• ทางผ่านแวะหน่อยแล้วกัน 😍 @Taman Sari (สวนน้ำของบรรดานางสนมขององค์สุลต่าน) มีคู่บ่าวสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งเยอะมาก และชื่นชมอีกอย่าง มีไกค์ชาวบ้านคอยแนะนำเยอะเลย ส่งเสริมให้ชาวบ้านและชุมชนรอบข้าง (ราคาคนท้องถิ่น 15,000 รูเปีย ประมาณ 40฿ ต่อคน)https://maps.app.goo.gl/3GmqVW2PBQhHV8qB9?g_st=com.google.maps.preview.copyTaman Sari หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Water Castle” เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดย สุลต่านฮาเมงกูบูโวที่ 1 (Sultan Hamengkubuwono I) แห่งราชอาณาจักรยอกยาการ์ตา จุดประสงค์ดั้งเดิมของ Taman Sari คือการเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์และใช้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา การป้องกัน รวมถึงเป็นสวนน้ำเพื่อความเพลิดเพลิน  ประวัติที่สำคัญ: 1. การก่อสร้างTaman Sari ถูกสร้างขึ้นในปี 1758-1765 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุโรป ผสมผสานกับสไตล์ชวา มีสระน้ำ พื้นที่พักผ่อน และอาคารหลากหลายที่ออกแบบอย่างประณีต เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัวของสุลต่าน และหอคอยชมวิว  2. หน้าที่การใช้งาน ใช้เป็น ที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์ เป็น ป้อมปราการทางยุทธศาสตร์ ซึ่งมีอุโมงค์ใต้ดินและพื้นที่ลับเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ใช้สำหรับ พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพิธีทางน้ำที่เกี่ยวข้องกับสุลต่านและครอบครัว  3. สถานะในปัจจุบันTaman Sari ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมส่วนต่าง ๆ เช่น สระน้ำกลางแจ้งที่ยังคงสภาพดี และโครงสร้างบางส่วนที่ได้รับการบูรณะ  ด้วยความผสมผสานของวัฒนธรรมท้องถิ่นและตะวันตก Taman Sari จึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของอินโดนีเซียในยุคโบราณ.
    ทางผ่านแวะหน่อยแล้วกัน 😍 @Taman Sari (สวนน้ำของบรรดานางสนมขององค์สุลต่าน) มีคู่บ่าวสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งเยอะมาก และชื่นชมอีกอย่าง มีไกค์ชาวบ้านคอยแนะนำเยอะเลย ส่งเสริมให้ชาวบ้านและชุมชนรอบข้าง (ราคาคนท้องถิ่น 15,000 รูเปีย ประมาณ 40฿ ต่อคน)https://maps.app.goo.gl/3GmqVW2PBQhHV8qB9?g_st=com.google.maps.preview.copyTaman Sari หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Water Castle” เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดย สุลต่านฮาเมงกูบูโวที่ 1 (Sultan Hamengkubuwono I) แห่งราชอาณาจักรยอกยาการ์ตา จุดประสงค์ดั้งเดิมของ Taman Sari คือการเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์และใช้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา การป้องกัน รวมถึงเป็นสวนน้ำเพื่อความเพลิดเพลิน  ประวัติที่สำคัญ: 1. การก่อสร้างTaman Sari ถูกสร้างขึ้นในปี 1758-1765 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุโรป ผสมผสานกับสไตล์ชวา มีสระน้ำ พื้นที่พักผ่อน และอาคารหลากหลายที่ออกแบบอย่างประณีต เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัวของสุลต่าน และหอคอยชมวิว  2. หน้าที่การใช้งาน ใช้เป็น ที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์ เป็น ป้อมปราการทางยุทธศาสตร์ ซึ่งมีอุโมงค์ใต้ดินและพื้นที่ลับเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ใช้สำหรับ พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพิธีทางน้ำที่เกี่ยวข้องกับสุลต่านและครอบครัว  3. สถานะในปัจจุบันTaman Sari ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมส่วนต่าง ๆ เช่น สระน้ำกลางแจ้งที่ยังคงสภาพดี และโครงสร้างบางส่วนที่ได้รับการบูรณะ  ด้วยความผสมผสานของวัฒนธรรมท้องถิ่นและตะวันตก Taman Sari จึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของอินโดนีเซียในยุคโบราณ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • บึ้มขวางกวนอิมเทพา ทำลายพหุวัฒนธรรม

    6 โมงเช้า วันที่ 20 พ.ย. คนร้ายลอบวางระเบิดใส่แคมป์คนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม บ้านปากบางสะกอม หมู่ 1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ต่อมาเวลา 10.30 น และ 10.40 น. เกิดระเบิดลูกที่ 3 และลูกที่4 บริเวณเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุห่างจากที่เกิดเหตุจุดแรกประมาณ 400 เมตร แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบจดหมายพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์เป็นภาษาไทยและเมียนมา ระบุว่า "ถ้าใครที่ทำงานในโครงการนี้ที่นี่และในสามจังหวัดชายแดนใต้ เราขอเตือนจงหยุด ไม่งั้นเราจะไม่รับรองชีวิตของท่าน"

    พ.อ.ปองพล สุทธิเบญจกุล รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แถลงว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามทำลายรูปเคารพทางศาสนา ซึ่งเป็นการทำลายสัญลักษณ์ของความเป็นพหุวัฒนธรรม พยายามสร้างสังคมเชิงเดี่ยวที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและหลักของศาสนาอันดีงาม เชื่อว่าพยายามหยิบความขัดแย้งทางศาสนามาเป็นปัญหาขัดแย้งในพื้นที่ แต่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย แกนนำคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส อ้างว่าไม่ใช่การวางระเบิดแบบปกติ ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่พยายามคัดค้านการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เพราะมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของนิคมฯ แต่ก็แผ่วลง และเห็นว่าเป็นสิทธิ์ของนายทุน กระทั่งเริ่มลงเสาขนาดใหญ่ในพื้นที่

    เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ และครอบครัว ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกเจดีย์สัมฤทธิ์ผลคุ้มลูกกันภัย ณ สถานที่ก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เมื่อวันที่ 14 พ.ย. หรือ 6 วันก่อนเกิดเหตุ โดยมี พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ที่ปรึกษา กอ.รมน.ภาค 4 และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย และได้เชิญพระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส แสดงธรรมเทศนา โดยยืนยันว่าจะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ในจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ เพราะบรรยากาศโดยรอบสวยงามตามธรรมชาติ หาดสวย ทะเลน้ำใส มีเสน่ห์เฉพาะตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

    สำหรับโครงการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เกิดขึ้นเมื่อปี 2565 โดยบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ซื้อที่ดิน 65 ไร่ เพื่อก่อสร้าง เช่นเดียวกับเจ้าแม่กวนอิมในต่างประเทศ แต่ต่อมาคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลานำชาวมุสลิมกว่า 4,000 คน ละหมาดฮายัตเพื่อคัดค้านการก่อสร้าง อ้างว่ามีโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะอยู่เบื้องหลัง และอ้างว่าล้อมรอบด้วยชุมชนชาวมุสลิม ทั้งที่ความจริงที่ดินอยู่ห่างไกลจากชุมชนมาก ส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ต สวนยางพารา และสวนมะพร้าวเท่านั้น

    #Newskit #เจ้าแม่กวนอิม #เทพา
    บึ้มขวางกวนอิมเทพา ทำลายพหุวัฒนธรรม 6 โมงเช้า วันที่ 20 พ.ย. คนร้ายลอบวางระเบิดใส่แคมป์คนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม บ้านปากบางสะกอม หมู่ 1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ต่อมาเวลา 10.30 น และ 10.40 น. เกิดระเบิดลูกที่ 3 และลูกที่4 บริเวณเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุห่างจากที่เกิดเหตุจุดแรกประมาณ 400 เมตร แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบจดหมายพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์เป็นภาษาไทยและเมียนมา ระบุว่า "ถ้าใครที่ทำงานในโครงการนี้ที่นี่และในสามจังหวัดชายแดนใต้ เราขอเตือนจงหยุด ไม่งั้นเราจะไม่รับรองชีวิตของท่าน" พ.อ.ปองพล สุทธิเบญจกุล รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แถลงว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามทำลายรูปเคารพทางศาสนา ซึ่งเป็นการทำลายสัญลักษณ์ของความเป็นพหุวัฒนธรรม พยายามสร้างสังคมเชิงเดี่ยวที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและหลักของศาสนาอันดีงาม เชื่อว่าพยายามหยิบความขัดแย้งทางศาสนามาเป็นปัญหาขัดแย้งในพื้นที่ แต่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย แกนนำคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส อ้างว่าไม่ใช่การวางระเบิดแบบปกติ ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่พยายามคัดค้านการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เพราะมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของนิคมฯ แต่ก็แผ่วลง และเห็นว่าเป็นสิทธิ์ของนายทุน กระทั่งเริ่มลงเสาขนาดใหญ่ในพื้นที่ เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ และครอบครัว ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกเจดีย์สัมฤทธิ์ผลคุ้มลูกกันภัย ณ สถานที่ก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เมื่อวันที่ 14 พ.ย. หรือ 6 วันก่อนเกิดเหตุ โดยมี พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ที่ปรึกษา กอ.รมน.ภาค 4 และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย และได้เชิญพระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส แสดงธรรมเทศนา โดยยืนยันว่าจะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ในจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ เพราะบรรยากาศโดยรอบสวยงามตามธรรมชาติ หาดสวย ทะเลน้ำใส มีเสน่ห์เฉพาะตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สำหรับโครงการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เกิดขึ้นเมื่อปี 2565 โดยบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ซื้อที่ดิน 65 ไร่ เพื่อก่อสร้าง เช่นเดียวกับเจ้าแม่กวนอิมในต่างประเทศ แต่ต่อมาคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลานำชาวมุสลิมกว่า 4,000 คน ละหมาดฮายัตเพื่อคัดค้านการก่อสร้าง อ้างว่ามีโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะอยู่เบื้องหลัง และอ้างว่าล้อมรอบด้วยชุมชนชาวมุสลิม ทั้งที่ความจริงที่ดินอยู่ห่างไกลจากชุมชนมาก ส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ต สวนยางพารา และสวนมะพร้าวเท่านั้น #Newskit #เจ้าแม่กวนอิม #เทพา
    Like
    Sad
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 455 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
    กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้มอบหมายให้ #สภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน จัดงานลอยกระทง ประจำปี 2567
    ในชื่องานว่า "ลอยกระทงคลองสาน สำราญใจ"

    โดยมีแนวคิด สืบสานความเป็นไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
    ซึ่งเริ่มจัดงานในพื้นที่สวนสารพัด ถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพื่อให้สมาชิกในชุมชนเขตคลองสานได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างสัมพันธ์ และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป

    ซึ่งงาน "ลอยกระทงคลองสาน สำราญใจ" ในปีนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จากหลายหน่วยงานที่ได้ร่วมกันสนับสนุนให้เกิดงานในครั้งนี้ขึ้น ได้แก่
    สำนักงานเขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ที่ได้นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆมาร่วมจัดงาน และดูแลความเรียบร้อยตลอดการจัดงาน
    ร่วมกับ สำนักงานวัดทองธรรมชาติ วรวิหาร ที่อนุเคราะห์พื้นที่บริเวณทางเดินท่าเรือให้เราได้ร่วมกันลอยกระทง
    โรงเรียนวัดทองธรรมชาติ ได้นำนักเรียนตัวน้อยๆ มาร่วมกิจกรรม
    วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี นำบุคคลากรมาร่วมจัดกิจรรมสาธิตงานฝีมือ และให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจเรียนฝึกอาชีพระยะสั้น เพื่อที่จะนำวิชาความรู้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้
    โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม ก็ได้มาร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรม สร้างความคึกครื้นแบบไทยผ่านการแสดงพื้นบ้าน และการแสดงนาฏรศิลป์ โดยเด็กๆนักเรียน ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะสืบสานและต่อยอดศิลปะการแสดงพื้นบ้านไทยให้คงอยู่ต่อไป

    และที่สำคัญ คือทุกท่านที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น #คนคลองสาน #คนพื้นที่บ้านใกล้เรือนเคียง หรือ #คนต่างถิ่นต่างแดน ที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทุกคนก็มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้ประเพณีลอยกระทงอันดีงาม ให้คงอยู่ คู่กับเมืองไทยของเราต่อไป

    ซึ่งทาง #สภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน โดย #กรมส่งเสริมวัฒนธรรม #กระทรวงวัฒนธรรม มีเป้าหมายในการส่งเสริมและสนับสนุน กิจกรรมทางวัฒนธรรม และองค์ความรู้พื้นบ้านที่สืบต่อกันมาของชาวคลองสาน ให้คงอยู่ และเผยแพร่วัฒนธรรมที่ดีงามในแบบชาวคลองสาน ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
    #ลอยกระทง #คลองสาน #สยามโสภา
    เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้มอบหมายให้ #สภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน จัดงานลอยกระทง ประจำปี 2567 ในชื่องานว่า "ลอยกระทงคลองสาน สำราญใจ" โดยมีแนวคิด สืบสานความเป็นไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งเริ่มจัดงานในพื้นที่สวนสารพัด ถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพื่อให้สมาชิกในชุมชนเขตคลองสานได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างสัมพันธ์ และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป ซึ่งงาน "ลอยกระทงคลองสาน สำราญใจ" ในปีนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จากหลายหน่วยงานที่ได้ร่วมกันสนับสนุนให้เกิดงานในครั้งนี้ขึ้น ได้แก่ สำนักงานเขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ที่ได้นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆมาร่วมจัดงาน และดูแลความเรียบร้อยตลอดการจัดงาน ร่วมกับ สำนักงานวัดทองธรรมชาติ วรวิหาร ที่อนุเคราะห์พื้นที่บริเวณทางเดินท่าเรือให้เราได้ร่วมกันลอยกระทง โรงเรียนวัดทองธรรมชาติ ได้นำนักเรียนตัวน้อยๆ มาร่วมกิจกรรม วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี นำบุคคลากรมาร่วมจัดกิจรรมสาธิตงานฝีมือ และให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจเรียนฝึกอาชีพระยะสั้น เพื่อที่จะนำวิชาความรู้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม ก็ได้มาร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรม สร้างความคึกครื้นแบบไทยผ่านการแสดงพื้นบ้าน และการแสดงนาฏรศิลป์ โดยเด็กๆนักเรียน ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะสืบสานและต่อยอดศิลปะการแสดงพื้นบ้านไทยให้คงอยู่ต่อไป และที่สำคัญ คือทุกท่านที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น #คนคลองสาน #คนพื้นที่บ้านใกล้เรือนเคียง หรือ #คนต่างถิ่นต่างแดน ที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทุกคนก็มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้ประเพณีลอยกระทงอันดีงาม ให้คงอยู่ คู่กับเมืองไทยของเราต่อไป ซึ่งทาง #สภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน โดย #กรมส่งเสริมวัฒนธรรม #กระทรวงวัฒนธรรม มีเป้าหมายในการส่งเสริมและสนับสนุน กิจกรรมทางวัฒนธรรม และองค์ความรู้พื้นบ้านที่สืบต่อกันมาของชาวคลองสาน ให้คงอยู่ และเผยแพร่วัฒนธรรมที่ดีงามในแบบชาวคลองสาน ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น #ลอยกระทง #คลองสาน #สยามโสภา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 766 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • กิจกรรม "ลอยกระทง คลองสาน สำราญใจ"
    ในแนวคิด สืบสานความเป็นไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
    โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สนุบสนุนให้ทาง #สภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน จัดงานขึ้น เพื่อให้ชุมชนและหน่วยงานในพื้นที่มีส่วนร่วม ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย และส่งเสริมให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของประเพณีลอยกระทง อีกทั้งเสริมสร้างให้สมาชิกในชุมชนเขตคลองสานได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างสัมพันธ์ และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป
    ซึ่งงาน "ลอยกระทง คลองสาน สำราญใจ" ในปีนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จากหลายหน่วยงานที่ได้ร่วมกับสนับสนุนให้เกิดงานในครั้งนี้ขึ้น ตั้งแต่
    กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ได้มอบหมายให้ทางสภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน ประสานการจัดงานร่วมกับ
    #สำนักงานเขตคลองสาน ร่วมกับ #วัดทองธรรมชาติวรวิหาร ที่อนุเคราะห์พื้นที่บริเวณทางเดินท่าเรือให้เราได้ร่วมกันลอยกระทง
    ทาง โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม ก็ได้มาร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรม สร้างความคึกครื้นแบบไทยผ่านการแสดงพื้นบ้าน และการแสดงนาฎรศิลป์ โดยเด็กๆนักเรียน ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะสืบสานและต่อยอดศิลปะการแสดงพื้นบ้านไทยให้คงอยู่ต่อไป ก็ขอทุกท่านเป็นแรงใจและสนับสนุนให้ลูกหลานชาวมัธยมวัดสุทธาราม ได้มีพื้นที่การแสดงความสามารถแบบนี้กันอยู่เรื่อยๆ
    แล้วยังมี วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี ที่มาร่วมจัดกิจรรมสาธิตงานฝีมือ ร่วมกับพี่ๆชาวชุมชนในเขตคลองสาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับผู้ที่สนใจเรียนฝึกอาชีพระยะสั้น เพื่อที่จะนำวิชาความรู้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ซึ่งช่วงนี้ก็ได้เปิดรับสมัครหลากหลายวิชา สามารถไปติดต่อเรียนฝึกอาชีพเพิ่มเติมกันได้
    #สยามโสภา #ลอยกระทง #Thaitimes
    กิจกรรม "ลอยกระทง คลองสาน สำราญใจ" ในแนวคิด สืบสานความเป็นไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สนุบสนุนให้ทาง #สภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน จัดงานขึ้น เพื่อให้ชุมชนและหน่วยงานในพื้นที่มีส่วนร่วม ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย และส่งเสริมให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของประเพณีลอยกระทง อีกทั้งเสริมสร้างให้สมาชิกในชุมชนเขตคลองสานได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างสัมพันธ์ และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป ซึ่งงาน "ลอยกระทง คลองสาน สำราญใจ" ในปีนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จากหลายหน่วยงานที่ได้ร่วมกับสนับสนุนให้เกิดงานในครั้งนี้ขึ้น ตั้งแต่ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ได้มอบหมายให้ทางสภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน ประสานการจัดงานร่วมกับ #สำนักงานเขตคลองสาน ร่วมกับ #วัดทองธรรมชาติวรวิหาร ที่อนุเคราะห์พื้นที่บริเวณทางเดินท่าเรือให้เราได้ร่วมกันลอยกระทง ทาง โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม ก็ได้มาร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรม สร้างความคึกครื้นแบบไทยผ่านการแสดงพื้นบ้าน และการแสดงนาฎรศิลป์ โดยเด็กๆนักเรียน ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะสืบสานและต่อยอดศิลปะการแสดงพื้นบ้านไทยให้คงอยู่ต่อไป ก็ขอทุกท่านเป็นแรงใจและสนับสนุนให้ลูกหลานชาวมัธยมวัดสุทธาราม ได้มีพื้นที่การแสดงความสามารถแบบนี้กันอยู่เรื่อยๆ แล้วยังมี วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี ที่มาร่วมจัดกิจรรมสาธิตงานฝีมือ ร่วมกับพี่ๆชาวชุมชนในเขตคลองสาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับผู้ที่สนใจเรียนฝึกอาชีพระยะสั้น เพื่อที่จะนำวิชาความรู้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ซึ่งช่วงนี้ก็ได้เปิดรับสมัครหลากหลายวิชา สามารถไปติดต่อเรียนฝึกอาชีพเพิ่มเติมกันได้ #สยามโสภา #ลอยกระทง #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป้าหมายการพัฒนาภายใน ในทางปฏิบัติ (IDG in ACTION)

    "เรามองว่ากรอบงาน IDG เกือบจะเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์ใต้ฝากระโปรงรถ"

    Selina Waddington Millstam อดีตหัวหน้าฝ่ายความสามารถระดับโลกของ Ericsson กล่าว นอกจาก Ikea และ Google แล้ว Ericsson ยังเป็นหนึ่งในองค์กรประมาณ 100 แห่งที่เริ่มทํางานด้วย IDG ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    หลายคนใน Google ได้เริ่มต้นจากเล็ก ๆ โดยรวม 1 - 2 เป้าหมายไว้ในแผนกหรือทีมเดียวในขณะที่คนอื่น ๆ ได้พยายามนําไปใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้นตั้งแต่กลุ่มบริษัท Stena ของสวีเดนไปจนถึงแบรนด์รองเท้า Icebug

    เอกสารฉบับแรกของ IDG ซึ่งตีพิมพ์ในเดือนกันยายนรวบรวมชัยชนะและความท้าทายบางอย่างจนถึงตอนนี้ ทําให้การอ่านสนุก คุณจะพบกับ Michiel Bakker รองประธานฝ่ายของ Google ที่ใคร่ครวญว่าความ "เปราะบาง" กับเพื่อนร่วมงานสร้างสิ่งที่ทรงพลังในการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

    Ikea และ Google เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยอมรับเป้าหมายการพัฒนาภายใน
    เหตุใด Google ซึ่งมีรายได้ใกล้ 300,000 ล้านดอลลาร์ (239 พันล้านปอนด์) โดยมีพนักงาน 170,000 คนใน 55+ ประเทศ และต้องการมีส่วนร่วม ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ มันชัดเจนมากว่าสิ่งที่ทําให้ Google ประสบความสําเร็จจนถึงตอนนี้ จะไม่ทําให้เราประสบความสําเร็จในอนาคต "โลกกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว"

    แผนกของ Bakker ที่ Google ได้จัดเวิร์กช็อป 3 วัน ซึ่งเรียกว่า "ประสบการณ์ทางอารมณ์" โดยตัดสินใจทํางานกับความสามารถ 3 – 4 อย่างที่ "มีความสําคัญทางธุรกิจ"

    ทีมชั้นนําของ Tina Molund ที่ Ikea ตั้งข้อสังเกตถึงแรงจูงใจในการเข้าร่วม: "เวลาที่ทําให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นและสามารถสร้างความพึงพอใจได้ด้วย IDG ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการท้าทายความคิด"

    พนักงานเริ่มต้นด้วยการประเมินการกระทําและพฤติกรรมของตนเองที่เกี่ยวข้องกับทักษะการเปลี่ยนแปลงทั้ง 5 ทักษะ ของ IDG ความท้าทายประการหนึ่งที่พบจากการประเมิน IDG คือการจัดลําดับความสําคัญของงานเมื่อผลกำไรอันเป็น Bottom Line ตะโกนดังที่สุด

    นับว่าเป็นเรื่องยากสําหรับผู้นําอาวุโสหลายคนที่จะให้ "เวลาและความสนใจ" กับคําถามต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและการพัฒนาภายใน"

    Waddington Millstam จาก Ericsson ยอมรับในเรื่องนี้และเธอยังกล่าวว่าผู้นําอาวุโสต้องมีความเชื่อในคุณค่าที่แท้จริงของ IDG

    Ikea, Google, Ericsson และองค์กรประมาณ 100 แห่งที่เริ่มทํางานด้วย IDG กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า "โลกกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" ทําให้การนําพลังของการพัฒนาภายใน (IDG) มาสู่ผู้นํา 7,000 คนทั่วโลก มีความสําคัญมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลาก็ตาม

    ในประเทศไทยเรื่องนี้ยังใหม่แต่อีกไม่นานก็ได้เผชิญกับสิ่งที่องค์กรต่างๆเผชิญมาก่อน หนึ่งสิ่งในฐานะผู้นำต้องทำคืออะไรร่วมหาโซลูชั่นได้ที่ www.10-xconsulting.com
    เป้าหมายการพัฒนาภายใน ในทางปฏิบัติ (IDG in ACTION) "เรามองว่ากรอบงาน IDG เกือบจะเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์ใต้ฝากระโปรงรถ" Selina Waddington Millstam อดีตหัวหน้าฝ่ายความสามารถระดับโลกของ Ericsson กล่าว นอกจาก Ikea และ Google แล้ว Ericsson ยังเป็นหนึ่งในองค์กรประมาณ 100 แห่งที่เริ่มทํางานด้วย IDG ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หลายคนใน Google ได้เริ่มต้นจากเล็ก ๆ โดยรวม 1 - 2 เป้าหมายไว้ในแผนกหรือทีมเดียวในขณะที่คนอื่น ๆ ได้พยายามนําไปใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้นตั้งแต่กลุ่มบริษัท Stena ของสวีเดนไปจนถึงแบรนด์รองเท้า Icebug เอกสารฉบับแรกของ IDG ซึ่งตีพิมพ์ในเดือนกันยายนรวบรวมชัยชนะและความท้าทายบางอย่างจนถึงตอนนี้ ทําให้การอ่านสนุก คุณจะพบกับ Michiel Bakker รองประธานฝ่ายของ Google ที่ใคร่ครวญว่าความ "เปราะบาง" กับเพื่อนร่วมงานสร้างสิ่งที่ทรงพลังในการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร Ikea และ Google เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยอมรับเป้าหมายการพัฒนาภายใน เหตุใด Google ซึ่งมีรายได้ใกล้ 300,000 ล้านดอลลาร์ (239 พันล้านปอนด์) โดยมีพนักงาน 170,000 คนใน 55+ ประเทศ และต้องการมีส่วนร่วม ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ มันชัดเจนมากว่าสิ่งที่ทําให้ Google ประสบความสําเร็จจนถึงตอนนี้ จะไม่ทําให้เราประสบความสําเร็จในอนาคต "โลกกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" แผนกของ Bakker ที่ Google ได้จัดเวิร์กช็อป 3 วัน ซึ่งเรียกว่า "ประสบการณ์ทางอารมณ์" โดยตัดสินใจทํางานกับความสามารถ 3 – 4 อย่างที่ "มีความสําคัญทางธุรกิจ" ทีมชั้นนําของ Tina Molund ที่ Ikea ตั้งข้อสังเกตถึงแรงจูงใจในการเข้าร่วม: "เวลาที่ทําให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นและสามารถสร้างความพึงพอใจได้ด้วย IDG ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการท้าทายความคิด" พนักงานเริ่มต้นด้วยการประเมินการกระทําและพฤติกรรมของตนเองที่เกี่ยวข้องกับทักษะการเปลี่ยนแปลงทั้ง 5 ทักษะ ของ IDG ความท้าทายประการหนึ่งที่พบจากการประเมิน IDG คือการจัดลําดับความสําคัญของงานเมื่อผลกำไรอันเป็น Bottom Line ตะโกนดังที่สุด นับว่าเป็นเรื่องยากสําหรับผู้นําอาวุโสหลายคนที่จะให้ "เวลาและความสนใจ" กับคําถามต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและการพัฒนาภายใน" Waddington Millstam จาก Ericsson ยอมรับในเรื่องนี้และเธอยังกล่าวว่าผู้นําอาวุโสต้องมีความเชื่อในคุณค่าที่แท้จริงของ IDG Ikea, Google, Ericsson และองค์กรประมาณ 100 แห่งที่เริ่มทํางานด้วย IDG กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า "โลกกําลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" ทําให้การนําพลังของการพัฒนาภายใน (IDG) มาสู่ผู้นํา 7,000 คนทั่วโลก มีความสําคัญมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลาก็ตาม ในประเทศไทยเรื่องนี้ยังใหม่แต่อีกไม่นานก็ได้เผชิญกับสิ่งที่องค์กรต่างๆเผชิญมาก่อน หนึ่งสิ่งในฐานะผู้นำต้องทำคืออะไรร่วมหาโซลูชั่นได้ที่ www.10-xconsulting.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## Li Ziqi (หลีจื่อชี) กลับมาแล้ว ##
    ..
    ..
    หลีจื่อชี กลับมาอัปเดตวิดีโออีกครั้งหลังจากผ่านไป 3 ปี...!!!
    .
    หลังจากเรื่องราวการฟ้องร้อง ระหว่าง บริษัท WeiNian และ นาย หลิวถงหมิง กับ บริษัท Ziqi Culture ของ หลีจื่อชี ซึ่งจบลงด้วยการไกล่เกลี่ย
    .
    หลังจากนั้น เธอก็เงียบหายไป...
    .
    โดยตัวเธอระบุว่า ได้ใช้เวลาไปกับ “การพักผ่อน และ ดูแลคุณยาย”
    .
    เธอเดินทางไปหลายสถานที่ในกว่า 20 มณฑล และ พบปะกับผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และ ผู้ทำงานด้านวัฒนธรรมกว่า 100 คน ซึ่งทำให้เธอค้นพบแนวทางในอนาคต...
    .
    หลี่จื่อฉี วัย 34 ปี เจ้าของรางวัล Guinness World Record สำหรับ "ผู้ติดตามช่องภาษาจีนบน YouTube มากที่สุด"
    .
    ผู้ผลิตคอนเทนต์ที่จะนำพาเรา เขาไปสู่อีกโลกหนึ่ง พื่นที่ป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ รอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ด้วยชีวิตที่ สงบ และ สุข กับการใช้ชีวิต และ กินอยู่ กับธรรมชาติ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และ ยังสวยงามชวนฝันอีกด้วย...
    .
    เธอเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้ทำคอนเทนต์ รุ่นน้องหลายราย ที่ผลิตคอนเทนต์ ในลักษณะเดียวกันออกมาอีกมากมายในภายหลัง...
    ...
    และที่สำคัญ เป็น คอนเทนต์ที่ผมชอบมาก...
    .
    😊😊😊😊😊😊😊😊
    .
    https://youtu.be/IrXjnw8BpM0?si=j4ldHD-aOzecMHvA
    ## Li Ziqi (หลีจื่อชี) กลับมาแล้ว ## .. .. หลีจื่อชี กลับมาอัปเดตวิดีโออีกครั้งหลังจากผ่านไป 3 ปี...!!! . หลังจากเรื่องราวการฟ้องร้อง ระหว่าง บริษัท WeiNian และ นาย หลิวถงหมิง กับ บริษัท Ziqi Culture ของ หลีจื่อชี ซึ่งจบลงด้วยการไกล่เกลี่ย . หลังจากนั้น เธอก็เงียบหายไป... . โดยตัวเธอระบุว่า ได้ใช้เวลาไปกับ “การพักผ่อน และ ดูแลคุณยาย” . เธอเดินทางไปหลายสถานที่ในกว่า 20 มณฑล และ พบปะกับผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และ ผู้ทำงานด้านวัฒนธรรมกว่า 100 คน ซึ่งทำให้เธอค้นพบแนวทางในอนาคต... . หลี่จื่อฉี วัย 34 ปี เจ้าของรางวัล Guinness World Record สำหรับ "ผู้ติดตามช่องภาษาจีนบน YouTube มากที่สุด" . ผู้ผลิตคอนเทนต์ที่จะนำพาเรา เขาไปสู่อีกโลกหนึ่ง พื่นที่ป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ รอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ด้วยชีวิตที่ สงบ และ สุข กับการใช้ชีวิต และ กินอยู่ กับธรรมชาติ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และ ยังสวยงามชวนฝันอีกด้วย... . เธอเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้ทำคอนเทนต์ รุ่นน้องหลายราย ที่ผลิตคอนเทนต์ ในลักษณะเดียวกันออกมาอีกมากมายในภายหลัง... ... และที่สำคัญ เป็น คอนเทนต์ที่ผมชอบมาก... . 😊😊😊😊😊😊😊😊 . https://youtu.be/IrXjnw8BpM0?si=j4ldHD-aOzecMHvA
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • รฟม.ย้ำ 15 พฤศจิกายนนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ เริ่มปิดเบี่ยงจราจร 1 ช่องทาง ส่วนสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ สะพานข้ามแยกประตูน้ำ และสะพานข้ามแยกราชเทวี ประชาชนยังสัญจรได้ตามปกติ

    ตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้มีการนำเสนอข่าวโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จะเริ่มดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรเพื่อรื้อถอนสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ สะพานข้ามแยกประตูน้ำ และสะพานข้ามแยกราชเทวี ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 นั้น

    การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขอเรียนข้อเท็จจริงว่า ปัจจุบัน บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ในฐานะผู้รับจ้างของ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ผู้ร่วมลงทุน) หรือ BEM มีกำหนดจะเริ่มปิดเบี่ยงจราจรในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง 5 สถานีแรก ได้แก่ สถานีบางขุนนนท์ สถานีศิริราช สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานียมราช และสถานีประตูน้ำ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป เพื่อดำเนินงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคเป็นลำดับแรก โดยจะดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรชิดทางเท้า 1 ช่องจราจร ยกเว้นสถานีศิริราช จะเป็นการจัดการจราจรในพื้นที่ก่อสร้างที่ไม่ส่งผลกระทบต่อช่องจราจร สำหรับสถานีส่วนที่เหลือจะดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/business/detail/9670000109231

    #MGROnline #โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ
    รฟม.ย้ำ 15 พฤศจิกายนนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ เริ่มปิดเบี่ยงจราจร 1 ช่องทาง ส่วนสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ สะพานข้ามแยกประตูน้ำ และสะพานข้ามแยกราชเทวี ประชาชนยังสัญจรได้ตามปกติ • ตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้มีการนำเสนอข่าวโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จะเริ่มดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรเพื่อรื้อถอนสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ สะพานข้ามแยกประตูน้ำ และสะพานข้ามแยกราชเทวี ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 นั้น • การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขอเรียนข้อเท็จจริงว่า ปัจจุบัน บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ในฐานะผู้รับจ้างของ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ผู้ร่วมลงทุน) หรือ BEM มีกำหนดจะเริ่มปิดเบี่ยงจราจรในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง 5 สถานีแรก ได้แก่ สถานีบางขุนนนท์ สถานีศิริราช สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานียมราช และสถานีประตูน้ำ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป เพื่อดำเนินงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคเป็นลำดับแรก โดยจะดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรชิดทางเท้า 1 ช่องจราจร ยกเว้นสถานีศิริราช จะเป็นการจัดการจราจรในพื้นที่ก่อสร้างที่ไม่ส่งผลกระทบต่อช่องจราจร สำหรับสถานีส่วนที่เหลือจะดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9670000109231 • #MGROnline #โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกทำเป็น 'วัฒนธรรมป๊อป' มากที่สุดตอนหนึ่ง มีทั้งนิยาย ภาพยนต์ และล่าสุดคือละครหรือซีรีส์

    อาจเป็นเพราะเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ให้อารมณ์หวาบหวิวจากการแอบลอบคบชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศาธิราช) ทำให้มีการขยายความตอนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักเรื่องนี้เพียง

    ในเวลาต่อมาคอนเทนท์บันเทิงบางยุคเริ่มมีการใช้คำว่า 'แม่หยัว' เรียกท้าวศรีสุดาจันทร์ ทำให้คนเข้าใจผิดไม่น้อยว่า 'แม่หยัว' น่าจะหมายถึงอาการยั่วยวนเรื่องกามราคะ แต่ความจริง 'แม่หยัว' หมายถึง 'แม่อยู่หัว' ที่หมายถึงมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน

    คำว่าแม่อยู่หัวนั้นในบันทึกโบราณเรียกเพี้ยนเป็น แม่อยัว แม่หญัว แม่อยั่ว ฯลฯ แต่พอตอนนี้ของประวัติศาสตร์ถูกวัฒนธรรมป๊อปปั้นภาพลักษณ์ยั่วยวนของท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นมา ทำให้คนเข้าใจคำว่า 'แม่หยัว' ผิดไป

    แต่นั้นมาคำว่า 'แม่หยัว' ก็กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่มันเกิดจากภาพจำผิดๆ ที่ 'นิยายอิงประวัติศาสตร์' สร้างขึ้นมา

    ย้ำอีกครั้งว่าเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นมีเนื้อหาไม่มากนักในทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นถ้าจะทำเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงหลีกกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง "มโนเอาเอง" กันบ้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการสร้างคอนเทนต์บันเทิงกับบุคคลทางประวัติศาสตร์บางคนด้วย

    ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อจะเท้าความ 'กรณีพิพาท' ระหว่างที่คนคิดว่าการทำละครอิงประวัติศาสตร์แบบเรื่อง 'แม่หยัว' ไม่เห็นจะต้องทำให้ตรงประวัติศาสตร์เป๊ะๆ กับฝ่ายที่ย้ำว่าไม่ควรที่จะมโนกันเกินไป

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำ Historical fiction เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า มันมี "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" (Historically Accurate) แค่ไหน? เพราะนิยายอิงประวัติศาสตร์จะต้องอาศัยการมโนในสัดส่วนที่มากพอสมควร เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้เสพ

    ในกรณีของแม่หยัว อย่าไปถามเรื่อง "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" เพราะเนื้อหาในประวัติศาสตร์มีนิดเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้จินตนาการได้มากมาย

    แต่การมโนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมของทางประวัติศาสตร์ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เนียน เช่น ท้างศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุการณ์สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ถ้าไปจับแม่อยู่หัวไปสวมมงกุฏสมัยละโว้มันก็หาได้เนียนไม่ เพราะเมื่อถึงยุค 'แม่หยัว' เขาเลิกใส่เครื่องหัวแบบนั้นกันแล้ว แล้วยังมีกฎมณเฑียรบาลที่ตราไว้ในสมัยอยุธยาตอนนั้นระบุการแต่งกายของแม่อยู่หัวเอาไว้แล้ว และยังมีภาพเขียนในสมุดภาพไตรภูมิสมัยอยุธยา (ที่ผมเชื่อว่าคัดมาจากต้นฉบับสมัยอยุธยาตอนต้น) ชี้ทางเอาไว้แล้วว่าสตรีชั้นสูงยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร

    ความไม่เนียนแบบนี้เองที่จะทำให้ Historical fiction กลายเป็น Historical fantasy ซึ่งมีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างเดียวคือฉากย้อนยุค ส่วนเรื่องอื่นๆ มโนตามใจฉัน

    แต่ในเมืองไทยเรื่องความเนียนไม่เนียนทางประวัติศาสตร์ยังไม่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะประวัติศาสร์บ้านเรากระท่อนกระแท่นและคนไทยแคร์ประวัติศาสตร์มากเท่ากับคนในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศพวกนี้นอกจากต้องทำละครให้เนียนแบบ Historically Accurate แล้ว ยังต้องทำให้ถูกต้องในแบบ Politically correct ด้วย

    ผมจะยกตัวอย่างการสังเกตส่วนตัวจากกรณีของเกาหลีใต้ที่สร้างซีรีส์ย้อนยุคอยู่บ่อยๆ และมักเกิดกรณี "ซีรีส์เรื่องนี้บิดเบือนประวัติศาสตร์"

    ตัวอย่างเช่นซีรีส์เรื่อง Queen Seondeok ในปี 2009 ซึ่งสร้างจากยุคที่บันทึกประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดมากนัก แต่สามารถยืดออกได้มากถึง 62 ตอน ในแง่ของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มีน้อย แถมคอสตูมยังไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ถูกตำหนิในเกาหลีว่า "มโนประวัติศาสตร์" มากเกินไป และยังอ้างบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกปลอมขึ้นมา

    Queen Seondeok ถูกผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ตำหนิอย่างมาก เพราะแม้ว่าบันทึกสมัยชิลลาจะมีไม่มาก แต่มันก็เป็นบันทึกที่เที่ยงแท้ในทางประวัติศาสร์ การจะบิดเบือนความสัมพันธ์ของ 'ตัวละคร' หรือพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้จริงๆ จึงไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น ความจริงแล้ว Queen Seondeok ควรจะเดินตามเส้นตรงของประวัติศาสตร์ เพราะโอกาสที่จะออกนอกประวัติศาสตร์มีแต่บทสนทนาเท่านั้น

    โปรดสังเกตว่าเรื่องนี้สร้างก่อนยุคโซเชียลจะแพร่หลาย

    พอโซเชียลมีเดียทรงพลังขึ้นมา การโจมตีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เริ่มจะสะเปะสะปะขึ้นทุกวัน เพราะแทนที่จะโจมตีความถูกต้อง กลับไปโจมตีเรื่องการเมือง

    ตัวอย่างเช่น Joseon Exorcist เมื่อปี 2021 ที่ฉายได้แค่ 2 ตอนก็แท้งซะก่อน เพราะถูกตำหนิว่าใช้ฉากประกอบที่อ้างว่าไม่ตรงกับความจริงทางประวัติศาสตร์ เช่น ใช้ อุปกรณ์ของจีนในเกาหลีโบราณ

    ในปี 2022 เกิดกรณี Under the Queen's Umbrella ถูกตำหนิว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะใช้ตัวอักษรจีนแบบตัวย่อ (ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นในยุคสมัยใหม่ ส่วนเกาหลีใช้อักษรจีนตัวเต็ม)

    ในปี 2024 มีกรณี Queen Woo ถูกตำหนิว่าเครื่องแต่งกายของตัวละครมีความเป็นจีนมากเกินไป ไม่น่าจะสอดคล้องกับคนเกาหลีในยุคโคกูรยอ (ทั้งที่โคกูรยอก็รับวัฒนธรรมจากจีน)

    กรณีเหล่านี้มีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ 'กระแสต่อต้านจีน' ในเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่เกาหลีเป็นเขตอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ แค่เรื่องนี้เป็น 'อคติ' ของผู้ชมเกาหลีใต้เองที่เกลียด เหยียด และกลัวจีนมากขึ้น

    แต่ในแง่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ กรณีพวกนี้เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เกิดขึ้นในยุคโชซอน ซึ่งมีการบันทึกประวัติศาสตร์ทางการอย่างละเอียด กระทั่งบันทึกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสถ้อยคำไว้อย่างไร

    ในยุคสมัยที่บันทึกละเอียดแบบนี้การมโนจึงทำไม่ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ว่างให้จินตนาการได้อีก ตรงกันข้ามกับเรื่อง Queen Woo ซึ่งเกิดในยุคโคกูรยอ ซึ่งมีประวัติศาสตร์บันทึกกระท่อนกระแท่นเหมือนประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้มโนได้มากตามใจปรารถนา

    แต่ถึงจะมโนได้มาก แต่อารมณ์ชาตินิยมที่รุนแรงในเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มโนได้ตามใจชอบอีก ไม่ใช่เพราะผู้สร้างบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ทำงานออกมาไม่ถูกใจพวกชาตินิยมสุดโต่งต่างหาก

    ดังนั้น ในโลกของนิยายอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีคำว่าถูกต้องเป๊ะๆ ยิ่งในปัจจุบันมีแต่คำว่า "ถูกใจคนดูหรือไม่" โดยที่ความถูกใจของคนดูไม่ใช่ถูกใจเพราะดาราแสดงดี หรือเครื่องแต่งกายสวย แต่ยังต้องคล้องจองกับ 'วาระทางการเมือง' ของคนดูด้วย

    ยกตัวอย่างจีน ซึ่งบางคนยังเชื่อว่าจีนทำซีรีส์พีเรียดมากมายเพราะอนุญาตให้มโนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด

    สังคมจีนและสถาบันรัฐจีน (ที่ชาตินิยมขึ้นทุกวัน) ไม่ได้อนุญาตให้มโนประวัติศาสตร์ได้ สิ่งที่คนไทยเห็นว่าจีนจินตนาการประวัติศาสตร์นั้น คือ สิ่งที่เรียกว่า Historical fantasy คือใช้ฉากย้อนยุคที่กำกวม ใช้คอสตูมที่อาจจะอยู่ในยุคที่คาดเดาได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นั้นจริงๆ เช่นเรื่อง Nirvana In Fire เมื่อปี 2015 ที่ทำให้เชื่อว่าอยู่ในยุคหนานเป่ยเฉา แต่เอาจริงๆ มันไม่มีสถานการณ์จริงและตัวบุคคลจริงอยู่เลย

    หากมีซีรีส์ที่ทำเนื้อหาจริงๆ ทางประวัติศาสตร์ หากเลินเล่อเกินไปก็จะถูกโจมตีอย่างหนัก เช่น Legend of Miyue ที่อิงประวัติศาสตร์ยุคจ้านกั๋ว แต่ถูกวิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้มีความเห็นที่น่าสนใจจาก หลีเสี่ยวเหว่ย บรรณาธิการบริหารของ "จงกั๋วชิงเหนียนหว่าง" (中国青年网) ของทางการจีน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกตำหนิ เขากล่าวว่า

    "จักรพรรดินีองค์แรกของจีนในเรื่อง "Legend of Miyue" ซีรีส์ทางทีวีใช้ตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พื้นฐาน และถึงกับแต่งเรื่องขึ้นมาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้ช่างน่าเป็นห่วง ประการแรก มันจะนำพาผู้คนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และก่อให้เกิดข่าวลือ ประการที่สอง นี่คือทิศทางที่ผิดปกติของการพัฒนาละครประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด"

    ในเรื่องนี้ทางเกาหลีก็เห็นด้วยกับจีน

    จากกรณีของ Queen Seondeok อีจองโฮ ผู้สื่อข่าวของ "ยอนเซ ชุนชู" (연세춘추) สื่อของมหาวิทยาลัยยอนเซ ถึงกับบอกว่า "Queen Seondeok คือเรื่องโกหก" และได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งชี้แนะว่า"ตามที่ศาสตราจารย์ ชาฮเยวอน (ภาควิชาศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน) กล่าวไว้ ละครประวัติศาสตร์จีนมักจะมีความเที่ยงตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแตกต่างจากละครประวัติศาสตร์เกาหลี ความจริงของละครประวัติศาสตร์เกาหลีคือความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกละเลยเพื่อความบันเทิงและเรตติ้งผู้ชม เพื่อแก้ปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองภายในอุตสาหกรรมการออกอากาศ"

    แม้ว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์ที่เบาบางต่างจากจีนและเกาหลี แต่เราสามารถใช้มาตรฐานแบบนี้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องเป๊ะคือแกนหลักในประวัติศาสตร์ อย่าตีความมากเกินไปเพราะต้องเคารพ "ผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งไม่มีโอกาสร้องอุทรณ์แก้ต่างให้ตัวเอง" ด้วย ส่วนสิ่งที่จินตนาการได้ก็ควรทำให้ตรงกับบริบทแวดล้อมของยุคนั้น

    หากทำเอาสนุกอย่างเดียว ก็ "จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด"

    บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better
    ภาพโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์เรื่อง แม่หยัว และ Queen Seondeok

    ที่มา https://www.thebetter.co.th/news/world/23351?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3w6ch-KVjjFiWzTmp8gh2-HSMqAh7UX0lxC3jm2_5RD0J97vIDxYCrljo_aem_wMoYw4S-NqnmnAfELQfeSA

    #Thaitimes
    เรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกทำเป็น 'วัฒนธรรมป๊อป' มากที่สุดตอนหนึ่ง มีทั้งนิยาย ภาพยนต์ และล่าสุดคือละครหรือซีรีส์ อาจเป็นเพราะเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ให้อารมณ์หวาบหวิวจากการแอบลอบคบชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศาธิราช) ทำให้มีการขยายความตอนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักเรื่องนี้เพียง ในเวลาต่อมาคอนเทนท์บันเทิงบางยุคเริ่มมีการใช้คำว่า 'แม่หยัว' เรียกท้าวศรีสุดาจันทร์ ทำให้คนเข้าใจผิดไม่น้อยว่า 'แม่หยัว' น่าจะหมายถึงอาการยั่วยวนเรื่องกามราคะ แต่ความจริง 'แม่หยัว' หมายถึง 'แม่อยู่หัว' ที่หมายถึงมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน คำว่าแม่อยู่หัวนั้นในบันทึกโบราณเรียกเพี้ยนเป็น แม่อยัว แม่หญัว แม่อยั่ว ฯลฯ แต่พอตอนนี้ของประวัติศาสตร์ถูกวัฒนธรรมป๊อปปั้นภาพลักษณ์ยั่วยวนของท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นมา ทำให้คนเข้าใจคำว่า 'แม่หยัว' ผิดไป แต่นั้นมาคำว่า 'แม่หยัว' ก็กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่มันเกิดจากภาพจำผิดๆ ที่ 'นิยายอิงประวัติศาสตร์' สร้างขึ้นมา ย้ำอีกครั้งว่าเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นมีเนื้อหาไม่มากนักในทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นถ้าจะทำเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงหลีกกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง "มโนเอาเอง" กันบ้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการสร้างคอนเทนต์บันเทิงกับบุคคลทางประวัติศาสตร์บางคนด้วย ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อจะเท้าความ 'กรณีพิพาท' ระหว่างที่คนคิดว่าการทำละครอิงประวัติศาสตร์แบบเรื่อง 'แม่หยัว' ไม่เห็นจะต้องทำให้ตรงประวัติศาสตร์เป๊ะๆ กับฝ่ายที่ย้ำว่าไม่ควรที่จะมโนกันเกินไป ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำ Historical fiction เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า มันมี "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" (Historically Accurate) แค่ไหน? เพราะนิยายอิงประวัติศาสตร์จะต้องอาศัยการมโนในสัดส่วนที่มากพอสมควร เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้เสพ ในกรณีของแม่หยัว อย่าไปถามเรื่อง "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" เพราะเนื้อหาในประวัติศาสตร์มีนิดเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้จินตนาการได้มากมาย แต่การมโนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมของทางประวัติศาสตร์ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เนียน เช่น ท้างศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุการณ์สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ถ้าไปจับแม่อยู่หัวไปสวมมงกุฏสมัยละโว้มันก็หาได้เนียนไม่ เพราะเมื่อถึงยุค 'แม่หยัว' เขาเลิกใส่เครื่องหัวแบบนั้นกันแล้ว แล้วยังมีกฎมณเฑียรบาลที่ตราไว้ในสมัยอยุธยาตอนนั้นระบุการแต่งกายของแม่อยู่หัวเอาไว้แล้ว และยังมีภาพเขียนในสมุดภาพไตรภูมิสมัยอยุธยา (ที่ผมเชื่อว่าคัดมาจากต้นฉบับสมัยอยุธยาตอนต้น) ชี้ทางเอาไว้แล้วว่าสตรีชั้นสูงยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร ความไม่เนียนแบบนี้เองที่จะทำให้ Historical fiction กลายเป็น Historical fantasy ซึ่งมีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างเดียวคือฉากย้อนยุค ส่วนเรื่องอื่นๆ มโนตามใจฉัน แต่ในเมืองไทยเรื่องความเนียนไม่เนียนทางประวัติศาสตร์ยังไม่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะประวัติศาสร์บ้านเรากระท่อนกระแท่นและคนไทยแคร์ประวัติศาสตร์มากเท่ากับคนในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศพวกนี้นอกจากต้องทำละครให้เนียนแบบ Historically Accurate แล้ว ยังต้องทำให้ถูกต้องในแบบ Politically correct ด้วย ผมจะยกตัวอย่างการสังเกตส่วนตัวจากกรณีของเกาหลีใต้ที่สร้างซีรีส์ย้อนยุคอยู่บ่อยๆ และมักเกิดกรณี "ซีรีส์เรื่องนี้บิดเบือนประวัติศาสตร์" ตัวอย่างเช่นซีรีส์เรื่อง Queen Seondeok ในปี 2009 ซึ่งสร้างจากยุคที่บันทึกประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดมากนัก แต่สามารถยืดออกได้มากถึง 62 ตอน ในแง่ของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มีน้อย แถมคอสตูมยังไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ถูกตำหนิในเกาหลีว่า "มโนประวัติศาสตร์" มากเกินไป และยังอ้างบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกปลอมขึ้นมา Queen Seondeok ถูกผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ตำหนิอย่างมาก เพราะแม้ว่าบันทึกสมัยชิลลาจะมีไม่มาก แต่มันก็เป็นบันทึกที่เที่ยงแท้ในทางประวัติศาสร์ การจะบิดเบือนความสัมพันธ์ของ 'ตัวละคร' หรือพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้จริงๆ จึงไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น ความจริงแล้ว Queen Seondeok ควรจะเดินตามเส้นตรงของประวัติศาสตร์ เพราะโอกาสที่จะออกนอกประวัติศาสตร์มีแต่บทสนทนาเท่านั้น โปรดสังเกตว่าเรื่องนี้สร้างก่อนยุคโซเชียลจะแพร่หลาย พอโซเชียลมีเดียทรงพลังขึ้นมา การโจมตีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เริ่มจะสะเปะสะปะขึ้นทุกวัน เพราะแทนที่จะโจมตีความถูกต้อง กลับไปโจมตีเรื่องการเมือง ตัวอย่างเช่น Joseon Exorcist เมื่อปี 2021 ที่ฉายได้แค่ 2 ตอนก็แท้งซะก่อน เพราะถูกตำหนิว่าใช้ฉากประกอบที่อ้างว่าไม่ตรงกับความจริงทางประวัติศาสตร์ เช่น ใช้ อุปกรณ์ของจีนในเกาหลีโบราณ ในปี 2022 เกิดกรณี Under the Queen's Umbrella ถูกตำหนิว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะใช้ตัวอักษรจีนแบบตัวย่อ (ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นในยุคสมัยใหม่ ส่วนเกาหลีใช้อักษรจีนตัวเต็ม) ในปี 2024 มีกรณี Queen Woo ถูกตำหนิว่าเครื่องแต่งกายของตัวละครมีความเป็นจีนมากเกินไป ไม่น่าจะสอดคล้องกับคนเกาหลีในยุคโคกูรยอ (ทั้งที่โคกูรยอก็รับวัฒนธรรมจากจีน) กรณีเหล่านี้มีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ 'กระแสต่อต้านจีน' ในเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่เกาหลีเป็นเขตอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ แค่เรื่องนี้เป็น 'อคติ' ของผู้ชมเกาหลีใต้เองที่เกลียด เหยียด และกลัวจีนมากขึ้น แต่ในแง่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ กรณีพวกนี้เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เกิดขึ้นในยุคโชซอน ซึ่งมีการบันทึกประวัติศาสตร์ทางการอย่างละเอียด กระทั่งบันทึกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสถ้อยคำไว้อย่างไร ในยุคสมัยที่บันทึกละเอียดแบบนี้การมโนจึงทำไม่ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ว่างให้จินตนาการได้อีก ตรงกันข้ามกับเรื่อง Queen Woo ซึ่งเกิดในยุคโคกูรยอ ซึ่งมีประวัติศาสตร์บันทึกกระท่อนกระแท่นเหมือนประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้มโนได้มากตามใจปรารถนา แต่ถึงจะมโนได้มาก แต่อารมณ์ชาตินิยมที่รุนแรงในเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มโนได้ตามใจชอบอีก ไม่ใช่เพราะผู้สร้างบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ทำงานออกมาไม่ถูกใจพวกชาตินิยมสุดโต่งต่างหาก ดังนั้น ในโลกของนิยายอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีคำว่าถูกต้องเป๊ะๆ ยิ่งในปัจจุบันมีแต่คำว่า "ถูกใจคนดูหรือไม่" โดยที่ความถูกใจของคนดูไม่ใช่ถูกใจเพราะดาราแสดงดี หรือเครื่องแต่งกายสวย แต่ยังต้องคล้องจองกับ 'วาระทางการเมือง' ของคนดูด้วย ยกตัวอย่างจีน ซึ่งบางคนยังเชื่อว่าจีนทำซีรีส์พีเรียดมากมายเพราะอนุญาตให้มโนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด สังคมจีนและสถาบันรัฐจีน (ที่ชาตินิยมขึ้นทุกวัน) ไม่ได้อนุญาตให้มโนประวัติศาสตร์ได้ สิ่งที่คนไทยเห็นว่าจีนจินตนาการประวัติศาสตร์นั้น คือ สิ่งที่เรียกว่า Historical fantasy คือใช้ฉากย้อนยุคที่กำกวม ใช้คอสตูมที่อาจจะอยู่ในยุคที่คาดเดาได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นั้นจริงๆ เช่นเรื่อง Nirvana In Fire เมื่อปี 2015 ที่ทำให้เชื่อว่าอยู่ในยุคหนานเป่ยเฉา แต่เอาจริงๆ มันไม่มีสถานการณ์จริงและตัวบุคคลจริงอยู่เลย หากมีซีรีส์ที่ทำเนื้อหาจริงๆ ทางประวัติศาสตร์ หากเลินเล่อเกินไปก็จะถูกโจมตีอย่างหนัก เช่น Legend of Miyue ที่อิงประวัติศาสตร์ยุคจ้านกั๋ว แต่ถูกวิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้มีความเห็นที่น่าสนใจจาก หลีเสี่ยวเหว่ย บรรณาธิการบริหารของ "จงกั๋วชิงเหนียนหว่าง" (中国青年网) ของทางการจีน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกตำหนิ เขากล่าวว่า "จักรพรรดินีองค์แรกของจีนในเรื่อง "Legend of Miyue" ซีรีส์ทางทีวีใช้ตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พื้นฐาน และถึงกับแต่งเรื่องขึ้นมาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้ช่างน่าเป็นห่วง ประการแรก มันจะนำพาผู้คนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และก่อให้เกิดข่าวลือ ประการที่สอง นี่คือทิศทางที่ผิดปกติของการพัฒนาละครประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด" ในเรื่องนี้ทางเกาหลีก็เห็นด้วยกับจีน จากกรณีของ Queen Seondeok อีจองโฮ ผู้สื่อข่าวของ "ยอนเซ ชุนชู" (연세춘추) สื่อของมหาวิทยาลัยยอนเซ ถึงกับบอกว่า "Queen Seondeok คือเรื่องโกหก" และได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งชี้แนะว่า"ตามที่ศาสตราจารย์ ชาฮเยวอน (ภาควิชาศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน) กล่าวไว้ ละครประวัติศาสตร์จีนมักจะมีความเที่ยงตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแตกต่างจากละครประวัติศาสตร์เกาหลี ความจริงของละครประวัติศาสตร์เกาหลีคือความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกละเลยเพื่อความบันเทิงและเรตติ้งผู้ชม เพื่อแก้ปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองภายในอุตสาหกรรมการออกอากาศ" แม้ว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์ที่เบาบางต่างจากจีนและเกาหลี แต่เราสามารถใช้มาตรฐานแบบนี้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องเป๊ะคือแกนหลักในประวัติศาสตร์ อย่าตีความมากเกินไปเพราะต้องเคารพ "ผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งไม่มีโอกาสร้องอุทรณ์แก้ต่างให้ตัวเอง" ด้วย ส่วนสิ่งที่จินตนาการได้ก็ควรทำให้ตรงกับบริบทแวดล้อมของยุคนั้น หากทำเอาสนุกอย่างเดียว ก็ "จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด" บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better ภาพโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์เรื่อง แม่หยัว และ Queen Seondeok ที่มา https://www.thebetter.co.th/news/world/23351?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3w6ch-KVjjFiWzTmp8gh2-HSMqAh7UX0lxC3jm2_5RD0J97vIDxYCrljo_aem_wMoYw4S-NqnmnAfELQfeSA #Thaitimes
    WWW.THEBETTER.CO.TH
    ความไม่เนียนของ'ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์' ต้องเป๊ะประวัติศาสตร์แค่ไหน?
    ความไม่เนียนของ'ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์' ต้องเป๊ะประวัติศาสตร์แค่ไหน?
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 626 มุมมอง 0 รีวิว
  • 👍🏻 เส้นทาง เซี่ยงไฮ้ สู่ โอกินาวา ดินแดนแห่งชายหาดอันงดงามและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล พร้อมเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมสนุกๆ บนเรือ 🌤

    🛳 แพ็คเกจล่องเรือสำราญ Royal Caribbean - Spectrum of the Seas, Cruise only 5 วัน 4 คืน

    📍 เส้นทาง : เซี่ยงไฮ้ (เป่าซาน) - โอกินาวา - เซี่ยงไฮ้ (เป่าซาน)

    💬 วันเดินทาง 13 - 17 เม.ย. 68

    💸 ราคาเริ่มต้น : 29,800 บาทต่อท่าน

    ⭕️ ฟรีรถรับ - ส่งสนามบิน กรณีจองก่อน 15 พ.ย. 68 🚨 ‼️
    ⭕️ รวมอาหารทุกมื้อ
    ⭕️ รวมห้องพักบนเรือสำราญ
    ⭕️ ค่าภาษีท่าเรือ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : ROYP-5D4N-SHA-SHA-2504131
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e6645a

    ดูเรือ Royal Caribean ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/648705

    ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    ☎️: 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือRoyalCaribean #เรือRoyalCaribbean #SpectrumoftheSeas #Shanghai #China #ChuraumiAquarium #Shuricastle #Okinawa #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    👍🏻 เส้นทาง เซี่ยงไฮ้ สู่ โอกินาวา ดินแดนแห่งชายหาดอันงดงามและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล พร้อมเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมสนุกๆ บนเรือ 🌤 🛳 แพ็คเกจล่องเรือสำราญ Royal Caribbean - Spectrum of the Seas, Cruise only 5 วัน 4 คืน 📍 เส้นทาง : เซี่ยงไฮ้ (เป่าซาน) - โอกินาวา - เซี่ยงไฮ้ (เป่าซาน) 💬 วันเดินทาง 13 - 17 เม.ย. 68 💸 ราคาเริ่มต้น : 29,800 บาทต่อท่าน ⭕️ ฟรีรถรับ - ส่งสนามบิน กรณีจองก่อน 15 พ.ย. 68 🚨 ‼️ ⭕️ รวมอาหารทุกมื้อ ⭕️ รวมห้องพักบนเรือสำราญ ⭕️ ค่าภาษีท่าเรือ รหัสแพคเกจทัวร์ : ROYP-5D4N-SHA-SHA-2504131 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e6645a ดูเรือ Royal Caribean ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/648705 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือRoyalCaribean #เรือRoyalCaribbean #SpectrumoftheSeas #Shanghai #China #ChuraumiAquarium #Shuricastle #Okinawa #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 535 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เรา ประเทศไทยเราล่ะ,เราจะซ่อมแซมประเทศไทยเราจริงจังแบบไหน&กันเสียที.

    ..พรรคเดโมแครต ถ้าคุณสงสัยว่าทำไมอเมริกาถึงเลือกทรัมป์ ฉันขออธิบายให้ฟัง:

    ความจริงก็คือ ชาวอเมริกันเบื่อหน่ายกับเรื่องบ้าๆ ของคุณแล้ว

    คุณทำลายชาติและวัฒนธรรมของเรา คุณล้อเลียน ดูถูก และเลือกปฏิบัติต่อเราอย่างเปิดเผย จากนั้นก็เรียกเราว่าพวกเหยียดผิว เหยียดเพศ และพวกนาซี เมื่อเราเริ่มสังเกตเห็น

    คุณทำให้สถาบันอันยิ่งใหญ่ของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงและเสื่อมทราม รวมถึงสื่อ โซเชียลมีเดีย เทคโนโลยี สถาบันการศึกษา หน่วยข่าวกรอง สุขภาพ ยา ฮอลลีวูด ความบันเทิง กีฬา ทุกอย่าง! คุณใช้ทุกแง่มุมของชีวิตชาวอเมริกันเป็นอาวุธ และใช้มันเพื่อผลักดันวาระฝ่ายซ้ายสุดโต่งของคุณให้พวกเราต้องทนทุกข์ทรมาน

    คุณบอกเราว่าทรัมป์เป็นทรัพยากรของรัสเซียที่กำลังจะก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 และจะเลวร้ายยิ่งกว่าฮิตเลอร์ จากนั้นคุณก็ใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการแสดงความเกลียดชังต่อผู้สนับสนุนทรัมป์และก่อจลาจลบนท้องถนน คุณใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการขัดขวางและทำลายวาระแรกของทรัมป์ และกลายเป็นว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด
    จากนั้นในช่วงโควิด คุณเรียกร้องให้เราทุกคนถูกบังคับให้ทำการทดลองทางการแพทย์โดยไม่ทดลอง คุณต้องการให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยถูกขังไว้ในคุก คุณต้องการให้เด็กๆ ถูกพรากไปจากพ่อแม่ที่ต่อต้านวัคซีน คุณต้องการให้พวกต่อต้านวัคซีนอยู่ในค่าย คุณเชียร์ให้พวกเราต้องตาย จากนั้นก็กลายเป็นว่าคุณคิดผิดเกี่ยวกับทุกอย่าง ตั้งแต่แหล่งกำเนิดที่มนุษย์สร้างขึ้น ไปจนถึงหน้ากาก วัคซีน การเว้นระยะห่างทางสังคม ไอเวอร์เมกติน HCQ ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ และทุกสิ่งทุกอย่าง

    จากนั้นในช่วงยูเครน คุณบอกเราว่ายูเครนเป็นปราการของประชาธิปไตย และพวกเขาต้องการเงินภาษีของเราทั้งหมดอย่างมาก จากนั้นก็กลายเป็นว่ายูเครนเป็นหนึ่งในประเทศที่ทุจริตมากที่สุดในโลก โดยมีกองกำลังทหารนาซีตามตัวอักษร และที่จริงแล้วเป็นเพียงปฏิบัติการฟอกเงินเพื่อขโมยเงินจากผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน คุณต้องการปกป้องพรมแดนของยูเครนมากกว่าของเราเอง คุณส่งเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ไปยังอีกฟากของโลก ในขณะที่ชาวอเมริกันต้องทนทุกข์ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนขึ้นอยู่กับคำโกหก

    นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ Epstein, Diddy และการค้ามนุษย์อีกด้วย พวกคุณทุกคนบอกเราอย่างรุนแรงว่าการค้ามนุษย์เป็นเพียงเรื่องหลอกลวง พวกคุณบอกเราว่าชายแดนปลอดภัย และพวกคุณบอกเราว่าใครก็ตามที่ตั้งคำถามถึงเรื่องนี้คือพวกนักทฤษฎีสมคบคิดที่ไถ่ถอนไม่ได้และน่ารังเกียจ (และเป็นขยะ) พวกคุณบอกว่าใครก็ตามที่ดูรายการ "Sound of Freedom" ล้วนเป็นพวกหัวรุนแรง QAnon และเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย จากนั้นมันก็กลายเป็นเรื่องจริง และชนชั้นสูงก็มีส่วนร่วมในอาชญากรรมที่เลวร้ายต่อเด็กๆ จริงๆ หลังจากที่คุณบอกเรามาหลายสิบปีว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พวกคุณปกปิดอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดที่จินตนาการได้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

    ฉันทำแบบนี้ได้เป็นวันๆ แต่ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจประเด็นแล้ว ชาวอเมริกันตื่นตัวต่อกลลวงและความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา และเราจะไม่ทนอีกต่อไป ดังนั้นเราจึงจ้างโดนัลด์ เจ. ทรัมป์และทีมผู้รักชาติของเขาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ และนำอเมริกากลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

    นี่คือความเป็นจริงของสถานการณ์ คุณเป็นคนเลว และคุณถูกหลอก ยิ่งคุณตื่นรู้เร็วเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งสามารถเข้าร่วมกับเราในการซ่อมแซมประเทศนี้ได้เร็วขึ้นเท่านั้น หรือคุณสามารถเลือกที่จะปฏิเสธความจริง และใช้ชีวิตที่เหลือของคุณไปกับความเกลียดชังที่ขึ้นอยู่กับคำโกหก

    ทางเลือกเป็นของคุณ

    ลงชื่อ: ผู้รักชาติอเมริกันที่แท้จริง

    @realDonaldTrump ขอบคุณสำหรับความกล้าหาญและการยืนหยัดเพื่ออเมริกาและมวลมนุษยชาติ ขอพระเจ้าอวยพรอเมริกา 🙏🏼🇺🇸ฟ
    ..เรา ประเทศไทยเราล่ะ,เราจะซ่อมแซมประเทศไทยเราจริงจังแบบไหน&กันเสียที. ..พรรคเดโมแครต ถ้าคุณสงสัยว่าทำไมอเมริกาถึงเลือกทรัมป์ ฉันขออธิบายให้ฟัง: ความจริงก็คือ ชาวอเมริกันเบื่อหน่ายกับเรื่องบ้าๆ ของคุณแล้ว คุณทำลายชาติและวัฒนธรรมของเรา คุณล้อเลียน ดูถูก และเลือกปฏิบัติต่อเราอย่างเปิดเผย จากนั้นก็เรียกเราว่าพวกเหยียดผิว เหยียดเพศ และพวกนาซี เมื่อเราเริ่มสังเกตเห็น คุณทำให้สถาบันอันยิ่งใหญ่ของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงและเสื่อมทราม รวมถึงสื่อ โซเชียลมีเดีย เทคโนโลยี สถาบันการศึกษา หน่วยข่าวกรอง สุขภาพ ยา ฮอลลีวูด ความบันเทิง กีฬา ทุกอย่าง! คุณใช้ทุกแง่มุมของชีวิตชาวอเมริกันเป็นอาวุธ และใช้มันเพื่อผลักดันวาระฝ่ายซ้ายสุดโต่งของคุณให้พวกเราต้องทนทุกข์ทรมาน คุณบอกเราว่าทรัมป์เป็นทรัพยากรของรัสเซียที่กำลังจะก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 และจะเลวร้ายยิ่งกว่าฮิตเลอร์ จากนั้นคุณก็ใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการแสดงความเกลียดชังต่อผู้สนับสนุนทรัมป์และก่อจลาจลบนท้องถนน คุณใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการขัดขวางและทำลายวาระแรกของทรัมป์ และกลายเป็นว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด จากนั้นในช่วงโควิด คุณเรียกร้องให้เราทุกคนถูกบังคับให้ทำการทดลองทางการแพทย์โดยไม่ทดลอง คุณต้องการให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยถูกขังไว้ในคุก คุณต้องการให้เด็กๆ ถูกพรากไปจากพ่อแม่ที่ต่อต้านวัคซีน คุณต้องการให้พวกต่อต้านวัคซีนอยู่ในค่าย คุณเชียร์ให้พวกเราต้องตาย จากนั้นก็กลายเป็นว่าคุณคิดผิดเกี่ยวกับทุกอย่าง ตั้งแต่แหล่งกำเนิดที่มนุษย์สร้างขึ้น ไปจนถึงหน้ากาก วัคซีน การเว้นระยะห่างทางสังคม ไอเวอร์เมกติน HCQ ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ และทุกสิ่งทุกอย่าง จากนั้นในช่วงยูเครน คุณบอกเราว่ายูเครนเป็นปราการของประชาธิปไตย และพวกเขาต้องการเงินภาษีของเราทั้งหมดอย่างมาก จากนั้นก็กลายเป็นว่ายูเครนเป็นหนึ่งในประเทศที่ทุจริตมากที่สุดในโลก โดยมีกองกำลังทหารนาซีตามตัวอักษร และที่จริงแล้วเป็นเพียงปฏิบัติการฟอกเงินเพื่อขโมยเงินจากผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน คุณต้องการปกป้องพรมแดนของยูเครนมากกว่าของเราเอง คุณส่งเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ไปยังอีกฟากของโลก ในขณะที่ชาวอเมริกันต้องทนทุกข์ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนขึ้นอยู่กับคำโกหก นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ Epstein, Diddy และการค้ามนุษย์อีกด้วย พวกคุณทุกคนบอกเราอย่างรุนแรงว่าการค้ามนุษย์เป็นเพียงเรื่องหลอกลวง พวกคุณบอกเราว่าชายแดนปลอดภัย และพวกคุณบอกเราว่าใครก็ตามที่ตั้งคำถามถึงเรื่องนี้คือพวกนักทฤษฎีสมคบคิดที่ไถ่ถอนไม่ได้และน่ารังเกียจ (และเป็นขยะ) พวกคุณบอกว่าใครก็ตามที่ดูรายการ "Sound of Freedom" ล้วนเป็นพวกหัวรุนแรง QAnon และเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย จากนั้นมันก็กลายเป็นเรื่องจริง และชนชั้นสูงก็มีส่วนร่วมในอาชญากรรมที่เลวร้ายต่อเด็กๆ จริงๆ หลังจากที่คุณบอกเรามาหลายสิบปีว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พวกคุณปกปิดอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดที่จินตนาการได้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ฉันทำแบบนี้ได้เป็นวันๆ แต่ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจประเด็นแล้ว ชาวอเมริกันตื่นตัวต่อกลลวงและความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา และเราจะไม่ทนอีกต่อไป ดังนั้นเราจึงจ้างโดนัลด์ เจ. ทรัมป์และทีมผู้รักชาติของเขาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ และนำอเมริกากลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง นี่คือความเป็นจริงของสถานการณ์ คุณเป็นคนเลว และคุณถูกหลอก ยิ่งคุณตื่นรู้เร็วเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งสามารถเข้าร่วมกับเราในการซ่อมแซมประเทศนี้ได้เร็วขึ้นเท่านั้น หรือคุณสามารถเลือกที่จะปฏิเสธความจริง และใช้ชีวิตที่เหลือของคุณไปกับความเกลียดชังที่ขึ้นอยู่กับคำโกหก ทางเลือกเป็นของคุณ ลงชื่อ: ผู้รักชาติอเมริกันที่แท้จริง @realDonaldTrump ขอบคุณสำหรับความกล้าหาญและการยืนหยัดเพื่ออเมริกาและมวลมนุษยชาติ ขอพระเจ้าอวยพรอเมริกา 🙏🏼🇺🇸ฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รัสเซียได้หยุดยั้งผู้ที่พยายามครอบครองโลกซ้ำแล้วซ้ำเล่า และจะยังคงทำเช่นนั้นต่อไป”

    คำกล่าวเพิ่มเติมอีกสองสามคำของปูตินที่วัลได:

    — ความไม่เท่าเทียมกันเป็นภัยร้ายแรงของโลกยุคใหม่

    — BRICS เป็นต้นแบบของลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เป็นอิสระและไม่แบ่งแยก

    — เสถียรภาพของระเบียบโลกสามารถขึ้นอยู่กับความเท่าเทียมกันสากลเท่านั้น

    — อุดมการณ์เหยียดเชื้อชาติได้หยั่งรากลึกในจิตสำนึกของผู้คนจำนวนมากในโลก ภาพจำของ "ตะวันตกที่เจริญแล้ว" และ "ความป่าเถื่อน" ของประเทศอื่นๆ เป็นเรื่องโง่เขลา

    — โดยพื้นฐานแล้ว นโยบายตะวันตกยังคงเป็นแบบนีโออาณานิคม

    — WTO ไม่ได้ตัดสินใจอะไร

    — มีผู้ที่สนใจ BRICS ใน NATO บางทีจำนวนประเทศดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้น

    — การมีอยู่ของรัสเซียเป็นเครื่องรับประกันว่าโลกจะรักษาความหลากหลายไว้และเป็นเครื่องรับประกันการพัฒนาที่ประสบความสำเร็จ

    — รัสเซียไม่เคยริเริ่มใช้กำลัง แต่เมื่อจำเป็น รัสเซียจะใช้มาตรการทั้งหมด เพื่อปกป้องประเทศ

    — รัสเซียถูกชี้นำโดยผลประโยชน์ ค่านิยม วัฒนธรรม แต่เราพร้อมเสมอสำหรับการเจรจาอย่างเปิดเผย

    — เราจะปกป้องตัวเอง ประชาชนของเรา อย่าให้ใครมีภาพลวงตาเกี่ยวกับเรื่องนี้

    — ฝ่ายตรงข้ามของเรากำลังหาเครื่องมือเพื่อกำจัดเราอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ — ยูเครน ในความเป็นจริง พวกเขากำลังเปลี่ยนประชากรในพื้นที่ให้กลายเป็นปืนใหญ่

    — เมื่อคุณมาถึง G8 อีกครั้ง จะเห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านั้น "เจ็ดคน" จะมารวมตัวกัน พวกเขาโอบกอด ตบไหล่ แต่ในทางปฏิบัติ พวกเขากลับทำตรงกันข้าม

    — ไม่มีประโยชน์ที่จะกดดันเรา แต่เราพร้อมเสมอที่จะเจรจา
    “รัสเซียได้หยุดยั้งผู้ที่พยายามครอบครองโลกซ้ำแล้วซ้ำเล่า และจะยังคงทำเช่นนั้นต่อไป” คำกล่าวเพิ่มเติมอีกสองสามคำของปูตินที่วัลได: — ความไม่เท่าเทียมกันเป็นภัยร้ายแรงของโลกยุคใหม่ — BRICS เป็นต้นแบบของลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เป็นอิสระและไม่แบ่งแยก — เสถียรภาพของระเบียบโลกสามารถขึ้นอยู่กับความเท่าเทียมกันสากลเท่านั้น — อุดมการณ์เหยียดเชื้อชาติได้หยั่งรากลึกในจิตสำนึกของผู้คนจำนวนมากในโลก ภาพจำของ "ตะวันตกที่เจริญแล้ว" และ "ความป่าเถื่อน" ของประเทศอื่นๆ เป็นเรื่องโง่เขลา — โดยพื้นฐานแล้ว นโยบายตะวันตกยังคงเป็นแบบนีโออาณานิคม — WTO ไม่ได้ตัดสินใจอะไร — มีผู้ที่สนใจ BRICS ใน NATO บางทีจำนวนประเทศดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้น — การมีอยู่ของรัสเซียเป็นเครื่องรับประกันว่าโลกจะรักษาความหลากหลายไว้และเป็นเครื่องรับประกันการพัฒนาที่ประสบความสำเร็จ — รัสเซียไม่เคยริเริ่มใช้กำลัง แต่เมื่อจำเป็น รัสเซียจะใช้มาตรการทั้งหมด เพื่อปกป้องประเทศ — รัสเซียถูกชี้นำโดยผลประโยชน์ ค่านิยม วัฒนธรรม แต่เราพร้อมเสมอสำหรับการเจรจาอย่างเปิดเผย — เราจะปกป้องตัวเอง ประชาชนของเรา อย่าให้ใครมีภาพลวงตาเกี่ยวกับเรื่องนี้ — ฝ่ายตรงข้ามของเรากำลังหาเครื่องมือเพื่อกำจัดเราอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ — ยูเครน ในความเป็นจริง พวกเขากำลังเปลี่ยนประชากรในพื้นที่ให้กลายเป็นปืนใหญ่ — เมื่อคุณมาถึง G8 อีกครั้ง จะเห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านั้น "เจ็ดคน" จะมารวมตัวกัน พวกเขาโอบกอด ตบไหล่ แต่ในทางปฏิบัติ พวกเขากลับทำตรงกันข้าม — ไม่มีประโยชน์ที่จะกดดันเรา แต่เราพร้อมเสมอที่จะเจรจา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • ชาวพุทธส่วนหนึ่ง มีความเห็นผิดๆ เพราะเข้าไม่ถึงความจริงของชีวิตตามหลักคำสอนของพระตถาคต ซึ่งเป็นศาสดาของตน เพราะเหตุใด ??

    การปกปิดคำสอนของพระศาสดา ให้พิจารณาดูจาก ตำรา "มนต์พิธี" ซึ่งเคยอ่านตอนพรรพชา แค่คำว่ามนต์พิธีก็จบสิ้นสงสัยแล้ว เพราะมันหมายถึงพิธีกรรมของปริพาชกเหล่าอื่น มิใช่พิธีกรรมของพุทธศาสนา

    การบูชาน้ำ บูชาไฟ พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้ปฏิบัติ..ท่านสอนให้หาสถานที่สงบ วิเวก ให้ใช้สติ ตามรู้ลมหายใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องมีพิธีกรรมใด ๆ ให้ยุ้งยากและสิ้นเปลืองงบประมาณ

    ศาสนาพุทธถูกครอบงำด้วยมนต์พิธีมานานแล้ว ในนั้น ส่วนใหญ่เป็นคำสวดแต่งใหม่ มีคาถาโน้นนี้นั้น แต่ไม่มีบทสัชฌายะ "ปฏิจจสมปบาท" ซึ่งเป็นบทสำคัญของพระศาสดา และพระองค์ได้สั่งให้สาวกนำไปศึกษาเล่าเรียนด้วยพระองค์เอง

    เหตุจากศาสนาพุทธถูกครอบงำด้วยดงพิธีกรรมของปริพาชกเหล่าอื่น นอกจากทำให้พุทธบริษัทเข้าไม่ถึงคำสอนของพระศาสดาโดยตรงแล้ว ยังกระทบถึงระบบการศึกษา ประเพณี วัฒนธรรม การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    หากเห็นว่า จิตวิญญาณของคน เป็นปัจจัยต้นเหตุของเศรษฐกิจและสังคมไทย สถาบันศาสนาควรจะเป็นสถาบันแรกที่ควรได้รับการแก้ไข..มิใช่แก้รัฐธรรมนูญ !
    ชาวพุทธส่วนหนึ่ง มีความเห็นผิดๆ เพราะเข้าไม่ถึงความจริงของชีวิตตามหลักคำสอนของพระตถาคต ซึ่งเป็นศาสดาของตน เพราะเหตุใด ?? การปกปิดคำสอนของพระศาสดา ให้พิจารณาดูจาก ตำรา "มนต์พิธี" ซึ่งเคยอ่านตอนพรรพชา แค่คำว่ามนต์พิธีก็จบสิ้นสงสัยแล้ว เพราะมันหมายถึงพิธีกรรมของปริพาชกเหล่าอื่น มิใช่พิธีกรรมของพุทธศาสนา การบูชาน้ำ บูชาไฟ พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้ปฏิบัติ..ท่านสอนให้หาสถานที่สงบ วิเวก ให้ใช้สติ ตามรู้ลมหายใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องมีพิธีกรรมใด ๆ ให้ยุ้งยากและสิ้นเปลืองงบประมาณ ศาสนาพุทธถูกครอบงำด้วยมนต์พิธีมานานแล้ว ในนั้น ส่วนใหญ่เป็นคำสวดแต่งใหม่ มีคาถาโน้นนี้นั้น แต่ไม่มีบทสัชฌายะ "ปฏิจจสมปบาท" ซึ่งเป็นบทสำคัญของพระศาสดา และพระองค์ได้สั่งให้สาวกนำไปศึกษาเล่าเรียนด้วยพระองค์เอง เหตุจากศาสนาพุทธถูกครอบงำด้วยดงพิธีกรรมของปริพาชกเหล่าอื่น นอกจากทำให้พุทธบริษัทเข้าไม่ถึงคำสอนของพระศาสดาโดยตรงแล้ว ยังกระทบถึงระบบการศึกษา ประเพณี วัฒนธรรม การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเห็นว่า จิตวิญญาณของคน เป็นปัจจัยต้นเหตุของเศรษฐกิจและสังคมไทย สถาบันศาสนาควรจะเป็นสถาบันแรกที่ควรได้รับการแก้ไข..มิใช่แก้รัฐธรรมนูญ !
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 36 0 รีวิว
  • "พวกบัดซบ"

    พวกบัดซบนั้นเมื่อสร้างหนังสร้างละคร
    แม้กระทั่งพูดก็มักจะด้อยค่ากษัตริย์
    ศาสนา ขนบ ธรรมเนียม ประเพณี
    หรือเรียกรวมว่าด้อยค่าวัฒนธรรม -วิถีชีวิต

    เพราะโง่จนเชื่อว่าถ้าทำลายสิ่งเหล่านี้
    หมดทุกอย่างแล้วจะเกิดความเท่าเทียม

    พวกบัดซบนี้ไม่รู้-ไม่เห็นว่าสิทธิเสรีภาพ ภราดรภาพ เสมอภาค(ความเท่าเทียม)
    นั้นคือการที่ทุกคนได้เชื่อถือ
    นับถือเคารพ เทิดทูนสิ่งมีตนเห็นว่ามีคุณค่า
    มีประโยชน์สำหรับตน

    มันเป็นสังคมที่มีหลากหลาย
    เป็นระบบนิเวศทางจิตวิญญาณ
    หรือระบบจริยธรรมของสังคมไทย

    ทั้งหมดนี้นักการเมือง
    และพวกบัดซบไม่กี่คนไม่สามารถสร้างได้
    นอกจากใช้อำนาจสร้าง สิ่งที่เรียกว่าการปฏิวัติ(สุดท้ายก็เจ๊ง)

    มันต้องสร้างด้วยสำนึกร่วมกันของชุมชนและสังคม ซึ่งใช้เวลายาวนานมาก
    การทำลายก็ต้องใช้เวลานานมากยิ่งกว่า

    พวกบัดซบจึงเป็นพวกทำลายล้าง
    สิทธิ เสรีภาพ ภราดรภาพ
    ทำลายความเสมอภาคของคนและสังคม
    ตัวจริงและของจริง.

    #ขอบพระคุณ
    วิมล ไทรนิ่มนวล
    ภาพประกอบ
    #แมวในอารยะธรรมอิยิปต์
    "พวกบัดซบ" พวกบัดซบนั้นเมื่อสร้างหนังสร้างละคร แม้กระทั่งพูดก็มักจะด้อยค่ากษัตริย์ ศาสนา ขนบ ธรรมเนียม ประเพณี หรือเรียกรวมว่าด้อยค่าวัฒนธรรม -วิถีชีวิต เพราะโง่จนเชื่อว่าถ้าทำลายสิ่งเหล่านี้ หมดทุกอย่างแล้วจะเกิดความเท่าเทียม พวกบัดซบนี้ไม่รู้-ไม่เห็นว่าสิทธิเสรีภาพ ภราดรภาพ เสมอภาค(ความเท่าเทียม) นั้นคือการที่ทุกคนได้เชื่อถือ นับถือเคารพ เทิดทูนสิ่งมีตนเห็นว่ามีคุณค่า มีประโยชน์สำหรับตน มันเป็นสังคมที่มีหลากหลาย เป็นระบบนิเวศทางจิตวิญญาณ หรือระบบจริยธรรมของสังคมไทย ทั้งหมดนี้นักการเมือง และพวกบัดซบไม่กี่คนไม่สามารถสร้างได้ นอกจากใช้อำนาจสร้าง สิ่งที่เรียกว่าการปฏิวัติ(สุดท้ายก็เจ๊ง) มันต้องสร้างด้วยสำนึกร่วมกันของชุมชนและสังคม ซึ่งใช้เวลายาวนานมาก การทำลายก็ต้องใช้เวลานานมากยิ่งกว่า พวกบัดซบจึงเป็นพวกทำลายล้าง สิทธิ เสรีภาพ ภราดรภาพ ทำลายความเสมอภาคของคนและสังคม ตัวจริงและของจริง. #ขอบพระคุณ วิมล ไทรนิ่มนวล ภาพประกอบ #แมวในอารยะธรรมอิยิปต์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญร่วมงาน
    "ลอยกระทง คลองสาน สำราญใจ"
    สืบสาน ความเป็นไทย ใส่ใจ สิ่งแวดล้อม
    ในวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.00 - 20.00 น.
    ณ สวนสารพัด (สวน 15 นาที) ถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน

    พิกัด https://maps.app.goo.gl/H6y1zUdbUDSQF25n6

    > ร่วมชม การแสดงนาฏศิลป์ไทยและเพลงพื้นบ้าน เพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทย
    โดยนักเรียน โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม
    > ร่วมกิจกรรม กระทงประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ (มีจำนวนจำกัด)
    > ร่วมลอยกระทง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ในพื้นที่จัดเตรียม)
    > เลือกช้อป ชิม อาหาร จากร้านค้าชาวคลองสาน

    มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรม ของชาวคลองสาน ด้วยกัน
    สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 083 889 9996

    จัดโดย
    #กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
    #สภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน
    #สำนักงานเขตคลองสาน
    #โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม
    #สยามโสภา
    ขอเชิญร่วมงาน "ลอยกระทง คลองสาน สำราญใจ" สืบสาน ความเป็นไทย ใส่ใจ สิ่งแวดล้อม ในวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.00 - 20.00 น. ณ สวนสารพัด (สวน 15 นาที) ถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน พิกัด https://maps.app.goo.gl/H6y1zUdbUDSQF25n6 > ร่วมชม การแสดงนาฏศิลป์ไทยและเพลงพื้นบ้าน เพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทย โดยนักเรียน โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม > ร่วมกิจกรรม กระทงประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ (มีจำนวนจำกัด) > ร่วมลอยกระทง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ในพื้นที่จัดเตรียม) > เลือกช้อป ชิม อาหาร จากร้านค้าชาวคลองสาน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรม ของชาวคลองสาน ด้วยกัน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 083 889 9996 จัดโดย #กรมส่งเสริมวัฒนธรรม #สภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน #สำนักงานเขตคลองสาน #โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม #สยามโสภา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 พฤศจิกายน 2567-สหรัฐอเมริกา เตรียมส่งมอบโบราณวัตถุสมัยบ้านเชียงคืนประเทศไทย เนื่องในวันสากลเพื่อการต่อกต้านการลักลอบค้าทรัพย์สินทางวัฒนธรรม 14 พฤศจิกายนนี้

    ที่มา nbtconnext

    #Thaitimes
    7 พฤศจิกายน 2567-สหรัฐอเมริกา เตรียมส่งมอบโบราณวัตถุสมัยบ้านเชียงคืนประเทศไทย เนื่องในวันสากลเพื่อการต่อกต้านการลักลอบค้าทรัพย์สินทางวัฒนธรรม 14 พฤศจิกายนนี้ ที่มา nbtconnext #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 536 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีคนไทยเดอะแก๊งหนึ่งจริตสันดานใจทรยศแผ่นดินเกิดหมายชัยเพื่อเขมร บอกชวนคนไทยร่วมกันมาใช้วัฒนธรรมร่วมกับเขมรกันเถอะพะนะะะ.
    มีคนไทยเดอะแก๊งหนึ่งจริตสันดานใจทรยศแผ่นดินเกิดหมายชัยเพื่อเขมร บอกชวนคนไทยร่วมกันมาใช้วัฒนธรรมร่วมกับเขมรกันเถอะพะนะะะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • มะม่วงริมรั้วอยู่ในเขตรั้วบ้านตัวเองแม้แต่ใบก็ไม่เลยแนวริ้ว แต่เมื่อมะม่วงออกลูกเราต้องเอาลูกมะม่วงไปให้เพื่อนบ้านด้วยนะ ไม่งั้นเดี๋ยวเขาจะเคืองด่าเราว่าเราขโมยวัฒนธรรม เอ๊ย...ไม่ใช่ ขโมยลูกมะม่วงของเขา

    #เกาะกูดเป็นของไทย #เกรงใจเพื่อนบ้านหน่อย
    มะม่วงริมรั้วอยู่ในเขตรั้วบ้านตัวเองแม้แต่ใบก็ไม่เลยแนวริ้ว แต่เมื่อมะม่วงออกลูกเราต้องเอาลูกมะม่วงไปให้เพื่อนบ้านด้วยนะ ไม่งั้นเดี๋ยวเขาจะเคืองด่าเราว่าเราขโมยวัฒนธรรม เอ๊ย...ไม่ใช่ ขโมยลูกมะม่วงของเขา #เกาะกูดเป็นของไทย #เกรงใจเพื่อนบ้านหน่อย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥บรรยากาศสด สด🔥

    เมืองโบราณชิงเหยียน (Qingyan Ancient Town) ระดับ 5A ตั้งอยู่ในเมืองกุ้ยหยาง (Guiyang) มณฑลกุ้ยโจว (Guizhou) ประเทศจีน เป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นหนึ่งในเมืองโบราณที่มีชื่อเสียงของมณฑลกุ้ยโจว ก่อตั้งขึ้นในช่วงราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368–1644) เมืองนี้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับบรรยากาศจีนโบราณและสถาปัตยกรรมที่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของยุคอดีต
    ⭐️ด้านในมีกำแพงเมืองโบราณ
    ⭐️ร้านค้า ร้านอาหาร
    ⭐️ร้านเครื่องประดับเงิน OTOP ค่ะ

    ในเมืองชิงเหยียน คุณจะได้พบกับ:
    📍กำแพงเมืองโบราณ - กำแพงเมืองเก่าที่สร้างจากหินและยังคงสภาพเดิมอยู่ในหลายส่วน ทำให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสถึงประวัติศาสตร์ของเมืองได้อย่างชัดเจน
    📍สถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ - อาคารบ้านเรือนแบบดั้งเดิม สถาปัตยกรรมหอศาลาและศาลเจ้า รวมถึงบ้านพักที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดี
    📍วัดและศาลเจ้า - ภายในเมืองมีวัดและศาลเจ้าหลายแห่ง เช่น วัดเทียนเหอ (Tianhou Temple) ที่มีความงดงามและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการสักการะ
    📍อาหารท้องถิ่น - เมืองนี้มีอาหารพื้นเมืองที่น่าสนใจ โดยเฉพาะขนมท้องถิ่นและของกินเล่น เช่น เต้าหู้ทอด พายแป้ง และขนมต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของกุ้ยโจว
    📍งานหัตถกรรมและร้านค้าโบราณ - นักท่องเที่ยวสามารถซื้อของที่ระลึกเช่น งานหัตถกรรมพื้นเมือง เครื่องประดับ และของโบราณต่าง ๆ ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ของชิงเหยียน
    📍เมืองโบราณชิงเหยียนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีน หากมีโอกาสไปเยือนกุ้ยหยาง เมืองโบราณแห่งนี้ถือเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด

    ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/30a85f

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🔥บรรยากาศสด สด🔥 เมืองโบราณชิงเหยียน (Qingyan Ancient Town) ระดับ 5A ตั้งอยู่ในเมืองกุ้ยหยาง (Guiyang) มณฑลกุ้ยโจว (Guizhou) ประเทศจีน เป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นหนึ่งในเมืองโบราณที่มีชื่อเสียงของมณฑลกุ้ยโจว ก่อตั้งขึ้นในช่วงราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368–1644) เมืองนี้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับบรรยากาศจีนโบราณและสถาปัตยกรรมที่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของยุคอดีต ⭐️ด้านในมีกำแพงเมืองโบราณ ⭐️ร้านค้า ร้านอาหาร ⭐️ร้านเครื่องประดับเงิน OTOP ค่ะ ในเมืองชิงเหยียน คุณจะได้พบกับ: 📍กำแพงเมืองโบราณ - กำแพงเมืองเก่าที่สร้างจากหินและยังคงสภาพเดิมอยู่ในหลายส่วน ทำให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสถึงประวัติศาสตร์ของเมืองได้อย่างชัดเจน 📍สถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ - อาคารบ้านเรือนแบบดั้งเดิม สถาปัตยกรรมหอศาลาและศาลเจ้า รวมถึงบ้านพักที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดี 📍วัดและศาลเจ้า - ภายในเมืองมีวัดและศาลเจ้าหลายแห่ง เช่น วัดเทียนเหอ (Tianhou Temple) ที่มีความงดงามและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการสักการะ 📍อาหารท้องถิ่น - เมืองนี้มีอาหารพื้นเมืองที่น่าสนใจ โดยเฉพาะขนมท้องถิ่นและของกินเล่น เช่น เต้าหู้ทอด พายแป้ง และขนมต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของกุ้ยโจว 📍งานหัตถกรรมและร้านค้าโบราณ - นักท่องเที่ยวสามารถซื้อของที่ระลึกเช่น งานหัตถกรรมพื้นเมือง เครื่องประดับ และของโบราณต่าง ๆ ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ของชิงเหยียน 📍เมืองโบราณชิงเหยียนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีน หากมีโอกาสไปเยือนกุ้ยหยาง เมืองโบราณแห่งนี้ถือเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/30a85f LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1407 มุมมอง 0 รีวิว
  • การสังหารหมู่กำลังดำเนินไป: ชนชั้นสูงกำลังทำให้โลกลดจำนวนประชากรอย่างแข็งขัน—คลาว ชะแว๊บ, Chemtrails และอาวุธชีวภาพ: แผนของ WEF ที่จะกวาดล้างผู้คนนับพันล้านถูกเปิดโปง!

    วาระการลดจำนวนประชากรของ WEF ไม่ใช่ภัยคุกคามที่อยู่ห่างไกล แต่มันเกิดขึ้นที่นี่และตอนนี้ในทุกวิกฤตที่เขย่าโลกของเรา นี่คือสงครามเต็มรูปแบบกับมนุษยชาติ และคุณคือเป้าหมาย

    พวกเขาได้ปลดปล่อยอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดเรา—อย่างช้าๆ แอบๆ และไม่ลดละ W0rld Ec0n0my F0room, คลาว ชะแว๊บ และผู้ควบคุมเงาของพวกเขาได้วางแผนชั่วร้ายที่ซ่อนเร้นอยู่ในที่แจ้งชัด

    การปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ? นี่ไม่ใช่ "การหว่านเมฆ"; พวกเขากำลังบงการพายุ ภัยแล้ง ไฟป่าด้วยเทคโนโลยีระดับทหารเพื่อทำให้ประเทศไม่มั่นคง ทำลายพืชผล และทำให้มวลชนอดอยาก ทุกพายุเฮอริเคน ทุกภัยพิบัติ—ออกแบบมาเพื่อควบคุมจำนวนประชากร
    การย้ายถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมาย? ไม่ใช่เรื่องของ “ผู้ลี้ภัย” แต่เป็นการรุกรานที่ออกแบบมาให้ระบบทำงานหนักเกินไปและทำให้เศรษฐกิจไม่มั่นคง ทำให้มีคนต่อต้านน้อยลง ความวุ่นวาย ความไม่มั่นคง และการเกิดน้อยลง—เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน

    ฟลูออไรด์ในน้ำของคุณ? มันไม่เหมาะกับฟันของคุณ การสัมผัสเป็นเวลานานจะทำให้ไอคิวลดลง ลดการเจริญพันธุ์ และรับรองการปฏิบัติตาม คนรุ่นต่อรุ่นกำลังกลายเป็นแกะที่เป็นหมันและเชื่อง และระดับไอคิวก็ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อภาวะมีบุตรยากเพิ่มขึ้น

    ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการรวมกลุ่ม (DEI) ไม่เกี่ยวกับความยุติธรรม แต่เป็นอาวุธทางจิตวิทยาเพื่อแบ่งแยกสังคม ทำลายค่านิยม และหยุดการเติบโตของประชากร นี่คือสงครามเพื่อความสามัคคีและครอบครัว

    มาพูดถึงจีเอ็มโอกันดีกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พืชผลที่ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างอาวุธเพื่อทำลายสุขภาพและความอุดมสมบูรณ์ โรคเรื้อรังไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรแห่งความตายที่ขับเคลื่อนโดยบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งขายโรคและ "การรักษา"

    Chemtrails? ร่องรอยบนท้องฟ้าเหล่านั้นไม่ใช่เชื้อเพลิงเครื่องบิน แต่เป็นการโจมตีด้วยละอองลอยที่มีสารพิษร้ายแรง เช่น แบเรียมและอะลูมิเนียม โปรยปรายลงมาบนเมือง ทุกลมหายใจทำให้เราเข้าใกล้หลุมศพก่อนวัยอันควร ทำให้ประชากรป่วยและปฏิบัติตาม

    การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่เป็นกลวิธีควบคุม ตำนานเรื่องรอยเท้าคาร์บอนมีไว้เพื่อทำให้เรารู้สึกผิดและตกอยู่ในความยากจน ทำให้เราต้องพึ่งพาระบบของชนชั้นนำ พวกเขากำลังทำให้เราเป็นทาสภายใต้หน้ากากของลัทธิอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

    ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เป็นเพียงการทดลอง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังทำให้ความยากจนทั่วโลกแย่ลง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตที่อยู่อาศัย ราคาอาหารที่ถูกบิดเบือน เงินเฟ้อ พวกเขาต้องการให้เราหมดตัวและไม่สามารถต้านทานได้

    และเครื่องมือที่อันตรายที่สุด? อาวุธชีวภาพ โรค "อุบัติใหม่"? การปล่อยโรคตามแผน โควิดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คลื่นลูกต่อไปจะมุ่งเป้าไปที่เครื่องหมายทางพันธุกรรม ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน พวกเขายังต้องนั่งหลบภัยอย่างปลอดภัยในบังเกอร์ โดยเฝ้าดูความโกลาหลที่เกิดขึ้น

    อาณาจักรสื่อของพวกเขายกย่องความเสื่อมโทรม โรคทางจิต การล่มสลายของครอบครัว ฮอลลีวูด เครื่องจักรโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาทั้งหมดเข้ามาเกี่ยวข้องและผลักดันวัฒนธรรมแห่งความเสื่อมโทรม

    แผนการลดจำนวนประชากรโลกในปี 2000 กำลังดำเนินไป โดยมีรากฐานที่หยั่งรากลึก—ตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ คิสซิงเจอร์ สโมสรแห่งโรม คลาว ชะแว๊บ ซึ่งเป็นใบหน้าล่าสุดของวาระนี้ เป็นผู้สานต่อ

    นี่ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นเรื่องจริง และมันอยู่ที่นี่ ตื่นได้แล้ว! พายุมาถึงแล้ว และมันกำลังมาหาเราทุกคน
    การสังหารหมู่กำลังดำเนินไป: ชนชั้นสูงกำลังทำให้โลกลดจำนวนประชากรอย่างแข็งขัน—คลาว ชะแว๊บ, Chemtrails และอาวุธชีวภาพ: แผนของ WEF ที่จะกวาดล้างผู้คนนับพันล้านถูกเปิดโปง! วาระการลดจำนวนประชากรของ WEF ไม่ใช่ภัยคุกคามที่อยู่ห่างไกล แต่มันเกิดขึ้นที่นี่และตอนนี้ในทุกวิกฤตที่เขย่าโลกของเรา นี่คือสงครามเต็มรูปแบบกับมนุษยชาติ และคุณคือเป้าหมาย พวกเขาได้ปลดปล่อยอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดเรา—อย่างช้าๆ แอบๆ และไม่ลดละ W0rld Ec0n0my F0room, คลาว ชะแว๊บ และผู้ควบคุมเงาของพวกเขาได้วางแผนชั่วร้ายที่ซ่อนเร้นอยู่ในที่แจ้งชัด การปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ? นี่ไม่ใช่ "การหว่านเมฆ"; พวกเขากำลังบงการพายุ ภัยแล้ง ไฟป่าด้วยเทคโนโลยีระดับทหารเพื่อทำให้ประเทศไม่มั่นคง ทำลายพืชผล และทำให้มวลชนอดอยาก ทุกพายุเฮอริเคน ทุกภัยพิบัติ—ออกแบบมาเพื่อควบคุมจำนวนประชากร การย้ายถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมาย? ไม่ใช่เรื่องของ “ผู้ลี้ภัย” แต่เป็นการรุกรานที่ออกแบบมาให้ระบบทำงานหนักเกินไปและทำให้เศรษฐกิจไม่มั่นคง ทำให้มีคนต่อต้านน้อยลง ความวุ่นวาย ความไม่มั่นคง และการเกิดน้อยลง—เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน ฟลูออไรด์ในน้ำของคุณ? มันไม่เหมาะกับฟันของคุณ การสัมผัสเป็นเวลานานจะทำให้ไอคิวลดลง ลดการเจริญพันธุ์ และรับรองการปฏิบัติตาม คนรุ่นต่อรุ่นกำลังกลายเป็นแกะที่เป็นหมันและเชื่อง และระดับไอคิวก็ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อภาวะมีบุตรยากเพิ่มขึ้น ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการรวมกลุ่ม (DEI) ไม่เกี่ยวกับความยุติธรรม แต่เป็นอาวุธทางจิตวิทยาเพื่อแบ่งแยกสังคม ทำลายค่านิยม และหยุดการเติบโตของประชากร นี่คือสงครามเพื่อความสามัคคีและครอบครัว มาพูดถึงจีเอ็มโอกันดีกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พืชผลที่ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างอาวุธเพื่อทำลายสุขภาพและความอุดมสมบูรณ์ โรคเรื้อรังไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรแห่งความตายที่ขับเคลื่อนโดยบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งขายโรคและ "การรักษา" Chemtrails? ร่องรอยบนท้องฟ้าเหล่านั้นไม่ใช่เชื้อเพลิงเครื่องบิน แต่เป็นการโจมตีด้วยละอองลอยที่มีสารพิษร้ายแรง เช่น แบเรียมและอะลูมิเนียม โปรยปรายลงมาบนเมือง ทุกลมหายใจทำให้เราเข้าใกล้หลุมศพก่อนวัยอันควร ทำให้ประชากรป่วยและปฏิบัติตาม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่เป็นกลวิธีควบคุม ตำนานเรื่องรอยเท้าคาร์บอนมีไว้เพื่อทำให้เรารู้สึกผิดและตกอยู่ในความยากจน ทำให้เราต้องพึ่งพาระบบของชนชั้นนำ พวกเขากำลังทำให้เราเป็นทาสภายใต้หน้ากากของลัทธิอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เป็นเพียงการทดลอง แต่ตอนนี้พวกเขากำลังทำให้ความยากจนทั่วโลกแย่ลง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตที่อยู่อาศัย ราคาอาหารที่ถูกบิดเบือน เงินเฟ้อ พวกเขาต้องการให้เราหมดตัวและไม่สามารถต้านทานได้ และเครื่องมือที่อันตรายที่สุด? อาวุธชีวภาพ โรค "อุบัติใหม่"? การปล่อยโรคตามแผน โควิดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น คลื่นลูกต่อไปจะมุ่งเป้าไปที่เครื่องหมายทางพันธุกรรม ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน พวกเขายังต้องนั่งหลบภัยอย่างปลอดภัยในบังเกอร์ โดยเฝ้าดูความโกลาหลที่เกิดขึ้น อาณาจักรสื่อของพวกเขายกย่องความเสื่อมโทรม โรคทางจิต การล่มสลายของครอบครัว ฮอลลีวูด เครื่องจักรโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาทั้งหมดเข้ามาเกี่ยวข้องและผลักดันวัฒนธรรมแห่งความเสื่อมโทรม แผนการลดจำนวนประชากรโลกในปี 2000 กำลังดำเนินไป โดยมีรากฐานที่หยั่งรากลึก—ตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ คิสซิงเจอร์ สโมสรแห่งโรม คลาว ชะแว๊บ ซึ่งเป็นใบหน้าล่าสุดของวาระนี้ เป็นผู้สานต่อ นี่ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นเรื่องจริง และมันอยู่ที่นี่ ตื่นได้แล้ว! พายุมาถึงแล้ว และมันกำลังมาหาเราทุกคน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลือกตั้งอเมริกา 2024 ช่วงหาเสียง ระหว่างการดีเบต ในรัฐ New Hampshire นางแม็กกี้ กูดแลนเดอร์ ภรรยาของนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติจากพรรคเดโมแครต( DEM )ดับอนาถคาเวที หลังจากกล่าวหา Lily Tang Williams คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน (GOP:Grand Old Party) ว่าต้องการช่วยเหลือแต่พวกคนรวยเท่านั้น

    Tang สวนกลับว่าคนที่รวยคือหล่อนเพราะมีทรัพย์สินมูลค่า 20-30 ล้านเหรียญ น้ำหน้าอย่างเธอจะมารู้อะไรว่าคนหาเช้ากินค่ำกำลังลำบาก ขนาดฉันยังไม่มีเงินจะลงโฆษณาแคมเปญทางทีวีด้วยซ้ำ อย่ามาทำตัวว่าเป็นคนจนเห็นใจคนจนและบ่นว่าค่าเช่าบ้านแพง ไสหัวกลับไปนอนบ้านราคา 2 ล้านเหรียญของคุณซะ

    ปัญหาของชนชั้นกลางและพวกหาเช้ากินค่ำ คือไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าเช่าบ้าน หลายครอบครัวต้องทำงาน 2-3 กะ เพื่อให้มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าเช่าบ้าน หลายครอบครัวถูกฟ้องขับไล่ที่ออกจาก APT และตึกที่คุมค่าเช่าก็เหลือน้อยและเป็นแหล่งเสื่อมโทรม ย่านดีๆราคาก็สูงมาก หลายคนเลือกที่จะนอนในรถแทน

    ขนาดพวกที่ทำงานร้านแมค แบบฟูลไทม์ รายได้ยังไม่พอที่จะจ่ายค่าเช่าบ้านและค่าสาธารณูปโภคเลย เวลานี้คือต้องหาคนแชร์ห้องและช่วยกันหารแต่การแชร์มันก็อันตรายเพราะไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่อยู่ด้วยจะเป็นคนดีหรือโจร ไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมเห็นคนอเมริกันกินแต่อาหารขยะหรือเลี้ยงลูกด้วยอาหารขยะ

    ทั้งนี้วิกิพีเดียระบุถึงประวัติ ลิลี่ ถัง วิลเลียมส์ เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 1964 ใน เมือง เฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวนทางตอนกลางของจีน เธอ เกิดมาในครอบครัวชนชั้นแรงงานที่ไม่รู้หนังสือ เธอเติบโตภายใต้การปกครองของเหมาเจ๋อตุงและวัยเด็กของเธอตรงกับช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมซึ่งกินเวลานานจนกระทั่งเหมาเจ๋อตุงเสียชีวิตในปี 1976 เธอเติบโตมาในความยากจนและประสบความสำเร็จในโรงเรียน จบการศึกษาด้วยคะแนนสูงสุดของชั้นเรียนมัธยมปลาย และได้คะแนนใกล้เคียงกับอันดับต้นๆ ของการสอบระดับชาติของจีน

    Tang Williams ศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายที่มหาวิทยาลัย Fudanในเซี่ยงไฮ้ในขณะที่เรียนอยู่วิทยาลัย เธอได้พบกับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากสหรัฐอเมริกาที่แสดงรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาและคำประกาศอิสรภาพ ฉบับพกพาให้เธอ ดู ซึ่งทำให้เธอสนใจที่จะอพยพไปยังสหรัฐอเมริกา
    เธอได้รับปริญญาตรีในปี 1985 และต่อมาได้เข้าร่วมคณะนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Fudan และฝึกฝนกฎหมายองค์กรในขณะที่จีนเริ่มสร้างเศรษฐกิจใหม่ เธอมาที่สหรัฐอเมริกาในปี 1988 เพื่อศึกษาที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสตินและได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยใน ภายหลังในปี 1991 เธอได้รับปริญญาโทสาขาการทำงานสังคมสงเคราะห์จากมหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสตินเธอได้รับสัญชาติอเมริกันในปี 1994

    https://youtu.be/yOF78Mb2Rtc?si=yArv0mHiHm048Sbk

    #Thaitimes
    เลือกตั้งอเมริกา 2024 ช่วงหาเสียง ระหว่างการดีเบต ในรัฐ New Hampshire นางแม็กกี้ กูดแลนเดอร์ ภรรยาของนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติจากพรรคเดโมแครต( DEM )ดับอนาถคาเวที หลังจากกล่าวหา Lily Tang Williams คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน (GOP:Grand Old Party) ว่าต้องการช่วยเหลือแต่พวกคนรวยเท่านั้น Tang สวนกลับว่าคนที่รวยคือหล่อนเพราะมีทรัพย์สินมูลค่า 20-30 ล้านเหรียญ น้ำหน้าอย่างเธอจะมารู้อะไรว่าคนหาเช้ากินค่ำกำลังลำบาก ขนาดฉันยังไม่มีเงินจะลงโฆษณาแคมเปญทางทีวีด้วยซ้ำ อย่ามาทำตัวว่าเป็นคนจนเห็นใจคนจนและบ่นว่าค่าเช่าบ้านแพง ไสหัวกลับไปนอนบ้านราคา 2 ล้านเหรียญของคุณซะ ปัญหาของชนชั้นกลางและพวกหาเช้ากินค่ำ คือไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าเช่าบ้าน หลายครอบครัวต้องทำงาน 2-3 กะ เพื่อให้มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าเช่าบ้าน หลายครอบครัวถูกฟ้องขับไล่ที่ออกจาก APT และตึกที่คุมค่าเช่าก็เหลือน้อยและเป็นแหล่งเสื่อมโทรม ย่านดีๆราคาก็สูงมาก หลายคนเลือกที่จะนอนในรถแทน ขนาดพวกที่ทำงานร้านแมค แบบฟูลไทม์ รายได้ยังไม่พอที่จะจ่ายค่าเช่าบ้านและค่าสาธารณูปโภคเลย เวลานี้คือต้องหาคนแชร์ห้องและช่วยกันหารแต่การแชร์มันก็อันตรายเพราะไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่อยู่ด้วยจะเป็นคนดีหรือโจร ไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมเห็นคนอเมริกันกินแต่อาหารขยะหรือเลี้ยงลูกด้วยอาหารขยะ ทั้งนี้วิกิพีเดียระบุถึงประวัติ ลิลี่ ถัง วิลเลียมส์ เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 1964 ใน เมือง เฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวนทางตอนกลางของจีน เธอ เกิดมาในครอบครัวชนชั้นแรงงานที่ไม่รู้หนังสือ เธอเติบโตภายใต้การปกครองของเหมาเจ๋อตุงและวัยเด็กของเธอตรงกับช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมซึ่งกินเวลานานจนกระทั่งเหมาเจ๋อตุงเสียชีวิตในปี 1976 เธอเติบโตมาในความยากจนและประสบความสำเร็จในโรงเรียน จบการศึกษาด้วยคะแนนสูงสุดของชั้นเรียนมัธยมปลาย และได้คะแนนใกล้เคียงกับอันดับต้นๆ ของการสอบระดับชาติของจีน Tang Williams ศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายที่มหาวิทยาลัย Fudanในเซี่ยงไฮ้ในขณะที่เรียนอยู่วิทยาลัย เธอได้พบกับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากสหรัฐอเมริกาที่แสดงรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาและคำประกาศอิสรภาพ ฉบับพกพาให้เธอ ดู ซึ่งทำให้เธอสนใจที่จะอพยพไปยังสหรัฐอเมริกา เธอได้รับปริญญาตรีในปี 1985 และต่อมาได้เข้าร่วมคณะนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Fudan และฝึกฝนกฎหมายองค์กรในขณะที่จีนเริ่มสร้างเศรษฐกิจใหม่ เธอมาที่สหรัฐอเมริกาในปี 1988 เพื่อศึกษาที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสตินและได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยใน ภายหลังในปี 1991 เธอได้รับปริญญาโทสาขาการทำงานสังคมสงเคราะห์จากมหาวิทยาลัยเท็กซัสที่ออสตินเธอได้รับสัญชาติอเมริกันในปี 1994 https://youtu.be/yOF78Mb2Rtc?si=yArv0mHiHm048Sbk #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฉความจริง*อันตรายจากวัคซีนCovid-19 ร้ายแรงกว่าที่คิด



    Live!! คลิปเต็ม4ชม.แฉความจริงอันตรายจากสิ่งที่ฉีดไปแล้วร้ายแรงกว่าที่คิด

    รีบดูก่อนถูกปิดกั้นอีก!!
    หัวข้อ : แฉความจริงอันตรายจากสิ่งที่ฉีดไปแล้วร้ายแรงกว่าที่คิด
    จากโครงการจัดเสวนาและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สำหรับภาวะ Long Covid-19 และผลกระทบจากวัคซีน
    วันที่ 3 พฤษภาคม 2567
    เวลา 13:00 น.ถึง 18:00 น.
    ณ.หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร



    https://www.thaipithaksith.com/side-effect-covid19-vaccine?fbclid=IwY2xjawGRq1JleHRuA2FlbQIxMQABHYe_OcD2Bvlo3tzM7U3CpW2atu0E_mcgp46MZOVRzjoLCL0qHmcOMn745w_aem_lBAg9fGKtbNlQaXqWUPqpw

    แฉความจริง*อันตรายจากวัคซีนCovid-19 ร้ายแรงกว่าที่คิด Live!! คลิปเต็ม4ชม.แฉความจริงอันตรายจากสิ่งที่ฉีดไปแล้วร้ายแรงกว่าที่คิด รีบดูก่อนถูกปิดกั้นอีก!! หัวข้อ : แฉความจริงอันตรายจากสิ่งที่ฉีดไปแล้วร้ายแรงกว่าที่คิด จากโครงการจัดเสวนาและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สำหรับภาวะ Long Covid-19 และผลกระทบจากวัคซีน วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เวลา 13:00 น.ถึง 18:00 น. ณ.หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร https://www.thaipithaksith.com/side-effect-covid19-vaccine?fbclid=IwY2xjawGRq1JleHRuA2FlbQIxMQABHYe_OcD2Bvlo3tzM7U3CpW2atu0E_mcgp46MZOVRzjoLCL0qHmcOMn745w_aem_lBAg9fGKtbNlQaXqWUPqpw
    WWW.THAIPITHAKSITH.COM
    แฉความจริง*อันตรายจากวัคซีนCovid-19 ร้ายแรงกว่าที่คิด
    รายงานการบาดเจ็บจากวัคซีนของคุณที่นี่ และรับความช่วยเหลือจากแพทย์ของเรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ท่องเที่ยวชุมชนยลวิถี" บ้านฟ้าหยาด ตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชัยชนะ จังหวัดยโสธร
    ประเพณีที่สำคัญ คือ งานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก จัดอย่างยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลก
    นับเป็นอีกงานประเพณีประจำปี ที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม ได้ประกาศขึ้นทะเบียน "ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ในเทศกาลวันมาฆบูชา จังหวัดยโสธร" สาขาแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี พ.ศ. 2558 ประกาศ ณ วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558 และในปี พ.ศ. 2566 มีการคัดเลือกงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก “มาฆบูชา อารยธรรมอีสาน” เป็น 1 ใน 16 เทศกาลประเพณีเพื่อยกระดับไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ

    #สุขนิยามสยามโสภา #สยามโสภา #บ้านฟ้าหยาด #จังหวัดยโสธร #อำเภอมหาชัยชนะ #งานประเพณี #มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ #แห่มาลัยข้าวตอก #ท่องเที่ยวชุมชน
    "ท่องเที่ยวชุมชนยลวิถี" บ้านฟ้าหยาด ตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชัยชนะ จังหวัดยโสธร ประเพณีที่สำคัญ คือ งานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก จัดอย่างยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลก นับเป็นอีกงานประเพณีประจำปี ที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม ได้ประกาศขึ้นทะเบียน "ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ในเทศกาลวันมาฆบูชา จังหวัดยโสธร" สาขาแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี พ.ศ. 2558 ประกาศ ณ วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558 และในปี พ.ศ. 2566 มีการคัดเลือกงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก “มาฆบูชา อารยธรรมอีสาน” เป็น 1 ใน 16 เทศกาลประเพณีเพื่อยกระดับไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ #สุขนิยามสยามโสภา #สยามโสภา #บ้านฟ้าหยาด #จังหวัดยโสธร #อำเภอมหาชัยชนะ #งานประเพณี #มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ #แห่มาลัยข้าวตอก #ท่องเที่ยวชุมชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 19 0 รีวิว
Pages Boosts