• มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน นักมายากลชั้นเซียน (1)
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 12 : นักมายากลชั้นเซียน (1)
    นักมายากลชั้นเซียน พวก Rockefeller ไม่ได้เข้าไปในลาตินอเมริกา เพื่อไปขายเมล็ดพันธ์พืช GMO กับแจกถุงยางเท่านั้น แต่พวกเขาเข้าไป “ซื้อ” ด้วย
    เขาหอบกระเป๋าเงิน ที่ได้กำไรจากการขายเมล็ดพันธ์พืช เอาไปเลี้ยงนักการเมือง และทหารของหลายประเทศในแถบนั้น สร้างเด็กในคาถาอยู่หลายปี ด้วยการร่วมมืออย่างดีของหน่วยงานความมั่นคงของอเมริกา ปฏิบัติการลับเกิดขึ้นหลายครั้งในประเทศต่าง ๆ ในแถบนั้น แล้วในที่สุด เด็กสร้างของเขา ก็ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ของหลายประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกัน
    มันเป็นการค้า ที่ทำกำไรเกินตำราบอก เอาเงินของคนในประเทศ
ซื้อประเทศนั้นเอง !
    สมันน้อยอ่านตรงนี้กันหลาย ๆ หนหน่อยนะ !
    เขารอเวลา “อันเหมาะสม” แล้วก็ ตั้งสมาคม Trilateral Commission ขึ้นมา สมาชิกสมาคมเป็นผู้ที่เขาคัดเลือกไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะผลักดันให้เข้าไปทำหน้าที่ในรัฐบาล ในตำแหน่งสำคัญ ๆ ตามที่เขากำกับ
    และด้วยอำนาจ อิทธิพล และเงิน เมื่อถึงเวลา เขาก็ส่งคนของเขา เข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง เป็นตั้งแต่ประธานาธิบดี รัฐมนตรี นักวิชาการ และสื่อ (ขี้ข้า) และกำหนดนโยบายให้ขี้ข้าเหล่านั้น ปฎิบัติตามกลยุทธที่เขาวางไว้ทั้งหมด พร้อม ๆ กัน แต่แยกกันเล่น เหมือนคนเล่นกล หลอกให้เราดูมือซ้ายที มือขวาที โดยเราไม่รู้ตัวว่ากลนั้นสร้าง
ขึ้นมาได้อย่างไร
    เวลา “อันเหมาะสม” สำหรับ การก่อตั้ง Trilateral Commission นั้น น่าสนใจมาก ในปี ค.ศ.1973 นาย David Rockefeller ซึ่งเป็นเจ้าของความคิดการตั้งสมาคมนี้ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานของ The Council on Foreign Reations (CFR) ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานมันสมอง (Think Tank) ให้กับรัฐบาลอเมริกัน มาตั้งแต่ประมาณปี คศ 1939
    แต่ช่วงปี ค.ศ. 1971 ขณะที่โลกกำลังบูมด้วยการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในประเทศผู้ผลิต เช่น อเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ประเทศในอีกซีกโลกอีกหนึ่ง คือ กลุ่มประเทศที่ส่งออกน้ำมัน หรือที่เรียกว่า Organization of Petroleum Exporting Countries (OPEC) ก็เกิดอาการชักกระดุก ควบคุมกันเองไม่อยู่ พากันขึ้นราคาล่วงหน้าของน้ำมันอย่างบ้าเลือด ทำให้กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม ที่ต้องพึ่งพาน้ำมันอย่าง กลุ่ม Rockefeller และพรรคพวกในยุโรป และญี่ปุ่น ย่อมกระอักเป็นธรรมดา
    ประธานาธิบดี Nixon แก้ปัญหาด้วยการ ควบคุมราคาน้ำมันและก๊าซ ที่ผลิตและขายในประเทศ เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ แต่ผลออกมาคนละเรื่อง บรรดาพวกคุณอาค้าน้ำมัน กลับทุ่มน้ำมันเข้ามาในตลาดอเมริกา ขายในราคาแพง ในขณะที่น้ำมันที่ผลิตและขายในอเมริกา ต้องขายในราคาถูกควบคุม
    เศรษฐีเจ้าของ Standard Oil ฉุนขาด เพราะโดน OPEC ตีตลาด แต่ที่จริงแล้ว เศรษฐีก็แอบยิ้มมุมปาก เพราะคุณอาพวกราชวงศ์ซาอุกับคูเวต และพวกบริษัทน้ำมันที่เป็นของรัฐ แถวอิหร่าน อิรัค และอัลจีเรีย ไม่รู้จะทำอะไรกับดอลล่าร์ ที่ได้รับจากการขายน้ำมัน นอกจากฝากกับธนาคาร ใหญ่ ๆ ในอเมริกาและยุโรป แน่นอน Chase Manhatlon ของตระกูล Rockefeller ก็ต้องได้ส้มหล่น ใส่ด้วย
    แต่นั่นแหละนะ ของทุกอย่างมีได้ก็มีเสีย ดูด้านเดียวมันก็บื้อไปหน่อย การประกอบธุรกิจธนาคาร ได้เงินฝากมาจะให้มันนอนเฉยอยู่ในลิ้นชักได้ยังไง ธนาคารพวกนี้ก็เอาไปปล่อยต่อให้กับประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่มีน้ำมันของตัวเอง หรือมีแหล่ง แต่ยังไม่ได้ขุดขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าตัวว่ามี หรือ ถูกหลอกว่าบ้านยูไม่มี ไม่มี ประเทศพวกนี้ คนอ่านนิทานน่าจะเดาออกว่าคงอยู่ แถบเอเซียกับลาตินอเมริกานั้นแหละ
    แล้วทำไงล่ะ ประเทศพวกนี้ก็ไปกู้เงินจากธนาคาร ที่รับเงินค้าขายน้ำมันจากคุณอานั่นไง ทีนี้พอ OPEC ดันขึ้นราคาน้ำมันอย่างบ้าเลือด เงินเข้ามามหึมาก็จริง แต่ไอ้ที่ให้เขายืมไป มันก็ตัวแดงแก่มหึมาเหมือนกัน จริง ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาโดยตรงของรัฐบาลอเมริกา และไม่น่าจะใช่ความผิดของคุณ Nixon แก ซึ่งตอนนั้นก็หน้ามืดอยู่หลายเรื่องแล้ว แต่ก็ทำให้เศรษฐีเกิดความคิด ตามประสาคนที่โลภอยากจะเอาแต่ได้ แต่ไม่ยอมเสีย
    มันเรื่องอะไร จะทำแต่การวิจัยแนะนำรัฐบาล แล้วรัฐบาลก็ไม่ได้ทำตามที่เขาต้องการทุกเรื่อง แบบนี้มันต้อง คุมรัฐบาลให้อยู่ในกำมือไม่ดีกว่าหรือ แล้วความคิดที่จะตั้งหน่วยงานพิเศษ หรือ Trillateral จึงเกิดขึ้น และได้รวมพรรคพวกที่ทำธุรกิจน้ำมันอุตสาหกรรม และธนาคาร เข้ามาอยู่ในกระบุงเดียวกัน
    ( จริง ๆ นะ เขียนมาถึงตรงนี้ เชื่อเกือบเต็มร้อย ว่าไอ้โจรนั่น มันต้องเรียนวิธีขี้โกงระดับนโยบาย มาจากผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยจริง ๆ)
    คิดดูง่าย ๆ จากเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น แทนที่พวกเศรษฐีจะให้ธนาคารตัวเอง ให้เงินกู้กับประเทศที่กำลังพัฒนาต่อไปตามเดิม เขากลับใช้เหตุการณ์วิกฤติน้ำมันครั้งนี้ สร้างโอกาสให้พวกเขาอีกต่อ มันงกจริงๆนะ พวกเศรษฐีกลับคิดว่า ถ้าเรายกเครื่อง IMF World Bank เสียหน่อย แล้วให้องค์กรเหล่านี้เป็นเครื่องมือ รับความเสี่ยงให้กับเรา
แบบนี้เราก็มีแต่ win win solution พูดเหมือนใครหนอ !
    เขาจึงเริ่มแผนคุมสหประชาชาติ โดยการ “ซื้อเสียง”

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน นักมายากลชั้นเซียน (1) นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ ” ตอนที่ 12 : นักมายากลชั้นเซียน (1) นักมายากลชั้นเซียน พวก Rockefeller ไม่ได้เข้าไปในลาตินอเมริกา เพื่อไปขายเมล็ดพันธ์พืช GMO กับแจกถุงยางเท่านั้น แต่พวกเขาเข้าไป “ซื้อ” ด้วย เขาหอบกระเป๋าเงิน ที่ได้กำไรจากการขายเมล็ดพันธ์พืช เอาไปเลี้ยงนักการเมือง และทหารของหลายประเทศในแถบนั้น สร้างเด็กในคาถาอยู่หลายปี ด้วยการร่วมมืออย่างดีของหน่วยงานความมั่นคงของอเมริกา ปฏิบัติการลับเกิดขึ้นหลายครั้งในประเทศต่าง ๆ ในแถบนั้น แล้วในที่สุด เด็กสร้างของเขา ก็ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ของหลายประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกัน มันเป็นการค้า ที่ทำกำไรเกินตำราบอก เอาเงินของคนในประเทศ
ซื้อประเทศนั้นเอง ! สมันน้อยอ่านตรงนี้กันหลาย ๆ หนหน่อยนะ ! เขารอเวลา “อันเหมาะสม” แล้วก็ ตั้งสมาคม Trilateral Commission ขึ้นมา สมาชิกสมาคมเป็นผู้ที่เขาคัดเลือกไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะผลักดันให้เข้าไปทำหน้าที่ในรัฐบาล ในตำแหน่งสำคัญ ๆ ตามที่เขากำกับ และด้วยอำนาจ อิทธิพล และเงิน เมื่อถึงเวลา เขาก็ส่งคนของเขา เข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง เป็นตั้งแต่ประธานาธิบดี รัฐมนตรี นักวิชาการ และสื่อ (ขี้ข้า) และกำหนดนโยบายให้ขี้ข้าเหล่านั้น ปฎิบัติตามกลยุทธที่เขาวางไว้ทั้งหมด พร้อม ๆ กัน แต่แยกกันเล่น เหมือนคนเล่นกล หลอกให้เราดูมือซ้ายที มือขวาที โดยเราไม่รู้ตัวว่ากลนั้นสร้าง
ขึ้นมาได้อย่างไร เวลา “อันเหมาะสม” สำหรับ การก่อตั้ง Trilateral Commission นั้น น่าสนใจมาก ในปี ค.ศ.1973 นาย David Rockefeller ซึ่งเป็นเจ้าของความคิดการตั้งสมาคมนี้ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานของ The Council on Foreign Reations (CFR) ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานมันสมอง (Think Tank) ให้กับรัฐบาลอเมริกัน มาตั้งแต่ประมาณปี คศ 1939 แต่ช่วงปี ค.ศ. 1971 ขณะที่โลกกำลังบูมด้วยการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในประเทศผู้ผลิต เช่น อเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ประเทศในอีกซีกโลกอีกหนึ่ง คือ กลุ่มประเทศที่ส่งออกน้ำมัน หรือที่เรียกว่า Organization of Petroleum Exporting Countries (OPEC) ก็เกิดอาการชักกระดุก ควบคุมกันเองไม่อยู่ พากันขึ้นราคาล่วงหน้าของน้ำมันอย่างบ้าเลือด ทำให้กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม ที่ต้องพึ่งพาน้ำมันอย่าง กลุ่ม Rockefeller และพรรคพวกในยุโรป และญี่ปุ่น ย่อมกระอักเป็นธรรมดา ประธานาธิบดี Nixon แก้ปัญหาด้วยการ ควบคุมราคาน้ำมันและก๊าซ ที่ผลิตและขายในประเทศ เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ แต่ผลออกมาคนละเรื่อง บรรดาพวกคุณอาค้าน้ำมัน กลับทุ่มน้ำมันเข้ามาในตลาดอเมริกา ขายในราคาแพง ในขณะที่น้ำมันที่ผลิตและขายในอเมริกา ต้องขายในราคาถูกควบคุม เศรษฐีเจ้าของ Standard Oil ฉุนขาด เพราะโดน OPEC ตีตลาด แต่ที่จริงแล้ว เศรษฐีก็แอบยิ้มมุมปาก เพราะคุณอาพวกราชวงศ์ซาอุกับคูเวต และพวกบริษัทน้ำมันที่เป็นของรัฐ แถวอิหร่าน อิรัค และอัลจีเรีย ไม่รู้จะทำอะไรกับดอลล่าร์ ที่ได้รับจากการขายน้ำมัน นอกจากฝากกับธนาคาร ใหญ่ ๆ ในอเมริกาและยุโรป แน่นอน Chase Manhatlon ของตระกูล Rockefeller ก็ต้องได้ส้มหล่น ใส่ด้วย แต่นั่นแหละนะ ของทุกอย่างมีได้ก็มีเสีย ดูด้านเดียวมันก็บื้อไปหน่อย การประกอบธุรกิจธนาคาร ได้เงินฝากมาจะให้มันนอนเฉยอยู่ในลิ้นชักได้ยังไง ธนาคารพวกนี้ก็เอาไปปล่อยต่อให้กับประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่มีน้ำมันของตัวเอง หรือมีแหล่ง แต่ยังไม่ได้ขุดขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าตัวว่ามี หรือ ถูกหลอกว่าบ้านยูไม่มี ไม่มี ประเทศพวกนี้ คนอ่านนิทานน่าจะเดาออกว่าคงอยู่ แถบเอเซียกับลาตินอเมริกานั้นแหละ แล้วทำไงล่ะ ประเทศพวกนี้ก็ไปกู้เงินจากธนาคาร ที่รับเงินค้าขายน้ำมันจากคุณอานั่นไง ทีนี้พอ OPEC ดันขึ้นราคาน้ำมันอย่างบ้าเลือด เงินเข้ามามหึมาก็จริง แต่ไอ้ที่ให้เขายืมไป มันก็ตัวแดงแก่มหึมาเหมือนกัน จริง ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาโดยตรงของรัฐบาลอเมริกา และไม่น่าจะใช่ความผิดของคุณ Nixon แก ซึ่งตอนนั้นก็หน้ามืดอยู่หลายเรื่องแล้ว แต่ก็ทำให้เศรษฐีเกิดความคิด ตามประสาคนที่โลภอยากจะเอาแต่ได้ แต่ไม่ยอมเสีย มันเรื่องอะไร จะทำแต่การวิจัยแนะนำรัฐบาล แล้วรัฐบาลก็ไม่ได้ทำตามที่เขาต้องการทุกเรื่อง แบบนี้มันต้อง คุมรัฐบาลให้อยู่ในกำมือไม่ดีกว่าหรือ แล้วความคิดที่จะตั้งหน่วยงานพิเศษ หรือ Trillateral จึงเกิดขึ้น และได้รวมพรรคพวกที่ทำธุรกิจน้ำมันอุตสาหกรรม และธนาคาร เข้ามาอยู่ในกระบุงเดียวกัน ( จริง ๆ นะ เขียนมาถึงตรงนี้ เชื่อเกือบเต็มร้อย ว่าไอ้โจรนั่น มันต้องเรียนวิธีขี้โกงระดับนโยบาย มาจากผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยจริง ๆ) คิดดูง่าย ๆ จากเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น แทนที่พวกเศรษฐีจะให้ธนาคารตัวเอง ให้เงินกู้กับประเทศที่กำลังพัฒนาต่อไปตามเดิม เขากลับใช้เหตุการณ์วิกฤติน้ำมันครั้งนี้ สร้างโอกาสให้พวกเขาอีกต่อ มันงกจริงๆนะ พวกเศรษฐีกลับคิดว่า ถ้าเรายกเครื่อง IMF World Bank เสียหน่อย แล้วให้องค์กรเหล่านี้เป็นเครื่องมือ รับความเสี่ยงให้กับเรา
แบบนี้เราก็มีแต่ win win solution พูดเหมือนใครหนอ ! เขาจึงเริ่มแผนคุมสหประชาชาติ โดยการ “ซื้อเสียง” คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • สมเด็จไกเซอร์ รุ่นพัฒน์มาร่ำรวย หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน นครสวรรค์
    สมเด็จไกเซอร์ รุ่นพัฒน์มาร่ำรวย ( ฝังตะกรุดสามดอก ตอกเลข ๒๙๔ ) หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน นครสวรรค์ ปี2566 // พระดีพิธีใหญ่ !! //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ด้านเมตตามหานิยมและโชคลาภ ทำให้ผู้บูชาเป็นที่รักใคร่ มีคนช่วยเหลือเกื้อกูล เหมาะกับการค้าขาย การเจรจา แคล้วคลาดปลอดภัย ปัดป้องสิ่งอัปมงคลเสนียดจัญไร ช่วยปัดล้างสิ่งอัปมงคล แก้ดวงตก แก้ชง เสริมดวง หนุนดวงให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และช่วยให้รอดพ้นจากภยันตรายต่างๆ >>

    ** หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน เกจิดังนครสวรรค์ ได้รับสืบทอดวิชาจากหลวงปู่เทศ วัดสระทะเล ซึ่งเป็นทวดผ่านทาง หลวงปู่เดิม วัดหนองโพ หลวงปู่อิน วัดหางน้ำสาคร หลวงปู่หมึก วัดสระทะเล ซึ่งหลวงปู่พัฒน์ มีศักดิ์เป็นหลาน และหลวงปู่โหมด วัดโคกเดื่อ ต่อมาจึงได้ไปเรียนวิชาทางเมตตามหานิยมกับ หลวงปู่ชุบ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จังหวัดอุตรดิตถ์ และได้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งนานถึง 6 ปี >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    สมเด็จไกเซอร์ รุ่นพัฒน์มาร่ำรวย หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน นครสวรรค์ สมเด็จไกเซอร์ รุ่นพัฒน์มาร่ำรวย ( ฝังตะกรุดสามดอก ตอกเลข ๒๙๔ ) หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน นครสวรรค์ ปี2566 // พระดีพิธีใหญ่ !! //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ด้านเมตตามหานิยมและโชคลาภ ทำให้ผู้บูชาเป็นที่รักใคร่ มีคนช่วยเหลือเกื้อกูล เหมาะกับการค้าขาย การเจรจา แคล้วคลาดปลอดภัย ปัดป้องสิ่งอัปมงคลเสนียดจัญไร ช่วยปัดล้างสิ่งอัปมงคล แก้ดวงตก แก้ชง เสริมดวง หนุนดวงให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และช่วยให้รอดพ้นจากภยันตรายต่างๆ >> ** หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน เกจิดังนครสวรรค์ ได้รับสืบทอดวิชาจากหลวงปู่เทศ วัดสระทะเล ซึ่งเป็นทวดผ่านทาง หลวงปู่เดิม วัดหนองโพ หลวงปู่อิน วัดหางน้ำสาคร หลวงปู่หมึก วัดสระทะเล ซึ่งหลวงปู่พัฒน์ มีศักดิ์เป็นหลาน และหลวงปู่โหมด วัดโคกเดื่อ ต่อมาจึงได้ไปเรียนวิชาทางเมตตามหานิยมกับ หลวงปู่ชุบ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จังหวัดอุตรดิตถ์ และได้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งนานถึง 6 ปี >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อแกะ รุ่น1 วัดห้วยไคร้เหนือ จ.สระแก้ว
    เหรียญหลวงพ่อแกะ ทิพภโย รุ่น1 วัดห้วยไคร้เหนือ ต.เบญจขร อ.คลองหาด จ.สระแก้ว //งานฉลองยกช่อฟ้า พระอุโบสถ วัดห้วยไคร้เหนือ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม โชคลาภ วาสนา การค้าขายร่ำรวย การงานเจริญก้าวหน้า แคล้วคลาด ป้องกันภัยจากภยันตรายต่างๆ และคงกระพันชาตรี >>


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อแกะ รุ่น1 วัดห้วยไคร้เหนือ จ.สระแก้ว เหรียญหลวงพ่อแกะ ทิพภโย รุ่น1 วัดห้วยไคร้เหนือ ต.เบญจขร อ.คลองหาด จ.สระแก้ว //งานฉลองยกช่อฟ้า พระอุโบสถ วัดห้วยไคร้เหนือ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเมตตามหานิยม โชคลาภ วาสนา การค้าขายร่ำรวย การงานเจริญก้าวหน้า แคล้วคลาด ป้องกันภัยจากภยันตรายต่างๆ และคงกระพันชาตรี >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • จากมือถือสู่มอเตอร์ – Xiaomi กับภารกิจเปลี่ยนโลกยานยนต์

    ถ้าคุณรู้จัก Xiaomi จากมือถือราคาดีฟีเจอร์ครบ คุณอาจไม่ทันรู้ว่าแบรนด์นี้กำลังกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และไม่ใช่แค่ “ลองทำดู” แต่เป็นการลงทุนเต็มตัวกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์

    Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก SU7 ในเดือนธันวาคม 2023 และตามด้วย YU7 SUV ในกลางปี 2025 ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ยอดจองกว่า 240,000 คันภายใน 18 ชั่วโมง ด้วยดีไซน์ที่หลายคนเปรียบเทียบว่า “เหมือน Porsche แต่ราคาพอ ๆ กับ Toyota Camry”

    ยอดขายพุ่งทะลุ 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025 และรายได้จากธุรกิจ EV ก็แตะ 20.6 พันล้านหยวนในไตรมาสเดียว แม้จะยังขาดทุนอยู่ แต่ก็ใกล้จุดคุ้มทุนแล้ว

    Xiaomi ไม่หยุดแค่ในจีน พวกเขาวางแผนบุกตลาดยุโรปในปี 2027 โดยเริ่มจากการทดสอบ SU7 Ultra บนสนาม Nürburgring ที่เยอรมนี ซึ่งทำสถิติเร็วที่สุดในกลุ่มรถ EV ผลิตจำนวนมาก

    แต่เส้นทางนี้ไม่ง่ายนัก เพราะในสหรัฐฯ Xiaomi ถูกกีดกันด้วยภาษีนำเข้า 100% จากนโยบายสงครามการค้าของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ตลาดใหญ่นี้ยังเข้าไม่ถึง

    แม้จะมีอุปสรรค แต่ Xiaomi ก็ได้รับคำชมจากนักวิเคราะห์ว่า “แซงหน้า Tesla ในหลายด้าน” โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์และราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 ในเดือนธันวาคม 2023
    ตามด้วยรุ่น YU7 SUV ในเดือนมิถุนายน 2025 ยอดจอง 240,000 คันใน 18 ชั่วโมง
    ราคาของ YU7 อยู่ที่ประมาณ 253,500 หยวน (US$35,360)
    Xiaomi วางแผนเข้าสู่ตลาดยุโรปในปี 2027
    SU7 Ultra ทำสถิติเร็วที่สุดในสนาม Nürburgring สำหรับรถ EV ผลิตจำนวนมาก
    Xiaomi ส่งมอบรถ EV ได้กว่า 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025
    รายได้จากธุรกิจ EV ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 20.6 พันล้านหยวน
    บริษัทตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ 5 อันดับแรกของโลก
    Xiaomi ยังไม่สามารถเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ เพราะภาษีนำเข้า 100%
    นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ระบุว่า Xiaomi แซง Tesla ในหลายด้าน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SU7 ได้รับคำชมว่า “เหมือน Porsche Taycan” แต่ราคาถูกกว่าหลายเท่า
    Xiaomi ใช้ประสบการณ์จากธุรกิจมือถือและ IoT มาปรับใช้ในรถยนต์
    การออกแบบรถเน้น software-defined vehicle (SDV) ที่คล้ายสมาร์ตโฟนมากกว่ารถยนต์ดั้งเดิม
    Xiaomi มีแผนเปิดโรงงาน EV แห่งที่สองเพื่อเพิ่มกำลังผลิต
    ตลาดยุโรปมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าสหรัฐฯ และเปิดรับแบรนด์จีนมากขึ้น


    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/22/chinas-xiaomi-is-betting-big-on-electric-cars
    🎙️ จากมือถือสู่มอเตอร์ – Xiaomi กับภารกิจเปลี่ยนโลกยานยนต์ ถ้าคุณรู้จัก Xiaomi จากมือถือราคาดีฟีเจอร์ครบ คุณอาจไม่ทันรู้ว่าแบรนด์นี้กำลังกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และไม่ใช่แค่ “ลองทำดู” แต่เป็นการลงทุนเต็มตัวกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก SU7 ในเดือนธันวาคม 2023 และตามด้วย YU7 SUV ในกลางปี 2025 ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ยอดจองกว่า 240,000 คันภายใน 18 ชั่วโมง ด้วยดีไซน์ที่หลายคนเปรียบเทียบว่า “เหมือน Porsche แต่ราคาพอ ๆ กับ Toyota Camry” ยอดขายพุ่งทะลุ 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025 และรายได้จากธุรกิจ EV ก็แตะ 20.6 พันล้านหยวนในไตรมาสเดียว แม้จะยังขาดทุนอยู่ แต่ก็ใกล้จุดคุ้มทุนแล้ว Xiaomi ไม่หยุดแค่ในจีน พวกเขาวางแผนบุกตลาดยุโรปในปี 2027 โดยเริ่มจากการทดสอบ SU7 Ultra บนสนาม Nürburgring ที่เยอรมนี ซึ่งทำสถิติเร็วที่สุดในกลุ่มรถ EV ผลิตจำนวนมาก แต่เส้นทางนี้ไม่ง่ายนัก เพราะในสหรัฐฯ Xiaomi ถูกกีดกันด้วยภาษีนำเข้า 100% จากนโยบายสงครามการค้าของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ตลาดใหญ่นี้ยังเข้าไม่ถึง แม้จะมีอุปสรรค แต่ Xiaomi ก็ได้รับคำชมจากนักวิเคราะห์ว่า “แซงหน้า Tesla ในหลายด้าน” โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์และราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 ในเดือนธันวาคม 2023 ➡️ ตามด้วยรุ่น YU7 SUV ในเดือนมิถุนายน 2025 ยอดจอง 240,000 คันใน 18 ชั่วโมง ➡️ ราคาของ YU7 อยู่ที่ประมาณ 253,500 หยวน (US$35,360) ➡️ Xiaomi วางแผนเข้าสู่ตลาดยุโรปในปี 2027 ➡️ SU7 Ultra ทำสถิติเร็วที่สุดในสนาม Nürburgring สำหรับรถ EV ผลิตจำนวนมาก ➡️ Xiaomi ส่งมอบรถ EV ได้กว่า 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025 ➡️ รายได้จากธุรกิจ EV ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 20.6 พันล้านหยวน ➡️ บริษัทตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ 5 อันดับแรกของโลก ➡️ Xiaomi ยังไม่สามารถเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ เพราะภาษีนำเข้า 100% ➡️ นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ระบุว่า Xiaomi แซง Tesla ในหลายด้าน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SU7 ได้รับคำชมว่า “เหมือน Porsche Taycan” แต่ราคาถูกกว่าหลายเท่า ➡️ Xiaomi ใช้ประสบการณ์จากธุรกิจมือถือและ IoT มาปรับใช้ในรถยนต์ ➡️ การออกแบบรถเน้น software-defined vehicle (SDV) ที่คล้ายสมาร์ตโฟนมากกว่ารถยนต์ดั้งเดิม ➡️ Xiaomi มีแผนเปิดโรงงาน EV แห่งที่สองเพื่อเพิ่มกำลังผลิต ➡️ ตลาดยุโรปมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าสหรัฐฯ และเปิดรับแบรนด์จีนมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/22/chinas-xiaomi-is-betting-big-on-electric-cars
    WWW.THESTAR.COM.MY
    China's Xiaomi is betting big on electric cars
    Xiaomi may not be a household name in the US, but in China its products are everywhere. Already one of the world's top mobile phone manufacturers, the technology company also makes everything from toothbrushes to watches – even mattresses. Now it's betting big on electric vehicles, having already succeeded where even Apple failed.
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เมล็ดพันธ์พิฆาต (2)

    นิทานเร่ืองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 8 : เมล็ดพันธ์พิฆาต (2)
    Green Revolution เป็นศัพท์เทคนิคที่อดีต ผอ. USAID คิดขึ้น เขาบอกว่าเป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ดัดแปลงพันธุกรรมเมล็ดพันธ์พืช เพื่อให้โตไว เขานำไปใช้ทดลองกับการปลูกข้าวในอินเดีย เมื่อประมาณปี ค.ศ.1961 ซึ่งเป็นช่วงที่อินเดียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร ข้าวพันธ์ุดังกล่าว ให้ผลผลิตเป็น 10 เท่า ของข้าวพันธ์ุธรรมดา แต่ต้องใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง
    คนอินเดียตาโตเห็นแต่ผลผลิต 10 เท่า อินเดียกลายเป็นประเทศส่งข้าวออกสูงอันดับต้นๆ คนขายพันธ์ุข้าวนับเงินเพลิน เพราะพันธ์ุข้าวนี้ต้องซื้อทุกครั้งที่ปลูก อย่าลืมบวกค่าปุ๋ยเคมี ค่ายาฆ่าแมลงด้วย แถมต้องทำระบบชลประทานด้วย ใครเป็นคนมาช่วยคิดช่วยทำ ใครขายเครื่องจักร คงพอนึกกันออก
    ฟิลิปปินส์ได้รับเกียรติเป็นหนูตะเภาตัวต่อมา โดยความอนุเคราะห์ของมูลนิธิ Ford และมูลนิธิ Rockefeller ได้จัดตั้งสถาบัน International Rice Research Institute (IRRI) ดัดแปลงข้าวข้ามสายพันธ์ุ เรียกว่า M 8
    M 8 นี่ก็เหมือนกัน ต้องใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงมากมาย แต่ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธ์ุธรรมชาติ การใช้ข้าวพันธ์ M 8 ทำให้ฟิลิปปินส์กระโดดเป็นผู้ส่งออกข้าวเป็นครั้งแรก ในประมาณปี ค.ศ.1966 แต่การใช้ยาฆ่าแมลงอย่างแรง ทำให้ปลาและกบหลายพันธ์ุในนาข้าวตายเกลี้ยง
    Argentina เป็นอีกกรณีที่น่าสนใจ ได้รับเลือกเป็นหนูตะเภา แบบครบวงจร ในปี ค.ศ.1980 การทดลองพืช GMO ถึงขั้นเกือบสมบูรณ์ และนาย Carlos Menem ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี นาย Menem แน่นอน เป็นเด็กสร้างของตระกูล Rockefeller เขาเห็นพ้องทุกอย่างที่ ทางวอชิงตันและตระกูล Rockefeller เสนอ ถึงขนาดยอมให้เพื่อนของนาย David Rockefeller ที่อยู่แถววอชิงตัน ร่างแผนเศรษฐกิจประเทศให้ เป็นแผนเศรษฐกิจตามทฤษฎีที่ศึกษากันอยู่ในมหาวิทยาลัย Chicago เช่น การยกเลิกรัฐวิสาหกิจ การยกเลิกกฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรคต่อทุนเสรี เปิดประตูให้การค้าเสรีเข้าสะดวก
    เอ๊ะ! นี่มันแผนพัฒนาเศรษฐกิจ แผนเปิดเสรี แบบที่สมันน้อยทำเลยนะ คนที่อ่านนิทานจิกโก๋ปากซอยมาแล้ว คงพอจำได้
    Argentina เข้าสู่การปลูกพืช GMO อย่างจริงจัง ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลของตน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1996 ถึง ค.ศ.2004 หลังจากเปลี่ยนเป็นใช้พืช GMO ไปไม่กี่ปี ชาวไร่ ชาวนา ของ Argentina ก็เริ่มเป็นหนี้ ไม่มีปัญญาใช้หนี้เขาต้องขายหรือถูกยึดไร่นา แล้วต่างชาติก็เข้าไปกว้านซื้อไร่ ซื้อนา ในราคาถูก แสนถูก
    ทั้งหมดเกิดขึ้น ภายใน 10 ปี อ่านนิทานตอนนี้แล้ว ลองนึกถึงเรื่อง ปรส. กันบ้างไหม แม้ไม่ใช่เป็นอุปกรณ์เล่นกลเดียวกัน แต่ฉากเล่นกล มันไม่ต่างกันเท่าไหร่

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เมล็ดพันธ์พิฆาต (2) นิทานเร่ืองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 8 : เมล็ดพันธ์พิฆาต (2) Green Revolution เป็นศัพท์เทคนิคที่อดีต ผอ. USAID คิดขึ้น เขาบอกว่าเป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ดัดแปลงพันธุกรรมเมล็ดพันธ์พืช เพื่อให้โตไว เขานำไปใช้ทดลองกับการปลูกข้าวในอินเดีย เมื่อประมาณปี ค.ศ.1961 ซึ่งเป็นช่วงที่อินเดียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร ข้าวพันธ์ุดังกล่าว ให้ผลผลิตเป็น 10 เท่า ของข้าวพันธ์ุธรรมดา แต่ต้องใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง คนอินเดียตาโตเห็นแต่ผลผลิต 10 เท่า อินเดียกลายเป็นประเทศส่งข้าวออกสูงอันดับต้นๆ คนขายพันธ์ุข้าวนับเงินเพลิน เพราะพันธ์ุข้าวนี้ต้องซื้อทุกครั้งที่ปลูก อย่าลืมบวกค่าปุ๋ยเคมี ค่ายาฆ่าแมลงด้วย แถมต้องทำระบบชลประทานด้วย ใครเป็นคนมาช่วยคิดช่วยทำ ใครขายเครื่องจักร คงพอนึกกันออก ฟิลิปปินส์ได้รับเกียรติเป็นหนูตะเภาตัวต่อมา โดยความอนุเคราะห์ของมูลนิธิ Ford และมูลนิธิ Rockefeller ได้จัดตั้งสถาบัน International Rice Research Institute (IRRI) ดัดแปลงข้าวข้ามสายพันธ์ุ เรียกว่า M 8 M 8 นี่ก็เหมือนกัน ต้องใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงมากมาย แต่ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธ์ุธรรมชาติ การใช้ข้าวพันธ์ M 8 ทำให้ฟิลิปปินส์กระโดดเป็นผู้ส่งออกข้าวเป็นครั้งแรก ในประมาณปี ค.ศ.1966 แต่การใช้ยาฆ่าแมลงอย่างแรง ทำให้ปลาและกบหลายพันธ์ุในนาข้าวตายเกลี้ยง Argentina เป็นอีกกรณีที่น่าสนใจ ได้รับเลือกเป็นหนูตะเภา แบบครบวงจร ในปี ค.ศ.1980 การทดลองพืช GMO ถึงขั้นเกือบสมบูรณ์ และนาย Carlos Menem ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี นาย Menem แน่นอน เป็นเด็กสร้างของตระกูล Rockefeller เขาเห็นพ้องทุกอย่างที่ ทางวอชิงตันและตระกูล Rockefeller เสนอ ถึงขนาดยอมให้เพื่อนของนาย David Rockefeller ที่อยู่แถววอชิงตัน ร่างแผนเศรษฐกิจประเทศให้ เป็นแผนเศรษฐกิจตามทฤษฎีที่ศึกษากันอยู่ในมหาวิทยาลัย Chicago เช่น การยกเลิกรัฐวิสาหกิจ การยกเลิกกฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรคต่อทุนเสรี เปิดประตูให้การค้าเสรีเข้าสะดวก เอ๊ะ! นี่มันแผนพัฒนาเศรษฐกิจ แผนเปิดเสรี แบบที่สมันน้อยทำเลยนะ คนที่อ่านนิทานจิกโก๋ปากซอยมาแล้ว คงพอจำได้ Argentina เข้าสู่การปลูกพืช GMO อย่างจริงจัง ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลของตน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1996 ถึง ค.ศ.2004 หลังจากเปลี่ยนเป็นใช้พืช GMO ไปไม่กี่ปี ชาวไร่ ชาวนา ของ Argentina ก็เริ่มเป็นหนี้ ไม่มีปัญญาใช้หนี้เขาต้องขายหรือถูกยึดไร่นา แล้วต่างชาติก็เข้าไปกว้านซื้อไร่ ซื้อนา ในราคาถูก แสนถูก ทั้งหมดเกิดขึ้น ภายใน 10 ปี อ่านนิทานตอนนี้แล้ว ลองนึกถึงเรื่อง ปรส. กันบ้างไหม แม้ไม่ใช่เป็นอุปกรณ์เล่นกลเดียวกัน แต่ฉากเล่นกล มันไม่ต่างกันเท่าไหร่ คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เมล็ดพันธ์พิฆาต (1)

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 8 : เมล็ดพันธ์พิฆาต (1)
    พวกเศรษฐีนักมายากล เล่นกลกันเป็นระบบ เมื่อเขากว้านซื้อไร่ ซื้อนา ในแถบละตินอเมริกาแล้ว อีกด้านหนึ่ง ก็ทุ่มทุนผ่านมูลนิธิ Rockefeller ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ ตามห้องทดลองเกือบ 50 แห่ง
    ในช่วงปี ค.ศ.1950 – 1960 ตระกูล Rockefeller ได้ทดลองการผสมพันธ์พืชใหม่ (hybrid) เมื่อเริ่มเห็นผลพอใช้ได้ก็จับมือ Cargill บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านธุรกิจเกษตร และพันธ์พืช ให้มาเป็นพันธมิตรแล้ว เริ่มทดลองเพาะข้าวโพดพันธ์ hybrid และนำมาทดลองปลูกในลาตินอเมริกา และต่อมาก็ทดลองกับพันธ์พืชต่างๆ ที่เรียกว่า GMO (genetic engineering food crops) โดยเฉพาะข้าว
    ซึ่งเศรษฐีนักมายากล ได้ดำเนินการให้แพร่หลายอยู่ในลาตินอเมริกา เม็กซิโก รวมทั้งเอเซีย เช่น อินเดีย และฟิลิปปินส์
    ทั้งหมดอยู่ภายใต้เป้าหมายที่แท้จริงของนักมายากล ที่จะควบคุมอาหาร สำหรับประชากรโลก (ที่สาม) ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ความมั่นคงของอเมริกา โดยปฏิบัติการไปพร้อมกับ เรื่องน้ำมันและอำนาจของกองทัพอเมริกา
    มันเป็นยุทธศาสตร์ของอเมริกาได้อย่างไร
    ไม่ยากสำหรับ นาย Nelson Rockefeller ซึ่งเป็นนักเล่นกลฉากนี้ เพราะรมว.ต่างประเทศของอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ.1952 จนถึง ค.ศ.1979 ล้วนแต่เป็นคนที่ตระกูล Rockefeller สร้างมาทั้งนั้น เช่น นาย John Foster Dulles นาย Dean Rusk นาย Henry Kissinger และนาย Cyrus Vance
    ในปี ค.ศ. 1970 ร้อยละ 95 ของจำนวนธัญญพืชอยู่ในมือของ 6 บรรษัทข้ามชาติ Cargill Grain Company, Continental Grain Company, Cook Industries Inc., Dreyfus, Bunge Company และ Archer Daniel Midland ทั้งหมดเป็นบริษัทที่มีฐานอยู่ที่อเมริกา
    Cargill ใช้เวลาอยู่กว่า 2 ทศวรรษ ในการเปลี่ยนนโยบายการค้าของอเมริกา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อเมริกาสามารถครองตลาดโลกได้ ในธุรกิจการขายเมล็ดพันธ์เกษตร GMO ยาฆ่าแมลงและปุ๋ย และทำให้ชาวไร่ ชาวนา ทั่วโลก เปลี่ยนจากการทำเกษตรในครัวเรือน เป็นเกษตรอุตสาหกรรม และเป็นการเปลี่ยนเมล็ดพันธ์พืชที่ใช่ต่อเนื่องหมุนเวียนไปทุกฤดูกาล เป็น GMO เมล็ดพันธ์ุพืชที่ใช้ได้เพียงฤดูกาลเดียว ทั้งหมดนี้ เริ่มต้นตั้งแต่สมัยรัฐบาล Nixon
    บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Cargill อัดตลาดเกษตรด้วยพืช GMO ขยายตัวเกษตรอุตสาหกรรมด้วยการส่งเมล็ดพันธ์พืชเช่นนี้ไปทั่วโลก โดยเฉพาะโลกที่สาม ขณะเดียวกันก็บอกกับชาวไร่ชาวนาในประเทศโลกที่สามว่า ถ้าขืนทำการปลูกข้าว ธัญญพืช อื่นๆ รวมทั้งเลี้ยงสัตว์ด้วยพืชจากการเกษตรในครอบครัว ยูจะล่มจม เพราะไอจะอัดยูด้วย GMO เข้าใจมั้ย เพราะฉะนั้น ถ้ายูไม่ใช้เมล็ดพันธ์ุGMO พวกยูก็ไปทำไร่ผักสวนครัว ปลูกพริก หอม กระเทียม หรือ ปลูกกล้วย ปลูกอ้อย แทนแล้วกัน
    สำหรับโลกที่ 3 เมื่ออเมริกาส่งเมล็ดพันธ์พืช GMO เข้าไปให้ มีแต่คนปรบมือ พวกเขาเรียก วิวัฒนาการดังกล่าวว่า Green Revolution มันควรจะได้รับการปรบมือแน่จริงหรือ มาทำความรู้จัก Green Revolution กันหน่อย

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เมล็ดพันธ์พิฆาต (1) นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 8 : เมล็ดพันธ์พิฆาต (1) พวกเศรษฐีนักมายากล เล่นกลกันเป็นระบบ เมื่อเขากว้านซื้อไร่ ซื้อนา ในแถบละตินอเมริกาแล้ว อีกด้านหนึ่ง ก็ทุ่มทุนผ่านมูลนิธิ Rockefeller ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ ตามห้องทดลองเกือบ 50 แห่ง ในช่วงปี ค.ศ.1950 – 1960 ตระกูล Rockefeller ได้ทดลองการผสมพันธ์พืชใหม่ (hybrid) เมื่อเริ่มเห็นผลพอใช้ได้ก็จับมือ Cargill บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านธุรกิจเกษตร และพันธ์พืช ให้มาเป็นพันธมิตรแล้ว เริ่มทดลองเพาะข้าวโพดพันธ์ hybrid และนำมาทดลองปลูกในลาตินอเมริกา และต่อมาก็ทดลองกับพันธ์พืชต่างๆ ที่เรียกว่า GMO (genetic engineering food crops) โดยเฉพาะข้าว ซึ่งเศรษฐีนักมายากล ได้ดำเนินการให้แพร่หลายอยู่ในลาตินอเมริกา เม็กซิโก รวมทั้งเอเซีย เช่น อินเดีย และฟิลิปปินส์ ทั้งหมดอยู่ภายใต้เป้าหมายที่แท้จริงของนักมายากล ที่จะควบคุมอาหาร สำหรับประชากรโลก (ที่สาม) ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ความมั่นคงของอเมริกา โดยปฏิบัติการไปพร้อมกับ เรื่องน้ำมันและอำนาจของกองทัพอเมริกา มันเป็นยุทธศาสตร์ของอเมริกาได้อย่างไร ไม่ยากสำหรับ นาย Nelson Rockefeller ซึ่งเป็นนักเล่นกลฉากนี้ เพราะรมว.ต่างประเทศของอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ.1952 จนถึง ค.ศ.1979 ล้วนแต่เป็นคนที่ตระกูล Rockefeller สร้างมาทั้งนั้น เช่น นาย John Foster Dulles นาย Dean Rusk นาย Henry Kissinger และนาย Cyrus Vance ในปี ค.ศ. 1970 ร้อยละ 95 ของจำนวนธัญญพืชอยู่ในมือของ 6 บรรษัทข้ามชาติ Cargill Grain Company, Continental Grain Company, Cook Industries Inc., Dreyfus, Bunge Company และ Archer Daniel Midland ทั้งหมดเป็นบริษัทที่มีฐานอยู่ที่อเมริกา Cargill ใช้เวลาอยู่กว่า 2 ทศวรรษ ในการเปลี่ยนนโยบายการค้าของอเมริกา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อเมริกาสามารถครองตลาดโลกได้ ในธุรกิจการขายเมล็ดพันธ์เกษตร GMO ยาฆ่าแมลงและปุ๋ย และทำให้ชาวไร่ ชาวนา ทั่วโลก เปลี่ยนจากการทำเกษตรในครัวเรือน เป็นเกษตรอุตสาหกรรม และเป็นการเปลี่ยนเมล็ดพันธ์พืชที่ใช่ต่อเนื่องหมุนเวียนไปทุกฤดูกาล เป็น GMO เมล็ดพันธ์ุพืชที่ใช้ได้เพียงฤดูกาลเดียว ทั้งหมดนี้ เริ่มต้นตั้งแต่สมัยรัฐบาล Nixon บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Cargill อัดตลาดเกษตรด้วยพืช GMO ขยายตัวเกษตรอุตสาหกรรมด้วยการส่งเมล็ดพันธ์พืชเช่นนี้ไปทั่วโลก โดยเฉพาะโลกที่สาม ขณะเดียวกันก็บอกกับชาวไร่ชาวนาในประเทศโลกที่สามว่า ถ้าขืนทำการปลูกข้าว ธัญญพืช อื่นๆ รวมทั้งเลี้ยงสัตว์ด้วยพืชจากการเกษตรในครอบครัว ยูจะล่มจม เพราะไอจะอัดยูด้วย GMO เข้าใจมั้ย เพราะฉะนั้น ถ้ายูไม่ใช้เมล็ดพันธ์ุGMO พวกยูก็ไปทำไร่ผักสวนครัว ปลูกพริก หอม กระเทียม หรือ ปลูกกล้วย ปลูกอ้อย แทนแล้วกัน สำหรับโลกที่ 3 เมื่ออเมริกาส่งเมล็ดพันธ์พืช GMO เข้าไปให้ มีแต่คนปรบมือ พวกเขาเรียก วิวัฒนาการดังกล่าวว่า Green Revolution มันควรจะได้รับการปรบมือแน่จริงหรือ มาทำความรู้จัก Green Revolution กันหน่อย คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • พิพาทไทย–กัมพูชา ฉุดเชื่อมั่นอุตฯทรุดสุดรอบ3ปี : [Biz Talk]
    สถานการณ์ไทย–กัมพูชา กระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจการค้าชายแดน 1 ในปัจจัยฉุดดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ร่วง สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี จี้รัฐ เร่งเยียวยา ทั้งความเสียหายจากการค้าขายบริเวณชายแดน และจัดทำโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย ที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชา ลดความเสี่ยงต่อการประกอบธุรกิจในระยะยาว
    พิพาทไทย–กัมพูชา ฉุดเชื่อมั่นอุตฯทรุดสุดรอบ3ปี : [Biz Talk] สถานการณ์ไทย–กัมพูชา กระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจการค้าชายแดน 1 ในปัจจัยฉุดดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ร่วง สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี จี้รัฐ เร่งเยียวยา ทั้งความเสียหายจากการค้าขายบริเวณชายแดน และจัดทำโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย ที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชา ลดความเสี่ยงต่อการประกอบธุรกิจในระยะยาว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 349 Views 0 0 Reviews
  • แคมโบเดีย โคล่า น้ำอัดลมชาตินิยมเศรษฐีเขมร

    กระแสความไม่พอใจของชาวกัมพูชา หลังโคคา-โคล่า กัมพูชา ลบรูปแวนด้า (Vann Da) หรือ วัณณ์ฎา มาน (Vannda Mann) นักร้องเพลงแร็ปชาวเขมร ซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์เครื่องดื่มโคคา-โคล่าออกจากสื่อโฆษณา แม้นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จะออกมาปรามว่าโคคา-โคล่า เป็นแบรนด์จากสหรัฐฯ แต่ผลิตภัณฑ์ที่ขายในกัมพูชา ผลิตโดยแรงงานชาวกัมพูชา สร้างรายได้และเงินภาษีให้กับรัฐบาล หากโคคา-โคล่าถอนตัวออกจากกัมพูชา ประเทศจะเสียหาย ถึงกระนั้น ยังมีภาคธุรกิจชาวกัมพูชาอย่างชิปมงกรุ๊ป (Chip Mong Group) สบโอกาสเปิดตัวน้ำอัดลมแบรนด์ใหม่ แคมโบเดีย โคล่า (Cambodia Cola)

    แคมโบเดีย โคล่า ผลิตโดยบริษัทขแมร์เบเวอเรจ (Khmer Beverages) ในเครือชิปมงกรุ๊ป ในสโลแกน "เติมความซ่ากับรสชาติแห่งความสุข" (Fizz Up the Flavor of Joy) ปัดฝุ่นเพจเฟซบุ๊ก Vikingz ของเครื่องดื่มชูกำลังที่หยุดจำหน่ายไปแล้ว และมีผู้ติดตามเพจราว 4 หมื่นรายมาปัดฝุ่นใหม่ พร้อมเผยแพร่วิดีโอคลิปโฆษณาเชิงซีเอสอาร์ ชูความเป็นผลิตภัณฑ์เขมร ผลิตในโรงงานเขมร ของผู้ประกอบการเขมร 100% เชิญชวนมาอุดหนุนสินค้าเขมรด้วยกัน และกิจกรรมเยี่ยมครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนกัมพูชา-ไทย พร้อมมอบเงินแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 20 ล้านเรียล และทหารที่บาดเจ็บ 2 ล้านเรียล

    อย่างไรก็ตาม แคมโบเดีย โคล่า ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการเครื่องดื่ม เพราะขแมร์เบเวอเรจ เป็นผู้ผลิตเบียร์แคมโบเดีย (Cambodia Beer) และน้ำดื่มตราแคมโบเดียวอเตอร์ (Cambodia Water) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 7 ล้านเฮกโตลิตรต่อปี โดยก่อนหน้านี้ได้ผลิตน้ำอัดลมทั้งน้ำดำและน้ำสียี่ห้อไอซ์ (IZE) เครื่องดื่มชูกำลังตราเวิร์คซ์ (WURKZ) วางจำหน่ายในปี 2560 แม้จะออกผลิตภัณฑ์ซ้ำซ้อนกันแต่เป็นไปได้ว่าเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างกัน เน้นไปที่กระแสชาตินิยมสู้ศึกต่างชาติอย่างโคคา-โคล่าและเป๊ปซี่

    สำหรับชิปมง กรุ๊ป เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทในประเทศกัมพูชารายใหญ่ที่สุด ก่อตั้งโดยมาดามเพี๊ยบ เฮียก (Pheap Heak) เมื่อปี 2525 เริ่มจากนำเข้าเหล็ก ก่อนจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ กระเบื้อง อสังหาริมทรัพย์ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์กระป๋อง อาหารสัตว์ ค้าปลีก ศูนย์การค้า โรงแรมหรูอย่างไฮแอท รีเจนซี่ พนมเปญ และแฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท พนมเปญ สนามกอล์ฟแกรนด์ รอยัล กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท ธนาคารชิปมง มีบริษัทร่วมทุนกับประเทศไทย เช่น ชิปมงอินทรี ผลิตปูนซีเมนต์ในจังหวัดกำปอด ร่วมกับ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง และชิปมงฤทธา ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ร่วมกับบริษัทฤทธา

    #Newskit
    แคมโบเดีย โคล่า น้ำอัดลมชาตินิยมเศรษฐีเขมร กระแสความไม่พอใจของชาวกัมพูชา หลังโคคา-โคล่า กัมพูชา ลบรูปแวนด้า (Vann Da) หรือ วัณณ์ฎา มาน (Vannda Mann) นักร้องเพลงแร็ปชาวเขมร ซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์เครื่องดื่มโคคา-โคล่าออกจากสื่อโฆษณา แม้นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา จะออกมาปรามว่าโคคา-โคล่า เป็นแบรนด์จากสหรัฐฯ แต่ผลิตภัณฑ์ที่ขายในกัมพูชา ผลิตโดยแรงงานชาวกัมพูชา สร้างรายได้และเงินภาษีให้กับรัฐบาล หากโคคา-โคล่าถอนตัวออกจากกัมพูชา ประเทศจะเสียหาย ถึงกระนั้น ยังมีภาคธุรกิจชาวกัมพูชาอย่างชิปมงกรุ๊ป (Chip Mong Group) สบโอกาสเปิดตัวน้ำอัดลมแบรนด์ใหม่ แคมโบเดีย โคล่า (Cambodia Cola) แคมโบเดีย โคล่า ผลิตโดยบริษัทขแมร์เบเวอเรจ (Khmer Beverages) ในเครือชิปมงกรุ๊ป ในสโลแกน "เติมความซ่ากับรสชาติแห่งความสุข" (Fizz Up the Flavor of Joy) ปัดฝุ่นเพจเฟซบุ๊ก Vikingz ของเครื่องดื่มชูกำลังที่หยุดจำหน่ายไปแล้ว และมีผู้ติดตามเพจราว 4 หมื่นรายมาปัดฝุ่นใหม่ พร้อมเผยแพร่วิดีโอคลิปโฆษณาเชิงซีเอสอาร์ ชูความเป็นผลิตภัณฑ์เขมร ผลิตในโรงงานเขมร ของผู้ประกอบการเขมร 100% เชิญชวนมาอุดหนุนสินค้าเขมรด้วยกัน และกิจกรรมเยี่ยมครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนกัมพูชา-ไทย พร้อมมอบเงินแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 20 ล้านเรียล และทหารที่บาดเจ็บ 2 ล้านเรียล อย่างไรก็ตาม แคมโบเดีย โคล่า ไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการเครื่องดื่ม เพราะขแมร์เบเวอเรจ เป็นผู้ผลิตเบียร์แคมโบเดีย (Cambodia Beer) และน้ำดื่มตราแคมโบเดียวอเตอร์ (Cambodia Water) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 7 ล้านเฮกโตลิตรต่อปี โดยก่อนหน้านี้ได้ผลิตน้ำอัดลมทั้งน้ำดำและน้ำสียี่ห้อไอซ์ (IZE) เครื่องดื่มชูกำลังตราเวิร์คซ์ (WURKZ) วางจำหน่ายในปี 2560 แม้จะออกผลิตภัณฑ์ซ้ำซ้อนกันแต่เป็นไปได้ว่าเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างกัน เน้นไปที่กระแสชาตินิยมสู้ศึกต่างชาติอย่างโคคา-โคล่าและเป๊ปซี่ สำหรับชิปมง กรุ๊ป เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทในประเทศกัมพูชารายใหญ่ที่สุด ก่อตั้งโดยมาดามเพี๊ยบ เฮียก (Pheap Heak) เมื่อปี 2525 เริ่มจากนำเข้าเหล็ก ก่อนจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ กระเบื้อง อสังหาริมทรัพย์ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์กระป๋อง อาหารสัตว์ ค้าปลีก ศูนย์การค้า โรงแรมหรูอย่างไฮแอท รีเจนซี่ พนมเปญ และแฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท พนมเปญ สนามกอล์ฟแกรนด์ รอยัล กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ท ธนาคารชิปมง มีบริษัทร่วมทุนกับประเทศไทย เช่น ชิปมงอินทรี ผลิตปูนซีเมนต์ในจังหวัดกำปอด ร่วมกับ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง และชิปมงฤทธา ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ร่วมกับบริษัทฤทธา #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย
    นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 6 : ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย
    Trilateral Commission เป็นองค์กรส่วนบุคคล เป็นการร่วมตัวของกลุ่มบุคคลในหลาย ๆ วงการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในสังคมระดับสูง (Elites) มีวัตถุประสงค์ที่จะกำหนดยุทธศาสตร์โลก ผ่านเครือข่ายนานาชาติที่เชื่อมโยงกัน ในฐานะคู่ค้าหรือหุ้นส่วนทางการค้า โดยมีตระกูล Rockefeller เป็นผู้นำกลุ่ม ซึ่งเมื่อรวมทรัพย์สิน และอิทธิพลทางการเมือง และเศรษฐกิจของพวกเขาแล้ว ไม่มีใครจะมีรัศมีและบารมี (เหนือประชาธิปไตย) มาทาบได้
    ความปรารถนาของพวกเขาคือ ต้องการจะสถาปนา สิ่งซึ่ง George H. W Bush เรียกภายหลังว่า การจัดระเบียบโลกใหม่หรือ New World Order ซึ่งมุ่งเน้นที่จะสร้างและขยายความมั่งคั่ง ภายใต้นโยบายเดียวกัน ทิศทางเดียวกัน หลักเกณฑ์เดียวกัน เสมือนมีรัฐบาลเดียว คือ Global government โดยมี Trilateral Commission เป็นผู้ปูทาง วางรูปแบบกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งต่อมาในยุค ค.ศ.1990 เป็นที่รู้จักกันในนาม “Globalization” หรือ “โลกาภิวัฒน์”
    พวกเขาบอกว่า ปัจจัยที่จะทำให้อเมริกาจะเป็นมหาอำนาจครองโลกนั้น จะต้องพร้อมด้วย แก้ว 3 ประการ
    – กองทัพอันเกรียงไกร ที่ไม่มีผู้ใดจะกล้ามาท้าทาย
    – เงินสกุลดอลล่าร์ จะต้องเป็นสกุลเงินที่ใช้เป็นทุนสำรอง
    – การมีอำนาจควบคุมน้ำมันและอาหาร
    ปี ค.ศ.1973 ขณะที่บางซีกของโลกกำลังขาดแคลนอาหาร อเมริกามีอาหารเหลือกิน ประธานาธิบดี Nixon ก็กำลังยืนหน้าเขียวพิงเชือก ถูกกรรมการนับ จากสงครามเวียตนาม ทำท่าจะหลุดจากเชือกลงมากองกับพื้นเสียด้วยซ้ำ
พอดีผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยจัดส่งนาย Henry Kissinger มาให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศและที่ปรึกษาด้านความมั่นคง
    นาย Kissinger ไม่รอช้า เสนอความเห็นกับนาย Nixon ว่า เราควรจะใช้อาหารเป็นพระเอกในด้านการฑูตนะ ควบคู่กับการแสวงหาน้ำมันไปกับภูมิศาสตร์การเมือง
    อืม! เด็กเรามันใช้ได้จริงๆ นะ ไม่เสียเวลาเลย นาย David รำพึง
    ลืมบอกไปว่าในปี ค.ศ.1950 นาย David Rockefeller เป็นคนไปคัดเลือกตัว นาย Kissinger ตั้งแต่นาย Kissinger ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Harvard เพื่อให้มาทำงานในโครงการสำคัญของมูลนิธิ Rockefeller
    เริ่มเห็นภาพกันหรือยังท่านผู้อ่านนิทาน นาย Kissinger ตกลงไม่ใช่คนขี้โม้ และไม่ใช่หมอดู แต่เป็นอะไรนะ คนอ่านนิทานตอบได้น่า
    แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อเป็นการสนองนโยบาย (ใครไม่รู้) นาย Kissinger เห็นว่า นโยบายเกี่ยวกับการเกษตรนั้นสำคัญยิ่ง ไม่ควรทิ้งให้อยู่ในความดูแลของกระทรวงการเกษตรเลย เขาเลยนำมากำกับดูแลเอง โดยบอกว่าเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศ
    เราต้องใช้อาหารเป็นเครื่องมือสำหรับให้รางวัลเพื่อน และลงโทษศัตรู นโยบายแบบนี้วอชิงตันก็ชอบ นาย David Rockefeller ก็พอใจ มันสมกับเป็นนักการฑูตผู้ยิ่งใหญ่จริง ๆ ไอ้คนนี้มีเสน่ห์เพราะอำนาจ ! ? !

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 6 : ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย Trilateral Commission เป็นองค์กรส่วนบุคคล เป็นการร่วมตัวของกลุ่มบุคคลในหลาย ๆ วงการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในสังคมระดับสูง (Elites) มีวัตถุประสงค์ที่จะกำหนดยุทธศาสตร์โลก ผ่านเครือข่ายนานาชาติที่เชื่อมโยงกัน ในฐานะคู่ค้าหรือหุ้นส่วนทางการค้า โดยมีตระกูล Rockefeller เป็นผู้นำกลุ่ม ซึ่งเมื่อรวมทรัพย์สิน และอิทธิพลทางการเมือง และเศรษฐกิจของพวกเขาแล้ว ไม่มีใครจะมีรัศมีและบารมี (เหนือประชาธิปไตย) มาทาบได้ ความปรารถนาของพวกเขาคือ ต้องการจะสถาปนา สิ่งซึ่ง George H. W Bush เรียกภายหลังว่า การจัดระเบียบโลกใหม่หรือ New World Order ซึ่งมุ่งเน้นที่จะสร้างและขยายความมั่งคั่ง ภายใต้นโยบายเดียวกัน ทิศทางเดียวกัน หลักเกณฑ์เดียวกัน เสมือนมีรัฐบาลเดียว คือ Global government โดยมี Trilateral Commission เป็นผู้ปูทาง วางรูปแบบกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งต่อมาในยุค ค.ศ.1990 เป็นที่รู้จักกันในนาม “Globalization” หรือ “โลกาภิวัฒน์” พวกเขาบอกว่า ปัจจัยที่จะทำให้อเมริกาจะเป็นมหาอำนาจครองโลกนั้น จะต้องพร้อมด้วย แก้ว 3 ประการ – กองทัพอันเกรียงไกร ที่ไม่มีผู้ใดจะกล้ามาท้าทาย – เงินสกุลดอลล่าร์ จะต้องเป็นสกุลเงินที่ใช้เป็นทุนสำรอง – การมีอำนาจควบคุมน้ำมันและอาหาร ปี ค.ศ.1973 ขณะที่บางซีกของโลกกำลังขาดแคลนอาหาร อเมริกามีอาหารเหลือกิน ประธานาธิบดี Nixon ก็กำลังยืนหน้าเขียวพิงเชือก ถูกกรรมการนับ จากสงครามเวียตนาม ทำท่าจะหลุดจากเชือกลงมากองกับพื้นเสียด้วยซ้ำ
พอดีผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยจัดส่งนาย Henry Kissinger มาให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศและที่ปรึกษาด้านความมั่นคง นาย Kissinger ไม่รอช้า เสนอความเห็นกับนาย Nixon ว่า เราควรจะใช้อาหารเป็นพระเอกในด้านการฑูตนะ ควบคู่กับการแสวงหาน้ำมันไปกับภูมิศาสตร์การเมือง อืม! เด็กเรามันใช้ได้จริงๆ นะ ไม่เสียเวลาเลย นาย David รำพึง ลืมบอกไปว่าในปี ค.ศ.1950 นาย David Rockefeller เป็นคนไปคัดเลือกตัว นาย Kissinger ตั้งแต่นาย Kissinger ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Harvard เพื่อให้มาทำงานในโครงการสำคัญของมูลนิธิ Rockefeller เริ่มเห็นภาพกันหรือยังท่านผู้อ่านนิทาน นาย Kissinger ตกลงไม่ใช่คนขี้โม้ และไม่ใช่หมอดู แต่เป็นอะไรนะ คนอ่านนิทานตอบได้น่า แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อเป็นการสนองนโยบาย (ใครไม่รู้) นาย Kissinger เห็นว่า นโยบายเกี่ยวกับการเกษตรนั้นสำคัญยิ่ง ไม่ควรทิ้งให้อยู่ในความดูแลของกระทรวงการเกษตรเลย เขาเลยนำมากำกับดูแลเอง โดยบอกว่าเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศ เราต้องใช้อาหารเป็นเครื่องมือสำหรับให้รางวัลเพื่อน และลงโทษศัตรู นโยบายแบบนี้วอชิงตันก็ชอบ นาย David Rockefeller ก็พอใจ มันสมกับเป็นนักการฑูตผู้ยิ่งใหญ่จริง ๆ ไอ้คนนี้มีเสน่ห์เพราะอำนาจ ! ? ! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 133 Views 0 Reviews
  • ลดแรง 1,000.- หมดเขต 24 ส.ค.68 เท่านั้น!
    เหลือเริ่มต้น 15,988.-

    SHANGHAI - HANGZHOU
    Amazing Studio เที่ยวเต็มวัน 6 วัน 4 คืน
    บินตรง ไทยไลอ้อนแอร์ พักสบาย ช็อปกระจาย
    เดินทาง ต.ค.68

    ไฮไลท์
    หางโจว – เหิงเตี้ยน ฮอลลีวู้ดสตูดิโอจีน
    ย่านการค้าฉิงหลิงซานเหอถู
    พระราชวังฉินซีฮ่องเต้ + เช่าชุดจีนโบราณ
    เมืองจำลองราชวงศ์ซ่ง + โชว์สุดอลังการ
    ล่องเรือหรู The Loius Shanghai
    Starbucks Reserve – หาดไว่ทานเดอะบันด์
    ถนนนานจิง + Pop Mart
    วัดพระหยก – ตลาดเฉินหวังเมี่ยว – ถนนอู่คัง – Outlet สุดคุ้ม

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ecad2a

    ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/30a85f

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ShanghaiTrip #Hangzhou #HollywoodStudioChina #เที่ยวจีน #ล่องเรือหรู #แอร์เอเชีย #ทัวร์ราคาดี #ช็อปปิ้งจีน
    ✨ ลดแรง 1,000.- หมดเขต 24 ส.ค.68 เท่านั้น! เหลือเริ่มต้น 15,988.- 🎉 SHANGHAI - HANGZHOU 🇨🇳 Amazing Studio เที่ยวเต็มวัน 6 วัน 4 คืน ✈️ บินตรง ไทยไลอ้อนแอร์ พักสบาย ช็อปกระจาย 🛍️ เดินทาง ต.ค.68 🌟 ไฮไลท์ ✔️ หางโจว – เหิงเตี้ยน ฮอลลีวู้ดสตูดิโอจีน 🎬 ✔️ ย่านการค้าฉิงหลิงซานเหอถู 🏮 ✔️ พระราชวังฉินซีฮ่องเต้ + เช่าชุดจีนโบราณ 👘 ✔️ เมืองจำลองราชวงศ์ซ่ง + โชว์สุดอลังการ 🎭 ✔️ ล่องเรือหรู The Loius Shanghai 🚢 ✔️ Starbucks Reserve – หาดไว่ทานเดอะบันด์ 🌆 ✔️ ถนนนานจิง + Pop Mart 🛒 ✔️ วัดพระหยก – ตลาดเฉินหวังเมี่ยว – ถนนอู่คัง – Outlet สุดคุ้ม 🛍️ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ecad2a ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/30a85f LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ShanghaiTrip #Hangzhou #HollywoodStudioChina #เที่ยวจีน #ล่องเรือหรู #แอร์เอเชีย #ทัวร์ราคาดี #ช็อปปิ้งจีน
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เรื่องของคนโคตรรวย (สาขาไทย)
    นิทานเรื่องจริง้รื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 5 : เรื่องของคนโคตรรวย (สาขาประเทศไทย ! ?)
    คงมีคนอยากรู้ ว่าแล้วมีสมันน้อยได้รับเชิญ เข้าไปร่วมใน สมาคมคนรวยผู้มีอิทธิพล Trilateral Commission กันบ้างไหมหนอ แหม!
    ไม่อยากบอกเลย เดี๋ยวจะหาว่าคนเล่านิทานเล่นไม่เลิก นี่ก็ว่าตามเอกสารนะ
    ก็มีล่ะซี ดูจากรายชื่อสมาชิกสมาคมคนรวยผู้มีอิทธิพล Trilateral Commission ปี ค.ศ. 2010 ปรากฎมีคนไทย 4 ราย บางชื่อ ไม่น่าเดากันผิด (555)
    1. นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานธนาคาร Exim แห่งประเทศไทย
    2. มรว. เกษมสโมสร เกษมศรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตปลัดกระทรวง ต่างประเทศ
    3. นายอานันท์ ปันยารชุน
    4. นายสารสิน วีระผล
    ชื่อที่ 3 คงไม่ต้องเขียนบรรยายสรรพคุณกันแล้ว ท่านผู้อ่านที่เคยอ่าน นิทานเรื่องจริง เรื่องจิกโก๋ปากซอย คิดเอาเองได้ คนอ่านนิทานฉลาดกันทั้งนั้น
    แต่ชื่อที่ 4 นายสารสิน วีระผล นี่เป็นใคร มาได้ยังไง ตอบสั้น ว่าไม่รู้ แต่มีเอกสารน่าสนใจเกี่ยวกับนายสารสิน อ่านกันแล้ว ไม่รู้จะเห็นคำตอบกันหรือเปล่า
    อย่างที่เคยเล่าไว้ในนิทานจิกโก๋ปากซอย อเมริกาเมินไทยแลนด์ สมันน้อยไปนาน หลังจากสงครามเวียตนามเลิก จะกลับเข้ามาใหม่ ก็ต้องเริ่มกระชับมิตรกับบรรดานักวิ่งผลัด พี่ทหารที่รักทั้งหลาย ดังนั้นในปี ค.ศ. 2010 ช่วงที่อาเฮียแผ่นดินใหญ่ กำลังรวยเอา รวยเอา ท่านแม่ทัพภาค 7 แห่งกองทัพเรืออเมริกัน ที่ประจำอยู่ที่ฐานทัพอเมริกาที่โอกินาวา ทนไม่ไหวต้องรีบนั่งเรือรบมาเช็คว่าบรรดานักวิ่งผลัด ยังอยู่ในกระเป๋าเหมือนเดิมหรือเปล่า
    ที่จะเล่าต่อไปนี้ อภินันทนาการจาก การทำหล่นของ Wikileaks อ่านกันเพลินดี
    “เรื่อง Admiral Willard มาเยือนประเทศไทย
    รายงานเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010
    โดย เอกอัครราชทูต Eric G. John
    สรุปย่อ ๆ ว่า ท่านนายพล Willard ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพเรืออเมริกา ประจำภาคพื้นแปซิฟิก ได้มาเยี่ยมประเทศไทย เมื่อระหว่างวันที่ 2 ถึง 7 ธันวาคม ค.ศ. 2010 และได้มีการหารือกับผู้นำฝ่ายไทย ฝ่ายไทยยืนยันว่า จะให้ความร่วมมือกับกองทัพอเมริกัน และถือว่าความช่วยเหลือของอเมริกาทางการทหารเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่ง และเป็นการดุลอำนาจในภูมิภาคนี้
    ผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายอเมริกา คือ
    – Admiral Willard
etc
    ผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายไทย
    – นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ เวชาชีวะ
    – รมว.กลาโหม ประวิตร วงศ์สุวรรณ
    – รมว.ตปท. กษิต ภิรมย์
    – ผบ.สส ทรงกิตติ จักกาบาตร์
    นอกจากนี้ Admiral Willard ยังได้หารือกับ ผบ.ทบ อนุพงศ์ เผ่าจินดา รองผบ.ทบ ประยุทธ์ จันท์โอชา รองเลขาธิการ นายก อภิสิทธิ และโฆษกรัฐบาล ดร.ปณิธาน วัฒนายากร รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ซีพี และอดีตนักการทูตระดับสูง นายสารสิน วีระผล และผู้ช่วยบรรณาธิการกลุ่ม Nation Multimedia กวี จงกิจถาวร”
    เขาคุยกันเรื่องการทหาร มีนายกรัฐมนตรีกับนายทหารเข้าร่วมประชุม
กรณี ดร.ปณิธาน นั่นไม่แปลก เพราะเป็นผู้เกี่ยวข้องของรัฐบาลไทย และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ
กรณีนายกวี แปลก แต่ยังพออธิบายได้ว่าเป็นสื่อ แต่ทำไมต้องเป็นสื่อนี้ และคนนี้ วันหลังต้องหาคำตอบมาแก้ข้อข้องใจ (คนเล่านิทาน)
แต่กรณีที่หาคำอธิบายไม่ได้คือ นายสารสิน วีระผล แห่งซีพีกรุ๊ป ซึ่งทำธุรกิจขายอาหารและเมล็ดพันธ์ุพืช และอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งเป็นเจ้าของโทรศัพท์ 2 ล้านเลขหมาย (ถ้าท่านใดเคยอ่านนิทานเรื่องจริง เรื่องจิกโก๋ปากซอย คงพอจำเรื่องนี้ได้นะ ถ้าไม่เคยอ่าน ก็น่าจะกลับไปอ่านกันหน่อย บางเรื่องมันต่อกัน เดี๋ยวเห็นภาพไม่ชัด) แล้วนายสารสิน มาเกี่ยวอะไรด้วยในการสนทนา ! ? !
    เอกสาร Wikileaks นี้ ทำหล่นมา2,3 ปีแล้ว ตอนที่อ่านเอกสาร เห็นชื่อนี้ก็แปลกใจ แต่พอเริ่มเขียนนิทานเรื่องนี้ และไปค้นเอกสารที่เกี่ยวข้อง เจอรายชื่อนี้ ว่าอยู่ใน Trilateral Commission ก็เลยไม่แปลกใจเท่าไหร่แล้ว และยิ่งท่านผู้อ่านนิทาน อ่านนิทานเรื่องนี้ต่อไป อาจหายแปลกใจ แต่จะเปลี่ยนเป็นตกใจเลย หรือไม่ก็ดูกันไปแล้วกัน
    สำหรับชื่อหมายเลข 1 นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ได้ลองค้นประวัติดู ได้ความว่าจบ
เศรษฐศาสตร์ ปริญญาเอก จาก John Hopkins มหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา ผ่านงานมาสารพัด ทั้งด้านธุรกิจและการเงิน เคยดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงพาณิชย์ และเป็นกรรมการนโยบายการเงิน (กนอ.) และอื่นๆ ยาวเหยียดเขียนไม่ไหว แต่ที่น่าสนใจ คือ เป็นผู้จัดทำการวิจัยแนวนโยบายอุตสาหกรรมและการค้า ซึ่งจะกำหนดในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ.2535 – 2539)
    สำหรับหมายเลข 2 มรว.เกษมสโมสร เกษมศรี เคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตไทย ประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน พ.ศ.2518 – 2522 (คนแรก) และตำแหน่งเอกอัครราชฑูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน อเมริกา พ.ศ.2525 – 2529
    ส่วนนายสารสิน วีระผล นั้น เคยรับราชการกระทรวงต่างประเทศ ประจำสถานฑูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง พ.ศ.2522 – 2524 ประจำสถานฑูตไทย ณ กรุงโตเกียว พ.ศ.2529 – 2531 และเป็นเอกอัครราชฑูตไทย ประจำกรุงมนิลา พ.ศ.2535 – 2538
    สำหรับหมายเลข 3 นายอานันท์ ปันยารชุน คงไม่ต้องการคำอธิบายกันมาก

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เรื่องของคนโคตรรวย (สาขาไทย) นิทานเรื่องจริง้รื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 5 : เรื่องของคนโคตรรวย (สาขาประเทศไทย ! ?) คงมีคนอยากรู้ ว่าแล้วมีสมันน้อยได้รับเชิญ เข้าไปร่วมใน สมาคมคนรวยผู้มีอิทธิพล Trilateral Commission กันบ้างไหมหนอ แหม! ไม่อยากบอกเลย เดี๋ยวจะหาว่าคนเล่านิทานเล่นไม่เลิก นี่ก็ว่าตามเอกสารนะ ก็มีล่ะซี ดูจากรายชื่อสมาชิกสมาคมคนรวยผู้มีอิทธิพล Trilateral Commission ปี ค.ศ. 2010 ปรากฎมีคนไทย 4 ราย บางชื่อ ไม่น่าเดากันผิด (555) 1. นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานธนาคาร Exim แห่งประเทศไทย 2. มรว. เกษมสโมสร เกษมศรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตปลัดกระทรวง ต่างประเทศ 3. นายอานันท์ ปันยารชุน 4. นายสารสิน วีระผล ชื่อที่ 3 คงไม่ต้องเขียนบรรยายสรรพคุณกันแล้ว ท่านผู้อ่านที่เคยอ่าน นิทานเรื่องจริง เรื่องจิกโก๋ปากซอย คิดเอาเองได้ คนอ่านนิทานฉลาดกันทั้งนั้น แต่ชื่อที่ 4 นายสารสิน วีระผล นี่เป็นใคร มาได้ยังไง ตอบสั้น ว่าไม่รู้ แต่มีเอกสารน่าสนใจเกี่ยวกับนายสารสิน อ่านกันแล้ว ไม่รู้จะเห็นคำตอบกันหรือเปล่า อย่างที่เคยเล่าไว้ในนิทานจิกโก๋ปากซอย อเมริกาเมินไทยแลนด์ สมันน้อยไปนาน หลังจากสงครามเวียตนามเลิก จะกลับเข้ามาใหม่ ก็ต้องเริ่มกระชับมิตรกับบรรดานักวิ่งผลัด พี่ทหารที่รักทั้งหลาย ดังนั้นในปี ค.ศ. 2010 ช่วงที่อาเฮียแผ่นดินใหญ่ กำลังรวยเอา รวยเอา ท่านแม่ทัพภาค 7 แห่งกองทัพเรืออเมริกัน ที่ประจำอยู่ที่ฐานทัพอเมริกาที่โอกินาวา ทนไม่ไหวต้องรีบนั่งเรือรบมาเช็คว่าบรรดานักวิ่งผลัด ยังอยู่ในกระเป๋าเหมือนเดิมหรือเปล่า ที่จะเล่าต่อไปนี้ อภินันทนาการจาก การทำหล่นของ Wikileaks อ่านกันเพลินดี “เรื่อง Admiral Willard มาเยือนประเทศไทย รายงานเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 โดย เอกอัครราชทูต Eric G. John สรุปย่อ ๆ ว่า ท่านนายพล Willard ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพเรืออเมริกา ประจำภาคพื้นแปซิฟิก ได้มาเยี่ยมประเทศไทย เมื่อระหว่างวันที่ 2 ถึง 7 ธันวาคม ค.ศ. 2010 และได้มีการหารือกับผู้นำฝ่ายไทย ฝ่ายไทยยืนยันว่า จะให้ความร่วมมือกับกองทัพอเมริกัน และถือว่าความช่วยเหลือของอเมริกาทางการทหารเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่ง และเป็นการดุลอำนาจในภูมิภาคนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายอเมริกา คือ – Admiral Willard
etc ผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายไทย – นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ เวชาชีวะ – รมว.กลาโหม ประวิตร วงศ์สุวรรณ – รมว.ตปท. กษิต ภิรมย์ – ผบ.สส ทรงกิตติ จักกาบาตร์ นอกจากนี้ Admiral Willard ยังได้หารือกับ ผบ.ทบ อนุพงศ์ เผ่าจินดา รองผบ.ทบ ประยุทธ์ จันท์โอชา รองเลขาธิการ นายก อภิสิทธิ และโฆษกรัฐบาล ดร.ปณิธาน วัฒนายากร รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ซีพี และอดีตนักการทูตระดับสูง นายสารสิน วีระผล และผู้ช่วยบรรณาธิการกลุ่ม Nation Multimedia กวี จงกิจถาวร” เขาคุยกันเรื่องการทหาร มีนายกรัฐมนตรีกับนายทหารเข้าร่วมประชุม
กรณี ดร.ปณิธาน นั่นไม่แปลก เพราะเป็นผู้เกี่ยวข้องของรัฐบาลไทย และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ
กรณีนายกวี แปลก แต่ยังพออธิบายได้ว่าเป็นสื่อ แต่ทำไมต้องเป็นสื่อนี้ และคนนี้ วันหลังต้องหาคำตอบมาแก้ข้อข้องใจ (คนเล่านิทาน)
แต่กรณีที่หาคำอธิบายไม่ได้คือ นายสารสิน วีระผล แห่งซีพีกรุ๊ป ซึ่งทำธุรกิจขายอาหารและเมล็ดพันธ์ุพืช และอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งเป็นเจ้าของโทรศัพท์ 2 ล้านเลขหมาย (ถ้าท่านใดเคยอ่านนิทานเรื่องจริง เรื่องจิกโก๋ปากซอย คงพอจำเรื่องนี้ได้นะ ถ้าไม่เคยอ่าน ก็น่าจะกลับไปอ่านกันหน่อย บางเรื่องมันต่อกัน เดี๋ยวเห็นภาพไม่ชัด) แล้วนายสารสิน มาเกี่ยวอะไรด้วยในการสนทนา ! ? ! เอกสาร Wikileaks นี้ ทำหล่นมา2,3 ปีแล้ว ตอนที่อ่านเอกสาร เห็นชื่อนี้ก็แปลกใจ แต่พอเริ่มเขียนนิทานเรื่องนี้ และไปค้นเอกสารที่เกี่ยวข้อง เจอรายชื่อนี้ ว่าอยู่ใน Trilateral Commission ก็เลยไม่แปลกใจเท่าไหร่แล้ว และยิ่งท่านผู้อ่านนิทาน อ่านนิทานเรื่องนี้ต่อไป อาจหายแปลกใจ แต่จะเปลี่ยนเป็นตกใจเลย หรือไม่ก็ดูกันไปแล้วกัน สำหรับชื่อหมายเลข 1 นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ได้ลองค้นประวัติดู ได้ความว่าจบ
เศรษฐศาสตร์ ปริญญาเอก จาก John Hopkins มหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา ผ่านงานมาสารพัด ทั้งด้านธุรกิจและการเงิน เคยดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงพาณิชย์ และเป็นกรรมการนโยบายการเงิน (กนอ.) และอื่นๆ ยาวเหยียดเขียนไม่ไหว แต่ที่น่าสนใจ คือ เป็นผู้จัดทำการวิจัยแนวนโยบายอุตสาหกรรมและการค้า ซึ่งจะกำหนดในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ.2535 – 2539) สำหรับหมายเลข 2 มรว.เกษมสโมสร เกษมศรี เคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตไทย ประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน พ.ศ.2518 – 2522 (คนแรก) และตำแหน่งเอกอัครราชฑูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน อเมริกา พ.ศ.2525 – 2529 ส่วนนายสารสิน วีระผล นั้น เคยรับราชการกระทรวงต่างประเทศ ประจำสถานฑูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง พ.ศ.2522 – 2524 ประจำสถานฑูตไทย ณ กรุงโตเกียว พ.ศ.2529 – 2531 และเป็นเอกอัครราชฑูตไทย ประจำกรุงมนิลา พ.ศ.2535 – 2538 สำหรับหมายเลข 3 นายอานันท์ ปันยารชุน คงไม่ต้องการคำอธิบายกันมาก คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 146 Views 0 Reviews
  • GDPไทยไตรมาส 2/68 โต 2.8 % รวมครึ่งปีแรกโต 3.0% สภาพัฒน์ เพิ่มเป้าGDPทั้งปี 68 จาก 1.3-2.3 เป็น 1.8-2.3% ผลจากการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี หลังไทยได้อัตราภาษีสหรัฐ ใกล้เคียงอาเซียน จับตาปัจจัยเสี่ยงครึ่งปีหลัง จากความผันผวนของการค้าโลก ,ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และข้อจำกัดจากปัจจัยภายใน!
    GDPไทยไตรมาส 2/68 โต 2.8 % รวมครึ่งปีแรกโต 3.0% สภาพัฒน์ เพิ่มเป้าGDPทั้งปี 68 จาก 1.3-2.3 เป็น 1.8-2.3% ผลจากการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี หลังไทยได้อัตราภาษีสหรัฐ ใกล้เคียงอาเซียน จับตาปัจจัยเสี่ยงครึ่งปีหลัง จากความผันผวนของการค้าโลก ,ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และข้อจำกัดจากปัจจัยภายใน!
    Haha
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 274 Views 0 0 Reviews
  • นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 2 : NSSM 200 เอกสารลับซุกลึก (1)
    เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ.1974 นาย Henry Kissinger ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง รมว.กลาโหม รมว. การเกษตร ผอ. สำนักงานข่าวกรอง (CIA) ผช.รมว. กลาโหม และผู้บริหารหน่วยงานพัฒนาด้านต่างประเทศ (AID) เกี่ยวกับผลกระทบต่อความมั่นคง และผลประโยชน์ของอเมริกาในต่างประเทศ เนื่องมาจากการเจริญเติบโตของประชากรโลก
    หนังสือดังกล่าวแจ้งว่า ประธานาธิบดี Nixon สั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำการศึกษาเรื่องดังกล่าว โดยใช้วิธีการประมาณการหลายๆ แบบ ในแต่ละแบบจะต้องมีการประเมินถึงอัตราการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะของประเทศที่ยากจน ความต้องการของอเมริกาเกี่ยวกับ การส่งออกสินค้าประเภทอาหาร ปัญหาเกี่ยวกับการค้า ที่อเมริกาอาจจะต้องเผชิญ เนื่องจากการแข่งขันด้านทรัพยากร และความเป็นไปได้ที่การเจริญเติบโตของประชากรดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคกับ นโยบายต่างประเทศ และความไม่มั่นคงระหว่างประเทศ
    การศึกษาดังกล่าวจะต้องเสนอวิธีดำเนินการที่เป็นไปได้ สำหรับอเมริกาในการจัดการปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตของประชากรโลก โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยต้องให้ความสำคัญ ในประเด็นต่อไปนี้ด้วย
    – อเมริกาจำเป็นต้องคิดวิธีการใหม่ ๆ หรือไม่ ในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว
    – เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คิดขึ้นมา เพื่อลดการเจริญเติบโต จะต้องได้ผลดีกว่าสภาพที่เป็นอยู่
    – อเมริกาจะให้ความช่วยเหลือในด้านนี้ ผ่านหน่วยงานใด และควรจะเป็นสนธิสัญญาแบบใด คู่สัญญา 2 ฝ่าย หลายฝ่าย หรือแบบลับเฉพาะ
    เขียนมาซะยาว สรุปสั้น ๆ ว่า อเมริกาเป็นห่วงว่า การที่ประเทศจนๆ จะมีอัตราการขยายตัวของพลเมืองเพิ่มสูงเกินไป จะมีผลกระทบกับทรัพยากรของประเทศนั้น และทำให้เป็นปัญหากับความไม่มั่นคงของอเมริกา
    เอะ! เรื่องมันก็ดูธรรมดาๆ ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้นเลย แล้วจะมาเล่าให้เมื่อยมือคนเขียน เมื่อยตาคนอ่านทำไม
    เมื่อได้รับคำสั่งจากนาย Kissinger สภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา (United States National Security) ก็รีบทำการศึกษาวิจัย กว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาที่ประธานาธิบดี Nixon หลุดจากตำแหน่ง เพราะคดี Watergate ไปเสียแล้ว นาย Gerald Ford ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน มาถึงก็รีบรับไม้ต่อ เอาข้อเสนอตาม บันทึกลับ NSSM 200 ไปประกาศใช้เป็นนโยบายความมั่นคงของประเทศในปี ค.ศ. 1975 และให้อยู่ใต้การกำกับดูแลของนาย Kissinger ซึ่งก็ยังทำหน้าที่เป็น ครมว.ตปท. อยู่เหมือนเดิมร่วมกับนาย Brent Scowcroft (ซึ่งภายหลังได้มาเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประเทศแทนนาย Kissinger) และมี ผอ. CIA ชื่อ นาย George Bush (ตัวพ่อ) เป็นผู้ร่วมทีมกำกับการแสดงกับ รมว.การคลังรมว.กลาโหม และ รมว.การเกษตร
    ประเทศเป้าหมาย ที่อยู่ภายใต้การดำเนินการของ NSSM 200 มี 13 ประเทศ คือ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ ตุรกี ไนจีเรีย อียิปต์ เอธิโอเปีย เมกซิโก โคลัมเบีย และบราซิล (ไง! เริ่มตาลุกขึ้นมาหน่อยละซี พอเห็นชื่อไทยแลนด์ สมันน้อยตื่นเร็ว!)
    อะไรทำให้นาย Kissinger คิดเรื่องนี้ เสนอนโยบายนี้ และในภายหลังได้กลายเป็นนโยบายระดับประเทศด้านความมั่นคงของอเมริกา อย่างปิดลับถึง 15 ปี และทำไมสมันน้อยถึงได้เข้ารอบไปอยู่ใน 13 ประเทศ กับเขาด้วย อ่านต่อไปน่าพี่น้อง ขืนบอกกันง่ายๆ เดี๋ยวคนอ่านหายหมด เดี๋ยวนี้กว่าจะได้คนอ่านนิทานไม่ง่ายนะ เขาไปร่วมไล่โจรกับลุงกำนันกันหมดแล้ว

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 2 : NSSM 200 เอกสารลับซุกลึก (1) เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ.1974 นาย Henry Kissinger ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง รมว.กลาโหม รมว. การเกษตร ผอ. สำนักงานข่าวกรอง (CIA) ผช.รมว. กลาโหม และผู้บริหารหน่วยงานพัฒนาด้านต่างประเทศ (AID) เกี่ยวกับผลกระทบต่อความมั่นคง และผลประโยชน์ของอเมริกาในต่างประเทศ เนื่องมาจากการเจริญเติบโตของประชากรโลก หนังสือดังกล่าวแจ้งว่า ประธานาธิบดี Nixon สั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำการศึกษาเรื่องดังกล่าว โดยใช้วิธีการประมาณการหลายๆ แบบ ในแต่ละแบบจะต้องมีการประเมินถึงอัตราการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะของประเทศที่ยากจน ความต้องการของอเมริกาเกี่ยวกับ การส่งออกสินค้าประเภทอาหาร ปัญหาเกี่ยวกับการค้า ที่อเมริกาอาจจะต้องเผชิญ เนื่องจากการแข่งขันด้านทรัพยากร และความเป็นไปได้ที่การเจริญเติบโตของประชากรดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคกับ นโยบายต่างประเทศ และความไม่มั่นคงระหว่างประเทศ การศึกษาดังกล่าวจะต้องเสนอวิธีดำเนินการที่เป็นไปได้ สำหรับอเมริกาในการจัดการปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตของประชากรโลก โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยต้องให้ความสำคัญ ในประเด็นต่อไปนี้ด้วย – อเมริกาจำเป็นต้องคิดวิธีการใหม่ ๆ หรือไม่ ในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว – เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คิดขึ้นมา เพื่อลดการเจริญเติบโต จะต้องได้ผลดีกว่าสภาพที่เป็นอยู่ – อเมริกาจะให้ความช่วยเหลือในด้านนี้ ผ่านหน่วยงานใด และควรจะเป็นสนธิสัญญาแบบใด คู่สัญญา 2 ฝ่าย หลายฝ่าย หรือแบบลับเฉพาะ เขียนมาซะยาว สรุปสั้น ๆ ว่า อเมริกาเป็นห่วงว่า การที่ประเทศจนๆ จะมีอัตราการขยายตัวของพลเมืองเพิ่มสูงเกินไป จะมีผลกระทบกับทรัพยากรของประเทศนั้น และทำให้เป็นปัญหากับความไม่มั่นคงของอเมริกา เอะ! เรื่องมันก็ดูธรรมดาๆ ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้นเลย แล้วจะมาเล่าให้เมื่อยมือคนเขียน เมื่อยตาคนอ่านทำไม เมื่อได้รับคำสั่งจากนาย Kissinger สภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา (United States National Security) ก็รีบทำการศึกษาวิจัย กว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาที่ประธานาธิบดี Nixon หลุดจากตำแหน่ง เพราะคดี Watergate ไปเสียแล้ว นาย Gerald Ford ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน มาถึงก็รีบรับไม้ต่อ เอาข้อเสนอตาม บันทึกลับ NSSM 200 ไปประกาศใช้เป็นนโยบายความมั่นคงของประเทศในปี ค.ศ. 1975 และให้อยู่ใต้การกำกับดูแลของนาย Kissinger ซึ่งก็ยังทำหน้าที่เป็น ครมว.ตปท. อยู่เหมือนเดิมร่วมกับนาย Brent Scowcroft (ซึ่งภายหลังได้มาเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประเทศแทนนาย Kissinger) และมี ผอ. CIA ชื่อ นาย George Bush (ตัวพ่อ) เป็นผู้ร่วมทีมกำกับการแสดงกับ รมว.การคลังรมว.กลาโหม และ รมว.การเกษตร ประเทศเป้าหมาย ที่อยู่ภายใต้การดำเนินการของ NSSM 200 มี 13 ประเทศ คือ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ ตุรกี ไนจีเรีย อียิปต์ เอธิโอเปีย เมกซิโก โคลัมเบีย และบราซิล (ไง! เริ่มตาลุกขึ้นมาหน่อยละซี พอเห็นชื่อไทยแลนด์ สมันน้อยตื่นเร็ว!) อะไรทำให้นาย Kissinger คิดเรื่องนี้ เสนอนโยบายนี้ และในภายหลังได้กลายเป็นนโยบายระดับประเทศด้านความมั่นคงของอเมริกา อย่างปิดลับถึง 15 ปี และทำไมสมันน้อยถึงได้เข้ารอบไปอยู่ใน 13 ประเทศ กับเขาด้วย อ่านต่อไปน่าพี่น้อง ขืนบอกกันง่ายๆ เดี๋ยวคนอ่านหายหมด เดี๋ยวนี้กว่าจะได้คนอ่านนิทานไม่ง่ายนะ เขาไปร่วมไล่โจรกับลุงกำนันกันหมดแล้ว คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก ตอนที่ 4

    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก (4)
    เพื่อเป็นการเตรียมปฎิบัติการกระชากสร้อย ให้สมบูรณ์ อเมริกาได้ปรับปรุงฐานทัพตนเอง
    ที่ตั้งอยู่ที Okinawa ใ้ห้เป็นศูนย์กลางของกองทัพในการรับมือกับจีน
    ปี 2010 มีทหารอเมริกัน จำนวน 35,000 นาย กับ พลเรือนที่กินเงินเดือนรัฐบาล อีกจำนวน
    5,500 นาย ประจำอยู่ที่ฐานทัพนี้ ยังมีกองทัพเรือที่ 7 อยู่ที่ Yukosuku และหน่วย
    นาวิกโยธิน อยู่ที่ Okinawa กับเครื่องบินรบของกองทัพอากาศ อีก 130 ลำ อยู่ที่
    ฐานทัพอากาศ Misawa และ Kadena นี่ยังไม่นับทหารอีก 45,000 นาย ที่ประจำการอยู่ที่เกาหลีใต้
    นอกจากนี้ อเมริกายังมีฐานทัพใหญ่ แอบอยู่ที่เกาะDiego Garcia แถวมหาสมุทรอินเดีย
    ปี 1971 กองทัพอเมริกาได้ขับไล่ชาวเกาะ ที่อาศัยอยู่ที่เกาะนี้ออกไปทั้งหมด เพื่อยึดเกาะนี้สร้างฐานทัพใหญ่ และจากฐานทัพนี้แหละที่อเมริกาดำเนินภาระกิจต่ออิรัค และ อัฟกานิสถาน
    ไม่ใช่แค่นั้น ปฏิบัติการกระชากสร้อย ยังมีส่วนที่น่าสนใจยิ่ง สำหรับสมันน้อย
    เพื่อเป็นกุญแจ 2 ชั้น กันจีนไม่ให้ผงาดทาบอเมริกาสำเร็จ และเข้าถึงแหล่งน้ำมัน
    ยากขึ้น อเมริกาจึงจัดหนัก ส่งออกสินค้าประเภท “Arab Spring” ไปทั่ว
    ระหว่าง ที่ประชาชนเรือนล้าน ใน ตูนีเซีย ลิเบีย อียิปต์ และ อีกหลายๆแห่ง ทีกระหายในเสรีภาพและประชาธิปไตย เป็นเรื่องจริง แต่เขาเหล่านั้น ก็ตกเป็นเหยื่อ ของยุทธศาสตร์การสร้างความโกลาหล ที่มีการจัดให้เกิดขึ้นในโลกอิสลาม ที่อุดมด้วยน้ำมัน ตั้งแต่ ลิเบีย ในอาฟริกาเหนือ ไล่มาจนถึงซีเรียและ อิหร่าน ในตะวันออกกลาง
    แล้วแน่ใจไหมว่า สินค้าประเภท Spring นั้นจิ๊กโก๋ส่งมาให้ไทยแลนด์ด้วยหรือเปล่า ดูกันให้ดีๆแล้วกัน สมันน้อย
    ความอยากได้น้ำมันของอเมริกา และความไม่อยากให้จีนได้น้ำมัน คืบไปเกือบทุกพื้นที่ในโลก ที่มี หรือคาดว่ามีน้ำมัน
    จีนประเมินว่า ทะเลจีนใต้ มีน้ำมันดิบประมาณ 18,000ล้านตัน (เทียบกับคูเวต ที่มี
    13,000ตัน) และประเมินว่า อาจมีแหล่งน้ำมัน แถวหมู่เกาะ Spratly และ Paraceในบริเวณทะเลจีนใต้ สูงถึงประมาณ 105,000 บาเรล และทั่วบริเวณทะเลจีนใต้ อาจเป็นตัวเลขสูงถึง 213,000 บาเรล
    ไม่น่าแปลก ที่ทะเลจีนใต้ถึงเป็นประเด็นร้อน เป็นที่ต้องการของประเทศแถวนั้น รวมทั้งประเทศที่อยู่คนละฝากของโลก อเมริกา พยายามเข้าไปขัดขา โดยใช้อิทธิพลทางการค้า
    ที่มีกับเวียตนาม
    และเมื่อเดือน กรกฎาคม 2012 เวียตนาม ก็ผ่านกฏหมายกำหนดเขต
    แดนทางทะเลเสียใหม่ ซึ่งเหมารวมหมู่เกาะ Spratly และ Paracel เข้าไปด้วย ทั้งนี้โดยการสนับสนุนอย่างสุดตัว ของอเมริกา
    เพื่อให้เนียน ปี 2010 บริษัทน้ำมันใหญ่ ของอเมริกา และ อังกฤษ ได้พากันไปยื่นประมูลการ สำรวจน้ำมัน ในทะเลจีนใต้ การประมูลของ Chevron และ BP
    เป็นกลยุทธที่อเมริกา เอาไว้อ้าง สำหรับการยกทัพเข้าไปปกป้องผลประโยชน์ของตนในทะเลจีนใต้
    เล่านิทานตอน ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุกมา เพื่อให้คนอ่านนิทานเห็นภาพ ของ
    หมากล้อม ที่เขากำลังเล่นกันอยู่ เผื่อจะสนใจกันบ้าง
    เข้าใจหรอกว่า ตอนนี้ท่านผู้อ่านเกือบทุกคน กำลังสนใจ กลุ้มใจ ฯลฯ รวมทั้ง นั่งตากแดด ตากฝน ประกาศให้รู้ว่า เราไม่เอากฎหมายนิรโทษกรรม
    (คนเขียนนิทานก็ไม่เอาครับ)
    แต่อย่าลืมเรื่องกรณีเวียตนาม ที่ออกกฏหมายกำหนดเขตแดนทางทะเลใหม่
    แล้วนึกถึงเขมร เขาพระวิหาร และ รัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่ เขาเพิ่งใช้เสียงข้างมาก
    ขโมยสิทธิ ในการรับรู้ของเราไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 พย นี้เอง รวมทั้งสินค้าส่งออกยี่ห้อ Spring กันบ้าง
    จิ๊กโก๋ ยังไม่ได้เปลี่ยนนิสัยสันดาน เล่ห์เหลียมที่ใช้ ก็ เดิมๆ เรื่องมันเหมือนใหม่ แต่ให้ตายเถอะ มันแค่เปลี่ยนฉาก เปลี่ยนตัวเล่น แค่นั้นเอง
    สวัสดีครับ

    คนเล่านิทาน
    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก ตอนที่ 4 ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก (4) เพื่อเป็นการเตรียมปฎิบัติการกระชากสร้อย ให้สมบูรณ์ อเมริกาได้ปรับปรุงฐานทัพตนเอง ที่ตั้งอยู่ที Okinawa ใ้ห้เป็นศูนย์กลางของกองทัพในการรับมือกับจีน ปี 2010 มีทหารอเมริกัน จำนวน 35,000 นาย กับ พลเรือนที่กินเงินเดือนรัฐบาล อีกจำนวน 5,500 นาย ประจำอยู่ที่ฐานทัพนี้ ยังมีกองทัพเรือที่ 7 อยู่ที่ Yukosuku และหน่วย นาวิกโยธิน อยู่ที่ Okinawa กับเครื่องบินรบของกองทัพอากาศ อีก 130 ลำ อยู่ที่ ฐานทัพอากาศ Misawa และ Kadena นี่ยังไม่นับทหารอีก 45,000 นาย ที่ประจำการอยู่ที่เกาหลีใต้ นอกจากนี้ อเมริกายังมีฐานทัพใหญ่ แอบอยู่ที่เกาะDiego Garcia แถวมหาสมุทรอินเดีย ปี 1971 กองทัพอเมริกาได้ขับไล่ชาวเกาะ ที่อาศัยอยู่ที่เกาะนี้ออกไปทั้งหมด เพื่อยึดเกาะนี้สร้างฐานทัพใหญ่ และจากฐานทัพนี้แหละที่อเมริกาดำเนินภาระกิจต่ออิรัค และ อัฟกานิสถาน ไม่ใช่แค่นั้น ปฏิบัติการกระชากสร้อย ยังมีส่วนที่น่าสนใจยิ่ง สำหรับสมันน้อย เพื่อเป็นกุญแจ 2 ชั้น กันจีนไม่ให้ผงาดทาบอเมริกาสำเร็จ และเข้าถึงแหล่งน้ำมัน ยากขึ้น อเมริกาจึงจัดหนัก ส่งออกสินค้าประเภท “Arab Spring” ไปทั่ว ระหว่าง ที่ประชาชนเรือนล้าน ใน ตูนีเซีย ลิเบีย อียิปต์ และ อีกหลายๆแห่ง ทีกระหายในเสรีภาพและประชาธิปไตย เป็นเรื่องจริง แต่เขาเหล่านั้น ก็ตกเป็นเหยื่อ ของยุทธศาสตร์การสร้างความโกลาหล ที่มีการจัดให้เกิดขึ้นในโลกอิสลาม ที่อุดมด้วยน้ำมัน ตั้งแต่ ลิเบีย ในอาฟริกาเหนือ ไล่มาจนถึงซีเรียและ อิหร่าน ในตะวันออกกลาง แล้วแน่ใจไหมว่า สินค้าประเภท Spring นั้นจิ๊กโก๋ส่งมาให้ไทยแลนด์ด้วยหรือเปล่า ดูกันให้ดีๆแล้วกัน สมันน้อย ความอยากได้น้ำมันของอเมริกา และความไม่อยากให้จีนได้น้ำมัน คืบไปเกือบทุกพื้นที่ในโลก ที่มี หรือคาดว่ามีน้ำมัน จีนประเมินว่า ทะเลจีนใต้ มีน้ำมันดิบประมาณ 18,000ล้านตัน (เทียบกับคูเวต ที่มี 13,000ตัน) และประเมินว่า อาจมีแหล่งน้ำมัน แถวหมู่เกาะ Spratly และ Paraceในบริเวณทะเลจีนใต้ สูงถึงประมาณ 105,000 บาเรล และทั่วบริเวณทะเลจีนใต้ อาจเป็นตัวเลขสูงถึง 213,000 บาเรล ไม่น่าแปลก ที่ทะเลจีนใต้ถึงเป็นประเด็นร้อน เป็นที่ต้องการของประเทศแถวนั้น รวมทั้งประเทศที่อยู่คนละฝากของโลก อเมริกา พยายามเข้าไปขัดขา โดยใช้อิทธิพลทางการค้า ที่มีกับเวียตนาม และเมื่อเดือน กรกฎาคม 2012 เวียตนาม ก็ผ่านกฏหมายกำหนดเขต แดนทางทะเลเสียใหม่ ซึ่งเหมารวมหมู่เกาะ Spratly และ Paracel เข้าไปด้วย ทั้งนี้โดยการสนับสนุนอย่างสุดตัว ของอเมริกา เพื่อให้เนียน ปี 2010 บริษัทน้ำมันใหญ่ ของอเมริกา และ อังกฤษ ได้พากันไปยื่นประมูลการ สำรวจน้ำมัน ในทะเลจีนใต้ การประมูลของ Chevron และ BP เป็นกลยุทธที่อเมริกา เอาไว้อ้าง สำหรับการยกทัพเข้าไปปกป้องผลประโยชน์ของตนในทะเลจีนใต้ เล่านิทานตอน ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุกมา เพื่อให้คนอ่านนิทานเห็นภาพ ของ หมากล้อม ที่เขากำลังเล่นกันอยู่ เผื่อจะสนใจกันบ้าง เข้าใจหรอกว่า ตอนนี้ท่านผู้อ่านเกือบทุกคน กำลังสนใจ กลุ้มใจ ฯลฯ รวมทั้ง นั่งตากแดด ตากฝน ประกาศให้รู้ว่า เราไม่เอากฎหมายนิรโทษกรรม (คนเขียนนิทานก็ไม่เอาครับ) แต่อย่าลืมเรื่องกรณีเวียตนาม ที่ออกกฏหมายกำหนดเขตแดนทางทะเลใหม่ แล้วนึกถึงเขมร เขาพระวิหาร และ รัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่ เขาเพิ่งใช้เสียงข้างมาก ขโมยสิทธิ ในการรับรู้ของเราไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 พย นี้เอง รวมทั้งสินค้าส่งออกยี่ห้อ Spring กันบ้าง จิ๊กโก๋ ยังไม่ได้เปลี่ยนนิสัยสันดาน เล่ห์เหลียมที่ใช้ ก็ เดิมๆ เรื่องมันเหมือนใหม่ แต่ให้ตายเถอะ มันแค่เปลี่ยนฉาก เปลี่ยนตัวเล่น แค่นั้นเอง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 245 Views 0 Reviews
  • ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก ตอนที่ 3

    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก (3)
    เอ้า มาดูบทกระชากสร้อยของคุณนายกันหน่อย
    ตามข้อตกลง การผ่อนคลายการคว่ำบาตร ทำให้อเมริกาเปลี่ยนสถานะเป็นผู้จัดการ
    ประเทศพม่า รัฐบาลอเมริกันทำหน้าที่เป็นผู้คัดเลือก บริษัทอเมริกันที่จะมาลงทุนในพม่า เป้าหมายคือการเปิดการลงทุนเสรีในพม่า (คุ้นจัง!) เป็นการนำพม่าไปสู่การไม่มีเสถียรภาพอย่างไม่มีทางเลือก
    ทุนเสรีกำลังเดินทางเข้าพม่า อย่างเร่งรีบ เอ้า พี่หม่อง เร้ว มาเข้ากลุ่มสมาคมสมันน้อยกันได้แล้ว
    นอกจากนั้น อเมริกา ยังทำหน้าที่ ผู้กำกับการลงทุน กลต. ให้กับพม่า บริษัทใดที่มีกลุ่มทหารพม่าหรือมีส่วนเกี่ยวกับ กระทรวงกลาโหม ถือหุ้น อเมริกาถือเป็นเขื่อนไขในการพิจารณาการผ่อนปรนการคว่ำบาตร
    ยัง ยังไม่พอ
    อเมริกายังสวมบทบาท สภาปฎิรูปให้พม่าแถมไปด้วย โดยระบุเงื่อนไขว่า
    มันผู้ใดก็ตาม ที่ไม่สนับสนุนขบวนการปฏิรูปประเทศ ไม่เฝ้าระวังการละเมิดสิทธิ
    มนุษยชน หรือทำการค้าขายกับทหารพม่า หรือเกาหลีเหนือ ห้ามเข้ามาร่วมขบวน
    การชำเรา เอ๊ย เปิดเสรีร่วมกับอเมริกา
    อเมริกาบอก เราใช้นโยบาย เด็กดีให้อมยิ้ม เด็กดื้อให้อมไม้บันทัด น่ากลัวจัง
    ที่เหลือเชื่อ อเมริกาทำตัวเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งพม่า กำหนดเงื่อนไข การจ่ายเงิน
    การโอนเงิน การทำรายงาน ฯลฯ เพื่อจะได้กรองให้ชัดๆ ว่ามีอาเฮีย หรือสมุน แจมมาด้วยหรือเปล่า พี่หม่อง นี่ ทำท่าจะชิง ตำแหน่งสมันน้อย ไปซะแล้ว จากสมันน้อยนุ่ง
    โจงกระเบน เป็นสมันน้อยนุ่งโสร่ง
    นอกจากนั้น ตามเงื่อนไขที่คุณนายคลินตันกำหนด ยังสนับสนุนให้บรรดา องค์การ
    สิทธิมนุษยชน NGO ซึ่ง ใกล้ชิด หรือเกี่ยวกับรัฐบาลอเมริกา ให้เข้าไปร่วมดูแลพม่า
    อีกด้วย ตั้งแต่ 20 เมย 2012 เป็นต้นมา
    สำหรับประเทศไทย ไข่มุกเม็ดสำคัญ ในยุทธการกระชากสร้อย เขาจะเอาไปห้อย
    ตรงไหนนะ
    ในรายงานของ Pentagon ระบุว่า ภายใต้การนำของนายกคนปัจจุบัน ซึ่งเป็น
    น้องสาวของนายทักษิณ มหาเศรษฐี อดีตนายกที่อเมริกาสนับสนุน สัมพันธภาพ
    ระหว่างไทย กับ อเมริกาก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ไปตามทิศทางของยุทธศาสตร์กระชากสร้อย
    Pentagon ได้เจรจาอย่างเงียบเชียบกับรัฐบาลไทย ที่จะกลับมาใช้อู่ตะเภา ฐานทัพ
    ในประเทศไทย ที่อเมริกาได้สร้างตั้งแต่สงครามเวียตนาม เป็นฐานทัพที่มี runway
    ที่ยาว ถึง 2 กม เป็น runway ที่ยาวที่สุดในเอเซีย และพยายามจะให้กองทัพเรือ
    อเมริกา เข้ามาใช้ท่าเรือของไทยได้มากขึ้น เพื่อใช้จับตาดูการเคลื่อนไหว เส้นทาง
    ลำเลียงสินค้า และการเคลื่อนไหวทางทหารของจีน
    แล้วชาวเรารู้เรื่องนี้กันบ้างไหม
    หรือจะปล่อยให้อยู่แต่ในความดูแลของรัฐบาลและคุณพี่ทหารนักวิ่งพลัด เหมือนเมื่อ 50 ปีก่อน

    คนเล่านิทาน
    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก ตอนที่ 3 ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก (3) เอ้า มาดูบทกระชากสร้อยของคุณนายกันหน่อย ตามข้อตกลง การผ่อนคลายการคว่ำบาตร ทำให้อเมริกาเปลี่ยนสถานะเป็นผู้จัดการ ประเทศพม่า รัฐบาลอเมริกันทำหน้าที่เป็นผู้คัดเลือก บริษัทอเมริกันที่จะมาลงทุนในพม่า เป้าหมายคือการเปิดการลงทุนเสรีในพม่า (คุ้นจัง!) เป็นการนำพม่าไปสู่การไม่มีเสถียรภาพอย่างไม่มีทางเลือก ทุนเสรีกำลังเดินทางเข้าพม่า อย่างเร่งรีบ เอ้า พี่หม่อง เร้ว มาเข้ากลุ่มสมาคมสมันน้อยกันได้แล้ว นอกจากนั้น อเมริกา ยังทำหน้าที่ ผู้กำกับการลงทุน กลต. ให้กับพม่า บริษัทใดที่มีกลุ่มทหารพม่าหรือมีส่วนเกี่ยวกับ กระทรวงกลาโหม ถือหุ้น อเมริกาถือเป็นเขื่อนไขในการพิจารณาการผ่อนปรนการคว่ำบาตร ยัง ยังไม่พอ อเมริกายังสวมบทบาท สภาปฎิรูปให้พม่าแถมไปด้วย โดยระบุเงื่อนไขว่า มันผู้ใดก็ตาม ที่ไม่สนับสนุนขบวนการปฏิรูปประเทศ ไม่เฝ้าระวังการละเมิดสิทธิ มนุษยชน หรือทำการค้าขายกับทหารพม่า หรือเกาหลีเหนือ ห้ามเข้ามาร่วมขบวน การชำเรา เอ๊ย เปิดเสรีร่วมกับอเมริกา อเมริกาบอก เราใช้นโยบาย เด็กดีให้อมยิ้ม เด็กดื้อให้อมไม้บันทัด น่ากลัวจัง ที่เหลือเชื่อ อเมริกาทำตัวเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งพม่า กำหนดเงื่อนไข การจ่ายเงิน การโอนเงิน การทำรายงาน ฯลฯ เพื่อจะได้กรองให้ชัดๆ ว่ามีอาเฮีย หรือสมุน แจมมาด้วยหรือเปล่า พี่หม่อง นี่ ทำท่าจะชิง ตำแหน่งสมันน้อย ไปซะแล้ว จากสมันน้อยนุ่ง โจงกระเบน เป็นสมันน้อยนุ่งโสร่ง นอกจากนั้น ตามเงื่อนไขที่คุณนายคลินตันกำหนด ยังสนับสนุนให้บรรดา องค์การ สิทธิมนุษยชน NGO ซึ่ง ใกล้ชิด หรือเกี่ยวกับรัฐบาลอเมริกา ให้เข้าไปร่วมดูแลพม่า อีกด้วย ตั้งแต่ 20 เมย 2012 เป็นต้นมา สำหรับประเทศไทย ไข่มุกเม็ดสำคัญ ในยุทธการกระชากสร้อย เขาจะเอาไปห้อย ตรงไหนนะ ในรายงานของ Pentagon ระบุว่า ภายใต้การนำของนายกคนปัจจุบัน ซึ่งเป็น น้องสาวของนายทักษิณ มหาเศรษฐี อดีตนายกที่อเมริกาสนับสนุน สัมพันธภาพ ระหว่างไทย กับ อเมริกาก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ไปตามทิศทางของยุทธศาสตร์กระชากสร้อย Pentagon ได้เจรจาอย่างเงียบเชียบกับรัฐบาลไทย ที่จะกลับมาใช้อู่ตะเภา ฐานทัพ ในประเทศไทย ที่อเมริกาได้สร้างตั้งแต่สงครามเวียตนาม เป็นฐานทัพที่มี runway ที่ยาว ถึง 2 กม เป็น runway ที่ยาวที่สุดในเอเซีย และพยายามจะให้กองทัพเรือ อเมริกา เข้ามาใช้ท่าเรือของไทยได้มากขึ้น เพื่อใช้จับตาดูการเคลื่อนไหว เส้นทาง ลำเลียงสินค้า และการเคลื่อนไหวทางทหารของจีน แล้วชาวเรารู้เรื่องนี้กันบ้างไหม หรือจะปล่อยให้อยู่แต่ในความดูแลของรัฐบาลและคุณพี่ทหารนักวิ่งพลัด เหมือนเมื่อ 50 ปีก่อน คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • ประชาชนเรายึดอำนาจเถอะ,จากนั้นลงมติ สร้างรั้วลวดหนามแบบเวียดนามหนาแน่นนั้นเลย มรึงก็ไปรักษาโรงพยาบาลเขมรมรึงเถอะ ประเทศใครประเทศมันปิดด่านถาวรจริงจังเลย อยู่ใครอยู่มันเงียบๆสัก10-20ปีไปก่อน,ห้ามคนไทยไปเขมรเด็ดขาดจะไม่รับรองความปลอดภัยใดๆ,แต่ถ้าเขมรลักพาตัว สถานที่ราชการเขมรจะถูกไทยระเบิดทิ้งหากไม่จับกุมคนลักพาตัวคนไทยมาลงโทษและไม่ส่งตัวคนไทยเรากลับมาคืนอย่างปลอดภัย,ตัดสายสัมพันธ์ค้าขายทั้งหมดกับเขมร ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ตตัดสายเคเบิล ตัดถนนรถไฟเชื่อมไปหาเขมรทั้งหมดทันที,แรงงานเขมรส่งกลับเขมรทั้งหมดที่อยู่ประเทศไทยไม่มีเงื่อนไขใดๆให้อยู่ต่อทุกๆกรณี,ไทยเราต้องเด็ดขาดจริงๆนะ อย่าเลอะเทอะแบบปัจจุบัน,อย่าอ้างเมตตาสงสารใดๆเลย เกิดชาติหน้ามาเกิดบนแผ่นดินไทยก็แล้วกัน ชาติปัจจุบันนี้เราปกป้องคนไทยดูแลคนไทยเราก่อนคืออันดับแรกในภัยคุกคามความขัดแย้งรุกรานอธิปไตยไทย เกลียดชังประเทศไทยว่าไทยคือโจรสยามก็ว่า เคลมสาระพัดต่างๆของไทย ว่ากล่าวด่าทอคนไทยสินค้าไทย เนรคุณคนไทย,เรา..ประเทศไทยต้องเด็ดขาดจริงๆ,มันจะเป็นจะตายมิใช่สถานะคนไทยไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป,โรงงานใดเมตตาสงสารคนเขมรก็รับความเสี่ยงเองไปตั้งฐานผลิตที่เขมร,แต่ทุกๆสินค้าบริการของเขมรทั้งหมด ประเทศไทยห้ามนำเข้าและยกเลิกการค้าขายกับเขมรทั้งหมด ยกเลิกธุรกรรมกิจการใดๆกับเขมรทั้งหมด,ส่วนชาติใดค้าขายกับเขมร ช่วยเหลือเขมรที่เป็นภัยความมั่นคงกับเราโดยเฉพาะภูมิภาคนี้เราประเทศไทยจะกลับไปพิจารณาประเทศนั้นๆอย่างมีสติปัญญาและรอบคอบที่สุด,
    ..
    ..เรา..ประชาชนคนไทยต้องสั่งสอนเขมรจริงจังได้แล้ว,โรงงานกิจการใดๆที่ใช้คนเขมรต่างพิจารณาสถานะใหม่จริงๆด้วย.,คนเขมรเขามีวิถีคนเขมรเอง,มาใช้วิถีเขมรบนแผ่นดินวิถีไทยแบบเนรคุณหักหลังทรยศว่ากล่าวด่าดูถูกเรามาเก่งกล้าสามารถตีลูกตีหลานฆ่าเด็กๆเราฆ่าลูกฆ่าหลานคนไทยเราประชาชนผู้บริสุทธิ์เรา ,หมายยึดบ้านยึดเมืองเรามันสมควรมั้ย.
    ..
    https://youtube.com/shorts/jakwmzORgoc?si=l9z9DBpc1kjOSd6J
    ประชาชนเรายึดอำนาจเถอะ,จากนั้นลงมติ สร้างรั้วลวดหนามแบบเวียดนามหนาแน่นนั้นเลย มรึงก็ไปรักษาโรงพยาบาลเขมรมรึงเถอะ ประเทศใครประเทศมันปิดด่านถาวรจริงจังเลย อยู่ใครอยู่มันเงียบๆสัก10-20ปีไปก่อน,ห้ามคนไทยไปเขมรเด็ดขาดจะไม่รับรองความปลอดภัยใดๆ,แต่ถ้าเขมรลักพาตัว สถานที่ราชการเขมรจะถูกไทยระเบิดทิ้งหากไม่จับกุมคนลักพาตัวคนไทยมาลงโทษและไม่ส่งตัวคนไทยเรากลับมาคืนอย่างปลอดภัย,ตัดสายสัมพันธ์ค้าขายทั้งหมดกับเขมร ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ตตัดสายเคเบิล ตัดถนนรถไฟเชื่อมไปหาเขมรทั้งหมดทันที,แรงงานเขมรส่งกลับเขมรทั้งหมดที่อยู่ประเทศไทยไม่มีเงื่อนไขใดๆให้อยู่ต่อทุกๆกรณี,ไทยเราต้องเด็ดขาดจริงๆนะ อย่าเลอะเทอะแบบปัจจุบัน,อย่าอ้างเมตตาสงสารใดๆเลย เกิดชาติหน้ามาเกิดบนแผ่นดินไทยก็แล้วกัน ชาติปัจจุบันนี้เราปกป้องคนไทยดูแลคนไทยเราก่อนคืออันดับแรกในภัยคุกคามความขัดแย้งรุกรานอธิปไตยไทย เกลียดชังประเทศไทยว่าไทยคือโจรสยามก็ว่า เคลมสาระพัดต่างๆของไทย ว่ากล่าวด่าทอคนไทยสินค้าไทย เนรคุณคนไทย,เรา..ประเทศไทยต้องเด็ดขาดจริงๆ,มันจะเป็นจะตายมิใช่สถานะคนไทยไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป,โรงงานใดเมตตาสงสารคนเขมรก็รับความเสี่ยงเองไปตั้งฐานผลิตที่เขมร,แต่ทุกๆสินค้าบริการของเขมรทั้งหมด ประเทศไทยห้ามนำเข้าและยกเลิกการค้าขายกับเขมรทั้งหมด ยกเลิกธุรกรรมกิจการใดๆกับเขมรทั้งหมด,ส่วนชาติใดค้าขายกับเขมร ช่วยเหลือเขมรที่เป็นภัยความมั่นคงกับเราโดยเฉพาะภูมิภาคนี้เราประเทศไทยจะกลับไปพิจารณาประเทศนั้นๆอย่างมีสติปัญญาและรอบคอบที่สุด, .. ..เรา..ประชาชนคนไทยต้องสั่งสอนเขมรจริงจังได้แล้ว,โรงงานกิจการใดๆที่ใช้คนเขมรต่างพิจารณาสถานะใหม่จริงๆด้วย.,คนเขมรเขามีวิถีคนเขมรเอง,มาใช้วิถีเขมรบนแผ่นดินวิถีไทยแบบเนรคุณหักหลังทรยศว่ากล่าวด่าดูถูกเรามาเก่งกล้าสามารถตีลูกตีหลานฆ่าเด็กๆเราฆ่าลูกฆ่าหลานคนไทยเราประชาชนผู้บริสุทธิ์เรา ,หมายยึดบ้านยึดเมืองเรามันสมควรมั้ย. .. https://youtube.com/shorts/jakwmzORgoc?si=l9z9DBpc1kjOSd6J
    0 Comments 0 Shares 164 Views 0 Reviews
  • ‘สงครามการค้าโลก’ ปลุกปรับการผลิตครั้งใหญ่! : [Biz Talk]

    ภาษีสหรัฐ 19% เป็น wake-up call ให้ไทย ต้องเร่งสำรวจการใช้ Local Content เพื่อลดความเสี่ยงภาษีสินค้าสวมสิทธิ (transshipment) ที่อาจถูกสหรัฐ เรียกเก็บสูงถึง 40% และใช้โอกาสนี้ ลุยปรับโครงสร้างการผลิต เพิ่มขีดแข่งขันให้ประเทศ ช่วยผู้ประกอบการไทย อยู่รอดได้ภายใต้การค้าโลกรูปแบบใหม่
    ‘สงครามการค้าโลก’ ปลุกปรับการผลิตครั้งใหญ่! : [Biz Talk] ภาษีสหรัฐ 19% เป็น wake-up call ให้ไทย ต้องเร่งสำรวจการใช้ Local Content เพื่อลดความเสี่ยงภาษีสินค้าสวมสิทธิ (transshipment) ที่อาจถูกสหรัฐ เรียกเก็บสูงถึง 40% และใช้โอกาสนี้ ลุยปรับโครงสร้างการผลิต เพิ่มขีดแข่งขันให้ประเทศ ช่วยผู้ประกอบการไทย อยู่รอดได้ภายใต้การค้าโลกรูปแบบใหม่
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 369 Views 0 0 Reviews
  • ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก ตอนที่ 2

    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก (2)
    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุกอ้างว่า จีนได้นำไข่มุกงามแต่ละเม็ด มาร้อยเรียงกันเอาไว้สวมใส่
    ติดตัว ไม่มีขาย ไม่มีแบ่ง เช่น
    – บังคลาเทศ : จีนกำลังสร้างสัมพันธ์กับรัฐบาล และมีข้อตกลงที่จะเอี่ยวใช้ท่าเรือ
    ที่จิตตะกอง
    – พม่า : จีนสร้างสัมพันธ์อันดีเยี่ยมกับกองทัพ จนพม่าหลวมตัว ให้จีนสร้างฐานทัพเรือและเครื่องตรวจจับ อีเลคโทรนิกส์ เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวทางเรือแถวอ่าวเบงกอล และบริเวณช่องแคบมะละกา นี่ยังไม่นับเงินช่วยเหลือทางทหาร อีกหลายพันล้านเหรียญ ที่จีนควักกระเป๋าให้แบบไม่เสียดาย
    – เขมร : จีนทำสัญญา ให้ความร่วมมือทางทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ เมื่อปี 2003
    รวมทั้งรวมฝึกซ้อมรบด้วยกัน เขมรเองก็ให้ความร่วมมือจีน ในการสร้างทางรถไฟ
    จากทางใต้ของจีน มาสู่ทะเล
    – ไทย : จีนเสนอเงินให้ไทย จำนวน 20,00 ล้านเหรียญ เพื่อใช้ในการสร้างคลองเป็นทางเดินเรือบริเวณคอคอดกระ ซึ่งจะทำให้เรือบรรทุกสินค้าทั้งหลาย ไม่ต้องเสียเวลา
    ไปวิ่งผ่านช่องแคบมะละกา โครงการนี้ถ้าเกิด จะทำให้จีนเพิ่มอิทธิพล และควบคุม
    ภูมิภาคนี้ได้
    แบบนี้อเมริกาย่อมไม่ยอมอยู่เฉยกับการเตรียมตัว สวมสร้อยมุกของจีน
    คุณเอามุกมาร้อยได้ เราก็กระชากให้ขาดได้เช่นกัน จีนไปทางไหน อเมริกาก็จะตามไปประกบ แบบแกะไม่ออกเลยล่ะ
    ยุทธการกระชากสร้อยจึงเริ่มขึ้นอย่างเงียบๆ แต่เอาจริง
    มุกเม็ดงาม เม็ดใหม่เพิ่งนำออกสู่ตลาด น่าขะโมยที่สุด คือพม่า
    พม่าปกครองด้วยรัฐบาลเผด็จการทหาร กว่า 40 ปี อเมริกาบอกไม่เป็นประชาธิปไตย ประกาศคว่ำบาตรทางเศรษกิจพม่า มาตั้งแต่ปี 2003
    ทำเอาประชาชนชาวพม่าจนแล้วจนอีก ต้องส่งแม่บ้านพม่าเป็นสินค้าออกสำคัญ
    แล้วไง วันดี คืนดี ปี 2012 คุณนายคลินตัน ก็บุกเข้าพม่าพร้อมกับบอกว่า พร้อมที่จะทบทวน
    เรื่อง การคว่ำบาตร แต่หลังฉากเขาลือกันว่า น่าจะเกี่ยวกับข่าวที่ว่า จีนกำลังก่อสร้างท่อส่งน้ำมันและก๊าซ จากมณทลยูนนาน (ยูนนาน อีก แล้ว!)
    มาตามเส้นทางถนนเก่าของพม่า ข้ามไปอินเดีย บังคลาเทศ ออกไปยังอ่าวเบงกอล
    หลังจากนั้นรัฐบาลพม่า เริ่มการเจรจาการค้ากับโลกตะวันตก
    ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีการเจรจา ปล่อยตัวคุณน้าอองซาน ซึ่งอเมริกาทั้งอุ้มทั้งชู
    ให้ มีสิทธิที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน กับการที่คุณนายคลินตัน ทำท่าใจดี ว่าจะพิจารณาการผ่อนคลาย การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และนำนักลงทุนมาช่วยเพิ่มการลงทุน การผลิตในพม่า
    ฟังดูสวยหรู แต่สคริปต์มันโบราณไปหน่อยไหมคุณนาย แบบนี้ สมันน้อย ไทยแลนด์ฟังมา 50 ปีแล้ว 555

    คนเล่านิทาน
    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก ตอนที่ 2 ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก (2) ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุกอ้างว่า จีนได้นำไข่มุกงามแต่ละเม็ด มาร้อยเรียงกันเอาไว้สวมใส่ ติดตัว ไม่มีขาย ไม่มีแบ่ง เช่น – บังคลาเทศ : จีนกำลังสร้างสัมพันธ์กับรัฐบาล และมีข้อตกลงที่จะเอี่ยวใช้ท่าเรือ ที่จิตตะกอง – พม่า : จีนสร้างสัมพันธ์อันดีเยี่ยมกับกองทัพ จนพม่าหลวมตัว ให้จีนสร้างฐานทัพเรือและเครื่องตรวจจับ อีเลคโทรนิกส์ เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวทางเรือแถวอ่าวเบงกอล และบริเวณช่องแคบมะละกา นี่ยังไม่นับเงินช่วยเหลือทางทหาร อีกหลายพันล้านเหรียญ ที่จีนควักกระเป๋าให้แบบไม่เสียดาย – เขมร : จีนทำสัญญา ให้ความร่วมมือทางทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ เมื่อปี 2003 รวมทั้งรวมฝึกซ้อมรบด้วยกัน เขมรเองก็ให้ความร่วมมือจีน ในการสร้างทางรถไฟ จากทางใต้ของจีน มาสู่ทะเล – ไทย : จีนเสนอเงินให้ไทย จำนวน 20,00 ล้านเหรียญ เพื่อใช้ในการสร้างคลองเป็นทางเดินเรือบริเวณคอคอดกระ ซึ่งจะทำให้เรือบรรทุกสินค้าทั้งหลาย ไม่ต้องเสียเวลา ไปวิ่งผ่านช่องแคบมะละกา โครงการนี้ถ้าเกิด จะทำให้จีนเพิ่มอิทธิพล และควบคุม ภูมิภาคนี้ได้ แบบนี้อเมริกาย่อมไม่ยอมอยู่เฉยกับการเตรียมตัว สวมสร้อยมุกของจีน คุณเอามุกมาร้อยได้ เราก็กระชากให้ขาดได้เช่นกัน จีนไปทางไหน อเมริกาก็จะตามไปประกบ แบบแกะไม่ออกเลยล่ะ ยุทธการกระชากสร้อยจึงเริ่มขึ้นอย่างเงียบๆ แต่เอาจริง มุกเม็ดงาม เม็ดใหม่เพิ่งนำออกสู่ตลาด น่าขะโมยที่สุด คือพม่า พม่าปกครองด้วยรัฐบาลเผด็จการทหาร กว่า 40 ปี อเมริกาบอกไม่เป็นประชาธิปไตย ประกาศคว่ำบาตรทางเศรษกิจพม่า มาตั้งแต่ปี 2003 ทำเอาประชาชนชาวพม่าจนแล้วจนอีก ต้องส่งแม่บ้านพม่าเป็นสินค้าออกสำคัญ แล้วไง วันดี คืนดี ปี 2012 คุณนายคลินตัน ก็บุกเข้าพม่าพร้อมกับบอกว่า พร้อมที่จะทบทวน เรื่อง การคว่ำบาตร แต่หลังฉากเขาลือกันว่า น่าจะเกี่ยวกับข่าวที่ว่า จีนกำลังก่อสร้างท่อส่งน้ำมันและก๊าซ จากมณทลยูนนาน (ยูนนาน อีก แล้ว!) มาตามเส้นทางถนนเก่าของพม่า ข้ามไปอินเดีย บังคลาเทศ ออกไปยังอ่าวเบงกอล หลังจากนั้นรัฐบาลพม่า เริ่มการเจรจาการค้ากับโลกตะวันตก ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีการเจรจา ปล่อยตัวคุณน้าอองซาน ซึ่งอเมริกาทั้งอุ้มทั้งชู ให้ มีสิทธิที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน กับการที่คุณนายคลินตัน ทำท่าใจดี ว่าจะพิจารณาการผ่อนคลาย การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และนำนักลงทุนมาช่วยเพิ่มการลงทุน การผลิตในพม่า ฟังดูสวยหรู แต่สคริปต์มันโบราณไปหน่อยไหมคุณนาย แบบนี้ สมันน้อย ไทยแลนด์ฟังมา 50 ปีแล้ว 555 คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 171 Views 0 Reviews
  • เมื่อ Meta แอบฟังข้อมูลสุขภาพผู้หญิงจากแอป Flo โดยไม่ได้รับอนุญาต

    เรื่องนี้เริ่มจากแอป Flo Health ซึ่งเป็นแอปติดตามรอบเดือนและสุขภาพการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง ที่มีผู้ใช้งานกว่า 150 ล้านคนทั่วโลก แอปนี้เก็บข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียด เช่น วันมีประจำเดือน อารมณ์ ความสัมพันธ์ทางเพศ และเป้าหมายการตั้งครรภ์ โดยสัญญาว่าจะไม่แชร์ข้อมูลกับบุคคลที่สาม ยกเว้นเพื่อการให้บริการเท่านั้น

    แต่ระหว่างปี 2016–2019 ข้อมูลเหล่านี้ถูกแชร์กับบริษัทต่าง ๆ รวมถึง Meta (เจ้าของ Facebook), Google, AppsFlyer และ Flurry โดยใช้ SDK ที่ฝังอยู่ในแอป ซึ่งจะส่งข้อมูลทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิกหรือใช้งานฟีเจอร์บางอย่าง เช่น “กำลังพยายามตั้งครรภ์” โดยไม่มีการควบคุมว่าบริษัทเหล่านี้จะนำข้อมูลไปใช้อย่างไร

    คดีนี้เริ่มต้นจากการฟ้องร้องแบบกลุ่มในปี 2021 โดยมีผู้หญิงกว่า 3.7 ล้านคนในสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบ ล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2025 คณะลูกขุนตัดสินว่า Meta ละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดย “แอบฟังและบันทึกข้อมูล” โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้

    แม้ Flo, Google และ Flurry จะยอมความไปก่อนหน้านี้ แต่ Meta สู้คดีจนถึงที่สุด และแพ้ในที่สุด คดีนี้จึงกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของการปกป้องข้อมูลสุขภาพดิจิทัล โดยเฉพาะในยุคที่สิทธิการทำแท้งในสหรัฐฯ ถูกจำกัดอย่างหนัก

    Meta ถูกตัดสินว่าละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐแคลิฟอร์เนีย
    โดยแอบฟังและบันทึกข้อมูลจากแอป Flo โดยไม่ได้รับความยินยอม

    Flo Health แชร์ข้อมูลสุขภาพผู้หญิงกับ Meta, Google และบริษัทอื่น
    ข้อมูลรวมถึงรอบเดือน ความสัมพันธ์ทางเพศ และเป้าหมายการตั้งครรภ์

    SDK ของ Meta ถูกฝังในแอป Flo เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งาน
    ส่งข้อมูล “App Event” ทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิกฟีเจอร์เฉพาะ

    คดีนี้มีผู้เสียหายกว่า 3.7 ล้านคนในสหรัฐฯ
    ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนระหว่าง พ.ย. 2016 ถึง ก.พ. 2019

    Flo เคยสัญญาว่าจะไม่แชร์ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลที่สาม
    แต่กลับเปิดช่องให้บริษัทอื่นใช้ข้อมูลเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า

    FTC เคยสอบสวนและบังคับให้ Flo ปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัว
    พร้อมตั้งผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อป้องกันการละเมิดซ้ำ

    คดีนี้เป็นหมุดหมายสำคัญด้านสิทธิข้อมูลสุขภาพดิจิทัล
    โดยเฉพาะหลังการยกเลิกสิทธิการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญในสหรัฐฯ

    SDK เป็นเครื่องมือที่ใช้เก็บพฤติกรรมผู้ใช้เพื่อการโฆษณา
    แต่สามารถถูกใช้เพื่อดึงข้อมูลส่วนตัวได้หากไม่มีการควบคุม

    การใช้แอปติดตามสุขภาพอาจเสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางกฎหมาย
    เช่น การสืบสวนคดีทำแท้งในบางรัฐของสหรัฐฯ

    เว็บไซต์ขายยาทำแท้งก็เคยถูกพบว่าแชร์ข้อมูลกับ Google
    เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกติดตามโดยหน่วยงานรัฐ

    https://www.malwarebytes.com/blog/news/2025/08/meta-accessed-womens-health-data-from-flo-app-without-consent-says-court
    📢🕵️‍♀️ เมื่อ Meta แอบฟังข้อมูลสุขภาพผู้หญิงจากแอป Flo โดยไม่ได้รับอนุญาต เรื่องนี้เริ่มจากแอป Flo Health ซึ่งเป็นแอปติดตามรอบเดือนและสุขภาพการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง ที่มีผู้ใช้งานกว่า 150 ล้านคนทั่วโลก แอปนี้เก็บข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียด เช่น วันมีประจำเดือน อารมณ์ ความสัมพันธ์ทางเพศ และเป้าหมายการตั้งครรภ์ โดยสัญญาว่าจะไม่แชร์ข้อมูลกับบุคคลที่สาม ยกเว้นเพื่อการให้บริการเท่านั้น แต่ระหว่างปี 2016–2019 ข้อมูลเหล่านี้ถูกแชร์กับบริษัทต่าง ๆ รวมถึง Meta (เจ้าของ Facebook), Google, AppsFlyer และ Flurry โดยใช้ SDK ที่ฝังอยู่ในแอป ซึ่งจะส่งข้อมูลทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิกหรือใช้งานฟีเจอร์บางอย่าง เช่น “กำลังพยายามตั้งครรภ์” โดยไม่มีการควบคุมว่าบริษัทเหล่านี้จะนำข้อมูลไปใช้อย่างไร คดีนี้เริ่มต้นจากการฟ้องร้องแบบกลุ่มในปี 2021 โดยมีผู้หญิงกว่า 3.7 ล้านคนในสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบ ล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2025 คณะลูกขุนตัดสินว่า Meta ละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดย “แอบฟังและบันทึกข้อมูล” โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ แม้ Flo, Google และ Flurry จะยอมความไปก่อนหน้านี้ แต่ Meta สู้คดีจนถึงที่สุด และแพ้ในที่สุด คดีนี้จึงกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของการปกป้องข้อมูลสุขภาพดิจิทัล โดยเฉพาะในยุคที่สิทธิการทำแท้งในสหรัฐฯ ถูกจำกัดอย่างหนัก ✅ Meta ถูกตัดสินว่าละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของรัฐแคลิฟอร์เนีย ➡️ โดยแอบฟังและบันทึกข้อมูลจากแอป Flo โดยไม่ได้รับความยินยอม ✅ Flo Health แชร์ข้อมูลสุขภาพผู้หญิงกับ Meta, Google และบริษัทอื่น ➡️ ข้อมูลรวมถึงรอบเดือน ความสัมพันธ์ทางเพศ และเป้าหมายการตั้งครรภ์ ✅ SDK ของ Meta ถูกฝังในแอป Flo เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งาน ➡️ ส่งข้อมูล “App Event” ทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิกฟีเจอร์เฉพาะ ✅ คดีนี้มีผู้เสียหายกว่า 3.7 ล้านคนในสหรัฐฯ ➡️ ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนระหว่าง พ.ย. 2016 ถึง ก.พ. 2019 ✅ Flo เคยสัญญาว่าจะไม่แชร์ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลที่สาม ➡️ แต่กลับเปิดช่องให้บริษัทอื่นใช้ข้อมูลเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า ✅ FTC เคยสอบสวนและบังคับให้ Flo ปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัว ➡️ พร้อมตั้งผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อป้องกันการละเมิดซ้ำ ✅ คดีนี้เป็นหมุดหมายสำคัญด้านสิทธิข้อมูลสุขภาพดิจิทัล ➡️ โดยเฉพาะหลังการยกเลิกสิทธิการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญในสหรัฐฯ ✅ SDK เป็นเครื่องมือที่ใช้เก็บพฤติกรรมผู้ใช้เพื่อการโฆษณา ➡️ แต่สามารถถูกใช้เพื่อดึงข้อมูลส่วนตัวได้หากไม่มีการควบคุม ✅ การใช้แอปติดตามสุขภาพอาจเสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางกฎหมาย ➡️ เช่น การสืบสวนคดีทำแท้งในบางรัฐของสหรัฐฯ ✅ เว็บไซต์ขายยาทำแท้งก็เคยถูกพบว่าแชร์ข้อมูลกับ Google ➡️ เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกติดตามโดยหน่วยงานรัฐ https://www.malwarebytes.com/blog/news/2025/08/meta-accessed-womens-health-data-from-flo-app-without-consent-says-court
    WWW.MALWAREBYTES.COM
    Meta accessed women's health data from Flo app without consent, says court
    A jury has ruled that Meta accessed sensitive information from women's reproductive health tracking app Flo without consent.
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 Reviews
  • หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย ปี2539
    พระกริ่งหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ปี2539 // พระดีพิธีใหญ่ พระรุ่นนี้มีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่โดยพระกรรมฐานสายอาจารย์มั่นหลายรูป // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและธุรกิจ โดยเฉพาะด้านการค้าขายและหน้าที่การงาน แคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆ >>

    ** การบูชาหลวงพ่อพระใส:(ตั้งนะโม 3 จบ) แล้วว่า อะระหัง พุทโธ โพธิชโย เสยยะคุโณ โพธิสัตโต มะหาลาโภ ปิยัง มะมะ ภะวันตุโน โหตุ สัพพะทาฯ

    ** พระใส หรือ หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย ปัจจุบันได้ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) เป็นพระพุทธรูปที่ชาวจังหวัดหนองคายนับถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและเป็นที่เคารพสักการะอย่างยิ่ง โดยจะมีการอัญเชิญลงมาให้พุทธศาสนิกชนร่วมสรงน้ำ ในเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย ปี2539 พระกริ่งหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ปี2539 // พระดีพิธีใหญ่ พระรุ่นนี้มีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่โดยพระกรรมฐานสายอาจารย์มั่นหลายรูป // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเมตตามหานิยม โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและธุรกิจ โดยเฉพาะด้านการค้าขายและหน้าที่การงาน แคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆ >> ** การบูชาหลวงพ่อพระใส:(ตั้งนะโม 3 จบ) แล้วว่า อะระหัง พุทโธ โพธิชโย เสยยะคุโณ โพธิสัตโต มะหาลาโภ ปิยัง มะมะ ภะวันตุโน โหตุ สัพพะทาฯ ** พระใส หรือ หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย ปัจจุบันได้ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) เป็นพระพุทธรูปที่ชาวจังหวัดหนองคายนับถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและเป็นที่เคารพสักการะอย่างยิ่ง โดยจะมีการอัญเชิญลงมาให้พุทธศาสนิกชนร่วมสรงน้ำ ในเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • ตอน 17
    ปลายปี พ.ศ.2552/ค.ศ.2009 มีรายงานของทูตอเมริกันในไทยระบุว่า เป็นครั้งแรกที่จิ๊กโก๋๋เสียตำแหน่งThailand ‘s top export ให้แก่จีน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จิ๊กโก๋๋ครองมาอยู่หลายสิบปี และเป็นไปได้ว่า ปีหน้าอาเฮียก็จะได้ตำแหน่งนี้ต่อไป….หน้าแตกละซิ
    ตัวเลขส่งออกของไทยกับอาเฮีย ในปีนั้น เป็นจำนวน 1.88 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 115%
    ตัวเลขส่งออกของไทย กับสหรัฐ ในปีนั้น เป็นจำนวน 1.56 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13%
    และมีที่ท่าว่า ตัวเลขการเพิ่มขึ้น ระหว่างจีนกับสหรัฐ จะห่างกันมากขึ้น มากขึ้น ทุกปี ที่ปวดกระดอง จิ๊กโก๋๋ หนักเข้าไปอีกคือ รมว คลัง และผู้ว่า ธปท. ของไทยสมัยนั้น ต่างก็ชื่นชมยินดีกับการค้าขายกับจีน ว่า เป็นไปด้วยสันถวไมตรีอันดียิ่ง
    นอกเหนือจากเรื่องค้าขาย (ทุน) แล้ว เรื่องอำนาจ ก็ทำท่าจะแผ่ว
    ช่วงที่เกิดรัฐประหาร ในไทยปี พ.ศ. 2549 /ค.ศ.2006 อเมริกาก็ทำโทษไทย ยกเลิก การเงินทุนสนับ สนุน ทางทหารทุกรายการ เป็นจำนวน 24 ล้านเหรียญ
    พอเห็นสมันน้อย คอตกเพราะถูกพี่เบิ้มทำโทษ อาเฮียก็ถลามาปลอบใจ ให้สินเชื่อช่วยเหลือแก่กองทัพไทย จำนวน 49 ล้านเหรียญ
    การเอาใจสมันน้อยของจีน เป็นที่ฮือฮากัน ถึงขนาดได้ยินไปถึงหูพี่เบิ้มว่า ทหารใหญ่ท่านหนึ่งของไทย (อย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลยนะ ตอนนี้รู้สึก มีคนอยากชวนไปเที่ยวหลายคนแล้ว!) บอกว่า คุยกับจีนสบายใจกว่าอเมริกาที่เอาแต่พูดเรื่องที่ตัวสนใจเช่น เรื่องสิทธิมนุษยชน และการส่งเสริมประชาธิปไตย
    นี่ ยังไม่นับ เรื่องการซื้ออาวุธที่สมันน้อย ทำเป็นลืมสัญญา ไปจับมือกับเจ้าอื่นแทน ช่วงที่พี่เบิ้มตัดทุนสนับสนุน แหม เรื่องมัน เดิมๆ ซ้ำซาก แล้วยังงี้ จิ๊กโก๋๋จะทนทำเฉย ไหวหรือ
    รู้จักภูมิศาสตร์ของจีนก่อน นักอ่านนิทานครับ จะอ่านนิทานตอนนี้ให้ภาพชัด ต้องไปหาแผนที่มาดูประกอบ
    จีนตั้งอยู่บนเอเซียตะวันออก ฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก มีพื้นที่ดินประมาณ 9.6 ล้านตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่บนบกใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก (ใครเป็นอันดับ 1 ไปเปิดกูเกิลหาเอาเอง) มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศอื่นๆ 14 ประเทศได้แก่ เวียตนาม ลาว พม่า อินเดีย ภูฐาน เนปาล ปากีสถาน อัฟกานิสถาน ทาจิกิสถาน คีร์กิสถาน คาซัคสถาน รัสเซีย มองโกเลีย และเกาหลีเหนือ
    เอ แล้วไม่เห็นมันติดกับไทยแลนด์ตรงไหนเลยนี่ แล้วพวกจิ๊กโก๋๋จะเข้าไปล่วงตับจีนผ่านไทยได้ยังไงหว่า น่าสงสัยนะ
    ก็น่าสงสัยอยู่หรอก ถ้ามัวแต่ดูข่าวจากช่องที่ถนัดแต่ เอาละคร เรื่องคุณชาย เรื่องแม่ลำยง ลำยอง มาเล่นฯลฯ มันจะไปรู้ได้ยังไง ต้องอ่านนิทานของเรานี่แหละ ถึงจะได้เห็นโลกกว้าง ทางลึกกันบ้าง
    กลับมาดูประเทศไทย อาณาเขตติดกับประเทศอะไรบ้าง อันนี้ถ้าไม่รู้ เลิกเล่านิทานจริงๆ นะ ลองถามตัวเองดู หลังจากเห็นภูมิศาสตร์อาณาเขตประเทศจีน และประเทศไทยดูแล้ว ทำไมสหรัฐถึงจำเป็นต้องมานั่งประทับทรงอยู่ในไทยแลนด์
    ย้อนดูจีนอีกที ไอ้14 ประเทศที่ติดกับจีนน่ะ มีส่วนที่ติดกับ พวกแก๊ง BRICS คือ อินเดีย รัสเซีย และจิ๊กโก๋๋ที่ตัวเล็ก แต่พูดกันไม่รู้เรื่องคือเกาหลีเหนือ อยู่ด้วย
    เพราะฉะนั้น ไปยุ่งกับประเทศแถวนั้นเขาได้ไหม หาเรื่องใส่ตัว เอาพวกที่ที่เหลือที่ปั่นหัวง่ายไม่ ดีหรือ ก็คือ เวียตนาม ลาว พม่า ลาวนั้นอเมริกาครอบงำ ตั้งแต่สมัยสงครามเวียตนาม แล้วไม่เคยปล่อยฝาครอบอีกเลย แทรกแซงตะแบงอุ้มสารพัด จนทุกวันนี้ยังตามเรื่องลาวอพยพ หรือมั้ง ที่อเมริกามาฝากไทยดูแลไว้ ตั้งแต่หลังสงครามเวียตนาม ก็ยังไม่จบสิ้น ขณะนี้พวกม้ง อพยพนี้ ขึ้นกับใครเป็นภาระของใคร ต้องไปถาม กอ.รมน.
    ส่วนเวียตนามนั้น มันก็เหลือเชื่อ จากที่รบกันจะเป็นจะตาย ฉิบหายกระเป๋าฉีกบ้านช่องวินาศสันตะโรกันไปค่อนโลกกว่า 15 ปี ตอนนี้หันมาจูบปากค้าขายกันเรียบร้อย แล้วพวกเราไม่สงสัยกันบ้างหรือจ้ะว่ามันอะไรกัน รบจริง รักจริง
    แบบนี้พวกสมันน้อยไม่ทันเขาหร๊อก! หมดห่วงเรื่องลาวกับเวียตนาม ก็เหลือพม่า
    เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนที่อเมริกาเริ่มจะกลับมาภูมิภาคนี้ เพื่อมาเฝ้าระวังจีน หนทางที่จะเข้าพม่าไม่มีเลย คุณน้าอองซานได้แต่เอาดอกไม้แซมผม นั่งเอี้ยมเฟี้ยมถูกกักตัวอยู่แต่ในบ้าน แล้วจิ๊กโก๋๋จะไปคุยกับใคร
    อ้า! มาแล้ว งั้นก็ต้องคุยกับไทยแลนด์ ที่มีดินแดนติดทั้ง เขมร ลาว และพม่าไง เข้าใจหรือยัง ย้อนไปอ่านตอนต้น ที่เล่าสมัยเหตุการณ์ ร.ศ.112 ก็เหมือนกันเป๊ะ
    ไอ้จิ๊กโก๋๋รุ่นเก๋า อังกฤษ ฝรั่งเศส คิดยังไง ทำยังไง จิ๊กโก๋๋รุ่นใหม่ ก็คิดเหมือนเดิมนั่นแหละ ก็บอกแล้ว มัน3 เกลอหัวแข็ง ผลัดกันเล่น ผลัดกันตี ลืมไปแล้วหรือไร ไม่มีอะไรแปลกใหม่
    ถ้าอเมริกามาประทับทรงคุมทุกอย่างในไทยแลนด์ได้เหมือนเดิม การจะจับตามอง ส่องกล้องดูอาเฮีย ขยับแข้งรำมวยจีน มันก็ไม่น่ามีปัญหา อาเฮียก็ต้องคิดหนักนะ อย่าลืมเรื่องมณฑลยูนาน ดอยตุง ดาวเทียมไทยคม อู่ตะเภา 4 เรื่องนี่มันเกี่ยวกันนะ เล่ามากกว่านี้เดี๋ยวถูกจับ
    เมื่อปี ค.ศ.1999 สมัยรัฐบาลบุช (Bush) ตัวพ่อ อเมริกาเห็นจีนเริ่มโต ชักไม่พอใจ แต่ตัวเองกำลังกระเป๋าแฟบ เศรษฐกิจไม่ดี ก็ยังอยากต้มให้จีนมาลงทุนใช้เป็นตลาด เพราะฉะนั้น นโยบายสหรัฐกับจีน ช่วงนั้นก็ยังเป็นคบๆ ค้าๆ อะไรทำนองนั้น แต่ภาษาการทูตของเขาก็บอกเฝ้าระวัง ช่างใช้คำพูดจริง
    ผ่านไป 10 ปี อาเฮีย รัศมีเงินจับ มีพลเมืองเป็นเศรษฐีเพิ่มขึ้น จนพวกหัวทองชักอิจฉาเปลี่ยนจากตาสีฟ้าเป็นตาสีเขียว อาเฮียเริ่มสร้างบ้าน แปลงเมือง ปรับปรุงกองทัพ พัฒนาการกว้างไกล ถนนทุกสายมุ่งสู่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้
    แล้วจิ๊กโก๋๋จะทนได้ไง แบบนี้ไอ้คบๆ ค้าๆ มันก็ต้องเปลี่ยนเป็น ค้าๆ คุมๆ ยิ่งวันก็ยิ่งหนักไปทางคุมเข้ม นโยบายสูตร containment ก็เริ่มเข้มขึ้นเพราะฉะนั้น แค่เอาพวกมาฝึกคอบบร้า โกลด์ (Cobra Gold) กับไทยแลนด์เฉยๆ น่ะ มันถ้าจะไม่พอแล้วมั้ง

    คนเล่านิทาน
    ตอน 17 ปลายปี พ.ศ.2552/ค.ศ.2009 มีรายงานของทูตอเมริกันในไทยระบุว่า เป็นครั้งแรกที่จิ๊กโก๋๋เสียตำแหน่งThailand ‘s top export ให้แก่จีน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จิ๊กโก๋๋ครองมาอยู่หลายสิบปี และเป็นไปได้ว่า ปีหน้าอาเฮียก็จะได้ตำแหน่งนี้ต่อไป….หน้าแตกละซิ ตัวเลขส่งออกของไทยกับอาเฮีย ในปีนั้น เป็นจำนวน 1.88 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 115% ตัวเลขส่งออกของไทย กับสหรัฐ ในปีนั้น เป็นจำนวน 1.56 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% และมีที่ท่าว่า ตัวเลขการเพิ่มขึ้น ระหว่างจีนกับสหรัฐ จะห่างกันมากขึ้น มากขึ้น ทุกปี ที่ปวดกระดอง จิ๊กโก๋๋ หนักเข้าไปอีกคือ รมว คลัง และผู้ว่า ธปท. ของไทยสมัยนั้น ต่างก็ชื่นชมยินดีกับการค้าขายกับจีน ว่า เป็นไปด้วยสันถวไมตรีอันดียิ่ง นอกเหนือจากเรื่องค้าขาย (ทุน) แล้ว เรื่องอำนาจ ก็ทำท่าจะแผ่ว ช่วงที่เกิดรัฐประหาร ในไทยปี พ.ศ. 2549 /ค.ศ.2006 อเมริกาก็ทำโทษไทย ยกเลิก การเงินทุนสนับ สนุน ทางทหารทุกรายการ เป็นจำนวน 24 ล้านเหรียญ พอเห็นสมันน้อย คอตกเพราะถูกพี่เบิ้มทำโทษ อาเฮียก็ถลามาปลอบใจ ให้สินเชื่อช่วยเหลือแก่กองทัพไทย จำนวน 49 ล้านเหรียญ การเอาใจสมันน้อยของจีน เป็นที่ฮือฮากัน ถึงขนาดได้ยินไปถึงหูพี่เบิ้มว่า ทหารใหญ่ท่านหนึ่งของไทย (อย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลยนะ ตอนนี้รู้สึก มีคนอยากชวนไปเที่ยวหลายคนแล้ว!) บอกว่า คุยกับจีนสบายใจกว่าอเมริกาที่เอาแต่พูดเรื่องที่ตัวสนใจเช่น เรื่องสิทธิมนุษยชน และการส่งเสริมประชาธิปไตย นี่ ยังไม่นับ เรื่องการซื้ออาวุธที่สมันน้อย ทำเป็นลืมสัญญา ไปจับมือกับเจ้าอื่นแทน ช่วงที่พี่เบิ้มตัดทุนสนับสนุน แหม เรื่องมัน เดิมๆ ซ้ำซาก แล้วยังงี้ จิ๊กโก๋๋จะทนทำเฉย ไหวหรือ รู้จักภูมิศาสตร์ของจีนก่อน นักอ่านนิทานครับ จะอ่านนิทานตอนนี้ให้ภาพชัด ต้องไปหาแผนที่มาดูประกอบ จีนตั้งอยู่บนเอเซียตะวันออก ฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก มีพื้นที่ดินประมาณ 9.6 ล้านตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่บนบกใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก (ใครเป็นอันดับ 1 ไปเปิดกูเกิลหาเอาเอง) มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศอื่นๆ 14 ประเทศได้แก่ เวียตนาม ลาว พม่า อินเดีย ภูฐาน เนปาล ปากีสถาน อัฟกานิสถาน ทาจิกิสถาน คีร์กิสถาน คาซัคสถาน รัสเซีย มองโกเลีย และเกาหลีเหนือ เอ แล้วไม่เห็นมันติดกับไทยแลนด์ตรงไหนเลยนี่ แล้วพวกจิ๊กโก๋๋จะเข้าไปล่วงตับจีนผ่านไทยได้ยังไงหว่า น่าสงสัยนะ ก็น่าสงสัยอยู่หรอก ถ้ามัวแต่ดูข่าวจากช่องที่ถนัดแต่ เอาละคร เรื่องคุณชาย เรื่องแม่ลำยง ลำยอง มาเล่นฯลฯ มันจะไปรู้ได้ยังไง ต้องอ่านนิทานของเรานี่แหละ ถึงจะได้เห็นโลกกว้าง ทางลึกกันบ้าง กลับมาดูประเทศไทย อาณาเขตติดกับประเทศอะไรบ้าง อันนี้ถ้าไม่รู้ เลิกเล่านิทานจริงๆ นะ ลองถามตัวเองดู หลังจากเห็นภูมิศาสตร์อาณาเขตประเทศจีน และประเทศไทยดูแล้ว ทำไมสหรัฐถึงจำเป็นต้องมานั่งประทับทรงอยู่ในไทยแลนด์ ย้อนดูจีนอีกที ไอ้14 ประเทศที่ติดกับจีนน่ะ มีส่วนที่ติดกับ พวกแก๊ง BRICS คือ อินเดีย รัสเซีย และจิ๊กโก๋๋ที่ตัวเล็ก แต่พูดกันไม่รู้เรื่องคือเกาหลีเหนือ อยู่ด้วย เพราะฉะนั้น ไปยุ่งกับประเทศแถวนั้นเขาได้ไหม หาเรื่องใส่ตัว เอาพวกที่ที่เหลือที่ปั่นหัวง่ายไม่ ดีหรือ ก็คือ เวียตนาม ลาว พม่า ลาวนั้นอเมริกาครอบงำ ตั้งแต่สมัยสงครามเวียตนาม แล้วไม่เคยปล่อยฝาครอบอีกเลย แทรกแซงตะแบงอุ้มสารพัด จนทุกวันนี้ยังตามเรื่องลาวอพยพ หรือมั้ง ที่อเมริกามาฝากไทยดูแลไว้ ตั้งแต่หลังสงครามเวียตนาม ก็ยังไม่จบสิ้น ขณะนี้พวกม้ง อพยพนี้ ขึ้นกับใครเป็นภาระของใคร ต้องไปถาม กอ.รมน. ส่วนเวียตนามนั้น มันก็เหลือเชื่อ จากที่รบกันจะเป็นจะตาย ฉิบหายกระเป๋าฉีกบ้านช่องวินาศสันตะโรกันไปค่อนโลกกว่า 15 ปี ตอนนี้หันมาจูบปากค้าขายกันเรียบร้อย แล้วพวกเราไม่สงสัยกันบ้างหรือจ้ะว่ามันอะไรกัน รบจริง รักจริง แบบนี้พวกสมันน้อยไม่ทันเขาหร๊อก! หมดห่วงเรื่องลาวกับเวียตนาม ก็เหลือพม่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนที่อเมริกาเริ่มจะกลับมาภูมิภาคนี้ เพื่อมาเฝ้าระวังจีน หนทางที่จะเข้าพม่าไม่มีเลย คุณน้าอองซานได้แต่เอาดอกไม้แซมผม นั่งเอี้ยมเฟี้ยมถูกกักตัวอยู่แต่ในบ้าน แล้วจิ๊กโก๋๋จะไปคุยกับใคร อ้า! มาแล้ว งั้นก็ต้องคุยกับไทยแลนด์ ที่มีดินแดนติดทั้ง เขมร ลาว และพม่าไง เข้าใจหรือยัง ย้อนไปอ่านตอนต้น ที่เล่าสมัยเหตุการณ์ ร.ศ.112 ก็เหมือนกันเป๊ะ ไอ้จิ๊กโก๋๋รุ่นเก๋า อังกฤษ ฝรั่งเศส คิดยังไง ทำยังไง จิ๊กโก๋๋รุ่นใหม่ ก็คิดเหมือนเดิมนั่นแหละ ก็บอกแล้ว มัน3 เกลอหัวแข็ง ผลัดกันเล่น ผลัดกันตี ลืมไปแล้วหรือไร ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ถ้าอเมริกามาประทับทรงคุมทุกอย่างในไทยแลนด์ได้เหมือนเดิม การจะจับตามอง ส่องกล้องดูอาเฮีย ขยับแข้งรำมวยจีน มันก็ไม่น่ามีปัญหา อาเฮียก็ต้องคิดหนักนะ อย่าลืมเรื่องมณฑลยูนาน ดอยตุง ดาวเทียมไทยคม อู่ตะเภา 4 เรื่องนี่มันเกี่ยวกันนะ เล่ามากกว่านี้เดี๋ยวถูกจับ เมื่อปี ค.ศ.1999 สมัยรัฐบาลบุช (Bush) ตัวพ่อ อเมริกาเห็นจีนเริ่มโต ชักไม่พอใจ แต่ตัวเองกำลังกระเป๋าแฟบ เศรษฐกิจไม่ดี ก็ยังอยากต้มให้จีนมาลงทุนใช้เป็นตลาด เพราะฉะนั้น นโยบายสหรัฐกับจีน ช่วงนั้นก็ยังเป็นคบๆ ค้าๆ อะไรทำนองนั้น แต่ภาษาการทูตของเขาก็บอกเฝ้าระวัง ช่างใช้คำพูดจริง ผ่านไป 10 ปี อาเฮีย รัศมีเงินจับ มีพลเมืองเป็นเศรษฐีเพิ่มขึ้น จนพวกหัวทองชักอิจฉาเปลี่ยนจากตาสีฟ้าเป็นตาสีเขียว อาเฮียเริ่มสร้างบ้าน แปลงเมือง ปรับปรุงกองทัพ พัฒนาการกว้างไกล ถนนทุกสายมุ่งสู่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ แล้วจิ๊กโก๋๋จะทนได้ไง แบบนี้ไอ้คบๆ ค้าๆ มันก็ต้องเปลี่ยนเป็น ค้าๆ คุมๆ ยิ่งวันก็ยิ่งหนักไปทางคุมเข้ม นโยบายสูตร containment ก็เริ่มเข้มขึ้นเพราะฉะนั้น แค่เอาพวกมาฝึกคอบบร้า โกลด์ (Cobra Gold) กับไทยแลนด์เฉยๆ น่ะ มันถ้าจะไม่พอแล้วมั้ง คนเล่านิทาน
    2 Comments 0 Shares 286 Views 0 Reviews
  • สินค้ามาเลเซียรอเสียบ บุกตลาดกัมพูชาแทนที่สินค้าไทย

    เหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ความขัดแย้งระหว่างชาวไทยกับชาวเขมร ถึงขั้นบอยคอตสินค้าไทยและธุรกิจไทยในกัมพูชา กลายเป็นโอกาสทองของชาติอื่นเฉกเช่นมาเลเซีย นายริคกี้ ยอว์ ประธานสมาคมธุรกิจมาเลเซีย-กัมพูชา (MCBA) เรียกร้องให้ภาคเอกชนมาเลเซียแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ในกัมพูชา ด้วยการประเมินตลาดกัมพูชาโดยเร็ว และเสนอสินค้าทางเลือกเชิงรุกเพื่อเติมช่องว่างในตลาด หลังสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยหยุดชะงัก เพราะได้รับผลกระทบจากการขนส่ง ทำให้กัมพูชากำลังประสบปัญหาการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์อาหาร และวัตถุดิบอุตสาหกรรมบางประเภท

    ทั้งนี้ มาเลเซียมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนในแง่ของคุณภาพ ราคา และเสถียรภาพในการจัดหาสินค้า ในสถานการณ์เช่นนี้นักลงทุนไทยบางรายอาจเลือกถอนตัวออกจากตลาดกัมพูชา ย่อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมาเลเซียเข้าสู่ตลาด แม้จะมีความขัดแย้งแต่ปัจจัยพื้นฐานตลาดของกัมพูชายังคงแข็งแกร่ง และมีศักยภาพเติบโตแนวโน้มดี ผู้ประกอบการมาเลเซียที่มีห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น ครอบคลุมอุตสาหกรรมที่กว้างขวาง และความสามารถในการตอบสนองที่รวดเร็ว อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะคว้าโอกาสนี้ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดระดับภูมิภาค

    ก่อนหน้านี้ คณะผู้แทนการค้าของมาเลเซียที่นำโดย MCBA และภาคเอกชน เดินทางมาเยือนกัมพูชาเมื่อวันที่ 26-29 มิ.ย. เพื่อส่งเสริมการลงทุนในกัมพูชา อำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจในกัมพูชาได้สำรวจโอกาสการลงทุนในมาเลเซีย และสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ พร้อมกันนี้กัมพูชายังสนับสนุนให้นักลงทุนมาเลเซียพิจารณาตั้งโรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ของกัมพูชา หรือจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะ

    ในปี 2567 การค้าทวิภาคีกัมพูชา-มาเลเซียมีมูลค่า 3,600 ล้านริงกิต (860 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) น้อยกว่าประเทศไทย ที่มีมูลค่าการค้ารวม 174,530 ล้านบาท (5,396 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยไทยส่งออก 141,846 ล้านบาท นำเข้า 32,684 ล้านบาท และเวียดนามที่มีมูลค่าการค้ารวม 10,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในภูมิภาคอาเซียน และเป็นอันดับสามรองจากจีนและสหรัฐอเมริกา ล่าสุด เวียดนามและกัมพูชาลงนามข้อตกลงใหม่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้า ให้แรงจูงใจทางภาษีสำหรับสินค้าสำคัญหลายรายการ มากกว่าความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ATIGA)

    ก่อนหน้านี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เตรียมหารือทางการลาวเพื่อหาทางลดค่าใช้จ่าย หลังผู้ประกอบการไทยเปลี่ยนเส้นทางขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าทางประเทศลาวก่อนไปยังกัมพูชาหลังด่านไทย-กัมพูชาปิดลง

    #Newskit
    สินค้ามาเลเซียรอเสียบ บุกตลาดกัมพูชาแทนที่สินค้าไทย เหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ความขัดแย้งระหว่างชาวไทยกับชาวเขมร ถึงขั้นบอยคอตสินค้าไทยและธุรกิจไทยในกัมพูชา กลายเป็นโอกาสทองของชาติอื่นเฉกเช่นมาเลเซีย นายริคกี้ ยอว์ ประธานสมาคมธุรกิจมาเลเซีย-กัมพูชา (MCBA) เรียกร้องให้ภาคเอกชนมาเลเซียแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ในกัมพูชา ด้วยการประเมินตลาดกัมพูชาโดยเร็ว และเสนอสินค้าทางเลือกเชิงรุกเพื่อเติมช่องว่างในตลาด หลังสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยหยุดชะงัก เพราะได้รับผลกระทบจากการขนส่ง ทำให้กัมพูชากำลังประสบปัญหาการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์อาหาร และวัตถุดิบอุตสาหกรรมบางประเภท ทั้งนี้ มาเลเซียมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนในแง่ของคุณภาพ ราคา และเสถียรภาพในการจัดหาสินค้า ในสถานการณ์เช่นนี้นักลงทุนไทยบางรายอาจเลือกถอนตัวออกจากตลาดกัมพูชา ย่อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมาเลเซียเข้าสู่ตลาด แม้จะมีความขัดแย้งแต่ปัจจัยพื้นฐานตลาดของกัมพูชายังคงแข็งแกร่ง และมีศักยภาพเติบโตแนวโน้มดี ผู้ประกอบการมาเลเซียที่มีห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น ครอบคลุมอุตสาหกรรมที่กว้างขวาง และความสามารถในการตอบสนองที่รวดเร็ว อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะคว้าโอกาสนี้ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดระดับภูมิภาค ก่อนหน้านี้ คณะผู้แทนการค้าของมาเลเซียที่นำโดย MCBA และภาคเอกชน เดินทางมาเยือนกัมพูชาเมื่อวันที่ 26-29 มิ.ย. เพื่อส่งเสริมการลงทุนในกัมพูชา อำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจในกัมพูชาได้สำรวจโอกาสการลงทุนในมาเลเซีย และสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ พร้อมกันนี้กัมพูชายังสนับสนุนให้นักลงทุนมาเลเซียพิจารณาตั้งโรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ของกัมพูชา หรือจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะ ในปี 2567 การค้าทวิภาคีกัมพูชา-มาเลเซียมีมูลค่า 3,600 ล้านริงกิต (860 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) น้อยกว่าประเทศไทย ที่มีมูลค่าการค้ารวม 174,530 ล้านบาท (5,396 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยไทยส่งออก 141,846 ล้านบาท นำเข้า 32,684 ล้านบาท และเวียดนามที่มีมูลค่าการค้ารวม 10,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในภูมิภาคอาเซียน และเป็นอันดับสามรองจากจีนและสหรัฐอเมริกา ล่าสุด เวียดนามและกัมพูชาลงนามข้อตกลงใหม่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้า ให้แรงจูงใจทางภาษีสำหรับสินค้าสำคัญหลายรายการ มากกว่าความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ATIGA) ก่อนหน้านี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เตรียมหารือทางการลาวเพื่อหาทางลดค่าใช้จ่าย หลังผู้ประกอบการไทยเปลี่ยนเส้นทางขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าทางประเทศลาวก่อนไปยังกัมพูชาหลังด่านไทย-กัมพูชาปิดลง #Newskit
    0 Comments 1 Shares 367 Views 0 Reviews
  • #เขมรเปิดก่อน2.
    #ยกเลิกmou43และ44หากรัฐบาลชุดนี้ยังกอดไว้คือกบฎแผ่นดินที่เจตนาให้ไทยสูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน.
    #เขมรวางกับระเบิดเปิดสงครามก่อน.
    #ทหารไทยขาขาดแล้วขาอีกทำไม!!!
    #ใครสั่งห้ามต้องลงพื้นที่ลาดตะเวนทันที.

    #กฎอัยการศึกทั่วประเทศทันที

    ..ตอนนี้มาเลย์นำโดยciaอเมริกาปั่นภาคใต้ไทยสุมหัวกับเขมรจะตียึดอีสานใต้ไทยและยึดภาคใต้ไทยด้วยแล้ว,ไทยเราต้องแจกกฐินสามัคคีจริงจังแล้วด้วย ตัดตอนมิให้อเมริกาหรือจีนมามุกให้อาเชียนเราเป็นสมรภูมิรบสงครามโลกที่3เด็ดขาด ชาติอาเชียนต้องตั้งตนเป็นอิสระได้แล้ว ห้ามอเมริกาหรือต่างชาติใดๆคุกคามอาเชียน มาเลย์สิงตโปร์หากทรยศอาเชียนต้องกำจัดออกจากอาเชียนขับออกทันที,ถือว่าเป็นภัยต่ออาเชียนนำเข้าอเมริกามาตั้งทัพในภูมิภาคอาเชียนและฟิลิปปินส์ก็ด้วย,สร้างความไม่สงบในอาเชียนชัดเจน,อาเชียนต้องบูรณาการใหม่จริงๆ,นี้มิใช่ศึกแค่ไทยกับเขมรอีกต่อไป แต่คือศึกของชาติทรยศอาเชียนนำเข้าอเมริกามาทำสงครามใหญ่ในภูมิภาคตนสร้างความเสียหายครั้งใหญ่แก่ประชาชนคนอาเชียนในภูมิภาคนี้แน่นอน,ทั้งละโมบอยากยึดไทยเป็นที่ตั้งฐานทัพของพวกฝรั่งตะวันตกด้วยโดยชาติทรยศที่เปิดเผยชัดเจนคือเขมรต้องการยึดดินแดนอีสานใต้ของไทยเป็นฐานทัพฝรั่งต้องการทหารฝรั่งต่างๆจะพันธมิตรอเมริกาหรือทหารอเมริกามาอยู่อาศัยตั้งฐานรบในไทยชัดเจน,บวกมาเลย์ก็หมายยึดภาคใต้ไทยตีไทยพร้อมกับเขมรโจมตีไทย,เพื่อให้ฝรั่งและพันธมิตรฝรั่งต่างๆแบบอเมริกามาตั้งฐานทัพในไทยอีกแห่งได้ด้วยเช่นกันอาจคือพังงาที่ตั้งธงไว้ กั้นขนส่งน้ำมันเข้าออกไปจีนเด็ดขาดด้วยนั้นเอง.,และเป็นฐานฮับการค้าระดับโลกในอนาคตด้วย กินทั้งทางสงครามฆ่าเจ้าหนี้แบบจีน กินไทยทั้งเม็ดเงินมหาศาลในพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจการเงินการค้าการตลาดสำคัญระดับโลกด้วย,ยึดพื้นที่ครอบครองพื้นที่ปล้นชิงแย่งชิงพื้นที่ทำเงินของไทยอย่างหน้ามึนหน้าด้านหน้าหนาไม่มีความละอายใจใดๆได้นั้นเองแบบปล้นบ่อน้ำมันของไทยทั้งประเทศไปแล้ว.
    ..ทหารไทยต้องประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศจริงๆจังหวะหมดสมขึ้นอยู่กับท่านแล้ว,จะตัดกำลังตัดจังหวะตัดตอนเตะตัดขาเสียจังหวะพวกมันในแผนการต่างๆที่วางไว้ไม่น้อยเลย,แม้มันเตรียมแผนรับมือไว้ก็จริงแต่ในทางหน้างานมีอักเสบแน่นอน,แค่ทำพร้อมกับอายัดกระแสเงินสดไหลเข้าไหลออกจากประเทศทันทีคือเงินใดๆโอนเข้าโอนออกอายัดไว้ทั้งหมดก่อนทันที เจ้าของตัวจริงสามารถเข้าไปติดต่อชี้แจ้งขอดำเนินการปลดอายัดได้ แต่ต้องผ่านการตรวจสอบทุกๆประการตามมาตราความมั่นคงปลอดภัยทั้งหมดก่อนจึงสามารถปลดปล่อยการอายัดได้,ทุกๆบาททุกสตางค์โดนหมด,ทุนต่างชาติใดๆจะใช้ตังเคลื่อนไหวมีลำบากแน่เพราะทุกๆอย่างมันใช้เงินนั้นเอง.โจรเองขนาดตังไม่มางานก็ไม่เดินนั้นเอง.และสาระพัดยุทธวิธีเชือดพวกกบฎทรยศต่ออธิปไตยไทยได้,นี้คือสงครามเต็มรูปแบบ สงครามตังคือที่พูดๆกันคือสงครามเศรษฐกิจ สงครามเชื้อโรคแบบวัคซีนโควิด สงครามตัวแทนแบบเขมรตบมือข้างเดียวอยู่นี้ที่ทหารไทยไม่เป็นตัวแทนใครเหมือนเขมร,และไม่หลงกลรัฐบาลที่นายกฯถูกพักงานจากข้อหาร้ายแรงที่สุดที่มองว่าทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามตน ตนซึ่งสมรู้ร่วมคิดเข้าด้วยกับเขมรเป็นพวกเขมรฮุนเซนอังเคิลตนชัดเจนว่าเข้าด้วยกับศัตรูเป็นฝ่ายเดียวกันกับศัตรูภัยรุกรานคุกคามประเทศไทยตนจึงสรุปว่าเป็นกบฎชัดเจนต่อราชอาณาจักรตนทั้งคณะทีมชุดรัฐบาลยังไม่ยินยอมแก้ไขต้นเหตุของปัญหาคือไม่ยอมยกเลิกmou43และ44นั้นย่อมแสดงชัดเจนเป็นประจักษ์ชัด มีเจตนาทำให้ประเทศเสียดินแดนและอธิปไตยไทยต่อเขมรภัยความมั่นคงอธิปไตยชาติตนเองที่ละเมิดข้อตกลงกว่า600ครั้งที่บันทึกไว้เป็นทางการและไม่เป็นทางการกว่า1,000ครั้งมีประชาชนคนบริสุทธิ์เสียชีวิตชัดเจนตลอดทหารไทยที่สูญเสียชีวิตเช่นกันทั้งพิการและบาดเจ็บมีจำนวนสะสมไม่น้อยในการยึด1:200,000ที่ทั้งความจริงมีการปักปันแดนดินในอดีตอยู่แล้ว เช่นสันปันน้ำ อัตรา1:50,000ที่สากลใช้กับลาวกับเวียดนาม ,จึงชี้ชัดเจนว่ารัฐบาลปัจจุบันมีเจตนานั้นพร้อมพยานหลักฐานชัดเจน พรรคหลักและพรรคร่วมรวมคือรัฐบาลทั้งชุดคณะเป็นกบฎต่ออธิปไตยดินแดนไทยตนชัดเจน.,และพิสูจน์ชัดเจนว่ามีผู้กระทำผิดในอดีตด้วย.,จากบิ๊กกุ้งยึดดินแดนจากเขมรพื้นที่จากเขมรสำเร็จตลอดพรมแดนภายใต้อำนาจปฏิบัติหน้าที่ดูแลที่เป็นหลักจุดๆคือ11จุด ,ผู้กระทำการละเว้นในหน้าที่ในอดีตต้องถูกลงโทษร่วมด้วยทุกๆคน.
    ..
    ..กฎอัยการศึกไทยใครจะมีแทรกแซงในราชอาณาจักรเราไม่ได้,เราสามารถเชิญฑูตต่างชาติที่เห็นต่างออกนอกประเทศได้ทันที,ฑูตลักษณะนี้เสียการแทรกแซงแทรกซึมไม่สามารถสร้างความไม่สงบ ไม่สามารถเป็นมือที่สาม ไม่สามารถก่อจราจรทางลับ ไม่สามารถก่อความวุ่นวายหลักฉาก ไม่สามารถก่อโกลาหลหรือก่ออาชญากรรมทางการปกครองในประเทศนั้นๆได้นั่นเองจึงโว้ยวายตอแหลดัดจริตแกล้งรับไม่ได้ ตนเสียประโยชน์ทำลายประเทศนั้นเอง จึงสามารถคิดการณ์เป็นอื่นไม่ได้ เสี่ยงคือภัยความมั่นคงภายในเราต้องเชิญออกนอกประเทศไทยทันทีเช่นกัน.



    https://youtube.com/watch?v=Q-Ep7cOkQPw&si=OgQTm2Y43ZFo4cok
    #เขมรเปิดก่อน2. #ยกเลิกmou43และ44หากรัฐบาลชุดนี้ยังกอดไว้คือกบฎแผ่นดินที่เจตนาให้ไทยสูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน. #เขมรวางกับระเบิดเปิดสงครามก่อน. #ทหารไทยขาขาดแล้วขาอีกทำไม!!! #ใครสั่งห้ามต้องลงพื้นที่ลาดตะเวนทันที. #กฎอัยการศึกทั่วประเทศทันที ..ตอนนี้มาเลย์นำโดยciaอเมริกาปั่นภาคใต้ไทยสุมหัวกับเขมรจะตียึดอีสานใต้ไทยและยึดภาคใต้ไทยด้วยแล้ว,ไทยเราต้องแจกกฐินสามัคคีจริงจังแล้วด้วย ตัดตอนมิให้อเมริกาหรือจีนมามุกให้อาเชียนเราเป็นสมรภูมิรบสงครามโลกที่3เด็ดขาด ชาติอาเชียนต้องตั้งตนเป็นอิสระได้แล้ว ห้ามอเมริกาหรือต่างชาติใดๆคุกคามอาเชียน มาเลย์สิงตโปร์หากทรยศอาเชียนต้องกำจัดออกจากอาเชียนขับออกทันที,ถือว่าเป็นภัยต่ออาเชียนนำเข้าอเมริกามาตั้งทัพในภูมิภาคอาเชียนและฟิลิปปินส์ก็ด้วย,สร้างความไม่สงบในอาเชียนชัดเจน,อาเชียนต้องบูรณาการใหม่จริงๆ,นี้มิใช่ศึกแค่ไทยกับเขมรอีกต่อไป แต่คือศึกของชาติทรยศอาเชียนนำเข้าอเมริกามาทำสงครามใหญ่ในภูมิภาคตนสร้างความเสียหายครั้งใหญ่แก่ประชาชนคนอาเชียนในภูมิภาคนี้แน่นอน,ทั้งละโมบอยากยึดไทยเป็นที่ตั้งฐานทัพของพวกฝรั่งตะวันตกด้วยโดยชาติทรยศที่เปิดเผยชัดเจนคือเขมรต้องการยึดดินแดนอีสานใต้ของไทยเป็นฐานทัพฝรั่งต้องการทหารฝรั่งต่างๆจะพันธมิตรอเมริกาหรือทหารอเมริกามาอยู่อาศัยตั้งฐานรบในไทยชัดเจน,บวกมาเลย์ก็หมายยึดภาคใต้ไทยตีไทยพร้อมกับเขมรโจมตีไทย,เพื่อให้ฝรั่งและพันธมิตรฝรั่งต่างๆแบบอเมริกามาตั้งฐานทัพในไทยอีกแห่งได้ด้วยเช่นกันอาจคือพังงาที่ตั้งธงไว้ กั้นขนส่งน้ำมันเข้าออกไปจีนเด็ดขาดด้วยนั้นเอง.,และเป็นฐานฮับการค้าระดับโลกในอนาคตด้วย กินทั้งทางสงครามฆ่าเจ้าหนี้แบบจีน กินไทยทั้งเม็ดเงินมหาศาลในพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจการเงินการค้าการตลาดสำคัญระดับโลกด้วย,ยึดพื้นที่ครอบครองพื้นที่ปล้นชิงแย่งชิงพื้นที่ทำเงินของไทยอย่างหน้ามึนหน้าด้านหน้าหนาไม่มีความละอายใจใดๆได้นั้นเองแบบปล้นบ่อน้ำมันของไทยทั้งประเทศไปแล้ว. ..ทหารไทยต้องประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศจริงๆจังหวะหมดสมขึ้นอยู่กับท่านแล้ว,จะตัดกำลังตัดจังหวะตัดตอนเตะตัดขาเสียจังหวะพวกมันในแผนการต่างๆที่วางไว้ไม่น้อยเลย,แม้มันเตรียมแผนรับมือไว้ก็จริงแต่ในทางหน้างานมีอักเสบแน่นอน,แค่ทำพร้อมกับอายัดกระแสเงินสดไหลเข้าไหลออกจากประเทศทันทีคือเงินใดๆโอนเข้าโอนออกอายัดไว้ทั้งหมดก่อนทันที เจ้าของตัวจริงสามารถเข้าไปติดต่อชี้แจ้งขอดำเนินการปลดอายัดได้ แต่ต้องผ่านการตรวจสอบทุกๆประการตามมาตราความมั่นคงปลอดภัยทั้งหมดก่อนจึงสามารถปลดปล่อยการอายัดได้,ทุกๆบาททุกสตางค์โดนหมด,ทุนต่างชาติใดๆจะใช้ตังเคลื่อนไหวมีลำบากแน่เพราะทุกๆอย่างมันใช้เงินนั้นเอง.โจรเองขนาดตังไม่มางานก็ไม่เดินนั้นเอง.และสาระพัดยุทธวิธีเชือดพวกกบฎทรยศต่ออธิปไตยไทยได้,นี้คือสงครามเต็มรูปแบบ สงครามตังคือที่พูดๆกันคือสงครามเศรษฐกิจ สงครามเชื้อโรคแบบวัคซีนโควิด สงครามตัวแทนแบบเขมรตบมือข้างเดียวอยู่นี้ที่ทหารไทยไม่เป็นตัวแทนใครเหมือนเขมร,และไม่หลงกลรัฐบาลที่นายกฯถูกพักงานจากข้อหาร้ายแรงที่สุดที่มองว่าทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามตน ตนซึ่งสมรู้ร่วมคิดเข้าด้วยกับเขมรเป็นพวกเขมรฮุนเซนอังเคิลตนชัดเจนว่าเข้าด้วยกับศัตรูเป็นฝ่ายเดียวกันกับศัตรูภัยรุกรานคุกคามประเทศไทยตนจึงสรุปว่าเป็นกบฎชัดเจนต่อราชอาณาจักรตนทั้งคณะทีมชุดรัฐบาลยังไม่ยินยอมแก้ไขต้นเหตุของปัญหาคือไม่ยอมยกเลิกmou43และ44นั้นย่อมแสดงชัดเจนเป็นประจักษ์ชัด มีเจตนาทำให้ประเทศเสียดินแดนและอธิปไตยไทยต่อเขมรภัยความมั่นคงอธิปไตยชาติตนเองที่ละเมิดข้อตกลงกว่า600ครั้งที่บันทึกไว้เป็นทางการและไม่เป็นทางการกว่า1,000ครั้งมีประชาชนคนบริสุทธิ์เสียชีวิตชัดเจนตลอดทหารไทยที่สูญเสียชีวิตเช่นกันทั้งพิการและบาดเจ็บมีจำนวนสะสมไม่น้อยในการยึด1:200,000ที่ทั้งความจริงมีการปักปันแดนดินในอดีตอยู่แล้ว เช่นสันปันน้ำ อัตรา1:50,000ที่สากลใช้กับลาวกับเวียดนาม ,จึงชี้ชัดเจนว่ารัฐบาลปัจจุบันมีเจตนานั้นพร้อมพยานหลักฐานชัดเจน พรรคหลักและพรรคร่วมรวมคือรัฐบาลทั้งชุดคณะเป็นกบฎต่ออธิปไตยดินแดนไทยตนชัดเจน.,และพิสูจน์ชัดเจนว่ามีผู้กระทำผิดในอดีตด้วย.,จากบิ๊กกุ้งยึดดินแดนจากเขมรพื้นที่จากเขมรสำเร็จตลอดพรมแดนภายใต้อำนาจปฏิบัติหน้าที่ดูแลที่เป็นหลักจุดๆคือ11จุด ,ผู้กระทำการละเว้นในหน้าที่ในอดีตต้องถูกลงโทษร่วมด้วยทุกๆคน. .. ..กฎอัยการศึกไทยใครจะมีแทรกแซงในราชอาณาจักรเราไม่ได้,เราสามารถเชิญฑูตต่างชาติที่เห็นต่างออกนอกประเทศได้ทันที,ฑูตลักษณะนี้เสียการแทรกแซงแทรกซึมไม่สามารถสร้างความไม่สงบ ไม่สามารถเป็นมือที่สาม ไม่สามารถก่อจราจรทางลับ ไม่สามารถก่อความวุ่นวายหลักฉาก ไม่สามารถก่อโกลาหลหรือก่ออาชญากรรมทางการปกครองในประเทศนั้นๆได้นั่นเองจึงโว้ยวายตอแหลดัดจริตแกล้งรับไม่ได้ ตนเสียประโยชน์ทำลายประเทศนั้นเอง จึงสามารถคิดการณ์เป็นอื่นไม่ได้ เสี่ยงคือภัยความมั่นคงภายในเราต้องเชิญออกนอกประเทศไทยทันทีเช่นกัน. https://youtube.com/watch?v=Q-Ep7cOkQPw&si=OgQTm2Y43ZFo4cok
    0 Comments 0 Shares 317 Views 0 Reviews
  • ♣ ชาวกัมพูชาต้องเผชิญชะตากรรมครั้งใหม่ ไม่ต่างอะไรกับการค่าล้างเผ่าพันธุ์ แม้ไม่ถูกสังหารทันที แต่ถูกปล่อยให้ทุกข์ทรมารจากความอดอยากแร้นแค้น ขณะที่ผู้นำเฮงซวยจิบกาแฟตีกอล์ฟ เสวยสุขในคฤหาสน์
    #7ดอกจิก
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    ♣ ชาวกัมพูชาต้องเผชิญชะตากรรมครั้งใหม่ ไม่ต่างอะไรกับการค่าล้างเผ่าพันธุ์ แม้ไม่ถูกสังหารทันที แต่ถูกปล่อยให้ทุกข์ทรมารจากความอดอยากแร้นแค้น ขณะที่ผู้นำเฮงซวยจิบกาแฟตีกอล์ฟ เสวยสุขในคฤหาสน์ #7ดอกจิก #TruthFromThailand #scambodia
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน บอกกับผู้นำบราซิล ทั้ง 2 ชาติสามารถเป็นต้นแบบของ "การพึ่งพาตนเอง" สำหรับมหาอำนาจเศรษฐกิจเกิดใหม่ ท่ามกลางความท้าทายด้านการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เลื่อนรีดภาษีปักกิ่งออกไป 90 วัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076630

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน บอกกับผู้นำบราซิล ทั้ง 2 ชาติสามารถเป็นต้นแบบของ "การพึ่งพาตนเอง" สำหรับมหาอำนาจเศรษฐกิจเกิดใหม่ ท่ามกลางความท้าทายด้านการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เลื่อนรีดภาษีปักกิ่งออกไป 90 วัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076630 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 707 Views 0 Reviews
More Results