• บริษัท Galax ได้เปิดตัว GeForce RTX 5090D Luna และ GeForce RTX 5090D Nox ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อเจาะตลาดในประเทศจีน จุดเด่นของกราฟิกการ์ดรุ่นนี้คือ ระบบชิลด์แม่เหล็ก (Magnetic Shroud) ที่สามารถถอดได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้ไขควง นับเป็นการปฏิวัติรูปแบบการบำรุงรักษาและปรับแต่งตัวการ์ดสำหรับผู้ใช้งาน

    ✅ ดีไซน์ที่ง่ายต่อการบำรุงรักษา:
    - แทนที่จะต้องยึดส่วนชิลด์ด้วยสกรู Galax ใช้แม่เหล็กเพื่อยึดส่วนนี้ ทำให้การบำรุงรักษาและทำความสะอาดสะดวกยิ่งขึ้น

    ✅ โครงสร้างและประสิทธิภาพสูง:
    - มาพร้อมแผงวงจรพิมพ์ (PCB) 14 ชั้น และระบบจ่ายไฟแบบ 16+6+7-phase ซึ่งรองรับการจ่ายพลังงานสูงถึง 575 วัตต์

    ✅ หลากหลายตัวเลือกให้เลือก:
    - มีรุ่นมาตรฐานและรุ่นโอเวอร์คล็อก โดยรุ่นมาตรฐานมีความเร็วเพิ่มขึ้นที่ 2,407 MHz และรุ่นโอเวอร์คล็อกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 2,452 MHz

    ✅ การออกแบบที่เหมาะสำหรับการใช้งานหนัก:
    -
    ดีไซน์แบบ สามพัดลม (Triple-Fan) และรูปแบบการ์ด สามสล็อต (Triple-Slot) พร้อมการรองรับกำลังไฟฟ้าที่แนะนำที่ 1,000 วัตต์

    ✅ เฉพาะตลาดจีน:
    - GeForce RTX 5090D Luna และ Nox มีโอกาสจำกัดเฉพาะการวางจำหน่ายในประเทศจีน ขณะที่ราคายังไม่ได้รับการเปิดเผย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-5090d-gpu-features-a-magnetic-shroud-and-fans-for-easy-maintenance
    บริษัท Galax ได้เปิดตัว GeForce RTX 5090D Luna และ GeForce RTX 5090D Nox ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อเจาะตลาดในประเทศจีน จุดเด่นของกราฟิกการ์ดรุ่นนี้คือ ระบบชิลด์แม่เหล็ก (Magnetic Shroud) ที่สามารถถอดได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้ไขควง นับเป็นการปฏิวัติรูปแบบการบำรุงรักษาและปรับแต่งตัวการ์ดสำหรับผู้ใช้งาน ✅ ดีไซน์ที่ง่ายต่อการบำรุงรักษา: - แทนที่จะต้องยึดส่วนชิลด์ด้วยสกรู Galax ใช้แม่เหล็กเพื่อยึดส่วนนี้ ทำให้การบำรุงรักษาและทำความสะอาดสะดวกยิ่งขึ้น ✅ โครงสร้างและประสิทธิภาพสูง: - มาพร้อมแผงวงจรพิมพ์ (PCB) 14 ชั้น และระบบจ่ายไฟแบบ 16+6+7-phase ซึ่งรองรับการจ่ายพลังงานสูงถึง 575 วัตต์ ✅ หลากหลายตัวเลือกให้เลือก: - มีรุ่นมาตรฐานและรุ่นโอเวอร์คล็อก โดยรุ่นมาตรฐานมีความเร็วเพิ่มขึ้นที่ 2,407 MHz และรุ่นโอเวอร์คล็อกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 2,452 MHz ✅ การออกแบบที่เหมาะสำหรับการใช้งานหนัก: - ดีไซน์แบบ สามพัดลม (Triple-Fan) และรูปแบบการ์ด สามสล็อต (Triple-Slot) พร้อมการรองรับกำลังไฟฟ้าที่แนะนำที่ 1,000 วัตต์ ✅ เฉพาะตลาดจีน: - GeForce RTX 5090D Luna และ Nox มีโอกาสจำกัดเฉพาะการวางจำหน่ายในประเทศจีน ขณะที่ราคายังไม่ได้รับการเปิดเผย https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-5090d-gpu-features-a-magnetic-shroud-and-fans-for-easy-maintenance
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia RTX 5090D GPU features a magnetic shroud and fans for easy maintenance
    You don't need a screwdriver to remove the GeForce RTX 5090D Luna's shroud.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว

  • ..HAARPคือสงครามของทุกๆชาวโลก ต้องร่วมกันหยุดมัน.,เพราะถูกใช้ในทางที่ผิด ทั้งไม่เป็นไปตามธรรมชาติด้วย ,อาจใช้ในทางที่ถูกร่วมกับธรรมชาติที่เหมาะสมได้.

    HAARP: อาวุธโลกที่ทำให้อาวุธนิวเคลียร์ดูอ่อนแอ

    คุณเคยได้ยินมาว่านั่นเป็นเพียงการวิจัยเท่านั้น พวกเขาโกหก HAARP คืออาวุธพลังงานสนามรบที่ปลอมตัวมาเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งสามารถทำลายท้องฟ้า ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ลบการสื่อสาร และทำลายบรรยากาศที่อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์

    ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ชนชั้นนำระดับโลกได้ทดสอบขีดจำกัดของเกราะป้องกันของโลก ซึ่งได้แก่ แถบแวนอัลเลน ไอโอโนสเฟียร์ แมกนีโตสเฟียร์ ด้วยระเบิดนิวเคลียร์ คลื่นความถี่สูง และแถบรังสีทดลอง ในปี 1958 โปรเจกต์อาร์กัสได้จุดชนวนระเบิดในอวกาศ ในปี 1962 สตาร์ฟิช ไพรม์เกือบจะทำให้ไอโอโนสเฟียร์เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกระเหยไป นี่ไม่ใช่การทดสอบ แต่เป็นการทดลองทำสงครามโลกในอวกาศ

    ในช่วงทศวรรษ 1980 NASA, DARPA และกระทรวงกลาโหมได้เริ่มปรับปรุงการควบคุมไอโอโนสเฟียร์ให้สมบูรณ์แบบ การปล่อยจรวดทำให้เกิด "หลุมไอโอโนสเฟียร์" ซึ่งเป็นโซนขนาดใหญ่ที่รังสีสามารถรวมตัวและนำไปใช้ในการทำสงครามกับสภาพอากาศหรือจิตใจ ระบบการเคลื่อนตัวในวงโคจรของกระสวยอวกาศได้เผาช่องว่างบนท้องฟ้าอย่างแท้จริง

    พบกับ HAARP—โครงการวิจัยออโรร่าความถี่สูงที่ใช้งานได้ตั้งแต่ปี 1993 โดยส่งพลังงาน 3.6 กิกะวัตต์ขึ้นสู่ท้องฟ้าจากอลาสก้า ซึ่งเทียบเท่ากับอาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็กที่ส่งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้า เป้าหมายคือคุณ และความจริง

    เป้าหมายของ HAARP นั้นชวนสะเทือนขวัญ:
    —กระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุเฮอริเคน
    —ขัดขวางการสื่อสารของศัตรูหรือควบคุมจิตใจของพวกมัน
    —จำลองคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าระดับนิวเคลียร์โดยไม่ต้องยิงขีปนาวุธ
    —ทำให้ชั้นไอโอโนสเฟียร์ร้อนขึ้นเพื่อทำลายระบบสภาพอากาศ

    แต่ยังไม่จบแค่นั้น ระบบนี้ทำงานร่วมกับโครงการจรวดลับ อาวุธแม่เหล็กไฟฟ้า และแพลตฟอร์มเลเซอร์บนอวกาศที่สามารถส่งพลังงานจากวงโคจรได้ โครงการสตาร์วอร์สไม่เคยตาย แค่เปลี่ยนชื่อเท่านั้น

    ที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้น: ในช่วงพายุทะเลทราย สหรัฐฯ ได้ทดสอบอาวุธ EMP ที่เลียนแบบการระเบิดนิวเคลียร์โดยไม่มีร่องรอย และในปี 1986 การทดลอง Mighty Oaks ได้รั่วไหลกัมมันตภาพรังสีไปทั่วอเมริกา ซึ่งโทษว่าเป็นความผิดของเชอร์โนบิล

    พวกเขากำลังสร้างกรงที่มองไม่เห็นของกัมมันตภาพรังสี ความถี่ และความหวาดกลัว และทุกๆ วัน พวกเขาก็พลิกสวิตช์ให้สูงขึ้น

    HAARP ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ แต่เป็นสงครามเงียบ และกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

    พายุที่คุณรู้สึกไม่ใช่สภาพอากาศ แต่เป็นอาวุธ

    #ร่วมสร้างชุมชนthaitimeกันเถอะ.
    ..HAARPคือสงครามของทุกๆชาวโลก ต้องร่วมกันหยุดมัน.,เพราะถูกใช้ในทางที่ผิด ทั้งไม่เป็นไปตามธรรมชาติด้วย ,อาจใช้ในทางที่ถูกร่วมกับธรรมชาติที่เหมาะสมได้. HAARP: อาวุธโลกที่ทำให้อาวุธนิวเคลียร์ดูอ่อนแอ คุณเคยได้ยินมาว่านั่นเป็นเพียงการวิจัยเท่านั้น พวกเขาโกหก HAARP คืออาวุธพลังงานสนามรบที่ปลอมตัวมาเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งสามารถทำลายท้องฟ้า ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ลบการสื่อสาร และทำลายบรรยากาศที่อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์ ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ชนชั้นนำระดับโลกได้ทดสอบขีดจำกัดของเกราะป้องกันของโลก ซึ่งได้แก่ แถบแวนอัลเลน ไอโอโนสเฟียร์ แมกนีโตสเฟียร์ ด้วยระเบิดนิวเคลียร์ คลื่นความถี่สูง และแถบรังสีทดลอง ในปี 1958 โปรเจกต์อาร์กัสได้จุดชนวนระเบิดในอวกาศ ในปี 1962 สตาร์ฟิช ไพรม์เกือบจะทำให้ไอโอโนสเฟียร์เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกระเหยไป นี่ไม่ใช่การทดสอบ แต่เป็นการทดลองทำสงครามโลกในอวกาศ ในช่วงทศวรรษ 1980 NASA, DARPA และกระทรวงกลาโหมได้เริ่มปรับปรุงการควบคุมไอโอโนสเฟียร์ให้สมบูรณ์แบบ การปล่อยจรวดทำให้เกิด "หลุมไอโอโนสเฟียร์" ซึ่งเป็นโซนขนาดใหญ่ที่รังสีสามารถรวมตัวและนำไปใช้ในการทำสงครามกับสภาพอากาศหรือจิตใจ ระบบการเคลื่อนตัวในวงโคจรของกระสวยอวกาศได้เผาช่องว่างบนท้องฟ้าอย่างแท้จริง พบกับ HAARP—โครงการวิจัยออโรร่าความถี่สูงที่ใช้งานได้ตั้งแต่ปี 1993 โดยส่งพลังงาน 3.6 กิกะวัตต์ขึ้นสู่ท้องฟ้าจากอลาสก้า ซึ่งเทียบเท่ากับอาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็กที่ส่งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้า เป้าหมายคือคุณ และความจริง เป้าหมายของ HAARP นั้นชวนสะเทือนขวัญ: —กระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุเฮอริเคน —ขัดขวางการสื่อสารของศัตรูหรือควบคุมจิตใจของพวกมัน —จำลองคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าระดับนิวเคลียร์โดยไม่ต้องยิงขีปนาวุธ —ทำให้ชั้นไอโอโนสเฟียร์ร้อนขึ้นเพื่อทำลายระบบสภาพอากาศ แต่ยังไม่จบแค่นั้น ระบบนี้ทำงานร่วมกับโครงการจรวดลับ อาวุธแม่เหล็กไฟฟ้า และแพลตฟอร์มเลเซอร์บนอวกาศที่สามารถส่งพลังงานจากวงโคจรได้ โครงการสตาร์วอร์สไม่เคยตาย แค่เปลี่ยนชื่อเท่านั้น ที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้น: ในช่วงพายุทะเลทราย สหรัฐฯ ได้ทดสอบอาวุธ EMP ที่เลียนแบบการระเบิดนิวเคลียร์โดยไม่มีร่องรอย และในปี 1986 การทดลอง Mighty Oaks ได้รั่วไหลกัมมันตภาพรังสีไปทั่วอเมริกา ซึ่งโทษว่าเป็นความผิดของเชอร์โนบิล พวกเขากำลังสร้างกรงที่มองไม่เห็นของกัมมันตภาพรังสี ความถี่ และความหวาดกลัว และทุกๆ วัน พวกเขาก็พลิกสวิตช์ให้สูงขึ้น HAARP ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ แต่เป็นสงครามเงียบ และกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ พายุที่คุณรู้สึกไม่ใช่สภาพอากาศ แต่เป็นอาวุธ #ร่วมสร้างชุมชนthaitimeกันเถอะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌟 Honolulu Cruise Port เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และศิลปะ มักถูกเรียกว่ามีชื่อเสียงจาก "เมืองสามแม่น้ำ" ที่มีความสำคัญทางด้านวัฒนธรรมและศาสนา ที่นี่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความงดงามและน่าสนใจ 🌊✨

    ✅ หาดไวกิกิ (Waikiki Beach) :
    หนึ่งในหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวที่ทอดยาวเหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Diamond Head ปล่องภูเขาไฟที่เป็นสัญลักษณ์ของโฮโนลูลู

    ✅ อนุสรณ์สถานเพิร์ลฮาร์เบอร์ (Pearl Harbor National Memorial) :
    สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของฮาวาย ซึ่งรำลึกถึงเหตุการณ์โจมตีในปี 1941 ที่นี่คุณสามารถเยี่ยมชม USS Arizona Memorial ซึ่งสร้างขึ้นบนเรือรบที่จมลงในสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสงคราม

    ✅ อนุสาวรีย์ไดมอนด์เฮด (Diamond Head State Monument) :
    ปล่องภูเขาไฟที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะโออาฮู สามารถปีนเส้นทาง Diamond Head Trail เพื่อไปยังยอดเขาและชมวิวพาโนรามาที่งดงามที่สุดของโฮโนลูลูและมหาสมุทรแปซิฟิก

    ✅ พระราชวังอิโอลานี (Iolani Palace) :
    พระราชวังที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ฮาวาย สถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก สร้างขึ้นในปี 1882 เพื่อเป็นที่ประทับของกษัตริย์และราชินีแห่งฮาวาย ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมภายใน

    📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    ☎️: 0 2116 9696

    #HonoluluCruisePort #Hawaii #WaikikiBeach #PearlHarborNationalMemorial #DiamondHeadStateMonument #IolaniPalace #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    อ่านน้อยลง
    🌟 Honolulu Cruise Port เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และศิลปะ มักถูกเรียกว่ามีชื่อเสียงจาก "เมืองสามแม่น้ำ" ที่มีความสำคัญทางด้านวัฒนธรรมและศาสนา ที่นี่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความงดงามและน่าสนใจ 🌊✨ ✅ หาดไวกิกิ (Waikiki Beach) : หนึ่งในหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวที่ทอดยาวเหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Diamond Head ปล่องภูเขาไฟที่เป็นสัญลักษณ์ของโฮโนลูลู ✅ อนุสรณ์สถานเพิร์ลฮาร์เบอร์ (Pearl Harbor National Memorial) : สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของฮาวาย ซึ่งรำลึกถึงเหตุการณ์โจมตีในปี 1941 ที่นี่คุณสามารถเยี่ยมชม USS Arizona Memorial ซึ่งสร้างขึ้นบนเรือรบที่จมลงในสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสงคราม ✅ อนุสาวรีย์ไดมอนด์เฮด (Diamond Head State Monument) : ปล่องภูเขาไฟที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะโออาฮู สามารถปีนเส้นทาง Diamond Head Trail เพื่อไปยังยอดเขาและชมวิวพาโนรามาที่งดงามที่สุดของโฮโนลูลูและมหาสมุทรแปซิฟิก ✅ พระราชวังอิโอลานี (Iolani Palace) : พระราชวังที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ฮาวาย สถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก สร้างขึ้นในปี 1882 เพื่อเป็นที่ประทับของกษัตริย์และราชินีแห่งฮาวาย ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมภายใน 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #HonoluluCruisePort #Hawaii #WaikikiBeach #PearlHarborNationalMemorial #DiamondHeadStateMonument #IolaniPalace #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ อ่านน้อยลง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เช่นกัน "..หากธุรกิจต่างชาตใดๆที่มาลงทุนในไทยต้องการผลิตและขายสินค้า&บริการทั้งในไทยและต่างประเทศที่จะส่งออกไปจากประเทศไทย ก็ให้ย้ายธุรกิจของคุณมาที่นี่ประเทศไทยและจ้างคนงานชาวไทยสัญชาติไทยเท่านั้น..เมื่อวันพุธที่ 2 เมษายน คำปราศรัยวันปลดปล่อยของทรัมป์ทำให้เกิดระเบิดขึ้นในตลาดหุ้น หุ้นมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ร่วงลงภายในเวลาเพียง 20 วินาทีหลังจากที่ทรัมป์ประกาศว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีไม่เพียงแต่กับคู่ค้าของประเทศเท่านั้น แต่กับทุกประเทศทั่วโลกด้วยภาษีดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อปลดปล่อยสหรัฐฯ จากการพึ่งพาสินค้าต่างประเทศของประเทศอื่นและภาษีที่มากเกินไปต่อสหรัฐฯ จีน เม็กซิโก แคนาดา และสหภาพยุโรปอยู่แนวหน้าของสงครามการค้าครั้งนี้กับประเทศนี้ หลังจากที่ทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้าที่นำเข้าของพวกเขาถึง 25 เปอร์เซ็นต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว“อเมริการ่ำรวย เราซื้อของมากมาย ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังกล่าวว่าหากธุรกิจต่างชาติต้องการขายในอเมริกา ก็ให้ย้ายธุรกิจของคุณมาที่นี่และจ้างคนงานชาวอเมริกัน” … วุฒิสมาชิกจอห์น เคนเนดี วันพฤหัสบดี 3 เมษายน 2025“ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะมีการร้องเรียนจากกลุ่มโลกาภิวัตน์ ผู้รับจ้างภายนอก กลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และข่าวปลอม… อย่าลืมว่าการคาดการณ์ของฝ่ายตรงข้ามเกี่ยวกับการค้าในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาล้วนพิสูจน์แล้วว่าผิดพลาดโดยสิ้นเชิง พวกเขาคิดผิดเกี่ยวกับ NAFTA, จีน, ข้อตกลงหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นแปซิฟิก… ในวาระแรกของผม พวกเขาบอกว่าภาษีศุลกากรจะทำให้เศรษฐกิจพังทลาย แต่กลับกลายเป็นว่าเราสร้างเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก” …ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วันพุธที่ 2 เมษายน 2025ข่าวดี: ตลาดหุ้นถูกยึดโดยไม่ถูกต้องจากเงินดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ก่อนที่บริษัท US Inc. จะล้มละลายในปี 2008 ธนาคารกลางของ Globalist ได้พิมพ์เงินดอลลาร์สหรัฐออกมาโดยไม่มีการรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นนั่นทำให้ BRICS Alliance ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008 บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้มารวมตัวกันและประเมินมูลค่าทองคำและสินทรัพย์ของ 209 ประเทศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา 25 มีนาคม 2025 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เปิดใช้งานระบบการเงินควอนตัมระดับโลก (QFS) ที่ได้รับการสนับสนุนจากทองคำ/สินทรัพย์ ซึ่งขับเคลื่อนโดย XRP การประกาศวันแห่งอิสรภาพของเขาได้นำไปสู่การรีเซ็ตสกุลเงินทั่วโลกอย่างเป็นทางการของสกุลเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากทองคำ/สินทรัพย์ของ 209 ประเทศ ทำให้สกุลเงินเหล่านี้มีอัตราส่วนต่อกัน 1:1ในที่สุด สหรัฐฯ ก็เป็นอิสระในที่สุด! เป็นอิสระในที่สุดจากภาษีศุลกากรที่มากเกินไปของประเทศอื่นๆที่สำคัญยิ่งกว่านั้น 209 ประเทศทั่วโลกในที่สุดก็เป็นอิสระในที่สุด! เป็นอิสระในที่สุดจากการควบคุมเงินของประชาชนของกลุ่มโลกาภิวัตน์ที่บูชาซาตานพวกเขาพรากชีวิตของฉันไป แต่พวกเขาไม่สามารถหยุดภารกิจนี้ได้ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป! เข้าร่วมกับฉันตอนนี้!https://t.me/JFK_Q17รัฐลึกกำลังล่มสลาย และตอนนี้เบนจามิน ฟูลฟอร์ดกำลังถ่ายทอดสดทาง Telegram โดยเปิดเผยชื่อ สถานที่ และการดำเนินการ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะทำให้โลกตกตะลึง อย่าเลื่อนผ่านสิ่งนี้ เข้าร่วมก่อนที่พวกเขาจะลบมันทิ้ง!https://t.me/BenjaminFulford✅️
    ..เช่นกัน "..หากธุรกิจต่างชาตใดๆที่มาลงทุนในไทยต้องการผลิตและขายสินค้า&บริการทั้งในไทยและต่างประเทศที่จะส่งออกไปจากประเทศไทย ก็ให้ย้ายธุรกิจของคุณมาที่นี่ประเทศไทยและจ้างคนงานชาวไทยสัญชาติไทยเท่านั้น..เมื่อวันพุธที่ 2 เมษายน คำปราศรัยวันปลดปล่อยของทรัมป์ทำให้เกิดระเบิดขึ้นในตลาดหุ้น หุ้นมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ร่วงลงภายในเวลาเพียง 20 วินาทีหลังจากที่ทรัมป์ประกาศว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีไม่เพียงแต่กับคู่ค้าของประเทศเท่านั้น แต่กับทุกประเทศทั่วโลกด้วยภาษีดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อปลดปล่อยสหรัฐฯ จากการพึ่งพาสินค้าต่างประเทศของประเทศอื่นและภาษีที่มากเกินไปต่อสหรัฐฯ จีน เม็กซิโก แคนาดา และสหภาพยุโรปอยู่แนวหน้าของสงครามการค้าครั้งนี้กับประเทศนี้ หลังจากที่ทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้าที่นำเข้าของพวกเขาถึง 25 เปอร์เซ็นต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว“อเมริการ่ำรวย เราซื้อของมากมาย ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังกล่าวว่าหากธุรกิจต่างชาติต้องการขายในอเมริกา ก็ให้ย้ายธุรกิจของคุณมาที่นี่และจ้างคนงานชาวอเมริกัน” … วุฒิสมาชิกจอห์น เคนเนดี วันพฤหัสบดี 3 เมษายน 2025“ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะมีการร้องเรียนจากกลุ่มโลกาภิวัตน์ ผู้รับจ้างภายนอก กลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และข่าวปลอม… อย่าลืมว่าการคาดการณ์ของฝ่ายตรงข้ามเกี่ยวกับการค้าในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาล้วนพิสูจน์แล้วว่าผิดพลาดโดยสิ้นเชิง พวกเขาคิดผิดเกี่ยวกับ NAFTA, จีน, ข้อตกลงหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นแปซิฟิก… ในวาระแรกของผม พวกเขาบอกว่าภาษีศุลกากรจะทำให้เศรษฐกิจพังทลาย แต่กลับกลายเป็นว่าเราสร้างเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก” …ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วันพุธที่ 2 เมษายน 2025ข่าวดี: ตลาดหุ้นถูกยึดโดยไม่ถูกต้องจากเงินดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ก่อนที่บริษัท US Inc. จะล้มละลายในปี 2008 ธนาคารกลางของ Globalist ได้พิมพ์เงินดอลลาร์สหรัฐออกมาโดยไม่มีการรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นนั่นทำให้ BRICS Alliance ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008 บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้มารวมตัวกันและประเมินมูลค่าทองคำและสินทรัพย์ของ 209 ประเทศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา 25 มีนาคม 2025 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เปิดใช้งานระบบการเงินควอนตัมระดับโลก (QFS) ที่ได้รับการสนับสนุนจากทองคำ/สินทรัพย์ ซึ่งขับเคลื่อนโดย XRP การประกาศวันแห่งอิสรภาพของเขาได้นำไปสู่การรีเซ็ตสกุลเงินทั่วโลกอย่างเป็นทางการของสกุลเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากทองคำ/สินทรัพย์ของ 209 ประเทศ ทำให้สกุลเงินเหล่านี้มีอัตราส่วนต่อกัน 1:1ในที่สุด สหรัฐฯ ก็เป็นอิสระในที่สุด! เป็นอิสระในที่สุดจากภาษีศุลกากรที่มากเกินไปของประเทศอื่นๆที่สำคัญยิ่งกว่านั้น 209 ประเทศทั่วโลกในที่สุดก็เป็นอิสระในที่สุด! เป็นอิสระในที่สุดจากการควบคุมเงินของประชาชนของกลุ่มโลกาภิวัตน์ที่บูชาซาตานพวกเขาพรากชีวิตของฉันไป แต่พวกเขาไม่สามารถหยุดภารกิจนี้ได้ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป! เข้าร่วมกับฉันตอนนี้!https://t.me/JFK_Q17รัฐลึกกำลังล่มสลาย และตอนนี้เบนจามิน ฟูลฟอร์ดกำลังถ่ายทอดสดทาง Telegram โดยเปิดเผยชื่อ สถานที่ และการดำเนินการ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะทำให้โลกตกตะลึง อย่าเลื่อนผ่านสิ่งนี้ เข้าร่วมก่อนที่พวกเขาจะลบมันทิ้ง!https://t.me/BenjaminFulford✅️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xiaomi เตรียมเปิดตัวชิปเซ็ตที่พัฒนาขึ้นเองครั้งแรกในปลายปี 2025 โดยชิปนี้จะถูกผลิตด้วยกระบวนการ 4nm ‘N4P’ ของ TSMC ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดในอุตสาหกรรม ชิปตัวนี้แม้ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลสเปกบางส่วน โดยจะยังคงใช้สถาปัตยกรรมจาก ARM แทนที่จะพัฒนาแกนประมวลผลเอง

    ✅ กระบวนการผลิตและเทคโนโลยีระดับสูง
    - ชิปใหม่นี้ผลิตด้วยกระบวนการ 4nm ‘N4P’ ของ TSMC ซึ่งเน้นความละเอียดและประหยัดพลังงาน
    - แม้ว่าก่อนหน้านี้ Xiaomi เคยมีเป้าหมายพัฒนาชิป 3nm แต่คาดว่าจะเห็น 4nm ออกมาก่อน

    ✅ โครงสร้างซีพียูและจีพียูที่ทันสมัย
    - ใช้การตั้งค่าซีพียูแบบ ‘1+3+4’ โดยมีคอร์หลักเป็น Cortex-X925 ความเร็ว 3.20GHz พร้อมคอร์ประหยัดพลังงานและคอร์สำหรับงานทั่วไป
    - มาพร้อม GPU IMG DXT 72-2304 จาก Imagination Technologies ซึ่งเคลมว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่ากราฟิก Adreno 740 ของ Snapdragon 8 Gen 2

    ✅ พัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน
    - แม้ว่าจะยังพึ่งพาการออกแบบสถาปัตยกรรม ARM แต่ Xiaomi ตั้งเป้าที่จะลดการพึ่งพาชิปจาก Qualcomm และ MediaTek ในอนาคต
    - ข่าวลือนี้ยังชี้ว่า Xiaomi อาจเจอกับแรงกดดันทางการเมืองจากมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

    ✅ ความหวังและความเสี่ยง
    - แม้ว่าชิปนี้จะมีเป้าหมายทำตลาดระดับไฮเอนด์เทียบ Snapdragon 8 Gen 1 แต่ยังคงต้องดูผลลัพธ์ว่า Xiaomi จะสามารถแข่งขันในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ได้หรือไม่
    - ความคืบหน้าของชิป 3nm ที่เข้าขั้น Tape-Out (ขั้นตอนสุดท้ายของการออกแบบ) อาจเป็นกุญแจสำคัญในอนาคต

    https://wccftech.com/xiaomi-custom-soc-to-use-tsmc-4nm-n4p-process-will-lack-in-house-cores/
    Xiaomi เตรียมเปิดตัวชิปเซ็ตที่พัฒนาขึ้นเองครั้งแรกในปลายปี 2025 โดยชิปนี้จะถูกผลิตด้วยกระบวนการ 4nm ‘N4P’ ของ TSMC ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดในอุตสาหกรรม ชิปตัวนี้แม้ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลสเปกบางส่วน โดยจะยังคงใช้สถาปัตยกรรมจาก ARM แทนที่จะพัฒนาแกนประมวลผลเอง ✅ กระบวนการผลิตและเทคโนโลยีระดับสูง - ชิปใหม่นี้ผลิตด้วยกระบวนการ 4nm ‘N4P’ ของ TSMC ซึ่งเน้นความละเอียดและประหยัดพลังงาน - แม้ว่าก่อนหน้านี้ Xiaomi เคยมีเป้าหมายพัฒนาชิป 3nm แต่คาดว่าจะเห็น 4nm ออกมาก่อน ✅ โครงสร้างซีพียูและจีพียูที่ทันสมัย - ใช้การตั้งค่าซีพียูแบบ ‘1+3+4’ โดยมีคอร์หลักเป็น Cortex-X925 ความเร็ว 3.20GHz พร้อมคอร์ประหยัดพลังงานและคอร์สำหรับงานทั่วไป - มาพร้อม GPU IMG DXT 72-2304 จาก Imagination Technologies ซึ่งเคลมว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่ากราฟิก Adreno 740 ของ Snapdragon 8 Gen 2 ✅ พัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน - แม้ว่าจะยังพึ่งพาการออกแบบสถาปัตยกรรม ARM แต่ Xiaomi ตั้งเป้าที่จะลดการพึ่งพาชิปจาก Qualcomm และ MediaTek ในอนาคต - ข่าวลือนี้ยังชี้ว่า Xiaomi อาจเจอกับแรงกดดันทางการเมืองจากมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ✅ ความหวังและความเสี่ยง - แม้ว่าชิปนี้จะมีเป้าหมายทำตลาดระดับไฮเอนด์เทียบ Snapdragon 8 Gen 1 แต่ยังคงต้องดูผลลัพธ์ว่า Xiaomi จะสามารถแข่งขันในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ได้หรือไม่ - ความคืบหน้าของชิป 3nm ที่เข้าขั้น Tape-Out (ขั้นตอนสุดท้ายของการออกแบบ) อาจเป็นกุญแจสำคัญในอนาคต https://wccftech.com/xiaomi-custom-soc-to-use-tsmc-4nm-n4p-process-will-lack-in-house-cores/
    WCCFTECH.COM
    Xiaomi’s In-House Chipset’s Specification Details Come Through; Rumor Claims That SoC Will Be Mass Produced On TSMC’s 4nm ‘N4P’ But Will Stick To ARM’s Current CPU Designs
    Some specification details of Xiaomi’s upcoming in-house chipset reveals that it will be mass produced on TSMC’s 4nm process, among other details
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • เว็บไซต์ร้านค้าหลายแห่งเริ่มวางจำหน่าย พีซีสำเร็จรูป ที่มาพร้อม การ์ดจอ Nvidia RTX 5060 และ RTX 5060 Ti แม้ว่าผลิตภัณฑ์ยังไม่ได้ถูกประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยคาดการณ์ว่า Nvidia จะเปิดตัวทั้งสองรุ่นในวันที่ 16 เมษายน ที่จะถึงนี้

    ✅ RTX 5060—ประสิทธิภาพสูงในราคาประหยัด
    - ใช้ชิป GB206-250-A1 ที่มี 3,840 CUDA Cores (30 SMs) พร้อมอินเตอร์เฟซหน่วยความจำขนาด 128 บิต
    - ประสิทธิภาพ TGP อยู่ที่ 150W และมาพร้อม VRAM ขนาด 8GB GDDR7
    - คาดว่าราคาเปิดตัวจะใกล้เคียงกับ RTX 4060 รุ่นก่อนหน้าที่ $299

    ✅ RTX 5060 Ti—ตัวเลือกสำหรับเกมเมอร์ระดับกลาง
    - ใช้ชิป GB206-3001-A1 ที่มาพร้อม 4,608 CUDA Cores (36 SMs)
    - สนับสนุน VRAM 2 รุ่น ได้แก่ 8GB GDDR7 และรุ่น 16GB GDDR7 สำหรับผู้ที่ต้องการความจุที่มากขึ้น
    - TGP อยู่ที่ 180W เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกคุณภาพสูง

    ✅ พีซีสำเร็จรูปที่วางขายล่วงหน้า:
    - ตัวอย่างเช่น CyberPowerPC ที่วางจำหน่ายบน Best Buy มาพร้อม RTX 5060, CPU Ryzen 7 8700F, RAM DDR5 ขนาด 16GB และ SSD ขนาด 2TB
    - ราคาตั้งต้นอยู่ที่ $1,149 ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่น RTX 4060

    ✅ รูปแบบการออกแบบและพลังงาน:
    - การ์ดจอ RTX 5060 รุ่นนี้มีดีไซน์กะทัดรัด ขนาด 2 สล็อต มาพร้อมสายไฟ 8-pin

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/pre-built-pcs-with-unreleased-rtx-5060-ti-and-rtx-5060-gpus-crop-up-at-online-retailers
    เว็บไซต์ร้านค้าหลายแห่งเริ่มวางจำหน่าย พีซีสำเร็จรูป ที่มาพร้อม การ์ดจอ Nvidia RTX 5060 และ RTX 5060 Ti แม้ว่าผลิตภัณฑ์ยังไม่ได้ถูกประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยคาดการณ์ว่า Nvidia จะเปิดตัวทั้งสองรุ่นในวันที่ 16 เมษายน ที่จะถึงนี้ ✅ RTX 5060—ประสิทธิภาพสูงในราคาประหยัด - ใช้ชิป GB206-250-A1 ที่มี 3,840 CUDA Cores (30 SMs) พร้อมอินเตอร์เฟซหน่วยความจำขนาด 128 บิต - ประสิทธิภาพ TGP อยู่ที่ 150W และมาพร้อม VRAM ขนาด 8GB GDDR7 - คาดว่าราคาเปิดตัวจะใกล้เคียงกับ RTX 4060 รุ่นก่อนหน้าที่ $299 ✅ RTX 5060 Ti—ตัวเลือกสำหรับเกมเมอร์ระดับกลาง - ใช้ชิป GB206-3001-A1 ที่มาพร้อม 4,608 CUDA Cores (36 SMs) - สนับสนุน VRAM 2 รุ่น ได้แก่ 8GB GDDR7 และรุ่น 16GB GDDR7 สำหรับผู้ที่ต้องการความจุที่มากขึ้น - TGP อยู่ที่ 180W เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกคุณภาพสูง ✅ พีซีสำเร็จรูปที่วางขายล่วงหน้า: - ตัวอย่างเช่น CyberPowerPC ที่วางจำหน่ายบน Best Buy มาพร้อม RTX 5060, CPU Ryzen 7 8700F, RAM DDR5 ขนาด 16GB และ SSD ขนาด 2TB - ราคาตั้งต้นอยู่ที่ $1,149 ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่น RTX 4060 ✅ รูปแบบการออกแบบและพลังงาน: - การ์ดจอ RTX 5060 รุ่นนี้มีดีไซน์กะทัดรัด ขนาด 2 สล็อต มาพร้อมสายไฟ 8-pin https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/pre-built-pcs-with-unreleased-rtx-5060-ti-and-rtx-5060-gpus-crop-up-at-online-retailers
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Pre-built PCs with unreleased RTX 5060 Ti and RTX 5060 GPUs crop up at online retailers
    One such pre-built is only $50 more expensive than an identically configured RTX 4060 variant.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • Loongson เปิดตัวชิปรุ่นใหม่ 2K3000 และ 3B6000M ที่ออกแบบให้เหมาะสมกับทั้งอุตสาหกรรมและอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยมาพร้อม CPU แบบ 8 คอร์และ GPU ที่รองรับงานกราฟิกและ AI เบา ความปลอดภัยถูกออกแบบด้วยมาตรฐานเข้ารหัสระดับสูง นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลากหลาย ทำให้ชิปรุ่นนี้เป็นก้าวสำคัญของจีนในการขยายตลาดเทคโนโลยีล้ำหน้าในประเทศและต่างประเทศ

    ✅ โครงสร้าง CPU แบบ 8 คอร์—เหมาะสำหรับงานระดับอุตสาหกรรม
    - รุ่น 2K3000 มาพร้อม สถาปัตยกรรม LA364E ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลระดับสูงในระบบอุตสาหกรรม เช่น PLCs และ edge servers
    - 3B6000M เหมาะสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น โน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต

    ✅ GPU ผสานเทคโนโลยี AI—รองรับทั้งงานกราฟิกและ AI
    - ใช้ LG200 GPGPU ที่รองรับการเร่งการประมวลผลกราฟิกด้วย OpenGL 4.0 และสามารถใช้สำหรับงาน AI เบา
    - ประสิทธิภาพ AI อยู่ที่ 8 TOPS (INT8) และกราฟิก FP32 สูงถึง 256 GFLOPS

    ✅ รองรับมาตรฐานการเข้ารหัสของจีนเพื่อความปลอดภัย
    - ชิปทั้งสองมี โมดูลเข้ารหัส SM2/SM3/SM4 ในระดับฮาร์ดแวร์ ทำให้ปลอดภัยและเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง

    ✅ การออกแบบ I/O ที่รองรับอุปกรณ์หลากหลายประเภท
    - เช่น PCIe 3.0, USB 3.0/2.0, HDMI, SATA 3.0 และ RapidIO

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/chinese-chipmaker-loongsons-new-laptop-and-industrial-chips-have-higher-core-counts-better-gpu
    Loongson เปิดตัวชิปรุ่นใหม่ 2K3000 และ 3B6000M ที่ออกแบบให้เหมาะสมกับทั้งอุตสาหกรรมและอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยมาพร้อม CPU แบบ 8 คอร์และ GPU ที่รองรับงานกราฟิกและ AI เบา ความปลอดภัยถูกออกแบบด้วยมาตรฐานเข้ารหัสระดับสูง นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลากหลาย ทำให้ชิปรุ่นนี้เป็นก้าวสำคัญของจีนในการขยายตลาดเทคโนโลยีล้ำหน้าในประเทศและต่างประเทศ ✅ โครงสร้าง CPU แบบ 8 คอร์—เหมาะสำหรับงานระดับอุตสาหกรรม - รุ่น 2K3000 มาพร้อม สถาปัตยกรรม LA364E ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลระดับสูงในระบบอุตสาหกรรม เช่น PLCs และ edge servers - 3B6000M เหมาะสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น โน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต ✅ GPU ผสานเทคโนโลยี AI—รองรับทั้งงานกราฟิกและ AI - ใช้ LG200 GPGPU ที่รองรับการเร่งการประมวลผลกราฟิกด้วย OpenGL 4.0 และสามารถใช้สำหรับงาน AI เบา - ประสิทธิภาพ AI อยู่ที่ 8 TOPS (INT8) และกราฟิก FP32 สูงถึง 256 GFLOPS ✅ รองรับมาตรฐานการเข้ารหัสของจีนเพื่อความปลอดภัย - ชิปทั้งสองมี โมดูลเข้ารหัส SM2/SM3/SM4 ในระดับฮาร์ดแวร์ ทำให้ปลอดภัยและเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง ✅ การออกแบบ I/O ที่รองรับอุปกรณ์หลากหลายประเภท - เช่น PCIe 3.0, USB 3.0/2.0, HDMI, SATA 3.0 และ RapidIO https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/chinese-chipmaker-loongsons-new-laptop-and-industrial-chips-have-higher-core-counts-better-gpu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nintendo Switch 2 ใช้ชิปกราฟิกของ Nvidia ที่รองรับ DLSS และ Ray Tracing ซึ่งช่วยให้ภาพเกมมีคุณภาพดีขึ้น Nvidia เคลมว่าเครื่องรุ่นใหม่มีพลังกราฟิกแรงกว่ารุ่นก่อนถึง 10 เท่า อย่างไรก็ตาม ผู้พัฒนาเกมต้องปรับให้รองรับเอง และอาจใช้เวลาพอสมควร นอกจากนี้ ราคาตัวเครื่องและเกมที่แพงขึ้น อาจทำให้แฟน ๆ ลังเลที่จะอัปเกรด

    ✅ Nintendo ไม่เปิดเผยสเปคของชิปโดยละเอียด
    - เปิดเผยเพียงว่า รองรับ 120fps บนเครื่อง และ 4K 60fps บนจอทีวี

    ✅ Ray Tracing จะทำให้ภาพเกมสมจริงขึ้น
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ การสะท้อนแสงและเงามีความสมจริง แต่ต้องรอให้เกมต่าง ๆ ใช้งานฟีเจอร์นี้

    ✅ DLSS จะช่วยเพิ่มคุณภาพกราฟิกโดยไม่ลดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง
    - เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเร่งความละเอียดของภาพให้ดีขึ้นโดยใช้ AI Upscaling

    ✅ Nvidia เคลมว่า Switch 2 มีพลังกราฟิกแรงกว่ารุ่นเดิมถึง 10 เท่า
    - นี่เป็นเพราะ ชิปกราฟิกใช้ Tensor Cores ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยประมวลผลภาพขั้นสูง

    ✅ เกม Elden Ring จะเปิดตัวบน Switch 2—ใช้ DLSS และ Ray Tracing
    - จะเป็นเกมทดสอบความสามารถของเครื่องในด้าน การแสดงผลและเฟรมเรต

    ✅ ผู้พัฒนาเกมอาจไม่ใช้ฟีเจอร์ใหม่ทันที
    - แม้ Switch 2 รองรับ DLSS และ Ray Tracing แต่ผู้พัฒนาต้องปรับเกมให้รองรับเอง ซึ่งอาจต้องใช้เวลา

    ✅ ปัญหาสำคัญของ Switch 2 คือราคาและค่าตัวเกม
    - ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $450 ซึ่งสูงกว่ารุ่นแรกมาก
    - เกมใหม่มีราคาสูงถึง $70-80 ทำให้แฟน ๆ กังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพในการเล่นเกม

    https://www.techspot.com/news/107410-nvidia-claims-10x-graphical-performance-switch-2-over.html
    Nintendo Switch 2 ใช้ชิปกราฟิกของ Nvidia ที่รองรับ DLSS และ Ray Tracing ซึ่งช่วยให้ภาพเกมมีคุณภาพดีขึ้น Nvidia เคลมว่าเครื่องรุ่นใหม่มีพลังกราฟิกแรงกว่ารุ่นก่อนถึง 10 เท่า อย่างไรก็ตาม ผู้พัฒนาเกมต้องปรับให้รองรับเอง และอาจใช้เวลาพอสมควร นอกจากนี้ ราคาตัวเครื่องและเกมที่แพงขึ้น อาจทำให้แฟน ๆ ลังเลที่จะอัปเกรด ✅ Nintendo ไม่เปิดเผยสเปคของชิปโดยละเอียด - เปิดเผยเพียงว่า รองรับ 120fps บนเครื่อง และ 4K 60fps บนจอทีวี ✅ Ray Tracing จะทำให้ภาพเกมสมจริงขึ้น - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ การสะท้อนแสงและเงามีความสมจริง แต่ต้องรอให้เกมต่าง ๆ ใช้งานฟีเจอร์นี้ ✅ DLSS จะช่วยเพิ่มคุณภาพกราฟิกโดยไม่ลดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง - เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเร่งความละเอียดของภาพให้ดีขึ้นโดยใช้ AI Upscaling ✅ Nvidia เคลมว่า Switch 2 มีพลังกราฟิกแรงกว่ารุ่นเดิมถึง 10 เท่า - นี่เป็นเพราะ ชิปกราฟิกใช้ Tensor Cores ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยประมวลผลภาพขั้นสูง ✅ เกม Elden Ring จะเปิดตัวบน Switch 2—ใช้ DLSS และ Ray Tracing - จะเป็นเกมทดสอบความสามารถของเครื่องในด้าน การแสดงผลและเฟรมเรต ✅ ผู้พัฒนาเกมอาจไม่ใช้ฟีเจอร์ใหม่ทันที - แม้ Switch 2 รองรับ DLSS และ Ray Tracing แต่ผู้พัฒนาต้องปรับเกมให้รองรับเอง ซึ่งอาจต้องใช้เวลา ✅ ปัญหาสำคัญของ Switch 2 คือราคาและค่าตัวเกม - ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $450 ซึ่งสูงกว่ารุ่นแรกมาก - เกมใหม่มีราคาสูงถึง $70-80 ทำให้แฟน ๆ กังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพในการเล่นเกม https://www.techspot.com/news/107410-nvidia-claims-10x-graphical-performance-switch-2-over.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia claims 10x graphics performance boost on Switch 2, with DLSS and ray tracing support
    Nvidia has posted a blog highlighting the features offered by their hardware powering the Switch 2 beyond the information Nintendo provided. Among them is ray tracing support.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • Wikipedia กำลังเผชิญปัญหาทราฟฟิกสูงจาก AI Scraper ที่ดูดข้อมูลมหาศาลไปใช้ฝึกโมเดล โดย Wikimedia Commons ซึ่งเก็บสื่อกว่า 144 ล้านไฟล์ ได้รับผลกระทบหนัก แบนด์วิดท์เพิ่มขึ้นถึง 50% ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานหนัก Wikimedia เคยเจอปัญหานี้ตอน Jimmy Carter เสียชีวิต และมีผู้ใช้เข้าชมหน้า Wikipedia อย่างล้นหลาม ขณะนี้มีแผน สร้าง API เฉพาะ เพื่อควบคุมการเข้าถึงของ AI Bots และลดภาระเซิร์ฟเวอร์

    ✅ AI Scraper ส่งผลให้การดาวน์โหลดสื่อจาก Wikimedia Commons เพิ่มขึ้น 50%
    - Wikimedia Commons มีไฟล์ กว่า 144 ล้านรายการ เช่น รูปภาพ, วิดีโอ และเอกสาร ที่เผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะ
    - แต่ตอนนี้ AI Bots กำลัง ดึงข้อมูลมหาศาล ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานของ Wikimedia ทำงานหนัก

    ✅ Wikipedia เคยได้รับผลกระทบจากปริมาณผู้ใช้สูง—กรณี Jimmy Carter เสียชีวิต
    - เมื่อ Jimmy Carter อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสียชีวิตในเดือนธันวาคม 2024 ผู้ใช้กว่า 2.8 ล้านคน เข้าดูหน้า Wikipedia ของเขา
    - นอกจากนี้ยังมีการ สตรีมวิดีโอการโต้วาทีของเขากับ Ronald Reagan นาน 1.5 ชั่วโมง ทำให้เกิดปัญหาการเชื่อมต่อชั่วคราว

    ✅ อย่างน้อย 65% ของทราฟฟิกที่ใช้ทรัพยากรมากสุดมาจาก AI Bots
    - Wikimedia พบว่า AI Bots ผ่านแคชและเข้าถึงศูนย์ข้อมูลหลักโดยตรง
    - ระบบต้องรับมือกับ การโหลดข้อมูลที่มากผิดปกติ จากการฝึก AI

    ✅ Wikimedia วางแผนสร้าง API เฉพาะเพื่อลดภาระเซิร์ฟเวอร์
    - จะมีการทำงานร่วมกับผู้พัฒนา AI เพื่อกำหนดแนวทางการเข้าถึงข้อมูลที่สมดุล
    - หวังว่า API เฉพาะจะช่วยให้สามารถตรวจจับและควบคุม "ผู้ใช้ที่ไม่หวังดี" ได้ดีขึ้น

    https://www.techspot.com/news/107407-wikipedia-servers-struggling-under-pressure-ai-scraping-bots.html
    Wikipedia กำลังเผชิญปัญหาทราฟฟิกสูงจาก AI Scraper ที่ดูดข้อมูลมหาศาลไปใช้ฝึกโมเดล โดย Wikimedia Commons ซึ่งเก็บสื่อกว่า 144 ล้านไฟล์ ได้รับผลกระทบหนัก แบนด์วิดท์เพิ่มขึ้นถึง 50% ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานหนัก Wikimedia เคยเจอปัญหานี้ตอน Jimmy Carter เสียชีวิต และมีผู้ใช้เข้าชมหน้า Wikipedia อย่างล้นหลาม ขณะนี้มีแผน สร้าง API เฉพาะ เพื่อควบคุมการเข้าถึงของ AI Bots และลดภาระเซิร์ฟเวอร์ ✅ AI Scraper ส่งผลให้การดาวน์โหลดสื่อจาก Wikimedia Commons เพิ่มขึ้น 50% - Wikimedia Commons มีไฟล์ กว่า 144 ล้านรายการ เช่น รูปภาพ, วิดีโอ และเอกสาร ที่เผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะ - แต่ตอนนี้ AI Bots กำลัง ดึงข้อมูลมหาศาล ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานของ Wikimedia ทำงานหนัก ✅ Wikipedia เคยได้รับผลกระทบจากปริมาณผู้ใช้สูง—กรณี Jimmy Carter เสียชีวิต - เมื่อ Jimmy Carter อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสียชีวิตในเดือนธันวาคม 2024 ผู้ใช้กว่า 2.8 ล้านคน เข้าดูหน้า Wikipedia ของเขา - นอกจากนี้ยังมีการ สตรีมวิดีโอการโต้วาทีของเขากับ Ronald Reagan นาน 1.5 ชั่วโมง ทำให้เกิดปัญหาการเชื่อมต่อชั่วคราว ✅ อย่างน้อย 65% ของทราฟฟิกที่ใช้ทรัพยากรมากสุดมาจาก AI Bots - Wikimedia พบว่า AI Bots ผ่านแคชและเข้าถึงศูนย์ข้อมูลหลักโดยตรง - ระบบต้องรับมือกับ การโหลดข้อมูลที่มากผิดปกติ จากการฝึก AI ✅ Wikimedia วางแผนสร้าง API เฉพาะเพื่อลดภาระเซิร์ฟเวอร์ - จะมีการทำงานร่วมกับผู้พัฒนา AI เพื่อกำหนดแนวทางการเข้าถึงข้อมูลที่สมดุล - หวังว่า API เฉพาะจะช่วยให้สามารถตรวจจับและควบคุม "ผู้ใช้ที่ไม่หวังดี" ได้ดีขึ้น https://www.techspot.com/news/107407-wikipedia-servers-struggling-under-pressure-ai-scraping-bots.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Wikipedia servers are struggling under pressure from AI scraping bots
    The Wikimedia Foundation, the nonprofit organization hosting Wikipedia and other widely popular websites, is raising concerns about AI scraper bots and their impact on the foundation's internet...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • ReactOS เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อเข้ากันได้กับ Windows โดยไม่มีโค้ดของ Microsoft หลังจาก 26 ปีของการพัฒนา ล่าสุดได้เปิดตัว ReactOS 0.4.15 ซึ่งมีการปรับปรุงสำคัญ เช่น Plug and Play และเสียง อย่างไรก็ตาม ระบบยังคงอยู่ใน สถานะ Alpha และเป้าหมายปัจจุบันคือ Windows Server 2003 ในอนาคตอาจรองรับ UEFI, NTFS และระบบพลังงานที่ดีขึ้น

    ✅ ReactOS คืออะไร?
    - เป็น ระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยไม่มีโค้ดของ Microsoft
    - เป้าหมายคือ ให้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ของ Windows ได้
    - ใช้โครงสร้าง Windows NT แต่พัฒนาขึ้นเอง

    ✅ เป้าหมายการเข้ากันได้—Windows Server 2003
    - ReactOS ปัจจุบันยังคง พยายามเข้ากันได้กับ Windows Server 2003
    - สามารถใช้งาน LibreOffice, Firefox และ Adobe Photoshop รุ่นเก่าได้
    - ใช้ส่วนประกอบจาก โครงการ Wine และสามารถ บูตระบบ Linux 64-bit ผ่าน Freeloader utility

    ✅ การอัปเดตครั้งใหญ่ในเวอร์ชัน 0.4.15
    - ปรับปรุงระบบ Plug and Play และเสียง
    - เพิ่มความสามารถในการจัดการหน่วยความจำและแก้ไขปัญหา Registry
    - ปรับปรุงเครื่องมือพื้นฐาน เช่น Notepad, Paint และ RAPPS

    ✅ ReactOS ยังอยู่ในช่วง Alpha และอาจใช้เวลานานกว่าจะสมบูรณ์
    - แม้ว่าจะพัฒนามากว่า 26 ปี แต่ ReactOS ยังอยู่ในสถานะ Alpha
    - ผู้ใช้ที่สนใจสามารถลอง ใช้งานผ่าน VirtualBox เพื่อดูพัฒนาการของระบบ

    ✅ ฟีเจอร์ที่วางแผนสำหรับอัปเดตถัดไป
    - รองรับ UEFI
    - ตัวติดตั้งแบบกราฟิกใหม่
    - ระบบไฟล์ NTFS และ Symmetric Multiprocessing (SMP)
    - การจัดการพลังงานและรองรับแอปพลิเคชันที่หลากหลายขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/free-microsoft-windows-rival-gets-first-major-update-in-four-years-but-is-it-already-too-little-too-late
    ReactOS เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อเข้ากันได้กับ Windows โดยไม่มีโค้ดของ Microsoft หลังจาก 26 ปีของการพัฒนา ล่าสุดได้เปิดตัว ReactOS 0.4.15 ซึ่งมีการปรับปรุงสำคัญ เช่น Plug and Play และเสียง อย่างไรก็ตาม ระบบยังคงอยู่ใน สถานะ Alpha และเป้าหมายปัจจุบันคือ Windows Server 2003 ในอนาคตอาจรองรับ UEFI, NTFS และระบบพลังงานที่ดีขึ้น ✅ ReactOS คืออะไร? - เป็น ระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยไม่มีโค้ดของ Microsoft - เป้าหมายคือ ให้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ของ Windows ได้ - ใช้โครงสร้าง Windows NT แต่พัฒนาขึ้นเอง ✅ เป้าหมายการเข้ากันได้—Windows Server 2003 - ReactOS ปัจจุบันยังคง พยายามเข้ากันได้กับ Windows Server 2003 - สามารถใช้งาน LibreOffice, Firefox และ Adobe Photoshop รุ่นเก่าได้ - ใช้ส่วนประกอบจาก โครงการ Wine และสามารถ บูตระบบ Linux 64-bit ผ่าน Freeloader utility ✅ การอัปเดตครั้งใหญ่ในเวอร์ชัน 0.4.15 - ปรับปรุงระบบ Plug and Play และเสียง - เพิ่มความสามารถในการจัดการหน่วยความจำและแก้ไขปัญหา Registry - ปรับปรุงเครื่องมือพื้นฐาน เช่น Notepad, Paint และ RAPPS ✅ ReactOS ยังอยู่ในช่วง Alpha และอาจใช้เวลานานกว่าจะสมบูรณ์ - แม้ว่าจะพัฒนามากว่า 26 ปี แต่ ReactOS ยังอยู่ในสถานะ Alpha - ผู้ใช้ที่สนใจสามารถลอง ใช้งานผ่าน VirtualBox เพื่อดูพัฒนาการของระบบ ✅ ฟีเจอร์ที่วางแผนสำหรับอัปเดตถัดไป - รองรับ UEFI - ตัวติดตั้งแบบกราฟิกใหม่ - ระบบไฟล์ NTFS และ Symmetric Multiprocessing (SMP) - การจัดการพลังงานและรองรับแอปพลิเคชันที่หลากหลายขึ้น https://www.techradar.com/pro/free-microsoft-windows-rival-gets-first-major-update-in-four-years-but-is-it-already-too-little-too-late
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • Coolify เปิดตัว Holo Fans พัดลม PC แบบโฮโลแกรมที่นำเสนอเอฟเฟกต์แสงเหนือกว่า RGB แบบเดิม ใช้ LED 96 ดวง เพื่อสร้างภาพโฮโลแกรมแบบหมุน ผู้ใช้สามารถ อัปโหลดโลโก้, แอนิเมชัน และแจ้งเตือนระบบผ่าน Wi-Fi พัดลมมีความเร็วสูงสุด 2,600 RPM และรองรับ ระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง วางจำหน่ายแล้วในราคา $45.99 ต่อชิ้น ซึ่งอาจมีปัญหาสินค้าขาดตลาดในช่วงแรก

    ✅ Holo Fans ใช้ LED 96 ดวงเพื่อสร้างภาพลอยตัว
    - LED เหล่านี้ หมุนเป็นวงกลมและประมวลผลภาพโฮโลแกรมแบบเรียลไทม์
    - ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้แสดง โลโก้ส่วนตัว, กราฟิกเกม หรือระบบแจ้งเตือนต่าง ๆ

    ✅ รองรับการซิงโครไนซ์กับข้อมูลระบบ PC
    - ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ ภาพโฮโลแกรมแสดงสถานะ CPU, อุณหภูมิเครื่อง และความเร็วรอบพัดลม
    - สามารถแจ้งเตือนเหตุการณ์ เช่น อุณหภูมิเครื่องสูงผิดปกติ หรือการใช้ทรัพยากรหนัก

    ✅ มีให้เลือกทั้งขนาด 120mm และ 140mm พร้อมระบบควบคุมแยก
    - Holo Fans มาพร้อม คอนโทรลเลอร์แยกสำหรับจัดการเอฟเฟกต์แสงและแอนิเมชัน
    - ผู้ใช้สามารถ อัปโหลดภาพผ่าน Wi-Fi ด้วยแอปบนสมาร์ทโฟน

    ✅ ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ทรงพลัง
    - ความเร็วพัดลมสูงสุด 2,600 RPM
    - อัตราการไหลเวียนอากาศ 52 CFM และแรงดันอากาศ 2.75 mmH2O
    - ระดับเสียง 33 dB(A) เหมาะสำหรับทั้งเกมเมอร์และมืออาชีพ

    ✅ ราคาและการวางจำหน่าย
    - เปิดตัวครั้งแรกในงาน Computex 2024 และวางจำหน่ายแล้วในราคา $45.99 ต่อชิ้น
    - เนื่องจากมีความต้องการสูง อาจเกิดภาวะสินค้าขาดตลาดในช่วงต้นปี 2025

    https://www.techspot.com/news/107383-coolify-holo-fans-bring-animated-holograms-gaming-rigs.html
    Coolify เปิดตัว Holo Fans พัดลม PC แบบโฮโลแกรมที่นำเสนอเอฟเฟกต์แสงเหนือกว่า RGB แบบเดิม ใช้ LED 96 ดวง เพื่อสร้างภาพโฮโลแกรมแบบหมุน ผู้ใช้สามารถ อัปโหลดโลโก้, แอนิเมชัน และแจ้งเตือนระบบผ่าน Wi-Fi พัดลมมีความเร็วสูงสุด 2,600 RPM และรองรับ ระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง วางจำหน่ายแล้วในราคา $45.99 ต่อชิ้น ซึ่งอาจมีปัญหาสินค้าขาดตลาดในช่วงแรก ✅ Holo Fans ใช้ LED 96 ดวงเพื่อสร้างภาพลอยตัว - LED เหล่านี้ หมุนเป็นวงกลมและประมวลผลภาพโฮโลแกรมแบบเรียลไทม์ - ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้แสดง โลโก้ส่วนตัว, กราฟิกเกม หรือระบบแจ้งเตือนต่าง ๆ ✅ รองรับการซิงโครไนซ์กับข้อมูลระบบ PC - ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ ภาพโฮโลแกรมแสดงสถานะ CPU, อุณหภูมิเครื่อง และความเร็วรอบพัดลม - สามารถแจ้งเตือนเหตุการณ์ เช่น อุณหภูมิเครื่องสูงผิดปกติ หรือการใช้ทรัพยากรหนัก ✅ มีให้เลือกทั้งขนาด 120mm และ 140mm พร้อมระบบควบคุมแยก - Holo Fans มาพร้อม คอนโทรลเลอร์แยกสำหรับจัดการเอฟเฟกต์แสงและแอนิเมชัน - ผู้ใช้สามารถ อัปโหลดภาพผ่าน Wi-Fi ด้วยแอปบนสมาร์ทโฟน ✅ ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ทรงพลัง - ความเร็วพัดลมสูงสุด 2,600 RPM - อัตราการไหลเวียนอากาศ 52 CFM และแรงดันอากาศ 2.75 mmH2O - ระดับเสียง 33 dB(A) เหมาะสำหรับทั้งเกมเมอร์และมืออาชีพ ✅ ราคาและการวางจำหน่าย - เปิดตัวครั้งแรกในงาน Computex 2024 และวางจำหน่ายแล้วในราคา $45.99 ต่อชิ้น - เนื่องจากมีความต้องการสูง อาจเกิดภาวะสินค้าขาดตลาดในช่วงต้นปี 2025 https://www.techspot.com/news/107383-coolify-holo-fans-bring-animated-holograms-gaming-rigs.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Holographic PC fans are here, and RGB may never look the same
    Coolify, a company specializing in PC customization, has developed a product that integrates holographic displays into desktop setups, potentially transforming the aesthetics of personal computing. The Holo...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ฉลองครบรอบ 49 ปี จากบริษัทเล็ก ๆ ในโรงรถจนกลายเป็นแบรนด์ระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมาตลอดหลายทศวรรษ Macintosh และ iPhone เป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อการใช้คอมพิวเตอร์และมือถือ ขณะที่ระบบนิเวศของ Apple ทำให้ทุกอุปกรณ์ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว ล่าสุด Apple มุ่งหน้าสู่เทคโนโลยี AR และชิปเซ็ตที่พัฒนาเอง ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในอนาคต

    ✅ Apple I จุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนวงการคอมพิวเตอร์
    - Steve Jobs และ Steve Wozniak สร้าง Apple I ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ท้าทายแนวคิดเดิมของวงการเทคโนโลยี

    ✅ Macintosh—GUI ที่นำไปสู่ยุคใหม่ของคอมพิวเตอร์
    - Macintosh ทำให้ การใช้งานคอมพิวเตอร์ง่ายขึ้น ด้วย กราฟิกอินเทอร์เฟซ (GUI) ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรม

    ✅ iPod และ iPhone ปฏิวัติวิธีการฟังเพลงและสื่อสาร
    - iPod ทำให้การพกพาเพลงเป็นเรื่องง่ายด้วยแนวคิด "1000 เพลงในกระเป๋า"
    - iPhone เปิดตัวในปี 2007 และกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่เปลี่ยนแปลงวิธีการใช้โทรศัพท์มือถือ ทั้งด้านการถ่ายภาพ, แอปพลิเคชัน และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

    ✅ Apple สร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบ
    - ระบบปฏิบัติการ iOS, macOS, watchOS, visionOS และ iPadOS ทำให้ทุกอุปกรณ์สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
    - เปิดตัวบริการ Apple Music, iCloud, Apple TV+ และ Apple News เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ในหลายด้าน

    ✅ Apple พัฒนาเทคโนโลยีของตนเองแทนการพึ่งพาซัพพลายเออร์
    - เปิดตัวชิป M-series ที่ให้ประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานน้อย
    - เปิดตัว C1 Modem เพื่อลดการพึ่งพาชิปสื่อสารจากผู้ผลิตภายนอก

    ✅ Vision Pro—ก้าวเข้าสู่เทคโนโลยี AR และอนาคตของคอมพิวเตอร์
    - Apple เปิดตัว Vision Pro ซึ่งเป็นอุปกรณ์ AR ที่แสดงถึงศักยภาพของเทคโนโลยีในอนาคต
    - นักวิเคราะห์มองว่า Apple อาจนำ AR มาใช้ในผลิตภัณฑ์อีกหลายตัว

    https://wccftech.com/apple-turns-49-today-innovation-and-vision/
    Apple ฉลองครบรอบ 49 ปี จากบริษัทเล็ก ๆ ในโรงรถจนกลายเป็นแบรนด์ระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมาตลอดหลายทศวรรษ Macintosh และ iPhone เป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อการใช้คอมพิวเตอร์และมือถือ ขณะที่ระบบนิเวศของ Apple ทำให้ทุกอุปกรณ์ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว ล่าสุด Apple มุ่งหน้าสู่เทคโนโลยี AR และชิปเซ็ตที่พัฒนาเอง ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในอนาคต ✅ Apple I จุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนวงการคอมพิวเตอร์ - Steve Jobs และ Steve Wozniak สร้าง Apple I ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ท้าทายแนวคิดเดิมของวงการเทคโนโลยี ✅ Macintosh—GUI ที่นำไปสู่ยุคใหม่ของคอมพิวเตอร์ - Macintosh ทำให้ การใช้งานคอมพิวเตอร์ง่ายขึ้น ด้วย กราฟิกอินเทอร์เฟซ (GUI) ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรม ✅ iPod และ iPhone ปฏิวัติวิธีการฟังเพลงและสื่อสาร - iPod ทำให้การพกพาเพลงเป็นเรื่องง่ายด้วยแนวคิด "1000 เพลงในกระเป๋า" - iPhone เปิดตัวในปี 2007 และกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่เปลี่ยนแปลงวิธีการใช้โทรศัพท์มือถือ ทั้งด้านการถ่ายภาพ, แอปพลิเคชัน และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ✅ Apple สร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบ - ระบบปฏิบัติการ iOS, macOS, watchOS, visionOS และ iPadOS ทำให้ทุกอุปกรณ์สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น - เปิดตัวบริการ Apple Music, iCloud, Apple TV+ และ Apple News เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ในหลายด้าน ✅ Apple พัฒนาเทคโนโลยีของตนเองแทนการพึ่งพาซัพพลายเออร์ - เปิดตัวชิป M-series ที่ให้ประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานน้อย - เปิดตัว C1 Modem เพื่อลดการพึ่งพาชิปสื่อสารจากผู้ผลิตภายนอก ✅ Vision Pro—ก้าวเข้าสู่เทคโนโลยี AR และอนาคตของคอมพิวเตอร์ - Apple เปิดตัว Vision Pro ซึ่งเป็นอุปกรณ์ AR ที่แสดงถึงศักยภาพของเทคโนโลยีในอนาคต - นักวิเคราะห์มองว่า Apple อาจนำ AR มาใช้ในผลิตภัณฑ์อีกหลายตัว https://wccftech.com/apple-turns-49-today-innovation-and-vision/
    WCCFTECH.COM
    From A Small Garage To A Global Icon, Apple Turns 49 Today, Changing The Tech World Forever With Its Vision, Innovation, And Unstoppable Momentum
    Apple turns 49 today, and it has changed the entire world as we know it in terms of innovation, design, and the relentless pursuit of excellence.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังนำ Ryzen AI Max มาสู่เดสก์ท็อป โดยใช้ iGPU ที่แรงพอสำหรับเกม AAA ที่ 1440p โดยไม่ต้องใช้การ์ดจอแยก หากเทคโนโลยีนี้พัฒนาไปเรื่อย ๆ อาจทำให้ตลาด GPU ระดับกลางค่อย ๆ ลดลง และหันไปเน้นที่ตลาดไฮเอนด์แทน

    ศักยภาพของ Ryzen AI Max+ 395
    - ใช้ Radeon 8060S iGPU ที่มี 40 RDNA 3.5 GPU cores
    - มาพร้อม 16 คอร์ และ 32 เธรด สามารถรันเกมที่ 1440p ด้วยกราฟิกระดับ Ultra และเฟรมเรต 55-60fps ใน Cyberpunk 2077

    เทคโนโลยี FSR 4 อาจมาเสริม RDNA 3
    - ปัจจุบัน FSR 4 รองรับเฉพาะ RDNA 4 แต่มีข่าวว่าอาจถูกนำมาใช้กับ APU RDNA 3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การเล่นเกมโดยไม่ต้องใช้ GPU แยก

    ผลกระทบต่อการ์ดจอแยก
    - ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น APU อาจทำให้การ์ดจอระดับกลางเริ่มสูญเสียความจำเป็น
    - นักวิเคราะห์คาดว่า ตลาด GPU อาจเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบที่เน้นเฉพาะกลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น

    APU กับอนาคตของพีซีขนาดเล็ก
    - APU ทรงพลังอาจเหมาะกับ Mini-PC และ Handheld Gaming PC
    - อาจเป็นทางเลือกใหม่แทนพีซีแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้การ์ดจอแยก

    https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/amds-powerful-ryzen-ai-max-processors-are-on-their-way-to-desktop-pcs-and-a-side-effect-could-kill-off-discrete-gpus-for-gaming
    AMD กำลังนำ Ryzen AI Max มาสู่เดสก์ท็อป โดยใช้ iGPU ที่แรงพอสำหรับเกม AAA ที่ 1440p โดยไม่ต้องใช้การ์ดจอแยก หากเทคโนโลยีนี้พัฒนาไปเรื่อย ๆ อาจทำให้ตลาด GPU ระดับกลางค่อย ๆ ลดลง และหันไปเน้นที่ตลาดไฮเอนด์แทน ศักยภาพของ Ryzen AI Max+ 395 - ใช้ Radeon 8060S iGPU ที่มี 40 RDNA 3.5 GPU cores - มาพร้อม 16 คอร์ และ 32 เธรด สามารถรันเกมที่ 1440p ด้วยกราฟิกระดับ Ultra และเฟรมเรต 55-60fps ใน Cyberpunk 2077 เทคโนโลยี FSR 4 อาจมาเสริม RDNA 3 - ปัจจุบัน FSR 4 รองรับเฉพาะ RDNA 4 แต่มีข่าวว่าอาจถูกนำมาใช้กับ APU RDNA 3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การเล่นเกมโดยไม่ต้องใช้ GPU แยก ผลกระทบต่อการ์ดจอแยก - ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น APU อาจทำให้การ์ดจอระดับกลางเริ่มสูญเสียความจำเป็น - นักวิเคราะห์คาดว่า ตลาด GPU อาจเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบที่เน้นเฉพาะกลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น APU กับอนาคตของพีซีขนาดเล็ก - APU ทรงพลังอาจเหมาะกับ Mini-PC และ Handheld Gaming PC - อาจเป็นทางเลือกใหม่แทนพีซีแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้การ์ดจอแยก https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/amds-powerful-ryzen-ai-max-processors-are-on-their-way-to-desktop-pcs-and-a-side-effect-could-kill-off-discrete-gpus-for-gaming
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปักชำกิ่งฟิก (มะเดื่อฝรั่ง) แบบง่ายๆ #ไตรโคบิวพลัส #fruit #ฟิก #มะเดื่อฝรั่ง #ปักชำ
    ปักชำกิ่งฟิก (มะเดื่อฝรั่ง) แบบง่ายๆ #ไตรโคบิวพลัส #fruit #ฟิก #มะเดื่อฝรั่ง #ปักชำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สถานการณ์ของสงครามการค้าโลกในปัจจุบันยังคงมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยมีทั้งแนวโน้มที่ดีขึ้นและความท้าทายที่ยังคงอยู่ ดังนี้

    ### 1. **แนวโน้มที่ดีขึ้น**
    - **การลดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน**:
    แม้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะยังไม่สิ้นสุด แต่ทั้งสองฝ่ายเริ่มหันมาเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีเพิ่มเติม เช่น การยกเลิกภาษีบางส่วนในสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การประชุมระดับสูงระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศในช่วงปลายปี 2022-2023 ช่วยฟื้นฟูช่องทางการสื่อสาร แม้จะยังไม่มีการแก้ไขข้อพิพาทหลัก เช่น ปัญหาไต้หวันหรือการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง

    - **ความร่วมมือระดับภูมิภาค**:
    ความตกลงทางการค้าในรูปแบบภูมิภาคขยายตัว เช่น **RCEP** (ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค) ในเอเชีย-แปซิฟิก และ **AfCFTA** (เขตการค้าเสรีทวีปแอฟริกา) ซึ่งช่วยกระตุ้นการค้าภายในภูมิภาค แทนการพึ่งพาตลาดโลกเพียงอย่างเดียว

    - **นโยบายการค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม**:
    หลายประเทศเริ่มผนวกเป้าหมายสิ่งแวดล้อมเข้ากับนโยบายการค้า เช่น สหภาพยุโรป推行 **CBAM** (มาตรการปรับคาร์บอนชายแดน) เพื่อส่งเสริมการผลิตที่ยั่งยืน แม้อาจก่อความขัดแย้งใหม่ แต่ก็เป็นโอกาสในการสร้างมาตรฐานสากลร่วมกัน

    ---

    ### 2. **ความท้าทายที่ยังคงอยู่**
    - **การแข่งขันทางเทคโนโลยีและการแยกห่วงโซ่อุปทาน**:
    สหรัฐฯ ยังคงจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง (เช่น ชิปเซมิคอนดักเตอร์) ไปยังจีน ขณะที่จีนพยายามสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีของตนเอง (เช่น การพัฒนาชิปด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตรของ Huawei) ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานโลกแตกออกเป็น "สองขั้ว" (Tech Decoupling)

    - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**:
    สงครามยูเครน-รัสเซียและความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ยังส่งผลต่อความมั่นคงด้านพลังงานและเส้นทางการค้า รวมถึงกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ หันมาเก็บกักเสบียงอาหารและทรัพยากร стратеติกมากขึ้น

    - **ความอ่อนแอของระบบพหุภาคี**:
    องค์การการค้าโลก (WTO) ยังไม่สามารถปฏิรูปกลไกระงับข้อพิพาท (Dispute Settlement Body) ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ขาดกลไกกลางในการจัดการความขัดแย้งทางการค้า

    ---

    ### 3. **ทิศทางในอนาคต**
    - **เศรษฐกิจโลกอาจแบ่งเป็น "บล็อก"**:
    การค้าโลกกำลังเคลื่อนไปสู่รูปแบบ "friend-shoring" (การผลิตในประเทศพันธมิตร) และ "near-shoring" (การผลิตในประเทศใกล้เคียง) เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่เพิ่มความยืดหยุ่นให้ห่วงโซ่อุปทาน

    - **การค้าดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว**:
    การเติบโตของการค้าอิเล็กทรอนิกส์และมาตรการลดคาร์บอนจะเป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ของระบบการค้าโลก แม้อาจก่อให้เกิดข้อพิพาทเรื่องกฎระเบียบระหว่างประเทศ

    ---

    ### สรุป
    สถานการณ์สงครามการค้าโลกมีทั้งพัฒนาการในทางที่ดี เช่น การเจรจาเพื่อลดความขัดแย้งและการขยายความร่วมมือระดับภูมิภาค แต่ก็ยังมีแรงกดดันจากความแข่งขันทางเทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ และการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานโลก ซึ่งอาจทำให้การค้าโลกไม่กลับสู่รูปแบบเดิมอีกต่อไป แต่ปรับตัวสู่ระบบที่ "แบ่งกลุ่มแต่เชื่อมโยง" มากขึ้นภายใต้ความไม่แน่นอนสูง
    สถานการณ์ของสงครามการค้าโลกในปัจจุบันยังคงมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยมีทั้งแนวโน้มที่ดีขึ้นและความท้าทายที่ยังคงอยู่ ดังนี้ ### 1. **แนวโน้มที่ดีขึ้น** - **การลดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน**: แม้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะยังไม่สิ้นสุด แต่ทั้งสองฝ่ายเริ่มหันมาเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีเพิ่มเติม เช่น การยกเลิกภาษีบางส่วนในสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การประชุมระดับสูงระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศในช่วงปลายปี 2022-2023 ช่วยฟื้นฟูช่องทางการสื่อสาร แม้จะยังไม่มีการแก้ไขข้อพิพาทหลัก เช่น ปัญหาไต้หวันหรือการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง - **ความร่วมมือระดับภูมิภาค**: ความตกลงทางการค้าในรูปแบบภูมิภาคขยายตัว เช่น **RCEP** (ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค) ในเอเชีย-แปซิฟิก และ **AfCFTA** (เขตการค้าเสรีทวีปแอฟริกา) ซึ่งช่วยกระตุ้นการค้าภายในภูมิภาค แทนการพึ่งพาตลาดโลกเพียงอย่างเดียว - **นโยบายการค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม**: หลายประเทศเริ่มผนวกเป้าหมายสิ่งแวดล้อมเข้ากับนโยบายการค้า เช่น สหภาพยุโรป推行 **CBAM** (มาตรการปรับคาร์บอนชายแดน) เพื่อส่งเสริมการผลิตที่ยั่งยืน แม้อาจก่อความขัดแย้งใหม่ แต่ก็เป็นโอกาสในการสร้างมาตรฐานสากลร่วมกัน --- ### 2. **ความท้าทายที่ยังคงอยู่** - **การแข่งขันทางเทคโนโลยีและการแยกห่วงโซ่อุปทาน**: สหรัฐฯ ยังคงจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง (เช่น ชิปเซมิคอนดักเตอร์) ไปยังจีน ขณะที่จีนพยายามสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีของตนเอง (เช่น การพัฒนาชิปด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตรของ Huawei) ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานโลกแตกออกเป็น "สองขั้ว" (Tech Decoupling) - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**: สงครามยูเครน-รัสเซียและความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ยังส่งผลต่อความมั่นคงด้านพลังงานและเส้นทางการค้า รวมถึงกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ หันมาเก็บกักเสบียงอาหารและทรัพยากร стратеติกมากขึ้น - **ความอ่อนแอของระบบพหุภาคี**: องค์การการค้าโลก (WTO) ยังไม่สามารถปฏิรูปกลไกระงับข้อพิพาท (Dispute Settlement Body) ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ขาดกลไกกลางในการจัดการความขัดแย้งทางการค้า --- ### 3. **ทิศทางในอนาคต** - **เศรษฐกิจโลกอาจแบ่งเป็น "บล็อก"**: การค้าโลกกำลังเคลื่อนไปสู่รูปแบบ "friend-shoring" (การผลิตในประเทศพันธมิตร) และ "near-shoring" (การผลิตในประเทศใกล้เคียง) เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่เพิ่มความยืดหยุ่นให้ห่วงโซ่อุปทาน - **การค้าดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว**: การเติบโตของการค้าอิเล็กทรอนิกส์และมาตรการลดคาร์บอนจะเป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ของระบบการค้าโลก แม้อาจก่อให้เกิดข้อพิพาทเรื่องกฎระเบียบระหว่างประเทศ --- ### สรุป สถานการณ์สงครามการค้าโลกมีทั้งพัฒนาการในทางที่ดี เช่น การเจรจาเพื่อลดความขัดแย้งและการขยายความร่วมมือระดับภูมิภาค แต่ก็ยังมีแรงกดดันจากความแข่งขันทางเทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ และการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานโลก ซึ่งอาจทำให้การค้าโลกไม่กลับสู่รูปแบบเดิมอีกต่อไป แต่ปรับตัวสู่ระบบที่ "แบ่งกลุ่มแต่เชื่อมโยง" มากขึ้นภายใต้ความไม่แน่นอนสูง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 480 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G APUs รุ่นใหม่ในปลายปี 2025 ด้วยการออกแบบ Zen 5 และ RDNA 3.5 ที่ปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพ พร้อมรองรับ AI และ DDR5 ความคาดหวังใหม่ทำให้ชิปนี้กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับตลาดเดสก์ท็อปที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    การพัฒนาในรุ่น Strix Point และ Krackan Point:
    - Strix Point เน้นการรวม Zen 5 cores และ Zen 5c cores ในโครงสร้างแบบ hybrid พร้อมกราฟิก iGPU Radeon 890M ที่มี Compute Unit ถึง 16 หน่วย เหมาะสำหรับเกม 1080p และการทำงาน AI.
    - Krackan Point ใช้ Zen 5 ในกลุ่มกลาง ลดขนาดลงเหลือ 8 cores และมี iGPU Radeon 860M ที่มี 8 Compute Unit.

    การสนับสนุน AI และ DDR5:
    - Ryzen 9000G ติดตั้ง XDNA 2 NPU ที่มอบประสิทธิภาพ AI สูงถึง 50 TOPS และการสนับสนุน DDR5 ที่ช่วยปรับปรุงความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและประสิทธิภาพโดยรวม.

    อนาคตของ Zen 5 และ Zen 6:
    - Ryzen 9000G จะเป็นรุ่นสุดท้ายของ Zen 5 ก่อนที่ AMD จะเปิดตัว Zen 6 ในปี 2026 และการพัฒนาชิป AI 400 ที่ต่อยอดจาก Ryzen AI 300.

    ความเป็นไปได้ใหม่ในตลาด:
    - หากการคาดการณ์เป็นจริง Ryzen 9000G อาจกลายเป็นชิป APU แรกที่ได้รับการรับรอง Copilot+ ซึ่งจะเป็นการรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับประสบการณ์การใช้งานเดสก์ท็อปที่มีประสิทธิภาพสูง.

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-ryzen-9000g-apus-rumored-to-launch-in-q4-for-am5-motherboards
    AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G APUs รุ่นใหม่ในปลายปี 2025 ด้วยการออกแบบ Zen 5 และ RDNA 3.5 ที่ปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพ พร้อมรองรับ AI และ DDR5 ความคาดหวังใหม่ทำให้ชิปนี้กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับตลาดเดสก์ท็อปที่ต้องการประสิทธิภาพสูง การพัฒนาในรุ่น Strix Point และ Krackan Point: - Strix Point เน้นการรวม Zen 5 cores และ Zen 5c cores ในโครงสร้างแบบ hybrid พร้อมกราฟิก iGPU Radeon 890M ที่มี Compute Unit ถึง 16 หน่วย เหมาะสำหรับเกม 1080p และการทำงาน AI. - Krackan Point ใช้ Zen 5 ในกลุ่มกลาง ลดขนาดลงเหลือ 8 cores และมี iGPU Radeon 860M ที่มี 8 Compute Unit. การสนับสนุน AI และ DDR5: - Ryzen 9000G ติดตั้ง XDNA 2 NPU ที่มอบประสิทธิภาพ AI สูงถึง 50 TOPS และการสนับสนุน DDR5 ที่ช่วยปรับปรุงความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและประสิทธิภาพโดยรวม. อนาคตของ Zen 5 และ Zen 6: - Ryzen 9000G จะเป็นรุ่นสุดท้ายของ Zen 5 ก่อนที่ AMD จะเปิดตัว Zen 6 ในปี 2026 และการพัฒนาชิป AI 400 ที่ต่อยอดจาก Ryzen AI 300. ความเป็นไปได้ใหม่ในตลาด: - หากการคาดการณ์เป็นจริง Ryzen 9000G อาจกลายเป็นชิป APU แรกที่ได้รับการรับรอง Copilot+ ซึ่งจะเป็นการรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับประสบการณ์การใช้งานเดสก์ท็อปที่มีประสิทธิภาพสูง. https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-ryzen-9000g-apus-rumored-to-launch-in-q4-for-am5-motherboards
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD Ryzen 9000G APUs rumored to launch in Q4 for AM5 motherboards
    Ryzen 9000G can potentially be the first Microsoft Copilot+ certified APUs for desktops.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD อาจนำ FSR 4 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีปรับคุณภาพภาพเกมไปใช้ในเครื่องเล่นเกมพกพาและแล็ปท็อปรุ่นใหม่ผ่าน APU Medusa Point ที่ใช้ RDNA 4 ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความลื่นไหลของภาพและคุณภาพกราฟิก แม้ยังมีการแข่งขันกับเทคโนโลยี DLSS ของ NVIDIA แต่การพัฒนานี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AMD มีโอกาสโดดเด่นในตลาดเกมพกพา

    ความน่าสนใจของ Medusa Point APUs:
    - สถาปัตยกรรม RDNA 4 ของ Medusa Point รองรับ Zen5LP cores ที่เป็นระบบประหยัดพลังงานและหน่วยประมวลผล Navi4 ซึ่งเหมาะสมกับเกมที่ต้องการคุณภาพกราฟิกสูง.

    การใช้งาน FSR 4 ในอนาคต:
    - มีความหวังว่า FSR 4 อาจถูกพัฒนาสำหรับ RDNA 3 ในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้เครื่องที่ใช้ AMD รุ่นก่อนหน้านี้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้.

    เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีคู่แข่ง:
    - FSR 4 ถูกเปรียบเทียบกับเทคโนโลยี DLSS (Deep Learning Super Sampling) ของ NVIDIA โดยเน้นการให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันในโหมด performance และช่วยเพิ่มคุณภาพภาพโดยไม่สูญเสียความลื่นไหล.

    โอกาสและการแข่งขันในตลาด:
    - ความก้าวหน้าของ FSR 4 บน APU จะช่วยให้ AMD แข่งขันกับ NVIDIA และ Intel ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในตลาดเครื่องเล่นเกมพกพาที่มีศักยภาพการเติบโตสูง.

    https://www.techradar.com/computing/cpu/hang-on-handheld-fans-we-could-be-seeing-amds-fsr-4-upscaling-on-new-handhelds-after-all-if-this-new-rdna-4-leak-is-legitimate
    AMD อาจนำ FSR 4 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีปรับคุณภาพภาพเกมไปใช้ในเครื่องเล่นเกมพกพาและแล็ปท็อปรุ่นใหม่ผ่าน APU Medusa Point ที่ใช้ RDNA 4 ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความลื่นไหลของภาพและคุณภาพกราฟิก แม้ยังมีการแข่งขันกับเทคโนโลยี DLSS ของ NVIDIA แต่การพัฒนานี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AMD มีโอกาสโดดเด่นในตลาดเกมพกพา ความน่าสนใจของ Medusa Point APUs: - สถาปัตยกรรม RDNA 4 ของ Medusa Point รองรับ Zen5LP cores ที่เป็นระบบประหยัดพลังงานและหน่วยประมวลผล Navi4 ซึ่งเหมาะสมกับเกมที่ต้องการคุณภาพกราฟิกสูง. การใช้งาน FSR 4 ในอนาคต: - มีความหวังว่า FSR 4 อาจถูกพัฒนาสำหรับ RDNA 3 ในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้เครื่องที่ใช้ AMD รุ่นก่อนหน้านี้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้. เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีคู่แข่ง: - FSR 4 ถูกเปรียบเทียบกับเทคโนโลยี DLSS (Deep Learning Super Sampling) ของ NVIDIA โดยเน้นการให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันในโหมด performance และช่วยเพิ่มคุณภาพภาพโดยไม่สูญเสียความลื่นไหล. โอกาสและการแข่งขันในตลาด: - ความก้าวหน้าของ FSR 4 บน APU จะช่วยให้ AMD แข่งขันกับ NVIDIA และ Intel ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในตลาดเครื่องเล่นเกมพกพาที่มีศักยภาพการเติบโตสูง. https://www.techradar.com/computing/cpu/hang-on-handheld-fans-we-could-be-seeing-amds-fsr-4-upscaling-on-new-handhelds-after-all-if-this-new-rdna-4-leak-is-legitimate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจาก Qualcomm ที่ชื่อ Snapdragon 8 Elite Gen 2 โดยเผยข้อมูลจากแหล่งข่าว Digital Chat Station (DCS) ซึ่งระบุว่าชิปเซ็ตใหม่ใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตร (N3P node process) และจะมาพร้อมกับสถาปัตยกรรม ARMv9 รุ่นล่าสุด โดยนวัตกรรมนี้มุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้เหมาะสมกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์

    การออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่:
    - Snapdragon 8 Elite Gen 2 ใช้โครงสร้าง 2+6 cores ที่ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลหลัก 2 คอร์สำหรับงานหนัก และ 6 คอร์สำหรับงานที่ปรับแต่งประสิทธิภาพให้มีความเหมาะสม.

    การพัฒนา GPU:
    - ชิปนี้จะมาพร้อมกับกราฟิก Adreno 840 iGPU ที่ถูกพัฒนาให้รองรับชุดคำสั่งใหม่ของ ARM เช่น Scalable Matrix Extension 1 (SME 1) และ Scalable Vector Extension 2 (SVE2) ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการประมวลผลกราฟิก.

    ความเร็วและการทดสอบประสิทธิภาพ:
    - คาดว่าชิปนี้จะสามารถทำคะแนนได้สูงกว่า 3.8 ล้านคะแนนใน AnTuTu V10 ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน.

    กำหนดการเปิดตัว:
    - Qualcomm วางแผนเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 2 ในเดือนตุลาคม 2025 ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจากรุ่น Elite รุ่นแรกที่เปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงปีที่ผ่านมา.

    https://www.techpowerup.com/334797/qualcomm-snapdragon-8-elite-gen-2-leak-points-to-adreno-840-igpu-support-of-arms-latest-scalable-instruction-sets
    ข่าวนี้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจาก Qualcomm ที่ชื่อ Snapdragon 8 Elite Gen 2 โดยเผยข้อมูลจากแหล่งข่าว Digital Chat Station (DCS) ซึ่งระบุว่าชิปเซ็ตใหม่ใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตร (N3P node process) และจะมาพร้อมกับสถาปัตยกรรม ARMv9 รุ่นล่าสุด โดยนวัตกรรมนี้มุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้เหมาะสมกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ การออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่: - Snapdragon 8 Elite Gen 2 ใช้โครงสร้าง 2+6 cores ที่ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลหลัก 2 คอร์สำหรับงานหนัก และ 6 คอร์สำหรับงานที่ปรับแต่งประสิทธิภาพให้มีความเหมาะสม. การพัฒนา GPU: - ชิปนี้จะมาพร้อมกับกราฟิก Adreno 840 iGPU ที่ถูกพัฒนาให้รองรับชุดคำสั่งใหม่ของ ARM เช่น Scalable Matrix Extension 1 (SME 1) และ Scalable Vector Extension 2 (SVE2) ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการประมวลผลกราฟิก. ความเร็วและการทดสอบประสิทธิภาพ: - คาดว่าชิปนี้จะสามารถทำคะแนนได้สูงกว่า 3.8 ล้านคะแนนใน AnTuTu V10 ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน. กำหนดการเปิดตัว: - Qualcomm วางแผนเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 2 ในเดือนตุลาคม 2025 ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจากรุ่น Elite รุ่นแรกที่เปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงปีที่ผ่านมา. https://www.techpowerup.com/334797/qualcomm-snapdragon-8-elite-gen-2-leak-points-to-adreno-840-igpu-support-of-arms-latest-scalable-instruction-sets
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Qualcomm "Snapdragon 8 Elite Gen 2" Leak Points to Adreno 840 iGPU & Support of ARM's Latest Scalable Instruction Sets
    Digital Chat Station (DCS)—a tenured leaker of Qualcomm pre-release information—has shared new "Snapdragon 8 Elite Gen 2" chipset details. Earlier today, their Weibo feed was updated with a couple of technological predictions. The announced smartphone chip's "SM8850" identifier was disclosed once ag...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD Radeon RX 9070 XT เผยการออกแบบ PCB ที่มาพร้อมระบบระบายความร้อนขั้นสูง ใช้แผ่นกราฟีนเพิ่มประสิทธิภาพการส่งผ่านความร้อน และรองรับการจ่ายพลังงานที่เสถียร การเปรียบเทียบกับ Sapphire Pulse ยังแสดงถึงความใกล้เคียงในด้านการออกแบบ PCB ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในระดับสูง

    ข้อมูลการออกแบบ PCB:
    - ตัวการ์ดใช้โครงสร้างแบบ 8+3 เฟส VRM สำหรับการจัดการพลังงาน GPU พร้อมคอนโทรลเลอร์ Monolithic Power Systems MP2868A ซึ่งมีความแม่นยำสูง นอกจากนี้ยังใช้วัสดุแผ่นกราฟีนแทนซิลิโคนในการส่งผ่านความร้อน ที่ช่วยเพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพ.

    โซลูชันการระบายความร้อน:
    - กราฟิกการ์ดนี้มาพร้อมท่อความร้อน 5 เส้น พร้อมฐานทองแดงที่ช่วยระบายความร้อนจาก GPU รวมถึงแผงระบายอากาศด้านหลังที่มีดีไซน์เปิด ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศ.

    การเปรียบเทียบกับ Sapphire Pulse:
    - การออกแบบ PCB ของ AMD RX 9070 XT มีความใกล้เคียงกับ Sapphire Pulse RX 9070 XT โดยแสดงถึงความสอดคล้องในโครงสร้าง และการจัดการพลังงาน.

    คุณสมบัติการใช้งาน:
    - กราฟิกการ์ดนี้มีพอร์ตเชื่อมต่อ 4 ช่อง รองรับการแสดงผลแบบหลากหลาย และมาพร้อมกับขั้วพลังงาน PCIe 8-Pin สองจุด เหมาะสำหรับการใช้งานเกมและงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง.

    https://www.techpowerup.com/334777/amd-radeon-rx-9070-xt-reference-pcb-design-revealed-via-leak-compared-to-similar-sapphire-pulse-board
    AMD Radeon RX 9070 XT เผยการออกแบบ PCB ที่มาพร้อมระบบระบายความร้อนขั้นสูง ใช้แผ่นกราฟีนเพิ่มประสิทธิภาพการส่งผ่านความร้อน และรองรับการจ่ายพลังงานที่เสถียร การเปรียบเทียบกับ Sapphire Pulse ยังแสดงถึงความใกล้เคียงในด้านการออกแบบ PCB ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในระดับสูง ข้อมูลการออกแบบ PCB: - ตัวการ์ดใช้โครงสร้างแบบ 8+3 เฟส VRM สำหรับการจัดการพลังงาน GPU พร้อมคอนโทรลเลอร์ Monolithic Power Systems MP2868A ซึ่งมีความแม่นยำสูง นอกจากนี้ยังใช้วัสดุแผ่นกราฟีนแทนซิลิโคนในการส่งผ่านความร้อน ที่ช่วยเพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพ. โซลูชันการระบายความร้อน: - กราฟิกการ์ดนี้มาพร้อมท่อความร้อน 5 เส้น พร้อมฐานทองแดงที่ช่วยระบายความร้อนจาก GPU รวมถึงแผงระบายอากาศด้านหลังที่มีดีไซน์เปิด ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศ. การเปรียบเทียบกับ Sapphire Pulse: - การออกแบบ PCB ของ AMD RX 9070 XT มีความใกล้เคียงกับ Sapphire Pulse RX 9070 XT โดยแสดงถึงความสอดคล้องในโครงสร้าง และการจัดการพลังงาน. คุณสมบัติการใช้งาน: - กราฟิกการ์ดนี้มีพอร์ตเชื่อมต่อ 4 ช่อง รองรับการแสดงผลแบบหลากหลาย และมาพร้อมกับขั้วพลังงาน PCIe 8-Pin สองจุด เหมาะสำหรับการใช้งานเกมและงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง. https://www.techpowerup.com/334777/amd-radeon-rx-9070-xt-reference-pcb-design-revealed-via-leak-compared-to-similar-sapphire-pulse-board
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Radeon RX 9070 XT Reference PCB Design Revealed via Leak, Compared to Similar Sapphire PULSE Board
    AMD Radeon RX 9070 XT and RX 9070 "MBA" models have turned up for sale through Chinese black market channels; with local PC hardware enthusiasts quickly snapping up these "reference design" curios—for "scientific" analysis, and in some cases: bragging rights. Officially, Team Red has relied on its b...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนากราฟิกการ์ด Arc Xe2 รุ่นขั้นสูง เนื่องจากปัญหาในการพัฒนา รวมถึงความไม่คุ้มค่าของการลงทุน รุ่นใหม่อย่าง Xe3 "Celestial" ยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนถึงความยากลำบากที่ Intel ต้องเผชิญในตลาด GPU ที่มีการแข่งขันสูง

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด:
    - Intel ยังไม่มีกราฟิกการ์ดในกลุ่มไฮเอนด์ที่สามารถแข่งขันกับ NVIDIA และ AMD ได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดและความมั่นใจในเทคโนโลยีของ Intel.

    อนาคตของ Arc Xe3 "Celestial":
    - แม้ Intel ไม่ได้ให้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับโครงการ Xe3 แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า Intel อาจพยายามปรับปรุงความสามารถของ GPU รุ่นใหม่เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าเหมือนที่ผ่านมา.

    ความสำคัญของการแข่งขันในตลาด GPU:
    - การพัฒนาเทคโนโลยี GPU ต้องใช้ทั้งทรัพยากรและเวลา ซึ่ง Intel ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการพัฒนา GPU ที่สามารถตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพและราคาที่สมเหตุสมผล.

    https://www.techpowerup.com/334772/intel-reportedly-abandoned-higher-end-arc-xe2-battlemage-dgpu-project-last-year
    Intel ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนากราฟิกการ์ด Arc Xe2 รุ่นขั้นสูง เนื่องจากปัญหาในการพัฒนา รวมถึงความไม่คุ้มค่าของการลงทุน รุ่นใหม่อย่าง Xe3 "Celestial" ยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนถึงความยากลำบากที่ Intel ต้องเผชิญในตลาด GPU ที่มีการแข่งขันสูง ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด: - Intel ยังไม่มีกราฟิกการ์ดในกลุ่มไฮเอนด์ที่สามารถแข่งขันกับ NVIDIA และ AMD ได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดและความมั่นใจในเทคโนโลยีของ Intel. อนาคตของ Arc Xe3 "Celestial": - แม้ Intel ไม่ได้ให้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับโครงการ Xe3 แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า Intel อาจพยายามปรับปรุงความสามารถของ GPU รุ่นใหม่เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าเหมือนที่ผ่านมา. ความสำคัญของการแข่งขันในตลาด GPU: - การพัฒนาเทคโนโลยี GPU ต้องใช้ทั้งทรัพยากรและเวลา ซึ่ง Intel ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการพัฒนา GPU ที่สามารถตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพและราคาที่สมเหตุสมผล. https://www.techpowerup.com/334772/intel-reportedly-abandoned-higher-end-arc-xe2-battlemage-dgpu-project-last-year
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel Reportedly Abandoned Higher-end Arc Xe2 "Battlemage" dGPU Project Last Year
    Intel GPU enthusiasts have been waiting patiently for news regarding higher-end models; ever since the launches of wallet-friendly Arc Xe2 "Battlemage" B580 and B570 graphics cards. As the cliché goes; recent silence has been deafening—we last heard about a speculative expanded lineup of B-series SK...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่สหรัฐฯยืนยันกับสำนักข่าวอเมริกา Axios ว่า การเพิ่มกำลังทางอากาศเข้าสู่ภูมิภาคแปซิฟิก-อินเดีย ซึ่งรวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ที่ส่งไปยังดิเอโก การ์เซีย มีความเชื่อมโยงกับกำหนดเส้นตาย 2 เดือนของทรัมป์สำหรับอิหร่าน
    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯยืนยันกับสำนักข่าวอเมริกา Axios ว่า การเพิ่มกำลังทางอากาศเข้าสู่ภูมิภาคแปซิฟิก-อินเดีย ซึ่งรวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ที่ส่งไปยังดิเอโก การ์เซีย มีความเชื่อมโยงกับกำหนดเส้นตาย 2 เดือนของทรัมป์สำหรับอิหร่าน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัจจุบัน **ยังไม่มีวิธีการพยากรณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำและถูกต้อง 100%** ในทางวิทยาศาสตร์ แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ซับซ้อน และยังไม่มีเทคโนโลยีหรือวิธีการใดที่สามารถทำนายเวลา สถานที่ และขนาดของแผ่นดินไหวได้อย่างแน่นอน

    ### **เหตุผลที่การพยากรณ์แผ่นดินไหวยังทำได้ยาก**
    1. **กระบวนการเกิดแผ่นดินไหวซับซ้อน**
    - แผ่นดินไหวเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกอย่างฉับพลัน ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเค้น (stress) การสะสมพลังงาน และความเสียดทานระหว่างหิน
    - การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นใต้ดินลึก ทำให้ติดตามและวัดได้ยาก

    2. **ขาดข้อมูลที่เพียงพอ**
    - แม้จะมีเครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (seismometers) และระบบ GPS ติดตามการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก แต่ข้อมูลเหล่านี้มักบอกได้เพียง **"ความเสี่ยง"** ของพื้นที่ ไม่ใช่เวลาที่แน่นอน

    3. **ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่ชัดเจน**
    - บางครั้งอาจพบสัญญาณก่อนเกิดแผ่นดินไหว เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน หรือการเกิดแผ่นดินไหวเล็กๆ (foreshocks) แต่ก็ไม่เสมอไป และมักไม่สามารถยืนยันได้จนกว่าแผ่นดินไหวใหญ่จะเกิดขึ้น

    ### **ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในการเตือนภัยแผ่นดินไหว**
    แม้จะไม่สามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้า แต่มีระบบที่ช่วย **เตือนภัยก่อนเกิดแผ่นดินไหว (Early Warning System)** เช่น:
    - **ระบบ ShakeAlert (สหรัฐฯ), ระบบ J-Alert (ญี่ปุ่น)**
    - ใช้คลื่นแผ่นดินไหวที่เดินทางเร็วกว่า (คลื่น P) เพื่อส่งสัญญาณเตือนก่อนที่คลื่นทำลาย (คลื่น S) จะมาถึง
    - ช่วยให้มีเวลาเตรียมตัว **เพียงไม่กี่วินาทีถึงนาที**

    - **การประเมินความเสี่ยงระยะยาว**
    - นักวิทยาศาสตร์สามารถระบุ **พื้นที่เสี่ยงสูง** จากประวัติแผ่นดินไหวและรอยเลื่อนมีพลัง เช่น แถบวงแหวนไฟแปซิฟิก (Ring of Fire)

    ### **ข้อสรุป**
    - **ยังไม่มีการพยากรณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำ** ในแง่ของการบอกเวลาและขนาดได้ล่วงหน้า
    - **ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว (Early Warning)** สามารถช่วยลดความเสียหายได้บ้าง แต่ให้เวลาเตรียมตัวน้อยมาก
    - วิธีที่ดีที่สุดคือ **เตรียมความพร้อม** เช่น รู้จุดปลอดภัยในบ้าน มีชุดฉุกเฉิน และฝึกซ้อม应对แผ่นดินไหว

    หากมีข่าวเกี่ยวกับการทำนายแผ่นดินไหวที่อ้างว่าแม่นยำ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาให้ดี เพราะปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถทำได้อย่างแน่นอน!
    ปัจจุบัน **ยังไม่มีวิธีการพยากรณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำและถูกต้อง 100%** ในทางวิทยาศาสตร์ แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ซับซ้อน และยังไม่มีเทคโนโลยีหรือวิธีการใดที่สามารถทำนายเวลา สถานที่ และขนาดของแผ่นดินไหวได้อย่างแน่นอน ### **เหตุผลที่การพยากรณ์แผ่นดินไหวยังทำได้ยาก** 1. **กระบวนการเกิดแผ่นดินไหวซับซ้อน** - แผ่นดินไหวเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกอย่างฉับพลัน ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเค้น (stress) การสะสมพลังงาน และความเสียดทานระหว่างหิน - การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นใต้ดินลึก ทำให้ติดตามและวัดได้ยาก 2. **ขาดข้อมูลที่เพียงพอ** - แม้จะมีเครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (seismometers) และระบบ GPS ติดตามการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก แต่ข้อมูลเหล่านี้มักบอกได้เพียง **"ความเสี่ยง"** ของพื้นที่ ไม่ใช่เวลาที่แน่นอน 3. **ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่ชัดเจน** - บางครั้งอาจพบสัญญาณก่อนเกิดแผ่นดินไหว เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน หรือการเกิดแผ่นดินไหวเล็กๆ (foreshocks) แต่ก็ไม่เสมอไป และมักไม่สามารถยืนยันได้จนกว่าแผ่นดินไหวใหญ่จะเกิดขึ้น ### **ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในการเตือนภัยแผ่นดินไหว** แม้จะไม่สามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้า แต่มีระบบที่ช่วย **เตือนภัยก่อนเกิดแผ่นดินไหว (Early Warning System)** เช่น: - **ระบบ ShakeAlert (สหรัฐฯ), ระบบ J-Alert (ญี่ปุ่น)** - ใช้คลื่นแผ่นดินไหวที่เดินทางเร็วกว่า (คลื่น P) เพื่อส่งสัญญาณเตือนก่อนที่คลื่นทำลาย (คลื่น S) จะมาถึง - ช่วยให้มีเวลาเตรียมตัว **เพียงไม่กี่วินาทีถึงนาที** - **การประเมินความเสี่ยงระยะยาว** - นักวิทยาศาสตร์สามารถระบุ **พื้นที่เสี่ยงสูง** จากประวัติแผ่นดินไหวและรอยเลื่อนมีพลัง เช่น แถบวงแหวนไฟแปซิฟิก (Ring of Fire) ### **ข้อสรุป** - **ยังไม่มีการพยากรณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำ** ในแง่ของการบอกเวลาและขนาดได้ล่วงหน้า - **ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว (Early Warning)** สามารถช่วยลดความเสียหายได้บ้าง แต่ให้เวลาเตรียมตัวน้อยมาก - วิธีที่ดีที่สุดคือ **เตรียมความพร้อม** เช่น รู้จุดปลอดภัยในบ้าน มีชุดฉุกเฉิน และฝึกซ้อม应对แผ่นดินไหว หากมีข่าวเกี่ยวกับการทำนายแผ่นดินไหวที่อ้างว่าแม่นยำ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาให้ดี เพราะปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถทำได้อย่างแน่นอน!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📰 61 ปี หนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” จากบางกอกเดลิเมล์ สู่เดลินิวส์ออนไลน์ บันทึกความทรงจำของสื่อไทย ที่เติบโตเคียงข้างประชาชน

    ✨ 61 ปี แห่งการเปลี่ยนผ่านของสื่อที่ไม่หยุดนิ่ง ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยข่าวสารและเทคโนโลยี 🌐 มีไม่กี่สื่อ ที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง ตลอดระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษ แต่ “เดลินิวส์” คือหนึ่งในนั้น 🙌

    จากวันแรกของการก่อตั้ง เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2507 สู่การเป็นผู้นำข่าวระดับประเทศ ทั้งในรูปแบบสิ่งพิมพ์และออนไลน์ 🖥️ เส้นทางของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์นั้น ไม่เพียงแต่สะท้อนวิวัฒนาการ ของวงการสื่อไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นกระจกเงาสำคัญของประวัติศาสตร์ สังคม และการเมืองไทยตลอด 61 ปี ที่ผ่านมา

    📆 ย้อนเวลาสำรวจเส้นทางของหนังสือพิมพ์ ที่เริ่มต้นจาก “บางกอกเดลิเมล์” สู่การเป็น “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” และ “เดลินิวส์ออนไลน์” ในวันนี้ พร้อมทั้งเผยเบื้องหลังความเปลี่ยนแปลง วิสัยทัศน์ และจุดยืนของสื่อ ที่ไม่เคยละทิ้งภารกิจเพื่อประชาชนไทย 🇹🇭

    🕰 จุดเริ่มต้นจากบางกอกเดลิเมล์ ความกล้าในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2493 ประเทศไทยอยู่ในยุคหลังสงครามโลก ครั้งที่สอง 📜 สื่อยังถูกควบคุมโดยรัฐอย่างเข้มงวด การเปิดตัวหนังสือพิมพ์ใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ “นายห้างแสง เหตระกูล” ผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจ "โรงพิมพ์ประชาช่าง" กลับกล้าเสี่ยง 🔍

    นายห้างแสงตัดสินใจซื้อกิจการ "หนังสือพิมพ์บางกอกเดลิเมล์" (Bangkok Daily Mail) ของนายหลุย คีรีวัตน์ ซึ่งได้หยุดดำเนินการไปตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 และรื้อฟื้นมันขึ้นใหม่ ในรูปแบบหนังสือพิมพ์รายปักษ์ชื่อว่า “เดลิเมล์วันจันทร์” ออกฉบับแรกเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2493 📅

    ฉบับแรกมีพาดหัวว่า “นักศึกษา มธก.รากเลือดค้าน ก.พ.” เป็นการสะท้อนจุดยืนของสื่อ ที่กล้าแตะประเด็นทางสังคม การเมืองอย่างตรงไปตรงมา

    📰 เปลี่ยนผ่านอย่างมีทิศทาง จากเดลิเมล์ สู่แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์ ในช่วง พ.ศ. 2500 “บางกอกเดลิเมล์รายวัน” ขยับสู่การเป็นหนังสือพิมพ์รายวัน อย่างเต็มรูปแบบ ขยายขนาดหน้ากระดาษจาก 7 เป็น 8 คอลัมน์นิ้ว 🖨 ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการสื่อขณะนั้น 📈

    แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญก็เกิดขึ้น เมื่อรัฐบาล "จอมพลแปลก พิบูลสงคราม" ถูกโค่นล้มโดย "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ซึ่งส่งผลให้สื่อหลายฉบับถูกตรวจสอบ และปิดตัวลง ❌

    ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 “เดลิเมล์รายวัน” ถูกสั่งปิดโดยคำสั่งคณะปฏิวัติ มีการ ล่ามแท่นพิมพ์ด้วยโซ่ และลงครั่งประทับ ปิดฉากความกล้าหาญของสื่อเสรีในยุคนั้น อย่างสิ้นเชิง

    📢 เดลินิวส์ฉบับแรก กำเนิดเกิดใหม่ในนาม “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” แม้จะถูกสั่งปิด แต่ “นายห้างแสง” ไม่ยอมแพ้ ✊ เดินหน้าสู่บทใหม่ ซื้อหัวหนังสือพิมพ์ “แนวหน้า” และรวมเข้ากับชื่อเดิม กลายเป็น “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” 🗞

    วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2507 หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ออกวางแผงเป็นครั้งแรก โดยมี "นายประพันธ์ เหตระกูล" บุตรชายเป็นบรรณาธิการบริหาร

    พาดหัวฉบับแรกสร้างเสียงฮือฮาทันที “เมียน้อยจอมพลสฤษดิ์ท้องในอเมริกา พบรักแท้กับนักเรียนไทยวัยรุ่น” 😲 นำเสนอข่าวแบบเจาะลึกถึงตัวบุคคล และโครงสร้างอำนาจการเมือง

    🔍 ข่าวเด่นยุคแรก กล้าท้าชนอำนาจรัฐ เดลินิวส์มีจุดขายที่ชัดเจน คือการเสนอข่าวที่ตรงไปตรงมา 💥 โดยเฉพาะเรื่องของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับอนุภรรยากว่า 103 คน และทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2,874 ล้านบาท 😮

    นอกจากนี้ยังเปิดโปงคดีอาชญากรรม การทุจริต และประเด็นอ่อนไหวที่สื่ออื่นหลีกเลี่ยง จึงได้รับความนิยมจากผู้อ่านในวงกว้าง และถือเป็น “กระบอกเสียงของประชาชน” ที่แท้จริง

    📈 ก้าวข้ามวิกฤตเศรษฐกิจ ปรับคุณภาพเพื่อความอยู่รอด ช่วง พ.ศ. 2516 - 2517 ทั่วโลกประสบปัญหาน้ำมันขาดแคลน ทำให้ต้นทุนการผลิตหนังสือพิมพ์สูงขึ้น 📉 หนังสือพิมพ์หลายฉบับต้องขึ้นราคาขาย เดลินิวส์ก็เช่นกัน โดยปรับขึ้น 50 สตางค์ 💸

    แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เดลินิวส์ ไม่ลดคุณภาพข่าว ตรงกันข้ามกลับเพิ่มคอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง และข่าวสังคม มากขึ้น ส่งผลให้ได้รับความเชื่อถือจากผู้อ่าน อย่างต่อเนื่อง ✨

    📚 เปลี่ยนชื่อเป็น “เดลินิวส์” อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2522 บริษัทสี่พระยาการพิมพ์ จำกัด ได้ยื่นเรื่องเปลี่ยนชื่อหนังสือพิมพ์เป็น “เดลินิวส์” และได้รับอนุญาตในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2522 🎉

    ต่อมา เดลินิวส์ได้ขยายสำนักงานจากถนนสี่พระยา มาที่ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบัน 🏢 พร้อมขยายจำนวนหน้าจาก 16 เป็น 48 หน้า และเพิ่มราคาจำหน่ายจาก 1 บาท เป็น 10 บาทในปัจจุบัน

    🖨 นวัตกรรมการพิมพ์ ก้าวสู่งานข่าวสีเต็มรูปแบบ ในปี พ.ศ. 2529 เดลินิวส์เริ่มพิมพ์ภาพข่าวสี่สีครั้งแรก คือ ภาพโศกนาฏกรรมกระสวยอวกาศ “แชลเลนเจอร์” 🚀 และต่อมาในปี พ.ศ. 2531 ตีพิมพ์ภาพ “ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” คว้ามงกุฎนางงามจักรวาลที่ไต้หวัน 👑

    พร้อมลงทุนในระบบพิมพ์ แซตเติลไลต์ ยูนิต และโฟร์ไฮ ที่สามารถพิมพ์ได้เร็วถึง 120,000 ฉบับ ต่อชั่วโมง 🚀 สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการสื่อสิ่งพิมพ์ไทย

    🌐 เดลินิวส์ออนไลน์ ปฏิวัติวงการข่าวดิจิทัล ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2541 เดลินิวส์เข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มตัว เปิดเว็บไซต์ www.dailynews.co.th 💻 พร้อมคอนเซปต์ว่า...

    “ให้ข่าวสารพาไปไกลกว่าแค่ ‘รู้’ แต่คือ รู้ลึก รู้จริง และรู้เท่าทันทุกสถานการณ์”

    ในวันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ข่าว 🗂️ ไม่ว่าจะเป็นข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม บันเทิง กีฬา ไลฟ์สไตล์ รวมถึง วิดีโอ, อินโฟกราฟิก และ คอนเทนต์แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ⏱

    💡 ปณิธานของ “เดลินิวส์” ข่าวเพื่อประชาชน สิ่งที่ทำให้ “เดลินิวส์” อยู่ได้มากว่า 61 ปี ไม่ใช่เพียงเพราะยอดขายหรือชื่อเสียง 🏆 แต่เป็นเพราะความตั้งใจจริงของคณะผู้บริหาร ในการทำสื่อเพื่อประชาชน

    เดลินิวส์นำเสนอข่าวสารที่ครอบคลุม ทั้งข่าวสังคมที่ใกล้ตัว และข่าวเศรษฐกิจระดับชาติ โดยยึดมั่นในหลักจริยธรรมข่าว สร้างความเข้าใจ ที่มากกว่าแค่การรับรู้ข้อมูล 📘

    📌 เดลินิวส์…มากกว่าข่าว คือความเข้าใจ จาก “บางกอกเดลิเมล์” ที่เคยถูกล่ามแท่นพิมพ์ด้วยโซ่ จนถึง “เดลินิวส์ออนไลน์” ที่ไหลลื่นในโลกดิจิทัล 🌐

    เส้นทางกว่า 61 ปี ของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย และบทบาทของสื่อ ที่ไม่เคยละทิ้งประชาชน 💞

    และไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร เดลินิวส์ยังคงทำหน้าที่ ด้วยหัวใจของนักข่าวเพื่อประชาชน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 280955 มี.ค. 2568

    📢 #เดลินิวส์ #ประวัติเดลินิวส์ #หนังสือพิมพ์ไทย #สื่อไทย #ข่าวออนไลน์ #เดลินิวส์ออนไลน์ #ข่าวเพื่อประชาชน #61ปีเดลินิวส์ #DailyNewsTH #ข่าวไทย
    📰 61 ปี หนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” จากบางกอกเดลิเมล์ สู่เดลินิวส์ออนไลน์ บันทึกความทรงจำของสื่อไทย ที่เติบโตเคียงข้างประชาชน ✨ 61 ปี แห่งการเปลี่ยนผ่านของสื่อที่ไม่หยุดนิ่ง ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยข่าวสารและเทคโนโลยี 🌐 มีไม่กี่สื่อ ที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง ตลอดระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษ แต่ “เดลินิวส์” คือหนึ่งในนั้น 🙌 จากวันแรกของการก่อตั้ง เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2507 สู่การเป็นผู้นำข่าวระดับประเทศ ทั้งในรูปแบบสิ่งพิมพ์และออนไลน์ 🖥️ เส้นทางของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์นั้น ไม่เพียงแต่สะท้อนวิวัฒนาการ ของวงการสื่อไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นกระจกเงาสำคัญของประวัติศาสตร์ สังคม และการเมืองไทยตลอด 61 ปี ที่ผ่านมา 📆 ย้อนเวลาสำรวจเส้นทางของหนังสือพิมพ์ ที่เริ่มต้นจาก “บางกอกเดลิเมล์” สู่การเป็น “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” และ “เดลินิวส์ออนไลน์” ในวันนี้ พร้อมทั้งเผยเบื้องหลังความเปลี่ยนแปลง วิสัยทัศน์ และจุดยืนของสื่อ ที่ไม่เคยละทิ้งภารกิจเพื่อประชาชนไทย 🇹🇭 🕰 จุดเริ่มต้นจากบางกอกเดลิเมล์ ความกล้าในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2493 ประเทศไทยอยู่ในยุคหลังสงครามโลก ครั้งที่สอง 📜 สื่อยังถูกควบคุมโดยรัฐอย่างเข้มงวด การเปิดตัวหนังสือพิมพ์ใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ “นายห้างแสง เหตระกูล” ผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจ "โรงพิมพ์ประชาช่าง" กลับกล้าเสี่ยง 🔍 นายห้างแสงตัดสินใจซื้อกิจการ "หนังสือพิมพ์บางกอกเดลิเมล์" (Bangkok Daily Mail) ของนายหลุย คีรีวัตน์ ซึ่งได้หยุดดำเนินการไปตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 และรื้อฟื้นมันขึ้นใหม่ ในรูปแบบหนังสือพิมพ์รายปักษ์ชื่อว่า “เดลิเมล์วันจันทร์” ออกฉบับแรกเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2493 📅 ฉบับแรกมีพาดหัวว่า “นักศึกษา มธก.รากเลือดค้าน ก.พ.” เป็นการสะท้อนจุดยืนของสื่อ ที่กล้าแตะประเด็นทางสังคม การเมืองอย่างตรงไปตรงมา 📰 เปลี่ยนผ่านอย่างมีทิศทาง จากเดลิเมล์ สู่แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์ ในช่วง พ.ศ. 2500 “บางกอกเดลิเมล์รายวัน” ขยับสู่การเป็นหนังสือพิมพ์รายวัน อย่างเต็มรูปแบบ ขยายขนาดหน้ากระดาษจาก 7 เป็น 8 คอลัมน์นิ้ว 🖨 ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการสื่อขณะนั้น 📈 แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญก็เกิดขึ้น เมื่อรัฐบาล "จอมพลแปลก พิบูลสงคราม" ถูกโค่นล้มโดย "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ซึ่งส่งผลให้สื่อหลายฉบับถูกตรวจสอบ และปิดตัวลง ❌ ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 “เดลิเมล์รายวัน” ถูกสั่งปิดโดยคำสั่งคณะปฏิวัติ มีการ ล่ามแท่นพิมพ์ด้วยโซ่ และลงครั่งประทับ ปิดฉากความกล้าหาญของสื่อเสรีในยุคนั้น อย่างสิ้นเชิง 📢 เดลินิวส์ฉบับแรก กำเนิดเกิดใหม่ในนาม “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” แม้จะถูกสั่งปิด แต่ “นายห้างแสง” ไม่ยอมแพ้ ✊ เดินหน้าสู่บทใหม่ ซื้อหัวหนังสือพิมพ์ “แนวหน้า” และรวมเข้ากับชื่อเดิม กลายเป็น “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” 🗞 วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2507 หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ออกวางแผงเป็นครั้งแรก โดยมี "นายประพันธ์ เหตระกูล" บุตรชายเป็นบรรณาธิการบริหาร พาดหัวฉบับแรกสร้างเสียงฮือฮาทันที “เมียน้อยจอมพลสฤษดิ์ท้องในอเมริกา พบรักแท้กับนักเรียนไทยวัยรุ่น” 😲 นำเสนอข่าวแบบเจาะลึกถึงตัวบุคคล และโครงสร้างอำนาจการเมือง 🔍 ข่าวเด่นยุคแรก กล้าท้าชนอำนาจรัฐ เดลินิวส์มีจุดขายที่ชัดเจน คือการเสนอข่าวที่ตรงไปตรงมา 💥 โดยเฉพาะเรื่องของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับอนุภรรยากว่า 103 คน และทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2,874 ล้านบาท 😮 นอกจากนี้ยังเปิดโปงคดีอาชญากรรม การทุจริต และประเด็นอ่อนไหวที่สื่ออื่นหลีกเลี่ยง จึงได้รับความนิยมจากผู้อ่านในวงกว้าง และถือเป็น “กระบอกเสียงของประชาชน” ที่แท้จริง 📈 ก้าวข้ามวิกฤตเศรษฐกิจ ปรับคุณภาพเพื่อความอยู่รอด ช่วง พ.ศ. 2516 - 2517 ทั่วโลกประสบปัญหาน้ำมันขาดแคลน ทำให้ต้นทุนการผลิตหนังสือพิมพ์สูงขึ้น 📉 หนังสือพิมพ์หลายฉบับต้องขึ้นราคาขาย เดลินิวส์ก็เช่นกัน โดยปรับขึ้น 50 สตางค์ 💸 แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เดลินิวส์ ไม่ลดคุณภาพข่าว ตรงกันข้ามกลับเพิ่มคอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง และข่าวสังคม มากขึ้น ส่งผลให้ได้รับความเชื่อถือจากผู้อ่าน อย่างต่อเนื่อง ✨ 📚 เปลี่ยนชื่อเป็น “เดลินิวส์” อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2522 บริษัทสี่พระยาการพิมพ์ จำกัด ได้ยื่นเรื่องเปลี่ยนชื่อหนังสือพิมพ์เป็น “เดลินิวส์” และได้รับอนุญาตในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2522 🎉 ต่อมา เดลินิวส์ได้ขยายสำนักงานจากถนนสี่พระยา มาที่ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบัน 🏢 พร้อมขยายจำนวนหน้าจาก 16 เป็น 48 หน้า และเพิ่มราคาจำหน่ายจาก 1 บาท เป็น 10 บาทในปัจจุบัน 🖨 นวัตกรรมการพิมพ์ ก้าวสู่งานข่าวสีเต็มรูปแบบ ในปี พ.ศ. 2529 เดลินิวส์เริ่มพิมพ์ภาพข่าวสี่สีครั้งแรก คือ ภาพโศกนาฏกรรมกระสวยอวกาศ “แชลเลนเจอร์” 🚀 และต่อมาในปี พ.ศ. 2531 ตีพิมพ์ภาพ “ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” คว้ามงกุฎนางงามจักรวาลที่ไต้หวัน 👑 พร้อมลงทุนในระบบพิมพ์ แซตเติลไลต์ ยูนิต และโฟร์ไฮ ที่สามารถพิมพ์ได้เร็วถึง 120,000 ฉบับ ต่อชั่วโมง 🚀 สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการสื่อสิ่งพิมพ์ไทย 🌐 เดลินิวส์ออนไลน์ ปฏิวัติวงการข่าวดิจิทัล ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2541 เดลินิวส์เข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มตัว เปิดเว็บไซต์ www.dailynews.co.th 💻 พร้อมคอนเซปต์ว่า... “ให้ข่าวสารพาไปไกลกว่าแค่ ‘รู้’ แต่คือ รู้ลึก รู้จริง และรู้เท่าทันทุกสถานการณ์” ในวันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ข่าว 🗂️ ไม่ว่าจะเป็นข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม บันเทิง กีฬา ไลฟ์สไตล์ รวมถึง วิดีโอ, อินโฟกราฟิก และ คอนเทนต์แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ⏱ 💡 ปณิธานของ “เดลินิวส์” ข่าวเพื่อประชาชน สิ่งที่ทำให้ “เดลินิวส์” อยู่ได้มากว่า 61 ปี ไม่ใช่เพียงเพราะยอดขายหรือชื่อเสียง 🏆 แต่เป็นเพราะความตั้งใจจริงของคณะผู้บริหาร ในการทำสื่อเพื่อประชาชน เดลินิวส์นำเสนอข่าวสารที่ครอบคลุม ทั้งข่าวสังคมที่ใกล้ตัว และข่าวเศรษฐกิจระดับชาติ โดยยึดมั่นในหลักจริยธรรมข่าว สร้างความเข้าใจ ที่มากกว่าแค่การรับรู้ข้อมูล 📘 📌 เดลินิวส์…มากกว่าข่าว คือความเข้าใจ จาก “บางกอกเดลิเมล์” ที่เคยถูกล่ามแท่นพิมพ์ด้วยโซ่ จนถึง “เดลินิวส์ออนไลน์” ที่ไหลลื่นในโลกดิจิทัล 🌐 เส้นทางกว่า 61 ปี ของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย และบทบาทของสื่อ ที่ไม่เคยละทิ้งประชาชน 💞 และไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร เดลินิวส์ยังคงทำหน้าที่ ด้วยหัวใจของนักข่าวเพื่อประชาชน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 280955 มี.ค. 2568 📢 #เดลินิวส์ #ประวัติเดลินิวส์ #หนังสือพิมพ์ไทย #สื่อไทย #ข่าวออนไลน์ #เดลินิวส์ออนไลน์ #ข่าวเพื่อประชาชน #61ปีเดลินิวส์ #DailyNewsTH #ข่าวไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 774 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซิร์ฟเวอร์เฉพาะเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้ทรัพยากรทั้งหมดบนเซิร์ฟเวอร์อยู่ในมือผู้ใช้เพียงคนเดียว จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูงหรือการประมวลผลที่ทรงพลัง การเลือกใช้งานเซิร์ฟเวอร์ขึ้นอยู่กับความต้องการและความเชี่ยวชาญของแต่ละธุรกิจ โดยโฮสต์แบบ Managed และ Unmanaged มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน

    เหตุผลที่ยังคงเลือกใช้เซิร์ฟเวอร์เฉพาะ:
    - แม้โฮสต์แบบคลาวด์จะได้รับความนิยมมากขึ้น เซิร์ฟเวอร์เฉพาะยังมีบทบาทสำคัญในสถานการณ์ที่ทรัพยากรต้องไม่แบ่งปัน เช่น การประมวลผลระดับสูงสำหรับ AI และงานที่ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมาก.

    ความแตกต่างระหว่างการจัดการเซิร์ฟเวอร์:
    - โฮสต์แบบ Managed Dedicated Servers ช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการเซิร์ฟเวอร์ สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค ขณะที่ Unmanaged Hosting เหมาะสำหรับองค์กรที่มีทีมไอทีที่พร้อมจัดการเซิร์ฟเวอร์เอง.

    ข้อดีเฉพาะตัวของเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ:
    - เซิร์ฟเวอร์เฉพาะเหมาะสำหรับธุรกิจที่มีทราฟฟิกคงที่ เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับโฮสต์คลาวด์ที่มีระบบคิดค่าใช้จ่ายแบบ Pay-as-you-go.

    การตัดสินใจเลือกเซิร์ฟเวอร์:
    - ธุรกิจที่มีงบประมาณจำกัดและมีทราฟฟิกที่ไม่แน่นอน อาจเลือกใช้เซิร์ฟเวอร์แชร์หรือคลาวด์ แต่เซิร์ฟเวอร์เฉพาะมีความเหมาะสมสำหรับองค์กรที่ต้องการควบคุมทรัพยากรอย่างเต็มที่.

    https://www.techradar.com/news/what-is-a-dedicated-server
    เซิร์ฟเวอร์เฉพาะเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้ทรัพยากรทั้งหมดบนเซิร์ฟเวอร์อยู่ในมือผู้ใช้เพียงคนเดียว จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูงหรือการประมวลผลที่ทรงพลัง การเลือกใช้งานเซิร์ฟเวอร์ขึ้นอยู่กับความต้องการและความเชี่ยวชาญของแต่ละธุรกิจ โดยโฮสต์แบบ Managed และ Unmanaged มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน เหตุผลที่ยังคงเลือกใช้เซิร์ฟเวอร์เฉพาะ: - แม้โฮสต์แบบคลาวด์จะได้รับความนิยมมากขึ้น เซิร์ฟเวอร์เฉพาะยังมีบทบาทสำคัญในสถานการณ์ที่ทรัพยากรต้องไม่แบ่งปัน เช่น การประมวลผลระดับสูงสำหรับ AI และงานที่ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมาก. ความแตกต่างระหว่างการจัดการเซิร์ฟเวอร์: - โฮสต์แบบ Managed Dedicated Servers ช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการเซิร์ฟเวอร์ สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค ขณะที่ Unmanaged Hosting เหมาะสำหรับองค์กรที่มีทีมไอทีที่พร้อมจัดการเซิร์ฟเวอร์เอง. ข้อดีเฉพาะตัวของเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ: - เซิร์ฟเวอร์เฉพาะเหมาะสำหรับธุรกิจที่มีทราฟฟิกคงที่ เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับโฮสต์คลาวด์ที่มีระบบคิดค่าใช้จ่ายแบบ Pay-as-you-go. การตัดสินใจเลือกเซิร์ฟเวอร์: - ธุรกิจที่มีงบประมาณจำกัดและมีทราฟฟิกที่ไม่แน่นอน อาจเลือกใช้เซิร์ฟเวอร์แชร์หรือคลาวด์ แต่เซิร์ฟเวอร์เฉพาะมีความเหมาะสมสำหรับองค์กรที่ต้องการควบคุมทรัพยากรอย่างเต็มที่. https://www.techradar.com/news/what-is-a-dedicated-server
    WWW.TECHRADAR.COM
    What is a dedicated server?
    Sometimes you need your own space
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • CEO ของ Nvidia ชี้ว่าการใช้เทคโนโลยี GAA ในอนาคตจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ GPU ได้ถึง 20% แต่ยังยืนยันว่าการพัฒนาสถาปัตยกรรมและนวัตกรรมซอฟต์แวร์คือปัจจัยสำคัญที่แท้จริง ในยุคที่ศูนย์ข้อมูลมุ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์ Nvidia ได้ปรับบทบาทมาเน้นการเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI และอัลกอริทึมอย่างเต็มที่

    มุมมองต่อการพัฒนาเทคโนโลยี:
    - Huang ยอมรับว่าการปรับปรุงจากเทคโนโลยีใหม่ เช่น GAA มีความสำคัญ แต่มองว่าไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ "ปฏิวัติวงการ" โดยเฉพาะในยุคที่การเติบโตของกฎของมัวร์ (Moore’s Law) ช้าลงอย่างชัดเจน.

    การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพในยุค AI:
    - ขณะที่ศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ เน้นที่ประสิทธิภาพต่อวัตต์ (performance per watt) Nvidia มุ่งไปที่การจัดการประสิทธิภาพของระบบโดยรวมมากกว่าที่จะเน้นเฉพาะการปรับปรุงความเร็วหรือพลังงานของแต่ละหน่วยประมวลผล.

    การคาดการณ์สำหรับอนาคต:
    - Nvidia คาดว่า GPU รุ่นใหม่ในอนาคต (ชื่อรหัส Feynman) อาจใช้เทคโนโลยี GAA เช่น N2P หรือ A16 ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2028 โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 20% หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ต้องพิจารณาความสมดุลระหว่างพลังงานและประสิทธิภาพตามความต้องการของตลาด AI.

    การเปลี่ยนแปลงบทบาทของ Nvidia:
    - Huang ย้ำว่า Nvidia กำลังเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นเพียงบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาดใหญ่ โดยเน้นการพัฒนาสูตรอัลกอริทึมในด้านกราฟิก คอมพิวเตอร์ และโรโบติกส์.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidias-jesnen-huang-expects-gaa-based-technologies-to-bring-a-20-percent-performance-uplift
    CEO ของ Nvidia ชี้ว่าการใช้เทคโนโลยี GAA ในอนาคตจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ GPU ได้ถึง 20% แต่ยังยืนยันว่าการพัฒนาสถาปัตยกรรมและนวัตกรรมซอฟต์แวร์คือปัจจัยสำคัญที่แท้จริง ในยุคที่ศูนย์ข้อมูลมุ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์ Nvidia ได้ปรับบทบาทมาเน้นการเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI และอัลกอริทึมอย่างเต็มที่ มุมมองต่อการพัฒนาเทคโนโลยี: - Huang ยอมรับว่าการปรับปรุงจากเทคโนโลยีใหม่ เช่น GAA มีความสำคัญ แต่มองว่าไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ "ปฏิวัติวงการ" โดยเฉพาะในยุคที่การเติบโตของกฎของมัวร์ (Moore’s Law) ช้าลงอย่างชัดเจน. การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพในยุค AI: - ขณะที่ศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ เน้นที่ประสิทธิภาพต่อวัตต์ (performance per watt) Nvidia มุ่งไปที่การจัดการประสิทธิภาพของระบบโดยรวมมากกว่าที่จะเน้นเฉพาะการปรับปรุงความเร็วหรือพลังงานของแต่ละหน่วยประมวลผล. การคาดการณ์สำหรับอนาคต: - Nvidia คาดว่า GPU รุ่นใหม่ในอนาคต (ชื่อรหัส Feynman) อาจใช้เทคโนโลยี GAA เช่น N2P หรือ A16 ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2028 โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 20% หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ต้องพิจารณาความสมดุลระหว่างพลังงานและประสิทธิภาพตามความต้องการของตลาด AI. การเปลี่ยนแปลงบทบาทของ Nvidia: - Huang ย้ำว่า Nvidia กำลังเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นเพียงบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาดใหญ่ โดยเน้นการพัฒนาสูตรอัลกอริทึมในด้านกราฟิก คอมพิวเตอร์ และโรโบติกส์. https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidias-jesnen-huang-expects-gaa-based-technologies-to-bring-a-20-percent-performance-uplift
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts