• ครบรอบ 50 ปี มูลนิธิศุภนิมิตฯ
    ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง เผยพร้อมเดินหน้า
    สร้างสังคมแห่งการให้ หวังลดช่องว่างให้สังคมไทยอย่างยั่งยืน
    .
    หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้าน
    Digital PR & Marketing Solutions
    เรายินดีและพร้อมสำหรับคุณ
    TEL: 086-424-7935, 092-426-9741
    .
    #HILIKEAGENCY #PRAGENCY #DigitalPR #Marketing
    #ประชาสัมพันธ์ #PRESSCONFERENCE #PUBLICRELATIONS
    #pragencyในไทย #PRAgencyThailand
    ครบรอบ 50 ปี มูลนิธิศุภนิมิตฯ ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง เผยพร้อมเดินหน้า สร้างสังคมแห่งการให้ หวังลดช่องว่างให้สังคมไทยอย่างยั่งยืน . หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Digital PR & Marketing Solutions เรายินดีและพร้อมสำหรับคุณ TEL: 086-424-7935, 092-426-9741 . #HILIKEAGENCY #PRAGENCY #DigitalPR #Marketing #ประชาสัมพันธ์ #PRESSCONFERENCE #PUBLICRELATIONS #pragencyในไทย #PRAgencyThailand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • FED ธนาคารกลางสหรัฐ มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงมากถึง 0.5% นับเป็นการลดครั้งแรกในรอบ 4 ปี เพื่อให้เงินเฟ้อขยับลงอย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจสหรัฐsoft landing

    19 กันยายน 2567-คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งประชุมกันเมื่อวันที่ 17-18 กันยายนที่ผ่านมา มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงมากถึง 0.5% นับเป็นการลดครั้งแรกในรอบ 4 ปี ทำให้อัตราดอกเบี้ยลงไปอยู่ในระดับ 4.75-5% อย่างไรก็ตาม มติครั้งนี้ไม่เป็นเอกฉันท์ เนื่องจากมีกรรมการ 1 คนคัดค้าน โดยเห็นว่าควรลดเพียง 0.25%

    เหตุผลของกรรมการส่วนใหญ่ที่เห็นว่าควรลด 0.5% ก็เพราะมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อลดลงอย่างยั่งยืนและเคลื่อนไหวในทิศทางที่เชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2% ขณะเดียวกัน ก็เพื่อรักษาอัตราการจ้างงานไปด้วย โดยสภาวการณ์ในขณะนี้ค่อนข้างมีความสมดุลที่จะเอื้อให้บรรลุเป้าหมายทั้งด้านเงินเฟ้อและอัตราการจ้างงาน

    การลดดอกเบี้ย 0.5% ถูกมองว่าเป็นการลดแบบ “จัมโบ้” หรือค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดหมาย หลังจากในระยะหลังนักลงทุนเปลี่ยนความคิด จากเดิมที่เชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกเพียง 0.25% มาเป็น 0.5% เพื่อป้องกันเศรษฐกิจถดถอย

    ขณะเดียวกัน เมื่อดูจากคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยของกรรมการรายบุคคล หรือ “Dot Plot” บ่งชี้ว่า จะมีการลดดอกเบี้ยอีก 0.5% ภายในสิ้นปี 2024 นี้ ซึ่งจะมีการประชุมเหลืออยู่ 2 ครั้ง คือ เดือนพฤศจิกายน และธันวาคม จากนั้นปี 2025 จะลดอีก 1% และปีถัดไป 2026 ลดอีก 0.5%

    “เจอโรม พาวเวลล์” ประธานเฟด ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการ “ปรับปรุง” นโยบายการเงินให้เหมาะสมเพื่อรักษาความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน และขณะเดียวกัน ก็สามารถทำให้เงินเฟ้อมีเสถียรภาพ เป้าหมายของเฟดคือรักษาอัตราเงินเฟ้อให้มีเสถียรภาพ ขณะเดียวกัน ก็ต้องแน่ใจว่าอัตราว่างงานจะไม่สูงขึ้น เป็นการรักษาเสถียรภาพราคาไปพร้อม ๆ กับรักษาการจ้างงานเอาไว้

    ดังนั้น นักลงทุนควรมองว่าการลด 0.5% เป็นการแสดงความ “แน่วแน่” ของเฟดที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ขณะนี้กล่าวได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะที่ดี เติบโตแข็งแกร่ง ตลาดแรงงานยังเข้มแข็ง เงินเฟ้อลดต่ำลง

    พาวเวลล์ย้ำว่า ไม่ต้องการให้นักลงทุนหรือตลาดสันนิษฐานเอาเองว่าการลด 0.5% ในครั้งนี้ จะหมายถึงว่าในอนาคตเฟดจะลดในอัตรานี้ไปเรื่อย ๆ อย่าคิดว่านี่คืออัตราใหม่สำหรับเฟด เพราะเฟดจะไม่เร่งรีบในการผ่อนคลายด้านการเงิน เฟดจะยังทำเหมือนเดิมคือพิจารณาอย่างระมัดระวังในการประชุมแต่ละครั้งก่อนตัดสินใจ

    “ที่ผ่านมาจะเห็นว่าความอดทนรอของเราให้ผลตอบแทนที่ดีกลับมา เห็นได้จากเงินเฟ้อค่อย ๆ ลดลงอย่างยั่งยืน จนกระทั่งทำให้เราสามารถลดดอกเบี้ยได้มากในวันนี้” พาวเวลล์ระบุ

    ถึงแม้การลด 0.5% จะเป็นที่ชอบใจของนักลงทุนส่วนใหญ่ แต่บางคนก็มีมุมมองต่างออกไป เช่น สก๊อต เฮลฟ์สไตน์ หัวหน้ากลยุทธ์การลงทุนของโกลบอล เอ็กซ์ ระบุว่า การลด 0.5% อาจมากเกินไป เพราะตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในระยะหลังนี้ไม่ได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตน้อยลง ไม่จำเป็นต้องลดมากขนาดนั้น ซึ่งอัตรานี้จะสนับสนุนให้มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

    แนนซี เทนเกลอร์ ประธานบริหารของลาฟเฟอร์ เทนเกลอร์ อินเวสต์เมนต์ เห็นว่า เฟดเคลื่อนไหวเร็วเกินไป เพราะถึงแม้เศรษฐกิจจะชะลอลง แต่ยังคงแข็งแกร่ง ถึงแม้การว่างงานจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ยังไม่มีการเลิกจ้าง อีกทั้งการเปิดรับตำแหน่งงานใหม่ในสหรัฐยังคงมีจำนวนมากกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดด้วยซ้ำ “คำวิพากษ์วิจารณ์ของฉันที่มีต่อเฟดก็คือเน้นการมองในระยะสั้น โดยมุ่งเน้นดูข้อมูลย้อนหลัง แค่ข้อมูลจ้างงานที่อ่อนแอเพียงสัปดาห์เดียว ก็ทำให้ลดดอกเบี้ยมากขนาดนี้”

    ฟิลิป สแตรล ประธานเจ้าหน้าที่ลงทุน ของมอร์นิ่งสตาร์ เวลธ์ ชี้ว่า การลดดอกเบี้ยถึง 0.5% เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้น้อยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่างเช่น วิกฤตการเงินครั้งร้ายแรงในปี 2008 และโควิด-19 ระบาดในปี 2020 สำหรับในครั้งนี้ถือว่าลดมากเกินไปและเร็วเกินไป ทั้งที่ข้อมูลเศรษฐกิจค่อนข้างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับการผ่อนคลายทางการเงินช่วงอื่น ๆ ภายใต้การว่างงานที่ 4.2% นอกจากนี้จีดีพีไตรมาส 2 ก็ขยายตัวถึง 3%

    “การลดมากขนาดนี้เป็นตัวชี้ว่าเฟดมีความสบายใจที่เงินเฟ้อขยับลงอย่างยั่งยืน และตอนนี้ก็ปรับเปลี่ยนทิศทางไปมุ่งเน้นการทำให้เศรษฐกิจชะลอลงอย่างSoft Landing “

    ที่มา : https://youtu.be/EgW_pSJqQEc?si=uk4HLrZSsqAVl2AL

    #Thaitimes
    FED ธนาคารกลางสหรัฐ มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงมากถึง 0.5% นับเป็นการลดครั้งแรกในรอบ 4 ปี เพื่อให้เงินเฟ้อขยับลงอย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจสหรัฐsoft landing 19 กันยายน 2567-คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งประชุมกันเมื่อวันที่ 17-18 กันยายนที่ผ่านมา มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงมากถึง 0.5% นับเป็นการลดครั้งแรกในรอบ 4 ปี ทำให้อัตราดอกเบี้ยลงไปอยู่ในระดับ 4.75-5% อย่างไรก็ตาม มติครั้งนี้ไม่เป็นเอกฉันท์ เนื่องจากมีกรรมการ 1 คนคัดค้าน โดยเห็นว่าควรลดเพียง 0.25% เหตุผลของกรรมการส่วนใหญ่ที่เห็นว่าควรลด 0.5% ก็เพราะมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อลดลงอย่างยั่งยืนและเคลื่อนไหวในทิศทางที่เชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2% ขณะเดียวกัน ก็เพื่อรักษาอัตราการจ้างงานไปด้วย โดยสภาวการณ์ในขณะนี้ค่อนข้างมีความสมดุลที่จะเอื้อให้บรรลุเป้าหมายทั้งด้านเงินเฟ้อและอัตราการจ้างงาน การลดดอกเบี้ย 0.5% ถูกมองว่าเป็นการลดแบบ “จัมโบ้” หรือค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดหมาย หลังจากในระยะหลังนักลงทุนเปลี่ยนความคิด จากเดิมที่เชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกเพียง 0.25% มาเป็น 0.5% เพื่อป้องกันเศรษฐกิจถดถอย ขณะเดียวกัน เมื่อดูจากคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยของกรรมการรายบุคคล หรือ “Dot Plot” บ่งชี้ว่า จะมีการลดดอกเบี้ยอีก 0.5% ภายในสิ้นปี 2024 นี้ ซึ่งจะมีการประชุมเหลืออยู่ 2 ครั้ง คือ เดือนพฤศจิกายน และธันวาคม จากนั้นปี 2025 จะลดอีก 1% และปีถัดไป 2026 ลดอีก 0.5% “เจอโรม พาวเวลล์” ประธานเฟด ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการ “ปรับปรุง” นโยบายการเงินให้เหมาะสมเพื่อรักษาความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน และขณะเดียวกัน ก็สามารถทำให้เงินเฟ้อมีเสถียรภาพ เป้าหมายของเฟดคือรักษาอัตราเงินเฟ้อให้มีเสถียรภาพ ขณะเดียวกัน ก็ต้องแน่ใจว่าอัตราว่างงานจะไม่สูงขึ้น เป็นการรักษาเสถียรภาพราคาไปพร้อม ๆ กับรักษาการจ้างงานเอาไว้ ดังนั้น นักลงทุนควรมองว่าการลด 0.5% เป็นการแสดงความ “แน่วแน่” ของเฟดที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ขณะนี้กล่าวได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะที่ดี เติบโตแข็งแกร่ง ตลาดแรงงานยังเข้มแข็ง เงินเฟ้อลดต่ำลง พาวเวลล์ย้ำว่า ไม่ต้องการให้นักลงทุนหรือตลาดสันนิษฐานเอาเองว่าการลด 0.5% ในครั้งนี้ จะหมายถึงว่าในอนาคตเฟดจะลดในอัตรานี้ไปเรื่อย ๆ อย่าคิดว่านี่คืออัตราใหม่สำหรับเฟด เพราะเฟดจะไม่เร่งรีบในการผ่อนคลายด้านการเงิน เฟดจะยังทำเหมือนเดิมคือพิจารณาอย่างระมัดระวังในการประชุมแต่ละครั้งก่อนตัดสินใจ “ที่ผ่านมาจะเห็นว่าความอดทนรอของเราให้ผลตอบแทนที่ดีกลับมา เห็นได้จากเงินเฟ้อค่อย ๆ ลดลงอย่างยั่งยืน จนกระทั่งทำให้เราสามารถลดดอกเบี้ยได้มากในวันนี้” พาวเวลล์ระบุ ถึงแม้การลด 0.5% จะเป็นที่ชอบใจของนักลงทุนส่วนใหญ่ แต่บางคนก็มีมุมมองต่างออกไป เช่น สก๊อต เฮลฟ์สไตน์ หัวหน้ากลยุทธ์การลงทุนของโกลบอล เอ็กซ์ ระบุว่า การลด 0.5% อาจมากเกินไป เพราะตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในระยะหลังนี้ไม่ได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตน้อยลง ไม่จำเป็นต้องลดมากขนาดนั้น ซึ่งอัตรานี้จะสนับสนุนให้มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น แนนซี เทนเกลอร์ ประธานบริหารของลาฟเฟอร์ เทนเกลอร์ อินเวสต์เมนต์ เห็นว่า เฟดเคลื่อนไหวเร็วเกินไป เพราะถึงแม้เศรษฐกิจจะชะลอลง แต่ยังคงแข็งแกร่ง ถึงแม้การว่างงานจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ยังไม่มีการเลิกจ้าง อีกทั้งการเปิดรับตำแหน่งงานใหม่ในสหรัฐยังคงมีจำนวนมากกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดด้วยซ้ำ “คำวิพากษ์วิจารณ์ของฉันที่มีต่อเฟดก็คือเน้นการมองในระยะสั้น โดยมุ่งเน้นดูข้อมูลย้อนหลัง แค่ข้อมูลจ้างงานที่อ่อนแอเพียงสัปดาห์เดียว ก็ทำให้ลดดอกเบี้ยมากขนาดนี้” ฟิลิป สแตรล ประธานเจ้าหน้าที่ลงทุน ของมอร์นิ่งสตาร์ เวลธ์ ชี้ว่า การลดดอกเบี้ยถึง 0.5% เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้น้อยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่างเช่น วิกฤตการเงินครั้งร้ายแรงในปี 2008 และโควิด-19 ระบาดในปี 2020 สำหรับในครั้งนี้ถือว่าลดมากเกินไปและเร็วเกินไป ทั้งที่ข้อมูลเศรษฐกิจค่อนข้างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับการผ่อนคลายทางการเงินช่วงอื่น ๆ ภายใต้การว่างงานที่ 4.2% นอกจากนี้จีดีพีไตรมาส 2 ก็ขยายตัวถึง 3% “การลดมากขนาดนี้เป็นตัวชี้ว่าเฟดมีความสบายใจที่เงินเฟ้อขยับลงอย่างยั่งยืน และตอนนี้ก็ปรับเปลี่ยนทิศทางไปมุ่งเน้นการทำให้เศรษฐกิจชะลอลงอย่างSoft Landing “ ที่มา : https://youtu.be/EgW_pSJqQEc?si=uk4HLrZSsqAVl2AL #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 581 มุมมอง 0 รีวิว
  • พันธกิจของเรา
    1.ผลิตสินค้าโดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดตามศักยภาพ

    2.ปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยการศึกษา วิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ และนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสม

    3.ประกอบธุรกิจโดยยึดหลักคุณธรรมข้อ "สัมมาอาชีวะ" ที่มีบัญญัติไว้ในพระพุทธศาสนา

    4.เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมให้มีความเป็นอยู่อย่างสงบ ร่มเย็น และยั่งยืน
    พันธกิจของเรา 1.ผลิตสินค้าโดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดตามศักยภาพ 2.ปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยการศึกษา วิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ และนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสม 3.ประกอบธุรกิจโดยยึดหลักคุณธรรมข้อ "สัมมาอาชีวะ" ที่มีบัญญัติไว้ในพระพุทธศาสนา 4.เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมให้มีความเป็นอยู่อย่างสงบ ร่มเย็น และยั่งยืน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ใช้ทรัพยากรอย่างรู้ค่า ประกอบธุรกิจอย่างรู้คุณ สนับสนุนสังคมสู่ความยั่งยืน"
    นี่คือวิสัยทัศน์ของเรา
    "ใช้ทรัพยากรอย่างรู้ค่า ประกอบธุรกิจอย่างรู้คุณ สนับสนุนสังคมสู่ความยั่งยืน" นี่คือวิสัยทัศน์ของเรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่ 17 กันยายน 2567 ณ อาคารมหินทรเดชานุวัฒน์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย

    ทีมงาน Cullen HateBerry มอบเงิน 1,500,000 บาท ให้แก่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยมี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. อัจฉรา จันทร์ฉาย รองประธานกรรมการ และ รศ.สุทธิมา ชำนาญเวช กรรมการและเหรัญญิก เป็นผู้รับมอบ

    #มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งภาฯยามยาก #สภากาชาดไทย
    #แบ่งปันพอเพียงยั่งยืน
    #บรรเทาทุกข์
    #เพื่อนไม่ทิ้งกันในยามยาก #CullenHateBerry #ใจฟู
    วันที่ 17 กันยายน 2567 ณ อาคารมหินทรเดชานุวัฒน์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ทีมงาน Cullen HateBerry มอบเงิน 1,500,000 บาท ให้แก่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยมี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. อัจฉรา จันทร์ฉาย รองประธานกรรมการ และ รศ.สุทธิมา ชำนาญเวช กรรมการและเหรัญญิก เป็นผู้รับมอบ #มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งภาฯยามยาก #สภากาชาดไทย #แบ่งปันพอเพียงยั่งยืน #บรรเทาทุกข์ #เพื่อนไม่ทิ้งกันในยามยาก #CullenHateBerry #ใจฟู
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • สยามโสภา มาจากคำสองคำคือ "สยาม" หมายถึง ประเทศไทย และ "โสภา" หมายถึง สวยงาม ดังนั้น "สยามโสภา" จึงสามารถแปลตรงตัวว่า "ความสวยงามของประเทศไทย"

    เป็นนิยามของความสุขที่ยั่งยืน ผ่านความสวยงามของเมืองไทย
    ที่นำประโยชน์สุข และการพัฒนาความสุขที่ยั่งยืน
    สยามโสภา มาจากคำสองคำคือ "สยาม" หมายถึง ประเทศไทย และ "โสภา" หมายถึง สวยงาม ดังนั้น "สยามโสภา" จึงสามารถแปลตรงตัวว่า "ความสวยงามของประเทศไทย" เป็นนิยามของความสุขที่ยั่งยืน ผ่านความสวยงามของเมืองไทย ที่นำประโยชน์สุข และการพัฒนาความสุขที่ยั่งยืน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเป็นคนธรรมดา คนเล็กๆที่ไม่ใหญ่โตนี้แหละ ง่ายที่สุดแล้วต่อการที่จะบำเพ็ญคุณงามความดีหรือประโยชน์ใด ทั้งต่อตนและสาธารณชนคนอื่น ถ้าเรามีความรู้ ความสามารถในเรื่องใด และมีใจที่คิดและต้องการจะทำเพื่อคนทุกคนจริง ไม่จำเป็นต้องรอให้มีคนจำนวนมากมาชื่นชม เชิดชูยกขึ้นไว้ในตำแหน่งอันเขาอุปโลกน์จึงจะค่อยทำได้ ขอเพียงแค่ลงมือปฏิบัติตั้งแต่เดี๋ยวนี้ อย่างเดียวเท่านั้นที่พึงระวังคือ

    ให้แน่ใจว่าการกระทำที่เราเชื่อว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อสาธารณะนั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งซึ่งตรงกันข้าม ไม่ใช่การหลอกตนเองและหลอกคนอื่น

    ดูอย่างคนบ้าปลูกต้นไม้นั่นไง มีหลายคนที่ทำทั้งที่ไม่มีใครรู้ใครเห็น และไม่ได้ต้องการให้ใครรู้เห็นด้วย เขาทำด้วยสำนึกในใจตนว่าควรทำ และไม่สร้างปัญหาความเดือดร้อนแก่ชุมชนสังคมประเทศ จวบไปถึงโลกใบนี้อย่างแน่นอน

    หากสิ่งที่ทำดีจริง สักวันจะมีคนเห็นและเพิ่มจำนวนคนสานต่อไปเองอย่างยั่งยืน แต่ถ้าสิ่งที่ทำนั้นดีไม่จริง ย่อมอยู่ได้ชั่วคราวไม่ยาวนาน เพราะไม่มีคนช่วยรักษา สืบต่อคุณความดีนั้น ที่สุดจะค่อยๆเลือนลางจางหายไปในห้วงเวลา

    #ข้อคิด
    #thaitimes
    #ความดี
    #จิตสาธารณะ
    #ชวนคิด
    #บันทึก
    การเป็นคนธรรมดา คนเล็กๆที่ไม่ใหญ่โตนี้แหละ ง่ายที่สุดแล้วต่อการที่จะบำเพ็ญคุณงามความดีหรือประโยชน์ใด ทั้งต่อตนและสาธารณชนคนอื่น ถ้าเรามีความรู้ ความสามารถในเรื่องใด และมีใจที่คิดและต้องการจะทำเพื่อคนทุกคนจริง ไม่จำเป็นต้องรอให้มีคนจำนวนมากมาชื่นชม เชิดชูยกขึ้นไว้ในตำแหน่งอันเขาอุปโลกน์จึงจะค่อยทำได้ ขอเพียงแค่ลงมือปฏิบัติตั้งแต่เดี๋ยวนี้ อย่างเดียวเท่านั้นที่พึงระวังคือ ให้แน่ใจว่าการกระทำที่เราเชื่อว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อสาธารณะนั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งซึ่งตรงกันข้าม ไม่ใช่การหลอกตนเองและหลอกคนอื่น ดูอย่างคนบ้าปลูกต้นไม้นั่นไง มีหลายคนที่ทำทั้งที่ไม่มีใครรู้ใครเห็น และไม่ได้ต้องการให้ใครรู้เห็นด้วย เขาทำด้วยสำนึกในใจตนว่าควรทำ และไม่สร้างปัญหาความเดือดร้อนแก่ชุมชนสังคมประเทศ จวบไปถึงโลกใบนี้อย่างแน่นอน หากสิ่งที่ทำดีจริง สักวันจะมีคนเห็นและเพิ่มจำนวนคนสานต่อไปเองอย่างยั่งยืน แต่ถ้าสิ่งที่ทำนั้นดีไม่จริง ย่อมอยู่ได้ชั่วคราวไม่ยาวนาน เพราะไม่มีคนช่วยรักษา สืบต่อคุณความดีนั้น ที่สุดจะค่อยๆเลือนลางจางหายไปในห้วงเวลา #ข้อคิด #thaitimes #ความดี #จิตสาธารณะ #ชวนคิด #บันทึก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 0 รีวิว
  • กินเจปีนี้ 2-11 ตค. ร้านออริจิ บริการอาหารปลอดเนื้อสัตว์ตลอดทั้งปี แต่ถ้า ทานเจ สั่งเราได้!!
    ช่วงเจ จะมีเมนู J fast track อยู่ เป็น เมนูหลัก เช่น พะโล้เจ แกงกะทิเจ แกงไม่ทิเจ ผัดหมี่เจ ขนมจีนน้ำยาเจ ของทอดเจ แต่จะไม่มี แกงถาดนะคะ เพื่อความสดใหม่ของอาหาร
    ชมเมนู A La carte ของเราได้ในลิ้งค์นี้ https://origiemenu.triggersplus.com/
    เพราะเกือบทุกเมนูสั่งเจได้ แต่ต้องใช้เวลาปรุงเพราะปรุงสด สั่งล่วงหน้า 1 วันเพื่อความรวดเร็ว
    เปิดบริการ 8.00-17.00 ช่วงเทศกาลจะเปิดทุกวัน
    ร้านตั้งอยู่บน รามอินทรา109 แยกลำกะโหลก อาคารพาณิชย์ ตรง ป้ายรถเมล์ มีที่จอดรถหน้าตึก
    ดิลิเวอรี่ มี ผ่าน 2 แอพนะคะ #lineman #robinhood สามารถเลือกเป็นแบบ เจ หรือ วีแกนได้ค่ะ ตอนสั่ง
    เครื่องดื่มต่างๆ ก็สามารถสั่งแบบ เจ ได้ด้วยค่ะ กาแฟ ชาไทย ชาเขียว โกโก้ เรามีผงมะพร้าวสกัดเย็นแทนนมสด และ ไซรัปหญ้าหวานแทนน้ำตาล และนมข้น
    เพราะสุขภาพที่ยั่งยืนควรอยู่คู่คนไทยและแขกบ้านแขกเมืองของไทย #origibkk #ออริจิมังสวิรัติ
    https://origiemenu.triggersplus.com/
    กินเจปีนี้ 2-11 ตค. ร้านออริจิ บริการอาหารปลอดเนื้อสัตว์ตลอดทั้งปี แต่ถ้า ทานเจ สั่งเราได้!! 🥗 ช่วงเจ จะมีเมนู J fast track อยู่ เป็น เมนูหลัก เช่น พะโล้เจ แกงกะทิเจ แกงไม่ทิเจ ผัดหมี่เจ ขนมจีนน้ำยาเจ ของทอดเจ แต่จะไม่มี แกงถาดนะคะ เพื่อความสดใหม่ของอาหาร 💛💚 ชมเมนู A La carte ของเราได้ในลิ้งค์นี้ https://origiemenu.triggersplus.com/ เพราะเกือบทุกเมนูสั่งเจได้ แต่ต้องใช้เวลาปรุงเพราะปรุงสด สั่งล่วงหน้า 1 วันเพื่อความรวดเร็ว ✅ เปิดบริการ 8.00-17.00 ช่วงเทศกาลจะเปิดทุกวัน ร้านตั้งอยู่บน รามอินทรา109 แยกลำกะโหลก อาคารพาณิชย์ ตรง ป้ายรถเมล์ มีที่จอดรถหน้าตึก ดิลิเวอรี่ มี ผ่าน 2 แอพนะคะ #lineman #robinhood สามารถเลือกเป็นแบบ เจ หรือ วีแกนได้ค่ะ ตอนสั่ง เครื่องดื่มต่างๆ ก็สามารถสั่งแบบ เจ ได้ด้วยค่ะ กาแฟ ชาไทย ชาเขียว โกโก้ เรามีผงมะพร้าวสกัดเย็นแทนนมสด และ ไซรัปหญ้าหวานแทนน้ำตาล และนมข้น 🍵☕ เพราะสุขภาพที่ยั่งยืนควรอยู่คู่คนไทยและแขกบ้านแขกเมืองของไทย 🇹🇭 #origibkk #ออริจิมังสวิรัติ https://origiemenu.triggersplus.com/
    Wow
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลธุรกิจ SME ที่ปิดตัวไป มากกว่า 1 หมื่นราย
    ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก SCBEIC)
    คือ อีก 1 สิ่งสำคัญ ที่รัฐบาลต้องคิดให้รอบคอบ
    ก่อนปรับค่าแรงเป็น 400 บาท ทั่วประเทศ
    ว่าจะช่วยต่อลมหายใจพวกเค้าได้อย่างไร?
    และจะสนับสนุนส่งเสริม ยกระดับให้พวกเค้า
    เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปได้อย่างไร?

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SME #thaitimes
    💥💥ข้อมูลธุรกิจ SME ที่ปิดตัวไป มากกว่า 1 หมื่นราย ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก SCBEIC) คือ อีก 1 สิ่งสำคัญ ที่รัฐบาลต้องคิดให้รอบคอบ ก่อนปรับค่าแรงเป็น 400 บาท ทั่วประเทศ ว่าจะช่วยต่อลมหายใจพวกเค้าได้อย่างไร? และจะสนับสนุนส่งเสริม ยกระดับให้พวกเค้า เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปได้อย่างไร? #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SME #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 481 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCBEIC คาดการณ์การเติบโต
    ทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ไทย ปี 2567 และ 2568
    อยู่ที่ 2.5% และ 2.6%
    ระบุ การท่องเที่ยวคือเครื่องยนต์เพียงหนึ่งเดียว
    ที่เหลืออยู่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในปีนี้

    และในภาคธุรกิจของไทยต้องเผชิญ กับความท้าทาย
    ที่สำคัญ 2 ด้าน ได้แก่

    1. อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์สันดาป ที่อาจสูญเสีย
    กำลังการผลิตไปกว่า 40% ถ้าหากไม่ปรับตัวไปตาม
    เทรนด์การใช้งานของผู้บริโภค ปัจจุบัน

    2. ผู้ประกอบการ SME เผชิญแรงกดดัน จากกำลังซื้อ
    ภายในประเทศที่เปราะบาง อีกทั้ง การตีตลาด
    จากสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ
    รวมทั้งกระบวนการผลิต และการตลาดที่ล้าสมัย

    ดังนั้นควรผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
    เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถต่อลมหายใจต่อไปได้
    และควรผลักดันให้ธุรกิจเหล่านี้เติบโตอย่างยั่งยืน
    ด้วยการยกระดับความสามารถด้านการแข่งขันในระยะยาว

    ที่มา : SCBEIC

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #จีดีพีไทย #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCBEIC คาดการณ์การเติบโต ทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ไทย ปี 2567 และ 2568 อยู่ที่ 2.5% และ 2.6% ระบุ การท่องเที่ยวคือเครื่องยนต์เพียงหนึ่งเดียว ที่เหลืออยู่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ และในภาคธุรกิจของไทยต้องเผชิญ กับความท้าทาย ที่สำคัญ 2 ด้าน ได้แก่ 🚩1. อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์สันดาป ที่อาจสูญเสีย กำลังการผลิตไปกว่า 40% ถ้าหากไม่ปรับตัวไปตาม เทรนด์การใช้งานของผู้บริโภค ปัจจุบัน 🚩2. ผู้ประกอบการ SME เผชิญแรงกดดัน จากกำลังซื้อ ภายในประเทศที่เปราะบาง อีกทั้ง การตีตลาด จากสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ รวมทั้งกระบวนการผลิต และการตลาดที่ล้าสมัย 🚩ดังนั้นควรผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถต่อลมหายใจต่อไปได้ และควรผลักดันให้ธุรกิจเหล่านี้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับความสามารถด้านการแข่งขันในระยะยาว ที่มา : SCBEIC #หุ้นติดดอย #การลงทุน #จีดีพีไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 561 มุมมอง 0 รีวิว
  • Camper
    Pelotas 27205-190 Dark Brown Full Grain Leather
    Size. EUR 38 /24(25) cm
    ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ Good Condition

    Price : 850฿

    รองเท้า Camper รุ่น Pelotas แบรนด์ดังเกาะมายอร์ก้าของสเปน สี Dark Brown สำหรับผู้หญิง สายแคมป์
    มีสไตล์ที่โดดเด่น

    รายละเอียด :
    อัพเปอร์ : หนังลูกวัวฟอกฝาด(ฟูลเกรน)สีน้ำตาลเข้ม (ได้รับการรับรองว่าใช้หนังจากโรงฟอกหนังที่ได้รับการจัดอันดับโดย Leather Working Group (LWG) โดยได้รับการประเมินและส่งเสริมแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมเครื่องหนัง
    ซับใน : หนังลูกวัว 68% ผ้า 32% (PET รีไซเคิล 100%)
    แผ่นรองฝ่าเท้า : แบบถอดได้พร้อมระบบกันกระแทก
    พื้นรองเท้าด้านนอก : ออกแบบพื้นให้เป็นทรงกลมเหมือนลูกโป่งวัสดุผลิตจากยางดูดซับแรงกดกระแทกและเพิ่มการยึดเกาะได้ดี เย็บพื้นเพื่อความทนทาน
    สภาพรองเท้า : ดี 85%+
    ไซส์ EUR 38 ยาว 24 cm (วัดจริง 25)
    Camper Pelotas 27205-190 Dark Brown Full Grain Leather Size. EUR 38 /24(25) cm ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ Good Condition 🔥 Price : 850฿ รองเท้า Camper รุ่น Pelotas แบรนด์ดังเกาะมายอร์ก้าของสเปน สี Dark Brown สำหรับผู้หญิง สายแคมป์ มีสไตล์ที่โดดเด่น 👉 รายละเอียด : ✅ อัพเปอร์ : หนังลูกวัวฟอกฝาด(ฟูลเกรน)สีน้ำตาลเข้ม (ได้รับการรับรองว่าใช้หนังจากโรงฟอกหนังที่ได้รับการจัดอันดับโดย Leather Working Group (LWG) โดยได้รับการประเมินและส่งเสริมแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมเครื่องหนัง ✅ ซับใน : หนังลูกวัว 68% ผ้า 32% (PET รีไซเคิล 100%) ✅ แผ่นรองฝ่าเท้า : แบบถอดได้พร้อมระบบกันกระแทก ✅ พื้นรองเท้าด้านนอก : ออกแบบพื้นให้เป็นทรงกลมเหมือนลูกโป่งวัสดุผลิตจากยางดูดซับแรงกดกระแทกและเพิ่มการยึดเกาะได้ดี เย็บพื้นเพื่อความทนทาน ✅ สภาพรองเท้า : ดี 85%+ ✅ ไซส์ EUR 38 ยาว 24 cm (วัดจริง 25)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัมมาทิฏฐิ คือจุดสิ้นสุดทางโลก และจุดเริ่มต้นทางธรรม

    การพัฒนาคนในองค์กรต่างๆ จึงต้องพัฒนาที่ปัญญา โดยการให้ความรู้ เพื่อเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน

    #ใจหยุดใจนิ่ง
    #จิตจึงรู้แจ้ง
    #ศีลสมาธิปัญญา
    #บุญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
    #นิพพาน
    สัมมาทิฏฐิ คือจุดสิ้นสุดทางโลก และจุดเริ่มต้นทางธรรม การพัฒนาคนในองค์กรต่างๆ จึงต้องพัฒนาที่ปัญญา โดยการให้ความรู้ เพื่อเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน #ใจหยุดใจนิ่ง #จิตจึงรู้แจ้ง #ศีลสมาธิปัญญา #บุญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ #นิพพาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา
    .
    วันที่ 11 ก.ย. 67 เวลา 10.00 น.
    นายศุภรัศมิ์ ตัณฑเศรณีวัฒน์ ประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ สมัยที่หนึ่งประจำปี 2567 ครั้งที่ 1 ตามที่ เทศบาลนครนครราชสีมาได้ประกาศใช้เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เทศบาลนครนครราชสีมามีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม เนื่องจากมีรายรับบางประเภทเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายรับเกินยอดรวมทั้งสิ้นของประมาณการรายรับ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 จำนวน 124,551,000 บาท โดยแบ่งเป็น รายได้จัดเก็บเอง จำนวน 35,839,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 28.77 และรายได้ที่รัฐบาลอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 88,712,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 71.23 จึงมีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นเงินทั้งสิ้น 124,551,000 บาท โดยงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนี้จะถูกนำไปใช้พัฒนาท้องถิ่นในหลายด้าน เพื่อยกระดับการเป็นมหานครที่น่าอยู่ในระดับสากลด้วยพลังสังคม เพื่อความสุขของประชาชนอย่างยั่งยืน ที่มีประสิทธิภาพและ
    ยั่งยืน ดังนี้
    1. ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ: การเป็นเมืองอัจฉริยะ ( Smart city) ด้วยการพัฒนาระบบศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อบริหารจัดการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบ
    เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน และติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน
    2. ด้านการศึกษา: ก่อสร้างและปรับปรุงอาคารเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาล รวมถึงการสนับสนุนเทคโนโลยีการศึกษาด้วยการจัดหาคอมพิวเตอร์ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน
    3. ด้านการพัฒนาชุมชน: ก่อสร้างและปรับปรุงศาลาประชาคมให้เป็นศูนย์กลางกิจกรรมของชุมชน และการจัดหาเครื่องออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยของประชาชน
    4. ด้านการบริหารจัดการขยะมูลฝอย: จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษก ชั้น 5 เทศบาลนครนครราชสีมา

    #เทศบาลนครนครราชสีมา
    #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา
    #Appkoratcity #สายด่วน1132
    ไลน์OAเทศบาลฯแอดเลย 👉🏻 https://lin.ee/tEoZH6e
    #ประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา📝 . 🗓️วันที่ 11 ก.ย. 67 เวลา 10.00 น. นายศุภรัศมิ์ ตัณฑเศรณีวัฒน์ ประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ สมัยที่หนึ่งประจำปี 2567 ครั้งที่ 1 ตามที่ เทศบาลนครนครราชสีมาได้ประกาศใช้เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เทศบาลนครนครราชสีมามีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม เนื่องจากมีรายรับบางประเภทเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายรับเกินยอดรวมทั้งสิ้นของประมาณการรายรับ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 จำนวน 124,551,000 บาท โดยแบ่งเป็น รายได้จัดเก็บเอง จำนวน 35,839,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 28.77 และรายได้ที่รัฐบาลอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 88,712,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 71.23 จึงมีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นเงินทั้งสิ้น 124,551,000 บาท โดยงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนี้จะถูกนำไปใช้พัฒนาท้องถิ่นในหลายด้าน เพื่อยกระดับการเป็นมหานครที่น่าอยู่ในระดับสากลด้วยพลังสังคม เพื่อความสุขของประชาชนอย่างยั่งยืน ที่มีประสิทธิภาพและ ยั่งยืน ดังนี้ 1. ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ: การเป็นเมืองอัจฉริยะ ( Smart city) ด้วยการพัฒนาระบบศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อบริหารจัดการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน และติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน 2. ด้านการศึกษา: ก่อสร้างและปรับปรุงอาคารเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาล รวมถึงการสนับสนุนเทคโนโลยีการศึกษาด้วยการจัดหาคอมพิวเตอร์ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน 3. ด้านการพัฒนาชุมชน: ก่อสร้างและปรับปรุงศาลาประชาคมให้เป็นศูนย์กลางกิจกรรมของชุมชน และการจัดหาเครื่องออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยของประชาชน 4. ด้านการบริหารจัดการขยะมูลฝอย: จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษก ชั้น 5 เทศบาลนครนครราชสีมา #เทศบาลนครนครราชสีมา #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา #Appkoratcity #สายด่วน1132 📲 ไลน์OAเทศบาลฯแอดเลย 👉🏻 https://lin.ee/tEoZH6e
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมหัวข้อข้อมูลจากเวป rookon.com ที่จะทำให้คุณตื่นรู้เท่าทัน
    วาระ | Social Credit System (Vaccine Passport) | ระบบทาส ควบคุมประชากรโลก ด้วยเทคโนโลยี
    https://www.rookon.com/?p=680
    รู้จัก ศาสตราจารย์ สุจริต ภักดี บุณยรัตพันธุ์
    https://www.rookon.com/?p=316
    อันตรายชั่วนิรันดร์จากวัคซีน RNA
    https://www.rookon.com/?p=1032
    ศ. สุจริต ภักดี บุณยรัตพันธุ์ – โปรตีนหนามในยาฉีด (วัคซีน) อันตรายอย่างไร?
    https://www.rookon.com/?p=774
    ศ. สุจริต ภักดี บุณยรัตพันธุ์ – คนที่ไม่ฉีดกำลังเสียชีวิตจากโควิดจริงหรือ?
    https://www.rookon.com/?p=781
    ศ. สุจริต ภักดี บุณยรัตพันธุ์ เตือนภัยชาวโลกวัคซีน mRNA ดัดแปลงพันธุกรรมจริง
    https://www.rookon.com/?p=560
    เทคนิคการหลอกลวงทางจิตวิทยา – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.rookon.com/?p=664
    ติดตาม คุณหมอ อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.rookon.com/?p=1022
    มี DNA ปนเปื้อนในยาฉีด mRNA – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.rookon.com/?p=814
    นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง | การหลอกลวงเรื่อง ‘วัคซีน’
    https://www.rookon.com/?p=670
    การฉีดยาบำบัดยีน (วัคซีนโควิด) ในเด็ก 5-11 ปี | นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.rookon.com/?p=660
    การหลอกลวงเรื่องโควิด 19 ทางจิตวิทยา – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.rookon.com/?p=522
    โรควูบและวัคซีนโควิด : อ. นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.rookon.com/?p=312
    คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง จากผู้สร้าง mRNA
    https://www.rookon.com/?p=676
    LIVE : การล้างสมองมวลชน ภาค 2
    https://www.rookon.com/?p=970
    ความลับของวัคซีน mRNA (ฉบับที่ 1)
    https://www.rookon.com/?p=673
    รวมหลักฐานการลดประชากรโลก
    https://www.rookon.com/?p=936
    ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะต้องรู้และตามโลกให้ทัน
    https://www.rookon.com/?p=655
    รวมผลวิจัย/หลักฐาน: โควิด
    https://www.rookon.com/?p=933
    รวมผลวิจัย/หลักฐาน: ‘วัคซีน’
    https://www.rookon.com/?p=926
    เอกสารไฟเซอร์เปิดเผยมีผู้เสียชีวิต 1,223 ราย
    https://www.rookon.com/?p=538
    Dr. Lawrence B. Palevsky|โปรตีนหนาม และ ผลกระทบต่อเด็กและสตรี
    https://www.rookon.com/?p=919
    รวมหลักฐานด้านลบเกี่ยวกับ ล็อกดาวน์
    https://www.rookon.com/?p=448
    แพทย์ในฟลอริด้าเผย 84% ของการเสียชีวิตเพิ่ม เกิดจากวัคซีนโควิด mRNA
    https://www.rookon.com/?p=346
    ฉีดอะไรเข้าไปในร่างกาย? เรื่องที่วงในการแพทย์รู้ แต่พูดไม่ได้
    https://www.rookon.com/?p=402
    ADE Before / After
    https://www.rookon.com/?p=693
    Dr. Sherri Tenpenny | วัคซีนเด็กตั้งแต่แรกเกิด และ ‘วัคซีน’ โควิด
    https://www.rookon.com/?p=914
    วัคซีน HPV และ วัคซีนในเด็ก
    https://www.rookon.com/?p=1173
    ดร.เชอร์รี เทนเพนนี พากย์เสียงภาษาไทย
    https://www.rookon.com/?p=1109
    ดร.​เชอรรี่ เทนเพนนี่ – ความจริงเกี่ยวกับยาฉีดโคโรน่า
    https://www.rookon.com/?p=526
    รู้ให้ทัน เขากำลังจะมาฉีดยาให้คุณเพิ่ม
    https://www.rookon.com/?p=689
    7 เหตุผลในการยุติอาณัติหน้ากาก
    https://www.rookon.com/?p=471
    เรากำลังทำอะไรกับเด็ก — ตอนที่ 1: ความเสียหายต่อการศึกษาและสุขภาพจิต
    https://www.rookon.com/?p=427
    เรากำลังทำอะไรกับเด็ก — ตอนที่ 2 ‘แมสก์’: ความเสียหายต่อการศึกษาและสุขภาพจิต
    https://www.rookon.com/?p=456
    รวมผลวิจัยเรื่อง หน้ากากอนามัย
    https://www.rookon.com/?p=457
    การแก้ไข IHR ได้รับการรับรองแล้วเป็นบางส่วน
    https://www.rookon.com/?p=1180
    สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR & Pandemic Treaty
    https://www.rookon.com/?p=1176
    WHO วางแผนที่จะเปิดตัว ใบรับรองสุขภาพดิจิทัลทั่วโลก
    https://www.rookon.com/?p=566
    ฉีดแล้วเป็นโรคหัวใจ | สัมภาษณ์ผู้ได้รับบาดเจ็บจากยาฉีดโควิด
    https://www.rookon.com/?p=904
    763 คนเสียชีวิตหลังวัคซีนโควิดที่กล้องจับได้! แล้วพลเมืองเสียชีวิตอีกกี่คนที่ไม่มีใครรู้เห็น?
    https://www.rookon.com/?p=900
    หลักฐานว่าวัคซีนโควิดไม่ปลอดภัย | ล้างพิษกันเถอะ
    https://www.rookon.com/?p=1130
    ล้างพิษวัคซีน
    https://www.rookon.com/?p=1050
    กลุ่มไลน์ล้างพิษวัคซีน
    https://www.rookon.com/?p=1016
    เปิดใจศึกษา CDS | บทสัมภาษณ์กับ ดร. แอนเดรียส คัลเกอร์
    https://www.rookon.com/?p=1248
    หลักสูตร CDS (ล้างพิษ วซ) | เรียนฟรี
    https://www.rookon.com/?p=1053
    เหตุการใน อิสราเอล ความจริง
    https://www.rookon.com/?p=1073
    LIVE: การทำลายเศรษฐกิจ และ Agenda 2030 (SDG) แบบละเอียด
    https://www.rookon.com/?p=1068
    (ไลฟ์) เงินดิจิทัล – วาระเบื่องหลังการแจกเงิน 10,000บ ของรัฐบาล
    https://www.rookon.com/?p=1245
    LIVE: การเชื่อมโยงระหว่างการเมืองไทยกับ World Economic Forum
    https://www.rookon.com/?p=951
    David Icke | โครงสร้างการควบคุมรัฐบาลทั่วโลก
    https://www.rookon.com/?p=683
    การพัฒนาที่ยั่งยืน จริงแล้วคือ การสร้างระบบการเมืองเพื่อควบคุมทุกสิ่งอย่าง
    https://www.rookon.com/?p=344
    แผนการให้ตำรวจในอนาคต เป็นตำรวจ/ทหาร Transhuman ตำรวจหุ่นยนต์ ที่มีอาวุธ
    https://www.rookon.com/?p=535
    ความจริงของระบบการเงิน CBDC คาร์บอน ลิมิต (Carbon Limit) Social Credit System และ ดิจิเทิลไอดี
    https://www.rookon.com/?p=353
    จากสงครามสู่…ความยั่งยืน? ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ Agenda 2030
    https://www.rookon.com/?p=975
    Climate Change: แยกข้อเท็จจริงออกจากเรื่องแต่ง
    https://www.rookon.com/?p=1011
    ไม่มีภาวะโลกร้อนเป็นเวลาแปดปีที่ผ่านมา
    https://www.rookon.com/?p=339
    บริษัทรถยนต์เริ่มคิดใหม่กับรถยนต์ไฟฟ้า
    https://www.rookon.com/?p=1147
    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน https://www.rookon.com/?p=109เก้า (ลิงก์นี้เฟสบุ๊กแบนต้องเปลี่ยนคำว่า เก้า เป็น 9 ก่อน)
    เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    https://www.rookon.com/?p=1076
    เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย?
    https://www.rookon.com/?p=986
    ‘วิธีควบคุมคน’ ที่ดีที่สุดคือ ‘ควบคุมเสบียงอาหาร’
    https://www.rookon.com/?p=334
    ธรรมชาติของความจริง | ไลฟ์สด 16/08/2024
    https://www.rookon.com/?p=1263
    อ.ทีน่า – เข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับโลกมิติที่ 5
    https://www.rookon.com/?p=959
    มนุษย์ต่างดาว (กิ้งก่า) ต้องการอะไรจากมนุษย์
    https://www.rookon.com/?p=944

    ขอขอบคุณข้อมูลโดย คุณอดิเทพ จาวลาห์
    จาก rookon.com และ stopthaicontrol.com
    🖍️รวมหัวข้อข้อมูลจากเวป rookon.com ที่จะทำให้คุณตื่นรู้เท่าทัน 👉วาระ | Social Credit System (Vaccine Passport) | ระบบทาส ควบคุมประชากรโลก ด้วยเทคโนโลยี https://www.rookon.com/?p=680 👉รู้จัก ศาสตราจารย์ สุจริต ภักดี บุณยรัตพันธุ์ https://www.rookon.com/?p=316 👉อันตรายชั่วนิรันดร์จากวัคซีน RNA https://www.rookon.com/?p=1032 👉ศ. สุจริต ภักดี บุณยรัตพันธุ์ – โปรตีนหนามในยาฉีด (วัคซีน) อันตรายอย่างไร? https://www.rookon.com/?p=774 👉ศ. สุจริต ภักดี บุณยรัตพันธุ์ – คนที่ไม่ฉีดกำลังเสียชีวิตจากโควิดจริงหรือ? https://www.rookon.com/?p=781 👉ศ. สุจริต ภักดี บุณยรัตพันธุ์ เตือนภัยชาวโลกวัคซีน mRNA ดัดแปลงพันธุกรรมจริง https://www.rookon.com/?p=560 👉เทคนิคการหลอกลวงทางจิตวิทยา – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.rookon.com/?p=664 👉ติดตาม คุณหมอ อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.rookon.com/?p=1022 👉มี DNA ปนเปื้อนในยาฉีด mRNA – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.rookon.com/?p=814 👉นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง | การหลอกลวงเรื่อง ‘วัคซีน’ https://www.rookon.com/?p=670 👉การฉีดยาบำบัดยีน (วัคซีนโควิด) ในเด็ก 5-11 ปี | นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.rookon.com/?p=660 👉การหลอกลวงเรื่องโควิด 19 ทางจิตวิทยา – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.rookon.com/?p=522 👉โรควูบและวัคซีนโควิด : อ. นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.rookon.com/?p=312 👉คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง จากผู้สร้าง mRNA https://www.rookon.com/?p=676 👉LIVE : การล้างสมองมวลชน ภาค 2 https://www.rookon.com/?p=970 👉ความลับของวัคซีน mRNA (ฉบับที่ 1) https://www.rookon.com/?p=673 👉รวมหลักฐานการลดประชากรโลก https://www.rookon.com/?p=936 👉ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะต้องรู้และตามโลกให้ทัน https://www.rookon.com/?p=655 👉รวมผลวิจัย/หลักฐาน: โควิด https://www.rookon.com/?p=933 👉รวมผลวิจัย/หลักฐาน: ‘วัคซีน’ https://www.rookon.com/?p=926 👉เอกสารไฟเซอร์เปิดเผยมีผู้เสียชีวิต 1,223 ราย https://www.rookon.com/?p=538 👉Dr. Lawrence B. Palevsky|โปรตีนหนาม และ ผลกระทบต่อเด็กและสตรี https://www.rookon.com/?p=919 👉รวมหลักฐานด้านลบเกี่ยวกับ ล็อกดาวน์ https://www.rookon.com/?p=448 👉แพทย์ในฟลอริด้าเผย 84% ของการเสียชีวิตเพิ่ม เกิดจากวัคซีนโควิด mRNA https://www.rookon.com/?p=346 👉ฉีดอะไรเข้าไปในร่างกาย? เรื่องที่วงในการแพทย์รู้ แต่พูดไม่ได้ https://www.rookon.com/?p=402 👉ADE Before / After https://www.rookon.com/?p=693 👉Dr. Sherri Tenpenny | วัคซีนเด็กตั้งแต่แรกเกิด และ ‘วัคซีน’ โควิด https://www.rookon.com/?p=914 👉วัคซีน HPV และ วัคซีนในเด็ก https://www.rookon.com/?p=1173 👉ดร.เชอร์รี เทนเพนนี พากย์เสียงภาษาไทย https://www.rookon.com/?p=1109 👉ดร.​เชอรรี่ เทนเพนนี่ – ความจริงเกี่ยวกับยาฉีดโคโรน่า https://www.rookon.com/?p=526 👉รู้ให้ทัน เขากำลังจะมาฉีดยาให้คุณเพิ่ม https://www.rookon.com/?p=689 👉7 เหตุผลในการยุติอาณัติหน้ากาก https://www.rookon.com/?p=471 👉เรากำลังทำอะไรกับเด็ก — ตอนที่ 1: ความเสียหายต่อการศึกษาและสุขภาพจิต https://www.rookon.com/?p=427 👉เรากำลังทำอะไรกับเด็ก — ตอนที่ 2 ‘แมสก์’: ความเสียหายต่อการศึกษาและสุขภาพจิต https://www.rookon.com/?p=456 👉รวมผลวิจัยเรื่อง หน้ากากอนามัย https://www.rookon.com/?p=457 👉การแก้ไข IHR ได้รับการรับรองแล้วเป็นบางส่วน https://www.rookon.com/?p=1180 👉สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR & Pandemic Treaty https://www.rookon.com/?p=1176 👉WHO วางแผนที่จะเปิดตัว ใบรับรองสุขภาพดิจิทัลทั่วโลก https://www.rookon.com/?p=566 👉ฉีดแล้วเป็นโรคหัวใจ | สัมภาษณ์ผู้ได้รับบาดเจ็บจากยาฉีดโควิด https://www.rookon.com/?p=904 👉763 คนเสียชีวิตหลังวัคซีนโควิดที่กล้องจับได้! แล้วพลเมืองเสียชีวิตอีกกี่คนที่ไม่มีใครรู้เห็น? https://www.rookon.com/?p=900 👉หลักฐานว่าวัคซีนโควิดไม่ปลอดภัย | ล้างพิษกันเถอะ https://www.rookon.com/?p=1130 👉ล้างพิษวัคซีน https://www.rookon.com/?p=1050 👉กลุ่มไลน์ล้างพิษวัคซีน https://www.rookon.com/?p=1016 👉เปิดใจศึกษา CDS | บทสัมภาษณ์กับ ดร. แอนเดรียส คัลเกอร์ https://www.rookon.com/?p=1248 👉หลักสูตร CDS (ล้างพิษ วซ) | เรียนฟรี https://www.rookon.com/?p=1053 👉เหตุการใน อิสราเอล ความจริง https://www.rookon.com/?p=1073 👉LIVE: การทำลายเศรษฐกิจ และ Agenda 2030 (SDG) แบบละเอียด https://www.rookon.com/?p=1068 👉(ไลฟ์) เงินดิจิทัล – วาระเบื่องหลังการแจกเงิน 10,000บ ของรัฐบาล https://www.rookon.com/?p=1245 👉LIVE: การเชื่อมโยงระหว่างการเมืองไทยกับ World Economic Forum https://www.rookon.com/?p=951 👉David Icke | โครงสร้างการควบคุมรัฐบาลทั่วโลก https://www.rookon.com/?p=683 👉การพัฒนาที่ยั่งยืน จริงแล้วคือ การสร้างระบบการเมืองเพื่อควบคุมทุกสิ่งอย่าง https://www.rookon.com/?p=344 👉แผนการให้ตำรวจในอนาคต เป็นตำรวจ/ทหาร Transhuman ตำรวจหุ่นยนต์ ที่มีอาวุธ https://www.rookon.com/?p=535 👉ความจริงของระบบการเงิน CBDC คาร์บอน ลิมิต (Carbon Limit) Social Credit System และ ดิจิเทิลไอดี https://www.rookon.com/?p=353 👉จากสงครามสู่…ความยั่งยืน? ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ Agenda 2030 https://www.rookon.com/?p=975 👉Climate Change: แยกข้อเท็จจริงออกจากเรื่องแต่ง https://www.rookon.com/?p=1011 👉ไม่มีภาวะโลกร้อนเป็นเวลาแปดปีที่ผ่านมา https://www.rookon.com/?p=339 👉บริษัทรถยนต์เริ่มคิดใหม่กับรถยนต์ไฟฟ้า https://www.rookon.com/?p=1147 👉ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน https://www.rookon.com/?p=109เก้า (ลิงก์นี้เฟสบุ๊กแบนต้องเปลี่ยนคำว่า เก้า เป็น 9 ก่อน) 👉เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ https://www.rookon.com/?p=1076 👉เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย? https://www.rookon.com/?p=986 👉‘วิธีควบคุมคน’ ที่ดีที่สุดคือ ‘ควบคุมเสบียงอาหาร’ https://www.rookon.com/?p=334 👉ธรรมชาติของความจริง | ไลฟ์สด 16/08/2024 https://www.rookon.com/?p=1263 👉อ.ทีน่า – เข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับโลกมิติที่ 5 https://www.rookon.com/?p=959 👉มนุษย์ต่างดาว (กิ้งก่า) ต้องการอะไรจากมนุษย์ https://www.rookon.com/?p=944 ขอขอบคุณข้อมูลโดย คุณอดิเทพ จาวลาห์ จาก rookon.com และ stopthaicontrol.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1047 มุมมอง 0 รีวิว
  • วาระลวง

    โลกร้อน Climate Change คาร์บอนเครดิต สู่การจำกัดเสรีภาพให้อยู่ในเมือง 15 นาที รถ EV เทคโนโลยี HAARP DEWs

    จากสงครามสู่…ความยั่งยืน? ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ Agenda 2030
    https://www.rookon.com/?p=975
    Climate Change: แยกข้อเท็จจริงออกจากเรื่องแต่ง
    https://www.rookon.com/?p=1011
    ไม่มีภาวะโลกร้อนเป็นเวลาแปดปีที่ผ่านมา
    https://www.rookon.com/?p=339
    บริษัทรถยนต์เริ่มคิดใหม่กับรถยนต์ไฟฟ้า
    https://www.rookon.com/?p=1147
    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน https://www.rookon.com/?p=109เก้า (ลิงก์นี้เฟสบุ๊กแบนต้องเปลี่ยนคำว่า เก้า เป็น 9 ก่อน)
    เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    https://www.rookon.com/?p=1076
    เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย?
    https://www.rookon.com/?p=986
    https://youtu.be/B8h40dr8uZo?si=z9tRbI89SxKkCS4T
    ‘วิธีควบคุมคน’ ที่ดีที่สุดคือ ‘ควบคุมเสบียงอาหาร’
    https://www.rookon.com/?p=334
    เมือง 15 นาที
    https://www.youtube.com/watch?v=AHXDxynhn14
    รถ EV
    https://www.youtube.com/live/tbgRSbBt2wQ?si=1GUR5FC_UWajAWwZ
    มนุษย์กำลังทำให้โลกร้อนอยู่หรือไม่
    https://youtu.be/Dvtrk2DdE-w?si=tf2huHRYIs-VZJQP
    จากสงครามสู่ความยั่งยืน ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ UN Agenda 2030
    https://youtu.be/b7yYtiQ3opk?si=lxhKdKlIn8xQ8JWM
    โลกร้อนลวงโลก
    https://www.youtube.com/live/k_XjqL_w-Ts?si=0MIuU-YoyVh96XDM
    https://www.youtube.com/live/gUcp53brbEQ?si=bhZ9VkUgZxeYW9B_
    sun spot
    https://www.tiktok.com/@adithepchawla01/video/7360143566166838529?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351
    นี้คือแผนการสู่ 15 minute city ภายในปี 2035 เราจะหยุดมันได้แน่นอนครับเพราะคนกำลังตื่นมากขึ้น และให้คนรุ่นใหม่มีอิสรภาพแบบเรา
    คลิปนี้พูดถึงความผิดปกติของพฤติกรรมของรัฐและเอกชนเรื่องรถไฟฟ้าครับ
    คลิปเต็ม 13 นาที https://vt.tiktok.com/ZSY3upW6H/
    คลิป ย่อ 6 นาที https://vt.tiktok.com/ZSY3uG2Ht/

    ขอขอบคุณข้อมูลคุณอดิเทพ จาวลาห์ จาก rookon.com
    วาระลวง โลกร้อน Climate Change คาร์บอนเครดิต สู่การจำกัดเสรีภาพให้อยู่ในเมือง 15 นาที รถ EV เทคโนโลยี HAARP DEWs 👉จากสงครามสู่…ความยั่งยืน? ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ Agenda 2030 https://www.rookon.com/?p=975 👉Climate Change: แยกข้อเท็จจริงออกจากเรื่องแต่ง https://www.rookon.com/?p=1011 👉ไม่มีภาวะโลกร้อนเป็นเวลาแปดปีที่ผ่านมา https://www.rookon.com/?p=339 👉บริษัทรถยนต์เริ่มคิดใหม่กับรถยนต์ไฟฟ้า https://www.rookon.com/?p=1147 👉ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน https://www.rookon.com/?p=109เก้า (ลิงก์นี้เฟสบุ๊กแบนต้องเปลี่ยนคำว่า เก้า เป็น 9 ก่อน) 👉เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ https://www.rookon.com/?p=1076 👉เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย? https://www.rookon.com/?p=986 https://youtu.be/B8h40dr8uZo?si=z9tRbI89SxKkCS4T 👉‘วิธีควบคุมคน’ ที่ดีที่สุดคือ ‘ควบคุมเสบียงอาหาร’ https://www.rookon.com/?p=334 👉เมือง 15 นาที https://www.youtube.com/watch?v=AHXDxynhn14 👉รถ EV https://www.youtube.com/live/tbgRSbBt2wQ?si=1GUR5FC_UWajAWwZ 👉มนุษย์กำลังทำให้โลกร้อนอยู่หรือไม่ https://youtu.be/Dvtrk2DdE-w?si=tf2huHRYIs-VZJQP 👉จากสงครามสู่ความยั่งยืน ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ UN Agenda 2030 https://youtu.be/b7yYtiQ3opk?si=lxhKdKlIn8xQ8JWM 👉โลกร้อนลวงโลก https://www.youtube.com/live/k_XjqL_w-Ts?si=0MIuU-YoyVh96XDM https://www.youtube.com/live/gUcp53brbEQ?si=bhZ9VkUgZxeYW9B_ 👉sun spot https://www.tiktok.com/@adithepchawla01/video/7360143566166838529?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351 👉นี้คือแผนการสู่ 15 minute city ภายในปี 2035 เราจะหยุดมันได้แน่นอนครับเพราะคนกำลังตื่นมากขึ้น และให้คนรุ่นใหม่มีอิสรภาพแบบเรา คลิปนี้พูดถึงความผิดปกติของพฤติกรรมของรัฐและเอกชนเรื่องรถไฟฟ้าครับ คลิปเต็ม 13 นาที https://vt.tiktok.com/ZSY3upW6H/ คลิป ย่อ 6 นาที https://vt.tiktok.com/ZSY3uG2Ht/ ขอขอบคุณข้อมูลคุณอดิเทพ จาวลาห์ จาก rookon.com 🙏🙏🙏
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • World Economic Forum ยอมรับว่าใช้ “โควิด” เป็น แบบทดสอบ สู่ “New World Order”

    - นี่คือโพสล่าสุดของ World Economic Forum ที่ชื่อว่า “My Carbon” ที่พูดถึง แผนการณ์ 3 อย่างที่จะต้องเกิดขึ้น ก่อนที่โลกจะพัฒนาไปสู่วิสัยทัศน์ “Utopia” " เมืองอัจฉริยะแบบยั่งยืน" ของพวกเค้า คือ การปฏิบัติตาม ข้อจํากัดในเสรีภาพ ที่พวกเค้าออกแบบ มานั่นเอง !!!

    - World Economic Forum ยอมรับว่าการระบาดใหญ่ของ โควิด-19 เป็นการทดสอบการเชื่อฟังของประชาชนในการยอมรับ “New World Order” (ระเบียบโลกใหม่) ของพวกเค้า โดยมีเนื้อหาในข้อที่ 1 ว่า โควิด-19 เป็นการทดสอบ ความรับผิดชอบต่อสังคม การยอมรับต่อ ข้อจํากัดที่ไม่อาจจินตนาการได้ ที่สาธารณสุขนํามาใช้ ต่อพลเมืองหลายพันล้านคนทั่วโลก มีตัวอย่างมากมายทั่วโลก ของการรักษาระยะห่างทางสังคม การ สวมหน้ากาก การฉีดวัคซีนจํานวนมาก และ การยอมรับแอปพลิเคชัน การติดตามของ สาธารณสุข ซึ่งแสดงให้เห็นถึง แก่นแท้ของความรับผิดชอบต่อสังคม ของแต่ละบุคคล !!!!

    #เพจนิวเวิลด์ออเดอร์
    - ทั้งหมดนี้คือการทดสอบ ระบบ ดูว่าจะมี “สักกี่คนที่จะละทิ้งเสรีภาพส่วนบุคคล และอธิปไตยส่วนบุคคล” โดยปฏิบัติตาม "New Normal" ให้ที่พวกเค้ากำหนดให้ การใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง รวมไปถึง การต้อนไป ”ฉีด” ยาพิษ แบบ สมัครใจ อีกด้วย !!! ซึ่งทั้งหมด ก็เป็นไปตามแผนการณ์ ของพวกเค้า คือผู้คน มากกว่า 90% ยอมทำตามด้วยความสมัครใจ เดินตาม เส้นทางที่พวกเค้าขีดไว้ โดยไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ว่าทั้งหมดนี้คือ “แผนการณ์” !!!!

    - ก็แปลกดีนะครับ ที่คนสาย Conspiracy Theory ที่โดนคนทั่วไป ต่อว่า ว่า “บ้า” เป็นผู้รอด และ รู้ทัน แผนการณ์เหล่านี้ มากกว่าคนที่คิดว่าตัวเองปกติดี 5555

    - เพราะ ฉะนั้น เลิกพูดกันสักทีว่า โควิด เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือ เหตุบังเอิญ ที่หลุดจาก Lab เพราะเจ้าตัวเค้าออกมาเฉลยแล้ว หลังจากเกิดเหตุ มา 5 ปี ว่า ทั้งหมดนี้ คือ “ ฝืมือของพวกเราเอง ”

    -ในบทความนี้ ยังไม่จบนะครับ ยังพูดถึง เหตุการณ์ อีก 2 อย่างที่กำลังผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้ ก่อนที่โลกใบนี้จะก้าวเข้าสู่ “New World Order” นั่นก็คือเรื่อง
    “ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4” และ “เพิ่มความตระหนักและความเป็นเจ้าของต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”

    - มาดูภาพที่เกิดขึ้นในประเทศไทย หลักจากที่ รัฐบาลไทย ได้เข้าไปร่วม ประชุม World Economic Forum ในปีที่ผ่านมา นอกจากที่ นายกคนเก่าได้ “กระดิ่งวัว” ติดมือกลับบ้านมาแล้ว ก็รีบ ผลักดัน นโยบาย ต่างๆ รับลูก Agenda ของ WEF ทันควันทั้งนััน !!!! และ ในภาคของ เอกชน บางคน (ที่หัวยุ่งๆ ติดเข็มกลัด Agenda 2030 โชว์ตลอดทุกงาน) หลังจากกลับมาจากประชุม ก็ผันตัวจาก นักธุรกิจ มาเป็น “Influencer” ประกาศ สิ่งที่ได้เข้าประชุมมา ว่า WEF ดีมากมาย โชว์ให้คนเห็นแต่ด้านดี และ ให้ผู้คน คล้อยตาม เดินตามที่เค้าวางไว้ และยังได้ พื้นที่ของ สื่อแทบทุกช่อง เรียกไปสัมภาษณ์ กระจาย Agenda เหล่านี้ !!! “ล้างสมอง ให้คนเห็นปีศาจ เป็น เทพเจ้า”

    “ โควิดไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มันคือ แผนการณ์ที่พวกเค้าวางไว้ ”

    ** ถ้าชอบโพสแนว สบคบคิด ฝากกด ติดตาม เพจนิวเวิลด์ออเดอร์ ด้วยครับ **
    World Economic Forum ยอมรับว่าใช้ “โควิด” เป็น แบบทดสอบ สู่ “New World Order” - นี่คือโพสล่าสุดของ World Economic Forum ที่ชื่อว่า “My Carbon” ที่พูดถึง แผนการณ์ 3 อย่างที่จะต้องเกิดขึ้น ก่อนที่โลกจะพัฒนาไปสู่วิสัยทัศน์ “Utopia” " เมืองอัจฉริยะแบบยั่งยืน" ของพวกเค้า คือ การปฏิบัติตาม ข้อจํากัดในเสรีภาพ ที่พวกเค้าออกแบบ มานั่นเอง !!! - World Economic Forum ยอมรับว่าการระบาดใหญ่ของ โควิด-19 เป็นการทดสอบการเชื่อฟังของประชาชนในการยอมรับ “New World Order” (ระเบียบโลกใหม่) ของพวกเค้า โดยมีเนื้อหาในข้อที่ 1 ว่า โควิด-19 เป็นการทดสอบ ความรับผิดชอบต่อสังคม การยอมรับต่อ ข้อจํากัดที่ไม่อาจจินตนาการได้ ที่สาธารณสุขนํามาใช้ ต่อพลเมืองหลายพันล้านคนทั่วโลก มีตัวอย่างมากมายทั่วโลก ของการรักษาระยะห่างทางสังคม การ สวมหน้ากาก การฉีดวัคซีนจํานวนมาก และ การยอมรับแอปพลิเคชัน การติดตามของ สาธารณสุข ซึ่งแสดงให้เห็นถึง แก่นแท้ของความรับผิดชอบต่อสังคม ของแต่ละบุคคล !!!! #เพจนิวเวิลด์ออเดอร์ - ทั้งหมดนี้คือการทดสอบ ระบบ ดูว่าจะมี “สักกี่คนที่จะละทิ้งเสรีภาพส่วนบุคคล และอธิปไตยส่วนบุคคล” โดยปฏิบัติตาม "New Normal" ให้ที่พวกเค้ากำหนดให้ การใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง รวมไปถึง การต้อนไป ”ฉีด” ยาพิษ แบบ สมัครใจ อีกด้วย !!! ซึ่งทั้งหมด ก็เป็นไปตามแผนการณ์ ของพวกเค้า คือผู้คน มากกว่า 90% ยอมทำตามด้วยความสมัครใจ เดินตาม เส้นทางที่พวกเค้าขีดไว้ โดยไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ว่าทั้งหมดนี้คือ “แผนการณ์” !!!! - ก็แปลกดีนะครับ ที่คนสาย Conspiracy Theory ที่โดนคนทั่วไป ต่อว่า ว่า “บ้า” เป็นผู้รอด และ รู้ทัน แผนการณ์เหล่านี้ มากกว่าคนที่คิดว่าตัวเองปกติดี 5555 - เพราะ ฉะนั้น เลิกพูดกันสักทีว่า โควิด เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือ เหตุบังเอิญ ที่หลุดจาก Lab เพราะเจ้าตัวเค้าออกมาเฉลยแล้ว หลังจากเกิดเหตุ มา 5 ปี ว่า ทั้งหมดนี้ คือ “ ฝืมือของพวกเราเอง ” -ในบทความนี้ ยังไม่จบนะครับ ยังพูดถึง เหตุการณ์ อีก 2 อย่างที่กำลังผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้ ก่อนที่โลกใบนี้จะก้าวเข้าสู่ “New World Order” นั่นก็คือเรื่อง “ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4” และ “เพิ่มความตระหนักและความเป็นเจ้าของต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” - มาดูภาพที่เกิดขึ้นในประเทศไทย หลักจากที่ รัฐบาลไทย ได้เข้าไปร่วม ประชุม World Economic Forum ในปีที่ผ่านมา นอกจากที่ นายกคนเก่าได้ “กระดิ่งวัว” ติดมือกลับบ้านมาแล้ว ก็รีบ ผลักดัน นโยบาย ต่างๆ รับลูก Agenda ของ WEF ทันควันทั้งนััน !!!! และ ในภาคของ เอกชน บางคน (ที่หัวยุ่งๆ ติดเข็มกลัด Agenda 2030 โชว์ตลอดทุกงาน) หลังจากกลับมาจากประชุม ก็ผันตัวจาก นักธุรกิจ มาเป็น “Influencer” ประกาศ สิ่งที่ได้เข้าประชุมมา ว่า WEF ดีมากมาย โชว์ให้คนเห็นแต่ด้านดี และ ให้ผู้คน คล้อยตาม เดินตามที่เค้าวางไว้ และยังได้ พื้นที่ของ สื่อแทบทุกช่อง เรียกไปสัมภาษณ์ กระจาย Agenda เหล่านี้ !!! “ล้างสมอง ให้คนเห็นปีศาจ เป็น เทพเจ้า” “ โควิดไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มันคือ แผนการณ์ที่พวกเค้าวางไว้ ” ** ถ้าชอบโพสแนว สบคบคิด ฝากกด ติดตาม เพจนิวเวิลด์ออเดอร์ ด้วยครับ **
    Like
    Love
    4
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเล่าต่อเรื่องแบรนด์ธุรกิจของ lit nit ที่เกริ่นค้างไว้ว่า
    "ประกอบธุรกิจอย่างรู้คุณ" คุณที่ว่านี้คืออะไร ?
    ....
    คุณที่ว่านี้หมายถึง 2 ความหมาย หนึ่งคือ รู้พระคุณของคนที่มีส่วนทำให้ lit nit มีแบรนด์วันนี้
    คุณที่สองคือ ประกอบธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โดยมีกรอบหรือพันธกิจของธุรกิจดังนี้
    ....
    1.ผลิตสินค้าโดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดตามศักยภาพ

    2.ปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยการศึกษา วิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ และนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสม

    3.ประกอบธุรกิจโดยยึดหลักคุณธรรมข้อ "สัมมาอาชีวะ" ที่มีบัญญัติไว้ในพระพุทธศาสนา

    4.เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมให้มีความเป็นอยู่อย่างสงบ ร่มเย็น และยั่งยืน
    ....
    นี่แหละคือหลักคิด แนวทาง และปรัชญาที่แบรนด์นี้ยึดถือ
    #เดี๋ยวอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเผยชื่อแบรนด์แล้วล่ะ^^
    ขอเล่าต่อเรื่องแบรนด์ธุรกิจของ lit nit ที่เกริ่นค้างไว้ว่า "ประกอบธุรกิจอย่างรู้คุณ" คุณที่ว่านี้คืออะไร ? .... คุณที่ว่านี้หมายถึง 2 ความหมาย หนึ่งคือ รู้พระคุณของคนที่มีส่วนทำให้ lit nit มีแบรนด์วันนี้ คุณที่สองคือ ประกอบธุรกิจอย่างมีคุณธรรม โดยมีกรอบหรือพันธกิจของธุรกิจดังนี้ .... 1.ผลิตสินค้าโดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดตามศักยภาพ 2.ปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยการศึกษา วิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ และนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสม 3.ประกอบธุรกิจโดยยึดหลักคุณธรรมข้อ "สัมมาอาชีวะ" ที่มีบัญญัติไว้ในพระพุทธศาสนา 4.เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมให้มีความเป็นอยู่อย่างสงบ ร่มเย็น และยั่งยืน .... นี่แหละคือหลักคิด แนวทาง และปรัชญาที่แบรนด์นี้ยึดถือ #เดี๋ยวอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเผยชื่อแบรนด์แล้วล่ะ^^
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCBEIC
    เผยแพร่ข้อมูล SME ไทย กำลังเผชิญ
    กับความท้าทาย 4 ด้าน ได้แก่

    1. มุมมองความเชื่อมั่นของธุรกิจ SME
    ของไทยในปัจจุบัน อยู่ในระดับต่ำ
    ความกังวลต่อกำลังซื้อในประเทศที่เปราะบาง
    กอปรกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
    ทำให้ SME ไทย มีมุมมองความเชื่อมั่นของธุรกิจ
    อยู่ในระดับต่ำ

    นอกจากนี้ เรายังเริ่มเห็นสัญญาณความกังวลใจ
    ต่อปัจจัยเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์
    ที่สูญเสียความสามารถทางการแข่งขันให้กับสินค้านำเข้า

    ทั้งนี้การเรียกคืนความเชื่อมั่นให้แก่เหล่าธุรกิจ SME
    ควรเริ่มจากการเพิ่มบทบาทของภาครัฐและภาคการเงิน
    ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนโยบายส่งเสริมการใช้จ่าย
    และท่องเที่ยว เร่ง/เพิ่มการลงทุนภาครัฐ ลดความเข้มงวด
    การปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการดำเนินนโยบายการเงิน
    ที่ผ่อนคลายลง ขณะที่ในระยะยาว ควรมีมาตรการสนับสนุน
    การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ
    ควบคู่กับการส่งเสริมการส่งออกเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรม
    การผลิต เพื่อขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดใหม่ ๆ

    2. การดำเนินธุรกิจ SME ไทย กำลังเผชิญ
    กับความท้าทายรอบด้าน
    จากต้นทุนการผลิต/การดำเนินงานสูงและผันผวน
    กอปรกับปัญหากลยุทธ์การตลาดและกระบวนการผลิตล้าสมัย
    ทำให้การดำเนินธุรกิจของ SME ไทย กำลังเผชิญความท้าทาย

    อีกทั้ง ยังขาดความสามารถในการรักษาฐานลูกค้า เพราะเผชิญ
    กับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง จากคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ

    อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการในแต่ละขนาดวิสาหกิจมีการรับมือ
    กับความท้าทายต่าง ๆ เหล่านี้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน
    โดยธุรกิจขนาดย่อม (Micro) จะเน้นมาตรการลดค่าใช้จ่ายเป็นหลัก
    ขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กและกลางส่วนใหญ่จะหันมายกระดับธุรกิจ
    ผ่านการพัฒนาสินค้า กระบวนการผลิต และการตลาดให้ทันสมัยยิ่งขึ้น

    3. SME ไทย เริ่มหันมาให้ความสำคัญ กับการยกระดับ
    ศักยภาพธุรกิจในระยะยาว
    โดย SME ไทย จะเน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน
    การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และการพัฒนาสินค้า
    และบริการให้มีคุณภาพสูง ซึ่งแนวโน้มการพัฒนาธุรกิจเหล่านี้
    เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาด้านต้นทุน ความล้าสมัย
    ของกระบวนการทำงาน และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงจากรอบด้าน
    ซึ่งพบว่าอุตสาหกรรมที่มีความตื่นตัวมากที่สุด คือ กลุ่มผู้ผลิตอาหาร
    และเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก

    ทั้งนี้แหล่งเงินทุนหลักสำหรับธุรกิจ SME ยังคงพึ่งพาสินเชื่อ
    จากสถาบันการเงินเป็นหลัก จะมีเพียงวิสาหกิจขนาดย่อม (Micro)
    ที่จำเป็นต้องอาศัยแหล่งเงินทุน จากกำไรสะสมของธุรกิจ
    และทรัพย์สินของผู้ประกอบการ เนื่องจากส่วนใหญ่เผชิญปัญหา
    ความสามารถในการเข้าถึงสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์
    เพราะขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน และการจัดทำบัญชียังไม่เป็นระบบ

    4. SME มีมุมมองเชิงบวก และ กำลังเตรียมพร้อมรับมือ
    กับกระแส ESG
    SME ไทยส่วนใหญ่ได้กำหนดแผนการดำเนินงานภายใต้เป้าหมาย
    ความยั่งยืนแล้ว ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างในอุตฯ ปั๊มน้ำมัน จำหน่ายเคมีภัณฑ์
    รับเหมาและขายวัสดุก่อสร้าง นับว่าตื่นตัวกับกระแสดังกล่าวมากที่สุด
    โดยการปรับตัวจะเน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก

    ทั้งนี้การปรับตัวของ SME ให้สอดรับกับกระแส ESG จำเป็นต้องอาศัย
    โครงการจัดอบรมให้ความรู้ และโครงการมีที่ปรึกษาที่กระจายตัว
    อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ เนื่องจากผู้ประกอบการขนาดย่อมและธุรกิจ
    ในจังหวัดเมืองรอง ยังเข้าถึงมาตรการความช่วยเหลือเหล่านี้
    ได้ค่อนข้างจำกัด จนมีส่วนทำให้การปรับตัวทำได้ค่อนข้างยาก
    และมีต้นทุนสูง

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SME #เอสเอมอี #SCBEIC
    #ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ SCBEIC เผยแพร่ข้อมูล SME ไทย กำลังเผชิญ กับความท้าทาย 4 ด้าน ได้แก่ 🚩1. มุมมองความเชื่อมั่นของธุรกิจ SME ของไทยในปัจจุบัน อยู่ในระดับต่ำ ความกังวลต่อกำลังซื้อในประเทศที่เปราะบาง กอปรกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ SME ไทย มีมุมมองความเชื่อมั่นของธุรกิจ อยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ เรายังเริ่มเห็นสัญญาณความกังวลใจ ต่อปัจจัยเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ที่สูญเสียความสามารถทางการแข่งขันให้กับสินค้านำเข้า ทั้งนี้การเรียกคืนความเชื่อมั่นให้แก่เหล่าธุรกิจ SME ควรเริ่มจากการเพิ่มบทบาทของภาครัฐและภาคการเงิน ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนโยบายส่งเสริมการใช้จ่าย และท่องเที่ยว เร่ง/เพิ่มการลงทุนภาครัฐ ลดความเข้มงวด การปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการดำเนินนโยบายการเงิน ที่ผ่อนคลายลง ขณะที่ในระยะยาว ควรมีมาตรการสนับสนุน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับการส่งเสริมการส่งออกเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรม การผลิต เพื่อขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดใหม่ ๆ 🚩2. การดำเนินธุรกิจ SME ไทย กำลังเผชิญ กับความท้าทายรอบด้าน จากต้นทุนการผลิต/การดำเนินงานสูงและผันผวน กอปรกับปัญหากลยุทธ์การตลาดและกระบวนการผลิตล้าสมัย ทำให้การดำเนินธุรกิจของ SME ไทย กำลังเผชิญความท้าทาย อีกทั้ง ยังขาดความสามารถในการรักษาฐานลูกค้า เพราะเผชิญ กับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง จากคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการในแต่ละขนาดวิสาหกิจมีการรับมือ กับความท้าทายต่าง ๆ เหล่านี้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยธุรกิจขนาดย่อม (Micro) จะเน้นมาตรการลดค่าใช้จ่ายเป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กและกลางส่วนใหญ่จะหันมายกระดับธุรกิจ ผ่านการพัฒนาสินค้า กระบวนการผลิต และการตลาดให้ทันสมัยยิ่งขึ้น 🚩3. SME ไทย เริ่มหันมาให้ความสำคัญ กับการยกระดับ ศักยภาพธุรกิจในระยะยาว โดย SME ไทย จะเน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และการพัฒนาสินค้า และบริการให้มีคุณภาพสูง ซึ่งแนวโน้มการพัฒนาธุรกิจเหล่านี้ เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาด้านต้นทุน ความล้าสมัย ของกระบวนการทำงาน และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงจากรอบด้าน ซึ่งพบว่าอุตสาหกรรมที่มีความตื่นตัวมากที่สุด คือ กลุ่มผู้ผลิตอาหาร และเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ทั้งนี้แหล่งเงินทุนหลักสำหรับธุรกิจ SME ยังคงพึ่งพาสินเชื่อ จากสถาบันการเงินเป็นหลัก จะมีเพียงวิสาหกิจขนาดย่อม (Micro) ที่จำเป็นต้องอาศัยแหล่งเงินทุน จากกำไรสะสมของธุรกิจ และทรัพย์สินของผู้ประกอบการ เนื่องจากส่วนใหญ่เผชิญปัญหา ความสามารถในการเข้าถึงสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ เพราะขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน และการจัดทำบัญชียังไม่เป็นระบบ 🚩4. SME มีมุมมองเชิงบวก และ กำลังเตรียมพร้อมรับมือ กับกระแส ESG SME ไทยส่วนใหญ่ได้กำหนดแผนการดำเนินงานภายใต้เป้าหมาย ความยั่งยืนแล้ว ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างในอุตฯ ปั๊มน้ำมัน จำหน่ายเคมีภัณฑ์ รับเหมาและขายวัสดุก่อสร้าง นับว่าตื่นตัวกับกระแสดังกล่าวมากที่สุด โดยการปรับตัวจะเน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ทั้งนี้การปรับตัวของ SME ให้สอดรับกับกระแส ESG จำเป็นต้องอาศัย โครงการจัดอบรมให้ความรู้ และโครงการมีที่ปรึกษาที่กระจายตัว อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ เนื่องจากผู้ประกอบการขนาดย่อมและธุรกิจ ในจังหวัดเมืองรอง ยังเข้าถึงมาตรการความช่วยเหลือเหล่านี้ ได้ค่อนข้างจำกัด จนมีส่วนทำให้การปรับตัวทำได้ค่อนข้างยาก และมีต้นทุนสูง #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SME #เอสเอมอี #SCBEIC #ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 722 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย หรือ SET
    ดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 75 จุด จาก 1355
    เป็น 1427.64 จุด หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5%
    ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัย

    1. การตั้งรัฐบาล และ ครม. ของนายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร 1
    ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย

    2. โครงการดิจิทัลวอลเลต งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
    น่าจะเริ่มทะยอยเข้าบัญชี และเริ่มใช้ในปลายเดือนกันยายน นี้
    (สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ/ผู้สูงอายุ
    ผู้พิการ)

    3. สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท

    4. กระทรวงกการคลังจ่อเปิดกองทุน วายุภักษ์ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้าน
    เริ่มจอง 16-20 กันยายน และเข้าเทรด 10 ตุลาคม 2567 นี้

    5. ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน
    ล่าสุดอยู่ที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

    6. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง จากการคาดการณ์ว่า
    ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
    จากเดิม 5.25- 5.5% เป็น 5.00% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
    สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง จากภาคการผลิต และ การจ้างงาน
    ที่มีแนวโน้มลดลง

    7. เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fundflow) จากตลาดทุนสหรัฐ
    เช่น จากหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล ไปยังตลาดทุนอื่นๆ เช่น
    เข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เป็นต้น

    8. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุน ที่ซื้อ-ขาย หุ้นไทย ได้แก่
    8.1 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 15,000 ล้านบาท
    8.2 นักลงทุนสถาบัน(กองทุน) ซื้อ 5,641 ล้านบาท
    8.3 นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขาย -20,000 ล้านบาท
    8.4 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขาย -977 ล้านบาท

    *สิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า และระยะยาวคือ
    การเข้าซื้อครั้งนี้ จะมีความยั่งยืน มากน้อยแค่ไหน
    และผู้ลงทุน จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในระยะยาวหรือไม่
    เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่า เข้าซื้อซักพักนึง แล้วก็เทขาย
    ทำกำไรออกไป

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    🔥🔥สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย หรือ SET ดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 75 จุด จาก 1355 เป็น 1427.64 จุด หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัย 🚩1. การตั้งรัฐบาล และ ครม. ของนายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร 1 ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย 🚩2. โครงการดิจิทัลวอลเลต งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท น่าจะเริ่มทะยอยเข้าบัญชี และเริ่มใช้ในปลายเดือนกันยายน นี้ (สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ/ผู้สูงอายุ ผู้พิการ) 🚩3. สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท 🚩4. กระทรวงกการคลังจ่อเปิดกองทุน วายุภักษ์ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้าน เริ่มจอง 16-20 กันยายน และเข้าเทรด 10 ตุลาคม 2567 นี้ 🚩5. ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน ล่าสุดอยู่ที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ 🚩6. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง จากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง จากเดิม 5.25- 5.5% เป็น 5.00% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง จากภาคการผลิต และ การจ้างงาน ที่มีแนวโน้มลดลง 🚩7. เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fundflow) จากตลาดทุนสหรัฐ เช่น จากหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล ไปยังตลาดทุนอื่นๆ เช่น เข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เป็นต้น 🚩8. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุน ที่ซื้อ-ขาย หุ้นไทย ได้แก่ 8.1 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 15,000 ล้านบาท 8.2 นักลงทุนสถาบัน(กองทุน) ซื้อ 5,641 ล้านบาท 8.3 นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขาย -20,000 ล้านบาท 8.4 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขาย -977 ล้านบาท 🔥🔥 *สิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า และระยะยาวคือ การเข้าซื้อครั้งนี้ จะมีความยั่งยืน มากน้อยแค่ไหน และผู้ลงทุน จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในระยะยาวหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่า เข้าซื้อซักพักนึง แล้วก็เทขาย ทำกำไรออกไป #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 912 มุมมอง 340 0 รีวิว
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย หรือ SET
    ดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 75 จุด จาก 1355
    เป็น 1427.64 จุด หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5%
    ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัย

    1. การตั้งรัฐบาล และ ครม. ของนายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร 1
    ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย

    2. โครงการดิจิทัลวอลเลต งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
    น่าจะเริ่มทะยอยเข้าบัญชี และเริ่มใช้ในปลายเดือนกันยายน นี้
    (สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ/ผู้สูงอายุ
    ผู้พิการ)

    3. สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท

    4. กระทรวงกการคลังจ่อเปิดกองทุน วายุภักษ์ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้าน
    เริ่มจอง 16-20 กันยายน และเข้าเทรด 10 ตุลาคม 2567 นี้

    5. ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน
    ล่าสุดอยู่ที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

    6. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง จากการคาดการณ์ว่า
    ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
    จากเดิม 5.25- 5.5% เป็น 5.00% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
    สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง จากภาคการผลิต และ การจ้างงาน
    ที่มีแนวโน้มลดลง

    7. เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fundflow) จากตลาดทุนสหรัฐ
    เช่น จากหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล ไปยังตลาดทุนอื่นๆ เช่น
    เข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เป็นต้น

    8. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุน ที่ซื้อ-ขาย หุ้นไทย ได้แก่
    8.1 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 15,000 ล้านบาท
    8.2 นักลงทุนสถาบัน(กองทุน) ซื้อ 5,641 ล้านบาท
    8.3 นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขาย -20,000 ล้านบาท
    8.4 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขาย -977 ล้านบาท

    *สิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า และระยะยาวคือ
    การเข้าซื้อครั้งนี้ จะมีความยั่งยืน มากน้อยแค่ไหน
    และผู้ลงทุน จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในระยะยาวหรือไม่
    เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่า เข้าซื้อซักพักนึง แล้วก็เทขาย
    ทำกำไรออกไป

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    🔥🔥สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย หรือ SET ดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 75 จุด จาก 1355 เป็น 1427.64 จุด หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัย 🚩1. การตั้งรัฐบาล และ ครม. ของนายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร 1 ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย 🚩2. โครงการดิจิทัลวอลเลต งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท น่าจะเริ่มทะยอยเข้าบัญชี และเริ่มใช้ในปลายเดือนกันยายน นี้ (สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ/ผู้สูงอายุ ผู้พิการ) 🚩3. สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท 🚩4. กระทรวงกการคลังจ่อเปิดกองทุน วายุภักษ์ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้าน เริ่มจอง 16-20 กันยายน และเข้าเทรด 10 ตุลาคม 2567 นี้ 🚩5. ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน ล่าสุดอยู่ที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ 🚩6. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง จากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง จากเดิม 5.25- 5.5% เป็น 5.00% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง จากภาคการผลิต และ การจ้างงาน ที่มีแนวโน้มลดลง 🚩7. เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fundflow) จากตลาดทุนสหรัฐ เช่น จากหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล ไปยังตลาดทุนอื่นๆ เช่น เข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เป็นต้น 🚩8. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุน ที่ซื้อ-ขาย หุ้นไทย ได้แก่ 8.1 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 15,000 ล้านบาท 8.2 นักลงทุนสถาบัน(กองทุน) ซื้อ 5,641 ล้านบาท 8.3 นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขาย -20,000 ล้านบาท 8.4 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขาย -977 ล้านบาท 🔥🔥 *สิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า และระยะยาวคือ การเข้าซื้อครั้งนี้ จะมีความยั่งยืน มากน้อยแค่ไหน และผู้ลงทุน จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในระยะยาวหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่า เข้าซื้อซักพักนึง แล้วก็เทขาย ทำกำไรออกไป #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 887 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าเราทำการบ้านหุ้น และเริ่มสะสมหุ้น
    ที่มีผลประกอบการที่ดี ตั้งแต่ช่วงตลาดหุ้นไทย
    ดัชนี 1274-1300 จุด เป็นต้นมา สิ่งที่เราต้องทำต่อไป
    คือ เรียนรู้ อาการกลัวตกรถ และดูว่าการเข้าซื้อนี้
    จะเป็นการเข้าซื้อแบบยั่งยืนหรือไม่ และต่อเนื่องหรือไม่
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    🔥🔥ถ้าเราทำการบ้านหุ้น และเริ่มสะสมหุ้น ที่มีผลประกอบการที่ดี ตั้งแต่ช่วงตลาดหุ้นไทย ดัชนี 1274-1300 จุด เป็นต้นมา สิ่งที่เราต้องทำต่อไป คือ เรียนรู้ อาการกลัวตกรถ และดูว่าการเข้าซื้อนี้ จะเป็นการเข้าซื้อแบบยั่งยืนหรือไม่ และต่อเนื่องหรือไม่ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    1
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 761 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอาล่ะเริ่มเล่าได้แล้ว สำหรับเรื่องราวแบรนด์ธุรกิจของ lit nit ที่กำลังสร้างโลโก้อยู่
    ....
    พี่ที่ให้ความช่วยเหลือในการออกแบบโลโก้ส่งตัวอย่างมาให้ lit nit เลือกเพื่อที่จะได้ปรับให้เหมาะสมกับความเป็นเอกลักษณ์ของธุรกิจ โดย lit nit ชูวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่ว่า

    "ใช้ทรัพยากรอย่างรู้ค่า ประกอบธุรกิจอย่างรู้คุณ สนับสนุนสังคมสู่ความยั่งยืน"
    ....
    แน่นอนว่าแบรนด์ธุรกิจนี้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งเรื่องสิ่งแวดล้อม ส่วนเรื่อง "ประกอบธุรกิจอย่างรู้คุณ" คุณในที่นี้หมายถึงอะไร และมีหลักอะไรในการยึดถือ วันพรุ่งนี้จะมาเล่าต่อ
    #ส่วนชื่อแบรนด์เดี๋ยวเปิดเผยพร้อมโลโก้ครับ^^
    เอาล่ะเริ่มเล่าได้แล้ว สำหรับเรื่องราวแบรนด์ธุรกิจของ lit nit ที่กำลังสร้างโลโก้อยู่ .... พี่ที่ให้ความช่วยเหลือในการออกแบบโลโก้ส่งตัวอย่างมาให้ lit nit เลือกเพื่อที่จะได้ปรับให้เหมาะสมกับความเป็นเอกลักษณ์ของธุรกิจ โดย lit nit ชูวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่ว่า "ใช้ทรัพยากรอย่างรู้ค่า ประกอบธุรกิจอย่างรู้คุณ สนับสนุนสังคมสู่ความยั่งยืน" .... แน่นอนว่าแบรนด์ธุรกิจนี้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งเรื่องสิ่งแวดล้อม ส่วนเรื่อง "ประกอบธุรกิจอย่างรู้คุณ" คุณในที่นี้หมายถึงอะไร และมีหลักอะไรในการยึดถือ วันพรุ่งนี้จะมาเล่าต่อ #ส่วนชื่อแบรนด์เดี๋ยวเปิดเผยพร้อมโลโก้ครับ^^
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • BRT สายแรกในลาว คาดแล้วเสร็จ ธ.ค.นี้

    เมื่อวันก่อนสื่อออนไลน์ในประเทศลาว เผยแพร่ภาพความคืบหน้าการก่อสร้างที่นั่งรอรถเมล์ (Bus Shelter) เขตโพนสะอาด เมืองไชยเชษฐา นครหลวงเวียงจันทน์ ตามโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที (Bus Rapid Transit หรือ BRT) ภายใต้ชื่อโครงการขนส่งแบบยั่งยืนในตัวเมือง (Vientiane Sustainable Urban Transport Project หรือ VSUTP) ซึ่งมึความคืบหน้าไปมาก

    กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ดำเนินโครงการทั้งหมด 5 สัญญา ได้แก่ ก่อสร้างช่องจราจรรถเมล์ด่วน และสถานี BRT ช่วงสวนเจ้าฟ้างุ้ม ถึงประตูชัย และช่วงประตูชัย ถึงมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว พร้อมก่อสร้างที่นั่งรอรถเมล์ (Bus Shelter)

    นอกจากนี้ ยังก่อสร้างอู่รถเมล์ ศูนย์ซ่อมบำรุง และศูนย์ควบคุมการเดินรถเมล์ BRT วางสายใยแก้ว (Fiber Optic) ก่อสร้างทางร่วม ปรับปรุงทัศนียภาพ และก่อสร้างและติดตั้งไฟสัญญาณจราจร จำนวน 41 จุด ครอบคลุม 5 ตัวเมือง เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อเดือน มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา โดยมีแผนจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 2567

    สำหรับรูปแบบการให้บริการรถเมล์ด่วนพิเศษ BRT นครหลวงเวียงจันทน์ มีทั้งหมด 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง A สถานีขนส่งสายเหนือ-สวนเจ้าฟ้างุ้ม-ตลาดเช้า-ประตูชัย-ศูนย์การค้าไอเต็ก มอลล์, เส้นทาง B ธาตุทอง-สวนเจ้าฟ้างุ้ม-ตลาดเช้า-ประตูชัย-ท่าง่อน และเส้นทาง D สวนเจ้าฟ้างุ้ม-ตลาดเช้า-ประตูชัย-ดงโดก (มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว)

    ใช้รถโดยสารปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าความยาว 12 เมตร ขนาด 40 ที่นั่ง มีที่นั่งพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้พิการ รองรับรถเข็นวีลแชร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00-22.00 น. คิดค่าโดยสารเป็น 2 ระยะ คือ ระยะสั้นใจกลางเมือง 3,500 กีบ ระยะยาวไปยังชานเมือง 8,000 กีบ ชำระเงินผ่านบัตรสมาร์ทการ์ด ที่สถานีหลัก BRT และร้านสะดวกซื้อที่ร่วมโครงการ

    โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) และองค์กรอื่นๆ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ADB คาดการณ์ว่าประชาชนจะหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และรองรับนักท่องเที่ยว สามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

    #Newskit #VientianeBRT #VSUTP
    BRT สายแรกในลาว คาดแล้วเสร็จ ธ.ค.นี้ เมื่อวันก่อนสื่อออนไลน์ในประเทศลาว เผยแพร่ภาพความคืบหน้าการก่อสร้างที่นั่งรอรถเมล์ (Bus Shelter) เขตโพนสะอาด เมืองไชยเชษฐา นครหลวงเวียงจันทน์ ตามโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที (Bus Rapid Transit หรือ BRT) ภายใต้ชื่อโครงการขนส่งแบบยั่งยืนในตัวเมือง (Vientiane Sustainable Urban Transport Project หรือ VSUTP) ซึ่งมึความคืบหน้าไปมาก กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ดำเนินโครงการทั้งหมด 5 สัญญา ได้แก่ ก่อสร้างช่องจราจรรถเมล์ด่วน และสถานี BRT ช่วงสวนเจ้าฟ้างุ้ม ถึงประตูชัย และช่วงประตูชัย ถึงมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว พร้อมก่อสร้างที่นั่งรอรถเมล์ (Bus Shelter) นอกจากนี้ ยังก่อสร้างอู่รถเมล์ ศูนย์ซ่อมบำรุง และศูนย์ควบคุมการเดินรถเมล์ BRT วางสายใยแก้ว (Fiber Optic) ก่อสร้างทางร่วม ปรับปรุงทัศนียภาพ และก่อสร้างและติดตั้งไฟสัญญาณจราจร จำนวน 41 จุด ครอบคลุม 5 ตัวเมือง เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อเดือน มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา โดยมีแผนจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 2567 สำหรับรูปแบบการให้บริการรถเมล์ด่วนพิเศษ BRT นครหลวงเวียงจันทน์ มีทั้งหมด 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง A สถานีขนส่งสายเหนือ-สวนเจ้าฟ้างุ้ม-ตลาดเช้า-ประตูชัย-ศูนย์การค้าไอเต็ก มอลล์, เส้นทาง B ธาตุทอง-สวนเจ้าฟ้างุ้ม-ตลาดเช้า-ประตูชัย-ท่าง่อน และเส้นทาง D สวนเจ้าฟ้างุ้ม-ตลาดเช้า-ประตูชัย-ดงโดก (มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว) ใช้รถโดยสารปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าความยาว 12 เมตร ขนาด 40 ที่นั่ง มีที่นั่งพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้พิการ รองรับรถเข็นวีลแชร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00-22.00 น. คิดค่าโดยสารเป็น 2 ระยะ คือ ระยะสั้นใจกลางเมือง 3,500 กีบ ระยะยาวไปยังชานเมือง 8,000 กีบ ชำระเงินผ่านบัตรสมาร์ทการ์ด ที่สถานีหลัก BRT และร้านสะดวกซื้อที่ร่วมโครงการ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) และองค์กรอื่นๆ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ADB คาดการณ์ว่าประชาชนจะหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และรองรับนักท่องเที่ยว สามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น #Newskit #VientianeBRT #VSUTP
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก่อนอื่น เพจคิงส์โพธิ์แดงต้องขออภัยลุงป้อม
    ที่แอบแซวแรง กรณีหยุมหัวนักข่าว
    ทำไมคิงส์ฯถึงต้องขออภัย อ่านนะ
    คิงส์ไม่ได้หายไปไหน ที่หายไปหลายชม.
    เพื่อไปเช็คข่าว ว่าที่มาที่ไป เป็นแบบไหนอย่างไร
    ถ้าทุกคนพร้อมจะรับรู้ เราไปทำความเข้าใจไปพร้อมกัน
    เรื่องของเรื่อง คา-สิ-โน ตัวต้นเหตุสำคัญ
    ต้องออกตัวก่อนว่า สิ่งที่ลุงป้อมทำ เป็นความรุนแรงเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง
    แต่ก็ต้องไม่ปฏิเสธว่า นักข่าวที่ตั้งคำถาม จงใจยั่วยุ เพราะนักข่าวรู้ดีว่าอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น แต่ประชาชนไม่รู้ แต่แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดงจะได้รู้
    ถ้าจำได้ ก่อนหน้าวันที่พรรคร่วมจะยกมือสนับสนุนให้อิ๊งเป็นนายก
    เสี่ยหนู ได้ออกแถลงด่วนว่า ไม่เห็นด้วยกับ คา-สิ-โน เมื่อได้อ่านร่างที่จะยืนมขอมติคณะ ครม.
    ทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไป
    คิงส์ขอซ่อนเนื้อหาสำคัญไว้ในโพสนี้ ที่จะไม่มีใครกล้าเปิดเผยมาก่อน
    ตอนนี้ มีเจ้าของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ได้ดิลกับนายทุนจีน และนายทุนต่างประเทศ สำเร็จเรียบร้อย ท่านรู้หรือไม่ ถ้าพรบ คา-สิ-โน นี้ผ่านเมื่อไหร่ ประเทศไทยจะไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไขอะไรได้อีกเลย
    และก่อนหน้าเสี่ยหนูจะออกมาแถลงจุดยืนไม่รับกฎหมายฉบับนี้
    ลุงป้อมคือตัวหลักที่ทุบโต๊ะ ไม่ยอมให้เกิดขึ้น ตอนแรก คิงส์ฯเองก็ไม่อยากจะเชื่อ เพราะด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นข่าว ดูแกไม่รู้ประสา โบ๊งเบ๊งไปวันๆ แต่สุดท้าย ในยามน่าสิ่วหน้าขวาน ลุงป้อมกลับไม่ยอมให้พรบนี้ผ่าน
    หัวหน้าพรรคที่ดิลกับต่างประเทศ ข้อมูลที่แน่ชัดคือ
    จะมีการเปิด คา-สิ-โน ทั่วประเทศถึง 8 จุด ที่ปิดดิลไปแล้ว
    จุดละ 1 หมื่นล้านซึ่งไม่ใช่งบลงทุนนะ เป็นค่ากินเปล่าให้ฟรี
    และอย่างน้อยสามราย จ่ายครบจบแล้ว
    การที่มีเจ้าของพรรคการเมือง 1 พรรค ที่มีสาย ป่านหลัก 8 หมื่นล้าน มันคือการสร้างความยั่งยืนให้กับพรรคนั้น ชนิด สถาพร
    แต่ผลกระทบที่จะตามมาคือ ประเทศไทยก็จะเหมือนมาเก๊า เวกัส ซึ่งคิงส์จะลงดีเทลในโพสถัดๆไป แต่ย่อๆคือ ประเทศเราจะเต็มไปด้วย อา-ช-ญ-า-กรรม ต่างชาติจะซ่าในประเทศเรา ในแบบที่ผู้รักษากฏหมายไม่สามารถจัดการอะไรได้อีกเลย เราต้องใช้ชีวิตร่วมกับ ม-า-เ-ฟี-ย จีน และประเทศอื่นๆ
    เหนือ 2 จุด อีสาน 2-3 จุด ใต้ 2 จังหวัด ที่เหลือภาคกลาง
    ขอให้พี่น้องชาวไทย โปรดจับตา อย่าให้พรบนี้ผ่านเด็ดขาด
    ส่วนลุงป้อมคงต้องรอดูว่าพรรคร่วมอื่น สนับสนุนอิ๊งเป็นนายกเพราะความจำเป็น ไม่บางอย่าง แต่หลายอย่าง จะสนับสนุน พรบ คา-สิ-โน นี้ด้วยการให้ผ่านหรือไม่ วัดไปเลยใครของจริงกันแน่
    และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำใ้หโทนี่ถึงขนาดจะไม่ให้มีพลปชรในพรรคร่วมรัฐบาล หรือจะมีก็แค่แป้ง ธรรมนัส เพราะดันจะไปขัดลาบชิ้นใหญ่ที่สุดในชีวิตของเจ้าของพรรคการเมืองคนนั้น นั่นเอง
    ส่วนสามกีบ พรรคกางเกงในส้ม เรื่องนี้ไม่ติดเลย เพราะเรื่องการสร้างความเสื่อมทางศีลธรรม ถือว่านโยบายนี้ไม่ติด เผลอๆ จะช่วยยกมือสนับสนุนด้วย รอจับตา
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ก่อนอื่น เพจคิงส์โพธิ์แดงต้องขออภัยลุงป้อม ที่แอบแซวแรง กรณีหยุมหัวนักข่าว ทำไมคิงส์ฯถึงต้องขออภัย อ่านนะ คิงส์ไม่ได้หายไปไหน ที่หายไปหลายชม. เพื่อไปเช็คข่าว ว่าที่มาที่ไป เป็นแบบไหนอย่างไร ถ้าทุกคนพร้อมจะรับรู้ เราไปทำความเข้าใจไปพร้อมกัน เรื่องของเรื่อง คา-สิ-โน ตัวต้นเหตุสำคัญ ต้องออกตัวก่อนว่า สิ่งที่ลุงป้อมทำ เป็นความรุนแรงเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง แต่ก็ต้องไม่ปฏิเสธว่า นักข่าวที่ตั้งคำถาม จงใจยั่วยุ เพราะนักข่าวรู้ดีว่าอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น แต่ประชาชนไม่รู้ แต่แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดงจะได้รู้ ถ้าจำได้ ก่อนหน้าวันที่พรรคร่วมจะยกมือสนับสนุนให้อิ๊งเป็นนายก เสี่ยหนู ได้ออกแถลงด่วนว่า ไม่เห็นด้วยกับ คา-สิ-โน เมื่อได้อ่านร่างที่จะยืนมขอมติคณะ ครม. ทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไป คิงส์ขอซ่อนเนื้อหาสำคัญไว้ในโพสนี้ ที่จะไม่มีใครกล้าเปิดเผยมาก่อน ตอนนี้ มีเจ้าของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ได้ดิลกับนายทุนจีน และนายทุนต่างประเทศ สำเร็จเรียบร้อย ท่านรู้หรือไม่ ถ้าพรบ คา-สิ-โน นี้ผ่านเมื่อไหร่ ประเทศไทยจะไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไขอะไรได้อีกเลย และก่อนหน้าเสี่ยหนูจะออกมาแถลงจุดยืนไม่รับกฎหมายฉบับนี้ ลุงป้อมคือตัวหลักที่ทุบโต๊ะ ไม่ยอมให้เกิดขึ้น ตอนแรก คิงส์ฯเองก็ไม่อยากจะเชื่อ เพราะด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นข่าว ดูแกไม่รู้ประสา โบ๊งเบ๊งไปวันๆ แต่สุดท้าย ในยามน่าสิ่วหน้าขวาน ลุงป้อมกลับไม่ยอมให้พรบนี้ผ่าน หัวหน้าพรรคที่ดิลกับต่างประเทศ ข้อมูลที่แน่ชัดคือ จะมีการเปิด คา-สิ-โน ทั่วประเทศถึง 8 จุด ที่ปิดดิลไปแล้ว จุดละ 1 หมื่นล้านซึ่งไม่ใช่งบลงทุนนะ เป็นค่ากินเปล่าให้ฟรี และอย่างน้อยสามราย จ่ายครบจบแล้ว การที่มีเจ้าของพรรคการเมือง 1 พรรค ที่มีสาย ป่านหลัก 8 หมื่นล้าน มันคือการสร้างความยั่งยืนให้กับพรรคนั้น ชนิด สถาพร แต่ผลกระทบที่จะตามมาคือ ประเทศไทยก็จะเหมือนมาเก๊า เวกัส ซึ่งคิงส์จะลงดีเทลในโพสถัดๆไป แต่ย่อๆคือ ประเทศเราจะเต็มไปด้วย อา-ช-ญ-า-กรรม ต่างชาติจะซ่าในประเทศเรา ในแบบที่ผู้รักษากฏหมายไม่สามารถจัดการอะไรได้อีกเลย เราต้องใช้ชีวิตร่วมกับ ม-า-เ-ฟี-ย จีน และประเทศอื่นๆ เหนือ 2 จุด อีสาน 2-3 จุด ใต้ 2 จังหวัด ที่เหลือภาคกลาง ขอให้พี่น้องชาวไทย โปรดจับตา อย่าให้พรบนี้ผ่านเด็ดขาด ส่วนลุงป้อมคงต้องรอดูว่าพรรคร่วมอื่น สนับสนุนอิ๊งเป็นนายกเพราะความจำเป็น ไม่บางอย่าง แต่หลายอย่าง จะสนับสนุน พรบ คา-สิ-โน นี้ด้วยการให้ผ่านหรือไม่ วัดไปเลยใครของจริงกันแน่ และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำใ้หโทนี่ถึงขนาดจะไม่ให้มีพลปชรในพรรคร่วมรัฐบาล หรือจะมีก็แค่แป้ง ธรรมนัส เพราะดันจะไปขัดลาบชิ้นใหญ่ที่สุดในชีวิตของเจ้าของพรรคการเมืองคนนั้น นั่นเอง ส่วนสามกีบ พรรคกางเกงในส้ม เรื่องนี้ไม่ติดเลย เพราะเรื่องการสร้างความเสื่อมทางศีลธรรม ถือว่านโยบายนี้ไม่ติด เผลอๆ จะช่วยยกมือสนับสนุนด้วย รอจับตา #คิงส์โพธิ์แดง
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • เฮ! กรมการแพทย์ ยอมคืนฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว /ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    ช่วงบ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 ได้มีการประชุมคณะกรรมการโควิด-19 ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมประชุมน้อยมาก…

    เนื่องด้วยมีกรรมการหลายท่านชิงตัดหน้าลาออกก่อนวันประชุมและไม่เข้าประชุม

    ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อหวังทำให้องค์ประชุมไม่ครบ?

    หรือทำให้ไม่สามารถคืนฟ้าทะลายโจรได้สำเร็จ?

    หรือเป็นการประท้วงต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่จะเอาฟ้าทะลายโจรกลับคืนมา?

    หรือเป็นการแสดงความรับผิดชอบในความผิดของตัวเอง?

    หรือจะเป็นไปเพื่อหนีปัญหาไม่ต้องการตอบคำถามหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ของ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ร่วมกับคุณรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภาที่สอบถามถึงความผิดปกติในการตัดฟ้าทะลายโจรออกจากทุกขั้นตอนในคู่มือแพทย์ที่เรียกว่า

    “แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 28 วันที่ 5 มิถุนายน 2567”[1]

    โดยในการประชุมวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มาเป็นประธานในที่ประชุมด้วยตัวเอง โดยการดำเนินการประชุมเป็นไปโดยรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน เพื่อสรุปแจ้งต่อที่ประชุมให้ทราบว่า

    1.เนื่องด้วยมติที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567 ได้ยกเลิกแนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ที่ประกาศโดยกรมการแพทย์ฉบับประกาศเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 แล้ว ด้วยเพราะไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของ “EOC” หรือ ศูนย์ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน จึงย่อมไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงสาธารณสุข จึงขอให้กลับไปใช้แนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ฉบับเดิมก่อนหน้า คือฉบับปรับปรุงครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566

    ซึ่งการย้อนกลับไปใช้แนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2566 นั้น ได้มียาฟ้าทะลายโจรอยู่ในขั้นตอนการรักษาในตารางที่ 2 ระบุในส่วนของยาฟ้าทะลายโจรว่า

    “เริ่มยาเร็วที่สุดหลังการติดเชื้อ SARS-CoV-2“[2]

    2.นอกจากนั้นที่ประชุมจึงได้ขอให้ รศ.นพ. ภิรุญ มุตสิกพันธุ์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย อนุสาขาวิชาโรคติดเชื้อและเวชศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้คัดสรรคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่แทนผู้ที่ลาออกไปทั้งหมด

    ต่อมาในเวลากลางคืน เว็บไซต์ของกรมการแพทย์ ที่เคยเผยแพร่แนวเวชปฏิบัติ ฉบับเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ในลิงค์เดิมเมื่อกดเข้าไปดูก็พบว่า แนวเวชปฏิบัติฉบับนี้ที่ได้ตัดฟ้าทะลายโจรออกตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2567 นั้น ได้มีการขึ้นข้อมูลที่มีการคาดตัวอักษรแดงลงข้อความทุกหน้าเป็นครั้งแรกในรอบ 58 วัน ความว่า

    “ยกเลิกตามมติที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข Tuesday Morning Meeting (TMM) วันที่ 30 ก.ค.2567 ขอให้ใช้ดูแลรักษา ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2566 แทน“ ตามลิงค์ด้านล่างนี้

    https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1

    แปลว่านับตั้งแต่เย็นวันที่ 2 สิงหาคม 2567 ฟ้าทะลายโจรได้กลับคืนสู่แนวเวชปฏิบัติสำหรับโรคโควิด-19 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 ในโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้ว หลังจากที่ผู้ป่วยเสียโอกาสในการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่หายไปจากเวชปฏิบัตินานถึง “58 วัน”

    นับตั้งแต่เช้าวันที่ 3 สิงหาคม 2567 ผู้ป่วยทุกคนสามารถทวงสิทธิของตัวเองในการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่ต้อง “เริ่มยาเร็วที่สุดหลังการติดเชื้อโควิด-19“

    ในโอกาสนี้จึงต้องขอขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบาย อันเป็นผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

    ขอขอบคุณแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ ที่แม้จะเป็นผู้ที่ได้ออกประกาศแนวเวชปฏิบัติฉบับวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ให้ตัดฟ้าทะลายโจรออกจากทุกขั้นตอนการรักษาโควิด-19 เป็นเวลานานถึง 58 วันภายใต้แรงกดดันรอบด้านก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดก็เป็นผู้ที่ยอมแก้ไขเปลี่ยนแนวเวชปฏิบัติคืนฟ้าทะลายโจรให้ผู้ป่วยได้เมื่อคืนนี้

    ขอขอบคุณศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก คุณรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา รวมถึงทีมงานทุกคนใน บริษัท กฎหมายอรุณอัมรินทร์ จำกัด ที่ร่วมประชุม หารือการออกแบบขั้นตอนทางเอกสารและทางกฎหมาย และการให้ความรู้ประชาชนเพื่อนำไปสู่การกดดันทวงคืนฟ้าทะลายโจรจนประสบความสำเร็จในครั้งนี้

    อีกทั้งยังต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนและทีมงานวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ได้ช่วยเตรียมงานและมาให้กำลังใจในการยื่นหนังสือจนบรรลุภารกิจครั้งนี้ด้วย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังต้องขอขอบคุณนักวิชาการ นักวิจัย รวมถึงข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข“จำนวนมาก” ที่มีจิตใจที่เป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ แม้จะเปิดเผยตัวไม่ได้ แต่ก็คอยให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้และความจริง จนทำให้เกิดความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ทีมงานสนธิทอล์ค ผู้เป็นปากกระบอกเสียงออกแรงที่วิพากษ์วิจารณ์และด่าอย่างหนักในเรื่องนี้แทนพวกเราอย่างต่อเนื่องหลายสัปดาห์ จนสั่นสะเทือนต่อผู้เกี่ยวข้องและมีผลอย่างมีนัยยะสำคัญทำให้เกิดการเปลี่ยนในวันนี้

    ยังไม่นับสื่อมวลชนทุกท่านที่ได้นำเสนอข่าว ที่พวกผมได้มายื่นหนังสือการทวงคืนฟ้าทะลายโจรตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา

    ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยังคงมีสมุนไพรที่เป็นความมั่นคงทางยาในการพึ่งพาตัวเอง ที่จะไม่ยินยอมให้ใครมาทำลายได้โดยง่าย และจะเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อทำให้ประเทศไทยได้ตระหนักรู้ ในการรักษาและพัฒนาภูมิปัญญาของชาติเพื่อนำพาประเทศให้รอดพ้นจากการล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจสุขภาพในวันข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน

    ด้วยจิตคารวะ
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    3 สิงหาคม 2567
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1024251249068575/?

    อ้างอิง
    [1] กรมการแพทย์, แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 28, วันที่ 5 มิถุนายน 2567
    https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1

    [2]กรมการแพทย์, แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข, ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 27 วันที่ 18 เมษายน 2566
    https://covid19.dms.go.th/backend///Content//Content_File/Covid_Health/Attach/25660418150721PM_CPG_COVID-19_v.27_n_18042023.pdf
    เฮ! กรมการแพทย์ ยอมคืนฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว /ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ช่วงบ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 ได้มีการประชุมคณะกรรมการโควิด-19 ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมประชุมน้อยมาก… เนื่องด้วยมีกรรมการหลายท่านชิงตัดหน้าลาออกก่อนวันประชุมและไม่เข้าประชุม ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อหวังทำให้องค์ประชุมไม่ครบ? หรือทำให้ไม่สามารถคืนฟ้าทะลายโจรได้สำเร็จ? หรือเป็นการประท้วงต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่จะเอาฟ้าทะลายโจรกลับคืนมา? หรือเป็นการแสดงความรับผิดชอบในความผิดของตัวเอง? หรือจะเป็นไปเพื่อหนีปัญหาไม่ต้องการตอบคำถามหนังสือร้องเรียนเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ของ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ร่วมกับคุณรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภาที่สอบถามถึงความผิดปกติในการตัดฟ้าทะลายโจรออกจากทุกขั้นตอนในคู่มือแพทย์ที่เรียกว่า “แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 28 วันที่ 5 มิถุนายน 2567”[1] โดยในการประชุมวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มาเป็นประธานในที่ประชุมด้วยตัวเอง โดยการดำเนินการประชุมเป็นไปโดยรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน เพื่อสรุปแจ้งต่อที่ประชุมให้ทราบว่า 1.เนื่องด้วยมติที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567 ได้ยกเลิกแนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ที่ประกาศโดยกรมการแพทย์ฉบับประกาศเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 แล้ว ด้วยเพราะไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของ “EOC” หรือ ศูนย์ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน จึงย่อมไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงสาธารณสุข จึงขอให้กลับไปใช้แนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ฉบับเดิมก่อนหน้า คือฉบับปรับปรุงครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 ซึ่งการย้อนกลับไปใช้แนวเวชปฏิบัติในการรักษาโควิด-19 ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2566 นั้น ได้มียาฟ้าทะลายโจรอยู่ในขั้นตอนการรักษาในตารางที่ 2 ระบุในส่วนของยาฟ้าทะลายโจรว่า “เริ่มยาเร็วที่สุดหลังการติดเชื้อ SARS-CoV-2“[2] 2.นอกจากนั้นที่ประชุมจึงได้ขอให้ รศ.นพ. ภิรุญ มุตสิกพันธุ์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย อนุสาขาวิชาโรคติดเชื้อและเวชศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้คัดสรรคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่แทนผู้ที่ลาออกไปทั้งหมด ต่อมาในเวลากลางคืน เว็บไซต์ของกรมการแพทย์ ที่เคยเผยแพร่แนวเวชปฏิบัติ ฉบับเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ในลิงค์เดิมเมื่อกดเข้าไปดูก็พบว่า แนวเวชปฏิบัติฉบับนี้ที่ได้ตัดฟ้าทะลายโจรออกตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2567 นั้น ได้มีการขึ้นข้อมูลที่มีการคาดตัวอักษรแดงลงข้อความทุกหน้าเป็นครั้งแรกในรอบ 58 วัน ความว่า “ยกเลิกตามมติที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข Tuesday Morning Meeting (TMM) วันที่ 30 ก.ค.2567 ขอให้ใช้ดูแลรักษา ฉบับวันที่ 18 เมษายน 2566 แทน“ ตามลิงค์ด้านล่างนี้ https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1 แปลว่านับตั้งแต่เย็นวันที่ 2 สิงหาคม 2567 ฟ้าทะลายโจรได้กลับคืนสู่แนวเวชปฏิบัติสำหรับโรคโควิด-19 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 27 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 ในโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้ว หลังจากที่ผู้ป่วยเสียโอกาสในการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่หายไปจากเวชปฏิบัตินานถึง “58 วัน” นับตั้งแต่เช้าวันที่ 3 สิงหาคม 2567 ผู้ป่วยทุกคนสามารถทวงสิทธิของตัวเองในการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่ต้อง “เริ่มยาเร็วที่สุดหลังการติดเชื้อโควิด-19“ ในโอกาสนี้จึงต้องขอขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบาย อันเป็นผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ขอขอบคุณแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ ที่แม้จะเป็นผู้ที่ได้ออกประกาศแนวเวชปฏิบัติฉบับวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ให้ตัดฟ้าทะลายโจรออกจากทุกขั้นตอนการรักษาโควิด-19 เป็นเวลานานถึง 58 วันภายใต้แรงกดดันรอบด้านก็ตาม แต่ในท้ายที่สุดก็เป็นผู้ที่ยอมแก้ไขเปลี่ยนแนวเวชปฏิบัติคืนฟ้าทะลายโจรให้ผู้ป่วยได้เมื่อคืนนี้ ขอขอบคุณศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก คุณรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา รวมถึงทีมงานทุกคนใน บริษัท กฎหมายอรุณอัมรินทร์ จำกัด ที่ร่วมประชุม หารือการออกแบบขั้นตอนทางเอกสารและทางกฎหมาย และการให้ความรู้ประชาชนเพื่อนำไปสู่การกดดันทวงคืนฟ้าทะลายโจรจนประสบความสำเร็จในครั้งนี้ อีกทั้งยังต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนและทีมงานวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ได้ช่วยเตรียมงานและมาให้กำลังใจในการยื่นหนังสือจนบรรลุภารกิจครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังต้องขอขอบคุณนักวิชาการ นักวิจัย รวมถึงข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข“จำนวนมาก” ที่มีจิตใจที่เป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ แม้จะเปิดเผยตัวไม่ได้ แต่ก็คอยให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้และความจริง จนทำให้เกิดความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ทีมงานสนธิทอล์ค ผู้เป็นปากกระบอกเสียงออกแรงที่วิพากษ์วิจารณ์และด่าอย่างหนักในเรื่องนี้แทนพวกเราอย่างต่อเนื่องหลายสัปดาห์ จนสั่นสะเทือนต่อผู้เกี่ยวข้องและมีผลอย่างมีนัยยะสำคัญทำให้เกิดการเปลี่ยนในวันนี้ ยังไม่นับสื่อมวลชนทุกท่านที่ได้นำเสนอข่าว ที่พวกผมได้มายื่นหนังสือการทวงคืนฟ้าทะลายโจรตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยังคงมีสมุนไพรที่เป็นความมั่นคงทางยาในการพึ่งพาตัวเอง ที่จะไม่ยินยอมให้ใครมาทำลายได้โดยง่าย และจะเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อทำให้ประเทศไทยได้ตระหนักรู้ ในการรักษาและพัฒนาภูมิปัญญาของชาติเพื่อนำพาประเทศให้รอดพ้นจากการล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจสุขภาพในวันข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน ด้วยจิตคารวะ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 3 สิงหาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1024251249068575/? อ้างอิง [1] กรมการแพทย์, แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 28, วันที่ 5 มิถุนายน 2567 https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1 [2]กรมการแพทย์, แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข, ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 27 วันที่ 18 เมษายน 2566 https://covid19.dms.go.th/backend///Content//Content_File/Covid_Health/Attach/25660418150721PM_CPG_COVID-19_v.27_n_18042023.pdf
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1130 มุมมอง 1 รีวิว
  • สถานการณ์โลกที่ดู ฟัง อ่าน หลายๆที่มาสักระยะนึง สรุปในสิ่งที่จะเกิดในไม่กี่ปี ข้างหน้า
    > สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิด เพื่อรีเซ็ตระบบเก่าทั้งการเงิน และการปกครองให้เข้าไปสู่ New world order
    > ระบบการเงินกำลังจะรีเซ็ตใหม่อีกครั้ง โดยตัวกระตุ้นหลักคือดอล์ล่าสหรัฐ
    > Smart city, one government และ Digital currency (ที่ไม่ใช่คริปโต) เป็นส่วนหนึ่งของ New world order.
    > ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะ ผู้ชนะที่แท้จริงคือผู้ที่อยู่เบื้อง ทั้งวางทิศทางโลก และหนุนทั้งสองฝ่าย และควบคุมให้เป็นไปตามบทที่ต้องการ
    > เช่นกันที่คนกลุ่มนี้ก็จะทุบ และช้อนเอาสิ่งที่อยากได้ (ครอบครอง แต่ไม่ควบคุม)
    > ผู้คนจะยอมรับระบบใหม่ก็ต่อเมื่อระบบเก่าล่มสลาย

    ส่วนตัวคิดว่า...
    > ระบบการเงินใหม่น่าจะเริ่มต้นหลังสงครามจบ
    > เตรียมหาโอกาสหลังระบบโลกรีเซ็ตแล้ว
    > ที่ดิน และทอง ก็ยังเป็นอะไรที่ยั่งยืน ในการแปรเปลี่ยนเป็นอบ่างอื่นหลังโลกถูกรีเซ็จ
    > อย่าเล่นบอนระยะยาว และพันธบัตรของสหรัฐ เพราะธนาคารใหญ่ไม่น่าปล่อยกู้ให้แล้ว
    > ถ้าแยกออกว่าใครคือผู้ปกครอง และใครคือผู้ครอบครอง และควบคุมจะเข้าใจป่าทั้งป่า
    > ระวังเงินเฟ้อ
    > Smart city จะเกิดกับประเทศที่ประชาชนยอมให้รัฐควบคุมสิทธิเสรีภาพ หรือระบบต่างๆในระดับนึง เหมือนสิงคโปร์ หรือจีน (ไทยน่าจะเกิดยาก555)
    สถานการณ์โลกที่ดู ฟัง อ่าน หลายๆที่มาสักระยะนึง สรุปในสิ่งที่จะเกิดในไม่กี่ปี ข้างหน้า > สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิด เพื่อรีเซ็ตระบบเก่าทั้งการเงิน และการปกครองให้เข้าไปสู่ New world order > ระบบการเงินกำลังจะรีเซ็ตใหม่อีกครั้ง โดยตัวกระตุ้นหลักคือดอล์ล่าสหรัฐ > Smart city, one government และ Digital currency (ที่ไม่ใช่คริปโต) เป็นส่วนหนึ่งของ New world order. > ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะ ผู้ชนะที่แท้จริงคือผู้ที่อยู่เบื้อง ทั้งวางทิศทางโลก และหนุนทั้งสองฝ่าย และควบคุมให้เป็นไปตามบทที่ต้องการ > เช่นกันที่คนกลุ่มนี้ก็จะทุบ และช้อนเอาสิ่งที่อยากได้ (ครอบครอง แต่ไม่ควบคุม) > ผู้คนจะยอมรับระบบใหม่ก็ต่อเมื่อระบบเก่าล่มสลาย ส่วนตัวคิดว่า... > ระบบการเงินใหม่น่าจะเริ่มต้นหลังสงครามจบ > เตรียมหาโอกาสหลังระบบโลกรีเซ็ตแล้ว > ที่ดิน และทอง ก็ยังเป็นอะไรที่ยั่งยืน ในการแปรเปลี่ยนเป็นอบ่างอื่นหลังโลกถูกรีเซ็จ > อย่าเล่นบอนระยะยาว และพันธบัตรของสหรัฐ เพราะธนาคารใหญ่ไม่น่าปล่อยกู้ให้แล้ว > ถ้าแยกออกว่าใครคือผู้ปกครอง และใครคือผู้ครอบครอง และควบคุมจะเข้าใจป่าทั้งป่า > ระวังเงินเฟ้อ > Smart city จะเกิดกับประเทศที่ประชาชนยอมให้รัฐควบคุมสิทธิเสรีภาพ หรือระบบต่างๆในระดับนึง เหมือนสิงคโปร์ หรือจีน (ไทยน่าจะเกิดยาก555)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดีใจที่มี Platform ของคนไทยเอง คนไทยช่วยกัน พัฒนาให้เกิดความมั่นคง ยั่งยืน เพื่อ คนไทยรุ่นหลัง ต่อไป
    ดีใจที่มี Platform ของคนไทยเอง คนไทยช่วยกัน พัฒนาให้เกิดความมั่นคง ยั่งยืน เพื่อ คนไทยรุ่นหลัง ต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • #พืชเป็นยา #สมุนไพร #ตำรับยา #เกษตร #ยั่งยืน #กสิกรรมธรรมชาติ #ชีวิตมันต้องง่าย #พอเพียง #พึ่งตนเอง #เลี้ยงดิน #เลี้ยงพืช #บำรุงดิน #ไม่ใช้สารเคมี #ความมั่งคงทางยา #ความมั่นคงทางอาหาร #โจนจันได #ศิษย์ยักษ์
    https://youtu.be/UUBNd-Wk4q8
    #พืชเป็นยา #สมุนไพร #ตำรับยา #เกษตร #ยั่งยืน #กสิกรรมธรรมชาติ #ชีวิตมันต้องง่าย #พอเพียง #พึ่งตนเอง #เลี้ยงดิน #เลี้ยงพืช #บำรุงดิน #ไม่ใช้สารเคมี #ความมั่งคงทางยา #ความมั่นคงทางอาหาร #โจนจันได #ศิษย์ยักษ์ https://youtu.be/UUBNd-Wk4q8
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 506 มุมมอง 0 รีวิว
  • #พอเพียง #กสิกรรมธรรมชาติ #ความมั่นคงทางอาหาร #ยั่งยืน #สุขภาพดี #โจนจันได #ชีวิตมันต้องง่าย #ยักษ์กะโจน #ธรรมธุรกิจ
    https://youtu.be/QmkI7lgugD8
    #พอเพียง #กสิกรรมธรรมชาติ #ความมั่นคงทางอาหาร #ยั่งยืน #สุขภาพดี #โจนจันได #ชีวิตมันต้องง่าย #ยักษ์กะโจน #ธรรมธุรกิจ https://youtu.be/QmkI7lgugD8
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เสนอแนะนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอเอลกำลังยืดเวลาการปฏิบัติการรุกรานกับกาซาด้วยเหตุผลทางการเมือง ในขณะที่ฝ่ายบริหารของเขาผลักดันให้เกิดข้อตกลงพักรบและการแลกเปลี่ยนเชลยศึกกับกลุ่มปกป้องดินแดนปาเลส ซึ่งวอชิงตันกล่าวว่าจะนำไปสู่ ​​“การหยุดยิงที่ยั่งยืน”

    เนทันยาฮูกล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวจะ “ช่วยให้เอลทำสงครามต่อไปได้จนกว่าวัตถุประสงค์ทั้งหมดจะบรรลุผล รวมถึงการทำลายขีดความสามารถทางการทหารและการปกครองของกลุ่มผู้ปกป้องดินเเดน”

    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน
    #การยืดเยื้อ #ผลประโยชน์ #กลุ่มปกป้อง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เสนอแนะนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอเอลกำลังยืดเวลาการปฏิบัติการรุกรานกับกาซาด้วยเหตุผลทางการเมือง ในขณะที่ฝ่ายบริหารของเขาผลักดันให้เกิดข้อตกลงพักรบและการแลกเปลี่ยนเชลยศึกกับกลุ่มปกป้องดินแดนปาเลส ซึ่งวอชิงตันกล่าวว่าจะนำไปสู่ ​​“การหยุดยิงที่ยั่งยืน” เนทันยาฮูกล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวจะ “ช่วยให้เอลทำสงครามต่อไปได้จนกว่าวัตถุประสงค์ทั้งหมดจะบรรลุผล รวมถึงการทำลายขีดความสามารถทางการทหารและการปกครองของกลุ่มผู้ปกป้องดินเเดน” . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #การยืดเยื้อ #ผลประโยชน์ #กลุ่มปกป้อง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว