทำงานของนักพัฒนา แต่ยังอาจทำให้โมเดลที่ถูกฝึกหรือใช้งานในงานวิจัยและการผลิตถูกบิดเบือน ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ผิดพลาดและสร้างความเสียหายต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการตัดสินใจ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ รายละเอียดช่องโหว่ ➡️ CVE-2025-23361: ช่องโหว่ในสคริปต์ที่ตรวจสอบอินพุตไม่เพียงพอ ➡️ CVE-2025-33178: ช่องโหว่ใน BERT services component เปิดทาง Code Injection ✅ ผลกระทบต่อระบบ ➡️ เสี่ยงต่อการรันโค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาตและการยกระดับสิทธิ์ ➡️ อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลหรือถูกแก้ไข ✅ เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ ➡️ ทุกเวอร์ชันก่อน NeMo 2.5.0 ➡️ NVIDIA ได้แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.5.0 ✅ แนวทางแก้ไข ➡️ รีบอัปเดตเป็น NeMo Framework 2.5.0 ➡️ ตรวจสอบระบบ AI pipeline ที่ใช้งานร่วมกัน ‼️ คำเตือนสำหรับองค์กร ⛔ หากไม่อัปเดต อาจถูกโจมตีจนระบบ AI pipeline ถูกควบคุม ⛔ การโจมตีอาจบิดเบือนผลลัพธ์ของโมเดล AI และสร้างความเสียหายต่อธุรกิจ https://securityonline.info/high-severity-nvidia-nemo-framework-flaws-allow-code-injection-and-privilege-escalation-in-ai-pipelines/
    SECURITYONLINE.INFO
    High-Severity NVIDIA NeMo Framework Flaws Allow Code Injection and Privilege Escalation in AI Pipelines
    NVIDIA patched two High-severity flaws in its NeMo Framework. CVE-2025-23361 and CVE-2025-33178 allow local code injection and privilege escalation in AI training environments. Update to v2.5.0.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขมรนำ คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน ลงพื้นที่หมู่บ้านเปรยจัน อ้างทหารไทยยิงพลเรือน 2 รอบ เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 3
    https://www.thai-tai.tv/news/22349/
    .
    #ไทยไท #AOT #บันเตียเมียนเจย #เปรยจัน #บิดเบือนข้อมูล #สอบสวนอิสระ

    เขมรนำ คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน ลงพื้นที่หมู่บ้านเปรยจัน อ้างทหารไทยยิงพลเรือน 2 รอบ เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 3 https://www.thai-tai.tv/news/22349/ . #ไทยไท #AOT #บันเตียเมียนเจย #เปรยจัน #บิดเบือนข้อมูล #สอบสวนอิสระ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวด่วน: พบช่องโหว่ Authentication Bypass ร้ายแรงใน Milvus Proxy

    ทีมพัฒนา Milvus ซึ่งเป็นฐานข้อมูลเวกเตอร์โอเพนซอร์สที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการทำงานด้าน AI, Recommendation Systems และ Semantic Search ได้เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-64513 ในส่วน Proxy Component โดยมีคะแนนความร้ายแรง CVSS 9.3

    รายละเอียดช่องโหว่
    ช่องโหว่นี้เกิดจาก การตรวจสอบสิทธิ์ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้โจมตีสามารถ ข้ามขั้นตอนการยืนยันตัวตนทั้งหมด ได้
    เมื่อถูกโจมตีสำเร็จ แฮกเกอร์สามารถ:
    อ่าน, แก้ไข, หรือลบข้อมูลเวกเตอร์และเมตาดาต้า
    ทำการจัดการฐานข้อมูล เช่น สร้างหรือลบ collections และ databases
    ส่งผลกระทบต่อความถูกต้องของโมเดล AI ที่ใช้ Milvus ในการทำ inference หรือ retrieval

    การแก้ไขและการป้องกัน
    ทีม Milvus ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน:
    2.4.24 สำหรับ branch 2.4.x
    2.5.21 สำหรับ branch 2.5.x
    2.6.5 สำหรับ branch 2.6.x

    สำหรับผู้ที่ไม่สามารถอัปเดตได้ทันที มี วิธีแก้ชั่วคราว โดยการ กรองหรือเอา header sourceID ออกจากทุก request ก่อนถึง Milvus Proxy

    ความสำคัญต่อโลกไซเบอร์
    เนื่องจาก Milvus มักถูกใช้งานในระบบ AI-driven applications หากถูกโจมตี อาจนำไปสู่:
    Data Poisoning (การบิดเบือนข้อมูลเพื่อทำให้โมเดล AI ให้ผลลัพธ์ผิดพลาด)
    Model Manipulation (การควบคุมหรือเปลี่ยนพฤติกรรมของโมเดล)
    Service Disruption (หยุดการทำงานของระบบ AI หรือ Search Engine ที่ใช้ Milvus)

    รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-64513
    Authentication Bypass ใน Milvus Proxy
    ระดับความร้ายแรง CVSS 9.3
    เปิดทางให้ทำการควบคุมระบบเต็มรูปแบบ

    การแก้ไขจาก Milvus
    ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 2.4.24, 2.5.21 และ 2.6.5
    มีวิธีแก้ชั่วคราวโดยการลบ header sourceID

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    Data Poisoning
    Model Manipulation
    Service Disruption

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ Milvus
    หากไม่อัปเดต อาจถูกโจมตีและสูญเสียการควบคุมระบบ
    เสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือบิดเบือนข้อมูล AI
    อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเครือข่ายองค์กร

    https://securityonline.info/critical-authentication-bypass-vulnerability-found-in-milvus-proxy-cve-2025-64513-cvss-9-3/
    🔐 ข่าวด่วน: พบช่องโหว่ Authentication Bypass ร้ายแรงใน Milvus Proxy ทีมพัฒนา Milvus ซึ่งเป็นฐานข้อมูลเวกเตอร์โอเพนซอร์สที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการทำงานด้าน AI, Recommendation Systems และ Semantic Search ได้เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-64513 ในส่วน Proxy Component โดยมีคะแนนความร้ายแรง CVSS 9.3 📌 รายละเอียดช่องโหว่ 🪲 ช่องโหว่นี้เกิดจาก การตรวจสอบสิทธิ์ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้โจมตีสามารถ ข้ามขั้นตอนการยืนยันตัวตนทั้งหมด ได้ 🪲 เมื่อถูกโจมตีสำเร็จ แฮกเกอร์สามารถ: ➡️ อ่าน, แก้ไข, หรือลบข้อมูลเวกเตอร์และเมตาดาต้า ➡️ ทำการจัดการฐานข้อมูล เช่น สร้างหรือลบ collections และ databases ➡️ ส่งผลกระทบต่อความถูกต้องของโมเดล AI ที่ใช้ Milvus ในการทำ inference หรือ retrieval 🛠️ การแก้ไขและการป้องกัน ทีม Milvus ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน: 🪛 2.4.24 สำหรับ branch 2.4.x 🪛 2.5.21 สำหรับ branch 2.5.x 🪛 2.6.5 สำหรับ branch 2.6.x สำหรับผู้ที่ไม่สามารถอัปเดตได้ทันที มี วิธีแก้ชั่วคราว โดยการ กรองหรือเอา header sourceID ออกจากทุก request ก่อนถึง Milvus Proxy 🌍 ความสำคัญต่อโลกไซเบอร์ เนื่องจาก Milvus มักถูกใช้งานในระบบ AI-driven applications หากถูกโจมตี อาจนำไปสู่: ➡️ Data Poisoning (การบิดเบือนข้อมูลเพื่อทำให้โมเดล AI ให้ผลลัพธ์ผิดพลาด) ➡️ Model Manipulation (การควบคุมหรือเปลี่ยนพฤติกรรมของโมเดล) ➡️ Service Disruption (หยุดการทำงานของระบบ AI หรือ Search Engine ที่ใช้ Milvus) ✅ รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-64513 ➡️ Authentication Bypass ใน Milvus Proxy ➡️ ระดับความร้ายแรง CVSS 9.3 ➡️ เปิดทางให้ทำการควบคุมระบบเต็มรูปแบบ ✅ การแก้ไขจาก Milvus ➡️ ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 2.4.24, 2.5.21 และ 2.6.5 ➡️ มีวิธีแก้ชั่วคราวโดยการลบ header sourceID ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ Data Poisoning ➡️ Model Manipulation ➡️ Service Disruption ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ Milvus ⛔ หากไม่อัปเดต อาจถูกโจมตีและสูญเสียการควบคุมระบบ ⛔ เสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือบิดเบือนข้อมูล AI ⛔ อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเครือข่ายองค์กร https://securityonline.info/critical-authentication-bypass-vulnerability-found-in-milvus-proxy-cve-2025-64513-cvss-9-3/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical Authentication Bypass Vulnerability Found in Milvus Proxy (CVE-2025-64513, CVSS 9.3)
    A Critical (CVSS 9.3) Auth Bypass flaw (CVE-2025-64513) in Milvus Proxy allows unauthenticated attackers to gain full administrative control over the vector database cluster. Update to v2.6.5.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts