• อ.ปานเทพถามภูมิธรรม เป้าหมายสูงสุดคือ “เปิดด่าน” ใช่ไหม? [10/08/68]
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #อาจารย์ปานเทพ
    #ภูมิธรรม
    #เปิดด่าน
    #ชายแดนไทยกัมพูชา
    #thaitimes
    #news1
    #shorts
    อ.ปานเทพถามภูมิธรรม เป้าหมายสูงสุดคือ “เปิดด่าน” ใช่ไหม? [10/08/68] #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #อาจารย์ปานเทพ #ภูมิธรรม #เปิดด่าน #ชายแดนไทยกัมพูชา #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รีบดูด่วน! บิ๊กเล็กช่างกล้า ทำกับทหารไทยได้ขนาดนี้! [10/08/68]
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #บิ๊กเล็ก
    #กองทัพไทย
    #ชายแดนไทยกัมพูชา
    #thaitimes
    #news1
    #shorts
    รีบดูด่วน! บิ๊กเล็กช่างกล้า ทำกับทหารไทยได้ขนาดนี้! [10/08/68] #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #บิ๊กเล็ก #กองทัพไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เขมรที่จริงใจของบิ๊กเล็ก บุกตาเมือนธม [10/08/68]
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #ตาเมือนธม
    #ชายแดนไทยกัมพูชา
    #thaitimes
    #news1
    #shorts
    เขมรที่จริงใจของบิ๊กเล็ก บุกตาเมือนธม [10/08/68] #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #ตาเมือนธม #ชายแดนไทยกัมพูชา #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ที่แท้ทั้งเขมรและไส้ศึก “ดึงเช็ง” เพื่อสิ่งนี้ [10/08/68]
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #ไส้ศึก
    #ชายแดนไทยกัมพูชา
    #thaitimes
    #news1
    #shorts
    ที่แท้ทั้งเขมรและไส้ศึก “ดึงเช็ง” เพื่อสิ่งนี้ [10/08/68] #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #ไส้ศึก #ชายแดนไทยกัมพูชา #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รีบดูด่วน! การเจรจา GBC เป็นแค่การละคร เพราะเหตุนี้! [10/08/68]
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #GBC
    #ชายแดนไทยกัมพูชา
    #thaitimes
    #news1
    #shorts
    รีบดูด่วน! การเจรจา GBC เป็นแค่การละคร เพราะเหตุนี้! [10/08/68] #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #GBC #ชายแดนไทยกัมพูชา #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “ แม่ทัพภาคที่ 2 ” รับมอบสิ่งของช่วยทหารแนวหน้า ย้ำกำลังพลจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ยืนยันทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ในพื้นที่แนวปะทะจำนวนมาก ผิดอนุสัญญาฯชัดเจน สั่งทหารทุกหน่วยเพิ่มความระวัง พร้อมใช้เทคโนฯและเครื่องจักรกู้ทุ่นระเบิดลดความเสี่ยง แจงข่าวการยั่วยุโดยใช้หนังสติ๊กไม่เป็นความจริง แค่ภาพในโซเชียลฯ ทหารไทยปปฏิบัติมาตรการหยุดยิงเคร่งครัด ขณะ “ทักษิณ”เพิ่งตื่นมอบโดรนให้กองทัพ 10 ลำ มูลค่า 3 ล้าน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075911

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    “ แม่ทัพภาคที่ 2 ” รับมอบสิ่งของช่วยทหารแนวหน้า ย้ำกำลังพลจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ยืนยันทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ในพื้นที่แนวปะทะจำนวนมาก ผิดอนุสัญญาฯชัดเจน สั่งทหารทุกหน่วยเพิ่มความระวัง พร้อมใช้เทคโนฯและเครื่องจักรกู้ทุ่นระเบิดลดความเสี่ยง แจงข่าวการยั่วยุโดยใช้หนังสติ๊กไม่เป็นความจริง แค่ภาพในโซเชียลฯ ทหารไทยปปฏิบัติมาตรการหยุดยิงเคร่งครัด ขณะ “ทักษิณ”เพิ่งตื่นมอบโดรนให้กองทัพ 10 ลำ มูลค่า 3 ล้าน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075911 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วนมาก ต้องรีบดู! พระบรมราชโองการ ร.9 ที่อยู่เหนือ MOU นักการเมือง [10/08/68]
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #MOU43
    #MOU44
    #พระบรมราชโองการ
    #thaitimes
    #news1
    #shorts
    ด่วนมาก ต้องรีบดู! พระบรมราชโองการ ร.9 ที่อยู่เหนือ MOU นักการเมือง [10/08/68] #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #MOU43 #MOU44 #พระบรมราชโองการ #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! เปิดเหตุผลที่ฮุนเซนจะไม่มีวันหยุดโจมตีประเทศไทยจริง [10/08/68]
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #CambodiaEncroachingThailand
    #ฮุนเซน
    #thaitimes
    #news1
    #shorts
    ด่วน! เปิดเหตุผลที่ฮุนเซนจะไม่มีวันหยุดโจมตีประเทศไทยจริง [10/08/68] #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #CambodiaEncroachingThailand #ฮุนเซน #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สำหรับคนแซะ “เรื่องแตงโม” เรียกมาฟังด่วน!!! [10/08/68]
    #อาจารย์ปานเทพ
    #เรื่องแตงโม
    #แตงโมนิดา
    #อัพเดทข่าวแตงโม
    #TruthFromThailand
    #thaitimes
    #news1
    #shorts
    สำหรับคนแซะ “เรื่องแตงโม” เรียกมาฟังด่วน!!! [10/08/68] #อาจารย์ปานเทพ #เรื่องแตงโม #แตงโมนิดา #อัพเดทข่าวแตงโม #TruthFromThailand #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กสทช.เป็นภัยความมั่นคงต่อชาติตนเองเต็มๆ,หลักฐานครบตา.

    https://youtube.com/shorts/Fv6UmNiTo8U?si=RS8fD0p28y5if4iu
    กสทช.เป็นภัยความมั่นคงต่อชาติตนเองเต็มๆ,หลักฐานครบตา. https://youtube.com/shorts/Fv6UmNiTo8U?si=RS8fD0p28y5if4iu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอชะพูลเพื่อนบ้านมาลง 7กอจักได้มีพืชผักทานเพิ่ม
    ขอชะพูลเพื่อนบ้านมาลง 7กอจักได้มีพืชผักทานเพิ่ม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกโอเพ่นซอร์ส: OpenFreeMap ถูกถล่มด้วย 100,000 คำขอต่อวินาทีจากเว็บวาดภาพ Wplace.live

    Zsolt Ero ผู้สร้าง OpenFreeMap ซึ่งเป็นบริการแผนที่โอเพ่นซอร์สที่ให้ใช้งานฟรีโดยไม่จำกัดจำนวนคำขอ กำลังจะโพสต์ฉลองความสำเร็จในรอบ 10 เดือน แต่กลับต้องรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด—มีคำขอเข้าเซิร์ฟเวอร์มากถึง 3 พันล้านครั้งใน 24 ชั่วโมง หรือเฉลี่ย 100,000 คำขอต่อวินาที!

    สาเหตุเกิดจากเว็บไซต์ใหม่ชื่อ Wplace.live ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวาดภาพร่วมกันแบบ pixel art โดยจำกัดให้ผู้ใช้วางได้ 1 พิกเซลทุก 30 วินาที แต่ดูเหมือนว่าผู้ใช้จำนวนมากใช้สคริปต์อัตโนมัติ เช่น Puppeteer หรือ Chromium เพื่อเปิดเบราว์เซอร์ใหม่ คลิกพิกเซล แล้วปิดทันที ทำให้เกิดคำขอจำนวนมหาศาลไปยัง OpenFreeMap ซึ่งใช้เป็นแหล่งข้อมูลแผนที่พื้นหลัง

    แม้ระบบจะยังทำงานได้ดีถึง 96% แต่ก็มีบางไฟล์แผนที่โหลดไม่ขึ้นเพราะ nginx เจอข้อจำกัด “Too many open files” และผู้สร้างต้องสร้างกฎพิเศษใน Cloudflare เพื่อบล็อกคำขอจาก Wplace.live เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโครงการ

    OpenFreeMap ถูกถล่มด้วยคำขอ 3 พันล้านครั้งใน 24 ชั่วโมง
    เฉลี่ย 100,000 คำขอต่อวินาทีจากไฟล์ขนาดเล็กเพียง 70KB

    สาเหตุเกิดจากเว็บไซต์ Wplace.live ที่ใช้ OpenFreeMap เป็นพื้นหลัง
    เป็นเว็บวาดภาพร่วมกันแบบ pixel art ที่จำกัด 1 พิกเซลต่อ 30 วินาที

    ผู้ใช้ Wplace.live ใช้สคริปต์อัตโนมัติเพื่อวางพิกเซลอย่างต่อเนื่อง
    เช่น Puppeteer/Chromium พร้อมการหมุน IP address

    nginx พบข้อผิดพลาด “Too many open files” จากการโหลด tile map
    ทำให้บางไฟล์ไม่สามารถเปิดได้ทันเวลา

    Cloudflare ช่วยรับภาระ bandwidth และ cache ไฟล์ไว้บางส่วน
    ทำให้ระบบยังคงให้บริการได้ถึง 96% เป็น 200 OK

    ผู้สร้างต้องสร้างกฎบล็อกคำขอจาก Wplace.live เป็นครั้งแรก
    เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้รายเดียวทำให้ระบบล่ม

    OpenFreeMap เป็นบริการแผนที่โอเพ่นซอร์สที่ใช้ข้อมูลจาก OpenStreetMap
    ไม่มีการจำกัดคำขอ ไม่มี API key และไม่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้

    Wplace.live ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วใน Reddit และโซเชียลมีเดีย
    มีภาพวาดจากผู้ใช้ทั่วโลก เช่น เสือดาวกัดจระเข้ในบราซิล

    โครงการ OpenFreeMap ได้รับการสนับสนุนจาก Cloudflare และ Hetzner
    เพื่อให้บริการฟรีแก่ผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนา

    Neal.fun เคยติดต่อผู้สร้างก่อนเปิดตัว Internet Roadtrip เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
    และยังสนับสนุนค่า bandwidth ให้กับ OpenFreeMap

    https://blog.hyperknot.com/p/openfreemap-survived-100000-requests
    🗺️🔥 เรื่องเล่าจากโลกโอเพ่นซอร์ส: OpenFreeMap ถูกถล่มด้วย 100,000 คำขอต่อวินาทีจากเว็บวาดภาพ Wplace.live Zsolt Ero ผู้สร้าง OpenFreeMap ซึ่งเป็นบริการแผนที่โอเพ่นซอร์สที่ให้ใช้งานฟรีโดยไม่จำกัดจำนวนคำขอ กำลังจะโพสต์ฉลองความสำเร็จในรอบ 10 เดือน แต่กลับต้องรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด—มีคำขอเข้าเซิร์ฟเวอร์มากถึง 3 พันล้านครั้งใน 24 ชั่วโมง หรือเฉลี่ย 100,000 คำขอต่อวินาที! สาเหตุเกิดจากเว็บไซต์ใหม่ชื่อ Wplace.live ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวาดภาพร่วมกันแบบ pixel art โดยจำกัดให้ผู้ใช้วางได้ 1 พิกเซลทุก 30 วินาที แต่ดูเหมือนว่าผู้ใช้จำนวนมากใช้สคริปต์อัตโนมัติ เช่น Puppeteer หรือ Chromium เพื่อเปิดเบราว์เซอร์ใหม่ คลิกพิกเซล แล้วปิดทันที ทำให้เกิดคำขอจำนวนมหาศาลไปยัง OpenFreeMap ซึ่งใช้เป็นแหล่งข้อมูลแผนที่พื้นหลัง แม้ระบบจะยังทำงานได้ดีถึง 96% แต่ก็มีบางไฟล์แผนที่โหลดไม่ขึ้นเพราะ nginx เจอข้อจำกัด “Too many open files” และผู้สร้างต้องสร้างกฎพิเศษใน Cloudflare เพื่อบล็อกคำขอจาก Wplace.live เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโครงการ ✅ OpenFreeMap ถูกถล่มด้วยคำขอ 3 พันล้านครั้งใน 24 ชั่วโมง ➡️ เฉลี่ย 100,000 คำขอต่อวินาทีจากไฟล์ขนาดเล็กเพียง 70KB ✅ สาเหตุเกิดจากเว็บไซต์ Wplace.live ที่ใช้ OpenFreeMap เป็นพื้นหลัง ➡️ เป็นเว็บวาดภาพร่วมกันแบบ pixel art ที่จำกัด 1 พิกเซลต่อ 30 วินาที ✅ ผู้ใช้ Wplace.live ใช้สคริปต์อัตโนมัติเพื่อวางพิกเซลอย่างต่อเนื่อง ➡️ เช่น Puppeteer/Chromium พร้อมการหมุน IP address ✅ nginx พบข้อผิดพลาด “Too many open files” จากการโหลด tile map ➡️ ทำให้บางไฟล์ไม่สามารถเปิดได้ทันเวลา ✅ Cloudflare ช่วยรับภาระ bandwidth และ cache ไฟล์ไว้บางส่วน ➡️ ทำให้ระบบยังคงให้บริการได้ถึง 96% เป็น 200 OK ✅ ผู้สร้างต้องสร้างกฎบล็อกคำขอจาก Wplace.live เป็นครั้งแรก ➡️ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้รายเดียวทำให้ระบบล่ม ✅ OpenFreeMap เป็นบริการแผนที่โอเพ่นซอร์สที่ใช้ข้อมูลจาก OpenStreetMap ➡️ ไม่มีการจำกัดคำขอ ไม่มี API key และไม่มีการเก็บข้อมูลผู้ใช้ ✅ Wplace.live ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วใน Reddit และโซเชียลมีเดีย ➡️ มีภาพวาดจากผู้ใช้ทั่วโลก เช่น เสือดาวกัดจระเข้ในบราซิล ✅ โครงการ OpenFreeMap ได้รับการสนับสนุนจาก Cloudflare และ Hetzner ➡️ เพื่อให้บริการฟรีแก่ผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนา ✅ Neal.fun เคยติดต่อผู้สร้างก่อนเปิดตัว Internet Roadtrip เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ➡️ และยังสนับสนุนค่า bandwidth ให้กับ OpenFreeMap https://blog.hyperknot.com/p/openfreemap-survived-100000-requests
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากดวงดาว: Jim Lovell นักบินอวกาศผู้เปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นตำนาน

    เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2025 โลกสูญเสียหนึ่งในนักบินอวกาศผู้ยิ่งใหญ่—Jim Lovell ในวัย 97 ปี ผู้บัญชาการภารกิจ Apollo 13 ที่เกือบกลายเป็นโศกนาฏกรรมกลางอวกาศ แต่กลับกลายเป็นเรื่องราวแห่งความกล้าหาญและความคิดสร้างสรรค์ที่โลกไม่มีวันลืม

    Lovell ไม่ได้เป็นเพียงนักบินอวกาศ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้นำภายใต้แรงกดดัน เขาเคยบินในอวกาศถึง 4 ครั้ง—Gemini 7, Gemini 12, Apollo 8 และ Apollo 13—มากกว่าทุกคนในยุคแรกของ NASA และเป็นหนึ่งในสามคนที่เคยไปถึงดวงจันทร์สองครั้งโดยไม่เคยได้เหยียบพื้นผิว

    ในภารกิจ Apollo 13 ปี 1970 เมื่อถังออกซิเจนระเบิดกลางทางไปดวงจันทร์ Lovell และทีมงานต้องใช้ยาน Lunar Module เป็น “เรือชูชีพ” เพื่อกลับโลกอย่างปลอดภัย โดยใช้การนำทางจากตำแหน่งของโลกผ่านหน้าต่างยาน และประดิษฐ์ตัวกรอง CO₂ จากเทปกาวและถุงเท้า

    ก่อนหน้านั้น เขาเคยเป็นนักบินในภารกิจ Apollo 8 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มนุษย์โคจรรอบดวงจันทร์ และได้เห็นภาพ Earthrise อันโด่งดังที่เปลี่ยนมุมมองของมนุษย์ต่อโลกไปตลอดกาล

    แม้จะไม่เคยเดินบนดวงจันทร์ แต่ Jim Lovell ได้เดินเข้าสู่หัวใจของผู้คนทั่วโลกด้วยความกล้าหาญ ความอ่อนน้อม และความสามารถในการนำทีมผ่านความมืดมิดของอวกาศกลับสู่แสงแห่งชีวิต

    https://www.nasa.gov/news-release/acting-nasa-administrator-reflects-on-legacy-of-astronaut-jim-lovell/
    🌕✨ เรื่องเล่าจากดวงดาว: Jim Lovell นักบินอวกาศผู้เปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นตำนาน เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2025 โลกสูญเสียหนึ่งในนักบินอวกาศผู้ยิ่งใหญ่—Jim Lovell ในวัย 97 ปี ผู้บัญชาการภารกิจ Apollo 13 ที่เกือบกลายเป็นโศกนาฏกรรมกลางอวกาศ แต่กลับกลายเป็นเรื่องราวแห่งความกล้าหาญและความคิดสร้างสรรค์ที่โลกไม่มีวันลืม Lovell ไม่ได้เป็นเพียงนักบินอวกาศ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้นำภายใต้แรงกดดัน เขาเคยบินในอวกาศถึง 4 ครั้ง—Gemini 7, Gemini 12, Apollo 8 และ Apollo 13—มากกว่าทุกคนในยุคแรกของ NASA และเป็นหนึ่งในสามคนที่เคยไปถึงดวงจันทร์สองครั้งโดยไม่เคยได้เหยียบพื้นผิว ในภารกิจ Apollo 13 ปี 1970 เมื่อถังออกซิเจนระเบิดกลางทางไปดวงจันทร์ Lovell และทีมงานต้องใช้ยาน Lunar Module เป็น “เรือชูชีพ” เพื่อกลับโลกอย่างปลอดภัย โดยใช้การนำทางจากตำแหน่งของโลกผ่านหน้าต่างยาน และประดิษฐ์ตัวกรอง CO₂ จากเทปกาวและถุงเท้า ก่อนหน้านั้น เขาเคยเป็นนักบินในภารกิจ Apollo 8 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มนุษย์โคจรรอบดวงจันทร์ และได้เห็นภาพ Earthrise อันโด่งดังที่เปลี่ยนมุมมองของมนุษย์ต่อโลกไปตลอดกาล แม้จะไม่เคยเดินบนดวงจันทร์ แต่ Jim Lovell ได้เดินเข้าสู่หัวใจของผู้คนทั่วโลกด้วยความกล้าหาญ ความอ่อนน้อม และความสามารถในการนำทีมผ่านความมืดมิดของอวกาศกลับสู่แสงแห่งชีวิต https://www.nasa.gov/news-release/acting-nasa-administrator-reflects-on-legacy-of-astronaut-jim-lovell/
    WWW.NASA.GOV
    Acting NASA Administrator Reflects on Legacy of Astronaut Jim Lovell
    The following is a statement from acting NASA Administrator Sean Duffy on the passing of famed Apollo astronaut Jim Lovell. He passed away Aug. 7, in Lake
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากเงามืด: Tor จากโครงการทหารสู่เครื่องมือแห่งเสรีภาพดิจิทัล

    ลองจินตนาการว่าคุณนั่งอยู่บนรถไฟเก่าในอังกฤษ อากาศเย็นจัดและ Wi-Fi ก็ไม่ค่อยดีนัก คุณพยายามเปิดเว็บไซต์เพื่อทำวิจัย แต่กลับเจอหน้าบล็อกจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต คุณถอนหายใจ เปิด Tor Browser แล้วพิมพ์ URL... เว็บไซต์โหลดขึ้นทันที

    นี่คือพลังของ Tor—เครื่องมือที่เริ่มต้นจากโครงการของกองทัพเรือสหรัฐฯ เพื่อการสื่อสารลับ และกลายเป็นเสาหลักของความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์

    Tor ย่อมาจาก “The Onion Router” เป็นเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์กระจายทั่วโลกที่เข้ารหัสข้อมูลหลายชั้น แล้วส่งผ่านโหนดต่าง ๆ เพื่อปกปิดตัวตนของผู้ใช้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์หรือเผชิญกับการติดตามจากรัฐ Tor ก็ช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลอย่างอิสระ

    แม้ Tor จะถูกมองว่าเป็นประตูสู่ Dark Web ที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม แต่ก็เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักข่าว นักเคลื่อนไหว และประชาชนในประเทศเผด็จการ ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ถูกตรวจสอบ

    ในยุค 1990s กลุ่ม Cypherpunks ได้ต่อสู้ใน “Crypto Wars” เพื่อผลักดันการใช้การเข้ารหัสระดับทหารในสาธารณะ พวกเขาเตือนว่าอินเทอร์เน็ตอาจกลายเป็นฝันร้ายแบบเผด็จการ และ Tor คือหนึ่งในผลลัพธ์ของการต่อสู้นั้น

    แม้รัฐบาลบางส่วนจะพยายามควบคุมอินเทอร์เน็ต แต่กลับเป็นผู้สนับสนุนการพัฒนา Tor ด้วยงบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น DARPA, กองทัพเรือ, และกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ

    Tor เริ่มต้นจากโครงการของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในปี 1990s
    พัฒนาโดยนักวิจัยจาก Naval Research Lab เพื่อสร้างการสื่อสารที่ไม่สามารถติดตามได้

    Tor Browser ใช้เทคนิค “onion routing” เพื่อเข้ารหัสข้อมูลหลายชั้น
    ส่งผ่านโหนด 3 ชั้น: Entry, Middle, Exit เพื่อปกปิดตัวตน

    Tor ถูกใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกในประเทศเผด็จการ
    เช่น BBC และ Facebook มีเวอร์ชันเฉพาะบน Tor

    Tor ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ และองค์กรสิทธิมนุษยชน
    เช่น EFF, Human Rights Watch, Google และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ

    Cypherpunks เป็นกลุ่มผู้ผลักดันการเข้ารหัสเพื่อเสรีภาพดิจิทัล
    เตือนว่าอินเทอร์เน็ตอาจกลายเป็นเครื่องมือของรัฐเผด็จการ

    Tor Browser ไม่เก็บประวัติการใช้งาน และลบ cookies ทุกครั้งที่ปิด
    ป้องกันการติดตามและการระบุตัวตนจากเว็บไซต์

    Tor ถูกใช้ในเหตุการณ์ Arab Spring เพื่อหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์
    ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงโซเชียลมีเดียและข่าวสารที่ถูกบล็อก

    Tor เป็นโอเพ่นซอร์สและมีผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วโลก
    มีโหนด relays กว่าหลายพันจุดที่ดำเนินการโดยอาสาสมัคร

    Tor Browser มีฟีเจอร์ป้องกัน fingerprinting และการติดตามขั้นสูง
    ถูกนำไปใช้ในเบราว์เซอร์อื่น เช่น Firefox ผ่านโครงการ Tor Uplift

    Tor สามารถใช้ร่วมกับ VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้น
    โดยเฉพาะในประเทศที่มีการตรวจสอบการเชื่อมต่อ Tor

    https://thereader.mitpress.mit.edu/the-secret-history-of-tor-how-a-military-project-became-a-lifeline-for-privacy/
    🕵️‍♂️🌐 เรื่องเล่าจากเงามืด: Tor จากโครงการทหารสู่เครื่องมือแห่งเสรีภาพดิจิทัล ลองจินตนาการว่าคุณนั่งอยู่บนรถไฟเก่าในอังกฤษ อากาศเย็นจัดและ Wi-Fi ก็ไม่ค่อยดีนัก คุณพยายามเปิดเว็บไซต์เพื่อทำวิจัย แต่กลับเจอหน้าบล็อกจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต คุณถอนหายใจ เปิด Tor Browser แล้วพิมพ์ URL... เว็บไซต์โหลดขึ้นทันที นี่คือพลังของ Tor—เครื่องมือที่เริ่มต้นจากโครงการของกองทัพเรือสหรัฐฯ เพื่อการสื่อสารลับ และกลายเป็นเสาหลักของความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ Tor ย่อมาจาก “The Onion Router” เป็นเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์กระจายทั่วโลกที่เข้ารหัสข้อมูลหลายชั้น แล้วส่งผ่านโหนดต่าง ๆ เพื่อปกปิดตัวตนของผู้ใช้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์หรือเผชิญกับการติดตามจากรัฐ Tor ก็ช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลอย่างอิสระ แม้ Tor จะถูกมองว่าเป็นประตูสู่ Dark Web ที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม แต่ก็เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักข่าว นักเคลื่อนไหว และประชาชนในประเทศเผด็จการ ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ถูกตรวจสอบ ในยุค 1990s กลุ่ม Cypherpunks ได้ต่อสู้ใน “Crypto Wars” เพื่อผลักดันการใช้การเข้ารหัสระดับทหารในสาธารณะ พวกเขาเตือนว่าอินเทอร์เน็ตอาจกลายเป็นฝันร้ายแบบเผด็จการ และ Tor คือหนึ่งในผลลัพธ์ของการต่อสู้นั้น แม้รัฐบาลบางส่วนจะพยายามควบคุมอินเทอร์เน็ต แต่กลับเป็นผู้สนับสนุนการพัฒนา Tor ด้วยงบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น DARPA, กองทัพเรือ, และกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ✅ Tor เริ่มต้นจากโครงการของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในปี 1990s ➡️ พัฒนาโดยนักวิจัยจาก Naval Research Lab เพื่อสร้างการสื่อสารที่ไม่สามารถติดตามได้ ✅ Tor Browser ใช้เทคนิค “onion routing” เพื่อเข้ารหัสข้อมูลหลายชั้น ➡️ ส่งผ่านโหนด 3 ชั้น: Entry, Middle, Exit เพื่อปกปิดตัวตน ✅ Tor ถูกใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกในประเทศเผด็จการ ➡️ เช่น BBC และ Facebook มีเวอร์ชันเฉพาะบน Tor ✅ Tor ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ และองค์กรสิทธิมนุษยชน ➡️ เช่น EFF, Human Rights Watch, Google และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ✅ Cypherpunks เป็นกลุ่มผู้ผลักดันการเข้ารหัสเพื่อเสรีภาพดิจิทัล ➡️ เตือนว่าอินเทอร์เน็ตอาจกลายเป็นเครื่องมือของรัฐเผด็จการ ✅ Tor Browser ไม่เก็บประวัติการใช้งาน และลบ cookies ทุกครั้งที่ปิด ➡️ ป้องกันการติดตามและการระบุตัวตนจากเว็บไซต์ ✅ Tor ถูกใช้ในเหตุการณ์ Arab Spring เพื่อหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์ ➡️ ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงโซเชียลมีเดียและข่าวสารที่ถูกบล็อก ✅ Tor เป็นโอเพ่นซอร์สและมีผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วโลก ➡️ มีโหนด relays กว่าหลายพันจุดที่ดำเนินการโดยอาสาสมัคร ✅ Tor Browser มีฟีเจอร์ป้องกัน fingerprinting และการติดตามขั้นสูง ➡️ ถูกนำไปใช้ในเบราว์เซอร์อื่น เช่น Firefox ผ่านโครงการ Tor Uplift ✅ Tor สามารถใช้ร่วมกับ VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้น ➡️ โดยเฉพาะในประเทศที่มีการตรวจสอบการเชื่อมต่อ Tor https://thereader.mitpress.mit.edu/the-secret-history-of-tor-how-a-military-project-became-a-lifeline-for-privacy/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข้อมือ: สมาร์ตวอชต์ราคา £16 ที่เปลี่ยนความคิดเรื่องการชาร์จ

    Terence Eden นักเขียนบล็อกสายเทคโนโลยีมีภารกิจส่วนตัว—ทำให้ทุกอุปกรณ์พกพาของเขาใช้สาย USB-C ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ หูฟัง แปรงสีฟัน หรือแม้แต่สมาร์ตวอชต์ เขาจึงตัดสินใจซื้อ Colmi P80 สมาร์ตวอชต์ราคาประหยัดจาก AliExpress เพียง £16 เพราะมันเป็นรุ่นเดียวที่มีพอร์ต USB-C

    แม้จะคาดหวังไว้ว่าจะ “แย่ตามราคา” แต่กลับพบว่าเจ้า P80 นี้ใช้งานได้ดีเกินคาด ทั้งการจับเวลา โทรศัพท์ผ่าน Bluetooth การแจ้งเตือนแบบสั่น และแม้แต่มีไฟฉายในตัว! ที่สำคัญคือมันชาร์จผ่าน USB-C ได้จริง และแบตเตอรี่ก็อึดอย่างไม่น่าเชื่อ—ใช้งานได้ถึง 5 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

    ในโลกที่สมาร์ตวอชต์ส่วนใหญ่ยังใช้สายชาร์จเฉพาะตัวแบบแม่เหล็กหรือแท่นวาง การมีพอร์ต USB-C กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้ต้องการความสะดวกในการชาร์จระหว่างเดินทาง

    Terence Eden ซื้อ Colmi P80 เพราะเป็นสมาร์ตวอชต์ที่ใช้ USB-C
    ราคาเพียง £16 จาก AliExpress

    Colmi P80 ใช้งานได้ดีเกินคาดสำหรับราคานี้
    มีฟีเจอร์พื้นฐานครบ เช่น โทรศัพท์, แจ้งเตือน, เกม, ไฟฉาย

    ชาร์จเต็มใน 90 นาที และใช้งานได้ถึง 5 วัน
    แบตเตอรี่ขนาด 280mAh ใช้พลังงานต่ำ

    ไม่รองรับ Power Delivery (PD) แต่ชาร์จได้กับ USB-C ธรรมดา
    PD charger ไม่สามารถลดกำลังไฟลงต่ำพอสำหรับอุปกรณ์นี้

    มีฝายางปิดพอร์ต USB-C เพื่อป้องกันฝุ่นและน้ำ
    แต่ฝาอาจหลวมเมื่อใช้สายที่หัวใหญ่

    https://shkspr.mobi/blog/2025/08/i-bought-a-16-smartwatch-just-because-it-used-usb-c/
    ⌚🔌 เรื่องเล่าจากข้อมือ: สมาร์ตวอชต์ราคา £16 ที่เปลี่ยนความคิดเรื่องการชาร์จ Terence Eden นักเขียนบล็อกสายเทคโนโลยีมีภารกิจส่วนตัว—ทำให้ทุกอุปกรณ์พกพาของเขาใช้สาย USB-C ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ หูฟัง แปรงสีฟัน หรือแม้แต่สมาร์ตวอชต์ เขาจึงตัดสินใจซื้อ Colmi P80 สมาร์ตวอชต์ราคาประหยัดจาก AliExpress เพียง £16 เพราะมันเป็นรุ่นเดียวที่มีพอร์ต USB-C แม้จะคาดหวังไว้ว่าจะ “แย่ตามราคา” แต่กลับพบว่าเจ้า P80 นี้ใช้งานได้ดีเกินคาด ทั้งการจับเวลา โทรศัพท์ผ่าน Bluetooth การแจ้งเตือนแบบสั่น และแม้แต่มีไฟฉายในตัว! ที่สำคัญคือมันชาร์จผ่าน USB-C ได้จริง และแบตเตอรี่ก็อึดอย่างไม่น่าเชื่อ—ใช้งานได้ถึง 5 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ในโลกที่สมาร์ตวอชต์ส่วนใหญ่ยังใช้สายชาร์จเฉพาะตัวแบบแม่เหล็กหรือแท่นวาง การมีพอร์ต USB-C กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้ต้องการความสะดวกในการชาร์จระหว่างเดินทาง ✅ Terence Eden ซื้อ Colmi P80 เพราะเป็นสมาร์ตวอชต์ที่ใช้ USB-C ➡️ ราคาเพียง £16 จาก AliExpress ✅ Colmi P80 ใช้งานได้ดีเกินคาดสำหรับราคานี้ ➡️ มีฟีเจอร์พื้นฐานครบ เช่น โทรศัพท์, แจ้งเตือน, เกม, ไฟฉาย ✅ ชาร์จเต็มใน 90 นาที และใช้งานได้ถึง 5 วัน ➡️ แบตเตอรี่ขนาด 280mAh ใช้พลังงานต่ำ ✅ ไม่รองรับ Power Delivery (PD) แต่ชาร์จได้กับ USB-C ธรรมดา ➡️ PD charger ไม่สามารถลดกำลังไฟลงต่ำพอสำหรับอุปกรณ์นี้ ✅ มีฝายางปิดพอร์ต USB-C เพื่อป้องกันฝุ่นและน้ำ ➡️ แต่ฝาอาจหลวมเมื่อใช้สายที่หัวใหญ่ https://shkspr.mobi/blog/2025/08/i-bought-a-16-smartwatch-just-because-it-used-usb-c/
    SHKSPR.MOBI
    I bought a £16 smartwatch just because it used USB-C
    Look, I'm an idiot. I know that, you know that, and the man on the moon knows that. Let's not get into why I'm an idiot; let's just accept that I have my peculiarities and you have yours. My idiocy is a quest to make sure all my portable electronics can recharge using USB-C. Modern smartwatches are tiny and they do a lot. As a consequence, their battery life is generally poor. The industry's…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากไฟล์บีบอัด: ช่องโหว่ WinRAR ที่เปิดประตูให้ RomCom มัลแวร์รัสเซีย

    ในเดือนสิงหาคม 2025 โลกไซเบอร์ต้องตื่นตัวอีกครั้ง เมื่อมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในโปรแกรม WinRAR ที่ใช้กันทั่วโลก ช่องโหว่นี้มีชื่อว่า CVE-2025-8088 ซึ่งเป็นช่องโหว่แบบ “path traversal” ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถสั่งให้ไฟล์ที่ถูกแตกออกมาไปอยู่ในโฟลเดอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น Startup folder ของ Windows

    เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ RAR ที่ถูกออกแบบมาอย่างเจาะจงผ่านอีเมลฟิชชิ่ง มัลแวร์ชื่อ RomCom จะถูกติดตั้งโดยอัตโนมัติ และทำงานทันทีเมื่อเครื่องเริ่มต้นใหม่ โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกอะไรเลย

    RomCom เป็นมัลแวร์ที่มีความสามารถในการขโมยข้อมูล ติดตั้งโปรแกรมอันตรายเพิ่มเติม และเปิดช่องให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่องจากระยะไกล กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังถูกระบุว่าเป็นทีมไซเบอร์สอดแนมที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย ซึ่งเคยโจมตีผ่านช่องโหว่ใน Firefox และ Windows มาก่อน โดยใช้เทคนิค “zero-click” ที่ไม่ต้องให้เหยื่อทำอะไรเลย

    โชคดีที่ WinRAR ได้ออกเวอร์ชันใหม่ 7.13 เพื่ออุดช่องโหว่นี้แล้ว แต่ผู้ใช้ต้องอัปเดตด้วยตนเอง เพราะโปรแกรมไม่มีระบบอัปเดตอัตโนมัติ

    ช่องโหว่ CVE-2025-8088 ถูกค้นพบใน WinRAR
    เป็นช่องโหว่แบบ path traversal ที่ทำให้ไฟล์ถูกแตกไปยังโฟลเดอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต

    ช่องโหว่นี้ถูกใช้เพื่อแพร่กระจาย RomCom malware
    ผ่านไฟล์ RAR ที่แนบมากับอีเมลฟิชชิ่ง

    RomCom เป็นมัลแวร์ที่สามารถขโมยข้อมูลและติดตั้งโปรแกรมอันตราย
    ทำงานทันทีเมื่อเครื่องเริ่มต้นใหม่โดยไม่ต้องคลิก

    กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังเชื่อมโยงกับรัสเซีย
    เคยใช้ช่องโหว่ใน Firefox และ Windows เพื่อโจมตีแบบ zero-click

    WinRAR ได้ออกเวอร์ชัน 7.13 เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้
    ต้องอัปเดตด้วยตนเอง เพราะไม่มีระบบอัปเดตอัตโนมัติ

    https://hackread.com/winrar-zero-day-cve-2025-8088-spread-romcom-malware/
    🧨💻 เรื่องเล่าจากไฟล์บีบอัด: ช่องโหว่ WinRAR ที่เปิดประตูให้ RomCom มัลแวร์รัสเซีย ในเดือนสิงหาคม 2025 โลกไซเบอร์ต้องตื่นตัวอีกครั้ง เมื่อมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในโปรแกรม WinRAR ที่ใช้กันทั่วโลก ช่องโหว่นี้มีชื่อว่า CVE-2025-8088 ซึ่งเป็นช่องโหว่แบบ “path traversal” ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถสั่งให้ไฟล์ที่ถูกแตกออกมาไปอยู่ในโฟลเดอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น Startup folder ของ Windows เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ RAR ที่ถูกออกแบบมาอย่างเจาะจงผ่านอีเมลฟิชชิ่ง มัลแวร์ชื่อ RomCom จะถูกติดตั้งโดยอัตโนมัติ และทำงานทันทีเมื่อเครื่องเริ่มต้นใหม่ โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกอะไรเลย RomCom เป็นมัลแวร์ที่มีความสามารถในการขโมยข้อมูล ติดตั้งโปรแกรมอันตรายเพิ่มเติม และเปิดช่องให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่องจากระยะไกล กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังถูกระบุว่าเป็นทีมไซเบอร์สอดแนมที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย ซึ่งเคยโจมตีผ่านช่องโหว่ใน Firefox และ Windows มาก่อน โดยใช้เทคนิค “zero-click” ที่ไม่ต้องให้เหยื่อทำอะไรเลย โชคดีที่ WinRAR ได้ออกเวอร์ชันใหม่ 7.13 เพื่ออุดช่องโหว่นี้แล้ว แต่ผู้ใช้ต้องอัปเดตด้วยตนเอง เพราะโปรแกรมไม่มีระบบอัปเดตอัตโนมัติ ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-8088 ถูกค้นพบใน WinRAR ➡️ เป็นช่องโหว่แบบ path traversal ที่ทำให้ไฟล์ถูกแตกไปยังโฟลเดอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ✅ ช่องโหว่นี้ถูกใช้เพื่อแพร่กระจาย RomCom malware ➡️ ผ่านไฟล์ RAR ที่แนบมากับอีเมลฟิชชิ่ง ✅ RomCom เป็นมัลแวร์ที่สามารถขโมยข้อมูลและติดตั้งโปรแกรมอันตราย ➡️ ทำงานทันทีเมื่อเครื่องเริ่มต้นใหม่โดยไม่ต้องคลิก ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังเชื่อมโยงกับรัสเซีย ➡️ เคยใช้ช่องโหว่ใน Firefox และ Windows เพื่อโจมตีแบบ zero-click ✅ WinRAR ได้ออกเวอร์ชัน 7.13 เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้ ➡️ ต้องอัปเดตด้วยตนเอง เพราะไม่มีระบบอัปเดตอัตโนมัติ https://hackread.com/winrar-zero-day-cve-2025-8088-spread-romcom-malware/
    HACKREAD.COM
    WinRAR Zero-Day CVE-2025-8088 Exploited to Spread RomCom Malware
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากเสียงโมเด็ม: AOL ปิดตำนานอินเทอร์เน็ต Dial-up หลังให้บริการมา 34 ปี

    ในยุคที่อินเทอร์เน็ตเร็วระดับกิกะบิตกลายเป็นเรื่องธรรมดา หลายคนอาจลืมไปแล้วว่าเสียง “กรี๊ดๆๆ” จากโมเด็ม 56K เคยเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมต่อโลกออนไลน์ และหนึ่งในผู้ให้บริการที่อยู่คู่เสียงนั้นมายาวนานที่สุดคือ AOL

    AOL หรือ America Online ประกาศว่าจะยุติบริการอินเทอร์เน็ตแบบ Dial-up อย่างเป็นทางการในวันที่ 30 กันยายน 2025 พร้อมปิดตัวซอฟต์แวร์ AOL Dialer และ AOL Shield Browser ที่ออกแบบมาเพื่อระบบปฏิบัติการเก่าและการเชื่อมต่อแบบช้า

    ย้อนกลับไปในยุค 1990s AOL เคยเป็นราชาแห่งอินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ มีผู้ใช้งานกว่า 25 ล้านคน และเป็นผู้บุกเบิกบริการแชตผ่าน AIM (AOL Instant Messenger) รวมถึงการแจกแผ่น CD ทดลองใช้งานที่กลายเป็นวัฒนธรรมยุคโมเด็ม

    แม้จะถูกแทนที่ด้วย DSL, เคเบิล และไฟเบอร์ในเวลาต่อมา แต่ยังมีผู้ใช้งาน Dial-up เหลืออยู่ราว 163,000 คนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่ไม่มีโครงสร้างบรอดแบนด์

    AOL Shield Browser ซึ่งเป็นเบราว์เซอร์ที่เน้นความปลอดภัย เช่น ป้องกันการจับภาพหน้าจอและการดักคีย์บอร์ด ก็จะถูกยุติไปพร้อมกัน เช่นเดียวกับ AOL Dialer ที่เคยเป็นเครื่องมือหลักในการเชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์

    AOL จะยุติบริการอินเทอร์เน็ตแบบ Dial-up ในวันที่ 30 กันยายน 2025
    พร้อมปิดตัวซอฟต์แวร์ AOL Dialer และ AOL Shield Browser

    บริการนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1991 รวมระยะเวลาให้บริการ 34 ปี
    เคยเป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในยุคแรก

    AOL ปัจจุบันเป็นแบรนด์ภายใต้ Yahoo! ซึ่งถูกซื้อโดย Apollo Global Management
    เคยอยู่ภายใต้ Verizon และ Time Warner มาก่อน

    AOL Shield Browser มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น anti-keylogging และ anti-screenshot
    รองรับ Chrome extensions และโหมด incognito

    https://www.tomshardware.com/service-providers/network-providers/aol-will-end-dial-up-internet-service-in-september-34-years-after-its-debut-aol-shield-browser-and-aol-dialer-software-will-be-shuttered-on-the-same-day
    📞🕸️ เรื่องเล่าจากเสียงโมเด็ม: AOL ปิดตำนานอินเทอร์เน็ต Dial-up หลังให้บริการมา 34 ปี ในยุคที่อินเทอร์เน็ตเร็วระดับกิกะบิตกลายเป็นเรื่องธรรมดา หลายคนอาจลืมไปแล้วว่าเสียง “กรี๊ดๆๆ” จากโมเด็ม 56K เคยเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมต่อโลกออนไลน์ และหนึ่งในผู้ให้บริการที่อยู่คู่เสียงนั้นมายาวนานที่สุดคือ AOL AOL หรือ America Online ประกาศว่าจะยุติบริการอินเทอร์เน็ตแบบ Dial-up อย่างเป็นทางการในวันที่ 30 กันยายน 2025 พร้อมปิดตัวซอฟต์แวร์ AOL Dialer และ AOL Shield Browser ที่ออกแบบมาเพื่อระบบปฏิบัติการเก่าและการเชื่อมต่อแบบช้า ย้อนกลับไปในยุค 1990s AOL เคยเป็นราชาแห่งอินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ มีผู้ใช้งานกว่า 25 ล้านคน และเป็นผู้บุกเบิกบริการแชตผ่าน AIM (AOL Instant Messenger) รวมถึงการแจกแผ่น CD ทดลองใช้งานที่กลายเป็นวัฒนธรรมยุคโมเด็ม แม้จะถูกแทนที่ด้วย DSL, เคเบิล และไฟเบอร์ในเวลาต่อมา แต่ยังมีผู้ใช้งาน Dial-up เหลืออยู่ราว 163,000 คนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่ไม่มีโครงสร้างบรอดแบนด์ AOL Shield Browser ซึ่งเป็นเบราว์เซอร์ที่เน้นความปลอดภัย เช่น ป้องกันการจับภาพหน้าจอและการดักคีย์บอร์ด ก็จะถูกยุติไปพร้อมกัน เช่นเดียวกับ AOL Dialer ที่เคยเป็นเครื่องมือหลักในการเชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์ ✅ AOL จะยุติบริการอินเทอร์เน็ตแบบ Dial-up ในวันที่ 30 กันยายน 2025 ➡️ พร้อมปิดตัวซอฟต์แวร์ AOL Dialer และ AOL Shield Browser ✅ บริการนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1991 รวมระยะเวลาให้บริการ 34 ปี ➡️ เคยเป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในยุคแรก ✅ AOL ปัจจุบันเป็นแบรนด์ภายใต้ Yahoo! ซึ่งถูกซื้อโดย Apollo Global Management ➡️ เคยอยู่ภายใต้ Verizon และ Time Warner มาก่อน ✅ AOL Shield Browser มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น anti-keylogging และ anti-screenshot ➡️ รองรับ Chrome extensions และโหมด incognito https://www.tomshardware.com/service-providers/network-providers/aol-will-end-dial-up-internet-service-in-september-34-years-after-its-debut-aol-shield-browser-and-aol-dialer-software-will-be-shuttered-on-the-same-day
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากศาลแคลิฟอร์เนีย: ผู้ใช้ฟ้อง Microsoft ฐานยุติ Windows 10 เพื่อครองตลาด AI

    Lawrence Klein ชายชาวแคลิฟอร์เนียผู้ใช้แล็ปท็อป Windows 10 สองเครื่อง ตัดสินใจฟ้อง Microsoft ต่อศาลสูงซานดิเอโก โดยกล่าวหาว่าการยุติการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 เป็นการบีบบังคับให้ผู้ใช้ต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ที่รองรับ Windows 11 ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ AI เช่น Copilot โดยปริยาย

    แม้การอัปเกรดจาก Windows 10 เป็น Windows 11 จะ “ฟรี” แต่ก็มีอุปกรณ์หลายร้อยล้านเครื่องที่ไม่สามารถอัปเกรดได้ เพราะขาดชิป TPM 2.0 ซึ่ง Microsoft ยืนยันว่าเป็น “ข้อกำหนดที่ไม่สามารถต่อรองได้” เพื่อความปลอดภัยในอนาคต

    Klein ระบุว่า Microsoft กำลังใช้กลยุทธ์ “forced obsolescence” หรือการทำให้อุปกรณ์เก่าหมดอายุโดยตั้งใจ เพื่อผลักดันยอดขายฮาร์ดแวร์ใหม่ และครอบครองตลาดซอฟต์แวร์ AI โดยเฉพาะ Copilot ที่ฝังอยู่ใน Windows 11

    เขาเรียกร้องให้ศาลสั่งให้ Microsoft สนับสนุน Windows 10 ต่อไปโดยไม่มีค่าใช้จ่าย จนกว่าผู้ใช้จะลดลงต่ำกว่า 10% ของผู้ใช้ Windows ทั้งหมด ซึ่งอาจหมายถึงการเลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปอีกหลายปี

    Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025
    ส่งผลให้ผู้ใช้หลายร้อยล้านคนต้องอัปเกรดหรือเสี่ยงด้านความปลอดภัย

    Lawrence Klein ฟ้อง Microsoft ฐานบีบบังคับให้ซื้ออุปกรณ์ใหม่
    กล่าวหาว่าเป็นการผูกขาดตลาดซอฟต์แวร์ AI โดยเฉพาะ Copilot

    TPM 2.0 เป็นข้อกำหนดหลักในการอัปเกรดเป็น Windows 11
    อุปกรณ์ที่ไม่มี TPM 2.0 ไม่สามารถอัปเกรดได้อย่างเป็นทางการ

    Microsoft เสนอโปรแกรม Extended Security Updates (ESU)
    ผู้ใช้ทั่วไปจ่าย $30 ต่อปี ส่วนองค์กรเริ่มต้นที่ $61 และเพิ่มขึ้นทุกปี

    Klein ไม่เรียกร้องค่าชดเชยส่วนตัว แต่ขอให้ Microsoft สนับสนุน Windows 10 ต่อ
    จนกว่าผู้ใช้จะลดลงต่ำกว่า 10% ของฐานผู้ใช้ Windows

    https://www.tomshardware.com/software/windows/california-man-sues-microsoft-for-discontinuing-windows-10-says-company-is-doing-this-to-monopolize-the-generative-ai-market
    🧑‍⚖️💻 เรื่องเล่าจากศาลแคลิฟอร์เนีย: ผู้ใช้ฟ้อง Microsoft ฐานยุติ Windows 10 เพื่อครองตลาด AI Lawrence Klein ชายชาวแคลิฟอร์เนียผู้ใช้แล็ปท็อป Windows 10 สองเครื่อง ตัดสินใจฟ้อง Microsoft ต่อศาลสูงซานดิเอโก โดยกล่าวหาว่าการยุติการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 เป็นการบีบบังคับให้ผู้ใช้ต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ที่รองรับ Windows 11 ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ AI เช่น Copilot โดยปริยาย แม้การอัปเกรดจาก Windows 10 เป็น Windows 11 จะ “ฟรี” แต่ก็มีอุปกรณ์หลายร้อยล้านเครื่องที่ไม่สามารถอัปเกรดได้ เพราะขาดชิป TPM 2.0 ซึ่ง Microsoft ยืนยันว่าเป็น “ข้อกำหนดที่ไม่สามารถต่อรองได้” เพื่อความปลอดภัยในอนาคต Klein ระบุว่า Microsoft กำลังใช้กลยุทธ์ “forced obsolescence” หรือการทำให้อุปกรณ์เก่าหมดอายุโดยตั้งใจ เพื่อผลักดันยอดขายฮาร์ดแวร์ใหม่ และครอบครองตลาดซอฟต์แวร์ AI โดยเฉพาะ Copilot ที่ฝังอยู่ใน Windows 11 เขาเรียกร้องให้ศาลสั่งให้ Microsoft สนับสนุน Windows 10 ต่อไปโดยไม่มีค่าใช้จ่าย จนกว่าผู้ใช้จะลดลงต่ำกว่า 10% ของผู้ใช้ Windows ทั้งหมด ซึ่งอาจหมายถึงการเลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปอีกหลายปี ✅ Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ➡️ ส่งผลให้ผู้ใช้หลายร้อยล้านคนต้องอัปเกรดหรือเสี่ยงด้านความปลอดภัย ✅ Lawrence Klein ฟ้อง Microsoft ฐานบีบบังคับให้ซื้ออุปกรณ์ใหม่ ➡️ กล่าวหาว่าเป็นการผูกขาดตลาดซอฟต์แวร์ AI โดยเฉพาะ Copilot ✅ TPM 2.0 เป็นข้อกำหนดหลักในการอัปเกรดเป็น Windows 11 ➡️ อุปกรณ์ที่ไม่มี TPM 2.0 ไม่สามารถอัปเกรดได้อย่างเป็นทางการ ✅ Microsoft เสนอโปรแกรม Extended Security Updates (ESU) ➡️ ผู้ใช้ทั่วไปจ่าย $30 ต่อปี ส่วนองค์กรเริ่มต้นที่ $61 และเพิ่มขึ้นทุกปี ✅ Klein ไม่เรียกร้องค่าชดเชยส่วนตัว แต่ขอให้ Microsoft สนับสนุน Windows 10 ต่อ ➡️ จนกว่าผู้ใช้จะลดลงต่ำกว่า 10% ของฐานผู้ใช้ Windows https://www.tomshardware.com/software/windows/california-man-sues-microsoft-for-discontinuing-windows-10-says-company-is-doing-this-to-monopolize-the-generative-ai-market
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1000นี้หวาน มีเหลือต้นเดียว
    1000นี้หวาน มีเหลือต้นเดียว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากชิปเชื่อมต่อ: XConn เปิดตัว Apollo 2 สวิตช์ PCIe Gen 6.2 + CXL 3.1 ที่อาจเปลี่ยนโฉมศูนย์ข้อมูล AI

    ในงาน Future of Memory and Storage Summit (FMS25) ปี 2025 บริษัท XConn Technologies ได้เปิดตัว Apollo 2 ซึ่งเป็นสวิตช์ไฮบริดตัวแรกของโลกที่รวมเทคโนโลยี PCIe Gen 6.2 และ CXL 3.1 ไว้ในชิปเดียว จุดประสงค์คือเพื่อรองรับความต้องการด้าน bandwidth และ latency ที่สูงขึ้นในงานประมวลผล AI และศูนย์ข้อมูลยุคใหม่

    Apollo 2 ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาคอขวดของหน่วยความจำ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบระบบ โดยสามารถเชื่อมต่อระหว่าง CPU, GPU, และ accelerator ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่าน shared memory pool ด้วย CXL 3.1 ขณะเดียวกัน PCIe Gen 6.2 ก็ช่วยให้การส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์เร็วขึ้นถึงระดับ 128GB/s แบบ bidirectional

    XConn ยังร่วมมือกับ Intel เพื่อทดสอบความเข้ากันได้แบบ full-stack ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อสร้างระบบที่สามารถใช้งานได้จริงในระดับ production โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมสำหรับ AI/ML training, cloud computing และ composable infrastructure

    แม้จะมีความหวังสูง แต่ก็ยังไม่มีข้อมูล benchmark ที่ชัดเจนว่าประสิทธิภาพจะเหนือกว่า PCIe Gen 5 มากแค่ไหน และการใช้งานจริงยังต้องรอการพิสูจน์ในภาคสนาม

    XConn เปิดตัว Apollo 2 สวิตช์ไฮบริดที่รวม PCIe Gen 6.2 และ CXL 3.1
    เป็นชิปตัวแรกที่รวมสองเทคโนโลยีไว้ในตัวเดียว

    เปิดตัวในงาน FMS25 เพื่อโชว์การทำงานแบบ end-to-end
    รองรับ AI/ML training, cloud computing และ composable infrastructure

    ร่วมมือกับ Intel เพื่อทดสอบความเข้ากันได้แบบ full-stack
    เพื่อสร้างระบบที่ใช้งานได้จริงในระดับ production

    Apollo 2 รองรับการเชื่อมต่อตั้งแต่ 64 ถึง 260 lanes
    เพิ่มความสามารถในการปรับขนาดและความหนาแน่นของระบบ

    มีการร่วมมือกับ ScaleFlux เพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกับ CXL 3.1
    เพื่อรองรับงาน AI และ cloud infrastructure ได้ดียิ่งขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/the-next-stage-in-ai-power-xconn-set-to-reveal-end-to-end-pcie-gen-6-offering-higher-bandwidth-than-ever
    🚀🔗 เรื่องเล่าจากชิปเชื่อมต่อ: XConn เปิดตัว Apollo 2 สวิตช์ PCIe Gen 6.2 + CXL 3.1 ที่อาจเปลี่ยนโฉมศูนย์ข้อมูล AI ในงาน Future of Memory and Storage Summit (FMS25) ปี 2025 บริษัท XConn Technologies ได้เปิดตัว Apollo 2 ซึ่งเป็นสวิตช์ไฮบริดตัวแรกของโลกที่รวมเทคโนโลยี PCIe Gen 6.2 และ CXL 3.1 ไว้ในชิปเดียว จุดประสงค์คือเพื่อรองรับความต้องการด้าน bandwidth และ latency ที่สูงขึ้นในงานประมวลผล AI และศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ Apollo 2 ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาคอขวดของหน่วยความจำ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบระบบ โดยสามารถเชื่อมต่อระหว่าง CPU, GPU, และ accelerator ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่าน shared memory pool ด้วย CXL 3.1 ขณะเดียวกัน PCIe Gen 6.2 ก็ช่วยให้การส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์เร็วขึ้นถึงระดับ 128GB/s แบบ bidirectional XConn ยังร่วมมือกับ Intel เพื่อทดสอบความเข้ากันได้แบบ full-stack ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อสร้างระบบที่สามารถใช้งานได้จริงในระดับ production โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมสำหรับ AI/ML training, cloud computing และ composable infrastructure แม้จะมีความหวังสูง แต่ก็ยังไม่มีข้อมูล benchmark ที่ชัดเจนว่าประสิทธิภาพจะเหนือกว่า PCIe Gen 5 มากแค่ไหน และการใช้งานจริงยังต้องรอการพิสูจน์ในภาคสนาม ✅ XConn เปิดตัว Apollo 2 สวิตช์ไฮบริดที่รวม PCIe Gen 6.2 และ CXL 3.1 ➡️ เป็นชิปตัวแรกที่รวมสองเทคโนโลยีไว้ในตัวเดียว ✅ เปิดตัวในงาน FMS25 เพื่อโชว์การทำงานแบบ end-to-end ➡️ รองรับ AI/ML training, cloud computing และ composable infrastructure ✅ ร่วมมือกับ Intel เพื่อทดสอบความเข้ากันได้แบบ full-stack ➡️ เพื่อสร้างระบบที่ใช้งานได้จริงในระดับ production ✅ Apollo 2 รองรับการเชื่อมต่อตั้งแต่ 64 ถึง 260 lanes ➡️ เพิ่มความสามารถในการปรับขนาดและความหนาแน่นของระบบ ✅ มีการร่วมมือกับ ScaleFlux เพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกับ CXL 3.1 ➡️ เพื่อรองรับงาน AI และ cloud infrastructure ได้ดียิ่งขึ้น https://www.techradar.com/pro/the-next-stage-in-ai-power-xconn-set-to-reveal-end-to-end-pcie-gen-6-offering-higher-bandwidth-than-ever
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • โซเชี่ยลเขมรหลอนหนัก! แตกตื่น ส่งต่อภาพ ”อาวุธใหม่”ของไทย(10/08/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ไทยกัมพูชา #ThailandCambodia #กัมพูชายิงก่อน #เขมรต่ำ
    โซเชี่ยลเขมรหลอนหนัก! แตกตื่น ส่งต่อภาพ ”อาวุธใหม่”ของไทย(10/08/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ไทยกัมพูชา #ThailandCambodia #กัมพูชายิงก่อน #เขมรต่ำ
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากขุมพลังโน้ตบุ๊ก: Intel Nova Lake Mobile ซีพียู 28 คอร์ที่อาจเปลี่ยนเกม AI และการประมวลผล

    ในปี 2025 มีข่าวหลุดออกมาว่า Intel เตรียมเปิดตัวซีพียูตระกูลใหม่ชื่อ “Nova Lake” สำหรับโน้ตบุ๊ก ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของ Core Ultra 400 Series โดยมีรุ่นสูงสุดคือ Nova Lake-HX ที่มาพร้อม 28 คอร์! ประกอบด้วย 8 P-Core (Coyote Cove), 16 E-Core (Arctic Wolf), และ 4 LP-E Core บน low-power island พร้อม GPU แบบ Xe3 อีก 4 คอร์

    Nova Lake ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานประมวลผลหนัก เช่น AI, ML, cloud computing และงานแบบ composable infrastructure โดยใช้สถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมด และมีการร่วมมือกับ Intel ในการทดสอบ full-stack เพื่อให้ใช้งานได้จริงในระดับองค์กร

    นอกจากรุ่น HX ยังมีรุ่น H และ U สำหรับโน้ตบุ๊กทั่วไป โดยรุ่น H จะมีสูงสุด 16 คอร์ และ GPU สูงสุด 12 Xe3 คอร์ ส่วนรุ่น U สำหรับโน้ตบุ๊กราคาประหยัดจะเริ่มต้นที่ 6 คอร์ (2 P + 4 LP-E) และ GPU 2 Xe3 คอร์

    แม้จะยังไม่มี benchmark อย่างเป็นทางการ แต่การรวมคอร์หลายประเภทไว้ในชิปเดียว พร้อมการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น อาจทำให้ Nova Lake เป็นตัวเปลี่ยนเกมในตลาดโน้ตบุ๊กระดับสูง

    Intel เตรียมเปิดตัว Nova Lake Mobile CPU ในปี 2026
    เป็นส่วนหนึ่งของ Core Ultra 400 Series

    รุ่นสูงสุดคือ Nova Lake-HX มีรวม 28 คอร์ (8P + 16E + 4LP-E)
    พร้อม GPU Xe3 จำนวน 4 คอร์

    รุ่น Nova Lake-H มีสูงสุด 16 คอร์ และ GPU สูงสุด 12 Xe3 คอร์
    เหมาะสำหรับโน้ตบุ๊กระดับกลาง

    รุ่น Nova Lake-U สำหรับโน้ตบุ๊กราคาประหยัดเริ่มต้นที่ 6 คอร์
    ประกอบด้วย 2P + 4LP-E และ GPU 2 Xe3 คอร์

    ใช้สถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมด: Coyote Cove (P), Arctic Wolf (E), Celestial (GPU)
    รองรับงาน AI, ML และ cloud computing

    https://wccftech.com/intel-nova-lake-mobile-cpu-lineup-leak-entry-level-skus-starting-6-cores-nova-lake-hx-28-cores/
    🧠💻 เรื่องเล่าจากขุมพลังโน้ตบุ๊ก: Intel Nova Lake Mobile ซีพียู 28 คอร์ที่อาจเปลี่ยนเกม AI และการประมวลผล ในปี 2025 มีข่าวหลุดออกมาว่า Intel เตรียมเปิดตัวซีพียูตระกูลใหม่ชื่อ “Nova Lake” สำหรับโน้ตบุ๊ก ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของ Core Ultra 400 Series โดยมีรุ่นสูงสุดคือ Nova Lake-HX ที่มาพร้อม 28 คอร์! ประกอบด้วย 8 P-Core (Coyote Cove), 16 E-Core (Arctic Wolf), และ 4 LP-E Core บน low-power island พร้อม GPU แบบ Xe3 อีก 4 คอร์ Nova Lake ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานประมวลผลหนัก เช่น AI, ML, cloud computing และงานแบบ composable infrastructure โดยใช้สถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมด และมีการร่วมมือกับ Intel ในการทดสอบ full-stack เพื่อให้ใช้งานได้จริงในระดับองค์กร นอกจากรุ่น HX ยังมีรุ่น H และ U สำหรับโน้ตบุ๊กทั่วไป โดยรุ่น H จะมีสูงสุด 16 คอร์ และ GPU สูงสุด 12 Xe3 คอร์ ส่วนรุ่น U สำหรับโน้ตบุ๊กราคาประหยัดจะเริ่มต้นที่ 6 คอร์ (2 P + 4 LP-E) และ GPU 2 Xe3 คอร์ แม้จะยังไม่มี benchmark อย่างเป็นทางการ แต่การรวมคอร์หลายประเภทไว้ในชิปเดียว พร้อมการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น อาจทำให้ Nova Lake เป็นตัวเปลี่ยนเกมในตลาดโน้ตบุ๊กระดับสูง ✅ Intel เตรียมเปิดตัว Nova Lake Mobile CPU ในปี 2026 ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของ Core Ultra 400 Series ✅ รุ่นสูงสุดคือ Nova Lake-HX มีรวม 28 คอร์ (8P + 16E + 4LP-E) ➡️ พร้อม GPU Xe3 จำนวน 4 คอร์ ✅ รุ่น Nova Lake-H มีสูงสุด 16 คอร์ และ GPU สูงสุด 12 Xe3 คอร์ ➡️ เหมาะสำหรับโน้ตบุ๊กระดับกลาง ✅ รุ่น Nova Lake-U สำหรับโน้ตบุ๊กราคาประหยัดเริ่มต้นที่ 6 คอร์ ➡️ ประกอบด้วย 2P + 4LP-E และ GPU 2 Xe3 คอร์ ✅ ใช้สถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมด: Coyote Cove (P), Arctic Wolf (E), Celestial (GPU) ➡️ รองรับงาน AI, ML และ cloud computing https://wccftech.com/intel-nova-lake-mobile-cpu-lineup-leak-entry-level-skus-starting-6-cores-nova-lake-hx-28-cores/
    WCCFTECH.COM
    Intel Nova Lake Mobile CPU Lineup Leaks Out: Entry-Level SKUs Starting at 6 Cores, Nova Lake-HX With 28 Cores
    Core configurations of Intel's next-generation Nova Lake CPUs have leaked out, which point to up to 28 CPU cores & 12 GPU cores.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! เปิดหน้าผู้สร้าง MOU44 เปิดทางให้เขมร “ย่ำยี” คนไทย [10/08/68]
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #CambodiaEncroachingThailand
    #thaitimes
    #news1
    #shorts
    ด่วน! เปิดหน้าผู้สร้าง MOU44 เปิดทางให้เขมร “ย่ำยี” คนไทย [10/08/68] #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #CambodiaEncroachingThailand #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ประธานรัฐสภา นายวันมูหะหมัด วันนอร์ประกาศพร้อมผ่านงบประมาณให้กองทัพเพิ่มศักยภาพเพื่อป้องกันภัยคุกคาม ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 ร่ายยาวเล่าเบื้องลึกเบื้องหลังการถูกเขมรรุกล้ำดินแดนจนถึงขั้นปะทะเดือด และเตือนคนไทยอย่าประมาทภัยคุกคามอธิปไตยยุคใหม่ โดยเฉพาะการใช้โดรน ทั้งในพื้นที่ชายแดนและตอนในของประเทศ อย่างไรก็ตามทหารพร้อมทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075966

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่
    ประธานรัฐสภา นายวันมูหะหมัด วันนอร์ประกาศพร้อมผ่านงบประมาณให้กองทัพเพิ่มศักยภาพเพื่อป้องกันภัยคุกคาม ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 ร่ายยาวเล่าเบื้องลึกเบื้องหลังการถูกเขมรรุกล้ำดินแดนจนถึงขั้นปะทะเดือด และเตือนคนไทยอย่าประมาทภัยคุกคามอธิปไตยยุคใหม่ โดยเฉพาะการใช้โดรน ทั้งในพื้นที่ชายแดนและตอนในของประเทศ อย่างไรก็ตามทหารพร้อมทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075966 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว