• สาวรายหนึ่งชาวเดชอุดม อุบลราชธานี บุกด่าทักษิณในช่วงไปเยือนศูนย์อพยพฯ ทำข้าวผัดโชว์ ถาม "เป็นเพื่อนกับฮุนเซน ทำไมปล่อยให้ฆ่าคนไทย" ไม่ต้องการคำตอบเพราะทักษิณไม่ฟัง มีแต่คนไทยช่วยกันเอง ให้กำลังใจทหาร ชี้ กัมพูชายังไม่ยุติถ้ายังมีอาวุธ และรัฐบาลไทยยังเข้าข้างเขาอยู่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070588

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สาวรายหนึ่งชาวเดชอุดม อุบลราชธานี บุกด่าทักษิณในช่วงไปเยือนศูนย์อพยพฯ ทำข้าวผัดโชว์ ถาม "เป็นเพื่อนกับฮุนเซน ทำไมปล่อยให้ฆ่าคนไทย" ไม่ต้องการคำตอบเพราะทักษิณไม่ฟัง มีแต่คนไทยช่วยกันเอง ให้กำลังใจทหาร ชี้ กัมพูชายังไม่ยุติถ้ายังมีอาวุธ และรัฐบาลไทยยังเข้าข้างเขาอยู่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070588 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ “การรู้เร็ว” คืออาวุธลับขององค์กร

    ลองจินตนาการว่าองค์กรของคุณมีระบบความปลอดภัยครบครัน แต่กลับรู้ว่าข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานถูกแฮก...จากอีเมลเรียกค่าไถ่ หรือจากฝ่ายซัพพอร์ตที่แจ้งว่ามีคนล็อกอินผิดปกติ!

    นั่นคือปัญหาที่ xonPlus ต้องการแก้—แพลตฟอร์มใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวจากทีมเบื้องหลัง XposedOrNot ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูลที่มีผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก

    xonPlus ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถรู้ได้ทันทีเมื่ออีเมลหรือโดเมนขององค์กรปรากฏในฐานข้อมูลรั่วไหลหรือฟอรั่มในดาร์กเว็บ พร้อมแจ้งเตือนภายในไม่กี่นาทีหลังจากพบข้อมูลรั่วจริง

    ระบบนี้ไม่เพียงแค่ตรวจจับ แต่ยังเชื่อมต่อกับเครื่องมือที่องค์กรใช้อยู่แล้ว เช่น SIEM, Slack, Microsoft Teams และอีเมล เพื่อให้การตอบสนองเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

    จุดเด่นของ xonPlus ที่ปรากฏในข่าว
    แจ้งเตือนการรั่วไหลของข้อมูลแบบเรียลไทม์
    ตรวจพบข้อมูลบัญชีที่รั่วใน breach dumps หรือ dark web
    แจ้งเตือนภายในไม่กี่นาที พร้อมแหล่งที่มาและคำแนะนำ

    สร้างบนฐานข้อมูลของ XposedOrNot
    ใช้ข้อมูลจากการติดตาม breach กว่า 10 พันล้านรายการใน 8 ปี
    รองรับการค้นหาหลายล้านครั้งทั่วโลก

    โครงสร้างที่ปลอดภัยระดับองค์กร
    ใช้ Cloudflare และ Google Cloud เป็นโครงสร้างพื้นฐาน
    รองรับการใช้งานระดับ enterprise ด้วยความเร็วและความเสถียรสูง

    เชื่อมต่อกับระบบที่องค์กรใช้อยู่แล้ว
    รองรับการเชื่อมต่อกับ SIEM, Slack, Microsoft Teams และอีเมล
    มี API สำหรับนักพัฒนา พร้อมระบบ log และ token

    รองรับการตรวจสอบหลายโดเมนและอีเมลจำนวนมาก
    ตั้งค่า threshold การแจ้งเตือนได้ตามต้องการ
    ใช้งานได้ทั้งองค์กรใหญ่และทีมเล็กที่ไม่มี SOC

    มีโมเดลการใช้งานที่ยืดหยุ่นและราคาคุ้มค่า
    ค่าบริการแบบรายเดือนที่โปร่งใส
    ประหยัดกว่าระบบ threat intel แบบเดิมถึง 5–10 เท่า

    องค์กรที่ไม่มีระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เสี่ยงสูง
    อาจรู้ตัวช้าเมื่อข้อมูลบัญชีถูกแฮก
    การตอบสนองล่าช้าอาจนำไปสู่การเข้าถึงระบบภายในโดยผู้ไม่หวังดี

    การพึ่งพาเครื่องมือแบบเดิมอาจไม่ทันต่อภัยคุกคามยุคใหม่
    ระบบที่ต้องตั้งค่าซับซ้อนและสัญญาระยะยาวอาจไม่เหมาะกับทีมเล็ก
    การไม่มี API หรือการเชื่อมต่อกับระบบที่ใช้อยู่แล้วทำให้การตอบสนองช้า

    การไม่ตรวจสอบข้อมูลใน dark web เป็นช่องโหว่สำคัญ
    ข้อมูลที่รั่วอาจถูกใช้โจมตีแบบ account takeover หรือ ransomware
    การไม่รู้ว่าข้อมูลขององค์กรอยู่ในมือใครคือความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้

    https://hackread.com/xonplus-launches-real-time-breach-alerting-platform-for-enterprise-credential-exposure/
    🧠 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ “การรู้เร็ว” คืออาวุธลับขององค์กร ลองจินตนาการว่าองค์กรของคุณมีระบบความปลอดภัยครบครัน แต่กลับรู้ว่าข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานถูกแฮก...จากอีเมลเรียกค่าไถ่ หรือจากฝ่ายซัพพอร์ตที่แจ้งว่ามีคนล็อกอินผิดปกติ! นั่นคือปัญหาที่ xonPlus ต้องการแก้—แพลตฟอร์มใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวจากทีมเบื้องหลัง XposedOrNot ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูลที่มีผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก xonPlus ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถรู้ได้ทันทีเมื่ออีเมลหรือโดเมนขององค์กรปรากฏในฐานข้อมูลรั่วไหลหรือฟอรั่มในดาร์กเว็บ พร้อมแจ้งเตือนภายในไม่กี่นาทีหลังจากพบข้อมูลรั่วจริง ระบบนี้ไม่เพียงแค่ตรวจจับ แต่ยังเชื่อมต่อกับเครื่องมือที่องค์กรใช้อยู่แล้ว เช่น SIEM, Slack, Microsoft Teams และอีเมล เพื่อให้การตอบสนองเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ⭕ จุดเด่นของ xonPlus ที่ปรากฏในข่าว ✅ แจ้งเตือนการรั่วไหลของข้อมูลแบบเรียลไทม์ ➡️ ตรวจพบข้อมูลบัญชีที่รั่วใน breach dumps หรือ dark web ➡️ แจ้งเตือนภายในไม่กี่นาที พร้อมแหล่งที่มาและคำแนะนำ ✅ สร้างบนฐานข้อมูลของ XposedOrNot ➡️ ใช้ข้อมูลจากการติดตาม breach กว่า 10 พันล้านรายการใน 8 ปี ➡️ รองรับการค้นหาหลายล้านครั้งทั่วโลก ✅ โครงสร้างที่ปลอดภัยระดับองค์กร ➡️ ใช้ Cloudflare และ Google Cloud เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ รองรับการใช้งานระดับ enterprise ด้วยความเร็วและความเสถียรสูง ✅ เชื่อมต่อกับระบบที่องค์กรใช้อยู่แล้ว ➡️ รองรับการเชื่อมต่อกับ SIEM, Slack, Microsoft Teams และอีเมล ➡️ มี API สำหรับนักพัฒนา พร้อมระบบ log และ token ✅ รองรับการตรวจสอบหลายโดเมนและอีเมลจำนวนมาก ➡️ ตั้งค่า threshold การแจ้งเตือนได้ตามต้องการ ➡️ ใช้งานได้ทั้งองค์กรใหญ่และทีมเล็กที่ไม่มี SOC ✅ มีโมเดลการใช้งานที่ยืดหยุ่นและราคาคุ้มค่า ➡️ ค่าบริการแบบรายเดือนที่โปร่งใส ➡️ ประหยัดกว่าระบบ threat intel แบบเดิมถึง 5–10 เท่า ‼️ องค์กรที่ไม่มีระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เสี่ยงสูง ⛔ อาจรู้ตัวช้าเมื่อข้อมูลบัญชีถูกแฮก ⛔ การตอบสนองล่าช้าอาจนำไปสู่การเข้าถึงระบบภายในโดยผู้ไม่หวังดี ‼️ การพึ่งพาเครื่องมือแบบเดิมอาจไม่ทันต่อภัยคุกคามยุคใหม่ ⛔ ระบบที่ต้องตั้งค่าซับซ้อนและสัญญาระยะยาวอาจไม่เหมาะกับทีมเล็ก ⛔ การไม่มี API หรือการเชื่อมต่อกับระบบที่ใช้อยู่แล้วทำให้การตอบสนองช้า ‼️ การไม่ตรวจสอบข้อมูลใน dark web เป็นช่องโหว่สำคัญ ⛔ ข้อมูลที่รั่วอาจถูกใช้โจมตีแบบ account takeover หรือ ransomware ⛔ การไม่รู้ว่าข้อมูลขององค์กรอยู่ในมือใครคือความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ https://hackread.com/xonplus-launches-real-time-breach-alerting-platform-for-enterprise-credential-exposure/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: หนังสือที่เปลี่ยนผู้นำให้กลายเป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์

    ลองนึกภาพว่าคุณเป็น CISO (Chief Information Security Officer) ที่ต้องรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ตลอดเวลา ทั้งการโจมตีแบบใหม่ ความเสี่ยงจากพฤติกรรมมนุษย์ และแรงกดดันจากผู้บริหารระดับสูง คุณจะพึ่งพาอะไรเพื่อพัฒนาทักษะการตัดสินใจและความเป็นผู้นำ?

    คำตอบของผู้นำหลายคนคือ “หนังสือ” — ไม่ใช่แค่คู่มือเทคนิค แต่เป็นแหล่งความรู้ที่ช่วยให้พวกเขาเข้าใจความเสี่ยง มนุษย์ และตัวเองได้ลึกซึ้งขึ้น

    จากการสำรวจของ CSO Online พบว่า CISO ชั้นนำแนะนำหนังสือหลากหลายแนว ตั้งแต่จิตวิทยาการตัดสินใจอย่าง Thinking, Fast and Slow ไปจนถึงการวัดความเสี่ยงแบบใหม่ใน How to Measure Anything in Cybersecurity Risk และแม้แต่หนังสืออย่าง The Art of Deception ที่เผยกลยุทธ์ของแฮกเกอร์ในการหลอกล่อมนุษย์

    สิ่งที่น่าสนใจคือ หลายคนยังแนะนำหนังสือที่ไม่เกี่ยวกับไซเบอร์โดยตรง เช่น The Alchemist หรือ Our Town เพื่อเตือนตัวเองให้กลับมาโฟกัสกับชีวิตและความหมายที่แท้จริง

    หนังสือที่ช่วยพัฒนาทักษะการวัดและจัดการความเสี่ยง

    How to Measure Anything in Cybersecurity Risk โดย Douglas Hubbard & Richard Seiersen
    เสนอวิธีวัดความเสี่ยงแบบกึ่งปริมาณที่แม่นยำกว่าการใช้ risk matrix
    ได้รับการแนะนำจากหลาย CISO เช่น Daniel Schatz และ James Blake

    Superforecasting โดย Philip Tetlock & Dan Gardner
    เจาะลึกศาสตร์แห่งการพยากรณ์อนาคตอย่างมีหลักการ
    มีตัวอย่างจริงและแนวทางสร้างการคาดการณ์ที่แม่นยำ

    หนังสือที่ช่วยลด “เสียงรบกวน” ในการตัดสินใจ

    Thinking, Fast and Slow โดย Daniel Kahneman
    อธิบายระบบคิดแบบเร็ว (System 1) และช้า (System 2)
    ช่วยให้เข้าใจอคติและข้อผิดพลาดในการตัดสินใจ

    Noise โดย Kahneman และทีม
    วิเคราะห์ว่าทำไมมนุษย์ถึงตัดสินใจผิดเพราะ “เสียงรบกวน”
    เสนอวิธีลดความผิดพลาดในการประเมินสถานการณ์

    Yeah, But โดย Marc Wolfe
    ช่วยให้ผู้นำจัดการกับเสียงในหัวที่ขัดขวางการเปลี่ยนแปลง
    ส่งเสริมความชัดเจนในการคิดและการนำทีม

    Digital Minimalism โดย Cal Newport
    ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ
    ช่วยปกป้องเวลาและความสนใจของผู้นำ

    Better Than Before โดย Gretchen Rubin
    เสนอกรอบการสร้างนิสัยที่ดีเพื่อสนับสนุนเป้าหมายชีวิตและงาน

    หนังสือที่เน้นความเสี่ยงจากพฤติกรรมมนุษย์

    The Art of Deception โดย Kevin Mitnick
    เผยกลยุทธ์ social engineering ที่แฮกเกอร์ใช้หลอกมนุษย์
    ยังคงเป็นหนังสือพื้นฐานที่มีคุณค่าแม้จะตีพิมพ์มานาน

    Secrets and Lies โดย Bruce Schneier
    อธิบายความซับซ้อนของความปลอดภัยดิจิทัล
    เน้นว่าการจัดการพฤติกรรมมนุษย์สำคัญไม่แพ้เทคโนโลยี

    Human Hacked โดย Len Noe
    เจาะลึกผลกระทบของ AI ต่อการตัดสินใจของมนุษย์
    เตือนถึงผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดจากการผสานมนุษย์กับเทคโนโลยี

    ความเสี่ยงจากการละเลยพฤติกรรมมนุษย์ในระบบความปลอดภัย
    องค์กรที่เน้นเทคโนโลยีอย่างเดียวอาจพลาดช่องโหว่จากมนุษย์
    การไม่เข้าใจ social engineering ทำให้ระบบถูกเจาะง่ายขึ้น

    หนังสือที่ช่วยพัฒนาภาวะผู้นำ

    Dare to Lead โดย Brené Brown
    เน้นความกล้าหาญทางอารมณ์และความยืดหยุ่น
    ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและรับผิดชอบ

    Radical Candor โดย Kim Scott
    เสนอกรอบการให้ feedback ที่ตรงไปตรงมาแต่มีความเห็นอกเห็นใจ
    ช่วยสร้างวัฒนธรรมการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

    ความเสี่ยงจากการเป็นผู้นำที่ขาดความเห็นอกเห็นใจ
    ผู้นำที่เน้นเทคนิคแต่ละเลยมนุษย์อาจสร้างทีมที่ไม่ยั่งยืน
    การขาด feedback ที่มีคุณภาพทำให้ทีมขาดการพัฒนา

    หนังสือที่เตือนให้กลับมาโฟกัสกับชีวิต

    Our Town โดย Thornton Wilder
    เตือนให้เห็นคุณค่าของชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์
    ช่วยให้ผู้นำกลับมาโฟกัสกับสิ่งสำคัญนอกเหนือจากงาน

    The Alchemist โดย Paulo Coelho
    เรื่องราวการเดินทางตามความฝันที่เต็มไปด้วยบทเรียนชีวิต
    สะท้อนความกล้าหาญในการเลือกเส้นทางที่ไม่เป็นไปตามกรอบเดิม

    Get Out of I.T. While You Can โดย Craig Schiefelbein
    ท้าทายให้ผู้นำไอทีทบทวนบทบาทและคุณค่าของตน
    กระตุ้นให้สร้างผลกระทบเชิงกลยุทธ์มากกว่าการทำงานเชิงเทคนิค

    https://www.csoonline.com/article/4027000/the-books-shaping-todays-cybersecurity-leaders.html
    📚 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: หนังสือที่เปลี่ยนผู้นำให้กลายเป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์ ลองนึกภาพว่าคุณเป็น CISO (Chief Information Security Officer) ที่ต้องรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ตลอดเวลา ทั้งการโจมตีแบบใหม่ ความเสี่ยงจากพฤติกรรมมนุษย์ และแรงกดดันจากผู้บริหารระดับสูง คุณจะพึ่งพาอะไรเพื่อพัฒนาทักษะการตัดสินใจและความเป็นผู้นำ? คำตอบของผู้นำหลายคนคือ “หนังสือ” — ไม่ใช่แค่คู่มือเทคนิค แต่เป็นแหล่งความรู้ที่ช่วยให้พวกเขาเข้าใจความเสี่ยง มนุษย์ และตัวเองได้ลึกซึ้งขึ้น จากการสำรวจของ CSO Online พบว่า CISO ชั้นนำแนะนำหนังสือหลากหลายแนว ตั้งแต่จิตวิทยาการตัดสินใจอย่าง Thinking, Fast and Slow ไปจนถึงการวัดความเสี่ยงแบบใหม่ใน How to Measure Anything in Cybersecurity Risk และแม้แต่หนังสืออย่าง The Art of Deception ที่เผยกลยุทธ์ของแฮกเกอร์ในการหลอกล่อมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือ หลายคนยังแนะนำหนังสือที่ไม่เกี่ยวกับไซเบอร์โดยตรง เช่น The Alchemist หรือ Our Town เพื่อเตือนตัวเองให้กลับมาโฟกัสกับชีวิตและความหมายที่แท้จริง 📙📖 หนังสือที่ช่วยพัฒนาทักษะการวัดและจัดการความเสี่ยง ⭕ ✅ How to Measure Anything in Cybersecurity Risk โดย Douglas Hubbard & Richard Seiersen ➡️ เสนอวิธีวัดความเสี่ยงแบบกึ่งปริมาณที่แม่นยำกว่าการใช้ risk matrix ➡️ ได้รับการแนะนำจากหลาย CISO เช่น Daniel Schatz และ James Blake ✅ Superforecasting โดย Philip Tetlock & Dan Gardner ➡️ เจาะลึกศาสตร์แห่งการพยากรณ์อนาคตอย่างมีหลักการ ➡️ มีตัวอย่างจริงและแนวทางสร้างการคาดการณ์ที่แม่นยำ ⭐📖 หนังสือที่ช่วยลด “เสียงรบกวน” ในการตัดสินใจ ⭕ ✅ Thinking, Fast and Slow โดย Daniel Kahneman ➡️ อธิบายระบบคิดแบบเร็ว (System 1) และช้า (System 2) ➡️ ช่วยให้เข้าใจอคติและข้อผิดพลาดในการตัดสินใจ ✅ Noise โดย Kahneman และทีม ➡️ วิเคราะห์ว่าทำไมมนุษย์ถึงตัดสินใจผิดเพราะ “เสียงรบกวน” ➡️ เสนอวิธีลดความผิดพลาดในการประเมินสถานการณ์ ✅ Yeah, But โดย Marc Wolfe ➡️ ช่วยให้ผู้นำจัดการกับเสียงในหัวที่ขัดขวางการเปลี่ยนแปลง ➡️ ส่งเสริมความชัดเจนในการคิดและการนำทีม ✅ Digital Minimalism โดย Cal Newport ➡️ ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ ➡️ ช่วยปกป้องเวลาและความสนใจของผู้นำ ✅ Better Than Before โดย Gretchen Rubin ➡️ เสนอกรอบการสร้างนิสัยที่ดีเพื่อสนับสนุนเป้าหมายชีวิตและงาน 🙎‍♂️📖 หนังสือที่เน้นความเสี่ยงจากพฤติกรรมมนุษย์ ⭕ ✅ The Art of Deception โดย Kevin Mitnick ➡️ เผยกลยุทธ์ social engineering ที่แฮกเกอร์ใช้หลอกมนุษย์ ➡️ ยังคงเป็นหนังสือพื้นฐานที่มีคุณค่าแม้จะตีพิมพ์มานาน ✅ Secrets and Lies โดย Bruce Schneier ➡️ อธิบายความซับซ้อนของความปลอดภัยดิจิทัล ➡️ เน้นว่าการจัดการพฤติกรรมมนุษย์สำคัญไม่แพ้เทคโนโลยี ✅ Human Hacked โดย Len Noe ➡️ เจาะลึกผลกระทบของ AI ต่อการตัดสินใจของมนุษย์ ➡️ เตือนถึงผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดจากการผสานมนุษย์กับเทคโนโลยี ‼️ ความเสี่ยงจากการละเลยพฤติกรรมมนุษย์ในระบบความปลอดภัย ⛔ องค์กรที่เน้นเทคโนโลยีอย่างเดียวอาจพลาดช่องโหว่จากมนุษย์ ⛔ การไม่เข้าใจ social engineering ทำให้ระบบถูกเจาะง่ายขึ้น 🔝📖 หนังสือที่ช่วยพัฒนาภาวะผู้นำ ⭕ ✅ Dare to Lead โดย Brené Brown ➡️ เน้นความกล้าหาญทางอารมณ์และความยืดหยุ่น ➡️ ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและรับผิดชอบ ✅ Radical Candor โดย Kim Scott ➡️ เสนอกรอบการให้ feedback ที่ตรงไปตรงมาแต่มีความเห็นอกเห็นใจ ➡️ ช่วยสร้างวัฒนธรรมการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ‼️ ความเสี่ยงจากการเป็นผู้นำที่ขาดความเห็นอกเห็นใจ ⛔ ผู้นำที่เน้นเทคนิคแต่ละเลยมนุษย์อาจสร้างทีมที่ไม่ยั่งยืน ⛔ การขาด feedback ที่มีคุณภาพทำให้ทีมขาดการพัฒนา 🔎📖 หนังสือที่เตือนให้กลับมาโฟกัสกับชีวิต ⭕ ✅ Our Town โดย Thornton Wilder ➡️ เตือนให้เห็นคุณค่าของชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์ ➡️ ช่วยให้ผู้นำกลับมาโฟกัสกับสิ่งสำคัญนอกเหนือจากงาน ✅ The Alchemist โดย Paulo Coelho ➡️ เรื่องราวการเดินทางตามความฝันที่เต็มไปด้วยบทเรียนชีวิต ➡️ สะท้อนความกล้าหาญในการเลือกเส้นทางที่ไม่เป็นไปตามกรอบเดิม ✅ Get Out of I.T. While You Can โดย Craig Schiefelbein ➡️ ท้าทายให้ผู้นำไอทีทบทวนบทบาทและคุณค่าของตน ➡️ กระตุ้นให้สร้างผลกระทบเชิงกลยุทธ์มากกว่าการทำงานเชิงเทคนิค https://www.csoonline.com/article/4027000/the-books-shaping-todays-cybersecurity-leaders.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The books shaping today’s cybersecurity leaders
    Cybersecurity leaders reveal the books that have influenced how they lead, think, and manage security in the enterprise — and their own lives.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ Intel ตัดสินใจ “ตัดแขน” เพื่อรักษาหัวใจ

    ลองจินตนาการว่าคุณเป็นบริษัทที่เคยครองโลกด้านชิป PC แต่วันนี้ยอดขายตกต่ำ กำไรหาย และคู่แข่งอย่าง NVIDIA กับ AMD กำลังแซงหน้า — คุณจะทำยังไง?

    Intel ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan เลือกใช้วิธี “ตัดส่วนที่ไม่ใช่หัวใจ” เพื่อรักษาแกนหลักของธุรกิจ โดยล่าสุดประกาศแยกธุรกิจเครือข่ายและการสื่อสาร (Network & Edge Group หรือ NEX) ออกเป็นบริษัทอิสระ พร้อมเปิดรับนักลงทุนภายนอก

    NEX เคยสร้างรายได้ถึง $5.8 พันล้านในปี 2024 หรือประมาณ 11% ของรายได้รวมของ Intel แต่ถูกมองว่าไม่ใช่ “แกนหลัก” ในยุคที่ AI และชิป PC กลับมาเป็นจุดแข็งที่ต้องเร่งฟื้นฟู

    Intel จะยังคงถือหุ้นบางส่วนในบริษัทใหม่ เพื่อเก็บเกี่ยวผลตอบแทนในอนาคต แต่จะไม่บริหารโดยตรงอีกต่อไป

    Intel เตรียมแยกธุรกิจเครือข่ายและการสื่อสารออกเป็นบริษัทอิสระ
    หน่วยงาน NEX เคยสร้างรายได้ $5.8 พันล้านในปี 2024
    คิดเป็น 11% ของรายได้รวมของ Intel

    CEO Lip-Bu Tan ใช้กลยุทธ์ “Back to Core”
    เน้นธุรกิจหลักคือชิป PC และศูนย์ข้อมูล
    ลดการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่แกนหลัก เช่น telecom infrastructure

    Intel จะยังคงเป็น “ผู้ลงทุนหลัก” ในบริษัทใหม่
    คล้ายกับกรณีขายหุ้น Altera ให้ Silver Lake
    เปิดรับนักลงทุนภายนอกเพื่อเร่งการเติบโต

    เป้าหมายคือการฟื้นฟูกำไรและลดต้นทุน
    Intel ขาดทุนต่อเนื่อง 6 ไตรมาส รวม $1.25 พันล้านในไตรมาสล่าสุด
    มีแผนลดค่าใช้จ่าย $10 พันล้าน และปลดพนักงาน 20,000 คน

    การแยก NEX จะช่วยให้ Intel โฟกัสกับ AI และโรงงานผลิตชิป
    เงินที่ได้จะนำไปลงทุนในโรงงานที่โอไฮโอและ R&D ด้าน AI
    ตั้งเป้าให้ธุรกิจ foundry มีกำไรภายในปี 2030

    บริษัทใหม่จะเน้น Ethernet, edge security และ AI networking
    แข่งกับ Broadcom, Marvell, AMD และ NVIDIA
    มีอิสระในการตัดสินใจและนวัตกรรมเร็วขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/26/intel-to-separate-networking-unit-as-new-ceo-tan-overhauls-business
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ Intel ตัดสินใจ “ตัดแขน” เพื่อรักษาหัวใจ ลองจินตนาการว่าคุณเป็นบริษัทที่เคยครองโลกด้านชิป PC แต่วันนี้ยอดขายตกต่ำ กำไรหาย และคู่แข่งอย่าง NVIDIA กับ AMD กำลังแซงหน้า — คุณจะทำยังไง? Intel ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan เลือกใช้วิธี “ตัดส่วนที่ไม่ใช่หัวใจ” เพื่อรักษาแกนหลักของธุรกิจ โดยล่าสุดประกาศแยกธุรกิจเครือข่ายและการสื่อสาร (Network & Edge Group หรือ NEX) ออกเป็นบริษัทอิสระ พร้อมเปิดรับนักลงทุนภายนอก NEX เคยสร้างรายได้ถึง $5.8 พันล้านในปี 2024 หรือประมาณ 11% ของรายได้รวมของ Intel แต่ถูกมองว่าไม่ใช่ “แกนหลัก” ในยุคที่ AI และชิป PC กลับมาเป็นจุดแข็งที่ต้องเร่งฟื้นฟู Intel จะยังคงถือหุ้นบางส่วนในบริษัทใหม่ เพื่อเก็บเกี่ยวผลตอบแทนในอนาคต แต่จะไม่บริหารโดยตรงอีกต่อไป ✅ Intel เตรียมแยกธุรกิจเครือข่ายและการสื่อสารออกเป็นบริษัทอิสระ ➡️ หน่วยงาน NEX เคยสร้างรายได้ $5.8 พันล้านในปี 2024 ➡️ คิดเป็น 11% ของรายได้รวมของ Intel ✅ CEO Lip-Bu Tan ใช้กลยุทธ์ “Back to Core” ➡️ เน้นธุรกิจหลักคือชิป PC และศูนย์ข้อมูล ➡️ ลดการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่แกนหลัก เช่น telecom infrastructure ✅ Intel จะยังคงเป็น “ผู้ลงทุนหลัก” ในบริษัทใหม่ ➡️ คล้ายกับกรณีขายหุ้น Altera ให้ Silver Lake ➡️ เปิดรับนักลงทุนภายนอกเพื่อเร่งการเติบโต ✅ เป้าหมายคือการฟื้นฟูกำไรและลดต้นทุน ➡️ Intel ขาดทุนต่อเนื่อง 6 ไตรมาส รวม $1.25 พันล้านในไตรมาสล่าสุด ➡️ มีแผนลดค่าใช้จ่าย $10 พันล้าน และปลดพนักงาน 20,000 คน ✅ การแยก NEX จะช่วยให้ Intel โฟกัสกับ AI และโรงงานผลิตชิป ➡️ เงินที่ได้จะนำไปลงทุนในโรงงานที่โอไฮโอและ R&D ด้าน AI ➡️ ตั้งเป้าให้ธุรกิจ foundry มีกำไรภายในปี 2030 ✅ บริษัทใหม่จะเน้น Ethernet, edge security และ AI networking ➡️ แข่งกับ Broadcom, Marvell, AMD และ NVIDIA ➡️ มีอิสระในการตัดสินใจและนวัตกรรมเร็วขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/26/intel-to-separate-networking-unit-as-new-ceo-tan-overhauls-business
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Intel to separate networking unit as new CEO Tan overhauls business
    (Reuters) -Intel is planning to separate its networking and communications unit into a stand-alone company and has begun the process of identifying investors, the chipmaker said on Friday, as new CEO Lip-Bu Tan looks to streamline its operations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ “ความจำดีเกินไป” กลายเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว

    ลองจินตนาการว่า Windows บันทึกภาพหน้าจอของคุณทุก ๆ 5 วินาที เพื่อให้คุณสามารถย้อนดูสิ่งที่เคยทำได้เหมือนมี “ความจำถ่ายภาพ” แบบ AI — ฟังดูสะดวกใช่ไหม? แต่สำหรับนักพัฒนาแอปที่ใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัว เช่น Signal, Brave และ AdGuard นี่คือ “ฝันร้ายด้านความเป็นส่วนตัว” ที่ต้องรีบจัดการ

    ฟีเจอร์ Windows Recall ถูกออกแบบมาให้บันทึกภาพหน้าจออย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่เคยเห็นหรือทำได้ง่ายขึ้น แต่ปัญหาคือมันอาจบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น รหัสผ่าน, ข้อมูลทางการเงิน, หรือข้อความส่วนตัว โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เกี่ยวข้อง

    Signal เป็นแอปแรกที่บล็อกไม่ให้ Recall จับภาพหน้าต่างแชทของตนได้ และล่าสุด Brave กับ AdGuard ก็ประกาศใช้วิธีการของตัวเองในการป้องกันไม่ให้ Recall บันทึกข้อมูลจากแอปของพวกเขาเช่นกัน

    Windows Recall คือฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft ที่บันทึกภาพหน้าจอทุกไม่กี่วินาที
    ใช้ AI เพื่อช่วยค้นหาข้อมูลที่เคยเห็นหรือทำบนเครื่อง
    ข้อมูลถูกเก็บไว้ในเครื่องและวิเคราะห์แบบออฟไลน์

    Signal, Brave และ AdGuard ออกมาต่อต้านฟีเจอร์นี้
    Signal ใช้ DRM API เพื่อป้องกันการจับภาพหน้าต่างแชท
    Brave ใช้ SetInputScope API เพื่อบล็อก Recall จากการจับภาพทุกแท็บในเบราว์เซอร์
    AdGuard เพิ่มตัวเลือก “Disable Windows Recall” ในเวอร์ชันล่าสุด

    Microsoft อนุญาตให้นักพัฒนาใช้ API เพื่อบล็อก Recall
    เป็นการตอบสนองต่อเสียงวิจารณ์จากผู้ใช้และนักวิจัยด้านความปลอดภัย
    แต่ยังมีข้อจำกัดในการควบคุมระดับแอปที่ไม่ใช่เบราว์เซอร์

    Brave ตั้งค่าบล็อก Recall เป็นค่าเริ่มต้น
    ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานได้เองหากต้องการ
    เป็นการปกป้องความเป็นส่วนตัวโดยไม่ต้องพึ่งผู้ใช้ตัดสินใจเองทุกครั้ง

    https://www.techspot.com/news/108817-privacy-apps-signal-brave-adguard-push-back-against.html
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ “ความจำดีเกินไป” กลายเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว ลองจินตนาการว่า Windows บันทึกภาพหน้าจอของคุณทุก ๆ 5 วินาที เพื่อให้คุณสามารถย้อนดูสิ่งที่เคยทำได้เหมือนมี “ความจำถ่ายภาพ” แบบ AI — ฟังดูสะดวกใช่ไหม? แต่สำหรับนักพัฒนาแอปที่ใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัว เช่น Signal, Brave และ AdGuard นี่คือ “ฝันร้ายด้านความเป็นส่วนตัว” ที่ต้องรีบจัดการ ฟีเจอร์ Windows Recall ถูกออกแบบมาให้บันทึกภาพหน้าจออย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่เคยเห็นหรือทำได้ง่ายขึ้น แต่ปัญหาคือมันอาจบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น รหัสผ่าน, ข้อมูลทางการเงิน, หรือข้อความส่วนตัว โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เกี่ยวข้อง Signal เป็นแอปแรกที่บล็อกไม่ให้ Recall จับภาพหน้าต่างแชทของตนได้ และล่าสุด Brave กับ AdGuard ก็ประกาศใช้วิธีการของตัวเองในการป้องกันไม่ให้ Recall บันทึกข้อมูลจากแอปของพวกเขาเช่นกัน ✅ Windows Recall คือฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft ที่บันทึกภาพหน้าจอทุกไม่กี่วินาที ➡️ ใช้ AI เพื่อช่วยค้นหาข้อมูลที่เคยเห็นหรือทำบนเครื่อง ➡️ ข้อมูลถูกเก็บไว้ในเครื่องและวิเคราะห์แบบออฟไลน์ ✅ Signal, Brave และ AdGuard ออกมาต่อต้านฟีเจอร์นี้ ➡️ Signal ใช้ DRM API เพื่อป้องกันการจับภาพหน้าต่างแชท ➡️ Brave ใช้ SetInputScope API เพื่อบล็อก Recall จากการจับภาพทุกแท็บในเบราว์เซอร์ ➡️ AdGuard เพิ่มตัวเลือก “Disable Windows Recall” ในเวอร์ชันล่าสุด ✅ Microsoft อนุญาตให้นักพัฒนาใช้ API เพื่อบล็อก Recall ➡️ เป็นการตอบสนองต่อเสียงวิจารณ์จากผู้ใช้และนักวิจัยด้านความปลอดภัย ➡️ แต่ยังมีข้อจำกัดในการควบคุมระดับแอปที่ไม่ใช่เบราว์เซอร์ ✅ Brave ตั้งค่าบล็อก Recall เป็นค่าเริ่มต้น ➡️ ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานได้เองหากต้องการ ➡️ เป็นการปกป้องความเป็นส่วนตัวโดยไม่ต้องพึ่งผู้ใช้ตัดสินใจเองทุกครั้ง https://www.techspot.com/news/108817-privacy-apps-signal-brave-adguard-push-back-against.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Privacy apps Signal, Brave, and AdGuard push back against Windows Recall
    Signal was one of the first apps to block Windows Recall from capturing screenshots of its interface, and more developers have since followed suit. This week, both...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ “ซ่อมชิป” กลายเป็นธุรกิจทองคำในจีน

    ลองจินตนาการว่าคุณมีชิป AI ระดับเทพอย่าง NVIDIA H100 หรือ A100 ที่ถูกใช้งานหนักมาหลายปีในศูนย์ข้อมูล แต่ไม่สามารถส่งซ่อมกับผู้ผลิตได้ เพราะมันเป็น “สินค้าต้องห้าม” จากการแบนของสหรัฐฯ แล้วจะทำยังไง?

    คำตอบคือ: ส่งไปซ่อมใน “อู่ลับ” ที่จีน!

    แม้ชิปเหล่านี้จะถูกแบนไม่ให้ขายในจีนตั้งแต่ปี 2022 แต่กลับมีธุรกิจซ่อมชิป AI เกิดขึ้นอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในเมืองเซินเจิ้น มีบริษัทเล็ก ๆ กว่า 12 แห่งที่รับซ่อมชิป H100 และ A100 แบบเต็มรูปแบบ ทั้งตรวจสอบ ซ่อมพัดลม เปลี่ยนแผงวงจร และทดสอบในสภาพแวดล้อมจำลองศูนย์ข้อมูล

    บางแห่งซ่อมได้ถึง 500 ชิปต่อเดือน และคิดค่าบริการสูงถึง $2,800 ต่อชิ้น ซึ่งยังถูกกว่าการซื้อชิปใหม่ที่ราคาสูงถึง $50,000 ต่อชิ้นในตลาดมืด

    แม้ NVIDIA จะออกชิป H20 รุ่นลดสเปกเพื่อขายในจีน แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์การฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ ทำให้หลายบริษัทเลือกใช้ชิปเก่าแบบ “ซ่อมแล้วใช้ต่อ” แทน

    ธุรกิจซ่อมชิป AI NVIDIA ในจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว
    มีบริษัทกว่า 12 แห่งในเซินเจิ้นรับซ่อมชิป H100 และ A100
    บางแห่งซ่อมได้ถึง 500 ชิ้นต่อเดือน

    บริการซ่อมครอบคลุมหลายด้าน
    ตรวจสอบซอฟต์แวร์ ซ่อมพัดลม แก้ไขแผงวงจร
    ทดสอบในห้องที่จำลองศูนย์ข้อมูลจริง

    ราคาซ่อมอยู่ที่ $1,400–$2,800 ต่อชิ้น
    ถูกกว่าการซื้อใหม่ที่อาจสูงถึง $50,000 ต่อชิ้น
    บางบริษัทคิดค่าซ่อมประมาณ 10% ของราคาชิปเดิม

    ชิป H100 และ A100 ยังเป็นที่ต้องการสูง
    ใช้ในการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่
    แม้จะมีรุ่น H20 ที่ถูกกว่า แต่ยังไม่ตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพ

    อายุการใช้งานชิปอยู่ที่ 2–5 ปี
    การใช้งานหนักตลอด 24/7 ทำให้ชิปเสื่อมเร็ว
    การซ่อมช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีกหลายเดือนหรือปี

    https://wccftech.com/chinas-gpu-repair-business-is-booming-right-now-as-the-illegally-acquired-nvidia-chips-are-being-repaired-in-shocking-numbers/
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ “ซ่อมชิป” กลายเป็นธุรกิจทองคำในจีน ลองจินตนาการว่าคุณมีชิป AI ระดับเทพอย่าง NVIDIA H100 หรือ A100 ที่ถูกใช้งานหนักมาหลายปีในศูนย์ข้อมูล แต่ไม่สามารถส่งซ่อมกับผู้ผลิตได้ เพราะมันเป็น “สินค้าต้องห้าม” จากการแบนของสหรัฐฯ แล้วจะทำยังไง? คำตอบคือ: ส่งไปซ่อมใน “อู่ลับ” ที่จีน! แม้ชิปเหล่านี้จะถูกแบนไม่ให้ขายในจีนตั้งแต่ปี 2022 แต่กลับมีธุรกิจซ่อมชิป AI เกิดขึ้นอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในเมืองเซินเจิ้น มีบริษัทเล็ก ๆ กว่า 12 แห่งที่รับซ่อมชิป H100 และ A100 แบบเต็มรูปแบบ ทั้งตรวจสอบ ซ่อมพัดลม เปลี่ยนแผงวงจร และทดสอบในสภาพแวดล้อมจำลองศูนย์ข้อมูล บางแห่งซ่อมได้ถึง 500 ชิปต่อเดือน และคิดค่าบริการสูงถึง $2,800 ต่อชิ้น ซึ่งยังถูกกว่าการซื้อชิปใหม่ที่ราคาสูงถึง $50,000 ต่อชิ้นในตลาดมืด แม้ NVIDIA จะออกชิป H20 รุ่นลดสเปกเพื่อขายในจีน แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์การฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ ทำให้หลายบริษัทเลือกใช้ชิปเก่าแบบ “ซ่อมแล้วใช้ต่อ” แทน ✅ ธุรกิจซ่อมชิป AI NVIDIA ในจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว ➡️ มีบริษัทกว่า 12 แห่งในเซินเจิ้นรับซ่อมชิป H100 และ A100 ➡️ บางแห่งซ่อมได้ถึง 500 ชิ้นต่อเดือน ✅ บริการซ่อมครอบคลุมหลายด้าน ➡️ ตรวจสอบซอฟต์แวร์ ซ่อมพัดลม แก้ไขแผงวงจร ➡️ ทดสอบในห้องที่จำลองศูนย์ข้อมูลจริง ✅ ราคาซ่อมอยู่ที่ $1,400–$2,800 ต่อชิ้น ➡️ ถูกกว่าการซื้อใหม่ที่อาจสูงถึง $50,000 ต่อชิ้น ➡️ บางบริษัทคิดค่าซ่อมประมาณ 10% ของราคาชิปเดิม ✅ ชิป H100 และ A100 ยังเป็นที่ต้องการสูง ➡️ ใช้ในการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ ➡️ แม้จะมีรุ่น H20 ที่ถูกกว่า แต่ยังไม่ตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพ ✅ อายุการใช้งานชิปอยู่ที่ 2–5 ปี ➡️ การใช้งานหนักตลอด 24/7 ทำให้ชิปเสื่อมเร็ว ➡️ การซ่อมช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีกหลายเดือนหรือปี https://wccftech.com/chinas-gpu-repair-business-is-booming-right-now-as-the-illegally-acquired-nvidia-chips-are-being-repaired-in-shocking-numbers/
    WCCFTECH.COM
    China's "GPU Repair" Business Is Booming Right Now As The Illegally Acquired NVIDIA H100 & A100 AI Chips Are Being Repaired In Shocking Numbers
    Apart from the "smuggling business" in China, repairers seem to be earning hefty sums of money by providing services for NVIDIA's AI chips.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่สามเดือด! "ตราดพิฆาตไพรี 1" ตอบโต้สำเร็จ หลังเขมรเปิดฉากยิงคลองใหญ่ ตีรุกกลับ 3 จุด
    https://www.thai-tai.tv/news/20552/
    .
    #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตราด #คลองใหญ่ #บ้านชำราก #กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด #ตราดพิฆาตไพรี1 #เกาะกง #นาวิกโยธินไทย #สถานการณ์ชายแดน #ความมั่นคง
    วันที่สามเดือด! "ตราดพิฆาตไพรี 1" ตอบโต้สำเร็จ หลังเขมรเปิดฉากยิงคลองใหญ่ ตีรุกกลับ 3 จุด https://www.thai-tai.tv/news/20552/ . #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตราด #คลองใหญ่ #บ้านชำราก #กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด #ตราดพิฆาตไพรี1 #เกาะกง #นาวิกโยธินไทย #สถานการณ์ชายแดน #ความมั่นคง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • กัมพูชา มี KS-1C ของจีน ซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกล ไว้ต่อกรกับ F-16 โดยได้เข้าประจำการเมื่อปี 2023 สำหรับการรบครั้งนี้ยังไม่เห็นกัมพูชานำออกมาใช้ตอบโต้ปฏิบัติการทางอากาศ F-16 ของไทย

    สำหรับ KS-1C หรือชื่อเต็มว่า Kaishan-1C เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกลที่พัฒนาโดย China Aerospace Science and Industry Corporation (CASIC) ของจีน เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงจากระบบ Hongqi-12 (HQ-12) และถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการป้องกันภัยทางอากาศ โดยสามารถจัดการกับเป้าหมาย เช่น เครื่องบิน, โดรน (UAVs), เฮลิคอปเตอร์ รวมถึงขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีความเร็วเกิน Mach 3

    คุณสมบัติหลักของ KS-1C:
    1. เรดาร์: ใช้เรดาร์แบบ H-200 phased-array ซึ่งมีระยะตรวจจับสูงสุดถึง 120 กิโลเมตร และสามารถติดตามเป้าหมายได้หลายเป้าพร้อมกัน

    2. ขีปนาวุธ: ใช้ระบบยิงแบบ canister-launched missiles (แทนรางยิงในรุ่นก่อนหน้า) มีพิสัยการยิงสูงสุด 70 กิโลเมตร และความสูงในการสกัดกั้นสูงสุด 27 กิโลเมตร

    3. โครงสร้างกองร้อย: ประกอบด้วยเรดาร์ phased-array, รถยิง 4 คัน (คันละ 2 ขีปนาวุธ), ขีปนาวุธสำรอง 16 ลูก, หน่วยควบคุมและสั่งการ และหน่วยจ่ายพลังงาน

    4. เปรียบเทียบ: มีสมรรถนะใกล้เคียงกับระบบ MIM-23 Hawk ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า Patriot missile system

    5. การใช้งาน: ออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยทางอากาศและสามารถใช้เป็นระบบป้องกันขีปนาวุธได้ในบางสถานการณ์

    การใช้งานในกองทัพ:
    • กองทัพกัมพูชา: ได้รับมอบระบบ KS-1C จากจีนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2023 เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศ

    • กองทัพอากาศไทย: ประเทศไทยได้จัดหาและนำ KS-1C เข้าประจำการในกองพันทหารอากาศโยธินที่กองบิน 4 ตาคลี และกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2016 โดยมีการแสดงต่อสาธารณะครั้งแรกในงานวันเด็กแห่งชาติปี 2560

    • การส่งออก: นอกจากกัมพูชาและไทย ระบบนี้ยังถูกส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เช่น เมียนมาร์และเติร์กเมนิสถาน
    กัมพูชา มี KS-1C ของจีน ซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกล ไว้ต่อกรกับ F-16 โดยได้เข้าประจำการเมื่อปี 2023 สำหรับการรบครั้งนี้ยังไม่เห็นกัมพูชานำออกมาใช้ตอบโต้ปฏิบัติการทางอากาศ F-16 ของไทย สำหรับ KS-1C หรือชื่อเต็มว่า Kaishan-1C เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางถึงระยะไกลที่พัฒนาโดย China Aerospace Science and Industry Corporation (CASIC) ของจีน เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงจากระบบ Hongqi-12 (HQ-12) และถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการป้องกันภัยทางอากาศ โดยสามารถจัดการกับเป้าหมาย เช่น เครื่องบิน, โดรน (UAVs), เฮลิคอปเตอร์ รวมถึงขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีความเร็วเกิน Mach 3 👉คุณสมบัติหลักของ KS-1C: 1. เรดาร์: ใช้เรดาร์แบบ H-200 phased-array ซึ่งมีระยะตรวจจับสูงสุดถึง 120 กิโลเมตร และสามารถติดตามเป้าหมายได้หลายเป้าพร้อมกัน 2. ขีปนาวุธ: ใช้ระบบยิงแบบ canister-launched missiles (แทนรางยิงในรุ่นก่อนหน้า) มีพิสัยการยิงสูงสุด 70 กิโลเมตร และความสูงในการสกัดกั้นสูงสุด 27 กิโลเมตร 3. โครงสร้างกองร้อย: ประกอบด้วยเรดาร์ phased-array, รถยิง 4 คัน (คันละ 2 ขีปนาวุธ), ขีปนาวุธสำรอง 16 ลูก, หน่วยควบคุมและสั่งการ และหน่วยจ่ายพลังงาน 4. เปรียบเทียบ: มีสมรรถนะใกล้เคียงกับระบบ MIM-23 Hawk ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า Patriot missile system 5. การใช้งาน: ออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยทางอากาศและสามารถใช้เป็นระบบป้องกันขีปนาวุธได้ในบางสถานการณ์ 👉การใช้งานในกองทัพ: • กองทัพกัมพูชา: ได้รับมอบระบบ KS-1C จากจีนเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2023 เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศ • กองทัพอากาศไทย: ประเทศไทยได้จัดหาและนำ KS-1C เข้าประจำการในกองพันทหารอากาศโยธินที่กองบิน 4 ตาคลี และกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2016 โดยมีการแสดงต่อสาธารณะครั้งแรกในงานวันเด็กแห่งชาติปี 2560 • การส่งออก: นอกจากกัมพูชาและไทย ระบบนี้ยังถูกส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เช่น เมียนมาร์และเติร์กเมนิสถาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ส่งกำลังใจถึงทหารหาญไทย ทุกๆท่านสุดยอดมากๆ
    ..ฮุนเซน ฮุนมาเนตต้องไปเฝ้ารากมะม่วงสถานเดียว ไร้การเจรจาพูดคุยใดๆทั้งหมด,กองพลความมั่นคงแห่งชาติเราลงมติ ให้แม่ทัพภาค2เราเป็นตัวแทนหัวหน้าคณะปฏิวัติกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยเถอะ,มีอำนาจตรงแต่งตั้งหัวหน้าควบคุมกระทรวงกลาโหมทั้งหมดได้ทันที,อนุมัติงบโดรมพลีชีพเพื่อทหารหาญเราเลย10,000ตัว,จัดการทหารเขมรตลอดแนวพรมแดนทั้งหมด,เรา..ประชาชนไม่ร่วมรักสามัคคีตนเพื่อแผ่นดินตนเอง,จะสามัคคีเพื่อแผ่นดินใคร,รัฐบาลปัจจุบันไร้ประสิทธิภาพการตอบโต้งานเอกสารงานข่าวใดๆด้านIOกับเขมรจริงๆเลย,รมต.และฑูตไทยเองเอยสามารถยื่นเรื่องแก่UNสำนักงานใหญ่มันได้ทันที เสือกยังช้าให้เขมรเดินเรื่องชิงตัดหน้าไปก่อน,ต้องIOทั่วโลกว่า "เขมรรุกรานคุกคามอธิปไตยดินแดนประเทศไทยก่อนและยิงประชาชนพลเรือนไทยเราก่อนด้วย."ประกาศอย่างเป็นทางการส่งจดหมายเร่งด่วนแก่ทุกๆฑูตในประเทศไทยและทั่วโลก,ออกสื่อออนไลน์ทุกๆแพลตฟอร์ม ,ประฌามฮุนเซนอย่างเป็นทางการผ่านทุกๆสถานฑูตทั่วไทยและทั่วโลกว่าเขมรนำโดยฮุนเซนเจตนายิงผู้บริสุทธิ์ที่เป็นเด็กๆคนชราจนเสียชีวิตก่อน ,ฮุนเซนและฮุนมาเนตคืออาชญากรสงครามและอาชญากรรมทางสงครามต่อประเทศไทยด้วย.,นี้รัฐบาลต้องเชิงรุกรอบด้านทั่วโลกลักษณะนี้,แอ็คชั่นยอมรับว่าสมควรถูกยึดอำนาจเถอะถ้าไม่ไปเองจริงๆ.

    https://youtube.com/watch?v=Aox1G2UXyVw&si=68p51lBdKOTI8Ela
    ..ส่งกำลังใจถึงทหารหาญไทย ทุกๆท่านสุดยอดมากๆ ..ฮุนเซน ฮุนมาเนตต้องไปเฝ้ารากมะม่วงสถานเดียว ไร้การเจรจาพูดคุยใดๆทั้งหมด,กองพลความมั่นคงแห่งชาติเราลงมติ ให้แม่ทัพภาค2เราเป็นตัวแทนหัวหน้าคณะปฏิวัติกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยเถอะ,มีอำนาจตรงแต่งตั้งหัวหน้าควบคุมกระทรวงกลาโหมทั้งหมดได้ทันที,อนุมัติงบโดรมพลีชีพเพื่อทหารหาญเราเลย10,000ตัว,จัดการทหารเขมรตลอดแนวพรมแดนทั้งหมด,เรา..ประชาชนไม่ร่วมรักสามัคคีตนเพื่อแผ่นดินตนเอง,จะสามัคคีเพื่อแผ่นดินใคร,รัฐบาลปัจจุบันไร้ประสิทธิภาพการตอบโต้งานเอกสารงานข่าวใดๆด้านIOกับเขมรจริงๆเลย,รมต.และฑูตไทยเองเอยสามารถยื่นเรื่องแก่UNสำนักงานใหญ่มันได้ทันที เสือกยังช้าให้เขมรเดินเรื่องชิงตัดหน้าไปก่อน,ต้องIOทั่วโลกว่า "เขมรรุกรานคุกคามอธิปไตยดินแดนประเทศไทยก่อนและยิงประชาชนพลเรือนไทยเราก่อนด้วย."ประกาศอย่างเป็นทางการส่งจดหมายเร่งด่วนแก่ทุกๆฑูตในประเทศไทยและทั่วโลก,ออกสื่อออนไลน์ทุกๆแพลตฟอร์ม ,ประฌามฮุนเซนอย่างเป็นทางการผ่านทุกๆสถานฑูตทั่วไทยและทั่วโลกว่าเขมรนำโดยฮุนเซนเจตนายิงผู้บริสุทธิ์ที่เป็นเด็กๆคนชราจนเสียชีวิตก่อน ,ฮุนเซนและฮุนมาเนตคืออาชญากรสงครามและอาชญากรรมทางสงครามต่อประเทศไทยด้วย.,นี้รัฐบาลต้องเชิงรุกรอบด้านทั่วโลกลักษณะนี้,แอ็คชั่นยอมรับว่าสมควรถูกยึดอำนาจเถอะถ้าไม่ไปเองจริงๆ. https://youtube.com/watch?v=Aox1G2UXyVw&si=68p51lBdKOTI8Ela
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภูมิธรรม" ลั่น! ไทยรับไม่ได้กัมพูชายิง รพ.-ชุมชน ห่างชายแดน 20 กม. ชี้ "เป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง" ยันตอบโต้ทหารเขมรตามหลักสากล
    https://www.thai-tai.tv/news/20542/
    .
    #แถลงการณ์รัฐบาล #ภูมิธรรมเวชยชัย #กัมพูชาโจมตีพลเรือน #อาชญากรรมสงคราม #ชายแดนไทยกัมพูชา #เยียวยาผู้เสียชีวิต #ในหลวงพระราชทาน #พระบรมราชานุเคราะห์ #สหประชาชาติ #ความมั่นคงแห่งชาติ
    "ภูมิธรรม" ลั่น! ไทยรับไม่ได้กัมพูชายิง รพ.-ชุมชน ห่างชายแดน 20 กม. ชี้ "เป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง" ยันตอบโต้ทหารเขมรตามหลักสากล https://www.thai-tai.tv/news/20542/ . #แถลงการณ์รัฐบาล #ภูมิธรรมเวชยชัย #กัมพูชาโจมตีพลเรือน #อาชญากรรมสงคราม #ชายแดนไทยกัมพูชา #เยียวยาผู้เสียชีวิต #ในหลวงพระราชทาน #พระบรมราชานุเคราะห์ #สหประชาชาติ #ความมั่นคงแห่งชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชาโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า “เนื่องจากรายงานข่าวที่ไม่ชัดเจนในสื่อต่างประเทศหลายสำนักเกี่ยวกับจุดยืนของกัมพูชาต่อการหยุดยิงที่เสนอโดย อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียน ผมจึงจำเป็นต้องชี้แจงดังต่อไปนี้
    .
    เมื่อเย็นวานนี้ วันที่ 24 กรกฎาคม 2025 อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียนได้ขอสนทนาทางโทรศัพท์กับผมเพื่อหารือเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทยตามแนวชายแดน
    .
    ท่านอันวาร์แสดงความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งและความปรารถนาที่จะ ‘หยุดยิงโดยทันที’ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาระหว่างทั้งสองฝ่าย
    .
    ผมได้ชี้แจงให้ท่านอันวาร์ทราบอย่างชัดเจนว่ากัมพูชา ‘เห็นด้วยกับข้อเสนอการหยุดยิง’ ของท่าน เนื่องจากกัมพูชา ‘ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มการสู้รบนี้’
    .
    หลังจากที่ท่านอันวาร์ได้คุยกับ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ผมได้รับทราบคำตอบเบื้องต้นว่า ฝ่ายไทยได้ ‘ตกลงตามข้อเสนอการหยุดยิง’ โดยกำหนดเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 ให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบ
    .
    อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียใจที่เพียงชั่วโมงกว่าต่อมา ฝ่ายไทยได้แจ้งว่าได้เปลี่ยนจุดยืนจากที่ตกลงหยุดยิงเมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 มาเป็น ‘ไม่ตกลง’ และรอกำหนดวันใหม่
    .
    ดังนั้น กุญแจสำคัญในการแก้ไขความขัดแย้งทางอาวุธระหว่างไทยและกัมพูชาในปัจจุบัน คือ ความเต็มใจอย่างแท้จริงของฝ่ายไทยที่จะยอมรับการหยุดยิง ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการหาทางออกเพิ่มเติมระหว่างสองประเทศ”

    .
    https://www.facebook.com/share/p/19T2QarhAP/
    ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชาโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า “เนื่องจากรายงานข่าวที่ไม่ชัดเจนในสื่อต่างประเทศหลายสำนักเกี่ยวกับจุดยืนของกัมพูชาต่อการหยุดยิงที่เสนอโดย อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียน ผมจึงจำเป็นต้องชี้แจงดังต่อไปนี้ . เมื่อเย็นวานนี้ วันที่ 24 กรกฎาคม 2025 อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียนได้ขอสนทนาทางโทรศัพท์กับผมเพื่อหารือเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทยตามแนวชายแดน . ท่านอันวาร์แสดงความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งและความปรารถนาที่จะ ‘หยุดยิงโดยทันที’ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาระหว่างทั้งสองฝ่าย . ผมได้ชี้แจงให้ท่านอันวาร์ทราบอย่างชัดเจนว่ากัมพูชา ‘เห็นด้วยกับข้อเสนอการหยุดยิง’ ของท่าน เนื่องจากกัมพูชา ‘ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มการสู้รบนี้’ . หลังจากที่ท่านอันวาร์ได้คุยกับ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ผมได้รับทราบคำตอบเบื้องต้นว่า ฝ่ายไทยได้ ‘ตกลงตามข้อเสนอการหยุดยิง’ โดยกำหนดเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 ให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบ . อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียใจที่เพียงชั่วโมงกว่าต่อมา ฝ่ายไทยได้แจ้งว่าได้เปลี่ยนจุดยืนจากที่ตกลงหยุดยิงเมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 มาเป็น ‘ไม่ตกลง’ และรอกำหนดวันใหม่ . ดังนั้น กุญแจสำคัญในการแก้ไขความขัดแย้งทางอาวุธระหว่างไทยและกัมพูชาในปัจจุบัน คือ ความเต็มใจอย่างแท้จริงของฝ่ายไทยที่จะยอมรับการหยุดยิง ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการหาทางออกเพิ่มเติมระหว่างสองประเทศ” . https://www.facebook.com/share/p/19T2QarhAP/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • ...นี้คือภาวะสงครามแล้วนะ,กฎอัยการศึกทั่วประเทศต้องเร่งรีบประกาศทันที,รัฐบาลนี้พึ่งพาอะไรไม่ได้แล้ว,ไม่เต็มที่อะไรหรอก,เพราะยืนยันผลงานจากอดีตมาแล้วมีแต่เป็นตัวถ่วง ทำให้ทหารไทยเราเสียเปรียบได้ด้วย,มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี,ยึดอำนาจเลย ตั้งนายกฯพระราชทานพิเศษจัดการเลย.,เขมรต้องได้รับบทเรียนหรือถูกยึดประเทศแล้วสลายให้พ้นเป็นสถานะประเทศเลย,คนเขมรในไทยสามารถเป็นไส้ศึกส่งข่าวภายในเราได้,ต้องผลักดันกลับประเทศมันให้หมด,มีสำนักงานรวมรวมข่าวภายในบนแผ่นดินไทยด้วย,มันเป็นไส้ศึกในไทยเรานี้เอง,ฑูตพวกมันสันดานยังขนาดนั้น มันแอบวางคนเตรียมพร้อมไว้แน่นอน,ตำรวจมือดีเราล็อกพิกัดมันได้เข้าจับกุมเลย,
    ..ทหารไทยเรามีแค่ประชาชนเท่านั้นจะผ่านพ้นพวกเนรคุณนี้ได้,นักการเมืองทรยศขายชาติเพื่อผลประโยชน์มันนานแล้วยิ่งเจอข้อหาจะล้างสส.สว.ทั้งสภาอีก มันโกรธแค้นแน่นอน สุ่มหัวทำลายไทยแน่นอนเพราะคดีมันตรึมรอลงดาบแล้ว จึงเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของเดอะแก๊งมันผ่านตัวแทนประเทศเขมรนั้นเอง,แต่ตัวสั่งการจริงๆคือสทร.นั้นล่ะบอกผ่านสหายคนสนิทฮุนเซนมันถ้าสำเร็จประเทศเป็นของเขมรครึ่งหนึ่ง อ่าวไทยเอาไปเลยครึ่งอ่าว,มันจะเป็นประธานาธิบดีตอนนี้ให้ได้เพื่อปกครองประเทศไทยเบ็ดเสร็จ.
    ..เมื่อประกาศภาวะสงครามจากการรุกรานของเขมร เราชอบธรรมทันทีในการตอบโต้ต่อเนื่องถึงใจกลางประเทศมัน.,ยึดประเทศศัตรูก็ได้ทันทีในสงครามนี้,มิใช่ปะทะผีบ้ากฎปะทะกากๆนั้นอีกต่อไป,จะมีแค่ผู้แพ้กับผู้ชนะเท่านั้น,มิอาจจับมือกันได้อีกต่อไป.เขมรต้องจ่ายราคาแพงที่เปิดก่อนทั้งหมด,ลบชื่อเขมรออกจากแผนที่โลกนั้นเอง.



    https://youtube.com/watch?v=x0mZudOW7sM&si=11EchwkAbvK-q2th
    ...นี้คือภาวะสงครามแล้วนะ,กฎอัยการศึกทั่วประเทศต้องเร่งรีบประกาศทันที,รัฐบาลนี้พึ่งพาอะไรไม่ได้แล้ว,ไม่เต็มที่อะไรหรอก,เพราะยืนยันผลงานจากอดีตมาแล้วมีแต่เป็นตัวถ่วง ทำให้ทหารไทยเราเสียเปรียบได้ด้วย,มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี,ยึดอำนาจเลย ตั้งนายกฯพระราชทานพิเศษจัดการเลย.,เขมรต้องได้รับบทเรียนหรือถูกยึดประเทศแล้วสลายให้พ้นเป็นสถานะประเทศเลย,คนเขมรในไทยสามารถเป็นไส้ศึกส่งข่าวภายในเราได้,ต้องผลักดันกลับประเทศมันให้หมด,มีสำนักงานรวมรวมข่าวภายในบนแผ่นดินไทยด้วย,มันเป็นไส้ศึกในไทยเรานี้เอง,ฑูตพวกมันสันดานยังขนาดนั้น มันแอบวางคนเตรียมพร้อมไว้แน่นอน,ตำรวจมือดีเราล็อกพิกัดมันได้เข้าจับกุมเลย, ..ทหารไทยเรามีแค่ประชาชนเท่านั้นจะผ่านพ้นพวกเนรคุณนี้ได้,นักการเมืองทรยศขายชาติเพื่อผลประโยชน์มันนานแล้วยิ่งเจอข้อหาจะล้างสส.สว.ทั้งสภาอีก มันโกรธแค้นแน่นอน สุ่มหัวทำลายไทยแน่นอนเพราะคดีมันตรึมรอลงดาบแล้ว จึงเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของเดอะแก๊งมันผ่านตัวแทนประเทศเขมรนั้นเอง,แต่ตัวสั่งการจริงๆคือสทร.นั้นล่ะบอกผ่านสหายคนสนิทฮุนเซนมันถ้าสำเร็จประเทศเป็นของเขมรครึ่งหนึ่ง อ่าวไทยเอาไปเลยครึ่งอ่าว,มันจะเป็นประธานาธิบดีตอนนี้ให้ได้เพื่อปกครองประเทศไทยเบ็ดเสร็จ. ..เมื่อประกาศภาวะสงครามจากการรุกรานของเขมร เราชอบธรรมทันทีในการตอบโต้ต่อเนื่องถึงใจกลางประเทศมัน.,ยึดประเทศศัตรูก็ได้ทันทีในสงครามนี้,มิใช่ปะทะผีบ้ากฎปะทะกากๆนั้นอีกต่อไป,จะมีแค่ผู้แพ้กับผู้ชนะเท่านั้น,มิอาจจับมือกันได้อีกต่อไป.เขมรต้องจ่ายราคาแพงที่เปิดก่อนทั้งหมด,ลบชื่อเขมรออกจากแผนที่โลกนั้นเอง. https://youtube.com/watch?v=x0mZudOW7sM&si=11EchwkAbvK-q2th
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวปลอม! ทบ.โต้ข่าวลือยึดเขาพระวิหารคืน ยันแค่ตอบโต้เป้าหมายทหาร-ไม่คิดยึดพื้นที่ด้วยกำลัง
    https://www.thai-tai.tv/news/20529/
    .
    #เขาพระวิหาร #กองทัพบก #ข่าวปลอม #ชายแดนไทยกัมพูชา #ป้องกันอธิปไตย #หลักกติกาสากล #พันเอกริชฌาสุขสุวานนท์ #วัดแก้วสิขาคีรีสวารา #ตอบโต้ทางทหาร
    ข่าวปลอม! ทบ.โต้ข่าวลือยึดเขาพระวิหารคืน ยันแค่ตอบโต้เป้าหมายทหาร-ไม่คิดยึดพื้นที่ด้วยกำลัง https://www.thai-tai.tv/news/20529/ . #เขาพระวิหาร #กองทัพบก #ข่าวปลอม #ชายแดนไทยกัมพูชา #ป้องกันอธิปไตย #หลักกติกาสากล #พันเอกริชฌาสุขสุวานนท์ #วัดแก้วสิขาคีรีสวารา #ตอบโต้ทางทหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยประณามกัมพูชาใช้กำลังทำร้ายพลเรือน เสียชีวิต 11 คน บาดเจ็บ 28 คน อาเซียนเรียกร้องสองฝ่ายหยุดยิง ไทยยืนยันกัมพูชาเริ่มก่อน โจมตีเป้าหมายพลเรือน ไทยตอบโต้ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070066

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ไทยประณามกัมพูชาใช้กำลังทำร้ายพลเรือน เสียชีวิต 11 คน บาดเจ็บ 28 คน อาเซียนเรียกร้องสองฝ่ายหยุดยิง ไทยยืนยันกัมพูชาเริ่มก่อน โจมตีเป้าหมายพลเรือน ไทยตอบโต้ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000070066 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • พริกแห้งป่นละเอียด สม่ำเสมอ ไม่ติดขัด! ด้วย "เครื่องบดอาหาร เบอร์ 42" จาก ย. ยงฮะเฮง!
    เคยไหมที่อยากได้พริกป่นคุณภาพดี บดเองสดใหม่ แต่เครื่องบดไม่ตอบโจทย์? วันนี้เรามีวิดีโอสาธิตการทำงานสุดเจ๋งของ เครื่องบดอาหารเบอร์ 42 สเตนเลส Bonny ที่จะทำให้คุณทึ่งในประสิทธิภาพ!

    ในคลิปนี้ เราจะพาคุณไปดูการบดพริกแห้งคั่วด้วยเครื่องบดเบอร์ 42 ที่ให้ผลลัพธ์ละเอียดถึง 4.5 มม. เนื้อพริกป่นที่ได้ สวยงาม ละเอียดสม่ำเสมอ น่าใช้สุดๆ! บอกเลยว่างานบดพริกของคุณจะง่ายขึ้นอีกเยอะ!

    ข้อมูลเครื่องบดอาหาร เบอร์ 42 สแตนเลส
    กำลังมอเตอร์: 5 แรงม้า (HP)
    แรงดันไฟฟ้า: 380 โวลต์ (V) / ระบบไฟ 3 เฟส + สายดิน 1 เส้น
    ขนาดเครื่อง (กว้างxยาวxสูง): 1095 x 535 x 955 มม.
    กำลังการผลิต: 300 - 500 กิโลกรัม/ชั่วโมง (KG/H)
    การขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนด้วยสายพาน 3 เส้น และทดด้วยโซ่ 2 เส้น

    คุณสมบัติเด่น:
    มีกล่องกันน้ำป้องกันระบบแม่เหล็กคอนแทคเตอร์ (มอเตอร์ไม่โอเวอร์โหลด)
    ปุ่มควบคุมการทำงานครบครัน: ปุ่มกดหยุดฉุกเฉิน, ปุ่มเดินหน้า-ถอยหลัง
    ได้มาตรฐาน GMP: ออกแบบมาเพื่อสุขอนามัยที่ดี ทำความสะอาดง่าย ตอบโจทย์มาตรฐานโรงงาน
    ดูแลรักษาง่าย: มีอะไหล่ภายในหลากหลายรูปแบบ รองรับการใช้งานและบำรุงรักษา
    ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหาร หรือต้องการเครื่องบดคุณภาพเยี่ยมไว้ใช้งาน เครื่องบดอาหารเบอร์ 42 คือคำตอบของคุณ!

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY
    สนใจสินค้าเครื่องไหน? เข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ!
    เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำเครื่องจักรสำหรับอาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน ทั้งเครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ

    เวลาเปิดทำการ:
    จันทร์-ศุกร์: 8.00 - 17.00 น.
    วันเสาร์: 8.00 - 16.00 น.
    แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/1SDJGYWvwkPy7CAJA

    ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อ ได้หลายช่องทาง!
    โทร: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    แชทเลย! Messenger: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/5H812n9
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    E-mail: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องบดอาหาร #เครื่องบดพริกแห้ง #พริกป่น #เครื่องบดสเตนเลส #เครื่องบดอุตสาหกรรม #เครื่องบดขนาดใหญ่ #เครื่องบดเนื้อ #เครื่องบดผัก #เครื่องบดสมุนไพร #เครื่องบดอาหารเบอร์42 #ยยงฮะเฮง #BONNY #ธุรกิจอาหาร #อุปกรณ์ครัว #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #โรงงานผลิตพริกป่น #วัตถุดิบอาหาร #เครื่องเทศ #เครื่องจักรคุณภาพ #ทำอาหารง่ายๆ #ครัวร้านอาหาร #ผู้ประกอบการอาหาร #การผลิตอาหาร #บดละเอียด #เครื่องบดกำลังสูง
    🌶️✨ พริกแห้งป่นละเอียด สม่ำเสมอ ไม่ติดขัด! ด้วย "เครื่องบดอาหาร เบอร์ 42" จาก ย. ยงฮะเฮง! ✨🌶️ เคยไหมที่อยากได้พริกป่นคุณภาพดี บดเองสดใหม่ แต่เครื่องบดไม่ตอบโจทย์? วันนี้เรามีวิดีโอสาธิตการทำงานสุดเจ๋งของ เครื่องบดอาหารเบอร์ 42 สเตนเลส Bonny ที่จะทำให้คุณทึ่งในประสิทธิภาพ! ในคลิปนี้ เราจะพาคุณไปดูการบดพริกแห้งคั่วด้วยเครื่องบดเบอร์ 42 ที่ให้ผลลัพธ์ละเอียดถึง 4.5 มม. เนื้อพริกป่นที่ได้ สวยงาม ละเอียดสม่ำเสมอ น่าใช้สุดๆ! บอกเลยว่างานบดพริกของคุณจะง่ายขึ้นอีกเยอะ! ข้อมูลเครื่องบดอาหาร เบอร์ 42 สแตนเลส 📍 กำลังมอเตอร์: 5 แรงม้า (HP) 📍 แรงดันไฟฟ้า: 380 โวลต์ (V) / ระบบไฟ 3 เฟส + สายดิน 1 เส้น 📍 ขนาดเครื่อง (กว้างxยาวxสูง): 1095 x 535 x 955 มม. 📍 กำลังการผลิต: 300 - 500 กิโลกรัม/ชั่วโมง (KG/H) 📍 การขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนด้วยสายพาน 3 เส้น และทดด้วยโซ่ 2 เส้น คุณสมบัติเด่น: 📍 มีกล่องกันน้ำป้องกันระบบแม่เหล็กคอนแทคเตอร์ (มอเตอร์ไม่โอเวอร์โหลด) 📍 ปุ่มควบคุมการทำงานครบครัน: ปุ่มกดหยุดฉุกเฉิน, ปุ่มเดินหน้า-ถอยหลัง 📍 ได้มาตรฐาน GMP: ออกแบบมาเพื่อสุขอนามัยที่ดี ทำความสะอาดง่าย ตอบโจทย์มาตรฐานโรงงาน 📍 ดูแลรักษาง่าย: มีอะไหล่ภายในหลากหลายรูปแบบ รองรับการใช้งานและบำรุงรักษา ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหาร หรือต้องการเครื่องบดคุณภาพเยี่ยมไว้ใช้งาน เครื่องบดอาหารเบอร์ 42 คือคำตอบของคุณ! #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY 📍 สนใจสินค้าเครื่องไหน? เข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ! เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำเครื่องจักรสำหรับอาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน ทั้งเครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ ⏰ เวลาเปิดทำการ: จันทร์-ศุกร์: 8.00 - 17.00 น. วันเสาร์: 8.00 - 16.00 น. 🗺️ แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/1SDJGYWvwkPy7CAJA 📞 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อ ได้หลายช่องทาง! โทร: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 แชทเลย! Messenger: m.me/yonghahheng LINE: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/5H812n9 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com E-mail: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com #เครื่องบดอาหาร #เครื่องบดพริกแห้ง #พริกป่น #เครื่องบดสเตนเลส #เครื่องบดอุตสาหกรรม #เครื่องบดขนาดใหญ่ #เครื่องบดเนื้อ #เครื่องบดผัก #เครื่องบดสมุนไพร #เครื่องบดอาหารเบอร์42 #ยยงฮะเฮง #BONNY #ธุรกิจอาหาร #อุปกรณ์ครัว #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #โรงงานผลิตพริกป่น #วัตถุดิบอาหาร #เครื่องเทศ #เครื่องจักรคุณภาพ #ทำอาหารง่ายๆ #ครัวร้านอาหาร #ผู้ประกอบการอาหาร #การผลิตอาหาร #บดละเอียด #เครื่องบดกำลังสูง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อวัยรุ่นมีเพื่อนใหม่ที่ชื่อว่า “AI”

    ลองนึกภาพวัยรุ่นที่กำลังเครียดเรื่องความรัก การบ้าน หรือแม้แต่การเลือกชุดไปงานเลี้ยง แล้วหันไปปรึกษา “เพื่อน” ที่ไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยตัดสิน และพร้อมตอบทุกคำถามทันที—นั่นคือ AI companion ที่กำลังกลายเป็นเพื่อนสนิทของวัยรุ่นอเมริกันจำนวนมาก

    จากการสำรวจของ Common Sense Media พบว่า:
    - มากกว่า 70% ของวัยรุ่นเคยใช้ AI companions
    - ครึ่งหนึ่งใช้เป็นประจำ
    - 31% บอกว่าการคุยกับ AI “น่าพอใจเท่าหรือมากกว่าการคุยกับเพื่อนจริง”

    วัยรุ่นหลายคนใช้ AI เพื่อขอคำแนะนำเรื่องชีวิตประจำวัน เช่น การแต่งตัว การเขียนอีเมล หรือแม้แต่การตัดสินใจเรื่องความสัมพันธ์ ตัวอย่างเช่น มีวัยรุ่นคนหนึ่งให้ AI เขียนข้อความเลิกกับแฟนแทนตัวเอง ซึ่งทำให้เพื่อนของเขารู้สึกว่า “นี่มันดิสโทเปียชัด ๆ”

    นักวิจัยเตือนว่า AI อาจทำให้วัยรุ่นพัฒนาทักษะทางสังคมได้ไม่เต็มที่ เพราะ AI มักจะ “เห็นด้วย” กับทุกสิ่ง ไม่ท้าทาย ไม่สอนให้เข้าใจมุมมองของคนอื่น และไม่ช่วยให้เรียนรู้การอ่านอารมณ์หรือสัญญาณทางสังคม

    https://www.techspot.com/news/108793-ai-new-best-friend-many-teens-never-no.html
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อวัยรุ่นมีเพื่อนใหม่ที่ชื่อว่า “AI” ลองนึกภาพวัยรุ่นที่กำลังเครียดเรื่องความรัก การบ้าน หรือแม้แต่การเลือกชุดไปงานเลี้ยง แล้วหันไปปรึกษา “เพื่อน” ที่ไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยตัดสิน และพร้อมตอบทุกคำถามทันที—นั่นคือ AI companion ที่กำลังกลายเป็นเพื่อนสนิทของวัยรุ่นอเมริกันจำนวนมาก จากการสำรวจของ Common Sense Media พบว่า: - มากกว่า 70% ของวัยรุ่นเคยใช้ AI companions - ครึ่งหนึ่งใช้เป็นประจำ - 31% บอกว่าการคุยกับ AI “น่าพอใจเท่าหรือมากกว่าการคุยกับเพื่อนจริง” วัยรุ่นหลายคนใช้ AI เพื่อขอคำแนะนำเรื่องชีวิตประจำวัน เช่น การแต่งตัว การเขียนอีเมล หรือแม้แต่การตัดสินใจเรื่องความสัมพันธ์ ตัวอย่างเช่น มีวัยรุ่นคนหนึ่งให้ AI เขียนข้อความเลิกกับแฟนแทนตัวเอง ซึ่งทำให้เพื่อนของเขารู้สึกว่า “นี่มันดิสโทเปียชัด ๆ” นักวิจัยเตือนว่า AI อาจทำให้วัยรุ่นพัฒนาทักษะทางสังคมได้ไม่เต็มที่ เพราะ AI มักจะ “เห็นด้วย” กับทุกสิ่ง ไม่ท้าทาย ไม่สอนให้เข้าใจมุมมองของคนอื่น และไม่ช่วยให้เรียนรู้การอ่านอารมณ์หรือสัญญาณทางสังคม https://www.techspot.com/news/108793-ai-new-best-friend-many-teens-never-no.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI is the new best friend for many teens, and it never says "no"
    "It's eye-opening," said Michael Robb, the study's lead author and head researcher at Common Sense. He told The Associated Press that even researchers were surprised by the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ AI อาจกลืนงานบริการลูกค้า
    ลองจินตนาการว่าโทรหาฝ่ายบริการลูกค้า แล้วไม่มีเสียงมนุษย์ตอบรับอีกต่อไป—มีเพียง AI ที่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว ไม่ผิดพลาด และไม่รู้สึกอะไรเลยแม้จะถูกต่อว่า นี่คือภาพอนาคตที่ Sam Altman วาดไว้ในการประชุมที่ Federal Reserve Board

    เขาเตือนว่า AI อาจ “ลบล้าง” หมวดงานบางประเภทไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะงานบริการลูกค้า เพราะ AI สามารถทำงานได้เร็วกว่า ไม่ต้องโอนสาย ไม่ต้องรอคิว และไม่ทำผิดพลาด

    แต่ในโลกจริง มันยังไม่สมบูรณ์แบบนัก ตัวอย่างเช่น Klarna ที่เคยใช้ AI chatbot ดูแลลูกค้า 2 ใน 3 ของการสนทนา ก็ยังต้องกลับมาจ้างมนุษย์ เพราะคุณภาพของ AI ยังไม่ดีพอ และลูกค้าก็ยังต้องการ “ความเป็นมนุษย์” ในการสื่อสาร

    นอกจากนี้ Altman ยังยอมรับว่า แม้ AI อย่าง ChatGPT จะวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอหลายคน แต่เขาเองก็ยังไม่กล้าให้ AI ดูแลสุขภาพโดยไม่มีหมอร่วมด้วย

    และที่น่ากังวลกว่านั้นคือความสามารถของ AI ในการปลอมเสียงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งอาจนำไปสู่การโจรกรรมตัวตนหรือการหลอกลวงทางการเงินได้ง่ายขึ้น

    สาระจากข่าว
    AI อาจแทนที่งานบริการลูกค้าได้โดยสมบูรณ์
    Altman ระบุว่า AI สามารถทำงานได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์
    ไม่มีการโอนสายหรือความผิดพลาดแบบมนุษย์

    ตัวอย่างจากบริษัท Klarna
    เคยใช้ AI chatbot ดูแลลูกค้าเป็นหลัก
    กลับมาจ้างมนุษย์เพราะคุณภาพของ AI ยังไม่ดีพอ

    AI ในวงการแพทย์
    ChatGPT สามารถวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอหลายคน
    แต่ Altman ยังไม่กล้าใช้ AI โดยไม่มีหมอร่วม

    ความสามารถในการปลอมเสียง
    AI สามารถปลอมเสียงได้อย่างแม่นยำ
    เสี่ยงต่อการโจรกรรมตัวตนและหลอกลวงทางการเงิน

    คำเตือนจากข่าว
    งานบริการลูกค้าเสี่ยงถูกแทนที่
    อาจทำให้คนตกงานจำนวนมากในอนาคต
    ความเป็นมนุษย์ในการบริการอาจหายไป

    AI อาจถูกใช้ในทางที่เป็นภัย
    ปลอมเสียงเพื่อหลอกลวงหรือโจมตีระบบการเงิน
    เสี่ยงต่อการถูกใช้โดยรัฐหรือองค์กรที่ไม่หวังดี

    การพึ่งพา AI มากเกินไป
    อาจทำให้เกิด “automation bias” คือเชื่อ AI มากเกินไป
    ส่งผลต่อการตัดสินใจที่ควรใช้วิจารณญาณของมนุษย์

    https://www.techspot.com/news/108792-openai-ceo-sam-altman-warns-ai-could-wipe.html
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ AI อาจกลืนงานบริการลูกค้า ลองจินตนาการว่าโทรหาฝ่ายบริการลูกค้า แล้วไม่มีเสียงมนุษย์ตอบรับอีกต่อไป—มีเพียง AI ที่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว ไม่ผิดพลาด และไม่รู้สึกอะไรเลยแม้จะถูกต่อว่า นี่คือภาพอนาคตที่ Sam Altman วาดไว้ในการประชุมที่ Federal Reserve Board เขาเตือนว่า AI อาจ “ลบล้าง” หมวดงานบางประเภทไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะงานบริการลูกค้า เพราะ AI สามารถทำงานได้เร็วกว่า ไม่ต้องโอนสาย ไม่ต้องรอคิว และไม่ทำผิดพลาด แต่ในโลกจริง มันยังไม่สมบูรณ์แบบนัก ตัวอย่างเช่น Klarna ที่เคยใช้ AI chatbot ดูแลลูกค้า 2 ใน 3 ของการสนทนา ก็ยังต้องกลับมาจ้างมนุษย์ เพราะคุณภาพของ AI ยังไม่ดีพอ และลูกค้าก็ยังต้องการ “ความเป็นมนุษย์” ในการสื่อสาร นอกจากนี้ Altman ยังยอมรับว่า แม้ AI อย่าง ChatGPT จะวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอหลายคน แต่เขาเองก็ยังไม่กล้าให้ AI ดูแลสุขภาพโดยไม่มีหมอร่วมด้วย และที่น่ากังวลกว่านั้นคือความสามารถของ AI ในการปลอมเสียงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งอาจนำไปสู่การโจรกรรมตัวตนหรือการหลอกลวงทางการเงินได้ง่ายขึ้น ✅ สาระจากข่าว ✅ AI อาจแทนที่งานบริการลูกค้าได้โดยสมบูรณ์ ➡️ Altman ระบุว่า AI สามารถทำงานได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์ ➡️ ไม่มีการโอนสายหรือความผิดพลาดแบบมนุษย์ ✅ ตัวอย่างจากบริษัท Klarna ➡️ เคยใช้ AI chatbot ดูแลลูกค้าเป็นหลัก ➡️ กลับมาจ้างมนุษย์เพราะคุณภาพของ AI ยังไม่ดีพอ ✅ AI ในวงการแพทย์ ➡️ ChatGPT สามารถวินิจฉัยโรคได้ดีกว่าหมอหลายคน ➡️ แต่ Altman ยังไม่กล้าใช้ AI โดยไม่มีหมอร่วม ✅ ความสามารถในการปลอมเสียง ➡️ AI สามารถปลอมเสียงได้อย่างแม่นยำ ➡️ เสี่ยงต่อการโจรกรรมตัวตนและหลอกลวงทางการเงิน ‼️ คำเตือนจากข่าว ‼️ งานบริการลูกค้าเสี่ยงถูกแทนที่ ⛔ อาจทำให้คนตกงานจำนวนมากในอนาคต ⛔ ความเป็นมนุษย์ในการบริการอาจหายไป ‼️ AI อาจถูกใช้ในทางที่เป็นภัย ⛔ ปลอมเสียงเพื่อหลอกลวงหรือโจมตีระบบการเงิน ⛔ เสี่ยงต่อการถูกใช้โดยรัฐหรือองค์กรที่ไม่หวังดี ‼️ การพึ่งพา AI มากเกินไป ⛔ อาจทำให้เกิด “automation bias” คือเชื่อ AI มากเกินไป ⛔ ส่งผลต่อการตัดสินใจที่ควรใช้วิจารณญาณของมนุษย์ https://www.techspot.com/news/108792-openai-ceo-sam-altman-warns-ai-could-wipe.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Sam Altman warns AI could wipe out entire job categories, customer support roles most at risk
    Speaking at the Capital Framework for Large Banks conference at the Federal Reserve Board of Governors, Altman addressed one of the most hotly debated issues around generative...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากศูนย์ข้อมูล: เมื่อจีนมีพลังคอมพิวเตอร์เหลือใช้ แต่ยังขายไม่ได้

    Tom’s Hardware รายงานว่า จีนกำลังพัฒนาเครือข่ายระดับประเทศเพื่อขายพลังประมวลผลส่วนเกินจากศูนย์ข้อมูล ที่ไม่ได้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและสนับสนุนการเติบโตของ AI และคลาวด์ในประเทศ แต่ก็เผชิญกับอุปสรรคสำคัญ เช่น ความล่าช้าในการเชื่อมต่อ (latency) และ ความหลากหลายของฮาร์ดแวร์ ที่ทำให้การรวมระบบเป็นเรื่องยาก

    จีนเคยผลักดันยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing” โดยให้สร้างศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ตะวันตกที่ค่าไฟถูก เพื่อรองรับความต้องการจากเมืองเศรษฐกิจฝั่งตะวันออก แต่ความจริงกลับไม่เป็นไปตามแผน:
    - ศูนย์ข้อมูลหลายแห่งใช้งานเพียง 20–30% ของความสามารถ
    - รัฐลงทุนไปกว่า $3.4 พันล้านในปี 2024 แต่ผลตอบแทนยังไม่คุ้ม
    - มีโครงการถูกยกเลิกกว่า 100 แห่งใน 18 เดือนที่ผ่านมา

    เพื่อแก้ปัญหา รัฐบาลจีนจึงเตรียมสร้าง เครือข่ายคลาวด์ระดับชาติ โดยรวมพลังประมวลผลที่เหลือจากศูนย์ต่าง ๆ มาให้บริการผ่านระบบรวมศูนย์ โดยร่วมมือกับ China Mobile, China Telecom และ China Unicom

    แต่ก็มีอุปสรรคใหญ่:
    - ความล่าช้าในการเชื่อมต่อจากศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ห่างไกล
    - ความหลากหลายของฮาร์ดแวร์ เช่น บางแห่งใช้ Nvidia CUDA บางแห่งใช้ Huawei CANN ทำให้รวมกันไม่ได้ง่าย

    แม้จะมีความท้าทาย แต่รัฐบาลยังคงมุ่งมั่น เพราะเชื่อว่าแนวทางนี้จะช่วยให้การลงทุนใน AI และคลาวด์มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ห่างไกลมักมีค่าไฟถูก แต่ latency สูง
    ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วตอบสนองทันที

    การรวมพลังประมวลผลแบบ distributed computing ต้องใช้ระบบจัดการที่ซับซ้อน
    เช่น Kubernetes, scheduling algorithms และระบบ billing ที่แม่นยำ

    ความหลากหลายของฮาร์ดแวร์ในคลาวด์อาจต้องใช้ containerization หรือ virtualization
    เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกได้ว่าจะใช้ GPU แบบไหน

    การสร้างเครือข่ายคลาวด์ระดับชาติอาจช่วยลดการพึ่งพา hyperscalers ต่างชาติ
    เช่น AWS, Azure และ Google Cloud

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/china-is-developing-nation-spanning-network-to-sell-surplus-data-center-compute-power-latency-disparate-hardware-are-key-hurdles
    🎙️ เรื่องเล่าจากศูนย์ข้อมูล: เมื่อจีนมีพลังคอมพิวเตอร์เหลือใช้ แต่ยังขายไม่ได้ Tom’s Hardware รายงานว่า จีนกำลังพัฒนาเครือข่ายระดับประเทศเพื่อขายพลังประมวลผลส่วนเกินจากศูนย์ข้อมูล ที่ไม่ได้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและสนับสนุนการเติบโตของ AI และคลาวด์ในประเทศ แต่ก็เผชิญกับอุปสรรคสำคัญ เช่น ความล่าช้าในการเชื่อมต่อ (latency) และ ความหลากหลายของฮาร์ดแวร์ ที่ทำให้การรวมระบบเป็นเรื่องยาก จีนเคยผลักดันยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing” โดยให้สร้างศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ตะวันตกที่ค่าไฟถูก เพื่อรองรับความต้องการจากเมืองเศรษฐกิจฝั่งตะวันออก แต่ความจริงกลับไม่เป็นไปตามแผน: - ศูนย์ข้อมูลหลายแห่งใช้งานเพียง 20–30% ของความสามารถ - รัฐลงทุนไปกว่า $3.4 พันล้านในปี 2024 แต่ผลตอบแทนยังไม่คุ้ม - มีโครงการถูกยกเลิกกว่า 100 แห่งใน 18 เดือนที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหา รัฐบาลจีนจึงเตรียมสร้าง เครือข่ายคลาวด์ระดับชาติ โดยรวมพลังประมวลผลที่เหลือจากศูนย์ต่าง ๆ มาให้บริการผ่านระบบรวมศูนย์ โดยร่วมมือกับ China Mobile, China Telecom และ China Unicom แต่ก็มีอุปสรรคใหญ่: - ความล่าช้าในการเชื่อมต่อจากศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ห่างไกล - ความหลากหลายของฮาร์ดแวร์ เช่น บางแห่งใช้ Nvidia CUDA บางแห่งใช้ Huawei CANN ทำให้รวมกันไม่ได้ง่าย แม้จะมีความท้าทาย แต่รัฐบาลยังคงมุ่งมั่น เพราะเชื่อว่าแนวทางนี้จะช่วยให้การลงทุนใน AI และคลาวด์มีประสิทธิภาพมากขึ้น 💡 ศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ห่างไกลมักมีค่าไฟถูก แต่ latency สูง ➡️ ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วตอบสนองทันที 💡 การรวมพลังประมวลผลแบบ distributed computing ต้องใช้ระบบจัดการที่ซับซ้อน ➡️ เช่น Kubernetes, scheduling algorithms และระบบ billing ที่แม่นยำ 💡 ความหลากหลายของฮาร์ดแวร์ในคลาวด์อาจต้องใช้ containerization หรือ virtualization ➡️ เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกได้ว่าจะใช้ GPU แบบไหน 💡 การสร้างเครือข่ายคลาวด์ระดับชาติอาจช่วยลดการพึ่งพา hyperscalers ต่างชาติ ➡️ เช่น AWS, Azure และ Google Cloud https://www.tomshardware.com/desktops/servers/china-is-developing-nation-spanning-network-to-sell-surplus-data-center-compute-power-latency-disparate-hardware-are-key-hurdles
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากคลื่นไร้สาย: Wi-Fi 8 ไม่เน้นเร็ว แต่เน้น “ไม่หลุด”

    Tom’s Hardware รายงานว่า Wi-Fi 8 (มาตรฐาน IEEE 802.11bn) กำลังพัฒนาโดยเน้น “ความเสถียรสูงสุด” (Ultra High Reliability - UHR) มากกว่าความเร็ว ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแนวทางจากรุ่นก่อนหน้า โดยมุ่งหวังให้การเชื่อมต่อไร้สายมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น สัญญาณอ่อน, การรบกวน, หรือการเคลื่อนที่ของผู้ใช้งาน

    ในอดีต Wi-Fi แข่งกันเรื่องความเร็ว แต่ Wi-Fi 8 กลับเลือกเส้นทางใหม่ — มุ่งเน้นความเสถียรและความน่าเชื่อถือของการเชื่อมต่อ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่สัญญาณไม่ดี เช่น ในโรงงาน, สนามบิน, หรืออาคารที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น

    IEEE และ Qualcomm ร่วมกันกำหนดเป้าหมายของ Wi-Fi 8 ภายใต้แนวคิด “Ultra High Reliability” ซึ่งประกอบด้วย:
    - เพิ่ม throughput จริงในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายขึ้น 25%
    - ลด latency ที่ระดับ 95th percentile ลง 25% เพื่อรองรับงานที่ต้องการความเร็วตอบสนองสูง เช่น AR, automation, และ AI
    - ลดการสูญเสียแพ็กเก็ต (packet loss) ลง 25% โดยเฉพาะเมื่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ระหว่าง access point

    Wi-Fi 8 ยังคงใช้พื้นฐานเดียวกับ Wi-Fi 7 เช่น รองรับคลื่น 2, 4, 5 และ 6 GHz, ใช้ 4096-QAM, MU-MIMO, OFDMA และช่องสัญญาณกว้างสูงสุด 320 MHz แต่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น:
    - Coordinated Spatial Reuse (Co-SR)
    - Coordinated Beamforming (Co-BF)
    - Dynamic Sub-Channel Operation (DSO)
    - Enhanced Modulation Coding Scheme (MCS)

    มาตรฐาน Wi-Fi 8 จะเริ่มรับรองในปี 2028 โดยคาดว่าจะมีผลกระทบต่อทั้งภาคอุตสาหกรรม, สาธารณะ, และการใช้งานในบ้าน

    https://www.tomshardware.com/networking/next-gen-wi-fi-8-focuses-on-reliability-instead-of-speed-ultra-high-reliability-initiative-boosts-performance-lowers-latency-and-packet-loss-in-challenging-conditions
    🎙️ เรื่องเล่าจากคลื่นไร้สาย: Wi-Fi 8 ไม่เน้นเร็ว แต่เน้น “ไม่หลุด” Tom’s Hardware รายงานว่า Wi-Fi 8 (มาตรฐาน IEEE 802.11bn) กำลังพัฒนาโดยเน้น “ความเสถียรสูงสุด” (Ultra High Reliability - UHR) มากกว่าความเร็ว ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแนวทางจากรุ่นก่อนหน้า โดยมุ่งหวังให้การเชื่อมต่อไร้สายมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น สัญญาณอ่อน, การรบกวน, หรือการเคลื่อนที่ของผู้ใช้งาน ในอดีต Wi-Fi แข่งกันเรื่องความเร็ว แต่ Wi-Fi 8 กลับเลือกเส้นทางใหม่ — มุ่งเน้นความเสถียรและความน่าเชื่อถือของการเชื่อมต่อ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่สัญญาณไม่ดี เช่น ในโรงงาน, สนามบิน, หรืออาคารที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น IEEE และ Qualcomm ร่วมกันกำหนดเป้าหมายของ Wi-Fi 8 ภายใต้แนวคิด “Ultra High Reliability” ซึ่งประกอบด้วย: - เพิ่ม throughput จริงในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายขึ้น 25% - ลด latency ที่ระดับ 95th percentile ลง 25% เพื่อรองรับงานที่ต้องการความเร็วตอบสนองสูง เช่น AR, automation, และ AI - ลดการสูญเสียแพ็กเก็ต (packet loss) ลง 25% โดยเฉพาะเมื่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ระหว่าง access point Wi-Fi 8 ยังคงใช้พื้นฐานเดียวกับ Wi-Fi 7 เช่น รองรับคลื่น 2, 4, 5 และ 6 GHz, ใช้ 4096-QAM, MU-MIMO, OFDMA และช่องสัญญาณกว้างสูงสุด 320 MHz แต่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น: - Coordinated Spatial Reuse (Co-SR) - Coordinated Beamforming (Co-BF) - Dynamic Sub-Channel Operation (DSO) - Enhanced Modulation Coding Scheme (MCS) มาตรฐาน Wi-Fi 8 จะเริ่มรับรองในปี 2028 โดยคาดว่าจะมีผลกระทบต่อทั้งภาคอุตสาหกรรม, สาธารณะ, และการใช้งานในบ้าน https://www.tomshardware.com/networking/next-gen-wi-fi-8-focuses-on-reliability-instead-of-speed-ultra-high-reliability-initiative-boosts-performance-lowers-latency-and-packet-loss-in-challenging-conditions
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากหน้าจอ: เมื่อ Copilot เข้ามาแทนที่ MSN ใน Windows 11

    Microsoft กำลังปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน Widgets ใน Windows 11 โดยเปลี่ยนจากการแสดงข่าวจาก MSN แบบเดิม ไปใช้ระบบใหม่ชื่อว่า Copilot Discover ซึ่งมีความสามารถดังนี้:

    ระบบ AI ที่เข้าใจผู้ใช้
    - Copilot Discover ใช้ AI วิเคราะห์ความสนใจของผู้ใช้
    - คัดเลือกข่าวที่ตรงกับพฤติกรรมการอ่านและการโต้ตอบ
    - ผู้ใช้สามารถ upvote/downvote, ติดตามหรือบล็อกแหล่งข่าว และ bookmark ข่าวได้

    การออกแบบใหม่ที่เน้น UX
    - กล่องข่าวมีขนาดใหญ่ขึ้น ตัวอักษรใหญ่ขึ้น อ่านง่าย
    - วิดีโอในข่าวเล่นอัตโนมัติเมื่อ hover
    - มีปุ่ม Notifications สำหรับข่าวด่วนและความเคลื่อนไหวตลาดหุ้น
    - สามารถปรับแต่งหรือปิดการแจ้งเตือนได้

    การเปลี่ยนแปลงใน Widgets Board
    - Widgets ถูกย้ายไปอยู่ในแท็บเฉพาะ
    - ไม่สามารถขยายเต็มหน้าจอได้อีก
    - Weather widget ไม่สามารถย้ายหรือปรับขนาดได้
    - ข่าวบางเรื่องเปิดอ่านได้ในแผง Widgets โดยตรง ไม่ต้องไปที่ MSN

    แม้ระบบจะใช้ Copilot Discover ในการจัดเรียงข่าว แต่เนื้อหายังคงมาจาก MSN เช่นเดิม และการเปลี่ยนแปลงนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ อาจมีการปรับปรุงเพิ่มเติมในเวอร์ชัน Insider ของ Windows 11

    https://www.neowin.net/news/microsoft-planning-to-replace-msn-feed-in-windows-11-widgets-with-copilot-discover/
    🎙️ เรื่องเล่าจากหน้าจอ: เมื่อ Copilot เข้ามาแทนที่ MSN ใน Windows 11 Microsoft กำลังปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน Widgets ใน Windows 11 โดยเปลี่ยนจากการแสดงข่าวจาก MSN แบบเดิม ไปใช้ระบบใหม่ชื่อว่า Copilot Discover ซึ่งมีความสามารถดังนี้: 🧠 ระบบ AI ที่เข้าใจผู้ใช้ - Copilot Discover ใช้ AI วิเคราะห์ความสนใจของผู้ใช้ - คัดเลือกข่าวที่ตรงกับพฤติกรรมการอ่านและการโต้ตอบ - ผู้ใช้สามารถ upvote/downvote, ติดตามหรือบล็อกแหล่งข่าว และ bookmark ข่าวได้ 📱 การออกแบบใหม่ที่เน้น UX - กล่องข่าวมีขนาดใหญ่ขึ้น ตัวอักษรใหญ่ขึ้น อ่านง่าย - วิดีโอในข่าวเล่นอัตโนมัติเมื่อ hover - มีปุ่ม Notifications สำหรับข่าวด่วนและความเคลื่อนไหวตลาดหุ้น - สามารถปรับแต่งหรือปิดการแจ้งเตือนได้ 🧭 การเปลี่ยนแปลงใน Widgets Board - Widgets ถูกย้ายไปอยู่ในแท็บเฉพาะ - ไม่สามารถขยายเต็มหน้าจอได้อีก - Weather widget ไม่สามารถย้ายหรือปรับขนาดได้ - ข่าวบางเรื่องเปิดอ่านได้ในแผง Widgets โดยตรง ไม่ต้องไปที่ MSN แม้ระบบจะใช้ Copilot Discover ในการจัดเรียงข่าว แต่เนื้อหายังคงมาจาก MSN เช่นเดิม และการเปลี่ยนแปลงนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ อาจมีการปรับปรุงเพิ่มเติมในเวอร์ชัน Insider ของ Windows 11 https://www.neowin.net/news/microsoft-planning-to-replace-msn-feed-in-windows-11-widgets-with-copilot-discover/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft planning to replace MSN feed in Windows 11 widgets with Copilot Discover
    It appears that Microsoft is testing a new UX for the Widgets board in Windows 11, powered by Copilot Discover.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep303 (live)
    “ไทย-กัมพูชา” แตกหัก ถึงเวลาตอบโต้กลับ ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

    คลิก https://m.youtube.com/watch?v=L_qNfj1EfMc

    #กัมพูชายิงก่อน #ความจริงต้องพูด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #Sondhitalk #Live #สนธิ
    🔴 SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep303 (live) “ไทย-กัมพูชา” แตกหัก ถึงเวลาตอบโต้กลับ ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด • คลิก https://m.youtube.com/watch?v=L_qNfj1EfMc #กัมพูชายิงก่อน #ความจริงต้องพูด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #Sondhitalk #Live #สนธิ
    Love
    Like
    37
    16 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 841 มุมมอง 3 รีวิว
  • IO กัมพูชาไม่ได้ “ลุยเดี่ยว” แต่ “เล่นเป็นทีม” Scambodia

    มีบางสงคราม ที่ยังไม่ทันยิงปืน แต่เริ่มยึดพื้นที่ความคิดทั้งแผ่นดิน และในวันนี้เสียงระเบิดเริ่มขึ้น ความเข้าใจผิดในมุมต่างๆเริ่มขยายขึ้นแล้ว

    และวันนี้ เรากำลังอยู่ในสนามนั้น

    ภาพชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่าการ “ปั่นหัว ปั่นข่าว” จากกลุ่ม IO ที่มีต้นทางจากกัมพูชา ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ และไม่ใช่แค่ฝีมือของ “มือสมัครเล่น” แบบที่เราชอบหลอกตัวเอง แต่เป็นการ “เล่นกันเป็นทีม” แบบมีทั้งคนเปิด คนรับ และคนตามน้ำอย่างเป็นระบบ

    ฝั่งโน้น ใช้ “ความไม่รู้” ของประชาชน เป็น “จุดแข็ง” ในการจู่โจม ขณะที่ฝั่งนี้ กลับใช้ “ความรู้” ของเจ้าหน้าที่ เป็นแค่ “คำอธิบาย” ที่ไม่มีใครฟังจนจบ

    คำถามที่ต้องกล้าถามคือ ในสงครามข้อมูล ใครควบคุม narrative คนนั้นคือคนทิศทางของประเทศ แล้วตอนนี้ narrative ของเรา อยู่ในมือใคร? IO แบบใหม่ ไม่ได้ล่อเป้าแค่ด้วยความเท็จ แต่ ลวงให้เชื่อ ด้วยความคลุมเครือ

    มันไม่ใช่ “fake news” แบบเก่า แต่คือ “context manipulation” แบบใหม่

    คนทำข่าวไม่ต้องพูดเท็จ แค่ “บิดลำดับ” หรือ “โยงคำพูด” ก็เปลี่ยนความหมายได้ทั้งเกม ยิ่งในสังคมที่คนเสพข่าวแบบ “ครึ่งบรรทัด” แล้วแชร์กันทั้งประเทศ ความเสียหายไม่ต้องรอ 24 ชั่วโมง

    แล้วฝั่งไทยล่ะ?

    ยังตั้งรับแบบ “ขอพื้นที่ชี้แจง” ยังคิดว่า “เดี๋ยวคนก็รู้ทันกัมพูชา” ยังใช้วิธี “ชี้แจงทีหลัง” กับสงครามที่เขา ยิงก่อน-ลบก่อน-ไปก่อน

    หลายคนโทรมาถามว่า “ควรทำยังไง?” แต่พอให้คำตอบไป ก็ เงียบ เหมือนเดิม

    เพราะสิ่งที่ต้องทำ มันไม่ใช่แค่ “สั่งให้โพสต์ตอบ” แต่คือการ “วางโครงสร้าง narrative” ใหม่ทั้งหมด

    เรากำลังพ่าย เพราะเราไม่มี “Story Commander”

    เราไม่ขาดคนฉลาด เราไม่ขาดข้อมูล แต่เรา ขาดแม่ทัพที่ควบคุม “กลยุทธ์เล่าเรื่อง” ให้ทั้งกองทัพ ภาคการเมือง สื่อ และ ภาคประชาชน เดินไปในจังหวะเดียวกัน

    ในเมื่อเขาใช้ “หมาก IO แบบสามจังหวะ” คือ เปิด – โยน – ขยาย เราต้องตอบด้วยหมากที่ เหนือกว่า ไม่ใช่แค่ “ลบล้าง” แต่ต้อง “ครองใจ”

    อย่าให้ IO สร้าง story ที่เราต้องวิ่งตามตลอดชีวิต

    เราอาจไม่หยุดเขาได้ แต่เราสามารถ หยุด “ความเชื่อ” ที่เขาฝังไว้ในหัวคน ด้วยการสร้าง narrative ที่คนพร้อมปกป้องให้เรา ไม่ใช่แค่รอให้เราชี้แจง อย่าใช้แค่ “ข้อเท็จจริง” ไปสู้กับ “ความเชื่อ” เพราะในยุคนี้ ความเชื่อคือ reality ที่เร็วกว่า ข่าว Game ยังไม่จบ แต่อย่าให้เขาคุมกระดาน

    เราจะต้องมี War Room ที่คิดล่วงหน้า ไม่ใช่คิดตามหลัง Narrative ที่ “ไม่ต้องอธิบาย” แต่คนเข้าใจทันที Story Commander ที่ไม่ได้รอไฟไหม้… แต่ปลูกป่าให้เขาจุดไฟไม่ได้

    และที่สำคัญ ถ้าไม่มีใครทำ ก็ต้องมีคน เริ่มทำ ถ้าไม่มีคนลงมือ ก็อย่าบ่นว่า “โดนปั่นแล้วทำไมไม่มีใครแก้”

    เพราะในสงครามของความเชื่อ ใครไม่ขยับ คือแพ้โดยไม่รู้ตัว

    ผศ.ดร.ธีรศานต์ สหัสสพาศน์
    ผู้อำนวยการหลักสูตร DNA by SPU
    และอาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ ม.ศรีปทุม

    #TheStructure
    #TheStructureEssay
    #ชายแดนไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน
    #scambodia
    IO กัมพูชาไม่ได้ “ลุยเดี่ยว” แต่ “เล่นเป็นทีม” Scambodia มีบางสงคราม ที่ยังไม่ทันยิงปืน แต่เริ่มยึดพื้นที่ความคิดทั้งแผ่นดิน และในวันนี้เสียงระเบิดเริ่มขึ้น ความเข้าใจผิดในมุมต่างๆเริ่มขยายขึ้นแล้ว และวันนี้ เรากำลังอยู่ในสนามนั้น ภาพชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่าการ “ปั่นหัว ปั่นข่าว” จากกลุ่ม IO ที่มีต้นทางจากกัมพูชา ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ และไม่ใช่แค่ฝีมือของ “มือสมัครเล่น” แบบที่เราชอบหลอกตัวเอง แต่เป็นการ “เล่นกันเป็นทีม” แบบมีทั้งคนเปิด คนรับ และคนตามน้ำอย่างเป็นระบบ ฝั่งโน้น ใช้ “ความไม่รู้” ของประชาชน เป็น “จุดแข็ง” ในการจู่โจม ขณะที่ฝั่งนี้ กลับใช้ “ความรู้” ของเจ้าหน้าที่ เป็นแค่ “คำอธิบาย” ที่ไม่มีใครฟังจนจบ คำถามที่ต้องกล้าถามคือ ในสงครามข้อมูล ใครควบคุม narrative คนนั้นคือคนทิศทางของประเทศ แล้วตอนนี้ narrative ของเรา อยู่ในมือใคร? IO แบบใหม่ ไม่ได้ล่อเป้าแค่ด้วยความเท็จ แต่ ลวงให้เชื่อ ด้วยความคลุมเครือ มันไม่ใช่ “fake news” แบบเก่า แต่คือ “context manipulation” แบบใหม่ คนทำข่าวไม่ต้องพูดเท็จ แค่ “บิดลำดับ” หรือ “โยงคำพูด” ก็เปลี่ยนความหมายได้ทั้งเกม ยิ่งในสังคมที่คนเสพข่าวแบบ “ครึ่งบรรทัด” แล้วแชร์กันทั้งประเทศ ความเสียหายไม่ต้องรอ 24 ชั่วโมง แล้วฝั่งไทยล่ะ? ยังตั้งรับแบบ “ขอพื้นที่ชี้แจง” ยังคิดว่า “เดี๋ยวคนก็รู้ทันกัมพูชา” ยังใช้วิธี “ชี้แจงทีหลัง” กับสงครามที่เขา ยิงก่อน-ลบก่อน-ไปก่อน หลายคนโทรมาถามว่า “ควรทำยังไง?” แต่พอให้คำตอบไป ก็ เงียบ เหมือนเดิม เพราะสิ่งที่ต้องทำ มันไม่ใช่แค่ “สั่งให้โพสต์ตอบ” แต่คือการ “วางโครงสร้าง narrative” ใหม่ทั้งหมด เรากำลังพ่าย เพราะเราไม่มี “Story Commander” เราไม่ขาดคนฉลาด เราไม่ขาดข้อมูล แต่เรา ขาดแม่ทัพที่ควบคุม “กลยุทธ์เล่าเรื่อง” ให้ทั้งกองทัพ ภาคการเมือง สื่อ และ ภาคประชาชน เดินไปในจังหวะเดียวกัน ในเมื่อเขาใช้ “หมาก IO แบบสามจังหวะ” คือ เปิด – โยน – ขยาย เราต้องตอบด้วยหมากที่ เหนือกว่า ไม่ใช่แค่ “ลบล้าง” แต่ต้อง “ครองใจ” อย่าให้ IO สร้าง story ที่เราต้องวิ่งตามตลอดชีวิต เราอาจไม่หยุดเขาได้ แต่เราสามารถ หยุด “ความเชื่อ” ที่เขาฝังไว้ในหัวคน ด้วยการสร้าง narrative ที่คนพร้อมปกป้องให้เรา ไม่ใช่แค่รอให้เราชี้แจง อย่าใช้แค่ “ข้อเท็จจริง” ไปสู้กับ “ความเชื่อ” เพราะในยุคนี้ ความเชื่อคือ reality ที่เร็วกว่า ข่าว Game ยังไม่จบ แต่อย่าให้เขาคุมกระดาน เราจะต้องมี War Room ที่คิดล่วงหน้า ไม่ใช่คิดตามหลัง Narrative ที่ “ไม่ต้องอธิบาย” แต่คนเข้าใจทันที Story Commander ที่ไม่ได้รอไฟไหม้… แต่ปลูกป่าให้เขาจุดไฟไม่ได้ และที่สำคัญ ถ้าไม่มีใครทำ ก็ต้องมีคน เริ่มทำ ถ้าไม่มีคนลงมือ ก็อย่าบ่นว่า “โดนปั่นแล้วทำไมไม่มีใครแก้” เพราะในสงครามของความเชื่อ ใครไม่ขยับ คือแพ้โดยไม่รู้ตัว ผศ.ดร.ธีรศานต์ สหัสสพาศน์ ผู้อำนวยการหลักสูตร DNA by SPU และอาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ ม.ศรีปทุม #TheStructure #TheStructureEssay #ชายแดนไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน #scambodia
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • “กรรมคัดเลือกพ่อแม่เรา...ไม่ใช่ฟ้าดินลำเอียง”

    เมื่อคุณเกิดมาในบ้านที่โหดร้าย
    กับพ่อแม่ที่ไม่เคยเป็นที่พักใจให้สักครั้ง
    คำถามยอดฮิตคือ...
    “ทำไมถึงต้องเจอแบบนี้?”

    ถ้าไม่อยากเชื่อว่าโลกนี้ไร้ความยุติธรรม
    ถ้าไม่อยากคิดว่าเราคือเหยื่อของโชคชะตาบังเอิญ
    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนว่า...

    “เรามีกรรมเป็นของของตน”
    เราเป็น ทายาทแห่งกรรม
    เราเกิดมาเพราะกรรม
    เราอยู่ในตระกูลนี้เพราะกรรม
    เราจะรับผลทุกอย่างที่เคยกระทำไว้ — ดีหรือร้าย — เพราะ กรรมคือของเราเอง

    ทำไมถึงได้พ่อแม่แบบนี้?

    พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด
    คือผลลัพธ์ของ วิบากกรรม ที่เคยกระทำไว้
    ช่วงชีวิตที่เราช่วยตัวเองไม่ได้—คือทารกแรกเกิด
    เป็นช่วงที่ “กรรมเก่า” มีสิทธิ์ชี้ขาดที่สุด

    ใครเคยฆ่าลูก ใครเคยทารุณเด็กเล็ก
    ใครเคยทำลายชีวิตที่ไร้ทางสู้
    กรรมเหล่านั้นจะส่งผลให้…
    เราเกิดมาในบ้านที่ความรุนแรงคือของประจำวัน

    แล้วคนที่ถูกพ่อแม่ทำร้ายล่ะ?

    คุณไม่ได้ผิดที่เจ็บ
    คุณไม่ได้ผิดที่ร้องไห้
    แต่ อย่าเผลอคิดว่าไม่มีคำอธิบาย

    พระพุทธศาสนาบอกเราว่า

    “กรรมเก่าอธิบายได้เสมอ
    และกรรมใหม่จะเป็นทางออกเดียวของเรา”

    คนที่ถูกทำร้าย ต้อง “ตั้งสติให้ไว”
    อย่าโต้ตอบด้วยความโกรธ
    อย่าคืนกรรมเก่าด้วยกรรมใหม่ที่ร้ายยิ่งกว่า

    แม้คุณจะเป็นฝ่ายเจ็บ
    แต่ยังมีทางเลือกเสมอ
    ว่าจะ “ปิดฉากกรรม” อย่างสงบ
    หรือ “เปิดฉากกรรมใหม่” ที่จะยิ่งลากให้เจ็บกว่าเดิมในภายหน้า

    เปลี่ยนบาดแผลให้เป็นบุญ

    ศาสนาพุทธไม่ได้บอกให้ “ทนแบบโง่ๆ”
    ไม่ได้สอนให้ “เงียบยอมจนสูญเสียตัวตน”
    แต่สอนให้เรา...

    รู้เท่าทันกรรม
    ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
    หยุดวงจรเจ็บที่รุ่นเรา

    ถ้าไม่อยากให้ลูกเรามีกรรมแบบเรา
    ถ้าไม่อยากเกิดในแดนประหารอีก
    จงเมตตาผู้ด้อยกว่าในชาตินี้ให้มากที่สุด
    ทั้งลูก หลาน ลูกน้อง ผู้ใช้แรงงาน หรือสัตว์ที่ไร้เสียง

    เพราะพวกเขา…
    คือกระจกสะท้อนพฤติกรรมของเราในอดีต
    และเป็นผู้คัดเลือก “แดนเกิดใหม่” ให้กับเราในอนาคต

    สรุปใจความ:

    “ใครอยากได้พ่อแม่ดีในชาติหน้า
    วันนี้ต้องเป็นพ่อแม่ที่ดีให้กับลูก”

    “ใครอยากได้เจ้านายเมตตาในชาติหน้า
    วันนี้ต้องปฏิบัติกับลูกน้องอย่างมีเมตตา”
    🧠 “กรรมคัดเลือกพ่อแม่เรา...ไม่ใช่ฟ้าดินลำเอียง” เมื่อคุณเกิดมาในบ้านที่โหดร้าย กับพ่อแม่ที่ไม่เคยเป็นที่พักใจให้สักครั้ง คำถามยอดฮิตคือ... “ทำไมถึงต้องเจอแบบนี้?” ถ้าไม่อยากเชื่อว่าโลกนี้ไร้ความยุติธรรม ถ้าไม่อยากคิดว่าเราคือเหยื่อของโชคชะตาบังเอิญ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนว่า... “เรามีกรรมเป็นของของตน” เราเป็น ทายาทแห่งกรรม เราเกิดมาเพราะกรรม เราอยู่ในตระกูลนี้เพราะกรรม เราจะรับผลทุกอย่างที่เคยกระทำไว้ — ดีหรือร้าย — เพราะ กรรมคือของเราเอง 👶 ทำไมถึงได้พ่อแม่แบบนี้? พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด คือผลลัพธ์ของ วิบากกรรม ที่เคยกระทำไว้ ช่วงชีวิตที่เราช่วยตัวเองไม่ได้—คือทารกแรกเกิด เป็นช่วงที่ “กรรมเก่า” มีสิทธิ์ชี้ขาดที่สุด ใครเคยฆ่าลูก ใครเคยทารุณเด็กเล็ก ใครเคยทำลายชีวิตที่ไร้ทางสู้ กรรมเหล่านั้นจะส่งผลให้… เราเกิดมาในบ้านที่ความรุนแรงคือของประจำวัน 💔 แล้วคนที่ถูกพ่อแม่ทำร้ายล่ะ? คุณไม่ได้ผิดที่เจ็บ คุณไม่ได้ผิดที่ร้องไห้ แต่ อย่าเผลอคิดว่าไม่มีคำอธิบาย พระพุทธศาสนาบอกเราว่า “กรรมเก่าอธิบายได้เสมอ และกรรมใหม่จะเป็นทางออกเดียวของเรา” คนที่ถูกทำร้าย ต้อง “ตั้งสติให้ไว” อย่าโต้ตอบด้วยความโกรธ อย่าคืนกรรมเก่าด้วยกรรมใหม่ที่ร้ายยิ่งกว่า แม้คุณจะเป็นฝ่ายเจ็บ แต่ยังมีทางเลือกเสมอ ว่าจะ “ปิดฉากกรรม” อย่างสงบ หรือ “เปิดฉากกรรมใหม่” ที่จะยิ่งลากให้เจ็บกว่าเดิมในภายหน้า ✨ เปลี่ยนบาดแผลให้เป็นบุญ ศาสนาพุทธไม่ได้บอกให้ “ทนแบบโง่ๆ” ไม่ได้สอนให้ “เงียบยอมจนสูญเสียตัวตน” แต่สอนให้เรา... ✨ รู้เท่าทันกรรม ✨ ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ✨ หยุดวงจรเจ็บที่รุ่นเรา ถ้าไม่อยากให้ลูกเรามีกรรมแบบเรา ถ้าไม่อยากเกิดในแดนประหารอีก จงเมตตาผู้ด้อยกว่าในชาตินี้ให้มากที่สุด ทั้งลูก หลาน ลูกน้อง ผู้ใช้แรงงาน หรือสัตว์ที่ไร้เสียง เพราะพวกเขา… คือกระจกสะท้อนพฤติกรรมของเราในอดีต และเป็นผู้คัดเลือก “แดนเกิดใหม่” ให้กับเราในอนาคต 📌 สรุปใจความ: “ใครอยากได้พ่อแม่ดีในชาติหน้า วันนี้ต้องเป็นพ่อแม่ที่ดีให้กับลูก” “ใครอยากได้เจ้านายเมตตาในชาติหน้า วันนี้ต้องปฏิบัติกับลูกน้องอย่างมีเมตตา”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ประมวลปัญหาอันจะพึงตอบเกี่ยวกับธรรมทั้งปวง
    สัทธรรมลำดับที่ : 1062
    ชื่อบทธรรม :- ประมวลปัญหาอันจะพึงตอบเกี่ยวกับธรรมทั้งปวง
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1062
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ประมวลปัญหาอันจะพึงตอบเกี่ยวกับธรรมทั้งปวง
    (เกี่ยวกับใจความของอริยสัจโดยทั่วไป)
    --ภิกษุ ท. ! ถ้าปริพพาชกเดียรถีย์เหล่าอื่น พึงถามอย่างนี้ว่า
    “อาวุโส !
    ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นมูลราก ?
    http://etipitaka.com/read/pali/24/113/?keywords=กึสมฺภวา
    ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นแดนเกิด ?
    ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นสมุทัย?
    ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นที่ประชุมลง (สโมสรณ) ?
    ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นประมุข ?
    ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นอธิบดี (อธิปเตยฺย) ?
    ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นอันดับสูงสุด (อุตฺตร) ?
    ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นแก่น (สาร) ?
    ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็น ที่หยั่งลง (โอคธ) ?
    ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นที่สุดจบ (ปริโยสาน) ? ”
    http://etipitaka.com/read/pali/24/113/?keywords=ปริโยสา
    ดังนี้แล้วไซร้ ;
    --ภิกษุ ท. ! พวกเธอถูกถามอย่างนี้แล้ว
    พึงพยากรณ์แก่ปริพพาชกเดียรถีย์อื่นเหล่านั้น อย่างนี้ว่า
    “อาวุโส ท. !
    --ธรรมทั้งปวง มี ฉันทะ (ความพอใจหรือสนใจ) เป็น มูลราก.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/114/?keywords=ฉนฺท
    --ธรรมทั้งปวง มี มนสิการ (การเอามากระทำไว้ในใจ) เป็น แดนเกิด.
    --ธรรมทั้งปวง มี ผัสสะ (การกระทบแห่งอายตนะ) เป็น สมุทัย (เครื่องก่อให้ตั้งขึ้น).
    --ธรรมทั้งปวง มี เวทนา เป็น ที่ประชุมลง (แห่งผล).
    --ธรรมทั้งปวง มี สมาธิ เป็น ประมุข (หัวหน้า).
    --ธรรมทั้งปวง มี สติ เป็น อธิบดี (ตามสายงาน).
    --ธรรมทั้งปวง มี ปัญญา เป็น อันดับสูงสุด (แห่งความรู้).
    --ธรรมทั้งปวง มี วิมุตติ เป็น แก่น (แห่งผลที่ได้รับ).
    --ธรรมทั้งปวง มี อมตะ (ความไม่ตาย) เป็น ที่หยั่งลง (แห่งวัตถุประสงค์).
    --ธรรมทั้งปวง มี #นิพพาน เป็น ที่สุดจบ (แห่งพรหมจรรย์).
    http://etipitaka.com/read/pali/24/114/?keywords=นิพฺพาน
    --ภิกษุ ท. ! พวกเธอถูกถามอย่างนี้แล้ว
    พึงพยากรณ์แก่ปริพพาชกอัญญเดียรถีย์เหล่านั้น
    อย่างนี้แล.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/97/58.
    http://etipitaka.com/read/thai/24/97/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๑๑๓/๕๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/113/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%98
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1062
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=93&id=1062
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=93
    ลำดับสาธยายธรรม : 93 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_93.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ประมวลปัญหาอันจะพึงตอบเกี่ยวกับธรรมทั้งปวง สัทธรรมลำดับที่ : 1062 ชื่อบทธรรม :- ประมวลปัญหาอันจะพึงตอบเกี่ยวกับธรรมทั้งปวง https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1062 เนื้อความทั้งหมด :- --ประมวลปัญหาอันจะพึงตอบเกี่ยวกับธรรมทั้งปวง (เกี่ยวกับใจความของอริยสัจโดยทั่วไป) --ภิกษุ ท. ! ถ้าปริพพาชกเดียรถีย์เหล่าอื่น พึงถามอย่างนี้ว่า “อาวุโส ! ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นมูลราก ? http://etipitaka.com/read/pali/24/113/?keywords=กึสมฺภวา ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นแดนเกิด ? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นสมุทัย? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นที่ประชุมลง (สโมสรณ) ? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นประมุข ? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นอธิบดี (อธิปเตยฺย) ? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นอันดับสูงสุด (อุตฺตร) ? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นแก่น (สาร) ? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็น ที่หยั่งลง (โอคธ) ? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นที่สุดจบ (ปริโยสาน) ? ” http://etipitaka.com/read/pali/24/113/?keywords=ปริโยสา ดังนี้แล้วไซร้ ; --ภิกษุ ท. ! พวกเธอถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์แก่ปริพพาชกเดียรถีย์อื่นเหล่านั้น อย่างนี้ว่า “อาวุโส ท. ! --ธรรมทั้งปวง มี ฉันทะ (ความพอใจหรือสนใจ) เป็น มูลราก. http://etipitaka.com/read/pali/24/114/?keywords=ฉนฺท --ธรรมทั้งปวง มี มนสิการ (การเอามากระทำไว้ในใจ) เป็น แดนเกิด. --ธรรมทั้งปวง มี ผัสสะ (การกระทบแห่งอายตนะ) เป็น สมุทัย (เครื่องก่อให้ตั้งขึ้น). --ธรรมทั้งปวง มี เวทนา เป็น ที่ประชุมลง (แห่งผล). --ธรรมทั้งปวง มี สมาธิ เป็น ประมุข (หัวหน้า). --ธรรมทั้งปวง มี สติ เป็น อธิบดี (ตามสายงาน). --ธรรมทั้งปวง มี ปัญญา เป็น อันดับสูงสุด (แห่งความรู้). --ธรรมทั้งปวง มี วิมุตติ เป็น แก่น (แห่งผลที่ได้รับ). --ธรรมทั้งปวง มี อมตะ (ความไม่ตาย) เป็น ที่หยั่งลง (แห่งวัตถุประสงค์). --ธรรมทั้งปวง มี #นิพพาน เป็น ที่สุดจบ (แห่งพรหมจรรย์). http://etipitaka.com/read/pali/24/114/?keywords=นิพฺพาน --ภิกษุ ท. ! พวกเธอถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์แก่ปริพพาชกอัญญเดียรถีย์เหล่านั้น อย่างนี้แล.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/97/58. http://etipitaka.com/read/thai/24/97/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๑๑๓/๕๘. http://etipitaka.com/read/pali/24/113/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%98 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1062 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=93&id=1062 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=93 ลำดับสาธยายธรรม : 93 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_93.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ประมวลปัญหาอันจะพึงตอบเกี่ยวกับธรรมทั้งปวง
    -ประมวลปัญหาอันจะพึงตอบเกี่ยวกับธรรมทั้งปวง (เกี่ยวกับใจความของอริยสัจโดยทั่วไป) ภิกษุ ท. ! ถ้าปริพพาชกเดียรถีย์เหล่าอื่น พึงถามอย่างนี้ว่า “อาวุโส ! ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นมูลราก ? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นแดนเกิด ? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นสมุทัย? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นที่ประชุมลง (สโมสรณ) ? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นประมุข ? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นอธิบดี (อธิปเตยฺย) ? ธรรมทั้งปวง มีอะไรเป็นอันดับสูงสุด (อุตฺตร) ? มีอะไรเป็นแก่น (สาร) ? มีอะไรเป็น ที่หยั่งลง (โอคธ) ? มีอะไรเป็นที่สุดจบ (ปริโยสาน) ? ” ดังนี้แล้วไซร้ ; ภิกษุ ท. ! พวกเธอถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์แก่ปริพพาชกเดียรถีย์อื่นเหล่านั้น อย่างนี้ว่า “อาวุโส ท. ! ธรรมทั้งปวง มี ฉันทะ (ความพอใจหรือสนใจ) เป็น มูลราก. ธรรมทั้งปวง มี มนสิการ (การเอามากระทำไว้ในใจ) เป็น แดนเกิด. ธรรมทั้งปวง มี ปัสสะ (การกระทบแห่งอายตนะ) เป็น สมุทัย (เครื่องก่อให้ตั้งขึ้น). ธรรมทั้งปวง มี เวทนา เป็น ที่ประชุมลง (แห่งผล). ธรรมทั้งปวง มี สมาธิ เป็น ประมุข (หัวหน้า). ธรรมทั้งปวง มี สติ เป็น อธิบดี (ตามสายงาน). ธรรมทั้งปวง มี ปัญญา เป็น อันดับสูงสุด (แห่งความรู้). ธรรมทั้งปวง มี วิมุตติ เป็น แก่น (แห่งผลที่ได้รับ). ธรรมทั้งปวง มีอมตะ (ความไม่ตาย) เป็น ที่หยั่งลง (แห่งวัตถุประสงค์). ธรรมทั้งปวง มี นิพพาน เป็น ที่สุดจบ (แห่งพรหมจรรย์). ภิกษุ ท. ! พวกเธอถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์แก่ปริพพาชกอัญญเดียรถีย์เหล่านั้น อย่างนี้แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮุนเซนตอบโต้ทักษิณอีกครั้ง หลังจากทักษิณโพสต์ข้อความบน "X" เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา

    .

    ก่อนหน้านี้ ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกแถลงการณ์ด้วยน้ำเสียงที่พร้อมทำสงครามเพื่อสั่งสอนบทเรียนแก่ฮุนเซน คำพูดของทักษิณยิ่งตอกย้ำถึงการกระทำของทหารไทยที่เปิดฉากรุกรานกัมพูชา

    ผมไม่แปลกใจกับทัศนคติของทักษิณที่มีต่อผม เพราะเขาทรยศต่อพระมหากษัตริย์ไทยและสมาชิกพรรคของเขาเอง สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารชาวไทยมุสลิมหลายร้อยคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อปี พ.ศ. 2547 บัดนี้ ภายใต้ข้ออ้างที่อยากแก้แค้นฮุนเซน เขาได้เริ่มสงครามขึ้นแล้ว ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายคือความทุกข์ทรมานของประชาชน
    ฮุนเซนตอบโต้ทักษิณอีกครั้ง หลังจากทักษิณโพสต์ข้อความบน "X" เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา . ก่อนหน้านี้ ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกแถลงการณ์ด้วยน้ำเสียงที่พร้อมทำสงครามเพื่อสั่งสอนบทเรียนแก่ฮุนเซน คำพูดของทักษิณยิ่งตอกย้ำถึงการกระทำของทหารไทยที่เปิดฉากรุกรานกัมพูชา ผมไม่แปลกใจกับทัศนคติของทักษิณที่มีต่อผม เพราะเขาทรยศต่อพระมหากษัตริย์ไทยและสมาชิกพรรคของเขาเอง สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารชาวไทยมุสลิมหลายร้อยคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อปี พ.ศ. 2547 บัดนี้ ภายใต้ข้ออ้างที่อยากแก้แค้นฮุนเซน เขาได้เริ่มสงครามขึ้นแล้ว ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายคือความทุกข์ทรมานของประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts