• 🧐🟡🟠 เช้านี้คุณภาพอากาศ กทม. อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง มีสีส้มเกินมาตรฐาน 26 พื้นที่ ฝุ่นเริ่มสูงขึ้นดั่งคำพยากรณ์
    📊ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 07.00 น.
    🟡🔍 ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 35.3 มคก./ลบ.ม.
    🔍↗️ ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    🟡 ภาพรวม : คุณภาพอากาศ กทม. อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง
    🟠 เกินมาตรฐาน เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 26 พื้นที่
    🩺 ข้อแนะนำสุขภาพ:
    🟠 คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
    ▪️ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
    จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก
    ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
    ▪️ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
    เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
    🔍🟠 ณ เวลา 07.00 น. ตรวจวัดได้ 26-53 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 26 พื้นที่ คือ
    1.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 53.0 มคก./ลบ.ม.
    2.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 47.8 มคก./ลบ.ม.
    3.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 45.4 มคก./ลบ.ม.
    4.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 44.1 มคก./ลบ.ม.
    5.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 43.5 มคก./ลบ.ม.
    6.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 43.3 มคก./ลบ.ม.
    7.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 42.9 มคก./ลบ.ม.
    8.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 42.8 มคก./ลบ.ม.
    9.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 41.6 มคก./ลบ.ม.
    10.สวนพระนคร เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 41.4 มคก./ลบ.ม.
    11.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 41.2 มคก./ลบ.ม.
    12.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม.
    13.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 40.7 มคก./ลบ.ม.
    14.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 40.5 มคก./ลบ.ม.
    15.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 40.5 มคก./ลบ.ม.
    16.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม.
    17.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 40.0 มคก./ลบ.ม.
    18.สวนหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 40.0 มคก./ลบ.ม.
    19.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 39.7 มคก./ลบ.ม.
    20.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม.
    21.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม.
    22.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 38.9 มคก./ลบ.ม.
    23.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 38.7 มคก./ลบ.ม.
    24.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 38.0 มคก./ลบ.ม.
    25.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 37.7 มคก./ลบ.ม.
    26.เขตสวนหลวง ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง : มีค่าเท่ากับ 37.6 มคก./ลบ.ม.
    .
    🧐 ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. - 1 ก.พ. 2568 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "ไม่ดี - อ่อน" ประกอบกับมีการเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้น อย่างต่อเนื่อง ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนวันที่ 2-7 ก.พ. การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "อ่อน-ดี" ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงลดลง และคาดการณ์วันนี้ อากาศเย็นในตอนเช้า
    .
    🔥 🛰 ดาวเทียมจาก NASA ไม่พบจุดความร้อนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ NASA ก็พาเธอกลับมาไม่ได้
    .
    📲😷 ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านทาง
    - แอปพลิเคชัน AirBKK
    - www.airbkk.com
    - FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
    - FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม
    - FB: กรุงเทพมหานคร
    - แอปพลิเคชัน AirBKK
    - LINE ALERT
    📲🤮 หากท่านพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษสามารถแจ้งเบาะแสผ่านทาง Traffy Fondue
    #ค่าฝุ่นกทม #ฝุ่น #PM25
    #สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี
    #ลีซานอัลไกอีบ

    cr. facebook กรุงเทพมหานคร https://www.facebook.com/bangkokbma
    🧐🟡🟠 เช้านี้คุณภาพอากาศ กทม. อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง มีสีส้มเกินมาตรฐาน 26 พื้นที่ ฝุ่นเริ่มสูงขึ้นดั่งคำพยากรณ์ 📊ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 07.00 น. 🟡🔍 ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 35.3 มคก./ลบ.ม. 🔍↗️ ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 🟡 ภาพรวม : คุณภาพอากาศ กทม. อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง 🟠 เกินมาตรฐาน เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 26 พื้นที่ 🩺 ข้อแนะนำสุขภาพ: 🟠 คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ▪️ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ▪️ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ 🔍🟠 ณ เวลา 07.00 น. ตรวจวัดได้ 26-53 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 26 พื้นที่ คือ 1.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 53.0 มคก./ลบ.ม. 2.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 47.8 มคก./ลบ.ม. 3.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 45.4 มคก./ลบ.ม. 4.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 44.1 มคก./ลบ.ม. 5.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 43.5 มคก./ลบ.ม. 6.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 43.3 มคก./ลบ.ม. 7.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 42.9 มคก./ลบ.ม. 8.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 42.8 มคก./ลบ.ม. 9.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 41.6 มคก./ลบ.ม. 10.สวนพระนคร เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 41.4 มคก./ลบ.ม. 11.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 41.2 มคก./ลบ.ม. 12.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม. 13.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 40.7 มคก./ลบ.ม. 14.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 40.5 มคก./ลบ.ม. 15.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 40.5 มคก./ลบ.ม. 16.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม. 17.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 40.0 มคก./ลบ.ม. 18.สวนหนองจอก เขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 40.0 มคก./ลบ.ม. 19.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 39.7 มคก./ลบ.ม. 20.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม. 21.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม. 22.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 38.9 มคก./ลบ.ม. 23.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 38.7 มคก./ลบ.ม. 24.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 38.0 มคก./ลบ.ม. 25.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 37.7 มคก./ลบ.ม. 26.เขตสวนหลวง ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง : มีค่าเท่ากับ 37.6 มคก./ลบ.ม. . 🧐 ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. - 1 ก.พ. 2568 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "ไม่ดี - อ่อน" ประกอบกับมีการเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้น อย่างต่อเนื่อง ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนวันที่ 2-7 ก.พ. การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "อ่อน-ดี" ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงลดลง และคาดการณ์วันนี้ อากาศเย็นในตอนเช้า . 🔥 🛰 ดาวเทียมจาก NASA ไม่พบจุดความร้อนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ NASA ก็พาเธอกลับมาไม่ได้ . 📲😷 ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านทาง - แอปพลิเคชัน AirBKK - www.airbkk.com - FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร - FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม - FB: กรุงเทพมหานคร - แอปพลิเคชัน AirBKK - LINE ALERT 📲🤮 หากท่านพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษสามารถแจ้งเบาะแสผ่านทาง Traffy Fondue #ค่าฝุ่นกทม #ฝุ่น #PM25 #สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #ลีซานอัลไกอีบ cr. facebook กรุงเทพมหานคร https://www.facebook.com/bangkokbma
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดสะพานทศมราชัน สร้างมา 5 ปีกว่าจะมีวันนี้

    เวลา 09.09 น. วันที่ 29 ม.ค. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานทศมราชัน ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษสุขสวัสดิ์ ระหว่างรอโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยก่อสร้างแล้วเสร็จ คิดค่าผ่านทางตามปกติของทางพิเศษเฉลิมมหานคร คาดว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรบนสะพานพระราม 9 จาก 100,470 คันต่อวัน ลดเหลือ 75,325 คันต่อวัน

    สำหรับความคืบหน้าโครงการฯ ตลอดสายทาง 18.7 กิโลเมตร ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2567 ภาพรวม 86.28% เร็วกว่าแผน 1.03% คาดว่าเปิดให้บริการประมาณปลายปี 2568 โดยขาออกกรุงเทพฯ จากทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ก่อนขึ้นสะพานทศมราชันต้องรับบัตรผ่านทางพิเศษที่ด่านบางโคล่ และจ่ายเงินที่ด่านปลายทาง โดยคิดค่าผ่านทางแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงดาวคะนอง-พระราม 3 และช่วงดาวคะนอง-วงแหวนฯ ตะวันตก ได้แก่ รถ 4 ล้อ ช่วงละ 30 บาท รถ 6-10 ล้อช่วงละ 60 บาท รถมากกว่า 10 ล้อช่วงละ 90 บาท

    สะพานทศมราชัน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ สัญญา 4 ลักษณะเป็นสะพานคู่ (Cable Stayed Bridge) แบบไม่มีเสาอยู่ในลำน้ำ ขนาด 8 ช่องจราจร ความยาว 781.2 เมตร รับแรงลมได้สูงถึง 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มูลค่าโครงการ 6,636.19 ล้านบาท ก่อสร้างโดย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นสัญญา 16 ม.ค. 2563 แล้วเสร็จตามสัญญาวันที่ 30 มี.ค. 2566 รวม 1,170 วัน ก่อนส่งมอบให้การทางพิเศษฯ

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม “สะพานทศมราชัน” หมายถึง พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 10 และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567 ไปประดิษฐานบนสะพานแห่งนี้ โดยเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสะพานทศมราชัน

    องค์ประกอบสถาปัตยกรรมของสะพาน ได้แก่ 1.ส่วนยอดของเสาสะพาน หมายถึง ฝ่าพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงถึงความโอบอุ้มปกป้อง ให้ความรัก ความห่วงใย พสกนิกรต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือเกล้า 2.สายเคเบิลเป็นสีเหลือง สื่อถึงวันพระบรมราชสมภพคือวันจันทร์ 3.รูปปั้นพญานาคสีเหลืองทองอยู่บนโคนเสาสะพานทั้ง 4 ต้น ซึ่งเป็นราศีประจำปีมะโรง ปีพระบรมราชสมภพ เพื่อถวายอารักขาแด่พระองค์ 4.รั้วสะพานกันกระโดด ออกแบบให้เป็นลายดอกรวงผึ้ง ต้นไม้ประจำพระองค์

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    เปิดสะพานทศมราชัน สร้างมา 5 ปีกว่าจะมีวันนี้ เวลา 09.09 น. วันที่ 29 ม.ค. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานทศมราชัน ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษสุขสวัสดิ์ ระหว่างรอโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยก่อสร้างแล้วเสร็จ คิดค่าผ่านทางตามปกติของทางพิเศษเฉลิมมหานคร คาดว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรบนสะพานพระราม 9 จาก 100,470 คันต่อวัน ลดเหลือ 75,325 คันต่อวัน สำหรับความคืบหน้าโครงการฯ ตลอดสายทาง 18.7 กิโลเมตร ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2567 ภาพรวม 86.28% เร็วกว่าแผน 1.03% คาดว่าเปิดให้บริการประมาณปลายปี 2568 โดยขาออกกรุงเทพฯ จากทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ก่อนขึ้นสะพานทศมราชันต้องรับบัตรผ่านทางพิเศษที่ด่านบางโคล่ และจ่ายเงินที่ด่านปลายทาง โดยคิดค่าผ่านทางแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงดาวคะนอง-พระราม 3 และช่วงดาวคะนอง-วงแหวนฯ ตะวันตก ได้แก่ รถ 4 ล้อ ช่วงละ 30 บาท รถ 6-10 ล้อช่วงละ 60 บาท รถมากกว่า 10 ล้อช่วงละ 90 บาท สะพานทศมราชัน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ สัญญา 4 ลักษณะเป็นสะพานคู่ (Cable Stayed Bridge) แบบไม่มีเสาอยู่ในลำน้ำ ขนาด 8 ช่องจราจร ความยาว 781.2 เมตร รับแรงลมได้สูงถึง 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มูลค่าโครงการ 6,636.19 ล้านบาท ก่อสร้างโดย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นสัญญา 16 ม.ค. 2563 แล้วเสร็จตามสัญญาวันที่ 30 มี.ค. 2566 รวม 1,170 วัน ก่อนส่งมอบให้การทางพิเศษฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม “สะพานทศมราชัน” หมายถึง พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 10 และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567 ไปประดิษฐานบนสะพานแห่งนี้ โดยเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสะพานทศมราชัน องค์ประกอบสถาปัตยกรรมของสะพาน ได้แก่ 1.ส่วนยอดของเสาสะพาน หมายถึง ฝ่าพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงถึงความโอบอุ้มปกป้อง ให้ความรัก ความห่วงใย พสกนิกรต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือเกล้า 2.สายเคเบิลเป็นสีเหลือง สื่อถึงวันพระบรมราชสมภพคือวันจันทร์ 3.รูปปั้นพญานาคสีเหลืองทองอยู่บนโคนเสาสะพานทั้ง 4 ต้น ซึ่งเป็นราศีประจำปีมะโรง ปีพระบรมราชสมภพ เพื่อถวายอารักขาแด่พระองค์ 4.รั้วสะพานกันกระโดด ออกแบบให้เป็นลายดอกรวงผึ้ง ต้นไม้ประจำพระองค์ #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินโดยสารแอร์บัสของสายการบินแอร์ปูซาน (Air Busan) ของเกาหลีใต้เกิดเพลิงลุกไหม้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติกิมแฮทางตอนใต้ของเกาหลีใต้ ขณะกำลังตรียมเดินทางไปยังฮ่องกงเมื่อค่ำวานนี้ (28 ม.ค.) แต่โชคดีที่ผู้โดยสารทั้ง 169 คนและลูกเรืออีก 7 คนถูกอพยพได้ทัน และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 3 คน
    .
    สำนักงานดับเพลิงปูซานได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ซึ่งปะทุขึ้นภายในลำตัวเครื่องบินเมื่อเวลาราว 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่าต้นเพลิงเกิดที่ส่วนหางของเครื่อง
    .
    คลิปเหตุการณ์ที่สถานีโทรทัศน์ YTN เผยแพร่ทำให้เห็นว่ามีการใช้สไลด์อพยพผู้โดยสารลงจากเครื่องบินทั้ง 2 ฝั่ง ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งจัดการกับควันและไฟที่ไหม้เครื่องบิน
    .
    ต่อมาสำนักข่าวยอนฮัปได้เผยแพร่คลิปแนวหลังคาห้องโดยสารที่เป็นรูโหว่อันเกิดจากการถูกไฟไหม้
    .
    เหตุระทึกครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 เดือนหลังจากที่เครื่องบินโบอิ้งของสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) ซึ่งเดินทางจากกรุงเทพมหานครประสบอุบัติเหตุลื่นไถลหลุดรันเวย์ที่สนามบินนานาชาติมูอัน หลังลงจอดในสภาพล้อไม่กาง ซึ่งทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตรวม 179 คน และมีลูกเรือที่นั่งอยู่บริเวณส่วนหางรอดมาได้เพียง 2 คน
    .
    สำหรับแอร์ปูซานเป็นสายการบินต้นทุนต่ำในเครือเอเชียนาแอร์ไลน์ส (Asiana Airlines) ซึ่งเพิ่งจะถูกควบกิจการโดยโคเรียนแอร์ (Korean Air) เมื่อเดือน ธ.ค.
    .
    แอร์บัสซึ่งเป็นผู้ผู้ผลิตเครื่องบินยืนยันว่าได้รับรายงานอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างประสานงานกับทางแอร์ปูซาน
    .
    เครื่องบินลำเกิดเหตุเป็นแอร์บัส A321 neo หมายเลขท้ายเครื่อง HL7763 ซึ่งผ่านการใช้งานมาแล้ว 17 ปี ตามข้อมูลจาก Aviation Safety Network
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009127
    ..............
    Sondhi X
    เครื่องบินโดยสารแอร์บัสของสายการบินแอร์ปูซาน (Air Busan) ของเกาหลีใต้เกิดเพลิงลุกไหม้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติกิมแฮทางตอนใต้ของเกาหลีใต้ ขณะกำลังตรียมเดินทางไปยังฮ่องกงเมื่อค่ำวานนี้ (28 ม.ค.) แต่โชคดีที่ผู้โดยสารทั้ง 169 คนและลูกเรืออีก 7 คนถูกอพยพได้ทัน และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 3 คน . สำนักงานดับเพลิงปูซานได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ซึ่งปะทุขึ้นภายในลำตัวเครื่องบินเมื่อเวลาราว 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่าต้นเพลิงเกิดที่ส่วนหางของเครื่อง . คลิปเหตุการณ์ที่สถานีโทรทัศน์ YTN เผยแพร่ทำให้เห็นว่ามีการใช้สไลด์อพยพผู้โดยสารลงจากเครื่องบินทั้ง 2 ฝั่ง ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งจัดการกับควันและไฟที่ไหม้เครื่องบิน . ต่อมาสำนักข่าวยอนฮัปได้เผยแพร่คลิปแนวหลังคาห้องโดยสารที่เป็นรูโหว่อันเกิดจากการถูกไฟไหม้ . เหตุระทึกครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 เดือนหลังจากที่เครื่องบินโบอิ้งของสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) ซึ่งเดินทางจากกรุงเทพมหานครประสบอุบัติเหตุลื่นไถลหลุดรันเวย์ที่สนามบินนานาชาติมูอัน หลังลงจอดในสภาพล้อไม่กาง ซึ่งทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตรวม 179 คน และมีลูกเรือที่นั่งอยู่บริเวณส่วนหางรอดมาได้เพียง 2 คน . สำหรับแอร์ปูซานเป็นสายการบินต้นทุนต่ำในเครือเอเชียนาแอร์ไลน์ส (Asiana Airlines) ซึ่งเพิ่งจะถูกควบกิจการโดยโคเรียนแอร์ (Korean Air) เมื่อเดือน ธ.ค. . แอร์บัสซึ่งเป็นผู้ผู้ผลิตเครื่องบินยืนยันว่าได้รับรายงานอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างประสานงานกับทางแอร์ปูซาน . เครื่องบินลำเกิดเหตุเป็นแอร์บัส A321 neo หมายเลขท้ายเครื่อง HL7763 ซึ่งผ่านการใช้งานมาแล้ว 17 ปี ตามข้อมูลจาก Aviation Safety Network . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009127 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Love
    Wow
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 870 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ยืนยัน "กันต์ กันตถาวร" ผู้ต้องหาคดีดิไอคอน ไม่ได้เสียชีวิตในเรือนจำฯ มีสุขภาพร่างกายและจิตใจปกติ ญาติ-ทนายเข้าเยี่ยมตลอด

    วันนี้ (28 ม.ค.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีกระแสข่าว นายกันต์ กันตถาวร ผู้ต้องหาคดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" ผูกคอเสียชีวิตในเรือนจำ ว่า ได้รับรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครว่า นายกันต์ ยังอยู่ภายในเรือนจำฯ ตามปกติ รวมทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจปกติ ไม่ได้มีอาการเครียดแสดงให้เห็นออกมา ซึ่งมีญาติและทนายมาเยี่ยมตลอด ยืนยันการเสียชีวิตดังกล่าวไม่เป็นความจริง

    นางกนกวรรณ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่อ้างว่า นายกันต์ รับไม่ได้เหมือน "มิน-พีชญา" และ "แซม-ยุรนันท์" 2 บอสดิไอคอน ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้น ไม่เป็นข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม กรมราชทัณฑ์มีการควบคุมดูแลผู้ต้องขัง ตามมาตรฐานอย่างเท่าเทียมและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

    #MGROnline #บอสดารา #กันต์กันตถาวร #บอสกันต์ #ดิไอคอน
    รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ยืนยัน "กันต์ กันตถาวร" ผู้ต้องหาคดีดิไอคอน ไม่ได้เสียชีวิตในเรือนจำฯ มีสุขภาพร่างกายและจิตใจปกติ ญาติ-ทนายเข้าเยี่ยมตลอด • วันนี้ (28 ม.ค.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีกระแสข่าว นายกันต์ กันตถาวร ผู้ต้องหาคดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" ผูกคอเสียชีวิตในเรือนจำ ว่า ได้รับรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครว่า นายกันต์ ยังอยู่ภายในเรือนจำฯ ตามปกติ รวมทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจปกติ ไม่ได้มีอาการเครียดแสดงให้เห็นออกมา ซึ่งมีญาติและทนายมาเยี่ยมตลอด ยืนยันการเสียชีวิตดังกล่าวไม่เป็นความจริง • นางกนกวรรณ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่อ้างว่า นายกันต์ รับไม่ได้เหมือน "มิน-พีชญา" และ "แซม-ยุรนันท์" 2 บอสดิไอคอน ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้น ไม่เป็นข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม กรมราชทัณฑ์มีการควบคุมดูแลผู้ต้องขัง ตามมาตรฐานอย่างเท่าเทียมและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง • #MGROnline #บอสดารา #กันต์กันตถาวร #บอสกันต์ #ดิไอคอน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาถึงตอนนี้ ถ้าจะสรุปว่านายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครสอบตกในการแก้ปัญหาฝุ่น pm 2.5คงไม่เกินจริง นายชัชชาติพยายามแก้ตัวว่าอย่าใช้อารมณ์ความรู้สึกมาตัดสิน
    แต่ตัวเลขค่าฝุ่นที่คุกคามชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวกทมอย่างหนักในปีนี้มันคือวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ความรู้สึกวิทยาศาสตร์ ถึงเวลานี้ไม่ใช่แค่เรื่องฝุ่นที่นายชัชชาติสอบตก แต่ยังมีปัญหาใหญ่ใหญ่ของกทมที่นายชัชชาติสอบตก เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรถติดหรือน้ําท่วมเกือบสามปีในสมัยชัชชาติเป็นพ่อเมืองกทม ไม่เห็นรถติดจะน้อยลง น้ําท่วมก็ท่วมเหมือนเดิมไม่มีอะไรแตกต่าง
    ฝุ่นมหาภัยอาจจะมีข้อดีอยู่บ้างที่ทําให้คนไทยได้เห็นภาพนายชัชชาติเป็นคนเก่งในการสร้างภาพ เก่งด้านวาทกรรมเท่านั้น ซึ่งในช่วงตอนหาเสียงเขาพูดทุกเรื่องไม่สวยหรูทั้งสิ้นไม่ว่าจะคําพูดว่าศึกษาปัญหามาแล้วสองปี ถ้าทําไม่ได้อย่าอาสามาเป็นผู้ว่ากทมในเรื่องฝุ่นนายชัชชาติ พูดว่าคน กทม มีสิทธิที่จะได้รับอากาศบริสุทธิ์เพราะคนเราต้องหายใจทุกวัน เห็นเลยว่าตอนหาเสียงกับตอนทํางานจริง มันต่างกัน
    ตอนหาเสียงดันกล้าพูดเหมือนตัวเองเป็นซุปเปอร์แมนเก่งอยู่คนเดียว รู้อยู่คนเดียว วางท่าข่มคนอื่นเหมือนคนไม่รู้ปัญหา ทํางานไม่เป็น มาตอนนี้เป็นผู้ว่า กทม เป็นมาเกือบ 3 ปีสถานการณ์ฝุ่นหนักหนาสาหัสกว่าเดิม คนที่กล้าอวดอ้างว่าตัวเองรู้จริงเก่งจริง ศึกษามาหมดแล้ว อย่างนายชัชชาติเอาแค่ลงมือทําอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันก็ยังทําไม่ได้เลยมีแต่งานอีเว้นท์ต้านฝุ่น ถลุงงบ หาแก่นสารไม่ได้ กรรมของคน กทม แท้ๆ (ชัชชาติ ผู้ว่าคนเก่ง(แต่ปาก) ของคนกรุงเต้บ)
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    มาถึงตอนนี้ ถ้าจะสรุปว่านายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครสอบตกในการแก้ปัญหาฝุ่น pm 2.5คงไม่เกินจริง นายชัชชาติพยายามแก้ตัวว่าอย่าใช้อารมณ์ความรู้สึกมาตัดสิน แต่ตัวเลขค่าฝุ่นที่คุกคามชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวกทมอย่างหนักในปีนี้มันคือวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ความรู้สึกวิทยาศาสตร์ ถึงเวลานี้ไม่ใช่แค่เรื่องฝุ่นที่นายชัชชาติสอบตก แต่ยังมีปัญหาใหญ่ใหญ่ของกทมที่นายชัชชาติสอบตก เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรถติดหรือน้ําท่วมเกือบสามปีในสมัยชัชชาติเป็นพ่อเมืองกทม ไม่เห็นรถติดจะน้อยลง น้ําท่วมก็ท่วมเหมือนเดิมไม่มีอะไรแตกต่าง ฝุ่นมหาภัยอาจจะมีข้อดีอยู่บ้างที่ทําให้คนไทยได้เห็นภาพนายชัชชาติเป็นคนเก่งในการสร้างภาพ เก่งด้านวาทกรรมเท่านั้น ซึ่งในช่วงตอนหาเสียงเขาพูดทุกเรื่องไม่สวยหรูทั้งสิ้นไม่ว่าจะคําพูดว่าศึกษาปัญหามาแล้วสองปี ถ้าทําไม่ได้อย่าอาสามาเป็นผู้ว่ากทมในเรื่องฝุ่นนายชัชชาติ พูดว่าคน กทม มีสิทธิที่จะได้รับอากาศบริสุทธิ์เพราะคนเราต้องหายใจทุกวัน เห็นเลยว่าตอนหาเสียงกับตอนทํางานจริง มันต่างกัน ตอนหาเสียงดันกล้าพูดเหมือนตัวเองเป็นซุปเปอร์แมนเก่งอยู่คนเดียว รู้อยู่คนเดียว วางท่าข่มคนอื่นเหมือนคนไม่รู้ปัญหา ทํางานไม่เป็น มาตอนนี้เป็นผู้ว่า กทม เป็นมาเกือบ 3 ปีสถานการณ์ฝุ่นหนักหนาสาหัสกว่าเดิม คนที่กล้าอวดอ้างว่าตัวเองรู้จริงเก่งจริง ศึกษามาหมดแล้ว อย่างนายชัชชาติเอาแค่ลงมือทําอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันก็ยังทําไม่ได้เลยมีแต่งานอีเว้นท์ต้านฝุ่น ถลุงงบ หาแก่นสารไม่ได้ กรรมของคน กทม แท้ๆ (ชัชชาติ ผู้ว่าคนเก่ง(แต่ปาก) ของคนกรุงเต้บ) ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    Haha
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เผยของบกลางชดเชยผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน งอกขึ้นจาก 140 ล้าน เป็น 329.82 ล้าน อ้าง รฟม. เปลี่ยนใจของบฯ ไว้ใช้โครงการอื่น ส่วน ขสมก. ขอเพิ่ม 51 ล้าน แต่ยังอ้างทำเพื่อประชาชน เพราะสุดท้ายก็เป็นเงินของรัฐอยู่ดี
    .
    วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม กล่าวถึงการของบกลาง 140 ล้านบาท เพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำเงินไปจ่ายชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถไฟฟ้า และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จากมาตรการให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า และรถเมล์ฟรี ระหว่างวันที่ 25-31 ม.ค. ว่า หลังจากเปิดให้บริการฟรี 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. มีประชาชนใช้บริการในมาตรการดังกล่าว ประมาณ 500,000 คน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเดิม 45 ถึง 60% โดยเฉพาะใน 2 วันที่ผ่านมา
    .
    ส่วนที่มีหลายฝ่ายท้วงติงว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นไม่ได้มาจากผู้ใช้รถยนต์นั้น นายสุริยะ กล่าวว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ประเมินตัวเลขจากกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งใน กทม. มีการใช้รถใช้ถนนประมาณวันละ 10 ล้านคัน เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลครึ่งหนึ่ง ประมาณ 5 ล้านคัน 10 และพบว่า จากมาตรการดังกล่าว มีการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลดลง 10% หรือประมาณ 5 แสนคัน
    .
    สำหรับงบกลาง ที่กระทรวงคมนาคมจะขออนุมัติจากที่ประชุม ครม. จากเดิมที่ระบุไว้ 140 ล้านบาท แต่ต้องเพิ่มเป็น 329.82 ล้านบาท เนื่องจากเดิม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่ของบประมาณไว้ แต่ภายหลัง รฟม. แจ้งว่าจะขอกันงบประมาณไว้เพื่อใช้ในโครงการอื่นๆ เป็นจำนวน 144 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับ ขสมก. ที่ขอเพิ่ม 51 ล้านบาท และเมื่อนำไปรวมกับเงินที่ต้องจ่ายชดเชยให้กับบริษัทบีทีเอส (BTS) จำนวน 133 ล้านบาท ทำให้กระทรวงคมนาคมต้องยื่นของบกลางเพิ่มขึ้น
    .
    เมื่อถามว่าผู้บริหารรถไฟฟ้าบีทีเอส ระบุว่า ในส่วนของบริษัทฯ มีการประเมินเงินชดเชยจากมาตรการของรัฐบาลอยู่ที่ 200 ล้านบาทนั้น นายสุริยะ ระบุว่า นี่เป็นตัวเลขที่บีทีเอสคิดย้อนหลังไป 7 วัน แต่รัฐบาลจะชดเชย 7 วันที่ออกมาตรการ คือ 25 – 31 ม.ค. 2568 ถามว่าบริษัทบีทีเอสได้วางบิลที่กระทรวงคมนาคมแล้วหรือยัง นายสุริยะ ระบุว่า ยังไม่ได้วางบิล เพราะต้องรอให้ครบกำหนด 7 วัน
    .
    เมื่อถามว่ามีแนวโน้มจะขยายมาตรการดังกล่าวอีกหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ขอประเมินสถานการณ์ให้รอบด้าน ส่วนที่ว่ามีความกังวลหรือไม่ จากที่เคยขอ 140 ล้านบาท ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์แล้ว แต่ตัวเลขจริงพุ่งสูงถึง 329 ล้านบาท นายสุริยะ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้คือการทำเพื่อประชาชน เพราะตัวเลข 140 ล้านบาท ยังไม่รวมกับรถเมล์ ขสมก. แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเป็น เงินของ ขสมก. หรืองบกลางของรัฐบาล ก็ถือว่าเป็นงบประมาณของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ย้ำว่ารัฐบาลมีเพดานในการจ่ายเงินชดเชยไม่ให้เกิน 329 ล้านบาท
    .
    เมื่อถามว่า มาตรการครั้งหน้า หากมีการดำเนินการอีกจะมีการขอความร่วมมือภาคเอกชนให้บริการฟรีหรือไม่ นายสุริยะ ความจริงรัฐบาลสามารถขอความร่วมมือจากภาคเอกชนได้ แต่ภาคเอกชนก็มีการลงทุน ตัวเลขผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ถ้าคิดแบบจำนวนเต็มรัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยเยอะกว่านี้อีก ซึ่งรัฐบาลขอแค่ 7 วัน เยอะกว่านี้จะไม่เพิ่มให้ ถามว่าที่ประชุม ครม. จะเห็นชอบงบกลางหรือไม่ หลังจากของบเพิ่มขึ้น นายสุริยะ ระบุว่า ต้องอธิบายว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นของ รฟม. จากเดิมที่จะให้ รฟม. รับผิดชอบ ซึ่งขอย้ำว่า สุดท้ายแล้วก็เป็นเงินของรัฐบาลอยู่ดี.
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008789
    .........
    Sondhi X
    รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เผยของบกลางชดเชยผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน งอกขึ้นจาก 140 ล้าน เป็น 329.82 ล้าน อ้าง รฟม. เปลี่ยนใจของบฯ ไว้ใช้โครงการอื่น ส่วน ขสมก. ขอเพิ่ม 51 ล้าน แต่ยังอ้างทำเพื่อประชาชน เพราะสุดท้ายก็เป็นเงินของรัฐอยู่ดี . วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม กล่าวถึงการของบกลาง 140 ล้านบาท เพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำเงินไปจ่ายชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถไฟฟ้า และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จากมาตรการให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า และรถเมล์ฟรี ระหว่างวันที่ 25-31 ม.ค. ว่า หลังจากเปิดให้บริการฟรี 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. มีประชาชนใช้บริการในมาตรการดังกล่าว ประมาณ 500,000 คน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเดิม 45 ถึง 60% โดยเฉพาะใน 2 วันที่ผ่านมา . ส่วนที่มีหลายฝ่ายท้วงติงว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นไม่ได้มาจากผู้ใช้รถยนต์นั้น นายสุริยะ กล่าวว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ประเมินตัวเลขจากกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งใน กทม. มีการใช้รถใช้ถนนประมาณวันละ 10 ล้านคัน เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลครึ่งหนึ่ง ประมาณ 5 ล้านคัน 10 และพบว่า จากมาตรการดังกล่าว มีการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลดลง 10% หรือประมาณ 5 แสนคัน . สำหรับงบกลาง ที่กระทรวงคมนาคมจะขออนุมัติจากที่ประชุม ครม. จากเดิมที่ระบุไว้ 140 ล้านบาท แต่ต้องเพิ่มเป็น 329.82 ล้านบาท เนื่องจากเดิม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่ของบประมาณไว้ แต่ภายหลัง รฟม. แจ้งว่าจะขอกันงบประมาณไว้เพื่อใช้ในโครงการอื่นๆ เป็นจำนวน 144 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับ ขสมก. ที่ขอเพิ่ม 51 ล้านบาท และเมื่อนำไปรวมกับเงินที่ต้องจ่ายชดเชยให้กับบริษัทบีทีเอส (BTS) จำนวน 133 ล้านบาท ทำให้กระทรวงคมนาคมต้องยื่นของบกลางเพิ่มขึ้น . เมื่อถามว่าผู้บริหารรถไฟฟ้าบีทีเอส ระบุว่า ในส่วนของบริษัทฯ มีการประเมินเงินชดเชยจากมาตรการของรัฐบาลอยู่ที่ 200 ล้านบาทนั้น นายสุริยะ ระบุว่า นี่เป็นตัวเลขที่บีทีเอสคิดย้อนหลังไป 7 วัน แต่รัฐบาลจะชดเชย 7 วันที่ออกมาตรการ คือ 25 – 31 ม.ค. 2568 ถามว่าบริษัทบีทีเอสได้วางบิลที่กระทรวงคมนาคมแล้วหรือยัง นายสุริยะ ระบุว่า ยังไม่ได้วางบิล เพราะต้องรอให้ครบกำหนด 7 วัน . เมื่อถามว่ามีแนวโน้มจะขยายมาตรการดังกล่าวอีกหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ขอประเมินสถานการณ์ให้รอบด้าน ส่วนที่ว่ามีความกังวลหรือไม่ จากที่เคยขอ 140 ล้านบาท ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์แล้ว แต่ตัวเลขจริงพุ่งสูงถึง 329 ล้านบาท นายสุริยะ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้คือการทำเพื่อประชาชน เพราะตัวเลข 140 ล้านบาท ยังไม่รวมกับรถเมล์ ขสมก. แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเป็น เงินของ ขสมก. หรืองบกลางของรัฐบาล ก็ถือว่าเป็นงบประมาณของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ย้ำว่ารัฐบาลมีเพดานในการจ่ายเงินชดเชยไม่ให้เกิน 329 ล้านบาท . เมื่อถามว่า มาตรการครั้งหน้า หากมีการดำเนินการอีกจะมีการขอความร่วมมือภาคเอกชนให้บริการฟรีหรือไม่ นายสุริยะ ความจริงรัฐบาลสามารถขอความร่วมมือจากภาคเอกชนได้ แต่ภาคเอกชนก็มีการลงทุน ตัวเลขผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ถ้าคิดแบบจำนวนเต็มรัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยเยอะกว่านี้อีก ซึ่งรัฐบาลขอแค่ 7 วัน เยอะกว่านี้จะไม่เพิ่มให้ ถามว่าที่ประชุม ครม. จะเห็นชอบงบกลางหรือไม่ หลังจากของบเพิ่มขึ้น นายสุริยะ ระบุว่า ต้องอธิบายว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นของ รฟม. จากเดิมที่จะให้ รฟม. รับผิดชอบ ซึ่งขอย้ำว่า สุดท้ายแล้วก็เป็นเงินของรัฐบาลอยู่ดี. . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008789 ......... Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 864 มุมมอง 0 รีวิว
  • สส.เพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาล เคลมค่าฝุ่นดีขึ้น เพราะนโยบายขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน มีประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น ส่วนที่ สว.วิจารณ์บริหารประเทศไร้เดียงสา บอกมาเลยว่าจะให้แก้อย่างไร ไม่ใช่สร้างแต่วาทกรรมด่ากัน
    .
    วันนี้ (27 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ของรัฐบาล ว่า วันนี้ค่าฝุ่นดีขึ้น เนื่องจากกระทรวงคมนาคมออกนโยบายขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน มีประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น มีการประสานงานให้ชะลอการก่อสร้างบางส่วนที่เกิดมลพิษในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ส่วนทางต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดมีการขอความร่วมมือลดการเผา และงดการซื้ออ้อยเผาไหม้ ตนเชื่อว่าขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น
    .
    เมื่อถามถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มองว่ามาตรการของรัฐบาลอาจจะไม่ดีพอในการแก้ไขปัญหา เหมือนคนไทยต้องเผชิญชะตากรรมกับการบริหารประเทศอย่างไร้เดียงสา นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ไร้เดียงสา สว. ที่มีความรู้บอกมาเลยว่าจะให้แก้อย่างไร เสนอะแนะรัฐบาลได้ เป็นนักการเมืองไม่ใช่มาสร้างแต่วาทกรรมด่ากัน ตอนนี้รัฐบาลก็แก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดในประเทศไทยเท่านั้น จะให้แก้ไขอะไรก็พูดจากันดีๆ ใช้วาจาด้อยค่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นนักการเมือง
    .
    “มีอะไรก็บอกได้ไม่กล้าบอกรัฐบาลมาบอกผม ผมจะไปรับฟัง วุฒิคนไหนล่ะไปว่ารัฐบาลไร้เดียงสา แบบนี้ไม่ใช่นักการเมืองที่ดี” นายวิสุทธิ์ กล่าว
    .
    ส่วนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งรัดอยู่ ตนตามมาตลอด วันนี้อย่ามอบแต่รัฐบาลแก้ไขเพียงอย่างเดียว ประชาชนทั้งประเทศต้องมีส่วนช่วยกัน ต้องมีการตักเตือนกัน ส่วนที่มีภาพประชาชนเซลฟี่ภาพเผาอ้อยลงโซเชียลนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็โดนจับไปแล้ว ใครเผาก็โดนจับ เพราะฉะนั้นประชาชนควรตรวจดูใครเผาหญ้าเผาป่าช่วงนี้ต้องแจ้งไปทางอำเภอ เจ้าหน้าที่พร้อมดำเนินการอยู่แล้ว และเมื่อถามถึงปัญหาฝุ่นควันข้ามแดน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหาแนวทางในการเจรจาเพื่อลดการเผาอยู่
    .
    ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางราง ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของมาตรการขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน พบว่ามีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 1,634,446 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นถึง 45.29% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันเสาร์ในสามสัปดาห์ของเดือน ม.ค. 2568 ขณะที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบุว่า มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 175,974 คน หรือเพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับวันเสาร์ที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008543
    .........
    Sondhi X
    สส.เพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาล เคลมค่าฝุ่นดีขึ้น เพราะนโยบายขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน มีประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น ส่วนที่ สว.วิจารณ์บริหารประเทศไร้เดียงสา บอกมาเลยว่าจะให้แก้อย่างไร ไม่ใช่สร้างแต่วาทกรรมด่ากัน . วันนี้ (27 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ของรัฐบาล ว่า วันนี้ค่าฝุ่นดีขึ้น เนื่องจากกระทรวงคมนาคมออกนโยบายขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน มีประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น มีการประสานงานให้ชะลอการก่อสร้างบางส่วนที่เกิดมลพิษในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ส่วนทางต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดมีการขอความร่วมมือลดการเผา และงดการซื้ออ้อยเผาไหม้ ตนเชื่อว่าขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น . เมื่อถามถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มองว่ามาตรการของรัฐบาลอาจจะไม่ดีพอในการแก้ไขปัญหา เหมือนคนไทยต้องเผชิญชะตากรรมกับการบริหารประเทศอย่างไร้เดียงสา นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ไร้เดียงสา สว. ที่มีความรู้บอกมาเลยว่าจะให้แก้อย่างไร เสนอะแนะรัฐบาลได้ เป็นนักการเมืองไม่ใช่มาสร้างแต่วาทกรรมด่ากัน ตอนนี้รัฐบาลก็แก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดในประเทศไทยเท่านั้น จะให้แก้ไขอะไรก็พูดจากันดีๆ ใช้วาจาด้อยค่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นนักการเมือง . “มีอะไรก็บอกได้ไม่กล้าบอกรัฐบาลมาบอกผม ผมจะไปรับฟัง วุฒิคนไหนล่ะไปว่ารัฐบาลไร้เดียงสา แบบนี้ไม่ใช่นักการเมืองที่ดี” นายวิสุทธิ์ กล่าว . ส่วนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งรัดอยู่ ตนตามมาตลอด วันนี้อย่ามอบแต่รัฐบาลแก้ไขเพียงอย่างเดียว ประชาชนทั้งประเทศต้องมีส่วนช่วยกัน ต้องมีการตักเตือนกัน ส่วนที่มีภาพประชาชนเซลฟี่ภาพเผาอ้อยลงโซเชียลนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็โดนจับไปแล้ว ใครเผาก็โดนจับ เพราะฉะนั้นประชาชนควรตรวจดูใครเผาหญ้าเผาป่าช่วงนี้ต้องแจ้งไปทางอำเภอ เจ้าหน้าที่พร้อมดำเนินการอยู่แล้ว และเมื่อถามถึงปัญหาฝุ่นควันข้ามแดน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหาแนวทางในการเจรจาเพื่อลดการเผาอยู่ . ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางราง ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของมาตรการขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน พบว่ามีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 1,634,446 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นถึง 45.29% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันเสาร์ในสามสัปดาห์ของเดือน ม.ค. 2568 ขณะที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบุว่า มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 175,974 คน หรือเพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับวันเสาร์ที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008543 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    Love
    18
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1051 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งยุติเรื่องสอบสวนวินัยร้ายแรงข้าราชการบางคน ปมทุจริตจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 7 โครงการ ระบุไม่มีหลักฐานบ่งชี้ อดีต ผอ.สำนักวัฒนธรรมฯ ทำผิดขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ยังต้องสอบสวนต่อ 11 คน
    .
    วันนี้ (27 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งยุติเรื่อง กรณีการดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงของข้าราชการกรุงเทพมหานคร ในการดำเนินโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายสำหรับศูนย์นันทนาการฯ และศูนย์กีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) จำนวน 7 โครงการ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีราคาสูงเกินจากราคาตลาด ตามคำสั่ง กทม. ที่ 2364/2567 ลงวันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา
    .
    เนื่องจากในชั้นสอบสวนไม่ปรากฎพยานหลักฐานใดบ่งชี้ว่า นายสมบูรณ์ หอมนาน อดีตผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว (ปัจจุบันย้ายไปเป็นหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม) และข้าราชการรวม 19 ราย ได้กระทำการหรือสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา กระทำผิดขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้ง 7 โครงการ พฤติการณ์เป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตามสมควรแก่กรณีแล้ว จึงไม่ได้กระทำผิดวินัยในเรื่องที่ถูกกล่าวหา เห็นควรยุติเรื่อง
    .
    จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 และมาตรา 52 (1) แห่ง พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 ประกอบกับ มาตรา 93 วรรคสอง พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ข้อ 63(1) และข้อ 72 ของกฎ ก.ก.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2565 จึงให้ยุติ ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. 2568 เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน ยังมีคำสั่งกรุงเทพมหานคร เรื่อง พบข้อบกพร่องของข้าราชการอีก 10 ราย ซึ่งเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง มีโทษลดเงินเดือน 2% ระยะเวลา 1 เดือน อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีข้าราชการ กทม. ต้องสอบสวนต่อ 11 คน
    .
    สำหรับการร้องเรียนการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของศูนย์กีฬา กทม. จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 21 รายการ สำหรับศูนย์กีฬาอ่อนนุช 15.69 ล้านบาท 2. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 12.11 ล้านบาท 3. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์กีฬามิตรไมตรี 11.01 ล้านบาท
    .
    4. โครงการประกวดราคาซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 11 รายการ ของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ วงเงินงบประมาณ 4.99 ล้านบาท 5. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ 4.99 ล้านบาท 6. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์นันทนาการ สังกัดส่วนนันทนาการ 17.9 ล้านบาท และ 7. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์นันทนาการวัดดอกไม้ 11.52 ล้านบาท
    .
    โดยได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 25 ราย และขยายผลข้าราชการที่เกี่ยวข้องอีก 4 ราย รวม 29 ราย เมื่อผลการสอบสวนพบว่ามีมูล จึงรวบรวมข้อมูลส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่ปลัดกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งย้ายผู้บริหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการจัดซื้อ ทั้ง 7 โครงการไปปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักงานปลัด กทม. พร้อมทั้งเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยอย่างร้ายแรง กระทั่งการสอบสวนแล้วเสร็จ จึงสรุปสำนวนรายงานต่อผู้ว่าฯ กทม. เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดนายชัชชาติมีคำสั่งยุติเรื่องและคำสั่งพบข้อบกพร่องดังกล่าว ซึ่งหลังสอบสวนพบว่ายังมีข้าราชการที่ต้องสอบสวนต่อ 11 คน ส่วนที่เหลือให้ยุติเรื่อง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008519
    .........
    Sondhi X
    ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งยุติเรื่องสอบสวนวินัยร้ายแรงข้าราชการบางคน ปมทุจริตจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 7 โครงการ ระบุไม่มีหลักฐานบ่งชี้ อดีต ผอ.สำนักวัฒนธรรมฯ ทำผิดขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ยังต้องสอบสวนต่อ 11 คน . วันนี้ (27 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งยุติเรื่อง กรณีการดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงของข้าราชการกรุงเทพมหานคร ในการดำเนินโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายสำหรับศูนย์นันทนาการฯ และศูนย์กีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) จำนวน 7 โครงการ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีราคาสูงเกินจากราคาตลาด ตามคำสั่ง กทม. ที่ 2364/2567 ลงวันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา . เนื่องจากในชั้นสอบสวนไม่ปรากฎพยานหลักฐานใดบ่งชี้ว่า นายสมบูรณ์ หอมนาน อดีตผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว (ปัจจุบันย้ายไปเป็นหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม) และข้าราชการรวม 19 ราย ได้กระทำการหรือสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา กระทำผิดขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้ง 7 โครงการ พฤติการณ์เป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตามสมควรแก่กรณีแล้ว จึงไม่ได้กระทำผิดวินัยในเรื่องที่ถูกกล่าวหา เห็นควรยุติเรื่อง . จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 และมาตรา 52 (1) แห่ง พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 ประกอบกับ มาตรา 93 วรรคสอง พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ข้อ 63(1) และข้อ 72 ของกฎ ก.ก.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2565 จึงให้ยุติ ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. 2568 เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน ยังมีคำสั่งกรุงเทพมหานคร เรื่อง พบข้อบกพร่องของข้าราชการอีก 10 ราย ซึ่งเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง มีโทษลดเงินเดือน 2% ระยะเวลา 1 เดือน อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีข้าราชการ กทม. ต้องสอบสวนต่อ 11 คน . สำหรับการร้องเรียนการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของศูนย์กีฬา กทม. จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 21 รายการ สำหรับศูนย์กีฬาอ่อนนุช 15.69 ล้านบาท 2. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 12.11 ล้านบาท 3. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์กีฬามิตรไมตรี 11.01 ล้านบาท . 4. โครงการประกวดราคาซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 11 รายการ ของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ วงเงินงบประมาณ 4.99 ล้านบาท 5. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ 4.99 ล้านบาท 6. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์นันทนาการ สังกัดส่วนนันทนาการ 17.9 ล้านบาท และ 7. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์นันทนาการวัดดอกไม้ 11.52 ล้านบาท . โดยได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 25 ราย และขยายผลข้าราชการที่เกี่ยวข้องอีก 4 ราย รวม 29 ราย เมื่อผลการสอบสวนพบว่ามีมูล จึงรวบรวมข้อมูลส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่ปลัดกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งย้ายผู้บริหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการจัดซื้อ ทั้ง 7 โครงการไปปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักงานปลัด กทม. พร้อมทั้งเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยอย่างร้ายแรง กระทั่งการสอบสวนแล้วเสร็จ จึงสรุปสำนวนรายงานต่อผู้ว่าฯ กทม. เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดนายชัชชาติมีคำสั่งยุติเรื่องและคำสั่งพบข้อบกพร่องดังกล่าว ซึ่งหลังสอบสวนพบว่ายังมีข้าราชการที่ต้องสอบสวนต่อ 11 คน ส่วนที่เหลือให้ยุติเรื่อง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008519 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    15
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 947 มุมมอง 1 รีวิว
  • ทรงแย้มพระสรวลตลอดเวลา

    ท่านเหนื่อยนะ ทรงพระดำเนิน​ไกลอยู่ ทั้งที่ตามหมายนั้นจะทรงประทับรถไฟฟ้า​พระที่นั่ง แต่ทั้งสอง​พระองค์​ทรงเลือกที่จะพระดำเนิน เพื่อให้ใกล้ชิดพสกนิกร​ที่มารอเฝ้าฯ มากยิ่งขึ้น

    "ไม่มีใครรักประชาชนคนไทย​เท่าสถาบัน​พระมหากษัตริย์​อีกแล้ว" 💛💜

    ขอทั้งสอง​พระองค์​ทรง​พระ​เจริญ​ยิ่ง​ยืนนาน

    .

    วันนี้ (๒๕ ม.ค. ๒๕๖๘) เวลา ๑๗.๑๒ น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรสถิต ๗๒ พรรษา” บริเวณสะพานดำรงสถิต ณ ถนนเจริญกรุง เขตพระนคร และทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” บริเวณห้าแยกหมอมี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ภายใต้โครงการ “เบญจกตัญญุตา บารมีแห่งมังกรสยาม” ณ ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
    ทรงแย้มพระสรวลตลอดเวลา ท่านเหนื่อยนะ ทรงพระดำเนิน​ไกลอยู่ ทั้งที่ตามหมายนั้นจะทรงประทับรถไฟฟ้า​พระที่นั่ง แต่ทั้งสอง​พระองค์​ทรงเลือกที่จะพระดำเนิน เพื่อให้ใกล้ชิดพสกนิกร​ที่มารอเฝ้าฯ มากยิ่งขึ้น "ไม่มีใครรักประชาชนคนไทย​เท่าสถาบัน​พระมหากษัตริย์​อีกแล้ว" 💛💜 ขอทั้งสอง​พระองค์​ทรง​พระ​เจริญ​ยิ่ง​ยืนนาน . วันนี้ (๒๕ ม.ค. ๒๕๖๘) เวลา ๑๗.๑๒ น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรสถิต ๗๒ พรรษา” บริเวณสะพานดำรงสถิต ณ ถนนเจริญกรุง เขตพระนคร และทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง ๗๒ พรรษา” บริเวณห้าแยกหมอมี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ภายใต้โครงการ “เบญจกตัญญุตา บารมีแห่งมังกรสยาม” ณ ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรสถิต 72 พรรษา” บริเวณสะพานดำรงสถิต ณ ถนนเจริญกรุง เขตพระนคร และทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง 72 พรรษา” บริเวณห้าแยกหมอมี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้โครงการ “เบญจกตัญญุตา บารมีแห่งมังกรสยาม” ณ ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร

    🙏🏻ทรงพระเจริญ

    ที่มา NBT Connext
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรสถิต 72 พรรษา” บริเวณสะพานดำรงสถิต ณ ถนนเจริญกรุง เขตพระนคร และทรงเปิดซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ “วชิรธำรง 72 พรรษา” บริเวณห้าแยกหมอมี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้โครงการ “เบญจกตัญญุตา บารมีแห่งมังกรสยาม” ณ ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 🙏🏻ทรงพระเจริญ ที่มา NBT Connext
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • โครงการสร้าง ๒ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ และในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในปี ๒๕๖๘ โดยดำเนินการจัดสร้างบนถนนเจริญกรุง เป็นถาวรวัตถุ จำนวน ๒ ซุ้ม

    ซุ้มประตู "วชิรสถิต ๗๒ พรรษา" [ซุ้มหัวมังกร] ตรงเชิงสะพานดำรงสถิต
    ซุ้มประตู "วชิรธำรง ๗๒ พรรษา" [ซุ้มหางมังกร] บริเวณแยกหมอมี

    มีรูปแบบการก่อสร้างตามแบบพระราชนิยม ในราชวงศ์จีนตอนเหนือ บางส่วนเป็นลายไทย โดยออกแบบให้มีความผสมผสานและแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย
    จะเป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร

    Cr. : หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย Thai Chamber , พระลาน

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    โครงการสร้าง ๒ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ และในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในปี ๒๕๖๘ โดยดำเนินการจัดสร้างบนถนนเจริญกรุง เป็นถาวรวัตถุ จำนวน ๒ ซุ้ม ซุ้มประตู "วชิรสถิต ๗๒ พรรษา" [ซุ้มหัวมังกร] ตรงเชิงสะพานดำรงสถิต ซุ้มประตู "วชิรธำรง ๗๒ พรรษา" [ซุ้มหางมังกร] บริเวณแยกหมอมี มีรูปแบบการก่อสร้างตามแบบพระราชนิยม ในราชวงศ์จีนตอนเหนือ บางส่วนเป็นลายไทย โดยออกแบบให้มีความผสมผสานและแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย จะเป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร Cr. : หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย Thai Chamber , พระลาน #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Love
    Like
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯวันพฤหัสบดี ที่ 23 มกราคม 2568 ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ บางพลัด กรุงเทพมหานครมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรม ราชูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมโครงการเตรียม ความพร้อมก่อนจบ (Jop Ready)นักเรียนทุนพระราชทานเพื่อการ ศึกษาสงเคราะห์ โดยมี 5 กิจกรรม ดังนี้ การสร้างแรงบันดาลใจในตนเองคุณสมบัติของบัณฑิตที่องค์กรส่วนใหญ่ ต้องการ การเขียนจดหมายเพื่อสมัคบก่อนจบงาน และการจัดทำแฟ้มสะสมงาน (Portfolio) การพัฒนาบุคลิกภาพและกราะห์ราชทา การพูดเพื่อการสัมภาษณ์งาน การวางแผนทางการเงิน #มูลนิธิราชประชานุ เคราะห์ฯ #สังคมสงเคราะห์ ##นักเรียน ทุนพระราชทาน #รัชกาลที่10 TikTok@rpk.bkk #ว่างว่างก็แวะมา
    มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯวันพฤหัสบดี ที่ 23 มกราคม 2568 ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ บางพลัด กรุงเทพมหานครมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรม ราชูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมโครงการเตรียม ความพร้อมก่อนจบ (Jop Ready)นักเรียนทุนพระราชทานเพื่อการ ศึกษาสงเคราะห์ โดยมี 5 กิจกรรม ดังนี้ การสร้างแรงบันดาลใจในตนเองคุณสมบัติของบัณฑิตที่องค์กรส่วนใหญ่ ต้องการ การเขียนจดหมายเพื่อสมัคบก่อนจบงาน และการจัดทำแฟ้มสะสมงาน (Portfolio) การพัฒนาบุคลิกภาพและกราะห์ราชทา การพูดเพื่อการสัมภาษณ์งาน การวางแผนทางการเงิน #มูลนิธิราชประชานุ เคราะห์ฯ #สังคมสงเคราะห์ ##นักเรียน ทุนพระราชทาน #รัชกาลที่10 TikTok@rpk.bkk #ว่างว่างก็แวะมา
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ดีขึ้น!!

    22 ม.ค 68 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไลฟ์สด
    บอกว่า “พรุ่งนี้สถานการณ์ (ฝุ่น PM 2.5) น่าจะเริ่มดีขึ้น


    https://web.facebook.com/share/v/166mUbnSm5/
    เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ดีขึ้น!! 22 ม.ค 68 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไลฟ์สด บอกว่า “พรุ่งนี้สถานการณ์ (ฝุ่น PM 2.5) น่าจะเริ่มดีขึ้น https://web.facebook.com/share/v/166mUbnSm5/
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • กองคดีการฟอกเงินทางอาญา ดีเอสไอ เข้าแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร "บอสพอล-สามารถ" ฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงิน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000007320

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กองคดีการฟอกเงินทางอาญา ดีเอสไอ เข้าแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร "บอสพอล-สามารถ" ฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงิน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000007320 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 954 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งข้อหาเพิ่ม บอสพอล และแจ้งพฤติการณ์เพิ่มเติม สามารถ-แม่ กรณีสมคบและร่วมกันฟอกเงิน จากการโอนและรับเงินโดยใช้บัญชีแม่ อีกด้าน ปปง.มีมติให้ยื่นคำร้องยึดทรัพย์ดิไอคอนฯ 286 ล้าน แต่เพิกถอนอายัด 29 ล้าน ระบุไม่ใช่ทรัพย์สินเอี่ยวกระทำความผิด
    .
    วันนี้ (23 ม.ค.) ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน กองคดีการฟอกเงินทางอาญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด นายวรัตน์พล วรัตน์วรกุล หรือบอสพอล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และแจ้งพฤติการณ์เพิ่มเติมกับ นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดานายสามารถ ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปี 2542 ตามที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ
    .
    สืบเนื่องจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์โอนเงิน และรับโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ โดยพบเส้นทางการเงินระหว่างนายวรัตน์พล กับนายสามารถ โดยใช้บัญชีของนางวิลาวัลย์ และผู้เกี่ยวข้องอีก 1 ราย ในการรับโอนเงิน ซึ่งเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2567 นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขออนุมัติหมายจับ และสามารถจับกุมตัวนายสามารถ และนางวิลาวัลย์ดังกล่าว
    .
    ด้านนายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ซึ่งมีนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เป็นกรรมการและเลขานุการ ในช่วงเดือน ธ.ค. 2567 ถึง ม.ค. 2568 มีมติให้พนักงานอัยการยื่นคำร้อง ขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ในรายคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ปฯ กับพวก ตามคำสั่งที่ ย.214/2567, ย. 222/2567, ย.223/2567, ย.224/2567 และ ย.225/2567 รวม 103 รายการ มูลค่าประมาณ 286 ล้านบาท และมีมติให้เพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์สินจำนวน 40 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 29 ล้านบาท เนื่องจากผู้มีส่วนได้เสียสามารถแสดงหลักฐานว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกดำเนินการ ไม่ใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000007346
    ...........
    Sondhi X
    กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งข้อหาเพิ่ม บอสพอล และแจ้งพฤติการณ์เพิ่มเติม สามารถ-แม่ กรณีสมคบและร่วมกันฟอกเงิน จากการโอนและรับเงินโดยใช้บัญชีแม่ อีกด้าน ปปง.มีมติให้ยื่นคำร้องยึดทรัพย์ดิไอคอนฯ 286 ล้าน แต่เพิกถอนอายัด 29 ล้าน ระบุไม่ใช่ทรัพย์สินเอี่ยวกระทำความผิด . วันนี้ (23 ม.ค.) ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน กองคดีการฟอกเงินทางอาญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด นายวรัตน์พล วรัตน์วรกุล หรือบอสพอล อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และแจ้งพฤติการณ์เพิ่มเติมกับ นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดานายสามารถ ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปี 2542 ตามที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ . สืบเนื่องจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์โอนเงิน และรับโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ โดยพบเส้นทางการเงินระหว่างนายวรัตน์พล กับนายสามารถ โดยใช้บัญชีของนางวิลาวัลย์ และผู้เกี่ยวข้องอีก 1 ราย ในการรับโอนเงิน ซึ่งเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2567 นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขออนุมัติหมายจับ และสามารถจับกุมตัวนายสามารถ และนางวิลาวัลย์ดังกล่าว . ด้านนายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ซึ่งมีนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เป็นกรรมการและเลขานุการ ในช่วงเดือน ธ.ค. 2567 ถึง ม.ค. 2568 มีมติให้พนักงานอัยการยื่นคำร้อง ขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ในรายคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ปฯ กับพวก ตามคำสั่งที่ ย.214/2567, ย. 222/2567, ย.223/2567, ย.224/2567 และ ย.225/2567 รวม 103 รายการ มูลค่าประมาณ 286 ล้านบาท และมีมติให้เพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์สินจำนวน 40 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 29 ล้านบาท เนื่องจากผู้มีส่วนได้เสียสามารถแสดงหลักฐานว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกดำเนินการ ไม่ใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000007346 ........... Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    18
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1588 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดราม่าฝุ่น PM 2.5 นายกฯอยู่สวิส คนไทยรับมลพิษ
    .
    ฝุ่นพิษที่กำลังปกคลุมเมืองใหญ่ในประเทศไทยเวลานี้ที่ว่าหนาแล้วอาจจะยังไม่เท่ากับดราม่าการเมืองว่าด้วยเรื่องดังกล่าว เพราะตลอดวันที่ผ่านมาเกิดวิวาทะที่ตอบโต้กันอย่างดุเดือดระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ภายหลังผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 'ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ' ออกมาระบุว่า "ในขณะที่ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังสูดอากาศดีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างเต็มปอด ระหว่างเดินทางเชิญชวนนักลงทุนเพื่อหวังให้ปี 2568 เป็นปีแห่งโอกาสของประเทศ แต่คนไทยจำนวนหลายล้านคนก็กำลังหายใจรับอากาศพิษขั้นวิกฤตรุนแรงเข้าสู่ปอด"
    .
    เพียงไม่กี่ประโยคที่ออกมา ปรากฎว่าบรรดาคนในรัฐบาลและส.ส.พรรคเพื่อไทย ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อตอบโต้หัวหน้าพรรคประชาชน อย่าง 'จิรายุ ห่วงทรัพย์' โฆษกรัฐบาล แย้งว่า "นายณัฐพงษ์เป็นผู้นำฝ่ายค้าน รู้ทั้งรู้ว่านายกฯ เดินทางไปทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยในการประชุมสำคัญระดับโลก และยังใช้เวลาก่อนการประชุมเดินสายพบปะหารือกับนักธุรกิจระดับโลกเพื่อเชิญชวนมาลงทุนในประเทศไทย ก็ยังไม่วาย ผมจึงขอเรียกร้องให้นายณัฐพงษ์ต้องเรียนรู้ อยู่ให้ได้ว่าหน้าที่ของผู้นำฝ่ายค้านที่มีคุณภาพและเป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองเป็นอย่างไร"
    .
    ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 8.00 น. จากเว็บไซต์ IQAir และการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษ พบว่า กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่มีมลพิษฝุ่นเยอะที่สุดในโลกเป็นลำดับที่ 9 จาก 124 ประเทศ ด้าน ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น. ระบุว่า ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
    ..............
    Sondhi X
    ดราม่าฝุ่น PM 2.5 นายกฯอยู่สวิส คนไทยรับมลพิษ . ฝุ่นพิษที่กำลังปกคลุมเมืองใหญ่ในประเทศไทยเวลานี้ที่ว่าหนาแล้วอาจจะยังไม่เท่ากับดราม่าการเมืองว่าด้วยเรื่องดังกล่าว เพราะตลอดวันที่ผ่านมาเกิดวิวาทะที่ตอบโต้กันอย่างดุเดือดระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ภายหลังผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 'ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ' ออกมาระบุว่า "ในขณะที่ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังสูดอากาศดีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างเต็มปอด ระหว่างเดินทางเชิญชวนนักลงทุนเพื่อหวังให้ปี 2568 เป็นปีแห่งโอกาสของประเทศ แต่คนไทยจำนวนหลายล้านคนก็กำลังหายใจรับอากาศพิษขั้นวิกฤตรุนแรงเข้าสู่ปอด" . เพียงไม่กี่ประโยคที่ออกมา ปรากฎว่าบรรดาคนในรัฐบาลและส.ส.พรรคเพื่อไทย ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อตอบโต้หัวหน้าพรรคประชาชน อย่าง 'จิรายุ ห่วงทรัพย์' โฆษกรัฐบาล แย้งว่า "นายณัฐพงษ์เป็นผู้นำฝ่ายค้าน รู้ทั้งรู้ว่านายกฯ เดินทางไปทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยในการประชุมสำคัญระดับโลก และยังใช้เวลาก่อนการประชุมเดินสายพบปะหารือกับนักธุรกิจระดับโลกเพื่อเชิญชวนมาลงทุนในประเทศไทย ก็ยังไม่วาย ผมจึงขอเรียกร้องให้นายณัฐพงษ์ต้องเรียนรู้ อยู่ให้ได้ว่าหน้าที่ของผู้นำฝ่ายค้านที่มีคุณภาพและเป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองเป็นอย่างไร" . ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 8.00 น. จากเว็บไซต์ IQAir และการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษ พบว่า กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่มีมลพิษฝุ่นเยอะที่สุดในโลกเป็นลำดับที่ 9 จาก 124 ประเทศ ด้าน ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น. ระบุว่า ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    Haha
    Wow
    Angry
    13
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1486 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตกลงจะเอายังไง!!!
    - ปิดโรงเรียน จากเหตุฝุ่น PM2.5 พุ่งสูง
    - ขณะเดียวกัน เปิดการแสดงดนตรีในสวนกรุงเทพมหานคร ในงานกรุงเทพกลางแปลง
    ตกลงจะเอายังไง!!! - ปิดโรงเรียน จากเหตุฝุ่น PM2.5 พุ่งสูง - ขณะเดียวกัน เปิดการแสดงดนตรีในสวนกรุงเทพมหานคร ในงานกรุงเทพกลางแปลง
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกมเก็บเหรียญ Jagat น่าสงสัยความเสี่ยงสูง

    Jagat ภาษาอินโดนีเซียแปลว่าจักรวาล ระบุตัวเองว่าเป็นแอปพลิเคชันค้นหาครอบครัวและเพื่อน แต่มีกิจกรรมที่ชื่อว่า Jagat Coin Hunt เปิดให้ทำภารกิจล่าเหรียญเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และเชียงราย โดยนำเหรียญที่จัดทำขึ้นไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่างๆ แล้วให้คนที่เล่นเกมไปตามหาเหรียญบนแผนที่ เปิดระบบตั้งแต่เวลา 08.00-24.00 น. เมื่อพบเหรียญจะต้องกรอกรหัสบนเหรียญ ถ่ายคลิปและภาพนิ่งลงในติ๊กต็อกพร้อมแฮชแท็กที่กำหนด จะได้เงินรางวัลตั้งแต่ 500 บาท ถึง 200,000 บาท

    เมื่อมีการโปรโมตเกมผ่านติ๊กต็อก ทำให้วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน รวมทั้งคนที่ทำอาชีพอิสระ เช่น ไรเดอร์ ออกตามหาเหรียญโดยรวมตัวกันในสถานที่ซึ่งถูกบอกใบ้ว่ามีเหรียญซ่อนอยู่จำนวนมาก และบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือบางคนรื้อสถานที่สาธารณะทั้งต้นไม้ใบหญ้า งัดฝาท่อ งัดอิฐตัวหนอน งัดเก้าอี้ ทรัพย์สินเสียหาย ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชนต่างโดดเรียนเพื่อตามหาเหรียญโดยไม่บอกผู้ปกครอง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายต่อสังคม

    แอปพลิเคชัน Jagat พัฒนาโดยบริษัท JAGAT TECHNOLOGY PTE. LTD. จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ใช้ที่อยู่ในอาคาร OUE Downtown ข้อมูลจาก RocketReach ระบุว่าประธานบริษัทคือ Barry Beagen อยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และซีอีโอคือ Xing Loy อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีพนักงานจำนวน 19 คน จากการค้นหาเว็บไซต์ LinkedIn พบว่าพนักงานมีทั้งอยู่ในอินโดนีเซีย ประเทศจีน (เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน) สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แต่ไม่พบว่าจดทะเบียนหรือประกอบธุรกิจในประเทศไทย

    ที่น่าเป็นห่วงก็คือ จากการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 พบว่าไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง อาทิ การให้เสียเงินจำนวนมากเพื่อบอกคำใบ้ที่ซ่อนเหรียญ เริ่มต้นที่ 149 บาท ถ้าต้องการคำใบ้เพิ่ม ต้องซื้อเพิ่มตั้งแต่ 29 ถึง 300 บาท ซึ่งมีเยาวชนจำนวนมากเสียเงินเพื่อซื้อคำใบ้ ส่วนผู้สื่อข่าวพอพบเหรียญกลับถูกยกเลิกเพราะผู้ดูแลระบบรู้ว่าเป็นผู้สื่อข่าว การเพิ่มเพื่อนที่พบว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลหลายอย่าง อีกฝ่ายสามารถติดตามได้ถ้าเสียเงินสมัครสมาชิก ทั้งการเคลื่อนย้าย พิกัดโลเกชัน การใช้โทรศัพท์ การชาร์จแบตเตอรี แม้กระทั่งการนอนหลับและการตื่นนอน ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับคนที่ประสงค์ร้ายต่อเด็ก

    ล่าสุดพบว่าการโอนเงินรางวัลผ่านทรูวอลเล็ตไม่ใช่บัญชีบริษัท แต่เป็นบุคคลสัญชาติไทย และมีผู้ได้รับเงินรางวัลรายหนึ่ง ไปให้การกับตำรวจไซเบอร์ตามหมายเรียก แล้วถูกผู้ดูแลระบบตัดออกจากเกม

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    เกมเก็บเหรียญ Jagat น่าสงสัยความเสี่ยงสูง Jagat ภาษาอินโดนีเซียแปลว่าจักรวาล ระบุตัวเองว่าเป็นแอปพลิเคชันค้นหาครอบครัวและเพื่อน แต่มีกิจกรรมที่ชื่อว่า Jagat Coin Hunt เปิดให้ทำภารกิจล่าเหรียญเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และเชียงราย โดยนำเหรียญที่จัดทำขึ้นไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่างๆ แล้วให้คนที่เล่นเกมไปตามหาเหรียญบนแผนที่ เปิดระบบตั้งแต่เวลา 08.00-24.00 น. เมื่อพบเหรียญจะต้องกรอกรหัสบนเหรียญ ถ่ายคลิปและภาพนิ่งลงในติ๊กต็อกพร้อมแฮชแท็กที่กำหนด จะได้เงินรางวัลตั้งแต่ 500 บาท ถึง 200,000 บาท เมื่อมีการโปรโมตเกมผ่านติ๊กต็อก ทำให้วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน รวมทั้งคนที่ทำอาชีพอิสระ เช่น ไรเดอร์ ออกตามหาเหรียญโดยรวมตัวกันในสถานที่ซึ่งถูกบอกใบ้ว่ามีเหรียญซ่อนอยู่จำนวนมาก และบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือบางคนรื้อสถานที่สาธารณะทั้งต้นไม้ใบหญ้า งัดฝาท่อ งัดอิฐตัวหนอน งัดเก้าอี้ ทรัพย์สินเสียหาย ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชนต่างโดดเรียนเพื่อตามหาเหรียญโดยไม่บอกผู้ปกครอง ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายต่อสังคม แอปพลิเคชัน Jagat พัฒนาโดยบริษัท JAGAT TECHNOLOGY PTE. LTD. จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ใช้ที่อยู่ในอาคาร OUE Downtown ข้อมูลจาก RocketReach ระบุว่าประธานบริษัทคือ Barry Beagen อยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และซีอีโอคือ Xing Loy อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีพนักงานจำนวน 19 คน จากการค้นหาเว็บไซต์ LinkedIn พบว่าพนักงานมีทั้งอยู่ในอินโดนีเซีย ประเทศจีน (เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน) สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แต่ไม่พบว่าจดทะเบียนหรือประกอบธุรกิจในประเทศไทย ที่น่าเป็นห่วงก็คือ จากการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 พบว่าไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง อาทิ การให้เสียเงินจำนวนมากเพื่อบอกคำใบ้ที่ซ่อนเหรียญ เริ่มต้นที่ 149 บาท ถ้าต้องการคำใบ้เพิ่ม ต้องซื้อเพิ่มตั้งแต่ 29 ถึง 300 บาท ซึ่งมีเยาวชนจำนวนมากเสียเงินเพื่อซื้อคำใบ้ ส่วนผู้สื่อข่าวพอพบเหรียญกลับถูกยกเลิกเพราะผู้ดูแลระบบรู้ว่าเป็นผู้สื่อข่าว การเพิ่มเพื่อนที่พบว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลหลายอย่าง อีกฝ่ายสามารถติดตามได้ถ้าเสียเงินสมัครสมาชิก ทั้งการเคลื่อนย้าย พิกัดโลเกชัน การใช้โทรศัพท์ การชาร์จแบตเตอรี แม้กระทั่งการนอนหลับและการตื่นนอน ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับคนที่ประสงค์ร้ายต่อเด็ก ล่าสุดพบว่าการโอนเงินรางวัลผ่านทรูวอลเล็ตไม่ใช่บัญชีบริษัท แต่เป็นบุคคลสัญชาติไทย และมีผู้ได้รับเงินรางวัลรายหนึ่ง ไปให้การกับตำรวจไซเบอร์ตามหมายเรียก แล้วถูกผู้ดูแลระบบตัดออกจากเกม #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกของกรุงเทพมหานคร เผย กทม. ขยายระยะเวลา WORK FROM HOME ต่อเนื่องไปจนถึง 24 ม.ค. 68 เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นมีแนวโน้มสูงทั้งสัปดาห์ เพื่อลดการเดินทาง ลดปริมาณรถยนต์ในภาคการจราจรซึ่งเป็นต้นตอหนี่งของฝุ่นในกรุงเทพฯ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/qol/detail/9680000006450

    #MGROnline #PM2.5
    โฆษกของกรุงเทพมหานคร เผย กทม. ขยายระยะเวลา WORK FROM HOME ต่อเนื่องไปจนถึง 24 ม.ค. 68 เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นมีแนวโน้มสูงทั้งสัปดาห์ เพื่อลดการเดินทาง ลดปริมาณรถยนต์ในภาคการจราจรซึ่งเป็นต้นตอหนี่งของฝุ่นในกรุงเทพฯ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/qol/detail/9680000006450 • #MGROnline #PM2.5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุคนขับเก๋งไล่ชนไรเดอร์ ร่างอัดกระแทกเสากล้องวงจรปิดเสียชีวิต ย่านสุขุมวิท หลังเกิดเฉี่ยวชนแล้วมีปากเสียงกัน

    วันนี้ (21 ม.ค.) ร.ต.อ.จรินทร์ รัตนสุวรรณชัย รอง สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุ รถเฉี่ยวชนมีผู้เสียชีวิตบริเวณ สุขุมวิท 10 แขวงเขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

    ที่เกิดเหตุอยู่บนฟุตปาธริมถนนสุขุมวิท ระหว่างซอย 8 กับซอย 10 พบร่างคนขับไรเดอร์ สวมเสื้อแขนยาวสีชมพู และกางเกงยีนส์ถูกชน ร่างกระแทกเสากล้องวงจรปิดได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อผู้ตายคือ นายฤทธิศักดิ์ ประคุปตานนท์ อายุ 48 ปี ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ไฟฟ้าสีดำ ทะเบียน 7ขฌ906 กรุงเทพมหานคร สภาพพังเสียหาย

    จากการสอบสวน นายกิตติภูมิ อายุ 48 ปี ไรเดอร์ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เห็นไรเดอร์และรถเก๋งคู่กรณี จอดอยู่เลนขวามีปากเสียงกันอยู่ คาดว่าน่าจะมีปัญหาการเฉี่ยวชนกันเกิดขึ้น ขณะนั้นรถเก๋งดังกล่าว ได้พยายามหลบหนี โดยไรเดอร์ได้ยืนขวางรถไว้ แต่รถเก๋งคันดังกล่าวพยายามจะขับหนี ตัวไรเดอร์จึงได้ทุบรถ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000006496

    #MGROnline #ไรเดอร์ #ขับเก๋งไล่ชน
    เกิดเหตุคนขับเก๋งไล่ชนไรเดอร์ ร่างอัดกระแทกเสากล้องวงจรปิดเสียชีวิต ย่านสุขุมวิท หลังเกิดเฉี่ยวชนแล้วมีปากเสียงกัน • วันนี้ (21 ม.ค.) ร.ต.อ.จรินทร์ รัตนสุวรรณชัย รอง สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุ รถเฉี่ยวชนมีผู้เสียชีวิตบริเวณ สุขุมวิท 10 แขวงเขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง • ที่เกิดเหตุอยู่บนฟุตปาธริมถนนสุขุมวิท ระหว่างซอย 8 กับซอย 10 พบร่างคนขับไรเดอร์ สวมเสื้อแขนยาวสีชมพู และกางเกงยีนส์ถูกชน ร่างกระแทกเสากล้องวงจรปิดได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อผู้ตายคือ นายฤทธิศักดิ์ ประคุปตานนท์ อายุ 48 ปี ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ไฟฟ้าสีดำ ทะเบียน 7ขฌ906 กรุงเทพมหานคร สภาพพังเสียหาย • จากการสอบสวน นายกิตติภูมิ อายุ 48 ปี ไรเดอร์ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เห็นไรเดอร์และรถเก๋งคู่กรณี จอดอยู่เลนขวามีปากเสียงกันอยู่ คาดว่าน่าจะมีปัญหาการเฉี่ยวชนกันเกิดขึ้น ขณะนั้นรถเก๋งดังกล่าว ได้พยายามหลบหนี โดยไรเดอร์ได้ยืนขวางรถไว้ แต่รถเก๋งคันดังกล่าวพยายามจะขับหนี ตัวไรเดอร์จึงได้ทุบรถ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000006496 • #MGROnline #ไรเดอร์ #ขับเก๋งไล่ชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพฯ รายงานค่าฝุ่น PM 2.5 ตรวจวัดได้ 37.6-73 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 70 พื้นที่ เผยระหว่างวันที่ 20-26 ม.ค. การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “ไม่ดี-อ่อน-ดี” ประกอบกับปรากฏการณ์อินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้น ทำให้ฝุ่นสะสมและความเข้มข้นเพิ่มขึ้นเป็นระยะ คาดมีแนวโน้มลดลงในวันที่ 25-26 ม.ค. เนื่องจากการระบายอากาศดีขึ้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/qol/detail/9680000005867

    #MGROnline #กรุงเทพมหานคร #PM2.5 #ฝุ่น
    ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพฯ รายงานค่าฝุ่น PM 2.5 ตรวจวัดได้ 37.6-73 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 70 พื้นที่ เผยระหว่างวันที่ 20-26 ม.ค. การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “ไม่ดี-อ่อน-ดี” ประกอบกับปรากฏการณ์อินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้น ทำให้ฝุ่นสะสมและความเข้มข้นเพิ่มขึ้นเป็นระยะ คาดมีแนวโน้มลดลงในวันที่ 25-26 ม.ค. เนื่องจากการระบายอากาศดีขึ้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/qol/detail/9680000005867 • #MGROnline #กรุงเทพมหานคร #PM2.5 #ฝุ่น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • รับพระราชทาน​ของที่ระลึกในพิธีฉลองพระพุทธรูป​หยกปางสมาธิใหญ่ที่สุดในโลก วัดธรรมมงคล สุขุมวิท101 บางจาก กรุงเทพมหานคร​
    รับพระราชทาน​ของที่ระลึกในพิธีฉลองพระพุทธรูป​หยกปางสมาธิใหญ่ที่สุดในโลก วัดธรรมมงคล สุขุมวิท101 บางจาก กรุงเทพมหานคร​
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • River of Life ฟื้นชีวิตสายน้ำมาเลย์

    กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นอกจากจะมีอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ หรือตึกแฝด ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวแล้ว อีกจุดเช็กอินหนึ่งซึ่งเป็นที่พูดถึง คือ ริเวอร์ ออฟ ไลฟ์ (River of Life) บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek ซึ่งมีมัสยิดเก่าแก่อย่างมัสยิดจาเม็ก ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำสองสาย ได้แก่ แม่น้ำแคลง (Klang River) กับแม่น้ำกอมบัค (Gombak River) ก่อนเข้าสู่รัฐสลังงอร์ ลงสู่ทะเลที่พอร์ตแคลง ท่าเรือน้ำลึกของประเทศ

    โครงการริเวอร์ออฟไลฟ์ ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2555 โดยมีจุดมุ่งหมายเปลี่ยนพื้นที่สาธารณะในเมือง ให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม จากเดิมเป็นเพียงแม่น้ำสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำเน่าเสีย ขยะ และสิ่งสกปรกต่างๆ ได้เปลี่ยนไป โดยการนำน้ำไปผ่านการบำบัดให้มีความสะอาด เพียงพอที่จะสัมผัสต่อร่างกายและการพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมกับสร้างทางเดินเลียบแม่น้ำ ความยาว 8 กิโลเมตร ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ผ่านอาคารและสถานที่น่าสนใจหลายแห่งในเมือง

    แลนด์มาร์คที่สำคัญอยู่ที่เลโบห์ ปาซาร์ เบซาร์ (Leboh Pasar Besar) เชื่อมโยงระหว่างศูนย์กลางการบริหารของรัฐบาลอาณานิคมของอังกฤษที่ฝั่งตะวันตก กับชุมชนการค้าและการทำเหมืองของชาวเอเชียที่ฝั่งตะวันออก เดิมเคยเป็นสะพานไม้ ก่อนแทนที่ด้วยคานเหล็กและสะพานเหล็กหล่อ เป็นสัญลักษณ์ของยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมในพื้นที่ ภายหลังได้รื้อลงมาในปี 2537 เพื่อก่อสร้างสะพานคอนกรีต เมื่อยืนจากสะพานจะมองเห็นแม่น้ำสองสายบรรจบกัน โดยมีมัสยิดจาเม็กอยู่เบื้องหลัง

    ลูกเล่นที่นำมาใช้ในโครงการนี้ ในยามกลางวันจะมีการพ่นละอองน้ำบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำและมัสยิดจาเม็ก ราวกับเมืองในหมอก ส่วนเวลากลางคืนจะฉายไฟแอลอีดีโทนสีฟ้า เพื่อให้สวยงามราวกับเมืองในเทพนิยาย นอกจากนี้ การเข้มงวดกฎระเบียบก็เป็นสิ่งสำคัญ จะเห็นได้ว่าไม่มีขยะในแม่น้ำ ตามทางเดินไม่มีเศษบุหรี่ ไม่มีคนไร้บ้านเข้ามาพักอาศัยหลับนอน ตากเสื้อผ้า ตั้งเพิงพักใต้สะพาน จะมีก็แต่เดินเข้ามาปะปนกับผู้คนที่สัญจรไปมาโดยทั่วไปเท่านั้น

    กลับมาที่กรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมาสมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าฯ กทม. มีการพัฒนาแหล่งน้ำให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ได้แก่ คลองโอ่งอ่าง คลองผดุงกรุงเกษม และคลองช่องนนทรี ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แต่มาถึงสมัยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในปัจจุบันพบว่าแทบไม่ได้รับการสานต่อ ส่วนจุดที่เคยปรับภูมิทัศน์มีสภาพเสื่อมโทรม จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองหลวงประเทศเพื่อนบ้านที่พัฒนาก้าวหน้าแบบทิ้งห่างเช่นนี้

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    River of Life ฟื้นชีวิตสายน้ำมาเลย์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นอกจากจะมีอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ หรือตึกแฝด ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวแล้ว อีกจุดเช็กอินหนึ่งซึ่งเป็นที่พูดถึง คือ ริเวอร์ ออฟ ไลฟ์ (River of Life) บริเวณสถานีรถไฟฟ้า LRT Masjid Jamek ซึ่งมีมัสยิดเก่าแก่อย่างมัสยิดจาเม็ก ที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำสองสาย ได้แก่ แม่น้ำแคลง (Klang River) กับแม่น้ำกอมบัค (Gombak River) ก่อนเข้าสู่รัฐสลังงอร์ ลงสู่ทะเลที่พอร์ตแคลง ท่าเรือน้ำลึกของประเทศ โครงการริเวอร์ออฟไลฟ์ ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2555 โดยมีจุดมุ่งหมายเปลี่ยนพื้นที่สาธารณะในเมือง ให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม จากเดิมเป็นเพียงแม่น้ำสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำเน่าเสีย ขยะ และสิ่งสกปรกต่างๆ ได้เปลี่ยนไป โดยการนำน้ำไปผ่านการบำบัดให้มีความสะอาด เพียงพอที่จะสัมผัสต่อร่างกายและการพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมกับสร้างทางเดินเลียบแม่น้ำ ความยาว 8 กิโลเมตร ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ ผ่านอาคารและสถานที่น่าสนใจหลายแห่งในเมือง แลนด์มาร์คที่สำคัญอยู่ที่เลโบห์ ปาซาร์ เบซาร์ (Leboh Pasar Besar) เชื่อมโยงระหว่างศูนย์กลางการบริหารของรัฐบาลอาณานิคมของอังกฤษที่ฝั่งตะวันตก กับชุมชนการค้าและการทำเหมืองของชาวเอเชียที่ฝั่งตะวันออก เดิมเคยเป็นสะพานไม้ ก่อนแทนที่ด้วยคานเหล็กและสะพานเหล็กหล่อ เป็นสัญลักษณ์ของยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมในพื้นที่ ภายหลังได้รื้อลงมาในปี 2537 เพื่อก่อสร้างสะพานคอนกรีต เมื่อยืนจากสะพานจะมองเห็นแม่น้ำสองสายบรรจบกัน โดยมีมัสยิดจาเม็กอยู่เบื้องหลัง ลูกเล่นที่นำมาใช้ในโครงการนี้ ในยามกลางวันจะมีการพ่นละอองน้ำบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำและมัสยิดจาเม็ก ราวกับเมืองในหมอก ส่วนเวลากลางคืนจะฉายไฟแอลอีดีโทนสีฟ้า เพื่อให้สวยงามราวกับเมืองในเทพนิยาย นอกจากนี้ การเข้มงวดกฎระเบียบก็เป็นสิ่งสำคัญ จะเห็นได้ว่าไม่มีขยะในแม่น้ำ ตามทางเดินไม่มีเศษบุหรี่ ไม่มีคนไร้บ้านเข้ามาพักอาศัยหลับนอน ตากเสื้อผ้า ตั้งเพิงพักใต้สะพาน จะมีก็แต่เดินเข้ามาปะปนกับผู้คนที่สัญจรไปมาโดยทั่วไปเท่านั้น กลับมาที่กรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมาสมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าฯ กทม. มีการพัฒนาแหล่งน้ำให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ได้แก่ คลองโอ่งอ่าง คลองผดุงกรุงเกษม และคลองช่องนนทรี ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แต่มาถึงสมัยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในปัจจุบันพบว่าแทบไม่ได้รับการสานต่อ ส่วนจุดที่เคยปรับภูมิทัศน์มีสภาพเสื่อมโทรม จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองหลวงประเทศเพื่อนบ้านที่พัฒนาก้าวหน้าแบบทิ้งห่างเช่นนี้ #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10 ปี สิ้นวีรบุรุษสะพานมัฆวาน “บิ๊กซัน” พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก มือปราบกบฏยังเติร์ก

    ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ประเทศไทยได้สูญเสียบุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์การเมือง และการทหารของชาติไป นั่นคือ พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก หรือที่สื่อมวลชนขนานนามว่า “บิ๊กซัน” วีรบุรุษสะพานมัฆวาน ผู้ซึ่งเป็นกำลังสำคัญ ในการปกป้องระบอบประชาธิปไตย และปราบกบฏยังเติร์ก อย่างกล้าหาญ

    พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก เกิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468 ณ กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของ ร้อยตรีพิณ กำลังเอก และนางสาคร กำลังเอก ชีวิตในวัยเด็ก เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และพยายามในการศึกษา

    การศึกษาของพลเอกอาทิตย์ เริ่มต้นที่โรงเรียนพรหมวิทยามูล ก่อนจะเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร (ปัจจุบันคือโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร) และสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร

    ด้วยความฝันที่จะเป็นทหาร จึงได้เข้าศึกษาใน โรงเรียนเตรียมทหารบก รุ่นที่ 5 (ตทบ. 5) ระหว่างปี พ.ศ. 2487–2491 โดยรุ่นเดียวกันนี้ยังมีเพื่อนร่วมรุ่นสำคัญ อาทิ พลเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ และพลเอกบรรจบ บุนนาค

    วีรบุรุษสะพานมัฆวาน ช่วงเวลาแห่งการสร้างตำนาน
    หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ ที่ทำให้ชื่อของพลเอกอาทิตย์โดดเด่นคือ การประท้วงใหญ่ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประชาชนรวมตัวกัน เดินขบวนประท้วงการเลือกตั้ง ที่ถูกมองว่าไม่โปร่งใส

    ในขณะนั้น พลเอกอาทิตย์มียศเพียงร้อยเอก และเป็นหนึ่งในทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ตามคำสั่งของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งได้สั่งห้ามทหาร ทำร้ายประชาชน โดยเด็ดขาด

    การเปิดสะพานมัฆวานรังสรรค์ ให้ขบวนประท้วง เดินผ่านไปยังทำเนียบรัฐบาล ได้โดยสงบ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่แสดงถึงความเป็นผู้นำ และการใช้เหตุผลเหนือกำลังอาวุธ

    กบฏยังเติร์ก บทบาทผู้นำในช่วงวิกฤต
    อีกเหตุการณ์ ที่ทำให้ชื่อของพลเอกอาทิตย์ ได้รับการยกย่องคือ การเข้าร่วมปราบ กบฏยังเติร์ก หรือ กบฏเมษาฮาวาย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1–3 เมษายน พ.ศ. 2524

    กลุ่มกบฏซึ่งส่วนใหญ่ เป็นนายทหารรุ่น “จปร. 7” มีเป้าหมายที่จะยึดอำนาจ จากรัฐบาลนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ โดยการเคลื่อนกำลังทหารถึง 42 กองพัน ถือว่าเป็นความพยายามรัฐประหาร ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย

    ในขณะนั้น พลเอกอาทิตย์ ดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 2 และเป็นกำลังสำคัญ ในการปฏิบัติการตอบโต้กลุ่มกบฏ โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชน และความไว้วางใจจากพลเอกเปรม

    ผลลัพธ์ของกบฏ
    การก่อกบฏสิ้นสุดลง โดยไม่มีการต่อสู้อย่างรุนแรง ฝ่ายรัฐบาล ภายใต้การนำของพลเอกเปรมสามารถจัดการสถานการณ์ ได้อย่างรวดเร็ว และกลุ่มกบฏ ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ

    บทบาทของพลเอกอาทิตย์ในครั้งนี้ ส่งผลให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และในเวลาต่อมาได้เป็น ผู้บัญชาการทหารบก

    ความสัมพันธ์กับพลเอกเปรม จากมิตรสู่ความขัดแย้ง
    ในช่วงที่พลเอกเปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พลเอกอาทิตย์ ได้รับการสนับสนุนอย่างมาก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง กลับตึงเครียดในช่วงปี พ.ศ. 2527 เมื่อพลเอกอาทิตย์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล

    ความขัดแย้งดังกล่าว นำไปสู่การที่พลเอกอาทิตย์ ถูกปลดจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบก ในปี พ.ศ. 2529 ท่ามกลางกระแสการเมือง ที่ร้อนแรง

    หลังเกษียณ ชีวิตในวงการการเมือง
    หลังจากเกษียณราชการ พลเอกอาทิตย์ได้เข้าสู่การเมือง โดยการก่อตั้ง พรรคปวงชนชาวไทย และได้รับการแต่งตั้งเป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ

    อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายชีวิตทางการเมือง กลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยเฉพาะในช่วงเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ (พ.ศ. 2535)

    การจากไปของ “บิ๊กซัน”
    พลเอกอาทิตย์ป่วยเรื้อรัง จากอาการติดเชื้อในปอด และเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเป็นเวลานาน จนกระทั่งถึงแก่อนิจกรรม เมื่อเวลา 06.20 น. ของวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ด้วยวัย 89 ปี

    พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญ ต่อประวัติศาสตร์ไทย ในหลายด้าน ทั้งในฐานะนักปกป้องประชาธิปไตย วีรบุรุษสะพานมัฆวาน และผู้นำในช่วงวิกฤตการณ์การเมือง

    แม้จะมีช่วงเวลา ที่ขัดแย้งกับผู้มีอำนาจทางการเมือง แต่ความมุ่งมั่นในหน้าที่ และความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยังคงทำให้ชื่อของบิ๊กซัน เป็นที่จดจำ

    🎖️ ความทรงจำที่ไม่มีวันลบเลือน! 🎖️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 190919 ม.ค. 2568

    #บิ๊กซัน #อาทิตย์กำลังเอก #วีรบุรุษสะพานมัฆวาน #กบฏยังเติร์ก #ประวัติศาสตร์ไทย #ผู้นำแห่งชาติ #ไทยในอดีต #การเมืองไทย #กองทัพไทย #10ปีแห่งการจากไป
    10 ปี สิ้นวีรบุรุษสะพานมัฆวาน “บิ๊กซัน” พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก มือปราบกบฏยังเติร์ก ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ประเทศไทยได้สูญเสียบุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลในประวัติศาสตร์การเมือง และการทหารของชาติไป นั่นคือ พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก หรือที่สื่อมวลชนขนานนามว่า “บิ๊กซัน” วีรบุรุษสะพานมัฆวาน ผู้ซึ่งเป็นกำลังสำคัญ ในการปกป้องระบอบประชาธิปไตย และปราบกบฏยังเติร์ก อย่างกล้าหาญ พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก เกิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468 ณ กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของ ร้อยตรีพิณ กำลังเอก และนางสาคร กำลังเอก ชีวิตในวัยเด็ก เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และพยายามในการศึกษา การศึกษาของพลเอกอาทิตย์ เริ่มต้นที่โรงเรียนพรหมวิทยามูล ก่อนจะเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร (ปัจจุบันคือโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร) และสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร ด้วยความฝันที่จะเป็นทหาร จึงได้เข้าศึกษาใน โรงเรียนเตรียมทหารบก รุ่นที่ 5 (ตทบ. 5) ระหว่างปี พ.ศ. 2487–2491 โดยรุ่นเดียวกันนี้ยังมีเพื่อนร่วมรุ่นสำคัญ อาทิ พลเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ และพลเอกบรรจบ บุนนาค วีรบุรุษสะพานมัฆวาน ช่วงเวลาแห่งการสร้างตำนาน หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ ที่ทำให้ชื่อของพลเอกอาทิตย์โดดเด่นคือ การประท้วงใหญ่ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประชาชนรวมตัวกัน เดินขบวนประท้วงการเลือกตั้ง ที่ถูกมองว่าไม่โปร่งใส ในขณะนั้น พลเอกอาทิตย์มียศเพียงร้อยเอก และเป็นหนึ่งในทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ตามคำสั่งของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งได้สั่งห้ามทหาร ทำร้ายประชาชน โดยเด็ดขาด การเปิดสะพานมัฆวานรังสรรค์ ให้ขบวนประท้วง เดินผ่านไปยังทำเนียบรัฐบาล ได้โดยสงบ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่แสดงถึงความเป็นผู้นำ และการใช้เหตุผลเหนือกำลังอาวุธ กบฏยังเติร์ก บทบาทผู้นำในช่วงวิกฤต อีกเหตุการณ์ ที่ทำให้ชื่อของพลเอกอาทิตย์ ได้รับการยกย่องคือ การเข้าร่วมปราบ กบฏยังเติร์ก หรือ กบฏเมษาฮาวาย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1–3 เมษายน พ.ศ. 2524 กลุ่มกบฏซึ่งส่วนใหญ่ เป็นนายทหารรุ่น “จปร. 7” มีเป้าหมายที่จะยึดอำนาจ จากรัฐบาลนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ โดยการเคลื่อนกำลังทหารถึง 42 กองพัน ถือว่าเป็นความพยายามรัฐประหาร ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย ในขณะนั้น พลเอกอาทิตย์ ดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 2 และเป็นกำลังสำคัญ ในการปฏิบัติการตอบโต้กลุ่มกบฏ โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชน และความไว้วางใจจากพลเอกเปรม ผลลัพธ์ของกบฏ การก่อกบฏสิ้นสุดลง โดยไม่มีการต่อสู้อย่างรุนแรง ฝ่ายรัฐบาล ภายใต้การนำของพลเอกเปรมสามารถจัดการสถานการณ์ ได้อย่างรวดเร็ว และกลุ่มกบฏ ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ บทบาทของพลเอกอาทิตย์ในครั้งนี้ ส่งผลให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และในเวลาต่อมาได้เป็น ผู้บัญชาการทหารบก ความสัมพันธ์กับพลเอกเปรม จากมิตรสู่ความขัดแย้ง ในช่วงที่พลเอกเปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พลเอกอาทิตย์ ได้รับการสนับสนุนอย่างมาก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง กลับตึงเครียดในช่วงปี พ.ศ. 2527 เมื่อพลเอกอาทิตย์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ความขัดแย้งดังกล่าว นำไปสู่การที่พลเอกอาทิตย์ ถูกปลดจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบก ในปี พ.ศ. 2529 ท่ามกลางกระแสการเมือง ที่ร้อนแรง หลังเกษียณ ชีวิตในวงการการเมือง หลังจากเกษียณราชการ พลเอกอาทิตย์ได้เข้าสู่การเมือง โดยการก่อตั้ง พรรคปวงชนชาวไทย และได้รับการแต่งตั้งเป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายชีวิตทางการเมือง กลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยเฉพาะในช่วงเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ (พ.ศ. 2535) การจากไปของ “บิ๊กซัน” พลเอกอาทิตย์ป่วยเรื้อรัง จากอาการติดเชื้อในปอด และเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเป็นเวลานาน จนกระทั่งถึงแก่อนิจกรรม เมื่อเวลา 06.20 น. ของวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ด้วยวัย 89 ปี พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญ ต่อประวัติศาสตร์ไทย ในหลายด้าน ทั้งในฐานะนักปกป้องประชาธิปไตย วีรบุรุษสะพานมัฆวาน และผู้นำในช่วงวิกฤตการณ์การเมือง แม้จะมีช่วงเวลา ที่ขัดแย้งกับผู้มีอำนาจทางการเมือง แต่ความมุ่งมั่นในหน้าที่ และความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยังคงทำให้ชื่อของบิ๊กซัน เป็นที่จดจำ 🎖️ ความทรงจำที่ไม่มีวันลบเลือน! 🎖️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 190919 ม.ค. 2568 #บิ๊กซัน #อาทิตย์กำลังเอก #วีรบุรุษสะพานมัฆวาน #กบฏยังเติร์ก #ประวัติศาสตร์ไทย #ผู้นำแห่งชาติ #ไทยในอดีต #การเมืองไทย #กองทัพไทย #10ปีแห่งการจากไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 23 ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร...
    ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 23 ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร...
    Like
    Sad
    Yay
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1021 มุมมอง 67 0 รีวิว
Pages Boosts