• ดร.สุรเกียรติ์ยิ่งก่อข้อสงสัยรูป 1-2 มีเอกสารวิชาการเขียนโดย ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เกี่ยวกับ MOU44 เผยแพร่ในปี 2554 จุลสารความมั่นคงศึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ มีข้อมูลสำคัญที่ผมไม่รู้มาก่อนแต่ข้อมูลใหม่เหล่านี้ ยิ่งก่อข้อสงสัยในเจตนารมณ์ที่รัฐบาลของอดีตนายกฯทักษิณไปจัดทำ MOU44 🫡 ข้อสงสัยที่หนึ่ง กัมพูชาขีดเส้นเว้นเกาะกูดจริงหรือ?รูป 3-6 คือพระราชกฤษฎีกาของกัมพูชา ผมเข้าใจมาตลอดว่า กัมพูชาขีดเส้นพาดผ่านเกาะกูด แต่ในเอกสารหน้า 6-9 ดร.สุรเกียรติ์วิเคราะห์ว่ากัมพูชาขีดเส้นเว้นเกาะกูดแผนที่รูป 6 ขยายไปเป็นรูป 7 ท่านเขียนว่าเส้นของกัมพูชาลากจากจุด A บนชายฝั่งมาจนถึงชายฝั่งเกาะกูดด้านตะวันออก แล้วไปเริ่มเส้นต่อไปจากชายฝั่งเกาะกูดด้านตะวันตก ประกอบกับท่านเห็นว่า ในแผนที่มีการระบุชื่อเกาะกูดว่า Koh Kut (Siam) ซึ่งท่านอนุมาน'เป็นการบ่งบอกว่าเกาะกูดเป็นของประเทศไทย' ท่านจึงตีความว่า "ดังนั้น กัมพูชาไม่เคยอ้างอธิปไตยเหนือเกาะกูด"🧐 ผมโต้แย้ง:- ในรูป 3 พระราชกฤษฎีกา กัมพูชาระบุตั้งใจลากเส้นโดยอ้างอิงสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส คศ 1907 เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากในสนธิสัญญาฯ มีข้อความ "ยอดเขาสูงสุดของเกาะกูด" ดังนั้น ถึงแม้ในรูป 7 ท่านตีความว่ากัมพูชาแสดงเจตนาไม่ต้องการให้เส้นผ่านเกาะกูด แต่อาจเป็นการตีความเข้าข้างตัวเอง🥶 ข้อสงสัย:- ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้แน่นอนว่า วันหน้ากัมพูชาจะไม่อ้างว่าไทยรับรู้ใน MOU44 แล้วว่า โดยสภาพความเป็นจริง เส้นนี้ย่อมมีเจตนาผ่านเกาะกูด เพราะ (ก) พระราชกฤษฎีกามีการอ้างอิงตำแหน่งแห่งหนที่ตั้งอยู่เฉพาะบนเกาะกูด และ(ข) ตรรกแห่งการตีเส้นเขตไหล่ทวีปที่ขาดแหว่งเป็นเส้นประ ไม่อยู่ในข้อใดในอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยไหล่ทวีป มีแต่เส้นต่อเนื่องทั้งนั้น🫡 ข้อสงสัยที่สอง กัมพูชายอมรับว่าเกาะกูดเป็นอธิปไตยของไทยจริงหรือ?ในเอกสารหน้า 35-36 ท่านเขียนว่า "ถึงแม้ว่าบันทึกความเข้าใจนี้จะไม่ถือว่าเป็นที่สิ้นสุดของการเจรจามีผลผูกพันทั้งสองประเทศเกี่ยวกับเส้นเขตทางทะเล แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ถือเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการที่รัฐบาลกัมพูชาในปัจจุบันได้ยอมรับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ประเทศไทยมีอธิปไตยเหนือเกาะกูด" และ"ภายหลังจากการลงนามในบันทึกความเข้าใจแล้วนั้น ฝ่ายไทยก็ได้มอบหมายให้ผู้เขียนพยายามที่จะเจรจาในระดับรัฐมตรีเพื่อไม่ไม่ให้เส้นเขตแดนล้อมรอบเกาะกูดถูกกำหนดเป็นรูปตัว "U" ซึ่งผู้เขียนจำได้ว่าเคยหารือกับนาย ซก อาน รัฐมนตรีอาวุโสของกัมพูชา (ตำแหน่งในขณะนั้น) ว่าเหตุใดเส้นเขตแดนจึงมีโค้งเป็นเบ้าขนมครก เหตุใดจึงไม่เป็นเส้นตรง ซึ่งหมายความว่าจากหลักเขตแดนที่ 73 นั้น เส้นเขตทางทะเลควรจะลากจากลงมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นเส้นตรง และต้องไม่ลากผ่านเกาะกูด มิใช่ลากเส้นมาถึงเกาะกูดแล้ว จึงเกิดส่วนเว้าหลบอ้อมเกาะกูดไป ซึ่งในแง่ของไทยแล้วการลากเส้นเขตแดนเป็นเส้นตรงโดยไม่ผ่านกึ่งกลางของเกาะกูดจะมีผลทำให้อธิปไตยของเกาะกูดมีความชัดเจนมากขึ้น และทำให้อาณาเขตรวมของพื้นที่ทับช้อนทางทะเลมีขนาดเล็กลง ดังรูป 10 (เป็นเส้นประที่ลูกศรขี้ซึ่งแสดงอยู่ในรูป 8 )ซึ่งในเรื่องนี้อยู่ในระหว่างการที่ฝ่ายกัมพูชาจะขอความเห็นชอบจากผู้นำสูงสุดของกัมพูชา แต่ผู้เขียนได้พ้นหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคไปเสียก่อน"🧐 ผมโต้แย้ง:- กัมพูชาไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรว่าประเทศไทยมีอธิปไตยเหนือเกาะกูด เพราะ(ก) ไม่มีข้อความเช่นนั้นแม้แต่คำเดียวปรากฏใน MOU44 กลับเป็นการตีความของท่านฝ่ายเดียว(ข) ถ้ากัมพูชายอมรับเช่นนั้นจริง เส้นจะต้องไม่เข้ามาใกล้เกาะกูด แต่จะต้องเอียงลงตะวันตกเฉียงใต้ ดังที่ท่านเองก็ยอมรับในบทความ🥶 ข้อสงสัย:- ในขณะที่ลงนามใน MOU44 ท่านทราบหรือไม่ว่า เส้นที่ถูกต้องคือไม่เข้ามาใกล้เกาะกูด? ถ้าทราบ ท่านไปลงนามทำไม?🫡 ข้อสงสัยที่สาม:- ฝ่ายไทยควรพอใจแผนผังแนบท้าย MOU44 จริงหรือ?ในเอกสารหน้า 35 ท่านเขียนว่า"ดังนั้น แผนผังแนบท้ายบันทึกความเข้าใจนี้จึงเป็นสิ่งที่ฝ่ายไทยพอใจเพราะแสดงถึงความคืบหน้าในการเจรจาจุดเริ่มต้นของการลงเส้นเขตทางทะเลจากหลักเขตแดนทางบกที่ตรงกับจุดยืนของไทย และเส้นที่ลากนั้นได้ยอมรับอธิปไตยของไทยเหนือเกาะกูด และยังยอมรับอธิบไตยของไทยเหนือทะเลอาณาเขตรอบๆ"🧐 ผมโต้แย้ง:- ไม่มีเหตุผลใดที่ไทยควรจะพอใจกับการแสดงแผนที่ซึ่งเป็นแผนผังแนบท้าย MOU44 เพราะแสดงเส้นของสองประเทศที่ไม่เท่าเทียมกัน คือเส้นของไทยประกาศตามอนุสัญญาเจนีวา ในขณะที่เส้นของกัมพูชาไม่เป็นเช่นนั้น🫡 ข้อสงสัยที่สี่:- ท่านรู้ว่า MOU44 เป็นโมฆะตั้งแต่ต้น หรือไม่?ในเอกสารหน้า 36 ท่านเขียนว่า"(5) บันทึกความเข้าใจดังกล่าวได้ลงนามโดยผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจเต็มจากรัฐบาลของทั้งสองประเทศ จึงมีสถานะเป็นสนธิสัญญาตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ. 1969"🧐 ผมโต้แย้ง:- ตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะท่านในฐานะผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจเต็มจากรัฐบาลไทย ไปลงนามในสนธิสัญญา ..ทั้งที่มิได้มีการทูลเกล้าฯ และมีได้มีการนำเสนอรัฐสภาเสียก่อน เป็นการกระทำเกินอำนาจ ultra vires จึงไม่ผูกพันรัฐบาลไทย และทำให้ MOU44 เป็นโมฆะตั้งแต่ต้นผมเห็นว่าไม่มีเอกสารหลักฐานชิ้นไหน ที่มีความสำคัญเท่าชิ้นนี้อีกแล้ว🫡 ข้อสงสัยที่ห้า:- ทำไมท่านไม่แจ้งรัฐบาลว่ากัมพูชาตีความสนธิสัญญาฯ ผิด?ในเอกสารหน้า 11-12 ท่านวิเคราะห์ว่ากัมพูชาตีความสนธิสัญญาฯ เข้าข้างตัวเองว่าเป็นการแบ่งเขตทางทะเล แต่เจตนารมณ์เป็นเพียงเพื่อกำหนดเส้นแบ่งเขตทางบก ซึ่งตรงกับของผม 🧐 ผมโต้แย้ง:- ในเมื่อท่านรู้ดีอยู่แล้วว่าเส้นของกัมพูชาไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฯ ท่านควรจะแจ้งให้รัฐบาลของท่านนายกทักษิณทราบ และกต.น่าจะแจ้งให้รัฐบาลต่างๆ ทราบ 🫡 ข้อสงสัยที่หก:- ท่านรู้หรือไม่ว่าเส้นของกัมพูชาขัดกับอนุสัญญาไหล่ทวีป?ข้อ 6 ในอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ไม่ได้อนุญาตการลากเส้นที่อ้างอิงสิทธิทางประวัติศาสตร์ดังเช่นกรณีขอทะเลอาณาเขต แต่กัมพูชากลับไปอ้างอิงสนธิสัญญาฯ เป็นสิทธิทางประวัติศาสตร์ ทั้งที่ไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฯ และขัดกับอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยไหล่ทวีปอย่างสิ้นเชิง🧐 ผมโต้แย้ง:- ในเมื่อท่านรู้ดีอยู่แล้วว่าเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาขัดกับอนุสัญญาไหล่ทวีป ทำไมท่านไม่โต้แย้งกัมพูชาเป็นลายลักษณ์อักษร?🫡 ข้อสงสัยที่เจ็ด:- ทำไมท่านไม่ดำเนินการตามขั้นตอนของพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย?ในเอกสารหน้า 36 ท่านเขียนว่า"ภายหลังจากที่ผู้เขียนได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 ก็ได้รับทราบถึงผลการเจรจาร่วมกันในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2543 และได้มีความเห็นตรงกันว่าควรมีการเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลกัมพูชาเนื่องจากเป็นประเทศเดียวที่ไทยยังไม่เคยเจรจาอย่างจริงจังเพื่อแสวงพาผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งๆ ที่ได้มีการเจรจากับรัฐบาลมาเลเซียและเวียดนามจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยไปแล้ว ดังนั้น จึงได้มีการเริ่มเปิดการเจรจากับกัมพูชาเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเขตพื้นที่ที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับช้อนกัน และการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรปิโตรเลียมร่วมกันในพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย จนสามารถกำหนดแนวทางการเจรจาและการดำเนินการร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของทั้งสองประเทศที่เมืองเสียมราฐ เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2544 และนำไปสู่การลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ"🧐 ผมโต้แย้ง:- ประชาชนมีข้อสงสัยดังนี้(ก) ในลำดับขั้นตอนการจัดทำพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย เริ่มต้นจากการเจรจาเส้นเขตแดนของทั้งสองประเทศให้เสร็จเรียบร้อยก่อน จึงจะได้อาณาเขตพื้นที่พัฒนาร่วมที่ยอมรับทั้งสองฝ่าย เป็นขั้นตอน ใช้ม้าลากรถแต่ลำดับขั้นตอนการจัดทำพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-กัมพูชา เริ่มต้นจากการกำหนดอาณาเขตพื้นที่พัฒนาร่วมขึ้นมาเอง เป็นการรีบร้อนลัดขั้นตอน ใช้รถลากม้า(ข) การเจรจากำหนดพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยกับมาเลเซีย ใช้เวลาหลายปี ท่านใช้เวลาเจรจากำหนดพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชาเพียงสองสามเดือนส่อเจตนาชัดเจนว่าให้ความสำคัญลำดับหนึ่งแก่การแสวงหาประโยชน์ปิโตรเลียม จนมีความเสี่ยงเรื่องเขตแดนเกิดขึ้นการเร่งรีบเช่นนี้ ทำให้ประชาชนกังวลว่า มีวาระซ่อนเร้นแฝงอยู่ในการเจรจาหรือไม่🧐 ผมขอย้ำว่า เขียนบทความนี้ด้วยความเคารพ และหวังจะให้ประโยชน์แก่รัฐมนตรีพรรคร่วมอย่างเต็มที่เป็นสำคัญวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
    ดร.สุรเกียรติ์ยิ่งก่อข้อสงสัยรูป 1-2 มีเอกสารวิชาการเขียนโดย ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย เกี่ยวกับ MOU44 เผยแพร่ในปี 2554 จุลสารความมั่นคงศึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ มีข้อมูลสำคัญที่ผมไม่รู้มาก่อนแต่ข้อมูลใหม่เหล่านี้ ยิ่งก่อข้อสงสัยในเจตนารมณ์ที่รัฐบาลของอดีตนายกฯทักษิณไปจัดทำ MOU44 🫡 ข้อสงสัยที่หนึ่ง กัมพูชาขีดเส้นเว้นเกาะกูดจริงหรือ?รูป 3-6 คือพระราชกฤษฎีกาของกัมพูชา ผมเข้าใจมาตลอดว่า กัมพูชาขีดเส้นพาดผ่านเกาะกูด แต่ในเอกสารหน้า 6-9 ดร.สุรเกียรติ์วิเคราะห์ว่ากัมพูชาขีดเส้นเว้นเกาะกูดแผนที่รูป 6 ขยายไปเป็นรูป 7 ท่านเขียนว่าเส้นของกัมพูชาลากจากจุด A บนชายฝั่งมาจนถึงชายฝั่งเกาะกูดด้านตะวันออก แล้วไปเริ่มเส้นต่อไปจากชายฝั่งเกาะกูดด้านตะวันตก ประกอบกับท่านเห็นว่า ในแผนที่มีการระบุชื่อเกาะกูดว่า Koh Kut (Siam) ซึ่งท่านอนุมาน'เป็นการบ่งบอกว่าเกาะกูดเป็นของประเทศไทย' ท่านจึงตีความว่า "ดังนั้น กัมพูชาไม่เคยอ้างอธิปไตยเหนือเกาะกูด"🧐 ผมโต้แย้ง:- ในรูป 3 พระราชกฤษฎีกา กัมพูชาระบุตั้งใจลากเส้นโดยอ้างอิงสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส คศ 1907 เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากในสนธิสัญญาฯ มีข้อความ "ยอดเขาสูงสุดของเกาะกูด" ดังนั้น ถึงแม้ในรูป 7 ท่านตีความว่ากัมพูชาแสดงเจตนาไม่ต้องการให้เส้นผ่านเกาะกูด แต่อาจเป็นการตีความเข้าข้างตัวเอง🥶 ข้อสงสัย:- ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้แน่นอนว่า วันหน้ากัมพูชาจะไม่อ้างว่าไทยรับรู้ใน MOU44 แล้วว่า โดยสภาพความเป็นจริง เส้นนี้ย่อมมีเจตนาผ่านเกาะกูด เพราะ (ก) พระราชกฤษฎีกามีการอ้างอิงตำแหน่งแห่งหนที่ตั้งอยู่เฉพาะบนเกาะกูด และ(ข) ตรรกแห่งการตีเส้นเขตไหล่ทวีปที่ขาดแหว่งเป็นเส้นประ ไม่อยู่ในข้อใดในอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยไหล่ทวีป มีแต่เส้นต่อเนื่องทั้งนั้น🫡 ข้อสงสัยที่สอง กัมพูชายอมรับว่าเกาะกูดเป็นอธิปไตยของไทยจริงหรือ?ในเอกสารหน้า 35-36 ท่านเขียนว่า "ถึงแม้ว่าบันทึกความเข้าใจนี้จะไม่ถือว่าเป็นที่สิ้นสุดของการเจรจามีผลผูกพันทั้งสองประเทศเกี่ยวกับเส้นเขตทางทะเล แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ถือเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการที่รัฐบาลกัมพูชาในปัจจุบันได้ยอมรับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ประเทศไทยมีอธิปไตยเหนือเกาะกูด" และ"ภายหลังจากการลงนามในบันทึกความเข้าใจแล้วนั้น ฝ่ายไทยก็ได้มอบหมายให้ผู้เขียนพยายามที่จะเจรจาในระดับรัฐมตรีเพื่อไม่ไม่ให้เส้นเขตแดนล้อมรอบเกาะกูดถูกกำหนดเป็นรูปตัว "U" ซึ่งผู้เขียนจำได้ว่าเคยหารือกับนาย ซก อาน รัฐมนตรีอาวุโสของกัมพูชา (ตำแหน่งในขณะนั้น) ว่าเหตุใดเส้นเขตแดนจึงมีโค้งเป็นเบ้าขนมครก เหตุใดจึงไม่เป็นเส้นตรง ซึ่งหมายความว่าจากหลักเขตแดนที่ 73 นั้น เส้นเขตทางทะเลควรจะลากจากลงมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นเส้นตรง และต้องไม่ลากผ่านเกาะกูด มิใช่ลากเส้นมาถึงเกาะกูดแล้ว จึงเกิดส่วนเว้าหลบอ้อมเกาะกูดไป ซึ่งในแง่ของไทยแล้วการลากเส้นเขตแดนเป็นเส้นตรงโดยไม่ผ่านกึ่งกลางของเกาะกูดจะมีผลทำให้อธิปไตยของเกาะกูดมีความชัดเจนมากขึ้น และทำให้อาณาเขตรวมของพื้นที่ทับช้อนทางทะเลมีขนาดเล็กลง ดังรูป 10 (เป็นเส้นประที่ลูกศรขี้ซึ่งแสดงอยู่ในรูป 8 )ซึ่งในเรื่องนี้อยู่ในระหว่างการที่ฝ่ายกัมพูชาจะขอความเห็นชอบจากผู้นำสูงสุดของกัมพูชา แต่ผู้เขียนได้พ้นหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคไปเสียก่อน"🧐 ผมโต้แย้ง:- กัมพูชาไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรว่าประเทศไทยมีอธิปไตยเหนือเกาะกูด เพราะ(ก) ไม่มีข้อความเช่นนั้นแม้แต่คำเดียวปรากฏใน MOU44 กลับเป็นการตีความของท่านฝ่ายเดียว(ข) ถ้ากัมพูชายอมรับเช่นนั้นจริง เส้นจะต้องไม่เข้ามาใกล้เกาะกูด แต่จะต้องเอียงลงตะวันตกเฉียงใต้ ดังที่ท่านเองก็ยอมรับในบทความ🥶 ข้อสงสัย:- ในขณะที่ลงนามใน MOU44 ท่านทราบหรือไม่ว่า เส้นที่ถูกต้องคือไม่เข้ามาใกล้เกาะกูด? ถ้าทราบ ท่านไปลงนามทำไม?🫡 ข้อสงสัยที่สาม:- ฝ่ายไทยควรพอใจแผนผังแนบท้าย MOU44 จริงหรือ?ในเอกสารหน้า 35 ท่านเขียนว่า"ดังนั้น แผนผังแนบท้ายบันทึกความเข้าใจนี้จึงเป็นสิ่งที่ฝ่ายไทยพอใจเพราะแสดงถึงความคืบหน้าในการเจรจาจุดเริ่มต้นของการลงเส้นเขตทางทะเลจากหลักเขตแดนทางบกที่ตรงกับจุดยืนของไทย และเส้นที่ลากนั้นได้ยอมรับอธิปไตยของไทยเหนือเกาะกูด และยังยอมรับอธิบไตยของไทยเหนือทะเลอาณาเขตรอบๆ"🧐 ผมโต้แย้ง:- ไม่มีเหตุผลใดที่ไทยควรจะพอใจกับการแสดงแผนที่ซึ่งเป็นแผนผังแนบท้าย MOU44 เพราะแสดงเส้นของสองประเทศที่ไม่เท่าเทียมกัน คือเส้นของไทยประกาศตามอนุสัญญาเจนีวา ในขณะที่เส้นของกัมพูชาไม่เป็นเช่นนั้น🫡 ข้อสงสัยที่สี่:- ท่านรู้ว่า MOU44 เป็นโมฆะตั้งแต่ต้น หรือไม่?ในเอกสารหน้า 36 ท่านเขียนว่า"(5) บันทึกความเข้าใจดังกล่าวได้ลงนามโดยผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจเต็มจากรัฐบาลของทั้งสองประเทศ จึงมีสถานะเป็นสนธิสัญญาตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ค.ศ. 1969"🧐 ผมโต้แย้ง:- ตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะท่านในฐานะผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจเต็มจากรัฐบาลไทย ไปลงนามในสนธิสัญญา ..ทั้งที่มิได้มีการทูลเกล้าฯ และมีได้มีการนำเสนอรัฐสภาเสียก่อน เป็นการกระทำเกินอำนาจ ultra vires จึงไม่ผูกพันรัฐบาลไทย และทำให้ MOU44 เป็นโมฆะตั้งแต่ต้นผมเห็นว่าไม่มีเอกสารหลักฐานชิ้นไหน ที่มีความสำคัญเท่าชิ้นนี้อีกแล้ว🫡 ข้อสงสัยที่ห้า:- ทำไมท่านไม่แจ้งรัฐบาลว่ากัมพูชาตีความสนธิสัญญาฯ ผิด?ในเอกสารหน้า 11-12 ท่านวิเคราะห์ว่ากัมพูชาตีความสนธิสัญญาฯ เข้าข้างตัวเองว่าเป็นการแบ่งเขตทางทะเล แต่เจตนารมณ์เป็นเพียงเพื่อกำหนดเส้นแบ่งเขตทางบก ซึ่งตรงกับของผม 🧐 ผมโต้แย้ง:- ในเมื่อท่านรู้ดีอยู่แล้วว่าเส้นของกัมพูชาไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฯ ท่านควรจะแจ้งให้รัฐบาลของท่านนายกทักษิณทราบ และกต.น่าจะแจ้งให้รัฐบาลต่างๆ ทราบ 🫡 ข้อสงสัยที่หก:- ท่านรู้หรือไม่ว่าเส้นของกัมพูชาขัดกับอนุสัญญาไหล่ทวีป?ข้อ 6 ในอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ไม่ได้อนุญาตการลากเส้นที่อ้างอิงสิทธิทางประวัติศาสตร์ดังเช่นกรณีขอทะเลอาณาเขต แต่กัมพูชากลับไปอ้างอิงสนธิสัญญาฯ เป็นสิทธิทางประวัติศาสตร์ ทั้งที่ไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฯ และขัดกับอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยไหล่ทวีปอย่างสิ้นเชิง🧐 ผมโต้แย้ง:- ในเมื่อท่านรู้ดีอยู่แล้วว่าเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาขัดกับอนุสัญญาไหล่ทวีป ทำไมท่านไม่โต้แย้งกัมพูชาเป็นลายลักษณ์อักษร?🫡 ข้อสงสัยที่เจ็ด:- ทำไมท่านไม่ดำเนินการตามขั้นตอนของพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย?ในเอกสารหน้า 36 ท่านเขียนว่า"ภายหลังจากที่ผู้เขียนได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 ก็ได้รับทราบถึงผลการเจรจาร่วมกันในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2543 และได้มีความเห็นตรงกันว่าควรมีการเปิดการเจรจาอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลกัมพูชาเนื่องจากเป็นประเทศเดียวที่ไทยยังไม่เคยเจรจาอย่างจริงจังเพื่อแสวงพาผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งๆ ที่ได้มีการเจรจากับรัฐบาลมาเลเซียและเวียดนามจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยไปแล้ว ดังนั้น จึงได้มีการเริ่มเปิดการเจรจากับกัมพูชาเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเขตพื้นที่ที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับช้อนกัน และการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรปิโตรเลียมร่วมกันในพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย จนสามารถกำหนดแนวทางการเจรจาและการดำเนินการร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของทั้งสองประเทศที่เมืองเสียมราฐ เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2544 และนำไปสู่การลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ"🧐 ผมโต้แย้ง:- ประชาชนมีข้อสงสัยดังนี้(ก) ในลำดับขั้นตอนการจัดทำพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย เริ่มต้นจากการเจรจาเส้นเขตแดนของทั้งสองประเทศให้เสร็จเรียบร้อยก่อน จึงจะได้อาณาเขตพื้นที่พัฒนาร่วมที่ยอมรับทั้งสองฝ่าย เป็นขั้นตอน ใช้ม้าลากรถแต่ลำดับขั้นตอนการจัดทำพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-กัมพูชา เริ่มต้นจากการกำหนดอาณาเขตพื้นที่พัฒนาร่วมขึ้นมาเอง เป็นการรีบร้อนลัดขั้นตอน ใช้รถลากม้า(ข) การเจรจากำหนดพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยกับมาเลเซีย ใช้เวลาหลายปี ท่านใช้เวลาเจรจากำหนดพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชาเพียงสองสามเดือนส่อเจตนาชัดเจนว่าให้ความสำคัญลำดับหนึ่งแก่การแสวงหาประโยชน์ปิโตรเลียม จนมีความเสี่ยงเรื่องเขตแดนเกิดขึ้นการเร่งรีบเช่นนี้ ทำให้ประชาชนกังวลว่า มีวาระซ่อนเร้นแฝงอยู่ในการเจรจาหรือไม่🧐 ผมขอย้ำว่า เขียนบทความนี้ด้วยความเคารพ และหวังจะให้ประโยชน์แก่รัฐมนตรีพรรคร่วมอย่างเต็มที่เป็นสำคัญวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 279 Views 0 Reviews
  • "เก่งได้อีก!"

    "เราจะไม่ใช่แค่นั่งลงแล้วฟังเพื่อปฏิบัติตามที่โต๊ะเจรจา แม้ว่าทรัมป์จะพูดอะไรก็แล้วแต่" เซเลนสกีกล่าวในการสัมภาษณ์ทางวิทยุยูเครน

    “เราคือประเทศยูเครนที่มีความเป็นอิสระ มันเป็นวิธีที่พวกเขาควรปฏิบัติต่อประเทศใดๆ ผู้คนใดๆ หรือผู้นำใดๆ ที่ต้องให้ความเคารพ เพราะนี่คือความเท่าเทียมกันของทุกประเทศ และคือสิ่งที่เราชาวยูเครนกำลังต่อสู้เพื่อมันในวันนี้”
    "เก่งได้อีก!" "เราจะไม่ใช่แค่นั่งลงแล้วฟังเพื่อปฏิบัติตามที่โต๊ะเจรจา แม้ว่าทรัมป์จะพูดอะไรก็แล้วแต่" เซเลนสกีกล่าวในการสัมภาษณ์ทางวิทยุยูเครน “เราคือประเทศยูเครนที่มีความเป็นอิสระ มันเป็นวิธีที่พวกเขาควรปฏิบัติต่อประเทศใดๆ ผู้คนใดๆ หรือผู้นำใดๆ ที่ต้องให้ความเคารพ เพราะนี่คือความเท่าเทียมกันของทุกประเทศ และคือสิ่งที่เราชาวยูเครนกำลังต่อสู้เพื่อมันในวันนี้”
    0 Comments 0 Shares 514 Views 9 0 Reviews
  • กองกำลังติดอาวุธของแคนาดาหน่วยหนึ่งกลายเป็นที่ล้อเลียนทางออนไลน์อีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาเดินขบวนพาเหรดในพิธีวันทหารผ่านศึกที่ศูนย์การค้า West Edmonton Mall โดยไม่มีความพร้อมเพรียงกันแม้แต่นิดเดียว ซึ่งผิดปกติของทหารที่มักจะมาพร้อมกับระเบียบวินัยที่สูงสุด

    กองทัพแคนาดาเป็นหนึ่งในกองทัพของพันธมิตรยุโรปที่ให้เสรีภาพกับทหารเรื่องเพศสภาพ และสิทธิความเท่าเทียมกัน
    กองกำลังติดอาวุธของแคนาดาหน่วยหนึ่งกลายเป็นที่ล้อเลียนทางออนไลน์อีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาเดินขบวนพาเหรดในพิธีวันทหารผ่านศึกที่ศูนย์การค้า West Edmonton Mall โดยไม่มีความพร้อมเพรียงกันแม้แต่นิดเดียว ซึ่งผิดปกติของทหารที่มักจะมาพร้อมกับระเบียบวินัยที่สูงสุด กองทัพแคนาดาเป็นหนึ่งในกองทัพของพันธมิตรยุโรปที่ให้เสรีภาพกับทหารเรื่องเพศสภาพ และสิทธิความเท่าเทียมกัน
    0 Comments 0 Shares 649 Views 8 0 Reviews
  • ## นักเศรษฐศาสตร์ฮาร์วาร์ด เปิดเผยความลับที่น่าตกตะลึงเกี่ยวกับ ประเทศจีน ในปี 2025 ##
    ..
    ..
    1. เศรษฐกิจของจีนในอนาคต

    การเติบโตทางเศรษฐกิจ : จีนคาดว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2025 โดยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในหลายภาคส่วน

    เทคโนโลยีและนวัตกรรม : การลงทุนในเทคโนโลยีและการพัฒนา AI จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ
    .
    2. บทบาทในเวทีโลก

    การขยายอิทธิพล : จีนกำลังขยายอิทธิพลทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมืองในเวทีโลก ผ่านการลงทุนและความร่วมมือระหว่างประเทศ

    ความท้าทายทางการทูต : การเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ และพันธมิตรจะยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามอง
    .
    3. ความท้าทายภายในประเทศ

    ความไม่เท่าเทียม : ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศยังคงเป็นปัญหาที่รัฐบาลจีนต้องจัดการ

    สิ่งแวดล้อม : ปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลพิษยังคงเป็นความท้าทายที่จีนต้องเร่งแก้ไข

    4. นโยบายและการปฏิรูป

    การปฏิรูปเศรษฐกิจ : จีนจะต้องมีการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาการเติบโตและความยั่งยืน

    นโยบายภายในประเทศ : รัฐบาลจีนต้องมีนโยบายที่ชัดเจนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศ
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=9O6a62Qqzwg
    ## นักเศรษฐศาสตร์ฮาร์วาร์ด เปิดเผยความลับที่น่าตกตะลึงเกี่ยวกับ ประเทศจีน ในปี 2025 ## .. .. 1. เศรษฐกิจของจีนในอนาคต การเติบโตทางเศรษฐกิจ : จีนคาดว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2025 โดยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในหลายภาคส่วน เทคโนโลยีและนวัตกรรม : การลงทุนในเทคโนโลยีและการพัฒนา AI จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ . 2. บทบาทในเวทีโลก การขยายอิทธิพล : จีนกำลังขยายอิทธิพลทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมืองในเวทีโลก ผ่านการลงทุนและความร่วมมือระหว่างประเทศ ความท้าทายทางการทูต : การเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ และพันธมิตรจะยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามอง . 3. ความท้าทายภายในประเทศ ความไม่เท่าเทียม : ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศยังคงเป็นปัญหาที่รัฐบาลจีนต้องจัดการ สิ่งแวดล้อม : ปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลพิษยังคงเป็นความท้าทายที่จีนต้องเร่งแก้ไข 4. นโยบายและการปฏิรูป การปฏิรูปเศรษฐกิจ : จีนจะต้องมีการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาการเติบโตและความยั่งยืน นโยบายภายในประเทศ : รัฐบาลจีนต้องมีนโยบายที่ชัดเจนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศ . https://www.youtube.com/watch?v=9O6a62Qqzwg
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 342 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯ ทำการเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ทางเหนือของโปแลนด์ ความเคลื่อนไหวที่ทางวอร์ซอหาทางสร้างความอุ่นใจแก่พลเมืองว่านาโตการันตีความปลอดภัยของพวกเขา ท่ามกลางความหวั่นวิตก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
    .
    ฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเรดซิโคโว ใกล้ชายฝั่งบอลติก ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ทศวรรษ 2000 และวอร์ซอระบุว่ามันแสดงให้เห็นว่าความเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างโปแลนด์กับวอชิงตันยังคงเหนียวแน่น ไม่ว่าใครจะอยู่ในทำเนียบขาวก็ตาม
    .
    "มันใช้เวลาพักใหญ่ แต่โครงการก่อสร้างนี้พิสูจน์ถึงความแน่วแน่ในเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ" ราโดสลอว์ ซิคอร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ กล่าวในวิดีโอที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    ประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดา ของโปแลนด์ ผู้นำหัวอนุรักษนิยมซึ่งเน้นย้ำความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับทรัมป์ เข้าร่วมในพิธีเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่ด้วย ในขณะที่วังเครมลินเรียกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นความพยายามควบคุมรัสเซีย ด้วยการเคลื่อนย้ายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของอเมริกาเข้ามาใกล้ชายแดนของพวกเขา
    .
    ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน กล่าวว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน คัดค้านแผนการต่างๆ สำหรับฐานขีปนาวุธแห่งนี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 2000 ครั้งที่ จอร์จ ดับเบิลยู.บุช เป็นประธานาธิบดี
    .
    โฆษกรายนี้บอกว่า ปูติน เคยเน้นย้ำในช่วงเวลาดังกล่าว ว่าสหรัฐฯ กำลังโกหก ที่อ้างว่ามันมีจุดประสงค์เพื่อสกัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะยิงขีปนาวุธเข้ามา "มันเป็นการยืนยันว่าประธานาธิบดีพูดถูก พวกเขายังคงเดินหน้าแผนการนี้ นี่คือโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำสมัยของอเมริกาบนดินแดนยุโรป ที่หันหน้าเข้าหาเขตแดนของเรา" เปสคอฟกล่าว "มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความพยายามควบคุมแสนยานุภาพทางทหารของเรา และแน่นอนว่ามันจะนำมาซึ่้งการใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อรับประกันความเท่าเทียม"
    .
    อย่างไรก็ตาม เปสคอฟ ไม่ได้ระบุว่ารัสเซียจะใช้มาตรการใดในการตอบโต้
    .
    การเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในโปแลนด์ มีขึ้นหลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ที่มีต่อนาโตในอดีต ได้ก่อความไม่สบายใจแก่รัฐสมาชิกบางส่วน โดยเขาเคยประกาศกร้าวว่าอเมริกาภายใต้การบริหารงานของเขา จะไม่ปกป้องประเทศต่างๆ ที่ไม่ใช้จ่ายในด้านกลาโหมอย่างเพียงพอ
    .
    กระนั้นก็ตาม โปแลนด์ บอกว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ
    .
    ฐานทัพของสหรัฐฯ ในเมืองเรดซิโคโว เป็นส่วนหนึ่งของโล่ป้องกันขีปนาวุธอย่างครอบคลุมของนาโต ที่ได้รับสมญานามว่า "Aegis Ashore" ซึ่งพันธมิตรทหารแห่งนี้อวดอ้างว่าสามารถสกัดขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปจนถึงพิสัยปานกลางที่พุ่งเข้ามาได้
    .
    มอสโกเคยตราหน้าฐานทัพแห่งนี้ว่าเป็นภัยคุกคาม ย้อนกลับไปในปี 2007 ตั้งแต่ช่วงที่มันยังอยู่ในขั้นของการวางแผน อย่างไรก็ตาม นาโตอ้างว่าโล่ดังกล่าวมีไว้เพื่อจุดประสงค์ป้องกันตนเองแต่เพียงอย่างเดียว
    .
    แหล่งข่าวด้านการทหารบอกกับรอยเตอร์ว่า ด้วยการติดตั้งระบบนี้ในโปแลนด์ เวลานี้นาโตไม่ใช่แค่สามารถใช้มันสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากตะวันออกกลางเท่านั้น แต่มันยังมีระบบเรดาร์ที่จำเป็นที่้สามารถเปลี่ยนทิศทางเข้าสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากรัสเซียด้วยเช่นกัน
    .
    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์ระบุในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่าจำเป็นต้องขยายขอบเขตโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้เพิ่มเติม ซึ่งทางวอร์ซอจะมีการพูดคุยหารือกับนาโตและสหรัฐฯ อีกครั้ง
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานว่า มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดี ดูดา และนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ ในกรุงวอร์ซอ หลังจากพิธีเปิดฐานทัพในวันพุธ (13 พ.ย.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109494
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ ทำการเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ทางเหนือของโปแลนด์ ความเคลื่อนไหวที่ทางวอร์ซอหาทางสร้างความอุ่นใจแก่พลเมืองว่านาโตการันตีความปลอดภัยของพวกเขา ท่ามกลางความหวั่นวิตก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา . ฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเรดซิโคโว ใกล้ชายฝั่งบอลติก ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ทศวรรษ 2000 และวอร์ซอระบุว่ามันแสดงให้เห็นว่าความเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างโปแลนด์กับวอชิงตันยังคงเหนียวแน่น ไม่ว่าใครจะอยู่ในทำเนียบขาวก็ตาม . "มันใช้เวลาพักใหญ่ แต่โครงการก่อสร้างนี้พิสูจน์ถึงความแน่วแน่ในเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ" ราโดสลอว์ ซิคอร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ กล่าวในวิดีโอที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . ประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดา ของโปแลนด์ ผู้นำหัวอนุรักษนิยมซึ่งเน้นย้ำความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับทรัมป์ เข้าร่วมในพิธีเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่ด้วย ในขณะที่วังเครมลินเรียกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นความพยายามควบคุมรัสเซีย ด้วยการเคลื่อนย้ายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของอเมริกาเข้ามาใกล้ชายแดนของพวกเขา . ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน กล่าวว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน คัดค้านแผนการต่างๆ สำหรับฐานขีปนาวุธแห่งนี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 2000 ครั้งที่ จอร์จ ดับเบิลยู.บุช เป็นประธานาธิบดี . โฆษกรายนี้บอกว่า ปูติน เคยเน้นย้ำในช่วงเวลาดังกล่าว ว่าสหรัฐฯ กำลังโกหก ที่อ้างว่ามันมีจุดประสงค์เพื่อสกัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะยิงขีปนาวุธเข้ามา "มันเป็นการยืนยันว่าประธานาธิบดีพูดถูก พวกเขายังคงเดินหน้าแผนการนี้ นี่คือโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำสมัยของอเมริกาบนดินแดนยุโรป ที่หันหน้าเข้าหาเขตแดนของเรา" เปสคอฟกล่าว "มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความพยายามควบคุมแสนยานุภาพทางทหารของเรา และแน่นอนว่ามันจะนำมาซึ่้งการใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อรับประกันความเท่าเทียม" . อย่างไรก็ตาม เปสคอฟ ไม่ได้ระบุว่ารัสเซียจะใช้มาตรการใดในการตอบโต้ . การเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในโปแลนด์ มีขึ้นหลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ที่มีต่อนาโตในอดีต ได้ก่อความไม่สบายใจแก่รัฐสมาชิกบางส่วน โดยเขาเคยประกาศกร้าวว่าอเมริกาภายใต้การบริหารงานของเขา จะไม่ปกป้องประเทศต่างๆ ที่ไม่ใช้จ่ายในด้านกลาโหมอย่างเพียงพอ . กระนั้นก็ตาม โปแลนด์ บอกว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ . ฐานทัพของสหรัฐฯ ในเมืองเรดซิโคโว เป็นส่วนหนึ่งของโล่ป้องกันขีปนาวุธอย่างครอบคลุมของนาโต ที่ได้รับสมญานามว่า "Aegis Ashore" ซึ่งพันธมิตรทหารแห่งนี้อวดอ้างว่าสามารถสกัดขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปจนถึงพิสัยปานกลางที่พุ่งเข้ามาได้ . มอสโกเคยตราหน้าฐานทัพแห่งนี้ว่าเป็นภัยคุกคาม ย้อนกลับไปในปี 2007 ตั้งแต่ช่วงที่มันยังอยู่ในขั้นของการวางแผน อย่างไรก็ตาม นาโตอ้างว่าโล่ดังกล่าวมีไว้เพื่อจุดประสงค์ป้องกันตนเองแต่เพียงอย่างเดียว . แหล่งข่าวด้านการทหารบอกกับรอยเตอร์ว่า ด้วยการติดตั้งระบบนี้ในโปแลนด์ เวลานี้นาโตไม่ใช่แค่สามารถใช้มันสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากตะวันออกกลางเท่านั้น แต่มันยังมีระบบเรดาร์ที่จำเป็นที่้สามารถเปลี่ยนทิศทางเข้าสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากรัสเซียด้วยเช่นกัน . รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์ระบุในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่าจำเป็นต้องขยายขอบเขตโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้เพิ่มเติม ซึ่งทางวอร์ซอจะมีการพูดคุยหารือกับนาโตและสหรัฐฯ อีกครั้ง . ทั้งนี้ มีรายงานว่า มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดี ดูดา และนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ ในกรุงวอร์ซอ หลังจากพิธีเปิดฐานทัพในวันพุธ (13 พ.ย.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109494 .............. Sondhi X
    Like
    8
    1 Comments 0 Shares 1201 Views 0 Reviews
  • “รัสเซียได้หยุดยั้งผู้ที่พยายามครอบครองโลกซ้ำแล้วซ้ำเล่า และจะยังคงทำเช่นนั้นต่อไป”

    คำกล่าวเพิ่มเติมอีกสองสามคำของปูตินที่วัลได:

    — ความไม่เท่าเทียมกันเป็นภัยร้ายแรงของโลกยุคใหม่

    — BRICS เป็นต้นแบบของลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เป็นอิสระและไม่แบ่งแยก

    — เสถียรภาพของระเบียบโลกสามารถขึ้นอยู่กับความเท่าเทียมกันสากลเท่านั้น

    — อุดมการณ์เหยียดเชื้อชาติได้หยั่งรากลึกในจิตสำนึกของผู้คนจำนวนมากในโลก ภาพจำของ "ตะวันตกที่เจริญแล้ว" และ "ความป่าเถื่อน" ของประเทศอื่นๆ เป็นเรื่องโง่เขลา

    — โดยพื้นฐานแล้ว นโยบายตะวันตกยังคงเป็นแบบนีโออาณานิคม

    — WTO ไม่ได้ตัดสินใจอะไร

    — มีผู้ที่สนใจ BRICS ใน NATO บางทีจำนวนประเทศดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้น

    — การมีอยู่ของรัสเซียเป็นเครื่องรับประกันว่าโลกจะรักษาความหลากหลายไว้และเป็นเครื่องรับประกันการพัฒนาที่ประสบความสำเร็จ

    — รัสเซียไม่เคยริเริ่มใช้กำลัง แต่เมื่อจำเป็น รัสเซียจะใช้มาตรการทั้งหมด เพื่อปกป้องประเทศ

    — รัสเซียถูกชี้นำโดยผลประโยชน์ ค่านิยม วัฒนธรรม แต่เราพร้อมเสมอสำหรับการเจรจาอย่างเปิดเผย

    — เราจะปกป้องตัวเอง ประชาชนของเรา อย่าให้ใครมีภาพลวงตาเกี่ยวกับเรื่องนี้

    — ฝ่ายตรงข้ามของเรากำลังหาเครื่องมือเพื่อกำจัดเราอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ — ยูเครน ในความเป็นจริง พวกเขากำลังเปลี่ยนประชากรในพื้นที่ให้กลายเป็นปืนใหญ่

    — เมื่อคุณมาถึง G8 อีกครั้ง จะเห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านั้น "เจ็ดคน" จะมารวมตัวกัน พวกเขาโอบกอด ตบไหล่ แต่ในทางปฏิบัติ พวกเขากลับทำตรงกันข้าม

    — ไม่มีประโยชน์ที่จะกดดันเรา แต่เราพร้อมเสมอที่จะเจรจา
    “รัสเซียได้หยุดยั้งผู้ที่พยายามครอบครองโลกซ้ำแล้วซ้ำเล่า และจะยังคงทำเช่นนั้นต่อไป” คำกล่าวเพิ่มเติมอีกสองสามคำของปูตินที่วัลได: — ความไม่เท่าเทียมกันเป็นภัยร้ายแรงของโลกยุคใหม่ — BRICS เป็นต้นแบบของลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เป็นอิสระและไม่แบ่งแยก — เสถียรภาพของระเบียบโลกสามารถขึ้นอยู่กับความเท่าเทียมกันสากลเท่านั้น — อุดมการณ์เหยียดเชื้อชาติได้หยั่งรากลึกในจิตสำนึกของผู้คนจำนวนมากในโลก ภาพจำของ "ตะวันตกที่เจริญแล้ว" และ "ความป่าเถื่อน" ของประเทศอื่นๆ เป็นเรื่องโง่เขลา — โดยพื้นฐานแล้ว นโยบายตะวันตกยังคงเป็นแบบนีโออาณานิคม — WTO ไม่ได้ตัดสินใจอะไร — มีผู้ที่สนใจ BRICS ใน NATO บางทีจำนวนประเทศดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้น — การมีอยู่ของรัสเซียเป็นเครื่องรับประกันว่าโลกจะรักษาความหลากหลายไว้และเป็นเครื่องรับประกันการพัฒนาที่ประสบความสำเร็จ — รัสเซียไม่เคยริเริ่มใช้กำลัง แต่เมื่อจำเป็น รัสเซียจะใช้มาตรการทั้งหมด เพื่อปกป้องประเทศ — รัสเซียถูกชี้นำโดยผลประโยชน์ ค่านิยม วัฒนธรรม แต่เราพร้อมเสมอสำหรับการเจรจาอย่างเปิดเผย — เราจะปกป้องตัวเอง ประชาชนของเรา อย่าให้ใครมีภาพลวงตาเกี่ยวกับเรื่องนี้ — ฝ่ายตรงข้ามของเรากำลังหาเครื่องมือเพื่อกำจัดเราอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ — ยูเครน ในความเป็นจริง พวกเขากำลังเปลี่ยนประชากรในพื้นที่ให้กลายเป็นปืนใหญ่ — เมื่อคุณมาถึง G8 อีกครั้ง จะเห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านั้น "เจ็ดคน" จะมารวมตัวกัน พวกเขาโอบกอด ตบไหล่ แต่ในทางปฏิบัติ พวกเขากลับทำตรงกันข้าม — ไม่มีประโยชน์ที่จะกดดันเรา แต่เราพร้อมเสมอที่จะเจรจา
    0 Comments 0 Shares 258 Views 12 0 Reviews
  • "พวกบัดซบ"

    พวกบัดซบนั้นเมื่อสร้างหนังสร้างละคร
    แม้กระทั่งพูดก็มักจะด้อยค่ากษัตริย์
    ศาสนา ขนบ ธรรมเนียม ประเพณี
    หรือเรียกรวมว่าด้อยค่าวัฒนธรรม -วิถีชีวิต

    เพราะโง่จนเชื่อว่าถ้าทำลายสิ่งเหล่านี้
    หมดทุกอย่างแล้วจะเกิดความเท่าเทียม

    พวกบัดซบนี้ไม่รู้-ไม่เห็นว่าสิทธิเสรีภาพ ภราดรภาพ เสมอภาค(ความเท่าเทียม)
    นั้นคือการที่ทุกคนได้เชื่อถือ
    นับถือเคารพ เทิดทูนสิ่งมีตนเห็นว่ามีคุณค่า
    มีประโยชน์สำหรับตน

    มันเป็นสังคมที่มีหลากหลาย
    เป็นระบบนิเวศทางจิตวิญญาณ
    หรือระบบจริยธรรมของสังคมไทย

    ทั้งหมดนี้นักการเมือง
    และพวกบัดซบไม่กี่คนไม่สามารถสร้างได้
    นอกจากใช้อำนาจสร้าง สิ่งที่เรียกว่าการปฏิวัติ(สุดท้ายก็เจ๊ง)

    มันต้องสร้างด้วยสำนึกร่วมกันของชุมชนและสังคม ซึ่งใช้เวลายาวนานมาก
    การทำลายก็ต้องใช้เวลานานมากยิ่งกว่า

    พวกบัดซบจึงเป็นพวกทำลายล้าง
    สิทธิ เสรีภาพ ภราดรภาพ
    ทำลายความเสมอภาคของคนและสังคม
    ตัวจริงและของจริง.

    #ขอบพระคุณ
    วิมล ไทรนิ่มนวล
    ภาพประกอบ
    #แมวในอารยะธรรมอิยิปต์
    "พวกบัดซบ" พวกบัดซบนั้นเมื่อสร้างหนังสร้างละคร แม้กระทั่งพูดก็มักจะด้อยค่ากษัตริย์ ศาสนา ขนบ ธรรมเนียม ประเพณี หรือเรียกรวมว่าด้อยค่าวัฒนธรรม -วิถีชีวิต เพราะโง่จนเชื่อว่าถ้าทำลายสิ่งเหล่านี้ หมดทุกอย่างแล้วจะเกิดความเท่าเทียม พวกบัดซบนี้ไม่รู้-ไม่เห็นว่าสิทธิเสรีภาพ ภราดรภาพ เสมอภาค(ความเท่าเทียม) นั้นคือการที่ทุกคนได้เชื่อถือ นับถือเคารพ เทิดทูนสิ่งมีตนเห็นว่ามีคุณค่า มีประโยชน์สำหรับตน มันเป็นสังคมที่มีหลากหลาย เป็นระบบนิเวศทางจิตวิญญาณ หรือระบบจริยธรรมของสังคมไทย ทั้งหมดนี้นักการเมือง และพวกบัดซบไม่กี่คนไม่สามารถสร้างได้ นอกจากใช้อำนาจสร้าง สิ่งที่เรียกว่าการปฏิวัติ(สุดท้ายก็เจ๊ง) มันต้องสร้างด้วยสำนึกร่วมกันของชุมชนและสังคม ซึ่งใช้เวลายาวนานมาก การทำลายก็ต้องใช้เวลานานมากยิ่งกว่า พวกบัดซบจึงเป็นพวกทำลายล้าง สิทธิ เสรีภาพ ภราดรภาพ ทำลายความเสมอภาคของคนและสังคม ตัวจริงและของจริง. #ขอบพระคุณ วิมล ไทรนิ่มนวล ภาพประกอบ #แมวในอารยะธรรมอิยิปต์
    0 Comments 0 Shares 244 Views 0 Reviews
  • เมื่อ…ท่านเพิกเฉย ต่อ
    “ความไม่เท่าเทียม หรือ ความอยุติธรรม”
    ท่านก็ไม่มีความชอบธรรมใด ที่จะเพรียกร้องหา
    ”ความยุติธรรม หรือ ความเท่าเทียม”
    เมื่อ…ท่านเพิกเฉย ต่อ “ความไม่เท่าเทียม หรือ ความอยุติธรรม” ท่านก็ไม่มีความชอบธรรมใด ที่จะเพรียกร้องหา ”ความยุติธรรม หรือ ความเท่าเทียม”
    Like
    1
    0 Comments 2 Shares 225 Views 0 Reviews
  • สมาชิกสภาฯ หญิงท้า ถึงเวลาเกณฑ์ทหารหญิงแล้ว!

    Maryana Bezuhla เจ้าแม่ดราม่ายูเครนออกโรงสนับสนุนการเกณฑ์ทหารหญิงอย่างถึงพริกถึงขิง "รัฐธรรมนูญไม่ได้แบ่งพลเมืองเป็นสองประเภท ตอนนี้เราเลือกปฏิบัติกับผู้ชายอย่างผิดกฎหมาย" เธอยังแซวผู้ชายว่า "ถ้าผู้หญิงถูกเกณฑ์ด้วย พวกคุณก็จะถูกเกณฑ์น้อยลงนะ นี่เป็นเหตุผลที่ควรสนับสนุน!"

    เธอเสนอให้เริ่มจากตำแหน่งหลังแนวรบก่อน เช่น งานเอกสาร งานบุคคล หน่วยรักษาการณ์ "ตอนนี้มีผู้ชายนับพันที่ 'จ่ายใต้โต๊ะ' เพื่อหลบอยู่หลังแนวรบ ในขณะที่หน่วยรบกำลังรอคอย แต่กลับต้องดึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาเป็นทหารราบ ทำให้กองทัพสูญเสียความเชี่ยวชาญ"

    "สงครามไม่ใช่เรื่องของคนกลุ่มเดียว โดยเฉพาะเมื่อไม่ใช่แค่เรื่องดินแดน แต่เป็นเรื่องการดำรงอยู่ของชาติ" เธอเผย เคยเสนอแก้กฎหมายหลายครั้งแต่ถูกปัดตก "ตลกร้ายที่กระทรวงกลาโหมทำพังเรื่องเกณฑ์ทหาร นายพลทำลายทหารด้วยการตัดสินใจไร้สติ แต่ไม่มีใครกล้าพูดเพราะเป็นเรื่อง 'ละเอียดอ่อน' บางทีถ้าผู้หญิงถูกเกณฑ์ อาจจะมาจัดการความวุ่นวายนี้ได้"
    ความเท่าเทียมอย่างแท้จริงกำลังจะเกิดขึ้นที่ยูเครนแล้ว

    https://web.facebook.com/groups/194174770388504/posts/362604156878897/
    สมาชิกสภาฯ หญิงท้า ถึงเวลาเกณฑ์ทหารหญิงแล้ว! Maryana Bezuhla เจ้าแม่ดราม่ายูเครนออกโรงสนับสนุนการเกณฑ์ทหารหญิงอย่างถึงพริกถึงขิง "รัฐธรรมนูญไม่ได้แบ่งพลเมืองเป็นสองประเภท ตอนนี้เราเลือกปฏิบัติกับผู้ชายอย่างผิดกฎหมาย" เธอยังแซวผู้ชายว่า "ถ้าผู้หญิงถูกเกณฑ์ด้วย พวกคุณก็จะถูกเกณฑ์น้อยลงนะ นี่เป็นเหตุผลที่ควรสนับสนุน!" เธอเสนอให้เริ่มจากตำแหน่งหลังแนวรบก่อน เช่น งานเอกสาร งานบุคคล หน่วยรักษาการณ์ "ตอนนี้มีผู้ชายนับพันที่ 'จ่ายใต้โต๊ะ' เพื่อหลบอยู่หลังแนวรบ ในขณะที่หน่วยรบกำลังรอคอย แต่กลับต้องดึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาเป็นทหารราบ ทำให้กองทัพสูญเสียความเชี่ยวชาญ" "สงครามไม่ใช่เรื่องของคนกลุ่มเดียว โดยเฉพาะเมื่อไม่ใช่แค่เรื่องดินแดน แต่เป็นเรื่องการดำรงอยู่ของชาติ" เธอเผย เคยเสนอแก้กฎหมายหลายครั้งแต่ถูกปัดตก "ตลกร้ายที่กระทรวงกลาโหมทำพังเรื่องเกณฑ์ทหาร นายพลทำลายทหารด้วยการตัดสินใจไร้สติ แต่ไม่มีใครกล้าพูดเพราะเป็นเรื่อง 'ละเอียดอ่อน' บางทีถ้าผู้หญิงถูกเกณฑ์ อาจจะมาจัดการความวุ่นวายนี้ได้" ความเท่าเทียมอย่างแท้จริงกำลังจะเกิดขึ้นที่ยูเครนแล้ว https://web.facebook.com/groups/194174770388504/posts/362604156878897/
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • ปฏิญญา BRICS นับหนึ่งระเบียบโลกหลายขั้ว
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม BRICS ขึ้น โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นเจ้าภาพ กลุ่ม BRICS กำลังสร้างระเบียบโลกใหม่ขึ้นอีกระบบหนึ่งที่มีขั้วอำนาจหลายขั้ว ที่นำโดย 5 ประเทศก่อตั้ง คือ จีน รัสเซีย แอฟริกาใต้ บราซิล และ อินเดีย กับสมาชิกถาวรอีก 4 ประเทศ คือ อิหร่าน อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ เอธิโอเปีย ได้จับมือรวมกลุ่มกับประเทศซีกโลกใต้ ที่เขาเรียกว่า Global South ที่เป็นประเทศพันธมิตรหุ้นส่วนอีก 13 ประเทศ มีแอลจีเรีย เบราลุส โบลิเวีย คิวบา อินโดนีเซีย คาซัคสถาน มาเลเซีย ไนจีเรีย ตุรกี ยูกันดา อุซเบกินสถาน เวียดนาม และ ประเทศไทย
    .
    ด้วยเหตุนี้ นักประวัติศาสตร์และสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล ทอดด์ ได้เรียกการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 16 นี้ว่าเป็นชัยชนะของรัสเซีย และเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับของตะวันตก ซึ่งขณะนี้ก็ยังดื้อด้าน ไม่ยอมรับ และแสดงอำนาจบาตรใหญ่ คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของประเทศที่แสดงความปรารถนาจะใกล้ชิดกับรัสเซีย
    .
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน พูดถึงระเบียบโลกใหม่ที่BRICS สร้างเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มความร่วมมือที่หลากหลายในหลายมิติ ไม่ใช่การแสวงหาประโยชน์หรือบูรณาการเฉพาะทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ ให้ความสำคัญ Global South โลกใต้ที่เป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน,BRICS Peaceใช้กลไกสันติภาพยุติสงครามความขัดแย้ง,นวัตกรรมของBRICS Innovationเพื่ออนาคตเปิดพรมแดนใหม่ๆเพื่อมนุษยชาติ,Green BRICS ซึ่งจีนเป็นเจ้าโลกเทคโนโลยีสีเขียวและรถไฟฟ้าตอบโจทย์แก้โลกร้อน Climate Change และประเด็น Justices&Humanity BRICSที่ผู้นำจีนเสนอควรต้องให้แต้มต่อประเทศยากจนถึงจะเป็นธรรม
    .
    การประชุมสุดยอดของผู้นำ BRICS ปิดฉากลงด้วยการรับรองปฏิญญาคาซาน 2024 ซึ่งเป็นคำประกาศแถลงการณ์ร่วมของสมาชิก BRICS โดยมีแผนที่จะยื่นเอกสารดังกล่าวต่อสหประชาชาติด้วย เนื้อหาระบุไว้4หัวข้อหลัก
    .
    หนึ่ง-ความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันระดับโลกเช่นองค์การการค้าโลก คัดค้านมาตรการฝ่ายเดียวที่เลือกปฏิบัติและการคุ้มครองทางการค้า รวมทั้งเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ให้เป็นตัวแทนประเทศทั่วโลกมากขึ้น
    .
    สอง-โครงการของ BRICS ริเริ่มใหม่ (BRICS Initiative) ด้านศักยภาพเทคโนโลยีสารสนเทศดิจิทัลและเปลี่ยนแปลงเพิ่มบทบาทธนาคารพัฒนาแห่งใหม่ (NDB)ของBRICS แทนธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟที่ล้มเหลวต่อการพัฒนาประเทศ Global South รวมถึงการทำแพลตฟอร์มใหม่ๆพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบชำระเงินระหว่างประเทศ BRICS ClearแทนระบบSWIFTของตะวันตก และร่วมมือการพัฒนายารักษาโรครวมทั้งวัคซีนและโครงการ เวชศาสตร์นิวเคลียร์
    .
    สาม-การขยายความร่วมมือของ BRICS โดยการใช้สกุลเงินท้องถิ่นประจำชาติในการทำธุรกรรมระหว่างสมาชิก BRICS+ และพันธมิตรทางการค้า ดำเนินยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
    .
    สี่-วิกฤตการณ์โลกที่ BRICS ต่อต้าน ประณามการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เลือกปฏิบัติ คัดค้านการนำอาวุธไปใช้ในอวกาศ และสนับสนุนการเสริมสร้างระบอบการไม่แพร่ขยายอาวุธ รวมถึงปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของปาเลสไตน์ในสหประชาชาติและข้อเสนอในการไกล่เกลี่ยยุติความขัดแย้งโดยผ่านการเจรจาเท่านั้น
    .
    ทั้งหมดนี้ จีน รัสเซีย ในฐานะแกนนำมหาอำนาจขั้วโลกใหม่ จะเป็นผู้นำวางกฎระเบียบโลกใหม่ และได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงยุทธศาสตร์เชิงภูมิเศรษฐศาสตร์และภูมิรัฐศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงสภาพการขับเคี่ยวกันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างเศรษฐกิจกลุ่ม Global North และ Global South สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการนับหนึ่งที่กำลังจะสั่นสะเทือนอนาคตของระเบียบโลกเก่า
    ปฏิญญา BRICS นับหนึ่งระเบียบโลกหลายขั้ว . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม BRICS ขึ้น โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นเจ้าภาพ กลุ่ม BRICS กำลังสร้างระเบียบโลกใหม่ขึ้นอีกระบบหนึ่งที่มีขั้วอำนาจหลายขั้ว ที่นำโดย 5 ประเทศก่อตั้ง คือ จีน รัสเซีย แอฟริกาใต้ บราซิล และ อินเดีย กับสมาชิกถาวรอีก 4 ประเทศ คือ อิหร่าน อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ เอธิโอเปีย ได้จับมือรวมกลุ่มกับประเทศซีกโลกใต้ ที่เขาเรียกว่า Global South ที่เป็นประเทศพันธมิตรหุ้นส่วนอีก 13 ประเทศ มีแอลจีเรีย เบราลุส โบลิเวีย คิวบา อินโดนีเซีย คาซัคสถาน มาเลเซีย ไนจีเรีย ตุรกี ยูกันดา อุซเบกินสถาน เวียดนาม และ ประเทศไทย . ด้วยเหตุนี้ นักประวัติศาสตร์และสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล ทอดด์ ได้เรียกการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 16 นี้ว่าเป็นชัยชนะของรัสเซีย และเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับของตะวันตก ซึ่งขณะนี้ก็ยังดื้อด้าน ไม่ยอมรับ และแสดงอำนาจบาตรใหญ่ คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของประเทศที่แสดงความปรารถนาจะใกล้ชิดกับรัสเซีย . ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน พูดถึงระเบียบโลกใหม่ที่BRICS สร้างเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มความร่วมมือที่หลากหลายในหลายมิติ ไม่ใช่การแสวงหาประโยชน์หรือบูรณาการเฉพาะทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ ให้ความสำคัญ Global South โลกใต้ที่เป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน,BRICS Peaceใช้กลไกสันติภาพยุติสงครามความขัดแย้ง,นวัตกรรมของBRICS Innovationเพื่ออนาคตเปิดพรมแดนใหม่ๆเพื่อมนุษยชาติ,Green BRICS ซึ่งจีนเป็นเจ้าโลกเทคโนโลยีสีเขียวและรถไฟฟ้าตอบโจทย์แก้โลกร้อน Climate Change และประเด็น Justices&Humanity BRICSที่ผู้นำจีนเสนอควรต้องให้แต้มต่อประเทศยากจนถึงจะเป็นธรรม . การประชุมสุดยอดของผู้นำ BRICS ปิดฉากลงด้วยการรับรองปฏิญญาคาซาน 2024 ซึ่งเป็นคำประกาศแถลงการณ์ร่วมของสมาชิก BRICS โดยมีแผนที่จะยื่นเอกสารดังกล่าวต่อสหประชาชาติด้วย เนื้อหาระบุไว้4หัวข้อหลัก . หนึ่ง-ความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันระดับโลกเช่นองค์การการค้าโลก คัดค้านมาตรการฝ่ายเดียวที่เลือกปฏิบัติและการคุ้มครองทางการค้า รวมทั้งเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ให้เป็นตัวแทนประเทศทั่วโลกมากขึ้น . สอง-โครงการของ BRICS ริเริ่มใหม่ (BRICS Initiative) ด้านศักยภาพเทคโนโลยีสารสนเทศดิจิทัลและเปลี่ยนแปลงเพิ่มบทบาทธนาคารพัฒนาแห่งใหม่ (NDB)ของBRICS แทนธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟที่ล้มเหลวต่อการพัฒนาประเทศ Global South รวมถึงการทำแพลตฟอร์มใหม่ๆพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบชำระเงินระหว่างประเทศ BRICS ClearแทนระบบSWIFTของตะวันตก และร่วมมือการพัฒนายารักษาโรครวมทั้งวัคซีนและโครงการ เวชศาสตร์นิวเคลียร์ . สาม-การขยายความร่วมมือของ BRICS โดยการใช้สกุลเงินท้องถิ่นประจำชาติในการทำธุรกรรมระหว่างสมาชิก BRICS+ และพันธมิตรทางการค้า ดำเนินยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ . สี่-วิกฤตการณ์โลกที่ BRICS ต่อต้าน ประณามการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เลือกปฏิบัติ คัดค้านการนำอาวุธไปใช้ในอวกาศ และสนับสนุนการเสริมสร้างระบอบการไม่แพร่ขยายอาวุธ รวมถึงปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของปาเลสไตน์ในสหประชาชาติและข้อเสนอในการไกล่เกลี่ยยุติความขัดแย้งโดยผ่านการเจรจาเท่านั้น . ทั้งหมดนี้ จีน รัสเซีย ในฐานะแกนนำมหาอำนาจขั้วโลกใหม่ จะเป็นผู้นำวางกฎระเบียบโลกใหม่ และได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงยุทธศาสตร์เชิงภูมิเศรษฐศาสตร์และภูมิรัฐศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงสภาพการขับเคี่ยวกันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างเศรษฐกิจกลุ่ม Global North และ Global South สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการนับหนึ่งที่กำลังจะสั่นสะเทือนอนาคตของระเบียบโลกเก่า
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 798 Views 0 Reviews
  • เดทแรกควรจะพาสาวไปที่ไหนดี
    ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยถนัดเรื่องการเข้าสังคมนะ
    ไม่รู้ว่าควรจะเลือกที่เดทยังไงดี

    ก่อนที่คุณจะคิดพาเธอไปไหนนะ

    ในมุมมองของแพนด้าเอง เวลาที่จะเลือกที่เดทโดยเฉพาะครั้งแรกนะครับ
    ในภาพรวม แพนด้าจะให้น้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ที่ตัวเองเป็นหลักครับ

    ซึ่งวันนี้แพนด้ามี 2 ที่นะครับ ที่ฟันธงเลยว่า คุณควรจะพาเธอไป

    ที่แรกนะ จำไว้ มันคือ ที่ๆ ทำให้ตัวคุณเองมีพลัง
    สมมุติ ถ้าคุณพาเธอไปร้านหรูๆ เลยนะ
    บรรยาศดูดี อบอวนไปด้วยกลิ่นอายความโรแมนติก
    แต่ตัวจริงของคุณเองอะ ดันไม่คุ้นเคยกับอะไรแบบนั้นเลยอะครับ
    ถ้าถ้าดันเผลอทำอะไรเงอะๆ งะๆ เปิ่นๆ โก๊ะๆ มันทำให้เธออายขึ้นมา
    เน่าเลยนะน่ะ.. พังนะ..
    เลือกที่ดูดีอะใช่ และมันต้องให้คุณดูเฉิดฉายได้ด้วย

    ที่ๆ 2 คือ.. ที่คุณควรพาเธอไปเดท คือ ที่ๆ น่าจดจำ
    เวลาพูดถึงการไปเดท คุณคิดว่าคนทั่วๆ ไปจะไปเดทกันที่ไหนกัน
    โรงหนัง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ วนๆ ประมาณนี้ป่ะ..
    มันคือของเหมือนๆ กันน่ะ ไม่ได้มีความแตกต่าง ไม่ได้น่าจดจำอะไรเลย
    ลองชวนเค้าไปทำอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง
    วงเล็บ.. ถ้าคุณคุ้นเคยด้วยจะยิ่งดี
    มันจะช่วยทำคุณดูโดดเด่นกว่าคนอื่นครับ

    ซึ่งนี่ไม่ใช่กฎเกณฑ์ทั้งหมดนะครับ
    ทั้งนี้ทั้งนั้นนะ มันต้องดูกาลเทศะ ความเหมาะสมอย่างอื่นประกอบด้วยนะ

    อย่างที่แพนด้าบอกครับ คุณควรให้น้ำหนักอยู่ที่ตัวเอง
    เพราะคุณต้องการโดดเด่นในสายตาเธอ

    ถึงแม้เราจะอยู่ในโลกยุคเท่าเทียม แต่สัญชาติญาณก็ยังทำให้ผู้หญิง
    ถูกดึดดูดด้วยความเป็นผู้นำของผู้ชายอยู่ดี

    -

    เทคนิคพวกนี้ พี่แพนด้าได้มาจากเล่มนี้ครับ
    “คู่มือชนะใจคน พบ 100 ครั้ง เป็นที่รัก 100 ครั้ง”
    เหมาะกับคนที่ไม่เข้าใจเกมของการเข้าสังคมอะ
    ไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้ รืแม้แต่แบบ..
    ไปมาเยอะนะ แต่คุยแล้วหาย คุยแล้วหาย ไม่ success อยู่ดี

    คนเขียนแต่ก่อนเค้าก็ทรงนี้แหละครับ
    จนเค้าพัฒนาตัวเอง จนประสบความสำเร็จในการสร้างสัมพันธ์
    เบิกบาน มีความสุข หลุดจากโลกอึดอัดๆ เหงาๆ แบบหลายๆ คนน่ะ
    แล้วก็มาเขียนเล่มนี้ล่ะคับ

    พิกัดสินค้า จิ้มไอคอนตระกร้าที่หน้าจอครับ

    ———

    หนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร
    จริงๆ แล้วถ้าคุณเป็นคนที่งงมากเลยอะ เบลอๆ แบล๊งค์ๆ ไม่เข้าใจการเข้าสังคม
    เช่น การจะไปเดทกับสาว
    เราควรจะโฟกัสไปที่อะไร

    อะไรคือ Key Success กันแน่ ที่จะสร้างความประทับใจให้อีกฝั่งนึงได้

    การสร้างความประทับใจน
    ที่ไม่ได้แปลว่า คุณต้องพยายามไปท่อง พยายามจำ หรือพยายามพูด พยายามทำอะไรให้เค้าประทับใจ

    แต่มันคือการที่คุณรู้สึกมั่นใจ รู้ว่าอะไรให้พลังคุณ..เวลาที่ไปถึงหน้างานแล้ว และคุณรู้ว่าจุดที่เค้าจะจดจำคุณน่ะคืออะไร

    คุณไม่จำเป็นต้องกลัว และ!! คุณไม่จำเป็นต้องมีบทสนทนาตลอดเวลาขนาดนั้น
    เห้ย มนุษย์ มนุษย์นคนนึง เค้าไม่ได้อยากฟังตลอดเวลา เค้าไม่ได้อยากคุยตลอดเวลา
    เป็นคุณๆ เอามั้ยอะ มีแฟนที่พูดไม่หยุดตั้งแต่เช้ายันเย็น

    พิกัดหนังสือ = https://s.shopee.co.th/sGlhvEjU

    #ความรัก
    #ความรักความสัมพันธ์
    #จิตวิทยาความรัก
    #จีบสาว
    #สอนจีบสาว
    #แพนด้าบางรัก
    เดทแรกควรจะพาสาวไปที่ไหนดี ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยถนัดเรื่องการเข้าสังคมนะ ไม่รู้ว่าควรจะเลือกที่เดทยังไงดี ก่อนที่คุณจะคิดพาเธอไปไหนนะ ในมุมมองของแพนด้าเอง เวลาที่จะเลือกที่เดทโดยเฉพาะครั้งแรกนะครับ ในภาพรวม แพนด้าจะให้น้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ที่ตัวเองเป็นหลักครับ ซึ่งวันนี้แพนด้ามี 2 ที่นะครับ ที่ฟันธงเลยว่า คุณควรจะพาเธอไป ที่แรกนะ จำไว้ มันคือ ที่ๆ ทำให้ตัวคุณเองมีพลัง สมมุติ ถ้าคุณพาเธอไปร้านหรูๆ เลยนะ บรรยาศดูดี อบอวนไปด้วยกลิ่นอายความโรแมนติก แต่ตัวจริงของคุณเองอะ ดันไม่คุ้นเคยกับอะไรแบบนั้นเลยอะครับ ถ้าถ้าดันเผลอทำอะไรเงอะๆ งะๆ เปิ่นๆ โก๊ะๆ มันทำให้เธออายขึ้นมา เน่าเลยนะน่ะ.. พังนะ.. เลือกที่ดูดีอะใช่ และมันต้องให้คุณดูเฉิดฉายได้ด้วย ที่ๆ 2 คือ.. ที่คุณควรพาเธอไปเดท คือ ที่ๆ น่าจดจำ เวลาพูดถึงการไปเดท คุณคิดว่าคนทั่วๆ ไปจะไปเดทกันที่ไหนกัน โรงหนัง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ วนๆ ประมาณนี้ป่ะ.. มันคือของเหมือนๆ กันน่ะ ไม่ได้มีความแตกต่าง ไม่ได้น่าจดจำอะไรเลย ลองชวนเค้าไปทำอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง วงเล็บ.. ถ้าคุณคุ้นเคยด้วยจะยิ่งดี มันจะช่วยทำคุณดูโดดเด่นกว่าคนอื่นครับ ซึ่งนี่ไม่ใช่กฎเกณฑ์ทั้งหมดนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นนะ มันต้องดูกาลเทศะ ความเหมาะสมอย่างอื่นประกอบด้วยนะ อย่างที่แพนด้าบอกครับ คุณควรให้น้ำหนักอยู่ที่ตัวเอง เพราะคุณต้องการโดดเด่นในสายตาเธอ ถึงแม้เราจะอยู่ในโลกยุคเท่าเทียม แต่สัญชาติญาณก็ยังทำให้ผู้หญิง ถูกดึดดูดด้วยความเป็นผู้นำของผู้ชายอยู่ดี - เทคนิคพวกนี้ พี่แพนด้าได้มาจากเล่มนี้ครับ “คู่มือชนะใจคน พบ 100 ครั้ง เป็นที่รัก 100 ครั้ง” เหมาะกับคนที่ไม่เข้าใจเกมของการเข้าสังคมอะ ไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้ รืแม้แต่แบบ.. ไปมาเยอะนะ แต่คุยแล้วหาย คุยแล้วหาย ไม่ success อยู่ดี คนเขียนแต่ก่อนเค้าก็ทรงนี้แหละครับ จนเค้าพัฒนาตัวเอง จนประสบความสำเร็จในการสร้างสัมพันธ์ เบิกบาน มีความสุข หลุดจากโลกอึดอัดๆ เหงาๆ แบบหลายๆ คนน่ะ แล้วก็มาเขียนเล่มนี้ล่ะคับ พิกัดสินค้า จิ้มไอคอนตระกร้าที่หน้าจอครับ ——— หนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร จริงๆ แล้วถ้าคุณเป็นคนที่งงมากเลยอะ เบลอๆ แบล๊งค์ๆ ไม่เข้าใจการเข้าสังคม เช่น การจะไปเดทกับสาว เราควรจะโฟกัสไปที่อะไร อะไรคือ Key Success กันแน่ ที่จะสร้างความประทับใจให้อีกฝั่งนึงได้ การสร้างความประทับใจน ที่ไม่ได้แปลว่า คุณต้องพยายามไปท่อง พยายามจำ หรือพยายามพูด พยายามทำอะไรให้เค้าประทับใจ แต่มันคือการที่คุณรู้สึกมั่นใจ รู้ว่าอะไรให้พลังคุณ..เวลาที่ไปถึงหน้างานแล้ว และคุณรู้ว่าจุดที่เค้าจะจดจำคุณน่ะคืออะไร คุณไม่จำเป็นต้องกลัว และ!! คุณไม่จำเป็นต้องมีบทสนทนาตลอดเวลาขนาดนั้น เห้ย มนุษย์ มนุษย์นคนนึง เค้าไม่ได้อยากฟังตลอดเวลา เค้าไม่ได้อยากคุยตลอดเวลา เป็นคุณๆ เอามั้ยอะ มีแฟนที่พูดไม่หยุดตั้งแต่เช้ายันเย็น พิกัดหนังสือ = https://s.shopee.co.th/sGlhvEjU #ความรัก #ความรักความสัมพันธ์ #จิตวิทยาความรัก #จีบสาว #สอนจีบสาว #แพนด้าบางรัก
    0 Comments 0 Shares 278 Views 0 Reviews
  • ปัตตานี - ญาติผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบร่วมกับเครือข่ายอ่านแถงการณ์ 20 ปีตากใบ ชี้ไม่พอใจ-หมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม เรียกร้องยูเอ็น-ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใหม่

    วานนี้ (25 ต.ค.) เวลา 17.00 น. ที่ Patani Art Space อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนที่คดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 จะหมดอายุความ ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์พร้อมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ร่วมจัดงาน เช่น สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ รำลึก 20 ปี ตากใบ

    ad

    แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า “คดีตากใบ: การสร้างความยุติธรรมและความรับผิดชอบร่วมกัน” โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นต่อประชาชนผู้ชุมนุมอย่างสันติที่อำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547 คืออาชญากรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำต่อประชาชนอย่างโหดเหี้ยมและไม่มีผู้รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าว

    “เป็นเวลา 20 ปีที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ผู้บงการกลับลอยนวลพ้นผิด ทำให้พี่น้องและญาติผู้สูญเสีย รวมถึงประชาชน ปาตานี/ชายแดนภาคใต้ มีความไม่พอใจและหมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม”

    ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จากเหตุการณ์ที่ตากใบ ในวาระครบรอบ 20 ปี แถลงการณ์ฉบับในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่คดีความหมดอายุ จึงมีข้อเรียกร้องสำคัญดังนี้

    1.ให้รัฐบาลสอบสวนเหตุการณ์ในระดับนานาชาติ โดยร้องขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบ หรือขอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) เข้ามามีส่วนในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะเข้าข่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องการใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุโดยรัฐในเหตุการณ์ตากใบ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

    2.ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่เคยลงนาม โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสนับสนุนการจัดตั้งกลไกเพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิและความเป็นธรรมในกรณีอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้ผู้มีอำนาจรัฐตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใหม่ โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานี้ต้องมีความเป็นกลางและเป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง

    3.ให้รัฐบาลประณามการลอยนวลของผู้กระทำความผิด (Impunity) รัฐบาลควรเน้นย้ำให้เห็นว่าความล้มเหลวในการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายในระดับชาติ เป็นตัวอย่างของการลอยนวลของผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อความเป็นธรรมในระดับสากล ต้องให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของไทย

    “เราขอยืนยันข้อเรียกร้องเหล่านี้ ด้วยเจตจำนงที่มุ่งมั่นและเปิดกว้างต่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลและผู้บริหารข้าราชการในพื้นที่ โดยเรามีความเชื่อมั่นว่า การแสวงหาความยุติธรรมในกรณีนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการลงโทษผู้กระทำผิด แต่คือการสร้างระบบที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประเทศชาติ

    “เราขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความยุติธรรมที่แท้จริง พร้อมทั้งสร้างความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการในพื้นที่ภาคใต้ ที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและ ความเท่าเทียมของทุกฝ่าย”

    #MGROnline #ตากใบ
    ปัตตานี - ญาติผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบร่วมกับเครือข่ายอ่านแถงการณ์ 20 ปีตากใบ ชี้ไม่พอใจ-หมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม เรียกร้องยูเอ็น-ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใหม่ วานนี้ (25 ต.ค.) เวลา 17.00 น. ที่ Patani Art Space อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนที่คดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 จะหมดอายุความ ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์พร้อมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ร่วมจัดงาน เช่น สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ รำลึก 20 ปี ตากใบ ad แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า “คดีตากใบ: การสร้างความยุติธรรมและความรับผิดชอบร่วมกัน” โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นต่อประชาชนผู้ชุมนุมอย่างสันติที่อำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547 คืออาชญากรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำต่อประชาชนอย่างโหดเหี้ยมและไม่มีผู้รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าว “เป็นเวลา 20 ปีที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ผู้บงการกลับลอยนวลพ้นผิด ทำให้พี่น้องและญาติผู้สูญเสีย รวมถึงประชาชน ปาตานี/ชายแดนภาคใต้ มีความไม่พอใจและหมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม” ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จากเหตุการณ์ที่ตากใบ ในวาระครบรอบ 20 ปี แถลงการณ์ฉบับในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่คดีความหมดอายุ จึงมีข้อเรียกร้องสำคัญดังนี้ 1.ให้รัฐบาลสอบสวนเหตุการณ์ในระดับนานาชาติ โดยร้องขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบ หรือขอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) เข้ามามีส่วนในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะเข้าข่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องการใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุโดยรัฐในเหตุการณ์ตากใบ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน 2.ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่เคยลงนาม โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสนับสนุนการจัดตั้งกลไกเพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิและความเป็นธรรมในกรณีอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้ผู้มีอำนาจรัฐตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใหม่ โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานี้ต้องมีความเป็นกลางและเป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง 3.ให้รัฐบาลประณามการลอยนวลของผู้กระทำความผิด (Impunity) รัฐบาลควรเน้นย้ำให้เห็นว่าความล้มเหลวในการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายในระดับชาติ เป็นตัวอย่างของการลอยนวลของผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อความเป็นธรรมในระดับสากล ต้องให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของไทย “เราขอยืนยันข้อเรียกร้องเหล่านี้ ด้วยเจตจำนงที่มุ่งมั่นและเปิดกว้างต่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลและผู้บริหารข้าราชการในพื้นที่ โดยเรามีความเชื่อมั่นว่า การแสวงหาความยุติธรรมในกรณีนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการลงโทษผู้กระทำผิด แต่คือการสร้างระบบที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประเทศชาติ “เราขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความยุติธรรมที่แท้จริง พร้อมทั้งสร้างความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการในพื้นที่ภาคใต้ ที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและ ความเท่าเทียมของทุกฝ่าย” #MGROnline #ตากใบ
    0 Comments 0 Shares 252 Views 0 Reviews
  • ❗️BIG: 🇷🇺🇰🇵สภาผู้แทนราษฎรแห่งรัสเซีย, สภาดูมาแห่งรัฐ, ได้ให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK)

    ตามเอกสารดังกล่าว, ทั้งสองฝ่ายจะรักษาและพัฒนาความสัมพันธ์ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมอย่างต่อเนื่อง, โดยคำนึงถึงกฎหมายของประเทศของตนและพันธกรณีระหว่างประเทศของตน

    ความสัมพันธ์เหล่านี้มีพื้นฐานอยู่บนหลักการเคารพซึ่งกันและกันในอำนาจอธิปไตยของรัฐและบูรณภาพแห่งดินแดน, การไม่แทรกแซงกิจการภายใน, ความเท่าเทียม, และหลักการอื่นๆของกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือระหว่างประเทศ
    .
    ❗️BIG: 🇷🇺🇰🇵THE LOWER HOUSE OF THE RUSSIAN PARLIAMENT, THE STATE DUMA, HAS RATIFIED THE TREATY ON COMPREHENSIVE STRATEGIC PARTNERSHIP BETWEEN THE RUSSIAN FEDERATION AND THE DEMOCRATIC PEOPLE'S REPUBLIC OF KOREA (DPRK).

    According to the document, both parties will continuously maintain and develop comprehensive strategic partnership relations, taking into account the laws of their respective countries and their international obligations.

    These relations are based on the principles of mutual respect for state sovereignty and territorial integrity, non-interference in internal affairs, equality, and other principles of international law concerning friendly relations and cooperation between states.
    .
    4:22 PM · Oct 24, 2024 · 4,683 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1849381028013441316
    ❗️BIG: 🇷🇺🇰🇵สภาผู้แทนราษฎรแห่งรัสเซีย, สภาดูมาแห่งรัฐ, ได้ให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) ตามเอกสารดังกล่าว, ทั้งสองฝ่ายจะรักษาและพัฒนาความสัมพันธ์ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมอย่างต่อเนื่อง, โดยคำนึงถึงกฎหมายของประเทศของตนและพันธกรณีระหว่างประเทศของตน ความสัมพันธ์เหล่านี้มีพื้นฐานอยู่บนหลักการเคารพซึ่งกันและกันในอำนาจอธิปไตยของรัฐและบูรณภาพแห่งดินแดน, การไม่แทรกแซงกิจการภายใน, ความเท่าเทียม, และหลักการอื่นๆของกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือระหว่างประเทศ . ❗️BIG: 🇷🇺🇰🇵THE LOWER HOUSE OF THE RUSSIAN PARLIAMENT, THE STATE DUMA, HAS RATIFIED THE TREATY ON COMPREHENSIVE STRATEGIC PARTNERSHIP BETWEEN THE RUSSIAN FEDERATION AND THE DEMOCRATIC PEOPLE'S REPUBLIC OF KOREA (DPRK). According to the document, both parties will continuously maintain and develop comprehensive strategic partnership relations, taking into account the laws of their respective countries and their international obligations. These relations are based on the principles of mutual respect for state sovereignty and territorial integrity, non-interference in internal affairs, equality, and other principles of international law concerning friendly relations and cooperation between states. . 4:22 PM · Oct 24, 2024 · 4,683 Views https://x.com/SputnikInt/status/1849381028013441316
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 377 Views 0 Reviews
  • ปฏิญญาคาซาน BRICS2024 มีอะไรอยู่ในคำประกาศคาซานของการประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS

    BRICS ได้รับรองคำประกาศปฏิญญาขั้นสุดท้ายของการประชุมสุดยอดBRICS Plus Summit 2024 ครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย และมีแผนที่จะยื่นเอกสารปฏิญญาดังกล่าวต่อสหประชาชาติ โดยมีเนื้อหาดังนี้:

    1 .ความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันระดับโลก:

    - สถาบันในระบบการเงินระหว่างประเทศของเบรตตันวูดส์ รวมทั้งองค์กรการค้าโลก ควรได้รับการปฏิรูปเพื่อให้สามารถเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาได้ดีขึ้น

    - BRICS คัดค้านมาตรการ“ฝ่ายเดียว”ห้ามเลือกปฏิบัติ และคุ้มครองทางการค้าที่ดำเนินการภายใต้ข้ออ้างในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ซึ่งรวมถึงกลไกการปรับการปล่อยคาร์บอนและภาษี

    2.BRICS สนับสนุนการปฏิรูปสหประชาชาติอย่างครอบคลุม รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคง เพื่อให้เป็นตัวแทนประชาคมโลกมากขึ้น และระบุถึงความสำคัญขององค์การนี้ในระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ

    3.โครงการริเริ่มใหม่:

    - สมาชิก BRICS ตระหนักถึงศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเชื่อมช่องว่างทางดิจิทัลระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

    -BRICS ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงธนาคารพัฒนาใหม่ NDB ให้สามารถตอบสนองความต้องการของศตวรรษที่ 21

    -BRICS สนับสนุนการจัดทำแพลตฟอร์มเทคโนโลยีใหม่เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนา รวมถึงการสร้างผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูงโดยใช้ศักยภาพทางเทคโนโลยีในประเทศเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตที่ “ยั่งยืนและครอบคลุม”

    องค์กรBRICS ตกลงที่จะสำรวจการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินและการฝากเงินข้ามพรมแดนแบบอิสระที่เรียกว่า BRICS Clear

    - BRICS พร้อมที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนายารักษาโรค รวมถึงวัคซีนและโครงการเวชศาสตร์นิวเคลียร์

    - BRICS ยินดีต้อนรับการสร้างแพลตฟอร์มการขนส่งและโลจิสติกส์ที่เป็นหนึ่งเดียว
    คำประกาศดังกล่าวสนับสนุนข้อเสนอของรัสเซียในการสร้างตลาดแลกเปลี่ยนธัญพืชเพื่อ "ส่งเสริมการค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและปุ๋ยตามกฎเกณฑ์ และลดการหยุดชะงักให้เหลือน้อยที่สุด"

    4.การขยายความร่วมมือ:

    - คำประกาศดังกล่าวยินดีกับการขยายการใช้สกุลเงินประจำชาติในการทำธุรกรรมระหว่างสมาชิก BRICS และพันธมิตรทางการค้า

    -เอกสารปฏิญญาดังกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการขยายความร่วมมือบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน และการสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ให้มากยิ่งขึ้นระหว่างสมาชิกกลุ่ม BRICS รวมถึงการดำเนินการตามกลยุทธ์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของกลุ่มต่อไป

    และทางกลุ่มBRICSยินดีต้อนรับความสนใจของประเทศต่างๆ ในโลกใต้ที่มีต่อกลุ่ม BRICS และเรียกร้องให้ประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด โดยเฉพาะในแอฟริกา เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นใน
    กระบวนการระดับโลก

    5.วิกฤตการณ์โลกที่BRICSประกาศต่อต้าน:

    -เอกสารปฏิญญาดังกล่าว “ประณาม” การใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เลือกปฏิบัติและมีแรงจูงใจทางการเมืองอย่างผิดกฎหมาย และเน้นย้ำถึงผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลก

    -กลุ่ม BRICS คัดค้านการนำอาวุธไปใช้ในอวกาศ และสนับสนุนการเสริมสร้างระบอบการไม่แพร่ขยายอาวุธและการปลดอาวุธทั่วโลก รวมถึงการปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับมาตรการป้องกันไม่ให้อาวุธทำลายล้างสูงตกไปอยู่ในมือของผู้ก่อการร้าย โดยเรียกร้องให้มีการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเพื่อช่วยเหลือในการต่อสู้กับยาเสพติด

    -สมาชิกกลุ่มได้สรุปจุดยืนของตนเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในยูเครน และรับทราบข้อเสนอในการไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้งโดยผ่านการเจรจา

    - กลุ่ม BRICS แสดงการสนับสนุนต่อการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของปาเลสไตน์ในสหประชาชาติ

    -คำประกาศดังกล่าวประณามการโจมตีของอิสราเอลต่อเจ้าหน้าที่ UN ในเลบานอน และการโจมตีด้วยการก่อการร้ายด้วยระเบิดเพจเจอร์สังหารเมื่อวันที่ 17 กันยายน2567

    -BRICS ยินดีต้อนรับการจัดตั้งประธานสภาช่วงเปลี่ยนผ่านของเฮติและสภาการเลือกตั้งเพื่อแก้ไขวิกฤตที่กำลังรุมเร้าประเทศแคริบเบียน

    -กลุ่ม BRICS แสดงความกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นและสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงในซูดาน และเรียกร้องให้หยุดยิง

    -คำประกาศนี้วิพากษ์วิจารณ์การนำสิทธิมนุษยชนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองและมาตรฐานที่ไม่เท่าเทียมกันในพื้นที่นี้

    -เอกสารนี้แสดงการต่อต้านการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบในกีฬา

    ที่มา สำนักข่าว Sputnik
    https://x.com/sputnikint/status/1849128202633166937?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA

    #Thaitimes
    ปฏิญญาคาซาน BRICS2024 มีอะไรอยู่ในคำประกาศคาซานของการประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS BRICS ได้รับรองคำประกาศปฏิญญาขั้นสุดท้ายของการประชุมสุดยอดBRICS Plus Summit 2024 ครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย และมีแผนที่จะยื่นเอกสารปฏิญญาดังกล่าวต่อสหประชาชาติ โดยมีเนื้อหาดังนี้: 1 .ความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันระดับโลก: - สถาบันในระบบการเงินระหว่างประเทศของเบรตตันวูดส์ รวมทั้งองค์กรการค้าโลก ควรได้รับการปฏิรูปเพื่อให้สามารถเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาได้ดีขึ้น - BRICS คัดค้านมาตรการ“ฝ่ายเดียว”ห้ามเลือกปฏิบัติ และคุ้มครองทางการค้าที่ดำเนินการภายใต้ข้ออ้างในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ซึ่งรวมถึงกลไกการปรับการปล่อยคาร์บอนและภาษี 2.BRICS สนับสนุนการปฏิรูปสหประชาชาติอย่างครอบคลุม รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคง เพื่อให้เป็นตัวแทนประชาคมโลกมากขึ้น และระบุถึงความสำคัญขององค์การนี้ในระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ 3.โครงการริเริ่มใหม่: - สมาชิก BRICS ตระหนักถึงศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเชื่อมช่องว่างทางดิจิทัลระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม -BRICS ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงธนาคารพัฒนาใหม่ NDB ให้สามารถตอบสนองความต้องการของศตวรรษที่ 21 -BRICS สนับสนุนการจัดทำแพลตฟอร์มเทคโนโลยีใหม่เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนา รวมถึงการสร้างผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูงโดยใช้ศักยภาพทางเทคโนโลยีในประเทศเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตที่ “ยั่งยืนและครอบคลุม” องค์กรBRICS ตกลงที่จะสำรวจการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินและการฝากเงินข้ามพรมแดนแบบอิสระที่เรียกว่า BRICS Clear - BRICS พร้อมที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนายารักษาโรค รวมถึงวัคซีนและโครงการเวชศาสตร์นิวเคลียร์ - BRICS ยินดีต้อนรับการสร้างแพลตฟอร์มการขนส่งและโลจิสติกส์ที่เป็นหนึ่งเดียว คำประกาศดังกล่าวสนับสนุนข้อเสนอของรัสเซียในการสร้างตลาดแลกเปลี่ยนธัญพืชเพื่อ "ส่งเสริมการค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและปุ๋ยตามกฎเกณฑ์ และลดการหยุดชะงักให้เหลือน้อยที่สุด" 4.การขยายความร่วมมือ: - คำประกาศดังกล่าวยินดีกับการขยายการใช้สกุลเงินประจำชาติในการทำธุรกรรมระหว่างสมาชิก BRICS และพันธมิตรทางการค้า -เอกสารปฏิญญาดังกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการขยายความร่วมมือบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน และการสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ให้มากยิ่งขึ้นระหว่างสมาชิกกลุ่ม BRICS รวมถึงการดำเนินการตามกลยุทธ์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของกลุ่มต่อไป และทางกลุ่มBRICSยินดีต้อนรับความสนใจของประเทศต่างๆ ในโลกใต้ที่มีต่อกลุ่ม BRICS และเรียกร้องให้ประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด โดยเฉพาะในแอฟริกา เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นใน กระบวนการระดับโลก 5.วิกฤตการณ์โลกที่BRICSประกาศต่อต้าน: -เอกสารปฏิญญาดังกล่าว “ประณาม” การใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เลือกปฏิบัติและมีแรงจูงใจทางการเมืองอย่างผิดกฎหมาย และเน้นย้ำถึงผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจโลก -กลุ่ม BRICS คัดค้านการนำอาวุธไปใช้ในอวกาศ และสนับสนุนการเสริมสร้างระบอบการไม่แพร่ขยายอาวุธและการปลดอาวุธทั่วโลก รวมถึงการปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับมาตรการป้องกันไม่ให้อาวุธทำลายล้างสูงตกไปอยู่ในมือของผู้ก่อการร้าย โดยเรียกร้องให้มีการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเพื่อช่วยเหลือในการต่อสู้กับยาเสพติด -สมาชิกกลุ่มได้สรุปจุดยืนของตนเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในยูเครน และรับทราบข้อเสนอในการไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้งโดยผ่านการเจรจา - กลุ่ม BRICS แสดงการสนับสนุนต่อการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของปาเลสไตน์ในสหประชาชาติ -คำประกาศดังกล่าวประณามการโจมตีของอิสราเอลต่อเจ้าหน้าที่ UN ในเลบานอน และการโจมตีด้วยการก่อการร้ายด้วยระเบิดเพจเจอร์สังหารเมื่อวันที่ 17 กันยายน2567 -BRICS ยินดีต้อนรับการจัดตั้งประธานสภาช่วงเปลี่ยนผ่านของเฮติและสภาการเลือกตั้งเพื่อแก้ไขวิกฤตที่กำลังรุมเร้าประเทศแคริบเบียน -กลุ่ม BRICS แสดงความกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นและสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงในซูดาน และเรียกร้องให้หยุดยิง -คำประกาศนี้วิพากษ์วิจารณ์การนำสิทธิมนุษยชนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองและมาตรฐานที่ไม่เท่าเทียมกันในพื้นที่นี้ -เอกสารนี้แสดงการต่อต้านการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบในกีฬา ที่มา สำนักข่าว Sputnik https://x.com/sputnikint/status/1849128202633166937?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 690 Views 0 Reviews
  • 🗣 ปูตินกล่าวถึงแผนริเริ่มทางเศรษฐกิจใหม่ในกลุ่ม BRICS:

    🔸แพลตฟอร์มการลงทุนใหม่ของ BRICS ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ และอำนวยความสะดวกในการลงทุนระหว่างประเทศในกลุ่ม

    🔸การจัดตั้งตลาดซื้อขายธัญพืชของ BRICS มีเป้าหมายเพื่อปกป้องตลาดในประเทศจากการแทรกแซงและการเก็งกำไรจากภายนอก

    🔸การจัดตั้งแพลตฟอร์มสำหรับการแข่งขันที่เป็นธรรมมีความจำเป็นเพื่อส่งเสริมการแข่งขันที่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศสมาชิก BRICS

    🔸รัสเซียเสนอให้จัดตั้งแพลตฟอร์มแยกต่างหากสำหรับโลหะมีค่าและเพชรภายในกรอบของ BRICS

    #BRICS2024
    .
    🗣 PUTIN ON NEW ECONOMIC INITIATIVES WITHIN BRICS:

    🔸The New BRICS Investment Platform is designed to bolster national economies and facilitate investments among the group's nations.

    🔸Establishing the BRICS Grain Exchange is aimed at safeguarding national markets from external interference and speculation.

    🔸Setting up a platform for fair competition is needed to promote equitable competition among BRICS member countries.

    🔸Russia suggests the creation of a separate platform for precious metals and diamonds within the BRICS framework.

    #BRICS2024
    .
    5:16 PM · Oct 23, 2024 · 2,865 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1849032191025566146
    🗣 ปูตินกล่าวถึงแผนริเริ่มทางเศรษฐกิจใหม่ในกลุ่ม BRICS: 🔸แพลตฟอร์มการลงทุนใหม่ของ BRICS ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ และอำนวยความสะดวกในการลงทุนระหว่างประเทศในกลุ่ม 🔸การจัดตั้งตลาดซื้อขายธัญพืชของ BRICS มีเป้าหมายเพื่อปกป้องตลาดในประเทศจากการแทรกแซงและการเก็งกำไรจากภายนอก 🔸การจัดตั้งแพลตฟอร์มสำหรับการแข่งขันที่เป็นธรรมมีความจำเป็นเพื่อส่งเสริมการแข่งขันที่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศสมาชิก BRICS 🔸รัสเซียเสนอให้จัดตั้งแพลตฟอร์มแยกต่างหากสำหรับโลหะมีค่าและเพชรภายในกรอบของ BRICS #BRICS2024 . 🗣 PUTIN ON NEW ECONOMIC INITIATIVES WITHIN BRICS: 🔸The New BRICS Investment Platform is designed to bolster national economies and facilitate investments among the group's nations. 🔸Establishing the BRICS Grain Exchange is aimed at safeguarding national markets from external interference and speculation. 🔸Setting up a platform for fair competition is needed to promote equitable competition among BRICS member countries. 🔸Russia suggests the creation of a separate platform for precious metals and diamonds within the BRICS framework. #BRICS2024 . 5:16 PM · Oct 23, 2024 · 2,865 Views https://x.com/SputnikInt/status/1849032191025566146
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • IMF จัดอันดับรัสเซียเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก

    23 ตุลาคม 2567- รายงานกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศว่ารัสเซียเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกตามความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ (PPP) รองจากสหรัฐอเมริกา จีน และอินเดีย โดยเศรษฐกิจรัสเซียแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 ของโลกในแง่ PPP (ความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ) ตามข้อมูลแก้ไขของธนาคารโลกที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนมิถุนายน

    IMF คาดการณ์ว่ารัสเซียจะคงสถานะนี้ไว้ได้อย่างน้อยจนถึงปี 2029 นอกจากนี้ กองทุนยังได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของ GDP ของรัสเซีย โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6% ภายในสิ้นปีนี้

    #Thaitimes
    IMF จัดอันดับรัสเซียเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก 23 ตุลาคม 2567- รายงานกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศว่ารัสเซียเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกตามความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ (PPP) รองจากสหรัฐอเมริกา จีน และอินเดีย โดยเศรษฐกิจรัสเซียแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 ของโลกในแง่ PPP (ความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ) ตามข้อมูลแก้ไขของธนาคารโลกที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนมิถุนายน IMF คาดการณ์ว่ารัสเซียจะคงสถานะนี้ไว้ได้อย่างน้อยจนถึงปี 2029 นอกจากนี้ กองทุนยังได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของ GDP ของรัสเซีย โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6% ภายในสิ้นปีนี้ #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • "สี จิ้นผิง" พบ "ปูติน" ในการประชุมสุดยอดผู้นำ ซัมมิต BRICS ครั้งที่ 16 ที่เมืองโบราณ คาซานของรัสเซีย

    โกลบอลไทมส์สื่อของทางการจีนรายงานว่า ระหว่างพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมผู้นำชาติกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน สาธารณรัฐตาตาร์สถานของรัสเซีย เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) นั้น

    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้กล่าวยกย่องการก่อตั้งกลไกความร่วมมือบริกส์ ซึ่งมีชาติทั้งสองเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ว่า จีนและรัสเซียได้พบหนทางที่ถูกต้องแล้วในการอยู่ร่วมกันระหว่างชาติใหญ่ๆ ในลักษณะที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่มีการเผชิญหน้า และไม่มีการล็อกเป้าหมายใดๆ ทั้งสิ้นกับฝ่ายที่สาม

    ผู้นำจีนระบุว่า กลไกความร่วมมือบริกส์ถือเป็นกำลังหลักในการส่งเสริมโลกที่มีหลายขั้วอำนาจอย่างเท่าเทียมกันและเป็นระเบียบ ตลอดจนส่งเสริมการสร้างโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์อย่างครอบคลุมทั่วโลก

    นอกจากนั้น สี จิ้นผิงยังกล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียเดินมาไกลและบุกเบิกสร้างความสำเร็จมาด้วยกันหลายประการ

    ด้านรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ สี จิ้นผิงได้กล่าวกับผู้นำรัสเซียว่า ขณะนี้โลกกำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบหนึ่งร้อยปี สถานการณ์ระหว่างประเทศพัวพันกันยุ่งเหยิงวุ่นวาย “แต่ผมเชื่อมั่นหนักแน่นว่า มิตรภาพระหว่างจีนกับรัสเซียจะดำเนินต่อไปหลายชั่วอายุคน และชาติที่ยิ่งใหญ่จะมีความรับผิดชอบต่อประชาชนของตนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง”

    ขณะที่ปูตินเรียกสี จิ้นผิงว่า “เพื่อนรัก” และกล่าวว่า ความร่วมมือรัสเซีย-จีนบนเวทีโลกเป็นปัจจัยหลักอันหนึ่งในการสร้างเสถียรภาพในโลก

    ทั้งนี้ กลุ่มบริกส์ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ โดยคำว่า BRICS เป็นอักษรตัวแรกของชื่อชาติสมาชิกเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม จีนมองคำว่า BRICS นี้คือ “ก้อนทองคำ” (gold bricks) สำหรับจีน ซึ่งบ่งบอกถึงการมองศักยภาพและอนาคตอันสดใสของกลุ่มบริกส์ในแง่ดีนั่นเอง

    ภาพประกอบข่าว
    1ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 - ภาพ: ซินหัว
    2 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 - ภาพ : รอยเตอร์
    3 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ชมคอนเสิร์ตก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างไม่เป็นทางการระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน รัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 - ภาพ : รอยเตอร์

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/oFBNCmDeuDCUXw9G/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    "สี จิ้นผิง" พบ "ปูติน" ในการประชุมสุดยอดผู้นำ ซัมมิต BRICS ครั้งที่ 16 ที่เมืองโบราณ คาซานของรัสเซีย โกลบอลไทมส์สื่อของทางการจีนรายงานว่า ระหว่างพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมผู้นำชาติกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน สาธารณรัฐตาตาร์สถานของรัสเซีย เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) นั้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้กล่าวยกย่องการก่อตั้งกลไกความร่วมมือบริกส์ ซึ่งมีชาติทั้งสองเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ว่า จีนและรัสเซียได้พบหนทางที่ถูกต้องแล้วในการอยู่ร่วมกันระหว่างชาติใหญ่ๆ ในลักษณะที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่มีการเผชิญหน้า และไม่มีการล็อกเป้าหมายใดๆ ทั้งสิ้นกับฝ่ายที่สาม ผู้นำจีนระบุว่า กลไกความร่วมมือบริกส์ถือเป็นกำลังหลักในการส่งเสริมโลกที่มีหลายขั้วอำนาจอย่างเท่าเทียมกันและเป็นระเบียบ ตลอดจนส่งเสริมการสร้างโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์อย่างครอบคลุมทั่วโลก นอกจากนั้น สี จิ้นผิงยังกล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียเดินมาไกลและบุกเบิกสร้างความสำเร็จมาด้วยกันหลายประการ ด้านรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ สี จิ้นผิงได้กล่าวกับผู้นำรัสเซียว่า ขณะนี้โลกกำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบหนึ่งร้อยปี สถานการณ์ระหว่างประเทศพัวพันกันยุ่งเหยิงวุ่นวาย “แต่ผมเชื่อมั่นหนักแน่นว่า มิตรภาพระหว่างจีนกับรัสเซียจะดำเนินต่อไปหลายชั่วอายุคน และชาติที่ยิ่งใหญ่จะมีความรับผิดชอบต่อประชาชนของตนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง” ขณะที่ปูตินเรียกสี จิ้นผิงว่า “เพื่อนรัก” และกล่าวว่า ความร่วมมือรัสเซีย-จีนบนเวทีโลกเป็นปัจจัยหลักอันหนึ่งในการสร้างเสถียรภาพในโลก ทั้งนี้ กลุ่มบริกส์ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ โดยคำว่า BRICS เป็นอักษรตัวแรกของชื่อชาติสมาชิกเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม จีนมองคำว่า BRICS นี้คือ “ก้อนทองคำ” (gold bricks) สำหรับจีน ซึ่งบ่งบอกถึงการมองศักยภาพและอนาคตอันสดใสของกลุ่มบริกส์ในแง่ดีนั่นเอง ภาพประกอบข่าว 1ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 - ภาพ: ซินหัว 2 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 - ภาพ : รอยเตอร์ 3 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ชมคอนเสิร์ตก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างไม่เป็นทางการระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน รัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 - ภาพ : รอยเตอร์ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/oFBNCmDeuDCUXw9G/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 343 Views 0 Reviews
  • 23-10-67/01 : หมี CNN / ((( ขอสดุดี "พระปิยะมหาราช" )))

    - ไม่มีพ่อปิยะ มรึงกะกู อาจจะยังเป็นทาสอยู่ก็ได้ทุกวันนี้ ทาสในเมืองไทยไม่มีแล้ว มีแต่ทาสในอเมริกา อังกฤษ อิสราเอล แม่งไม่พัฒนาไปไหนเลย ดีออก ล่าอาณานิคมอย่างเดียว จนวันนี้ ถูกเค้าล่าคืน สาแก่ใจอีช้อยทั่วโลก!

    - ใครกันล่ะ? ที่เปลี่ยนแผ่นดินสยามให้เทียบเคียงนานาประเทศ สาเหตุคือ ไม่ให้ชาติตะวันตกมาใช้ข้ออ้างว่าล้าหลัง แล้วเข้ามายึดเป็นชาติบริวาร หมวกต้องสวม ไม้เท้าต้องมี เสื้อต้องใส่ ไม่ได้เห่อฝรั่ง แต่ไม่ให้มันมาดูถูก

    - ลูกหลานไทยฟังเอาไว้ มรึงเกิดไม่ทัน แต่ใช่ว่ามรึงจะไม่สำนึกบุญคุณพ่อปิยะ ความเจริญด้านวัตถุ สร้างง่ายดาย แต่ความเจริญด้านจิตใจ สำคัญกว่า มรึงดูชาติตะวันตก นับวันยิ่งกว่าไร้อารยธรรม สิทธิโคตรพ่อง โคตรแม่ง อ้างกันไป เพื่อเพียงสนองตัณหาตัวเองเท่านั้น แหกกฎหมายก็ได้ ฆ่าใครก็ได้ กราดยิงก็ได้ ไล่ข่มขืนใครก็ได้ กฎหมาทั้งนั้น กฎหมายทำให้คนไม่กลายเป็นสัดเดรัจฉาน กฎหมาย ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ปชต.มาเพื่อทำลายสิ่งเหล่านี้ มรึงอย่าหลงรูป รส กลิ่น เสียงให้มาก พ่อปิยะ ท่านวางถุงเงิน ถุงแดง รับไม้ต่อจากพ่อร.4 เพื่อการณ์ใหญ่ในวันข้างหน้า มาจนถึงพ่อร.10 คลังไทยถึงมีทองคำล้นพระคลัง จนมรึงจินตนาการไม่ออกดอกว่า มหาศาล! แต่ชาติปชต.จน อดอยาก เพราะก่อแต่สงคราม ไล่ล่าไม่รู้จบ หาสันติสุขไม่ได้

    - ใครที่ทำให้พ่อปิยะของกูและมรึง ต้องทนทุกข์ใจ ต้องยอมแบ่งดินแดนส่วนน้อยเพื่อรักษาพื้นแผ่นดินหลักเอาไว้ กูมิลืมเลือน จากนี้ไป นับตั้งแต่พ่อร.10 เราจะดูดคืนทุกอย่างที่เสียไป กลับคืนมา มากกว่าเดิม ยิ่งใหญ่กว่าเดิม จะไม่ทำให้พ่อปิยะ ต้องเสียใจอีกแล้ว พ่อปิยะต้องภาคภูมิใจในลูกหลานราชวงศ์จักรีแน่นอน เพราะไทยเราหรือสยามประเทศ จะกลายเป็นมหาอำนาจอาเซียนในเร็ววันนี้ TOP10 ที่นานาชาติจะต้องเกรงใจ ไม่ต้องไปปล้นแผ่นดินเค้า ไม่ต้องใช้กำลัง ชนเผ่ารอบทิศแผ่นดินจะขอมาอาศัยอยู่ ใต้ร่มโพธิ์ของพ่อหลวงชัวร์ เราจะขยายพื้นที่โดยการค้า และผนวกดินแดนเพิ่มไปเรื่อยๆ จากความสมัครใจของเพื่อนบ้าน รวมกันเราอยู่ รวมกันเราโต เพราะรากฐานการปกครองไทย พ่อปกครองลูก เป็นที่ยืนยันแน่ชัดแล้วว่า "ดีที่สุดในโลก" เชิญเอาปชต.ตอแหลอัปรีย์จัญไร ไปไกลๆ ส้นตรีนคนไทยซะ

    - นับตั้งแต่ก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ ชี้ให้เห็นชัดว่า พระอัจฉริยะภาพของพ่อหลวงท่านทุกพระองค์ สุดยอดแห่งแนวทางการปกครอง ที่ยืดหยุ่น และเมตตาธรรม ราชวงศ์จักรีถือกำเนิดบนโลก และจะกลายเป็นราชวงศ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทุกราชวงศ์ที่เคยมีมา รวมทั้งเป็นต้นแบบโมเดล เรียกคืนราชวงศ์ต่างๆ ทั่วโลก ให้ฟื้นคืนชีพ หลังถูกปชต.จอมปลอมหลอกแดร๊กควายมาปั่นกว่าศตวรรษ ปชต.คืออียิวมันคิด เพื่อให้ควบคุมโลก ใครยังเสพปชต.อยู่ ชาตินี้ มรึงไม่มีวันได้เห็นฟ้าสีทองผ่องอำไพ แม้แต่รัสเซีย จีน ไม่มีระบบกษัตริย์แล้ว แต่สิ่งที่ปูติน สีจิ้นผิง ทำนั้น คือ "รูปแบบพ่อปกครองลูก" ชัดเจน ปูตินมาเยือนพ่อร.9 รู้เห็นทุกอย่าง เข้าใจ จึงนำไปปฎิบัติใช้จนได้ผล กลับมาส่งออกข้าวสาลีมากที่สุดในโลก ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ส่วนสีจิ้นผิง ปฎิวัติแผ่นดินครั้งใหญ่ กวาดล้างบางคอรัปชั่น ใหญ่แค่ไหนก็แค่ใต้ตรีนพรรคคอมมิวนิสค์จีน ชัดเจนว่า ผู้นำดี ชาติเจริญ ปูติน และสีจิ้นผิง เปรียบเหมือนบิดาแห่งชาติ ที่เอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เอาแผ่นดินมาตุภูมิมาเป็นตัวกำหนด ทุกการกระทำ นี่คืออัตลักษณ์ของผู้นำแบบพ่อปกครองลูก เราถึงเข้ากันได้ดี เพราะเคมีมันใช่เลย ตรงกันเป๊ะเด๊ะ!

    - พ่อปิยะ คือผู้นำการเปลี่ยนสยามประเทศครั้งใหญ่ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จะถูกเค้ากลืนหรือจะเป็นพวกเดียวกับเค้า ทัดเทียมกัน พ่อทำสำเร็จอย่างงดงาม ไทยเราเจริญเทียบเท่าญี่ปุ่นในยุคนั้น ธรรมดาที่ไหน การสื่อสาร ขนส่ง การค้า ระเบียบสากลมาเต็ม ลูกหลานไทยไปนอก สั่งสอน มรึงคือคนไทย กูไม่ได้ส่งมรึงไปให้เป็นฝรั่ง แต่กูให้มรึงสำเหนียกเอาไว้ว่า มรึงคือคนไทยที่มีความรู้เทียบเท่าฝรั่ง ไม่ให้มันมาเอาเปรียบเราได้ รู้ทันโลก 23 ตุลาคม คือวันคล้ายวันสวรรคตของพ่อท่าน เราลูกหลานอโยธยาทุกไอ้อี ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ไม่มีพ่อท่าน เราคงตายห่าไปนานแล้ว ไม่มีพ่อท่าน คงไม่มีพ่อหลวงร.7 ร.9 ที่ฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการ ขอบคุณแผ่นดินสวรรค์ ที่ได้ส่งพระอัฉริยะภาพพ่อหลวงทุกพระองค์มาปกครองแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองนี้ มรึงและกู โคตรจะมีบุญ ที่ได้มาเกิดในยุครัชสมัยพ่อร.9 "ยุคแห่งพระคุณ" และยิ่งมีบุญมากขึ้น ที่ได้ยังอยู่เห็น "ยุคพระเดช" ในรัชสมัยพ่อร.10 ดังนั้น คน 2 แผ่นดิน ไม่รักพ่อ แล้วจะให้ไปรักใครได้อีก

    ขอเชิดชู ทุกการกระทำ ทุกการเสียสละ ทุกความเพียร และการตัดสินใจครั้งใหญ่ ครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์โลก ไม่มีพ่อปิยะ ก็คงไม่มีสยามประเทศในวันนี้ ไม่มีราชวงศ์จักรี ก็คงไม่มีลูกหลานไทยให้สืบต่อไปจนชั่วกาลปาวสาน จงรักสถาบันสูงสุดยิ่งกว่าชีวิตมรึง เพราะแผ่นดินนี้ ไม่มีกษัตริย์ ไม่ได้ แผ่นดินนี้ คือแผ่นดินสวรรค์ ไอ้อี ใครคิดร้าย มรึงจะถูกธรณีสูบลงขุมนรก โดนไฟนรกแผดเผาไปตลอดกาล ทำดี ต้องได้ดี ทำเหี้ย ต้องชดใช้กรรมไม่สิ้นสุด หยุด ลด ละ เลิก ตั้งสติ และแผ่เมตตาธรรมให้ทั่วหล้า อานิสงค์แห่งบุญนี้ จะทำให้เหี้ยไอ้อีทุกตัวมันร้อนจนอยู่ต่อไม่ได้ ต้องเผ่นออกนอกกันจนหมดสิ้น ขอราชวงศ์จักรี เจริญรุ่งเรือง ไปตลอดกาลเถิด ลูกหลานไทย จะรักษาคำมั่นเอาไว้ จากลูกสู่หลาน ส่งต่อปณิธานของพ่อไม่สิ้นสุด

    หมี CNN(รักพ่อปิยะ กุหลาบแดงจัดมา บุหรี่ เหล้าพร้อมเพรียง กราบไหว้ท่าน ระลึกถึงท่าน แสดงให้ท่านรู้ ว่าพระคุณของท่านยิ่งใหญ่ ลูกหลานไทยไม่เคยลืมเลือน ปลดแอกทาส พ่อทำให้ เพื่อให้อิสระพวกมรึง อิสรภาพ เสรีภาพ ของจริงคือแผ่นดินนี้ หาใช่อเมริกา อังกฤษ ตะวันตก ตอแหล อย่าถูกเหี้ยหลอกง่าย ลูกพ่อหลวง เก่ง ฉลาด มีสติ มีปัญญา มากกว่าพวกมันเยอะ เพราะพวกเราคือคนของสวรรค์นั่นเอง ถึงได้อยู่ในแผ่นดินร่มเย็นนี้ได้)
    23 ตุลาคม 67(วันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพ่อปิยะ ที่รักของปวงชนชาวไทย)
    09.55 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172965228578622743
    23-10-67/01 : หมี CNN / ((( ขอสดุดี "พระปิยะมหาราช" ))) - ไม่มีพ่อปิยะ มรึงกะกู อาจจะยังเป็นทาสอยู่ก็ได้ทุกวันนี้ ทาสในเมืองไทยไม่มีแล้ว มีแต่ทาสในอเมริกา อังกฤษ อิสราเอล แม่งไม่พัฒนาไปไหนเลย ดีออก ล่าอาณานิคมอย่างเดียว จนวันนี้ ถูกเค้าล่าคืน สาแก่ใจอีช้อยทั่วโลก! - ใครกันล่ะ? ที่เปลี่ยนแผ่นดินสยามให้เทียบเคียงนานาประเทศ สาเหตุคือ ไม่ให้ชาติตะวันตกมาใช้ข้ออ้างว่าล้าหลัง แล้วเข้ามายึดเป็นชาติบริวาร หมวกต้องสวม ไม้เท้าต้องมี เสื้อต้องใส่ ไม่ได้เห่อฝรั่ง แต่ไม่ให้มันมาดูถูก - ลูกหลานไทยฟังเอาไว้ มรึงเกิดไม่ทัน แต่ใช่ว่ามรึงจะไม่สำนึกบุญคุณพ่อปิยะ ความเจริญด้านวัตถุ สร้างง่ายดาย แต่ความเจริญด้านจิตใจ สำคัญกว่า มรึงดูชาติตะวันตก นับวันยิ่งกว่าไร้อารยธรรม สิทธิโคตรพ่อง โคตรแม่ง อ้างกันไป เพื่อเพียงสนองตัณหาตัวเองเท่านั้น แหกกฎหมายก็ได้ ฆ่าใครก็ได้ กราดยิงก็ได้ ไล่ข่มขืนใครก็ได้ กฎหมาทั้งนั้น กฎหมายทำให้คนไม่กลายเป็นสัดเดรัจฉาน กฎหมาย ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ปชต.มาเพื่อทำลายสิ่งเหล่านี้ มรึงอย่าหลงรูป รส กลิ่น เสียงให้มาก พ่อปิยะ ท่านวางถุงเงิน ถุงแดง รับไม้ต่อจากพ่อร.4 เพื่อการณ์ใหญ่ในวันข้างหน้า มาจนถึงพ่อร.10 คลังไทยถึงมีทองคำล้นพระคลัง จนมรึงจินตนาการไม่ออกดอกว่า มหาศาล! แต่ชาติปชต.จน อดอยาก เพราะก่อแต่สงคราม ไล่ล่าไม่รู้จบ หาสันติสุขไม่ได้ - ใครที่ทำให้พ่อปิยะของกูและมรึง ต้องทนทุกข์ใจ ต้องยอมแบ่งดินแดนส่วนน้อยเพื่อรักษาพื้นแผ่นดินหลักเอาไว้ กูมิลืมเลือน จากนี้ไป นับตั้งแต่พ่อร.10 เราจะดูดคืนทุกอย่างที่เสียไป กลับคืนมา มากกว่าเดิม ยิ่งใหญ่กว่าเดิม จะไม่ทำให้พ่อปิยะ ต้องเสียใจอีกแล้ว พ่อปิยะต้องภาคภูมิใจในลูกหลานราชวงศ์จักรีแน่นอน เพราะไทยเราหรือสยามประเทศ จะกลายเป็นมหาอำนาจอาเซียนในเร็ววันนี้ TOP10 ที่นานาชาติจะต้องเกรงใจ ไม่ต้องไปปล้นแผ่นดินเค้า ไม่ต้องใช้กำลัง ชนเผ่ารอบทิศแผ่นดินจะขอมาอาศัยอยู่ ใต้ร่มโพธิ์ของพ่อหลวงชัวร์ เราจะขยายพื้นที่โดยการค้า และผนวกดินแดนเพิ่มไปเรื่อยๆ จากความสมัครใจของเพื่อนบ้าน รวมกันเราอยู่ รวมกันเราโต เพราะรากฐานการปกครองไทย พ่อปกครองลูก เป็นที่ยืนยันแน่ชัดแล้วว่า "ดีที่สุดในโลก" เชิญเอาปชต.ตอแหลอัปรีย์จัญไร ไปไกลๆ ส้นตรีนคนไทยซะ - นับตั้งแต่ก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ ชี้ให้เห็นชัดว่า พระอัจฉริยะภาพของพ่อหลวงท่านทุกพระองค์ สุดยอดแห่งแนวทางการปกครอง ที่ยืดหยุ่น และเมตตาธรรม ราชวงศ์จักรีถือกำเนิดบนโลก และจะกลายเป็นราชวงศ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทุกราชวงศ์ที่เคยมีมา รวมทั้งเป็นต้นแบบโมเดล เรียกคืนราชวงศ์ต่างๆ ทั่วโลก ให้ฟื้นคืนชีพ หลังถูกปชต.จอมปลอมหลอกแดร๊กควายมาปั่นกว่าศตวรรษ ปชต.คืออียิวมันคิด เพื่อให้ควบคุมโลก ใครยังเสพปชต.อยู่ ชาตินี้ มรึงไม่มีวันได้เห็นฟ้าสีทองผ่องอำไพ แม้แต่รัสเซีย จีน ไม่มีระบบกษัตริย์แล้ว แต่สิ่งที่ปูติน สีจิ้นผิง ทำนั้น คือ "รูปแบบพ่อปกครองลูก" ชัดเจน ปูตินมาเยือนพ่อร.9 รู้เห็นทุกอย่าง เข้าใจ จึงนำไปปฎิบัติใช้จนได้ผล กลับมาส่งออกข้าวสาลีมากที่สุดในโลก ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ส่วนสีจิ้นผิง ปฎิวัติแผ่นดินครั้งใหญ่ กวาดล้างบางคอรัปชั่น ใหญ่แค่ไหนก็แค่ใต้ตรีนพรรคคอมมิวนิสค์จีน ชัดเจนว่า ผู้นำดี ชาติเจริญ ปูติน และสีจิ้นผิง เปรียบเหมือนบิดาแห่งชาติ ที่เอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เอาแผ่นดินมาตุภูมิมาเป็นตัวกำหนด ทุกการกระทำ นี่คืออัตลักษณ์ของผู้นำแบบพ่อปกครองลูก เราถึงเข้ากันได้ดี เพราะเคมีมันใช่เลย ตรงกันเป๊ะเด๊ะ! - พ่อปิยะ คือผู้นำการเปลี่ยนสยามประเทศครั้งใหญ่ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ จะถูกเค้ากลืนหรือจะเป็นพวกเดียวกับเค้า ทัดเทียมกัน พ่อทำสำเร็จอย่างงดงาม ไทยเราเจริญเทียบเท่าญี่ปุ่นในยุคนั้น ธรรมดาที่ไหน การสื่อสาร ขนส่ง การค้า ระเบียบสากลมาเต็ม ลูกหลานไทยไปนอก สั่งสอน มรึงคือคนไทย กูไม่ได้ส่งมรึงไปให้เป็นฝรั่ง แต่กูให้มรึงสำเหนียกเอาไว้ว่า มรึงคือคนไทยที่มีความรู้เทียบเท่าฝรั่ง ไม่ให้มันมาเอาเปรียบเราได้ รู้ทันโลก 23 ตุลาคม คือวันคล้ายวันสวรรคตของพ่อท่าน เราลูกหลานอโยธยาทุกไอ้อี ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ไม่มีพ่อท่าน เราคงตายห่าไปนานแล้ว ไม่มีพ่อท่าน คงไม่มีพ่อหลวงร.7 ร.9 ที่ฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการ ขอบคุณแผ่นดินสวรรค์ ที่ได้ส่งพระอัฉริยะภาพพ่อหลวงทุกพระองค์มาปกครองแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองนี้ มรึงและกู โคตรจะมีบุญ ที่ได้มาเกิดในยุครัชสมัยพ่อร.9 "ยุคแห่งพระคุณ" และยิ่งมีบุญมากขึ้น ที่ได้ยังอยู่เห็น "ยุคพระเดช" ในรัชสมัยพ่อร.10 ดังนั้น คน 2 แผ่นดิน ไม่รักพ่อ แล้วจะให้ไปรักใครได้อีก ขอเชิดชู ทุกการกระทำ ทุกการเสียสละ ทุกความเพียร และการตัดสินใจครั้งใหญ่ ครั้งสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์โลก ไม่มีพ่อปิยะ ก็คงไม่มีสยามประเทศในวันนี้ ไม่มีราชวงศ์จักรี ก็คงไม่มีลูกหลานไทยให้สืบต่อไปจนชั่วกาลปาวสาน จงรักสถาบันสูงสุดยิ่งกว่าชีวิตมรึง เพราะแผ่นดินนี้ ไม่มีกษัตริย์ ไม่ได้ แผ่นดินนี้ คือแผ่นดินสวรรค์ ไอ้อี ใครคิดร้าย มรึงจะถูกธรณีสูบลงขุมนรก โดนไฟนรกแผดเผาไปตลอดกาล ทำดี ต้องได้ดี ทำเหี้ย ต้องชดใช้กรรมไม่สิ้นสุด หยุด ลด ละ เลิก ตั้งสติ และแผ่เมตตาธรรมให้ทั่วหล้า อานิสงค์แห่งบุญนี้ จะทำให้เหี้ยไอ้อีทุกตัวมันร้อนจนอยู่ต่อไม่ได้ ต้องเผ่นออกนอกกันจนหมดสิ้น ขอราชวงศ์จักรี เจริญรุ่งเรือง ไปตลอดกาลเถิด ลูกหลานไทย จะรักษาคำมั่นเอาไว้ จากลูกสู่หลาน ส่งต่อปณิธานของพ่อไม่สิ้นสุด หมี CNN(รักพ่อปิยะ กุหลาบแดงจัดมา บุหรี่ เหล้าพร้อมเพรียง กราบไหว้ท่าน ระลึกถึงท่าน แสดงให้ท่านรู้ ว่าพระคุณของท่านยิ่งใหญ่ ลูกหลานไทยไม่เคยลืมเลือน ปลดแอกทาส พ่อทำให้ เพื่อให้อิสระพวกมรึง อิสรภาพ เสรีภาพ ของจริงคือแผ่นดินนี้ หาใช่อเมริกา อังกฤษ ตะวันตก ตอแหล อย่าถูกเหี้ยหลอกง่าย ลูกพ่อหลวง เก่ง ฉลาด มีสติ มีปัญญา มากกว่าพวกมันเยอะ เพราะพวกเราคือคนของสวรรค์นั่นเอง ถึงได้อยู่ในแผ่นดินร่มเย็นนี้ได้) 23 ตุลาคม 67(วันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพ่อปิยะ ที่รักของปวงชนชาวไทย) 09.55 น. https://linevoom.line.me/post/1172965228578622743
    0 Comments 0 Shares 326 Views 0 Reviews
  • 💥💥ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน ได้แสดงวิสัยทัศน์
    และแนวทางของกลุ่ม BRICS ในการประชุม
    ฺBRICS Business Forum 2024
    ที่เมือง คาซาน ประเทศรัสเซีย ว่า

    🚩"เราตั้งใจที่จะปรับปรุงการประสานงานในแพลตฟอร์ม
    พหุภาคีทั้งหมดให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้มั่นใจถึงความมั่นคงระดับโลก
    และระเบียบโลกที่ยุติธรรม"

    🚩 ความร่วมมือในกลุ่ม BRICS ถือเป็น
    "เวทีที่สำคัญที่สุดสำหรับความสามัคคีและความร่วมมือ
    ระหว่างประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา
    ในโลกปัจจุบันอย่างแท้จริง"

    🚩รวมทั้งเป็น "พลังหลักในการส่งเสริมการตระหนักถึง
    ความเท่าเทียม และความเป็นระเบียบทั่วโลกหลายขั้ว
    ตลอดจนโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ ที่ครอบคลุมและอดทน"

    ที่มา : Reuters

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #BRICS #thaitimes
    💥💥ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน ได้แสดงวิสัยทัศน์ และแนวทางของกลุ่ม BRICS ในการประชุม ฺBRICS Business Forum 2024 ที่เมือง คาซาน ประเทศรัสเซีย ว่า 🚩"เราตั้งใจที่จะปรับปรุงการประสานงานในแพลตฟอร์ม พหุภาคีทั้งหมดให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้มั่นใจถึงความมั่นคงระดับโลก และระเบียบโลกที่ยุติธรรม" 🚩 ความร่วมมือในกลุ่ม BRICS ถือเป็น "เวทีที่สำคัญที่สุดสำหรับความสามัคคีและความร่วมมือ ระหว่างประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา ในโลกปัจจุบันอย่างแท้จริง" 🚩รวมทั้งเป็น "พลังหลักในการส่งเสริมการตระหนักถึง ความเท่าเทียม และความเป็นระเบียบทั่วโลกหลายขั้ว ตลอดจนโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ ที่ครอบคลุมและอดทน" ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #BRICS #thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 321 Views 0 Reviews
  • ถ้อยแถลงของ วลาดิมีร์ ปูติน และ สี จิ้นผิง ในการประชุมสุดยอด BRICS ๒๐๒๔ ที่เมืองคาซาน

    🇷🇺 ปูติน:

    🔸 รัสเซียและจีนยังคงเพิ่มการค้าแม้จะมีปัจจัยภายนอกเชิงลบ

    🔸 ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย-จีน ถือเป็นต้นแบบของการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    🔸 ทั้งสองประเทศกำลังเสริมสร้างการประสานงานด้านความมั่นคงระดับโลก
    ความร่วมมือระหว่างรัสเซีย-จีน มีพื้นฐานอยู่บนความเท่าเทียมกัน

    🔸 โครงการร่วมด้านการขนส่ง, พลังงาน, และเกษตรกรรม กำลังได้รับการดำเนินการอย่างประสบความสำเร็จ

    🔸 ข้อตกลงจากการประชุมเดือนพฤษภาคมที่กรุงปักกิ่งและการประชุมสุดยอด SCO ได้รับการปฏิบัติตามอย่างต่อเนื่อง

    🇨🇳 สี จิ้นผิง:

    🔸 ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา, ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย-จีน ได้เผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    🔸 ความสัมพันธ์ระหว่างจีนรัสเซีย ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ประเทศที่สาม

    🔸 BRICS ถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนากลุ่มประเทศที่มีขั้วอำนาจหลายขั้ว

    🔸 จีนชื่นชมความเป็นผู้นำของรัสเซียในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่ม BRICS

    🔸 การเปลี่ยนแปลงในเวทีระหว่างประเทศจะไม่บั่นทอนความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างจีนและรัสเซีย

    #BRICS2024
    .
    STATEMENTS FROM VLADIMIR PUTIN AND XI JINPING AT THE BRICS 2024 SUMMIT IN KAZAN

    🇷🇺 Putin:

    🔸 Russia and China continue to increase trade despite negative external factors.

    🔸 Russia-China relations are considered a model for how international relations should be built.

    🔸 The two countries are strengthening global security coordination.
    Russia-China cooperation is based on equality.

    🔸 Joint projects in transport, energy, and agriculture are being successfully implemented.

    🔸 Agreements from the May meeting in Beijing and the SCO summit are being consistently followed.

    🇨🇳 Xi:

    🔸 Over the past decade, Russian-Chinese relations have withstood unprecedented challenges.

    🔸 China-Russia relations are not directed against third countries.

    🔸 BRICS is viewed as a key factor in the development of multipolarity.

    🔸 China appreciates Russia's leadership during its BRICS chairmanship.

    🔸 Changes in the international arena will not undermine the strong ties between China and Russia.

    #BRICS2024
    .
    10:05 PM · Oct 22, 2024 · 6,837 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1848742460018545001
    ถ้อยแถลงของ วลาดิมีร์ ปูติน และ สี จิ้นผิง ในการประชุมสุดยอด BRICS ๒๐๒๔ ที่เมืองคาซาน 🇷🇺 ปูติน: 🔸 รัสเซียและจีนยังคงเพิ่มการค้าแม้จะมีปัจจัยภายนอกเชิงลบ 🔸 ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย-จีน ถือเป็นต้นแบบของการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 🔸 ทั้งสองประเทศกำลังเสริมสร้างการประสานงานด้านความมั่นคงระดับโลก ความร่วมมือระหว่างรัสเซีย-จีน มีพื้นฐานอยู่บนความเท่าเทียมกัน 🔸 โครงการร่วมด้านการขนส่ง, พลังงาน, และเกษตรกรรม กำลังได้รับการดำเนินการอย่างประสบความสำเร็จ 🔸 ข้อตกลงจากการประชุมเดือนพฤษภาคมที่กรุงปักกิ่งและการประชุมสุดยอด SCO ได้รับการปฏิบัติตามอย่างต่อเนื่อง 🇨🇳 สี จิ้นผิง: 🔸 ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา, ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย-จีน ได้เผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 🔸 ความสัมพันธ์ระหว่างจีนรัสเซีย ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ประเทศที่สาม 🔸 BRICS ถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนากลุ่มประเทศที่มีขั้วอำนาจหลายขั้ว 🔸 จีนชื่นชมความเป็นผู้นำของรัสเซียในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่ม BRICS 🔸 การเปลี่ยนแปลงในเวทีระหว่างประเทศจะไม่บั่นทอนความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างจีนและรัสเซีย #BRICS2024 . STATEMENTS FROM VLADIMIR PUTIN AND XI JINPING AT THE BRICS 2024 SUMMIT IN KAZAN 🇷🇺 Putin: 🔸 Russia and China continue to increase trade despite negative external factors. 🔸 Russia-China relations are considered a model for how international relations should be built. 🔸 The two countries are strengthening global security coordination. Russia-China cooperation is based on equality. 🔸 Joint projects in transport, energy, and agriculture are being successfully implemented. 🔸 Agreements from the May meeting in Beijing and the SCO summit are being consistently followed. 🇨🇳 Xi: 🔸 Over the past decade, Russian-Chinese relations have withstood unprecedented challenges. 🔸 China-Russia relations are not directed against third countries. 🔸 BRICS is viewed as a key factor in the development of multipolarity. 🔸 China appreciates Russia's leadership during its BRICS chairmanship. 🔸 Changes in the international arena will not undermine the strong ties between China and Russia. #BRICS2024 . 10:05 PM · Oct 22, 2024 · 6,837 Views https://x.com/SputnikInt/status/1848742460018545001
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • 🧵💲 เหตุการณ์สำคัญใดบ้างที่นำไปสู่การล่มสลายของระบบดอลลาร์ทั่วโลก?

    การประชุมประจำปี ๒๐๒๔ ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และกลุ่มธนาคารโลก (WBG) จะเปิดขึ้นในวันที่ ๒๑ ตุลาคม เพื่อมุ่งเน้นไปที่หนี้สาธารณะทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว, ซึ่งคาดว่าจะสูงถึง ๑๐๐ ล้านล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ หนี้, ส่วนใหญ่, เกิดจากการกู้ยืมเงินของสหรัฐฯมากเกินไป, โดยปัจจุบันหนี้ของรัฐบาลอยู่ที่ ๓๕.๖๘ ล้านล้านดอลลาร์
    .
    ในขณะเดียวกัน, ส่วนแบ่งของสหรัฐฯในเศรษฐกิจโลกที่คำนวณโดยใช้ความเท่าเทียมของอำนาจซื้อได้แตะระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์, โดยร่วงลงต่ำกว่า ๑๕%, จากการวิเคราะห์ของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศของสปุตนิก คาดว่าจะลดลงอีก, โดยแตะระดับ ๑๔.๗๖% เมื่อสิ้นสุดวาระของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
    .
    ระบบการเงินของสหรัฐฯและระบบดอลลาร์ทั่วโลก เริ่มสูญเสียอิทธิพลเมื่อใด?

    ◻️ สหรัฐฯคาดว่ามี ๔๘-๕๒% ของ GDP ทั่วโลก และประมาณ ๖๐% ของการผลิตภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกในปี ๑๙๔๔
    .
    ◻️ อเมริกาได้รับสถานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ ๒, เมื่อมีการสร้างระบบการเงินระหว่างประเทศที่เรียกว่าระบบเบรตตันวูดส์ขึ้นในเดือนกรกฎาคม ๑๙๔๔ การประชุมเบรตตันวูดส์ได้แต่งตั้งให้ดอลลาร์สหรัฐฯเป็นสกุลเงินสำรองของโลกอย่างเป็นทางการ, โดยมีทองคำสำรองที่ใหญ่ที่สุดในโลกหนุนหลังอยู่ สกุลเงินอื่นๆจะถูกผูกไว้กับค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ
    .
    ◻️ กฎเกณฑ์ระหว่างประเทศสำหรับการค้าระหว่างประเทศได้ถูกกำหนดไว้ในข้อตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า (GATT) ในปี ๑๙๔๗ ในปี ๑๙๙๕, ข้อตกลงดังกล่าวได้ถูกแปลงเป็นองค์การการค้าโลก (WTO) สหรัฐอเมริกาใช้ "เครื่องมือ" เหล่านี้เพื่อรักษาอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปและญี่ปุ่น ยุโรปตะวันออก, สหภาพโซเวียต, และจีน ยังคงอยู่ภายนอกเขตการขยายตัวของอเมริกา
    .
    ◻️ ภายใต้แผนการมาร์แชลล์, สหรัฐฯจัดสรรเงิน, โดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของเงินช่วยเหลือ, เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ในเวลาเดียวกัน, สหรัฐฯยังได้ส่งคำสั่งซื้อที่ทำกำไรมหาศาลให้กับบริษัทในอเมริกา, กระตุ้นเศรษฐกิจของตนเองไปพร้อมกับเสริมสร้างอิทธิพลที่มีต่อระบบเศรษฐกิจของยุโรปตะวันตก ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากประมาณ ๒๐๐ พันล้านดอลลาร์ในปี ๑๙๔๐ เป็นมากกว่า ๕๐๐ พันล้านดอลลาร์ในปี ๑๙๖๐
    .
    🧵💲 What were the milestones leading to the global dollar system’s collapse?

    The 2024 Annual Meetings of the International Monetary Fund (IMF) and the World Bank Group (WBG) are opening on October 21 to focus on skyrocketing global public debt, which is expected to reach $100 trillion by the end of this year. The debt, in large part, is driven by the borrowing binge of the US, where the government debt currently stands at $35.68 trillion.
    .
    Meanwhile, the US’ share of the global economy calculated using purchasing power parity has reached a historic low, plunging below 15%, Sputnik’s analysis of World Bank and IMF calculations has showed. It is expected to sag further, to reach 14.76% by the end of President Joe Biden's term.
    .
    When did US finances and the global dollar system start losing clout?

    ◻️ The US is estimated to have accounted for 48-52% of global GDP and about 60% of global industrial production in 1944.
    .
    ◻️ America secured its economic superpower status at the end of WWII, when the international monetary system known as the Bretton Woods system was forged in July 1944. The Bretton Woods Conference officially crowned the US dollar as the global reserve currency, backed by the world’s largest gold reserves. Other currencies were pegged to the US dollar’s value.
    .
    ◻️ International rules for foreign trade were laid out in the General Agreement on Tariffs and Trade (GATT) in 1947. In 1995, the agreement was transformed into the WTO. The US wielded these “tools” to secure geopolitical influence across Europe and Japan. Eastern Europe, the USSR, and China remained outside the zone of American expansion.
    .
    ◻️ Under the Marshall Plan, the US provided money, chiefly in the form of grants, to rebuild war-ravaged European economies. At the same time, it funneled lucrative orders to American companies, stimulating its own economy while solidifying its influence over Western Europe's economic systems. US gross national product rose from about $200 billion in 1940 to more than $500 billion in 1960.
    .
    10:27 PM · Oct 21, 2024 · 8,506 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1848385613361225740
    🧵💲 เหตุการณ์สำคัญใดบ้างที่นำไปสู่การล่มสลายของระบบดอลลาร์ทั่วโลก? การประชุมประจำปี ๒๐๒๔ ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และกลุ่มธนาคารโลก (WBG) จะเปิดขึ้นในวันที่ ๒๑ ตุลาคม เพื่อมุ่งเน้นไปที่หนี้สาธารณะทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว, ซึ่งคาดว่าจะสูงถึง ๑๐๐ ล้านล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ หนี้, ส่วนใหญ่, เกิดจากการกู้ยืมเงินของสหรัฐฯมากเกินไป, โดยปัจจุบันหนี้ของรัฐบาลอยู่ที่ ๓๕.๖๘ ล้านล้านดอลลาร์ . ในขณะเดียวกัน, ส่วนแบ่งของสหรัฐฯในเศรษฐกิจโลกที่คำนวณโดยใช้ความเท่าเทียมของอำนาจซื้อได้แตะระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์, โดยร่วงลงต่ำกว่า ๑๕%, จากการวิเคราะห์ของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศของสปุตนิก คาดว่าจะลดลงอีก, โดยแตะระดับ ๑๔.๗๖% เมื่อสิ้นสุดวาระของประธานาธิบดีโจ ไบเดน . ระบบการเงินของสหรัฐฯและระบบดอลลาร์ทั่วโลก เริ่มสูญเสียอิทธิพลเมื่อใด? ◻️ สหรัฐฯคาดว่ามี ๔๘-๕๒% ของ GDP ทั่วโลก และประมาณ ๖๐% ของการผลิตภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกในปี ๑๙๔๔ . ◻️ อเมริกาได้รับสถานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ ๒, เมื่อมีการสร้างระบบการเงินระหว่างประเทศที่เรียกว่าระบบเบรตตันวูดส์ขึ้นในเดือนกรกฎาคม ๑๙๔๔ การประชุมเบรตตันวูดส์ได้แต่งตั้งให้ดอลลาร์สหรัฐฯเป็นสกุลเงินสำรองของโลกอย่างเป็นทางการ, โดยมีทองคำสำรองที่ใหญ่ที่สุดในโลกหนุนหลังอยู่ สกุลเงินอื่นๆจะถูกผูกไว้กับค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ . ◻️ กฎเกณฑ์ระหว่างประเทศสำหรับการค้าระหว่างประเทศได้ถูกกำหนดไว้ในข้อตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า (GATT) ในปี ๑๙๔๗ ในปี ๑๙๙๕, ข้อตกลงดังกล่าวได้ถูกแปลงเป็นองค์การการค้าโลก (WTO) สหรัฐอเมริกาใช้ "เครื่องมือ" เหล่านี้เพื่อรักษาอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปและญี่ปุ่น ยุโรปตะวันออก, สหภาพโซเวียต, และจีน ยังคงอยู่ภายนอกเขตการขยายตัวของอเมริกา . ◻️ ภายใต้แผนการมาร์แชลล์, สหรัฐฯจัดสรรเงิน, โดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของเงินช่วยเหลือ, เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ในเวลาเดียวกัน, สหรัฐฯยังได้ส่งคำสั่งซื้อที่ทำกำไรมหาศาลให้กับบริษัทในอเมริกา, กระตุ้นเศรษฐกิจของตนเองไปพร้อมกับเสริมสร้างอิทธิพลที่มีต่อระบบเศรษฐกิจของยุโรปตะวันตก ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากประมาณ ๒๐๐ พันล้านดอลลาร์ในปี ๑๙๔๐ เป็นมากกว่า ๕๐๐ พันล้านดอลลาร์ในปี ๑๙๖๐ . 🧵💲 What were the milestones leading to the global dollar system’s collapse? The 2024 Annual Meetings of the International Monetary Fund (IMF) and the World Bank Group (WBG) are opening on October 21 to focus on skyrocketing global public debt, which is expected to reach $100 trillion by the end of this year. The debt, in large part, is driven by the borrowing binge of the US, where the government debt currently stands at $35.68 trillion. . Meanwhile, the US’ share of the global economy calculated using purchasing power parity has reached a historic low, plunging below 15%, Sputnik’s analysis of World Bank and IMF calculations has showed. It is expected to sag further, to reach 14.76% by the end of President Joe Biden's term. . When did US finances and the global dollar system start losing clout? ◻️ The US is estimated to have accounted for 48-52% of global GDP and about 60% of global industrial production in 1944. . ◻️ America secured its economic superpower status at the end of WWII, when the international monetary system known as the Bretton Woods system was forged in July 1944. The Bretton Woods Conference officially crowned the US dollar as the global reserve currency, backed by the world’s largest gold reserves. Other currencies were pegged to the US dollar’s value. . ◻️ International rules for foreign trade were laid out in the General Agreement on Tariffs and Trade (GATT) in 1947. In 1995, the agreement was transformed into the WTO. The US wielded these “tools” to secure geopolitical influence across Europe and Japan. Eastern Europe, the USSR, and China remained outside the zone of American expansion. . ◻️ Under the Marshall Plan, the US provided money, chiefly in the form of grants, to rebuild war-ravaged European economies. At the same time, it funneled lucrative orders to American companies, stimulating its own economy while solidifying its influence over Western Europe's economic systems. US gross national product rose from about $200 billion in 1940 to more than $500 billion in 1960. . 10:27 PM · Oct 21, 2024 · 8,506 Views https://x.com/SputnikInt/status/1848385613361225740
    Like
    Wow
    2
    8 Comments 0 Shares 1039 Views 0 Reviews
  • "ทุนหมด หนำซ้ำ ไม่ทันได้ตั้งตัว เหนื่อยหน่ายเหลือเกิน กับ การสิ้นหวังซ้ำซาก กับ องค์กรที่ดูเหมือนค้าออนไลน์ ที่เน้นขายฝันการมีลูกทีมและเครือข่าย แต่ไม่เน้นขายสินค้า"

    หากคุณตั้งใจจะเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่แท้จริง แต่ต้องอยู่ในสภาวะนี้ และ ไม่อยากชีวิตพังอีกแล้ว บทความนี้ คือ สิ่งที่เป็นประโยชน์กับคุณ

    -------------

    บริษัท #การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง ต้องเป็นอย่างไร ?

    1. บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง " #ต้องได้รายได้มาจากการขายปลีกไปยังลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" **ไม่ใช่ ได้รายได้ จากการซื้อเพื่อสต๊อกสินค้า ของตัวแทน**

    จึงจะสามารถเชื่อมั่นได้ว่า "สินค้า ที่บริษัทฯ นำมาให้จัดจำหน่ายนั้น มีคุณภาพ มีราคาสมเหตุสมผล" ที่ลูกค้ารายสุดท้ายจะสามารถซื้อซ้ำๆ ได้จริง ไม่ใช่ออกแบบสินค้า มาเพื่อให้คนที่มาเป็นตัวแทน "จ่ายเงินให้บริษัทฯ เพื่อสต๊อกสินค้า แต่ขายไม่ได้จริง"

    บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงควรต้องมีนโยบาย ที่ "ไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆจากตัวแทน ไม่ให้ตัวแทนเปิดบิลหรือเป็นผู้สต๊อกสินค้า" บริษัท จะได้รายได้ ก็ต่อเมื่อ ตัวแทนสามารถปิดการขายสินค้า ให้กับลูกค้ารายสุดท้ายได้ เท่านั้น

    2. #โฟกัสที่การขายสินค้าไปยังลูกค้ารายสุดท้าย จึง #ไม่มีระบบแม่ทีมลูกทีม

    เพราะการมีระบบแม่ทีมลูกทีม จะส่งผลให้ "ไม่โฟกัส การทำงานขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย" แต่จะมาโฟกัส หาลูกทีม ที่ส่งผลให้ไม่เกิดการพัฒนา "ทักษะขาย ที่แท้จริง" ที่เกิดจาก "การโฟกัส และฝึกฝนการทำงานขาย ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย อย่างซื่อสัตย์"

    และ ยังส่งผล ให้เกิด "โครงสร้างราคา ที่ไม่เท่าเทียม" ระหว่างคนมาก่อนที่เป็นแม่ทีมกับคนมาทีหลังที่เป็นลูกทีม ซึ่ง "โครงสร้างราคา ที่ไม่เท่าเทียม" นี้ ส่งผลให้ เกิดภาวะ "คนที่มาทีหลัง ต้องแบกคนที่มาก่อน"

    บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงต้อง รักษา "โครงสร้างราคา ให้เท่าเทียม ระหว่างตัวแทนทุกคน ไม่ว่าจะเข้ามาก่อนหรือเข้ามาทีหลัง" และ มุ่งเน้นให้ตัวแทน "โฟกัส ที่การขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น"

    3. #มุ่งเน้นการให้ข้อมูลสินค้า ไม่ใช่ภาพลักษณ์ของบริษัท ในการขาย

    บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จะจดจ่อ กับการขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย และ "สิ่งที่ลูกค้ารายสุดท้าย จะซื้อ คือ สินค้า ไม่ใช่ ภาพลักษณ์ ของบริษัท"

    ดังนั้น ข้อมูลที่ลูกค้ารายสุดท้ายต้องการ เพื่อประเมินและตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อ คือ "ข้อมูลของสินค้า"

    บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงต้องเน้น การให้ข้อมูลสินค้า "โดยเฉพาะ ข้อมูลวิทยาศาสตร์ ที่เป็นข้อเท็จจริง ที่สามารถพิสูจน์ได้ ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์" ไม่ใช่ ใช้การนำเสนอ ภาพลักษณ์ของบริษัท ในการขาย

    -------------

    "การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง นั้น ไม่ง่าย" แต่เป็น #สัมมาอาชีพ "ที่สามารถทำให้มั่นคงทางการเงินได้ ตลอดชีวิต"

    เพราะ เมื่อ "รายได้ มาจากการขายสินค้า ให้กับลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง "จึง ไม่ใช่ การหลอกคนที่เข้ามาใหม่ ให้มาสต๊อกสินค้า"

    ดังนั้น "การขายออนไลน์ ที่แท้จริง จึง ไม่ได้ทำให้รวยได้ ในชั่วข้ามคืน อย่างที่หลายๆ คนฝันไว้"

    จำเป็นต้อง "อดทน​ กับ​ การทำสิ่งที่น่าเบื่อ​ ซ้ำๆ​ เดิมๆ​ ได้​ สามารถ​จดจ่อได้อย่างต่อเนื่อง​จริงๆ​" จนวันหนึ่งที่ คุณสามารถฝึกฝน จนมี "ทักษะขาย อย่างซื่อสัตย์" จนเริ่มมี "ลูกค้าประจำ"

    การ "การทำสิ่งที่น่าเบื่อ​ ซ้ำๆ​ เดิมๆ อย่างซื่อสัตย์" ในการขายออนไลน์ของคุณ จึงจะสามารถทำให้คุณมีกลุ่มลูกค้าประจำ และมีรายได้จนเพียงพอ ที่สามารถรับผิดชอบตนเอง และ ครอบครัวได้

    และ หาก คุณยังรักษา "ความซื่อสัตย์" ของคุณต่อไปได้

    อาชีพนี้ จะเป็น สัมมาอาชีพ "ที่คุณสามารถทำได้ ตลอดชีวิต" ที่จะช่วยให้คุณ มีความมั่นคงทางการเงิน สามารถรับผิดชอบ ตนเอง และ ครอบครัวของคุณได้

    เพราะทุกบาท ทุกสตางค์ ของรายได้ของคุณ มาจาก "การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง" "ไม่ได้ โกหก หลอกลวงใคร" ให้ต้องทุกข์ทรมาน อย่างที่คุณเคยเจอ

    -------------

    **หากคุณ ฝันที่จะมีสัมมาอาชีพเป็นแม่ค้าออนไลน์ ที่แท้จริง และ ต้องการหาบริษัทที่จะมาสนับสนุนความฝันนั้นของคุณ บริษัท ซุปเปอร์ชี คอร์ปอร์เรชัน คือ ระบบที่สามารถสนับสนุนฝันนั้น ของคุณได้**

    เพราะ ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ บริษัท ซุปเปอร์ชี คอร์ปอร์เรชัน เป็น มาตลอด 12 ปี ที่ก่อตั้งบริษัท

    และ เป็นมากกว่านั้น ตรงที่ "ไม่เคยจ้าง ดารา นางแบบ อินฟลูฯ ที่มีชื่อเสียง มาเป็นพรีเซนเตอร์ สินค้าที่บริษัทฯ จำหน่ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ! "

    การให้ข้อมูลเพื่อขายทุกครั้ง คือ การให้ "ปรากฏการณ์จริง ที่เกิดจากการใช้สินค้าจริง ของผู้ใช้" และ "ข้อมูลวิทยาศาสตร์ ของสินค้า"

    *ตัวแทนขาย ทุกคน ของบริษัทฯ ล้วนมาจากลูกค้าประจำ ที่เป็นผู้ใช้สินค้าจริง*

    สินค้าของบริษัทฯ ทุกตัว! เป็นสินค้า "มาตรฐานคุณภาพระดับสากล ที่มีลูกค้าประจำใช้ต่อเนื่อง ไม่เคยเปลี่ยนสูตร ไม่เคยรีแบรนด์ ตลอดระยะเวลาที่ขาย"

    เมื่อตัวแทนปิดการขายได้ ค่อยนำเงินที่ได้จากลูกค้าที่หักส่วนของตัวแทนแล้ว มาจ่ายค่าสินค้าให้กับบริษัทฯ และ บริษัทฯ จะทำการส่งสินค้าไปให้ลูกค้ารายสุดท้าย โดยที่ตัวแทนไม่ต้องสต๊อก

    จึง สามารถเริ่มได้เลย ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่ต้องเปิดบิล ไม่ต้องจ่ายเงินให้บริษัทฯก่อนที่จะขายได้ สักบาทเดียว "ไม่ต้องกลัวถูกหลอก ไม่ต้องกลัวสูญเงิน เพราะไม่ต้องจ่ายเงิน"

    "ใช้เพียง ความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน สม่ำเสมอ ในการทำงานขายออนไลน์"

    บริษัทฯ ไม่เคยเรียกเก็บเงินจากตัวแทนแม้แต่บาทเดียว ไม่เคยบังคับให้ต้องสต๊อกเปิดบิล ไม่เคยให้จ่ายเงินลงทุน ตัวแทนได้ราคาเท่ากันทุกคน ไม่ว่าเข้ามาก่อน หรือ เข้ามาทีหลัง ตลอด 12 ปี ที่ผ่านมา

    -------------

    หากสนใจ เพียงติดต่อรับตัวอย่างสินค้าไปทดลองใช้ โดยจ่ายค่าจัดส่ง 30 บาทเท่านั้น! เรากำหนดค่าจัดส่งเพื่อคัดกรองผู้ที่สนใจจริงๆ ในการทดลองใช้และพิจารณาเข้าร่วมเป็นตัวแทนขาย ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการของฟรี

    ไม่มีการบังคับซื้อ ไม่มีการหลอกมาลงทุน เพราะไม่ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว !!
    "ทุนหมด หนำซ้ำ ไม่ทันได้ตั้งตัว เหนื่อยหน่ายเหลือเกิน กับ การสิ้นหวังซ้ำซาก กับ องค์กรที่ดูเหมือนค้าออนไลน์ ที่เน้นขายฝันการมีลูกทีมและเครือข่าย แต่ไม่เน้นขายสินค้า" หากคุณตั้งใจจะเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่แท้จริง แต่ต้องอยู่ในสภาวะนี้ และ ไม่อยากชีวิตพังอีกแล้ว บทความนี้ คือ สิ่งที่เป็นประโยชน์กับคุณ ------------- บริษัท #การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง ต้องเป็นอย่างไร ? 1. บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง " #ต้องได้รายได้มาจากการขายปลีกไปยังลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" **ไม่ใช่ ได้รายได้ จากการซื้อเพื่อสต๊อกสินค้า ของตัวแทน** จึงจะสามารถเชื่อมั่นได้ว่า "สินค้า ที่บริษัทฯ นำมาให้จัดจำหน่ายนั้น มีคุณภาพ มีราคาสมเหตุสมผล" ที่ลูกค้ารายสุดท้ายจะสามารถซื้อซ้ำๆ ได้จริง ไม่ใช่ออกแบบสินค้า มาเพื่อให้คนที่มาเป็นตัวแทน "จ่ายเงินให้บริษัทฯ เพื่อสต๊อกสินค้า แต่ขายไม่ได้จริง" บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงควรต้องมีนโยบาย ที่ "ไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆจากตัวแทน ไม่ให้ตัวแทนเปิดบิลหรือเป็นผู้สต๊อกสินค้า" บริษัท จะได้รายได้ ก็ต่อเมื่อ ตัวแทนสามารถปิดการขายสินค้า ให้กับลูกค้ารายสุดท้ายได้ เท่านั้น 2. #โฟกัสที่การขายสินค้าไปยังลูกค้ารายสุดท้าย จึง #ไม่มีระบบแม่ทีมลูกทีม เพราะการมีระบบแม่ทีมลูกทีม จะส่งผลให้ "ไม่โฟกัส การทำงานขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย" แต่จะมาโฟกัส หาลูกทีม ที่ส่งผลให้ไม่เกิดการพัฒนา "ทักษะขาย ที่แท้จริง" ที่เกิดจาก "การโฟกัส และฝึกฝนการทำงานขาย ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย อย่างซื่อสัตย์" และ ยังส่งผล ให้เกิด "โครงสร้างราคา ที่ไม่เท่าเทียม" ระหว่างคนมาก่อนที่เป็นแม่ทีมกับคนมาทีหลังที่เป็นลูกทีม ซึ่ง "โครงสร้างราคา ที่ไม่เท่าเทียม" นี้ ส่งผลให้ เกิดภาวะ "คนที่มาทีหลัง ต้องแบกคนที่มาก่อน" บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงต้อง รักษา "โครงสร้างราคา ให้เท่าเทียม ระหว่างตัวแทนทุกคน ไม่ว่าจะเข้ามาก่อนหรือเข้ามาทีหลัง" และ มุ่งเน้นให้ตัวแทน "โฟกัส ที่การขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" 3. #มุ่งเน้นการให้ข้อมูลสินค้า ไม่ใช่ภาพลักษณ์ของบริษัท ในการขาย บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จะจดจ่อ กับการขายสินค้า ไปยังลูกค้ารายสุดท้าย และ "สิ่งที่ลูกค้ารายสุดท้าย จะซื้อ คือ สินค้า ไม่ใช่ ภาพลักษณ์ ของบริษัท" ดังนั้น ข้อมูลที่ลูกค้ารายสุดท้ายต้องการ เพื่อประเมินและตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อ คือ "ข้อมูลของสินค้า" บริษัท การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง จึงต้องเน้น การให้ข้อมูลสินค้า "โดยเฉพาะ ข้อมูลวิทยาศาสตร์ ที่เป็นข้อเท็จจริง ที่สามารถพิสูจน์ได้ ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์" ไม่ใช่ ใช้การนำเสนอ ภาพลักษณ์ของบริษัท ในการขาย ------------- "การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง นั้น ไม่ง่าย" แต่เป็น #สัมมาอาชีพ "ที่สามารถทำให้มั่นคงทางการเงินได้ ตลอดชีวิต" เพราะ เมื่อ "รายได้ มาจากการขายสินค้า ให้กับลูกค้ารายสุดท้าย เท่านั้น" การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง "จึง ไม่ใช่ การหลอกคนที่เข้ามาใหม่ ให้มาสต๊อกสินค้า" ดังนั้น "การขายออนไลน์ ที่แท้จริง จึง ไม่ได้ทำให้รวยได้ ในชั่วข้ามคืน อย่างที่หลายๆ คนฝันไว้" จำเป็นต้อง "อดทน​ กับ​ การทำสิ่งที่น่าเบื่อ​ ซ้ำๆ​ เดิมๆ​ ได้​ สามารถ​จดจ่อได้อย่างต่อเนื่อง​จริงๆ​" จนวันหนึ่งที่ คุณสามารถฝึกฝน จนมี "ทักษะขาย อย่างซื่อสัตย์" จนเริ่มมี "ลูกค้าประจำ" การ "การทำสิ่งที่น่าเบื่อ​ ซ้ำๆ​ เดิมๆ อย่างซื่อสัตย์" ในการขายออนไลน์ของคุณ จึงจะสามารถทำให้คุณมีกลุ่มลูกค้าประจำ และมีรายได้จนเพียงพอ ที่สามารถรับผิดชอบตนเอง และ ครอบครัวได้ และ หาก คุณยังรักษา "ความซื่อสัตย์" ของคุณต่อไปได้ อาชีพนี้ จะเป็น สัมมาอาชีพ "ที่คุณสามารถทำได้ ตลอดชีวิต" ที่จะช่วยให้คุณ มีความมั่นคงทางการเงิน สามารถรับผิดชอบ ตนเอง และ ครอบครัวของคุณได้ เพราะทุกบาท ทุกสตางค์ ของรายได้ของคุณ มาจาก "การค้าออนไลน์ ที่แท้จริง" "ไม่ได้ โกหก หลอกลวงใคร" ให้ต้องทุกข์ทรมาน อย่างที่คุณเคยเจอ ------------- **หากคุณ ฝันที่จะมีสัมมาอาชีพเป็นแม่ค้าออนไลน์ ที่แท้จริง และ ต้องการหาบริษัทที่จะมาสนับสนุนความฝันนั้นของคุณ บริษัท ซุปเปอร์ชี คอร์ปอร์เรชัน คือ ระบบที่สามารถสนับสนุนฝันนั้น ของคุณได้** เพราะ ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ บริษัท ซุปเปอร์ชี คอร์ปอร์เรชัน เป็น มาตลอด 12 ปี ที่ก่อตั้งบริษัท และ เป็นมากกว่านั้น ตรงที่ "ไม่เคยจ้าง ดารา นางแบบ อินฟลูฯ ที่มีชื่อเสียง มาเป็นพรีเซนเตอร์ สินค้าที่บริษัทฯ จำหน่ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ! " การให้ข้อมูลเพื่อขายทุกครั้ง คือ การให้ "ปรากฏการณ์จริง ที่เกิดจากการใช้สินค้าจริง ของผู้ใช้" และ "ข้อมูลวิทยาศาสตร์ ของสินค้า" *ตัวแทนขาย ทุกคน ของบริษัทฯ ล้วนมาจากลูกค้าประจำ ที่เป็นผู้ใช้สินค้าจริง* สินค้าของบริษัทฯ ทุกตัว! เป็นสินค้า "มาตรฐานคุณภาพระดับสากล ที่มีลูกค้าประจำใช้ต่อเนื่อง ไม่เคยเปลี่ยนสูตร ไม่เคยรีแบรนด์ ตลอดระยะเวลาที่ขาย" เมื่อตัวแทนปิดการขายได้ ค่อยนำเงินที่ได้จากลูกค้าที่หักส่วนของตัวแทนแล้ว มาจ่ายค่าสินค้าให้กับบริษัทฯ และ บริษัทฯ จะทำการส่งสินค้าไปให้ลูกค้ารายสุดท้าย โดยที่ตัวแทนไม่ต้องสต๊อก จึง สามารถเริ่มได้เลย ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่ต้องเปิดบิล ไม่ต้องจ่ายเงินให้บริษัทฯก่อนที่จะขายได้ สักบาทเดียว "ไม่ต้องกลัวถูกหลอก ไม่ต้องกลัวสูญเงิน เพราะไม่ต้องจ่ายเงิน" "ใช้เพียง ความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน สม่ำเสมอ ในการทำงานขายออนไลน์" บริษัทฯ ไม่เคยเรียกเก็บเงินจากตัวแทนแม้แต่บาทเดียว ไม่เคยบังคับให้ต้องสต๊อกเปิดบิล ไม่เคยให้จ่ายเงินลงทุน ตัวแทนได้ราคาเท่ากันทุกคน ไม่ว่าเข้ามาก่อน หรือ เข้ามาทีหลัง ตลอด 12 ปี ที่ผ่านมา ------------- หากสนใจ เพียงติดต่อรับตัวอย่างสินค้าไปทดลองใช้ โดยจ่ายค่าจัดส่ง 30 บาทเท่านั้น! เรากำหนดค่าจัดส่งเพื่อคัดกรองผู้ที่สนใจจริงๆ ในการทดลองใช้และพิจารณาเข้าร่วมเป็นตัวแทนขาย ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการของฟรี ไม่มีการบังคับซื้อ ไม่มีการหลอกมาลงทุน เพราะไม่ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว !!
    0 Comments 1 Shares 303 Views 0 Reviews
  • ปราชญ์ 3สี

    วิเคราะห์: ทำไมโตโยต้าถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิก เหตุเพราะแนวคิด Woke?

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิด Woke ได้กลายเป็นกระแสที่มีอิทธิพลมากในด้านสังคมและวัฒนธรรมทั่วโลก โดยเฉพาะในวงการบันเทิงและการจัดกิจกรรมระดับโลก เช่น โอลิมปิก แนวคิดนี้มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ ความเท่าเทียม และการยุติการเลือกปฏิบัติ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง แนวคิด Woke กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ได้ส่งเสริมความเท่าเทียมอย่างแท้จริง หากแต่ใช้เพื่อแสวงหาอำนาจทางการเมืองและคุกคามผู้ที่ไม่เห็นด้วย

    เหตุการณ์โอลิมปิกและการถอนตัวของโตโยต้า

    ย้อนกลับไปในช่วงกลางปี 2024 โตโยต้าได้ตัดสินใจยกเลิกการสนับสนุนโอลิมปิกที่จัดขึ้นในฝรั่งเศส โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พิธีเปิดโอลิมปิกได้รับอิทธิพลจากกลุ่ม Woke ซึ่งการแสดงออกในพิธีนั้นมีลักษณะที่ไปกระทบความเชื่อทางศาสนา โดยเฉพาะในหมู่ผู้ศรัทธาในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ซึ่งมองว่าการแสดงออกบางส่วนไม่เคารพค่านิยมทางศาสนาและสร้างความไม่พอใจอย่างมาก การที่โตโยต้าเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของโอลิมปิกทำให้บริษัทต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสาธารณชนและลูกค้ากลุ่มศาสนจักรที่ไม่พอใจกับการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

    โตโยต้าจึงตัดสินใจถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในระยะยาว การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการปกป้องค่านิยมของบริษัท แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความรอบคอบในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งในกลุ่มลูกค้าทั่วโลก

    แนวคิด Woke และการคุกคามทางการเมือง

    โตโยต้าไม่ได้หยุดเพียงแค่การถอนตัวจากโอลิมปิกเท่านั้น แต่ในเดือนตุลาคม 2024 บริษัทได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมว่า จะไม่สนับสนุนกลุ่มหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด Woke อีกต่อไป การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นว่าโตโยต้ามองว่าแนวคิด Woke ไม่ได้มีเป้าหมายในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง แต่กลับกลายเป็นการใช้การข่มขู่และบังคับให้สังคมยอมรับความเชื่อและอุดมการณ์ของพวกเขา

    แนวคิด Woke ถูกวิจารณ์ว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิเสรีภาพของทุกคน แต่เน้นไปที่การกดดันให้ทุกคนต้องเห็นด้วยกับแนวทางเดียวเท่านั้น ใครที่มีความเห็นต่างหรือไม่ยอมรับในแนวคิดนี้ มักจะถูกโจมตี ถูกข่มขู่ หรือแม้กระทั่งถูกทำลายชื่อเสียงผ่านสื่อสังคม นอกจากนี้ แนวคิด Woke ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลบประวัติศาสตร์หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อทำให้สังคมต้องปรับตัวตามอุดมการณ์ที่พวกเขาต้องการ โดยไม่มีการให้พื้นที่แก่ความเห็นที่ต่างกัน ซึ่งนำไปสู่การสร้างบรรยากาศของความกลัวและการคุกคามทางความคิด

    ผลกระทบของ Woke ต่อสังคม

    แนวคิด Woke ไม่ได้มีเพียงผลกระทบเชิงบวกตามที่กลุ่มผู้สนับสนุนกล่าวอ้าง แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ การใช้แนวคิด Woke ในการบังคับผู้อื่นให้ยอมรับวิถีชีวิตและอุดมการณ์ที่พวกเขาเชื่อว่าถูกต้อง โดยไม่คำนึงถึงวัฒนธรรม ศาสนา หรือค่านิยมดั้งเดิมของผู้อื่น เป็นการสร้างความไม่สมานฉันท์ในระดับสากล ตัวอย่างของพิธีเปิดโอลิมปิกที่ฝรั่งเศสแสดงให้เห็นถึงการพยายามบังคับให้ทุกคนยอมรับแนวคิดนี้ผ่านทางการแสดงออกทางวัฒนธรรม ซึ่งกลับส่งผลให้เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โตโยต้าเลือกที่จะถอนตัวออกจากกิจกรรมดังกล่าว

    การตัดสินใจของโตโยต้า: บทเรียนที่สำคัญ

    การตัดสินใจของโตโยต้าที่ถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิกและประกาศยุติการสนับสนุนแนวคิด Woke เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับองค์กรทั่วโลก ว่าการสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางการเมืองและสังคมที่มีความขัดแย้งสูง อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กรได้ การตัดสินใจของโตโยต้าแสดงให้เห็นว่าการปกป้องค่านิยมดั้งเดิมและความเชื่อของลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญ และการหลีกเลี่ยงการสนับสนุนแนวคิดที่สร้างความขัดแย้งสามารถช่วยปกป้ององค์กรจากการถูกวิจารณ์ในทางลบ

    สุดท้ายนี้ แนวคิด Woke ที่เคยมีเจตนาดีในการส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาค กลับถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกแยกและการควบคุมสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสังคมในระยะยาว

    #โตโยต้า #ลัทธิWoke #ยกเลิกสนับสนุนโอลิมปิก #ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม #ผลกระทบทางการเมือง #การเคลื่อนไหวทางสังคม #วิพากษ์Woke #ปกป้องคุณค่าดั้งเดิม #ความแตกแยกในสังคม
    ปราชญ์ 3สี วิเคราะห์: ทำไมโตโยต้าถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิก เหตุเพราะแนวคิด Woke? ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิด Woke ได้กลายเป็นกระแสที่มีอิทธิพลมากในด้านสังคมและวัฒนธรรมทั่วโลก โดยเฉพาะในวงการบันเทิงและการจัดกิจกรรมระดับโลก เช่น โอลิมปิก แนวคิดนี้มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ ความเท่าเทียม และการยุติการเลือกปฏิบัติ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง แนวคิด Woke กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ได้ส่งเสริมความเท่าเทียมอย่างแท้จริง หากแต่ใช้เพื่อแสวงหาอำนาจทางการเมืองและคุกคามผู้ที่ไม่เห็นด้วย เหตุการณ์โอลิมปิกและการถอนตัวของโตโยต้า ย้อนกลับไปในช่วงกลางปี 2024 โตโยต้าได้ตัดสินใจยกเลิกการสนับสนุนโอลิมปิกที่จัดขึ้นในฝรั่งเศส โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พิธีเปิดโอลิมปิกได้รับอิทธิพลจากกลุ่ม Woke ซึ่งการแสดงออกในพิธีนั้นมีลักษณะที่ไปกระทบความเชื่อทางศาสนา โดยเฉพาะในหมู่ผู้ศรัทธาในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ซึ่งมองว่าการแสดงออกบางส่วนไม่เคารพค่านิยมทางศาสนาและสร้างความไม่พอใจอย่างมาก การที่โตโยต้าเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของโอลิมปิกทำให้บริษัทต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสาธารณชนและลูกค้ากลุ่มศาสนจักรที่ไม่พอใจกับการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว โตโยต้าจึงตัดสินใจถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในระยะยาว การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการปกป้องค่านิยมของบริษัท แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความรอบคอบในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งในกลุ่มลูกค้าทั่วโลก แนวคิด Woke และการคุกคามทางการเมือง โตโยต้าไม่ได้หยุดเพียงแค่การถอนตัวจากโอลิมปิกเท่านั้น แต่ในเดือนตุลาคม 2024 บริษัทได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมว่า จะไม่สนับสนุนกลุ่มหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด Woke อีกต่อไป การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นว่าโตโยต้ามองว่าแนวคิด Woke ไม่ได้มีเป้าหมายในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง แต่กลับกลายเป็นการใช้การข่มขู่และบังคับให้สังคมยอมรับความเชื่อและอุดมการณ์ของพวกเขา แนวคิด Woke ถูกวิจารณ์ว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิเสรีภาพของทุกคน แต่เน้นไปที่การกดดันให้ทุกคนต้องเห็นด้วยกับแนวทางเดียวเท่านั้น ใครที่มีความเห็นต่างหรือไม่ยอมรับในแนวคิดนี้ มักจะถูกโจมตี ถูกข่มขู่ หรือแม้กระทั่งถูกทำลายชื่อเสียงผ่านสื่อสังคม นอกจากนี้ แนวคิด Woke ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลบประวัติศาสตร์หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อทำให้สังคมต้องปรับตัวตามอุดมการณ์ที่พวกเขาต้องการ โดยไม่มีการให้พื้นที่แก่ความเห็นที่ต่างกัน ซึ่งนำไปสู่การสร้างบรรยากาศของความกลัวและการคุกคามทางความคิด ผลกระทบของ Woke ต่อสังคม แนวคิด Woke ไม่ได้มีเพียงผลกระทบเชิงบวกตามที่กลุ่มผู้สนับสนุนกล่าวอ้าง แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ การใช้แนวคิด Woke ในการบังคับผู้อื่นให้ยอมรับวิถีชีวิตและอุดมการณ์ที่พวกเขาเชื่อว่าถูกต้อง โดยไม่คำนึงถึงวัฒนธรรม ศาสนา หรือค่านิยมดั้งเดิมของผู้อื่น เป็นการสร้างความไม่สมานฉันท์ในระดับสากล ตัวอย่างของพิธีเปิดโอลิมปิกที่ฝรั่งเศสแสดงให้เห็นถึงการพยายามบังคับให้ทุกคนยอมรับแนวคิดนี้ผ่านทางการแสดงออกทางวัฒนธรรม ซึ่งกลับส่งผลให้เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โตโยต้าเลือกที่จะถอนตัวออกจากกิจกรรมดังกล่าว การตัดสินใจของโตโยต้า: บทเรียนที่สำคัญ การตัดสินใจของโตโยต้าที่ถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิกและประกาศยุติการสนับสนุนแนวคิด Woke เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับองค์กรทั่วโลก ว่าการสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางการเมืองและสังคมที่มีความขัดแย้งสูง อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กรได้ การตัดสินใจของโตโยต้าแสดงให้เห็นว่าการปกป้องค่านิยมดั้งเดิมและความเชื่อของลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญ และการหลีกเลี่ยงการสนับสนุนแนวคิดที่สร้างความขัดแย้งสามารถช่วยปกป้ององค์กรจากการถูกวิจารณ์ในทางลบ สุดท้ายนี้ แนวคิด Woke ที่เคยมีเจตนาดีในการส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาค กลับถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกแยกและการควบคุมสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสังคมในระยะยาว #โตโยต้า #ลัทธิWoke #ยกเลิกสนับสนุนโอลิมปิก #ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม #ผลกระทบทางการเมือง #การเคลื่อนไหวทางสังคม #วิพากษ์Woke #ปกป้องคุณค่าดั้งเดิม #ความแตกแยกในสังคม
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • Smith&Wesson Model 629 .44 Magnum

    โดย. พีระพงษ์ กลั่นกรอง

    เมื่อ คลิ้นท์ อี้สต์วู้ด (Clint Eastwood) ในบทของสารวัตรมือปราบ ฮาร์รี่ คาลาแฮน (Harry Callahan) พูดกับคนร้ายในฉากแรกของภาพยนต์เรื่อง “มือปราบปืนโหด” หรือ Dirty Harry ภาพยนต์ซีรี่ส์บู้แอ๊คชั่นที่ยิงกันสนั่นจอเรื่องที่โด่งดังที่สุดในโลกเมื่อ 40 ปีที่แล้ว

    ด้วยทุนสร้าง 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มือปราบปืนโหด(ภาคแรก-ปีค.ศ.1971)ทำรายได้สูงถึง 35 ล้านเหรียญ, ภาคที่สอง คือ Magnum Force (ปี 1973), ภาคที่สาม-The Enforcer (ปี 1976), ภาคที่สี่-Sudden Impact (ปี 1983), และภาคสุดท้าย คือ The Dead Pool (ปี 1988)

    ไม่ว่าภาพยนต์เรื่องนี้จะออกมากี่ภาคก็ตาม ผลตอบรับ ก็คือ ปลุกกระแสความนิยมปืน “สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 สี่สี่แม็กนั่ม” จนตลาดปืนทั่วโลกยอดขายถล่มทลาย แม้ว่าบริษัทผลิตปืนสมิธฯกำลังจะขุดหลุมฝัง(เลิกผลิต)ปืนสั้นกระสุนโหดรุ่นนี้อยู่ก่อนหน้านั้นก็ตาม
    ................

    อเมริกัน ได้ชื่อว่าเก่งในเรื่องการต่อสู้ด้วยอาวุธปืน เรียนรู้ด้วยประสบการณ์ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน นับแต่ครั้งที่ต่อสู้แย่งผืนดินที่ทำกินกับอินเดียนแดงเผ่าต่างๆ จนกระทั่งถึงสงครามกลางเมือง สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง-สอง และสงครามเวียดนาม

    อานุภาพกระสุนปืน(อำนาจหยุดยั้ง, ประหัตประหาร, และทะลุทะลวง)เป็นข้อสำคัญประการแรกสำหรับงานล่า ป้องกันตัว และจู่โจม ความแม่นยำเป็นอันดับที่สองโดยเฉพาะกรณีที่ระยะยิงตั้งแต่ 75 หลา(หรือ 68.6 เมตร)ขึ้นไป หรือในระยะที่ความหนาของใบศูนย์หน้าใหญ่ทับเป้าหรือตัวคน

    ดังที่ทราบกัน โดยหลักการ การเพิ่มอานุภาพกระสุนปืนมากขึ้นได้ก็ต้องอาศัย หนึ่ง-แรงดันในรังเพลิง(Chamber Pressure) ซึ่งจะให้ประโยชน์โดยปริยายในข้อที่สอง-คือ ความเร็วหัวกระสุน(Velocity), สาม-รูปแบบหัวกระสุน(Bullet type), ส่วนข้อที่สี่ คือ ขนาด-น้ำหนักหัวกระสุน(Bore & Weight) นั้น กลายเป็นเรื่องท้ายสุด หากว่าความเร็วกระสุนเกิน 3,000 ฟุตต่อวินาทีขึ้นไป ก็จะเกิดแรงปะทะคลื่นอากาศหรือ Shock Wave ทำให้บาดแผลแหกฉกรรจ์และกระเด็นล้มคว่ำได้ทันใด

    ยกตัวอย่าง กระสุนเอ็ม 16 หรือกระสุนปืนไรเฟิลล่าสัตว์ขนาด .223 หรือ 5.56x45 ม.ม.นาโต้(NATO) หัวกระสุนเล็กเท่ากับกระสุนลูกกรด คือ .22 นิ้วฟุต น้ำหนักหัวกระสุน 55 เกรนมากกว่ากระสุนลูกกรด(40 เกรน)นิดเดียว ความเร็วต้น 3,250 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,325 ฟุต-ปอนด์ ฯลฯ เป็นต้น

    “สี่สี่แม็กนั่ม” หรือในชื่อเป็นทางการว่า .44 Remington Magnum เมื่อ 40 ปีที่แล้วเป็นกระสุนปืนสั้นที่อานุภาพเอกอุที่สุดในโลก(The Most Powerful Handgun in the World)

    ประดิษฐ์คิดค้นโดย เอลเม่อร์ คีธ (Elmer Keith) นักเขียนเรื่องปืนและนักผจญภัยกลางแจ้ง(Outdoor Adventurer)ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสหรัฐอเมริกา โดยร่วมกับบริษัทผลิตปืน สมิธแอนด์เวสสัน(Smith&Wesson)และบริษัทปืนและกระสุนยี่ห้อเรมิงตัน(Remington) ผลิตจำหน่ายในปีค.ศ.1955 (ปีพ.ศ.2498) จนปัจจุบัน

    เอลเม่อร์ คีธ นำกระสุนขนาด “สี่สี่-สเปเชี่ยล” หรือ .44 S&W Special (ผลิตในปีค.ศ.1907 แรงดันรังเพลิง 15,500 ปอนด์/ตร.นิ้วฟุต ปลอกกระสุนยาว 1.16 นิ้วฟุต น้ำหนักหัวกระสุน 246 เกรน ความเร็วต้น 755 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 310 ฟุต-ปอนด์) มาทดลองพัฒนาเพิ่มแรงดันในรังเพลิง ซึ่งก็หมายถึงกระสุนความเร็วสูงโดยปริยาย เพื่อให้เป็น “สี่สี่-แม็กนั่ม”

    โดยไม่คิดนำกระสุนหน้าตัดใหญ่ที่โด่งดังในยุคโคบาลตะวันตก(Wild Western) คือ “สี่ห้า-โค้ลท์” หรือ .45 Colt (ผลิตในปีค.ศ.1872 แรงดันรังเพลิง 14,000 ปอนด์/ตร.นิ้วฟุต ปลอกกระสุนยาว 1.285 นิ้วฟุต หัวกระสุนหนัก 250 เกรน ความเร็วต้น 929 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 479 ฟุต-ปอนด์ และแบบ Buffalo Bore หัวกระสุนหนัก 325 เกรน ความเร็วต้น 1,325 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,267 ฟุต-ปอนด์) มาพัฒนา

    หลักการง่ายๆ ก็คือ กระสุนหน้าตัดใหญ่(Big Bore), หัวกระสุนหนักอึ้ง(Heavy Bullet), และ กระสุนความเร็วสูง(Higher Velocity) เปรียบง่ายๆว่า ซุงหนึ่งต้นหนัก 500 กิโลกรัมวางไว้เฉยๆข้างถนน รถยนต์ที่พุ่งชนต้นซุงต้นนี้ย่อมเสียหายน้อยกว่าการที่ถูกต้นซุงพุ่งมาด้วยความเร็ว 60 กม./ชม.ชนเข้ากับรถยนต์ที่จอดอยู่เฉยๆ (อ่านและคิดทบทวนอีกครั้งนะครับ)

    วัตถุประสงค์หลักในการประดิษฐ์คิดค้น ก็เพื่อล่าสัตว์เท้ากีบขนาดเขื่อง เช่น กวางเอ้ลค์(Elk) สูงถึงหัวไหล่ 1.50 เมตร หนักประมาณ 250-450 กิโลกรัม จนกระทั่งถึงควายป่าที่เรียกว่า Cape Buffalo ที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ แต่น้ำหนักไม่มากเท่ากระทิงในบ้านเรา โดยการยิงจากปืนสั้นลูกโม่ลำกล้องยาว 7-8 นิ้วฟุต

    จึงเป็นจุดกำเนิดปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น Smith&Wesson Model 29
    สมิธแอนด์เวสสัน “สี่สี่-แม็กนั่ม”

    56 ปีมาแล้วที่ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 ปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ็คชั่น(Double-Action Revolver) กระสุนสี่สี่แม็กนั่มผลิตจำหน่าย อันที่จริงก็ด้วยวัตถุประสงค์ของการล่าสัตว์ด้วยปืนสั้น ซึ่งเป็นความคลาสสิคและใช้ศิลปะการล่ามากกว่าปืนยาว ยิ่งปืนสั้นลูกโม่แม้จะลำกล้องยาว 7-8 นิ้วฟุต หากได้ติดศูนย์กล้องเล็งขยาย 4-8 เท่า ก็ยิ่งทวีความยากลำบากในการเล็งยิงมากขึ้น

    แม้ปืนโมเดลนี้(ซึ่งรวมทั้งกระสุนด้วย)จะขายดิบดีในช่วงต้นๆของการเปิดจำหน่ายก็ตาม แต่แล้วยอดขายก็ตกฮวบตามวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เช่นเดียวกับรถ 4x4 Off-Road เพราะมนุษย์หันมาอนุรักษ์สัตว์ป่าและธรรมชาติ ออกกำลังกายในร่มมากกว่ากีฬากลางแจ้งเช่นก่อน

    จนกระทั่ง ในปีค.ศ.1971 ที่ภาพยนต์บู้แอ๊คชั่นเรื่อง “มือปราบปืนโหด” ออกฉาย ทำให้ปืนและกระสุนสี่สี่แม๊กนั่มกลับขายดีถล่มทลาย เพราะผู้ชายส่วนมากอย่างเก่งกล้าหรือมีอาวุธที่อานุภาพเอกอุเหมือนพระเอก คลิ้นท์ อี้สต์วู้ด นั้น จะเป็นกลยุทธ์การตลาดเช่นเดียวกับที่ภาพยนต์เรื่อง เจมส์ บอนด์ ปลุกกระแสความนิยมรถสปอร์ตอังกฤษยี่ห้อ แอสตัน มาร์ติน(Aston Martin) เป็นเหตุผลอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ

    สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29
    -ปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ๊คชั่นบรรจุกระสุน 6 นัด โครงปืนใหญ่(S&W N-Frame)
    -ลูกโม่หมุนทวนเข็มนาฬิกา(Anti-Clockwise)
    -กระสุนปืนสั้นลูกโม่ชนวนกลาง(Revolver/Center-Fire Cartridge)ขนาด .44 Remington Magnum
    -ตัวปืนเสนอตลาดด้วย 7 ขนาดความยาวลำกล้อง ได้แก่ 3, 4, 5, 6, 6 ½ , 8 3/8 และหลังสุด 10 5/8 นิ้วฟุต
    -เฉพาะลำกล้อง 5 นิ้วฟุตเท่านั้นที่ฟักก้านกระทุ้งปลอกกระสุนยาวเต็มความยาวลำกล้องหรือ Full Barrel Length Underlug

    โมเดล 29 เสนออยู่ 2 แบบ ได้แก่ แบบรมดำผิวหนา(Highly Polished Blued Finish) กับแบบนิเกิ้ลโครเมี่ยม(Nickle-Plated Surface)

    ในปีค.ศ.1960 โมเดล 29-1 ผลิตสู่ตลาดภายใต้การปรับปรุงด้านเทคนิคเล็กน้อย อาทิ สกรูยึดก้านกระทุ้งปลอกกระสุน(Ejector Rod Screw) ให้หลังหนึ่งปี โมเดล 29-2 ก็ปรากฏสู่ตลาดโดยเพิ่มสกรูตัวขันยึดความแน่นหนาให้กับสปริงสลักล็อคลูกโม่(Cylinder Stop Spring) ในปีค.ศ. 1979 หั่นลำกล้องจาก 6 ½ เหลือแค่ 6 นิ้วฟุต

    ทั้งโมเดล 29-1 และ 29-2 เพิ่มเทคนิคพิเศษอีกนิดนึง คือ ตัวลำกล้องขันเกลียวยึดแน่นกับโครงปืนพร้อมหมุดตอกย้ำ ส่วนตัวลูกโม่เซาะร่องฝังจานคัดปลอกกระสุนให้เรียบหน้าโม่ เรียกเทคนิคนี้ว่า Pinned & Recessed Model

    ปีค.ศ.1967-1971 บริษัทสนับสนุนทางยุทโธปกรณ์สหรัฐอเมริกา ชื่อ AAI Corporation (Aircraft Armaments, Inc.) สั่งผลิตปืนสมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 จำนวนหนึ่ง

    ลำกล้องสั้นแค่ 1.375 นิ้วฟุต ใช้ยิงกับกระสุน .40 หรือว่า 10 มอมอ และกระสุนลูกซองขนาด .410 เพื่อใช้ในปฏิบัติการพิเศษที่เรียกว่า QAPR (Quiet Special Purpose Revolver) เพื่อให้ทหารอเมริกันบุกเข้าจู่โจมและตรวจค้น “ถ้ำรูหนู” หรือ Tunnel Rats ที่ทหารเวียดนามอาศัยเป็นช่องทางหลบหนีหลบซ่อน

    ในปีค.ศ. 1982 โมเดล 29-3 ยกเลิกเทคนิคพิเศษดังกล่าวเพิ่มลดต้นทุนและระยะเวลาในการผลิต โดยหันมาใช้เทคนิค Crush-Fit Barrel หรือคล้ายๆกับ โคนลำกล้องตีปลอกฟิตแน่นกับโครงปืน ซึ่งได้ผลเท่าเทียมกันแต่ประหยัดต้นทุนและเวลาผลิตมากกว่า

    ในปีค.ศ.1988 (โมเดล 29-4) และปี 1990 (โมเดล 29-5) เสริมแรงให้กับชิ้นส่วนและโครงสร้างตัวปืนเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสมบุกสมบันมากขึ้น โดยเฉพาะทนแรงดันรังเพลิงและแรงสะบัดสะท้อนจากกระสุนแรงสูงสมัยใหม่ ปีค.ศ.1994 โมเดล 29-6 ผลิตจำหน่ายพร้อมกับด้ามยาง Monogrip กระชับมือยี่ห้อ ฮ้อว์ก(Hogue) สันบนโครงปืนมีรูไว้สำหรับขันสกรูติดตั้งศูนย์กล้องล่าสัตว์

    ในปีค.ศ.1998 โมเดล 29-7 ออกตลาดภายใต้การปรับปรุงชิ้นส่วนลั่นไก เช่น เข็มแทงชนวน, นกปืน, ไกปืน, ฯลฯ ล้วนผลิตจากกรรมวิธีฉีดโลหะขึ้นรูป(Metal Injection Molding Process) เพื่อป้องกันปัญหาแตกหักขณะใช้งานหนัก

    สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 ถูกยกเลิกการผลิตไปอย่างถาวรในปีค.ศ.1999 ด้วยเหตุผลของอายุสินค้า(Model Life)ในเชิงการตลาด ปัจจุบัน ทั้งตลาดนอกและตลาดไทย นักเล่นปืนต่างมองหาสี่สี่แม็กนั่มรุ่นนี้ไว้สะสม เพราะตัวปืนมีความสวยงามมากกว่าปืนรุ่นใหม่ของสมิธฯ

    โดยเฉพาะ โมเดล 29 ในรุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี (50th Anniversary Model 29) ที่ผลิตขึ้นจำกัดจำนวนเมื่อวันที่ 26 มกราคมปี 2006 ลักษณะพิเศษ ได้แก่ ลูกโม่กลมกลึงไม่มีร่อง(Non-Fluted Cylinder), สลักลายทองด้วยแสงเลเซอร์บนตัวปืน, ระบบสลักนิรภัยภายใน(Interlock Mechanism), ฯลฯ

    วันที่ 1 มกราคมปี 2007 โมเดล 29 คลาสสิคไลน์ รุ่นพิเศษแกะลายสวยหรู(Engraved Model)

    สมิธแอนด์เวสสัน “โมเดล 629”
    ในยุคที่โลหะวิทยาหันมาสนใจเหล็กสแตนเลส(Stainless Steel)กันอย่างบ้าคลั่ง

    ด้วยคุณสมบัติบางประการที่ให้ประโยชน์ใช้งานเหนือกว่าเหล็ก(Steel) เช่น ไม่เป็นสนิมเหล็ก, ทนสภาวะกัดกร่อนได้สูง(Anti-Corrosion), เนื้อโลหะเหนียวแน่น(High-Density)จากการหล่อขึ้นรูปได้มากกว่า, เนื้อผิวสวยงามดูน่าใช้น่าจับต้องมากกว่า, ฯลฯ
    สมิธแอนด์เวสสัน “โมเดล 629” จึงกำเนิดขึ้นมาด้วยเหล็กสแตนเลสแทนโมเดล 29 ที่เป็นเหล็ก ด้วยประการเช่นนี้

    โมเดล 629 สี่สี่แม็กนั่ม เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ.1978 ในขนาดลำกล้องยาว 6 นิ้วฟุต ส่วนลำกล้อง 4 และ 8 3/8 นิ้วฟุตออกสู่ตลาดในปีค.ศ.1980

    ในปีค.ศ.1982 โมเดล 629-1 ใช้เทคนิคพิเศษ Crush-Fit Barrel ตามอย่างโมเดล 29-3 ในปีค.ศ.1988 โมเดล 629-1 เพิ่มรุ่นพิเศษลำกล้องสั้น 3 นิ้วฟุต ส้นด้ามมน(Round Butt) ชิ้นส่วนกลไกภายในเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับโมเดล 29-4 กรณีที่ตัวปืนปั๊ม 629-2E นั่นหมายถึงว่า บานพับหน้าลูกโม่หรือ Cylinder Crane ปรับให้ผิวเนื้อมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

    ปีค.ศ.1990 โมเดล 629-3 มาในรูปแบบของด้ามยางฮ้อว์ก(Hogue), สันบนโครงปืนมีสกรูพร้อมติดตั้งศูนย์กล้องเล็ง, เปลี่ยนก้านกระทุ้งปลอกกระสุน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโมเดล 629-4 ที่เปิดตัวภายหลังในคุณสมบัติของปืนสั้นแข่งขันยิงเป้ามากขึ้น อาทิ นกปืน-ไกปืนใหญ่แบบปืนสั้นแข่งขันยิงเป้า, ศูนย์หน้ากระโดงปลาแถบแดง(Red Ramp Front Sight), ใบศูนย์หลังเส้นขาว(White Outline Rear Sight), ฯลฯ เป็นต้น

    ในปีเดียวกันนี้(1990) โมเดล 629 คลาสสิค(Classic) เสนอตลาดด้วยรูปแบบของ “ฝักเต็ม” หรือ Full Barrel Underlug หมายถึง มีแท่งตันถ่วงน้ำหนักต่อจากฝักก้านกระทุ้งปลอกกระสุนใต้ลำกล้องยาวจรดปากกระบอกปืน

    ภายใต้รหัส 629-4s ลำกล้องยาว 5, 6 และ 8 3/8 นิ้วฟุต ปีค.ศ.1991 โมเดล 629 คลาสสิค ดีเอ๊กซ์ (629 Classic DX) ออกสู่ตลาดพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษเหนือใคร คือ เปลี่ยนใบศูนย์หน้าได้ 5 แบบ

    ปีค.ศ.1988 โมเดล 629-5 เปลี่ยนนกและไกปืน MIM และใช้เข็มแทงชนวนแบบฝังลอยในโครงปืน แทนเข็มแทงชนวนแบบนกสับเช่นก่อน

    โมเดล 629 คลาสสิค มิได้เป็นแค่สินค้ารุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้มีคุณภาพดีมากกว่าโมเดล 29 และโมเดล 629 เท่านั้น

    ในเชิงการตลาดถือว่าเป็นการ “ยกระดับ” สินค้า(Product Repositioning)ให้สูงขึ้น ซึ่งหมายถึง ราคาแพงขึ้นตามคุณภาพสินค้า ขณะเดียวกัน ก็ยกระดับชื่อยี่ห้อและตัวสินค้าให้สูงขึ้นเพื่อตลาดระดับไฮเอ็น(High-end) คือ เศรษฐีและนักสะสมปืน

    ดังนี้ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 629 คลาสสิค ยุคหลังๆจึงมีสินค้ารุ่นพิเศษสู่ตลาด อาทิ แม๊กน่าคลาสสิค(MagnaClassic), วี-ค้อมพ์(V-Comp), สเต็ลท์ฮันเตอร์(Stealth Hunter), ฯลฯ เป็นต้น รวมทั้งความยาวลำกล้อง 7 ½ นิ้วฟุตที่มาคั่นกลางเป็นทางเลือกใหม่ ระหว่างลำกล้อง 6 และ 8 3/8 นิ้วฟุต อีกด้วย

    บทวิพากย์….
    ในแง่มุมของนักสะสมปืน(Gun Collectors) ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่ไม่สามารถลงพิมพ์ในจำนวนหน้ากระดาษจำกัดนี้ได้หมด เช่น รุ่นลำกล้องสั้น 3 นิ้วฟุต, เมาเท่นกันส์(Mountain Gun), และอื่นๆ

    แต่ในมุมของผู้ใช้ปืนทั่วไปก็พอที่จะใช้เนื้อที่หน้ากระดาษที่เหลือนั่งจับเข่าคุยกันได้ดังนี้ครับ

    คำถาม: “ใครบ้างที่ซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่ม? และทำไมต้องเป็นสมิธแอนด์เวสสัน?”

    ตอบ: แม้กระสุนสี่สี่แม็กนั่มจะออกแบบมาแต่อ้อนออกให้ใช้กับปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ็คชั่น เพื่อกีฬาล่าสัตว์และป้องกันตัวจากสัตว์ร้ายในงานสำรวจท่องเที่ยวป่า

    แต่กลุ่มผู้ซื้อปืนสั้นกระสุนดุขนาดนี้ส่วนมากกลับเป็นนักสะสมปืน นักเลงปืน และตำรวจทหารตามชายแดนหรือในท้องที่ทุรกันดาร ทั้งในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเมืองไทย

    ด้วยราคาตัวปืนและกระสุนที่แพงกว่าปืนอื่นในตลาด ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ผู้ที่ซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่ม ก็คือ คนที่มีใจรักปืนสั้นกระสุนดุขนาดนี้จริงๆ

    ขณะที่ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 สี่สี่แม็กนั่ม คลอดสู่ตลาดเมื่อ 56 ปีที่แล้ว ก็มีบริษัทผลิตปืนยี่ห้อ รูเก้อร์ (Ruger) สหรัฐอเมริกา ผลิตปืนสั้นที่ใช้กระสุนขนาดเดียวกันนี้ออกแข่งตลาด แต่เป็นปืนสั้นซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น(Single Action Revolver)

    นัยว่า เป็นเพราะพนักงานของบริษัทผลิตกระสุนเรมิงตันนำปลอกกระสุนขนาดใหม่ล่านี้ไปให้รูเก้อร์

    ปัจจุบัน แม้ว่าจะมีปืนสั้นหลายยี่ห้อที่แข่งค้ากับปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มของสมิธฯ เช่น โค้ลท์ อะนาคอนด้า(Colt Anaconda), รูเก้อร์ ซูเปอร์ เรดฮอว์ก(Ruger Super Redhawk)ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น, รูเก้อร์ ซูเปอร์ แบล็คฮอว์ก(Ruger Super Blackhawk)ซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น, ฯลฯ

    ยังไม่นับปืนพกกึ่งอัตโนมัติ(Semi-Automatic Pistol)ชื่อดังที่ใช้กระสุนสี่สี่แม๊กนั่มของปืนสั้นลูกโม่ เช่น เดสเสิร์ต อีเกิ้ล (IMI Desert Eagle), และอื่นๆ เป็นต้น

    แต่ที่เมืองนอกเมืองไทยพูดกันมากที่สุด ก็คือ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29, 629 และ 629 คลาสสิค ประณีตแม่นยำที่สุดในกระบวนปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มด้วยกัน

    ถาม: “ปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มใช้กระสุนอื่นยิงแทนได้ไหมในเมื่อไม่มีลูกซ้อมยิง?”

    ตอบ: ได้ คือ .44 สเปเชี่ยล(.44 S&W Special) ที่ปลอกหรือนัดกระสุนสั้นกว่าสี่สี่แม็กนั่มนิดเดียว (0.125 นิ้วฟุต)

    ทำนองเดียวกับที่เราใช้กระสุนสามแปดสเปฯ (.38 Special) ยิงซ้อมมือกับปืนสั้นลูกโม่สามห้าเจ็ดแม็กนั่ม(.357 Magnum) เพราะขนาดหน้าตัดหัวกระสุนและความโตของปลอกกระสุนใกล้เคียงกันมาก แต่หลักการนี้ใช้ได้เฉพาะปืนสั้นลูกโม่เท่านั้น ปืนพกกึ่งอัตโนมัติหรือปืนสั้นออโตเมติคจะมีปัญหา

    ถาม: “สมมุติว่าขอใบอนุญาตและซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มมาได้แล้วจะไปยิงซ้อมที่สนามยิงปืนที่ไหน?”

    ตอบ: เดี๋ยวนี้ยากมากครับ สนามยิงปืนของราชการและเอกชนทั่วไปในบ้านเราไม่ค่อยอนุญาตให้ยิงปืนกระสุนสี่สี่แม็กนั่ม ซึ่งรวมทั้งปืนไรเฟิลขนาดต่างๆ ด้วย

    ปืนกระสุนดุที่อนุญาตให้ยิงซ้อมกันในสนาม อย่างมากก็แค่สิบเอ็ดมอมอ(.45 ACP), ลูกซองกระสุนลูกปราย, สามห้าเจ็ดแม็กนั่ม(.357 Magnum)เป็นบางสนาม จริงๆจังๆก็คงเป็นสนามยิงปืนของทหารที่ Backstop (กำแพงหยุดกระสุนหลังเป้า) เตรียมไว้สำหรับเอ็ม 16 ก็พอจะพูดคุยขอกันได้บ้าง

    ถาม: “สี่สี่แม็กนั่มกระสุนนอกราคานัดละเท่าไร? กระสุนไทยมีผลิตไหม?”

    ตอบ: กระสุนสี่สี่แม็กนั่มที่พอจะหาซื้อได้ในตลาดปืนบ้านเรามีค่อนข้างน้อยมาก ถ้ามีก็ตกนัดละเกือบๆร้อยบาทหรือกว่านี้ เท่าที่ทราบ สี่สี่แม็กนั่มไม่มีผลิตขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพราะขาดวัสดุและดินปืนที่ต้องขออนุญาตกลาโหมเพื่อนำเข้า ยอดจำหน่ายมีแค่นิดเดียว จึงไม่คุ้มที่จะผลิตในประเทศไทย

    ถาม: “ที่ว่า ปืนสมิธฯสี่สี่แม็กนั่มแม่นยำกว่าปืนอื่นนั้นเป็นอย่างไร?”

    ตอบ: จากบทความต่างประเทศ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 629 แม็กน่าคลาสสิค ลำกล้องยาว 8 3/8 นิ้วฟุต ยิงด้วยกระสุน Garrett Cartridges หัวกระสุนหนัก 320 เกรน ความเร็วต้น 1,315 ฟุต/วินาที จากระยะยิง 25 หลา(ประมาณ 23 เมตร)จำนวน 6 นัดทำกลุ่มกระสุนได้ 1 นิ้วฟุต

    กระสุน Carbon Hunter หัวกระสุนหนัก 260 เกรน หัวรู(Hollow Point) ความเร็วต้น 1,450 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,214 ฟุต-ปอนด์ ระยะยิง 25 หลา จำนวน 6 นัดทำกลุ่มได้ 1x2 นิ้วฟุต

    ทั้งนี้ยังไม่มีการยิงพิสูจน์ความแม่นยำเทียบระหว่าง Smith&Wesson, Colt Anaconda, Ruger Super Redhawk ทั้งเมืองนอกและในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

    ถาม: “ถ้าจะซื้อปืนสั้นลูกโม่สี่สี่แม็กนั่มสักกระบอกในชีวิตจะเลือกอะไรดี?”

    ตอบ: ถ้าเลือกความประณีตแม่นยำ(Precision/Accuracy)ก็ต้องสมิธแอนด์เวสสัน ถ้าชอบความแข็งแรงบึกบึนทนทาน(Strong, Durability & Reliability)ก็ต้องฟันธงว่ารูเก้อร์ ส่วนอะนาคอนด้า(Anaconda)เป็นอะไรๆ ที่ต้องเป็นยี่ห้อโค้ลท์ไว้ก่อน

    ถาม: “ปืนสั้นลูกโม่เล่นกระสุนสี่สี่แม็กนั่มแบบไหนดี?”

    ตอบ: นักเลงสี่สี่แม็กนั่มตัวจริงจะเล่นกระสุน “หัวตัน-หัวหนัก” ไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น Jacketed Soft Point, Semi-Wadcutter, Flat/Leaded Nose, รวมทั้งกระสุนพิเศษซาบ้อต(Sabot)

    จากประสบการณ์ส่วนตัว สี่สี่แม็กนั่มหัวรู น้ำหนัก 240 เกรน แม้จะมีความเร็วสูงถึงขั้น 1,400 ฟุต/วินาที จะมีปัญหา “เหินลม” ทำให้วิถีกระสุน(Trajectory)ไม่ราบเรียบไม่แม่นยำเท่าควร

    ขณะที่กระสุนหัวตัน น้ำหนักหัวกระสุนมากๆ (หรือบางทีก็น้ำหนัก 240 เกรนเท่ากัน) แต่ปลอกกระสุนมีเข็มขัดรัดหรือรอยย้ำ 2 แถว แม้ความเร็วน้อยกว่าแต่ให้ความแม่นยำหนักแน่นสูงกว่ามาก เรียกว่าได้ใจทุกนัดไป ข้อเสีย คือ ยิงสะบัดกัดมือมากกว่ากระสุนรุ่นใหม่ๆ ประมาณ +15%-20%

    ถาม: “ปืนสี่สี่แม็กนั่มต้องระวังอะไรบ้าง? ติดศูนย์กล้องดีไหม?”

    ตอบ: ข้อหนึ่ง-ถ้าเป็นเหล็กสแตนเลส เช่น โมเดล 629 และ 629 คลาสสิค ควรใส่กล่องเก็บหรือไม่ก็ตัดซองหนังใส่ปืนเก็บรักษา เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน รอยขนแมว ที่เกิดขึ้นเพราะผิวเหล็กสแตนเลสเนื้ออ่อนกว่าเหล็ก

    ข้อสอง-ไม่ควรใช้ยาขัดโลหะชนิดที่มีสารชะล้าง(Solven)ขัดถูกตัวปืน เพราะจะทำให้ตัวอักษรที่แกะสลักด้วยเลเซอร์เคลือบสีทองไว้ลางเลือนจางหาย

    ข้อสาม-หมั่นตรวจขันหมุดสกรูที่ตัวปืนทั้งก่อนและหลังการยิง เนื่องจากแรงสะบัดสะท้อนรุนแรงทำให้หมุดสกรูคลายตัวและอาจหลุดกระเด็นหาย

    ข้อสี่-ถึงจะหาซื้อกระสุนได้มากก็ไม่ควรยิงเล่นบ่อยๆ เพราะจะทำให้ตัวปืนทรุดโทรมเร็วกว่าที่ควรอย่างน่าเสียดาย

    ข้อห้า-อย่านำมายิงแห้งหรือเหนี่ยวไกเล่น(โดยไม่บรรจุกระสุนในตัวปืน)บ่อยๆ กลไกปืนอาจชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะเข็มแทงชนวนอาจหักโดยไม่รู้ตัว

    ข้อหก-ติดศูนย์กล้องเล็งได้ในกำลังขยายภาพไม่เกิน 4 เท่า สูงกว่านั้นจะเล็งยิงได้ลำบาก มือสั่นสายตาพร่ามัวเพราะไม่กล้าลั่นกระสุน(เพราะภาพมันฟ้องว่าศูนย์ปืนไม่เข้าเป้าเนื่องจากมือผู้ยิงสั่นไปมา) แต่สุดท้ายก็ต้องถอดศูนย์กล้องเล็งออกเพราะรู้สึกเกะกะหนักตัวปืนเปล่าๆ

    สรุปท้ายเรื่อง...

    สมิธแอนด์เวสสัน สี่สี่แม็กนั่ม เป็นทรัพย์สมบัติที่คู่ควรต่อผู้มีบารมีและนักสะสมปืนมากกว่าการมีใช้เพื่อต่อสู้ป้องกันชีวิตทรัพย์สิน ไม่ใช่ปืนสั้นประจำกายอย่างแน่นอน แต่จะเหมาะที่สุดในกรณีท่องไพรสำรวจป่าที่พกไว้ข้างเอวหรือข้างสีข้างลำตัวเพื่อป้องกันสัตว์เขี้ยวยาวดุร้ายต่างๆ

    แม้ปัจจุบัน ตลาดปืนโลกจะมี “ปืนโหดกระสุนดุ” รุ่นใหม่ๆที่มีอานุภาพสูงกว่าสี่สี่แม็กนั่ม ไม่ว่าจะเป็น .454 Casull, .460 S&W Magnum, .500 S&W Magnum, และอื่นๆ แต่

    “สี่สี่แม็กนั่มยังจะเป็นเพื่อนที่ดีของนักเล่นปืนตลอดไป”
    ขอบคุณครับ...

    Smith&Wesson Model 629 .44 Magnum โดย. พีระพงษ์ กลั่นกรอง เมื่อ คลิ้นท์ อี้สต์วู้ด (Clint Eastwood) ในบทของสารวัตรมือปราบ ฮาร์รี่ คาลาแฮน (Harry Callahan) พูดกับคนร้ายในฉากแรกของภาพยนต์เรื่อง “มือปราบปืนโหด” หรือ Dirty Harry ภาพยนต์ซีรี่ส์บู้แอ๊คชั่นที่ยิงกันสนั่นจอเรื่องที่โด่งดังที่สุดในโลกเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ด้วยทุนสร้าง 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มือปราบปืนโหด(ภาคแรก-ปีค.ศ.1971)ทำรายได้สูงถึง 35 ล้านเหรียญ, ภาคที่สอง คือ Magnum Force (ปี 1973), ภาคที่สาม-The Enforcer (ปี 1976), ภาคที่สี่-Sudden Impact (ปี 1983), และภาคสุดท้าย คือ The Dead Pool (ปี 1988) ไม่ว่าภาพยนต์เรื่องนี้จะออกมากี่ภาคก็ตาม ผลตอบรับ ก็คือ ปลุกกระแสความนิยมปืน “สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 สี่สี่แม็กนั่ม” จนตลาดปืนทั่วโลกยอดขายถล่มทลาย แม้ว่าบริษัทผลิตปืนสมิธฯกำลังจะขุดหลุมฝัง(เลิกผลิต)ปืนสั้นกระสุนโหดรุ่นนี้อยู่ก่อนหน้านั้นก็ตาม ................ อเมริกัน ได้ชื่อว่าเก่งในเรื่องการต่อสู้ด้วยอาวุธปืน เรียนรู้ด้วยประสบการณ์ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน นับแต่ครั้งที่ต่อสู้แย่งผืนดินที่ทำกินกับอินเดียนแดงเผ่าต่างๆ จนกระทั่งถึงสงครามกลางเมือง สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง-สอง และสงครามเวียดนาม อานุภาพกระสุนปืน(อำนาจหยุดยั้ง, ประหัตประหาร, และทะลุทะลวง)เป็นข้อสำคัญประการแรกสำหรับงานล่า ป้องกันตัว และจู่โจม ความแม่นยำเป็นอันดับที่สองโดยเฉพาะกรณีที่ระยะยิงตั้งแต่ 75 หลา(หรือ 68.6 เมตร)ขึ้นไป หรือในระยะที่ความหนาของใบศูนย์หน้าใหญ่ทับเป้าหรือตัวคน ดังที่ทราบกัน โดยหลักการ การเพิ่มอานุภาพกระสุนปืนมากขึ้นได้ก็ต้องอาศัย หนึ่ง-แรงดันในรังเพลิง(Chamber Pressure) ซึ่งจะให้ประโยชน์โดยปริยายในข้อที่สอง-คือ ความเร็วหัวกระสุน(Velocity), สาม-รูปแบบหัวกระสุน(Bullet type), ส่วนข้อที่สี่ คือ ขนาด-น้ำหนักหัวกระสุน(Bore & Weight) นั้น กลายเป็นเรื่องท้ายสุด หากว่าความเร็วกระสุนเกิน 3,000 ฟุตต่อวินาทีขึ้นไป ก็จะเกิดแรงปะทะคลื่นอากาศหรือ Shock Wave ทำให้บาดแผลแหกฉกรรจ์และกระเด็นล้มคว่ำได้ทันใด ยกตัวอย่าง กระสุนเอ็ม 16 หรือกระสุนปืนไรเฟิลล่าสัตว์ขนาด .223 หรือ 5.56x45 ม.ม.นาโต้(NATO) หัวกระสุนเล็กเท่ากับกระสุนลูกกรด คือ .22 นิ้วฟุต น้ำหนักหัวกระสุน 55 เกรนมากกว่ากระสุนลูกกรด(40 เกรน)นิดเดียว ความเร็วต้น 3,250 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,325 ฟุต-ปอนด์ ฯลฯ เป็นต้น “สี่สี่แม็กนั่ม” หรือในชื่อเป็นทางการว่า .44 Remington Magnum เมื่อ 40 ปีที่แล้วเป็นกระสุนปืนสั้นที่อานุภาพเอกอุที่สุดในโลก(The Most Powerful Handgun in the World) ประดิษฐ์คิดค้นโดย เอลเม่อร์ คีธ (Elmer Keith) นักเขียนเรื่องปืนและนักผจญภัยกลางแจ้ง(Outdoor Adventurer)ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสหรัฐอเมริกา โดยร่วมกับบริษัทผลิตปืน สมิธแอนด์เวสสัน(Smith&Wesson)และบริษัทปืนและกระสุนยี่ห้อเรมิงตัน(Remington) ผลิตจำหน่ายในปีค.ศ.1955 (ปีพ.ศ.2498) จนปัจจุบัน เอลเม่อร์ คีธ นำกระสุนขนาด “สี่สี่-สเปเชี่ยล” หรือ .44 S&W Special (ผลิตในปีค.ศ.1907 แรงดันรังเพลิง 15,500 ปอนด์/ตร.นิ้วฟุต ปลอกกระสุนยาว 1.16 นิ้วฟุต น้ำหนักหัวกระสุน 246 เกรน ความเร็วต้น 755 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 310 ฟุต-ปอนด์) มาทดลองพัฒนาเพิ่มแรงดันในรังเพลิง ซึ่งก็หมายถึงกระสุนความเร็วสูงโดยปริยาย เพื่อให้เป็น “สี่สี่-แม็กนั่ม” โดยไม่คิดนำกระสุนหน้าตัดใหญ่ที่โด่งดังในยุคโคบาลตะวันตก(Wild Western) คือ “สี่ห้า-โค้ลท์” หรือ .45 Colt (ผลิตในปีค.ศ.1872 แรงดันรังเพลิง 14,000 ปอนด์/ตร.นิ้วฟุต ปลอกกระสุนยาว 1.285 นิ้วฟุต หัวกระสุนหนัก 250 เกรน ความเร็วต้น 929 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 479 ฟุต-ปอนด์ และแบบ Buffalo Bore หัวกระสุนหนัก 325 เกรน ความเร็วต้น 1,325 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,267 ฟุต-ปอนด์) มาพัฒนา หลักการง่ายๆ ก็คือ กระสุนหน้าตัดใหญ่(Big Bore), หัวกระสุนหนักอึ้ง(Heavy Bullet), และ กระสุนความเร็วสูง(Higher Velocity) เปรียบง่ายๆว่า ซุงหนึ่งต้นหนัก 500 กิโลกรัมวางไว้เฉยๆข้างถนน รถยนต์ที่พุ่งชนต้นซุงต้นนี้ย่อมเสียหายน้อยกว่าการที่ถูกต้นซุงพุ่งมาด้วยความเร็ว 60 กม./ชม.ชนเข้ากับรถยนต์ที่จอดอยู่เฉยๆ (อ่านและคิดทบทวนอีกครั้งนะครับ) วัตถุประสงค์หลักในการประดิษฐ์คิดค้น ก็เพื่อล่าสัตว์เท้ากีบขนาดเขื่อง เช่น กวางเอ้ลค์(Elk) สูงถึงหัวไหล่ 1.50 เมตร หนักประมาณ 250-450 กิโลกรัม จนกระทั่งถึงควายป่าที่เรียกว่า Cape Buffalo ที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ แต่น้ำหนักไม่มากเท่ากระทิงในบ้านเรา โดยการยิงจากปืนสั้นลูกโม่ลำกล้องยาว 7-8 นิ้วฟุต จึงเป็นจุดกำเนิดปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น Smith&Wesson Model 29 สมิธแอนด์เวสสัน “สี่สี่-แม็กนั่ม” 56 ปีมาแล้วที่ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 ปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ็คชั่น(Double-Action Revolver) กระสุนสี่สี่แม็กนั่มผลิตจำหน่าย อันที่จริงก็ด้วยวัตถุประสงค์ของการล่าสัตว์ด้วยปืนสั้น ซึ่งเป็นความคลาสสิคและใช้ศิลปะการล่ามากกว่าปืนยาว ยิ่งปืนสั้นลูกโม่แม้จะลำกล้องยาว 7-8 นิ้วฟุต หากได้ติดศูนย์กล้องเล็งขยาย 4-8 เท่า ก็ยิ่งทวีความยากลำบากในการเล็งยิงมากขึ้น แม้ปืนโมเดลนี้(ซึ่งรวมทั้งกระสุนด้วย)จะขายดิบดีในช่วงต้นๆของการเปิดจำหน่ายก็ตาม แต่แล้วยอดขายก็ตกฮวบตามวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เช่นเดียวกับรถ 4x4 Off-Road เพราะมนุษย์หันมาอนุรักษ์สัตว์ป่าและธรรมชาติ ออกกำลังกายในร่มมากกว่ากีฬากลางแจ้งเช่นก่อน จนกระทั่ง ในปีค.ศ.1971 ที่ภาพยนต์บู้แอ๊คชั่นเรื่อง “มือปราบปืนโหด” ออกฉาย ทำให้ปืนและกระสุนสี่สี่แม๊กนั่มกลับขายดีถล่มทลาย เพราะผู้ชายส่วนมากอย่างเก่งกล้าหรือมีอาวุธที่อานุภาพเอกอุเหมือนพระเอก คลิ้นท์ อี้สต์วู้ด นั้น จะเป็นกลยุทธ์การตลาดเช่นเดียวกับที่ภาพยนต์เรื่อง เจมส์ บอนด์ ปลุกกระแสความนิยมรถสปอร์ตอังกฤษยี่ห้อ แอสตัน มาร์ติน(Aston Martin) เป็นเหตุผลอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 -ปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ๊คชั่นบรรจุกระสุน 6 นัด โครงปืนใหญ่(S&W N-Frame) -ลูกโม่หมุนทวนเข็มนาฬิกา(Anti-Clockwise) -กระสุนปืนสั้นลูกโม่ชนวนกลาง(Revolver/Center-Fire Cartridge)ขนาด .44 Remington Magnum -ตัวปืนเสนอตลาดด้วย 7 ขนาดความยาวลำกล้อง ได้แก่ 3, 4, 5, 6, 6 ½ , 8 3/8 และหลังสุด 10 5/8 นิ้วฟุต -เฉพาะลำกล้อง 5 นิ้วฟุตเท่านั้นที่ฟักก้านกระทุ้งปลอกกระสุนยาวเต็มความยาวลำกล้องหรือ Full Barrel Length Underlug โมเดล 29 เสนออยู่ 2 แบบ ได้แก่ แบบรมดำผิวหนา(Highly Polished Blued Finish) กับแบบนิเกิ้ลโครเมี่ยม(Nickle-Plated Surface) ในปีค.ศ.1960 โมเดล 29-1 ผลิตสู่ตลาดภายใต้การปรับปรุงด้านเทคนิคเล็กน้อย อาทิ สกรูยึดก้านกระทุ้งปลอกกระสุน(Ejector Rod Screw) ให้หลังหนึ่งปี โมเดล 29-2 ก็ปรากฏสู่ตลาดโดยเพิ่มสกรูตัวขันยึดความแน่นหนาให้กับสปริงสลักล็อคลูกโม่(Cylinder Stop Spring) ในปีค.ศ. 1979 หั่นลำกล้องจาก 6 ½ เหลือแค่ 6 นิ้วฟุต ทั้งโมเดล 29-1 และ 29-2 เพิ่มเทคนิคพิเศษอีกนิดนึง คือ ตัวลำกล้องขันเกลียวยึดแน่นกับโครงปืนพร้อมหมุดตอกย้ำ ส่วนตัวลูกโม่เซาะร่องฝังจานคัดปลอกกระสุนให้เรียบหน้าโม่ เรียกเทคนิคนี้ว่า Pinned & Recessed Model ปีค.ศ.1967-1971 บริษัทสนับสนุนทางยุทโธปกรณ์สหรัฐอเมริกา ชื่อ AAI Corporation (Aircraft Armaments, Inc.) สั่งผลิตปืนสมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 จำนวนหนึ่ง ลำกล้องสั้นแค่ 1.375 นิ้วฟุต ใช้ยิงกับกระสุน .40 หรือว่า 10 มอมอ และกระสุนลูกซองขนาด .410 เพื่อใช้ในปฏิบัติการพิเศษที่เรียกว่า QAPR (Quiet Special Purpose Revolver) เพื่อให้ทหารอเมริกันบุกเข้าจู่โจมและตรวจค้น “ถ้ำรูหนู” หรือ Tunnel Rats ที่ทหารเวียดนามอาศัยเป็นช่องทางหลบหนีหลบซ่อน ในปีค.ศ. 1982 โมเดล 29-3 ยกเลิกเทคนิคพิเศษดังกล่าวเพิ่มลดต้นทุนและระยะเวลาในการผลิต โดยหันมาใช้เทคนิค Crush-Fit Barrel หรือคล้ายๆกับ โคนลำกล้องตีปลอกฟิตแน่นกับโครงปืน ซึ่งได้ผลเท่าเทียมกันแต่ประหยัดต้นทุนและเวลาผลิตมากกว่า ในปีค.ศ.1988 (โมเดล 29-4) และปี 1990 (โมเดล 29-5) เสริมแรงให้กับชิ้นส่วนและโครงสร้างตัวปืนเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสมบุกสมบันมากขึ้น โดยเฉพาะทนแรงดันรังเพลิงและแรงสะบัดสะท้อนจากกระสุนแรงสูงสมัยใหม่ ปีค.ศ.1994 โมเดล 29-6 ผลิตจำหน่ายพร้อมกับด้ามยาง Monogrip กระชับมือยี่ห้อ ฮ้อว์ก(Hogue) สันบนโครงปืนมีรูไว้สำหรับขันสกรูติดตั้งศูนย์กล้องล่าสัตว์ ในปีค.ศ.1998 โมเดล 29-7 ออกตลาดภายใต้การปรับปรุงชิ้นส่วนลั่นไก เช่น เข็มแทงชนวน, นกปืน, ไกปืน, ฯลฯ ล้วนผลิตจากกรรมวิธีฉีดโลหะขึ้นรูป(Metal Injection Molding Process) เพื่อป้องกันปัญหาแตกหักขณะใช้งานหนัก สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 ถูกยกเลิกการผลิตไปอย่างถาวรในปีค.ศ.1999 ด้วยเหตุผลของอายุสินค้า(Model Life)ในเชิงการตลาด ปัจจุบัน ทั้งตลาดนอกและตลาดไทย นักเล่นปืนต่างมองหาสี่สี่แม็กนั่มรุ่นนี้ไว้สะสม เพราะตัวปืนมีความสวยงามมากกว่าปืนรุ่นใหม่ของสมิธฯ โดยเฉพาะ โมเดล 29 ในรุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี (50th Anniversary Model 29) ที่ผลิตขึ้นจำกัดจำนวนเมื่อวันที่ 26 มกราคมปี 2006 ลักษณะพิเศษ ได้แก่ ลูกโม่กลมกลึงไม่มีร่อง(Non-Fluted Cylinder), สลักลายทองด้วยแสงเลเซอร์บนตัวปืน, ระบบสลักนิรภัยภายใน(Interlock Mechanism), ฯลฯ วันที่ 1 มกราคมปี 2007 โมเดล 29 คลาสสิคไลน์ รุ่นพิเศษแกะลายสวยหรู(Engraved Model) สมิธแอนด์เวสสัน “โมเดล 629” ในยุคที่โลหะวิทยาหันมาสนใจเหล็กสแตนเลส(Stainless Steel)กันอย่างบ้าคลั่ง ด้วยคุณสมบัติบางประการที่ให้ประโยชน์ใช้งานเหนือกว่าเหล็ก(Steel) เช่น ไม่เป็นสนิมเหล็ก, ทนสภาวะกัดกร่อนได้สูง(Anti-Corrosion), เนื้อโลหะเหนียวแน่น(High-Density)จากการหล่อขึ้นรูปได้มากกว่า, เนื้อผิวสวยงามดูน่าใช้น่าจับต้องมากกว่า, ฯลฯ สมิธแอนด์เวสสัน “โมเดล 629” จึงกำเนิดขึ้นมาด้วยเหล็กสแตนเลสแทนโมเดล 29 ที่เป็นเหล็ก ด้วยประการเช่นนี้ โมเดล 629 สี่สี่แม็กนั่ม เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ.1978 ในขนาดลำกล้องยาว 6 นิ้วฟุต ส่วนลำกล้อง 4 และ 8 3/8 นิ้วฟุตออกสู่ตลาดในปีค.ศ.1980 ในปีค.ศ.1982 โมเดล 629-1 ใช้เทคนิคพิเศษ Crush-Fit Barrel ตามอย่างโมเดล 29-3 ในปีค.ศ.1988 โมเดล 629-1 เพิ่มรุ่นพิเศษลำกล้องสั้น 3 นิ้วฟุต ส้นด้ามมน(Round Butt) ชิ้นส่วนกลไกภายในเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับโมเดล 29-4 กรณีที่ตัวปืนปั๊ม 629-2E นั่นหมายถึงว่า บานพับหน้าลูกโม่หรือ Cylinder Crane ปรับให้ผิวเนื้อมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ปีค.ศ.1990 โมเดล 629-3 มาในรูปแบบของด้ามยางฮ้อว์ก(Hogue), สันบนโครงปืนมีสกรูพร้อมติดตั้งศูนย์กล้องเล็ง, เปลี่ยนก้านกระทุ้งปลอกกระสุน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโมเดล 629-4 ที่เปิดตัวภายหลังในคุณสมบัติของปืนสั้นแข่งขันยิงเป้ามากขึ้น อาทิ นกปืน-ไกปืนใหญ่แบบปืนสั้นแข่งขันยิงเป้า, ศูนย์หน้ากระโดงปลาแถบแดง(Red Ramp Front Sight), ใบศูนย์หลังเส้นขาว(White Outline Rear Sight), ฯลฯ เป็นต้น ในปีเดียวกันนี้(1990) โมเดล 629 คลาสสิค(Classic) เสนอตลาดด้วยรูปแบบของ “ฝักเต็ม” หรือ Full Barrel Underlug หมายถึง มีแท่งตันถ่วงน้ำหนักต่อจากฝักก้านกระทุ้งปลอกกระสุนใต้ลำกล้องยาวจรดปากกระบอกปืน ภายใต้รหัส 629-4s ลำกล้องยาว 5, 6 และ 8 3/8 นิ้วฟุต ปีค.ศ.1991 โมเดล 629 คลาสสิค ดีเอ๊กซ์ (629 Classic DX) ออกสู่ตลาดพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษเหนือใคร คือ เปลี่ยนใบศูนย์หน้าได้ 5 แบบ ปีค.ศ.1988 โมเดล 629-5 เปลี่ยนนกและไกปืน MIM และใช้เข็มแทงชนวนแบบฝังลอยในโครงปืน แทนเข็มแทงชนวนแบบนกสับเช่นก่อน โมเดล 629 คลาสสิค มิได้เป็นแค่สินค้ารุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้มีคุณภาพดีมากกว่าโมเดล 29 และโมเดล 629 เท่านั้น ในเชิงการตลาดถือว่าเป็นการ “ยกระดับ” สินค้า(Product Repositioning)ให้สูงขึ้น ซึ่งหมายถึง ราคาแพงขึ้นตามคุณภาพสินค้า ขณะเดียวกัน ก็ยกระดับชื่อยี่ห้อและตัวสินค้าให้สูงขึ้นเพื่อตลาดระดับไฮเอ็น(High-end) คือ เศรษฐีและนักสะสมปืน ดังนี้ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 629 คลาสสิค ยุคหลังๆจึงมีสินค้ารุ่นพิเศษสู่ตลาด อาทิ แม๊กน่าคลาสสิค(MagnaClassic), วี-ค้อมพ์(V-Comp), สเต็ลท์ฮันเตอร์(Stealth Hunter), ฯลฯ เป็นต้น รวมทั้งความยาวลำกล้อง 7 ½ นิ้วฟุตที่มาคั่นกลางเป็นทางเลือกใหม่ ระหว่างลำกล้อง 6 และ 8 3/8 นิ้วฟุต อีกด้วย บทวิพากย์…. ในแง่มุมของนักสะสมปืน(Gun Collectors) ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่ไม่สามารถลงพิมพ์ในจำนวนหน้ากระดาษจำกัดนี้ได้หมด เช่น รุ่นลำกล้องสั้น 3 นิ้วฟุต, เมาเท่นกันส์(Mountain Gun), และอื่นๆ แต่ในมุมของผู้ใช้ปืนทั่วไปก็พอที่จะใช้เนื้อที่หน้ากระดาษที่เหลือนั่งจับเข่าคุยกันได้ดังนี้ครับ คำถาม: “ใครบ้างที่ซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่ม? และทำไมต้องเป็นสมิธแอนด์เวสสัน?” ตอบ: แม้กระสุนสี่สี่แม็กนั่มจะออกแบบมาแต่อ้อนออกให้ใช้กับปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ็คชั่น เพื่อกีฬาล่าสัตว์และป้องกันตัวจากสัตว์ร้ายในงานสำรวจท่องเที่ยวป่า แต่กลุ่มผู้ซื้อปืนสั้นกระสุนดุขนาดนี้ส่วนมากกลับเป็นนักสะสมปืน นักเลงปืน และตำรวจทหารตามชายแดนหรือในท้องที่ทุรกันดาร ทั้งในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเมืองไทย ด้วยราคาตัวปืนและกระสุนที่แพงกว่าปืนอื่นในตลาด ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ผู้ที่ซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่ม ก็คือ คนที่มีใจรักปืนสั้นกระสุนดุขนาดนี้จริงๆ ขณะที่ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 สี่สี่แม็กนั่ม คลอดสู่ตลาดเมื่อ 56 ปีที่แล้ว ก็มีบริษัทผลิตปืนยี่ห้อ รูเก้อร์ (Ruger) สหรัฐอเมริกา ผลิตปืนสั้นที่ใช้กระสุนขนาดเดียวกันนี้ออกแข่งตลาด แต่เป็นปืนสั้นซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น(Single Action Revolver) นัยว่า เป็นเพราะพนักงานของบริษัทผลิตกระสุนเรมิงตันนำปลอกกระสุนขนาดใหม่ล่านี้ไปให้รูเก้อร์ ปัจจุบัน แม้ว่าจะมีปืนสั้นหลายยี่ห้อที่แข่งค้ากับปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มของสมิธฯ เช่น โค้ลท์ อะนาคอนด้า(Colt Anaconda), รูเก้อร์ ซูเปอร์ เรดฮอว์ก(Ruger Super Redhawk)ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น, รูเก้อร์ ซูเปอร์ แบล็คฮอว์ก(Ruger Super Blackhawk)ซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น, ฯลฯ ยังไม่นับปืนพกกึ่งอัตโนมัติ(Semi-Automatic Pistol)ชื่อดังที่ใช้กระสุนสี่สี่แม๊กนั่มของปืนสั้นลูกโม่ เช่น เดสเสิร์ต อีเกิ้ล (IMI Desert Eagle), และอื่นๆ เป็นต้น แต่ที่เมืองนอกเมืองไทยพูดกันมากที่สุด ก็คือ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29, 629 และ 629 คลาสสิค ประณีตแม่นยำที่สุดในกระบวนปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มด้วยกัน ถาม: “ปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มใช้กระสุนอื่นยิงแทนได้ไหมในเมื่อไม่มีลูกซ้อมยิง?” ตอบ: ได้ คือ .44 สเปเชี่ยล(.44 S&W Special) ที่ปลอกหรือนัดกระสุนสั้นกว่าสี่สี่แม็กนั่มนิดเดียว (0.125 นิ้วฟุต) ทำนองเดียวกับที่เราใช้กระสุนสามแปดสเปฯ (.38 Special) ยิงซ้อมมือกับปืนสั้นลูกโม่สามห้าเจ็ดแม็กนั่ม(.357 Magnum) เพราะขนาดหน้าตัดหัวกระสุนและความโตของปลอกกระสุนใกล้เคียงกันมาก แต่หลักการนี้ใช้ได้เฉพาะปืนสั้นลูกโม่เท่านั้น ปืนพกกึ่งอัตโนมัติหรือปืนสั้นออโตเมติคจะมีปัญหา ถาม: “สมมุติว่าขอใบอนุญาตและซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มมาได้แล้วจะไปยิงซ้อมที่สนามยิงปืนที่ไหน?” ตอบ: เดี๋ยวนี้ยากมากครับ สนามยิงปืนของราชการและเอกชนทั่วไปในบ้านเราไม่ค่อยอนุญาตให้ยิงปืนกระสุนสี่สี่แม็กนั่ม ซึ่งรวมทั้งปืนไรเฟิลขนาดต่างๆ ด้วย ปืนกระสุนดุที่อนุญาตให้ยิงซ้อมกันในสนาม อย่างมากก็แค่สิบเอ็ดมอมอ(.45 ACP), ลูกซองกระสุนลูกปราย, สามห้าเจ็ดแม็กนั่ม(.357 Magnum)เป็นบางสนาม จริงๆจังๆก็คงเป็นสนามยิงปืนของทหารที่ Backstop (กำแพงหยุดกระสุนหลังเป้า) เตรียมไว้สำหรับเอ็ม 16 ก็พอจะพูดคุยขอกันได้บ้าง ถาม: “สี่สี่แม็กนั่มกระสุนนอกราคานัดละเท่าไร? กระสุนไทยมีผลิตไหม?” ตอบ: กระสุนสี่สี่แม็กนั่มที่พอจะหาซื้อได้ในตลาดปืนบ้านเรามีค่อนข้างน้อยมาก ถ้ามีก็ตกนัดละเกือบๆร้อยบาทหรือกว่านี้ เท่าที่ทราบ สี่สี่แม็กนั่มไม่มีผลิตขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพราะขาดวัสดุและดินปืนที่ต้องขออนุญาตกลาโหมเพื่อนำเข้า ยอดจำหน่ายมีแค่นิดเดียว จึงไม่คุ้มที่จะผลิตในประเทศไทย ถาม: “ที่ว่า ปืนสมิธฯสี่สี่แม็กนั่มแม่นยำกว่าปืนอื่นนั้นเป็นอย่างไร?” ตอบ: จากบทความต่างประเทศ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 629 แม็กน่าคลาสสิค ลำกล้องยาว 8 3/8 นิ้วฟุต ยิงด้วยกระสุน Garrett Cartridges หัวกระสุนหนัก 320 เกรน ความเร็วต้น 1,315 ฟุต/วินาที จากระยะยิง 25 หลา(ประมาณ 23 เมตร)จำนวน 6 นัดทำกลุ่มกระสุนได้ 1 นิ้วฟุต กระสุน Carbon Hunter หัวกระสุนหนัก 260 เกรน หัวรู(Hollow Point) ความเร็วต้น 1,450 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,214 ฟุต-ปอนด์ ระยะยิง 25 หลา จำนวน 6 นัดทำกลุ่มได้ 1x2 นิ้วฟุต ทั้งนี้ยังไม่มีการยิงพิสูจน์ความแม่นยำเทียบระหว่าง Smith&Wesson, Colt Anaconda, Ruger Super Redhawk ทั้งเมืองนอกและในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ถาม: “ถ้าจะซื้อปืนสั้นลูกโม่สี่สี่แม็กนั่มสักกระบอกในชีวิตจะเลือกอะไรดี?” ตอบ: ถ้าเลือกความประณีตแม่นยำ(Precision/Accuracy)ก็ต้องสมิธแอนด์เวสสัน ถ้าชอบความแข็งแรงบึกบึนทนทาน(Strong, Durability & Reliability)ก็ต้องฟันธงว่ารูเก้อร์ ส่วนอะนาคอนด้า(Anaconda)เป็นอะไรๆ ที่ต้องเป็นยี่ห้อโค้ลท์ไว้ก่อน ถาม: “ปืนสั้นลูกโม่เล่นกระสุนสี่สี่แม็กนั่มแบบไหนดี?” ตอบ: นักเลงสี่สี่แม็กนั่มตัวจริงจะเล่นกระสุน “หัวตัน-หัวหนัก” ไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น Jacketed Soft Point, Semi-Wadcutter, Flat/Leaded Nose, รวมทั้งกระสุนพิเศษซาบ้อต(Sabot) จากประสบการณ์ส่วนตัว สี่สี่แม็กนั่มหัวรู น้ำหนัก 240 เกรน แม้จะมีความเร็วสูงถึงขั้น 1,400 ฟุต/วินาที จะมีปัญหา “เหินลม” ทำให้วิถีกระสุน(Trajectory)ไม่ราบเรียบไม่แม่นยำเท่าควร ขณะที่กระสุนหัวตัน น้ำหนักหัวกระสุนมากๆ (หรือบางทีก็น้ำหนัก 240 เกรนเท่ากัน) แต่ปลอกกระสุนมีเข็มขัดรัดหรือรอยย้ำ 2 แถว แม้ความเร็วน้อยกว่าแต่ให้ความแม่นยำหนักแน่นสูงกว่ามาก เรียกว่าได้ใจทุกนัดไป ข้อเสีย คือ ยิงสะบัดกัดมือมากกว่ากระสุนรุ่นใหม่ๆ ประมาณ +15%-20% ถาม: “ปืนสี่สี่แม็กนั่มต้องระวังอะไรบ้าง? ติดศูนย์กล้องดีไหม?” ตอบ: ข้อหนึ่ง-ถ้าเป็นเหล็กสแตนเลส เช่น โมเดล 629 และ 629 คลาสสิค ควรใส่กล่องเก็บหรือไม่ก็ตัดซองหนังใส่ปืนเก็บรักษา เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน รอยขนแมว ที่เกิดขึ้นเพราะผิวเหล็กสแตนเลสเนื้ออ่อนกว่าเหล็ก ข้อสอง-ไม่ควรใช้ยาขัดโลหะชนิดที่มีสารชะล้าง(Solven)ขัดถูกตัวปืน เพราะจะทำให้ตัวอักษรที่แกะสลักด้วยเลเซอร์เคลือบสีทองไว้ลางเลือนจางหาย ข้อสาม-หมั่นตรวจขันหมุดสกรูที่ตัวปืนทั้งก่อนและหลังการยิง เนื่องจากแรงสะบัดสะท้อนรุนแรงทำให้หมุดสกรูคลายตัวและอาจหลุดกระเด็นหาย ข้อสี่-ถึงจะหาซื้อกระสุนได้มากก็ไม่ควรยิงเล่นบ่อยๆ เพราะจะทำให้ตัวปืนทรุดโทรมเร็วกว่าที่ควรอย่างน่าเสียดาย ข้อห้า-อย่านำมายิงแห้งหรือเหนี่ยวไกเล่น(โดยไม่บรรจุกระสุนในตัวปืน)บ่อยๆ กลไกปืนอาจชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะเข็มแทงชนวนอาจหักโดยไม่รู้ตัว ข้อหก-ติดศูนย์กล้องเล็งได้ในกำลังขยายภาพไม่เกิน 4 เท่า สูงกว่านั้นจะเล็งยิงได้ลำบาก มือสั่นสายตาพร่ามัวเพราะไม่กล้าลั่นกระสุน(เพราะภาพมันฟ้องว่าศูนย์ปืนไม่เข้าเป้าเนื่องจากมือผู้ยิงสั่นไปมา) แต่สุดท้ายก็ต้องถอดศูนย์กล้องเล็งออกเพราะรู้สึกเกะกะหนักตัวปืนเปล่าๆ สรุปท้ายเรื่อง... สมิธแอนด์เวสสัน สี่สี่แม็กนั่ม เป็นทรัพย์สมบัติที่คู่ควรต่อผู้มีบารมีและนักสะสมปืนมากกว่าการมีใช้เพื่อต่อสู้ป้องกันชีวิตทรัพย์สิน ไม่ใช่ปืนสั้นประจำกายอย่างแน่นอน แต่จะเหมาะที่สุดในกรณีท่องไพรสำรวจป่าที่พกไว้ข้างเอวหรือข้างสีข้างลำตัวเพื่อป้องกันสัตว์เขี้ยวยาวดุร้ายต่างๆ แม้ปัจจุบัน ตลาดปืนโลกจะมี “ปืนโหดกระสุนดุ” รุ่นใหม่ๆที่มีอานุภาพสูงกว่าสี่สี่แม็กนั่ม ไม่ว่าจะเป็น .454 Casull, .460 S&W Magnum, .500 S&W Magnum, และอื่นๆ แต่ “สี่สี่แม็กนั่มยังจะเป็นเพื่อนที่ดีของนักเล่นปืนตลอดไป” ขอบคุณครับ...
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 416 Views 0 Reviews
  • อยากเสมอภาค-เท่าเทียม
    จนเกิดความแตกต่าง...
    อยากเสมอภาค-เท่าเทียม จนเกิดความแตกต่าง...
    0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
More Results