• เรื่องเล่าจากแกนกลวง: เมื่อสายเคเบิลที่ไม่มีแก้วกลายเป็นตัวเร่งความเร็วของยุค AI

    หลังจากที่โลกใช้สายไฟเบอร์แก้วนำแสงมานานกว่า 40 ปี โดยมีขีดจำกัดการสูญเสียสัญญาณอยู่ที่ ~0.14 dB/km ทีมวิจัยจาก Lumenisity ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Microsoft ได้สร้างสายเคเบิลแบบใหม่ที่เรียกว่า “double nested antiresonant nodeless fiber” หรือ DNANF ซึ่งใช้แกนกลางเป็นอากาศแทนแก้ว และสามารถลดการสูญเสียสัญญาณลงเหลือเพียง 0.091 dB/km

    เทคโนโลยีนี้ใช้โครงสร้างแก้วบางระดับไมครอนล้อมรอบแกนอากาศ ทำหน้าที่เหมือนกระจกสะท้อนแสงกลับเข้าสู่แกนกลาง และลดการกระจายของคลื่นแสงที่ไม่ต้องการ ผลลัพธ์คือสายเคเบิลที่เร็วขึ้น (เพราะแสงเดินทางในอากาศเร็วกว่าในแก้ว) และสูญเสียพลังงานน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ

    Microsoft ได้ติดตั้งสายเคเบิลนี้จริงแล้วกว่า 1,200 กิโลเมตรในเครือข่าย Azure และประกาศว่าจะขยายอีก 15,000 กิโลเมตรภายในสองปี เพื่อรองรับการเชื่อมต่อ AI ที่ต้องการ latency ต่ำและ bandwidth สูง

    นอกจากการลดการสูญเสียสัญญาณแล้ว DNANF ยังมี chromatic dispersion ต่ำกว่าฟิเบอร์แก้วถึง 7 เท่า ซึ่งช่วยให้การออกแบบ transceiver ง่ายขึ้น และลดการใช้พลังงานในอุปกรณ์เครือข่าย

    Francesco Poletti ผู้ร่วมออกแบบเทคโนโลยีนี้ระบุว่า การลดการสูญเสียสัญญาณลงระดับนี้จะช่วยให้สามารถ “ข้ามสถานีขยายสัญญาณได้หนึ่งในทุกสองหรือสามจุด” ซึ่งลดทั้งต้นทุนการติดตั้งและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

    ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ DNANF
    ใช้โครงสร้างแก้วบางล้อมรอบแกนอากาศเพื่อสะท้อนแสงกลับ
    ลดการสูญเสียสัญญาณเหลือเพียง 0.091 dB/km ต่ำกว่าฟิเบอร์แก้วเดิม
    ลด chromatic dispersion ได้ถึง 7 เท่าเมื่อเทียบกับสายแก้ว

    การใช้งานจริงในเครือข่าย Azure
    Microsoft ติดตั้งแล้วกว่า 1,200 กม. และวางแผนขยายอีก 15,000 กม.
    ใช้ในเครือข่าย AI เพื่อรองรับ latency ต่ำและ bandwidth สูง
    ช่วยลดจำนวนสถานีขยายสัญญาณและต้นทุนการดำเนินงาน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    เป็นครั้งแรกที่สายแกนอากาศมีประสิทธิภาพดีกว่าสายแก้ว
    อาจเปลี่ยนมาตรฐานการออกแบบเครือข่ายในอนาคต
    ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างศูนย์ข้อมูลเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น

    ความท้าทายด้านการผลิตและมาตรฐาน
    การผลิตต้องใช้เครื่องมือใหม่และกระบวนการเฉพาะ
    มาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับสาย DNANF ยังไม่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน

    ความไม่แน่นอนของการขยายในวงกว้าง
    แม้จะใช้งานจริงแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการ deploy
    ต้องพิสูจน์ความเสถียรในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและระยะยาว

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ความเร็ว”
    แม้แสงในอากาศจะเร็วกว่าในแก้ว แต่ความเร็วรวมยังขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ปลายทาง
    การลด latency ต้องพิจารณาทั้งระบบ ไม่ใช่แค่สายเคเบิลอย่างเดียว

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/hollow-core-fiber-research-smashes-optical-loss-record
    🎙️ เรื่องเล่าจากแกนกลวง: เมื่อสายเคเบิลที่ไม่มีแก้วกลายเป็นตัวเร่งความเร็วของยุค AI หลังจากที่โลกใช้สายไฟเบอร์แก้วนำแสงมานานกว่า 40 ปี โดยมีขีดจำกัดการสูญเสียสัญญาณอยู่ที่ ~0.14 dB/km ทีมวิจัยจาก Lumenisity ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Microsoft ได้สร้างสายเคเบิลแบบใหม่ที่เรียกว่า “double nested antiresonant nodeless fiber” หรือ DNANF ซึ่งใช้แกนกลางเป็นอากาศแทนแก้ว และสามารถลดการสูญเสียสัญญาณลงเหลือเพียง 0.091 dB/km เทคโนโลยีนี้ใช้โครงสร้างแก้วบางระดับไมครอนล้อมรอบแกนอากาศ ทำหน้าที่เหมือนกระจกสะท้อนแสงกลับเข้าสู่แกนกลาง และลดการกระจายของคลื่นแสงที่ไม่ต้องการ ผลลัพธ์คือสายเคเบิลที่เร็วขึ้น (เพราะแสงเดินทางในอากาศเร็วกว่าในแก้ว) และสูญเสียพลังงานน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ Microsoft ได้ติดตั้งสายเคเบิลนี้จริงแล้วกว่า 1,200 กิโลเมตรในเครือข่าย Azure และประกาศว่าจะขยายอีก 15,000 กิโลเมตรภายในสองปี เพื่อรองรับการเชื่อมต่อ AI ที่ต้องการ latency ต่ำและ bandwidth สูง นอกจากการลดการสูญเสียสัญญาณแล้ว DNANF ยังมี chromatic dispersion ต่ำกว่าฟิเบอร์แก้วถึง 7 เท่า ซึ่งช่วยให้การออกแบบ transceiver ง่ายขึ้น และลดการใช้พลังงานในอุปกรณ์เครือข่าย Francesco Poletti ผู้ร่วมออกแบบเทคโนโลยีนี้ระบุว่า การลดการสูญเสียสัญญาณลงระดับนี้จะช่วยให้สามารถ “ข้ามสถานีขยายสัญญาณได้หนึ่งในทุกสองหรือสามจุด” ซึ่งลดทั้งต้นทุนการติดตั้งและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ✅ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ DNANF ➡️ ใช้โครงสร้างแก้วบางล้อมรอบแกนอากาศเพื่อสะท้อนแสงกลับ ➡️ ลดการสูญเสียสัญญาณเหลือเพียง 0.091 dB/km ต่ำกว่าฟิเบอร์แก้วเดิม ➡️ ลด chromatic dispersion ได้ถึง 7 เท่าเมื่อเทียบกับสายแก้ว ✅ การใช้งานจริงในเครือข่าย Azure ➡️ Microsoft ติดตั้งแล้วกว่า 1,200 กม. และวางแผนขยายอีก 15,000 กม. ➡️ ใช้ในเครือข่าย AI เพื่อรองรับ latency ต่ำและ bandwidth สูง ➡️ ช่วยลดจำนวนสถานีขยายสัญญาณและต้นทุนการดำเนินงาน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ เป็นครั้งแรกที่สายแกนอากาศมีประสิทธิภาพดีกว่าสายแก้ว ➡️ อาจเปลี่ยนมาตรฐานการออกแบบเครือข่ายในอนาคต ➡️ ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างศูนย์ข้อมูลเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น ‼️ ความท้าทายด้านการผลิตและมาตรฐาน ⛔ การผลิตต้องใช้เครื่องมือใหม่และกระบวนการเฉพาะ ⛔ มาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับสาย DNANF ยังไม่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน ‼️ ความไม่แน่นอนของการขยายในวงกว้าง ⛔ แม้จะใช้งานจริงแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการ deploy ⛔ ต้องพิสูจน์ความเสถียรในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและระยะยาว ‼️ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ความเร็ว” ⛔ แม้แสงในอากาศจะเร็วกว่าในแก้ว แต่ความเร็วรวมยังขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ปลายทาง ⛔ การลด latency ต้องพิจารณาทั้งระบบ ไม่ใช่แค่สายเคเบิลอย่างเดียว https://www.tomshardware.com/tech-industry/hollow-core-fiber-research-smashes-optical-loss-record
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 365 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Project Digits: เมื่อพลังระดับเซิร์ฟเวอร์ถูกย่อส่วนให้พกพาได้

    ในงาน IFA 2025 Acer เปิดตัว Veriton GN100 ซึ่งเป็นเวอร์ชันของ Project Digits ที่ใช้ชิป Nvidia GB10 Grace Blackwell Superchip โดยออกแบบมาเพื่อเป็น “AI mini workstation” สำหรับนักพัฒนา, นักวิจัย, มหาวิทยาลัย และองค์กรที่ต้องการประมวลผลโมเดลขนาดใหญ่โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์

    ตัวเครื่องมีขนาดเพียง 150 × 150 × 50.5 มม. แต่ภายในบรรจุพลังระดับเซิร์ฟเวอร์: CPU ARM 20 คอร์ (10 Cortex-X925 + 10 A725), GPU Blackwell ที่ให้พลัง FP4 สูงถึง 1 PFLOP, RAM LPDDR5X ขนาด 128GB และ SSD NVMe สูงสุด 4TB พร้อมระบบเข้ารหัสในตัว

    ที่โดดเด่นคือการรองรับ NVFP4 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของ Nvidia สำหรับการประมวลผล AI แบบ FP4 ที่มีประสิทธิภาพสูงและความแม่นยำใกล้เคียงกับ BF16 แต่ใช้พลังงานน้อยกว่า ทำให้สามารถเทรนโมเดลขนาดใหญ่ได้ในเครื่องเดียว

    GN100 ยังมาพร้อมกับ Nvidia AI software stack เต็มรูปแบบ เช่น CUDA, cuDNN, TensorRT และรองรับ framework ยอดนิยมอย่าง PyTorch, TensorFlow, JAX และ Ollama โดยสามารถเชื่อมต่อสองเครื่องผ่าน ConnectX-7 NIC เพื่อรองรับโมเดลขนาดสูงสุดถึง 405 พันล้านพารามิเตอร์

    สเปกของ Acer Veriton GN100
    ใช้ Nvidia GB10 Grace Blackwell Superchip
    CPU ARM 20 คอร์ (10 Cortex-X925 + 10 A725)
    GPU Blackwell รองรับ FP4 ได้ถึง 1 PFLOP
    RAM LPDDR5X ขนาด 128GB และ SSD NVMe สูงสุด 4TB

    ความสามารถด้าน AI
    รองรับ NVFP4 สำหรับการประมวลผล AI ที่มีประสิทธิภาพสูง
    ใช้ Nvidia AI software stack เช่น CUDA, cuDNN, TensorRT
    รองรับ framework ยอดนิยม เช่น PyTorch, TensorFlow, JAX, Ollama

    การเชื่อมต่อและการขยาย
    มี USB-C 4 ช่อง, HDMI 2.1b, Ethernet, Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.1
    เชื่อมต่อสองเครื่องผ่าน ConnectX-7 NIC เพื่อรองรับโมเดลขนาดใหญ่
    รองรับการทำงานร่วมกับระบบคลาวด์หรือศูนย์ข้อมูล

    การออกแบบและการใช้งาน
    ขนาดเล็กเพียง 150 × 150 × 50.5 มม. เหมาะกับโต๊ะทำงานหรือห้องวิจัย
    มี Kensington lock สำหรับความปลอดภัย
    ราคาเริ่มต้นที่ $3,999 ในอเมริกาเหนือ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/acer-unveils-project-digits-supercomputer-featuring-nvidias-gb10-superchip-with-128gb-of-lpddr5x
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Project Digits: เมื่อพลังระดับเซิร์ฟเวอร์ถูกย่อส่วนให้พกพาได้ ในงาน IFA 2025 Acer เปิดตัว Veriton GN100 ซึ่งเป็นเวอร์ชันของ Project Digits ที่ใช้ชิป Nvidia GB10 Grace Blackwell Superchip โดยออกแบบมาเพื่อเป็น “AI mini workstation” สำหรับนักพัฒนา, นักวิจัย, มหาวิทยาลัย และองค์กรที่ต้องการประมวลผลโมเดลขนาดใหญ่โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ตัวเครื่องมีขนาดเพียง 150 × 150 × 50.5 มม. แต่ภายในบรรจุพลังระดับเซิร์ฟเวอร์: CPU ARM 20 คอร์ (10 Cortex-X925 + 10 A725), GPU Blackwell ที่ให้พลัง FP4 สูงถึง 1 PFLOP, RAM LPDDR5X ขนาด 128GB และ SSD NVMe สูงสุด 4TB พร้อมระบบเข้ารหัสในตัว ที่โดดเด่นคือการรองรับ NVFP4 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของ Nvidia สำหรับการประมวลผล AI แบบ FP4 ที่มีประสิทธิภาพสูงและความแม่นยำใกล้เคียงกับ BF16 แต่ใช้พลังงานน้อยกว่า ทำให้สามารถเทรนโมเดลขนาดใหญ่ได้ในเครื่องเดียว GN100 ยังมาพร้อมกับ Nvidia AI software stack เต็มรูปแบบ เช่น CUDA, cuDNN, TensorRT และรองรับ framework ยอดนิยมอย่าง PyTorch, TensorFlow, JAX และ Ollama โดยสามารถเชื่อมต่อสองเครื่องผ่าน ConnectX-7 NIC เพื่อรองรับโมเดลขนาดสูงสุดถึง 405 พันล้านพารามิเตอร์ ✅ สเปกของ Acer Veriton GN100 ➡️ ใช้ Nvidia GB10 Grace Blackwell Superchip ➡️ CPU ARM 20 คอร์ (10 Cortex-X925 + 10 A725) ➡️ GPU Blackwell รองรับ FP4 ได้ถึง 1 PFLOP ➡️ RAM LPDDR5X ขนาด 128GB และ SSD NVMe สูงสุด 4TB ✅ ความสามารถด้าน AI ➡️ รองรับ NVFP4 สำหรับการประมวลผล AI ที่มีประสิทธิภาพสูง ➡️ ใช้ Nvidia AI software stack เช่น CUDA, cuDNN, TensorRT ➡️ รองรับ framework ยอดนิยม เช่น PyTorch, TensorFlow, JAX, Ollama ✅ การเชื่อมต่อและการขยาย ➡️ มี USB-C 4 ช่อง, HDMI 2.1b, Ethernet, Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.1 ➡️ เชื่อมต่อสองเครื่องผ่าน ConnectX-7 NIC เพื่อรองรับโมเดลขนาดใหญ่ ➡️ รองรับการทำงานร่วมกับระบบคลาวด์หรือศูนย์ข้อมูล ✅ การออกแบบและการใช้งาน ➡️ ขนาดเล็กเพียง 150 × 150 × 50.5 มม. เหมาะกับโต๊ะทำงานหรือห้องวิจัย ➡️ มี Kensington lock สำหรับความปลอดภัย ➡️ ราคาเริ่มต้นที่ $3,999 ในอเมริกาเหนือ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/acer-unveils-project-digits-supercomputer-featuring-nvidias-gb10-superchip-with-128gb-of-lpddr5x
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Acer unveils Project Digits supercomputer featuring Nvidia's GB10 superchip with 128GB of LPDDR5x
    Acer joins Asus, Lenovo, and Dell with its third-party Project Digits variation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 287 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโรงงานที่เงียบลง: เมื่อการโจมตีไซเบอร์กลายเป็นตัวหยุดเครื่องยนต์ของเศรษฐกิจยานยนต์อังกฤษ

    ต้นเดือนกันยายน 2025 Jaguar Land Rover (JLR) ถูกโจมตีไซเบอร์อย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้องปิดระบบ IT ทั่วโลกแบบฉุกเฉิน ทั้งในโรงงานผลิตและเครือข่ายค้าปลีก โดยเฉพาะโรงงาน Halewood และ Solihull ในอังกฤษที่ต้องสั่งให้พนักงานกลับบ้านทันที

    เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่โชว์รูมกำลังเร่งขายรถใหม่ที่ติดป้ายทะเบียน “75” ซึ่งเป็นช่วงพีคของปีสำหรับยอดขายรถยนต์ในอังกฤษ การที่ระบบลงทะเบียนรถล่ม ทำให้ไม่สามารถส่งมอบรถใหม่ได้ ส่งผลกระทบต่อรายได้ทันที

    แม้ JLR จะออกแถลงการณ์ว่า “ไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลลูกค้าถูกขโมย” แต่กลุ่มแฮกเกอร์ Scattered Spider และ Shiny Hunters ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบ พร้อมโพสต์ภาพหน้าจอที่แสดงว่าพวกเขาเข้าถึงระบบภายในของ JLR ได้แล้ว โดยใช้ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ SAP NetWeaver ซึ่งเคยถูกเตือนโดยหน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ว่าเป็นช่องโหว่ร้ายแรง

    กลุ่มแฮกเกอร์เหล่านี้เคยโจมตี M&S, Co-op และ Harrods มาก่อน และปัจจุบันรวมตัวกันภายใต้ชื่อ “Scattered Lapsus Hunters” ซึ่งประกอบด้วยวัยรุ่นและเยาวชนจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

    แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่ามีการเรียกค่าไถ่หรือข้อมูลใดถูกขโมย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่า การโจมตีลักษณะนี้อาจเป็นการเจาะระบบ OT (Operational Technology) ที่เชื่อมโยงกับสายการผลิตโดยตรง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายทางกายภาพได้

    เหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ที่ JLR
    เกิดขึ้นต้นเดือนกันยายน 2025 ส่งผลให้ต้องปิดระบบ IT ทั่วโลก
    โรงงาน Halewood และ Solihull หยุดการผลิต พนักงานถูกสั่งกลับบ้าน
    โชว์รูมไม่สามารถลงทะเบียนรถใหม่ที่ติดป้าย “75” ได้

    กลุ่มแฮกเกอร์ที่อ้างความรับผิดชอบ
    Scattered Spider และ Shiny Hunters รวมตัวกันเป็น “Scattered Lapsus Hunters”
    เคยโจมตี M&S, Co-op และ Harrods มาก่อน
    ใช้ช่องโหว่ใน SAP NetWeaver เพื่อเข้าถึงระบบของ JLR

    ผลกระทบต่อธุรกิจและการผลิต
    เกิดขึ้นในช่วงพีคของยอดขายรถยนต์ในอังกฤษ
    ส่งผลให้ไม่สามารถส่งมอบรถใหม่ได้ทันที
    อาจกระทบต่อ supply chain และรายได้ของบริษัท

    การตอบสนองของ JLR
    ปิดระบบทันทีเพื่อจำกัดความเสียหาย
    ยืนยันว่าไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลลูกค้าถูกขโมย
    กำลังเร่งกู้คืนระบบอย่างเป็นขั้นตอน

    https://www.techradar.com/pro/security/jaguar-land-rover-says-cyberattack-majorly-affected-production
    🎙️ เรื่องเล่าจากโรงงานที่เงียบลง: เมื่อการโจมตีไซเบอร์กลายเป็นตัวหยุดเครื่องยนต์ของเศรษฐกิจยานยนต์อังกฤษ ต้นเดือนกันยายน 2025 Jaguar Land Rover (JLR) ถูกโจมตีไซเบอร์อย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้องปิดระบบ IT ทั่วโลกแบบฉุกเฉิน ทั้งในโรงงานผลิตและเครือข่ายค้าปลีก โดยเฉพาะโรงงาน Halewood และ Solihull ในอังกฤษที่ต้องสั่งให้พนักงานกลับบ้านทันที เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่โชว์รูมกำลังเร่งขายรถใหม่ที่ติดป้ายทะเบียน “75” ซึ่งเป็นช่วงพีคของปีสำหรับยอดขายรถยนต์ในอังกฤษ การที่ระบบลงทะเบียนรถล่ม ทำให้ไม่สามารถส่งมอบรถใหม่ได้ ส่งผลกระทบต่อรายได้ทันที แม้ JLR จะออกแถลงการณ์ว่า “ไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลลูกค้าถูกขโมย” แต่กลุ่มแฮกเกอร์ Scattered Spider และ Shiny Hunters ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบ พร้อมโพสต์ภาพหน้าจอที่แสดงว่าพวกเขาเข้าถึงระบบภายในของ JLR ได้แล้ว โดยใช้ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ SAP NetWeaver ซึ่งเคยถูกเตือนโดยหน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ว่าเป็นช่องโหว่ร้ายแรง กลุ่มแฮกเกอร์เหล่านี้เคยโจมตี M&S, Co-op และ Harrods มาก่อน และปัจจุบันรวมตัวกันภายใต้ชื่อ “Scattered Lapsus Hunters” ซึ่งประกอบด้วยวัยรุ่นและเยาวชนจากประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่ามีการเรียกค่าไถ่หรือข้อมูลใดถูกขโมย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่า การโจมตีลักษณะนี้อาจเป็นการเจาะระบบ OT (Operational Technology) ที่เชื่อมโยงกับสายการผลิตโดยตรง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายทางกายภาพได้ ✅ เหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ที่ JLR ➡️ เกิดขึ้นต้นเดือนกันยายน 2025 ส่งผลให้ต้องปิดระบบ IT ทั่วโลก ➡️ โรงงาน Halewood และ Solihull หยุดการผลิต พนักงานถูกสั่งกลับบ้าน ➡️ โชว์รูมไม่สามารถลงทะเบียนรถใหม่ที่ติดป้าย “75” ได้ ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ที่อ้างความรับผิดชอบ ➡️ Scattered Spider และ Shiny Hunters รวมตัวกันเป็น “Scattered Lapsus Hunters” ➡️ เคยโจมตี M&S, Co-op และ Harrods มาก่อน ➡️ ใช้ช่องโหว่ใน SAP NetWeaver เพื่อเข้าถึงระบบของ JLR ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจและการผลิต ➡️ เกิดขึ้นในช่วงพีคของยอดขายรถยนต์ในอังกฤษ ➡️ ส่งผลให้ไม่สามารถส่งมอบรถใหม่ได้ทันที ➡️ อาจกระทบต่อ supply chain และรายได้ของบริษัท ✅ การตอบสนองของ JLR ➡️ ปิดระบบทันทีเพื่อจำกัดความเสียหาย ➡️ ยืนยันว่าไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลลูกค้าถูกขโมย ➡️ กำลังเร่งกู้คืนระบบอย่างเป็นขั้นตอน https://www.techradar.com/pro/security/jaguar-land-rover-says-cyberattack-majorly-affected-production
    WWW.TECHRADAR.COM
    Jaguar Land Rover says cyberattack majorly affected production
    Recent incident at the luxury carmaker forced it to shut down its IT network
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Corsair และ Pavehawk: เมื่อการประมวลผล AI ไม่ต้องพึ่ง HBM อีกต่อไป

    ในยุคที่ HBM (High Bandwidth Memory) กลายเป็นหัวใจของการเทรนโมเดล AI ขนาดใหญ่ บริษัท D-Matrix กลับเลือกเดินเส้นทางที่ต่างออกไป—โดยมุ่งเน้นไปที่ “AI inference” ซึ่งเป็นภาระงานที่กำลังกลายเป็นศูนย์กลางของการใช้งานจริงในองค์กร

    แทนที่จะใช้ HBM ที่มีราคาสูงและ supply จำกัด D-Matrix พัฒนา Corsair ซึ่งเป็น inference accelerator แบบ chiplet ที่ใช้ LPDDR5 ขนาด 256GB และ SRAM 2GB ร่วมกับสถาปัตยกรรมใหม่ที่เรียกว่า 3DIMC (3D Digital In-Memory Compute)

    เทคโนโลยีนี้ถูกนำไปใช้ใน Pavehawk ซึ่งเป็นซิลิคอนรุ่นใหม่ที่ใช้ logic die จาก TSMC N5 และ DRAM แบบ stacked หลายชั้น เพื่อให้ compute และ memory อยู่ใกล้กันมากที่สุด ลด latency และพลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายข้อมูล

    D-Matrix อ้างว่า Pavehawk มี bandwidth และ energy efficiency ต่อ stack สูงกว่า HBM4 ถึง 10 เท่า และสามารถขยายความจุได้มากกว่าด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า ทำให้เหมาะกับการ deploy ใน data center ที่ต้องการ inference ขนาดใหญ่แต่ไม่สามารถจ่ายราคาของ HBM ได้

    แนวคิดนี้ยังสอดคล้องกับเทรนด์ของอุตสาหกรรมที่เริ่มหันมาใช้ interconnect แบบ CXL และการรวม controller เข้ากับ accelerator เพื่อให้ compute และ memory ทำงานร่วมกันได้อย่างแนบแน่น

    แนวทางของ D-Matrix ในการออกแบบ inference accelerator
    Corsair ใช้ LPDDR5 256GB + SRAM 2GB แบบ chiplet-based
    ไม่ใช้ HBM แต่เน้นการ co-package ระหว่าง compute และ memory
    เหมาะกับ AI inference ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่ำ

    เทคโนโลยี 3DIMC และ Pavehawk
    ใช้ logic die จาก TSMC N5 ร่วมกับ DRAM แบบ stacked หลายชั้น
    ลด latency และพลังงานในการเคลื่อนย้ายข้อมูล
    ให้ bandwidth และ energy efficiency สูงกว่า HBM4 ถึง 10 เท่า

    บริบทของอุตสาหกรรม AI
    Inference กำลังกลายเป็น workload หลักขององค์กร (คาดว่าจะเกิน 85% ภายใน 2–3 ปี)
    HBM มีราคาสูงและ supply จำกัด โดยเฉพาะสำหรับบริษัทขนาดเล็ก
    การรวม compute และ memory เป็นแนวทางที่หลายบริษัทเริ่มทดลอง เช่น CXL-based accelerator

    จุดเด่นของแนวคิด stacked DRAM + logic
    เพิ่มความจุและ bandwidth ได้โดยไม่ต้องใช้ HBM
    ลดต้นทุนและพลังงานในระดับ data center
    เหมาะกับการ deploy inference ที่ต้องการ scale แบบประหยัด

    https://www.techradar.com/pro/security/after-sandisk-d-matrix-is-proposing-an-intriguing-alternative-to-the-big-hbm-ai-puzzle-with-10x-better-performance-with-10x-better-energy-efficiency
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Corsair และ Pavehawk: เมื่อการประมวลผล AI ไม่ต้องพึ่ง HBM อีกต่อไป ในยุคที่ HBM (High Bandwidth Memory) กลายเป็นหัวใจของการเทรนโมเดล AI ขนาดใหญ่ บริษัท D-Matrix กลับเลือกเดินเส้นทางที่ต่างออกไป—โดยมุ่งเน้นไปที่ “AI inference” ซึ่งเป็นภาระงานที่กำลังกลายเป็นศูนย์กลางของการใช้งานจริงในองค์กร แทนที่จะใช้ HBM ที่มีราคาสูงและ supply จำกัด D-Matrix พัฒนา Corsair ซึ่งเป็น inference accelerator แบบ chiplet ที่ใช้ LPDDR5 ขนาด 256GB และ SRAM 2GB ร่วมกับสถาปัตยกรรมใหม่ที่เรียกว่า 3DIMC (3D Digital In-Memory Compute) เทคโนโลยีนี้ถูกนำไปใช้ใน Pavehawk ซึ่งเป็นซิลิคอนรุ่นใหม่ที่ใช้ logic die จาก TSMC N5 และ DRAM แบบ stacked หลายชั้น เพื่อให้ compute และ memory อยู่ใกล้กันมากที่สุด ลด latency และพลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายข้อมูล D-Matrix อ้างว่า Pavehawk มี bandwidth และ energy efficiency ต่อ stack สูงกว่า HBM4 ถึง 10 เท่า และสามารถขยายความจุได้มากกว่าด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า ทำให้เหมาะกับการ deploy ใน data center ที่ต้องการ inference ขนาดใหญ่แต่ไม่สามารถจ่ายราคาของ HBM ได้ แนวคิดนี้ยังสอดคล้องกับเทรนด์ของอุตสาหกรรมที่เริ่มหันมาใช้ interconnect แบบ CXL และการรวม controller เข้ากับ accelerator เพื่อให้ compute และ memory ทำงานร่วมกันได้อย่างแนบแน่น ✅ แนวทางของ D-Matrix ในการออกแบบ inference accelerator ➡️ Corsair ใช้ LPDDR5 256GB + SRAM 2GB แบบ chiplet-based ➡️ ไม่ใช้ HBM แต่เน้นการ co-package ระหว่าง compute และ memory ➡️ เหมาะกับ AI inference ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่ำ ✅ เทคโนโลยี 3DIMC และ Pavehawk ➡️ ใช้ logic die จาก TSMC N5 ร่วมกับ DRAM แบบ stacked หลายชั้น ➡️ ลด latency และพลังงานในการเคลื่อนย้ายข้อมูล ➡️ ให้ bandwidth และ energy efficiency สูงกว่า HBM4 ถึง 10 เท่า ✅ บริบทของอุตสาหกรรม AI ➡️ Inference กำลังกลายเป็น workload หลักขององค์กร (คาดว่าจะเกิน 85% ภายใน 2–3 ปี) ➡️ HBM มีราคาสูงและ supply จำกัด โดยเฉพาะสำหรับบริษัทขนาดเล็ก ➡️ การรวม compute และ memory เป็นแนวทางที่หลายบริษัทเริ่มทดลอง เช่น CXL-based accelerator ✅ จุดเด่นของแนวคิด stacked DRAM + logic ➡️ เพิ่มความจุและ bandwidth ได้โดยไม่ต้องใช้ HBM ➡️ ลดต้นทุนและพลังงานในระดับ data center ➡️ เหมาะกับการ deploy inference ที่ต้องการ scale แบบประหยัด https://www.techradar.com/pro/security/after-sandisk-d-matrix-is-proposing-an-intriguing-alternative-to-the-big-hbm-ai-puzzle-with-10x-better-performance-with-10x-better-energy-efficiency
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก BlazeCore: เมื่อ CPU ที่ยังไม่เปิดตัวถูกใส่ไว้ในเครื่องขายจริง

    ต้นเดือนกันยายน 2025 มีผู้พบว่า BlazeCore ซึ่งเป็นผู้ผลิตพีซีเกมมิ่งแบบประกอบล่วงหน้า ได้ระบุ “Ryzen 7 9700F” ไว้ในรายละเอียดของเครื่องรุ่นหนึ่งที่ขายผ่านร้าน Microless ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในหน้าสเปกหลักยังคงระบุว่าใช้ Ryzen 7 9700X แต่เมื่อเลื่อนลงไปอ่านรายละเอียดกลับพบชื่อ 9700F โผล่ขึ้นมา

    Ryzen 7 9700F เป็นรุ่นที่ยังไม่มีการเปิดตัวจาก AMD แต่มีข้อมูลหลุดออกมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนึ่งในสองรุ่นใหม่ในตระกูล Zen 5 ที่ไม่มีกราฟิกในตัว (F-series) โดยอีกตัวคือ Ryzen 5 9500F

    จากข้อมูลที่หลุดออกมา Ryzen 7 9700F มีสเปกใกล้เคียงกับ 9700X ทุกประการ: 8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, L3 cache 32MB แต่ boost clock ต่ำกว่าเล็กน้อยที่ 5.4 GHz (9700X อยู่ที่ 5.5 GHz) และไม่มี iGPU ซึ่งทำให้ราคาควรจะถูกกว่า แต่ในรายการสินค้ากลับตั้งไว้ที่ $294 ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้

    เมื่อดูจาก benchmark ล่าสุด พบว่า 9700F มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ 9700X ทั้งในงาน multi-core และ single-core โดยต่างกันเพียงเล็กน้อยในคะแนน Cinebench และ Geekbench ซึ่งหมายความว่าในงานจริง เช่น การเล่นเกมหรือการตัดต่อวิดีโอ ความแตกต่างแทบไม่รู้สึกได้ หากใช้ GPU แยก

    การปรากฏตัวของ Ryzen 7 9700F
    ถูกระบุในรายละเอียดของเครื่อง BlazeCore บนร้าน Microless
    ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก AMD
    อาจเป็นการเตรียมเปลี่ยนสเปก หรือพิมพ์ผิดจากผู้ประกอบ

    สเปกของ Ryzen 7 9700F เทียบกับ 9700X
    8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, L3 cache 32MB เท่ากัน
    boost clock ต่ำกว่า 9700X เล็กน้อย (5.4 GHz vs 5.5 GHz)
    ไม่มี iGPU ซึ่งทำให้ราคาควรต่ำกว่า แต่กลับตั้งไว้ที่ $294

    ประสิทธิภาพจาก benchmark ล่าสุด
    คะแนน Cinebench และ Geekbench ต่างกันเพียง ~2% ใน single-core
    multi-core performance เท่ากันทุกประการ
    เหมาะกับผู้ใช้ที่มี GPU แยกและไม่ต้องการ iGPU

    บริบทของ Zen 5 และ F-series
    Ryzen 7 9700F และ 9500F เป็นรุ่นแรกของ Zen 5 ที่ไม่มีกราฟิกในตัว
    เหมาะกับตลาดที่เน้นประสิทธิภาพต่อราคา เช่น เกมมิ่งและ workstation
    อาจเป็นกลยุทธ์ของ AMD เพื่อลดต้นทุนและแข่งขันกับ Intel F-series

    https://wccftech.com/system-integrator-mentions-ryzen-7-9700f-with-boost-clock-of-5-4-ghz-configuration-still-boasts-9700x/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก BlazeCore: เมื่อ CPU ที่ยังไม่เปิดตัวถูกใส่ไว้ในเครื่องขายจริง ต้นเดือนกันยายน 2025 มีผู้พบว่า BlazeCore ซึ่งเป็นผู้ผลิตพีซีเกมมิ่งแบบประกอบล่วงหน้า ได้ระบุ “Ryzen 7 9700F” ไว้ในรายละเอียดของเครื่องรุ่นหนึ่งที่ขายผ่านร้าน Microless ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในหน้าสเปกหลักยังคงระบุว่าใช้ Ryzen 7 9700X แต่เมื่อเลื่อนลงไปอ่านรายละเอียดกลับพบชื่อ 9700F โผล่ขึ้นมา Ryzen 7 9700F เป็นรุ่นที่ยังไม่มีการเปิดตัวจาก AMD แต่มีข้อมูลหลุดออกมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนึ่งในสองรุ่นใหม่ในตระกูล Zen 5 ที่ไม่มีกราฟิกในตัว (F-series) โดยอีกตัวคือ Ryzen 5 9500F จากข้อมูลที่หลุดออกมา Ryzen 7 9700F มีสเปกใกล้เคียงกับ 9700X ทุกประการ: 8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, L3 cache 32MB แต่ boost clock ต่ำกว่าเล็กน้อยที่ 5.4 GHz (9700X อยู่ที่ 5.5 GHz) และไม่มี iGPU ซึ่งทำให้ราคาควรจะถูกกว่า แต่ในรายการสินค้ากลับตั้งไว้ที่ $294 ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ เมื่อดูจาก benchmark ล่าสุด พบว่า 9700F มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ 9700X ทั้งในงาน multi-core และ single-core โดยต่างกันเพียงเล็กน้อยในคะแนน Cinebench และ Geekbench ซึ่งหมายความว่าในงานจริง เช่น การเล่นเกมหรือการตัดต่อวิดีโอ ความแตกต่างแทบไม่รู้สึกได้ หากใช้ GPU แยก ✅ การปรากฏตัวของ Ryzen 7 9700F ➡️ ถูกระบุในรายละเอียดของเครื่อง BlazeCore บนร้าน Microless ➡️ ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก AMD ➡️ อาจเป็นการเตรียมเปลี่ยนสเปก หรือพิมพ์ผิดจากผู้ประกอบ ✅ สเปกของ Ryzen 7 9700F เทียบกับ 9700X ➡️ 8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, L3 cache 32MB เท่ากัน ➡️ boost clock ต่ำกว่า 9700X เล็กน้อย (5.4 GHz vs 5.5 GHz) ➡️ ไม่มี iGPU ซึ่งทำให้ราคาควรต่ำกว่า แต่กลับตั้งไว้ที่ $294 ✅ ประสิทธิภาพจาก benchmark ล่าสุด ➡️ คะแนน Cinebench และ Geekbench ต่างกันเพียง ~2% ใน single-core ➡️ multi-core performance เท่ากันทุกประการ ➡️ เหมาะกับผู้ใช้ที่มี GPU แยกและไม่ต้องการ iGPU ✅ บริบทของ Zen 5 และ F-series ➡️ Ryzen 7 9700F และ 9500F เป็นรุ่นแรกของ Zen 5 ที่ไม่มีกราฟิกในตัว ➡️ เหมาะกับตลาดที่เน้นประสิทธิภาพต่อราคา เช่น เกมมิ่งและ workstation ➡️ อาจเป็นกลยุทธ์ของ AMD เพื่อลดต้นทุนและแข่งขันกับ Intel F-series https://wccftech.com/system-integrator-mentions-ryzen-7-9700f-with-boost-clock-of-5-4-ghz-configuration-still-boasts-9700x/
    WCCFTECH.COM
    System Integrator Mentions Ryzen 7 9700F With Boost Clock Of 5.4 GHz; Configuration Still Boasts 9700X
    AMD's Ryzen 7 9700F with 5.4 GHz boost listed at $294 in pre-built systems, features identical specs to 9700X but lacks integrated graphics
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าหลุดพ้นจากทุกข์ เพราะไม่เพลิดเพลินในเบญจขันธ์
    สัทธรรมลำดับที่ : 367
    ชื่อบทธรรม :- หลุดพ้นจากทุกข์ เพราะไม่เพลิดเพลินในเบญจขันธ์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=367
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --หลุดพ้นจากทุกข์ เพราะไม่เพลิดเพลินในเบญจขันธ์(ห้ากลุ่ม)
    ๑.--ภิกษุ ท. !
    ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ใน รูป,
    ผู้นั้น เท่ากับ ไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์.
    เรากล่าวว่า
    “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์,
    ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์”
    ดังนี้ ;
    ๒.--ภิกษุ ท. !
    ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ใน เวทนา,
    ผู้นั้น เท่ากับ ไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์,
    เรากล่าวว่า
    “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์,
    ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์”
    ดังนี้ ;
    ๓.--ภิกษุ ท. !
    ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ใน สัญญา,
    ผู้นั้น เท่ากับไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์,
    เรากล่าวว่า
    “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์,
    ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์” ดังนี้ ;
    ๔.--ภิกษุ ท. !
    ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ใน สังขาร,
    ผู้นั้น เท่ากับไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์,
    เรากล่าวว่า
    “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์,
    ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์”
    ดังนี้ ;
    ๕.--ภิกษุ ท. !
    ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ใน วิญญาณ,
    ผู้นั้น เท่ากับไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์,
    เรากล่าวว่า
    “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์,
    ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์”
    ดังนี้.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/30/65.
    http://etipitaka.com/read/thai/17/30/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๓๙/๖๕.
    http://etipitaka.com/read/pali/17/39/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%95
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=367
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=367
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าหลุดพ้นจากทุกข์ เพราะไม่เพลิดเพลินในเบญจขันธ์ สัทธรรมลำดับที่ : 367 ชื่อบทธรรม :- หลุดพ้นจากทุกข์ เพราะไม่เพลิดเพลินในเบญจขันธ์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=367 เนื้อความทั้งหมด :- --หลุดพ้นจากทุกข์ เพราะไม่เพลิดเพลินในเบญจขันธ์(ห้ากลุ่ม) ๑.--ภิกษุ ท. ! ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ใน รูป, ผู้นั้น เท่ากับ ไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์. เรากล่าวว่า “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์, ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์” ดังนี้ ; ๒.--ภิกษุ ท. ! ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ใน เวทนา, ผู้นั้น เท่ากับ ไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์, เรากล่าวว่า “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์, ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์” ดังนี้ ; ๓.--ภิกษุ ท. ! ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ใน สัญญา, ผู้นั้น เท่ากับไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์, เรากล่าวว่า “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์, ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์” ดังนี้ ; ๔.--ภิกษุ ท. ! ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ใน สังขาร, ผู้นั้น เท่ากับไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์, เรากล่าวว่า “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์, ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์” ดังนี้ ; ๕.--ภิกษุ ท. ! ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ใน วิญญาณ, ผู้นั้น เท่ากับไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์, เรากล่าวว่า “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์, ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์” ดังนี้.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/30/65. http://etipitaka.com/read/thai/17/30/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๓๙/๖๕. http://etipitaka.com/read/pali/17/39/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=367 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=367 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - หลุดพ้นจากทุกข์ เพราะไม่เพลิดเพลินในเบญจขันธ์
    -หลุดพ้นจากทุกข์ เพราะไม่เพลิดเพลินในเบญจขันธ์ ภิกษุ ท. ! ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในรูป, ผู้นั้น เท่ากับ ไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์. เรากล่าวว่า “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์, ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในเวทนา, ผู้นั้น เท่ากับ ไม่ เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์, เรากล่าวว่า “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์, ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสัญญา, ผู้นั้น เท่ากับไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์, เรากล่าวว่า “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์, ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสังขาร, ผู้นั้น เท่ากับไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์, เรากล่าวว่า “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์, ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในวิญญาณ, ผู้นั้น เท่ากับไม่เพลิดเพลินอยู่ ในสิ่งที่เป็นทุกข์, เรากล่าวว่า “ผู้ใด ไม่เพลิดเพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์, ผู้นั้น ย่อมหลุดพ้นไปได้จากทุกข์” ดังนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของกาม
    สัทธรรมลำดับที่ : 736
    ชื่อบทธรรม :- อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของกาม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=736
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของกาม
    (ธรรมลักษณะ ๓ ประการของกาม : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ)

    --ภิกษุ ท. ! #อะไรเป็นอัสสาทะ (รสอร่อย) ของกามทั้งหลาย ?
    +--ภิกษุ ท. ! กามคุณ ๕ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. ห้าอย่าง อย่างไรเล่า?
    ห้าอย่าง​ คือ
    ๑.รูป อันจะพึงรู้แจ้งด้วยตา
    ๒.เสียงอันจะพึงรู้แจ้งด้วยหู
    ๓.กลิ่นอันจะพึงรู้แจ้งด้วยจมูก
    ๔.รสอันจะพึงรู้แจ้งด้วยลิ้น
    ๕.โผฏฐัพพะอันจะพึงรู้แจ้งด้วยผิวกาย (แต่ละอย่าง ๆ)
    อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก
    เป็นที่เข้าไปอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่
    +--ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แลชื่อว่า กามคุณ (คุณค่าสำหรับกาม) ห้าอย่าง.
    +--ภิกษุ ท. ! สุขโสมนัสใด อาศัยกามคุณห้าเหล่านี้แล้วเกิดขึ้น ,
    นี้เป็น อัสสาทะของกาม ทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! #อะไรเป็นอาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม) ของกามทั้งหลาย ?
    (ก) ภิกษุ ท. !
    กุลบุตรในโลกนี้ สำเร็จการเป็นอยู่ด้วยความพากเพียรในศิลปะ คือ
    ด้วยศิลปะแห่งการใช้สัญญาด้วยมือ ศิลปแห่งการคำนวณ ศิลปะแห่งการนับ
    ด้วยกสิกรรม ด้วยวาณิชกรรม ด้วยโครักขกรรม ด้วยศิลปะแห่งการใช้ศาตรา
    ด้วยการเป็นราชบุรุษ หรือด้วยศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง,
    +‐-ต้องเผชิญกับความหนาว เผชิญกับความร้อน ต้องลำบากอยู่
    ด้วยสัมผัสอันเกิดจากเหลือบยุงลมแดดและสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย อ่อนแรงอยู่
    ด้วยความหิว กระหายเพราะการไม่ได้บริโภคตามเวลา.
    +--ภิกษุ ท. ! ข้อนี้เป็นโทษแห่งกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ
    +‐-มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว.

    (ข) ภิกษุ ท. !
    แม้เมื่อกุลบุตรนั้นพากเพียรอยู่อย่างนั้น สืบต่อ พยายามอยู่อย่างนั้น
    โภคะก็ยังไม่สำเร็จแก่เขา ;
    +--เขาย่อมเศร้าโศก ย่อมลำบากใจ ร่ำไรรำพัน ตีอกร่ำไห้ ถึงความคลั่งเพ้อว่า
    “ความพากเพียรของเราเป็นโมฆะเสียแล้วหนอ ความพยายามของเราไม่มีผลหนอ”
    ดังนี้ เป็นต้น.
    +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ
    +--มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว.

    (ค) ภิกษุ ท. !
    ถึงแม้ว่าเมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียรอยู่อย่างนั้นสืบ ต่อพยายามอยู่อย่างนั้น
    โภคะเกิดสำเร็จผลแก่เขาขึ้นมา.
    +--เขาก็ยังเสวยทุกขโทมนัสเพราะการอารักขาโภคะเหล่านั้น โดยวิตกอยู่ว่า
    “ทำอย่างไรพระราชาจึงจะไม่ริบทรัพย์ของเราไป
    โจรจะไม่ปล้นทรัพย์ของเราไป
    ไฟจะไม่ไหม้ น้ำจะไม่พัดพาเอาไป
    ทายาทอันไม่เป็นที่รักจะไม่เยื้อแย่งเอาไป” ดังนี้ เป็นต้น.
    +‐-เมื่อเขาอารักขาคุ้มครองอยู่อย่างนี้
    พระราชาริบทรัพย์ของเขาไปบ้าง
    โจรปล้นเอาไปบ้าง ไฟไหม้เสียบ้าง
    น้ำพัดพาไปเสียบ้าง ทายาทไม่เป็นที่รักเยื้อแย่งไปเสียบ้าง,
    +--เขาย่อมเศร้าโศก ย่อมลำบากใจ ร่ำไรรำพัน ตีอกร่ำไห้ ถึงความคลั่งเพ้อว่า
    “สิ่งที่เคยมีแก่เรา ฉิบหายไปหมดแล้วหนอ” ดังนี้ เป็นต้น.
    +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษแห่งกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ
    +‐-มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว.

    (ง) ภิกษุ ท. ! โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า
    มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง; คือ
    ข้อที่ราชาวิวาทกับราชาบ้าง กษัตริย์วิวาทกับกษัตริย์บ้าง
    พราหมณ์วิวาทกับพราหมณ์บ้าง คหบดีวิวาทกับคหบดีบ้าง
    มารดาวิวาทแม้กับบุตร บุตรวิวาทแม้กับมารดา
    บิดาวิวาทแม้กับบุตร บุตรวิวาทแม้กับบิดา
    พี่น้องชายกับพี่น้องชาย พี่น้องหญิงกับพี่น้องหญิง
    แม้สหายกับสหายก็ยังวิวาทกัน,
    +‐-เขาเหล่านั้น ถึงการทะเลาะแก่งแย่งวิวาทกัน ในที่นั้นๆ,
    ทำร้ายกันและกันด้วยฝ่ามือบ้าง ด้วยก้อนดินบ้าง ด้วยท่อนไม้บ้าง ด้วยศาตราบ้าง
    ถึงความตายบ้าง ได้รับทุกข์เจียนตายบ้างในที่นั้น ๆ
    +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ
    +--มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว.

    (จ) ภิกษุ ท. !
    โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า
    +‐-มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง ; คือ
    ข้อคนที่คนทั้งหลายถือดาบและโล่หนัง ผูกสอดธนูและแล่งศร
    แล่นเข้าไปสู่สงครามอันตั้งขึ้นเป็นกองทัพสองฝ่าย
    ยิงศรอยู่บ้าง ซัดหอกอยู่บ้าง กวัดแกว่งดาบอยู่บ้าง,
    คนเหล่านั้น ถูกศรแทงบ้าง ถูกหอกแทงบ้าง ถูกดาบตัดศีรษะบ้าง
    ถึงความตายบ้าง ได้รับทุกข์เจียนตายบ้าง อยู่ในที่นั้นๆ.
    +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์
    อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ
    +--มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว.

    (ฉ) ภิกษุ ท. !
    โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า
    มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง ; คือ
    ข้อที่คนทั้งหลายถือดาบและโล่หนัง ผูกสอดธนูและแล่งศร
    แล่นเข้าประชิดเชิงเทินอันกระทำขึ้นด้วยวิธีที่เรียกว่า อัฏฏาวเลปนา*--๑
    เมื่อมีการยิงลูกศรอยู่บ้าง ซัดหอกอยู่บ้าง กวัดแกว่งดาบอยู่บ้าง
    คนเหล่านั้นก็ถูกลูกศรแทงบ้าง ถูกหอกแทงบ้าง
    ถูกรดอยู่ด้วยเถ้าถ่านโคมัยอันร้อนบ้าง
    ปล่อยของหนักให้ตกลงทับทีเดียวตายทั้งหมู่บ้าง
    ถูกตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง ถึงความตายบ้าง ได้รับทุกข์เจียนตายบ้าง อยู่ในที่นั้นๆ.
    +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์
    อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ
    +--มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว.
    -----
    *--๑. ตีนกำแพงที่ทำให้ขรุขระไว้ด้วยของมีคม ยากแก่การที่ข้าศึกจะเข้าไป
    หรือปีนกำแพงได้.

    (ช) ภิกษุ ท. !
    โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า
    มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง; คือ
    ข้อที่คนบางพวก ย่อมตัดช่อง ย่องเบา ปล้นสะดมในเรือนหลังเดียว
    คอยดักทำร้ายในที่เปลี่ยว และล่วงภรรยาผู้อื่น.
    พระราชาจับคนเหล่านั้นมาแล้ว ให้กระทำกรรมกรณ์วิธีการลงโทษหลายวิธีด้วยกัน เช่น
    เฆี่ยนด้วยหวายบ้าง หวดด้วยเชือกหนังบ้าง ทุบด้วยท่อนไม้บ้าง
    ตัดมือเสียบ้าง ตัดเท้าเสียบ้าง ตัดเสียทั้งมือและเท้าบ้าง
    ตัดหูบ้าง ตัดจมูกบ้าง ตัดเสียทั้งหูและจมูกบ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “หม้อเคี่ยวน้ำส้ม”*--๑ บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ขอดสังข์”*--๒ บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ปากราหู”*--๓ บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “มาลัยไฟ”*--๔ บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “มือคบเพลิงบ้าง”*--๕ บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ริ้วส่าย”*--๖ บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “นุ่งเปลือกไม้”*--๗ บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ยืนกวาง”*--๘ บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เกี่ยวเหยื่อเบ็ด”*--๙ บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เหรียญกษาปณ์”*--๑๐ บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ทาเกลือ” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “แปรงแสบ”*--๑๑ บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เวียนหลัก”*--๑๒ บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ตั่งฟาง”*--๑๓ บ้าง
    ย่อมราดด้วยน้ำมันร้อน ๆ บ้าง
    ย่อมปล่อยให้ “สุนัขทึ้ง”*--๑๔ บ้าง
    ย่อมให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็น ๆ บ้าง
    ย่อมตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง ;
    เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตายบ้าง ได้รับทุกข์เจียนตายบ้าง อยู่ในที่นั้น ๆ.
    +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์
    อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ
    +--มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว.
    -----
    *--๑. “หม้อเคี่ยวน้ำส้ม” คือต่อยหัวขมองแยกออก แล้วใช้คีมคีบก้อนเหล็กที่ลุกแดงใส่ลงไป ให้มันสมองเดือดพลุ่งขึ้นเหมือนน้ำส้มเดือดล้นหม้อ.
    *--๒. “ขอดสังข์” คือตัดหนังควั่นไปให้รอบจอนหูทั้งสองข้าง และหลุมคอ แล้วรวบผมทั้งหมดขมวดไว้ ใช้ไม้สอดหมุนยกขึ้น ให้หนังหลุดติดขึ้นมาพร้อมกับผมแล้วใช้ทรายหยาบขัดกะโหลกศีรษะล้างให้ขาว ดั่งสังข์.
    *--๓. “ปากราหู” คือใช้ขอเหล็กง้างปากให้อ้าแล้วจุดไฟในปาก. อีกอย่างหนึ่ง ใช้สิ่วตอกเจาะตั้งแต่จอนหูเข้าไปจนถึงปาก ให้โลหิตไหลออกมาเต็มปาก ดูปากอ้า ดั่งปากราหู.
    *--๔. “มาลัยไฟ” คือใช้ผาชุบน้ำมันพันจนทั่วตัวแล้วจุดไฟ.
    *--๕. “มือคบเพลิง” คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันมือทั้งสองข้างจนทั่ว แล้วจุดไฟ.
    *--๖. “ริ้วส่าย” คือเชือดหนังลอกออกเป็นริ้วๆ ตั้งแต่ใต้คอไปจนถึงข้อเท้า แล้วเอาเชือกผูกฉุดคร่าไป นักโทษเดินเหยียบหนังคัวล้มลุกคลุกคลานไปจนกว่าจะตาย.
    *--๗. “นุ่งเปลือกไม้” คือเชือดหนังเป็นริ้วๆอย่างบทก่อน แต่ทำเป็นสองตอน ตั้งแต่ใต้คอจนถึงเอวตอนหนึ่ง ตั้งแต่เอวจนถึงข้อเท้าตอนหนึ่ง ริ้วหนังตอนบนห้อยคลุมลงมาปิดกายตอนล่าง ดูดั่งนุ่งเปลือกไม้.
    *--๘. “ยืนกวาง” คือใช้ห่วงเหล็กรัดข้อศอกทั้งสอง และเข่าทั้งสอง ตรึงติดไว้กับหลักเหล็กสี่หลักบนพื้นดิน ดูดั่ง กวางถูกตรึง แล้วก่อไฟล้อมลนจนกว่าจะตาย.
    *--๙. “เกี่ยวเหยื่อเบ็ด” คือใช้เบ็ดมีเงี่ยงสองข้าง เกี่ยวตัวดึงเอาหนังเนื้อและเอ็นออกมาให้หมด.
    *--๑๐. “เหรียญกษาปณ์” คือใช้มีดคมเชือดหนังออกเป็นแว่นๆ ขนาดเท่าเงินเหรียญจนกว่าจะตาย.
    *--๑๑. “แปรงแสบ” คือฟันสับเสียให้ยับทั่วกาย แล้วใช้แปรงชุบน้ำแสบ (มีน้ำเกลือเป็นต้น) ถูครูดสีไปมาให้เนื้อเอ็นขาดหลุดออกมา เหลือแต่กระดูก.
    *--๑๒. “เวียนหลัก” คือให้นอนตะแคง แล้วใช้หลาวเหล็กตอกเข้าช่องหูให้ทะลุ ลงไปตรึงแน่นอยู่กับดิน แล้วจับเท้าทั้งสองเดินเวียน.
    *--๑๓. “ตั่งฟาง” คือใช้ลูกหินบดทับตัว บดให้กระดูกแตกละเอียด แต่ไม่ให้หนังขาด แล้วจับผมรวบขึ้นเขย่าๆ ให้เนื้อรวมเข้าเป็นกอง แล้วใช้ผมนั่นแหละพันตะล่อมวางไว้ เหมือนตั่งที่ทำด้วยฟางสำหรับเช็ดเท้า.
    *--๑๔. “ให้สุนัขทึ้ง” คือขังฝูงสุนัขให้อดหิวโซหลายวัน แล้วปล่อยให้ออกมารุมทึ้ง พักเดียวเหลือแต่กระดูก.
    --*-- นัยแห่งอรรถกถาและพระไตรปิฎกแปลของ ม . อำไพจริต.--*--

    (ญ) ภิกษุ ท. !
    โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า
    มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง ;
    คือข้อที่คนทั้งหลายประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ,
    ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจแล้ว,
    เขาเหล่านั้น ย่อม เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เบื้องหน้าแต่การตาย
    เพราะการแตกสลายแห่งกาย.
    +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์
    อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า
    มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ
    +--มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว.

    --ภิกษุ ท. ! #อะไรเป็นนิสสรณะ (อุบายเป็นเครื่องออก) จากกามทั้งหลาย ?
    +--ภิกษุ ท. !
    การนำออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ #การละเสียได้ซึ่งฉันทราคะ ในกามทั้งหลาย อันใด,
    อันนั้น เป็นนิสสรณะจากกามทั้งหลาย.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/168/?keywords=ฉนฺทราคปฺปหานํ
    +--ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด #ไม่รู้ชัดตามเป็นจริง
    ซึ่ง อัสสาทะแห่งกามทั้งหลาย โดยความเป็นอัสสาทะด้วย
    ซึ่ง อาทีนวะ โดยความเป็นอาทีนวะด้วย
    ซึ่ง นิสสรณะ โดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการเหล่านี้ อยู่;
    สมณะพราหมณ์เหล่านั้นน่ะหรือ จักรู้รอบซึ่งกามทั้งหลายด้วยตนเอง
    หรือว่าจักชักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งกามเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว
    ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้.
    +--ภิกษุ ท. ! ส่วน สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด #รู้ชัดตามเป็นจริง
    ซึ่ง อัสสาทะแห่งกามทั้งหลาย โดยความเป็นอัสสาทะด้วย
    ซึ่ง อาทีนวะ โดยความเป็นอาทีนวะด้วย
    ซึ่ง นิสสรณะ โดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้อยู่ ;
    สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นนั่นแหละ จักรอบรู้ซึ่งกามทั้งหลายด้วยตนเอง
    หรือว่าจักชักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งกามเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว
    ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู.ม. 12/115-120/197-200.
    http://etipitaka.com/read/thai/12/115/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู.ม. ๑๒/๑๖๘-๑๗๓/๑๙๗-๒๐๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/168/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%97
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55&id=736
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55
    ลำดับสาธยายธรรม : 55 ฟังเสียงอ่าน..
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_55.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของกาม สัทธรรมลำดับที่ : 736 ชื่อบทธรรม :- อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของกาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=736 เนื้อความทั้งหมด :- --อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของกาม (ธรรมลักษณะ ๓ ประการของกาม : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ) --ภิกษุ ท. ! #อะไรเป็นอัสสาทะ (รสอร่อย) ของกามทั้งหลาย ? +--ภิกษุ ท. ! กามคุณ ๕ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. ห้าอย่าง อย่างไรเล่า? ห้าอย่าง​ คือ ๑.รูป อันจะพึงรู้แจ้งด้วยตา ๒.เสียงอันจะพึงรู้แจ้งด้วยหู ๓.กลิ่นอันจะพึงรู้แจ้งด้วยจมูก ๔.รสอันจะพึงรู้แจ้งด้วยลิ้น ๕.โผฏฐัพพะอันจะพึงรู้แจ้งด้วยผิวกาย (แต่ละอย่าง ๆ) อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก เป็นที่เข้าไปอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่ +--ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แลชื่อว่า กามคุณ (คุณค่าสำหรับกาม) ห้าอย่าง. +--ภิกษุ ท. ! สุขโสมนัสใด อาศัยกามคุณห้าเหล่านี้แล้วเกิดขึ้น , นี้เป็น อัสสาทะของกาม ทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! #อะไรเป็นอาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม) ของกามทั้งหลาย ? (ก) ภิกษุ ท. ! กุลบุตรในโลกนี้ สำเร็จการเป็นอยู่ด้วยความพากเพียรในศิลปะ คือ ด้วยศิลปะแห่งการใช้สัญญาด้วยมือ ศิลปแห่งการคำนวณ ศิลปะแห่งการนับ ด้วยกสิกรรม ด้วยวาณิชกรรม ด้วยโครักขกรรม ด้วยศิลปะแห่งการใช้ศาตรา ด้วยการเป็นราชบุรุษ หรือด้วยศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง, +‐-ต้องเผชิญกับความหนาว เผชิญกับความร้อน ต้องลำบากอยู่ ด้วยสัมผัสอันเกิดจากเหลือบยุงลมแดดและสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย อ่อนแรงอยู่ ด้วยความหิว กระหายเพราะการไม่ได้บริโภคตามเวลา. +--ภิกษุ ท. ! ข้อนี้เป็นโทษแห่งกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ +‐-มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. (ข) ภิกษุ ท. ! แม้เมื่อกุลบุตรนั้นพากเพียรอยู่อย่างนั้น สืบต่อ พยายามอยู่อย่างนั้น โภคะก็ยังไม่สำเร็จแก่เขา ; +--เขาย่อมเศร้าโศก ย่อมลำบากใจ ร่ำไรรำพัน ตีอกร่ำไห้ ถึงความคลั่งเพ้อว่า “ความพากเพียรของเราเป็นโมฆะเสียแล้วหนอ ความพยายามของเราไม่มีผลหนอ” ดังนี้ เป็นต้น. +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ +--มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. (ค) ภิกษุ ท. ! ถึงแม้ว่าเมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียรอยู่อย่างนั้นสืบ ต่อพยายามอยู่อย่างนั้น โภคะเกิดสำเร็จผลแก่เขาขึ้นมา. +--เขาก็ยังเสวยทุกขโทมนัสเพราะการอารักขาโภคะเหล่านั้น โดยวิตกอยู่ว่า “ทำอย่างไรพระราชาจึงจะไม่ริบทรัพย์ของเราไป โจรจะไม่ปล้นทรัพย์ของเราไป ไฟจะไม่ไหม้ น้ำจะไม่พัดพาเอาไป ทายาทอันไม่เป็นที่รักจะไม่เยื้อแย่งเอาไป” ดังนี้ เป็นต้น. +‐-เมื่อเขาอารักขาคุ้มครองอยู่อย่างนี้ พระราชาริบทรัพย์ของเขาไปบ้าง โจรปล้นเอาไปบ้าง ไฟไหม้เสียบ้าง น้ำพัดพาไปเสียบ้าง ทายาทไม่เป็นที่รักเยื้อแย่งไปเสียบ้าง, +--เขาย่อมเศร้าโศก ย่อมลำบากใจ ร่ำไรรำพัน ตีอกร่ำไห้ ถึงความคลั่งเพ้อว่า “สิ่งที่เคยมีแก่เรา ฉิบหายไปหมดแล้วหนอ” ดังนี้ เป็นต้น. +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษแห่งกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ +‐-มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. (ง) ภิกษุ ท. ! โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง; คือ ข้อที่ราชาวิวาทกับราชาบ้าง กษัตริย์วิวาทกับกษัตริย์บ้าง พราหมณ์วิวาทกับพราหมณ์บ้าง คหบดีวิวาทกับคหบดีบ้าง มารดาวิวาทแม้กับบุตร บุตรวิวาทแม้กับมารดา บิดาวิวาทแม้กับบุตร บุตรวิวาทแม้กับบิดา พี่น้องชายกับพี่น้องชาย พี่น้องหญิงกับพี่น้องหญิง แม้สหายกับสหายก็ยังวิวาทกัน, +‐-เขาเหล่านั้น ถึงการทะเลาะแก่งแย่งวิวาทกัน ในที่นั้นๆ, ทำร้ายกันและกันด้วยฝ่ามือบ้าง ด้วยก้อนดินบ้าง ด้วยท่อนไม้บ้าง ด้วยศาตราบ้าง ถึงความตายบ้าง ได้รับทุกข์เจียนตายบ้างในที่นั้น ๆ +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ +--มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. (จ) ภิกษุ ท. ! โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า +‐-มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง ; คือ ข้อคนที่คนทั้งหลายถือดาบและโล่หนัง ผูกสอดธนูและแล่งศร แล่นเข้าไปสู่สงครามอันตั้งขึ้นเป็นกองทัพสองฝ่าย ยิงศรอยู่บ้าง ซัดหอกอยู่บ้าง กวัดแกว่งดาบอยู่บ้าง, คนเหล่านั้น ถูกศรแทงบ้าง ถูกหอกแทงบ้าง ถูกดาบตัดศีรษะบ้าง ถึงความตายบ้าง ได้รับทุกข์เจียนตายบ้าง อยู่ในที่นั้นๆ. +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ +--มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. (ฉ) ภิกษุ ท. ! โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง ; คือ ข้อที่คนทั้งหลายถือดาบและโล่หนัง ผูกสอดธนูและแล่งศร แล่นเข้าประชิดเชิงเทินอันกระทำขึ้นด้วยวิธีที่เรียกว่า อัฏฏาวเลปนา*--๑ เมื่อมีการยิงลูกศรอยู่บ้าง ซัดหอกอยู่บ้าง กวัดแกว่งดาบอยู่บ้าง คนเหล่านั้นก็ถูกลูกศรแทงบ้าง ถูกหอกแทงบ้าง ถูกรดอยู่ด้วยเถ้าถ่านโคมัยอันร้อนบ้าง ปล่อยของหนักให้ตกลงทับทีเดียวตายทั้งหมู่บ้าง ถูกตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง ถึงความตายบ้าง ได้รับทุกข์เจียนตายบ้าง อยู่ในที่นั้นๆ. +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ +--มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. ----- *--๑. ตีนกำแพงที่ทำให้ขรุขระไว้ด้วยของมีคม ยากแก่การที่ข้าศึกจะเข้าไป หรือปีนกำแพงได้. (ช) ภิกษุ ท. ! โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง; คือ ข้อที่คนบางพวก ย่อมตัดช่อง ย่องเบา ปล้นสะดมในเรือนหลังเดียว คอยดักทำร้ายในที่เปลี่ยว และล่วงภรรยาผู้อื่น. พระราชาจับคนเหล่านั้นมาแล้ว ให้กระทำกรรมกรณ์วิธีการลงโทษหลายวิธีด้วยกัน เช่น เฆี่ยนด้วยหวายบ้าง หวดด้วยเชือกหนังบ้าง ทุบด้วยท่อนไม้บ้าง ตัดมือเสียบ้าง ตัดเท้าเสียบ้าง ตัดเสียทั้งมือและเท้าบ้าง ตัดหูบ้าง ตัดจมูกบ้าง ตัดเสียทั้งหูและจมูกบ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “หม้อเคี่ยวน้ำส้ม”*--๑ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ขอดสังข์”*--๒ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ปากราหู”*--๓ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “มาลัยไฟ”*--๔ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “มือคบเพลิงบ้าง”*--๕ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ริ้วส่าย”*--๖ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “นุ่งเปลือกไม้”*--๗ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ยืนกวาง”*--๘ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เกี่ยวเหยื่อเบ็ด”*--๙ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เหรียญกษาปณ์”*--๑๐ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ทาเกลือ” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “แปรงแสบ”*--๑๑ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เวียนหลัก”*--๑๒ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ตั่งฟาง”*--๑๓ บ้าง ย่อมราดด้วยน้ำมันร้อน ๆ บ้าง ย่อมปล่อยให้ “สุนัขทึ้ง”*--๑๔ บ้าง ย่อมให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็น ๆ บ้าง ย่อมตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง ; เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตายบ้าง ได้รับทุกข์เจียนตายบ้าง อยู่ในที่นั้น ๆ. +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ +--มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. ----- *--๑. “หม้อเคี่ยวน้ำส้ม” คือต่อยหัวขมองแยกออก แล้วใช้คีมคีบก้อนเหล็กที่ลุกแดงใส่ลงไป ให้มันสมองเดือดพลุ่งขึ้นเหมือนน้ำส้มเดือดล้นหม้อ. *--๒. “ขอดสังข์” คือตัดหนังควั่นไปให้รอบจอนหูทั้งสองข้าง และหลุมคอ แล้วรวบผมทั้งหมดขมวดไว้ ใช้ไม้สอดหมุนยกขึ้น ให้หนังหลุดติดขึ้นมาพร้อมกับผมแล้วใช้ทรายหยาบขัดกะโหลกศีรษะล้างให้ขาว ดั่งสังข์. *--๓. “ปากราหู” คือใช้ขอเหล็กง้างปากให้อ้าแล้วจุดไฟในปาก. อีกอย่างหนึ่ง ใช้สิ่วตอกเจาะตั้งแต่จอนหูเข้าไปจนถึงปาก ให้โลหิตไหลออกมาเต็มปาก ดูปากอ้า ดั่งปากราหู. *--๔. “มาลัยไฟ” คือใช้ผาชุบน้ำมันพันจนทั่วตัวแล้วจุดไฟ. *--๕. “มือคบเพลิง” คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันมือทั้งสองข้างจนทั่ว แล้วจุดไฟ. *--๖. “ริ้วส่าย” คือเชือดหนังลอกออกเป็นริ้วๆ ตั้งแต่ใต้คอไปจนถึงข้อเท้า แล้วเอาเชือกผูกฉุดคร่าไป นักโทษเดินเหยียบหนังคัวล้มลุกคลุกคลานไปจนกว่าจะตาย. *--๗. “นุ่งเปลือกไม้” คือเชือดหนังเป็นริ้วๆอย่างบทก่อน แต่ทำเป็นสองตอน ตั้งแต่ใต้คอจนถึงเอวตอนหนึ่ง ตั้งแต่เอวจนถึงข้อเท้าตอนหนึ่ง ริ้วหนังตอนบนห้อยคลุมลงมาปิดกายตอนล่าง ดูดั่งนุ่งเปลือกไม้. *--๘. “ยืนกวาง” คือใช้ห่วงเหล็กรัดข้อศอกทั้งสอง และเข่าทั้งสอง ตรึงติดไว้กับหลักเหล็กสี่หลักบนพื้นดิน ดูดั่ง กวางถูกตรึง แล้วก่อไฟล้อมลนจนกว่าจะตาย. *--๙. “เกี่ยวเหยื่อเบ็ด” คือใช้เบ็ดมีเงี่ยงสองข้าง เกี่ยวตัวดึงเอาหนังเนื้อและเอ็นออกมาให้หมด. *--๑๐. “เหรียญกษาปณ์” คือใช้มีดคมเชือดหนังออกเป็นแว่นๆ ขนาดเท่าเงินเหรียญจนกว่าจะตาย. *--๑๑. “แปรงแสบ” คือฟันสับเสียให้ยับทั่วกาย แล้วใช้แปรงชุบน้ำแสบ (มีน้ำเกลือเป็นต้น) ถูครูดสีไปมาให้เนื้อเอ็นขาดหลุดออกมา เหลือแต่กระดูก. *--๑๒. “เวียนหลัก” คือให้นอนตะแคง แล้วใช้หลาวเหล็กตอกเข้าช่องหูให้ทะลุ ลงไปตรึงแน่นอยู่กับดิน แล้วจับเท้าทั้งสองเดินเวียน. *--๑๓. “ตั่งฟาง” คือใช้ลูกหินบดทับตัว บดให้กระดูกแตกละเอียด แต่ไม่ให้หนังขาด แล้วจับผมรวบขึ้นเขย่าๆ ให้เนื้อรวมเข้าเป็นกอง แล้วใช้ผมนั่นแหละพันตะล่อมวางไว้ เหมือนตั่งที่ทำด้วยฟางสำหรับเช็ดเท้า. *--๑๔. “ให้สุนัขทึ้ง” คือขังฝูงสุนัขให้อดหิวโซหลายวัน แล้วปล่อยให้ออกมารุมทึ้ง พักเดียวเหลือแต่กระดูก. --*-- นัยแห่งอรรถกถาและพระไตรปิฎกแปลของ ม . อำไพจริต.--*-- (ญ) ภิกษุ ท. ! โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง ; คือข้อที่คนทั้งหลายประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ, ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจแล้ว, เขาเหล่านั้น ย่อม เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เบื้องหน้าแต่การตาย เพราะการแตกสลายแห่งกาย. +--ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่า มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ +--มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. --ภิกษุ ท. ! #อะไรเป็นนิสสรณะ (อุบายเป็นเครื่องออก) จากกามทั้งหลาย ? +--ภิกษุ ท. ! การนำออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ #การละเสียได้ซึ่งฉันทราคะ ในกามทั้งหลาย อันใด, อันนั้น เป็นนิสสรณะจากกามทั้งหลาย. http://etipitaka.com/read/pali/12/168/?keywords=ฉนฺทราคปฺปหานํ +--ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด #ไม่รู้ชัดตามเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งกามทั้งหลาย โดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่ง อาทีนวะ โดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่ง นิสสรณะ โดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการเหล่านี้ อยู่; สมณะพราหมณ์เหล่านั้นน่ะหรือ จักรู้รอบซึ่งกามทั้งหลายด้วยตนเอง หรือว่าจักชักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งกามเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้. +--ภิกษุ ท. ! ส่วน สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด #รู้ชัดตามเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งกามทั้งหลาย โดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่ง อาทีนวะ โดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่ง นิสสรณะ โดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้อยู่ ; สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นนั่นแหละ จักรอบรู้ซึ่งกามทั้งหลายด้วยตนเอง หรือว่าจักชักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งกามเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู.ม. 12/115-120/197-200. http://etipitaka.com/read/thai/12/115/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู.ม. ๑๒/๑๖๘-๑๗๓/๑๙๗-๒๐๐. http://etipitaka.com/read/pali/12/168/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%97 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55&id=736 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55 ลำดับสาธยายธรรม : 55 ฟังเสียงอ่าน.. http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_55.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของกาม
    -อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของกาม (ธรรมลักษณะ ๓ ประการของกาม : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ) ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอัสสาทะ (รสอร่อย) ของกามทั้งหลาย ? ภิกษุ ท. ! กามคุณ ๕ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. ห้าอย่าง อย่างไรเล่า? ห้าอย่าง คือ รูป อันจะพึงรู้แจ้งด้วยตา เสียงอันจะพึงรู้แจ้งด้วยหู กลิ่นอันจะพึงรู้แจ้งด้วยจมูก รสอันจะพึงรู้แจ้งด้วยลิ้น โผฏฐัพพะอันจะพึงรู้แจ้งด้วยผิวกาย (แต่ละอย่าง ๆ) อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก เป็นที่เข้าไปอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่ ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แลชื่อว่า กามคุณ (คุณค่าสำหรับกาม) ห้าอย่าง. ภิกษุ ท. ! สุขโสมนัสใด อาศัยกามคุณห้าเหล่านี้แล้วเกิดขึ้น , นี้เป็นอัสสาทะของกามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม) ของกามทั้งหลาย ? (ก) ภิกษุ ท. ! กุลบุตรในโลกนี้ สำเร็จการเป็นอยู่ด้วยความพากเพียรในศิลปะ คือ ด้วยศิลปะแห่งการใช้สัญญาด้วยมือ ศิลปแห่งการคำนวณ ศิลปะแห่งการนับ ด้วยกสิกรรม ด้วยวาณิชกรรม ด้วยโครักขกรรม ด้วยศิลปะแห่งการใช้ศาตรา ด้วยการเป็นราชบุรุษ หรือด้วยศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง, ต้องเผชิญกับความหนาว เผชิญกับความร้อน ต้องลำบากอยู่ ด้วยสัมผัสอันเกิดจากเหลือบยุงลมแดดและสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย อ่อนแรงอยู่ ด้วยความหิว กระหายเพราะการไม่ได้บริโภคตามเวลา. ภิกษุ ท. ! ข้อนี้เป็นโทษแห่งกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่ามีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับ ให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. (ข) ภิกษุ ท. ! แม้เมื่อกุลบุตรนั้นพากเพียรอยู่อย่างนั้น สืบต่อ พยายามอยู่อย่างนั้น โภคะก็ยังไม่สำเร็จแก่เขา ; เขาย่อมเศร้าโศก ย่อมลำบากใจ ร่ำไรรำพัน ตีอกร่ำไห้ ถึงความคลั่งเพ้อว่า “ความพากเพียรของเราเป็นโมฆะเสียแล้วหนอ ความพยายามของเราไม่มีผลหนอ” ดังนี้เป็นต้น. ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่ามีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. (ค) ภิกษุ ท. ! ถึงแม้ว่าเมื่อกุลบุตรนั้น พากเพียรอยู่อย่างนั้นสืบ ต่อพยายามอยู่อย่างนั้น โภคะเกิดสำเร็จผลแก่เขาขึ้นมา. เขาก็ยังเสวยทุกขโทมนัสเพราะการอารักขาโภคะเหล่านั้น โดยวิตกอยู่ว่า “ทำอย่างไรพระราชาจึงจะไม่ริบทรัพย์ของเราไป โจรจะไม่ปล้นทรัพย์ของเราไป ไฟจะไม่ไหม้ น้ำจะไม่พัดพาเอาไป ทายาทอันไม่เป็นที่รักจะไม่เยื้อแย่งเอาไป” ดังนี้เป็นต้น. เมื่อเขาอารักขาคุ้มครองอยู่อย่างนี้ พระราชาริบทรัพย์ของเขาไปบ้าง โจรปล้นเอาไปบ้าง ไฟไหม้เสียบ้าง น้ำพัดพาไปเสียบ้าง ทายาทไม่เป็นที่รักเยื้อแย่งไปเสียบ้าง, เขาย่อมเศร้าโศก ย่อมลำบากใจ ร่ำไรรำพัน ตีอกร่ำไห้ ถึงความคลั่งเพ้อว่า “สิ่งที่เคยมีแก่เรา ฉิบหายไปหมดแล้วหนอ” ดังนี้เป็นต้น. ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษแห่งกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่ามีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. (ง) ภิกษุ ท. ! โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง; คือ ข้อที่ราชาวิวาทกับราชาบ้าง กษัตริย์วิวาทกับกษัตริย์บ้าง พราหมณ์วิวาทกับพราหมณ์บ้าง คหบดีวิวาทกับคหบดีบ้าง มารดาวิวาทแม้กับบุตร บุตรวิวาทแม้กับมารดา บิดาวิวาทแม้กับบุตร บุตรวิวาทแม้กับบิดา พี่น้องชายกับพี่น้องชาย พี่น้องหญิงกับพี่น้องหญิง แม้สหายกับสหายก็ยังวิวาทกัน, เขาเหล่านั้น ถึงการทะเลาะแก่งแย่งวิวาทกัน ในที่นั้นๆ, ทำร้ายกันและกันด้วยฝ่ามือบ้าง ด้วยก้อนดินบ้าง ด้วยท่อนไม้บ้าง ด้วยศาตราบ้าง ถึงความตายบ้าง ได้รับทุกข์เจียนตายบ้าง ในที่นั้น ๆ ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่ามีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. (จ) ภิกษุ ท. ! โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง ; คือ ข้อคนที่คนทั้งหลายถือดาบและโล่หนัง ผูกสอดธนูและแล่งศร แล่นเข้าไปสู่สงครามอันตั้งขึ้นเป็นกองทัพสองฝ่าย ยิงศรอยู่บ้าง ซัดหอกอยู่บ้าง กวัดแกว่งดาบอยู่บ้าง, คนเหล่านั้น ถูกศรแทงบ้าง ถูกหอกแทงบ้าง ถูกดาบตัดศีรษะบ้าง ถึงความตายบ้าง ได้รับทุกข์เจียนตายบ้าง อยู่ในที่นั้นๆ. ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่ามีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. (ฉ) ภิกษุ ท. ! โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง ; คือ ข้อที่คนทั้งหลายถือดาบและโล่หนัง ผูกสอดธนูและแล่งศร แล่นเข้าประชิดเชิงเทินอันกระทำขึ้นด้วยวิธีที่เรียกว่าอัฏฏาวเลปนา๑ เมื่อมีการยิงลูกศรอยู่บ้าง ซัดหอกอยู่บ้าง กวัดแกว่งดาบอยู่บ้าง คนเหล่านั้นก็ถูกลูกศรแทงบ้าง ถูกหอกแทงบ้าง ถูกรดอยู่ด้วยเถ้าถ่านโคมัยอันร้อนบ้าง ปล่อยของหนักให้ตกลงทับทีเดียวตายทั้งหมู่บ้าง ถูกตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง ถึงความตายบ้าง ได้รับทุกข์เจียนตายบ้าง อยู่ในที่นั้นๆ. ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์อันบุคคลเห็นได้เอง ว่ามีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. ๑. ตีนกำแพงที่ทำให้ขรุขระไว้ด้วยของมีคม ยากแก่การที่ข้าศึกจะเข้าไป หรือปีนกำแพงได้. (ช) ภิกษุ ท. ! โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง; คือ ข้อที่คนบางพวก ย่อมตัดช่อง ย่องเบา ปล้นสะดมในเรือนหลังเดียว คอยดักทำร้ายในที่เปลี่ยว และล่วงภรรยาผู้อื่น. พระราชาจับคนเหล่านั้นมาแล้ว ให้กระทำกรรมกรณ์วิธีการลงโทษหลายวิธีด้วยกัน เช่น เฆี่ยนด้วยหวายบ้าง หวดด้วยเชือกหนังบ้าง ทุบด้วยท่อนไม้บ้าง ตัดมือเสียบ้าง ตัดเท้าเสียบ้าง ตัดเสียทั้งมือและเท้าบ้าง ตัดหูบ้าง ตัดจมูกบ้าง ตัดเสียทั้งหูและจมูกบ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “หม้อเคี่ยวน้ำส้ม”๑ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ขอดสังข์”๒ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ปากราหู”๓ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “มาลัยไฟ”๔ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “มือคบเพลิงบ้าง”๕ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ริ้วส่าย”๖ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “นุ่งเปลือกไม้”๗ บ้าง ย่อมกระทำ ๑. “หม้อเคี่ยวน้ำส้ม” คือต่อยหัวขมองแยกออก แล้วใช้คีมคีบก้อนเหล็กที่ลุกแดงใส่ลงไป ให้มันสมองเดือดพลุ่งขึ้นเหมือนน้ำส้มเดือดล้นหม้อ. ๒. “ขอดสังข์” คือตัดหนังควั่นไปให้รอบจอนหูทั้งสองข้าง และหลุมคอ แล้วรวบผมทั้งหมดขมวดไว้ ใช้ไม้สอดหมุนยกขึ้น ให้หนังหลุดติดขึ้นมาพร้อมกับผมแล้วใช้ทรายหยาบขัดกะโหลกศีรษะล้างให้ขาว ดั่งสังข์. ๓. “ปากราหู” คือใช้ขอเหล็กง้างปากให้อ้าแล้วจุดไฟในปาก. อีกอย่างหนึ่ง ใช้สิ่วตอกเจาะตั้งแต่จอนหูเข้าไปจนถึงปาก ให้โลหิตไหลออกมาเต็มปาก ดูปากอ้า ดั่งปากราหู. ๔. “มาลัยไฟ” คือใช้ผาชุบน้ำมันพันจนทั่วตัวแล้วจุดไฟ. ๕. “มือคบเพลิง” คือใช้ผ้าชุบน้ำมันพันมือทั้งสองข้างจนทั่ว แล้วจุดไฟ. ๖. “ริ้วส่าย” คือเชือดหนังลอกออกเป็นริ้วๆ ตั้งแต่ใต้คอไปจนถึงข้อเท้า แล้วเอาเชือกผูกฉุดคร่าไป นักโทษเดินเหยียบหนังคัวล้มลุกคลุกคลานไปจนกว่าจะตาย. ๗. “นุ่งเปลือกไม้” คือเชือดหนังเป็นริ้วๆอย่างบทก่อน แต่ทำเป็นสองตอน ตั้งแต่ใต้คอจนถึงเอวตอนหนึ่ง ตั้งแต่เอวจนถึงข้อเท้าตอนหนึ่ง ริ้วหนังตอนบนห้อยคลุมลงมาปิดกายตอนล่าง ดูดั่งนุ่งเปลือกไม้. กรรมกรณ์ชื่อ “ยืนกวาง”๘ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เกี่ยวเหยื่อเบ็ด”๙ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เหรียญกษาปณ์”๑๐ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ทาเกลือ” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “แปรงแสบ”๑๑ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เวียนหลัก”๑๒ บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ตั่งฟาง”๑๓ บ้าง ย่อมราดด้วยน้ำมันร้อน ๆ บ้าง ย่อมปล่อยให้ “สุนัขทึ้ง”๑๔ บ้าง ย่อมให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็น ๆ บ้าง ย่อมตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง ; เขาเหล่านั้น ย่อมถึงซึ่งความตายบ้าง ได้รับทุกข์เจียนตายบ้าง อยู่ในที่นั้น ๆ. ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่ามีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. ๘. “ยืนกวาง” คือใช้ห่วงเหล็กรัดข้อศอกทั้งสอง และเข่าทั้งสอง ตรึงติดไว้กับหลักเหล็กสี่หลักบนพื้นดิน ดูดั่ง กวางถูกตรึง แล้วก่อไฟล้อมลนจนกว่าจะตาย. ๙. “เกี่ยวเหยื่อเบ็ด” คือใช้เบ็ดมีเงี่ยงสองข้าง เกี่ยวตัวดึงเอาหนังเนื้อและเอ็นออกมาให้หมด. ๑๐. “เหรียญกษาปณ์” คือใช้มีดคมเชือดหนังออกเป็นแว่นๆ ขนาดเท่าเงินเหรียญจนกว่าจะตาย. ๑๑. “แปรงแสบ” คือฟันสับเสียให้ยับทั่วกาย แล้วใช้แปรงชุบน้ำแสบ (มีน้ำเกลือเป็นต้น) ถูครูดสีไปมาให้เนื้อเอ็นขาดหลุดออกมา เหลือแต่กระดูก. ๑๒. “เวียนหลัก” คือให้นอนตะแคง แล้วใช้หลาวเหล็กตอกเข้าช่องหูให้ทะลุ ลงไปตรึงแน่นอยู่กับดิน แล้วจับเท้าทั้งสองเดินเวียน. ๑๓. “ตั่งฟาง” คือใช้ลูกหินบดทับตัว บดให้กระดูกแตกละเอียด แต่ไม่ให้หนังขาด แล้วจับผมรวบขึ้นเขย่าๆ ให้เนื้อรวมเข้าเป็นกอง แล้วใช้ผมนั่นแหละพันตะล่อมวางไว้ เหมือนตั่งที่ทำด้วยฟางสำหรับเช็ดเท้า. ๑๔. “ให้สุนัขทึ้ง” คือขังฝูงสุนัขให้อดหิวโซหลายวัน แล้วปล่อยให้ออกมารุมทึ้ง พักเดียวเหลือแต่กระดูก. - นัยแห่งอรรถกถาแลพระไตรปิฎกแปลของ ม . อำไพจริต. (ญ) ภิกษุ ท. ! โทษอื่นยังมีอีก ที่มีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเอง ; คือข้อที่คนทั้งหลายประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ, ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจแล้ว, เขาเหล่านั้น ย่อม เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เบื้องหน้าแต่การตาย เพราะการแตกสลายแห่งกาย. ภิกษุ ท. ! แม้ข้อนี้ ก็เป็นโทษของกาม เป็นกองแห่งทุกข์ อันบุคคลเห็นได้เอง ว่ามีกามเป็นเหตุ มีกามเป็นต้นเค้า มีกามเป็นเครื่องบังคับให้กระทำ มีเหตุมาแต่กามนั่นเทียว. ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นนิสสรณะ (อุบายเป็นเครื่องออก) จากกามทั้งหลาย ? ภิกษุ ท. ! การนำออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ การละเสียได้ซึ่งฉันทราคะ ในกามทั้งหลาย อันใด, อันนั้น เป็นนิสสรณะจากกามทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด ไม่รู้ชัดตามเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งกามทั้งหลายโดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่งอาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่งนิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการเหล่านี้ อยู่; สมณะพราหมณ์เหล่านั้นน่ะหรือ จักรู้รอบซึ่งกามทั้งหลายด้วยตนเอง หรือว่าจักชักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งกามเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้. ภิกษุ ท. ! ส่วน สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด รู้ชัดตามเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งกามทั้งหลายโดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่งอาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่งนิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้อยู่ ; สมณะหรือ พราหมณ์เหล่านั้นนั่นแหละ จักรอบรู้ซึ่งกามทั้งหลายด้วยตนเอง หรือว่าจักชักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งกามเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 575 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/gYDe8OczQnU?si=mwPnOLBisOapRwGk
    https://www.youtube.com/live/gYDe8OczQnU?si=mwPnOLBisOapRwGk
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/c1GKSS9KhCc?si=uAH3e-ViGzM0b4mw
    https://youtu.be/c1GKSS9KhCc?si=uAH3e-ViGzM0b4mw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/XcDCV_RiE_U?si=F6ZeMQaKhdDRaSDV
    https://youtu.be/XcDCV_RiE_U?si=F6ZeMQaKhdDRaSDV
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/j8IIEgZv7yM?si=iqBEaSPa1AQ9EcSe
    https://youtu.be/j8IIEgZv7yM?si=iqBEaSPa1AQ9EcSe
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/I6SpzBSXxbE?si=AGWX9JO6E9LRvFsY
    https://youtu.be/I6SpzBSXxbE?si=AGWX9JO6E9LRvFsY
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/7ZKMDbtGE6U?si=yjLp9sCz5PssFNWs
    https://youtu.be/7ZKMDbtGE6U?si=yjLp9sCz5PssFNWs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/CcOhfxue_ok?si=6_EXoGqSv6812IzU
    https://youtu.be/CcOhfxue_ok?si=6_EXoGqSv6812IzU
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/gTFx0U5XTvQ?si=DtnlJUul-vhja24E
    https://youtube.com/shorts/gTFx0U5XTvQ?si=DtnlJUul-vhja24E
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/7drQjQYyUes?si=eOIAQjxjQ_iPi4Eg
    https://youtu.be/7drQjQYyUes?si=eOIAQjxjQ_iPi4Eg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/ywar6jfKWwg?si=mKTJPQPj3b9Ln2o5
    https://youtu.be/ywar6jfKWwg?si=mKTJPQPj3b9Ln2o5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/G-LH0fczT5k?si=0HuUWzgw0ifStFQx
    https://youtu.be/G-LH0fczT5k?si=0HuUWzgw0ifStFQx
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/xAVWccooqBo?si=jGq4S4GEoGZOJZjS
    https://youtube.com/shorts/xAVWccooqBo?si=jGq4S4GEoGZOJZjS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/Y8cOZs3o_NI?si=OK7E0CFRPThX5eRn
    https://youtube.com/shorts/Y8cOZs3o_NI?si=OK7E0CFRPThX5eRn
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝึกเป็นผู้ดู...ไม่ลงไปเป็นผู้เล่น...
    Cr.Wiwan Boonya
    ฝึกเป็นผู้ดู...ไม่ลงไปเป็นผู้เล่น... Cr.Wiwan Boonya
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนึ่งในเทสต์ที่ ตรวจหาปัญหาจาก โปรตีนหนาม (spike protein) คือการวัดระดับ แอนตี้บอดี้ (SARS CoV2 spike Ab quantitative) ว่า มีมากน้อยแค่ไหน
    คำถามคือ แล้ว จะ"แปลผล"อย่างไร?
    * < 1000 iu/ml สบายใจได้ ไม่น่าเป็นอะไร
    * 1000-5000 iu/ml ถ้ามีอาการไม่สบายใดๆ เป็นไปได้ว่า อาการเหล่านั้นอาจจะเกิดจาก โปรตีนหนาม
    * 5000-10000 iu/ml มีโปรตีนหนามวนเวียนอยู่ในกระแสเลือด
    * 10000- 25000 iu/ml อาการที่ผิดปกติเป็นจากโปรตีนหนาม จากวัคซีนแน่นอน
    > 25000 iu/ml รีบล้างพิษ ด่วน !!!
    https://www.facebook.com/share/1Yympuyn1o/
    ✍️หนึ่งในเทสต์ที่ ตรวจหาปัญหาจาก โปรตีนหนาม (spike protein) คือการวัดระดับ แอนตี้บอดี้ (SARS CoV2 spike Ab quantitative) ว่า มีมากน้อยแค่ไหน คำถามคือ แล้ว จะ"แปลผล"อย่างไร? * < 1000 iu/ml สบายใจได้ ไม่น่าเป็นอะไร * 1000-5000 iu/ml ถ้ามีอาการไม่สบายใดๆ เป็นไปได้ว่า อาการเหล่านั้นอาจจะเกิดจาก โปรตีนหนาม * 5000-10000 iu/ml มีโปรตีนหนามวนเวียนอยู่ในกระแสเลือด * 10000- 25000 iu/ml อาการที่ผิดปกติเป็นจากโปรตีนหนาม จากวัคซีนแน่นอน > 25000 iu/ml รีบล้างพิษ ด่วน !!! https://www.facebook.com/share/1Yympuyn1o/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/V5GCTDhTgXQ?si=qxmaK6ilfkkZy3jy
    https://youtu.be/V5GCTDhTgXQ?si=qxmaK6ilfkkZy3jy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว