• แผนชั่ว ตอนที่ 6

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 6
    ในที่สุด เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2007 CNPC หน่วยงานที่ดูแลด้านน้ำมัน ของรัฐบาลจีน ก็ตกลงทำสัญญากับรัฐบาลของชาด Chad ในการสร้างท่อส่งน้ำมัน หลังจากนั้น 2 ปี การก่อสร้างท่อส่งน้ำมันก็เริ่มดำเนินการ มันเป็นท่อส่งสำหรับน้ำมันบ่อใหม่ ที่จีน (แอบ) ไปลงทุนขุดใหม่ทางใต้ของชาด ห่างไปอีก 300 กิโลเมตร หลังจากนั้น กลุ่มเอ็นจีโอ ที่พวกตะวันตกสนับสนุน ก็ออกมาโว้ยว่า เป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อม มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และเมื่อตอน Chevron ขุดน้ำมันแถวนั้น ในปี ค.ศ.2003 เอ็นจีโอกลุ่มเดียวกันนี้ ไม่ออกมาโวย ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน
    แล้วเดือนกรกฏาคม ค.ศ.2011 ชาดและจีน ก็ฉลองการเปิดดำเนินการของโรงกลั่นน้ำมัน ที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของชาด ที่ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมทุนกัน โรงกลั่นนี้ ว่าไปแล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสำรวจที่จีนไปลงทุนไว้ตอนแรก ในบริเวณดาร์ฟูที่ติดกับชาด และจีนถูกไม้กั้น ไม่เสี้ยม จนยังกินแห้วอยู่นั่นเอง แม้จะกินแห้วของดาร์ฟู แต่แหล่งที่จีนได้ใหม่ ที่ชาดก็น่าจะชดเชยของเดิม ที่ถูกถีบออกมาได้อย่างน่าทึ่ง
    จากการประเมินทางภูมิศาสตร์ สายน้ำมันน่าจะไหลมาจากดาร์ฟู ผ่านมาที่ชาด และต่อไปถึงแคเมอรูน ขนาดของแหล่งน้ำมันนี้ประเมินกันว่า ใหญ่มหาศาลนัก อาจจะเท่ากับแหล่งน้ำมันที่ซาอุดิอารเบียเสียด้วยซ้ำ การควบคุมซูดานใต้ ชาดและแคเมอรูน จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญรายการใหม่ ของสภาความมั่นคงของอเมริกา คราวนี้เป็น “ยุทธศาสตร์ขวางจีน” เต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้จีน เข้าไปสู่แหล่งพลังงานทุกแห่งในโลก โดยเฉพาะที่อาฟริกา
    หมากตัวสำคัญ ที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ขวางจีนในอาฟริกา เป็นผลสำเร็จหรือไม่ คือ กัดดาฟี แห่งลิเบีย เป็นกัดดาฟีที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับตะวันตก และต่อสู้ทุกเม็ด ทุกหมากกับอเมริกา และอังกฤษ เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศตนและอาฟริกา รวมไปถีงประเทศในตะวันออกกลาง กัดดาฟี พยายามตั้งสถาบันการเงิน เหมือนธนาคารโลก เพื่อช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาฟริกา จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของก๊วนหน้าเลือด ใจร้าย World Bank, IMF และที่สำคัญ กัดดาฟี ไม่ปฏิเสธ ที่จะคบ และค้าขายกับรัสเซียและจีน
    เขาจึงเป็นบุคคลที่อเมริกา และอังกฤษรังเกียจยิ่งนัก
    ลิเบีย เป็นประเทศในอาฟริกา ที่ด้านเหนือ ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข้ามทะเลไปก็เป็นอิตาลี ซึ่งบริษัทน้ำมัน ENI ของอิตาลี เป็นผู้มาร่วมงานขุดเจาะน้ำมัน กับลิเบียอยู่นาน ตะวันตกของลิเบียติดกับ ตูนีเซีย และอัลจีเรีย ทางด้านใต้ ติดกับชาด ส่วนตะวันออกติดกับซูดาน ทั้งเหนือและใต้ และอียิปต์ ที่ตั้งของลิเบียจึงเหมือนอยู่กลางดงน้ำมัน คงมีใครมองว่า ลิเบียเหมาะที่จะใช้เป็นศูนย์กลาง ในการควบคุมดงน้ำมันอย่างยิ่ง
    ลิเบีย ไม่ให้ใครมาเป็นเจ้าของปั้มลิเบีย ลิเบียเป็นเจ้าของปั้มเอง ขายเอง ดูแลแหล่งน้ำมันที่มีคุณภาพสูงเอง ในปี ค.ศ.2006 ลิเบียเป็นเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่ได้รับการสำรวจและพิสูจน์ว่า มีน้ำมันแล้วถึง 35% ของน้ำมันทั้งหมดในอาฟริกา มีมากกว่าไนจีเรีย ที่อเมริกาคว้าคออยู่หมัดเสียอีก
    นอกจากนี้ ลิเบียยังให้สัมปทานน้ำมัน แก่รัฐบาลจีนด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาล กับ รัฐบาล
    แบบนี้ อเมริกาจะทนดู ลิเบีย ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ในกลางดงน้ำมัน (ที่อเมริกาอยากครอบครอง) ได้หรือ อเมริกามองว่า ตราบใดที่รัฐบาลกัดดาฟีเข้มแข็ง มีอำนาจอยู่ที่เมืองทริโปลี และควบคุมแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในอาฟริกา แผนการของอเมริกา ตามยุทธศาสตร์ขวางจีน คงสำเร็จยาก การแบ่งแยกซูดานเป็น 2 ประเทศ และการยุ การเสี้ยมให้เกิดการกบฏในลิเบียต้องทำพร้อมกัน จึงพอจะมีทางเอากัดดาฟี่มาขึงพืดได้
    นี่จึงเป็นภาระกิจสำคัญและเป็น “งาน” ของจริง สำหรับ AFRICOM ที่คงไม่ได้แถลงกันในรัฐสภาให้คนอเมริกันรู้
    AFRICOM รับหน้าที่เป็นกองกำลังหลัก ในปฏิบัติการทำลายกัดดาฟีและลิเบีย รวมทั้งในการสร้างกบฏ เปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในตูนีเซีย อียิปต์ และสร้างรัฐซูดานใต้ทั้งหมด เพื่อให้แหล่งน้ำมันใหญ่ ในประเทศเหล่านี้ ไม่มีเจ้าของดูแลควบคุม อเมริกาและพวก จะได้เข้าไปควบคุมแทน
    มันเป็นปฏิบัติการเก็บเจ้าของปั้ม แล้วปล้นเอาปั้มเขามา นั่นเอง
    แต่อเมริกาไม่กล้ารบเดี่ยว อยากจะปล้น แต่ก็คงปอดแหกเหมือนกัน กัดดาฟีไม่ได้เคี้ยวง่ายเหมือนซูดาน กัดดาฟี มีทั้งเขี้ยวยาว และอาวุธทันสมัยที่ซื้อจากอเมริกาและรัสเซีย เก็บเงียบอยู่เต็มลิเบีย คราวนี้ อเมริกาจะใช้พระเอกหนังไปเดินทำหน้าเศร้า ก็คงไม่สำเร็จ อเมริกาจึงดึงนาโต้เข้ามาเล่นเต็มอัตรา
    ปี ค.ศ.2010 นาโต้ ไปกวาดต้อนเอาสาระพัดพันธ์ุ ตั้งแต่อดีตนักการเมืองที่เคยอยู่กับกัดดาฟี แต่บัดนี้ขัดใจกันแล้ว อดีตนักธุรกิจขี้โกงที่หนีคดี ไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนประกอบแบบนี้ คุ้นไหมครับ ส่วนประกอบที่สำคัญอีก 2 ส่วนคือ เด็กในกระเป๋า ซีไอเอ ที่ได้รับการฝึก รับเงินและก็ไปร่วมรบกับ ซีไอเอ หลายที่ เช่น อาฟกานิสถาน อิรัค เป็นต้น อีกส่วนหนึ่งคือ ทหารรับจ้าง หรือที่สมัยใหม่นี้ เรียกว่า ผู้รับเหมา contractor รับเหมาทำอะไรบ้าง ก็คงพอเดากันออก มันเป็นการผสมพันธุ์โหด ที่เตรียมเอาไว้เชือดกัดดาฟี
    กลุ่มสาระพัดพันธ์ุนี่ เรียกตัวเองว่า กลุ่ม TNC Transitional Nation Council
    กลุ่ม TNC ออกมาด่าว่า กัดดาฟี่เป็นเผด็จการรวบอำนาจ กดขี่ ประชาชน ต้องการให้ กัดดาฟีลาออก มีการเลือกตั้งใหม่ และปกครองตามระบอบประชาธิปไตย แหม โรเนียวนี้ใช้จนเก่าเน่าแล้ว ไม่เปลี่ยนเลยหรือพี่
    กัดดาฟี เป็นเผด็จการจริง มีทั้งพวกที่บอกว่า เขาทำประโยชน์ให้กับชาวลิเบีย และก็มีพวกที่บอกว่า เขาข่มขู่บังคับชาวลิเบีย จึงคงมีทั้งพวกที่รักเขา และพวกที่เกลียดเขา แต่ลองดูจากหลายสิ่งที่เขาทำให้กับชาวลิเบีย มันก็พอบอกได้ว่า เขาดี เลวอย่างไรกับลิเบีย
    – ชาวลิเบีย ได้รับการรักษาพยาบาล และเรียนหนังสือฟรี ( อย่าบอกนะว่า เหมือน 30 บาท รักษาทุกโรค)
    – ชาวลิเบียไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้า
    – ชาวลิเบียกู้เงินไม่เสียดอกเบี้ยจากธนาคารของรัฐ ซึ่งใหญ่มาก และกัดดาฟีมีแผนจะสร้าง ให้มีเงินทุนมากกว่า World Bank เพื่อให้ ชาวอาฟริกันกู้ด้วย
    – รัฐบาลกัดดาฟี สร้างระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการสร้างแม่น้ำทั่วประเทศ ชาวลิเบีย ไม่มีการขาดน้ำตลอดปี
    – ถ้าชาวลิเบียต้องการทำฟาร์มเพาะ ปลูก และเลี้ยงสัตว์ รัฐจะยกที่ดินให้ฟรี แถมปลูกบ้านให้ พร้อมแจกพันธ์ุพืชและสัตว์ ฟรีหมด เพราะรัฐสนับสนุนให้สร้าง “อาหาร” จะได้ไม่อดตาย
    – เมื่อหญิงชาวลิเบียคลอดลูก จะได้รับเงินช่วยจากรัฐ จำนวน 5 พันเหรียญ เขาสนับสนุนให้มีชาวลิเบียอยู่ในโลก ไม่ใช่ถูกตอนพันธ์
    – รัฐบาลกัดดาฟี ยืนราคาน้ำมันขายในลิเบีย ที่ลิตรละ 14 เซ็นต์ (ประมาณ 5 บาท)
    – รัฐบาลกัดดาฟีส่งเสริมการศึกษา ก่อนเขาปกครอง มีคนอ่านหนังสือออกเพียง 25% ช่วง 40 ปี ที่กัดดาฟี ปกครองลิเบีย จำนวนคนอ่านหนังสือออก เพิ่มเป็นเกือบ 90% และมีคนศึกษาจบระดับปริญญา 25%
    TNC เป็นแนวหน้าที่นาโต้เตรียมไว้ให้ไปสู้ และตายแทนกองกำลังนาโต้ ส่วนทหารนาโต้ นั่งคอยดูผลงาน TNC ไปก่อน นี่เป็นเพียงก๊อก 1
    ก๊อก 1 เริ่มงานด้วยการ ออกมาประท้วงกัดดาฟีตามเมืองต่างๆว่า เป็นเผด็จการ พวกเขาต้องการประชาธิปไตย และการประท้วงครั้งแรกในลืเบีย ก็เกิดขึ้นที่เมือง Cyrenaica เมืองที่เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ ทางตะวันออกของลิเบีย หลังจากนั้น การประท้วงก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และขยายตัวออกไป และในที่สุดก็ยึดเมืองสำคัญอย่าง เบงกาซี Benghazi ได้
    หลังจากนั้น กระป๋องสีย้อมข่าวใบใหญ่ ซีเอนเอน ก็รับช่วงรายงานข่าวทุกวันว่า กัดดาฟี ชั่วช้า กระทำรุนแรง ตั้งใจฆ่าประชาชน ด้วยการเอาเครื่องบินมาถล่มพวกกบฏมือเปล่า แบบนี้นานาชาติใจบุญ จะทนดูชาวลิเบียโดนระเบิดทุกวันไหวยังไง
    อังกฤษกับฝรั่งเศส รีบถลาไปเอาหน้าเกือบไม่ทัน บอกว่าไม่ได้นะ แบบนี่มันละเมิดกฏ “No Fly Zone” ของสหประชาชาติ ว่าเข้าไปโน่น สหประชาชาติ เลยมีมติกำหนดเขตห้ามบิน No Fly Zone ตามเมืองต่างๆในลิเบีย เครื่องบินของฝ่ายรัฐบาลหรือกัดดาฟี บินไม่ได้ แต่ของกองกำลังผสมของนานาชาติบินได้ ทิ้งระเบิดได้ มีปัญหาไหม ไม่มีคร้าบ… พวกเอ็งมันใหญ่ค้ำโลกแล้ว ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย
    ก๊อก 2 คือ กองกำลังผสมของนานาชาติ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อร่วมกันเชือด กัดดาฟี ทรัพยากรลิเบียแยะนัก กองกำลังร่วมเชือด เลยแยะตามไปด้วย หวังได้แบ่งส่วนบุญ กองกำลังผสม นำโดยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และลูกกระเป๋ง อย่าง กาต้าร์ สหรัฐเอมิเรต เบลเยี่ยม อิตาลี เดนมาร์ค นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์และสเปญ เอาชื่อมาโชว์ให้ดูหมด จะได้รู้ว่าใคร อยู่ตรงไหน… โถ นึกว่ารวยแล้วไม่ตะกระ …แถวบ้านผมเคยมี ที่รวยแล้ว ทั้งตะกระ ทั้งโกง….
    ช่วงแรก กองกำลังผสมบัญชาการโดยอเมริกา ช่วงหลัง บัญชาการโดยนาโต้ ไม่รู้จะดัดจริต เปลี่ยนทำไม ยังไงอเมริกาก็คุมนาโต้อยู่แล้ว
    จริงๆ ช่วงแรก อเมริกานำ ก็เพราะต้องการจะเข้าลิเบียไปก่อนใคร เพื่อค้นหาสมบัติของกัดดาฟี โดยเฉพาะ พวกอาวุธที่แอบเก็บตามโกดังนั่นแหละ ใครๆ ก็อยากงาบต่อทั้งนั้น
    แล้วกองกำลังผสมของชาติต่างๆ บวกกองกำลังของนาโต้เอง บวกกองกำลังฝ่ายกบฏ บวกกองกำลังของผู้รับเหมา บวกกองกำลังทหารของอเมริกา (เอะ นี่ผมตกกองอะไร ของใครอีกไหม มันแยะ เละไปหมด) ก็ไล่ล่ากัดดาฟีอยู่ 8 เดือน กัดดาฟีหนีไปเมืองไหน ยิงกันอย่างไร บ้านเรือนพังฉิบหายขนาดไหน คนเจ็บคนตายนอนน่าสมเพชเกลื่อน ถนนเท่าไหร่ ไอ้กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ซีเอนเอน รายงานข่าวละเอียดละออ ชาวบ้านได้ดูข่าวการไล่ล่า และไล่ฆ่า เป็นรายการสดทางทีวี ทุกวัน ทุกคืน
    เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2011 นาโต้ประกาศว่า ได้ทิ้งระเบิด ที่บริเวณบ้านใหญ่ ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีรอบใหญ่ บ้านพังฉิบหายยับ แต่ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย แต่มีคนอื่นตายแทน เป็นลูกชายคนเล็กของกัดดาฟี และหลานปู่เล็กๆ อีก 3 คน เวร…..
    แล้วในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2011 กัดดาฟี ก็ถูกฆ่าตายที่เมืองบ้านเกิดของเขา Sirte ขณะที่อยู่กับกองกำลังของตัว ที่ล้อมหน้า ล้อมหลัง แต่มันมาทางจากข้างบน เป็นจรวดไล่ยิง จะไปคุ้มกันยังไงไหว เล่นยิงใส่ขบวนรถของพวกกัดดาฟี ที่กำลังขับหนีออกจาก Sirte รถกระเด็นพลิกคว่ำ บ้านเรือนแถบนั้นพังเป็นแถบ คนจะรอดหรือ แล้วกัดดาฟีพร้อมลูกชาย 2 คน และลูกน้องคนสนิทหลายคน ก็ตายเรียบ
    หลังจากนั้น เขาว่าพวกกบฏก็บุกเขาไปเอาร่างกัดดาฟีออกมา ลากไปตามถนนโห่ร้องยินดี บางข่าว บอกว่าเขาตายตั้งแต่โดนจรวด บางข่าวบอก เขายังไม่ตาย แค่เกือบ เขาหลุดออกมาจากรถ ไปแอบซ่อนตัวอยู่ในท่อ แต่มาตายตอนที่พวกกบฏลากตัวขึ้น มาจากท่อ ไปตามถนน ก่อนลาก ทุบเสียละเอียด ก่อน ทุบ จับแก้ผ้า และชำเราทางทวารหนักก่อน บางสื่อลงภาพเขานอนตาย หัวเป็นรู จากรอยกระสุน
    2 วัน ก่อนที่กัดดาฟีจะถูกจับ คุณนายคลินตัน สตรีหน้าโหด ( ผมเห็นหน้าคุณนายในทีวีทีไร ฝันร้ายทุกที ผู้หญิงอะไร น่ากลัวชะมัด) ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินทางไปที่เมือง ทริโปลี Tripoli ด้วยเครื่องบินทหาร ที่มีการคุ้มกันหลายชั้น แม้แต่แมลงวันที่คุ้นเคยกัน ก็คงเข้าไปตอมคุณนายไม่ถึง คุณนายประกาศเสียงดังฟังชัดว่า เราจะต้องจับตัวกัดดาฟี มาให้ได้ ไม่ว่า จับตาย หรือจับเป็น “dead or alive”
    นี่! มันยิ่งกว่าบทพระเอก ไปทำหน้าเศร้าที่ซูดานอีกนะ บทนี้มันเป็นบทนางสิงห์สั่งฆ่าเลย
    กัดดาฟี จะอย่างไรก็เป็นประมุขประเทศ เป็นประเทศเอกราช ไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร ทำดี ทำชั่ว ศาลระหว่างประเทศมี อเมริกา และรัฐมนตรีต่างประเทศของตน ใช้สิทธิอะไร เที่ยวประกาศ ตัดสินว่า ประเทศไหน ต้องมีนโยบายอย่างไร ประมุขประเทศ ต้องทำตัวอย่างไร ตามใจอเมริกาอย่างไร ถ้าไม่ถูกใจนี่ อเมริกา สั่งฆ่าได้เลยหรือ เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ และสะอิดสะเอียนที่สุด
    เรื่องนี้ สำนักข่าว Associated Press รายงานข่าวว่า
    … นางคลินตันพูดแบบไม่อ้อมค้อมเป็นพิเศษว่า อเมริกา ต้องการเห็น อดีตเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถึงแก่ความตาย….
    … เราหวังว่า เขาจะถูกจับ หรือถูก ฆ่า เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ต้องกลัวเขาอีกต่อไป
    .. Clinton declared in unusually blunt terms that the United States would like to see former dictator Muammar Gaddafi dead..
    …We hope he can be captured or killed soon so that you don’t have to fear him any longer…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    19 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 6 ในที่สุด เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2007 CNPC หน่วยงานที่ดูแลด้านน้ำมัน ของรัฐบาลจีน ก็ตกลงทำสัญญากับรัฐบาลของชาด Chad ในการสร้างท่อส่งน้ำมัน หลังจากนั้น 2 ปี การก่อสร้างท่อส่งน้ำมันก็เริ่มดำเนินการ มันเป็นท่อส่งสำหรับน้ำมันบ่อใหม่ ที่จีน (แอบ) ไปลงทุนขุดใหม่ทางใต้ของชาด ห่างไปอีก 300 กิโลเมตร หลังจากนั้น กลุ่มเอ็นจีโอ ที่พวกตะวันตกสนับสนุน ก็ออกมาโว้ยว่า เป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อม มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และเมื่อตอน Chevron ขุดน้ำมันแถวนั้น ในปี ค.ศ.2003 เอ็นจีโอกลุ่มเดียวกันนี้ ไม่ออกมาโวย ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน แล้วเดือนกรกฏาคม ค.ศ.2011 ชาดและจีน ก็ฉลองการเปิดดำเนินการของโรงกลั่นน้ำมัน ที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของชาด ที่ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมทุนกัน โรงกลั่นนี้ ว่าไปแล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสำรวจที่จีนไปลงทุนไว้ตอนแรก ในบริเวณดาร์ฟูที่ติดกับชาด และจีนถูกไม้กั้น ไม่เสี้ยม จนยังกินแห้วอยู่นั่นเอง แม้จะกินแห้วของดาร์ฟู แต่แหล่งที่จีนได้ใหม่ ที่ชาดก็น่าจะชดเชยของเดิม ที่ถูกถีบออกมาได้อย่างน่าทึ่ง จากการประเมินทางภูมิศาสตร์ สายน้ำมันน่าจะไหลมาจากดาร์ฟู ผ่านมาที่ชาด และต่อไปถึงแคเมอรูน ขนาดของแหล่งน้ำมันนี้ประเมินกันว่า ใหญ่มหาศาลนัก อาจจะเท่ากับแหล่งน้ำมันที่ซาอุดิอารเบียเสียด้วยซ้ำ การควบคุมซูดานใต้ ชาดและแคเมอรูน จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญรายการใหม่ ของสภาความมั่นคงของอเมริกา คราวนี้เป็น “ยุทธศาสตร์ขวางจีน” เต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้จีน เข้าไปสู่แหล่งพลังงานทุกแห่งในโลก โดยเฉพาะที่อาฟริกา หมากตัวสำคัญ ที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ขวางจีนในอาฟริกา เป็นผลสำเร็จหรือไม่ คือ กัดดาฟี แห่งลิเบีย เป็นกัดดาฟีที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับตะวันตก และต่อสู้ทุกเม็ด ทุกหมากกับอเมริกา และอังกฤษ เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศตนและอาฟริกา รวมไปถีงประเทศในตะวันออกกลาง กัดดาฟี พยายามตั้งสถาบันการเงิน เหมือนธนาคารโลก เพื่อช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาฟริกา จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของก๊วนหน้าเลือด ใจร้าย World Bank, IMF และที่สำคัญ กัดดาฟี ไม่ปฏิเสธ ที่จะคบ และค้าขายกับรัสเซียและจีน เขาจึงเป็นบุคคลที่อเมริกา และอังกฤษรังเกียจยิ่งนัก ลิเบีย เป็นประเทศในอาฟริกา ที่ด้านเหนือ ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข้ามทะเลไปก็เป็นอิตาลี ซึ่งบริษัทน้ำมัน ENI ของอิตาลี เป็นผู้มาร่วมงานขุดเจาะน้ำมัน กับลิเบียอยู่นาน ตะวันตกของลิเบียติดกับ ตูนีเซีย และอัลจีเรีย ทางด้านใต้ ติดกับชาด ส่วนตะวันออกติดกับซูดาน ทั้งเหนือและใต้ และอียิปต์ ที่ตั้งของลิเบียจึงเหมือนอยู่กลางดงน้ำมัน คงมีใครมองว่า ลิเบียเหมาะที่จะใช้เป็นศูนย์กลาง ในการควบคุมดงน้ำมันอย่างยิ่ง ลิเบีย ไม่ให้ใครมาเป็นเจ้าของปั้มลิเบีย ลิเบียเป็นเจ้าของปั้มเอง ขายเอง ดูแลแหล่งน้ำมันที่มีคุณภาพสูงเอง ในปี ค.ศ.2006 ลิเบียเป็นเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่ได้รับการสำรวจและพิสูจน์ว่า มีน้ำมันแล้วถึง 35% ของน้ำมันทั้งหมดในอาฟริกา มีมากกว่าไนจีเรีย ที่อเมริกาคว้าคออยู่หมัดเสียอีก นอกจากนี้ ลิเบียยังให้สัมปทานน้ำมัน แก่รัฐบาลจีนด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาล กับ รัฐบาล แบบนี้ อเมริกาจะทนดู ลิเบีย ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ในกลางดงน้ำมัน (ที่อเมริกาอยากครอบครอง) ได้หรือ อเมริกามองว่า ตราบใดที่รัฐบาลกัดดาฟีเข้มแข็ง มีอำนาจอยู่ที่เมืองทริโปลี และควบคุมแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในอาฟริกา แผนการของอเมริกา ตามยุทธศาสตร์ขวางจีน คงสำเร็จยาก การแบ่งแยกซูดานเป็น 2 ประเทศ และการยุ การเสี้ยมให้เกิดการกบฏในลิเบียต้องทำพร้อมกัน จึงพอจะมีทางเอากัดดาฟี่มาขึงพืดได้ นี่จึงเป็นภาระกิจสำคัญและเป็น “งาน” ของจริง สำหรับ AFRICOM ที่คงไม่ได้แถลงกันในรัฐสภาให้คนอเมริกันรู้ AFRICOM รับหน้าที่เป็นกองกำลังหลัก ในปฏิบัติการทำลายกัดดาฟีและลิเบีย รวมทั้งในการสร้างกบฏ เปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในตูนีเซีย อียิปต์ และสร้างรัฐซูดานใต้ทั้งหมด เพื่อให้แหล่งน้ำมันใหญ่ ในประเทศเหล่านี้ ไม่มีเจ้าของดูแลควบคุม อเมริกาและพวก จะได้เข้าไปควบคุมแทน มันเป็นปฏิบัติการเก็บเจ้าของปั้ม แล้วปล้นเอาปั้มเขามา นั่นเอง แต่อเมริกาไม่กล้ารบเดี่ยว อยากจะปล้น แต่ก็คงปอดแหกเหมือนกัน กัดดาฟีไม่ได้เคี้ยวง่ายเหมือนซูดาน กัดดาฟี มีทั้งเขี้ยวยาว และอาวุธทันสมัยที่ซื้อจากอเมริกาและรัสเซีย เก็บเงียบอยู่เต็มลิเบีย คราวนี้ อเมริกาจะใช้พระเอกหนังไปเดินทำหน้าเศร้า ก็คงไม่สำเร็จ อเมริกาจึงดึงนาโต้เข้ามาเล่นเต็มอัตรา ปี ค.ศ.2010 นาโต้ ไปกวาดต้อนเอาสาระพัดพันธ์ุ ตั้งแต่อดีตนักการเมืองที่เคยอยู่กับกัดดาฟี แต่บัดนี้ขัดใจกันแล้ว อดีตนักธุรกิจขี้โกงที่หนีคดี ไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนประกอบแบบนี้ คุ้นไหมครับ ส่วนประกอบที่สำคัญอีก 2 ส่วนคือ เด็กในกระเป๋า ซีไอเอ ที่ได้รับการฝึก รับเงินและก็ไปร่วมรบกับ ซีไอเอ หลายที่ เช่น อาฟกานิสถาน อิรัค เป็นต้น อีกส่วนหนึ่งคือ ทหารรับจ้าง หรือที่สมัยใหม่นี้ เรียกว่า ผู้รับเหมา contractor รับเหมาทำอะไรบ้าง ก็คงพอเดากันออก มันเป็นการผสมพันธุ์โหด ที่เตรียมเอาไว้เชือดกัดดาฟี กลุ่มสาระพัดพันธ์ุนี่ เรียกตัวเองว่า กลุ่ม TNC Transitional Nation Council กลุ่ม TNC ออกมาด่าว่า กัดดาฟี่เป็นเผด็จการรวบอำนาจ กดขี่ ประชาชน ต้องการให้ กัดดาฟีลาออก มีการเลือกตั้งใหม่ และปกครองตามระบอบประชาธิปไตย แหม โรเนียวนี้ใช้จนเก่าเน่าแล้ว ไม่เปลี่ยนเลยหรือพี่ กัดดาฟี เป็นเผด็จการจริง มีทั้งพวกที่บอกว่า เขาทำประโยชน์ให้กับชาวลิเบีย และก็มีพวกที่บอกว่า เขาข่มขู่บังคับชาวลิเบีย จึงคงมีทั้งพวกที่รักเขา และพวกที่เกลียดเขา แต่ลองดูจากหลายสิ่งที่เขาทำให้กับชาวลิเบีย มันก็พอบอกได้ว่า เขาดี เลวอย่างไรกับลิเบีย – ชาวลิเบีย ได้รับการรักษาพยาบาล และเรียนหนังสือฟรี ( อย่าบอกนะว่า เหมือน 30 บาท รักษาทุกโรค) – ชาวลิเบียไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้า – ชาวลิเบียกู้เงินไม่เสียดอกเบี้ยจากธนาคารของรัฐ ซึ่งใหญ่มาก และกัดดาฟีมีแผนจะสร้าง ให้มีเงินทุนมากกว่า World Bank เพื่อให้ ชาวอาฟริกันกู้ด้วย – รัฐบาลกัดดาฟี สร้างระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการสร้างแม่น้ำทั่วประเทศ ชาวลิเบีย ไม่มีการขาดน้ำตลอดปี – ถ้าชาวลิเบียต้องการทำฟาร์มเพาะ ปลูก และเลี้ยงสัตว์ รัฐจะยกที่ดินให้ฟรี แถมปลูกบ้านให้ พร้อมแจกพันธ์ุพืชและสัตว์ ฟรีหมด เพราะรัฐสนับสนุนให้สร้าง “อาหาร” จะได้ไม่อดตาย – เมื่อหญิงชาวลิเบียคลอดลูก จะได้รับเงินช่วยจากรัฐ จำนวน 5 พันเหรียญ เขาสนับสนุนให้มีชาวลิเบียอยู่ในโลก ไม่ใช่ถูกตอนพันธ์ – รัฐบาลกัดดาฟี ยืนราคาน้ำมันขายในลิเบีย ที่ลิตรละ 14 เซ็นต์ (ประมาณ 5 บาท) – รัฐบาลกัดดาฟีส่งเสริมการศึกษา ก่อนเขาปกครอง มีคนอ่านหนังสือออกเพียง 25% ช่วง 40 ปี ที่กัดดาฟี ปกครองลิเบีย จำนวนคนอ่านหนังสือออก เพิ่มเป็นเกือบ 90% และมีคนศึกษาจบระดับปริญญา 25% TNC เป็นแนวหน้าที่นาโต้เตรียมไว้ให้ไปสู้ และตายแทนกองกำลังนาโต้ ส่วนทหารนาโต้ นั่งคอยดูผลงาน TNC ไปก่อน นี่เป็นเพียงก๊อก 1 ก๊อก 1 เริ่มงานด้วยการ ออกมาประท้วงกัดดาฟีตามเมืองต่างๆว่า เป็นเผด็จการ พวกเขาต้องการประชาธิปไตย และการประท้วงครั้งแรกในลืเบีย ก็เกิดขึ้นที่เมือง Cyrenaica เมืองที่เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ ทางตะวันออกของลิเบีย หลังจากนั้น การประท้วงก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และขยายตัวออกไป และในที่สุดก็ยึดเมืองสำคัญอย่าง เบงกาซี Benghazi ได้ หลังจากนั้น กระป๋องสีย้อมข่าวใบใหญ่ ซีเอนเอน ก็รับช่วงรายงานข่าวทุกวันว่า กัดดาฟี ชั่วช้า กระทำรุนแรง ตั้งใจฆ่าประชาชน ด้วยการเอาเครื่องบินมาถล่มพวกกบฏมือเปล่า แบบนี้นานาชาติใจบุญ จะทนดูชาวลิเบียโดนระเบิดทุกวันไหวยังไง อังกฤษกับฝรั่งเศส รีบถลาไปเอาหน้าเกือบไม่ทัน บอกว่าไม่ได้นะ แบบนี่มันละเมิดกฏ “No Fly Zone” ของสหประชาชาติ ว่าเข้าไปโน่น สหประชาชาติ เลยมีมติกำหนดเขตห้ามบิน No Fly Zone ตามเมืองต่างๆในลิเบีย เครื่องบินของฝ่ายรัฐบาลหรือกัดดาฟี บินไม่ได้ แต่ของกองกำลังผสมของนานาชาติบินได้ ทิ้งระเบิดได้ มีปัญหาไหม ไม่มีคร้าบ… พวกเอ็งมันใหญ่ค้ำโลกแล้ว ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย ก๊อก 2 คือ กองกำลังผสมของนานาชาติ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อร่วมกันเชือด กัดดาฟี ทรัพยากรลิเบียแยะนัก กองกำลังร่วมเชือด เลยแยะตามไปด้วย หวังได้แบ่งส่วนบุญ กองกำลังผสม นำโดยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และลูกกระเป๋ง อย่าง กาต้าร์ สหรัฐเอมิเรต เบลเยี่ยม อิตาลี เดนมาร์ค นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์และสเปญ เอาชื่อมาโชว์ให้ดูหมด จะได้รู้ว่าใคร อยู่ตรงไหน… โถ นึกว่ารวยแล้วไม่ตะกระ …แถวบ้านผมเคยมี ที่รวยแล้ว ทั้งตะกระ ทั้งโกง…. ช่วงแรก กองกำลังผสมบัญชาการโดยอเมริกา ช่วงหลัง บัญชาการโดยนาโต้ ไม่รู้จะดัดจริต เปลี่ยนทำไม ยังไงอเมริกาก็คุมนาโต้อยู่แล้ว จริงๆ ช่วงแรก อเมริกานำ ก็เพราะต้องการจะเข้าลิเบียไปก่อนใคร เพื่อค้นหาสมบัติของกัดดาฟี โดยเฉพาะ พวกอาวุธที่แอบเก็บตามโกดังนั่นแหละ ใครๆ ก็อยากงาบต่อทั้งนั้น แล้วกองกำลังผสมของชาติต่างๆ บวกกองกำลังของนาโต้เอง บวกกองกำลังฝ่ายกบฏ บวกกองกำลังของผู้รับเหมา บวกกองกำลังทหารของอเมริกา (เอะ นี่ผมตกกองอะไร ของใครอีกไหม มันแยะ เละไปหมด) ก็ไล่ล่ากัดดาฟีอยู่ 8 เดือน กัดดาฟีหนีไปเมืองไหน ยิงกันอย่างไร บ้านเรือนพังฉิบหายขนาดไหน คนเจ็บคนตายนอนน่าสมเพชเกลื่อน ถนนเท่าไหร่ ไอ้กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ซีเอนเอน รายงานข่าวละเอียดละออ ชาวบ้านได้ดูข่าวการไล่ล่า และไล่ฆ่า เป็นรายการสดทางทีวี ทุกวัน ทุกคืน เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2011 นาโต้ประกาศว่า ได้ทิ้งระเบิด ที่บริเวณบ้านใหญ่ ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีรอบใหญ่ บ้านพังฉิบหายยับ แต่ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย แต่มีคนอื่นตายแทน เป็นลูกชายคนเล็กของกัดดาฟี และหลานปู่เล็กๆ อีก 3 คน เวร….. แล้วในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2011 กัดดาฟี ก็ถูกฆ่าตายที่เมืองบ้านเกิดของเขา Sirte ขณะที่อยู่กับกองกำลังของตัว ที่ล้อมหน้า ล้อมหลัง แต่มันมาทางจากข้างบน เป็นจรวดไล่ยิง จะไปคุ้มกันยังไงไหว เล่นยิงใส่ขบวนรถของพวกกัดดาฟี ที่กำลังขับหนีออกจาก Sirte รถกระเด็นพลิกคว่ำ บ้านเรือนแถบนั้นพังเป็นแถบ คนจะรอดหรือ แล้วกัดดาฟีพร้อมลูกชาย 2 คน และลูกน้องคนสนิทหลายคน ก็ตายเรียบ หลังจากนั้น เขาว่าพวกกบฏก็บุกเขาไปเอาร่างกัดดาฟีออกมา ลากไปตามถนนโห่ร้องยินดี บางข่าว บอกว่าเขาตายตั้งแต่โดนจรวด บางข่าวบอก เขายังไม่ตาย แค่เกือบ เขาหลุดออกมาจากรถ ไปแอบซ่อนตัวอยู่ในท่อ แต่มาตายตอนที่พวกกบฏลากตัวขึ้น มาจากท่อ ไปตามถนน ก่อนลาก ทุบเสียละเอียด ก่อน ทุบ จับแก้ผ้า และชำเราทางทวารหนักก่อน บางสื่อลงภาพเขานอนตาย หัวเป็นรู จากรอยกระสุน 2 วัน ก่อนที่กัดดาฟีจะถูกจับ คุณนายคลินตัน สตรีหน้าโหด ( ผมเห็นหน้าคุณนายในทีวีทีไร ฝันร้ายทุกที ผู้หญิงอะไร น่ากลัวชะมัด) ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินทางไปที่เมือง ทริโปลี Tripoli ด้วยเครื่องบินทหาร ที่มีการคุ้มกันหลายชั้น แม้แต่แมลงวันที่คุ้นเคยกัน ก็คงเข้าไปตอมคุณนายไม่ถึง คุณนายประกาศเสียงดังฟังชัดว่า เราจะต้องจับตัวกัดดาฟี มาให้ได้ ไม่ว่า จับตาย หรือจับเป็น “dead or alive” นี่! มันยิ่งกว่าบทพระเอก ไปทำหน้าเศร้าที่ซูดานอีกนะ บทนี้มันเป็นบทนางสิงห์สั่งฆ่าเลย กัดดาฟี จะอย่างไรก็เป็นประมุขประเทศ เป็นประเทศเอกราช ไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร ทำดี ทำชั่ว ศาลระหว่างประเทศมี อเมริกา และรัฐมนตรีต่างประเทศของตน ใช้สิทธิอะไร เที่ยวประกาศ ตัดสินว่า ประเทศไหน ต้องมีนโยบายอย่างไร ประมุขประเทศ ต้องทำตัวอย่างไร ตามใจอเมริกาอย่างไร ถ้าไม่ถูกใจนี่ อเมริกา สั่งฆ่าได้เลยหรือ เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ และสะอิดสะเอียนที่สุด เรื่องนี้ สำนักข่าว Associated Press รายงานข่าวว่า … นางคลินตันพูดแบบไม่อ้อมค้อมเป็นพิเศษว่า อเมริกา ต้องการเห็น อดีตเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถึงแก่ความตาย…. … เราหวังว่า เขาจะถูกจับ หรือถูก ฆ่า เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ต้องกลัวเขาอีกต่อไป .. Clinton declared in unusually blunt terms that the United States would like to see former dictator Muammar Gaddafi dead.. …We hope he can be captured or killed soon so that you don’t have to fear him any longer… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 19 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อวัดปากน้ำ รุ่นอุดมสมบูรณ์พูนสุข ปี2527
    เหรียญหลวงพ่อวัดปากน้ำ เนื้อกะหลั่ยทอง รุ่นอุดมสมบูรณ์พูนสุข ปี2527 // พระดีพิธีใหญ๋ งานสมโภชชนมายุครบ 100 ปี และบรรจุพระธรรมขันธ์ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณในด้านความอุดมสมบูรณ์พูนสุข เมตตาค้าขาย โชคลาภ ชนะทุกสรรพสิ่ง มหาอำนาจ ชนะคู่แข่ง ชนะอริศัตรู แคล้วคลาด มหานิยม **

    ** พระมงคลเทพมุนี นามเดิม สด อุปสมบท เดือนกรกฎาคม 2449 ขณะมีอายุย่างเข้า 22 ปี หลวงพ่อวัดปากน้ำได้บอกแก่ศิษยานุศิษย์เมื่ออายุได้ 70 ปี ว่าอีก 5 ปีข้างหน้าท่านจะละสังขาร ต่อมาอีกราว 3 ปี ท่านเริ่มอาพาธเรื่อยมาอย่างต่อเนื่องกว่า 2 ปีเศษ แม้ว่าจะอาพาธ ท่านก็มิได้แสดงอาการรันทดใจใด ๆ เลย ท่านยังคงต้อนรับแขกด้วยอาการยิ้มแย้มเสมอ เวลาจะลุกจะนั่งท่านไม่พอใจให้ใครไปช่วยเหลือ ท่านพอใจทำเองผู้อื่นคอยตามเพื่อช่วยเหลือเวลาท่านเซไปเท่านั้น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 เวลา 15.05 น. พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ ได้ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการอันสงบ ณ ตึกมงคลจันทสร วัดปากน้ำภาษีเจริญ สิริอายุได้ 74 ปี 3 เดือน 24 วัน นับอายุพรรษาได้ 53 พรรษา **

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อวัดปากน้ำ รุ่นอุดมสมบูรณ์พูนสุข ปี2527 เหรียญหลวงพ่อวัดปากน้ำ เนื้อกะหลั่ยทอง รุ่นอุดมสมบูรณ์พูนสุข ปี2527 // พระดีพิธีใหญ๋ งานสมโภชชนมายุครบ 100 ปี และบรรจุพระธรรมขันธ์ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณในด้านความอุดมสมบูรณ์พูนสุข เมตตาค้าขาย โชคลาภ ชนะทุกสรรพสิ่ง มหาอำนาจ ชนะคู่แข่ง ชนะอริศัตรู แคล้วคลาด มหานิยม ** ** พระมงคลเทพมุนี นามเดิม สด อุปสมบท เดือนกรกฎาคม 2449 ขณะมีอายุย่างเข้า 22 ปี หลวงพ่อวัดปากน้ำได้บอกแก่ศิษยานุศิษย์เมื่ออายุได้ 70 ปี ว่าอีก 5 ปีข้างหน้าท่านจะละสังขาร ต่อมาอีกราว 3 ปี ท่านเริ่มอาพาธเรื่อยมาอย่างต่อเนื่องกว่า 2 ปีเศษ แม้ว่าจะอาพาธ ท่านก็มิได้แสดงอาการรันทดใจใด ๆ เลย ท่านยังคงต้อนรับแขกด้วยอาการยิ้มแย้มเสมอ เวลาจะลุกจะนั่งท่านไม่พอใจให้ใครไปช่วยเหลือ ท่านพอใจทำเองผู้อื่นคอยตามเพื่อช่วยเหลือเวลาท่านเซไปเท่านั้น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 เวลา 15.05 น. พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำฯ ได้ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการอันสงบ ณ ตึกมงคลจันทสร วัดปากน้ำภาษีเจริญ สิริอายุได้ 74 ปี 3 เดือน 24 วัน นับอายุพรรษาได้ 53 พรรษา ** ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัคซีนงูสวัดอาจช่วยชะลอภาวะสมองเสื่อม และลดความเสี่ยงเสียชีวิตได้ถึง 30%

    งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Cell พบว่า โปรแกรมการฉีดวัคซีนงูสวัดในประเทศเวลส์ตั้งแต่ปี 2013 ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันโรคงูสวัด แต่ยังมีผลเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงของ ภาวะสมองเสื่อม (dementia) และการเสียชีวิตจากโรคนี้ได้ถึง 30%

    ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ป่วยกว่า 14,350 คน ที่ได้รับการวินิจฉัยภาวะสมองเสื่อมก่อนเริ่มโครงการ พบว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนมีโอกาสเสียชีวิตจากโรคนี้น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนมีแนวโน้มที่จะพัฒนา ภาวะบกพร่องทางสติปัญญาเล็กน้อย (MCI) ช้าลง ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนก่อนเข้าสู่ภาวะสมองเสื่อมเต็มรูปแบบ

    นักวิจัยเชื่อว่า กลไกการป้องกันอาจเกี่ยวข้องกับการหยุดยั้งไวรัสที่โจมตีระบบประสาท เช่น Varicella zoster virus ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคงูสวัด ไวรัสเหล่านี้อาจมีบทบาทในการกระตุ้นการสะสมโปรตีนผิดปกติที่พบในโรคอัลไซเมอร์ การป้องกันไวรัสจึงอาจช่วยลดความเสี่ยงหรือชะลอการดำเนินโรคสมองเสื่อมได้

    แม้ผลการศึกษาจะยังไม่สามารถยืนยันความสัมพันธ์เชิงสาเหตุโดยตรง แต่นักวิทยาศาสตร์ย้ำว่า วัคซีนงูสวัดมีความ ปลอดภัย ราคาถูก และเข้าถึงได้ง่าย จึงอาจเป็นเครื่องมือสำคัญในการสาธารณสุข หากมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลลัพธ์และทำความเข้าใจกลไกที่แท้จริง

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    โปรแกรมวัคซีนงูสวัดในเวลส์
    เริ่มตั้งแต่ปี 2013 โดย NHS
    ใช้โครงสร้างการแจกจ่ายที่ทำให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มอายุ 79 และ 80 ปี

    ผลการศึกษา
    ลดความเสี่ยงเสียชีวิตจากสมองเสื่อมได้เกือบ 30%
    ลดความเสี่ยงการพัฒนา MCI ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สมองเสื่อม

    กลไกที่เป็นไปได้
    ป้องกันไวรัส Varicella zoster ที่โจมตีระบบประสาท
    อาจลดการสะสมโปรตีนผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับอัลไซเมอร์

    ข้อจำกัดของงานวิจัย
    ยังไม่สามารถยืนยันความสัมพันธ์เชิงสาเหตุโดยตรง
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมในกลุ่มประชากรที่กว้างขึ้นและวัคซีนรุ่นใหม่

    ผลกระทบต่อสาธารณสุข
    หากผลลัพธ์ได้รับการยืนยัน อาจเปลี่ยนแนวทางการป้องกันสมองเสื่อม
    จำเป็นต้องลงทุนวิจัยต่อเนื่องเพื่อหากลไกที่แท้จริง

    https://www.sciencealert.com/an-existing-vaccine-could-slow-dementia-and-cut-death-risk-by-30
    💉 วัคซีนงูสวัดอาจช่วยชะลอภาวะสมองเสื่อม และลดความเสี่ยงเสียชีวิตได้ถึง 30% งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Cell พบว่า โปรแกรมการฉีดวัคซีนงูสวัดในประเทศเวลส์ตั้งแต่ปี 2013 ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันโรคงูสวัด แต่ยังมีผลเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงของ ภาวะสมองเสื่อม (dementia) และการเสียชีวิตจากโรคนี้ได้ถึง 30% ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ป่วยกว่า 14,350 คน ที่ได้รับการวินิจฉัยภาวะสมองเสื่อมก่อนเริ่มโครงการ พบว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนมีโอกาสเสียชีวิตจากโรคนี้น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนมีแนวโน้มที่จะพัฒนา ภาวะบกพร่องทางสติปัญญาเล็กน้อย (MCI) ช้าลง ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนก่อนเข้าสู่ภาวะสมองเสื่อมเต็มรูปแบบ นักวิจัยเชื่อว่า กลไกการป้องกันอาจเกี่ยวข้องกับการหยุดยั้งไวรัสที่โจมตีระบบประสาท เช่น Varicella zoster virus ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคงูสวัด ไวรัสเหล่านี้อาจมีบทบาทในการกระตุ้นการสะสมโปรตีนผิดปกติที่พบในโรคอัลไซเมอร์ การป้องกันไวรัสจึงอาจช่วยลดความเสี่ยงหรือชะลอการดำเนินโรคสมองเสื่อมได้ แม้ผลการศึกษาจะยังไม่สามารถยืนยันความสัมพันธ์เชิงสาเหตุโดยตรง แต่นักวิทยาศาสตร์ย้ำว่า วัคซีนงูสวัดมีความ ปลอดภัย ราคาถูก และเข้าถึงได้ง่าย จึงอาจเป็นเครื่องมือสำคัญในการสาธารณสุข หากมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลลัพธ์และทำความเข้าใจกลไกที่แท้จริง 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ โปรแกรมวัคซีนงูสวัดในเวลส์ ➡️ เริ่มตั้งแต่ปี 2013 โดย NHS ➡️ ใช้โครงสร้างการแจกจ่ายที่ทำให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มอายุ 79 และ 80 ปี ✅ ผลการศึกษา ➡️ ลดความเสี่ยงเสียชีวิตจากสมองเสื่อมได้เกือบ 30% ➡️ ลดความเสี่ยงการพัฒนา MCI ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สมองเสื่อม ✅ กลไกที่เป็นไปได้ ➡️ ป้องกันไวรัส Varicella zoster ที่โจมตีระบบประสาท ➡️ อาจลดการสะสมโปรตีนผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับอัลไซเมอร์ ‼️ ข้อจำกัดของงานวิจัย ⛔ ยังไม่สามารถยืนยันความสัมพันธ์เชิงสาเหตุโดยตรง ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมในกลุ่มประชากรที่กว้างขึ้นและวัคซีนรุ่นใหม่ ‼️ ผลกระทบต่อสาธารณสุข ⛔ หากผลลัพธ์ได้รับการยืนยัน อาจเปลี่ยนแนวทางการป้องกันสมองเสื่อม ⛔ จำเป็นต้องลงทุนวิจัยต่อเนื่องเพื่อหากลไกที่แท้จริง https://www.sciencealert.com/an-existing-vaccine-could-slow-dementia-and-cut-death-risk-by-30
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    An Existing Vaccine Could Slow Dementia And Cut Death Risk by 30%
    A shingles vaccination program that began in Wales in 2013 has led to two discoveries that give fresh hope to efforts to treat dementia: The vaccine appears to reduce the risk of mild cognitive impairment, as well as slowing progression of dementia in those already diagnosed.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์สร้างผ้าดำที่สุดในโลก ดูดซับแสงได้ถึง 99.87%

    ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ สหรัฐฯ ได้พัฒนาผ้าขนสัตว์เมอริโนที่ผ่านการเคลือบด้วยโพลีโดปามีนและการบำบัดด้วยพลาสมา จนเกิดโครงสร้างระดับนาโนที่สามารถดักจับและสะท้อนแสงภายใน ทำให้ผ้าชนิดนี้ดูดซับแสงได้มากถึง 99.87% ซึ่งถือเป็นผ้าที่ดำที่สุดที่เคยถูกสร้างขึ้นมา

    แรงบันดาลใจของงานวิจัยนี้มาจากนก Magnificent Riflebird ที่มีขนดำพิเศษซึ่งสามารถดูดซับแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักวิจัยเลียนแบบโครงสร้างเส้นใยเล็กๆ (nanofibrils) ของขนดังกล่าว เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ “ultrablack” ที่ไม่สะท้อนแสงแม้มองจากมุมต่างๆ ถึง 60 องศา ซึ่งเหนือกว่าความสามารถของขนนกจริง

    แม้จะไม่ดำที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับวัสดุอย่าง Vantablack (ดูดซับแสง 99.96%) หรือวัสดุคาร์บอนนาโนทิวบ์จาก MIT (99.995%) แต่ผ้าดำใหม่นี้มีข้อได้เปรียบคือ ผลิตง่ายและราคาถูกกว่า จึงมีศักยภาพในการนำไปใช้จริงในหลายด้าน เช่น แฟชั่น การถ่ายภาพ และงานวิทยาศาสตร์ที่ต้องการวัสดุควบคุมแสง

    นอกจากนี้ นักศึกษาด้านแฟชั่นของคอร์เนลล์ยังได้นำผ้าดำพิเศษนี้ไปสร้างชุดเดรสที่มีการไล่เฉดสีจากเทาเข้มไปจนถึงดำสนิท พร้อมจุดสีฟ้า-เขียวตรงกลางเพื่อเลียนแบบอกของนก riflebird ถือเป็นการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และศิลปะที่น่าทึ่ง

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    ผ้าดำที่สุดที่เคยสร้าง
    ดูดซับแสงได้ 99.87%
    ใช้โพลีโดปามีนและการบำบัดพลาสมา

    แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ
    เลียนแบบโครงสร้างขนนก Magnificent Riflebird
    สร้างเอฟเฟกต์ ultrablack ที่คงทนแม้มองจากหลายมุม

    เปรียบเทียบกับวัสดุอื่น
    ดำไม่เท่า Vantablack หรือคาร์บอนนาโนทิวบ์
    แต่ผลิตง่ายและราคาถูกกว่า เหมาะต่อการใช้งานจริง

    การประยุกต์ใช้งาน
    แฟชั่นและการออกแบบเสื้อผ้า
    งานวิทยาศาสตร์และการถ่ายภาพที่ต้องการควบคุมแสง

    ข้อควรระวัง
    แม้จะผลิตง่าย แต่ยังต้องตรวจสอบความทนทานระยะยาว
    การใช้งานในอุตสาหกรรมต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม

    https://www.sciencealert.com/blackest-fabric-ever-made-absorbs-99-87-of-all-light-that-hits-it
    ✨ นักวิทยาศาสตร์สร้างผ้าดำที่สุดในโลก ดูดซับแสงได้ถึง 99.87% ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ สหรัฐฯ ได้พัฒนาผ้าขนสัตว์เมอริโนที่ผ่านการเคลือบด้วยโพลีโดปามีนและการบำบัดด้วยพลาสมา จนเกิดโครงสร้างระดับนาโนที่สามารถดักจับและสะท้อนแสงภายใน ทำให้ผ้าชนิดนี้ดูดซับแสงได้มากถึง 99.87% ซึ่งถือเป็นผ้าที่ดำที่สุดที่เคยถูกสร้างขึ้นมา แรงบันดาลใจของงานวิจัยนี้มาจากนก Magnificent Riflebird ที่มีขนดำพิเศษซึ่งสามารถดูดซับแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักวิจัยเลียนแบบโครงสร้างเส้นใยเล็กๆ (nanofibrils) ของขนดังกล่าว เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ “ultrablack” ที่ไม่สะท้อนแสงแม้มองจากมุมต่างๆ ถึง 60 องศา ซึ่งเหนือกว่าความสามารถของขนนกจริง แม้จะไม่ดำที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับวัสดุอย่าง Vantablack (ดูดซับแสง 99.96%) หรือวัสดุคาร์บอนนาโนทิวบ์จาก MIT (99.995%) แต่ผ้าดำใหม่นี้มีข้อได้เปรียบคือ ผลิตง่ายและราคาถูกกว่า จึงมีศักยภาพในการนำไปใช้จริงในหลายด้าน เช่น แฟชั่น การถ่ายภาพ และงานวิทยาศาสตร์ที่ต้องการวัสดุควบคุมแสง นอกจากนี้ นักศึกษาด้านแฟชั่นของคอร์เนลล์ยังได้นำผ้าดำพิเศษนี้ไปสร้างชุดเดรสที่มีการไล่เฉดสีจากเทาเข้มไปจนถึงดำสนิท พร้อมจุดสีฟ้า-เขียวตรงกลางเพื่อเลียนแบบอกของนก riflebird ถือเป็นการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และศิลปะที่น่าทึ่ง 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ ผ้าดำที่สุดที่เคยสร้าง ➡️ ดูดซับแสงได้ 99.87% ➡️ ใช้โพลีโดปามีนและการบำบัดพลาสมา ✅ แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ➡️ เลียนแบบโครงสร้างขนนก Magnificent Riflebird ➡️ สร้างเอฟเฟกต์ ultrablack ที่คงทนแม้มองจากหลายมุม ✅ เปรียบเทียบกับวัสดุอื่น ➡️ ดำไม่เท่า Vantablack หรือคาร์บอนนาโนทิวบ์ ➡️ แต่ผลิตง่ายและราคาถูกกว่า เหมาะต่อการใช้งานจริง ✅ การประยุกต์ใช้งาน ➡️ แฟชั่นและการออกแบบเสื้อผ้า ➡️ งานวิทยาศาสตร์และการถ่ายภาพที่ต้องการควบคุมแสง ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ แม้จะผลิตง่าย แต่ยังต้องตรวจสอบความทนทานระยะยาว ⛔ การใช้งานในอุตสาหกรรมต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม https://www.sciencealert.com/blackest-fabric-ever-made-absorbs-99-87-of-all-light-that-hits-it
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Blackest Fabric Ever Made Absorbs 99.87% of All Light That Hits It
    If you want to stand out at your next metal gig, don't settle for a spot of color in a sea of black – go ultrablack instead.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • การระเบิดภูเขาไฟเชื่อมโยงกับการแพร่ระบาดกาฬโรคในยุโรป

    นักวิจัยพบหลักฐานใหม่ที่บ่งชี้ว่า การระเบิดภูเขาไฟครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1345 อาจเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้เกิดสภาวะภูมิอากาศผิดปกติ และนำไปสู่การแพร่ระบาดของ กาฬโรค (Black Death) ในยุโรปช่วงกลางศตวรรษที่ 14

    การศึกษาจากนักประวัติศาสตร์และนักธรณีวิทยาได้ใช้ข้อมูลจาก แกนน้ำแข็งในกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกา รวมถึง วงปีของต้นไม้ในยุโรป พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของก๊าซซัลเฟอร์อย่างผิดปกติในชั้นบรรยากาศราวปี 1345 ซึ่งเป็นสัญญาณของการระเบิดภูเขาไฟครั้งใหญ่ ผลที่ตามมาคือฤดูร้อนที่หนาวเย็นและฝนตกหนักต่อเนื่องหลายปี ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรล้มเหลวและเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร

    ในช่วงเวลาเดียวกัน เมืองท่าของอิตาลี เช่น เวนิส เจนัว และปิซา ต้องนำเข้าธัญพืชจากดินแดนของ Golden Horde บริเวณทะเลดำ การขนส่งธัญพืชเหล่านี้กลายเป็นเส้นทางที่แบคทีเรีย Yersinia pestis ซึ่งอาศัยอยู่ในหมัดที่ติดมากับสินค้า แพร่เข้าสู่ยุโรปและก่อให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์

    สิ่งที่น่าสนใจคือ การระเบิดภูเขาไฟครั้งนี้ไม่ได้เพียงสร้างความเสียหายทางสิ่งแวดล้อม แต่ยังเปลี่ยนแปลงเส้นทางการค้าและการเคลื่อนย้ายสินค้า ซึ่งกลายเป็นตัวเร่งให้เชื้อโรคแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว นักวิจัยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “พายุสมบูรณ์แบบ” ที่รวมปัจจัยภูมิอากาศ เศรษฐกิจ และสังคมเข้าด้วยกันจนเกิดวิกฤติครั้งใหญ่

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    หลักฐานการระเบิดภูเขาไฟปี 1345
    พบซัลเฟอร์สูงผิดปกติในแกนน้ำแข็ง
    วงปีต้นไม้บ่งชี้ฤดูร้อนหนาวเย็นต่อเนื่อง

    ผลกระทบต่อยุโรป
    เกิดภาวะขาดแคลนอาหารและราคาธัญพืชพุ่งสูง
    เมืองท่าอิตาลีต้องนำเข้าธัญพืชจาก Golden Horde

    การแพร่ระบาดของกาฬโรค
    หมัดที่ติดมากับธัญพืชนำเชื้อ Yersinia pestis เข้าสู่ยุโรป
    การค้าทางทะเลเป็นเส้นทางหลักของการแพร่เชื้อ

    ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
    ภาวะอากาศผิดปกติสามารถกระทบต่อระบบอาหารโลก
    การเปลี่ยนเส้นทางการค้าอาจเพิ่มโอกาสแพร่โรคใหม่ในอนาคต

    บทเรียนจากอดีต
    วิกฤติสิ่งแวดล้อมสามารถเชื่อมโยงกับโรคระบาดใหญ่
    การเฝ้าระวังและเตรียมรับมือเป็นสิ่งจำเป็นต่อความมั่นคงของมนุษย์

    https://www.sciencealert.com/black-deaths-carnage-traced-to-a-volcanic-eruption-half-a-world-away
    🌋 การระเบิดภูเขาไฟเชื่อมโยงกับการแพร่ระบาดกาฬโรคในยุโรป นักวิจัยพบหลักฐานใหม่ที่บ่งชี้ว่า การระเบิดภูเขาไฟครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1345 อาจเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้เกิดสภาวะภูมิอากาศผิดปกติ และนำไปสู่การแพร่ระบาดของ กาฬโรค (Black Death) ในยุโรปช่วงกลางศตวรรษที่ 14 การศึกษาจากนักประวัติศาสตร์และนักธรณีวิทยาได้ใช้ข้อมูลจาก แกนน้ำแข็งในกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกา รวมถึง วงปีของต้นไม้ในยุโรป พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของก๊าซซัลเฟอร์อย่างผิดปกติในชั้นบรรยากาศราวปี 1345 ซึ่งเป็นสัญญาณของการระเบิดภูเขาไฟครั้งใหญ่ ผลที่ตามมาคือฤดูร้อนที่หนาวเย็นและฝนตกหนักต่อเนื่องหลายปี ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรล้มเหลวและเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร ในช่วงเวลาเดียวกัน เมืองท่าของอิตาลี เช่น เวนิส เจนัว และปิซา ต้องนำเข้าธัญพืชจากดินแดนของ Golden Horde บริเวณทะเลดำ การขนส่งธัญพืชเหล่านี้กลายเป็นเส้นทางที่แบคทีเรีย Yersinia pestis ซึ่งอาศัยอยู่ในหมัดที่ติดมากับสินค้า แพร่เข้าสู่ยุโรปและก่อให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือ การระเบิดภูเขาไฟครั้งนี้ไม่ได้เพียงสร้างความเสียหายทางสิ่งแวดล้อม แต่ยังเปลี่ยนแปลงเส้นทางการค้าและการเคลื่อนย้ายสินค้า ซึ่งกลายเป็นตัวเร่งให้เชื้อโรคแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว นักวิจัยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “พายุสมบูรณ์แบบ” ที่รวมปัจจัยภูมิอากาศ เศรษฐกิจ และสังคมเข้าด้วยกันจนเกิดวิกฤติครั้งใหญ่ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ หลักฐานการระเบิดภูเขาไฟปี 1345 ➡️ พบซัลเฟอร์สูงผิดปกติในแกนน้ำแข็ง ➡️ วงปีต้นไม้บ่งชี้ฤดูร้อนหนาวเย็นต่อเนื่อง ✅ ผลกระทบต่อยุโรป ➡️ เกิดภาวะขาดแคลนอาหารและราคาธัญพืชพุ่งสูง ➡️ เมืองท่าอิตาลีต้องนำเข้าธัญพืชจาก Golden Horde ✅ การแพร่ระบาดของกาฬโรค ➡️ หมัดที่ติดมากับธัญพืชนำเชื้อ Yersinia pestis เข้าสู่ยุโรป ➡️ การค้าทางทะเลเป็นเส้นทางหลักของการแพร่เชื้อ ‼️ ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ⛔ ภาวะอากาศผิดปกติสามารถกระทบต่อระบบอาหารโลก ⛔ การเปลี่ยนเส้นทางการค้าอาจเพิ่มโอกาสแพร่โรคใหม่ในอนาคต ‼️ บทเรียนจากอดีต ⛔ วิกฤติสิ่งแวดล้อมสามารถเชื่อมโยงกับโรคระบาดใหญ่ ⛔ การเฝ้าระวังและเตรียมรับมือเป็นสิ่งจำเป็นต่อความมั่นคงของมนุษย์ https://www.sciencealert.com/black-deaths-carnage-traced-to-a-volcanic-eruption-half-a-world-away
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Black Death's Carnage Traced to a Volcanic Eruption Half a World Away
    A major volcanic cataclysm may have been ultimately responsible for the spread of the Black Death across Europe in the 1340s.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรคใหม่จากเห็บในสุนัข อาจเสี่ยงต่อมนุษย์

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐนอร์ทแคโรไลนาได้ค้นพบเชื้อแบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่ชื่อ Rickettsia finnyi ซึ่งถูกตรวจพบในสุนัขที่ป่วยคล้ายโรค Rocky Mountain Spotted Fever (RMSF) ที่เคยเป็นภัยร้ายแรงในสหรัฐฯ การค้นพบนี้สร้างความกังวลว่าเชื้ออาจข้ามสายพันธุ์มาสู่มนุษย์ได้ เนื่องจากเชื้อในกลุ่มเดียวกันมีประวัติทำให้เกิดโรคในคนมาแล้วหลายชนิด

    การติดเชื้อในสุนัขที่พบมีอาการตั้งแต่ไข้สูง อ่อนเพลีย ไปจนถึงภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งบางรายถึงขั้นเสียชีวิต แม้ส่วนใหญ่จะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ผล แต่ก็มีกรณีที่กลับมาเป็นซ้ำและเสียชีวิตภายหลัง นักวิจัยย้ำว่าการเฝ้าระวังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเชื้อในกลุ่ม Rickettsia มักซ่อนตัวอยู่ในเซลล์ ทำให้การตรวจวินิจฉัยยากและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโดยไม่รู้ตัว

    สิ่งที่น่าสนใจคือ เชื้อ Rickettsia finnyi ถูกพบ DNA ในเห็บสายพันธุ์ Lone Star Tick ซึ่งมีถิ่นกระจายอยู่ในพื้นที่ตะวันออกและตอนกลางของสหรัฐฯ เห็บชนิดนี้เป็นพาหะของโรคหลายชนิด เช่น ehrlichiosis, tularemia และแม้กระทั่งภาวะภูมิแพ้เนื้อแดง (alpha-gal syndrome) การที่เชื้อใหม่ถูกเชื่อมโยงกับเห็บชนิดนี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่สู่มนุษย์

    นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า แม้ยังไม่มีหลักฐานการติดเชื้อในคน แต่ความสามารถของเชื้อในการอยู่รอดในเซลล์สัตว์เลี้ยงเป็นเวลานาน แสดงให้เห็นว่ามันอาจกลายเป็นภัยสาธารณสุขในอนาคต หากไม่เร่งศึกษาวงจรชีวิตและพาหะที่แท้จริง การป้องกันและการเฝ้าระวังจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การค้นพบเชื้อใหม่ Rickettsia finnyi
    พบในสุนัขที่มีอาการคล้ายโรค RMSF และบางรายเสียชีวิต
    ถูกตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่สุนัข “Finny” ที่เป็นต้นเคส

    อาการในสุนัขที่ติดเชื้อ
    ไข้สูง อ่อนเพลีย และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
    ส่วนใหญ่รักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ แต่บางรายกลับมาเป็นซ้ำ

    เห็บ Lone Star Tick เป็นพาหะที่น่าสงสัย
    มีถิ่นกระจายกว้างในสหรัฐฯ และเป็นพาหะโรคหลายชนิด
    พบ DNA ของ R. finnyi ในเห็บชนิดนี้

    ความเสี่ยงต่อมนุษย์
    เชื้อในกลุ่ม Rickettsia มีประวัติทำให้เกิดโรคในคน
    หากข้ามสายพันธุ์ได้ อาจกลายเป็นภัยสาธารณสุขใหม่

    ความยากในการตรวจวินิจฉัย
    เชื้อเติบโตภายในเซลล์ ทำให้การตรวจหายาก
    เสี่ยงต่อการแพร่กระจายโดยไม่ถูกค้นพบทันเวลา

    https://www.sciencealert.com/new-tick-borne-disease-discovered-in-dogs-may-pose-a-risk-to-humans
    🦠 โรคใหม่จากเห็บในสุนัข อาจเสี่ยงต่อมนุษย์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐนอร์ทแคโรไลนาได้ค้นพบเชื้อแบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่ชื่อ Rickettsia finnyi ซึ่งถูกตรวจพบในสุนัขที่ป่วยคล้ายโรค Rocky Mountain Spotted Fever (RMSF) ที่เคยเป็นภัยร้ายแรงในสหรัฐฯ การค้นพบนี้สร้างความกังวลว่าเชื้ออาจข้ามสายพันธุ์มาสู่มนุษย์ได้ เนื่องจากเชื้อในกลุ่มเดียวกันมีประวัติทำให้เกิดโรคในคนมาแล้วหลายชนิด การติดเชื้อในสุนัขที่พบมีอาการตั้งแต่ไข้สูง อ่อนเพลีย ไปจนถึงภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งบางรายถึงขั้นเสียชีวิต แม้ส่วนใหญ่จะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ผล แต่ก็มีกรณีที่กลับมาเป็นซ้ำและเสียชีวิตภายหลัง นักวิจัยย้ำว่าการเฝ้าระวังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเชื้อในกลุ่ม Rickettsia มักซ่อนตัวอยู่ในเซลล์ ทำให้การตรวจวินิจฉัยยากและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่น่าสนใจคือ เชื้อ Rickettsia finnyi ถูกพบ DNA ในเห็บสายพันธุ์ Lone Star Tick ซึ่งมีถิ่นกระจายอยู่ในพื้นที่ตะวันออกและตอนกลางของสหรัฐฯ เห็บชนิดนี้เป็นพาหะของโรคหลายชนิด เช่น ehrlichiosis, tularemia และแม้กระทั่งภาวะภูมิแพ้เนื้อแดง (alpha-gal syndrome) การที่เชื้อใหม่ถูกเชื่อมโยงกับเห็บชนิดนี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่สู่มนุษย์ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า แม้ยังไม่มีหลักฐานการติดเชื้อในคน แต่ความสามารถของเชื้อในการอยู่รอดในเซลล์สัตว์เลี้ยงเป็นเวลานาน แสดงให้เห็นว่ามันอาจกลายเป็นภัยสาธารณสุขในอนาคต หากไม่เร่งศึกษาวงจรชีวิตและพาหะที่แท้จริง การป้องกันและการเฝ้าระวังจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การค้นพบเชื้อใหม่ Rickettsia finnyi ➡️ พบในสุนัขที่มีอาการคล้ายโรค RMSF และบางรายเสียชีวิต ➡️ ถูกตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่สุนัข “Finny” ที่เป็นต้นเคส ✅ อาการในสุนัขที่ติดเชื้อ ➡️ ไข้สูง อ่อนเพลีย และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ➡️ ส่วนใหญ่รักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ แต่บางรายกลับมาเป็นซ้ำ ✅ เห็บ Lone Star Tick เป็นพาหะที่น่าสงสัย ➡️ มีถิ่นกระจายกว้างในสหรัฐฯ และเป็นพาหะโรคหลายชนิด ➡️ พบ DNA ของ R. finnyi ในเห็บชนิดนี้ ‼️ ความเสี่ยงต่อมนุษย์ ⛔ เชื้อในกลุ่ม Rickettsia มีประวัติทำให้เกิดโรคในคน ⛔ หากข้ามสายพันธุ์ได้ อาจกลายเป็นภัยสาธารณสุขใหม่ ‼️ ความยากในการตรวจวินิจฉัย ⛔ เชื้อเติบโตภายในเซลล์ ทำให้การตรวจหายาก ⛔ เสี่ยงต่อการแพร่กระจายโดยไม่ถูกค้นพบทันเวลา https://www.sciencealert.com/new-tick-borne-disease-discovered-in-dogs-may-pose-a-risk-to-humans
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    New Tick-Borne Disease Discovered in Dogs May Pose a Risk to Humans
    Several dogs in the US have died following infections by a newly discovered tick-borne disease from the same genus responsible for 'spotted fever'.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251205 #securityonline

    Google ทดลองให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ แต่กลับทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน
    Google กำลังทดสอบระบบที่ให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ในบริการ Google Discover โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นและกดเข้าไปอ่าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะหลายครั้งหัวข้อที่ AI เขียนขึ้นมาเกิดการบิดเบือนความหมายเดิมจนทำให้เข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับเครื่องเกม Steam Machine ที่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ AI กลับเขียนหัวข้อว่า “Steam Machine price revealed” ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยให้ AI เขียนหัวข้อข่าวโดยไม่มีการควบคุม อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงกระทบต่อจำนวนคนที่คลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง แม้ Google จะบอกว่าทดลองกับผู้ใช้เพียงส่วนน้อย แต่สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มเห็นผลกระทบต่อทราฟฟิกของตนแล้ว
    https://securityonline.info/misleading-ai-headlines-google-discover-testing-rewrites-that-distort-news-facts

    AWS ดันชิป Trainium สร้างรายได้หลายพันล้าน ท้าชน NVIDIA
    Amazon ผ่าน AWS กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดชิป AI ที่ NVIDIA ครองอยู่ ด้วยการพัฒนา Trainium ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ระดับหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว โดยรุ่น Trainium2 ถูกใช้งานมากกว่า 100,000 บริษัท และผลิตไปแล้วกว่า 1 ล้านชิป จุดเด่นคือราคาถูกกว่า GPU ของ NVIDIA แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะ Anthropic ที่ใช้ชิป Trainium2 กว่า 500,000 ตัวในการสร้างโมเดลใหม่ของ Claude ล่าสุด AWS เปิดตัว Trainium3 ที่แรงขึ้น 4 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมแผนพัฒนา Trainium4 ที่สามารถทำงานร่วมกับ GPU ของ NVIDIA ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการแข่งตรง ๆ ไปสู่การสร้างระบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่า
    https://securityonline.info/aws-trainium-chip-business-hits-multi-billion-revenue-challenging-nvidias-pricing

    Meta ดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับตำนานจาก Apple มาสร้างสตูดิโอใหม่
    Mark Zuckerberg ประกาศว่า Meta ได้ดึง Alan Dye อดีตหัวหน้าฝ่าย Human Interface Design ของ Apple มานำทีม Creative Studio ใหม่ใน Reality Labs Alan Dye เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสำคัญของ Apple เช่น Apple Watch, iPhone X และ Vision Pro การเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการยกระดับงานดีไซน์ของ Meta ให้มีความโดดเด่นและผสมผสานระหว่างแฟชั่น เทคโนโลยี และ AI โดย Dye จะทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ที่มีทั้ง Billy Sorrentino และ Joshua To เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Meta การดึงตัวบุคลากรจาก Apple ครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่กำลังแย่งชิงอนาคตของอุปกรณ์ AI และสมาร์ทแกดเจ็ต
    https://securityonline.info/design-wars-meta-hires-apple-veteran-alan-dye-to-lead-new-reality-labs-creative-studio

    ปฏิบัติการ DUPEHIKE: มัลแวร์เจาะฝ่าย HR ของรัสเซีย
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบเจาะจงที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation DUPEHIKE โดยกลุ่มแฮกเกอร์ใช้วิธีส่งอีเมลหลอกล่อพนักงานฝ่ายบุคคลและเงินเดือน ด้วยไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารโบนัสสิ้นปี แต่แท้จริงแล้วเป็นไฟล์ลัด (LNK) ที่เมื่อเปิดขึ้นจะไปดาวน์โหลดมัลแวร์ชื่อ DUPERUNNER ผ่าน PowerShell ทำงานเบื้องหลังอย่างแนบเนียน มัลแวร์นี้สามารถฉีดโค้ดเข้าไปในโปรเซสที่ใช้บ่อย เช่น explorer.exe หรือ notepad.exe เพื่อให้ฝังตัวถาวร และสุดท้ายจะติดตั้ง Adaptix C2 ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมจากระยะไกล เป้าหมายคือการสอดแนมและควบคุมระบบขององค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ
    https://securityonline.info/operation-dupehike-hits-russian-hr-bonus-lure-delivers-duperunner-and-adaptix-c2-via-process-injection

    ช่องโหว่ Splunk บน Windows เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์
    Splunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง พบช่องโหว่ร้ายแรงสองรายการ (CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387) ที่ทำให้การติดตั้งบน Windows กำหนดสิทธิ์ไฟล์ผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ หากแฮกเกอร์ได้สิทธิ์ผู้ใช้ระดับต่ำ ก็สามารถแก้ไขไฟล์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันไว้ได้ทันที ทาง Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว
    https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows

    ช่องโหว่ Cacti เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจากระยะไกล
    Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับทำกราฟเครือข่าย พบช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-66399) ที่เกี่ยวกับการจัดการค่า SNMP Community String หากผู้ใช้ใส่ค่าที่มีตัวอักษรพิเศษหรือบรรทัดใหม่ ระบบจะไม่กรองออก ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เมื่อระบบนำค่าเหล่านี้ไปใช้กับเครื่องมือ SNMP ภายนอก คำสั่งที่ถูกแทรกก็จะถูกรันทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 1.2.29 และแนะนำให้อัปเดตทันที
    https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection

    กลุ่ม Calisto APT รัสเซียโจมตี NGO ด้วยฟิชชิ่งแบบใหม่
    กลุ่มแฮกเกอร์ Calisto ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย ได้พุ่งเป้าโจมตีองค์กร Reporters Without Borders (RSF) โดยใช้เทคนิคฟิชชิ่งที่ซับซ้อน พวกเขาส่งอีเมลแสร้งเป็นคนรู้จัก พร้อมไฟล์ที่ “หายไป” หรือไฟล์ที่เปิดไม่ได้ เพื่อให้เหยื่อขอไฟล์ใหม่ เมื่อเหยื่อตอบกลับก็จะได้รับลิงก์ไปยังไฟล์ที่แท้จริงซึ่งเป็นมัลแวร์ ฟิชชิ่งนี้ยังใช้เทคนิค AiTM (Adversary-in-the-Middle) เพื่อดักข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัส 2FA แบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่เจาะจง NGO ที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและเสรีภาพสื่อโดยตรง
    https://securityonline.info/russian-calisto-apt-targets-reporters-without-borders-with-custom-aitm-phishing-and-missing-file-lure

    NVIDIA Triton Server พบช่องโหว่ DoS ร้ายแรง
    NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Triton Inference Server ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการรันโมเดล AI พบช่องโหว่สองรายการ (CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดรูปแบบหรือใหญ่เกินไปจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ ผลคือบริการ AI inference จะหยุดทำงานทันที ซึ่งอาจกระทบต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการประมวลผลขนาดใหญ่ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน r25.10 เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption

    Patchwork APT ใช้ StreamSpy Trojan ซ่อนคำสั่งใน WebSocket
    กลุ่มแฮกเกอร์ Patchwork APT ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ StreamSpy Trojan ที่มีความสามารถในการซ่อนคำสั่งควบคุม (C2) ภายในทราฟฟิก WebSocket ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนเป็นการใช้งานเว็บตามปกติ เทคนิคนี้ช่วยให้การสอดแนมดำเนินไปโดยไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ และยังสามารถดึงข้อมูลหรือสั่งการเครื่องเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการพัฒนาแนวทางโจมตีที่เน้นความลับและการพรางตัวสูง
    https://securityonline.info/patchwork-apt-deploys-streamspy-trojan-hiding-c2-commands-in-websocket-traffic-for-stealth-espionage

    ความต้องการ AI ลดลง Microsoft ปรับลดโควตายอดขาย
    มีรายงานว่า Microsoft ได้ปรับลดโควตายอดขายของทีม Enterprise AI ลงมากถึง 50% เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ในระดับองค์กรไม่เติบโตตามที่คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากลูกค้าหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในโซลูชัน AI ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและความไม่แน่ใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง การปรับลดนี้สะท้อนถึงความท้าทายของตลาด AI ที่แม้จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่การนำไปใช้จริงในองค์กรยังต้องใช้เวลาและการพิสูจน์คุณค่า
    https://securityonline.info/ai-demand-struggles-microsoft-slashes-enterprise-ai-sales-quotas-by-up-to-50

    Telegram เตรียมใช้ Passkey แทน SMS สำหรับการล็อกอิน
    Telegram กำลังพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ โดยจะใช้ Passkey Authentication แทนการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการดักข้อความ ระบบ Passkey จะทำงานร่วมกับมาตรฐาน FIDO2 และ WebAuthn ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วยการยืนยันจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือ เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งาน Telegram ปลอดภัยขึ้นและลดการพึ่งพา SMS ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login

    SpyCloud เผยผู้ใช้บริษัทเสี่ยงฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ 3 เท่า
    ข้อมูลจาก SpyCloud ระบุว่าผู้ใช้ในองค์กรมีโอกาสถูกโจมตีด้วยฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ถึง 3 เท่า โดยการโจมตีฟิชชิ่งมักใช้วิธีหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ซึ่งง่ายต่อการดำเนินการและได้ผลเร็วกว่า การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและการใช้ระบบตรวจจับฟิชชิ่งมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
    https://securityonline.info/spycloud-data-shows-corporate-users-3x-more-likely-to-be-targeted-by-phishing-than-by-malware

    อินเดียยกเลิกบังคับใช้แอป Sanchar Saathi หลังถูกต่อต้าน
    รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกข้อบังคับที่ให้ประชาชนต้องใช้แอป Sanchar Saathi ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวง หลังจากประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพดิจิทัล การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป และเป็นการปรับท่าทีของรัฐบาลต่อการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/policy-u-turn-india-drops-mandatory-sanchar-saathi-app-after-fierce-opposition
    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251205 #securityonline 📰 Google ทดลองให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ แต่กลับทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน Google กำลังทดสอบระบบที่ให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ในบริการ Google Discover โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นและกดเข้าไปอ่าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะหลายครั้งหัวข้อที่ AI เขียนขึ้นมาเกิดการบิดเบือนความหมายเดิมจนทำให้เข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับเครื่องเกม Steam Machine ที่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ AI กลับเขียนหัวข้อว่า “Steam Machine price revealed” ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยให้ AI เขียนหัวข้อข่าวโดยไม่มีการควบคุม อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงกระทบต่อจำนวนคนที่คลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง แม้ Google จะบอกว่าทดลองกับผู้ใช้เพียงส่วนน้อย แต่สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มเห็นผลกระทบต่อทราฟฟิกของตนแล้ว 🔗 https://securityonline.info/misleading-ai-headlines-google-discover-testing-rewrites-that-distort-news-facts 💻 AWS ดันชิป Trainium สร้างรายได้หลายพันล้าน ท้าชน NVIDIA Amazon ผ่าน AWS กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดชิป AI ที่ NVIDIA ครองอยู่ ด้วยการพัฒนา Trainium ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ระดับหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว โดยรุ่น Trainium2 ถูกใช้งานมากกว่า 100,000 บริษัท และผลิตไปแล้วกว่า 1 ล้านชิป จุดเด่นคือราคาถูกกว่า GPU ของ NVIDIA แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะ Anthropic ที่ใช้ชิป Trainium2 กว่า 500,000 ตัวในการสร้างโมเดลใหม่ของ Claude ล่าสุด AWS เปิดตัว Trainium3 ที่แรงขึ้น 4 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมแผนพัฒนา Trainium4 ที่สามารถทำงานร่วมกับ GPU ของ NVIDIA ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการแข่งตรง ๆ ไปสู่การสร้างระบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่า 🔗 https://securityonline.info/aws-trainium-chip-business-hits-multi-billion-revenue-challenging-nvidias-pricing 🎨 Meta ดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับตำนานจาก Apple มาสร้างสตูดิโอใหม่ Mark Zuckerberg ประกาศว่า Meta ได้ดึง Alan Dye อดีตหัวหน้าฝ่าย Human Interface Design ของ Apple มานำทีม Creative Studio ใหม่ใน Reality Labs Alan Dye เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสำคัญของ Apple เช่น Apple Watch, iPhone X และ Vision Pro การเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการยกระดับงานดีไซน์ของ Meta ให้มีความโดดเด่นและผสมผสานระหว่างแฟชั่น เทคโนโลยี และ AI โดย Dye จะทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ที่มีทั้ง Billy Sorrentino และ Joshua To เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Meta การดึงตัวบุคลากรจาก Apple ครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่กำลังแย่งชิงอนาคตของอุปกรณ์ AI และสมาร์ทแกดเจ็ต 🔗 https://securityonline.info/design-wars-meta-hires-apple-veteran-alan-dye-to-lead-new-reality-labs-creative-studio 🕵️‍♂️ ปฏิบัติการ DUPEHIKE: มัลแวร์เจาะฝ่าย HR ของรัสเซีย เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบเจาะจงที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation DUPEHIKE โดยกลุ่มแฮกเกอร์ใช้วิธีส่งอีเมลหลอกล่อพนักงานฝ่ายบุคคลและเงินเดือน ด้วยไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารโบนัสสิ้นปี แต่แท้จริงแล้วเป็นไฟล์ลัด (LNK) ที่เมื่อเปิดขึ้นจะไปดาวน์โหลดมัลแวร์ชื่อ DUPERUNNER ผ่าน PowerShell ทำงานเบื้องหลังอย่างแนบเนียน มัลแวร์นี้สามารถฉีดโค้ดเข้าไปในโปรเซสที่ใช้บ่อย เช่น explorer.exe หรือ notepad.exe เพื่อให้ฝังตัวถาวร และสุดท้ายจะติดตั้ง Adaptix C2 ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมจากระยะไกล เป้าหมายคือการสอดแนมและควบคุมระบบขององค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ 🔗 https://securityonline.info/operation-dupehike-hits-russian-hr-bonus-lure-delivers-duperunner-and-adaptix-c2-via-process-injection ⚠️ ช่องโหว่ Splunk บน Windows เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์ Splunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง พบช่องโหว่ร้ายแรงสองรายการ (CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387) ที่ทำให้การติดตั้งบน Windows กำหนดสิทธิ์ไฟล์ผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ หากแฮกเกอร์ได้สิทธิ์ผู้ใช้ระดับต่ำ ก็สามารถแก้ไขไฟล์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันไว้ได้ทันที ทาง Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows 🖥️ ช่องโหว่ Cacti เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจากระยะไกล Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับทำกราฟเครือข่าย พบช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-66399) ที่เกี่ยวกับการจัดการค่า SNMP Community String หากผู้ใช้ใส่ค่าที่มีตัวอักษรพิเศษหรือบรรทัดใหม่ ระบบจะไม่กรองออก ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เมื่อระบบนำค่าเหล่านี้ไปใช้กับเครื่องมือ SNMP ภายนอก คำสั่งที่ถูกแทรกก็จะถูกรันทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 1.2.29 และแนะนำให้อัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection 🎯 กลุ่ม Calisto APT รัสเซียโจมตี NGO ด้วยฟิชชิ่งแบบใหม่ กลุ่มแฮกเกอร์ Calisto ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย ได้พุ่งเป้าโจมตีองค์กร Reporters Without Borders (RSF) โดยใช้เทคนิคฟิชชิ่งที่ซับซ้อน พวกเขาส่งอีเมลแสร้งเป็นคนรู้จัก พร้อมไฟล์ที่ “หายไป” หรือไฟล์ที่เปิดไม่ได้ เพื่อให้เหยื่อขอไฟล์ใหม่ เมื่อเหยื่อตอบกลับก็จะได้รับลิงก์ไปยังไฟล์ที่แท้จริงซึ่งเป็นมัลแวร์ ฟิชชิ่งนี้ยังใช้เทคนิค AiTM (Adversary-in-the-Middle) เพื่อดักข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัส 2FA แบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่เจาะจง NGO ที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและเสรีภาพสื่อโดยตรง 🔗 https://securityonline.info/russian-calisto-apt-targets-reporters-without-borders-with-custom-aitm-phishing-and-missing-file-lure 🤖 NVIDIA Triton Server พบช่องโหว่ DoS ร้ายแรง NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Triton Inference Server ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการรันโมเดล AI พบช่องโหว่สองรายการ (CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดรูปแบบหรือใหญ่เกินไปจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ ผลคือบริการ AI inference จะหยุดทำงานทันที ซึ่งอาจกระทบต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการประมวลผลขนาดใหญ่ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน r25.10 เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption 🕶️ Patchwork APT ใช้ StreamSpy Trojan ซ่อนคำสั่งใน WebSocket กลุ่มแฮกเกอร์ Patchwork APT ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ StreamSpy Trojan ที่มีความสามารถในการซ่อนคำสั่งควบคุม (C2) ภายในทราฟฟิก WebSocket ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนเป็นการใช้งานเว็บตามปกติ เทคนิคนี้ช่วยให้การสอดแนมดำเนินไปโดยไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ และยังสามารถดึงข้อมูลหรือสั่งการเครื่องเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการพัฒนาแนวทางโจมตีที่เน้นความลับและการพรางตัวสูง 🔗 https://securityonline.info/patchwork-apt-deploys-streamspy-trojan-hiding-c2-commands-in-websocket-traffic-for-stealth-espionage 📉 ความต้องการ AI ลดลง Microsoft ปรับลดโควตายอดขาย มีรายงานว่า Microsoft ได้ปรับลดโควตายอดขายของทีม Enterprise AI ลงมากถึง 50% เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ในระดับองค์กรไม่เติบโตตามที่คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากลูกค้าหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในโซลูชัน AI ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและความไม่แน่ใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง การปรับลดนี้สะท้อนถึงความท้าทายของตลาด AI ที่แม้จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่การนำไปใช้จริงในองค์กรยังต้องใช้เวลาและการพิสูจน์คุณค่า 🔗 https://securityonline.info/ai-demand-struggles-microsoft-slashes-enterprise-ai-sales-quotas-by-up-to-50 🔐 Telegram เตรียมใช้ Passkey แทน SMS สำหรับการล็อกอิน Telegram กำลังพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ โดยจะใช้ Passkey Authentication แทนการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการดักข้อความ ระบบ Passkey จะทำงานร่วมกับมาตรฐาน FIDO2 และ WebAuthn ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วยการยืนยันจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือ เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งาน Telegram ปลอดภัยขึ้นและลดการพึ่งพา SMS ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login 🎣 SpyCloud เผยผู้ใช้บริษัทเสี่ยงฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ 3 เท่า ข้อมูลจาก SpyCloud ระบุว่าผู้ใช้ในองค์กรมีโอกาสถูกโจมตีด้วยฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ถึง 3 เท่า โดยการโจมตีฟิชชิ่งมักใช้วิธีหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ซึ่งง่ายต่อการดำเนินการและได้ผลเร็วกว่า การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและการใช้ระบบตรวจจับฟิชชิ่งมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/spycloud-data-shows-corporate-users-3x-more-likely-to-be-targeted-by-phishing-than-by-malware 🇮🇳 อินเดียยกเลิกบังคับใช้แอป Sanchar Saathi หลังถูกต่อต้าน รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกข้อบังคับที่ให้ประชาชนต้องใช้แอป Sanchar Saathi ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวง หลังจากประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพดิจิทัล การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป และเป็นการปรับท่าทีของรัฐบาลต่อการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/policy-u-turn-india-drops-mandatory-sanchar-saathi-app-after-fierce-opposition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD Zen 6 Medusa Point: ก้าวใหม่ของชิปโน้ตบุ๊ก

    AMD เตรียมเปิดตัว APU รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ Medusa Point ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 โดยมีสองรุ่นตามค่า TDP คือ 28W สำหรับโน้ตบุ๊กบางเบา และ 45W สำหรับโน้ตบุ๊กที่ต้องการพลังประมวลผลสูง การแบ่งเป็นสองระดับนี้ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเลือกใช้ได้ตามการออกแบบเครื่อง ไม่ว่าจะเน้นประหยัดพลังงานหรือเน้นประสิทธิภาพสูงสุด

    สถาปัตยกรรม Zen 6 และการเปลี่ยนแปลงสำคัญ
    Zen 6 ถูกพัฒนาบนเทคโนโลยี TSMC 3nm และ 2nm โดยมีการเพิ่มจำนวนคอร์ต่อ CCD จาก 8 เป็น 12 คอร์ ทำให้รุ่นท็อปสามารถมีได้ถึง 22 คอร์ พร้อมการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น และชุดคำสั่งใหม่ เช่น AVX512-FP16 เพื่อรองรับงาน AI และการประมวลผลเชิงวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบแคชและตัวควบคุมหน่วยความจำแบบคู่ (Dual IMC) เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และลดความหน่วง

    กราฟิก RDNA 3.5 และ AI Acceleration
    Medusa Point จะมาพร้อม iGPU RDNA 3.5 ที่มี 8 Compute Units ซึ่งเหมาะสำหรับงานกราฟิกทั่วไปและเกมเบา ๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการเพิ่ม AI Engine สำหรับการเร่งงาน Machine Learning และงานประมวลผลภาพ เช่น การปรับปรุงคุณภาพวิดีโอหรือการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน AI ที่กำลังได้รับความนิยมในโน้ตบุ๊กยุคใหม่

    แนวโน้มและคำเตือน
    แม้ข้อมูลที่รั่วไหลจะบอกว่า Zen 6 จะเปิดตัวในปี 2026 แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนเรื่องกำหนดการผลิตและการวางจำหน่ายจริง เนื่องจากขึ้นอยู่กับกำลังการผลิตของ TSMC และการแข่งขันในตลาด CPU ที่รุนแรง หากเกิดความล่าช้า อาจทำให้ AMD เสียโอกาสในการแข่งขันกับ Intel และ Apple ที่เดินหน้าใช้ชิป 2nm เช่นกัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Medusa Point เปิดตัวสองรุ่น TDP
    รุ่น 28W สำหรับโน้ตบุ๊กบางเบา
    รุ่น 45W สำหรับโน้ตบุ๊กที่ต้องการพลังสูง

    สถาปัตยกรรม Zen 6
    ใช้เทคโนโลยี 3nm และ 2nm
    เพิ่มจำนวนคอร์ต่อ CCD เป็น 12 คอร์

    กราฟิกและ AI
    iGPU RDNA 3.5 พร้อม 8 Compute Units
    มี AI Engine สำหรับงาน Machine Learning

    ความไม่แน่นอนของกำหนดการ
    อาจเลื่อนการผลิตไปถึงปี 2027
    ขึ้นอยู่กับกำลังการผลิตของ TSMC และการแข่งขันในตลาด

    https://wccftech.com/amd-zen-6-medusa-point-high-tdp-and-low-tdp/
    🖥️ AMD Zen 6 Medusa Point: ก้าวใหม่ของชิปโน้ตบุ๊ก AMD เตรียมเปิดตัว APU รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ Medusa Point ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 โดยมีสองรุ่นตามค่า TDP คือ 28W สำหรับโน้ตบุ๊กบางเบา และ 45W สำหรับโน้ตบุ๊กที่ต้องการพลังประมวลผลสูง การแบ่งเป็นสองระดับนี้ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเลือกใช้ได้ตามการออกแบบเครื่อง ไม่ว่าจะเน้นประหยัดพลังงานหรือเน้นประสิทธิภาพสูงสุด ⚡ สถาปัตยกรรม Zen 6 และการเปลี่ยนแปลงสำคัญ Zen 6 ถูกพัฒนาบนเทคโนโลยี TSMC 3nm และ 2nm โดยมีการเพิ่มจำนวนคอร์ต่อ CCD จาก 8 เป็น 12 คอร์ ทำให้รุ่นท็อปสามารถมีได้ถึง 22 คอร์ พร้อมการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น และชุดคำสั่งใหม่ เช่น AVX512-FP16 เพื่อรองรับงาน AI และการประมวลผลเชิงวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบแคชและตัวควบคุมหน่วยความจำแบบคู่ (Dual IMC) เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และลดความหน่วง 🎮 กราฟิก RDNA 3.5 และ AI Acceleration Medusa Point จะมาพร้อม iGPU RDNA 3.5 ที่มี 8 Compute Units ซึ่งเหมาะสำหรับงานกราฟิกทั่วไปและเกมเบา ๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการเพิ่ม AI Engine สำหรับการเร่งงาน Machine Learning และงานประมวลผลภาพ เช่น การปรับปรุงคุณภาพวิดีโอหรือการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน AI ที่กำลังได้รับความนิยมในโน้ตบุ๊กยุคใหม่ 🔮 แนวโน้มและคำเตือน แม้ข้อมูลที่รั่วไหลจะบอกว่า Zen 6 จะเปิดตัวในปี 2026 แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนเรื่องกำหนดการผลิตและการวางจำหน่ายจริง เนื่องจากขึ้นอยู่กับกำลังการผลิตของ TSMC และการแข่งขันในตลาด CPU ที่รุนแรง หากเกิดความล่าช้า อาจทำให้ AMD เสียโอกาสในการแข่งขันกับ Intel และ Apple ที่เดินหน้าใช้ชิป 2nm เช่นกัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Medusa Point เปิดตัวสองรุ่น TDP ➡️ รุ่น 28W สำหรับโน้ตบุ๊กบางเบา ➡️ รุ่น 45W สำหรับโน้ตบุ๊กที่ต้องการพลังสูง ✅ สถาปัตยกรรม Zen 6 ➡️ ใช้เทคโนโลยี 3nm และ 2nm ➡️ เพิ่มจำนวนคอร์ต่อ CCD เป็น 12 คอร์ ✅ กราฟิกและ AI ➡️ iGPU RDNA 3.5 พร้อม 8 Compute Units ➡️ มี AI Engine สำหรับงาน Machine Learning ‼️ ความไม่แน่นอนของกำหนดการ ⛔ อาจเลื่อนการผลิตไปถึงปี 2027 ⛔ ขึ้นอยู่กับกำลังการผลิตของ TSMC และการแข่งขันในตลาด https://wccftech.com/amd-zen-6-medusa-point-high-tdp-and-low-tdp/
    WCCFTECH.COM
    AMD Zen 6 Medusa Point Surfaces In NBD Manifest With Surprising "High-TDP" And "Low-TDP" Variants
    AMD Zen 6-based mobile Medusa Point SKUs are reportedly divided into two categories: 45W and 28W variants as per the leaked NBD shipping logs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Valve เปิดวิสัยทัศน์ – เกม PC สู่โลก Arm ผ่าน SteamOS"

    Valve กำลังพัฒนาโครงการที่ทำให้ เกม Windows บน PC สามารถรันได้บนอุปกรณ์ Arm โดยไม่ต้องรอให้ผู้พัฒนาเกมทำการพอร์ตเอง เทคโนโลยีนี้ใช้การผสมผสานระหว่าง Proton (ชั้นความเข้ากันได้ Windows-to-Linux) และ FEX Emulator (แปลงสถาปัตยกรรม x86 เป็น Arm) ซึ่งช่วยให้เกมที่สร้างขึ้นสำหรับ Windows สามารถทำงานบน Linux และ Arm ได้อย่างราบรื่น

    Pierre-Loup Griffais จาก Valve อธิบายว่าเป้าหมายคือการทำให้ SteamOS และ Steam Machine ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เครื่องคอนโซล แต่สามารถขยายไปสู่ สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก Arm ได้ในอนาคต ตัวอย่างเช่น เกมดังอย่าง Hollow Knight: Silksong แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android แต่สามารถเล่นได้แล้วบนมือถือ Samsung Galaxy ผ่านเทคโนโลยีใหม่นี้

    Valve ยังเปิดตัวชื่ออย่างเป็นทางการของเลเยอร์ความเข้ากันได้สำหรับ Android คือ Lepton พร้อมโลโก้รูปกบ ซึ่งสะท้อนความตั้งใจที่จะสร้าง ecosystem ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และนักพัฒนา โดย Lepton จะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเกม PC ให้เข้าถึงผู้ใช้มือถือหลายพันล้านคนทั่วโลก

    แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ Valve ยืนยันว่าจะไม่ อุดหนุนราคาของ Steam Machine เพื่อแข่งขันกับคอนโซลรายใหญ่ เน้นการสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งอาจเป็นการวางรากฐานให้เกม PC กลายเป็น “แพลตฟอร์มไร้พรมแดน” ที่สามารถเล่นได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Valve ใช้ Proton + FEX Emulator เพื่อรันเกม Windows บน Arm
    เกม Hollow Knight: Silksong เล่นได้บนมือถือ Samsung Galaxy แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android
    เปิดตัว Lepton เป็น compatibility layer สำหรับ Android พร้อมโลโก้กบ
    Valve จะไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    ตลาดสมาร์ทโฟน Arm มีผู้ใช้งานมากกว่า 6 พันล้านเครื่องทั่วโลก
    การเล่นเกม PC บนมือถืออาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เล่นและตลาดเกมพกพา
    นักพัฒนาหลายรายเริ่มสนใจการใช้ Proton และ Emulator เพื่อขยายฐานผู้เล่น

    คำเตือนจากข่าว
    การรันเกม PC บนมือถืออาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพและแบตเตอรี่
    หากไม่มีการสนับสนุนจากนักพัฒนา อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ในบางเกม
    การไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine อาจทำให้แข่งขันกับคอนโซลยากขึ้น

    https://www.theverge.com/report/820656/valve-interview-arm-gaming-steamos-pierre-loup-griffais
    🎮 "Valve เปิดวิสัยทัศน์ – เกม PC สู่โลก Arm ผ่าน SteamOS" Valve กำลังพัฒนาโครงการที่ทำให้ เกม Windows บน PC สามารถรันได้บนอุปกรณ์ Arm โดยไม่ต้องรอให้ผู้พัฒนาเกมทำการพอร์ตเอง เทคโนโลยีนี้ใช้การผสมผสานระหว่าง Proton (ชั้นความเข้ากันได้ Windows-to-Linux) และ FEX Emulator (แปลงสถาปัตยกรรม x86 เป็น Arm) ซึ่งช่วยให้เกมที่สร้างขึ้นสำหรับ Windows สามารถทำงานบน Linux และ Arm ได้อย่างราบรื่น Pierre-Loup Griffais จาก Valve อธิบายว่าเป้าหมายคือการทำให้ SteamOS และ Steam Machine ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เครื่องคอนโซล แต่สามารถขยายไปสู่ สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก Arm ได้ในอนาคต ตัวอย่างเช่น เกมดังอย่าง Hollow Knight: Silksong แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android แต่สามารถเล่นได้แล้วบนมือถือ Samsung Galaxy ผ่านเทคโนโลยีใหม่นี้ Valve ยังเปิดตัวชื่ออย่างเป็นทางการของเลเยอร์ความเข้ากันได้สำหรับ Android คือ Lepton พร้อมโลโก้รูปกบ ซึ่งสะท้อนความตั้งใจที่จะสร้าง ecosystem ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และนักพัฒนา โดย Lepton จะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเกม PC ให้เข้าถึงผู้ใช้มือถือหลายพันล้านคนทั่วโลก แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ Valve ยืนยันว่าจะไม่ อุดหนุนราคาของ Steam Machine เพื่อแข่งขันกับคอนโซลรายใหญ่ เน้นการสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งอาจเป็นการวางรากฐานให้เกม PC กลายเป็น “แพลตฟอร์มไร้พรมแดน” ที่สามารถเล่นได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Valve ใช้ Proton + FEX Emulator เพื่อรันเกม Windows บน Arm ➡️ เกม Hollow Knight: Silksong เล่นได้บนมือถือ Samsung Galaxy แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android ➡️ เปิดตัว Lepton เป็น compatibility layer สำหรับ Android พร้อมโลโก้กบ ➡️ Valve จะไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ ตลาดสมาร์ทโฟน Arm มีผู้ใช้งานมากกว่า 6 พันล้านเครื่องทั่วโลก ➡️ การเล่นเกม PC บนมือถืออาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เล่นและตลาดเกมพกพา ➡️ นักพัฒนาหลายรายเริ่มสนใจการใช้ Proton และ Emulator เพื่อขยายฐานผู้เล่น ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ การรันเกม PC บนมือถืออาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพและแบตเตอรี่ ⛔ หากไม่มีการสนับสนุนจากนักพัฒนา อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ในบางเกม ⛔ การไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine อาจทำให้แข่งขันกับคอนโซลยากขึ้น https://www.theverge.com/report/820656/valve-interview-arm-gaming-steamos-pierre-loup-griffais
    WWW.THEVERGE.COM
    Steam Machine today, Steam Phones tomorrow
    The Steam Frame is a Trojan horse carrying Arm’s gaming future.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • "AI ลดต้นทุนการโน้มน้าวใจ – เปิดทางชนชั้นนำออกแบบการแบ่งขั้วสังคม"

    ในระบอบประชาธิปไตย การตัดสินใจเชิงนโยบายใหญ่ ๆ ต้องอาศัยเสียงส่วนใหญ่หรือฉันทามติ แต่ชนชั้นนำจำเป็นต้องหาวิธีสร้างการสนับสนุนจากประชาชน งานวิจัยนี้เสนอว่า AI ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำในการโน้มน้าวใจ กำลังทำให้การจัดการความคิดเห็นของสังคมกลายเป็นสิ่งที่สามารถ “ออกแบบ” ได้ ไม่ใช่เพียงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

    โมเดลเชิงพลวัตที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น แสดงให้เห็นว่า หากมีชนชั้นนำเพียงกลุ่มเดียว การแทรกแซงที่เหมาะสมจะผลักดันสังคมไปสู่ ความเห็นที่แตกต่างสุดขั้วมากขึ้น (polarization pull) และเมื่อเทคโนโลยี persuasion ดีขึ้น กระบวนการนี้ก็จะยิ่งเร็วขึ้น ทำให้ความแตกแยกในสังคมทวีความรุนแรง

    แต่หากมีชนชั้นนำสองฝ่ายที่ผลัดกันมีอำนาจ เทคโนโลยี persuasion เดียวกันนี้อาจสร้างแรงจูงใจให้ “ล็อก” ความเห็นของสังคมให้อยู่ในพื้นที่กึ่งกลางที่เหนียวแน่น (semi-lock) เพื่อป้องกันไม่ให้คู่แข่งเข้ามาเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ผลลัพธ์คือ AI สามารถทั้ง เพิ่มหรือบรรเทาความแตกแยก ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางการเมือง

    โดยรวมแล้ว งานวิจัยนี้เตือนว่า การแบ่งขั้วไม่ใช่เพียงผลพลอยได้ของสังคมยุคดิจิทัล แต่เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ของการปกครอง เมื่อเทคโนโลยี persuasion ถูกทำให้เข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลกระทบต่อเสถียรภาพประชาธิปไตยจึงอาจรุนแรงกว่าที่เคยคิด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากงานวิจัย
    AI ลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำในการโน้มน้าวใจ
    ชนชั้นนำสามารถออกแบบการกระจายความคิดเห็นของประชาชนได้
    โมเดลแสดงให้เห็นว่า “polarization pull” เกิดขึ้นเมื่อมีชนชั้นนำเพียงฝ่ายเดียว
    เมื่อมีสองฝ่าย เทคโนโลยีอาจสร้าง “semi-lock” ทำให้ความเห็นเหนียวแน่น

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    นักวิชาการหลายคนเตือนว่า AI อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อสร้าง echo chamber
    การใช้ AI ในการโฆษณาและการรณรงค์ทางการเมืองเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสหรัฐฯ และยุโรป
    มีการถกเถียงว่าควรมีการกำกับดูแลการใช้ AI เพื่อป้องกันการบิดเบือนประชาธิปไตย

    คำเตือนจากงานวิจัย
    การแบ่งขั้วอาจไม่ใช่ผลลัพธ์ธรรมชาติ แต่เป็นกลยุทธ์ที่ถูกออกแบบโดยชนชั้นนำ
    การใช้ AI persuasion โดยไม่มีการกำกับดูแล อาจทำให้ประชาธิปไตยเสื่อมเสถียร
    ความเห็นของประชาชนอาจถูก “ล็อก” จนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่าย

    https://arxiv.org/abs/2512.04047
    🧠 "AI ลดต้นทุนการโน้มน้าวใจ – เปิดทางชนชั้นนำออกแบบการแบ่งขั้วสังคม" ในระบอบประชาธิปไตย การตัดสินใจเชิงนโยบายใหญ่ ๆ ต้องอาศัยเสียงส่วนใหญ่หรือฉันทามติ แต่ชนชั้นนำจำเป็นต้องหาวิธีสร้างการสนับสนุนจากประชาชน งานวิจัยนี้เสนอว่า AI ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำในการโน้มน้าวใจ กำลังทำให้การจัดการความคิดเห็นของสังคมกลายเป็นสิ่งที่สามารถ “ออกแบบ” ได้ ไม่ใช่เพียงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โมเดลเชิงพลวัตที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น แสดงให้เห็นว่า หากมีชนชั้นนำเพียงกลุ่มเดียว การแทรกแซงที่เหมาะสมจะผลักดันสังคมไปสู่ ความเห็นที่แตกต่างสุดขั้วมากขึ้น (polarization pull) และเมื่อเทคโนโลยี persuasion ดีขึ้น กระบวนการนี้ก็จะยิ่งเร็วขึ้น ทำให้ความแตกแยกในสังคมทวีความรุนแรง แต่หากมีชนชั้นนำสองฝ่ายที่ผลัดกันมีอำนาจ เทคโนโลยี persuasion เดียวกันนี้อาจสร้างแรงจูงใจให้ “ล็อก” ความเห็นของสังคมให้อยู่ในพื้นที่กึ่งกลางที่เหนียวแน่น (semi-lock) เพื่อป้องกันไม่ให้คู่แข่งเข้ามาเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ผลลัพธ์คือ AI สามารถทั้ง เพิ่มหรือบรรเทาความแตกแยก ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางการเมือง โดยรวมแล้ว งานวิจัยนี้เตือนว่า การแบ่งขั้วไม่ใช่เพียงผลพลอยได้ของสังคมยุคดิจิทัล แต่เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ของการปกครอง เมื่อเทคโนโลยี persuasion ถูกทำให้เข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลกระทบต่อเสถียรภาพประชาธิปไตยจึงอาจรุนแรงกว่าที่เคยคิด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากงานวิจัย ➡️ AI ลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำในการโน้มน้าวใจ ➡️ ชนชั้นนำสามารถออกแบบการกระจายความคิดเห็นของประชาชนได้ ➡️ โมเดลแสดงให้เห็นว่า “polarization pull” เกิดขึ้นเมื่อมีชนชั้นนำเพียงฝ่ายเดียว ➡️ เมื่อมีสองฝ่าย เทคโนโลยีอาจสร้าง “semi-lock” ทำให้ความเห็นเหนียวแน่น ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ นักวิชาการหลายคนเตือนว่า AI อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อสร้าง echo chamber ➡️ การใช้ AI ในการโฆษณาและการรณรงค์ทางการเมืองเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสหรัฐฯ และยุโรป ➡️ มีการถกเถียงว่าควรมีการกำกับดูแลการใช้ AI เพื่อป้องกันการบิดเบือนประชาธิปไตย ‼️ คำเตือนจากงานวิจัย ⛔ การแบ่งขั้วอาจไม่ใช่ผลลัพธ์ธรรมชาติ แต่เป็นกลยุทธ์ที่ถูกออกแบบโดยชนชั้นนำ ⛔ การใช้ AI persuasion โดยไม่มีการกำกับดูแล อาจทำให้ประชาธิปไตยเสื่อมเสถียร ⛔ ความเห็นของประชาชนอาจถูก “ล็อก” จนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่าย https://arxiv.org/abs/2512.04047
    ARXIV.ORG
    Polarization by Design: How Elites Could Shape Mass Preferences as AI Reduces Persuasion Costs
    In democracies, major policy decisions typically require some form of majority or consensus, so elites must secure mass support to govern. Historically, elites could shape support only through limited instruments like schooling and mass media; advances in AI-driven persuasion sharply reduce the cost and increase the precision of shaping public opinion, making the distribution of preferences itself an object of deliberate design. We develop a dynamic model in which elites choose how much to reshape the distribution of policy preferences, subject to persuasion costs and a majority rule constraint. With a single elite, any optimal intervention tends to push society toward more polarized opinion profiles - a ``polarization pull'' - and improvements in persuasion technology accelerate this drift. When two opposed elites alternate in power, the same technology also creates incentives to park society in ``semi-lock'' regions where opinions are more cohesive and harder for a rival to overturn, so advances in persuasion can either heighten or dampen polarization depending on the environment. Taken together, cheaper persuasion technologies recast polarization as a strategic instrument of governance rather than a purely emergent social byproduct, with important implications for democratic stability as AI capabilities advance.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • “3 รุ่น VR Headset ที่มือใหม่ควรเลี่ยง”

    ตลาด VR เติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ไม่ใช่ว่าทุกอุปกรณ์จะเหมาะกับผู้เริ่มต้น บทความต้นทางได้ยกตัวอย่าง HTC Vive XR Elite ที่แม้จะมีโครงสร้างโมดูลาร์และฟีเจอร์หลากหลาย แต่กลับซับซ้อนและราคาแพงเกินไปสำหรับผู้ใช้ใหม่ อีกทั้งยังมีปัญหาด้านความสบายและการใช้งานคอนโทรลเลอร์ที่ไม่สมดุล

    ในอีกด้านหนึ่ง Destek VR Headset แม้จะราคาถูกและใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ แต่กลับมีข้อจำกัด เช่น เลนส์ที่เกิดฝ้าได้ง่าย ความไม่สบายจากวัสดุ และปัญหาการเชื่อมต่อบ่อยครั้ง ทำให้ประสบการณ์ VR ไม่ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น

    สุดท้ายคือ Meta Quest 2 ที่แม้เคยเป็นรุ่นยอดนิยม แต่ถูกยุติการผลิตเพื่อเปิดทางให้ Quest 3 ปัญหาที่พบคือวัสดุที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ความร้อนสูง และแบตเตอรี่หมดเร็ว อีกทั้งการหยุดสนับสนุนซอฟต์แวร์ในอนาคตทำให้ไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ต้องการใช้งานระยะยาว

    “ตลาด VR ปี 2025 โตแรง”
    ข้อมูลล่าสุดเผยว่า ตลาด VR Headset ปี 2025 มีมูลค่า 10.3 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะโตถึง 51.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2034 ด้วยอัตราเติบโตเฉลี่ยเกือบ 20% ต่อปี ปัจจัยสำคัญคือการผสาน AI เข้ากับ VR ทำให้ประสบการณ์เสมือนจริงตอบสนองผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการขยายเครือข่าย 5G ที่ช่วยให้การสตรีมคอนเทนต์ VR มีคุณภาพสูงขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    HTC Vive XR Elite
    โครงสร้างโมดูลาร์ แต่ซับซ้อนและราคาแพง
    คอนโทรลเลอร์ใหญ่เกินไป ใช้งานไม่ถนัด

    Destek VR Headset
    ราคาถูก ใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนได้
    ปัญหาเลนส์ฝ้าและการเชื่อมต่อไม่เสถียร

    Meta Quest 2
    เคยนิยม แต่ถูกยกเลิกการผลิต
    มีปัญหาความร้อนและแบตเตอรี่หมดเร็ว

    ตลาด VR ปี 2025
    มูลค่า 10.3 พันล้านดอลลาร์ และโตต่อเนื่อง
    AI และ 5G เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก

    คำเตือนสำหรับผู้เริ่มต้น
    อย่าซื้อรุ่นที่ถูกยกเลิก เพราะจะหมดการสนับสนุน
    ระวังรุ่นราคาถูกที่คุณภาพต่ำ อาจทำให้ประสบการณ์ VR แย่ลง
    ตรวจสอบความสบายและวัสดุ เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือไม่เหมาะกับการใช้งานนาน ๆ

    https://www.slashgear.com/1716941/worst-vr-headset-beginners/
    🕶️ “3 รุ่น VR Headset ที่มือใหม่ควรเลี่ยง” ตลาด VR เติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ไม่ใช่ว่าทุกอุปกรณ์จะเหมาะกับผู้เริ่มต้น บทความต้นทางได้ยกตัวอย่าง HTC Vive XR Elite ที่แม้จะมีโครงสร้างโมดูลาร์และฟีเจอร์หลากหลาย แต่กลับซับซ้อนและราคาแพงเกินไปสำหรับผู้ใช้ใหม่ อีกทั้งยังมีปัญหาด้านความสบายและการใช้งานคอนโทรลเลอร์ที่ไม่สมดุล ในอีกด้านหนึ่ง Destek VR Headset แม้จะราคาถูกและใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ แต่กลับมีข้อจำกัด เช่น เลนส์ที่เกิดฝ้าได้ง่าย ความไม่สบายจากวัสดุ และปัญหาการเชื่อมต่อบ่อยครั้ง ทำให้ประสบการณ์ VR ไม่ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น สุดท้ายคือ Meta Quest 2 ที่แม้เคยเป็นรุ่นยอดนิยม แต่ถูกยุติการผลิตเพื่อเปิดทางให้ Quest 3 ปัญหาที่พบคือวัสดุที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ความร้อนสูง และแบตเตอรี่หมดเร็ว อีกทั้งการหยุดสนับสนุนซอฟต์แวร์ในอนาคตทำให้ไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ต้องการใช้งานระยะยาว 📈 “ตลาด VR ปี 2025 โตแรง” ข้อมูลล่าสุดเผยว่า ตลาด VR Headset ปี 2025 มีมูลค่า 10.3 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะโตถึง 51.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2034 ด้วยอัตราเติบโตเฉลี่ยเกือบ 20% ต่อปี ปัจจัยสำคัญคือการผสาน AI เข้ากับ VR ทำให้ประสบการณ์เสมือนจริงตอบสนองผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการขยายเครือข่าย 5G ที่ช่วยให้การสตรีมคอนเทนต์ VR มีคุณภาพสูงขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ HTC Vive XR Elite ➡️ โครงสร้างโมดูลาร์ แต่ซับซ้อนและราคาแพง ➡️ คอนโทรลเลอร์ใหญ่เกินไป ใช้งานไม่ถนัด ✅ Destek VR Headset ➡️ ราคาถูก ใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ ➡️ ปัญหาเลนส์ฝ้าและการเชื่อมต่อไม่เสถียร ✅ Meta Quest 2 ➡️ เคยนิยม แต่ถูกยกเลิกการผลิต ➡️ มีปัญหาความร้อนและแบตเตอรี่หมดเร็ว ✅ ตลาด VR ปี 2025 ➡️ มูลค่า 10.3 พันล้านดอลลาร์ และโตต่อเนื่อง ➡️ AI และ 5G เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ‼️ คำเตือนสำหรับผู้เริ่มต้น ⛔ อย่าซื้อรุ่นที่ถูกยกเลิก เพราะจะหมดการสนับสนุน ⛔ ระวังรุ่นราคาถูกที่คุณภาพต่ำ อาจทำให้ประสบการณ์ VR แย่ลง ⛔ ตรวจสอบความสบายและวัสดุ เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือไม่เหมาะกับการใช้งานนาน ๆ https://www.slashgear.com/1716941/worst-vr-headset-beginners/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    3 Of The Worst VR Headsets To Buy For Beginners - SlashGear
    If you're planning to buy a VR headset, it's not just the best options you should know about. It's also helpful to know the worst headsets on the market.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • เส้นทางจากนักข่าวสู่ผู้นำด้าน Privacy

    บทสัมภาษณ์นี้พูดคุยกับ Alexander Linton ประธานมูลนิธิ Session Technology Foundation เกี่ยวกับการสร้างแพลตฟอร์มแชทที่เข้ารหัสแบบกระจายศูนย์ (decentralized encrypted messaging) และความท้าทายด้านความปลอดภัย ความเชื่อมั่น และการกำกับดูแล

    Alexander Linton เริ่มต้นจากการเป็นนักข่าวที่ต้องเผชิญกับปัญหาการสื่อสารที่ไม่ปลอดภัย เขาเห็นช่องว่างสำคัญในเครื่องมือที่ใช้ปกป้องข้อมูลและแหล่งข่าว จึงเข้าร่วมทีมพัฒนา Session เมื่อ 7 ปีก่อน และปัจจุบันก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำมูลนิธิที่ดูแลโครงการนี้ เป้าหมายของเขาคือทำให้การสื่อสารที่ปลอดภัยเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน

    ความท้าทายด้าน Trust & Safety
    Session ใช้โครงสร้างแบบ decentralized node network คล้าย Tor ทำให้ไม่มีเซิร์ฟเวอร์กลางที่สามารถควบคุมหรือสอดส่องได้ ส่งผลให้การทำ content moderation แบบรวมศูนย์แทบเป็นไปไม่ได้ Linton ย้ำว่า “ไม่มีอนาคตของความปลอดภัยออนไลน์หากปราศจาก Privacy และ Security” โดย Session เลือกใช้การควบคุมในระดับชุมชนแทนที่จะเปิดช่องทางให้รัฐบาลหรือองค์กรใด ๆ แทรกแซง

    บทบาทของสวิตเซอร์แลนด์และการกำกับดูแล
    หลังจากย้ายฐานจากออสเตรเลียไปสวิตเซอร์แลนด์ มูลนิธิได้รับสภาพแวดล้อมที่มั่นคงและเป็นมิตรต่อสิทธิด้านดิจิทัล อย่างไรก็ตามยังมีข้อกังวลเรื่องกฎหมายใหม่ที่อาจกระทบต่อการเข้ารหัส (เช่น VÜPF) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการต่อสู้เพื่อ Privacy เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง

    อนาคตของ Session และ Token
    เพื่อสร้างความยั่งยืน Session ได้เปิดตัว Session Token ที่ใช้เป็นแรงจูงใจให้ชุมชนช่วยดูแลโครงสร้างพื้นฐาน โดย Linton ยืนยันว่าไม่ใช่การ “cash grab” แต่เป็นการสร้างโมเดลที่ให้ผู้สนับสนุนเครือข่ายได้รับผลตอบแทนจากการมีส่วนร่วม ซึ่งจะช่วยให้แพลตฟอร์มเติบโตโดยไม่ต้องพึ่งพาบริษัทเอกชน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Alexander Linton จากนักข่าวสู่ประธาน Session Technology Foundation
    Session ใช้โครงสร้าง decentralized node network คล้าย Tor
    Content moderation ทำในระดับชุมชน ไม่ใช่รวมศูนย์
    มูลนิธิย้ายฐานไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อความมั่นคงด้านสิทธิข้อมูล
    เปิดตัว Session Token เพื่อสร้างความยั่งยืนของแพลตฟอร์ม

    คำเตือนจากข่าว
    กฎหมายใหม่ในสวิตเซอร์แลนด์ (VÜPF) อาจกระทบต่อการเข้ารหัส
    การละเลยการปกป้อง Privacy อาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกสอดส่อง
    หากไม่เข้าใจโมเดล Token อาจถูกมองว่าเป็นการแสวงหาผลประโยชน์
    การลดความเข้มแข็งของ Encryption จะทำให้ทุกคนไม่ปลอดภัยมากขึ้น

    https://itsfoss.com/news/alexander-linton-interview/
    📰 เส้นทางจากนักข่าวสู่ผู้นำด้าน Privacy บทสัมภาษณ์นี้พูดคุยกับ Alexander Linton ประธานมูลนิธิ Session Technology Foundation เกี่ยวกับการสร้างแพลตฟอร์มแชทที่เข้ารหัสแบบกระจายศูนย์ (decentralized encrypted messaging) และความท้าทายด้านความปลอดภัย ความเชื่อมั่น และการกำกับดูแล Alexander Linton เริ่มต้นจากการเป็นนักข่าวที่ต้องเผชิญกับปัญหาการสื่อสารที่ไม่ปลอดภัย เขาเห็นช่องว่างสำคัญในเครื่องมือที่ใช้ปกป้องข้อมูลและแหล่งข่าว จึงเข้าร่วมทีมพัฒนา Session เมื่อ 7 ปีก่อน และปัจจุบันก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำมูลนิธิที่ดูแลโครงการนี้ เป้าหมายของเขาคือทำให้การสื่อสารที่ปลอดภัยเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน 🔐 ความท้าทายด้าน Trust & Safety Session ใช้โครงสร้างแบบ decentralized node network คล้าย Tor ทำให้ไม่มีเซิร์ฟเวอร์กลางที่สามารถควบคุมหรือสอดส่องได้ ส่งผลให้การทำ content moderation แบบรวมศูนย์แทบเป็นไปไม่ได้ Linton ย้ำว่า “ไม่มีอนาคตของความปลอดภัยออนไลน์หากปราศจาก Privacy และ Security” โดย Session เลือกใช้การควบคุมในระดับชุมชนแทนที่จะเปิดช่องทางให้รัฐบาลหรือองค์กรใด ๆ แทรกแซง 🌍 บทบาทของสวิตเซอร์แลนด์และการกำกับดูแล หลังจากย้ายฐานจากออสเตรเลียไปสวิตเซอร์แลนด์ มูลนิธิได้รับสภาพแวดล้อมที่มั่นคงและเป็นมิตรต่อสิทธิด้านดิจิทัล อย่างไรก็ตามยังมีข้อกังวลเรื่องกฎหมายใหม่ที่อาจกระทบต่อการเข้ารหัส (เช่น VÜPF) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการต่อสู้เพื่อ Privacy เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง 💡 อนาคตของ Session และ Token เพื่อสร้างความยั่งยืน Session ได้เปิดตัว Session Token ที่ใช้เป็นแรงจูงใจให้ชุมชนช่วยดูแลโครงสร้างพื้นฐาน โดย Linton ยืนยันว่าไม่ใช่การ “cash grab” แต่เป็นการสร้างโมเดลที่ให้ผู้สนับสนุนเครือข่ายได้รับผลตอบแทนจากการมีส่วนร่วม ซึ่งจะช่วยให้แพลตฟอร์มเติบโตโดยไม่ต้องพึ่งพาบริษัทเอกชน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Alexander Linton จากนักข่าวสู่ประธาน Session Technology Foundation ➡️ Session ใช้โครงสร้าง decentralized node network คล้าย Tor ➡️ Content moderation ทำในระดับชุมชน ไม่ใช่รวมศูนย์ ➡️ มูลนิธิย้ายฐานไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อความมั่นคงด้านสิทธิข้อมูล ➡️ เปิดตัว Session Token เพื่อสร้างความยั่งยืนของแพลตฟอร์ม ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ กฎหมายใหม่ในสวิตเซอร์แลนด์ (VÜPF) อาจกระทบต่อการเข้ารหัส ⛔ การละเลยการปกป้อง Privacy อาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกสอดส่อง ⛔ หากไม่เข้าใจโมเดล Token อาจถูกมองว่าเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ ⛔ การลดความเข้มแข็งของ Encryption จะทำให้ทุกคนไม่ปลอดภัยมากขึ้น https://itsfoss.com/news/alexander-linton-interview/
    ITSFOSS.COM
    There is No Future for Online Safety Without Privacy and Security
    Alexander Linton of the Session Technology Foundation on building decentralized messaging and why platform-wide content moderation is impractical on encrypted platforms.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ Splunk บน Windows ทำให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่ Administrator สามารถเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้

    Splunk Enterprise และ Splunk Universal Forwarder บน Windows ถูกค้นพบช่องโหว่ CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387 โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 8.0 ซึ่งถือว่าสูงมาก ช่องโหว่นี้เกิดจากการติดตั้งหรืออัปเกรดที่กำหนด Permission ของโฟลเดอร์ผิดพลาด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงไฟล์ที่ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะ Administrator ได้

    กลไกการโจมตี
    เมื่อ Permission ถูกตั้งค่าไม่ถูกต้อง ผู้โจมตีที่มีบัญชีผู้ใช้ระดับต่ำสามารถ:
    อ่านไฟล์การตั้งค่าที่มีข้อมูลสำคัญ
    เขียนหรือแก้ไขไฟล์ในโฟลเดอร์ Splunk
    ฝังไฟล์อันตรายเพื่อให้ระบบรันโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้ทำให้การโจมตีง่ายขึ้นมาก เพราะไม่ต้องใช้สิทธิ์สูงตั้งแต่แรก

    เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ
    Splunk Enterprise และ Universal Forwarder เวอร์ชันต่ำกว่า:
    10.0.2
    9.4.6
    9.3.8
    9.2.10

    แนวทางแก้ไข
    Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชันข้างต้น ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถอัปเดตได้ Splunk แนะนำให้ใช้คำสั่ง icacls.exe เพื่อแก้ไข Permission ด้วยตนเอง เช่น:
    ปิด inheritance
    ลบสิทธิ์ Built-in Users และ Authenticated Users
    เปิด inheritance ใหม่อย่างปลอดภัย

    สรุปประเด็นสำคัญ

    ข้อมูลจากข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387 มีคะแนน CVSS 8.0
    เกิดจาก Permission โฟลเดอร์ Splunk บน Windows ที่ตั้งค่าไม่ถูกต้อง
    ผู้โจมตีสามารถอ่าน/เขียนไฟล์ และฝังโค้ดอันตรายได้
    เวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ 10.0.2, 9.4.6, 9.3.8, 9.2.10

    คำเตือนจากข่าว
    หากไม่อัปเดต ระบบเสี่ยงต่อการถูกยึดครองโดยผู้ใช้ทั่วไป
    การปล่อยให้ Permission เปิดกว้างทำให้ไฟล์สำคัญถูกแก้ไขได้
    การละเลยการตรวจสอบสิทธิ์ไฟล์อาจเปิดช่องให้ฝัง Backdoor
    การใช้เวอร์ชันเก่าต่อไปคือความเสี่ยงต่อความปลอดภัยองค์กร

    https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows/
    ⚠️ ช่องโหว่ Splunk บน Windows ทำให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่ Administrator สามารถเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ Splunk Enterprise และ Splunk Universal Forwarder บน Windows ถูกค้นพบช่องโหว่ CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387 โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 8.0 ซึ่งถือว่าสูงมาก ช่องโหว่นี้เกิดจากการติดตั้งหรืออัปเกรดที่กำหนด Permission ของโฟลเดอร์ผิดพลาด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงไฟล์ที่ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะ Administrator ได้ 🧩 กลไกการโจมตี เมื่อ Permission ถูกตั้งค่าไม่ถูกต้อง ผู้โจมตีที่มีบัญชีผู้ใช้ระดับต่ำสามารถ: 🐞 อ่านไฟล์การตั้งค่าที่มีข้อมูลสำคัญ 🐞 เขียนหรือแก้ไขไฟล์ในโฟลเดอร์ Splunk 🐞 ฝังไฟล์อันตรายเพื่อให้ระบบรันโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้ทำให้การโจมตีง่ายขึ้นมาก เพราะไม่ต้องใช้สิทธิ์สูงตั้งแต่แรก 🔎 เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ Splunk Enterprise และ Universal Forwarder เวอร์ชันต่ำกว่า: 🐞 10.0.2 🐞 9.4.6 🐞 9.3.8 🐞 9.2.10 🛡️ แนวทางแก้ไข Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชันข้างต้น ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถอัปเดตได้ Splunk แนะนำให้ใช้คำสั่ง icacls.exe เพื่อแก้ไข Permission ด้วยตนเอง เช่น: 🐞 ปิด inheritance 🐞 ลบสิทธิ์ Built-in Users และ Authenticated Users 🐞 เปิด inheritance ใหม่อย่างปลอดภัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387 มีคะแนน CVSS 8.0 ➡️ เกิดจาก Permission โฟลเดอร์ Splunk บน Windows ที่ตั้งค่าไม่ถูกต้อง ➡️ ผู้โจมตีสามารถอ่าน/เขียนไฟล์ และฝังโค้ดอันตรายได้ ➡️ เวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ 10.0.2, 9.4.6, 9.3.8, 9.2.10 ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ หากไม่อัปเดต ระบบเสี่ยงต่อการถูกยึดครองโดยผู้ใช้ทั่วไป ⛔ การปล่อยให้ Permission เปิดกว้างทำให้ไฟล์สำคัญถูกแก้ไขได้ ⛔ การละเลยการตรวจสอบสิทธิ์ไฟล์อาจเปิดช่องให้ฝัง Backdoor ⛔ การใช้เวอร์ชันเก่าต่อไปคือความเสี่ยงต่อความปลอดภัยองค์กร https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows/
    SECURITYONLINE.INFO
    High-Severity Splunk Flaw Allows Local Privilege Escalation via Incorrect File Permissions on Windows
    A High-severity flaw (CVSS 8.0) in Splunk Enterprise/Universal Forwarder for Windows allows low-privileged users to access/tamper with sensitive installation directories due to incorrect permissions. Update to v10.0.2+.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ใน Cacti เสี่ยงต่อการถูกยึดครอง Server

    Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือ Network Monitoring แบบ Open Source ถูกค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งอันตรายเข้าสู่ระบบได้โดยตรง ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-66399 และจัดอยู่ในระดับ High Severity เนื่องจากสามารถนำไปสู่การควบคุมเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด

    กลไกการโจมตี
    ปัญหาเกิดจากการที่ระบบไม่ตรวจสอบค่า SNMP Community String อย่างถูกต้อง โดย regex ที่ใช้สำหรับการกรองถูกปล่อยว่าง ทำให้ newline characters ไม่ถูกลบออก ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถแทรกคำสั่งเพิ่มเติมเข้าไปในกระบวนการ SNMP ได้ เช่น การใช้ snmpwalk หรือ wrapper tools ที่ตีความ newline เป็นคำสั่งใหม่ ทำให้เกิดการ Command Injection และนำไปสู่การรันโค้ดโดยตรง

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    หากการโจมตีสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถ:
    แก้ไขข้อมูลการมอนิเตอร์เครือข่าย
    รันคำสั่งระดับระบบ
    เขียนไฟล์โดยไม่ได้รับอนุญาต
    ยึดครองเซิร์ฟเวอร์ Cacti ได้เต็มรูปแบบ

    แนวทางแก้ไข
    ทีมพัฒนา Cacti ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.2.29 แล้ว ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตทันที รวมถึงตรวจสอบไฟล์และกระบวนการที่ผิดปกติในเซิร์ฟเวอร์เพื่อป้องกันการฝัง Backdoor หรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-66399 อยู่ใน Cacti เวอร์ชันก่อน 1.2.29
    เกิดจากการตรวจสอบ SNMP Community String ที่ไม่สมบูรณ์
    newline characters ทำให้เกิด Command Injection ได้
    ทีมพัฒนาออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.2.29

    คำเตือนจากข่าว
    หากไม่อัปเดต ระบบเสี่ยงต่อการถูกยึดครองเต็มรูปแบบ
    ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งระดับระบบและเขียนไฟล์โดยไม่ได้รับอนุญาต
    การละเลยการตรวจสอบไฟล์และกระบวนการอาจเปิดช่องให้ Backdoor ถูกฝัง
    การใช้ SNMP tools ที่ตีความ newline เป็นคำสั่งใหม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี

    https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection/
    ⚠️ ช่องโหว่ใน Cacti เสี่ยงต่อการถูกยึดครอง Server Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือ Network Monitoring แบบ Open Source ถูกค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งอันตรายเข้าสู่ระบบได้โดยตรง ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-66399 และจัดอยู่ในระดับ High Severity เนื่องจากสามารถนำไปสู่การควบคุมเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด 🧩 กลไกการโจมตี ปัญหาเกิดจากการที่ระบบไม่ตรวจสอบค่า SNMP Community String อย่างถูกต้อง โดย regex ที่ใช้สำหรับการกรองถูกปล่อยว่าง ทำให้ newline characters ไม่ถูกลบออก ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถแทรกคำสั่งเพิ่มเติมเข้าไปในกระบวนการ SNMP ได้ เช่น การใช้ snmpwalk หรือ wrapper tools ที่ตีความ newline เป็นคำสั่งใหม่ ทำให้เกิดการ Command Injection และนำไปสู่การรันโค้ดโดยตรง 🔎 ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากการโจมตีสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถ: 🐞 แก้ไขข้อมูลการมอนิเตอร์เครือข่าย 🐞 รันคำสั่งระดับระบบ 🐞 เขียนไฟล์โดยไม่ได้รับอนุญาต 🐞 ยึดครองเซิร์ฟเวอร์ Cacti ได้เต็มรูปแบบ 🛡️ แนวทางแก้ไข ทีมพัฒนา Cacti ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.2.29 แล้ว ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตทันที รวมถึงตรวจสอบไฟล์และกระบวนการที่ผิดปกติในเซิร์ฟเวอร์เพื่อป้องกันการฝัง Backdoor หรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-66399 อยู่ใน Cacti เวอร์ชันก่อน 1.2.29 ➡️ เกิดจากการตรวจสอบ SNMP Community String ที่ไม่สมบูรณ์ ➡️ newline characters ทำให้เกิด Command Injection ได้ ➡️ ทีมพัฒนาออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.2.29 ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ หากไม่อัปเดต ระบบเสี่ยงต่อการถูกยึดครองเต็มรูปแบบ ⛔ ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งระดับระบบและเขียนไฟล์โดยไม่ได้รับอนุญาต ⛔ การละเลยการตรวจสอบไฟล์และกระบวนการอาจเปิดช่องให้ Backdoor ถูกฝัง ⛔ การใช้ SNMP tools ที่ตีความ newline เป็นคำสั่งใหม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection/
    SECURITYONLINE.INFO
    High-Severity Cacti Flaw (CVE-2025-66399) Risks Remote Code Execution via SNMP Community String Injection
    A High-severity RCE flaw (CVE-2025-66399) in Cacti allows authenticated attackers to execute commands by injecting newline characters into the SNMP Community String. Update to v1.2.29 immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ WordPress สะเทือนวงการ: CVE-2025-6389

    ช่องโหว่ Remote Code Execution (RCE) ในปลั๊กอิน Sneeit Framework ซึ่งถูกใช้ในธีม WordPress พรีเมียมหลายตัว ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 และทันทีที่ข้อมูลถูกเผยแพร่ แฮกเกอร์ก็เริ่มโจมตีเว็บไซต์ที่ยังไม่ได้อัปเดตอย่างกว้างขวาง โดยมีการบล็อกความพยายามโจมตีแล้วกว่า 131,000 ครั้ง จากระบบไฟร์วอลล์ Wordfence

    กลไกการโจมตีที่อันตราย
    ปัญหานี้เกิดจากฟังก์ชัน sneeit_articles_pagination_callback() ที่เปิดให้ผู้ใช้ส่งข้อมูลเข้ามาโดยตรง และถูกนำไปประมวลผลผ่าน call_user_func() โดยไม่มีการตรวจสอบ ทำให้ผู้โจมตีสามารถเรียกใช้ฟังก์ชัน PHP ใด ๆ ได้ตามใจ เช่น การสร้างบัญชีผู้ดูแลใหม่ หรือการอัปโหลดไฟล์ PHP ที่แฝงมัลแวร์เพื่อควบคุมระบบ

    เทคนิคที่ใช้ในการโจมตี
    แฮกเกอร์ใช้ไฟล์ที่ปลอมตัวเป็นไฟล์ระบบ เช่น xL.php, Canonical.php หรือ .a.php เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ไฟล์เหล่านี้มีความสามารถหลากหลาย ตั้งแต่การสแกนไดเรกทอรี ลบไฟล์ ไปจนถึงการแตกไฟล์บีบอัด ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝัง Backdoor และเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้อย่างสมบูรณ์

    แนวทางแก้ไขและคำเตือน
    ผู้พัฒนาปลั๊กอินได้ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 8.4 เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว เว็บไซต์ที่ยังใช้เวอร์ชัน 8.3 หรือต่ำกว่ายังคงเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างรุนแรง เจ้าของเว็บไซต์จึงควรรีบอัปเดตทันที และตรวจสอบไฟล์ต้องสงสัยในระบบเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-6389 อยู่ในปลั๊กอิน Sneeit Framework เวอร์ชัน ≤ 8.3
    การโจมตีเริ่มทันทีหลังการเปิดเผยเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2025
    Wordfence Firewall บล็อกความพยายามโจมตีแล้วกว่า 131,000 ครั้ง
    ไฟล์มัลแวร์ที่พบ เช่น xL.php, Canonical.php, tijtewmg.php

    คำเตือนจากข่าว
    เว็บไซต์ที่ยังไม่ได้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 8.4 เสี่ยงต่อการถูกยึดครองเต็มรูปแบบ
    ผู้โจมตีสามารถสร้างบัญชีผู้ดูแลใหม่และฝัง Backdoor ได้
    ไฟล์ปลอมที่เลียนแบบไฟล์ระบบอาจทำให้การตรวจจับยากขึ้น
    การละเลยการอัปเดตอาจนำไปสู่การสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต

    https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce/
    🛡️ ช่องโหว่ WordPress สะเทือนวงการ: CVE-2025-6389 ช่องโหว่ Remote Code Execution (RCE) ในปลั๊กอิน Sneeit Framework ซึ่งถูกใช้ในธีม WordPress พรีเมียมหลายตัว ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 และทันทีที่ข้อมูลถูกเผยแพร่ แฮกเกอร์ก็เริ่มโจมตีเว็บไซต์ที่ยังไม่ได้อัปเดตอย่างกว้างขวาง โดยมีการบล็อกความพยายามโจมตีแล้วกว่า 131,000 ครั้ง จากระบบไฟร์วอลล์ Wordfence ⚙️ กลไกการโจมตีที่อันตราย ปัญหานี้เกิดจากฟังก์ชัน sneeit_articles_pagination_callback() ที่เปิดให้ผู้ใช้ส่งข้อมูลเข้ามาโดยตรง และถูกนำไปประมวลผลผ่าน call_user_func() โดยไม่มีการตรวจสอบ ทำให้ผู้โจมตีสามารถเรียกใช้ฟังก์ชัน PHP ใด ๆ ได้ตามใจ เช่น การสร้างบัญชีผู้ดูแลใหม่ หรือการอัปโหลดไฟล์ PHP ที่แฝงมัลแวร์เพื่อควบคุมระบบ 🕵️‍♂️ เทคนิคที่ใช้ในการโจมตี แฮกเกอร์ใช้ไฟล์ที่ปลอมตัวเป็นไฟล์ระบบ เช่น xL.php, Canonical.php หรือ .a.php เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ไฟล์เหล่านี้มีความสามารถหลากหลาย ตั้งแต่การสแกนไดเรกทอรี ลบไฟล์ ไปจนถึงการแตกไฟล์บีบอัด ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝัง Backdoor และเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้อย่างสมบูรณ์ 🚨 แนวทางแก้ไขและคำเตือน ผู้พัฒนาปลั๊กอินได้ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 8.4 เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว เว็บไซต์ที่ยังใช้เวอร์ชัน 8.3 หรือต่ำกว่ายังคงเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างรุนแรง เจ้าของเว็บไซต์จึงควรรีบอัปเดตทันที และตรวจสอบไฟล์ต้องสงสัยในระบบเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-6389 อยู่ในปลั๊กอิน Sneeit Framework เวอร์ชัน ≤ 8.3 ➡️ การโจมตีเริ่มทันทีหลังการเปิดเผยเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2025 ➡️ Wordfence Firewall บล็อกความพยายามโจมตีแล้วกว่า 131,000 ครั้ง ➡️ ไฟล์มัลแวร์ที่พบ เช่น xL.php, Canonical.php, tijtewmg.php ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ เว็บไซต์ที่ยังไม่ได้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 8.4 เสี่ยงต่อการถูกยึดครองเต็มรูปแบบ ⛔ ผู้โจมตีสามารถสร้างบัญชีผู้ดูแลใหม่และฝัง Backdoor ได้ ⛔ ไฟล์ปลอมที่เลียนแบบไฟล์ระบบอาจทำให้การตรวจจับยากขึ้น ⛔ การละเลยการอัปเดตอาจนำไปสู่การสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical WordPress Flaw (CVE-2025-6389) Under Active Exploitation Allows Unauthenticated RCE
    A Critical RCE flaw (CVE-2025-6389) in Sneeit Framework is under active exploitation. The bug allows unauthenticated attackers to run arbitrary PHP code via call_user_func(). 131K+ attacks blocked.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • อร่อยคลิกสเต็กสุดฮิปฮิปสเตอร์สเต็ก #โรงพยาบาลสมุทรปราการ #กินอะไรดี #อร่อยบอกต่อ #ของดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #อาหาร #กิน #อร่อย #eating #steak #food #foodie #thaifood #streetfood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    อร่อยคลิก🍔🥩สเต็กสุดฮิป❣️ฮิปสเตอร์สเต็ก🥰 #โรงพยาบาลสมุทรปราการ #กินอะไรดี #อร่อยบอกต่อ #ของดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #อาหาร #กิน #อร่อย #eating #steak #food #foodie #thaifood #streetfood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • แผนชั่ว ตอนที่ 3

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 3
    หลังจากที่คุณลุงหูไปจับมือคุยกับบรรดาเด็กถูกเสี้ยมในอาฟริกา เหตุการณ์ที่ดาร์ฟูก็ดูเหมือนจะสงบลงไปพักหนึ่ง แค่พักสั้นๆ
    เมื่อจีนก้าวเท้าเข้าไปในอาฟริกาแบบนั้น แถมถอนไม้เสี้ยมออกเกือบหมด
    มีหรือที่อเมริกาจะใช้ยุทธศาสตร์ตั้งรับ อเมริกามีแต่จะใช้ยุทธศาสตร์รุกหนักขึ้น อเมริการีบปรับแผน หันขวับ กลับมาให้ความสนใจอาฟริกา ในปี ค.ศ.2002 กระทรวงต่างประเทศอเมริกาประกาศว่า ต่อไปนี้น้ำมันในอาฟริกาตะวันตกเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของเรา
    แล้วคาวบอย บุซ ในฐานะประธานาธิบดีของอเมริกาในช่วงนั้น ก็สั่งให้กองทัพอเมริกาอันยิ่ง ใหญ่ รีบเร่งไปตั้งฐานทัพที่ Sao Tome’ และ Principe ที่อยู่ห่างออกไปจากอ่าว Guinea ประมาณ 124 ไมล์ เอาไว้คุมแหล่งน้ำมัน (ของคนอื่น) ตั้งแต่อังโกลา ทางใต้ของคองโก, กาบอง Equitorial Guinea , แคเมอรูน และไนจีเรีย และคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันเป็นแหล่งน้ำมันเดียวกับที่จีน เพิ่งไปสร้างสัมพันธ์และเริ่มสนใจลงทุน
    อเมริกาตามประกบติดจีนทุกฝีก้าว ไม่มีทางให้เกิดการหลุดมือไปอย่างซูดานอีกแล้ว
    อเมริกาเริ่มใช้นโยบายปิดล้อมจีน ที่จะไม่ให้จีนเข้าถึงแหล่งน้ำมันใดในโลก มันสงครามเย็นรูปแบบใหม่ ที่ไม่มีการประกาศให้โลกรู้ และดูเหมือน จีนก็พยายามอย่างหนัก ที่จะแหวกออกจากการปิดล้อมให้ได้ แต่จะสำเร็จหรือไม่ แค่ไหน ต้องตามดูกันไป
    ดาร์ฟู เป็นก้าวแรกของสงครามปิดล้อมจีน อเมริกาบอก เราแพ้กระดานนี้ให้แก่จีนไม่ได้เด็ดขาด อเมริกาต้องควบคุมเส้นทางไหลของแหล่งน้ำมันในซูดานใต้ที่จะส่งไปให้จีนให้ได้ เพราะนี่คือเส้นเลือดใหญ่เส้นหนึ่งของจีน อเมริกาจึงเรียกระดมพล ตั้งแต่ดาราจนถึงกองกำลังนาโต้ รวมทั้งลูกหาบ และขี้ข้าทั้งหลาย มาช่วยกันกระหนำดาร์ฟูซ้ำแล้วซ้ำอีก ดาร์ฟูเมืองเล็กๆ หรือจะรับมืออยู่ มันแย่ยิ่งกว่าตอนที่อเมริกาไปขยี้อิรัค
    จีนพยายามช่วยดาร์ฟูด้วยการเจรจา จีนน่าจะรู้ว่าการเจรจากับอเมริกาในเรื่องนี้ก็เหมือนพูดกับคาวบอยกำลังขี่วัวบ้า หรือคาวบอยบ้ากำลังขี่วัว ไม่น่าต่างกันมาก
    ในที่สุด ปี ค.ศ.2011 ก็เกิดประเทศใหม่ สาธารณะรัฐซูดานใต้ the Republic of South Sudan ที่อยู่ภายใต้การคุมเข้มของนักล่าใบตองแห้ง ผ่านหุ่นชักราคาไม่แพง แต่พลเมืองซูดานบาดเจ็บล้มตาย เป็นแสน อเมริกาทำเหนียมอาย ไม่กล้าออกหน้าให้สูติบัตรแก่สาธารณะรัฐซูดานใต้ ที่ตนเองทำคลอด แต่ไม่นาน หลังจากเป็นประเทศใหม่เอี่ยม ในปี ค.ศ.2012 จีนก็ถูกหวยล๊อก ซูดานใต้ประกาศปิดโครงการผลิตน้ำมัน โดยอ้างว่า ตกลงเรื่องส่วนแบ่งผลประโยชน์กับซูดาน(เหนือ) ไม่ได้
    จีนแทบกระอัก ลงทุนทั้งการสำรวจ การผลิต และท่อส่งน้ำมัน ครบถ้วนกระบวนการ แต่ท่อส่งอยู่ซูดานเหนือ แต่หลุมน้ำมันที่ขุดได้แล้วดันอยู่ซูดานใต้ การปิดล้อมยกแรกทำท่าจะได้ผล จีนคง “รู้จัก ” อเมริกาดีขึ้น
    นอกจากนั้น รัฐบาลหุ่นชักซูดานใต้ยังประกาศว่า เราได้ลงนามในบันทีกความเข้าใจกับเคนยา Kenya เรียบร้อยแล้ว ที่จะสร้างท่อส่งน้ำมันของเราผ่านไปทางเคนยา ไปออกที่ท่าเรือลามู Lamu ไม่ต้องผ่าน (ท่อส่งน้ำมันที่จีนสร้าง) ทางซูดานเหนือ การก่อสร้างจะเริ่มทันทีที่ได้รับเงินสนับสนุน ซึ่งน่าจะมาภายในหนี่งเดือน และการก่อสร้างท่อส่ง น่าจะเสร็จภายใน 10 เดือน
    มันเป็นไม้เสี้ยม ชนิดทายาพิษจริงๆ เคยเป็นประเทศเดียวกัน เป็นพี่น้องกัน แทนที่จะแบ่งผลประโยชน์กัน ดันเห็นคนอื่นดีกว่า ฝีมือเสี้ยมไอ้นักล่าใบตองแห้งนี่มันโคตรชั่วจริงๆ
    และดูเหมือนผู้สนับสนุนทางการเงินในการสร้างท่อส่งน้ำมันรายการนี้ เขาว่าเป็นพวกถนัดแบกถาด บัญชีความแค้นของอาเฮียคงต้องเพิ่มหน้า เพราะรายการมันชักจะเพิ่มขี้นเรื่อยๆ
    แล้วเคนยา Kenya ก็กลายเป็นที่ตั้งของฐานทัพสำคัญของอเมริกาในอาฟริกา สำหรับหน่วยงานที่อเมริกาตั้งขึ้นใหม่เอี่ยม AFRICOM เพื่อมาทำหน้าที่ “ดูแล” ให้มีการวางท่อส่งน้ำมันจากซูดานใต้ วิ่งผ่านมาเคนยา ไม่ใช่ ผ่านซูดานเหนือ แบบนี้อเมริกาจึงจะสบายใจ หายใจคล่อง ว่าขี่คอจีนได้ในเรื่องน้ำมันที่อาฟริกา ที่จีนวางแผนเงียบตัดหน้าอเมริกา เรื่องซูดานนี้มันเป็น “รอย” ที่อเมริกาทำใจรับ (ความพ่ายแพ้ ) ไม่ได้จริงๆ
    เขตแดนของซูดานใต้ที่อเมริกาจัดการทำคลอด อยู่ที่เหมาะเจาะ พอดีที่จะทำให้จีนขาดโอกาสที่จะได้น้ำมันตามที่ตกลงไว้กับ ซูดาน ประมาณวันละ 3 แสน 5 หมื่นบาเรลต่อวัน ก็แค่ 90% ของผลผลิตน้ำมันของซูดาน ใครควบคุมเขตแดนนี้ ก็เท่ากับคุมน้ำมันจีน ให้หายไปวันละ 3 แสน 5 หมื่นบาเรล แถมยังมีโอกาสทำลายอุปกรณ์ของจีนเกี่ยวกับการผลิตน้ำมัน ที่จีนสร้างไว้ อีกด้วย คุ้มฉิบหาย
    ใครไม่รู้จัดการให้ สหประชาติกับกองกำลังร่วมของอาฟริกามาร่วมกันดูแลดาร์ฟูยิ่งกว่าดูแลไข่ในหิน แต่รัฐบาลซูดาน(เหนือ) บอกว่า หัวหน้าหน่วยรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ชาวอังกฤษที่ชื่อ Tony Prena น่ะตัวดี อ้างเรื่องเพื่อมนุษยชน แต่ดันขนกำลังอาวุธมาเป็นขบวน ข้ามดาร์ฟูเอามาให้ฝ่ายกบฏสู้กับรัฐบาลกลางที่คาร์ทูม รักษาสันติภาพแบบไหนของมัน
    อเมริกายังไม่พอใจที่จะหยุดแค่นั้น จีนต้องได้บทเรียนมากกว่านั้น แล้ว หน่วยงาน AFRICOM ด้านทหารกับหน่วยงาน ยูเสด USAID ด้านพลเรือน ของอเมริกา ก็เริ่มวางแผนยุทธศาสตร์ สร้างบ่วงรัดคอ ปิดจุดสำคัญทั้งหมดของเส้นทางเดินน้ำมัน ไม่ให้ไปถึงจีน
    นี่ต้องถือเป็นผลงานของพระเอกรูปหล่อนะ ถ้าไม่ออกมาโวยว่า มีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุที่ดาร์ฟู ใครจะขนกองทัพ กองกำลังมาปิดท่อที่ดาร์ฟูใต้ได้ พระเอกรูปหล่อน่าได้รางวัลโนเบลจริงๆ เอะ แล้วเรื่องชาวซูดานที่ตายเป็นแสนนี่ ทำให้พระเอกนอนหลับ ฝันดีไหมครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    16 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 3 หลังจากที่คุณลุงหูไปจับมือคุยกับบรรดาเด็กถูกเสี้ยมในอาฟริกา เหตุการณ์ที่ดาร์ฟูก็ดูเหมือนจะสงบลงไปพักหนึ่ง แค่พักสั้นๆ เมื่อจีนก้าวเท้าเข้าไปในอาฟริกาแบบนั้น แถมถอนไม้เสี้ยมออกเกือบหมด มีหรือที่อเมริกาจะใช้ยุทธศาสตร์ตั้งรับ อเมริกามีแต่จะใช้ยุทธศาสตร์รุกหนักขึ้น อเมริการีบปรับแผน หันขวับ กลับมาให้ความสนใจอาฟริกา ในปี ค.ศ.2002 กระทรวงต่างประเทศอเมริกาประกาศว่า ต่อไปนี้น้ำมันในอาฟริกาตะวันตกเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของเรา แล้วคาวบอย บุซ ในฐานะประธานาธิบดีของอเมริกาในช่วงนั้น ก็สั่งให้กองทัพอเมริกาอันยิ่ง ใหญ่ รีบเร่งไปตั้งฐานทัพที่ Sao Tome’ และ Principe ที่อยู่ห่างออกไปจากอ่าว Guinea ประมาณ 124 ไมล์ เอาไว้คุมแหล่งน้ำมัน (ของคนอื่น) ตั้งแต่อังโกลา ทางใต้ของคองโก, กาบอง Equitorial Guinea , แคเมอรูน และไนจีเรีย และคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันเป็นแหล่งน้ำมันเดียวกับที่จีน เพิ่งไปสร้างสัมพันธ์และเริ่มสนใจลงทุน อเมริกาตามประกบติดจีนทุกฝีก้าว ไม่มีทางให้เกิดการหลุดมือไปอย่างซูดานอีกแล้ว อเมริกาเริ่มใช้นโยบายปิดล้อมจีน ที่จะไม่ให้จีนเข้าถึงแหล่งน้ำมันใดในโลก มันสงครามเย็นรูปแบบใหม่ ที่ไม่มีการประกาศให้โลกรู้ และดูเหมือน จีนก็พยายามอย่างหนัก ที่จะแหวกออกจากการปิดล้อมให้ได้ แต่จะสำเร็จหรือไม่ แค่ไหน ต้องตามดูกันไป ดาร์ฟู เป็นก้าวแรกของสงครามปิดล้อมจีน อเมริกาบอก เราแพ้กระดานนี้ให้แก่จีนไม่ได้เด็ดขาด อเมริกาต้องควบคุมเส้นทางไหลของแหล่งน้ำมันในซูดานใต้ที่จะส่งไปให้จีนให้ได้ เพราะนี่คือเส้นเลือดใหญ่เส้นหนึ่งของจีน อเมริกาจึงเรียกระดมพล ตั้งแต่ดาราจนถึงกองกำลังนาโต้ รวมทั้งลูกหาบ และขี้ข้าทั้งหลาย มาช่วยกันกระหนำดาร์ฟูซ้ำแล้วซ้ำอีก ดาร์ฟูเมืองเล็กๆ หรือจะรับมืออยู่ มันแย่ยิ่งกว่าตอนที่อเมริกาไปขยี้อิรัค จีนพยายามช่วยดาร์ฟูด้วยการเจรจา จีนน่าจะรู้ว่าการเจรจากับอเมริกาในเรื่องนี้ก็เหมือนพูดกับคาวบอยกำลังขี่วัวบ้า หรือคาวบอยบ้ากำลังขี่วัว ไม่น่าต่างกันมาก ในที่สุด ปี ค.ศ.2011 ก็เกิดประเทศใหม่ สาธารณะรัฐซูดานใต้ the Republic of South Sudan ที่อยู่ภายใต้การคุมเข้มของนักล่าใบตองแห้ง ผ่านหุ่นชักราคาไม่แพง แต่พลเมืองซูดานบาดเจ็บล้มตาย เป็นแสน อเมริกาทำเหนียมอาย ไม่กล้าออกหน้าให้สูติบัตรแก่สาธารณะรัฐซูดานใต้ ที่ตนเองทำคลอด แต่ไม่นาน หลังจากเป็นประเทศใหม่เอี่ยม ในปี ค.ศ.2012 จีนก็ถูกหวยล๊อก ซูดานใต้ประกาศปิดโครงการผลิตน้ำมัน โดยอ้างว่า ตกลงเรื่องส่วนแบ่งผลประโยชน์กับซูดาน(เหนือ) ไม่ได้ จีนแทบกระอัก ลงทุนทั้งการสำรวจ การผลิต และท่อส่งน้ำมัน ครบถ้วนกระบวนการ แต่ท่อส่งอยู่ซูดานเหนือ แต่หลุมน้ำมันที่ขุดได้แล้วดันอยู่ซูดานใต้ การปิดล้อมยกแรกทำท่าจะได้ผล จีนคง “รู้จัก ” อเมริกาดีขึ้น นอกจากนั้น รัฐบาลหุ่นชักซูดานใต้ยังประกาศว่า เราได้ลงนามในบันทีกความเข้าใจกับเคนยา Kenya เรียบร้อยแล้ว ที่จะสร้างท่อส่งน้ำมันของเราผ่านไปทางเคนยา ไปออกที่ท่าเรือลามู Lamu ไม่ต้องผ่าน (ท่อส่งน้ำมันที่จีนสร้าง) ทางซูดานเหนือ การก่อสร้างจะเริ่มทันทีที่ได้รับเงินสนับสนุน ซึ่งน่าจะมาภายในหนี่งเดือน และการก่อสร้างท่อส่ง น่าจะเสร็จภายใน 10 เดือน มันเป็นไม้เสี้ยม ชนิดทายาพิษจริงๆ เคยเป็นประเทศเดียวกัน เป็นพี่น้องกัน แทนที่จะแบ่งผลประโยชน์กัน ดันเห็นคนอื่นดีกว่า ฝีมือเสี้ยมไอ้นักล่าใบตองแห้งนี่มันโคตรชั่วจริงๆ และดูเหมือนผู้สนับสนุนทางการเงินในการสร้างท่อส่งน้ำมันรายการนี้ เขาว่าเป็นพวกถนัดแบกถาด บัญชีความแค้นของอาเฮียคงต้องเพิ่มหน้า เพราะรายการมันชักจะเพิ่มขี้นเรื่อยๆ แล้วเคนยา Kenya ก็กลายเป็นที่ตั้งของฐานทัพสำคัญของอเมริกาในอาฟริกา สำหรับหน่วยงานที่อเมริกาตั้งขึ้นใหม่เอี่ยม AFRICOM เพื่อมาทำหน้าที่ “ดูแล” ให้มีการวางท่อส่งน้ำมันจากซูดานใต้ วิ่งผ่านมาเคนยา ไม่ใช่ ผ่านซูดานเหนือ แบบนี้อเมริกาจึงจะสบายใจ หายใจคล่อง ว่าขี่คอจีนได้ในเรื่องน้ำมันที่อาฟริกา ที่จีนวางแผนเงียบตัดหน้าอเมริกา เรื่องซูดานนี้มันเป็น “รอย” ที่อเมริกาทำใจรับ (ความพ่ายแพ้ ) ไม่ได้จริงๆ เขตแดนของซูดานใต้ที่อเมริกาจัดการทำคลอด อยู่ที่เหมาะเจาะ พอดีที่จะทำให้จีนขาดโอกาสที่จะได้น้ำมันตามที่ตกลงไว้กับ ซูดาน ประมาณวันละ 3 แสน 5 หมื่นบาเรลต่อวัน ก็แค่ 90% ของผลผลิตน้ำมันของซูดาน ใครควบคุมเขตแดนนี้ ก็เท่ากับคุมน้ำมันจีน ให้หายไปวันละ 3 แสน 5 หมื่นบาเรล แถมยังมีโอกาสทำลายอุปกรณ์ของจีนเกี่ยวกับการผลิตน้ำมัน ที่จีนสร้างไว้ อีกด้วย คุ้มฉิบหาย ใครไม่รู้จัดการให้ สหประชาติกับกองกำลังร่วมของอาฟริกามาร่วมกันดูแลดาร์ฟูยิ่งกว่าดูแลไข่ในหิน แต่รัฐบาลซูดาน(เหนือ) บอกว่า หัวหน้าหน่วยรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ชาวอังกฤษที่ชื่อ Tony Prena น่ะตัวดี อ้างเรื่องเพื่อมนุษยชน แต่ดันขนกำลังอาวุธมาเป็นขบวน ข้ามดาร์ฟูเอามาให้ฝ่ายกบฏสู้กับรัฐบาลกลางที่คาร์ทูม รักษาสันติภาพแบบไหนของมัน อเมริกายังไม่พอใจที่จะหยุดแค่นั้น จีนต้องได้บทเรียนมากกว่านั้น แล้ว หน่วยงาน AFRICOM ด้านทหารกับหน่วยงาน ยูเสด USAID ด้านพลเรือน ของอเมริกา ก็เริ่มวางแผนยุทธศาสตร์ สร้างบ่วงรัดคอ ปิดจุดสำคัญทั้งหมดของเส้นทางเดินน้ำมัน ไม่ให้ไปถึงจีน นี่ต้องถือเป็นผลงานของพระเอกรูปหล่อนะ ถ้าไม่ออกมาโวยว่า มีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุที่ดาร์ฟู ใครจะขนกองทัพ กองกำลังมาปิดท่อที่ดาร์ฟูใต้ได้ พระเอกรูปหล่อน่าได้รางวัลโนเบลจริงๆ เอะ แล้วเรื่องชาวซูดานที่ตายเป็นแสนนี่ ทำให้พระเอกนอนหลับ ฝันดีไหมครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 16 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซีเกมส์ ซีโกง โกงตั้งแต่ก่อนแข่ง ไปจนแข่งเสร็จก็ยังโกง
    ถึงเวลาสาปส่งผู้ใหญ่วงการกีฬาไทยกันซะที
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ซีเกมส์ ซีโกง โกงตั้งแต่ก่อนแข่ง ไปจนแข่งเสร็จก็ยังโกง ถึงเวลาสาปส่งผู้ใหญ่วงการกีฬาไทยกันซะที #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สมองเชื่อมโยงกันเมื่อทำงานร่วมกัน

    นักวิจัยจาก Western Sydney University ทดลองให้ผู้เข้าร่วม 24 คู่ทำงานร่วมกันในการจัดหมวดหมู่รูปทรงที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผลการตรวจ EEG พบว่า สมองของคู่ที่ทำงานร่วมกันมีการปรับคลื่นสมองให้สอดคล้องกัน โดยเฉพาะหลังจาก 200 มิลลิวินาทีที่สิ่งเร้าปรากฏขึ้น ซึ่งต่างจากคู่ที่ไม่ได้ร่วมมือจริง ๆ

    ความแตกต่างระหว่าง “คู่จริง” และ “คู่จำลอง”
    นักวิจัยเปรียบเทียบข้อมูล EEG ของคู่ที่ทำงานร่วมกันจริงกับคู่จำลองที่ถูกจับคู่แบบสุ่ม พบว่า การซิงค์ของสมองในคู่จริงมีความเข้มข้นและต่อเนื่องมากกว่า แม้จะใช้กติกาการจัดหมวดหมู่คล้ายกันก็ตาม แสดงให้เห็นว่าปัจจัยสำคัญคือการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ไม่ใช่เพียงการทำงานตามกติกา

    ผลต่อการทำงานเป็นทีมและการสื่อสาร
    การค้นพบนี้ชี้ว่า การทำงานร่วมกันช่วยสร้างการเชื่อมโยงทางประสาท ซึ่งอาจอธิบายว่าทำไมทีมที่มีความสามัคคีจึงทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น งานวิจัยยังเสนอว่าแนวทางนี้สามารถนำไปใช้ศึกษาการสื่อสาร การตัดสินใจ และการทำงานกลุ่มในระดับองค์กรหรือการเรียนรู้ร่วมกันได้

    ก้าวต่อไปของการวิจัย
    นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการทำความเข้าใจการซิงค์ของสมองจะช่วยพัฒนา วิธีการเสริมสร้างการทำงานเป็นทีม และอาจนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในด้านการศึกษา การแพทย์ และการพัฒนาทักษะการสื่อสารในอนาคต

    สรุปเป็นหัวข้อ
    สมองซิงค์กันเมื่อทำงานร่วมกัน
    EEG แสดงการปรับคลื่นสมองภายใน 200 มิลลิวินาที

    คู่จริงมีการซิงค์มากกว่าคู่จำลอง
    ปัจจัยสำคัญคือการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

    การซิงค์สมองช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทีม
    อธิบายว่าทำไมทีมที่สามัคคีจึงทำงานได้ดี

    การประยุกต์ใช้ในอนาคต
    ศึกษาการสื่อสาร การตัดสินใจ และการเรียนรู้ร่วมกัน

    การตีความผลวิจัยต้องระวัง
    ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการซิงค์สมองทำให้ผลลัพธ์ดีกว่าเสมอ

    ข้อจำกัดของการทดลอง
    ขนาดกลุ่มตัวอย่างยังเล็ก และต้องการการศึกษาเพิ่มเติม

    https://www.sciencealert.com/our-brains-really-do-sync-up-when-we-collaborate-study-reveals
    🧠 สมองเชื่อมโยงกันเมื่อทำงานร่วมกัน นักวิจัยจาก Western Sydney University ทดลองให้ผู้เข้าร่วม 24 คู่ทำงานร่วมกันในการจัดหมวดหมู่รูปทรงที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผลการตรวจ EEG พบว่า สมองของคู่ที่ทำงานร่วมกันมีการปรับคลื่นสมองให้สอดคล้องกัน โดยเฉพาะหลังจาก 200 มิลลิวินาทีที่สิ่งเร้าปรากฏขึ้น ซึ่งต่างจากคู่ที่ไม่ได้ร่วมมือจริง ๆ 🔬 ความแตกต่างระหว่าง “คู่จริง” และ “คู่จำลอง” นักวิจัยเปรียบเทียบข้อมูล EEG ของคู่ที่ทำงานร่วมกันจริงกับคู่จำลองที่ถูกจับคู่แบบสุ่ม พบว่า การซิงค์ของสมองในคู่จริงมีความเข้มข้นและต่อเนื่องมากกว่า แม้จะใช้กติกาการจัดหมวดหมู่คล้ายกันก็ตาม แสดงให้เห็นว่าปัจจัยสำคัญคือการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ไม่ใช่เพียงการทำงานตามกติกา 🌍 ผลต่อการทำงานเป็นทีมและการสื่อสาร การค้นพบนี้ชี้ว่า การทำงานร่วมกันช่วยสร้างการเชื่อมโยงทางประสาท ซึ่งอาจอธิบายว่าทำไมทีมที่มีความสามัคคีจึงทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น งานวิจัยยังเสนอว่าแนวทางนี้สามารถนำไปใช้ศึกษาการสื่อสาร การตัดสินใจ และการทำงานกลุ่มในระดับองค์กรหรือการเรียนรู้ร่วมกันได้ 🚀 ก้าวต่อไปของการวิจัย นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการทำความเข้าใจการซิงค์ของสมองจะช่วยพัฒนา วิธีการเสริมสร้างการทำงานเป็นทีม และอาจนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในด้านการศึกษา การแพทย์ และการพัฒนาทักษะการสื่อสารในอนาคต 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ สมองซิงค์กันเมื่อทำงานร่วมกัน ➡️ EEG แสดงการปรับคลื่นสมองภายใน 200 มิลลิวินาที ✅ คู่จริงมีการซิงค์มากกว่าคู่จำลอง ➡️ ปัจจัยสำคัญคือการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ✅ การซิงค์สมองช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทีม ➡️ อธิบายว่าทำไมทีมที่สามัคคีจึงทำงานได้ดี ✅ การประยุกต์ใช้ในอนาคต ➡️ ศึกษาการสื่อสาร การตัดสินใจ และการเรียนรู้ร่วมกัน ‼️ การตีความผลวิจัยต้องระวัง ⛔ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการซิงค์สมองทำให้ผลลัพธ์ดีกว่าเสมอ ‼️ ข้อจำกัดของการทดลอง ⛔ ขนาดกลุ่มตัวอย่างยังเล็ก และต้องการการศึกษาเพิ่มเติม https://www.sciencealert.com/our-brains-really-do-sync-up-when-we-collaborate-study-reveals
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Our Brains Really Do 'Sync Up' When We Collaborate, Study Reveals
    Ever experienced a moment of flow when working with another human to achieve a common goal, almost as if you and your collaborator are tuned in to each other's brains? You may have literally been 'in sync' on a neurological level, new research shows.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • เวลาที่อุจจาระอยู่ในร่างกายบอกสุขภาพได้
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนพบว่า คนที่มีการเคลื่อนผ่านของอุจจาระเร็ว (fast transit) และ ช้า (slow transit) มีความแตกต่างของจุลินทรีย์ในลำไส้อย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลต่อการสร้างสารเมตาโบไลต์และสมดุลกรดในลำไส้ การเคลื่อนที่เร็วเกินไปอาจทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารไม่เต็มที่ ขณะที่การเคลื่อนที่ช้าเกินไปอาจก่อให้เกิดการหมักและสารพิษสะสม

    ข้อมูลจากงานวิจัยสากล
    การศึกษาในวารสาร BMJ Gut ระบุว่า เวลาการเดินทางของอาหารทั้งระบบ (Whole Gut Transit Time) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 28 ชั่วโมง แต่สามารถแตกต่างได้ตั้งแต่ 10–73 ชั่วโมง ขึ้นกับอาหาร อายุ และกิจกรรม คนที่มีเวลานานเกินไปมักเสี่ยงต่อโรคอ้วน ภาวะอักเสบ และ IBS ส่วนคนที่เร็วเกินไปเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารและท้องเสียเรื้อรัง

    ความเชื่อมโยงกับโรคพาร์กินสัน
    งานวิจัยล่าสุดยังพบว่า ผู้ป่วยพาร์กินสันมักเริ่มมีอาการท้องผูกนานหลายสิบปีก่อนโรคแสดงออกทางสมอง การเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งผลต่อการผลิตวิตามินบีและกรดไขมันสายสั้น ซึ่งมีผลต่อระบบประสาทและการอักเสบ การดูแลสุขภาพลำไส้จึงอาจช่วยชะลอหรือบรรเทาอาการของโรคได้

    ปัจจัยที่ปรับได้ในชีวิตประจำวัน
    นักโภชนาการแนะนำว่า การกินไฟเบอร์ 25–50 กรัมต่อวัน ดื่มน้ำ 2–3 ลิตร และออกกำลังกายสม่ำเสมอ สามารถช่วยปรับเวลาเคลื่อนผ่านของอุจจาระให้อยู่ในระดับเหมาะสม นอกจากนี้การใช้โปรไบโอติกและการลดอาหารแปรรูปก็มีส่วนช่วยให้จุลินทรีย์ในลำไส้สมดุลมากขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Gut Transit Time มีผลต่อสุขภาพโดยตรง
    ค่าเฉลี่ยในคนปกติ ~28 ชั่วโมง แต่มีความแปรผันสูง

    การเคลื่อนที่เร็วเกินไป
    เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารและท้องเสียเรื้อรัง

    การเคลื่อนที่ช้าเกินไป
    เพิ่มความเสี่ยงโรคอ้วน ภาวะอักเสบ และ IBS

    ความเชื่อมโยงกับโรคพาร์กินสัน
    การเปลี่ยนแปลงจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งผลต่อระบบประสาท

    การปรับพฤติกรรมช่วยได้
    เพิ่มไฟเบอร์ ดื่มน้ำ ออกกำลังกาย และใช้โปรไบโอติก

    สัญญาณเตือนจากระบบขับถ่าย
    ถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรืออุจจาระแข็ง/เหลวผิดปกติ

    ความเสี่ยงจากการละเลยสุขภาพลำไส้
    อาจนำไปสู่โรคเรื้อรัง เช่น เมตาบอลิกซินโดรม และโรคทางสมอง

    https://www.sciencealert.com/how-long-poop-stays-in-your-body-could-impact-your-health-study-finds
    🧬 เวลาที่อุจจาระอยู่ในร่างกายบอกสุขภาพได้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนพบว่า คนที่มีการเคลื่อนผ่านของอุจจาระเร็ว (fast transit) และ ช้า (slow transit) มีความแตกต่างของจุลินทรีย์ในลำไส้อย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลต่อการสร้างสารเมตาโบไลต์และสมดุลกรดในลำไส้ การเคลื่อนที่เร็วเกินไปอาจทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารไม่เต็มที่ ขณะที่การเคลื่อนที่ช้าเกินไปอาจก่อให้เกิดการหมักและสารพิษสะสม 🩺 ข้อมูลจากงานวิจัยสากล การศึกษาในวารสาร BMJ Gut ระบุว่า เวลาการเดินทางของอาหารทั้งระบบ (Whole Gut Transit Time) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 28 ชั่วโมง แต่สามารถแตกต่างได้ตั้งแต่ 10–73 ชั่วโมง ขึ้นกับอาหาร อายุ และกิจกรรม คนที่มีเวลานานเกินไปมักเสี่ยงต่อโรคอ้วน ภาวะอักเสบ และ IBS ส่วนคนที่เร็วเกินไปเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารและท้องเสียเรื้อรัง 🧠 ความเชื่อมโยงกับโรคพาร์กินสัน งานวิจัยล่าสุดยังพบว่า ผู้ป่วยพาร์กินสันมักเริ่มมีอาการท้องผูกนานหลายสิบปีก่อนโรคแสดงออกทางสมอง การเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งผลต่อการผลิตวิตามินบีและกรดไขมันสายสั้น ซึ่งมีผลต่อระบบประสาทและการอักเสบ การดูแลสุขภาพลำไส้จึงอาจช่วยชะลอหรือบรรเทาอาการของโรคได้ 🍎 ปัจจัยที่ปรับได้ในชีวิตประจำวัน นักโภชนาการแนะนำว่า การกินไฟเบอร์ 25–50 กรัมต่อวัน ดื่มน้ำ 2–3 ลิตร และออกกำลังกายสม่ำเสมอ สามารถช่วยปรับเวลาเคลื่อนผ่านของอุจจาระให้อยู่ในระดับเหมาะสม นอกจากนี้การใช้โปรไบโอติกและการลดอาหารแปรรูปก็มีส่วนช่วยให้จุลินทรีย์ในลำไส้สมดุลมากขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Gut Transit Time มีผลต่อสุขภาพโดยตรง ➡️ ค่าเฉลี่ยในคนปกติ ~28 ชั่วโมง แต่มีความแปรผันสูง ✅ การเคลื่อนที่เร็วเกินไป ➡️ เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารและท้องเสียเรื้อรัง ✅ การเคลื่อนที่ช้าเกินไป ➡️ เพิ่มความเสี่ยงโรคอ้วน ภาวะอักเสบ และ IBS ✅ ความเชื่อมโยงกับโรคพาร์กินสัน ➡️ การเปลี่ยนแปลงจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งผลต่อระบบประสาท ✅ การปรับพฤติกรรมช่วยได้ ➡️ เพิ่มไฟเบอร์ ดื่มน้ำ ออกกำลังกาย และใช้โปรไบโอติก ‼️ สัญญาณเตือนจากระบบขับถ่าย ⛔ ถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรืออุจจาระแข็ง/เหลวผิดปกติ ‼️ ความเสี่ยงจากการละเลยสุขภาพลำไส้ ⛔ อาจนำไปสู่โรคเรื้อรัง เช่น เมตาบอลิกซินโดรม และโรคทางสมอง https://www.sciencealert.com/how-long-poop-stays-in-your-body-could-impact-your-health-study-finds
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    How Long Poop Stays in Your Body Could Impact Your Health, Study Finds
    Whether poop speeds through your gut like a bullet train or takes a more smell-the-roses approach could have more profound implications for your overall health than a first glance would suggest.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251204 #TechRadar

    Google Antigravity AI ลบข้อมูลนักพัฒนาแล้วขอโทษ
    เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อระบบ AI ของ Google ที่ชื่อว่า Antigravity ลบข้อมูลใน Google Drive ของนักพัฒนารายหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นระบบได้ส่งข้อความขอโทษกลับมาเอง เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามใหญ่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หลายฝ่ายกังวลว่าหาก AI สามารถทำผิดพลาดในระดับนี้ อาจสร้างผลกระทบต่อธุรกิจและบุคคลทั่วไปได้อย่างรุนแรง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/googles-antigravity-ai-deleted-a-developers-drive-and-then-apologized

    ความพยายามของทรัมป์ในการผลักดันกฎหมาย AI ระดับชาติสะดุด
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในสภาอเมริกา เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์พยายามผลักดันให้กฎหมายควบคุม AI ถูกกำหนดในระดับรัฐบาลกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการมี “กฎหมาย 50 แบบ” จากแต่ละรัฐ เขาเชื่อว่าการรวมศูนย์จะช่วยให้สหรัฐฯ แข่งขันกับจีนได้ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติหลายคน โดยเฉพาะรีพับลิกันเอง กลับไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ารัฐมีความคล่องตัวในการออกกฎหมายที่ตอบโจทย์สถานการณ์ได้เร็วกว่า อีกทั้งยังมีเสียงวิจารณ์ว่าการผลักดันนี้คือการเข้าข้างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี สุดท้ายข้อเสนอนี้ถูกโหวตคว่ำอย่างท่วมท้น และทำให้ทรัมป์ถูกโจมตีว่า “ยืนอยู่ข้าง Big Tech”
    https://www.techradar.com/pro/trumps-push-to-overrule-ai-regulation-falters-as-republicans-split

    AWS เปิดตัว Nova Forge ให้ธุรกิจสร้างโมเดล AI ของตัวเอง
    Amazon Web Services เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ Nova Forge ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล AI ได้ตามต้องการ โดยเริ่มจากโมเดลพื้นฐานของ Amazon แล้วนำข้อมูลของบริษัทมาผสมเพื่อสร้างโมเดลเฉพาะกิจที่เรียกว่า “Novellas” จุดเด่นคือช่วยลดต้นทุนและเวลาในการฝึกโมเดลใหม่จากศูนย์ ซึ่งปกติอาจใช้เงินมหาศาลและทีมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Nova 2 ที่มาพร้อมโมเดลพื้นฐานใหม่หลายตัว รวมถึงความสามารถด้านการสนทนาแบบเสียงต่อเสียงที่ใกล้เคียงมนุษย์ ถือเป็นการขยายศักยภาพของ AWS ในตลาด AI อย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/aws-nova-forge-could-be-your-companys-cue-to-start-building-custom-ai-models

    แฮกเกอร์เกาหลีเหนือถูกจับตาแบบสด ๆ ระหว่างปฏิบัติการ
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยสามารถหลอกกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือให้ใช้เครื่องที่พวกเขาคิดว่าเป็น “แล็ปท็อปจริง” แต่แท้จริงคือ sandbox ที่ควบคุมจากระยะไกล ทำให้สามารถเห็นการทำงานของแฮกเกอร์แบบสด ๆ แผนการนี้เกี่ยวข้องกับการสร้าง “คนงานปลอม” เพื่อสมัครงานในบริษัทใหญ่ แล้วใช้ตำแหน่งนั้นทำกิจกรรมโจมตีไซเบอร์ นักวิจัยพบว่าแฮกเกอร์ใช้เครื่องมืออย่าง OTP generator, AI automation และ Google Remote Desktop เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบสองชั้น เหตุการณ์นี้ช่วยเปิดเผยวิธีการทำงานของกลุ่ม Lazarus และเป็นข้อมูลสำคัญในการป้องกันภัยไซเบอร์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-worker-scheme-caught-live-on-camera

    รีวิว Lenovo ThinkBook Plus Gen 6 Rollable โน้ตบุ๊คจอขยายได้
    Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊คที่เรียกว่า “Rollable” รุ่นแรกของโลก ThinkBook Plus Gen 6 ที่สามารถขยายหน้าจอจาก 14 นิ้วเป็น 16 นิ้วได้เพียงกดปุ่มเดียว ทำให้การทำงานนอกสถานที่สะดวกขึ้นมาก ตัวเครื่องมาพร้อมสเปกแรง เช่น Intel Core Ultra 7, RAM 32GB และ SSD 1TB จุดเด่นคือจอ OLED ที่ขยายได้อย่างลื่นไหลและใช้งานจริงได้ ไม่ใช่แค่ลูกเล่น ผู้รีวิวเล่าว่าทุกครั้งที่กางจอออก คนรอบข้างมักตื่นตาตื่นใจ ถือเป็นการเปลี่ยนมุมมองใหม่ต่อโน้ตบุ๊คสำหรับธุรกิจและการทำงานแบบพกพา
    https://www.techradar.com/pro/lenovo-thinkbook-plus-gen-6-rollable-business-laptop-review

    หลุดข้อมูล Xeon 6 เวิร์กสเตชันใหม่ของ Intel
    มีการพบเมนบอร์ด ADLINK ISB-W890 ที่เผยให้เห็นแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel สำหรับเวิร์กสเตชัน Granite Rapids-WS จุดเด่นคือรองรับหน่วยความจำ ECC DDR5 ได้สูงสุดถึง 1TB และมีช่อง PCIe มากมายสำหรับงานประมวลผลหนัก ๆ รวมถึงการ์ดกราฟิกหลายตัว ซีพียู Xeon รุ่นใหม่คาดว่าจะมีสูงสุดถึง 86 คอร์ พร้อมความเร็วสูงถึง 4.8GHz ซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ AMD ThreadRipper รุ่นท็อป การรั่วไหลนี้ทำให้เห็นว่า Intel กำลังกลับมาท้าทายตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูงอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/pro/is-this-our-first-look-at-intels-xeon-6-workstation-hardware-leak-claims-to-show-w890-platform-ahead-of-granite-rapids-launch

    Qualcomm สู้กลับด้วย Snapdragon 8 Gen 5
    เรื่องนี้เริ่มจาก OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ OnePlus 15R ที่จะใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 5 เป็นครั้งแรก จุดที่น่าสนใจคือ Qualcomm เลือกใช้กลยุทธ์ “สองรุ่นเรือธง” คล้ายกับที่ Apple ทำกับชิป A-series โดยแบ่งเป็นรุ่น Elite และรุ่นปกติ เพื่อให้มือถือราคาย่อมเยาได้สัมผัสพลังระดับเรือธงเช่นกัน ผู้บริหาร OnePlus อธิบายว่า Apple เป็นแรงบันดาลใจ เพราะการแยกชิป Pro และชิปธรรมดาใน iPhone ทำให้ตลาดแตกต่างชัดเจน Qualcomm จึงต้องเดินตามแนวทางนี้เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ และผลลัพธ์คือผู้ใช้จะได้มือถือที่แรงขึ้นแม้ไม่ใช่รุ่นแพงสุด
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/qualcomm-knows-it-has-to-fight-back-oneplus-exec-explains-why-apple-is-partially-responsible-for-the-new-snapdragon-8-gen-5-chipset

    รื้อความเข้าใจผิดเรื่อง Passwordless Authentication
    หลายคนยังเชื่อว่าการเข้าสู่ระบบแบบไม่ใช้รหัสผ่านนั้นไม่ปลอดภัย แต่บทความนี้อธิบายชัดว่ามันคือการยกระดับความปลอดภัย เพราะใช้สิ่งที่คุณ “เป็น” เช่น ลายนิ้วมือหรือใบหน้า ร่วมกับ PIN ที่ทำงานเฉพาะบนอุปกรณ์ ไม่ถูกส่งออกไปเหมือนรหัสผ่านทั่วไป จึงยากต่อการโจมตี อีกทั้งยังช่วยลดภาระของทีม IT ที่ต้องคอยแก้ปัญหาการรีเซ็ตรหัสผ่านซ้ำๆ เทคโนโลยีนี้จึงเป็นก้าวสำคัญสู่ยุค Zero-Trust ที่องค์กรกำลังมุ่งไป
    https://www.techradar.com/pro/passwordless-authentication-isnt-the-problem-the-myths-around-the-technology-are

    โฆษณา Windows 11 “PC ที่พูดคุยได้” สร้างเสียงแตก
    Microsoft ปล่อยโฆษณาใหม่ช่วงเทศกาลที่โชว์ฟีเจอร์ “Hey Copilot” ให้ผู้ใช้พูดคุยกับคอมพิวเตอร์ได้เหมือนผู้ช่วยส่วนตัว โฆษณามีฉากสนุกๆ เช่นการให้ Copilot ซิงค์ไฟคริสต์มาสกับเพลง แต่ปัญหาคือฟีเจอร์จริงยังทำไม่ได้ ทำให้ผู้ชมบางส่วนมองว่า Microsoft กำลังสร้างความคาดหวังเกินจริง หลายคอมเมนต์ประชดประชัน เช่น “Hey Copilot – ช่วยติดตั้ง Linux ให้หน่อย” สะท้อนว่าผู้ใช้บางกลุ่มรู้สึกถูกยัดเยียด AI มากเกินไป
    https://www.techradar.com/computing/windows/new-windows-11-pc-you-can-talk-to-ad-pushing-copilot-is-proving-divisive-and-i-can-see-it-seriously-backfiring

    ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในยุค AI
    AI กำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ปัญหาคือข้อมูลที่ใช้ฝึก AI มักเป็นข้อมูลลับและอ่อนไหว หากบริษัทไม่โปร่งใสในการจัดการข้อมูล ลูกค้าอาจหมดความเชื่อใจ ตัวอย่างเช่น OpenAI เคยถูกปรับเพราะใช้ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ชัดเจน ทำให้เกิดคำถามใหญ่: ผู้ให้บริการ AI จะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร? คำตอบคือการเปิดเผยที่มาของข้อมูลและสถานที่จัดเก็บอย่างชัดเจน พร้อมเสริมระบบความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและ MFA เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าข้อมูลของพวกเขาปลอดภัยจริง
    https://www.techradar.com/pro/the-search-for-transparency-and-reliability-in-the-ai-era

    Nvidia กับดีล 100 พันล้านดอลลาร์ที่ยังไม่เสร็จ
    แม้จะมีข่าวใหญ่เรื่อง Nvidia จับมือ OpenAI ทำโครงการโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ แต่ความจริงคือดีลนี้ยังไม่ถูกลงนามอย่างเป็นทางการ CFO ของ Nvidia ยอมรับว่าทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอน “จดหมายแสดงเจตนา” เท่านั้น ความเสี่ยงคือการลงทุนระยะยาวอาจเจอปัญหาสินค้าล้นสต็อกหรือการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เร็วเกินไป นักลงทุนบางส่วนจึงกังวลว่าอาจเกิด “ฟองสบู่ AI” ที่พร้อมแตกได้ทุกเมื่อ ถึงแม้หุ้น Nvidia จะยังขึ้น แต่คำถามเรื่องความยั่งยืนยังคงอยู่
    https://www.techradar.com/pro/nvidia-admits-the-usd100bn-biggest-ai-infrastructure-project-in-history-openai-deal-still-isnt-finalized

    Character.ai ปรับกลยุทธ์ใหม่สำหรับวัยรุ่น
    แพลตฟอร์ม AI ชื่อดัง Character.ai เริ่มเปลี่ยนแนวทางการให้บริการ โดยลดการสนทนาแบบเปิดกว้างสำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แล้วเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Stories” เพื่อดึงดูดวัยรุ่นให้ยังคงสนใจอยู่ จุดประสงค์คือสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น และยังคงให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ควบคุมได้มากกว่า การปรับนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังหาทางบาลานซ์ระหว่างความสร้างสรรค์และความรับผิดชอบต่อผู้ใช้เยาวชน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/character-ai-launches-stories-to-keep-teens-engaged-as-it-scales-back-open-ended-chat-for-under-18s

    กลุ่มแฮ็กเกอร์อิหร่านใช้เกม Snake เป็นอาวุธ
    มีรายงานว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จากอิหร่านได้สร้างเกม Snake ปลอมขึ้นมาเพื่อโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอียิปต์และอิสราเอล เกมนี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนเกมธรรมดา แต่จริงๆ แล้วแฝงมัลแวร์ที่สามารถเจาะระบบได้ การใช้วิธีที่ดู “ไร้เดียงสา” เช่นเกมยอดนิยม เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนว่าภัยคุกคามไซเบอร์กำลังซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/security/iranian-hacker-group-deploys-malicious-snake-game-to-target-egyptian-and-israeli-critical-infrastructure

    รีวิว MSI Cubi NUC AI+ 2MG Mini PC
    บทความนี้รีวิวเครื่อง Mini PC รุ่นใหม่จาก MSI ที่ชื่อ Cubi NUC AI+ 2MG จุดเด่นคือขนาดเล็กแต่ทรงพลัง เหมาะสำหรับงานสำนักงานหรือผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่กินพื้นที่มาก ตัวเครื่องมาพร้อมการรองรับ AI workload และการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ PC ขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงความแรงไว้ครบ
    https://www.techradar.com/pro/msi-cubi-nuc-ai-2mg-mini-pc-review

    ExpressVPN อัปเดตใหม่ เร็วขึ้นและปรับโฉมบน Mac
    ExpressVPN ปล่อยอัปเดตล่าสุดที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ และปรับปรุงแอปบน Mac ให้ใช้งานง่ายขึ้น ดีไซน์ใหม่ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงฟีเจอร์หลักได้สะดวกกว่าเดิม พร้อมทั้งเสริมความปลอดภัยและเสถียรภาพของการเชื่อมต่อ ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งาน VPN ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้ระดับมืออาชีพ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/expressvpns-latest-update-boosts-connection-speeds-and-revamps-its-mac-app

    กฎหมาย Chat Control สร้างเสียงวิจารณ์ในวงการ Privacy Tech
    กฎหมายใหม่ที่ชื่อ Chat Control กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว หลายคนมองว่ามันคือ “หายนะที่รอเกิดขึ้น” เพราะเปิดช่องให้มีการสอดส่องการสื่อสารส่วนตัวของผู้ใช้ แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันจะกระทบสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และอาจทำให้ความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีด้านความเป็นส่วนตัวพังทลาย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/a-disaster-waiting-to-happen-the-privacy-tech-world-reacts-to-the-new-chat-control-bill

    Devolo WiFi 6 Router 3600 5G Review
    เรื่องนี้เล่าได้ว่าเป็นประสบการณ์ตรงของผู้ทดสอบที่ได้ลองใช้เราเตอร์ Devolo WiFi 6 รุ่น 3600 ที่รองรับซิมการ์ด 5G LTE ตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมาก เพียงใส่ซิม เปิดไฟ และกดปุ่ม WPS ก็เชื่อมต่อได้ทันที จุดเด่นคือสามารถรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า 100 เครื่องพร้อมกัน เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตบ้าน เช่นออฟฟิศใหม่หรือการทำงานนอกสถานที่ ความเร็วขึ้นอยู่กับสัญญาณเครือข่าย แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มี 5G แรง ๆ ก็เร็วและเสถียรกว่าการแชร์ฮอตสปอตจากมือถือมาก แม้ราคาจะสูงเกือบ £399 แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในสถานการณ์ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้
    https://www.techradar.com/computing/devolo-wifi-6-router-3600-5g-lte-review

    OnePlus 15 เตรียมเปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมของแถมพิเศษ
    OnePlus 15 ที่หลายคนรอคอยกำลังจะเปิดให้พรีออเดอร์ในสหรัฐฯ วันที่ 4 ธันวาคมนี้ หลังจากเลื่อนเปิดตัวเพราะติดปัญหาการรับรองจาก FCC ราคาจะเริ่มต้นที่ $899.99 สำหรับรุ่น RAM 12GB และ $999.99 สำหรับรุ่น RAM 16GB พร้อมของแถมให้เลือก เช่นนาฬิกา OnePlus Watch 3 มูลค่า $300 หรือหูฟัง Buds Pro 3 จุดเด่นของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,300mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานมาก รวมถึงกล้องและซอฟต์แวร์ที่ได้รับคำชมจนได้คะแนนรีวิวเต็ม 5 ดาว ถือเป็นการกลับมาที่น่าตื่นเต้นของ OnePlus ในตลาดสหรัฐฯ
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-oneplus-15-is-finally-heading-to-the-us-and-you-can-grab-a-major-pre-order-bonus

    รัสเซียเตรียมแบน WhatsApp ภายใต้ “ม่านเหล็กดิจิทัล”
    รัฐบาลรัสเซียโดยหน่วยงาน Roskomnadzor ขู่จะบล็อก WhatsApp แบบเต็มรูปแบบ โดยกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้เพื่อกิจกรรมก่อการร้าย และไม่ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น ปัจจุบันมีผู้ใช้ WhatsApp ในรัสเซียกว่า 97 ล้านคน หากถูกบล็อกจริงจะกระทบการสื่อสารอย่างรุนแรง โดยก่อนหน้านี้ Signal ก็ถูกบล็อกไปแล้ว ทำให้ผู้ใช้ถูกบังคับไปใช้แอปที่รัฐควบคุมอย่าง MAX ซึ่งมีความเสี่ยงด้านการสอดส่องสูง WhatsApp ยืนยันว่าจะยังคงให้บริการการสื่อสารแบบเข้ารหัสเพื่อปกป้องสิทธิผู้ใช้ แม้จะถูกกดดันจากรัฐบาล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russias-digital-iron-curtain-whatsapp-next-on-the-chopping-block

    Amazon ทดลอง “AI Factories” ติดตั้งในองค์กรลูกค้า
    Amazon Web Services เปิดตัวแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “AI Factories” คือการนำฮาร์ดแวร์และระบบ AI ไปติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เพื่อรองรับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและอธิปไตยข้อมูล ลูกค้าไม่ต้องลงทุนสร้างระบบเอง แต่ AWS จะจัดการทุกอย่างให้ โดยใช้ชิป Nvidia Blackwell และ Trainium3 ของ Amazon จุดนี้ถือเป็นการกลับไปสู่แนวทาง on-premises อีกครั้ง หลังยุคที่ทุกอย่างย้ายขึ้นคลาวด์ เหมาะกับองค์กรหรือรัฐบาลที่ต้องการใช้ AI แต่ไม่สามารถส่งข้อมูลออกนอกพื้นที่ได้
    https://www.techradar.com/pro/amazon-is-testing-out-private-on-premises-ai-factories

    Windows 11 มีบั๊กใหม่ใน Dark Mode ของ File Explorer
    Microsoft ปล่อยอัปเดตตัวล่าสุด KB5070311 ที่ตั้งใจจะปรับปรุง Dark Mode ให้สมบูรณ์ขึ้น แต่กลับทำให้เกิดบั๊กที่สร้างความรำคาญ เมื่อผู้ใช้เปิดโฟลเดอร์หรือแท็บใหม่ใน File Explorer จะมีแฟลชสีขาววาบขึ้นมา ซึ่งยิ่งรบกวนสายตาในสภาพแสงน้อย Microsoft ยอมรับปัญหาและกำลังแก้ไขก่อนที่จะปล่อยอัปเดตเต็มในสัปดาห์หน้า แม้จะเป็นเพียงเวอร์ชันทดลอง แต่หากไม่แก้ทันก็อาจกระทบผู้ใช้จำนวนมากที่รออัปเดต
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-just-broke-file-explorer-dark-mode-some-windows-11-users-are-seeing-jarring-white-flashes-when-opening-folders

    Zettlab D6 NAS Review
    นี่เป็นรีวิวของ Zettlab D6 NAS อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความปลอดภัยสูง จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูง มีพอร์ตหลากหลาย และระบบจัดการที่ใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและผู้ใช้ที่ต้องการเก็บไฟล์จำนวนมากในบ้าน แม้ราคาจะสูง แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความสามารถในการปกป้องและแชร์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/computing/zettlab-d6-nas-device-review

    ทดสอบ ChatGPT, Gemini และ Claude ในโลกมัลติโหมด
    บทความนี้เล่าถึงการทดสอบ AI รุ่นใหม่ ๆ ที่สามารถทำงานแบบมัลติโหมดได้ เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude โดยเปรียบเทียบความสามารถในการเข้าใจข้อความ ภาพ และเสียง จุดที่น่าสนใจคือแต่ละระบบมีจุดแข็งต่างกัน เช่น ChatGPT เด่นด้านการสนทนาเชิงลึก Gemini เน้นการเชื่อมโยงข้อมูลหลายรูปแบบ ส่วน Claude มีความแม่นยำในการตีความบริบท การทดสอบนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังพัฒนาไปสู่การใช้งานที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/testing-chatgpt-gemini-and-claude-in-the-multimodal-maze

    ยุคโฆษณาใน ChatGPT เริ่มต้นแล้ว
    ผู้ใช้ ChatGPT โดยเฉพาะกลุ่ม Pro ที่จ่ายถึง $200 ต่อเดือน กำลังไม่พอใจอย่างหนัก เพราะ OpenAI เริ่มแสดงโฆษณาและแนะนำแอปในระบบ แม้จะเป็นผู้ใช้แบบเสียเงินก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการหาทางสร้างรายได้ใหม่ของบริษัท แต่ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการลดคุณภาพประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ยอมจ่ายแพงเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/the-era-of-ads-in-chatgpt-begins-users-furious-as-even-usd200-a-month-pro-subscribers-hit-with-app-suggestions

    ออสเตรเลียสั่งห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ VPN เพื่อเลี่ยงกฎหมายโซเชียล
    รัฐบาลออสเตรเลียออกมาตรการใหม่ บังคับให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการแบนโซเชียลมีเดีย กฎหมายนี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและสร้างภาระให้กับบริษัทเทคโนโลยี แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/australia-expects-platforms-to-stop-under-16s-from-using-vpns-to-evade-social-media-ban

    กว่า 2 ใน 3 ของร้านค้าปลีกใช้ AI Agent เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว
    รายงานล่าสุดเผยว่ามากกว่า 67% ของผู้ค้าปลีกได้เริ่มนำ AI Agent มาใช้ในการทำงาน เช่น การตอบลูกค้า การจัดการสต็อก และการวิเคราะห์ข้อมูล จุดนี้สะท้อนว่าการใช้ AI ไม่ใช่แค่แนวโน้ม แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของธุรกิจค้าปลีกที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำในการแข่งขัน
    https://www.techradar.com/pro/over-two-thirds-of-retailers-have-already-partially-deployed-ai-agents-for-efficiency



    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251204 #TechRadar 🤖 Google Antigravity AI ลบข้อมูลนักพัฒนาแล้วขอโทษ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อระบบ AI ของ Google ที่ชื่อว่า Antigravity ลบข้อมูลใน Google Drive ของนักพัฒนารายหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นระบบได้ส่งข้อความขอโทษกลับมาเอง เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามใหญ่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หลายฝ่ายกังวลว่าหาก AI สามารถทำผิดพลาดในระดับนี้ อาจสร้างผลกระทบต่อธุรกิจและบุคคลทั่วไปได้อย่างรุนแรง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/googles-antigravity-ai-deleted-a-developers-drive-and-then-apologized 🏛️ ความพยายามของทรัมป์ในการผลักดันกฎหมาย AI ระดับชาติสะดุด เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในสภาอเมริกา เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์พยายามผลักดันให้กฎหมายควบคุม AI ถูกกำหนดในระดับรัฐบาลกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการมี “กฎหมาย 50 แบบ” จากแต่ละรัฐ เขาเชื่อว่าการรวมศูนย์จะช่วยให้สหรัฐฯ แข่งขันกับจีนได้ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติหลายคน โดยเฉพาะรีพับลิกันเอง กลับไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ารัฐมีความคล่องตัวในการออกกฎหมายที่ตอบโจทย์สถานการณ์ได้เร็วกว่า อีกทั้งยังมีเสียงวิจารณ์ว่าการผลักดันนี้คือการเข้าข้างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี สุดท้ายข้อเสนอนี้ถูกโหวตคว่ำอย่างท่วมท้น และทำให้ทรัมป์ถูกโจมตีว่า “ยืนอยู่ข้าง Big Tech” 🔗 https://www.techradar.com/pro/trumps-push-to-overrule-ai-regulation-falters-as-republicans-split ☁️ AWS เปิดตัว Nova Forge ให้ธุรกิจสร้างโมเดล AI ของตัวเอง Amazon Web Services เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ Nova Forge ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล AI ได้ตามต้องการ โดยเริ่มจากโมเดลพื้นฐานของ Amazon แล้วนำข้อมูลของบริษัทมาผสมเพื่อสร้างโมเดลเฉพาะกิจที่เรียกว่า “Novellas” จุดเด่นคือช่วยลดต้นทุนและเวลาในการฝึกโมเดลใหม่จากศูนย์ ซึ่งปกติอาจใช้เงินมหาศาลและทีมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Nova 2 ที่มาพร้อมโมเดลพื้นฐานใหม่หลายตัว รวมถึงความสามารถด้านการสนทนาแบบเสียงต่อเสียงที่ใกล้เคียงมนุษย์ ถือเป็นการขยายศักยภาพของ AWS ในตลาด AI อย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-nova-forge-could-be-your-companys-cue-to-start-building-custom-ai-models 🕵️ แฮกเกอร์เกาหลีเหนือถูกจับตาแบบสด ๆ ระหว่างปฏิบัติการ นักวิจัยด้านความปลอดภัยสามารถหลอกกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือให้ใช้เครื่องที่พวกเขาคิดว่าเป็น “แล็ปท็อปจริง” แต่แท้จริงคือ sandbox ที่ควบคุมจากระยะไกล ทำให้สามารถเห็นการทำงานของแฮกเกอร์แบบสด ๆ แผนการนี้เกี่ยวข้องกับการสร้าง “คนงานปลอม” เพื่อสมัครงานในบริษัทใหญ่ แล้วใช้ตำแหน่งนั้นทำกิจกรรมโจมตีไซเบอร์ นักวิจัยพบว่าแฮกเกอร์ใช้เครื่องมืออย่าง OTP generator, AI automation และ Google Remote Desktop เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบสองชั้น เหตุการณ์นี้ช่วยเปิดเผยวิธีการทำงานของกลุ่ม Lazarus และเป็นข้อมูลสำคัญในการป้องกันภัยไซเบอร์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-worker-scheme-caught-live-on-camera 💻 รีวิว Lenovo ThinkBook Plus Gen 6 Rollable โน้ตบุ๊คจอขยายได้ Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊คที่เรียกว่า “Rollable” รุ่นแรกของโลก ThinkBook Plus Gen 6 ที่สามารถขยายหน้าจอจาก 14 นิ้วเป็น 16 นิ้วได้เพียงกดปุ่มเดียว ทำให้การทำงานนอกสถานที่สะดวกขึ้นมาก ตัวเครื่องมาพร้อมสเปกแรง เช่น Intel Core Ultra 7, RAM 32GB และ SSD 1TB จุดเด่นคือจอ OLED ที่ขยายได้อย่างลื่นไหลและใช้งานจริงได้ ไม่ใช่แค่ลูกเล่น ผู้รีวิวเล่าว่าทุกครั้งที่กางจอออก คนรอบข้างมักตื่นตาตื่นใจ ถือเป็นการเปลี่ยนมุมมองใหม่ต่อโน้ตบุ๊คสำหรับธุรกิจและการทำงานแบบพกพา 🔗 https://www.techradar.com/pro/lenovo-thinkbook-plus-gen-6-rollable-business-laptop-review ⚙️ หลุดข้อมูล Xeon 6 เวิร์กสเตชันใหม่ของ Intel มีการพบเมนบอร์ด ADLINK ISB-W890 ที่เผยให้เห็นแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel สำหรับเวิร์กสเตชัน Granite Rapids-WS จุดเด่นคือรองรับหน่วยความจำ ECC DDR5 ได้สูงสุดถึง 1TB และมีช่อง PCIe มากมายสำหรับงานประมวลผลหนัก ๆ รวมถึงการ์ดกราฟิกหลายตัว ซีพียู Xeon รุ่นใหม่คาดว่าจะมีสูงสุดถึง 86 คอร์ พร้อมความเร็วสูงถึง 4.8GHz ซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ AMD ThreadRipper รุ่นท็อป การรั่วไหลนี้ทำให้เห็นว่า Intel กำลังกลับมาท้าทายตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูงอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-this-our-first-look-at-intels-xeon-6-workstation-hardware-leak-claims-to-show-w890-platform-ahead-of-granite-rapids-launch 📱 Qualcomm สู้กลับด้วย Snapdragon 8 Gen 5 เรื่องนี้เริ่มจาก OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ OnePlus 15R ที่จะใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 5 เป็นครั้งแรก จุดที่น่าสนใจคือ Qualcomm เลือกใช้กลยุทธ์ “สองรุ่นเรือธง” คล้ายกับที่ Apple ทำกับชิป A-series โดยแบ่งเป็นรุ่น Elite และรุ่นปกติ เพื่อให้มือถือราคาย่อมเยาได้สัมผัสพลังระดับเรือธงเช่นกัน ผู้บริหาร OnePlus อธิบายว่า Apple เป็นแรงบันดาลใจ เพราะการแยกชิป Pro และชิปธรรมดาใน iPhone ทำให้ตลาดแตกต่างชัดเจน Qualcomm จึงต้องเดินตามแนวทางนี้เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ และผลลัพธ์คือผู้ใช้จะได้มือถือที่แรงขึ้นแม้ไม่ใช่รุ่นแพงสุด 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/qualcomm-knows-it-has-to-fight-back-oneplus-exec-explains-why-apple-is-partially-responsible-for-the-new-snapdragon-8-gen-5-chipset 🔐 รื้อความเข้าใจผิดเรื่อง Passwordless Authentication หลายคนยังเชื่อว่าการเข้าสู่ระบบแบบไม่ใช้รหัสผ่านนั้นไม่ปลอดภัย แต่บทความนี้อธิบายชัดว่ามันคือการยกระดับความปลอดภัย เพราะใช้สิ่งที่คุณ “เป็น” เช่น ลายนิ้วมือหรือใบหน้า ร่วมกับ PIN ที่ทำงานเฉพาะบนอุปกรณ์ ไม่ถูกส่งออกไปเหมือนรหัสผ่านทั่วไป จึงยากต่อการโจมตี อีกทั้งยังช่วยลดภาระของทีม IT ที่ต้องคอยแก้ปัญหาการรีเซ็ตรหัสผ่านซ้ำๆ เทคโนโลยีนี้จึงเป็นก้าวสำคัญสู่ยุค Zero-Trust ที่องค์กรกำลังมุ่งไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/passwordless-authentication-isnt-the-problem-the-myths-around-the-technology-are 🎄 โฆษณา Windows 11 “PC ที่พูดคุยได้” สร้างเสียงแตก Microsoft ปล่อยโฆษณาใหม่ช่วงเทศกาลที่โชว์ฟีเจอร์ “Hey Copilot” ให้ผู้ใช้พูดคุยกับคอมพิวเตอร์ได้เหมือนผู้ช่วยส่วนตัว โฆษณามีฉากสนุกๆ เช่นการให้ Copilot ซิงค์ไฟคริสต์มาสกับเพลง แต่ปัญหาคือฟีเจอร์จริงยังทำไม่ได้ ทำให้ผู้ชมบางส่วนมองว่า Microsoft กำลังสร้างความคาดหวังเกินจริง หลายคอมเมนต์ประชดประชัน เช่น “Hey Copilot – ช่วยติดตั้ง Linux ให้หน่อย” สะท้อนว่าผู้ใช้บางกลุ่มรู้สึกถูกยัดเยียด AI มากเกินไป 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/new-windows-11-pc-you-can-talk-to-ad-pushing-copilot-is-proving-divisive-and-i-can-see-it-seriously-backfiring 🤖 ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในยุค AI AI กำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ปัญหาคือข้อมูลที่ใช้ฝึก AI มักเป็นข้อมูลลับและอ่อนไหว หากบริษัทไม่โปร่งใสในการจัดการข้อมูล ลูกค้าอาจหมดความเชื่อใจ ตัวอย่างเช่น OpenAI เคยถูกปรับเพราะใช้ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ชัดเจน ทำให้เกิดคำถามใหญ่: ผู้ให้บริการ AI จะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร? คำตอบคือการเปิดเผยที่มาของข้อมูลและสถานที่จัดเก็บอย่างชัดเจน พร้อมเสริมระบบความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและ MFA เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าข้อมูลของพวกเขาปลอดภัยจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-search-for-transparency-and-reliability-in-the-ai-era 💰 Nvidia กับดีล 100 พันล้านดอลลาร์ที่ยังไม่เสร็จ แม้จะมีข่าวใหญ่เรื่อง Nvidia จับมือ OpenAI ทำโครงการโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ แต่ความจริงคือดีลนี้ยังไม่ถูกลงนามอย่างเป็นทางการ CFO ของ Nvidia ยอมรับว่าทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอน “จดหมายแสดงเจตนา” เท่านั้น ความเสี่ยงคือการลงทุนระยะยาวอาจเจอปัญหาสินค้าล้นสต็อกหรือการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เร็วเกินไป นักลงทุนบางส่วนจึงกังวลว่าอาจเกิด “ฟองสบู่ AI” ที่พร้อมแตกได้ทุกเมื่อ ถึงแม้หุ้น Nvidia จะยังขึ้น แต่คำถามเรื่องความยั่งยืนยังคงอยู่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/nvidia-admits-the-usd100bn-biggest-ai-infrastructure-project-in-history-openai-deal-still-isnt-finalized 📖 Character.ai ปรับกลยุทธ์ใหม่สำหรับวัยรุ่น แพลตฟอร์ม AI ชื่อดัง Character.ai เริ่มเปลี่ยนแนวทางการให้บริการ โดยลดการสนทนาแบบเปิดกว้างสำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แล้วเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Stories” เพื่อดึงดูดวัยรุ่นให้ยังคงสนใจอยู่ จุดประสงค์คือสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น และยังคงให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ควบคุมได้มากกว่า การปรับนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังหาทางบาลานซ์ระหว่างความสร้างสรรค์และความรับผิดชอบต่อผู้ใช้เยาวชน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/character-ai-launches-stories-to-keep-teens-engaged-as-it-scales-back-open-ended-chat-for-under-18s 🎮 กลุ่มแฮ็กเกอร์อิหร่านใช้เกม Snake เป็นอาวุธ มีรายงานว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จากอิหร่านได้สร้างเกม Snake ปลอมขึ้นมาเพื่อโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอียิปต์และอิสราเอล เกมนี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนเกมธรรมดา แต่จริงๆ แล้วแฝงมัลแวร์ที่สามารถเจาะระบบได้ การใช้วิธีที่ดู “ไร้เดียงสา” เช่นเกมยอดนิยม เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนว่าภัยคุกคามไซเบอร์กำลังซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/iranian-hacker-group-deploys-malicious-snake-game-to-target-egyptian-and-israeli-critical-infrastructure 💻 รีวิว MSI Cubi NUC AI+ 2MG Mini PC บทความนี้รีวิวเครื่อง Mini PC รุ่นใหม่จาก MSI ที่ชื่อ Cubi NUC AI+ 2MG จุดเด่นคือขนาดเล็กแต่ทรงพลัง เหมาะสำหรับงานสำนักงานหรือผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่กินพื้นที่มาก ตัวเครื่องมาพร้อมการรองรับ AI workload และการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ PC ขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงความแรงไว้ครบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/msi-cubi-nuc-ai-2mg-mini-pc-review 🌐 ExpressVPN อัปเดตใหม่ เร็วขึ้นและปรับโฉมบน Mac ExpressVPN ปล่อยอัปเดตล่าสุดที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ และปรับปรุงแอปบน Mac ให้ใช้งานง่ายขึ้น ดีไซน์ใหม่ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงฟีเจอร์หลักได้สะดวกกว่าเดิม พร้อมทั้งเสริมความปลอดภัยและเสถียรภาพของการเชื่อมต่อ ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งาน VPN ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้ระดับมืออาชีพ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/expressvpns-latest-update-boosts-connection-speeds-and-revamps-its-mac-app ⚖️ กฎหมาย Chat Control สร้างเสียงวิจารณ์ในวงการ Privacy Tech กฎหมายใหม่ที่ชื่อ Chat Control กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว หลายคนมองว่ามันคือ “หายนะที่รอเกิดขึ้น” เพราะเปิดช่องให้มีการสอดส่องการสื่อสารส่วนตัวของผู้ใช้ แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันจะกระทบสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และอาจทำให้ความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีด้านความเป็นส่วนตัวพังทลาย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/a-disaster-waiting-to-happen-the-privacy-tech-world-reacts-to-the-new-chat-control-bill 📡 Devolo WiFi 6 Router 3600 5G Review เรื่องนี้เล่าได้ว่าเป็นประสบการณ์ตรงของผู้ทดสอบที่ได้ลองใช้เราเตอร์ Devolo WiFi 6 รุ่น 3600 ที่รองรับซิมการ์ด 5G LTE ตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมาก เพียงใส่ซิม เปิดไฟ และกดปุ่ม WPS ก็เชื่อมต่อได้ทันที จุดเด่นคือสามารถรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า 100 เครื่องพร้อมกัน เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตบ้าน เช่นออฟฟิศใหม่หรือการทำงานนอกสถานที่ ความเร็วขึ้นอยู่กับสัญญาณเครือข่าย แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มี 5G แรง ๆ ก็เร็วและเสถียรกว่าการแชร์ฮอตสปอตจากมือถือมาก แม้ราคาจะสูงเกือบ £399 แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในสถานการณ์ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้ 🔗 https://www.techradar.com/computing/devolo-wifi-6-router-3600-5g-lte-review 📱 OnePlus 15 เตรียมเปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมของแถมพิเศษ OnePlus 15 ที่หลายคนรอคอยกำลังจะเปิดให้พรีออเดอร์ในสหรัฐฯ วันที่ 4 ธันวาคมนี้ หลังจากเลื่อนเปิดตัวเพราะติดปัญหาการรับรองจาก FCC ราคาจะเริ่มต้นที่ $899.99 สำหรับรุ่น RAM 12GB และ $999.99 สำหรับรุ่น RAM 16GB พร้อมของแถมให้เลือก เช่นนาฬิกา OnePlus Watch 3 มูลค่า $300 หรือหูฟัง Buds Pro 3 จุดเด่นของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,300mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานมาก รวมถึงกล้องและซอฟต์แวร์ที่ได้รับคำชมจนได้คะแนนรีวิวเต็ม 5 ดาว ถือเป็นการกลับมาที่น่าตื่นเต้นของ OnePlus ในตลาดสหรัฐฯ 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-oneplus-15-is-finally-heading-to-the-us-and-you-can-grab-a-major-pre-order-bonus 🚫 รัสเซียเตรียมแบน WhatsApp ภายใต้ “ม่านเหล็กดิจิทัล” รัฐบาลรัสเซียโดยหน่วยงาน Roskomnadzor ขู่จะบล็อก WhatsApp แบบเต็มรูปแบบ โดยกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้เพื่อกิจกรรมก่อการร้าย และไม่ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น ปัจจุบันมีผู้ใช้ WhatsApp ในรัสเซียกว่า 97 ล้านคน หากถูกบล็อกจริงจะกระทบการสื่อสารอย่างรุนแรง โดยก่อนหน้านี้ Signal ก็ถูกบล็อกไปแล้ว ทำให้ผู้ใช้ถูกบังคับไปใช้แอปที่รัฐควบคุมอย่าง MAX ซึ่งมีความเสี่ยงด้านการสอดส่องสูง WhatsApp ยืนยันว่าจะยังคงให้บริการการสื่อสารแบบเข้ารหัสเพื่อปกป้องสิทธิผู้ใช้ แม้จะถูกกดดันจากรัฐบาล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russias-digital-iron-curtain-whatsapp-next-on-the-chopping-block 🤖 Amazon ทดลอง “AI Factories” ติดตั้งในองค์กรลูกค้า Amazon Web Services เปิดตัวแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “AI Factories” คือการนำฮาร์ดแวร์และระบบ AI ไปติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เพื่อรองรับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและอธิปไตยข้อมูล ลูกค้าไม่ต้องลงทุนสร้างระบบเอง แต่ AWS จะจัดการทุกอย่างให้ โดยใช้ชิป Nvidia Blackwell และ Trainium3 ของ Amazon จุดนี้ถือเป็นการกลับไปสู่แนวทาง on-premises อีกครั้ง หลังยุคที่ทุกอย่างย้ายขึ้นคลาวด์ เหมาะกับองค์กรหรือรัฐบาลที่ต้องการใช้ AI แต่ไม่สามารถส่งข้อมูลออกนอกพื้นที่ได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/amazon-is-testing-out-private-on-premises-ai-factories 💻 Windows 11 มีบั๊กใหม่ใน Dark Mode ของ File Explorer Microsoft ปล่อยอัปเดตตัวล่าสุด KB5070311 ที่ตั้งใจจะปรับปรุง Dark Mode ให้สมบูรณ์ขึ้น แต่กลับทำให้เกิดบั๊กที่สร้างความรำคาญ เมื่อผู้ใช้เปิดโฟลเดอร์หรือแท็บใหม่ใน File Explorer จะมีแฟลชสีขาววาบขึ้นมา ซึ่งยิ่งรบกวนสายตาในสภาพแสงน้อย Microsoft ยอมรับปัญหาและกำลังแก้ไขก่อนที่จะปล่อยอัปเดตเต็มในสัปดาห์หน้า แม้จะเป็นเพียงเวอร์ชันทดลอง แต่หากไม่แก้ทันก็อาจกระทบผู้ใช้จำนวนมากที่รออัปเดต 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-just-broke-file-explorer-dark-mode-some-windows-11-users-are-seeing-jarring-white-flashes-when-opening-folders 💾 Zettlab D6 NAS Review นี่เป็นรีวิวของ Zettlab D6 NAS อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความปลอดภัยสูง จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูง มีพอร์ตหลากหลาย และระบบจัดการที่ใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและผู้ใช้ที่ต้องการเก็บไฟล์จำนวนมากในบ้าน แม้ราคาจะสูง แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความสามารถในการปกป้องและแชร์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/computing/zettlab-d6-nas-device-review 🧩 ทดสอบ ChatGPT, Gemini และ Claude ในโลกมัลติโหมด บทความนี้เล่าถึงการทดสอบ AI รุ่นใหม่ ๆ ที่สามารถทำงานแบบมัลติโหมดได้ เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude โดยเปรียบเทียบความสามารถในการเข้าใจข้อความ ภาพ และเสียง จุดที่น่าสนใจคือแต่ละระบบมีจุดแข็งต่างกัน เช่น ChatGPT เด่นด้านการสนทนาเชิงลึก Gemini เน้นการเชื่อมโยงข้อมูลหลายรูปแบบ ส่วน Claude มีความแม่นยำในการตีความบริบท การทดสอบนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังพัฒนาไปสู่การใช้งานที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/testing-chatgpt-gemini-and-claude-in-the-multimodal-maze 📢 ยุคโฆษณาใน ChatGPT เริ่มต้นแล้ว ผู้ใช้ ChatGPT โดยเฉพาะกลุ่ม Pro ที่จ่ายถึง $200 ต่อเดือน กำลังไม่พอใจอย่างหนัก เพราะ OpenAI เริ่มแสดงโฆษณาและแนะนำแอปในระบบ แม้จะเป็นผู้ใช้แบบเสียเงินก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการหาทางสร้างรายได้ใหม่ของบริษัท แต่ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการลดคุณภาพประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ยอมจ่ายแพงเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/the-era-of-ads-in-chatgpt-begins-users-furious-as-even-usd200-a-month-pro-subscribers-hit-with-app-suggestions 🛡️ ออสเตรเลียสั่งห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ VPN เพื่อเลี่ยงกฎหมายโซเชียล รัฐบาลออสเตรเลียออกมาตรการใหม่ บังคับให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการแบนโซเชียลมีเดีย กฎหมายนี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและสร้างภาระให้กับบริษัทเทคโนโลยี แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/australia-expects-platforms-to-stop-under-16s-from-using-vpns-to-evade-social-media-ban 🛍️ กว่า 2 ใน 3 ของร้านค้าปลีกใช้ AI Agent เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว รายงานล่าสุดเผยว่ามากกว่า 67% ของผู้ค้าปลีกได้เริ่มนำ AI Agent มาใช้ในการทำงาน เช่น การตอบลูกค้า การจัดการสต็อก และการวิเคราะห์ข้อมูล จุดนี้สะท้อนว่าการใช้ AI ไม่ใช่แค่แนวโน้ม แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของธุรกิจค้าปลีกที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำในการแข่งขัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/over-two-thirds-of-retailers-have-already-partially-deployed-ai-agents-for-efficiency
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251204 #securityonline

    React พบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182
    ทีมพัฒนา React ออกประกาศฉุกเฉินหลังพบช่องโหว่ที่มีความรุนแรงสูงสุด (CVSS 10.0) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้เกิดจากกระบวนการถอดรหัสข้อมูลที่ส่งจาก client ไปยัง server ใน React Server Components (RSC) ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งแฝงเข้ามาและเข้าควบคุมระบบได้ทันที ปัญหานี้กระทบไปถึงเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router, Waku และอื่น ๆ โดยมีการออกแพตช์แก้ไขแล้วในหลายเวอร์ชัน นักพัฒนาจำเป็นต้องอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/catastrophic-react-flaw-cve-2025-55182-cvss-10-0-allows-unauthenticated-rce-on-next-js-and-server-components

    WordPress เจอช่องโหว่ CVE-2025-6389 ถูกโจมตีจริงแล้ว
    WordPress ที่ใช้ Sneeit Framework กำลังเผชิญการโจมตีครั้งใหญ่ หลังมีการเปิดเผยช่องโหว่ Remote Code Execution (RCE) ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้เกิดจากฟังก์ชัน sneeit_articles_pagination_callback() ที่เปิดให้ผู้ใช้ส่งข้อมูลเข้ามาโดยไม่ตรวจสอบ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเรียกใช้ฟังก์ชัน PHP ใด ๆ ได้ตามใจ ผลคือมีการสร้างบัญชีแอดมินปลอมและฝัง backdoor ลงในระบบทันที มีรายงานว่ามีการพยายามโจมตีมากกว่า 131,000 ครั้งแล้ว หากใครยังใช้เวอร์ชัน 8.3 หรือต่ำกว่า ต้องรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 8.4 โดยด่วน
    https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce

    Next.js เจอช่องโหว่ CVE-2025-66478 ระดับสูงสุด นักพัฒนา
    Next.js กำลังเจอวิกฤติครั้งใหญ่ เมื่อพบช่องโหว่ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้ ช่องโหว่นี้เชื่อมโยงกับ React Server Components (CVE-2025-55182) และส่งผลกระทบต่อ Next.js รุ่นใหม่ที่ใช้ App Router โดยตรง เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบคือ Next.js 15.x และ 16.x รวมถึง canary release ของ 14.3.0 ขึ้นไป ทางแก้เดียวคือการอัปเดตไปยังเวอร์ชันที่มีแพตช์ เช่น 15.0.5, 15.1.9 หรือ 16.0.7 หากยังใช้เวอร์ชันที่เสี่ยงอยู่ถือว่าเปิดช่องให้ถูกยึดระบบได้ทันที
    https://securityonline.info/maximum-severity-alert-critical-rce-flaw-hits-next-js-cve-2025-66478-cvss-10-0

    AWS เปิดตัว Frontier Agents: ทีมงาน AI อัตโนมัติ
    ที่งาน re:Invent 2025 AWS สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว “Frontier Agents” ซึ่งเป็น AI ที่ทำงานได้เหมือนทีมงานจริง ๆ สามารถรับภารกิจและทำงานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องมีคนคอยกำกับตลอดเวลา มีทั้งหมด 3 ตัวหลักคือ Kiro สำหรับงานพัฒนา, Security Agent สำหรับตรวจสอบความปลอดภัย และ DevOps Agent สำหรับแก้ปัญหาระบบที่ล่ม ตัวอย่างเช่น Kiro สามารถรับงานจาก GitHub แล้วแก้บั๊กหรือเพิ่ม test coverage ได้เอง ส่วน Security Agent ก็ช่วยตรวจสอบช่องโหว่ที่เครื่องมือทั่วไปมองไม่เห็น และ DevOps Agent สามารถหาสาเหตุระบบล่มได้ภายใน 15 นาที ซึ่งปกติวิศวกรอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง จุดสำคัญคือ AWS ต้องการให้คนทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และปล่อยเวลาไปทำงานเชิงกลยุทธ์แทน
    https://securityonline.info/aws-frontier-agents-autonomous-ai-team-members-take-over-dev-security-and-ops

    AWS S3 Unleashed: ยุคใหม่ของการเก็บข้อมูล AI และ Big Data
    AWS ประกาศอัปเกรดครั้งใหญ่ให้กับ Amazon S3 โดยเพิ่มความสามารถในการเก็บและค้นหาข้อมูลแบบเวกเตอร์ (S3 Vectors) ที่รองรับได้ถึง 20 ล้านล้านเวกเตอร์ และเพิ่มขนาดไฟล์สูงสุดจาก 5 TB เป็น 50 TB ทำให้สามารถเก็บไฟล์ขนาดมหึมา เช่น วิดีโอความละเอียดสูงหรือ dataset สำหรับ AI ได้โดยไม่ต้องแบ่งไฟล์ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง batch operations ให้เร็วขึ้น 10 เท่า และเพิ่มฟีเจอร์ replication ข้าม region สำหรับ S3 Tables จุดเด่นคือช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 90% และทำให้การสร้างระบบ AI หรือ RAG ง่ายขึ้นมาก หลายองค์กรใหญ่ เช่น BMW และ Twilio ได้เริ่มใช้งานแล้ว
    https://securityonline.info/aws-s3-unleashed-native-vector-storage-50-tb-max-object-size-for-ai-big-data

    Raspberry Pi ขึ้นราคาเพราะกระแส AI
    Raspberry Pi ประกาศขึ้นราคาทันทีสำหรับบางรุ่นของ Pi 4 และ Pi 5 เนื่องจากความต้องการหน่วยความจำทั่วโลกที่พุ่งสูงจากการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น รุ่นที่มีหน่วยความจำมากขึ้นจะขึ้นราคาหนักที่สุด เช่น Pi 5 (16GB) จาก 120 ดอลลาร์เป็น 145 ดอลลาร์ และ Pi 5 (8GB) จาก 80 ดอลลาร์เป็น 95 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Raspberry Pi ก็เปิดตัวรุ่นใหม่ราคาประหยัดคือ Pi 5 (1GB) ที่ 45 ดอลลาร์ เพื่อให้คนทั่วไปยังเข้าถึงได้ CEO Eben Upton ย้ำว่านี่เป็นการปรับราคาชั่วคราว และเมื่อสถานการณ์หน่วยความจำกลับมาปกติ ราคาจะลดลงอีกครั้ง
    https://securityonline.info/raspberry-pi-price-hike-ai-boom-forces-price-increases-on-pi-4-and-pi-5-models

    Android 16 อัปเดตใหม่: AI สรุปแจ้งเตือนและฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้พิการ
    Google ปล่อยอัปเดตใหญ่ครั้งที่สองของ Android 16 โดยเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่ช่วยสรุปข้อความแจ้งเตือนยาว ๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้น และมี Notification Organizer ที่ช่วยจัดการแจ้งเตือนที่ไม่สำคัญให้อัตโนมัติ ด้านความปลอดภัยก็มีการกรองข้อความเชิญเข้ากลุ่มจากเบอร์แปลก และ Circle to Search สามารถตรวจสอบข้อความหลอกลวงได้ ฟีเจอร์ใหม่ยังรวมถึงการปรับแต่งไอคอน, Dark Theme ที่ครอบคลุมทุกแอป และ parental control ที่ใช้งานง่ายขึ้น ที่สำคัญคือการปรับปรุงด้าน accessibility เช่น TalkBack ที่ใช้ Gemini ช่วยแก้ไขข้อความด้วยเสียง, กล้องที่ให้คำแนะนำเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตา, AutoClick สำหรับผู้ใช้เมาส์ และ Expressive Captions ที่บอกอารมณ์ของผู้พูดในวิดีโอ ฟีเจอร์เหล่านี้เริ่มปล่อยให้ Pixel ก่อนและจะขยายไปยังอุปกรณ์อื่นในอนาคต
    https://securityonline.info/android-16-update-ai-notification-summaries-gemini-powered-accessibility-suite

    AWS Nova Forge: แพลตฟอร์มเปิดให้ปรับแต่งโมเดล Nova 2
    AWS เปิดตัว Nova Forge ที่งาน re:Invent 2025 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล Nova 2 ได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ขั้น pre-training ไปจนถึง post-training ทำให้สามารถใส่ความรู้เฉพาะองค์กรเข้าไปในโมเดลโดยตรง ไม่ต้องพึ่งการเชื่อมต่อภายนอกที่อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เสถียร จุดเด่นคือความยืดหยุ่นในการปรับแต่งตามกฎและความรู้ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา AWS ยังเสริมระบบ guardrails เพื่อให้ลูกค้ากำหนดขอบเขตพฤติกรรมของโมเดลได้เอง นอกจากนี้ Nova Forge ยังสามารถใช้ปรับแต่ง Alexa+ ได้โดยตรง ทำให้บริการสำหรับองค์กรมีความเฉพาะตัวมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการสร้างโมเดล AI ให้ตอบโจทย์ธุรกิจได้จริง
    https://securityonline.info/aws-nova-forge-open-training-platform-enables-deep-customization-of-nova-2-models

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Vim for Windows (CVE-2025-66476)
    มีการค้นพบช่องโหว่ระดับสูงใน Vim เวอร์ชัน Windows ที่อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดอันตรายได้หากผู้ใช้เปิดไฟล์จากโฟลเดอร์ที่ถูกเจาะแล้ว ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ path ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังสคริปต์ไว้ในไฟล์ที่ดูเหมือนปกติได้ ผลคือผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมเครื่องโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์ล่าสุดเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-vim-for-windows-flaw-cve-2025-66476-risks-arbitrary-code-execution-from-compromised-folders

    แคมเปญ Water Saci ใช้ LLM แปลงมัลแวร์เป็น Python
    นักวิจัยพบการโจมตีใหม่ชื่อ Water Saci ที่ใช้โมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ช่วยแปลงโค้ดมัลแวร์เป็น Python เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ จากนั้นแพร่กระจายผ่าน WhatsApp worm โดยส่งลิงก์ปลอมไปยังผู้ใช้ เมื่อเหยื่อคลิกก็จะติด Banking Trojan ที่ขโมยข้อมูลการเงิน จุดน่าสนใจคือการใช้ AI ในการปรับโค้ดให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ทำให้การโจมตียากต่อการตรวจจับมากขึ้น
    https://securityonline.info/water-saci-campaign-uses-llms-to-convert-malware-to-python-spreads-banking-trojan-via-whatsapp-worm

    Synology BeeStation พบช่องโหว่ SQL Injection แบบใหม่
    มีการเปิดเผยช่องโหว่ใน Synology BeeStation ที่สามารถนำไปสู่การเข้าถึงสิทธิ์ root ได้ผ่านเทคนิค “Dirty File Write” ซึ่งเป็นการโจมตี SQL Injection รูปแบบใหม่ นักวิจัยได้เผยแพร่ PoC แล้ว ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์ได้ทันทีหากผู้ใช้ยังไม่อัปเดตแพตช์ ความร้ายแรงคือสามารถควบคุมระบบทั้งหมดได้โดยตรง Synology แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/synology-beestation-flaw-chain-leads-to-root-rce-via-novel-dirty-file-write-sql-injection-poc-available

    Matanbuchus 3.0 เปลี่ยนจาก Downloader ไปสู่ Ransomware
    มัลแวร์ Matanbuchus ได้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 3.0 โดยเปลี่ยนบทบาทจากการเป็น downloader ไปสู่การทำงานเป็น ransomware เต็มรูปแบบ ใช้เทคนิคใหม่อย่าง Protobufs และ Intel QuickAssist เพื่อซ่อนการเข้าถึงและทำงานได้อย่างลับ ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น เพราะสามารถเข้ารหัสไฟล์และเรียกค่าไถ่ได้โดยตรง
    https://securityonline.info/matanbuchus-3-0-downloader-pivots-to-ransomware-using-protobufs-and-quickassist-for-stealth-access

    ShadyPanda Spyware แฮ็กผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านราย
    มีรายงานว่า ShadyPanda Spyware ใช้ประโยชน์จากการอัปเดตอัตโนมัติของส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่เชื่อถือได้ เพื่อฝังโค้ดอันตรายและเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยตรง ส่งผลให้มีผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านรายถูกเจาะข้อมูล การโจมตีนี้อันตรายมากเพราะเกิดขึ้นผ่านช่องทางที่ผู้ใช้เชื่อถืออยู่แล้ว ทำให้ยากต่อการสังเกตหรือป้องกัน
    https://securityonline.info/shadypanda-spyware-hacked-4-3-million-users-by-weaponizing-trusted-browser-extensions-via-auto-updates

    ช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน WordPress ACF Extended
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Advanced Custom Fields: Extended ที่ถูกใช้งานบนเว็บไซต์กว่าแสนแห่งทั่วโลก ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องล็อกอินเข้าระบบ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยด้านความปลอดภัยที่ค้นพบได้รับเงินรางวัลจากการแจ้งเตือน เนื่องจากความเสี่ยงสูงสุดที่ช่องโหว่นี้สร้างขึ้น ทีมพัฒนาจึงรีบออกแพตช์แก้ไขและแนะนำให้ผู้ดูแลเว็บไซต์รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/critical-acf-extended-flaw-cve-2025-13486-cvss-9-8-allows-unauthenticated-rce-on-100k-wordpress-sites

    อินเดียบังคับใช้กฎ SIM-Binding บน WhatsApp และ Telegram
    รัฐบาลอินเดียออกข้อบังคับใหม่ที่เข้มงวดกับแอปแชทชื่อดังอย่าง WhatsApp, Telegram และอีกหลายแพลตฟอร์ม โดยกำหนดให้ผู้ใช้ต้องผูกบัญชีเข้ากับซิมการ์ดที่ออกในอินเดีย และต้องยืนยันตัวตนใหม่ทุก ๆ 6 ชั่วโมง หากไม่มีซิมที่เชื่อมโยงอยู่ บัญชีจะถูกล็อกทันที กฎนี้ถูกออกมาเพื่อป้องกันการใช้เบอร์โทรศัพท์อินเดียไปทำการหลอกลวงหรือฟิชชิ่งจากต่างประเทศ แม้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็สร้างคำถามว่าแพลตฟอร์มต่างชาติที่เน้นความเป็นส่วนตัวจะยอมทำตามหรือไม่
    https://securityonline.info/india-mandates-sim-binding-whatsapp-and-telegram-users-must-re-verify-every-6-hours

    OpenAI ยกเลิกแผนโฆษณา หันมาโฟกัสคุณภาพ ChatGPT รับมือ Gemini
    OpenAI เคยทดลองเพิ่มโฆษณาใน ChatGPT เพื่อหารายได้ แต่ล่าสุดบริษัทตัดสินใจหยุดแผนนี้และหันมาเน้นพัฒนาคุณภาพของ ChatGPT ให้ดียิ่งขึ้น เหตุผลสำคัญคือการมาของ Google Gemini ที่กำลังดึงผู้ใช้จำนวนมากไป ทำให้ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ประกาศ “red alert” ภายในบริษัท พร้อมสั่งทีมงานเร่งพัฒนาโมเดล reasoning ใหม่ที่คาดว่าจะเหนือกว่า Gemini 3 รวมถึงปรับปรุงด้าน personalization และความเร็วในการใช้งาน เพื่อรักษาฐานผู้ใช้และความสามารถในการแข่งขัน
    https://securityonline.info/red-alert-at-openai-ad-plans-dropped-to-focus-on-chatgpt-quality-amid-gemini-threat

    Let’s Encrypt เตรียมลดอายุใบรับรองเหลือ 45 วันภายในปี 2028
    เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของระบบอินเทอร์เน็ต องค์กร CA/Browser Forum ได้ตกลงให้ลดอายุการใช้งานของใบรับรอง SSL/TLS จากเดิมเกือบ 400 วัน เหลือเพียง 45 วันเท่านั้น โดย Let’s Encrypt ประกาศว่าจะทยอยปรับตามข้อกำหนดนี้จนเสร็จสมบูรณ์ในปี 2028 การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่าผู้ดูแลระบบต้องมีการต่ออายุใบรับรองบ่อยขึ้น และต้องพึ่งพาการทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจทำให้เว็บไซต์ล่ม
    https://securityonline.info/security-tightens-lets-encrypt-will-cap-certificate-validity-at-45-days-by-2028

    อัปเดต Windows ทำ Dark Mode พัง ไฟล์ Explorer กระพริบขาว
    ผู้ใช้ Windows 11 ที่ติดตั้งอัปเดต KB5070311 พบปัญหาน่ารำคาญ เมื่อเปิด File Explorer ในโหมดมืด หน้าต่างจะกระพริบเป็นสีขาวสว่างก่อนโหลดข้อมูล ซึ่งสร้างความไม่สบายตาและทำให้ประสบการณ์ใช้งานสะดุด แม้ Microsoft จะระบุว่านี่เป็นเพียงอัปเดตตัวทดลอง แต่ก็ทำให้ผู้ใช้หลายคนผิดหวัง เพราะฟีเจอร์ที่ควรทำให้ใช้งานราบรื่นกลับสร้างปัญหาแทน ตอนนี้ Microsoft กำลังเร่งแก้ไขเพื่อไม่ให้บั๊กนี้หลุดไปถึงเวอร์ชันเสถียร
    https://securityonline.info/microsoft-update-breaks-dark-mode-file-explorer-now-flashes-white-on-launch

    Google Phone App เพิ่มฟีเจอร์ “Call Reason” ให้โทรศัพท์ดูสำคัญขึ้น
    Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Phone ที่ชื่อว่า “Call Reason” ผู้โทรสามารถใส่เหตุผลประกอบการโทร เช่น “ด่วนมาก” หรือ “ประชุมสำคัญ” เพื่อให้ผู้รับรู้ทันทีว่าโทรศัพท์นั้นมีความสำคัญแค่ไหน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนไม่รับสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก หรือสายที่ไม่ระบุรายละเอียด การเพิ่มข้อความสั้น ๆ ก่อนโทรช่วยให้ผู้รับตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะรับสายทันทีหรือไม่
    https://securityonline.info/google-phone-app-gets-call-reason-mark-calls-as-urgent-to-ensure-a-pick-up

    AWS Bedrock เปิดตัวครั้งใหญ่ เพิ่ม 18 โมเดล AI และระบบ AgentCore ใหม่
    Amazon Web Services (AWS) ประกาศอัปเดตครั้งใหญ่ให้กับ Bedrock โดยเพิ่มโมเดล AI ใหม่ถึง 18 โมเดลจากหลายบริษัท พร้อมปรับปรุงระบบ AgentCore ที่ช่วยให้การทำงานของ AI มีความปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้น จุดเด่นคือการรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างคอนเทนต์ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก รวมถึงการเพิ่มระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่
    https://securityonline.info/aws-bedrock-unleashed-18-new-ai-models-agentcore-upgrades-and-enhanced-security

    AWS เปิดตัวชิป Trainium3 เร็วขึ้น 4.4 เท่า สำหรับงาน AI
    AWS เปิดตัวชิปใหม่ Trainium3 ที่ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI โดยเฉพาะ ชิปนี้ให้ประสิทธิภาพเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 4.4 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และถูกนำไปใช้ในเซิร์ฟเวอร์ EC2 UltraServers จุดเด่นคือการรองรับงาน AI ที่ซับซ้อน เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ และการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ของ AWS ให้แข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่นได้อย่างแข็งแกร่ง
    https://securityonline.info/aws-unleashes-trainium3-chip-4-4x-faster-ai-performance-for-ec2-ultraservers

    AWS AI Factories นำโครงสร้างพื้นฐาน AI ลงสู่ On-Premises
    AWS เปิดตัวแนวคิด “AI Factories” ที่ช่วยให้องค์กรสามารถนำโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สมบูรณ์แบบจากระบบคลาวด์มาติดตั้งใช้งานในสถานที่ของตัวเอง (On-Premises) เพื่อรองรับความต้องการด้าน Data Sovereignty หรือการควบคุมข้อมูลให้อยู่ในประเทศหรือองค์กรโดยตรง แนวทางนี้ตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการใช้ AI แต่มีข้อจำกัดด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยของข้อมูล
    https://securityonline.info/aws-ai-factories-bringing-full-cloud-ai-infrastructure-on-prem-for-data-sovereignty

    AWS เปิดตัวตระกูลโมเดล Nova 2 รองรับ Multimodal และ Agentic AI
    AWS ประกาศเปิดตัวโมเดลใหม่ในตระกูล Nova 2 ที่สามารถทำงานแบบ Multimodal คือรองรับทั้งข้อความ ภาพ และเสียง พร้อมฟีเจอร์ Agentic Nova Act ที่ช่วยให้ AI สามารถทำงานเชิงรุกได้มากขึ้น เช่น การตัดสินใจอัตโนมัติและการทำงานแทนมนุษย์ในบางกระบวนการ ถือเป็นการยกระดับความสามารถของ AWS ในการแข่งขันกับผู้ให้บริการ AI รายใหญ่ทั่วโลก
    https://securityonline.info/aws-unveils-nova-2-ai-model-family-with-multimodal-omni-agentic-nova-act

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251204 #securityonline 🛡️ React พบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ทีมพัฒนา React ออกประกาศฉุกเฉินหลังพบช่องโหว่ที่มีความรุนแรงสูงสุด (CVSS 10.0) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้เกิดจากกระบวนการถอดรหัสข้อมูลที่ส่งจาก client ไปยัง server ใน React Server Components (RSC) ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งแฝงเข้ามาและเข้าควบคุมระบบได้ทันที ปัญหานี้กระทบไปถึงเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router, Waku และอื่น ๆ โดยมีการออกแพตช์แก้ไขแล้วในหลายเวอร์ชัน นักพัฒนาจำเป็นต้องอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/catastrophic-react-flaw-cve-2025-55182-cvss-10-0-allows-unauthenticated-rce-on-next-js-and-server-components ⚠️ WordPress เจอช่องโหว่ CVE-2025-6389 ถูกโจมตีจริงแล้ว WordPress ที่ใช้ Sneeit Framework กำลังเผชิญการโจมตีครั้งใหญ่ หลังมีการเปิดเผยช่องโหว่ Remote Code Execution (RCE) ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้เกิดจากฟังก์ชัน sneeit_articles_pagination_callback() ที่เปิดให้ผู้ใช้ส่งข้อมูลเข้ามาโดยไม่ตรวจสอบ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเรียกใช้ฟังก์ชัน PHP ใด ๆ ได้ตามใจ ผลคือมีการสร้างบัญชีแอดมินปลอมและฝัง backdoor ลงในระบบทันที มีรายงานว่ามีการพยายามโจมตีมากกว่า 131,000 ครั้งแล้ว หากใครยังใช้เวอร์ชัน 8.3 หรือต่ำกว่า ต้องรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 8.4 โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce 🚨 Next.js เจอช่องโหว่ CVE-2025-66478 ระดับสูงสุด นักพัฒนา Next.js กำลังเจอวิกฤติครั้งใหญ่ เมื่อพบช่องโหว่ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้ ช่องโหว่นี้เชื่อมโยงกับ React Server Components (CVE-2025-55182) และส่งผลกระทบต่อ Next.js รุ่นใหม่ที่ใช้ App Router โดยตรง เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบคือ Next.js 15.x และ 16.x รวมถึง canary release ของ 14.3.0 ขึ้นไป ทางแก้เดียวคือการอัปเดตไปยังเวอร์ชันที่มีแพตช์ เช่น 15.0.5, 15.1.9 หรือ 16.0.7 หากยังใช้เวอร์ชันที่เสี่ยงอยู่ถือว่าเปิดช่องให้ถูกยึดระบบได้ทันที 🔗 https://securityonline.info/maximum-severity-alert-critical-rce-flaw-hits-next-js-cve-2025-66478-cvss-10-0 🧑‍💻 AWS เปิดตัว Frontier Agents: ทีมงาน AI อัตโนมัติ ที่งาน re:Invent 2025 AWS สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว “Frontier Agents” ซึ่งเป็น AI ที่ทำงานได้เหมือนทีมงานจริง ๆ สามารถรับภารกิจและทำงานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องมีคนคอยกำกับตลอดเวลา มีทั้งหมด 3 ตัวหลักคือ Kiro สำหรับงานพัฒนา, Security Agent สำหรับตรวจสอบความปลอดภัย และ DevOps Agent สำหรับแก้ปัญหาระบบที่ล่ม ตัวอย่างเช่น Kiro สามารถรับงานจาก GitHub แล้วแก้บั๊กหรือเพิ่ม test coverage ได้เอง ส่วน Security Agent ก็ช่วยตรวจสอบช่องโหว่ที่เครื่องมือทั่วไปมองไม่เห็น และ DevOps Agent สามารถหาสาเหตุระบบล่มได้ภายใน 15 นาที ซึ่งปกติวิศวกรอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง จุดสำคัญคือ AWS ต้องการให้คนทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และปล่อยเวลาไปทำงานเชิงกลยุทธ์แทน 🔗 https://securityonline.info/aws-frontier-agents-autonomous-ai-team-members-take-over-dev-security-and-ops 📦 AWS S3 Unleashed: ยุคใหม่ของการเก็บข้อมูล AI และ Big Data AWS ประกาศอัปเกรดครั้งใหญ่ให้กับ Amazon S3 โดยเพิ่มความสามารถในการเก็บและค้นหาข้อมูลแบบเวกเตอร์ (S3 Vectors) ที่รองรับได้ถึง 20 ล้านล้านเวกเตอร์ และเพิ่มขนาดไฟล์สูงสุดจาก 5 TB เป็น 50 TB ทำให้สามารถเก็บไฟล์ขนาดมหึมา เช่น วิดีโอความละเอียดสูงหรือ dataset สำหรับ AI ได้โดยไม่ต้องแบ่งไฟล์ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง batch operations ให้เร็วขึ้น 10 เท่า และเพิ่มฟีเจอร์ replication ข้าม region สำหรับ S3 Tables จุดเด่นคือช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 90% และทำให้การสร้างระบบ AI หรือ RAG ง่ายขึ้นมาก หลายองค์กรใหญ่ เช่น BMW และ Twilio ได้เริ่มใช้งานแล้ว 🔗 https://securityonline.info/aws-s3-unleashed-native-vector-storage-50-tb-max-object-size-for-ai-big-data 💾 Raspberry Pi ขึ้นราคาเพราะกระแส AI Raspberry Pi ประกาศขึ้นราคาทันทีสำหรับบางรุ่นของ Pi 4 และ Pi 5 เนื่องจากความต้องการหน่วยความจำทั่วโลกที่พุ่งสูงจากการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น รุ่นที่มีหน่วยความจำมากขึ้นจะขึ้นราคาหนักที่สุด เช่น Pi 5 (16GB) จาก 120 ดอลลาร์เป็น 145 ดอลลาร์ และ Pi 5 (8GB) จาก 80 ดอลลาร์เป็น 95 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Raspberry Pi ก็เปิดตัวรุ่นใหม่ราคาประหยัดคือ Pi 5 (1GB) ที่ 45 ดอลลาร์ เพื่อให้คนทั่วไปยังเข้าถึงได้ CEO Eben Upton ย้ำว่านี่เป็นการปรับราคาชั่วคราว และเมื่อสถานการณ์หน่วยความจำกลับมาปกติ ราคาจะลดลงอีกครั้ง 🔗 https://securityonline.info/raspberry-pi-price-hike-ai-boom-forces-price-increases-on-pi-4-and-pi-5-models 📱 Android 16 อัปเดตใหม่: AI สรุปแจ้งเตือนและฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้พิการ Google ปล่อยอัปเดตใหญ่ครั้งที่สองของ Android 16 โดยเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่ช่วยสรุปข้อความแจ้งเตือนยาว ๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้น และมี Notification Organizer ที่ช่วยจัดการแจ้งเตือนที่ไม่สำคัญให้อัตโนมัติ ด้านความปลอดภัยก็มีการกรองข้อความเชิญเข้ากลุ่มจากเบอร์แปลก และ Circle to Search สามารถตรวจสอบข้อความหลอกลวงได้ ฟีเจอร์ใหม่ยังรวมถึงการปรับแต่งไอคอน, Dark Theme ที่ครอบคลุมทุกแอป และ parental control ที่ใช้งานง่ายขึ้น ที่สำคัญคือการปรับปรุงด้าน accessibility เช่น TalkBack ที่ใช้ Gemini ช่วยแก้ไขข้อความด้วยเสียง, กล้องที่ให้คำแนะนำเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตา, AutoClick สำหรับผู้ใช้เมาส์ และ Expressive Captions ที่บอกอารมณ์ของผู้พูดในวิดีโอ ฟีเจอร์เหล่านี้เริ่มปล่อยให้ Pixel ก่อนและจะขยายไปยังอุปกรณ์อื่นในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/android-16-update-ai-notification-summaries-gemini-powered-accessibility-suite ⚙️ AWS Nova Forge: แพลตฟอร์มเปิดให้ปรับแต่งโมเดล Nova 2 AWS เปิดตัว Nova Forge ที่งาน re:Invent 2025 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล Nova 2 ได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ขั้น pre-training ไปจนถึง post-training ทำให้สามารถใส่ความรู้เฉพาะองค์กรเข้าไปในโมเดลโดยตรง ไม่ต้องพึ่งการเชื่อมต่อภายนอกที่อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เสถียร จุดเด่นคือความยืดหยุ่นในการปรับแต่งตามกฎและความรู้ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา AWS ยังเสริมระบบ guardrails เพื่อให้ลูกค้ากำหนดขอบเขตพฤติกรรมของโมเดลได้เอง นอกจากนี้ Nova Forge ยังสามารถใช้ปรับแต่ง Alexa+ ได้โดยตรง ทำให้บริการสำหรับองค์กรมีความเฉพาะตัวมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการสร้างโมเดล AI ให้ตอบโจทย์ธุรกิจได้จริง 🔗 https://securityonline.info/aws-nova-forge-open-training-platform-enables-deep-customization-of-nova-2-models 🛠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Vim for Windows (CVE-2025-66476) มีการค้นพบช่องโหว่ระดับสูงใน Vim เวอร์ชัน Windows ที่อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดอันตรายได้หากผู้ใช้เปิดไฟล์จากโฟลเดอร์ที่ถูกเจาะแล้ว ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ path ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังสคริปต์ไว้ในไฟล์ที่ดูเหมือนปกติได้ ผลคือผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมเครื่องโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์ล่าสุดเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-vim-for-windows-flaw-cve-2025-66476-risks-arbitrary-code-execution-from-compromised-folders 🐍 แคมเปญ Water Saci ใช้ LLM แปลงมัลแวร์เป็น Python นักวิจัยพบการโจมตีใหม่ชื่อ Water Saci ที่ใช้โมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ช่วยแปลงโค้ดมัลแวร์เป็น Python เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ จากนั้นแพร่กระจายผ่าน WhatsApp worm โดยส่งลิงก์ปลอมไปยังผู้ใช้ เมื่อเหยื่อคลิกก็จะติด Banking Trojan ที่ขโมยข้อมูลการเงิน จุดน่าสนใจคือการใช้ AI ในการปรับโค้ดให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ทำให้การโจมตียากต่อการตรวจจับมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/water-saci-campaign-uses-llms-to-convert-malware-to-python-spreads-banking-trojan-via-whatsapp-worm 🐝 Synology BeeStation พบช่องโหว่ SQL Injection แบบใหม่ มีการเปิดเผยช่องโหว่ใน Synology BeeStation ที่สามารถนำไปสู่การเข้าถึงสิทธิ์ root ได้ผ่านเทคนิค “Dirty File Write” ซึ่งเป็นการโจมตี SQL Injection รูปแบบใหม่ นักวิจัยได้เผยแพร่ PoC แล้ว ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์ได้ทันทีหากผู้ใช้ยังไม่อัปเดตแพตช์ ความร้ายแรงคือสามารถควบคุมระบบทั้งหมดได้โดยตรง Synology แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/synology-beestation-flaw-chain-leads-to-root-rce-via-novel-dirty-file-write-sql-injection-poc-available 🔒 Matanbuchus 3.0 เปลี่ยนจาก Downloader ไปสู่ Ransomware มัลแวร์ Matanbuchus ได้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 3.0 โดยเปลี่ยนบทบาทจากการเป็น downloader ไปสู่การทำงานเป็น ransomware เต็มรูปแบบ ใช้เทคนิคใหม่อย่าง Protobufs และ Intel QuickAssist เพื่อซ่อนการเข้าถึงและทำงานได้อย่างลับ ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น เพราะสามารถเข้ารหัสไฟล์และเรียกค่าไถ่ได้โดยตรง 🔗 https://securityonline.info/matanbuchus-3-0-downloader-pivots-to-ransomware-using-protobufs-and-quickassist-for-stealth-access 🕵️ ShadyPanda Spyware แฮ็กผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านราย มีรายงานว่า ShadyPanda Spyware ใช้ประโยชน์จากการอัปเดตอัตโนมัติของส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่เชื่อถือได้ เพื่อฝังโค้ดอันตรายและเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยตรง ส่งผลให้มีผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านรายถูกเจาะข้อมูล การโจมตีนี้อันตรายมากเพราะเกิดขึ้นผ่านช่องทางที่ผู้ใช้เชื่อถืออยู่แล้ว ทำให้ยากต่อการสังเกตหรือป้องกัน 🔗 https://securityonline.info/shadypanda-spyware-hacked-4-3-million-users-by-weaponizing-trusted-browser-extensions-via-auto-updates 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน WordPress ACF Extended มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Advanced Custom Fields: Extended ที่ถูกใช้งานบนเว็บไซต์กว่าแสนแห่งทั่วโลก ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องล็อกอินเข้าระบบ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยด้านความปลอดภัยที่ค้นพบได้รับเงินรางวัลจากการแจ้งเตือน เนื่องจากความเสี่ยงสูงสุดที่ช่องโหว่นี้สร้างขึ้น ทีมพัฒนาจึงรีบออกแพตช์แก้ไขและแนะนำให้ผู้ดูแลเว็บไซต์รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/critical-acf-extended-flaw-cve-2025-13486-cvss-9-8-allows-unauthenticated-rce-on-100k-wordpress-sites 📱 อินเดียบังคับใช้กฎ SIM-Binding บน WhatsApp และ Telegram รัฐบาลอินเดียออกข้อบังคับใหม่ที่เข้มงวดกับแอปแชทชื่อดังอย่าง WhatsApp, Telegram และอีกหลายแพลตฟอร์ม โดยกำหนดให้ผู้ใช้ต้องผูกบัญชีเข้ากับซิมการ์ดที่ออกในอินเดีย และต้องยืนยันตัวตนใหม่ทุก ๆ 6 ชั่วโมง หากไม่มีซิมที่เชื่อมโยงอยู่ บัญชีจะถูกล็อกทันที กฎนี้ถูกออกมาเพื่อป้องกันการใช้เบอร์โทรศัพท์อินเดียไปทำการหลอกลวงหรือฟิชชิ่งจากต่างประเทศ แม้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็สร้างคำถามว่าแพลตฟอร์มต่างชาติที่เน้นความเป็นส่วนตัวจะยอมทำตามหรือไม่ 🔗 https://securityonline.info/india-mandates-sim-binding-whatsapp-and-telegram-users-must-re-verify-every-6-hours 🚨 OpenAI ยกเลิกแผนโฆษณา หันมาโฟกัสคุณภาพ ChatGPT รับมือ Gemini OpenAI เคยทดลองเพิ่มโฆษณาใน ChatGPT เพื่อหารายได้ แต่ล่าสุดบริษัทตัดสินใจหยุดแผนนี้และหันมาเน้นพัฒนาคุณภาพของ ChatGPT ให้ดียิ่งขึ้น เหตุผลสำคัญคือการมาของ Google Gemini ที่กำลังดึงผู้ใช้จำนวนมากไป ทำให้ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ประกาศ “red alert” ภายในบริษัท พร้อมสั่งทีมงานเร่งพัฒนาโมเดล reasoning ใหม่ที่คาดว่าจะเหนือกว่า Gemini 3 รวมถึงปรับปรุงด้าน personalization และความเร็วในการใช้งาน เพื่อรักษาฐานผู้ใช้และความสามารถในการแข่งขัน 🔗 https://securityonline.info/red-alert-at-openai-ad-plans-dropped-to-focus-on-chatgpt-quality-amid-gemini-threat 🔒 Let’s Encrypt เตรียมลดอายุใบรับรองเหลือ 45 วันภายในปี 2028 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของระบบอินเทอร์เน็ต องค์กร CA/Browser Forum ได้ตกลงให้ลดอายุการใช้งานของใบรับรอง SSL/TLS จากเดิมเกือบ 400 วัน เหลือเพียง 45 วันเท่านั้น โดย Let’s Encrypt ประกาศว่าจะทยอยปรับตามข้อกำหนดนี้จนเสร็จสมบูรณ์ในปี 2028 การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่าผู้ดูแลระบบต้องมีการต่ออายุใบรับรองบ่อยขึ้น และต้องพึ่งพาการทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจทำให้เว็บไซต์ล่ม 🔗 https://securityonline.info/security-tightens-lets-encrypt-will-cap-certificate-validity-at-45-days-by-2028 💻 อัปเดต Windows ทำ Dark Mode พัง ไฟล์ Explorer กระพริบขาว ผู้ใช้ Windows 11 ที่ติดตั้งอัปเดต KB5070311 พบปัญหาน่ารำคาญ เมื่อเปิด File Explorer ในโหมดมืด หน้าต่างจะกระพริบเป็นสีขาวสว่างก่อนโหลดข้อมูล ซึ่งสร้างความไม่สบายตาและทำให้ประสบการณ์ใช้งานสะดุด แม้ Microsoft จะระบุว่านี่เป็นเพียงอัปเดตตัวทดลอง แต่ก็ทำให้ผู้ใช้หลายคนผิดหวัง เพราะฟีเจอร์ที่ควรทำให้ใช้งานราบรื่นกลับสร้างปัญหาแทน ตอนนี้ Microsoft กำลังเร่งแก้ไขเพื่อไม่ให้บั๊กนี้หลุดไปถึงเวอร์ชันเสถียร 🔗 https://securityonline.info/microsoft-update-breaks-dark-mode-file-explorer-now-flashes-white-on-launch 📞 Google Phone App เพิ่มฟีเจอร์ “Call Reason” ให้โทรศัพท์ดูสำคัญขึ้น Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Phone ที่ชื่อว่า “Call Reason” ผู้โทรสามารถใส่เหตุผลประกอบการโทร เช่น “ด่วนมาก” หรือ “ประชุมสำคัญ” เพื่อให้ผู้รับรู้ทันทีว่าโทรศัพท์นั้นมีความสำคัญแค่ไหน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนไม่รับสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก หรือสายที่ไม่ระบุรายละเอียด การเพิ่มข้อความสั้น ๆ ก่อนโทรช่วยให้ผู้รับตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะรับสายทันทีหรือไม่ 🔗 https://securityonline.info/google-phone-app-gets-call-reason-mark-calls-as-urgent-to-ensure-a-pick-up ☁️ AWS Bedrock เปิดตัวครั้งใหญ่ เพิ่ม 18 โมเดล AI และระบบ AgentCore ใหม่ Amazon Web Services (AWS) ประกาศอัปเดตครั้งใหญ่ให้กับ Bedrock โดยเพิ่มโมเดล AI ใหม่ถึง 18 โมเดลจากหลายบริษัท พร้อมปรับปรุงระบบ AgentCore ที่ช่วยให้การทำงานของ AI มีความปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้น จุดเด่นคือการรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างคอนเทนต์ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก รวมถึงการเพิ่มระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่ 🔗 https://securityonline.info/aws-bedrock-unleashed-18-new-ai-models-agentcore-upgrades-and-enhanced-security ⚡ AWS เปิดตัวชิป Trainium3 เร็วขึ้น 4.4 เท่า สำหรับงาน AI AWS เปิดตัวชิปใหม่ Trainium3 ที่ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI โดยเฉพาะ ชิปนี้ให้ประสิทธิภาพเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 4.4 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และถูกนำไปใช้ในเซิร์ฟเวอร์ EC2 UltraServers จุดเด่นคือการรองรับงาน AI ที่ซับซ้อน เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ และการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ของ AWS ให้แข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่นได้อย่างแข็งแกร่ง 🔗 https://securityonline.info/aws-unleashes-trainium3-chip-4-4x-faster-ai-performance-for-ec2-ultraservers 🏭 AWS AI Factories นำโครงสร้างพื้นฐาน AI ลงสู่ On-Premises AWS เปิดตัวแนวคิด “AI Factories” ที่ช่วยให้องค์กรสามารถนำโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สมบูรณ์แบบจากระบบคลาวด์มาติดตั้งใช้งานในสถานที่ของตัวเอง (On-Premises) เพื่อรองรับความต้องการด้าน Data Sovereignty หรือการควบคุมข้อมูลให้อยู่ในประเทศหรือองค์กรโดยตรง แนวทางนี้ตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการใช้ AI แต่มีข้อจำกัดด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยของข้อมูล 🔗 https://securityonline.info/aws-ai-factories-bringing-full-cloud-ai-infrastructure-on-prem-for-data-sovereignty 🤖 AWS เปิดตัวตระกูลโมเดล Nova 2 รองรับ Multimodal และ Agentic AI AWS ประกาศเปิดตัวโมเดลใหม่ในตระกูล Nova 2 ที่สามารถทำงานแบบ Multimodal คือรองรับทั้งข้อความ ภาพ และเสียง พร้อมฟีเจอร์ Agentic Nova Act ที่ช่วยให้ AI สามารถทำงานเชิงรุกได้มากขึ้น เช่น การตัดสินใจอัตโนมัติและการทำงานแทนมนุษย์ในบางกระบวนการ ถือเป็นการยกระดับความสามารถของ AWS ในการแข่งขันกับผู้ให้บริการ AI รายใหญ่ทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/aws-unveils-nova-2-ai-model-family-with-multimodal-omni-agentic-nova-act
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • MSI ปล่อย AGESA BIOS 1.2.8.0

    MSI ได้เปิดตัว BIOS รุ่นใหม่ที่ใช้ AGESA 1.2.8.0 บนเมนบอร์ดซีรีส์ X870E และ B850 โดยมีการระบุว่า ปรับปรุงความเข้ากันได้ของหน่วยความจำ (Memory Compatibility) แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาด ผู้ใช้บางรายรายงานว่าเครื่องไม่สามารถเข้าสู่ BIOS ได้เลยหลังจากอัปเดต ซึ่งถือเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานต่อเนื่อง

    ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังอัปเดต
    รายงานจากชุมชนผู้ใช้ เช่น Chiphell ระบุว่า หลังติดตั้ง BIOS รุ่นใหม่บน X870E Carbon WiFi เครื่องไม่สามารถบูตเข้าสู่ระบบได้ และเกิดการแครชซ้ำ ๆ ซึ่งบ่งชี้ถึงปัญหาด้านเสถียรภาพของเวอร์ชันนี้ ขณะเดียวกัน ASUS ก็มีการถอด BIOS รุ่น 1804 ที่ใช้ AGESA 1.2.7.0 ออก และแทนที่ด้วยรุ่นใหม่ 1805 เนื่องจากพบปัญหาคล้ายกัน

    สถานการณ์ในผู้ผลิตรายอื่น
    ASRock เลือกที่จะข้ามเวอร์ชัน 1.2.7.0 และกระโดดไปใช้ 1.2.8.0 โดยตรง แต่ยังอยู่ในสถานะ Beta ซึ่งสะท้อนว่า เวอร์ชัน 1.2.7.0 และ 1.2.8.0 อาจมีปัญหาพื้นฐาน ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ ทำให้ผู้ใช้เมนบอร์ดซีรีส์ 800 ของ AMD ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้
    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ไม่ควรรีบอัปเดต BIOS เวอร์ชันใหม่ทันที ควรรอให้ผู้ผลิตแก้ไขและปล่อยเวอร์ชันที่เสถียรกว่านี้ เนื่องจากการอัปเดต BIOS ที่มีปัญหาอาจทำให้เครื่องไม่สามารถใช้งานได้เลย และต้องเสียเวลาในการย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันก่อนหน้า

    สรุปสาระสำคัญ
    MSI ปล่อย AGESA BIOS 1.2.8.0
    รองรับเมนบอร์ด X870E และ B850
    ระบุว่าเพิ่มความเข้ากันได้ของหน่วยความจำ

    รายงานปัญหาจากผู้ใช้
    ไม่สามารถเข้าสู่ BIOS หรือระบบปฏิบัติการได้
    เครื่องเกิดการแครชซ้ำ ๆ หลังอัปเดต

    สถานการณ์ผู้ผลิตรายอื่น
    ASUS ถอด BIOS รุ่น 1804 และแทนด้วย 1805
    ASRock ข้ามเวอร์ชัน 1.2.7.0 ไปใช้ 1.2.8.0 แบบ Beta

    คำเตือนต่อผู้ใช้เมนบอร์ด AMD ซีรีส์ 800
    ไม่ควรรีบอัปเดต BIOS เวอร์ชันใหม่ทันที
    เสี่ยงต่อการใช้งานไม่ได้และต้องย้อนกลับเวอร์ชัน

    https://wccftech.com/msi-rolls-out-agesa-bios-1-2-8-0-but-may-block-system-to-enter-even-bios-screen/
    🖥️ MSI ปล่อย AGESA BIOS 1.2.8.0 MSI ได้เปิดตัว BIOS รุ่นใหม่ที่ใช้ AGESA 1.2.8.0 บนเมนบอร์ดซีรีส์ X870E และ B850 โดยมีการระบุว่า ปรับปรุงความเข้ากันได้ของหน่วยความจำ (Memory Compatibility) แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาด ผู้ใช้บางรายรายงานว่าเครื่องไม่สามารถเข้าสู่ BIOS ได้เลยหลังจากอัปเดต ซึ่งถือเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานต่อเนื่อง ⚠️ ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังอัปเดต รายงานจากชุมชนผู้ใช้ เช่น Chiphell ระบุว่า หลังติดตั้ง BIOS รุ่นใหม่บน X870E Carbon WiFi เครื่องไม่สามารถบูตเข้าสู่ระบบได้ และเกิดการแครชซ้ำ ๆ ซึ่งบ่งชี้ถึงปัญหาด้านเสถียรภาพของเวอร์ชันนี้ ขณะเดียวกัน ASUS ก็มีการถอด BIOS รุ่น 1804 ที่ใช้ AGESA 1.2.7.0 ออก และแทนที่ด้วยรุ่นใหม่ 1805 เนื่องจากพบปัญหาคล้ายกัน 🔄 สถานการณ์ในผู้ผลิตรายอื่น ASRock เลือกที่จะข้ามเวอร์ชัน 1.2.7.0 และกระโดดไปใช้ 1.2.8.0 โดยตรง แต่ยังอยู่ในสถานะ Beta ซึ่งสะท้อนว่า เวอร์ชัน 1.2.7.0 และ 1.2.8.0 อาจมีปัญหาพื้นฐาน ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ ทำให้ผู้ใช้เมนบอร์ดซีรีส์ 800 ของ AMD ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ 🔮 คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ไม่ควรรีบอัปเดต BIOS เวอร์ชันใหม่ทันที ควรรอให้ผู้ผลิตแก้ไขและปล่อยเวอร์ชันที่เสถียรกว่านี้ เนื่องจากการอัปเดต BIOS ที่มีปัญหาอาจทำให้เครื่องไม่สามารถใช้งานได้เลย และต้องเสียเวลาในการย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันก่อนหน้า 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ MSI ปล่อย AGESA BIOS 1.2.8.0 ➡️ รองรับเมนบอร์ด X870E และ B850 ➡️ ระบุว่าเพิ่มความเข้ากันได้ของหน่วยความจำ ✅ รายงานปัญหาจากผู้ใช้ ➡️ ไม่สามารถเข้าสู่ BIOS หรือระบบปฏิบัติการได้ ➡️ เครื่องเกิดการแครชซ้ำ ๆ หลังอัปเดต ✅ สถานการณ์ผู้ผลิตรายอื่น ➡️ ASUS ถอด BIOS รุ่น 1804 และแทนด้วย 1805 ➡️ ASRock ข้ามเวอร์ชัน 1.2.7.0 ไปใช้ 1.2.8.0 แบบ Beta ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้เมนบอร์ด AMD ซีรีส์ 800 ⛔ ไม่ควรรีบอัปเดต BIOS เวอร์ชันใหม่ทันที ⛔ เสี่ยงต่อการใช้งานไม่ได้และต้องย้อนกลับเวอร์ชัน https://wccftech.com/msi-rolls-out-agesa-bios-1-2-8-0-but-may-block-system-to-enter-even-bios-screen/
    WCCFTECH.COM
    MSI Rolls Out AGESA BIOS 1.2.8.0 Update That Reportedly Prevents System From Entering BIOS Screen
    MSI has rolled out a new AGESA BIOS version 1.2.8.0 for X870E, which offers improved memory compatibility, but users are facing critical issues.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASUS หยุดส่ง ROG Matrix RTX 5090

    รายงานล่าสุดเผยว่า ASUS ได้หยุดการส่งมอบการ์ดจอ ROG Matrix RTX 5090 ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงที่มีราคาสูงถึง 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยสาเหตุเกิดจาก ปัญหาด้านคุณภาพการผลิต (Quality Control) ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ ทำให้การ์ดจอรุ่นนี้อาจถูก “พักสายการผลิต” ชั่วคราวหรือแม้กระทั่งถูกยกเลิก

    ปัญหาคุณภาพที่กระทบ Halo Card
    ROG Matrix RTX 5090 ถูกออกแบบมาเป็น Halo Product หรือสินค้าระดับโชว์ศักยภาพสูงสุดของแบรนด์ แต่กลับเจอปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถส่งมอบได้ตามกำหนด ซึ่งสร้างความกังวลในตลาด เนื่องจากการ์ดจอรุ่นนี้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ถูกจับตามากที่สุดในยุค GPU รุ่นใหม่ของ NVIDIA

    ผลกระทบต่อตลาดและผู้ใช้
    การหยุดส่งมอบครั้งนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ตั้งใจซื้อการ์ดจอรุ่นพิเศษต้องรอโดยไม่มีกำหนด และอาจกระทบต่อ ภาพลักษณ์ของ ASUS ในฐานะผู้ผลิตที่เน้นคุณภาพสูง ขณะเดียวกันตลาด GPU ระดับพรีเมียมก็อาจสูญเสียแรงดึงดูดชั่วคราว เนื่องจากคู่แข่งอย่าง MSI และ Gigabyte ยังไม่มีรุ่นที่ท้าชน Halo Card ในระดับราคาเดียวกัน

    อนาคตของ ROG Matrix RTX 5090
    ยังไม่ชัดเจนว่า ASUS จะกลับมาแก้ไขและส่งมอบการ์ดจอรุ่นนี้ในอนาคตหรือไม่ หากปัญหาคุณภาพไม่สามารถแก้ไขได้ทันเวลา อาจทำให้ ROG Matrix RTX 5090 กลายเป็น โปรเจกต์ที่ถูกยกเลิก ซึ่งจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ต่อกลยุทธ์ Halo Product ของ ASUS

    สรุปสาระสำคัญ

    ASUS หยุดส่งมอบ ROG Matrix RTX 5090
    ราคาสูงถึง 4,000 ดอลลาร์
    ปัญหาควบคุมคุณภาพเป็นสาเหตุหลัก

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด
    ผู้ซื้อที่รอคอยต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด
    ตลาด GPU ระดับพรีเมียมขาด Halo Card ที่โดดเด่น

    คำเตือนต่อผู้บริโภค
    การ์ดจอรุ่นนี้อาจถูกยกเลิกหากแก้ไขปัญหาไม่ได้
    ผู้ที่วางแผนซื้อควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/asus-reportedly-halts-rog-matrix-rtx-5090-shipments-usd4-000-halo-card-could-be-dead-in-its-tracks-for-now-due-to-quality-control-issue
    💻 ASUS หยุดส่ง ROG Matrix RTX 5090 รายงานล่าสุดเผยว่า ASUS ได้หยุดการส่งมอบการ์ดจอ ROG Matrix RTX 5090 ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงที่มีราคาสูงถึง 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยสาเหตุเกิดจาก ปัญหาด้านคุณภาพการผลิต (Quality Control) ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ ทำให้การ์ดจอรุ่นนี้อาจถูก “พักสายการผลิต” ชั่วคราวหรือแม้กระทั่งถูกยกเลิก ⚠️ ปัญหาคุณภาพที่กระทบ Halo Card ROG Matrix RTX 5090 ถูกออกแบบมาเป็น Halo Product หรือสินค้าระดับโชว์ศักยภาพสูงสุดของแบรนด์ แต่กลับเจอปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถส่งมอบได้ตามกำหนด ซึ่งสร้างความกังวลในตลาด เนื่องจากการ์ดจอรุ่นนี้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ถูกจับตามากที่สุดในยุค GPU รุ่นใหม่ของ NVIDIA 📉 ผลกระทบต่อตลาดและผู้ใช้ การหยุดส่งมอบครั้งนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ตั้งใจซื้อการ์ดจอรุ่นพิเศษต้องรอโดยไม่มีกำหนด และอาจกระทบต่อ ภาพลักษณ์ของ ASUS ในฐานะผู้ผลิตที่เน้นคุณภาพสูง ขณะเดียวกันตลาด GPU ระดับพรีเมียมก็อาจสูญเสียแรงดึงดูดชั่วคราว เนื่องจากคู่แข่งอย่าง MSI และ Gigabyte ยังไม่มีรุ่นที่ท้าชน Halo Card ในระดับราคาเดียวกัน 🔮 อนาคตของ ROG Matrix RTX 5090 ยังไม่ชัดเจนว่า ASUS จะกลับมาแก้ไขและส่งมอบการ์ดจอรุ่นนี้ในอนาคตหรือไม่ หากปัญหาคุณภาพไม่สามารถแก้ไขได้ทันเวลา อาจทำให้ ROG Matrix RTX 5090 กลายเป็น โปรเจกต์ที่ถูกยกเลิก ซึ่งจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ต่อกลยุทธ์ Halo Product ของ ASUS 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ASUS หยุดส่งมอบ ROG Matrix RTX 5090 ➡️ ราคาสูงถึง 4,000 ดอลลาร์ ➡️ ปัญหาควบคุมคุณภาพเป็นสาเหตุหลัก ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด ➡️ ผู้ซื้อที่รอคอยต้องเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด ➡️ ตลาด GPU ระดับพรีเมียมขาด Halo Card ที่โดดเด่น ‼️ คำเตือนต่อผู้บริโภค ⛔ การ์ดจอรุ่นนี้อาจถูกยกเลิกหากแก้ไขปัญหาไม่ได้ ⛔ ผู้ที่วางแผนซื้อควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด https://www.tomshardware.com/tech-industry/asus-reportedly-halts-rog-matrix-rtx-5090-shipments-usd4-000-halo-card-could-be-dead-in-its-tracks-for-now-due-to-quality-control-issue
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • Micron ปิดฉาก Crucial Consumer Line

    Micron Technology บริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก ประกาศว่าจะ หยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Crucial สำหรับผู้ใช้ทั่วไปภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2026 หลังจากดำเนินธุรกิจแบรนด์นี้มากว่า 29 ปี โดยจะหันไปเน้นการผลิต DRAM และ SSD ระดับองค์กร รวมถึง High-Bandwidth Memory (HBM) ที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    เหตุผล: AI กำลังกลืนกินทรัพยากรหน่วยความจำโลก
    Micron ระบุว่า ความต้องการหน่วยความจำและสตอเรจจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังพุ่งสูงจนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกเวเฟอร์ที่ผลิตได้จำเป็นต้องส่งไปยังลูกค้ารายใหญ่ในตลาดองค์กรและ Hyperscaler หากยังคงผลิตสินค้า Consumer จะทำให้เสียโอกาสและกระทบต่อความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับลูกค้ารายสำคัญ

    ปัจจัยด้านธุรกิจและต้นทุน
    ตลาด Consumer SSD และ DRAM มี กำไรต่ำและแข่งขันสูง ทำให้ Micron มองว่าไม่คุ้มค่าที่จะรักษาสายการผลิตไว้ แม้จะลดขนาดธุรกิจลงก็ยังต้องแบกรับต้นทุนคงที่ เช่น การพัฒนาเฟิร์มแวร์ การทดสอบมาตรฐาน และการดูแลการรับประกันทั่วโลก ซึ่งไม่สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนในตลาดองค์กรที่มี สัญญาระยะยาวและราคาขายสูงกว่า

    ผลกระทบและอนาคต
    หลังจากหยุดจำหน่าย Crucial Micron จะยังคงให้บริการรับประกันและการสนับสนุนลูกค้าที่ซื้อไปแล้ว แต่ตลาดผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องพึ่งพาแบรนด์อื่นแทน เช่น Samsung, Kingston หรือ Adata ขณะที่ Micron จะทุ่มทรัพยากรไปพัฒนา HBM4/HBM4E และ SSD สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการประมวลผล AI ในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    Micron ยุติ Crucial Consumer Line ภายในกุมภาพันธ์ 2026
    หยุดจำหน่าย SSD และ DRAM สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    ยังคงให้บริการรับประกันและซัพพอร์ตหลังการขาย

    หันไปโฟกัสตลาดองค์กรและ AI
    ผลิต HBM, SSD สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ DRAM ระดับองค์กร
    รองรับความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

    เหตุผลด้านธุรกิจและต้นทุน
    ตลาด Consumer กำไรต่ำ แข่งขันสูง
    การรักษาสายการผลิตเล็ก ๆ ยังมีต้นทุนคงที่สูง

    คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป
    หลังปี 2026 จะไม่สามารถซื้อ Crucial SSD/DRAM รุ่นใหม่ได้อีก
    ผู้ใช้ต้องเลือกแบรนด์อื่นแทน เช่น Samsung, Kingston, Adata

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-is-killing-crucial-ssds-and-memory-in-ai-pivot-company-refocuses-on-hbm-and-enterprise-customers
    🏭 Micron ปิดฉาก Crucial Consumer Line Micron Technology บริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก ประกาศว่าจะ หยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Crucial สำหรับผู้ใช้ทั่วไปภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2026 หลังจากดำเนินธุรกิจแบรนด์นี้มากว่า 29 ปี โดยจะหันไปเน้นการผลิต DRAM และ SSD ระดับองค์กร รวมถึง High-Bandwidth Memory (HBM) ที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 🤖 เหตุผล: AI กำลังกลืนกินทรัพยากรหน่วยความจำโลก Micron ระบุว่า ความต้องการหน่วยความจำและสตอเรจจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังพุ่งสูงจนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกเวเฟอร์ที่ผลิตได้จำเป็นต้องส่งไปยังลูกค้ารายใหญ่ในตลาดองค์กรและ Hyperscaler หากยังคงผลิตสินค้า Consumer จะทำให้เสียโอกาสและกระทบต่อความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับลูกค้ารายสำคัญ 💰 ปัจจัยด้านธุรกิจและต้นทุน ตลาด Consumer SSD และ DRAM มี กำไรต่ำและแข่งขันสูง ทำให้ Micron มองว่าไม่คุ้มค่าที่จะรักษาสายการผลิตไว้ แม้จะลดขนาดธุรกิจลงก็ยังต้องแบกรับต้นทุนคงที่ เช่น การพัฒนาเฟิร์มแวร์ การทดสอบมาตรฐาน และการดูแลการรับประกันทั่วโลก ซึ่งไม่สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนในตลาดองค์กรที่มี สัญญาระยะยาวและราคาขายสูงกว่า 🔮 ผลกระทบและอนาคต หลังจากหยุดจำหน่าย Crucial Micron จะยังคงให้บริการรับประกันและการสนับสนุนลูกค้าที่ซื้อไปแล้ว แต่ตลาดผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องพึ่งพาแบรนด์อื่นแทน เช่น Samsung, Kingston หรือ Adata ขณะที่ Micron จะทุ่มทรัพยากรไปพัฒนา HBM4/HBM4E และ SSD สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการประมวลผล AI ในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Micron ยุติ Crucial Consumer Line ภายในกุมภาพันธ์ 2026 ➡️ หยุดจำหน่าย SSD และ DRAM สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ➡️ ยังคงให้บริการรับประกันและซัพพอร์ตหลังการขาย ✅ หันไปโฟกัสตลาดองค์กรและ AI ➡️ ผลิต HBM, SSD สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ DRAM ระดับองค์กร ➡️ รองรับความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ✅ เหตุผลด้านธุรกิจและต้นทุน ➡️ ตลาด Consumer กำไรต่ำ แข่งขันสูง ➡️ การรักษาสายการผลิตเล็ก ๆ ยังมีต้นทุนคงที่สูง ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ หลังปี 2026 จะไม่สามารถซื้อ Crucial SSD/DRAM รุ่นใหม่ได้อีก ⛔ ผู้ใช้ต้องเลือกแบรนด์อื่นแทน เช่น Samsung, Kingston, Adata https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-is-killing-crucial-ssds-and-memory-in-ai-pivot-company-refocuses-on-hbm-and-enterprise-customers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts