• 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ “การทูตประเทศใหญ่” ทางไชน่ามีเดียกรุ๊ป (CMG)

    เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษทางโทรศัพท์ในรายการ “การทูตประเทศใหญ่” ของทางไชน่ามีเดียกรุ๊ป (CMG) โดยมีการพูดคุยในประเด็นความสัมพันธ์จีน-ไทยในวาระ 50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การหลอกลวงทางโทรคมนาคม รวมถึงความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทยระยะที่ 2 โดยรายการสัมภาษณ์ดังกล่าวออกอากาศเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568

    ผู้สื่อข่าว CMG: ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวระหว่างการพบปะกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรของไทยว่ามิตรภาพจีน-ไทยมีรากฐานลึกซึ้งนับพันปี และคำกล่าวที่ว่า “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ยังมั่นคงเหนียวแน่นตลอดมา ในฐานะเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ท่านมองแนวคิดนี้อย่างไร และปีนี้มีความหมายพิเศษต่อความสัมพันธ์จีน-ไทยอย่างไร

    เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” มีความหมาย 3 ประการ คือจีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีที่เชื่อมต่อกันด้วยภูเขาและแม่น้ำ เป็นเครือญาติที่ดีที่เชื่อมต่อกันด้วยสายเลือด และเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่มีอนาคตร่วมกัน จีนและไทยร่วมมือกันบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน ความเท่าเทียม ความไว้วางใจระหว่างกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยเป็นแบบอย่างของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและการพัฒนาร่วมกัน เดือนพฤศจิกายน ปี 2565 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เดินทางเยือนประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ และได้ร่วมกับผู้นำไทยในการกำหนดวิสัยทัศน์การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน-ไทย ซึ่งเป็นการเติมเต็มความหมายของคำว่า “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ให้มีความหมายที่ทันสมัยมากขึ้น และชี้นำทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในอนาคต

    ปีนี้เป็นปีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับความสัมพันธ์จีน-ไทย เราได้กำหนดให้เป็น “ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย 50 ปี” รวมทั้งคำขวัญร่วมกันว่า “จีน - ไทยสานใจกัน ร่วมสร้างฝันประชาคม” สำหรับปีนี้ เราจะใช้โอกาสสำคัญนี้ในการสรุปประสบการณ์อันเป็นประโยชน์จากการร่วมมือกันตลอด 50 ปีที่ผ่านมา และเปิดศักราชใหม่แห่งความสัมพันธ์จีน-ไทยในอนาคต

    ผู้สื่อข่าว CMG: ปัจจุบัน จีนและไทยกำลังดำเนินความร่วมมือหลายโครงการเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์ เช่น การหลอกลวงทางโทรศัพท์และออนไลน์ โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองเมียวดีของเมียนมา ความคืบหน้าของปฏิบัติการนี้เป็นอย่างไร

    เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: การหลอกลวงทางไซเบอร์เป็นภัยคุกคามข้ามพรมแดนที่มีความซับซ้อน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะในเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของแก๊งอาชญากรรมทางไซเบอร์ ช่วงที่ผ่านมา จีน-ไทย-เมียนมา ได้ร่วมมือกันเปิดปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ ทำให้สามารถทำลายเครือข่ายอาชญากรรมได้หลายจุด และจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสามประเทศในการปราบปรามการหลอกลวงทางไซเบอร์และปกป้องความมั่นคงในภูมิภาค

    ก้าวต่อไป จีน-ไทย-เมียนมาจะดำเนินมาตรการปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดนเช่นการหลอกลวงทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง เราจะขยายความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกบังคับให้กระทำผิด จับกุมตัวการใหญ่ของกลุ่มอาชญากรและกวาดล้างศูนย์คอลเซ็นเตอร์ เพื่อปกป้องความปลอดภัยทางชีวิตและทรัพย์สินของพลเมืองจีนและประชาชนของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค

    ผู้สื่อข่าว CMG: คณะรัฐมนตรีไทยได้อนุมัติแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-ไทย ระยะที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2573 แม้ว่าระยะที่ 1 ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลไทยตัดสินใจเดินหน้าโครงการนี้

    เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: ในระหว่างการเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ผู้นำทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟจีน-ไทย และการส่งเสริมแนวคิดการเชื่อมโยงระหว่างจีน-ลาว-ไทยอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายไทยได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟจีน-ไทย ระยะที่ 1 และจะเริ่มต้นโครงการระยะที่ 2 ภายในปีนี้

    ฝ่ายไทยได้อนุมัติแผนการก่อสร้างโครงการระยะที่ 2 ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยต่อโครงการรถไฟจีน-ไทย และมีความหมายสำคัญต่อการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เราชื่นชมในการตัดสินใจของฝ่ายไทย และท่าทีที่แสดงถึงความมุ่งมั่นนี้อย่างสูง ฝ่ายจีนก็จะให้การสนับสนุนและความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อให้โครงการดำเนินไปอย่างราบรื่น

    ในความเป็นจริงนั้น รถไฟจีน-ไทยเป็นเส้นทางการคมนาคมทางบกเส้นใหม่ระหว่างจีนและไทย และยังเป็นส่วนสำคัญของเส้นทางการคมนาคมหลักในคาบสมุทรอินโดจีน ทุกคนทราบดีว่า รถไฟจีน-ลาว ได้เปิดให้บริการมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว การที่รถไฟจีน-ไทยแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการเชื่อมโยงระหว่างจีน-ลาว-ไทย และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนทั้งสามประเทศ ในอนาคต รถไฟจีน-ไทยจะขยายไปทางทิศใต้เชื่อมต่อกับเครือข่ายรถไฟของมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างจีนกับประเทศในอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

    ผู้สื่อข่าว CMG: ไทยเพิ่งได้รับการรับรองให้เป็นหุ้นส่วนพันธมิตรของกลุ่มประเทศ BRICS อย่างเป็นทางการ อีกทั้งในกลไกต่าง ๆ เช่น ความร่วมมือจีน-อาเซียน และความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ไทยก็มีบทบาทสำคัญ ในสถานการณ์ปัจจุบัน จีนและไทยจะร่วมกันเสริมสร้างบทบาทกลไกพหุภาคีของประเทศโลกใต้ (Global South) อย่างไร

    เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: ไทยเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือพันธมิตรที่สำคัญของจีนในกลไกพหุภาคี อีกทั้งเป็นสมาชิกสำคัญของอาเซียน และได้เข้าร่วมกลุ่ม BRICS อย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังเป็นประธานร่วมของความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง และมีบทบาทสำคัญในหลายองค์กรระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค

    จากสถานการณ์ระหว่างประเทศในปัจจุบันที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง กลุ่มประเทศโลกใต้ กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทาย ไทยได้แสดงการสนับสนุนอย่างชัดเจนต่อแนวคิดการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างมนุษยชาติ รวมถึงการสนับสนุนแนวคิดการพัฒนาระดับโลก แนวคิดความมั่นคงระดับโลก และแนวคิดอารยธรรมระดับโลก ซึ่งเสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน จีนและไทยควรเสริมสร้างการสื่อสารและความร่วมมือให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งผลักดันและปฏิบัติตามหลักการพหุภาคีและการเปิดกว้างในระดับภูมิภาคให้เห็นเป็นรูปธรรมที่แท้จริง เพื่อร่วมส่งเสริมความหลากหลายและความเป็นระเบียบของโลก ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและเป็นธรรม เพื่อร่วมกันสร้างระบบการปกครองโลกตามหลักธรรมาภิบาลอย่างสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/18t7wHFRgk/?mibextid=wwXIfr
    เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ “การทูตประเทศใหญ่” ทางไชน่ามีเดียกรุ๊ป (CMG) เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษทางโทรศัพท์ในรายการ “การทูตประเทศใหญ่” ของทางไชน่ามีเดียกรุ๊ป (CMG) โดยมีการพูดคุยในประเด็นความสัมพันธ์จีน-ไทยในวาระ 50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การหลอกลวงทางโทรคมนาคม รวมถึงความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทยระยะที่ 2 โดยรายการสัมภาษณ์ดังกล่าวออกอากาศเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าว CMG: ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวระหว่างการพบปะกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรของไทยว่ามิตรภาพจีน-ไทยมีรากฐานลึกซึ้งนับพันปี และคำกล่าวที่ว่า “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ยังมั่นคงเหนียวแน่นตลอดมา ในฐานะเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ท่านมองแนวคิดนี้อย่างไร และปีนี้มีความหมายพิเศษต่อความสัมพันธ์จีน-ไทยอย่างไร เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” มีความหมาย 3 ประการ คือจีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีที่เชื่อมต่อกันด้วยภูเขาและแม่น้ำ เป็นเครือญาติที่ดีที่เชื่อมต่อกันด้วยสายเลือด และเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่มีอนาคตร่วมกัน จีนและไทยร่วมมือกันบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน ความเท่าเทียม ความไว้วางใจระหว่างกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยเป็นแบบอย่างของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและการพัฒนาร่วมกัน เดือนพฤศจิกายน ปี 2565 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เดินทางเยือนประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ และได้ร่วมกับผู้นำไทยในการกำหนดวิสัยทัศน์การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน-ไทย ซึ่งเป็นการเติมเต็มความหมายของคำว่า “จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ให้มีความหมายที่ทันสมัยมากขึ้น และชี้นำทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในอนาคต ปีนี้เป็นปีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับความสัมพันธ์จีน-ไทย เราได้กำหนดให้เป็น “ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย 50 ปี” รวมทั้งคำขวัญร่วมกันว่า “จีน - ไทยสานใจกัน ร่วมสร้างฝันประชาคม” สำหรับปีนี้ เราจะใช้โอกาสสำคัญนี้ในการสรุปประสบการณ์อันเป็นประโยชน์จากการร่วมมือกันตลอด 50 ปีที่ผ่านมา และเปิดศักราชใหม่แห่งความสัมพันธ์จีน-ไทยในอนาคต ผู้สื่อข่าว CMG: ปัจจุบัน จีนและไทยกำลังดำเนินความร่วมมือหลายโครงการเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์ เช่น การหลอกลวงทางโทรศัพท์และออนไลน์ โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองเมียวดีของเมียนมา ความคืบหน้าของปฏิบัติการนี้เป็นอย่างไร เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: การหลอกลวงทางไซเบอร์เป็นภัยคุกคามข้ามพรมแดนที่มีความซับซ้อน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะในเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของแก๊งอาชญากรรมทางไซเบอร์ ช่วงที่ผ่านมา จีน-ไทย-เมียนมา ได้ร่วมมือกันเปิดปฏิบัติการกวาดล้างครั้งใหญ่ ทำให้สามารถทำลายเครือข่ายอาชญากรรมได้หลายจุด และจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสามประเทศในการปราบปรามการหลอกลวงทางไซเบอร์และปกป้องความมั่นคงในภูมิภาค ก้าวต่อไป จีน-ไทย-เมียนมาจะดำเนินมาตรการปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดนเช่นการหลอกลวงทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง เราจะขยายความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกบังคับให้กระทำผิด จับกุมตัวการใหญ่ของกลุ่มอาชญากรและกวาดล้างศูนย์คอลเซ็นเตอร์ เพื่อปกป้องความปลอดภัยทางชีวิตและทรัพย์สินของพลเมืองจีนและประชาชนของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค ผู้สื่อข่าว CMG: คณะรัฐมนตรีไทยได้อนุมัติแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงจีน-ไทย ระยะที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2573 แม้ว่าระยะที่ 1 ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลไทยตัดสินใจเดินหน้าโครงการนี้ เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: ในระหว่างการเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ผู้นำทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟจีน-ไทย และการส่งเสริมแนวคิดการเชื่อมโยงระหว่างจีน-ลาว-ไทยอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายไทยได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟจีน-ไทย ระยะที่ 1 และจะเริ่มต้นโครงการระยะที่ 2 ภายในปีนี้ ฝ่ายไทยได้อนุมัติแผนการก่อสร้างโครงการระยะที่ 2 ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยต่อโครงการรถไฟจีน-ไทย และมีความหมายสำคัญต่อการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เราชื่นชมในการตัดสินใจของฝ่ายไทย และท่าทีที่แสดงถึงความมุ่งมั่นนี้อย่างสูง ฝ่ายจีนก็จะให้การสนับสนุนและความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อให้โครงการดำเนินไปอย่างราบรื่น ในความเป็นจริงนั้น รถไฟจีน-ไทยเป็นเส้นทางการคมนาคมทางบกเส้นใหม่ระหว่างจีนและไทย และยังเป็นส่วนสำคัญของเส้นทางการคมนาคมหลักในคาบสมุทรอินโดจีน ทุกคนทราบดีว่า รถไฟจีน-ลาว ได้เปิดให้บริการมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว การที่รถไฟจีน-ไทยแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการเชื่อมโยงระหว่างจีน-ลาว-ไทย และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนทั้งสามประเทศ ในอนาคต รถไฟจีน-ไทยจะขยายไปทางทิศใต้เชื่อมต่อกับเครือข่ายรถไฟของมาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างจีนกับประเทศในอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผู้สื่อข่าว CMG: ไทยเพิ่งได้รับการรับรองให้เป็นหุ้นส่วนพันธมิตรของกลุ่มประเทศ BRICS อย่างเป็นทางการ อีกทั้งในกลไกต่าง ๆ เช่น ความร่วมมือจีน-อาเซียน และความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ไทยก็มีบทบาทสำคัญ ในสถานการณ์ปัจจุบัน จีนและไทยจะร่วมกันเสริมสร้างบทบาทกลไกพหุภาคีของประเทศโลกใต้ (Global South) อย่างไร เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง: ไทยเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือพันธมิตรที่สำคัญของจีนในกลไกพหุภาคี อีกทั้งเป็นสมาชิกสำคัญของอาเซียน และได้เข้าร่วมกลุ่ม BRICS อย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังเป็นประธานร่วมของความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง และมีบทบาทสำคัญในหลายองค์กรระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค จากสถานการณ์ระหว่างประเทศในปัจจุบันที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง กลุ่มประเทศโลกใต้ กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทาย ไทยได้แสดงการสนับสนุนอย่างชัดเจนต่อแนวคิดการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างมนุษยชาติ รวมถึงการสนับสนุนแนวคิดการพัฒนาระดับโลก แนวคิดความมั่นคงระดับโลก และแนวคิดอารยธรรมระดับโลก ซึ่งเสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน จีนและไทยควรเสริมสร้างการสื่อสารและความร่วมมือให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งผลักดันและปฏิบัติตามหลักการพหุภาคีและการเปิดกว้างในระดับภูมิภาคให้เห็นเป็นรูปธรรมที่แท้จริง เพื่อร่วมส่งเสริมความหลากหลายและความเป็นระเบียบของโลก ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและเป็นธรรม เพื่อร่วมกันสร้างระบบการปกครองโลกตามหลักธรรมาภิบาลอย่างสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น ที่มา https://www.facebook.com/share/p/18t7wHFRgk/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1080 มุมมอง 0 รีวิว
  • พิธีอุปสมบท แบบคณะธรรมยุต นาคสามคน
    พิธีอุปสมบท แบบคณะธรรมยุต นาคสามคน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รายงานวิเคราะห์จากเพจลงทุนแมน เกี่ยวกับสรุปวิกฤติค่าเงิน อินโดนีเซีย อ่อนสุดตั้งแต่ต้มยำกุ้ง ในโพสต์เดียว /โดย ลงทุนแมน
    ถ้าบอกว่า อินโดนีเซียยังเป็นประเทศดาวรุ่งพุ่งแรง ที่ทุกอย่างกำลังดูดี โพสต์นี้อาจทำให้หลายคนมองภาพประเทศนี้เปลี่ยนไป

    เพราะตอนนี้ อินโดนีเซียกำลังเจอวิกฤติเงินรูเปียอ่อนค่าอย่างหนัก ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุด นับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 เลยทีเดียว

    จนธนาคารกลางอินโดนีเซีย ต้องนำเงินทุนสำรองมาพยุงค่าเงินรูเปียไม่ให้อ่อนค่าไปมากกว่านี้

    วิกฤติค่าเงินของอินโดนีเซียรุนแรงแค่ไหน ?
    แล้วเกิดขึ้นเพราะอะไร ?
    ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

    ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซีย ร่วงไปแตะระดับ 16,600 รูเปียต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่ามากที่สุด ระดับเดียวกับช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540

    สถานการณ์ของอินโดนีเซียในครั้งนี้ อาจไม่ได้ซ้ำรอยกับวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่เริ่มต้นจากการถล่มค่าเงินในภูมิภาค แต่เกิดขึ้นจากรากฐานเศรษฐกิจของอินโดนีเซียที่อ่อนแอลง และถูกซ้ำเติมด้วยนโยบายภาครัฐ

    ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซีย คือหนึ่งในประเทศที่ได้รับเงินสนับสนุนและการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง

    โดยในปี 2566 มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติมากถึง 1.88 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อนหน้า และมี GDP เติบโตเฉลี่ย 5% ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

    เมื่อมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บวกกับเศรษฐกิจที่เติบโตดี มีฐานประชากรกว่า 281 ล้านคน คอยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

    อีกทั้งรัฐบาลอินโดนีเซีย ดำเนินนโยบายแบบขาดดุลตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอินโดนีเซียมีกรอบนโยบายขาดดุลงบประมาณราว -3% ต่อ GDP อย่างยาวนาน

    จนมาถึงยุคของ ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต
    ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในช่วงปลายปี 2567 ก็ยังคงเดินตามแบบแผนเดิม ๆ คือ การตั้งงบประมาณแบบขาดดุล

    พร้อมกับนโยบายประชานิยมหลากหลายอย่าง ที่เขาได้ประกาศใช้ ไม่ว่าจะเป็น

    - ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 6.5% สูงกว่าข้อเสนอของกระทรวงแรงงานที่เสนอไว้ 6%

    - อาหารกลางวันฟรี ให้กับประชาชนกว่า 83 ล้านคน โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ เด็ก และสตรีมีครรภ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 950,000 ล้านบาทต่อปี

    - สั่งเบรกอัตราภาษี VAT ที่จะต้องปรับขึ้นเป็น 12% ในสินค้าทุกรายการ เป็นบังคับใช้เพียงสินค้าฟุ่มเฟือยเท่านั้น

    แน่นอนว่า การทำนโยบายประชานิยม ก็ยิ่งกดดันให้อินโดนีเซียต้องขาดดุลมากขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะเลยกรอบ 3% ต่อ GDP ที่วางไว้

    ซึ่งในปี 2568 รัฐบาลอินโดนีเซีย ตั้งเป้างบประมาณขาดดุลไว้ที่ 2.53% เพิ่มขึ้นจาก 2.29% ในปี 2567

    แล้วภาพเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย เป็นอย่างไร ?

    สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อินโดนีเซีย ในปี 2567 อยู่ที่ 39% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับชาติอื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ หรือ มาเลเซีย

    แต่หากดูในภาพรวม จะพบว่า GDP ของอินโดนีเซีย กำลังเติบโตลดลงทีละน้อย จาก 5.31% ในปี 2565 เหลือ 5.03% ในปี 2567

    ในขณะที่รายได้ของรัฐ เริ่มส่งสัญญาณโตไม่ทันรายจ่าย ทำให้ภาครัฐขาดดุลมากขึ้น

    ปี 2565 ขาดดุล 943,236 ล้านบาท
    ปี 2566 ขาดดุล 994,387 ล้านบาท
    ปี 2567 ขาดดุล 1,070,091 ล้านบาท

    เมื่อมีแนวโน้มขาดดุลงบประมาณมากขึ้น แต่การเติบโตของเศรษฐกิจกลับเริ่มอ่อนแรง การกู้เงินมาใช้จ่ายจึงเพิ่มขึ้น

    ซึ่งแม้แต่ประธานาธิบดีปราโบโวเอง ก็เคยบอกไว้ว่ามีแผนจะปรับระดับเพดานหนี้สาธารณะต่อ GDP อินโดนีเซีย ไปอยู่ในระดับ 50% ภายในเวลา 5 ปี

    นอกจากเรื่องการขาดดุลอย่างต่อเนื่องแล้ว ประธานาธิบดีคนนี้ ยังต้องการตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่ชื่อว่า Danantara ที่คาดว่าจะมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการกว่า 30 ล้านล้านบาท

    Danantara มีโมเดลคล้าย Temasek กองทุน
    ความมั่งคั่งแห่งชาติสิงคโปร์ ที่เน้นนำเงินของประเทศ
    ไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลก

    รวมถึง รัฐวิสาหกิจของอินโดนีเซีย กว่า 40 แห่ง ที่จะถูกรวมเข้ามาเป็นสินทรัพย์ภายใต้กองทุน เช่น
    - Pertamina บริษัทน้ำมันและก๊าซ
    - PLN บริษัทไฟฟ้า
    - Telkom Indonesia บริษัทโทรคมนาคม

    แต่ปัญหาคือ กองทุนนี้ต้องใช้เงินมหาศาลในการจัดตั้งกองทุน ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลอินโดนีเซียทำ เป็นความเสี่ยงที่หลายคนกังวล

    เพราะรัฐบาลหาเงินมาทำกองทุนนี้ ด้วยการตัดงบประมาณบริการสาธารณะที่จำเป็น รวมถึงการลดเงินทุนสำหรับการศึกษาระดับประถมลง 24% และลดงบประมาณการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยลง 39% ลดค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพลง 19% และที่สำคัญคือ การลดโครงการสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานลง 73%

    เรียกได้ว่า กองทุนนี้มีเงินตั้งต้นจากการลดค่าใช้จ่าย
    ในเศรษฐกิจ ที่เป็นอนาคตสำคัญของประเทศ

    จากปัญหาหลักทั้ง 2 เรื่องนี้ นั่นก็คือ การขาดดุลงบประมาณ และการลดค่าใช้จ่ายที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ก็ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มกังวลกับความอ่อนแอของเศรษฐกิจ และศักยภาพการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาวของอินโดนีเซีย

    ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย จนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย (IDX Composite) ปรับตัวลงไปแล้ว -10% นับจากต้นปี (ยังดีกว่าดัชนี SET ของไทยที่ -14%)

    ซึ่งวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียได้มีการประกาศหยุดซื้อขายหุ้นชั่วคราว หลังจากดัชนีหลักทรัพย์ร่วงไป -5%

    โดยแรงขายหุ้นจากนักลงทุนต่างชาติ ยังเป็นแรงกดดันให้ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซียอ่อนค่าลงอีกทาง

    ในที่สุด ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซียก็อ่อนค่าลงต่อเนื่อง จนตอนนี้อยู่ในระดับที่ต่ำสุด นับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งในช่วงปี 2540 ไปแล้ว (ในขณะที่ค่าเงินบาทไทยยังห่างไกลจากช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่อ่อนค่าลงไปแตะ 55 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ)

    อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่า เรื่องนี้ก็อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น หากความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา และความท้าทายทางเศรษฐกิจเริ่มคลี่คลาย

    แต่ถ้ารัฐบาลอินโดนีเซียภายใต้ผู้นำที่ชื่อว่า ปราโบโว
    ซูเบียนโต ยังทำแบบเดิม ๆ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ยังไม่ฟื้นคืน

    สุดท้าย ก็อาจทำให้ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซีย ร่วงหนักไปมากกว่านี้ก็ได้..

    ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ

    รู้ไหมว่า กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ Danantara
    ของอินโดนีเซีย มีคุณทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาอีกด้วย
    ╔═══════════╗
    ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - facebook.com/longtunman
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    TikTok - tiktok.com/@longtunman
    Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
    Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
    Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
    References
    -https://www.reuters.com/markets/currencies/indonesia-cbank-says-rupiah-weakness-reflects-global-domestic-factors-2025-03-25/?utm_source=chatgpt.com
    -https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-03-26/indonesia-stock-market-why-are-investors-fleeing-what-role-has-prabowo-played
    -https://tradingeconomics.com/indonesia/indicators
    -https://www.bps.go.id/en/statistics-table/2/MTA4NSMy/actual-government-expenditures--finance-.html
    -https://asiatimes.com/2025/03/danantara-indonesias-ticking-financial-time-bomb
    รายงานวิเคราะห์จากเพจลงทุนแมน เกี่ยวกับสรุปวิกฤติค่าเงิน อินโดนีเซีย อ่อนสุดตั้งแต่ต้มยำกุ้ง ในโพสต์เดียว /โดย ลงทุนแมน ถ้าบอกว่า อินโดนีเซียยังเป็นประเทศดาวรุ่งพุ่งแรง ที่ทุกอย่างกำลังดูดี โพสต์นี้อาจทำให้หลายคนมองภาพประเทศนี้เปลี่ยนไป เพราะตอนนี้ อินโดนีเซียกำลังเจอวิกฤติเงินรูเปียอ่อนค่าอย่างหนัก ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุด นับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 เลยทีเดียว จนธนาคารกลางอินโดนีเซีย ต้องนำเงินทุนสำรองมาพยุงค่าเงินรูเปียไม่ให้อ่อนค่าไปมากกว่านี้ วิกฤติค่าเงินของอินโดนีเซียรุนแรงแค่ไหน ? แล้วเกิดขึ้นเพราะอะไร ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซีย ร่วงไปแตะระดับ 16,600 รูเปียต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่ามากที่สุด ระดับเดียวกับช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540 สถานการณ์ของอินโดนีเซียในครั้งนี้ อาจไม่ได้ซ้ำรอยกับวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่เริ่มต้นจากการถล่มค่าเงินในภูมิภาค แต่เกิดขึ้นจากรากฐานเศรษฐกิจของอินโดนีเซียที่อ่อนแอลง และถูกซ้ำเติมด้วยนโยบายภาครัฐ ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซีย คือหนึ่งในประเทศที่ได้รับเงินสนับสนุนและการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติมากถึง 1.88 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อนหน้า และมี GDP เติบโตเฉลี่ย 5% ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บวกกับเศรษฐกิจที่เติบโตดี มีฐานประชากรกว่า 281 ล้านคน คอยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อีกทั้งรัฐบาลอินโดนีเซีย ดำเนินนโยบายแบบขาดดุลตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอินโดนีเซียมีกรอบนโยบายขาดดุลงบประมาณราว -3% ต่อ GDP อย่างยาวนาน จนมาถึงยุคของ ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในช่วงปลายปี 2567 ก็ยังคงเดินตามแบบแผนเดิม ๆ คือ การตั้งงบประมาณแบบขาดดุล พร้อมกับนโยบายประชานิยมหลากหลายอย่าง ที่เขาได้ประกาศใช้ ไม่ว่าจะเป็น - ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 6.5% สูงกว่าข้อเสนอของกระทรวงแรงงานที่เสนอไว้ 6% - อาหารกลางวันฟรี ให้กับประชาชนกว่า 83 ล้านคน โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ เด็ก และสตรีมีครรภ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 950,000 ล้านบาทต่อปี - สั่งเบรกอัตราภาษี VAT ที่จะต้องปรับขึ้นเป็น 12% ในสินค้าทุกรายการ เป็นบังคับใช้เพียงสินค้าฟุ่มเฟือยเท่านั้น แน่นอนว่า การทำนโยบายประชานิยม ก็ยิ่งกดดันให้อินโดนีเซียต้องขาดดุลมากขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะเลยกรอบ 3% ต่อ GDP ที่วางไว้ ซึ่งในปี 2568 รัฐบาลอินโดนีเซีย ตั้งเป้างบประมาณขาดดุลไว้ที่ 2.53% เพิ่มขึ้นจาก 2.29% ในปี 2567 แล้วภาพเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย เป็นอย่างไร ? สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อินโดนีเซีย ในปี 2567 อยู่ที่ 39% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับชาติอื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ หรือ มาเลเซีย แต่หากดูในภาพรวม จะพบว่า GDP ของอินโดนีเซีย กำลังเติบโตลดลงทีละน้อย จาก 5.31% ในปี 2565 เหลือ 5.03% ในปี 2567 ในขณะที่รายได้ของรัฐ เริ่มส่งสัญญาณโตไม่ทันรายจ่าย ทำให้ภาครัฐขาดดุลมากขึ้น ปี 2565 ขาดดุล 943,236 ล้านบาท ปี 2566 ขาดดุล 994,387 ล้านบาท ปี 2567 ขาดดุล 1,070,091 ล้านบาท เมื่อมีแนวโน้มขาดดุลงบประมาณมากขึ้น แต่การเติบโตของเศรษฐกิจกลับเริ่มอ่อนแรง การกู้เงินมาใช้จ่ายจึงเพิ่มขึ้น ซึ่งแม้แต่ประธานาธิบดีปราโบโวเอง ก็เคยบอกไว้ว่ามีแผนจะปรับระดับเพดานหนี้สาธารณะต่อ GDP อินโดนีเซีย ไปอยู่ในระดับ 50% ภายในเวลา 5 ปี นอกจากเรื่องการขาดดุลอย่างต่อเนื่องแล้ว ประธานาธิบดีคนนี้ ยังต้องการตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่ชื่อว่า Danantara ที่คาดว่าจะมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการกว่า 30 ล้านล้านบาท Danantara มีโมเดลคล้าย Temasek กองทุน ความมั่งคั่งแห่งชาติสิงคโปร์ ที่เน้นนำเงินของประเทศ ไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึง รัฐวิสาหกิจของอินโดนีเซีย กว่า 40 แห่ง ที่จะถูกรวมเข้ามาเป็นสินทรัพย์ภายใต้กองทุน เช่น - Pertamina บริษัทน้ำมันและก๊าซ - PLN บริษัทไฟฟ้า - Telkom Indonesia บริษัทโทรคมนาคม แต่ปัญหาคือ กองทุนนี้ต้องใช้เงินมหาศาลในการจัดตั้งกองทุน ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลอินโดนีเซียทำ เป็นความเสี่ยงที่หลายคนกังวล เพราะรัฐบาลหาเงินมาทำกองทุนนี้ ด้วยการตัดงบประมาณบริการสาธารณะที่จำเป็น รวมถึงการลดเงินทุนสำหรับการศึกษาระดับประถมลง 24% และลดงบประมาณการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยลง 39% ลดค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพลง 19% และที่สำคัญคือ การลดโครงการสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานลง 73% เรียกได้ว่า กองทุนนี้มีเงินตั้งต้นจากการลดค่าใช้จ่าย ในเศรษฐกิจ ที่เป็นอนาคตสำคัญของประเทศ จากปัญหาหลักทั้ง 2 เรื่องนี้ นั่นก็คือ การขาดดุลงบประมาณ และการลดค่าใช้จ่ายที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ก็ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มกังวลกับความอ่อนแอของเศรษฐกิจ และศักยภาพการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาวของอินโดนีเซีย ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย จนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย (IDX Composite) ปรับตัวลงไปแล้ว -10% นับจากต้นปี (ยังดีกว่าดัชนี SET ของไทยที่ -14%) ซึ่งวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียได้มีการประกาศหยุดซื้อขายหุ้นชั่วคราว หลังจากดัชนีหลักทรัพย์ร่วงไป -5% โดยแรงขายหุ้นจากนักลงทุนต่างชาติ ยังเป็นแรงกดดันให้ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซียอ่อนค่าลงอีกทาง ในที่สุด ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซียก็อ่อนค่าลงต่อเนื่อง จนตอนนี้อยู่ในระดับที่ต่ำสุด นับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งในช่วงปี 2540 ไปแล้ว (ในขณะที่ค่าเงินบาทไทยยังห่างไกลจากช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่อ่อนค่าลงไปแตะ 55 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่า เรื่องนี้ก็อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น หากความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา และความท้าทายทางเศรษฐกิจเริ่มคลี่คลาย แต่ถ้ารัฐบาลอินโดนีเซียภายใต้ผู้นำที่ชื่อว่า ปราโบโว ซูเบียนโต ยังทำแบบเดิม ๆ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ยังไม่ฟื้นคืน สุดท้าย ก็อาจทำให้ค่าเงินรูเปียของอินโดนีเซีย ร่วงหนักไปมากกว่านี้ก็ได้.. ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ รู้ไหมว่า กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ Danantara ของอินโดนีเซีย มีคุณทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาอีกด้วย ╔═══════════╗ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download ╚═══════════╝ ติดตามลงทุนแมนได้ที่ Website - longtunman.com Blockdit - blockdit.com/longtunman Facebook - facebook.com/longtunman Twitter - twitter.com/longtunman Instagram - instagram.com/longtunman YouTube - youtube.com/longtunman TikTok - tiktok.com/@longtunman Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829 Soundcloud - soundcloud.com/longtunman References -https://www.reuters.com/markets/currencies/indonesia-cbank-says-rupiah-weakness-reflects-global-domestic-factors-2025-03-25/?utm_source=chatgpt.com -https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-03-26/indonesia-stock-market-why-are-investors-fleeing-what-role-has-prabowo-played -https://tradingeconomics.com/indonesia/indicators -https://www.bps.go.id/en/statistics-table/2/MTA4NSMy/actual-government-expenditures--finance-.html -https://asiatimes.com/2025/03/danantara-indonesias-ticking-financial-time-bomb
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1412 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากทรัมป์ระบุว่าไม่มีปัญหาและเป็นเรื่องเล็กน้อยจากการที่ทีมคณะรัฐมนตรีของเขาทำ “แชตหลุด” เผลอเพิ่มรายชื่อ Jeffrey Goldberg บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร The Atlantic เข้าไปในกลุ่มแชต ที่กำลังพูดคุยและส่งข้อมูลลับเกี่ยวกับการโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมน

    นอกจากนี้ ทรัมป์ยังบอกอีกว่า ข้อความในแชตไม่ถือเป็น "การวางแผนสงคราม" และไม่ได้เป็นความลับ

    งานนี้เลยเข้าทาง Goldberg บรรณาธิการบริหารของ The Atlantic ซึ่งต่อมาเขาได้เปิดเผยบันทึกการสนทนาฉบับสมบูรณ์ของกลุ่มแชตดังกล่าว รวมถึงระบุตัวของทุกคนที่อยู่ในกลุ่มแชท

    และจากบันทึกดังกล่าวพิสูจน์ได้ว่า Mike Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้เพิ่ม Goldberg เข้าไปในกลุ่มดังกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายต่างมุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีกลาโหม พีท เฮกเซธ

    นอกจากนี้ Goldberg ยังเน้นอีกว่า ข้อมูลเกี่ยวกับเวลาการโจมตี ระบบอาวุธ และเป้าหมายถูกโพสต์ในแชทโดย Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนเริ่มปฏิบัติการโจมตีในเยเมนเป็นครั้งแรกในวันที่ 15 มีนาคม

    ความสะเพล่าครั้งนี้ หลายฝ่ายคาดว่าเกิดจากการอ่อนประสบการณ์ในการทำงานเรื่องสำคัญ การสนทนาผ่านกลุ่มแชตจากแอปฯ Signal น่าจะเป็นเรื่องง่ายและคุ้นเคยของพวกเขา แม้ว่ามันจะมีความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูจากรายชื่อสมาชิกในกลุ่ม จะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 2 คน กำลังอยู่ต่างประเทศ ประกอบกับความตื่นเต้นในการปฏิบัติการสั่งโจมตีอย่างเป็นทางการครั้งแรกของทีมนี้
    หลังจากทรัมป์ระบุว่าไม่มีปัญหาและเป็นเรื่องเล็กน้อยจากการที่ทีมคณะรัฐมนตรีของเขาทำ “แชตหลุด” เผลอเพิ่มรายชื่อ Jeffrey Goldberg บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร The Atlantic เข้าไปในกลุ่มแชต ที่กำลังพูดคุยและส่งข้อมูลลับเกี่ยวกับการโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมน นอกจากนี้ ทรัมป์ยังบอกอีกว่า ข้อความในแชตไม่ถือเป็น "การวางแผนสงคราม" และไม่ได้เป็นความลับ งานนี้เลยเข้าทาง Goldberg บรรณาธิการบริหารของ The Atlantic ซึ่งต่อมาเขาได้เปิดเผยบันทึกการสนทนาฉบับสมบูรณ์ของกลุ่มแชตดังกล่าว รวมถึงระบุตัวของทุกคนที่อยู่ในกลุ่มแชท และจากบันทึกดังกล่าวพิสูจน์ได้ว่า Mike Waltz ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้เพิ่ม Goldberg เข้าไปในกลุ่มดังกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายต่างมุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีกลาโหม พีท เฮกเซธ นอกจากนี้ Goldberg ยังเน้นอีกว่า ข้อมูลเกี่ยวกับเวลาการโจมตี ระบบอาวุธ และเป้าหมายถูกโพสต์ในแชทโดย Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนเริ่มปฏิบัติการโจมตีในเยเมนเป็นครั้งแรกในวันที่ 15 มีนาคม ความสะเพล่าครั้งนี้ หลายฝ่ายคาดว่าเกิดจากการอ่อนประสบการณ์ในการทำงานเรื่องสำคัญ การสนทนาผ่านกลุ่มแชตจากแอปฯ Signal น่าจะเป็นเรื่องง่ายและคุ้นเคยของพวกเขา แม้ว่ามันจะมีความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูจากรายชื่อสมาชิกในกลุ่ม จะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 2 คน กำลังอยู่ต่างประเทศ ประกอบกับความตื่นเต้นในการปฏิบัติการสั่งโจมตีอย่างเป็นทางการครั้งแรกของทีมนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ปิ่นสาย สุรัสวดี' อธิบดีกรมสรรพากร แจง นายกอิ๊งค์ ออกตั๋ว P/N ซื้อขายหุ้น 4.4 พันล้านบาท ไม่ถือว่าเลี่ยงภาษี
    https://www.thai-tai.tv/news/17834/
    'ปิ่นสาย สุรัสวดี' อธิบดีกรมสรรพากร แจง นายกอิ๊งค์ ออกตั๋ว P/N ซื้อขายหุ้น 4.4 พันล้านบาท ไม่ถือว่าเลี่ยงภาษี https://www.thai-tai.tv/news/17834/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 'คุณปลื้ม' ไม่ปลื้ม 'ตั๋ว PN' ถ้าเป็นเช่นนี้ 'กรมสรรพากร' ต้องยกเลิกการเก็บภาษีรายรับจากทุกคน
    https://www.thai-tai.tv/news/17835/
    'คุณปลื้ม' ไม่ปลื้ม 'ตั๋ว PN' ถ้าเป็นเช่นนี้ 'กรมสรรพากร' ต้องยกเลิกการเก็บภาษีรายรับจากทุกคน https://www.thai-tai.tv/news/17835/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนทันยาฮู กล่าวในรัฐสภาอิสราเอลวันนี้:

    “ตราบใดที่ฮามาสยังไม่ยอมปล่อยตัวประกัน เราจะเพิ่มแรงกดดันทางทหารรวมทั้งและยึดดินแดนพวกเขาเพิ่มไปเรื่อยๆ”
    เนทันยาฮู กล่าวในรัฐสภาอิสราเอลวันนี้: “ตราบใดที่ฮามาสยังไม่ยอมปล่อยตัวประกัน เราจะเพิ่มแรงกดดันทางทหารรวมทั้งและยึดดินแดนพวกเขาเพิ่มไปเรื่อยๆ”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เปิดตัวโครงการวีซ่าใหม่ชื่อว่า “Gold Card” มอบสิทธิการพำนักถาวรในสหรัฐฯ ให้แก่ผู้ลงทุนที่จ่ายเงิน 5 ล้านดอลลาร์ (180 ล้านบาท) รัฐมนตรีพาณิชย์ ฮาเวิร์ด ลัตนิก (Howard Lutnick) ตั้งเป้าว่าจะขายได้ถึงวันละ 1,000 ใบ ประเมินว่ามีคนทั่วโลกกว่า 37 ล้านคน ที่สามารถจ่ายได้ โดยทรัมป์ตั้งเป้าขายให้ได้ 1 ล้านใบGold Card นี้จะมาแทนที่วีซ่าลงทุน EB-5 แบบเดิม โดยผู้ถือบัตรสามารถ พำนักในสหรัฐฯ ได้อย่างไม่มีกำหนด โดยไม่จำเป็นต้องถือสัญชาติสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงภาษีทั่วโลกของสหรัฐฯลัตนิกยังกล่าวว่า หากเขาไม่ได้เป็นพลเมืองสหรัฐฯ อยู่แล้ว เขาก็จะซื้อไว้ถึง 6 ใบ เพื่อใช้เป็น “ประกันภัยชีวิต” ในยามที่โลกเกิดวิกฤติ.ที่มาhttps://www.facebook.com/share/p/16Bmi6rWLf/?mibextid=wwXIfr
    ทรัมป์เปิดตัวโครงการวีซ่าใหม่ชื่อว่า “Gold Card” มอบสิทธิการพำนักถาวรในสหรัฐฯ ให้แก่ผู้ลงทุนที่จ่ายเงิน 5 ล้านดอลลาร์ (180 ล้านบาท) รัฐมนตรีพาณิชย์ ฮาเวิร์ด ลัตนิก (Howard Lutnick) ตั้งเป้าว่าจะขายได้ถึงวันละ 1,000 ใบ ประเมินว่ามีคนทั่วโลกกว่า 37 ล้านคน ที่สามารถจ่ายได้ โดยทรัมป์ตั้งเป้าขายให้ได้ 1 ล้านใบGold Card นี้จะมาแทนที่วีซ่าลงทุน EB-5 แบบเดิม โดยผู้ถือบัตรสามารถ พำนักในสหรัฐฯ ได้อย่างไม่มีกำหนด โดยไม่จำเป็นต้องถือสัญชาติสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงภาษีทั่วโลกของสหรัฐฯลัตนิกยังกล่าวว่า หากเขาไม่ได้เป็นพลเมืองสหรัฐฯ อยู่แล้ว เขาก็จะซื้อไว้ถึง 6 ใบ เพื่อใช้เป็น “ประกันภัยชีวิต” ในยามที่โลกเกิดวิกฤติ.ที่มาhttps://www.facebook.com/share/p/16Bmi6rWLf/?mibextid=wwXIfr
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เรื่องจริงผ่านจอ" โพสต์โต้ "พรรคประชาชน" หลังโดนใช้โลโก้รายการอ้างเป็น IO แชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ
    https://www.thai-tai.tv/news/17836/
    "เรื่องจริงผ่านจอ" โพสต์โต้ "พรรคประชาชน" หลังโดนใช้โลโก้รายการอ้างเป็น IO แชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ https://www.thai-tai.tv/news/17836/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • เช็กผลโหวตอุ้ม “อิ๊งค์” พบงูเห่าจาก ทสท. 5-พปชร.1 “เหลิม” หายหน้า “ปูอัด” ยกมือหนุนหวังช่วยคดี
    https://www.thai-tai.tv/news/17837/
    เช็กผลโหวตอุ้ม “อิ๊งค์” พบงูเห่าจาก ทสท. 5-พปชร.1 “เหลิม” หายหน้า “ปูอัด” ยกมือหนุนหวังช่วยคดี https://www.thai-tai.tv/news/17837/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอาแล้ว! ศาลรธน. มีมติเอกฉันท์รับคำร้อง สว. ยื่นถอดถอน 'ภูมิธรรม-ทวี'
    https://www.thai-tai.tv/news/17838/
    เอาแล้ว! ศาลรธน. มีมติเอกฉันท์รับคำร้อง สว. ยื่นถอดถอน 'ภูมิธรรม-ทวี' https://www.thai-tai.tv/news/17838/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้เน้นว่า การเล่าเรื่อง หรือ Storytelling เป็นหนึ่งในโอกาสสำคัญในยุคปัจจุบัน โดยสามารถช่วยให้ธุรกิจสร้างการเชื่อมต่อกับลูกค้าในรูปแบบที่ลึกซึ้งและมีความหมายมากขึ้น แม้เทคโนโลยี AI จะเป็นกระแสสำคัญ แต่การเล่าเรื่องกลับได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องมือที่สามารถตัดผ่านความวุ่นวายในตลาดและช่วยให้แบรนด์โดดเด่นได้

    พลังของการเล่าเรื่องในธุรกิจ:
    - การเล่าเรื่องที่ดีช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนลูกค้าได้ถึง 30% และสร้างความไว้วางใจในแบรนด์ได้มากถึง 81% เมื่อผู้คนเชื่อมโยงกับแบรนด์ผ่านเรื่องราวที่ชวนหลงรัก.

    การสร้างความแตกต่างผ่านการเล่าเรื่อง:
    - ในโลกที่ใครก็สามารถสร้างธุรกิจด้วย AI ได้ การเล่าเรื่องที่น่าสนใจคือสิ่งที่จะทำให้แบรนด์แตกต่าง โดยช่วยสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์และเน้นคุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการ.

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Storytelling:
    - การเล่าเรื่องไม่ได้จำกัดอยู่ในวงการบันเทิงหรือโฆษณา แต่สามารถใช้ได้ในทุกอุตสาหกรรม และไม่จำเป็นต้องยาวหรือซับซ้อน แค่เพียงเล่าเรื่องที่น่าสนใจและเชื่อมโยงกับผู้ฟังก็เพียงพอ.

    วิธีเริ่มต้นง่าย ๆ:
    - ทำความเข้าใจผู้ชมของคุณ.
    - ระบุประเด็นสำคัญที่ต้องการสื่อ.
    - เริ่มต้นเรื่องราวด้วยสิ่งที่เชื่อมโยงกับปัญหาหรือความสนใจของผู้ฟัง.

    https://www.zdnet.com/article/ai-is-huge-but-this-opportunity-will-be-even-bigger-how-to-take-advantage-today/
    บทความนี้เน้นว่า การเล่าเรื่อง หรือ Storytelling เป็นหนึ่งในโอกาสสำคัญในยุคปัจจุบัน โดยสามารถช่วยให้ธุรกิจสร้างการเชื่อมต่อกับลูกค้าในรูปแบบที่ลึกซึ้งและมีความหมายมากขึ้น แม้เทคโนโลยี AI จะเป็นกระแสสำคัญ แต่การเล่าเรื่องกลับได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องมือที่สามารถตัดผ่านความวุ่นวายในตลาดและช่วยให้แบรนด์โดดเด่นได้ พลังของการเล่าเรื่องในธุรกิจ: - การเล่าเรื่องที่ดีช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนลูกค้าได้ถึง 30% และสร้างความไว้วางใจในแบรนด์ได้มากถึง 81% เมื่อผู้คนเชื่อมโยงกับแบรนด์ผ่านเรื่องราวที่ชวนหลงรัก. การสร้างความแตกต่างผ่านการเล่าเรื่อง: - ในโลกที่ใครก็สามารถสร้างธุรกิจด้วย AI ได้ การเล่าเรื่องที่น่าสนใจคือสิ่งที่จะทำให้แบรนด์แตกต่าง โดยช่วยสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์และเน้นคุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการ. ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Storytelling: - การเล่าเรื่องไม่ได้จำกัดอยู่ในวงการบันเทิงหรือโฆษณา แต่สามารถใช้ได้ในทุกอุตสาหกรรม และไม่จำเป็นต้องยาวหรือซับซ้อน แค่เพียงเล่าเรื่องที่น่าสนใจและเชื่อมโยงกับผู้ฟังก็เพียงพอ. วิธีเริ่มต้นง่าย ๆ: - ทำความเข้าใจผู้ชมของคุณ. - ระบุประเด็นสำคัญที่ต้องการสื่อ. - เริ่มต้นเรื่องราวด้วยสิ่งที่เชื่อมโยงกับปัญหาหรือความสนใจของผู้ฟัง. https://www.zdnet.com/article/ai-is-huge-but-this-opportunity-will-be-even-bigger-how-to-take-advantage-today/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • Napster ถูกขายให้กับ Infinite Reality ที่วางแผนเปลี่ยนโฉมใหม่เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลเพลงที่เน้นการมีส่วนร่วมของผู้ฟัง CEO ที่มากด้วยประสบการณ์จะยังคงนำทีมเพื่อสร้าง Napster ในยุคดิจิทัล แม้ว่าตลาดจะมีความท้าทายสูง แต่การกลับมาครั้งนี้อาจเป็นอีกบทหนึ่งของตำนาน Napster ที่น่าจับตามอง

    ยุคใหม่ของ Napster:
    - Infinite Reality มีความตั้งใจที่จะเพิ่มฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับ livestreaming อีคอมเมิร์ซ และการจัดการชุมชนดิจิทัล เพื่อทำให้แพลตฟอร์มนี้เหมาะกับยุคที่เน้นประสบการณ์สมจริง.
    - Napster ยังวางแผนใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ใช้.

    ผู้นำที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม:
    - CEO ของ Napster, Jon Vlassopulos ซึ่งมีประสบการณ์จาก Roblox และเคยลงทุนใน Napster รุ่นแรก จะยังคงนำทัพการพัฒนาของแบรนด์ในยุคนี้.

    ความท้าทายในอุตสาหกรรม:
    - การเปลี่ยนโฉมของ Napster มาพร้อมกับช่วงเวลาท้าทาย เมื่อผู้บริโภคเริ่มลดการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินในบริการสตรีมเพลง และหันไปใช้บริการที่สนับสนุนโฆษณาหรือครีเอเตอร์อิสระแทน.

    บทบาทในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี:
    - Napster เคยเป็นต้นแบบสำคัญที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการเทคโนโลยีด้วยแนวคิดการทำลายโครงสร้างของอุตสาหกรรมดั้งเดิม เช่นเดียวกับที่ผู้ก่อตั้ง Shawn Fanning และ Sean Parker เคยทำ.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/napster-sold-to-tech-firm-infinite-reality-for-us207mil
    Napster ถูกขายให้กับ Infinite Reality ที่วางแผนเปลี่ยนโฉมใหม่เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลเพลงที่เน้นการมีส่วนร่วมของผู้ฟัง CEO ที่มากด้วยประสบการณ์จะยังคงนำทีมเพื่อสร้าง Napster ในยุคดิจิทัล แม้ว่าตลาดจะมีความท้าทายสูง แต่การกลับมาครั้งนี้อาจเป็นอีกบทหนึ่งของตำนาน Napster ที่น่าจับตามอง ยุคใหม่ของ Napster: - Infinite Reality มีความตั้งใจที่จะเพิ่มฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับ livestreaming อีคอมเมิร์ซ และการจัดการชุมชนดิจิทัล เพื่อทำให้แพลตฟอร์มนี้เหมาะกับยุคที่เน้นประสบการณ์สมจริง. - Napster ยังวางแผนใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ใช้. ผู้นำที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม: - CEO ของ Napster, Jon Vlassopulos ซึ่งมีประสบการณ์จาก Roblox และเคยลงทุนใน Napster รุ่นแรก จะยังคงนำทัพการพัฒนาของแบรนด์ในยุคนี้. ความท้าทายในอุตสาหกรรม: - การเปลี่ยนโฉมของ Napster มาพร้อมกับช่วงเวลาท้าทาย เมื่อผู้บริโภคเริ่มลดการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินในบริการสตรีมเพลง และหันไปใช้บริการที่สนับสนุนโฆษณาหรือครีเอเตอร์อิสระแทน. บทบาทในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี: - Napster เคยเป็นต้นแบบสำคัญที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการเทคโนโลยีด้วยแนวคิดการทำลายโครงสร้างของอุตสาหกรรมดั้งเดิม เช่นเดียวกับที่ผู้ก่อตั้ง Shawn Fanning และ Sean Parker เคยทำ. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/napster-sold-to-tech-firm-infinite-reality-for-us207mil
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Napster sold to tech firm Infinite Reality for US$207mil
    The music-streaming service Napster has sold for US$207mil (RM915mil) to the tech firm Infinite Reality.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • Starboard Value กำลังพยายามเพิ่มอิทธิพลใน Autodesk ด้วยการเสนอชื่อกรรมการใหม่ 3 คนเข้าคณะกรรมการ โดยอ้างว่า Autodesk มีต้นทุนที่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แม้บริษัทจะเริ่มปรับปรุงโดยเพิ่มกรรมการอิสระ แต่ Starboard มองว่ายังไม่เพียงพอ สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันที่บริษัทเทคโนโลยีต้องเผชิญจากนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนมากขึ้น

    เหตุผลเบื้องหลังการเสนอชื่อ:
    - Starboard เชื่อว่า Autodesk ใช้จ่ายเกินความจำเป็นเมื่อเทียบกับบริษัทซอฟต์แวร์อื่น ๆ และยังไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าได้ โดยหุ้นของ Autodesk ลดลง 7% ในปีนี้ ในขณะที่ S&P 500 ลดลงเพียง 1.8% เท่านั้น.

    การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของ Starboard:
    - ปีที่ผ่านมา Starboard เคยเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง CEO และลดค่าใช้จ่าย แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากพลาดกำหนดเวลาส่งชื่อผู้สมัครเข้าร่วมคณะกรรมการ.

    ความร่วมมือจาก Autodesk:
    - Autodesk ได้เพิ่มกรรมการอิสระ 2 คนในเดือนธันวาคม 2024 โดยหนึ่งในนั้นคืออดีตประธานและ CEO ของ Kraft Foods เพื่อเพิ่มความสมดุลในคณะกรรมการ.

    ศักยภาพในการเปลี่ยนแปลง:
    - หากได้รับการสนับสนุน Starboard อาจผลักดันให้ Autodesk มีการจัดการที่ประหยัดขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มมูลค่าหุ้นและเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/activist-starboard-nominates-three-directors-to-autodesk039s-board
    Starboard Value กำลังพยายามเพิ่มอิทธิพลใน Autodesk ด้วยการเสนอชื่อกรรมการใหม่ 3 คนเข้าคณะกรรมการ โดยอ้างว่า Autodesk มีต้นทุนที่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แม้บริษัทจะเริ่มปรับปรุงโดยเพิ่มกรรมการอิสระ แต่ Starboard มองว่ายังไม่เพียงพอ สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันที่บริษัทเทคโนโลยีต้องเผชิญจากนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนมากขึ้น เหตุผลเบื้องหลังการเสนอชื่อ: - Starboard เชื่อว่า Autodesk ใช้จ่ายเกินความจำเป็นเมื่อเทียบกับบริษัทซอฟต์แวร์อื่น ๆ และยังไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าได้ โดยหุ้นของ Autodesk ลดลง 7% ในปีนี้ ในขณะที่ S&P 500 ลดลงเพียง 1.8% เท่านั้น. การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของ Starboard: - ปีที่ผ่านมา Starboard เคยเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง CEO และลดค่าใช้จ่าย แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากพลาดกำหนดเวลาส่งชื่อผู้สมัครเข้าร่วมคณะกรรมการ. ความร่วมมือจาก Autodesk: - Autodesk ได้เพิ่มกรรมการอิสระ 2 คนในเดือนธันวาคม 2024 โดยหนึ่งในนั้นคืออดีตประธานและ CEO ของ Kraft Foods เพื่อเพิ่มความสมดุลในคณะกรรมการ. ศักยภาพในการเปลี่ยนแปลง: - หากได้รับการสนับสนุน Starboard อาจผลักดันให้ Autodesk มีการจัดการที่ประหยัดขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มมูลค่าหุ้นและเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/activist-starboard-nominates-three-directors-to-autodesk039s-board
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Starboard revives proxy fight with CEO Smith's nomination to Autodesk board
    (Reuters) -Starboard Value on Wednesday nominated three directors including its chief executive and founder, Jeff Smith, to Autodesk's board, rekindling its proxy battle with the company over margin concerns.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • GameStop ได้นำ Bitcoin มาเป็นสินทรัพย์สำรองเพื่อลดความเสี่ยงทางการเงินและช่วยในการฟื้นตัวของธุรกิจ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็เริ่มตั้งคลังสำรอง Bitcoin อย่างเป็นทางการ เพื่อเตรียมใช้ประโยชน์ในเชิงกลยุทธ์ นี่อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทและรัฐบาลเริ่มตระหนักถึงศักยภาพของคริปโตฯ ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

    GameStop กับการฟื้นตัวธุรกิจ:
    - การเพิ่ม Bitcoin ในสินทรัพย์สำรองแสดงถึงการปรับตัวของ GameStop ต่อยุคดิจิทัลและสร้างความหลากหลายให้กับการบริหารการเงิน เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นธุรกิจที่ประสบปัญหา

    Bitcoin เชิงกลยุทธ์ของรัฐบาล:
    - การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการยอมรับคริปโตฯ ในฐานะทรัพย์สินที่มีค่าในระดับชาติ และอาจชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่รัฐบาลเริ่มมองเห็นประโยชน์จากการใช้ Bitcoin ในการวางแผนเชิงเศรษฐศาสตร์

    การเปลี่ยนแปลงในวงการคริปโตฯ:
    - บริษัท Strategy ซึ่งเป็นผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่อันดับต้น ได้แสดงความมุ่งมั่นในตลาดนี้ผ่านการรีแบรนด์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของบริษัทในโลกคริปโตฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/factbox-cryptocurrency-holdings-of-us-companies
    GameStop ได้นำ Bitcoin มาเป็นสินทรัพย์สำรองเพื่อลดความเสี่ยงทางการเงินและช่วยในการฟื้นตัวของธุรกิจ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็เริ่มตั้งคลังสำรอง Bitcoin อย่างเป็นทางการ เพื่อเตรียมใช้ประโยชน์ในเชิงกลยุทธ์ นี่อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทและรัฐบาลเริ่มตระหนักถึงศักยภาพของคริปโตฯ ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล GameStop กับการฟื้นตัวธุรกิจ: - การเพิ่ม Bitcoin ในสินทรัพย์สำรองแสดงถึงการปรับตัวของ GameStop ต่อยุคดิจิทัลและสร้างความหลากหลายให้กับการบริหารการเงิน เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นธุรกิจที่ประสบปัญหา Bitcoin เชิงกลยุทธ์ของรัฐบาล: - การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการยอมรับคริปโตฯ ในฐานะทรัพย์สินที่มีค่าในระดับชาติ และอาจชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่รัฐบาลเริ่มมองเห็นประโยชน์จากการใช้ Bitcoin ในการวางแผนเชิงเศรษฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงในวงการคริปโตฯ: - บริษัท Strategy ซึ่งเป็นผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่อันดับต้น ได้แสดงความมุ่งมั่นในตลาดนี้ผ่านการรีแบรนด์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของบริษัทในโลกคริปโตฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/factbox-cryptocurrency-holdings-of-us-companies
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Factbox-Cryptocurrency holdings of US companies
    (Reuters) - U.S. videogame retailer GameStop said on Tuesday it would include bitcoin as a treasury reserve asset to diversify its corporate holdings, betting on the world's biggest cryptocurrency to help turnaround its struggling primary business.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 429 มุมมอง 0 รีวิว
  • Exxon Mobil ลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ในโรงงานเคมีที่ Louisiana เพื่อผลิต isopropyl alcohol ที่มีความบริสุทธิ์สูงรองรับอุตสาหกรรมชิปที่กำลังเติบโต สารนี้ช่วยในกระบวนการทำความสะอาดและประมวลผลชิปไมโครโปรเซสเซอร์ ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนา AI และศูนย์ข้อมูล การลงทุนนี้จะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าและเพิ่มความมั่นคงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

    ความสำคัญของ Isopropyl Alcohol ในอุตสาหกรรม:
    - สารนี้ใช้ในกระบวนการทำความสะอาดชิปเพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และเป็นองค์ประกอบสำคัญในห้องผลิตเซมิคอนดักเตอร์

    ความสัมพันธ์กับการพัฒนา AI:
    - การพัฒนา AI และการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่กระตุ้นความต้องการชิปเฉพาะทาง ทำให้อุตสาหกรรมชิปเติบโตอย่างรวดเร็ว

    การลดความเสี่ยงจากการนำเข้าจากต่างประเทศ:
    - สหรัฐฯ เคยนำเข้าสารนี้จากไต้หวันและญี่ปุ่น เนื่องจากขาดซัพพลายภายในประเทศ การลงทุนครั้งนี้จึงช่วยลดการพึ่งพาและเพิ่มความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมในประเทศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/exxon-investing-100-million-in-facility-to-produce-cleaning-alcohol-for-chip-industry
    Exxon Mobil ลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ในโรงงานเคมีที่ Louisiana เพื่อผลิต isopropyl alcohol ที่มีความบริสุทธิ์สูงรองรับอุตสาหกรรมชิปที่กำลังเติบโต สารนี้ช่วยในกระบวนการทำความสะอาดและประมวลผลชิปไมโครโปรเซสเซอร์ ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนา AI และศูนย์ข้อมูล การลงทุนนี้จะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าและเพิ่มความมั่นคงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ความสำคัญของ Isopropyl Alcohol ในอุตสาหกรรม: - สารนี้ใช้ในกระบวนการทำความสะอาดชิปเพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และเป็นองค์ประกอบสำคัญในห้องผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ความสัมพันธ์กับการพัฒนา AI: - การพัฒนา AI และการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่กระตุ้นความต้องการชิปเฉพาะทาง ทำให้อุตสาหกรรมชิปเติบโตอย่างรวดเร็ว การลดความเสี่ยงจากการนำเข้าจากต่างประเทศ: - สหรัฐฯ เคยนำเข้าสารนี้จากไต้หวันและญี่ปุ่น เนื่องจากขาดซัพพลายภายในประเทศ การลงทุนครั้งนี้จึงช่วยลดการพึ่งพาและเพิ่มความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมในประเทศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/exxon-investing-100-million-in-facility-to-produce-cleaning-alcohol-for-chip-industry
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exxon investing $100 million in facility to produce cleaning alcohol for chip industry
    HOUSTON (Reuters) - Exxon Mobil said on Wednesday it will spend $100 million to upgrade its Baton Rouge, Louisiana, chemical plant to produce a highly pure form of isopropyl alcohol that is used in the tech industry to clean and process microchips.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC เป็นบริษัทที่มีกลยุทธ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั้งโหนดใหม่และเก่าเพื่อสร้างกำไรสูงสุด โหนดเก่าที่หมดค่าเสื่อมราคากลายเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง ในขณะที่โหนดใหม่อย่าง 3nm และ 5nm แม้มีต้นทุนสูง แต่คาดว่าจะเริ่มทำกำไรเพิ่มขึ้นในปีหน้า

    การสร้างกำไรจากโหนดเก่า:
    - โหนดรุ่นเก่า เช่น 7nm มีอัตรากำไรสูงสุดถึง 27% เนื่องจากกระบวนการผลิตมีการชำระค่าเสื่อมราคาเรียบร้อยแล้ว เมื่อเทียบกับโหนดใหม่อย่าง 3nm และ 5nm ที่ยังอยู่ในช่วงต้นและมีต้นทุนสูงจากค่าเสื่อมราคาและการวิจัย.

    กลยุทธ์ของ TSMC:
    - การรักษาโหนดเก่าช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในด้านการผลิตและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า เช่น รถยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรม IoT.

    การแข่งขันกับ Intel:
    - Intel ที่เน้นพัฒนาโหนดใหม่เร่งเข้าสู่ตลาด Foundry ต้องเผชิญกับอุปสรรคจากการขาดโครงสร้างและโหนดผลิตรุ่นเก่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ TSMC ที่มีศักยภาพในกระบวนการผลิตและการจัดการต้นทุนที่เหนือชั้นกว่า.

    มุมมองในอนาคต:
    - TSMC คาดว่าโหนดใหม่ เช่น 3nm และ 5nm จะเริ่มสร้างผลกำไรที่สูงขึ้นในปีหน้า หลังการปรับปรุงผลผลิตและลดต้นทุนลงอย่างต่อเนื่อง.

    https://www.techspot.com/news/107278-how-profitable-tsmc-nodes-crunching-numbers.html
    TSMC เป็นบริษัทที่มีกลยุทธ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั้งโหนดใหม่และเก่าเพื่อสร้างกำไรสูงสุด โหนดเก่าที่หมดค่าเสื่อมราคากลายเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง ในขณะที่โหนดใหม่อย่าง 3nm และ 5nm แม้มีต้นทุนสูง แต่คาดว่าจะเริ่มทำกำไรเพิ่มขึ้นในปีหน้า การสร้างกำไรจากโหนดเก่า: - โหนดรุ่นเก่า เช่น 7nm มีอัตรากำไรสูงสุดถึง 27% เนื่องจากกระบวนการผลิตมีการชำระค่าเสื่อมราคาเรียบร้อยแล้ว เมื่อเทียบกับโหนดใหม่อย่าง 3nm และ 5nm ที่ยังอยู่ในช่วงต้นและมีต้นทุนสูงจากค่าเสื่อมราคาและการวิจัย. กลยุทธ์ของ TSMC: - การรักษาโหนดเก่าช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในด้านการผลิตและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า เช่น รถยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรม IoT. การแข่งขันกับ Intel: - Intel ที่เน้นพัฒนาโหนดใหม่เร่งเข้าสู่ตลาด Foundry ต้องเผชิญกับอุปสรรคจากการขาดโครงสร้างและโหนดผลิตรุ่นเก่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ TSMC ที่มีศักยภาพในกระบวนการผลิตและการจัดการต้นทุนที่เหนือชั้นกว่า. มุมมองในอนาคต: - TSMC คาดว่าโหนดใหม่ เช่น 3nm และ 5nm จะเริ่มสร้างผลกำไรที่สูงขึ้นในปีหน้า หลังการปรับปรุงผลผลิตและลดต้นทุนลงอย่างต่อเนื่อง. https://www.techspot.com/news/107278-how-profitable-tsmc-nodes-crunching-numbers.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    How profitable are TSMC's nodes: crunching the numbers
    By now, most of us are familiar with the fact that TSMC operates a significant amount of trailing edge manufacturing capacity. Long after they have moved on...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • SAP บริษัทซอฟต์แวร์ชื่อดังจากเยอรมนี ได้ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรปแทนที่ Novo Nordisk บริษัทด้านสุขภาพจากเดนมาร์ก โดยหุ้น SAP เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% ในปีที่ผ่านมา ความสำเร็จนี้มาจากการปรับกลยุทธ์เข้าสู่ บริการคลาวด์ และการรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับโซลูชันทางธุรกิจ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอย่างมาก

    การเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจที่สำคัญ:
    - SAP เคยเริ่มต้นด้วยการพัฒนาซอฟต์แวร์จัดการกระบวนการทางธุรกิจแบบดั้งเดิม แต่ได้เปลี่ยนจากการขายไลเซนส์ซอฟต์แวร์แบบเดิมไปสู่โมเดลบริการคลาวด์ ซึ่งสร้างรายได้แบบคาดการณ์ได้ (predictable revenue) และเพิ่มความมั่นคงให้ธุรกิจ.

    การรวม AI เข้าสู่แพลตฟอร์มธุรกิจ:
    - SAP ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระบบวางแผนธุรกิจ เช่น SAP Business Technology Platform รวมถึงขยายฟีเจอร์ที่ใช้ AI ในโซลูชันธุรกิจหลากหลายด้าน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลและการปรับปรุงกระบวนการทำงาน.

    การเติบโตในตลาดโลก:
    - SAP สร้างรายได้ในสหรัฐฯ กว่า €2.9 พันล้าน ในไตรมาสล่าสุด ซึ่งคิดเป็น 31% ของรายได้ทั้งหมด ความแข็งแกร่งในตลาดสหรัฐฯ ช่วยให้ SAP อยู่เหนือความท้าทายด้านเศรษฐกิจในยุโรป.

    ผลกระทบต่อตลาดหุ้น:
    - การเติบโตของ SAP ส่งผลให้ DAX index ในตลาดหุ้นเยอรมนีต้องปรับรูปแบบเป็นเวอร์ชันที่ไม่มีการจำกัดน้ำหนัก (uncapped index) เพื่อสะท้อนมูลค่าของ SAP ที่เพิ่มขึ้น.

    https://www.techspot.com/news/107276-sap-surpasses-novo-nordisk-europe-most-valuable-company.html
    SAP บริษัทซอฟต์แวร์ชื่อดังจากเยอรมนี ได้ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรปแทนที่ Novo Nordisk บริษัทด้านสุขภาพจากเดนมาร์ก โดยหุ้น SAP เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% ในปีที่ผ่านมา ความสำเร็จนี้มาจากการปรับกลยุทธ์เข้าสู่ บริการคลาวด์ และการรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับโซลูชันทางธุรกิจ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอย่างมาก การเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจที่สำคัญ: - SAP เคยเริ่มต้นด้วยการพัฒนาซอฟต์แวร์จัดการกระบวนการทางธุรกิจแบบดั้งเดิม แต่ได้เปลี่ยนจากการขายไลเซนส์ซอฟต์แวร์แบบเดิมไปสู่โมเดลบริการคลาวด์ ซึ่งสร้างรายได้แบบคาดการณ์ได้ (predictable revenue) และเพิ่มความมั่นคงให้ธุรกิจ. การรวม AI เข้าสู่แพลตฟอร์มธุรกิจ: - SAP ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระบบวางแผนธุรกิจ เช่น SAP Business Technology Platform รวมถึงขยายฟีเจอร์ที่ใช้ AI ในโซลูชันธุรกิจหลากหลายด้าน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลและการปรับปรุงกระบวนการทำงาน. การเติบโตในตลาดโลก: - SAP สร้างรายได้ในสหรัฐฯ กว่า €2.9 พันล้าน ในไตรมาสล่าสุด ซึ่งคิดเป็น 31% ของรายได้ทั้งหมด ความแข็งแกร่งในตลาดสหรัฐฯ ช่วยให้ SAP อยู่เหนือความท้าทายด้านเศรษฐกิจในยุโรป. ผลกระทบต่อตลาดหุ้น: - การเติบโตของ SAP ส่งผลให้ DAX index ในตลาดหุ้นเยอรมนีต้องปรับรูปแบบเป็นเวอร์ชันที่ไม่มีการจำกัดน้ำหนัก (uncapped index) เพื่อสะท้อนมูลค่าของ SAP ที่เพิ่มขึ้น. https://www.techspot.com/news/107276-sap-surpasses-novo-nordisk-europe-most-valuable-company.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    SAP surpasses Novo Nordisk to become Europe's most valuable company
    SAP's journey began in 1972 when five former IBM employees founded the company in Germany. Initially focused on business process management software, SAP has continually evolved to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • Troy Hunt ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์และผู้สร้าง HaveIBeenPwned กลายเป็นเหยื่อ phishing อีเมลปลอมที่หลอกให้เขาเปิดเผยข้อมูลล็อกอินและ OTP ส่งผลให้ข้อมูลที่อยู่อีเมลกว่า 16,000 รายชื่อถูกเจาะ แม้ว่าเขาจะใช้การยืนยันตัวตนสองชั้น แต่วิธีการโจมตีแบบอัตโนมัติของแฮกเกอร์แสดงให้เห็นว่าความปลอดภัยไซเบอร์ยังคงต้องการการพัฒนาที่รัดกุมมากขึ้น เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่เตือนว่าไม่มีใครปลอดภัยจากการโจมตีเสมอไป

    วิธีการโจมตี:
    - อีเมลปลอมสร้างความรู้สึกเร่งด่วนว่ามีการร้องเรียนเรื่อง spam ซึ่งนำไปสู่การจำกัดสิทธิ์การส่งอีเมล Hunt คลิกเข้าไปในลิงก์และกรอกข้อมูลล็อกอินรวมถึงรหัสผ่านแบบ OTP ทำให้ข้อมูลถูกส่งไปยังระบบอัตโนมัติของแฮกเกอร์ทันที

    บทเรียนเรื่องการยืนยันตัวตนสองชั้น:
    - แม้ Hunt จะใช้ระบบ 2FA (two-factor authentication) แต่แฮกเกอร์สามารถหลอกเอา OTP ได้จากการโจมตีแบบอัตโนมัติ สิ่งนี้เน้นให้เห็นว่าการใช้ 2FA ไม่ได้ป้องกันการโจมตีได้อย่างสมบูรณ์เสมอไป

    ผลกระทบ:
    - ข้อมูลที่ถูกดึงไปใช้เป็นรายชื่อส่ง spam หรืออาจนำไปใช้เพื่อการโจมตีในลักษณะอื่น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ไม่ได้กระทบต่อเว็บไซต์ HaveIBeenPwned โดยตรง

    แนวทางป้องกันในอนาคต:
    - Cloudflare ได้ช่วยปิดเว็บไซต์ปลอมที่แฮกเกอร์ใช้ในการโจมตี และ Hunt ได้ส่งอีเมลแจ้งเตือนผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเตือนให้ระวังและเพิ่มความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัว

    https://www.techspot.com/news/107292-troy-hunt-security-expert-creator-haveibeenpwned-falls-victim.html
    Troy Hunt ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์และผู้สร้าง HaveIBeenPwned กลายเป็นเหยื่อ phishing อีเมลปลอมที่หลอกให้เขาเปิดเผยข้อมูลล็อกอินและ OTP ส่งผลให้ข้อมูลที่อยู่อีเมลกว่า 16,000 รายชื่อถูกเจาะ แม้ว่าเขาจะใช้การยืนยันตัวตนสองชั้น แต่วิธีการโจมตีแบบอัตโนมัติของแฮกเกอร์แสดงให้เห็นว่าความปลอดภัยไซเบอร์ยังคงต้องการการพัฒนาที่รัดกุมมากขึ้น เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่เตือนว่าไม่มีใครปลอดภัยจากการโจมตีเสมอไป วิธีการโจมตี: - อีเมลปลอมสร้างความรู้สึกเร่งด่วนว่ามีการร้องเรียนเรื่อง spam ซึ่งนำไปสู่การจำกัดสิทธิ์การส่งอีเมล Hunt คลิกเข้าไปในลิงก์และกรอกข้อมูลล็อกอินรวมถึงรหัสผ่านแบบ OTP ทำให้ข้อมูลถูกส่งไปยังระบบอัตโนมัติของแฮกเกอร์ทันที บทเรียนเรื่องการยืนยันตัวตนสองชั้น: - แม้ Hunt จะใช้ระบบ 2FA (two-factor authentication) แต่แฮกเกอร์สามารถหลอกเอา OTP ได้จากการโจมตีแบบอัตโนมัติ สิ่งนี้เน้นให้เห็นว่าการใช้ 2FA ไม่ได้ป้องกันการโจมตีได้อย่างสมบูรณ์เสมอไป ผลกระทบ: - ข้อมูลที่ถูกดึงไปใช้เป็นรายชื่อส่ง spam หรืออาจนำไปใช้เพื่อการโจมตีในลักษณะอื่น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ไม่ได้กระทบต่อเว็บไซต์ HaveIBeenPwned โดยตรง แนวทางป้องกันในอนาคต: - Cloudflare ได้ช่วยปิดเว็บไซต์ปลอมที่แฮกเกอร์ใช้ในการโจมตี และ Hunt ได้ส่งอีเมลแจ้งเตือนผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเตือนให้ระวังและเพิ่มความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัว https://www.techspot.com/news/107292-troy-hunt-security-expert-creator-haveibeenpwned-falls-victim.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Troy Hunt, security expert and creator of HaveIBeenPwned, falls victim to phishing scam
    Hunt says he was jet lagged and tired when he read an email that appeared to come from Mailchimp, the service he uses for his mailing list....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้แอป Signal เพื่อหารือเรื่องแผนปฏิบัติการทางทหารลับ แต่เกิดข้อผิดพลาดเมื่อเชิญคนผิดเข้าร่วมแชต ทำให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหล แม้ Signal เป็นแอปที่มีความปลอดภัยสูง แต่ความผิดพลาดของมนุษย์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลลับ เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่เน้นให้เห็นว่า ความปลอดภัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว

    ความสามารถและข้อจำกัดของ Signal:
    - Signal ใช้การเข้ารหัสแบบ End-to-End (E2EE) และเป็นโอเพ่นซอร์ส แต่ถึงแม้จะมีความปลอดภัยสูง แอปยังคงเสี่ยงต่อการถูกแฮกหรือขโมยข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่.

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น:
    - ในการแชต เจ้าหน้าที่หารือเรื่องเป้าหมาย ปฏิบัติการ และความเห็นส่วนตัว เช่น รองประธานาธิบดี J.D. Vance แสดงความกังวลว่าแผนนี้อาจเอื้อประโยชน์ต่อยุโรปมากกว่าสหรัฐฯ.

    ข้อกังวลด้านกฎหมายและจริยธรรม:
    - การใช้ Signal สำหรับการหารือข้อมูลลับอาจละเมิดกฎหมาย Espionage Act เนื่องจากแพลตฟอร์มไม่ได้รับการอนุมัติสำหรับส่งข้อมูลลับ.

    การเปรียบเทียบกับ WhatsApp:
    - Meredith Whittaker ประธานของ Signal ชี้ว่า WhatsApp ใช้การเข้ารหัสแบบเดียวกัน แต่ไม่สามารถปกป้องเมตะดาต้า (metadata) และข้อมูลผู้ใช้ได้ดีเท่า Signal.

    บทเรียนจากความผิดพลาด:
    - เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงความอ่อนไหวของข้อมูลในยุคดิจิทัล แม้ใช้แอปที่ปลอดภัยที่สุด แต่ยังต้องอาศัยความระมัดระวังของมนุษย์.

    https://www.techspot.com/news/107290-signal-defends-itself-after-us-military-officials-leak.html
    เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้แอป Signal เพื่อหารือเรื่องแผนปฏิบัติการทางทหารลับ แต่เกิดข้อผิดพลาดเมื่อเชิญคนผิดเข้าร่วมแชต ทำให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหล แม้ Signal เป็นแอปที่มีความปลอดภัยสูง แต่ความผิดพลาดของมนุษย์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลลับ เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่เน้นให้เห็นว่า ความปลอดภัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว ความสามารถและข้อจำกัดของ Signal: - Signal ใช้การเข้ารหัสแบบ End-to-End (E2EE) และเป็นโอเพ่นซอร์ส แต่ถึงแม้จะมีความปลอดภัยสูง แอปยังคงเสี่ยงต่อการถูกแฮกหรือขโมยข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น: - ในการแชต เจ้าหน้าที่หารือเรื่องเป้าหมาย ปฏิบัติการ และความเห็นส่วนตัว เช่น รองประธานาธิบดี J.D. Vance แสดงความกังวลว่าแผนนี้อาจเอื้อประโยชน์ต่อยุโรปมากกว่าสหรัฐฯ. ข้อกังวลด้านกฎหมายและจริยธรรม: - การใช้ Signal สำหรับการหารือข้อมูลลับอาจละเมิดกฎหมาย Espionage Act เนื่องจากแพลตฟอร์มไม่ได้รับการอนุมัติสำหรับส่งข้อมูลลับ. การเปรียบเทียบกับ WhatsApp: - Meredith Whittaker ประธานของ Signal ชี้ว่า WhatsApp ใช้การเข้ารหัสแบบเดียวกัน แต่ไม่สามารถปกป้องเมตะดาต้า (metadata) และข้อมูลผู้ใช้ได้ดีเท่า Signal. บทเรียนจากความผิดพลาด: - เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงความอ่อนไหวของข้อมูลในยุคดิจิทัล แม้ใช้แอปที่ปลอดภัยที่สุด แต่ยังต้องอาศัยความระมัดระวังของมนุษย์. https://www.techspot.com/news/107290-signal-defends-itself-after-us-military-officials-leak.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Signal defends itself after U.S. military officials leak classified plans by mistake on group chat
    Signal president Meredith Whittaker reiterated the messaging service's commitment to secure encryption and privacy after top government officials reportedly discussed a classified military operation using the platform....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • Edward Coristine สมาชิกวัย 19 ปีของทีม DOGE ที่นำโดย Elon Musk ตกเป็นประเด็นร้อนในโลกไซเบอร์ หลังเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ในอดีต กรณีนี้นำมาสู่ข้อถกเถียงว่าบุคคลที่มีประวัติเช่นนี้ควรได้รับบทบาทในทีมงานสำคัญของรัฐบาลหรือไม่ เรื่องราวนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการคัดเลือกบุคลากรในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการเมืองและความมั่นคง

    ความเกี่ยวข้องกับ EGodly:
    - บริษัท DiamondCDN ของ Coristine ให้บริการป้องกัน DDoS และระบบ caching ให้แก่ EGodly ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น การแฮกอีเมลของเจ้าหน้าที่รัฐในละตินอเมริกา การขโมยคริปโตเคอเรนซี และการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ FBI ผ่าน Telegram.

    การวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการคัดเลือกของ DOGE:
    - Coristine ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมที่จะเข้าร่วมทีมงานที่มีการเข้าถึงเครือข่ายสำคัญของรัฐบาล เนื่องจากเขาเคยถูกปลดจากงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในปีที่ผ่านมา โดยมีข้อกล่าวหาเรื่องการเปิดเผยข้อมูลลับให้คู่แข่ง.

    ภูมิหลังที่เชื่อมโยงกับการเมืองโลก:
    - Coristine ยังมีความเกี่ยวพันกับอดีตสายลับโซเวียต โดยปู่ของเขาเป็นเจ้าหน้าที่ KGB ที่เคยถูกจับกุมในฐานะสายลับสองหน้า.

    ผลกระทบในวงกว้าง:
    - กรณีนี้จุดประกายข้อถกเถียงเรื่องการคัดกรองบุคลากรในตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ผู้เกี่ยวข้องอาจมีอดีตที่ขัดแย้งกับหลักการด้านความปลอดภัยไซเบอร์.

    https://www.techspot.com/news/107297-report-19-year-old-doge-team-member-big.html
    Edward Coristine สมาชิกวัย 19 ปีของทีม DOGE ที่นำโดย Elon Musk ตกเป็นประเด็นร้อนในโลกไซเบอร์ หลังเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ในอดีต กรณีนี้นำมาสู่ข้อถกเถียงว่าบุคคลที่มีประวัติเช่นนี้ควรได้รับบทบาทในทีมงานสำคัญของรัฐบาลหรือไม่ เรื่องราวนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการคัดเลือกบุคลากรในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการเมืองและความมั่นคง ความเกี่ยวข้องกับ EGodly: - บริษัท DiamondCDN ของ Coristine ให้บริการป้องกัน DDoS และระบบ caching ให้แก่ EGodly ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น การแฮกอีเมลของเจ้าหน้าที่รัฐในละตินอเมริกา การขโมยคริปโตเคอเรนซี และการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ FBI ผ่าน Telegram. การวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการคัดเลือกของ DOGE: - Coristine ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมที่จะเข้าร่วมทีมงานที่มีการเข้าถึงเครือข่ายสำคัญของรัฐบาล เนื่องจากเขาเคยถูกปลดจากงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในปีที่ผ่านมา โดยมีข้อกล่าวหาเรื่องการเปิดเผยข้อมูลลับให้คู่แข่ง. ภูมิหลังที่เชื่อมโยงกับการเมืองโลก: - Coristine ยังมีความเกี่ยวพันกับอดีตสายลับโซเวียต โดยปู่ของเขาเป็นเจ้าหน้าที่ KGB ที่เคยถูกจับกุมในฐานะสายลับสองหน้า. ผลกระทบในวงกว้าง: - กรณีนี้จุดประกายข้อถกเถียงเรื่องการคัดกรองบุคลากรในตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ผู้เกี่ยวข้องอาจมีอดีตที่ขัดแย้งกับหลักการด้านความปลอดภัยไซเบอร์. https://www.techspot.com/news/107297-report-19-year-old-doge-team-member-big.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Report: 19-year-old DOGE team member "Big Balls" provided network support to cybercrime gang
    According to records reviewed by Reuters, Coristine ran a company called DiamondCDN that provided network services from around 2022, while he was still in high school. Among...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 704 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC กำลังขยายการผลิตมายังสหรัฐฯ โดยเพิ่มต้นทุนการผลิตเพียง 10% และใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อลดความจำเป็นในการใช้แรงงาน แม้ว่าจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นแต่บริษัทอาจตั้งราคาชิปพรีเมียมในตลาดเพื่อรองรับค่าใช้จ่าย การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นส่วนสำคัญในการลดการพึ่งพาแหล่งผลิตในเอเชียและสร้างความสมดุลด้านภูมิรัฐศาสตร์

    ต้นทุนที่แตกต่างเล็กน้อย:
    - การศึกษาโดย TechInsights แสดงว่าต้นทุนการผลิตในโรงงานสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้ต้นทุนแรงงานจะสูงขึ้นถึง 200% แต่การใช้ระบบอัตโนมัติช่วยลดความจำเป็นในการใช้แรงงานจำนวนมาก.

    การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง:
    - กว่าครึ่งของค่าใช้จ่ายในการผลิตแผ่นเวเฟอร์ซิลิคอนมาจากเครื่องจักรที่ใช้กระบวนการทางแสงและเคมีขั้นสูง ซึ่งมีราคาเท่ากันทั้งในสหรัฐฯ และไต้หวัน.

    แผนกำหนดราคาชิป:
    - TSMC อาจตั้งราคาพรีเมียมเพิ่มขึ้น 30% สำหรับชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ เพื่อรองรับต้นทุนที่สูงขึ้น.

    การตอบสนองต่อข้อกล่าวหา:
    - การลงทุนในสหรัฐฯ ทำให้ TSMC ถูกตั้งข้อสงสัยจากจีนว่ากำลัง "ขายธุรกิจ" ให้กับวอชิงตัน เพื่อสร้างความสนับสนุนทางการเมืองในพื้นที่ที่มีข้อขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์.

    https://www.techspot.com/news/107291-tsmc-spends-10-more-silicon-wafers-manufactured-usa.html
    TSMC กำลังขยายการผลิตมายังสหรัฐฯ โดยเพิ่มต้นทุนการผลิตเพียง 10% และใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อลดความจำเป็นในการใช้แรงงาน แม้ว่าจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นแต่บริษัทอาจตั้งราคาชิปพรีเมียมในตลาดเพื่อรองรับค่าใช้จ่าย การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นส่วนสำคัญในการลดการพึ่งพาแหล่งผลิตในเอเชียและสร้างความสมดุลด้านภูมิรัฐศาสตร์ ต้นทุนที่แตกต่างเล็กน้อย: - การศึกษาโดย TechInsights แสดงว่าต้นทุนการผลิตในโรงงานสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้ต้นทุนแรงงานจะสูงขึ้นถึง 200% แต่การใช้ระบบอัตโนมัติช่วยลดความจำเป็นในการใช้แรงงานจำนวนมาก. การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง: - กว่าครึ่งของค่าใช้จ่ายในการผลิตแผ่นเวเฟอร์ซิลิคอนมาจากเครื่องจักรที่ใช้กระบวนการทางแสงและเคมีขั้นสูง ซึ่งมีราคาเท่ากันทั้งในสหรัฐฯ และไต้หวัน. แผนกำหนดราคาชิป: - TSMC อาจตั้งราคาพรีเมียมเพิ่มขึ้น 30% สำหรับชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ เพื่อรองรับต้นทุนที่สูงขึ้น. การตอบสนองต่อข้อกล่าวหา: - การลงทุนในสหรัฐฯ ทำให้ TSMC ถูกตั้งข้อสงสัยจากจีนว่ากำลัง "ขายธุรกิจ" ให้กับวอชิงตัน เพื่อสร้างความสนับสนุนทางการเมืองในพื้นที่ที่มีข้อขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์. https://www.techspot.com/news/107291-tsmc-spends-10-more-silicon-wafers-manufactured-usa.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    TSMC spends just 10% more on silicon wafers manufactured in the USA than in Taiwan fabs
    How much does it cost TSMC to start up its new chip-manufacturing plants on US soil? According to a new study by TechInsights, the total amount is...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ เดินหน้าควบคุมการส่งออกด้วยการเพิ่มรายชื่อบริษัทจีนกว่า 70 แห่งในบัญชีดำ โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้สนับสนุนการพัฒนาทางทหารของจีน เช่น อาวุธไฮเปอร์โซนิกและโปรแกรมประมวลผลควอนตัม จีนตอบโต้ว่า การกระทำนี้สะท้อนถึงความกังวลของสหรัฐฯ ต่อการพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของตน เหตุการณ์นี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการแข่งขันด้านเทคโนโลยีที่เข้มข้นระหว่างสองประเทศ

    เหตุผลเบื้องหลังการเพิ่มรายชื่อในบัญชีดำ:
    - บริษัทที่ถูกเพิ่มรายชื่อ เช่น Inspur Group และ Beijing Academy of Artificial Intelligence มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนโครงการประมวลผลขั้นสูง รวมถึงการพัฒนาโมเดล AI และชิปขั้นสูงที่อาจนำไปใช้ในทางทหาร.

    เป้าหมายของสหรัฐฯ:
    - รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายในการลดความสามารถของจีนในด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิกและกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ รวมถึงการพัฒนาโปรแกรมขีปนาวุธ.

    ผลกระทบและการตอบสนองจากจีน:
    - จีนมองว่ามาตรการเหล่านี้เป็นการขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมของตน โดยกระทรวงต่างประเทศจีนได้ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของสหรัฐฯ และขอให้ยุติการอ้างเรื่องความมั่นคงแห่งชาติเป็นเหตุผลในการปิดกั้น.

    https://www.techspot.com/news/107294-us-adds-dozens-chinese-tech-firms-export-blacklist.html
    สหรัฐฯ เดินหน้าควบคุมการส่งออกด้วยการเพิ่มรายชื่อบริษัทจีนกว่า 70 แห่งในบัญชีดำ โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้สนับสนุนการพัฒนาทางทหารของจีน เช่น อาวุธไฮเปอร์โซนิกและโปรแกรมประมวลผลควอนตัม จีนตอบโต้ว่า การกระทำนี้สะท้อนถึงความกังวลของสหรัฐฯ ต่อการพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของตน เหตุการณ์นี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการแข่งขันด้านเทคโนโลยีที่เข้มข้นระหว่างสองประเทศ เหตุผลเบื้องหลังการเพิ่มรายชื่อในบัญชีดำ: - บริษัทที่ถูกเพิ่มรายชื่อ เช่น Inspur Group และ Beijing Academy of Artificial Intelligence มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนโครงการประมวลผลขั้นสูง รวมถึงการพัฒนาโมเดล AI และชิปขั้นสูงที่อาจนำไปใช้ในทางทหาร. เป้าหมายของสหรัฐฯ: - รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายในการลดความสามารถของจีนในด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิกและกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ รวมถึงการพัฒนาโปรแกรมขีปนาวุธ. ผลกระทบและการตอบสนองจากจีน: - จีนมองว่ามาตรการเหล่านี้เป็นการขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมของตน โดยกระทรวงต่างประเทศจีนได้ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของสหรัฐฯ และขอให้ยุติการอ้างเรื่องความมั่นคงแห่งชาติเป็นเหตุผลในการปิดกั้น. https://www.techspot.com/news/107294-us-adds-dozens-chinese-tech-firms-export-blacklist.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US adds dozens of Chinese entities to export blacklist over AI and military concerns
    The US Department of Commerce's Bureau of Industry and Security (BIS) has added 80 organizations to the entity list, including more than 70 from China. There are...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว