• ขยับหมาก ตอนที่ 4

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก”
    ตอน 4
    เรื่องของกรีซ ดูเหมือนเป็นเรื่องการเงิน ก็ใช่อยู่ แต่เป็นเรื่องการเงินที่น่าจะเป็นการวางแผนจากด้านการเมือง สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษรบเยอรมัน แต่จัดการก่อเรื่องในรัสเซียให้มีปฏิวัติ และวุ่นวายเอง เพื่ออังกฤษไม่ต้องเสียกำลังพลมาสู้ทางรัสเซีย
    คราวนี้ ดูเหมือนอเมริกา อาจจะเอาวิธีการของอังกฤษ ที่เคยใช้สมัยในสงครามโลกครั้งที่ 1 มาใช้บ้าง แต่สลับที่กัน อเมริกา เตรียมรบรัสเซียแน่ แต่เพื่อเป็นการสงวนกำลังสำหรับการรบ ที่ยังไม่รู้ว่าจะยืดเยื้อแค่ไหน ในเมื่ออเมริการู้ว่า อียู หรือยุโรป ไม่แข็งในเรื่องกองกำลัง จริงอย่างที่ชาวเกาะใหญ่ฯ แดกดัน อเมริกาส่งกำลังพลและอาวุธเท่าไหร่ไม่รู้จะพอยันรัสเซียไหม และที่สำคัญ กำลังพลของอเมริกา ก็ไม่น่าจะพอแบ่งด้วย อเมริกาจจึงอาจใช้วิธีก่อความวุ่นวายในยุโรป โดยยังไม่ใช้กำลังพล แต่ใช้การสร้างความวุ่นวาย ที่จะบานปลาย ไปได้ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงแรกไปก่อน
    ถ้าอเมริกาเลือกใช้วิธีนี้ อเมริกาคงเลือกจุดพลุ 2 ทาง ทางหนึ่งคือแถบยูเครน จอร์เจีย อาเซอร์ไบจัน ที่มีเขตแดนติดกับรัสเซีย และยาวมาถึงอิหร่านและตุรกี และอาจจะมีอียิปต์รอบ 2 อีกทางก็จุดเรื่องกรีซ เพื่อตัดเส้นทางจับมือ ระหว่างรัสเซียกับอิหร่าน ทำไมถึงต้องตัดทางจับมือ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังขอตัดกลับมาที่กรีซก่อน
    กรีซจะตกลงเรื่องเงินกู้ครั้งใหม่ ได้หรือไม่ ดูเหมือนความสำคัญ ในภาพใหญ่ จะไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น ถ้าตกลงกันไม่ได้ แน่นอน เกิดเงินฝากไหล หรือหนักกว่านั้น ถ้าธนาคารกรีซไม่เปิด เพราะไม่มีเงิน หรือเจ้าหนี้ตกลงที่จะให้เงินกู้ก้อนใหม่ แต่ระหว่างการเจรจา ก็จะเกิดอาการสะอึกขึ้นได้อีก
    อเมริกา ส่งนางเหยี่ยว F-ck อียู Nuland ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ผู้อำนวยการสร้างปฏิวัติสีส้มของยูเครน และล่าสุด เพิ่งอุ้มนายสาก เอามาวางเตรียมไว้ที่โอเดสสาของ ยูเครน ที่ติดกับรัสเซีย หลังจากอุ้มนายสาก นางเหยี่ยวก็แวะมาบีบคอ นายกรัฐมนครีหนุ่มกรีก เมื่อวันที่ 17 มีนาคม บอกว่า เราอยากเห็นกรีซที่ร่ำรวย และเจริญก้าวหน้า เข้าใจไหม อย่าได้คิดออกจากอียูเชียว
    นายกซิบหลุด จะเป็นม้าไม้มาทำลายกรีก อย่างที่กูรูทั้งหลายเขาว่ากัน หรือเป็นม้าที่เขาหลอกเอามาเชือด ผมไม่แน่ใจ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีคลัง น้องยานิสของผม ที่ลาออกจากตำแหน่งหลังวันลงคะแนนเสียง ก็ว่ากันว่า เขาเป็นม้าไม้อีกตัวหนึ่งหรือ ผมตอบไม่ได้ ยังไม่มีข้อมูลมากกว่าที่เขาเล่ากัน นอกจากบอกว่า น่าเสียดายถ้าเป็นอย่างนั้น ที่เราจะหาคนที่ต่อสู้เพื่อบ้านเมือง (แม้จะไม่ใช่บ้านเมืองของเรา แต่ผมก็เอาใจช่วย) ให้หลุดจากบ่วงของเหล่านักล่า ยากขนาดนั้นเชียวหรือ
    John Helmer นักข่าวรุ่นเก๋าจากแดนจิงโจ้ ที่เป็นชาวต่างชาติคนเดียว ที่ปักหลักทำข่าวอยู่ที่รัสเซียได้นานกว่าสิบปี เขียนลงในบล๊อกของเขา เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม ว่า มีการเตรียมการที่จะก่อการจราจลในกรีซ เมื่อวันที่ชาวกรีกลงประชามติ ถ้าวันนั้น คะแนน yes กับ no ใกล้เคียงกัน ก็จะมีการปฏิวัติ ตามแผน Operation Nemesis ที่อเมริกาวางแผนไว้ เขาบอกว่า พวกอีลิตนักธุรกิจชาวกรีกเครือข่ายอเมริกัน และทหารกรีก ไม่ได้ vote no!
    Operation Nemesis มาจากการกำกับของนางเหยี่ยว (อีกแล้ว) อย่าลืมว่า นางเหยี่ยวใช้ Operation Gladio ที่เป็นกองกำลังนอกระบบของนาโต้ ปฏิบัติการในวันที่มีการชุมนุมใหญ่ ที่ Maiden Square ของยูเครน ที่มีผู้ชุมนุมบาดเจ็บล้มตายมากมาย นอกจากนี้ นางเหยี่ยวยังทิ้งกองกำลังที่ Mossad ของอิสราเอลฝึกให้ ไว้ให้นายสากอีก 2 พันคน (อ่านรายละเอียดของ เรื่อง ยูเครน ได้จากนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง และเรื่องของนายสาก)
    รัสเซียรู้เรื่องนี้ไหม รัสเซียคงรู้ดี จึงมองดูเรื่องการลงประชามติขอ งกรีกอยู่เฉยๆ รอดูว่า อเมริกา และอียู โดยเฉพาะเยอรมัน หัวเรือใหญ่ จะเล่นเกมอย่างไร เมื่อคะแนน no นำขาด Operation Nemesis จึงถูกระงับไว้ชั่วคราวก่อน แปลว่าชะตาชาวกรีก ไม่ได้อยู่ในมือของพวกเขา ไม่ว่าจะ no หรือ yes ก็จะมีคนมากำหนดชะตาของพวกเขาอีกต่อ
    ผมจะไม่แปลกใจ ถ้าในที่สุด คนกรีกจะไม่พอใจเงื่อนไขใหม่ ที่นายกซิบหลุด ไปยอมตกลงกับเจ้าหนี้รอบ 3 เมื่อไม่กี่วันนี้ และ มีการออกมาชุมนุมกัน และการขุมนุมบานปลาย operation nemesis ที่หลบมุมมืดอยู่ อาจออกมาอยูที่สว่าง มีการปลี่ยนรัฐบาลกรีก ถ้าเป็นอย่างนั้น แปลว่า คงมีการเริ่มขยับหมากแล้ว มันคงยากแก่การเข้าใจถ้าดูเฉพาะจุด แต่ถ้าดูภาพใหญ่ และมองตามวิธีการคิดขยับหมากของอเมริกา เราอาจจะพอเห็นอะไรชัดขึ้น
    การจุดพลุบริเวณยูเครน เป็นเรื่องไม่ยากที่จะเข้าใจ อเมริกาปล่อยให้รัสเซียเอายูเครนกลับไปไม่ได้แน่ ไหนจะเป็นประตูใหญ่เข้ามาสู่ประเทศแถบอียูเหนือ ไหนจะเป็นการจองให้เป็นบ้านใหม่ของยิว หรืออิสราเอล 2 และไหนจะเป็นแหล่งที่อเมริกาลงทุนในแถบนั้นไว้แยะแล้ว แต่ที่สำคัญ การยอมให้รัสเซียเอายูเครนกลับไปได้ หมายถึงยอมรับว่า รัสเซียเหนือกว่า เป็นการเสริมความแกร่งเพิ่มให้คุณพี่ปูติน ซึ่งรายการหลัง ไม่ใช่แต่นักล่าใบตองแห้ง จะเสียหน้าขนาดหนักเท่านั้น ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ คงทนไม่ได้ด้วย ดังนั้น เมื่อ “ถึงเวลา” ยูเครน จอร์เจีย ก็จะต้องเดือดขึ้นมาอีก หน่วยปฏิบัติการยังเตรียมพร้อมอยู่
    แต่การจุดพลุกรีซนี่น่าสนใจว่า อเมริกาใจถึงขนาดไหน ขนาดยอมเสียยุโรป โดยเฉพาะเอาให้เยอรมันทรุดด้วย นี่ แก้ฝันค้างให้กับลูกพี่ชาวเกาะ ใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ได้ด้วย เพราะเรื่องกรีซ ไม่น่าใช่ แค่กรีซไม่ใช้หนี้ กรีซไม่มีเงิน หรือกลัวกรีซจะไปซบรัสเซีย เรื่องกรีซเอง เล็กน้อยมากในสายตาของนักล่า กินไม่พออิ่ม ได้ไม่คุ้มเสีย แต่ถ้าอเมริกาคิด เล่นแรงถึงขนาดทำให้ยุโรปเซ ทั้งแถบนั่นแหละ มันถึงน่าจะเป็นสันดานดิบของนักล่าตัวจริง
    ยุโรปเป็นตลาดใหญ่ของรัสเซีย ถ้ายุโรปไป รัสเซียก็เหนื่อย ยุโรปไป เยอรมันก็อ่วม จุดพลุกรีซดอกเดียว ที่หลุดมาเข้าทาง ระบบการเงิน เศรษฐกิจยุโรปไปทั้งแถบ ไม่ต้องยกทัพโยธามาให้เหนื่อย เอากำลังพล ไว้ไปรบตรงอื่นดีกว่า เนอะ ถ้าสถานการณ์ มันบาน เป็นไปตามทฤษฏีสันดานดิบของนักล่าตัวจริง ก็แปลว่า เข้าเขตไฟเหลือง โปรดระวังกันได้แล้ว
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    18 ก.ค. 2558
    ขยับหมาก ตอนที่ 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก” ตอน 4 เรื่องของกรีซ ดูเหมือนเป็นเรื่องการเงิน ก็ใช่อยู่ แต่เป็นเรื่องการเงินที่น่าจะเป็นการวางแผนจากด้านการเมือง สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษรบเยอรมัน แต่จัดการก่อเรื่องในรัสเซียให้มีปฏิวัติ และวุ่นวายเอง เพื่ออังกฤษไม่ต้องเสียกำลังพลมาสู้ทางรัสเซีย คราวนี้ ดูเหมือนอเมริกา อาจจะเอาวิธีการของอังกฤษ ที่เคยใช้สมัยในสงครามโลกครั้งที่ 1 มาใช้บ้าง แต่สลับที่กัน อเมริกา เตรียมรบรัสเซียแน่ แต่เพื่อเป็นการสงวนกำลังสำหรับการรบ ที่ยังไม่รู้ว่าจะยืดเยื้อแค่ไหน ในเมื่ออเมริการู้ว่า อียู หรือยุโรป ไม่แข็งในเรื่องกองกำลัง จริงอย่างที่ชาวเกาะใหญ่ฯ แดกดัน อเมริกาส่งกำลังพลและอาวุธเท่าไหร่ไม่รู้จะพอยันรัสเซียไหม และที่สำคัญ กำลังพลของอเมริกา ก็ไม่น่าจะพอแบ่งด้วย อเมริกาจจึงอาจใช้วิธีก่อความวุ่นวายในยุโรป โดยยังไม่ใช้กำลังพล แต่ใช้การสร้างความวุ่นวาย ที่จะบานปลาย ไปได้ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงแรกไปก่อน ถ้าอเมริกาเลือกใช้วิธีนี้ อเมริกาคงเลือกจุดพลุ 2 ทาง ทางหนึ่งคือแถบยูเครน จอร์เจีย อาเซอร์ไบจัน ที่มีเขตแดนติดกับรัสเซีย และยาวมาถึงอิหร่านและตุรกี และอาจจะมีอียิปต์รอบ 2 อีกทางก็จุดเรื่องกรีซ เพื่อตัดเส้นทางจับมือ ระหว่างรัสเซียกับอิหร่าน ทำไมถึงต้องตัดทางจับมือ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังขอตัดกลับมาที่กรีซก่อน กรีซจะตกลงเรื่องเงินกู้ครั้งใหม่ ได้หรือไม่ ดูเหมือนความสำคัญ ในภาพใหญ่ จะไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น ถ้าตกลงกันไม่ได้ แน่นอน เกิดเงินฝากไหล หรือหนักกว่านั้น ถ้าธนาคารกรีซไม่เปิด เพราะไม่มีเงิน หรือเจ้าหนี้ตกลงที่จะให้เงินกู้ก้อนใหม่ แต่ระหว่างการเจรจา ก็จะเกิดอาการสะอึกขึ้นได้อีก อเมริกา ส่งนางเหยี่ยว F-ck อียู Nuland ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ผู้อำนวยการสร้างปฏิวัติสีส้มของยูเครน และล่าสุด เพิ่งอุ้มนายสาก เอามาวางเตรียมไว้ที่โอเดสสาของ ยูเครน ที่ติดกับรัสเซีย หลังจากอุ้มนายสาก นางเหยี่ยวก็แวะมาบีบคอ นายกรัฐมนครีหนุ่มกรีก เมื่อวันที่ 17 มีนาคม บอกว่า เราอยากเห็นกรีซที่ร่ำรวย และเจริญก้าวหน้า เข้าใจไหม อย่าได้คิดออกจากอียูเชียว นายกซิบหลุด จะเป็นม้าไม้มาทำลายกรีก อย่างที่กูรูทั้งหลายเขาว่ากัน หรือเป็นม้าที่เขาหลอกเอามาเชือด ผมไม่แน่ใจ เช่นเดียวกับรัฐมนตรีคลัง น้องยานิสของผม ที่ลาออกจากตำแหน่งหลังวันลงคะแนนเสียง ก็ว่ากันว่า เขาเป็นม้าไม้อีกตัวหนึ่งหรือ ผมตอบไม่ได้ ยังไม่มีข้อมูลมากกว่าที่เขาเล่ากัน นอกจากบอกว่า น่าเสียดายถ้าเป็นอย่างนั้น ที่เราจะหาคนที่ต่อสู้เพื่อบ้านเมือง (แม้จะไม่ใช่บ้านเมืองของเรา แต่ผมก็เอาใจช่วย) ให้หลุดจากบ่วงของเหล่านักล่า ยากขนาดนั้นเชียวหรือ John Helmer นักข่าวรุ่นเก๋าจากแดนจิงโจ้ ที่เป็นชาวต่างชาติคนเดียว ที่ปักหลักทำข่าวอยู่ที่รัสเซียได้นานกว่าสิบปี เขียนลงในบล๊อกของเขา เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม ว่า มีการเตรียมการที่จะก่อการจราจลในกรีซ เมื่อวันที่ชาวกรีกลงประชามติ ถ้าวันนั้น คะแนน yes กับ no ใกล้เคียงกัน ก็จะมีการปฏิวัติ ตามแผน Operation Nemesis ที่อเมริกาวางแผนไว้ เขาบอกว่า พวกอีลิตนักธุรกิจชาวกรีกเครือข่ายอเมริกัน และทหารกรีก ไม่ได้ vote no! Operation Nemesis มาจากการกำกับของนางเหยี่ยว (อีกแล้ว) อย่าลืมว่า นางเหยี่ยวใช้ Operation Gladio ที่เป็นกองกำลังนอกระบบของนาโต้ ปฏิบัติการในวันที่มีการชุมนุมใหญ่ ที่ Maiden Square ของยูเครน ที่มีผู้ชุมนุมบาดเจ็บล้มตายมากมาย นอกจากนี้ นางเหยี่ยวยังทิ้งกองกำลังที่ Mossad ของอิสราเอลฝึกให้ ไว้ให้นายสากอีก 2 พันคน (อ่านรายละเอียดของ เรื่อง ยูเครน ได้จากนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง และเรื่องของนายสาก) รัสเซียรู้เรื่องนี้ไหม รัสเซียคงรู้ดี จึงมองดูเรื่องการลงประชามติขอ งกรีกอยู่เฉยๆ รอดูว่า อเมริกา และอียู โดยเฉพาะเยอรมัน หัวเรือใหญ่ จะเล่นเกมอย่างไร เมื่อคะแนน no นำขาด Operation Nemesis จึงถูกระงับไว้ชั่วคราวก่อน แปลว่าชะตาชาวกรีก ไม่ได้อยู่ในมือของพวกเขา ไม่ว่าจะ no หรือ yes ก็จะมีคนมากำหนดชะตาของพวกเขาอีกต่อ ผมจะไม่แปลกใจ ถ้าในที่สุด คนกรีกจะไม่พอใจเงื่อนไขใหม่ ที่นายกซิบหลุด ไปยอมตกลงกับเจ้าหนี้รอบ 3 เมื่อไม่กี่วันนี้ และ มีการออกมาชุมนุมกัน และการขุมนุมบานปลาย operation nemesis ที่หลบมุมมืดอยู่ อาจออกมาอยูที่สว่าง มีการปลี่ยนรัฐบาลกรีก ถ้าเป็นอย่างนั้น แปลว่า คงมีการเริ่มขยับหมากแล้ว มันคงยากแก่การเข้าใจถ้าดูเฉพาะจุด แต่ถ้าดูภาพใหญ่ และมองตามวิธีการคิดขยับหมากของอเมริกา เราอาจจะพอเห็นอะไรชัดขึ้น การจุดพลุบริเวณยูเครน เป็นเรื่องไม่ยากที่จะเข้าใจ อเมริกาปล่อยให้รัสเซียเอายูเครนกลับไปไม่ได้แน่ ไหนจะเป็นประตูใหญ่เข้ามาสู่ประเทศแถบอียูเหนือ ไหนจะเป็นการจองให้เป็นบ้านใหม่ของยิว หรืออิสราเอล 2 และไหนจะเป็นแหล่งที่อเมริกาลงทุนในแถบนั้นไว้แยะแล้ว แต่ที่สำคัญ การยอมให้รัสเซียเอายูเครนกลับไปได้ หมายถึงยอมรับว่า รัสเซียเหนือกว่า เป็นการเสริมความแกร่งเพิ่มให้คุณพี่ปูติน ซึ่งรายการหลัง ไม่ใช่แต่นักล่าใบตองแห้ง จะเสียหน้าขนาดหนักเท่านั้น ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ คงทนไม่ได้ด้วย ดังนั้น เมื่อ “ถึงเวลา” ยูเครน จอร์เจีย ก็จะต้องเดือดขึ้นมาอีก หน่วยปฏิบัติการยังเตรียมพร้อมอยู่ แต่การจุดพลุกรีซนี่น่าสนใจว่า อเมริกาใจถึงขนาดไหน ขนาดยอมเสียยุโรป โดยเฉพาะเอาให้เยอรมันทรุดด้วย นี่ แก้ฝันค้างให้กับลูกพี่ชาวเกาะ ใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ได้ด้วย เพราะเรื่องกรีซ ไม่น่าใช่ แค่กรีซไม่ใช้หนี้ กรีซไม่มีเงิน หรือกลัวกรีซจะไปซบรัสเซีย เรื่องกรีซเอง เล็กน้อยมากในสายตาของนักล่า กินไม่พออิ่ม ได้ไม่คุ้มเสีย แต่ถ้าอเมริกาคิด เล่นแรงถึงขนาดทำให้ยุโรปเซ ทั้งแถบนั่นแหละ มันถึงน่าจะเป็นสันดานดิบของนักล่าตัวจริง ยุโรปเป็นตลาดใหญ่ของรัสเซีย ถ้ายุโรปไป รัสเซียก็เหนื่อย ยุโรปไป เยอรมันก็อ่วม จุดพลุกรีซดอกเดียว ที่หลุดมาเข้าทาง ระบบการเงิน เศรษฐกิจยุโรปไปทั้งแถบ ไม่ต้องยกทัพโยธามาให้เหนื่อย เอากำลังพล ไว้ไปรบตรงอื่นดีกว่า เนอะ ถ้าสถานการณ์ มันบาน เป็นไปตามทฤษฏีสันดานดิบของนักล่าตัวจริง ก็แปลว่า เข้าเขตไฟเหลือง โปรดระวังกันได้แล้ว สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 18 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • "อนุทิน" ไม่รู้เรื่องกระแสยุบสภากลาง ธ.ค. ย้ำอำนาจยุบอยู่ที่นายกฯ จะยุบก็เพราะเห็นควรเอง ไม่ใช่เพราะกระแสข่าว พร้อมบอกไม่ประเมินที่มาข่าวลือ - ชี้ป่วยการและเสียเวลาทำงาน

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110935

    #อนุทิน #ยุบสภา #การเมืองไทย #รัฐบาลไทย #News1live #News1
    "อนุทิน" ไม่รู้เรื่องกระแสยุบสภากลาง ธ.ค. ย้ำอำนาจยุบอยู่ที่นายกฯ จะยุบก็เพราะเห็นควรเอง ไม่ใช่เพราะกระแสข่าว พร้อมบอกไม่ประเมินที่มาข่าวลือ - ชี้ป่วยการและเสียเวลาทำงาน • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110935 • #อนุทิน #ยุบสภา #การเมืองไทย #รัฐบาลไทย #News1live #News1
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • หลักฐานเส้นเงินชัด 2 อดีตรมต.พันสแกมเมอร์ : [THE MESSAGE]

    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ยื่นหลักฐานเส้นทางธุรกรรมการเงินของขบวนการสแกมเมอร์ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) พบธุรกรรมผิดปกติชัดเจน เริ่มต้นแค่ 10 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 330 บาท ซึ่งเป็นทุนจดทะเบียนของบริษัทที่มีอดีตรัฐมนตรีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่สามารถเข้าซื้อกิจการมูลค่าสูงกว่าเป็นล้านเท่า เชื่อมโยงกับบุคคลที่มีรายชื่อในสหรัฐฯ มีปลายทางเชื่อมโยงถึงบริษัทพลังงานของไทยที่เคยเป็นข่าวว่า อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยรายชื่อที่ส่งให้ ปปง.เป็นเอกสารสาธารณะที่มีชื่อบุคคล สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากหลายธุรกรรมต้องดำเนินการผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ มีระดับรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง 2 คน ทั้งอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ และอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่แล้ว ขอฝ่ายการเมืองไม่เข้าไปเป็นอุปสรรค ฝากนายกรัฐมนตรีพิสูจน์ความจริงใจปราบปรามสแกมเมอร์
    หลักฐานเส้นเงินชัด 2 อดีตรมต.พันสแกมเมอร์ : [THE MESSAGE] นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ยื่นหลักฐานเส้นทางธุรกรรมการเงินของขบวนการสแกมเมอร์ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) พบธุรกรรมผิดปกติชัดเจน เริ่มต้นแค่ 10 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 330 บาท ซึ่งเป็นทุนจดทะเบียนของบริษัทที่มีอดีตรัฐมนตรีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่สามารถเข้าซื้อกิจการมูลค่าสูงกว่าเป็นล้านเท่า เชื่อมโยงกับบุคคลที่มีรายชื่อในสหรัฐฯ มีปลายทางเชื่อมโยงถึงบริษัทพลังงานของไทยที่เคยเป็นข่าวว่า อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยรายชื่อที่ส่งให้ ปปง.เป็นเอกสารสาธารณะที่มีชื่อบุคคล สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากหลายธุรกรรมต้องดำเนินการผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ มีระดับรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง 2 คน ทั้งอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ และอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่แล้ว ขอฝ่ายการเมืองไม่เข้าไปเป็นอุปสรรค ฝากนายกรัฐมนตรีพิสูจน์ความจริงใจปราบปรามสแกมเมอร์
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 0 Reviews
  • นายกฯ อนุทิน ลั่น อำนาจยุบสภาอยู่ที่นายกฯ คนเดียว ไม่ต้องส่งสัญญาณหรือหารือกับใคร
    https://www.thai-tai.tv/news/22466/
    .
    #ไทยไท #อนุทิน #แคนดิเดตนายกฯ #ยุบสภา #ศุภจีสุธรรมพันธุ์ #รัฐบาลเสียงข้างน้อย

    นายกฯ อนุทิน ลั่น อำนาจยุบสภาอยู่ที่นายกฯ คนเดียว ไม่ต้องส่งสัญญาณหรือหารือกับใคร https://www.thai-tai.tv/news/22466/ . #ไทยไท #อนุทิน #แคนดิเดตนายกฯ #ยุบสภา #ศุภจีสุธรรมพันธุ์ #รัฐบาลเสียงข้างน้อย
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • ยุโรปผ่อนปรนกฎหมายความเป็นส่วนตัวและ AI

    หลังจากหลายปีที่สหภาพยุโรป (EU) ยืนหยัดในฐานะผู้นำด้านการคุ้มครองข้อมูลและการกำกับดูแล AI ล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอการปรับแก้กฎหมายสำคัญอย่าง GDPR และ AI Act ภายใต้แพ็กเกจ “Digital Omnibus” โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนของกฎเกณฑ์และกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการลดจำนวนป๊อปอัพคุกกี้ที่ผู้ใช้ต้องเผชิญ และการอนุญาตให้บริษัทสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้โดยตรงในการฝึก AI ได้

    แรงกดดันจาก Big Tech และสหรัฐฯ
    การผ่อนปรนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Google, Meta และ OpenAI รวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มองว่ากฎเข้มงวดของยุโรปเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันในตลาดโลก รายงานจาก Mario Draghi อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ก็ชี้ว่ากฎหมายเข้มงวดทำให้ยุโรปเสียเปรียบในการแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน

    ความกังวลจากนักเคลื่อนไหวและนักการเมือง
    แม้การปรับลดกฎจะถูกนำเสนอว่าเป็นการ “ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น” แต่หลายฝ่าย เช่น กลุ่มสิทธิพลเมืองและนักการเมืองยุโรป เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้คือการลดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลลงอย่างมาก โดยเฉพาะการเปิดช่องให้บริษัทอ้าง “ผลประโยชน์โดยชอบ” (legitimate interest) เพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ต้องขอความยินยอมอย่างเข้มงวดเหมือนเดิม

    ผลกระทบต่ออนาคตการแข่งขันและสิทธิพลเมือง
    หากข้อเสนอได้รับการอนุมัติ กฎหมายใหม่จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพทำงานง่ายขึ้น แต่ก็เสี่ยงต่อการทำให้สิทธิของประชาชนในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนแอลง นักเคลื่อนไหวเตือนว่าอาจเป็น “การตัดทอนทีละน้อย” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในยุโรปในฐานะผู้นำด้านสิทธิข้อมูลและความเป็นส่วนตัว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย GDPR และ AI Act
    ลดจำนวนคุกกี้ป๊อปอัพ และอนุญาตให้ใช้ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในการฝึก AI

    แรงกดดันจาก Big Tech และสหรัฐฯ
    บริษัทเทคโนโลยีและรัฐบาลสหรัฐฯ มองว่ากฎเข้มงวดเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขัน

    เป้าหมายของ EU
    ลดขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพให้แข่งขันได้ง่ายขึ้น

    ความเสี่ยงต่อสิทธิพลเมือง
    การใช้ข้ออ้าง “ผลประโยชน์โดยชอบ” อาจทำให้บริษัทเก็บข้อมูลโดยไม่ต้องขอความยินยอม

    การลดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล
    นักเคลื่อนไหวเตือนว่าอาจเป็น “death by a thousand cuts” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นใน GDPR

    ผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก
    ยุโรปอาจสูญเสียจุดยืนในฐานะผู้นำด้านสิทธิข้อมูลและความเป็นส่วนตัว หากกฎหมายอ่อนตัวลง

    https://www.theverge.com/news/823750/european-union-ai-act-gdpr-changes
    📰 ยุโรปผ่อนปรนกฎหมายความเป็นส่วนตัวและ AI หลังจากหลายปีที่สหภาพยุโรป (EU) ยืนหยัดในฐานะผู้นำด้านการคุ้มครองข้อมูลและการกำกับดูแล AI ล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอการปรับแก้กฎหมายสำคัญอย่าง GDPR และ AI Act ภายใต้แพ็กเกจ “Digital Omnibus” โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนของกฎเกณฑ์และกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการลดจำนวนป๊อปอัพคุกกี้ที่ผู้ใช้ต้องเผชิญ และการอนุญาตให้บริษัทสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้โดยตรงในการฝึก AI ได้ ⚖️ แรงกดดันจาก Big Tech และสหรัฐฯ การผ่อนปรนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Google, Meta และ OpenAI รวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มองว่ากฎเข้มงวดของยุโรปเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันในตลาดโลก รายงานจาก Mario Draghi อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ก็ชี้ว่ากฎหมายเข้มงวดทำให้ยุโรปเสียเปรียบในการแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน 🔍 ความกังวลจากนักเคลื่อนไหวและนักการเมือง แม้การปรับลดกฎจะถูกนำเสนอว่าเป็นการ “ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น” แต่หลายฝ่าย เช่น กลุ่มสิทธิพลเมืองและนักการเมืองยุโรป เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้คือการลดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลลงอย่างมาก โดยเฉพาะการเปิดช่องให้บริษัทอ้าง “ผลประโยชน์โดยชอบ” (legitimate interest) เพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ต้องขอความยินยอมอย่างเข้มงวดเหมือนเดิม 🌐 ผลกระทบต่ออนาคตการแข่งขันและสิทธิพลเมือง หากข้อเสนอได้รับการอนุมัติ กฎหมายใหม่จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพทำงานง่ายขึ้น แต่ก็เสี่ยงต่อการทำให้สิทธิของประชาชนในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนแอลง นักเคลื่อนไหวเตือนว่าอาจเป็น “การตัดทอนทีละน้อย” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในยุโรปในฐานะผู้นำด้านสิทธิข้อมูลและความเป็นส่วนตัว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย GDPR และ AI Act ➡️ ลดจำนวนคุกกี้ป๊อปอัพ และอนุญาตให้ใช้ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในการฝึก AI ✅ แรงกดดันจาก Big Tech และสหรัฐฯ ➡️ บริษัทเทคโนโลยีและรัฐบาลสหรัฐฯ มองว่ากฎเข้มงวดเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขัน ✅ เป้าหมายของ EU ➡️ ลดขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพให้แข่งขันได้ง่ายขึ้น ‼️ ความเสี่ยงต่อสิทธิพลเมือง ⛔ การใช้ข้ออ้าง “ผลประโยชน์โดยชอบ” อาจทำให้บริษัทเก็บข้อมูลโดยไม่ต้องขอความยินยอม ‼️ การลดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล ⛔ นักเคลื่อนไหวเตือนว่าอาจเป็น “death by a thousand cuts” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นใน GDPR ‼️ ผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก ⛔ ยุโรปอาจสูญเสียจุดยืนในฐานะผู้นำด้านสิทธิข้อมูลและความเป็นส่วนตัว หากกฎหมายอ่อนตัวลง https://www.theverge.com/news/823750/european-union-ai-act-gdpr-changes
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • “App Store Oligopoly – เมื่อสมาร์ทโฟนกลายเป็นเครื่องมือควบคุมเสรีภาพ”

    บทความจาก ACLU เตือนว่าโครงสร้างผูกขาดของ App Store (Apple และ Google) กำลังเปิดช่องให้รัฐบาลใช้อำนาจกดดันบริษัทเทคโนโลยีเพื่อควบคุมการสื่อสารและจำกัดเสรีภาพของประชาชน

    การควบคุมแอปโดยรัฐบาลและบริษัทยักษ์ใหญ่ บทความชี้ว่า Apple และ Google ครองตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด ทำให้สิ่งที่ผู้ใช้สามารถทำได้บนมือถือถูกกำหนดโดยสองบริษัทนี้ ตัวอย่างล่าสุดคือการที่ Apple และ Google ถอนแอป ICEBlock และ Red Dot ตามคำสั่งของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ทั้งที่แอปเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนรายงานการพบเห็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งถือเป็นสิทธิภายใต้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งแรก (First Amendment)

    โครงสร้างระบบที่เอื้อต่อการเซ็นเซอร์ Apple ใช้ระบบ iOS ที่บังคับให้ติดตั้งแอปผ่าน App Store เท่านั้น ทำให้การควบคุมเป็นแบบรวมศูนย์และเสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เช่น การห้ามเกมที่วิจารณ์บริษัท หรือการยอมให้รัฐบาลจีนบล็อกแอปหาคู่ LGBTQ ในประเทศ ขณะที่ Google แม้เคยเปิดให้ “sideloading” แต่กำลังเปลี่ยนไปใช้ระบบ Verified Developer ที่อาจทำให้รัฐบาลสามารถกดดันให้ตัดสิทธิ์นักพัฒนาที่ไม่พึงประสงค์ได้

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการสอดส่อง แม้บริษัทจะอ้างว่าเป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัย แต่ในความจริง App Store และ Play Store ยังคงอนุญาตให้แอปที่มีโค้ดสอดส่องและขายข้อมูลผู้ใช้ผ่าน data broker เข้ามาได้ อีกทั้งยังมีการเก็บข้อมูลการติดตั้งแอปของผู้ใช้เอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

    ทางเลือกและการผลักดันเพื่อเสรีภาพ ACLU เสนอว่าผู้ใช้ควรหันไปใช้ App Store ทางเลือก เช่น F-Droid หรือ Accrescent ที่เน้นความเป็นโอเพนซอร์สและความเป็นส่วนตัว รวมถึงการผลักดันกฎหมายแบบ Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป ที่บังคับให้ Apple เปิดให้มีการ sideload แอปและ App Store ทางเลือก เพื่อป้องกันการผูกขาดและการควบคุมจากรัฐบาล

    สรุปสาระสำคัญ
    การควบคุมโดย App Store
    Apple และ Google ครองตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐฯ
    การถอนแอป ICEBlock และ Red Dot ตามคำสั่ง DOJ

    โครงสร้างที่เอื้อต่อการเซ็นเซอร์
    Apple บังคับใช้ App Store เดียว
    Google เตรียมใช้ระบบ Verified Developer

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการสอดส่อง
    แอปที่มีโค้ดสอดส่องยังถูกอนุญาต
    App Store เก็บข้อมูลการติดตั้งแอปของผู้ใช้

    ทางเลือกเพื่อเสรีภาพ
    ใช้ App Store ทางเลือก เช่น F-Droid, Accrescent
    ผลักดันกฎหมายแบบ DMA ของ EU

    คำเตือนต่อผู้ใช้สมาร์ทโฟน
    การผูกขาดทำให้รัฐบาลสามารถกดดันบริษัทเพื่อควบคุมเสรีภาพ
    การสอดส่องข้อมูลผู้ใช้อาจกระทบสิทธิความเป็นส่วนตัว

    https://www.aclu.org/news/free-speech/app-store-oligopoly
    📰 “App Store Oligopoly – เมื่อสมาร์ทโฟนกลายเป็นเครื่องมือควบคุมเสรีภาพ” บทความจาก ACLU เตือนว่าโครงสร้างผูกขาดของ App Store (Apple และ Google) กำลังเปิดช่องให้รัฐบาลใช้อำนาจกดดันบริษัทเทคโนโลยีเพื่อควบคุมการสื่อสารและจำกัดเสรีภาพของประชาชน 📱 การควบคุมแอปโดยรัฐบาลและบริษัทยักษ์ใหญ่ บทความชี้ว่า Apple และ Google ครองตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด ทำให้สิ่งที่ผู้ใช้สามารถทำได้บนมือถือถูกกำหนดโดยสองบริษัทนี้ ตัวอย่างล่าสุดคือการที่ Apple และ Google ถอนแอป ICEBlock และ Red Dot ตามคำสั่งของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ทั้งที่แอปเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนรายงานการพบเห็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งถือเป็นสิทธิภายใต้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งแรก (First Amendment) 🔒 โครงสร้างระบบที่เอื้อต่อการเซ็นเซอร์ Apple ใช้ระบบ iOS ที่บังคับให้ติดตั้งแอปผ่าน App Store เท่านั้น ทำให้การควบคุมเป็นแบบรวมศูนย์และเสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เช่น การห้ามเกมที่วิจารณ์บริษัท หรือการยอมให้รัฐบาลจีนบล็อกแอปหาคู่ LGBTQ ในประเทศ ขณะที่ Google แม้เคยเปิดให้ “sideloading” แต่กำลังเปลี่ยนไปใช้ระบบ Verified Developer ที่อาจทำให้รัฐบาลสามารถกดดันให้ตัดสิทธิ์นักพัฒนาที่ไม่พึงประสงค์ได้ 👁️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการสอดส่อง แม้บริษัทจะอ้างว่าเป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัย แต่ในความจริง App Store และ Play Store ยังคงอนุญาตให้แอปที่มีโค้ดสอดส่องและขายข้อมูลผู้ใช้ผ่าน data broker เข้ามาได้ อีกทั้งยังมีการเก็บข้อมูลการติดตั้งแอปของผู้ใช้เอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง 🌐 ทางเลือกและการผลักดันเพื่อเสรีภาพ ACLU เสนอว่าผู้ใช้ควรหันไปใช้ App Store ทางเลือก เช่น F-Droid หรือ Accrescent ที่เน้นความเป็นโอเพนซอร์สและความเป็นส่วนตัว รวมถึงการผลักดันกฎหมายแบบ Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป ที่บังคับให้ Apple เปิดให้มีการ sideload แอปและ App Store ทางเลือก เพื่อป้องกันการผูกขาดและการควบคุมจากรัฐบาล 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การควบคุมโดย App Store ➡️ Apple และ Google ครองตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐฯ ➡️ การถอนแอป ICEBlock และ Red Dot ตามคำสั่ง DOJ ✅ โครงสร้างที่เอื้อต่อการเซ็นเซอร์ ➡️ Apple บังคับใช้ App Store เดียว ➡️ Google เตรียมใช้ระบบ Verified Developer ✅ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการสอดส่อง ➡️ แอปที่มีโค้ดสอดส่องยังถูกอนุญาต ➡️ App Store เก็บข้อมูลการติดตั้งแอปของผู้ใช้ ✅ ทางเลือกเพื่อเสรีภาพ ➡️ ใช้ App Store ทางเลือก เช่น F-Droid, Accrescent ➡️ ผลักดันกฎหมายแบบ DMA ของ EU ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้สมาร์ทโฟน ⛔ การผูกขาดทำให้รัฐบาลสามารถกดดันบริษัทเพื่อควบคุมเสรีภาพ ⛔ การสอดส่องข้อมูลผู้ใช้อาจกระทบสิทธิความเป็นส่วนตัว https://www.aclu.org/news/free-speech/app-store-oligopoly
    WWW.ACLU.ORG
    Your Smartphone, Their Rules: How App Stores Enable Corporate-Government Censorship | ACLU
    Big Tech Oligopoly helps the Trump Administration crack down on free speech
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • “ฟองสบู่ AI? Google เตือนการลงทุนอาจเกินจริง แต่ยังเดินหน้าลงทุนมหาศาลใน UK”

    ในบทสัมภาษณ์กับ BBC, Sundar Pichai CEO ของ Alphabet (Google) กล่าวว่าการลงทุนใน AI ที่กำลังพุ่งสูงนั้นมี “องค์ประกอบของความไร้เหตุผล” แม้จะเป็นช่วงเวลาสำคัญทางเทคโนโลยี แต่ก็คล้ายกับการลงทุนเกินจริงในยุคดอทคอมที่เคยนำไปสู่การล่มสลายของตลาดเมื่อปี 2000 เขาย้ำว่า ไม่มีบริษัทใดที่จะรอดพ้นผลกระทบหากฟองสบู่ AI แตก แม้แต่ Google เองก็ตาม

    ขณะเดียวกัน Google กำลังขยายการลงทุนในสหราชอาณาจักร โดยประกาศทุ่มงบกว่า £5 พันล้าน (ราว 6.8 พันล้านดอลลาร์) เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและศูนย์วิจัย AI รวมถึงการพัฒนา DeepMind ในลอนดอน รัฐบาลอังกฤษมองว่านี่คือโอกาสที่จะทำให้ประเทศขึ้นเป็น “มหาอำนาจ AI อันดับ 3” รองจากสหรัฐฯ และจีน

    อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือ พลังงาน เนื่องจาก AI ใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ โดยปี 2024 ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกใช้ไฟฟ้าราว 415 TWh หรือ 1.5% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 620–1,050 TWh ภายในปี 2030 เทียบเท่าการใช้ไฟฟ้าของประเทศขนาดใหญ่ทั้งประเทศ เช่น ญี่ปุ่นหรือเยอรมนี สิ่งนี้ทำให้เป้าหมาย Net Zero ของ Google ภายในปี 2030 อาจล่าช้า

    นักวิเคราะห์บางรายมองว่าแม้การลงทุน AI จะสร้างโอกาสมหาศาล แต่ก็มีความเสี่ยงสูง หากผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาด ฟองสบู่ AI อาจแตกและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในยุคดอทคอม

    สรุปสาระสำคัญ
    การเตือนเรื่องฟองสบู่ AI
    Sundar Pichai ระบุว่ามี “องค์ประกอบของความไร้เหตุผล” ในการลงทุน AI
    ไม่มีบริษัทใดรอดพ้นผลกระทบหากฟองสบู่แตก

    การลงทุนในสหราชอาณาจักร
    Google ทุ่มงบ £5 พันล้านเพื่อโครงสร้างพื้นฐานและวิจัย AI
    รัฐบาลอังกฤษหวังขึ้นเป็นมหาอำนาจ AI อันดับ 3 ของโลก

    ความต้องการพลังงานมหาศาล
    AI ใช้ไฟฟ้า 1.5% ของโลกในปี 2024 และอาจเพิ่มขึ้นเท่าประเทศใหญ่ภายในปี 2030
    Google ยอมรับว่าเป้าหมาย Net Zero ปี 2030 อาจล่าช้า

    คำเตือนด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
    หากฟองสบู่ AI แตก อาจกระทบตลาดหุ้นและเงินออมประชาชน
    การใช้พลังงานมหาศาลอาจทำให้เกิดวิกฤติพลังงานและชะลอเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม

    https://www.bbc.com/news/articles/cwy7vrd8k4eo
    📰 “ฟองสบู่ AI? Google เตือนการลงทุนอาจเกินจริง แต่ยังเดินหน้าลงทุนมหาศาลใน UK” ในบทสัมภาษณ์กับ BBC, Sundar Pichai CEO ของ Alphabet (Google) กล่าวว่าการลงทุนใน AI ที่กำลังพุ่งสูงนั้นมี “องค์ประกอบของความไร้เหตุผล” แม้จะเป็นช่วงเวลาสำคัญทางเทคโนโลยี แต่ก็คล้ายกับการลงทุนเกินจริงในยุคดอทคอมที่เคยนำไปสู่การล่มสลายของตลาดเมื่อปี 2000 เขาย้ำว่า ไม่มีบริษัทใดที่จะรอดพ้นผลกระทบหากฟองสบู่ AI แตก แม้แต่ Google เองก็ตาม ขณะเดียวกัน Google กำลังขยายการลงทุนในสหราชอาณาจักร โดยประกาศทุ่มงบกว่า £5 พันล้าน (ราว 6.8 พันล้านดอลลาร์) เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและศูนย์วิจัย AI รวมถึงการพัฒนา DeepMind ในลอนดอน รัฐบาลอังกฤษมองว่านี่คือโอกาสที่จะทำให้ประเทศขึ้นเป็น “มหาอำนาจ AI อันดับ 3” รองจากสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือ พลังงาน เนื่องจาก AI ใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ โดยปี 2024 ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกใช้ไฟฟ้าราว 415 TWh หรือ 1.5% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 620–1,050 TWh ภายในปี 2030 เทียบเท่าการใช้ไฟฟ้าของประเทศขนาดใหญ่ทั้งประเทศ เช่น ญี่ปุ่นหรือเยอรมนี สิ่งนี้ทำให้เป้าหมาย Net Zero ของ Google ภายในปี 2030 อาจล่าช้า นักวิเคราะห์บางรายมองว่าแม้การลงทุน AI จะสร้างโอกาสมหาศาล แต่ก็มีความเสี่ยงสูง หากผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาด ฟองสบู่ AI อาจแตกและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในยุคดอทคอม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเตือนเรื่องฟองสบู่ AI ➡️ Sundar Pichai ระบุว่ามี “องค์ประกอบของความไร้เหตุผล” ในการลงทุน AI ➡️ ไม่มีบริษัทใดรอดพ้นผลกระทบหากฟองสบู่แตก ✅ การลงทุนในสหราชอาณาจักร ➡️ Google ทุ่มงบ £5 พันล้านเพื่อโครงสร้างพื้นฐานและวิจัย AI ➡️ รัฐบาลอังกฤษหวังขึ้นเป็นมหาอำนาจ AI อันดับ 3 ของโลก ✅ ความต้องการพลังงานมหาศาล ➡️ AI ใช้ไฟฟ้า 1.5% ของโลกในปี 2024 และอาจเพิ่มขึ้นเท่าประเทศใหญ่ภายในปี 2030 ➡️ Google ยอมรับว่าเป้าหมาย Net Zero ปี 2030 อาจล่าช้า ‼️ คำเตือนด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ⛔ หากฟองสบู่ AI แตก อาจกระทบตลาดหุ้นและเงินออมประชาชน ⛔ การใช้พลังงานมหาศาลอาจทำให้เกิดวิกฤติพลังงานและชะลอเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม https://www.bbc.com/news/articles/cwy7vrd8k4eo
    WWW.BBC.COM
    Google boss says trillion-dollar AI investment boom has 'elements of irrationality'
    In an exclusive BBC interview, Sundar Pichai hailed artificial intelligence as an "extraordinary moment" but said no company would be immune if bubble burst.
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • สหราชอาณาจักรเปิดโปงผู้ให้บริการ Bulletproof Hosting ที่เชื่อมโยงกับ LockBit และ Evil Corp

    Alexander Volosovik หรือที่รู้จักในโลกออนไลน์ว่า “Yalishanda” ถูกเปิดโปงว่าเป็นผู้ดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน Bulletproof Hosting ภายใต้ชื่อบริษัท Media Land LLC และ ML.Cloud LLC ในรัสเซีย โครงสร้างนี้ถูกใช้โดยกลุ่มแรนซัมแวร์และอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น LockBit, Evil Corp และ BlackBasta เพื่อดำเนินการโจมตีที่สร้างความเสียหายมหาศาลต่อองค์กรทั่วโลก ทั้งด้านการเงินและการหยุดชะงักของการดำเนินงาน

    บริการ Bulletproof Hosting มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจอาชญากรรมไซเบอร์ เพราะช่วย ซ่อนตัวตนลูกค้า, เพิกเฉยต่อการร้องเรียนการละเมิด, และต่อต้านการถูกปิดโดยหน่วยงานรัฐ ทำให้กลุ่มอาชญากรสามารถดำเนินการโจมตีได้อย่างมั่นใจและต่อเนื่อง

    รัฐบาลสหราชอาณาจักรผ่าน FCDO ได้ประกาศคว่ำบาตร Volosovik และผู้ร่วมงานอีก 3 คน โดยประสานงานกับ US Treasury’s OFAC และ กระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย เพื่อสร้างแรงกดดันระดับนานาชาติ ขณะเดียวกันพันธมิตร Five Eyes (สหราชอาณาจักร, สหรัฐฯ, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์) ได้ออกคำเตือนต่อภาคธุรกิจเกี่ยวกับความเสี่ยงจากบริการโฮสติ้งประเภทนี้

    นอกจากนี้ ตำรวจเนเธอร์แลนด์ยังได้ ยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 250 เครื่อง จากผู้ให้บริการ Bulletproof Hosting ที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งเชื่อมโยงกับการสอบสวนอาชญากรรมไซเบอร์กว่า 80 คดี การยึดครั้งนี้เปิดโอกาสให้นักสืบได้เห็นโครงสร้างเบื้องหลังที่สนับสนุนการโจมตีไซเบอร์ขนาดใหญ่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดโปงและคว่ำบาตร
    Alexander Volosovik (“Yalishanda”) ถูกคว่ำบาตรโดย UK, US, และออสเตรเลีย
    โครงสร้าง Media Land LLC และ ML.Cloud LLC สนับสนุน LockBit, Evil Corp, BlackBasta

    บทบาทของ Bulletproof Hosting
    ซ่อนตัวตนลูกค้าและเพิกเฉยต่อการร้องเรียน
    ต่อต้านการถูกปิดโดยหน่วยงานรัฐ
    เป็นโครงสร้างสำคัญที่ทำให้แรนซัมแวร์ดำเนินการได้ต่อเนื่อง

    การดำเนินการระหว่างประเทศ
    Five Eyes ออกคำเตือนต่อภาคธุรกิจ
    ตำรวจเนเธอร์แลนด์ยึดเซิร์ฟเวอร์ 250 เครื่อง เชื่อมโยงกับกว่า 80 คดี

    คำเตือนและความเสี่ยง
    บริการ Bulletproof Hosting ทำให้การโจมตีไซเบอร์ยากต่อการหยุดยั้ง
    ภาคธุรกิจที่ใช้บริการเหล่านี้เสี่ยงต่อการถูกคว่ำบาตรและการสอบสวน
    การแพร่กระจายของแรนซัมแวร์ยังคงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

    https://hackread.com/uk-bulletproof-hosting-operator-lockbit-evil-corp/
    🕵️ สหราชอาณาจักรเปิดโปงผู้ให้บริการ Bulletproof Hosting ที่เชื่อมโยงกับ LockBit และ Evil Corp Alexander Volosovik หรือที่รู้จักในโลกออนไลน์ว่า “Yalishanda” ถูกเปิดโปงว่าเป็นผู้ดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน Bulletproof Hosting ภายใต้ชื่อบริษัท Media Land LLC และ ML.Cloud LLC ในรัสเซีย โครงสร้างนี้ถูกใช้โดยกลุ่มแรนซัมแวร์และอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น LockBit, Evil Corp และ BlackBasta เพื่อดำเนินการโจมตีที่สร้างความเสียหายมหาศาลต่อองค์กรทั่วโลก ทั้งด้านการเงินและการหยุดชะงักของการดำเนินงาน บริการ Bulletproof Hosting มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจอาชญากรรมไซเบอร์ เพราะช่วย ซ่อนตัวตนลูกค้า, เพิกเฉยต่อการร้องเรียนการละเมิด, และต่อต้านการถูกปิดโดยหน่วยงานรัฐ ทำให้กลุ่มอาชญากรสามารถดำเนินการโจมตีได้อย่างมั่นใจและต่อเนื่อง รัฐบาลสหราชอาณาจักรผ่าน FCDO ได้ประกาศคว่ำบาตร Volosovik และผู้ร่วมงานอีก 3 คน โดยประสานงานกับ US Treasury’s OFAC และ กระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย เพื่อสร้างแรงกดดันระดับนานาชาติ ขณะเดียวกันพันธมิตร Five Eyes (สหราชอาณาจักร, สหรัฐฯ, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์) ได้ออกคำเตือนต่อภาคธุรกิจเกี่ยวกับความเสี่ยงจากบริการโฮสติ้งประเภทนี้ นอกจากนี้ ตำรวจเนเธอร์แลนด์ยังได้ ยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 250 เครื่อง จากผู้ให้บริการ Bulletproof Hosting ที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งเชื่อมโยงกับการสอบสวนอาชญากรรมไซเบอร์กว่า 80 คดี การยึดครั้งนี้เปิดโอกาสให้นักสืบได้เห็นโครงสร้างเบื้องหลังที่สนับสนุนการโจมตีไซเบอร์ขนาดใหญ่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดโปงและคว่ำบาตร ➡️ Alexander Volosovik (“Yalishanda”) ถูกคว่ำบาตรโดย UK, US, และออสเตรเลีย ➡️ โครงสร้าง Media Land LLC และ ML.Cloud LLC สนับสนุน LockBit, Evil Corp, BlackBasta ✅ บทบาทของ Bulletproof Hosting ➡️ ซ่อนตัวตนลูกค้าและเพิกเฉยต่อการร้องเรียน ➡️ ต่อต้านการถูกปิดโดยหน่วยงานรัฐ ➡️ เป็นโครงสร้างสำคัญที่ทำให้แรนซัมแวร์ดำเนินการได้ต่อเนื่อง ✅ การดำเนินการระหว่างประเทศ ➡️ Five Eyes ออกคำเตือนต่อภาคธุรกิจ ➡️ ตำรวจเนเธอร์แลนด์ยึดเซิร์ฟเวอร์ 250 เครื่อง เชื่อมโยงกับกว่า 80 คดี ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ บริการ Bulletproof Hosting ทำให้การโจมตีไซเบอร์ยากต่อการหยุดยั้ง ⛔ ภาคธุรกิจที่ใช้บริการเหล่านี้เสี่ยงต่อการถูกคว่ำบาตรและการสอบสวน ⛔ การแพร่กระจายของแรนซัมแวร์ยังคงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ https://hackread.com/uk-bulletproof-hosting-operator-lockbit-evil-corp/
    HACKREAD.COM
    UK Exposes Bulletproof Hosting Operator Linked to LockBit and Evil Corp
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • ขยับหมาก ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก”
    ตอน 1
    เดือนกรกฏา ผ่านไปแค่ครึ่งเดือน เหตุการณ์ต่างๆทยอยกันมาเหมือน น้ำหลาก ทั้งๆที่ฝนแล้ง ผมตามอ่าน ตามขุด จนมึนหัวไปหมดยังไม่ทันการ เหตุการณ์พลิกผันสาระพัด แถมมีทั้งแผนล่อแผนลวง ข้อมูลบางแหล่งที่เคยเชื่อได้ ก็ชักจะต้องชั่งหลายหนว่าให้น้ำ หนักเก๊หรือเปล่า ผมไม่ได้รู้ไปหมด มีผิดพลาดได้ ผิดก็ขออภัย ท้วงมาแล้วกันครับ แล้วก็ช่วยกันหาที่ถูก เอามาแลกเปลี่ยนความคิดกัน หรือถ้า ผมเจอข้อมูลใหม่ ที่ทันสมัย หักล้าง น่าเชื่อถือ หรือลึกกว่าที่เคยขุดได้มา ผมก็จะมาขยายต่อ การศึกษา ค้นหา เรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด
    ดูซิ อย่างเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ที่เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 13 มิย เพิ่งออกข่าวว่า ตกลงเขายังไม่ตกลงกัน ยืดแล้วยืดอีก เหมือนหนังสติ๊กหมดอายุ จนนักข่าวที่ไปนั่งรอทำข่าว หน้าเหี่ยวเหงื่อตกกันหมด เขาบอกว่ายุโรปปีนี้ร้อนอร่อย เบียร์ยังอุ่นเลย นั่งรอการแถลงข่าวมาตั้งกะหัวค่ำ เปรี้ยวปากกันเป็นแถว พอตกดึก 2 ยามกว่าบ้านเรา CNN ก็ออกข่าว โดยโฆษกรูปหล่อประจำทำเนียบขาว ออกมาแถลงข่าวว่า ยัง…ยังไม่มีข้อตกลง นักข่าวถามว่า แล้วจะมีเมื่อไหร่ 1 วัน 2 วัน 2 อาทิตย์ รูปหล่อบอก เราไม่ได้เน้นเรื่องกำหนดเวลา เราต้องการให้ เป็นการตกลงที่ไม่มีปัญหา ไม่สร้างปัญหามากกว่า นักข่าวถามอีกว่า แล้วมีปัญหาอะไร ปัญหามาจากฝ่ายไหน …. ถามมากจัง ใครจะไปตอบได้ รูปหล่อชักเลิกลั่ก ….. ว่าแล้ว CNN ก็ตัดข่าวไปเรื่องสำคัญกว่า เกี่ยวกับเรื่องไอ้พวกค้ายา 46 คนแทน โอ้ย… ฮาจริง
    แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คือวันอังคารที่ 14 มิย ผมเปิดทีวี ตอนบ่ายแก่ๆ เย็นอ่อนๆ ประมาณ 4โมงเย็น ก็เห็น CNN ขึ้นหัวข่าวไว้แล้วว่า อิหร่านตกลงได้แล้ว อ้าว เมื่อคืนยังบอกไม่รู้เลยไอ้เบื้อก ผู้ประกาศทำเสียงตื่นเต้น จนผมไม่กล้านอนดูอย่างเคย หลังจากนั้น ก็มีการไปสัมภาษณ์ผู้ชำนาญการต่างๆ ซึ่งสรุปว่า ตกลงกันได้เสียที เสียเวลารอมานาน แต่ไม่มีใครเห็นด้วยเท่าไหร่ว่า เป็นข้อตกลงที่ดี และไม่มีใครเชื่อขี้หน้าอิหร่านว่าจะทำตามที่ตกลงได้ สัมภาษณ์วน พูดซ้ำ จนค่ำ พณฯ ใบตองแห้ง ถึงได้ออกมาทำหน้าเครียดตาแข็ง แถลงเอง
    “….เราตกลงกับอิหร่านแล้ว ใครว่าไม่สมควร เราว่าสมควร เราต้องแสดงให้เห็นว่า เรา ที่เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่สุด ไม่จำเป็นต้องจัดการกับปัญหาด้วยการใช้กำลังเสมอไป เราใช้วิธีทางการทูตได้ … การที่เราทำเช่นนี้ ทำให้อิหร่านหมดทางที่จะผลิตนิวเคลียร์ไป 15 ปี อิหร่านเป็นประเทศที่ความสำคัญที่สุด ต่อผลประโยชน์ของอเมริกา……”
    หลังจากนั้น ผมก็ต้องขออนุญาตพณฯท่าน ปิดเสียง ขืนฟังต่อ เปลืองยาแย่ ฝ่ายอิหร่าน ก็มีการแถลงข่าวที่กรุงเตหะรานว่า ข้อตกลงบรรลุถึงวัตถุประสงค์ reached all objectives ส่วนอิสราเอล ออกมาบอกว่า เป็นการตกลงที่เลวร้ายที่สุดในโลก
    อืม… ปาหี่นี้ เขาเล่นกันได้น่าตื่นเต้น...สมจริงกันดี คงเข้าใจนะครับว่า มันมีความหมายว่าอย่างไร ก็แค่ไม่มีใครอยากออกมาโดนประทับหน้า ว่าเป็นคนทำให้งานล่ม
    เอาเป็นว่า เขาว่า เขาตกลงกันได้แล้ว แต่มีขั้นตอนการทำงานอีกมากมายที่ต้องไปทำต่อจะทำได้แค่ไหน อย่างไร นานเท่าไหน ก็ดูกันต่อไป อย่างน้อยรัฐสภาอเมริกัน ก็มีเวลาประมาญ 60 วัน ในการตรวจสอบข้อตกลง ก่อนที่จะไปลงความเห็นในรัฐสภา ระหว่างนี้ จะเติมสี ตีไข่ยังก็ได้ ต้ัง 60 วัน
    เรามาดูภาพใหญ่ ทำความเข้าใจภาพรวมให้มากที่สุดกันดีกว่า ขืนตามข่าวทุกวันที่เขาเอามาเล่นหลอกเรา มึนหัวตายทั้งคนเขียนคนอ่าน ก่อนจะเดินหน้าเล่าเรื่อง เพื่อให้เห็นภาพใหญ่ ขอถอยหลังทบทวนของเก่ากันหน่อย
    คงจำกันได้ เมื่อเดือนมีนาคม ถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่ง ของบ้านไอ้นักล่าใบตองแห้ง Council on Foreign Relations หรือ CFR ผู้กำกับรัฐบาลอเมริกัน ได้ออกแผนสอยมังกร Grand Strategy สำหรับสยบจีน ที่แสดงถึงความกร่าง ดูถูก ปรามาส และประมาทใส่จีน มาให้เราฮือฮาไปแล้ว แต่ไอ้นักล่าใบตองแห้งคงจะเห็นว่า ชาวโลกคงตกใจไม่พอ หรือยังไม่แน่ใจกับความยิ่งใหญ่ อย่างชนิดไม่มีผู้ใด บังอาจจะกล้าทาบรัศมีของอเมริกา มันเป็นความต้ังใจของอเมริกา ที่จะใหญ่อย่างนี้แต่ผู้เดียวตลอดกาลนาน อย่างที่อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เคยคิดมาเป็นศตวรรษ แต่บัดนี้ ความคิดนั้นกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ชาวเกาะใหญ่ทำได้เพียงแค่ “นึกถึง” ความคิดนั้น อย่างขมขื่นอยู่ในอกฟีบและซีด แหม แดกซะยาวเลยนะลุง กว่าจะเลี้ยวกลับไปเข้าเรื่อง
    อเมริกาด่าจีนแค่นั้น เกรงจะไม่พอให้โลกตื่นเต้น อเมริกาเพิ่มแรงอัด เอาญี่ปุ่น มาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อมที่จะไปแบกถาดรับใช้อเมริกา ถึงขนาดเตรียมการที่จะแก้การตีความกฏหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ ที่กำหนดให้ญี่ปุ่นมีกองกำลัง เพียงเพื่อดูแลป้องกันตัวเองเท่า นั้น Self Defence Force (SDF) มาถึงวันนี้ แม้การขอให้สภาอนุมัติ ยอมให้ตีความใหม่ ให้กองกำลังญี่ปุ่น SDF แบกถาดไปได้ทั่วโลก ยังไม่สำเร็จ แต่ญี่ปุ่นก็เดินหน้าไปไกล โดยไม่รอสภา ก็นายท่านสั่งมา…
    SDF ของญี่ปุ่น เพิ่งไปทำการฝึกร่วมที่แดนจิ้งโจ้กับพวกจิงโจ้ และลูกพี่ใหญ่จากค่ายใบตองแห้ง แต่ฝึกเสร็จแล้วดูเหมือน จะแบกถาดหายวับไปกับตา ไม่รู้ไปซ่อนอยู่ตามเกาะไหนในมหาสมุทรแปซิฟิก กองทัพหายตัว แต่ตัวนายอาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานรักของอดีตหัวหน้าใหญ่ยากูซ่า ก็ออกมาประกาศอย่างเข้มแข็งว่า ญี่ปุ่นพร้อมรบจีน นับว่าฝึกแบกถาดได้รวดเร็ว มีอนาคต แต่อนาคตไปทางไหน ก็อดใจรอดูกันหน่อย ส่วนนายกจิ้งโจ้ก็ออกมาบอกว่า กำลังรักกันจังกับคนแบกถาด และว่ามีเพื่อนซี้แถบเอเซียแยะ ไล่ชื่อให้นักข่าวฟัง โปรดจำกันไว้ด้วยว่า ไม่มีชื่อแดนสยามของสมันน้อย ว่าเป็นเพื่อน แต่มีชื่อเวียตนาม จำไว้นะ จำไว้ให้ดี
    อ้าว แล้วนี่จะปล่อยให้อเมริกา ทำตัวเป็นฝรั่งออกแขก เต้นอยู่หน้าโรงลิเกเจ้าเดียวได้ยังไง ว่าแล้วคู่หู หรือลูกพี่ ก็ต้องรีบแต่งตัว มาโชว์ลีลาด้วย กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง
    Chatham House หรือชื่อเต็มว่า The Royal Institute of International Affairs ถังขยะความคิด ฝาแฝดผู้พี่ ของ CFR ก็เพิ่งออกรายงานล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายนนี้ ตั้งชื่อรายงานได้สยองไม่แพ้แฝด น้อง “The Russian Challenge” รัสเซียกำเริบ (แปลภาษาลุงนิทาน) เรียกว่าแฝดแต่ละฝา ต่างออกมาประกบ คู่รัก กันคนละราย รายการแบ่งข้าง ศึกชิงแชมป์คราวนี้ คงมันยกร่อง สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 โปรดหลบไปห่างๆ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 ก.ค. 2558
    ขยับหมาก ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก” ตอน 1 เดือนกรกฏา ผ่านไปแค่ครึ่งเดือน เหตุการณ์ต่างๆทยอยกันมาเหมือน น้ำหลาก ทั้งๆที่ฝนแล้ง ผมตามอ่าน ตามขุด จนมึนหัวไปหมดยังไม่ทันการ เหตุการณ์พลิกผันสาระพัด แถมมีทั้งแผนล่อแผนลวง ข้อมูลบางแหล่งที่เคยเชื่อได้ ก็ชักจะต้องชั่งหลายหนว่าให้น้ำ หนักเก๊หรือเปล่า ผมไม่ได้รู้ไปหมด มีผิดพลาดได้ ผิดก็ขออภัย ท้วงมาแล้วกันครับ แล้วก็ช่วยกันหาที่ถูก เอามาแลกเปลี่ยนความคิดกัน หรือถ้า ผมเจอข้อมูลใหม่ ที่ทันสมัย หักล้าง น่าเชื่อถือ หรือลึกกว่าที่เคยขุดได้มา ผมก็จะมาขยายต่อ การศึกษา ค้นหา เรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด ดูซิ อย่างเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ที่เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 13 มิย เพิ่งออกข่าวว่า ตกลงเขายังไม่ตกลงกัน ยืดแล้วยืดอีก เหมือนหนังสติ๊กหมดอายุ จนนักข่าวที่ไปนั่งรอทำข่าว หน้าเหี่ยวเหงื่อตกกันหมด เขาบอกว่ายุโรปปีนี้ร้อนอร่อย เบียร์ยังอุ่นเลย นั่งรอการแถลงข่าวมาตั้งกะหัวค่ำ เปรี้ยวปากกันเป็นแถว พอตกดึก 2 ยามกว่าบ้านเรา CNN ก็ออกข่าว โดยโฆษกรูปหล่อประจำทำเนียบขาว ออกมาแถลงข่าวว่า ยัง…ยังไม่มีข้อตกลง นักข่าวถามว่า แล้วจะมีเมื่อไหร่ 1 วัน 2 วัน 2 อาทิตย์ รูปหล่อบอก เราไม่ได้เน้นเรื่องกำหนดเวลา เราต้องการให้ เป็นการตกลงที่ไม่มีปัญหา ไม่สร้างปัญหามากกว่า นักข่าวถามอีกว่า แล้วมีปัญหาอะไร ปัญหามาจากฝ่ายไหน …. ถามมากจัง ใครจะไปตอบได้ รูปหล่อชักเลิกลั่ก ….. ว่าแล้ว CNN ก็ตัดข่าวไปเรื่องสำคัญกว่า เกี่ยวกับเรื่องไอ้พวกค้ายา 46 คนแทน โอ้ย… ฮาจริง แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คือวันอังคารที่ 14 มิย ผมเปิดทีวี ตอนบ่ายแก่ๆ เย็นอ่อนๆ ประมาณ 4โมงเย็น ก็เห็น CNN ขึ้นหัวข่าวไว้แล้วว่า อิหร่านตกลงได้แล้ว อ้าว เมื่อคืนยังบอกไม่รู้เลยไอ้เบื้อก ผู้ประกาศทำเสียงตื่นเต้น จนผมไม่กล้านอนดูอย่างเคย หลังจากนั้น ก็มีการไปสัมภาษณ์ผู้ชำนาญการต่างๆ ซึ่งสรุปว่า ตกลงกันได้เสียที เสียเวลารอมานาน แต่ไม่มีใครเห็นด้วยเท่าไหร่ว่า เป็นข้อตกลงที่ดี และไม่มีใครเชื่อขี้หน้าอิหร่านว่าจะทำตามที่ตกลงได้ สัมภาษณ์วน พูดซ้ำ จนค่ำ พณฯ ใบตองแห้ง ถึงได้ออกมาทำหน้าเครียดตาแข็ง แถลงเอง “….เราตกลงกับอิหร่านแล้ว ใครว่าไม่สมควร เราว่าสมควร เราต้องแสดงให้เห็นว่า เรา ที่เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่สุด ไม่จำเป็นต้องจัดการกับปัญหาด้วยการใช้กำลังเสมอไป เราใช้วิธีทางการทูตได้ … การที่เราทำเช่นนี้ ทำให้อิหร่านหมดทางที่จะผลิตนิวเคลียร์ไป 15 ปี อิหร่านเป็นประเทศที่ความสำคัญที่สุด ต่อผลประโยชน์ของอเมริกา……” หลังจากนั้น ผมก็ต้องขออนุญาตพณฯท่าน ปิดเสียง ขืนฟังต่อ เปลืองยาแย่ ฝ่ายอิหร่าน ก็มีการแถลงข่าวที่กรุงเตหะรานว่า ข้อตกลงบรรลุถึงวัตถุประสงค์ reached all objectives ส่วนอิสราเอล ออกมาบอกว่า เป็นการตกลงที่เลวร้ายที่สุดในโลก อืม… ปาหี่นี้ เขาเล่นกันได้น่าตื่นเต้น...สมจริงกันดี คงเข้าใจนะครับว่า มันมีความหมายว่าอย่างไร ก็แค่ไม่มีใครอยากออกมาโดนประทับหน้า ว่าเป็นคนทำให้งานล่ม เอาเป็นว่า เขาว่า เขาตกลงกันได้แล้ว แต่มีขั้นตอนการทำงานอีกมากมายที่ต้องไปทำต่อจะทำได้แค่ไหน อย่างไร นานเท่าไหน ก็ดูกันต่อไป อย่างน้อยรัฐสภาอเมริกัน ก็มีเวลาประมาญ 60 วัน ในการตรวจสอบข้อตกลง ก่อนที่จะไปลงความเห็นในรัฐสภา ระหว่างนี้ จะเติมสี ตีไข่ยังก็ได้ ต้ัง 60 วัน เรามาดูภาพใหญ่ ทำความเข้าใจภาพรวมให้มากที่สุดกันดีกว่า ขืนตามข่าวทุกวันที่เขาเอามาเล่นหลอกเรา มึนหัวตายทั้งคนเขียนคนอ่าน ก่อนจะเดินหน้าเล่าเรื่อง เพื่อให้เห็นภาพใหญ่ ขอถอยหลังทบทวนของเก่ากันหน่อย คงจำกันได้ เมื่อเดือนมีนาคม ถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่ง ของบ้านไอ้นักล่าใบตองแห้ง Council on Foreign Relations หรือ CFR ผู้กำกับรัฐบาลอเมริกัน ได้ออกแผนสอยมังกร Grand Strategy สำหรับสยบจีน ที่แสดงถึงความกร่าง ดูถูก ปรามาส และประมาทใส่จีน มาให้เราฮือฮาไปแล้ว แต่ไอ้นักล่าใบตองแห้งคงจะเห็นว่า ชาวโลกคงตกใจไม่พอ หรือยังไม่แน่ใจกับความยิ่งใหญ่ อย่างชนิดไม่มีผู้ใด บังอาจจะกล้าทาบรัศมีของอเมริกา มันเป็นความต้ังใจของอเมริกา ที่จะใหญ่อย่างนี้แต่ผู้เดียวตลอดกาลนาน อย่างที่อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เคยคิดมาเป็นศตวรรษ แต่บัดนี้ ความคิดนั้นกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ชาวเกาะใหญ่ทำได้เพียงแค่ “นึกถึง” ความคิดนั้น อย่างขมขื่นอยู่ในอกฟีบและซีด แหม แดกซะยาวเลยนะลุง กว่าจะเลี้ยวกลับไปเข้าเรื่อง อเมริกาด่าจีนแค่นั้น เกรงจะไม่พอให้โลกตื่นเต้น อเมริกาเพิ่มแรงอัด เอาญี่ปุ่น มาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อมที่จะไปแบกถาดรับใช้อเมริกา ถึงขนาดเตรียมการที่จะแก้การตีความกฏหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ ที่กำหนดให้ญี่ปุ่นมีกองกำลัง เพียงเพื่อดูแลป้องกันตัวเองเท่า นั้น Self Defence Force (SDF) มาถึงวันนี้ แม้การขอให้สภาอนุมัติ ยอมให้ตีความใหม่ ให้กองกำลังญี่ปุ่น SDF แบกถาดไปได้ทั่วโลก ยังไม่สำเร็จ แต่ญี่ปุ่นก็เดินหน้าไปไกล โดยไม่รอสภา ก็นายท่านสั่งมา… SDF ของญี่ปุ่น เพิ่งไปทำการฝึกร่วมที่แดนจิ้งโจ้กับพวกจิงโจ้ และลูกพี่ใหญ่จากค่ายใบตองแห้ง แต่ฝึกเสร็จแล้วดูเหมือน จะแบกถาดหายวับไปกับตา ไม่รู้ไปซ่อนอยู่ตามเกาะไหนในมหาสมุทรแปซิฟิก กองทัพหายตัว แต่ตัวนายอาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานรักของอดีตหัวหน้าใหญ่ยากูซ่า ก็ออกมาประกาศอย่างเข้มแข็งว่า ญี่ปุ่นพร้อมรบจีน นับว่าฝึกแบกถาดได้รวดเร็ว มีอนาคต แต่อนาคตไปทางไหน ก็อดใจรอดูกันหน่อย ส่วนนายกจิ้งโจ้ก็ออกมาบอกว่า กำลังรักกันจังกับคนแบกถาด และว่ามีเพื่อนซี้แถบเอเซียแยะ ไล่ชื่อให้นักข่าวฟัง โปรดจำกันไว้ด้วยว่า ไม่มีชื่อแดนสยามของสมันน้อย ว่าเป็นเพื่อน แต่มีชื่อเวียตนาม จำไว้นะ จำไว้ให้ดี อ้าว แล้วนี่จะปล่อยให้อเมริกา ทำตัวเป็นฝรั่งออกแขก เต้นอยู่หน้าโรงลิเกเจ้าเดียวได้ยังไง ว่าแล้วคู่หู หรือลูกพี่ ก็ต้องรีบแต่งตัว มาโชว์ลีลาด้วย กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง Chatham House หรือชื่อเต็มว่า The Royal Institute of International Affairs ถังขยะความคิด ฝาแฝดผู้พี่ ของ CFR ก็เพิ่งออกรายงานล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายนนี้ ตั้งชื่อรายงานได้สยองไม่แพ้แฝด น้อง “The Russian Challenge” รัสเซียกำเริบ (แปลภาษาลุงนิทาน) เรียกว่าแฝดแต่ละฝา ต่างออกมาประกบ คู่รัก กันคนละราย รายการแบ่งข้าง ศึกชิงแชมป์คราวนี้ คงมันยกร่อง สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 โปรดหลบไปห่างๆ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลทหารพม่าเผยบุกทลายศูนย์สแกมเมอร์จับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 300 คน , กองทัพพม่าบุก “ฉ่วยก๊กโก” แหล่งหลอกลวงชายแดนไทย จับผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติ 346 คน ยึดมือถือเกือบหมื่นเครื่อง ท่ามกลางแรงกดดันจากจีนให้ปราบปรามจริงจัง

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110612

    #พม่า #ฉ่วยก๊กโก #สแกมเมอร์ #ชายแดนไทยพม่า #เมียนมา #News1live #News1
    รัฐบาลทหารพม่าเผยบุกทลายศูนย์สแกมเมอร์จับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 300 คน , กองทัพพม่าบุก “ฉ่วยก๊กโก” แหล่งหลอกลวงชายแดนไทย จับผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติ 346 คน ยึดมือถือเกือบหมื่นเครื่อง ท่ามกลางแรงกดดันจากจีนให้ปราบปรามจริงจัง • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110612 • #พม่า #ฉ่วยก๊กโก #สแกมเมอร์ #ชายแดนไทยพม่า #เมียนมา #News1live #News1
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 133 Views 0 Reviews
  • “อนุทิน” เผย ทูลเกล้าฯ ถวายความเห็นกรณีฎีกา “ทักษิณ” แล้ว เป็นเรื่องค้างตั้งแต่สมัย “ทวี สอดส่อง” มีความเห็นให้ ยกฎีกา ยันรัฐบาลทำตามกฎหมาย ไม่เกี่ยวการเมือง

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110520

    #ทักษิณ #อภัยโทษ #ฎีกาทักษิณ #อนุทิน #รัฐบาลไทย #เพื่อไทย #ภูมิใจไทย #News1live #News1 #ข่าวด่วน
    “อนุทิน” เผย ทูลเกล้าฯ ถวายความเห็นกรณีฎีกา “ทักษิณ” แล้ว เป็นเรื่องค้างตั้งแต่สมัย “ทวี สอดส่อง” มีความเห็นให้ ยกฎีกา ยันรัฐบาลทำตามกฎหมาย ไม่เกี่ยวการเมือง • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110520 • #ทักษิณ #อภัยโทษ #ฎีกาทักษิณ #อนุทิน #รัฐบาลไทย #เพื่อไทย #ภูมิใจไทย #News1live #News1 #ข่าวด่วน
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 1 Shares 124 Views 0 Reviews
  • กมธ.ศึกษา MOU43–44 จ่อขยายเวลาอีก 30 วัน , เหตุพิจารณาไม่ทัน - ประเด็นยังเห็นต่างหลายด้าน , “สฤษฏ์พงษ์” หนุนรัฐบาลจัดดีเบตให้ข้อมูลประชาชน ย้ำอำนาจยกเลิกอยู่ที่ ครม.

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110472

    #MOU43 #MOU44 #กมธ #สฤษฏ์พงษ์เกี่ยวข้อง #ข้อพิพาทไทยกัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #News1live #News1 #ข่าวด่วน
    กมธ.ศึกษา MOU43–44 จ่อขยายเวลาอีก 30 วัน , เหตุพิจารณาไม่ทัน - ประเด็นยังเห็นต่างหลายด้าน , “สฤษฏ์พงษ์” หนุนรัฐบาลจัดดีเบตให้ข้อมูลประชาชน ย้ำอำนาจยกเลิกอยู่ที่ ครม. • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110472 • #MOU43 #MOU44 #กมธ #สฤษฏ์พงษ์เกี่ยวข้อง #ข้อพิพาทไทยกัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #News1live #News1 #ข่าวด่วน
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • บิทคอยน์ร่วงหนัก เอลซัลวาดอร์สวนเกมช้อนซื้อเพิ่มกว่า 1,098 BTC , ราคาหลุด 90,000 ดอลลาร์ แต่รัฐบาลยังเดินหน้ายุทธศาสตร์ซื้อวันละ 1 BTC ดันยอดสะสมพุ่งกว่า 7,400 BTC

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110150

    #บิทคอยน์ #คริปโต #เอลซัลวาดอร์ #Bitcoin #สินทรัพย์ดิจิทัล #เศรษฐกิจโลก #News1live #News1
    บิทคอยน์ร่วงหนัก เอลซัลวาดอร์สวนเกมช้อนซื้อเพิ่มกว่า 1,098 BTC , ราคาหลุด 90,000 ดอลลาร์ แต่รัฐบาลยังเดินหน้ายุทธศาสตร์ซื้อวันละ 1 BTC ดันยอดสะสมพุ่งกว่า 7,400 BTC • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110150 • #บิทคอยน์ #คริปโต #เอลซัลวาดอร์ #Bitcoin #สินทรัพย์ดิจิทัล #เศรษฐกิจโลก #News1live #News1
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • “Taiwan เปิดการสอบสวนกรณี Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC กลับเข้าร่วม Intel”

    ทางการไต้หวันได้เปิดการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติ กรณี Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหารฝ่าย R&D ของ TSMC ที่เพิ่งเกษียณหลังทำงานกว่า 21 ปี แต่กลับไปปรากฏตัวที่ Intel ในตำแหน่งรองประธานฝ่าย R&D เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า Lo อาจนำเอกสารทางเทคนิคที่เป็นความลับของ TSMC ไปด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เช่น N2, A16, A14 และ post-A14 nodes

    ก่อนออกจาก TSMC Lo เคยมีอำนาจสั่งให้ทีมงานส่งมอบเอกสารภายในที่มีข้อจำกัดด้านการเข้าถึง โดยไม่มีการตั้งข้อสงสัยในตอนนั้น เนื่องจากตำแหน่งของเขาสูงมาก ทำให้คำสั่งดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาปรากฏตัวที่ Intel พร้อมรับผิดชอบด้านการพัฒนาอุปกรณ์และโมดูลใหม่ ๆ จึงเกิดข้อกังวลว่าเอกสารเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์เชิงแข่งขัน

    แม้จะมีข้อกล่าวหา แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ข้อมูลของ TSMC อาจไม่สามารถนำไปใช้ตรง ๆ กับ Intel ได้ เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตของทั้งสองบริษัทมีความแตกต่างกัน เช่น Intel ใช้ PowerVia และ High-NA EUV ในบางกระบวนการ ขณะที่ TSMC ใช้ Super Power Rail และ Low-NA EUV multipatterning อย่างไรก็ตาม เอกสารเหล่านี้ยังคงมีค่าในเชิงการวิเคราะห์คู่แข่งและกลยุทธ์ทางธุรกิจ

    กรณีนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่การเคลื่อนไหวของผู้บริหารระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก รัฐบาลไต้หวันกำลังตรวจสอบว่า Lo ละเมิดกฎหมายการถ่ายโอนความลับทางการค้าไปยังต่างประเทศหรือไม่

    สรุปสาระสำคัญ
    Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC
    กลับไปทำงานที่ Intel ในตำแหน่ง VP of R&D

    ข้อกล่าวหานำเอกสารลับติดตัวไป
    ครอบคลุมเทคโนโลยี N2, A16, A14 และ post-A14

    ความแตกต่างด้านเทคโนโลยีระหว่าง Intel และ TSMC
    Intel ใช้ PowerVia และ High-NA EUV, TSMC ใช้ Super Power Rail และ Low-NA EUV

    รัฐบาลไต้หวันเปิดการสอบสวนด้านความมั่นคง
    ตรวจสอบการละเมิดกฎหมายการถ่ายโอนความลับทางการค้า

    ความเสี่ยงต่อการแข่งขันระดับโลก
    เอกสารลับอาจถูกใช้เพื่อวิเคราะห์คู่แข่งและกลยุทธ์ธุรกิจ

    การขาดมาตรการป้องกันภายในองค์กร
    TSMC ไม่ได้บังคับใช้ข้อตกลง non-compete กับ Lo ก่อนออกจากบริษัท

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/high-ranking-tsmc-executive-faces-taiwan-legal-investigation-over-murky-return-to-intel-report-alleges-employee-took-technical-documents-with-him
    📰 “Taiwan เปิดการสอบสวนกรณี Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC กลับเข้าร่วม Intel” ทางการไต้หวันได้เปิดการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติ กรณี Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหารฝ่าย R&D ของ TSMC ที่เพิ่งเกษียณหลังทำงานกว่า 21 ปี แต่กลับไปปรากฏตัวที่ Intel ในตำแหน่งรองประธานฝ่าย R&D เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า Lo อาจนำเอกสารทางเทคนิคที่เป็นความลับของ TSMC ไปด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เช่น N2, A16, A14 และ post-A14 nodes ก่อนออกจาก TSMC Lo เคยมีอำนาจสั่งให้ทีมงานส่งมอบเอกสารภายในที่มีข้อจำกัดด้านการเข้าถึง โดยไม่มีการตั้งข้อสงสัยในตอนนั้น เนื่องจากตำแหน่งของเขาสูงมาก ทำให้คำสั่งดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาปรากฏตัวที่ Intel พร้อมรับผิดชอบด้านการพัฒนาอุปกรณ์และโมดูลใหม่ ๆ จึงเกิดข้อกังวลว่าเอกสารเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์เชิงแข่งขัน แม้จะมีข้อกล่าวหา แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ข้อมูลของ TSMC อาจไม่สามารถนำไปใช้ตรง ๆ กับ Intel ได้ เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตของทั้งสองบริษัทมีความแตกต่างกัน เช่น Intel ใช้ PowerVia และ High-NA EUV ในบางกระบวนการ ขณะที่ TSMC ใช้ Super Power Rail และ Low-NA EUV multipatterning อย่างไรก็ตาม เอกสารเหล่านี้ยังคงมีค่าในเชิงการวิเคราะห์คู่แข่งและกลยุทธ์ทางธุรกิจ กรณีนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่การเคลื่อนไหวของผู้บริหารระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก รัฐบาลไต้หวันกำลังตรวจสอบว่า Lo ละเมิดกฎหมายการถ่ายโอนความลับทางการค้าไปยังต่างประเทศหรือไม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC ➡️ กลับไปทำงานที่ Intel ในตำแหน่ง VP of R&D ✅ ข้อกล่าวหานำเอกสารลับติดตัวไป ➡️ ครอบคลุมเทคโนโลยี N2, A16, A14 และ post-A14 ✅ ความแตกต่างด้านเทคโนโลยีระหว่าง Intel และ TSMC ➡️ Intel ใช้ PowerVia และ High-NA EUV, TSMC ใช้ Super Power Rail และ Low-NA EUV ✅ รัฐบาลไต้หวันเปิดการสอบสวนด้านความมั่นคง ➡️ ตรวจสอบการละเมิดกฎหมายการถ่ายโอนความลับทางการค้า ‼️ ความเสี่ยงต่อการแข่งขันระดับโลก ⛔ เอกสารลับอาจถูกใช้เพื่อวิเคราะห์คู่แข่งและกลยุทธ์ธุรกิจ ‼️ การขาดมาตรการป้องกันภายในองค์กร ⛔ TSMC ไม่ได้บังคับใช้ข้อตกลง non-compete กับ Lo ก่อนออกจากบริษัท https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/high-ranking-tsmc-executive-faces-taiwan-legal-investigation-over-murky-return-to-intel-report-alleges-employee-took-technical-documents-with-him
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • “Taiwan AI Island – ก้าวสู่ศูนย์กลางคอมพิวต์โลก”

    รัฐบาลไต้หวันได้ประกาศทุ่มงบประมาณกว่า NT$100 พันล้าน (ประมาณ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อผลักดันโครงการระดับชาติในการสร้างเกาะให้เป็นศูนย์กลางด้าน Artificial Intelligence (AI) โดยมีเป้าหมายให้ไต้หวันติดอันดับ Top 5 ของโลกด้านพลังคอมพิวต์ ภายในปี 2028 และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจสูงถึง NT$15 ล้านล้านภายในปี 2040

    โครงการนี้จะเน้นการวิจัยและพัฒนาในสาขา Silicon Photonics, Quantum Computing และ AI Robotics พร้อมสร้าง AI Data Center แห่งชาติในเมือง Tainan และสนับสนุนการลงทุนจากภาคเอกชน เช่น Foxconn และ Nvidia ที่กำลังสร้างศูนย์ข้อมูลในเมือง Kaohsiung โดยใช้แพลตฟอร์ม Nvidia Blackwell ซึ่งคาดว่าจะมีกำลังไฟฟ้าสูงถึง 100 เมกะวัตต์เมื่อเสร็จสมบูรณ์

    อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานนี้กำลังเผชิญกับ ข้อจำกัดด้านพลังงาน เนื่องจากไต้หวันได้ปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งสุดท้ายไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนยังไม่ถึงเป้าหมาย โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมนอกชายฝั่งที่ยังมีปัญหาล่าช้า รวมถึงระบบส่งไฟฟ้าในภาคใต้ที่ยังไม่ทันต่อการขยายตัวของศูนย์ข้อมูล

    เพื่อแก้ปัญหา ไต้หวันและพันธมิตรเทคโนโลยี เช่น Nvidia และ GMI Cloud กำลังผลักดันโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น ระบบส่งไฟฟ้าแบบ 800-volt DC busbar และการติดตั้ง GPU รุ่นใหม่กว่า 7,000 ตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและรองรับงาน AI ที่ซับซ้อนมากขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ
    รัฐบาลไต้หวันลงทุน NT$100 พันล้าน (US$3.2 พันล้าน)
    ตั้งเป้าเป็น Top 5 ของโลกด้านพลังคอมพิวต์

    โครงการเน้น R&D ใน Silicon Photonics, Quantum Computing และ AI Robotics
    พร้อมสร้าง AI Data Center ใน Tainan

    Foxconn และ Nvidia ร่วมลงทุนใน Kaohsiung
    ใช้แพลตฟอร์ม Nvidia Blackwell กำลังไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์

    GMI Cloud ติดตั้ง 7,000 Blackwell GPUs
    รองรับงาน inference workloads ขนาดใหญ่

    ความท้าทายด้านพลังงาน
    ปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์, พลังงานหมุนเวียนยังต่ำกว่าเป้า

    ระบบส่งไฟฟ้าในภาคใต้ยังไม่ทันต่อการขยายตัว
    อาจกระทบการเปิดใช้งานศูนย์ข้อมูลใหม่ตามแผน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/taiwan-announces-3bn-spend-on-ai-island-ambitions
    📰 “Taiwan AI Island – ก้าวสู่ศูนย์กลางคอมพิวต์โลก” รัฐบาลไต้หวันได้ประกาศทุ่มงบประมาณกว่า NT$100 พันล้าน (ประมาณ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อผลักดันโครงการระดับชาติในการสร้างเกาะให้เป็นศูนย์กลางด้าน Artificial Intelligence (AI) โดยมีเป้าหมายให้ไต้หวันติดอันดับ Top 5 ของโลกด้านพลังคอมพิวต์ ภายในปี 2028 และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจสูงถึง NT$15 ล้านล้านภายในปี 2040 โครงการนี้จะเน้นการวิจัยและพัฒนาในสาขา Silicon Photonics, Quantum Computing และ AI Robotics พร้อมสร้าง AI Data Center แห่งชาติในเมือง Tainan และสนับสนุนการลงทุนจากภาคเอกชน เช่น Foxconn และ Nvidia ที่กำลังสร้างศูนย์ข้อมูลในเมือง Kaohsiung โดยใช้แพลตฟอร์ม Nvidia Blackwell ซึ่งคาดว่าจะมีกำลังไฟฟ้าสูงถึง 100 เมกะวัตต์เมื่อเสร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานนี้กำลังเผชิญกับ ข้อจำกัดด้านพลังงาน เนื่องจากไต้หวันได้ปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งสุดท้ายไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนยังไม่ถึงเป้าหมาย โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมนอกชายฝั่งที่ยังมีปัญหาล่าช้า รวมถึงระบบส่งไฟฟ้าในภาคใต้ที่ยังไม่ทันต่อการขยายตัวของศูนย์ข้อมูล เพื่อแก้ปัญหา ไต้หวันและพันธมิตรเทคโนโลยี เช่น Nvidia และ GMI Cloud กำลังผลักดันโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น ระบบส่งไฟฟ้าแบบ 800-volt DC busbar และการติดตั้ง GPU รุ่นใหม่กว่า 7,000 ตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและรองรับงาน AI ที่ซับซ้อนมากขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รัฐบาลไต้หวันลงทุน NT$100 พันล้าน (US$3.2 พันล้าน) ➡️ ตั้งเป้าเป็น Top 5 ของโลกด้านพลังคอมพิวต์ ✅ โครงการเน้น R&D ใน Silicon Photonics, Quantum Computing และ AI Robotics ➡️ พร้อมสร้าง AI Data Center ใน Tainan ✅ Foxconn และ Nvidia ร่วมลงทุนใน Kaohsiung ➡️ ใช้แพลตฟอร์ม Nvidia Blackwell กำลังไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ ✅ GMI Cloud ติดตั้ง 7,000 Blackwell GPUs ➡️ รองรับงาน inference workloads ขนาดใหญ่ ‼️ ความท้าทายด้านพลังงาน ⛔ ปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์, พลังงานหมุนเวียนยังต่ำกว่าเป้า ‼️ ระบบส่งไฟฟ้าในภาคใต้ยังไม่ทันต่อการขยายตัว ⛔ อาจกระทบการเปิดใช้งานศูนย์ข้อมูลใหม่ตามแผน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/taiwan-announces-3bn-spend-on-ai-island-ambitions
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • “ไฟหน้ารถ LED สว่างเกินไป – ปัญหาที่รัฐบาลอังกฤษเตรียมแก้ไข”

    งานวิจัยที่จัดทำโดย Department for Transport (DfT) ของสหราชอาณาจักร พบว่า 97% ของผู้ขับขี่รู้สึกถูกรบกวนจากแสงไฟหน้ารถที่สว่างเกินไป และ 96% เชื่อว่าไฟหน้ารถส่วนใหญ่สว่างเกินมาตรฐาน ปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยจนบางคนถึงขั้นเลี่ยงการขับรถกลางคืน โดย 33% เลิกขับกลางคืนหรือขับน้อยลง และอีก 22% อยากเลี่ยงแต่ไม่มีทางเลือก

    ผู้เชี่ยวชาญจาก Transport Research Laboratory (TRL) ระบุว่าไฟ LED และไฟสีขาวเข้มมีแนวโน้มสร้างแสงจ้าที่ทำให้สายตามนุษย์ปรับตัวได้ยากในเวลากลางคืน ข้อมูลนี้สอดคล้องกับการรณรงค์ของ RAC (Royal Automobile Club) ที่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะแม้ไฟหน้าสว่างจะช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ดีขึ้น แต่ก็สร้างความเสี่ยงต่อผู้ใช้ถนนคนอื่น ๆ

    รัฐบาลอังกฤษประกาศว่าจะบรรจุประเด็นนี้ใน Road Safety Strategy ที่จะออกมาเร็ว ๆ นี้ โดยมีแนวทางทบทวนมาตรฐานไฟหน้ารถ เพื่อหาสมดุลระหว่าง “ความสว่างเพื่อความปลอดภัย” และ “การลดแสงจ้าที่รบกวนสายตา” ขณะเดียวกัน นักทัศนมาตรวิทยาแนะนำให้มีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงกฎเกณฑ์ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับเทคโนโลยีไฟรถที่เปลี่ยนไป

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลสำรวจจาก DfT
    97% ของผู้ขับขี่ถูกรบกวนจากไฟหน้ารถ, 96% เชื่อว่าไฟหน้าสว่างเกินไป

    ผลกระทบต่อพฤติกรรมการขับขี่
    33% เลิกขับกลางคืน, 22% อยากเลี่ยงแต่จำเป็นต้องขับ

    ไฟ LED และไฟสีขาวเข้ม
    มีแนวโน้มสร้างแสงจ้าที่สายตามนุษย์ปรับได้ยาก

    รัฐบาลอังกฤษเตรียมแก้ไข
    จะบรรจุใน Road Safety Strategy เพื่อทบทวนมาตรฐานไฟหน้า

    ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยบนท้องถนน
    ไฟหน้าสว่างเกินไปอาจทำให้ผู้ขับขี่ตาพร่าและเกิดอุบัติเหตุ

    การพึ่งพาเทคโนโลยีโดยไม่ปรับกฎเกณฑ์
    หากไม่แก้ไข อาจทำให้ปัญหาลุกลามเมื่อรถรุ่นใหม่ใช้ไฟ LED มากขึ้น

    https://www.bbc.com/news/articles/c1j8ewy1p86o
    📰 “ไฟหน้ารถ LED สว่างเกินไป – ปัญหาที่รัฐบาลอังกฤษเตรียมแก้ไข” งานวิจัยที่จัดทำโดย Department for Transport (DfT) ของสหราชอาณาจักร พบว่า 97% ของผู้ขับขี่รู้สึกถูกรบกวนจากแสงไฟหน้ารถที่สว่างเกินไป และ 96% เชื่อว่าไฟหน้ารถส่วนใหญ่สว่างเกินมาตรฐาน ปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยจนบางคนถึงขั้นเลี่ยงการขับรถกลางคืน โดย 33% เลิกขับกลางคืนหรือขับน้อยลง และอีก 22% อยากเลี่ยงแต่ไม่มีทางเลือก ผู้เชี่ยวชาญจาก Transport Research Laboratory (TRL) ระบุว่าไฟ LED และไฟสีขาวเข้มมีแนวโน้มสร้างแสงจ้าที่ทำให้สายตามนุษย์ปรับตัวได้ยากในเวลากลางคืน ข้อมูลนี้สอดคล้องกับการรณรงค์ของ RAC (Royal Automobile Club) ที่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะแม้ไฟหน้าสว่างจะช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ดีขึ้น แต่ก็สร้างความเสี่ยงต่อผู้ใช้ถนนคนอื่น ๆ รัฐบาลอังกฤษประกาศว่าจะบรรจุประเด็นนี้ใน Road Safety Strategy ที่จะออกมาเร็ว ๆ นี้ โดยมีแนวทางทบทวนมาตรฐานไฟหน้ารถ เพื่อหาสมดุลระหว่าง “ความสว่างเพื่อความปลอดภัย” และ “การลดแสงจ้าที่รบกวนสายตา” ขณะเดียวกัน นักทัศนมาตรวิทยาแนะนำให้มีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงกฎเกณฑ์ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับเทคโนโลยีไฟรถที่เปลี่ยนไป 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลสำรวจจาก DfT ➡️ 97% ของผู้ขับขี่ถูกรบกวนจากไฟหน้ารถ, 96% เชื่อว่าไฟหน้าสว่างเกินไป ✅ ผลกระทบต่อพฤติกรรมการขับขี่ ➡️ 33% เลิกขับกลางคืน, 22% อยากเลี่ยงแต่จำเป็นต้องขับ ✅ ไฟ LED และไฟสีขาวเข้ม ➡️ มีแนวโน้มสร้างแสงจ้าที่สายตามนุษย์ปรับได้ยาก ✅ รัฐบาลอังกฤษเตรียมแก้ไข ➡️ จะบรรจุใน Road Safety Strategy เพื่อทบทวนมาตรฐานไฟหน้า ‼️ ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยบนท้องถนน ⛔ ไฟหน้าสว่างเกินไปอาจทำให้ผู้ขับขี่ตาพร่าและเกิดอุบัติเหตุ ‼️ การพึ่งพาเทคโนโลยีโดยไม่ปรับกฎเกณฑ์ ⛔ หากไม่แก้ไข อาจทำให้ปัญหาลุกลามเมื่อรถรุ่นใหม่ใช้ไฟ LED มากขึ้น https://www.bbc.com/news/articles/c1j8ewy1p86o
    WWW.BBC.COM
    Nearly all drivers say vehicles' lights are too bright in study
    The study, commissioned by the Department for Transport, was completed by Berkshire's TRL.
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • Roblox เพิ่มระบบตรวจสอบอายุเพื่อความปลอดภัยของเด็ก

    Roblox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ยอดนิยมประกาศว่าจะเริ่มใช้ระบบ ตรวจสอบอายุด้วยการสแกนใบหน้า เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงฟีเจอร์แชทได้ โดยผู้ใช้ต้องถ่าย ภาพเซลฟี เพื่อให้ระบบ AI ประเมินอายุ และจัดกลุ่มผู้เล่นตามช่วงวัย เช่น 9–12 ปี หรือ 13–15 ปี เพื่อป้องกันการสื่อสารระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ที่อาจเสี่ยงต่อการถูกล่อลวงหรือคุกคามทางออนไลน์

    มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังจาก Roblox ถูกวิจารณ์อย่างหนักจาก รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ ว่าไม่สามารถปกป้องผู้ใช้ที่เป็นเด็กจากภัยคุกคามทางออนไลน์ได้เพียงพอ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่บริษัทกำลังเผชิญ คดีความจากอัยการรัฐ Texas, Kentucky และ Louisiana รวมถึงผู้ฟ้องร้องรายบุคคลที่กล่าวหาว่า Roblox ล้มเหลวในการดูแลความปลอดภัยของเยาวชน

    Matt Kaufman หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของ Roblox ระบุว่า บริษัทต้องการเป็นตัวอย่างให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เห็นว่า การตรวจสอบอายุไม่ใช่เรื่อง “เป็นไปไม่ได้” แต่สามารถทำได้จริงหากมีความตั้งใจ โดยการบังคับใช้ครั้งแรกจะเริ่มใน ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ เดือนธันวาคม 2025 และจะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ในเดือนมกราคม 2026

    แม้ระบบใหม่นี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็มีข้อถกเถียงเรื่อง ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลชีวภาพ (biometric data) ที่ผู้ใช้ต้องส่งให้ Roblox ซึ่งอาจสร้างความกังวลว่าบริษัทจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลเหล่านี้อย่างไรในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Roblox เพิ่มระบบตรวจสอบอายุด้วยการสแกนใบหน้า
    ผู้เล่นต้องถ่ายเซลฟีเพื่อให้ระบบ AI ประเมินอายุ

    จัดกลุ่มผู้เล่นตามช่วงวัย
    เช่น 9–12 ปี หรือ 13–15 ปี เพื่อจำกัดการแชทระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่

    เริ่มใช้ในออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และเนเธอร์แลนด์
    เดือนธันวาคม 2025 ก่อนขยายไปทั่วโลกในเดือนมกราคม 2026

    มาตรการเกิดจากแรงกดดันและคดีความในสหรัฐฯ
    อัยการรัฐและผู้ฟ้องร้องกล่าวหาว่า Roblox ไม่ปกป้องเด็กเพียงพอ

    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลชีวภาพ
    ผู้ใช้ต้องส่งข้อมูลใบหน้า ซึ่งอาจถูกเก็บและนำไปใช้ในอนาคต

    การแบ่งกลุ่มอายุอาจไม่แม่นยำ 100%
    ระบบ AI อาจประเมินผิดพลาด ทำให้เกิดข้อโต้แย้งหรือปัญหาในการใช้งาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/18/roblox-to-require-age-checks-to-use-platform039s-chat-features
    🧒 Roblox เพิ่มระบบตรวจสอบอายุเพื่อความปลอดภัยของเด็ก Roblox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ยอดนิยมประกาศว่าจะเริ่มใช้ระบบ ตรวจสอบอายุด้วยการสแกนใบหน้า เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงฟีเจอร์แชทได้ โดยผู้ใช้ต้องถ่าย ภาพเซลฟี เพื่อให้ระบบ AI ประเมินอายุ และจัดกลุ่มผู้เล่นตามช่วงวัย เช่น 9–12 ปี หรือ 13–15 ปี เพื่อป้องกันการสื่อสารระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ที่อาจเสี่ยงต่อการถูกล่อลวงหรือคุกคามทางออนไลน์ มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังจาก Roblox ถูกวิจารณ์อย่างหนักจาก รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ ว่าไม่สามารถปกป้องผู้ใช้ที่เป็นเด็กจากภัยคุกคามทางออนไลน์ได้เพียงพอ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่บริษัทกำลังเผชิญ คดีความจากอัยการรัฐ Texas, Kentucky และ Louisiana รวมถึงผู้ฟ้องร้องรายบุคคลที่กล่าวหาว่า Roblox ล้มเหลวในการดูแลความปลอดภัยของเยาวชน Matt Kaufman หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของ Roblox ระบุว่า บริษัทต้องการเป็นตัวอย่างให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เห็นว่า การตรวจสอบอายุไม่ใช่เรื่อง “เป็นไปไม่ได้” แต่สามารถทำได้จริงหากมีความตั้งใจ โดยการบังคับใช้ครั้งแรกจะเริ่มใน ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ เดือนธันวาคม 2025 และจะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ในเดือนมกราคม 2026 แม้ระบบใหม่นี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็มีข้อถกเถียงเรื่อง ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลชีวภาพ (biometric data) ที่ผู้ใช้ต้องส่งให้ Roblox ซึ่งอาจสร้างความกังวลว่าบริษัทจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลเหล่านี้อย่างไรในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Roblox เพิ่มระบบตรวจสอบอายุด้วยการสแกนใบหน้า ➡️ ผู้เล่นต้องถ่ายเซลฟีเพื่อให้ระบบ AI ประเมินอายุ ✅ จัดกลุ่มผู้เล่นตามช่วงวัย ➡️ เช่น 9–12 ปี หรือ 13–15 ปี เพื่อจำกัดการแชทระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ ✅ เริ่มใช้ในออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ➡️ เดือนธันวาคม 2025 ก่อนขยายไปทั่วโลกในเดือนมกราคม 2026 ✅ มาตรการเกิดจากแรงกดดันและคดีความในสหรัฐฯ ➡️ อัยการรัฐและผู้ฟ้องร้องกล่าวหาว่า Roblox ไม่ปกป้องเด็กเพียงพอ ‼️ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลชีวภาพ ⛔ ผู้ใช้ต้องส่งข้อมูลใบหน้า ซึ่งอาจถูกเก็บและนำไปใช้ในอนาคต ‼️ การแบ่งกลุ่มอายุอาจไม่แม่นยำ 100% ⛔ ระบบ AI อาจประเมินผิดพลาด ทำให้เกิดข้อโต้แย้งหรือปัญหาในการใช้งาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/18/roblox-to-require-age-checks-to-use-platform039s-chat-features
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Roblox to require age checks to use platform's chat features
    WASHINGTON (Reuters) -Gaming platform Roblox will require users to verify their age using facial recognition software to chat with other players, a company executive said, with the goal of limiting communication between kids and adults on the platform.
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 5 – 6

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”
    ตอน 5
    เป็นไปได้หรือว่า อเมริกาแสนจะชาญฉลาดกำโลกอยู่ในมือจนกระดิกไม่ออกมาตั้ง 70 ปี จะมาเสียทีให้กับอิหร่าน คงมีคนคิดกัน ตกลงอิหร่านต้มอเมริกา หรืออเมริกาต้มอิหร่านกันแน่ ก่อนจะลงความเห็น ลองฟังความเห็นอีกสักชิ้น เอามาจากบทความที่ลงในวารสาร Foreign Affairs วารสารที่ออกเป็นประจำของ CFR เมื่อปี ค.ศ.2012 ก่อนที่อเมริกาคิดจะเจรจากับอิหร่านไม่นาน
    คงมีคนสงสัย ทำไมลุงนิทานอ้างแต่ CFR ก็เขาเป็นผู้กำกับรัฐบาลอเมริกา ผมไม่ตามผู้กำกับ ผมก็ไม่รู้ว่าดาราคนไหน เล่นบทอะไร แล้วเล่นได้สมบทบาทแค่ไหน
    บทความนี้ชื่อ ” Time to Attack Iran” โดย Matthew Kroenig
    นายโคร เขาบอกว่า บรรดานักคิด และผู้วางนโยบายของอเมริกา ต่างโต้เถียงกันว่า อเมริกาควรจะจัดการเรื่องอิหร่านอย่างไรดี
    ความเห็นหนึ่ง บอกว่า เราควรบุกอิหร่าน และทำลายอุปกรณ์ทั้งปวงที่อิหร่านใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้เหี้ยนเลย
    ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการบุก บอกว่า การใช้กำลังทหารกับอิหร่านเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า และจะไม่เข้าท่าหนักขึ้น ถ้าเราไปเจออาวุธนิวเคลียร์ของ จริงของอิหร่าน นอกจากนี้ การบุกอิหร่าน โอกาสไม่สำเร็จมีสูง และถึงจะทำสำเร็จ มันอาจจะเป็นการจุดไม้ขีด ให้เรื่องบานปลาย กลายเป็นสงคราม และอาจสร้างวิกฤติทางเศรษฐกืจ ให้กับอเมริกา และอาจลามไปทั้งโลกด้วยก็ได้
    นอกจากนี้ ยังมีฝ่ายที่แนะนำให้อเมริกาใช้วิธีการที่ไม่ใช่ทางทหาร เช่นใช้การเจรจาทางการทูต การคว่ำบาตร หรือการปฏิบัติการณ์ลับ เพราะการใช้กำลังทางทหารเต็มรูปแบบ มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนด้านต่างๆสูง จนใจไม่ถึงที่จะควักกระเป๋าให้ (ตอนนั้น)
    ยังมีพวกนักวิเคราะห์ ที่บอกว่า พวกไม่เห็นด้วยกับการบุกอิหร่าน มองไม่เห็นอันตรายที่แท้จริง ที่อาจเกิดขึ้นกับผลประโยชน์ของอเมริกา ที่อยู่ในและนอกตะวันออกกลาง จากการปล่อยให้อิหร่านที่มีนิวเคลียร์ ลอยนวลอยู่ตามสบาย มันเป็นการคุกคามผลประโยชน์ของอเมริกาโดยตรง
    ส่วนนายโครเอง มีชื่อเสียงว่า สนับสนุนการบุกอิหร่าน เขาบอกว่า โดยการใช้กำลังทหาร และใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ล๊อคเป้าจ่อไปที่โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แค่นั้นเรื่องก็จบ อเมริกาและตะวันออกกลาง ก็จะได้อยู่อย่างสงบจากเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านเสียที
    โลกฝ่ายตะวันตก หรือฝ่ายอเมริกานั่นแหละ พยายามกดดันที่โครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านมานานแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ ขนาดปล่อยไวรัส Stuxnet เข้าไปในระบบของอิหร่าน ไม่นาน อิหร่านก็แก้ไขฟื้นขึ้นมาใหม่ Institute of Science and International Security บอกว่า นอกจากอิหร่านฟื้นเร็วแล้ว ระยะเวลาการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ละครั้งยังเร็วขึ้นอีกด้วย น่าจะใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น และอิหร่านมีแผนที่จะย้ายโครงการผลิตนิวเคลียร์นี้ ไปไว้ในสถานที่ ที่ยากแก่เข้าถึง ทำให้โอกาสที่จะการใช้กำลังทหารแคบลงไปอีก ขณะเดียวกัน หลายประเทศในภูมิภาคเริ่มสงสัยในสมรรถภาพ ของอเมริกาว่า อเมริกาทำอะไรอยู่ ปล่อยอิหร่านผลิตนิวเคลียร์ยังกับผลิตของเล่น
    อเมริกาไม่ได้อยู่เฉย อเมริกาคิด แต่ยังคิดไม่ตก อเมริกาคิดจะใช้ cold war model เหมือนตอนสงครามเย็นปิดล้อมสหภาพโซเวียต แต่สภาพประเทศในตะวันออกกลาง ต่างกับประเทศในยุโรป อย่างหน้ามือกับหลังมือเลย อย่าว่าจะไปปิดล้อมใครเลย แค่พร้อมพอที่จะป้องกันตัวเองยัง ทำไม่ได้ เพราะฉนั้น ถ้าคิดจะปิดล้อมอิหร่าน ต้องใช้งบบาน เพราะโดยสภาพภูมิประเทศ และทำเลที่ตั้งของอิหร่าน อเมริกาต้องส่งทั้ง กองทัพเรือ กองทัพบก รวมทั้งอาจจะต้องจัดส่งนิวเคลียร์ ไปให้ทั้งตะวันออกกลาง คอยจ่อคอหอยอิหร่าน แล้วทั้งหมด ไม่ใช่ไปอยู่วันสองวัน แล้วกลับบ้านนอน แต่ต้องอยู่ถาวรเป็นหลาย 10 ปี ไม่คุ้มค่าน้ำมันที่ไปต้มพวกเสี่ยปั้มมา ไหนจะลาดตระเวน ไหนจะป้องกัน ไหนจะตามเฝ้าอิหร่าน ไหนจะตรวจสอบอิหร่าน ฯลฯ
    พอเห็นแล้วนะครับ ว่า อเมริการู้ว่า อิหร่านกำลังทำอะไร คิดอะไร และอเมริกาน่าจะทำอะไร ปัญหาอยู่ที่ว่า แล้วทำไมอเมริกาถึงเลือกทำ อย่างที่กำลังโดนพวกตัวเองด่า และถ้า วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ยังเจรจากันไม่เสร็จ อเมริกาจะทำอย่างไรต่อไป และผลมันจะเป็นอย่างไร
    ###############
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”

    ตอน 6 (จบ)
    ก่อนไปถึงอเมริกา ขอย้อนกลับมาที่อิหร่าน ที่เขี้ยวลากดินหน่อย สมันน้อยแดนสยามจะได้เข้าใจว่า การจะออกจากคอกนั้นทำได้ ถ้าใช้สติปัญญา มีความตั้งใจทำจริง มีความอดทน ยอมลำบาก ไม่เห็นแก่ตัว และที่สำคัญต้องสามัคคี พร้อมใจกันทั้งชาติ
    อิหร่านโดนนักล่า ทั้งที่มาจากเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย จนถึงนักล่าใบตองแห้ง ร่วมมือกัน แย่งชิงกัน เพื่อหลอกเอาทรัพยากรมีค่ามหา ศาลของอิหร่าน ด้วยการต้มเปื่อย ยุแยง แทรกแซง ปั่นหัว ฟอกย้อม ชาวอิหร่านทุกระดับ จนอิหร่านเสียทรัพยากร เสียพลเมือง เสียผู้นำประเทศ อย่างน่าเสียดายไปมากมาย ตั้งแต่ปี 1900 ต้นๆ โดนต้มมา 100 กว่าปี ไม่คิดปีนขึ้นมาจากหม้อ ก็.. คงต้องปล่อยไปตามกรรม
    แต่อิหร่าน ฮึดสู้ แม้จะถูกคว่ำบาตรอย่างหนักหนาสา หัส การฮึดสู้ อาจมีความลำบากยากเข็ญ ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และการทำธุกิจ ฯลฯ แต่ เพื่อรักษาประเทศ มีชาวอิหร่านที่คิดทำ และอดทน พวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ ต้องดูกันต่อไป แต่ถ้าไม่ฮึดสู้ ก็มีแต่ถูกเขาจูงกลับเข้าคอก แล้วปอกลอกเอาสมบัติของประเทศไป….. เหมือนเดิม
    อิหร่านเชื่อว่า ทางออกจากกำมือของตะวันตกมีทางเดียวคือ ต้องพึ่งตัวเองให้ได้ อิหร่านวางยุทธศาสตร์ สร้างชาติใหม่ที่พึ่งตัวเองได้ หนึ่งในกระบวนการสร้างชาติคือ การหาพลังงานใช้ในประเทศด้วยวิธีอื่นด้วย ไม่ใช่จากการขุดน้ำมันมาใช้อย่างเดียว น้ำมันของประเทศเอาไว้ขายเป็นรายได้ อิหร่านจึงคิดพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ คิดได้ 1 ก็ไป ถึง 2 แล้วก็เลยไปถึงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านบอก ไม่ใช่มีไว้เพื่อเป็นการรุกราน แต่ไว้ใช้เป็นการป้องกันตัว และเป็นเครื่องต่อรอง ประเทศที่มองการณ์ไกล ไม่อยากถูกครอบงำชักจูง อยู่ในกำมือผู้อื่นตลอดกาล ก็ย่อมคิดอย่างนี้
    เมื่อแรกๆ ไม่มีใครเชื่อว่า อิหร่านจะพัฒนาได้ แต่จากการเมืองของอิหร่านเอง ทำให้คนใน เอาความมาบอกคนนอก แล้วอเมริกาก็เลยรู้ แต่รู้ช้าไปนิด เมื่ออิหร่านเดินหน้าไปไกลพอสมควร อเมริกาคิดหนัก อย่างที่นายโคร เอามาเขียนนั่นแหละ่
    อเมริกาคิดว่า ยังไม่ใช่เวลาทำสงครามกับอิหร่าน อเมริกาเพิ่งขูดเนื้ออิรัคเสร็จ จะมาขูดเนื้ออิหร่านต่อ เหนื่อยตายชัก ทหารก็ยังไม่ฟื้นตัว ส่วนการปิดล้อม ก็ค่าใช้จ่ายสูงสะบั้น อเมริกาจึงใช้วิธีทางการเมือง แยงให้ตะวันออกกลางวุ่นวาย บวกกับ การคว่ำบาตร น่าจะทำให้อิหร่าน เหนื่อยและสยบ แต่อเมริกา คงลืมคิดไป โลกตอนนี้ กับโลก เมื่อ 50 ปีก่อน ต่างกันแยะ
    และยิ่งต่างกันแยะมากขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้นมา โลกไม่ได้มีขั้วเดียว ที่มีอเมริกาและพวก เป็นผู้อำนวยการใหญ่ของโลกเท่านั้น จากการบีบคั้น แสดงอำนาจ เอาเปรียบ และความไม่เป็นธรรมของอเมริกาเอง จึงค่อยๆมีแยกตัว และจับมือ สร้างกลุ่มใหม่กันขึ้น มาถึงวันนี้ ขั้วอำนาจดูเหมือนจะเริ่มแบ่งชัดขึ้น ระหว่างแองโกลอเมริกัน บวกยุโรป และสมุนค่ายหนึ่ง และ มี รัสเซีย จีน กับพวกอยู่อีกค่ายหนึ่ง
    ดอลล่าร์กำลังถูกท้าทาย เหมือนที่เงินปอนด์เคยถูกชิงตำแหน่ง จากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกก็แบ่งเป็น 2 ค่าย นี่เรากำลังเดินเข้าไปสู่วัฏฏะ เดิมอีกหรือ โดยมีเรื่องของอิหร่าน เป็นตัวแปร หรือเป็นชนวน…
    อิหร่านยอมที่จะเจรจากับอเมริกา เรื่องลดการพัฒนานิวเคลียร์ เพราะเป็นการเจรจาที่อิหร่าน มีแต่ได้ กับเสมอตัว อิหร่านต้องการให้ฝ่ายตะวันตก ปลดการคว่ำบาตรทั้งหมด ที่เกี่ยวกับอิหร่าน ถ้าได้ตามต้องการ อิหร่านจะกลายเป็นเสี่ยใหญ่แห่ง ตะวันออกกลาง เขาว่าเป็นเงินมากมาย ประเมินกันไม่ถูก เพราะอิหร่านอุบเงียบ แถมใช้ตัวแทน ทำหลายซับหลายซ้อน ขณะเดียวกัน ในระหว่างเจรจา อิหร่านก็เดินหน้าโครงการต่อ แถมโยกย้าย แยกแยะ จนยากแก่การติดตาม ถ้าการเจรจาไม่สำเร็จ อิหร่านก็กลับมาอยู่สภาพ เดินหน้าพัฒนาต่ออย่างที่ทำอยู่ ชีวิตก็เหมือนเดิม เคยลำบากมาแล้ว ก็ลำบากต่ออีกนิด แต่เมื่อมีนิวเคลียร์ครบ เสียงของอิหร่านที่จะเจรจา หรือ พูดอะไรต่อไป ก็คงต่างไปบ้าง อเมริกาก็คิดเองแล้วกัน จะเป็นเสียงอย่างไหน อเมริกาก็เคยใช้มาสาระพัดเสียงแล้วนี่
    วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ถ้า ฝ่าย P5+1 ตกลงกับอิหร่านได้ครบถ้วน ตามความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย บทที่แสดงหน้าจอ ก็คงชนิดได้ตุ๊กตาทอง มีการจับมือ เอาบุญเอาคุญ ตามธรรมเนียม และมันคงเป็นแค่ “การซื้อเวลา” เมื่อไหร่ที่อิหร่านพร้อม เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตะวันออกกลางอย่างเห็นชัด เสี่ยปั้มทั้งหลาย ก็เฝ้าปั้มไว้ให้ดีก็แล้วกัน
    สำหรับอเมริกา อเมริกายอมเล่นบทคว่ำบาตร เพราะอเมริกา “ยังไม่พร้อม” เล่นบทอื่น ไม่ใช่อเมริกา ประเมินผิด ไอ้ถังขยะต่างๆ ที่ออกมาทำเสียงเขียว มันเป็นการเล่นละคร กันทั้งนั้น ต่างก็รู้คิวกัน เจรจาให้ยาว ทำเป็นตกลง ให้อิหร่านถลาเข้ามา แล้วก็ตวัดกลับ เพราะอเมริกา ไม่มีทางยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านอย่างจริงจัง แม้จะทำเป็นตกลง ท้ายที่สุดอิหร่านก็จะได้แต่กินแห้ว อเมริกาแค่ซื้อเวลา รอให้มีความพร้อมทางฝั่งของตนเองมากที่สุด
    อเมริกา โดยไอ้ถังขยะ CFR (อีกแล้ว) ลงทุนติวเข้มให้แก่ อิสราเอล และซาอุดิ 2 มิตรชิดใกล้ของอเมริกาในตะวันออกกลาง เกี่ยวกับเรื่องอิหร่าน ตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุด ประชุมติวกัน เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง ข่าวหลุดมาจาก นาย Anwar Eshski อดีตนายพล และทูตซาอุดิ ประจำอเมริกา อีกฝ่ายคือ นาย Dore Gold อดีตทูตอิสราเอล ประจำสหประชาชาติ มีการประชุมเช่นนี้ มาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 อเมริกา ไม่ได้หลุดคิวเลย
    นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่าน เช่นเดียวกัน อเมริกายังส่งนาย John Brennan ผอ CIA บินตรงไปสรุปข้อมูลลับเกี่ยวกับอิหร่าน ให้กับหน่วยงานข่าวกรองของอิสราเอล Mossad
    แปลว่า อเมริกาน่าจะคิดขยับหมากแล้ว เรื่องการเจรจาก็ปล่อยไป เจรจาสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ สำหรับอเมริกา ไม่มีอะไรต่างกัน เพราะอเมริกาน่าจะมีโผอยู่ในใจแล้ว เรื่องนิวเคลียร์อิหร่าน เป็นเหมือนหนังฮอลลีวู้ดสร้าง ซี่รี่ส์ยาว ให้เราดูติดต่อกันมา 2 ปี เท่านั้นเอง
    อเมริกาไม่มีวันจะปล่อยมือที่บีบคออิหร่าน แม้อเมริกาจะนับรัสเซีย เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งตลอดกาล และนับจีนเป็นคู่แข่งหมายเลขหนี่ง ซี่งแข่งมากๆ ก็จะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นศัตรูไปด้วย แต่กรณีของรัสเซีย เป็นเรื่องของ “ความอยากได้ ” ทรัพยากรของรัสเซีย บวกกับความแหยงสภาพการฟื้นคืนชีพอย่างรวดเร็วของรัสเซีย อเมริกาไม่มีผลประโยชน์โดยตรง มากมายในภูมิภาคของรัสเซีย มันเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์และภูมิศาสตร์การเมืองมากกว่า กรณีของจีน ก็ใกล้เคียงกับกรณีรัสเซีย แต่หนักไปในแง่ที่อเมริกาถือว่า แปซิฟิกและเอเซีย เป็นเหมือนบ้านที่ 2 ของอเมริกา มีแต่เด็กๆ ในความปกครองทั้งนั้น เพราะฉะนั้น แค่คิดว่าจีนจะมาใหญ่กว่า หรือแค่เป็นคู่แข็ง อเมริกาก็ทนไม่ได้อยู่แล้ว
    แต่กรณีอิหร่าน ขณะที่อเมริกาอยากได้ ทรัพยากรของอิหร่าน แต่อิหร่านวันนี้ เป็นอิหร่านที่มีพิษ และอเมริกายังคิดเซรุ่มกันพิษรอบใหม่ของอิหร่านยังไม่ได้ ถ้าอเมริกาขยับผิด ผลประโยชน์มหาศาลของอเมริกา ในตะวันออกกลางจะฉิบหายเกลี้ยงไปด้วย ไม่ใช่แค่ไม่ได้สมบัติของอิหร่านอย่างเดียว เรื่องอิหร่าน เป็นเรื่องกระทบตรงกับผลประโยชน์ของอเมริกา เป็นเรื่องที่อเมริการู้อยู่แก่ใจ กำลังทำใจ และกำลังหาทางขจัดปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ เมื่ออเมริกาพร้อม โลกคงสะเทือน
    แต่การขยับหมากของอเมริกา ไล่มาตั้งแต่ ยูเครน ตะวันออกกลาง มาถึงหมากญี่ปุ่น (จะสำเร็จหรือไม่ ไม่รู้ แต่ผมว่า ร่อแร่ แก้รัฐธรรมนูญเพื่อไปแบกถาดให้เขานี่ คนญี่ปุ่นน่าจะคิดออกนะ ว่าถูกเขาหลอกใช้ขนาดไหน) เหมือนความพร้อมของอเมริกา จะใกล้เข้ามาทุกที จะพร้อมลุยอิหร่านประเทศเล็กแต่มีพิษ หรือแค่พร้อมตั้งรับ เพราะรู้ว่า พิษคงจะเริ่มออกฤทธิ์อีกไม่ช้า และแพร่กระจายไปหลายทิศ ในอีกไม่นาน ก็ต้องดูกันต่อไป
    กลับมาที่อิหร่านอีกที ถ้า วันที่ 7 กรกฏาคมนี่ อิหร่านต้องฟังเพลง I will walk away … อิหร่านจะเดินหมากอย่างไรต่อ จะหงิมๆ เก็บของ กลับบ้านไหม อิหร่านก็คงทำอย่างนั้น แต่กลับบ้านไปทำอะไร ผมไม่รู้ด้วย แต่ผมตั้งใจว่า ถ้าต้องฟัง พณฯใบตองแห้งครวญเพลง หลังจากวันที่ 7 กรกฏาคม ผมคง ตั้งสติให้นิ่ง ตามข่าวถี่หน่อย กินให้อร่อย นอนให้อิ่ม เก็บสะสมไว้ยามจำเป็นครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 ก.ค. 2558
    I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 5 เป็นไปได้หรือว่า อเมริกาแสนจะชาญฉลาดกำโลกอยู่ในมือจนกระดิกไม่ออกมาตั้ง 70 ปี จะมาเสียทีให้กับอิหร่าน คงมีคนคิดกัน ตกลงอิหร่านต้มอเมริกา หรืออเมริกาต้มอิหร่านกันแน่ ก่อนจะลงความเห็น ลองฟังความเห็นอีกสักชิ้น เอามาจากบทความที่ลงในวารสาร Foreign Affairs วารสารที่ออกเป็นประจำของ CFR เมื่อปี ค.ศ.2012 ก่อนที่อเมริกาคิดจะเจรจากับอิหร่านไม่นาน คงมีคนสงสัย ทำไมลุงนิทานอ้างแต่ CFR ก็เขาเป็นผู้กำกับรัฐบาลอเมริกา ผมไม่ตามผู้กำกับ ผมก็ไม่รู้ว่าดาราคนไหน เล่นบทอะไร แล้วเล่นได้สมบทบาทแค่ไหน บทความนี้ชื่อ ” Time to Attack Iran” โดย Matthew Kroenig นายโคร เขาบอกว่า บรรดานักคิด และผู้วางนโยบายของอเมริกา ต่างโต้เถียงกันว่า อเมริกาควรจะจัดการเรื่องอิหร่านอย่างไรดี ความเห็นหนึ่ง บอกว่า เราควรบุกอิหร่าน และทำลายอุปกรณ์ทั้งปวงที่อิหร่านใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้เหี้ยนเลย ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการบุก บอกว่า การใช้กำลังทหารกับอิหร่านเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า และจะไม่เข้าท่าหนักขึ้น ถ้าเราไปเจออาวุธนิวเคลียร์ของ จริงของอิหร่าน นอกจากนี้ การบุกอิหร่าน โอกาสไม่สำเร็จมีสูง และถึงจะทำสำเร็จ มันอาจจะเป็นการจุดไม้ขีด ให้เรื่องบานปลาย กลายเป็นสงคราม และอาจสร้างวิกฤติทางเศรษฐกืจ ให้กับอเมริกา และอาจลามไปทั้งโลกด้วยก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีฝ่ายที่แนะนำให้อเมริกาใช้วิธีการที่ไม่ใช่ทางทหาร เช่นใช้การเจรจาทางการทูต การคว่ำบาตร หรือการปฏิบัติการณ์ลับ เพราะการใช้กำลังทางทหารเต็มรูปแบบ มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนด้านต่างๆสูง จนใจไม่ถึงที่จะควักกระเป๋าให้ (ตอนนั้น) ยังมีพวกนักวิเคราะห์ ที่บอกว่า พวกไม่เห็นด้วยกับการบุกอิหร่าน มองไม่เห็นอันตรายที่แท้จริง ที่อาจเกิดขึ้นกับผลประโยชน์ของอเมริกา ที่อยู่ในและนอกตะวันออกกลาง จากการปล่อยให้อิหร่านที่มีนิวเคลียร์ ลอยนวลอยู่ตามสบาย มันเป็นการคุกคามผลประโยชน์ของอเมริกาโดยตรง ส่วนนายโครเอง มีชื่อเสียงว่า สนับสนุนการบุกอิหร่าน เขาบอกว่า โดยการใช้กำลังทหาร และใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ล๊อคเป้าจ่อไปที่โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แค่นั้นเรื่องก็จบ อเมริกาและตะวันออกกลาง ก็จะได้อยู่อย่างสงบจากเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านเสียที โลกฝ่ายตะวันตก หรือฝ่ายอเมริกานั่นแหละ พยายามกดดันที่โครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านมานานแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ ขนาดปล่อยไวรัส Stuxnet เข้าไปในระบบของอิหร่าน ไม่นาน อิหร่านก็แก้ไขฟื้นขึ้นมาใหม่ Institute of Science and International Security บอกว่า นอกจากอิหร่านฟื้นเร็วแล้ว ระยะเวลาการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ละครั้งยังเร็วขึ้นอีกด้วย น่าจะใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น และอิหร่านมีแผนที่จะย้ายโครงการผลิตนิวเคลียร์นี้ ไปไว้ในสถานที่ ที่ยากแก่เข้าถึง ทำให้โอกาสที่จะการใช้กำลังทหารแคบลงไปอีก ขณะเดียวกัน หลายประเทศในภูมิภาคเริ่มสงสัยในสมรรถภาพ ของอเมริกาว่า อเมริกาทำอะไรอยู่ ปล่อยอิหร่านผลิตนิวเคลียร์ยังกับผลิตของเล่น อเมริกาไม่ได้อยู่เฉย อเมริกาคิด แต่ยังคิดไม่ตก อเมริกาคิดจะใช้ cold war model เหมือนตอนสงครามเย็นปิดล้อมสหภาพโซเวียต แต่สภาพประเทศในตะวันออกกลาง ต่างกับประเทศในยุโรป อย่างหน้ามือกับหลังมือเลย อย่าว่าจะไปปิดล้อมใครเลย แค่พร้อมพอที่จะป้องกันตัวเองยัง ทำไม่ได้ เพราะฉนั้น ถ้าคิดจะปิดล้อมอิหร่าน ต้องใช้งบบาน เพราะโดยสภาพภูมิประเทศ และทำเลที่ตั้งของอิหร่าน อเมริกาต้องส่งทั้ง กองทัพเรือ กองทัพบก รวมทั้งอาจจะต้องจัดส่งนิวเคลียร์ ไปให้ทั้งตะวันออกกลาง คอยจ่อคอหอยอิหร่าน แล้วทั้งหมด ไม่ใช่ไปอยู่วันสองวัน แล้วกลับบ้านนอน แต่ต้องอยู่ถาวรเป็นหลาย 10 ปี ไม่คุ้มค่าน้ำมันที่ไปต้มพวกเสี่ยปั้มมา ไหนจะลาดตระเวน ไหนจะป้องกัน ไหนจะตามเฝ้าอิหร่าน ไหนจะตรวจสอบอิหร่าน ฯลฯ พอเห็นแล้วนะครับ ว่า อเมริการู้ว่า อิหร่านกำลังทำอะไร คิดอะไร และอเมริกาน่าจะทำอะไร ปัญหาอยู่ที่ว่า แล้วทำไมอเมริกาถึงเลือกทำ อย่างที่กำลังโดนพวกตัวเองด่า และถ้า วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ยังเจรจากันไม่เสร็จ อเมริกาจะทำอย่างไรต่อไป และผลมันจะเป็นอย่างไร ############### นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 6 (จบ) ก่อนไปถึงอเมริกา ขอย้อนกลับมาที่อิหร่าน ที่เขี้ยวลากดินหน่อย สมันน้อยแดนสยามจะได้เข้าใจว่า การจะออกจากคอกนั้นทำได้ ถ้าใช้สติปัญญา มีความตั้งใจทำจริง มีความอดทน ยอมลำบาก ไม่เห็นแก่ตัว และที่สำคัญต้องสามัคคี พร้อมใจกันทั้งชาติ อิหร่านโดนนักล่า ทั้งที่มาจากเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย จนถึงนักล่าใบตองแห้ง ร่วมมือกัน แย่งชิงกัน เพื่อหลอกเอาทรัพยากรมีค่ามหา ศาลของอิหร่าน ด้วยการต้มเปื่อย ยุแยง แทรกแซง ปั่นหัว ฟอกย้อม ชาวอิหร่านทุกระดับ จนอิหร่านเสียทรัพยากร เสียพลเมือง เสียผู้นำประเทศ อย่างน่าเสียดายไปมากมาย ตั้งแต่ปี 1900 ต้นๆ โดนต้มมา 100 กว่าปี ไม่คิดปีนขึ้นมาจากหม้อ ก็.. คงต้องปล่อยไปตามกรรม แต่อิหร่าน ฮึดสู้ แม้จะถูกคว่ำบาตรอย่างหนักหนาสา หัส การฮึดสู้ อาจมีความลำบากยากเข็ญ ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และการทำธุกิจ ฯลฯ แต่ เพื่อรักษาประเทศ มีชาวอิหร่านที่คิดทำ และอดทน พวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ ต้องดูกันต่อไป แต่ถ้าไม่ฮึดสู้ ก็มีแต่ถูกเขาจูงกลับเข้าคอก แล้วปอกลอกเอาสมบัติของประเทศไป….. เหมือนเดิม อิหร่านเชื่อว่า ทางออกจากกำมือของตะวันตกมีทางเดียวคือ ต้องพึ่งตัวเองให้ได้ อิหร่านวางยุทธศาสตร์ สร้างชาติใหม่ที่พึ่งตัวเองได้ หนึ่งในกระบวนการสร้างชาติคือ การหาพลังงานใช้ในประเทศด้วยวิธีอื่นด้วย ไม่ใช่จากการขุดน้ำมันมาใช้อย่างเดียว น้ำมันของประเทศเอาไว้ขายเป็นรายได้ อิหร่านจึงคิดพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ คิดได้ 1 ก็ไป ถึง 2 แล้วก็เลยไปถึงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านบอก ไม่ใช่มีไว้เพื่อเป็นการรุกราน แต่ไว้ใช้เป็นการป้องกันตัว และเป็นเครื่องต่อรอง ประเทศที่มองการณ์ไกล ไม่อยากถูกครอบงำชักจูง อยู่ในกำมือผู้อื่นตลอดกาล ก็ย่อมคิดอย่างนี้ เมื่อแรกๆ ไม่มีใครเชื่อว่า อิหร่านจะพัฒนาได้ แต่จากการเมืองของอิหร่านเอง ทำให้คนใน เอาความมาบอกคนนอก แล้วอเมริกาก็เลยรู้ แต่รู้ช้าไปนิด เมื่ออิหร่านเดินหน้าไปไกลพอสมควร อเมริกาคิดหนัก อย่างที่นายโคร เอามาเขียนนั่นแหละ่ อเมริกาคิดว่า ยังไม่ใช่เวลาทำสงครามกับอิหร่าน อเมริกาเพิ่งขูดเนื้ออิรัคเสร็จ จะมาขูดเนื้ออิหร่านต่อ เหนื่อยตายชัก ทหารก็ยังไม่ฟื้นตัว ส่วนการปิดล้อม ก็ค่าใช้จ่ายสูงสะบั้น อเมริกาจึงใช้วิธีทางการเมือง แยงให้ตะวันออกกลางวุ่นวาย บวกกับ การคว่ำบาตร น่าจะทำให้อิหร่าน เหนื่อยและสยบ แต่อเมริกา คงลืมคิดไป โลกตอนนี้ กับโลก เมื่อ 50 ปีก่อน ต่างกันแยะ และยิ่งต่างกันแยะมากขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้นมา โลกไม่ได้มีขั้วเดียว ที่มีอเมริกาและพวก เป็นผู้อำนวยการใหญ่ของโลกเท่านั้น จากการบีบคั้น แสดงอำนาจ เอาเปรียบ และความไม่เป็นธรรมของอเมริกาเอง จึงค่อยๆมีแยกตัว และจับมือ สร้างกลุ่มใหม่กันขึ้น มาถึงวันนี้ ขั้วอำนาจดูเหมือนจะเริ่มแบ่งชัดขึ้น ระหว่างแองโกลอเมริกัน บวกยุโรป และสมุนค่ายหนึ่ง และ มี รัสเซีย จีน กับพวกอยู่อีกค่ายหนึ่ง ดอลล่าร์กำลังถูกท้าทาย เหมือนที่เงินปอนด์เคยถูกชิงตำแหน่ง จากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกก็แบ่งเป็น 2 ค่าย นี่เรากำลังเดินเข้าไปสู่วัฏฏะ เดิมอีกหรือ โดยมีเรื่องของอิหร่าน เป็นตัวแปร หรือเป็นชนวน… อิหร่านยอมที่จะเจรจากับอเมริกา เรื่องลดการพัฒนานิวเคลียร์ เพราะเป็นการเจรจาที่อิหร่าน มีแต่ได้ กับเสมอตัว อิหร่านต้องการให้ฝ่ายตะวันตก ปลดการคว่ำบาตรทั้งหมด ที่เกี่ยวกับอิหร่าน ถ้าได้ตามต้องการ อิหร่านจะกลายเป็นเสี่ยใหญ่แห่ง ตะวันออกกลาง เขาว่าเป็นเงินมากมาย ประเมินกันไม่ถูก เพราะอิหร่านอุบเงียบ แถมใช้ตัวแทน ทำหลายซับหลายซ้อน ขณะเดียวกัน ในระหว่างเจรจา อิหร่านก็เดินหน้าโครงการต่อ แถมโยกย้าย แยกแยะ จนยากแก่การติดตาม ถ้าการเจรจาไม่สำเร็จ อิหร่านก็กลับมาอยู่สภาพ เดินหน้าพัฒนาต่ออย่างที่ทำอยู่ ชีวิตก็เหมือนเดิม เคยลำบากมาแล้ว ก็ลำบากต่ออีกนิด แต่เมื่อมีนิวเคลียร์ครบ เสียงของอิหร่านที่จะเจรจา หรือ พูดอะไรต่อไป ก็คงต่างไปบ้าง อเมริกาก็คิดเองแล้วกัน จะเป็นเสียงอย่างไหน อเมริกาก็เคยใช้มาสาระพัดเสียงแล้วนี่ วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ถ้า ฝ่าย P5+1 ตกลงกับอิหร่านได้ครบถ้วน ตามความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย บทที่แสดงหน้าจอ ก็คงชนิดได้ตุ๊กตาทอง มีการจับมือ เอาบุญเอาคุญ ตามธรรมเนียม และมันคงเป็นแค่ “การซื้อเวลา” เมื่อไหร่ที่อิหร่านพร้อม เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตะวันออกกลางอย่างเห็นชัด เสี่ยปั้มทั้งหลาย ก็เฝ้าปั้มไว้ให้ดีก็แล้วกัน สำหรับอเมริกา อเมริกายอมเล่นบทคว่ำบาตร เพราะอเมริกา “ยังไม่พร้อม” เล่นบทอื่น ไม่ใช่อเมริกา ประเมินผิด ไอ้ถังขยะต่างๆ ที่ออกมาทำเสียงเขียว มันเป็นการเล่นละคร กันทั้งนั้น ต่างก็รู้คิวกัน เจรจาให้ยาว ทำเป็นตกลง ให้อิหร่านถลาเข้ามา แล้วก็ตวัดกลับ เพราะอเมริกา ไม่มีทางยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านอย่างจริงจัง แม้จะทำเป็นตกลง ท้ายที่สุดอิหร่านก็จะได้แต่กินแห้ว อเมริกาแค่ซื้อเวลา รอให้มีความพร้อมทางฝั่งของตนเองมากที่สุด อเมริกา โดยไอ้ถังขยะ CFR (อีกแล้ว) ลงทุนติวเข้มให้แก่ อิสราเอล และซาอุดิ 2 มิตรชิดใกล้ของอเมริกาในตะวันออกกลาง เกี่ยวกับเรื่องอิหร่าน ตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุด ประชุมติวกัน เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง ข่าวหลุดมาจาก นาย Anwar Eshski อดีตนายพล และทูตซาอุดิ ประจำอเมริกา อีกฝ่ายคือ นาย Dore Gold อดีตทูตอิสราเอล ประจำสหประชาชาติ มีการประชุมเช่นนี้ มาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 อเมริกา ไม่ได้หลุดคิวเลย นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่าน เช่นเดียวกัน อเมริกายังส่งนาย John Brennan ผอ CIA บินตรงไปสรุปข้อมูลลับเกี่ยวกับอิหร่าน ให้กับหน่วยงานข่าวกรองของอิสราเอล Mossad แปลว่า อเมริกาน่าจะคิดขยับหมากแล้ว เรื่องการเจรจาก็ปล่อยไป เจรจาสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ สำหรับอเมริกา ไม่มีอะไรต่างกัน เพราะอเมริกาน่าจะมีโผอยู่ในใจแล้ว เรื่องนิวเคลียร์อิหร่าน เป็นเหมือนหนังฮอลลีวู้ดสร้าง ซี่รี่ส์ยาว ให้เราดูติดต่อกันมา 2 ปี เท่านั้นเอง อเมริกาไม่มีวันจะปล่อยมือที่บีบคออิหร่าน แม้อเมริกาจะนับรัสเซีย เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งตลอดกาล และนับจีนเป็นคู่แข่งหมายเลขหนี่ง ซี่งแข่งมากๆ ก็จะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นศัตรูไปด้วย แต่กรณีของรัสเซีย เป็นเรื่องของ “ความอยากได้ ” ทรัพยากรของรัสเซีย บวกกับความแหยงสภาพการฟื้นคืนชีพอย่างรวดเร็วของรัสเซีย อเมริกาไม่มีผลประโยชน์โดยตรง มากมายในภูมิภาคของรัสเซีย มันเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์และภูมิศาสตร์การเมืองมากกว่า กรณีของจีน ก็ใกล้เคียงกับกรณีรัสเซีย แต่หนักไปในแง่ที่อเมริกาถือว่า แปซิฟิกและเอเซีย เป็นเหมือนบ้านที่ 2 ของอเมริกา มีแต่เด็กๆ ในความปกครองทั้งนั้น เพราะฉะนั้น แค่คิดว่าจีนจะมาใหญ่กว่า หรือแค่เป็นคู่แข็ง อเมริกาก็ทนไม่ได้อยู่แล้ว แต่กรณีอิหร่าน ขณะที่อเมริกาอยากได้ ทรัพยากรของอิหร่าน แต่อิหร่านวันนี้ เป็นอิหร่านที่มีพิษ และอเมริกายังคิดเซรุ่มกันพิษรอบใหม่ของอิหร่านยังไม่ได้ ถ้าอเมริกาขยับผิด ผลประโยชน์มหาศาลของอเมริกา ในตะวันออกกลางจะฉิบหายเกลี้ยงไปด้วย ไม่ใช่แค่ไม่ได้สมบัติของอิหร่านอย่างเดียว เรื่องอิหร่าน เป็นเรื่องกระทบตรงกับผลประโยชน์ของอเมริกา เป็นเรื่องที่อเมริการู้อยู่แก่ใจ กำลังทำใจ และกำลังหาทางขจัดปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ เมื่ออเมริกาพร้อม โลกคงสะเทือน แต่การขยับหมากของอเมริกา ไล่มาตั้งแต่ ยูเครน ตะวันออกกลาง มาถึงหมากญี่ปุ่น (จะสำเร็จหรือไม่ ไม่รู้ แต่ผมว่า ร่อแร่ แก้รัฐธรรมนูญเพื่อไปแบกถาดให้เขานี่ คนญี่ปุ่นน่าจะคิดออกนะ ว่าถูกเขาหลอกใช้ขนาดไหน) เหมือนความพร้อมของอเมริกา จะใกล้เข้ามาทุกที จะพร้อมลุยอิหร่านประเทศเล็กแต่มีพิษ หรือแค่พร้อมตั้งรับ เพราะรู้ว่า พิษคงจะเริ่มออกฤทธิ์อีกไม่ช้า และแพร่กระจายไปหลายทิศ ในอีกไม่นาน ก็ต้องดูกันต่อไป กลับมาที่อิหร่านอีกที ถ้า วันที่ 7 กรกฏาคมนี่ อิหร่านต้องฟังเพลง I will walk away … อิหร่านจะเดินหมากอย่างไรต่อ จะหงิมๆ เก็บของ กลับบ้านไหม อิหร่านก็คงทำอย่างนั้น แต่กลับบ้านไปทำอะไร ผมไม่รู้ด้วย แต่ผมตั้งใจว่า ถ้าต้องฟัง พณฯใบตองแห้งครวญเพลง หลังจากวันที่ 7 กรกฏาคม ผมคง ตั้งสติให้นิ่ง ตามข่าวถี่หน่อย กินให้อร่อย นอนให้อิ่ม เก็บสะสมไว้ยามจำเป็นครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 199 Views 0 Reviews
  • I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 3 – 4

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”
    ตอน 3
    คงจำกันได้ เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา อเมริกา โดย พณฯใบตองแห้ง จัดใหญ่แถลงการณ์ว่า เราตกลงเลือกกรอบการเจรจากับอิหร่านเรียบร้อยแล้ว (รายละเอียดในนิทานเรื่อง “ข้อสอบรั่ว”) ตีปิ๊บซะตื่นเต้นกันไปหมด
    วันเดียวกันนั้น นาย Richard Hass ผู้อำนวยการใหญ่ของถังขยะความคิด Council on Foreign Relation หรือ CFR ที่เข้าใจว่า ใหญ่กว่ารัฐบาลของอเมริกา ท่านดิ๊ก Richard ก็ออกความเห็นทันทีไม่รอช่า เขียนเองอีกด้วย ไม่ใช้เด็ก แปลว่า เรื่องนี้สำคัญ ต้องปั่น หรือ ปั้นกับมือเอง
    ท่านดิ๊ก เริ่มต้นได้หยดย้อย ..แบบฝรั่งจ๋า There’s many a slip twixt the cup and the lip” เป็นอะไรที่เหมือนกับว่าสำเร็จแล้ว แต่ความจริง ยังไม่ใช่ ท่านดิ๊กว่าอย่างนั้น แต่ลุงนิทานแปลเองว่า .. ปากจะถึงถ้วยอยู่รอมร่อ แต่ดันหกเสียก่อน..แปลสั้นๆอีกที ว่า อ ด
    ท่านดิ๊กบอกว่า ข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบการเจรจาเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์โปรแกรม จะเป็นการสร้างเหตุการณ์สำคัญทางด้านการเมืองและการทูต ที่มีรายละเอียดมากมาย กว้างขวางในบริบทต่างๆ เกินกว่าที่คาดกัน…. เริ่มแบบนี้ แปลว่า คงมีใครเหยียบเปลือกกล้วย หงายท้องไปแล้ว แต่จะถึงขนาดทำปืนลั่นใส่หัวแม่ตีนตัวเองหรือเปล่า ต้องตามอ่านบทความของท่านดิ๊กต่อไป
    …กรอบที่ตกลงกัน สร้างคำถามคาใจไม่น้อยกว่าคำตอบที่ได้มา และยังมีเรื่องค้าง
    ที่ยังต้องทำอยู่อีกมากมาย จริงๆ แล้ว ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง
    …ไม่รู้ว่าท่านดิ๊กเหน็บใคร ดันจัดงานแถลงซะใหญ่โตเหมือนกับเจรจาสำเร็จแล้วยังงั้น
    แหล่ะ เป็นครั้งแรก ที่ผมเห็นด้วยกับไอ้ถังขยะความคิด ช่วยกลับไปอ่านนิทานเรื่อง “ข้อสอบรั่ว” หน่อยนะครับ
    … กรอบที่ตกลง มีข้อกำหนดห้ามอิหร่านมากมายเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ มีข้อกำหนดมาตรฐานการตรวจสอบว่า อิหร่านทำตามที่ตกลงกันหรือไม่ และมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการ “ผ่อนคลาย” เรื่องการคว่ำบาตรทางเศรษฐกืจ เมื่อตรวจสอบและพิสูจน์ได้แล้วว่า อิหร่านทำตามข้อตกลง
    …ในการเจรจา ได้มีประเมินกันว่า เราจะมีระยะเวลาในการเตือน 1 ปี นับแต่วันที่อิหร่านตัดสินใจ ที่จะสร้างอาวุธนิวเคลียร์สักลูก จนถึงสร้างสำเร็จ ระยะเวลาดังกล่าวเป็นไปตามข้อสันนิษฐานว่า จากการเฝ้าติดตามอิหร่านอย่างใกล้ชิด เราจะพบการไม่ปฏิบัติตามข้อสัญญาได้เร็วพอ ที่จะระงับการดำเนินการของอิหร่าน และโดยเฉพาะ จะทำให้เรากลับไปใช้การคว่ำบาตรอิหร่านได้ใหม่ “ก่อน” ที่อิหร่านจะสร้างนิวเคลียร์ ตามข้อสมมุติฐานนี้สำเร็จ.... ข้อนี้ ท่านดิ๊ก เขียนได้เยี่ยมครับ ให้เห็นความโง่ของผู้เจรจา และผู้ตกลง ฝ่ายที่ไม่ใช่อิหร่าน ชัดเจนว่า ด่ากันเอง มันดีนะครับ
    … ท่านดิ๊กบอกว่า มีไม่น้อยกว่า 5 เหตุผล ที่การตกลงกับอิหร่าน ท้ายที่สุด จะไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้น แต่ไม่ได้ผลตามที่ต้องการ … นี่ใบ้หวยหรือไง
    ข้อแรก ระหว่างเวลา 90 วัน นับแต่เดือนเมษายนถึงสิ้นเดือน มิถุนายน อะไรก็เกิดขึ้นได้ การเปลี่ยนใจ เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนตัวผู้เจรจา การถูกกดดันจากรัฐบาลของตน แค่ตอนนี้ ความไม่เห็นพ้องกัน ระหว่างอเมริกากับอิหร่าน ก็มากมายกองสูงท่วมหัวแล้ว
    ข้อสอง เรื่องค้างที่สำคัญ คือเรื่องกำหนดเวลายกเลิกการคว่ำบาตร เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับฝ่ายอิหร่าน ขณะเดียวกัน เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่ใช้ในการเจรจาต่อรองกับอิหร่าน พูดชัดๆ ว่าฝ่ายอเมริกาและยุโรป ยังไม่อยากยกเลิกการคว่ำบาตรให้อิหร่าน จนกว่า “จะแน่ใจ” ว่า อิหร่านปฏิบัติตามเงื่อนไขครบถ้วน …..
    อืม ….อิหร่านคงเข้าใจความนัยนี้แล้ว
    ข้อสาม เรื่องที่ห่วงกันคือ พวกยึดแน่นกับหลักการ หรือพวกเข้มข้นของทั้ง 2 ฝ่าย เช่นทางอิหร่าน คงไม่อยากให้อิหร่านเจรจากับ “ซาตานอเมริกา” ส่วนทางอเมริกา ก็ใช่ว่า สภาสูงจะเอาด้วย ตอนนี้ก็พูดกันไปทั่วแล้วว่า เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยอิหร่านไว้กับนิวเคลียร์ ที่ความสามารถในการติดตาม การตรวจสอบ ยังไม่เป็นที่แน่ใจ ปล่อยไปเรื่อยๆ อีก 15, 20 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องใครก็ให้ความมั่นใจไม่ได้… พณฯใบตองแห้ง ได้ยินนะครับ ถูกลูกน้อง จริงๆ ก็คือลูกพี่ สั่งสอนให้แล้ว
    ข้อสี่ อิหร่านจะปฏิบัติกับข้อตกลงนี้อย่างไร ที่ผ่านมา อิหร่านมีประวัติเสีย ในการไม่ให้ข้อมูลสำคัญ หรือที่เกี่ยวข้อง ขนาดผู้ตรวจสอบของสหประชาชาติลงบันทึกไว้ในสมุดความประพฤติของอิหร่านแล้ว … นี่มันดูถูกซ้ำซาก อิหร่านรับได้หรือครับ ขอเสี้ยมหน่อย
    ข้อที่ห้า มาจากนโยบายด้านการต่างประเทศ และความมั่นคงของอิหร่านเอง ที่ทางอเมริกาไม่เห็นด้วย และเพื่อนฝูงในตะวันออกกลางก็แหยงกับการกระทำของอิหร่าน ที่สนับสนุน ซีเรีย อืรัค เยเมน รวมทั้งที่อื่นๆในตะวันออกกลาง
    …ท่านดิ๊กบอกว่า อิหร่านมีอนาคตไปได้ไกลถึงเป็นจักรวรรดิ ที่หวังจะเป็นประเทศมหาอำนาจ ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคของตัว แม้ข้อตกลงนิวเคลียร์นี้จะเกิดขึ้น ก็ไม่ทำให้ความเป็นไปได้ดังกล่าวเปลี่ยนแปลง อาจจะเลวร้ายลงไปด้วยซ้ำ เพราะอิหร่านอาจเลือกกลับมาสร้างอาวุธนิวเคลียร์ต่อได้ อย่างไม่ยากเย็นอะไร (โดยเราไม่รู้ตัว)
    … โอบามาทำถูกแล้ว ที่เจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ ตามแนวที่กำลังคุยกัน ยังดีกว่าให้อิหร่านมีนิวเคลียร์ หรือทำสงคราม เพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านสร้างนิวเคลียร์ แต่ข้อตกลงดังกล่าว ต้องสร้างความเชื่อมั่น ให้อเมริกาและตะวันออกกลาง ให้ได้ว่า ได้มีการป้องกันอย่างรอบคอบแล้ว และถ้ามีการเบี้ยว หรือขี้โกง สิ่งเหล่านี้จะถูกจับได้ และจัดการได้อย่างเด็ดขาด
    …นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย และจริงๆแล้ว มันไม่เกินไปหรอก ถ้าจะบอกว่า การสร้างความมั่นใจดังว่านั้น ต้องใช้ความพยายามไม่น้อยกว่า การเจรจาให้อิหร่านตกลงด้วยซ้ำ….
    คุณดิ๊ก นี่ไม่เบาเลย ตกลงนี่ กำลังหลอกด่าประธานาธิบดี ตัวเองหรือไงว่า ไปโง่ให้เหนื่อยทำไม ผลสุดท้าย เจรจากับอิหร่านสำเร็จหรือไม่ ปลายทางก็คงไม่ต่างกัน …,,หรือว่า พณฯใบตองแห้ง ก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ไปก่อน เพราะทางออกอื่นยังสร้างไม่เสร็จ ก็ต้องเล่นบทตีหน้าซื่อ หรือเซ่อ … หลอกอิหร่าน หลอกโลกไปก่อน
    ###############
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง” I will walk away….พี่เผ่นก่อนนะน้อง”

    ตอน 4
    ตกลง พณฯใบตองแห้ง คิดเรื่องอิหร่านอย่างไรกันแน่ อยากเจรจาต่อ หรืออยากเลิกเจรจา ยิ่งถังขยะความคิด CFR ผู้กำกับรัฐบาลอเมริกันตัวจริง ออกมาเขียนตีปลาหน้าไซอย่างนี้ เราๆชาวบ้าน สมันน้อย ไม่ว่าจะอยู่แดนสยาม หรือแดนเนรมิตรที่ไอ้นักล่าใบตองแห้งสร้างหลอกเอาไว้ จะเข้าใจไหม ว่าเขากำลังเล่นอะไรกัน
    นอกจาก CFR จะออกมาชี้เปลือกกล้วย ที่มีใครเหยียบจนลื่นหงายท้อง เสียท่าไปแล้ว ถังขยะความคิดอีกใบ ที่มีเสียงดังไม่น้อยเหมือนกัน คือ Center for Strategic & International Studies (CSIS) ได้ออกรายงาน เมื่อวันที่ 30 มีนาคม อย่างกับนัดกัน กับ CFR เรื่อง Judging a P5+1 Nuclear Agreement with Iran: The Key Criteria เขียนโดย Anthony Cordesman ตัวหัวหน้าใหญ่ ลงมือเขียนเองอีกเหมือน
    นาย Cordesman เขียนเสียยาว บรรยายอย่างละเอียด ถึงการเจรจา ผมขอเล่าแต่สรุปตอนท้ายของเขา ซึ่งน่าจะทำให้เราเห็นอะไรบางอย่าง
    เขาบอกว่า …. ข้อตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธ ต้องอยู่บนหลักการ ที่เป็นความความเชื่อใจ แต่ตรวจสอบพิสูจน์ได้ ” trust but verify” โดยให้น้ำหนัก ความเชื่อใจที่ 1% และเน้นการตรวจสอบที่พิสูจน์ได้ 99 % จากการวิเคราะห์ที่บรรยายในเอกสาร ไม่มีทางที่จะเอาความเชื่อใจอย่างเดียวมาใช้ในการตรวจสอบอาวุธของอิหร่านที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น นี่จะเป็นข้อพิสูจน์ว่า การตกลงจะมีขึ้นได้ หรือจะเลื่อนออกไป หรือการเจรจาล้มเหลวจบสิ้น
    แล้วการเจรจาก็ต้อง เลื่อนออกไปจริงๆ…
    นอกจาก ได้รับการเคาะตาตุ่ม จากถังขยะความคิดใบใหญ่ 2 ใบแล้ว พณฯ ใบตองแห้งยังโดนยำเสียเละ จากฝ่ายรัฐสภา ที่ปล่อยข่าวออกมาให้เป็นหนังตัวอย่าง เพราะเรื่องของอิหร่าน รัฐบาลยังไม่ได้ส่งเข้าไปให้พิจารณา ดูหนังตัวอย่างม้วนนี้กันหน่อย
    เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการย่อย ด้านตะวันออกกลาง และอาฟริกาเหนือ ได้จัดให้มีการประชุมหารือ โดยมีสมาชิกสภา Ileana Ros-Lehtinen เป็นประธาน ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมหลายคน หนี่งในนั้นคือ นาย Anthony Cordesman
    ที่ประชุมสรุปว่า การเจรจากับอิหร่านที่กำลังดำเนินอยู่คือ เส้นทางสู่ความหายนะ
    โดยสรุปเรื่องที่หารือกัน 5 ข้อ
    ข้อ 1. เด็กๆ ในตะวันออกกลาง ที่อยู่ในคอกอเมริกา กำลังว้าวุ่นว่าจะพึ่งอเมริกาได้แค่ไหน ตั้งแต่มีเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ พวกเขาบางราย ถึงกับจะหันไปขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือ
    ข้อ 2. เด็กๆ ในภูมิภาค ต่างไม่อยากเหลือเป็นรายสุดท้าย ที่ไม่มีของเล่นเป็นอาวุธนิวเคลียร์ เราคงไม่อยากเห็น รัสเซียคุยกับจอร์แดน หรืออียิปต์ เพื่อจะสร้างนิวเคลียร์ หรือเราคงไม่อยากให้ซาอุดิวิ่งไปหาจีนเรื่องนิวเคลียร์
    ข้อ 3. อิหร่าน บอกมาเป็นเวลานานมากแล้วว่า เขาอยากจะทำโครงการนิวเคลียร์ ตอนนี้เขากำลังเจรจากับอเมริกาว่าเ ขาจะไม่ทำต่อแล้ว แต่เขายังจะทำโครงการจรวดต่อ
    … มันเป็นโครงการต่อเนื่องกัน เลิกโครงการนึง ก็ต้องเลิก อีกอันด้วย สิ่งที่เขาพูด กับที่เขาทำมันขัดกัน
    ข้อ 4. อิหร่านบอกว่า เขาสนใจที่จะเดินหน้าโครงการอวกาศ แต่เทคโนโลยีที่ใช้ในโครงการอวกาศส่วนใหญ่ มันก็เป็นรายการเดียวกับการทำจรวดวิถีไกล ถ้าอิหร่านจะซ่อนสักนิด อิหร่านก็สร้างจรวดวิถีไกลได้โดยไม่มีใครรู้
    ข้อ 5. ตอนนี้อิหร่าน มีจรวดวิถีใกล้ และกลาง เรียบร้อยแล้ว และส่งให้ กลุ่ม Hezbullah กับกลุ่ม Hamas ใช้ไปแล้ว ทำให้อิสราเอลกำลังปวดกระบาล นี่ถ้าอิหร่าน มีจรวดวิถีไกลด้วย คนปวดกระบาลคือเรา อเมริกา อิหร่านโจมตีเราได้ โดยไม่ต้องย้ายพุงข้ามเขตแดนเขาออกมาเลยแม้แต่นิ้วเดียว
    นอกจากนี้ นาย Ed Royce ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการของรัฐสภา ด้านกิจการต่างประเทศ House Commitee on Foreign Affairs ซึ่งร่วมประชุมในโอกาสเดียวกันยังบอกว่า… ในหลายๆทาง การเจรจากับอิหร่าน เป็นกรณีศึกษาให้เห็นว่า รัฐบาลโอบามาดำเนินการเจรจากับอิหร่าน โดยไม่สนใจกับความเห็น หรือความต้องการของฝ่ายอื่นเลย เช่น เมื่อคณะกรรมาธิการแจ้งกับรัฐบาลไปว่า ต้องเอาเรื่องจรวดนำวิถีเข้าไปร่วมพิจารณาในการเจรจาด้วย แต่ปรากฏว่า ไม่อยู่ในกรอบการเจรจา แถมผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ส่งเสียงข้ามทวีปบอกว่า ตะวันตกโง่และเซ่อมาก ที่คิดว่าอิหร่านจะลดการผลิตจรวดนำวืถีด้วย
    คณะกรรมาธิการไม่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งของอิหร่าน ขอโวยกลับ …. จรวดนำวิถี เป็นหัวรบของอาวุธนิวเคลียร์ ไม่นับรวมได้ยังไง วันนี้ เราได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้การเป็นพยาน และในจำนวนผู้ที่ถูกเรียกให้มาเป็นพยาน มีนาย Anthony Cordesman มาด้วย
    นาย Cordesman ให้การว่า
    “…. จรวดนำวิถี ballistic missile ไม่ได้แยกส่วน หรือเป็นส่วนเสริม ของอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่เป็นส่วนหนึ่ง it is not a seperate and secondary but part and parcel ระยะยิงของจรวดพวกนี้ ไม่ใช่แค่ในตะวันออกกลาง แต่สามารถยิงไปไกลได้ถึงตอนใต้ของรัสเซียและยุโรป…ระบบนี้ อิหร่านได้รับความช่วยเหลือจากเกาหลีเหนือ นักวิเคราะห์บอกว่า ระบบนี้ก็เหมือนเป็นการทดสอบ สำหรับประเทศที่ต้องการใช้อาวุธนิวเคลียร์
    ….. อิหร่านได้ส่งจรวดพวกนี้ ไปให้กลุ่ม Hezbullah และ Hamas ใช้ที่ฉนวนกาซ่า Hamas ใช้ไปแล้ว ประมาณ 3 พัน ถึง 1 หมื่นลูก ”
    “… ยังไม่มีประเทศไหน ที่ไม่ต้องการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แล้วดันลงทุนในโครงการจรวดที่มีอานุภาพสูง และใช้ทุนมหาศาลขนาดนี้เลย สมาชิกสภา Ed Royce รำพึง…”
    และข้อมูลเหล่านี้ ยังไม่เคยเข้ามาพิจารณาในรัฐสภาเลย
    ตกลง พณฯใบตองแห้ง กำลังเล่นอะไร โง่และเซ่อ อย่างที่มีเสียงด่าข้ามทวีปมา หรืออเมริกากำลังบอกว่า จำไม่ได้หรือ หนังฮอลลีวู้ดเป็นอย่างไร
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    6 ก.ค. 2558
    I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 3 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 3 คงจำกันได้ เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา อเมริกา โดย พณฯใบตองแห้ง จัดใหญ่แถลงการณ์ว่า เราตกลงเลือกกรอบการเจรจากับอิหร่านเรียบร้อยแล้ว (รายละเอียดในนิทานเรื่อง “ข้อสอบรั่ว”) ตีปิ๊บซะตื่นเต้นกันไปหมด วันเดียวกันนั้น นาย Richard Hass ผู้อำนวยการใหญ่ของถังขยะความคิด Council on Foreign Relation หรือ CFR ที่เข้าใจว่า ใหญ่กว่ารัฐบาลของอเมริกา ท่านดิ๊ก Richard ก็ออกความเห็นทันทีไม่รอช่า เขียนเองอีกด้วย ไม่ใช้เด็ก แปลว่า เรื่องนี้สำคัญ ต้องปั่น หรือ ปั้นกับมือเอง ท่านดิ๊ก เริ่มต้นได้หยดย้อย ..แบบฝรั่งจ๋า There’s many a slip twixt the cup and the lip” เป็นอะไรที่เหมือนกับว่าสำเร็จแล้ว แต่ความจริง ยังไม่ใช่ ท่านดิ๊กว่าอย่างนั้น แต่ลุงนิทานแปลเองว่า .. ปากจะถึงถ้วยอยู่รอมร่อ แต่ดันหกเสียก่อน..แปลสั้นๆอีกที ว่า อ ด ท่านดิ๊กบอกว่า ข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบการเจรจาเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์โปรแกรม จะเป็นการสร้างเหตุการณ์สำคัญทางด้านการเมืองและการทูต ที่มีรายละเอียดมากมาย กว้างขวางในบริบทต่างๆ เกินกว่าที่คาดกัน…. เริ่มแบบนี้ แปลว่า คงมีใครเหยียบเปลือกกล้วย หงายท้องไปแล้ว แต่จะถึงขนาดทำปืนลั่นใส่หัวแม่ตีนตัวเองหรือเปล่า ต้องตามอ่านบทความของท่านดิ๊กต่อไป …กรอบที่ตกลงกัน สร้างคำถามคาใจไม่น้อยกว่าคำตอบที่ได้มา และยังมีเรื่องค้าง ที่ยังต้องทำอยู่อีกมากมาย จริงๆ แล้ว ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง …ไม่รู้ว่าท่านดิ๊กเหน็บใคร ดันจัดงานแถลงซะใหญ่โตเหมือนกับเจรจาสำเร็จแล้วยังงั้น แหล่ะ เป็นครั้งแรก ที่ผมเห็นด้วยกับไอ้ถังขยะความคิด ช่วยกลับไปอ่านนิทานเรื่อง “ข้อสอบรั่ว” หน่อยนะครับ … กรอบที่ตกลง มีข้อกำหนดห้ามอิหร่านมากมายเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ มีข้อกำหนดมาตรฐานการตรวจสอบว่า อิหร่านทำตามที่ตกลงกันหรือไม่ และมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการ “ผ่อนคลาย” เรื่องการคว่ำบาตรทางเศรษฐกืจ เมื่อตรวจสอบและพิสูจน์ได้แล้วว่า อิหร่านทำตามข้อตกลง …ในการเจรจา ได้มีประเมินกันว่า เราจะมีระยะเวลาในการเตือน 1 ปี นับแต่วันที่อิหร่านตัดสินใจ ที่จะสร้างอาวุธนิวเคลียร์สักลูก จนถึงสร้างสำเร็จ ระยะเวลาดังกล่าวเป็นไปตามข้อสันนิษฐานว่า จากการเฝ้าติดตามอิหร่านอย่างใกล้ชิด เราจะพบการไม่ปฏิบัติตามข้อสัญญาได้เร็วพอ ที่จะระงับการดำเนินการของอิหร่าน และโดยเฉพาะ จะทำให้เรากลับไปใช้การคว่ำบาตรอิหร่านได้ใหม่ “ก่อน” ที่อิหร่านจะสร้างนิวเคลียร์ ตามข้อสมมุติฐานนี้สำเร็จ.... ข้อนี้ ท่านดิ๊ก เขียนได้เยี่ยมครับ ให้เห็นความโง่ของผู้เจรจา และผู้ตกลง ฝ่ายที่ไม่ใช่อิหร่าน ชัดเจนว่า ด่ากันเอง มันดีนะครับ … ท่านดิ๊กบอกว่า มีไม่น้อยกว่า 5 เหตุผล ที่การตกลงกับอิหร่าน ท้ายที่สุด จะไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้น แต่ไม่ได้ผลตามที่ต้องการ … นี่ใบ้หวยหรือไง ข้อแรก ระหว่างเวลา 90 วัน นับแต่เดือนเมษายนถึงสิ้นเดือน มิถุนายน อะไรก็เกิดขึ้นได้ การเปลี่ยนใจ เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนตัวผู้เจรจา การถูกกดดันจากรัฐบาลของตน แค่ตอนนี้ ความไม่เห็นพ้องกัน ระหว่างอเมริกากับอิหร่าน ก็มากมายกองสูงท่วมหัวแล้ว ข้อสอง เรื่องค้างที่สำคัญ คือเรื่องกำหนดเวลายกเลิกการคว่ำบาตร เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับฝ่ายอิหร่าน ขณะเดียวกัน เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่ใช้ในการเจรจาต่อรองกับอิหร่าน พูดชัดๆ ว่าฝ่ายอเมริกาและยุโรป ยังไม่อยากยกเลิกการคว่ำบาตรให้อิหร่าน จนกว่า “จะแน่ใจ” ว่า อิหร่านปฏิบัติตามเงื่อนไขครบถ้วน ….. อืม ….อิหร่านคงเข้าใจความนัยนี้แล้ว ข้อสาม เรื่องที่ห่วงกันคือ พวกยึดแน่นกับหลักการ หรือพวกเข้มข้นของทั้ง 2 ฝ่าย เช่นทางอิหร่าน คงไม่อยากให้อิหร่านเจรจากับ “ซาตานอเมริกา” ส่วนทางอเมริกา ก็ใช่ว่า สภาสูงจะเอาด้วย ตอนนี้ก็พูดกันไปทั่วแล้วว่า เหมือนปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยอิหร่านไว้กับนิวเคลียร์ ที่ความสามารถในการติดตาม การตรวจสอบ ยังไม่เป็นที่แน่ใจ ปล่อยไปเรื่อยๆ อีก 15, 20 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องใครก็ให้ความมั่นใจไม่ได้… พณฯใบตองแห้ง ได้ยินนะครับ ถูกลูกน้อง จริงๆ ก็คือลูกพี่ สั่งสอนให้แล้ว ข้อสี่ อิหร่านจะปฏิบัติกับข้อตกลงนี้อย่างไร ที่ผ่านมา อิหร่านมีประวัติเสีย ในการไม่ให้ข้อมูลสำคัญ หรือที่เกี่ยวข้อง ขนาดผู้ตรวจสอบของสหประชาชาติลงบันทึกไว้ในสมุดความประพฤติของอิหร่านแล้ว … นี่มันดูถูกซ้ำซาก อิหร่านรับได้หรือครับ ขอเสี้ยมหน่อย ข้อที่ห้า มาจากนโยบายด้านการต่างประเทศ และความมั่นคงของอิหร่านเอง ที่ทางอเมริกาไม่เห็นด้วย และเพื่อนฝูงในตะวันออกกลางก็แหยงกับการกระทำของอิหร่าน ที่สนับสนุน ซีเรีย อืรัค เยเมน รวมทั้งที่อื่นๆในตะวันออกกลาง …ท่านดิ๊กบอกว่า อิหร่านมีอนาคตไปได้ไกลถึงเป็นจักรวรรดิ ที่หวังจะเป็นประเทศมหาอำนาจ ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคของตัว แม้ข้อตกลงนิวเคลียร์นี้จะเกิดขึ้น ก็ไม่ทำให้ความเป็นไปได้ดังกล่าวเปลี่ยนแปลง อาจจะเลวร้ายลงไปด้วยซ้ำ เพราะอิหร่านอาจเลือกกลับมาสร้างอาวุธนิวเคลียร์ต่อได้ อย่างไม่ยากเย็นอะไร (โดยเราไม่รู้ตัว) … โอบามาทำถูกแล้ว ที่เจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ ตามแนวที่กำลังคุยกัน ยังดีกว่าให้อิหร่านมีนิวเคลียร์ หรือทำสงคราม เพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านสร้างนิวเคลียร์ แต่ข้อตกลงดังกล่าว ต้องสร้างความเชื่อมั่น ให้อเมริกาและตะวันออกกลาง ให้ได้ว่า ได้มีการป้องกันอย่างรอบคอบแล้ว และถ้ามีการเบี้ยว หรือขี้โกง สิ่งเหล่านี้จะถูกจับได้ และจัดการได้อย่างเด็ดขาด …นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย และจริงๆแล้ว มันไม่เกินไปหรอก ถ้าจะบอกว่า การสร้างความมั่นใจดังว่านั้น ต้องใช้ความพยายามไม่น้อยกว่า การเจรจาให้อิหร่านตกลงด้วยซ้ำ…. คุณดิ๊ก นี่ไม่เบาเลย ตกลงนี่ กำลังหลอกด่าประธานาธิบดี ตัวเองหรือไงว่า ไปโง่ให้เหนื่อยทำไม ผลสุดท้าย เจรจากับอิหร่านสำเร็จหรือไม่ ปลายทางก็คงไม่ต่างกัน …,,หรือว่า พณฯใบตองแห้ง ก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ไปก่อน เพราะทางออกอื่นยังสร้างไม่เสร็จ ก็ต้องเล่นบทตีหน้าซื่อ หรือเซ่อ … หลอกอิหร่าน หลอกโลกไปก่อน ############### นิทานเรื่องจริง เรื่อง” I will walk away….พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 4 ตกลง พณฯใบตองแห้ง คิดเรื่องอิหร่านอย่างไรกันแน่ อยากเจรจาต่อ หรืออยากเลิกเจรจา ยิ่งถังขยะความคิด CFR ผู้กำกับรัฐบาลอเมริกันตัวจริง ออกมาเขียนตีปลาหน้าไซอย่างนี้ เราๆชาวบ้าน สมันน้อย ไม่ว่าจะอยู่แดนสยาม หรือแดนเนรมิตรที่ไอ้นักล่าใบตองแห้งสร้างหลอกเอาไว้ จะเข้าใจไหม ว่าเขากำลังเล่นอะไรกัน นอกจาก CFR จะออกมาชี้เปลือกกล้วย ที่มีใครเหยียบจนลื่นหงายท้อง เสียท่าไปแล้ว ถังขยะความคิดอีกใบ ที่มีเสียงดังไม่น้อยเหมือนกัน คือ Center for Strategic & International Studies (CSIS) ได้ออกรายงาน เมื่อวันที่ 30 มีนาคม อย่างกับนัดกัน กับ CFR เรื่อง Judging a P5+1 Nuclear Agreement with Iran: The Key Criteria เขียนโดย Anthony Cordesman ตัวหัวหน้าใหญ่ ลงมือเขียนเองอีกเหมือน นาย Cordesman เขียนเสียยาว บรรยายอย่างละเอียด ถึงการเจรจา ผมขอเล่าแต่สรุปตอนท้ายของเขา ซึ่งน่าจะทำให้เราเห็นอะไรบางอย่าง เขาบอกว่า …. ข้อตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธ ต้องอยู่บนหลักการ ที่เป็นความความเชื่อใจ แต่ตรวจสอบพิสูจน์ได้ ” trust but verify” โดยให้น้ำหนัก ความเชื่อใจที่ 1% และเน้นการตรวจสอบที่พิสูจน์ได้ 99 % จากการวิเคราะห์ที่บรรยายในเอกสาร ไม่มีทางที่จะเอาความเชื่อใจอย่างเดียวมาใช้ในการตรวจสอบอาวุธของอิหร่านที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น นี่จะเป็นข้อพิสูจน์ว่า การตกลงจะมีขึ้นได้ หรือจะเลื่อนออกไป หรือการเจรจาล้มเหลวจบสิ้น แล้วการเจรจาก็ต้อง เลื่อนออกไปจริงๆ… นอกจาก ได้รับการเคาะตาตุ่ม จากถังขยะความคิดใบใหญ่ 2 ใบแล้ว พณฯ ใบตองแห้งยังโดนยำเสียเละ จากฝ่ายรัฐสภา ที่ปล่อยข่าวออกมาให้เป็นหนังตัวอย่าง เพราะเรื่องของอิหร่าน รัฐบาลยังไม่ได้ส่งเข้าไปให้พิจารณา ดูหนังตัวอย่างม้วนนี้กันหน่อย เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการย่อย ด้านตะวันออกกลาง และอาฟริกาเหนือ ได้จัดให้มีการประชุมหารือ โดยมีสมาชิกสภา Ileana Ros-Lehtinen เป็นประธาน ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมหลายคน หนี่งในนั้นคือ นาย Anthony Cordesman ที่ประชุมสรุปว่า การเจรจากับอิหร่านที่กำลังดำเนินอยู่คือ เส้นทางสู่ความหายนะ โดยสรุปเรื่องที่หารือกัน 5 ข้อ ข้อ 1. เด็กๆ ในตะวันออกกลาง ที่อยู่ในคอกอเมริกา กำลังว้าวุ่นว่าจะพึ่งอเมริกาได้แค่ไหน ตั้งแต่มีเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ พวกเขาบางราย ถึงกับจะหันไปขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือ ข้อ 2. เด็กๆ ในภูมิภาค ต่างไม่อยากเหลือเป็นรายสุดท้าย ที่ไม่มีของเล่นเป็นอาวุธนิวเคลียร์ เราคงไม่อยากเห็น รัสเซียคุยกับจอร์แดน หรืออียิปต์ เพื่อจะสร้างนิวเคลียร์ หรือเราคงไม่อยากให้ซาอุดิวิ่งไปหาจีนเรื่องนิวเคลียร์ ข้อ 3. อิหร่าน บอกมาเป็นเวลานานมากแล้วว่า เขาอยากจะทำโครงการนิวเคลียร์ ตอนนี้เขากำลังเจรจากับอเมริกาว่าเ ขาจะไม่ทำต่อแล้ว แต่เขายังจะทำโครงการจรวดต่อ … มันเป็นโครงการต่อเนื่องกัน เลิกโครงการนึง ก็ต้องเลิก อีกอันด้วย สิ่งที่เขาพูด กับที่เขาทำมันขัดกัน ข้อ 4. อิหร่านบอกว่า เขาสนใจที่จะเดินหน้าโครงการอวกาศ แต่เทคโนโลยีที่ใช้ในโครงการอวกาศส่วนใหญ่ มันก็เป็นรายการเดียวกับการทำจรวดวิถีไกล ถ้าอิหร่านจะซ่อนสักนิด อิหร่านก็สร้างจรวดวิถีไกลได้โดยไม่มีใครรู้ ข้อ 5. ตอนนี้อิหร่าน มีจรวดวิถีใกล้ และกลาง เรียบร้อยแล้ว และส่งให้ กลุ่ม Hezbullah กับกลุ่ม Hamas ใช้ไปแล้ว ทำให้อิสราเอลกำลังปวดกระบาล นี่ถ้าอิหร่าน มีจรวดวิถีไกลด้วย คนปวดกระบาลคือเรา อเมริกา อิหร่านโจมตีเราได้ โดยไม่ต้องย้ายพุงข้ามเขตแดนเขาออกมาเลยแม้แต่นิ้วเดียว นอกจากนี้ นาย Ed Royce ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการของรัฐสภา ด้านกิจการต่างประเทศ House Commitee on Foreign Affairs ซึ่งร่วมประชุมในโอกาสเดียวกันยังบอกว่า… ในหลายๆทาง การเจรจากับอิหร่าน เป็นกรณีศึกษาให้เห็นว่า รัฐบาลโอบามาดำเนินการเจรจากับอิหร่าน โดยไม่สนใจกับความเห็น หรือความต้องการของฝ่ายอื่นเลย เช่น เมื่อคณะกรรมาธิการแจ้งกับรัฐบาลไปว่า ต้องเอาเรื่องจรวดนำวิถีเข้าไปร่วมพิจารณาในการเจรจาด้วย แต่ปรากฏว่า ไม่อยู่ในกรอบการเจรจา แถมผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ส่งเสียงข้ามทวีปบอกว่า ตะวันตกโง่และเซ่อมาก ที่คิดว่าอิหร่านจะลดการผลิตจรวดนำวืถีด้วย คณะกรรมาธิการไม่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งของอิหร่าน ขอโวยกลับ …. จรวดนำวิถี เป็นหัวรบของอาวุธนิวเคลียร์ ไม่นับรวมได้ยังไง วันนี้ เราได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้การเป็นพยาน และในจำนวนผู้ที่ถูกเรียกให้มาเป็นพยาน มีนาย Anthony Cordesman มาด้วย นาย Cordesman ให้การว่า “…. จรวดนำวิถี ballistic missile ไม่ได้แยกส่วน หรือเป็นส่วนเสริม ของอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่เป็นส่วนหนึ่ง it is not a seperate and secondary but part and parcel ระยะยิงของจรวดพวกนี้ ไม่ใช่แค่ในตะวันออกกลาง แต่สามารถยิงไปไกลได้ถึงตอนใต้ของรัสเซียและยุโรป…ระบบนี้ อิหร่านได้รับความช่วยเหลือจากเกาหลีเหนือ นักวิเคราะห์บอกว่า ระบบนี้ก็เหมือนเป็นการทดสอบ สำหรับประเทศที่ต้องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ….. อิหร่านได้ส่งจรวดพวกนี้ ไปให้กลุ่ม Hezbullah และ Hamas ใช้ที่ฉนวนกาซ่า Hamas ใช้ไปแล้ว ประมาณ 3 พัน ถึง 1 หมื่นลูก ” “… ยังไม่มีประเทศไหน ที่ไม่ต้องการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แล้วดันลงทุนในโครงการจรวดที่มีอานุภาพสูง และใช้ทุนมหาศาลขนาดนี้เลย สมาชิกสภา Ed Royce รำพึง…” และข้อมูลเหล่านี้ ยังไม่เคยเข้ามาพิจารณาในรัฐสภาเลย ตกลง พณฯใบตองแห้ง กำลังเล่นอะไร โง่และเซ่อ อย่างที่มีเสียงด่าข้ามทวีปมา หรืออเมริกากำลังบอกว่า จำไม่ได้หรือ หนังฮอลลีวู้ดเป็นอย่างไร สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 6 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
  • I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 1 – 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ”
    ตอน 1
    เดือนกรกฏา มาถึงแล้ว ถึงไม่เรียกก็มา ไม่อยากให้มา ก็มาถึงอยู่ดี
    สำหรับผู้ที่สนใจติดตามชะตาโลก เดือนนี้ไม่ติดตามไม่ได้เพราะเป็นเดือนที่จะมีการตัดสินใจ สำคัญหลายเรื่อง แต่ละเรื่องจะกระทบเฉพาะถิ่นของที่ผู้ตัดสินใจหรืออาจจะกระเทือนไปไกลค่อนโลกก็เป็นได้
    สำหรับชาวกรีก จะตัดสินใจตัดโซ่ แหกคอก หรือตายซากคาคอก วันที่ 5 กค นี่คงรู้กัน แต่คงยังไม่จบกัน หนังมาเป็นตอน เล่นยาวเป็นซีซั่น ซีซั่นนี้ จะจบแบบไหนต้องลุ้นกันหน่อย อย่าให้หนังขาด หรือเลิกเล่นกันหมดก็แล้วกัน
    ส่วนชาวอิหร่าน วันที่ 7 กค. นี้ การเจรจาที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี ของ Iran Nuclear Deal ที่เลื่อนวันเส้นตายมาจาก 30 มิย. มาเป็น 7 กค. จะเจรจาจบไหม หรือจะเลื่อนเส้นให้ตายช้าต่อไปอีก อิหร่านพร้อมจะยกเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการยกเลิกการคว่ำบาตรของอเมริกากับพวกหรือไม่ อเมริกาพร้อมจะยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านแน่จริงหรือไม่
    เรื่องอิหร่านเป็นเรื่องใหญ่ ผลกระทบอาจไปไกล และแรง
    นอกจากเรื่องใหญ่ๆ 2 เรื่อง ยังมีเรื่องนิดเรื่องหน่อย ที่จะทยอยเกิดขึ้น เดือนนี้คงได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นเป็นระลอก เป็นเหตุการณ์ ที่อาจจะมีผลกระทบกับความเป็นไปในโลก เปลี่ยนแปลง จนเราตามกันแทบไม่ทัน หรือตามทันรู้ แต่ไม่เข้าใจเหตุ
    เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเส้นตาย ว่าการเจรจากับอิหร่านเรื่องพัฒนา นิวเคลียร์ ต้องตกลงกันให้เสร็จสิ้น ปรากฏว่า ตกไม่ลง ค้างเติ่ง ต้องเลื่อนเวลา แต่ที่น่าสนใจ นายโอบามา ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ ให้เริ่มและลุ้น การเจรจานี้มาตลอดเวลา ดันทำหน้าเฉย ให้สัมภาษณ์สื่อ แถมส่งเสียงเหมือนขู่….
    ” I will walk away” … ขึ้นต้น ยังกะเพลงรักหักอก ตอนพระเอกกำลังจะทิ้งนางเอก จะแค่หันหลังเดินออกประตูไป หรือจะถึงขนาดมีการตบตีส่งท้าย
    …. ถ้าอิหร่านไม่เจรจาตามกรอบ ที่ตกลง ที่เมืองโลซานน์ เมื่อเดือน เมษายน ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ มันจะเป็นปัญหา เพราะผมบอกตั้งแต่เริ่มเจรจาแล้วว่า ผมจะเลิกเจรจา ถ้ามันกลายเป็นข้อตกลงที่ห่วย …
    I have said from the start I will walk away from negotiations if, in fact, it’s a bad deal…”
    ข่าวบอกว่า คำขู่ฟ่อ ของพณฯใบตองแห้ง เป็นการตอบโต้ คำคัดค้านของท่านผู้นำสูงสุดของอิหร่าน Ayatollah Ali Khamenei ที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการตรวจสอบการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่จะปฏิบัติเสมือนเป็นการรุกล้ำอิหร่าน
    แต่ พณฯใบตองแห้งยืนยัน
    “…จากพฤติกรรมที่ผ่านมาของอิหร่าน ไอ้ที่จะมีแค่คำแถลงของอิหร่าน และมีคนมาเดินไป เดินมา ตรวจสอบแบบนานๆทีมา อย่างนั้น คงไม่ได้ … มันต้องมีกระบวนการที่เข้มงวด เอาจริงเอาจัง มาทำการตรวจสอบอย่างพิสูจน์ได้ และผมคิดว่า นั่นจะเป็นการทดสอบว่า เราตกลงกันได้จริงหรือไม่
    ..Given past behavior on the part of Iran, that simply can’t be a declaration by Iran and a few inspectors wandering around every once in a while … that’s going to have to be serious, rigorous verification mechanism. And that, I think, is going to be the test as to whether we get a deal or not…. ”
    พณฯใบตองแห้งเล่นอิหร่านแรงนะ แล้วแบบนี้ มันคุยกันรู้เรื่องจริงหรือ ผมรู้สึกหวั่นใจแทนจัง
    ฝ่ายอิหร่านบอก เราเดินตามกรอบของโลซานน์นะ ไม่ได้ใช้กรอบอื่นเลย เราว่า อเมริกาต่างหากที่ต้องการเปลี่ยนกรอบ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน Mohammad Javad Zarif บินกลับมาเวียนนา หลังจากบินกลับไปที่เตหะรานเพื่อไปหารือบางประเด็น เขาบอกว่า .. ผมไม่ได้ไปขอรับคำสั่งในการตกลงจากประมุขประเทศ ผมได้รับอนุญาตเต็มใบในการเจรจาอยู่แล้ว ผมกลับมาเวียนนาเพื่อมาเจรจาขั้นสุดท้าย ซึ่งเราน่าจะทำสำเร็จ
    นาย Zarif ไม่ได้กลับมาคนเดียว เขามาพร้อมกับ Ali Akbar Salehi หัวหน้าใหญ่ขององค์การ Atomic Energy ของอิหร่าน Salehi ซึ่งเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด .,,แปลว่าอิหร่านเอาจริงกับการเจรจาใช่ไหม ไม่งั้นไม่หอบเอาคนป่วยมาด้วยหรอก นาย Zarif บอกกับนักข่าว
    ข่าวบอกว่า คณะเจรจาโดยเฉพาะอเมริกา ต้องการให้การเจรจาเสร็จต้นเดือนนี้ เพื่อส่งเรื่องให้ฝ่ายรัฐสภาพิจาร ณา ให้เสร็จภายในเวลา 30 วัน ถ้าส่งช้ากว่านั้น สภาปิดไปแล้ว ฝ่ายรัฐสภาจะมีเวลาพิจารณา เพิ่มขึ้นเป็น 60 วัน แถมมีเวลาในการหว่านล้อมเสียง ฝ่ายที่เห็นต่างกันอีกด้วย... นี่ ก็เหมือนอเมริกาเอาจริงนะ ถูกใจ ก็ให้สภาผ่าน ไม่ถูกใจ สภาก็ไม่ผ่านให้….เล่นไม่ยาก
    ###############
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”

    ตอน 2
    ในการประชุมที่โลซานน์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างอิหร่าน กับ กลุ่มที่เรียกว่า P5+1 (อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน + เยอรมัน) เป็นการกำหนด
    ” กรอบ การดำเนินการ” สำหรับทั้งด้านอเมริกา และอิหร่าน
    การดำเนินการที่สำคัญ ประการหนึ่งคือ กระบวนการยกเลิก sanction การคว่ำบาตรอิหร่าน คว่ำมานานหลายสิบปี จนนึกวิธีหงายไม่ออกว่าจะต้องทำยังไงบ้าง แสดงว่าคนช่วยคว่ำคงแยะ และการคว่ำคงมีสาระพัดวิธี
    คุยกันเรื่องนี้ ตั้งแต่โลซานน์มาถึงเวียนนาว่า จะต้องมีการประกาศ (Declaration) เมื่อตกลงกันได้แล้ว โดยไม่มีการลงนามพันธสัญญา หลังจากนั้น ทุกฝ่ายก็จะให้ UN Security Council (UNSC) เป็นผู้ประทับตรารับรองการประกาศ และก็ออกมติที่จะทำให้การคว่ำบาตร ไม่มีผลใช้บังคับอีกต่อไป ส่วนถ้อยคำของตัวมตินี่ ยังเจรจากันอยู่
    และเป็นเรื่องที่เสียวไสว่า กว่าจะเจรจาจบ คนเจรจาคงหืดขึ้นคอ หรือเจรจาไม่จบ เพราะพระเอกเล่นร้องเพลงลา... ล่วงหน้า
    ทุกฝ่าย ยกเว้นรัฐบาลของพณฯใบตองแห้ง ต้องการให้ส่งเรื่องไปที่ UNSC เร็วที่สุด แตอเมริกายังสงวนท่าที ไม่มีคำตอบให้
    ผู้เจรจาฝ่ายอิหร่านบอกอย่างชัดเจนระหว่างการเจราว่า อิหร่าน จะเริ่มดำเนินการตามข้อตกลงเกี่ยว กับนิวเคลียร์ทันที รื้อถอนเครื่องแยก รื้อถอนเครื่องปฏิกรณ์ ทำลายสต๊อกแร่ยูเรเนียม รื้อมันหมดทุกอย่าง ฯลฯ ทันที และให้ไอ้เอกับอีเอ IAEA มาตรวจสอบทันที ว่าอิหร่านปฏิบัติตามรายการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
    แต่ทั้งหมดข้างต้น ต้องทำควบคู่ไปกับขบวนการยกเลิก การคว่ำบาตร โดยอเมริกาและอียู จะต้องลงมือไปพร้อมกันว่า ได้จัดการหงายบาตรของใคร ที่ไหน อย่างไรแล้ว และ ต้องให้ UNSC ประทับตรารับรองการกระทำด้วย มันถึงจะเป็นธรรม จะให้ด้านหนึ่งทุบทิ้ง แต่อีกด้านยืนอมยิ้มกอดอกเฉยได้ไง
    ที่บรรยายมาทั้งหมดเข้างต้น เป็นเรื่องที่ได้ “ตกลงกันไปแล้ว” ที่โลซานน์ ระหว่างนาย Zarif รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกับคุณสาวน้อย Federica Mogherini ผู้แทนของอียู….
    แต่แล้วก็ข่าวรั่วเกี่ยวกับเรื่องกรอบ สวย ไม่สวยขนาดไหน ใครต้องการให้ชัดเจนอย่างไร อย่างที่เล่าข้างต้น สื่อเข้ามาช่วยปั่น แถมเพิ่มสีให้น่าตื่นเต้น อันที่จริงไม่ต้องเพิ่มก็น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว ถ้าคิดให้ลึกๆ ยิ่งคิด โต๊ะเจรจาก็ยิ่งสั่น โดยเฉพาะมีความเห็นแย้งจากมุมมอง ด้านกองทัพ possible military dimensions (PMD) ที่สะท้อนกลับ …. แล้วนี่จะพิสูจน์อย่างไร หากตกลงกันเรียบร้อยว่า ให้อิหร่านพัฒนาอะไรได้บ้าง สิ่งที่อิหร่าน “จะไปพัฒนาต่อ” มันจะกลายเป็นอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ เขาว่าไม่ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ใหญ่ ก็พอนึกออกว่า มันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก กว่าจะพิสูจน์ได้ โน่นแนะ ดอกเห็ดงอกขึ้นมาแล้ว ทำนองนั้น…. เฮ้ย… แบบนี้ก็ต้องรีบขยายเวลาเจรจาสินะ ให้จบแบบนี้ไม่ได้…
    อ้อพอเข้าใจแล้ว
    แต่ข่าวได้ฟุ้งกระจายเรียบร้อย ไปทั่วสถานที่เจรจา Palais Coburg เวียนนา ว่า ขณะนี้ พณฯใบตองแห้ง ชักลังเลที่จะยกเลิกการคว่ำบาตร…..สงสัยสถานการณ์เปลี่ยน แผนเจรจาเลยอาจต้องเปลี่ยน ตอนนี้คนที่หน้าเครียด เดินเข้าไปจับเข่าคุยทีละข้าง กับเจ้าของเข่าที่ละคน คือ นายKerry รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ไร้เสน่ห์ในการเจรจาอย่างที่สุดนั่นเอง แล้วมันจะคุยสำเร็จละหรือ
    อย่าลืมว่า ใน P5+1 มีรัสเซียกับจีน ที่รู้ๆ กันอยู่ว่า จับมือจับไม้เห็นใจอิหร่านมานานแล้ว และนอกจากจับมือแล้ว ดูเหมือนจะส่งหีบห่อไปช่วยเหลืออิหร่านสาระพัด แถมเมื่อเร็วๆนี้ ยังมีข่าวว่า จะรับอิหร่านเป็นสมาชิกก่อต้ัง ไอ้อิบ AIIB สถาบันการเงินที่กำลังหอมกรุ่น
    ยังไม่ถึงวันเส้นตาย ก็ต้องดื้นกันตายไปก่อน แล้วพณฯ ใบตองแห้ง ก็รีบหยิบบท ….I will walk away ออกมาครวญไปพลางๆ ระหว่างนี้ คุณไร้เสน่ห์ Kerry ก็สั่งเด็กๆ ให้ช่วยกันหาเหตุ ช่วยกันโหมหน่อย…. อิหร่านต่างหาก ที่ ทำท่าจะเบี้ยว เข้า
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    5 ก.ค. 2558
    I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ” ตอน 1 เดือนกรกฏา มาถึงแล้ว ถึงไม่เรียกก็มา ไม่อยากให้มา ก็มาถึงอยู่ดี สำหรับผู้ที่สนใจติดตามชะตาโลก เดือนนี้ไม่ติดตามไม่ได้เพราะเป็นเดือนที่จะมีการตัดสินใจ สำคัญหลายเรื่อง แต่ละเรื่องจะกระทบเฉพาะถิ่นของที่ผู้ตัดสินใจหรืออาจจะกระเทือนไปไกลค่อนโลกก็เป็นได้ สำหรับชาวกรีก จะตัดสินใจตัดโซ่ แหกคอก หรือตายซากคาคอก วันที่ 5 กค นี่คงรู้กัน แต่คงยังไม่จบกัน หนังมาเป็นตอน เล่นยาวเป็นซีซั่น ซีซั่นนี้ จะจบแบบไหนต้องลุ้นกันหน่อย อย่าให้หนังขาด หรือเลิกเล่นกันหมดก็แล้วกัน ส่วนชาวอิหร่าน วันที่ 7 กค. นี้ การเจรจาที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี ของ Iran Nuclear Deal ที่เลื่อนวันเส้นตายมาจาก 30 มิย. มาเป็น 7 กค. จะเจรจาจบไหม หรือจะเลื่อนเส้นให้ตายช้าต่อไปอีก อิหร่านพร้อมจะยกเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการยกเลิกการคว่ำบาตรของอเมริกากับพวกหรือไม่ อเมริกาพร้อมจะยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านแน่จริงหรือไม่ เรื่องอิหร่านเป็นเรื่องใหญ่ ผลกระทบอาจไปไกล และแรง นอกจากเรื่องใหญ่ๆ 2 เรื่อง ยังมีเรื่องนิดเรื่องหน่อย ที่จะทยอยเกิดขึ้น เดือนนี้คงได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นเป็นระลอก เป็นเหตุการณ์ ที่อาจจะมีผลกระทบกับความเป็นไปในโลก เปลี่ยนแปลง จนเราตามกันแทบไม่ทัน หรือตามทันรู้ แต่ไม่เข้าใจเหตุ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเส้นตาย ว่าการเจรจากับอิหร่านเรื่องพัฒนา นิวเคลียร์ ต้องตกลงกันให้เสร็จสิ้น ปรากฏว่า ตกไม่ลง ค้างเติ่ง ต้องเลื่อนเวลา แต่ที่น่าสนใจ นายโอบามา ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ ให้เริ่มและลุ้น การเจรจานี้มาตลอดเวลา ดันทำหน้าเฉย ให้สัมภาษณ์สื่อ แถมส่งเสียงเหมือนขู่…. ” I will walk away” … ขึ้นต้น ยังกะเพลงรักหักอก ตอนพระเอกกำลังจะทิ้งนางเอก จะแค่หันหลังเดินออกประตูไป หรือจะถึงขนาดมีการตบตีส่งท้าย …. ถ้าอิหร่านไม่เจรจาตามกรอบ ที่ตกลง ที่เมืองโลซานน์ เมื่อเดือน เมษายน ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ มันจะเป็นปัญหา เพราะผมบอกตั้งแต่เริ่มเจรจาแล้วว่า ผมจะเลิกเจรจา ถ้ามันกลายเป็นข้อตกลงที่ห่วย … I have said from the start I will walk away from negotiations if, in fact, it’s a bad deal…” ข่าวบอกว่า คำขู่ฟ่อ ของพณฯใบตองแห้ง เป็นการตอบโต้ คำคัดค้านของท่านผู้นำสูงสุดของอิหร่าน Ayatollah Ali Khamenei ที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการตรวจสอบการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่จะปฏิบัติเสมือนเป็นการรุกล้ำอิหร่าน แต่ พณฯใบตองแห้งยืนยัน “…จากพฤติกรรมที่ผ่านมาของอิหร่าน ไอ้ที่จะมีแค่คำแถลงของอิหร่าน และมีคนมาเดินไป เดินมา ตรวจสอบแบบนานๆทีมา อย่างนั้น คงไม่ได้ … มันต้องมีกระบวนการที่เข้มงวด เอาจริงเอาจัง มาทำการตรวจสอบอย่างพิสูจน์ได้ และผมคิดว่า นั่นจะเป็นการทดสอบว่า เราตกลงกันได้จริงหรือไม่ ..Given past behavior on the part of Iran, that simply can’t be a declaration by Iran and a few inspectors wandering around every once in a while … that’s going to have to be serious, rigorous verification mechanism. And that, I think, is going to be the test as to whether we get a deal or not…. ” พณฯใบตองแห้งเล่นอิหร่านแรงนะ แล้วแบบนี้ มันคุยกันรู้เรื่องจริงหรือ ผมรู้สึกหวั่นใจแทนจัง ฝ่ายอิหร่านบอก เราเดินตามกรอบของโลซานน์นะ ไม่ได้ใช้กรอบอื่นเลย เราว่า อเมริกาต่างหากที่ต้องการเปลี่ยนกรอบ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน Mohammad Javad Zarif บินกลับมาเวียนนา หลังจากบินกลับไปที่เตหะรานเพื่อไปหารือบางประเด็น เขาบอกว่า .. ผมไม่ได้ไปขอรับคำสั่งในการตกลงจากประมุขประเทศ ผมได้รับอนุญาตเต็มใบในการเจรจาอยู่แล้ว ผมกลับมาเวียนนาเพื่อมาเจรจาขั้นสุดท้าย ซึ่งเราน่าจะทำสำเร็จ นาย Zarif ไม่ได้กลับมาคนเดียว เขามาพร้อมกับ Ali Akbar Salehi หัวหน้าใหญ่ขององค์การ Atomic Energy ของอิหร่าน Salehi ซึ่งเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด .,,แปลว่าอิหร่านเอาจริงกับการเจรจาใช่ไหม ไม่งั้นไม่หอบเอาคนป่วยมาด้วยหรอก นาย Zarif บอกกับนักข่าว ข่าวบอกว่า คณะเจรจาโดยเฉพาะอเมริกา ต้องการให้การเจรจาเสร็จต้นเดือนนี้ เพื่อส่งเรื่องให้ฝ่ายรัฐสภาพิจาร ณา ให้เสร็จภายในเวลา 30 วัน ถ้าส่งช้ากว่านั้น สภาปิดไปแล้ว ฝ่ายรัฐสภาจะมีเวลาพิจารณา เพิ่มขึ้นเป็น 60 วัน แถมมีเวลาในการหว่านล้อมเสียง ฝ่ายที่เห็นต่างกันอีกด้วย... นี่ ก็เหมือนอเมริกาเอาจริงนะ ถูกใจ ก็ให้สภาผ่าน ไม่ถูกใจ สภาก็ไม่ผ่านให้….เล่นไม่ยาก ############### นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 2 ในการประชุมที่โลซานน์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างอิหร่าน กับ กลุ่มที่เรียกว่า P5+1 (อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน + เยอรมัน) เป็นการกำหนด ” กรอบ การดำเนินการ” สำหรับทั้งด้านอเมริกา และอิหร่าน การดำเนินการที่สำคัญ ประการหนึ่งคือ กระบวนการยกเลิก sanction การคว่ำบาตรอิหร่าน คว่ำมานานหลายสิบปี จนนึกวิธีหงายไม่ออกว่าจะต้องทำยังไงบ้าง แสดงว่าคนช่วยคว่ำคงแยะ และการคว่ำคงมีสาระพัดวิธี คุยกันเรื่องนี้ ตั้งแต่โลซานน์มาถึงเวียนนาว่า จะต้องมีการประกาศ (Declaration) เมื่อตกลงกันได้แล้ว โดยไม่มีการลงนามพันธสัญญา หลังจากนั้น ทุกฝ่ายก็จะให้ UN Security Council (UNSC) เป็นผู้ประทับตรารับรองการประกาศ และก็ออกมติที่จะทำให้การคว่ำบาตร ไม่มีผลใช้บังคับอีกต่อไป ส่วนถ้อยคำของตัวมตินี่ ยังเจรจากันอยู่ และเป็นเรื่องที่เสียวไสว่า กว่าจะเจรจาจบ คนเจรจาคงหืดขึ้นคอ หรือเจรจาไม่จบ เพราะพระเอกเล่นร้องเพลงลา... ล่วงหน้า ทุกฝ่าย ยกเว้นรัฐบาลของพณฯใบตองแห้ง ต้องการให้ส่งเรื่องไปที่ UNSC เร็วที่สุด แตอเมริกายังสงวนท่าที ไม่มีคำตอบให้ ผู้เจรจาฝ่ายอิหร่านบอกอย่างชัดเจนระหว่างการเจราว่า อิหร่าน จะเริ่มดำเนินการตามข้อตกลงเกี่ยว กับนิวเคลียร์ทันที รื้อถอนเครื่องแยก รื้อถอนเครื่องปฏิกรณ์ ทำลายสต๊อกแร่ยูเรเนียม รื้อมันหมดทุกอย่าง ฯลฯ ทันที และให้ไอ้เอกับอีเอ IAEA มาตรวจสอบทันที ว่าอิหร่านปฏิบัติตามรายการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ แต่ทั้งหมดข้างต้น ต้องทำควบคู่ไปกับขบวนการยกเลิก การคว่ำบาตร โดยอเมริกาและอียู จะต้องลงมือไปพร้อมกันว่า ได้จัดการหงายบาตรของใคร ที่ไหน อย่างไรแล้ว และ ต้องให้ UNSC ประทับตรารับรองการกระทำด้วย มันถึงจะเป็นธรรม จะให้ด้านหนึ่งทุบทิ้ง แต่อีกด้านยืนอมยิ้มกอดอกเฉยได้ไง ที่บรรยายมาทั้งหมดเข้างต้น เป็นเรื่องที่ได้ “ตกลงกันไปแล้ว” ที่โลซานน์ ระหว่างนาย Zarif รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกับคุณสาวน้อย Federica Mogherini ผู้แทนของอียู…. แต่แล้วก็ข่าวรั่วเกี่ยวกับเรื่องกรอบ สวย ไม่สวยขนาดไหน ใครต้องการให้ชัดเจนอย่างไร อย่างที่เล่าข้างต้น สื่อเข้ามาช่วยปั่น แถมเพิ่มสีให้น่าตื่นเต้น อันที่จริงไม่ต้องเพิ่มก็น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว ถ้าคิดให้ลึกๆ ยิ่งคิด โต๊ะเจรจาก็ยิ่งสั่น โดยเฉพาะมีความเห็นแย้งจากมุมมอง ด้านกองทัพ possible military dimensions (PMD) ที่สะท้อนกลับ …. แล้วนี่จะพิสูจน์อย่างไร หากตกลงกันเรียบร้อยว่า ให้อิหร่านพัฒนาอะไรได้บ้าง สิ่งที่อิหร่าน “จะไปพัฒนาต่อ” มันจะกลายเป็นอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ เขาว่าไม่ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ใหญ่ ก็พอนึกออกว่า มันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก กว่าจะพิสูจน์ได้ โน่นแนะ ดอกเห็ดงอกขึ้นมาแล้ว ทำนองนั้น…. เฮ้ย… แบบนี้ก็ต้องรีบขยายเวลาเจรจาสินะ ให้จบแบบนี้ไม่ได้… อ้อพอเข้าใจแล้ว แต่ข่าวได้ฟุ้งกระจายเรียบร้อย ไปทั่วสถานที่เจรจา Palais Coburg เวียนนา ว่า ขณะนี้ พณฯใบตองแห้ง ชักลังเลที่จะยกเลิกการคว่ำบาตร…..สงสัยสถานการณ์เปลี่ยน แผนเจรจาเลยอาจต้องเปลี่ยน ตอนนี้คนที่หน้าเครียด เดินเข้าไปจับเข่าคุยทีละข้าง กับเจ้าของเข่าที่ละคน คือ นายKerry รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ไร้เสน่ห์ในการเจรจาอย่างที่สุดนั่นเอง แล้วมันจะคุยสำเร็จละหรือ อย่าลืมว่า ใน P5+1 มีรัสเซียกับจีน ที่รู้ๆ กันอยู่ว่า จับมือจับไม้เห็นใจอิหร่านมานานแล้ว และนอกจากจับมือแล้ว ดูเหมือนจะส่งหีบห่อไปช่วยเหลืออิหร่านสาระพัด แถมเมื่อเร็วๆนี้ ยังมีข่าวว่า จะรับอิหร่านเป็นสมาชิกก่อต้ัง ไอ้อิบ AIIB สถาบันการเงินที่กำลังหอมกรุ่น ยังไม่ถึงวันเส้นตาย ก็ต้องดื้นกันตายไปก่อน แล้วพณฯ ใบตองแห้ง ก็รีบหยิบบท ….I will walk away ออกมาครวญไปพลางๆ ระหว่างนี้ คุณไร้เสน่ห์ Kerry ก็สั่งเด็กๆ ให้ช่วยกันหาเหตุ ช่วยกันโหมหน่อย…. อิหร่านต่างหาก ที่ ทำท่าจะเบี้ยว เข้า สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 5 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 164 Views 0 Reviews
  • ครม.อนุมัติแมวไทย” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์เลี้ยง เพื่ออนุรักษ์รักษาสิทธิ์เพิ่มมูลค่าศก. , ครม.เห็นชอบตามมติ กอช. ให้แมวไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ หลังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และพันธุกรรมชี้ถึงความโดดเด่นของสายพันธุ์

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110190

    #แมวไทย #เอกลักษณ์ประจำชาติ #กระทรวงวัฒนธรรม #นโยบายรัฐบาล #เศรษฐกิจสร้างสรรค์ #News1live #News1
    ครม.อนุมัติแมวไทย” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์เลี้ยง เพื่ออนุรักษ์รักษาสิทธิ์เพิ่มมูลค่าศก. , ครม.เห็นชอบตามมติ กอช. ให้แมวไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ หลังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และพันธุกรรมชี้ถึงความโดดเด่นของสายพันธุ์ • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110190 • #แมวไทย #เอกลักษณ์ประจำชาติ #กระทรวงวัฒนธรรม #นโยบายรัฐบาล #เศรษฐกิจสร้างสรรค์ #News1live #News1
    Like
    Haha
    Yay
    6
    1 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
  • นายกฯสั่งทุกกระทรวงเดินหน้าข้อตกลงจีน หลังตามเสด็จฯเยือนเป็นทางการ สั่งเร่งกู้ระเบิดตามคำมั่นที่ให้ไว้ , นายอนุทินมอบหมายให้เร่งขับเคลื่อนความร่วมมือไทย-จีนทุกมิติ พร้อมกำชับหลายหน่วยงานเดินหน้าภารกิจที่ตกลงไว้ รวมถึงการเก็บกู้ทุ่นระเบิด

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110184

    #การเมืองไทย #ไทยจีน #อนุทิน #นโยบายรัฐบาล #ความมั่นคง #News1live #News1
    นายกฯสั่งทุกกระทรวงเดินหน้าข้อตกลงจีน หลังตามเสด็จฯเยือนเป็นทางการ สั่งเร่งกู้ระเบิดตามคำมั่นที่ให้ไว้ , นายอนุทินมอบหมายให้เร่งขับเคลื่อนความร่วมมือไทย-จีนทุกมิติ พร้อมกำชับหลายหน่วยงานเดินหน้าภารกิจที่ตกลงไว้ รวมถึงการเก็บกู้ทุ่นระเบิด • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110184 • #การเมืองไทย #ไทยจีน #อนุทิน #นโยบายรัฐบาล #ความมั่นคง #News1live #News1
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • จุลพันธ์ สรุปปัญหาทั้งหมด จุดเริ่มต้นจาก "การรัฐประหาร" การรื้อฟื้นคดีสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ต้นเหตุให้กระบวนการยุติธรรม ปม อสส. อุทธรณ์คดี ม.112 ทักษิณ
    https://www.thai-tai.tv/news/22434/
    .
    #ไทยไท #จุลพันธ์อมรวิวัฒน์ #อุทธรณ์คดี112 #การรัฐประหาร #นัยทางการเมือง #ทักษิณชินวัตร
    จุลพันธ์ สรุปปัญหาทั้งหมด จุดเริ่มต้นจาก "การรัฐประหาร" การรื้อฟื้นคดีสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ต้นเหตุให้กระบวนการยุติธรรม ปม อสส. อุทธรณ์คดี ม.112 ทักษิณ https://www.thai-tai.tv/news/22434/ . #ไทยไท #จุลพันธ์อมรวิวัฒน์ #อุทธรณ์คดี112 #การรัฐประหาร #นัยทางการเมือง #ทักษิณชินวัตร
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • Google และ Meta เลื่อนโครงการสายเคเบิลใต้น้ำในทะเลแดง

    Google และ Meta กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตระดับโลก หลังจากตัดสินใจเลื่อนการวางสายเคเบิลใต้น้ำในทะเลแดง ซึ่งเป็นเส้นทางที่สำคัญต่อการเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกา สาเหตุหลักมาจากความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การโจมตีด้วยขีปนาวุธและความไม่มั่นคงทางการเมืองในภูมิภาค

    ผลกระทบต่อการเชื่อมต่อโลก
    ทะเลแดงถือเป็นเส้นทางที่รับผิดชอบต่อการส่งผ่านข้อมูลอินเทอร์เน็ตถึง หนึ่งในห้าของการจราจรโลก การเลื่อนโครงการทำให้ข้อมูลต้องเบี่ยงเส้นทางไปยังเส้นทางที่ยาวกว่า เช่น รอบทวีปแอฟริกา ส่งผลให้เกิด ความหน่วง (latency) สูงขึ้น และเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทที่ต้องซื้อแบนด์วิดท์จากเส้นทางอื่นเพื่อรองรับความต้องการในระยะสั้น

    ต้นทุนและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
    การหยุดชะงักนี้ไม่เพียงแต่ทำให้บริษัทเทคโนโลยีสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากโครงสร้างพื้นฐานใหม่ แต่ยังทำให้ผู้ใช้งานในภูมิภาคที่พึ่งพาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงต้องเผชิญกับ ราคาที่สูงขึ้นและความเร็วที่ลดลง โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาในแอฟริกาและเอเชียที่ยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เสถียร

    ทางเลือกใหม่และความท้าทาย
    เพื่อรับมือกับความเสี่ยง บริษัทโทรคมนาคมและเทคโนโลยีเริ่มพิจารณาเส้นทางทางบกผ่านประเทศอย่าง บาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย และแม้กระทั่งอิรัก ซึ่งเดิมถูกมองว่าเสี่ยงและมีต้นทุนสูง แต่สถานการณ์ปัจจุบันทำให้เส้นทางเหล่านี้กลายเป็นทางเลือกที่จริงจังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเจรจาและการขออนุญาตจากรัฐบาลท้องถิ่นยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ

    สรุปสาระสำคัญ
    การเลื่อนโครงการสายเคเบิลใต้น้ำของ Google และ Meta
    โครงการ 2Africa และ Blue-Raman ถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด

    ทะเลแดงมีความสำคัญต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโลก
    รับผิดชอบต่อการจราจรข้อมูลถึง 20% ของโลก

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งานและบริษัทเทคโนโลยี
    เกิดความหน่วงสูงขึ้นและต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น

    ทางเลือกใหม่ในการเชื่อมต่อ
    เส้นทางทางบกผ่านบาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย และอิรักถูกพิจารณา

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในทะเลแดง
    มีรายงานการโจมตีด้วยขีปนาวุธและภัยจากกลุ่มติดอาวุธ

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
    ประเทศกำลังพัฒนาต้องเผชิญราคาสูงและความเร็วต่ำลง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/google-and-meta-delay-red-sea-cables-over-security-concerns
    🌊 Google และ Meta เลื่อนโครงการสายเคเบิลใต้น้ำในทะเลแดง Google และ Meta กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตระดับโลก หลังจากตัดสินใจเลื่อนการวางสายเคเบิลใต้น้ำในทะเลแดง ซึ่งเป็นเส้นทางที่สำคัญต่อการเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกา สาเหตุหลักมาจากความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การโจมตีด้วยขีปนาวุธและความไม่มั่นคงทางการเมืองในภูมิภาค 🚢 ผลกระทบต่อการเชื่อมต่อโลก ทะเลแดงถือเป็นเส้นทางที่รับผิดชอบต่อการส่งผ่านข้อมูลอินเทอร์เน็ตถึง หนึ่งในห้าของการจราจรโลก การเลื่อนโครงการทำให้ข้อมูลต้องเบี่ยงเส้นทางไปยังเส้นทางที่ยาวกว่า เช่น รอบทวีปแอฟริกา ส่งผลให้เกิด ความหน่วง (latency) สูงขึ้น และเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทที่ต้องซื้อแบนด์วิดท์จากเส้นทางอื่นเพื่อรองรับความต้องการในระยะสั้น 💰 ต้นทุนและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ การหยุดชะงักนี้ไม่เพียงแต่ทำให้บริษัทเทคโนโลยีสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากโครงสร้างพื้นฐานใหม่ แต่ยังทำให้ผู้ใช้งานในภูมิภาคที่พึ่งพาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงต้องเผชิญกับ ราคาที่สูงขึ้นและความเร็วที่ลดลง โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาในแอฟริกาและเอเชียที่ยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เสถียร 🔒 ทางเลือกใหม่และความท้าทาย เพื่อรับมือกับความเสี่ยง บริษัทโทรคมนาคมและเทคโนโลยีเริ่มพิจารณาเส้นทางทางบกผ่านประเทศอย่าง บาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย และแม้กระทั่งอิรัก ซึ่งเดิมถูกมองว่าเสี่ยงและมีต้นทุนสูง แต่สถานการณ์ปัจจุบันทำให้เส้นทางเหล่านี้กลายเป็นทางเลือกที่จริงจังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเจรจาและการขออนุญาตจากรัฐบาลท้องถิ่นยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเลื่อนโครงการสายเคเบิลใต้น้ำของ Google และ Meta ➡️ โครงการ 2Africa และ Blue-Raman ถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด ✅ ทะเลแดงมีความสำคัญต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโลก ➡️ รับผิดชอบต่อการจราจรข้อมูลถึง 20% ของโลก ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งานและบริษัทเทคโนโลยี ➡️ เกิดความหน่วงสูงขึ้นและต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ✅ ทางเลือกใหม่ในการเชื่อมต่อ ➡️ เส้นทางทางบกผ่านบาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย และอิรักถูกพิจารณา ‼️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในทะเลแดง ⛔ มีรายงานการโจมตีด้วยขีปนาวุธและภัยจากกลุ่มติดอาวุธ ‼️ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ⛔ ประเทศกำลังพัฒนาต้องเผชิญราคาสูงและความเร็วต่ำลง https://www.tomshardware.com/tech-industry/google-and-meta-delay-red-sea-cables-over-security-concerns
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่จี้รัฐบาล "ทำไมให้สวัสดิการเรื่องการศึกษาฟรีไม่ได้" ชี้คนจบใหม่ต้องเริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นหนี้
    https://www.thai-tai.tv/news/22423/
    .
    #ไทยไท #วราวิชกำภูณอยุธยา #ไทยก้าวใหม่ #หนี้นักศึกษา #การศึกษาฟรี #ความเหลื่อมล้ำ

    รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่จี้รัฐบาล "ทำไมให้สวัสดิการเรื่องการศึกษาฟรีไม่ได้" ชี้คนจบใหม่ต้องเริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นหนี้ https://www.thai-tai.tv/news/22423/ . #ไทยไท #วราวิชกำภูณอยุธยา #ไทยก้าวใหม่ #หนี้นักศึกษา #การศึกษาฟรี #ความเหลื่อมล้ำ
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
More Results