• รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251218 #TechRadar

    มินิพีซีราคาสุดคุ้มที่ AI ยังยกนิ้วให้
    เรื่องนี้เล่าถึงการท้าทายตัวเองของนักเขียนที่พยายามประกอบคอมให้แรงกว่ามินิพีซี Machenike ที่ขายในราคาเพียง 379 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายกลับแพ้ เพราะแค่ CPU และ RAM ก็เกือบเท่าราคาทั้งเครื่องแล้ว เมื่อรวมทุกชิ้นส่วน ค่าใช้จ่ายพุ่งไปเกือบ 570 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าไลเซนส์ Windows อีก ทำให้เห็นชัดว่าการซื้อเครื่องสำเร็จรูปในช่วงที่ตลาดชิ้นส่วนแพงขึ้นนั้นคุ้มกว่าเยอะ AI อย่าง ChatGPT ถึงกับบอกว่า “คุ้มสุด ๆ” ส่วน Gemini ก็ว่า “ราคานี้บ้าไปแล้ว” สรุปคือใครที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในงบจำกัด การซื้อสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ไม่เสียเวลาและไม่เจ็บกระเป๋า
    https://www.techradar.com/pro/chatgpt-calls-this-mini-pc-a-steal-while-gemini-says-its-insane-value-for-money-meet-the-usd379-amd-ryzen-7-8745hs-powerhouse-that-ai-is-raving-about

    ปัญหา Windows ล่าสุดที่ทำธุรกิจปวดหัว
    Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนธันวาคม แต่ดันทำให้บริการ MSMQ บน Windows Server และ Windows 10 สำหรับองค์กรมีปัญหา ส่งผลให้แอปและเว็บไซต์ที่ใช้ IIS ทำงานผิดพลาด ทั้งคิวที่ไม่ทำงาน การเขียนข้อมูลล้มเหลว และข้อความแจ้งว่า “ทรัพยากรไม่เพียงพอ” ทั้งที่จริง ๆ มีอยู่เต็ม ๆ ตอนนี้ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร แต่แนะนำให้ธุรกิจติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อหาทางแก้หรือย้อนกลับการอัปเดตไปก่อน
    https://www.techradar.com/pro/security/having-windows-app-issues-microsoft-is-making-businesses-reach-out-directly-to-get-a-fix

    สิ่งที่ต้องจำเมื่อใช้แชตบอท AI
    บทความนี้เตือนว่าเวลาคุยกับแชตบอท AI อย่าลืมว่าข้อมูลที่เราพิมพ์ไปอาจไม่หายไปไหน บางครั้งบริษัทที่พัฒนา AI มีทีมงานที่เห็นข้อมูลจริง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือเลขบัญชี หากไม่ได้ลบออกก่อน การแชร์เอกสารทั้งฉบับกับบอทก็เสี่ยงมาก เพราะข้อมูลอาจถูกนำไปใช้ฝึกโมเดลต่อไปโดยไม่รู้ตัว ผู้เขียนจึงย้ำว่าทั้งธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีวินัยในการจัดการข้อมูล ไม่ใช่แค่ปิดบัง แต่ต้องลบให้ถาวรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ AI ถูกใช้แพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/5-things-businesses-and-users-should-remember-when-using-ai-chatbots

    ช่องโหว่เก่าของ Asus ที่ยังตามหลอกหลอน
    CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ในโปรแกรม Asus Live Update ที่เคยถูกโจมตีตั้งแต่ปี 2018–2019 โดยมีการฝังโค้ดอันตรายลงในเซิร์ฟเวอร์อัปเดต ทำให้เครื่องที่ดาวน์โหลดตัวติดตั้งบางรุ่นถูกควบคุมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดเป็นระดับวิกฤติ และหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขภายในต้นเดือนมกราคม แม้โปรแกรมจะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกับเครื่องที่ใช้เวอร์ชันเก่า ๆ องค์กรเอกชนก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตหรือหยุดใช้งานเช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/cisa-reveals-warning-on-asus-software-flaw-heres-what-you-need-to-do-to-stay-safe

    กริ่งประตู Ring ที่พูดตอบเองได้ด้วย Alexa+
    Ring เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Alexa+ Greetings ที่ใช้ AI ช่วยตอบคนที่มากดกริ่ง โดยมันสามารถแยกแยะว่าใครมา เช่น คนส่งของ เพื่อน หรือแม้แต่เซลส์แมน แล้วตอบกลับตามคำสั่งที่เจ้าของตั้งไว้ เช่น บอกให้วางพัสดุไว้หลังบ้าน หรือปฏิเสธการขายตรงอย่างสุภาพ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตอบคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าต้องเซ็นรับของ Alexa+ ก็จะบอกให้ส่งกลับไปที่ศูนย์ ฟีเจอร์กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ถือเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของบ้านอัจฉริยะอีกขั้น
    https://www.techradar.com/home/smart-home/your-ring-doorbell-can-now-use-alexa-to-identify-whos-calling-and-give-them-an-appropriate-greeting

    ช่องโหว่ใหม่ใน Cisco ที่ถูกโจมตีแล้ว
    Cisco ออกมาเตือนว่ามีการค้นพบช่องโหว่แบบ zero-day ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์จากจีนเป็นผู้เกี่ยวข้อง ช่องโหว่นี้กระทบกับลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Cisco ทำให้ระบบถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นจริง และ Cisco กำลังเร่งออกแพตช์แก้ไขเพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม
    https://www.techradar.com/pro/security/cisco-says-chinese-hackers-are-exploiting-its-customers-with-a-new-zero-day

    รีวิว Agile CRM ปี 2026
    Agile CRM ถูกรีวิวอีกครั้งในปี 2026 โดยเน้นไปที่การใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ทีมงานสามารถติดตามลูกค้าได้ครบวงจร แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและการรองรับการขยายตัวสำหรับองค์กรใหญ่ รีวิวนี้จึงชี้ว่า Agile CRM เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันครบวงจรในราคาที่เข้าถึงได้
    https://www.techradar.com/pro/software-services/agile-crm-review

    จาก SaaS สู่ AI: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำต้องเผชิญ
    บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ผู้นำองค์กรต้องรับมือ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านจาก SaaS ไปสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของทีมงาน วัฒนธรรมองค์กร และการกำกับดูแล การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ
    https://www.techradar.com/pro/from-saas-to-ai-the-technological-and-cultural-shifts-leaders-must-confront

    โค้ดที่ AI สร้างมีบั๊กมากกว่ามนุษย์
    รายงานล่าสุดชี้ว่าโค้ดที่สร้างโดย AI มีแนวโน้มจะมีบั๊กและข้อผิดพลาดมากกว่าที่มนุษย์เขียนเอง แม้ AI จะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขมากขึ้น บทความนี้จึงเตือนว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดควรถูกมองเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนา
    https://www.techradar.com/pro/security/ai-generated-code-contains-more-bugs-and-errors-than-human-output

    รีวิว Geekom AX8 Max mini PC
    Geekom AX8 Max mini PC ถูกรีวิวโดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในเครื่องเล็ก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทั้งงานทั่วไปและการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล็กแต่แรง
    https://www.techradar.com/computing/geekom-ax8-max-mini-pc-review

    Google Maps เข้าใจคำพูดด้วย Gemini
    ผู้เขียนทดลองใช้ Gemini คุยกับ Google Maps ด้วยเสียง พบว่ามันสามารถตีความคำพูดที่ซับซ้อน เช่น “พาไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ และเปิดตอนนี้” ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่ยังรวมถึงเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้การใช้งานแผนที่สะดวกขึ้นมาก ถือเป็นการยกระดับจากการพิมพ์หรือกดเลือกไปสู่การสื่อสารแบบธรรมชาติ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-tried-talking-to-google-maps-with-gemini-and-it-actually-understood-what-i-wanted

    Ford เปลี่ยนโฟกัสจากรถไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี่ยักษ์
    Ford กำลังปรับกลยุทธ์จากการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าไปสู่การสร้างระบบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อใช้กับโครงข่ายไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ โดยมีแผนสร้างกำลังการผลิตถึง 20GWh การเปลี่ยนทิศนี้สะท้อนว่าตลาดรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่เส้นทางเดียว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานก็เป็นโอกาสใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน
    https://www.techradar.com/pro/ford-is-switching-some-battery-focus-from-cars-to-data-centers-with-plans-for-huge-20gwh-capacity

    คนรุ่นใหม่หลงรัก Microsoft Excel
    ผลสำรวจเผยว่าคนทำงานสายการเงินรุ่นใหม่มีความผูกพันกับ Excel มากกว่ารุ่นก่อน ๆ แม้จะมีเครื่องมือคู่แข่งออกมาแข่งหลายสิบปี แต่ Excel ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่พวกเขาเลือกใช้ ความภักดีนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความคุ้นเคยที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการทำงาน
    https://www.techradar.com/pro/security/more-than-half-of-workers-say-they-really-love-excel-and-surprisingly-enough-its-younger-workers-who-are-apparently-more-infatuated

    Nex Playground คอนโซลราคาประหยัดสำหรับครอบครัว
    รีวิว Nex Playground ชี้ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ราคาถูกกว่า แต่ยังมอบประสบการณ์สนุกสำหรับทุกคนในบ้าน แม้จะไม่แรงเท่าคอนโซลใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับเกมที่เล่นร่วมกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากได้ความบันเทิงโดยไม่ต้องจ่ายแพง
    https://www.techradar.com/gaming/nex-playground-review

    ระวังอีเมลปลอมจาก PayPal
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการใช้ระบบสมัครสมาชิกของ PayPal ในทางที่ผิด ส่งอีเมลปลอมแจ้งการซื้อเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว แม้จะดูเหมือนอีเมลจริง แต่จริง ๆ เป็นการฟิชชิ่งที่อันตราย ผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนคลิกลิงก์หรือยืนยันการชำระเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/paypal-user-beware-experts-warn-subscriptions-being-abused-to-send-fake-purchase-emails

    Urban VPN Proxy แอบสอดส่องผู้ใช้
    มีการเปิดเผยว่า Urban VPN Proxy ซึ่งเป็นบริการฟรี กำลังถูกใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้ โดยเก็บข้อมูลการใช้งานและอาจส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้ที่คิดว่าได้ความปลอดภัยจาก VPN กลับเสี่ยงต่อการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว บทความนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ VPN ฟรี และเลือกบริการที่มีความน่าเชื่อถือแทน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/urban-vpn-proxy-is-the-latest-free-vpn-spying-on-users-heres-how-to-stay-safe

    Proton VPN รองรับ Linux มากขึ้น
    Proton VPN ได้ขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ Linux เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้สามารถติดตั้งและใช้งานแอปอย่างเป็นทางการได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/official-proton-vpn-app-lands-on-even-more-linux-devices

    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251218 #TechRadar 🖥️ มินิพีซีราคาสุดคุ้มที่ AI ยังยกนิ้วให้ เรื่องนี้เล่าถึงการท้าทายตัวเองของนักเขียนที่พยายามประกอบคอมให้แรงกว่ามินิพีซี Machenike ที่ขายในราคาเพียง 379 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายกลับแพ้ เพราะแค่ CPU และ RAM ก็เกือบเท่าราคาทั้งเครื่องแล้ว เมื่อรวมทุกชิ้นส่วน ค่าใช้จ่ายพุ่งไปเกือบ 570 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าไลเซนส์ Windows อีก ทำให้เห็นชัดว่าการซื้อเครื่องสำเร็จรูปในช่วงที่ตลาดชิ้นส่วนแพงขึ้นนั้นคุ้มกว่าเยอะ AI อย่าง ChatGPT ถึงกับบอกว่า “คุ้มสุด ๆ” ส่วน Gemini ก็ว่า “ราคานี้บ้าไปแล้ว” สรุปคือใครที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในงบจำกัด การซื้อสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ไม่เสียเวลาและไม่เจ็บกระเป๋า 🔗 https://www.techradar.com/pro/chatgpt-calls-this-mini-pc-a-steal-while-gemini-says-its-insane-value-for-money-meet-the-usd379-amd-ryzen-7-8745hs-powerhouse-that-ai-is-raving-about ⚠️ ปัญหา Windows ล่าสุดที่ทำธุรกิจปวดหัว Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนธันวาคม แต่ดันทำให้บริการ MSMQ บน Windows Server และ Windows 10 สำหรับองค์กรมีปัญหา ส่งผลให้แอปและเว็บไซต์ที่ใช้ IIS ทำงานผิดพลาด ทั้งคิวที่ไม่ทำงาน การเขียนข้อมูลล้มเหลว และข้อความแจ้งว่า “ทรัพยากรไม่เพียงพอ” ทั้งที่จริง ๆ มีอยู่เต็ม ๆ ตอนนี้ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร แต่แนะนำให้ธุรกิจติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อหาทางแก้หรือย้อนกลับการอัปเดตไปก่อน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/having-windows-app-issues-microsoft-is-making-businesses-reach-out-directly-to-get-a-fix 🤖 สิ่งที่ต้องจำเมื่อใช้แชตบอท AI บทความนี้เตือนว่าเวลาคุยกับแชตบอท AI อย่าลืมว่าข้อมูลที่เราพิมพ์ไปอาจไม่หายไปไหน บางครั้งบริษัทที่พัฒนา AI มีทีมงานที่เห็นข้อมูลจริง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือเลขบัญชี หากไม่ได้ลบออกก่อน การแชร์เอกสารทั้งฉบับกับบอทก็เสี่ยงมาก เพราะข้อมูลอาจถูกนำไปใช้ฝึกโมเดลต่อไปโดยไม่รู้ตัว ผู้เขียนจึงย้ำว่าทั้งธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีวินัยในการจัดการข้อมูล ไม่ใช่แค่ปิดบัง แต่ต้องลบให้ถาวรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ AI ถูกใช้แพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/5-things-businesses-and-users-should-remember-when-using-ai-chatbots 🔒 ช่องโหว่เก่าของ Asus ที่ยังตามหลอกหลอน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ในโปรแกรม Asus Live Update ที่เคยถูกโจมตีตั้งแต่ปี 2018–2019 โดยมีการฝังโค้ดอันตรายลงในเซิร์ฟเวอร์อัปเดต ทำให้เครื่องที่ดาวน์โหลดตัวติดตั้งบางรุ่นถูกควบคุมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดเป็นระดับวิกฤติ และหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขภายในต้นเดือนมกราคม แม้โปรแกรมจะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกับเครื่องที่ใช้เวอร์ชันเก่า ๆ องค์กรเอกชนก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตหรือหยุดใช้งานเช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisa-reveals-warning-on-asus-software-flaw-heres-what-you-need-to-do-to-stay-safe 🏠 กริ่งประตู Ring ที่พูดตอบเองได้ด้วย Alexa+ Ring เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Alexa+ Greetings ที่ใช้ AI ช่วยตอบคนที่มากดกริ่ง โดยมันสามารถแยกแยะว่าใครมา เช่น คนส่งของ เพื่อน หรือแม้แต่เซลส์แมน แล้วตอบกลับตามคำสั่งที่เจ้าของตั้งไว้ เช่น บอกให้วางพัสดุไว้หลังบ้าน หรือปฏิเสธการขายตรงอย่างสุภาพ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตอบคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าต้องเซ็นรับของ Alexa+ ก็จะบอกให้ส่งกลับไปที่ศูนย์ ฟีเจอร์กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ถือเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของบ้านอัจฉริยะอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/your-ring-doorbell-can-now-use-alexa-to-identify-whos-calling-and-give-them-an-appropriate-greeting 🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Cisco ที่ถูกโจมตีแล้ว Cisco ออกมาเตือนว่ามีการค้นพบช่องโหว่แบบ zero-day ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์จากจีนเป็นผู้เกี่ยวข้อง ช่องโหว่นี้กระทบกับลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Cisco ทำให้ระบบถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นจริง และ Cisco กำลังเร่งออกแพตช์แก้ไขเพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisco-says-chinese-hackers-are-exploiting-its-customers-with-a-new-zero-day 📊 รีวิว Agile CRM ปี 2026 Agile CRM ถูกรีวิวอีกครั้งในปี 2026 โดยเน้นไปที่การใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ทีมงานสามารถติดตามลูกค้าได้ครบวงจร แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและการรองรับการขยายตัวสำหรับองค์กรใหญ่ รีวิวนี้จึงชี้ว่า Agile CRM เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันครบวงจรในราคาที่เข้าถึงได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/agile-crm-review 🌐 จาก SaaS สู่ AI: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำต้องเผชิญ บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ผู้นำองค์กรต้องรับมือ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านจาก SaaS ไปสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของทีมงาน วัฒนธรรมองค์กร และการกำกับดูแล การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/from-saas-to-ai-the-technological-and-cultural-shifts-leaders-must-confront 🐞 โค้ดที่ AI สร้างมีบั๊กมากกว่ามนุษย์ รายงานล่าสุดชี้ว่าโค้ดที่สร้างโดย AI มีแนวโน้มจะมีบั๊กและข้อผิดพลาดมากกว่าที่มนุษย์เขียนเอง แม้ AI จะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขมากขึ้น บทความนี้จึงเตือนว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดควรถูกมองเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ai-generated-code-contains-more-bugs-and-errors-than-human-output 💻 รีวิว Geekom AX8 Max mini PC Geekom AX8 Max mini PC ถูกรีวิวโดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในเครื่องเล็ก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทั้งงานทั่วไปและการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล็กแต่แรง 🔗 https://www.techradar.com/computing/geekom-ax8-max-mini-pc-review 🗺️ Google Maps เข้าใจคำพูดด้วย Gemini ผู้เขียนทดลองใช้ Gemini คุยกับ Google Maps ด้วยเสียง พบว่ามันสามารถตีความคำพูดที่ซับซ้อน เช่น “พาไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ และเปิดตอนนี้” ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่ยังรวมถึงเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้การใช้งานแผนที่สะดวกขึ้นมาก ถือเป็นการยกระดับจากการพิมพ์หรือกดเลือกไปสู่การสื่อสารแบบธรรมชาติ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-tried-talking-to-google-maps-with-gemini-and-it-actually-understood-what-i-wanted 🔋 Ford เปลี่ยนโฟกัสจากรถไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี่ยักษ์ Ford กำลังปรับกลยุทธ์จากการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าไปสู่การสร้างระบบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อใช้กับโครงข่ายไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ โดยมีแผนสร้างกำลังการผลิตถึง 20GWh การเปลี่ยนทิศนี้สะท้อนว่าตลาดรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่เส้นทางเดียว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานก็เป็นโอกาสใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/ford-is-switching-some-battery-focus-from-cars-to-data-centers-with-plans-for-huge-20gwh-capacity 📈 คนรุ่นใหม่หลงรัก Microsoft Excel ผลสำรวจเผยว่าคนทำงานสายการเงินรุ่นใหม่มีความผูกพันกับ Excel มากกว่ารุ่นก่อน ๆ แม้จะมีเครื่องมือคู่แข่งออกมาแข่งหลายสิบปี แต่ Excel ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่พวกเขาเลือกใช้ ความภักดีนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความคุ้นเคยที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการทำงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/more-than-half-of-workers-say-they-really-love-excel-and-surprisingly-enough-its-younger-workers-who-are-apparently-more-infatuated 🎮 Nex Playground คอนโซลราคาประหยัดสำหรับครอบครัว รีวิว Nex Playground ชี้ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ราคาถูกกว่า แต่ยังมอบประสบการณ์สนุกสำหรับทุกคนในบ้าน แม้จะไม่แรงเท่าคอนโซลใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับเกมที่เล่นร่วมกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากได้ความบันเทิงโดยไม่ต้องจ่ายแพง 🔗 https://www.techradar.com/gaming/nex-playground-review 💳 ระวังอีเมลปลอมจาก PayPal ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการใช้ระบบสมัครสมาชิกของ PayPal ในทางที่ผิด ส่งอีเมลปลอมแจ้งการซื้อเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว แม้จะดูเหมือนอีเมลจริง แต่จริง ๆ เป็นการฟิชชิ่งที่อันตราย ผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนคลิกลิงก์หรือยืนยันการชำระเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/paypal-user-beware-experts-warn-subscriptions-being-abused-to-send-fake-purchase-emails 🌐 Urban VPN Proxy แอบสอดส่องผู้ใช้ มีการเปิดเผยว่า Urban VPN Proxy ซึ่งเป็นบริการฟรี กำลังถูกใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้ โดยเก็บข้อมูลการใช้งานและอาจส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้ที่คิดว่าได้ความปลอดภัยจาก VPN กลับเสี่ยงต่อการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว บทความนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ VPN ฟรี และเลือกบริการที่มีความน่าเชื่อถือแทน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/urban-vpn-proxy-is-the-latest-free-vpn-spying-on-users-heres-how-to-stay-safe 🐧 Proton VPN รองรับ Linux มากขึ้น Proton VPN ได้ขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ Linux เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้สามารถติดตั้งและใช้งานแอปอย่างเป็นทางการได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/official-proton-vpn-app-lands-on-even-more-linux-devices
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel Nova Lake: CPU รุ่นใหม่พร้อมแคชขนาดใหญ่ bLLC

    รายงานจาก Wccftech เผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ Intel Nova Lake Desktop CPUs ที่จะเปิดตัวในอนาคต โดยมีการยืนยันว่าชิปจะมาพร้อมกับ Big Last Level Cache (bLLC) ซึ่งเป็นการออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล โดยจะมีหลายรุ่นให้เลือกตั้งแต่ 52, 42, 28 และ 24 คอร์ พร้อมแคชขนาดใหญ่ถึง 288MB สำหรับ Core Ultra 9 และ 144MB สำหรับ Core Ultra 7

    การเพิ่มแคชในระดับนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงสถาปัตยกรรมที่สำคัญ เพราะช่วยลดการเข้าถึงหน่วยความจำหลักที่ช้ากว่า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแอปพลิเคชันที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก เช่น เกม, งาน AI, และการประมวลผลข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมความสามารถในการทำงานแบบมัลติทาสก์และเวิร์กโหลดที่ซับซ้อน

    Intel ตั้งเป้าว่า Nova Lake จะเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่หลังจากสถาปัตยกรรม Meteor Lake และ Arrow Lake โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ และการจัดการพลังงานที่ดีกว่าเดิม ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดที่ต้องการ CPU ที่ทรงพลังแต่ยังคงประหยัดพลังงานสำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์กสเตชัน

    อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดยังคงดุเดือด เนื่องจาก AMD กำลังพัฒนา Zen 6 และ Zen 7 ที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีแคชและการผลิตที่เล็กกว่า 3nm ซึ่งอาจทำให้ Intel ต้องเร่งสร้างความแตกต่างด้วยการใช้ bLLC และจำนวนคอร์ที่สูงขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    Nova Lake มาพร้อม bLLC
    มีรุ่น 52, 42, 28 และ 24 คอร์ พร้อมแคช 288MB และ 144MB

    การปรับปรุงเชิงสถาปัตยกรรม
    ลดการเข้าถึงหน่วยความจำหลัก เพิ่มประสิทธิภาพงาน AI และเกม

    เป้าหมายของ Intel
    เน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์และการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น

    การแข่งขันกับ AMD
    ต้องเผชิญกับ Zen 6 และ Zen 7 ที่ใช้กระบวนการผลิตเล็กกว่า 3nm

    คำเตือนด้านการแข่งขันและการผลิต
    หาก Intel ไม่สามารถจัดการต้นทุนและการผลิตได้ อาจเสียเปรียบ AMD
    การพึ่งพา bLLC และจำนวนคอร์สูงอาจไม่เพียงพอ หากซอฟต์แวร์ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์เต็มที่

    https://wccftech.com/intel-nova-lake-desktop-cpus-big-cache-bllc-52-42-28-24-core-288-mb-144-mb/
    ⚙️ Intel Nova Lake: CPU รุ่นใหม่พร้อมแคชขนาดใหญ่ bLLC รายงานจาก Wccftech เผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ Intel Nova Lake Desktop CPUs ที่จะเปิดตัวในอนาคต โดยมีการยืนยันว่าชิปจะมาพร้อมกับ Big Last Level Cache (bLLC) ซึ่งเป็นการออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล โดยจะมีหลายรุ่นให้เลือกตั้งแต่ 52, 42, 28 และ 24 คอร์ พร้อมแคชขนาดใหญ่ถึง 288MB สำหรับ Core Ultra 9 และ 144MB สำหรับ Core Ultra 7 การเพิ่มแคชในระดับนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงสถาปัตยกรรมที่สำคัญ เพราะช่วยลดการเข้าถึงหน่วยความจำหลักที่ช้ากว่า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแอปพลิเคชันที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก เช่น เกม, งาน AI, และการประมวลผลข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมความสามารถในการทำงานแบบมัลติทาสก์และเวิร์กโหลดที่ซับซ้อน Intel ตั้งเป้าว่า Nova Lake จะเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่หลังจากสถาปัตยกรรม Meteor Lake และ Arrow Lake โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ และการจัดการพลังงานที่ดีกว่าเดิม ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดที่ต้องการ CPU ที่ทรงพลังแต่ยังคงประหยัดพลังงานสำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์กสเตชัน อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดยังคงดุเดือด เนื่องจาก AMD กำลังพัฒนา Zen 6 และ Zen 7 ที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีแคชและการผลิตที่เล็กกว่า 3nm ซึ่งอาจทำให้ Intel ต้องเร่งสร้างความแตกต่างด้วยการใช้ bLLC และจำนวนคอร์ที่สูงขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ Nova Lake มาพร้อม bLLC ➡️ มีรุ่น 52, 42, 28 และ 24 คอร์ พร้อมแคช 288MB และ 144MB ✅ การปรับปรุงเชิงสถาปัตยกรรม ➡️ ลดการเข้าถึงหน่วยความจำหลัก เพิ่มประสิทธิภาพงาน AI และเกม ✅ เป้าหมายของ Intel ➡️ เน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์และการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น ✅ การแข่งขันกับ AMD ➡️ ต้องเผชิญกับ Zen 6 และ Zen 7 ที่ใช้กระบวนการผลิตเล็กกว่า 3nm ‼️ คำเตือนด้านการแข่งขันและการผลิต ⛔ หาก Intel ไม่สามารถจัดการต้นทุนและการผลิตได้ อาจเสียเปรียบ AMD ⛔ การพึ่งพา bLLC และจำนวนคอร์สูงอาจไม่เพียงพอ หากซอฟต์แวร์ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์เต็มที่ https://wccftech.com/intel-nova-lake-desktop-cpus-big-cache-bllc-52-42-28-24-core-288-mb-144-mb/
    WCCFTECH.COM
    Intel Nova Lake Desktop CPUs With Big Cache 'bLLC" To Feature Four Flavors In 52, 42, 28, 24 Cores, 288 MB "Core Ultra 9" & 144 MB "Core Ultra 7"
    Intel's next-gen Nova Lake Desktop CPUs will include four SKU flavors with the highly anticipated "bLLC" big cache, and up to 52 cores.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • Texas Instruments เปิดโรงงานใหม่ ผลิตชิปวันละหลายสิบล้าน

    Texas Instruments (TI) ประกาศเปิดโรงงานผลิตเวเฟอร์ 300 มิลลิเมตร แห่งใหม่ที่เมือง Sherman รัฐเท็กซัส หลังจากลงทุนกว่า 60 พันล้านดอลลาร์ โดยโรงงานนี้ถือเป็นหนึ่งในสี่แห่งที่ TI วางแผนสร้างเพื่อเสริมกำลังการผลิตในสหรัฐฯ โรงงานแรก (SM1) เริ่มเดินเครื่องแล้ว และพร้อมส่งมอบชิปให้ลูกค้าในตลาดทันที

    โรงงาน SM1 จะเน้นผลิตชิปสำหรับระบบพลังงาน เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบไฟส่องสว่างในรถยนต์ และระบบพลังงานในศูนย์ข้อมูล ไม่ได้มุ่งผลิตชิปประสิทธิภาพสูงสำหรับคอมพิวเตอร์ขั้นสูงเหมือน Intel หรือ TSMC แต่จะเน้นตลาดที่ต้องการความเสถียรและการผลิตในปริมาณมหาศาล ซึ่ง TI มองว่าเป็นจุดแข็งของบริษัท

    การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Made in USA” เพื่อเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ TI คาดว่าโรงงานทั้งสี่แห่งใน Sherman จะสร้างงานโดยตรงกว่า 3,000 ตำแหน่ง และช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน TI ก็ทยอยปิดโรงงานเก่าที่ผลิตเวเฟอร์ 150 มิลลิเมตร เพื่อปรับสมดุลกำลังการผลิตไปสู่มาตรฐานใหม่

    นอกจากการเพิ่มกำลังผลิตแล้ว TI ยังเน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน เช่น การลดการใช้พลังงานขณะสแตนด์บาย การเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน และการลดสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) เพื่อให้ชิปที่ผลิตออกมามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การลงทุนครั้งใหญ่ของ TI
    มูลค่า 60 พันล้านดอลลาร์ สร้างโรงงาน 4 แห่งที่ Sherman, Texas

    โรงงาน SM1 เริ่มผลิตแล้ว
    เน้นชิปสำหรับระบบพลังงาน เช่น รถยนต์และศูนย์ข้อมูล

    ผลกระทบต่อการจ้างงาน
    คาดว่าจะสร้างงานกว่า 3,000 ตำแหน่งในพื้นที่

    การปรับสมดุลกำลังการผลิต
    ปิดโรงงานเก่าที่ผลิตเวเฟอร์ 150 มม. เพื่อย้ายไปสู่มาตรฐาน 300 มม.

    การพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน
    ลดการใช้พลังงานสแตนด์บาย เพิ่มความหนาแน่น และลด EMI

    คำเตือนด้านการแข่งขันและห่วงโซ่อุปทาน
    TI ไม่ได้ผลิตชิปขั้นสูงสำหรับ AI หรือ HPC อาจเสียเปรียบในตลาดประสิทธิภาพสูง
    แม้จะช่วยเสริมความมั่นคง แต่การลงทุนมหาศาลยังเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดเซมิคอนดักเตอร์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/new-texas-instruments-fab-will-pump-out-tens-of-millions-of-chips-per-day-first-300mm-fab-starts-production-after-usd60-billion-investment
    🏭 Texas Instruments เปิดโรงงานใหม่ ผลิตชิปวันละหลายสิบล้าน Texas Instruments (TI) ประกาศเปิดโรงงานผลิตเวเฟอร์ 300 มิลลิเมตร แห่งใหม่ที่เมือง Sherman รัฐเท็กซัส หลังจากลงทุนกว่า 60 พันล้านดอลลาร์ โดยโรงงานนี้ถือเป็นหนึ่งในสี่แห่งที่ TI วางแผนสร้างเพื่อเสริมกำลังการผลิตในสหรัฐฯ โรงงานแรก (SM1) เริ่มเดินเครื่องแล้ว และพร้อมส่งมอบชิปให้ลูกค้าในตลาดทันที โรงงาน SM1 จะเน้นผลิตชิปสำหรับระบบพลังงาน เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบไฟส่องสว่างในรถยนต์ และระบบพลังงานในศูนย์ข้อมูล ไม่ได้มุ่งผลิตชิปประสิทธิภาพสูงสำหรับคอมพิวเตอร์ขั้นสูงเหมือน Intel หรือ TSMC แต่จะเน้นตลาดที่ต้องการความเสถียรและการผลิตในปริมาณมหาศาล ซึ่ง TI มองว่าเป็นจุดแข็งของบริษัท การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Made in USA” เพื่อเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ TI คาดว่าโรงงานทั้งสี่แห่งใน Sherman จะสร้างงานโดยตรงกว่า 3,000 ตำแหน่ง และช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน TI ก็ทยอยปิดโรงงานเก่าที่ผลิตเวเฟอร์ 150 มิลลิเมตร เพื่อปรับสมดุลกำลังการผลิตไปสู่มาตรฐานใหม่ นอกจากการเพิ่มกำลังผลิตแล้ว TI ยังเน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน เช่น การลดการใช้พลังงานขณะสแตนด์บาย การเพิ่มความหนาแน่นของพลังงาน และการลดสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) เพื่อให้ชิปที่ผลิตออกมามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การลงทุนครั้งใหญ่ของ TI ➡️ มูลค่า 60 พันล้านดอลลาร์ สร้างโรงงาน 4 แห่งที่ Sherman, Texas ✅ โรงงาน SM1 เริ่มผลิตแล้ว ➡️ เน้นชิปสำหรับระบบพลังงาน เช่น รถยนต์และศูนย์ข้อมูล ✅ ผลกระทบต่อการจ้างงาน ➡️ คาดว่าจะสร้างงานกว่า 3,000 ตำแหน่งในพื้นที่ ✅ การปรับสมดุลกำลังการผลิต ➡️ ปิดโรงงานเก่าที่ผลิตเวเฟอร์ 150 มม. เพื่อย้ายไปสู่มาตรฐาน 300 มม. ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงาน ➡️ ลดการใช้พลังงานสแตนด์บาย เพิ่มความหนาแน่น และลด EMI ‼️ คำเตือนด้านการแข่งขันและห่วงโซ่อุปทาน ⛔ TI ไม่ได้ผลิตชิปขั้นสูงสำหรับ AI หรือ HPC อาจเสียเปรียบในตลาดประสิทธิภาพสูง ⛔ แม้จะช่วยเสริมความมั่นคง แต่การลงทุนมหาศาลยังเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/new-texas-instruments-fab-will-pump-out-tens-of-millions-of-chips-per-day-first-300mm-fab-starts-production-after-usd60-billion-investment
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • Amazon จับได้พนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือด้วย Keystroke Lag

    Amazon เปิดเผยกรณีการตรวจจับพนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือที่พยายามแฝงตัวเข้ามาทำงานในฝ่าย IT ของบริษัทในสหรัฐฯ โดยใช้วิธีการ Remote Control ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในอเมริกา แต่จริง ๆ แล้วถูกควบคุมจากต่างประเทศ ความผิดปกติที่นำไปสู่การจับได้คือ ความหน่วงในการพิมพ์ (Keystroke Lag) ที่มากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งสูงกว่าค่าปกติของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่มักอยู่ในระดับไม่กี่สิบมิลลิวินาที

    Stephen Schmidt, Chief Security Officer ของ Amazon ระบุว่า บริษัทได้สกัดกั้นความพยายามแฝงตัวของเกาหลีเหนือมากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และจำนวนความพยายามยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส การแฝงตัวเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ รวมถึงอาจใช้เพื่อการจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม

    การตรวจจับครั้งนี้เกิดขึ้นจากระบบเฝ้าระวังที่แจ้งเตือนพฤติกรรมผิดปกติของพนักงานใหม่ ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยตรวจสอบและพบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ ถูกควบคุมจากระยะไกลโดยบุคคลในเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังพบผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้กับแรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกไปก่อนหน้านี้

    กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของการแฝงตัวในองค์กรขนาดใหญ่ และความสำคัญของการตรวจสอบพฤติกรรมดิจิทัลที่ละเอียดอ่อน เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษาและสำนวนที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถเป็นเบาะแสสำคัญในการตรวจจับผู้แฝงตัว

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การตรวจจับด้วย Keystroke Lag
    พบความหน่วงมากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งผิดปกติสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ

    จำนวนความพยายามแฝงตัว
    Amazon สกัดกั้นได้มากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และยังเพิ่มขึ้น 27% ต่อไตรมาส

    เป้าหมายของการแฝงตัว
    เพื่อสร้างรายได้ให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ และอาจใช้เพื่อจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม

    การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง
    ผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้แรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกแล้ว

    คำเตือนด้านความปลอดภัยองค์กร
    การแฝงตัวอาจเกิดขึ้นได้แม้ในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด
    พฤติกรรมดิจิทัลเล็ก ๆ เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษา อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/north-korean-infiltrator-caught-working-in-amazon-it-department-thanks-to-lag-110ms-keystroke-input-raises-red-flags-over-true-location
    🛡️ Amazon จับได้พนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือด้วย Keystroke Lag Amazon เปิดเผยกรณีการตรวจจับพนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือที่พยายามแฝงตัวเข้ามาทำงานในฝ่าย IT ของบริษัทในสหรัฐฯ โดยใช้วิธีการ Remote Control ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในอเมริกา แต่จริง ๆ แล้วถูกควบคุมจากต่างประเทศ ความผิดปกติที่นำไปสู่การจับได้คือ ความหน่วงในการพิมพ์ (Keystroke Lag) ที่มากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งสูงกว่าค่าปกติของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่มักอยู่ในระดับไม่กี่สิบมิลลิวินาที Stephen Schmidt, Chief Security Officer ของ Amazon ระบุว่า บริษัทได้สกัดกั้นความพยายามแฝงตัวของเกาหลีเหนือมากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และจำนวนความพยายามยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส การแฝงตัวเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ รวมถึงอาจใช้เพื่อการจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม การตรวจจับครั้งนี้เกิดขึ้นจากระบบเฝ้าระวังที่แจ้งเตือนพฤติกรรมผิดปกติของพนักงานใหม่ ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยตรวจสอบและพบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ ถูกควบคุมจากระยะไกลโดยบุคคลในเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังพบผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้กับแรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกไปก่อนหน้านี้ กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของการแฝงตัวในองค์กรขนาดใหญ่ และความสำคัญของการตรวจสอบพฤติกรรมดิจิทัลที่ละเอียดอ่อน เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษาและสำนวนที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถเป็นเบาะแสสำคัญในการตรวจจับผู้แฝงตัว 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การตรวจจับด้วย Keystroke Lag ➡️ พบความหน่วงมากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งผิดปกติสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ ✅ จำนวนความพยายามแฝงตัว ➡️ Amazon สกัดกั้นได้มากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และยังเพิ่มขึ้น 27% ต่อไตรมาส ✅ เป้าหมายของการแฝงตัว ➡️ เพื่อสร้างรายได้ให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ และอาจใช้เพื่อจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม ✅ การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง ➡️ ผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้แรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกแล้ว ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัยองค์กร ⛔ การแฝงตัวอาจเกิดขึ้นได้แม้ในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด ⛔ พฤติกรรมดิจิทัลเล็ก ๆ เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษา อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/north-korean-infiltrator-caught-working-in-amazon-it-department-thanks-to-lag-110ms-keystroke-input-raises-red-flags-over-true-location
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกับความพยายาม Reverse Engineering เครื่อง EUV Lithography

    รายงานจาก Reuters และ Tom’s Hardware ระบุว่า จีนได้ตั้งห้องแล็บลับในเซินเจิ้นเพื่อสร้างเครื่อง EUV Lithography ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยอ้างว่าใช้วิธี Reverse Engineering จากเครื่องของ ASML บริษัทเนเธอร์แลนด์ที่เป็นผู้ผลิตรายเดียวในโลกที่สามารถทำเครื่อง EUV ได้สำเร็จ ปัจจุบันเครื่องต้นแบบของจีนสามารถสร้างแสง EUV ที่ความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรได้ แต่ยังไม่สามารถใช้ผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้

    เครื่องดังกล่าวใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML โดยยิงเลเซอร์ไปที่หยดดีบุกขนาดไมครอนเพื่อสร้างพลาสมาที่ปล่อยแสง EUV อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักอยู่ที่ระบบออปติกที่ซับซ้อนมาก เช่น กระจกสะท้อนที่เคลือบด้วยชั้น Mo/Si และระบบ Projection Optics ที่ต้องการความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้สมบูรณ์

    รัฐบาลจีนตั้งเป้าว่าจะมีต้นแบบที่สามารถผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความเป็นจริงอาจต้องรอถึงปี 2030 หรือหลังจากนั้น เนื่องจากการสร้างเครื่อง EUV ต้องอาศัยการบูรณาการมากกว่า 100,000 ชิ้นส่วน และความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ซึ่งปัจจุบันจีนยังต้องพึ่งพาอดีตวิศวกรจาก ASML และนักวิจัยมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจบใหม่

    หากจีนสามารถพัฒนาเครื่อง EUV ได้สำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพราะปัจจุบันจีนถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จากมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐและพันธมิตร แต่ในทางกลับกัน หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาด้านออปติกและระบบกลไกได้ ความพยายามนี้อาจกลายเป็นเพียงการทดลองที่ไม่สามารถใช้จริงในเชิงพาณิชย์

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การสร้างเครื่อง EUV ในจีน
    ห้องแล็บลับในเซินเจิ้นสร้างเครื่องต้นแบบที่สามารถผลิตแสง EUV ได้แล้ว

    เทคนิคที่ใช้
    ใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML

    เป้าหมายรัฐบาลจีน
    ต้องการให้มีต้นแบบที่ผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจช้ากว่านั้น

    ความท้าทายด้านเทคนิค
    ระบบออปติกและกลไกที่ซับซ้อนยังไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์

    คำเตือนด้านความเป็นจริง
    การสร้างเครื่อง EUV ต้องใช้มากกว่า 100,000 ชิ้นส่วนและความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้
    แม้จะมีความก้าวหน้า แต่ยังไม่สามารถผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ในระยะสั้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-may-have-reverse-engineered-euv-lithography-tool-in-covert-lab-report-claims-employees-given-fake-ids-to-avoid-secret-project-being-detected-prototypes-expected-in-2028
    🔬 จีนกับความพยายาม Reverse Engineering เครื่อง EUV Lithography รายงานจาก Reuters และ Tom’s Hardware ระบุว่า จีนได้ตั้งห้องแล็บลับในเซินเจิ้นเพื่อสร้างเครื่อง EUV Lithography ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยอ้างว่าใช้วิธี Reverse Engineering จากเครื่องของ ASML บริษัทเนเธอร์แลนด์ที่เป็นผู้ผลิตรายเดียวในโลกที่สามารถทำเครื่อง EUV ได้สำเร็จ ปัจจุบันเครื่องต้นแบบของจีนสามารถสร้างแสง EUV ที่ความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรได้ แต่ยังไม่สามารถใช้ผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ เครื่องดังกล่าวใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML โดยยิงเลเซอร์ไปที่หยดดีบุกขนาดไมครอนเพื่อสร้างพลาสมาที่ปล่อยแสง EUV อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักอยู่ที่ระบบออปติกที่ซับซ้อนมาก เช่น กระจกสะท้อนที่เคลือบด้วยชั้น Mo/Si และระบบ Projection Optics ที่ต้องการความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้สมบูรณ์ รัฐบาลจีนตั้งเป้าว่าจะมีต้นแบบที่สามารถผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความเป็นจริงอาจต้องรอถึงปี 2030 หรือหลังจากนั้น เนื่องจากการสร้างเครื่อง EUV ต้องอาศัยการบูรณาการมากกว่า 100,000 ชิ้นส่วน และความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ซึ่งปัจจุบันจีนยังต้องพึ่งพาอดีตวิศวกรจาก ASML และนักวิจัยมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจบใหม่ หากจีนสามารถพัฒนาเครื่อง EUV ได้สำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพราะปัจจุบันจีนถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จากมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐและพันธมิตร แต่ในทางกลับกัน หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาด้านออปติกและระบบกลไกได้ ความพยายามนี้อาจกลายเป็นเพียงการทดลองที่ไม่สามารถใช้จริงในเชิงพาณิชย์ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การสร้างเครื่อง EUV ในจีน ➡️ ห้องแล็บลับในเซินเจิ้นสร้างเครื่องต้นแบบที่สามารถผลิตแสง EUV ได้แล้ว ✅ เทคนิคที่ใช้ ➡️ ใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML ✅ เป้าหมายรัฐบาลจีน ➡️ ต้องการให้มีต้นแบบที่ผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจช้ากว่านั้น ✅ ความท้าทายด้านเทคนิค ➡️ ระบบออปติกและกลไกที่ซับซ้อนยังไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์ ‼️ คำเตือนด้านความเป็นจริง ⛔ การสร้างเครื่อง EUV ต้องใช้มากกว่า 100,000 ชิ้นส่วนและความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้ ⛔ แม้จะมีความก้าวหน้า แต่ยังไม่สามารถผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ในระยะสั้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-may-have-reverse-engineered-euv-lithography-tool-in-covert-lab-report-claims-employees-given-fake-ids-to-avoid-secret-project-being-detected-prototypes-expected-in-2028
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • Thin Desires กำลังกัดกินชีวิตเรา

    บทความ Thin Desires Are Eating Your Life ของ Joan Westenberg วิเคราะห์ว่าโลกยุคดิจิทัลกำลังทำให้เราติดอยู่กับ “thin desires” หรือความปรารถนาที่ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตจริง เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพโซเชียลมีเดีย แทนที่จะลงทุนใน “thick desires” ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและความหมาย เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่หรือการสร้างชุมชน.

    Westenberg อธิบายว่า thin desires คือความปรารถนาที่ให้ความพึงพอใจชั่วคราวแต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวตน เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพคอนเทนต์ออนไลน์ ในทางตรงกันข้าม thick desires อย่างการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การฝึกฝนงานฝีมือ หรือการสร้างความสัมพันธ์จริง จะเปลี่ยนแปลงผู้คนในระยะยาว ทำให้พวกเขามีความสามารถและมุมมองใหม่ ๆ.

    ธุรกิจเทคโนโลยีจำนวนมากใช้โมเดลที่ “แยกชิ้นส่วน” ความปรารถนาแบบหนา แล้วส่งมอบเฉพาะส่วนที่ให้รางวัลทางสมอง เช่น โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง, สื่อลามกให้ความพึงพอใจทางเพศโดยไม่ต้องมีความสัมพันธ์, แอป productivity ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง สิ่งเหล่านี้ง่ายต่อการทำซ้ำ ขยาย และทำเงิน แต่กลับทำให้ผู้ใช้ติดอยู่กับวงจรความว่างเปล่า.

    ผลลัพธ์คือสังคมที่เต็มไปด้วยความเหงา ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า แม้เราจะ “เชื่อมต่อ” กันมากกว่าที่เคย แต่กลับรู้สึกขาดความหมาย Westenberg ชี้ว่า thick desires ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ทันที ต้องใช้เวลา ความพยายาม และการมีส่วนร่วมกับชุมชน แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกทำลายลงเรื่อย ๆ เช่น การหายไปของเวิร์กช็อป การลดลงของการฝึกงาน และการแทนที่พื้นที่สาธารณะด้วยการใช้ชีวิตคนเดียวกับอุปกรณ์.

    ผู้เขียนเสนอแนวทางเล็ก ๆ ในการต่อต้าน เช่น การอบขนมปังที่ไม่สามารถเร่งเวลาได้, การเขียนจดหมายด้วยมือที่ไม่สามารถแก้ไขหรือ unsend ได้, หรือการสร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อนหนึ่งคน สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถ scale หรือ monetize ได้ แต่ช่วยให้เรากลับมาสัมผัสกับความอดทน ความหมาย และความสัมพันธ์ที่แท้จริง.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    แนวคิด Thin vs Thick Desires
    Thin = ความพึงพอใจชั่วคราว ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิต
    Thick = ความปรารถนาที่เปลี่ยนแปลงตัวตนและสร้างความหมาย

    ธุรกิจเทคโนโลยีใช้ Thin Desires
    โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง
    Productivity apps ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง

    ผลกระทบต่อสังคม
    ความเหงา วิตกกังวล และซึมเศร้าเพิ่มขึ้น
    โครงสร้างสนับสนุน Thick Desires ถูกทำลาย เช่น เวิร์กช็อปและชุมชน

    แนวทางต่อต้าน Thin Desires
    อบขนมปัง ใช้เวลาและความอดทน
    เขียนจดหมายด้วยมือ สื่อสารนอกระบบ metrics
    สร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อน

    คำเตือน
    การเสพ Thin Desires อย่างต่อเนื่องทำให้ชีวิตว่างเปล่าและขาดความหมาย
    หากไม่สร้าง Thick Desires เราจะสูญเสียความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และความอดทน

    https://www.joanwestenberg.com/thin-desires-are-eating-your-life/
    📱 Thin Desires กำลังกัดกินชีวิตเรา บทความ Thin Desires Are Eating Your Life ของ Joan Westenberg วิเคราะห์ว่าโลกยุคดิจิทัลกำลังทำให้เราติดอยู่กับ “thin desires” หรือความปรารถนาที่ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตจริง เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพโซเชียลมีเดีย แทนที่จะลงทุนใน “thick desires” ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและความหมาย เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่หรือการสร้างชุมชน. Westenberg อธิบายว่า thin desires คือความปรารถนาที่ให้ความพึงพอใจชั่วคราวแต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวตน เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพคอนเทนต์ออนไลน์ ในทางตรงกันข้าม thick desires อย่างการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การฝึกฝนงานฝีมือ หรือการสร้างความสัมพันธ์จริง จะเปลี่ยนแปลงผู้คนในระยะยาว ทำให้พวกเขามีความสามารถและมุมมองใหม่ ๆ. ธุรกิจเทคโนโลยีจำนวนมากใช้โมเดลที่ “แยกชิ้นส่วน” ความปรารถนาแบบหนา แล้วส่งมอบเฉพาะส่วนที่ให้รางวัลทางสมอง เช่น โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง, สื่อลามกให้ความพึงพอใจทางเพศโดยไม่ต้องมีความสัมพันธ์, แอป productivity ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง สิ่งเหล่านี้ง่ายต่อการทำซ้ำ ขยาย และทำเงิน แต่กลับทำให้ผู้ใช้ติดอยู่กับวงจรความว่างเปล่า. ผลลัพธ์คือสังคมที่เต็มไปด้วยความเหงา ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า แม้เราจะ “เชื่อมต่อ” กันมากกว่าที่เคย แต่กลับรู้สึกขาดความหมาย Westenberg ชี้ว่า thick desires ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ทันที ต้องใช้เวลา ความพยายาม และการมีส่วนร่วมกับชุมชน แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกทำลายลงเรื่อย ๆ เช่น การหายไปของเวิร์กช็อป การลดลงของการฝึกงาน และการแทนที่พื้นที่สาธารณะด้วยการใช้ชีวิตคนเดียวกับอุปกรณ์. ผู้เขียนเสนอแนวทางเล็ก ๆ ในการต่อต้าน เช่น การอบขนมปังที่ไม่สามารถเร่งเวลาได้, การเขียนจดหมายด้วยมือที่ไม่สามารถแก้ไขหรือ unsend ได้, หรือการสร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อนหนึ่งคน สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถ scale หรือ monetize ได้ แต่ช่วยให้เรากลับมาสัมผัสกับความอดทน ความหมาย และความสัมพันธ์ที่แท้จริง. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ แนวคิด Thin vs Thick Desires ➡️ Thin = ความพึงพอใจชั่วคราว ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิต ➡️ Thick = ความปรารถนาที่เปลี่ยนแปลงตัวตนและสร้างความหมาย ✅ ธุรกิจเทคโนโลยีใช้ Thin Desires ➡️ โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง ➡️ Productivity apps ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง ✅ ผลกระทบต่อสังคม ➡️ ความเหงา วิตกกังวล และซึมเศร้าเพิ่มขึ้น ➡️ โครงสร้างสนับสนุน Thick Desires ถูกทำลาย เช่น เวิร์กช็อปและชุมชน ✅ แนวทางต่อต้าน Thin Desires ➡️ อบขนมปัง ใช้เวลาและความอดทน ➡️ เขียนจดหมายด้วยมือ สื่อสารนอกระบบ metrics ➡️ สร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อน ‼️ คำเตือน ⛔ การเสพ Thin Desires อย่างต่อเนื่องทำให้ชีวิตว่างเปล่าและขาดความหมาย ⛔ หากไม่สร้าง Thick Desires เราจะสูญเสียความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และความอดทน https://www.joanwestenberg.com/thin-desires-are-eating-your-life/
    WWW.JOANWESTENBERG.COM
    Thin Desires Are Eating Your Life
    The defining experience of our age seems to be hunger. We're hungry for more, but we have more than we need. We're hungry for less, while more accumulates and multiplies. We're hungry and we don't have words to articulate why. We're hungry, and we're lacking and we're wanting. We are
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เปิดตัว Gemini 3 Flash – AI เร็ว แรง และเข้าถึงได้ทั่วโลก

    Google ประกาศเปิดตัว Gemini 3 Flash ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ในตระกูล Gemini 3 โดยเน้นความเร็วและต้นทุนต่ำ แต่ยังคงความสามารถด้านการให้เหตุผลและการทำงานแบบมัลติโหมด (multimodal) เทียบเท่ารุ่น Pro จุดเด่นคือสามารถประมวลผลได้เร็วกว่า Gemini 2.5 Pro ถึง 3 เท่า และใช้โทเคนเฉลี่ยน้อยลงถึง 30% ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น การพัฒนาโค้ด การวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างแอปพลิเคชันแบบโต้ตอบ.

    Gemini 3 Flash ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย โดยจะเป็นโมเดลเริ่มต้นในแอป Gemini และ AI Mode ใน Google Search ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทั่วโลกจะได้สัมผัสประสบการณ์ AI ที่เร็วและฉลาดขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังเปิดให้ใช้งานผ่าน Google AI Studio, Gemini CLI และแพลตฟอร์มใหม่ Google Antigravity สำหรับนักพัฒนา.

    ในด้านประสิทธิภาพ Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลาย benchmark เช่น GPQA Diamond และ SWE-bench Verified ซึ่งใช้วัดความสามารถในการให้เหตุผลและการแก้ปัญหาด้านโค้ด โดยมีบริษัทใหญ่เช่น JetBrains, Bridgewater Associates และ Figma นำไปใช้งานแล้ว เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานและสร้างระบบที่ตอบสนองได้รวดเร็ว.

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Gemini 3 Flash ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพียงเพื่อความเร็ว แต่ยังคงรักษาความสามารถในการคิดเชิงลึกและการทำงานแบบ multimodal เช่น การวิเคราะห์วิดีโอ การสร้างคำอธิบายภาพ และการออกแบบ UI แบบโต้ตอบในเวลาเกือบเรียลไทม์ ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่เหมาะทั้งสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนาที่ต้องการความสมดุลระหว่างคุณภาพ ความเร็ว และต้นทุน.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Gemini 3 Flash เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
    เร็วกว่า Gemini 2.5 Pro ถึง 3 เท่า
    ใช้โทเคนน้อยลง 30% แต่ยังคงคุณภาพสูง

    เข้าถึงได้ทั่วโลก
    เป็นโมเดลเริ่มต้นในแอป Gemini และ AI Mode ใน Search
    ใช้งานได้ฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

    ประสิทธิภาพระดับสูง
    ทำคะแนนสูงใน benchmark เช่น GPQA Diamond และ SWE-bench Verified
    บริษัทใหญ่เช่น JetBrains และ Figma นำไปใช้งานแล้ว

    รองรับงานมัลติโหมดและเชิงลึก
    วิเคราะห์วิดีโอ สร้างคำอธิบายภาพ และออกแบบ UI แบบโต้ตอบ
    เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนาที่ต้องการความเร็วและคุณภาพ

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    แม้จะเร็วและถูกกว่า แต่การใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูงยังต้องตรวจสอบผลลัพธ์อย่างรอบคอบ
    การพึ่งพา AI ในการสร้างโค้ดหรือออกแบบระบบอาจเสี่ยงต่อข้อผิดพลาดหากไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์

    https://blog.google/products/gemini/gemini-3-flash/
    ⚡ Google เปิดตัว Gemini 3 Flash – AI เร็ว แรง และเข้าถึงได้ทั่วโลก Google ประกาศเปิดตัว Gemini 3 Flash ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ในตระกูล Gemini 3 โดยเน้นความเร็วและต้นทุนต่ำ แต่ยังคงความสามารถด้านการให้เหตุผลและการทำงานแบบมัลติโหมด (multimodal) เทียบเท่ารุ่น Pro จุดเด่นคือสามารถประมวลผลได้เร็วกว่า Gemini 2.5 Pro ถึง 3 เท่า และใช้โทเคนเฉลี่ยน้อยลงถึง 30% ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น การพัฒนาโค้ด การวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างแอปพลิเคชันแบบโต้ตอบ. Gemini 3 Flash ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย โดยจะเป็นโมเดลเริ่มต้นในแอป Gemini และ AI Mode ใน Google Search ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทั่วโลกจะได้สัมผัสประสบการณ์ AI ที่เร็วและฉลาดขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังเปิดให้ใช้งานผ่าน Google AI Studio, Gemini CLI และแพลตฟอร์มใหม่ Google Antigravity สำหรับนักพัฒนา. ในด้านประสิทธิภาพ Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลาย benchmark เช่น GPQA Diamond และ SWE-bench Verified ซึ่งใช้วัดความสามารถในการให้เหตุผลและการแก้ปัญหาด้านโค้ด โดยมีบริษัทใหญ่เช่น JetBrains, Bridgewater Associates และ Figma นำไปใช้งานแล้ว เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานและสร้างระบบที่ตอบสนองได้รวดเร็ว. สิ่งที่น่าสนใจคือ Gemini 3 Flash ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพียงเพื่อความเร็ว แต่ยังคงรักษาความสามารถในการคิดเชิงลึกและการทำงานแบบ multimodal เช่น การวิเคราะห์วิดีโอ การสร้างคำอธิบายภาพ และการออกแบบ UI แบบโต้ตอบในเวลาเกือบเรียลไทม์ ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่เหมาะทั้งสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนาที่ต้องการความสมดุลระหว่างคุณภาพ ความเร็ว และต้นทุน. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Gemini 3 Flash เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ➡️ เร็วกว่า Gemini 2.5 Pro ถึง 3 เท่า ➡️ ใช้โทเคนน้อยลง 30% แต่ยังคงคุณภาพสูง ✅ เข้าถึงได้ทั่วโลก ➡️ เป็นโมเดลเริ่มต้นในแอป Gemini และ AI Mode ใน Search ➡️ ใช้งานได้ฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ✅ ประสิทธิภาพระดับสูง ➡️ ทำคะแนนสูงใน benchmark เช่น GPQA Diamond และ SWE-bench Verified ➡️ บริษัทใหญ่เช่น JetBrains และ Figma นำไปใช้งานแล้ว ✅ รองรับงานมัลติโหมดและเชิงลึก ➡️ วิเคราะห์วิดีโอ สร้างคำอธิบายภาพ และออกแบบ UI แบบโต้ตอบ ➡️ เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนาที่ต้องการความเร็วและคุณภาพ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ แม้จะเร็วและถูกกว่า แต่การใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูงยังต้องตรวจสอบผลลัพธ์อย่างรอบคอบ ⛔ การพึ่งพา AI ในการสร้างโค้ดหรือออกแบบระบบอาจเสี่ยงต่อข้อผิดพลาดหากไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์ https://blog.google/products/gemini/gemini-3-flash/
    BLOG.GOOGLE
    Gemini 3 Flash: frontier intelligence built for speed
    Gemini 3 Flash offers frontier intelligence built for speed at a fraction of the cost.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • AWS CEO ชี้ AI ไม่สามารถแทนที่นักพัฒนาใหม่ได้

    ในโลกเทคโนโลยีที่หลายบริษัทกำลังมอง AI เป็นเครื่องมือแทนแรงงานมนุษย์ Matt Garman CEO ของ Amazon Web Services ออกมาโต้แย้งอย่างหนัก โดยเขาให้สัมภาษณ์ใน WIRED’s The Big Interview ว่า การแทนที่นักพัฒนาใหม่ด้วย AI เป็นแนวคิดที่ผิดพลาด เพราะคนรุ่นใหม่มักจะเชี่ยวชาญการใช้เครื่องมือ AI มากกว่าคนที่มีประสบการณ์ ทำให้พวกเขาสามารถดึงประโยชน์จาก AI ได้เต็มที่.

    เขาอธิบายว่า นักพัฒนาใหม่มักมีค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือนและสวัสดิการต่ำกว่าพนักงานอาวุโส การตัดพวกเขาออกจึงไม่ได้ช่วยลดต้นทุนมากนัก ในทางกลับกัน ข้อมูลจาก Deloitte ยังชี้ว่า 30% ของบริษัทที่ปลดพนักงานเพื่อหวังลดค่าใช้จ่าย กลับต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและต้องจ้างใหม่ภายหลัง ซึ่งสะท้อนว่าการลดคนโดยเฉพาะระดับเริ่มต้นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่แท้จริง.

    อีกประเด็นสำคัญคือ การสร้างท่อส่งบุคลากร (talent pipeline) หากไม่มีการจ้างนักพัฒนาใหม่ บริษัทจะขาดคนรุ่นใหม่ที่สามารถเติบโตขึ้นมาเป็นผู้นำในอนาคต การเปรียบเทียบของ Garman คือเหมือนทีมกีฬาที่มีแต่ผู้เล่นเก่าโดยไม่รับมือใหม่ เมื่อถึงเวลาที่ผู้เล่นเก่าเลิกเล่น ทีมก็จะไม่มีใครสืบทอดต่อ ส่งผลให้บริษัทเสี่ยงต่อการขาดแคลนบุคลากรในระยะยาว.

    แม้ Garman จะยอมรับว่า AI จะเปลี่ยนแปลงงานของนักพัฒนาอย่างมาก แต่เขามองว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างงานใหม่มากกว่าที่จะทำลายงานเดิม เขาย้ำว่า การมีนักพัฒนาใหม่ที่เข้าใจพื้นฐานวิทยาการคอมพิวเตอร์ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ในอนาคต.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    นักพัฒนาใหม่เชี่ยวชาญ AI มากกว่า
    Gen Z ใช้ AI tools เป็นประจำ และช่วยสอนพนักงานอาวุโส
    55.5% ของนักพัฒนาใหม่ใช้ AI ทุกวันในการทำงาน

    การลดนักพัฒนาใหม่ไม่ช่วยประหยัดจริง
    เงินเดือนและสวัสดิการต่ำอยู่แล้ว
    30% ของบริษัทที่ปลดคนกลับมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นและต้องจ้างใหม่

    ท่อส่งบุคลากรคือหัวใจขององค์กร
    การไม่จ้างคนใหม่ทำให้ขาดผู้นำในอนาคต
    บริษัทเสี่ยงต่อการขาดแคลนบุคลากรเมื่อโครงการขยายตัว

    คำเตือนจาก AWS CEO
    การแทนที่นักพัฒนาใหม่ด้วย AI อาจทำลายความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม
    บริษัทที่พึ่งพา AI อย่างเดียวจะเสี่ยงต่อการไม่มีบุคลากรที่มีทักษะพื้นฐานในอนาคต

    https://www.finalroundai.com/blog/aws-ceo-ai-cannot-replace-junior-developers
    💻 AWS CEO ชี้ AI ไม่สามารถแทนที่นักพัฒนาใหม่ได้ ในโลกเทคโนโลยีที่หลายบริษัทกำลังมอง AI เป็นเครื่องมือแทนแรงงานมนุษย์ Matt Garman CEO ของ Amazon Web Services ออกมาโต้แย้งอย่างหนัก โดยเขาให้สัมภาษณ์ใน WIRED’s The Big Interview ว่า การแทนที่นักพัฒนาใหม่ด้วย AI เป็นแนวคิดที่ผิดพลาด เพราะคนรุ่นใหม่มักจะเชี่ยวชาญการใช้เครื่องมือ AI มากกว่าคนที่มีประสบการณ์ ทำให้พวกเขาสามารถดึงประโยชน์จาก AI ได้เต็มที่. เขาอธิบายว่า นักพัฒนาใหม่มักมีค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือนและสวัสดิการต่ำกว่าพนักงานอาวุโส การตัดพวกเขาออกจึงไม่ได้ช่วยลดต้นทุนมากนัก ในทางกลับกัน ข้อมูลจาก Deloitte ยังชี้ว่า 30% ของบริษัทที่ปลดพนักงานเพื่อหวังลดค่าใช้จ่าย กลับต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและต้องจ้างใหม่ภายหลัง ซึ่งสะท้อนว่าการลดคนโดยเฉพาะระดับเริ่มต้นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่แท้จริง. อีกประเด็นสำคัญคือ การสร้างท่อส่งบุคลากร (talent pipeline) หากไม่มีการจ้างนักพัฒนาใหม่ บริษัทจะขาดคนรุ่นใหม่ที่สามารถเติบโตขึ้นมาเป็นผู้นำในอนาคต การเปรียบเทียบของ Garman คือเหมือนทีมกีฬาที่มีแต่ผู้เล่นเก่าโดยไม่รับมือใหม่ เมื่อถึงเวลาที่ผู้เล่นเก่าเลิกเล่น ทีมก็จะไม่มีใครสืบทอดต่อ ส่งผลให้บริษัทเสี่ยงต่อการขาดแคลนบุคลากรในระยะยาว. แม้ Garman จะยอมรับว่า AI จะเปลี่ยนแปลงงานของนักพัฒนาอย่างมาก แต่เขามองว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างงานใหม่มากกว่าที่จะทำลายงานเดิม เขาย้ำว่า การมีนักพัฒนาใหม่ที่เข้าใจพื้นฐานวิทยาการคอมพิวเตอร์ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ในอนาคต. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ นักพัฒนาใหม่เชี่ยวชาญ AI มากกว่า ➡️ Gen Z ใช้ AI tools เป็นประจำ และช่วยสอนพนักงานอาวุโส ➡️ 55.5% ของนักพัฒนาใหม่ใช้ AI ทุกวันในการทำงาน ✅ การลดนักพัฒนาใหม่ไม่ช่วยประหยัดจริง ➡️ เงินเดือนและสวัสดิการต่ำอยู่แล้ว ➡️ 30% ของบริษัทที่ปลดคนกลับมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นและต้องจ้างใหม่ ✅ ท่อส่งบุคลากรคือหัวใจขององค์กร ➡️ การไม่จ้างคนใหม่ทำให้ขาดผู้นำในอนาคต ➡️ บริษัทเสี่ยงต่อการขาดแคลนบุคลากรเมื่อโครงการขยายตัว ‼️ คำเตือนจาก AWS CEO ⛔ การแทนที่นักพัฒนาใหม่ด้วย AI อาจทำลายความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ⛔ บริษัทที่พึ่งพา AI อย่างเดียวจะเสี่ยงต่อการไม่มีบุคลากรที่มีทักษะพื้นฐานในอนาคต https://www.finalroundai.com/blog/aws-ceo-ai-cannot-replace-junior-developers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภากลาโหมมีมติเพิ่มการดูแลกำลังพลแนวหน้า เร่งจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ให้ถูกต้องและทันท่วงที ควบคู่กับการยกระดับมาตรการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
    .
    โฆษกกระทรวงกลาโหมระบุว่า ที่ประชุมเห็นชอบการเสริมกำลังบำรุงให้หน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ พร้อมให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและการศึกษา โดยมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะและโอกาสในระยะยาวแก่กำลังพลและครอบครัว
    .
    ในด้านสถานการณ์ชายแดน ได้สั่งการบูรณาการหน่วยงานด้านความมั่นคง เพิ่มการดูแลความปลอดภัยประชาชน โดยย้ำให้การปฏิบัติการของกองทัพไทยเป็นไปอย่างรอบคอบ ได้สัดส่วน และอยู่ภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122086
    .
    #News1live #News1 #สภากลาโหม #ความมั่นคง #ชายแดนไทยกัมพูชา #กำลังพล
    สภากลาโหมมีมติเพิ่มการดูแลกำลังพลแนวหน้า เร่งจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ให้ถูกต้องและทันท่วงที ควบคู่กับการยกระดับมาตรการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา . โฆษกกระทรวงกลาโหมระบุว่า ที่ประชุมเห็นชอบการเสริมกำลังบำรุงให้หน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ พร้อมให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและการศึกษา โดยมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะและโอกาสในระยะยาวแก่กำลังพลและครอบครัว . ในด้านสถานการณ์ชายแดน ได้สั่งการบูรณาการหน่วยงานด้านความมั่นคง เพิ่มการดูแลความปลอดภัยประชาชน โดยย้ำให้การปฏิบัติการของกองทัพไทยเป็นไปอย่างรอบคอบ ได้สัดส่วน และอยู่ภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122086 . #News1live #News1 #สภากลาโหม #ความมั่นคง #ชายแดนไทยกัมพูชา #กำลังพล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศชี้แจงกรณีการปฏิบัติการทางอากาศต่อเป้าหมายใกล้เมืองปอยเปต ภายหลังมีกระแสข่าวการโจมตีในพื้นที่ดังกล่าว ยืนยันว่าเป็นการโจมตีเป้าหมายทางทหารที่ผ่านการพิสูจน์ทราบด้านการข่าวอย่างรอบคอบ
    .
    โฆษกกองทัพอากาศระบุว่า เป้าหมายดังกล่าวเป็นคลังเก็บอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งถูกใช้เป็นศูนย์โลจิสติกส์ในการโจมตีพื้นที่ฝั่งไทย โดยจากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ไม่พบพลเรือนอาศัยอยู่ในบริเวณเป้าหมาย
    .
    กองทัพอากาศย้ำว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ดำเนินการภายใต้หลักมนุษยธรรม ความจำเป็น และความได้สัดส่วน มุ่งโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหาร เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประเทศ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122084
    .
    #News1live #News1 #กองทัพอากาศ #สถานการณ์ชายแดน #ปอยเปต #ความมั่นคง
    กองทัพอากาศชี้แจงกรณีการปฏิบัติการทางอากาศต่อเป้าหมายใกล้เมืองปอยเปต ภายหลังมีกระแสข่าวการโจมตีในพื้นที่ดังกล่าว ยืนยันว่าเป็นการโจมตีเป้าหมายทางทหารที่ผ่านการพิสูจน์ทราบด้านการข่าวอย่างรอบคอบ . โฆษกกองทัพอากาศระบุว่า เป้าหมายดังกล่าวเป็นคลังเก็บอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งถูกใช้เป็นศูนย์โลจิสติกส์ในการโจมตีพื้นที่ฝั่งไทย โดยจากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ไม่พบพลเรือนอาศัยอยู่ในบริเวณเป้าหมาย . กองทัพอากาศย้ำว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ดำเนินการภายใต้หลักมนุษยธรรม ความจำเป็น และความได้สัดส่วน มุ่งโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหาร เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประเทศ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122084 . #News1live #News1 #กองทัพอากาศ #สถานการณ์ชายแดน #ปอยเปต #ความมั่นคง
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศชี้แจงกรณีการใช้เครื่องบิน F-16 ปฏิบัติการทางอากาศ หลังมีการเผยแพร่วิดีโอการโจมตีเป้าหมายในพื้นที่ใกล้เมืองปอยเปต ยืนยันว่าไม่ได้โจมตีพื้นที่เมืองหรือพลเรือน
    .
    โฆษกกองทัพอากาศระบุว่า เป้าหมายของปฏิบัติการคือ สป.5 ซึ่งเป็นคลังเก็บอาวุธ กระสุน และวัตถุระเบิด โดยข้อมูลทางการข่าวยืนยันว่าเป็นจุดจัดเก็บจรวด BM-21 ที่เข้าข่ายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศไทย
    .
    การปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามสิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ มุ่งเป้าเฉพาะวัตถุประสงค์ทางทหาร เพื่อจำกัดและลดทอนขีดความสามารถของฝ่ายคู่กรณี
    .
    กองทัพอากาศยืนยันว่า การกำหนดเป้าหมายทุกครั้งผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ ใช้ข้อมูลจากระบบตรวจจับและข่าวกรองภาคพื้นดิน และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121844
    .
    #News1live #News1 #กองทัพอากาศ #F16 #BM21 #ปอยเปต #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    กองทัพอากาศชี้แจงกรณีการใช้เครื่องบิน F-16 ปฏิบัติการทางอากาศ หลังมีการเผยแพร่วิดีโอการโจมตีเป้าหมายในพื้นที่ใกล้เมืองปอยเปต ยืนยันว่าไม่ได้โจมตีพื้นที่เมืองหรือพลเรือน . โฆษกกองทัพอากาศระบุว่า เป้าหมายของปฏิบัติการคือ สป.5 ซึ่งเป็นคลังเก็บอาวุธ กระสุน และวัตถุระเบิด โดยข้อมูลทางการข่าวยืนยันว่าเป็นจุดจัดเก็บจรวด BM-21 ที่เข้าข่ายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศไทย . การปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามสิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ มุ่งเป้าเฉพาะวัตถุประสงค์ทางทหาร เพื่อจำกัดและลดทอนขีดความสามารถของฝ่ายคู่กรณี . กองทัพอากาศยืนยันว่า การกำหนดเป้าหมายทุกครั้งผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ ใช้ข้อมูลจากระบบตรวจจับและข่าวกรองภาคพื้นดิน และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121844 . #News1live #News1 #กองทัพอากาศ #F16 #BM21 #ปอยเปต #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญาพิพากษาจำคุก พฤทธิกร สาระกุล อดีตทีมงานก้าวหน้า รวม 20 ปี จากคดีโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันผ่านสื่อสังคมออนไลน์รวม 10 ครั้ง เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
    .
    ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ การกระทำของจำเลยไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการใส่ร้ายดูหมิ่นอย่างร้ายแรง กระทบต่อความมั่นคงของราชอาณาจักร
    .
    คดีนี้จำเลยหลบหนีระหว่างการพิจารณา ศาลจึงสั่งออกหมายจับและอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย พร้อมดำเนินกระบวนการตามกฎหมายต่อไป
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121760
    .
    #News1live #News1 #ศาลอาญา #หมิ่นสถาบัน #มาตรา112 #คดีความมั่นคง #กฎหมายไทย
    ศาลอาญาพิพากษาจำคุก พฤทธิกร สาระกุล อดีตทีมงานก้าวหน้า รวม 20 ปี จากคดีโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันผ่านสื่อสังคมออนไลน์รวม 10 ครั้ง เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ . ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ การกระทำของจำเลยไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการใส่ร้ายดูหมิ่นอย่างร้ายแรง กระทบต่อความมั่นคงของราชอาณาจักร . คดีนี้จำเลยหลบหนีระหว่างการพิจารณา ศาลจึงสั่งออกหมายจับและอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย พร้อมดำเนินกระบวนการตามกฎหมายต่อไป . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121760 . #News1live #News1 #ศาลอาญา #หมิ่นสถาบัน #มาตรา112 #คดีความมั่นคง #กฎหมายไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • กนง.ลดดอกเบี้ย พยุงเศรษฐกิจไทย รับแรงกระแทกรอบด้าน คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.25% ต่อปี มีผลทันที เพื่อประคองเศรษฐกิจไทยที่เผชิญแรงกดดันจากการบริโภค การส่งออก และความเสี่ยงรอบด้านในระยะถัดไป
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121695
    .
    #News1live #News1 #ข่าว #เศรษฐกิจ #ลดดอกเบี้ย #กนง #truthfromthailand #newsupdate
    กนง.ลดดอกเบี้ย พยุงเศรษฐกิจไทย รับแรงกระแทกรอบด้าน คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.25% ต่อปี มีผลทันที เพื่อประคองเศรษฐกิจไทยที่เผชิญแรงกดดันจากการบริโภค การส่งออก และความเสี่ยงรอบด้านในระยะถัดไป . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121695 . #News1live #News1 #ข่าว #เศรษฐกิจ #ลดดอกเบี้ย #กนง #truthfromthailand #newsupdate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไหวเหรอยศชนัน ลูกสมชายเจ๊แดง

    การเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ในช่วงการปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา นอกจากกระแสสังคมจะเงียบเชียบแล้ว แคนดิเดต 3 คนที่เสนอมา สองคนแรกไม่มีอะไรใหม่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่มีผลงานโดดเด่น แม้สมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จะอยู่กระทรวงเกรดเอ ในตำแหน่ง รมช.คลัง หนำซ้ำนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทก็ล้มเหลว ส่วนนายสุุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คนที่ติดตามการเมืองมานานจะร้องยี้ เพราะเวียนวนเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยันรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่คุมกระทรวงคมนาคม หนำซ้ำยังถูกเคลือบแคลงสงสัยกรณี CTX9000

    จะมีหน้าใหม่อยู่คนเดียว คือ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ หรือ เชน แม้จะมีโปร์ไฟล์เป็นถึงอดีตรองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีผลงานวิจัยมากมาย แต่สังคมไม่ได้สนใจเท่ากับเป็นลูกชาย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ ชินวัตร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จึงถูกจับตามองทันทีว่าสืบทอดอำนาจทางการเมืองในตระกูลชินวัตรหรือไม่ หลังครอบครัวและเครือญาติตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีโทษจำคุกคดีโครงการรับจำนำข้าว และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณีคลิปเสียงนายฮุน เซน แห่งกัมพูชา

    พรรคเพื่อไทยพยายามยกเครื่องพรรคเพื่อสลัดภาพความเป็นพรรครากหญ้า พรรคประชานิยมแจกแหลก ด้วยวาทกรรม "ยกเครื่องประเทศไทย" ออกแบบด้วยวิทยาศาสตร์และเหตุผล ไปสู้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างพรรคประชาชน แต่ก็ยังมีนโยบายประชานิยมติดมาด้วย ทั้งรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ถูกตั้งคำถามว่าจะยั่งยืนหรือไม่ รวมไปถึงนโยบายล้างหนี้ให้คนไทย สูงสุด 100,000 บาท แต่ไม่พูดถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่เป็นบาดแผลของพรรค รวมทั้งปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีข้อกล่าวหาผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างตระกูลชินวัตร กับครอบครัวนายฮุน เซน

    อีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทยยังคงเลือดไหลไม่หยุด สส. มากกว่า 10 คน เห็นท่าไม่ดีย้ายไปพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังเหลืออีกส่วนหนึ่งที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับตระกูลชินวัตร แม้นายทักษิณที่เป็นศาสดาของพรรค จะถูกจำคุกในคดีทุจริต รวมทั้งคดีมาตรา 112 ที่อัยการสูงสุดสั่งให้อุทธรณ์ แถมยังแพ้คดีภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ 1.76 หมื่นล้านบาท กลายเป็นมีดปักหลังตระกูลการเมืองผู้มั่งคั่ง ที่หากดึงออกเมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้น ความล้มเหลวของรัฐบาลแพทองธาร รวมทั้งข้อกล่าวหาขายชาติ อาจทำให้หาเสียงยากที่สุด จึงกลายเป็นคำถามว่า ทั้งคนทั้งพรรคจะเข็นกันไหวหรือ?

    #Newskit
    ไหวเหรอยศชนัน ลูกสมชายเจ๊แดง การเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ในช่วงการปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา นอกจากกระแสสังคมจะเงียบเชียบแล้ว แคนดิเดต 3 คนที่เสนอมา สองคนแรกไม่มีอะไรใหม่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่มีผลงานโดดเด่น แม้สมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จะอยู่กระทรวงเกรดเอ ในตำแหน่ง รมช.คลัง หนำซ้ำนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทก็ล้มเหลว ส่วนนายสุุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คนที่ติดตามการเมืองมานานจะร้องยี้ เพราะเวียนวนเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยันรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่คุมกระทรวงคมนาคม หนำซ้ำยังถูกเคลือบแคลงสงสัยกรณี CTX9000 จะมีหน้าใหม่อยู่คนเดียว คือ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ หรือ เชน แม้จะมีโปร์ไฟล์เป็นถึงอดีตรองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีผลงานวิจัยมากมาย แต่สังคมไม่ได้สนใจเท่ากับเป็นลูกชาย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ ชินวัตร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จึงถูกจับตามองทันทีว่าสืบทอดอำนาจทางการเมืองในตระกูลชินวัตรหรือไม่ หลังครอบครัวและเครือญาติตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีโทษจำคุกคดีโครงการรับจำนำข้าว และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณีคลิปเสียงนายฮุน เซน แห่งกัมพูชา พรรคเพื่อไทยพยายามยกเครื่องพรรคเพื่อสลัดภาพความเป็นพรรครากหญ้า พรรคประชานิยมแจกแหลก ด้วยวาทกรรม "ยกเครื่องประเทศไทย" ออกแบบด้วยวิทยาศาสตร์และเหตุผล ไปสู้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างพรรคประชาชน แต่ก็ยังมีนโยบายประชานิยมติดมาด้วย ทั้งรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ถูกตั้งคำถามว่าจะยั่งยืนหรือไม่ รวมไปถึงนโยบายล้างหนี้ให้คนไทย สูงสุด 100,000 บาท แต่ไม่พูดถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่เป็นบาดแผลของพรรค รวมทั้งปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีข้อกล่าวหาผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างตระกูลชินวัตร กับครอบครัวนายฮุน เซน อีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทยยังคงเลือดไหลไม่หยุด สส. มากกว่า 10 คน เห็นท่าไม่ดีย้ายไปพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังเหลืออีกส่วนหนึ่งที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับตระกูลชินวัตร แม้นายทักษิณที่เป็นศาสดาของพรรค จะถูกจำคุกในคดีทุจริต รวมทั้งคดีมาตรา 112 ที่อัยการสูงสุดสั่งให้อุทธรณ์ แถมยังแพ้คดีภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ 1.76 หมื่นล้านบาท กลายเป็นมีดปักหลังตระกูลการเมืองผู้มั่งคั่ง ที่หากดึงออกเมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้น ความล้มเหลวของรัฐบาลแพทองธาร รวมทั้งข้อกล่าวหาขายชาติ อาจทำให้หาเสียงยากที่สุด จึงกลายเป็นคำถามว่า ทั้งคนทั้งพรรคจะเข็นกันไหวหรือ? #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนปรับท่าทีด้านเทคโนโลยีเอไอ หลังสหรัฐฯภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดทางให้สามารถซื้อชิป Nvidia H200 ได้ โดยปักกิ่งตั้งเป้าใช้ชิประดับไฮเอนด์ดังกล่าวเพื่อเร่งงานวิจัยและพัฒนาเอไอในระยะเร่งด่วน
    .
    รายงานระบุว่า จีนเลือกใช้ยุทธศาสตร์ “สองเส้นทาง” คือ ใช้ H200 สำหรับการเทรนนิ่งโมเดลเอไอที่ต้องการพลังประมวลผลสูง ขณะเดียวกันยังคงผลักดันการพัฒนาชิปภายในประเทศสำหรับการใช้งานระยะยาว เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ
    .
    นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ H200 จะช่วยคลี่คลายปัญหาคอขวดด้านพลังคำนวณในระยะสั้น แต่จีนยังให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางเทคโนโลยี และการพึ่งพาตนเองเป็นหลักในอนาคต
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121221
    .
    #News1live #News1 #จีน #เอไอ #Nvidia #H200 #ชิปเอไอ #เทคโนโลยีโลก #สงครามชิป
    จีนปรับท่าทีด้านเทคโนโลยีเอไอ หลังสหรัฐฯภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดทางให้สามารถซื้อชิป Nvidia H200 ได้ โดยปักกิ่งตั้งเป้าใช้ชิประดับไฮเอนด์ดังกล่าวเพื่อเร่งงานวิจัยและพัฒนาเอไอในระยะเร่งด่วน . รายงานระบุว่า จีนเลือกใช้ยุทธศาสตร์ “สองเส้นทาง” คือ ใช้ H200 สำหรับการเทรนนิ่งโมเดลเอไอที่ต้องการพลังประมวลผลสูง ขณะเดียวกันยังคงผลักดันการพัฒนาชิปภายในประเทศสำหรับการใช้งานระยะยาว เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ . นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ H200 จะช่วยคลี่คลายปัญหาคอขวดด้านพลังคำนวณในระยะสั้น แต่จีนยังให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางเทคโนโลยี และการพึ่งพาตนเองเป็นหลักในอนาคต . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121221 . #News1live #News1 #จีน #เอไอ #Nvidia #H200 #ชิปเอไอ #เทคโนโลยีโลก #สงครามชิป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • The Momento ตอนที่ 14 บ้านที่ปลอดภัย 1 เขียนโดย Cirrus Halo อัพให้อ่านฟรีที่ Kawebook.com นะคะ สถานที่ซ่อนสุดท้ายของคนร้ายในคดีนี้จะเป็นยังไง ติดตามอ่านต่อได้เลย หากชอบหรือมีข้อติชมก็สามารถคอมเมนต์ทิ้งไว้ได้นะคะ

    https://www.kawebook.com/story/20951/1184939/%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2/the-momento/%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-14-%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2-1
    The Momento ตอนที่ 14 บ้านที่ปลอดภัย 1 เขียนโดย Cirrus Halo อัพให้อ่านฟรีที่ Kawebook.com นะคะ สถานที่ซ่อนสุดท้ายของคนร้ายในคดีนี้จะเป็นยังไง ติดตามอ่านต่อได้เลย หากชอบหรือมีข้อติชมก็สามารถคอมเมนต์ทิ้งไว้ได้นะคะ https://www.kawebook.com/story/20951/1184939/%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2/the-momento/%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-14-%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2-1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ.สนธิคะวิเคราะห์เรื่องนี้ให้หน่อยจริงหรือไม่#"ตอนนี้ไอสมเด็จจากนรกมันรอให้ไทยเลือกตั้งใหม่เพื่อพรรค"มาเป็นนายกเพราะจะเข้าทางทันที ประเทศไทยเราอาจจะเป็นยูเครนสองในอีกไม่นาน เพราะการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบประชาชนยังไม่พร้อมกับการเลือกตั้งในเวลานี้ ไหนจะเจอภัยธรรมชาติหมดตัวไม่รู้จะเริ่มต้นชีวิตกันยังไง ไหนจะเขมรคอยรุกรานเราตลอด"รอให้ไอมาเหยียบกับระเบิดสักทีจะยังบอกว่าเป็นอุบัติเหตุอยู่ไหม !!"เอาส่วนไหนคิด?"หมามิตรจอมปลอม🗣
    อ.สนธิคะวิเคราะห์เรื่องนี้ให้หน่อยจริงหรือไม่#"ตอนนี้ไอสมเด็จจากนรกมันรอให้ไทยเลือกตั้งใหม่เพื่อพรรค🍊"มาเป็นนายกเพราะจะเข้าทาง🦅ทันที ประเทศไทยเราอาจจะเป็นยูเครนสองในอีกไม่นาน เพราะการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบประชาชนยังไม่พร้อมกับการเลือกตั้งในเวลานี้ ไหนจะเจอภัยธรรมชาติหมดตัวไม่รู้จะเริ่มต้นชีวิตกันยังไง ไหนจะเขมรคอยรุกรานเราตลอด"รอให้ไอ🦅มาเหยียบกับระเบิดสักทีจะยังบอกว่าเป็นอุบัติเหตุอยู่ไหม !!"เอาส่วนไหนคิด?👎👣"หมามิตรจอมปลอม🗣
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “Trump ดันดีล Korea Zinc – โรงงานแร่หายากใน Tennessee ลดการพึ่งพาจีน”

    การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของสหรัฐฯ ในการสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ โรงงานใหม่ใน Tennessee จะมีความสามารถในการผลิตแร่หายากกว่า 540,000 ตันต่อปี ครอบคลุม gallium, germanium, indium และทรัพยากรอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการผลิตชิป, ดาวเทียม, เครื่องยนต์เจ็ต และระบบอาวุธสมัยใหม่

    สหรัฐฯ ปัจจุบันพึ่งพาจีนอย่างหนักในด้านการนำเข้าและการแปรรูปแร่หายาก โดยจีนครองตลาดโลกกว่า 90% การสร้างโรงงานนี้จึงถูกมองว่าเป็นการลดความเสี่ยงจากการถูกจีนควบคุมห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เมื่อจีนใช้มาตรการควบคุมการส่งออกเพื่อตอบโต้สงครามการค้า

    นอกจากโรงงานของ Korea Zinc แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ยังพิจารณาใช้เงินทุนจาก CHIPS Act กว่า 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานด้านแร่หายากและลิเธียม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของแบตเตอรี่และเทคโนโลยีพลังงานสะอาดในอนาคต การลงทุนนี้สะท้อนให้เห็นว่าแร่หายากกำลังถูกยกระดับเป็น “ทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์” ไม่ต่างจากน้ำมันในศตวรรษที่ 20

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Trump ประกาศดีลกับ Korea Zinc
    สร้างโรงงานแปรรูปแร่หายากใน Tennessee

    กำลังการผลิตมหาศาล
    ผลิต gallium, germanium, indium และอื่น ๆ รวมกว่า 540,000 ตันต่อปี

    ลดการพึ่งพาจีน
    จีนครองตลาดแร่หายากกว่า 90% และเคยใช้มาตรการควบคุมการส่งออก

    เชื่อมโยงกับ CHIPS Act
    รัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาใช้เงินทุน 2 พันล้านดอลลาร์เสริมความมั่นคงด้านแร่หายาก

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    การลงทุนต้องใช้เวลาหลายปี กว่าจะลดการพึ่งพาจีนได้จริง
    ความต้องการแร่หายากยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องจาก AI, พลังงานสะอาด และการทหาร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/trump-secures-deal-with-korea-zinc-to-build-rare-earths-processing-facility-in-tennessee-facility-expected-to-have-annual-output-of-540-000-tons-of-gallium-germanium-indium-and-other-resources
    📰 “Trump ดันดีล Korea Zinc – โรงงานแร่หายากใน Tennessee ลดการพึ่งพาจีน” การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของสหรัฐฯ ในการสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ โรงงานใหม่ใน Tennessee จะมีความสามารถในการผลิตแร่หายากกว่า 540,000 ตันต่อปี ครอบคลุม gallium, germanium, indium และทรัพยากรอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการผลิตชิป, ดาวเทียม, เครื่องยนต์เจ็ต และระบบอาวุธสมัยใหม่ สหรัฐฯ ปัจจุบันพึ่งพาจีนอย่างหนักในด้านการนำเข้าและการแปรรูปแร่หายาก โดยจีนครองตลาดโลกกว่า 90% การสร้างโรงงานนี้จึงถูกมองว่าเป็นการลดความเสี่ยงจากการถูกจีนควบคุมห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เมื่อจีนใช้มาตรการควบคุมการส่งออกเพื่อตอบโต้สงครามการค้า นอกจากโรงงานของ Korea Zinc แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ยังพิจารณาใช้เงินทุนจาก CHIPS Act กว่า 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานด้านแร่หายากและลิเธียม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของแบตเตอรี่และเทคโนโลยีพลังงานสะอาดในอนาคต การลงทุนนี้สะท้อนให้เห็นว่าแร่หายากกำลังถูกยกระดับเป็น “ทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์” ไม่ต่างจากน้ำมันในศตวรรษที่ 20 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Trump ประกาศดีลกับ Korea Zinc ➡️ สร้างโรงงานแปรรูปแร่หายากใน Tennessee ✅ กำลังการผลิตมหาศาล ➡️ ผลิต gallium, germanium, indium และอื่น ๆ รวมกว่า 540,000 ตันต่อปี ✅ ลดการพึ่งพาจีน ➡️ จีนครองตลาดแร่หายากกว่า 90% และเคยใช้มาตรการควบคุมการส่งออก ✅ เชื่อมโยงกับ CHIPS Act ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาใช้เงินทุน 2 พันล้านดอลลาร์เสริมความมั่นคงด้านแร่หายาก ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ การลงทุนต้องใช้เวลาหลายปี กว่าจะลดการพึ่งพาจีนได้จริง ⛔ ความต้องการแร่หายากยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องจาก AI, พลังงานสะอาด และการทหาร https://www.tomshardware.com/tech-industry/trump-secures-deal-with-korea-zinc-to-build-rare-earths-processing-facility-in-tennessee-facility-expected-to-have-annual-output-of-540-000-tons-of-gallium-germanium-indium-and-other-resources
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Intel ปรับทัพครั้งใหญ่ – ดึงอดีตที่ปรึกษา Trump นั่งหัวหน้าฝ่ายการเมือง พร้อมตั้ง CTO ใหม่”

    Intel กำลังสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยแต่งตั้ง Robin Colwell อดีตที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดี Trump และรองผู้อำนวยการ National Economic Council เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย Government Affairs เพื่อดูแลการประสานงานกับภาครัฐ การแต่งตั้งครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Intel ที่จะรักษาความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับรัฐบาล หลังจากที่สหรัฐฯ เข้ามาถือหุ้น 10% ในบริษัท

    นอกจากนี้ Intel ยังสร้างตำแหน่งใหม่ชื่อ Intel Government Technologies โดยแต่งตั้ง James Chew ซึ่งเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของ CEO Lip-Bu Tan เข้ามาดูแล แม้ Chew จะไม่มีประสบการณ์ตรงกับรัฐบาล แต่เขามีพื้นฐานจาก Cadence Design Systems บริษัทที่เคยถูกปรับจากการทำธุรกิจกับจีนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการจำลองระเบิดนิวเคลียร์ ทำให้การแต่งตั้งครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด

    ในด้านเทคโนโลยี Intel ได้แต่งตั้ง Pushkar Ranade เป็น CTO ชั่วคราว หลังจากที่ CTO คนก่อนหน้า Sanchin Katti ลาออกไปทำงานกับ OpenAI การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Intel กำลังพยายามเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อแข่งขันกับ Nvidia และ TSMC โดย Ranade จะทำงานใกล้ชิดกับ CEO Lip-Bu Tan ในการกำหนดกลยุทธ์ด้าน Foundry และ AI

    การปรับโครงสร้างครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความพยายามของ Intel ในการเสริมความแข็งแกร่งด้านการเมืองและเทคโนโลยี แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณว่าบริษัทกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Robin Colwell เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย Government Affairs
    มีประสบการณ์ตรงจากการทำงานกับประธานาธิบดี Trump และ National Economic Council

    Intel สร้างตำแหน่งใหม่ “Intel Government Technologies”
    แต่งตั้ง James Chew แม้ไม่มีประสบการณ์ตรงกับรัฐบาล แต่มีสายสัมพันธ์กับ CEO

    Pushkar Ranade เป็น CTO ชั่วคราว
    รับหน้าที่ต่อจาก Sanchin Katti ที่ลาออกไปทำงานกับ OpenAI

    การปรับโครงสร้างสะท้อนกลยุทธ์ใหม่ของ Intel
    เน้นการเชื่อมโยงกับรัฐบาลและเร่งพัฒนาเทคโนโลยีแข่งขันกับ Nvidia และ TSMC

    ความเสี่ยงจากการแต่งตั้ง James Chew
    เคยมีประวัติจาก Cadence Design Systems ที่ถูกปรับเรื่องการทำธุรกิจกับจีน

    ความท้าทายด้านเทคโนโลยี
    Intel ต้องเร่งพัฒนา Foundry และ AI เพื่อไม่ให้เสียเปรียบคู่แข่งรายใหญ่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-appoints-trump-economic-advisor-as-head-of-government-affairs-announces-broader-leadership-shakeup-new-interim-cto
    📰 “Intel ปรับทัพครั้งใหญ่ – ดึงอดีตที่ปรึกษา Trump นั่งหัวหน้าฝ่ายการเมือง พร้อมตั้ง CTO ใหม่” Intel กำลังสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยแต่งตั้ง Robin Colwell อดีตที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดี Trump และรองผู้อำนวยการ National Economic Council เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย Government Affairs เพื่อดูแลการประสานงานกับภาครัฐ การแต่งตั้งครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Intel ที่จะรักษาความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับรัฐบาล หลังจากที่สหรัฐฯ เข้ามาถือหุ้น 10% ในบริษัท นอกจากนี้ Intel ยังสร้างตำแหน่งใหม่ชื่อ Intel Government Technologies โดยแต่งตั้ง James Chew ซึ่งเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของ CEO Lip-Bu Tan เข้ามาดูแล แม้ Chew จะไม่มีประสบการณ์ตรงกับรัฐบาล แต่เขามีพื้นฐานจาก Cadence Design Systems บริษัทที่เคยถูกปรับจากการทำธุรกิจกับจีนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการจำลองระเบิดนิวเคลียร์ ทำให้การแต่งตั้งครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ในด้านเทคโนโลยี Intel ได้แต่งตั้ง Pushkar Ranade เป็น CTO ชั่วคราว หลังจากที่ CTO คนก่อนหน้า Sanchin Katti ลาออกไปทำงานกับ OpenAI การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Intel กำลังพยายามเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อแข่งขันกับ Nvidia และ TSMC โดย Ranade จะทำงานใกล้ชิดกับ CEO Lip-Bu Tan ในการกำหนดกลยุทธ์ด้าน Foundry และ AI การปรับโครงสร้างครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความพยายามของ Intel ในการเสริมความแข็งแกร่งด้านการเมืองและเทคโนโลยี แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณว่าบริษัทกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Robin Colwell เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย Government Affairs ➡️ มีประสบการณ์ตรงจากการทำงานกับประธานาธิบดี Trump และ National Economic Council ✅ Intel สร้างตำแหน่งใหม่ “Intel Government Technologies” ➡️ แต่งตั้ง James Chew แม้ไม่มีประสบการณ์ตรงกับรัฐบาล แต่มีสายสัมพันธ์กับ CEO ✅ Pushkar Ranade เป็น CTO ชั่วคราว ➡️ รับหน้าที่ต่อจาก Sanchin Katti ที่ลาออกไปทำงานกับ OpenAI ✅ การปรับโครงสร้างสะท้อนกลยุทธ์ใหม่ของ Intel ➡️ เน้นการเชื่อมโยงกับรัฐบาลและเร่งพัฒนาเทคโนโลยีแข่งขันกับ Nvidia และ TSMC ‼️ ความเสี่ยงจากการแต่งตั้ง James Chew ⛔ เคยมีประวัติจาก Cadence Design Systems ที่ถูกปรับเรื่องการทำธุรกิจกับจีน ‼️ ความท้าทายด้านเทคโนโลยี ⛔ Intel ต้องเร่งพัฒนา Foundry และ AI เพื่อไม่ให้เสียเปรียบคู่แข่งรายใหญ่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-appoints-trump-economic-advisor-as-head-of-government-affairs-announces-broader-leadership-shakeup-new-interim-cto
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI ออกแบบคอมพิวเตอร์เสร็จใน 1 สัปดาห์ – Project Speedrun สร้างสถิติใหม่”

    การออกแบบแผงวงจร (PCB) มักเป็นงานที่ใช้เวลานานและซับซ้อน โดยปกติวิศวกรต้องใช้เวลาหลายเดือนในการวางแผนและทดสอบ แต่ Quilter AI ได้แสดงให้เห็นว่า AI สามารถลดเวลาจาก 430 ชั่วโมงเหลือเพียง 38.5 ชั่วโมง พร้อมสร้างคอมพิวเตอร์ที่บูตระบบปฏิบัติการ Debian ได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก ถือเป็นการพิสูจน์ศักยภาพของ AI ในการออกแบบฮาร์ดแวร์ที่ซับซ้อน

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Quilter AI ไม่ได้ถูกฝึกจากตัวอย่าง PCB ที่มนุษย์ออกแบบมาก่อน แต่ใช้การ “เล่นเกมกับกฎฟิสิกส์” เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ระบบไม่ถูกจำกัดด้วยข้อผิดพลาดที่มนุษย์เคยทำ และสามารถสร้างการออกแบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

    การทดลองนี้ยังสะท้อนถึงอนาคตของอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ ที่อาจเปิดโอกาสให้ สตาร์ทอัพหรือผู้เล่นรายเล็กเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น เพราะ AI สามารถลดต้นทุนเวลาและแรงงานลงอย่างมหาศาล ทำให้การสร้างคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ใหม่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใช้ทีมวิศวกรขนาดใหญ่เสมอไป

    ในระยะยาว Quilter ตั้งเป้าว่า AI จะไม่เพียงแค่ “ทำงานแทนมนุษย์” แต่จะสามารถออกแบบ PCB ที่ดีกว่าที่มนุษย์เคยทำได้ ซึ่งหากสำเร็จจริง อาจเป็นการพลิกโฉมวงการอิเล็กทรอนิกส์และการผลิตคอมพิวเตอร์ทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Project Speedrun ของ Quilter AI
    ออกแบบคอมพิวเตอร์ Linux แบบ Dual-PCB มีชิ้นส่วน 843 ชิ้น

    ลดเวลาออกแบบอย่างมหาศาล
    ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ และแรงงานมนุษย์ 38.5 ชั่วโมง จากเดิม 430 ชั่วโมง

    บูต Debian สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก
    แสดงถึงความแม่นยำและประสิทธิภาพของการออกแบบโดย AI

    แนวทางการฝึก AI
    ไม่ใช้ตัวอย่างมนุษย์ แต่เรียนรู้จากกฎฟิสิกส์โดยตรง

    ความท้าทายและความเสี่ยง
    หาก AI ออกแบบผิดพลาด อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อวงจรหรือระบบที่ซับซ้อน
    การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้มนุษย์สูญเสียทักษะการออกแบบเชิงลึก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/dual-pcb-linux-computer-with-843-components-designed-by-ai-boots-on-first-attempt-project-speedrun-was-made-in-just-one-week-and-required-less-than-40-hours-of-human-work
    📰 “AI ออกแบบคอมพิวเตอร์เสร็จใน 1 สัปดาห์ – Project Speedrun สร้างสถิติใหม่” การออกแบบแผงวงจร (PCB) มักเป็นงานที่ใช้เวลานานและซับซ้อน โดยปกติวิศวกรต้องใช้เวลาหลายเดือนในการวางแผนและทดสอบ แต่ Quilter AI ได้แสดงให้เห็นว่า AI สามารถลดเวลาจาก 430 ชั่วโมงเหลือเพียง 38.5 ชั่วโมง พร้อมสร้างคอมพิวเตอร์ที่บูตระบบปฏิบัติการ Debian ได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก ถือเป็นการพิสูจน์ศักยภาพของ AI ในการออกแบบฮาร์ดแวร์ที่ซับซ้อน สิ่งที่น่าสนใจคือ Quilter AI ไม่ได้ถูกฝึกจากตัวอย่าง PCB ที่มนุษย์ออกแบบมาก่อน แต่ใช้การ “เล่นเกมกับกฎฟิสิกส์” เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ระบบไม่ถูกจำกัดด้วยข้อผิดพลาดที่มนุษย์เคยทำ และสามารถสร้างการออกแบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม การทดลองนี้ยังสะท้อนถึงอนาคตของอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ ที่อาจเปิดโอกาสให้ สตาร์ทอัพหรือผู้เล่นรายเล็กเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น เพราะ AI สามารถลดต้นทุนเวลาและแรงงานลงอย่างมหาศาล ทำให้การสร้างคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ใหม่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใช้ทีมวิศวกรขนาดใหญ่เสมอไป ในระยะยาว Quilter ตั้งเป้าว่า AI จะไม่เพียงแค่ “ทำงานแทนมนุษย์” แต่จะสามารถออกแบบ PCB ที่ดีกว่าที่มนุษย์เคยทำได้ ซึ่งหากสำเร็จจริง อาจเป็นการพลิกโฉมวงการอิเล็กทรอนิกส์และการผลิตคอมพิวเตอร์ทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Project Speedrun ของ Quilter AI ➡️ ออกแบบคอมพิวเตอร์ Linux แบบ Dual-PCB มีชิ้นส่วน 843 ชิ้น ✅ ลดเวลาออกแบบอย่างมหาศาล ➡️ ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ และแรงงานมนุษย์ 38.5 ชั่วโมง จากเดิม 430 ชั่วโมง ✅ บูต Debian สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก ➡️ แสดงถึงความแม่นยำและประสิทธิภาพของการออกแบบโดย AI ✅ แนวทางการฝึก AI ➡️ ไม่ใช้ตัวอย่างมนุษย์ แต่เรียนรู้จากกฎฟิสิกส์โดยตรง ‼️ ความท้าทายและความเสี่ยง ⛔ หาก AI ออกแบบผิดพลาด อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อวงจรหรือระบบที่ซับซ้อน ⛔ การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้มนุษย์สูญเสียทักษะการออกแบบเชิงลึก https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/dual-pcb-linux-computer-with-843-components-designed-by-ai-boots-on-first-attempt-project-speedrun-was-made-in-just-one-week-and-required-less-than-40-hours-of-human-work
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Dual-PCB Linux computer with 843 components designed by AI boots on first attempt — Project Speedrun was made in just one week and required less than 40 hours of human work
    Quilter, the LA-based startup behind this feat, says its dual-PCB Linux computer with 843 components was designed in just one week.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Liquid Cooling ครองศูนย์ข้อมูล – TSMC นำเทรนด์ฝังระบบระบายความร้อนในซิลิคอน”

    ในอดีตศูนย์ข้อมูลส่วนใหญ่ใช้ Air Cooling เพราะต้นทุนต่ำและโครงสร้างง่าย แต่เมื่อพลังงานต่อแร็คพุ่งสูงถึง 40–140kW จากการใช้งาน AI และ GPU รุ่นใหม่ การระบายความร้อนด้วยอากาศเริ่มไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ Liquid Cooling ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าและสามารถรองรับความหนาแน่นความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ปี 2024 ตลาด Liquid Cooling ครองส่วนแบ่งกว่า 46% ของตลาดทั้งหมด และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจนมีมูลค่า 25.12 พันล้านดอลลาร์ในปี 2031 การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยความต้องการของ AI Data Center ที่ใช้ GPU และ CPU ที่กินไฟมหาศาล เช่น Nvidia Blackwell Ultra ที่ใช้พลังงานสูงถึง 1,400W ต่อชิป

    นอกจาก Liquid Cooling แบบทั่วไปแล้ว ยังมีการพัฒนา Hybrid Cooling ที่ผสมผสานการใช้อากาศและน้ำ รวมถึง Immersion Cooling ที่จุ่มเซิร์ฟเวอร์ทั้งเครื่องลงในน้ำมันหรือของเหลวไดอิเล็กทริก เพื่อรองรับความร้อนระดับ 1,500 W/cm² ซึ่งเป็นตัวเลขที่ Air Cooling ไม่สามารถทำได้

    ไฮไลต์สำคัญคือ TSMC Direct-to-Silicon Cooling ที่ฝังช่องทางระบายความร้อนเข้าไปในซิลิคอนโดยตรง ทำให้สามารถจัดการความร้อนใกล้กับทรานซิสเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เทคโนโลยีนี้ถูกคาดว่าจะพร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2027 และอาจรองรับ GPU รุ่น Feynman ที่กินไฟกว่า 4.4kW ได้อย่างมีเสถียรภาพ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Air Cooling ยังมีบทบาทในศูนย์ข้อมูลเก่า
    ใช้โครงสร้าง Hot Aisle/Cold Aisle และ CRAC/CRAH Units

    Liquid Cooling เติบโตอย่างรวดเร็ว
    ครองตลาด 46% ในปี 2024 และคาดว่าจะโตถึง 25.12 พันล้านดอลลาร์ในปี 2031

    Hybrid และ Immersion Cooling ถูกนำมาใช้
    Hybrid ใช้ทั้งอากาศและน้ำ ส่วน Immersion รองรับความร้อนสูงถึง 1,500 W/cm²

    TSMC พัฒนา Direct-to-Silicon Cooling
    ฝังช่องระบายความร้อนในซิลิคอนโดยตรง รองรับพลังงานกว่า 2.6kW ต่อแพ็กเกจ

    ความท้าทายของ Liquid Cooling
    ต้นทุนสูงขึ้นมาก โดยระบบสำหรับแร็ค Nvidia Blackwell Ultra อาจมีค่าใช้จ่ายถึง 50,000 ดอลลาร์

    ความเสี่ยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน
    ศูนย์ข้อมูลต้องลงทุนใหม่เพื่อรองรับระบบ Liquid และ Immersion Cooling ซึ่งอาจไม่เหมาะกับทุกองค์กร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/the-data-center-cooling-state-of-play-2025-liquid-cooling-is-on-the-rise-thermal-density-demands-skyrocket-in-ai-data-centers-and-tsmc-leads-with-direct-to-silicon-solutions
    📰 “Liquid Cooling ครองศูนย์ข้อมูล – TSMC นำเทรนด์ฝังระบบระบายความร้อนในซิลิคอน” ในอดีตศูนย์ข้อมูลส่วนใหญ่ใช้ Air Cooling เพราะต้นทุนต่ำและโครงสร้างง่าย แต่เมื่อพลังงานต่อแร็คพุ่งสูงถึง 40–140kW จากการใช้งาน AI และ GPU รุ่นใหม่ การระบายความร้อนด้วยอากาศเริ่มไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ Liquid Cooling ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าและสามารถรองรับความหนาแน่นความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปี 2024 ตลาด Liquid Cooling ครองส่วนแบ่งกว่า 46% ของตลาดทั้งหมด และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจนมีมูลค่า 25.12 พันล้านดอลลาร์ในปี 2031 การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยความต้องการของ AI Data Center ที่ใช้ GPU และ CPU ที่กินไฟมหาศาล เช่น Nvidia Blackwell Ultra ที่ใช้พลังงานสูงถึง 1,400W ต่อชิป นอกจาก Liquid Cooling แบบทั่วไปแล้ว ยังมีการพัฒนา Hybrid Cooling ที่ผสมผสานการใช้อากาศและน้ำ รวมถึง Immersion Cooling ที่จุ่มเซิร์ฟเวอร์ทั้งเครื่องลงในน้ำมันหรือของเหลวไดอิเล็กทริก เพื่อรองรับความร้อนระดับ 1,500 W/cm² ซึ่งเป็นตัวเลขที่ Air Cooling ไม่สามารถทำได้ ไฮไลต์สำคัญคือ TSMC Direct-to-Silicon Cooling ที่ฝังช่องทางระบายความร้อนเข้าไปในซิลิคอนโดยตรง ทำให้สามารถจัดการความร้อนใกล้กับทรานซิสเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เทคโนโลยีนี้ถูกคาดว่าจะพร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2027 และอาจรองรับ GPU รุ่น Feynman ที่กินไฟกว่า 4.4kW ได้อย่างมีเสถียรภาพ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Air Cooling ยังมีบทบาทในศูนย์ข้อมูลเก่า ➡️ ใช้โครงสร้าง Hot Aisle/Cold Aisle และ CRAC/CRAH Units ✅ Liquid Cooling เติบโตอย่างรวดเร็ว ➡️ ครองตลาด 46% ในปี 2024 และคาดว่าจะโตถึง 25.12 พันล้านดอลลาร์ในปี 2031 ✅ Hybrid และ Immersion Cooling ถูกนำมาใช้ ➡️ Hybrid ใช้ทั้งอากาศและน้ำ ส่วน Immersion รองรับความร้อนสูงถึง 1,500 W/cm² ✅ TSMC พัฒนา Direct-to-Silicon Cooling ➡️ ฝังช่องระบายความร้อนในซิลิคอนโดยตรง รองรับพลังงานกว่า 2.6kW ต่อแพ็กเกจ ‼️ ความท้าทายของ Liquid Cooling ⛔ ต้นทุนสูงขึ้นมาก โดยระบบสำหรับแร็ค Nvidia Blackwell Ultra อาจมีค่าใช้จ่ายถึง 50,000 ดอลลาร์ ‼️ ความเสี่ยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน ⛔ ศูนย์ข้อมูลต้องลงทุนใหม่เพื่อรองรับระบบ Liquid และ Immersion Cooling ซึ่งอาจไม่เหมาะกับทุกองค์กร https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/the-data-center-cooling-state-of-play-2025-liquid-cooling-is-on-the-rise-thermal-density-demands-skyrocket-in-ai-data-centers-and-tsmc-leads-with-direct-to-silicon-solutions
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • GitHub Actions ปรับราคาใหม่ปี 2026 – ลดค่าใช้จ่าย แต่เพิ่มค่าบริการ Cloud Platform

    ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026 GitHub จะลดราคาสำหรับ GitHub-hosted runners ลงสูงสุดถึง 39% ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องที่ใช้ โดยยังคงโควตาการใช้งานฟรีเหมือนเดิม การปรับราคาครั้งนี้ทำให้การใช้งาน CI/CD บน GitHub เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับนักพัฒนาและทีมงานขนาดเล็กที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม

    อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2026 GitHub จะเริ่มเก็บค่าบริการใหม่ที่เรียกว่า “Actions cloud platform charge” ในอัตรา $0.002 ต่อนาที สำหรับการใช้งาน self-hosted runners โดยค่าใช้จ่ายนี้จะนับรวมกับโควตาการใช้งานที่มีอยู่ในแต่ละแผน ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ที่พึ่งพา self-hosted runners จะต้องวางแผนการใช้งานอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการที่ GitHub ต้องรองรับการเติบโตอย่างมหาศาลของแพลตฟอร์ม Actions ซึ่งปัจจุบันประมวลผลงานกว่า 70 ล้าน jobs ต่อวัน การปรับโครงสร้างราคาจึงเป็นการจัดสมดุลระหว่างการให้บริการที่มีคุณภาพและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น autoscaling ที่รองรับ Windows และแพลตฟอร์มอื่น ๆ นอกเหนือจาก Linux

    ในภาพรวม การปรับราคาครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้อยมาก โดย 96% ของลูกค้า GitHub Actions จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในบิล และในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่จะเห็นค่าใช้จ่ายลดลง ขณะที่มีเพียงส่วนน้อยที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของ GitHub ในการสร้างความเป็นธรรมและความโปร่งใสในการคิดค่าบริการ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การลดราคา GitHub-hosted runners
    ลดสูงสุดถึง 39% ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่อง
    โควตาการใช้งานฟรียังคงเดิม

    การเพิ่มค่าบริการใหม่สำหรับ self-hosted runners
    เริ่มเก็บ $0.002 ต่อนาที ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2026
    นับรวมกับโควตาการใช้งานในแต่ละแผน

    การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่
    รองรับ autoscaling ที่หลากหลายมากขึ้น
    เพิ่มการสนับสนุน Windows และแพลตฟอร์มอื่น ๆ

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ส่วนใหญ่
    96% ของผู้ใช้จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในบิล
    ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจะเห็นค่าใช้จ่ายลดลง

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ self-hosted runners
    ต้องวางแผนการใช้งานเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
    ทีมที่ใช้ workload หนักอาจเห็นบิลเพิ่มขึ้นหลังมีการเก็บค่าบริการใหม่

    https://github.blog/changelog/2025-12-16-coming-soon-simpler-pricing-and-a-better-experience-for-github-actions/
    🖥️ GitHub Actions ปรับราคาใหม่ปี 2026 – ลดค่าใช้จ่าย แต่เพิ่มค่าบริการ Cloud Platform ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026 GitHub จะลดราคาสำหรับ GitHub-hosted runners ลงสูงสุดถึง 39% ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องที่ใช้ โดยยังคงโควตาการใช้งานฟรีเหมือนเดิม การปรับราคาครั้งนี้ทำให้การใช้งาน CI/CD บน GitHub เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับนักพัฒนาและทีมงานขนาดเล็กที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2026 GitHub จะเริ่มเก็บค่าบริการใหม่ที่เรียกว่า “Actions cloud platform charge” ในอัตรา $0.002 ต่อนาที สำหรับการใช้งาน self-hosted runners โดยค่าใช้จ่ายนี้จะนับรวมกับโควตาการใช้งานที่มีอยู่ในแต่ละแผน ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ที่พึ่งพา self-hosted runners จะต้องวางแผนการใช้งานอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการที่ GitHub ต้องรองรับการเติบโตอย่างมหาศาลของแพลตฟอร์ม Actions ซึ่งปัจจุบันประมวลผลงานกว่า 70 ล้าน jobs ต่อวัน การปรับโครงสร้างราคาจึงเป็นการจัดสมดุลระหว่างการให้บริการที่มีคุณภาพและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น autoscaling ที่รองรับ Windows และแพลตฟอร์มอื่น ๆ นอกเหนือจาก Linux ในภาพรวม การปรับราคาครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้อยมาก โดย 96% ของลูกค้า GitHub Actions จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในบิล และในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่จะเห็นค่าใช้จ่ายลดลง ขณะที่มีเพียงส่วนน้อยที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของ GitHub ในการสร้างความเป็นธรรมและความโปร่งใสในการคิดค่าบริการ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การลดราคา GitHub-hosted runners ➡️ ลดสูงสุดถึง 39% ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่อง ➡️ โควตาการใช้งานฟรียังคงเดิม ✅ การเพิ่มค่าบริการใหม่สำหรับ self-hosted runners ➡️ เริ่มเก็บ $0.002 ต่อนาที ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2026 ➡️ นับรวมกับโควตาการใช้งานในแต่ละแผน ✅ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ➡️ รองรับ autoscaling ที่หลากหลายมากขึ้น ➡️ เพิ่มการสนับสนุน Windows และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ส่วนใหญ่ ➡️ 96% ของผู้ใช้จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในบิล ➡️ ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจะเห็นค่าใช้จ่ายลดลง ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ self-hosted runners ⛔ ต้องวางแผนการใช้งานเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ⛔ ทีมที่ใช้ workload หนักอาจเห็นบิลเพิ่มขึ้นหลังมีการเก็บค่าบริการใหม่ https://github.blog/changelog/2025-12-16-coming-soon-simpler-pricing-and-a-better-experience-for-github-actions/
    GITHUB.BLOG
    Coming soon: Simpler pricing and a better experience for GitHub Actions · GitHub Changelog
    On January 1, 2026, GitHub will reduce the price of GitHub-hosted runners by up to 39% depending on the machine type used. The free usage minute quotas will remain the…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดาวเทียมยุคใหม่ทำได้มากกว่าที่คิด

    จำนวนดาวเทียมในวงโคจรโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 11,000 ดวง ณ พฤษภาคม 2025 และไม่ได้มีแค่จำนวนที่มากขึ้น แต่ยังมีความสามารถที่หลากหลายและซับซ้อนกว่าเดิม ดาวเทียมไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสื่อสารหรือ GPS อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถผลิตสินค้า, ตรวจสอบภัยพิบัติ และแม้แต่ตัดสินใจเองได้โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์

    การผลิตในอวกาศและการมองทะลุเมฆ
    บริษัทเอกชนเริ่มส่งดาวเทียมขึ้นไปเพื่อทดลอง การผลิตในสภาวะไร้น้ำหนัก เช่น การสร้างผลึกโมเลกุลสำหรับอุตสาหกรรมยา และการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ยากต่อการทำบนโลก นอกจากนี้ เทคโนโลยี Synthetic Aperture Radar (SAR) ทำให้ดาวเทียมสามารถมองทะลุเมฆและกลางคืนได้ ซึ่งถูกใช้จริงในการตรวจสอบการเคลื่อนทัพของรัสเซียในสงครามยูเครน และช่วยประเมินผลกระทบจากภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็ว

    ดาวเทียมฝูงและระบบหลบหลีกอัตโนมัติ
    จากเดิมที่ดาวเทียมถูกส่งขึ้นไปแบบเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มเรียงแถว ปัจจุบัน NASA กำลังทดสอบการเคลื่อนที่แบบ swarm ที่ดาวเทียมสามารถสื่อสารและประสานงานกันเองเพื่อหลบหลีกเศษซากอวกาศและดาวเทียมอื่น ๆ โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากโลก ระบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงการชนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการวงโคจร

    ดาวเทียมกับ “X-ray vision”
    นอกจากการสังเกตจักรวาลด้วยกล้อง X-ray แล้ว ปัจจุบันมีการพัฒนาดาวเทียมที่สามารถใช้ X-ray ตรวจสอบภายในดาวเทียมอื่น เพื่อดูว่ามีการเสียหายหรือถูกเศษซากอวกาศชนหรือไม่ ความสามารถนี้ยังถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในยุคการแข่งขันด้านอวกาศที่มีความตึงเครียดทางการเมืองเพิ่มขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    จำนวนดาวเทียมเพิ่มขึ้นกว่า 11,000 ดวงในปี 2025
    สะท้อนการเติบโตของอุตสาหกรรมอวกาศ

    การผลิตในอวกาศ
    ผลึกโมเลกุลสำหรับยา
    เซมิคอนดักเตอร์ในสภาวะไร้น้ำหนัก

    เทคโนโลยี SAR
    มองทะลุเมฆและกลางคืน
    ใช้ตรวจสอบสงครามและภัยพิบัติ

    ดาวเทียมฝูงและระบบหลบหลีกอัตโนมัติ
    ประสานงานกันเองโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากโลก

    X-ray vision ของดาวเทียม
    ตรวจสอบภายในดาวเทียมอื่น
    ใช้ทั้งด้านวิทยาศาสตร์และความมั่นคง

    คำเตือน
    การเพิ่มจำนวนดาวเทียมทำให้ความเสี่ยงการชนสูงขึ้น
    ความสามารถ X-ray อาจถูกใช้ในเชิงการทหารและการสอดแนม

    https://www.slashgear.com/2049270/satellite-facts-didnt-teach-in-school/
    🛰️ ดาวเทียมยุคใหม่ทำได้มากกว่าที่คิด จำนวนดาวเทียมในวงโคจรโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 11,000 ดวง ณ พฤษภาคม 2025 และไม่ได้มีแค่จำนวนที่มากขึ้น แต่ยังมีความสามารถที่หลากหลายและซับซ้อนกว่าเดิม ดาวเทียมไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสื่อสารหรือ GPS อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถผลิตสินค้า, ตรวจสอบภัยพิบัติ และแม้แต่ตัดสินใจเองได้โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์ ⚡ การผลิตในอวกาศและการมองทะลุเมฆ บริษัทเอกชนเริ่มส่งดาวเทียมขึ้นไปเพื่อทดลอง การผลิตในสภาวะไร้น้ำหนัก เช่น การสร้างผลึกโมเลกุลสำหรับอุตสาหกรรมยา และการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ยากต่อการทำบนโลก นอกจากนี้ เทคโนโลยี Synthetic Aperture Radar (SAR) ทำให้ดาวเทียมสามารถมองทะลุเมฆและกลางคืนได้ ซึ่งถูกใช้จริงในการตรวจสอบการเคลื่อนทัพของรัสเซียในสงครามยูเครน และช่วยประเมินผลกระทบจากภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็ว 🌐 ดาวเทียมฝูงและระบบหลบหลีกอัตโนมัติ จากเดิมที่ดาวเทียมถูกส่งขึ้นไปแบบเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มเรียงแถว ปัจจุบัน NASA กำลังทดสอบการเคลื่อนที่แบบ swarm ที่ดาวเทียมสามารถสื่อสารและประสานงานกันเองเพื่อหลบหลีกเศษซากอวกาศและดาวเทียมอื่น ๆ โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากโลก ระบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงการชนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการวงโคจร 🔎 ดาวเทียมกับ “X-ray vision” นอกจากการสังเกตจักรวาลด้วยกล้อง X-ray แล้ว ปัจจุบันมีการพัฒนาดาวเทียมที่สามารถใช้ X-ray ตรวจสอบภายในดาวเทียมอื่น เพื่อดูว่ามีการเสียหายหรือถูกเศษซากอวกาศชนหรือไม่ ความสามารถนี้ยังถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในยุคการแข่งขันด้านอวกาศที่มีความตึงเครียดทางการเมืองเพิ่มขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ จำนวนดาวเทียมเพิ่มขึ้นกว่า 11,000 ดวงในปี 2025 ➡️ สะท้อนการเติบโตของอุตสาหกรรมอวกาศ ✅ การผลิตในอวกาศ ➡️ ผลึกโมเลกุลสำหรับยา ➡️ เซมิคอนดักเตอร์ในสภาวะไร้น้ำหนัก ✅ เทคโนโลยี SAR ➡️ มองทะลุเมฆและกลางคืน ➡️ ใช้ตรวจสอบสงครามและภัยพิบัติ ✅ ดาวเทียมฝูงและระบบหลบหลีกอัตโนมัติ ➡️ ประสานงานกันเองโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากโลก ✅ X-ray vision ของดาวเทียม ➡️ ตรวจสอบภายในดาวเทียมอื่น ➡️ ใช้ทั้งด้านวิทยาศาสตร์และความมั่นคง ‼️ คำเตือน ⛔ การเพิ่มจำนวนดาวเทียมทำให้ความเสี่ยงการชนสูงขึ้น ⛔ ความสามารถ X-ray อาจถูกใช้ในเชิงการทหารและการสอดแนม https://www.slashgear.com/2049270/satellite-facts-didnt-teach-in-school/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Things About Satellites They Didn't Teach You In School - SlashGear
    Satellites have come a long way in the last couple years, and what you learned about them in school is likely far different from their current uses.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • Emmabuntüs Debian Edition 6 เปิดตัว

    Emmabuntüs Collective ประกาศเปิดตัว Emmabuntüs Debian Edition 6 (DE6) เวอร์ชัน 1.00 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 โดยใช้ฐานจาก Debian 13.2 “Trixie” และ Linux Kernel 6.12 LTS จุดเด่นคือการออกแบบมาเพื่อช่วยรีเฟอร์บิชคอมพิวเตอร์เก่าให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เหมาะสำหรับองค์กรการกุศล โรงเรียน หรือผู้ใช้ที่ต้องการระบบเบาแต่ครบเครื่อง

    ฟีเจอร์หลักและการปรับปรุง
    เดสก์ท็อป Xfce 4.20 และ LXQt 2.1 – เบาและใช้งานง่าย
    LibreOffice และ Geany IDE – ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานทั้งงานเอกสารและการเขียนโค้ด
    ระบบติดตั้งง่าย – มีสคริปต์ช่วยติดตั้งซอฟต์แวร์เสริมและการตั้งค่าที่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป
    การปรับปรุงเสถียรภาพ – อัปเดตจาก Debian รุ่นล่าสุด ทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยและความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์

    ความสำคัญต่อชุมชนโอเพนซอร์ส
    Emmabuntüs เป็นดิสโทรที่มีเป้าหมายทางสังคมชัดเจน คือการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีให้กับผู้ที่มีทรัพยากรจำกัด การเปิดตัว DE6 จึงไม่ใช่แค่การอัปเดตซอฟต์แวร์ แต่ยังเป็นการสนับสนุนการใช้คอมพิวเตอร์อย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Emmabuntüs DE6 เปิดตัว 16 ธันวาคม 2025
    อิงจาก Debian 13.2 “Trixie” และ Linux Kernel 6.12 LTS

    ฟีเจอร์หลัก
    เดสก์ท็อป Xfce 4.20 และ LXQt 2.1
    LibreOffice และ Geany IDE ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน

    จุดเด่นของดิสโทร
    ออกแบบเพื่อรีเฟอร์บิชคอมพิวเตอร์เก่า
    ติดตั้งง่ายและเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ฟีเจอร์บางอย่างอาจยังไม่เสถียรบนฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าสุด
    หากใช้กับงานที่ต้องการ performance สูง อาจไม่ตอบโจทย์เท่าดิสโทรหลักอย่าง Ubuntu หรือ Fedora

    https://9to5linux.com/emmabuntus-debian-edition-6-is-now-available-based-on-debian-13-trixie
    💻 Emmabuntüs Debian Edition 6 เปิดตัว Emmabuntüs Collective ประกาศเปิดตัว Emmabuntüs Debian Edition 6 (DE6) เวอร์ชัน 1.00 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 โดยใช้ฐานจาก Debian 13.2 “Trixie” และ Linux Kernel 6.12 LTS จุดเด่นคือการออกแบบมาเพื่อช่วยรีเฟอร์บิชคอมพิวเตอร์เก่าให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เหมาะสำหรับองค์กรการกุศล โรงเรียน หรือผู้ใช้ที่ต้องการระบบเบาแต่ครบเครื่อง ⚡ ฟีเจอร์หลักและการปรับปรุง 💠 เดสก์ท็อป Xfce 4.20 และ LXQt 2.1 – เบาและใช้งานง่าย 💠 LibreOffice และ Geany IDE – ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานทั้งงานเอกสารและการเขียนโค้ด 💠 ระบบติดตั้งง่าย – มีสคริปต์ช่วยติดตั้งซอฟต์แวร์เสริมและการตั้งค่าที่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป 💠 การปรับปรุงเสถียรภาพ – อัปเดตจาก Debian รุ่นล่าสุด ทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยและความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ 🌱 ความสำคัญต่อชุมชนโอเพนซอร์ส Emmabuntüs เป็นดิสโทรที่มีเป้าหมายทางสังคมชัดเจน คือการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีให้กับผู้ที่มีทรัพยากรจำกัด การเปิดตัว DE6 จึงไม่ใช่แค่การอัปเดตซอฟต์แวร์ แต่ยังเป็นการสนับสนุนการใช้คอมพิวเตอร์อย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Emmabuntüs DE6 เปิดตัว 16 ธันวาคม 2025 ➡️ อิงจาก Debian 13.2 “Trixie” และ Linux Kernel 6.12 LTS ✅ ฟีเจอร์หลัก ➡️ เดสก์ท็อป Xfce 4.20 และ LXQt 2.1 ➡️ LibreOffice และ Geany IDE ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ✅ จุดเด่นของดิสโทร ➡️ ออกแบบเพื่อรีเฟอร์บิชคอมพิวเตอร์เก่า ➡️ ติดตั้งง่ายและเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ฟีเจอร์บางอย่างอาจยังไม่เสถียรบนฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าสุด ⛔ หากใช้กับงานที่ต้องการ performance สูง อาจไม่ตอบโจทย์เท่าดิสโทรหลักอย่าง Ubuntu หรือ Fedora https://9to5linux.com/emmabuntus-debian-edition-6-is-now-available-based-on-debian-13-trixie
    9TO5LINUX.COM
    Emmabuntüs Debian Edition 6 Is Now Available Based on Debian 13 "Trixie" - 9to5Linux
    Emmabuntüs Debian Edition 6 distribution is now available for download based on the Debian GNU/Linux 13 “Trixie” operating system.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดนมาร์กกับร่างกฎหมาย VPN ที่เป็นข้อถกเถียง

    รัฐบาลเดนมาร์ก โดยกระทรวงวัฒนธรรม เสนอร่างกฎหมายที่มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ให้ “เป็นกลางทางเทคโนโลยี” โดยห้ามการใช้ VPN เพื่อเข้าถึงคอนเทนต์ที่ถูกบล็อกทางภูมิศาสตร์หรือเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้น ร่างนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะและจะสิ้นสุดในวันที่ 9 มกราคม 2026 หากผ่านการอนุมัติ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2026

    เสียงวิจารณ์และความกังวล
    นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิ์ดิจิทัลเตือนว่าถ้อยคำในร่างกฎหมายมีความคลุมเครือ อาจตีความได้ว่าการใช้ VPN ในเชิงปกติ เช่น การปกป้องความเป็นส่วนตัว หรือการเข้าถึงบริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย อาจถูกจัดว่าเป็นการกระทำผิด ตัวอย่างเช่น Jesper Lund จาก IT-Politisk Forening ระบุว่าร่างนี้มี “กลิ่นอายแบบเผด็จการ” และไม่เคยมีประเทศใดออกกฎหมายห้ามใช้ VPN โดยตรงมาก่อน ขณะที่นักวิชาการกฎหมายจากมหาวิทยาลัย Syddansk ก็เห็นว่าร่างนี้ “เขียนกว้างเกินไป” และอาจเกินขอบเขตของการคุ้มครองลิขสิทธิ์

    การชี้แจงจากรัฐบาล
    Jakob Engel-Schmidt รัฐมนตรีวัฒนธรรมของเดนมาร์กออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์ โดยยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ VPN เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ร่างนี้มีเป้าหมายเพียงเพื่อยืนยันว่า การสตรีมคอนเทนต์กีฬาโดยไม่จ่ายเงินหรือไม่มีการสมัครสมาชิกเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับที่เคยเป็นมากว่า 10 ปี เขาย้ำว่าการตีความผิด ๆ เป็น “ข่าวปลอม” และจะให้เจ้าหน้าที่ปรับถ้อยคำให้ชัดเจนขึ้นในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    รายละเอียดร่างกฎหมาย VPN เดนมาร์ก
    ห้ามใช้ VPN เพื่อเข้าถึงคอนเทนต์ที่ถูกบล็อกหรือเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้น
    อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (สิ้นสุด 9 ม.ค. 2026)
    มีผลบังคับใช้ 1 ก.ค. 2026 หากผ่าน

    เสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญ
    ถ้อยคำคลุมเครือ อาจกระทบการใช้งาน VPN ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
    ถูกมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิ์ดิจิทัลและความเป็นส่วนตัว

    การชี้แจงจากรัฐบาล
    ยืนยันว่าไม่ได้ห้าม VPN โดยตรง
    เป้าหมายคือการป้องกันการสตรีมคอนเทนต์กีฬาโดยไม่จ่ายเงิน

    คำเตือนต่อผู้ใช้ VPN
    หากร่างกฎหมายไม่ถูกปรับแก้ อาจทำให้การใช้ VPN เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวเสี่ยงผิดกฎหมาย
    การเข้าถึงบริการที่ถูกต้องตามกฎหมายผ่าน VPN อาจถูกตีความผิดพลาด

    https://itsfoss.com/news/denmark-controversial-vpn-bill/
    🌐 เดนมาร์กกับร่างกฎหมาย VPN ที่เป็นข้อถกเถียง รัฐบาลเดนมาร์ก โดยกระทรวงวัฒนธรรม เสนอร่างกฎหมายที่มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ให้ “เป็นกลางทางเทคโนโลยี” โดยห้ามการใช้ VPN เพื่อเข้าถึงคอนเทนต์ที่ถูกบล็อกทางภูมิศาสตร์หรือเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้น ร่างนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะและจะสิ้นสุดในวันที่ 9 มกราคม 2026 หากผ่านการอนุมัติ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2026 ⚖️ เสียงวิจารณ์และความกังวล นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิ์ดิจิทัลเตือนว่าถ้อยคำในร่างกฎหมายมีความคลุมเครือ อาจตีความได้ว่าการใช้ VPN ในเชิงปกติ เช่น การปกป้องความเป็นส่วนตัว หรือการเข้าถึงบริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย อาจถูกจัดว่าเป็นการกระทำผิด ตัวอย่างเช่น Jesper Lund จาก IT-Politisk Forening ระบุว่าร่างนี้มี “กลิ่นอายแบบเผด็จการ” และไม่เคยมีประเทศใดออกกฎหมายห้ามใช้ VPN โดยตรงมาก่อน ขณะที่นักวิชาการกฎหมายจากมหาวิทยาลัย Syddansk ก็เห็นว่าร่างนี้ “เขียนกว้างเกินไป” และอาจเกินขอบเขตของการคุ้มครองลิขสิทธิ์ 🗣️ การชี้แจงจากรัฐบาล Jakob Engel-Schmidt รัฐมนตรีวัฒนธรรมของเดนมาร์กออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์ โดยยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ VPN เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ร่างนี้มีเป้าหมายเพียงเพื่อยืนยันว่า การสตรีมคอนเทนต์กีฬาโดยไม่จ่ายเงินหรือไม่มีการสมัครสมาชิกเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับที่เคยเป็นมากว่า 10 ปี เขาย้ำว่าการตีความผิด ๆ เป็น “ข่าวปลอม” และจะให้เจ้าหน้าที่ปรับถ้อยคำให้ชัดเจนขึ้นในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ รายละเอียดร่างกฎหมาย VPN เดนมาร์ก ➡️ ห้ามใช้ VPN เพื่อเข้าถึงคอนเทนต์ที่ถูกบล็อกหรือเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้น ➡️ อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (สิ้นสุด 9 ม.ค. 2026) ➡️ มีผลบังคับใช้ 1 ก.ค. 2026 หากผ่าน ✅ เสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ ถ้อยคำคลุมเครือ อาจกระทบการใช้งาน VPN ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ➡️ ถูกมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิ์ดิจิทัลและความเป็นส่วนตัว ✅ การชี้แจงจากรัฐบาล ➡️ ยืนยันว่าไม่ได้ห้าม VPN โดยตรง ➡️ เป้าหมายคือการป้องกันการสตรีมคอนเทนต์กีฬาโดยไม่จ่ายเงิน ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ VPN ⛔ หากร่างกฎหมายไม่ถูกปรับแก้ อาจทำให้การใช้ VPN เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวเสี่ยงผิดกฎหมาย ⛔ การเข้าถึงบริการที่ถูกต้องตามกฎหมายผ่าน VPN อาจถูกตีความผิดพลาด https://itsfoss.com/news/denmark-controversial-vpn-bill/
    ITSFOSS.COM
    Is Denmark Really Banning VPNs? A Controversial Bill Has People Worried
    Proposed legislation would make it illegal to use VPNs for accessing geo-blocked content.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts