• “Alterego เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ ‘ใกล้เคียงโทรจิต’ พิมพ์ด้วยความคิด คุยเงียบๆ ได้ และแปลภาษาแบบไร้เสียง — ก้าวใหม่ของการสื่อสารมนุษย์กับ AI”

    ถ้าคุณเคยฝันถึงการสื่อสารแบบไม่ต้องพูด ไม่ต้องพิมพ์ แค่ “คิด” แล้วคำพูดก็ปรากฏ — ตอนนี้มันไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไป เพราะสตาร์ทอัพชื่อ Alterego ได้เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ที่อ้างว่าเป็น “wearable ใกล้เคียงโทรจิตตัวแรกของโลก” ที่สามารถพิมพ์ข้อความด้วยความคิด ควบคุมอุปกรณ์แบบไร้มือ และสื่อสารกับคนอื่นแบบเงียบๆ ได้

    อุปกรณ์นี้พัฒนาโดย Arnav Kapur จาก MIT Media Lab และ Max Newlon จาก Harvard Innovation Labs โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “Silent Sense” ซึ่งไม่ใช่การอ่านความคิดโดยตรง แต่เป็นการตรวจจับสัญญาณประสาทกล้ามเนื้อที่สมองส่งไปยังระบบพูด ก่อนที่เราจะเปล่งเสียงออกมา — ทำให้สามารถแปลงความตั้งใจเป็นคำสั่งหรือข้อความได้ทันที

    ในวิดีโอสาธิต Kapur ใช้อุปกรณ์นี้พิมพ์ข้อความโดยไม่แตะคีย์บอร์ด ตั้งเตือนในมือถือ และถามคำถามเกี่ยวกับภาพที่เห็นผ่านกล้องขนาดเล็กในตัวอุปกรณ์ จากนั้นเขาสื่อสารแบบเงียบๆ กับผู้ร่วมก่อตั้งผ่าน bone-conduction audio โดยไม่มีเสียงใดๆ ออกมา

    ที่น่าทึ่งคือการแปลภาษาแบบไร้เสียง — Kapur พูดภาษาอังกฤษ แล้วผู้ร่วมสนทนาที่พูดภาษาจีนเข้าใจทันทีผ่านระบบแปลในตัว ซึ่งอาจเป็นประโยชน์มหาศาลสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการพูด เช่น ALS หรือผู้พิการทางเสียง

    แม้จะดูเหมือนหลุดมาจากนิยายไซไฟ แต่ Alterego ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้ไม่อ่านความคิดลึกๆ และไม่มีการเก็บข้อมูลสมองโดยตรง ต่างจากเทคโนโลยีฝังชิปอย่าง Neuralink หรือ EMG แบบสายรัดข้อมือของ Meta — โดยเน้นความปลอดภัยและการควบคุมจากผู้ใช้เป็นหลัก

    ความสามารถของอุปกรณ์ Alterego
    พิมพ์ข้อความด้วยความคิดโดยไม่ต้องใช้คีย์บอร์ด
    สื่อสารแบบเงียบๆ กับผู้อื่นผ่าน bone-conduction audio
    ควบคุมอุปกรณ์และแอปพลิเคชันแบบไร้มือ
    ค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแบบไร้เสียง
    ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งรอบตัวผ่านกล้องในตัว
    แปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องพูดออกเสียง
    ช่วยฟื้นฟูการพูดสำหรับผู้มีปัญหาด้านเสียงหรือระบบประสาท

    เทคโนโลยีเบื้องหลัง
    ใช้การตรวจจับสัญญาณประสาทกล้ามเนื้อจากใบหน้าและลำคอ
    ไม่ใช่การอ่านคลื่นสมองหรือ EEG
    ส่งข้อมูลผ่าน bone-conduction กลับไปยังผู้ใช้
    พัฒนาโดยทีมจาก MIT และ Harvard Innovation Labs

    การใช้งานจริงในวิดีโอสาธิต
    พิมพ์ข้อความ ตั้งเตือน และถามคำถามจากภาพ
    สื่อสารแบบเงียบกับผู้ร่วมก่อตั้ง
    แปลภาษาอังกฤษ–จีนแบบไร้เสียง
    ใช้กล้องในตัวเพื่อเข้าใจสิ่งแวดล้อม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เทคโนโลยีนี้เคยถูกนำเสนอใน TED ปี 2019
    เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องฝังชิปหรือใช้สายรัดกล้ามเนื้อ
    เหมาะกับผู้ใช้งานในพื้นที่เสียงดัง เช่น โรงงานหรือสนามบิน
    อาจเป็นจุดเปลี่ยนของการสื่อสารมนุษย์กับ AI ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/alterego-demoes-worlds-first-near-telepathic-wearable-that-enables-typing-at-the-speed-of-thought-other-abilities-device-said-to-enable-silent-communication-with-others-control-devices-hands-free-and-restore-speech-for-impaired
    🧠 “Alterego เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ ‘ใกล้เคียงโทรจิต’ พิมพ์ด้วยความคิด คุยเงียบๆ ได้ และแปลภาษาแบบไร้เสียง — ก้าวใหม่ของการสื่อสารมนุษย์กับ AI” ถ้าคุณเคยฝันถึงการสื่อสารแบบไม่ต้องพูด ไม่ต้องพิมพ์ แค่ “คิด” แล้วคำพูดก็ปรากฏ — ตอนนี้มันไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไป เพราะสตาร์ทอัพชื่อ Alterego ได้เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ที่อ้างว่าเป็น “wearable ใกล้เคียงโทรจิตตัวแรกของโลก” ที่สามารถพิมพ์ข้อความด้วยความคิด ควบคุมอุปกรณ์แบบไร้มือ และสื่อสารกับคนอื่นแบบเงียบๆ ได้ อุปกรณ์นี้พัฒนาโดย Arnav Kapur จาก MIT Media Lab และ Max Newlon จาก Harvard Innovation Labs โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “Silent Sense” ซึ่งไม่ใช่การอ่านความคิดโดยตรง แต่เป็นการตรวจจับสัญญาณประสาทกล้ามเนื้อที่สมองส่งไปยังระบบพูด ก่อนที่เราจะเปล่งเสียงออกมา — ทำให้สามารถแปลงความตั้งใจเป็นคำสั่งหรือข้อความได้ทันที ในวิดีโอสาธิต Kapur ใช้อุปกรณ์นี้พิมพ์ข้อความโดยไม่แตะคีย์บอร์ด ตั้งเตือนในมือถือ และถามคำถามเกี่ยวกับภาพที่เห็นผ่านกล้องขนาดเล็กในตัวอุปกรณ์ จากนั้นเขาสื่อสารแบบเงียบๆ กับผู้ร่วมก่อตั้งผ่าน bone-conduction audio โดยไม่มีเสียงใดๆ ออกมา ที่น่าทึ่งคือการแปลภาษาแบบไร้เสียง — Kapur พูดภาษาอังกฤษ แล้วผู้ร่วมสนทนาที่พูดภาษาจีนเข้าใจทันทีผ่านระบบแปลในตัว ซึ่งอาจเป็นประโยชน์มหาศาลสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการพูด เช่น ALS หรือผู้พิการทางเสียง แม้จะดูเหมือนหลุดมาจากนิยายไซไฟ แต่ Alterego ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้ไม่อ่านความคิดลึกๆ และไม่มีการเก็บข้อมูลสมองโดยตรง ต่างจากเทคโนโลยีฝังชิปอย่าง Neuralink หรือ EMG แบบสายรัดข้อมือของ Meta — โดยเน้นความปลอดภัยและการควบคุมจากผู้ใช้เป็นหลัก ✅ ความสามารถของอุปกรณ์ Alterego ➡️ พิมพ์ข้อความด้วยความคิดโดยไม่ต้องใช้คีย์บอร์ด ➡️ สื่อสารแบบเงียบๆ กับผู้อื่นผ่าน bone-conduction audio ➡️ ควบคุมอุปกรณ์และแอปพลิเคชันแบบไร้มือ ➡️ ค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแบบไร้เสียง ➡️ ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งรอบตัวผ่านกล้องในตัว ➡️ แปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องพูดออกเสียง ➡️ ช่วยฟื้นฟูการพูดสำหรับผู้มีปัญหาด้านเสียงหรือระบบประสาท ✅ เทคโนโลยีเบื้องหลัง ➡️ ใช้การตรวจจับสัญญาณประสาทกล้ามเนื้อจากใบหน้าและลำคอ ➡️ ไม่ใช่การอ่านคลื่นสมองหรือ EEG ➡️ ส่งข้อมูลผ่าน bone-conduction กลับไปยังผู้ใช้ ➡️ พัฒนาโดยทีมจาก MIT และ Harvard Innovation Labs ✅ การใช้งานจริงในวิดีโอสาธิต ➡️ พิมพ์ข้อความ ตั้งเตือน และถามคำถามจากภาพ ➡️ สื่อสารแบบเงียบกับผู้ร่วมก่อตั้ง ➡️ แปลภาษาอังกฤษ–จีนแบบไร้เสียง ➡️ ใช้กล้องในตัวเพื่อเข้าใจสิ่งแวดล้อม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เทคโนโลยีนี้เคยถูกนำเสนอใน TED ปี 2019 ➡️ เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องฝังชิปหรือใช้สายรัดกล้ามเนื้อ ➡️ เหมาะกับผู้ใช้งานในพื้นที่เสียงดัง เช่น โรงงานหรือสนามบิน ➡️ อาจเป็นจุดเปลี่ยนของการสื่อสารมนุษย์กับ AI ในอนาคต https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/alterego-demoes-worlds-first-near-telepathic-wearable-that-enables-typing-at-the-speed-of-thought-other-abilities-device-said-to-enable-silent-communication-with-others-control-devices-hands-free-and-restore-speech-for-impaired
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ดาวเทียมล้นวงโคจร! สหรัฐฯ ครองแชมป์ด้วย 9,203 ดวง ขณะที่โลกเพิ่มขึ้นวันละ 7 ตัน — จาก Sputnik สู่ยุค Starlink และสงครามอวกาศ”

    ย้อนกลับไปปี 1957 เมื่อ Sputnik 1 กลายเป็นดาวเทียมดวงแรกของโลกที่โคจรรอบโลกอย่างโดดเดี่ยว — วันนี้มันคงรู้สึกเหงาไม่ออก เพราะมีวัตถุมนุษย์สร้างกว่า 45,000 ชิ้นลอยอยู่ในอวกาศ และในจำนวนนี้มีดาวเทียมที่ยังทำงานอยู่ถึง 13,727 ดวงจาก 82 ประเทศทั่วโลก

    สหรัฐอเมริกาครองตำแหน่งผู้นำแบบทิ้งห่าง ด้วยจำนวนดาวเทียมถึง 9,203 ดวง มากกว่ารัสเซียที่ตามมาเป็นอันดับสองถึง 6 เท่า ส่วนจีนมี 1,121 ดวง และสหราชอาณาจักรมี 722 ดวง โดยในปี 2024 เพียงปีเดียว มีดาวเทียมใหม่ถูกส่งขึ้นไปถึง 2,695 ดวง — เทียบกับปี 2020 ที่มีเพียง 3,371 ดวงเท่านั้น1

    ดาวเทียมเหล่านี้ไม่ได้มีไว้แค่ส่งสัญญาณทีวีหรือพยากรณ์อากาศ แต่ยังใช้ในงานที่หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น การทำธุรกรรมทางการเงิน, การติดตามกระแสน้ำในมหาสมุทร, การควบคุมโครงข่ายพลังงาน, การสื่อสารทางทหาร, และแม้แต่การพาเถ้ากระดูกมนุษย์ไปโคจรรอบโลก

    ในด้านการทหาร สหรัฐฯ ก็ยังนำโด่งด้วยดาวเทียมทางทหารถึง 247 ดวง ตามด้วยจีน 157 ดวง และรัสเซีย 110 ดวง3 ดาวเทียมเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสอดแนม, แจ้งเตือนการยิงขีปนาวุธ, สื่อสารภาคสนาม, และแม้แต่การป้องกันไซเบอร์

    แม้จะมีประโยชน์มหาศาล แต่การเพิ่มขึ้นของดาวเทียมก็ทำให้เกิดปัญหา “ขยะอวกาศ” ที่กำลังทวีความรุนแรง โดยมีวัตถุที่ถูกติดตามแล้วกว่า 32,750 ชิ้น และมีฮาร์ดแวร์ใหม่ถูกส่งขึ้นไปถึง 7 ตันต่อวัน — ทำให้วงโคจรของโลกกลายเป็นพื้นที่แออัดที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ

    สถานการณ์ดาวเทียมในปัจจุบัน
    มีดาวเทียมที่ยังทำงานอยู่ 13,727 ดวง จาก 82 ประเทศและองค์กร
    สหรัฐฯ มีมากที่สุดที่ 9,203 ดวง ตามด้วยรัสเซีย 1,471 ดวง และจีน 1,121 ดวง1
    ปี 2024 มีดาวเทียมใหม่เพิ่มขึ้น 2,695 ดวง เทียบกับ 3,371 ดวงในปี 2020

    การใช้งานดาวเทียม
    ใช้ในระบบนำทาง, อินเทอร์เน็ต, การพยากรณ์อากาศ, การสื่อสาร
    ใช้ในธุรกรรมการเงิน เช่น การส่งข้อมูลบัตรเครดิตผ่านดาวเทียม
    ใช้ในงานวิจัย เช่น กล้องโทรทรรศน์อวกาศ Hubble และการติดตามมหาสมุทร
    ใช้ในพิธีกรรม เช่น การนำเถ้ากระดูกมนุษย์ไปโคจรรอบโลก

    ดาวเทียมทางทหาร
    สหรัฐฯ มีดาวเทียมทางทหาร 247 ดวง มากที่สุดในโลก3
    จีนมี 157 ดวง, รัสเซีย 110 ดวง, ฝรั่งเศส 17 ดวง, อิสราเอล 12 ดวง
    ใช้ในการสอดแนม, แจ้งเตือนภัย, GPS, และการสื่อสารภาคสนาม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ดาวเทียมของสหรัฐฯ มีทั้งเชิงพาณิชย์, วิจัย, และทหาร รวมกว่า 11,655 ดวง
    ระบบดาวเทียมเช่น Starlink ของ Elon Musk มีบทบาทสำคัญในการให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก
    ระบบ SATCOM ถูกใช้ในสงคราม เช่น Operation Desert Storm ปี 19912
    ประเทศอื่นที่มีดาวเทียมจำนวนมาก ได้แก่ รัสเซีย (7,187 ดวง), จีน (5,330 ดวง), สหราชอาณาจักร (735 ดวง), ฝรั่งเศส (604 ดวง)

    คำเตือนจากการเพิ่มขึ้นของดาวเทียม
    ขยะอวกาศมีมากกว่า 32,750 ชิ้นที่ถูกติดตามแล้ว — เสี่ยงต่อการชนกันในวงโคจร
    มีฮาร์ดแวร์ใหม่ถูกส่งขึ้นไปถึง 7 ตันต่อวัน — เพิ่มความแออัดในอวกาศ
    การควบคุมการปล่อยดาวเทียมยังไม่มีมาตรฐานสากลที่ชัดเจน
    ดาวเทียมทางทหารอาจถูกใช้ในสงครามไซเบอร์หรือการสอดแนมประชาชน
    หากไม่มีการจัดการขยะอวกาศอย่างจริงจัง อาจเกิด “Kessler Syndrome” ที่ทำให้วงโคจรใช้งานไม่ได้

    https://www.slashgear.com/1961880/how-many-satellites-are-in-space-which-country-has-the-most/
    🛰️ “ดาวเทียมล้นวงโคจร! สหรัฐฯ ครองแชมป์ด้วย 9,203 ดวง ขณะที่โลกเพิ่มขึ้นวันละ 7 ตัน — จาก Sputnik สู่ยุค Starlink และสงครามอวกาศ” ย้อนกลับไปปี 1957 เมื่อ Sputnik 1 กลายเป็นดาวเทียมดวงแรกของโลกที่โคจรรอบโลกอย่างโดดเดี่ยว — วันนี้มันคงรู้สึกเหงาไม่ออก เพราะมีวัตถุมนุษย์สร้างกว่า 45,000 ชิ้นลอยอยู่ในอวกาศ และในจำนวนนี้มีดาวเทียมที่ยังทำงานอยู่ถึง 13,727 ดวงจาก 82 ประเทศทั่วโลก สหรัฐอเมริกาครองตำแหน่งผู้นำแบบทิ้งห่าง ด้วยจำนวนดาวเทียมถึง 9,203 ดวง มากกว่ารัสเซียที่ตามมาเป็นอันดับสองถึง 6 เท่า ส่วนจีนมี 1,121 ดวง และสหราชอาณาจักรมี 722 ดวง โดยในปี 2024 เพียงปีเดียว มีดาวเทียมใหม่ถูกส่งขึ้นไปถึง 2,695 ดวง — เทียบกับปี 2020 ที่มีเพียง 3,371 ดวงเท่านั้น1 ดาวเทียมเหล่านี้ไม่ได้มีไว้แค่ส่งสัญญาณทีวีหรือพยากรณ์อากาศ แต่ยังใช้ในงานที่หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น การทำธุรกรรมทางการเงิน, การติดตามกระแสน้ำในมหาสมุทร, การควบคุมโครงข่ายพลังงาน, การสื่อสารทางทหาร, และแม้แต่การพาเถ้ากระดูกมนุษย์ไปโคจรรอบโลก ในด้านการทหาร สหรัฐฯ ก็ยังนำโด่งด้วยดาวเทียมทางทหารถึง 247 ดวง ตามด้วยจีน 157 ดวง และรัสเซีย 110 ดวง3 ดาวเทียมเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสอดแนม, แจ้งเตือนการยิงขีปนาวุธ, สื่อสารภาคสนาม, และแม้แต่การป้องกันไซเบอร์ แม้จะมีประโยชน์มหาศาล แต่การเพิ่มขึ้นของดาวเทียมก็ทำให้เกิดปัญหา “ขยะอวกาศ” ที่กำลังทวีความรุนแรง โดยมีวัตถุที่ถูกติดตามแล้วกว่า 32,750 ชิ้น และมีฮาร์ดแวร์ใหม่ถูกส่งขึ้นไปถึง 7 ตันต่อวัน — ทำให้วงโคจรของโลกกลายเป็นพื้นที่แออัดที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ✅ สถานการณ์ดาวเทียมในปัจจุบัน ➡️ มีดาวเทียมที่ยังทำงานอยู่ 13,727 ดวง จาก 82 ประเทศและองค์กร ➡️ สหรัฐฯ มีมากที่สุดที่ 9,203 ดวง ตามด้วยรัสเซีย 1,471 ดวง และจีน 1,121 ดวง1 ➡️ ปี 2024 มีดาวเทียมใหม่เพิ่มขึ้น 2,695 ดวง เทียบกับ 3,371 ดวงในปี 2020 ✅ การใช้งานดาวเทียม ➡️ ใช้ในระบบนำทาง, อินเทอร์เน็ต, การพยากรณ์อากาศ, การสื่อสาร ➡️ ใช้ในธุรกรรมการเงิน เช่น การส่งข้อมูลบัตรเครดิตผ่านดาวเทียม ➡️ ใช้ในงานวิจัย เช่น กล้องโทรทรรศน์อวกาศ Hubble และการติดตามมหาสมุทร ➡️ ใช้ในพิธีกรรม เช่น การนำเถ้ากระดูกมนุษย์ไปโคจรรอบโลก ✅ ดาวเทียมทางทหาร ➡️ สหรัฐฯ มีดาวเทียมทางทหาร 247 ดวง มากที่สุดในโลก3 ➡️ จีนมี 157 ดวง, รัสเซีย 110 ดวง, ฝรั่งเศส 17 ดวง, อิสราเอล 12 ดวง ➡️ ใช้ในการสอดแนม, แจ้งเตือนภัย, GPS, และการสื่อสารภาคสนาม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ดาวเทียมของสหรัฐฯ มีทั้งเชิงพาณิชย์, วิจัย, และทหาร รวมกว่า 11,655 ดวง ➡️ ระบบดาวเทียมเช่น Starlink ของ Elon Musk มีบทบาทสำคัญในการให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ➡️ ระบบ SATCOM ถูกใช้ในสงคราม เช่น Operation Desert Storm ปี 19912 ➡️ ประเทศอื่นที่มีดาวเทียมจำนวนมาก ได้แก่ รัสเซีย (7,187 ดวง), จีน (5,330 ดวง), สหราชอาณาจักร (735 ดวง), ฝรั่งเศส (604 ดวง) ‼️ คำเตือนจากการเพิ่มขึ้นของดาวเทียม ⛔ ขยะอวกาศมีมากกว่า 32,750 ชิ้นที่ถูกติดตามแล้ว — เสี่ยงต่อการชนกันในวงโคจร ⛔ มีฮาร์ดแวร์ใหม่ถูกส่งขึ้นไปถึง 7 ตันต่อวัน — เพิ่มความแออัดในอวกาศ ⛔ การควบคุมการปล่อยดาวเทียมยังไม่มีมาตรฐานสากลที่ชัดเจน ⛔ ดาวเทียมทางทหารอาจถูกใช้ในสงครามไซเบอร์หรือการสอดแนมประชาชน ⛔ หากไม่มีการจัดการขยะอวกาศอย่างจริงจัง อาจเกิด “Kessler Syndrome” ที่ทำให้วงโคจรใช้งานไม่ได้ https://www.slashgear.com/1961880/how-many-satellites-are-in-space-which-country-has-the-most/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    How Many Satellites Are In Space And Which Country Has The Most? - SlashGear
    Around 13,700 satellites orbit Earth, and with over 9,000, the U.S. owns the most. It's way ahead of any other nation, including Russia, China, and the U.K.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Mistral AI ระดมทุน 1.7 พันล้านยูโร! ASML เข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นหลัก พร้อมดันยุโรปสู่เวที AI ระดับโลก”

    ถ้าคุณเคยคิดว่าโลก AI ถูกครอบงำโดยบริษัทจากสหรัฐฯ อย่าง OpenAI หรือ Google — ตอนนี้ยุโรปเริ่มตอบโต้แล้วอย่างจริงจัง เมื่อ Mistral AI สตาร์ทอัพจากฝรั่งเศสประกาศระดมทุนรอบ Series C มูลค่า 1.7 พันล้านยูโร พร้อมการเข้าร่วมลงทุนจาก ASML บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลก

    ASML ลงทุนถึง 1.3 พันล้านยูโรในรอบนี้ และได้ถือหุ้น 11% ใน Mistral AI พร้อมที่นั่งในคณะกรรมการกลยุทธ์ของบริษัท ความร่วมมือนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นการจับมือกันระหว่างผู้นำด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อสร้างโซลูชัน AI ที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยตรง

    Mistral AI มีเป้าหมายในการพัฒนาโมเดล AI แบบกระจายศูนย์ (decentralized frontier AI) ที่สามารถแก้ปัญหาทางวิศวกรรมและอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตชิป, การวิเคราะห์ข้อมูลในโรงงาน, และการออกแบบระบบอัตโนมัติขั้นสูง

    การลงทุนครั้งนี้ทำให้ Mistral มีมูลค่าบริษัทหลังการระดมทุนอยู่ที่ 11.7 พันล้านยูโร กลายเป็นสตาร์ทอัพ AI ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป และเป็นคู่แข่งโดยตรงกับบริษัทจากสหรัฐฯ และจีนในสนามของ Generative AI

    นอกจาก ASML ยังมีนักลงทุนรายใหญ่อื่นๆ เข้าร่วม เช่น NVIDIA, Andreessen Horowitz, DST Global, Bpifrance และ Lightspeed ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ Mistral ที่จะเป็นผู้นำด้าน AI แบบเปิด (open-source) และมีความเป็นอิสระจาก Silicon Valley

    การระดมทุนรอบ Series C ของ Mistral AI
    ระดมทุนได้ 1.7 พันล้านยูโร
    มูลค่าบริษัทหลังการระดมทุนอยู่ที่ 11.7 พันล้านยูโร
    กลายเป็นสตาร์ทอัพ AI ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป

    การลงทุนจาก ASML
    ASML ลงทุน 1.3 พันล้านยูโร และถือหุ้น 11%
    ได้ที่นั่งในคณะกรรมการกลยุทธ์ของ Mistral AI
    ร่วมมือเพื่อพัฒนาโซลูชัน AI สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    ตั้งเป้าใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการออกแบบชิป

    เป้าหมายของ Mistral AI
    พัฒนาโมเดล AI แบบกระจายศูนย์ (decentralized frontier AI)
    เน้นการแก้ปัญหาทางวิศวกรรมและอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน
    สร้างโครงสร้างพื้นฐาน compute ที่มีประสิทธิภาพสูง
    ส่งมอบโซลูชัน AI แบบปรับแต่งเฉพาะสำหรับองค์กร

    นักลงทุนรายอื่นที่เข้าร่วม
    NVIDIA, DST Global, Andreessen Horowitz, Bpifrance, General Catalyst, Index Ventures, Lightspeed
    สะท้อนความเชื่อมั่นในแนวทาง open-source และความเป็นอิสระของ Mistral
    สนับสนุนการขยายตัวของ AI ยุโรปให้แข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Mistral เคยระดมทุน Seed มูลค่า $112 ล้านในปี 2023 — ใหญ่ที่สุดในยุโรป
    เปิดตัว Le Chat ในปี 2024 และมีผู้ใช้งานทะลุ 1 ล้านใน 2 สัปดาห์
    ล่าสุดเพิ่มฟีเจอร์ Memories และโหมดวิจัยลึกใน Le Chat
    เป้าหมายคือสร้าง AI ที่เข้าใจหลายภาษาและทำงานได้หลากหลายบริบท

    https://mistral.ai/news/mistral-ai-raises-1-7-b-to-accelerate-technological-progress-with-ai
    🚀 “Mistral AI ระดมทุน 1.7 พันล้านยูโร! ASML เข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นหลัก พร้อมดันยุโรปสู่เวที AI ระดับโลก” ถ้าคุณเคยคิดว่าโลก AI ถูกครอบงำโดยบริษัทจากสหรัฐฯ อย่าง OpenAI หรือ Google — ตอนนี้ยุโรปเริ่มตอบโต้แล้วอย่างจริงจัง เมื่อ Mistral AI สตาร์ทอัพจากฝรั่งเศสประกาศระดมทุนรอบ Series C มูลค่า 1.7 พันล้านยูโร พร้อมการเข้าร่วมลงทุนจาก ASML บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลก ASML ลงทุนถึง 1.3 พันล้านยูโรในรอบนี้ และได้ถือหุ้น 11% ใน Mistral AI พร้อมที่นั่งในคณะกรรมการกลยุทธ์ของบริษัท ความร่วมมือนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นการจับมือกันระหว่างผู้นำด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อสร้างโซลูชัน AI ที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โดยตรง Mistral AI มีเป้าหมายในการพัฒนาโมเดล AI แบบกระจายศูนย์ (decentralized frontier AI) ที่สามารถแก้ปัญหาทางวิศวกรรมและอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตชิป, การวิเคราะห์ข้อมูลในโรงงาน, และการออกแบบระบบอัตโนมัติขั้นสูง การลงทุนครั้งนี้ทำให้ Mistral มีมูลค่าบริษัทหลังการระดมทุนอยู่ที่ 11.7 พันล้านยูโร กลายเป็นสตาร์ทอัพ AI ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป และเป็นคู่แข่งโดยตรงกับบริษัทจากสหรัฐฯ และจีนในสนามของ Generative AI นอกจาก ASML ยังมีนักลงทุนรายใหญ่อื่นๆ เข้าร่วม เช่น NVIDIA, Andreessen Horowitz, DST Global, Bpifrance และ Lightspeed ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ Mistral ที่จะเป็นผู้นำด้าน AI แบบเปิด (open-source) และมีความเป็นอิสระจาก Silicon Valley ✅ การระดมทุนรอบ Series C ของ Mistral AI ➡️ ระดมทุนได้ 1.7 พันล้านยูโร ➡️ มูลค่าบริษัทหลังการระดมทุนอยู่ที่ 11.7 พันล้านยูโร ➡️ กลายเป็นสตาร์ทอัพ AI ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป ✅ การลงทุนจาก ASML ➡️ ASML ลงทุน 1.3 พันล้านยูโร และถือหุ้น 11% ➡️ ได้ที่นั่งในคณะกรรมการกลยุทธ์ของ Mistral AI ➡️ ร่วมมือเพื่อพัฒนาโซลูชัน AI สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ➡️ ตั้งเป้าใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการออกแบบชิป ✅ เป้าหมายของ Mistral AI ➡️ พัฒนาโมเดล AI แบบกระจายศูนย์ (decentralized frontier AI) ➡️ เน้นการแก้ปัญหาทางวิศวกรรมและอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน ➡️ สร้างโครงสร้างพื้นฐาน compute ที่มีประสิทธิภาพสูง ➡️ ส่งมอบโซลูชัน AI แบบปรับแต่งเฉพาะสำหรับองค์กร ✅ นักลงทุนรายอื่นที่เข้าร่วม ➡️ NVIDIA, DST Global, Andreessen Horowitz, Bpifrance, General Catalyst, Index Ventures, Lightspeed ➡️ สะท้อนความเชื่อมั่นในแนวทาง open-source และความเป็นอิสระของ Mistral ➡️ สนับสนุนการขยายตัวของ AI ยุโรปให้แข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Mistral เคยระดมทุน Seed มูลค่า $112 ล้านในปี 2023 — ใหญ่ที่สุดในยุโรป ➡️ เปิดตัว Le Chat ในปี 2024 และมีผู้ใช้งานทะลุ 1 ล้านใน 2 สัปดาห์ ➡️ ล่าสุดเพิ่มฟีเจอร์ Memories และโหมดวิจัยลึกใน Le Chat ➡️ เป้าหมายคือสร้าง AI ที่เข้าใจหลายภาษาและทำงานได้หลากหลายบริบท https://mistral.ai/news/mistral-ai-raises-1-7-b-to-accelerate-technological-progress-with-ai
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Liquid Glass บนเว็บ: เมื่อแสงหักเหกลายเป็นศิลปะ UI ด้วย CSS และ SVG — สวยระดับ Apple แต่ยังใช้ได้แค่ Chrome!”

    ถ้าคุณเคยเห็นเอฟเฟกต์ Liquid Glass ที่ Apple เปิดตัวในงาน WWDC 2025 แล้วรู้สึกว่า “อยากได้แบบนี้บนเว็บบ้าง” — บทความนี้คือคำตอบที่คุณรอคอย เพราะมันคือการทดลองสร้างเอฟเฟกต์หักเหแสงแบบกระจกโค้งบนเบราว์เซอร์ โดยใช้แค่ CSS, SVG และคณิตศาสตร์ฟิสิกส์พื้นฐาน

    แนวคิดหลักคือการจำลองการหักเหของแสง (refraction) ตามกฎของ Snell–Descartes ซึ่งอธิบายว่ามุมของแสงจะเปลี่ยนไปเมื่อผ่านจากวัสดุหนึ่งไปสู่อีกวัสดุหนึ่ง เช่น จากอากาศเข้าสู่กระจก โดยใช้ค่าดัชนีหักเห (refractive index) เพื่อคำนวณทิศทางใหม่ของแสง

    บทความนี้เลือกใช้รูปทรงวงกลมเป็นพื้นฐาน เพราะง่ายต่อการคำนวณและสามารถขยายเป็นรูปทรงอื่นได้ในอนาคต โดยใช้ฟังก์ชันความสูงของพื้นผิวกระจกเพื่อคำนวณมุมตกกระทบและมุมหักเห จากนั้นสร้าง “สนามเวกเตอร์การเลื่อนตำแหน่ง” (displacement vector field) เพื่อบอกว่าแสงควรเบนไปทางไหน

    เมื่อได้เวกเตอร์แล้ว ก็แปลงเป็นภาพ SVG displacement map โดยใช้สีแดงและเขียวแทนการเลื่อนในแกน X และ Y ตามลำดับ แล้วนำไปใช้ในฟิลเตอร์ SVG เพื่อสร้างเอฟเฟกต์หักเหแสงบนองค์ประกอบ UI จริง เช่น ปุ่ม, สวิตช์, กล่องค้นหา และมิวสิกเพลเยอร์

    สุดท้ายยังเพิ่ม “specular highlight” หรือแสงสะท้อนขอบกระจก เพื่อให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น โดยใช้การเบลนด์ภาพ highlight เข้ากับภาพที่ผ่านการหักเหแล้ว — ทั้งหมดนี้ทำงานได้เฉพาะใน Chrome เท่านั้น เพราะยังไม่มีเบราว์เซอร์อื่นรองรับ SVG filter เป็น backdrop-filter

    แนวคิดหลักของ Liquid Glass บนเว็บ
    จำลองการหักเหแสงตามกฎ Snell–Descartes
    ใช้ค่าดัชนีหักเหของวัสดุ เช่น อากาศ (n=1) และกระจก (n=1.5)
    ใช้ฟังก์ชันความสูงของพื้นผิวเพื่อคำนวณมุมตกกระทบ
    สร้าง displacement vector field เพื่อบอกทิศทางการเบนของแสง

    การสร้าง SVG displacement map
    แปลงเวกเตอร์เป็นสีในภาพ SVG โดยใช้ Red = X, Green = Y
    ใช้ <feDisplacementMap /> เพื่อเลื่อนตำแหน่งพิกเซลตามเวกเตอร์
    scale ของฟิลเตอร์ใช้ค่าการเบนสูงสุดที่คำนวณไว้
    สามารถ animate scale เพื่อควบคุมความแรงของเอฟเฟกต์

    การใช้งานใน UI จริง
    ใช้กับองค์ประกอบ UI เช่น ปุ่ม, สวิตช์, กล่องค้นหา, มิวสิกเพลเยอร์
    เพิ่ม specular highlight เพื่อให้ดูมีแสงสะท้อนขอบกระจก
    ใช้ <feBlend /> เพื่อรวมภาพ highlight กับภาพหักเห
    ปรับค่าความเงา, ความอิ่มสี, และระดับการหักเหได้ตามต้องการ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Apple เปิดตัว Liquid Glass ใน WWDC 2025 เป็นส่วนหนึ่งของ iOS 26 และ visionOS
    เอฟเฟกต์นี้มีต้นแบบจาก Dynamic Island และ macOS Aqua
    นักพัฒนาเริ่มสร้างเวอร์ชัน CSS-only เพื่อใช้บนเว็บโดยไม่พึ่ง JavaScript
    GitHub มีโปรเจกต์ทดลองหลายตัว เช่น liquid-glass-effect-macos

    https://kube.io/blog/liquid-glass-css-svg/
    🧊 “Liquid Glass บนเว็บ: เมื่อแสงหักเหกลายเป็นศิลปะ UI ด้วย CSS และ SVG — สวยระดับ Apple แต่ยังใช้ได้แค่ Chrome!” ถ้าคุณเคยเห็นเอฟเฟกต์ Liquid Glass ที่ Apple เปิดตัวในงาน WWDC 2025 แล้วรู้สึกว่า “อยากได้แบบนี้บนเว็บบ้าง” — บทความนี้คือคำตอบที่คุณรอคอย เพราะมันคือการทดลองสร้างเอฟเฟกต์หักเหแสงแบบกระจกโค้งบนเบราว์เซอร์ โดยใช้แค่ CSS, SVG และคณิตศาสตร์ฟิสิกส์พื้นฐาน แนวคิดหลักคือการจำลองการหักเหของแสง (refraction) ตามกฎของ Snell–Descartes ซึ่งอธิบายว่ามุมของแสงจะเปลี่ยนไปเมื่อผ่านจากวัสดุหนึ่งไปสู่อีกวัสดุหนึ่ง เช่น จากอากาศเข้าสู่กระจก โดยใช้ค่าดัชนีหักเห (refractive index) เพื่อคำนวณทิศทางใหม่ของแสง บทความนี้เลือกใช้รูปทรงวงกลมเป็นพื้นฐาน เพราะง่ายต่อการคำนวณและสามารถขยายเป็นรูปทรงอื่นได้ในอนาคต โดยใช้ฟังก์ชันความสูงของพื้นผิวกระจกเพื่อคำนวณมุมตกกระทบและมุมหักเห จากนั้นสร้าง “สนามเวกเตอร์การเลื่อนตำแหน่ง” (displacement vector field) เพื่อบอกว่าแสงควรเบนไปทางไหน เมื่อได้เวกเตอร์แล้ว ก็แปลงเป็นภาพ SVG displacement map โดยใช้สีแดงและเขียวแทนการเลื่อนในแกน X และ Y ตามลำดับ แล้วนำไปใช้ในฟิลเตอร์ SVG เพื่อสร้างเอฟเฟกต์หักเหแสงบนองค์ประกอบ UI จริง เช่น ปุ่ม, สวิตช์, กล่องค้นหา และมิวสิกเพลเยอร์ สุดท้ายยังเพิ่ม “specular highlight” หรือแสงสะท้อนขอบกระจก เพื่อให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น โดยใช้การเบลนด์ภาพ highlight เข้ากับภาพที่ผ่านการหักเหแล้ว — ทั้งหมดนี้ทำงานได้เฉพาะใน Chrome เท่านั้น เพราะยังไม่มีเบราว์เซอร์อื่นรองรับ SVG filter เป็น backdrop-filter ✅ แนวคิดหลักของ Liquid Glass บนเว็บ ➡️ จำลองการหักเหแสงตามกฎ Snell–Descartes ➡️ ใช้ค่าดัชนีหักเหของวัสดุ เช่น อากาศ (n=1) และกระจก (n=1.5) ➡️ ใช้ฟังก์ชันความสูงของพื้นผิวเพื่อคำนวณมุมตกกระทบ ➡️ สร้าง displacement vector field เพื่อบอกทิศทางการเบนของแสง ✅ การสร้าง SVG displacement map ➡️ แปลงเวกเตอร์เป็นสีในภาพ SVG โดยใช้ Red = X, Green = Y ➡️ ใช้ <feDisplacementMap /> เพื่อเลื่อนตำแหน่งพิกเซลตามเวกเตอร์ ➡️ scale ของฟิลเตอร์ใช้ค่าการเบนสูงสุดที่คำนวณไว้ ➡️ สามารถ animate scale เพื่อควบคุมความแรงของเอฟเฟกต์ ✅ การใช้งานใน UI จริง ➡️ ใช้กับองค์ประกอบ UI เช่น ปุ่ม, สวิตช์, กล่องค้นหา, มิวสิกเพลเยอร์ ➡️ เพิ่ม specular highlight เพื่อให้ดูมีแสงสะท้อนขอบกระจก ➡️ ใช้ <feBlend /> เพื่อรวมภาพ highlight กับภาพหักเห ➡️ ปรับค่าความเงา, ความอิ่มสี, และระดับการหักเหได้ตามต้องการ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Apple เปิดตัว Liquid Glass ใน WWDC 2025 เป็นส่วนหนึ่งของ iOS 26 และ visionOS ➡️ เอฟเฟกต์นี้มีต้นแบบจาก Dynamic Island และ macOS Aqua ➡️ นักพัฒนาเริ่มสร้างเวอร์ชัน CSS-only เพื่อใช้บนเว็บโดยไม่พึ่ง JavaScript ➡️ GitHub มีโปรเจกต์ทดลองหลายตัว เช่น liquid-glass-effect-macos https://kube.io/blog/liquid-glass-css-svg/
    KUBE.IO
    Liquid Glass in the Browser: Refraction with CSS and SVG — kube.io
    Explore how to recreate Apple's stunning Liquid Glass effect using CSS, SVG Displacement Maps, and refraction calculations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 12
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 12
    ประมาณปี พ.ศ.1960 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของรัฐบาลEisenhower นาย Kenneth ขออนุญาตกระทรวงต่างประเทศอเม ริกา เดินทางมาสำรวจเมืองไทย และแถบอินโดจีนอีกรอบ (!!!) ตอนนั้น นาย Alexis Johnson เป็นฑูต และ นาย Leonard Unger เป็นผู้ช่วยฑูต ทั้ง 2 คนเป็นคนฉลาดรู้จักเมืองไทยอย่างดี เข้ ากับทหารไทยได้แบบคอหอยกับลูกกระเดือก โดยเฉพาะนาย Unger เมื่อมาถึงปรากฏว่าจอมพลสฤษดิ์ส่งนายทหารคนสนิทมารับนาย Kenneth ถึงสนามบิน จอมพลสฤษดิ์ถามเขาว่า มาทำไม นาย Kenneth บอกจะมาดูสถานการณ์ในลาวสักหน่อย หลังจากนั้นจะไปกัมพูชา ไซ่ง่อนและพม่า นาย Kenneth บอกว่า จริงๆจะมาตรวจการบ้านด้วยว่าเงินช่วยเหลือทางทหาร Military Assistance Program (MAP) ที่อเมริกาให้แต่ละประเทศ ได้ผลมากน้อยแค่ไหน จอมพลสฤษดิ์บอกว่ากลับมาแล้ว มาเล่าให้ฟังกันด้วย ปรากฎว่าส่วนใหญ่ได้ผล ยกเว้นแต่ลาว ซึ่งอเมริกาให้เงินช่วยเหลือมากกว่าไทยเสียอีก แต่อเมริกาทำท่าจะเสียลาวให้แก่คอมมิวนิสต์ (และในที่สุดก็เสียจริงๆ ! ) โดยอาจจะมีการปฏิวัติโดยลาวแดงเร็วๆนี้ ขากลับ นาย Kenneth ก็รายงานเรื่องลาวอาจมีการปฏิวัติให้จอมพลสฤษดิ์ทราบ แล้วก็เดินทางต่อลงมาที่สิงค์โปร์
    ที่สิงคโปร์ เขาได้พบกับเศรษฐีสิงคโปร์คนหนึ่งชื่อ Ko Geng Hsui ซึ่งเป็นกระเป๋าใหญ่ให้แก่นาย Lee Kwan Yew และภายหลังได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม นาย Ko ต้องการให้นาย Kenneth ช่วยตั้งสถาบันเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ให้ ภายหลังนาย Kenneth ได้ลางานจากรัฐบาลอเมริกัน 1 ปี เพื่อมาจัดตั้งสถาบันนี้ให้สิงคโปร์ โดยเอาชาวยิวชื่อ Harry Benda จากมหาวิทยาลัย Yale มาช่วย สิงคโปร์จึงเป็นประเทศแรกในแถบนี้ ที่มีสถาบันการศึกษาลงลึกอย่างจริงจังเกี่ยวกับเอเซียอาคเณย์ ตกลงสิงคโปร์ไม่ได้ลอกเลียนแค่งานสงกรานต์ไปจากบ้านเรา แต่ลอกหลายอย่างรวมทั้งวิชาความรู้เกี่ยวกับภูมิภาคนี้ สิงคโปร์ประเทศที่ไม่มีรากไม่มีเหง้า ไม่มีวัฒนธรรม ประเพณีของตนเอง แต่มีคนไทยหลายคนปลาบปลื้มกับความเจริญของสิงคโปร์ จนถึงขนาดอยากให้เมืองไทยเป็นเหมือนสิงคโปร์ เศร้าครับ!
    เมื่อนาย Kenneth กลับมาถึงวอซิงตัน การเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังเข้มข้น แล้วนาย Kennedy ก็ชนะการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันลาวก็อาการทรุดตามที่นาย Kenneth คาด รัฐบาล Kennedy เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ ยังจับต้นไม่ชนปลาย นาย Mc Geroge Bundy จอมแสบที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดี Kennedy ถึงจะแสนรู้อย่างไร มาใหม่ๆก็มึนรับประทาน แนะนำสั่งการอะไรไม่ถูก ได้แต่เรียกให้นาย Kenneth ให้มาสรุปสถานการณ์ในลาวให้รัฐบาลฟังก่อนตัดสินใจ ทุกอย่างอลเวงไปหมด และนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ ประธานธิบดี Kennedy ฉุนขาด ประกาศว่าหน่วยงาน National Security Council ทำงานไม่ได้ผล (คงไม่ให้ราคานาย Kenneth สักเท่าไหร่) ถ้าเขายุบหน่วยงานนี้ได้เขาจะยุบแล้ว เพียงแต่ต้องไปขออนุมัติจากสภาสูง ต้องออกกฏหมาย ฯลฯ ดังนั้นเขาจึงสั่ง “แขวน” พนักงานทุกคนในหน่วยงานรวมทั้งนาย Kenneth ด้วย และได้ยกเครื่องการทำงานสภาความมั่นคงเสียใหม่
    หลังจากโดนแขวนอยู่หลายเดือน นาย Kenneth ก็เดินแกว่งไปตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาที่ลง เพราะแม้จะมีเงินเดือนกิน แต่ไม่มีเก้าอี้นั่งชูคอ แบบรัฐบาลก่อนๆ มันก็ทำให้เขาเสียรังวัดไปพอสมควร จะโม้อะไร โอ้อวดอะไร อย่างเมื่อก่อนก็ไม่ถนัดปาก ก็คนโดนแขวนอยู่มันจะให้โม้อะไร ไหว จนวันหนึ่ง นาย Walt Rostow ซึ่งเป็นผู้ช่วยของนาย McGeorge Bundy และรู้จักกับนาย Kenneth ตั้งแต่สมัยทำงานอยู่ OSS เป็นลูกน้องนาย Donovan มาด้วยกัน ก็ติดต่อนาย Kenneth บอกว่ามีงานให้ทำแล้ว ประธานาธิบดี Kennedy เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของอเมริกาไม่ว่าทหาร หรือพลเรือน เมื่อจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่เมืองใด ควรรู้เรื่องเมืองนั้นอย่างดี ไม่ใช่ไปแบบยืนหน้าเซ่อ ร้องเพลงรำวงวันคริสตมาสให้ชาวบ้านฟัง (สงสัยคุณนายเคนนี่ฑูตอเมริกาคนปัจจุบัน คงไม่เคยได้รับการอบรมอะไรเลยก่อนมาประจำเมืองไทย คุณนายถึงได้ทำตัวทุเรศปานนั้น) จึงมอบหมายให้นาย Kenneth เป็นผู้จัดการหลักสูตรอบรม เกี่ยวกับการต่อต้านเหตุการณ์ไม่สงบ (Counter Insurgency) ชื่อเต็มก็คือการต่อต้านความไม่สงบ อันเกิดจากภัยคอมมิวนิสต์ในโลกที่ 3 นั่นแหละ เป็นหลักสูตรที่จัดรวมให้สมุนนักล่าไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแบบใด นาย Kenneth บอกไม่มีปัญหาขอให้จัดงบแบบไม่อั้นมาแล้วกัน นักล่ากำลังฟิต เพราะฉะนั้น เท่าไรเท่ากัน จัดไปเลยย
    นาย Kenneth สารภาพว่า แรกๆ เขาก็ยังงงว่าจะทำได้อย่างไร เขาไม่ใช่ทหาร ไม่รู้เรื่องการรบ แต่เขารู้จักประเทศต่างๆ ที่คอมมิวนิสต์กำลังคุกคาม เขาจึงนำประสพการณ์ ข้อมูลที่เขาได้จากการที่เขาเคยอยู่ในเมืองไทยและการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ และเจอผู้คนในประเทศเหล่านั้น ไม่ว่าจะระดับรัฐบาล ผู้นำประเทศ หรือชาวบ้านทั่วไป บวกกับข้อมูลจากหนังสืออีกเกือบ 2,000 เล่ม ที่เขาสะสมไว้ เอามาผสมปนเปแบบตอแหล ทำเป็นหลักสูตรสำหรับการอบรมประมาณ 2 เดือน เป็นการติวเข้มสมุนนักล่า
    ปรากฎว่าการตอแหลได้ผลดีเกินคาด เจ้านายสั่งให้เพิ่มบริเวณพื้นที่การอบรม จากครอบคลุมเฉพาะแถบเอเซีย เพิ่มลาตินอเมริกา อาฟริกา และตะวันออกกลางเข้าไปด้วย นี่มันกำลังทำสนามนักล่าขนาดใหญ่ครอบคลุมโลกนี่หว่า นักล่าหน้าใหม่มาแรงจริงๆ แต่นาย Kenneth มีภูมิมีพื้นแค่แถบอินโดจีน แต่คนพันธ์นาย Kenneth ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เสียเหลี่ยมมิชชันนารีจากเมืองตรังหมด โม้เอาไว้เยอะ เขาบอกไม่มีปัญหา เขาไปกว้านเอาอาจารย์ตามมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญตามที่เจ้านายต้องการ มาช่วยกันสร้างหลักสูตรปรับพื้น สนามนักล่าจนสำเร็จ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกไม่ถึง 15 ปี อเมริกานักล่าหน้าใหม่ ก็พร้อมที่ลงสนามล่า ที่ได้ส่งสมุนไปปรับพื้นทำสนาม เตรียมไว้ตามแผน โดยการอนุเคราะห์ของผู้ถูกล่าเองเสียหลายส่วน! น่าเศร้าใจจนต้องหยุดพักเขียนไปหลายวัน

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 12 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 12 ประมาณปี พ.ศ.1960 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของรัฐบาลEisenhower นาย Kenneth ขออนุญาตกระทรวงต่างประเทศอเม ริกา เดินทางมาสำรวจเมืองไทย และแถบอินโดจีนอีกรอบ (!!!) ตอนนั้น นาย Alexis Johnson เป็นฑูต และ นาย Leonard Unger เป็นผู้ช่วยฑูต ทั้ง 2 คนเป็นคนฉลาดรู้จักเมืองไทยอย่างดี เข้ ากับทหารไทยได้แบบคอหอยกับลูกกระเดือก โดยเฉพาะนาย Unger เมื่อมาถึงปรากฏว่าจอมพลสฤษดิ์ส่งนายทหารคนสนิทมารับนาย Kenneth ถึงสนามบิน จอมพลสฤษดิ์ถามเขาว่า มาทำไม นาย Kenneth บอกจะมาดูสถานการณ์ในลาวสักหน่อย หลังจากนั้นจะไปกัมพูชา ไซ่ง่อนและพม่า นาย Kenneth บอกว่า จริงๆจะมาตรวจการบ้านด้วยว่าเงินช่วยเหลือทางทหาร Military Assistance Program (MAP) ที่อเมริกาให้แต่ละประเทศ ได้ผลมากน้อยแค่ไหน จอมพลสฤษดิ์บอกว่ากลับมาแล้ว มาเล่าให้ฟังกันด้วย ปรากฎว่าส่วนใหญ่ได้ผล ยกเว้นแต่ลาว ซึ่งอเมริกาให้เงินช่วยเหลือมากกว่าไทยเสียอีก แต่อเมริกาทำท่าจะเสียลาวให้แก่คอมมิวนิสต์ (และในที่สุดก็เสียจริงๆ ! ) โดยอาจจะมีการปฏิวัติโดยลาวแดงเร็วๆนี้ ขากลับ นาย Kenneth ก็รายงานเรื่องลาวอาจมีการปฏิวัติให้จอมพลสฤษดิ์ทราบ แล้วก็เดินทางต่อลงมาที่สิงค์โปร์ ที่สิงคโปร์ เขาได้พบกับเศรษฐีสิงคโปร์คนหนึ่งชื่อ Ko Geng Hsui ซึ่งเป็นกระเป๋าใหญ่ให้แก่นาย Lee Kwan Yew และภายหลังได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม นาย Ko ต้องการให้นาย Kenneth ช่วยตั้งสถาบันเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ให้ ภายหลังนาย Kenneth ได้ลางานจากรัฐบาลอเมริกัน 1 ปี เพื่อมาจัดตั้งสถาบันนี้ให้สิงคโปร์ โดยเอาชาวยิวชื่อ Harry Benda จากมหาวิทยาลัย Yale มาช่วย สิงคโปร์จึงเป็นประเทศแรกในแถบนี้ ที่มีสถาบันการศึกษาลงลึกอย่างจริงจังเกี่ยวกับเอเซียอาคเณย์ ตกลงสิงคโปร์ไม่ได้ลอกเลียนแค่งานสงกรานต์ไปจากบ้านเรา แต่ลอกหลายอย่างรวมทั้งวิชาความรู้เกี่ยวกับภูมิภาคนี้ สิงคโปร์ประเทศที่ไม่มีรากไม่มีเหง้า ไม่มีวัฒนธรรม ประเพณีของตนเอง แต่มีคนไทยหลายคนปลาบปลื้มกับความเจริญของสิงคโปร์ จนถึงขนาดอยากให้เมืองไทยเป็นเหมือนสิงคโปร์ เศร้าครับ! เมื่อนาย Kenneth กลับมาถึงวอซิงตัน การเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังเข้มข้น แล้วนาย Kennedy ก็ชนะการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันลาวก็อาการทรุดตามที่นาย Kenneth คาด รัฐบาล Kennedy เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ ยังจับต้นไม่ชนปลาย นาย Mc Geroge Bundy จอมแสบที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดี Kennedy ถึงจะแสนรู้อย่างไร มาใหม่ๆก็มึนรับประทาน แนะนำสั่งการอะไรไม่ถูก ได้แต่เรียกให้นาย Kenneth ให้มาสรุปสถานการณ์ในลาวให้รัฐบาลฟังก่อนตัดสินใจ ทุกอย่างอลเวงไปหมด และนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ ประธานธิบดี Kennedy ฉุนขาด ประกาศว่าหน่วยงาน National Security Council ทำงานไม่ได้ผล (คงไม่ให้ราคานาย Kenneth สักเท่าไหร่) ถ้าเขายุบหน่วยงานนี้ได้เขาจะยุบแล้ว เพียงแต่ต้องไปขออนุมัติจากสภาสูง ต้องออกกฏหมาย ฯลฯ ดังนั้นเขาจึงสั่ง “แขวน” พนักงานทุกคนในหน่วยงานรวมทั้งนาย Kenneth ด้วย และได้ยกเครื่องการทำงานสภาความมั่นคงเสียใหม่ หลังจากโดนแขวนอยู่หลายเดือน นาย Kenneth ก็เดินแกว่งไปตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาที่ลง เพราะแม้จะมีเงินเดือนกิน แต่ไม่มีเก้าอี้นั่งชูคอ แบบรัฐบาลก่อนๆ มันก็ทำให้เขาเสียรังวัดไปพอสมควร จะโม้อะไร โอ้อวดอะไร อย่างเมื่อก่อนก็ไม่ถนัดปาก ก็คนโดนแขวนอยู่มันจะให้โม้อะไร ไหว จนวันหนึ่ง นาย Walt Rostow ซึ่งเป็นผู้ช่วยของนาย McGeorge Bundy และรู้จักกับนาย Kenneth ตั้งแต่สมัยทำงานอยู่ OSS เป็นลูกน้องนาย Donovan มาด้วยกัน ก็ติดต่อนาย Kenneth บอกว่ามีงานให้ทำแล้ว ประธานาธิบดี Kennedy เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของอเมริกาไม่ว่าทหาร หรือพลเรือน เมื่อจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่เมืองใด ควรรู้เรื่องเมืองนั้นอย่างดี ไม่ใช่ไปแบบยืนหน้าเซ่อ ร้องเพลงรำวงวันคริสตมาสให้ชาวบ้านฟัง (สงสัยคุณนายเคนนี่ฑูตอเมริกาคนปัจจุบัน คงไม่เคยได้รับการอบรมอะไรเลยก่อนมาประจำเมืองไทย คุณนายถึงได้ทำตัวทุเรศปานนั้น) จึงมอบหมายให้นาย Kenneth เป็นผู้จัดการหลักสูตรอบรม เกี่ยวกับการต่อต้านเหตุการณ์ไม่สงบ (Counter Insurgency) ชื่อเต็มก็คือการต่อต้านความไม่สงบ อันเกิดจากภัยคอมมิวนิสต์ในโลกที่ 3 นั่นแหละ เป็นหลักสูตรที่จัดรวมให้สมุนนักล่าไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแบบใด นาย Kenneth บอกไม่มีปัญหาขอให้จัดงบแบบไม่อั้นมาแล้วกัน นักล่ากำลังฟิต เพราะฉะนั้น เท่าไรเท่ากัน จัดไปเลยย นาย Kenneth สารภาพว่า แรกๆ เขาก็ยังงงว่าจะทำได้อย่างไร เขาไม่ใช่ทหาร ไม่รู้เรื่องการรบ แต่เขารู้จักประเทศต่างๆ ที่คอมมิวนิสต์กำลังคุกคาม เขาจึงนำประสพการณ์ ข้อมูลที่เขาได้จากการที่เขาเคยอยู่ในเมืองไทยและการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ และเจอผู้คนในประเทศเหล่านั้น ไม่ว่าจะระดับรัฐบาล ผู้นำประเทศ หรือชาวบ้านทั่วไป บวกกับข้อมูลจากหนังสืออีกเกือบ 2,000 เล่ม ที่เขาสะสมไว้ เอามาผสมปนเปแบบตอแหล ทำเป็นหลักสูตรสำหรับการอบรมประมาณ 2 เดือน เป็นการติวเข้มสมุนนักล่า ปรากฎว่าการตอแหลได้ผลดีเกินคาด เจ้านายสั่งให้เพิ่มบริเวณพื้นที่การอบรม จากครอบคลุมเฉพาะแถบเอเซีย เพิ่มลาตินอเมริกา อาฟริกา และตะวันออกกลางเข้าไปด้วย นี่มันกำลังทำสนามนักล่าขนาดใหญ่ครอบคลุมโลกนี่หว่า นักล่าหน้าใหม่มาแรงจริงๆ แต่นาย Kenneth มีภูมิมีพื้นแค่แถบอินโดจีน แต่คนพันธ์นาย Kenneth ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เสียเหลี่ยมมิชชันนารีจากเมืองตรังหมด โม้เอาไว้เยอะ เขาบอกไม่มีปัญหา เขาไปกว้านเอาอาจารย์ตามมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญตามที่เจ้านายต้องการ มาช่วยกันสร้างหลักสูตรปรับพื้น สนามนักล่าจนสำเร็จ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกไม่ถึง 15 ปี อเมริกานักล่าหน้าใหม่ ก็พร้อมที่ลงสนามล่า ที่ได้ส่งสมุนไปปรับพื้นทำสนาม เตรียมไว้ตามแผน โดยการอนุเคราะห์ของผู้ถูกล่าเองเสียหลายส่วน! น่าเศร้าใจจนต้องหยุดพักเขียนไปหลายวัน คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • เศร้ากับนักต่อสู้เราจริงๆ,ตอนนี้ประชาชนกำลังทำสงครามกับรัฐบาลในอดีตชัดเจน,สนามรบนี้คือสนามศาลภายใต้อำนาจรัฐบาลด้วย,หน่วยงานทั้งประเทศรัฐบาลเป็นเจ้าของ ตลอดถึงคนข้าราชการ กำลังพลราชการรัฐด้วย,เรา..ประชาชนทำไมต้องต่อสู้กับรัฐบาลในอดีตของตนเอง ทำผิดก็โทษเล็กน้อยหรือไม่ผิดเลย,ประชาชนขโมยของ,ปล้นชิงทองคำแค่1เส้นหรือสูงสุด100เส้นบวกให้อีก1,000เส้นๆละ10บาทๆละ50,000ก็เถอะ,รวมมูลค่าเสียหายสุดๆคือ500ล้านบาทเอง,นี้นักการเมืองเหี้ยขั้นต่ำคนละ1,000ล้านอัพ รอดคดีเกือบหมดแดกฉลาดด้วย,คือยกย่องวิธีการแดกและเอาตัวริดก็ว่าเนาะ,ทุจริตกว่า100,000ล้านอีกก็รอดแบบจำนำข้าว,ตามจริงๆไม่รอดหรอก,หันย้อนมาดูประชาชนบ้าง ปล้นชิงทองคำ ไม่กี่เส้น ปล้นธนาคาร ไม่กี่บาทกี่ล้านแมร่งติดคุกกันหลายปีเลย,แดกด้วยวิธีสัมปทานผูกขาดอีกตรึม.,มองดูดีๆประเทศเรามันเสื่อมทรามจริงๆนะ,ในอดีตตำรวจจับใบขับขี่จับหมวกกันน็อคนักเรียนนักศึกษาก็เหี้ยมากแล้วหรือประชาชนทั่วประเทศเรานั้นล่ะ โคตรช่องทางทำแดกที่ชั่วเลวผ่านตัวกฎหมายนี้บัดสบจริงๆ.
    เศร้ากับนักต่อสู้เราจริงๆ,ตอนนี้ประชาชนกำลังทำสงครามกับรัฐบาลในอดีตชัดเจน,สนามรบนี้คือสนามศาลภายใต้อำนาจรัฐบาลด้วย,หน่วยงานทั้งประเทศรัฐบาลเป็นเจ้าของ ตลอดถึงคนข้าราชการ กำลังพลราชการรัฐด้วย,เรา..ประชาชนทำไมต้องต่อสู้กับรัฐบาลในอดีตของตนเอง ทำผิดก็โทษเล็กน้อยหรือไม่ผิดเลย,ประชาชนขโมยของ,ปล้นชิงทองคำแค่1เส้นหรือสูงสุด100เส้นบวกให้อีก1,000เส้นๆละ10บาทๆละ50,000ก็เถอะ,รวมมูลค่าเสียหายสุดๆคือ500ล้านบาทเอง,นี้นักการเมืองเหี้ยขั้นต่ำคนละ1,000ล้านอัพ รอดคดีเกือบหมดแดกฉลาดด้วย,คือยกย่องวิธีการแดกและเอาตัวริดก็ว่าเนาะ,ทุจริตกว่า100,000ล้านอีกก็รอดแบบจำนำข้าว,ตามจริงๆไม่รอดหรอก,หันย้อนมาดูประชาชนบ้าง ปล้นชิงทองคำ ไม่กี่เส้น ปล้นธนาคาร ไม่กี่บาทกี่ล้านแมร่งติดคุกกันหลายปีเลย,แดกด้วยวิธีสัมปทานผูกขาดอีกตรึม.,มองดูดีๆประเทศเรามันเสื่อมทรามจริงๆนะ,ในอดีตตำรวจจับใบขับขี่จับหมวกกันน็อคนักเรียนนักศึกษาก็เหี้ยมากแล้วหรือประชาชนทั่วประเทศเรานั้นล่ะ โคตรช่องทางทำแดกที่ชั่วเลวผ่านตัวกฎหมายนี้บัดสบจริงๆ.
    ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.ปชป. ชี้ศาลชำแหละราชทัณฑ์ กระบวนการส่งตัวทักษิณไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ ป.ป.ช.รับไม้ต่อ ขอบคุณเจ้าตัวยอมมาฟังคำพิพากษา แต่ประเทศไทยไม่คุ้ม ติดคุกปีเดียวทั้งที่ความเสียหายเป็นแสนล้าน ด้านกลุ่ม คปท.นัดพฤหัสฯ นี้ จี้ ป.ป.ช.เดินหน้าเอาผิดข้าราชการที่ช่วยเหลือด้วย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000086266

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Getac F120: แท็บเล็ตพันธุ์แกร่งที่รัน AI ได้แรงกว่าละครหลังข่าว พร้อมลุยทุกสนามรบและงานภาคสนาม!”

    ลองนึกภาพว่าคุณต้องทำงานในพื้นที่กลางแจ้งที่เต็มไปด้วยฝุ่น น้ำ หรืออุณหภูมิสุดขั้ว แล้วต้องใช้แท็บเล็ตในการวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากโดรน หรือรันโมเดล AI เพื่อวินิจฉัยอุปกรณ์ — Getac F120 คือแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อสถานการณ์แบบนั้นโดยเฉพาะ

    Getac เปิดตัว F120 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐาน Copilot+ PC แบบเต็มตัวในรูปแบบ rugged tablet — หมายความว่ามันไม่ใช่แค่ทนทาน แต่ยังมีสมองที่ฉลาดระดับ AI ด้วย NPU ที่แรงถึง 48 TOPS (Trillion Operations Per Second) มากกว่าขั้นต่ำที่ Microsoft กำหนดไว้ที่ 40 TOPS

    ภายในใช้ชิป Intel Core Ultra 200V Series พร้อม RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD PCIe NVMe สูงสุด 2TB — เรียกได้ว่าแรงกว่าคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไปหลายรุ่น แถมยังมี Windows Hello สำหรับสแกนใบหน้า และระบบรักษาความปลอดภัยระดับ TPM 2.0

    หน้าจอขนาด 12.2 นิ้วแบบ LumiBond ให้ความสว่างสูงถึง 1,200 nits อ่านกลางแดดได้สบาย พร้อม Smart Touch ที่ใช้งานได้แม้ใส่ถุงมือ ตัวเครื่องผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ทนต่อการตกจากที่สูง 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C

    สำหรับการเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 สองช่อง และรองรับ 5G Sub-6 แบบออปชัน พร้อมแบตเตอรี่แบบ hot-swappable ที่เปลี่ยนได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง — เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาเสีย

    สเปกหลักของ Getac F120
    ใช้ Intel Core Ultra 200V Series + Intel AI Boost NPU (สูงสุด 48 TOPS)
    RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD สูงสุด 2TB PCIe NVMe
    รองรับ Windows Hello facial recognition และ TPM 2.0

    หน้าจอและความทนทาน
    หน้าจอ LumiBond ขนาด 12.2 นิ้ว ความสว่าง 1,200 nits
    รองรับ Smart Touch แม้ใส่ถุงมือ
    ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66
    ทนต่อการตกจาก 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C

    การเชื่อมต่อและการใช้งานภาคสนาม
    รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 x2
    มีออปชันสำหรับ 5G Sub-6
    ใช้แบตเตอรี่แบบ hot-swappable เพื่อการทำงานต่อเนื่อง

    การใช้งานในอุตสาหกรรม
    เหมาะกับงานด้านสาธารณูปโภค, ยานยนต์, ความปลอดภัยสาธารณะ
    รองรับการประมวลผลภาพ, การวินิจฉัย, และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์
    ออกแบบมาเพื่องานที่ “ล้มไม่ได้” เช่น ภารกิจภาคสนามหรือการกู้ภัย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Copilot+ PC ต้องมี NPU 40+ TOPS, RAM 16GB+, SSD 256GB+, และระบบ biometric
    Getac เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ rugged สำหรับภาคอุตสาหกรรม
    รุ่น F120 เริ่มต้นที่ราคา $3,079 — เน้นกลุ่มมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป

    https://www.techradar.com/pro/the-worlds-fastest-rugged-tablet-just-launched-and-its-perfect-for-those-who-want-to-work-in-challenging-environments-while-compiling-ai-code
    🛡️ “Getac F120: แท็บเล็ตพันธุ์แกร่งที่รัน AI ได้แรงกว่าละครหลังข่าว พร้อมลุยทุกสนามรบและงานภาคสนาม!” ลองนึกภาพว่าคุณต้องทำงานในพื้นที่กลางแจ้งที่เต็มไปด้วยฝุ่น น้ำ หรืออุณหภูมิสุดขั้ว แล้วต้องใช้แท็บเล็ตในการวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากโดรน หรือรันโมเดล AI เพื่อวินิจฉัยอุปกรณ์ — Getac F120 คือแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อสถานการณ์แบบนั้นโดยเฉพาะ Getac เปิดตัว F120 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐาน Copilot+ PC แบบเต็มตัวในรูปแบบ rugged tablet — หมายความว่ามันไม่ใช่แค่ทนทาน แต่ยังมีสมองที่ฉลาดระดับ AI ด้วย NPU ที่แรงถึง 48 TOPS (Trillion Operations Per Second) มากกว่าขั้นต่ำที่ Microsoft กำหนดไว้ที่ 40 TOPS ภายในใช้ชิป Intel Core Ultra 200V Series พร้อม RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD PCIe NVMe สูงสุด 2TB — เรียกได้ว่าแรงกว่าคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไปหลายรุ่น แถมยังมี Windows Hello สำหรับสแกนใบหน้า และระบบรักษาความปลอดภัยระดับ TPM 2.0 หน้าจอขนาด 12.2 นิ้วแบบ LumiBond ให้ความสว่างสูงถึง 1,200 nits อ่านกลางแดดได้สบาย พร้อม Smart Touch ที่ใช้งานได้แม้ใส่ถุงมือ ตัวเครื่องผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ทนต่อการตกจากที่สูง 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C สำหรับการเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 สองช่อง และรองรับ 5G Sub-6 แบบออปชัน พร้อมแบตเตอรี่แบบ hot-swappable ที่เปลี่ยนได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง — เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาเสีย ✅ สเปกหลักของ Getac F120 ➡️ ใช้ Intel Core Ultra 200V Series + Intel AI Boost NPU (สูงสุด 48 TOPS) ➡️ RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD สูงสุด 2TB PCIe NVMe ➡️ รองรับ Windows Hello facial recognition และ TPM 2.0 ✅ หน้าจอและความทนทาน ➡️ หน้าจอ LumiBond ขนาด 12.2 นิ้ว ความสว่าง 1,200 nits ➡️ รองรับ Smart Touch แม้ใส่ถุงมือ ➡️ ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ➡️ ทนต่อการตกจาก 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C ✅ การเชื่อมต่อและการใช้งานภาคสนาม ➡️ รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 x2 ➡️ มีออปชันสำหรับ 5G Sub-6 ➡️ ใช้แบตเตอรี่แบบ hot-swappable เพื่อการทำงานต่อเนื่อง ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรม ➡️ เหมาะกับงานด้านสาธารณูปโภค, ยานยนต์, ความปลอดภัยสาธารณะ ➡️ รองรับการประมวลผลภาพ, การวินิจฉัย, และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ➡️ ออกแบบมาเพื่องานที่ “ล้มไม่ได้” เช่น ภารกิจภาคสนามหรือการกู้ภัย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Copilot+ PC ต้องมี NPU 40+ TOPS, RAM 16GB+, SSD 256GB+, และระบบ biometric ➡️ Getac เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ rugged สำหรับภาคอุตสาหกรรม ➡️ รุ่น F120 เริ่มต้นที่ราคา $3,079 — เน้นกลุ่มมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป https://www.techradar.com/pro/the-worlds-fastest-rugged-tablet-just-launched-and-its-perfect-for-those-who-want-to-work-in-challenging-environments-while-compiling-ai-code
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..จริงๆนายกฯหนู ยกเลิกผ่านมติ ครม.ของตนเองก็จบแล้ว,ทำได้ทันทีด้วย,หรือตัดสินใจด้วยตนเองคนเดียวก็ได้เพราะMOUนี้ผิดขั้นตอนไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมายประชาธิปไตยไทยแต่ต้นแล้ว ไม่นำเข้าสภาฯใดๆเลยด้วยแต่แรก จึงด้วยสถานะนายกฯอำนาจเต็มสามารถโมฆะMOU43,44นี้ได้อย่างชอบธรรม.
    ..นายกฯไม่จำเป็นต้องนำเข้าคณะครม.ตนก็ได้,คนไทยจะเห็นความเด็ดขาดนายกฯหนูโน้น,เพราะกล้าเหยียบเขมรและฮุนเซนจริงแท้คนไทย,ก่อนมาเป็นนายกฯพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยก็เป็นตัวตั้งตัวตีเสนอยกเลิกMOU43,44นะ,
    ..นายกฯรัฐบาลนี้ทำได้จะรอดพ้น(ประวัติศาสตร์จะมีข้อยกเว้นว่ารัฐบาลยุคนายกฯหนูไม่มีข้อหานี้ด้วย)จากข้อหากบฎ ม.119เจตนาทำให้เสียหาย สูญเสียดินแดนอธิปไตยชาติโดยกอดmou43,44tor46นี้ไว้โทษประหารชีวิตอย่างเดียวและ ม.157 ทันที ,ก้มหน้าไม่อายครอบครัวคนอีสานที่ตายเกือบยกครัว คนไทยชาวบ้านที่บริสุทธิ์มากมายต้องตายไป มันยิงโรงพยาบาลไทย มันระบุพิกัดชัดเจนกะระยะยิงตกชัดมีหลักฐานจากกูรูสายข่าวว่ามันล็อกเป้ายิง7/11ปั้มน้ำมันจริง,และอื่นๆด้วย,เงยหน้าไม่ละอายต่อทหารหาญที่สูญเสียชีวิตทั้งพิการและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก,อย่าทรยศหักหลังประชาชนนะ,
    ..นายกฯหนูและรัฐบาลชุดนี้4เดือนจะแตกต่างทันทีกับจุดยืนสมัยยุคอภิสิทธิ์ยุคลุงตู่ยึดอำนาจแท้ๆแต่ไม่ยอมยกเลิกMOU43,44กอดคาจนหมดอำนาจจากการยึดอำนาจและจนหมดอำนาจจากนั่งตำแหน่งนายกฯสมัยลุง,ละเว้นปฏิบัติหน้าที่จน อ.วีระ จะฟ้องแน่นอนแล้วที่ประกาศออกสื่อชัดเจนบวกหลักฐานบ้านหนองจานที่ยืนบนแผ่นดินไทยชัดเจนนั้นด้วยแต่สุมหัวเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนไทยบอกว่าตรงจุด อ.วีระถูกจับเป็นดินแดนแผ่นดินเขมรนะ จนอยู่คุกเขมรสมบูรณ์เป็นความผิดในเจตนา ม.119แล้วด้วย ม.157ก็ด้วย,ไม่รวมตรึมทั้ง11จุดได้คืนจากเขมรด้วยที่บิ๊กกุ้งถีบ้ขมรออกจากพื้นที่ประเทศไทยจริง
    ..อย่าทรยศหักหลังเหมือนพรรคการเมืองในอดีตนะ กัญชาเสรีคือบทเรียน.
    ..ทำกัญชาเสรีจริงๆจะมีประโยชน์มากแต่หักหลังประชาชนปลูกผีบ้าอะไรคนละ6ต้น ต้องปลูกสกัดทำยาส่ง รพ.จริงเสรีด้วย.
    ..คนชาวบ้านไทบ้านจะมีตังใช้จ่ายจริง มุกกีดกันประชาชนตรึม วิจัยเอย โรงเรือนต้องมาตราฐานลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสน แดกค่าใบอนุญาตอีก สาระพัดมุกเหี้ยๆต่อชาวบ้านมิให้มีโอกาสจริง เงื่อนไขกติกามากมายจนเป็นภาระ ต้องสไตล์ปลูกพืชผักสวนครัวโน้น อยากกินอยากปลูกตอนไหนก็ปลูก,ชุมชนควบคุมดูแลรักษาความสงบร่วมกัน บริหารจัดการผลิตผลการตลาดช่วยเหลือคนไทยจริงจังด้วย,มิใช่สร้างต้นทุนแพงๆสูงๆต้นทุนแก่ชาวบ้านคนปลูกจึงสร้างความลำบากและสร้างให้ยากชัดเจนไม่มีเจตนาดีจริงต่อการช่วยสร้างรายรับแก่ประชาชน สร้างฐานต้นทุนยารักษาโรคที่ราคาถูกบนแผ่นดินไทยด้วย,ต่างชาติล็อบบี้โคตรๆเพื่อทำลายนโยบายนี้เพราะกระทบบริษัทยาทั่วโลกจริง,กำจัดแมลงพืชผลทางการเกษตรก็ได้ด้วย ภัยร้ายแรงต่อบริษัทยารักษาคนและบริษัทยาฆ่าแมลงกำจัดแมลงโรคพืชและสัตว์เลี้ยง,หว่านตามป่าตามเขาปลายนาก็เกิดเติบโตใหญ่แล้ว สามารถผสมสินค้าอุปโภคบริโภคได้จริงกว่า50,000รายการสินค้า ใยกัญชากัญชงสร้างชุดเกราะได้ สร้างโครงโครงรถยนต์น้ำหนักเบาประหยัดพลังงานและแข็งแรงได้,พื้นที่ปลูกกัญชาต้องให้คนละ1ถึง2ไร่เลยไม่เกินนั้น,1ไร่กัญชา ,อีก1ไร่กัญชง,เพื่อสกัดยาฯสุขภาพรักษาโรคครอบจักรวาลต้นทุนต่ำได้จริง,ใยกัญชาใยกัญชงก็จะเพียงพอด้วย,ต่างชาติอิจฉาสุดๆในความเสรีเรา,คนไม่ดีโจมตีแค่โทษนิดเดียวก็เป็นธรรมดา,จากผิดพลาดกัญชาเสรี ยุคตนเป็นนายกฯ4เดือนสามารถปัดฝุ่นได้เลย,ตนเป็นนายกฯจริงแล้วด้วย,ทำสิ่งที่ถูกต้องค่าจริงก็จบดีแน่นอน,MOU43,44ตนเป็นนายกฯแล้วถือโอกาสทำคุณไถ่โทษต่อแผ่นดินไทยที่กระทำไปเสียจะคดีฮั่วสว.หรือเขากระโดง ก็ตาม ทำปัจจุบันนี้จริงจังมิใช่ผีบ้าปั่นคนละครึ่งหักเหความสนใจประชาชนไป,ตนต้องยกเลิกMOU43,44ทำจริงทำชัดเจนและรวดเร็วซึ่งสามารถจบเรื่องนี้ได้ไม่เกินวันศุกร์นี้มอบความสุขแก่คนไทยเลยคือยกเลิกMOU43,44พร้อมประกาศโดยเป็นทางการว่ารัฐบาลไทยรับรอง1:50,000เท่านั้นและเสาหมุดเขตแดนสยาม74เสาแค่นั้นที่เกิดก่อนMOUนี้อีกจะดำเนินการสร้างรั้วลวดหนามทันทีด้วยตลอดแนวพรมแดน74เสาเขตแดนแม้พื้นที่สันปันน้ำก็จะสร้างรั้วลวดหนามด้วย,พรรคภูมิใจไทยต้องทำสิ่งนี้ให้ชัดเจนก่อนภายในอาทิตย์คือ9,10,11,และวันศุกร์มอบความสุขแก่คนไทยทั้งประเทศขึ้นแถลงอย่างเป็นทางการทั่วประเทศว่า "ในนานนายฯคนที่32ปัจจุบันของประกาศยกเลิกMOU43และ44อย่างเป็นทางการฝ่ายเดียวที่สามารถกระทำได้ชอบธรรมต่อประเทศเขมรที่รุกรานหมายยึดดินแดนอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา ทั้งยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงทั้ง13ข้อโดยทันทีด้วยซึ่งประเทศเขมรละเมิดมาโดยตลอด.,จึงให้เป็นทางการไว้และมีผลทันทีนับจากเวลานี้" นี้ต้องสร้างฟอร์มตนเองแบบนี้ ตนเป็นนายกฯจริงแล้ว แม้มีเวลาไม่กี่เดือนก็สามารถทำเรื่องนี้ทันทีได้,ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คนไทยเลือกแน่นอน,แต่ถ้าแสวงหาทางชั่ว คนไทยดูออกทันทีนะ,ดับอนาถแน่นอน นายกฯคนที่33รออยู่ ยุบพรรคภูมิใจไทยมาเร็วกว่ากำหนดแน่นอนบวกพลังงานสาปแซงของคนไทยทั่วประเทศร่วมด้วยคนดับอนาถยิ่งกว่าเดิมอีก,ทางมี2ทงให้เลือกจะอยู่อย่างหมาขี้เรื้อนหรือสิงโตราชสีห์.นายกฯคนที่32เลือกได้ ราชัญกัญชาต่อยอดเพื่อปากท้องจริงแก่ประชาชนเลย ลุยเลยมาถูกทางแล้ว เป็นใหญ่แล้ว,บอกค่าจริง ใช้ให้ถูกก็จบ เหมือนรถยนต์ขับตำกำแพงก็สมควรตายนั้นล่ะ,เขาให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการไปมันก็เกิดประโยชน์ นี้คือทองคำเขียวชัดเจน กว่าบ่อน้ำมันอีก บีบสกัดทำน้ำมันไบโอดีเซลก็ได้,บริษัทยาบิ๊กฟาร์มม่าอเมริกาฝรั่งต่างชาติหรือโรงงานใยกระดาษกลัวจะตายหรือโรงงานผลิตอะไรๆต่างๆก็ด้วย เพราะมันประยุกต์ใช้ทำโครงสร้างวัสดุใดๆผสมมวลมันใดๆให้โลหะวัสดุนั้นๆแข็งแกร่งขึ้นไปอีกลดวัตถุดิบหลักต้นทุนทำก็ได้ด้วย,แหล่งทำเงินภายใน4เดือนกันเลยต่อเกษตรกรไทย ,ธรรมนัสคุมเกษตรฯเหมาะอีก,ปลูกฝิ่นเสรีด้วยเลย555,สกัดทำยาพาราฯสมุนไพรไทยได้ ยาแก้ปวดอย่างดีควบคุมให้ดีหรือเสรีให้เหมาะสม ลดการนำเข้ายารักษาโรคภายในโรงพยาบาลไทยหลายล้านล้านบาทเลยนะ,ส่งออกประเทศทำสงครามโลกที่3ในอนาคตก็ได้ตลาดเม็ดเงินยาแก้ปวดข้มเข้นอย่างดีมหาศาลเม็ดเงินช่วยเกษตรกรไทยกว่า2-3ล้านล้านบาทหรือกว่า10ล้านล้านบาทสบาย ใช้ในทางที่ถูก ควบคุมให้โปร่งใสมิใช่เหี้ยแบบอดีตไปปลูกข้างๆบ้านเป็นหมื่นเป็นแสนหรือล้านไร่หวังเอาเข้ามาขายแดกในไทยแบบที่แฉๆในสภาก็เหี้ยเกินไป,แมร่งอเมริกายึดบ่อน้ำมันไทยทั่วประเทศก็ทำบ่อเงินบ่อทองนี้ให้เต็มที่แทนก็ได้แต่ต้องโปร่งใสจริงอย่าให้ต่างชาติมาแทรกแซงได้อีก,ฮับโรงพยาบาลโลกด้านสมุนไพรคู่AIการแพทย์ชีวภาพยุคใหม่กึ่งจักรกลก็ได้,ใครพิการจักรกลก็ช่วยได้,หรืออนาคตเทคโนโลยีสร้างมวลเนื้อใหม่ของต่างดาวถ่ายทอดมาคู่สมุนไพรดำเนินชีวิตรักษาสุขภาพก็โอเคได้หมด,บ่อน้ำมันอาจดับอนาคตแล้วเพราะใช้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานสนามแม่เหล็กโลกหรือพลังงานฟรีเทสล่ากันแล้ว.

    .."พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยกับการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชา"

    ภูมิใจไทยจี้ สภาถกญัตติยกเลิก MOU 43-44 ตั้ง กมธ. ก่อนเสนอรัฐบาลทำประชามติ
    โดย THE STANDARD TEAM
    05.08.2025

    วันนี้ (5 สิงหาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณี สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และคณะ ยื่นญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาดำเนินการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วย และอยากให้สภานำญัตตินี้มาพิจารณา เพื่อให้เห็นถึงข้อดี-ข้อด้อย และข้อที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในเอ็มโอยูดังกล่าว เพื่อที่ขั้นต่อไปเราอยากให้มีการทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ว่าการเซ็นเอ็มโอยูดังกล่าวมีประโยชน์หรือโทษอะไรบ้าง

    “แน่นอนว่าเราเห็นโทษของ MOU ดังกล่าวแน่นอน เพราะตลอด 10 กว่าวันที่ผ่านมา เราเห็นชัดว่าข้อผิดพลาดเป็นอย่างไร ส่งผลกระทบถึงประชาชนแค่ไหน จึงเสนอญัตตินี้เพื่ออยากให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) โดยใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด เพื่อที่จะได้นำเสนอต่อรัฐบาลให้ทำประชามติโดยเร็ว” โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว


    https://thestandard.co/thai-cambodia-mou-termination/




    ..จริงๆนายกฯหนู ยกเลิกผ่านมติ ครม.ของตนเองก็จบแล้ว,ทำได้ทันทีด้วย,หรือตัดสินใจด้วยตนเองคนเดียวก็ได้เพราะMOUนี้ผิดขั้นตอนไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมายประชาธิปไตยไทยแต่ต้นแล้ว ไม่นำเข้าสภาฯใดๆเลยด้วยแต่แรก จึงด้วยสถานะนายกฯอำนาจเต็มสามารถโมฆะMOU43,44นี้ได้อย่างชอบธรรม. ..นายกฯไม่จำเป็นต้องนำเข้าคณะครม.ตนก็ได้,คนไทยจะเห็นความเด็ดขาดนายกฯหนูโน้น,เพราะกล้าเหยียบเขมรและฮุนเซนจริงแท้คนไทย,ก่อนมาเป็นนายกฯพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยก็เป็นตัวตั้งตัวตีเสนอยกเลิกMOU43,44นะ, ..นายกฯรัฐบาลนี้ทำได้จะรอดพ้น(ประวัติศาสตร์จะมีข้อยกเว้นว่ารัฐบาลยุคนายกฯหนูไม่มีข้อหานี้ด้วย)จากข้อหากบฎ ม.119เจตนาทำให้เสียหาย สูญเสียดินแดนอธิปไตยชาติโดยกอดmou43,44tor46นี้ไว้โทษประหารชีวิตอย่างเดียวและ ม.157 ทันที ,ก้มหน้าไม่อายครอบครัวคนอีสานที่ตายเกือบยกครัว คนไทยชาวบ้านที่บริสุทธิ์มากมายต้องตายไป มันยิงโรงพยาบาลไทย มันระบุพิกัดชัดเจนกะระยะยิงตกชัดมีหลักฐานจากกูรูสายข่าวว่ามันล็อกเป้ายิง7/11ปั้มน้ำมันจริง,และอื่นๆด้วย,เงยหน้าไม่ละอายต่อทหารหาญที่สูญเสียชีวิตทั้งพิการและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก,อย่าทรยศหักหลังประชาชนนะ, ..นายกฯหนูและรัฐบาลชุดนี้4เดือนจะแตกต่างทันทีกับจุดยืนสมัยยุคอภิสิทธิ์ยุคลุงตู่ยึดอำนาจแท้ๆแต่ไม่ยอมยกเลิกMOU43,44กอดคาจนหมดอำนาจจากการยึดอำนาจและจนหมดอำนาจจากนั่งตำแหน่งนายกฯสมัยลุง,ละเว้นปฏิบัติหน้าที่จน อ.วีระ จะฟ้องแน่นอนแล้วที่ประกาศออกสื่อชัดเจนบวกหลักฐานบ้านหนองจานที่ยืนบนแผ่นดินไทยชัดเจนนั้นด้วยแต่สุมหัวเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนไทยบอกว่าตรงจุด อ.วีระถูกจับเป็นดินแดนแผ่นดินเขมรนะ จนอยู่คุกเขมรสมบูรณ์เป็นความผิดในเจตนา ม.119แล้วด้วย ม.157ก็ด้วย,ไม่รวมตรึมทั้ง11จุดได้คืนจากเขมรด้วยที่บิ๊กกุ้งถีบ้ขมรออกจากพื้นที่ประเทศไทยจริง ..อย่าทรยศหักหลังเหมือนพรรคการเมืองในอดีตนะ กัญชาเสรีคือบทเรียน. ..ทำกัญชาเสรีจริงๆจะมีประโยชน์มากแต่หักหลังประชาชนปลูกผีบ้าอะไรคนละ6ต้น ต้องปลูกสกัดทำยาส่ง รพ.จริงเสรีด้วย. ..คนชาวบ้านไทบ้านจะมีตังใช้จ่ายจริง มุกกีดกันประชาชนตรึม วิจัยเอย โรงเรือนต้องมาตราฐานลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสน แดกค่าใบอนุญาตอีก สาระพัดมุกเหี้ยๆต่อชาวบ้านมิให้มีโอกาสจริง เงื่อนไขกติกามากมายจนเป็นภาระ ต้องสไตล์ปลูกพืชผักสวนครัวโน้น อยากกินอยากปลูกตอนไหนก็ปลูก,ชุมชนควบคุมดูแลรักษาความสงบร่วมกัน บริหารจัดการผลิตผลการตลาดช่วยเหลือคนไทยจริงจังด้วย,มิใช่สร้างต้นทุนแพงๆสูงๆต้นทุนแก่ชาวบ้านคนปลูกจึงสร้างความลำบากและสร้างให้ยากชัดเจนไม่มีเจตนาดีจริงต่อการช่วยสร้างรายรับแก่ประชาชน สร้างฐานต้นทุนยารักษาโรคที่ราคาถูกบนแผ่นดินไทยด้วย,ต่างชาติล็อบบี้โคตรๆเพื่อทำลายนโยบายนี้เพราะกระทบบริษัทยาทั่วโลกจริง,กำจัดแมลงพืชผลทางการเกษตรก็ได้ด้วย ภัยร้ายแรงต่อบริษัทยารักษาคนและบริษัทยาฆ่าแมลงกำจัดแมลงโรคพืชและสัตว์เลี้ยง,หว่านตามป่าตามเขาปลายนาก็เกิดเติบโตใหญ่แล้ว สามารถผสมสินค้าอุปโภคบริโภคได้จริงกว่า50,000รายการสินค้า ใยกัญชากัญชงสร้างชุดเกราะได้ สร้างโครงโครงรถยนต์น้ำหนักเบาประหยัดพลังงานและแข็งแรงได้,พื้นที่ปลูกกัญชาต้องให้คนละ1ถึง2ไร่เลยไม่เกินนั้น,1ไร่กัญชา ,อีก1ไร่กัญชง,เพื่อสกัดยาฯสุขภาพรักษาโรคครอบจักรวาลต้นทุนต่ำได้จริง,ใยกัญชาใยกัญชงก็จะเพียงพอด้วย,ต่างชาติอิจฉาสุดๆในความเสรีเรา,คนไม่ดีโจมตีแค่โทษนิดเดียวก็เป็นธรรมดา,จากผิดพลาดกัญชาเสรี ยุคตนเป็นนายกฯ4เดือนสามารถปัดฝุ่นได้เลย,ตนเป็นนายกฯจริงแล้วด้วย,ทำสิ่งที่ถูกต้องค่าจริงก็จบดีแน่นอน,MOU43,44ตนเป็นนายกฯแล้วถือโอกาสทำคุณไถ่โทษต่อแผ่นดินไทยที่กระทำไปเสียจะคดีฮั่วสว.หรือเขากระโดง ก็ตาม ทำปัจจุบันนี้จริงจังมิใช่ผีบ้าปั่นคนละครึ่งหักเหความสนใจประชาชนไป,ตนต้องยกเลิกMOU43,44ทำจริงทำชัดเจนและรวดเร็วซึ่งสามารถจบเรื่องนี้ได้ไม่เกินวันศุกร์นี้มอบความสุขแก่คนไทยเลยคือยกเลิกMOU43,44พร้อมประกาศโดยเป็นทางการว่ารัฐบาลไทยรับรอง1:50,000เท่านั้นและเสาหมุดเขตแดนสยาม74เสาแค่นั้นที่เกิดก่อนMOUนี้อีกจะดำเนินการสร้างรั้วลวดหนามทันทีด้วยตลอดแนวพรมแดน74เสาเขตแดนแม้พื้นที่สันปันน้ำก็จะสร้างรั้วลวดหนามด้วย,พรรคภูมิใจไทยต้องทำสิ่งนี้ให้ชัดเจนก่อนภายในอาทิตย์คือ9,10,11,และวันศุกร์มอบความสุขแก่คนไทยทั้งประเทศขึ้นแถลงอย่างเป็นทางการทั่วประเทศว่า "ในนานนายฯคนที่32ปัจจุบันของประกาศยกเลิกMOU43และ44อย่างเป็นทางการฝ่ายเดียวที่สามารถกระทำได้ชอบธรรมต่อประเทศเขมรที่รุกรานหมายยึดดินแดนอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา ทั้งยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงทั้ง13ข้อโดยทันทีด้วยซึ่งประเทศเขมรละเมิดมาโดยตลอด.,จึงให้เป็นทางการไว้และมีผลทันทีนับจากเวลานี้" นี้ต้องสร้างฟอร์มตนเองแบบนี้ ตนเป็นนายกฯจริงแล้ว แม้มีเวลาไม่กี่เดือนก็สามารถทำเรื่องนี้ทันทีได้,ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คนไทยเลือกแน่นอน,แต่ถ้าแสวงหาทางชั่ว คนไทยดูออกทันทีนะ,ดับอนาถแน่นอน นายกฯคนที่33รออยู่ ยุบพรรคภูมิใจไทยมาเร็วกว่ากำหนดแน่นอนบวกพลังงานสาปแซงของคนไทยทั่วประเทศร่วมด้วยคนดับอนาถยิ่งกว่าเดิมอีก,ทางมี2ทงให้เลือกจะอยู่อย่างหมาขี้เรื้อนหรือสิงโตราชสีห์.นายกฯคนที่32เลือกได้ ราชัญกัญชาต่อยอดเพื่อปากท้องจริงแก่ประชาชนเลย ลุยเลยมาถูกทางแล้ว เป็นใหญ่แล้ว,บอกค่าจริง ใช้ให้ถูกก็จบ เหมือนรถยนต์ขับตำกำแพงก็สมควรตายนั้นล่ะ,เขาให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการไปมันก็เกิดประโยชน์ นี้คือทองคำเขียวชัดเจน กว่าบ่อน้ำมันอีก บีบสกัดทำน้ำมันไบโอดีเซลก็ได้,บริษัทยาบิ๊กฟาร์มม่าอเมริกาฝรั่งต่างชาติหรือโรงงานใยกระดาษกลัวจะตายหรือโรงงานผลิตอะไรๆต่างๆก็ด้วย เพราะมันประยุกต์ใช้ทำโครงสร้างวัสดุใดๆผสมมวลมันใดๆให้โลหะวัสดุนั้นๆแข็งแกร่งขึ้นไปอีกลดวัตถุดิบหลักต้นทุนทำก็ได้ด้วย,แหล่งทำเงินภายใน4เดือนกันเลยต่อเกษตรกรไทย ,ธรรมนัสคุมเกษตรฯเหมาะอีก,ปลูกฝิ่นเสรีด้วยเลย555,สกัดทำยาพาราฯสมุนไพรไทยได้ ยาแก้ปวดอย่างดีควบคุมให้ดีหรือเสรีให้เหมาะสม ลดการนำเข้ายารักษาโรคภายในโรงพยาบาลไทยหลายล้านล้านบาทเลยนะ,ส่งออกประเทศทำสงครามโลกที่3ในอนาคตก็ได้ตลาดเม็ดเงินยาแก้ปวดข้มเข้นอย่างดีมหาศาลเม็ดเงินช่วยเกษตรกรไทยกว่า2-3ล้านล้านบาทหรือกว่า10ล้านล้านบาทสบาย ใช้ในทางที่ถูก ควบคุมให้โปร่งใสมิใช่เหี้ยแบบอดีตไปปลูกข้างๆบ้านเป็นหมื่นเป็นแสนหรือล้านไร่หวังเอาเข้ามาขายแดกในไทยแบบที่แฉๆในสภาก็เหี้ยเกินไป,แมร่งอเมริกายึดบ่อน้ำมันไทยทั่วประเทศก็ทำบ่อเงินบ่อทองนี้ให้เต็มที่แทนก็ได้แต่ต้องโปร่งใสจริงอย่าให้ต่างชาติมาแทรกแซงได้อีก,ฮับโรงพยาบาลโลกด้านสมุนไพรคู่AIการแพทย์ชีวภาพยุคใหม่กึ่งจักรกลก็ได้,ใครพิการจักรกลก็ช่วยได้,หรืออนาคตเทคโนโลยีสร้างมวลเนื้อใหม่ของต่างดาวถ่ายทอดมาคู่สมุนไพรดำเนินชีวิตรักษาสุขภาพก็โอเคได้หมด,บ่อน้ำมันอาจดับอนาคตแล้วเพราะใช้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานสนามแม่เหล็กโลกหรือพลังงานฟรีเทสล่ากันแล้ว. .."พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยกับการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชา" ภูมิใจไทยจี้ สภาถกญัตติยกเลิก MOU 43-44 ตั้ง กมธ. ก่อนเสนอรัฐบาลทำประชามติ โดย THE STANDARD TEAM 05.08.2025 วันนี้ (5 สิงหาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณี สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และคณะ ยื่นญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาดำเนินการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วย และอยากให้สภานำญัตตินี้มาพิจารณา เพื่อให้เห็นถึงข้อดี-ข้อด้อย และข้อที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในเอ็มโอยูดังกล่าว เพื่อที่ขั้นต่อไปเราอยากให้มีการทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ว่าการเซ็นเอ็มโอยูดังกล่าวมีประโยชน์หรือโทษอะไรบ้าง “แน่นอนว่าเราเห็นโทษของ MOU ดังกล่าวแน่นอน เพราะตลอด 10 กว่าวันที่ผ่านมา เราเห็นชัดว่าข้อผิดพลาดเป็นอย่างไร ส่งผลกระทบถึงประชาชนแค่ไหน จึงเสนอญัตตินี้เพื่ออยากให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) โดยใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด เพื่อที่จะได้นำเสนอต่อรัฐบาลให้ทำประชามติโดยเร็ว” โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว https://thestandard.co/thai-cambodia-mou-termination/
    THESTANDARD.CO
    ภูมิใจไทยจี้ สภาถกญัตติยกเลิก MOU 43-44 ตั้ง กมธ. ก่อนเสนอรัฐบาลทำประชามติ
    ที่ พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณี สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดินรถไฟ Kiha ธันวาฯ นี้ ประเดิมดอนเมือง-อยุธยา

    ความคืบหน้าการปรับปรุงรถดีเซลรางรุ่น Kiha 40 และ Kiha 48 จากประเทศญี่ปุ่น หลังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น และขนส่งทางเรือมาถึงประเทศไทยเมื่อกลางปี 2567 ล่าสุดพบว่ารถต้นแบบคันแรกยังคงต้องปรับปรุงเพิ่มเติม หลังปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร เพื่อให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย และทดลองเดินรถเส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา

    ปัจจุบันยังคงต้องปรับปรุงครอบคลุมทั้งด้านวิศวกรรมและระบบการทำงานของรถ โดยเฉพาะระบบปรับอากาศที่ต้องดัดแปลงใหม่ เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งในสภาพอากาศหนาวของภูมิภาคอาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น การรถไฟฯ จึงได้ปรับปรุงช่องจ่ายลมเย็นให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย รวมถึงปรับปรุงคอมเพรสเซอร์ ชุดคอยล์ระบายความร้อน และคอยล์เย็น อีกทั้งยังได้ทดสอบด้านสมรรถนะของรถ อาทิ การทดสอบระยะห้ามล้อ อัตราเร่ง และการสั่นสะเทือนเชิงกล

    คาดว่ารถต้นแบบคันแรกจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2568 และจะมีอีกหนึ่งคันแล้วเสร็จตามมาในเดือน ต.ค. 2568 ก่อนทยอยปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถนำรถที่ปรับปรุงเสร็จแล้วจำนวน 4 คัน ออกให้บริการได้ภายในเดือน ธ.ค.2568 เบื้องต้นวางแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทาง ดอนเมือง-อยุธยา เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    สำหรับเส้นทางดอนเมือง-อยุธยา มีระยะทางประมาณ 49 กิโลเมตร รถรุ่นดังกล่าวเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นรถเชื่อมต่อ (Feeder) กับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) และท่าอากาศยานดอนเมือง แนวเส้นทางผ่านสถานีรังสิต คลองหนึ่ง เชียงราก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) นวนคร เชียงรากน้อย คลองพุทรา บางปะอิน บ้านโพ และสถานีปลายทางอยุธยา

    โดยปกติถ้าเป็นรถไฟธรรมดา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ปัจจุบันรถไฟธรรมดาและรถไฟชานเมือง (ไม่มีเครื่องปรับอากาศ) ค่าโดยสาร 11 บาท, รถนั่งชั้นโทปรับอากาศ - JRWEST (เบาะแดง) ขบวน 133 ราคา 104 บาท, รถดีเซลรางนั่งปรับอากาศ ขบวน 75 ราคา 234 บาท, ขบวน 7 และขบวน 21 ราคา 254 บาท

    อนึ่ง ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ อาคาร Service Hall ติดกับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (Terminal 1) มีรถประจำทาง ขสมก. ปลายทางหมอชิต อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สวนลุมพินี และสนามหลวง รวมทั้งรถเชื่อมต่อของ บขส. ปลายทางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

    #Newskit
    เดินรถไฟ Kiha ธันวาฯ นี้ ประเดิมดอนเมือง-อยุธยา ความคืบหน้าการปรับปรุงรถดีเซลรางรุ่น Kiha 40 และ Kiha 48 จากประเทศญี่ปุ่น หลังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น และขนส่งทางเรือมาถึงประเทศไทยเมื่อกลางปี 2567 ล่าสุดพบว่ารถต้นแบบคันแรกยังคงต้องปรับปรุงเพิ่มเติม หลังปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร เพื่อให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย และทดลองเดินรถเส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ปัจจุบันยังคงต้องปรับปรุงครอบคลุมทั้งด้านวิศวกรรมและระบบการทำงานของรถ โดยเฉพาะระบบปรับอากาศที่ต้องดัดแปลงใหม่ เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งในสภาพอากาศหนาวของภูมิภาคอาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น การรถไฟฯ จึงได้ปรับปรุงช่องจ่ายลมเย็นให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย รวมถึงปรับปรุงคอมเพรสเซอร์ ชุดคอยล์ระบายความร้อน และคอยล์เย็น อีกทั้งยังได้ทดสอบด้านสมรรถนะของรถ อาทิ การทดสอบระยะห้ามล้อ อัตราเร่ง และการสั่นสะเทือนเชิงกล คาดว่ารถต้นแบบคันแรกจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2568 และจะมีอีกหนึ่งคันแล้วเสร็จตามมาในเดือน ต.ค. 2568 ก่อนทยอยปรับปรุงเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถนำรถที่ปรับปรุงเสร็จแล้วจำนวน 4 คัน ออกให้บริการได้ภายในเดือน ธ.ค.2568 เบื้องต้นวางแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทาง ดอนเมือง-อยุธยา เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำหรับเส้นทางดอนเมือง-อยุธยา มีระยะทางประมาณ 49 กิโลเมตร รถรุ่นดังกล่าวเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นรถเชื่อมต่อ (Feeder) กับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) และท่าอากาศยานดอนเมือง แนวเส้นทางผ่านสถานีรังสิต คลองหนึ่ง เชียงราก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) นวนคร เชียงรากน้อย คลองพุทรา บางปะอิน บ้านโพ และสถานีปลายทางอยุธยา โดยปกติถ้าเป็นรถไฟธรรมดา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ปัจจุบันรถไฟธรรมดาและรถไฟชานเมือง (ไม่มีเครื่องปรับอากาศ) ค่าโดยสาร 11 บาท, รถนั่งชั้นโทปรับอากาศ - JRWEST (เบาะแดง) ขบวน 133 ราคา 104 บาท, รถดีเซลรางนั่งปรับอากาศ ขบวน 75 ราคา 234 บาท, ขบวน 7 และขบวน 21 ราคา 254 บาท อนึ่ง ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ อาคาร Service Hall ติดกับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (Terminal 1) มีรถประจำทาง ขสมก. ปลายทางหมอชิต อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สวนลุมพินี และสนามหลวง รวมทั้งรถเชื่อมต่อของ บขส. ปลายทางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต่างดาวอื่น มองโลกเราว่าคือโคตรฮับแหล่งรวมสาระพัดอย่างอันอุดมสมบูรณ์พร้อมแดกที่ต่างดาวต่างๆอยากได้ เดินทางเข้ามามากมายสาระพัดทิศดวงดาวที่อยากจะได้ทรัพยากรมีค่ามากมายที่ดาวตนจำเป็นต้องใช้และมีเฉพาะที่ดาวโลกนี้โดยมากหรืออย่างเดียวเท่านั้น,มองสาระพัดดวงดาวอื่นๆเสมอโลกใบนี้ไม่ได้เลย.
    ..โลกเรานี้สุดยอดอีกดวงแล้ว แม้จะสร้างขึ้นจากพระเจ้าผู้สร้างก็เถอะแบบเราสร้างตู้ปลานั้นล่ะ,แล้วเราที่เกิดมาในตู้ปลานี้และจะตายในอนาคตก็ว่าตู้ปลาเรานี้สุดยอดมากก็ว่า,ปลาจากดาวดวงอื่นๆก็อยากได้อยากมีแบบอันี้ก็ว่า,เข้ามาขนตัวปลาคือตัวคนนี้ไปแดกไปทำสาระพัดถึงทหารปลาไปสู้กับตู้อื่นๆก็ด้วย,นิกจากทรัพยากรคือตัวปลา ธรรมชาติสรรค์สร้างภายในตัวปลาใบนี้จนเป็นตางึดกะว่า.
    ..ในคลิปนี้ ในมุมกลับกัน นาซ่าผีบ้านี้แหกตาเราหมดสิ้น มันไม่ได้ส่งยานสำรวจอะไรออกจากโดมตู้ปลานี้ได้เลย หากคนสร้างโดมไม่เปิดโดมตู้ปลาด้านบนให้ ก็ออกมาไม่ได้อีก ตลอดสนามแม่เหล็กก็ควบคุมคลื่น ควบคุมพลังงานแบบวิญญาณแบบความถี่บนโลกนี้ได้ด้วย วิญญาณมากมายหลังจากตายขึ้นจึงต้องวนเวียนในโลกนี้อยู่เพราะโดมพลังงานควบคุมคลื่น ควบคุใความถี่ ควบคุมพลังงานโลกใบนี้ได้นั้นเอง,
    ..โลกที่มิใช่โลก,เหี้ยทั้งหมดโกหกตลกแดกเราหมดก็ได้.

    https://youtube.com/shorts/ATcKfjJAQrM?si=QQCqKGSWZ-RZumaQ
    ต่างดาวอื่น มองโลกเราว่าคือโคตรฮับแหล่งรวมสาระพัดอย่างอันอุดมสมบูรณ์พร้อมแดกที่ต่างดาวต่างๆอยากได้ เดินทางเข้ามามากมายสาระพัดทิศดวงดาวที่อยากจะได้ทรัพยากรมีค่ามากมายที่ดาวตนจำเป็นต้องใช้และมีเฉพาะที่ดาวโลกนี้โดยมากหรืออย่างเดียวเท่านั้น,มองสาระพัดดวงดาวอื่นๆเสมอโลกใบนี้ไม่ได้เลย. ..โลกเรานี้สุดยอดอีกดวงแล้ว แม้จะสร้างขึ้นจากพระเจ้าผู้สร้างก็เถอะแบบเราสร้างตู้ปลานั้นล่ะ,แล้วเราที่เกิดมาในตู้ปลานี้และจะตายในอนาคตก็ว่าตู้ปลาเรานี้สุดยอดมากก็ว่า,ปลาจากดาวดวงอื่นๆก็อยากได้อยากมีแบบอันี้ก็ว่า,เข้ามาขนตัวปลาคือตัวคนนี้ไปแดกไปทำสาระพัดถึงทหารปลาไปสู้กับตู้อื่นๆก็ด้วย,นิกจากทรัพยากรคือตัวปลา ธรรมชาติสรรค์สร้างภายในตัวปลาใบนี้จนเป็นตางึดกะว่า. ..ในคลิปนี้ ในมุมกลับกัน นาซ่าผีบ้านี้แหกตาเราหมดสิ้น มันไม่ได้ส่งยานสำรวจอะไรออกจากโดมตู้ปลานี้ได้เลย หากคนสร้างโดมไม่เปิดโดมตู้ปลาด้านบนให้ ก็ออกมาไม่ได้อีก ตลอดสนามแม่เหล็กก็ควบคุมคลื่น ควบคุมพลังงานแบบวิญญาณแบบความถี่บนโลกนี้ได้ด้วย วิญญาณมากมายหลังจากตายขึ้นจึงต้องวนเวียนในโลกนี้อยู่เพราะโดมพลังงานควบคุมคลื่น ควบคุใความถี่ ควบคุมพลังงานโลกใบนี้ได้นั้นเอง, ..โลกที่มิใช่โลก,เหี้ยทั้งหมดโกหกตลกแดกเราหมดก็ได้. https://youtube.com/shorts/ATcKfjJAQrM?si=QQCqKGSWZ-RZumaQ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว หลังออกจากดูไบและแวะสิงคโปร์ก่อนลงจอดที่สนามบินดอนเมืองเวลา 14.54 น. โดยมีผู้ร่วมเดินทางรวม 6 คน หนึ่งในนั้นคือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085973

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว หลังออกจากดูไบและแวะสิงคโปร์ก่อนลงจอดที่สนามบินดอนเมืองเวลา 14.54 น. โดยมีผู้ร่วมเดินทางรวม 6 คน หนึ่งในนั้นคือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085973 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีบดูด่วน นักข่าวลุ้นทั้งวัน ทักษิณกลับมามั๊ย สุดท้าย..เห็นสิ่งนี้ (8/9/68)
    #ทักษิณจะกลับไหม #ลุ้นทั้งวันไม่มีคำตอบ #ข่าวด่วนการเมือง #สนามบินดอนเมืองร้อนระอุ #ทักษิณคัมแบ็ค #TruthFromThailand #news1 #thaitimes #shorts #Hunsenfiredfirst #CambodiaNoCeasefire
    รีบดูด่วน นักข่าวลุ้นทั้งวัน ทักษิณกลับมามั๊ย สุดท้าย..เห็นสิ่งนี้ (8/9/68) #ทักษิณจะกลับไหม #ลุ้นทั้งวันไม่มีคำตอบ #ข่าวด่วนการเมือง #สนามบินดอนเมืองร้อนระอุ #ทักษิณคัมแบ็ค #TruthFromThailand #news1 #thaitimes #shorts #Hunsenfiredfirst #CambodiaNoCeasefire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เครื่องบินไพรเวตเจ็ท ทะเบียน T7-GTS ที่เคยพาทักษิณไปดูไบ ออกจากสนามบินดูไบเวิลด์เซ็นทรัล 22.16 น. ตามเวลาไทย ลงจอดที่สนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเวลา 06.55 น. ตามเวลาประเทศไทย ใช้เวลารวม 8 ชั่วโมง 39 นาที

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085707

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    เครื่องบินไพรเวตเจ็ท ทะเบียน T7-GTS ที่เคยพาทักษิณไปดูไบ ออกจากสนามบินดูไบเวิลด์เซ็นทรัล 22.16 น. ตามเวลาไทย ลงจอดที่สนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเวลา 06.55 น. ตามเวลาประเทศไทย ใช้เวลารวม 8 ชั่วโมง 39 นาที อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085707 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก WP8 Pro ถึง WP60: เมื่อมือถือสายลุยกลายเป็นเครื่องมือทำงานที่แท้จริง

    Oukitel เปิดตัว WP60 ในงาน IFA 2025 โดยตั้งใจให้เป็น rugged smartphone ที่ท้าทายขีดจำกัดของขนาดหน้าจอและความจุข้อมูล ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 7.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720 x 1560) และตัวเครื่องหนา 14.9 มม. ที่ดูเหมือนแท็บเล็ตมากกว่ามือถือทั่วไป

    แม้ความละเอียดจะไม่สูงมาก แต่ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ทำให้ WP60 เหมาะกับผู้ใช้งานภาคสนาม เช่น วิศวกร, ช่างเทคนิค, หรือเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ที่ต้องการอุปกรณ์ทนทานและใช้งานได้จริงในพื้นที่ที่แท็บเล็ตอาจพกพาไม่สะดวก

    WP60 ใช้ชิป MediaTek Dimensity 7025 และมีให้เลือก 3 รุ่น: 8GB+256GB, 12GB+512GB และ 16GB+512GB ซึ่งตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและสายงานที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ แม้ชิปจะไม่แรงเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็เพียงพอสำหรับงานเอกสาร, การสื่อสาร, และการใช้งานแอปทั่วไป

    กล้องหลังมีความละเอียดสูงถึง 108MP ซึ่งหาได้ยากในมือถือสาย rugged โดยจับคู่กับกล้อง 8MP และ 2MP ส่วนกล้องหน้าแบบ punch-hole มีความละเอียด 32MP เหมาะสำหรับการประชุมวิดีโอหรือถ่ายภาพในพื้นที่ภาคสนาม

    แบตเตอรี่ขนาด 10,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33W PD ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางของมือถือสายลุย (บางรุ่นของ Oukitel มีถึง 16,000mAh) พร้อมฟีเจอร์เสริมเช่น NFC, fingerprint scanner และ gyroscope ที่ช่วยให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น

    WP60 จะวางจำหน่ายในวันที่ 15 ตุลาคม 2025 โดยยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ

    สเปกหลักของ Oukitel WP60
    หน้าจอ 7.2 นิ้ว HD+ (720 x 1560) ขนาดตัวเครื่อง 184 x 87 x 14.9 มม.
    ใช้ชิป MediaTek Dimensity 7025
    มีให้เลือก 3 รุ่น: 8GB+256GB, 12GB+512GB, 16GB+512GB

    กล้องและการใช้งานภาคสนาม
    กล้องหลัง 108MP + 8MP + 2MP
    กล้องหน้า 32MP แบบ punch-hole
    เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องการภาพชัดและอุปกรณ์ทนทาน

    แบตเตอรี่และฟีเจอร์เสริม
    แบตเตอรี่ 10,000mAh รองรับ 33W PD charging
    มี NFC, fingerprint scanner และ gyroscope
    ใช้ Android 15.0 พร้อมระบบความปลอดภัยระดับพื้นฐาน

    การวางจำหน่าย
    เปิดตัวในงาน IFA 2025
    วางจำหน่ายวันที่ 15 ตุลาคม 2025
    ยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ

    https://www.techradar.com/pro/finally-heres-a-phablet-for-fans-of-big-screen-mobiles-rugged-oukitels-wp60-has-a-huge-7-2-inch-display-and-up-to-512gb-storage
    🎙️ เรื่องเล่าจาก WP8 Pro ถึง WP60: เมื่อมือถือสายลุยกลายเป็นเครื่องมือทำงานที่แท้จริง Oukitel เปิดตัว WP60 ในงาน IFA 2025 โดยตั้งใจให้เป็น rugged smartphone ที่ท้าทายขีดจำกัดของขนาดหน้าจอและความจุข้อมูล ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 7.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720 x 1560) และตัวเครื่องหนา 14.9 มม. ที่ดูเหมือนแท็บเล็ตมากกว่ามือถือทั่วไป แม้ความละเอียดจะไม่สูงมาก แต่ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ทำให้ WP60 เหมาะกับผู้ใช้งานภาคสนาม เช่น วิศวกร, ช่างเทคนิค, หรือเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ที่ต้องการอุปกรณ์ทนทานและใช้งานได้จริงในพื้นที่ที่แท็บเล็ตอาจพกพาไม่สะดวก WP60 ใช้ชิป MediaTek Dimensity 7025 และมีให้เลือก 3 รุ่น: 8GB+256GB, 12GB+512GB และ 16GB+512GB ซึ่งตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและสายงานที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ แม้ชิปจะไม่แรงเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็เพียงพอสำหรับงานเอกสาร, การสื่อสาร, และการใช้งานแอปทั่วไป กล้องหลังมีความละเอียดสูงถึง 108MP ซึ่งหาได้ยากในมือถือสาย rugged โดยจับคู่กับกล้อง 8MP และ 2MP ส่วนกล้องหน้าแบบ punch-hole มีความละเอียด 32MP เหมาะสำหรับการประชุมวิดีโอหรือถ่ายภาพในพื้นที่ภาคสนาม แบตเตอรี่ขนาด 10,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 33W PD ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางของมือถือสายลุย (บางรุ่นของ Oukitel มีถึง 16,000mAh) พร้อมฟีเจอร์เสริมเช่น NFC, fingerprint scanner และ gyroscope ที่ช่วยให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น WP60 จะวางจำหน่ายในวันที่ 15 ตุลาคม 2025 โดยยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ✅ สเปกหลักของ Oukitel WP60 ➡️ หน้าจอ 7.2 นิ้ว HD+ (720 x 1560) ขนาดตัวเครื่อง 184 x 87 x 14.9 มม. ➡️ ใช้ชิป MediaTek Dimensity 7025 ➡️ มีให้เลือก 3 รุ่น: 8GB+256GB, 12GB+512GB, 16GB+512GB ✅ กล้องและการใช้งานภาคสนาม ➡️ กล้องหลัง 108MP + 8MP + 2MP ➡️ กล้องหน้า 32MP แบบ punch-hole ➡️ เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องการภาพชัดและอุปกรณ์ทนทาน ✅ แบตเตอรี่และฟีเจอร์เสริม ➡️ แบตเตอรี่ 10,000mAh รองรับ 33W PD charging ➡️ มี NFC, fingerprint scanner และ gyroscope ➡️ ใช้ Android 15.0 พร้อมระบบความปลอดภัยระดับพื้นฐาน ✅ การวางจำหน่าย ➡️ เปิดตัวในงาน IFA 2025 ➡️ วางจำหน่ายวันที่ 15 ตุลาคม 2025 ➡️ ยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ https://www.techradar.com/pro/finally-heres-a-phablet-for-fans-of-big-screen-mobiles-rugged-oukitels-wp60-has-a-huge-7-2-inch-display-and-up-to-512gb-storage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 กันยายน 2568
    22.39 น.

    แอป Flightradar24 ตรวจพบเครื่องบิน Bombardier Global 7500 รหัส GL7T บนลานจอดสนามบินดูไบ โดยไม่ปรากฏข้อมูลเที่ยวบิน ไม่ว่าจะเป็นเวลาออกเดินทาง ปลายทาง หรือทะเบียนเครื่อง (ขึ้นว่า N/A) ระบบแสดงเพียงว่าจอดนิ่งที่ระดับความสูง 0 ฟุต ความเร็ว 0 นอต ใกล้อากาศยานลำอื่น
    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร เคยใช้เครื่องรุ่นนี้ในการเดินทางไปดูไบ ล่าสุดสัญญาณได้หายไปแล้ว

    #MONONews
    7 กันยายน 2568 22.39 น. แอป Flightradar24 ตรวจพบเครื่องบิน Bombardier Global 7500 รหัส GL7T บนลานจอดสนามบินดูไบ โดยไม่ปรากฏข้อมูลเที่ยวบิน ไม่ว่าจะเป็นเวลาออกเดินทาง ปลายทาง หรือทะเบียนเครื่อง (ขึ้นว่า N/A) ระบบแสดงเพียงว่าจอดนิ่งที่ระดับความสูง 0 ฟุต ความเร็ว 0 นอต ใกล้อากาศยานลำอื่น ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร เคยใช้เครื่องรุ่นนี้ในการเดินทางไปดูไบ ล่าสุดสัญญาณได้หายไปแล้ว #MONONews
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" ส่อแววเบี้ยวศาล! คาดไม่กลับไทย 9 ก.ย. นี้ หลังเผ่นไปดูไบ อ้างสนามบินสิงคโปร์ปิด ทั้งที่เปิด 24 ชม. แถมเติมน้ำมันเต็มถังตั้งแต่ต้น หวั่นคุก 8 ปี หากอภัยโทษโมฆะ เหตุเพราะถูกเท..?

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085612

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    "ทักษิณ" ส่อแววเบี้ยวศาล! คาดไม่กลับไทย 9 ก.ย. นี้ หลังเผ่นไปดูไบ อ้างสนามบินสิงคโปร์ปิด ทั้งที่เปิด 24 ชม. แถมเติมน้ำมันเต็มถังตั้งแต่ต้น หวั่นคุก 8 ปี หากอภัยโทษโมฆะ เหตุเพราะถูกเท..? อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085612 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
    ตอนที่ 2
    นาย Kenneth Perry Landon เป็นมิชชั่นนารี หมอสอนศาสนา แต่ไม่ใช่มิชชั่นนารีประเภทเดินหน้าเซียวเที่ยวเคาะประตูบ้าน เหมือนคนขายหนังสือพจนานุกรมสมัยก่อน แต่เขาเป็นนักสอนศาสนามีดีกรี จบปริญญาตรีทางเทววิทยา Theological Seminary จากมหาวิทยาลัย Princeton (วิชานี้เขาว่านักบวชสมัยก่อนที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนา แถวเอเซีย ลาตินอเมริกา ล้วนจบวิชานี้ทั้งนั้น นอกเหนือจากเรียนหลายภาษาแล้ว หนึ่งในหลักสูตรเขาว่าต้องเรียนฟันดาบและต่อสู้ป้องกันตัวด้วย)หลังจากนั้นนาย Kenneth ก็เรียนต่อจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย Chicago เขาเดินทางมาเมืองไทย พร้อมภรรยา เมื่อประมาณ ค.ศ. 1927 (อย่าเพิ่งโว้ย ว่าเล่านิทานโบราณจัง ตอนนี้ใครๆ เขาเขียนเรื่องเรือบินหายหรือสงครามโลกครั้งที่ 3 กันทั้งนั้น ใจเย็น อ่านต่อไปก่อนน่า เดี๋ยวมันก็อธิบายมาถึงปัจจุบันได้เองแหละ)
    เขากับนาง Margaret เดินทางมาทางเรือจากด้านตะวันออกของอเมริกา ผ่านมหาสมุทรแปซิฟิก มาโผล่เอาที่สิงคโปร์ ตลอดทางที่เรือแวะจอดท่าต่างๆ เขานั่งเบิ่งตา หูตั้ง มองทุกอย่าง ฟังทุกเรื่อง จัดเก็บข้อมูลเรียงแน่นอยู่ในหัว (ใบสั่งมันคงระบุชัดเจนดี) จนเมื่อเรือแล่นจากสิงคโปร์ขึ้นมาบางกอก เมียก็ถามเขาว่า นี่เธอรู้จักเมืองไทยดีแค่ไหนนะเนี่ย เขาตอบว่า ฉันรู้แต่ว่าคนไทยส่วนมากเป็นฝาแฝดตัวติดกัน แล้วก็มีช้างเผือกแยะมาก และที่เมืองไทยฝนน่าจะตกชุก เพราะฉันเห็นรูปถ่ายพระเจ้าแผ่นดินของไทย นั่งอยู่ใต้ร่มอันใหญ่มาก หน้าตาเหมือนน้ำพุ 9 ชั้น (อืม ! ชั้นเชิงใช้ได้ ตอบเมียตัวเองได้แบบนี้อนาคตไกล)
    นาย Kenneth กับนาง Margaret เมื่อแรกมาถึงเมืองไทยก็พักอยู่ที่เมืองบางกอกก่อน อยู่ประมาณ 1 ปี ตลอดเวลา 1 ปี เขาถูกพาไปป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่ในสังคมฝรั่งที่มีทั้งพวกมิชชั่นนารี พวกฑูต และพ่อค้าฝรั่ง แล้วฝรั่งพวกนี้ก็พาเขาเข้าสังคมคนไทยชั้นสูง ทำให้เขามีโอกาสรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองไทย รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ระดับสูง เช่น กรมพระยาดำรงเดชานุภาพ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เป็นต้น (อย่าลืมว่าเมื่อนาย Kenneth มาถึงเมืองไทย ช่วงนั้นยังเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อยู่ น่าสนใจวิธีการนำตัวเข้าสังคมของนักสอนศาสนารายนี้จริงๆ) นาย Kenneth ไม่ได้ใช้เวลาเดินเล่นอยู่ในวงสังคมชั้นสูงอย่างเดียว อีกอย่างที่เขาทำอย่างเอาจริงเอาจัง และไม่ให้ใครรู้ คือ เขาตั้งใจเรียนภาษาไทย เขาจ้างครูมาสอน เขาและภรรยาเรียนภาษาไทยกับครูทุกวันๆ ละ 3 ชั่วโมง และทำการบ้านเตรียมตัวอีกวันละ 3 ชั่วโมง สำหรับการเรียนในวันรุ่งขึ้น เป็นการเรียนแบบหลักสูตรเร่งรัดเลยละ (มันทำไมต้องเร่งรัดกันขนาดนี้นะ ?) เขาฝึกบทเรียนภาษาไทยที่เขาเรียน ด้วยการออกไปเดินเที่ยวเล่นในตลาด ไปเดินซื้อของและถามแม่ค้า เป็นภาษาไทยว่า “เท่าไหร่” และไม่ว่าแม่ค้าจะตอบว่าอะไร และไม่ว่าเขาจะฟังรู้เรื่องหรือไม่ เขาก็จะตอบกลับเป็นภาษาไทยว่า “แพงไป” แล้วก็เดินไปหาแม่ค้าเจ้าอื่นต่อไป (เห็นลีลาสายลับรุ่นโบราณไหมครับ สมัยนี้ก็ยังทำแบบนี้ แต่แทนที่จะเดินเล่นตามตลาด เขาไปเดินเล่นตามห้าง ตามงานสังคมชั้นสูง ตามที่มั่วสุมของคนชั้นสูง เช่นที่สปอร์ตคลับ และตามบ้านคนใหญ่คนโตทั้งหลาย ฯลฯ เสร็จแล้วพวกเขาก็ไปรายงานข้อมูลที่ได้ยินมาจากที่ไปเดินเล่น ตามที่ตัวเองเข้าใจ แบบ งูๆ ปลาๆ ต่อนายเหนือ เรื่องมันถึงได้วุ่น !)
    จากการเรียนภาษาไทยอย่างตั้งอกตั้งใจ ทำให้เขาเข้าใจว่า ภาษาไทยเป็นภาษาที่ลึกซึ้ง แสดงถึงความละเอียดอ่อนของความเป็นคนไทย เขายกตัวอย่างคำว่า ฉัน ภาษาอังกฤษ ใช้ I หรือ me แค่ 2 คำ แต่ภาษาไทยมีให้เลือกใช้ถึง 15 คำ แต่ละคำแสดงถึงสถานะทางสังคมของ ผู้พูด ความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดและยังแยกเพศได้อีก สิ่งเหล่านี้ไม่มีในภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นคำเดียวกันนั้น ถ้าใช้คู่กับอีกคำ ระหว่างบุรุษที่ 1 กับบุรุษที่ 2 ยังแสดงถึงอารมณ์ ความสนิทสนมของผู้ใช้อีกด้วย รวมทั้งแสดงได้ถึงฐานะที่สูงต่ำกว่ากัน เช่นคำว่า “มึง” และ “กู” ดังนั้นจึงเป็นการยากที่ชาวต่างชาติจะเข้าใจคนไทย และสังคมไทยถ้าไม่เข้าใจภาษาไทยให้แตกฉานเสียก่อน (อยากรู้ว่าไอ้พวก app รุ่นใหม่ที่ไปเดินเล่นตามสังคมนั้น มันจะเข้าใจความละเอียดอ่อนของคนไทยได้แค่ไหนกัน)
    นอกจากนี้จากการเรียนภาษาไทย ทำให้เขาเข้าใจว่า กว่าครึ่งของภาษาไทยมีรากมาจากภาษาสันสกฤตและบาลี ซึ่งเป็นภาษาโบราณของอินเดีย และเกี่ยวพันกับพุทธศาสนา ซึ่งเป็นทั้งศาสนาและวัฒนธรรมของคนไทย เขาบอกกับตัวเองว่าถ้าจะเข้าใจคนไทยให้ลึกซึ้ง ต้องเข้าใจภาษาไทย และควรจะศึกษาเกี่ยวกับอินเดียด้วย เพื่อเข้าใจที่มาที่ไปของคนไทย ประเพณี และวิธีการคิดของคนไทย ซึ่งภายหลังเขาได้กลับไปเรียนต่อปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัย Chicago เขาเรียนภาษาสันสกฤต บาลีรวมทั้งเรียนวิชาเกี่ยวกับอินเดียด้วย (เขาหาอุปกรณ์เสริมได้เก่ง ต้องยอมรับ นักสอนศาสนาคนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ)
    เขาเรียนภาษาไทยแตกฉานได้อย่างรวดเร็ว ระหว่างที่อยู่บางกอก เขาทดสอบความแตกฉานของตัวเองด้วยการ เริ่มเทศน์เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ เป็นภาษาไทย ช่วงแรกๆ เวลาเขาเทศน์ เมื่อพูดถึงพระเยซูถูกตรึง “กางเขน” เขาออกเสียงภาษาไทย เป็นพระเยซูถูกตรึง “กางเกง” และนั่นทำให้เขาเป็นที่ชอบใจของคนไทย ว่าเขาเทศน์ได้ตลกดี และทำให้มีคนมาฟังเขาแยะ แม้จะไม่รู้จักพระเยซูและศาสนาคริสเตียนเลยแม้แต่น้อย แต่ก็พากันมาดูฝรั่งแทศน์เป็นภาษาไทย แบบดูการแสดงตลก โดยไม่คิดอะไรมาก

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า” ตอนที่ 2 นาย Kenneth Perry Landon เป็นมิชชั่นนารี หมอสอนศาสนา แต่ไม่ใช่มิชชั่นนารีประเภทเดินหน้าเซียวเที่ยวเคาะประตูบ้าน เหมือนคนขายหนังสือพจนานุกรมสมัยก่อน แต่เขาเป็นนักสอนศาสนามีดีกรี จบปริญญาตรีทางเทววิทยา Theological Seminary จากมหาวิทยาลัย Princeton (วิชานี้เขาว่านักบวชสมัยก่อนที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนา แถวเอเซีย ลาตินอเมริกา ล้วนจบวิชานี้ทั้งนั้น นอกเหนือจากเรียนหลายภาษาแล้ว หนึ่งในหลักสูตรเขาว่าต้องเรียนฟันดาบและต่อสู้ป้องกันตัวด้วย)หลังจากนั้นนาย Kenneth ก็เรียนต่อจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย Chicago เขาเดินทางมาเมืองไทย พร้อมภรรยา เมื่อประมาณ ค.ศ. 1927 (อย่าเพิ่งโว้ย ว่าเล่านิทานโบราณจัง ตอนนี้ใครๆ เขาเขียนเรื่องเรือบินหายหรือสงครามโลกครั้งที่ 3 กันทั้งนั้น ใจเย็น อ่านต่อไปก่อนน่า เดี๋ยวมันก็อธิบายมาถึงปัจจุบันได้เองแหละ) เขากับนาง Margaret เดินทางมาทางเรือจากด้านตะวันออกของอเมริกา ผ่านมหาสมุทรแปซิฟิก มาโผล่เอาที่สิงคโปร์ ตลอดทางที่เรือแวะจอดท่าต่างๆ เขานั่งเบิ่งตา หูตั้ง มองทุกอย่าง ฟังทุกเรื่อง จัดเก็บข้อมูลเรียงแน่นอยู่ในหัว (ใบสั่งมันคงระบุชัดเจนดี) จนเมื่อเรือแล่นจากสิงคโปร์ขึ้นมาบางกอก เมียก็ถามเขาว่า นี่เธอรู้จักเมืองไทยดีแค่ไหนนะเนี่ย เขาตอบว่า ฉันรู้แต่ว่าคนไทยส่วนมากเป็นฝาแฝดตัวติดกัน แล้วก็มีช้างเผือกแยะมาก และที่เมืองไทยฝนน่าจะตกชุก เพราะฉันเห็นรูปถ่ายพระเจ้าแผ่นดินของไทย นั่งอยู่ใต้ร่มอันใหญ่มาก หน้าตาเหมือนน้ำพุ 9 ชั้น (อืม ! ชั้นเชิงใช้ได้ ตอบเมียตัวเองได้แบบนี้อนาคตไกล) นาย Kenneth กับนาง Margaret เมื่อแรกมาถึงเมืองไทยก็พักอยู่ที่เมืองบางกอกก่อน อยู่ประมาณ 1 ปี ตลอดเวลา 1 ปี เขาถูกพาไปป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่ในสังคมฝรั่งที่มีทั้งพวกมิชชั่นนารี พวกฑูต และพ่อค้าฝรั่ง แล้วฝรั่งพวกนี้ก็พาเขาเข้าสังคมคนไทยชั้นสูง ทำให้เขามีโอกาสรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองไทย รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ระดับสูง เช่น กรมพระยาดำรงเดชานุภาพ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เป็นต้น (อย่าลืมว่าเมื่อนาย Kenneth มาถึงเมืองไทย ช่วงนั้นยังเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อยู่ น่าสนใจวิธีการนำตัวเข้าสังคมของนักสอนศาสนารายนี้จริงๆ) นาย Kenneth ไม่ได้ใช้เวลาเดินเล่นอยู่ในวงสังคมชั้นสูงอย่างเดียว อีกอย่างที่เขาทำอย่างเอาจริงเอาจัง และไม่ให้ใครรู้ คือ เขาตั้งใจเรียนภาษาไทย เขาจ้างครูมาสอน เขาและภรรยาเรียนภาษาไทยกับครูทุกวันๆ ละ 3 ชั่วโมง และทำการบ้านเตรียมตัวอีกวันละ 3 ชั่วโมง สำหรับการเรียนในวันรุ่งขึ้น เป็นการเรียนแบบหลักสูตรเร่งรัดเลยละ (มันทำไมต้องเร่งรัดกันขนาดนี้นะ ?) เขาฝึกบทเรียนภาษาไทยที่เขาเรียน ด้วยการออกไปเดินเที่ยวเล่นในตลาด ไปเดินซื้อของและถามแม่ค้า เป็นภาษาไทยว่า “เท่าไหร่” และไม่ว่าแม่ค้าจะตอบว่าอะไร และไม่ว่าเขาจะฟังรู้เรื่องหรือไม่ เขาก็จะตอบกลับเป็นภาษาไทยว่า “แพงไป” แล้วก็เดินไปหาแม่ค้าเจ้าอื่นต่อไป (เห็นลีลาสายลับรุ่นโบราณไหมครับ สมัยนี้ก็ยังทำแบบนี้ แต่แทนที่จะเดินเล่นตามตลาด เขาไปเดินเล่นตามห้าง ตามงานสังคมชั้นสูง ตามที่มั่วสุมของคนชั้นสูง เช่นที่สปอร์ตคลับ และตามบ้านคนใหญ่คนโตทั้งหลาย ฯลฯ เสร็จแล้วพวกเขาก็ไปรายงานข้อมูลที่ได้ยินมาจากที่ไปเดินเล่น ตามที่ตัวเองเข้าใจ แบบ งูๆ ปลาๆ ต่อนายเหนือ เรื่องมันถึงได้วุ่น !) จากการเรียนภาษาไทยอย่างตั้งอกตั้งใจ ทำให้เขาเข้าใจว่า ภาษาไทยเป็นภาษาที่ลึกซึ้ง แสดงถึงความละเอียดอ่อนของความเป็นคนไทย เขายกตัวอย่างคำว่า ฉัน ภาษาอังกฤษ ใช้ I หรือ me แค่ 2 คำ แต่ภาษาไทยมีให้เลือกใช้ถึง 15 คำ แต่ละคำแสดงถึงสถานะทางสังคมของ ผู้พูด ความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดและยังแยกเพศได้อีก สิ่งเหล่านี้ไม่มีในภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นคำเดียวกันนั้น ถ้าใช้คู่กับอีกคำ ระหว่างบุรุษที่ 1 กับบุรุษที่ 2 ยังแสดงถึงอารมณ์ ความสนิทสนมของผู้ใช้อีกด้วย รวมทั้งแสดงได้ถึงฐานะที่สูงต่ำกว่ากัน เช่นคำว่า “มึง” และ “กู” ดังนั้นจึงเป็นการยากที่ชาวต่างชาติจะเข้าใจคนไทย และสังคมไทยถ้าไม่เข้าใจภาษาไทยให้แตกฉานเสียก่อน (อยากรู้ว่าไอ้พวก app รุ่นใหม่ที่ไปเดินเล่นตามสังคมนั้น มันจะเข้าใจความละเอียดอ่อนของคนไทยได้แค่ไหนกัน) นอกจากนี้จากการเรียนภาษาไทย ทำให้เขาเข้าใจว่า กว่าครึ่งของภาษาไทยมีรากมาจากภาษาสันสกฤตและบาลี ซึ่งเป็นภาษาโบราณของอินเดีย และเกี่ยวพันกับพุทธศาสนา ซึ่งเป็นทั้งศาสนาและวัฒนธรรมของคนไทย เขาบอกกับตัวเองว่าถ้าจะเข้าใจคนไทยให้ลึกซึ้ง ต้องเข้าใจภาษาไทย และควรจะศึกษาเกี่ยวกับอินเดียด้วย เพื่อเข้าใจที่มาที่ไปของคนไทย ประเพณี และวิธีการคิดของคนไทย ซึ่งภายหลังเขาได้กลับไปเรียนต่อปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัย Chicago เขาเรียนภาษาสันสกฤต บาลีรวมทั้งเรียนวิชาเกี่ยวกับอินเดียด้วย (เขาหาอุปกรณ์เสริมได้เก่ง ต้องยอมรับ นักสอนศาสนาคนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ) เขาเรียนภาษาไทยแตกฉานได้อย่างรวดเร็ว ระหว่างที่อยู่บางกอก เขาทดสอบความแตกฉานของตัวเองด้วยการ เริ่มเทศน์เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ เป็นภาษาไทย ช่วงแรกๆ เวลาเขาเทศน์ เมื่อพูดถึงพระเยซูถูกตรึง “กางเขน” เขาออกเสียงภาษาไทย เป็นพระเยซูถูกตรึง “กางเกง” และนั่นทำให้เขาเป็นที่ชอบใจของคนไทย ว่าเขาเทศน์ได้ตลกดี และทำให้มีคนมาฟังเขาแยะ แม้จะไม่รู้จักพระเยซูและศาสนาคริสเตียนเลยแม้แต่น้อย แต่ก็พากันมาดูฝรั่งแทศน์เป็นภาษาไทย แบบดูการแสดงตลก โดยไม่คิดอะไรมาก คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • 555,ถ้าประชาชนเอาจริง บอกเลยข้าราชการทั้งสระแก้วตายยกเข่ง,ปล่อยปละละเลยก็ ม.157 แล้ว สมยอมรู้เห็นเป็นใจให้เสียหายแบบเสียดินแดนโดยเจตนาให้คนเขมรครอบครองไปขับไล่ก็ ม.119แล้ว ตำรวจท้องที่ ตำรวจชายแดน ทหารกำกับดูแลพื้นที่ก็ต้องโดนด้วยตามเนื้องานรับผิดชอบตน ทั้งม.157และ ม.119ด้วยชัดเจนเอาแค่สองตัวนี้ก็ดิ้นไม่หลุดแล้วนอกจากนายใหญ่โคตรพ่อโคตรแมร่งเลวชั่วปกป้องพวกนี้,จึงต้องกำจัดนายใหญ่นี้ด้วย เป็นเจ้าเป็นเชื้อพระวงศ์หากทำผิดเสียเองให้ท้ายจนนำไปสู่ภัยเสียดินแดนไทยตนก็มิอาจเก็บไว้ พวกผิดหวังขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ลูกหลานนางสนมต่างๆในอดีตสืบทอดถึงปัจจุบันหากกระทำตนเลวชั่วก็ต้องกำจัดจริงๆ,นายใหญ่นายใหญ่นอกจากอำมาตย์ราชการใหญ่โต ก็มองไม่ออกว่าโคตรหม่อมๆชั่วเลวตรใดก็ว่า ผู้ดีโคตรเหง้าตระกูลใดสั่งมทภ.1ได้มิให้จัดการเขมรเถื่อนจนถึงปัจจุบัน ,แฝมทภ.2ทำไมจัดการได้ อดีตทหารนายพลใดที่เลวชั่วนัก,กฎหมายหมิ่นประมาทต้องยกเลิก,จะได้มีคนกล้าแฉกล้าพูดว่า อาจจะเป็นใคร น่าจะเป็นใคร โอกาสเป็นใคร สายลับคาดว่าเป็นคนชื่อนั้นนี้ เปิดออกมาก็ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องร้องหมิ่นประมาทมัน,มันไม่ผิดก็ไม่ต้องเดือดร้อน ออกมาตอบโต้ได้สาระพัดทาง,ประจานประนามด่าว่าคนที่แฉตน เอาความจริงหรือไม่จริงมาพูดได้,จากนั้นประชาชนจะประเมิน ค.ว.ย.ตามหลักเหตุผล ผูกปมไขพิสูจน์แต่ละฝ่ายว่ามีมูลความจริงขนาดไหน คนแฉมีรูปมีพยานหลักฐานโชว์บอกผ่านสื่อประชาชนอีก,ความจริงก็จะทำลายความไม่จริงลงเรื่อยๆ กำจัดคนไม่ดีในสังคมได้ตลอดเวลา หากไม่สำนึกปรับปรุงตัวก็ดับอนาถจัดการแฉขั้นเด็ดขาดไม่ไว้หน้าอับอายทั่วประเทศไทยเลย,นี้ไง กฎหมายหมิ่นประมาทจึงบัดสบมาก,ปิดปากผู้คนชาวไทยเราได้ดีล่ะ.

    ..ภาค.1ตอนนี้ ทหารภาค1.คือเครดิตตกต่ำมากจากการนำทัพบัญชาการรบลงสนามรบของแม่ทัพภาค.1 ถ้าเทียบสมรภูมิสงคราม9ทัพ99ทัพ,1ในทัพที่พ่ายแพ้สงครามดับอนาถแก้ศัตรูที่แพ้ในสนามรบกับข้าศึก ทหารตายทั้งกองทัพด้วยก็คือทัพของภาค.1นี้ล่ะ,และหากเทียบอีก1ใน9ทัพหรือ99ทัพที่No.1ในการทำศึกสงครามครั้งนี้ที่สุดยอดของทั้งกองทัพก็คือทัพของภาค.2เต็มๆเข้าตีเมืองศัตรูข้าศึกรบตลอด5วันสามารถเข้าตียึดเมืองศัตรูด้วยกว่า11เมืองพื้นที่ข้าศึกนอกจากชนะบนลานสนามรบแล้ว,ภาค.1แม้เมืองเดียวที่ไร้หัวทหารศัตรูบนสนามรบแท้ๆก็ยังเข้าตีเมืองยึดเมืองไม่ได้,อำมาตย์ราชวังยังหน้ามึนหน้าหนาหน้าด้านไม่รู้จักถูกผิด สมควร ไม่สมควร เสือกเลื่อนตำแหน่งชั้นยศให้เป็นรางวัลอีก,เสมือนแม่ทัพผู้นี้แม้ออกรบที่พ่ายแพ้สงครามบนสนามรบกลับมาก็สามารถมีตำแหน่งใหญ่โตบนอำนาจทางทหารได้ เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจนายทหารอื่นๆที่มีความสามารถมากมายกว่าแม่ทัพนายทหารนี้มาก,นี้คือการทำลายความมั่นคงทางกองทัพจากภายในชัดเจน อันตรายมาก เสมือนกรุงศรีอยุธยาล้มสลายเมืองกรุงแตกก็มาจากอำมาตย์ชั่วเลวเหล่านี้นี้เอง,เชิดชูคนกากกระจอกอ่อนแอไปเป็นคนมีอำนาจควบคุมทั้งกองทัพ ซึ่งฝีมือตนไม่มีห่าอะไรเลย รบก็แพ้ ออกสนามรบก็ยังไม่ชักดาบฆ่าทหารฝ่ายศัตรูตายสักคน,ทหารตายทั้งกองทัพจนแพ้สงครามกว่าทัพใดๆใน9ทัพ99ทัพ ,หากยังเป็นแบบนี้ อันตรายแน่นอน,เราไม่สามารถระวังภัยนั้นได้ตลอดเวลาดอก,อย่าประมาทไฟแม้เพียงก้อนเล็กน้อย.

    https://youtube.com/shorts/bM8NJBMPjuw?si=8TiqGCDlsRFHhSJI
    555,ถ้าประชาชนเอาจริง บอกเลยข้าราชการทั้งสระแก้วตายยกเข่ง,ปล่อยปละละเลยก็ ม.157 แล้ว สมยอมรู้เห็นเป็นใจให้เสียหายแบบเสียดินแดนโดยเจตนาให้คนเขมรครอบครองไปขับไล่ก็ ม.119แล้ว ตำรวจท้องที่ ตำรวจชายแดน ทหารกำกับดูแลพื้นที่ก็ต้องโดนด้วยตามเนื้องานรับผิดชอบตน ทั้งม.157และ ม.119ด้วยชัดเจนเอาแค่สองตัวนี้ก็ดิ้นไม่หลุดแล้วนอกจากนายใหญ่โคตรพ่อโคตรแมร่งเลวชั่วปกป้องพวกนี้,จึงต้องกำจัดนายใหญ่นี้ด้วย เป็นเจ้าเป็นเชื้อพระวงศ์หากทำผิดเสียเองให้ท้ายจนนำไปสู่ภัยเสียดินแดนไทยตนก็มิอาจเก็บไว้ พวกผิดหวังขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ลูกหลานนางสนมต่างๆในอดีตสืบทอดถึงปัจจุบันหากกระทำตนเลวชั่วก็ต้องกำจัดจริงๆ,นายใหญ่นายใหญ่นอกจากอำมาตย์ราชการใหญ่โต ก็มองไม่ออกว่าโคตรหม่อมๆชั่วเลวตรใดก็ว่า ผู้ดีโคตรเหง้าตระกูลใดสั่งมทภ.1ได้มิให้จัดการเขมรเถื่อนจนถึงปัจจุบัน ,แฝมทภ.2ทำไมจัดการได้ อดีตทหารนายพลใดที่เลวชั่วนัก,กฎหมายหมิ่นประมาทต้องยกเลิก,จะได้มีคนกล้าแฉกล้าพูดว่า อาจจะเป็นใคร น่าจะเป็นใคร โอกาสเป็นใคร สายลับคาดว่าเป็นคนชื่อนั้นนี้ เปิดออกมาก็ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องร้องหมิ่นประมาทมัน,มันไม่ผิดก็ไม่ต้องเดือดร้อน ออกมาตอบโต้ได้สาระพัดทาง,ประจานประนามด่าว่าคนที่แฉตน เอาความจริงหรือไม่จริงมาพูดได้,จากนั้นประชาชนจะประเมิน ค.ว.ย.ตามหลักเหตุผล ผูกปมไขพิสูจน์แต่ละฝ่ายว่ามีมูลความจริงขนาดไหน คนแฉมีรูปมีพยานหลักฐานโชว์บอกผ่านสื่อประชาชนอีก,ความจริงก็จะทำลายความไม่จริงลงเรื่อยๆ กำจัดคนไม่ดีในสังคมได้ตลอดเวลา หากไม่สำนึกปรับปรุงตัวก็ดับอนาถจัดการแฉขั้นเด็ดขาดไม่ไว้หน้าอับอายทั่วประเทศไทยเลย,นี้ไง กฎหมายหมิ่นประมาทจึงบัดสบมาก,ปิดปากผู้คนชาวไทยเราได้ดีล่ะ. ..ภาค.1ตอนนี้ ทหารภาค1.คือเครดิตตกต่ำมากจากการนำทัพบัญชาการรบลงสนามรบของแม่ทัพภาค.1 ถ้าเทียบสมรภูมิสงคราม9ทัพ99ทัพ,1ในทัพที่พ่ายแพ้สงครามดับอนาถแก้ศัตรูที่แพ้ในสนามรบกับข้าศึก ทหารตายทั้งกองทัพด้วยก็คือทัพของภาค.1นี้ล่ะ,และหากเทียบอีก1ใน9ทัพหรือ99ทัพที่No.1ในการทำศึกสงครามครั้งนี้ที่สุดยอดของทั้งกองทัพก็คือทัพของภาค.2เต็มๆเข้าตีเมืองศัตรูข้าศึกรบตลอด5วันสามารถเข้าตียึดเมืองศัตรูด้วยกว่า11เมืองพื้นที่ข้าศึกนอกจากชนะบนลานสนามรบแล้ว,ภาค.1แม้เมืองเดียวที่ไร้หัวทหารศัตรูบนสนามรบแท้ๆก็ยังเข้าตีเมืองยึดเมืองไม่ได้,อำมาตย์ราชวังยังหน้ามึนหน้าหนาหน้าด้านไม่รู้จักถูกผิด สมควร ไม่สมควร เสือกเลื่อนตำแหน่งชั้นยศให้เป็นรางวัลอีก,เสมือนแม่ทัพผู้นี้แม้ออกรบที่พ่ายแพ้สงครามบนสนามรบกลับมาก็สามารถมีตำแหน่งใหญ่โตบนอำนาจทางทหารได้ เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจนายทหารอื่นๆที่มีความสามารถมากมายกว่าแม่ทัพนายทหารนี้มาก,นี้คือการทำลายความมั่นคงทางกองทัพจากภายในชัดเจน อันตรายมาก เสมือนกรุงศรีอยุธยาล้มสลายเมืองกรุงแตกก็มาจากอำมาตย์ชั่วเลวเหล่านี้นี้เอง,เชิดชูคนกากกระจอกอ่อนแอไปเป็นคนมีอำนาจควบคุมทั้งกองทัพ ซึ่งฝีมือตนไม่มีห่าอะไรเลย รบก็แพ้ ออกสนามรบก็ยังไม่ชักดาบฆ่าทหารฝ่ายศัตรูตายสักคน,ทหารตายทั้งกองทัพจนแพ้สงครามกว่าทัพใดๆใน9ทัพ99ทัพ ,หากยังเป็นแบบนี้ อันตรายแน่นอน,เราไม่สามารถระวังภัยนั้นได้ตลอดเวลาดอก,อย่าประมาทไฟแม้เพียงก้อนเล็กน้อย. https://youtube.com/shorts/bM8NJBMPjuw?si=8TiqGCDlsRFHhSJI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.137 : เบื้องหลังพาเหรด 80 ปี Victory Day จีนชนะสงครามโลก
    .
    วันพุธที่ 3 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนมีงานใหญ่ คือ งานรำลึกชัยชนะในสงครามต่อต้านญี่ปุ่น และสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปีนี้เป็นวาระครบรอบ 80 ปี โดยประเทศจีนได้จัดการ “สวนสนาม” ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน พร้อมกับเชิญผู้นำ และบุคคลสำคัญจากชาติต่าง ๆ เกือบ 30 ประเทศเข้าร่วมพิธี โดยงานครั้งนี้มีผู้ร่วมงานในพื้นที่มากกว่า 5 หมื่นคน
    .
    ถึงแม้ว่า จีนจะมีพิธีระลึกถึงชัยชนะในสงครามโลกเป็นประจำทุกปี แต่การสวนสนาม และการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่นั้น ไม่ได้มีกันบ่อย ๆ เพราะว่าการจัดงานในระดับนี้ต้องมีการเตรียมงานอย่างมากมาย, มีการฝึกซ้อมหลายครั้ง, และมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ดังนั้น งานในปีนี้จึงมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ ...
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=lU3vWB8sv3U
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #สงครามโลกครั้งที่2 #จีนจัดพาเหรดชนะสงคราม #VictoryDay #จัตุรัสเทียนอันเหมิน
    บูรพาไม่แพ้ Ep.137 : เบื้องหลังพาเหรด 80 ปี Victory Day จีนชนะสงครามโลก . วันพุธที่ 3 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนมีงานใหญ่ คือ งานรำลึกชัยชนะในสงครามต่อต้านญี่ปุ่น และสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปีนี้เป็นวาระครบรอบ 80 ปี โดยประเทศจีนได้จัดการ “สวนสนาม” ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน พร้อมกับเชิญผู้นำ และบุคคลสำคัญจากชาติต่าง ๆ เกือบ 30 ประเทศเข้าร่วมพิธี โดยงานครั้งนี้มีผู้ร่วมงานในพื้นที่มากกว่า 5 หมื่นคน . ถึงแม้ว่า จีนจะมีพิธีระลึกถึงชัยชนะในสงครามโลกเป็นประจำทุกปี แต่การสวนสนาม และการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่นั้น ไม่ได้มีกันบ่อย ๆ เพราะว่าการจัดงานในระดับนี้ต้องมีการเตรียมงานอย่างมากมาย, มีการฝึกซ้อมหลายครั้ง, และมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ดังนั้น งานในปีนี้จึงมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ ... . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=lU3vWB8sv3U . #บูรพาไม่แพ้ #สงครามโลกครั้งที่2 #จีนจัดพาเหรดชนะสงคราม #VictoryDay #จัตุรัสเทียนอันเหมิน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยนักล่า ตอนที่ 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (3)
    คุณครูผู้ปกครอง CRS เขียนสมุดรายงานความประพฤตินักเรียนไทยแบบไม่ต้องตีความกันมาก อเมริการับไม่ได้ที่จะให้ไทยแลนด์เล่นกีฬาสีภายในกันไปตลอดชาติ มันต้องหยุดเสียที จะหยุดแบบไหน ก็แบบที่ทำให้ประเทศไทยมีความสงบมั่นคงนั่นแหละ เพราะมันเป็นความจำเป็นของนักล่า ในการจะใช้ไทย ที่มีบ้านเมืองสงบมั่นคง ร่วมขบวนทัพไปบุกบ้านอาเฮีย !

คุณครูเขียนเองนะว่า ประเทศไทยเป็นที่ชื่นชมว่า มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาตลอด จนเมื่อมีการปฏิวัติ ค.ศ. 2006 (เมื่อมีการไล่ไอ้โจรร้ายออกไป แล้วไอ้โจรร้ายมันไม่ยอมรับ ไม่ว่าผลทางกฏหมาย หรือผลทางการเมือง มันถึงได้ตีตั๋วรวนแบบตั๋วไม่มีหมดอายุ จนกว่าหมดอายุกันไปข้างหนึ่งน่ะแหละ) เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าสื่อนอกหรือคุณนายฑูต มันว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เอารายงานคุณครู CRS ของพวกมันเองนี้แหละ ส่งไปให้อ่านนะครับ ทำเป็นแผ่นโปสเตอร์ใหญ่ ติดหน้าสถาน
ฑูตมันเลยดีไหมพี่น้อง เดี๋ยวผมจะเอา link มาลง แล้วก็ช่วยกันอ่าน ช่วยกันก๊อบส่งกันไป จริง ๆ ก็หาไม่ยากอะไร กดถามอากู “Thailand : Background and US Relations” ปี ค.ศ. 2013 มันก็ขึ้นมาแล้วครับ
    นักล่ามันจะทนนั่งเกาหัวดูอยู่เฉย ๆ ได้ยังไง ประเทศนี้อยู่ในอุ้งมือมันมาตั้งกะ ค.ศ. 1954 กว่า 60 ปีมาแล้ว ของมันเคย เคยมี เคยสั่ง เคยใช้กันได้ วันดีคืนดีมีอาเฮียมายืนพุงโต แอบจับมือกับสมันน้อยอีกคน ความอิจฉาตาร้อนก็ต้องมีเป็นธรรมดา ยังมาปากแข็งทำเป็นขู่ว่า ไอไม่ให้ไทยแลนด์เล่นเป็นตัวเอกในหนังใหม่เรื่อง เมื่อคาวบอยบุก
เซียงไฮ้ “Rebalancing” พูดแบบนี้ นึกว่าสมันน้อยจะร้องไห้ฟูมฟายหรือ ขอโทษผ่านมา 60 ปีแล้ว ไม่มีคอมมี่มาขู่ให้สมันน้อยผวาแล้ว แถมตอนนี้สมันน้อยเนื้อหอม
ไม่ให้เล่นเป็นพระเอก ในเรื่องคาวบอยบุกเซียงไฮ้ สมันน้อยอาจจะเลือกไปเล่นเป็นนางเอกเรื่อง เมื่อเซียงไฮ้ถล่มแอลเอ แทนก็ได้นะ
แล้วไงล่ะ ไปเอาพวกตัวประกอบหน้าใหม่ ผักชีโรยหน้ามาเล่นแทนนะ จะให้กบกระโดดมาจากอินโดนีเซี ย หรือออสเตรเลีย ไม่มีใบบัวแถวชุมพรรองรับ กบได้จมน้ำตายเกลี้ยง เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน ก็รู้อยู่แก่ใจ จนหลุดปากบอกออกมาแล้วว่า ตำแหน่งที่ประเทศไทยตั้งอยู่มันเป็นส่วนสำคัญ (อย่างยิ่ง !) สำหรับการจะเข้าไปเล่นบทคาวบอยบุกเซียงไฮ้
    รายงานของคุณครูผู้ปกครอง CRS ออกมาปลายธันวาคม ค.ศ. 2013
shut down กรุงเทพฯ ของลุงกำนัน 9 ธันวาคม เกิดขึ้นแล้ว นักล่าเห็นแล้วว่า
มวลมหาประชาชน แม้จะร้องรำทำเพลงประกอบการประท้วงขับไล่ทุกวัน แต่ก็เอาจริง (เอะ ! หรือนักล่ามันเป็นคนช่วยส่ง ช่วยเสริม ให้เอาจริง ความสงบจะได้มาเร็ว !?!) แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ให้เห็นว่ารัฐบาลแพ้ยับเยิน บวกกับรายงานการสำรวจของ Asia Foundation ที่บอกว่าคนชั้นกลางจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้มีรายได้ สนับสนุนฝ่ายไล่รัฐบาล
    นักล่าไม่ต้องคิดมาก คุณครู CRS เขียนสารภาพออกมาแล้วว่า ไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ นำเข้าสินค้าจากอเมริกาเป็นจำนวนมาก ชนชั้นกลางคือผู้มีกำลังซื้อ จะปล่อยให้เล่นชกมวยสนามในบ้านไปเรื่อย ๆ แบบนี้ทำให้นักล่าเสียหายในสนามภูมิภาค แถมจะกระเทือนตำแหน่งแชมป์โลกเอาด้วย ไหนจะเรื่องกบจะจมน้ำเพราะไม่มีใบบัวรองรับ ไหนจะมีอาเฮียคอยคว้าสะเอวสมัน น้อยไปเดินเล่น นี่ยังมีเรื่องค้าขายอีก โอ้ พระเจ้า เศรษฐกิจไอกำลังอาการหนัก ต้องการกำลังซื้ออย่างยิ่ง แล้วพวกผักชีโรยหน้าที่ไปเจรจาไว้นะ เอาเข้าจริงจะพึ่งได้แบบ Mil to Mil อย่างคุณพี่ทหารของไทยแลนด์หรือเปล่า สิงคโปร์น่ะ ยังต้องส่งทหารมาฝึกกับคุณพี่ตู่ทุกปี เวียตนามล่ะ รบคนละแนว อาวุธยุทโธปกรณ์เขาก็ได้จากพี่ปูของรัสเซียทั้งนั้น แล้วแน่ใจหรือว่าคุณเวียตเขาจะเชื่อว่านักล่า รักจริงหวังแต่ง รบราฆ่าฟันกันจนตายเป็นเบื่อ เขาไม่ลืมง่าย ๆ หรอกน่า
    ส่วนอินโดน่ะ ตอนคุณพี่ Obama ไปตั้งให้เป็นคู่หูคนใหม่ เพราะบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่เคยอาศัยอยู่บ้านเมืองเขาอยู่เมื่อเด็ก ๆ น่ะ นักวิเคราะห์ค่ายนักล่าเอง หัวร่อกันครืน บอกว่าทดแทนบุญคุณผิดที่เสียแล้วท่าน ท่านอาจจะกำลังยื่นดาบให้ศัตรู (อ้าวตาย เรื่องนี้เขาปิดกันหรือเปล่านะ) ฟิลิปปินส์เองก็ใช่ว่าหายเคืองกัน เดี๋ยวสั่งปิดเดี๋ยวสั่งเปิดฐานทัพ ชาวบ้านเขาก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ วัน ๆ วิดน้ำทะเลออกจากบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว พายุมาแล้ว มาอีก แล้วคุณพ่ออเมริกามาช่วยอะไรบ้างล่ะ ถ้าจะให้ดีช่วยกลับไปอ่าน ยุทธการกบกระโดด อีกรอบนะครับ จะได้ประหยัดแรงงานคนแก่ ไม่ต้องเขียนซ้ำ
    เห็นได้ชัดว่า นักล่าแทบไม่มีทางเลือกหรอก อยากจะบุกเซียงไฮ้ ไม่มีไทยแลนด์เข้าฉากด้วย บอกได้คำเดียวว่าหนังจืดครับ เผลอ ๆ คนดูนอนหลับ น้ำลายไหลยึด จะลุยกับ
อาเฮียเขาทั้งที มันต้องยกทัพโยธาเป็นขบวนใหญ่ มันถึงจะสมศักดิ์ศรีนักล่า มีแต่เด็ก ๆ หรือพวกหน้าใหม่ผักชีโรยหน้าไป แต่หัวหมู่ทะลวงฟันคบกับมา 60 ปี มองหน้ารู้ใจ
ไม่เอาไปด้วย อย่างนี้ต้องส่งสามก๊กบวกตำรา ซุนวูไปให้ คุณพี่ Obama อ่านแทนฟังรายงานของ ไอ้พวกถังสมอง (think tank) พูดถึงเรื่องถังสมอง เดี๋ยวจะแถมให้ก่อนจบ ถ้าไม่ลืมซะก่อน

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยนักล่า ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (3) คุณครูผู้ปกครอง CRS เขียนสมุดรายงานความประพฤตินักเรียนไทยแบบไม่ต้องตีความกันมาก อเมริการับไม่ได้ที่จะให้ไทยแลนด์เล่นกีฬาสีภายในกันไปตลอดชาติ มันต้องหยุดเสียที จะหยุดแบบไหน ก็แบบที่ทำให้ประเทศไทยมีความสงบมั่นคงนั่นแหละ เพราะมันเป็นความจำเป็นของนักล่า ในการจะใช้ไทย ที่มีบ้านเมืองสงบมั่นคง ร่วมขบวนทัพไปบุกบ้านอาเฮีย !

คุณครูเขียนเองนะว่า ประเทศไทยเป็นที่ชื่นชมว่า มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาตลอด จนเมื่อมีการปฏิวัติ ค.ศ. 2006 (เมื่อมีการไล่ไอ้โจรร้ายออกไป แล้วไอ้โจรร้ายมันไม่ยอมรับ ไม่ว่าผลทางกฏหมาย หรือผลทางการเมือง มันถึงได้ตีตั๋วรวนแบบตั๋วไม่มีหมดอายุ จนกว่าหมดอายุกันไปข้างหนึ่งน่ะแหละ) เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าสื่อนอกหรือคุณนายฑูต มันว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เอารายงานคุณครู CRS ของพวกมันเองนี้แหละ ส่งไปให้อ่านนะครับ ทำเป็นแผ่นโปสเตอร์ใหญ่ ติดหน้าสถาน
ฑูตมันเลยดีไหมพี่น้อง เดี๋ยวผมจะเอา link มาลง แล้วก็ช่วยกันอ่าน ช่วยกันก๊อบส่งกันไป จริง ๆ ก็หาไม่ยากอะไร กดถามอากู “Thailand : Background and US Relations” ปี ค.ศ. 2013 มันก็ขึ้นมาแล้วครับ นักล่ามันจะทนนั่งเกาหัวดูอยู่เฉย ๆ ได้ยังไง ประเทศนี้อยู่ในอุ้งมือมันมาตั้งกะ ค.ศ. 1954 กว่า 60 ปีมาแล้ว ของมันเคย เคยมี เคยสั่ง เคยใช้กันได้ วันดีคืนดีมีอาเฮียมายืนพุงโต แอบจับมือกับสมันน้อยอีกคน ความอิจฉาตาร้อนก็ต้องมีเป็นธรรมดา ยังมาปากแข็งทำเป็นขู่ว่า ไอไม่ให้ไทยแลนด์เล่นเป็นตัวเอกในหนังใหม่เรื่อง เมื่อคาวบอยบุก
เซียงไฮ้ “Rebalancing” พูดแบบนี้ นึกว่าสมันน้อยจะร้องไห้ฟูมฟายหรือ ขอโทษผ่านมา 60 ปีแล้ว ไม่มีคอมมี่มาขู่ให้สมันน้อยผวาแล้ว แถมตอนนี้สมันน้อยเนื้อหอม
ไม่ให้เล่นเป็นพระเอก ในเรื่องคาวบอยบุกเซียงไฮ้ สมันน้อยอาจจะเลือกไปเล่นเป็นนางเอกเรื่อง เมื่อเซียงไฮ้ถล่มแอลเอ แทนก็ได้นะ
แล้วไงล่ะ ไปเอาพวกตัวประกอบหน้าใหม่ ผักชีโรยหน้ามาเล่นแทนนะ จะให้กบกระโดดมาจากอินโดนีเซี ย หรือออสเตรเลีย ไม่มีใบบัวแถวชุมพรรองรับ กบได้จมน้ำตายเกลี้ยง เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน ก็รู้อยู่แก่ใจ จนหลุดปากบอกออกมาแล้วว่า ตำแหน่งที่ประเทศไทยตั้งอยู่มันเป็นส่วนสำคัญ (อย่างยิ่ง !) สำหรับการจะเข้าไปเล่นบทคาวบอยบุกเซียงไฮ้ รายงานของคุณครูผู้ปกครอง CRS ออกมาปลายธันวาคม ค.ศ. 2013
shut down กรุงเทพฯ ของลุงกำนัน 9 ธันวาคม เกิดขึ้นแล้ว นักล่าเห็นแล้วว่า
มวลมหาประชาชน แม้จะร้องรำทำเพลงประกอบการประท้วงขับไล่ทุกวัน แต่ก็เอาจริง (เอะ ! หรือนักล่ามันเป็นคนช่วยส่ง ช่วยเสริม ให้เอาจริง ความสงบจะได้มาเร็ว !?!) แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ให้เห็นว่ารัฐบาลแพ้ยับเยิน บวกกับรายงานการสำรวจของ Asia Foundation ที่บอกว่าคนชั้นกลางจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้มีรายได้ สนับสนุนฝ่ายไล่รัฐบาล นักล่าไม่ต้องคิดมาก คุณครู CRS เขียนสารภาพออกมาแล้วว่า ไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ นำเข้าสินค้าจากอเมริกาเป็นจำนวนมาก ชนชั้นกลางคือผู้มีกำลังซื้อ จะปล่อยให้เล่นชกมวยสนามในบ้านไปเรื่อย ๆ แบบนี้ทำให้นักล่าเสียหายในสนามภูมิภาค แถมจะกระเทือนตำแหน่งแชมป์โลกเอาด้วย ไหนจะเรื่องกบจะจมน้ำเพราะไม่มีใบบัวรองรับ ไหนจะมีอาเฮียคอยคว้าสะเอวสมัน น้อยไปเดินเล่น นี่ยังมีเรื่องค้าขายอีก โอ้ พระเจ้า เศรษฐกิจไอกำลังอาการหนัก ต้องการกำลังซื้ออย่างยิ่ง แล้วพวกผักชีโรยหน้าที่ไปเจรจาไว้นะ เอาเข้าจริงจะพึ่งได้แบบ Mil to Mil อย่างคุณพี่ทหารของไทยแลนด์หรือเปล่า สิงคโปร์น่ะ ยังต้องส่งทหารมาฝึกกับคุณพี่ตู่ทุกปี เวียตนามล่ะ รบคนละแนว อาวุธยุทโธปกรณ์เขาก็ได้จากพี่ปูของรัสเซียทั้งนั้น แล้วแน่ใจหรือว่าคุณเวียตเขาจะเชื่อว่านักล่า รักจริงหวังแต่ง รบราฆ่าฟันกันจนตายเป็นเบื่อ เขาไม่ลืมง่าย ๆ หรอกน่า ส่วนอินโดน่ะ ตอนคุณพี่ Obama ไปตั้งให้เป็นคู่หูคนใหม่ เพราะบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่เคยอาศัยอยู่บ้านเมืองเขาอยู่เมื่อเด็ก ๆ น่ะ นักวิเคราะห์ค่ายนักล่าเอง หัวร่อกันครืน บอกว่าทดแทนบุญคุณผิดที่เสียแล้วท่าน ท่านอาจจะกำลังยื่นดาบให้ศัตรู (อ้าวตาย เรื่องนี้เขาปิดกันหรือเปล่านะ) ฟิลิปปินส์เองก็ใช่ว่าหายเคืองกัน เดี๋ยวสั่งปิดเดี๋ยวสั่งเปิดฐานทัพ ชาวบ้านเขาก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ วัน ๆ วิดน้ำทะเลออกจากบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว พายุมาแล้ว มาอีก แล้วคุณพ่ออเมริกามาช่วยอะไรบ้างล่ะ ถ้าจะให้ดีช่วยกลับไปอ่าน ยุทธการกบกระโดด อีกรอบนะครับ จะได้ประหยัดแรงงานคนแก่ ไม่ต้องเขียนซ้ำ เห็นได้ชัดว่า นักล่าแทบไม่มีทางเลือกหรอก อยากจะบุกเซียงไฮ้ ไม่มีไทยแลนด์เข้าฉากด้วย บอกได้คำเดียวว่าหนังจืดครับ เผลอ ๆ คนดูนอนหลับ น้ำลายไหลยึด จะลุยกับ
อาเฮียเขาทั้งที มันต้องยกทัพโยธาเป็นขบวนใหญ่ มันถึงจะสมศักดิ์ศรีนักล่า มีแต่เด็ก ๆ หรือพวกหน้าใหม่ผักชีโรยหน้าไป แต่หัวหมู่ทะลวงฟันคบกับมา 60 ปี มองหน้ารู้ใจ
ไม่เอาไปด้วย อย่างนี้ต้องส่งสามก๊กบวกตำรา ซุนวูไปให้ คุณพี่ Obama อ่านแทนฟังรายงานของ ไอ้พวกถังสมอง (think tank) พูดถึงเรื่องถังสมอง เดี๋ยวจะแถมให้ก่อนจบ ถ้าไม่ลืมซะก่อน คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความไขปริศนาการเดินทางไปดูไบของ "ทักษิณ ชินวัตร" หลังอ้างว่าไม่สามารถลงจอดที่สิงคโปร์ได้ทันเวลา ยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านการบินว่าสนามบินชางงีเปิดให้บริการเครื่องบินส่วนตัว 24 ชั่วโมง ขณะที่สนามบิน Seletar ก็สามารถขอลงจอดฉุกเฉินทางการแพทย์ได้เช่นกัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085038

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความไขปริศนาการเดินทางไปดูไบของ "ทักษิณ ชินวัตร" หลังอ้างว่าไม่สามารถลงจอดที่สิงคโปร์ได้ทันเวลา ยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านการบินว่าสนามบินชางงีเปิดให้บริการเครื่องบินส่วนตัว 24 ชั่วโมง ขณะที่สนามบิน Seletar ก็สามารถขอลงจอดฉุกเฉินทางการแพทย์ได้เช่นกัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000085038 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 411 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบข้อมูลสนามบินเซเลตาร์ สิงคโปร์ เปิดทำการบินถึง 4 ทุ่มตามที่ทักษิณอ้าง เหตุเป็นช่วง "ไนท์ เคอร์ฟิว" ลดเสียงรบกวนชุมชนโดยรอบสนามบิน แถมกลางวันยังมีชั่วโมงฝึกบิน 1 ชั่วโมง 4 ช่วง ด้านอินฟลูเอนเซอร์สายวิทย์ฯ กังขา ถ้าบอกว่ามาหาหมอลงจอดได้ ไม่ต้องไปประเทศอื่น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085048

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    พบข้อมูลสนามบินเซเลตาร์ สิงคโปร์ เปิดทำการบินถึง 4 ทุ่มตามที่ทักษิณอ้าง เหตุเป็นช่วง "ไนท์ เคอร์ฟิว" ลดเสียงรบกวนชุมชนโดยรอบสนามบิน แถมกลางวันยังมีชั่วโมงฝึกบิน 1 ชั่วโมง 4 ช่วง ด้านอินฟลูเอนเซอร์สายวิทย์ฯ กังขา ถ้าบอกว่ามาหาหมอลงจอดได้ ไม่ต้องไปประเทศอื่น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085048 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 620 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" นั่งเครื่องบินส่วนตัวลงจอดที่สนามบินดูไบแล้ว เมื่อ 02.40 น.ที่ผ่านมา หลังออกจากดอนเมืองเมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ก.ย.โดยระบุปลายทางที่สิงคโปร์ แต่เมื่อออกจากน่านฟ้าไทยกลับเปลี่ยนเส้นทาง ด้านเจ้าตัวโพสต์แจงโดน ตม.ไทยกักนาน 2 ชม.สนามบินเอกชนที่สิงโปร์ปิดก่อน จึงเปลี่ยนไปหาหมอที่ดูไบแทน ยันไม่เกินวันที่ 8 กลับไทยแน่นอนเพื่อไปศาลเอง 9 ก.ย.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000084847

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    "ทักษิณ" นั่งเครื่องบินส่วนตัวลงจอดที่สนามบินดูไบแล้ว เมื่อ 02.40 น.ที่ผ่านมา หลังออกจากดอนเมืองเมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ก.ย.โดยระบุปลายทางที่สิงคโปร์ แต่เมื่อออกจากน่านฟ้าไทยกลับเปลี่ยนเส้นทาง ด้านเจ้าตัวโพสต์แจงโดน ตม.ไทยกักนาน 2 ชม.สนามบินเอกชนที่สิงโปร์ปิดก่อน จึงเปลี่ยนไปหาหมอที่ดูไบแทน ยันไม่เกินวันที่ 8 กลับไทยแน่นอนเพื่อไปศาลเอง 9 ก.ย. อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000084847 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • NationTV รายงานล่าสุดเมื่อเวลา 19.09 น. ว่า เครื่องบินของนายทักษิณ บินออกจากสนามบินดอนเมืองไปแล้ว ปลายทางคือที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเทคออฟเวลา 18.35

    https://www.nationtv.tv/politic/378966418
    .
    ตามข้อมูลจาก flightradar24
    MJETS: T7GTS
    DMK-XSP ETD 1835LT
    CREW: 03 OUT 
    PAX: 05 OUT 

    https://www.flightradar24.com/3c0c5abe 
    NationTV รายงานล่าสุดเมื่อเวลา 19.09 น. ว่า เครื่องบินของนายทักษิณ บินออกจากสนามบินดอนเมืองไปแล้ว ปลายทางคือที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเทคออฟเวลา 18.35 https://www.nationtv.tv/politic/378966418 . ตามข้อมูลจาก flightradar24 MJETS: T7GTS DMK-XSP ETD 1835LT CREW: 03 OUT  PAX: 05 OUT  https://www.flightradar24.com/3c0c5abe 
    WWW.NATIONTV.TV
    ด่วน! “ทักษิณ” บินออกจากไทย ก่อนศาลนัดอ่านฟังคดีชั้น 14
    ด่วน! "ทักษิณ" บินออกจากไทยแล้ว ก่อนศาลนัดฟังคดีชั้น 14 สะพัดอยู่ยาวสิงคโปร์! ทนายยัน 9 ก.ย.กลับไทยมาขึ้นศาลแน่ ถ้าไม่มาเจอหมายจับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีกระแสข่าวสะพัดในโซเชียลมีเดีย นายทักษิณ ชินวัตร ได้พยายามที่จะขึ้นเครื่องบินส่วนตัวที่ Mjet เพื่อบินออกจากสนามบินดอนเมือง แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ไม่ยินยอม โดยอ้างว่าจะไป อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเส้นทางพบว่า จุดหมายปลายทางนั้นอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000084821

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    มีกระแสข่าวสะพัดในโซเชียลมีเดีย นายทักษิณ ชินวัตร ได้พยายามที่จะขึ้นเครื่องบินส่วนตัวที่ Mjet เพื่อบินออกจากสนามบินดอนเมือง แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ไม่ยินยอม โดยอ้างว่าจะไป อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเส้นทางพบว่า จุดหมายปลายทางนั้นอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000084821 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 404 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts