• 5/
    รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha)

    กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย

    มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน

    จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน

    สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด
    51.23268252552627, 35.295863563677464

    5/ รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha) กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด 51.23268252552627, 35.295863563677464
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • 4/
    รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha)

    กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย

    มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน

    จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน

    สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด
    51.23268252552627, 35.295863563677464

    4/ รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha) กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด 51.23268252552627, 35.295863563677464
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • 3/
    รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha)

    กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย

    มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน

    จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน

    สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด
    51.23268252552627, 35.295863563677464

    3/ รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha) กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด 51.23268252552627, 35.295863563677464
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • 2/
    รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha)

    กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย

    มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน

    จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน

    สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด
    51.23268252552627, 35.295863563677464

    2/ รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha) กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด 51.23268252552627, 35.295863563677464
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • 1/
    รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha)

    กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย

    มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน

    จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน

    สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด
    51.23268252552627, 35.295863563677464

    1/ รูปถ่ายปฏิบัติการของรัสเซียโดยมุดท่อก๊าซใต้ดินเพื่อทำลายฝ่ายยูเครนในทิศทางซูดจา (Sudzha) กำลังกำลังของรัสเซียใช้ประโยชน์จากเครือข่ายท่อส่งก๊าซในซูดจา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางท่อส่งก๊าซของรัสเซียสู่ยุโรป ทำให้มีเครือข่ายท่อส่งใต้ดินขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งยูเครนปิดใช้งานตั้งแต่การเข้ายึดครองในช่วงแรก และปิดโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ทุกท่อส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 หลังจากที่ยูเครนไม่ขยายสัญญากับรัสเซีย มีรายงานว่ากองกำลังรัสเซียประมาณ 100 นาย ประกอบไปด้วยกองกำลังจาก หน่วยรบพิเศษ "อัคมัท", กองกำลังพลร่มที่ 11 "วอสตอก" และกองกำลังนาวิกโยธิน จากกองพลทหารอากาศที่ 106 แอบมุดเข้าไปในท่อส่งก๊าซซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือข่ายของท่อส่งก๊าซ Urengoy-Pomary-Uzhgorod ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ความยาวโดยรวมประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อทำลายจากแนวหลังของยูเครน จากรายงานที่รวบรวมได้ กองกำลังฝ่ายรัสเซีย แบ่งกำลังออกเป็นหลายส่วนในปฏิบัติการมุดท่อครั้งนี้ โดยส่วนหนึ่งเพื่อโจมตีฝ่ายยูเครนในมาร์ตีนอฟกา (Martynovka) และเชอร์คาสโกเย โปเรชโนเย (Cherkaskoe Porechnoe) ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถปลดปล่อยได้ทั้งสองหมู่บ้าน สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้มีรายงานว่า กองกำลังรัสเซียบุกเข้าถึงเขตชานเมืองของซูดจาแล้ว ตามพิกัด 51.23268252552627, 35.295863563677464
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิศทาง Kursk: กองกำลังยูเครนสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต!

    เป็นอีกวันที่โหดร้ายสำหรับกองกำลังยูเครนที่บุกรุกแผ่นดินรัสเซีย ไม่เพียงแต่จะถูกกองทหารรัสเซียกดดันหนักตลอดแนวรบเท่านั้น

    ภาพวิดีโอทหารนาวิกโยธินที่ 177 ของรัสเซีย โจมตีสะพานซึ่งเป็นเส้นทางส่งกำลังบำรุงของยูเครนระหว่าง Myropillia (ภูมิภาค Sumy ของยูเครน) และ Gornal (ภูมิภาค Kursk ของรัสเซีย) ด้วยระเบิดนำวิถีแรงสูง Krasnopol
    ทิศทาง Kursk: กองกำลังยูเครนสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต! เป็นอีกวันที่โหดร้ายสำหรับกองกำลังยูเครนที่บุกรุกแผ่นดินรัสเซีย ไม่เพียงแต่จะถูกกองทหารรัสเซียกดดันหนักตลอดแนวรบเท่านั้น ภาพวิดีโอทหารนาวิกโยธินที่ 177 ของรัสเซีย โจมตีสะพานซึ่งเป็นเส้นทางส่งกำลังบำรุงของยูเครนระหว่าง Myropillia (ภูมิภาค Sumy ของยูเครน) และ Gornal (ภูมิภาค Kursk ของรัสเซีย) ด้วยระเบิดนำวิถีแรงสูง Krasnopol
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • จัดฉากเพื่อปิดเกมเซเลนสกี้Scott Ritter (สก็อตต์ ริตเตอร์) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองนาวิกโยธินสหรัฐฯ เปิดเผยต่อสำนักข่าว RT ว่าการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของวลาดิมีร์ เซเลนสกี้ผู้นำยูเครนได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยระบุว่าการพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ทำเนียบขาวเป็น "การจัดฉาก" เพื่อทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและนำไปสู่การปลดผู้นำยูเครนออกจากตำแหน่ง ริตเตอร์ชี้แจงว่า แม้วาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปีของเซเลนสกี้จะสิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 แต่เขาปฏิเสธที่จะจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยอ้างเหตุผลด้านกฎอัยการศึก ตามคำกล่าวของริตเตอร์ วอชิงตันเริ่ม "เบื่อหน่าย" กับเซเลนสกี้ ซึ่งล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ถึงกับเรียกเขาว่าเป็น "เผด็จการที่ไม่มีการเลือกตั้ง" และกำลังดำเนินการเพื่อปลดเขาออกจากตำแหน่ง ความเห็นของริตเตอร์มีขึ้นหลังจากการประชุมที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ระหว่างเซเลนสกี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ ซึ่งเกิดการโต้เถียงอย่างดุเดือดหลังจากทรัมป์บอกผู้นำยูเครนว่าเขาจะต้องเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย เซเลนสกี้โต้แย้งว่าไม่สามารถไว้วางใจมอสโกได้และยืนยันว่าสหรัฐฯ ควรให้การสนับสนุนเคียฟต่อไป ทรัมป์ตอบโต้ว่าเซเลนสกี้ "ไม่อยู่ในสถานะที่จะสั่งการ" สหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่าเขาไม่รู้จักสำนึกบุญคุณต่อความช่วยเหลือมหาศาลของอเมริกา และตั้งคำถามถึงความเต็มใจของเขาที่จะยุติความขัดแย้งกับรัสเซีย ริตเตอร์วิเคราะห์ว่าการพบปะครั้งนี้เป็น "การจัดฉาก" อย่างจงใจเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของเซเลนสกี้และ "เผชิญหน้ากับความไม่สอดคล้องในจุดยืนของเขา""เซเลนสกี้ไม่ใช่ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย... นี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ รัฐบาลทรัมป์เบื่อหน่ายกับเซเลนสกี้แล้ว" ริตเตอร์กล่าว โดยอธิบายว่าเซเลนสกี้เป็นผู้นำมาสู่สถานการณ์นี้ด้วยตัวเองจากการเปิดเผยความเป็นปฏิปักษ์ต่อทรัมป์วุฒิสมาชิกรูบิโอได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ในภายหลัง โดยระบุว่าเซเลนสกี้ควรขอโทษสำหรับ "ความล้มเหลว" ในการพบปะกับทรัมป์ครั้งนี้. https://www.imctnews.com/news_details-news-7005.html. 2/3/2025
    จัดฉากเพื่อปิดเกมเซเลนสกี้Scott Ritter (สก็อตต์ ริตเตอร์) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองนาวิกโยธินสหรัฐฯ เปิดเผยต่อสำนักข่าว RT ว่าการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของวลาดิมีร์ เซเลนสกี้ผู้นำยูเครนได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยระบุว่าการพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ทำเนียบขาวเป็น "การจัดฉาก" เพื่อทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและนำไปสู่การปลดผู้นำยูเครนออกจากตำแหน่ง ริตเตอร์ชี้แจงว่า แม้วาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปีของเซเลนสกี้จะสิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 แต่เขาปฏิเสธที่จะจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยอ้างเหตุผลด้านกฎอัยการศึก ตามคำกล่าวของริตเตอร์ วอชิงตันเริ่ม "เบื่อหน่าย" กับเซเลนสกี้ ซึ่งล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ถึงกับเรียกเขาว่าเป็น "เผด็จการที่ไม่มีการเลือกตั้ง" และกำลังดำเนินการเพื่อปลดเขาออกจากตำแหน่ง ความเห็นของริตเตอร์มีขึ้นหลังจากการประชุมที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ระหว่างเซเลนสกี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ ซึ่งเกิดการโต้เถียงอย่างดุเดือดหลังจากทรัมป์บอกผู้นำยูเครนว่าเขาจะต้องเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย เซเลนสกี้โต้แย้งว่าไม่สามารถไว้วางใจมอสโกได้และยืนยันว่าสหรัฐฯ ควรให้การสนับสนุนเคียฟต่อไป ทรัมป์ตอบโต้ว่าเซเลนสกี้ "ไม่อยู่ในสถานะที่จะสั่งการ" สหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่าเขาไม่รู้จักสำนึกบุญคุณต่อความช่วยเหลือมหาศาลของอเมริกา และตั้งคำถามถึงความเต็มใจของเขาที่จะยุติความขัดแย้งกับรัสเซีย ริตเตอร์วิเคราะห์ว่าการพบปะครั้งนี้เป็น "การจัดฉาก" อย่างจงใจเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของเซเลนสกี้และ "เผชิญหน้ากับความไม่สอดคล้องในจุดยืนของเขา""เซเลนสกี้ไม่ใช่ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย... นี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ รัฐบาลทรัมป์เบื่อหน่ายกับเซเลนสกี้แล้ว" ริตเตอร์กล่าว โดยอธิบายว่าเซเลนสกี้เป็นผู้นำมาสู่สถานการณ์นี้ด้วยตัวเองจากการเปิดเผยความเป็นปฏิปักษ์ต่อทรัมป์วุฒิสมาชิกรูบิโอได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ในภายหลัง โดยระบุว่าเซเลนสกี้ควรขอโทษสำหรับ "ความล้มเหลว" ในการพบปะกับทรัมป์ครั้งนี้. https://www.imctnews.com/news_details-news-7005.html. 2/3/2025
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนที่.1 #USAID สัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้หน้ากากของ ‘มนุษยธรรม’
    Written by Drago Bosnic

    ยุทธศาสตร์ครอบงำโลกของสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่ซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เมื่อพยายามนึกภาพอำนาจของสหรัฐอเมริกาเรามักจะนึกถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องบินขับไล่ รถถัง นาวิกโยธิน ฯลฯ

    ในความเป็นจริงระบบราชการขนาดใหญ่ของอเมริกาแทบจะทำลายล้างประเทศเป้าหมายเสมอก่อนที่จะมีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการดำเนินการทางทหารโดยตรง
    เพื่อจุดประสงค์สิ่งนั้นหน่วยข่าวกรองจำนวนมากของไอ้กุ้ยโลกจึงมีความจำเป็น
    https://t.me/rtnews/81104

    อย่างไรก็ตามเพื่อรักษาการปฏิเสธที่สมเหตุสมผล หน่วยงานข่าวกรองเหล่านี้มักจะใช้ตัวแทนต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรพัฒนาเอกชน หรือแม้แต่สถาบันของกระทรวงการต่างประเทศเมื่อมีความจำเป็นเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือหน่วยงานเพื่อการพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือเรียกสั้นๆ ว่า USAID ที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่

    งบประมาณของหน่วยงานที่น่าอับอายนี้อยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์อย่างเป็นทางการ แม้ว่าตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้มากโดยอาจสูงถึง (หรืออาจเกิน) 1 แสนล้านดอลลาร์
    https://www.usaspending.gov/agency/agency-for-international-development?fy=2024
    สิ่งนี้ทําให้ USAID สามารถดําเนินการได้กว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือพวกเขา
    https://t.me/rtnews/81071

    คิดเป็นมากกว่า 50% ของโครงการ “ความช่วยเหลือต่างประเทศของอเมริกาทั้งหมดและมีการดำเนินการโดยเฉพาะในแอฟริกา เอเชีย ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออก (ภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากลัทธิอาณานิคม (แบบใหม่) มากที่สุด)

    เพื่อให้เข้าใจถึงขอบเขตการทำงานของ USAID ได้ดีขึ้น บางทีเราควรเปรียบเทียบกับ NED (National Endowment for Democracy) ซึ่งเป็น “สถาบันประชาธิปไตยอิสระ” อีกแห่งหนึ่งที่ทำหน้าที่จัดหาเงินทุนและสนับสนุนสิ่งที่เรียกว่า “การปฏิวัติสี” NED มีกิจกรรม “ประชาธิปไตย” เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่ Victoria Nuland ผู้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารนอกเหนือจากการให้ทุนแก่สื่ออิสระแล้ว
    https://t.me/Slavyangrad/114746
    USAID ยังมีความกระตือรือร้นเป็นพิเศษในยูเครน
    https://news.antiwar.com/2025/01/28/ukrainian-media-outlets-start-donations-after-us-funding-is-paused/
    โดยเร่งกระบวนการแปรรูปของประเทศที่โชคร้ายที่ถูกนาโต้ยึดครอง
    https://t.me/IntelRepublic/43800
    รายงานเกี่ยวกับกิจกรรมที่แท้จริงของหน่วยงานที่น่าอับอายนั้นค่อนข้างหายากจนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ เนื่องจากเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อกระแสหลักและรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามนำเสนอกิจกรรมพวกเขาโดยอ้างว่า "ช่วยเหลือประเทศอื่น" หรือปกปิดพวกเขาจากสายตาสาธารณะ

    อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เปลี่ยนไปหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาเข้ามามีอำนาจ ผลก็คือในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานของเขาและ DOGE (แผนกประสิทธิภาพของรัฐบาล) ซึ่งดำเนินการโดย Elon Musk ได้เปิดเผยรายละเอียดที่น่ากังวลใจอย่างมากเกี่ยวกับกิจกรรมจริงของ USAID
    https://www.americanthinker.com/blog/2025/02/trump_s_attack_on_the_deep_state_is_spectacular_and_almost_certainly_legal.html
    ซึ่งมักผิดกฎหมายของสหรัฐอเมริกาและกฎหมายของประเทศเจ้าภาพจำนวนมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

    เมื่อปลายเดือนมกราคม หน่วยงานดังกล่าวถูกบังคับให้หยุดกิจกรรมส่วนใหญ่ในยูเครนที่ถูกนาโต้ยึดครอง
    https://www.reuters.com/world/europe/ukraine-aid-groups-cut-services-scramble-cash-after-us-funding-shock-2025-01-30/
    รวมถึงการให้ทุนสนับสนุนสื่อเกือบทั้งหมดที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มนีโอนาซี
    https://t.me/Slavyangrad/118280?single

    ไม่นานหลังจากนั้น สื่ออื่นๆ ทั่วทั้งยุโรปตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ก็เข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมสิ่งที่เรียกว่า "ค่านิยมแบบตะวันตก" (ซึ่งเป็นการผสมผสานทางอุดมการณ์ระหว่างลัทธิเสรีนิยมสุดโต่งและความเสื่อมทรามทางศีลธรรม) ซึ่งคนส่วนใหญ่บนโลกพบว่าน่ารังเกียจอย่างยิ่ง)

    เว็บไซต์ USAID จะปิดตัวลงในเร็วๆ นี้ ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ประกาศว่าหน่วยงานนี้จะถูกปิดตัวลงในเร็วๆ นี้
    https://www.zerohedge.com/political/usaid-website-goes-dark-trump-reportedly-plans-shift-agency-under-state-department
    ณ เวลาที่เขียนนี้ เว็บไซต์ไม่สามารถใช้งานได้จริง และแสดงข้อความเพียงว่าบุคลากรของเว็บไซต์จะถูกพักงานทั่วโลกในวันที่ 7 กุมภาพันธ์
    https://www.usaid.gov/
    แม้ว่า "พนักงานที่สำคัญ" จะได้รับแจ้งถึงชะตากรรมของตนในวันก่อนหน้านั้น คือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ก็ตาม

    อ่านต่อตอนที่.2
    https://www.facebook.com/share/p/1DN6TtSX6u/
    ตอนที่.1 #USAID สัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้หน้ากากของ ‘มนุษยธรรม’ Written by Drago Bosnic ยุทธศาสตร์ครอบงำโลกของสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่ซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เมื่อพยายามนึกภาพอำนาจของสหรัฐอเมริกาเรามักจะนึกถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องบินขับไล่ รถถัง นาวิกโยธิน ฯลฯ ในความเป็นจริงระบบราชการขนาดใหญ่ของอเมริกาแทบจะทำลายล้างประเทศเป้าหมายเสมอก่อนที่จะมีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการดำเนินการทางทหารโดยตรง เพื่อจุดประสงค์สิ่งนั้นหน่วยข่าวกรองจำนวนมากของไอ้กุ้ยโลกจึงมีความจำเป็น https://t.me/rtnews/81104 อย่างไรก็ตามเพื่อรักษาการปฏิเสธที่สมเหตุสมผล หน่วยงานข่าวกรองเหล่านี้มักจะใช้ตัวแทนต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรพัฒนาเอกชน หรือแม้แต่สถาบันของกระทรวงการต่างประเทศเมื่อมีความจำเป็นเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือหน่วยงานเพื่อการพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือเรียกสั้นๆ ว่า USAID ที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ งบประมาณของหน่วยงานที่น่าอับอายนี้อยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์อย่างเป็นทางการ แม้ว่าตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้มากโดยอาจสูงถึง (หรืออาจเกิน) 1 แสนล้านดอลลาร์ https://www.usaspending.gov/agency/agency-for-international-development?fy=2024 สิ่งนี้ทําให้ USAID สามารถดําเนินการได้กว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือพวกเขา https://t.me/rtnews/81071 คิดเป็นมากกว่า 50% ของโครงการ “ความช่วยเหลือต่างประเทศของอเมริกาทั้งหมดและมีการดำเนินการโดยเฉพาะในแอฟริกา เอเชีย ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออก (ภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากลัทธิอาณานิคม (แบบใหม่) มากที่สุด) เพื่อให้เข้าใจถึงขอบเขตการทำงานของ USAID ได้ดีขึ้น บางทีเราควรเปรียบเทียบกับ NED (National Endowment for Democracy) ซึ่งเป็น “สถาบันประชาธิปไตยอิสระ” อีกแห่งหนึ่งที่ทำหน้าที่จัดหาเงินทุนและสนับสนุนสิ่งที่เรียกว่า “การปฏิวัติสี” NED มีกิจกรรม “ประชาธิปไตย” เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่ Victoria Nuland ผู้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารนอกเหนือจากการให้ทุนแก่สื่ออิสระแล้ว https://t.me/Slavyangrad/114746 USAID ยังมีความกระตือรือร้นเป็นพิเศษในยูเครน https://news.antiwar.com/2025/01/28/ukrainian-media-outlets-start-donations-after-us-funding-is-paused/ โดยเร่งกระบวนการแปรรูปของประเทศที่โชคร้ายที่ถูกนาโต้ยึดครอง https://t.me/IntelRepublic/43800 รายงานเกี่ยวกับกิจกรรมที่แท้จริงของหน่วยงานที่น่าอับอายนั้นค่อนข้างหายากจนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ เนื่องจากเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อกระแสหลักและรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามนำเสนอกิจกรรมพวกเขาโดยอ้างว่า "ช่วยเหลือประเทศอื่น" หรือปกปิดพวกเขาจากสายตาสาธารณะ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เปลี่ยนไปหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาเข้ามามีอำนาจ ผลก็คือในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานของเขาและ DOGE (แผนกประสิทธิภาพของรัฐบาล) ซึ่งดำเนินการโดย Elon Musk ได้เปิดเผยรายละเอียดที่น่ากังวลใจอย่างมากเกี่ยวกับกิจกรรมจริงของ USAID https://www.americanthinker.com/blog/2025/02/trump_s_attack_on_the_deep_state_is_spectacular_and_almost_certainly_legal.html ซึ่งมักผิดกฎหมายของสหรัฐอเมริกาและกฎหมายของประเทศเจ้าภาพจำนวนมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เมื่อปลายเดือนมกราคม หน่วยงานดังกล่าวถูกบังคับให้หยุดกิจกรรมส่วนใหญ่ในยูเครนที่ถูกนาโต้ยึดครอง https://www.reuters.com/world/europe/ukraine-aid-groups-cut-services-scramble-cash-after-us-funding-shock-2025-01-30/ รวมถึงการให้ทุนสนับสนุนสื่อเกือบทั้งหมดที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มนีโอนาซี https://t.me/Slavyangrad/118280?single ไม่นานหลังจากนั้น สื่ออื่นๆ ทั่วทั้งยุโรปตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ก็เข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมสิ่งที่เรียกว่า "ค่านิยมแบบตะวันตก" (ซึ่งเป็นการผสมผสานทางอุดมการณ์ระหว่างลัทธิเสรีนิยมสุดโต่งและความเสื่อมทรามทางศีลธรรม) ซึ่งคนส่วนใหญ่บนโลกพบว่าน่ารังเกียจอย่างยิ่ง) เว็บไซต์ USAID จะปิดตัวลงในเร็วๆ นี้ ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ประกาศว่าหน่วยงานนี้จะถูกปิดตัวลงในเร็วๆ นี้ https://www.zerohedge.com/political/usaid-website-goes-dark-trump-reportedly-plans-shift-agency-under-state-department ณ เวลาที่เขียนนี้ เว็บไซต์ไม่สามารถใช้งานได้จริง และแสดงข้อความเพียงว่าบุคลากรของเว็บไซต์จะถูกพักงานทั่วโลกในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ https://www.usaid.gov/ แม้ว่า "พนักงานที่สำคัญ" จะได้รับแจ้งถึงชะตากรรมของตนในวันก่อนหน้านั้น คือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ก็ตาม อ่านต่อตอนที่.2 https://www.facebook.com/share/p/1DN6TtSX6u/
    T.ME
    RT News
    USAID operates as plausible deniability agency to the 'rogue activities of CIA, State Dept, Pentagon - Benz The agency pushes legacy foreign policy that 'hated Trump with a passion', spending billions annually controlling media narrative that 'populism is attack on democracy'. #US #USAID
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 447 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    ด่วน!
    ภาพเหตุการณ์เครื่องบิน EA-18G "Growler" ของกองทัพเรือสหรัฐฯ พุ่งลงอ่าวซานดิเอโก (San Diego Bay) ใกล้กับฐานทัพอากาศนาวิกโยธินเกาะเหนือ (Naval Air Station North Island)

    นักบินสองนายสามารถดีดตัวออกได้อย่างปลอดภัย และได้รับการช่วยเหลือจากเรือประมงใกล้เคียง หลังจากนั้นถูกส่งไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการต่อไป

    เครื่องบิน EA-18G เป็นเครื่องบินรบอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะทางที่ดัดแปลงมาจากเครื่องบิน FA/18 Super Hornet
    2/ ด่วน! ภาพเหตุการณ์เครื่องบิน EA-18G "Growler" ของกองทัพเรือสหรัฐฯ พุ่งลงอ่าวซานดิเอโก (San Diego Bay) ใกล้กับฐานทัพอากาศนาวิกโยธินเกาะเหนือ (Naval Air Station North Island) นักบินสองนายสามารถดีดตัวออกได้อย่างปลอดภัย และได้รับการช่วยเหลือจากเรือประมงใกล้เคียง หลังจากนั้นถูกส่งไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการต่อไป เครื่องบิน EA-18G เป็นเครื่องบินรบอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะทางที่ดัดแปลงมาจากเครื่องบิน FA/18 Super Hornet
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • 1/
    ด่วน!
    ภาพเหตุการณ์เครื่องบิน EA-18G "Growler" ของกองทัพเรือสหรัฐฯ พุ่งลงอ่าวซานดิเอโก (San Diego Bay) ใกล้กับฐานทัพอากาศนาวิกโยธินเกาะเหนือ (Naval Air Station North Island)

    นักบินสองนายสามารถดีดตัวออกได้อย่างปลอดภัย และได้รับการช่วยเหลือจากเรือประมงใกล้เคียง หลังจากนั้นถูกส่งไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการต่อไป

    เครื่องบิน EA-18G เป็นเครื่องบินรบอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะทางที่ดัดแปลงมาจากเครื่องบิน FA/18 Super Hornet
    1/ ด่วน! ภาพเหตุการณ์เครื่องบิน EA-18G "Growler" ของกองทัพเรือสหรัฐฯ พุ่งลงอ่าวซานดิเอโก (San Diego Bay) ใกล้กับฐานทัพอากาศนาวิกโยธินเกาะเหนือ (Naval Air Station North Island) นักบินสองนายสามารถดีดตัวออกได้อย่างปลอดภัย และได้รับการช่วยเหลือจากเรือประมงใกล้เคียง หลังจากนั้นถูกส่งไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการต่อไป เครื่องบิน EA-18G เป็นเครื่องบินรบอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะทางที่ดัดแปลงมาจากเครื่องบิน FA/18 Super Hornet
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักบินกองทัพอากาศสหรัฐฯ ดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย หลังเครื่องบินขับไล่ล้ำสมัย F-35 เกิดขัดข้อง ก่อนร่วงกระแทกพื้น ระเบิดไฟลุกท่วม ระหว่างภารกิจฝึกฝน ณ ฐานทัพอากาศไอเอลสัน ในรัฐอะแลสกา เมื่อวันอังคาร (28 ม.ค.)
    .
    นาวาอากาศเอกพอล ทาวน์เซนด์ ผู้บัญชาการกองบินที่ 354 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ระบุนักบินประสบปัญหาขัดข้องระหว่างทำการบิน แต่สามารถดีดตัวออกมาได้ทัน และเครื่องบินโหม่งโลกระหว่างขั้นตอนการลงจอด
    .
    "นักบินแจ้งเหตุฉุกเฉินระหว่างทำการบินก่อนประสบเหตุ และได้รับรายงานว่าเขาอยู่ในอาการทรงตัว หลังจากถูกพาตัวส่งสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง" นาวาอากาศเอกทาวน์เซนด์กล่ว "นักบินปลอดภัย และถูกส่งไปยังโรงพยาบาลทหารบาสเซตต์ เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติม ผมรับประกันกับคุณว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯ จะทำการสืบนสวนอย่างละเอียด ในความหวังเพื่อลดโอกาส ไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก"
    .
    กองบินที่ 354 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ยืนยันในถ้อยแถลงว่า "อุบัติเหตุทางเครื่องบิน" เกิดขึ้นตอน 12.49 น.ตามเวลาท้องถิ่น "ผลก็คือก่อความเสียหายร้ายแรงแก่เครื่องบิน" ทั้งนี้ฐานทัพอากาศไอเอลสัน อยู่ห่างจากเมืองแฟร์แบงค์ ไปทางใต้ราว 40 กิโลเมตร โดยเมืองแห่งนี้ถูกใช้เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการหนึ่งของเครื่องบิน F-35 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีล่องหน ยุคที่ 5 จำนวน 50 ลำ
    .
    ในเหตุการณ์อันน่าตื่นตะลึงที่ถูกจับภาพเอาไว้ได้ และเกิดขึ้นขณะที่เครื่องบินกำลังลงจอด พบเห็นเครื่องบินล้ำสมัยที่ผลิตโดยล็อคฮีด มาร์ติน หมุนเกลียวในวงแคบๆ ในสภาพที่กางล้อออกมา ระหว่างที่ร่วงเกือบในแนวดิ่งมุ่งสู่พื้นโลก จนกระทั่งกระแทกพื้น โหมกระพือเปลวไฟขนาดใหญ่ลุกท่วมเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง พบเห็นร่มชูชีพกางออก เป็นสัญญาณว่านักบินดีดตัวออกมาได้ทัน
    .
    เครื่องบิน F-35 เป็นเสาหลักแห่งกองบินของกองทัพสหรัฐฯ มันถูกคุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับศักยภาพล่องหนล้ำสมัยและการสู้รบของมัน และมีประจำการทั้งในกองทัพอากาศ กองทัพเรือและนาวิกโยธินอเมริกา อย่างไรก็ตาม มันถูกพินิจพิเคราะห์ตรวจสอบเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
    .
    ในเดือนพฤษภาคม เครื่องบิน F-35 ลำหนึ่ง ที่อยู่ระหว่างเดินทางจากเทกซัสไปยังฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดส์ ในแคลิฟอร์เนีย เกิดอุบัติเหตุโหม่งโลก ไม่นานหลังแวะเติมเชื้อเพลิงในนิวเม็กซิโก ตามรายงานของเอพี นักบินได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกลำเลียงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
    .
    อีกเหตุการณ์เมื่อเดือนตุลาคม การสืบสวนของนาวิกโยธินสหรัฐฯ สรุปว่านักบินรายหนึ่งถูกดีดออกจากเครื่องบิน F-35 ทั้งที่เขาไม่ได้ออกคำสั่งใดๆ ส่งผลให้เครื่องบินลำดังกล่าวบินเองโดยอัตโนมัติเป็นเวลา 11 นาที ก่อนโหม่งโลก ในพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009489
    .........
    Sondhi X
    นักบินกองทัพอากาศสหรัฐฯ ดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย หลังเครื่องบินขับไล่ล้ำสมัย F-35 เกิดขัดข้อง ก่อนร่วงกระแทกพื้น ระเบิดไฟลุกท่วม ระหว่างภารกิจฝึกฝน ณ ฐานทัพอากาศไอเอลสัน ในรัฐอะแลสกา เมื่อวันอังคาร (28 ม.ค.) . นาวาอากาศเอกพอล ทาวน์เซนด์ ผู้บัญชาการกองบินที่ 354 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ระบุนักบินประสบปัญหาขัดข้องระหว่างทำการบิน แต่สามารถดีดตัวออกมาได้ทัน และเครื่องบินโหม่งโลกระหว่างขั้นตอนการลงจอด . "นักบินแจ้งเหตุฉุกเฉินระหว่างทำการบินก่อนประสบเหตุ และได้รับรายงานว่าเขาอยู่ในอาการทรงตัว หลังจากถูกพาตัวส่งสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง" นาวาอากาศเอกทาวน์เซนด์กล่ว "นักบินปลอดภัย และถูกส่งไปยังโรงพยาบาลทหารบาสเซตต์ เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติม ผมรับประกันกับคุณว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯ จะทำการสืบนสวนอย่างละเอียด ในความหวังเพื่อลดโอกาส ไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก" . กองบินที่ 354 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ยืนยันในถ้อยแถลงว่า "อุบัติเหตุทางเครื่องบิน" เกิดขึ้นตอน 12.49 น.ตามเวลาท้องถิ่น "ผลก็คือก่อความเสียหายร้ายแรงแก่เครื่องบิน" ทั้งนี้ฐานทัพอากาศไอเอลสัน อยู่ห่างจากเมืองแฟร์แบงค์ ไปทางใต้ราว 40 กิโลเมตร โดยเมืองแห่งนี้ถูกใช้เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการหนึ่งของเครื่องบิน F-35 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีล่องหน ยุคที่ 5 จำนวน 50 ลำ . ในเหตุการณ์อันน่าตื่นตะลึงที่ถูกจับภาพเอาไว้ได้ และเกิดขึ้นขณะที่เครื่องบินกำลังลงจอด พบเห็นเครื่องบินล้ำสมัยที่ผลิตโดยล็อคฮีด มาร์ติน หมุนเกลียวในวงแคบๆ ในสภาพที่กางล้อออกมา ระหว่างที่ร่วงเกือบในแนวดิ่งมุ่งสู่พื้นโลก จนกระทั่งกระแทกพื้น โหมกระพือเปลวไฟขนาดใหญ่ลุกท่วมเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่ง พบเห็นร่มชูชีพกางออก เป็นสัญญาณว่านักบินดีดตัวออกมาได้ทัน . เครื่องบิน F-35 เป็นเสาหลักแห่งกองบินของกองทัพสหรัฐฯ มันถูกคุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับศักยภาพล่องหนล้ำสมัยและการสู้รบของมัน และมีประจำการทั้งในกองทัพอากาศ กองทัพเรือและนาวิกโยธินอเมริกา อย่างไรก็ตาม มันถูกพินิจพิเคราะห์ตรวจสอบเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา . ในเดือนพฤษภาคม เครื่องบิน F-35 ลำหนึ่ง ที่อยู่ระหว่างเดินทางจากเทกซัสไปยังฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดส์ ในแคลิฟอร์เนีย เกิดอุบัติเหตุโหม่งโลก ไม่นานหลังแวะเติมเชื้อเพลิงในนิวเม็กซิโก ตามรายงานของเอพี นักบินได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกลำเลียงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง . อีกเหตุการณ์เมื่อเดือนตุลาคม การสืบสวนของนาวิกโยธินสหรัฐฯ สรุปว่านักบินรายหนึ่งถูกดีดออกจากเครื่องบิน F-35 ทั้งที่เขาไม่ได้ออกคำสั่งใดๆ ส่งผลให้เครื่องบินลำดังกล่าวบินเองโดยอัตโนมัติเป็นเวลา 11 นาที ก่อนโหม่งโลก ในพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009489 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    Wow
    Sad
    15
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2307 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทหารมีไว้ทำไม"
    กองทัพสหรัฐส่งทหารและเจ้าหน้าที่เข้าช่วยดับไฟป่าในแอลเอ ไม่ใช่เพียงแค่นี้ แต่ยังเข้าช่วยเหลือในภารกิจเต็มรูปแบบในการช่วยชีวิตผู้คน ฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเศษซาก

    นาวิกโยธิน 500 นายจากค่ายเพนเดิลตันกำลังปฏิบัติหน้าที่ภาคพื้นดิน เคลียร์เส้นทาง จัดส่งเสบียง และนำการกู้ภัย

    นอกจากนี้ กองทัพเรือยังส่งเฮลิคอปเตอร์จำนวน 10 ลำพร้อมถังน้ำเข้าไปช่วย
    "ทหารมีไว้ทำไม" กองทัพสหรัฐส่งทหารและเจ้าหน้าที่เข้าช่วยดับไฟป่าในแอลเอ ไม่ใช่เพียงแค่นี้ แต่ยังเข้าช่วยเหลือในภารกิจเต็มรูปแบบในการช่วยชีวิตผู้คน ฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเศษซาก นาวิกโยธิน 500 นายจากค่ายเพนเดิลตันกำลังปฏิบัติหน้าที่ภาคพื้นดิน เคลียร์เส้นทาง จัดส่งเสบียง และนำการกู้ภัย นอกจากนี้ กองทัพเรือยังส่งเฮลิคอปเตอร์จำนวน 10 ลำพร้อมถังน้ำเข้าไปช่วย
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 491 มุมมอง 53 0 รีวิว
  • “เกาะกูด” CONSPIRACY MOU44 ชนวนสังหารโหด “ลิม กึมยา”!?
    .
    การสังหารโหด “ลิม กึมยา” อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชาและนักเคลื่อนไหวคนสำคัญ ระหว่างเดินทางมาประเทศไทยกับภรรยาชาวฝรั่งเศส ที่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่สะท้านสะเทือนไปทั้งโลก
    .
    เนื่องเพราะเป็น “คำสั่งฆ่า” และเปิด “ปฏิบัติการข้ามชาติ” อย่างอุกอาจชนิดที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายเลยแม้แต่น้อย
    .
    แน่นอน ในส่วนของ “มือปืน” ชัดเจนแล้วว่าเป็นอดีตนาวิกโยธิน ซึ่งปัจจุบันประกอบอาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างในซอยสุขุมวิท 22 ที่ชื่อ “จ่าเอ็ม” หรือ “เอกลักษณ์ แพน้อย”
    .
    หลังปฏิบัติการเสร็จ “จ่าเอ็ม” มือปืนหลังสังหารโหดมีรถมารับหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนที่จะจับกุมตัวได้ที่จังหวัดพระตะบอง
    .
    ส่วน “คนชี้เป้า” จากหลักฐานกล้องวงจรปิด พบชายคนดังกล่าวเป็นชาวกัมพูชา เดินทางมากับรถบัสท่องเที่ยวข้ามประเทศคันเดียวกับ “ลิม กึมยา” จากด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เดินทางออกนอกประเทศ โดยสายการบินสกายอังกอร์ ปลายทางที่กรุงพนมเปญทันที
    .
    คนชี้เป้ารายนี้ ได้รับการเปิดเผยจากทางการไทยว่าคือ “นายคิมริน พิช”
    .
    ปฏิบัติการสังหารโหดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ขณะที่ “คนสั่งการ” ถือว่า “ไม่ธรรมดา” เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถมีเส้นสายติดต่อ “มือปืนระดับพระกาฬ” ในประเทศไทยให้เป็นผู้ลงมือได้
    .
    คำถามมีเพียงประการเดียวคือ ทำไม “ลิม กึมยา” ถึงต้องตาย?
    .
    ที่มา https://news1live.com/detail/9680000003016
    “เกาะกูด” CONSPIRACY MOU44 ชนวนสังหารโหด “ลิม กึมยา”!? . การสังหารโหด “ลิม กึมยา” อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชาและนักเคลื่อนไหวคนสำคัญ ระหว่างเดินทางมาประเทศไทยกับภรรยาชาวฝรั่งเศส ที่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่สะท้านสะเทือนไปทั้งโลก . เนื่องเพราะเป็น “คำสั่งฆ่า” และเปิด “ปฏิบัติการข้ามชาติ” อย่างอุกอาจชนิดที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายเลยแม้แต่น้อย . แน่นอน ในส่วนของ “มือปืน” ชัดเจนแล้วว่าเป็นอดีตนาวิกโยธิน ซึ่งปัจจุบันประกอบอาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างในซอยสุขุมวิท 22 ที่ชื่อ “จ่าเอ็ม” หรือ “เอกลักษณ์ แพน้อย” . หลังปฏิบัติการเสร็จ “จ่าเอ็ม” มือปืนหลังสังหารโหดมีรถมารับหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนที่จะจับกุมตัวได้ที่จังหวัดพระตะบอง . ส่วน “คนชี้เป้า” จากหลักฐานกล้องวงจรปิด พบชายคนดังกล่าวเป็นชาวกัมพูชา เดินทางมากับรถบัสท่องเที่ยวข้ามประเทศคันเดียวกับ “ลิม กึมยา” จากด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เดินทางออกนอกประเทศ โดยสายการบินสกายอังกอร์ ปลายทางที่กรุงพนมเปญทันที . คนชี้เป้ารายนี้ ได้รับการเปิดเผยจากทางการไทยว่าคือ “นายคิมริน พิช” . ปฏิบัติการสังหารโหดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ขณะที่ “คนสั่งการ” ถือว่า “ไม่ธรรมดา” เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถมีเส้นสายติดต่อ “มือปืนระดับพระกาฬ” ในประเทศไทยให้เป็นผู้ลงมือได้ . คำถามมีเพียงประการเดียวคือ ทำไม “ลิม กึมยา” ถึงต้องตาย? . ที่มา https://news1live.com/detail/9680000003016
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 648 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11 มกราคม 2568-รายงานพิเศษของเว็บไซต์ The Structure เกี่ยวกับประเด็นเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย โดยรศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ได้สะท้อนภาพจากเหตุการณ์ลอบสังหาร “ลิม กิมยา”กลางกรุงเทพมหานครว่า เกิดอะไรขึ้น กับประเทศไทย? ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ สะท้อนภาพที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ ลอบสังหาร ‘ลิม กินยา’ กลางกรุงเทพมหานคร
    On 2025-01-10
    สืบเนื่องจากกรณีการลอบสังหาร ลิม กิมยา อดีต สส. พรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกลอบยิงที่บริเวณเกาะกลางถนน วงเวียนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ในช่วงค่ำของวันที่ 7 ม.ค. 2568

    ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย สามารถระบุตัวคนร้ายจนพบว่าเป็นจ่าเอ็ม-เอกลักษณ์ แพน้อย อดีตทหารนาวิกโยธินของไทย ซึ่งถูกให้ออกจากราชการไปตั้งแต่ปี 2566 แล้ว และสามารถตามจับตัวจ่าเอ็มได้ที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ในช่วงค่ำวันที่ 8 ม.ค. 2568

    และในเวลานี้ จ่าเอ็มยังอยู่ในระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวนของทางการกัมพูชา เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาจะมีการดำเนินคดีกับจ่าเอ็มในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อน

    รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ได้กล่าวว่ากรณีนี้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าได้เกิดช่องว่าง หรืออุปสรรค์ในการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจสันติบาล, ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ, สำนักข่าวกรอง หรือแม้แต่สภาความมั่นคงเอง

    ที่อาจจะต้องทำงานให้สอดประสานกันเพื่อการกำหนดแนวทางการคุ้มกันบุคคลสำคัญ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีการกำหนดหลักปฎิบัติ หรือระเบียบปฎิบัติประจำ (รปจ.) อยู่แล้ว

    แต่สำหรับกรณีนี้ ถึงแม้ว่าตัวผู้ถูกลอบสังหารจะไม่ได้ทำการร้องขอการคุ้มกันจากฝ่ายไทย จึงทำให้การจัดชุดรักษาความปลอดภัยนั้นอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ แต่ในเมื่อพิจารณาดูแล้วว่า ลิม กินยานั้นเป็นเป้าหมายสำคัญที่อาจจะถูกคุกคาม จนมีความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทย

    หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจส่งชุดรักษาความปลอดภัยไปดูแลลิม กินยา ตั้งแต่เข้าเมือง หรืออาจจะปฎิเสธการให้เข้าเมืองตั้งแต่แรกเลยก็ทำได้ ถ้าพิจารณาแล้วว่าอาจจะคุ้มครองเขาไม่ได้ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น

    ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางการไทยนั้นมีประสบการณ์ในการให้ความคุ้มครองบุคคลสำคัญจากประเทศเพื่อนบ้านมามากพอสมควร ไม่ว่าจะจากลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย และเมียนมา ไทยก็เคยให้การดูแลคุ้มกันมาแล้ว

    ทางการไทยจะต้องมีการดำเนินการเพื่อการป้องกันเหตุการณ์ที่จะสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย ว่าเป็นพื้นที่สังหารบุคคลสำคัญ, ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว หรือมีการซ่องสุมกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ โดยมีการใช้คนไทยเข้ามาเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติการหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญที่จะต้องดูแลกันให้ดี

    สำหรับแนวทางในการนำตัวจ่าเอ็ม ผู้ก่อเหตุกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น มีอยู่ 2 แนวทาง ได้แก่

    1 การดำเนินการตามช่องทางปกติ โดยจะต้องมีการดำเนินคดีในฝั่งกัมพูชาก่อนสักระยะหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยจะมีการพิจารณาลงโทษ-ลดโทษ-อภัยโทษ แล้วส่งคืนมายังไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

    ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว แต่อาจจะมีการกล่าวโทษในคดีอื่นเพิ่มเช่น พกพาอาวุธ และความมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามแดน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานานและสร้างความคลุมเครือ

    2 การดำเนินการในช่องทางพิเศษ ด้วยวิธีต่างตอบแทน โดยการแลกตัว หรือร้องขอให้ทางกัมพูชาส่งตัวผู้ก่อเหตุให้มาถูกดำเนินคดีในไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่กรณีนี้จะต้องระมัดระวังว่าจะกระทบต่อสิทธิมนุษยชน และต้องพิจารณาความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาด้วย เพราะว่าเรื่องนี้นั้นจะเป็นการสะท้อนถึงระดับความสัมพันธ์ หรือเรื่องราวมีความซับซ้อนมากน้อยเพียงใด

    แต่ทั้งนี้นั้น ควรจะต้องมีการดำเนินการผ่านกลไกของอาเซียน และตำรวจสากล ที่มีข้อตกลงที่ค่อนข้างชัดเจน และเป็นทางการ แทนการใช้ระบบต่างตอบแทน เพื่อป้องกันข้อครหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดหรือห่างเหินระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศในบางสมัย ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ผ่านทางอาเซียน

    สำหรับคำถามที่ว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการคุ้มครองผู้เห็นต่างทางการเมืองจากประเทศอื่นที่เข้ามาลี้ภัยในประเทศไทยหรือไม่ รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่า ในบางช่วงประเทศไทยก็มีขีดความสามารถในการดำเนินการในเรื่องนี้ได้ดี

    ไทยเคยสามารถจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศได้หลายครั้ง อย่างกรณี “ฮัม บาลี” ผู้ก่อเหตุวางระเบิดในอินโดนีเซีย หรือกรณีของ วิกเตอร์ บุช ผู้ค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย และมีการส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทางได้ และได้รับความชื่นชมจากนานาชาติเป็นอย่างมาก

    อีกทั้งยังเคยสามารถสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้าประเทศ อย่างเช่นกลุ่มจากประเทศเกาหลีเหนือ และกลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกว่า 30 กลุ่ม ซึ่งบางครั้งเราก็ทำได้ดี แต่บางครั้งเราก็มีปัญหา ซึ่งในภาพรวมแล้วเราควรจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก และกรณีนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

    สำหรับกรณีที่พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชากล่าวหาฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่าเรื่องนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ที่จะต้องมีการพิสูจน์ทราบกันให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    แต่ทั้งนี้การที่ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านกล่าวหาพุ่งเป้าใส่กัน โดยมีการดึงประเทศไทยเข้าไปเกี่ยวข้องนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย อีกทั้งตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาได้ทำเรื่องร้องขอให้มีการส่งตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา เช่น สม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชากลับ ซึ่งก็มีทั้งกรณีที่ทางการไทยส่งตัวกลับ และไม่ส่งตัวกลับ

    ดังนั้นเรื่องนี้นั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และหน่วยงานราชการไทย และฝ่ายความมั่นคงนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี

    แต่ทั้งนี้ไทยต้องดำเนินการป้องกันให้มากกว่านี้ เพื่อการป้องกันไม่ให้ไทยถูกดึงเข้าไปอยู่ในวงความขัดแย้ง ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้มีเฉพาะกับกัมพูชาเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับลาว, เมียนมา และมาเลเซียด้วย

    นอกจากนี้ ทางการไทยเองก็มีการดำเนินการขอตัวแกนนำสั่งการต่าง ๆ ที่อยู่ในมาเลเซีย มาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางกรณีมีการเสียชีวิตในระหว่างทาง ซึ่งเรื่องนี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระเบียบกันอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับประเทศไทยไปมากกว่านี้

    สำหรับการสืบสาวหาต้นตอ/ขบวนการ/ผู้จ้างวาน ให้มีการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากนัก เพราะทราบมาว่าฝ่ายนั้นมีการดำเนินการสื่อสารผ่านระบบสมัยใหม่ ซึ่งทางเราสามารถดักจับ และบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของเรา

    ดังนั้นการดำเนินการสืบค้นเพื่อเอาหลักฐานเหล่านั้นมาพิสูจน์ในทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นก็คงไม่ยากเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากทางกัมพูชาด้วย

    อย่างไรก็ดี การที่ลิม กินยานั้น เป็นผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วยนั้น ทำให้ฝรั่งเศส, สหภาพยุโรป และนานาชาติต่างก็จับตาดูกรณีนี้เป็นพิเศษ และก็คงจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภรรยาของลิม กินยา ซึ่งถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย และอาจจะเข้ามาร่วมประสานงานกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น

    (ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศว่าจะมีการติดตามการสืบสวนของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้)

    ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงต่างประเทศจะต้องมีการตั้งชุดทำงานขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบมากไปกว่านี้ และในขณะนี้เกิดความแปรปรวนขึ้นพอสมควร เนื่องจากเกิดความเชื่อหลายอย่างขึ้นในโลกออนไลน์ ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง
    11 มกราคม 2568-รายงานพิเศษของเว็บไซต์ The Structure เกี่ยวกับประเด็นเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย โดยรศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ได้สะท้อนภาพจากเหตุการณ์ลอบสังหาร “ลิม กิมยา”กลางกรุงเทพมหานครว่า เกิดอะไรขึ้น กับประเทศไทย? ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ สะท้อนภาพที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ ลอบสังหาร ‘ลิม กินยา’ กลางกรุงเทพมหานคร On 2025-01-10 สืบเนื่องจากกรณีการลอบสังหาร ลิม กิมยา อดีต สส. พรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกลอบยิงที่บริเวณเกาะกลางถนน วงเวียนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ในช่วงค่ำของวันที่ 7 ม.ค. 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย สามารถระบุตัวคนร้ายจนพบว่าเป็นจ่าเอ็ม-เอกลักษณ์ แพน้อย อดีตทหารนาวิกโยธินของไทย ซึ่งถูกให้ออกจากราชการไปตั้งแต่ปี 2566 แล้ว และสามารถตามจับตัวจ่าเอ็มได้ที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ในช่วงค่ำวันที่ 8 ม.ค. 2568 และในเวลานี้ จ่าเอ็มยังอยู่ในระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวนของทางการกัมพูชา เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาจะมีการดำเนินคดีกับจ่าเอ็มในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อน รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ได้กล่าวว่ากรณีนี้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าได้เกิดช่องว่าง หรืออุปสรรค์ในการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจสันติบาล, ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ, สำนักข่าวกรอง หรือแม้แต่สภาความมั่นคงเอง ที่อาจจะต้องทำงานให้สอดประสานกันเพื่อการกำหนดแนวทางการคุ้มกันบุคคลสำคัญ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีการกำหนดหลักปฎิบัติ หรือระเบียบปฎิบัติประจำ (รปจ.) อยู่แล้ว แต่สำหรับกรณีนี้ ถึงแม้ว่าตัวผู้ถูกลอบสังหารจะไม่ได้ทำการร้องขอการคุ้มกันจากฝ่ายไทย จึงทำให้การจัดชุดรักษาความปลอดภัยนั้นอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ แต่ในเมื่อพิจารณาดูแล้วว่า ลิม กินยานั้นเป็นเป้าหมายสำคัญที่อาจจะถูกคุกคาม จนมีความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจส่งชุดรักษาความปลอดภัยไปดูแลลิม กินยา ตั้งแต่เข้าเมือง หรืออาจจะปฎิเสธการให้เข้าเมืองตั้งแต่แรกเลยก็ทำได้ ถ้าพิจารณาแล้วว่าอาจจะคุ้มครองเขาไม่ได้ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางการไทยนั้นมีประสบการณ์ในการให้ความคุ้มครองบุคคลสำคัญจากประเทศเพื่อนบ้านมามากพอสมควร ไม่ว่าจะจากลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย และเมียนมา ไทยก็เคยให้การดูแลคุ้มกันมาแล้ว ทางการไทยจะต้องมีการดำเนินการเพื่อการป้องกันเหตุการณ์ที่จะสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย ว่าเป็นพื้นที่สังหารบุคคลสำคัญ, ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว หรือมีการซ่องสุมกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ โดยมีการใช้คนไทยเข้ามาเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติการหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญที่จะต้องดูแลกันให้ดี สำหรับแนวทางในการนำตัวจ่าเอ็ม ผู้ก่อเหตุกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น มีอยู่ 2 แนวทาง ได้แก่ 1 การดำเนินการตามช่องทางปกติ โดยจะต้องมีการดำเนินคดีในฝั่งกัมพูชาก่อนสักระยะหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยจะมีการพิจารณาลงโทษ-ลดโทษ-อภัยโทษ แล้วส่งคืนมายังไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว แต่อาจจะมีการกล่าวโทษในคดีอื่นเพิ่มเช่น พกพาอาวุธ และความมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามแดน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานานและสร้างความคลุมเครือ 2 การดำเนินการในช่องทางพิเศษ ด้วยวิธีต่างตอบแทน โดยการแลกตัว หรือร้องขอให้ทางกัมพูชาส่งตัวผู้ก่อเหตุให้มาถูกดำเนินคดีในไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่กรณีนี้จะต้องระมัดระวังว่าจะกระทบต่อสิทธิมนุษยชน และต้องพิจารณาความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาด้วย เพราะว่าเรื่องนี้นั้นจะเป็นการสะท้อนถึงระดับความสัมพันธ์ หรือเรื่องราวมีความซับซ้อนมากน้อยเพียงใด แต่ทั้งนี้นั้น ควรจะต้องมีการดำเนินการผ่านกลไกของอาเซียน และตำรวจสากล ที่มีข้อตกลงที่ค่อนข้างชัดเจน และเป็นทางการ แทนการใช้ระบบต่างตอบแทน เพื่อป้องกันข้อครหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดหรือห่างเหินระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศในบางสมัย ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ผ่านทางอาเซียน สำหรับคำถามที่ว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการคุ้มครองผู้เห็นต่างทางการเมืองจากประเทศอื่นที่เข้ามาลี้ภัยในประเทศไทยหรือไม่ รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่า ในบางช่วงประเทศไทยก็มีขีดความสามารถในการดำเนินการในเรื่องนี้ได้ดี ไทยเคยสามารถจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศได้หลายครั้ง อย่างกรณี “ฮัม บาลี” ผู้ก่อเหตุวางระเบิดในอินโดนีเซีย หรือกรณีของ วิกเตอร์ บุช ผู้ค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย และมีการส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทางได้ และได้รับความชื่นชมจากนานาชาติเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเคยสามารถสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้าประเทศ อย่างเช่นกลุ่มจากประเทศเกาหลีเหนือ และกลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกว่า 30 กลุ่ม ซึ่งบางครั้งเราก็ทำได้ดี แต่บางครั้งเราก็มีปัญหา ซึ่งในภาพรวมแล้วเราควรจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก และกรณีนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก สำหรับกรณีที่พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชากล่าวหาฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่าเรื่องนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ที่จะต้องมีการพิสูจน์ทราบกันให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ทั้งนี้การที่ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านกล่าวหาพุ่งเป้าใส่กัน โดยมีการดึงประเทศไทยเข้าไปเกี่ยวข้องนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย อีกทั้งตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาได้ทำเรื่องร้องขอให้มีการส่งตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา เช่น สม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชากลับ ซึ่งก็มีทั้งกรณีที่ทางการไทยส่งตัวกลับ และไม่ส่งตัวกลับ ดังนั้นเรื่องนี้นั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และหน่วยงานราชการไทย และฝ่ายความมั่นคงนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ไทยต้องดำเนินการป้องกันให้มากกว่านี้ เพื่อการป้องกันไม่ให้ไทยถูกดึงเข้าไปอยู่ในวงความขัดแย้ง ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้มีเฉพาะกับกัมพูชาเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับลาว, เมียนมา และมาเลเซียด้วย นอกจากนี้ ทางการไทยเองก็มีการดำเนินการขอตัวแกนนำสั่งการต่าง ๆ ที่อยู่ในมาเลเซีย มาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางกรณีมีการเสียชีวิตในระหว่างทาง ซึ่งเรื่องนี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระเบียบกันอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับประเทศไทยไปมากกว่านี้ สำหรับการสืบสาวหาต้นตอ/ขบวนการ/ผู้จ้างวาน ให้มีการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากนัก เพราะทราบมาว่าฝ่ายนั้นมีการดำเนินการสื่อสารผ่านระบบสมัยใหม่ ซึ่งทางเราสามารถดักจับ และบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของเรา ดังนั้นการดำเนินการสืบค้นเพื่อเอาหลักฐานเหล่านั้นมาพิสูจน์ในทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นก็คงไม่ยากเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากทางกัมพูชาด้วย อย่างไรก็ดี การที่ลิม กินยานั้น เป็นผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วยนั้น ทำให้ฝรั่งเศส, สหภาพยุโรป และนานาชาติต่างก็จับตาดูกรณีนี้เป็นพิเศษ และก็คงจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภรรยาของลิม กินยา ซึ่งถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย และอาจจะเข้ามาร่วมประสานงานกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น (ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศว่าจะมีการติดตามการสืบสวนของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้) ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงต่างประเทศจะต้องมีการตั้งชุดทำงานขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบมากไปกว่านี้ และในขณะนี้เกิดความแปรปรวนขึ้นพอสมควร เนื่องจากเกิดความเชื่อหลายอย่างขึ้นในโลกออนไลน์ ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 899 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานเหตุการณ์ยิงกันเองของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในทะเลแดง

    เครื่องบิน F/A-18F Super Hornet ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman (CVN-75) ถูกเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ยิงตกโดยไม่ได้ตั้งใจในทะเลแดงใกล้เยเมน

    “นักบินทั้งสองได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย จากการประเมินเบื้องต้นพบว่าลูกเรือคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย”

    “เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากการยิงของศัตรู และขณะนี้กำลังดำเนินการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบ”

    เจ้าหน้าที่กองทัพเรือแจ้งต่อ USNI News ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ หรือประมาณ 19.00 น. ตามเวลาชายฝั่งตะวันออกของวันเสาร์

    เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ซึ่งมีฐานทัพอยู่ที่ฐานทัพเรือนอร์ฟอร์ก รัฐเวอร์จิเนีย ได้รับมอบหมายให้เข้าสู่ทะเลแดงพร้อมกับเรือบรรทุกเครื่องบินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของกองเรือและติดตามนาวิกโยธินสหรัฐ

    เรือลาดตระเวนมีแท่นยิงแนวตั้งมากกว่า 100 แท่นซึ่งสามารถยิงขีปนาวุธที่สามารถสกัดกั้นภัยคุกคามต่างๆ ได้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าลูกเรือของเรือลาดตระเวนใช้อาวุธชนิดใดในเหตุการณ์นี้
    มีรายงานเหตุการณ์ยิงกันเองของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในทะเลแดง เครื่องบิน F/A-18F Super Hornet ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman (CVN-75) ถูกเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ยิงตกโดยไม่ได้ตั้งใจในทะเลแดงใกล้เยเมน “นักบินทั้งสองได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย จากการประเมินเบื้องต้นพบว่าลูกเรือคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย” “เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากการยิงของศัตรู และขณะนี้กำลังดำเนินการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบ” เจ้าหน้าที่กองทัพเรือแจ้งต่อ USNI News ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ หรือประมาณ 19.00 น. ตามเวลาชายฝั่งตะวันออกของวันเสาร์ เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ซึ่งมีฐานทัพอยู่ที่ฐานทัพเรือนอร์ฟอร์ก รัฐเวอร์จิเนีย ได้รับมอบหมายให้เข้าสู่ทะเลแดงพร้อมกับเรือบรรทุกเครื่องบินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของกองเรือและติดตามนาวิกโยธินสหรัฐ เรือลาดตระเวนมีแท่นยิงแนวตั้งมากกว่า 100 แท่นซึ่งสามารถยิงขีปนาวุธที่สามารถสกัดกั้นภัยคุกคามต่างๆ ได้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าลูกเรือของเรือลาดตระเวนใช้อาวุธชนิดใดในเหตุการณ์นี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝึก #นาวิกโยธิน #ทหารเรือ #ราชนาวี #ชาติไทย #ประเทศไทย
    คลิปในเพจ #เสียงทหารเรือ
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1028909262613570&id=100064835162905
    ฝึก #นาวิกโยธิน #ทหารเรือ #ราชนาวี #ชาติไทย #ประเทศไทย คลิปในเพจ #เสียงทหารเรือ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1028909262613570&id=100064835162905
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในหลวง เสด็จฯไปในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณ ทหารราชวัลลภฯ พระราชินี ทรงดำรงตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม”

    วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.20 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 “ราชวัลลภ เทิดไท้จอมราชา72 พรรษามหามงคล” ณ พระลานพระราชวังดุสิต

    ในการนี้พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินี ทรงนำการสวนสนามของทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์สามเหล่าทัพในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม” พร้อมด้วยพลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ร่วมสวนสนาม ทรงม้านำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ ในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์“

    ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงเฝ้ารอเฝ้าฯรับเสด็จฯ ณ พลับพลาที่ประทับ

    เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินออกจากพระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต ทางประตูภูธรลีลาศ ถึงยังพระลานพระราชวังดุสิต พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ที่ทรงดำรงตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม” ทรงสั่งกองผสมถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    จากนั้นองค์ผู้บังคับกองผสม ทรงวิ่งจากแถวหน้า บก.กองผสม ไปยังจุดถวายความเคารพ องค์ผู้บังคับกองผสมถวายความเคารพ กราบบังคมทูลรายงาน และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯทรงตรวจพลสวนสนาม
    เมื่อองค์ผู้บังคับกองผสม กราบบังคมทูลรายงานจบแล้ว เสด็จฯไปยังรถยนต์พระที่นั่ง ประทับยืนบนรถยนต์พระที่นั่งตรวจพล

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับยืนบนรถยนต์พระที่นั่ง ทรงตรวจพลสวนสนามโดยรถยนต์พระที่นั่งจำนวน 4 กรม 10 กองพัน ซึ่งประกอบด้วย กรมทหารรักษาวังมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์, กรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, กรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรือ, กรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช, กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ , กองพันทหารอากาศโยธิน 3 กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน , กองพันทหารม้าที่ 25 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์, กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่21 รักษาพระองค์, กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 102 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์, กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 และกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน

    เมื่อทรงตรวจพลสวนสนามเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพลับพลาที่ประทับ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ ณ พระที่นั่งชุมสาย

    พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงวิ่งกลับมาประจำจุดยืนหน้าแถว บก.กองผสม และทรงสั่ง กองผสมเรียบ-อาวุธ แตรเดี่ยวเป่าสัญญาณเตรียมตัว 2 จบแล้ว องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงสั่งกองผสมจัดแถวเตรียมสวนสนาม ทรงสั่งกองผสมแบก-อาวุธ แตรเดี่ยวเป่าสัญญาณหน้าเดิน 2 จบ ขณะนั้นวงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชราชวัลลภ อันอันเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 7 ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นใน พ.ศ. 2491 ชื่อ "ราชวัลลภ" และพระราชทานให้เป็นเพลงประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เพื่อไว้ใช้ในพิธีสวนสนาม แล้วองค์ผู้บังคับกองผสม และพลสวนสนามจึงเริ่มเดินพร้อมกัน

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับยืน ณ มุขพลับพลาพิธี หน้าพระที่นั่งชุมสาย ทรงรับการถวายความเคารพจากองค์ผู้บังคับกองผสม ธงชัยเฉลิมพล และกำลังพลสวนสนาม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงร่วมประทับยืน ณ มุขพลับพลาพิธีหน้าพระที่นั่งชุมสาย

    พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงสวนสนามผ่านพลับพลาที่ประทับ เสด็จขึ้นพลับพลาที่ประทับ แล้วประทับยืน ณ หน้าพระที่นั่งชุมสาย ทรงรับการถวายความเคารพจากแถวทหาร กรมสวนสนาม จำนวน 4 กรม 10 กองพัน ตามลำดับ

    พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์” ทรงม้า “Fürst Henry” (ฟรุ๊ต เฮนรี่) อายุ 14 ปี เพศผู้ตอน สีดำ สายพันธุ์ ดัตช์ วอร์มบลัด (KWPN) จากประเทศเนเธอร์แลนด์ นำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ 1 กองพันเข้ามายังหน้าพลับพลาพิธี

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ประทับพระราชอาสน์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลโทรัฐพล ธูปประสม เจ้ากรมสารบรรณทหาร เข้าเฝ้าฯทูเกล้าถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พันโทหญิงวลัยลักษณ์ อาวรณ์ หัวหน้าปรับปรุงโครงการ สำนักงานปลัดบัญชีทหาร เข้าเฝ้าฯทูลเกล้าฯถวายสูจิบัตร แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี

    สําหรับพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตน ของทหารรักษาพระองค์นั้น เป็นพิธีที่มีความหมายอย่างยิ่งต่อ ทหารรักษาพระองค์ทุกเหล่าทัพ ที่จะเป็นโอกาสพิเศษใน การถวายความจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์ผู้เป็นจอมทัพไทย โดยได้จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พุทธศักราช 2496 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดําเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปพระราชทานธงชัยเฉลิมพลแก่หน่วยทหาร ในโอกาสครบรอบ วันคล้ายวันสถาปนากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ณ พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งพระองค์เสด็จพระราชดําเนินทรงตรวจ พลสวนสนาม ทรงตรวจพลสวนสนาม รับการถวายความเคารพจาก ขบวนทหารจํานวน 4 กองพัน โดยทรงพระดําเนินในฉลองพระองค์ เครื่องแบบเต็มยศของกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ ทหารรักษาพระองค์ ที่จัดขึ้นเป็นประจําทุกปีอย่างต่อเนื่องนับแต่ นั้นมา

    ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการจัดพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหาร-ตํารวจ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในปีพุทธศักราช 2562 และวันกองทัพไทย ณ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี นับเป็นครั้งแรกที่มีการสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณตนร่วมกัน ระหว่างกําลังพลของทหารและตํารวจ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

    เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครบ 6 รอบ จึงถือเป็นโอกาสอันสําคัญยิ่งของหน่วยทหารรักษาพระองค์ จากเหล่าทัพต่าง ๆ ที่พร้อมใจกันกระทําพิธีสวนสนามและถวาย สัตย์ปฏิญาณตนเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อหน้าพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นการแสดงให้ประชาชน ชาวไทยได้ประจักษ์ว่า ทหารรักษาพระองค์จะปฏิบัติหน้าที่ ดํารงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ และถวายพระเกียรติยศสูงสุด แด่พระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต

    #MGROnline #พิธีสวนสนาม #ถวายสัตย์ปฏิญาณ #ทหารราชวัลลภฯ
    ในหลวง เสด็จฯไปในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณ ทหารราชวัลลภฯ พระราชินี ทรงดำรงตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม” • วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.20 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 “ราชวัลลภ เทิดไท้จอมราชา72 พรรษามหามงคล” ณ พระลานพระราชวังดุสิต • ในการนี้พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินี ทรงนำการสวนสนามของทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์สามเหล่าทัพในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม” พร้อมด้วยพลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ร่วมสวนสนาม ทรงม้านำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ ในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์“ • ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงเฝ้ารอเฝ้าฯรับเสด็จฯ ณ พลับพลาที่ประทับ • เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินออกจากพระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต ทางประตูภูธรลีลาศ ถึงยังพระลานพระราชวังดุสิต พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ที่ทรงดำรงตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับการกองผสม” ทรงสั่งกองผสมถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว • จากนั้นองค์ผู้บังคับกองผสม ทรงวิ่งจากแถวหน้า บก.กองผสม ไปยังจุดถวายความเคารพ องค์ผู้บังคับกองผสมถวายความเคารพ กราบบังคมทูลรายงาน และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯทรงตรวจพลสวนสนาม เมื่อองค์ผู้บังคับกองผสม กราบบังคมทูลรายงานจบแล้ว เสด็จฯไปยังรถยนต์พระที่นั่ง ประทับยืนบนรถยนต์พระที่นั่งตรวจพล • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับยืนบนรถยนต์พระที่นั่ง ทรงตรวจพลสวนสนามโดยรถยนต์พระที่นั่งจำนวน 4 กรม 10 กองพัน ซึ่งประกอบด้วย กรมทหารรักษาวังมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์, กรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, กรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรือ, กรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช, กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ , กองพันทหารอากาศโยธิน 3 กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน , กองพันทหารม้าที่ 25 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์, กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่21 รักษาพระองค์, กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 102 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์, กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 และกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน • เมื่อทรงตรวจพลสวนสนามเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพลับพลาที่ประทับ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ ณ พระที่นั่งชุมสาย • พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงวิ่งกลับมาประจำจุดยืนหน้าแถว บก.กองผสม และทรงสั่ง กองผสมเรียบ-อาวุธ แตรเดี่ยวเป่าสัญญาณเตรียมตัว 2 จบแล้ว องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงสั่งกองผสมจัดแถวเตรียมสวนสนาม ทรงสั่งกองผสมแบก-อาวุธ แตรเดี่ยวเป่าสัญญาณหน้าเดิน 2 จบ ขณะนั้นวงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชราชวัลลภ อันอันเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 7 ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นใน พ.ศ. 2491 ชื่อ "ราชวัลลภ" และพระราชทานให้เป็นเพลงประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เพื่อไว้ใช้ในพิธีสวนสนาม แล้วองค์ผู้บังคับกองผสม และพลสวนสนามจึงเริ่มเดินพร้อมกัน • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับยืน ณ มุขพลับพลาพิธี หน้าพระที่นั่งชุมสาย ทรงรับการถวายความเคารพจากองค์ผู้บังคับกองผสม ธงชัยเฉลิมพล และกำลังพลสวนสนาม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงร่วมประทับยืน ณ มุขพลับพลาพิธีหน้าพระที่นั่งชุมสาย • พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี องค์ผู้บังคับกองผสม ทรงสวนสนามผ่านพลับพลาที่ประทับ เสด็จขึ้นพลับพลาที่ประทับ แล้วประทับยืน ณ หน้าพระที่นั่งชุมสาย ทรงรับการถวายความเคารพจากแถวทหาร กรมสวนสนาม จำนวน 4 กรม 10 กองพัน ตามลำดับ • พลเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในตำแหน่ง “องค์ผู้บังคับกองพันทหารม้ารักษาพระองค์” ทรงม้า “Fürst Henry” (ฟรุ๊ต เฮนรี่) อายุ 14 ปี เพศผู้ตอน สีดำ สายพันธุ์ ดัตช์ วอร์มบลัด (KWPN) จากประเทศเนเธอร์แลนด์ นำขบวนกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ 1 กองพันเข้ามายังหน้าพลับพลาพิธี • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ประทับพระราชอาสน์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลโทรัฐพล ธูปประสม เจ้ากรมสารบรรณทหาร เข้าเฝ้าฯทูเกล้าถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พันโทหญิงวลัยลักษณ์ อาวรณ์ หัวหน้าปรับปรุงโครงการ สำนักงานปลัดบัญชีทหาร เข้าเฝ้าฯทูลเกล้าฯถวายสูจิบัตร แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี • สําหรับพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตน ของทหารรักษาพระองค์นั้น เป็นพิธีที่มีความหมายอย่างยิ่งต่อ ทหารรักษาพระองค์ทุกเหล่าทัพ ที่จะเป็นโอกาสพิเศษใน การถวายความจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์ผู้เป็นจอมทัพไทย โดยได้จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พุทธศักราช 2496 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดําเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปพระราชทานธงชัยเฉลิมพลแก่หน่วยทหาร ในโอกาสครบรอบ วันคล้ายวันสถาปนากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ณ พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งพระองค์เสด็จพระราชดําเนินทรงตรวจ พลสวนสนาม ทรงตรวจพลสวนสนาม รับการถวายความเคารพจาก ขบวนทหารจํานวน 4 กองพัน โดยทรงพระดําเนินในฉลองพระองค์ เครื่องแบบเต็มยศของกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ ทหารรักษาพระองค์ ที่จัดขึ้นเป็นประจําทุกปีอย่างต่อเนื่องนับแต่ นั้นมา • ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการจัดพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหาร-ตํารวจ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในปีพุทธศักราช 2562 และวันกองทัพไทย ณ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี นับเป็นครั้งแรกที่มีการสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณตนร่วมกัน ระหว่างกําลังพลของทหารและตํารวจ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก • เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครบ 6 รอบ จึงถือเป็นโอกาสอันสําคัญยิ่งของหน่วยทหารรักษาพระองค์ จากเหล่าทัพต่าง ๆ ที่พร้อมใจกันกระทําพิธีสวนสนามและถวาย สัตย์ปฏิญาณตนเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อหน้าพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นการแสดงให้ประชาชน ชาวไทยได้ประจักษ์ว่า ทหารรักษาพระองค์จะปฏิบัติหน้าที่ ดํารงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ และถวายพระเกียรติยศสูงสุด แด่พระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต • #MGROnline #พิธีสวนสนาม #ถวายสัตย์ปฏิญาณ #ทหารราชวัลลภฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 951 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ติ่งอเมริกาภูมิใจสิ่งนี้"

    นี่คือการกระทำของประเทศที่เรียกตัวเองว่าอยู่ข้างความยุติธรรม ประชาธิปไตยและเสรีภาพ
    - ในยุโรปใช้ยูเครนสร้างความขัดแย้งกับรัสเซีย
    - ในตะวันออกกลางใช้อิสราเอลสร้างความขัดแย้งกับอิหร่าน
    - ในเอเชียตะวันออกใช้ไต้หวันสร้างความขัดแย้งกับจีน

    สำนักข่าว Kyodo News ของญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในสหรัฐ และญี่ปุ่น ว่ากองทัพสหรัฐเตรียมส่งหน่วยขีปนาวุธเข้าประจำการบนหมู่เกาะนันเซอิ(Nansei Islands) หรืออีกชื่อคือหมู่เกาะริวกิว (Ryukyu Islands) ซึ่งอยู่ระหว่างญี่ปุ่นและฟิลิปินส์ เพื่อเตรียมรับมือเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจะเกิดขึ้นกับไต้หวันจากการกระทำของจีน

    แผนการของอเมริกาคือ ส่งหน่วยนาวิกโยธิน รวมถึงการติดตั้งระบบขีปนาวุธ HIMARS เข้าประจำการตามแนวเกาะที่ทอดยาวตั้งแต่จังหวัดคาโงชิมะ (Kagoshima) บนเกาะญี่ปุ่น ไปจนถึงเกาะโอกินาวา (Okinawa) ที่อยู่ใกล้กับไต้หวัน

    นอกจากนี้ กองกำลัง Multi-Domain Task Force (MDTF) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบอาวุธพิสัยไกล (long-range fire units) จะถูกส่งเข้าประจำการในฟิลิปปินส์ โดยมีรายงานว่าสหรัฐติดตั้งระบบยิงขีปนาวุธพิสัยกลางที่สามารถยิงขีปนาวุธ SM-6 และ Tomahawk บนเกาะลูซอนเหนือ เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา

    แผนการทั้งหมดนี้จะมีญี่ปุ่นทำหน้าที่หลักในการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ให้กับหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ รวมถึงการจัดหาเชื้อเพลิงและกระสุน

    ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. 2023 สหรัฐและฟิลิปปินส์ ทำข้อตกลงร่วมกันในการเพิ่มจำนวนฐานทัพของสหรัฐในฟิลิปปินส์จาก 5 แห่ง เป็น 9 แห่ง วึ่งสามารถใช้งานได้ทันทีหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับไต้หวันในขณะนี้
    "ติ่งอเมริกาภูมิใจสิ่งนี้" นี่คือการกระทำของประเทศที่เรียกตัวเองว่าอยู่ข้างความยุติธรรม ประชาธิปไตยและเสรีภาพ - ในยุโรปใช้ยูเครนสร้างความขัดแย้งกับรัสเซีย - ในตะวันออกกลางใช้อิสราเอลสร้างความขัดแย้งกับอิหร่าน - ในเอเชียตะวันออกใช้ไต้หวันสร้างความขัดแย้งกับจีน สำนักข่าว Kyodo News ของญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในสหรัฐ และญี่ปุ่น ว่ากองทัพสหรัฐเตรียมส่งหน่วยขีปนาวุธเข้าประจำการบนหมู่เกาะนันเซอิ(Nansei Islands) หรืออีกชื่อคือหมู่เกาะริวกิว (Ryukyu Islands) ซึ่งอยู่ระหว่างญี่ปุ่นและฟิลิปินส์ เพื่อเตรียมรับมือเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจะเกิดขึ้นกับไต้หวันจากการกระทำของจีน แผนการของอเมริกาคือ ส่งหน่วยนาวิกโยธิน รวมถึงการติดตั้งระบบขีปนาวุธ HIMARS เข้าประจำการตามแนวเกาะที่ทอดยาวตั้งแต่จังหวัดคาโงชิมะ (Kagoshima) บนเกาะญี่ปุ่น ไปจนถึงเกาะโอกินาวา (Okinawa) ที่อยู่ใกล้กับไต้หวัน นอกจากนี้ กองกำลัง Multi-Domain Task Force (MDTF) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบอาวุธพิสัยไกล (long-range fire units) จะถูกส่งเข้าประจำการในฟิลิปปินส์ โดยมีรายงานว่าสหรัฐติดตั้งระบบยิงขีปนาวุธพิสัยกลางที่สามารถยิงขีปนาวุธ SM-6 และ Tomahawk บนเกาะลูซอนเหนือ เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา แผนการทั้งหมดนี้จะมีญี่ปุ่นทำหน้าที่หลักในการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ให้กับหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ รวมถึงการจัดหาเชื้อเพลิงและกระสุน ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. 2023 สหรัฐและฟิลิปปินส์ ทำข้อตกลงร่วมกันในการเพิ่มจำนวนฐานทัพของสหรัฐในฟิลิปปินส์จาก 5 แห่ง เป็น 9 แห่ง วึ่งสามารถใช้งานได้ทันทีหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับไต้หวันในขณะนี้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 479 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ กำลังใช้ไต้หวันยั่วยุวิกฤตร้ายแรงในเอเชีย จากความเห็นที่เผยแพร่ต่อสาธารณะของ อันเดร รูเดนโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวซึ่งเป็นการเน้นย้ำจุดยืนของมอสโก เกี่ยวกับการสนับสนุนท่าทีของจีนในประเด็นไต้หวัน
    .
    "เราเห็นว่า วอชิงตัน กำลังละเมิดหลักการจีนเดียวที่พวกเขารับรอง ด้วยการยกระดับการติดต่อทั้งทางทหารและการเมืองกับไทเป ภายใต้สโลแกนธำรงไว้ซึ่งสถานภาพปัจจุบัน และเพิ่มการจัดหาอาวุธ" รูเดนโก กล่าวกับสื่อมวลชนแห่งรัฐ "เป้าหมายในการเข้าแทรกแซงของสหรัฐฯ ในกิจการต่างๆ ของภูมิภาค คือยั่วยุจีน และก่อวิกฤตหนึ่งในเอเชีย เพื่อให้เข้ากับผลประโยชน์ของตนเอง"
    .
    รายงานข่าวไม่ได้ระบุอย่างเจาะจงเกี่ยวกับลักษณะติดต่อทั้งการทหารและการเมือง ตามที่ รูเดนโก กล่าวอ้าง
    .
    จีน มอง ไต้หวัน ซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน คำกล่าวอ้างที่รัฐบาลไต้หวันปฏิเสธ ในขณะที่สหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนในระดับนานาชาติและเป็นผู้จัดหาอาวุธรายสำคัญที่สุดของไทเป แม้ไม่ได้ให้การรับรองทางการทูตอย่างเป็นทางการก็ตาม
    .
    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาตอบโต้ในเรื่องนี้ เนื่องจากสำนักข่าวรอยเตอร์ติดต่อสอบถามขอความเห็นเกี่ยวกับคำพูดของ รูเดนโก นอกเวลาทำงาน
    .
    ในเดือนกันยายน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติความช่วยเหลือทางทหารแก่ไต้หวัน มูลค่า 567 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระตุ้นให้ทาง รัสเซีย ออกมาตอบโต้ด้วยการบอกว่าพวกเขาจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างจีน ในประเด็นเอเชีย ในนั้นรวมถึงวิพากษ์วิจารณ์อเมริกากำลังขับเคลื่อนขยายอิทธิพลในภูมิภาคแห่งนี้ และจงใจพยายามโหมกระพือไฟแห่งความตึงเครียดแถวไต้หวัน
    .
    จีนและรัสเซีย ประกาศความเป็นหุ้นส่วน "ไร้ขีดจำกัด" ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ครั้งที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง ไม่นานก่อนเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ ก่อสงครามภาคพื้นครั้งนองเลือดที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
    .
    ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ปูติน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประกาศเกี่ยวกับ "ยุคสมัยใหม่" แห่งความเป็นพันธมิตร ระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจที่เป็นคู่ปรับกับสหรัฐฯ
    .
    ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์( 24 พ.ย.) เช่นกัน สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่น ระบุว่าญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เล็งเป้าหมายรวบรวมแผนการทางทหารร่วมกัน สำหรับรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับไต้หวัน ในนั้นรวมถึงการประจำการขีปนาวุธ
    .
    เกียวโดนิวส์รายงานว่า ภายใต้แผนที่คาดหมายว่าจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า สหรัฐฯ จะส่งหน่วยขีปนาวุธเข้าประจำการบนหมู่เกาะนันเซ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดคาโงชิมาและจังหวัดโอคินาวะของญี่ปุ่น และในฟิลิปปินส์ อ้างอิงแหล่งข่าวทั้งในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
    .
    สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่ากองทหารชายฝั่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งมีระบบขีปนาวุธ HIMARS และอาวุธอื่นๆ จะถูกส่งเข้าประจำการบนเกาะนันเซ ขณะที่หน่วยทหารสหรัฐฯ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอวกาศ ไซเบอร์สเปซและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะถูกส่งเข้าประจำการในฟิลิปปินส์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113054
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ กำลังใช้ไต้หวันยั่วยุวิกฤตร้ายแรงในเอเชีย จากความเห็นที่เผยแพร่ต่อสาธารณะของ อันเดร รูเดนโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ความเคลื่อนไหวซึ่งเป็นการเน้นย้ำจุดยืนของมอสโก เกี่ยวกับการสนับสนุนท่าทีของจีนในประเด็นไต้หวัน . "เราเห็นว่า วอชิงตัน กำลังละเมิดหลักการจีนเดียวที่พวกเขารับรอง ด้วยการยกระดับการติดต่อทั้งทางทหารและการเมืองกับไทเป ภายใต้สโลแกนธำรงไว้ซึ่งสถานภาพปัจจุบัน และเพิ่มการจัดหาอาวุธ" รูเดนโก กล่าวกับสื่อมวลชนแห่งรัฐ "เป้าหมายในการเข้าแทรกแซงของสหรัฐฯ ในกิจการต่างๆ ของภูมิภาค คือยั่วยุจีน และก่อวิกฤตหนึ่งในเอเชีย เพื่อให้เข้ากับผลประโยชน์ของตนเอง" . รายงานข่าวไม่ได้ระบุอย่างเจาะจงเกี่ยวกับลักษณะติดต่อทั้งการทหารและการเมือง ตามที่ รูเดนโก กล่าวอ้าง . จีน มอง ไต้หวัน ซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน คำกล่าวอ้างที่รัฐบาลไต้หวันปฏิเสธ ในขณะที่สหรัฐฯ เป็นผู้สนับสนุนในระดับนานาชาติและเป็นผู้จัดหาอาวุธรายสำคัญที่สุดของไทเป แม้ไม่ได้ให้การรับรองทางการทูตอย่างเป็นทางการก็ตาม . กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาตอบโต้ในเรื่องนี้ เนื่องจากสำนักข่าวรอยเตอร์ติดต่อสอบถามขอความเห็นเกี่ยวกับคำพูดของ รูเดนโก นอกเวลาทำงาน . ในเดือนกันยายน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติความช่วยเหลือทางทหารแก่ไต้หวัน มูลค่า 567 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระตุ้นให้ทาง รัสเซีย ออกมาตอบโต้ด้วยการบอกว่าพวกเขาจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างจีน ในประเด็นเอเชีย ในนั้นรวมถึงวิพากษ์วิจารณ์อเมริกากำลังขับเคลื่อนขยายอิทธิพลในภูมิภาคแห่งนี้ และจงใจพยายามโหมกระพือไฟแห่งความตึงเครียดแถวไต้หวัน . จีนและรัสเซีย ประกาศความเป็นหุ้นส่วน "ไร้ขีดจำกัด" ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ครั้งที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง ไม่นานก่อนเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ ก่อสงครามภาคพื้นครั้งนองเลือดที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 . ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ปูติน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประกาศเกี่ยวกับ "ยุคสมัยใหม่" แห่งความเป็นพันธมิตร ระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจที่เป็นคู่ปรับกับสหรัฐฯ . ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์( 24 พ.ย.) เช่นกัน สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่น ระบุว่าญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เล็งเป้าหมายรวบรวมแผนการทางทหารร่วมกัน สำหรับรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับไต้หวัน ในนั้นรวมถึงการประจำการขีปนาวุธ . เกียวโดนิวส์รายงานว่า ภายใต้แผนที่คาดหมายว่าจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า สหรัฐฯ จะส่งหน่วยขีปนาวุธเข้าประจำการบนหมู่เกาะนันเซ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดคาโงชิมาและจังหวัดโอคินาวะของญี่ปุ่น และในฟิลิปปินส์ อ้างอิงแหล่งข่าวทั้งในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น . สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่ากองทหารชายฝั่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งมีระบบขีปนาวุธ HIMARS และอาวุธอื่นๆ จะถูกส่งเข้าประจำการบนเกาะนันเซ ขณะที่หน่วยทหารสหรัฐฯ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอวกาศ ไซเบอร์สเปซและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จะถูกส่งเข้าประจำการในฟิลิปปินส์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113054 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1376 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐกำลังทำให้จีนมุ่งเป้ามาทางญี่ปุ่น เพื่อลดความสนใจต่อรัสเซียลง โดยการเตรียมส่งขีปนาวุธเพื่อตอบโต้จีนกรณีบุกไต้หวัน

    ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เตรียมจะสรุปแผนปฏิบัติการทางทหารร่วมกันในเดือนหน้า เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในวิกฤตไต้หวัน

    แผนดังกล่าวรวมถึงการส่งหน่วยขีปนาวุธของสหรัฐฯ ไปยังหมู่เกาะนันเซอิของญี่ปุ่น (คาโกชิมะและโอกินาว่า) และฟิลิปปินส์ กองทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งติดตั้งระบบ HIMARS จะประจำการบนแผ่นดินญี่ปุ่น ในขณะที่หน่วยพิเศษที่รับผิดชอบด้าน "อวกาศ ไซเบอร์ และคลื่นแม่เหล็ก" จะปฏิบัติการจากฟิลิปปินส์

    ที่มา: Reuters
    สหรัฐกำลังทำให้จีนมุ่งเป้ามาทางญี่ปุ่น เพื่อลดความสนใจต่อรัสเซียลง โดยการเตรียมส่งขีปนาวุธเพื่อตอบโต้จีนกรณีบุกไต้หวัน ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เตรียมจะสรุปแผนปฏิบัติการทางทหารร่วมกันในเดือนหน้า เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในวิกฤตไต้หวัน แผนดังกล่าวรวมถึงการส่งหน่วยขีปนาวุธของสหรัฐฯ ไปยังหมู่เกาะนันเซอิของญี่ปุ่น (คาโกชิมะและโอกินาว่า) และฟิลิปปินส์ กองทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งติดตั้งระบบ HIMARS จะประจำการบนแผ่นดินญี่ปุ่น ในขณะที่หน่วยพิเศษที่รับผิดชอบด้าน "อวกาศ ไซเบอร์ และคลื่นแม่เหล็ก" จะปฏิบัติการจากฟิลิปปินส์ ที่มา: Reuters
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨วันนี้ในอดีต ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๓✨

    เสด็จฯ ไปยังบ้านโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถุงของขวัญแก่นาวิกโยธินและตำรวจตระเวนชายแดน สิ่งของเครื่องอุปโภคแก่ราษฎร และเครื่องเรียนให้แก่นักเรียน แล้วเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

    cr : หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี
    #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #21พฤศจิกายน
    ✨วันนี้ในอดีต ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๓✨ เสด็จฯ ไปยังบ้านโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถุงของขวัญแก่นาวิกโยธินและตำรวจตระเวนชายแดน สิ่งของเครื่องอุปโภคแก่ราษฎร และเครื่องเรียนให้แก่นักเรียน แล้วเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท cr : หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี #วันนี้ในอดีต #เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ #พระราชกรณียกิจ #ราชวงศ์จักรี #21พฤศจิกายน
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 760 มุมมอง 0 รีวิว

  • ครอบครัวสายเลือดอิลลูมินาติและการตื่นรู้ครั้งยิ่งใหญ่

    ครอบครัวสายเลือดอิลลูมินาติ 13 ครอบครัว มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เคยปกครองโลกผ่านการควบคุมระบบการเงินโลก โดยที่พวกเขาทำพิธีกรรมชั่วร้ายและบูชาซาตาน กลุ่มนี้ซึ่งปัจจุบันมักเรียกกันว่าดีพสเตต เป็นผู้บงการเครือข่ายการสังเวยเด็ก งานเลี้ยงสำส่อนทางเพศ และการทดลองควบคุมจิตใจกับเหยื่อที่ถูกจับตัวไปและผลิตขึ้นทั่วโลก

    ครอบครัวเหล่านี้ ซึ่งอ้างว่าสืบเชื้อสายมาจากคาอิน ได้แก่ โพเซอร์ เคนเนดี ร็อคกี้เฟลเลอร์ โอนาสซิส คาร์เนจ บุช และรอธส์ไชลด์ ในปี 1832 พวกเขาได้ยึดครองธนาคารวาติกันและสร้างความโดดเด่นเหนือธนาคารกลางหลักๆ ทั่วโลก เช่น เจพีมอร์แกน โกลด์แมนแซคส์ บาร์เคลย์ เอชเอสบีซี และเชส

    ในปี 1871 พวกเขาได้ตราพระราชบัญญัติที่ก่อตั้งองค์กรสหรัฐอเมริกาแห่งอเมริกา ซึ่งมีผลทำให้รัฐธรรมนูญฉบับเดิมถูกลบล้างไป ในปี 1914 พวกเขาได้ลงนามในสัญญาเช่าทองคำของผู้เฒ่าชาวจีนเป็นเวลา 99 ปี โดยใช้ธนาคารกลาง กรมสรรพากร และสถาบันการเงินอื่นๆ เพื่อฟอกเงินภาษีของประชาชนในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่การดำเนินงานของพวกเขาขยายไปยังธนาคารวาติกัน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านบทบาทในการค้าเด็ก ยาเสพติด และการค้าอาวุธ

    จุดเปลี่ยนมาถึงในปี 1903 เมื่อ Nikola Tesla และ Van de Graaf เริ่มคลี่คลายความลับของ Deep State ในปี 1993 สัญญาเช่าทองคำของจีนของพวกเขาสิ้นสุดลง และในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 พันธมิตรได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อทำลายล้างกลุ่มลับ พันธมิตรนี้ในปี 2020 ประกอบด้วยประธานาธิบดีทรัมป์ วลาดิมีร์ ปูติน สีจิ้นผิง มุสตาฟา อัล-กาดิมี นเรนทรา โมดี บุคคลทรงอิทธิพลของ Q, QAnon (นำโดย JFK Jr?) นายพลเพนตากอน เอ็นเอสเอ และอินเตอร์โพล

    ในปี 2008 การพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ของกลุ่มคาบาลทำให้เกิดวิกฤตสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ผลิตขึ้น ซึ่งทำให้ผู้เสียภาษีของสหรัฐฯ สูญเสียรายได้มากขึ้น เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดการก่อตั้งกลุ่ม BRICS Alliance ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูระบบการเงินที่ได้รับการสนับสนุนด้วยทองคำ/สินทรัพย์ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2013 สนธิสัญญาทองคำได้รับการลงนามโดย 209 ประเทศ

    ในปี 2018 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตราพระราชบัญญัติ National Quantum Initiative ซึ่งก่อตั้งระบบการเงินควอนตัมใหม่และระบบการลงคะแนนเสียงที่โปร่งใส เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2019 นาวิกโยธินและกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือเด็กกว่า 2,100 คนจากใต้ฐานทัพเรือ China Lake ในแคลิฟอร์เนีย โดยเปิดเผยเครือข่ายฐานทัพใต้ดินที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่มคาบาล

    เมื่อเดือนตุลาคม 2019 วาติกันถูกบุกเข้าค้น ซึ่งเผยให้เห็นปฏิบัติการฟอกเงินของกลุ่มชนชั้นนำระดับโลก ทองคำและเงินสดกว่า 650 ลำถูกยึดและส่งกลับไปยังกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ภายในเดือนมีนาคม 2020 พันธมิตรได้กำจัดหัวหน้าครอบครัว Illuminati จำนวน 13 ครอบครัวในเวนิส และเริ่มการจับกุมและการพิจารณาคดีทางทหารสำหรับชนชั้นนำทางการเมืองของสหรัฐฯ

    คาดว่าจะมีการพัฒนาเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลและการจับกุมที่สำคัญในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ภายในปลายปี 2024 การเปลี่ยนแปลงทั่วโลกจะเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มที่เหลือของกลุ่ม Illuminati ถูกทำลายล้างและความยุติธรรมได้รับการเสิร์ฟ

    ทรัมป์เปิดเผยแผนทำลายล้างดีพสเตต
    https://www.zerohedge.com/political/trump-outlines-plan-decimate-deep-state

    ทรัมป์เผยแพร่แผนอันน่าตกตะลึงเพื่อกำหนดเป้าหมาย การทุจริตในวอชิงตัน ยุบ 'ดีพสเตต'
    https://www.wnd.com/2024/11/trump-releases-stunning-plan-to-target-washington-corruption-dismantle-deep-state/

    บูม!!! เมื่อสักครู่: ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยแผนของเขาที่จะรื้อถอน DEEP STATE! [วิดีโอ] จุดจบของดีปสเตต: ประธานาธิบดีทรัมป์เผยแผนบุกเบิกในการทำลายล้างดีปสเตต กำจัดการทุจริต และคืนอำนาจให้กับชาวอเมริกัน! ตั้งแต่การไล่ข้าราชการที่ประพฤติตัวไม่ดีออกไปจนถึงการบังคับใช้ข้อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่ง การต่อสู้ของทรัมป์กับกลุ่มคนชั้นสูงนั้นไม่ลดละ ไร้ความกลัว และเป็นสิ่งที่อเมริกาต้องการอย่างแท้จริง ค้นพบว่าทรัมป์กำลังต่อสู้กับการทุจริตที่ฝังรากลึกในวอชิงตันด้วยความก้าวร้าวที่ไม่มีใครเทียบได้เพื่อนำประชาธิปไตยของเรากลับคืนมาได้อย่างไร!
    https://amg-news.com/boom-just-now-president-trump-releases-his-plans-to-dismantle-the-deep-state-video/
    ครอบครัวสายเลือดอิลลูมินาติและการตื่นรู้ครั้งยิ่งใหญ่ ครอบครัวสายเลือดอิลลูมินาติ 13 ครอบครัว มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เคยปกครองโลกผ่านการควบคุมระบบการเงินโลก โดยที่พวกเขาทำพิธีกรรมชั่วร้ายและบูชาซาตาน กลุ่มนี้ซึ่งปัจจุบันมักเรียกกันว่าดีพสเตต เป็นผู้บงการเครือข่ายการสังเวยเด็ก งานเลี้ยงสำส่อนทางเพศ และการทดลองควบคุมจิตใจกับเหยื่อที่ถูกจับตัวไปและผลิตขึ้นทั่วโลก ครอบครัวเหล่านี้ ซึ่งอ้างว่าสืบเชื้อสายมาจากคาอิน ได้แก่ โพเซอร์ เคนเนดี ร็อคกี้เฟลเลอร์ โอนาสซิส คาร์เนจ บุช และรอธส์ไชลด์ ในปี 1832 พวกเขาได้ยึดครองธนาคารวาติกันและสร้างความโดดเด่นเหนือธนาคารกลางหลักๆ ทั่วโลก เช่น เจพีมอร์แกน โกลด์แมนแซคส์ บาร์เคลย์ เอชเอสบีซี และเชส ในปี 1871 พวกเขาได้ตราพระราชบัญญัติที่ก่อตั้งองค์กรสหรัฐอเมริกาแห่งอเมริกา ซึ่งมีผลทำให้รัฐธรรมนูญฉบับเดิมถูกลบล้างไป ในปี 1914 พวกเขาได้ลงนามในสัญญาเช่าทองคำของผู้เฒ่าชาวจีนเป็นเวลา 99 ปี โดยใช้ธนาคารกลาง กรมสรรพากร และสถาบันการเงินอื่นๆ เพื่อฟอกเงินภาษีของประชาชนในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่การดำเนินงานของพวกเขาขยายไปยังธนาคารวาติกัน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านบทบาทในการค้าเด็ก ยาเสพติด และการค้าอาวุธ จุดเปลี่ยนมาถึงในปี 1903 เมื่อ Nikola Tesla และ Van de Graaf เริ่มคลี่คลายความลับของ Deep State ในปี 1993 สัญญาเช่าทองคำของจีนของพวกเขาสิ้นสุดลง และในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 พันธมิตรได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อทำลายล้างกลุ่มลับ พันธมิตรนี้ในปี 2020 ประกอบด้วยประธานาธิบดีทรัมป์ วลาดิมีร์ ปูติน สีจิ้นผิง มุสตาฟา อัล-กาดิมี นเรนทรา โมดี บุคคลทรงอิทธิพลของ Q, QAnon (นำโดย JFK Jr?) นายพลเพนตากอน เอ็นเอสเอ และอินเตอร์โพล ในปี 2008 การพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ของกลุ่มคาบาลทำให้เกิดวิกฤตสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ผลิตขึ้น ซึ่งทำให้ผู้เสียภาษีของสหรัฐฯ สูญเสียรายได้มากขึ้น เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดการก่อตั้งกลุ่ม BRICS Alliance ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูระบบการเงินที่ได้รับการสนับสนุนด้วยทองคำ/สินทรัพย์ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2013 สนธิสัญญาทองคำได้รับการลงนามโดย 209 ประเทศ ในปี 2018 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตราพระราชบัญญัติ National Quantum Initiative ซึ่งก่อตั้งระบบการเงินควอนตัมใหม่และระบบการลงคะแนนเสียงที่โปร่งใส เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2019 นาวิกโยธินและกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือเด็กกว่า 2,100 คนจากใต้ฐานทัพเรือ China Lake ในแคลิฟอร์เนีย โดยเปิดเผยเครือข่ายฐานทัพใต้ดินที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกลุ่มคาบาล เมื่อเดือนตุลาคม 2019 วาติกันถูกบุกเข้าค้น ซึ่งเผยให้เห็นปฏิบัติการฟอกเงินของกลุ่มชนชั้นนำระดับโลก ทองคำและเงินสดกว่า 650 ลำถูกยึดและส่งกลับไปยังกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ภายในเดือนมีนาคม 2020 พันธมิตรได้กำจัดหัวหน้าครอบครัว Illuminati จำนวน 13 ครอบครัวในเวนิส และเริ่มการจับกุมและการพิจารณาคดีทางทหารสำหรับชนชั้นนำทางการเมืองของสหรัฐฯ คาดว่าจะมีการพัฒนาเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลและการจับกุมที่สำคัญในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ภายในปลายปี 2024 การเปลี่ยนแปลงทั่วโลกจะเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มที่เหลือของกลุ่ม Illuminati ถูกทำลายล้างและความยุติธรรมได้รับการเสิร์ฟ ทรัมป์เปิดเผยแผนทำลายล้างดีพสเตต https://www.zerohedge.com/political/trump-outlines-plan-decimate-deep-state ทรัมป์เผยแพร่แผนอันน่าตกตะลึงเพื่อกำหนดเป้าหมาย การทุจริตในวอชิงตัน ยุบ 'ดีพสเตต' https://www.wnd.com/2024/11/trump-releases-stunning-plan-to-target-washington-corruption-dismantle-deep-state/ บูม!!! เมื่อสักครู่: ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยแผนของเขาที่จะรื้อถอน DEEP STATE! [วิดีโอ] จุดจบของดีปสเตต: ประธานาธิบดีทรัมป์เผยแผนบุกเบิกในการทำลายล้างดีปสเตต กำจัดการทุจริต และคืนอำนาจให้กับชาวอเมริกัน! ตั้งแต่การไล่ข้าราชการที่ประพฤติตัวไม่ดีออกไปจนถึงการบังคับใช้ข้อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่ง การต่อสู้ของทรัมป์กับกลุ่มคนชั้นสูงนั้นไม่ลดละ ไร้ความกลัว และเป็นสิ่งที่อเมริกาต้องการอย่างแท้จริง ค้นพบว่าทรัมป์กำลังต่อสู้กับการทุจริตที่ฝังรากลึกในวอชิงตันด้วยความก้าวร้าวที่ไม่มีใครเทียบได้เพื่อนำประชาธิปไตยของเรากลับคืนมาได้อย่างไร! https://amg-news.com/boom-just-now-president-trump-releases-his-plans-to-dismantle-the-deep-state-video/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1088 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากแนวหน้ายูเครนในทิศทาง Pokrovsk ล่มสลาย หลายหมู่บ้านตกเป็นของรัสเซียอย่างรวดเร็ว และอีกไม่กี่กิโลเมตร กองทัพรัสเซียมีโอกาสเข้าสู่พื้นที่แคว้น Dnipropetrovsk

    ล่าสุดมีรายงานว่ายูเครนได้ส่งกองหนุนจากกองพลนาวิกโยธินที่ 38 จากทิศทางเคอร์ซอนไปยังเมืองโปครอฟสค์ เพื่อหยุดยั้งการรุกคืบของรัสเซียเพิ่มเติมแล้ว
    หลังจากแนวหน้ายูเครนในทิศทาง Pokrovsk ล่มสลาย หลายหมู่บ้านตกเป็นของรัสเซียอย่างรวดเร็ว และอีกไม่กี่กิโลเมตร กองทัพรัสเซียมีโอกาสเข้าสู่พื้นที่แคว้น Dnipropetrovsk ล่าสุดมีรายงานว่ายูเครนได้ส่งกองหนุนจากกองพลนาวิกโยธินที่ 38 จากทิศทางเคอร์ซอนไปยังเมืองโปครอฟสค์ เพื่อหยุดยั้งการรุกคืบของรัสเซียเพิ่มเติมแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทหารรัสเซียยังคงรุกต่อไปโดยพยายามขับไล่ศัตรูออกจากภูมิภาคเคิร์สต์
    ▪️การสู้รบอย่างดุเดือดในแนวรบเคิร์สต์ยังคงดำเนินต่อไป กองทหารรัสเซียกำลังโจมตีตำแหน่งของผู้รุกรานจากทั้งห้าด้าน
    ▪️การต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดกำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ของการตั้งถิ่นฐาน ดาริโน, กรีน ชลายัค, เลโอนิโดโว, นิโคลาเอโว-ดาริโน และเพลโคโว
    ▪️นาวิกโยธิน กองกำลังยกพลขึ้นบก และพลปืนติดเครื่องยนต์ของเรายังคงทำการโจมตีต่อไป ทำให้กองทัพยูเครนล้มลงจากตำแหน่งสนับสนุนในการยกพลขึ้นบกและบุกโจมตีหมู่บ้านที่ถูกยึด
    ▪️เมื่อวานนี้ นาวิกโยธินของเราบุกทะลวงห้องใต้ดินเพื่อไปหา Novaya Sorochina
    ▪️คำสั่งของกองทัพยูเครนยังคงถ่ายโอนกำลังเสริมต่อไป โดยก่อนหน้านี้ได้เพิ่มจำนวนทีมโจมตี UAV และพยายามหยุดการรุกของเรา
    ▪️ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ศัตรูทำการตอบโต้ 7 ครั้งในทิศทางของการตั้งถิ่นฐาน Daryino, Green Way, Novaya Sorochina และ Nikolaevo-Daryino รายงานกระทรวงกลาโหม
    ▪️การสูญเสียของศัตรูต่อวัน - กลุ่มติดอาวุธมากกว่า 300 คน, ยานรบทหารราบ 2 คัน, รถหุ้มเกราะ 1 คัน, ครก 6 คัน, สถานีสงครามอิเล็กทรอนิกส์ 2 แห่ง และยานพาหนะ 4 คัน
    กองทหารรัสเซียยังคงรุกต่อไปโดยพยายามขับไล่ศัตรูออกจากภูมิภาคเคิร์สต์ ▪️การสู้รบอย่างดุเดือดในแนวรบเคิร์สต์ยังคงดำเนินต่อไป กองทหารรัสเซียกำลังโจมตีตำแหน่งของผู้รุกรานจากทั้งห้าด้าน ▪️การต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดกำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ของการตั้งถิ่นฐาน ดาริโน, กรีน ชลายัค, เลโอนิโดโว, นิโคลาเอโว-ดาริโน และเพลโคโว ▪️นาวิกโยธิน กองกำลังยกพลขึ้นบก และพลปืนติดเครื่องยนต์ของเรายังคงทำการโจมตีต่อไป ทำให้กองทัพยูเครนล้มลงจากตำแหน่งสนับสนุนในการยกพลขึ้นบกและบุกโจมตีหมู่บ้านที่ถูกยึด ▪️เมื่อวานนี้ นาวิกโยธินของเราบุกทะลวงห้องใต้ดินเพื่อไปหา Novaya Sorochina ▪️คำสั่งของกองทัพยูเครนยังคงถ่ายโอนกำลังเสริมต่อไป โดยก่อนหน้านี้ได้เพิ่มจำนวนทีมโจมตี UAV และพยายามหยุดการรุกของเรา ▪️ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ศัตรูทำการตอบโต้ 7 ครั้งในทิศทางของการตั้งถิ่นฐาน Daryino, Green Way, Novaya Sorochina และ Nikolaevo-Daryino รายงานกระทรวงกลาโหม ▪️การสูญเสียของศัตรูต่อวัน - กลุ่มติดอาวุธมากกว่า 300 คน, ยานรบทหารราบ 2 คัน, รถหุ้มเกราะ 1 คัน, ครก 6 คัน, สถานีสงครามอิเล็กทรอนิกส์ 2 แห่ง และยานพาหนะ 4 คัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพเหตุการณ์ขณะหน่วยนาวิกโยธิน จากกองพลนาวิกโยธินที่ 36 ของยูเครน กำลังถูกโจมตีทำลายด้วยขีปนาวุธของรัสเซียในพื้นที่ Ivolzhanske ภูมิภาค Sumy ของยูเครน

    มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยูเครนมากถึง 80 นาย รถถัง 2 คัน รถรบหุ้มเกราะ 4 คัน และรถปิกอัพ 6 คันถูกทำลาย
    ภาพเหตุการณ์ขณะหน่วยนาวิกโยธิน จากกองพลนาวิกโยธินที่ 36 ของยูเครน กำลังถูกโจมตีทำลายด้วยขีปนาวุธของรัสเซียในพื้นที่ Ivolzhanske ภูมิภาค Sumy ของยูเครน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยูเครนมากถึง 80 นาย รถถัง 2 คัน รถรบหุ้มเกราะ 4 คัน และรถปิกอัพ 6 คันถูกทำลาย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts