• กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) บรรลุข้อตกลงในหลักการกับโบอิ้ง ที่จะเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่แห่งนี้หลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่มีบ่อเกิดจาก 2 โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน 737 MAX ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวมกัน 346 ราย ในความเคลื่อนไหวที่สร้างความเจ็บปวดแก่บรรดาครอบครัวเหยื่ออย่างรุนแรง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000048741

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) บรรลุข้อตกลงในหลักการกับโบอิ้ง ที่จะเปิดทางให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่แห่งนี้หลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่มีบ่อเกิดจาก 2 โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบิน 737 MAX ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวมกัน 346 ราย ในความเคลื่อนไหวที่สร้างความเจ็บปวดแก่บรรดาครอบครัวเหยื่ออย่างรุนแรง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000048741 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1116 มุมมอง 0 รีวิว
  • SEC ตั้งข้อหา Unicoin และผู้บริหารฐานฉ้อโกงนักลงทุน

    คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ตั้งข้อหาบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี Unicoin และผู้บริหารระดับสูง 3 คน รวมถึง CEO และประธานกรรมการ Alex Konanykhin ฐานให้ข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด ซึ่งนำไปสู่การระดมทุน กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงของ Unicoin
    ✅ SEC ระบุว่า Unicoin ใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเพื่อดึงดูดนักลงทุน
    - บริษัท ให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับศักยภาพของเหรียญคริปโตและผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ

    ✅ Unicoin ระดมทุนได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย
    - นักลงทุน ถูกชักจูงให้เชื่อว่าเหรียญมีมูลค่ามากกว่าความเป็นจริง

    ✅ Alex Konanykhin และผู้บริหารอีกสองคนถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง
    - SEC กำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและลงโทษผู้กระทำผิด

    ✅ คดีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี
    - นักลงทุน ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

    ✅ SEC ยังคงเพิ่มมาตรการตรวจสอบบริษัทคริปโตเพื่อป้องกันการฉ้อโกง
    - คาดว่า จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัทอื่น ๆ ที่ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/21/sec-charges-unicoin-and-executives-for-fraud
    SEC ตั้งข้อหา Unicoin และผู้บริหารฐานฉ้อโกงนักลงทุน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ตั้งข้อหาบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี Unicoin และผู้บริหารระดับสูง 3 คน รวมถึง CEO และประธานกรรมการ Alex Konanykhin ฐานให้ข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด ซึ่งนำไปสู่การระดมทุน กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงของ Unicoin ✅ SEC ระบุว่า Unicoin ใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเพื่อดึงดูดนักลงทุน - บริษัท ให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับศักยภาพของเหรียญคริปโตและผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ ✅ Unicoin ระดมทุนได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย - นักลงทุน ถูกชักจูงให้เชื่อว่าเหรียญมีมูลค่ามากกว่าความเป็นจริง ✅ Alex Konanykhin และผู้บริหารอีกสองคนถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง - SEC กำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและลงโทษผู้กระทำผิด ✅ คดีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี - นักลงทุน ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ✅ SEC ยังคงเพิ่มมาตรการตรวจสอบบริษัทคริปโตเพื่อป้องกันการฉ้อโกง - คาดว่า จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัทอื่น ๆ ที่ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/21/sec-charges-unicoin-and-executives-for-fraud
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SEC charges Unicoin and executives for fraud
    (Reuters) -The U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) on Wednesday charged cryptocurrency company Unicoin and three of its top executives, including its CEO and Board Chairman Alex Konanykhin, for false and misleading statements that raised more than $100 million from thousands of investors.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท
    ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ
    - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ

    ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ
    - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล

    ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้
    - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน

    ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
    - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว

    ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
    - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทย หุ้นของ UnitedHealth Group Inc. (UNH) ประสบกับการร่วงลงอย่างรุนแรง โดยปิดตลาดที่ราคา 311.38 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงประมาณ 17.79% จากวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบหลายปี
    สาเหตุหลักมาจากการประกาศลาออกอย่างกะทันหันของซีอีโอ Andrew Witty ด้วยเหตุผลส่วนตัว และการที่บริษัทระงับการคาดการณ์ผลประกอบการปี 2025 เนื่องจากต้นทุนทางการแพทย์ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

    นอกจากนี้ UnitedHealth ยังเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ เช่น การถูกฟ้องร้องในคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์ การโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลของผู้ใช้บริการกว่า 190 ล้านราย และการเสียชีวิตของผู้บริหารระดับสูง Brian Thompson ในเหตุการณ์ยิงกันในเดือนธันวาคม 2024

    บริษัทได้แต่งตั้ง Stephen J. Hemsley อดีตซีอีโอที่เคยดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2006–2017 กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน

    ในระยะสั้น แนวโน้มของหุ้น UNH ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงทางกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2026
    เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 ตามเวลาประเทศไทย หุ้นของ UnitedHealth Group Inc. (UNH) ประสบกับการร่วงลงอย่างรุนแรง โดยปิดตลาดที่ราคา 311.38 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงประมาณ 17.79% จากวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบหลายปี สาเหตุหลักมาจากการประกาศลาออกอย่างกะทันหันของซีอีโอ Andrew Witty ด้วยเหตุผลส่วนตัว และการที่บริษัทระงับการคาดการณ์ผลประกอบการปี 2025 เนื่องจากต้นทุนทางการแพทย์ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ UnitedHealth ยังเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ เช่น การถูกฟ้องร้องในคดีฉ้อโกงหลักทรัพย์ การโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อข้อมูลของผู้ใช้บริการกว่า 190 ล้านราย และการเสียชีวิตของผู้บริหารระดับสูง Brian Thompson ในเหตุการณ์ยิงกันในเดือนธันวาคม 2024 บริษัทได้แต่งตั้ง Stephen J. Hemsley อดีตซีอีโอที่เคยดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2006–2017 กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในระยะสั้น แนวโน้มของหุ้น UNH ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงทางกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปี 2026
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • ศาลอาญาเบิกตัว "ทนายตั้ม" ตรวจพยานหลักฐานครั้งที่ 2 คดีฉ้อโกง "เจ๊อ้อย" ศาลอนุญาตให้สืบพยานโจทก์ 15 นัด สืบพยานจำเลย 4 นัด เริ่มสืบพยานครั้งแรก 4 มี.ค.ปีหน้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039763

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ศาลอาญาเบิกตัว "ทนายตั้ม" ตรวจพยานหลักฐานครั้งที่ 2 คดีฉ้อโกง "เจ๊อ้อย" ศาลอนุญาตให้สืบพยานโจทก์ 15 นัด สืบพยานจำเลย 4 นัด เริ่มสืบพยานครั้งแรก 4 มี.ค.ปีหน้า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039763 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 583 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 641 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยเรือนจำพิเศษธนบุรี รับตัว "ไฮโซเก๊" ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ ใส่อุปกรณ์ประคองกระดูกสันหลังจากเหตุตกตึก เฝ้าระวังทำร้ายตัวเอง

    วันนี้ (10 เม.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยการรับตัว นายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล หรือ "นายฮอต" อ้างตัวเป็นไฮโซสร้างโปรไฟล์หรูดูดี หลอกลวงหญิงสาวหลายราย ซึ่งตำรวจ สน.โคกคราม คุมตัว "นายฮอต" ออกจากโรงพยาบาลไปส่งศาลอาญาตลิ่งชัน เนื่องจากมีหมายจับคดีฉ้อโกงปี 64 และมาฝากขังเรือนจำพิเศษธนบุรี ว่า วานนี้ (9 เม.ย.) เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษธนบุรีได้รับตัว นายธัญเทพ ก็มีขั้นตอนปฏิบัติตามระเบียบ ทั้ง ตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจ พิมพ์ลายนิ้วมือ และสอบถามเรื่องโรคประจำตัวแต่ได้ปฏิเสธ

    นางกนกวรรณ กล่าวว่า ก่อนถูกส่งเข้าเรือนจำฯ นายธัญเทพ มีประวัติกระโดดจากตึก 3 ชั้น ตามที่ปรากฎตามข่าวและได้รับการรักษามาก่อนเข้าเรือนจำ จึงตรวจพบแผลถลอกเล็กน้อย ได้ใส่อุปกรณ์ประคองกระดูกสันหลัง ซึ่งเรือนจำฯ อนุญาตให้นำยามารับประทานตามใบรับรองแพทย์ และตอนนี้เจ้าตัวยังลุกเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา เนื่องจากแจ้งว่ามีอาการปวดหลังและขาอ่อนแรง โดยเรือนจำฯ จึงนำตัวไปแยกกักโรคโควิด-19 ไว้ที่อาคารสถานพยาบาล ชั้น 1 เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และในวันนี้จะส่งพบแพทย์ซึ่งเข้าตรวจในเรือนจำทุกวัน เพื่อพิจารณาแนวทางดูแลรักษาต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034259

    #MGROnline #ไฮโซเก๊
    รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยเรือนจำพิเศษธนบุรี รับตัว "ไฮโซเก๊" ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ ใส่อุปกรณ์ประคองกระดูกสันหลังจากเหตุตกตึก เฝ้าระวังทำร้ายตัวเอง • วันนี้ (10 เม.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยการรับตัว นายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล หรือ "นายฮอต" อ้างตัวเป็นไฮโซสร้างโปรไฟล์หรูดูดี หลอกลวงหญิงสาวหลายราย ซึ่งตำรวจ สน.โคกคราม คุมตัว "นายฮอต" ออกจากโรงพยาบาลไปส่งศาลอาญาตลิ่งชัน เนื่องจากมีหมายจับคดีฉ้อโกงปี 64 และมาฝากขังเรือนจำพิเศษธนบุรี ว่า วานนี้ (9 เม.ย.) เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษธนบุรีได้รับตัว นายธัญเทพ ก็มีขั้นตอนปฏิบัติตามระเบียบ ทั้ง ตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจ พิมพ์ลายนิ้วมือ และสอบถามเรื่องโรคประจำตัวแต่ได้ปฏิเสธ • นางกนกวรรณ กล่าวว่า ก่อนถูกส่งเข้าเรือนจำฯ นายธัญเทพ มีประวัติกระโดดจากตึก 3 ชั้น ตามที่ปรากฎตามข่าวและได้รับการรักษามาก่อนเข้าเรือนจำ จึงตรวจพบแผลถลอกเล็กน้อย ได้ใส่อุปกรณ์ประคองกระดูกสันหลัง ซึ่งเรือนจำฯ อนุญาตให้นำยามารับประทานตามใบรับรองแพทย์ และตอนนี้เจ้าตัวยังลุกเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา เนื่องจากแจ้งว่ามีอาการปวดหลังและขาอ่อนแรง โดยเรือนจำฯ จึงนำตัวไปแยกกักโรคโควิด-19 ไว้ที่อาคารสถานพยาบาล ชั้น 1 เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และในวันนี้จะส่งพบแพทย์ซึ่งเข้าตรวจในเรือนจำทุกวัน เพื่อพิจารณาแนวทางดูแลรักษาต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034259 • #MGROnline #ไฮโซเก๊
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาทนายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่าตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์อดีตผู้บริหารและคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับพวก ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในไตรมาส 3/2561 รวมทั้งสิ้น 8คดี ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี นั้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1926/2565 ว่า จำเลยบางคนมีความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา และ/หรือ ความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯจำนวน 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และให้นับโทษต่อจากคคีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565 อีกทั้งพิพากษาลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯ อีก 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และจำคุกกรรมการบริษัทคู่ค้า 1 คน เป็นระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน พร้อมให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565
    “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาทนายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่าตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์อดีตผู้บริหารและคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับพวก ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในไตรมาส 3/2561 รวมทั้งสิ้น 8คดี ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี นั้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1926/2565 ว่า จำเลยบางคนมีความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา และ/หรือ ความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯจำนวน 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และให้นับโทษต่อจากคคีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565 อีกทั้งพิพากษาลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯ อีก 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และจำคุกกรรมการบริษัทคู่ค้า 1 คน เป็นระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน พร้อมให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000028902
    “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000028902
    Like
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 892 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองปราบเปิดปฏิบัติการ "CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำ" รวบบอสจีนหนีคดีฉ้อโกง 1.5 หมื่นล้าน ตั้งแก๊งรับทำบัตรประชาชนปลอมในไทย ซ้ำร่วมมือตำรวจ ตม.อุ้มรีดทรัพย์คนจีนด้วยกัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000021867

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กองปราบเปิดปฏิบัติการ "CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำ" รวบบอสจีนหนีคดีฉ้อโกง 1.5 หมื่นล้าน ตั้งแก๊งรับทำบัตรประชาชนปลอมในไทย ซ้ำร่วมมือตำรวจ ตม.อุ้มรีดทรัพย์คนจีนด้วยกัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000021867 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1325 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลตัดสินจำคุก 28 ปี 7 เดือน "นารา เครปกะเทย" คดีฉ้อโกงกล่องสุ่ม รับสารภาพลดเหลือ 14 ปี ปรับ 7 หมื่นบาท
    https://www.thai-tai.tv/news/17287/
    ศาลตัดสินจำคุก 28 ปี 7 เดือน "นารา เครปกะเทย" คดีฉ้อโกงกล่องสุ่ม รับสารภาพลดเหลือ 14 ปี ปรับ 7 หมื่นบาท https://www.thai-tai.tv/news/17287/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • พวกตั้งตัวเป็น อ.สอนดูพระหลัก..ชี้ตำหนิ สารพัด สุดท้ายจบที่พระหลักล้าน ขายหลักพัน หลักหมื่น ..อยากบอกว่าการเล่านิทาน...เวลาท่านจะขายต่อ .ไม่ง่ายเลย...ถ้าราคาสูง เล่านิทานขายไป โดนคดีฉ้อโกงอีก...ถ้าเจ้าทุกข์เอาเรื่อง..กรณีขอคืน แล้วไม่ได้..
    พวกตั้งตัวเป็น อ.สอนดูพระหลัก..ชี้ตำหนิ สารพัด สุดท้ายจบที่พระหลักล้าน ขายหลักพัน หลักหมื่น ..อยากบอกว่าการเล่านิทาน...เวลาท่านจะขายต่อ .ไม่ง่ายเลย...ถ้าราคาสูง เล่านิทานขายไป โดนคดีฉ้อโกงอีก...ถ้าเจ้าทุกข์เอาเรื่อง..กรณีขอคืน แล้วไม่ได้..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • "mRNA ที่รัก"

    "อัยการสั่งฟ้อง'หมอบุญ'กับพวก คดีฉ้อโกง สั่ง DSI ตามจับอายุความ 15 ปี


    https://www.naewna.com/local/861412
    "mRNA ที่รัก" "อัยการสั่งฟ้อง'หมอบุญ'กับพวก คดีฉ้อโกง สั่ง DSI ตามจับอายุความ 15 ปี https://www.naewna.com/local/861412
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อนรักหักเหลี่ยม ที่มีแววไปรักกันต่อในซังเต
    ทนายตั้ม กําลังเผชิญวิบากกรรม ถล่มใส่นอกจากถูกอัยการสั่งฟ้องเรียบร้อยแล้ว คดีฉ้อโกง พี่อ้อยจตุพร ล่าสุดยังถูกเชือดจากสภาทนายความแห่งประเทศไทย ลงโทษห้ามเป็นทนายความนาน 3 ปี กรณีถูกร้องเรียนเกี่ยวกับคลิปลับผู้กํากับโจ้ เมื่อปี 2564
    นับเป็นคดีแรกในชีวิตของทนายตั้มที่ถูกสภาทนายความสั่งลงโทษแม้จะเป็นการพิจารณาสอบสวนที่ค่อนข้างล่าช้า แต่ก็ตรงตามสํานวนที่ว่า มาช้าดีกว่าไม่มา
    ก็เป็นไปได้ว่าสภาทนายความซึ่งจะกล้าหือกับทนายตั้ม ก็ตอนทนายตั้มหมดสภาพแล้วอย่างในเวลานี้ หากเขายังคงเป็นทนายเซเลบปาก้าอยู่นอกคุก ทคดีนี้อาจล่าช้าไปถึงไหนต่อไหนแต่พอเริ่มมีคดีแรกก็อาจมีคดีที่สองที่สามตามมา
    ทนายตั้มมีคดีร้องเรียนกรรมการมรรยาททนายความค้างอยู่นับสิบเรื่อง แต่ละเรื่องล้วนเป็นข้อหาหนักสมฐานะของโจรในคาบทนายอย่างทนายตั้มทุกประการ สุดท้ายอาจถึงขั้นถูกลบชื่อจากการเป็นทนายความตลอดชีวิตได้เลย
    ที่เป็นตลกร้ายก็คือคนที่ร้องเรียนทนายตั้มจนถูกลงโทษรุนแรงขนาดนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อนรักหน้ากล้องของทนายตั้มนั่นเอง ทนายจุ๊กกรู เดชา เป็นคนยื่นกรรมการมันยาททนายความให้สอบสวนทนายตั้มคดีโจ้ถุงดํา โดยหลังเกิดคดีนี้ทนายเดชากับทนายตั้มเปิดศึกทางโซเชียลกันอย่างดุเดือด
    เวลานั้นเป็นทนายตั้มที่กล่าวหาทนายเดชาได้คลิปลับถุงดําเป็นคนแรกแต่ไม่ยอมไปแจ้งตํารวจ หรือเอามาเปิดให้สาธารณชนเห็น ซึ่งทนายตั้มกล่าวหาทนายเดชาจ้องจะตบทรัพย์ผู้กํากับโจ้เพราะได้คลิปก่อนใคร แต่ไม่รีบปล่อย ส่วนทนายตั้มซึ่งได้คลิปทีหลังกลายเป็นคนได้เปิดก่อนโกยคะแนนนิยมไปเต็มๆ
    จากนั้นทั้งคู่ก็ค้าความกันนัวฟ้องกันไปฟ้องกันมาด่ากันไปด่ากันมานายเดชาถึงกับด่าทนายตั้มออกทีวีว่าเป็นหมาขี้เรื้อน
    แต่พอปี 2565สองทนายโซเชียลกลับลํามาจูบปากกัน ยอมถอนฟ้องซึ่งกันและกันจนหมด แต่เรื่องที่ถอนฟ้องไม่ได้ก็คือการไปร้องเรียนกรรมการมันยาททนายความนี่เองเพราะระเบียบของที่นี่ไม่เหมือนศาลถ้าร้องแล้วก็คือร้องเลยถอนคืนไม่ได้ยอมความกันไม่ได้
    สุดท้ายทนายตั้มเลยมาถูกเชือดด้วยน้ํามือของเพื่อนรักเข้าตําราเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของแท้
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #เดชา
    #ทนายตั้ม
    เพื่อนรักหักเหลี่ยม ที่มีแววไปรักกันต่อในซังเต ทนายตั้ม กําลังเผชิญวิบากกรรม ถล่มใส่นอกจากถูกอัยการสั่งฟ้องเรียบร้อยแล้ว คดีฉ้อโกง พี่อ้อยจตุพร ล่าสุดยังถูกเชือดจากสภาทนายความแห่งประเทศไทย ลงโทษห้ามเป็นทนายความนาน 3 ปี กรณีถูกร้องเรียนเกี่ยวกับคลิปลับผู้กํากับโจ้ เมื่อปี 2564 นับเป็นคดีแรกในชีวิตของทนายตั้มที่ถูกสภาทนายความสั่งลงโทษแม้จะเป็นการพิจารณาสอบสวนที่ค่อนข้างล่าช้า แต่ก็ตรงตามสํานวนที่ว่า มาช้าดีกว่าไม่มา ก็เป็นไปได้ว่าสภาทนายความซึ่งจะกล้าหือกับทนายตั้ม ก็ตอนทนายตั้มหมดสภาพแล้วอย่างในเวลานี้ หากเขายังคงเป็นทนายเซเลบปาก้าอยู่นอกคุก ทคดีนี้อาจล่าช้าไปถึงไหนต่อไหนแต่พอเริ่มมีคดีแรกก็อาจมีคดีที่สองที่สามตามมา ทนายตั้มมีคดีร้องเรียนกรรมการมรรยาททนายความค้างอยู่นับสิบเรื่อง แต่ละเรื่องล้วนเป็นข้อหาหนักสมฐานะของโจรในคาบทนายอย่างทนายตั้มทุกประการ สุดท้ายอาจถึงขั้นถูกลบชื่อจากการเป็นทนายความตลอดชีวิตได้เลย ที่เป็นตลกร้ายก็คือคนที่ร้องเรียนทนายตั้มจนถูกลงโทษรุนแรงขนาดนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อนรักหน้ากล้องของทนายตั้มนั่นเอง ทนายจุ๊กกรู เดชา เป็นคนยื่นกรรมการมันยาททนายความให้สอบสวนทนายตั้มคดีโจ้ถุงดํา โดยหลังเกิดคดีนี้ทนายเดชากับทนายตั้มเปิดศึกทางโซเชียลกันอย่างดุเดือด เวลานั้นเป็นทนายตั้มที่กล่าวหาทนายเดชาได้คลิปลับถุงดําเป็นคนแรกแต่ไม่ยอมไปแจ้งตํารวจ หรือเอามาเปิดให้สาธารณชนเห็น ซึ่งทนายตั้มกล่าวหาทนายเดชาจ้องจะตบทรัพย์ผู้กํากับโจ้เพราะได้คลิปก่อนใคร แต่ไม่รีบปล่อย ส่วนทนายตั้มซึ่งได้คลิปทีหลังกลายเป็นคนได้เปิดก่อนโกยคะแนนนิยมไปเต็มๆ จากนั้นทั้งคู่ก็ค้าความกันนัวฟ้องกันไปฟ้องกันมาด่ากันไปด่ากันมานายเดชาถึงกับด่าทนายตั้มออกทีวีว่าเป็นหมาขี้เรื้อน แต่พอปี 2565สองทนายโซเชียลกลับลํามาจูบปากกัน ยอมถอนฟ้องซึ่งกันและกันจนหมด แต่เรื่องที่ถอนฟ้องไม่ได้ก็คือการไปร้องเรียนกรรมการมันยาททนายความนี่เองเพราะระเบียบของที่นี่ไม่เหมือนศาลถ้าร้องแล้วก็คือร้องเลยถอนคืนไม่ได้ยอมความกันไม่ได้ สุดท้ายทนายตั้มเลยมาถูกเชือดด้วยน้ํามือของเพื่อนรักเข้าตําราเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของแท้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ #เดชา #ทนายตั้ม
    Love
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 979 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 3-2-68

    วันนี้ คุณสนธิจะมาพูดถึงรากเหง้าปัญหาจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานใหญ่อยู่บริเวณเมียวดี ประเทศพม่า ซึ่งในที่สุดจีนก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง มาจัดการด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการอัพเดตเรื่องความคืบหน้าคดีฉ้อโกงระหว่าง "ทนายตั้ม-มาดามอ้อย" รวมไปถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน
    https://www.youtube.com/watch?v=F805q56OSTk

    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #จีนเทา #ไทยเทา
    สนธิเล่าเรื่อง 3-2-68 วันนี้ คุณสนธิจะมาพูดถึงรากเหง้าปัญหาจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานใหญ่อยู่บริเวณเมียวดี ประเทศพม่า ซึ่งในที่สุดจีนก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง มาจัดการด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการอัพเดตเรื่องความคืบหน้าคดีฉ้อโกงระหว่าง "ทนายตั้ม-มาดามอ้อย" รวมไปถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน https://www.youtube.com/watch?v=F805q56OSTk #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #จีนเทา #ไทยเทา
    Like
    Love
    Haha
    Sad
    65
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 4371 มุมมอง 3 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 3-2-68
    .
    เช้าวันจันทร์ วันนี้ คุณสนธิจะมาพูดถึงรากเหง้าปัญหาจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานใหญ่อยู่บริเวณเมียวดี ประเทศพม่า ฝั่งตรงข้ามกับจังหวัดตากของไทย ซึ่งในที่สุดจีนก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง "นายหลิว จงอี้" ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ และผู้บัญชาการหน่วยสอบสวนทางอาญา มาจัดการด้วยตัวเอง จนเป็นที่มาของวาทะซึ่งมีการส่งต่อกันไปทั่วว่า “ทำไมท่านไม่ดูแลบ้านเมืองของท่านบ้างเลย?” , นอกจากนี้ยังมีการอัพเดตเรื่องความคืบหน้าคดีฉ้อโกงระหว่าง "ทนายตั้ม-มาดามอ้อย" รวมไปถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=F805q56OSTk
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #จีนเทา #ไทยเทา
    สนธิเล่าเรื่อง 3-2-68 . เช้าวันจันทร์ วันนี้ คุณสนธิจะมาพูดถึงรากเหง้าปัญหาจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานใหญ่อยู่บริเวณเมียวดี ประเทศพม่า ฝั่งตรงข้ามกับจังหวัดตากของไทย ซึ่งในที่สุดจีนก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง "นายหลิว จงอี้" ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ และผู้บัญชาการหน่วยสอบสวนทางอาญา มาจัดการด้วยตัวเอง จนเป็นที่มาของวาทะซึ่งมีการส่งต่อกันไปทั่วว่า “ทำไมท่านไม่ดูแลบ้านเมืองของท่านบ้างเลย?” , นอกจากนี้ยังมีการอัพเดตเรื่องความคืบหน้าคดีฉ้อโกงระหว่าง "ทนายตั้ม-มาดามอ้อย" รวมไปถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=F805q56OSTk . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #จีนเทา #ไทยเทา
    Like
    Love
    4
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 824 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองปราบ ส่งสำนวนให้อัยการ สั่งฟ้องทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน พี่อ้อย 17/01/68 #กองปราบ #ทนายตั้ม #คดีฉ้อโกง-ฟอกเงิน #พี่อ้อย
    กองปราบ ส่งสำนวนให้อัยการ สั่งฟ้องทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน พี่อ้อย 17/01/68 #กองปราบ #ทนายตั้ม #คดีฉ้อโกง-ฟอกเงิน #พี่อ้อย
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1448 มุมมอง 51 0 รีวิว
  • ส่งสำนวน "ทนายตั้ม-พวก" ฉ้อโกง-ฟอกเงิน 4 คดีให้อัยการแล้ว เคาะสั่งฟ้องต่อศาลก่อนครบฝากขัง
    .
    กองปราบฯ ส่งสำนวนคดีทนายตั้มร่วมฉ้อโกง-ฟอกเงิน ให้อัยการพิเศษสั่งฟ้องต่อศาลก่อนสิ้นเดือนนี้ ครบกำหนดฝากขัง 30 ม.ค.นี้ พบมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นพนักงานโชว์รูมปลอมเอกสาร ส่วนคดีพินัยกรรมยังไม่พบทุจริต
    .
    วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชเาภิเษก พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. นำสำนวนการสอบสวนที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ผู้เสียหายได้กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี กับพวกรวม 7 คน คดีร่วมกันฉ้อโกง และฟอกเงิน มีสำนวนรวม 9,317 แผ่น พร้อมความเห็นทางสมควรสั่งฟ้องนายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 41 ปี ภรรยาทนายตั้ม, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม, น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ และพนักงานของโชว์รูมรถยนต์ 2 คน ที่ร่วมมือกับทนายตั้มในการปลอมแปลงเอกสาร รวมผู้ต้องหา 7 คน ในคดีฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ไปมอบให้นายณัฐพงษ์ พุฒแก้ว รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีพิเศษ เป็นผู้รับสำนวนการสอบสวนไว้พิจารณา
    .
    พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สำนวนคดีทนายตั้มแบ่งเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร และกระทำผิดนอกราชอาณาจักร โดยการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรมี 3 เรื่อง คือ ฉ้อโกงเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ ความเสียหาย 71 ล้านบาทเศษ, คดีกระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ ความเสียหาย 39 ล้านบาทเศษ และสำนวนคดีซื้อรถเบนซ์ จี 400 เพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่าง จำนวน 1,530,000 บาท ส่วนการกระทำผิดในราชอาณาจักร คดีการออกแบบโรงแรม ได้ส่วนต่าง 5,500,000 บาท สำหรับการส่งสำนวน 4 เรื่อง มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คนที่ร่วมกับทนายตั้มทำการฉ้อโกง ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
    .
    โดยวันนี้มีผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในการปลอมเอกสารที่จะต้องเข้ามาพบกับพนักงานอัยการ โดยมีการแจ้งความเพิ่มมา 2 คน เป็นการปลอมเอกสารเกี่ยวกับการซื้อรถเบนซ์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองกระทำผิดในส่วนของการปลอมใบเสร็จการซื้อรถเบนซ์ แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวน ไม่ขอเปิดเผย ส่วน น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม ที่ได้รับการประกันตัวอยู่ในอำนาจการควบคุมของศาล จึงไม่ได้ส่งตัววันนี้ ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามที่ทนายตั้มได้ร้องขอให้มีการสอบสวนในพยานหลักฐานเพิ่มเติม ถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ตัวผู้ต้องหาแล้ว
    .
    ส่วนคดีพินัยกรรม พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตเข้ามา แต่ถ้าการสืบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิด ก็จะสอบสวนต่อไป
    .
    ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากการรับมอบสำนวนแล้ว ทางพนักงานอัยการจะส่งมอบให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่าย 1 ไปพิจารณาเพื่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาให้เสร็จภายในระยะเวลาฝากขังผัดสุดท้าย วันที่ 30 ม.ค.นี้ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อผลการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วจะต้องส่งให้ทางอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005180
    .........
    Sondhi X
    ส่งสำนวน "ทนายตั้ม-พวก" ฉ้อโกง-ฟอกเงิน 4 คดีให้อัยการแล้ว เคาะสั่งฟ้องต่อศาลก่อนครบฝากขัง . กองปราบฯ ส่งสำนวนคดีทนายตั้มร่วมฉ้อโกง-ฟอกเงิน ให้อัยการพิเศษสั่งฟ้องต่อศาลก่อนสิ้นเดือนนี้ ครบกำหนดฝากขัง 30 ม.ค.นี้ พบมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นพนักงานโชว์รูมปลอมเอกสาร ส่วนคดีพินัยกรรมยังไม่พบทุจริต . วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชเาภิเษก พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. นำสำนวนการสอบสวนที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ผู้เสียหายได้กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี กับพวกรวม 7 คน คดีร่วมกันฉ้อโกง และฟอกเงิน มีสำนวนรวม 9,317 แผ่น พร้อมความเห็นทางสมควรสั่งฟ้องนายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 41 ปี ภรรยาทนายตั้ม, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม, น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ และพนักงานของโชว์รูมรถยนต์ 2 คน ที่ร่วมมือกับทนายตั้มในการปลอมแปลงเอกสาร รวมผู้ต้องหา 7 คน ในคดีฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ไปมอบให้นายณัฐพงษ์ พุฒแก้ว รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีพิเศษ เป็นผู้รับสำนวนการสอบสวนไว้พิจารณา . พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สำนวนคดีทนายตั้มแบ่งเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร และกระทำผิดนอกราชอาณาจักร โดยการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรมี 3 เรื่อง คือ ฉ้อโกงเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ ความเสียหาย 71 ล้านบาทเศษ, คดีกระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ ความเสียหาย 39 ล้านบาทเศษ และสำนวนคดีซื้อรถเบนซ์ จี 400 เพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่าง จำนวน 1,530,000 บาท ส่วนการกระทำผิดในราชอาณาจักร คดีการออกแบบโรงแรม ได้ส่วนต่าง 5,500,000 บาท สำหรับการส่งสำนวน 4 เรื่อง มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คนที่ร่วมกับทนายตั้มทำการฉ้อโกง ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน . โดยวันนี้มีผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในการปลอมเอกสารที่จะต้องเข้ามาพบกับพนักงานอัยการ โดยมีการแจ้งความเพิ่มมา 2 คน เป็นการปลอมเอกสารเกี่ยวกับการซื้อรถเบนซ์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองกระทำผิดในส่วนของการปลอมใบเสร็จการซื้อรถเบนซ์ แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวน ไม่ขอเปิดเผย ส่วน น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม ที่ได้รับการประกันตัวอยู่ในอำนาจการควบคุมของศาล จึงไม่ได้ส่งตัววันนี้ ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามที่ทนายตั้มได้ร้องขอให้มีการสอบสวนในพยานหลักฐานเพิ่มเติม ถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ตัวผู้ต้องหาแล้ว . ส่วนคดีพินัยกรรม พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตเข้ามา แต่ถ้าการสืบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิด ก็จะสอบสวนต่อไป . ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากการรับมอบสำนวนแล้ว ทางพนักงานอัยการจะส่งมอบให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่าย 1 ไปพิจารณาเพื่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาให้เสร็จภายในระยะเวลาฝากขังผัดสุดท้าย วันที่ 30 ม.ค.นี้ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อผลการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วจะต้องส่งให้ทางอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005180 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2367 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พุดเดิ้ล ยุพดี” เพื่อนสนิท “แอนนา ทีวีพูล” ยันที่ผ่านมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง ถูกเรียกสอบ 3 ครั้ง ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี น้อยใจถูกสังคมโจมตีจนเก็บตัว เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนไลน์ ลั่นแอนนาดีใจจะมีการรื้อคดีการตายของ “แตงโม” พร้อมโต้แตงโมตาย วิ่งหาแสง แอนนา ติดคุก ทิ้งเพื่อน

    เป็นทั้งเพื่อนสนิทและผู้จัดการให้กับ “แอนนา ทีวีพูล” วรินทร วัตรสังข์ สำหรับ “พุดเดิ้ล ยุพดี” ก่อนที่แอนนาจะเดินเข้าเรือนจำเอง ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาข่าวคราวของพุดเดิ้ล ยุพดี ก็หายเงียบไปด้วย ล่าสุดผู้สื่อข่าวเจอเจ้าตัวในงานประกวด มิสแกรนด์เลย 2025 พุดเดิ้ลก็ได้เผยชีวิตในช่วงนี้ให้ฟังว่า

    “ที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นเราได้ออกงาน จะพูดยังไงดี คือเราสนิทกับแอนนามาก มีพุดเดิ้ลก็ต้องมีแอนนา ตอนนี้พี่แอนนาอยู่ในเรือนจำ หลายคนก็มองว่าพุดเดิ้ลจะไปยังไงต่อดี บางคนก็มองว่า เรามีส่วนรู้เห็นไหมกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตอนนี้มันอยู่ในกระบวนการของกฎหมาย พุดเดิ้ลเป็นผู้จัดการแอนนา เป็นเพื่อน เป็นคนสนิท เรื่องบางเรื่อง พุดเดิ้ลไม่เคยรับรู้ และก็ไม่ได้รับทราบ กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น พุดเดิ้ลทราบในเรื่องของพุดเดิ้ลเอง สังคมก็โจมตีว่าเราต้องมีส่วนรู้เห็นแน่นอน ต้องทำเป็นกระบวนการ ซึ่งสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตำรวจได้เรียกพุดเดิ้ล ไปสอบสวนว่ารายละเอียดเป็นยังไง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000004148

    #MGROnline #พุดเดิ้ล #แอนนาทีวีพูล
    “พุดเดิ้ล ยุพดี” เพื่อนสนิท “แอนนา ทีวีพูล” ยันที่ผ่านมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง ถูกเรียกสอบ 3 ครั้ง ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี น้อยใจถูกสังคมโจมตีจนเก็บตัว เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนไลน์ ลั่นแอนนาดีใจจะมีการรื้อคดีการตายของ “แตงโม” พร้อมโต้แตงโมตาย วิ่งหาแสง แอนนา ติดคุก ทิ้งเพื่อน • เป็นทั้งเพื่อนสนิทและผู้จัดการให้กับ “แอนนา ทีวีพูล” วรินทร วัตรสังข์ สำหรับ “พุดเดิ้ล ยุพดี” ก่อนที่แอนนาจะเดินเข้าเรือนจำเอง ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาข่าวคราวของพุดเดิ้ล ยุพดี ก็หายเงียบไปด้วย ล่าสุดผู้สื่อข่าวเจอเจ้าตัวในงานประกวด มิสแกรนด์เลย 2025 พุดเดิ้ลก็ได้เผยชีวิตในช่วงนี้ให้ฟังว่า • “ที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นเราได้ออกงาน จะพูดยังไงดี คือเราสนิทกับแอนนามาก มีพุดเดิ้ลก็ต้องมีแอนนา ตอนนี้พี่แอนนาอยู่ในเรือนจำ หลายคนก็มองว่าพุดเดิ้ลจะไปยังไงต่อดี บางคนก็มองว่า เรามีส่วนรู้เห็นไหมกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตอนนี้มันอยู่ในกระบวนการของกฎหมาย พุดเดิ้ลเป็นผู้จัดการแอนนา เป็นเพื่อน เป็นคนสนิท เรื่องบางเรื่อง พุดเดิ้ลไม่เคยรับรู้ และก็ไม่ได้รับทราบ กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น พุดเดิ้ลทราบในเรื่องของพุดเดิ้ลเอง สังคมก็โจมตีว่าเราต้องมีส่วนรู้เห็นแน่นอน ต้องทำเป็นกระบวนการ ซึ่งสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตำรวจได้เรียกพุดเดิ้ล ไปสอบสวนว่ารายละเอียดเป็นยังไง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000004148 • #MGROnline #พุดเดิ้ล #แอนนาทีวีพูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 708 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถึงเวลากลบอิทธิพล แอ็ด คาราบาว มิจฉาชีพแห่งชาติ
    แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของบรรดาคู่ค้า “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน” ของ “น้าแอ๊ด คาราบาว”
    เมื่อดีเอสไอ ทำหนังสือถึงผู้เสียหายที่เคยเข้าร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ ระบุว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาแล้ว พฤติการณ์ของบริษัท ทีดี ตะวันแดง อาจเป็นความผิดฐานฉ้อโกง เจอดอกนี้ ร้านถูกดีก็งานเข้าเต็มๆ เท่ากับว่าดีเอสไอพบคดีมีมูล ร้านถูกดีอาจเข้าข่ายฉ้อโกงชาวบ้าน คนละเรื่องเลย กับที่อ้างตัวเป็นผู้เสียหาย ถูกชาวบ้านโกง ยักยอกสินค้า
    คู่ค้าที่รวมตัวกันไปแจ้งความต่อดีเอสไอมีจำนวน 109 คน ถือเป็นส่วนหนึ่งของบรรดาคู่ค้าทั้งหมดที่มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ตอนนี้ยอดผู้เสียหายที่มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิจึงพุ่งไปแตะหลัก 500-600 รายแล้ว
    เพราะเคลิ้มกับคำหวานเชื้อเชิญของ แอ๊ด คาราบาว ที่ทำคลิปโปรโมตซะอย่างหวานเจี๊ยบว่า เราจะรวยไปด้วยกัน อย่างไม่มีความเสี่ยงแต่พอถึงเวลาจริง กลายเป็นว่าสาขาโน้นเจ๊ง สาขานี้เจ๊ง
    พอเจ๊งแล้วขอเลิกสัญญา ต้องโดนยึดเงินมัดจำ 2 แสนบาทไปต่อหน้าต่อตา เท่านั้นยังไม่พอ ยังโดนบริษัทแจ้งจับคดีฉ้อโกง กล่าวหายักยอกสินค้าไปเป็นแสนๆ บาท
    มีคดีตัวอย่างที่น่าสนใจที่ จ.เชียงใหม่ เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา โดยวินิจฉัยว่า เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นฝ่ายขอเลิกสัญญา และขอให้บริษัทยึดเงินประกัน 2 แสนบาทไปเพื่อหักลบกลบหนี้ได้เลย แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีเจตนาทุจริตต่อทางบริษัท บริษัทสามารถหักหนี้จากเงินประกันได้ หากไม่พอ ก็ให้ไปฟ้องศาลแพ่งเรียกร้องเอาเอง
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    ถึงเวลากลบอิทธิพล แอ็ด คาราบาว มิจฉาชีพแห่งชาติ แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของบรรดาคู่ค้า “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน” ของ “น้าแอ๊ด คาราบาว” เมื่อดีเอสไอ ทำหนังสือถึงผู้เสียหายที่เคยเข้าร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ ระบุว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาแล้ว พฤติการณ์ของบริษัท ทีดี ตะวันแดง อาจเป็นความผิดฐานฉ้อโกง เจอดอกนี้ ร้านถูกดีก็งานเข้าเต็มๆ เท่ากับว่าดีเอสไอพบคดีมีมูล ร้านถูกดีอาจเข้าข่ายฉ้อโกงชาวบ้าน คนละเรื่องเลย กับที่อ้างตัวเป็นผู้เสียหาย ถูกชาวบ้านโกง ยักยอกสินค้า คู่ค้าที่รวมตัวกันไปแจ้งความต่อดีเอสไอมีจำนวน 109 คน ถือเป็นส่วนหนึ่งของบรรดาคู่ค้าทั้งหมดที่มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ตอนนี้ยอดผู้เสียหายที่มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิจึงพุ่งไปแตะหลัก 500-600 รายแล้ว เพราะเคลิ้มกับคำหวานเชื้อเชิญของ แอ๊ด คาราบาว ที่ทำคลิปโปรโมตซะอย่างหวานเจี๊ยบว่า เราจะรวยไปด้วยกัน อย่างไม่มีความเสี่ยงแต่พอถึงเวลาจริง กลายเป็นว่าสาขาโน้นเจ๊ง สาขานี้เจ๊ง พอเจ๊งแล้วขอเลิกสัญญา ต้องโดนยึดเงินมัดจำ 2 แสนบาทไปต่อหน้าต่อตา เท่านั้นยังไม่พอ ยังโดนบริษัทแจ้งจับคดีฉ้อโกง กล่าวหายักยอกสินค้าไปเป็นแสนๆ บาท มีคดีตัวอย่างที่น่าสนใจที่ จ.เชียงใหม่ เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา โดยวินิจฉัยว่า เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นฝ่ายขอเลิกสัญญา และขอให้บริษัทยึดเงินประกัน 2 แสนบาทไปเพื่อหักลบกลบหนี้ได้เลย แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีเจตนาทุจริตต่อทางบริษัท บริษัทสามารถหักหนี้จากเงินประกันได้ หากไม่พอ ก็ให้ไปฟ้องศาลแพ่งเรียกร้องเอาเอง ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 926 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ใบเตย” โล่งศาลสั่งพิพากษายกฟ้อง ได้ถอดกำไร EM ดีใจ “ดีเจแมน” ได้กลับบ้านไปหาลูกสาวเป็นของขวัญปีใหม่ ไม่รู้จะกลับมาจดทะเบียนสมรสกันไหม โฟกัสที่ลูกเป็นหลัก ขอบคุณทุกกำลังใจและขอบคุณทนายที่ช่วยมาตลอด ด้าน “แม่ป๋อง” เตรียมน้ำมนต์ไปรับลูกแล้ว เชื่อลูกเป็นคนดีเข้มแข็ง อนาคตต่อจากนี้จะไปได้ดีแน่นอน ทนายเผยพร้อมสู้ทุกศาล หากอัยการจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ส่วนเรื่องสินไหมทดแทนต้องพิจารณากันอีกที

    หลังเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา (26 ธ.ค. 67) ศาลอาญามีคำสั่งพิพากษายกฟ้อง “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน”และ “ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน” รวมถึง “นายแดริล ยังฮุย”สามีชาวสิงคโปร์ของสาว “ซาร่า คาซิงกินี” ในคดีฉ้อโกงแชร์ Forex-3D เหตุพยานหลักฐานยังมีข้อสงสัย

    ล่าสุดในช่วงบ่าย “ใบเตย” และ “แม่ป๋อง”พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อ พร้อมกับ ทนายอมร กุศลและ ทนายเฟิร์น ชลวิภา วิริยะกุลทนายความของใบเตย-ดีเจแมน โดยเผยว่ารู้สึกดีใจมาก จากนี้จะทางเดินไปรับดีแมนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร คาดว่าดีแมจจะได้รับการปล่อยตัวในช่วง 2 ทุ่มของวันนี้ และในส่วนกำไล EM ของใบเตย ก็จะได้รับการถอดออกเช่นกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000124121

    #MGROnline #ใบเตย #ใบเตยอาร์สยาม #ดีเจแมน #Forex3D #คดีForex3D #ยกฟ้อง #ศาลยกฟ้อง #ยกฟ้องคดีForex3D
    “ใบเตย” โล่งศาลสั่งพิพากษายกฟ้อง ได้ถอดกำไร EM ดีใจ “ดีเจแมน” ได้กลับบ้านไปหาลูกสาวเป็นของขวัญปีใหม่ ไม่รู้จะกลับมาจดทะเบียนสมรสกันไหม โฟกัสที่ลูกเป็นหลัก ขอบคุณทุกกำลังใจและขอบคุณทนายที่ช่วยมาตลอด ด้าน “แม่ป๋อง” เตรียมน้ำมนต์ไปรับลูกแล้ว เชื่อลูกเป็นคนดีเข้มแข็ง อนาคตต่อจากนี้จะไปได้ดีแน่นอน ทนายเผยพร้อมสู้ทุกศาล หากอัยการจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ส่วนเรื่องสินไหมทดแทนต้องพิจารณากันอีกที • หลังเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา (26 ธ.ค. 67) ศาลอาญามีคำสั่งพิพากษายกฟ้อง “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน”และ “ใบเตย สุธีวัน ทวีสิน” รวมถึง “นายแดริล ยังฮุย”สามีชาวสิงคโปร์ของสาว “ซาร่า คาซิงกินี” ในคดีฉ้อโกงแชร์ Forex-3D เหตุพยานหลักฐานยังมีข้อสงสัย • ล่าสุดในช่วงบ่าย “ใบเตย” และ “แม่ป๋อง”พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อ พร้อมกับ ทนายอมร กุศลและ ทนายเฟิร์น ชลวิภา วิริยะกุลทนายความของใบเตย-ดีเจแมน โดยเผยว่ารู้สึกดีใจมาก จากนี้จะทางเดินไปรับดีแมนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร คาดว่าดีแมจจะได้รับการปล่อยตัวในช่วง 2 ทุ่มของวันนี้ และในส่วนกำไล EM ของใบเตย ก็จะได้รับการถอดออกเช่นกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9670000124121 • #MGROnline #ใบเตย #ใบเตยอาร์สยาม #ดีเจแมน #Forex3D #คดีForex3D #ยกฟ้อง #ศาลยกฟ้อง #ยกฟ้องคดีForex3D
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 925 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวแทนจำหน่ายสินค้า "ดิไอคอน กรุ๊ป" ยื่นหลักฐานถอนเเจ้งความบรรดา 18 บอส คดีฉ้อโกง ให้ อสส.พิจารณา ยันไม่ได้ถูกบังคับ แต่ธุรกิจขายสินค้าจริง

    วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.เเจ้งวัฒนะ ตัวแทนจำหน่ายสินค้า ดิไอคอน กรุ๊ป ที่เคยแจ้งความคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป ได้นำเอารายงานประจำวันผู้ที่เคยแจ้งความไว้ และขอถอนแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ส่งมอบให้สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อแสดงเจตนารมย์ว่า มีความประสงค์ในการถอนแจ้งความ จึงอยากให้อัยการสูงสุดดำเนินการให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอบันทึกสอบปากคำพยานทุกฝ่ายที่เคยให้การไว้ใหม่ให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสั่งคดีของพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดี

    ซึ่งวันนี้กลุ่มตัวเเทนได้นำเอกสาร มายื่นประกอบการพิจารณา คือ
    1.บันทึกประจำวันแสดงเจตนาขอให้การเพิ่มเติม เพื่อให้ตรงตามข้อเท็จจริง
    2.เอกสารเป็นพยานให้บุคคลในคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป
    3.เอกสารบันทึกแสดงข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์แก่ผู้ต้องหา เพิ่มเติม
    4.เอกสารรับรองการประกันตัว นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล

    โดยกลุ่มตัวแทน บอกว่า กลุ่มบุคคลที่มีความประสงค์จะถอนแจ้งความตอนนี้รวมตัวกันได้หลักร้อยคน ทุกคนยืนยันว่า การรวมตัวเพื่อร้องเรียนกรณีนี้ ไม่มีการถูกบังคับแต่อย่างใด ซึ่งทุกคนในตอนนั้นที่ตัดสินใจไปแจ้งความ สาเหตุ เพราะเกรงกลัวว่าจะมีความผิดไปด้วย เนื่องจากเข้าใจผิดว่า ดิ ไอคอน กรุ๊ป เป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ถ้าไม่แจ้งความจะมีความผิดไปด้วย ทั้งที่จริงเป็นธุรกิจถูกกฎหมายสามารถสร้างรายได้ได้จริง ไม่ได้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด แต่ตอนนั้นเข้าใจว่าถ้าไม่แจ้งความจะมีความผิด จึงไปแจ้งความความ เพราะกลัวว่าจะมีความผิดไปด้วย

    ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รวมตัวกันไปถอนแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามปราบแล้ว แต่พนักงานสอบสวนไม่ให้ถอนแจ้งความ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000123346

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup
    ตัวแทนจำหน่ายสินค้า "ดิไอคอน กรุ๊ป" ยื่นหลักฐานถอนเเจ้งความบรรดา 18 บอส คดีฉ้อโกง ให้ อสส.พิจารณา ยันไม่ได้ถูกบังคับ แต่ธุรกิจขายสินค้าจริง • วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.เเจ้งวัฒนะ ตัวแทนจำหน่ายสินค้า ดิไอคอน กรุ๊ป ที่เคยแจ้งความคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป ได้นำเอารายงานประจำวันผู้ที่เคยแจ้งความไว้ และขอถอนแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ส่งมอบให้สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อแสดงเจตนารมย์ว่า มีความประสงค์ในการถอนแจ้งความ จึงอยากให้อัยการสูงสุดดำเนินการให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอบันทึกสอบปากคำพยานทุกฝ่ายที่เคยให้การไว้ใหม่ให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสั่งคดีของพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดี • ซึ่งวันนี้กลุ่มตัวเเทนได้นำเอกสาร มายื่นประกอบการพิจารณา คือ 1.บันทึกประจำวันแสดงเจตนาขอให้การเพิ่มเติม เพื่อให้ตรงตามข้อเท็จจริง 2.เอกสารเป็นพยานให้บุคคลในคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป 3.เอกสารบันทึกแสดงข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์แก่ผู้ต้องหา เพิ่มเติม 4.เอกสารรับรองการประกันตัว นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล • โดยกลุ่มตัวแทน บอกว่า กลุ่มบุคคลที่มีความประสงค์จะถอนแจ้งความตอนนี้รวมตัวกันได้หลักร้อยคน ทุกคนยืนยันว่า การรวมตัวเพื่อร้องเรียนกรณีนี้ ไม่มีการถูกบังคับแต่อย่างใด ซึ่งทุกคนในตอนนั้นที่ตัดสินใจไปแจ้งความ สาเหตุ เพราะเกรงกลัวว่าจะมีความผิดไปด้วย เนื่องจากเข้าใจผิดว่า ดิ ไอคอน กรุ๊ป เป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ถ้าไม่แจ้งความจะมีความผิดไปด้วย ทั้งที่จริงเป็นธุรกิจถูกกฎหมายสามารถสร้างรายได้ได้จริง ไม่ได้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด แต่ตอนนั้นเข้าใจว่าถ้าไม่แจ้งความจะมีความผิด จึงไปแจ้งความความ เพราะกลัวว่าจะมีความผิดไปด้วย • ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รวมตัวกันไปถอนแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามปราบแล้ว แต่พนักงานสอบสวนไม่ให้ถอนแจ้งความ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000123346 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 956 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้องประธานสภา เกรงคดีหมอบุญไม่ยุติธรรม 16/12/67 #อี้ แทนคุณ #หมอบุญ #คดีฉ้อโกงประชาชน
    ร้องประธานสภา เกรงคดีหมอบุญไม่ยุติธรรม 16/12/67 #อี้ แทนคุณ #หมอบุญ #คดีฉ้อโกงประชาชน
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1064 มุมมอง 44 0 รีวิว
  • โรงพยาบาลธนบุรี สลัดภาพหมอบุญ

    กลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี ภายใต้ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG อำนาจเบ็ดเสร็จไม่ได้เป็นของกลุ่มหมอบุญ นพ.บุญ วนาสิน ที่หลบหนีคดีฉ้อโกงและฟอกเงินไปอยู่ต่างประเทศอีกต่อไป แต่กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งใน THG ภายใต้การนำของ นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ กำลังเข้ามากอบกู้สถานการณ์ แม้ยี่ห้อหมอบุญกับโรงพยาบาลธนบุรี จะกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังไม่เคยใช้บริการก็ตาม

    ก่อนหน้านี้มีการแต่งตั้ง ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และอดีตรองคณบดีฝ่ายพันธกิจบริการทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลธนบุรี หลังเกษียณอายุงานเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็เป็นคณะกรรมการบริษัทฯ ในเครือ THG มาตั้งแต่ปี 2559

    นพ.วิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ระบุว่าในปี 2568 จะเปิดคลินิกเฉพาะทาง เริ่มจากคลินิกการนอนหลับ ต่อด้วยกลุ่มเด็กแรกเกิด กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ พร้อมกับเน้นกลุ่มลูกค้าผู้ป่วยที่มีประกันสุขภาพ ลูกค้าองค์กร และผู้ป่วยต่างชาติจากโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง อีกด้านหนึ่ง จะเปิดอาคารผู้ป่วยนอกแห่งใหม่ต้นปี 2568 ดึงบุคลากรรุ่นใหม่ Gen Z เข้ามาเสริมทัพ เปลี่ยนระบบค่าตอบแทนใหม่ และสร้างอินฟลูเอนเซอร์จากบุคลากรในโรงพยาบาล

    สำหรับโครงการของ นพ.บุญที่เกี่ยวข้องกับ THG มีเพียงโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เท่านั้นที่ใช้เงินบริษัทลงทุน ไม่ใช่เงินส่วนตัวของ นพ.บุญ ส่วนธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการที่ไม่มีอยู่จริง นพ.บุญทำเองไม่เกี่ยวกับ THG ด้านศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า และแผนการสร้างโรงพยาบาลในเวียดนาม หลังบริษัทฯ ทำเอ็มโอยูช่วงปี 2565-2566 เมื่อพิจารณาความเป็นไปได้อย่างละเอียดแล้วจึงตัดสินใจไม่ลงทุนทั้งสองโครงการ

    นพ.บุญได้ลาออกจาก THG มาตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. 2565 จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงาน ส่วนนางจารุวรรณ วนาสิน อดีตภรรยา และ น.ส.นลิน วนาสิน บุตรสาว นพ.บุญ แม้ยังไม่ได้แจ้งขอลาออกจากกรรมการบริษัทฯ และยังไม่ขาดคุณสมบัติเนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด แต่ทั้งสองไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจ จึงไม่มีอำนาจกระทำการใดๆ ในนามบริษัทฯ และการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังเป็นปกติ

    ปัจจุบัน นางจารุวรรณถือหุ้น THG จำนวน 14.22% บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด ถือหุ้น 3.70% น.ส.ณวรา กุญชร ณ อยุธยา อดีตลูกสะใภ้ถือหุ้น 3.03% และ นพ.บุญ ถือหุ้น 0.68% ส่วน น.ส.นลินให้การกับตำรวจว่ามีเพียง 10,000 หุ้นเท่านั้น

    #Newskit
    โรงพยาบาลธนบุรี สลัดภาพหมอบุญ กลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี ภายใต้ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG อำนาจเบ็ดเสร็จไม่ได้เป็นของกลุ่มหมอบุญ นพ.บุญ วนาสิน ที่หลบหนีคดีฉ้อโกงและฟอกเงินไปอยู่ต่างประเทศอีกต่อไป แต่กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งใน THG ภายใต้การนำของ นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ กำลังเข้ามากอบกู้สถานการณ์ แม้ยี่ห้อหมอบุญกับโรงพยาบาลธนบุรี จะกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังไม่เคยใช้บริการก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการแต่งตั้ง ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และอดีตรองคณบดีฝ่ายพันธกิจบริการทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลธนบุรี หลังเกษียณอายุงานเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็เป็นคณะกรรมการบริษัทฯ ในเครือ THG มาตั้งแต่ปี 2559 นพ.วิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ระบุว่าในปี 2568 จะเปิดคลินิกเฉพาะทาง เริ่มจากคลินิกการนอนหลับ ต่อด้วยกลุ่มเด็กแรกเกิด กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ พร้อมกับเน้นกลุ่มลูกค้าผู้ป่วยที่มีประกันสุขภาพ ลูกค้าองค์กร และผู้ป่วยต่างชาติจากโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง อีกด้านหนึ่ง จะเปิดอาคารผู้ป่วยนอกแห่งใหม่ต้นปี 2568 ดึงบุคลากรรุ่นใหม่ Gen Z เข้ามาเสริมทัพ เปลี่ยนระบบค่าตอบแทนใหม่ และสร้างอินฟลูเอนเซอร์จากบุคลากรในโรงพยาบาล สำหรับโครงการของ นพ.บุญที่เกี่ยวข้องกับ THG มีเพียงโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เท่านั้นที่ใช้เงินบริษัทลงทุน ไม่ใช่เงินส่วนตัวของ นพ.บุญ ส่วนธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการที่ไม่มีอยู่จริง นพ.บุญทำเองไม่เกี่ยวกับ THG ด้านศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า และแผนการสร้างโรงพยาบาลในเวียดนาม หลังบริษัทฯ ทำเอ็มโอยูช่วงปี 2565-2566 เมื่อพิจารณาความเป็นไปได้อย่างละเอียดแล้วจึงตัดสินใจไม่ลงทุนทั้งสองโครงการ นพ.บุญได้ลาออกจาก THG มาตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. 2565 จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงาน ส่วนนางจารุวรรณ วนาสิน อดีตภรรยา และ น.ส.นลิน วนาสิน บุตรสาว นพ.บุญ แม้ยังไม่ได้แจ้งขอลาออกจากกรรมการบริษัทฯ และยังไม่ขาดคุณสมบัติเนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด แต่ทั้งสองไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจ จึงไม่มีอำนาจกระทำการใดๆ ในนามบริษัทฯ และการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังเป็นปกติ ปัจจุบัน นางจารุวรรณถือหุ้น THG จำนวน 14.22% บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด ถือหุ้น 3.70% น.ส.ณวรา กุญชร ณ อยุธยา อดีตลูกสะใภ้ถือหุ้น 3.03% และ นพ.บุญ ถือหุ้น 0.68% ส่วน น.ส.นลินให้การกับตำรวจว่ามีเพียง 10,000 หุ้นเท่านั้น #Newskit
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1271 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้บังคับการกองปราบปราม ส่งพนักงานสอบสวนเข้าแจ้งข้อหาไอ่ตั้มในเรือนจำ เพิ่มอีก 7 ข้อหา ในคดีฉ้อโกง 39 ล้านบาท มีทั้งข้อหาแจ้งความเท็จ ข้อหาฟอกเงิน สมคบกันฟอ.กเงิน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ แต่ไอ่ตั้มยังปฏิเสธเหมือนเดิม สงสัยติดใจเกมเก็บสบู่ขึ้นมาแล้วละ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    ผู้บังคับการกองปราบปราม ส่งพนักงานสอบสวนเข้าแจ้งข้อหาไอ่ตั้มในเรือนจำ เพิ่มอีก 7 ข้อหา ในคดีฉ้อโกง 39 ล้านบาท มีทั้งข้อหาแจ้งความเท็จ ข้อหาฟอกเงิน สมคบกันฟอ.กเงิน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ แต่ไอ่ตั้มยังปฏิเสธเหมือนเดิม สงสัยติดใจเกมเก็บสบู่ขึ้นมาแล้วละ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts