• ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร (4 มี.ค.) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    เอเอฟพีรายงานวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆ เป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้บริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
    .
    ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯ รายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์
    .
    นอกจากนี้ กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ต่อผลประโยชน์ของ 'ฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์' (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆ ในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆ ภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์
    .
    ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ตท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯ หรือไม่
    .
    เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า
    .
    “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)”
    .
    และเสริมว่า
    .
    “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย เช่น เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง”
    .
    เอเอฟพีรายงานต่อว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ปลายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน
    .
    แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ
    .
    เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฏิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯ กลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯ เป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้เจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021234
    ..............
    Sondhi X
    ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร (4 มี.ค.) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . เอเอฟพีรายงานวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆ เป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้บริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ . ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯ รายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์ . นอกจากนี้ กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์ . CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ต่อผลประโยชน์ของ 'ฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์' (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆ ในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆ ภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ . ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ตท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯ หรือไม่ . เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า . “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)” . และเสริมว่า . “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย เช่น เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง” . เอเอฟพีรายงานต่อว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ปลายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน . แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ . เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฏิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯ กลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯ เป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้เจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021234 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    Sad
    Angry
    10
    0 Comments 0 Shares 1058 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์สั่ง “ระงับ” ความช่วยเหลือยูเครนเพื่อบีบเซเลนสกีร่วมเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย ลั่นไม่อดทนกับผู้นำเคียฟอีกต่อไป ด้านรองประธานาธิบดีแวนซ์ก็สำทับวิพากษ์วิจารณ์ยุโรปกำลังทำให้ยูเครนตกอยู่ในอันตรายด้วยการไม่กดดันให้เซเลนสกีหาทางยุติสงคราม แต่กลับสนับสนุนให้เคียฟสู้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่ทางยูเครนแถลงวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า กองทหารของตนซึ่งกำลังสู้รบกับฝ่ายรัสเซียอยู่ ยังสามารถรักษาสถานการณ์ในสมรภูมิเอาไว้ได้ด้วยตัวเอง
    .
    ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นหลังการประชุมที่กลายเป็นการปะทะคารมอย่างดุเดือด ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) ที่ผ่านมา โดยที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ รุมทึ้งโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่ไม่ยินยอมเข้าเจรจาสร้างสันติภาพกับรัสเซียโดยรวดเร็ว รวมทั้งกล่าวหาประธานาธิบดียูเครน ไม่เคารพและไม่สำนึกบุญคุณอเมริกาอย่างเพียงพอ ทั้งที่สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือทางทหารเป็นจำนวนมหาศาลนับจากเคียฟถูกรัสเซียรุกรานเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
    .
    ในวันจันทร์ (3) สื่อต่างๆ พากันรายงานข่าวโดยอ้างเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผย ว่า ทรัมป์เวลานี้โฟกัสอยู่ที่การทำให้บรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และต้องการให้เซเลนสกีมุ่งมั่นกับเป้าหมายเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยังระบุด้วยว่า ขณะนี้อเมริกาได้ระงับเพื่อดำเนินการทบทวนความช่วยเหลือที่ให้แก่ยูเครนแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าวัตถุประสงค์ของทรัมป์ดังกล่าวข้างต้นจะบรรลุผล โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้จนกว่าทรัมป์จะตัดสินใจว่า ยูเครนแสดงความมุ่งมั่นในการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย
    .
    ความเคลื่อนไหวคราวนี้มีความร้ายแรงยิ่งกว่าที่ทรัมป์ประกาศตอนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวเสียอีก โดยในตอนนั้นเป็นการระบุว่าสหรัฐฯ จะไม่ให้ความช่วยเหลือใหม่ๆ แก่ยูเครน แต่สำหรับคำสั่งล่าสุดนี้เป็นการระงับการจัดส่งอาวุธที่รวมถึงกระสุนและขีปนาวุธ ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้ว แต่ยังอยู่ในกระบวนการจัดหาและจัดส่ง
    .
    ทางด้านสมาชิกพรรคเดโมแครตในรัฐสภาสหรัฐฯ ออกมาแสดงปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วด้วยการประณามการตัดสินใจครั้งนี้ของทรัมป์ เป็นต้นว่า ส.ว. จีน ชาฮีน ซึ่งเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภา ตำหนิว่า การระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเท่ากับว่า ทรัมป์เปิดกว้างให้ปูตินรุกรานและกระทำรุนแรงต่อประชาชนยูเครนหนักข้อขึ้นซึ่งจะส่งผลร้ายแรงอย่างไม่ต้องสงสัย
    .
    ทรัมป์ที่ประกาศระหว่างหาเสียงว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งนั้น แสดงความไม่พอใจเซเลนสกีมากขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องที่ยังคงต้องทำสงครามต่อไป ขณะเดียวกันเขาก็แสดงความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียจะรักษาสันติภาพ หากบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับฝ่ายยูเครน
    .
    หลังจากที่สื่อรายงานว่า เซเลนสกีที่ให้สัมภาษณ์พวกผู้สื่อข่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (2) ว่า น่าจะอีกนานมากกว่าที่สงครามจะยุติ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเจรจาข้อตกลง ทรัมป์ก็อยู่ในอาการฟิวส์ขาด ระบุว่า เป็นคำพูดที่แย่ที่สุดของประธานาธิบดียูเครน และอเมริกาจะไม่อดทนอีกต่อไป
    .
    ด้านเซเลนสกีพยายามอธิบายผ่านโซเชียลมีเดียว่า ยูเครนกำลังพยายามดำเนินมาตรการทางการทูตเพื่อให้สงครามยุติลงโดยเร็วที่สุด และย้ำว่า ยูเครนต้องการสันติภาพที่แท้จริงและการรับประกันความมั่นคง ทว่า ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้การรับประกันดังกล่าวมาโดยตลอด
    .
    ในส่วนของ แวนซ์ เขากล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อทีวีฟ็อกซ์ นิวส์ที่ ออกอากาศช่วงค่ำวันจันทร์ว่า พันธมิตรยุโรปกำลังทำให้ยูเครนตกอยู่ในอันตรายด้วยการไม่กดดันให้เซเลนสกีหาทางยุติสงคราม แต่กลับสนับสนุนให้ยูเครนสู้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด คำถามคือยูเครนจะเอาเงินและอาวุธจากไหนมาสู้ และจะต้องแลกด้วยชีวิตใครบ้าง
    .
    อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า ข้อตกลงลงทุนในแร่ธาตุของยูเครนยังมีทางสามารถบรรลุผลได้ และเขาจะอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดคืนวันอังคาร (4 มี.ค.) ระหว่างแถลงต่อการประชุมร่วมของรัฐสภาสหรัฐฯ
    .
    เกี่ยวกับข้อตกลงฉบับนี้ คณะบริหารทรัมป์ มองว่า มันคือค่าชดเชยที่อเมริกาควรได้รับจากการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและการทหารแก่เคียฟหลายแสนล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
    .
    ขณะที่แวนซ์กล่าวผ่านฟ็อกซ์ นิวส์ว่า ถ้าเซเลนสกีต้องการการรับประกันความมั่นคง และอยากมั่นใจว่า ปูตินจะไม่รุกรานยูเครนอีก การเปิดทางให้เศรษฐกิจอเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วมในอนาคตของยูเครนคือการรับประกันที่ดีที่สุด
    .
    ยูเครนโวยังมีหนทางประคองสถานการณ์ที่แนวหน้า
    .
    ในวันอังคาร (4) ภายหลังรายงานข่าวเรื่องสหรัฐฯ ระงับการส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนแพร่ออกไป นายกรัฐมนตรี เดนิส ชมีฮัล ของยูเครน ออกมาแถลงว่า เคียฟยังคงมีหนทางที่จะส่งกำลังบำรุงให้แก่กองทหารของตนเอง “กองทัพของเราและรัฐบาลมีสมรรถนะ มีเครื่องมือ พูดได้ว่าอย่างนั้น ที่จะประคองสถานการณ์ในแนวหน้าเอาไว้” เขากล่าว
    .
    ชมีฮัล ยังกล่าวขอบคุณสหรัฐฯ และย้ำว่ายูเครนต้องการความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย
    .
    “เราจะยังคงทำงานกับสหรัฐฯ ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวงด้วยความสงบสุขุม” เขากล่าวในการแถลงข่าว “เรามีแผนการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือเพื่อชัยชนะและเพื่อความอยู่รอด เราจะชนะหรือไม่ยังงัยก็จะต้องเจอกับแผนบี ซึ่งถูกเขียนขึ้นมาโดยคนอื่นๆ”
    .
    สำหรับตัวเซเลนสกีเองนั้น เก็บตัวค่อนข้างเงียบเชียบ จนกระทั่งถึงบ่ายวันอังคารในกรุงเคียฟ สิ่งที่เขาแถลงต่อสาธารณชนก็มีเพียงว่าเขาได้พูดจากับ ฟรีดริช เมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี พร้อมกับเน้นย้ำถึงความช่วยเหลือทั้งทางทหารและทางการเงินที่ได้รับจากเยอรมนี
    .
    “เราจักจดจำไว้ว่าเยอรมนีคือผู้นำในเรื่องการจัดหาจัดส่งระบบการป้องกันภัยทางอากาศให้แก่ยูเครน และแสดงบทบาทที่สำคัญยิ่งยวดในการรับประกันเสถียรภาพทางการเงินของเรา” เขาโพสต์ข้อความเช่นนี้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ภายหลังคุยโทรศัพท์กับเมร์ซ
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง พวกผู้เชี่ยวชาญทางทหารของฝ่ายตะวันตกบอกว่า อาจจะกินเวลาไปอีกระยะหนึ่งกว่าที่ผลกระทบจากการถูกตัดขาดความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ จะเป็นที่รู้สึกกัน ทั้งนี้เมื่อตอนที่งบประมาณความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ถูกแขวนเอาไว้เป็นเวลาหลายเดือนทีเดียวในปีที่แล้ว โดยฝีมือของพวกสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาล่าง ผลกระทบเบื้องต้นที่รู้สึกกันมากที่สุดคือการขาดแคลนอาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่จะสามารถสอยขีปนาวุธและโดรนของฝ่ายรัสเซีย ถึงแม้ในเวลาต่อมาทางกองทหารยูเครนร้องเรียนว่าพวกเครื่องกระสุนต่างๆ ในแนวน้าร่อยหรอลงไปมาก
    .
    “มันมีความสำคัญมากทีเดียว ทว่าไม่ได้ใกล้เคียงกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นถ้าหากมันเป็นช่วงก่อนหน้านี้ของสงคราม เพราะยูเครนเวลานี้ต้องพึ่งพาอาศัยความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ โดยตรง ลดน้อยลงไปมากแล้ว” เป็นความเห็นของไมเคิล คอฟแมน นักวิจัยอาวุโสของคาร์เนกี เอนดาวเมนต์
    .
    ผลกระทบต่อพันธมิตรในยุโรปของสหรัฐฯ
    .
    การที่สหรัฐฯ ระงับจัดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนคราวนี้ เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อพวกชาติพันธมิตรในยุโรปของสหรัฐฯ โดยที่ชาติเหล่านี้เองได้แสดงท่าทีออกมาปลอบขวัญโอบอุ้มเซเลนสกีอย่างเปิดเผยภายหลังจากเหตุการณ์ปะทะคารมเดือดที่ทำเนียบขาว
    .
    มีรายงานว่าเวลานี้ยุโรปกำลังเร่งรีบเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายทางทหารของพวกเขาเอง และในวันอังคาร (4) อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป ได้เปิดเผยข้อเสนอต่างๆ ที่มุ่งเพิ่มพูนการใช้จ่ายทางทหารในอียู ซึ่งเธอกล่าวว่าอาจจะระดมเงินในเรื่องนี้ออกมาได้สูงถึง 800,000 ล้านยูโร (840,000 ล้านดอลลาร์) กันทีเดียว ทั้งนี้อียูมีกำหนดจัดการประชุมฉุกเฉินในเรื่องเกี่ยวกับยูเครนในวันพฤหัสบดี (6) นี้
    .
    ในฝรั่งเศส เบนจามิน ฮัดดัด รัฐมนตรีช่วยดูแลด้านยุโรป ได้ออกมากล่าวประณามการระงับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ คราวนี้ โดยกล่าวว่ามันทำให้สันติภาพ “ห่างไกลออกไปมากขึ้น เพราะมันมีแต่ทำให้เงื้อมมือของผู้รุกราน ... ซึ่งก็คือรัสเซีย เข้มแข็งยิ่งขึ้น”
    .
    ขณะที่สหราชอาณาจักร ซึ่งแสดงทีท่าต้องการดึงให้คณะบริหารทรัมป์ยังคงอยู่ข้างๆ ตัว ไม่แตกแถวออกไปไกลกว่านี้ แสดงท่าทีสุขุมรอบคอบยิ่งกว่า โดยที่นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ได้พูดจาทางโทรศัพท์กับทรัมป์ในคืนวันจันทร์ (3) ตามการแถลงของโฆษกผู้หนึ่งของสตาร์เมอร์ แต่ไม่ได้ระบุว่าทรมป์ได้เอ่ยถึงเรื่องการระงับความช่วยเหลือนี้หรือไม่
    .
    “ท่านนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังโฟกัสอยู่ที่ผลลัพธ์อย่างเดียวกัน นั่นคือการทำให้เกิดสันติภาพที่มั่นคงและยั่งยืนขึ้นมาในยูเครน” โฆษกผู้นี้บอก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021233
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์สั่ง “ระงับ” ความช่วยเหลือยูเครนเพื่อบีบเซเลนสกีร่วมเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย ลั่นไม่อดทนกับผู้นำเคียฟอีกต่อไป ด้านรองประธานาธิบดีแวนซ์ก็สำทับวิพากษ์วิจารณ์ยุโรปกำลังทำให้ยูเครนตกอยู่ในอันตรายด้วยการไม่กดดันให้เซเลนสกีหาทางยุติสงคราม แต่กลับสนับสนุนให้เคียฟสู้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่ทางยูเครนแถลงวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า กองทหารของตนซึ่งกำลังสู้รบกับฝ่ายรัสเซียอยู่ ยังสามารถรักษาสถานการณ์ในสมรภูมิเอาไว้ได้ด้วยตัวเอง . ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นหลังการประชุมที่กลายเป็นการปะทะคารมอย่างดุเดือด ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) ที่ผ่านมา โดยที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ รุมทึ้งโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่ไม่ยินยอมเข้าเจรจาสร้างสันติภาพกับรัสเซียโดยรวดเร็ว รวมทั้งกล่าวหาประธานาธิบดียูเครน ไม่เคารพและไม่สำนึกบุญคุณอเมริกาอย่างเพียงพอ ทั้งที่สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือทางทหารเป็นจำนวนมหาศาลนับจากเคียฟถูกรัสเซียรุกรานเมื่อ 3 ปีที่แล้ว . ในวันจันทร์ (3) สื่อต่างๆ พากันรายงานข่าวโดยอ้างเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผย ว่า ทรัมป์เวลานี้โฟกัสอยู่ที่การทำให้บรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และต้องการให้เซเลนสกีมุ่งมั่นกับเป้าหมายเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยังระบุด้วยว่า ขณะนี้อเมริกาได้ระงับเพื่อดำเนินการทบทวนความช่วยเหลือที่ให้แก่ยูเครนแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าวัตถุประสงค์ของทรัมป์ดังกล่าวข้างต้นจะบรรลุผล โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้จนกว่าทรัมป์จะตัดสินใจว่า ยูเครนแสดงความมุ่งมั่นในการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย . ความเคลื่อนไหวคราวนี้มีความร้ายแรงยิ่งกว่าที่ทรัมป์ประกาศตอนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวเสียอีก โดยในตอนนั้นเป็นการระบุว่าสหรัฐฯ จะไม่ให้ความช่วยเหลือใหม่ๆ แก่ยูเครน แต่สำหรับคำสั่งล่าสุดนี้เป็นการระงับการจัดส่งอาวุธที่รวมถึงกระสุนและขีปนาวุธ ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้ว แต่ยังอยู่ในกระบวนการจัดหาและจัดส่ง . ทางด้านสมาชิกพรรคเดโมแครตในรัฐสภาสหรัฐฯ ออกมาแสดงปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วด้วยการประณามการตัดสินใจครั้งนี้ของทรัมป์ เป็นต้นว่า ส.ว. จีน ชาฮีน ซึ่งเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภา ตำหนิว่า การระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเท่ากับว่า ทรัมป์เปิดกว้างให้ปูตินรุกรานและกระทำรุนแรงต่อประชาชนยูเครนหนักข้อขึ้นซึ่งจะส่งผลร้ายแรงอย่างไม่ต้องสงสัย . ทรัมป์ที่ประกาศระหว่างหาเสียงว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งนั้น แสดงความไม่พอใจเซเลนสกีมากขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องที่ยังคงต้องทำสงครามต่อไป ขณะเดียวกันเขาก็แสดงความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียจะรักษาสันติภาพ หากบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับฝ่ายยูเครน . หลังจากที่สื่อรายงานว่า เซเลนสกีที่ให้สัมภาษณ์พวกผู้สื่อข่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (2) ว่า น่าจะอีกนานมากกว่าที่สงครามจะยุติ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเจรจาข้อตกลง ทรัมป์ก็อยู่ในอาการฟิวส์ขาด ระบุว่า เป็นคำพูดที่แย่ที่สุดของประธานาธิบดียูเครน และอเมริกาจะไม่อดทนอีกต่อไป . ด้านเซเลนสกีพยายามอธิบายผ่านโซเชียลมีเดียว่า ยูเครนกำลังพยายามดำเนินมาตรการทางการทูตเพื่อให้สงครามยุติลงโดยเร็วที่สุด และย้ำว่า ยูเครนต้องการสันติภาพที่แท้จริงและการรับประกันความมั่นคง ทว่า ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้การรับประกันดังกล่าวมาโดยตลอด . ในส่วนของ แวนซ์ เขากล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อทีวีฟ็อกซ์ นิวส์ที่ ออกอากาศช่วงค่ำวันจันทร์ว่า พันธมิตรยุโรปกำลังทำให้ยูเครนตกอยู่ในอันตรายด้วยการไม่กดดันให้เซเลนสกีหาทางยุติสงคราม แต่กลับสนับสนุนให้ยูเครนสู้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด คำถามคือยูเครนจะเอาเงินและอาวุธจากไหนมาสู้ และจะต้องแลกด้วยชีวิตใครบ้าง . อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า ข้อตกลงลงทุนในแร่ธาตุของยูเครนยังมีทางสามารถบรรลุผลได้ และเขาจะอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดคืนวันอังคาร (4 มี.ค.) ระหว่างแถลงต่อการประชุมร่วมของรัฐสภาสหรัฐฯ . เกี่ยวกับข้อตกลงฉบับนี้ คณะบริหารทรัมป์ มองว่า มันคือค่าชดเชยที่อเมริกาควรได้รับจากการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและการทหารแก่เคียฟหลายแสนล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา . ขณะที่แวนซ์กล่าวผ่านฟ็อกซ์ นิวส์ว่า ถ้าเซเลนสกีต้องการการรับประกันความมั่นคง และอยากมั่นใจว่า ปูตินจะไม่รุกรานยูเครนอีก การเปิดทางให้เศรษฐกิจอเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วมในอนาคตของยูเครนคือการรับประกันที่ดีที่สุด . ยูเครนโวยังมีหนทางประคองสถานการณ์ที่แนวหน้า . ในวันอังคาร (4) ภายหลังรายงานข่าวเรื่องสหรัฐฯ ระงับการส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนแพร่ออกไป นายกรัฐมนตรี เดนิส ชมีฮัล ของยูเครน ออกมาแถลงว่า เคียฟยังคงมีหนทางที่จะส่งกำลังบำรุงให้แก่กองทหารของตนเอง “กองทัพของเราและรัฐบาลมีสมรรถนะ มีเครื่องมือ พูดได้ว่าอย่างนั้น ที่จะประคองสถานการณ์ในแนวหน้าเอาไว้” เขากล่าว . ชมีฮัล ยังกล่าวขอบคุณสหรัฐฯ และย้ำว่ายูเครนต้องการความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย . “เราจะยังคงทำงานกับสหรัฐฯ ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวงด้วยความสงบสุขุม” เขากล่าวในการแถลงข่าว “เรามีแผนการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือเพื่อชัยชนะและเพื่อความอยู่รอด เราจะชนะหรือไม่ยังงัยก็จะต้องเจอกับแผนบี ซึ่งถูกเขียนขึ้นมาโดยคนอื่นๆ” . สำหรับตัวเซเลนสกีเองนั้น เก็บตัวค่อนข้างเงียบเชียบ จนกระทั่งถึงบ่ายวันอังคารในกรุงเคียฟ สิ่งที่เขาแถลงต่อสาธารณชนก็มีเพียงว่าเขาได้พูดจากับ ฟรีดริช เมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี พร้อมกับเน้นย้ำถึงความช่วยเหลือทั้งทางทหารและทางการเงินที่ได้รับจากเยอรมนี . “เราจักจดจำไว้ว่าเยอรมนีคือผู้นำในเรื่องการจัดหาจัดส่งระบบการป้องกันภัยทางอากาศให้แก่ยูเครน และแสดงบทบาทที่สำคัญยิ่งยวดในการรับประกันเสถียรภาพทางการเงินของเรา” เขาโพสต์ข้อความเช่นนี้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ภายหลังคุยโทรศัพท์กับเมร์ซ . ในอีกด้านหนึ่ง พวกผู้เชี่ยวชาญทางทหารของฝ่ายตะวันตกบอกว่า อาจจะกินเวลาไปอีกระยะหนึ่งกว่าที่ผลกระทบจากการถูกตัดขาดความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ จะเป็นที่รู้สึกกัน ทั้งนี้เมื่อตอนที่งบประมาณความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ถูกแขวนเอาไว้เป็นเวลาหลายเดือนทีเดียวในปีที่แล้ว โดยฝีมือของพวกสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาล่าง ผลกระทบเบื้องต้นที่รู้สึกกันมากที่สุดคือการขาดแคลนอาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่จะสามารถสอยขีปนาวุธและโดรนของฝ่ายรัสเซีย ถึงแม้ในเวลาต่อมาทางกองทหารยูเครนร้องเรียนว่าพวกเครื่องกระสุนต่างๆ ในแนวน้าร่อยหรอลงไปมาก . “มันมีความสำคัญมากทีเดียว ทว่าไม่ได้ใกล้เคียงกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นถ้าหากมันเป็นช่วงก่อนหน้านี้ของสงคราม เพราะยูเครนเวลานี้ต้องพึ่งพาอาศัยความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ โดยตรง ลดน้อยลงไปมากแล้ว” เป็นความเห็นของไมเคิล คอฟแมน นักวิจัยอาวุโสของคาร์เนกี เอนดาวเมนต์ . ผลกระทบต่อพันธมิตรในยุโรปของสหรัฐฯ . การที่สหรัฐฯ ระงับจัดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนคราวนี้ เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อพวกชาติพันธมิตรในยุโรปของสหรัฐฯ โดยที่ชาติเหล่านี้เองได้แสดงท่าทีออกมาปลอบขวัญโอบอุ้มเซเลนสกีอย่างเปิดเผยภายหลังจากเหตุการณ์ปะทะคารมเดือดที่ทำเนียบขาว . มีรายงานว่าเวลานี้ยุโรปกำลังเร่งรีบเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายทางทหารของพวกเขาเอง และในวันอังคาร (4) อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป ได้เปิดเผยข้อเสนอต่างๆ ที่มุ่งเพิ่มพูนการใช้จ่ายทางทหารในอียู ซึ่งเธอกล่าวว่าอาจจะระดมเงินในเรื่องนี้ออกมาได้สูงถึง 800,000 ล้านยูโร (840,000 ล้านดอลลาร์) กันทีเดียว ทั้งนี้อียูมีกำหนดจัดการประชุมฉุกเฉินในเรื่องเกี่ยวกับยูเครนในวันพฤหัสบดี (6) นี้ . ในฝรั่งเศส เบนจามิน ฮัดดัด รัฐมนตรีช่วยดูแลด้านยุโรป ได้ออกมากล่าวประณามการระงับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ คราวนี้ โดยกล่าวว่ามันทำให้สันติภาพ “ห่างไกลออกไปมากขึ้น เพราะมันมีแต่ทำให้เงื้อมมือของผู้รุกราน ... ซึ่งก็คือรัสเซีย เข้มแข็งยิ่งขึ้น” . ขณะที่สหราชอาณาจักร ซึ่งแสดงทีท่าต้องการดึงให้คณะบริหารทรัมป์ยังคงอยู่ข้างๆ ตัว ไม่แตกแถวออกไปไกลกว่านี้ แสดงท่าทีสุขุมรอบคอบยิ่งกว่า โดยที่นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ได้พูดจาทางโทรศัพท์กับทรัมป์ในคืนวันจันทร์ (3) ตามการแถลงของโฆษกผู้หนึ่งของสตาร์เมอร์ แต่ไม่ได้ระบุว่าทรมป์ได้เอ่ยถึงเรื่องการระงับความช่วยเหลือนี้หรือไม่ . “ท่านนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังโฟกัสอยู่ที่ผลลัพธ์อย่างเดียวกัน นั่นคือการทำให้เกิดสันติภาพที่มั่นคงและยั่งยืนขึ้นมาในยูเครน” โฆษกผู้นี้บอก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021233 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    8
    0 Comments 0 Shares 1098 Views 0 Reviews
  • สงครามการค้าระหว่างอเมริกากับหุ้นส่วนเศรษฐกิจและคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด 3 ชาติยิ่งบานปลายขยายตัว หลังจากทรัมป์ยืนยันว่ามาตรการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรที่เงื้อง่าอยู่ เริ่มมีผลบังคับใช้กับแคนาดา เม็กซิโก และจีนแน่นอนส่งผลให้ปักกิ่งและออตตาวาประกาศตอบโต้แบบทันควัน ขณะที่เม็กซิโกก็ระบุเอาคืนแน่นอน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียด
    .
    หลังเวลาเที่ยงคืนของวันจันทร์ (3 มี.ค.) ตามเวลาภาคตะวันออกของสหรัฐฯ (ซึ่งช้ากว่าเวลาเมืองไทย 12 ชั่วโมง) สินค้าแคนาดาและเม็กซิโกที่นำเข้าไปยังอเมริกา ซึ่งมีมูลค่ารวมกันสูงกว่า 918,000 ล้านดอลลาร์จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงขึ้น 25% รวด เวลาเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากจีนสูงขึ้นอีก 10% จากที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว 10% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
    .
    ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แถลงว่า แคนาดาจะตอบโต้โดยเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 25% จากสินค้าอเมริกันมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 21 วัน ขณะที่ประธานาธิบดี เกลาเดีย เชย์นเบาม์ ระบุว่าความเคลื่อนไหวช่นนี้ของสหรัฐฯไม่มีความชอบธรรม และประกาศจะตอบโต้กลับด้วยมาตรการภาษีของตัวเอง
    .
    ผู้นำหญิงของเม็กซิโกบอกว่า เธอจะประกาศรายการสินค้านำเข้าจากอเมริกาที่จะตกเป็นเป้าถูกขึ้นภาษีตอบโต้ในวันอาทิตย์ (9) นี้ ณ งานพิธีซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่จัตุรัสใจกลางเมืองหลวงเม็กซิโกซิตี ท่าทีเช่นนี้ทำให้มองกันว่าการเลื่อนช้าออกไปเช่นนี้บ่งชี้ว่าเม็กซิโกยังคงมีความหวังที่จะเจรจาต่อรองกันก่อนเพื่อไม่ให้สงครามการค้าบานปลาย
    .
    แรกทีเดียวนั้น มาตรการภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทว่า ทรัมป์ตกลงขยายเวลาออกไป 30 วันเพื่อเจรจาเพิ่มเติมกับสองประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอเมริกา สำหรับเหตุผลในการขึ้นภาษีคือ เพื่อให้สองประเทศเพื่อนบ้านนี้จัดการปัญหาการลักลอบขนยาเสพติด โดยเฉพาะ เฟนทานิล และปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผ่านดินแดนของประเทศทั้งสองเข้ามายังสหรัฐฯ
    .
    ขณะที่ทั้งสองชาติต่างยืนยันว่า มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหา ทว่า ทรัมป์กลับบอกเพิ่มเติมว่า จะลดภาษีศุลกากรต่อเมื่อการขาดดุลการค้าของอเมริกาต่อเม็กซิโกและแคนาดาสิ้นสุดลง ถึงแม้เรื่องหลังนี้ย่อมเป็นกระบวนการที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตามกรอบเวลาทางการเมือง
    .
    มีผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่า มาตรการที่สหรัฐฯขึ้นภาษีศุลกากรกับแคนาดาและเม็กซิโก น่าจะส่งผลสะท้อนกลับกระทบถึงเศรษฐกิจอเมริกันอย่างแรงๆ และดังนั้นจึงอาจบังคับใช้ได้เพียงช่วงสั้นๆ และสิ่งที่ทรัมป์อาจเลือกกระทำต่อไป อาจเป็นการหันไปรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป และอินเดีย รวมทั้งพวก ชิปคอมพิวเตอร์ ยานยนต์ และยาเวชภัณฑ์นำเข้าเพิ่มมากขึ้น
    .
    ในส่วนของจีนนั้น ปักกิ่งประณามการบังคับใช้มาตรการ “ตามอำเภอใจฝ่ายเดียว” เช่นนี้ของอเมริกา และประกาศตอบโต้ทันทีด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 15% จากสินค้าเกษตรและอาหารของอเมริกามูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์ มีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้า รวมทั้งเพิ่มบริษัทอเมริกันอีก 25 แห่งในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ถูกจำกัดการส่งออกและการลงทุนภายใต้เหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
    .
    ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่รองรับสินค้าเกษตรของอเมริกา โดยปีที่แล้ว แม้จีนนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐฯ ลดลงเป็นปีที่สอง แต่ก็ยังคงมีมูลค่าถึง 29,250 ล้านดอลลาร์ เท่าที่ผ่านมาภาคเศรษฐกิจนี้มักถูกใช้เป็นกระสอบทรายในยามที่สถานการณ์การค้าระหว่าง 2 ประเทศตึงเครียด โดยเฉพาะในเมื่อพวกรัฐที่เศรษฐกิจพึ่งพาการเกษตรอย่างมาก ยังเป็นพวกรัฐฐานเสียงของทรัมป์และรีพับลิกันอีกด้วย
    .
    ในวันอังคาร (3) กระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาแถลงว่า จีนจะไม่ยอมจำนนต่อการรังแกหรือข่มขู่ และสำทับว่า การพยายามกดดันจีนเป็นการคำนวณผิดพลาด
    .
    อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์เชื่อว่า ปักกิ่งยังหวังว่าจะสามารถเปิดการเจรจาสงบศึกกับคณะบริหารของทรัมป์ จึงกำหนดภาษีตอบโต้ในอัตราต่ำกว่า 20% เพื่อให้คณะผู้เจรจาของตนสามารถต่อรองและบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ ทว่าเมื่อการตอบโต้กันไปมาชักบานปลายออกไป มันก็อาจลดโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะประนีประนอมกันได้
    .
    เวลาเดียวกัน สำนักข่าวเอพีเสนอรายงานข่าวที่ระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ กำลังทำให้เศรษฐกิจของทั่วโลกผันผวนและไร้ความแน่นอน เนื่องจากไม่มีใครคาดเดาได้ว่า ทรัมป์จะทำอะไรต่อไป
    .
    การเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกแบบเหวี่ยงแหยังมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง และเสี่ยงทำให้ค่าครองชีพของประชาชนเพิ่มขึ้น
    .
    นักเศรษฐศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการภาษีของทรัมป์อาจทำให้ราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯพุ่งขึ้น และเพิ่มความกดดันต่อการเติบโตและการจ้างงานในอเมริกา
    .
    มูลนิธิแท็กซ์ ฟาวน์เดชัน ของสหรัฐฯประเมินว่า มาตรการภาษีต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีนจะทำให้อัตราเติบโตของอเมริกาหายไป 0.1% ทั้งนี้ ยังไม่คำนวณผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ของทั้งสามชาติ
    .
    ไดแอน สวองค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเคพีเอ็มจี เตือนว่า ถ้าทรัมป์ยังเดินตามแผนรีดภาษีต่อไป อัตราภาษีศุลกากรของอเมริกาอาจเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดนับจากปี 1936 ภายในต้นปีหน้า โดยที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตของสหรัฐฯจะต้องเป็นผู้รับภาระหนักจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีศุลกากร ซึ่งอาจส่งผลตามมาทำให้ดีมานด์ลดลง และภาคธุรกิจต้องปลดพนักงานเพื่อควบคุมต้นทุน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021232
    ..............
    Sondhi X
    สงครามการค้าระหว่างอเมริกากับหุ้นส่วนเศรษฐกิจและคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด 3 ชาติยิ่งบานปลายขยายตัว หลังจากทรัมป์ยืนยันว่ามาตรการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรที่เงื้อง่าอยู่ เริ่มมีผลบังคับใช้กับแคนาดา เม็กซิโก และจีนแน่นอนส่งผลให้ปักกิ่งและออตตาวาประกาศตอบโต้แบบทันควัน ขณะที่เม็กซิโกก็ระบุเอาคืนแน่นอน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียด . หลังเวลาเที่ยงคืนของวันจันทร์ (3 มี.ค.) ตามเวลาภาคตะวันออกของสหรัฐฯ (ซึ่งช้ากว่าเวลาเมืองไทย 12 ชั่วโมง) สินค้าแคนาดาและเม็กซิโกที่นำเข้าไปยังอเมริกา ซึ่งมีมูลค่ารวมกันสูงกว่า 918,000 ล้านดอลลาร์จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงขึ้น 25% รวด เวลาเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากจีนสูงขึ้นอีก 10% จากที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว 10% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ . ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แถลงว่า แคนาดาจะตอบโต้โดยเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 25% จากสินค้าอเมริกันมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 21 วัน ขณะที่ประธานาธิบดี เกลาเดีย เชย์นเบาม์ ระบุว่าความเคลื่อนไหวช่นนี้ของสหรัฐฯไม่มีความชอบธรรม และประกาศจะตอบโต้กลับด้วยมาตรการภาษีของตัวเอง . ผู้นำหญิงของเม็กซิโกบอกว่า เธอจะประกาศรายการสินค้านำเข้าจากอเมริกาที่จะตกเป็นเป้าถูกขึ้นภาษีตอบโต้ในวันอาทิตย์ (9) นี้ ณ งานพิธีซึ่งกำหนดจัดขึ้นที่จัตุรัสใจกลางเมืองหลวงเม็กซิโกซิตี ท่าทีเช่นนี้ทำให้มองกันว่าการเลื่อนช้าออกไปเช่นนี้บ่งชี้ว่าเม็กซิโกยังคงมีความหวังที่จะเจรจาต่อรองกันก่อนเพื่อไม่ให้สงครามการค้าบานปลาย . แรกทีเดียวนั้น มาตรการภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทว่า ทรัมป์ตกลงขยายเวลาออกไป 30 วันเพื่อเจรจาเพิ่มเติมกับสองประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอเมริกา สำหรับเหตุผลในการขึ้นภาษีคือ เพื่อให้สองประเทศเพื่อนบ้านนี้จัดการปัญหาการลักลอบขนยาเสพติด โดยเฉพาะ เฟนทานิล และปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผ่านดินแดนของประเทศทั้งสองเข้ามายังสหรัฐฯ . ขณะที่ทั้งสองชาติต่างยืนยันว่า มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหา ทว่า ทรัมป์กลับบอกเพิ่มเติมว่า จะลดภาษีศุลกากรต่อเมื่อการขาดดุลการค้าของอเมริกาต่อเม็กซิโกและแคนาดาสิ้นสุดลง ถึงแม้เรื่องหลังนี้ย่อมเป็นกระบวนการที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตามกรอบเวลาทางการเมือง . มีผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่า มาตรการที่สหรัฐฯขึ้นภาษีศุลกากรกับแคนาดาและเม็กซิโก น่าจะส่งผลสะท้อนกลับกระทบถึงเศรษฐกิจอเมริกันอย่างแรงๆ และดังนั้นจึงอาจบังคับใช้ได้เพียงช่วงสั้นๆ และสิ่งที่ทรัมป์อาจเลือกกระทำต่อไป อาจเป็นการหันไปรีดภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป และอินเดีย รวมทั้งพวก ชิปคอมพิวเตอร์ ยานยนต์ และยาเวชภัณฑ์นำเข้าเพิ่มมากขึ้น . ในส่วนของจีนนั้น ปักกิ่งประณามการบังคับใช้มาตรการ “ตามอำเภอใจฝ่ายเดียว” เช่นนี้ของอเมริกา และประกาศตอบโต้ทันทีด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 15% จากสินค้าเกษตรและอาหารของอเมริกามูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์ มีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้า รวมทั้งเพิ่มบริษัทอเมริกันอีก 25 แห่งในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ถูกจำกัดการส่งออกและการลงทุนภายใต้เหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ . ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดที่รองรับสินค้าเกษตรของอเมริกา โดยปีที่แล้ว แม้จีนนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐฯ ลดลงเป็นปีที่สอง แต่ก็ยังคงมีมูลค่าถึง 29,250 ล้านดอลลาร์ เท่าที่ผ่านมาภาคเศรษฐกิจนี้มักถูกใช้เป็นกระสอบทรายในยามที่สถานการณ์การค้าระหว่าง 2 ประเทศตึงเครียด โดยเฉพาะในเมื่อพวกรัฐที่เศรษฐกิจพึ่งพาการเกษตรอย่างมาก ยังเป็นพวกรัฐฐานเสียงของทรัมป์และรีพับลิกันอีกด้วย . ในวันอังคาร (3) กระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาแถลงว่า จีนจะไม่ยอมจำนนต่อการรังแกหรือข่มขู่ และสำทับว่า การพยายามกดดันจีนเป็นการคำนวณผิดพลาด . อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์เชื่อว่า ปักกิ่งยังหวังว่าจะสามารถเปิดการเจรจาสงบศึกกับคณะบริหารของทรัมป์ จึงกำหนดภาษีตอบโต้ในอัตราต่ำกว่า 20% เพื่อให้คณะผู้เจรจาของตนสามารถต่อรองและบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ ทว่าเมื่อการตอบโต้กันไปมาชักบานปลายออกไป มันก็อาจลดโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะประนีประนอมกันได้ . เวลาเดียวกัน สำนักข่าวเอพีเสนอรายงานข่าวที่ระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ กำลังทำให้เศรษฐกิจของทั่วโลกผันผวนและไร้ความแน่นอน เนื่องจากไม่มีใครคาดเดาได้ว่า ทรัมป์จะทำอะไรต่อไป . การเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกแบบเหวี่ยงแหยังมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง และเสี่ยงทำให้ค่าครองชีพของประชาชนเพิ่มขึ้น . นักเศรษฐศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการภาษีของทรัมป์อาจทำให้ราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯพุ่งขึ้น และเพิ่มความกดดันต่อการเติบโตและการจ้างงานในอเมริกา . มูลนิธิแท็กซ์ ฟาวน์เดชัน ของสหรัฐฯประเมินว่า มาตรการภาษีต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีนจะทำให้อัตราเติบโตของอเมริกาหายไป 0.1% ทั้งนี้ ยังไม่คำนวณผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ของทั้งสามชาติ . ไดแอน สวองค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเคพีเอ็มจี เตือนว่า ถ้าทรัมป์ยังเดินตามแผนรีดภาษีต่อไป อัตราภาษีศุลกากรของอเมริกาอาจเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดนับจากปี 1936 ภายในต้นปีหน้า โดยที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตของสหรัฐฯจะต้องเป็นผู้รับภาระหนักจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีศุลกากร ซึ่งอาจส่งผลตามมาทำให้ดีมานด์ลดลง และภาคธุรกิจต้องปลดพนักงานเพื่อควบคุมต้นทุน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021232 .............. Sondhi X
    Like
    7
    0 Comments 0 Shares 1079 Views 0 Reviews
  • รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noël Barrot) ล่าสุดแสดงความรู้สึกมึนงงหลังมีรายงานรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีธ เฮกเซธ (Pete Hegseth) มีรายงานสั่งให้ยุติปฏิบัติการต่อต้านรัสเซียทางไซเบอร์ชั่วคราว
    .
    โพลิติโกของสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (3 มี.ค.) ว่า กลายเป็นประเด็นล่าสุดของการเปลี่ยนนโยบายการต่างประเทศสหรัฐฯ แบบ 360 องศาที่ดูเหมือนทำให้ “รัสเซีย” ได้เปรียบส่งผลทำให้เป็นที่กังขาในสายตาทั่วโลกโดยเฉพาะในยุโรป
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noël Barrot) วันจันทร์ (3) ออกมาแสดงความเห็นสถานีวิทยุฟรานซ์อินเตอร์ (France Inter) ว่า “ผมมีปัญหาเล็กน้อยในความเข้าใจ (การตัดสินใจของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีธ เฮกเซธ)”
    .
    รัฐมนตรีฝรั่งเศสกล่าวว่า บรรดาชาติสมาชิกสหภาพยุโรปมักตกเป็นเป้าการโจมตีทางไซเบอร์จากรัสเซีย
    .
    นิวสวีกของสหรัฐฯ รายงานว่า คำสั่งของเฮกเซธเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวที่จะนำประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กลับสู่โต๊ะเจรจาสงครามยูเครน แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างมอสโกและวอชิงตัน อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส
    .
    The Record สื่อความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นสื่อแรกที่รายงานคำสั่งรัฐมนตรีกลาโหมเพนตากอนที่ออกคำสั่งให้ยุติปฏิบัติการต่อต้านคู่อริรัสเซียเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.)
    .
    สำนักงานกองบัญชาการไซเบอร์สหรัฐฯ USCYBERCOM (U.S. Cyber Command) ภายใต้กองทัพสหรัฐฯ ก่อตั้งมานานกว่า 10 ปีมีผู้ปฏิบัติการไม่กี่ร้อยคนประจำฐานที่ฟอร์ตมีด (Fort Meade) รัฐแมรีแลนด์
    .
    “คำสั่งนี้ไม่ใช้กับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ NSA ที่เฮกเซธทำหน้าที่บริหารหรือสัญญาณของตัวเองในการทำงานด้านข่าวกรองที่มีเป้าหมายไปที่รัสเซีย” The Record ชี้
    .
    ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สกล่าวว่า คำสั่งของเจ้ากระทรวงเพนตากอนออกมาก่อนเกิดศึกหน้าจอโทรทัศน์ที่ทำเนียบขาวระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่เป็นส่วนหนึ่งของการกลับมาประเมินอีกครั้งในปฏิบัติการทั้งหมดต่อต้านรัสเซียที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะ
    .
    ขณะที่เจ้าหน้าที่อเมริกันทั้งหลายกล่าวว่า มันเป็นเรื่องปกติสำหรับปฏิบัติการทางการทหารที่จะมีการหยุดพักชั่วคราวระหว่างการเจรจาทางการทูต ซึ่งการถอยออกมาจากปฏิบัติการทางไซเบอร์ต่อต้านรัสเซียอาจเป็นเหมือนการเดิมพันเพราะเกมจะอยู่ในมือของประธานาธิบดีปูตินที่จะยอมเคลื่อนไหวในลักษณะที่คล้ายกันหรือไม่
    .
    ทั้งนี้ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยได้กล่าวต่อ CNN ว่า การสั่งหยุดพักชั่วคราวถือเป็นความหายนะครั้งใหญ่ ขณะที่ผู้นำเสียงข้างน้อยพรรคเดโมแครตในสภาสูงสหรัฐฯ ชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer) ออกมาโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า มันอาจเป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญที่อาจจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้รัสเซีย
    .
    อย่างไรก็ตามในวันอาทิตย์ (2) สำนักงานความมั่นคงโครงสร้างพื้นฐานและไซเบอร์สหรัฐฯ (U.S. Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) แถลงบนแพลตฟอร์ม X ว่า ภารกิจของสำนักงานในการปกป้องภัยคุกคามทางไซเบอร์ทุกรูปแบบรวมถึงจาก “รัสเซีย” ไม่เปลี่ยนแปลง
    .
    โพลิติโกรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของเพนตากอนครั้งสำคัญนี้ทำให้มีความประหลาดใจอย่างมากในยุโรปที่ “รัสเซีย” ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามหลักในทางไซเบอร์ควบคู่ไปกับ “จีน”
    .
    ซึ่งทั้งเจ้าหน้าฝรั่งเศสและประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง ต่างออกมากล่าวหา “รัสเซีย” หลายครั้งที่ปูตินใช้สงครามไฮบริดต่อฝรั่งเศสผ่านทางการโจมตีทางไซเบอร์ “รัสเซียกำลังโจมตีพวกเราผ่านทางข้อมูลทางไซเบอร์”
    .
    มาครงกล่าวในเดือนที่ผ่านมาอ้างว่า “มอสโกกำลังแสวงหาเพื่อสร้างความไร้เสถียรภาพต่อประชาธิปไตยของพวกเรา”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021231
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noël Barrot) ล่าสุดแสดงความรู้สึกมึนงงหลังมีรายงานรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีธ เฮกเซธ (Pete Hegseth) มีรายงานสั่งให้ยุติปฏิบัติการต่อต้านรัสเซียทางไซเบอร์ชั่วคราว . โพลิติโกของสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (3 มี.ค.) ว่า กลายเป็นประเด็นล่าสุดของการเปลี่ยนนโยบายการต่างประเทศสหรัฐฯ แบบ 360 องศาที่ดูเหมือนทำให้ “รัสเซีย” ได้เปรียบส่งผลทำให้เป็นที่กังขาในสายตาทั่วโลกโดยเฉพาะในยุโรป . รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noël Barrot) วันจันทร์ (3) ออกมาแสดงความเห็นสถานีวิทยุฟรานซ์อินเตอร์ (France Inter) ว่า “ผมมีปัญหาเล็กน้อยในความเข้าใจ (การตัดสินใจของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีธ เฮกเซธ)” . รัฐมนตรีฝรั่งเศสกล่าวว่า บรรดาชาติสมาชิกสหภาพยุโรปมักตกเป็นเป้าการโจมตีทางไซเบอร์จากรัสเซีย . นิวสวีกของสหรัฐฯ รายงานว่า คำสั่งของเฮกเซธเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวที่จะนำประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กลับสู่โต๊ะเจรจาสงครามยูเครน แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างมอสโกและวอชิงตัน อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส . The Record สื่อความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นสื่อแรกที่รายงานคำสั่งรัฐมนตรีกลาโหมเพนตากอนที่ออกคำสั่งให้ยุติปฏิบัติการต่อต้านคู่อริรัสเซียเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) . สำนักงานกองบัญชาการไซเบอร์สหรัฐฯ USCYBERCOM (U.S. Cyber Command) ภายใต้กองทัพสหรัฐฯ ก่อตั้งมานานกว่า 10 ปีมีผู้ปฏิบัติการไม่กี่ร้อยคนประจำฐานที่ฟอร์ตมีด (Fort Meade) รัฐแมรีแลนด์ . “คำสั่งนี้ไม่ใช้กับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ NSA ที่เฮกเซธทำหน้าที่บริหารหรือสัญญาณของตัวเองในการทำงานด้านข่าวกรองที่มีเป้าหมายไปที่รัสเซีย” The Record ชี้ . ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สกล่าวว่า คำสั่งของเจ้ากระทรวงเพนตากอนออกมาก่อนเกิดศึกหน้าจอโทรทัศน์ที่ทำเนียบขาวระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่เป็นส่วนหนึ่งของการกลับมาประเมินอีกครั้งในปฏิบัติการทั้งหมดต่อต้านรัสเซียที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะ . ขณะที่เจ้าหน้าที่อเมริกันทั้งหลายกล่าวว่า มันเป็นเรื่องปกติสำหรับปฏิบัติการทางการทหารที่จะมีการหยุดพักชั่วคราวระหว่างการเจรจาทางการทูต ซึ่งการถอยออกมาจากปฏิบัติการทางไซเบอร์ต่อต้านรัสเซียอาจเป็นเหมือนการเดิมพันเพราะเกมจะอยู่ในมือของประธานาธิบดีปูตินที่จะยอมเคลื่อนไหวในลักษณะที่คล้ายกันหรือไม่ . ทั้งนี้ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยได้กล่าวต่อ CNN ว่า การสั่งหยุดพักชั่วคราวถือเป็นความหายนะครั้งใหญ่ ขณะที่ผู้นำเสียงข้างน้อยพรรคเดโมแครตในสภาสูงสหรัฐฯ ชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer) ออกมาโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า มันอาจเป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญที่อาจจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้รัสเซีย . อย่างไรก็ตามในวันอาทิตย์ (2) สำนักงานความมั่นคงโครงสร้างพื้นฐานและไซเบอร์สหรัฐฯ (U.S. Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) แถลงบนแพลตฟอร์ม X ว่า ภารกิจของสำนักงานในการปกป้องภัยคุกคามทางไซเบอร์ทุกรูปแบบรวมถึงจาก “รัสเซีย” ไม่เปลี่ยนแปลง . โพลิติโกรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของเพนตากอนครั้งสำคัญนี้ทำให้มีความประหลาดใจอย่างมากในยุโรปที่ “รัสเซีย” ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามหลักในทางไซเบอร์ควบคู่ไปกับ “จีน” . ซึ่งทั้งเจ้าหน้าฝรั่งเศสและประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง ต่างออกมากล่าวหา “รัสเซีย” หลายครั้งที่ปูตินใช้สงครามไฮบริดต่อฝรั่งเศสผ่านทางการโจมตีทางไซเบอร์ “รัสเซียกำลังโจมตีพวกเราผ่านทางข้อมูลทางไซเบอร์” . มาครงกล่าวในเดือนที่ผ่านมาอ้างว่า “มอสโกกำลังแสวงหาเพื่อสร้างความไร้เสถียรภาพต่อประชาธิปไตยของพวกเรา” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021231 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    6
    0 Comments 0 Shares 1077 Views 0 Reviews
  • บขส.เปิดเส้นทางสนามบิน ไปหัวหิน-พัทยา

    ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. จะเปิดให้บริการรถโดยสารระบบขนส่งเสริม (Feeder) เส้นทางจากท่าอากาศยานเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างรถโดยสารสาธารณะกับท่าอากาศยาน กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในเมืองหลัก และเมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยวภายในประเทศ นำร่อง 3 เส้นทาง ได้แก่

    1. ท่าอากาศยานดอนเมือง-พัทยา จ.ชลบุรี ระยะทาง 162 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 155 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที ปลายทางถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง

    2. ท่าอากาศยานดอนเมือง-หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 216 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 200 บาท ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 30 นาที เฉพาะเที่ยวไป รถจอดส่งผู้โดยสารที่หน้าวัดหัวหิน ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์ และสถานีเดินรถหัวหิน

    3. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-พัทยา ระยะทาง 127 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 122 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ปลายทางถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง

    สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถ และจองตั๋วโดยสารได้ทางเว็บไซต์ https://tcl99web.transport.co.th

    • จากสนามบินดอนเมือง เลือกจังหวัด "กรุงเทพมหานคร" เลือกต้นทาง "ท่าอากาศยานดอนเมือง"

    • จากสนามบินสุวรรณภูมิ เลือกจังหวัด "สมุทรปราการ" เลือกต้นทาง "สุวรรณภูมิ(สนามบิน)021344099"

    • จากพัทยา เลือกจังหวัด "ชลบุรี" เลือกต้นทาง "พัทยา(กลาง) 038231142"

    • จากหัวหิน เลือกจังหวัด "ประจวบคีรีขันธ์" เลือกต้นทาง "หัวหิน032-511230"

    จุดขึ้นรถที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จะอยู่ที่อาคาร Service Hall ชั้น 1 ติดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ด้านทิศเหนือของสนามบินดอนเมือง

    จุดขึ้นรถที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะอยู่ที่ประตู 8 ชั้น 1 อาคารผู้โดยสาร โทร. 0-2134-4099

    จุดขึ้นรถที่เมืองพัทยา เที่ยวกลับ อยู่ที่ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก ระหว่างแยกพัทยาเหนือและแยกพัทยากลาง โทร. 0-3823-1142

    จุดขึ้นรถที่หัวหิน เที่ยวกลับ มี 2 จุด ได้แก่ สถานีเดินรถหัวหิน ถนนเพชรเกษม บริเวณแยกพุทธไชโย ซอยหัวหิน 91 ห่างจากสวนน้ำวานา นาวา ประมาณ 1 กิโลเมตร โทร. 0-3251-1230 และศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์

    การเปิดเส้นทางเดินรถดังกล่าว ผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ สามารถต่อรถทัวร์ไปหัวหินและพัทยาได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปขึ้นรถที่หมอชิต 2 อีกต่อไป รวมทั้งจากหัวหินไปดอนเมือง และจากพัทยาไปดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิโดยตรง ช่วยประหยัดเวลามากขึ้น

    สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ บขส. โทร. 0-2936-3660 หรือไลน์ @TCL99

    #Newskit
    บขส.เปิดเส้นทางสนามบิน ไปหัวหิน-พัทยา ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. จะเปิดให้บริการรถโดยสารระบบขนส่งเสริม (Feeder) เส้นทางจากท่าอากาศยานเชื่อมต่อไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างรถโดยสารสาธารณะกับท่าอากาศยาน กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในเมืองหลัก และเมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยวภายในประเทศ นำร่อง 3 เส้นทาง ได้แก่ 1. ท่าอากาศยานดอนเมือง-พัทยา จ.ชลบุรี ระยะทาง 162 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 155 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที ปลายทางถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง 2. ท่าอากาศยานดอนเมือง-หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 216 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 200 บาท ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 30 นาที เฉพาะเที่ยวไป รถจอดส่งผู้โดยสารที่หน้าวัดหัวหิน ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์ และสถานีเดินรถหัวหิน 3. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-พัทยา ระยะทาง 127 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 122 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ปลายทางถนนสุขุมวิท ขาออก ระหว่างพัทยาเหนือและพัทยากลาง สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถ และจองตั๋วโดยสารได้ทางเว็บไซต์ https://tcl99web.transport.co.th • จากสนามบินดอนเมือง เลือกจังหวัด "กรุงเทพมหานคร" เลือกต้นทาง "ท่าอากาศยานดอนเมือง" • จากสนามบินสุวรรณภูมิ เลือกจังหวัด "สมุทรปราการ" เลือกต้นทาง "สุวรรณภูมิ(สนามบิน)021344099" • จากพัทยา เลือกจังหวัด "ชลบุรี" เลือกต้นทาง "พัทยา(กลาง) 038231142" • จากหัวหิน เลือกจังหวัด "ประจวบคีรีขันธ์" เลือกต้นทาง "หัวหิน032-511230" จุดขึ้นรถที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จะอยู่ที่อาคาร Service Hall ชั้น 1 ติดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ด้านทิศเหนือของสนามบินดอนเมือง จุดขึ้นรถที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะอยู่ที่ประตู 8 ชั้น 1 อาคารผู้โดยสาร โทร. 0-2134-4099 จุดขึ้นรถที่เมืองพัทยา เที่ยวกลับ อยู่ที่ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก ระหว่างแยกพัทยาเหนือและแยกพัทยากลาง โทร. 0-3823-1142 จุดขึ้นรถที่หัวหิน เที่ยวกลับ มี 2 จุด ได้แก่ สถานีเดินรถหัวหิน ถนนเพชรเกษม บริเวณแยกพุทธไชโย ซอยหัวหิน 91 ห่างจากสวนน้ำวานา นาวา ประมาณ 1 กิโลเมตร โทร. 0-3251-1230 และศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ทมอลล์ การเปิดเส้นทางเดินรถดังกล่าว ผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ สามารถต่อรถทัวร์ไปหัวหินและพัทยาได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปขึ้นรถที่หมอชิต 2 อีกต่อไป รวมทั้งจากหัวหินไปดอนเมือง และจากพัทยาไปดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิโดยตรง ช่วยประหยัดเวลามากขึ้น สอบถามข้อมูลการเดินทางได้ที่ บขส. โทร. 0-2936-3660 หรือไลน์ @TCL99 #Newskit
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • จับตา “อนุทิน-เนวิน’ นัด “ทักษิณ-แพทองธาร” เคลียร์ใจ สยบศึกเพื่อไทย-ภูมิใจไทยเย็นนี้ คาด “ต๊อบ อัยยวัฒน์” ร่วมวงถกธุรกิจ “คิงเพาเวอร์“ หลังขาดทุนหนัก
    .
    วันนี้ (24 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเย็นวันนี้ได้มีการนัดหมายระหว่างนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โดยคาดว่าจะมีการพูดคุยทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเอาพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
    .
    อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในการพบกันเย็นนี้ จะมีนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เข้าร่วมพูดคุยด้วย โดยเป็นที่น่าจับตามองว่า อาจจะมีการเจรจาด้านธุรกิจของคิงเพาเวอร์ด้วย เนื่องจากรายงานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ระบุว่า คิง เพาเวอร์ ประสบกับปัญหาขาดทุนโดยในปี 2566 ขาดทุนถึงจำนวน 651,512,785 บาท ซึ่งได้พยายามดำเนินการในหลากหลายรูปแบบเพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น แต่นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2567 จนถึงปัจจุบัน คิง เพาเวอร์ ก็ยังคงประสบภาวะขาดทุนมาโดยตลอด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018123
    .........
    Sondhi X
    จับตา “อนุทิน-เนวิน’ นัด “ทักษิณ-แพทองธาร” เคลียร์ใจ สยบศึกเพื่อไทย-ภูมิใจไทยเย็นนี้ คาด “ต๊อบ อัยยวัฒน์” ร่วมวงถกธุรกิจ “คิงเพาเวอร์“ หลังขาดทุนหนัก . วันนี้ (24 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเย็นวันนี้ได้มีการนัดหมายระหว่างนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โดยคาดว่าจะมีการพูดคุยทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเอาพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล . อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในการพบกันเย็นนี้ จะมีนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เข้าร่วมพูดคุยด้วย โดยเป็นที่น่าจับตามองว่า อาจจะมีการเจรจาด้านธุรกิจของคิงเพาเวอร์ด้วย เนื่องจากรายงานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ระบุว่า คิง เพาเวอร์ ประสบกับปัญหาขาดทุนโดยในปี 2566 ขาดทุนถึงจำนวน 651,512,785 บาท ซึ่งได้พยายามดำเนินการในหลากหลายรูปแบบเพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น แต่นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2567 จนถึงปัจจุบัน คิง เพาเวอร์ ก็ยังคงประสบภาวะขาดทุนมาโดยตลอด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018123 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    Sad
    14
    2 Comments 0 Shares 2174 Views 0 Reviews
  • https://thaitimes.co/events/123
    https://thaitimes.co/events/123
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • https://thaitimes.co/events/123
    https://thaitimes.co/events/123
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • https://thaitimes.co/events/123
    https://thaitimes.co/events/123
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • https://thaitimes.co/events/123
    https://thaitimes.co/events/123
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • เชียงใหม่- "ส.ส.ปูอัด" โผล่แล้ว! ควงทนายความขึ้นโรงพักเชียงใหม่ รับทราบข้อกล่าวหาหลังถูกออกหมายจับคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวไต้หวัน ขอให้สัมภาษณ์ข่าวหลังเสร็จการรับทราบข้อหา

    วันนี้(18ก.พ.68) เวลาประมาณ 13.00น.ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ "ส.ส.ปูอัด"สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) กรุงเทพฯ พรรคไทยก้าวหน้า พร้อมทนายความเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีที่นายไชยามพวานถูกกล่าวหาว่าข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน ซึ่งเหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 02.00น.วันที่ 9 ม.ค.68 และผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความในช่วงเช้าวันเดียวกัน

    โดยต่อมาตำรวจได้มีการขอศาลอนุมัติออกหมายจับเมื่อวันที่ 4 ก.พ.68 และประสานถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งสภาฯ จะมีการประชุมในวันที่ 20 ก.พ.68เพื่อลงมติเกี่ยวกับการส่งตัวนายไชยามพวาน ให้ตำรวจดำเนินคดี อย่างไรก็ตามนายไชยามพวาน ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองก่อนในวันนี้

    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/local/detail/9680000016123

    #MGROnline #ปูอัด #สส #เชียงใหม่ #ข่มขืน #นักท่องเที่ยว
    เชียงใหม่- "ส.ส.ปูอัด" โผล่แล้ว! ควงทนายความขึ้นโรงพักเชียงใหม่ รับทราบข้อกล่าวหาหลังถูกออกหมายจับคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวไต้หวัน ขอให้สัมภาษณ์ข่าวหลังเสร็จการรับทราบข้อหา • วันนี้(18ก.พ.68) เวลาประมาณ 13.00น.ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ "ส.ส.ปูอัด"สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) กรุงเทพฯ พรรคไทยก้าวหน้า พร้อมทนายความเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีที่นายไชยามพวานถูกกล่าวหาว่าข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน ซึ่งเหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 02.00น.วันที่ 9 ม.ค.68 และผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความในช่วงเช้าวันเดียวกัน • โดยต่อมาตำรวจได้มีการขอศาลอนุมัติออกหมายจับเมื่อวันที่ 4 ก.พ.68 และประสานถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งสภาฯ จะมีการประชุมในวันที่ 20 ก.พ.68เพื่อลงมติเกี่ยวกับการส่งตัวนายไชยามพวาน ให้ตำรวจดำเนินคดี อย่างไรก็ตามนายไชยามพวาน ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองก่อนในวันนี้ • คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/local/detail/9680000016123 • #MGROnline #ปูอัด #สส #เชียงใหม่ #ข่มขืน #นักท่องเที่ยว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 287 Views 0 Reviews
  • ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทีมวิจัยช่องโหว่ของ Rapid7 พบว่ามีการใช้ช่องโหว่ใน PostgreSQL เพื่อเจาะระบบของบริษัท BeyondTrust ที่ให้บริการการจัดการการเข้าถึงที่มีสิทธิ์พิเศษ รายงานระบุว่าแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่สองตัว (CVE-2024-12356 และ CVE-2024-12686) และคีย์ API ที่ถูกขโมยมาในการโจมตีครั้งนี้

    เพียงหนึ่งเดือนหลังจากนั้น กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาเผยว่าระบบของตนถูกแฮกเกอร์ที่ใช้คีย์ API ที่ถูกขโมยไปจาก BeyondTrust โจมตี ทำให้เกิดการเชื่อมโยงเหตุการณ์นี้กับกลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐจีนที่รู้จักกันในชื่อ Silk Typhoon ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการสอดแนมและขโมยข้อมูล

    Silk Typhoon เจาะระบบของหน่วยงานในกระทรวงการคลัง เช่น คณะกรรมการว่าด้วยการลงทุนต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา (CFIUS) และสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) เพื่อขโมยข้อมูลเกี่ยวกับการลงโทษและเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ

    ในเดือนมกราคม 2024 หน่วยงาน CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2024-12356 ลงในแคตาล็อกช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตีและกำหนดให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาต้องป้องกันระบบของตนจากการโจมตีที่กำลังเกิดขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ นอกจากนี้ยังสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางติดตั้งแพตช์สำหรับช่องโหว่ CVE-2024-12686 ในเดือนมกราคม 2025

    ช่องโหว่ zero-day ในนาม CVE-2025-1094 ถูกพบใน PostgreSQL เมื่อเดือนมกราคม 2025 และได้รับการแพตช์ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการที่ไม่ถูกต้องของลำดับไบต์ที่ไม่ถูกต้องในอักขระ UTF-8 ทำให้สามารถใช้ SQL injection เพื่อเข้าถึงระบบได้

    การใช้ช่องโหว่ CVE-2024-12356 ในการโจมตีระบบ BeyondTrust ยังต้องการการใช้ช่องโหว่ CVE-2025-1094 ซึ่งช่วยให้สามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้ นักวิจัยจาก Rapid7 ยังพบว่าแม้ว่า BeyondTrust จะมีการแพตช์ CVE-2024-12356 แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขสาเหตุหลักของ CVE-2025-1094 ได้ อย่างไรก็ตาม การแพตช์นี้ทำให้การโจมตีทั้งสองช่องโหว่ล้มเหลว

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/postgresql-flaw-exploited-as-zero-day-in-beyondtrust-breach/
    ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทีมวิจัยช่องโหว่ของ Rapid7 พบว่ามีการใช้ช่องโหว่ใน PostgreSQL เพื่อเจาะระบบของบริษัท BeyondTrust ที่ให้บริการการจัดการการเข้าถึงที่มีสิทธิ์พิเศษ รายงานระบุว่าแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่สองตัว (CVE-2024-12356 และ CVE-2024-12686) และคีย์ API ที่ถูกขโมยมาในการโจมตีครั้งนี้ เพียงหนึ่งเดือนหลังจากนั้น กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาเผยว่าระบบของตนถูกแฮกเกอร์ที่ใช้คีย์ API ที่ถูกขโมยไปจาก BeyondTrust โจมตี ทำให้เกิดการเชื่อมโยงเหตุการณ์นี้กับกลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐจีนที่รู้จักกันในชื่อ Silk Typhoon ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการสอดแนมและขโมยข้อมูล Silk Typhoon เจาะระบบของหน่วยงานในกระทรวงการคลัง เช่น คณะกรรมการว่าด้วยการลงทุนต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา (CFIUS) และสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) เพื่อขโมยข้อมูลเกี่ยวกับการลงโทษและเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ ในเดือนมกราคม 2024 หน่วยงาน CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2024-12356 ลงในแคตาล็อกช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตีและกำหนดให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาต้องป้องกันระบบของตนจากการโจมตีที่กำลังเกิดขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ นอกจากนี้ยังสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางติดตั้งแพตช์สำหรับช่องโหว่ CVE-2024-12686 ในเดือนมกราคม 2025 ช่องโหว่ zero-day ในนาม CVE-2025-1094 ถูกพบใน PostgreSQL เมื่อเดือนมกราคม 2025 และได้รับการแพตช์ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการที่ไม่ถูกต้องของลำดับไบต์ที่ไม่ถูกต้องในอักขระ UTF-8 ทำให้สามารถใช้ SQL injection เพื่อเข้าถึงระบบได้ การใช้ช่องโหว่ CVE-2024-12356 ในการโจมตีระบบ BeyondTrust ยังต้องการการใช้ช่องโหว่ CVE-2025-1094 ซึ่งช่วยให้สามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้ นักวิจัยจาก Rapid7 ยังพบว่าแม้ว่า BeyondTrust จะมีการแพตช์ CVE-2024-12356 แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขสาเหตุหลักของ CVE-2025-1094 ได้ อย่างไรก็ตาม การแพตช์นี้ทำให้การโจมตีทั้งสองช่องโหว่ล้มเหลว https://www.bleepingcomputer.com/news/security/postgresql-flaw-exploited-as-zero-day-in-beyondtrust-breach/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    PostgreSQL flaw exploited as zero-day in BeyondTrust breach
    ​Rapid7's vulnerability research team says attackers exploited a PostgreSQL security flaw as a zero-day to breach the network of privileged access management company BeyondTrust in December.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • “หม่อง ชิตตู” ออกแถลงการณ์ถึง "ภูมิธรรม" พร้อมร่วมมือไทย กวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์
    https://www.thai-tai.tv/news/17123/
    “หม่อง ชิตตู” ออกแถลงการณ์ถึง "ภูมิธรรม" พร้อมร่วมมือไทย กวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ https://www.thai-tai.tv/news/17123/
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • 🚩ทัวร์ตุรกี 13 วัน 10 คืน

    ✈️เดินทางโดย : TK-เตอร์กิช แอร์ไลน์

    ✅ บินตรง + บินภายใน 2 เที่ยว + พักโรงแรม4-5 ดาว + รวมทิปแล้ว

    🅿️ 18 - 30 เม.ย. 68 ท่านละ 123,900

    📍 ไคเซรี่
    📍 คัปปาโดเกีย
    📍 พักโรงแรมถ้ำ 2 คืน
    📍 พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม
    📍 ถ่ายรูปรถคลาสสิค ชมโชว์ระบำหน้าท้อง
    📍 กาเซียนเทป -
    📍 พิพิธภัณฑ์ซุกม่า โมเสก
    📍 ถ้ำแห่งอับราฮัม บ่อปลาศักดิ์สิทธิ์
    📍 หมู่บ้านรวงผึ้ง
    📍 ภูเขาเนมรุต

    ⭕️ระดับทัวร์ : มาตรฐาน
    ⭕️รหัสทัวร์ : A13480

    ✔เพิ่มเติม : 78s.me/efb919

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e8af1d

    ดูทัวร์ตุรกี|ตุรเคีย|ทูร์เคียทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/c4092a

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์ตุรกี #ตุรเคีย #ทูร์เคีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🚩ทัวร์ตุรกี 13 วัน 10 คืน ✈️เดินทางโดย : TK-เตอร์กิช แอร์ไลน์ ✅ บินตรง + บินภายใน 2 เที่ยว + พักโรงแรม4-5 ดาว + รวมทิปแล้ว 🅿️ 18 - 30 เม.ย. 68 ท่านละ 123,900 📍 ไคเซรี่ 📍 คัปปาโดเกีย 📍 พักโรงแรมถ้ำ 2 คืน 📍 พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม 📍 ถ่ายรูปรถคลาสสิค ชมโชว์ระบำหน้าท้อง 📍 กาเซียนเทป - 📍 พิพิธภัณฑ์ซุกม่า โมเสก 📍 ถ้ำแห่งอับราฮัม บ่อปลาศักดิ์สิทธิ์ 📍 หมู่บ้านรวงผึ้ง 📍 ภูเขาเนมรุต ⭕️ระดับทัวร์ : มาตรฐาน ⭕️รหัสทัวร์ : A13480 ✔เพิ่มเติม : 78s.me/efb919 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e8af1d ดูทัวร์ตุรกี|ตุรเคีย|ทูร์เคียทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/c4092a LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ตุรกี #ตุรเคีย #ทูร์เคีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 Comments 0 Shares 322 Views 0 Reviews
  • 11 กุมภาพันธ์ 2568-รายงานข่าวnews.ch7.com ระบุว่าชูวิทย์ฝากข้อความวิเคราะห์ 8 ประเด็น ความผิดพลาดในคดี ยกฟ้องตู้ห่าวภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้องตู้ห่าว วันนี้ (11 ก.พ.68) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ซึ่งเคยมีบทบาทแฉขบวนการกลุ่มทุนจีนเทา ฝากข้อความวิเคราะห์ ประเด็นศาลฯ ยกฟ้องคดีตู้ห่าว โดยระบุถึง 8 ประเด็น ความผิดพลาดของคดีตู้ห่าว ดังนี้1.การวางแผนจับกุมที่ผิดพลาดตั้งแต่แรก ด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอจนปล่อยผู้ต้องหาไปโดยไม่รู้ตัว ไม่มีการสอดแนม เก็บข้อมูลจำนวนคน จำนวนพนักงาน จนมีการปล่อยผู้ต้องหาไปจำนวนมาก ซ้ำยังปล่อยนักท่องเที่ยวจีนที่ฉี่ไม่ม่วงออกไปตามหากุญแจรถแล้วขับรถหนีไป เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จีนเทาขนของหนี แถมมีเวลาซ่อนยา และที่สำคัญจับตัวการสำคัญไม่ได้ ปล่อยหนีหายไป ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ2.เก็บหลักฐานแบบขยัก เว้นวรรค ไม่ครบถ้วน ที่เกิดเหตุมี 3 อาคาร คือ อาคารจินหลิง อาคารลีลา อาคารวิบวับคาร์วอช วันแรก 26 ตุลาคม 2565 ค้นแค่อาคารจินหลิง พบยาเสพติด 4 กิโลกรัม เว้นวรรคไปอีก 5 วัน เพิ่งไปค้นอาคารวิบวับฯ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 พบยาเสพติดเกือบ 1 กิโลกรัม แต่ไปบันทึกเลขคดีในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 บอกว่าไม่พบผู้กระทำความผิด ทั้งที่ความเป็นจริงพบ นายเหมา หยาง ในกล้องวงจรปิด และความจริงอาจมียาเสพติดมากกว่านั้นเพราะเป็นโกดังขนาดใหญ่ แต่ขนหนีออกไปได้วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อัยการ ป.ป.ส. ไปตรวจที่เกิดเหตุเพิ่มเติมยังพบของกลาง ถาดไม้ หลอดดูด ที่ปั่นจมูก ชิป อุปกรณ์เล่นการพนัน และพบรถของกลางอีก 11 คัน ยังไม่ได้ตรวจค้น แถมยังตรวจค้นรถตู้ของหลานชายตู้ห่าว ทะเบียน 8กภ 1234 กรุงเทพมหานคร ในที่เกิดเหตุ พบอุปกรณ์เสพยาในรถ3.การปล่อยรถของกลาง และผู้ต้องหารายสำคัญ ปล่อยหลานชายตู้ห่าว หวัง เจิ้น หนาน ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะรถตู้อัลพาร์ดยังอยู่ อีกทั้งยังปล่อยผู้ต้องหากลางทาง นายหวัง เทียนฮุย ไปด้วย และมีการปล่อยรถของ เดวิด ฮอลล์ เบนซ์ S Class สีดำ รวมแล้วปล่อยรถของกลางไป 4 คัน4. ผู้ทำสำนวนเป็นหัวหน้าของตำรวจที่ปล่อยรถคืนให้กับผู้ต้องหา5. การตัดต่อกล้องวงจรปิด เซิร์ฟเวอร์มี 4 ตัว ในผับจินหลิง อาคารวิบวับฯ 2 ตัว จำนวนกล้อง 40 กล้อง และอาคารลีลา เซิร์ฟเวอร์ 2 ตัว จำนวนกล้อง 68 กล้อง แต่ส่งกล้องให้พิสูจน์หลักฐานแค่ 1 เซิร์ฟเวอร์ โดยส่งให้พิสูจน์แค่วันที่ 21-26 ตุลาคม 2565 ทั้งนี้เพื่อปิดบังบ่อนในอาคารลีลา และปิดบังไม่ให้เห็นตู้ห่าวกับหลาน6.ออกหมายจับตู้ห่าวล่าช้า บุกจับจินหลิงวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ออกหมายจับ 22 พฤศจิกายน 25657. แจ้งข้อหาฟอกเงินตู้ห่าวล่าช้า ตู้ห่าวโดนข้อหายาเสพติดร้ายแรง และข้อหายาเสพติดเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน แต่ไม่ยอมตั้งข้อหาตั้งแต่แรก เหมือนจงใจให้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน จนเจอเงินในบัญชีตู้ห่าวแค่ 1 แสน จนกระทั่ง 24 ธันวาคม 2565 แจ้งข้อหาฟอกเงินกับคนสนิทตู้ห่าว แต่ยังไม่แจ้งฟอกเงินกับตู้ห่าว โดยมาแจ้งในภายหลัง8. ท้ายสุดเจ้าของสำนวนทำผิดพลาดจน ผบ.ตร. และอัยการสูงสุด ต้องมาทำคดีเอง แต่หลักฐานต่าง ๆ ได้ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมากแล้วที่มา : https://news.ch7.com/detail/784300?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR32maa_Iu_r1eyqvV_J-LQX_6R96iKqYEYZtHTZwPyCzYcgV4vyC3lf-j0_aem_Wbsu5wDoZFo1T6XSFm1RjA#m70f2wjiy1oxa38wwc
    11 กุมภาพันธ์ 2568-รายงานข่าวnews.ch7.com ระบุว่าชูวิทย์ฝากข้อความวิเคราะห์ 8 ประเด็น ความผิดพลาดในคดี ยกฟ้องตู้ห่าวภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้องตู้ห่าว วันนี้ (11 ก.พ.68) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ซึ่งเคยมีบทบาทแฉขบวนการกลุ่มทุนจีนเทา ฝากข้อความวิเคราะห์ ประเด็นศาลฯ ยกฟ้องคดีตู้ห่าว โดยระบุถึง 8 ประเด็น ความผิดพลาดของคดีตู้ห่าว ดังนี้1.การวางแผนจับกุมที่ผิดพลาดตั้งแต่แรก ด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอจนปล่อยผู้ต้องหาไปโดยไม่รู้ตัว ไม่มีการสอดแนม เก็บข้อมูลจำนวนคน จำนวนพนักงาน จนมีการปล่อยผู้ต้องหาไปจำนวนมาก ซ้ำยังปล่อยนักท่องเที่ยวจีนที่ฉี่ไม่ม่วงออกไปตามหากุญแจรถแล้วขับรถหนีไป เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จีนเทาขนของหนี แถมมีเวลาซ่อนยา และที่สำคัญจับตัวการสำคัญไม่ได้ ปล่อยหนีหายไป ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ2.เก็บหลักฐานแบบขยัก เว้นวรรค ไม่ครบถ้วน ที่เกิดเหตุมี 3 อาคาร คือ อาคารจินหลิง อาคารลีลา อาคารวิบวับคาร์วอช วันแรก 26 ตุลาคม 2565 ค้นแค่อาคารจินหลิง พบยาเสพติด 4 กิโลกรัม เว้นวรรคไปอีก 5 วัน เพิ่งไปค้นอาคารวิบวับฯ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 พบยาเสพติดเกือบ 1 กิโลกรัม แต่ไปบันทึกเลขคดีในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 บอกว่าไม่พบผู้กระทำความผิด ทั้งที่ความเป็นจริงพบ นายเหมา หยาง ในกล้องวงจรปิด และความจริงอาจมียาเสพติดมากกว่านั้นเพราะเป็นโกดังขนาดใหญ่ แต่ขนหนีออกไปได้วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อัยการ ป.ป.ส. ไปตรวจที่เกิดเหตุเพิ่มเติมยังพบของกลาง ถาดไม้ หลอดดูด ที่ปั่นจมูก ชิป อุปกรณ์เล่นการพนัน และพบรถของกลางอีก 11 คัน ยังไม่ได้ตรวจค้น แถมยังตรวจค้นรถตู้ของหลานชายตู้ห่าว ทะเบียน 8กภ 1234 กรุงเทพมหานคร ในที่เกิดเหตุ พบอุปกรณ์เสพยาในรถ3.การปล่อยรถของกลาง และผู้ต้องหารายสำคัญ ปล่อยหลานชายตู้ห่าว หวัง เจิ้น หนาน ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะรถตู้อัลพาร์ดยังอยู่ อีกทั้งยังปล่อยผู้ต้องหากลางทาง นายหวัง เทียนฮุย ไปด้วย และมีการปล่อยรถของ เดวิด ฮอลล์ เบนซ์ S Class สีดำ รวมแล้วปล่อยรถของกลางไป 4 คัน4. ผู้ทำสำนวนเป็นหัวหน้าของตำรวจที่ปล่อยรถคืนให้กับผู้ต้องหา5. การตัดต่อกล้องวงจรปิด เซิร์ฟเวอร์มี 4 ตัว ในผับจินหลิง อาคารวิบวับฯ 2 ตัว จำนวนกล้อง 40 กล้อง และอาคารลีลา เซิร์ฟเวอร์ 2 ตัว จำนวนกล้อง 68 กล้อง แต่ส่งกล้องให้พิสูจน์หลักฐานแค่ 1 เซิร์ฟเวอร์ โดยส่งให้พิสูจน์แค่วันที่ 21-26 ตุลาคม 2565 ทั้งนี้เพื่อปิดบังบ่อนในอาคารลีลา และปิดบังไม่ให้เห็นตู้ห่าวกับหลาน6.ออกหมายจับตู้ห่าวล่าช้า บุกจับจินหลิงวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ออกหมายจับ 22 พฤศจิกายน 25657. แจ้งข้อหาฟอกเงินตู้ห่าวล่าช้า ตู้ห่าวโดนข้อหายาเสพติดร้ายแรง และข้อหายาเสพติดเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน แต่ไม่ยอมตั้งข้อหาตั้งแต่แรก เหมือนจงใจให้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน จนเจอเงินในบัญชีตู้ห่าวแค่ 1 แสน จนกระทั่ง 24 ธันวาคม 2565 แจ้งข้อหาฟอกเงินกับคนสนิทตู้ห่าว แต่ยังไม่แจ้งฟอกเงินกับตู้ห่าว โดยมาแจ้งในภายหลัง8. ท้ายสุดเจ้าของสำนวนทำผิดพลาดจน ผบ.ตร. และอัยการสูงสุด ต้องมาทำคดีเอง แต่หลักฐานต่าง ๆ ได้ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมากแล้วที่มา : https://news.ch7.com/detail/784300?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR32maa_Iu_r1eyqvV_J-LQX_6R96iKqYEYZtHTZwPyCzYcgV4vyC3lf-j0_aem_Wbsu5wDoZFo1T6XSFm1RjA#m70f2wjiy1oxa38wwc
    NEWS.CH7.COM
    ข่าวชูวิทย์วิเคราะห์ 8 ประเด็น ความผิดพลาด ยกฟ้องตู้ห่าว
    ชูวิทย์ฝากข้อความวิเคราะห์ 8 ประเด็น ความผิดพลาดในคดี ยกฟ้องตู้ห่าว ภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้องตู้ห่าว…
    Like
    Angry
    2
    2 Comments 1 Shares 533 Views 0 Reviews
  • 'ทักษิณ' อ้างหลายปัจจัย 'ยิ่งลักษณ์' ยังกลับไทยไม่ได้
    .
    ถ้าใครยังจำกันได้ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี เคยประกาศมาก่อนหน้านี้ 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี น้องสาวตัวเองจะขอกลับมาเล่นน้ำสงกรานต์กับคนไทยในเดือนเมษายน 2568 ซึ่งปัจจุบันเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนก็จะถึงกำหนดดังกล่าวแล้ว แต่ปรากฎว่าทักษิณแสดงท่าทีถอยชัดเจนแล้วว่าน้องปูยังไม่ถึงเวลากลับประเทศไทย
    .
    "ยังต้องดูเรื่องความเหมาะสม มีหลายปัจจัย กำลังดูอยู่ ความจริงเขาอยากกลับตั้งแต่เมื่อวาน" ทักษิณ ระบุ
    .
    สำหรับคดีที่ทำให้ยิ่งลักษณ์ไม่สามารถเดินกลับประเทศไทยได้ คือ การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก ในฐานะจำเลยคดีโครงการทุจริตรับจำนำข้าว 5 ปี ไม่รอลงอาญา เนื่องจากยิ่งลักษณ์ทราบว่าสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ระงับยับยั้ง ปล่อยให้ส่งมอบข้าวตามสัญญา จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 123/1
    .
    นอกจากนี้ ทักษิณ ยังได้แสดงความคิดเห็นถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีว่า นายกฯคุยเป็นประจำ ทราบว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะทุกคนยังทำงานกันได้ด้วยดี มีติดขัดเล็กน้อยแต่ยังเตือนกัน ยังไปได้ด้วยกันโดยไม่มีปัญหา
    .
    "ถ้าเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลของแต่ละพรรค ที่ต้องการปรับ ขอให้ดูจังหวะจะต้องปรับด้วยกัน ไม่ใช่แค่ปรับแค่คนหรือสองคน นอกจากจะมีตำแหน่งว่าง หรือลาออก ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากไม่ใช่เงื่อนไขนี้เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะไม่มีการปรับ" ทักษิณ กล่าว

    .............
    Sondhi X
    'ทักษิณ' อ้างหลายปัจจัย 'ยิ่งลักษณ์' ยังกลับไทยไม่ได้ . ถ้าใครยังจำกันได้ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี เคยประกาศมาก่อนหน้านี้ 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี น้องสาวตัวเองจะขอกลับมาเล่นน้ำสงกรานต์กับคนไทยในเดือนเมษายน 2568 ซึ่งปัจจุบันเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนก็จะถึงกำหนดดังกล่าวแล้ว แต่ปรากฎว่าทักษิณแสดงท่าทีถอยชัดเจนแล้วว่าน้องปูยังไม่ถึงเวลากลับประเทศไทย . "ยังต้องดูเรื่องความเหมาะสม มีหลายปัจจัย กำลังดูอยู่ ความจริงเขาอยากกลับตั้งแต่เมื่อวาน" ทักษิณ ระบุ . สำหรับคดีที่ทำให้ยิ่งลักษณ์ไม่สามารถเดินกลับประเทศไทยได้ คือ การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก ในฐานะจำเลยคดีโครงการทุจริตรับจำนำข้าว 5 ปี ไม่รอลงอาญา เนื่องจากยิ่งลักษณ์ทราบว่าสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่ระงับยับยั้ง ปล่อยให้ส่งมอบข้าวตามสัญญา จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 123/1 . นอกจากนี้ ทักษิณ ยังได้แสดงความคิดเห็นถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีว่า นายกฯคุยเป็นประจำ ทราบว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะทุกคนยังทำงานกันได้ด้วยดี มีติดขัดเล็กน้อยแต่ยังเตือนกัน ยังไปได้ด้วยกันโดยไม่มีปัญหา . "ถ้าเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลของแต่ละพรรค ที่ต้องการปรับ ขอให้ดูจังหวะจะต้องปรับด้วยกัน ไม่ใช่แค่ปรับแค่คนหรือสองคน นอกจากจะมีตำแหน่งว่าง หรือลาออก ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากไม่ใช่เงื่อนไขนี้เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะไม่มีการปรับ" ทักษิณ กล่าว ............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    9
    0 Comments 0 Shares 1505 Views 0 Reviews
  • สี่อาชีพในสังคมจีนโบราณ

    ไม่ทราบว่าเพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <ยอดบุรุษพลิกคดี> จะยังจำได้ไหมว่าในตอนต้นเรื่องนั้น จางผิงผู้เป็นบัณฑิตตกยากออกมาขายของกินยามค่ำคืนกับเพื่อนซี้ เขาโดนคนที่เดินผ่านมาถากถางว่าเป็นบัณฑิตแต่กลับไม่รักดีมาขายของโดยสาธยายว่า “ในบรรดาบัณฑิต เกษตรกร ช่าง และพ่อค้านั้น พ่อค้าคือต่ำต้อยสุด” (士农工商 商为最贱)

    ‘บัณฑิต เกษตรกร ช่าง และพ่อค้า’ หรือที่เรียกว่า ‘ซื่อหนงกงซัง” (士农工商) นั้น เป็นสี่หมวดอาชีพในสังคมจีนโบราณโดยในประโยคที่ยกมาจากในละครข้างต้นได้จัดเรียงลำดับชนชั้นจากความสูงส่งไปจนต่ำต้อย

    แล้วในสมัยจีนโบราณอาชีพพ่อค้าต่ำต้อยที่สุดจริงหรือ?

    จริงๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ แรกเริ่มเลยในสมัยราชวงศ์ซาง (1600-1050 ก่อนคริสตกาล) การเป็นพ่อค้าเป็นอาชีพที่คนชอบ ทำให้มีเกษตรกรน้อย ต่อมาในราชวงศ์ถัดๆ ไปจึงถูกมองว่านั่นทำให้รากฐานสังคมไม่แข็งแรงและเป็นหนึ่งในสาเหตุของการล่มสลายของราชวงศ์ซาง ในสมัยราชวงศ์โจวจึงมีการสนับสนุนให้ประชาชนทำการเกษตรมากกว่าการค้า

    ในยุคสมัยชุนชิว (770-476 ปีก่อนคริสตกาล) สี่หมวดอาชีพ ‘ซื่อหนงกงซัง’ นี้ถูกรวมกันเป็น ‘ซื่อหมิน’ (四民 แปลตรงตัวว่า ‘สี่ประชาชน’ หมายถึงสี่อาชีพ) ในบันทึกสั้นโบราณว่าด้วยปรัชญาการปกครองที่มีชื่อเรียกว่า ‘เสี่ยวควง’ ของก่วนจ้ง อัครมหาเสนาบดีของแคว้นฉีในยุคสมัยชุนชิว ซึ่งต่อมาถูกผนวกรวมเข้าไปไว้ในหมวดที่สามของประมวลสาส์นสี่พระคลัง (四库全书 / ซื่อคู่เฉวียนซู) ที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง

    ก่วนจ้งเองมาจากครอบครัวพ่อค้า เขามองอาชีพพ่อค้าเป็นอาชีพเท่าเทียมกับอาชีพอื่น ข้อความเดิมของเขาระบุไว้ว่า ‘ซื่อหนงกงซังสี่ประชาชนนั้น ล้วนเป็นศิลารากฐานแห่งประเทศชาติ’ โดยมีนัยว่าสังคมจะขาดหนึ่งกลุ่มอาชีพใดไม่ได้ และก่วนจ้งไม่ได้มีการจัดแบ่งชนชั้นต่ำสูง แต่ให้แง่คิดสำหรับระบบการปกครองว่าควรจัดสรรที่ดินทำกินและเขตพำนักให้เหมาะสมกับกลุ่มอาชีพ เพราะแต่ละกลุ่มจะมีความสันทัดและมีรูปแบบชีวิตของตน และหากคนในวิชาชีพเดียวกันได้อยู่ด้วยกันจะสืบทอดและพัฒนาความรู้ในวิชาชีพนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า อีกทั้งยังเอื้อต่อการปกครอง (หมายเหตุ ‘ซื่อ’ ไม่เพียงหมายถึงบัณฑิต หากแต่หมายรวมถึงผู้มีการศึกษาสามารถดูแลปกครองผู้อื่นได้ และหมายรวมถึงผู้ที่เข้ารับราชการด้วย)

    จะเห็นได้ว่า แรกเริ่มเลย ‘สี่ประชาชน’ นั้นเป็นการวางระบบการปกครองตามหมวดหมู่วิชาชีพโดยมองทุกกลุ่มชนเท่าเทียมกัน แต่ผลที่ตามมาก็คือ เกษตรกรเกิดในครอบครัวเกษตรกร คนมีการศึกษาเกิดในตระกูลคนมีการศึกษาด้วยกัน พอผ่านไปหลายชั่วคน ประชาชนจะถูกจำกัดให้อยู่ภายในกลุ่มหมวดอาชีพของตนโดยปริยาย

    ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น ปรัชญาขงจื๊อได้รับการยกย่องและยอมรับอย่างแพร่หลายและมีอิทธิพลอย่างมากต่อการปกครองบ้านเมือง ผลที่ตามมาคือการยกระดับกลุ่มคนมีการศึกษาขึ้นสูงเหนือกลุ่มอื่น และเริ่มมีการมองอย่างดูแคลนว่าพ่อค้าเอาผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้งมากกว่าความเจริญของส่วนรวม นี่ไม่ใช่คำสอนของขงจื๊อ แต่เป็นวิวัฒนาการทางความคิดของสังคมที่ไปในทิศทางนั้น

    ในตำราประวัติศาสตร์สมัยถังต้น (旧唐书¬) มีการบันทึกไว้ว่า ‘ผู้ที่รับเบี้ยหวัดราชการ ห้ามแก่งแย่งผลประโยชน์จากผู้ที่ต่ำกว่า ช่างและพ่อค้าหลากประเภท ห้ามมิให้เข้ารับราชการ’ (食禄之家,不得与下人争利。工商杂类,不得预于士伍。) เป็นที่สังเกตได้ว่ามีการใช้คำ ‘ผู้ที่ต่ำกว่า’ และ ‘หลากประเภท’ ซึ่งสะท้อนถึงการแบ่งแยกต่ำและสูง (หมายเหตุ ‘หลากประเภท’ ในที่นี้เป็นคำเรียกที่สะท้อนความหมายถึงชนชั้นต่ำ) และในสมัยถังไท่จงมีกฎว่า ห้ามไม่ให้ขุนนางขั้นที่ห้าขึ้นไปทำการค้า วัตถุประสงค์ของกฎเกณฑ์ต่างๆ เหล่านี้เป็นการจัดระเบียบสังคมและป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ แต่อย่างไรก็ดี มันเสริมสร้างการแบ่งแยกทางชนชั้นด้วยอาชีพ สุดท้ายกลายเป็นการตอกย้ำความเชื่อของสังคมที่ว่า ‘ในบรรดาบัณฑิต เกษตรกร ช่าง และพ่อค้านั้น พ่อค้าคือต่ำต้อยสุด’

    แต่ความคิดนี้เริ่มเปลี่ยนไปในช่วงกลางและปลายของสมัยถัง และได้มีการผ่อนคลายกฏเกณฑ์บางอย่าง การเปลี่ยนแปลงนี้ค่อยๆ มีอย่างต่อเนื่อง ต่อมาในสมัยซ่ง การค้าเจริญรุ่งเรือง เกิดการคบค้าสมาคมกันอย่างกว้างขวางข้ามกลุ่มอาชีพ และพ่อค้ากลับกลายมาเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของสังคม โดยมีบทบาทเข้ามาช่วยเหลือจุนเจือสังคมมากขึ้น จะเห็นได้ว่า บทบาทและสถานะทางสังคมของอาชีพต่างๆ แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย

    Storyฯ ไม่ได้ค้นคว้าอย่างลึกซึ้งในรายละเอียดของวิวัฒนาการต่างๆ ทางด้านการปกครองและเศรษฐกิจเพราะเป็นสองศาสตร์วิชาที่ทั้งกว้างทั้งลึก วันนี้จึงเพียงคุยโดยคร่าวให้เพื่อนเพจฟังในแง่ที่ว่า สี่หมวดหมู่อาชีพนี้ เป็นการจัดหมวดหมู่เพื่อการปกครองมาแต่โบราณกาลและเดิมไม่ได้เป็นการตั้งใจแบ่งชนชั้นวรรณะตามอาชีพ เพียงแต่เมื่อสังคมเปลี่ยนไป มุมมองก็เปลี่ยนไปจนเกิดเป็นการแบ่งแยกให้ชนชั้นที่มีการศึกษาเป็นชั้นสูงและให้พ่อค้าเป็นชนชั้นล่างสุด แต่นี่ไม่ใช่สถานะที่ถาวร หากแต่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยเช่นกัน

    ละครเรื่อง <ยอดบุรุษพลิกคดี> เป็นเรื่องราวในรัชสมัยสมมุติ แต่ดูจากการแต่งกายและเครื่องแบบข้าราชการแล้วเป็นการอิงตามสมัยถัง จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นวลีที่ว่า ‘ในบรรดาบัณฑิต เกษตรกร ช่าง และพ่อค้านั้น พ่อค้าคือต่ำต้อยสุด’ นี้ในละครเรื่องนี้

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.themoviedb.org/tv/128712/images/posters?language=zh-HK
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/531009133
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://ctext.org/guanzi/xiao-kuang/zhs
    http://www.qulishi.com/article/201909/363094.html
    https://www.163.com/dy/article/FLEULDGE0543KAMS.html
    https://www.sxlib.org.cn/dfzy/sczl/wwgjp/qb/201808/t20180806_929973.html
    http://www.rmlt.com.cn/2018/1116/533321.shtml
    http://www.jjckb.cn/2016-12/05/c_135881236.htm#
    http://economy.guoxue.com/?p=888

    #ยอดบุรุษพลิกคดี #สี่อาชีพจีนโบราณ #ซี่อหนงกงซัง #ซื่อหมิน #สี่ประชาชน
    สี่อาชีพในสังคมจีนโบราณ ไม่ทราบว่าเพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <ยอดบุรุษพลิกคดี> จะยังจำได้ไหมว่าในตอนต้นเรื่องนั้น จางผิงผู้เป็นบัณฑิตตกยากออกมาขายของกินยามค่ำคืนกับเพื่อนซี้ เขาโดนคนที่เดินผ่านมาถากถางว่าเป็นบัณฑิตแต่กลับไม่รักดีมาขายของโดยสาธยายว่า “ในบรรดาบัณฑิต เกษตรกร ช่าง และพ่อค้านั้น พ่อค้าคือต่ำต้อยสุด” (士农工商 商为最贱) ‘บัณฑิต เกษตรกร ช่าง และพ่อค้า’ หรือที่เรียกว่า ‘ซื่อหนงกงซัง” (士农工商) นั้น เป็นสี่หมวดอาชีพในสังคมจีนโบราณโดยในประโยคที่ยกมาจากในละครข้างต้นได้จัดเรียงลำดับชนชั้นจากความสูงส่งไปจนต่ำต้อย แล้วในสมัยจีนโบราณอาชีพพ่อค้าต่ำต้อยที่สุดจริงหรือ? จริงๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ แรกเริ่มเลยในสมัยราชวงศ์ซาง (1600-1050 ก่อนคริสตกาล) การเป็นพ่อค้าเป็นอาชีพที่คนชอบ ทำให้มีเกษตรกรน้อย ต่อมาในราชวงศ์ถัดๆ ไปจึงถูกมองว่านั่นทำให้รากฐานสังคมไม่แข็งแรงและเป็นหนึ่งในสาเหตุของการล่มสลายของราชวงศ์ซาง ในสมัยราชวงศ์โจวจึงมีการสนับสนุนให้ประชาชนทำการเกษตรมากกว่าการค้า ในยุคสมัยชุนชิว (770-476 ปีก่อนคริสตกาล) สี่หมวดอาชีพ ‘ซื่อหนงกงซัง’ นี้ถูกรวมกันเป็น ‘ซื่อหมิน’ (四民 แปลตรงตัวว่า ‘สี่ประชาชน’ หมายถึงสี่อาชีพ) ในบันทึกสั้นโบราณว่าด้วยปรัชญาการปกครองที่มีชื่อเรียกว่า ‘เสี่ยวควง’ ของก่วนจ้ง อัครมหาเสนาบดีของแคว้นฉีในยุคสมัยชุนชิว ซึ่งต่อมาถูกผนวกรวมเข้าไปไว้ในหมวดที่สามของประมวลสาส์นสี่พระคลัง (四库全书 / ซื่อคู่เฉวียนซู) ที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง ก่วนจ้งเองมาจากครอบครัวพ่อค้า เขามองอาชีพพ่อค้าเป็นอาชีพเท่าเทียมกับอาชีพอื่น ข้อความเดิมของเขาระบุไว้ว่า ‘ซื่อหนงกงซังสี่ประชาชนนั้น ล้วนเป็นศิลารากฐานแห่งประเทศชาติ’ โดยมีนัยว่าสังคมจะขาดหนึ่งกลุ่มอาชีพใดไม่ได้ และก่วนจ้งไม่ได้มีการจัดแบ่งชนชั้นต่ำสูง แต่ให้แง่คิดสำหรับระบบการปกครองว่าควรจัดสรรที่ดินทำกินและเขตพำนักให้เหมาะสมกับกลุ่มอาชีพ เพราะแต่ละกลุ่มจะมีความสันทัดและมีรูปแบบชีวิตของตน และหากคนในวิชาชีพเดียวกันได้อยู่ด้วยกันจะสืบทอดและพัฒนาความรู้ในวิชาชีพนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า อีกทั้งยังเอื้อต่อการปกครอง (หมายเหตุ ‘ซื่อ’ ไม่เพียงหมายถึงบัณฑิต หากแต่หมายรวมถึงผู้มีการศึกษาสามารถดูแลปกครองผู้อื่นได้ และหมายรวมถึงผู้ที่เข้ารับราชการด้วย) จะเห็นได้ว่า แรกเริ่มเลย ‘สี่ประชาชน’ นั้นเป็นการวางระบบการปกครองตามหมวดหมู่วิชาชีพโดยมองทุกกลุ่มชนเท่าเทียมกัน แต่ผลที่ตามมาก็คือ เกษตรกรเกิดในครอบครัวเกษตรกร คนมีการศึกษาเกิดในตระกูลคนมีการศึกษาด้วยกัน พอผ่านไปหลายชั่วคน ประชาชนจะถูกจำกัดให้อยู่ภายในกลุ่มหมวดอาชีพของตนโดยปริยาย ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น ปรัชญาขงจื๊อได้รับการยกย่องและยอมรับอย่างแพร่หลายและมีอิทธิพลอย่างมากต่อการปกครองบ้านเมือง ผลที่ตามมาคือการยกระดับกลุ่มคนมีการศึกษาขึ้นสูงเหนือกลุ่มอื่น และเริ่มมีการมองอย่างดูแคลนว่าพ่อค้าเอาผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้งมากกว่าความเจริญของส่วนรวม นี่ไม่ใช่คำสอนของขงจื๊อ แต่เป็นวิวัฒนาการทางความคิดของสังคมที่ไปในทิศทางนั้น ในตำราประวัติศาสตร์สมัยถังต้น (旧唐书¬) มีการบันทึกไว้ว่า ‘ผู้ที่รับเบี้ยหวัดราชการ ห้ามแก่งแย่งผลประโยชน์จากผู้ที่ต่ำกว่า ช่างและพ่อค้าหลากประเภท ห้ามมิให้เข้ารับราชการ’ (食禄之家,不得与下人争利。工商杂类,不得预于士伍。) เป็นที่สังเกตได้ว่ามีการใช้คำ ‘ผู้ที่ต่ำกว่า’ และ ‘หลากประเภท’ ซึ่งสะท้อนถึงการแบ่งแยกต่ำและสูง (หมายเหตุ ‘หลากประเภท’ ในที่นี้เป็นคำเรียกที่สะท้อนความหมายถึงชนชั้นต่ำ) และในสมัยถังไท่จงมีกฎว่า ห้ามไม่ให้ขุนนางขั้นที่ห้าขึ้นไปทำการค้า วัตถุประสงค์ของกฎเกณฑ์ต่างๆ เหล่านี้เป็นการจัดระเบียบสังคมและป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ แต่อย่างไรก็ดี มันเสริมสร้างการแบ่งแยกทางชนชั้นด้วยอาชีพ สุดท้ายกลายเป็นการตอกย้ำความเชื่อของสังคมที่ว่า ‘ในบรรดาบัณฑิต เกษตรกร ช่าง และพ่อค้านั้น พ่อค้าคือต่ำต้อยสุด’ แต่ความคิดนี้เริ่มเปลี่ยนไปในช่วงกลางและปลายของสมัยถัง และได้มีการผ่อนคลายกฏเกณฑ์บางอย่าง การเปลี่ยนแปลงนี้ค่อยๆ มีอย่างต่อเนื่อง ต่อมาในสมัยซ่ง การค้าเจริญรุ่งเรือง เกิดการคบค้าสมาคมกันอย่างกว้างขวางข้ามกลุ่มอาชีพ และพ่อค้ากลับกลายมาเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของสังคม โดยมีบทบาทเข้ามาช่วยเหลือจุนเจือสังคมมากขึ้น จะเห็นได้ว่า บทบาทและสถานะทางสังคมของอาชีพต่างๆ แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย Storyฯ ไม่ได้ค้นคว้าอย่างลึกซึ้งในรายละเอียดของวิวัฒนาการต่างๆ ทางด้านการปกครองและเศรษฐกิจเพราะเป็นสองศาสตร์วิชาที่ทั้งกว้างทั้งลึก วันนี้จึงเพียงคุยโดยคร่าวให้เพื่อนเพจฟังในแง่ที่ว่า สี่หมวดหมู่อาชีพนี้ เป็นการจัดหมวดหมู่เพื่อการปกครองมาแต่โบราณกาลและเดิมไม่ได้เป็นการตั้งใจแบ่งชนชั้นวรรณะตามอาชีพ เพียงแต่เมื่อสังคมเปลี่ยนไป มุมมองก็เปลี่ยนไปจนเกิดเป็นการแบ่งแยกให้ชนชั้นที่มีการศึกษาเป็นชั้นสูงและให้พ่อค้าเป็นชนชั้นล่างสุด แต่นี่ไม่ใช่สถานะที่ถาวร หากแต่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยเช่นกัน ละครเรื่อง <ยอดบุรุษพลิกคดี> เป็นเรื่องราวในรัชสมัยสมมุติ แต่ดูจากการแต่งกายและเครื่องแบบข้าราชการแล้วเป็นการอิงตามสมัยถัง จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นวลีที่ว่า ‘ในบรรดาบัณฑิต เกษตรกร ช่าง และพ่อค้านั้น พ่อค้าคือต่ำต้อยสุด’ นี้ในละครเรื่องนี้ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.themoviedb.org/tv/128712/images/posters?language=zh-HK https://zhuanlan.zhihu.com/p/531009133 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://ctext.org/guanzi/xiao-kuang/zhs http://www.qulishi.com/article/201909/363094.html https://www.163.com/dy/article/FLEULDGE0543KAMS.html https://www.sxlib.org.cn/dfzy/sczl/wwgjp/qb/201808/t20180806_929973.html http://www.rmlt.com.cn/2018/1116/533321.shtml http://www.jjckb.cn/2016-12/05/c_135881236.htm# http://economy.guoxue.com/?p=888 #ยอดบุรุษพลิกคดี #สี่อาชีพจีนโบราณ #ซี่อหนงกงซัง #ซื่อหมิน #สี่ประชาชน
    WWW.THEMOVIEDB.ORG
    神探同盟
    故事改編自內地網絡作家大風颳過撰寫嘅原創長篇網絡小說《張公案》.
    0 Comments 0 Shares 465 Views 0 Reviews
  • แม้ทักษิณใกล้จะสิ้นมนต์ขลัง แต่พลังพรรคส้มก็กำลังจะอ่อนแรง

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000012307
    แม้ทักษิณใกล้จะสิ้นมนต์ขลัง แต่พลังพรรคส้มก็กำลังจะอ่อนแรง บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000012307
    MGRONLINE.COM
    แม้ทักษิณใกล้จะสิ้นมนต์ขลัง แต่พลังพรรคส้มก็กำลังจะอ่อนแรง
    ผลการเลือกตั้งอบจ.บอกอะไรกับเราไม่น้อย ที่สะท้อนชัดก็คือสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นบ้านใหญ่ที่ใกล้ชิดกับประชาชนยังสามารถยึดครองพื้นที่ได้
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 221 Views 0 Reviews
  • ถนนจูเชวี่ยแห่งนครฉางอัน

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเร็วหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันไปฉลองปีใหม่ พูดถึงเทศกาลคริสมาสและปีใหม่ ก็หนีไม่พ้นเรื่องของการซื้อของให้ของขวัญ ทำให้ Storyฯ นึกถึงถนนสายหนึ่งที่มักถูกกล่าวถึงในละครเรื่อง <ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์> เวลาที่นางเอกชวนสาวใช้ไปเดินช้อปปิ้ง

    ถนนสายนี้มีชื่อว่า ถนนจูเชวี่ย (朱雀街 / ถนนวิหคชาด) ซึ่งเป็นชื่อที่ปรากฏบ่อยมากในซีรีส์และนิยายจีน เพราะมันเป็นถนนที่โด่งดังมากแห่งนครฉางอัน และปัจจุบันยังคงมีถนนสายนี้อยู่ที่เมืองซีอัน แต่เรียกจริงๆ ว่าถนนใหญ่จูเชวี่ย (朱雀大街 / Zhuque Avenue)

    ถนนจูเชวี่ยที่เราเห็นในละครหลายเรื่องดูจะเป็นถนนเล็ก สองฟากเรียงรายด้วยแผงขายของ แต่จริงๆ แล้ว ถนนจูเชวี่ยเป็นถนนที่ใหญ่มาก เลยต้องเอารูปประกอบมาเสริมจากละครเรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> ซึ่งถูกกล่าวขานยกย่องว่ามีการจำลองผังเมืองนครฉางอันมาอย่างดี

    ‘ฉางอัน’ ชื่อนี้แปลว่าสงบสุขยืนยาว และเมืองฉางอันมีอดีตยาวนานสมชื่อ มันเคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่หลายราชวงศ์ แต่ไม่ได้มีอาณาเขตเท่ากันในทุกยุคสมัย ในสมัยราชวงศ์สุยและถังมีการสร้างพระราชวังขึ้นเพิ่มและขยายอาณาเขตออกไป และในสมัยถังจัดได้ว่าเป็นช่วงที่เรืองรองที่สุดของนครฉางอัน ในช่วงที่เฟื่องฟูที่สุดนั้น นครฉางอันมีประชากรถึง 3 ล้านคน เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกในสมัยนั้น ใหญ่กว่ากรุงโรมโบราณถึง 7 เท่า เส้นผ่าศูนย์กลางตะวันออก-ตะวันตกของเมืองยาว 9.7 กิโลเมตร เหนือ-ใต้ยาว 8.7 กิโลเมตร

    ต่อมาในสมัยปลายถังมีการหนีข้าศึกย้ายราชธานีไปยังเมืองลั่วหยาง เมืองฉางอันก็ค่อยๆ เสื่อมโทรมลง ในสมัยหมิงมีการบูรณะฉางอันสร้างขึ้นอีกครั้งเป็นเมืองซีอัน แต่ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่าฉางอันเดิม

    นครฉางอันสมัยถังแบ่งเป็นสองเขตใหญ่ คือฝั่งตะวันออกและตะวันตก มีถนนใหญ่คั่นกลางคือถนนจูเชวี่ย (ดูรูปประกอบ2) พื้นที่ทั้งหมดถูกแบ่งซอยย่อยเป็นเขตเล็กทรงสี่เหลี่ยมเรียกว่า ‘ฟาง’ มีหลายขนาด ยาวประมาณ 500-800 เมตร กว้าง 700-1,000 เมตร แต่ละเขตฟางมีกำแพงและคูระบายน้ำล้อมรอบ และมีประตูเข้าออกของมันเองเพื่อความปลอดภัย โดยประตูจะเปิดในตอนเช้าและปิดในตอนกลางคืน มีทั้งหมดด้วยกัน 108 เขตฟาง (ไม่รวมตลาดอีก 2 ฟาง) จนบางคนเปรียบผังเมืองฉางอันเป็นกระดานหมากล้อม เพื่อนเพจที่ได้ดู <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> น่าจะคุ้นเคยกับภาพของเขตฟางเหล่านี้

    นครฉางอันมีประตูเมือง 12 ประตู (Storyฯ เคยคุยถึงประตูเมืองโบราณแล้วใน https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/581451090649854 ) และประตูเมืองที่สำคัญเพราะเป็นประตูหลักในการเข้าออกเมืองนี้ก็คือประตูทิศใต้ที่มีชื่อว่า ประตูหมิงเต๋อ มันเป็นประตูเมืองประตูเดียวที่มีถึงห้าบาน โดยหนึ่งบานนั้นเป็นประตูที่เปิดใช้เฉพาะยามที่ฮ่องเต้เสด็จเข้าออกเมือง

    ถนนจูเชวี่ยนี้ ทิศใต้จรดประตูเมืองหมิงเต๋อที่กล่าวถึงข้างต้น ส่วนทิศเหนือนั้นจรดประตูเขตพระนครชื่อว่าประตูจูเชวี่ย และเลยผ่านเขตพระนครไปจรดประตูพระราชวังเฉิงเทียน อนึ่ง เขตพระนครหรือหวงเฉิง (皇城 / Royal City) นั้นคือส่วนที่เป็นบริเวณสถานที่ราชการต่างๆ ส่วนเขตพระราชวังหรือกงเฉิง (宫城 / Palace City) นั้นคือเขตที่ประทับของฮ่องเต้และเหล่าเชื้อพระวงศ์ ถนนจูเชวี่ยส่วนที่อยู่ในเขตพระนครนั้นเรียกว่า ถนนเฉิงเทียน ตามชื่อประตู และเป็นที่มาว่าถนนจูเชวี่ยถูกเรียกว่าถนน ‘เทียนเจีย’ (ถนนสวรรค์)

    ถนนจูเชวี่ยแห่งนครฉางอันในสมัยถังนั้น จริงแท้หน้าตาเป็นอย่างไรไม่ปรากฏภาพวาดเปรียบเทียบกับถนนอื่นอย่างชัดเจน แต่มีการขุดพบซากถนนเก่าที่ยืนยันขนาดของมันว่ามีความยาว กว่า 5 กม. ถนนหน้ากว้าง 150 เมตร (รวมคูข้างถนน ถ้าไม่รวมคือประมาณ 129-130 เมตร) และทุกระยะทาง 200 เมตรจะมีการขยายถนนออกไปเล็กน้อย คล้ายเป็นไหล่ทาง มีไว้ให้คนยืนหลบเวลาที่ฮ่องเต้เสด็จผ่าน --- ลองนึกเปรียบเทียบดูว่า ถนนบ้านเราปัจจุบันตามกฎหมายกว้าง 3 เมตร ดังนั้นความกว้างของถนนจูเชวี่ยเทียบเท่าถนนห้าสิบเลนปัจจุบันของเราเลยทีเดียว! ทีนี้เพื่อนเพจคงนึกภาพตามได้ไม่ยากแล้วว่า ในละครที่เราเห็นภาพฮ่องเต้ทรงอวยพรให้แม่ทัพและเหล่ากองกำลังทหารก่อนเดินทัพออกจากพระราชวังนั้น เขามีถนนใหญ่อย่างนี้จริง

    มีคนวิเคราะห์ไว้ว่า ขนาดความกว้างของถนนจูเชวี่ยนี้ เป็นเพราะระยะทางการยิงของธนูธรรมดาในสมัยนั้น ยิงได้ไกลประมาณ 60 เมตร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของขบวนเสด็จของฮ่องเต้ ถนนจูเชวี่ยจึงต้องมีความกว้างถึง 150 เมตร

    แต่ไม่ใช่ถนนทุกสายที่มีหน้ากว้างขนาดนี้ ถนนสายรองของเมืองมีหน้ากว้างปกติ 40-70 เมตร และถนนเล็กเลียบกำแพงเมืองจะมีหน้ากว้างไม่เกิน 25 เมตร ส่วนถนนระหว่างเขตฟางส่วนใหญ่มีความกว้างเพียงให้รถเกวียนหรือรถม้าสองคันวิ่งสวนกัน

    ถนนจูเชวี่ยใหญ่ขนาดนี้ ใช่ถนนช้อปปิ้งหรือไม่?

    จากบันทึกโบราณ สถานช้อปปิ้งหลักของนครฉางอันคือตลาดตะวันตกและตลาดตะวันออก (ดูรูปผังเมืองที่แปะมา) โดยสินค้าในตลาดตะวันตกส่วนใหญ่เป็นสินค้าพื้นบ้านหรือของนำเข้าจากเมืองอื่นสำหรับชาวบ้านทั่วไป แต่สินค้าในตลาดตะวันออกจากมีราคาสูงขึ้นมาอีก เพราะกลุ่มลูกค้าจะเป็นชนชั้นสูง ส่วนถนนจูเชวี่ยนั้น สองฝั่งฟากส่วนใหญ่เป็นวัดวาอารามและหอชมวิว

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.niusnews.com/=P0123ga33
    https://n.znds.com/article/39071.html
    http://v.xiancity.cn/folder11/folder186/2016-11-25/89648.html
    https://m.planning.org.cn/zx_news/9888.htm
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.planning.org.cn/zx_news/9888.htm
    https://en.unesco.org/silkroad/content/did-you-know-cosmopolitan-city-changan-eastern-end-silk-roads
    https://i.ifeng.com/c/8NbyjwjSa8B
    https://kknews.cc/history/6o6lop.html
    https://kknews.cc/news/e8orjvn.html
    https://www.gugong.net/zhongguo/tangchao/29679.html

    #ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์ #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #ฉางอัน #ถนนจูเชวี่ย #ถนนสวรรค์
    ถนนจูเชวี่ยแห่งนครฉางอัน สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเร็วหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันไปฉลองปีใหม่ พูดถึงเทศกาลคริสมาสและปีใหม่ ก็หนีไม่พ้นเรื่องของการซื้อของให้ของขวัญ ทำให้ Storyฯ นึกถึงถนนสายหนึ่งที่มักถูกกล่าวถึงในละครเรื่อง <ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์> เวลาที่นางเอกชวนสาวใช้ไปเดินช้อปปิ้ง ถนนสายนี้มีชื่อว่า ถนนจูเชวี่ย (朱雀街 / ถนนวิหคชาด) ซึ่งเป็นชื่อที่ปรากฏบ่อยมากในซีรีส์และนิยายจีน เพราะมันเป็นถนนที่โด่งดังมากแห่งนครฉางอัน และปัจจุบันยังคงมีถนนสายนี้อยู่ที่เมืองซีอัน แต่เรียกจริงๆ ว่าถนนใหญ่จูเชวี่ย (朱雀大街 / Zhuque Avenue) ถนนจูเชวี่ยที่เราเห็นในละครหลายเรื่องดูจะเป็นถนนเล็ก สองฟากเรียงรายด้วยแผงขายของ แต่จริงๆ แล้ว ถนนจูเชวี่ยเป็นถนนที่ใหญ่มาก เลยต้องเอารูปประกอบมาเสริมจากละครเรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> ซึ่งถูกกล่าวขานยกย่องว่ามีการจำลองผังเมืองนครฉางอันมาอย่างดี ‘ฉางอัน’ ชื่อนี้แปลว่าสงบสุขยืนยาว และเมืองฉางอันมีอดีตยาวนานสมชื่อ มันเคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่หลายราชวงศ์ แต่ไม่ได้มีอาณาเขตเท่ากันในทุกยุคสมัย ในสมัยราชวงศ์สุยและถังมีการสร้างพระราชวังขึ้นเพิ่มและขยายอาณาเขตออกไป และในสมัยถังจัดได้ว่าเป็นช่วงที่เรืองรองที่สุดของนครฉางอัน ในช่วงที่เฟื่องฟูที่สุดนั้น นครฉางอันมีประชากรถึง 3 ล้านคน เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกในสมัยนั้น ใหญ่กว่ากรุงโรมโบราณถึง 7 เท่า เส้นผ่าศูนย์กลางตะวันออก-ตะวันตกของเมืองยาว 9.7 กิโลเมตร เหนือ-ใต้ยาว 8.7 กิโลเมตร ต่อมาในสมัยปลายถังมีการหนีข้าศึกย้ายราชธานีไปยังเมืองลั่วหยาง เมืองฉางอันก็ค่อยๆ เสื่อมโทรมลง ในสมัยหมิงมีการบูรณะฉางอันสร้างขึ้นอีกครั้งเป็นเมืองซีอัน แต่ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่าฉางอันเดิม นครฉางอันสมัยถังแบ่งเป็นสองเขตใหญ่ คือฝั่งตะวันออกและตะวันตก มีถนนใหญ่คั่นกลางคือถนนจูเชวี่ย (ดูรูปประกอบ2) พื้นที่ทั้งหมดถูกแบ่งซอยย่อยเป็นเขตเล็กทรงสี่เหลี่ยมเรียกว่า ‘ฟาง’ มีหลายขนาด ยาวประมาณ 500-800 เมตร กว้าง 700-1,000 เมตร แต่ละเขตฟางมีกำแพงและคูระบายน้ำล้อมรอบ และมีประตูเข้าออกของมันเองเพื่อความปลอดภัย โดยประตูจะเปิดในตอนเช้าและปิดในตอนกลางคืน มีทั้งหมดด้วยกัน 108 เขตฟาง (ไม่รวมตลาดอีก 2 ฟาง) จนบางคนเปรียบผังเมืองฉางอันเป็นกระดานหมากล้อม เพื่อนเพจที่ได้ดู <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> น่าจะคุ้นเคยกับภาพของเขตฟางเหล่านี้ นครฉางอันมีประตูเมือง 12 ประตู (Storyฯ เคยคุยถึงประตูเมืองโบราณแล้วใน https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/581451090649854 ) และประตูเมืองที่สำคัญเพราะเป็นประตูหลักในการเข้าออกเมืองนี้ก็คือประตูทิศใต้ที่มีชื่อว่า ประตูหมิงเต๋อ มันเป็นประตูเมืองประตูเดียวที่มีถึงห้าบาน โดยหนึ่งบานนั้นเป็นประตูที่เปิดใช้เฉพาะยามที่ฮ่องเต้เสด็จเข้าออกเมือง ถนนจูเชวี่ยนี้ ทิศใต้จรดประตูเมืองหมิงเต๋อที่กล่าวถึงข้างต้น ส่วนทิศเหนือนั้นจรดประตูเขตพระนครชื่อว่าประตูจูเชวี่ย และเลยผ่านเขตพระนครไปจรดประตูพระราชวังเฉิงเทียน อนึ่ง เขตพระนครหรือหวงเฉิง (皇城 / Royal City) นั้นคือส่วนที่เป็นบริเวณสถานที่ราชการต่างๆ ส่วนเขตพระราชวังหรือกงเฉิง (宫城 / Palace City) นั้นคือเขตที่ประทับของฮ่องเต้และเหล่าเชื้อพระวงศ์ ถนนจูเชวี่ยส่วนที่อยู่ในเขตพระนครนั้นเรียกว่า ถนนเฉิงเทียน ตามชื่อประตู และเป็นที่มาว่าถนนจูเชวี่ยถูกเรียกว่าถนน ‘เทียนเจีย’ (ถนนสวรรค์) ถนนจูเชวี่ยแห่งนครฉางอันในสมัยถังนั้น จริงแท้หน้าตาเป็นอย่างไรไม่ปรากฏภาพวาดเปรียบเทียบกับถนนอื่นอย่างชัดเจน แต่มีการขุดพบซากถนนเก่าที่ยืนยันขนาดของมันว่ามีความยาว กว่า 5 กม. ถนนหน้ากว้าง 150 เมตร (รวมคูข้างถนน ถ้าไม่รวมคือประมาณ 129-130 เมตร) และทุกระยะทาง 200 เมตรจะมีการขยายถนนออกไปเล็กน้อย คล้ายเป็นไหล่ทาง มีไว้ให้คนยืนหลบเวลาที่ฮ่องเต้เสด็จผ่าน --- ลองนึกเปรียบเทียบดูว่า ถนนบ้านเราปัจจุบันตามกฎหมายกว้าง 3 เมตร ดังนั้นความกว้างของถนนจูเชวี่ยเทียบเท่าถนนห้าสิบเลนปัจจุบันของเราเลยทีเดียว! ทีนี้เพื่อนเพจคงนึกภาพตามได้ไม่ยากแล้วว่า ในละครที่เราเห็นภาพฮ่องเต้ทรงอวยพรให้แม่ทัพและเหล่ากองกำลังทหารก่อนเดินทัพออกจากพระราชวังนั้น เขามีถนนใหญ่อย่างนี้จริง มีคนวิเคราะห์ไว้ว่า ขนาดความกว้างของถนนจูเชวี่ยนี้ เป็นเพราะระยะทางการยิงของธนูธรรมดาในสมัยนั้น ยิงได้ไกลประมาณ 60 เมตร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของขบวนเสด็จของฮ่องเต้ ถนนจูเชวี่ยจึงต้องมีความกว้างถึง 150 เมตร แต่ไม่ใช่ถนนทุกสายที่มีหน้ากว้างขนาดนี้ ถนนสายรองของเมืองมีหน้ากว้างปกติ 40-70 เมตร และถนนเล็กเลียบกำแพงเมืองจะมีหน้ากว้างไม่เกิน 25 เมตร ส่วนถนนระหว่างเขตฟางส่วนใหญ่มีความกว้างเพียงให้รถเกวียนหรือรถม้าสองคันวิ่งสวนกัน ถนนจูเชวี่ยใหญ่ขนาดนี้ ใช่ถนนช้อปปิ้งหรือไม่? จากบันทึกโบราณ สถานช้อปปิ้งหลักของนครฉางอันคือตลาดตะวันตกและตลาดตะวันออก (ดูรูปผังเมืองที่แปะมา) โดยสินค้าในตลาดตะวันตกส่วนใหญ่เป็นสินค้าพื้นบ้านหรือของนำเข้าจากเมืองอื่นสำหรับชาวบ้านทั่วไป แต่สินค้าในตลาดตะวันออกจากมีราคาสูงขึ้นมาอีก เพราะกลุ่มลูกค้าจะเป็นชนชั้นสูง ส่วนถนนจูเชวี่ยนั้น สองฝั่งฟากส่วนใหญ่เป็นวัดวาอารามและหอชมวิว (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.niusnews.com/=P0123ga33 https://n.znds.com/article/39071.html http://v.xiancity.cn/folder11/folder186/2016-11-25/89648.html https://m.planning.org.cn/zx_news/9888.htm Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.planning.org.cn/zx_news/9888.htm https://en.unesco.org/silkroad/content/did-you-know-cosmopolitan-city-changan-eastern-end-silk-roads https://i.ifeng.com/c/8NbyjwjSa8B https://kknews.cc/history/6o6lop.html https://kknews.cc/news/e8orjvn.html https://www.gugong.net/zhongguo/tangchao/29679.html #ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์ #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #ฉางอัน #ถนนจูเชวี่ย #ถนนสวรรค์
    0 Comments 0 Shares 575 Views 0 Reviews
  • คนวัยทำงาน คนหนุ่มสาว ดูไว้นะ เอาชาติไปส่งคราม นักการเมืองมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ไม่รู้ แต่ ประชากรหาย ผลผลิตชาติ ลด มีหนี้ แล้วก็ขายทรัพยากรใช้หนี้ คนส่วนใหญ่ไม่ได้ แต่นักการเมือง คงได้
    https://mgronline.com/around/detail/9680000011123
    คนวัยทำงาน คนหนุ่มสาว ดูไว้นะ เอาชาติไปส่งคราม นักการเมืองมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ไม่รู้ แต่ ประชากรหาย ผลผลิตชาติ ลด มีหนี้ แล้วก็ขายทรัพยากรใช้หนี้ คนส่วนใหญ่ไม่ได้ แต่นักการเมือง คงได้ https://mgronline.com/around/detail/9680000011123
    MGRONLINE.COM
    ทุกอย่างมีราคา! เซเลนสกีหน้าซีดทรัมป์ยื่นเงื่อนไข ขอแร่แรร์เอิร์ธแลกความช่วยเหลือทางการเงิน
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันจันทร์(3ก.พ.) ระบุต้องการให้ยูเครนป้อนแร่แรร์เอิร์ธแก่อเมริกา ในฐานะรูปแบบหนึ่งของการชำระเงิน แลกกับความช่วยเหลือทางการเงินสนับสนุนประเทศแห่งนี้ที่กำลังทำสงครามกับรัสเซีย
    0 Comments 0 Shares 223 Views 0 Reviews
  • ตรุษจีนก็แล้ว เงินหมื่นก็แล้ว...ดูเหมือนจะ กระเพื่อม...ได้ไม่นาน...ศก.บ้านเรา..มีคนโน้นนี่ ออกมาบอกว่า ที่นั่นเป็นงั้น ทีโน้นเป็นงี้...อธิบายแบบเป็นเจ้าของธุรกิจ คือ ผมให้คุณมาทำงาน มาแก้ปัญหา..ไม่ใช่มาแจ้งเพื้อทราบว่า ต้องทำใจ? เพราะ 1234 ...แบบนี้น คงใช้ใครก็ได้กระมัง?
    ตรุษจีนก็แล้ว เงินหมื่นก็แล้ว...ดูเหมือนจะ กระเพื่อม...ได้ไม่นาน...ศก.บ้านเรา..มีคนโน้นนี่ ออกมาบอกว่า ที่นั่นเป็นงั้น ทีโน้นเป็นงี้...อธิบายแบบเป็นเจ้าของธุรกิจ คือ ผมให้คุณมาทำงาน มาแก้ปัญหา..ไม่ใช่มาแจ้งเพื้อทราบว่า ต้องทำใจ? เพราะ 1234 ...แบบนี้น คงใช้ใครก็ได้กระมัง?
    Love
    1
    2 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • วงการพระเงียบสนิท...live แทบทุกแบบ เงียบสนิท...ระดับ 1234 ร้อย..นี่หนักเลย..จากเคยขายง่ายๆ...ยังพอมีกับดัก คนโลภ ที่พออยู่ได้...บางเจ้า...สนามแทบทุกแห่ง..มีแต่ พ่อค้าตัดของ กับ เฮียชม ...คือ ชมอย่างเดียว...ต้องหลุดจริง ถูกจริง..จึงจะซื้อ..เศรษฐกิจแย่แบบที่คนอายุจะ 60 แบบผู้เขียน..เพิ่งเคยประสบ..และไม่ว่าวัดจากดัชนีชี้วัดตัวไหน ..ไม่ว่า ตลาดหุ้น หรืออื่นๆ ...ถ้าไม่ Make ตัวเลข กัน ..คงชั้ชัดอยู่แล้ว
    วงการพระเงียบสนิท...live แทบทุกแบบ เงียบสนิท...ระดับ 1234 ร้อย..นี่หนักเลย..จากเคยขายง่ายๆ...ยังพอมีกับดัก คนโลภ ที่พออยู่ได้...บางเจ้า...สนามแทบทุกแห่ง..มีแต่ พ่อค้าตัดของ กับ เฮียชม ...คือ ชมอย่างเดียว...ต้องหลุดจริง ถูกจริง..จึงจะซื้อ..เศรษฐกิจแย่แบบที่คนอายุจะ 60 แบบผู้เขียน..เพิ่งเคยประสบ..และไม่ว่าวัดจากดัชนีชี้วัดตัวไหน ..ไม่ว่า ตลาดหุ้น หรืออื่นๆ ...ถ้าไม่ Make ตัวเลข กัน ..คงชั้ชัดอยู่แล้ว
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • แอปของเราอัปเดตเป็น Version 3.8.2 แล้ว กรุณาเข้า Play Store หรือ App Store ค้นหาแอป Thaitimes แล้วกด "อัปเดต" , หากท่านใดอัปเดตเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม และถ้าท่านพบปัญหา กรุณาติดต่อทีมงานของเราผ่านทาง Line: @sondhitalk

    เปิดแอปฯ Thaitimes หรือเข้าเว็บไซต์ Thaitimes
    - หากยังไม่เคยสมัครสมาชิก ให้คลิกที่ปุ่ม "Sign in" หรือ "ลงทะเบียน" หรือ "สมัครสมาชิก"
    ---------------------------
    การกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มสมัครสมาชิกใหม่
    **ช่อง ชื่อ และ นามสกุล
    - ใส่ชื่อและนามสกุลของคุณ

    **ช่อง ผู้ใช้งาน (Username)
    - ห้ามซ้ำกับผู้อื่น
    - แนะนำใช้ เบอร์โทรศัพท์ หรือเพิ่มตัวเลข/ตัวอักษร เช่น "ชื่อ123"

    **ช่อง เบอร์โทรศัพท์ หรือ Email
    - กรอก อย่างใดอย่างหนึ่ง
    - เบอร์โทร: ใช้รับ OTP ผ่าน SMS
    - Email: ใช้รับ OTP ทางอีเมล

    **ช่อง รหัสผ่าน
    - ตั้งรหัสผ่าน อย่างน้อย 6 ตัวอักษร
    - คลิก "👁️" เพื่อแสดงหรือซ่อนรหัสผ่าน
    ---------------------------
    หมายเหตุ:
    - ใช้เบอร์โทรสะดวกกว่า Email
    - ตรวจสอบข้อมูลก่อนกดยืนยัน
    แอปของเราอัปเดตเป็น Version 3.8.2 แล้ว กรุณาเข้า Play Store หรือ App Store ค้นหาแอป Thaitimes แล้วกด "อัปเดต" , หากท่านใดอัปเดตเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม และถ้าท่านพบปัญหา กรุณาติดต่อทีมงานของเราผ่านทาง Line: @sondhitalk เปิดแอปฯ Thaitimes หรือเข้าเว็บไซต์ Thaitimes - หากยังไม่เคยสมัครสมาชิก ให้คลิกที่ปุ่ม "Sign in" หรือ "ลงทะเบียน" หรือ "สมัครสมาชิก" --------------------------- การกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มสมัครสมาชิกใหม่ **ช่อง ชื่อ และ นามสกุล - ใส่ชื่อและนามสกุลของคุณ **ช่อง ผู้ใช้งาน (Username) - ห้ามซ้ำกับผู้อื่น - แนะนำใช้ เบอร์โทรศัพท์ หรือเพิ่มตัวเลข/ตัวอักษร เช่น "ชื่อ123" **ช่อง เบอร์โทรศัพท์ หรือ Email - กรอก อย่างใดอย่างหนึ่ง - เบอร์โทร: ใช้รับ OTP ผ่าน SMS - Email: ใช้รับ OTP ทางอีเมล **ช่อง รหัสผ่าน - ตั้งรหัสผ่าน อย่างน้อย 6 ตัวอักษร - คลิก "👁️" เพื่อแสดงหรือซ่อนรหัสผ่าน --------------------------- หมายเหตุ: - ใช้เบอร์โทรสะดวกกว่า Email - ตรวจสอบข้อมูลก่อนกดยืนยัน
    Like
    Love
    7
    0 Comments 1 Shares 575 Views 0 Reviews
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.90 : สมองสองส่วน

    วันนี้ผมอยากจะเล่าเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ “สมอง” ของเราครับ

    ในการทำงานสมองมนุษย์นั้น นักวิทยาศาสตร์เขาแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วน A กับส่วน B

    ส่วน A คือ ส่วนที่ทำงานอัตโนมัติอยู่ตลอดเวลา เราไม่ต้องคิดอะไรมาก สมองจะสั่งร่างกายให้ทำไปเองตามความเคยชิน เช่น การถูตัวขยี้สระผมตอนอาบน้ำ การกลัดกระดุมเสื้อ หรือกระทั่งการถีบจักรยาน

    นักกีฬากับนักดนตรีเขาเรียกสิ่งนี้ว่า Muscle memory คือ สิ่งที่เราทำซ้ำๆบ่อยๆหลายสิบหลายร้อยครั้งจนร่างกายสามารถจดจำการเคลื่อนไหว และทำได้อัตโนมัติโดยชำนาญ

    รวมถึงความทรงจำจากการอ่านด้วย เช่น เมื่อเราเห็นตัวเลข 2022 ก็จะรู้สึกว่านี่คือ ปีค.ศ. หรือ ตัวอักษรเรียงกันว่า Hello ก็จะรู้ว่านี่คือ ”คำ“

    สมองส่วน A นี้ทำงานอยู่ตลอดเวลาโดยเราไม่รู้ตัวครับ

    จะเรียกสมองส่วน A ว่าระบบออโต้ของเราก็ได้
    .
    .
    .
    ทีนี้มาถึงสมองส่วน B บ้าง

    สมองส่วน B นี้เป็นส่วนที่คิดวิเคราะห์ครับ มนุษย์เราจะรู้ตัวว่าต้องทำงานหนักขึ้นในเวลาที่เราใช้สมองส่วนนี้

    เช่น เมื่อเราถูกถามว่า 19x17 เท่ากับเท่าไร หรือ เมื่อเรามานั่งคิดว่าสิ้นปีจะเหลือเงินเก็บเท่าไร เป็นต้น

    ธรรมชาติของมนุษย์นั้น เรามักจะหาคำตอบที่ง่ายให้กับตัวเราก่อนเสมอ นั่นหมายถึงว่า เรามักจะใช้ความเคยชิน ความสะดวก ความคุ้นเคย ซึ่งมาจากสมองส่วน A

    ดังที่เรามักจะตั้งรหัสผ่านเป็นตัวเลขที่เราคุ้นเคย เช่น ปีเกิด หรือ เลขทะเบียนรถ หรือ เลขเรียงกัน 1234 เป็นต้น

    หรือ เมื่อเราเจอคำถามเช่น “คุณไปตลาดซื้อไก่กับไข่มาราคารวมกัน 110 บาท ไก่แพงกว่าไข่ 100 บาท ถามว่าไข่ราคาเท่าไร?”

    คนส่วนใหญ่จะตอบทันทีว่า “10 บาท” ซึ่งผิด

    นั่นเพราะสมองเราจำได้ว่า 100+10=110 อันมาจากสมองส่วน A เราจะรู้สึกว่าเป็นคำตอบนี้ผุดขึ้นมาในหัวเองโดยไม่ต้องคิด

    ซึ่งก็จริงที่เราไม่ได้คิด มันมาจากความทรงจำครับ

    ถ้าเราตั้งสติและใช้เวลาคิดสักนิดจะรู้ว่า คำตอบคือ “ไข่ราคา 5 บาท”

    เป็นการใช้สมองส่วน B ซึ่งละเอียดรอบคอบกว่าแต่คนเราไม่ชอบ เพราะมันเหนื่อยสมอง
    .
    .
    .
    ในอเมริกามีการทำการทดลองครับ เขาทดลองเปรียบเทียบว่า ในชุดข้อสอบเนื้อหาอันเดียวกัน ถ้าคุณครูใช้ฟ้อนท์พิมพ์แบบอ่านยาก (เช่น ตัวเขียนหางยาว หรือ ตัวเอียง และฟ้อนท์ที่ไม่คุ้นเคย) กับ ฟ้อนท์แบบอ่านง่าย

    แบบไหนนักเรียนจะตอบผิดมากกว่ากัน

    ผลคือ ฟ้อนท์แบบอ่านง่าย นักเรียนตอบผิด 80% ส่วนฟ้อนท์แบบอ่านยาก นักเรียนตอบผิดแค่ 36%

    นั่นเพราะเมื่อนักเรียนค่อยๆอ่าน สมองเราจะคิดวิเคราะห์มากกว่า ทำให้คำตอบไม่ค่อยผิด

    เพราะใช้สมองส่วน B มากกว่าส่วน A
    .
    .
    .
    เรื่องของสมองนี้สอนว่า มนุษย์เราควรจะรู้ว่าเมื่อไรควรใช้ส่วน A เมื่อไรควรใช้ส่วน B

    เมื่อมีโอกาสสำคัญเข้ามาในชีวิต จงใช้สมองส่วน B เพราะ Chance moment can change the course of your life (ขออภัยที่ใช้ภาษาอังกฤษครับ เพราะผมชอบประโยคนี้)

    ถ้าเราตัดสินใจทุกเรื่องโดยใช้ความง่าย ความสะดวกสบาย ความเคยชิน เราอาจจะได้คำตอบผิดหรือพลาดโอกาสสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว

    ทีนี้ถ้าถามว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่านี่คือเรื่องสำคัญ ต้องใช้สมองส่วน B แล้ว

    คำตอบคือ “สัญชาตญาณ”

    แล้วเราจะฝึกสัญชาตญาณเราให้เฉียบคมขึ้นได้ยังไง?

    คำตอบคือ เรียนให้เยอะ อ่านให้มาก ออกไปทำงานพบผู้คนให้เยอะ สร้างประสบการณ์ตัวเอง ของพวกนี้นะหล่อหลอมสัญชาตญาณขึ้นมาเอง

    ภาษาวัยรุ่นเขาเรียกว่า เราต้องพัฒนา “ต่อมเอ๊ะ“ ครับ

    ”เอ๊ะ เรื่องนี้มันแปลกๆนะ มีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า“ หรือ ”เอ๊ะ นี่มันเป็นโอกาสทองของเรานี่ รีบคว้าไว้ดีกว่า”

    เอามาเล่าสู่กันฟังครับ


    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.90 : สมองสองส่วน วันนี้ผมอยากจะเล่าเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ “สมอง” ของเราครับ ในการทำงานสมองมนุษย์นั้น นักวิทยาศาสตร์เขาแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วน A กับส่วน B ส่วน A คือ ส่วนที่ทำงานอัตโนมัติอยู่ตลอดเวลา เราไม่ต้องคิดอะไรมาก สมองจะสั่งร่างกายให้ทำไปเองตามความเคยชิน เช่น การถูตัวขยี้สระผมตอนอาบน้ำ การกลัดกระดุมเสื้อ หรือกระทั่งการถีบจักรยาน นักกีฬากับนักดนตรีเขาเรียกสิ่งนี้ว่า Muscle memory คือ สิ่งที่เราทำซ้ำๆบ่อยๆหลายสิบหลายร้อยครั้งจนร่างกายสามารถจดจำการเคลื่อนไหว และทำได้อัตโนมัติโดยชำนาญ รวมถึงความทรงจำจากการอ่านด้วย เช่น เมื่อเราเห็นตัวเลข 2022 ก็จะรู้สึกว่านี่คือ ปีค.ศ. หรือ ตัวอักษรเรียงกันว่า Hello ก็จะรู้ว่านี่คือ ”คำ“ สมองส่วน A นี้ทำงานอยู่ตลอดเวลาโดยเราไม่รู้ตัวครับ จะเรียกสมองส่วน A ว่าระบบออโต้ของเราก็ได้ . . . ทีนี้มาถึงสมองส่วน B บ้าง สมองส่วน B นี้เป็นส่วนที่คิดวิเคราะห์ครับ มนุษย์เราจะรู้ตัวว่าต้องทำงานหนักขึ้นในเวลาที่เราใช้สมองส่วนนี้ เช่น เมื่อเราถูกถามว่า 19x17 เท่ากับเท่าไร หรือ เมื่อเรามานั่งคิดว่าสิ้นปีจะเหลือเงินเก็บเท่าไร เป็นต้น ธรรมชาติของมนุษย์นั้น เรามักจะหาคำตอบที่ง่ายให้กับตัวเราก่อนเสมอ นั่นหมายถึงว่า เรามักจะใช้ความเคยชิน ความสะดวก ความคุ้นเคย ซึ่งมาจากสมองส่วน A ดังที่เรามักจะตั้งรหัสผ่านเป็นตัวเลขที่เราคุ้นเคย เช่น ปีเกิด หรือ เลขทะเบียนรถ หรือ เลขเรียงกัน 1234 เป็นต้น หรือ เมื่อเราเจอคำถามเช่น “คุณไปตลาดซื้อไก่กับไข่มาราคารวมกัน 110 บาท ไก่แพงกว่าไข่ 100 บาท ถามว่าไข่ราคาเท่าไร?” คนส่วนใหญ่จะตอบทันทีว่า “10 บาท” ซึ่งผิด นั่นเพราะสมองเราจำได้ว่า 100+10=110 อันมาจากสมองส่วน A เราจะรู้สึกว่าเป็นคำตอบนี้ผุดขึ้นมาในหัวเองโดยไม่ต้องคิด ซึ่งก็จริงที่เราไม่ได้คิด มันมาจากความทรงจำครับ ถ้าเราตั้งสติและใช้เวลาคิดสักนิดจะรู้ว่า คำตอบคือ “ไข่ราคา 5 บาท” เป็นการใช้สมองส่วน B ซึ่งละเอียดรอบคอบกว่าแต่คนเราไม่ชอบ เพราะมันเหนื่อยสมอง . . . ในอเมริกามีการทำการทดลองครับ เขาทดลองเปรียบเทียบว่า ในชุดข้อสอบเนื้อหาอันเดียวกัน ถ้าคุณครูใช้ฟ้อนท์พิมพ์แบบอ่านยาก (เช่น ตัวเขียนหางยาว หรือ ตัวเอียง และฟ้อนท์ที่ไม่คุ้นเคย) กับ ฟ้อนท์แบบอ่านง่าย แบบไหนนักเรียนจะตอบผิดมากกว่ากัน ผลคือ ฟ้อนท์แบบอ่านง่าย นักเรียนตอบผิด 80% ส่วนฟ้อนท์แบบอ่านยาก นักเรียนตอบผิดแค่ 36% นั่นเพราะเมื่อนักเรียนค่อยๆอ่าน สมองเราจะคิดวิเคราะห์มากกว่า ทำให้คำตอบไม่ค่อยผิด เพราะใช้สมองส่วน B มากกว่าส่วน A . . . เรื่องของสมองนี้สอนว่า มนุษย์เราควรจะรู้ว่าเมื่อไรควรใช้ส่วน A เมื่อไรควรใช้ส่วน B เมื่อมีโอกาสสำคัญเข้ามาในชีวิต จงใช้สมองส่วน B เพราะ Chance moment can change the course of your life (ขออภัยที่ใช้ภาษาอังกฤษครับ เพราะผมชอบประโยคนี้) ถ้าเราตัดสินใจทุกเรื่องโดยใช้ความง่าย ความสะดวกสบาย ความเคยชิน เราอาจจะได้คำตอบผิดหรือพลาดโอกาสสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว ทีนี้ถ้าถามว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่านี่คือเรื่องสำคัญ ต้องใช้สมองส่วน B แล้ว คำตอบคือ “สัญชาตญาณ” แล้วเราจะฝึกสัญชาตญาณเราให้เฉียบคมขึ้นได้ยังไง? คำตอบคือ เรียนให้เยอะ อ่านให้มาก ออกไปทำงานพบผู้คนให้เยอะ สร้างประสบการณ์ตัวเอง ของพวกนี้นะหล่อหลอมสัญชาตญาณขึ้นมาเอง ภาษาวัยรุ่นเขาเรียกว่า เราต้องพัฒนา “ต่อมเอ๊ะ“ ครับ ”เอ๊ะ เรื่องนี้มันแปลกๆนะ มีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า“ หรือ ”เอ๊ะ นี่มันเป็นโอกาสทองของเรานี่ รีบคว้าไว้ดีกว่า” เอามาเล่าสู่กันฟังครับ นัทแนะ
    0 Comments 0 Shares 338 Views 0 Reviews
  • แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรม AI ใหม่ของจีน (ธนาคารแห่งประเทศจีนสนับสนุนการพัฒนาแผนปฏิบัติการห่วงโซ่อุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์) จะจัดสรรเงิน 1 ล้านล้านหยวน (137 พันล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรม AI ในอีกห้าปีข้างหน้า  ถือเป็นความคิดริเริ่มด้านนโยบาย AI ของจีนที่สำคัญที่สุดในปี 2025

    ซึ่งเป็นไปตามที่ Arm, Microsoft, NVIDIA, Oracle และ OpenAI เปิดเผยโครงการ "Stargate" มูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯของตน ขณะที่ DeepSeek R1 ของจีนสร้างกระแสสร้างความประหลาดใจให้กับทั้งอุตสาหกรรมและผู้กำหนดนโยบาย

    การแข่งขันด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เช่นเดียวกับการแข่งขันที่กว้างขึ้นระหว่างสองมหาอำนาจ

    นี่คือคำแถลงอย่างเป็นทางการของธนาคารแห่งประเทศจีน

    https://www.boc.cn/big5/aboutboc/bi1/202501/t20250123_25254674.html
    แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรม AI ใหม่ของจีน (ธนาคารแห่งประเทศจีนสนับสนุนการพัฒนาแผนปฏิบัติการห่วงโซ่อุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์) จะจัดสรรเงิน 1 ล้านล้านหยวน (137 พันล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรม AI ในอีกห้าปีข้างหน้า  ถือเป็นความคิดริเริ่มด้านนโยบาย AI ของจีนที่สำคัญที่สุดในปี 2025 ซึ่งเป็นไปตามที่ Arm, Microsoft, NVIDIA, Oracle และ OpenAI เปิดเผยโครงการ "Stargate" มูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯของตน ขณะที่ DeepSeek R1 ของจีนสร้างกระแสสร้างความประหลาดใจให้กับทั้งอุตสาหกรรมและผู้กำหนดนโยบาย การแข่งขันด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เช่นเดียวกับการแข่งขันที่กว้างขึ้นระหว่างสองมหาอำนาจ นี่คือคำแถลงอย่างเป็นทางการของธนาคารแห่งประเทศจีน https://www.boc.cn/big5/aboutboc/bi1/202501/t20250123_25254674.html
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 265 Views 0 Reviews
More Results