• ตำรวจเกาหลีใต้แถลง กำลังดำเนินการสืบสวนคดีลักพาตัวและสูญหาย 24 คดี ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในนั้นรวมถึง Prince Group และ Huiwon Group โดยบริษัททั้ง 2 ถูกระบุว่าเป็นผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังการฉ้อโกงทางออนไลน์และฟอกเงินของพวกอาชญากรที่มีฐานในกัมพูชา และเพิ่งถูกคว่ำบาตรโดยประชาคมนานาชาติ ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000105068

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ตำรวจเกาหลีใต้แถลง กำลังดำเนินการสืบสวนคดีลักพาตัวและสูญหาย 24 คดี ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในนั้นรวมถึง Prince Group และ Huiwon Group โดยบริษัททั้ง 2 ถูกระบุว่าเป็นผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังการฉ้อโกงทางออนไลน์และฟอกเงินของพวกอาชญากรที่มีฐานในกัมพูชา และเพิ่งถูกคว่ำบาตรโดยประชาคมนานาชาติ ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000105068 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • “Conti” ร้ายเงียบ: แฮกเกอร์ยูเครนถูกส่งตัวขึ้นศาลสหรัฐฯ

    เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากการที่ Oleksii Oleksiyovych Lytvynenko ชาวยูเครนวัย 43 ปี ถูกจับกุมในเมืองคอร์ก ประเทศไอร์แลนด์ ตามคำร้องขอของสหรัฐฯ และล่าสุดถูกส่งตัวมายังรัฐเทนเนสซีเพื่อเผชิญข้อกล่าวหาหนักเกี่ยวกับการใช้มัลแวร์ Conti ransomware โจมตีองค์กรต่างๆ ทั่วโลก

    Conti ransomware เป็นหนึ่งในมัลแวร์ที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยใช้เทคนิค “double extortion” คือการเข้ารหัสข้อมูลของเหยื่อและขู่เปิดเผยข้อมูลหากไม่จ่ายค่าไถ่ ซึ่ง FBI ประเมินว่ามีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า $150 ล้าน และมีเหยื่อมากกว่า 1,000 ราย ในกว่า 47 รัฐของสหรัฐฯ และอีก 31 ประเทศทั่วโลก

    Lytvynenko ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร่วมวางแผนและควบคุมการโจมตีเหล่านี้ โดยมีบทบาทในการสร้างข้อความเรียกค่าไถ่และควบคุมข้อมูลที่ถูกขโมยจากเหยื่อหลายรายในระบบของ Conti

    Conti คือใคร?
    Conti ransomware ถูกเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีฐานในรัสเซีย และมีความเกี่ยวข้องกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โรงพยาบาล หน่วยงานรัฐ และบริษัทเอกชน โดยเฉพาะในช่วงปี 2021 ที่มีการโจมตีมากที่สุด

    ในปี 2022 มีการรั่วไหลของซอร์สโค้ดของ Conti ซึ่งเผยให้เห็นโครงสร้างการทำงานภายในของกลุ่มนี้ รวมถึงการสื่อสารภายในที่แสดงถึงความเป็นองค์กรแบบมืออาชีพมากกว่าการทำงานแบบสมัครเล่น

    การส่งตัวผู้ต้องหาข้ามประเทศ
    Lytvynenko ถูกจับในไอร์แลนด์และส่งตัวมายังสหรัฐฯ
    ข้อกล่าวหาคือสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงผ่านคอมพิวเตอร์และระบบการเงิน

    ความเสียหายจาก Conti ransomware
    สร้างความเสียหายกว่า $150 ล้าน
    มีเหยื่อมากกว่า 1,000 รายใน 47 รัฐของสหรัฐฯ และอีก 31 ประเทศ
    ใช้เทคนิค double extortion คือเข้ารหัสและขู่เปิดเผยข้อมูล

    บทบาทของ Lytvynenko
    ควบคุมข้อมูลที่ถูกขโมยจากเหยื่อ
    มีส่วนในการสร้างข้อความเรียกค่าไถ่
    ถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงคอมพิวเตอร์ (โทษสูงสุด 5 ปี) และฉ้อโกงระบบการเงิน (โทษสูงสุด 20 ปี)

    https://securityonline.info/conti-ransomware-operator-oleksii-lytvynenko-extradited-from-ireland-to-face-federal-hacking-charges/
    ⚖️ “Conti” ร้ายเงียบ: แฮกเกอร์ยูเครนถูกส่งตัวขึ้นศาลสหรัฐฯ เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากการที่ Oleksii Oleksiyovych Lytvynenko ชาวยูเครนวัย 43 ปี ถูกจับกุมในเมืองคอร์ก ประเทศไอร์แลนด์ ตามคำร้องขอของสหรัฐฯ และล่าสุดถูกส่งตัวมายังรัฐเทนเนสซีเพื่อเผชิญข้อกล่าวหาหนักเกี่ยวกับการใช้มัลแวร์ Conti ransomware โจมตีองค์กรต่างๆ ทั่วโลก Conti ransomware เป็นหนึ่งในมัลแวร์ที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยใช้เทคนิค “double extortion” คือการเข้ารหัสข้อมูลของเหยื่อและขู่เปิดเผยข้อมูลหากไม่จ่ายค่าไถ่ ซึ่ง FBI ประเมินว่ามีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า $150 ล้าน และมีเหยื่อมากกว่า 1,000 ราย ในกว่า 47 รัฐของสหรัฐฯ และอีก 31 ประเทศทั่วโลก Lytvynenko ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร่วมวางแผนและควบคุมการโจมตีเหล่านี้ โดยมีบทบาทในการสร้างข้อความเรียกค่าไถ่และควบคุมข้อมูลที่ถูกขโมยจากเหยื่อหลายรายในระบบของ Conti 🧠 Conti คือใคร? Conti ransomware ถูกเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีฐานในรัสเซีย และมีความเกี่ยวข้องกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โรงพยาบาล หน่วยงานรัฐ และบริษัทเอกชน โดยเฉพาะในช่วงปี 2021 ที่มีการโจมตีมากที่สุด ในปี 2022 มีการรั่วไหลของซอร์สโค้ดของ Conti ซึ่งเผยให้เห็นโครงสร้างการทำงานภายในของกลุ่มนี้ รวมถึงการสื่อสารภายในที่แสดงถึงความเป็นองค์กรแบบมืออาชีพมากกว่าการทำงานแบบสมัครเล่น ✅ การส่งตัวผู้ต้องหาข้ามประเทศ ➡️ Lytvynenko ถูกจับในไอร์แลนด์และส่งตัวมายังสหรัฐฯ ➡️ ข้อกล่าวหาคือสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงผ่านคอมพิวเตอร์และระบบการเงิน ✅ ความเสียหายจาก Conti ransomware ➡️ สร้างความเสียหายกว่า $150 ล้าน ➡️ มีเหยื่อมากกว่า 1,000 รายใน 47 รัฐของสหรัฐฯ และอีก 31 ประเทศ ➡️ ใช้เทคนิค double extortion คือเข้ารหัสและขู่เปิดเผยข้อมูล ✅ บทบาทของ Lytvynenko ➡️ ควบคุมข้อมูลที่ถูกขโมยจากเหยื่อ ➡️ มีส่วนในการสร้างข้อความเรียกค่าไถ่ ➡️ ถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงคอมพิวเตอร์ (โทษสูงสุด 5 ปี) และฉ้อโกงระบบการเงิน (โทษสูงสุด 20 ปี) https://securityonline.info/conti-ransomware-operator-oleksii-lytvynenko-extradited-from-ireland-to-face-federal-hacking-charges/
    SECURITYONLINE.INFO
    Conti Ransomware Operator Oleksii Lytvynenko Extradited from Ireland to Face Federal Hacking Charges
    Ukrainian national Oleksii Lytvynenko was extradited from Ireland for his alleged role in the Conti ransomware operation. The DoJ charges him with wire/computer fraud for extorting over $500,000.
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • จับโกง!! คนละครึ่งพลัส : [Biz Talk]

    เปิดปฏิบัติการปิดเกม ‘รับ–แลก–ลวง’ ตำรวจสอบสวนกลาง ผนึกกระทรวงการคลัง สกัดขบวนการโกง ‘คนละครึ่งพลัส’ นำสิทธิแลกเงินสด ซื้อขายสินค้าทิพย์ เข้าข่ายฉ้อโกงโครงการรัฐ จับผู้ต้องหาแล้ว 3 ราย วอนอย่าเห็นแค่เงินส่วนต่างเพียงเล็กน้อย ผิดทั้งผู้แลก&ผู้รับแลก
    จับโกง!! คนละครึ่งพลัส : [Biz Talk] เปิดปฏิบัติการปิดเกม ‘รับ–แลก–ลวง’ ตำรวจสอบสวนกลาง ผนึกกระทรวงการคลัง สกัดขบวนการโกง ‘คนละครึ่งพลัส’ นำสิทธิแลกเงินสด ซื้อขายสินค้าทิพย์ เข้าข่ายฉ้อโกงโครงการรัฐ จับผู้ต้องหาแล้ว 3 ราย วอนอย่าเห็นแค่เงินส่วนต่างเพียงเล็กน้อย ผิดทั้งผู้แลก&ผู้รับแลก
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 0 Reviews
  • เด็กวัยรุ่นอเมริกันถูกฟ้องในคดีอาชญากรรมไซเบอร์เครือข่าย 764 — รวมข้อหาหนักทั้งการฉ้อโกง, ขโมยข้อมูล และการฟอกเงิน

    บทความจาก HackRead รายงานว่า วัยรุ่นชายชาวอเมริกันถูกตั้งข้อหาในคดีอาชญากรรมไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย 764 ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านการโจมตีเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว, ข้อมูลการเงิน และการขายข้อมูลในตลาดมืด โดยคดีนี้ถือเป็นหนึ่งในคดีที่ใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนในสหรัฐฯ

    วัยรุ่นถูกตั้งข้อหาหลายกระทงรวมถึงการฉ้อโกงและการฟอกเงิน
    ใช้เทคนิค phishing และ social engineering เพื่อเข้าถึงบัญชีของเหยื่อ
    ขโมยข้อมูลบัตรเครดิต, ข้อมูลบัญชีธนาคาร และข้อมูลส่วนตัว

    เครือข่าย 764 มีการจัดการแบบองค์กร
    มีการแบ่งหน้าที่ เช่น ผู้สร้างมัลแวร์, ผู้จัดการบัญชี, และผู้ขายข้อมูล
    ใช้แพลตฟอร์ม Discord และ Telegram เป็นช่องทางสื่อสารและขายข้อมูล

    วัยรุ่นรายนี้มีบทบาทสำคัญในเครือข่าย
    เป็นผู้พัฒนาเครื่องมือโจมตีและจัดการการเงินของกลุ่ม
    มีการใช้ cryptocurrency เพื่อฟอกเงินและหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ

    เจ้าหน้าที่สืบสวนพบหลักฐานจากการตรวจสอบอุปกรณ์และบัญชีออนไลน์
    รวมถึงไฟล์มัลแวร์, รายชื่อเหยื่อ, และบันทึกการโอนเงิน
    มีการเชื่อมโยงกับการโจมตีหลายครั้งในสหรัฐฯ และยุโรป

    เยาวชนสามารถเข้าถึงเครื่องมือแฮกได้ง่ายผ่านแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส
    เครื่องมือบางตัวถูกแชร์ใน GitHub หรือฟอรัมโดยไม่มีการควบคุม
    การเรียนรู้ด้านเทคนิคโดยไม่มีจริยธรรมอาจนำไปสู่การกระทำผิด

    การใช้ cryptocurrency ไม่ได้ทำให้การฟอกเงินปลอดภัยจากการตรวจสอบ
    หน่วยงานด้านการเงินสามารถติดตามธุรกรรมผ่าน blockchain
    การใช้ crypto เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายอาจเพิ่มโทษทางอาญา

    การสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มเช่น Discord ไม่ปลอดภัยจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
    แม้จะใช้ชื่อปลอมหรือ VPN ก็ยังสามารถถูกติดตามได้
    เจ้าหน้าที่สามารถขอข้อมูลจากแพลตฟอร์มผ่านหมายศาล

    https://hackread.com/us-teen-indicted-764-network-case-crimes/
    ⚖️ เด็กวัยรุ่นอเมริกันถูกฟ้องในคดีอาชญากรรมไซเบอร์เครือข่าย 764 — รวมข้อหาหนักทั้งการฉ้อโกง, ขโมยข้อมูล และการฟอกเงิน บทความจาก HackRead รายงานว่า วัยรุ่นชายชาวอเมริกันถูกตั้งข้อหาในคดีอาชญากรรมไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย 764 ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านการโจมตีเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว, ข้อมูลการเงิน และการขายข้อมูลในตลาดมืด โดยคดีนี้ถือเป็นหนึ่งในคดีที่ใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนในสหรัฐฯ ✅ วัยรุ่นถูกตั้งข้อหาหลายกระทงรวมถึงการฉ้อโกงและการฟอกเงิน ➡️ ใช้เทคนิค phishing และ social engineering เพื่อเข้าถึงบัญชีของเหยื่อ ➡️ ขโมยข้อมูลบัตรเครดิต, ข้อมูลบัญชีธนาคาร และข้อมูลส่วนตัว ✅ เครือข่าย 764 มีการจัดการแบบองค์กร ➡️ มีการแบ่งหน้าที่ เช่น ผู้สร้างมัลแวร์, ผู้จัดการบัญชี, และผู้ขายข้อมูล ➡️ ใช้แพลตฟอร์ม Discord และ Telegram เป็นช่องทางสื่อสารและขายข้อมูล ✅ วัยรุ่นรายนี้มีบทบาทสำคัญในเครือข่าย ➡️ เป็นผู้พัฒนาเครื่องมือโจมตีและจัดการการเงินของกลุ่ม ➡️ มีการใช้ cryptocurrency เพื่อฟอกเงินและหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ✅ เจ้าหน้าที่สืบสวนพบหลักฐานจากการตรวจสอบอุปกรณ์และบัญชีออนไลน์ ➡️ รวมถึงไฟล์มัลแวร์, รายชื่อเหยื่อ, และบันทึกการโอนเงิน ➡️ มีการเชื่อมโยงกับการโจมตีหลายครั้งในสหรัฐฯ และยุโรป ‼️ เยาวชนสามารถเข้าถึงเครื่องมือแฮกได้ง่ายผ่านแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส ⛔ เครื่องมือบางตัวถูกแชร์ใน GitHub หรือฟอรัมโดยไม่มีการควบคุม ⛔ การเรียนรู้ด้านเทคนิคโดยไม่มีจริยธรรมอาจนำไปสู่การกระทำผิด ‼️ การใช้ cryptocurrency ไม่ได้ทำให้การฟอกเงินปลอดภัยจากการตรวจสอบ ⛔ หน่วยงานด้านการเงินสามารถติดตามธุรกรรมผ่าน blockchain ⛔ การใช้ crypto เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายอาจเพิ่มโทษทางอาญา ‼️ การสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มเช่น Discord ไม่ปลอดภัยจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ⛔ แม้จะใช้ชื่อปลอมหรือ VPN ก็ยังสามารถถูกติดตามได้ ⛔ เจ้าหน้าที่สามารถขอข้อมูลจากแพลตฟอร์มผ่านหมายศาล https://hackread.com/us-teen-indicted-764-network-case-crimes/
    HACKREAD.COM
    US Teen Indicted in 764 Network Case Involving Exploitation Crimes
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 Reviews
  • Herodotus: มัลแวร์ Android ยุคใหม่ที่พิมพ์เหมือนมนุษย์ หลอกระบบตรวจจับพฤติกรรมได้แนบเนียน

    Trojan ตัวใหม่ชื่อว่า Herodotus ถูกค้นพบโดย ThreatFabric ซึ่งเป็นมัลแวร์ Android ที่ออกแบบมาเพื่อหลอกระบบตรวจจับพฤติกรรมผู้ใช้ (behavioral biometrics) โดยใช้เทคนิค “พิมพ์แบบมนุษย์” เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับจากระบบป้องกันการฉ้อโกงที่ทันสมัย

    จุดเด่นของ Herodotus ที่ทำให้มันอันตราย

    พฤติกรรมการพิมพ์แบบมนุษย์
    มัลแวร์จะแยกข้อความออกเป็นตัวอักษร แล้วใส่ ดีเลย์แบบสุ่ม ระหว่าง 300–3000 มิลลิวินาที เพื่อให้ดูเหมือนผู้ใช้จริงกำลังพิมพ์
    เทคนิคนี้ช่วยหลอกระบบตรวจจับพฤติกรรมที่ใช้ความเร็วและจังหวะการพิมพ์เป็นเกณฑ์

    การควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล
    ผู้โจมตีสามารถคลิก, ปัดหน้าจอ, พิมพ์ข้อความ และสั่งงานระดับระบบ เช่น “Back” หรือ “Home” ได้
    ใช้ overlay ปลอมที่แสดงข้อความเช่น “กรุณารอสักครู่ ระบบธนาคารกำลังตรวจสอบข้อมูล…” เพื่อหลอกผู้ใช้ขณะโจมตี

    เทคนิคการแพร่กระจายที่แนบเนียน
    ใช้ SMiShing (SMS phishing) และ side-loading เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้ง dropper
    Dropper จะติดตั้ง payload โดยใช้หน้าจอปลอมที่ดูเหมือนกำลังโหลด เพื่อขอสิทธิ์ Accessibility โดยไม่ให้ผู้ใช้สงสัย

    โครงสร้างมัลแวร์แบบ modular และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    มีการใช้โค้ดบางส่วนจาก Brokewell Trojan เช่น string ‘BRKWL_JAVA’
    ผู้พัฒนาใช้ชื่อ “K1R0” และเริ่มเปิดให้เช่าแบบ Malware-as-a-Service แล้ว

    เป้าหมายการโจมตีขยายทั่วโลก
    เริ่มจากอิตาลีและบราซิล โดยใช้ชื่อปลอมเช่น “Banca Sicura” และ “Modulo Seguranca Stone”
    มี template overlay สำหรับธนาคารในสหรัฐฯ, ตุรกี, อังกฤษ, โปแลนด์ และแพลตฟอร์มคริปโต

    ระบบตรวจจับพฤติกรรมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป
    Herodotus สามารถหลอกระบบที่ใช้ input timing ได้อย่างแนบเนียน
    การพึ่งพา behavioral biometrics เพียงอย่างเดียวอาจทำให้เกิด false negative

    การให้สิทธิ์ Accessibility โดยไม่รู้ตัวคือช่องโหว่ใหญ่
    หน้าจอปลอมสามารถหลอกให้ผู้ใช้อนุญาตสิทธิ์ที่อันตราย
    Accessibility Services เปิดทางให้มัลแวร์ควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ

    มัลแวร์แบบเช่า (MaaS) จะทำให้การโจมตีแพร่หลายมากขึ้น
    ผู้โจมตีไม่ต้องมีทักษะสูงก็สามารถใช้ Herodotus ได้
    องค์กรต้องเตรียมระบบตรวจจับที่หลากหลายมากขึ้น เช่น AI-based anomaly detection

    https://securityonline.info/next-gen-android-trojan-herodotus-mimics-human-typing-to-bypass-behavioral-biometrics-anti-fraud-systems/
    📱🧠 Herodotus: มัลแวร์ Android ยุคใหม่ที่พิมพ์เหมือนมนุษย์ หลอกระบบตรวจจับพฤติกรรมได้แนบเนียน Trojan ตัวใหม่ชื่อว่า Herodotus ถูกค้นพบโดย ThreatFabric ซึ่งเป็นมัลแวร์ Android ที่ออกแบบมาเพื่อหลอกระบบตรวจจับพฤติกรรมผู้ใช้ (behavioral biometrics) โดยใช้เทคนิค “พิมพ์แบบมนุษย์” เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับจากระบบป้องกันการฉ้อโกงที่ทันสมัย ✅ จุดเด่นของ Herodotus ที่ทำให้มันอันตราย ✅ พฤติกรรมการพิมพ์แบบมนุษย์ ➡️ มัลแวร์จะแยกข้อความออกเป็นตัวอักษร แล้วใส่ ดีเลย์แบบสุ่ม ระหว่าง 300–3000 มิลลิวินาที เพื่อให้ดูเหมือนผู้ใช้จริงกำลังพิมพ์ ➡️ เทคนิคนี้ช่วยหลอกระบบตรวจจับพฤติกรรมที่ใช้ความเร็วและจังหวะการพิมพ์เป็นเกณฑ์ ✅ การควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล ➡️ ผู้โจมตีสามารถคลิก, ปัดหน้าจอ, พิมพ์ข้อความ และสั่งงานระดับระบบ เช่น “Back” หรือ “Home” ได้ ➡️ ใช้ overlay ปลอมที่แสดงข้อความเช่น “กรุณารอสักครู่ ระบบธนาคารกำลังตรวจสอบข้อมูล…” เพื่อหลอกผู้ใช้ขณะโจมตี ✅ เทคนิคการแพร่กระจายที่แนบเนียน ➡️ ใช้ SMiShing (SMS phishing) และ side-loading เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้ง dropper ➡️ Dropper จะติดตั้ง payload โดยใช้หน้าจอปลอมที่ดูเหมือนกำลังโหลด เพื่อขอสิทธิ์ Accessibility โดยไม่ให้ผู้ใช้สงสัย ✅ โครงสร้างมัลแวร์แบบ modular และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ➡️ มีการใช้โค้ดบางส่วนจาก Brokewell Trojan เช่น string ‘BRKWL_JAVA’ ➡️ ผู้พัฒนาใช้ชื่อ “K1R0” และเริ่มเปิดให้เช่าแบบ Malware-as-a-Service แล้ว ✅ เป้าหมายการโจมตีขยายทั่วโลก ➡️ เริ่มจากอิตาลีและบราซิล โดยใช้ชื่อปลอมเช่น “Banca Sicura” และ “Modulo Seguranca Stone” ➡️ มี template overlay สำหรับธนาคารในสหรัฐฯ, ตุรกี, อังกฤษ, โปแลนด์ และแพลตฟอร์มคริปโต ‼️ ระบบตรวจจับพฤติกรรมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ⛔ Herodotus สามารถหลอกระบบที่ใช้ input timing ได้อย่างแนบเนียน ⛔ การพึ่งพา behavioral biometrics เพียงอย่างเดียวอาจทำให้เกิด false negative ‼️ การให้สิทธิ์ Accessibility โดยไม่รู้ตัวคือช่องโหว่ใหญ่ ⛔ หน้าจอปลอมสามารถหลอกให้ผู้ใช้อนุญาตสิทธิ์ที่อันตราย ⛔ Accessibility Services เปิดทางให้มัลแวร์ควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ‼️ มัลแวร์แบบเช่า (MaaS) จะทำให้การโจมตีแพร่หลายมากขึ้น ⛔ ผู้โจมตีไม่ต้องมีทักษะสูงก็สามารถใช้ Herodotus ได้ ⛔ องค์กรต้องเตรียมระบบตรวจจับที่หลากหลายมากขึ้น เช่น AI-based anomaly detection https://securityonline.info/next-gen-android-trojan-herodotus-mimics-human-typing-to-bypass-behavioral-biometrics-anti-fraud-systems/
    SECURITYONLINE.INFO
    Next-Gen Android Trojan Herodotus Mimics Human Typing to Bypass Behavioral Biometrics Anti-Fraud Systems
    Herodotus is a new Android banking Trojan that evades anti-fraud systems by simulating human input: it inserts randomized typing delays (300-3000ms) during remote-control attacks in Italy and Brazil.
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • ทลายเครือข่ายฉ้อโกงออนไลน์ จับ 16 ผู้ต้องหา ยึดทรัพย์กว่า 21 ล้านบาท พบตำรวจยศ พ.ต.ท. สน.ดอนเมือง ร่วมขบวนการ สั่งไล่ออกแล้ว
    https://www.thai-tai.tv/news/22085/
    .
    #ไทยไท #บช.น. #ปอท. #ฉ้อโกงประชาชน #ฟอกเงิน #รองผกก.ดอนเมือง #อาชญากรรมไซเบอร์

    ทลายเครือข่ายฉ้อโกงออนไลน์ จับ 16 ผู้ต้องหา ยึดทรัพย์กว่า 21 ล้านบาท พบตำรวจยศ พ.ต.ท. สน.ดอนเมือง ร่วมขบวนการ สั่งไล่ออกแล้ว https://www.thai-tai.tv/news/22085/ . #ไทยไท #บช.น. #ปอท. #ฉ้อโกงประชาชน #ฟอกเงิน #รองผกก.ดอนเมือง #อาชญากรรมไซเบอร์
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews


  • ..จริงๆย่อมาไทย สงครามที่คนไทยเจอจริงๆคือสงครามกฎหมาย ,จะผ่านด่านใดๆต้องอาศัยข้อกฎหมายในการปล้นชิง แย่งชิงได้อย่างใสซื่อ ชอบธรรมที่สุดเพราะทุกๆอย่างจะจบที่ข้อกฎหมายนำมาอ้าง มาหยิบยก การแย่งชิงใดๆจะบันทึกเป็นกฎกันให้ต่างบังคับกันให้ปฏิบัติ ใครเขียนกฎหมายได้ก็ยึดประเทศนั้นได้ ใครสร้างกฎหมาย ใครสร้างกฎ ใครทำลายกฎหมายก็สามารถทำตามสิ่งที่ตนต้องการได้หมด ทั้งสร้างทั้งทำ ,เรา..อยู่ในสงครามกฎหมาย ต่างชาติใช้กฎหมายภายในที่เปิดช่องเพื่อต้องให้มันเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย อย่างถูกต้องชอบธรรม จึงต้องยึดคนสร้างกฎหมายในไทยให้ได้ บีบบังคับ กดดันคนมีอำนาจสร้างกฎหมายให้มันปล้นชิงอย่างชอบธรรมให้ไม่น่าเกียจในยุคปัจจุบันนี้ให้ได้ mou43,44ก็ข้อกฎหมายทั้งนั้น,ผ่านอำนาจกฎหมายจากนายกฯหรือคณะครม. ก็มีกฎหมายมาค้ำคอหมด ต่างชาติจะทำอะไรได้ในไทยต้องผ่านกฎหมายไทย เขียนกฎหมายให้ต่างชาติทำได้ก่อน เช่นนั้นจะทำไม่ได้อย่างชอบธรรมอะไรใดๆเลย,การทำลายกฎหมายของการเอื้ออำนวยต่างชาติคือการปลดปล่อยประเทศไทยที่ถูกทาง ชอบธรรมโดยหลักสากลปกติ ไม่ต้องคิดมากอะไรและง่ายดายมาก เขียนกฎหมายใดๆได้หมดหากจะปกป้องอธิปไตยจากคนต่างประเทศ.
    ..สงครามที่เกิดกับไทยแท้จริงคือสงครามกฎหมายภายในเราเองโดยต่างชาติพยายามสร้างพยายามลงมือยิงเราผ่านช่องทางนี้ พยายามโจมตี พยายามยึดเมือง ยึดพื้นที่ที่ดิน ยึดครองที่ดินผ่านช่องทางกฎหมายให้ตนเองดูมีความชอบธรรมก่อน,เมื่อยึดใดๆได้แล้วหรือยึดพื้นที่ ยึดที่อยู่ที่อาศัย ยึดทรัพยากร ก็จะยึดทั้งประเทศไทยได้เบ็ดเสร็จต่อไป จึงกลับมาเขียนกฎหมายฉบับตนเองใหม่ทั้งหมดต่อไปในส่วนของมันที่ยึดครองประเทศไทยได้หมดแล้ว,
    ..ข่าวคราวยิวทำไมเกิดข่าวเด่นชัดในยุครัฐบาลอนุทิน มีสองกรณีคือต่อต้านยิว กับเป็นฝ่ายยิว ยอมรับยิว,แต่อย่าลืมว่า้พรรคภูมิใจไทยมุสลิมไม่น้อยเต็มพรรค ไม่พอใจยิวที่ทำกับปาเลสไตน์แน่นอน,คนอาหรับคนมุสลิมรู้ไส้รู้พุงรู้สันดานกันและกันอีก เขาคือศัตรูกันจึงไม่ชอบยิวอิสราเอลในภาพรวม,การต่อต้านยิวสายใต้ดินจึงเต็มที่,อย่าลืมว่าอิสลามไม่ดีในไทยรวมมือกับต่างชาติอิสลามนอกไทยจะยึดประเทศไทยก็มีเช่นกัน,ยิวเข้ามาขัดคอขัดจังหวะของกินตนย่อมไม่พอใจด้วย,กระบวนการสร้างความเกลียดยิวให้คนไทยมาเกลียดยิวจึงเริ่มขึ้น,ยิวก็ไซออนิสต์ก็ถูกสั่งสอนมาจากอนูคานีศาสนาดาเดียวกันกับอิสลาม ใครต่างศาสนาลัทธิความเชื่อมันคือศัตรูต่อพระเจ้ามันหมด ต้องไล่ล่ากำจัดทิ้งฆ่าสังหารคนต่างศาสนาตนที่ไม่ได้นับถือลัทธีรีตศาสนาแบบตนนั้นเอง มันอนูนาคีสั่งสอนแบบนี้ทั้งยิวซาตานไซออนิสต์ยุโรปทั้งอิสลามทั่วโลกเอาเด็กทำเมียไม่ผิดหลักศาสนา,ยิวที่ฆ่าคนปาเลสไตน์เด็ก คนแก่คนชรา หญิงชาย ล้วนมันมองแบบเดียวกันคือคนต่างศาสนาฆ่าได้ทันทีไม่ผิดต่อพระเจ้า ได้ขึ้นสวรรค์ด้วย อิสลามก็ฆ่าคนละทิ้งศาสนาละทิ้งพระเจ้า คนนอกศาสนาอิสลามไม่ผิดต่อพระเจ้า ช่วยกำจัดแทนพระเจ้า ได้ขึ้นสวรรค์โน้นเหมือนกัน ต่างดาวชั่วเลวแบบอนูนาคีชั่วเลวสั่งสอนทั้งอิสลามและยิวคริสต์ไซออนิสต์อิลูมินาติจึงอนาถโคตรๆแก่ผู้บริสุทธิ์ทั่วโลกชาวโลกในปัจจุบันให้หลงผิดทั้งโลก,ไทยจึงจะเป็นสนามบอลอีกแห่งให้คนยิวอิสราเอลตีกับอิสลามในไทยคงไม่นาน บัดสบที่สุดคืออิสลามยุแหย่ให้มาร่วมตียิวในสนามด้วย,ซึ่งจริงๆต้องไล่ถีบทั้งคู่ที่ไม่ดีออกจากประเทศไทยออกจากสนามไปตีกันเองในพื้นที่อื่น,เพราะประเทศไทยสงวนไว้ให้ยิวนิสัยดีคนดี อิสลามดีคนดี มาร่วมอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้ มาสร้างชาติไทยร่วมสร้างชาติไทย คนไทยและผู้มาร่วมอาศัยต่างประเทศมาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เมตตารักดีต่อกัน ช่วยเหลือกันและกัน ไม่ยึดครองยึดเอาเป็นของตนที่มาอาศัยแผ่นดินไทยอยู่ ไม่ก้าวล่วงทำร้ายทำลายกัน อิสระเสรีไปมาอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นสงบสุขสามัคคีกันแม้ต่างชาติต่างศาสนากัน มิใช่แดกกันแดกมนุษย์ ทำลายฆ่ากันบนแผ่นดินไทย เลอะเทอะต่อบ้านต่อเมืองต่อประเทศไทยต่อคนไทย จนลุแก่ปัจจัยทรัพย์สินเงินทองตนอำนาจเครือข่ายตนจนอยากยึดประเทศไทยถือว่าผิดสันดานผู้หลบภัยหลบหนีร้อนมาพึ่งเย็นบนแผ่นดินไทยมาก อาจสมควรตายและถูกกำจัดทิ้งออกจากประเทศไทยเช่นกันเป็นภัยอันตรายต่อเจ้าของประเทศไทยคือคนไทยเรา,เราจะไปอาศัยแล้วจะยึดบ้านเมืองเขาเหมือนกัน เขาหรือใครเขาจะยอมเช่นกัน,ประเทศไทยก็ยอมไม่ได้,ไม่มีชาติไหนที่อิสลามเต็มประเทศไทยสวัสดิการดีมากมาย,ไม่มีชาติไหนแบบไทย ยิวจะเต็มอ.ปาย เต็ม เกาะพะงัน เต็มภาคใต้เสรีอิสระขนาดนั้น,ไทยให้โอกาสคนทุกๆคนทั่วโลกมาเป็นคนดีเพื่อตนเองและเพื่อโลก มาร่วมสร้างสันติสุขร่วมกันย่อลงมาคือราชอาณาจักรไทยเขตประเทศไทยคืออย่างน้อย,การกวาดล้างปราบการคตโกงล้างทำความสะอาดเมืองไทยให้น่าอยู่โดยเฉพาะคนข้าราชการไทยเทา นักการเมืองไทยเทา เจ้าของกิจการไทยเทาเจ้าสัวชั่วเลวไทยเทาผูกขาดไร้กระจายความมั่งคั่งทางวัตถุให้สมดุลเจริญต่อจิตใจถือว่าคนเหล่านี้ขัดขวางการยกจิตยกใจทางดีงามคนไทยและคนดีๆที่หมายดีมาร่วมพักพิงมาเยือนอาศัยชั่วคราวในไทยให้จิตใจตกต่ำชั่วเลวไปด้วยถือว่าต้องถูกกวาดล้างและกำจัดทั้งหมด,สมมุติทางโลกเสียสมดุล รวยจนต่างกันมากเกินไปผ่านวิถีกฎหมายการปกครองของคนเทาๆในไทยเราแบบนี้,ค่าจริงจึงไม่สดใส จิตใจที่ดีงามของคนไทยและผู้มาเยือนท่องเที่ยวจะถือทำลายไปด้วย,วัตถุธาตุเจริญทางทรัพย์สินเงินทองต้องร่วมหล่อเลี้ยงจิตใจให้ดีงามไปด้วย อาหารทางวัตถุหล่อเลี้ยงอาหารทางจิตใจจิตวิญญาณคนไทยและคนมาเยือนเยี่ยมย่อมสมดุลควบคู่กันไปด้วย,เสมือนคนมีหนี้สินล้นเต็มตัว ย่อมฝันไปเลยจะมีจิตใจความคิดอ่านที่เป็นปกติได้ ทุกข์ทั้งทางวัตถุและจิตใจจึงตกต่ำก็อันเดียวกัน,การกวาดล้างทำลายจึงต้องจัดการคนเหล่านี้จริงจังภายในประเทศไทยเรานี้ล่ะ,กองทัพไทย ทหารไทยคือทางเดียวด้วยกฎอัยการศึกพิเศษแบบนี้เท่านั้นจริงเมื่อดูรูปกาลเวลาทั้งหมดภาพรวมมันเน่าเละหมดโดยอำนาจทางการเมืองของนักการเมืองในปัจจุบัน มันส่อไปทางชั่วเลวให้ชาติบ้านเมืองพินาศพิบัติพังพินาศสิ้นชาติชัดเจนแบบสืบทอดต่อยอดรับงานกันเป็นทอดๆมิให้ใครจับได้ด้วย ทำชั่วให้แบบแนบเนียนนั้นเอง,เดอะแก๊งทำลายชาติไทยชัดเจนนั้นเอง ทหารไทยทหารประชาชนทหารพระราชาจึงต้องเด็ดขาดจัดการมันเสีย.

    .............................

    สงครามไฮบริด คือ อะไร ทำไม คนไทย ต้องรู้จัก

    สงครามที่เรา รู้จักกัน ไม่ว่า จะเป็นสงครามในอดีต หรือในปัจจุบัน ล้วนเกี่ยวข้องกับการ แย่งชิง หรือ ยึดครอง ทรัพยากร ของคู่ต่อสู้ ตัวอย่างชัดๆ คือ วิกฤต รศ.112 ที่ฝรั่งเศสเอาเรือปืน เอากองทัพมา “ปล้น” แผ่นดินสยาม แถมเรียกค่าปฏิกรณ์สงครามเป็น “ เงินถุงแดง”
    ในปัจจุบันก็ไม่ต่างกัน ตัวอย่างชัดๆ คือ สงครามในอิสราเอล ที่แย่งชิงพื้นที่ทำกิน พื้นที่อาศัย ระหว่าง เจ้าของพื้นที่ ชาวปาเลสไตน์ กับ ชาวคาซาร์เรียน ยิว (Khazarian ) ที่ อ้างว่าเป็นชาวอิสราเอล ที่เอากองทัพมาเข่นฆ่า เด็ก สตรี และคนชรา ทำแม้แต่ทิ้งระเบิดถล่ม โรงพยาบาล เพื่อขับไล่คนปาเลสไตน์ออกจากพื้นที่ ที่ต้องการยึดครอง

    แต่นอกจากสงคราม “ในรูปแบบ ” ตามที่ยกตัวอย่างแล้ว ยังมี สงคราม “นอกรูปแบบ” ที่ใช้กลยุทธ์ ผสมผสาน (hybrid) ที่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ “ยึดครองทรัพยากร”
    เทียบให้เห็นภาพชัดๆ คือ สมัยก่อน โจรจะปล้น ก็เอาปืนจี้ แต่ปัจจุบันนี้ ใช้วิธี ฉ้อโกง หลอกลวง คอลเซนเตอร์ ไซเบอร์แอทแทก ฯลฯ เพื่อปล้นทรัพย์ ในระดับ ประเทศก็ไม่ต่างกัน
    สงครามดังกล่าวมีตั้งแต่
    1.สงครามการเงิน ตัวอย่างเช่น วิกฤติต้มยำกุ้ง
    2. สงครามข้อมูลข่าวสาร ให้ข้อมูลที่บิดเบือน หรือ ดึงความสนใจให้ไปสนใจเรื่องอื่นที่ไม่สำคัญ เพื่อทำเรื่องที่ต้องการ
    3. สงครามไซเบอร์ ตย เช่น กรณีระบบ คอมพิวเตอร์ที่พึ่งล่ม ทำคนติดค้างในสนามบิน🖥

    แต่สงครามที่พึ่ง สร้างความเสียหายให้กับหลายประเทศทั่วโลก เร็วๆ นี้ คือ “สงครามชีวภาพ” สงครามที่ใช้ “เชื้อโรค” ใช้ “ยา” เป็นอาวุธ
    สงครามที่เรารู้จัก กันว่า “การระบาดของโควิด”
    ซึ่ง มีข้อมูลชัดเจนว่า กระทรวงกลาโหม สหรัฐ เป็นผู้ให้ทุนวิจัย
    และ บริษัทยายักษ์ใหญ่ เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ บริษัทที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น กลุ่มเดียวกันกับ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ อุตสากรรมอาวุธ ของอเมริกา

    อาจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ ได้นำหลักฐานที่ยืนยันว่า การระบาดครั้งนี้มีการเตรียม การล่วงหน้า มีการให้ทุนสนับสนุน มีการ ถอนทุนคืน มาตีแผ่ เป็นบทความสาม ตอน ที่ คนไทยทุกคน และฝ่ายความมั่นคงควร “ต้องอ่าน”

    ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน โดย หมอดื้อ
    (ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต )


    (ตอนที่ 1)
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749

    (ตอนที่ 2)
    https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2797034

    (ตอนที่ 3)
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000057723
    ..จริงๆย่อมาไทย สงครามที่คนไทยเจอจริงๆคือสงครามกฎหมาย ,จะผ่านด่านใดๆต้องอาศัยข้อกฎหมายในการปล้นชิง แย่งชิงได้อย่างใสซื่อ ชอบธรรมที่สุดเพราะทุกๆอย่างจะจบที่ข้อกฎหมายนำมาอ้าง มาหยิบยก การแย่งชิงใดๆจะบันทึกเป็นกฎกันให้ต่างบังคับกันให้ปฏิบัติ ใครเขียนกฎหมายได้ก็ยึดประเทศนั้นได้ ใครสร้างกฎหมาย ใครสร้างกฎ ใครทำลายกฎหมายก็สามารถทำตามสิ่งที่ตนต้องการได้หมด ทั้งสร้างทั้งทำ ,เรา..อยู่ในสงครามกฎหมาย ต่างชาติใช้กฎหมายภายในที่เปิดช่องเพื่อต้องให้มันเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย อย่างถูกต้องชอบธรรม จึงต้องยึดคนสร้างกฎหมายในไทยให้ได้ บีบบังคับ กดดันคนมีอำนาจสร้างกฎหมายให้มันปล้นชิงอย่างชอบธรรมให้ไม่น่าเกียจในยุคปัจจุบันนี้ให้ได้ mou43,44ก็ข้อกฎหมายทั้งนั้น,ผ่านอำนาจกฎหมายจากนายกฯหรือคณะครม. ก็มีกฎหมายมาค้ำคอหมด ต่างชาติจะทำอะไรได้ในไทยต้องผ่านกฎหมายไทย เขียนกฎหมายให้ต่างชาติทำได้ก่อน เช่นนั้นจะทำไม่ได้อย่างชอบธรรมอะไรใดๆเลย,การทำลายกฎหมายของการเอื้ออำนวยต่างชาติคือการปลดปล่อยประเทศไทยที่ถูกทาง ชอบธรรมโดยหลักสากลปกติ ไม่ต้องคิดมากอะไรและง่ายดายมาก เขียนกฎหมายใดๆได้หมดหากจะปกป้องอธิปไตยจากคนต่างประเทศ. ..สงครามที่เกิดกับไทยแท้จริงคือสงครามกฎหมายภายในเราเองโดยต่างชาติพยายามสร้างพยายามลงมือยิงเราผ่านช่องทางนี้ พยายามโจมตี พยายามยึดเมือง ยึดพื้นที่ที่ดิน ยึดครองที่ดินผ่านช่องทางกฎหมายให้ตนเองดูมีความชอบธรรมก่อน,เมื่อยึดใดๆได้แล้วหรือยึดพื้นที่ ยึดที่อยู่ที่อาศัย ยึดทรัพยากร ก็จะยึดทั้งประเทศไทยได้เบ็ดเสร็จต่อไป จึงกลับมาเขียนกฎหมายฉบับตนเองใหม่ทั้งหมดต่อไปในส่วนของมันที่ยึดครองประเทศไทยได้หมดแล้ว, ..ข่าวคราวยิวทำไมเกิดข่าวเด่นชัดในยุครัฐบาลอนุทิน มีสองกรณีคือต่อต้านยิว กับเป็นฝ่ายยิว ยอมรับยิว,แต่อย่าลืมว่า้พรรคภูมิใจไทยมุสลิมไม่น้อยเต็มพรรค ไม่พอใจยิวที่ทำกับปาเลสไตน์แน่นอน,คนอาหรับคนมุสลิมรู้ไส้รู้พุงรู้สันดานกันและกันอีก เขาคือศัตรูกันจึงไม่ชอบยิวอิสราเอลในภาพรวม,การต่อต้านยิวสายใต้ดินจึงเต็มที่,อย่าลืมว่าอิสลามไม่ดีในไทยรวมมือกับต่างชาติอิสลามนอกไทยจะยึดประเทศไทยก็มีเช่นกัน,ยิวเข้ามาขัดคอขัดจังหวะของกินตนย่อมไม่พอใจด้วย,กระบวนการสร้างความเกลียดยิวให้คนไทยมาเกลียดยิวจึงเริ่มขึ้น,ยิวก็ไซออนิสต์ก็ถูกสั่งสอนมาจากอนูคานีศาสนาดาเดียวกันกับอิสลาม ใครต่างศาสนาลัทธิความเชื่อมันคือศัตรูต่อพระเจ้ามันหมด ต้องไล่ล่ากำจัดทิ้งฆ่าสังหารคนต่างศาสนาตนที่ไม่ได้นับถือลัทธีรีตศาสนาแบบตนนั้นเอง มันอนูนาคีสั่งสอนแบบนี้ทั้งยิวซาตานไซออนิสต์ยุโรปทั้งอิสลามทั่วโลกเอาเด็กทำเมียไม่ผิดหลักศาสนา,ยิวที่ฆ่าคนปาเลสไตน์เด็ก คนแก่คนชรา หญิงชาย ล้วนมันมองแบบเดียวกันคือคนต่างศาสนาฆ่าได้ทันทีไม่ผิดต่อพระเจ้า ได้ขึ้นสวรรค์ด้วย อิสลามก็ฆ่าคนละทิ้งศาสนาละทิ้งพระเจ้า คนนอกศาสนาอิสลามไม่ผิดต่อพระเจ้า ช่วยกำจัดแทนพระเจ้า ได้ขึ้นสวรรค์โน้นเหมือนกัน ต่างดาวชั่วเลวแบบอนูนาคีชั่วเลวสั่งสอนทั้งอิสลามและยิวคริสต์ไซออนิสต์อิลูมินาติจึงอนาถโคตรๆแก่ผู้บริสุทธิ์ทั่วโลกชาวโลกในปัจจุบันให้หลงผิดทั้งโลก,ไทยจึงจะเป็นสนามบอลอีกแห่งให้คนยิวอิสราเอลตีกับอิสลามในไทยคงไม่นาน บัดสบที่สุดคืออิสลามยุแหย่ให้มาร่วมตียิวในสนามด้วย,ซึ่งจริงๆต้องไล่ถีบทั้งคู่ที่ไม่ดีออกจากประเทศไทยออกจากสนามไปตีกันเองในพื้นที่อื่น,เพราะประเทศไทยสงวนไว้ให้ยิวนิสัยดีคนดี อิสลามดีคนดี มาร่วมอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้ มาสร้างชาติไทยร่วมสร้างชาติไทย คนไทยและผู้มาร่วมอาศัยต่างประเทศมาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เมตตารักดีต่อกัน ช่วยเหลือกันและกัน ไม่ยึดครองยึดเอาเป็นของตนที่มาอาศัยแผ่นดินไทยอยู่ ไม่ก้าวล่วงทำร้ายทำลายกัน อิสระเสรีไปมาอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นสงบสุขสามัคคีกันแม้ต่างชาติต่างศาสนากัน มิใช่แดกกันแดกมนุษย์ ทำลายฆ่ากันบนแผ่นดินไทย เลอะเทอะต่อบ้านต่อเมืองต่อประเทศไทยต่อคนไทย จนลุแก่ปัจจัยทรัพย์สินเงินทองตนอำนาจเครือข่ายตนจนอยากยึดประเทศไทยถือว่าผิดสันดานผู้หลบภัยหลบหนีร้อนมาพึ่งเย็นบนแผ่นดินไทยมาก อาจสมควรตายและถูกกำจัดทิ้งออกจากประเทศไทยเช่นกันเป็นภัยอันตรายต่อเจ้าของประเทศไทยคือคนไทยเรา,เราจะไปอาศัยแล้วจะยึดบ้านเมืองเขาเหมือนกัน เขาหรือใครเขาจะยอมเช่นกัน,ประเทศไทยก็ยอมไม่ได้,ไม่มีชาติไหนที่อิสลามเต็มประเทศไทยสวัสดิการดีมากมาย,ไม่มีชาติไหนแบบไทย ยิวจะเต็มอ.ปาย เต็ม เกาะพะงัน เต็มภาคใต้เสรีอิสระขนาดนั้น,ไทยให้โอกาสคนทุกๆคนทั่วโลกมาเป็นคนดีเพื่อตนเองและเพื่อโลก มาร่วมสร้างสันติสุขร่วมกันย่อลงมาคือราชอาณาจักรไทยเขตประเทศไทยคืออย่างน้อย,การกวาดล้างปราบการคตโกงล้างทำความสะอาดเมืองไทยให้น่าอยู่โดยเฉพาะคนข้าราชการไทยเทา นักการเมืองไทยเทา เจ้าของกิจการไทยเทาเจ้าสัวชั่วเลวไทยเทาผูกขาดไร้กระจายความมั่งคั่งทางวัตถุให้สมดุลเจริญต่อจิตใจถือว่าคนเหล่านี้ขัดขวางการยกจิตยกใจทางดีงามคนไทยและคนดีๆที่หมายดีมาร่วมพักพิงมาเยือนอาศัยชั่วคราวในไทยให้จิตใจตกต่ำชั่วเลวไปด้วยถือว่าต้องถูกกวาดล้างและกำจัดทั้งหมด,สมมุติทางโลกเสียสมดุล รวยจนต่างกันมากเกินไปผ่านวิถีกฎหมายการปกครองของคนเทาๆในไทยเราแบบนี้,ค่าจริงจึงไม่สดใส จิตใจที่ดีงามของคนไทยและผู้มาเยือนท่องเที่ยวจะถือทำลายไปด้วย,วัตถุธาตุเจริญทางทรัพย์สินเงินทองต้องร่วมหล่อเลี้ยงจิตใจให้ดีงามไปด้วย อาหารทางวัตถุหล่อเลี้ยงอาหารทางจิตใจจิตวิญญาณคนไทยและคนมาเยือนเยี่ยมย่อมสมดุลควบคู่กันไปด้วย,เสมือนคนมีหนี้สินล้นเต็มตัว ย่อมฝันไปเลยจะมีจิตใจความคิดอ่านที่เป็นปกติได้ ทุกข์ทั้งทางวัตถุและจิตใจจึงตกต่ำก็อันเดียวกัน,การกวาดล้างทำลายจึงต้องจัดการคนเหล่านี้จริงจังภายในประเทศไทยเรานี้ล่ะ,กองทัพไทย ทหารไทยคือทางเดียวด้วยกฎอัยการศึกพิเศษแบบนี้เท่านั้นจริงเมื่อดูรูปกาลเวลาทั้งหมดภาพรวมมันเน่าเละหมดโดยอำนาจทางการเมืองของนักการเมืองในปัจจุบัน มันส่อไปทางชั่วเลวให้ชาติบ้านเมืองพินาศพิบัติพังพินาศสิ้นชาติชัดเจนแบบสืบทอดต่อยอดรับงานกันเป็นทอดๆมิให้ใครจับได้ด้วย ทำชั่วให้แบบแนบเนียนนั้นเอง,เดอะแก๊งทำลายชาติไทยชัดเจนนั้นเอง ทหารไทยทหารประชาชนทหารพระราชาจึงต้องเด็ดขาดจัดการมันเสีย. ............................. 📣สงครามไฮบริด💥 คือ อะไร ⁉️ ทำไม คนไทย ต้องรู้จัก🔥💣 💣สงครามที่เรา รู้จักกัน ไม่ว่า จะเป็นสงครามในอดีต หรือในปัจจุบัน ล้วนเกี่ยวข้องกับการ แย่งชิง หรือ ยึดครอง ทรัพยากร ของคู่ต่อสู้ ตัวอย่างชัดๆ คือ วิกฤต รศ.112 ที่ฝรั่งเศสเอาเรือปืน เอากองทัพมา “ปล้น” แผ่นดินสยาม แถมเรียกค่าปฏิกรณ์สงครามเป็น “ เงินถุงแดง” 🔺 🔥ในปัจจุบันก็ไม่ต่างกัน ตัวอย่างชัดๆ คือ สงครามในอิสราเอล ที่แย่งชิงพื้นที่ทำกิน พื้นที่อาศัย ระหว่าง เจ้าของพื้นที่ ชาวปาเลสไตน์ กับ ชาวคาซาร์เรียน ยิว (Khazarian ) ที่ อ้างว่าเป็นชาวอิสราเอล ที่เอากองทัพมาเข่นฆ่า เด็ก สตรี และคนชรา ทำแม้แต่ทิ้งระเบิดถล่ม โรงพยาบาล เพื่อขับไล่คนปาเลสไตน์ออกจากพื้นที่ ที่ต้องการยึดครอง 💥แต่นอกจากสงคราม “ในรูปแบบ ” ตามที่ยกตัวอย่างแล้ว ยังมี สงคราม “นอกรูปแบบ” ที่ใช้กลยุทธ์ ผสมผสาน (hybrid) ที่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ “ยึดครองทรัพยากร” เทียบให้เห็นภาพชัดๆ คือ สมัยก่อน โจรจะปล้น ก็เอาปืนจี้ แต่ปัจจุบันนี้ ใช้วิธี ฉ้อโกง หลอกลวง คอลเซนเตอร์ ไซเบอร์แอทแทก ฯลฯ เพื่อปล้นทรัพย์ ในระดับ ประเทศก็ไม่ต่างกัน สงครามดังกล่าวมีตั้งแต่ 1.สงครามการเงิน ตัวอย่างเช่น วิกฤติต้มยำกุ้ง 💵 2. สงครามข้อมูลข่าวสาร ให้ข้อมูลที่บิดเบือน หรือ ดึงความสนใจให้ไปสนใจเรื่องอื่นที่ไม่สำคัญ เพื่อทำเรื่องที่ต้องการ 📰 3. สงครามไซเบอร์ ตย เช่น กรณีระบบ คอมพิวเตอร์ที่พึ่งล่ม ทำคนติดค้างในสนามบิน🖥 แต่สงครามที่พึ่ง สร้างความเสียหายให้กับหลายประเทศทั่วโลก เร็วๆ นี้ คือ “สงครามชีวภาพ” สงครามที่ใช้ “เชื้อโรค” ใช้ “ยา” เป็นอาวุธ 💉😷 สงครามที่เรารู้จัก กันว่า “การระบาดของโควิด”🦠 ซึ่ง มีข้อมูลชัดเจนว่า กระทรวงกลาโหม สหรัฐ เป็นผู้ให้ทุนวิจัย และ บริษัทยายักษ์ใหญ่ เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ บริษัทที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น กลุ่มเดียวกันกับ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ อุตสากรรมอาวุธ ของอเมริกา อาจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ ได้นำหลักฐานที่ยืนยันว่า การระบาดครั้งนี้มีการเตรียม การล่วงหน้า มีการให้ทุนสนับสนุน มีการ ถอนทุนคืน มาตีแผ่ เป็นบทความสาม ตอน ที่ คนไทยทุกคน และฝ่ายความมั่นคงควร “ต้องอ่าน” ✍️ ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน โดย หมอดื้อ (ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ) (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749 (ตอนที่ 2) https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2797034 (ตอนที่ 3) https://mgronline.com/daily/detail/9670000057723
    MGRONLINE.COM
    ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน (ตอนที่ 1)
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาอดีตหัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นที่รับทราบกันแล้วในปัจจุบัน การกำเนิดของไวรัสโควิดมาจากการสร้างในห้องแล็บ จากความร่วมมือของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และสถาบันว
    0 Comments 0 Shares 345 Views 0 Reviews
  • “จากปฏิเสธสู่การยอมรับ – ทำไมธนาคารใหญ่หันมาใช้ Blockchain จริงจังในปี 2025?”

    เมื่อก่อนธนาคารมอง Blockchain ว่าเป็นเทคโนโลยีเสี่ยงที่เชื่อมโยงกับคริปโตและความผันผวน แต่ในปี 2025 ทุกอย่างเปลี่ยนไป ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan, HSBC และ Citi ไม่ได้แค่ทดลองใช้ Blockchain อีกต่อไป พวกเขากำลัง “สร้างระบบใหม่” บนเทคโนโลยีนี้จริงจัง

    เหตุผลหลักคือ Blockchain ช่วยแก้ปัญหาเก่า ๆ ที่ธนาคารเจอมานาน เช่น การโอนเงินข้ามประเทศที่ใช้เวลาหลายวัน, ค่าธรรมเนียมสูง, และระบบหลังบ้านที่ซับซ้อนและเปลืองทรัพยากร

    ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ JPMorgan ใช้แพลตฟอร์ม Kinexys (ชื่อเดิม Onyx) ที่ประมวลผลธุรกรรมกว่า $1.5 ล้านล้านดอลลาร์ และมีการใช้งานเฉลี่ยวันละ $2 พันล้าน โดยใช้ JPM Coin เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจโอนเงินแบบ real-time

    นอกจากเรื่องความเร็ว ยังมีเรื่องต้นทุนและความร่วมมือระหว่างธนาคาร เช่น SWIFT กำลังทดลองระบบ settlement ด้วย Blockchain ร่วมกับกว่า 30 สถาบัน และเครือข่าย Canton Network ที่มี Deutsche Bank และ Goldman Sachs ก็เปิดให้ธนาคารแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ tokenized ได้โดยตรง

    ธนาคารยังหันมาใช้ Blockchain ในการจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น KYC และการตรวจสอบการฉ้อโกง เพราะระบบนี้มีความโปร่งใสสูง ทุกธุรกรรมมี timestamp และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย

    แม้จะยังไม่ใช่ทุกธนาคารที่ใช้ Blockchain เต็มรูปแบบ แต่แนวโน้มชัดเจนว่าเทคโนโลยีนี้กำลังกลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานใหม่” ของโลกการเงิน

    เหตุผลที่ธนาคารหันมาใช้ Blockchain
    ลดเวลาในการโอนเงินข้ามประเทศ
    ลดค่าธรรมเนียมและความผิดพลาด
    เพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบธุรกรรม
    ใช้กับการจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น KYC และ fraud detection
    รองรับการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ tokenized แบบ real-time

    ตัวอย่างการใช้งานจริง
    JPMorgan ใช้ Kinexys และ JPM Coin โอนเงินแบบทันที
    SWIFT ทดลองระบบ settlement ด้วย Blockchain
    Deutsche Bank และ BNP Paribas ใช้ Partior และ Canton Network
    HSBC เปิดบริการ tokenized deposit ในฮ่องกง
    Citi ใช้ smart contract เพื่อเร่งการโอนเงินและ trade finance

    ปัจจัยที่ทำให้ Blockchain น่าใช้มากขึ้น
    ระบบ permissioned ที่ใช้พลังงานต่ำ
    กฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้นใน EU และสิงคโปร์
    Stablecoin และ digital token ที่มีเงินสดหนุนหลัง
    ธนาคารกลางกว่า 90% กำลังทดลอง CBDC
    เครื่องมือตรวจสอบ smart contract เพื่อความปลอดภัย

    https://hackread.com/why-banks-embrace-blockchain-once-rejected/
    🏦 “จากปฏิเสธสู่การยอมรับ – ทำไมธนาคารใหญ่หันมาใช้ Blockchain จริงจังในปี 2025?” เมื่อก่อนธนาคารมอง Blockchain ว่าเป็นเทคโนโลยีเสี่ยงที่เชื่อมโยงกับคริปโตและความผันผวน แต่ในปี 2025 ทุกอย่างเปลี่ยนไป ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan, HSBC และ Citi ไม่ได้แค่ทดลองใช้ Blockchain อีกต่อไป พวกเขากำลัง “สร้างระบบใหม่” บนเทคโนโลยีนี้จริงจัง เหตุผลหลักคือ Blockchain ช่วยแก้ปัญหาเก่า ๆ ที่ธนาคารเจอมานาน เช่น การโอนเงินข้ามประเทศที่ใช้เวลาหลายวัน, ค่าธรรมเนียมสูง, และระบบหลังบ้านที่ซับซ้อนและเปลืองทรัพยากร ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ JPMorgan ใช้แพลตฟอร์ม Kinexys (ชื่อเดิม Onyx) ที่ประมวลผลธุรกรรมกว่า $1.5 ล้านล้านดอลลาร์ และมีการใช้งานเฉลี่ยวันละ $2 พันล้าน โดยใช้ JPM Coin เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจโอนเงินแบบ real-time นอกจากเรื่องความเร็ว ยังมีเรื่องต้นทุนและความร่วมมือระหว่างธนาคาร เช่น SWIFT กำลังทดลองระบบ settlement ด้วย Blockchain ร่วมกับกว่า 30 สถาบัน และเครือข่าย Canton Network ที่มี Deutsche Bank และ Goldman Sachs ก็เปิดให้ธนาคารแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ tokenized ได้โดยตรง ธนาคารยังหันมาใช้ Blockchain ในการจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น KYC และการตรวจสอบการฉ้อโกง เพราะระบบนี้มีความโปร่งใสสูง ทุกธุรกรรมมี timestamp และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย แม้จะยังไม่ใช่ทุกธนาคารที่ใช้ Blockchain เต็มรูปแบบ แต่แนวโน้มชัดเจนว่าเทคโนโลยีนี้กำลังกลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานใหม่” ของโลกการเงิน ✅ เหตุผลที่ธนาคารหันมาใช้ Blockchain ➡️ ลดเวลาในการโอนเงินข้ามประเทศ ➡️ ลดค่าธรรมเนียมและความผิดพลาด ➡️ เพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบธุรกรรม ➡️ ใช้กับการจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น KYC และ fraud detection ➡️ รองรับการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ tokenized แบบ real-time ✅ ตัวอย่างการใช้งานจริง ➡️ JPMorgan ใช้ Kinexys และ JPM Coin โอนเงินแบบทันที ➡️ SWIFT ทดลองระบบ settlement ด้วย Blockchain ➡️ Deutsche Bank และ BNP Paribas ใช้ Partior และ Canton Network ➡️ HSBC เปิดบริการ tokenized deposit ในฮ่องกง ➡️ Citi ใช้ smart contract เพื่อเร่งการโอนเงินและ trade finance ✅ ปัจจัยที่ทำให้ Blockchain น่าใช้มากขึ้น ➡️ ระบบ permissioned ที่ใช้พลังงานต่ำ ➡️ กฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้นใน EU และสิงคโปร์ ➡️ Stablecoin และ digital token ที่มีเงินสดหนุนหลัง ➡️ ธนาคารกลางกว่า 90% กำลังทดลอง CBDC ➡️ เครื่องมือตรวจสอบ smart contract เพื่อความปลอดภัย https://hackread.com/why-banks-embrace-blockchain-once-rejected/
    HACKREAD.COM
    Why Banks Are Embracing Blockchain They Once Rejected
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 313 Views 0 Reviews
  • พบศพเน่าเปื่อยของชายชาวจีนรายหนึ่ง ในกระสอบที่ถูกทิ้งไว้ใกล้ถนนสายหนึ่งในเขตดังกอร์ รอบนอกกรุงพนมเปญ เมื่อวันอังคาร(21ต.ค.) เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคดีอาจเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์หรือสแกมเมอร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000100761

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    พบศพเน่าเปื่อยของชายชาวจีนรายหนึ่ง ในกระสอบที่ถูกทิ้งไว้ใกล้ถนนสายหนึ่งในเขตดังกอร์ รอบนอกกรุงพนมเปญ เมื่อวันอังคาร(21ต.ค.) เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคดีอาจเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์หรือสแกมเมอร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000100761 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 389 Views 0 Reviews
  • ตำรวจนครโตเกียวได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 รายในคดีฉ้อโกงทางโทรศัพท์ รวมถึงชายชาวจีนที่เชื่อว่าเป็น หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในกัมพูชา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000099949

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ตำรวจนครโตเกียวได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 รายในคดีฉ้อโกงทางโทรศัพท์ รวมถึงชายชาวจีนที่เชื่อว่าเป็น หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในกัมพูชา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000099949 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 Comments 0 Shares 366 Views 0 Reviews
  • ไทย-ลาว มิตรภาพแน่นแฟ้น

    แม้รัฐบาลจะมีอายุการทำงานเพียงแค่ 4 เดือน และสถานการณ์ความขัดแย้งกับกัมพูชายังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง แต่การเดินทางไปเยือนประเทศลาว ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและคณะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) ในวาระครอบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบ 75 ปี ในปี 2568 แสดงให้เห็นว่าลาวยังเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่วางใจได้ ธงชาติไทยสลับกับธงชาติลาวบริเวณประตูไช แลนด์มาร์คสำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นภาพที่คนไทยและชาวลาวต่างรู้สึกเป็นบวก เพราะเป็นชาติที่คนไทยแทบไม่ต้องแปลภาษาก็สื่อสารกันง่าย เปรียบดังมองตาก็รู้ใจ

    การเดินทางมาเยือนลาวในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอนุทินลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยและลาว 1 ฉบับ ได้แก่ เอ็มโอยูระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารส่งเสริมกสิกรรมแห่ง สปป.ลาว รวมทั้งการสนับสนุนทางการเงิน 10 ล้านบาท สำหรับโครงการความร่วมมือสกัดกั้นสารตั้งต้นของการผลิตยาเสพติด ไทย-ลาว การส่งมอบเซรุ่มแก้พิษงู มูลค่า 875,000 บาท อุปกรณ์พัฒนาและฝึกอาชีพแรงงาน มูลค่า 1.49 ล้านบาท ความช่วยเหลือทางวิชาการ สำหรับงานออกแบบรายละเอียดโครงการพัฒนาระบบประปาระยะที่ 2 มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท

    นอกจากนี้ ยังยกระดับความร่วมมือกับลาวในด้านต่างๆ เพื่อเปลี่ยนแลนด์ล็อกเป็นแลนด์ลิงก์ เชื่อมโยงด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ และความร่วมมือด้านอื่นๆ เช่น การเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมช้ามชาติ ยาเสพติด ฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ โดยการตั้งศูนย์ Contact point และศูนย์ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขงโดยใช้เทคโนโลยี ตามยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) ยืนยันการจัดประชุม COOP ครั้งที่ 8 ส่งเสริมการค้าชายแดน เอสเอ็มอี ตั้งเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2570 สนับสนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ และแผนยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ไทย-ลาวอย่างครบวงจร ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ระหว่างทั้งสองประเทศ

    อีกด้านหนึ่ง ประเทศไทยและ สปป.ลาว เตรียมร่วมกันเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) จังหวัดบึงกาฬ ในช่วงปลายปี 2568 เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ระหว่างไทยกับลาวและภูมิภาคอินโดจีน ไปยังท่าเรือน้ำลึกในประเทศเวียดนาม เช่น ท่าเรือสากลลาว-เวียด หรือท่าเรือหวุงอ๋าง จังหวัดฮาติงห์ ถือเป็นทางออกสู่ทะเลที่ใกล้ที่สุดของลาว และเชื่อมต่อทางตอนใต้ของประเทศจีน

    #Newskit
    ไทย-ลาว มิตรภาพแน่นแฟ้น แม้รัฐบาลจะมีอายุการทำงานเพียงแค่ 4 เดือน และสถานการณ์ความขัดแย้งกับกัมพูชายังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง แต่การเดินทางไปเยือนประเทศลาว ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและคณะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) ในวาระครอบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบ 75 ปี ในปี 2568 แสดงให้เห็นว่าลาวยังเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่วางใจได้ ธงชาติไทยสลับกับธงชาติลาวบริเวณประตูไช แลนด์มาร์คสำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นภาพที่คนไทยและชาวลาวต่างรู้สึกเป็นบวก เพราะเป็นชาติที่คนไทยแทบไม่ต้องแปลภาษาก็สื่อสารกันง่าย เปรียบดังมองตาก็รู้ใจ การเดินทางมาเยือนลาวในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอนุทินลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยและลาว 1 ฉบับ ได้แก่ เอ็มโอยูระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารส่งเสริมกสิกรรมแห่ง สปป.ลาว รวมทั้งการสนับสนุนทางการเงิน 10 ล้านบาท สำหรับโครงการความร่วมมือสกัดกั้นสารตั้งต้นของการผลิตยาเสพติด ไทย-ลาว การส่งมอบเซรุ่มแก้พิษงู มูลค่า 875,000 บาท อุปกรณ์พัฒนาและฝึกอาชีพแรงงาน มูลค่า 1.49 ล้านบาท ความช่วยเหลือทางวิชาการ สำหรับงานออกแบบรายละเอียดโครงการพัฒนาระบบประปาระยะที่ 2 มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังยกระดับความร่วมมือกับลาวในด้านต่างๆ เพื่อเปลี่ยนแลนด์ล็อกเป็นแลนด์ลิงก์ เชื่อมโยงด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ และความร่วมมือด้านอื่นๆ เช่น การเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมช้ามชาติ ยาเสพติด ฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ โดยการตั้งศูนย์ Contact point และศูนย์ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขงโดยใช้เทคโนโลยี ตามยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) ยืนยันการจัดประชุม COOP ครั้งที่ 8 ส่งเสริมการค้าชายแดน เอสเอ็มอี ตั้งเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2570 สนับสนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ และแผนยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ไทย-ลาวอย่างครบวงจร ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ระหว่างทั้งสองประเทศ อีกด้านหนึ่ง ประเทศไทยและ สปป.ลาว เตรียมร่วมกันเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) จังหวัดบึงกาฬ ในช่วงปลายปี 2568 เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ระหว่างไทยกับลาวและภูมิภาคอินโดจีน ไปยังท่าเรือน้ำลึกในประเทศเวียดนาม เช่น ท่าเรือสากลลาว-เวียด หรือท่าเรือหวุงอ๋าง จังหวัดฮาติงห์ ถือเป็นทางออกสู่ทะเลที่ใกล้ที่สุดของลาว และเชื่อมต่อทางตอนใต้ของประเทศจีน #Newskit
    1 Comments 0 Shares 399 Views 0 Reviews
  • "เอสซี แอสเสท-ริชชี่เพลซ-แสนสิริ" ออกแถลงการณ์ด่วน ปฏิเสธข่าวพัวพัน "นายเฉิน จื้อ" และ "ปรินซ์กรุ๊ป" กลุ่มทุนที่ถูกคว่ำบาตรในข้อหาฉ้อโกงและค้ามนุษย์ ยืนยันเป็นข้อมูลเท็จทั้งหมด ไม่เคยมีการลงทุนหรือทำธุรกรรมใดๆ พร้อมเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายถึงที่สุดกับผู้ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000099419

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    "เอสซี แอสเสท-ริชชี่เพลซ-แสนสิริ" ออกแถลงการณ์ด่วน ปฏิเสธข่าวพัวพัน "นายเฉิน จื้อ" และ "ปรินซ์กรุ๊ป" กลุ่มทุนที่ถูกคว่ำบาตรในข้อหาฉ้อโกงและค้ามนุษย์ ยืนยันเป็นข้อมูลเท็จทั้งหมด ไม่เคยมีการลงทุนหรือทำธุรกรรมใดๆ พร้อมเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายถึงที่สุดกับผู้ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000099419 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 507 Views 0 Reviews
  • โซลเชื่อพลเมืองเกาหลีใต้ราว 1,000 คนทำงานอยู่ในแก๊งฉ้อโกงออนไลน์ในกัมพูชา และได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่พิเศษเดินทางไปยังเขมรเมื่อค่ำวันพุธ (15 ต.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับการจ้างงานหลอกและแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการลักพาตัวชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก ซึ่งรวมถึงนักศึกษาหนุ่มที่ถูกทรมานจนเสียชีวิตและเป็นข่าวดังทั่วโลกเมื่อเร็วๆ นี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000098700

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    โซลเชื่อพลเมืองเกาหลีใต้ราว 1,000 คนทำงานอยู่ในแก๊งฉ้อโกงออนไลน์ในกัมพูชา และได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่พิเศษเดินทางไปยังเขมรเมื่อค่ำวันพุธ (15 ต.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับการจ้างงานหลอกและแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการลักพาตัวชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก ซึ่งรวมถึงนักศึกษาหนุ่มที่ถูกทรมานจนเสียชีวิตและเป็นข่าวดังทั่วโลกเมื่อเร็วๆ นี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000098700 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 440 Views 0 Reviews
  • “Bitcoin Jesus” ยอมจ่ายเกือบ 50 ล้านเหรียญ เพื่อยุติคดีเลี่ยงภาษีในสหรัฐฯ

    ในโลกของคริปโตเคอร์เรนซี มีบุคคลหนึ่งที่ได้รับฉายาว่า “Bitcoin Jesus” เขาคือ Roger Ver นักลงทุนยุคแรกของบิตคอยน์ที่เคยเป็นผู้สนับสนุนหลักในการผลักดันให้บิตคอยน์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ล่าสุดเขาตกเป็นข่าวใหญ่เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า Ver ได้ตกลงจ่ายเงินสูงสุดถึง 49.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยุติคดีเลี่ยงภาษีและฉ้อโกงทางไปรษณีย์

    ข้อตกลงนี้เป็นรูปแบบ “deferred prosecution agreement” หรือการเลื่อนการดำเนินคดี ซึ่งหมายความว่า หากเขาปฏิบัติตามเงื่อนไขครบถ้วน คดีจะไม่ถูกดำเนินต่อในศาล โดยก่อนหน้านี้ Ver ได้ออกมารณรงค์ให้ประธานาธิบดี Donald Trump ช่วยยุติสิ่งที่เขาเรียกว่า “lawfare” หรือการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือโจมตีทางการเมือง

    นอกจากประเด็นทางกฎหมายแล้ว เรื่องนี้ยังสะท้อนถึงความซับซ้อนของการจัดเก็บภาษีในโลกคริปโต ที่ยังคงเป็นพื้นที่สีเทาในหลายประเทศ รวมถึงการที่นักลงทุนคริปโตต้องเผชิญกับความเสี่ยงทางกฎหมาย หากไม่จัดการเรื่องภาษีอย่างถูกต้อง

    ข้อมูลในข่าว
    Roger Ver หรือ “Bitcoin Jesus” เป็นนักลงทุนบิตคอยน์ยุคแรก
    เขาตกลงจ่ายเงินสูงสุด 49.9 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีเลี่ยงภาษี
    ข้อตกลงเป็นแบบ “deferred prosecution” ซึ่งอาจทำให้คดีไม่ถูกดำเนินต่อ
    Ver เคยรณรงค์ให้ประธานาธิบดี Trump ช่วยยุติการใช้กฎหมายโจมตีทางการเมือง

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    นักลงทุนคริปโตต้องระวังเรื่องการจัดการภาษีอย่างถูกต้อง
    การเลี่ยงภาษีในสหรัฐฯ อาจนำไปสู่คดีอาญาและค่าปรับมหาศาล
    การใช้คริปโตในธุรกรรมจำนวนมากโดยไม่เปิดเผย อาจถูกตรวจสอบย้อนหลังได้
    แม้จะมีข้อตกลงเลื่อนการดำเนินคดี แต่หากผิดเงื่อนไขก็อาจถูกดำเนินคดีเต็มรูปแบบ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/15/crypto-investor-039bitcoin-jesus039-reaches-deal-to-resolve-us-tax-charges
    🎯 “Bitcoin Jesus” ยอมจ่ายเกือบ 50 ล้านเหรียญ เพื่อยุติคดีเลี่ยงภาษีในสหรัฐฯ ในโลกของคริปโตเคอร์เรนซี มีบุคคลหนึ่งที่ได้รับฉายาว่า “Bitcoin Jesus” เขาคือ Roger Ver นักลงทุนยุคแรกของบิตคอยน์ที่เคยเป็นผู้สนับสนุนหลักในการผลักดันให้บิตคอยน์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ล่าสุดเขาตกเป็นข่าวใหญ่เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า Ver ได้ตกลงจ่ายเงินสูงสุดถึง 49.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยุติคดีเลี่ยงภาษีและฉ้อโกงทางไปรษณีย์ ข้อตกลงนี้เป็นรูปแบบ “deferred prosecution agreement” หรือการเลื่อนการดำเนินคดี ซึ่งหมายความว่า หากเขาปฏิบัติตามเงื่อนไขครบถ้วน คดีจะไม่ถูกดำเนินต่อในศาล โดยก่อนหน้านี้ Ver ได้ออกมารณรงค์ให้ประธานาธิบดี Donald Trump ช่วยยุติสิ่งที่เขาเรียกว่า “lawfare” หรือการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือโจมตีทางการเมือง นอกจากประเด็นทางกฎหมายแล้ว เรื่องนี้ยังสะท้อนถึงความซับซ้อนของการจัดเก็บภาษีในโลกคริปโต ที่ยังคงเป็นพื้นที่สีเทาในหลายประเทศ รวมถึงการที่นักลงทุนคริปโตต้องเผชิญกับความเสี่ยงทางกฎหมาย หากไม่จัดการเรื่องภาษีอย่างถูกต้อง ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Roger Ver หรือ “Bitcoin Jesus” เป็นนักลงทุนบิตคอยน์ยุคแรก ➡️ เขาตกลงจ่ายเงินสูงสุด 49.9 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีเลี่ยงภาษี ➡️ ข้อตกลงเป็นแบบ “deferred prosecution” ซึ่งอาจทำให้คดีไม่ถูกดำเนินต่อ ➡️ Ver เคยรณรงค์ให้ประธานาธิบดี Trump ช่วยยุติการใช้กฎหมายโจมตีทางการเมือง ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ นักลงทุนคริปโตต้องระวังเรื่องการจัดการภาษีอย่างถูกต้อง ⛔ การเลี่ยงภาษีในสหรัฐฯ อาจนำไปสู่คดีอาญาและค่าปรับมหาศาล ⛔ การใช้คริปโตในธุรกรรมจำนวนมากโดยไม่เปิดเผย อาจถูกตรวจสอบย้อนหลังได้ ⛔ แม้จะมีข้อตกลงเลื่อนการดำเนินคดี แต่หากผิดเงื่อนไขก็อาจถูกดำเนินคดีเต็มรูปแบบ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/15/crypto-investor-039bitcoin-jesus039-reaches-deal-to-resolve-us-tax-charges
    WWW.THESTAR.COM.MY
    'Bitcoin Jesus' strikes deal with Trump administration to resolve US tax charges
    (Reuters) -An early cryptocurrency investor dubbed the "Bitcoin Jesus" has agreed to pay up to $49.9 million to resolve charges he evaded tens of millions of dollars in taxes, the U.S. Department of Justice said in a court filing on Tuesday.
    0 Comments 0 Shares 265 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯ ยึดบิตคอยน์ มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 4.9 แสนล้านบาท ของ'เฉิน จื้อ'นักธุรกิจจีนสัญชาติเขมร อดีตที่ปรึกษา และคนใกล้ชิด'ฮุนเซน-ฮุนมาเนต' มีฐานเปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา บังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกาย ทรมานและฉ้อโกงเงินดิจิทัล
    #คิงส์โพธิ์แดง
    สหรัฐฯ ยึดบิตคอยน์ มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 4.9 แสนล้านบาท ของ'เฉิน จื้อ'นักธุรกิจจีนสัญชาติเขมร อดีตที่ปรึกษา และคนใกล้ชิด'ฮุนเซน-ฮุนมาเนต' มีฐานเปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา บังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกาย ทรมานและฉ้อโกงเงินดิจิทัล #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 255 Views 0 Reviews
  • ท่อน้ำเลี้ยงฮุนเซนสะเทือน!!! สหรัฐฯ สั่งยึด Bitcoin 4.9 แสนล้านบาท จากนักธุรกิจกัมพูชาเชื้อสายจีนที่ปรึกษาตระกูลฮุน ปมฉ้อโกงคริปโต-ค้ามนุษย์
    https://www.thai-tai.tv/news/21905/
    .
    #ไทยไท #เฉินจื้อ #ฮุนเซน #Bitcoin #ริบทรัพย์สิน #ฉ้อโกงคริปโต #ค้ามนุษย์ #PrinceGroup

    ท่อน้ำเลี้ยงฮุนเซนสะเทือน!!! สหรัฐฯ สั่งยึด Bitcoin 4.9 แสนล้านบาท จากนักธุรกิจกัมพูชาเชื้อสายจีนที่ปรึกษาตระกูลฮุน ปมฉ้อโกงคริปโต-ค้ามนุษย์ https://www.thai-tai.tv/news/21905/ . #ไทยไท #เฉินจื้อ #ฮุนเซน #Bitcoin #ริบทรัพย์สิน #ฉ้อโกงคริปโต #ค้ามนุษย์ #PrinceGroup
    0 Comments 0 Shares 203 Views 0 Reviews
  • ด่วน!! สหรัฐฯ สั่งยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.9 แสนล้านบาท) ของนายเฉิน จื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา ซึ่งมีฐานเปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา บังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกาย ทรมานและฉ้อโกงเงินดิจิทัล หนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงของฮุนเซน ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เป็น "การริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ"
    .
    มีรานงานล่าสุดว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) สั่งยึด Bitcoin ของนายเฉินจื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา มูลค่าหลายพันล้านจากกลโกงคริปโต ครั้งใหญ่ในกัมพูชา
    .
    นายเฉิน จื้อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าดำเนินค่ายแรงงานบังคับในกัมพูชา โดยบังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกายและทรมาน ที่ถูกค้ามนุษย์ดำเนินการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล และสามารถกวาดเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์
    .
    สหรัฐ กล่าวว่า เฉิน จื้อ แห่ง Prince Holding Group และพวกพ้องของเขาถูกกล่าวหาว่าสร้างรายได้มากถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวันจากการหลอกลวงครั้งหนึ่ง และฉินเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และบิดาของเขา อดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และได้รับเกียรติด้วยบรรดาศักดิ์ “ออกญา” ซึ่งเทียบเท่ากับขุนนางอังกฤษ และไทยในอดีต
    .
    เฉิน จื้อ ชายวัย 37 ปี ซึ่งรู้จักกันในชื่อวินเซนต์ เป็นผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่ทางการระบุว่าทำหน้าที่เป็นฉากหน้าของ "หนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย" ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
    .
    กระทรวงยุติธรรมยังได้ยื่นฟ้องริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยยึด Bitcoin ได้ประมาณ 127,271 บิตคอยน์ คิดเป็นมูลค่าราว 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.9 แสนล้านบาท ในราคาปัจจุบัน
    .
    “การดำเนินการในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามการค้ามนุษย์และการฉ้อโกงทางการเงินผ่านไซเบอร์ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงระดับโลก” อัยการสูงสุด แพม บอนดี กล่าว
    .
    มีรายงานว่าเฉินได้สั่งการให้มีการบังคับใช้แรงงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกัมพูชา โดยมีการกักขังแรงงานค้ามนุษย์หลายร้อยคนไว้ในสถานที่คล้ายเรือนจำที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม
    .
    ปีที่แล้ว ชาวอเมริกันสูญเสียเงินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุ และเรียก Prince Holding Group ว่าเป็น “ผู้เล่นหลัก” ในอุตสาหกรรมนี้ ทางการจีนได้ดำเนินการสืบสวนบริษัทนี้ในข้อหาหลอกลวงทางไซเบอร์และการฟอกเงินมาตั้งแต่ต้นปี 2020 ตามบันทึกของศาลที่ตรวจสอบโดยสถาบันสันติภาพสหรัฐฯ
    .
    ภายใต้การคุกคามของความรุนแรง พวกเขาถูกบังคับให้ดำเนินการตามกลลวงที่เรียกว่า "การฆ่าหมู" ซึ่งเป็นแผนการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างความไว้วางใจกับเหยื่อในช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะขโมยเงินของพวกเขาไป แผนการดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่เหยื่อทั่วโลก ทำให้เกิดการสูญเสียนับพันล้าน
    .
    ศูนย์หลอกลวงทั่วทั้งกัมพูชา เมียนมาร์ และภูมิภาคอื่นๆ ใช้โฆษณาหางานปลอมเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ ซึ่งหลายคนเป็นชาวจีน ให้มาทำงานในสถานที่ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ โดยคนเหล่านี้ถูกบังคับให้ฉ้อโกงทางออนไลน์ภายใต้ภัยคุกคามของการทรมาน
    .
    เฉินเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว ติดตามผลกำไรและแผนการต่างๆ และยังมีภาพการทุบตีและการทรมานเหยื่ออีกด้วย เขาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับการลงโทษผู้ที่ “ก่อปัญหา” แต่เน้นย้ำว่าคนงาน “ไม่ควรถูกตีจนตาย” ผู้หลอกลวงมักติดต่อเหยื่อผ่านแอปส่งข้อความหรือโซเชียลมีเดีย โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงจากการลงทุน ตามที่ฟ้องระบุ
    .
    นับตั้งแต่ประมาณปี 2015 Prince Group ได้ดำเนินกิจการในกว่า 30 ประเทศภายใต้ข้ออ้างของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และผู้บริโภคที่ถูกกฎหมาย อัยการกล่าว
    .
    เฉินและผู้บริหารระดับสูงถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลทางการเมืองและติดสินบนเจ้าหน้าที่ในหลายประเทศเพื่อปกป้องการดำเนินงาน รายได้ส่วนหนึ่งถูกฟอกเงินผ่านการพนันและการขุดสกุลเงินดิจิทัลของ Prince Group เอง
    .
    เจ้าหน้าที่เผยว่าเงินที่ถูกขโมยไปนั้นจะถูกนำไปใช้ในการซื้อของหรูหราต่างๆ รวมถึงนาฬิกา เรือยอทช์ เครื่องบินส่วนตัว บ้านพักตากอากาศ และภาพวาดของปิกัสโซที่ซื้อจากบ้านประมูลแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก
    .
    เฉินอาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงทางสายโทรศัพท์และสมคบคิดฟอกเงิน
    .
    ในการดำเนินการประสานงานกัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อังกฤษได้อายัดทรัพย์สิน 19 แห่งในลอนดอน มูลค่ากว่า 100 ล้านปอนด์ ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายของเฉิน รวมถึงคฤหาสน์มูลค่า 12 ล้านปอนด์ในลอนดอนตอนเหนือ
    .
    มาตรการคว่ำบาตรยังมุ่งเป้าไปที่ Qiu Wei Ren ผู้ร่วมงานของ Chen ซึ่งเป็นคนสัญชาติจีนที่มีสัญชาติกัมพูชา ไซปรัส และฮ่องกงอีกด้วย
    .
    การสืบสวนของ AFP เมื่อวันอังคารพบว่าศูนย์หลอกลวงในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่เดือนหลังจากการปราบปรามในประเทศดังกล่าว
    .
    จีน ไทย และเมียนมาร์ บังคับให้กองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลทหารของเมียนมาร์ซึ่งปกป้องศูนย์เหล่านี้สัญญาว่าจะปิดศูนย์เหล่านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยปล่อยตัวผู้คนไปประมาณ 7,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองจีน
    .
    แต่ระบบคอลเซ็นเตอร์แบบโหดกำลังกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งในเมียนมาร์ โดยขณะนี้ใช้ระบบดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
    ด่วน!! สหรัฐฯ สั่งยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.9 แสนล้านบาท) ของนายเฉิน จื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา ซึ่งมีฐานเปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา บังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกาย ทรมานและฉ้อโกงเงินดิจิทัล หนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงของฮุนเซน ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เป็น "การริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ" . มีรานงานล่าสุดว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) สั่งยึด Bitcoin ของนายเฉินจื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา มูลค่าหลายพันล้านจากกลโกงคริปโต ครั้งใหญ่ในกัมพูชา . นายเฉิน จื้อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าดำเนินค่ายแรงงานบังคับในกัมพูชา โดยบังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกายและทรมาน ที่ถูกค้ามนุษย์ดำเนินการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล และสามารถกวาดเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์ . สหรัฐ กล่าวว่า เฉิน จื้อ แห่ง Prince Holding Group และพวกพ้องของเขาถูกกล่าวหาว่าสร้างรายได้มากถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวันจากการหลอกลวงครั้งหนึ่ง และฉินเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และบิดาของเขา อดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และได้รับเกียรติด้วยบรรดาศักดิ์ “ออกญา” ซึ่งเทียบเท่ากับขุนนางอังกฤษ และไทยในอดีต . เฉิน จื้อ ชายวัย 37 ปี ซึ่งรู้จักกันในชื่อวินเซนต์ เป็นผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่ทางการระบุว่าทำหน้าที่เป็นฉากหน้าของ "หนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย" ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ . กระทรวงยุติธรรมยังได้ยื่นฟ้องริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยยึด Bitcoin ได้ประมาณ 127,271 บิตคอยน์ คิดเป็นมูลค่าราว 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.9 แสนล้านบาท ในราคาปัจจุบัน . “การดำเนินการในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามการค้ามนุษย์และการฉ้อโกงทางการเงินผ่านไซเบอร์ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงระดับโลก” อัยการสูงสุด แพม บอนดี กล่าว . มีรายงานว่าเฉินได้สั่งการให้มีการบังคับใช้แรงงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกัมพูชา โดยมีการกักขังแรงงานค้ามนุษย์หลายร้อยคนไว้ในสถานที่คล้ายเรือนจำที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม . ปีที่แล้ว ชาวอเมริกันสูญเสียเงินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุ และเรียก Prince Holding Group ว่าเป็น “ผู้เล่นหลัก” ในอุตสาหกรรมนี้ ทางการจีนได้ดำเนินการสืบสวนบริษัทนี้ในข้อหาหลอกลวงทางไซเบอร์และการฟอกเงินมาตั้งแต่ต้นปี 2020 ตามบันทึกของศาลที่ตรวจสอบโดยสถาบันสันติภาพสหรัฐฯ . ภายใต้การคุกคามของความรุนแรง พวกเขาถูกบังคับให้ดำเนินการตามกลลวงที่เรียกว่า "การฆ่าหมู" ซึ่งเป็นแผนการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างความไว้วางใจกับเหยื่อในช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะขโมยเงินของพวกเขาไป แผนการดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่เหยื่อทั่วโลก ทำให้เกิดการสูญเสียนับพันล้าน . ศูนย์หลอกลวงทั่วทั้งกัมพูชา เมียนมาร์ และภูมิภาคอื่นๆ ใช้โฆษณาหางานปลอมเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ ซึ่งหลายคนเป็นชาวจีน ให้มาทำงานในสถานที่ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ โดยคนเหล่านี้ถูกบังคับให้ฉ้อโกงทางออนไลน์ภายใต้ภัยคุกคามของการทรมาน . เฉินเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว ติดตามผลกำไรและแผนการต่างๆ และยังมีภาพการทุบตีและการทรมานเหยื่ออีกด้วย เขาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับการลงโทษผู้ที่ “ก่อปัญหา” แต่เน้นย้ำว่าคนงาน “ไม่ควรถูกตีจนตาย” ผู้หลอกลวงมักติดต่อเหยื่อผ่านแอปส่งข้อความหรือโซเชียลมีเดีย โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงจากการลงทุน ตามที่ฟ้องระบุ . นับตั้งแต่ประมาณปี 2015 Prince Group ได้ดำเนินกิจการในกว่า 30 ประเทศภายใต้ข้ออ้างของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และผู้บริโภคที่ถูกกฎหมาย อัยการกล่าว . เฉินและผู้บริหารระดับสูงถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลทางการเมืองและติดสินบนเจ้าหน้าที่ในหลายประเทศเพื่อปกป้องการดำเนินงาน รายได้ส่วนหนึ่งถูกฟอกเงินผ่านการพนันและการขุดสกุลเงินดิจิทัลของ Prince Group เอง . เจ้าหน้าที่เผยว่าเงินที่ถูกขโมยไปนั้นจะถูกนำไปใช้ในการซื้อของหรูหราต่างๆ รวมถึงนาฬิกา เรือยอทช์ เครื่องบินส่วนตัว บ้านพักตากอากาศ และภาพวาดของปิกัสโซที่ซื้อจากบ้านประมูลแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก . เฉินอาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงทางสายโทรศัพท์และสมคบคิดฟอกเงิน . ในการดำเนินการประสานงานกัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อังกฤษได้อายัดทรัพย์สิน 19 แห่งในลอนดอน มูลค่ากว่า 100 ล้านปอนด์ ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายของเฉิน รวมถึงคฤหาสน์มูลค่า 12 ล้านปอนด์ในลอนดอนตอนเหนือ . มาตรการคว่ำบาตรยังมุ่งเป้าไปที่ Qiu Wei Ren ผู้ร่วมงานของ Chen ซึ่งเป็นคนสัญชาติจีนที่มีสัญชาติกัมพูชา ไซปรัส และฮ่องกงอีกด้วย . การสืบสวนของ AFP เมื่อวันอังคารพบว่าศูนย์หลอกลวงในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่เดือนหลังจากการปราบปรามในประเทศดังกล่าว . จีน ไทย และเมียนมาร์ บังคับให้กองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลทหารของเมียนมาร์ซึ่งปกป้องศูนย์เหล่านี้สัญญาว่าจะปิดศูนย์เหล่านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยปล่อยตัวผู้คนไปประมาณ 7,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองจีน . แต่ระบบคอลเซ็นเตอร์แบบโหดกำลังกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งในเมียนมาร์ โดยขณะนี้ใช้ระบบดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
    0 Comments 0 Shares 611 Views 0 Reviews
  • “IBM เปิดตัว Spyre Accelerator — ชิป AI สำหรับองค์กรที่เร็ว ปลอดภัย และปรับขนาดได้”

    IBM ประกาศเปิดตัว Spyre Accelerator อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นชิปเร่งการประมวลผล AI ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน inferencing แบบ low-latency สำหรับระบบ AI เชิงสร้างสรรค์ (generative) และ AI แบบตัวแทน (agentic AI) โดยเน้นความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกับข้อมูลระดับองค์กร

    Spyre จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 28 ตุลาคม 2025 สำหรับระบบ IBM z17 และ LinuxONE 5 และในเดือนธันวาคมสำหรับ Power11 โดยชิปนี้ถูกพัฒนาจากต้นแบบที่ใช้ในศูนย์วิจัย IBM AI Hardware Center และผ่านการทดสอบในคลัสเตอร์ที่มหาวิทยาลัย Albany ก่อนจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์

    Spyre เป็นระบบ-on-a-chip ที่มี 32 คอร์เร่งความเร็ว และมีทรานซิสเตอร์ถึง 25.6 พันล้านตัว ผลิตด้วยเทคโนโลยี 5nm และติดตั้งบนการ์ด PCIe ขนาด 75 วัตต์ โดยสามารถติดตั้งได้สูงสุด 48 ใบในระบบ IBM Z หรือ LinuxONE และ 16 ใบในระบบ Power เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผล AI

    ชิปนี้รองรับการประมวลผลแบบความละเอียดต่ำ เช่น int4 และ int8 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน พร้อมระบบความปลอดภัยที่ช่วยให้ข้อมูลสำคัญยังคงอยู่ภายในองค์กร ไม่ต้องส่งออกไปยังคลาวด์

    Spyre ยังสามารถทำงานร่วมกับ Telum II processor เพื่อรองรับงานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น การตรวจจับการฉ้อโกงแบบเรียลไทม์ และการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบค้าปลีก โดยในระบบ Power ยังสามารถติดตั้งบริการ AI จากแคตตาล็อกได้ด้วยคลิกเดียว

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    IBM เปิดตัว Spyre Accelerator สำหรับงาน AI inferencing แบบ low-latency
    วางจำหน่ายวันที่ 28 ตุลาคม 2025 สำหรับ IBM z17 และ LinuxONE 5
    วางจำหน่ายในเดือนธันวาคมสำหรับ Power11
    มี 32 คอร์เร่งความเร็ว และ 25.6 พันล้านทรานซิสเตอร์
    ผลิตด้วยเทคโนโลยี 5nm และติดตั้งบนการ์ด PCIe ขนาด 75 วัตต์
    รองรับการติดตั้งสูงสุด 48 ใบใน IBM Z และ 16 ใบใน Power
    รองรับการประมวลผลแบบ int4 และ int8 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    ทำงานร่วมกับ Telum II processor เพื่อรองรับงานระดับองค์กร
    รองรับการติดตั้งบริการ AI จากแคตตาล็อกในระบบ Power ด้วยคลิกเดียว
    พัฒนาโดย IBM Research AI Hardware Center และผ่านการทดสอบในคลัสเตอร์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    IBM Z ประมวลผลธุรกรรมกว่า 70% ของมูลค่าทั่วโลก
    Agentic AI คือระบบที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองตามเป้าหมาย
    การใช้ int4 และ int8 ช่วยลดการใช้หน่วยความจำและพลังงาน
    Spyre ออกแบบให้ส่งข้อมูลตรงระหว่าง compute engine เพื่อลด latency
    IBM ตั้งเป้าให้ Spyre รองรับงาน AI แบบ multimodel และการฝึกโมเดลในอนาคต

    https://www.techpowerup.com/341671/ibm-introduces-the-spyre-accelerator-for-commercial-availability
    🧠 “IBM เปิดตัว Spyre Accelerator — ชิป AI สำหรับองค์กรที่เร็ว ปลอดภัย และปรับขนาดได้” IBM ประกาศเปิดตัว Spyre Accelerator อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นชิปเร่งการประมวลผล AI ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน inferencing แบบ low-latency สำหรับระบบ AI เชิงสร้างสรรค์ (generative) และ AI แบบตัวแทน (agentic AI) โดยเน้นความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกับข้อมูลระดับองค์กร Spyre จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 28 ตุลาคม 2025 สำหรับระบบ IBM z17 และ LinuxONE 5 และในเดือนธันวาคมสำหรับ Power11 โดยชิปนี้ถูกพัฒนาจากต้นแบบที่ใช้ในศูนย์วิจัย IBM AI Hardware Center และผ่านการทดสอบในคลัสเตอร์ที่มหาวิทยาลัย Albany ก่อนจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ Spyre เป็นระบบ-on-a-chip ที่มี 32 คอร์เร่งความเร็ว และมีทรานซิสเตอร์ถึง 25.6 พันล้านตัว ผลิตด้วยเทคโนโลยี 5nm และติดตั้งบนการ์ด PCIe ขนาด 75 วัตต์ โดยสามารถติดตั้งได้สูงสุด 48 ใบในระบบ IBM Z หรือ LinuxONE และ 16 ใบในระบบ Power เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผล AI ชิปนี้รองรับการประมวลผลแบบความละเอียดต่ำ เช่น int4 และ int8 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน พร้อมระบบความปลอดภัยที่ช่วยให้ข้อมูลสำคัญยังคงอยู่ภายในองค์กร ไม่ต้องส่งออกไปยังคลาวด์ Spyre ยังสามารถทำงานร่วมกับ Telum II processor เพื่อรองรับงานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น การตรวจจับการฉ้อโกงแบบเรียลไทม์ และการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบค้าปลีก โดยในระบบ Power ยังสามารถติดตั้งบริการ AI จากแคตตาล็อกได้ด้วยคลิกเดียว ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ IBM เปิดตัว Spyre Accelerator สำหรับงาน AI inferencing แบบ low-latency ➡️ วางจำหน่ายวันที่ 28 ตุลาคม 2025 สำหรับ IBM z17 และ LinuxONE 5 ➡️ วางจำหน่ายในเดือนธันวาคมสำหรับ Power11 ➡️ มี 32 คอร์เร่งความเร็ว และ 25.6 พันล้านทรานซิสเตอร์ ➡️ ผลิตด้วยเทคโนโลยี 5nm และติดตั้งบนการ์ด PCIe ขนาด 75 วัตต์ ➡️ รองรับการติดตั้งสูงสุด 48 ใบใน IBM Z และ 16 ใบใน Power ➡️ รองรับการประมวลผลแบบ int4 และ int8 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ ทำงานร่วมกับ Telum II processor เพื่อรองรับงานระดับองค์กร ➡️ รองรับการติดตั้งบริการ AI จากแคตตาล็อกในระบบ Power ด้วยคลิกเดียว ➡️ พัฒนาโดย IBM Research AI Hardware Center และผ่านการทดสอบในคลัสเตอร์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ IBM Z ประมวลผลธุรกรรมกว่า 70% ของมูลค่าทั่วโลก ➡️ Agentic AI คือระบบที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองตามเป้าหมาย ➡️ การใช้ int4 และ int8 ช่วยลดการใช้หน่วยความจำและพลังงาน ➡️ Spyre ออกแบบให้ส่งข้อมูลตรงระหว่าง compute engine เพื่อลด latency ➡️ IBM ตั้งเป้าให้ Spyre รองรับงาน AI แบบ multimodel และการฝึกโมเดลในอนาคต https://www.techpowerup.com/341671/ibm-introduces-the-spyre-accelerator-for-commercial-availability
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    IBM Introduces the Spyre Accelerator for Commercial Availability
    IBM (NYSE: IBM) today announced the upcoming general availability of the IBM Spyre Accelerator, an AI accelerator enabling low-latency inferencing to support generative and agentic AI use cases while prioritizing the security and resilience of core workloads. Earlier this year, IBM announced the Spy...
    0 Comments 0 Shares 247 Views 0 Reviews
  • “เมื่อวิศวกรซอฟต์แวร์ถูกขอให้ทำสิ่งผิดกฎหมาย — บทเรียนจาก FTX, Frank และ Pollen ที่อาจช่วยคุณไม่ต้องใส่ชุดนักโทษ”

    ในโลกของเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยโค้ดและข้อมูล วิศวกรซอฟต์แวร์มักถูกมองว่าเป็นผู้สร้าง ไม่ใช่ผู้ตัดสินใจ แต่เมื่อคำสั่งจากผู้บริหารกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย พวกเขากลับกลายเป็น “ผู้ร่วมกระทำผิด” ได้โดยไม่ตั้งใจ บทความจาก The Pragmatic Engineer ได้รวบรวมกรณีจริง 3 เรื่อง ที่วิศวกรถูกขอให้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย — และผลลัพธ์ของการตัดสินใจนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

    กรณีแรกคือ Nishad Singh จาก FTX ซึ่งในปี 2022 ได้รับรู้ว่า Alameda Research กำลังใช้เงินลูกค้าจาก FTX ไปกว่า 13 พันล้านดอลลาร์ เขารู้สึกตกใจและจัดประชุมทันที แต่กลับเลือกที่จะ “อยู่ต่อเพื่อช่วยแก้ไข” แทนที่จะลาออกหรือแจ้งความ สุดท้ายเขาได้รับเงินกู้ 3.7 ล้านดอลลาร์จากบริษัท และต้องรับโทษทางกฎหมาย แม้จะได้รับการลดโทษเหลือเพียงการควบคุมตัว 3 ปี แต่ก็เป็นบทเรียนที่ชัดเจนว่า “การอยู่ต่อหลังรู้ว่ามีการโกง ไม่ใช่ทางออก”

    กรณีที่สองคือวิศวกรจาก Frank ซึ่งถูก CEO ขอให้สร้างข้อมูลลูกค้าเทียมกว่า 4.2 ล้านรายเพื่อให้บริษัทดูมีมูลค่ามากขึ้นก่อนขายให้ JPMorgan วิศวกรคนนั้นปฏิเสธทันที และส่งเฉพาะข้อมูลจริงที่มีอยู่ประมาณ 293,000 ราย สุดท้าย CEO ถูกจับและถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ส่วนวิศวกรรอดพ้นจากทุกข้อกล่าวหา

    กรณีสุดท้ายคือบริษัท Pollen ที่มีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าซ้ำโดยเจตนาเพื่อให้บริษัทมีเงินจ่ายเงินเดือน วิศวกรคนหนึ่งยอมทำตามคำสั่ง CEO โดยเขียนสคริปต์เพื่อเรียกเก็บเงินซ้ำ และยอมรับในภายหลังว่า “เป็นการตัดสินใจที่แย่มาก” แม้จะยังไม่มีการตั้งข้อหา แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่อาจกลายเป็นคดีฉ้อโกงในอนาคต

    บทเรียนจากทั้งสามกรณีคือ — วิศวกรมีสิทธิ์ปฏิเสธ และควรใช้สิทธินั้นเมื่อพบว่าคำสั่งอาจผิดกฎหมาย เพราะการ “ทำตามคำสั่ง” ไม่ได้ปกป้องคุณจากผลทางกฎหมาย หากสิ่งที่คุณทำกลายเป็นหลักฐานในศาล

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Nishad Singh จาก FTX รู้ว่ามีการใช้เงินลูกค้าโดยมิชอบ แต่เลือกอยู่ต่อ
    เขาได้รับเงินกู้ 3.7 ล้านดอลลาร์หลังรู้เรื่อง และถูกดำเนินคดี
    ศาลลดโทษให้เหลือการควบคุมตัว 3 ปี เพราะเขาให้ความร่วมมือในการสอบสวน
    วิศวกรจาก Frank ถูกขอให้สร้างข้อมูลลูกค้าเทียม แต่ปฏิเสธทันที
    CEO ของ Frank ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ฐานฉ้อโกง JPMorgan
    ที่ Pollen มีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าซ้ำโดยเจตนาเพื่อจ่ายเงินเดือน
    วิศวกรยอมทำตามคำสั่ง CEO และยอมรับภายหลังว่าเป็นการตัดสินใจผิด
    ยังไม่มีการตั้งข้อหาทางอาญาในกรณีของ Pollen ณ ตุลาคม 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    กฎหมายสหรัฐฯ ให้รางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส (whistleblower) สูงถึง 30% ของเงินที่รัฐเรียกคืน
    การลาออกทันทีหลังพบการกระทำผิดอาจช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมาย
    การรับเงินหรือผลประโยชน์หลังรู้ว่ามีการโกง อาจถูกตีความว่า “ร่วมมือ”
    การบันทึกคำสั่งที่อาจผิดกฎหมาย เช่น อีเมลหรือแชท เป็นหลักฐานสำคัญ
    การปรึกษาทนายก่อนตัดสินใจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด

    https://blog.pragmaticengineer.com/asked-to-do-something-illegal-at-work/
    ⚖️ “เมื่อวิศวกรซอฟต์แวร์ถูกขอให้ทำสิ่งผิดกฎหมาย — บทเรียนจาก FTX, Frank และ Pollen ที่อาจช่วยคุณไม่ต้องใส่ชุดนักโทษ” ในโลกของเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยโค้ดและข้อมูล วิศวกรซอฟต์แวร์มักถูกมองว่าเป็นผู้สร้าง ไม่ใช่ผู้ตัดสินใจ แต่เมื่อคำสั่งจากผู้บริหารกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย พวกเขากลับกลายเป็น “ผู้ร่วมกระทำผิด” ได้โดยไม่ตั้งใจ บทความจาก The Pragmatic Engineer ได้รวบรวมกรณีจริง 3 เรื่อง ที่วิศวกรถูกขอให้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย — และผลลัพธ์ของการตัดสินใจนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กรณีแรกคือ Nishad Singh จาก FTX ซึ่งในปี 2022 ได้รับรู้ว่า Alameda Research กำลังใช้เงินลูกค้าจาก FTX ไปกว่า 13 พันล้านดอลลาร์ เขารู้สึกตกใจและจัดประชุมทันที แต่กลับเลือกที่จะ “อยู่ต่อเพื่อช่วยแก้ไข” แทนที่จะลาออกหรือแจ้งความ สุดท้ายเขาได้รับเงินกู้ 3.7 ล้านดอลลาร์จากบริษัท และต้องรับโทษทางกฎหมาย แม้จะได้รับการลดโทษเหลือเพียงการควบคุมตัว 3 ปี แต่ก็เป็นบทเรียนที่ชัดเจนว่า “การอยู่ต่อหลังรู้ว่ามีการโกง ไม่ใช่ทางออก” กรณีที่สองคือวิศวกรจาก Frank ซึ่งถูก CEO ขอให้สร้างข้อมูลลูกค้าเทียมกว่า 4.2 ล้านรายเพื่อให้บริษัทดูมีมูลค่ามากขึ้นก่อนขายให้ JPMorgan วิศวกรคนนั้นปฏิเสธทันที และส่งเฉพาะข้อมูลจริงที่มีอยู่ประมาณ 293,000 ราย สุดท้าย CEO ถูกจับและถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ส่วนวิศวกรรอดพ้นจากทุกข้อกล่าวหา กรณีสุดท้ายคือบริษัท Pollen ที่มีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าซ้ำโดยเจตนาเพื่อให้บริษัทมีเงินจ่ายเงินเดือน วิศวกรคนหนึ่งยอมทำตามคำสั่ง CEO โดยเขียนสคริปต์เพื่อเรียกเก็บเงินซ้ำ และยอมรับในภายหลังว่า “เป็นการตัดสินใจที่แย่มาก” แม้จะยังไม่มีการตั้งข้อหา แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่อาจกลายเป็นคดีฉ้อโกงในอนาคต บทเรียนจากทั้งสามกรณีคือ — วิศวกรมีสิทธิ์ปฏิเสธ และควรใช้สิทธินั้นเมื่อพบว่าคำสั่งอาจผิดกฎหมาย เพราะการ “ทำตามคำสั่ง” ไม่ได้ปกป้องคุณจากผลทางกฎหมาย หากสิ่งที่คุณทำกลายเป็นหลักฐานในศาล ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Nishad Singh จาก FTX รู้ว่ามีการใช้เงินลูกค้าโดยมิชอบ แต่เลือกอยู่ต่อ ➡️ เขาได้รับเงินกู้ 3.7 ล้านดอลลาร์หลังรู้เรื่อง และถูกดำเนินคดี ➡️ ศาลลดโทษให้เหลือการควบคุมตัว 3 ปี เพราะเขาให้ความร่วมมือในการสอบสวน ➡️ วิศวกรจาก Frank ถูกขอให้สร้างข้อมูลลูกค้าเทียม แต่ปฏิเสธทันที ➡️ CEO ของ Frank ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ฐานฉ้อโกง JPMorgan ➡️ ที่ Pollen มีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าซ้ำโดยเจตนาเพื่อจ่ายเงินเดือน ➡️ วิศวกรยอมทำตามคำสั่ง CEO และยอมรับภายหลังว่าเป็นการตัดสินใจผิด ➡️ ยังไม่มีการตั้งข้อหาทางอาญาในกรณีของ Pollen ณ ตุลาคม 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ กฎหมายสหรัฐฯ ให้รางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส (whistleblower) สูงถึง 30% ของเงินที่รัฐเรียกคืน ➡️ การลาออกทันทีหลังพบการกระทำผิดอาจช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมาย ➡️ การรับเงินหรือผลประโยชน์หลังรู้ว่ามีการโกง อาจถูกตีความว่า “ร่วมมือ” ➡️ การบันทึกคำสั่งที่อาจผิดกฎหมาย เช่น อีเมลหรือแชท เป็นหลักฐานสำคัญ ➡️ การปรึกษาทนายก่อนตัดสินใจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด https://blog.pragmaticengineer.com/asked-to-do-something-illegal-at-work/
    BLOG.PRAGMATICENGINEER.COM
    Asked to do something illegal at work? Here’s what these software engineers did
    At FTX, Frank, and Pollen, software engineers were asked to do something potentially illegal, or to go along with what looked like fraud. They obliged in two out of three cases, landed in hot water, and now face jail time. A reminder why it’s never a good idea to go along with such requests.
    0 Comments 0 Shares 367 Views 0 Reviews
  • “Intel ยันเดินหน้าสร้างโรงงานชิปในโอไฮโอ แม้ล่าช้า 5 ปี — ส.ว.ตั้งคำถามแรง ‘นี่คือการหลอกลวงหรือไม่?’”

    ย้อนกลับไปในปี 2022 Intel เคยประกาศแผนสร้างโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่รัฐโอไฮโอ ภายใต้ชื่อโครงการ “Ohio One” โดยมีเป้าหมายสร้างโรงงานถึง 8 แห่ง พร้อมดึงดูดการลงทุนกว่า 28,000 ล้านดอลลาร์ และเสริมความแข็งแกร่งให้สหรัฐฯ ในฐานะผู้นำด้านการผลิตชิปขั้นสูง

    แต่ในปี 2025 นี้ โครงการกลับล่าช้าอย่างหนัก โดย Intel ยืนยันว่าจะเลื่อนการเปิดโรงงานไปถึงปี 2030 ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับ ส.ว. Bernie Moreno ที่ส่งจดหมายถึง CEO ของ Intel เพื่อขอคำชี้แจง พร้อมตั้งคำถามว่า “นี่คือการหลอกลวง หรืออาจเป็นการฉ้อโกง?”

    Moreno ระบุว่า รัฐโอไฮโอได้ให้เงินสนับสนุนโครงการไปแล้วกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ และลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่อีกเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ที่เป็นรูปธรรม ขณะที่ชุมชนท้องถิ่นที่เตรียมรับการเติบโตกลับต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน

    Intel ตอบกลับด้วยถ้อยคำทั่วไปว่า “ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตในสหรัฐฯ” และ “ทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในรัฐโอไฮโออย่างใกล้ชิด” แต่ไม่ได้ตอบคำถามเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจหรือแผนเยียวยาผู้เสียภาษี

    แม้จะมีความล่าช้า แต่ Intel ยังได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่งเข้าถือหุ้น 10% ในบริษัท พร้อมกับการลงทุนจาก Nvidia และ SoftBank ที่ช่วยดันราคาหุ้นขึ้นกว่า 66% ในปีนี้ โดยรัฐบาลมองว่า Intel คือคู่แข่งสำคัญของ TSMC และต้องได้รับการสนับสนุนเพื่อความมั่นคงของชาติ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Intel ยืนยันเดินหน้าโครงการ Ohio One แม้จะเลื่อนเปิดโรงงานไปถึงปี 2030
    โครงการเดิมตั้งเป้าสร้างโรงงาน 8 แห่ง มูลค่ารวมกว่า $28 พันล้าน
    ส.ว. Bernie Moreno ส่งจดหมายถาม Intel ว่าโครงการนี้เป็น “การหลอกลวงหรือไม่”
    รัฐโอไฮโอให้เงินสนับสนุนแล้วกว่า $2 พันล้าน และโครงสร้างพื้นฐานอีก $700 ล้าน
    Intel ตอบกลับด้วยถ้อยคำทั่วไป ไม่ได้ชี้แจงผลกระทบหรือแผนเยียวยาผู้เสียภาษี
    รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าถือหุ้น 10% ใน Intel เพื่อสนับสนุนด้านความมั่นคง
    Nvidia และ SoftBank ลงทุนใน Intel ดันราคาหุ้นขึ้นกว่า 66% ในปี 2025
    โรงงานนี้เคยถูกวางให้เป็นฐานผลิตเทคโนโลยี 18A และ 14A ของ Intel

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intels-elusive-ohio-fab-project-scrutinized-by-u-s-senator-amid-5-year-delay-to-2030-chipmaker-reassures-ambitious-plan-is-still-on-track-despite-recent-cut-downs
    🏗️ “Intel ยันเดินหน้าสร้างโรงงานชิปในโอไฮโอ แม้ล่าช้า 5 ปี — ส.ว.ตั้งคำถามแรง ‘นี่คือการหลอกลวงหรือไม่?’” ย้อนกลับไปในปี 2022 Intel เคยประกาศแผนสร้างโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่รัฐโอไฮโอ ภายใต้ชื่อโครงการ “Ohio One” โดยมีเป้าหมายสร้างโรงงานถึง 8 แห่ง พร้อมดึงดูดการลงทุนกว่า 28,000 ล้านดอลลาร์ และเสริมความแข็งแกร่งให้สหรัฐฯ ในฐานะผู้นำด้านการผลิตชิปขั้นสูง แต่ในปี 2025 นี้ โครงการกลับล่าช้าอย่างหนัก โดย Intel ยืนยันว่าจะเลื่อนการเปิดโรงงานไปถึงปี 2030 ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับ ส.ว. Bernie Moreno ที่ส่งจดหมายถึง CEO ของ Intel เพื่อขอคำชี้แจง พร้อมตั้งคำถามว่า “นี่คือการหลอกลวง หรืออาจเป็นการฉ้อโกง?” Moreno ระบุว่า รัฐโอไฮโอได้ให้เงินสนับสนุนโครงการไปแล้วกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ และลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่อีกเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ที่เป็นรูปธรรม ขณะที่ชุมชนท้องถิ่นที่เตรียมรับการเติบโตกลับต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน Intel ตอบกลับด้วยถ้อยคำทั่วไปว่า “ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตในสหรัฐฯ” และ “ทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในรัฐโอไฮโออย่างใกล้ชิด” แต่ไม่ได้ตอบคำถามเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจหรือแผนเยียวยาผู้เสียภาษี แม้จะมีความล่าช้า แต่ Intel ยังได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่งเข้าถือหุ้น 10% ในบริษัท พร้อมกับการลงทุนจาก Nvidia และ SoftBank ที่ช่วยดันราคาหุ้นขึ้นกว่า 66% ในปีนี้ โดยรัฐบาลมองว่า Intel คือคู่แข่งสำคัญของ TSMC และต้องได้รับการสนับสนุนเพื่อความมั่นคงของชาติ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Intel ยืนยันเดินหน้าโครงการ Ohio One แม้จะเลื่อนเปิดโรงงานไปถึงปี 2030 ➡️ โครงการเดิมตั้งเป้าสร้างโรงงาน 8 แห่ง มูลค่ารวมกว่า $28 พันล้าน ➡️ ส.ว. Bernie Moreno ส่งจดหมายถาม Intel ว่าโครงการนี้เป็น “การหลอกลวงหรือไม่” ➡️ รัฐโอไฮโอให้เงินสนับสนุนแล้วกว่า $2 พันล้าน และโครงสร้างพื้นฐานอีก $700 ล้าน ➡️ Intel ตอบกลับด้วยถ้อยคำทั่วไป ไม่ได้ชี้แจงผลกระทบหรือแผนเยียวยาผู้เสียภาษี ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าถือหุ้น 10% ใน Intel เพื่อสนับสนุนด้านความมั่นคง ➡️ Nvidia และ SoftBank ลงทุนใน Intel ดันราคาหุ้นขึ้นกว่า 66% ในปี 2025 ➡️ โรงงานนี้เคยถูกวางให้เป็นฐานผลิตเทคโนโลยี 18A และ 14A ของ Intel https://www.tomshardware.com/tech-industry/intels-elusive-ohio-fab-project-scrutinized-by-u-s-senator-amid-5-year-delay-to-2030-chipmaker-reassures-ambitious-plan-is-still-on-track-despite-recent-cut-downs
    0 Comments 0 Shares 363 Views 0 Reviews
  • “Bitcoin Queen ถูกตัดสินคดีฉ้อโกง — ยึดคริปโตมูลค่า $7.3 พันล้าน กลายเป็นการยึดครั้งใหญ่ที่สุดในโลก”

    หลังจากหลบหนีมานานกว่า 5 ปี Zhimin Qian หรือที่รู้จักในชื่อ “Yadi Zhang” ถูกศาล Southwark Crown Court ในสหราชอาณาจักรตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน โดยเธอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในประเทศจีนระหว่างปี 2014–2017 และนำเงินที่ได้ไปแปลงเป็น Bitcoin เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ

    ตำรวจนครบาลลอนดอน (Met Police) เปิดเผยว่าได้ยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญจาก Qian ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และเป็นหนึ่งในคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร

    หลังจากหลบหนีออกจากจีนด้วยเอกสารปลอมในปี 2018 Qian เข้าสหราชอาณาจักรและพยายามฟอกเงินผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้ช่วยคือ Jian Wen อดีตพนักงานร้านอาหารที่ต่อมาใช้ชีวิตหรูหราในบ้านเช่าหลายล้านปอนด์ และซื้ออสังหาริมทรัพย์ในดูไบมูลค่ากว่า £500,000

    Wen ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี 8 เดือนเมื่อปีที่แล้ว และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สินมูลค่ากว่า £3.1 ล้านภายใน 3 เดือน มิฉะนั้นจะถูกเพิ่มโทษอีก 7 ปี

    คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนกว่า 7 ปี โดยมีการร่วมมือระหว่างตำรวจอังกฤษ หน่วยงานอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA) และเจ้าหน้าที่จีนในเมืองเทียนจินและปักกิ่ง เพื่อรวบรวมหลักฐานจากหลายประเทศ และตรวจสอบเอกสารนับพันฉบับ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Zhimin Qian ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงินในสหราชอาณาจักร
    เธอหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในจีนระหว่างปี 2014–2017
    ตำรวจยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญ มูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้าน
    ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในโลก และคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดใน UK
    Qian เข้าสหราชอาณาจักรในปี 2018 ด้วยเอกสารปลอม และพยายามฟอกเงินผ่านอสังหาริมทรัพย์
    Jian Wen ผู้ช่วยของ Qian ถูกจำคุก 6 ปี 8 เดือน และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สิน £3.1 ล้าน
    การสืบสวนใช้เวลานานกว่า 7 ปี และมีความร่วมมือระหว่าง UK และจีน
    คดีนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นความสำเร็จของทีมอาชญากรรมเศรษฐกิจของ Met Police

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Bitcoin มีราคาผันผวนสูง ทำให้มูลค่าการยึดเปลี่ยนแปลงตามเวลา
    คดีนี้เปรียบเทียบกับ “Cryptoqueen” Dr. Ruja Ignatova ผู้หลอกลงทุนใน OneCoin
    การฟอกเงินผ่านคริปโตมักใช้วิธีซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์หรูหรา
    การยึดคริปโตต้องใช้เทคนิคพิเศษในการเข้าถึง wallet และตรวจสอบ blockchain
    หลายประเทศเริ่มออกกฎหมายควบคุมการฟอกเงินผ่านคริปโตอย่างเข้มงวด

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การฟอกเงินผ่านคริปโตยังเป็นช่องโหว่ที่ตรวจสอบได้ยากในหลายประเทศ
    การหลบหนีข้ามประเทศด้วยเอกสารปลอมยังคงเป็นปัญหาในระบบตรวจคนเข้าเมือง
    การซื้อสินทรัพย์หรูโดยไม่มีแหล่งเงินชัดเจนอาจเป็นสัญญาณของการฟอกเงิน
    การยึดคริปโตต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศและการพิสูจน์แหล่งที่มาอย่างละเอียด
    หากไม่มีการควบคุมที่ดี การฟอกเงินผ่านคริปโตอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/usd7-3-billion-worth-of-cryptocurrency-recovered-from-newly-convicted-bitcoin-queen-funds-from-fraudster-thought-to-be-the-largest-seizure-to-date
    💰 “Bitcoin Queen ถูกตัดสินคดีฉ้อโกง — ยึดคริปโตมูลค่า $7.3 พันล้าน กลายเป็นการยึดครั้งใหญ่ที่สุดในโลก” หลังจากหลบหนีมานานกว่า 5 ปี Zhimin Qian หรือที่รู้จักในชื่อ “Yadi Zhang” ถูกศาล Southwark Crown Court ในสหราชอาณาจักรตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงิน โดยเธอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในประเทศจีนระหว่างปี 2014–2017 และนำเงินที่ได้ไปแปลงเป็น Bitcoin เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ตำรวจนครบาลลอนดอน (Met Police) เปิดเผยว่าได้ยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญจาก Qian ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และเป็นหนึ่งในคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร หลังจากหลบหนีออกจากจีนด้วยเอกสารปลอมในปี 2018 Qian เข้าสหราชอาณาจักรและพยายามฟอกเงินผ่านการซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้ช่วยคือ Jian Wen อดีตพนักงานร้านอาหารที่ต่อมาใช้ชีวิตหรูหราในบ้านเช่าหลายล้านปอนด์ และซื้ออสังหาริมทรัพย์ในดูไบมูลค่ากว่า £500,000 Wen ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี 8 เดือนเมื่อปีที่แล้ว และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สินมูลค่ากว่า £3.1 ล้านภายใน 3 เดือน มิฉะนั้นจะถูกเพิ่มโทษอีก 7 ปี คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนกว่า 7 ปี โดยมีการร่วมมือระหว่างตำรวจอังกฤษ หน่วยงานอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA) และเจ้าหน้าที่จีนในเมืองเทียนจินและปักกิ่ง เพื่อรวบรวมหลักฐานจากหลายประเทศ และตรวจสอบเอกสารนับพันฉบับ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Zhimin Qian ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงและฟอกเงินในสหราชอาณาจักร ➡️ เธอหลอกลวงเหยื่อกว่า 128,000 รายในจีนระหว่างปี 2014–2017 ➡️ ตำรวจยึด Bitcoin จำนวน 61,000 เหรียญ มูลค่ารวมกว่า $7.3 พันล้าน ➡️ ถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในโลก และคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดใน UK ➡️ Qian เข้าสหราชอาณาจักรในปี 2018 ด้วยเอกสารปลอม และพยายามฟอกเงินผ่านอสังหาริมทรัพย์ ➡️ Jian Wen ผู้ช่วยของ Qian ถูกจำคุก 6 ปี 8 เดือน และถูกสั่งให้คืนทรัพย์สิน £3.1 ล้าน ➡️ การสืบสวนใช้เวลานานกว่า 7 ปี และมีความร่วมมือระหว่าง UK และจีน ➡️ คดีนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นความสำเร็จของทีมอาชญากรรมเศรษฐกิจของ Met Police ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Bitcoin มีราคาผันผวนสูง ทำให้มูลค่าการยึดเปลี่ยนแปลงตามเวลา ➡️ คดีนี้เปรียบเทียบกับ “Cryptoqueen” Dr. Ruja Ignatova ผู้หลอกลงทุนใน OneCoin ➡️ การฟอกเงินผ่านคริปโตมักใช้วิธีซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์หรูหรา ➡️ การยึดคริปโตต้องใช้เทคนิคพิเศษในการเข้าถึง wallet และตรวจสอบ blockchain ➡️ หลายประเทศเริ่มออกกฎหมายควบคุมการฟอกเงินผ่านคริปโตอย่างเข้มงวด ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ การฟอกเงินผ่านคริปโตยังเป็นช่องโหว่ที่ตรวจสอบได้ยากในหลายประเทศ ⛔ การหลบหนีข้ามประเทศด้วยเอกสารปลอมยังคงเป็นปัญหาในระบบตรวจคนเข้าเมือง ⛔ การซื้อสินทรัพย์หรูโดยไม่มีแหล่งเงินชัดเจนอาจเป็นสัญญาณของการฟอกเงิน ⛔ การยึดคริปโตต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศและการพิสูจน์แหล่งที่มาอย่างละเอียด ⛔ หากไม่มีการควบคุมที่ดี การฟอกเงินผ่านคริปโตอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/usd7-3-billion-worth-of-cryptocurrency-recovered-from-newly-convicted-bitcoin-queen-funds-from-fraudster-thought-to-be-the-largest-seizure-to-date
    0 Comments 0 Shares 478 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว”
    ตอนที่ 3 “นกหัวเอียง”
    ตุรกีเหมือนเป็นลูกครึ่ง ครึ่งฝรั่ง ครึ่งอาหรับ อยู่ที่ว่าตุรกีจะเอียงหัวไปทางไหน เอียงหัวไปทางซ้าย ก็กลายเป็นพวกฝรั่ง เอียงหัวไปทางขวา ก็กลายเป็นพวกอาหรับ แต่อเมริกาบอกตุรกีอย่างเอียงหัวไปซ้ายที ขวาที บ่อยนัก อเมริกาเวียนหัว
    อเมริกาบอกว่า แม้ตุรกีจะเป็นเพื่อนสนิทมิตรใกล้ แต่ตุรกีมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ซึ่งเหมือนเพื่อนบางคนของอเมริกาในยุโรป (ใครนะ ? )
    ในรายงานวิเคราะห์ของ Council on Foreign Relations Report No. 69 ซึ่งทำโดยคุณนาย Madeline K. Albright (อดีต รมว.ต่างประเทศอเมริกา สมัยนายบุช (ลูก) และพวก) อเมริกายอมรับว่า ความจริงแล้ว ตุรกีไม่เหมือนประเทศใดในโลก ! เป็นทั้งเพื่อนสนิทรู้ใจสาระพัดของอเมริกา ขณะเดียวกัน ก็ทำให้หัวอกอเมริกากลัดหนอง ได้อยู่หลายครั้งเช่นเดียวกัน และมันจะเป็นอยู่เช่นนี้ตลอดไป เพราะสาเหตุลึก ๆ ของความกลัดหนองนี้มาจาก ความไม่ไว้วางใจ ซึ่งกันและกันอย่างแท้จริงของทั้ง 2 ฝ่าย !
    แม้จะคบกันมา 60 ปีแล้ว ร่วมกิจการบนดินใต้ดินกันมาสาระพัด อเมริกาก็ยังอ่านตุรกีไม่ขาด ว่าตกลงตุรกีเป็นนกสองหัวหรือไม่ หรือตุรกีเป็นเพียงลูกครึ่ง ซึ่งมีทั้งความเป็นยุโรป และอาหรับอยู่ในตัว ในขณะที่อเมริกาไม่มีครึ่งไหนอยู่ในตัวเลย แล้วจะเข้าใจหัวอกของคนครึ่งลูกหรือเต็มใบได้อย่างไร
(ไม่เหมือนสมันน้อยนะ 60 ปีก่อน ว่านอนสอนง่าย ให้เดินต๊อก ๆ ตามยังไง เดี๋ยวนี้ก็ยังเดินตามเหมือนเดิม ไม่มีปากไม่มีเสียง น่ารักเสียไม่มี)
    สงครามเย็นจบไปแล้ว แต่หมากล้อมของอเมริกาดูเหมือนจะยังไม่จบ แล้วตุรกีเล่า ยังเป็นหมากให้อเมริกาเดินตามใจชอบเหมือนเดิม ๆ อยู่หรือเปล่า ตกลงหัวของตุรกีอยู่ทางไหนกันแน่ อเมริกาเริ่มแสดงอาการทวงบุญคุณ และตุรกีก็เริ่มแสดงอาการ บุญคุณใช้หมดแล้ว…หรือยังครับนายท่าน?
    ส่วนรายงาน CRS ฉบับวันที่ 27 มี.ค. 2014 บอกว่าตุรกี เริ่มมีการเปลี่ยนท่าที ลดการพึ่งพาอเมริกาลงไปหลายส่วน อาการแบบนี้แปลว่าอะไร เบื่อจะเล่นเป็นตัวประกอบแล้วหรือไง อยากเล่นเป็นตัวเอกบ้างละซิท่า
    อเมริกาตั้งความหวังไว้ว่า เมื่ออเมริกาประกาศ (ลวงโลกว่า) ถอนทหารจาก Iraq และ Afghanistan แล้ว ตุรกีจะต้องเป็นผู้รับไม้ไปทำการแทนต่อ หน้าฉากอเมริกาเล่นบทถอน แต่หลังฉาก ให้ตุรกีเล่นบทเข้าไปคุมพื้นที่แทน ! นายท่านมัวแต่ให้กระผมเล่นอยู่แต่หลังฉาก แล้วอย่างนี้ เมื่อไหร่ผมจะได้เป็นตัวเอกซะ ที เล่นหลังฉากมา 60 ปี แล้วนะขอรับ (โถ หัวอกเดียวกับสมันน้อยเลย ดีว่าสมันน้อย ไม่ต้องไปเก็บกวาดนอกบ้าน แค่เดินตามเขาชี้นิ้วในบ้านเราต๊อกๆ มา 60 ปี ประชาชี ก็ช้ำพอแล้ว พอหรือยัง พอหรือยัง)
    โดยภูมิประเทศที่ตั้ง ทำให้ตุรกีมีโอกาสติดต่อคบค้ากับ หลายประเทศ ไม่ว่าฝั่งยุโรป หรือฝั่งอาหรับ ประเทศที่ตุรกี คบค้ามานาน คือ อิหร่าน และรัสเซีย ทั้ง 3 ประเทศผูกพันธ์กัน ทั้งทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และมีส่วนผสมทางวัฒนธรรม การค้า ภาษา และศาสนาอีกด้วย แม้ว่าหลายครั้ง สัมพันธ์ 3 ประเทศ จะมีตกหลุม ตกรางไปบ้าง แต่ลึก ๆ แล้ว 3 ประเทศนี้ตัดกันไม่ง่าย ขายกันไม่ขาด ตุรกีไม่ปิดบัง มันมีมานานแล้วเพื่อนเก่าน่ะ เขาพวกมีประวัติศาสตร์ มีวัฒนธรรมยาวนาน เป็นอดีตจักรวรรดิด้วยกัน ทั้ง 3 ประเทศ ไม่ใช่ประเทศเกิดใหม่เพิ่งฉลองอิสรภาพ แต่เพื่อนใหม่อย่างอเมริกา ตุรกีก็คบ และดูเหมือนจะไม่สนใจว่า จะทำให้อเมริการู้สึกอย่างไร อเมริการู้สึกและไม่ใช่รู้สึกระดับธรรมดา อเมริกาจับตาส่องกล้องตามสัมพันธ์ของ 3 สหาย ตลอดทุกกระเบียดนิ้ว
    อเมริกายังจำได้ไม่มีวันลืม เมื่อปี ค.ศ. 2010 เกี่ยวกับเรื่อง Israel กับกองเรือที่ Gaza ที่ตุรกีโหวตสวนอเมริกา แต่เรื่องนี้ยังเล็ก สำหรับอเมริกา เมื่อเทียบกับอีกเรื่องในปีเดียวกัน เมื่อ UN Security Council ลงมติดให้สมาชิกคว่ำบาตรอิหร่าน แต่ตุรกี (และบราซิล พร้อมใจกัน) ลงมติสวนทางกับอเมริกา ทั้ง 2 เรื่อง เป็นประเด็นทางยุทธศาสตร์สำคัญของอเมริกาในภูมิภาคนี้
    เหตุการณ์วิกฤติที่ Crimea และ Ukraine ก็เป็นอีกกรณีที่ทำให้อเมริกาจับตาดูแบบไม่กระพริบว่าจะมีส่วนกระทบ หรือเปลี่ยนแปลงสัมพันธ์ระหว่างตุรกี กับรัสเซีย ในทางใดบ้างหรือไม่
    นอกจากนี้ในสายตาของอเมริกา การที่ตุรกีทำท่าออกหน้าเรื่อง Syria เหมือนจะยกทัพไปปราม รัฐบาล Asrad แต่เอาจริงก็แค่ส่งเสบียง ส่งกองกำลัง แบบตีปี๊บให้ดังมากกว่า เป็นไปได้ว่าตุรกีหวังจะให้อเมริกา และ NATO ออกหน้า (อย่าที่แอบคุยกันไว้) แต่เมื่อรัฐบาล Obama กลับลำถอยฉาก ออกมาจาก Syria ตุรกีก็เลยหยุดดูบ้าง ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว อเมริกาหวังจะให้ตุรกีเดินหน้าต่อไป
    ตุรกีหยุดเพราะอเมริกาถอย หรือตุรกีหยุด เพราะรัสเซียและอิหร่าน ไม่(เคย) เดินหน้าเข้าไปขยี้ Syria อเมริกาจึงยังจับตาดูตุรกีต่อไป
    อิหร่านและรัสเซีย เป็นคู่ค้าที่สำคัญของตุรกีในด้านพลังงาน เมื่ออเมริกาและสหภาพยุโรป ประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน ผู้ที่เดือดร้อนจนเหงื่อตกคือตุรกี ตุรกีพึ่งน้ำมันและแก๊ซจากอิหร่าน ห้ามค้าขายกับอิหร่านแล้วจะทำอย่างไร ตุรกีถาม อเมริกาบอก ก็ไม่ต้องซื้อ พูดง่ายนะ
    ตุรกีหน้ามืด หรือ อยากลองของกับอเมริกา หรือนี่คือ ตุรกี “ตัวจริง”
    แม้อเมริกาจะบอกให้ตุรกีเลิกคบกับอิหร่าน แต่ตุรกี โดยรัฐบาล AKP ของนาย Erdogan ยังเดินหน้า ซื้อขายน้ำมันและแก๊ซกับอิหร่านต่อไป ทำทั้งแบบเปิดเผยและปกปิด เพื่อเลี่ยงกฎเกณฑ์การคว่ำบาตรของอเมริกาและสหภาพยุโรป ส่วนหนึ่งที่ตุรกีทำคือ ทำผ่าน Halk Bankasi (People’s Bank) หรือที่เรียกว่า HalkBak ซึ่งเป็นของรัฐบาล อันเป็นต้นเหตุของการถูกกล่าวหาว่ารัฐบาลฉ้อโกง
    เมื่ออิหร่านขายน้ำมันและแก๊สให้ตุรกี ตุรกีจะจ่ายค่าซื้อขายผ่าน Halk Bank โดย Bank ซื้อทองคำ จ่ายเป็นค่าซื้อขายให้อิหร่านอีกต่อ แทนการจ่ายด้วยเงินตรา เพราะอิหร่านถูกห้ามการใช้เงินโอน ผ่านระบบเงินโอนระหว่างประเทศ swift International money system ตามการคว่ำบาตร ตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 2012 ตุรกีเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดกฎการคว่ำบาตร เพราะไม่มีข้อห้ามไม่ให้ห้ามซื้อขาย แร่ธาตุมีค่ากับอิหร่าน
    ไม่นานหลังจากนั้นก็เริ่มมีข่าวว่า Halk Bank และรัฐบาลตุรกีร่วมกันฉ้อโกง ข่าวนี้เริ่มแพร่จากบุคคลในระดับสูงในสังคมตุรกี โดยผู้ที่มีส่วนในการบริหารประเทศตุรกีเองนั่นแหละ เรียกว่าเริ่มนินทากันในระดับสูงก่อนทำข่าวหลุดให้สื่อประโคม !
    เศรษฐกิจของตุรกี เริ่มมีผลกระทบจากการคว่ำบาตรอิหร่าน ทั้งหมดก็เพราะการเดินนโยบายโง่บริสุทธิ์ (หรือหนอนบ่อนไส้ !) ของรัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกี นาย Ahmet Davutoglu ที่แนะนำรัฐบาล AKP ให้ใช้นโยบาย Neo-Ottoman เราต้องเป็นตัวอย่างที่ดี เป็น Turkish model Neo-Ottoman ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตันและ NATO
    อันที่จริงตุรกีไม่ได้ใช้สิทธิในฐานะสมาชิก NATOคัดค้าน เมื่อ NATO มีแผนจะถล่ม Libya ซึ่งก็เป็นมิตรเก่าของตุรกีเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ลามไปถึง Syria เมื่อตุรกีเดินเข้าไปถล่ม Syria ตุรกีรู้หรือไม่ว่ามันเป็นกับดัก ที่มีเหยื่อคอยอยู่แล้วหลายตัว เช่น Libya, Syria, Iraq และ Lebanon และจะทำให้ตุรกีเดินห่างจากมิตรเก่าแก่ เช่น อิหร่าน และรัสเซีย ที่ดูเหมือนจะผูกพันธ์กัน แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ
    และตุรกีก็ดูเหมือนไม่ฉุกใจคิด เลยว่า ทำไมรัสเซีย อิหร่าน และจีน จึงรวมตัวกัน จับมือคัดค้าน การถล่ม Syria นอกจากไม่ฉุกใจคิดแล้ว ตุรกี ยังเดินนำหน้าสู่กับดักด้วยตนเอง ด้วยการสนับสนุนทั้งด้านอาวุธ การฝึก การเงิน ให้แก่กบฎซีเรียอีกด้วย นี่เป็นการคิดดอกเบี้ยทบต้นของอเมริกากับตุรกี สำหรับเงินที่ลงทุนไป
    หรือตุรกี กำลังเล่นอะไร?
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
19 กค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว” ตอนที่ 3 “นกหัวเอียง” ตุรกีเหมือนเป็นลูกครึ่ง ครึ่งฝรั่ง ครึ่งอาหรับ อยู่ที่ว่าตุรกีจะเอียงหัวไปทางไหน เอียงหัวไปทางซ้าย ก็กลายเป็นพวกฝรั่ง เอียงหัวไปทางขวา ก็กลายเป็นพวกอาหรับ แต่อเมริกาบอกตุรกีอย่างเอียงหัวไปซ้ายที ขวาที บ่อยนัก อเมริกาเวียนหัว อเมริกาบอกว่า แม้ตุรกีจะเป็นเพื่อนสนิทมิตรใกล้ แต่ตุรกีมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ซึ่งเหมือนเพื่อนบางคนของอเมริกาในยุโรป (ใครนะ ? ) ในรายงานวิเคราะห์ของ Council on Foreign Relations Report No. 69 ซึ่งทำโดยคุณนาย Madeline K. Albright (อดีต รมว.ต่างประเทศอเมริกา สมัยนายบุช (ลูก) และพวก) อเมริกายอมรับว่า ความจริงแล้ว ตุรกีไม่เหมือนประเทศใดในโลก ! เป็นทั้งเพื่อนสนิทรู้ใจสาระพัดของอเมริกา ขณะเดียวกัน ก็ทำให้หัวอกอเมริกากลัดหนอง ได้อยู่หลายครั้งเช่นเดียวกัน และมันจะเป็นอยู่เช่นนี้ตลอดไป เพราะสาเหตุลึก ๆ ของความกลัดหนองนี้มาจาก ความไม่ไว้วางใจ ซึ่งกันและกันอย่างแท้จริงของทั้ง 2 ฝ่าย ! แม้จะคบกันมา 60 ปีแล้ว ร่วมกิจการบนดินใต้ดินกันมาสาระพัด อเมริกาก็ยังอ่านตุรกีไม่ขาด ว่าตกลงตุรกีเป็นนกสองหัวหรือไม่ หรือตุรกีเป็นเพียงลูกครึ่ง ซึ่งมีทั้งความเป็นยุโรป และอาหรับอยู่ในตัว ในขณะที่อเมริกาไม่มีครึ่งไหนอยู่ในตัวเลย แล้วจะเข้าใจหัวอกของคนครึ่งลูกหรือเต็มใบได้อย่างไร
(ไม่เหมือนสมันน้อยนะ 60 ปีก่อน ว่านอนสอนง่าย ให้เดินต๊อก ๆ ตามยังไง เดี๋ยวนี้ก็ยังเดินตามเหมือนเดิม ไม่มีปากไม่มีเสียง น่ารักเสียไม่มี) สงครามเย็นจบไปแล้ว แต่หมากล้อมของอเมริกาดูเหมือนจะยังไม่จบ แล้วตุรกีเล่า ยังเป็นหมากให้อเมริกาเดินตามใจชอบเหมือนเดิม ๆ อยู่หรือเปล่า ตกลงหัวของตุรกีอยู่ทางไหนกันแน่ อเมริกาเริ่มแสดงอาการทวงบุญคุณ และตุรกีก็เริ่มแสดงอาการ บุญคุณใช้หมดแล้ว…หรือยังครับนายท่าน? ส่วนรายงาน CRS ฉบับวันที่ 27 มี.ค. 2014 บอกว่าตุรกี เริ่มมีการเปลี่ยนท่าที ลดการพึ่งพาอเมริกาลงไปหลายส่วน อาการแบบนี้แปลว่าอะไร เบื่อจะเล่นเป็นตัวประกอบแล้วหรือไง อยากเล่นเป็นตัวเอกบ้างละซิท่า อเมริกาตั้งความหวังไว้ว่า เมื่ออเมริกาประกาศ (ลวงโลกว่า) ถอนทหารจาก Iraq และ Afghanistan แล้ว ตุรกีจะต้องเป็นผู้รับไม้ไปทำการแทนต่อ หน้าฉากอเมริกาเล่นบทถอน แต่หลังฉาก ให้ตุรกีเล่นบทเข้าไปคุมพื้นที่แทน ! นายท่านมัวแต่ให้กระผมเล่นอยู่แต่หลังฉาก แล้วอย่างนี้ เมื่อไหร่ผมจะได้เป็นตัวเอกซะ ที เล่นหลังฉากมา 60 ปี แล้วนะขอรับ (โถ หัวอกเดียวกับสมันน้อยเลย ดีว่าสมันน้อย ไม่ต้องไปเก็บกวาดนอกบ้าน แค่เดินตามเขาชี้นิ้วในบ้านเราต๊อกๆ มา 60 ปี ประชาชี ก็ช้ำพอแล้ว พอหรือยัง พอหรือยัง) โดยภูมิประเทศที่ตั้ง ทำให้ตุรกีมีโอกาสติดต่อคบค้ากับ หลายประเทศ ไม่ว่าฝั่งยุโรป หรือฝั่งอาหรับ ประเทศที่ตุรกี คบค้ามานาน คือ อิหร่าน และรัสเซีย ทั้ง 3 ประเทศผูกพันธ์กัน ทั้งทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และมีส่วนผสมทางวัฒนธรรม การค้า ภาษา และศาสนาอีกด้วย แม้ว่าหลายครั้ง สัมพันธ์ 3 ประเทศ จะมีตกหลุม ตกรางไปบ้าง แต่ลึก ๆ แล้ว 3 ประเทศนี้ตัดกันไม่ง่าย ขายกันไม่ขาด ตุรกีไม่ปิดบัง มันมีมานานแล้วเพื่อนเก่าน่ะ เขาพวกมีประวัติศาสตร์ มีวัฒนธรรมยาวนาน เป็นอดีตจักรวรรดิด้วยกัน ทั้ง 3 ประเทศ ไม่ใช่ประเทศเกิดใหม่เพิ่งฉลองอิสรภาพ แต่เพื่อนใหม่อย่างอเมริกา ตุรกีก็คบ และดูเหมือนจะไม่สนใจว่า จะทำให้อเมริการู้สึกอย่างไร อเมริการู้สึกและไม่ใช่รู้สึกระดับธรรมดา อเมริกาจับตาส่องกล้องตามสัมพันธ์ของ 3 สหาย ตลอดทุกกระเบียดนิ้ว อเมริกายังจำได้ไม่มีวันลืม เมื่อปี ค.ศ. 2010 เกี่ยวกับเรื่อง Israel กับกองเรือที่ Gaza ที่ตุรกีโหวตสวนอเมริกา แต่เรื่องนี้ยังเล็ก สำหรับอเมริกา เมื่อเทียบกับอีกเรื่องในปีเดียวกัน เมื่อ UN Security Council ลงมติดให้สมาชิกคว่ำบาตรอิหร่าน แต่ตุรกี (และบราซิล พร้อมใจกัน) ลงมติสวนทางกับอเมริกา ทั้ง 2 เรื่อง เป็นประเด็นทางยุทธศาสตร์สำคัญของอเมริกาในภูมิภาคนี้ เหตุการณ์วิกฤติที่ Crimea และ Ukraine ก็เป็นอีกกรณีที่ทำให้อเมริกาจับตาดูแบบไม่กระพริบว่าจะมีส่วนกระทบ หรือเปลี่ยนแปลงสัมพันธ์ระหว่างตุรกี กับรัสเซีย ในทางใดบ้างหรือไม่ นอกจากนี้ในสายตาของอเมริกา การที่ตุรกีทำท่าออกหน้าเรื่อง Syria เหมือนจะยกทัพไปปราม รัฐบาล Asrad แต่เอาจริงก็แค่ส่งเสบียง ส่งกองกำลัง แบบตีปี๊บให้ดังมากกว่า เป็นไปได้ว่าตุรกีหวังจะให้อเมริกา และ NATO ออกหน้า (อย่าที่แอบคุยกันไว้) แต่เมื่อรัฐบาล Obama กลับลำถอยฉาก ออกมาจาก Syria ตุรกีก็เลยหยุดดูบ้าง ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว อเมริกาหวังจะให้ตุรกีเดินหน้าต่อไป ตุรกีหยุดเพราะอเมริกาถอย หรือตุรกีหยุด เพราะรัสเซียและอิหร่าน ไม่(เคย) เดินหน้าเข้าไปขยี้ Syria อเมริกาจึงยังจับตาดูตุรกีต่อไป อิหร่านและรัสเซีย เป็นคู่ค้าที่สำคัญของตุรกีในด้านพลังงาน เมื่ออเมริกาและสหภาพยุโรป ประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน ผู้ที่เดือดร้อนจนเหงื่อตกคือตุรกี ตุรกีพึ่งน้ำมันและแก๊ซจากอิหร่าน ห้ามค้าขายกับอิหร่านแล้วจะทำอย่างไร ตุรกีถาม อเมริกาบอก ก็ไม่ต้องซื้อ พูดง่ายนะ ตุรกีหน้ามืด หรือ อยากลองของกับอเมริกา หรือนี่คือ ตุรกี “ตัวจริง” แม้อเมริกาจะบอกให้ตุรกีเลิกคบกับอิหร่าน แต่ตุรกี โดยรัฐบาล AKP ของนาย Erdogan ยังเดินหน้า ซื้อขายน้ำมันและแก๊ซกับอิหร่านต่อไป ทำทั้งแบบเปิดเผยและปกปิด เพื่อเลี่ยงกฎเกณฑ์การคว่ำบาตรของอเมริกาและสหภาพยุโรป ส่วนหนึ่งที่ตุรกีทำคือ ทำผ่าน Halk Bankasi (People’s Bank) หรือที่เรียกว่า HalkBak ซึ่งเป็นของรัฐบาล อันเป็นต้นเหตุของการถูกกล่าวหาว่ารัฐบาลฉ้อโกง เมื่ออิหร่านขายน้ำมันและแก๊สให้ตุรกี ตุรกีจะจ่ายค่าซื้อขายผ่าน Halk Bank โดย Bank ซื้อทองคำ จ่ายเป็นค่าซื้อขายให้อิหร่านอีกต่อ แทนการจ่ายด้วยเงินตรา เพราะอิหร่านถูกห้ามการใช้เงินโอน ผ่านระบบเงินโอนระหว่างประเทศ swift International money system ตามการคว่ำบาตร ตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 2012 ตุรกีเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดกฎการคว่ำบาตร เพราะไม่มีข้อห้ามไม่ให้ห้ามซื้อขาย แร่ธาตุมีค่ากับอิหร่าน ไม่นานหลังจากนั้นก็เริ่มมีข่าวว่า Halk Bank และรัฐบาลตุรกีร่วมกันฉ้อโกง ข่าวนี้เริ่มแพร่จากบุคคลในระดับสูงในสังคมตุรกี โดยผู้ที่มีส่วนในการบริหารประเทศตุรกีเองนั่นแหละ เรียกว่าเริ่มนินทากันในระดับสูงก่อนทำข่าวหลุดให้สื่อประโคม ! เศรษฐกิจของตุรกี เริ่มมีผลกระทบจากการคว่ำบาตรอิหร่าน ทั้งหมดก็เพราะการเดินนโยบายโง่บริสุทธิ์ (หรือหนอนบ่อนไส้ !) ของรัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกี นาย Ahmet Davutoglu ที่แนะนำรัฐบาล AKP ให้ใช้นโยบาย Neo-Ottoman เราต้องเป็นตัวอย่างที่ดี เป็น Turkish model Neo-Ottoman ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตันและ NATO อันที่จริงตุรกีไม่ได้ใช้สิทธิในฐานะสมาชิก NATOคัดค้าน เมื่อ NATO มีแผนจะถล่ม Libya ซึ่งก็เป็นมิตรเก่าของตุรกีเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ลามไปถึง Syria เมื่อตุรกีเดินเข้าไปถล่ม Syria ตุรกีรู้หรือไม่ว่ามันเป็นกับดัก ที่มีเหยื่อคอยอยู่แล้วหลายตัว เช่น Libya, Syria, Iraq และ Lebanon และจะทำให้ตุรกีเดินห่างจากมิตรเก่าแก่ เช่น อิหร่าน และรัสเซีย ที่ดูเหมือนจะผูกพันธ์กัน แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อย ๆ และตุรกีก็ดูเหมือนไม่ฉุกใจคิด เลยว่า ทำไมรัสเซีย อิหร่าน และจีน จึงรวมตัวกัน จับมือคัดค้าน การถล่ม Syria นอกจากไม่ฉุกใจคิดแล้ว ตุรกี ยังเดินนำหน้าสู่กับดักด้วยตนเอง ด้วยการสนับสนุนทั้งด้านอาวุธ การฝึก การเงิน ให้แก่กบฎซีเรียอีกด้วย นี่เป็นการคิดดอกเบี้ยทบต้นของอเมริกากับตุรกี สำหรับเงินที่ลงทุนไป หรือตุรกี กำลังเล่นอะไร? สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
19 กค. 2557
    0 Comments 0 Shares 523 Views 0 Reviews
  • ♣ รัฐบาลนายกฯหนู ดันคนถูกแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงเป็นรมช.คลัง แถมพาไปเย้ยต่อหน้านายแบงก์ที่ถูกโกง ในงานพบปะกับสมาคมธนาคารไท
    #7ดอกจิก
    ♣ รัฐบาลนายกฯหนู ดันคนถูกแจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงเป็นรมช.คลัง แถมพาไปเย้ยต่อหน้านายแบงก์ที่ถูกโกง ในงานพบปะกับสมาคมธนาคารไท #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ล่าสุดสั่งรัฐมนตรียุติธรรรมสหรัฐฯ แพม บอนดี เร่งดำเนินคดีเอาผิดศัตรูทางการเมืองของตัวเองทั้ง อดีตผอ.FBI เจมส์ โคมีย์ อัยการรัฐนิวยอร์กที่เคยเล่นงานบริษัท Trump Organization ในคดีฉ้อโกงธนาคาร และสว.พรรคเดโมแครตที่เดินหน้าการไต่สวนถอดถอนจากตำแหน่งสมัยแรก กลายเป็นผู้นำสหรัฐฯที่ใช้กระทรวงยุติธรรมที่ต้องเป็นอิสระเป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายตรงข้าม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000090830

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ล่าสุดสั่งรัฐมนตรียุติธรรรมสหรัฐฯ แพม บอนดี เร่งดำเนินคดีเอาผิดศัตรูทางการเมืองของตัวเองทั้ง อดีตผอ.FBI เจมส์ โคมีย์ อัยการรัฐนิวยอร์กที่เคยเล่นงานบริษัท Trump Organization ในคดีฉ้อโกงธนาคาร และสว.พรรคเดโมแครตที่เดินหน้าการไต่สวนถอดถอนจากตำแหน่งสมัยแรก กลายเป็นผู้นำสหรัฐฯที่ใช้กระทรวงยุติธรรมที่ต้องเป็นอิสระเป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายตรงข้าม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000090830 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 626 Views 0 Reviews
  • ปลุกการอ่านหนังสือพิมพ์ ขายในเซเว่นฯ 1,712 สาขา

    ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล พฤติกรรมการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนไป หนังสือพิมพ์ที่มีอายุในไทยมากกว่า 180 ปี นับตั้งแต่หนังสือพิมพ์ The Bangkok Recorder ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2387 ถูกแทนที่ด้วยสื่อออนไลน์ เมื่อคนรุ่นใหม่แทบไม่รู้จักหนังสือพิมพ์ ส่วนคนรุ่นเก่าอ่านน้อยลงเพราะหาซื้อยาก ปัจจุบันเอเย่นต์หรือตัวแทนจำหน่ายต่างเลิกกิจการ เหลือจุดจำหน่ายหนังสือพิมพ์น้อยลง ทำให้การซื้อหนังสือพิมพ์ทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของบ้านเมือง ถึงกระนั้น ยังมีความพยายามของผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ส่งเสริมการอ่านในรูปแบบต่างๆ

    สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ร่วมกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) จัดโครงการจุดจำหน่ายหนังสือพิมพ์ ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น 1,712 สาขา ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ยังชื่นชอบบริโภคข่าวสารจากสื่อสิ่งพิมพ์ ส่งเสริมการอ่าน สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมทั้งเอเจนซีโฆษณาได้รับทราบว่าสามารถหาซื้อหนังสือพิมพ์ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นได้ โดยมีผู้ประกอบการหนังสือพิมพ์ 7 ฉบับจาก 5 ค่ายเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เดลินิวส์ มติชน ข่าวสด ข่าวหุ้นธุรกิจ สตาร์ซ็อคเกอร์ และสปอร์ตพูล

    นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ปรับตัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเนื้อหาที่แตกต่าง ลุ่มลึก สร้างสรรค์ จุดแข็งสำคัญคือจับต้องได้ มีกองบรรณาธิการที่เข้มแข็ง คอยคัดและกลั่นกรองเนื้อหาก่อนนำเสนอ ช่วยป้องกันข่าวลวง ข่าวเท็จ หรือเฟกนิวส์ รวมถึงปฏิบัติตามกรอบจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชน ทำให้เนื้อหาการนำเสนอ การใช้ภาษา และอื่นๆ เป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสม โครงการนี้จะช่วยให้คนรักการอ่านหนังสือพิมพ์ สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การทำหน้าที่สื่อมวลชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

    ที่ผ่านมาสภาการสื่อมวลชนฯ ได้จัดโครงการสร้างเสริมทักษะเท่าทันสื่อเพื่อเด็กด้วยหนังสือพิมพ์ ผ่านโรงเรียน 190 แห่งทั่วประเทศ มีนักเรียนเข้าร่วมกว่า 5,000 คน พร้อมจัดกิจกรรมสร้างเสริมทักษะเท่าทันสื่อเพื่อเด็กด้วยหนังสือพิมพ์ พบว่าสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนมีทักษะการอ่าน การตีความเพิ่มขึ้น มีความสามารถในการอ่านและคิดวิเคราะห์ดีขึ้น และนำความรู้เรื่องการรู้เท่าทันสื่อไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจ รับมือกับข่าวปลอม โฆษณาเกินจริง การฉ้อโกงออนไลน์ กล้าตั้งคำถาม และแสดงความคิดเห็นเพิ่มขึ้น

    #Newskit
    ปลุกการอ่านหนังสือพิมพ์ ขายในเซเว่นฯ 1,712 สาขา ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล พฤติกรรมการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนไป หนังสือพิมพ์ที่มีอายุในไทยมากกว่า 180 ปี นับตั้งแต่หนังสือพิมพ์ The Bangkok Recorder ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2387 ถูกแทนที่ด้วยสื่อออนไลน์ เมื่อคนรุ่นใหม่แทบไม่รู้จักหนังสือพิมพ์ ส่วนคนรุ่นเก่าอ่านน้อยลงเพราะหาซื้อยาก ปัจจุบันเอเย่นต์หรือตัวแทนจำหน่ายต่างเลิกกิจการ เหลือจุดจำหน่ายหนังสือพิมพ์น้อยลง ทำให้การซื้อหนังสือพิมพ์ทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของบ้านเมือง ถึงกระนั้น ยังมีความพยายามของผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ส่งเสริมการอ่านในรูปแบบต่างๆ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ร่วมกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) จัดโครงการจุดจำหน่ายหนังสือพิมพ์ ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น 1,712 สาขา ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ยังชื่นชอบบริโภคข่าวสารจากสื่อสิ่งพิมพ์ ส่งเสริมการอ่าน สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมทั้งเอเจนซีโฆษณาได้รับทราบว่าสามารถหาซื้อหนังสือพิมพ์ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นได้ โดยมีผู้ประกอบการหนังสือพิมพ์ 7 ฉบับจาก 5 ค่ายเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เดลินิวส์ มติชน ข่าวสด ข่าวหุ้นธุรกิจ สตาร์ซ็อคเกอร์ และสปอร์ตพูล นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ปรับตัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเนื้อหาที่แตกต่าง ลุ่มลึก สร้างสรรค์ จุดแข็งสำคัญคือจับต้องได้ มีกองบรรณาธิการที่เข้มแข็ง คอยคัดและกลั่นกรองเนื้อหาก่อนนำเสนอ ช่วยป้องกันข่าวลวง ข่าวเท็จ หรือเฟกนิวส์ รวมถึงปฏิบัติตามกรอบจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชน ทำให้เนื้อหาการนำเสนอ การใช้ภาษา และอื่นๆ เป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสม โครงการนี้จะช่วยให้คนรักการอ่านหนังสือพิมพ์ สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การทำหน้าที่สื่อมวลชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ผ่านมาสภาการสื่อมวลชนฯ ได้จัดโครงการสร้างเสริมทักษะเท่าทันสื่อเพื่อเด็กด้วยหนังสือพิมพ์ ผ่านโรงเรียน 190 แห่งทั่วประเทศ มีนักเรียนเข้าร่วมกว่า 5,000 คน พร้อมจัดกิจกรรมสร้างเสริมทักษะเท่าทันสื่อเพื่อเด็กด้วยหนังสือพิมพ์ พบว่าสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนมีทักษะการอ่าน การตีความเพิ่มขึ้น มีความสามารถในการอ่านและคิดวิเคราะห์ดีขึ้น และนำความรู้เรื่องการรู้เท่าทันสื่อไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจ รับมือกับข่าวปลอม โฆษณาเกินจริง การฉ้อโกงออนไลน์ กล้าตั้งคำถาม และแสดงความคิดเห็นเพิ่มขึ้น #Newskit
    1 Comments 0 Shares 572 Views 0 Reviews
More Results