• โครงสร้างลึกลับในเลือดผู้ป่วยลองโควิด

    งานวิจัยล่าสุดจากทีมความร่วมมือระหว่างฝรั่งเศสและแอฟริกาใต้ พบว่าในเลือดของผู้ป่วยลองโควิดมี “ไมโครคลอต” (microclots) หรือ ลิ่มเลือดขนาดเล็กผิดปกติ ปริมาณมากกว่าคนปกติถึงเกือบ 20 เท่า และยังมีโครงสร้างเหนียวที่เรียกว่า “NETs” (Neutrophil Extracellular Traps) ซึ่งเป็นตาข่ายดีเอ็นเอ–เอนไซม์ที่เม็ดเลือดขาวปล่อยออกมาเพื่อดักจับเชื้อโรค แต่กลับไปฝังตัวอยู่ในไมโครคลอต ทำให้ลิ่มเลือดเหล่านี้ทนต่อการสลายตัวตามธรรมชาติ.

    ความหมายต่ออาการเรื้อรัง
    การที่ไมโครคลอตและ NETs เกิดการจับตัวร่วมกัน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดไหลเวียนติดขัดในหลอดเลือดฝอย ส่งผลให้ผู้ป่วยลองโควิดมีอาการอ่อนเพลีย สมองเบลอ และหายใจลำบากเรื้อรัง งานวิจัยยังชี้ว่า AI สามารถจำแนกผู้ป่วยลองโควิดจากกลุ่มปกติได้ด้วยความแม่นยำสูงถึง 91% โดยอาศัยรูปแบบของไมโครคลอตและ NETs ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจใช้เป็น “ไบโอมาเคอร์” สำหรับการวินิจฉัยในอนาคต.

    มุมมองจากงานวิจัยสากล
    นักวิทยาศาสตร์มองว่าการค้นพบนี้เป็นอีกชิ้นส่วนสำคัญใน “ปริศนาลองโควิด” เพราะก่อนหน้านี้มีการเสนอว่าลองโควิดอาจเกิดจากการอักเสบเรื้อรังหรือการคงอยู่ของไวรัสในร่างกาย แต่การพบโครงสร้างไมโครคลอต–NETs ที่ฝังตัวกันอย่างชัดเจน ทำให้เห็นกลไกใหม่ที่อาจเป็นตัวขับเคลื่อนอาการเรื้อรัง และเปิดทางสู่การรักษาที่มุ่งลดการสร้างลิ่มเลือดเล็กหรือควบคุมการทำงานของ NETs.

    ความหวังและข้อจำกัด
    แม้ผลการวิจัยจะให้ความหวัง แต่ยังอยู่ในระยะต้นและต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสัมพันธ์เชิงเหตุผล ไม่ใช่เพียงการพบร่วมกัน นักวิจัยเตือนว่าการพัฒนาแนวทางรักษาใหม่ต้องใช้เวลาและการทดลองทางคลินิกที่เข้มงวด อย่างไรก็ตาม การค้นพบนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจลองโควิดมากขึ้น และอาจนำไปสู่การรักษาเฉพาะบุคคลในอนาคต.

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบใหม่ในเลือดผู้ป่วยลองโควิด
    พบไมโครคลอตมากกว่าคนปกติถึง 19.7 เท่า
    NETs ฝังตัวอยู่ในไมโครคลอต ทำให้ลิ่มเลือดทนต่อการสลายตัว

    ผลกระทบต่ออาการเรื้อรัง
    การไหลเวียนเลือดติดขัด อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย สมองเบลอ และหายใจลำบาก
    AI สามารถจำแนกผู้ป่วยลองโควิดได้แม่นยำถึง 91%

    ความหมายเชิงวิจัยและการรักษา
    ไมโครคลอต–NETs อาจใช้เป็นไบโอมาเคอร์ในการวินิจฉัย
    เปิดทางสู่การรักษาที่มุ่งลดการสร้างลิ่มเลือดเล็กหรือควบคุม NETs

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    งานวิจัยยังอยู่ในระยะต้น ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสัมพันธ์เชิงเหตุผล
    การพัฒนาแนวทางรักษาใหม่ต้องใช้เวลาและการทดลองทางคลินิกที่เข้มงวด

    https://www.sciencealert.com/strange-structures-found-lurking-in-the-blood-of-people-with-long-covid
    🧬 โครงสร้างลึกลับในเลือดผู้ป่วยลองโควิด งานวิจัยล่าสุดจากทีมความร่วมมือระหว่างฝรั่งเศสและแอฟริกาใต้ พบว่าในเลือดของผู้ป่วยลองโควิดมี “ไมโครคลอต” (microclots) หรือ ลิ่มเลือดขนาดเล็กผิดปกติ ปริมาณมากกว่าคนปกติถึงเกือบ 20 เท่า และยังมีโครงสร้างเหนียวที่เรียกว่า “NETs” (Neutrophil Extracellular Traps) ซึ่งเป็นตาข่ายดีเอ็นเอ–เอนไซม์ที่เม็ดเลือดขาวปล่อยออกมาเพื่อดักจับเชื้อโรค แต่กลับไปฝังตัวอยู่ในไมโครคลอต ทำให้ลิ่มเลือดเหล่านี้ทนต่อการสลายตัวตามธรรมชาติ. 🧪 ความหมายต่ออาการเรื้อรัง การที่ไมโครคลอตและ NETs เกิดการจับตัวร่วมกัน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดไหลเวียนติดขัดในหลอดเลือดฝอย ส่งผลให้ผู้ป่วยลองโควิดมีอาการอ่อนเพลีย สมองเบลอ และหายใจลำบากเรื้อรัง งานวิจัยยังชี้ว่า AI สามารถจำแนกผู้ป่วยลองโควิดจากกลุ่มปกติได้ด้วยความแม่นยำสูงถึง 91% โดยอาศัยรูปแบบของไมโครคลอตและ NETs ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจใช้เป็น “ไบโอมาเคอร์” สำหรับการวินิจฉัยในอนาคต. 🌍 มุมมองจากงานวิจัยสากล นักวิทยาศาสตร์มองว่าการค้นพบนี้เป็นอีกชิ้นส่วนสำคัญใน “ปริศนาลองโควิด” เพราะก่อนหน้านี้มีการเสนอว่าลองโควิดอาจเกิดจากการอักเสบเรื้อรังหรือการคงอยู่ของไวรัสในร่างกาย แต่การพบโครงสร้างไมโครคลอต–NETs ที่ฝังตัวกันอย่างชัดเจน ทำให้เห็นกลไกใหม่ที่อาจเป็นตัวขับเคลื่อนอาการเรื้อรัง และเปิดทางสู่การรักษาที่มุ่งลดการสร้างลิ่มเลือดเล็กหรือควบคุมการทำงานของ NETs. 💡 ความหวังและข้อจำกัด แม้ผลการวิจัยจะให้ความหวัง แต่ยังอยู่ในระยะต้นและต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสัมพันธ์เชิงเหตุผล ไม่ใช่เพียงการพบร่วมกัน นักวิจัยเตือนว่าการพัฒนาแนวทางรักษาใหม่ต้องใช้เวลาและการทดลองทางคลินิกที่เข้มงวด อย่างไรก็ตาม การค้นพบนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจลองโควิดมากขึ้น และอาจนำไปสู่การรักษาเฉพาะบุคคลในอนาคต. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบใหม่ในเลือดผู้ป่วยลองโควิด ➡️ พบไมโครคลอตมากกว่าคนปกติถึง 19.7 เท่า ➡️ NETs ฝังตัวอยู่ในไมโครคลอต ทำให้ลิ่มเลือดทนต่อการสลายตัว ✅ ผลกระทบต่ออาการเรื้อรัง ➡️ การไหลเวียนเลือดติดขัด อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย สมองเบลอ และหายใจลำบาก ➡️ AI สามารถจำแนกผู้ป่วยลองโควิดได้แม่นยำถึง 91% ✅ ความหมายเชิงวิจัยและการรักษา ➡️ ไมโครคลอต–NETs อาจใช้เป็นไบโอมาเคอร์ในการวินิจฉัย ➡️ เปิดทางสู่การรักษาที่มุ่งลดการสร้างลิ่มเลือดเล็กหรือควบคุม NETs ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ งานวิจัยยังอยู่ในระยะต้น ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสัมพันธ์เชิงเหตุผล ⛔ การพัฒนาแนวทางรักษาใหม่ต้องใช้เวลาและการทดลองทางคลินิกที่เข้มงวด https://www.sciencealert.com/strange-structures-found-lurking-in-the-blood-of-people-with-long-covid
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Strange Structures Found Lurking in The Blood of People With Long COVID
    A hidden physical change in the body may be helping to drive the prolonged malaise some people experience after contracting COVID-19.
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • "งานวิจัยชี้ การศึกษาต้องปรับตัวเพื่อบูรณาการ AI"

    บทความใน British Journal of Educational Technology ระบุว่า AI ไม่ควรถูกมองเพียงเป็นเครื่องมือโกงการบ้าน แต่สามารถใช้เป็น ผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้เชิงร่วมมือ หากครูและนักเรียนใช้มันอย่างถูกวิธี ตัวอย่างเช่น การเรียนเรื่องแรงโน้มถ่วง นักเรียนสามารถตั้งคำถาม “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” แล้วใช้ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ เพื่อเข้าใจแนวคิดจากหลายมุมมอง

    การเรียนรู้เชิงสนทนา (Dialogic Learning)
    ผู้เขียนเสนอให้การศึกษาเปลี่ยนจากการท่องจำเป็น การสนทนาและการคิดร่วมกัน โดยครูและนักเรียนร่วมกันสำรวจปัญหาและทดสอบแนวคิด การใช้ AI ในบทสนทนาเชิงวิชาการจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการได้ลึกซึ้งขึ้น และพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อโลกที่เผชิญวิกฤตระดับโลก เช่น วิกฤตสิ่งแวดล้อมและความท้าทายด้านประชาธิปไตย

    คำเตือน: AI อาจเป็น "พิษทางปัญญา"
    แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่หากระบบการศึกษายังยึดติดกับการสอบแบบเดิมที่เน้นการเขียนเรียงความหรือการสังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก นักเรียนอาจพึ่งพา AI จนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงานวิชาการเอง งานวิจัยเตือนว่า หากไม่ปรับวิธีการสอนและการประเมินผล AI จะกลายเป็นตัวบั่นทอนการเรียนรู้แทนที่จะเป็นเครื่องมือพัฒนา

    มุมมองนักวิชาการ
    ศาสตราจารย์ Rupert Wegerif จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า “ทุกครั้งที่มีเทคโนโลยีใหม่ เราต้องคิดใหม่ว่าควรสอนอย่างไร” เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตหรือกระดานดำในอดีต ตอนนี้ AI กำลังบังคับให้เราตั้งคำถามว่า เรากำลังเตรียมนักเรียนเพื่ออะไร และควรเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าการท่องจำ

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อเสนอจากงานวิจัย
    ใช้ AI เป็นผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้ร่วมมือ
    เปลี่ยนการสอนจากการท่องจำเป็นการคิดเชิงสนทนา

    ตัวอย่างการใช้งาน
    นักเรียนถามคำถาม เช่น “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?”
    AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์

    เป้าหมายการศึกษาใหม่
    พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา
    เตรียมนักเรียนรับมือวิกฤตระดับโลก เช่น สิ่งแวดล้อมและประชาธิปไตย

    คำเตือนจากงานวิจัย
    หากยังใช้การสอบแบบเดิม AI อาจกลายเป็น “พิษทางปัญญา”
    นักเรียนอาจสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/education-needs-to-change-to-integrate-ai-research-paper-argues
    📰 "งานวิจัยชี้ การศึกษาต้องปรับตัวเพื่อบูรณาการ AI" บทความใน British Journal of Educational Technology ระบุว่า AI ไม่ควรถูกมองเพียงเป็นเครื่องมือโกงการบ้าน แต่สามารถใช้เป็น ผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้เชิงร่วมมือ หากครูและนักเรียนใช้มันอย่างถูกวิธี ตัวอย่างเช่น การเรียนเรื่องแรงโน้มถ่วง นักเรียนสามารถตั้งคำถาม “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” แล้วใช้ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ เพื่อเข้าใจแนวคิดจากหลายมุมมอง 🧠 การเรียนรู้เชิงสนทนา (Dialogic Learning) ผู้เขียนเสนอให้การศึกษาเปลี่ยนจากการท่องจำเป็น การสนทนาและการคิดร่วมกัน โดยครูและนักเรียนร่วมกันสำรวจปัญหาและทดสอบแนวคิด การใช้ AI ในบทสนทนาเชิงวิชาการจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการได้ลึกซึ้งขึ้น และพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อโลกที่เผชิญวิกฤตระดับโลก เช่น วิกฤตสิ่งแวดล้อมและความท้าทายด้านประชาธิปไตย ⚠️ คำเตือน: AI อาจเป็น "พิษทางปัญญา" แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่หากระบบการศึกษายังยึดติดกับการสอบแบบเดิมที่เน้นการเขียนเรียงความหรือการสังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก นักเรียนอาจพึ่งพา AI จนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงานวิชาการเอง งานวิจัยเตือนว่า หากไม่ปรับวิธีการสอนและการประเมินผล AI จะกลายเป็นตัวบั่นทอนการเรียนรู้แทนที่จะเป็นเครื่องมือพัฒนา 🌍 มุมมองนักวิชาการ ศาสตราจารย์ Rupert Wegerif จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า “ทุกครั้งที่มีเทคโนโลยีใหม่ เราต้องคิดใหม่ว่าควรสอนอย่างไร” เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตหรือกระดานดำในอดีต ตอนนี้ AI กำลังบังคับให้เราตั้งคำถามว่า เรากำลังเตรียมนักเรียนเพื่ออะไร และควรเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าการท่องจำ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อเสนอจากงานวิจัย ➡️ ใช้ AI เป็นผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้ร่วมมือ ➡️ เปลี่ยนการสอนจากการท่องจำเป็นการคิดเชิงสนทนา ✅ ตัวอย่างการใช้งาน ➡️ นักเรียนถามคำถาม เช่น “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” ➡️ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ ✅ เป้าหมายการศึกษาใหม่ ➡️ พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ➡️ เตรียมนักเรียนรับมือวิกฤตระดับโลก เช่น สิ่งแวดล้อมและประชาธิปไตย ‼️ คำเตือนจากงานวิจัย ⛔ หากยังใช้การสอบแบบเดิม AI อาจกลายเป็น “พิษทางปัญญา” ⛔ นักเรียนอาจสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/education-needs-to-change-to-integrate-ai-research-paper-argues
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • "Meta ถูกกล่าวหาปกปิดหลักฐานผลกระทบโซเชียลมีเดียต่อเยาวชน"

    ในเอกสารที่ถูกเปิดเผยล่าสุดในศาลสหรัฐฯ มีการกล่าวหาว่า Meta (บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram) รับรู้ถึงความเสี่ยงที่แพลตฟอร์มของตนอาจทำให้วัยรุ่นมีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และเปรียบเทียบตนเองในทางลบ แต่กลับเลือกที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะหรือสภาคองเกรส ข้อกล่าวหานี้เปรียบเทียบกับการที่อุตสาหกรรมบุหรี่เคยปกปิดข้อมูลอันตรายจากการสูบบุหรี่ในอดีต

    คดีความใหญ่: การฟ้องร้องหลายบริษัทโซเชียลมีเดีย
    คดีนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับ Meta แต่ยังรวมถึง YouTube, TikTok และ Snapchat โดยมีโจทก์กว่า 1,800 ราย ทั้งผู้ปกครอง โรงเรียน และหน่วยงานรัฐ กล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้ "เติบโตโดยไม่สนใจผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก" หลักฐานที่ถูกเปิดเผยแสดงให้เห็นว่า Meta มีนโยบายที่ยอมให้บัญชีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทางเพศถูกละเมิดได้ถึง 16 ครั้งก่อนจะถูกลบ ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นมาตรการที่อันตรายและไม่สมเหตุสมผล

    ผลกระทบต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น
    งานวิจัยภายในที่ถูกเปิดเผย เช่น Project Mercury พบว่าเมื่อผู้ใช้หยุดใช้ Facebook หรือ Instagram เพียงหนึ่งสัปดาห์ ระดับความซึมเศร้าและความเหงาลดลง แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาว่าบริษัทพยายามออกแบบฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้ติดการใช้งาน เช่น ระบบ "ไลก์" และคอนเทนต์ที่กระตุ้นการเปรียบเทียบรูปร่างหน้าตา ซึ่งส่งผลกระทบต่อวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิง

    มุมมองระดับโลกและมาตรการใหม่
    หลายประเทศเริ่มตื่นตัว เช่น ออสเตรเลียประกาศแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจิต ขณะที่ Meta เองก็พยายามแก้ไขด้วยการเปิดตัว Instagram Teen Accounts ที่ตั้งค่าเป็นส่วนตัวโดยอัตโนมัติและมีระบบควบคุมจากผู้ปกครอง แต่คำถามยังคงอยู่ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือเพียงการตอบสนองต่อแรงกดดันจากสังคมและกฎหมาย

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อกล่าวหาต่อ Meta และบริษัทโซเชียลมีเดียอื่น ๆ
    ปกปิดผลวิจัยที่ชี้ว่าโซเชียลมีเดียทำให้วัยรุ่นมีภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล
    มีนโยบายที่ยอมให้บัญชีละเมิดร้ายแรง เช่น ค้ามนุษย์ทางเพศ ได้หลายครั้งก่อนถูกลบ

    ผลกระทบต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น
    การใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปเชื่อมโยงกับการเปรียบเทียบทางสังคมและความรู้สึกด้อยค่า
    ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น "ไลก์" และฟิลเตอร์ความงาม เพิ่มแรงกดดันต่อวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้หญิง

    มาตรการแก้ไขและการตอบสนอง
    Meta เปิดตัว Instagram Teen Accounts ที่ตั้งค่าเป็นส่วนตัวและมีระบบควบคุมจากผู้ปกครอง
    ประเทศออสเตรเลียประกาศแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    การปกปิดข้อมูลวิจัยอาจทำให้ผู้ปกครองและสังคมไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงที่แท้จริง
    การออกแบบแพลตฟอร์มที่กระตุ้นการเสพติดอาจส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเด็ก

    https://time.com/7336204/meta-lawsuit-files-child-safety/
    📰 "Meta ถูกกล่าวหาปกปิดหลักฐานผลกระทบโซเชียลมีเดียต่อเยาวชน" ในเอกสารที่ถูกเปิดเผยล่าสุดในศาลสหรัฐฯ มีการกล่าวหาว่า Meta (บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram) รับรู้ถึงความเสี่ยงที่แพลตฟอร์มของตนอาจทำให้วัยรุ่นมีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และเปรียบเทียบตนเองในทางลบ แต่กลับเลือกที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะหรือสภาคองเกรส ข้อกล่าวหานี้เปรียบเทียบกับการที่อุตสาหกรรมบุหรี่เคยปกปิดข้อมูลอันตรายจากการสูบบุหรี่ในอดีต ⚖️ คดีความใหญ่: การฟ้องร้องหลายบริษัทโซเชียลมีเดีย คดีนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับ Meta แต่ยังรวมถึง YouTube, TikTok และ Snapchat โดยมีโจทก์กว่า 1,800 ราย ทั้งผู้ปกครอง โรงเรียน และหน่วยงานรัฐ กล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้ "เติบโตโดยไม่สนใจผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก" หลักฐานที่ถูกเปิดเผยแสดงให้เห็นว่า Meta มีนโยบายที่ยอมให้บัญชีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทางเพศถูกละเมิดได้ถึง 16 ครั้งก่อนจะถูกลบ ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นมาตรการที่อันตรายและไม่สมเหตุสมผล 🧠 ผลกระทบต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น งานวิจัยภายในที่ถูกเปิดเผย เช่น Project Mercury พบว่าเมื่อผู้ใช้หยุดใช้ Facebook หรือ Instagram เพียงหนึ่งสัปดาห์ ระดับความซึมเศร้าและความเหงาลดลง แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาว่าบริษัทพยายามออกแบบฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้ติดการใช้งาน เช่น ระบบ "ไลก์" และคอนเทนต์ที่กระตุ้นการเปรียบเทียบรูปร่างหน้าตา ซึ่งส่งผลกระทบต่อวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิง 🌍 มุมมองระดับโลกและมาตรการใหม่ หลายประเทศเริ่มตื่นตัว เช่น ออสเตรเลียประกาศแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจิต ขณะที่ Meta เองก็พยายามแก้ไขด้วยการเปิดตัว Instagram Teen Accounts ที่ตั้งค่าเป็นส่วนตัวโดยอัตโนมัติและมีระบบควบคุมจากผู้ปกครอง แต่คำถามยังคงอยู่ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือเพียงการตอบสนองต่อแรงกดดันจากสังคมและกฎหมาย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Meta และบริษัทโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ➡️ ปกปิดผลวิจัยที่ชี้ว่าโซเชียลมีเดียทำให้วัยรุ่นมีภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล ➡️ มีนโยบายที่ยอมให้บัญชีละเมิดร้ายแรง เช่น ค้ามนุษย์ทางเพศ ได้หลายครั้งก่อนถูกลบ ✅ ผลกระทบต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น ➡️ การใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปเชื่อมโยงกับการเปรียบเทียบทางสังคมและความรู้สึกด้อยค่า ➡️ ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น "ไลก์" และฟิลเตอร์ความงาม เพิ่มแรงกดดันต่อวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้หญิง ✅ มาตรการแก้ไขและการตอบสนอง ➡️ Meta เปิดตัว Instagram Teen Accounts ที่ตั้งค่าเป็นส่วนตัวและมีระบบควบคุมจากผู้ปกครอง ➡️ ประเทศออสเตรเลียประกาศแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ การปกปิดข้อมูลวิจัยอาจทำให้ผู้ปกครองและสังคมไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงที่แท้จริง ⛔ การออกแบบแพลตฟอร์มที่กระตุ้นการเสพติดอาจส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเด็ก https://time.com/7336204/meta-lawsuit-files-child-safety/
    TIME.COM
    7 Allegations Against Meta in Newly Unsealed Filings
    Court filings allege Meta tolerated sex trafficking, hid harms to teens, and prioritized growth over user safety for years.
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: "เพื่อนวัยเด็กมีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ในอนาคตมากกว่าแม่"

    ทฤษฎีการยึดเหนี่ยว (Attachment Theory) ที่ริเริ่มโดย John Bowlby ในทศวรรษ 1970 เคยเชื่อว่าความสัมพันธ์กับพ่อแม่ โดยเฉพาะแม่ เป็นตัวกำหนดรูปแบบความผูกพันในอนาคต แต่การศึกษาระยะยาวกว่า 30 ปีล่าสุดกลับพบว่า เพื่อนวัยเด็กมีบทบาทสำคัญกว่า.

    งานวิจัยนี้ติดตามเด็กกว่า 1,364 คนตั้งแต่ปี 1991 และต่อเนื่องจนพวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ช่วงอายุ 26–31 ปี ผลการวิเคราะห์ชี้ว่า ความสัมพันธ์กับแม่มีผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์เพียง 2–3% ขณะที่ คุณภาพของมิตรภาพในวัยเด็กส่งผลถึง 10–11% ต่อการหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ และ 4% ต่อความวิตกกังวลในความสัมพันธ์กับคู่รักและเพื่อนสนิท.

    นักวิจัยอธิบายว่า มิตรภาพในวัยเด็กคือการฝึกฝน “การให้และรับ” ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ในวัยผู้ใหญ่ หากเด็กมีเพื่อนที่ดีและรู้สึกเชื่อมโยง ก็มีแนวโน้มที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและปลอดภัยเมื่อโตขึ้น.

    ผลการศึกษานี้จึงท้าทายความเชื่อเดิม และชี้ให้เห็นว่า การเลือกเพื่อนในวัยเรียนมีผลต่อชีวิตในระยะยาว ไม่แพ้การเลี้ยงดูจากครอบครัว.

    สรุปสาระสำคัญ
    การศึกษาระยะยาว 30 ปี
    ติดตามเด็กกว่า 1,364 คนตั้งแต่ปี 1991 จนถึงวัยผู้ใหญ่

    ผลกระทบจากแม่
    มีผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์เพียง 2–3%

    ผลกระทบจากเพื่อนวัยเด็ก
    ส่งผล 10–11% ต่อการหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์
    ส่งผล 4% ต่อความวิตกกังวลในความสัมพันธ์กับคู่รักและเพื่อนสนิท

    ข้อสรุปของนักวิจัย
    มิตรภาพวัยเด็กคือการฝึกฝนการให้และรับ ซึ่งสะท้อนในความสัมพันธ์ตอนโต

    คำเตือนด้านการเลี้ยงดู
    แม้แม่ยังมีบทบาท แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการสร้าง attachment styles

    คำเตือนด้านสังคม
    การขาดมิตรภาพที่ดีในวัยเด็กอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคงในอนาคต

    https://nautil.us/childhood-friends-not-moms-shape-attachment-styles-most-1247316/
    🧑‍🤝‍🧑 หัวข้อข่าว: "เพื่อนวัยเด็กมีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ในอนาคตมากกว่าแม่" ทฤษฎีการยึดเหนี่ยว (Attachment Theory) ที่ริเริ่มโดย John Bowlby ในทศวรรษ 1970 เคยเชื่อว่าความสัมพันธ์กับพ่อแม่ โดยเฉพาะแม่ เป็นตัวกำหนดรูปแบบความผูกพันในอนาคต แต่การศึกษาระยะยาวกว่า 30 ปีล่าสุดกลับพบว่า เพื่อนวัยเด็กมีบทบาทสำคัญกว่า. งานวิจัยนี้ติดตามเด็กกว่า 1,364 คนตั้งแต่ปี 1991 และต่อเนื่องจนพวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ช่วงอายุ 26–31 ปี ผลการวิเคราะห์ชี้ว่า ความสัมพันธ์กับแม่มีผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์เพียง 2–3% ขณะที่ คุณภาพของมิตรภาพในวัยเด็กส่งผลถึง 10–11% ต่อการหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ และ 4% ต่อความวิตกกังวลในความสัมพันธ์กับคู่รักและเพื่อนสนิท. นักวิจัยอธิบายว่า มิตรภาพในวัยเด็กคือการฝึกฝน “การให้และรับ” ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ในวัยผู้ใหญ่ หากเด็กมีเพื่อนที่ดีและรู้สึกเชื่อมโยง ก็มีแนวโน้มที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและปลอดภัยเมื่อโตขึ้น. ผลการศึกษานี้จึงท้าทายความเชื่อเดิม และชี้ให้เห็นว่า การเลือกเพื่อนในวัยเรียนมีผลต่อชีวิตในระยะยาว ไม่แพ้การเลี้ยงดูจากครอบครัว. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การศึกษาระยะยาว 30 ปี ➡️ ติดตามเด็กกว่า 1,364 คนตั้งแต่ปี 1991 จนถึงวัยผู้ใหญ่ ✅ ผลกระทบจากแม่ ➡️ มีผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์เพียง 2–3% ✅ ผลกระทบจากเพื่อนวัยเด็ก ➡️ ส่งผล 10–11% ต่อการหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ ➡️ ส่งผล 4% ต่อความวิตกกังวลในความสัมพันธ์กับคู่รักและเพื่อนสนิท ✅ ข้อสรุปของนักวิจัย ➡️ มิตรภาพวัยเด็กคือการฝึกฝนการให้และรับ ซึ่งสะท้อนในความสัมพันธ์ตอนโต ‼️ คำเตือนด้านการเลี้ยงดู ⛔ แม้แม่ยังมีบทบาท แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการสร้าง attachment styles ‼️ คำเตือนด้านสังคม ⛔ การขาดมิตรภาพที่ดีในวัยเด็กอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคงในอนาคต https://nautil.us/childhood-friends-not-moms-shape-attachment-styles-most-1247316/
    NAUTIL.US
    Childhood Friends, Not Moms, Shape Attachment Styles Most
    Childhood Friends, Not Moms, Shape Attachment Styles Most: A new study upends conventional wisdom about how we relate to those closest to us.
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • ความท้าทายในการออกแบบ AI Agents

    การสร้าง AI Agents ยังคงเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แม้จะมี SDK และเครื่องมือช่วยเหลือ แต่เมื่อเข้าสู่การใช้งานจริง หลายระบบยังไม่สามารถจัดการกับความแตกต่างระหว่างโมเดลได้อย่างสมบูรณ์ นักพัฒนาจึงต้องสร้าง abstraction ของตัวเองเพื่อควบคุมการทำงาน เช่น การจัดการ cache และ reinforcement ที่ต้องทำแบบ manual เพื่อให้ระบบมีเสถียรภาพมากขึ้น เนื้อหานี้สะท้อนว่าแม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้า แต่การออกแบบ Agent ที่ใช้งานได้จริงยังต้องอาศัยการปรับแต่งเฉพาะตัว.

    SDK และเครื่องมือใหม่จาก Microsoft และ OOBE Protocol
    ล่าสุด Microsoft เปิดตัว .NET 10 ที่มาพร้อม Microsoft Agent Framework ซึ่งรวมเทคโนโลยีอย่าง Semantic Kernel และ AutoGen เพื่อให้นักพัฒนาสร้าง multi-agent systems ได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งรองรับ Model Context Protocol (MCP) ที่ช่วยให้ Agent เข้าถึง API และฐานข้อมูลภายนอกได้อย่างปลอดภัย ขณะเดียวกัน OOBE Protocol ก็พัฒนา Agent SDK สำหรับการทำงานบน blockchain โดยเน้นความโปร่งใสและการทำธุรกรรมแบบ on-chain ที่ตรวจสอบได้.

    การเปลี่ยนผ่านสู่ Agentic AI Frameworks
    งานวิจัยล่าสุดชี้ว่า Agentic AI Frameworks เช่น LangGraph, AutoGen และ Semantic Kernel กำลังถูกใช้มากขึ้นในงานจริง โดยเน้นการจัดการ memory, การสื่อสารระหว่าง agents และ guardrails เพื่อความปลอดภัย จุดเด่นคือการทำงานแบบ multi-agent coordination ที่ช่วยให้ระบบสามารถแก้ปัญหาซับซ้อนได้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น การใช้ทรัพยากรสูงและความเสี่ยงจาก “context rot” ที่ทำให้ข้อมูลในระบบเสื่อมคุณภาพเมื่อใช้งานต่อเนื่อง.

    การศึกษาและการใช้งานจริง
    หลายสถาบันและบริษัท เช่น Interview Kickstart เปิดหลักสูตรสอนการสร้าง Agentic AI แบบ low-code เพื่อให้นักพัฒนาสามารถทดลองสร้าง workflow จริง ๆ ได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ หลักสูตรเหล่านี้เน้นการทำงานร่วมกันของหลาย Agent และการแก้ปัญหาในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน ถือเป็นการเตรียมบุคลากรเข้าสู่ยุคที่ AI Agents จะถูกใช้ในองค์กรอย่างแพร่หลาย.

    สรุปสาระสำคัญ
    ความท้าทายในการออกแบบ Agent
    SDK abstraction ยังไม่ตอบโจทย์ ต้องสร้างระบบควบคุมเอง
    Cache และ reinforcement ต้องจัดการแบบ manual

    เครื่องมือใหม่จาก Microsoft และ OOBE
    Microsoft Agent Framework รวม Semantic Kernel และ AutoGen
    OOBE Agent SDK ทำงานบน blockchain โปร่งใสและตรวจสอบได้

    Agentic AI Frameworks กำลังเติบโต
    LangGraph และ AutoGen เน้น multi-agent coordination
    Guardrails และ memory management เป็นหัวใจสำคัญ

    การศึกษาและการใช้งานจริง
    หลักสูตร low-code ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง workflow ได้เร็ว
    เตรียมบุคลากรเข้าสู่ยุค AI Agents ในองค์กร

    ข้อควรระวัง
    Context rot ทำให้ข้อมูลเสื่อมคุณภาพเมื่อใช้งานต่อเนื่อง
    ต้นทุนสูงจากการใช้ทรัพยากรและ token ที่มากเกินไป
    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเมื่อ Agent เข้าถึง API ภายนอก

    https://lucumr.pocoo.org/2025/11/21/agents-are-hard/
    🤖 ความท้าทายในการออกแบบ AI Agents การสร้าง AI Agents ยังคงเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แม้จะมี SDK และเครื่องมือช่วยเหลือ แต่เมื่อเข้าสู่การใช้งานจริง หลายระบบยังไม่สามารถจัดการกับความแตกต่างระหว่างโมเดลได้อย่างสมบูรณ์ นักพัฒนาจึงต้องสร้าง abstraction ของตัวเองเพื่อควบคุมการทำงาน เช่น การจัดการ cache และ reinforcement ที่ต้องทำแบบ manual เพื่อให้ระบบมีเสถียรภาพมากขึ้น เนื้อหานี้สะท้อนว่าแม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้า แต่การออกแบบ Agent ที่ใช้งานได้จริงยังต้องอาศัยการปรับแต่งเฉพาะตัว. ⚡SDK และเครื่องมือใหม่จาก Microsoft และ OOBE Protocol ล่าสุด Microsoft เปิดตัว .NET 10 ที่มาพร้อม Microsoft Agent Framework ซึ่งรวมเทคโนโลยีอย่าง Semantic Kernel และ AutoGen เพื่อให้นักพัฒนาสร้าง multi-agent systems ได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งรองรับ Model Context Protocol (MCP) ที่ช่วยให้ Agent เข้าถึง API และฐานข้อมูลภายนอกได้อย่างปลอดภัย ขณะเดียวกัน OOBE Protocol ก็พัฒนา Agent SDK สำหรับการทำงานบน blockchain โดยเน้นความโปร่งใสและการทำธุรกรรมแบบ on-chain ที่ตรวจสอบได้. 🌐การเปลี่ยนผ่านสู่ Agentic AI Frameworks งานวิจัยล่าสุดชี้ว่า Agentic AI Frameworks เช่น LangGraph, AutoGen และ Semantic Kernel กำลังถูกใช้มากขึ้นในงานจริง โดยเน้นการจัดการ memory, การสื่อสารระหว่าง agents และ guardrails เพื่อความปลอดภัย จุดเด่นคือการทำงานแบบ multi-agent coordination ที่ช่วยให้ระบบสามารถแก้ปัญหาซับซ้อนได้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น การใช้ทรัพยากรสูงและความเสี่ยงจาก “context rot” ที่ทำให้ข้อมูลในระบบเสื่อมคุณภาพเมื่อใช้งานต่อเนื่อง. 📊 การศึกษาและการใช้งานจริง หลายสถาบันและบริษัท เช่น Interview Kickstart เปิดหลักสูตรสอนการสร้าง Agentic AI แบบ low-code เพื่อให้นักพัฒนาสามารถทดลองสร้าง workflow จริง ๆ ได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ หลักสูตรเหล่านี้เน้นการทำงานร่วมกันของหลาย Agent และการแก้ปัญหาในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน ถือเป็นการเตรียมบุคลากรเข้าสู่ยุคที่ AI Agents จะถูกใช้ในองค์กรอย่างแพร่หลาย. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ความท้าทายในการออกแบบ Agent ➡️ SDK abstraction ยังไม่ตอบโจทย์ ต้องสร้างระบบควบคุมเอง ➡️ Cache และ reinforcement ต้องจัดการแบบ manual ✅ เครื่องมือใหม่จาก Microsoft และ OOBE ➡️ Microsoft Agent Framework รวม Semantic Kernel และ AutoGen ➡️ OOBE Agent SDK ทำงานบน blockchain โปร่งใสและตรวจสอบได้ ✅ Agentic AI Frameworks กำลังเติบโต ➡️ LangGraph และ AutoGen เน้น multi-agent coordination ➡️ Guardrails และ memory management เป็นหัวใจสำคัญ ✅ การศึกษาและการใช้งานจริง ➡️ หลักสูตร low-code ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง workflow ได้เร็ว ➡️ เตรียมบุคลากรเข้าสู่ยุค AI Agents ในองค์กร ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ Context rot ทำให้ข้อมูลเสื่อมคุณภาพเมื่อใช้งานต่อเนื่อง ⛔ ต้นทุนสูงจากการใช้ทรัพยากรและ token ที่มากเกินไป ⛔ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเมื่อ Agent เข้าถึง API ภายนอก https://lucumr.pocoo.org/2025/11/21/agents-are-hard/
    LUCUMR.POCOO.ORG
    Agent Design Is Still Hard
    My Agent abstractions keep breaking somewhere I don’t expect.
    0 Comments 0 Shares 88 Views 0 Reviews
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 1
    ในที่สุด ภาพของญี่ปุ่น ที่วาดไว้อย่างสวยงามว่า เป็นชาติที่รักความสงบ ไม่มีวันไปรุกรานใครอีกตลอดกาล ตามรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น ที่อเมริกาเขียนให้เมื่อปี ค.ศ.1948 ก็ถูกลบทิ้งเรียบร้อย เมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม ที่ผ่านมา เมื่อสภาล่างของญี่ปุ่น ได้ลงคะแนนผ่านกฏหมาย ที่จะแปลความรัฐธรรมนูญดังกล่าให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองทัที่มีไว้เพื่อป้องกันตนเอง Self Defence Force (SDF) ถลาร่อนไปได้ทั่วโลก แบกถาดไปได้ทุกแห่ง ตามคำสั่งของนายท่าน ไอ้ที่บอกว่าจะ ไม่รุกรานใครอีกตลอดกาล ของญี่ปุ่นนี่ “ตลอดกาล” มันนานมาก นานน้อย แค่ไหนก็ได้ ตามแต่นายท่านจะสั่ง
    กฏหมายนี้ ยังจะต้องผ่านสภาสูงอีกรอบ ภายในเดือนสิงหาคม แต่ไม่มีปัญหา เขาว่าพรรค LPD ของนายอาเบะคุมเสียงต้ัง 2 ใน 3 ของสภาสูง นอนหลับตาไขว้ห้างได้สบายใจ ไม่ต้องเอามือก่ายหน้าผาก แถมสั่งลูกน้องให้ไปเตรียมตัดชุดแบกถาดล่วงหน้าได้ ไม่ต้องกลัวเป็นซามูไรสายบัวเหี่ยว
    ตั้งแต่ข่าวนี้ออกสื่อ มีเสียงดังเหมือนมังกรคำราม ออกมาอย่างไม่พอใจ ไม่ต้องสงสัย มาจากบ้านอาเฮียของผมนั่นแหละ ทำไมอาเฮียต้องเอ็ดตะโรด้วย ใครเขาอยากจะแก้รัฐธรรมนูญ หรือแก้อะไร เฮียก็อย่าไปใส่ใจน่า อย่าทำตัวเหมือนไอ้พวกใบตองแห้ง ที่ไม่พอใจไปหมด เดี๋ยวก็สั่งให้แก้ สั่งให้ถอด สั่งให้เปิด สั่งให้เปลี่ยน สั่งมันทุกอย่าง เหลืออย่างเดียว ยังไม่ได้ให้สั่งขี้มูก สั่งมาซีวะ กำลังถูกหวัดต้นฝนเล่นงานอยู่ จะได้เอาให้หน้าสถานทูตมันลื่นพราดเชียว (ฮา)
    อาเฮียบอกไม่ขำ (โว้ย) อ้าว เฮียครับ ธรรมดาก็เห็นหยอกกันได้ แต่เรื่องไอ้ยุ่นแบกถาดนี่ ทำไมเฮียบูดกระทันหัน เรื่องทะเลาะกันตีกัน มันก็นาน 70, 80 ปีแล้วนะ เป็นแผลก็ตกสะเก็ด ไปแล้ว เฮียไปเกาซ้ำแผลมันจะหายได้ยังไง อาเฮียบอก ลื้อไปศึกษาดูให้ดี อย่าดีแต่พล่าม หายเซ่อ แล้วคอยมาคุยกันว่า ทำไมแผลเก่านาน กว่า 70 ปี ถึงไม่ตกสะเก็ดเสียที
    จริงของอาเฮีย ผมเองยังเซ่อจับเกี่ยวเรื่องญี่ปุ่น มีคำถามค้างกับตัวเองอยู่หลายเรื่อง มองบางอย่างยังไม่ชัด เหมือนอะไรมันยังขัดกัน หรือ หมุนไปคนละทาง
    อะไรทำให้ญี่ปุ่น ลุกขึ้นไปรุกรานเพื่อนบ้านตัวเอง อย่างหิวกระหายและทารุณ และไปเข้าร่วมทำสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างดุดันและเหี้ยมโหด ญี่ปุ่นโกรธแค้นใครมาหรือญี่ปุ่นถูกหลอก หรือมีข้อตกลงกับใคร หรือมันเป็นนิสัยของชนชาติที่รักษาเกียรติยศด้วยการเอามีดคว้านท้องตัวเอง ก็เลยเห็นชีวิตคนอื่นไม่ต่างกับผักดองหรือสาหร่าย
    ผมว่า เรามาเริ่มจากประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แบบสั้นๆ แต่แพนกล้องให้กว้าง แล้วค่อยๆเจาะลึกดีกว่า จริงๆอยากเขียนแบบ ต้มข้ามศตวรรษ อีกรอบ แต่สงสัยทั้งคนเขียน และคนอ่านหมดแรงไปก่อนวันอันควร
    จากหลักสูตรการศึกษาวิชาประวัติ ศาสตร์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ที่ฝรั่งเขียน มักจะระบุว่า พฤติกรรมของญี่ปุ่น ที่แสดงในช่วง ค.ศ.1852 ถึง 1945 มาจากแรงผลักดัน ที่ไม่อยากมีชะตา หรือสภาพอย่างจีน เมื่อช่วงศตวรรษ ที่ 19 อืม… เริ่มแบบนี้ ผมเกรงว่า แผลเก่าของอาเฮีย จะกลายเป็นแผลใหม่สดขึ้นมาอีก อาเฮีย อย่าเพิ่งเข้ามาอ่านนะครับ ให้ผมพล่ามให้จบก่อน ผมยังไม่อยากมีเรื่องกับมังกร
    นักประวัติศาสตร์ บอกว่า สำหรับญี่ปุ่น การเข้าสู่สงครามโลก มันลามมาจากการปะทะกัน ระหว่างญี่ปุ่นกับจีน ที่เรียกว่า สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 Second Sino Japanese War หรือ ที่เรียกอีกชื่อว่า Marco Polo Bridge Incident ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1937 หลังจากที่มีการทุบถอง ปะทะกันตามแนวเขตแดนมาหลายปี ต้ังแต่ญี่ปุ่นไปบุกแมนจูเรีย ในปี ค.ศ.1931 นู่น
    เอะ แล้วญี่ปุ่นนึกยังไง ถึงซ่าเข้าไปบุกแมนจูเรีย นักประวัติศาสตร์บอกว่า งั้นต้องถอยกลับมาปี ค.ศ1853 ก่อน ถึงจะเดินหน้าต่อ อย่าเพิ่งโวยว่า ผมถอยไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่จะรู้เรื่องกัน เอาน่า จะรู้เรื่องอะไร ก็รู้ให้มันชัดๆ ดีกว่ารู้เรื่องดาราทะเลาะกัน งอนกัน ที่จริงๆแล้ว เราก็ไม่รู้เรื่องจริงของพวกเขาอยู่ดี ใช่ไหมครับ
    ก่อนปี ค.ศ.1853 นักประวัติศาสตร์ บอกญี่ปุ่นเป็นชาติ ที่รักสันโดษ ไม่คบค้ากับใคร นานๆ ก็มีชาวดัชท์เอาเรือบรรทุกสินค้าแวะมาจอด ซื้อของขายของ แถวท่าเรือที่เมืองนางาซากิ Nagasaki ชาวต่างชาตินอกเหนือจากนั้น ไม่อนุญาต ไม่รู้ดัชท์หลุดมาได้ไง
    พอถึงปี ค.ศ.1853 ต้นเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนนิสัยรักสันโดษ ก็มาถึง นาวาโทแมทธิว เพอรี่ นำเรือรบอเมริกันมาจอด อยู่ที่ปากอ่าวเมืองโตเกียว และไม่ได้มากันลำเดียว ขนกันมาถึง 4 ลำ เล่นเอาปากอ่าว แน่นเอี้ยด นี่มันสูตรสำเร็จ แจกโรเนียวเลยนะ เอาเรือรบมาขอจับมือ
    ญี่ปุ่นเห็นเรือรบที่ไม่ได้รับ เชิญ มาจอดเต็มหน้าบ้าน ก็ยัวะจัด บังวิวสวยๆหมด เลยท้าวสะเอวถลกกิโมโน ชี้นิ้วตะโกนไล่ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ทหารเรือฝรั่งบอกว่า ไม่ไป แถมหันปืนใหญ่ใส่เมืองโตเกียว ญี่ปุ่นยิ่งยั๊วะ รวบรวมเรือเล็กเรือน้อย ติดธงทิวสวยงาม ไปล้อมเรือรบ น่าเอ็นดูจัง แต่ทหารเรือ ไม่เอ็นดูด้วย กลับยื่นจดหมายของประธานาธิบดี Millard Fillmore แห่งแดนใบตองแห้ง เอ้า เอาไปส่งให้โชกุนโตกุกาวาที่ปก ครองญี่ปุ่นขณะนั้น แถมด้วยยิงปืนใหญ่โชว์ จนบ้านน้อยๆของชาวญี่ปุ่น ที่อยู่ริมอ่าวพังพินาศ นักประวัติศาสตร์ ไม่ได้จดมาว่าพังไปเท่าไหร่ ว่าแล้วก็แล่นเรือจากไป แต่ไม่ไปลับ สำทับกับชาวญี่ปุ่น ที่ยังไม่หายตกใจ หูอื้อจากเสียงปืนใหญ่…. แล้วเราจะกลับมาเอาคำตอบ….ฮู้ย เข้มซะไม่มี เอาปืนใหญ่ มาขู่กระบอกไม้ไผ่ ซามูไรมุดหัวหายไปไหนหมด
    หนึ่งปีผ่านไป ทหารเรือพกปืนใหญ่ก็กลับมาจริง คราวนี้ยกโขยงเรือรบมากัน 8 ลำ คราวที่แล้วมา 4 ลำ ดูจะน้อยไป เดี๋ยวจะสู้กับไม้ไผ่ไม่ไหว แถมมาพร้อมกับมือเหล็ก ยื่นมาบีบคอญี่ปุ่น ให้เซ็นสัญญา Convention of Kanagawa ให้ญี่ปุ่นเปิดท่าเรือชิโมดะ Shimoda (ชื่อเดิมของโตเกียวนั่นแหละ) และเมือง ฮาโกดาเตะ Hagodate ซึ่งอยู่ทางใต้ของฮอกไกโด Hokkaido เพื่อค้าขายกับอเมริกา ตามเงื่อนไขที่อเมริกากำหนด ญี่ปุ่นคิดหนัก เฮ้อ… ซามูไร ถึงจะคมยังไง ก็คงสู้กับปืนใหญ่ลำบาก เนะ… ว่าแล้วก็คอตก หน้าก้ม ยกมือขึ้นประทับตรา ในสัญญาขู่เอาไมตรี
    (หมายเหตุ ก่อนเดินหน้าเล่าต่อ ถ้าผมเรียกชื่อ สะกดชื่อญี่ปุ่นผิด ก็ไม่ต้องทักท้วงกันมาหลังจอนะ ครับ รบกวนบอกกันหน้าจอเลยว่า ผิดที่ไหน ที่ถูก ต้องเรียกยังไง ผมจะขอบคุณมาก ผมแค่เขียนนิทานให้อ่าน ไม่ใช่ครูสอนภาษา และผมก็ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น แต่ก็พยายามจะไม่เขียนแบบมั่ว หรือชุ่ยครับ อ้อ ไม่ใช่เฉพาะภาษาญี่ปุ่นนะครับ ทุกภาษาที่สะกดผิด นิทานเรื่องนี้ จะมีทั้งภาษาจีน ภาษาฝรั่งอั้งม้อ รวมทั้งภาษาไทย ที่ตอนเขียนถูก แต่ตอนโพสต์ผิดก็มี และมีแยะขึ้น บางวันถึงขนาด เครื่องมันขึ้น F ให้หน้าเพจผม ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน บางครั้งก็แก้ไขทัน บางทีก็ไม่ทัน ก็ขอความกรุณา อย่า งง เขียนนิทานแบบนี้ ลงเพจให้อ่านกัน เหมือนเล่นกระดานโต้คลื่น พยุงตัวให้รอด ไม่จมน้ำหาย ได้โผล่หัวอยู่มาได้ เกือบ 2 ปีนี่ ก็กินแรงแยะเหมือนกันนะครับ แรงคนแก่มีเหลือไม่มาก เรื่องอะไรที่ไม่ถึงกับขัดหู ขัดตา ก็ปล่อยไปบ้าง ต้องขออภัยล่วงหน้า)
    เรื่อง นายนาวาโทเพอรี่ ขี่เรือรบพกปืนใหญ่ มาขู่เอาไมตรีกับญี่ปุ่นนี่ จริงๆ ทำเอาซามูไรหน้าจ๋อย ใจฝ่อไปจม ที่เคยเชื่อว่า ตนเองเป็นชาติที่เข็มแข็ง ซามูไรคมกริบ ไม่เคยพลาดเป้า ตอนนี้เหงื่อตก คิดหนัก เราด้อยกว่าเขาแยะนักหรือ ขนาดจีนว่าใหญ่ ยังโดนไอ้พวกไกยิ่น (ญี่ปุ่น เรียก ฝรั่ง ว่า Gai-Jin) เล่นซะร่วง แล้วเราจะทำอย่างไรดี
    ด้วยความกลัวไอ้พวกไกยิ่น เอาปืนใหญ่มายิงโชว์อีก ญึ่ปุ่นตัดสินใจเด็ดเดี่ยว มีทางเดียวเราต้องปฏิรูปตัวเอง ญี่ปุ่นทำจริงจัง ปี ค.ศ.1868 ญี่ปุ่นจัดการบ้านการเมืองตัวเองใหม่ เรียกว่า Meiji Restoration เริ่มขบวนการปลดโชกุน ที่เคยมีอำนาจใหญ่กว่าฟ้า กลับลงมาสู่พื้น แล้วเอาอำนาจให้มาอยู่ในมือของจักรพรรดิแทน หรือจริงๆ ก็คืออยู่ในมือของกลุ่มที่ชักใยอยู่หลังฉาก ที่ไปปลดโชกุน และอุ้มจักรพรรดิขึ้นมาเป็นเจว็ด นั่นแหละ
    กลุ่มมือที่อยู่หลักฉาก เชื่อว่า ด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคม โดยล้มเลิกระบบขุนนาง ปรับปรุงกองทัพให้เข็มแข็ง และวางแผนให้ประเทศเดินหน้าไปทางด้านอุตสาหกรรม พยายามสร้างชาติใหม่ให้เท่าทันตะวันตก ชะตาชีวิตของประเทศ ก็น่าจะพ้นจากสภาพการถูกไอ้พวก ไกยิ่นทำลาย พวกสังคมอีลิต ต่างพากันสลัดกิโมโนทิ้ง มาแต่งตัว และใส่หมวกแบบตะวันตก แล้วชาวญี่ปุ่นหัวสมัยใหม่ ก็รีบสร้างระบบรัฐสภา เร่งร่างรัฐธรรมนูญ… นี่ ผมกำลังเล่าเรื่องญี่ปุ่นนะครับ..
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    13 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 1 ในที่สุด ภาพของญี่ปุ่น ที่วาดไว้อย่างสวยงามว่า เป็นชาติที่รักความสงบ ไม่มีวันไปรุกรานใครอีกตลอดกาล ตามรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น ที่อเมริกาเขียนให้เมื่อปี ค.ศ.1948 ก็ถูกลบทิ้งเรียบร้อย เมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม ที่ผ่านมา เมื่อสภาล่างของญี่ปุ่น ได้ลงคะแนนผ่านกฏหมาย ที่จะแปลความรัฐธรรมนูญดังกล่าให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองทัที่มีไว้เพื่อป้องกันตนเอง Self Defence Force (SDF) ถลาร่อนไปได้ทั่วโลก แบกถาดไปได้ทุกแห่ง ตามคำสั่งของนายท่าน ไอ้ที่บอกว่าจะ ไม่รุกรานใครอีกตลอดกาล ของญี่ปุ่นนี่ “ตลอดกาล” มันนานมาก นานน้อย แค่ไหนก็ได้ ตามแต่นายท่านจะสั่ง กฏหมายนี้ ยังจะต้องผ่านสภาสูงอีกรอบ ภายในเดือนสิงหาคม แต่ไม่มีปัญหา เขาว่าพรรค LPD ของนายอาเบะคุมเสียงต้ัง 2 ใน 3 ของสภาสูง นอนหลับตาไขว้ห้างได้สบายใจ ไม่ต้องเอามือก่ายหน้าผาก แถมสั่งลูกน้องให้ไปเตรียมตัดชุดแบกถาดล่วงหน้าได้ ไม่ต้องกลัวเป็นซามูไรสายบัวเหี่ยว ตั้งแต่ข่าวนี้ออกสื่อ มีเสียงดังเหมือนมังกรคำราม ออกมาอย่างไม่พอใจ ไม่ต้องสงสัย มาจากบ้านอาเฮียของผมนั่นแหละ ทำไมอาเฮียต้องเอ็ดตะโรด้วย ใครเขาอยากจะแก้รัฐธรรมนูญ หรือแก้อะไร เฮียก็อย่าไปใส่ใจน่า อย่าทำตัวเหมือนไอ้พวกใบตองแห้ง ที่ไม่พอใจไปหมด เดี๋ยวก็สั่งให้แก้ สั่งให้ถอด สั่งให้เปิด สั่งให้เปลี่ยน สั่งมันทุกอย่าง เหลืออย่างเดียว ยังไม่ได้ให้สั่งขี้มูก สั่งมาซีวะ กำลังถูกหวัดต้นฝนเล่นงานอยู่ จะได้เอาให้หน้าสถานทูตมันลื่นพราดเชียว (ฮา) อาเฮียบอกไม่ขำ (โว้ย) อ้าว เฮียครับ ธรรมดาก็เห็นหยอกกันได้ แต่เรื่องไอ้ยุ่นแบกถาดนี่ ทำไมเฮียบูดกระทันหัน เรื่องทะเลาะกันตีกัน มันก็นาน 70, 80 ปีแล้วนะ เป็นแผลก็ตกสะเก็ด ไปแล้ว เฮียไปเกาซ้ำแผลมันจะหายได้ยังไง อาเฮียบอก ลื้อไปศึกษาดูให้ดี อย่าดีแต่พล่าม หายเซ่อ แล้วคอยมาคุยกันว่า ทำไมแผลเก่านาน กว่า 70 ปี ถึงไม่ตกสะเก็ดเสียที จริงของอาเฮีย ผมเองยังเซ่อจับเกี่ยวเรื่องญี่ปุ่น มีคำถามค้างกับตัวเองอยู่หลายเรื่อง มองบางอย่างยังไม่ชัด เหมือนอะไรมันยังขัดกัน หรือ หมุนไปคนละทาง อะไรทำให้ญี่ปุ่น ลุกขึ้นไปรุกรานเพื่อนบ้านตัวเอง อย่างหิวกระหายและทารุณ และไปเข้าร่วมทำสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างดุดันและเหี้ยมโหด ญี่ปุ่นโกรธแค้นใครมาหรือญี่ปุ่นถูกหลอก หรือมีข้อตกลงกับใคร หรือมันเป็นนิสัยของชนชาติที่รักษาเกียรติยศด้วยการเอามีดคว้านท้องตัวเอง ก็เลยเห็นชีวิตคนอื่นไม่ต่างกับผักดองหรือสาหร่าย ผมว่า เรามาเริ่มจากประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แบบสั้นๆ แต่แพนกล้องให้กว้าง แล้วค่อยๆเจาะลึกดีกว่า จริงๆอยากเขียนแบบ ต้มข้ามศตวรรษ อีกรอบ แต่สงสัยทั้งคนเขียน และคนอ่านหมดแรงไปก่อนวันอันควร จากหลักสูตรการศึกษาวิชาประวัติ ศาสตร์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ที่ฝรั่งเขียน มักจะระบุว่า พฤติกรรมของญี่ปุ่น ที่แสดงในช่วง ค.ศ.1852 ถึง 1945 มาจากแรงผลักดัน ที่ไม่อยากมีชะตา หรือสภาพอย่างจีน เมื่อช่วงศตวรรษ ที่ 19 อืม… เริ่มแบบนี้ ผมเกรงว่า แผลเก่าของอาเฮีย จะกลายเป็นแผลใหม่สดขึ้นมาอีก อาเฮีย อย่าเพิ่งเข้ามาอ่านนะครับ ให้ผมพล่ามให้จบก่อน ผมยังไม่อยากมีเรื่องกับมังกร นักประวัติศาสตร์ บอกว่า สำหรับญี่ปุ่น การเข้าสู่สงครามโลก มันลามมาจากการปะทะกัน ระหว่างญี่ปุ่นกับจีน ที่เรียกว่า สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 Second Sino Japanese War หรือ ที่เรียกอีกชื่อว่า Marco Polo Bridge Incident ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1937 หลังจากที่มีการทุบถอง ปะทะกันตามแนวเขตแดนมาหลายปี ต้ังแต่ญี่ปุ่นไปบุกแมนจูเรีย ในปี ค.ศ.1931 นู่น เอะ แล้วญี่ปุ่นนึกยังไง ถึงซ่าเข้าไปบุกแมนจูเรีย นักประวัติศาสตร์บอกว่า งั้นต้องถอยกลับมาปี ค.ศ1853 ก่อน ถึงจะเดินหน้าต่อ อย่าเพิ่งโวยว่า ผมถอยไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่จะรู้เรื่องกัน เอาน่า จะรู้เรื่องอะไร ก็รู้ให้มันชัดๆ ดีกว่ารู้เรื่องดาราทะเลาะกัน งอนกัน ที่จริงๆแล้ว เราก็ไม่รู้เรื่องจริงของพวกเขาอยู่ดี ใช่ไหมครับ ก่อนปี ค.ศ.1853 นักประวัติศาสตร์ บอกญี่ปุ่นเป็นชาติ ที่รักสันโดษ ไม่คบค้ากับใคร นานๆ ก็มีชาวดัชท์เอาเรือบรรทุกสินค้าแวะมาจอด ซื้อของขายของ แถวท่าเรือที่เมืองนางาซากิ Nagasaki ชาวต่างชาตินอกเหนือจากนั้น ไม่อนุญาต ไม่รู้ดัชท์หลุดมาได้ไง พอถึงปี ค.ศ.1853 ต้นเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนนิสัยรักสันโดษ ก็มาถึง นาวาโทแมทธิว เพอรี่ นำเรือรบอเมริกันมาจอด อยู่ที่ปากอ่าวเมืองโตเกียว และไม่ได้มากันลำเดียว ขนกันมาถึง 4 ลำ เล่นเอาปากอ่าว แน่นเอี้ยด นี่มันสูตรสำเร็จ แจกโรเนียวเลยนะ เอาเรือรบมาขอจับมือ ญี่ปุ่นเห็นเรือรบที่ไม่ได้รับ เชิญ มาจอดเต็มหน้าบ้าน ก็ยัวะจัด บังวิวสวยๆหมด เลยท้าวสะเอวถลกกิโมโน ชี้นิ้วตะโกนไล่ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ทหารเรือฝรั่งบอกว่า ไม่ไป แถมหันปืนใหญ่ใส่เมืองโตเกียว ญี่ปุ่นยิ่งยั๊วะ รวบรวมเรือเล็กเรือน้อย ติดธงทิวสวยงาม ไปล้อมเรือรบ น่าเอ็นดูจัง แต่ทหารเรือ ไม่เอ็นดูด้วย กลับยื่นจดหมายของประธานาธิบดี Millard Fillmore แห่งแดนใบตองแห้ง เอ้า เอาไปส่งให้โชกุนโตกุกาวาที่ปก ครองญี่ปุ่นขณะนั้น แถมด้วยยิงปืนใหญ่โชว์ จนบ้านน้อยๆของชาวญี่ปุ่น ที่อยู่ริมอ่าวพังพินาศ นักประวัติศาสตร์ ไม่ได้จดมาว่าพังไปเท่าไหร่ ว่าแล้วก็แล่นเรือจากไป แต่ไม่ไปลับ สำทับกับชาวญี่ปุ่น ที่ยังไม่หายตกใจ หูอื้อจากเสียงปืนใหญ่…. แล้วเราจะกลับมาเอาคำตอบ….ฮู้ย เข้มซะไม่มี เอาปืนใหญ่ มาขู่กระบอกไม้ไผ่ ซามูไรมุดหัวหายไปไหนหมด หนึ่งปีผ่านไป ทหารเรือพกปืนใหญ่ก็กลับมาจริง คราวนี้ยกโขยงเรือรบมากัน 8 ลำ คราวที่แล้วมา 4 ลำ ดูจะน้อยไป เดี๋ยวจะสู้กับไม้ไผ่ไม่ไหว แถมมาพร้อมกับมือเหล็ก ยื่นมาบีบคอญี่ปุ่น ให้เซ็นสัญญา Convention of Kanagawa ให้ญี่ปุ่นเปิดท่าเรือชิโมดะ Shimoda (ชื่อเดิมของโตเกียวนั่นแหละ) และเมือง ฮาโกดาเตะ Hagodate ซึ่งอยู่ทางใต้ของฮอกไกโด Hokkaido เพื่อค้าขายกับอเมริกา ตามเงื่อนไขที่อเมริกากำหนด ญี่ปุ่นคิดหนัก เฮ้อ… ซามูไร ถึงจะคมยังไง ก็คงสู้กับปืนใหญ่ลำบาก เนะ… ว่าแล้วก็คอตก หน้าก้ม ยกมือขึ้นประทับตรา ในสัญญาขู่เอาไมตรี (หมายเหตุ ก่อนเดินหน้าเล่าต่อ ถ้าผมเรียกชื่อ สะกดชื่อญี่ปุ่นผิด ก็ไม่ต้องทักท้วงกันมาหลังจอนะ ครับ รบกวนบอกกันหน้าจอเลยว่า ผิดที่ไหน ที่ถูก ต้องเรียกยังไง ผมจะขอบคุณมาก ผมแค่เขียนนิทานให้อ่าน ไม่ใช่ครูสอนภาษา และผมก็ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น แต่ก็พยายามจะไม่เขียนแบบมั่ว หรือชุ่ยครับ อ้อ ไม่ใช่เฉพาะภาษาญี่ปุ่นนะครับ ทุกภาษาที่สะกดผิด นิทานเรื่องนี้ จะมีทั้งภาษาจีน ภาษาฝรั่งอั้งม้อ รวมทั้งภาษาไทย ที่ตอนเขียนถูก แต่ตอนโพสต์ผิดก็มี และมีแยะขึ้น บางวันถึงขนาด เครื่องมันขึ้น F ให้หน้าเพจผม ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน บางครั้งก็แก้ไขทัน บางทีก็ไม่ทัน ก็ขอความกรุณา อย่า งง เขียนนิทานแบบนี้ ลงเพจให้อ่านกัน เหมือนเล่นกระดานโต้คลื่น พยุงตัวให้รอด ไม่จมน้ำหาย ได้โผล่หัวอยู่มาได้ เกือบ 2 ปีนี่ ก็กินแรงแยะเหมือนกันนะครับ แรงคนแก่มีเหลือไม่มาก เรื่องอะไรที่ไม่ถึงกับขัดหู ขัดตา ก็ปล่อยไปบ้าง ต้องขออภัยล่วงหน้า) เรื่อง นายนาวาโทเพอรี่ ขี่เรือรบพกปืนใหญ่ มาขู่เอาไมตรีกับญี่ปุ่นนี่ จริงๆ ทำเอาซามูไรหน้าจ๋อย ใจฝ่อไปจม ที่เคยเชื่อว่า ตนเองเป็นชาติที่เข็มแข็ง ซามูไรคมกริบ ไม่เคยพลาดเป้า ตอนนี้เหงื่อตก คิดหนัก เราด้อยกว่าเขาแยะนักหรือ ขนาดจีนว่าใหญ่ ยังโดนไอ้พวกไกยิ่น (ญี่ปุ่น เรียก ฝรั่ง ว่า Gai-Jin) เล่นซะร่วง แล้วเราจะทำอย่างไรดี ด้วยความกลัวไอ้พวกไกยิ่น เอาปืนใหญ่มายิงโชว์อีก ญึ่ปุ่นตัดสินใจเด็ดเดี่ยว มีทางเดียวเราต้องปฏิรูปตัวเอง ญี่ปุ่นทำจริงจัง ปี ค.ศ.1868 ญี่ปุ่นจัดการบ้านการเมืองตัวเองใหม่ เรียกว่า Meiji Restoration เริ่มขบวนการปลดโชกุน ที่เคยมีอำนาจใหญ่กว่าฟ้า กลับลงมาสู่พื้น แล้วเอาอำนาจให้มาอยู่ในมือของจักรพรรดิแทน หรือจริงๆ ก็คืออยู่ในมือของกลุ่มที่ชักใยอยู่หลังฉาก ที่ไปปลดโชกุน และอุ้มจักรพรรดิขึ้นมาเป็นเจว็ด นั่นแหละ กลุ่มมือที่อยู่หลักฉาก เชื่อว่า ด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคม โดยล้มเลิกระบบขุนนาง ปรับปรุงกองทัพให้เข็มแข็ง และวางแผนให้ประเทศเดินหน้าไปทางด้านอุตสาหกรรม พยายามสร้างชาติใหม่ให้เท่าทันตะวันตก ชะตาชีวิตของประเทศ ก็น่าจะพ้นจากสภาพการถูกไอ้พวก ไกยิ่นทำลาย พวกสังคมอีลิต ต่างพากันสลัดกิโมโนทิ้ง มาแต่งตัว และใส่หมวกแบบตะวันตก แล้วชาวญี่ปุ่นหัวสมัยใหม่ ก็รีบสร้างระบบรัฐสภา เร่งร่างรัฐธรรมนูญ… นี่ ผมกำลังเล่าเรื่องญี่ปุ่นนะครับ.. สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 13 ส.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 228 Views 0 Reviews
  • เหรียญขวัญถุงหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม
    เหรียญขวัญถุงหลวงพ่อพูล เนื้อทองเเดง รุ่นเงินเพิ่มพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! สุดยอดเมตตาโชคลาภ มหาลาภ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม ติดต่อเจรจาค้าขายคล่องๆ มีเงินมีทองเหลือกินเหลือใช้ โชคลาภ และ เสี่ยงโชคดี ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงย คุ้มกันภัย คุ้มครอง ป้องกัน **

    ** หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมหลังจากท่านปลดประจำการ ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พ.ศ. 2480 โดยมี หลวงปู่สุข ปทฺวณฺโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังท่านบวช ได้พำนักอยู่ที่วัดพระงาม ศึกษาเล่าเรียนจนสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี เมื่อ พ.ศ. 2482 ในระหว่างนี้เองท่านได้ให้ความสนใจศึกษาด้านการเจริญสมาธิจิตฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐาน ตามคำสอนควบคู่กับการศึกษาวิชาอาคม ซึ่งได้รับมอบหมายจาก "ปู่แย้ม ปิ่นทอง" ที่วัดพระงามนี้ท่านจึงได้มีโอกาสได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อพร้อม วัดพระงาม พระเกจิที่ท่านเคราพมากที่สุดคือ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ได้รับคำแนะนำในการเจริญสมาธิภาวนา การเขียนอักขระเลขยันต์ ปลุกเสกวัตถุมงคล วิชาอาคมต่าง ๆ หลวงพ่อเงินเมตตาเป็นคนถ่ายทอดอย่างไม่ปิดบัง ต่อมาท่านได้ย้ายมาธุดงค์ที่ป่าเขาลำเนาไพรฝึกฝนสมาธิจิต และในปี พ.ศ. 2490 วัดไผ่ล้อมขาดเจ้าอาวาสในการปกครองเนื่องจากเจ้าอาวาสแต่ละรูปอยู่ปกครองวัดได้ไม่นานต้องลาสิกขาบทออกไป หลวงพ่อพูลจึงได้ย้ายมาจำพรรษาประจำอยู่ที่วัดไผ่ล้อม พร้อมกับทำการก่อสร้าง พัฒนาวัดเรื่อยตลอดเวลา **

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญขวัญถุงหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม เหรียญขวัญถุงหลวงพ่อพูล เนื้อทองเเดง รุ่นเงินเพิ่มพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! สุดยอดเมตตาโชคลาภ มหาลาภ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม ติดต่อเจรจาค้าขายคล่องๆ มีเงินมีทองเหลือกินเหลือใช้ โชคลาภ และ เสี่ยงโชคดี ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงย คุ้มกันภัย คุ้มครอง ป้องกัน ** ** หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมหลังจากท่านปลดประจำการ ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พ.ศ. 2480 โดยมี หลวงปู่สุข ปทฺวณฺโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังท่านบวช ได้พำนักอยู่ที่วัดพระงาม ศึกษาเล่าเรียนจนสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี เมื่อ พ.ศ. 2482 ในระหว่างนี้เองท่านได้ให้ความสนใจศึกษาด้านการเจริญสมาธิจิตฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐาน ตามคำสอนควบคู่กับการศึกษาวิชาอาคม ซึ่งได้รับมอบหมายจาก "ปู่แย้ม ปิ่นทอง" ที่วัดพระงามนี้ท่านจึงได้มีโอกาสได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อพร้อม วัดพระงาม พระเกจิที่ท่านเคราพมากที่สุดคือ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ได้รับคำแนะนำในการเจริญสมาธิภาวนา การเขียนอักขระเลขยันต์ ปลุกเสกวัตถุมงคล วิชาอาคมต่าง ๆ หลวงพ่อเงินเมตตาเป็นคนถ่ายทอดอย่างไม่ปิดบัง ต่อมาท่านได้ย้ายมาธุดงค์ที่ป่าเขาลำเนาไพรฝึกฝนสมาธิจิต และในปี พ.ศ. 2490 วัดไผ่ล้อมขาดเจ้าอาวาสในการปกครองเนื่องจากเจ้าอาวาสแต่ละรูปอยู่ปกครองวัดได้ไม่นานต้องลาสิกขาบทออกไป หลวงพ่อพูลจึงได้ย้ายมาจำพรรษาประจำอยู่ที่วัดไผ่ล้อม พร้อมกับทำการก่อสร้าง พัฒนาวัดเรื่อยตลอดเวลา ** ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • ตำนานเกมข้อความ Zork เปิดซอร์สโค้ด

    เกม Zork ถือเป็นหนึ่งในเกมแนว interactive fiction ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคแรกๆ ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มันสร้างโลกด้วย "ตัวหนังสือ" แทนภาพกราฟิก และใช้จินตนาการของผู้เล่นเป็นเครื่องมือหลักในการเล่น จุดเด่นคือการใช้ Z-Machine ซึ่งเป็น virtual machine ที่ทำให้เกมสามารถรันได้บนหลายแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องเขียนใหม่ทั้งหมด

    การอนุรักษ์และการศึกษา
    Microsoft Open Source Programs Office (OSPO) ได้ร่วมมือกับนักอนุรักษ์ดิจิทัลชื่อดัง Jason Scott และ Internet Archive เพื่อส่งซอร์สโค้ด Zork I–III เข้าสู่ repository ประวัติศาสตร์ พร้อมเพิ่ม MIT License และเอกสารประกอบที่มีอยู่ การเปิดซอร์สครั้งนี้ไม่ได้มุ่งหวังการพัฒนาเชิงพาณิชย์ แต่เพื่อให้ นักเรียน นักวิจัย และนักพัฒนา สามารถศึกษาโครงสร้างและวิธีคิดของวิศวกรยุคแรก

    เล่น Zork ได้ง่ายขึ้นในยุคปัจจุบัน
    แม้จะผ่านมากว่า 40 ปี เกม Zork ยังสามารถเล่นได้ทั้งในเชิงพาณิชย์ผ่าน The Zork Anthology บน Good Old Games หรือคอมไพล์ซอร์สโค้ดด้วยเครื่องมืออย่าง ZILF และรันผ่าน interpreter เช่น Windows Frotz หรือ Fic ที่เขียนด้วย Python สิ่งนี้สะท้อนว่าเกมคลาสสิกยังคงมีชีวิตและสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

    ความหมายต่อวงการเกมและโอเพนซอร์ส
    การเปิดซอร์สโค้ด Zork ไม่เพียงแต่เป็นการอนุรักษ์ แต่ยังเป็นการย้ำเตือนว่า จินตนาการและวิศวกรรม สามารถสร้างสิ่งที่ยืนยาวกว่าฮาร์ดแวร์หรือกราฟิกที่ล้าสมัย มันเป็นการเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้จากโค้ดจริงของเกมที่เคยเปลี่ยนโลก และยังเป็นการขอบคุณทีมผู้สร้าง Infocom ที่วางรากฐานให้วงการเกมเชิงเนื้อเรื่อง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปิดซอร์สโค้ด Zork I–III
    ใช้ MIT License เพื่อให้ศึกษาและพัฒนาได้อย่างเสรี

    ความสำคัญของ Z-Machine
    ทำให้เกมสามารถรันได้บนหลายแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องเขียนใหม่

    การเข้าถึงเกมในปัจจุบัน
    เล่นผ่าน Good Old Games หรือคอมไพล์ด้วย ZILF และ interpreter

    ความร่วมมือเพื่อการอนุรักษ์
    Microsoft OSPO และ Jason Scott ส่งซอร์สโค้ดเข้าสู่ repository ประวัติศาสตร์

    ความเสี่ยงด้านสิทธิ์เชิงพาณิชย์
    การเปิดซอร์สไม่รวมสิทธิ์ทางการตลาดหรือเครื่องหมายการค้า
    ความท้าทายในการศึกษาโค้ดเก่า
    โครงสร้างและภาษาโปรแกรมอาจซับซ้อนสำหรับผู้เรียนรุ่นใหม่

    https://opensource.microsoft.com/blog/2025/11/20/preserving-code-that-shaped-generations-zork-i-ii-and-iii-go-open-source
    🕹️ ตำนานเกมข้อความ Zork เปิดซอร์สโค้ด เกม Zork ถือเป็นหนึ่งในเกมแนว interactive fiction ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคแรกๆ ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มันสร้างโลกด้วย "ตัวหนังสือ" แทนภาพกราฟิก และใช้จินตนาการของผู้เล่นเป็นเครื่องมือหลักในการเล่น จุดเด่นคือการใช้ Z-Machine ซึ่งเป็น virtual machine ที่ทำให้เกมสามารถรันได้บนหลายแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องเขียนใหม่ทั้งหมด 📚 การอนุรักษ์และการศึกษา Microsoft Open Source Programs Office (OSPO) ได้ร่วมมือกับนักอนุรักษ์ดิจิทัลชื่อดัง Jason Scott และ Internet Archive เพื่อส่งซอร์สโค้ด Zork I–III เข้าสู่ repository ประวัติศาสตร์ พร้อมเพิ่ม MIT License และเอกสารประกอบที่มีอยู่ การเปิดซอร์สครั้งนี้ไม่ได้มุ่งหวังการพัฒนาเชิงพาณิชย์ แต่เพื่อให้ นักเรียน นักวิจัย และนักพัฒนา สามารถศึกษาโครงสร้างและวิธีคิดของวิศวกรยุคแรก 💡 เล่น Zork ได้ง่ายขึ้นในยุคปัจจุบัน แม้จะผ่านมากว่า 40 ปี เกม Zork ยังสามารถเล่นได้ทั้งในเชิงพาณิชย์ผ่าน The Zork Anthology บน Good Old Games หรือคอมไพล์ซอร์สโค้ดด้วยเครื่องมืออย่าง ZILF และรันผ่าน interpreter เช่น Windows Frotz หรือ Fic ที่เขียนด้วย Python สิ่งนี้สะท้อนว่าเกมคลาสสิกยังคงมีชีวิตและสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม 🌍 ความหมายต่อวงการเกมและโอเพนซอร์ส การเปิดซอร์สโค้ด Zork ไม่เพียงแต่เป็นการอนุรักษ์ แต่ยังเป็นการย้ำเตือนว่า จินตนาการและวิศวกรรม สามารถสร้างสิ่งที่ยืนยาวกว่าฮาร์ดแวร์หรือกราฟิกที่ล้าสมัย มันเป็นการเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้จากโค้ดจริงของเกมที่เคยเปลี่ยนโลก และยังเป็นการขอบคุณทีมผู้สร้าง Infocom ที่วางรากฐานให้วงการเกมเชิงเนื้อเรื่อง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปิดซอร์สโค้ด Zork I–III ➡️ ใช้ MIT License เพื่อให้ศึกษาและพัฒนาได้อย่างเสรี ✅ ความสำคัญของ Z-Machine ➡️ ทำให้เกมสามารถรันได้บนหลายแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องเขียนใหม่ ✅ การเข้าถึงเกมในปัจจุบัน ➡️ เล่นผ่าน Good Old Games หรือคอมไพล์ด้วย ZILF และ interpreter ✅ ความร่วมมือเพื่อการอนุรักษ์ ➡️ Microsoft OSPO และ Jason Scott ส่งซอร์สโค้ดเข้าสู่ repository ประวัติศาสตร์ ‼️ ความเสี่ยงด้านสิทธิ์เชิงพาณิชย์ ⛔ การเปิดซอร์สไม่รวมสิทธิ์ทางการตลาดหรือเครื่องหมายการค้า ‼️ ความท้าทายในการศึกษาโค้ดเก่า ⛔ โครงสร้างและภาษาโปรแกรมอาจซับซ้อนสำหรับผู้เรียนรุ่นใหม่ https://opensource.microsoft.com/blog/2025/11/20/preserving-code-that-shaped-generations-zork-i-ii-and-iii-go-open-source
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • ข่าวใหญ่: Qualcomm เริ่มบีบ Arduino หลังการเข้าซื้อกิจการ

    เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Arduino ในเดือนตุลาคม 2025 ชุมชน maker และนักพัฒนาต่างจับตามองด้วยความกังวล เพราะการเข้าซื้อโดยบริษัทยักษ์ใหญ่มักนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ และล่าสุดสิ่งที่หลายคนกลัวก็เกิดขึ้นจริง

    Adafruit Industries ซึ่งเป็นผู้ผลิตบอร์ดพัฒนาและมีบทบาทสำคัญในวงการ open hardware ได้ออกมาเตือนว่า Qualcomm ได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Arduino อย่างมาก โดยเฉพาะการให้สิทธิ์ถาวรแก่บริษัทในการใช้เนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด ไม่ว่าจะเป็นโค้ด โปรเจกต์ หรือโพสต์ในฟอรั่ม แม้ผู้ใช้งานจะลบแอคเคานต์ไปแล้วก็ตาม

    สิทธิ์ผู้ใช้ที่ถูกจำกัดและการเก็บข้อมูล
    ใน Section 7.1 ของ Terms of Service ระบุว่า Arduino มีสิทธิ์แบบถาวรและไม่สามารถเพิกถอนได้ต่อทุกสิ่งที่ผู้ใช้อัปโหลด โดยสิทธิ์นี้ยังเป็นแบบ royalty-free และสามารถนำไป sublicensing ต่อได้ ซึ่งหมายความว่า Qualcomm สามารถนำเนื้อหาของผู้ใช้ไปใช้ แจกจ่าย หรือแก้ไขได้ตามต้องการ

    นอกจากนี้ยังมีการห้ามไม่ให้ผู้ใช้ทำการ reverse-engineering หรือพยายามเข้าใจการทำงานของแพลตฟอร์มโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขัดกับหลักการเปิดกว้างที่ทำให้ Arduino ได้รับความนิยมในหมู่นักวิจัยและนักการศึกษา

    ด้าน Privacy Policy ก็ระบุชัดว่า Arduino เป็นบริษัทในเครือ Qualcomm Technologies และข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงข้อมูลของผู้เยาว์ จะถูกแชร์ไปยังบริษัทในเครือ Qualcomm อื่น ๆ

    ผลกระทบต่อชุมชนและอนาคตของ Arduino
    แม้ Qualcomm และ Arduino จะยืนยันว่าการเข้าซื้อครั้งนี้จะไม่กระทบต่อ “จิตวิญญาณหลัก” ของแพลตฟอร์ม และยังคงสนับสนุนบอร์ดที่ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ไม่ใช่ของ Qualcomm แต่ชุมชนผู้ใช้ยังคงกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ Arduino สูญเสียความโปร่งใสและความเปิดกว้างที่เคยเป็นจุดแข็ง

    ในระยะสั้น ฮาร์ดแวร์ของ Arduino ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในระยะยาว การตอบสนองของ Qualcomm ต่อเสียงวิจารณ์จากชุมชนจะเป็นตัวกำหนดว่า Arduino จะยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่นักพัฒนารัก หรือจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “enshittification” ที่เกิดขึ้นหลังการเข้าซื้อกิจการโดยบริษัทยักษ์ใหญ่

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลง Terms of Service
    Section 7.1 ให้สิทธิ์ถาวรแก่ Arduino/Qualcomm ในการใช้เนื้อหาผู้ใช้
    สิทธิ์เป็นแบบ royalty-free และสามารถ sublicensing ได้

    การจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้
    ห้าม reverse-engineering โดยไม่ได้รับอนุญาต
    ขัดกับหลักการ openness ที่ Arduino เคยยึดถือ

    การเก็บข้อมูลผู้ใช้
    ข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงผู้เยาว์ ถูกแชร์ไปยังบริษัทในเครือ Qualcomm
    มีการเก็บข้อมูลระยะยาวและเชื่อมโยงกับ ecosystem ของ Qualcomm

    คำเตือนต่อชุมชนผู้ใช้
    เสี่ยงที่เนื้อหาของผู้ใช้จะถูกนำไปใช้โดยไม่สามารถควบคุมได้
    ความโปร่งใสและ openness ของ Arduino อาจถูกลดทอน
    การเข้าซื้อโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อาจนำไปสู่การ “enshittification” ของแพลตฟอร์ม

    https://itsfoss.com/news/enshittification-of-arduino-begins/
    ⚙️ ข่าวใหญ่: Qualcomm เริ่มบีบ Arduino หลังการเข้าซื้อกิจการ เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Arduino ในเดือนตุลาคม 2025 ชุมชน maker และนักพัฒนาต่างจับตามองด้วยความกังวล เพราะการเข้าซื้อโดยบริษัทยักษ์ใหญ่มักนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ และล่าสุดสิ่งที่หลายคนกลัวก็เกิดขึ้นจริง Adafruit Industries ซึ่งเป็นผู้ผลิตบอร์ดพัฒนาและมีบทบาทสำคัญในวงการ open hardware ได้ออกมาเตือนว่า Qualcomm ได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Arduino อย่างมาก โดยเฉพาะการให้สิทธิ์ถาวรแก่บริษัทในการใช้เนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด ไม่ว่าจะเป็นโค้ด โปรเจกต์ หรือโพสต์ในฟอรั่ม แม้ผู้ใช้งานจะลบแอคเคานต์ไปแล้วก็ตาม 🔒 สิทธิ์ผู้ใช้ที่ถูกจำกัดและการเก็บข้อมูล ใน Section 7.1 ของ Terms of Service ระบุว่า Arduino มีสิทธิ์แบบถาวรและไม่สามารถเพิกถอนได้ต่อทุกสิ่งที่ผู้ใช้อัปโหลด โดยสิทธิ์นี้ยังเป็นแบบ royalty-free และสามารถนำไป sublicensing ต่อได้ ซึ่งหมายความว่า Qualcomm สามารถนำเนื้อหาของผู้ใช้ไปใช้ แจกจ่าย หรือแก้ไขได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีการห้ามไม่ให้ผู้ใช้ทำการ reverse-engineering หรือพยายามเข้าใจการทำงานของแพลตฟอร์มโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขัดกับหลักการเปิดกว้างที่ทำให้ Arduino ได้รับความนิยมในหมู่นักวิจัยและนักการศึกษา ด้าน Privacy Policy ก็ระบุชัดว่า Arduino เป็นบริษัทในเครือ Qualcomm Technologies และข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงข้อมูลของผู้เยาว์ จะถูกแชร์ไปยังบริษัทในเครือ Qualcomm อื่น ๆ 🌍 ผลกระทบต่อชุมชนและอนาคตของ Arduino แม้ Qualcomm และ Arduino จะยืนยันว่าการเข้าซื้อครั้งนี้จะไม่กระทบต่อ “จิตวิญญาณหลัก” ของแพลตฟอร์ม และยังคงสนับสนุนบอร์ดที่ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ไม่ใช่ของ Qualcomm แต่ชุมชนผู้ใช้ยังคงกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ Arduino สูญเสียความโปร่งใสและความเปิดกว้างที่เคยเป็นจุดแข็ง ในระยะสั้น ฮาร์ดแวร์ของ Arduino ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในระยะยาว การตอบสนองของ Qualcomm ต่อเสียงวิจารณ์จากชุมชนจะเป็นตัวกำหนดว่า Arduino จะยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่นักพัฒนารัก หรือจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “enshittification” ที่เกิดขึ้นหลังการเข้าซื้อกิจการโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลง Terms of Service ➡️ Section 7.1 ให้สิทธิ์ถาวรแก่ Arduino/Qualcomm ในการใช้เนื้อหาผู้ใช้ ➡️ สิทธิ์เป็นแบบ royalty-free และสามารถ sublicensing ได้ ✅ การจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้ ➡️ ห้าม reverse-engineering โดยไม่ได้รับอนุญาต ➡️ ขัดกับหลักการ openness ที่ Arduino เคยยึดถือ ✅ การเก็บข้อมูลผู้ใช้ ➡️ ข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงผู้เยาว์ ถูกแชร์ไปยังบริษัทในเครือ Qualcomm ➡️ มีการเก็บข้อมูลระยะยาวและเชื่อมโยงกับ ecosystem ของ Qualcomm ‼️ คำเตือนต่อชุมชนผู้ใช้ ⛔ เสี่ยงที่เนื้อหาของผู้ใช้จะถูกนำไปใช้โดยไม่สามารถควบคุมได้ ⛔ ความโปร่งใสและ openness ของ Arduino อาจถูกลดทอน ⛔ การเข้าซื้อโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อาจนำไปสู่การ “enshittification” ของแพลตฟอร์ม https://itsfoss.com/news/enshittification-of-arduino-begins/
    ITSFOSS.COM
    Enshittification of Arduino Begins? Qualcomm Starts Clamping Down
    New Terms of Service introduce perpetual content licenses, reverse-engineering bans, and widespread data collection.
    0 Comments 0 Shares 112 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251121 #securityonline

    Chrome ทดลองฟีเจอร์ "Vertical Tabs"
    Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Chrome Canary ที่ให้ผู้ใช้จัดเรียงแท็บในแนวตั้งทางด้านซ้ายของหน้าต่าง เหมือนกับที่ Microsoft Edge และ Firefox เคยมีมาแล้ว ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ดูไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่สามารถใช้งานได้ เช่น การค้นหาแท็บ การจัดกลุ่ม และการเปลี่ยนชื่อกลุ่ม คาดว่ากว่าจะถึงเวอร์ชันเสถียรอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน
    https://securityonline.info/chrome-testing-vertical-tabs-new-ui-feature-spotted-in-canary-build

    OpenAI เปิดตัว Group Chat ใน ChatGPT ทั่วโลก
    OpenAI เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT คือการสร้างห้องแชทกลุ่มที่เชิญเพื่อนได้สูงสุด 20 คน ใช้ได้ทั้งผู้ใช้ฟรีและเสียเงิน จุดเด่นคือสามารถใช้ ChatGPT ร่วมกันในกลุ่มเพื่อวางแผน ทำโปรเจกต์ หรือถกเถียงเรื่องต่าง ๆ โดยระบบถูกออกแบบให้เข้าใจบริบทการสนทนาในกลุ่ม และยังสามารถใช้ @mention เพื่อเรียกให้ ChatGPT ตอบได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การใช้งาน AI มีความเป็นสังคมมากขึ้น
    https://securityonline.info/openai-rolls-out-group-chat-globally-collaborate-with-up-to-20-people-in-chatgpt

    Google เปิดตัว Nano Banana Pro รุ่นใหม่
    Google เปิดตัวโมเดลสร้างภาพเวอร์ชันใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ทำงานบน Gemini 3 Pro จุดเด่นคือสามารถใส่ข้อความในภาพได้อย่างคมชัดและรองรับหลายภาษา รวมถึงมีเครื่องมือแก้ไขภาพ เช่น ปรับมุมกล้อง สี แสง และสามารถส่งออกภาพความละเอียดสูงถึง 4K อีกทั้งยังมีระบบตรวจสอบภาพที่สร้างด้วย AI โดยใส่วอเตอร์มาร์กเพื่อแยกจากภาพจริง
    https://securityonline.info/googles-nano-banana-pro-model-solves-ai-image-text-rendering-with-gemini-3-pro

    Salesforce รีบถอน Access Tokens หลังพบปัญหา Gainsight
    Salesforce ออกประกาศเตือนด้านความปลอดภัย หลังพบกิจกรรมผิดปกติในแอป Gainsight ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของตน อาจทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทาง Salesforce จึงรีบเพิกถอน access tokens ทั้งหมดและถอดแอปออกจาก AppExchange ขณะนี้ Gainsight กำลังร่วมมือกับ Salesforce เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขปัญหา
    https://securityonline.info/salesforce-revokes-access-tokens-gainsight-app-breach-may-have-exposed-customer-data

    Trojan ใหม่ "Sturnus" โจมตี Android
    นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Sturnus ที่อันตรายมาก เพราะสามารถเข้าควบคุมเครื่อง Android ได้เต็มรูปแบบ และยังสามารถดักข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง WhatsApp, Telegram และ Signal โดยใช้ Accessibility Service เพื่อดูข้อความหลังจากถูกถอดรหัสแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถทำการโจมตีแบบ Overlay หลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลธนาคาร และทำธุรกรรมลับ ๆ โดยปิดหน้าจอให้ผู้ใช้ไม่เห็น
    https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices

    มัลแวร์ Sturnus Trojan โจมตี Android
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Sturnus Trojan ที่สามารถเจาะระบบ Android ได้อย่างรุนแรง โดยมันสามารถข้ามการเข้ารหัสของ WhatsApp และ Signal เพื่อดักจับข้อความ รวมถึงเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ จุดที่น่ากังวลคือมันใช้ Accessibility Service เพื่อหลอกผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสธนาคาร และยังสามารถทำธุรกรรมโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว
    https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices

    ช่องโหว่ WSUS RCE ถูกโจมตีจริง
    มีการรายงานว่า ช่องโหว่ WSUS RCE (CVE-2025-59287) ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ในการติดตั้ง ShadowPad Backdoor ลงในระบบ ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างลับ ๆ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายมากเพราะ WSUS เป็นระบบที่ใช้กระจายอัปเดต Windows ในองค์กร หากถูกเจาะจะกระทบวงกว้าง
    https://securityonline.info/critical-wsus-rce-cve-2025-59287-actively-exploited-to-deploy-shadowpad-backdoor

    SonicWall เตือนช่องโหว่ SSLVPN ร้ายแรง
    SonicWall ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ใหม่ใน SonicOS SSLVPN (CVE-2025-40601) ที่สามารถถูกโจมตีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน (Pre-Auth Buffer Overflow) ช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบ VPN ได้ทันที ทำให้ข้อมูลและการเชื่อมต่อขององค์กรเสี่ยงต่อการถูกเจาะ
    https://securityonline.info/sonicwall-warns-of-new-sonicos-sslvpn-pre-auth-buffer-overflow-vulnerability-cve-2025-40601

    Grafana อุดช่องโหว่ SCIM ระดับวิกฤติ
    Grafana ได้ปล่อยแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SCIM (CVE-2025-41115) ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์และสวมรอยเป็นผู้ใช้คนอื่นได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมากสำหรับระบบที่ใช้ Grafana ในการจัดการข้อมูลและการแสดงผล
    https://securityonline.info/grafana-patches-critical-scim-flaw-cve-2025-41115-cvss-10-allowing-privilege-escalation-and-user-impersonation

    NVIDIA ทำลายความกังวล "AI Bubble" ด้วยรายได้สถิติ
    NVIDIA ประกาศผลประกอบการล่าสุด ทำรายได้สูงถึง 57 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ ทำให้ความกังวลเรื่องฟองสบู่ AI ลดลงทันที รายได้มหาศาลนี้สะท้อนถึงความต้องการชิป GPU ที่ยังคงพุ่งสูงจากการใช้งานด้าน AI และ Data Center
    https://securityonline.info/nvidia-crushes-ai-bubble-fears-with-record-57b-revenue

    OpenAI เปิดตัว ChatGPT ฟรีสำหรับครู K–12
    OpenAI ประกาศให้บริการ ChatGPT เวอร์ชันฟรีสำหรับครูระดับ K–12 โดยออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน ใช้ได้จนถึงปี 2027 จุดประสงค์คือช่วยครูในการเตรียมการสอน วางแผนบทเรียน และสร้างสื่อการเรียนรู้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
    https://securityonline.info/openai-launches-free-ferpa-compliant-chatgpt-for-k-12-teachers-until-2027

    Google Accelerator รายงานผลกระทบระดับโลก
    Google Accelerator เผยรายงานล่าสุดว่ามีการระดมทุนได้มากถึง 31.2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนโครงการนวัตกรรมทั่วโลก รายงานนี้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกต่อสตาร์ทอัพและธุรกิจที่เข้าร่วม โดยช่วยสร้างงานและขยายโอกาสในหลายประเทศ
    https://securityonline.info/31-2-billion-raised-google-accelerator-reveals-massive-global-impact-report

    Thunderbird 145 รองรับ Microsoft Exchange แบบเนทีฟ
    Thunderbird อัปเดตเวอร์ชันใหม่ Thunderbird 145 ที่เพิ่มการรองรับ Microsoft Exchange แบบเนทีฟ ทำให้ผู้ใช้สามารถย้ายจาก Outlook มาใช้งาน Thunderbird ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้ปลั๊กอินเสริม ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การจัดการอีเมลและปฏิทินสะดวกขึ้นสำหรับองค์กรที่ต้องการทางเลือกนอกเหนือจาก Outlook
    https://securityonline.info/thunderbird-145-native-microsoft-exchange-support-makes-outlook-migration-easy

    EU เปิดการสอบสวน DMA ต่อ AWS และ Azure
    สหภาพยุโรป (EU) เริ่มสอบสวนภายใต้กฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ว่า AWS และ Azure อาจเข้าข่ายเป็น “Gatekeeper” หรือไม่ หากพบว่ามีการผูกขาดหรือกีดกันการแข่งขัน อาจต้องมีมาตรการควบคุมเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจคลาวด์ในยุโรปอย่างมาก
    https://securityonline.info/eu-launches-dma-probes-is-gatekeeper-status-next-for-aws-azure-cloud

    Google ขยายสิทธิ์ AI Pro ฟรีสำหรับนักเรียน
    Google ประกาศขยายสิทธิ์การใช้งาน AI Pro Subscription ฟรีสำหรับนักเรียน ไปจนถึงปี 2027 เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และการเข้าถึงเครื่องมือ AI ขั้นสูง นักเรียนสามารถใช้ฟีเจอร์เต็มรูปแบบโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตด้านการศึกษาและเทคโนโลยี
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/google-extends-free-ai-pro-subscription-for-students-until-2027
    📌📰🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵📰📌 #รวมข่าวIT #20251121 #securityonline 🖥️ Chrome ทดลองฟีเจอร์ "Vertical Tabs" Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Chrome Canary ที่ให้ผู้ใช้จัดเรียงแท็บในแนวตั้งทางด้านซ้ายของหน้าต่าง เหมือนกับที่ Microsoft Edge และ Firefox เคยมีมาแล้ว ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ดูไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่สามารถใช้งานได้ เช่น การค้นหาแท็บ การจัดกลุ่ม และการเปลี่ยนชื่อกลุ่ม คาดว่ากว่าจะถึงเวอร์ชันเสถียรอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน 🔗 https://securityonline.info/chrome-testing-vertical-tabs-new-ui-feature-spotted-in-canary-build 👥 OpenAI เปิดตัว Group Chat ใน ChatGPT ทั่วโลก OpenAI เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT คือการสร้างห้องแชทกลุ่มที่เชิญเพื่อนได้สูงสุด 20 คน ใช้ได้ทั้งผู้ใช้ฟรีและเสียเงิน จุดเด่นคือสามารถใช้ ChatGPT ร่วมกันในกลุ่มเพื่อวางแผน ทำโปรเจกต์ หรือถกเถียงเรื่องต่าง ๆ โดยระบบถูกออกแบบให้เข้าใจบริบทการสนทนาในกลุ่ม และยังสามารถใช้ @mention เพื่อเรียกให้ ChatGPT ตอบได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การใช้งาน AI มีความเป็นสังคมมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/openai-rolls-out-group-chat-globally-collaborate-with-up-to-20-people-in-chatgpt 🎨 Google เปิดตัว Nano Banana Pro รุ่นใหม่ Google เปิดตัวโมเดลสร้างภาพเวอร์ชันใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ทำงานบน Gemini 3 Pro จุดเด่นคือสามารถใส่ข้อความในภาพได้อย่างคมชัดและรองรับหลายภาษา รวมถึงมีเครื่องมือแก้ไขภาพ เช่น ปรับมุมกล้อง สี แสง และสามารถส่งออกภาพความละเอียดสูงถึง 4K อีกทั้งยังมีระบบตรวจสอบภาพที่สร้างด้วย AI โดยใส่วอเตอร์มาร์กเพื่อแยกจากภาพจริง 🔗 https://securityonline.info/googles-nano-banana-pro-model-solves-ai-image-text-rendering-with-gemini-3-pro 🔐 Salesforce รีบถอน Access Tokens หลังพบปัญหา Gainsight Salesforce ออกประกาศเตือนด้านความปลอดภัย หลังพบกิจกรรมผิดปกติในแอป Gainsight ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของตน อาจทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทาง Salesforce จึงรีบเพิกถอน access tokens ทั้งหมดและถอดแอปออกจาก AppExchange ขณะนี้ Gainsight กำลังร่วมมือกับ Salesforce เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขปัญหา 🔗 https://securityonline.info/salesforce-revokes-access-tokens-gainsight-app-breach-may-have-exposed-customer-data 📱 Trojan ใหม่ "Sturnus" โจมตี Android นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Sturnus ที่อันตรายมาก เพราะสามารถเข้าควบคุมเครื่อง Android ได้เต็มรูปแบบ และยังสามารถดักข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง WhatsApp, Telegram และ Signal โดยใช้ Accessibility Service เพื่อดูข้อความหลังจากถูกถอดรหัสแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถทำการโจมตีแบบ Overlay หลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลธนาคาร และทำธุรกรรมลับ ๆ โดยปิดหน้าจอให้ผู้ใช้ไม่เห็น 🔗 https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices ⚠️ มัลแวร์ Sturnus Trojan โจมตี Android นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Sturnus Trojan ที่สามารถเจาะระบบ Android ได้อย่างรุนแรง โดยมันสามารถข้ามการเข้ารหัสของ WhatsApp และ Signal เพื่อดักจับข้อความ รวมถึงเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ จุดที่น่ากังวลคือมันใช้ Accessibility Service เพื่อหลอกผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสธนาคาร และยังสามารถทำธุรกรรมโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว 🔗 https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices 🛡️ ช่องโหว่ WSUS RCE ถูกโจมตีจริง มีการรายงานว่า ช่องโหว่ WSUS RCE (CVE-2025-59287) ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ในการติดตั้ง ShadowPad Backdoor ลงในระบบ ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างลับ ๆ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายมากเพราะ WSUS เป็นระบบที่ใช้กระจายอัปเดต Windows ในองค์กร หากถูกเจาะจะกระทบวงกว้าง 🔗 https://securityonline.info/critical-wsus-rce-cve-2025-59287-actively-exploited-to-deploy-shadowpad-backdoor 🔒 SonicWall เตือนช่องโหว่ SSLVPN ร้ายแรง SonicWall ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ใหม่ใน SonicOS SSLVPN (CVE-2025-40601) ที่สามารถถูกโจมตีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน (Pre-Auth Buffer Overflow) ช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบ VPN ได้ทันที ทำให้ข้อมูลและการเชื่อมต่อขององค์กรเสี่ยงต่อการถูกเจาะ 🔗 https://securityonline.info/sonicwall-warns-of-new-sonicos-sslvpn-pre-auth-buffer-overflow-vulnerability-cve-2025-40601 📊 Grafana อุดช่องโหว่ SCIM ระดับวิกฤติ Grafana ได้ปล่อยแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SCIM (CVE-2025-41115) ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์และสวมรอยเป็นผู้ใช้คนอื่นได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมากสำหรับระบบที่ใช้ Grafana ในการจัดการข้อมูลและการแสดงผล 🔗 https://securityonline.info/grafana-patches-critical-scim-flaw-cve-2025-41115-cvss-10-allowing-privilege-escalation-and-user-impersonation 💰 NVIDIA ทำลายความกังวล "AI Bubble" ด้วยรายได้สถิติ NVIDIA ประกาศผลประกอบการล่าสุด ทำรายได้สูงถึง 57 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ ทำให้ความกังวลเรื่องฟองสบู่ AI ลดลงทันที รายได้มหาศาลนี้สะท้อนถึงความต้องการชิป GPU ที่ยังคงพุ่งสูงจากการใช้งานด้าน AI และ Data Center 🔗 https://securityonline.info/nvidia-crushes-ai-bubble-fears-with-record-57b-revenue 🎓 OpenAI เปิดตัว ChatGPT ฟรีสำหรับครู K–12 OpenAI ประกาศให้บริการ ChatGPT เวอร์ชันฟรีสำหรับครูระดับ K–12 โดยออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน ใช้ได้จนถึงปี 2027 จุดประสงค์คือช่วยครูในการเตรียมการสอน วางแผนบทเรียน และสร้างสื่อการเรียนรู้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 🔗 https://securityonline.info/openai-launches-free-ferpa-compliant-chatgpt-for-k-12-teachers-until-2027 🌍 Google Accelerator รายงานผลกระทบระดับโลก Google Accelerator เผยรายงานล่าสุดว่ามีการระดมทุนได้มากถึง 31.2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนโครงการนวัตกรรมทั่วโลก รายงานนี้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกต่อสตาร์ทอัพและธุรกิจที่เข้าร่วม โดยช่วยสร้างงานและขยายโอกาสในหลายประเทศ 🔗 https://securityonline.info/31-2-billion-raised-google-accelerator-reveals-massive-global-impact-report 📧 Thunderbird 145 รองรับ Microsoft Exchange แบบเนทีฟ Thunderbird อัปเดตเวอร์ชันใหม่ Thunderbird 145 ที่เพิ่มการรองรับ Microsoft Exchange แบบเนทีฟ ทำให้ผู้ใช้สามารถย้ายจาก Outlook มาใช้งาน Thunderbird ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้ปลั๊กอินเสริม ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การจัดการอีเมลและปฏิทินสะดวกขึ้นสำหรับองค์กรที่ต้องการทางเลือกนอกเหนือจาก Outlook 🔗 https://securityonline.info/thunderbird-145-native-microsoft-exchange-support-makes-outlook-migration-easy 🇪🇺 EU เปิดการสอบสวน DMA ต่อ AWS และ Azure สหภาพยุโรป (EU) เริ่มสอบสวนภายใต้กฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ว่า AWS และ Azure อาจเข้าข่ายเป็น “Gatekeeper” หรือไม่ หากพบว่ามีการผูกขาดหรือกีดกันการแข่งขัน อาจต้องมีมาตรการควบคุมเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจคลาวด์ในยุโรปอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/eu-launches-dma-probes-is-gatekeeper-status-next-for-aws-azure-cloud 🎓 Google ขยายสิทธิ์ AI Pro ฟรีสำหรับนักเรียน Google ประกาศขยายสิทธิ์การใช้งาน AI Pro Subscription ฟรีสำหรับนักเรียน ไปจนถึงปี 2027 เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และการเข้าถึงเครื่องมือ AI ขั้นสูง นักเรียนสามารถใช้ฟีเจอร์เต็มรูปแบบโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตด้านการศึกษาและเทคโนโลยี ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/google-extends-free-ai-pro-subscription-for-students-until-2027
    0 Comments 0 Shares 313 Views 0 Reviews
  • Google ขยายสิทธิ์ใช้งาน AI Pro ฟรีสำหรับนักศึกษา จนถึงปี 2027

    Google เปิดตัวโครงการ Google AI Pro สำหรับนักศึกษา ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 โดยให้นักศึกษามหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ใช้งานฟรี 1 ปี พร้อมสิทธิ์พิเศษ เช่น พื้นที่เก็บข้อมูล Google Drive ขนาด 2TB และการเข้าถึงเครื่องมือ AI ขั้นสูงอย่าง Gemini 3 Pro, Deep Research, NotebookLM และ Flow ซึ่งช่วยให้นักศึกษาเรียนรู้และทำงานวิจัยได้สะดวกขึ้นอย่างมาก

    ล่าสุด Google ประกาศขยายสิทธิ์ใช้งานฟรีออกไปอีก 1 ปี ทำให้ผู้ที่สมัครตั้งแต่ปี 2025 จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้จนถึง พฤษภาคม 2027 ถือเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อดึงนักศึกษาเข้าสู่ระบบนิเวศ AI ของ Google และสร้างความคุ้นเคยกับเครื่องมือที่อาจกลายเป็นมาตรฐานในอนาคต

    อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกมีผู้ใช้บางรายพยายามเข้าถึงสิทธิ์นี้โดยการซื้ออีเมลนักศึกษา แต่ Google ได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบเข้มงวดขึ้น โดยบังคับใช้การยืนยันตัวตนผ่าน SheerID ซึ่งต้องแสดงหลักฐานการลงทะเบียนเรียนจริง ทำให้ผู้ที่ใช้วิธีไม่ถูกต้องต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อรักษาสิทธิ์

    นอกจากนี้ Google ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่ยังไม่ได้สมัครสามารถเข้าร่วมได้จนถึง 31 มกราคม 2026 แต่ต้องผ่านการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด ไม่สามารถใช้เพียงอีเมล .edu ได้อีกต่อไป ซึ่งสะท้อนถึงความจริงจังของ Google ในการป้องกันการละเมิดสิทธิ์และรักษาความน่าเชื่อถือของโครงการนี้

    สรุปสาระสำคัญ
    สิทธิ์ใช้งานฟรีสำหรับนักศึกษา
    ใช้งาน Google AI Pro ได้จนถึง พฤษภาคม 2027
    รวมฟีเจอร์ Gemini 3 Pro, Deep Research, NotebookLM, Flow และพื้นที่เก็บข้อมูล 2TB

    โอกาสสมัครเพิ่มเติม
    นักศึกษาที่มีสิทธิ์ยังสามารถสมัครได้ถึง 31 มกราคม 2026
    ต้องยืนยันตัวตนผ่านระบบ SheerID

    การเข้าถึงที่ไม่ถูกต้อง
    ผู้ที่ใช้วิธีซื้ออีเมลนักศึกษาอาจถูกปฏิเสธสิทธิ์
    ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสถานะการศึกษา

    ข้อควรระวังสำหรับผู้ใช้ใหม่
    การสมัครต้องมีบัญชี Google Payments และข้อมูลการชำระเงิน
    หากไม่ผ่านการตรวจสอบ จะไม่สามารถใช้งานสิทธิ์ฟรีได้

    https://securityonline.info/google-extends-free-ai-pro-subscription-for-students-until-2027/
    📰 Google ขยายสิทธิ์ใช้งาน AI Pro ฟรีสำหรับนักศึกษา จนถึงปี 2027 Google เปิดตัวโครงการ Google AI Pro สำหรับนักศึกษา ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 โดยให้นักศึกษามหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ใช้งานฟรี 1 ปี พร้อมสิทธิ์พิเศษ เช่น พื้นที่เก็บข้อมูล Google Drive ขนาด 2TB และการเข้าถึงเครื่องมือ AI ขั้นสูงอย่าง Gemini 3 Pro, Deep Research, NotebookLM และ Flow ซึ่งช่วยให้นักศึกษาเรียนรู้และทำงานวิจัยได้สะดวกขึ้นอย่างมาก ล่าสุด Google ประกาศขยายสิทธิ์ใช้งานฟรีออกไปอีก 1 ปี ทำให้ผู้ที่สมัครตั้งแต่ปี 2025 จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้จนถึง พฤษภาคม 2027 ถือเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อดึงนักศึกษาเข้าสู่ระบบนิเวศ AI ของ Google และสร้างความคุ้นเคยกับเครื่องมือที่อาจกลายเป็นมาตรฐานในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกมีผู้ใช้บางรายพยายามเข้าถึงสิทธิ์นี้โดยการซื้ออีเมลนักศึกษา แต่ Google ได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบเข้มงวดขึ้น โดยบังคับใช้การยืนยันตัวตนผ่าน SheerID ซึ่งต้องแสดงหลักฐานการลงทะเบียนเรียนจริง ทำให้ผู้ที่ใช้วิธีไม่ถูกต้องต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อรักษาสิทธิ์ นอกจากนี้ Google ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่ยังไม่ได้สมัครสามารถเข้าร่วมได้จนถึง 31 มกราคม 2026 แต่ต้องผ่านการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด ไม่สามารถใช้เพียงอีเมล .edu ได้อีกต่อไป ซึ่งสะท้อนถึงความจริงจังของ Google ในการป้องกันการละเมิดสิทธิ์และรักษาความน่าเชื่อถือของโครงการนี้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ สิทธิ์ใช้งานฟรีสำหรับนักศึกษา ➡️ ใช้งาน Google AI Pro ได้จนถึง พฤษภาคม 2027 ➡️ รวมฟีเจอร์ Gemini 3 Pro, Deep Research, NotebookLM, Flow และพื้นที่เก็บข้อมูล 2TB ✅ โอกาสสมัครเพิ่มเติม ➡️ นักศึกษาที่มีสิทธิ์ยังสามารถสมัครได้ถึง 31 มกราคม 2026 ➡️ ต้องยืนยันตัวตนผ่านระบบ SheerID ‼️ การเข้าถึงที่ไม่ถูกต้อง ⛔ ผู้ที่ใช้วิธีซื้ออีเมลนักศึกษาอาจถูกปฏิเสธสิทธิ์ ⛔ ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสถานะการศึกษา ‼️ ข้อควรระวังสำหรับผู้ใช้ใหม่ ⛔ การสมัครต้องมีบัญชี Google Payments และข้อมูลการชำระเงิน ⛔ หากไม่ผ่านการตรวจสอบ จะไม่สามารถใช้งานสิทธิ์ฟรีได้ https://securityonline.info/google-extends-free-ai-pro-subscription-for-students-until-2027/
    SECURITYONLINE.INFO
    Google Extends FREE AI Pro Subscription for Students Until 2027
    U.S. university students can now keep their free Google AI Pro subscription, 2TB Drive, and access to Gemini 3 Pro/NotebookLM until May 2027!
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • น้ำน่านเอ่อล้นต่อเนื่อง… โรงเรียนวิชาวดี ปากน้ำโพ ยังจมน้ำลึกกว่า 1 เมตรมานานเกือบ 2 เดือน ครูต้องย้ายเด็กประถม 65 คนไปเรียนในบ้านอดีตประธานชุมชนชั่วคราว โต๊ะ–เก้าอี้ไม่ครบ แสงสว่างไม่สะดวก แต่ยังเดินหน้าสอนเต็มที่เพื่อไม่ให้เด็กเสียโอกาส

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110878

    #นครสวรรค์ #น้ำท่วม #น้ำน่านล้นตลิ่ง #โรงเรียนวิชาวดี #การศึกษาไทย #น้ำท่วมภาคเหนือ #News1live #News1
    น้ำน่านเอ่อล้นต่อเนื่อง… โรงเรียนวิชาวดี ปากน้ำโพ ยังจมน้ำลึกกว่า 1 เมตรมานานเกือบ 2 เดือน ครูต้องย้ายเด็กประถม 65 คนไปเรียนในบ้านอดีตประธานชุมชนชั่วคราว โต๊ะ–เก้าอี้ไม่ครบ แสงสว่างไม่สะดวก แต่ยังเดินหน้าสอนเต็มที่เพื่อไม่ให้เด็กเสียโอกาส • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110878 • #นครสวรรค์ #น้ำท่วม #น้ำน่านล้นตลิ่ง #โรงเรียนวิชาวดี #การศึกษาไทย #น้ำท่วมภาคเหนือ #News1live #News1
    0 Comments 0 Shares 316 Views 0 Reviews
  • ทำไมกล้องถ่ายภาพความร้อนถึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน

    กล้องถ่ายภาพความร้อนที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C เช่น Thermal Master P1 กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์อุณหภูมิได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางราคาแพง จุดเด่นคือพกพาสะดวก ใช้งานง่าย และมีแอปพลิเคชันที่ช่วยวัดค่าอุณหภูมิได้อย่างละเอียด

    รายการ 10 การใช้งาน Thermal Camera
    ตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    หาจุดร้อนในคอมพิวเตอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงการระบายความร้อน

    ตรวจสอบเครื่องยนต์รถยนต์
    ดูอุณหภูมิที่ผิดปกติในเครื่องยนต์ เพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหา

    ตรวจสอบการรั่วไหลของความร้อนในบ้าน
    หาจุดที่มีอากาศเย็นรั่วเข้ามา ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน

    ตรวจสอบระบบทำความร้อน (Heating System)
    หาจุดรั่วหรือท่อที่มีปัญหาในระบบทำความร้อน

    ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำและความชื้น
    หาความชื้นสะสมหลังผนังหรือเพดาน ป้องกันเชื้อรา

    ใช้ในการทำอาหารและเบเกอรี่
    ตรวจสอบอุณหภูมิผิวอาหาร น้ำมัน หรือเตาอบ

    ตรวจจับสัตว์และคนในความมืด
    ใช้ดูสัตว์กลางคืน หรือเล่นเกมซ่อนหาในที่มืด

    ใช้ถ่ายภาพเชิงสร้างสรรค์
    ถ่ายภาพวิว เมือง หรือวัตถุในมุมมองความร้อนที่แปลกใหม่

    ใช้เป็นเครื่องมือการศึกษา
    กระตุ้นความสนใจเด็ก ๆ ในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

    ใช้ในงานมืออาชีพ
    ตรวจสอบอาคาร เครื่องจักร หรือระบบไฟฟ้า พร้อมสร้างรายงานจากแอป

    https://www.slashgear.com/2026375/thermal-camera-best-phone-accessory-reasons-why/
    🔥 ทำไมกล้องถ่ายภาพความร้อนถึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน กล้องถ่ายภาพความร้อนที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C เช่น Thermal Master P1 กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์อุณหภูมิได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางราคาแพง จุดเด่นคือพกพาสะดวก ใช้งานง่าย และมีแอปพลิเคชันที่ช่วยวัดค่าอุณหภูมิได้อย่างละเอียด 📋 รายการ 10 การใช้งาน Thermal Camera ✅ ตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ➡️ หาจุดร้อนในคอมพิวเตอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงการระบายความร้อน ✅ ตรวจสอบเครื่องยนต์รถยนต์ ➡️ ดูอุณหภูมิที่ผิดปกติในเครื่องยนต์ เพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหา ✅ ตรวจสอบการรั่วไหลของความร้อนในบ้าน ➡️ หาจุดที่มีอากาศเย็นรั่วเข้ามา ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ✅ ตรวจสอบระบบทำความร้อน (Heating System) ➡️ หาจุดรั่วหรือท่อที่มีปัญหาในระบบทำความร้อน ✅ ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำและความชื้น ➡️ หาความชื้นสะสมหลังผนังหรือเพดาน ป้องกันเชื้อรา ✅ ใช้ในการทำอาหารและเบเกอรี่ ➡️ ตรวจสอบอุณหภูมิผิวอาหาร น้ำมัน หรือเตาอบ ✅ ตรวจจับสัตว์และคนในความมืด ➡️ ใช้ดูสัตว์กลางคืน หรือเล่นเกมซ่อนหาในที่มืด ✅ ใช้ถ่ายภาพเชิงสร้างสรรค์ ➡️ ถ่ายภาพวิว เมือง หรือวัตถุในมุมมองความร้อนที่แปลกใหม่ ✅ ใช้เป็นเครื่องมือการศึกษา ➡️ กระตุ้นความสนใจเด็ก ๆ ในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ✅ ใช้ในงานมืออาชีพ ➡️ ตรวจสอบอาคาร เครื่องจักร หรือระบบไฟฟ้า พร้อมสร้างรายงานจากแอป https://www.slashgear.com/2026375/thermal-camera-best-phone-accessory-reasons-why/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    10 Reasons Why A Thermal Camera Is The Best Accessory For Your Smartphone - SlashGear
    Curious what thermal imaging can actually do on a phone? This guide breaks down the surprising ways a small add-on becomes genuinely practical.
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • นับหนึ่งใหม่รถไฟฟ้าสายสีแดง วงเวียนใหญ่-มหาชัย

    การรถไฟแห่งประเทศไทย จะเปิดการประชุมปฐมนิเทศโครงการ เพื่อทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสม แบบรายละเอียด จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้มช่วงวงเวียนใหญ่-มหาชัย 2 เวที กรุงเทพฯ และสมุทรสาคร

    บริษัทที่ปรึกษาฯ ได้นำเสนอแนวเส้นทาง เริ่มจากสถานีรถไฟหัวลำโพง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ ยกระดับที่ถนนลาดหญ้า เลี้ยวซ้ายที่วงเวียนใหญ่ ผ่านสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ไปตามทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย แบ่งเป็น 5 ทางเลือก ได้แก่

    ทางเลือกที่ 1 ระยะทาง 37.3 กิโลเมตร ไปตามทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย เมื่อผ่านสถานีบ้านขอมแล้วเลี้ยวขวา ผ่านถนนเอกชัย ถนนพระรามที่ 2 ตัวสถานีมหาชัยแห่งใหม่จะอยู่ที่ห้างบิ๊กซีมหาชัย (คลองครุ) ส่วนใหญ่ 75% เป็นเขตทางรถไฟเดิม ปัญหาก็คือ ช่วงปลายทางผ่านแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ เวนคืนที่ดินยุ่งยาก และเมื่อตัดผ่านถนนพระรามที่ 2 ต้องก่อสร้างเป็นทางยกระดับเสาสูง ซึ่งมีค่าก่อสร้างสูงมาก

    ทางเลือกที่ 2 ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร ตรงไปตามทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย สิ้นสุดที่สถานีรถไฟมหาชัยเดิม กว่า 90% เป็นเขตทางรถไฟเดิม ทำให้ลดพื้นที่เวนคืนลง จัดการพื้นที่เวนคืนได้ง่ายที่สุด ผู้โดยสารคุ้นเคย และมีระยะทางสั้นที่สุด แต่สถานีมหาชัยเดิมอยู่ในพื้นที่แออัด การพัฒนาพื้นที่รอบสถานียุ่งยาก และฝั่งตรงข้ามแม่น้ำท่าจีน (ท่าฉลอม) เป็นพื้นที่อ่อนไหว การออกแบบวางแนวต่อเชื่อมในอนาคตจึงไม่ง่าย

    ทางเลือกที่ 3 ระยะทาง 36.8 กิโลเมตร คล้ายทางเลือกที่ 1 แต่ไม่ไปถนนพระรามที่ 2 ใช้ถนนเอกชัยแทน ตัวสถานีมหาชัยแห่งใหม่ อยู่ระหว่างโรงพยาบาลสมุทรสาคร กับสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร (สี่แยกโรงพัก) ปัญหาก็คือ แนวเส้นทางเบี่ยงจากสถานีบ้านขอมไปทางถนนเอกชัย มีรัศมีสั้น อาจต้องลดความเร็วในการเดินรถ

    ทางเลือกที่ 4 ระยะทาง 36.6 กิโลเมตร เมื่อเลยสถานีคอกควายไปแล้ว เลี้ยวขวาไปออกถนนเอกชัย บริเวณคลังสินค้าอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เพื่อให้มีรัศมีความโค้งยาวขึ้น ใช้ความเร็วในการเดินรถได้อย่างราบรื่น ตัวสถานีมหาชัยแห่งใหม่เหมือนทางเลือกที่ 3

    ทางเลือกที่ 5 ระยะทาง 36.3 กิโลเมตร จากสถานีวงเวียนใหญ่ เมื่อเลยสถานีวุฒากาศไปแล้ว จะเบี่ยงขวาไปทางถนนเอกชัย ตั้งแต่วัดราชโอรส ตลอดเส้นทาง ตัวสถานีมหาชัยแห่งใหม่เหมือนทางเลือกที่ 3 แต่ต้องเวนคืนที่ดิน มีแนวกระทบกับอาคารของวัดราชโอรส รวมทั้งช่วงที่ถนนแคบต้องเวนคืนพื้นที่เพิ่มเติมพอสมควร และการก่อสร้างมีผลกระทบต่อชุมชนและสังคมค่อนข้างมาก

    #Newskit
    นับหนึ่งใหม่รถไฟฟ้าสายสีแดง วงเวียนใหญ่-มหาชัย การรถไฟแห่งประเทศไทย จะเปิดการประชุมปฐมนิเทศโครงการ เพื่อทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสม แบบรายละเอียด จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้มช่วงวงเวียนใหญ่-มหาชัย 2 เวที กรุงเทพฯ และสมุทรสาคร บริษัทที่ปรึกษาฯ ได้นำเสนอแนวเส้นทาง เริ่มจากสถานีรถไฟหัวลำโพง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ ยกระดับที่ถนนลาดหญ้า เลี้ยวซ้ายที่วงเวียนใหญ่ ผ่านสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ไปตามทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย แบ่งเป็น 5 ทางเลือก ได้แก่ ทางเลือกที่ 1 ระยะทาง 37.3 กิโลเมตร ไปตามทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย เมื่อผ่านสถานีบ้านขอมแล้วเลี้ยวขวา ผ่านถนนเอกชัย ถนนพระรามที่ 2 ตัวสถานีมหาชัยแห่งใหม่จะอยู่ที่ห้างบิ๊กซีมหาชัย (คลองครุ) ส่วนใหญ่ 75% เป็นเขตทางรถไฟเดิม ปัญหาก็คือ ช่วงปลายทางผ่านแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ เวนคืนที่ดินยุ่งยาก และเมื่อตัดผ่านถนนพระรามที่ 2 ต้องก่อสร้างเป็นทางยกระดับเสาสูง ซึ่งมีค่าก่อสร้างสูงมาก ทางเลือกที่ 2 ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร ตรงไปตามทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย สิ้นสุดที่สถานีรถไฟมหาชัยเดิม กว่า 90% เป็นเขตทางรถไฟเดิม ทำให้ลดพื้นที่เวนคืนลง จัดการพื้นที่เวนคืนได้ง่ายที่สุด ผู้โดยสารคุ้นเคย และมีระยะทางสั้นที่สุด แต่สถานีมหาชัยเดิมอยู่ในพื้นที่แออัด การพัฒนาพื้นที่รอบสถานียุ่งยาก และฝั่งตรงข้ามแม่น้ำท่าจีน (ท่าฉลอม) เป็นพื้นที่อ่อนไหว การออกแบบวางแนวต่อเชื่อมในอนาคตจึงไม่ง่าย ทางเลือกที่ 3 ระยะทาง 36.8 กิโลเมตร คล้ายทางเลือกที่ 1 แต่ไม่ไปถนนพระรามที่ 2 ใช้ถนนเอกชัยแทน ตัวสถานีมหาชัยแห่งใหม่ อยู่ระหว่างโรงพยาบาลสมุทรสาคร กับสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร (สี่แยกโรงพัก) ปัญหาก็คือ แนวเส้นทางเบี่ยงจากสถานีบ้านขอมไปทางถนนเอกชัย มีรัศมีสั้น อาจต้องลดความเร็วในการเดินรถ ทางเลือกที่ 4 ระยะทาง 36.6 กิโลเมตร เมื่อเลยสถานีคอกควายไปแล้ว เลี้ยวขวาไปออกถนนเอกชัย บริเวณคลังสินค้าอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เพื่อให้มีรัศมีความโค้งยาวขึ้น ใช้ความเร็วในการเดินรถได้อย่างราบรื่น ตัวสถานีมหาชัยแห่งใหม่เหมือนทางเลือกที่ 3 ทางเลือกที่ 5 ระยะทาง 36.3 กิโลเมตร จากสถานีวงเวียนใหญ่ เมื่อเลยสถานีวุฒากาศไปแล้ว จะเบี่ยงขวาไปทางถนนเอกชัย ตั้งแต่วัดราชโอรส ตลอดเส้นทาง ตัวสถานีมหาชัยแห่งใหม่เหมือนทางเลือกที่ 3 แต่ต้องเวนคืนที่ดิน มีแนวกระทบกับอาคารของวัดราชโอรส รวมทั้งช่วงที่ถนนแคบต้องเวนคืนพื้นที่เพิ่มเติมพอสมควร และการก่อสร้างมีผลกระทบต่อชุมชนและสังคมค่อนข้างมาก #Newskit
    1 Comments 0 Shares 248 Views 0 Reviews
  • ขยับหมาก ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก”
    ตอน 2
    อังกฤษไม่มีวันทำใจได้ที่เห็นรัส เซียยังคงอยู่ได้ และยังอยู่ดี ทฤษฏีครูMac เกี่ยวกับ Eurasia มันยังหลอนอยู่ ผมไม่เล่าซ้ำแล้ว หาอ่านเอาแล้วกัน อยู่ในนิทานสาระพัดเรื่อง
    รายงานการวิเคราะห์ของ Chatham House เรื่อง Russia Challenge รัสเซียกำเริบ ที่เพิ่งออกมานี่ แทบจะเดาได้ว่า เขียนว่าอะไร มันเหมือนกับเขียนวิเคราะห์จิตใต้สำนึกของอังกฤษมากกว่าการเขียนวิเคราะห์รัสเซีย
    ถังขยะ Chatham House บรรยายสรุปว่า
    ” บทวิเคราะห์เรื่อง Russia Challenge นี้ ทำขึ้นจากการเฝ้ามองพฤติกรรมของรัสเซียตั้งแต่หลังสงครามเย็นจนถึงปี ค.ศ.2003 ซึ่งประเทศต่างๆคิดว่า รัสเซียใหม่อาจเข้ามาอยู่ในระบบของยุโรปได้ ในฐานะตัวเแสดงที่สร้างสรร และไม่เป็นอันตราย แต่หลังจากนั้น ความเห็นดังกล่าวค่อยๆเปลี่ยนไป และในที่สุดก็มีความเห็นพ้อง สรุปกันว่า จากพฤติกรรมต่างๆของรัสเซียเอง ทำให้เห็นว่า รัสเซียไม่เหมาะที่จะเป็นหุ้นส่วนและมิตรด้วยเลย partner and ally ความแตกต่างของรัสเซียมีมากเกินกว่าที่จะสามารถมีผลประโยชน์ร่วมกัน… ”
    เขียนแบบนี้ แถวบ้านผมเขาแปลสั้นๆ ว่า “กูไม่คบมึง กูไม่ชอบมึง”
    “ความแตกต่างที่พวกตะวันตก “ทน” รัสเซียไม่ได้ที่สำคัญ คือ :
    1. นโยบาย ” new model Russia” ของปูติน เป็นนโยบายที่ตั้งใจเป็นอิสระ ที่จะไม่เข้ากับใคร และไม่ขึ้นกับใคร
    2. ปูตินไม่เปิดทางเลือกให้กับผู้อื่น หรือเปิดอย่างแคบมาก
    3. ปูติน ใช้พรรคพวกในการควบคุม ทั้งด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคง ทำให้ใครแทรกยาก
    4. รัสเซีย ยากจน และเศรษฐกิจกำลังถดถอย แต่ยังดันเพิ่มงบประมาณด้านกำลังอาวุธ
    5. การคว่ำบาตรรัสเซีย จากเรื่องยูเครน ไม่เพียงพอให้รัสเซียถอยจากยูเครน ตรงกันข้าม กลับเป็นทางออกให้รัสเซียนำมาอ้างว่า เรื่องคว่ำบาตร เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจของรัสเซีย แต่เรื่องคว่ำบาตรก็ยังเลิกไม่ได้ และการเผชิญหน้าก็ยังมีอยู่ต่อไป
    6. เทคนิคที่รัสเซียใช้คือ สร้างความไม่เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน การขู่ว่าจะตัดการส่งพลังงาน การทำสงครามไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ และที่รัสเซียใช้บ่อยที่สุดคือ ทำให้ข้อขัดแย้งยืดเยื้อ เป็นปัญหาอยู่ตลอดเวลา หรือแช่แข็งไว้ เพื่อหวังผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
    7. รัสเซียพยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะสร้างให้ตัวเอง “เท่าเทียม” กับอเมริกา และทำทุกอย่างเพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น โดยไม่คำนึงว่า จะสร้างผลกระทบกับใคร อย่างไรบ้าง …”
    ตกลงเรื่องต่างๆ ที่อังกฤษบอกว่า “ทน” รัสเซียไม่ได้นี่ แปลง่ายๆว่า เพราะ “สั่ง” รัสเซียไม่ได้ และเป็นเรื่องที่พวกตะวันตกยัง แก้ลำรัสเซียไม่ได้ จึง”ทน” รัสเซียไม่ได้ใช่ไหม สำหรับผม หัวข้อทนไม่ได้ นี่น่าจะถือเป็นคำชมนะ น่าจะทำให้รัสเซียชอบใจ เหมือนได้ยินคำสารภาพ ของฝ่ายที่กำลังเสียแต้ม ฮา
    “ข้อเสนอแนะ ของถังขยะ :
    แม้ว่าพวกตะวันตกจะประเมินรัสเซียในบางเรื่องต่างกันบ้าง แต่ทั้งหมดเห็นพ้องกันว่า รัสเซียไม่มีทางมาเป็นส่วนหนึ่งยุโรป ตามกฏเกณท์ กติกาที่ยุโรปใช้อยู่ ยกเว้นแต่ รัสเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของประเทศ ตั้งแต่พื้นฐาน และการเปลี่ยนแปลงต้องมาจากภายในรัสเซียเอง ดังนั้น พวกตะวันตกจะต้องร่วมมือกันคิดอย่างจริงจัง ถึงยุทธศาสตร์ที่จะใช้กับรัสเซีย ซึ่งจะต้องใช้มุมมองเดียวกันทั้งทรานสแอตแลนติกและยุโรป โดยเฉพาะ ต้องมองรัสเซียจากพฤติกรรมของรัส เซียเอง ไม่ใช่มองแบบง่ายๆ หรือจากการเล่ากันต่อๆมา policy must be based on the evidence of Russia’s behaviour, not on convenience or fashionable narratives…
    การร่วมมือของพวกตะวันตก อย่างเข้มงวดจริงจัง เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ ผู้ที่จะเป็นตัวหลัก ในการทำงาน จะต้องมีแนวทางเดียวกัน และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด……”
    โอ้โห อันนี้ มันฟ้องตัวเองว่า ไม่มีเอกภาพเท่าไหร่ในพวกตะวันตก แถมแดกใครครับ ที่มองรัสเซียแบบง่าย สงสัยจะเป็นฝรั่งเศส ลุงโอลอง เพื่อนผมมังนะ เห็นแอบไปจี๋จ๋ากับคุณน้องปูตินบ่อยๆ
    เป้าหมายทางยุทธศาสตร์สำหรับตะวันตก ที่ถังขยะเสนอ :
    “1. ยับยั้งการรุกรานของรัสเซียกับประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป แต่อย่าทำ โดยไม่มีทางออกเผื่อไว้ หากสถานการณ์เปลี่ยน เช่น ปูตินร่วงไป หรืออาจมีหัวหน้าคนใหม่ของรัสเซียที่อยากคบกับตะวันตกก็ได้ ถ้าเศรษฐกิจของรัสเซียไปไม่รอด และการคบกับจีนอาจมีต้นทุนสูงเกินไป ถ้าจีนโตขึ้นเรื่อยๆ รัสเซียอาจอยากกลับมาอยู่กับยุโรปอีกก็เป็นได้”
    …. แปลว่า มีแผนจะจัดการเอาคุณพี่ปูตินของผมเก็บลงกล่อง.. ขณะเดียวกันก็เสี้ยมเรื่องอาเฮียเสียหน่อย…..
    “2. ต้องเสริมสร้างเกียรติภูมิของยุโรป ด้านการรักษาความมั่นคงใหม่ โดยเฉพาะแต่ละประเทศต้องดูแลรักษาเขตแดนของตัวเองได้ และตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประเทศตัวเองได้ ”
    ….. แปลว่า ยุโรปอ่อนระทวย ดูแลตัวเองไม่ได้ แหม ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯนี่เก่งนะ เรือดำน้ำรัสเซียโผล่ใกล้บ้านหลายที ทำอะไรเขาไม่ได้ เลยแต่ด่าคนอื่นแทน….
    “3. ต้องพยายามหาทางที่จะสื่อสารกับคนรัสเซียว่า ในระยะไกล การอยู่ร่วมกับยุโรปเป็นผลดีกับรัสเซียมากกว่า”
    …. มาแล้ว โรงงานฟอกย้อม….
    “4. หาทางที่จะหารือกับจีน และประเทศที่เป็นอดีตรัฐของรัสเซีย ให้พิจารณานโยบายของรัสเซีย ว่าจะเป็นปัญหาต่อไปอย่างไร บางประเทศมีปัญหาในการมองรัสเซียด้านเดียว”
    ….. อันนี้ เป็นรายการ เสี้ยม…..
    “5. ให้เตรียมพร้อม สำหรับความวุ่นวาย และโอกาสที่จะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนตัวผู้นำของรัสเซีย”
    …..ข้อนี้น่าสนใจมาก …. คิดจะทำอะไรหรือครับ ..
    “6. ต้องพยายามแย่งรัสเซีย และชาวรัสเซียมาจากปูติน สิ่งที่พวกตะวันตกกำลังทำอยู่โดยการไม่สนใจ ไม่ยุ่งกับรัสเซีย กลายเป็นการส่งเสริมให้รัสเซียตกอยู่ในมือปูตินหนักขึ้น”
    …..สร้างกระบวนการแย่งประชาชน แผนมาตรฐาน ใช้มันทุกที่….
    นโยบาย ที่ถังขยะเสนอว่า ต้องทำอย่างเฉพาะเจาะจง :
    “1. สร้างยูเครนให้เข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ ถ้าเอายูเครนไม่อยู่ ยุโรปตะวันออกเซหมด และเพิ่มความผยองให้กับรัสเซีย ทำให้โอกาสที่จะ “เปลี่ยน” รัสเซียริบหรี่ลงไปด้วย”
    “2. ประเทศที่เป็นอียูตะวันออก ต้องปรับปรุงให้เป็นเครื่องมือสำคัญของอียู และต้องพร้อมที่จะมีการปฏิรูปทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจอย่างจริงจัง”
    “3. การคว่ำบาตรรัสเซียจะมีผลต่อเมื่อคว่ำ “นาน “และ “แรง” การคว่ำบาตรจากกรณียูเครน ปลดให้ง่ายๆไม่ได้ และการจะยกเลิกการคว่ำบาตรโดยเอาไปโยงกับการทำ Minsk Accord เป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าที่สุด”
    “4. พวกตะวันตก ต้องไม่กลับไปทำการค้ากับรัสเซียอย่างเดิม do business as usual จนกว่าเรื่องยูเครนจะจบ ด้วยการที่รัสเซียยอมทำตามภาระ ความรับผิดชอบ ตามกฏหมายสากล international legal obligations”
    “5. นโยบายด้านพลังงานของอียู ต้องมีเป้าหมายที่จะตัดอำนาจการต่อรองของรัสเซีย ออกไปจากตลาดพลังงาน ไม่ใช่แค่ตัดการส่งพลังงานให้ยุโรป ดังนั้นการยกเลิกโครงการ South Stream pipeline เป็นเรื่องต้องทำ และแผนการที่รัสเสียกำลังสร้าง “energy island” ในยุโรป ต้องไม่ให้สำเร็จ”
    …. มาแล้ว เรื่องกรีซ/ตุรกี…..
    “6. พวกตะวันตก ต้องลงทุนในการใช้สื่อเป็นยุทธศาสตร์ตอบโต้กับการอวดอ้างที่ผิดๆของเครมลิน ต้องทำทั้งระดับประเทศ ผ่านอียูและนาโต้ ร่วมมือกัน ต้องสร้างช่องทางที่จะเข้าถึงชาวรัสเซียทั่วไป โดยผ่านการศึกษา และสัมพันธ์ด้านบุคคลอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน”
    …..โรงงานฟอกย้อม เตรียมหาสีได้แล้ว……
    “7. นาโต้ ต้องสร้างผลงานว่า สามารถยับยั้งการรุกรานได้ โดยเฉพาะต้องแสดงให้เห็นว่า การจำกัดรุกราน ที่ยังคลุมเคลือ หรือมาหลายรูปแบบ เป็นเรื่องที่นาโต้จัดการได้อย่างไม่มีปัญหา”
    …….อายแทน นาโต้จัง อย่าด่าตรงนักซิพี่….
    “8. นาโต้ ต้องซ่อมชื่อเสียงที่เคยมีว่า สามารถยับยั้งการรุกราน ที่มาในรูปแบบธรรมดา ให้ได้อย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นจะทำให้รัสเซียฉวยโอกาส สร้าง และซ้อมเป้ามากขึ้น”
    ….. แสดงว่า นาโต้ ลุ้นไม่ขึ้นแล้ว….
    “9. แต่ละประเทศในอียู อียูเอง รวมทั้งกองกำลังเสริมจากภายนอก External Action Service จำเป็นที่จะต้องกลับมาวิเคราะห์ และทำความเข้าใจ กับความเป็นไปของรัสเซีย และประเทศเพื่อนบ้านเสียใหม่ ความเข้าใจที่ถูกต้อง จะช่วยนำมาใช้เป็นข้อมูลให้การวางนโยบาย”
    ……นโยบาย 9 ข้อ นี่ ผมชอบจัง เหมือนคำสารภาพอีกแล้ว คุณพี่ปูติน อ่านแล้วก็คงหัวร่อในคอ นี่เจาะจงไปที่อียู โดยเฉพาะอียูตะวันออก กับนาโต้ ล้วนๆ ให้เห็นว่า “ถ้า” รบกัน อียูกับนาโต้ ไม่มีทางต้านรัสเซียอยู่หรอก การบ้านเพียบเลย จะทำทันไหมครับ…
    ” …การดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น จะทำให้พวกตะวันตก เตรียมตัวในการรับมือ กับสัมพันธภาพกับรัสเซีย ที่นับวันมีแต่จะเลวลง และใครที่คิดว่าคุยกับปูตินก็ยังดีกว่า เพราะผู้นำรัสเซียคนใหม่อาจแย่กว่า นั้น คิดแบบนั้น มีแต่จะนำแต่ความล้มเหลวมาให้ตัว ไม่ว่าผู้นำรัสเซียคนใหม่จะเป็นใคร ปูตินจะอยู่ต่อไปอีก หรือ “ไปก่อนเวลา” prematurely replaced มันก็สร้างความกระทบกระเทือนไปทั่วทั้งนั้นแหละ
    18 เดือนที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นข้อสรุปว่า การมองรัสเซียในแง่ดี ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง…”
    จบได้แรงนะ น่าสงสัยว่า ไม่ใช่แค่ อียู นาโต้ ที่ต้องปรับปรุง ผู้รับตัวจริง ที่การวิเคราะห์นี้ ต้องการจะส่งไปถึง น่าจะเป็น พณฯใบตองแห้งของอเมริกา เสียมากกว่า ที่มีแนวคิดว่า รัสเซียอยู่ไกลบ้านอเมริกา เกิดอะไรขึ้นมา นาโต้และยุโรป รับไปก่อน แถม พณฯใบตองแห้ง ยังเปลี่ยนนโยบาย โยกกำลัง จากแอตแลนติก ไปเพิ่มให้ทางแปซิฟิกมากกว่า เพราะตอนนั้นเริ่มปอดแหกอาเฮีย และแม้อเมริกาจะใช้วิธีการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเต็มพิกัดแล้ว แต่ในสายตาของอังกฤษ การดำเนินการของอเมริกาต่อรัสเซีย โดยเฉพาะการประเมินปูตินเบาไปนั้น น่าจะไม่พอรับมือรัสเซีย ยังไม่ถึงใจอังกฤษ ที่มองเห็นและประทับตราให้รัสเซียเป็นศัตรูถาวร
    แล้วจริงๆ อเมริกามีแผนอะไรเตรียมไว้ให้รัสเซียอีกหรือไม่ หรือประเมินคุณพี่ปูตินของผมเบาเท่าปุยนุ่น
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    16 ก.ค. 2558
    ขยับหมาก ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก” ตอน 2 อังกฤษไม่มีวันทำใจได้ที่เห็นรัส เซียยังคงอยู่ได้ และยังอยู่ดี ทฤษฏีครูMac เกี่ยวกับ Eurasia มันยังหลอนอยู่ ผมไม่เล่าซ้ำแล้ว หาอ่านเอาแล้วกัน อยู่ในนิทานสาระพัดเรื่อง รายงานการวิเคราะห์ของ Chatham House เรื่อง Russia Challenge รัสเซียกำเริบ ที่เพิ่งออกมานี่ แทบจะเดาได้ว่า เขียนว่าอะไร มันเหมือนกับเขียนวิเคราะห์จิตใต้สำนึกของอังกฤษมากกว่าการเขียนวิเคราะห์รัสเซีย ถังขยะ Chatham House บรรยายสรุปว่า ” บทวิเคราะห์เรื่อง Russia Challenge นี้ ทำขึ้นจากการเฝ้ามองพฤติกรรมของรัสเซียตั้งแต่หลังสงครามเย็นจนถึงปี ค.ศ.2003 ซึ่งประเทศต่างๆคิดว่า รัสเซียใหม่อาจเข้ามาอยู่ในระบบของยุโรปได้ ในฐานะตัวเแสดงที่สร้างสรร และไม่เป็นอันตราย แต่หลังจากนั้น ความเห็นดังกล่าวค่อยๆเปลี่ยนไป และในที่สุดก็มีความเห็นพ้อง สรุปกันว่า จากพฤติกรรมต่างๆของรัสเซียเอง ทำให้เห็นว่า รัสเซียไม่เหมาะที่จะเป็นหุ้นส่วนและมิตรด้วยเลย partner and ally ความแตกต่างของรัสเซียมีมากเกินกว่าที่จะสามารถมีผลประโยชน์ร่วมกัน… ” เขียนแบบนี้ แถวบ้านผมเขาแปลสั้นๆ ว่า “กูไม่คบมึง กูไม่ชอบมึง” “ความแตกต่างที่พวกตะวันตก “ทน” รัสเซียไม่ได้ที่สำคัญ คือ : 1. นโยบาย ” new model Russia” ของปูติน เป็นนโยบายที่ตั้งใจเป็นอิสระ ที่จะไม่เข้ากับใคร และไม่ขึ้นกับใคร 2. ปูตินไม่เปิดทางเลือกให้กับผู้อื่น หรือเปิดอย่างแคบมาก 3. ปูติน ใช้พรรคพวกในการควบคุม ทั้งด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคง ทำให้ใครแทรกยาก 4. รัสเซีย ยากจน และเศรษฐกิจกำลังถดถอย แต่ยังดันเพิ่มงบประมาณด้านกำลังอาวุธ 5. การคว่ำบาตรรัสเซีย จากเรื่องยูเครน ไม่เพียงพอให้รัสเซียถอยจากยูเครน ตรงกันข้าม กลับเป็นทางออกให้รัสเซียนำมาอ้างว่า เรื่องคว่ำบาตร เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจของรัสเซีย แต่เรื่องคว่ำบาตรก็ยังเลิกไม่ได้ และการเผชิญหน้าก็ยังมีอยู่ต่อไป 6. เทคนิคที่รัสเซียใช้คือ สร้างความไม่เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน การขู่ว่าจะตัดการส่งพลังงาน การทำสงครามไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ และที่รัสเซียใช้บ่อยที่สุดคือ ทำให้ข้อขัดแย้งยืดเยื้อ เป็นปัญหาอยู่ตลอดเวลา หรือแช่แข็งไว้ เพื่อหวังผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 7. รัสเซียพยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะสร้างให้ตัวเอง “เท่าเทียม” กับอเมริกา และทำทุกอย่างเพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น โดยไม่คำนึงว่า จะสร้างผลกระทบกับใคร อย่างไรบ้าง …” ตกลงเรื่องต่างๆ ที่อังกฤษบอกว่า “ทน” รัสเซียไม่ได้นี่ แปลง่ายๆว่า เพราะ “สั่ง” รัสเซียไม่ได้ และเป็นเรื่องที่พวกตะวันตกยัง แก้ลำรัสเซียไม่ได้ จึง”ทน” รัสเซียไม่ได้ใช่ไหม สำหรับผม หัวข้อทนไม่ได้ นี่น่าจะถือเป็นคำชมนะ น่าจะทำให้รัสเซียชอบใจ เหมือนได้ยินคำสารภาพ ของฝ่ายที่กำลังเสียแต้ม ฮา “ข้อเสนอแนะ ของถังขยะ : แม้ว่าพวกตะวันตกจะประเมินรัสเซียในบางเรื่องต่างกันบ้าง แต่ทั้งหมดเห็นพ้องกันว่า รัสเซียไม่มีทางมาเป็นส่วนหนึ่งยุโรป ตามกฏเกณท์ กติกาที่ยุโรปใช้อยู่ ยกเว้นแต่ รัสเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของประเทศ ตั้งแต่พื้นฐาน และการเปลี่ยนแปลงต้องมาจากภายในรัสเซียเอง ดังนั้น พวกตะวันตกจะต้องร่วมมือกันคิดอย่างจริงจัง ถึงยุทธศาสตร์ที่จะใช้กับรัสเซีย ซึ่งจะต้องใช้มุมมองเดียวกันทั้งทรานสแอตแลนติกและยุโรป โดยเฉพาะ ต้องมองรัสเซียจากพฤติกรรมของรัส เซียเอง ไม่ใช่มองแบบง่ายๆ หรือจากการเล่ากันต่อๆมา policy must be based on the evidence of Russia’s behaviour, not on convenience or fashionable narratives… การร่วมมือของพวกตะวันตก อย่างเข้มงวดจริงจัง เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ ผู้ที่จะเป็นตัวหลัก ในการทำงาน จะต้องมีแนวทางเดียวกัน และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด……” โอ้โห อันนี้ มันฟ้องตัวเองว่า ไม่มีเอกภาพเท่าไหร่ในพวกตะวันตก แถมแดกใครครับ ที่มองรัสเซียแบบง่าย สงสัยจะเป็นฝรั่งเศส ลุงโอลอง เพื่อนผมมังนะ เห็นแอบไปจี๋จ๋ากับคุณน้องปูตินบ่อยๆ เป้าหมายทางยุทธศาสตร์สำหรับตะวันตก ที่ถังขยะเสนอ : “1. ยับยั้งการรุกรานของรัสเซียกับประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป แต่อย่าทำ โดยไม่มีทางออกเผื่อไว้ หากสถานการณ์เปลี่ยน เช่น ปูตินร่วงไป หรืออาจมีหัวหน้าคนใหม่ของรัสเซียที่อยากคบกับตะวันตกก็ได้ ถ้าเศรษฐกิจของรัสเซียไปไม่รอด และการคบกับจีนอาจมีต้นทุนสูงเกินไป ถ้าจีนโตขึ้นเรื่อยๆ รัสเซียอาจอยากกลับมาอยู่กับยุโรปอีกก็เป็นได้” …. แปลว่า มีแผนจะจัดการเอาคุณพี่ปูตินของผมเก็บลงกล่อง.. ขณะเดียวกันก็เสี้ยมเรื่องอาเฮียเสียหน่อย….. “2. ต้องเสริมสร้างเกียรติภูมิของยุโรป ด้านการรักษาความมั่นคงใหม่ โดยเฉพาะแต่ละประเทศต้องดูแลรักษาเขตแดนของตัวเองได้ และตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประเทศตัวเองได้ ” ….. แปลว่า ยุโรปอ่อนระทวย ดูแลตัวเองไม่ได้ แหม ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯนี่เก่งนะ เรือดำน้ำรัสเซียโผล่ใกล้บ้านหลายที ทำอะไรเขาไม่ได้ เลยแต่ด่าคนอื่นแทน…. “3. ต้องพยายามหาทางที่จะสื่อสารกับคนรัสเซียว่า ในระยะไกล การอยู่ร่วมกับยุโรปเป็นผลดีกับรัสเซียมากกว่า” …. มาแล้ว โรงงานฟอกย้อม…. “4. หาทางที่จะหารือกับจีน และประเทศที่เป็นอดีตรัฐของรัสเซีย ให้พิจารณานโยบายของรัสเซีย ว่าจะเป็นปัญหาต่อไปอย่างไร บางประเทศมีปัญหาในการมองรัสเซียด้านเดียว” ….. อันนี้ เป็นรายการ เสี้ยม….. “5. ให้เตรียมพร้อม สำหรับความวุ่นวาย และโอกาสที่จะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนตัวผู้นำของรัสเซีย” …..ข้อนี้น่าสนใจมาก …. คิดจะทำอะไรหรือครับ .. “6. ต้องพยายามแย่งรัสเซีย และชาวรัสเซียมาจากปูติน สิ่งที่พวกตะวันตกกำลังทำอยู่โดยการไม่สนใจ ไม่ยุ่งกับรัสเซีย กลายเป็นการส่งเสริมให้รัสเซียตกอยู่ในมือปูตินหนักขึ้น” …..สร้างกระบวนการแย่งประชาชน แผนมาตรฐาน ใช้มันทุกที่…. นโยบาย ที่ถังขยะเสนอว่า ต้องทำอย่างเฉพาะเจาะจง : “1. สร้างยูเครนให้เข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ ถ้าเอายูเครนไม่อยู่ ยุโรปตะวันออกเซหมด และเพิ่มความผยองให้กับรัสเซีย ทำให้โอกาสที่จะ “เปลี่ยน” รัสเซียริบหรี่ลงไปด้วย” “2. ประเทศที่เป็นอียูตะวันออก ต้องปรับปรุงให้เป็นเครื่องมือสำคัญของอียู และต้องพร้อมที่จะมีการปฏิรูปทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจอย่างจริงจัง” “3. การคว่ำบาตรรัสเซียจะมีผลต่อเมื่อคว่ำ “นาน “และ “แรง” การคว่ำบาตรจากกรณียูเครน ปลดให้ง่ายๆไม่ได้ และการจะยกเลิกการคว่ำบาตรโดยเอาไปโยงกับการทำ Minsk Accord เป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าที่สุด” “4. พวกตะวันตก ต้องไม่กลับไปทำการค้ากับรัสเซียอย่างเดิม do business as usual จนกว่าเรื่องยูเครนจะจบ ด้วยการที่รัสเซียยอมทำตามภาระ ความรับผิดชอบ ตามกฏหมายสากล international legal obligations” “5. นโยบายด้านพลังงานของอียู ต้องมีเป้าหมายที่จะตัดอำนาจการต่อรองของรัสเซีย ออกไปจากตลาดพลังงาน ไม่ใช่แค่ตัดการส่งพลังงานให้ยุโรป ดังนั้นการยกเลิกโครงการ South Stream pipeline เป็นเรื่องต้องทำ และแผนการที่รัสเสียกำลังสร้าง “energy island” ในยุโรป ต้องไม่ให้สำเร็จ” …. มาแล้ว เรื่องกรีซ/ตุรกี….. “6. พวกตะวันตก ต้องลงทุนในการใช้สื่อเป็นยุทธศาสตร์ตอบโต้กับการอวดอ้างที่ผิดๆของเครมลิน ต้องทำทั้งระดับประเทศ ผ่านอียูและนาโต้ ร่วมมือกัน ต้องสร้างช่องทางที่จะเข้าถึงชาวรัสเซียทั่วไป โดยผ่านการศึกษา และสัมพันธ์ด้านบุคคลอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน” …..โรงงานฟอกย้อม เตรียมหาสีได้แล้ว…… “7. นาโต้ ต้องสร้างผลงานว่า สามารถยับยั้งการรุกรานได้ โดยเฉพาะต้องแสดงให้เห็นว่า การจำกัดรุกราน ที่ยังคลุมเคลือ หรือมาหลายรูปแบบ เป็นเรื่องที่นาโต้จัดการได้อย่างไม่มีปัญหา” …….อายแทน นาโต้จัง อย่าด่าตรงนักซิพี่…. “8. นาโต้ ต้องซ่อมชื่อเสียงที่เคยมีว่า สามารถยับยั้งการรุกราน ที่มาในรูปแบบธรรมดา ให้ได้อย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นจะทำให้รัสเซียฉวยโอกาส สร้าง และซ้อมเป้ามากขึ้น” ….. แสดงว่า นาโต้ ลุ้นไม่ขึ้นแล้ว…. “9. แต่ละประเทศในอียู อียูเอง รวมทั้งกองกำลังเสริมจากภายนอก External Action Service จำเป็นที่จะต้องกลับมาวิเคราะห์ และทำความเข้าใจ กับความเป็นไปของรัสเซีย และประเทศเพื่อนบ้านเสียใหม่ ความเข้าใจที่ถูกต้อง จะช่วยนำมาใช้เป็นข้อมูลให้การวางนโยบาย” ……นโยบาย 9 ข้อ นี่ ผมชอบจัง เหมือนคำสารภาพอีกแล้ว คุณพี่ปูติน อ่านแล้วก็คงหัวร่อในคอ นี่เจาะจงไปที่อียู โดยเฉพาะอียูตะวันออก กับนาโต้ ล้วนๆ ให้เห็นว่า “ถ้า” รบกัน อียูกับนาโต้ ไม่มีทางต้านรัสเซียอยู่หรอก การบ้านเพียบเลย จะทำทันไหมครับ… ” …การดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น จะทำให้พวกตะวันตก เตรียมตัวในการรับมือ กับสัมพันธภาพกับรัสเซีย ที่นับวันมีแต่จะเลวลง และใครที่คิดว่าคุยกับปูตินก็ยังดีกว่า เพราะผู้นำรัสเซียคนใหม่อาจแย่กว่า นั้น คิดแบบนั้น มีแต่จะนำแต่ความล้มเหลวมาให้ตัว ไม่ว่าผู้นำรัสเซียคนใหม่จะเป็นใคร ปูตินจะอยู่ต่อไปอีก หรือ “ไปก่อนเวลา” prematurely replaced มันก็สร้างความกระทบกระเทือนไปทั่วทั้งนั้นแหละ 18 เดือนที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นข้อสรุปว่า การมองรัสเซียในแง่ดี ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง…” จบได้แรงนะ น่าสงสัยว่า ไม่ใช่แค่ อียู นาโต้ ที่ต้องปรับปรุง ผู้รับตัวจริง ที่การวิเคราะห์นี้ ต้องการจะส่งไปถึง น่าจะเป็น พณฯใบตองแห้งของอเมริกา เสียมากกว่า ที่มีแนวคิดว่า รัสเซียอยู่ไกลบ้านอเมริกา เกิดอะไรขึ้นมา นาโต้และยุโรป รับไปก่อน แถม พณฯใบตองแห้ง ยังเปลี่ยนนโยบาย โยกกำลัง จากแอตแลนติก ไปเพิ่มให้ทางแปซิฟิกมากกว่า เพราะตอนนั้นเริ่มปอดแหกอาเฮีย และแม้อเมริกาจะใช้วิธีการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเต็มพิกัดแล้ว แต่ในสายตาของอังกฤษ การดำเนินการของอเมริกาต่อรัสเซีย โดยเฉพาะการประเมินปูตินเบาไปนั้น น่าจะไม่พอรับมือรัสเซีย ยังไม่ถึงใจอังกฤษ ที่มองเห็นและประทับตราให้รัสเซียเป็นศัตรูถาวร แล้วจริงๆ อเมริกามีแผนอะไรเตรียมไว้ให้รัสเซียอีกหรือไม่ หรือประเมินคุณพี่ปูตินของผมเบาเท่าปุยนุ่น สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 16 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 398 Views 0 Reviews
  • ขยับหมาก ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก”
    ตอน 1
    เดือนกรกฏา ผ่านไปแค่ครึ่งเดือน เหตุการณ์ต่างๆทยอยกันมาเหมือน น้ำหลาก ทั้งๆที่ฝนแล้ง ผมตามอ่าน ตามขุด จนมึนหัวไปหมดยังไม่ทันการ เหตุการณ์พลิกผันสาระพัด แถมมีทั้งแผนล่อแผนลวง ข้อมูลบางแหล่งที่เคยเชื่อได้ ก็ชักจะต้องชั่งหลายหนว่าให้น้ำ หนักเก๊หรือเปล่า ผมไม่ได้รู้ไปหมด มีผิดพลาดได้ ผิดก็ขออภัย ท้วงมาแล้วกันครับ แล้วก็ช่วยกันหาที่ถูก เอามาแลกเปลี่ยนความคิดกัน หรือถ้า ผมเจอข้อมูลใหม่ ที่ทันสมัย หักล้าง น่าเชื่อถือ หรือลึกกว่าที่เคยขุดได้มา ผมก็จะมาขยายต่อ การศึกษา ค้นหา เรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด
    ดูซิ อย่างเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ที่เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 13 มิย เพิ่งออกข่าวว่า ตกลงเขายังไม่ตกลงกัน ยืดแล้วยืดอีก เหมือนหนังสติ๊กหมดอายุ จนนักข่าวที่ไปนั่งรอทำข่าว หน้าเหี่ยวเหงื่อตกกันหมด เขาบอกว่ายุโรปปีนี้ร้อนอร่อย เบียร์ยังอุ่นเลย นั่งรอการแถลงข่าวมาตั้งกะหัวค่ำ เปรี้ยวปากกันเป็นแถว พอตกดึก 2 ยามกว่าบ้านเรา CNN ก็ออกข่าว โดยโฆษกรูปหล่อประจำทำเนียบขาว ออกมาแถลงข่าวว่า ยัง…ยังไม่มีข้อตกลง นักข่าวถามว่า แล้วจะมีเมื่อไหร่ 1 วัน 2 วัน 2 อาทิตย์ รูปหล่อบอก เราไม่ได้เน้นเรื่องกำหนดเวลา เราต้องการให้ เป็นการตกลงที่ไม่มีปัญหา ไม่สร้างปัญหามากกว่า นักข่าวถามอีกว่า แล้วมีปัญหาอะไร ปัญหามาจากฝ่ายไหน …. ถามมากจัง ใครจะไปตอบได้ รูปหล่อชักเลิกลั่ก ….. ว่าแล้ว CNN ก็ตัดข่าวไปเรื่องสำคัญกว่า เกี่ยวกับเรื่องไอ้พวกค้ายา 46 คนแทน โอ้ย… ฮาจริง
    แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คือวันอังคารที่ 14 มิย ผมเปิดทีวี ตอนบ่ายแก่ๆ เย็นอ่อนๆ ประมาณ 4โมงเย็น ก็เห็น CNN ขึ้นหัวข่าวไว้แล้วว่า อิหร่านตกลงได้แล้ว อ้าว เมื่อคืนยังบอกไม่รู้เลยไอ้เบื้อก ผู้ประกาศทำเสียงตื่นเต้น จนผมไม่กล้านอนดูอย่างเคย หลังจากนั้น ก็มีการไปสัมภาษณ์ผู้ชำนาญการต่างๆ ซึ่งสรุปว่า ตกลงกันได้เสียที เสียเวลารอมานาน แต่ไม่มีใครเห็นด้วยเท่าไหร่ว่า เป็นข้อตกลงที่ดี และไม่มีใครเชื่อขี้หน้าอิหร่านว่าจะทำตามที่ตกลงได้ สัมภาษณ์วน พูดซ้ำ จนค่ำ พณฯ ใบตองแห้ง ถึงได้ออกมาทำหน้าเครียดตาแข็ง แถลงเอง
    “….เราตกลงกับอิหร่านแล้ว ใครว่าไม่สมควร เราว่าสมควร เราต้องแสดงให้เห็นว่า เรา ที่เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่สุด ไม่จำเป็นต้องจัดการกับปัญหาด้วยการใช้กำลังเสมอไป เราใช้วิธีทางการทูตได้ … การที่เราทำเช่นนี้ ทำให้อิหร่านหมดทางที่จะผลิตนิวเคลียร์ไป 15 ปี อิหร่านเป็นประเทศที่ความสำคัญที่สุด ต่อผลประโยชน์ของอเมริกา……”
    หลังจากนั้น ผมก็ต้องขออนุญาตพณฯท่าน ปิดเสียง ขืนฟังต่อ เปลืองยาแย่ ฝ่ายอิหร่าน ก็มีการแถลงข่าวที่กรุงเตหะรานว่า ข้อตกลงบรรลุถึงวัตถุประสงค์ reached all objectives ส่วนอิสราเอล ออกมาบอกว่า เป็นการตกลงที่เลวร้ายที่สุดในโลก
    อืม… ปาหี่นี้ เขาเล่นกันได้น่าตื่นเต้น...สมจริงกันดี คงเข้าใจนะครับว่า มันมีความหมายว่าอย่างไร ก็แค่ไม่มีใครอยากออกมาโดนประทับหน้า ว่าเป็นคนทำให้งานล่ม
    เอาเป็นว่า เขาว่า เขาตกลงกันได้แล้ว แต่มีขั้นตอนการทำงานอีกมากมายที่ต้องไปทำต่อจะทำได้แค่ไหน อย่างไร นานเท่าไหน ก็ดูกันต่อไป อย่างน้อยรัฐสภาอเมริกัน ก็มีเวลาประมาญ 60 วัน ในการตรวจสอบข้อตกลง ก่อนที่จะไปลงความเห็นในรัฐสภา ระหว่างนี้ จะเติมสี ตีไข่ยังก็ได้ ต้ัง 60 วัน
    เรามาดูภาพใหญ่ ทำความเข้าใจภาพรวมให้มากที่สุดกันดีกว่า ขืนตามข่าวทุกวันที่เขาเอามาเล่นหลอกเรา มึนหัวตายทั้งคนเขียนคนอ่าน ก่อนจะเดินหน้าเล่าเรื่อง เพื่อให้เห็นภาพใหญ่ ขอถอยหลังทบทวนของเก่ากันหน่อย
    คงจำกันได้ เมื่อเดือนมีนาคม ถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่ง ของบ้านไอ้นักล่าใบตองแห้ง Council on Foreign Relations หรือ CFR ผู้กำกับรัฐบาลอเมริกัน ได้ออกแผนสอยมังกร Grand Strategy สำหรับสยบจีน ที่แสดงถึงความกร่าง ดูถูก ปรามาส และประมาทใส่จีน มาให้เราฮือฮาไปแล้ว แต่ไอ้นักล่าใบตองแห้งคงจะเห็นว่า ชาวโลกคงตกใจไม่พอ หรือยังไม่แน่ใจกับความยิ่งใหญ่ อย่างชนิดไม่มีผู้ใด บังอาจจะกล้าทาบรัศมีของอเมริกา มันเป็นความต้ังใจของอเมริกา ที่จะใหญ่อย่างนี้แต่ผู้เดียวตลอดกาลนาน อย่างที่อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เคยคิดมาเป็นศตวรรษ แต่บัดนี้ ความคิดนั้นกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ชาวเกาะใหญ่ทำได้เพียงแค่ “นึกถึง” ความคิดนั้น อย่างขมขื่นอยู่ในอกฟีบและซีด แหม แดกซะยาวเลยนะลุง กว่าจะเลี้ยวกลับไปเข้าเรื่อง
    อเมริกาด่าจีนแค่นั้น เกรงจะไม่พอให้โลกตื่นเต้น อเมริกาเพิ่มแรงอัด เอาญี่ปุ่น มาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อมที่จะไปแบกถาดรับใช้อเมริกา ถึงขนาดเตรียมการที่จะแก้การตีความกฏหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ ที่กำหนดให้ญี่ปุ่นมีกองกำลัง เพียงเพื่อดูแลป้องกันตัวเองเท่า นั้น Self Defence Force (SDF) มาถึงวันนี้ แม้การขอให้สภาอนุมัติ ยอมให้ตีความใหม่ ให้กองกำลังญี่ปุ่น SDF แบกถาดไปได้ทั่วโลก ยังไม่สำเร็จ แต่ญี่ปุ่นก็เดินหน้าไปไกล โดยไม่รอสภา ก็นายท่านสั่งมา…
    SDF ของญี่ปุ่น เพิ่งไปทำการฝึกร่วมที่แดนจิ้งโจ้กับพวกจิงโจ้ และลูกพี่ใหญ่จากค่ายใบตองแห้ง แต่ฝึกเสร็จแล้วดูเหมือน จะแบกถาดหายวับไปกับตา ไม่รู้ไปซ่อนอยู่ตามเกาะไหนในมหาสมุทรแปซิฟิก กองทัพหายตัว แต่ตัวนายอาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานรักของอดีตหัวหน้าใหญ่ยากูซ่า ก็ออกมาประกาศอย่างเข้มแข็งว่า ญี่ปุ่นพร้อมรบจีน นับว่าฝึกแบกถาดได้รวดเร็ว มีอนาคต แต่อนาคตไปทางไหน ก็อดใจรอดูกันหน่อย ส่วนนายกจิ้งโจ้ก็ออกมาบอกว่า กำลังรักกันจังกับคนแบกถาด และว่ามีเพื่อนซี้แถบเอเซียแยะ ไล่ชื่อให้นักข่าวฟัง โปรดจำกันไว้ด้วยว่า ไม่มีชื่อแดนสยามของสมันน้อย ว่าเป็นเพื่อน แต่มีชื่อเวียตนาม จำไว้นะ จำไว้ให้ดี
    อ้าว แล้วนี่จะปล่อยให้อเมริกา ทำตัวเป็นฝรั่งออกแขก เต้นอยู่หน้าโรงลิเกเจ้าเดียวได้ยังไง ว่าแล้วคู่หู หรือลูกพี่ ก็ต้องรีบแต่งตัว มาโชว์ลีลาด้วย กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง
    Chatham House หรือชื่อเต็มว่า The Royal Institute of International Affairs ถังขยะความคิด ฝาแฝดผู้พี่ ของ CFR ก็เพิ่งออกรายงานล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายนนี้ ตั้งชื่อรายงานได้สยองไม่แพ้แฝด น้อง “The Russian Challenge” รัสเซียกำเริบ (แปลภาษาลุงนิทาน) เรียกว่าแฝดแต่ละฝา ต่างออกมาประกบ คู่รัก กันคนละราย รายการแบ่งข้าง ศึกชิงแชมป์คราวนี้ คงมันยกร่อง สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 โปรดหลบไปห่างๆ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 ก.ค. 2558
    ขยับหมาก ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก” ตอน 1 เดือนกรกฏา ผ่านไปแค่ครึ่งเดือน เหตุการณ์ต่างๆทยอยกันมาเหมือน น้ำหลาก ทั้งๆที่ฝนแล้ง ผมตามอ่าน ตามขุด จนมึนหัวไปหมดยังไม่ทันการ เหตุการณ์พลิกผันสาระพัด แถมมีทั้งแผนล่อแผนลวง ข้อมูลบางแหล่งที่เคยเชื่อได้ ก็ชักจะต้องชั่งหลายหนว่าให้น้ำ หนักเก๊หรือเปล่า ผมไม่ได้รู้ไปหมด มีผิดพลาดได้ ผิดก็ขออภัย ท้วงมาแล้วกันครับ แล้วก็ช่วยกันหาที่ถูก เอามาแลกเปลี่ยนความคิดกัน หรือถ้า ผมเจอข้อมูลใหม่ ที่ทันสมัย หักล้าง น่าเชื่อถือ หรือลึกกว่าที่เคยขุดได้มา ผมก็จะมาขยายต่อ การศึกษา ค้นหา เรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด ดูซิ อย่างเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ที่เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 13 มิย เพิ่งออกข่าวว่า ตกลงเขายังไม่ตกลงกัน ยืดแล้วยืดอีก เหมือนหนังสติ๊กหมดอายุ จนนักข่าวที่ไปนั่งรอทำข่าว หน้าเหี่ยวเหงื่อตกกันหมด เขาบอกว่ายุโรปปีนี้ร้อนอร่อย เบียร์ยังอุ่นเลย นั่งรอการแถลงข่าวมาตั้งกะหัวค่ำ เปรี้ยวปากกันเป็นแถว พอตกดึก 2 ยามกว่าบ้านเรา CNN ก็ออกข่าว โดยโฆษกรูปหล่อประจำทำเนียบขาว ออกมาแถลงข่าวว่า ยัง…ยังไม่มีข้อตกลง นักข่าวถามว่า แล้วจะมีเมื่อไหร่ 1 วัน 2 วัน 2 อาทิตย์ รูปหล่อบอก เราไม่ได้เน้นเรื่องกำหนดเวลา เราต้องการให้ เป็นการตกลงที่ไม่มีปัญหา ไม่สร้างปัญหามากกว่า นักข่าวถามอีกว่า แล้วมีปัญหาอะไร ปัญหามาจากฝ่ายไหน …. ถามมากจัง ใครจะไปตอบได้ รูปหล่อชักเลิกลั่ก ….. ว่าแล้ว CNN ก็ตัดข่าวไปเรื่องสำคัญกว่า เกี่ยวกับเรื่องไอ้พวกค้ายา 46 คนแทน โอ้ย… ฮาจริง แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คือวันอังคารที่ 14 มิย ผมเปิดทีวี ตอนบ่ายแก่ๆ เย็นอ่อนๆ ประมาณ 4โมงเย็น ก็เห็น CNN ขึ้นหัวข่าวไว้แล้วว่า อิหร่านตกลงได้แล้ว อ้าว เมื่อคืนยังบอกไม่รู้เลยไอ้เบื้อก ผู้ประกาศทำเสียงตื่นเต้น จนผมไม่กล้านอนดูอย่างเคย หลังจากนั้น ก็มีการไปสัมภาษณ์ผู้ชำนาญการต่างๆ ซึ่งสรุปว่า ตกลงกันได้เสียที เสียเวลารอมานาน แต่ไม่มีใครเห็นด้วยเท่าไหร่ว่า เป็นข้อตกลงที่ดี และไม่มีใครเชื่อขี้หน้าอิหร่านว่าจะทำตามที่ตกลงได้ สัมภาษณ์วน พูดซ้ำ จนค่ำ พณฯ ใบตองแห้ง ถึงได้ออกมาทำหน้าเครียดตาแข็ง แถลงเอง “….เราตกลงกับอิหร่านแล้ว ใครว่าไม่สมควร เราว่าสมควร เราต้องแสดงให้เห็นว่า เรา ที่เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่สุด ไม่จำเป็นต้องจัดการกับปัญหาด้วยการใช้กำลังเสมอไป เราใช้วิธีทางการทูตได้ … การที่เราทำเช่นนี้ ทำให้อิหร่านหมดทางที่จะผลิตนิวเคลียร์ไป 15 ปี อิหร่านเป็นประเทศที่ความสำคัญที่สุด ต่อผลประโยชน์ของอเมริกา……” หลังจากนั้น ผมก็ต้องขออนุญาตพณฯท่าน ปิดเสียง ขืนฟังต่อ เปลืองยาแย่ ฝ่ายอิหร่าน ก็มีการแถลงข่าวที่กรุงเตหะรานว่า ข้อตกลงบรรลุถึงวัตถุประสงค์ reached all objectives ส่วนอิสราเอล ออกมาบอกว่า เป็นการตกลงที่เลวร้ายที่สุดในโลก อืม… ปาหี่นี้ เขาเล่นกันได้น่าตื่นเต้น...สมจริงกันดี คงเข้าใจนะครับว่า มันมีความหมายว่าอย่างไร ก็แค่ไม่มีใครอยากออกมาโดนประทับหน้า ว่าเป็นคนทำให้งานล่ม เอาเป็นว่า เขาว่า เขาตกลงกันได้แล้ว แต่มีขั้นตอนการทำงานอีกมากมายที่ต้องไปทำต่อจะทำได้แค่ไหน อย่างไร นานเท่าไหน ก็ดูกันต่อไป อย่างน้อยรัฐสภาอเมริกัน ก็มีเวลาประมาญ 60 วัน ในการตรวจสอบข้อตกลง ก่อนที่จะไปลงความเห็นในรัฐสภา ระหว่างนี้ จะเติมสี ตีไข่ยังก็ได้ ต้ัง 60 วัน เรามาดูภาพใหญ่ ทำความเข้าใจภาพรวมให้มากที่สุดกันดีกว่า ขืนตามข่าวทุกวันที่เขาเอามาเล่นหลอกเรา มึนหัวตายทั้งคนเขียนคนอ่าน ก่อนจะเดินหน้าเล่าเรื่อง เพื่อให้เห็นภาพใหญ่ ขอถอยหลังทบทวนของเก่ากันหน่อย คงจำกันได้ เมื่อเดือนมีนาคม ถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่ง ของบ้านไอ้นักล่าใบตองแห้ง Council on Foreign Relations หรือ CFR ผู้กำกับรัฐบาลอเมริกัน ได้ออกแผนสอยมังกร Grand Strategy สำหรับสยบจีน ที่แสดงถึงความกร่าง ดูถูก ปรามาส และประมาทใส่จีน มาให้เราฮือฮาไปแล้ว แต่ไอ้นักล่าใบตองแห้งคงจะเห็นว่า ชาวโลกคงตกใจไม่พอ หรือยังไม่แน่ใจกับความยิ่งใหญ่ อย่างชนิดไม่มีผู้ใด บังอาจจะกล้าทาบรัศมีของอเมริกา มันเป็นความต้ังใจของอเมริกา ที่จะใหญ่อย่างนี้แต่ผู้เดียวตลอดกาลนาน อย่างที่อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เคยคิดมาเป็นศตวรรษ แต่บัดนี้ ความคิดนั้นกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ชาวเกาะใหญ่ทำได้เพียงแค่ “นึกถึง” ความคิดนั้น อย่างขมขื่นอยู่ในอกฟีบและซีด แหม แดกซะยาวเลยนะลุง กว่าจะเลี้ยวกลับไปเข้าเรื่อง อเมริกาด่าจีนแค่นั้น เกรงจะไม่พอให้โลกตื่นเต้น อเมริกาเพิ่มแรงอัด เอาญี่ปุ่น มาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อมที่จะไปแบกถาดรับใช้อเมริกา ถึงขนาดเตรียมการที่จะแก้การตีความกฏหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ ที่กำหนดให้ญี่ปุ่นมีกองกำลัง เพียงเพื่อดูแลป้องกันตัวเองเท่า นั้น Self Defence Force (SDF) มาถึงวันนี้ แม้การขอให้สภาอนุมัติ ยอมให้ตีความใหม่ ให้กองกำลังญี่ปุ่น SDF แบกถาดไปได้ทั่วโลก ยังไม่สำเร็จ แต่ญี่ปุ่นก็เดินหน้าไปไกล โดยไม่รอสภา ก็นายท่านสั่งมา… SDF ของญี่ปุ่น เพิ่งไปทำการฝึกร่วมที่แดนจิ้งโจ้กับพวกจิงโจ้ และลูกพี่ใหญ่จากค่ายใบตองแห้ง แต่ฝึกเสร็จแล้วดูเหมือน จะแบกถาดหายวับไปกับตา ไม่รู้ไปซ่อนอยู่ตามเกาะไหนในมหาสมุทรแปซิฟิก กองทัพหายตัว แต่ตัวนายอาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานรักของอดีตหัวหน้าใหญ่ยากูซ่า ก็ออกมาประกาศอย่างเข้มแข็งว่า ญี่ปุ่นพร้อมรบจีน นับว่าฝึกแบกถาดได้รวดเร็ว มีอนาคต แต่อนาคตไปทางไหน ก็อดใจรอดูกันหน่อย ส่วนนายกจิ้งโจ้ก็ออกมาบอกว่า กำลังรักกันจังกับคนแบกถาด และว่ามีเพื่อนซี้แถบเอเซียแยะ ไล่ชื่อให้นักข่าวฟัง โปรดจำกันไว้ด้วยว่า ไม่มีชื่อแดนสยามของสมันน้อย ว่าเป็นเพื่อน แต่มีชื่อเวียตนาม จำไว้นะ จำไว้ให้ดี อ้าว แล้วนี่จะปล่อยให้อเมริกา ทำตัวเป็นฝรั่งออกแขก เต้นอยู่หน้าโรงลิเกเจ้าเดียวได้ยังไง ว่าแล้วคู่หู หรือลูกพี่ ก็ต้องรีบแต่งตัว มาโชว์ลีลาด้วย กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง Chatham House หรือชื่อเต็มว่า The Royal Institute of International Affairs ถังขยะความคิด ฝาแฝดผู้พี่ ของ CFR ก็เพิ่งออกรายงานล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายนนี้ ตั้งชื่อรายงานได้สยองไม่แพ้แฝด น้อง “The Russian Challenge” รัสเซียกำเริบ (แปลภาษาลุงนิทาน) เรียกว่าแฝดแต่ละฝา ต่างออกมาประกบ คู่รัก กันคนละราย รายการแบ่งข้าง ศึกชิงแชมป์คราวนี้ คงมันยกร่อง สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 โปรดหลบไปห่างๆ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 301 Views 0 Reviews
  • 20 ปีของความพยายามในการถอดรหัสไฟล์ .lin

    บทความ A File Format Uncracked for 20 Years โดย Lander เล่าประสบการณ์การพยายาม รีเวิร์สเอนจิเนียร์ไฟล์ .lin ของเกม Splinter Cell (2002) ซึ่งใช้ Unreal Engine 2 และยังคงเป็นปริศนามากว่าสองทศวรรษ แม้จะมีการศึกษามากมาย แต่โครงสร้างไฟล์ยังไม่ถูกถอดรหัสอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลแบบบีบอัดและการอ่านที่ซับซ้อน

    จุดเริ่มต้นจาก Splinter Cell
    ผู้เขียนเล่าว่า Splinter Cell บน Xbox ดั้งเดิมเป็นเกมที่ทำให้เขาสนใจการแฮ็กและการเขียนโปรแกรม เขาพยายามค้นหาคอนเทนต์ที่ถูกตัดออกจากเกม เช่น debug menu, voice lines หรือด่านที่ไม่ถูกปล่อย แต่พบว่าไฟล์ที่สำคัญคือ .lin ซึ่งไม่เคยมีใครถอดรหัสได้ชัดเจน

    โครงสร้างไฟล์ .lin
    ไฟล์ .lin มีลักษณะคล้าย container ที่บรรจุข้อมูลหลายส่วน เช่น maps, textures และ scripts โดยใช้ zlib compression และมีการจัดเรียงข้อมูลแบบไม่สามารถ seek ได้ (ต้องอ่านต่อเนื่อง) ทำให้การวิเคราะห์ยากมาก นอกจากนี้ยังมี file table ที่บันทึก offset และ length ของไฟล์ย่อย แต่ค่าที่บันทึกไว้กลับไม่ตรงกับข้อมูลจริง

    ความพยายามในการรีเวิร์สเอนจิเนียร์
    ผู้เขียนใช้ emulator (xemu) และ debugger เพื่อติดตามการอ่านไฟล์ พบว่า engine ใช้วิธี lazy loading และ interleaving data ระหว่าง object exports ทำให้ไม่สามารถอ่านไฟล์แบบตรงไปตรงมาได้ ต้องเข้าใจการ deserialize ของแต่ละ class ใน C++ ที่ engine ใช้ ซึ่งซับซ้อนและไม่เคยมีเอกสารชัดเจนมาก่อน

    เหตุผลที่ไฟล์ถูกออกแบบเช่นนี้
    การออกแบบ .lin สะท้อนข้อจำกัดของ Xbox รุ่นแรกที่มี RAM เพียง 64MB และต้องโหลดข้อมูลจากแผ่นดิสก์อย่างรวดเร็ว การบีบอัดและการจัดเรียงข้อมูลแบบ sequential read ช่วยลดการ seek บนสื่อจริงและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็ทำให้การถอดรหัสไฟล์ในภายหลังแทบเป็นไปไม่ได้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไฟล์ .lin ของ Splinter Cell เป็น container format
    ใช้ zlib compression และเก็บ maps, textures, scripts

    file table มีข้อมูล offset และ length
    แต่ค่าที่บันทึกไม่ตรงกับข้อมูลจริง ทำให้ parsing ยาก

    engine ใช้ lazy loading และ interleaving data
    ต้องเข้าใจการ deserialize ของ object ใน C++

    การออกแบบไฟล์สะท้อนข้อจำกัดของ Xbox รุ่นแรก
    RAM 64MB และการอ่านจากแผ่นดิสก์ต้องเร็วและมีประสิทธิภาพ

    การถอดรหัสไฟล์ .lin ยังไม่สมบูรณ์
    ต้องใช้ความเข้าใจลึกใน Unreal Engine 2 และโครงสร้างภายในเกม

    การ reverse engineer มีความเสี่ยงด้านเวลาและความซับซ้อนสูง
    อาจไม่สามารถนำไปใช้กับเกมอื่น ๆ ได้โดยตรง

    https://landaire.net/a-file-format-uncracked-for-20-years/
    📁 20 ปีของความพยายามในการถอดรหัสไฟล์ .lin บทความ A File Format Uncracked for 20 Years โดย Lander เล่าประสบการณ์การพยายาม รีเวิร์สเอนจิเนียร์ไฟล์ .lin ของเกม Splinter Cell (2002) ซึ่งใช้ Unreal Engine 2 และยังคงเป็นปริศนามากว่าสองทศวรรษ แม้จะมีการศึกษามากมาย แต่โครงสร้างไฟล์ยังไม่ถูกถอดรหัสอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลแบบบีบอัดและการอ่านที่ซับซ้อน 🎮 จุดเริ่มต้นจาก Splinter Cell ผู้เขียนเล่าว่า Splinter Cell บน Xbox ดั้งเดิมเป็นเกมที่ทำให้เขาสนใจการแฮ็กและการเขียนโปรแกรม เขาพยายามค้นหาคอนเทนต์ที่ถูกตัดออกจากเกม เช่น debug menu, voice lines หรือด่านที่ไม่ถูกปล่อย แต่พบว่าไฟล์ที่สำคัญคือ .lin ซึ่งไม่เคยมีใครถอดรหัสได้ชัดเจน 🗂️ โครงสร้างไฟล์ .lin ไฟล์ .lin มีลักษณะคล้าย container ที่บรรจุข้อมูลหลายส่วน เช่น maps, textures และ scripts โดยใช้ zlib compression และมีการจัดเรียงข้อมูลแบบไม่สามารถ seek ได้ (ต้องอ่านต่อเนื่อง) ทำให้การวิเคราะห์ยากมาก นอกจากนี้ยังมี file table ที่บันทึก offset และ length ของไฟล์ย่อย แต่ค่าที่บันทึกไว้กลับไม่ตรงกับข้อมูลจริง 🔍 ความพยายามในการรีเวิร์สเอนจิเนียร์ ผู้เขียนใช้ emulator (xemu) และ debugger เพื่อติดตามการอ่านไฟล์ พบว่า engine ใช้วิธี lazy loading และ interleaving data ระหว่าง object exports ทำให้ไม่สามารถอ่านไฟล์แบบตรงไปตรงมาได้ ต้องเข้าใจการ deserialize ของแต่ละ class ใน C++ ที่ engine ใช้ ซึ่งซับซ้อนและไม่เคยมีเอกสารชัดเจนมาก่อน 💡 เหตุผลที่ไฟล์ถูกออกแบบเช่นนี้ การออกแบบ .lin สะท้อนข้อจำกัดของ Xbox รุ่นแรกที่มี RAM เพียง 64MB และต้องโหลดข้อมูลจากแผ่นดิสก์อย่างรวดเร็ว การบีบอัดและการจัดเรียงข้อมูลแบบ sequential read ช่วยลดการ seek บนสื่อจริงและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็ทำให้การถอดรหัสไฟล์ในภายหลังแทบเป็นไปไม่ได้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไฟล์ .lin ของ Splinter Cell เป็น container format ➡️ ใช้ zlib compression และเก็บ maps, textures, scripts ✅ file table มีข้อมูล offset และ length ➡️ แต่ค่าที่บันทึกไม่ตรงกับข้อมูลจริง ทำให้ parsing ยาก ✅ engine ใช้ lazy loading และ interleaving data ➡️ ต้องเข้าใจการ deserialize ของ object ใน C++ ✅ การออกแบบไฟล์สะท้อนข้อจำกัดของ Xbox รุ่นแรก ➡️ RAM 64MB และการอ่านจากแผ่นดิสก์ต้องเร็วและมีประสิทธิภาพ ‼️ การถอดรหัสไฟล์ .lin ยังไม่สมบูรณ์ ⛔ ต้องใช้ความเข้าใจลึกใน Unreal Engine 2 และโครงสร้างภายในเกม ‼️ การ reverse engineer มีความเสี่ยงด้านเวลาและความซับซ้อนสูง ⛔ อาจไม่สามารถนำไปใช้กับเกมอื่น ๆ ได้โดยตรง https://landaire.net/a-file-format-uncracked-for-20-years/
    LANDAIRE.NET
    A File Format Uncracked for 20 Years
    "I’ve had enough reasonable file formats fired at me in my time to tell you that wasn’t one" - Sam Fisher
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่จี้รัฐบาล "ทำไมให้สวัสดิการเรื่องการศึกษาฟรีไม่ได้" ชี้คนจบใหม่ต้องเริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นหนี้
    https://www.thai-tai.tv/news/22423/
    .
    #ไทยไท #วราวิชกำภูณอยุธยา #ไทยก้าวใหม่ #หนี้นักศึกษา #การศึกษาฟรี #ความเหลื่อมล้ำ

    รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่จี้รัฐบาล "ทำไมให้สวัสดิการเรื่องการศึกษาฟรีไม่ได้" ชี้คนจบใหม่ต้องเริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นหนี้ https://www.thai-tai.tv/news/22423/ . #ไทยไท #วราวิชกำภูณอยุธยา #ไทยก้าวใหม่ #หนี้นักศึกษา #การศึกษาฟรี #ความเหลื่อมล้ำ
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 3 – 4

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”
    ตอน 3
    แล้วโซ่คล้องคอชาวกรีซล่ะ หน้าตาเป็นอย่างไร สมันน้อยน่าจะรู้จักนะ เพราะเคยต้องใช้อยู่ช่วงนึง แต่อาจจะขนาดเล็กกว่า สั้นกว่า บางคนอาจโตไม่ทัน หรือโตแล้ว แต่ไม่รู้เรื่อง ก็ทำความรู้จักไว้หน่อยก็ดี เผื่อเหตุการณ์เก่า มันจะกลับมาเยี่ยม จะได้รู้จัก รู้ขนาดโซ่ว่า รับไหวไหม ยิ่งมีข่าวกระฉ่อนว่า หนุ่มหน้าใส อดีตผู้เชี่ยวชาญของธนาคารโลก พวกเสือหิวด้วยกัน กำลังเป็นตัวเต็ง จะมาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนใหม่ แทนคนปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระในเดือนสิงหาคมนี้ เผื่อแกยังรสนิยมเดิมๆ
    ปี ค.ศ.2010 เสือหิว Troika บอกเราจัดหาเงินให้กรีซได้จำนวน ประมาณบรรทุกรถสิบล้อ 340 คัน ตีว่า บรรทุกได้ คันละ 1 พันล้านยูโร ใครไม่ตกเลข ก็คำนวณเองนะครับ ว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ดอกแค่ร้อยละ 5 ถูกจะตาย เงื่อนไขไม่มีอะไรมากมาย ใช้แบบเงื่อนตายเหมือนผูกตราสังข์ ตามแบบฟอร์มของ IMF ที่เรียกว่า SAP หรือ Structural Adjustment Policy ส่วนคนกู้ เรียกสัญญาแบบนี้ว่า แบบ DOA หรือ Dead on Arrival เป็นศพตั้งแต่มาถึงแล้ว คือ ตาย(ห่า) ตั้งแต่กู้ สัญญาแบบนี้ใช้มากว่า 35 ปีแล้วในประเทศแถบละติน อาฟริกา ยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต และเอเซีย ตัวอย่างของผู้ที่ใช้สัญญานี้ และเป็นที่รู้จักกันดี ถูกนำมายกเป็นกรณีศึกษาจนแทบจะท่องกันได้คือ ประเทศอาร์เจนตินา
    สัญญาแบบ DOA เป็นอย่างไร ก็แค่ตัดงบใช้จ่ายในบ้านเมืองจนเหี้ยน ซึ่งรวมไปถึงการลดสวัสดิการทาง สังคม การรักษาพยาบาล เบี้ยบำนาญ ลดการจ่ายค่าแรงค่าจ้าง แต่เน้นให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน เพิ่มการส่งออก เพิ่มการแข่งขันทางการค้า เพิ่มภาษี และต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คือให้รัฐนำออกมาขายเพื่อเอามาใช้หนี้ และลดค่าเงินของประเทศผู้กู้ แต่เนื่องจากกรีซใช้ยูโร ขืนบังคับใช้ข้อนี้ก็ฉิบหายกันหมด เพราะฉนั้น ข้อนี้ เลยกลายเป็นไปเพิ่มการลดค่าใช้จ่ายในประเทศลงแยะๆ แทน
    ผมก็งงนะ ไม่รู้มันเอาส่วนไหนคิด ลดค่าแรง ลดการจ้างงาน แต่ให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน แปลว่า ชาวกรีซ นอนผึ่งพุงอยู่กับบ้าน เพราะไม่มีงานทำ ทำไปก็ไม่มีได้ค่าจ้าง เพราะเขาสั่งให้ลด แล้ว”ใคร” มาเพิ่มงาน “ใคร” มาลงทุน ” ใคร” มาซื้อรัฐวิสาหกิจ ที่ไอ้เสือหิวสั่งให้ขาย พอนึกออกนะครับว่า ในที่สุดแล้ว “ใคร” จะเป็นเจ้าของเกาะกรีซอันสวยงาม
    เสือหิว Troika บอกว่า มาตรการนี้ คงใช้ไม่นาน ไม่เกิน 2 ปี กรีซก็คงฟื้นตัว แต่มันตรงกันข้าม นอกจากไม่ฟื้นแล้ว กรีซยิ่งทรุดหนัก ชาวกรีซออกมาประท้วง สื่อกรีซเริ่มออกข่าวด่าไอ้เสือหิว อียู และ IMF บอกว่า ที่ไม่ดีขึ้น เพราะกรีซไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไข ไม่ยอมลำบาก ยังอยากสบายด้วยเงินของคนอื่น อันนี้เจ็บมาก ชาวกรีซบอกว่า นี่เป็นการบิดเบือนความจริงที่เลวร้าย รัฐบาลกรีซเดินตามเงื่อนไข DOA อย่างเคร่งครัด งบค่าจ้างตัดทิ้งเป็นพันๆล้านยู โร การรักษาพยาบาลของกรีซ ลดไปถึง 50% ไม่ใช่ชาวกรีซ แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย แต่พวกเขาไม่มีเงิน ไปหาหมอ ไปโรงพยาบาลต่างหาก การศึกษาก็เช่นกัน ลดลงไปมากมาย ธุรกิจขนาดเล็กปิดตัวเกือบหมด และอัตราคนว่างงานในปี 2011 ก็ขึ้นพรวด และรายรับของภาษี ก็ลดลงอย่างมากเช่นเดียวกัน มัน DOA จริงๆ
    เสือหิว Troika ยังปากแข็ง ไม่ยอมรับความผิดพลาดในการจ่ายยาของตัวให้แก่คนป่วยชื่อก รีซ จะไปรับได้อย่างไร เขาให้ยาถูกแล้ว เขาตั้งใจให้ยา DOA นี้กับกรีซ กรีซต่างหากเล่า ที่ทำผิดพลาดซ้ำซาก ยอมกินยานี้ (ซ้ำซาก) เอง
    กรีซนึกว่า กินยานี้ครั้งเดียวแล้วทุกอย่าง จะดีขึ้นตามที่ IMF บอก แต่ในที่สุด กรีซก็ต้องขอรับยางวดสอง ในปี 2012 เอะ งวดแรก กินเข้าไปก็ตายแล้ว งวดสองกินแล้วจะเป็นอย่างไร ก็ตายซากละสิครับ
    เงื่อนไขงวดสอง เพิ่มชัดเจนว่า ต้องลดการจ้างงานภาครัฐลงไป 150,000 คน ภายในสิ้นปี 2015 และขายรัฐวิสาหกิจแบบเทกระจาด เรื่องนี้ทำให้มีป้ายขึ้นกลางเมืองใหญ่ของกรีซว่า “A Nation for Sale” มีประเทศขาย ไม่ใช่ขายแค่บ้าน ขายประเทศ ภาวนาอย่าให้มีป้ายแบบนี้ขึ้นในแดนสยามของเราก็แล้วกัน
    ทรัพย์สินที่กรีซขายไป ที่สำคัญ เช่น ท่าเรือ Piraeus ท่าเรือ Thessaloniki ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ และมีคุณค่า ทั้งทางประวัติศาสตร์ และ เศรษฐกิจ (บางข้อมูลบอกท่าเรือ ทั้ง 2 ยังเจรจากันอยู่ ยังไม่ได้ขายออกไป) บริษัทเทเลคอม OTE สลากกินแบ่งกรีซ ที่ดินหลายแปลง ที่อยู่ในถิ่นดีที่สุดของประเทศ prime area และ postal bank การขายทรัพย์สินของประเทศครั้งใหญ่นี้ ทำให้พรรค Syriza ซึ่งประกาศคัดค้านขายรัฐวิสาหกิจ และการขายทรัพย์สิน ซึ่งได้คะแนนเสียงเพียง 4.6 % ในปี 2009 กระโดดมาเป็น 26.89% ในปี 2012 และได้เป็นรัฐบาลในปี 2015
    ระหว่าง ที่เสือหิว Troika ให้กรีซกินยา DOA งวดสอง อัตราคนว่างงานก็เพิ่มเป็น 22% และกำลังจะเป็น 25% ในไม่ช้า ชาวกรีซที่มีการศึกษาดี และยังอายุน้อย ต่างพากัน ทิ้งประเทศของตน ไปหางานทำที่เยอรมัน ที่เศรษฐกิจกำลังรุ่ง มันเป็นการประชดชีวิตชาวกรีซอย่างน่าเศร้า โลกนี้มันไม่สวยทั้งหมดอย่างที่เราคิด และที่กรีซ ก็คงจะเหลือแต่คนแก่ คนรายได้ต่ำ คนการศึกษาไม่สูง และชาวต่างชาติที่หนีระเบิดรายวันมาแย่งกันกิน
    ##############
    “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”

    ตอน 4
    นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์การเมือง บอกว่า กรีซมาถึงจุดวิกฤตินี้ จากการที่มีนักการเมือง หรือรัฐบาลสายตาสั้น มองไม่ได้ไกล ขี้โกง เห็นแก่ประโยชน์พรรคและพวก ทำให้กรีซตกเป็นเหยื่อของระบบ ที่สร้างขี้นมา เพื่อทำให้ประเทศที่อ่อนแอจากปัจจัย ต่างๆ อย่างกรีซ ไม่คิดพึ่งตัวเอง ไม่คิดเปลี่ยนแปลง ไม่คิดปฏิรูป ไม่รู้จักเรียนรู้ เพื่อแก้ไข มักง่าย และในที่สุดก็จะหมดตัว หมดประเทศ หรือ เหลือแต่ซาก
    ส่วนนักวิเคราะห์การเงินบอกว่า อย่าเอะอะไป เรื่องหนี้กรีซ ไม่ใช่เรื่องของหนี้กรีซ เอะ พูดยังไง เราพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ครับ นักการเงินบอก ไม่มีใครเขาสนใจประเทศกรีซ ที่เล็กกระจิดริด ถึงจะสวยงามก็เถอะ กรีซจะมีเงินใช้หนี้ไหม กรีซจะอยู่ หรือจะไปจากอียู เขาไม่ได้สนใจ แต่ที่เป็นข่าวกันถี่ ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก พวกเขากลัวมันกระทบกับระบบธนาคาร กลัวนายทุนจะเจ๊ง ไม่ได้กลัวชาวกรีซจะอดตาย ไม่ได้กลัวรัฐบาลกรีซ จะล่ม เข้าใจไหมครับ
    แต่สื่อใหญ่รุ่นเก๋า Dennis Gartman บอกว่า…. กรีซยังอยู่ในอียู เพราะเยอรมันต้องการอย่างนั้น เยอรมันยังไม่อยากเฉดกรีซออกไป เยอรมันต้องการให้ค่าเงินยูโรอ่อน ยูโรอ่อนดีสำหรับการส่งออก คนซื้อจะได้นึกว่าตัวซื้อของได้ถูก เยอรมันเป็นประเทศขายของ ที่ ยามนี้กำลังต้องการขายอย่างยิ่ง ใครขายได้ ต้องรีบขาย Bayer, Thyssenkrupp, Daimler เจ้าพ่อธุรกิจการค้าเยอรมัน ต้องการให้กรีซ ยังอยู่ในอียูทั้งนั้น …
    …..ถ้า ผมเป็นนายกรัฐมนตรีกรีซ ผมคงไม่วิ่งเจรจาให้เหนื่อย ผมคงปล่อยให้กรีซผิดนัดหนี้นานมาแล้ว และกลับไปใช้เงินสกุลของกรีซ และผมก็ลดค่าของกรีซ อุตสาหกรรมทอผ้าของกรีซก็จะกลายเป็นสินค้า ที่ใครๆต้องการเพราะราคาถูกลง กิจการท่องเที่ยวของกรีซ ก็กลับมาฟื้น เพราะใครๆ ก็อยากกลับมาอยู่เกาะสวย ในราคาไม่แพง กิจการเดินเรือของกรีซก็กลับมารุ่งใหม่ ทำไมผมต้องง้อเยอรมันอยู่ข้างเดียว ผมจะบอกกับพวกเจ้าหนี้โหดๆ ว่าเชิญเลย เชิญเอาตูดผมไปเลย อยากทำอะไรก็ทำ แล้วผมก็ออกจากอียู ก็แค่นั้น…
    ความคิดอย่างนาย Gartman ชาวกรีซเกือบทุกคน คงอยากทำอย่างนั้น คิดได้ แต่ไม่รู้ทำได้จริงไหม กรีซมีหนี้ก้อนใหญ่หมึมา เบี้ยวหนี้ก้อนหนี้ ก็กลายเป็นประเทศล้มละลาย คนล้มละลาย จะไปค้าขายกับใครได้ ขายของได้เงินมา เจ้าหนี้ก็คอยมาคว้าไป แต่ไม่ใช่ว่า เรื่องแบบนี้ เล่นไม่ได้เอาเลย อาร์เจนตินา เคยตัดโซ่ แหกคอกออกมา ยอมอด แต่ก็หืดขึ้นคอ กว่าจะยืนตรงได้เหมือนเดิม
    พรรค Syriza คงไม่คิดให้ชาวกรีซอยู่ในเหว และมีโซ่คล้องคอตลอดไป แต่จะเลือกทำด้วยวิธีไหน และเมื่อไหร่ เท่านั้น การตัดสินใจของ Syriza ในช่วงไม่กี่วันนี้ คงต้องตามดูกันทุกยก เพราะมันสามารถ สร้างระดับความสะเทือน เหมือนแผ่นดินไหวในยุโรปได้ ตั้งแต่ 4 ริกเตอร์ ไปจนถึงระดับ 9 ริกเตอร์ และอาจจะตามมา ด้วยอาฟเตอร์ขนาดไหน ถึงไหน และนานเท่าไหร่ และจะต่อด้วยซึนามิหรือไม่ พวกแมงเม่า อย่ามัวแต่เหม่อดูแต่จอบ้านตัวเอง เดี๋ยวปีกจะไหม้ร่วงหลุดเป็นแถวๆ
    ล่าสุดขณะที่ผมกำลังเขียนนิทาน ( 25 มิย.) ข่าวว่า คุณน้องยานิส รัฐมนตรีคลัง ยืนกรานว่า ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ ฝ่ายเจ้าหนี้บอก เราไม่มีความคิดเช่นนั้น ถ้ากรีซไม่มีอะไรใหม่มาเสนอ เช่นจะรัดคอหอยเข้าไปอีกกี่นิ้ว หรือจะมีวิธีชำระหนี้อย่างไร เราก็ไม่มีอะไรพูด แล้วการประชุมระหว่าง รัฐมนตรีคลังของกรีซกับฝ่ายอี ยู 18 คน ที่ สนง อียู กรุงบรัสเซล เมื่อเย็นวันที่ 24 มิย. ก็จบลงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประชุมไม่ถึง 1 ชั่วโมง แล้วต่างก็ทำหน้าไร้อารมณ์ เก็บของกลับบ้าน
    ร้อนถึงนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซึ่งข่าวว่า บินด่วนมาบรัสเซล มาคุยต่อกับพวก บิกกี้ของ อียู และคุณนายหน้าเค็มของไอเอมเอฟ ต่ออีก 7 ชั่วโมง แล้วก็กลับไปตอนดึก โดยไม่ให้ข่าว ทั้งหมดนี้ ผมอ่านจากทวิต ของนักข่าวต่างประเทศ ที่ไปเกาะติดสถานการณ์
    แปลว่าอะไรครับ แปลว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังกำไต๋ ไม่แผลมให้อีกฝ่ายรู้ ดูผ่านๆ เหมือนกรีซ กำลังเป็นฝ่ายอาการหนัก แต่สำหรับผม ผมว่า อียูหนักกว่า สำหรับกรีซ เหมือนคนใกล้ตาย หรือตายไปแล้ว จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ได้อีกมาก ถึงมีชิวิตที่เป็นอยู่ก็เลวสุดอยู่แล้ว แต่สำหรับ อียู ยังไม่เคยใกล้ตาย เจียนตาย คราวนี้อาจจะได้รู้จัก
    สมมุติว่า ถ้ากรีซตัดสินใจไม่รับเงินกู้อีกต่อไป หนี้ที่ค้างกันอยู่ ก็ค่อยว่ากัน นี่ไม่ใช่การเบี้ยวหนี้ แต่เป็นการแสดงความไม่ต้องการเป็นหนี้เพิ่ม เอาแค่นี้ จะเรียกเป็นประเทศล้มละลาย หรืออะไรก็แล้วแต่ ความสะเทือนในระบบการเงินในยุโรป ก็น่าจะเกิน 6 ริกเตอร์แล้ว เพราะมันหมายถึง deposits run เงินฝากไหลออกจะเกิดขึ้นแบบของจริง ระบบแบงค์ในกรีซ ไปก่อน หลังจากนั้นก็ลามไปนอกกรีซ ก็ขึ้นกับธนาคารกลางของอียู จะเอาอยู่ไหม สมาชิกอียู ใครจะเป็นผู้กล้าหาญ ถมเงินมาให้ธนาคารกลาง คงเกี่ยงกันอยู่นาน เพราะทั้งเค็ม ทั้งคม กันทั้งนั้น คมเฉือนคม กว่าจะตกลงกันได้ ระหว่างนั้น เลือดยุโรปก็ไหลโกรก
    สมมุติไปอีกทางหนึ่ง ถึงคุณน้องยานิส จะทำหน้าขรึมว่า เจ้าหนี้ต้องตกลงเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ก่อน แต่ นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ประกาศว่า เรายอมให้โซ่รัดคอเราแน่นอีกหน่อย เกี่ยวกับเรื่องเงินบำนาญ ยืดอายุคนรับบำนาญไป อีก 2 ปี ทนไหวน่าลุงและจำนวนที่ต้องจ่ายบำนาญก็จะลดลง
    มี ข่าวว่า เจ้าหนี้ ต้องการรัดคออีกหลายเปลาะ เช่นเรื่อง ขยายฐานเก็บภาษี ไปถึง เรื่อง การซื้อยาและขึ้นอัตรา vat ร้านอาหารและที่พักโรงแรม สำหรับกรีซ ที่เป็นเมืองขายการท่องเที่ยว ขึ้นภาษี 2 รายการนี่ ก็ เปลี่ยนร้านอาหาร เป็นป่าช้า อาจได้ลูกค้ามากกว่า
    ข่าวนี้ทำให้เกิดเสียงแตกในพรรค Syriza เอง พวกเข้มบอกไม่ได้นะ นายกฯ ไปตกลงเองไม่ได้ ต้องเอามาเข้าสภาก่อน และรับรองเลย มติแบบนี้ ไม่ผ่านสภาแน่
    ถ้าเป็นข้อสมมุติตามนี้ ความสะเทือน อาจจะไม่เกิน 4 ริกเตอร์ ในตอนแรก ระหว่างรอเข้าสภา และไม่ว่าสภาจะลงมติอะไร การถอนเงินฝาก ก็จะเกิดขึ้น เหมือนกรณีแรก และความสะเทือนก็จะค่อยๆเพิ่มริกเตอร์ขึ้น ไม่ต่างกว่ากรณีแรก เพียงแต่ใช้เวลานานกว่า
    เห็นไหมครับ ไม่ว่ากรีซจะเล่นบทไหน ก็เกิดผลกระทบกับอียูทั้งสิ้น เพราะมันเป็นการจัดการที่ผิดของอียูเองตั้งแต่ต้น ผลมาจากเหตุ เมื่อมีการเอาเงินก้อนใหญ่ที่ควรใส่ไปที่กรีซ แต่ไปไม่ถึงกรีซ ไปถึงเจ้าหนี้อื่นแทน ถึงเวลากรีซจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ก็ต้องเบิกเงินกู้ต่อไปเรื่อยๆ อาการของกรีซก็หนักไปเรื่อยๆ จากเงื่อนไข ที่รัดคอ ผูกมือผูกตีน ไม่ให้กระดิก ไม่ต้องจบปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ ก็พอรู้ว่า ไปต่อสภาพนี้จะเป็นอย่างไร ยิ่งจบมาอย่างคุณน้องยานิส ถึงได้พูดเหมือนท่องมนตร์ว่า ต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คือ ลดหนี้ ผ่อนผันเงื่อนไข เพื่อให้กรีซมีโอกาสต้ังหลัก และยืดอายุการชำระออกไปอีก หรือ มีเงินใหม่จากที่อื่น มาล้างหนี้ DOA และเริ่มต้นกระบวนการฟื้นชีวิตชาวกรีซกันใหม่
    จะมีไหมครับ เงินใหม่ จะมาจากไหน
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิ.ย. 2558
    ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 3 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 3 แล้วโซ่คล้องคอชาวกรีซล่ะ หน้าตาเป็นอย่างไร สมันน้อยน่าจะรู้จักนะ เพราะเคยต้องใช้อยู่ช่วงนึง แต่อาจจะขนาดเล็กกว่า สั้นกว่า บางคนอาจโตไม่ทัน หรือโตแล้ว แต่ไม่รู้เรื่อง ก็ทำความรู้จักไว้หน่อยก็ดี เผื่อเหตุการณ์เก่า มันจะกลับมาเยี่ยม จะได้รู้จัก รู้ขนาดโซ่ว่า รับไหวไหม ยิ่งมีข่าวกระฉ่อนว่า หนุ่มหน้าใส อดีตผู้เชี่ยวชาญของธนาคารโลก พวกเสือหิวด้วยกัน กำลังเป็นตัวเต็ง จะมาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนใหม่ แทนคนปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระในเดือนสิงหาคมนี้ เผื่อแกยังรสนิยมเดิมๆ ปี ค.ศ.2010 เสือหิว Troika บอกเราจัดหาเงินให้กรีซได้จำนวน ประมาณบรรทุกรถสิบล้อ 340 คัน ตีว่า บรรทุกได้ คันละ 1 พันล้านยูโร ใครไม่ตกเลข ก็คำนวณเองนะครับ ว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ดอกแค่ร้อยละ 5 ถูกจะตาย เงื่อนไขไม่มีอะไรมากมาย ใช้แบบเงื่อนตายเหมือนผูกตราสังข์ ตามแบบฟอร์มของ IMF ที่เรียกว่า SAP หรือ Structural Adjustment Policy ส่วนคนกู้ เรียกสัญญาแบบนี้ว่า แบบ DOA หรือ Dead on Arrival เป็นศพตั้งแต่มาถึงแล้ว คือ ตาย(ห่า) ตั้งแต่กู้ สัญญาแบบนี้ใช้มากว่า 35 ปีแล้วในประเทศแถบละติน อาฟริกา ยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต และเอเซีย ตัวอย่างของผู้ที่ใช้สัญญานี้ และเป็นที่รู้จักกันดี ถูกนำมายกเป็นกรณีศึกษาจนแทบจะท่องกันได้คือ ประเทศอาร์เจนตินา สัญญาแบบ DOA เป็นอย่างไร ก็แค่ตัดงบใช้จ่ายในบ้านเมืองจนเหี้ยน ซึ่งรวมไปถึงการลดสวัสดิการทาง สังคม การรักษาพยาบาล เบี้ยบำนาญ ลดการจ่ายค่าแรงค่าจ้าง แต่เน้นให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน เพิ่มการส่งออก เพิ่มการแข่งขันทางการค้า เพิ่มภาษี และต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คือให้รัฐนำออกมาขายเพื่อเอามาใช้หนี้ และลดค่าเงินของประเทศผู้กู้ แต่เนื่องจากกรีซใช้ยูโร ขืนบังคับใช้ข้อนี้ก็ฉิบหายกันหมด เพราะฉนั้น ข้อนี้ เลยกลายเป็นไปเพิ่มการลดค่าใช้จ่ายในประเทศลงแยะๆ แทน ผมก็งงนะ ไม่รู้มันเอาส่วนไหนคิด ลดค่าแรง ลดการจ้างงาน แต่ให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน แปลว่า ชาวกรีซ นอนผึ่งพุงอยู่กับบ้าน เพราะไม่มีงานทำ ทำไปก็ไม่มีได้ค่าจ้าง เพราะเขาสั่งให้ลด แล้ว”ใคร” มาเพิ่มงาน “ใคร” มาลงทุน ” ใคร” มาซื้อรัฐวิสาหกิจ ที่ไอ้เสือหิวสั่งให้ขาย พอนึกออกนะครับว่า ในที่สุดแล้ว “ใคร” จะเป็นเจ้าของเกาะกรีซอันสวยงาม เสือหิว Troika บอกว่า มาตรการนี้ คงใช้ไม่นาน ไม่เกิน 2 ปี กรีซก็คงฟื้นตัว แต่มันตรงกันข้าม นอกจากไม่ฟื้นแล้ว กรีซยิ่งทรุดหนัก ชาวกรีซออกมาประท้วง สื่อกรีซเริ่มออกข่าวด่าไอ้เสือหิว อียู และ IMF บอกว่า ที่ไม่ดีขึ้น เพราะกรีซไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไข ไม่ยอมลำบาก ยังอยากสบายด้วยเงินของคนอื่น อันนี้เจ็บมาก ชาวกรีซบอกว่า นี่เป็นการบิดเบือนความจริงที่เลวร้าย รัฐบาลกรีซเดินตามเงื่อนไข DOA อย่างเคร่งครัด งบค่าจ้างตัดทิ้งเป็นพันๆล้านยู โร การรักษาพยาบาลของกรีซ ลดไปถึง 50% ไม่ใช่ชาวกรีซ แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย แต่พวกเขาไม่มีเงิน ไปหาหมอ ไปโรงพยาบาลต่างหาก การศึกษาก็เช่นกัน ลดลงไปมากมาย ธุรกิจขนาดเล็กปิดตัวเกือบหมด และอัตราคนว่างงานในปี 2011 ก็ขึ้นพรวด และรายรับของภาษี ก็ลดลงอย่างมากเช่นเดียวกัน มัน DOA จริงๆ เสือหิว Troika ยังปากแข็ง ไม่ยอมรับความผิดพลาดในการจ่ายยาของตัวให้แก่คนป่วยชื่อก รีซ จะไปรับได้อย่างไร เขาให้ยาถูกแล้ว เขาตั้งใจให้ยา DOA นี้กับกรีซ กรีซต่างหากเล่า ที่ทำผิดพลาดซ้ำซาก ยอมกินยานี้ (ซ้ำซาก) เอง กรีซนึกว่า กินยานี้ครั้งเดียวแล้วทุกอย่าง จะดีขึ้นตามที่ IMF บอก แต่ในที่สุด กรีซก็ต้องขอรับยางวดสอง ในปี 2012 เอะ งวดแรก กินเข้าไปก็ตายแล้ว งวดสองกินแล้วจะเป็นอย่างไร ก็ตายซากละสิครับ เงื่อนไขงวดสอง เพิ่มชัดเจนว่า ต้องลดการจ้างงานภาครัฐลงไป 150,000 คน ภายในสิ้นปี 2015 และขายรัฐวิสาหกิจแบบเทกระจาด เรื่องนี้ทำให้มีป้ายขึ้นกลางเมืองใหญ่ของกรีซว่า “A Nation for Sale” มีประเทศขาย ไม่ใช่ขายแค่บ้าน ขายประเทศ ภาวนาอย่าให้มีป้ายแบบนี้ขึ้นในแดนสยามของเราก็แล้วกัน ทรัพย์สินที่กรีซขายไป ที่สำคัญ เช่น ท่าเรือ Piraeus ท่าเรือ Thessaloniki ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ และมีคุณค่า ทั้งทางประวัติศาสตร์ และ เศรษฐกิจ (บางข้อมูลบอกท่าเรือ ทั้ง 2 ยังเจรจากันอยู่ ยังไม่ได้ขายออกไป) บริษัทเทเลคอม OTE สลากกินแบ่งกรีซ ที่ดินหลายแปลง ที่อยู่ในถิ่นดีที่สุดของประเทศ prime area และ postal bank การขายทรัพย์สินของประเทศครั้งใหญ่นี้ ทำให้พรรค Syriza ซึ่งประกาศคัดค้านขายรัฐวิสาหกิจ และการขายทรัพย์สิน ซึ่งได้คะแนนเสียงเพียง 4.6 % ในปี 2009 กระโดดมาเป็น 26.89% ในปี 2012 และได้เป็นรัฐบาลในปี 2015 ระหว่าง ที่เสือหิว Troika ให้กรีซกินยา DOA งวดสอง อัตราคนว่างงานก็เพิ่มเป็น 22% และกำลังจะเป็น 25% ในไม่ช้า ชาวกรีซที่มีการศึกษาดี และยังอายุน้อย ต่างพากัน ทิ้งประเทศของตน ไปหางานทำที่เยอรมัน ที่เศรษฐกิจกำลังรุ่ง มันเป็นการประชดชีวิตชาวกรีซอย่างน่าเศร้า โลกนี้มันไม่สวยทั้งหมดอย่างที่เราคิด และที่กรีซ ก็คงจะเหลือแต่คนแก่ คนรายได้ต่ำ คนการศึกษาไม่สูง และชาวต่างชาติที่หนีระเบิดรายวันมาแย่งกันกิน ############## “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 4 นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์การเมือง บอกว่า กรีซมาถึงจุดวิกฤตินี้ จากการที่มีนักการเมือง หรือรัฐบาลสายตาสั้น มองไม่ได้ไกล ขี้โกง เห็นแก่ประโยชน์พรรคและพวก ทำให้กรีซตกเป็นเหยื่อของระบบ ที่สร้างขี้นมา เพื่อทำให้ประเทศที่อ่อนแอจากปัจจัย ต่างๆ อย่างกรีซ ไม่คิดพึ่งตัวเอง ไม่คิดเปลี่ยนแปลง ไม่คิดปฏิรูป ไม่รู้จักเรียนรู้ เพื่อแก้ไข มักง่าย และในที่สุดก็จะหมดตัว หมดประเทศ หรือ เหลือแต่ซาก ส่วนนักวิเคราะห์การเงินบอกว่า อย่าเอะอะไป เรื่องหนี้กรีซ ไม่ใช่เรื่องของหนี้กรีซ เอะ พูดยังไง เราพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ครับ นักการเงินบอก ไม่มีใครเขาสนใจประเทศกรีซ ที่เล็กกระจิดริด ถึงจะสวยงามก็เถอะ กรีซจะมีเงินใช้หนี้ไหม กรีซจะอยู่ หรือจะไปจากอียู เขาไม่ได้สนใจ แต่ที่เป็นข่าวกันถี่ ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก พวกเขากลัวมันกระทบกับระบบธนาคาร กลัวนายทุนจะเจ๊ง ไม่ได้กลัวชาวกรีซจะอดตาย ไม่ได้กลัวรัฐบาลกรีซ จะล่ม เข้าใจไหมครับ แต่สื่อใหญ่รุ่นเก๋า Dennis Gartman บอกว่า…. กรีซยังอยู่ในอียู เพราะเยอรมันต้องการอย่างนั้น เยอรมันยังไม่อยากเฉดกรีซออกไป เยอรมันต้องการให้ค่าเงินยูโรอ่อน ยูโรอ่อนดีสำหรับการส่งออก คนซื้อจะได้นึกว่าตัวซื้อของได้ถูก เยอรมันเป็นประเทศขายของ ที่ ยามนี้กำลังต้องการขายอย่างยิ่ง ใครขายได้ ต้องรีบขาย Bayer, Thyssenkrupp, Daimler เจ้าพ่อธุรกิจการค้าเยอรมัน ต้องการให้กรีซ ยังอยู่ในอียูทั้งนั้น … …..ถ้า ผมเป็นนายกรัฐมนตรีกรีซ ผมคงไม่วิ่งเจรจาให้เหนื่อย ผมคงปล่อยให้กรีซผิดนัดหนี้นานมาแล้ว และกลับไปใช้เงินสกุลของกรีซ และผมก็ลดค่าของกรีซ อุตสาหกรรมทอผ้าของกรีซก็จะกลายเป็นสินค้า ที่ใครๆต้องการเพราะราคาถูกลง กิจการท่องเที่ยวของกรีซ ก็กลับมาฟื้น เพราะใครๆ ก็อยากกลับมาอยู่เกาะสวย ในราคาไม่แพง กิจการเดินเรือของกรีซก็กลับมารุ่งใหม่ ทำไมผมต้องง้อเยอรมันอยู่ข้างเดียว ผมจะบอกกับพวกเจ้าหนี้โหดๆ ว่าเชิญเลย เชิญเอาตูดผมไปเลย อยากทำอะไรก็ทำ แล้วผมก็ออกจากอียู ก็แค่นั้น… ความคิดอย่างนาย Gartman ชาวกรีซเกือบทุกคน คงอยากทำอย่างนั้น คิดได้ แต่ไม่รู้ทำได้จริงไหม กรีซมีหนี้ก้อนใหญ่หมึมา เบี้ยวหนี้ก้อนหนี้ ก็กลายเป็นประเทศล้มละลาย คนล้มละลาย จะไปค้าขายกับใครได้ ขายของได้เงินมา เจ้าหนี้ก็คอยมาคว้าไป แต่ไม่ใช่ว่า เรื่องแบบนี้ เล่นไม่ได้เอาเลย อาร์เจนตินา เคยตัดโซ่ แหกคอกออกมา ยอมอด แต่ก็หืดขึ้นคอ กว่าจะยืนตรงได้เหมือนเดิม พรรค Syriza คงไม่คิดให้ชาวกรีซอยู่ในเหว และมีโซ่คล้องคอตลอดไป แต่จะเลือกทำด้วยวิธีไหน และเมื่อไหร่ เท่านั้น การตัดสินใจของ Syriza ในช่วงไม่กี่วันนี้ คงต้องตามดูกันทุกยก เพราะมันสามารถ สร้างระดับความสะเทือน เหมือนแผ่นดินไหวในยุโรปได้ ตั้งแต่ 4 ริกเตอร์ ไปจนถึงระดับ 9 ริกเตอร์ และอาจจะตามมา ด้วยอาฟเตอร์ขนาดไหน ถึงไหน และนานเท่าไหร่ และจะต่อด้วยซึนามิหรือไม่ พวกแมงเม่า อย่ามัวแต่เหม่อดูแต่จอบ้านตัวเอง เดี๋ยวปีกจะไหม้ร่วงหลุดเป็นแถวๆ ล่าสุดขณะที่ผมกำลังเขียนนิทาน ( 25 มิย.) ข่าวว่า คุณน้องยานิส รัฐมนตรีคลัง ยืนกรานว่า ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ ฝ่ายเจ้าหนี้บอก เราไม่มีความคิดเช่นนั้น ถ้ากรีซไม่มีอะไรใหม่มาเสนอ เช่นจะรัดคอหอยเข้าไปอีกกี่นิ้ว หรือจะมีวิธีชำระหนี้อย่างไร เราก็ไม่มีอะไรพูด แล้วการประชุมระหว่าง รัฐมนตรีคลังของกรีซกับฝ่ายอี ยู 18 คน ที่ สนง อียู กรุงบรัสเซล เมื่อเย็นวันที่ 24 มิย. ก็จบลงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประชุมไม่ถึง 1 ชั่วโมง แล้วต่างก็ทำหน้าไร้อารมณ์ เก็บของกลับบ้าน ร้อนถึงนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซึ่งข่าวว่า บินด่วนมาบรัสเซล มาคุยต่อกับพวก บิกกี้ของ อียู และคุณนายหน้าเค็มของไอเอมเอฟ ต่ออีก 7 ชั่วโมง แล้วก็กลับไปตอนดึก โดยไม่ให้ข่าว ทั้งหมดนี้ ผมอ่านจากทวิต ของนักข่าวต่างประเทศ ที่ไปเกาะติดสถานการณ์ แปลว่าอะไรครับ แปลว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังกำไต๋ ไม่แผลมให้อีกฝ่ายรู้ ดูผ่านๆ เหมือนกรีซ กำลังเป็นฝ่ายอาการหนัก แต่สำหรับผม ผมว่า อียูหนักกว่า สำหรับกรีซ เหมือนคนใกล้ตาย หรือตายไปแล้ว จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ได้อีกมาก ถึงมีชิวิตที่เป็นอยู่ก็เลวสุดอยู่แล้ว แต่สำหรับ อียู ยังไม่เคยใกล้ตาย เจียนตาย คราวนี้อาจจะได้รู้จัก สมมุติว่า ถ้ากรีซตัดสินใจไม่รับเงินกู้อีกต่อไป หนี้ที่ค้างกันอยู่ ก็ค่อยว่ากัน นี่ไม่ใช่การเบี้ยวหนี้ แต่เป็นการแสดงความไม่ต้องการเป็นหนี้เพิ่ม เอาแค่นี้ จะเรียกเป็นประเทศล้มละลาย หรืออะไรก็แล้วแต่ ความสะเทือนในระบบการเงินในยุโรป ก็น่าจะเกิน 6 ริกเตอร์แล้ว เพราะมันหมายถึง deposits run เงินฝากไหลออกจะเกิดขึ้นแบบของจริง ระบบแบงค์ในกรีซ ไปก่อน หลังจากนั้นก็ลามไปนอกกรีซ ก็ขึ้นกับธนาคารกลางของอียู จะเอาอยู่ไหม สมาชิกอียู ใครจะเป็นผู้กล้าหาญ ถมเงินมาให้ธนาคารกลาง คงเกี่ยงกันอยู่นาน เพราะทั้งเค็ม ทั้งคม กันทั้งนั้น คมเฉือนคม กว่าจะตกลงกันได้ ระหว่างนั้น เลือดยุโรปก็ไหลโกรก สมมุติไปอีกทางหนึ่ง ถึงคุณน้องยานิส จะทำหน้าขรึมว่า เจ้าหนี้ต้องตกลงเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ก่อน แต่ นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ประกาศว่า เรายอมให้โซ่รัดคอเราแน่นอีกหน่อย เกี่ยวกับเรื่องเงินบำนาญ ยืดอายุคนรับบำนาญไป อีก 2 ปี ทนไหวน่าลุงและจำนวนที่ต้องจ่ายบำนาญก็จะลดลง มี ข่าวว่า เจ้าหนี้ ต้องการรัดคออีกหลายเปลาะ เช่นเรื่อง ขยายฐานเก็บภาษี ไปถึง เรื่อง การซื้อยาและขึ้นอัตรา vat ร้านอาหารและที่พักโรงแรม สำหรับกรีซ ที่เป็นเมืองขายการท่องเที่ยว ขึ้นภาษี 2 รายการนี่ ก็ เปลี่ยนร้านอาหาร เป็นป่าช้า อาจได้ลูกค้ามากกว่า ข่าวนี้ทำให้เกิดเสียงแตกในพรรค Syriza เอง พวกเข้มบอกไม่ได้นะ นายกฯ ไปตกลงเองไม่ได้ ต้องเอามาเข้าสภาก่อน และรับรองเลย มติแบบนี้ ไม่ผ่านสภาแน่ ถ้าเป็นข้อสมมุติตามนี้ ความสะเทือน อาจจะไม่เกิน 4 ริกเตอร์ ในตอนแรก ระหว่างรอเข้าสภา และไม่ว่าสภาจะลงมติอะไร การถอนเงินฝาก ก็จะเกิดขึ้น เหมือนกรณีแรก และความสะเทือนก็จะค่อยๆเพิ่มริกเตอร์ขึ้น ไม่ต่างกว่ากรณีแรก เพียงแต่ใช้เวลานานกว่า เห็นไหมครับ ไม่ว่ากรีซจะเล่นบทไหน ก็เกิดผลกระทบกับอียูทั้งสิ้น เพราะมันเป็นการจัดการที่ผิดของอียูเองตั้งแต่ต้น ผลมาจากเหตุ เมื่อมีการเอาเงินก้อนใหญ่ที่ควรใส่ไปที่กรีซ แต่ไปไม่ถึงกรีซ ไปถึงเจ้าหนี้อื่นแทน ถึงเวลากรีซจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ก็ต้องเบิกเงินกู้ต่อไปเรื่อยๆ อาการของกรีซก็หนักไปเรื่อยๆ จากเงื่อนไข ที่รัดคอ ผูกมือผูกตีน ไม่ให้กระดิก ไม่ต้องจบปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ ก็พอรู้ว่า ไปต่อสภาพนี้จะเป็นอย่างไร ยิ่งจบมาอย่างคุณน้องยานิส ถึงได้พูดเหมือนท่องมนตร์ว่า ต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คือ ลดหนี้ ผ่อนผันเงื่อนไข เพื่อให้กรีซมีโอกาสต้ังหลัก และยืดอายุการชำระออกไปอีก หรือ มีเงินใหม่จากที่อื่น มาล้างหนี้ DOA และเริ่มต้นกระบวนการฟื้นชีวิตชาวกรีซกันใหม่ จะมีไหมครับ เงินใหม่ จะมาจากไหน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิ.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 489 Views 0 Reviews
  • “AI และโซเชียลมีเดีย กำลังทำให้สมองเสื่อมคุณภาพ (‘Brain Rot’)”

    งานวิจัยจาก Wharton และ MIT พบว่า การใช้ AI Chatbot และ AI Search Tools ทำให้ผู้ใช้ผลิตเนื้อหาที่ ซ้ำซากและไร้ความลึก เมื่อเทียบกับการค้นหาข้อมูลแบบดั้งเดิม เช่น Google Search ผู้ใช้ที่พึ่งพา AI มักไม่สามารถจดจำสิ่งที่เขียนเองได้ และมีการทำงานของสมองต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด

    คำว่า “Brain Rot” ถูก Oxford English Dictionary ยกให้เป็นคำแห่งปี 2024 หมายถึงสภาวะที่สมองเสื่อมคุณภาพจากการเสพคอนเทนต์สั้น ๆ เช่น TikTok และ Instagram ซึ่งทำให้ผู้ใช้ติดการเลื่อนหน้าจอโดยไม่สร้างการเรียนรู้เชิงลึก ปัญหานี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อผนวกกับการใช้ AI ที่ทำให้การค้นคว้ากลายเป็นกระบวนการแบบ Passive

    ข้อมูลจากการสอบ National Assessment of Educational Progress (NAEP) ในสหรัฐฯ ชี้ว่า คะแนนการอ่านของนักเรียนมัธยมต้นและปลายตกต่ำที่สุดในรอบหลายปีหลังโควิด-19 ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการใช้โซเชียลมีเดียและการพึ่งพา AI ในการเรียนรู้

    แม้จะมีข้อกังวล แต่ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวทางว่า การใช้ AI อย่างมีสติ เช่น เริ่มต้นด้วยการคิดเองก่อน แล้วใช้ AI เพื่อตรวจสอบหรือปรับปรุงงาน จะช่วยให้สมองยังคงทำงานเชิงรุก และลดผลกระทบของ “Brain Rot” ได้

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลการวิจัยเกี่ยวกับ AI
    ผู้ใช้ Chatbot ผลิตเนื้อหาที่ซ้ำซากและไร้ความลึก
    การทำงานของสมองลดลงเมื่อพึ่งพา AI
    ผู้ใช้ไม่สามารถจดจำสิ่งที่เขียนเองได้

    ผลกระทบจากโซเชียลมีเดีย
    TikTok และ Instagram ทำให้ผู้ใช้ติดคอนเทนต์สั้น ๆ
    “Brain Rot” ถูกยกเป็นคำแห่งปี 2024
    การเสพคอนเทนต์แบบ Passive ลดการเรียนรู้เชิงลึก

    ผลต่อเยาวชนและการศึกษา
    คะแนนการอ่านของนักเรียนสหรัฐฯ ตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี
    นักวิจัยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการใช้โซเชียลมีเดียและ AI

    คำเตือนจากบทความ
    การพึ่งพา AI และโซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจทำให้สมองเสื่อมคุณภาพ
    เยาวชนเสี่ยงต่อการสูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์และการจดจำ
    หากไม่ปรับการใช้เทคโนโลยี อาจกระทบต่อระบบการศึกษาและคุณภาพแรงงานในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/17/how-ai-and-social-media-contribute-to-brain-rot
    🧠 “AI และโซเชียลมีเดีย กำลังทำให้สมองเสื่อมคุณภาพ (‘Brain Rot’)” งานวิจัยจาก Wharton และ MIT พบว่า การใช้ AI Chatbot และ AI Search Tools ทำให้ผู้ใช้ผลิตเนื้อหาที่ ซ้ำซากและไร้ความลึก เมื่อเทียบกับการค้นหาข้อมูลแบบดั้งเดิม เช่น Google Search ผู้ใช้ที่พึ่งพา AI มักไม่สามารถจดจำสิ่งที่เขียนเองได้ และมีการทำงานของสมองต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด คำว่า “Brain Rot” ถูก Oxford English Dictionary ยกให้เป็นคำแห่งปี 2024 หมายถึงสภาวะที่สมองเสื่อมคุณภาพจากการเสพคอนเทนต์สั้น ๆ เช่น TikTok และ Instagram ซึ่งทำให้ผู้ใช้ติดการเลื่อนหน้าจอโดยไม่สร้างการเรียนรู้เชิงลึก ปัญหานี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อผนวกกับการใช้ AI ที่ทำให้การค้นคว้ากลายเป็นกระบวนการแบบ Passive ข้อมูลจากการสอบ National Assessment of Educational Progress (NAEP) ในสหรัฐฯ ชี้ว่า คะแนนการอ่านของนักเรียนมัธยมต้นและปลายตกต่ำที่สุดในรอบหลายปีหลังโควิด-19 ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการใช้โซเชียลมีเดียและการพึ่งพา AI ในการเรียนรู้ แม้จะมีข้อกังวล แต่ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวทางว่า การใช้ AI อย่างมีสติ เช่น เริ่มต้นด้วยการคิดเองก่อน แล้วใช้ AI เพื่อตรวจสอบหรือปรับปรุงงาน จะช่วยให้สมองยังคงทำงานเชิงรุก และลดผลกระทบของ “Brain Rot” ได้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลการวิจัยเกี่ยวกับ AI ➡️ ผู้ใช้ Chatbot ผลิตเนื้อหาที่ซ้ำซากและไร้ความลึก ➡️ การทำงานของสมองลดลงเมื่อพึ่งพา AI ➡️ ผู้ใช้ไม่สามารถจดจำสิ่งที่เขียนเองได้ ✅ ผลกระทบจากโซเชียลมีเดีย ➡️ TikTok และ Instagram ทำให้ผู้ใช้ติดคอนเทนต์สั้น ๆ ➡️ “Brain Rot” ถูกยกเป็นคำแห่งปี 2024 ➡️ การเสพคอนเทนต์แบบ Passive ลดการเรียนรู้เชิงลึก ✅ ผลต่อเยาวชนและการศึกษา ➡️ คะแนนการอ่านของนักเรียนสหรัฐฯ ตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี ➡️ นักวิจัยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการใช้โซเชียลมีเดียและ AI ‼️ คำเตือนจากบทความ ⛔ การพึ่งพา AI และโซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจทำให้สมองเสื่อมคุณภาพ ⛔ เยาวชนเสี่ยงต่อการสูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์และการจดจำ ⛔ หากไม่ปรับการใช้เทคโนโลยี อาจกระทบต่อระบบการศึกษาและคุณภาพแรงงานในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/17/how-ai-and-social-media-contribute-to-brain-rot
    WWW.THESTAR.COM.MY
    How AI and social media contribute to 'brain rot'
    A.I. search tools, chatbots and social media are associated with lower cognitive performance, studies say. What to do?
    0 Comments 0 Shares 245 Views 0 Reviews
  • “AI กำลังทำลาย Wikipedia – การศึกษาอาจเป็นทางรอด”

    บทความโดย Nadav Ziv และ Sam Wineburg ระบุว่า AI กำลังดูดข้อมูลจาก Wikipedia โดยไม่คืนทราฟฟิกกลับมา ทำให้ระบบนิเวศข้อมูลที่พึ่งพาการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครเสี่ยงต่อการเสื่อมสลาย แม้ Wikipedia จะถูกมองว่าไม่เชื่อถือได้ในโรงเรียน แต่จริง ๆ แล้วมีความแม่นยำสูง และถูกใช้โดยแพทย์และนักตรวจสอบข้อเท็จจริง

    ตัวอย่างที่ชัดคือโฆษณาของบริษัท AI อย่าง Perplexity ที่นำเสนอความสะดวกสบายในการให้คำตอบสั้น ๆ โดยไม่ต้องคลิกแหล่งข้อมูลใด ๆ แม้จะมีการใส่ลิงก์ แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ไม่คลิกกลับไปยังต้นทาง ปัญหานี้สะท้อนว่า AI กำลัง “ตัดขาดข้อมูลจากแหล่งกำเนิด” และทำให้ผู้ใช้พอใจในคำตอบที่ถูกตัดทอน

    นอกจากนี้ AI ยังส่งผลกระทบต่อสื่ออื่น ๆ เช่น เว็บไซต์ข่าว ที่สูญเสียทราฟฟิกไปกว่า 35% เมื่อผู้ใช้พอใจกับสรุปที่ AI สร้างขึ้น ปรากฏการณ์นี้คล้ายกับยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่เสิร์ชเอนจินอย่าง AltaVista พยายามกักผู้ใช้ไว้ในแพลตฟอร์มเพื่อสร้างรายได้จากโฆษณา ต่างจาก Google ที่เคยช่วยส่งผู้ใช้ไปยังแหล่งข้อมูลจริง

    ผู้เขียนเสนอว่า การศึกษาเป็นทางออก โดยการสอนให้ผู้ใช้ตรวจสอบว่าใครอยู่เบื้องหลังข้อมูล และฝึกการคลิกกลับไปยังต้นทาง งานวิจัยในหลายประเทศแสดงให้เห็นว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงของการฝึกอบรมก็สามารถเพิ่มทักษะการตัดสินใจเชิงข้อมูลได้อย่างมาก การศึกษาเช่นนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่เป็นเพียงผู้รับข้อมูลแบบ Passive แต่กลายเป็นผู้ตรวจสอบและผู้มีส่วนร่วมเชิงวิพากษ์

    สรุปสาระสำคัญ
    ปัญหาที่ Wikipedia เผชิญ
    AI ดึงข้อมูลไปใช้โดยไม่คืนทราฟฟิก
    ผู้ใช้พอใจกับคำตอบที่ถูกตัดทอน ไม่คลิกกลับไปยังต้นทาง
    ส่งผลให้แรงจูงใจในการสร้างเนื้อหาคุณภาพลดลง

    ผลกระทบต่อระบบนิเวศข้อมูล
    เว็บไซต์ข่าวสูญเสียทราฟฟิกกว่า 35%
    AI สร้างระบบที่กักผู้ใช้ไว้ในแพลตฟอร์ม คล้ายเสิร์ชเอนจินยุคแรก

    ข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหา
    ใช้การศึกษาเพื่อสอนผู้ใช้ตรวจสอบแหล่งข้อมูล
    ฝึกให้คลิกกลับไปยังต้นทางและประเมินความน่าเชื่อถือ
    เปลี่ยนผู้ใช้จากผู้รับข้อมูลแบบ Passive เป็นผู้ตรวจสอบเชิงวิพากษ์

    คำเตือนจากบทความ
    หากผู้ใช้ยังคงพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบ อาจทำให้ข้อมูลคุณภาพหายไป
    ระบบนิเวศความรู้เสี่ยงต่อการเสื่อมสลายเมื่อแรงจูงใจในการสร้างเนื้อหาลดลง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/15/opinion-how-to-save-wikipedia-from-ai
    🌐 “AI กำลังทำลาย Wikipedia – การศึกษาอาจเป็นทางรอด” บทความโดย Nadav Ziv และ Sam Wineburg ระบุว่า AI กำลังดูดข้อมูลจาก Wikipedia โดยไม่คืนทราฟฟิกกลับมา ทำให้ระบบนิเวศข้อมูลที่พึ่งพาการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครเสี่ยงต่อการเสื่อมสลาย แม้ Wikipedia จะถูกมองว่าไม่เชื่อถือได้ในโรงเรียน แต่จริง ๆ แล้วมีความแม่นยำสูง และถูกใช้โดยแพทย์และนักตรวจสอบข้อเท็จจริง ตัวอย่างที่ชัดคือโฆษณาของบริษัท AI อย่าง Perplexity ที่นำเสนอความสะดวกสบายในการให้คำตอบสั้น ๆ โดยไม่ต้องคลิกแหล่งข้อมูลใด ๆ แม้จะมีการใส่ลิงก์ แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ไม่คลิกกลับไปยังต้นทาง ปัญหานี้สะท้อนว่า AI กำลัง “ตัดขาดข้อมูลจากแหล่งกำเนิด” และทำให้ผู้ใช้พอใจในคำตอบที่ถูกตัดทอน นอกจากนี้ AI ยังส่งผลกระทบต่อสื่ออื่น ๆ เช่น เว็บไซต์ข่าว ที่สูญเสียทราฟฟิกไปกว่า 35% เมื่อผู้ใช้พอใจกับสรุปที่ AI สร้างขึ้น ปรากฏการณ์นี้คล้ายกับยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่เสิร์ชเอนจินอย่าง AltaVista พยายามกักผู้ใช้ไว้ในแพลตฟอร์มเพื่อสร้างรายได้จากโฆษณา ต่างจาก Google ที่เคยช่วยส่งผู้ใช้ไปยังแหล่งข้อมูลจริง ผู้เขียนเสนอว่า การศึกษาเป็นทางออก โดยการสอนให้ผู้ใช้ตรวจสอบว่าใครอยู่เบื้องหลังข้อมูล และฝึกการคลิกกลับไปยังต้นทาง งานวิจัยในหลายประเทศแสดงให้เห็นว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงของการฝึกอบรมก็สามารถเพิ่มทักษะการตัดสินใจเชิงข้อมูลได้อย่างมาก การศึกษาเช่นนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่เป็นเพียงผู้รับข้อมูลแบบ Passive แต่กลายเป็นผู้ตรวจสอบและผู้มีส่วนร่วมเชิงวิพากษ์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ปัญหาที่ Wikipedia เผชิญ ➡️ AI ดึงข้อมูลไปใช้โดยไม่คืนทราฟฟิก ➡️ ผู้ใช้พอใจกับคำตอบที่ถูกตัดทอน ไม่คลิกกลับไปยังต้นทาง ➡️ ส่งผลให้แรงจูงใจในการสร้างเนื้อหาคุณภาพลดลง ✅ ผลกระทบต่อระบบนิเวศข้อมูล ➡️ เว็บไซต์ข่าวสูญเสียทราฟฟิกกว่า 35% ➡️ AI สร้างระบบที่กักผู้ใช้ไว้ในแพลตฟอร์ม คล้ายเสิร์ชเอนจินยุคแรก ✅ ข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหา ➡️ ใช้การศึกษาเพื่อสอนผู้ใช้ตรวจสอบแหล่งข้อมูล ➡️ ฝึกให้คลิกกลับไปยังต้นทางและประเมินความน่าเชื่อถือ ➡️ เปลี่ยนผู้ใช้จากผู้รับข้อมูลแบบ Passive เป็นผู้ตรวจสอบเชิงวิพากษ์ ‼️ คำเตือนจากบทความ ⛔ หากผู้ใช้ยังคงพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบ อาจทำให้ข้อมูลคุณภาพหายไป ⛔ ระบบนิเวศความรู้เสี่ยงต่อการเสื่อมสลายเมื่อแรงจูงใจในการสร้างเนื้อหาลดลง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/15/opinion-how-to-save-wikipedia-from-ai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: How to save Wikipedia from AI
    The volunteer-run online encyclopaedia just issued a stark warning: AI is exploiting the site's data, siphoning off its traffic, and threatening its future.
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • “นฤมล” ถก CLEC จีน เดินหน้าร่วมมือภาษาจีน–อาชีวศึกษา ผลักดันทุนครูไทยไปเรียนต่อจีน เพิ่มห้องเรียนขงจื่อ พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล และยกระดับหลักสูตร–ทักษะภาษาจีนรองรับตลาดแรงงานยุคใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่ EEC

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109353

    #News1live #News1 #นฤมลภิญโญสินวัฒน์ #ภาษาจีน #CLEC #ขงจื่อ #อาชีวศึกษา #EEC #ความร่วมมือไทยจีน #ข่าวการศึกษา #newsupdate
    “นฤมล” ถก CLEC จีน เดินหน้าร่วมมือภาษาจีน–อาชีวศึกษา ผลักดันทุนครูไทยไปเรียนต่อจีน เพิ่มห้องเรียนขงจื่อ พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล และยกระดับหลักสูตร–ทักษะภาษาจีนรองรับตลาดแรงงานยุคใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่ EEC • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109353 • #News1live #News1 #นฤมลภิญโญสินวัฒน์ #ภาษาจีน #CLEC #ขงจื่อ #อาชีวศึกษา #EEC #ความร่วมมือไทยจีน #ข่าวการศึกษา #newsupdate
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 191 Views 0 Reviews
  • รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ เสนอ 3 ประเด็นแก้ปัญหาใต้ ต้องเริ่มจาก "การศึกษา-เศรษฐกิจ-คุณภาพชีวิต" เพื่อความมั่นคงที่ยั่งยืน
    https://www.thai-tai.tv/news/22386/
    .
    #ไทยก้าวใหม่ #ทีมรองวัตร #ความมั่นคง #3จชต #3จตล #ไทยไท #3จชต #BRN #แก้ปัญหาใต้ #ธนู3ดอก #ไทยก้าวใหม่

    รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ เสนอ 3 ประเด็นแก้ปัญหาใต้ ต้องเริ่มจาก "การศึกษา-เศรษฐกิจ-คุณภาพชีวิต" เพื่อความมั่นคงที่ยั่งยืน https://www.thai-tai.tv/news/22386/ . #ไทยก้าวใหม่ #ทีมรองวัตร #ความมั่นคง #3จชต #3จตล #ไทยไท #3จชต #BRN #แก้ปัญหาใต้ #ธนู3ดอก #ไทยก้าวใหม่
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • “พรรคไทยก้าวใหม่” ร่วมงานรวมน้ำใจสู่มัสยิดมิฟตาฮุ้ลยีนาน(ลำเจียก) เขตบึงกุ่ม
    https://www.thai-tai.tv/news/22380/
    .
    #พรรคไทยก้าวใหม่ #ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง #จริงจังเรื่องการศึกษา

    “พรรคไทยก้าวใหม่” ร่วมงานรวมน้ำใจสู่มัสยิดมิฟตาฮุ้ลยีนาน(ลำเจียก) เขตบึงกุ่ม https://www.thai-tai.tv/news/22380/ . #พรรคไทยก้าวใหม่ #ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง #จริงจังเรื่องการศึกษา
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • รมว.นฤมล หนุนช่วยเด็กพิการ มีอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตดีขึ้น
    รมว.ศึกษาธิการประชุมคณะกรรมการการศึกษาสำหรับคนพิการ เดินหน้าปรับกฎหมายและตั้งศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ หนุนเด็กพิเศษมีอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมผลักดันโครงการเรียนร่วมเด็กปกติ–เด็กพิการทั่วประเทศ

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108073

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #ข่าว #เด็กพิการ #การศึกษา #นฤมลภิญโญสินวัฒน์ #truthfromthailand #newsupdate
    รมว.นฤมล หนุนช่วยเด็กพิการ มีอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตดีขึ้น รมว.ศึกษาธิการประชุมคณะกรรมการการศึกษาสำหรับคนพิการ เดินหน้าปรับกฎหมายและตั้งศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ หนุนเด็กพิเศษมีอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมผลักดันโครงการเรียนร่วมเด็กปกติ–เด็กพิการทั่วประเทศ อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108073 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #ข่าว #เด็กพิการ #การศึกษา #นฤมลภิญโญสินวัฒน์ #truthfromthailand #newsupdate
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 430 Views 0 Reviews
More Results