• 26 มีนาคม 2568 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี พันตำรวจเอกพันธมิตร จ้างประเสริฐผกก.(สอบสวน) ภ.จว.นนทบุรี ได้ยื่นคำร้อง ในคดีหมายเลขดำที่ 292/2566 ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ และ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ กับพวกรวม 4 คน กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ “แตงโม นิดา”โดยคำร้องระบุสรุปว่า 1.คดีนี้ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 23 พ.ค. เวลา 09.30 น.เนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ว่า มีบุคคลร้องของขอให้ สืบสวนคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชระวีระพงษ์ หรือแตงโม ผู้ตายในคดีนี้โดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และได้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขอพยานหลักฐานในสำนวนคดี เอกสาร รวมทั้งข้อมูล รายละเอียดอื่นๆ รวม 19 รายการ โดยได้ขอสำเนาสำนวนการสอบสวน คดีนี้ ของ สภ.อ.นนทบุรี รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องในสำนวนการสอบสวน เช่น รายชื่อแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพ ไฟล์ต้นฉบับพยานวัตถุในคดี ที่เกี่ยวกับคดีรวมทั้งบันทึกคำให้การพยานของผู้ต้องหา พยานบุคคล พยานผู้เชี่ยวชาญ และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีดังกล่าว เช่นไฟล์ต้นฉบับ ภาพถ่ายหรือภาพและเสียงเคลื่อนไหว ที่เกี่ยวข้องรวมอยู่ในสำนวนส่งอัยการฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมรับรองโดยพนักงานสอบสวน หรือผู้เชี่ยวชาญด้วย ซึ่งเอกสารที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำการสืบสวนอยู่ในสำนวนการพิจารณาคดีของศาล
    26 มีนาคม 2568 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี พันตำรวจเอกพันธมิตร จ้างประเสริฐผกก.(สอบสวน) ภ.จว.นนทบุรี ได้ยื่นคำร้อง ในคดีหมายเลขดำที่ 292/2566 ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ และ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ กับพวกรวม 4 คน กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ “แตงโม นิดา”โดยคำร้องระบุสรุปว่า 1.คดีนี้ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 23 พ.ค. เวลา 09.30 น.เนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ว่า มีบุคคลร้องของขอให้ สืบสวนคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชระวีระพงษ์ หรือแตงโม ผู้ตายในคดีนี้โดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และได้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขอพยานหลักฐานในสำนวนคดี เอกสาร รวมทั้งข้อมูล รายละเอียดอื่นๆ รวม 19 รายการ โดยได้ขอสำเนาสำนวนการสอบสวน คดีนี้ ของ สภ.อ.นนทบุรี รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องในสำนวนการสอบสวน เช่น รายชื่อแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพ ไฟล์ต้นฉบับพยานวัตถุในคดี ที่เกี่ยวกับคดีรวมทั้งบันทึกคำให้การพยานของผู้ต้องหา พยานบุคคล พยานผู้เชี่ยวชาญ และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีดังกล่าว เช่นไฟล์ต้นฉบับ ภาพถ่ายหรือภาพและเสียงเคลื่อนไหว ที่เกี่ยวข้องรวมอยู่ในสำนวนส่งอัยการฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมรับรองโดยพนักงานสอบสวน หรือผู้เชี่ยวชาญด้วย ซึ่งเอกสารที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำการสืบสวนอยู่ในสำนวนการพิจารณาคดีของศาล
    Haha
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดูเตอร์เต้โยนระเบิดนิวเคลียร์ใส่ ศาลอาญาระหว่างประเทศ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์รวม 3 ลูกใหญ่ๆ มีอะไรมาดูกันเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2025 ดูเตอร์เตปรากฏตัวในศาลด้วยรถเข็น เมื่อผู้พิพากษาศาลอาญาระหว่างประเทศอ่านคำกล่าวหาเรื่อง "อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ" เสร็จ ชายวัย 79 ปี อดีต ปธน.ดูเตอร์เต้ แห่งฟิลิปปินส์ ก็โยนระเบิดนิวเคลียร์ข้อมูล 3 ลูกใส่ผู้พิพากษาอย่างกะทันหันว่า "กองทัพสหรัฐรับคำสั่งจากรัฐบาลสหรัฐ สังหารพลเรือน 350,000 คนในอัฟกานิสถาน ศาลอาญาระหว่างประเทศแกล้งทำเป็นตาบอดมา 20 ปี! อิสราเอลทิ้งระเบิดใส่ชาวปาเลสไตน์ โดยเฉพาะเด็กเสียชีวิตไป 50,000 คนในฉนวนกาซา หมายจับของคุณอยู่ที่ไหน?" ผู้เฒ่าดูเตอร์เต้ แสดงให้เห็นถึงหลักฐานที่แท้จริงของการควบคุมยาเสพติดในเมืองดาเวาในศาล และการติดตามของโรงเรียนอนุบาลแสดงให้เห็นว่าอัตราการก่ออาชญากรรมลดลง 73% หลังจากมีการห้ามยาเสพติด ผู้พิพากษาประธานศาลอาญาระหว่างประเทศรีบเคาะค้อนเพื่อหยุดเขา แต่ดูเตอร์เต้กลับหยิบภาพถ่ายชุดหนึ่งออกมา เป็นศพของเด็กที่ถูกพ่อค้ายาฆ่าตาย และสถานที่เกิดเหตุระเบิดของโดรนสหรัฐในอัฟกานิสถาน ถามว่า "ฝ่ายไหนต่อต้านมนุษย์มากกว่ากัน" ผู้ชมต่างโห่ร้องแสดงความยินดี และชาวฟิลิปปินส์ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศก็ตะโกนว่า "ประธานาธิบดีจงเจริญ" และเจ้าหน้าที่บังคับคดีก็ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ รัฐบาลของมาร์กอส จูเนียร์ กำลังอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เดิมทีต้องการใช้ศาลอาญาระหว่างประเทศโค่นล้มคู่ต่อสู้ทางการเมือง แต่กลับทำให้คะแนนนิยมของซาราห์ รองประธานาธิบดีพุ่งสูงถึง 39% ดูเตอร์เต้ สัญญาในศาลว่า "หากฉันถูกตัดสินว่ามีความผิด โปรดนำไบเดนและเนทันยาฮูมาขึ้นศาลด้วย!" คำกล่าวนี้เผยให้เห็นหน้ากากอันหน้าซื่อใจคดของศาลอาญาระหว่างประเทศที่ "โจมตียุงเท่านั้น ไม่โจมตีเสือ" ทำให้ศาลอาญาระหว่างประเทศอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นเดียวกัน การจะตัดสินว่า ดูเตอร์เต้ มีความผิดหรือไม่เริ่มมีปัญหา ? ประเทศโลกทางใต้เตรียมถอนตัวออกจากกลุ่มพร้อมกัน จึงไม่ใช่มีความผิด?นักการเงินตะวันตกตัดเงินทุนหลายร้อยล้านยูโร การพิจารณาคดีแห่งศตวรรษนี้ในที่สุดก็กลายเป็นกระจกวิเศษที่เผยให้เห็นฝีหนองของความยุติธรรมระหว่างประเทศและรุ่งอรุณของระเบียบโลกใหม่ ชัยโย ชัยโย ชัยโย !!!Cr. K.Soms..Cr. Paisan Apacnews#Save112#Saveรัฐธรรมนูญ2560#ไม่เอาคนหนักแผ่นดิน#ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม#ThammasatPitakTham
    ดูเตอร์เต้โยนระเบิดนิวเคลียร์ใส่ ศาลอาญาระหว่างประเทศ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์รวม 3 ลูกใหญ่ๆ มีอะไรมาดูกันเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2025 ดูเตอร์เตปรากฏตัวในศาลด้วยรถเข็น เมื่อผู้พิพากษาศาลอาญาระหว่างประเทศอ่านคำกล่าวหาเรื่อง "อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ" เสร็จ ชายวัย 79 ปี อดีต ปธน.ดูเตอร์เต้ แห่งฟิลิปปินส์ ก็โยนระเบิดนิวเคลียร์ข้อมูล 3 ลูกใส่ผู้พิพากษาอย่างกะทันหันว่า "กองทัพสหรัฐรับคำสั่งจากรัฐบาลสหรัฐ สังหารพลเรือน 350,000 คนในอัฟกานิสถาน ศาลอาญาระหว่างประเทศแกล้งทำเป็นตาบอดมา 20 ปี! อิสราเอลทิ้งระเบิดใส่ชาวปาเลสไตน์ โดยเฉพาะเด็กเสียชีวิตไป 50,000 คนในฉนวนกาซา หมายจับของคุณอยู่ที่ไหน?" ผู้เฒ่าดูเตอร์เต้ แสดงให้เห็นถึงหลักฐานที่แท้จริงของการควบคุมยาเสพติดในเมืองดาเวาในศาล และการติดตามของโรงเรียนอนุบาลแสดงให้เห็นว่าอัตราการก่ออาชญากรรมลดลง 73% หลังจากมีการห้ามยาเสพติด ผู้พิพากษาประธานศาลอาญาระหว่างประเทศรีบเคาะค้อนเพื่อหยุดเขา แต่ดูเตอร์เต้กลับหยิบภาพถ่ายชุดหนึ่งออกมา เป็นศพของเด็กที่ถูกพ่อค้ายาฆ่าตาย และสถานที่เกิดเหตุระเบิดของโดรนสหรัฐในอัฟกานิสถาน ถามว่า "ฝ่ายไหนต่อต้านมนุษย์มากกว่ากัน" ผู้ชมต่างโห่ร้องแสดงความยินดี และชาวฟิลิปปินส์ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศก็ตะโกนว่า "ประธานาธิบดีจงเจริญ" และเจ้าหน้าที่บังคับคดีก็ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ รัฐบาลของมาร์กอส จูเนียร์ กำลังอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เดิมทีต้องการใช้ศาลอาญาระหว่างประเทศโค่นล้มคู่ต่อสู้ทางการเมือง แต่กลับทำให้คะแนนนิยมของซาราห์ รองประธานาธิบดีพุ่งสูงถึง 39% ดูเตอร์เต้ สัญญาในศาลว่า "หากฉันถูกตัดสินว่ามีความผิด โปรดนำไบเดนและเนทันยาฮูมาขึ้นศาลด้วย!" คำกล่าวนี้เผยให้เห็นหน้ากากอันหน้าซื่อใจคดของศาลอาญาระหว่างประเทศที่ "โจมตียุงเท่านั้น ไม่โจมตีเสือ" ทำให้ศาลอาญาระหว่างประเทศอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นเดียวกัน การจะตัดสินว่า ดูเตอร์เต้ มีความผิดหรือไม่เริ่มมีปัญหา ? ประเทศโลกทางใต้เตรียมถอนตัวออกจากกลุ่มพร้อมกัน จึงไม่ใช่มีความผิด?นักการเงินตะวันตกตัดเงินทุนหลายร้อยล้านยูโร การพิจารณาคดีแห่งศตวรรษนี้ในที่สุดก็กลายเป็นกระจกวิเศษที่เผยให้เห็นฝีหนองของความยุติธรรมระหว่างประเทศและรุ่งอรุณของระเบียบโลกใหม่ ชัยโย ชัยโย ชัยโย !!!Cr. K.Soms..Cr. Paisan Apacnews#Save112#Saveรัฐธรรมนูญ2560#ไม่เอาคนหนักแผ่นดิน#ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม#ThammasatPitakTham
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก Technion ค้นพบวิธีดึงข้อมูลจาก DNA ได้เร็วขึ้น 3,200 เท่าด้วย AI ชื่อ DNAformer ซึ่งสามารถลดเวลาการดึงข้อมูลจากหลายวันเหลือเพียง 10 นาที โดยยังเพิ่มความแม่นยำของข้อมูลถึง 40% งานนี้แสดงถึงการผสานเทคโนโลยีชีวภาพกับ AI อย่างลงตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ในอนาคต

    การประยุกต์ใช้ DNAformer:
    - DNAformer สามารถดึงข้อมูลได้โดยไม่มีการสูญหาย เช่น การจัดเก็บภาพสี คลิปเสียง และข้อมูลที่บีบอัดหรือเข้ารหัส.
    - ทีมวิจัยทดสอบด้วยชุดข้อมูลขนาดเล็ก 3.1 เมกะไบต์และลดเวลาการดึงข้อมูลจากหลายวันเหลือเพียง 10 นาที.

    การแก้ปัญหาของเทคโนโลยี DNA Storage:
    - การดึงข้อมูลช้าถือเป็นอุปสรรคใหญ่ในการใช้ DNA Storage แต่ DNAformer แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการลดเวลาและเพิ่มความแม่นยำอย่างมีประสิทธิภาพ.

    มุมมองเชิงอุตสาหกรรม:
    - นักวิจัยกำลังพัฒนาให้ DNAformer ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และปรับปรุงการจัดลำดับ DNA เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น.

    ความน่าสนใจของ DNA Storage:
    - DNA มีความจุที่มหาศาลและสามารถเก็บข้อมูลได้เป็นพันล้านปี แต่ยังคงช้ากว่าเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิม เช่น HDD และ SSD.

    https://www.techspot.com/news/107265-ai-supercharges-dna-data-retrieval-making-3200-times.html
    นักวิจัยจาก Technion ค้นพบวิธีดึงข้อมูลจาก DNA ได้เร็วขึ้น 3,200 เท่าด้วย AI ชื่อ DNAformer ซึ่งสามารถลดเวลาการดึงข้อมูลจากหลายวันเหลือเพียง 10 นาที โดยยังเพิ่มความแม่นยำของข้อมูลถึง 40% งานนี้แสดงถึงการผสานเทคโนโลยีชีวภาพกับ AI อย่างลงตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ในอนาคต การประยุกต์ใช้ DNAformer: - DNAformer สามารถดึงข้อมูลได้โดยไม่มีการสูญหาย เช่น การจัดเก็บภาพสี คลิปเสียง และข้อมูลที่บีบอัดหรือเข้ารหัส. - ทีมวิจัยทดสอบด้วยชุดข้อมูลขนาดเล็ก 3.1 เมกะไบต์และลดเวลาการดึงข้อมูลจากหลายวันเหลือเพียง 10 นาที. การแก้ปัญหาของเทคโนโลยี DNA Storage: - การดึงข้อมูลช้าถือเป็นอุปสรรคใหญ่ในการใช้ DNA Storage แต่ DNAformer แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการลดเวลาและเพิ่มความแม่นยำอย่างมีประสิทธิภาพ. มุมมองเชิงอุตสาหกรรม: - นักวิจัยกำลังพัฒนาให้ DNAformer ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และปรับปรุงการจัดลำดับ DNA เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น. ความน่าสนใจของ DNA Storage: - DNA มีความจุที่มหาศาลและสามารถเก็บข้อมูลได้เป็นพันล้านปี แต่ยังคงช้ากว่าเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิม เช่น HDD และ SSD. https://www.techspot.com/news/107265-ai-supercharges-dna-data-retrieval-making-3200-times.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI supercharges DNA storage's data retrieval, making it 3,200 times faster
    Visionary solutions using DNA sequencing have been hailed as the future of the storage world for a few years now. Biology seems to have solved the data...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • 23andMe บริษัทตรวจ DNA ยื่นล้มละลายและเตรียมขายธุรกิจหลังเผชิญปัญหาการเจาะข้อมูลครั้งใหญ่ ผู้ใช้กว่า 5.5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ขณะที่ตลาดตรวจ DNA ก็มีแนวโน้มลดลง CEO Anne Wojcicki ประกาศลาออกจากตำแหน่ง สถานการณ์นี้สะท้อนถึงผลกระทบจากความปลอดภัยข้อมูลและความท้าทายของธุรกิจเทคโนโลยีที่ขาดการต่อยอด

    ความเสียหายที่เกิดจากการเจาะข้อมูล:
    - นอกจากข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ผ่านฟีเจอร์ DNA Relatives ยังมีข้อมูลสายตระกูลของผู้ใช้งานอีก 1.4 ล้านคน ที่ถูกแฮ็ก การโจมตีครั้งนี้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อความปลอดภัยและชื่อเสียงของบริษัท.

    การลดลงของตลาดตรวจ DNA:
    - ผู้บริโภคมองว่าโมเดลธุรกิจของการตรวจ DNA แบบ "ใช้ครั้งเดียว" ไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานซ้ำ จึงทำให้ความสนใจในบริการนี้ลดลงเรื่อย ๆ.

    ความพยายามในการฟื้นฟูบริษัทที่ล้มเหลว:
    - 23andMe เคยพยายามปรับโครงสร้างธุรกิจผ่านการลดพนักงานลงถึง 40% เพื่อลดค่าใช้จ่ายรายปีกว่า $35 ล้าน แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้.

    การลดมูลค่าหุ้นอย่างมาก:
    - มูลค่าหุ้นที่เคยสูงสุดถึง $320 ลดลงจนเหลือเพียง $0.92 ซึ่งเป็นสัญญาณถึงปัญหาทางการเงินที่ลุกลามและไม่สามารถแก้ไขได้.

    https://www.techspot.com/news/107268-dna-testing-firm-23andme-files-bankruptcy-ceo-anne.html
    23andMe บริษัทตรวจ DNA ยื่นล้มละลายและเตรียมขายธุรกิจหลังเผชิญปัญหาการเจาะข้อมูลครั้งใหญ่ ผู้ใช้กว่า 5.5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ขณะที่ตลาดตรวจ DNA ก็มีแนวโน้มลดลง CEO Anne Wojcicki ประกาศลาออกจากตำแหน่ง สถานการณ์นี้สะท้อนถึงผลกระทบจากความปลอดภัยข้อมูลและความท้าทายของธุรกิจเทคโนโลยีที่ขาดการต่อยอด ความเสียหายที่เกิดจากการเจาะข้อมูล: - นอกจากข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ผ่านฟีเจอร์ DNA Relatives ยังมีข้อมูลสายตระกูลของผู้ใช้งานอีก 1.4 ล้านคน ที่ถูกแฮ็ก การโจมตีครั้งนี้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อความปลอดภัยและชื่อเสียงของบริษัท. การลดลงของตลาดตรวจ DNA: - ผู้บริโภคมองว่าโมเดลธุรกิจของการตรวจ DNA แบบ "ใช้ครั้งเดียว" ไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานซ้ำ จึงทำให้ความสนใจในบริการนี้ลดลงเรื่อย ๆ. ความพยายามในการฟื้นฟูบริษัทที่ล้มเหลว: - 23andMe เคยพยายามปรับโครงสร้างธุรกิจผ่านการลดพนักงานลงถึง 40% เพื่อลดค่าใช้จ่ายรายปีกว่า $35 ล้าน แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้. การลดมูลค่าหุ้นอย่างมาก: - มูลค่าหุ้นที่เคยสูงสุดถึง $320 ลดลงจนเหลือเพียง $0.92 ซึ่งเป็นสัญญาณถึงปัญหาทางการเงินที่ลุกลามและไม่สามารถแก้ไขได้. https://www.techspot.com/news/107268-dna-testing-firm-23andme-files-bankruptcy-ceo-anne.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    DNA testing firm 23andMe files for bankruptcy, CEO Anne Wojcicki resigns
    23andMe was founded in 2006 as a direct-to-consumer genetics testing specialist and became a publicly traded company in June 2021, trading under the ticker symbol "ME." At...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานล่าสุดชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนา AI แบบ AGI โดยเน้นว่าการเพิ่มพลังประมวลผลเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แม้บริษัทใหญ่ลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีนี้ ผลลัพธ์ที่ได้กลับลดลง นอกจากนี้ นักวิจัยยังสนับสนุนให้เน้นความปลอดภัยและวิธีการพัฒนาที่คุ้มค่า เช่น การลดพลังงานหรือปรับกระบวนการทำงานของ AI ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ความท้าทายในการพัฒนา AGI:
    - แม้มีการลงทุนมากกว่า 56 พันล้านดอลลาร์ ใน AI เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ แต่ผลลัพธ์ในด้านประสิทธิภาพเริ่มลดลง เช่น โมเดลล่าสุดของ OpenAI ที่แสดงการปรับปรุงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า.

    ปัญหาด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน:
    - เนื่องจากโมเดล AI ต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล บริษัทต่าง ๆ เช่น Microsoft, Google และ Amazon จึงเริ่มหันไปใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล.

    แนวทางใหม่เพื่อการพัฒนา AI:
    - มีการสำรวจวิธีการที่ไม่เน้นเพิ่มพลังประมวลผล เช่น การใช้ "Test-time Compute" ซึ่งโมเดล AI จะ "คิด" นานขึ้นก่อนให้คำตอบ วิธีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องขยายระบบอย่างมหาศาล แต่ยังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่สมบูรณ์.

    มุมมองด้านความปลอดภัยและจริยธรรม:
    - 82% ของนักวิจัย เชื่อว่าหาก AGI พัฒนาโดยบริษัทเอกชน ควรอยู่ภายใต้การควบคุมสาธารณะเพื่อลดความเสี่ยงและปัญหาด้านจริยธรรม.

    https://www.techspot.com/news/107256-most-ai-researchers-doubt-scaling-current-systems-alone.html
    รายงานล่าสุดชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนา AI แบบ AGI โดยเน้นว่าการเพิ่มพลังประมวลผลเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แม้บริษัทใหญ่ลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีนี้ ผลลัพธ์ที่ได้กลับลดลง นอกจากนี้ นักวิจัยยังสนับสนุนให้เน้นความปลอดภัยและวิธีการพัฒนาที่คุ้มค่า เช่น การลดพลังงานหรือปรับกระบวนการทำงานของ AI ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ความท้าทายในการพัฒนา AGI: - แม้มีการลงทุนมากกว่า 56 พันล้านดอลลาร์ ใน AI เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ แต่ผลลัพธ์ในด้านประสิทธิภาพเริ่มลดลง เช่น โมเดลล่าสุดของ OpenAI ที่แสดงการปรับปรุงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า. ปัญหาด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน: - เนื่องจากโมเดล AI ต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล บริษัทต่าง ๆ เช่น Microsoft, Google และ Amazon จึงเริ่มหันไปใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล. แนวทางใหม่เพื่อการพัฒนา AI: - มีการสำรวจวิธีการที่ไม่เน้นเพิ่มพลังประมวลผล เช่น การใช้ "Test-time Compute" ซึ่งโมเดล AI จะ "คิด" นานขึ้นก่อนให้คำตอบ วิธีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องขยายระบบอย่างมหาศาล แต่ยังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่สมบูรณ์. มุมมองด้านความปลอดภัยและจริยธรรม: - 82% ของนักวิจัย เชื่อว่าหาก AGI พัฒนาโดยบริษัทเอกชน ควรอยู่ภายใต้การควบคุมสาธารณะเพื่อลดความเสี่ยงและปัญหาด้านจริยธรรม. https://www.techspot.com/news/107256-most-ai-researchers-doubt-scaling-current-systems-alone.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Most AI experts say chasing AGI with more compute is a losing strategy
    A recent survey of 475 AI researchers reveals that 76% believe adding more computing power and data to current AI models is "unlikely" or "very unlikely" to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD เปิดตัว Gaia แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับการใช้งาน LLMs บนเครื่อง PC โดยเฉพาะ Gaia ไม่เพียงเพิ่มความเร็วและแม่นยำ แต่ยังช่วยให้ใช้งาน LLMs ได้แบบออฟไลน์ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความปลอดภัยและการประมวลผลข้อมูลในเครื่องส่วนตัว

    ฟีเจอร์เด่นของ Gaia:
    - Gaia มีตัวเลือกเอเจนต์ เช่น Simple Prompt Completion สำหรับการทดสอบโมเดล, Chaty ซึ่งเป็นแชตบ็อตสำหรับโต้ตอบกับผู้ใช้, Clip ที่มีฟีเจอร์ค้นหาใน YouTube, และ Joker ซึ่งเพิ่มมิติความสนุกด้วยการเล่าเรื่องตลก.
    - การทำงานรวมกับระบบ Retrieval-Augmented Generation (RAG) ช่วยให้ Gaia เพิ่มความแม่นยำและความเกี่ยวข้องของผลลัพธ์

    ประโยชน์ของการรัน LLMs แบบโลคอล:
    - ลดเวลาแฝง (latency) และเพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลไม่ได้ส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก.
    - สามารถใช้งานได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดทางการเชื่อมต่อ.

    ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่น ๆ:
    - Gaia มีตัวเลือกติดตั้งสองแบบคือ Mainstream Installer ซึ่งรองรับ PC ทุกรุ่น และ Hybrid Installer ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Ryzen AI PCs เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล.

    ข้อได้เปรียบเหนือโซลูชันคลาวด์:
    - ความสามารถของ Gaia ในการประมวลผลแบบออฟไลน์และรองรับการใช้งานหลากหลาย เช่น การสรุปข้อมูลและการตอบคำถามเชิงลึก อาจดึงดูดผู้ใช้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-launches-gaia-open-source-project-for-running-llms-locally-on-any-pc
    AMD เปิดตัว Gaia แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับการใช้งาน LLMs บนเครื่อง PC โดยเฉพาะ Gaia ไม่เพียงเพิ่มความเร็วและแม่นยำ แต่ยังช่วยให้ใช้งาน LLMs ได้แบบออฟไลน์ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความปลอดภัยและการประมวลผลข้อมูลในเครื่องส่วนตัว ฟีเจอร์เด่นของ Gaia: - Gaia มีตัวเลือกเอเจนต์ เช่น Simple Prompt Completion สำหรับการทดสอบโมเดล, Chaty ซึ่งเป็นแชตบ็อตสำหรับโต้ตอบกับผู้ใช้, Clip ที่มีฟีเจอร์ค้นหาใน YouTube, และ Joker ซึ่งเพิ่มมิติความสนุกด้วยการเล่าเรื่องตลก. - การทำงานรวมกับระบบ Retrieval-Augmented Generation (RAG) ช่วยให้ Gaia เพิ่มความแม่นยำและความเกี่ยวข้องของผลลัพธ์ ประโยชน์ของการรัน LLMs แบบโลคอล: - ลดเวลาแฝง (latency) และเพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลไม่ได้ส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก. - สามารถใช้งานได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดทางการเชื่อมต่อ. ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่น ๆ: - Gaia มีตัวเลือกติดตั้งสองแบบคือ Mainstream Installer ซึ่งรองรับ PC ทุกรุ่น และ Hybrid Installer ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Ryzen AI PCs เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล. ข้อได้เปรียบเหนือโซลูชันคลาวด์: - ความสามารถของ Gaia ในการประมวลผลแบบออฟไลน์และรองรับการใช้งานหลากหลาย เช่น การสรุปข้อมูลและการตอบคำถามเชิงลึก อาจดึงดูดผู้ใช้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว. https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-launches-gaia-open-source-project-for-running-llms-locally-on-any-pc
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD launches Gaia open source project for running LLMs locally on any PC
    Gaia runs faster on Ryzen AI PCs, using the XDNA NPU and RDNA iGPU.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำหรับใครที่ทำงานเกี่ยวกับ AI หรือกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงาน AI บน Ryzen 9000 Series Asus ได้ออกฟีเจอร์ AI Cache Boost ที่ช่วยให้การประมวลผล AI เร็วขึ้นถึง 19% เหมาะสำหรับการใช้งานในงานที่เกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่และต้องการความเร็วสูง ฟีเจอร์นี้ยังมีการปรับแต่งได้หลากหลาย เพียงแค่ระวังการตั้งค่าที่อาจกระทบความเสถียรของระบบ

    ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด:
    - เมื่อเปิดใช้ AI Cache Boost บนโปรเซสเซอร์ Ryzen 9000 Series ที่มี AMD 3D V-Cache พบว่าประสิทธิภาพการประมวลผล AI เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 19% โดยเฉพาะในงานที่ไม่ใช้ multithreading เต็มที่.
    - ตัวอย่างการปรับปรุงที่วัดได้: ในการทดสอบ Geekbench AI คะแนน Single Precision เพิ่มขึ้น 3.4% - 8% และคะแนน Half Precision เพิ่มขึ้นถึง 7.93% ในบางรุ่น เช่น Ryzen 7 9800X3D.

    การใช้งานร่วมกับโหมดอื่น:
    - หากเปิด AI Cache Boost พร้อม Turbo Game Mode และปรับการตั้งค่าหยุด multi-threading ผลลัพธ์การเร่งประสิทธิภาพอาจสูงขึ้นกว่าเดิม เช่น Ryzen 9 9950X3D มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 19.35%.

    ประโยชน์สำหรับนักพัฒนาและนักวิจัย:
    - ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์งาน AI โดยเฉพาะ เช่น การประมวลผลชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้เหมาะสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ AI หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับ LLM โดยตรง.

    ข้อควรระวัง:
    - Asus ย้ำว่า AI Cache Boost ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม และอาจส่งผลต่อความเสถียรของระบบหากเปิดใช้งานพร้อมการตั้งค่าอื่น ๆ ที่ไม่เหมาะสม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/asus-unveils-ai-cache-boost-claims-up-to-19-percent-faster-ai-workloads-on-ryzen-9000-series
    สำหรับใครที่ทำงานเกี่ยวกับ AI หรือกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงาน AI บน Ryzen 9000 Series Asus ได้ออกฟีเจอร์ AI Cache Boost ที่ช่วยให้การประมวลผล AI เร็วขึ้นถึง 19% เหมาะสำหรับการใช้งานในงานที่เกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่และต้องการความเร็วสูง ฟีเจอร์นี้ยังมีการปรับแต่งได้หลากหลาย เพียงแค่ระวังการตั้งค่าที่อาจกระทบความเสถียรของระบบ ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด: - เมื่อเปิดใช้ AI Cache Boost บนโปรเซสเซอร์ Ryzen 9000 Series ที่มี AMD 3D V-Cache พบว่าประสิทธิภาพการประมวลผล AI เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 19% โดยเฉพาะในงานที่ไม่ใช้ multithreading เต็มที่. - ตัวอย่างการปรับปรุงที่วัดได้: ในการทดสอบ Geekbench AI คะแนน Single Precision เพิ่มขึ้น 3.4% - 8% และคะแนน Half Precision เพิ่มขึ้นถึง 7.93% ในบางรุ่น เช่น Ryzen 7 9800X3D. การใช้งานร่วมกับโหมดอื่น: - หากเปิด AI Cache Boost พร้อม Turbo Game Mode และปรับการตั้งค่าหยุด multi-threading ผลลัพธ์การเร่งประสิทธิภาพอาจสูงขึ้นกว่าเดิม เช่น Ryzen 9 9950X3D มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 19.35%. ประโยชน์สำหรับนักพัฒนาและนักวิจัย: - ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์งาน AI โดยเฉพาะ เช่น การประมวลผลชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้เหมาะสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ AI หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับ LLM โดยตรง. ข้อควรระวัง: - Asus ย้ำว่า AI Cache Boost ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม และอาจส่งผลต่อความเสถียรของระบบหากเปิดใช้งานพร้อมการตั้งค่าอื่น ๆ ที่ไม่เหมาะสม https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/asus-unveils-ai-cache-boost-claims-up-to-19-percent-faster-ai-workloads-on-ryzen-9000-series
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • SoftBank ได้เข้าซื้อ Ampere Computing ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูลด้วยดีลมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ ธุรกิจนี้จะช่วยเสริมสร้างแผนการลงทุนด้าน AI ของ SoftBank ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ Ampere ยังเตรียมเปิดตัวซีพียู 256 คอร์ ที่ใช้เทคโนโลยี 3 นาโนเมตรภายในปีนี้ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมได้อย่างมหาศาล

    ศักยภาพใหม่ของ Ampere ภายใต้ SoftBank:
    - Ampere จะมีบทบาทสำคัญในแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ SoftBank ที่ชื่อ Stargate ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเครือข่ายศูนย์ข้อมูลสำหรับ AI ในระดับใหญ่

    ประวัติของ Ampere และความท้าทายที่ผ่านมา:
    - แม้ Ampere จะเป็นที่รู้จักในฐานะผู้พัฒนาชิปที่ออกแบบมาสำหรับบริการคลาวด์ แต่การแข่งขันที่รุนแรงกับซีพียู x86 จาก Intel และการเข้าสู่ตลาดของ Arm เอง ทำให้การขยายส่วนแบ่งตลาดของ Ampere เป็นเรื่องยากในอดีต

    ความสำคัญของการสนับสนุนจาก SoftBank:
    - SoftBank วางแผนใช้ Ampere CPUs สำหรับศูนย์ข้อมูลของตัวเอง รวมถึงพันธมิตรอย่าง Oracle และ OpenAI ซึ่งหากสำเร็จ อาจทำให้ Ampere กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในวงการซีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูล

    มุมมองจากผู้บริหาร:
    - Masayoshi Son, CEO ของ SoftBank, ระบุว่า "อนาคตของปัญญาประดิษฐ์ต้องการกำลังการประมวลผลที่ล้ำหน้า ซึ่งความเชี่ยวชาญของ Ampere ในด้านเซมิคอนดักเตอร์จะช่วยเร่งวิสัยทัศน์นี้ให้กลายเป็นจริง"

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/softbank-to-acquire-arm-cpus-for-datacenter-firm-ampere-in-usd6-5-billion-cash-deal
    SoftBank ได้เข้าซื้อ Ampere Computing ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูลด้วยดีลมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ ธุรกิจนี้จะช่วยเสริมสร้างแผนการลงทุนด้าน AI ของ SoftBank ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ Ampere ยังเตรียมเปิดตัวซีพียู 256 คอร์ ที่ใช้เทคโนโลยี 3 นาโนเมตรภายในปีนี้ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมได้อย่างมหาศาล ศักยภาพใหม่ของ Ampere ภายใต้ SoftBank: - Ampere จะมีบทบาทสำคัญในแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ SoftBank ที่ชื่อ Stargate ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเครือข่ายศูนย์ข้อมูลสำหรับ AI ในระดับใหญ่ ประวัติของ Ampere และความท้าทายที่ผ่านมา: - แม้ Ampere จะเป็นที่รู้จักในฐานะผู้พัฒนาชิปที่ออกแบบมาสำหรับบริการคลาวด์ แต่การแข่งขันที่รุนแรงกับซีพียู x86 จาก Intel และการเข้าสู่ตลาดของ Arm เอง ทำให้การขยายส่วนแบ่งตลาดของ Ampere เป็นเรื่องยากในอดีต ความสำคัญของการสนับสนุนจาก SoftBank: - SoftBank วางแผนใช้ Ampere CPUs สำหรับศูนย์ข้อมูลของตัวเอง รวมถึงพันธมิตรอย่าง Oracle และ OpenAI ซึ่งหากสำเร็จ อาจทำให้ Ampere กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในวงการซีพียูสำหรับศูนย์ข้อมูล มุมมองจากผู้บริหาร: - Masayoshi Son, CEO ของ SoftBank, ระบุว่า "อนาคตของปัญญาประดิษฐ์ต้องการกำลังการประมวลผลที่ล้ำหน้า ซึ่งความเชี่ยวชาญของ Ampere ในด้านเซมิคอนดักเตอร์จะช่วยเร่งวิสัยทัศน์นี้ให้กลายเป็นจริง" https://www.tomshardware.com/tech-industry/softbank-to-acquire-arm-cpus-for-datacenter-firm-ampere-in-usd6-5-billion-cash-deal
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    SoftBank to acquire Arm CPUs for datacenter firm Ampere in $6.5 billion cash deal
    Ampere's roadmap includes the launch of 3nm processors with 256-cores later this year.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • FBI เตือนว่าการใช้เว็บไซต์แปลงไฟล์ฟรีอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลส่วนตัวและการติดมัลแวร์ แฮ็กเกอร์ใช้กลยุทธ์หลอกลวงโดยทำให้เว็บไซต์ดูเหมือนปลอดภัย แต่กลับแฝงภัยไว้เบื้องหลัง ผู้ใช้งานควรเลือกเครื่องมือจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและหลีกเลี่ยงการส่งข้อมูลสำคัญไปยังเว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก

    ลักษณะการหลอกลวง:
    - เครื่องมือแปลงไฟล์ เช่น การแปลง .doc เป็น .pdf หรือรวมไฟล์ .jpg หลายไฟล์เป็น .pdf อาจดูเหมือนใช้งานได้ตามปกติ แต่เบื้องหลังมีการติดตั้งมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลจากไฟล์ที่อัปโหลด.

    เป้าหมายของแฮ็กเกอร์:
    - แฮ็กเกอร์ใช้ข้อมูลที่ได้จากการหลอกลวงนี้เพื่อสร้างความเสียหาย เช่น การขโมยตัวตน ข้อมูลการเงิน หรือทำกิจกรรมไซเบอร์อื่น ๆ.

    คำแนะนำจาก FBI:
    - หน่วยงานเน้นย้ำความสำคัญของการศึกษาให้ผู้ใช้ระมัดระวังและไม่ใช้งานเครื่องมือออนไลน์ฟรีจากแหล่งที่ไม่เชื่อถือ.

    การแก้ปัญหาและความปลอดภัย:
    - FBI สนับสนุนให้รายงานเหตุการณ์การหลอกลวงผ่านศูนย์รับข้อร้องเรียนอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต (www.ic3.gov) เพื่อช่วยหยุดกิจกรรมเหล่านี้.

    https://www.techradar.com/pro/security/fake-file-converters-are-stealing-info-pushing-ransomware-fbi-warns
    FBI เตือนว่าการใช้เว็บไซต์แปลงไฟล์ฟรีอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลส่วนตัวและการติดมัลแวร์ แฮ็กเกอร์ใช้กลยุทธ์หลอกลวงโดยทำให้เว็บไซต์ดูเหมือนปลอดภัย แต่กลับแฝงภัยไว้เบื้องหลัง ผู้ใช้งานควรเลือกเครื่องมือจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและหลีกเลี่ยงการส่งข้อมูลสำคัญไปยังเว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก ลักษณะการหลอกลวง: - เครื่องมือแปลงไฟล์ เช่น การแปลง .doc เป็น .pdf หรือรวมไฟล์ .jpg หลายไฟล์เป็น .pdf อาจดูเหมือนใช้งานได้ตามปกติ แต่เบื้องหลังมีการติดตั้งมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลจากไฟล์ที่อัปโหลด. เป้าหมายของแฮ็กเกอร์: - แฮ็กเกอร์ใช้ข้อมูลที่ได้จากการหลอกลวงนี้เพื่อสร้างความเสียหาย เช่น การขโมยตัวตน ข้อมูลการเงิน หรือทำกิจกรรมไซเบอร์อื่น ๆ. คำแนะนำจาก FBI: - หน่วยงานเน้นย้ำความสำคัญของการศึกษาให้ผู้ใช้ระมัดระวังและไม่ใช้งานเครื่องมือออนไลน์ฟรีจากแหล่งที่ไม่เชื่อถือ. การแก้ปัญหาและความปลอดภัย: - FBI สนับสนุนให้รายงานเหตุการณ์การหลอกลวงผ่านศูนย์รับข้อร้องเรียนอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต (www.ic3.gov) เพื่อช่วยหยุดกิจกรรมเหล่านี้. https://www.techradar.com/pro/security/fake-file-converters-are-stealing-info-pushing-ransomware-fbi-warns
    WWW.TECHRADAR.COM
    Fake file converters are stealing info, pushing ransomware, FBI warns
    Be careful with web-based file management services, FBI says
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารใหม่เพื่อรวมศูนย์การจัดซื้อเทคโนโลยีและลดการสิ้นเปลือง โดยมุ่งเป้าไปที่การประหยัดงบประมาณถึง 100 พันล้านดอลลาร์ หน่วยงาน GSA จะรับผิดชอบการซื้อสินค้า IT ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างความสำเร็จคือการรวมศูนย์บริการป้องกันข้อมูลที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก

    ลดความสิ้นเปลืองและขจัดความซ้ำซ้อน:
    - ภายในสองเดือนก่อนการลงนามคำสั่ง รัฐบาลได้ยกเลิกหรือปรับปรุงสัญญาไปแล้วกว่า 6,000 ฉบับ ซึ่งช่วยประหยัดงบประมาณอย่างเห็นได้ชัด.

    ผลกระทบด้านการจัดซื้อ:
    - หน่วยงานรัฐ เช่น NASA, NIH และกองทัพบก ได้ทำข้อตกลงการซื้อแบบปริมาณมาก (volume purchasing agreements) ผ่าน GSA แต่มีหลายหน่วยงานที่ยังไม่ได้ทำสัญญาลักษณะนี้

    ความสำเร็จที่ผ่านมาของ GSA:
    - ตัวอย่างเช่น การรวมศูนย์บริการป้องกันข้อมูลประจำตัว ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 150 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2024

    ความคุ้มค่าด้านฮาร์ดแวร์:
    - รัฐบาลใช้เงินประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปีเพื่อซื้อคอมพิวเตอร์สำหรับเจ้าหน้าที่ แต่ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีการซื้อผ่าน GSA เพียง 6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงถึงช่องว่างในการประหยัดงบ

    https://www.techradar.com/pro/us-government-it-contracts-set-to-be-centralized-in-new-trump-order
    รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารใหม่เพื่อรวมศูนย์การจัดซื้อเทคโนโลยีและลดการสิ้นเปลือง โดยมุ่งเป้าไปที่การประหยัดงบประมาณถึง 100 พันล้านดอลลาร์ หน่วยงาน GSA จะรับผิดชอบการซื้อสินค้า IT ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างความสำเร็จคือการรวมศูนย์บริการป้องกันข้อมูลที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก ลดความสิ้นเปลืองและขจัดความซ้ำซ้อน: - ภายในสองเดือนก่อนการลงนามคำสั่ง รัฐบาลได้ยกเลิกหรือปรับปรุงสัญญาไปแล้วกว่า 6,000 ฉบับ ซึ่งช่วยประหยัดงบประมาณอย่างเห็นได้ชัด. ผลกระทบด้านการจัดซื้อ: - หน่วยงานรัฐ เช่น NASA, NIH และกองทัพบก ได้ทำข้อตกลงการซื้อแบบปริมาณมาก (volume purchasing agreements) ผ่าน GSA แต่มีหลายหน่วยงานที่ยังไม่ได้ทำสัญญาลักษณะนี้ ความสำเร็จที่ผ่านมาของ GSA: - ตัวอย่างเช่น การรวมศูนย์บริการป้องกันข้อมูลประจำตัว ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 150 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2024 ความคุ้มค่าด้านฮาร์ดแวร์: - รัฐบาลใช้เงินประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปีเพื่อซื้อคอมพิวเตอร์สำหรับเจ้าหน้าที่ แต่ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีการซื้อผ่าน GSA เพียง 6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงถึงช่องว่างในการประหยัดงบ https://www.techradar.com/pro/us-government-it-contracts-set-to-be-centralized-in-new-trump-order
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • Toshiba เปิดตัวศูนย์พัฒนา HDD แห่งใหม่ในยุโรปเพื่อช่วยองค์กรปรับแต่งระบบจัดเก็บข้อมูลให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พวกเขาแสดงให้เห็นว่าการรวม HDD หลายตัวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายได้อย่างมหาศาล โดย HDD ยังคงมีบทบาทสำคัญในยุคที่ความต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลกำลังเติบโตสูง ใครที่มองหาโซลูชันจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ต้องติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิด

    แนวทางแก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรม:
    - HDD ยังคงเป็นตัวเลือกที่สำคัญในอุตสาหกรรมที่ต้องการความจุสูง เนื่องจากเทคโนโลยี SSD ยังมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและการผลิตที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการในปริมาณมากได้.

    ศักยภาพของการรวม HDD หลายตัว:
    - Toshiba พบว่าการรวม HDD จำนวนมากในระบบ เช่น 60 HDD ใน ZFS storage สามารถใช้ประโยชน์เต็มที่ของเครือข่าย 100GbE และระบบ NAS ในองค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้โดยการใช้ HDD เพียงไม่กี่ตัว.

    การสนับสนุนความรู้:
    - นอกจากการทดสอบฮาร์ดแวร์และพัฒนาสถาปัตยกรรมแล้ว Toshiba ยังมีการจัดทำรายงานและเผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบ whitepapers เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโซลูชันของตน.

    https://www.techradar.com/pro/how-to-make-hard-drives-faster-simple-just-bunch-dozens-of-them-together-says-toshiba
    Toshiba เปิดตัวศูนย์พัฒนา HDD แห่งใหม่ในยุโรปเพื่อช่วยองค์กรปรับแต่งระบบจัดเก็บข้อมูลให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พวกเขาแสดงให้เห็นว่าการรวม HDD หลายตัวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายได้อย่างมหาศาล โดย HDD ยังคงมีบทบาทสำคัญในยุคที่ความต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลกำลังเติบโตสูง ใครที่มองหาโซลูชันจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ต้องติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิด แนวทางแก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรม: - HDD ยังคงเป็นตัวเลือกที่สำคัญในอุตสาหกรรมที่ต้องการความจุสูง เนื่องจากเทคโนโลยี SSD ยังมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและการผลิตที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการในปริมาณมากได้. ศักยภาพของการรวม HDD หลายตัว: - Toshiba พบว่าการรวม HDD จำนวนมากในระบบ เช่น 60 HDD ใน ZFS storage สามารถใช้ประโยชน์เต็มที่ของเครือข่าย 100GbE และระบบ NAS ในองค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้โดยการใช้ HDD เพียงไม่กี่ตัว. การสนับสนุนความรู้: - นอกจากการทดสอบฮาร์ดแวร์และพัฒนาสถาปัตยกรรมแล้ว Toshiba ยังมีการจัดทำรายงานและเผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบ whitepapers เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโซลูชันของตน. https://www.techradar.com/pro/how-to-make-hard-drives-faster-simple-just-bunch-dozens-of-them-together-says-toshiba
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arm เปิดตัว Accuracy Super Resolution ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตของเกมบนสมาร์ทโฟนและลดการใช้พลังงาน เทคโนโลยีนี้สร้างจาก AMD FSR 2 และมุ่งเน้นการใช้งานในอุปกรณ์พลังงานต่ำ นักพัฒนาสามารถปรับแต่งโค้ดได้แบบโอเพ่นซอร์ส อีกทั้งยังมีการเตรียมปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับตลาดเกมมือถือ

    การพัฒนาแบบเปิดเผยข้อมูล:
    - ASR เปิดตัวเป็นโค้ดโอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้อย่างอิสระ.
    - มีแผนปล่อยปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine ภายในสิ้นปี เพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้นสำหรับเกมบนแพลตฟอร์มเหล่านี้.

    เปรียบเทียบกับคู่แข่ง:
    - ใช้วิธีการ temporal upscaling ที่ผสมผสานข้อมูลหลายเฟรม ช่วยสร้างภาพคุณภาพสูงกว่าระบบ spatial upscaling ของ Qualcomm Game Super Resolution (GSR).
    - ASR จับคู่กับชิปเซ็ตอย่าง MediaTek Dimensity 9300 ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้เล่นเกม.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมมือถือ:
    - การเดโมใน GDC 2025 แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพถึง 30% ในการรันเกมผ่าน Unreal Engine 5 โดยไม่ลดคุณภาพกราฟิก.

    ความกว้างขวางในการใช้งาน:
    - ASR สามารถใช้งานได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น MediaTek Dimensity, Qualcomm Snapdragon, Samsung Exynos และแม้แต่ในแล็ปท็อปที่ใช้ Snapdragon X ซีรีส์.

    https://www.techpowerup.com/334562/arm-releases-open-source-asr-upscaler-based-on-amd-fsr-2-technology
    Arm เปิดตัว Accuracy Super Resolution ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตของเกมบนสมาร์ทโฟนและลดการใช้พลังงาน เทคโนโลยีนี้สร้างจาก AMD FSR 2 และมุ่งเน้นการใช้งานในอุปกรณ์พลังงานต่ำ นักพัฒนาสามารถปรับแต่งโค้ดได้แบบโอเพ่นซอร์ส อีกทั้งยังมีการเตรียมปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับตลาดเกมมือถือ การพัฒนาแบบเปิดเผยข้อมูล: - ASR เปิดตัวเป็นโค้ดโอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้อย่างอิสระ. - มีแผนปล่อยปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine ภายในสิ้นปี เพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้นสำหรับเกมบนแพลตฟอร์มเหล่านี้. เปรียบเทียบกับคู่แข่ง: - ใช้วิธีการ temporal upscaling ที่ผสมผสานข้อมูลหลายเฟรม ช่วยสร้างภาพคุณภาพสูงกว่าระบบ spatial upscaling ของ Qualcomm Game Super Resolution (GSR). - ASR จับคู่กับชิปเซ็ตอย่าง MediaTek Dimensity 9300 ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้เล่นเกม. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมมือถือ: - การเดโมใน GDC 2025 แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพถึง 30% ในการรันเกมผ่าน Unreal Engine 5 โดยไม่ลดคุณภาพกราฟิก. ความกว้างขวางในการใช้งาน: - ASR สามารถใช้งานได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น MediaTek Dimensity, Qualcomm Snapdragon, Samsung Exynos และแม้แต่ในแล็ปท็อปที่ใช้ Snapdragon X ซีรีส์. https://www.techpowerup.com/334562/arm-releases-open-source-asr-upscaler-based-on-amd-fsr-2-technology
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Arm Releases Open-Source ASR Upscaler Based on AMD FSR 2 Technology
    Arm has officially unveiled its Accuracy Super Resolution (ASR) upscaling technology at Game Developer Conference 2025, delivering an open-source upscaling solution for mobile and low-power devices. Built upon AMD's FidelityFX Super Resolution 2 (FSR 2) framework, ASR promises up to 53% higher frame...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เปิดตัว DirectX Raytracing (DXR) 1.2 และ Neural Rendering ที่ช่วยเพิ่มความเร็วของ GPU จาก AMD, Intel, และ NVIDIA สูงสุด 10 เท่า เทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยให้ภาพในเกมและหนัง 3D ดูสมจริงขึ้น โดยลดการใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์และทำให้เล่นเกมไหลลื่นกว่าเดิม นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับวงการกราฟิกที่กำลังมองหาเทคโนโลยีที่เร็วขึ้นและคุ้มค่า

    เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโฉมวงการ:
    - Microsoft ได้นำเสนอ Opacity Micromaps (OMM) ซึ่งช่วยลดการคำนวณในงานกราฟิกที่เกี่ยวกับพื้นผิวแบบโปร่งใส โดยการเก็บข้อมูลการโปร่งใสล่วงหน้า.
    - อีกนวัตกรรมคือ Neural Rendering ซึ่งใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อเร่งการสร้างภาพให้เร็วขึ้นและลดการใช้ทรัพยากร GPU.

    ประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน:
    - เทคโนโลยีใหม่ช่วยปรับปรุงเฟรมเรตในเกมแบบเรียลไทม์ และลดปัญหาการสะดุด (stuttering) ในกราฟิกที่ซับซ้อน.
    - นักพัฒนาสามารถสร้างภาพในเกมที่ดูสมจริงขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีราคาแพงเกินไป.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:
    - นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับนักพัฒนาเกมและสตูดิโอภาพยนตร์ที่ต้องการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความคมชัดของภาพ.
    - NVIDIA และ AMD เตรียมปรับปรุงไดรเวอร์ให้เข้ากับ DXR 1.2 เพื่อดึงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ออกมาได้เต็มที่

    https://www.techpowerup.com/334455/microsoft-directx-raytracing-1-2-and-neural-rendering-brings-up-to-10x-speedup-for-amd-intel-and-nvidia-gpus
    Microsoft เปิดตัว DirectX Raytracing (DXR) 1.2 และ Neural Rendering ที่ช่วยเพิ่มความเร็วของ GPU จาก AMD, Intel, และ NVIDIA สูงสุด 10 เท่า เทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยให้ภาพในเกมและหนัง 3D ดูสมจริงขึ้น โดยลดการใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์และทำให้เล่นเกมไหลลื่นกว่าเดิม นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับวงการกราฟิกที่กำลังมองหาเทคโนโลยีที่เร็วขึ้นและคุ้มค่า เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโฉมวงการ: - Microsoft ได้นำเสนอ Opacity Micromaps (OMM) ซึ่งช่วยลดการคำนวณในงานกราฟิกที่เกี่ยวกับพื้นผิวแบบโปร่งใส โดยการเก็บข้อมูลการโปร่งใสล่วงหน้า. - อีกนวัตกรรมคือ Neural Rendering ซึ่งใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อเร่งการสร้างภาพให้เร็วขึ้นและลดการใช้ทรัพยากร GPU. ประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน: - เทคโนโลยีใหม่ช่วยปรับปรุงเฟรมเรตในเกมแบบเรียลไทม์ และลดปัญหาการสะดุด (stuttering) ในกราฟิกที่ซับซ้อน. - นักพัฒนาสามารถสร้างภาพในเกมที่ดูสมจริงขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีราคาแพงเกินไป. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม: - นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับนักพัฒนาเกมและสตูดิโอภาพยนตร์ที่ต้องการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความคมชัดของภาพ. - NVIDIA และ AMD เตรียมปรับปรุงไดรเวอร์ให้เข้ากับ DXR 1.2 เพื่อดึงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ออกมาได้เต็มที่ https://www.techpowerup.com/334455/microsoft-directx-raytracing-1-2-and-neural-rendering-brings-up-to-10x-speedup-for-amd-intel-and-nvidia-gpus
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Microsoft DirectX Raytracing 1.2 and Neural Rendering Brings up to 10x Speedup for AMD, Intel, and NVIDIA GPUs
    Microsoft's DirectX Raytracing (DXR) 1.2 announcement at GDC 2025 introduces two technical innovations that address fundamental ray tracing performance bottlenecks. Opacity micromaps (OMM) reduce the computational overhead in alpha-tested geometry by storing pre-computed opacity data, eliminating re...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผยค่านิยม YOLO ทำผู้ติดเชื้อ HIV เพิ่ม

    กลายเป็นที่วิจารณ์บนโซเชียลฯ ในมาเลเซีย เมื่อนายลูกานิสมัน อะวัง เซานี่ (Lukanisman Awang Sauni) รมช.สาธารณสุขมาเลเซีย กล่าวในการประชุมวุฒิสภา (Dewan Negara) เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ระบุว่าทัศนคติที่เรียกว่า YOLO (โยโล่) หรือ You Only Live Once (เกิดหนเดียวตายหนเดียว) อาจส่งผลต่ออัตราการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ในกลุ่มเพศชาย อายุ 20-39 ปี ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกลายปัญหาที่น่ากังวลอย่างยิ่ง

    ค่านิยม YOLO ช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่กล้าลองทำอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากกระแสโลก นับเป็นปัญหาของคนรุ่นต่อรุ่น ความปรารถนาที่จะทดลองอะไรใหม่ๆ รวมถึงการดูแลตัวเอง ผลักดันให้คนรุ่นใหม่ทำกิจกรรมที่นอกเหนือไปจากการมีเพศสัมพันธ์แบบชายกับหญิง โดยมักจะไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา นอกจากนี้ บทบาทของโซเชียลมีเดียที่ติดต่อกันระหว่างบุคคลมีความเสี่ยงสูง เพราะไม่มีกลไกที่มีประสิทธิภาพในการควบคุม

    จากข้อมูลการเฝ้าระวังของสำนักทะเบียนผู้ติดเชื้อเอดส์แห่งชาติ (NAR) พบว่าในปี 2567 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 90% อยู่ในกลุ่มเพศชาย โดย 75% อยู่ในกลุ่มที่มีอายุ 20-39 ปี แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงจากปี 2545 พบผู้ติดเชื้อ 28.5 รายต่อประชากร 100,000 ราย เหลือ 3,185 รายในปี 2567 หรือ 9.4 รายต่อประชากร 100,000 ราย ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียมีโครงการจัดซื้อยาป้องกันเชื้อเอชไอวีก่อนการสัมผัสโรค หรือเพร็ป (PrEP) แต่ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากคนบางกลุ่ม

    สำนักข่าวเซาต์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (SCMP) รายงานว่า ทฤษฎี YOLO ของ รมช.สาธารณสุขมาเลเซียถูกมองว่าแปลกประหลาด รังเกียจกลุ่ม LGBTQ ไม่ติดตามข่าวสาร และเป็นเรื่องไร้สาระที่กล่าวหาว่าเยาวชนลองมีเพศสัมพันธ์แบบเพศเดียวกันจากค่านิยม YOLO เพราะการรักร่วมเพศเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและไม่ใช่เรื่องสนุก ไม่เหมือนยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังมองว่า รัฐบาลกำลังร่วมปลุกปั่นความกลัวและหาแพะรับบาปให้กับชุมชน LGBTQ โดยชาวเน็ตเรียกร้องให้นำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างของตน

    สำหรับประเทศมาเลเซีย มีกฎหมายอาญาและกฎหมายชารีอะห์ ห้ามมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดธรรมชาติทั้งชายและหญิง เช่น มีเซ็กซ์กับเพศเดียวกัน มีโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือลงโทษด้วยการโบย นอกจากนี้ ยังมีการควบคุมสิ่งที่บ่งบอกว่าเป็น LGBTQ ได้แก่ หนังสือที่มีธีม LGBTQ เคยห้ามนำเข้านาฬิกา Swatch ที่มีสีรุ้งและข้อความสนับสนุน LGBTQ และตำรวจเคยห้ามจัดการแสดง Thai Hot Guys ในงานเปิดตัวไนต์คลับที่ย่านตุนราซัก กรุงกัวลาลัมเปอร์อีกด้วย

    #Newskit
    เผยค่านิยม YOLO ทำผู้ติดเชื้อ HIV เพิ่ม กลายเป็นที่วิจารณ์บนโซเชียลฯ ในมาเลเซีย เมื่อนายลูกานิสมัน อะวัง เซานี่ (Lukanisman Awang Sauni) รมช.สาธารณสุขมาเลเซีย กล่าวในการประชุมวุฒิสภา (Dewan Negara) เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ระบุว่าทัศนคติที่เรียกว่า YOLO (โยโล่) หรือ You Only Live Once (เกิดหนเดียวตายหนเดียว) อาจส่งผลต่ออัตราการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ในกลุ่มเพศชาย อายุ 20-39 ปี ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกลายปัญหาที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ค่านิยม YOLO ช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่กล้าลองทำอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากกระแสโลก นับเป็นปัญหาของคนรุ่นต่อรุ่น ความปรารถนาที่จะทดลองอะไรใหม่ๆ รวมถึงการดูแลตัวเอง ผลักดันให้คนรุ่นใหม่ทำกิจกรรมที่นอกเหนือไปจากการมีเพศสัมพันธ์แบบชายกับหญิง โดยมักจะไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา นอกจากนี้ บทบาทของโซเชียลมีเดียที่ติดต่อกันระหว่างบุคคลมีความเสี่ยงสูง เพราะไม่มีกลไกที่มีประสิทธิภาพในการควบคุม จากข้อมูลการเฝ้าระวังของสำนักทะเบียนผู้ติดเชื้อเอดส์แห่งชาติ (NAR) พบว่าในปี 2567 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 90% อยู่ในกลุ่มเพศชาย โดย 75% อยู่ในกลุ่มที่มีอายุ 20-39 ปี แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงจากปี 2545 พบผู้ติดเชื้อ 28.5 รายต่อประชากร 100,000 ราย เหลือ 3,185 รายในปี 2567 หรือ 9.4 รายต่อประชากร 100,000 ราย ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียมีโครงการจัดซื้อยาป้องกันเชื้อเอชไอวีก่อนการสัมผัสโรค หรือเพร็ป (PrEP) แต่ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากคนบางกลุ่ม สำนักข่าวเซาต์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (SCMP) รายงานว่า ทฤษฎี YOLO ของ รมช.สาธารณสุขมาเลเซียถูกมองว่าแปลกประหลาด รังเกียจกลุ่ม LGBTQ ไม่ติดตามข่าวสาร และเป็นเรื่องไร้สาระที่กล่าวหาว่าเยาวชนลองมีเพศสัมพันธ์แบบเพศเดียวกันจากค่านิยม YOLO เพราะการรักร่วมเพศเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและไม่ใช่เรื่องสนุก ไม่เหมือนยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังมองว่า รัฐบาลกำลังร่วมปลุกปั่นความกลัวและหาแพะรับบาปให้กับชุมชน LGBTQ โดยชาวเน็ตเรียกร้องให้นำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างของตน สำหรับประเทศมาเลเซีย มีกฎหมายอาญาและกฎหมายชารีอะห์ ห้ามมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดธรรมชาติทั้งชายและหญิง เช่น มีเซ็กซ์กับเพศเดียวกัน มีโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือลงโทษด้วยการโบย นอกจากนี้ ยังมีการควบคุมสิ่งที่บ่งบอกว่าเป็น LGBTQ ได้แก่ หนังสือที่มีธีม LGBTQ เคยห้ามนำเข้านาฬิกา Swatch ที่มีสีรุ้งและข้อความสนับสนุน LGBTQ และตำรวจเคยห้ามจัดการแสดง Thai Hot Guys ในงานเปิดตัวไนต์คลับที่ย่านตุนราซัก กรุงกัวลาลัมเปอร์อีกด้วย #Newskit
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มแฮ็กเกอร์ Weaver Ant จากจีนแฝงตัวในระบบของบริษัทโทรคมนาคมแห่งหนึ่งในเอเชียนานถึง 4 ปี โดยใช้เทคนิคซับซ้อนซ่อนโครงสร้างในเราเตอร์ Zyxel และสร้างเครือข่ายลับในระบบ เป้าหมายคือการจารกรรมข้อมูลเครือข่ายสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้มีการตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันภัยลักษณะนี้ในอนาคต

    เทคนิคการแทรกซึมที่ซับซ้อน:
    - กลุ่มนี้ใช้ China Chopper web shell รุ่นเข้ารหัส และพัฒนาเป็น INMemory web shell ที่สามารถซ่อนตัวในหน่วยความจำของระบบ เพื่อดำเนินการอย่างลับ ๆ โดยหลีกเลี่ยงการตรวจจับ.

    กลยุทธ์การสร้างเครือข่ายลับ:
    - Weaver Ant ใช้เทคนิค web shell tunneling โดยเชื่อมโยง shell หลายตัวเพื่อสร้างเครือข่าย Command-and-Control (C2) ภายในระบบของเหยื่อ ช่วยให้สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้.

    เป้าหมายของการจารกรรม:
    - เป้าหมายหลักคือการรวบรวมข้อมูลเครือข่าย รหัสผ่าน และข้อมูลการกำหนดค่า โดยไม่ได้มุ่งเน้นการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการเงิน.

    แนวทางป้องกัน:
    - ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ติดตั้งการควบคุมการจราจรภายในเครือข่าย เปิดใช้งานการล็อก PowerShell และ IIS อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงอัปเดตบัญชีผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอ

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/chinese-weaver-ant-hackers-spied-on-telco-network-for-4-years/
    กลุ่มแฮ็กเกอร์ Weaver Ant จากจีนแฝงตัวในระบบของบริษัทโทรคมนาคมแห่งหนึ่งในเอเชียนานถึง 4 ปี โดยใช้เทคนิคซับซ้อนซ่อนโครงสร้างในเราเตอร์ Zyxel และสร้างเครือข่ายลับในระบบ เป้าหมายคือการจารกรรมข้อมูลเครือข่ายสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้มีการตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันภัยลักษณะนี้ในอนาคต เทคนิคการแทรกซึมที่ซับซ้อน: - กลุ่มนี้ใช้ China Chopper web shell รุ่นเข้ารหัส และพัฒนาเป็น INMemory web shell ที่สามารถซ่อนตัวในหน่วยความจำของระบบ เพื่อดำเนินการอย่างลับ ๆ โดยหลีกเลี่ยงการตรวจจับ. กลยุทธ์การสร้างเครือข่ายลับ: - Weaver Ant ใช้เทคนิค web shell tunneling โดยเชื่อมโยง shell หลายตัวเพื่อสร้างเครือข่าย Command-and-Control (C2) ภายในระบบของเหยื่อ ช่วยให้สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้. เป้าหมายของการจารกรรม: - เป้าหมายหลักคือการรวบรวมข้อมูลเครือข่าย รหัสผ่าน และข้อมูลการกำหนดค่า โดยไม่ได้มุ่งเน้นการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการเงิน. แนวทางป้องกัน: - ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ติดตั้งการควบคุมการจราจรภายในเครือข่าย เปิดใช้งานการล็อก PowerShell และ IIS อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงอัปเดตบัญชีผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/chinese-weaver-ant-hackers-spied-on-telco-network-for-4-years/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • 👨‍👩‍👧‍👦 การตีไม่ใช่การสอน: เจาะลึก พ.ร.บ.ใหม่ ห้ามทารุณกรรมบุตร พ.ศ. 2568
    เมื่อกฎหมายบอกว่า "พ่อแม่ตีลูกไม่ได้": ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของครอบครัวไทย

    📌 เจาะลึกถึงกฎหมายใหม่ห้ามตีลูก พ.ศ. 2568 ซึ่งระบุชัดเจนว่า การทำโทษต้องไม่เป็นการทารุณกรรม หรือรุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ แนวทางการปรับทัศนคติพ่อแม่ สู่การเลี้ยงดูเชิงบวก

    ✨ จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ในสังคมไทยที่ผ่านมา คำว่า "ไม้เรียวคือรัก" หรือ "ตีเพราะรัก" เป็นสิ่งที่หลายครอบครัว เติบโตมาพร้อมกับแนวคิดนี้ แต่ปัจจุบัน เมื่อสังคมเปลี่ยน โลกเปลี่ยน และองค์ความรู้ด้านจิตวิทยาเด็ก พัฒนาไปมากขึ้น ก็เริ่มมีคำถามว่า...

    👉 “การตีลูก = การอบรมจริงหรือ?”

    และแล้ว... คำตอบจากรัฐ ก็มาในรูปแบบของ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป 🗓️

    📖 พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือการแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1567 (2) ซึ่งแต่เดิมเคยระบุว่า ผู้ใช้อำนาจปกครอง พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง สามารถทำโทษบุตร เพื่ออบรมสั่งสอนได้ตามสมควร

    แต่ในฉบับใหม่ ปี 2568 นี้ ระบุเพิ่มเติมไว้อย่างชัดเจนว่า 👇

    “ทำโทษบุตรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน หรือปรับพฤติกรรม โดยต้องไม่เป็นการกระทำทารุณกรรม หรือทำร้ายด้วยความรุนแรงต่อร่างกาย หรือจิตใจ หรือกระทำโดยมิชอบ”

    📌 สรุปคือ พ่อแม่ ยังสามารถอบรมลูกได้ แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรง หรือการกระทำที่เป็นอันตราย ทั้งทางกายและจิตใจ

    ❓ ทำไมถึงต้องออกกฎหมายนี้? สาเหตุหลัก ๆ ของการออกกฎหมายนี้ มาจากหลายปัจจัยรวมกัน เช่น

    📉 ผลกระทบทางจิตใจ เด็กที่ถูกตีบ่อย มีแนวโน้มจะขาดความมั่นใจ เกิดบาดแผลทางใจเรื้อรัง

    😢 การใช้ความรุนแรง แฝงรูปแบบการทารุณกรรม ที่ซ่อนอยู่ภายใต้คำว่า "การสั่งสอน"

    🤝 ความรับผิดชอบของรัฐไทย ในฐานะภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (UNCRC) ที่ต้องปกป้องสิทธิเด็ กจากความรุนแรงทุกรูปแบบ

    🔄 การพัฒนาแนวทางเลี้ยงดูเชิงบวก (Positive Parenting) ที่เริ่มเป็นมาตรฐานสากล

    ⚖️ หัวใจสำคัญของกฎหมาย “ตีลูกไม่ได้” หมายถึงอะไร หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า กฎหมายนี้ ห้ามไม่ให้พ่อแม่อบรมลูกเลย ❌ แต่ในความจริงแล้ว...

    👉 "การสั่งสอนลูกยังทำได้" แต่ต้องเป็นการสั่งสอน ที่ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ดูถูก หรือทำให้ลูกเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ

    ตัวอย่างของพฤติกรรมที่ “ผิด” ตามกฎหมายใหม่
    - ตีด้วยของแข็ง เช่น ไม้แข็ง, สายไฟ
    - ดุด่าด้วยคำรุนแรง หรือดูถูก
    - บังคับให้ลูกกลัว หรือรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า
    - ทำโทษด้วยวิธีที่ขัดกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

    💔 ทัศนคติแบบเดิม ความเข้าใจผิดที่ส่งผลเสีย “ลูกโดนตีตอนเด็ก โตขึ้นมาถึงรู้จักผิดชอบชั่วดี” ประโยคนี้คือความเข้าใจผิด ที่ฝังรากลึกในหลายครอบครัว 😓

    แต่ข้อมูลจากจิตแพทย์เด็ก และองค์กรเพื่อสิทธิเด็กทั่วโลก ชี้ว่า... เด็กที่เติบโตในครอบครัว ที่ใช้ความรุนแรง มักจะมีแนวโน้ม ถ่ายทอดความรุนแรงนั้นต่อไป

    นั่นคือวงจรของ “ความรุนแรงในครอบครัว” ที่ไม่เคยสิ้นสุด 💢 กฎหมายใหม่นี้จึงไม่ได้มาเพื่อ "ลงโทษพ่อแม่" แต่เพื่อหยุดวงจรของความรุนแรงตั้งแต่ต้นทาง

    🌈 การเลี้ยงลูกเชิงบวก แนวคิดนี้เรียกว่า Positive Discipline หรือ Positive Parenting
    เป็นการสั่งสอนลูกโดยใช้ความเข้าใจ ความรัก และเหตุผล มากกว่าความกลัวหรือการบังคับ

    หลักการสำคัญ มีดังนี้
    - สร้างวินัยด้วยข้อตกลง ไม่ใช่การขู่เข็ญ
    - สอนให้ลูกรับผิดชอบ ไม่ใช่รู้สึกผิด
    - ใช้ “ผลลัพธ์ตามธรรมชาติ” แทน “การลงโทษ”

    ตัวอย่าง แทนที่จะตีลูกที่ไม่ยอมทำการบ้าน → อธิบายผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น เช่น คะแนนไม่ดี หรือไม่มีเวลาเล่น

    🛠️ วิธีอบรมลูกโดยไม่ใช้ความรุนแรง
    - ใช้เวลาฟังลูกมากขึ้น 👂 ให้ลูกพูดสิ่งที่รู้สึกหรือคิด โดยไม่ตัดสิน
    - สร้างกฎร่วมกันในบ้าน 📜 เด็กจะเชื่อฟังมากขึ้น ถ้ารู้สึกว่าเขามีส่วนร่วม
    - สอนด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ 💬 เวลาลูกทำผิด ให้ถาม-ตอบ ชวนคิดถึงผลกระทบ
    - เสริมแรงทางบวก 🌟 ชมลูกเมื่อทำสิ่งที่ดี แทนที่จะเน้นเฉพาะเวลาทำผิด
    - เป็นแบบอย่างที่ดี 👨‍👩‍👧 เด็กเรียนรู้พฤติกรรม จากการสังเกตพ่อแม่

    📣 เสียงสะท้อนจากสังคมไทย หลังการประกาศกฎหมายฉบับนี้ มีทั้งเสียงเห็นด้วย และเสียงที่ยัง “ไม่เข้าใจ”

    เสียงเห็นด้วย “กฎหมายนี้ช่วยให้พ่อแม่ หันมาสนใจพัฒนาวิธีสื่อสารกับลูกมากขึ้น ไม่ใช้แต่กำลัง” 🙌

    เสียงคัดค้าน “กลัวว่าเด็กจะไม่กลัว ไม่เชื่อฟัง ถ้าพ่อแม่ไม่มีสิทธิ์ทำโทษ”

    สิ่งสำคัญคือ การสร้างความเข้าใจใหม่ว่า 👉 การสร้างวินัย ไม่เท่ากับการใช้กำลัง

    🧠 พ่อแม่ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
    - เรียนรู้เรื่อง จิตวิทยาพัฒนาการเด็ก
    - เข้าอบรมเรื่อง การเลี้ยงลูกเชิงบวก ที่หลายหน่วยงานจัดขึ้น
    - พูดคุยแลกเปลี่ยนกับครอบครัวอื่น ๆ เพื่อหาแนวทางใหม่
    - ตระหนักว่า “ความรุนแรง” ไม่ได้ช่วยให้ลูกดีขึ้น แต่ ทำให้ห่างกันมากขึ้น

    ❓ คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    Q1 ถ้าแค่ตีเบา ๆ ยังผิดกฎหมายไหม?
    A ถ้าการตีทำให้เด็กเจ็บทั้งกายหรือใจ หรือทำด้วยอารมณ์ ไม่ถือว่าเบา และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย

    Q2 แล้วจะอบรมลูกที่ดื้อยังไงดี?
    A ใช้หลักการ "พูด-ฟัง-เข้าใจ" และเสริมแรงทางบวก เช่น ให้รางวัลเมื่อทำดี

    Q3 ถ้าลูกก้าวร้าวก่อน พ่อแม่ต้องทำยังไง?
    A หลีกเลี่ยงการตอบโต้ ใช้วิธีตั้งสติ พูดคุยหลังเหตุการณ์สงบลง

    Q4 จะรู้ได้ยังไง ว่าเราทำผิดตามกฎหมายหรือไม่?
    A หากมีการทำโทษที่รุนแรง หรือทำให้เด็กรู้สึกด้อยค่า อาจเข้าข่ายผิด

    Q5 กฎหมายนี้ใช้กับครู หรือเฉพาะพ่อแม่?
    A แม้จะเน้นที่ผู้ปกครอง แต่หลักการเดียวกัน ควรใช้กับผู้ใหญ่ทุกคนที่ดูแลเด็ก

    Q6 ถ้ารู้ว่ามีคนใช้ความรุนแรงกับเด็ก จะทำอย่างไร?
    A แจ้งสำนักงานพัฒนาสังคม หรือมูลนิธิเพื่อเด็ก เช่น มูลนิธิเด็ก หรือสายด่วน 1300

    📌 การเลี้ยงลูกในยุคใหม่ ต้องอาศัยทั้งความรัก ความเข้าใจ และการเรียนรู้ พระราชบัญญัติฉบับนี้ ไม่ได้มาเพื่อควบคุมพ่อแม่ แต่มาเพื่อปกป้องเด็ก

    การตี ไม่ใช่การสอนอีกต่อไป... และลูกก็สมควรได้รับการอบรม อย่างมีศักดิ์ศรี ❤️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252012 มี.ค. 2568

    📲 #ห้ามตีลูก #กฎหมายใหม่2568 #การเลี้ยงลูกเชิงบวก #สิทธิเด็กไทย #ราชกิจจานุเบกษา #ครอบครัวไทย #ตีไม่ใช่สอน #เลี้ยงลูกอย่างเข้าใจ #จิตวิทยาเด็ก #พ่อแม่ยุคใหม่
    👨‍👩‍👧‍👦 การตีไม่ใช่การสอน: เจาะลึก พ.ร.บ.ใหม่ ห้ามทารุณกรรมบุตร พ.ศ. 2568 เมื่อกฎหมายบอกว่า "พ่อแม่ตีลูกไม่ได้": ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของครอบครัวไทย 📌 เจาะลึกถึงกฎหมายใหม่ห้ามตีลูก พ.ศ. 2568 ซึ่งระบุชัดเจนว่า การทำโทษต้องไม่เป็นการทารุณกรรม หรือรุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ แนวทางการปรับทัศนคติพ่อแม่ สู่การเลี้ยงดูเชิงบวก ✨ จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ในสังคมไทยที่ผ่านมา คำว่า "ไม้เรียวคือรัก" หรือ "ตีเพราะรัก" เป็นสิ่งที่หลายครอบครัว เติบโตมาพร้อมกับแนวคิดนี้ แต่ปัจจุบัน เมื่อสังคมเปลี่ยน โลกเปลี่ยน และองค์ความรู้ด้านจิตวิทยาเด็ก พัฒนาไปมากขึ้น ก็เริ่มมีคำถามว่า... 👉 “การตีลูก = การอบรมจริงหรือ?” และแล้ว... คำตอบจากรัฐ ก็มาในรูปแบบของ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป 🗓️ 📖 พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือการแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1567 (2) ซึ่งแต่เดิมเคยระบุว่า ผู้ใช้อำนาจปกครอง พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง สามารถทำโทษบุตร เพื่ออบรมสั่งสอนได้ตามสมควร แต่ในฉบับใหม่ ปี 2568 นี้ ระบุเพิ่มเติมไว้อย่างชัดเจนว่า 👇 “ทำโทษบุตรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน หรือปรับพฤติกรรม โดยต้องไม่เป็นการกระทำทารุณกรรม หรือทำร้ายด้วยความรุนแรงต่อร่างกาย หรือจิตใจ หรือกระทำโดยมิชอบ” 📌 สรุปคือ พ่อแม่ ยังสามารถอบรมลูกได้ แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรง หรือการกระทำที่เป็นอันตราย ทั้งทางกายและจิตใจ ❓ ทำไมถึงต้องออกกฎหมายนี้? สาเหตุหลัก ๆ ของการออกกฎหมายนี้ มาจากหลายปัจจัยรวมกัน เช่น 📉 ผลกระทบทางจิตใจ เด็กที่ถูกตีบ่อย มีแนวโน้มจะขาดความมั่นใจ เกิดบาดแผลทางใจเรื้อรัง 😢 การใช้ความรุนแรง แฝงรูปแบบการทารุณกรรม ที่ซ่อนอยู่ภายใต้คำว่า "การสั่งสอน" 🤝 ความรับผิดชอบของรัฐไทย ในฐานะภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (UNCRC) ที่ต้องปกป้องสิทธิเด็ กจากความรุนแรงทุกรูปแบบ 🔄 การพัฒนาแนวทางเลี้ยงดูเชิงบวก (Positive Parenting) ที่เริ่มเป็นมาตรฐานสากล ⚖️ หัวใจสำคัญของกฎหมาย “ตีลูกไม่ได้” หมายถึงอะไร หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า กฎหมายนี้ ห้ามไม่ให้พ่อแม่อบรมลูกเลย ❌ แต่ในความจริงแล้ว... 👉 "การสั่งสอนลูกยังทำได้" แต่ต้องเป็นการสั่งสอน ที่ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ดูถูก หรือทำให้ลูกเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ ตัวอย่างของพฤติกรรมที่ “ผิด” ตามกฎหมายใหม่ - ตีด้วยของแข็ง เช่น ไม้แข็ง, สายไฟ - ดุด่าด้วยคำรุนแรง หรือดูถูก - บังคับให้ลูกกลัว หรือรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า - ทำโทษด้วยวิธีที่ขัดกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 💔 ทัศนคติแบบเดิม ความเข้าใจผิดที่ส่งผลเสีย “ลูกโดนตีตอนเด็ก โตขึ้นมาถึงรู้จักผิดชอบชั่วดี” ประโยคนี้คือความเข้าใจผิด ที่ฝังรากลึกในหลายครอบครัว 😓 แต่ข้อมูลจากจิตแพทย์เด็ก และองค์กรเพื่อสิทธิเด็กทั่วโลก ชี้ว่า... เด็กที่เติบโตในครอบครัว ที่ใช้ความรุนแรง มักจะมีแนวโน้ม ถ่ายทอดความรุนแรงนั้นต่อไป นั่นคือวงจรของ “ความรุนแรงในครอบครัว” ที่ไม่เคยสิ้นสุด 💢 กฎหมายใหม่นี้จึงไม่ได้มาเพื่อ "ลงโทษพ่อแม่" แต่เพื่อหยุดวงจรของความรุนแรงตั้งแต่ต้นทาง 🌈 การเลี้ยงลูกเชิงบวก แนวคิดนี้เรียกว่า Positive Discipline หรือ Positive Parenting เป็นการสั่งสอนลูกโดยใช้ความเข้าใจ ความรัก และเหตุผล มากกว่าความกลัวหรือการบังคับ หลักการสำคัญ มีดังนี้ - สร้างวินัยด้วยข้อตกลง ไม่ใช่การขู่เข็ญ - สอนให้ลูกรับผิดชอบ ไม่ใช่รู้สึกผิด - ใช้ “ผลลัพธ์ตามธรรมชาติ” แทน “การลงโทษ” ตัวอย่าง แทนที่จะตีลูกที่ไม่ยอมทำการบ้าน → อธิบายผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น เช่น คะแนนไม่ดี หรือไม่มีเวลาเล่น 🛠️ วิธีอบรมลูกโดยไม่ใช้ความรุนแรง - ใช้เวลาฟังลูกมากขึ้น 👂 ให้ลูกพูดสิ่งที่รู้สึกหรือคิด โดยไม่ตัดสิน - สร้างกฎร่วมกันในบ้าน 📜 เด็กจะเชื่อฟังมากขึ้น ถ้ารู้สึกว่าเขามีส่วนร่วม - สอนด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ 💬 เวลาลูกทำผิด ให้ถาม-ตอบ ชวนคิดถึงผลกระทบ - เสริมแรงทางบวก 🌟 ชมลูกเมื่อทำสิ่งที่ดี แทนที่จะเน้นเฉพาะเวลาทำผิด - เป็นแบบอย่างที่ดี 👨‍👩‍👧 เด็กเรียนรู้พฤติกรรม จากการสังเกตพ่อแม่ 📣 เสียงสะท้อนจากสังคมไทย หลังการประกาศกฎหมายฉบับนี้ มีทั้งเสียงเห็นด้วย และเสียงที่ยัง “ไม่เข้าใจ” เสียงเห็นด้วย “กฎหมายนี้ช่วยให้พ่อแม่ หันมาสนใจพัฒนาวิธีสื่อสารกับลูกมากขึ้น ไม่ใช้แต่กำลัง” 🙌 เสียงคัดค้าน “กลัวว่าเด็กจะไม่กลัว ไม่เชื่อฟัง ถ้าพ่อแม่ไม่มีสิทธิ์ทำโทษ” สิ่งสำคัญคือ การสร้างความเข้าใจใหม่ว่า 👉 การสร้างวินัย ไม่เท่ากับการใช้กำลัง 🧠 พ่อแม่ต้องเตรียมตัวอย่างไร? - เรียนรู้เรื่อง จิตวิทยาพัฒนาการเด็ก - เข้าอบรมเรื่อง การเลี้ยงลูกเชิงบวก ที่หลายหน่วยงานจัดขึ้น - พูดคุยแลกเปลี่ยนกับครอบครัวอื่น ๆ เพื่อหาแนวทางใหม่ - ตระหนักว่า “ความรุนแรง” ไม่ได้ช่วยให้ลูกดีขึ้น แต่ ทำให้ห่างกันมากขึ้น ❓ คำถามที่พบบ่อย (FAQs) Q1 ถ้าแค่ตีเบา ๆ ยังผิดกฎหมายไหม? A ถ้าการตีทำให้เด็กเจ็บทั้งกายหรือใจ หรือทำด้วยอารมณ์ ไม่ถือว่าเบา และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย Q2 แล้วจะอบรมลูกที่ดื้อยังไงดี? A ใช้หลักการ "พูด-ฟัง-เข้าใจ" และเสริมแรงทางบวก เช่น ให้รางวัลเมื่อทำดี Q3 ถ้าลูกก้าวร้าวก่อน พ่อแม่ต้องทำยังไง? A หลีกเลี่ยงการตอบโต้ ใช้วิธีตั้งสติ พูดคุยหลังเหตุการณ์สงบลง Q4 จะรู้ได้ยังไง ว่าเราทำผิดตามกฎหมายหรือไม่? A หากมีการทำโทษที่รุนแรง หรือทำให้เด็กรู้สึกด้อยค่า อาจเข้าข่ายผิด Q5 กฎหมายนี้ใช้กับครู หรือเฉพาะพ่อแม่? A แม้จะเน้นที่ผู้ปกครอง แต่หลักการเดียวกัน ควรใช้กับผู้ใหญ่ทุกคนที่ดูแลเด็ก Q6 ถ้ารู้ว่ามีคนใช้ความรุนแรงกับเด็ก จะทำอย่างไร? A แจ้งสำนักงานพัฒนาสังคม หรือมูลนิธิเพื่อเด็ก เช่น มูลนิธิเด็ก หรือสายด่วน 1300 📌 การเลี้ยงลูกในยุคใหม่ ต้องอาศัยทั้งความรัก ความเข้าใจ และการเรียนรู้ พระราชบัญญัติฉบับนี้ ไม่ได้มาเพื่อควบคุมพ่อแม่ แต่มาเพื่อปกป้องเด็ก การตี ไม่ใช่การสอนอีกต่อไป... และลูกก็สมควรได้รับการอบรม อย่างมีศักดิ์ศรี ❤️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252012 มี.ค. 2568 📲 #ห้ามตีลูก #กฎหมายใหม่2568 #การเลี้ยงลูกเชิงบวก #สิทธิเด็กไทย #ราชกิจจานุเบกษา #ครอบครัวไทย #ตีไม่ใช่สอน #เลี้ยงลูกอย่างเข้าใจ #จิตวิทยาเด็ก #พ่อแม่ยุคใหม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • การศึกษาล่าสุดเผยว่า Microsoft 365 อาจไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ได้อย่างสมบูรณ์ โดยพบมัลแวร์และ URL อันตรายจำนวนมากในข้อมูลสำรอง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้โซลูชันสำรองข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง ควบคู่กับการอบรมพนักงานและตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการโจมตีซ้ำและเสริมสร้างความปลอดภัยในองค์กร

    ผลการวิจัยที่น่ากังวล:
    - พบ URL อันตรายกว่า 2 ล้านรายการ ที่อาจนำไปสู่เว็บไซต์ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์.
    - มีมัลแวร์กว่า 5,000 รายการ ถูกตรวจพบในข้อมูลสำรอง.

    โมเดลความรับผิดชอบร่วม (Shared Responsibility Model):
    - Microsoft รับผิดชอบความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ขณะที่องค์กรผู้ใช้งานต้องรับผิดชอบการปกป้องข้อมูลและแอปพลิเคชันของตัวเอง.

    ข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มความปลอดภัย:
    - ใช้โซลูชันสำรองข้อมูลที่มีคุณสมบัติการป้องกันขั้นสูง เพื่อลดความเสี่ยงจากมัลแวร์และภัยคุกคาม.
    - เพิ่มความปลอดภัยอีเมล เช่น การบล็อกอีเมลฟิชชิ่งและการหลอกลวง.
    - อบรมพนักงานให้รับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์และทำการจำลองสถานการณ์เพื่อสร้างความตื่นตัว.

    ผลกระทบของภัยคุกคามในข้อมูลสำรอง:
    - หากมัลแวร์หรือ URL อันตรายแฝงตัวในข้อมูลสำรอง จะสามารถกลับมาติดระบบใหม่ได้ทุกครั้งที่กู้คืนข้อมูล สร้างวงจรการโจมตีซ้ำ ๆ

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/hidden-threats-how-microsoft-365-backups-store-risks-for-future-attacks/
    การศึกษาล่าสุดเผยว่า Microsoft 365 อาจไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ได้อย่างสมบูรณ์ โดยพบมัลแวร์และ URL อันตรายจำนวนมากในข้อมูลสำรอง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้โซลูชันสำรองข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง ควบคู่กับการอบรมพนักงานและตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการโจมตีซ้ำและเสริมสร้างความปลอดภัยในองค์กร ผลการวิจัยที่น่ากังวล: - พบ URL อันตรายกว่า 2 ล้านรายการ ที่อาจนำไปสู่เว็บไซต์ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์. - มีมัลแวร์กว่า 5,000 รายการ ถูกตรวจพบในข้อมูลสำรอง. โมเดลความรับผิดชอบร่วม (Shared Responsibility Model): - Microsoft รับผิดชอบความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ขณะที่องค์กรผู้ใช้งานต้องรับผิดชอบการปกป้องข้อมูลและแอปพลิเคชันของตัวเอง. ข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มความปลอดภัย: - ใช้โซลูชันสำรองข้อมูลที่มีคุณสมบัติการป้องกันขั้นสูง เพื่อลดความเสี่ยงจากมัลแวร์และภัยคุกคาม. - เพิ่มความปลอดภัยอีเมล เช่น การบล็อกอีเมลฟิชชิ่งและการหลอกลวง. - อบรมพนักงานให้รับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์และทำการจำลองสถานการณ์เพื่อสร้างความตื่นตัว. ผลกระทบของภัยคุกคามในข้อมูลสำรอง: - หากมัลแวร์หรือ URL อันตรายแฝงตัวในข้อมูลสำรอง จะสามารถกลับมาติดระบบใหม่ได้ทุกครั้งที่กู้คืนข้อมูล สร้างวงจรการโจมตีซ้ำ ๆ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/hidden-threats-how-microsoft-365-backups-store-risks-for-future-attacks/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Hidden Threats: How Microsoft 365 Backups Store Risks for Future Attacks
    Acronis Threat Research found 2M+ malicious URLs & 5,000+ malware instances in Microsoft 365 backup data—demonstrating how built-in security isn't always enough. Don't let threats persist in your cloud data. Strengthen your defenses.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ เรียกร้องมาเลเซียให้แก้ปัญหาช่องโหว่การส่งต่อชิป AI ระดับสูงของ NVIDIA ไปยังจีนอย่างผิดกฎหมาย มาเลเซียได้เริ่มจัดการเรื่องนี้แล้ว ด้วยการตั้งทีมตรวจสอบเพื่อควบคุมการส่งออก โดยชิป AI ของ NVIDIA มีความสำคัญมากในตลาดเทคโนโลยีขั้นสูง การขยับตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของสหรัฐฯ ในการคงความได้เปรียบของตนในด้าน AI ท่ามกลางการแข่งขันกับจีน

    มาตรการของมาเลเซีย:
    - มาเลเซียได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบและกำกับดูแลการส่งออกชิปของ NVIDIA โดยเน้นให้เซิร์ฟเวอร์ไปถึงศูนย์ข้อมูลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เพื่อป้องกันการเปลี่ยนเส้นทางไปยังจีน.

    ปัญหาการค้าผ่านช่องทางลับ:
    - การส่งต่อชิป NVIDIA ไปยังจีนเกิดขึ้นแม้จะมีข้อจำกัดการส่งออก โดยในกรณีหนึ่ง พบชาวสิงคโปร์ 3 คนขายเซิร์ฟเวอร์ AI ของ NVIDIA มูลค่า 390 ล้านดอลลาร์ให้กับจีน.

    ผลกระทบและความสำคัญของชิป AI:
    - ชิป AI ของ NVIDIA เช่น Blackwell GPU มีความสำคัญอย่างมากสำหรับศูนย์ข้อมูล AI และมีความต้องการสูงทั่วโลก การขาดตลาดอาจทำให้รายได้ของ NVIDIA ลดลงหากช่องโหว่ถูกแก้ไข.

    ความท้าทายสำหรับมาเลเซีย:
    - แม้มาเลเซียจะได้รับการกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าผิดกฎหมาย แต่รัฐมนตรีการค้าของมาเลเซียปฏิเสธว่ามีหลักฐานเพียงพอ และประเทศเองก็มีความต้องการใช้ชิป AI สูงเนื่องจากได้รับการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ถึง 25 พันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในประเทศ.

    https://wccftech.com/the-us-has-reportedly-demanded-malaysia-to-patch-trade-loopholes/
    สหรัฐฯ เรียกร้องมาเลเซียให้แก้ปัญหาช่องโหว่การส่งต่อชิป AI ระดับสูงของ NVIDIA ไปยังจีนอย่างผิดกฎหมาย มาเลเซียได้เริ่มจัดการเรื่องนี้แล้ว ด้วยการตั้งทีมตรวจสอบเพื่อควบคุมการส่งออก โดยชิป AI ของ NVIDIA มีความสำคัญมากในตลาดเทคโนโลยีขั้นสูง การขยับตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของสหรัฐฯ ในการคงความได้เปรียบของตนในด้าน AI ท่ามกลางการแข่งขันกับจีน มาตรการของมาเลเซีย: - มาเลเซียได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบและกำกับดูแลการส่งออกชิปของ NVIDIA โดยเน้นให้เซิร์ฟเวอร์ไปถึงศูนย์ข้อมูลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เพื่อป้องกันการเปลี่ยนเส้นทางไปยังจีน. ปัญหาการค้าผ่านช่องทางลับ: - การส่งต่อชิป NVIDIA ไปยังจีนเกิดขึ้นแม้จะมีข้อจำกัดการส่งออก โดยในกรณีหนึ่ง พบชาวสิงคโปร์ 3 คนขายเซิร์ฟเวอร์ AI ของ NVIDIA มูลค่า 390 ล้านดอลลาร์ให้กับจีน. ผลกระทบและความสำคัญของชิป AI: - ชิป AI ของ NVIDIA เช่น Blackwell GPU มีความสำคัญอย่างมากสำหรับศูนย์ข้อมูล AI และมีความต้องการสูงทั่วโลก การขาดตลาดอาจทำให้รายได้ของ NVIDIA ลดลงหากช่องโหว่ถูกแก้ไข. ความท้าทายสำหรับมาเลเซีย: - แม้มาเลเซียจะได้รับการกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าผิดกฎหมาย แต่รัฐมนตรีการค้าของมาเลเซียปฏิเสธว่ามีหลักฐานเพียงพอ และประเทศเองก็มีความต้องการใช้ชิป AI สูงเนื่องจากได้รับการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ถึง 25 พันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในประเทศ. https://wccftech.com/the-us-has-reportedly-demanded-malaysia-to-patch-trade-loopholes/
    WCCFTECH.COM
    The US Has Reportedly Demanded Malaysia To Patch "Trade Loopholes" That Have Transferred Billions in NVIDIA AI Chips to China
    Malaysia is now starting its crackdown on the "trade loopholes", which involved the transfer of NVIDIA's AI chips to China, by illegal means.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • DeepSeek จากจีนปล่อยอัปเดตใหม่ให้โมเดล AI รุ่น V3-0324 โดยเน้นแก้ปัญหาในโลกจริงและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน โมเดลนี้ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญที่กระตุ้นให้วงการ AI ต้องปรับตัว เพราะสามารถทำงานได้ดีและใช้งบพัฒนาน้อยกว่าเจ้าใหญ่ ๆ ในตลาด ใครที่ติดตามการแข่งขันระหว่าง AI ในจีนและสหรัฐฯ ต้องจับตาดู DeepSeek อย่างใกล้ชิด

    เป้าหมายในการพัฒนา:
    - อัปเดต V3-0324 มุ่งเน้นการนำ AI เข้ามาแก้ปัญหาในโลกจริง ขณะที่ปรับปรุงความแม่นยำให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:
    - DeepSeek จุดประกายการถกเถียงว่าแพลตฟอร์ม AI ขนาดใหญ่สามารถพัฒนาได้ในงบประมาณที่ต่ำกว่าบริษัทจากสหรัฐฯ ที่ทุ่มเงินมหาศาลในการสร้างศูนย์ข้อมูล.

    แรงสั่นสะเทือนต่อการแข่งขัน:
    - ความสำเร็จของ DeepSeek ทำให้เกิดแรงกดดันในตลาด AI และสร้างแรงกระตุ้นให้ผู้พัฒนารายใหญ่ต้องเร่งพัฒนาโมเดลที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/25/chinas-deepseek-unveils-latest-update-in-race-with-openai
    DeepSeek จากจีนปล่อยอัปเดตใหม่ให้โมเดล AI รุ่น V3-0324 โดยเน้นแก้ปัญหาในโลกจริงและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน โมเดลนี้ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญที่กระตุ้นให้วงการ AI ต้องปรับตัว เพราะสามารถทำงานได้ดีและใช้งบพัฒนาน้อยกว่าเจ้าใหญ่ ๆ ในตลาด ใครที่ติดตามการแข่งขันระหว่าง AI ในจีนและสหรัฐฯ ต้องจับตาดู DeepSeek อย่างใกล้ชิด เป้าหมายในการพัฒนา: - อัปเดต V3-0324 มุ่งเน้นการนำ AI เข้ามาแก้ปัญหาในโลกจริง ขณะที่ปรับปรุงความแม่นยำให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม: - DeepSeek จุดประกายการถกเถียงว่าแพลตฟอร์ม AI ขนาดใหญ่สามารถพัฒนาได้ในงบประมาณที่ต่ำกว่าบริษัทจากสหรัฐฯ ที่ทุ่มเงินมหาศาลในการสร้างศูนย์ข้อมูล. แรงสั่นสะเทือนต่อการแข่งขัน: - ความสำเร็จของ DeepSeek ทำให้เกิดแรงกดดันในตลาด AI และสร้างแรงกระตุ้นให้ผู้พัฒนารายใหญ่ต้องเร่งพัฒนาโมเดลที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/25/chinas-deepseek-unveils-latest-update-in-race-with-openai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    China's DeepSeek unveils latest update in race with OpenAI
    DeepSeek released updates to its V3 model that promise to deliver better programming capabilities, underscoring the Chinese AI startup's intent to remain a step ahead of competitors.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1X Technologies จากนอร์เวย์กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ Neo Gamma ที่สามารถช่วยงานบ้านได้หลากหลาย เช่น รดน้ำต้นไม้และใช้เครื่องดูดฝุ่น พวกเขากำลังเริ่มทดลองใช้งานในบ้านจริง โดยมีการควบคุมระยะไกลเพื่อเก็บข้อมูลและพัฒนาการทำงานของหุ่นยนต์ รวมถึงการสื่อสารกับมนุษย์ ใครจะรู้ว่าหุ่นยนต์อัจฉริยะเหล่านี้อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกบ้านในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    ความสามารถของหุ่นยนต์ Neo Gamma:
    - ใช้ AI ที่ช่วยให้หุ่นยนต์เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัวและจับวัตถุได้ แต่ยังมีงานและฟังก์ชันหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้ก่อนจะช่วยงานคนได้อย่างเต็มที่.

    การทดลองในโลกจริงครั้งแรก:
    - นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ 1X Technologies จะนำหุ่นยนต์ออกจากห้องทดลองไปใช้งานในบ้าน ซึ่งจะมีผู้ควบคุมระยะไกลเพื่อช่วยเก็บข้อมูลการทำงานของหุ่นยนต์ในสภาพแวดล้อมจริง.

    การพัฒนา AI เพื่อการสื่อสารที่ดีขึ้น:
    - การทดลองครั้งนี้ยังมุ่งสอนให้หุ่นยนต์เข้าใจและโต้ตอบภาษาธรรมชาติกับผู้คนในบ้านได้ดีขึ้น.

    การสนับสนุนจาก Nvidia:
    - Neo Gamma ได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยี AI แบบเปิดและปรับแต่งได้จาก Nvidia ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานของหุ่นยนต์.

    อนาคตของหุ่นยนต์ในบ้าน:
    - รายงานจาก Bank of America คาดการณ์ว่าในปี 2060 จะมีหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์มากถึง 3 พันล้านตัวทั่วโลก โดย 65% จะใช้งานในบ้าน เช่น การดูแลผู้สูงอายุหรือช่วยงานบ้าน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/25/humanoid-robots-in-the-home-tests-are-starting-this-year
    1X Technologies จากนอร์เวย์กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ Neo Gamma ที่สามารถช่วยงานบ้านได้หลากหลาย เช่น รดน้ำต้นไม้และใช้เครื่องดูดฝุ่น พวกเขากำลังเริ่มทดลองใช้งานในบ้านจริง โดยมีการควบคุมระยะไกลเพื่อเก็บข้อมูลและพัฒนาการทำงานของหุ่นยนต์ รวมถึงการสื่อสารกับมนุษย์ ใครจะรู้ว่าหุ่นยนต์อัจฉริยะเหล่านี้อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกบ้านในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ความสามารถของหุ่นยนต์ Neo Gamma: - ใช้ AI ที่ช่วยให้หุ่นยนต์เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัวและจับวัตถุได้ แต่ยังมีงานและฟังก์ชันหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้ก่อนจะช่วยงานคนได้อย่างเต็มที่. การทดลองในโลกจริงครั้งแรก: - นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ 1X Technologies จะนำหุ่นยนต์ออกจากห้องทดลองไปใช้งานในบ้าน ซึ่งจะมีผู้ควบคุมระยะไกลเพื่อช่วยเก็บข้อมูลการทำงานของหุ่นยนต์ในสภาพแวดล้อมจริง. การพัฒนา AI เพื่อการสื่อสารที่ดีขึ้น: - การทดลองครั้งนี้ยังมุ่งสอนให้หุ่นยนต์เข้าใจและโต้ตอบภาษาธรรมชาติกับผู้คนในบ้านได้ดีขึ้น. การสนับสนุนจาก Nvidia: - Neo Gamma ได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยี AI แบบเปิดและปรับแต่งได้จาก Nvidia ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานของหุ่นยนต์. อนาคตของหุ่นยนต์ในบ้าน: - รายงานจาก Bank of America คาดการณ์ว่าในปี 2060 จะมีหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์มากถึง 3 พันล้านตัวทั่วโลก โดย 65% จะใช้งานในบ้าน เช่น การดูแลผู้สูงอายุหรือช่วยงานบ้าน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/25/humanoid-robots-in-the-home-tests-are-starting-this-year
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Humanoid robots in the home? Tests are starting this year
    Norwegian startup 1X Technologies plans to test its Neo Gamma humanoid robot in real-life conditions, in several hundred homes, from 2025.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • Vibe Coding เป็นแนวคิดใหม่ในวงการพัฒนาโปรแกรม โดยใช้ AI ช่วยเขียนโค้ดให้นักพัฒนามีเวลาไปโฟกัสกับงานที่ซับซ้อนและสร้างสรรค์มากขึ้น นักพัฒนามืออาชีพต่างแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโอกาสและความเสี่ยงของวิธีนี้ หลายคนเชื่อว่า AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาการพัฒนาโค้ดได้ อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้ AI ทำงานโดยไม่มีการตรวจสอบ อาจเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัยและคุณภาพของโค้ด ซึ่งแนวคิดนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทั้งในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์และการศึกษา

    ประโยชน์ของ Vibe Coding:
    - ผู้พัฒนาบางรายรายงานว่า AI สามารถช่วยพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ได้รวดเร็ว เช่น การสร้างต้นแบบฟังก์ชันภายใน 20 นาที โดยลดเวลาที่ใช้ในการพัฒนาไปอย่างมาก.
    - Vibe Coding ทำให้นักพัฒนาสามารถมุ่งไปที่การแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์และซับซ้อนมากขึ้น แทนที่จะเสียเวลาทำงานที่ซ้ำซ้อน.

    ข้อจำกัดและความเสี่ยง:
    - นักพัฒนามือใหม่หรือคนที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ด อาจสร้างโค้ดที่ไม่ปลอดภัย เช่น มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย หรือโค้ดที่ยากต่อการบำรุงรักษา.
    - การใช้ AI สร้างโค้ดโดยไม่มีมนุษย์ตรวจสอบอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด เช่น การใช้งานข้อมูลส่วนตัวผิดวิธี.

    ความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการศึกษาและการเรียนรู้:
    - AI ไม่เพียงช่วยในด้านการพัฒนาโค้ดเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนรู้ เช่น การทำให้การเรียนการสอนมีความสร้างสรรค์และลดความกดดันจากการท่องจำ.

    https://www.zdnet.com/article/10-professional-developers-on-the-true-promise-and-peril-of-vibe-coding/
    Vibe Coding เป็นแนวคิดใหม่ในวงการพัฒนาโปรแกรม โดยใช้ AI ช่วยเขียนโค้ดให้นักพัฒนามีเวลาไปโฟกัสกับงานที่ซับซ้อนและสร้างสรรค์มากขึ้น นักพัฒนามืออาชีพต่างแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโอกาสและความเสี่ยงของวิธีนี้ หลายคนเชื่อว่า AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาการพัฒนาโค้ดได้ อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้ AI ทำงานโดยไม่มีการตรวจสอบ อาจเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัยและคุณภาพของโค้ด ซึ่งแนวคิดนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทั้งในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์และการศึกษา ประโยชน์ของ Vibe Coding: - ผู้พัฒนาบางรายรายงานว่า AI สามารถช่วยพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ได้รวดเร็ว เช่น การสร้างต้นแบบฟังก์ชันภายใน 20 นาที โดยลดเวลาที่ใช้ในการพัฒนาไปอย่างมาก. - Vibe Coding ทำให้นักพัฒนาสามารถมุ่งไปที่การแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์และซับซ้อนมากขึ้น แทนที่จะเสียเวลาทำงานที่ซ้ำซ้อน. ข้อจำกัดและความเสี่ยง: - นักพัฒนามือใหม่หรือคนที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ด อาจสร้างโค้ดที่ไม่ปลอดภัย เช่น มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย หรือโค้ดที่ยากต่อการบำรุงรักษา. - การใช้ AI สร้างโค้ดโดยไม่มีมนุษย์ตรวจสอบอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด เช่น การใช้งานข้อมูลส่วนตัวผิดวิธี. ความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการศึกษาและการเรียนรู้: - AI ไม่เพียงช่วยในด้านการพัฒนาโค้ดเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนรู้ เช่น การทำให้การเรียนการสอนมีความสร้างสรรค์และลดความกดดันจากการท่องจำ. https://www.zdnet.com/article/10-professional-developers-on-the-true-promise-and-peril-of-vibe-coding/
    WWW.ZDNET.COM
    10 professional developers on the true promise and peril of vibe coding
    Is vibe coding the future of software or a security nightmare in disguise? Here's how experienced developers are responding to the latest AI-fueled coding craze.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากถูกจับได้ว่าทำงานพลาดจนปล่อยให้แผนการโจมตีเยเมนหลุดไปหาคนนอกจากกลุ่มแชท "พีท เฮกเซธ" รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ปฏิเสธว่าไม่มีใครในรัฐบาลมีการส่งข้อความเกี่ยวกับแผนการโจมตีครั้งนี

    อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตบางส่วนเชื่อตามคำกล่าวอ้างของเฮกเซธ โดยกล่าวแสดงความเห็นว่า จริงๆแล้วเฮกเซธอาจจะไม่ได้ทำพลาดโดยปล่อยรายละเอียดการโจมตีให้หลุดออกมา แต่โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร The Atlantic ซึ่งมีข่าวลือว่าเขาเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ IDF ของอิสราเอล ถูกจับได้ว่าขโมยข้อมูลจากเฮกเซธและคนอื่นๆ เพื่อส่งให้กับอิสราเอล และพวกเขาจำเป็นต้องโยนความผิดให้เฮกเซธเมื่อข่าวนี้ถูกจับได้ก่อนจะแพร่สะพัดออกไป
    หลังจากถูกจับได้ว่าทำงานพลาดจนปล่อยให้แผนการโจมตีเยเมนหลุดไปหาคนนอกจากกลุ่มแชท "พีท เฮกเซธ" รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ปฏิเสธว่าไม่มีใครในรัฐบาลมีการส่งข้อความเกี่ยวกับแผนการโจมตีครั้งนี อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตบางส่วนเชื่อตามคำกล่าวอ้างของเฮกเซธ โดยกล่าวแสดงความเห็นว่า จริงๆแล้วเฮกเซธอาจจะไม่ได้ทำพลาดโดยปล่อยรายละเอียดการโจมตีให้หลุดออกมา แต่โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร The Atlantic ซึ่งมีข่าวลือว่าเขาเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ IDF ของอิสราเอล ถูกจับได้ว่าขโมยข้อมูลจากเฮกเซธและคนอื่นๆ เพื่อส่งให้กับอิสราเอล และพวกเขาจำเป็นต้องโยนความผิดให้เฮกเซธเมื่อข่าวนี้ถูกจับได้ก่อนจะแพร่สะพัดออกไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • เป็นการพลั้งเผลอที่ร้ายแรงมาก : เมื่อสหรัฐ "เผลอ" ดึง Jeffrey Goldberg บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร The Atlantic เข้าไปในกลุ่มแชทสนทนาของแอปฯ Signal ก่อนที่การโจมตี 'ฮูตี' ในเยเมนจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา

    Goldberg เปิดเผยผ่านบทความของตัวเองว่า เขาถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มแชทที่ชื่อ 'Houthi PC Small Group' ตั้งแต่ 2 วันก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง:
    ในกลุ่มสนทนานี้มีทั้ง Mike Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ, Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ, JD Vance รองประธานาธิบดีสหรัฐ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในรัฐบาลทรัมป์

    Goldberg กล่าวอีกว่าในช่วงสองวันที่เขาอยู่ในกลุ่มสนทนานี้ ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะมีการเปิดฉากโจมตีฮูตี เจ้าหน้าที่ระดับสูงในฝ่ายบริหารได้ถกเถียงกันว่าการโจมตีควรเกิดขึ้นหรือไม่ โดยรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ มีความเห็นว่า "ไม่ควรเปิดฉากโจมตีแบบรุนแรง" เนื่องจากคนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจและไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีเรือในทะเลแดงของกลุ่มฮูตี

    แต่ Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ แย้งว่าการโจมตีครั้งนี้มีประโยชน์ต่อสหรัฐในการป้องกันการโจมตีเรือเดินทะเลผ่านช่องแคบบาบอัลมันดาบในอนาคต

    ในตอนท้าย Goldberg ระบุว่าเขาได้รับข้อความในแชทจากพีท เฮกเซธ แต่เขาไม่สามารถกล่าวถึงข้อความดังกล่าวโดยตรงได้ เนื่องจากข้อความดังกล่าว เป็นข้อความที่ละเอียดอ่อนและมีข้อมูลลับสุดยอด ซึ่ง Goldberg เน้นว่า “หากข้อมูลดังกล่าวถูกอ่านโดยศัตรูของสหรัฐ อาจถูกนำไปใช้ทำร้ายทหารและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการกลาง (CENTCOM)”

    Goldberg กล่าวว่านี่ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่ออย่างน่าตกใจของการสนทนาครั้งนี้ที่เขาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งมีรายละเอียดการปฏิบัติการของการโจมตีเยเมนที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมาย อาวุธที่สหรัฐจะนำไปใช้ และลำดับการโจมตี และแสดงความกังวลถึงความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะหากผู้ที่มีข้อมูลเผยแพร่แผนดังกล่าวก่อนปฏิบัติการจริง อาจทำให้ปฏิบัติการของสหรัฐฯ ล้มเหลวหรือสร้างความเสียหายตามมา

    โกลด์เบิร์กได้สอบถามไปยังไบรอัน ฮิวจ์ส โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเกี่ยวกับกลุ่มสนทนาดังกล่าว โดยเขายอมรับว่า นี่อาจเป็น ของจริง และขอเวลาในการตรวจสอบว่ามีการเพิ่มบุคคลเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจนี้ได้อย่างไร

    อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้นำเรื่องนี้มาเปิดเผยก่อนการโจมตีเกิดขึ้นแต่อย่างใด
    เป็นการพลั้งเผลอที่ร้ายแรงมาก : เมื่อสหรัฐ "เผลอ" ดึง Jeffrey Goldberg บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร The Atlantic เข้าไปในกลุ่มแชทสนทนาของแอปฯ Signal ก่อนที่การโจมตี 'ฮูตี' ในเยเมนจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา Goldberg เปิดเผยผ่านบทความของตัวเองว่า เขาถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มแชทที่ชื่อ 'Houthi PC Small Group' ตั้งแต่ 2 วันก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง: ในกลุ่มสนทนานี้มีทั้ง Mike Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ, Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ, JD Vance รองประธานาธิบดีสหรัฐ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในรัฐบาลทรัมป์ Goldberg กล่าวอีกว่าในช่วงสองวันที่เขาอยู่ในกลุ่มสนทนานี้ ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะมีการเปิดฉากโจมตีฮูตี เจ้าหน้าที่ระดับสูงในฝ่ายบริหารได้ถกเถียงกันว่าการโจมตีควรเกิดขึ้นหรือไม่ โดยรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ มีความเห็นว่า "ไม่ควรเปิดฉากโจมตีแบบรุนแรง" เนื่องจากคนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจและไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีเรือในทะเลแดงของกลุ่มฮูตี แต่ Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ แย้งว่าการโจมตีครั้งนี้มีประโยชน์ต่อสหรัฐในการป้องกันการโจมตีเรือเดินทะเลผ่านช่องแคบบาบอัลมันดาบในอนาคต ในตอนท้าย Goldberg ระบุว่าเขาได้รับข้อความในแชทจากพีท เฮกเซธ แต่เขาไม่สามารถกล่าวถึงข้อความดังกล่าวโดยตรงได้ เนื่องจากข้อความดังกล่าว เป็นข้อความที่ละเอียดอ่อนและมีข้อมูลลับสุดยอด ซึ่ง Goldberg เน้นว่า “หากข้อมูลดังกล่าวถูกอ่านโดยศัตรูของสหรัฐ อาจถูกนำไปใช้ทำร้ายทหารและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการกลาง (CENTCOM)” Goldberg กล่าวว่านี่ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่ออย่างน่าตกใจของการสนทนาครั้งนี้ที่เขาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งมีรายละเอียดการปฏิบัติการของการโจมตีเยเมนที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมาย อาวุธที่สหรัฐจะนำไปใช้ และลำดับการโจมตี และแสดงความกังวลถึงความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะหากผู้ที่มีข้อมูลเผยแพร่แผนดังกล่าวก่อนปฏิบัติการจริง อาจทำให้ปฏิบัติการของสหรัฐฯ ล้มเหลวหรือสร้างความเสียหายตามมา โกลด์เบิร์กได้สอบถามไปยังไบรอัน ฮิวจ์ส โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเกี่ยวกับกลุ่มสนทนาดังกล่าว โดยเขายอมรับว่า นี่อาจเป็น ของจริง และขอเวลาในการตรวจสอบว่ามีการเพิ่มบุคคลเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจนี้ได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้นำเรื่องนี้มาเปิดเผยก่อนการโจมตีเกิดขึ้นแต่อย่างใด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและข่าวกรองอเมริกัน หวั่นปฏิบัติการอย่างใหญ่โตครึกโครม ในการปรับโครงสร้างหน่วยงานรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (DOGE -- โดช) ภายใต้การควบคุมของอีลอน มัสก์ กำลังบีบให้เจ้าหน้าที่รัฐนับพันคนที่มีความรู้และมีเส้นสายวงในต้องหางานทำใหม่ และนี่จะหมายถึงโอกาสทองของรัสเซีย จีน ศัตรูอื่นๆ ของอเมริกา ตลอดจนถึงองค์กรอาชญากรรมมากมาย ที่จะเข้าถึงบุคคลเหล่านั้นเพื่อหาข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อพวกเขา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000028188
    ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและข่าวกรองอเมริกัน หวั่นปฏิบัติการอย่างใหญ่โตครึกโครม ในการปรับโครงสร้างหน่วยงานรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (DOGE -- โดช) ภายใต้การควบคุมของอีลอน มัสก์ กำลังบีบให้เจ้าหน้าที่รัฐนับพันคนที่มีความรู้และมีเส้นสายวงในต้องหางานทำใหม่ และนี่จะหมายถึงโอกาสทองของรัสเซีย จีน ศัตรูอื่นๆ ของอเมริกา ตลอดจนถึงองค์กรอาชญากรรมมากมาย ที่จะเข้าถึงบุคคลเหล่านั้นเพื่อหาข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อพวกเขา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000028188
    Like
    Love
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 725 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มาคุยในเรื่องที่เพื่อนเพจท่านหนึ่งเคยถามมา สืบเนื่องจากเราเห็นละครจีนโบราณหลายเรื่องมีการกินน้ำแกงคุมกำเนิดหรือแม้แต่น้ำแกงที่ทำให้แท้งลูก อย่างตัวอย่างในเรื่อง <ร้อยรักปักดวงใจ> ที่หนึ่งในตัวละครหลักคืออนุฉินถูกบังคับให้กินน้ำแกงคุมกำเนิดมาตลอดจนภายหลังเมื่อตั้งครรภ์ก็แท้งลูกและไม่สามารถมีลูกได้อีก คำถามคือ มียาอย่างนี้จริงๆ หรือ?

    คำตอบคือ ‘น่าจะมี’ เพราะมีสูตรยาจีนโบราณหลายฉบับที่สืบทอดกันมาจวบจนปัจจุบัน เพียงแต่ว่าไม่มีใครออกมายืนยันว่าได้ทดลองและได้ผลจริง สาเหตุก็เพราะว่าปัจจุบันมีวิธีและยาคุมกำเนิดหลากหลาย และยาสูตรโบราณเหล่านี้อาจมีผลร้ายในระยะยาวต่อร่างกายได้ ดังเช่นที่ตำรายาจีนโบราณเคยกล่าวไว้ว่า ‘เป็นยานั้นไซร้สามส่วนคือพิษ’ (是药三分毒) อันหมายความว่า ยาอาจให้คุณและให้โทษได้

    จีนโบราณมีวิธีคุมกำเนิดหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือการกินน้ำแกงป้องกันการมีบุตร (ปี้จื่อทั้ง / 避子汤) หรือสูตรยาที่หยุดครรภ์ (ต้วนฉ่านฟ้าง / 断产方) อย่างเช่นใน ‘ตำราครรภ์’ ของเต๋อเจิ๊นฉางในสมัยสุย-ถัง หรือ ‘สูตรยาสำคัญของสตรี’ ของซุ้นซื้อเหมี่ยว แพทย์สมัยถังที่เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน

    เท่าที่ Storyฯ หาข้อมูลได้ พบว่ามีสูตรหลากหลาย แต่พอจะสรุปจากตัวยาหลักได้ว่าสรรพคุณโดยรวมของยาคุมกำเนิดและยาหยุดครรภ์เหล่านี้ก็คือ การเพิ่มฤทธิ์ธาตุหยิน (หรือฤทธิ์เย็น) ภายในร่างกาย และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ขับลม ขับเลือดเสีย ซึ่งมียาสมุนไพรจีนหลายตัวที่ให้สรรพคุณเหล่านี้ และหากใช้ในปริมาณที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายจะใช้เป็นยารักษาหรือยาบำรุงได้ เช่นว่า โบราณใช้เป็นยาก่อนตั้งครรภ์เพื่อล้างมดลูกให้สะอาดและบำรุงชี่ปรับสภาพร่างกายเพื่อกระตุ้นให้ตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้น และยาหลังคลอดบุตรหรือหลังประจำเดือนหมดเพื่อขับเลือดเสียที่เกาะอยู่บนผนังมดลูกออกมา ตัวอย่างของยาที่อยู่ในกลุ่มประเภทนี้ก็มีหลายชนิด (ดูรูปตัวอย่าง) เช่น ต่อมหางกวางชะมด ดอกคำฝอย ชวนเกียง น้ำมันที่สกัดจากผักกาดก้านขาว (canola oil) เป็นต้น แน่นอนว่าสูตรยาแต่ละขนานจะประกอบด้วยตัวยาหลากชนิด จึงอาจมีสรรพคุณในด้านอื่นด้วย เช่น ขับลม ลดสภาวะอักเสบในร่างกาย ลดการจับตัวของไขมัน ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น เป็นต้น

    แต่ ‘เป็นยานั้นไซร้สามส่วนคือพิษ’ หากรับประทานต่อเนื่องระยะยาวอาจทำให้มีภาวะโลหิตจาง ร่างกายอ่อนเพลียง่าย มดลูกทำงานไม่ปกติและประจำเดือนมาไม่ปกติ ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ และหากรับประทานในช่วงตั้งครรภ์จะขับลิ่มเลือดและทำให้มดลูกบีบตัว ทำให้แท้งลูกได้ ยกตัวอย่างคือดอกคำฝอย เพื่อนเพจที่ดื่มชาดอกคำฝอยจะทราบดีถึงคำเตือนว่าห้ามดื่มในระหว่างตั้งครรภ์

    เพื่อนเพจที่คุ้นเคยกับยาสมุนไพรและยาจีนจะทราบว่า ยาเหล่านี้ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้ผลดังที่ต้องการ เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหารอย่างอื่นที่เรารับประทานว่ามีฤทธิค้านกัน หรือมีฤทธิเสริมกันแรงเกินไปหรือไม่ และขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน

    ดังนั้นยาสูตร ‘ปี้จื่อทั้ง’ หรือ ‘ต้วนฉ่านฟ้าง’ ที่สืบทอดมาแต่โบราณเหล่านี้ จะออกฤทธิ์ทันควันเหมือนที่เราเห็นในละครหรือไม่? หรือว่าออกฤทธิ์ได้จริงแบบที่เห็นในละครหรือไม่? Storyฯ ก็ไม่ทราบได้ และไม่มีความรู้ลึกซึ้งถึงการรักษาแบบแผนจีนพอที่จะให้ความเห็น แต่ด้วยหลักการ ‘เป็นยานั้นไซร้สามส่วนคือพิษ’ เราจึงมักเห็นพล็อตละคร/นิยายที่มีการปรับสัดส่วนของสมุนไพรในสูตรยาหรือเพิ่มยาตัวอื่นเข้าไปให้กลายเป็นพิษนั่นเอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก:
    https://inf.news/entertainment/b6ddc93cc4f9a720bf5c3fd752c4e1b9.html
    https://www.popdaily.com.tw/forum/entertainment/935802
    https://www.sohu.com/a/251057863_100011360
    https://www.sohu.com/a/249476484_242776
    https://www.sohu.com/a/525891685_121119111
    https://www.huachiewtcm.com/content/8036/ชวนซฺยง-川芎-ข้อมูลสมุนไพรจีน
    https://baike.baidu.com/item/红花/16556131
    https://zh.wikipedia.org/zh-hant/麝香

    #ร้อยรักปักดวงใจ #ปี้จื่อทัง #น้ำแกงห้ามลูก #สมุนไพรในละครจีน
    วันนี้มาคุยในเรื่องที่เพื่อนเพจท่านหนึ่งเคยถามมา สืบเนื่องจากเราเห็นละครจีนโบราณหลายเรื่องมีการกินน้ำแกงคุมกำเนิดหรือแม้แต่น้ำแกงที่ทำให้แท้งลูก อย่างตัวอย่างในเรื่อง <ร้อยรักปักดวงใจ> ที่หนึ่งในตัวละครหลักคืออนุฉินถูกบังคับให้กินน้ำแกงคุมกำเนิดมาตลอดจนภายหลังเมื่อตั้งครรภ์ก็แท้งลูกและไม่สามารถมีลูกได้อีก คำถามคือ มียาอย่างนี้จริงๆ หรือ? คำตอบคือ ‘น่าจะมี’ เพราะมีสูตรยาจีนโบราณหลายฉบับที่สืบทอดกันมาจวบจนปัจจุบัน เพียงแต่ว่าไม่มีใครออกมายืนยันว่าได้ทดลองและได้ผลจริง สาเหตุก็เพราะว่าปัจจุบันมีวิธีและยาคุมกำเนิดหลากหลาย และยาสูตรโบราณเหล่านี้อาจมีผลร้ายในระยะยาวต่อร่างกายได้ ดังเช่นที่ตำรายาจีนโบราณเคยกล่าวไว้ว่า ‘เป็นยานั้นไซร้สามส่วนคือพิษ’ (是药三分毒) อันหมายความว่า ยาอาจให้คุณและให้โทษได้ จีนโบราณมีวิธีคุมกำเนิดหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือการกินน้ำแกงป้องกันการมีบุตร (ปี้จื่อทั้ง / 避子汤) หรือสูตรยาที่หยุดครรภ์ (ต้วนฉ่านฟ้าง / 断产方) อย่างเช่นใน ‘ตำราครรภ์’ ของเต๋อเจิ๊นฉางในสมัยสุย-ถัง หรือ ‘สูตรยาสำคัญของสตรี’ ของซุ้นซื้อเหมี่ยว แพทย์สมัยถังที่เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน เท่าที่ Storyฯ หาข้อมูลได้ พบว่ามีสูตรหลากหลาย แต่พอจะสรุปจากตัวยาหลักได้ว่าสรรพคุณโดยรวมของยาคุมกำเนิดและยาหยุดครรภ์เหล่านี้ก็คือ การเพิ่มฤทธิ์ธาตุหยิน (หรือฤทธิ์เย็น) ภายในร่างกาย และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ขับลม ขับเลือดเสีย ซึ่งมียาสมุนไพรจีนหลายตัวที่ให้สรรพคุณเหล่านี้ และหากใช้ในปริมาณที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายจะใช้เป็นยารักษาหรือยาบำรุงได้ เช่นว่า โบราณใช้เป็นยาก่อนตั้งครรภ์เพื่อล้างมดลูกให้สะอาดและบำรุงชี่ปรับสภาพร่างกายเพื่อกระตุ้นให้ตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้น และยาหลังคลอดบุตรหรือหลังประจำเดือนหมดเพื่อขับเลือดเสียที่เกาะอยู่บนผนังมดลูกออกมา ตัวอย่างของยาที่อยู่ในกลุ่มประเภทนี้ก็มีหลายชนิด (ดูรูปตัวอย่าง) เช่น ต่อมหางกวางชะมด ดอกคำฝอย ชวนเกียง น้ำมันที่สกัดจากผักกาดก้านขาว (canola oil) เป็นต้น แน่นอนว่าสูตรยาแต่ละขนานจะประกอบด้วยตัวยาหลากชนิด จึงอาจมีสรรพคุณในด้านอื่นด้วย เช่น ขับลม ลดสภาวะอักเสบในร่างกาย ลดการจับตัวของไขมัน ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น เป็นต้น แต่ ‘เป็นยานั้นไซร้สามส่วนคือพิษ’ หากรับประทานต่อเนื่องระยะยาวอาจทำให้มีภาวะโลหิตจาง ร่างกายอ่อนเพลียง่าย มดลูกทำงานไม่ปกติและประจำเดือนมาไม่ปกติ ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ และหากรับประทานในช่วงตั้งครรภ์จะขับลิ่มเลือดและทำให้มดลูกบีบตัว ทำให้แท้งลูกได้ ยกตัวอย่างคือดอกคำฝอย เพื่อนเพจที่ดื่มชาดอกคำฝอยจะทราบดีถึงคำเตือนว่าห้ามดื่มในระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อนเพจที่คุ้นเคยกับยาสมุนไพรและยาจีนจะทราบว่า ยาเหล่านี้ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้ผลดังที่ต้องการ เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหารอย่างอื่นที่เรารับประทานว่ามีฤทธิค้านกัน หรือมีฤทธิเสริมกันแรงเกินไปหรือไม่ และขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน ดังนั้นยาสูตร ‘ปี้จื่อทั้ง’ หรือ ‘ต้วนฉ่านฟ้าง’ ที่สืบทอดมาแต่โบราณเหล่านี้ จะออกฤทธิ์ทันควันเหมือนที่เราเห็นในละครหรือไม่? หรือว่าออกฤทธิ์ได้จริงแบบที่เห็นในละครหรือไม่? Storyฯ ก็ไม่ทราบได้ และไม่มีความรู้ลึกซึ้งถึงการรักษาแบบแผนจีนพอที่จะให้ความเห็น แต่ด้วยหลักการ ‘เป็นยานั้นไซร้สามส่วนคือพิษ’ เราจึงมักเห็นพล็อตละคร/นิยายที่มีการปรับสัดส่วนของสมุนไพรในสูตรยาหรือเพิ่มยาตัวอื่นเข้าไปให้กลายเป็นพิษนั่นเอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก: https://inf.news/entertainment/b6ddc93cc4f9a720bf5c3fd752c4e1b9.html https://www.popdaily.com.tw/forum/entertainment/935802 https://www.sohu.com/a/251057863_100011360 https://www.sohu.com/a/249476484_242776 https://www.sohu.com/a/525891685_121119111 https://www.huachiewtcm.com/content/8036/ชวนซฺยง-川芎-ข้อมูลสมุนไพรจีน https://baike.baidu.com/item/红花/16556131 https://zh.wikipedia.org/zh-hant/麝香 #ร้อยรักปักดวงใจ #ปี้จื่อทัง #น้ำแกงห้ามลูก #สมุนไพรในละครจีน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts