• ปลาทุบ…อร่อยกว่าเดิม เพิ่มเติมคือมี 2 รสชาติ ~ แบบดั้งเดิม รสชาติกลมกล่อม และแบบเผ็ด เพิ่มความสนุกในการทาน … ของเข้าใหม่มาไม่เยอะ รีบสั่งก่อนหมดเลยจ้า #ปลาข้าวสาร #ปลาจิ้งจ้างไม่งา #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกฉาบสามรส #ปลากระพงทุบ

    ประกาศจากสมาคมคนชอบของอร่อย
    วันนี้เราขอนำเสนอ…
    ปลากระพงทุบ ที่ทำจากปลาทะเล 100%

    ฟังดูงง ๆ ใช่มั้ย? ใช่ครับ… เราก็งง
    แต่อร่อยดี เลยกิน… แล้วก็กินอีก

    เตือนก่อนนะ
    ใครได้ลองจะหยุดไม่ได้
    ไม่ใช่เพราะอร่อยอย่างเดียว — แต่เพราะว่าเกร๋ จนอยากกินต่อให้รู้ว่าทำไม

    ร้านกินจุ๊บจิ๊บค่ะ พร้อมส่งทั่วไทย กดสั่งเลย แล้วมาทุบความหิวไปด้วยกัน!

    ดูแล้ว ฝากกดติดตามร้านด้วยน้า

    ปลากระพงทุบ ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZSrNwrbfa/

    ปลากระพงทุบ ใน Shopee
    https://th.shp.ee/TJpZ2pJ

    เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง
    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1

    เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ
    ปลาทุบ…อร่อยกว่าเดิม เพิ่มเติมคือมี 2 รสชาติ ~ แบบดั้งเดิม รสชาติกลมกล่อม และแบบเผ็ด เพิ่มความสนุกในการทาน … ของเข้าใหม่มาไม่เยอะ รีบสั่งก่อนหมดเลยจ้า #ปลาข้าวสาร #ปลาจิ้งจ้างไม่งา #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกฉาบสามรส #ปลากระพงทุบ 📢 ประกาศจากสมาคมคนชอบของอร่อย วันนี้เราขอนำเสนอ… ปลากระพงทุบ ที่ทำจากปลาทะเล 100% 🐟💥 ฟังดูงง ๆ ใช่มั้ย? ใช่ครับ… เราก็งง 🤔 แต่อร่อยดี เลยกิน… แล้วก็กินอีก 😳 เตือนก่อนนะ ใครได้ลองจะหยุดไม่ได้ ไม่ใช่เพราะอร่อยอย่างเดียว — แต่เพราะว่าเกร๋ จนอยากกินต่อให้รู้ว่าทำไม 🤪 ร้านกินจุ๊บจิ๊บค่ะ พร้อมส่งทั่วไทย 📦✨ กดสั่งเลย แล้วมาทุบความหิวไปด้วยกัน! ดูแล้ว ฝากกดติดตามร้านด้วยน้า 💛 ปลากระพงทุบ 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSrNwrbfa/ ปลากระพงทุบ 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/TJpZ2pJ เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1 เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อันนี้ลุงสงสัยมากว่า... ทำไมกัน?

    สหรัฐฯ สั่งหยุดก่อสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งประเทศ อ้างเหตุผล “ลับทางทหาร”

    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์ประกาศหยุดการก่อสร้างโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้ง 5 แห่งที่กำลังดำเนินงานอยู่ แม้หลายโครงการจะใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับหลายรัฐที่พึ่งพาพลังงานสะอาดจากโครงการเหล่านี้ โดยกระทรวงมหาดไทยอ้างว่าได้รับรายงาน “ลับ” จากกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความมั่นคง แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ ต่อสาธารณะหรือศาล ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ารัฐบาลกำลังใช้การจัดชั้นความลับเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบทางกฎหมายหรือไม่

    ก่อนหน้านี้ ศาลได้เพิกถอนคำสั่งหยุดโครงการลักษณะเดียวกัน เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถให้เหตุผลที่ชัดเจนได้ แต่ครั้งนี้การอ้างข้อมูลลับทำให้การท้าทายทางกฎหมายยากขึ้นอย่างมาก โครงการที่ได้รับผลกระทบรวมถึง Coastal Virginia Offshore Wind (2.6 GW), Empire Wind (810 MW), Revolution Wind (700 MW), Sunrise Wind (925 MW) และ Vineyard Wind 1 (800 MW) ซึ่งหลายโครงการลงทุนไปเกือบครบแล้วและกำลังรอเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อคืนทุน

    รัฐต่าง ๆ เช่น คอนเนตทิคัตและนิวยอร์กออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง โดยมองว่าการหยุดงานครั้งนี้ “ไร้เหตุผลและผิดกฎหมาย” และอาจเป็นเพียงความพยายามของฝ่ายบริหารในการทำลายโครงการพลังงานลมตามความชอบส่วนตัวของประธานาธิบดีมากกว่าการตัดสินใจเชิงนโยบายที่มีข้อมูลรองรับ ข้อมูลในคดีเก่าระบุว่าภายในรัฐบาลเองก็ไม่มีเหตุผลทางเทคนิคที่ชัดเจนในการกลับคำอนุมัติที่มีมานานหลายปี

    เหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่แค่การหยุดโครงการพลังงานสะอาด แต่สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างนโยบายพลังงาน การเมือง และความมั่นคงแห่งชาติที่ถูกใช้เป็นเหตุผลแบบ “ตรวจสอบไม่ได้” ซึ่งอาจกลายเป็นแบบอย่างอันตรายต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ในอนาคต หากไม่มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสจากศาลและสาธารณะ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งหยุดโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งหมด
    อ้างรายงานลับจากกระทรวงกลาโหม
    ทำให้การตรวจสอบทางกฎหมายทำได้ยากขึ้น

    โครงการที่ได้รับผลกระทบมีมูลค่ามหาศาล
    Coastal Virginia (2.6 GW), Empire Wind, Revolution Wind, Sunrise Wind, Vineyard Wind 1
    หลายโครงการใกล้เสร็จและลงทุนไปเกือบครบแล้ว

    รัฐและบริษัทพลังงานออกมาต่อต้าน
    มองว่าเป็นการใช้อำนาจโดยไร้เหตุผล
    ศาลเคยเพิกถอนคำสั่งลักษณะเดียวกันมาก่อน

    ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา
    การใช้ “ข้อมูลลับ” อาจกลายเป็นช่องทางเลี่ยงการตรวจสอบ
    ความไม่แน่นอนอาจทำลายความเชื่อมั่นในโครงการพลังงานสะอาด
    อาจเป็นแบบอย่างให้รัฐบาลใช้เหตุผลด้านความมั่นคงเพื่อหยุดโครงการอื่นในอนาคต


    https://arstechnica.com/science/2025/12/us-government-finds-new-excuse-to-stop-construction-of-offshore-wind/
    อันนี้ลุงสงสัยมากว่า... ทำไมกัน? 🌬️⚠️ สหรัฐฯ สั่งหยุดก่อสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งประเทศ อ้างเหตุผล “ลับทางทหาร” รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์ประกาศหยุดการก่อสร้างโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้ง 5 แห่งที่กำลังดำเนินงานอยู่ แม้หลายโครงการจะใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับหลายรัฐที่พึ่งพาพลังงานสะอาดจากโครงการเหล่านี้ โดยกระทรวงมหาดไทยอ้างว่าได้รับรายงาน “ลับ” จากกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความมั่นคง แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ ต่อสาธารณะหรือศาล ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ารัฐบาลกำลังใช้การจัดชั้นความลับเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบทางกฎหมายหรือไม่ ก่อนหน้านี้ ศาลได้เพิกถอนคำสั่งหยุดโครงการลักษณะเดียวกัน เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถให้เหตุผลที่ชัดเจนได้ แต่ครั้งนี้การอ้างข้อมูลลับทำให้การท้าทายทางกฎหมายยากขึ้นอย่างมาก โครงการที่ได้รับผลกระทบรวมถึง Coastal Virginia Offshore Wind (2.6 GW), Empire Wind (810 MW), Revolution Wind (700 MW), Sunrise Wind (925 MW) และ Vineyard Wind 1 (800 MW) ซึ่งหลายโครงการลงทุนไปเกือบครบแล้วและกำลังรอเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อคืนทุน รัฐต่าง ๆ เช่น คอนเนตทิคัตและนิวยอร์กออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง โดยมองว่าการหยุดงานครั้งนี้ “ไร้เหตุผลและผิดกฎหมาย” และอาจเป็นเพียงความพยายามของฝ่ายบริหารในการทำลายโครงการพลังงานลมตามความชอบส่วนตัวของประธานาธิบดีมากกว่าการตัดสินใจเชิงนโยบายที่มีข้อมูลรองรับ ข้อมูลในคดีเก่าระบุว่าภายในรัฐบาลเองก็ไม่มีเหตุผลทางเทคนิคที่ชัดเจนในการกลับคำอนุมัติที่มีมานานหลายปี เหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่แค่การหยุดโครงการพลังงานสะอาด แต่สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างนโยบายพลังงาน การเมือง และความมั่นคงแห่งชาติที่ถูกใช้เป็นเหตุผลแบบ “ตรวจสอบไม่ได้” ซึ่งอาจกลายเป็นแบบอย่างอันตรายต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ในอนาคต หากไม่มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสจากศาลและสาธารณะ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งหยุดโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งหมด ➡️ อ้างรายงานลับจากกระทรวงกลาโหม ➡️ ทำให้การตรวจสอบทางกฎหมายทำได้ยากขึ้น ✅ โครงการที่ได้รับผลกระทบมีมูลค่ามหาศาล ➡️ Coastal Virginia (2.6 GW), Empire Wind, Revolution Wind, Sunrise Wind, Vineyard Wind 1 ➡️ หลายโครงการใกล้เสร็จและลงทุนไปเกือบครบแล้ว ✅ รัฐและบริษัทพลังงานออกมาต่อต้าน ➡️ มองว่าเป็นการใช้อำนาจโดยไร้เหตุผล ➡️ ศาลเคยเพิกถอนคำสั่งลักษณะเดียวกันมาก่อน ‼️ ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา ⛔ การใช้ “ข้อมูลลับ” อาจกลายเป็นช่องทางเลี่ยงการตรวจสอบ ⛔ ความไม่แน่นอนอาจทำลายความเชื่อมั่นในโครงการพลังงานสะอาด ⛔ อาจเป็นแบบอย่างให้รัฐบาลใช้เหตุผลด้านความมั่นคงเพื่อหยุดโครงการอื่นในอนาคต https://arstechnica.com/science/2025/12/us-government-finds-new-excuse-to-stop-construction-of-offshore-wind/
    ARSTECHNICA.COM
    US blocks all offshore wind construction, says reason is classified
    Projects with hardware in the water stopped due to Department of Defense fears.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าคุณไม่ออกแบบเส้นทางอาชีพของตัวเอง… คนอื่นจะเป็นคนกำหนดให้คุณแทน

    หลายคนใช้ชีวิตอยู่ในโหมด “ทำงานไปวัน ๆ” จนลืมตั้งคำถามสำคัญว่าเส้นทางอาชีพที่กำลังเดินอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ตัวเองเลือกจริงหรือไม่ บทความของ Greg McKeown ชี้ให้เห็นกับดักนี้อย่างเฉียบคม พร้อมเสนอวิธีคิดแบบ Essentialism ที่ช่วยให้เรากลับมาควบคุมทิศทางชีวิตการทำงานของตัวเองอีกครั้ง เขาเล่าว่าคนจำนวนมากยุ่งจนไม่มีเวลาคิดเรื่องชีวิต และยิ่งยุ่งก็ยิ่งปล่อยให้แรงภายนอกเป็นตัวกำหนดอนาคตแทนตัวเราเอง

    Greg เสนอให้ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อทบทวนปีที่ผ่านมาอย่างเป็นระบบ ไล่ดูว่าเราใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง และสิ่งเหล่านั้นสะท้อนแนวโน้มแบบไหน ถ้าปล่อยให้แนวโน้มนี้ดำเนินต่อไปอีก 1–3 ปี ชีวิตเราจะไปทางไหน นี่คือการ “อ่านข่าวของชีวิตตัวเอง” เพื่อมองเห็นความจริงที่มักถูกกลบด้วยความวุ่นวายในแต่ละวัน

    จากนั้นเขาชวนให้เรากลับไปถามคำถามที่ลึกที่สุด: ถ้าเลือกได้ “ทำอะไรก็ได้” ในอาชีพการงาน เราอยากทำอะไรจริง ๆ โดยไม่ให้เสียงวิจารณ์หรือข้อจำกัดทางรายได้มาปิดกั้นตั้งแต่ต้น เพราะหลายครั้งสิ่งที่เราคิดว่า “ไม่จริง” อาจเป็นเพียงความกลัวหรือความเชื่อเก่าที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบัน การเปิดพื้นที่ให้ตัวเองฝันอย่างอิสระจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่หลายคนมองข้าม

    สุดท้าย Greg แนะนำให้เลือก “หนึ่งเป้าหมายหลัก” สำหรับปีถัดไป แล้วตัดสิ่งอื่นออกให้มากที่สุด พร้อมกำหนด quick wins ภายในเดือนแรกเพื่อสร้างแรงส่ง เขาย้ำว่าการตัดสินใจครั้งนี้เคยเปลี่ยนชีวิตเขาเอง—จากนักศึกษากฎหมายในอังกฤษ สู่การย้ายประเทศและกลายเป็นนักเขียน–ผู้สอนที่มีผลงานระดับโลก และทั้งหมดเริ่มต้นจากการใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงคิดเรื่องชีวิตอย่างจริงจัง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เริ่มจากการทบทวนปีที่ผ่านมา
    ไล่ดูเดือนต่อเดือนว่าใช้เวลาไปกับอะไร
    มองหาแนวโน้มและถามว่าถ้าปล่อยไว้จะเกิดอะไรขึ้น

    ตั้งคำถามใหญ่กับตัวเอง
    “ถ้าทำอะไรก็ได้ในอาชีพ เราอยากทำอะไรจริง ๆ?”
    เปิดพื้นที่ให้ความคิดสร้างสรรค์โดยไม่ตัดสินตัวเองก่อนเวลา

    โฟกัสเพียงหนึ่งเป้าหมายหลัก
    เขียน 6 เป้าหมาย แล้วตัดออก 5 ข้อ
    เลือก “True North” ของปีนั้นเพียงหนึ่งเดียว

    สิ่งที่ต้องระวัง
    การยุ่งจนไม่มีเวลาคิดเรื่องชีวิตคือกับดักอันตราย
    การตัดสินความฝันว่า “ไม่จริง” เร็วเกินไปทำให้พลาดโอกาส
    งานดี ๆ หลายอย่างอาจเบี่ยงเราออกจากเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า

    https://gregmckeown.com/if-you-dont-design-your-career-someone-else-will/
    🧭 ถ้าคุณไม่ออกแบบเส้นทางอาชีพของตัวเอง… คนอื่นจะเป็นคนกำหนดให้คุณแทน หลายคนใช้ชีวิตอยู่ในโหมด “ทำงานไปวัน ๆ” จนลืมตั้งคำถามสำคัญว่าเส้นทางอาชีพที่กำลังเดินอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ตัวเองเลือกจริงหรือไม่ บทความของ Greg McKeown ชี้ให้เห็นกับดักนี้อย่างเฉียบคม พร้อมเสนอวิธีคิดแบบ Essentialism ที่ช่วยให้เรากลับมาควบคุมทิศทางชีวิตการทำงานของตัวเองอีกครั้ง เขาเล่าว่าคนจำนวนมากยุ่งจนไม่มีเวลาคิดเรื่องชีวิต และยิ่งยุ่งก็ยิ่งปล่อยให้แรงภายนอกเป็นตัวกำหนดอนาคตแทนตัวเราเอง Greg เสนอให้ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อทบทวนปีที่ผ่านมาอย่างเป็นระบบ ไล่ดูว่าเราใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง และสิ่งเหล่านั้นสะท้อนแนวโน้มแบบไหน ถ้าปล่อยให้แนวโน้มนี้ดำเนินต่อไปอีก 1–3 ปี ชีวิตเราจะไปทางไหน นี่คือการ “อ่านข่าวของชีวิตตัวเอง” เพื่อมองเห็นความจริงที่มักถูกกลบด้วยความวุ่นวายในแต่ละวัน จากนั้นเขาชวนให้เรากลับไปถามคำถามที่ลึกที่สุด: ถ้าเลือกได้ “ทำอะไรก็ได้” ในอาชีพการงาน เราอยากทำอะไรจริง ๆ โดยไม่ให้เสียงวิจารณ์หรือข้อจำกัดทางรายได้มาปิดกั้นตั้งแต่ต้น เพราะหลายครั้งสิ่งที่เราคิดว่า “ไม่จริง” อาจเป็นเพียงความกลัวหรือความเชื่อเก่าที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบัน การเปิดพื้นที่ให้ตัวเองฝันอย่างอิสระจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่หลายคนมองข้าม สุดท้าย Greg แนะนำให้เลือก “หนึ่งเป้าหมายหลัก” สำหรับปีถัดไป แล้วตัดสิ่งอื่นออกให้มากที่สุด พร้อมกำหนด quick wins ภายในเดือนแรกเพื่อสร้างแรงส่ง เขาย้ำว่าการตัดสินใจครั้งนี้เคยเปลี่ยนชีวิตเขาเอง—จากนักศึกษากฎหมายในอังกฤษ สู่การย้ายประเทศและกลายเป็นนักเขียน–ผู้สอนที่มีผลงานระดับโลก และทั้งหมดเริ่มต้นจากการใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงคิดเรื่องชีวิตอย่างจริงจัง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เริ่มจากการทบทวนปีที่ผ่านมา ➡️ ไล่ดูเดือนต่อเดือนว่าใช้เวลาไปกับอะไร ➡️ มองหาแนวโน้มและถามว่าถ้าปล่อยไว้จะเกิดอะไรขึ้น ✅ ตั้งคำถามใหญ่กับตัวเอง ➡️ “ถ้าทำอะไรก็ได้ในอาชีพ เราอยากทำอะไรจริง ๆ?” ➡️ เปิดพื้นที่ให้ความคิดสร้างสรรค์โดยไม่ตัดสินตัวเองก่อนเวลา ✅ โฟกัสเพียงหนึ่งเป้าหมายหลัก ➡️ เขียน 6 เป้าหมาย แล้วตัดออก 5 ข้อ ➡️ เลือก “True North” ของปีนั้นเพียงหนึ่งเดียว ‼️ สิ่งที่ต้องระวัง ⛔ การยุ่งจนไม่มีเวลาคิดเรื่องชีวิตคือกับดักอันตราย ⛔ การตัดสินความฝันว่า “ไม่จริง” เร็วเกินไปทำให้พลาดโอกาส ⛔ งานดี ๆ หลายอย่างอาจเบี่ยงเราออกจากเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า https://gregmckeown.com/if-you-dont-design-your-career-someone-else-will/
    GREGMCKEOWN.COM
    If You Don't Design Your Career, Someone Else Will - Greg McKeown
    A client once responded to one of my questions by saying, "Oh Greg, I am too busy living to think about life!” His off-the-cuff comment named a trap al ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ต้องจ่าย $100/เดือนก็โค้ดด้วย AI ได้: คู่มือ Local Coding Models สำหรับสาย Dev ยุคใหม่

    บทความนี้เริ่มจากสมมติฐานที่น่าสนใจของผู้เขียน: “แทนที่จะจ่าย $100+/เดือนให้ Claude Code หรือ AI coding tools แบบคลาวด์ เอาเงินไปซื้อเครื่องแรง ๆ แล้วรันโมเดลโค้ดแบบ local จะคุ้มกว่าไหม?” เขาทดสอบด้วยการซื้อ MacBook Pro RAM 128GB แล้วลองรันโมเดลโค้ดระดับ 30B–80B ด้วยตัวเอง ผลลัพธ์แรกเริ่มเหมือนจะใช่ แต่หลังจากทดลองจริงหลายสัปดาห์ เขาพบว่าคำตอบที่ถูกต้องคือ “ใช่…แต่ก็ไม่ใช่” เพราะแม้ local models จะทำงานได้ดีมาก แต่ยังไม่สามารถแทนที่ frontier models ในงานระดับ production ได้ทั้งหมด

    ผู้เขียนยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าการทดลองครั้งแรก “ผิดพลาด” เพราะเขามองจากมุมของผู้ใช้สาย hobby มากกว่ามืออาชีพในองค์กรจริง ๆ แม้ local models จะทำงานได้ประมาณ 90% ของงานโค้ดทั่วไป แต่ “10% ที่เหลือ” คือส่วนที่สำคัญที่สุดในงานจริง และเป็นเหตุผลที่ subscription แบบ Claude Code หรือ Gemini Pro ยังจำเป็นสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง ความเสถียร และการจัดการ context ที่ซับซ้อน

    อย่างไรก็ตาม บทความชี้ให้เห็นข้อดีของ local models ที่หลายคนมองข้าม เช่น ความเสถียรที่ไม่ขึ้นกับผู้ให้บริการ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (เหมาะกับงานที่มี IP สำคัญ) และความพร้อมใช้งานแม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังอธิบายอย่างละเอียดเรื่อง RAM, context window, quantization, serving tools (MLX vs Ollama) และการเลือกโมเดลที่เหมาะกับเครื่องของคุณ ซึ่งเป็นความรู้เชิงเทคนิคที่มีประโยชน์มากสำหรับ dev ที่อยากเริ่มรันโมเดลเอง

    สุดท้าย ผู้เขียนสรุปว่า local models “คุ้มค่า” ในฐานะ ตัวเสริม ไม่ใช่ ตัวแทน ของ frontier models โดยเฉพาะเมื่อใช้คู่กับ free tier ของ Gemini หรือโมเดลโอเพ่นซอร์สที่กำลังพัฒนาเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เขาย้ำว่าการซื้อเครื่องแรง ๆ อาจคุ้มในระยะยาว แต่ไม่ควรรีบยกเลิก subscription ถ้างานของคุณต้องการคุณภาพระดับสูงสุดของ AI coding tools

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Local models เก่งขึ้นมาก และทำงานได้ ~90% ของงานโค้ดทั่วไป
    แม้โมเดล 7B–30B ก็ทำงานได้ดีเกินคาด
    แต่ยังไม่ถึงระดับ frontier models ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง

    ข้อดีของการรันโมเดลแบบ local
    ไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ไม่เจอปัญหา rate limit หรือ downtime
    เหมาะกับงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
    ใช้งานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต เช่น บนเครื่องบินหรือใน secure network

    ความรู้เชิงเทคนิคที่ dev ควรรู้
    RAM คือปัจจัยสำคัญที่สุด (30B = ~60GB RAM ถ้าไม่ quantize)
    context window ใช้ RAM มากกว่าตัวโมเดลเสียอีก
    MLX เร็วกว่า Ollama บน Mac แต่ Ollama ใช้ง่ายกว่า

    ข้อควรระวัง / จุดที่ผู้เขียนแก้ไขความเข้าใจของตัวเอง
    local models ไม่เหมาะแทนที่ AI coding tools ในงาน production
    การ quantize KV cache อาจทำให้โมเดล “ลืม” reasoning trace
    การซื้อเครื่องแพง ๆ อาจไม่คุ้ม หากมี free tier ที่แรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น Gemini 3 Flash

    https://www.aiforswes.com/p/you-dont-need-to-spend-100mo-on-claude
    🧠💻 ไม่ต้องจ่าย $100/เดือนก็โค้ดด้วย AI ได้: คู่มือ Local Coding Models สำหรับสาย Dev ยุคใหม่ บทความนี้เริ่มจากสมมติฐานที่น่าสนใจของผู้เขียน: “แทนที่จะจ่าย $100+/เดือนให้ Claude Code หรือ AI coding tools แบบคลาวด์ เอาเงินไปซื้อเครื่องแรง ๆ แล้วรันโมเดลโค้ดแบบ local จะคุ้มกว่าไหม?” เขาทดสอบด้วยการซื้อ MacBook Pro RAM 128GB แล้วลองรันโมเดลโค้ดระดับ 30B–80B ด้วยตัวเอง ผลลัพธ์แรกเริ่มเหมือนจะใช่ แต่หลังจากทดลองจริงหลายสัปดาห์ เขาพบว่าคำตอบที่ถูกต้องคือ “ใช่…แต่ก็ไม่ใช่” เพราะแม้ local models จะทำงานได้ดีมาก แต่ยังไม่สามารถแทนที่ frontier models ในงานระดับ production ได้ทั้งหมด ผู้เขียนยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าการทดลองครั้งแรก “ผิดพลาด” เพราะเขามองจากมุมของผู้ใช้สาย hobby มากกว่ามืออาชีพในองค์กรจริง ๆ แม้ local models จะทำงานได้ประมาณ 90% ของงานโค้ดทั่วไป แต่ “10% ที่เหลือ” คือส่วนที่สำคัญที่สุดในงานจริง และเป็นเหตุผลที่ subscription แบบ Claude Code หรือ Gemini Pro ยังจำเป็นสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง ความเสถียร และการจัดการ context ที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม บทความชี้ให้เห็นข้อดีของ local models ที่หลายคนมองข้าม เช่น ความเสถียรที่ไม่ขึ้นกับผู้ให้บริการ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (เหมาะกับงานที่มี IP สำคัญ) และความพร้อมใช้งานแม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังอธิบายอย่างละเอียดเรื่อง RAM, context window, quantization, serving tools (MLX vs Ollama) และการเลือกโมเดลที่เหมาะกับเครื่องของคุณ ซึ่งเป็นความรู้เชิงเทคนิคที่มีประโยชน์มากสำหรับ dev ที่อยากเริ่มรันโมเดลเอง สุดท้าย ผู้เขียนสรุปว่า local models “คุ้มค่า” ในฐานะ ตัวเสริม ไม่ใช่ ตัวแทน ของ frontier models โดยเฉพาะเมื่อใช้คู่กับ free tier ของ Gemini หรือโมเดลโอเพ่นซอร์สที่กำลังพัฒนาเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เขาย้ำว่าการซื้อเครื่องแรง ๆ อาจคุ้มในระยะยาว แต่ไม่ควรรีบยกเลิก subscription ถ้างานของคุณต้องการคุณภาพระดับสูงสุดของ AI coding tools 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Local models เก่งขึ้นมาก และทำงานได้ ~90% ของงานโค้ดทั่วไป ➡️ แม้โมเดล 7B–30B ก็ทำงานได้ดีเกินคาด ➡️ แต่ยังไม่ถึงระดับ frontier models ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง ✅ ข้อดีของการรันโมเดลแบบ local ➡️ ไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ไม่เจอปัญหา rate limit หรือ downtime ➡️ เหมาะกับงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ➡️ ใช้งานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต เช่น บนเครื่องบินหรือใน secure network ✅ ความรู้เชิงเทคนิคที่ dev ควรรู้ ➡️ RAM คือปัจจัยสำคัญที่สุด (30B = ~60GB RAM ถ้าไม่ quantize) ➡️ context window ใช้ RAM มากกว่าตัวโมเดลเสียอีก ➡️ MLX เร็วกว่า Ollama บน Mac แต่ Ollama ใช้ง่ายกว่า ‼️ ข้อควรระวัง / จุดที่ผู้เขียนแก้ไขความเข้าใจของตัวเอง ⛔ local models ไม่เหมาะแทนที่ AI coding tools ในงาน production ⛔ การ quantize KV cache อาจทำให้โมเดล “ลืม” reasoning trace ⛔ การซื้อเครื่องแพง ๆ อาจไม่คุ้ม หากมี free tier ที่แรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น Gemini 3 Flash https://www.aiforswes.com/p/you-dont-need-to-spend-100mo-on-claude
    WWW.AIFORSWES.COM
    [Revised] You Don’t Need to Spend $100/mo on Claude Code: Your Guide to Local Coding Models
    What you need to know about local model tooling and the steps for setting one up yourself
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • Precision 1.85mm DC Block for High-Frequency RF & Microwave Applications

    Flexi RF Inc offers precision-engineered 1.85mm DC blocks designed to deliver superior DC isolation while maintaining excellent RF signal integrity at extremely high frequencies. Built for demanding microwave and millimeter-wave applications, these DC blocks support broadband performance, low insertion loss, minimal VSWR, and exceptional power handling. Ideal for use in test and measurement systems, aerospace, defense, satellite communications, and advanced RF research, Flexi RF’s 1.85mm DC blocks ensure reliable performance in critical signal paths where DC suppression is essential. Visit here - https://flexirf.com/collections/attenuators
    Precision 1.85mm DC Block for High-Frequency RF & Microwave Applications Flexi RF Inc offers precision-engineered 1.85mm DC blocks designed to deliver superior DC isolation while maintaining excellent RF signal integrity at extremely high frequencies. Built for demanding microwave and millimeter-wave applications, these DC blocks support broadband performance, low insertion loss, minimal VSWR, and exceptional power handling. Ideal for use in test and measurement systems, aerospace, defense, satellite communications, and advanced RF research, Flexi RF’s 1.85mm DC blocks ensure reliable performance in critical signal paths where DC suppression is essential. Visit here - https://flexirf.com/collections/attenuators
    FLEXIRF.COM
    Attenuators
    Flexible Supply of RF Components, highend and affordable RF supplies with great quality and fast shipping from the US
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ Windows 10 หมดอายุ แต่เครื่องอัปเกรดไม่ได้: ผู้ใช้เดือดเพราะ Microsoft ไม่ยอม “ปล่อยให้อยู่เงียบๆ”

    บทความนี้สะท้อนความหงุดหงิดของผู้ใช้ที่ยังใช้ Windows 10 อยู่ แม้เครื่องจะยังแรงและใช้งานได้ดี แต่กลับไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้เพราะติดข้อจำกัดด้าน TPM 2.0 ซึ่งเป็นชิปความปลอดภัยบนเมนบอร์ด แม้ผู้เขียนจะยอมรับชะตากรรมว่าเครื่องเก่าไม่รองรับ แต่สิ่งที่ทำให้เขาเดือดจริง ๆ คือการที่ Microsoft ยังคงส่งการแจ้งเตือนให้อัปเกรดทุกครั้งที่เปิดเครื่อง ทั้งที่ระบบของ Microsoft เองก็รู้ว่าเครื่องนี้ “อัปไม่ได้” อยู่แล้ว

    ปัญหาไม่ได้จบแค่การแจ้งเตือน แต่ยังรวมถึงการออกแบบ UX ที่ผู้เขียนเรียกว่า “illusion of choice” เพราะปุ่มที่ให้เลือกมีเพียง “Remind me later” หรือ “Learn more” ซึ่งพาไปยัง Microsoft Store เพื่อขายเครื่องใหม่ ไม่มีปุ่ม “ไม่ต้องเตือนอีก” หรือ “ปิดไปเลย” ให้ผู้ใช้เลือก นี่ทำให้ผู้เขียนมองว่าการออกแบบนี้เป็นการบังคับกลาย ๆ และสะท้อนทิศทางของ Microsoft ที่เริ่ม “เป็นศัตรูกับผู้ใช้ของตัวเอง”

    ผู้เขียนยังวิจารณ์ว่าความเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์ในยุคนี้เริ่มเลือนหาย เพราะ Microsoft สามารถรันโค้ดบนเครื่องของผู้ใช้ได้ตามต้องการ ทั้งการแสดงโฆษณา การบังคับให้ใช้ Microsoft Account หรือการผลักดันบริการอย่าง OneDrive แม้ผู้ใช้จะซื้อ Windows Pro และต้องการใช้งานแบบ offline ก็ตาม เขาเปรียบเทียบอย่างประชดว่า ถ้า Microsoft ต้องการให้เขาสร้างบัญชีบนเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท เขาก็จะตั้งเงื่อนไขกลับว่า Microsoft ต้องส่งสำเนา payload ทุกครั้งที่ระบบเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกลับมาที่เซิร์ฟเวอร์ของเขาด้วย

    ท้ายบทความ ผู้เขียนสรุปว่าปัญหานี้ไม่ใช่บั๊ก แต่เป็น “การออกแบบโดยตั้งใจ” เพื่อผลักผู้ใช้ไปสู่ Windows 11 และ ecosystem ของ Microsoft แม้เครื่องจะไม่รองรับก็ตาม พร้อมทิ้งท้ายว่าการแจ้งเตือนนี้มาจากแอปชื่อ Reusable UX Interaction Manager หรือ Campaign Manager ซึ่งเป็นกลไกที่ Microsoft ใช้ในการส่งแคมเปญโฆษณาและแจ้งเตือนต่าง ๆ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ปัญหาหลัก: เครื่องอัปไม่ได้ แต่ Microsoft ยังบังคับเตือน
    ติดข้อจำกัด TPM 2.0 แม้เครื่องยังแรงและใช้งานได้ดี
    การแจ้งเตือนขึ้นทุกครั้งที่เปิดเครื่อง

    UX ที่ถูกออกแบบให้ “ไม่มีทางปฏิเสธ”
    มีแค่ “Remind me later” และ “Learn more”
    ปุ่ม Learn more พาไปหน้าโฆษณาซื้อเครื่องใหม่

    ผู้เขียนวิจารณ์ทิศทางของ Microsoft
    ระบบเริ่มควบคุมผู้ใช้มากขึ้น ทั้งโฆษณาและการบังคับใช้บัญชี
    แม้ซื้อ Windows Pro ก็ยังถูกบังคับใช้บริการที่ไม่ต้องการ

    ความเสี่ยงและสิ่งที่ต้องจับตา
    การออกแบบ UX แบบบังคับอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่
    ผู้ใช้ Windows 10 จำนวนมากอาจถูกกดดันให้ซื้อเครื่องใหม่
    ความเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์กำลังลดลงเมื่อผู้ผลิตควบคุมมากขึ้น

    https://idiallo.com/byte-size/cant-update-to-windows-11-leave-me-alone
    💻😤 เมื่อ Windows 10 หมดอายุ แต่เครื่องอัปเกรดไม่ได้: ผู้ใช้เดือดเพราะ Microsoft ไม่ยอม “ปล่อยให้อยู่เงียบๆ” บทความนี้สะท้อนความหงุดหงิดของผู้ใช้ที่ยังใช้ Windows 10 อยู่ แม้เครื่องจะยังแรงและใช้งานได้ดี แต่กลับไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้เพราะติดข้อจำกัดด้าน TPM 2.0 ซึ่งเป็นชิปความปลอดภัยบนเมนบอร์ด แม้ผู้เขียนจะยอมรับชะตากรรมว่าเครื่องเก่าไม่รองรับ แต่สิ่งที่ทำให้เขาเดือดจริง ๆ คือการที่ Microsoft ยังคงส่งการแจ้งเตือนให้อัปเกรดทุกครั้งที่เปิดเครื่อง ทั้งที่ระบบของ Microsoft เองก็รู้ว่าเครื่องนี้ “อัปไม่ได้” อยู่แล้ว ปัญหาไม่ได้จบแค่การแจ้งเตือน แต่ยังรวมถึงการออกแบบ UX ที่ผู้เขียนเรียกว่า “illusion of choice” เพราะปุ่มที่ให้เลือกมีเพียง “Remind me later” หรือ “Learn more” ซึ่งพาไปยัง Microsoft Store เพื่อขายเครื่องใหม่ ไม่มีปุ่ม “ไม่ต้องเตือนอีก” หรือ “ปิดไปเลย” ให้ผู้ใช้เลือก นี่ทำให้ผู้เขียนมองว่าการออกแบบนี้เป็นการบังคับกลาย ๆ และสะท้อนทิศทางของ Microsoft ที่เริ่ม “เป็นศัตรูกับผู้ใช้ของตัวเอง” ผู้เขียนยังวิจารณ์ว่าความเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์ในยุคนี้เริ่มเลือนหาย เพราะ Microsoft สามารถรันโค้ดบนเครื่องของผู้ใช้ได้ตามต้องการ ทั้งการแสดงโฆษณา การบังคับให้ใช้ Microsoft Account หรือการผลักดันบริการอย่าง OneDrive แม้ผู้ใช้จะซื้อ Windows Pro และต้องการใช้งานแบบ offline ก็ตาม เขาเปรียบเทียบอย่างประชดว่า ถ้า Microsoft ต้องการให้เขาสร้างบัญชีบนเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท เขาก็จะตั้งเงื่อนไขกลับว่า Microsoft ต้องส่งสำเนา payload ทุกครั้งที่ระบบเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกลับมาที่เซิร์ฟเวอร์ของเขาด้วย ท้ายบทความ ผู้เขียนสรุปว่าปัญหานี้ไม่ใช่บั๊ก แต่เป็น “การออกแบบโดยตั้งใจ” เพื่อผลักผู้ใช้ไปสู่ Windows 11 และ ecosystem ของ Microsoft แม้เครื่องจะไม่รองรับก็ตาม พร้อมทิ้งท้ายว่าการแจ้งเตือนนี้มาจากแอปชื่อ Reusable UX Interaction Manager หรือ Campaign Manager ซึ่งเป็นกลไกที่ Microsoft ใช้ในการส่งแคมเปญโฆษณาและแจ้งเตือนต่าง ๆ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ปัญหาหลัก: เครื่องอัปไม่ได้ แต่ Microsoft ยังบังคับเตือน ➡️ ติดข้อจำกัด TPM 2.0 แม้เครื่องยังแรงและใช้งานได้ดี ➡️ การแจ้งเตือนขึ้นทุกครั้งที่เปิดเครื่อง ✅ UX ที่ถูกออกแบบให้ “ไม่มีทางปฏิเสธ” ➡️ มีแค่ “Remind me later” และ “Learn more” ➡️ ปุ่ม Learn more พาไปหน้าโฆษณาซื้อเครื่องใหม่ ✅ ผู้เขียนวิจารณ์ทิศทางของ Microsoft ➡️ ระบบเริ่มควบคุมผู้ใช้มากขึ้น ทั้งโฆษณาและการบังคับใช้บัญชี ➡️ แม้ซื้อ Windows Pro ก็ยังถูกบังคับใช้บริการที่ไม่ต้องการ ‼️ ความเสี่ยงและสิ่งที่ต้องจับตา ⛔ การออกแบบ UX แบบบังคับอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ⛔ ผู้ใช้ Windows 10 จำนวนมากอาจถูกกดดันให้ซื้อเครื่องใหม่ ⛔ ความเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์กำลังลดลงเมื่อผู้ผลิตควบคุมมากขึ้น https://idiallo.com/byte-size/cant-update-to-windows-11-leave-me-alone
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณไม่ได้หมดไฟ… คุณกำลัง “ขาดความหมายในชีวิต” อยู่ต่างหาก

    บทความของ Neil Thanedar เปิดด้วยแนวคิดจาก Viktor Frankl และ Nietzsche ว่า “ความหมาย” คือเชื้อเพลิงที่แท้จริงของมนุษย์ ไม่ใช่ความสะดวกสบายหรือความสำเร็จภายนอก เขาอธิบายว่าคนจำนวนมากในยุคนี้ไม่ได้หมดไฟเพราะทำงานหนักเกินไป แต่เพราะทำงานที่ “ไม่สำคัญพอ” ต่อหัวใจของตัวเอง แม้จะมีบ้านดี ๆ รายได้ดี และชีวิตที่ดูสมบูรณ์แบบ แต่กลับรู้สึกว่างเปล่า เหมือนกำลังใช้ชีวิตของคนอื่นแทนชีวิตของตัวเอง

    Thanedar ชี้ว่าความรู้สึก “ติดอยู่ในความธรรมดา” เกิดจากการที่เราเลิกฟังเสียงในใจตั้งแต่วัยเด็ก—เสียงที่เคยบอกว่าเราอยากเป็นอะไร อยากสร้างอะไร อยากเปลี่ยนโลกแบบไหน แต่เมื่อโตขึ้น เราถูกสังคม ความกลัว และความคาดหวังทำให้เสียงนั้นเงียบลง เขาเล่าว่าตัวเองเคยอยากเป็นประธานาธิบดี นักบินอวกาศ และผู้รักษาประตูฮอกกี้ ก่อนจะถูกล้อจนเลิกฝันไปหลายปี

    เมื่อเขากลับมาฟังเสียงนั้นอีกครั้ง เขาพบว่าความหมายสูงสุดของเขาคือ “ช่วยคนอื่นค้นหาความหมายของตัวเอง” และ “เป็นตัวอย่างของการไล่ตามความยิ่งใหญ่” นั่นทำให้เขาเปลี่ยนเส้นทางจากธุรกิจห้องแล็บสู่การทำงานด้านการเมืองและการสร้างโครงการ Positive Politics ที่เขาเชื่อว่าจะสร้างผลกระทบระดับระบบได้จริง

    ท้ายที่สุด เขาย้ำว่าทั้งวัฒนธรรม “ทำงานหนัก 100 ชั่วโมง” และวัฒนธรรม “ทำงานให้น้อยที่สุด” ต่างก็พลาดประเด็นสำคัญ เพราะคำตอบไม่ได้อยู่ที่จำนวนชั่วโมงทำงาน แต่อยู่ที่ว่า “งานนั้นมีความหมายกับคุณแค่ไหน” ถ้าคุณทำงานที่ใช่ คุณจะรู้สึกหิว—หิวที่จะสร้าง หิวที่จะเติบโต หิวที่จะทำสิ่งสำคัญ ไม่ใช่หมดไฟ แต่เป็นการกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    คุณไม่ได้หมดไฟ แต่กำลังขาดความหมาย
    ความเหนื่อยล้าหลายอย่างคือ “existential vacuum” ตามแนวคิดของ Viktor Frankl
    ชีวิตที่สะดวกสบายแต่ไร้ความหมายทำให้รู้สึกติดอยู่ในความธรรมดา

    เสียงในใจวัยเด็กคือเบาะแสของความหมาย
    ความฝันวัยเด็กสะท้อนตัวตนที่แท้จริง
    สังคมและความกลัวทำให้เสียงนี้เงียบลงเมื่อโตขึ้น

    ความหมายสูงสุดคือการไล่ตามศักยภาพของตัวเอง
    Thanedar เปลี่ยนเส้นทางจากธุรกิจสู่การเมืองเพื่อทำงานที่มีผลกระทบมากกว่า
    เขาเชื่อว่าความหมายคือการสร้าง “meta solutions” ที่สร้างผลลัพธ์ต่อเนื่อง

    สิ่งที่ต้องระวัง
    การไล่ตามความสะดวกสบายมากเกินไปทำให้สับสนระหว่าง “สบาย” กับ “เติมเต็ม”
    การทำงานที่ไม่สำคัญต่อหัวใจจะทำให้รู้สึกหมดไฟแม้จะไม่เหนื่อย
    การไม่ฟังเสียงในใจนานเกินไปทำให้หลงทางในเส้นทางอาชีพและชีวิต

    https://neilthanedar.com/youre-not-burnt-out-youre-existentially-starving/
    🌟 คุณไม่ได้หมดไฟ… คุณกำลัง “ขาดความหมายในชีวิต” อยู่ต่างหาก บทความของ Neil Thanedar เปิดด้วยแนวคิดจาก Viktor Frankl และ Nietzsche ว่า “ความหมาย” คือเชื้อเพลิงที่แท้จริงของมนุษย์ ไม่ใช่ความสะดวกสบายหรือความสำเร็จภายนอก เขาอธิบายว่าคนจำนวนมากในยุคนี้ไม่ได้หมดไฟเพราะทำงานหนักเกินไป แต่เพราะทำงานที่ “ไม่สำคัญพอ” ต่อหัวใจของตัวเอง แม้จะมีบ้านดี ๆ รายได้ดี และชีวิตที่ดูสมบูรณ์แบบ แต่กลับรู้สึกว่างเปล่า เหมือนกำลังใช้ชีวิตของคนอื่นแทนชีวิตของตัวเอง Thanedar ชี้ว่าความรู้สึก “ติดอยู่ในความธรรมดา” เกิดจากการที่เราเลิกฟังเสียงในใจตั้งแต่วัยเด็ก—เสียงที่เคยบอกว่าเราอยากเป็นอะไร อยากสร้างอะไร อยากเปลี่ยนโลกแบบไหน แต่เมื่อโตขึ้น เราถูกสังคม ความกลัว และความคาดหวังทำให้เสียงนั้นเงียบลง เขาเล่าว่าตัวเองเคยอยากเป็นประธานาธิบดี นักบินอวกาศ และผู้รักษาประตูฮอกกี้ ก่อนจะถูกล้อจนเลิกฝันไปหลายปี เมื่อเขากลับมาฟังเสียงนั้นอีกครั้ง เขาพบว่าความหมายสูงสุดของเขาคือ “ช่วยคนอื่นค้นหาความหมายของตัวเอง” และ “เป็นตัวอย่างของการไล่ตามความยิ่งใหญ่” นั่นทำให้เขาเปลี่ยนเส้นทางจากธุรกิจห้องแล็บสู่การทำงานด้านการเมืองและการสร้างโครงการ Positive Politics ที่เขาเชื่อว่าจะสร้างผลกระทบระดับระบบได้จริง ท้ายที่สุด เขาย้ำว่าทั้งวัฒนธรรม “ทำงานหนัก 100 ชั่วโมง” และวัฒนธรรม “ทำงานให้น้อยที่สุด” ต่างก็พลาดประเด็นสำคัญ เพราะคำตอบไม่ได้อยู่ที่จำนวนชั่วโมงทำงาน แต่อยู่ที่ว่า “งานนั้นมีความหมายกับคุณแค่ไหน” ถ้าคุณทำงานที่ใช่ คุณจะรู้สึกหิว—หิวที่จะสร้าง หิวที่จะเติบโต หิวที่จะทำสิ่งสำคัญ ไม่ใช่หมดไฟ แต่เป็นการกลับมามีชีวิตอีกครั้ง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ คุณไม่ได้หมดไฟ แต่กำลังขาดความหมาย ➡️ ความเหนื่อยล้าหลายอย่างคือ “existential vacuum” ตามแนวคิดของ Viktor Frankl ➡️ ชีวิตที่สะดวกสบายแต่ไร้ความหมายทำให้รู้สึกติดอยู่ในความธรรมดา ✅ เสียงในใจวัยเด็กคือเบาะแสของความหมาย ➡️ ความฝันวัยเด็กสะท้อนตัวตนที่แท้จริง ➡️ สังคมและความกลัวทำให้เสียงนี้เงียบลงเมื่อโตขึ้น ✅ ความหมายสูงสุดคือการไล่ตามศักยภาพของตัวเอง ➡️ Thanedar เปลี่ยนเส้นทางจากธุรกิจสู่การเมืองเพื่อทำงานที่มีผลกระทบมากกว่า ➡️ เขาเชื่อว่าความหมายคือการสร้าง “meta solutions” ที่สร้างผลลัพธ์ต่อเนื่อง ‼️ สิ่งที่ต้องระวัง ⛔ การไล่ตามความสะดวกสบายมากเกินไปทำให้สับสนระหว่าง “สบาย” กับ “เติมเต็ม” ⛔ การทำงานที่ไม่สำคัญต่อหัวใจจะทำให้รู้สึกหมดไฟแม้จะไม่เหนื่อย ⛔ การไม่ฟังเสียงในใจนานเกินไปทำให้หลงทางในเส้นทางอาชีพและชีวิต https://neilthanedar.com/youre-not-burnt-out-youre-existentially-starving/
    NEILTHANEDAR.COM
    You're Not Burnt Out. You're Existentially Starving. - Neil Thanedar
    “Those who have a ‘Why’ to live, can bear with almost any ‘How’.” ― Viktor Frankl quoting Friedrich Nietzsche, Man’s Search for Meaning Let me guess: Viktor Frankl calls this feeling the “existential vacuum” in his famous book Man’s Search for Meaning. Frankl was a psychologist who survived the Holocaust, and in this book heContinue reading
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบตเตอรี่ CO₂: เทคโนโลยีกักเก็บพลังงานยุคใหม่ที่กำลังเติบโตทั่วโลก

    เทคโนโลยี “CO₂ Battery” ของบริษัท Energy Dome จากอิตาลีกำลังกลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมด้านพลังงานที่น่าจับตาที่สุดในโลก โดยใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระบบปิดเพื่อกักเก็บพลังงานหมุนเวียนในช่วงที่มีไฟฟ้าเหลือ และปล่อยกลับสู่ระบบในช่วงที่ความต้องการสูง โรงงานต้นแบบขนาด 20 MW ในเกาะซาร์ดิเนียเริ่มเดินเครื่องในปี 2025 และจะมีการสร้างโรงงานลักษณะเดียวกันในอินเดีย สหรัฐฯ และศูนย์ข้อมูลของ Google ทั่วโลกในปี 2026

    จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้คือความสามารถในการกักเก็บพลังงานยาวนานกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไป ซึ่งมักเก็บได้เพียง 4–8 ชั่วโมง ในขณะที่ CO₂ Battery สามารถให้พลังงานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมงขึ้นไป และขยายขนาดได้ง่ายโดยไม่เพิ่มต้นทุนมากนัก นอกจากนี้ยังไม่ต้องใช้แร่หายาก ไม่ต้องพึ่งภูมิประเทศเฉพาะแบบโรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าลิเธียมไอออนถึงสามเท่า ทำให้หลายประเทศและบริษัทพลังงานเริ่มสนใจลงทุนอย่างจริงจัง

    Google เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยต้องการใช้ CO₂ Battery เพื่อให้ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสามารถใช้พลังงานสะอาดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ในช่วงที่ไม่มีลมหรือแสงแดด ความสามารถในการสร้างโรงงานได้ภายในเวลาไม่ถึงสองปี และติดตั้งได้แทบทุกพื้นที่ ทำให้เทคโนโลยีนี้เหมาะกับการขยายตัวในระดับโลกอย่างมาก

    แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อกังวล เช่น การใช้พื้นที่มากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และความเสี่ยงหากโดมถูกเจาะจน CO₂ รั่วออกมา อย่างไรก็ตาม ปริมาณ CO₂ ที่รั่วจะเทียบเท่าการบินข้ามมหาสมุทรเพียงไม่กี่เที่ยว และยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับการปล่อยคาร์บอนจากโรงไฟฟ้าถ่านหินทั่วไป ทำให้หลายฝ่ายมองว่าความเสี่ยงนี้ “คุ้มค่า” เมื่อเทียบกับประโยชน์ด้านพลังงานสะอาดในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    CO₂ Battery คืออะไร และทำงานอย่างไร
    ใช้ CO₂ ในระบบปิดเพื่อกักเก็บพลังงาน
    อัด–ระบาย CO₂ เพื่อหมุนกังหันผลิตไฟฟ้า

    ข้อดีเหนือแบตเตอรี่แบบเดิม
    เก็บพลังงานได้นานกว่า 8–10 ชั่วโมง
    ไม่ใช้แร่หายาก และอายุการใช้งานยาวกว่า 3 เท่า
    ขยายขนาดได้ง่าย ต้นทุนลดลงเมื่อเพิ่มความจุ

    การขยายตัวทั่วโลก
    อินเดีย สหรัฐฯ และ Google เตรียมสร้างโรงงานในปี 2026
    ใช้พื้นที่เพียง 5 เฮกตาร์ และสร้างเสร็จเร็ว

    ข้อควรระวังและความเสี่ยง
    ใช้พื้นที่มากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
    หากโดมรั่ว CO₂ จะกระจายตัว ต้องเว้นระยะความปลอดภัย
    โครงสร้างโดมอาจถูกต่อต้านในบางพื้นที่ (NIMBY)

    https://spectrum.ieee.org/co2-battery-energy-storage
    🌍⚡ แบตเตอรี่ CO₂: เทคโนโลยีกักเก็บพลังงานยุคใหม่ที่กำลังเติบโตทั่วโลก เทคโนโลยี “CO₂ Battery” ของบริษัท Energy Dome จากอิตาลีกำลังกลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมด้านพลังงานที่น่าจับตาที่สุดในโลก โดยใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระบบปิดเพื่อกักเก็บพลังงานหมุนเวียนในช่วงที่มีไฟฟ้าเหลือ และปล่อยกลับสู่ระบบในช่วงที่ความต้องการสูง โรงงานต้นแบบขนาด 20 MW ในเกาะซาร์ดิเนียเริ่มเดินเครื่องในปี 2025 และจะมีการสร้างโรงงานลักษณะเดียวกันในอินเดีย สหรัฐฯ และศูนย์ข้อมูลของ Google ทั่วโลกในปี 2026 จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้คือความสามารถในการกักเก็บพลังงานยาวนานกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไป ซึ่งมักเก็บได้เพียง 4–8 ชั่วโมง ในขณะที่ CO₂ Battery สามารถให้พลังงานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมงขึ้นไป และขยายขนาดได้ง่ายโดยไม่เพิ่มต้นทุนมากนัก นอกจากนี้ยังไม่ต้องใช้แร่หายาก ไม่ต้องพึ่งภูมิประเทศเฉพาะแบบโรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าลิเธียมไอออนถึงสามเท่า ทำให้หลายประเทศและบริษัทพลังงานเริ่มสนใจลงทุนอย่างจริงจัง Google เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยต้องการใช้ CO₂ Battery เพื่อให้ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสามารถใช้พลังงานสะอาดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ในช่วงที่ไม่มีลมหรือแสงแดด ความสามารถในการสร้างโรงงานได้ภายในเวลาไม่ถึงสองปี และติดตั้งได้แทบทุกพื้นที่ ทำให้เทคโนโลยีนี้เหมาะกับการขยายตัวในระดับโลกอย่างมาก แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อกังวล เช่น การใช้พื้นที่มากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และความเสี่ยงหากโดมถูกเจาะจน CO₂ รั่วออกมา อย่างไรก็ตาม ปริมาณ CO₂ ที่รั่วจะเทียบเท่าการบินข้ามมหาสมุทรเพียงไม่กี่เที่ยว และยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับการปล่อยคาร์บอนจากโรงไฟฟ้าถ่านหินทั่วไป ทำให้หลายฝ่ายมองว่าความเสี่ยงนี้ “คุ้มค่า” เมื่อเทียบกับประโยชน์ด้านพลังงานสะอาดในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ CO₂ Battery คืออะไร และทำงานอย่างไร ➡️ ใช้ CO₂ ในระบบปิดเพื่อกักเก็บพลังงาน ➡️ อัด–ระบาย CO₂ เพื่อหมุนกังหันผลิตไฟฟ้า ✅ ข้อดีเหนือแบตเตอรี่แบบเดิม ➡️ เก็บพลังงานได้นานกว่า 8–10 ชั่วโมง ➡️ ไม่ใช้แร่หายาก และอายุการใช้งานยาวกว่า 3 เท่า ➡️ ขยายขนาดได้ง่าย ต้นทุนลดลงเมื่อเพิ่มความจุ ✅ การขยายตัวทั่วโลก ➡️ อินเดีย สหรัฐฯ และ Google เตรียมสร้างโรงงานในปี 2026 ➡️ ใช้พื้นที่เพียง 5 เฮกตาร์ และสร้างเสร็จเร็ว ‼️ ข้อควรระวังและความเสี่ยง ⛔ ใช้พื้นที่มากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ⛔ หากโดมรั่ว CO₂ จะกระจายตัว ต้องเว้นระยะความปลอดภัย ⛔ โครงสร้างโดมอาจถูกต่อต้านในบางพื้นที่ (NIMBY) https://spectrum.ieee.org/co2-battery-energy-storage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลทั่วโลกใช้ “ปิดอินเทอร์เน็ต” เป็นอาวุธใหม่ — และกำลังเกิดบ่อยขึ้นอย่างน่ากลัว

    บทความของ Bruce Schneier ชี้ให้เห็นแนวโน้มที่น่ากังวล: รัฐบาลจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช้อินเทอร์เน็ตชัตดาวน์เป็นเครื่องมือควบคุมประชาชน ไม่ว่าจะเพื่อหยุดการประท้วง ปิดปากสื่อ หรือแม้แต่ควบคุมผลสอบของนักเรียนในบางประเทศ เหตุการณ์ล่าสุด เช่น อัฟกานิสถาน แทนซาเนีย แคเมอรูน ปากีสถาน และไนจีเรีย ต่างเผชิญการปิดอินเทอร์เน็ตระดับภูมิภาคหรือทั้งประเทศ โดยหลายครั้งไม่มีคำอธิบายใด ๆ จากรัฐบาลเลย

    Schneier ระบุว่าการปิดอินเทอร์เน็ตไม่ใช่แค่ “ความไม่สะดวก” แต่เป็นการปิดระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสังคม — ตั้งแต่การสื่อสารฉุกเฉิน การเงิน การบิน ไปจนถึงความปลอดภัยของประชาชนในเขตสงคราม เช่น กาซา หรือยูเครน ที่เคยถูกตัดสัญญาณโดยเจตนาเพื่อทำให้ประชาชนไร้ความสามารถในการขอความช่วยเหลือหรือเผยแพร่หลักฐานการละเมิดสิทธิ

    ข้อมูลจาก Access Now ระบุว่า ปี 2024 มีการปิดอินเทอร์เน็ต 296 ครั้งใน 54 ประเทศ และปี 2025 ก็มีอย่างน้อย 244 ครั้งแล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนว่าการปิดอินเทอร์เน็ตกำลังกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ของรัฐบาลอำนาจนิยม

    ปัญหานี้รุนแรงขึ้นเพราะโครงสร้างอินเทอร์เน็ตในหลายประเทศ “รวมศูนย์” มากเกินไป เช่น มีผู้ให้บริการมือถือรายเดียว หรือมีสายเคเบิลเชื่อมต่อโลกภายนอกเพียง 1–2 เส้น ทำให้รัฐบาลสามารถสั่งปิดได้ง่ายเพียงออกคำสั่งเดียว ต่างจากประเทศที่มีโครงสร้างกระจายตัว เช่น สหรัฐฯ ที่การปิดอินเทอร์เน็ตทั้งประเทศแทบเป็นไปไม่ได้

    Schneier เตือนว่าการปิดอินเทอร์เน็ตคือการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และเป็นสัญญาณของการถอยหลังทางประชาธิปไตยทั่วโลก แม้จะมีความพยายามจากองค์กรระหว่างประเทศในการกดดัน แต่รัฐบาลหลายแห่งกลับ “เรียนรู้จากกันและกัน” ทำให้แนวโน้มนี้ยิ่งแพร่กระจาย

    สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ
    การปิดอินเทอร์เน็ตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    296 ครั้งในปี 2024
    244 ครั้งในปี 2025 (ยังไม่จบปี)

    เหตุผลที่รัฐบาลใช้ชัตดาวน์
    ปิดกั้นการประท้วง
    ควบคุมการเลือกตั้ง
    ปิดปากสื่อ
    ควบคุมข้อมูลในเขตสงคราม
    แม้แต่ “กันโกงข้อสอบ”

    ผลกระทบรุนแรงกว่าที่คิด
    ระบบฉุกเฉินล่ม
    การเงินหยุดชะงัก
    เที่ยวบินถูกยกเลิก
    ประชาชนในเขตสงครามไม่สามารถขอความช่วยเหลือ

    ประเทศที่ทำบ่อยที่สุด
    อินเดีย (855 ครั้ง)
    เมียนมา
    ปากีสถาน
    อิหร่าน

    ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง
    โครงสร้างอินเทอร์เน็ตแบบรวมศูนย์ทำให้ปิดได้ง่าย
    บริษัทเทคบางแห่ง “ร่วมมือ” กับรัฐบาลเพื่อผลประโยชน์
    การปิดอินเทอร์เน็ตกำลังกลายเป็นอาวุธทางการเมือง

    https://www.schneier.com/blog/archives/2025/12/deliberate-internet-shutdowns.html
    🌐⚠️ รัฐบาลทั่วโลกใช้ “ปิดอินเทอร์เน็ต” เป็นอาวุธใหม่ — และกำลังเกิดบ่อยขึ้นอย่างน่ากลัว บทความของ Bruce Schneier ชี้ให้เห็นแนวโน้มที่น่ากังวล: รัฐบาลจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ใช้อินเทอร์เน็ตชัตดาวน์เป็นเครื่องมือควบคุมประชาชน ไม่ว่าจะเพื่อหยุดการประท้วง ปิดปากสื่อ หรือแม้แต่ควบคุมผลสอบของนักเรียนในบางประเทศ เหตุการณ์ล่าสุด เช่น อัฟกานิสถาน แทนซาเนีย แคเมอรูน ปากีสถาน และไนจีเรีย ต่างเผชิญการปิดอินเทอร์เน็ตระดับภูมิภาคหรือทั้งประเทศ โดยหลายครั้งไม่มีคำอธิบายใด ๆ จากรัฐบาลเลย Schneier ระบุว่าการปิดอินเทอร์เน็ตไม่ใช่แค่ “ความไม่สะดวก” แต่เป็นการปิดระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสังคม — ตั้งแต่การสื่อสารฉุกเฉิน การเงิน การบิน ไปจนถึงความปลอดภัยของประชาชนในเขตสงคราม เช่น กาซา หรือยูเครน ที่เคยถูกตัดสัญญาณโดยเจตนาเพื่อทำให้ประชาชนไร้ความสามารถในการขอความช่วยเหลือหรือเผยแพร่หลักฐานการละเมิดสิทธิ ข้อมูลจาก Access Now ระบุว่า ปี 2024 มีการปิดอินเทอร์เน็ต 296 ครั้งใน 54 ประเทศ และปี 2025 ก็มีอย่างน้อย 244 ครั้งแล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนว่าการปิดอินเทอร์เน็ตกำลังกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ของรัฐบาลอำนาจนิยม ปัญหานี้รุนแรงขึ้นเพราะโครงสร้างอินเทอร์เน็ตในหลายประเทศ “รวมศูนย์” มากเกินไป เช่น มีผู้ให้บริการมือถือรายเดียว หรือมีสายเคเบิลเชื่อมต่อโลกภายนอกเพียง 1–2 เส้น ทำให้รัฐบาลสามารถสั่งปิดได้ง่ายเพียงออกคำสั่งเดียว ต่างจากประเทศที่มีโครงสร้างกระจายตัว เช่น สหรัฐฯ ที่การปิดอินเทอร์เน็ตทั้งประเทศแทบเป็นไปไม่ได้ Schneier เตือนว่าการปิดอินเทอร์เน็ตคือการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และเป็นสัญญาณของการถอยหลังทางประชาธิปไตยทั่วโลก แม้จะมีความพยายามจากองค์กรระหว่างประเทศในการกดดัน แต่รัฐบาลหลายแห่งกลับ “เรียนรู้จากกันและกัน” ทำให้แนวโน้มนี้ยิ่งแพร่กระจาย 📌 สรุปประเด็นสำคัญจากบทความ ✅ การปิดอินเทอร์เน็ตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ➡️ 296 ครั้งในปี 2024 ➡️ 244 ครั้งในปี 2025 (ยังไม่จบปี) ✅ เหตุผลที่รัฐบาลใช้ชัตดาวน์ ➡️ ปิดกั้นการประท้วง ➡️ ควบคุมการเลือกตั้ง ➡️ ปิดปากสื่อ ➡️ ควบคุมข้อมูลในเขตสงคราม ➡️ แม้แต่ “กันโกงข้อสอบ” ✅ ผลกระทบรุนแรงกว่าที่คิด ➡️ ระบบฉุกเฉินล่ม ➡️ การเงินหยุดชะงัก ➡️ เที่ยวบินถูกยกเลิก ➡️ ประชาชนในเขตสงครามไม่สามารถขอความช่วยเหลือ ✅ ประเทศที่ทำบ่อยที่สุด ➡️ อินเดีย (855 ครั้ง) ➡️ เมียนมา ➡️ ปากีสถาน ➡️ อิหร่าน ‼️ ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง ➡️ โครงสร้างอินเทอร์เน็ตแบบรวมศูนย์ทำให้ปิดได้ง่าย ➡️ บริษัทเทคบางแห่ง “ร่วมมือ” กับรัฐบาลเพื่อผลประโยชน์ ➡️ การปิดอินเทอร์เน็ตกำลังกลายเป็นอาวุธทางการเมือง https://www.schneier.com/blog/archives/2025/12/deliberate-internet-shutdowns.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประหาร!! โดรนป่วนสนามบิน : [Biz Talk]
    โทษสูงสุด ‘ประหารชีวิต’ อย่าคิดบินโดรนรบกวนการบิน ซึ่งเป็นเขตความมั่นคงสูงสุด/ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บูรณาการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย ป้องกันการลักลอบใช้ โดรน ในพื้นที่รอบสนามบิน ย้ำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่เข้าเขตการบิน /การขึ้น–ลงของอากาศยาน ตารางเที่ยวบิน การให้บริการผู้โดยสาร ยังปกติ
    ประหาร!! โดรนป่วนสนามบิน : [Biz Talk] โทษสูงสุด ‘ประหารชีวิต’ อย่าคิดบินโดรนรบกวนการบิน ซึ่งเป็นเขตความมั่นคงสูงสุด/ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บูรณาการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย ป้องกันการลักลอบใช้ โดรน ในพื้นที่รอบสนามบิน ย้ำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่เข้าเขตการบิน /การขึ้น–ลงของอากาศยาน ตารางเที่ยวบิน การให้บริการผู้โดยสาร ยังปกติ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เหรียญสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ปี2517
    เหรียญสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวร ปี2517 // พระดีพิธีใหญ่ //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณโดดเด่นในเรื่องเมตตา โชคลาภ รวมทั้งแคล้วคลาด ขจัดอุปสรรค มหาอำนาจ มหานิยม ชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย **

    ** เหรียญพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ปี 2517 เป็นเหรียญที่จัดสร้างขึ้นในยุคของ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณสิริมหาเถร) ที่ครองสมณศักดิ์ในขณะนั้น (พ.ศ. 2517) โดยมีหลากหลายวัดที่จัดสร้าง เช่น เหรียญที่วัดบวรนิเวศวิหาร และวัดอื่นๆ ที่สร้างเพื่อเป็นที่ระลึก **

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ปี2517 เหรียญสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวร ปี2517 // พระดีพิธีใหญ่ //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณโดดเด่นในเรื่องเมตตา โชคลาภ รวมทั้งแคล้วคลาด ขจัดอุปสรรค มหาอำนาจ มหานิยม ชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย ** ** เหรียญพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ปี 2517 เป็นเหรียญที่จัดสร้างขึ้นในยุคของ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณสิริมหาเถร) ที่ครองสมณศักดิ์ในขณะนั้น (พ.ศ. 2517) โดยมีหลากหลายวัดที่จัดสร้าง เช่น เหรียญที่วัดบวรนิเวศวิหาร และวัดอื่นๆ ที่สร้างเพื่อเป็นที่ระลึก ** ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 0 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระครูพิศาลพัฒนา วัดบ้านไหม่พัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี ปี2537

    เหรียญพระครูพิศาลพัฒนา วัดบ้านไหม่พัฒนา อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ปี2537 // พระดีพิธีใหญ่ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม เจรจาค้าขายดี มีผู้ใหญ่เมตตา มหาเสน่ห์ โชคลาภ แคล้วคลาด ป้องกันภัยอันตราย ภูตผีปีศาจ คุณไสย มนต์ดำ และเสริมสิริมงคล **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระครูพิศาลพัฒนา วัดบ้านไหม่พัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี ปี2537 เหรียญพระครูพิศาลพัฒนา วัดบ้านไหม่พัฒนา อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ปี2537 // พระดีพิธีใหญ่ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ ** พุทธคุณเมตตามหานิยม เจรจาค้าขายดี มีผู้ใหญ่เมตตา มหาเสน่ห์ โชคลาภ แคล้วคลาด ป้องกันภัยอันตราย ภูตผีปีศาจ คุณไสย มนต์ดำ และเสริมสิริมงคล ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ รุ่นเฮงคูณเฮง 8ทิศ เนื้อกะไหล่ทอง ( ตอกโค๊ต นะ) วัดเจริญพรต สร้าง ปี2536 //พระดีพิธีใหญ่ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ เป็นที่เคารพรักของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณโดดเด่นด้านแคล้วคลาดคงกระพัน โชควาสนา ความสุข การค้าเจริญรุ่งเรือง ช่วยให้ค้าขายดี มีคนรัก มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ให้โชค ให้ลาภ ร่ำรวยเงินทอง ค้าขายร่ำรวย เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ชัยชนะ ใครมีไว้ติดตัวดีมากเลย เสริมดวงชะตา เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต **

    ** หลวงพ่อคูณ พระเกจิชื่อดัง เป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั้งประเทศ หลวงพ่อคูณเป็นพระชาวบ้านที่เข้าถึงมวลชนทุกระดับชั้น ตั้งแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน นักการเมืองไปจนถึงชาวบ้าน ด้วยท่านมีเมตตามหานิยม มีวิธีการสั่งสอนที่ตรงไปตรงมาง่ายแก่การเข้าใจ หลวงพ่อคูณ ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคมขลัง ท่านเป็นเกจิอาจารย์ดังภาคอีสาน เป็นพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีความครบเครื่องไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ซึ่งเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้าน **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ รุ่นเฮงคูณเฮง 8ทิศ เนื้อกะไหล่ทอง ( ตอกโค๊ต นะ) วัดเจริญพรต สร้าง ปี2536 //พระดีพิธีใหญ่ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ เป็นที่เคารพรักของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณโดดเด่นด้านแคล้วคลาดคงกระพัน โชควาสนา ความสุข การค้าเจริญรุ่งเรือง ช่วยให้ค้าขายดี มีคนรัก มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ให้โชค ให้ลาภ ร่ำรวยเงินทอง ค้าขายร่ำรวย เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ชัยชนะ ใครมีไว้ติดตัวดีมากเลย เสริมดวงชะตา เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ** ** หลวงพ่อคูณ พระเกจิชื่อดัง เป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั้งประเทศ หลวงพ่อคูณเป็นพระชาวบ้านที่เข้าถึงมวลชนทุกระดับชั้น ตั้งแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน นักการเมืองไปจนถึงชาวบ้าน ด้วยท่านมีเมตตามหานิยม มีวิธีการสั่งสอนที่ตรงไปตรงมาง่ายแก่การเข้าใจ หลวงพ่อคูณ ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคมขลัง ท่านเป็นเกจิอาจารย์ดังภาคอีสาน เป็นพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีความครบเครื่องไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ซึ่งเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้าน ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 0 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงพ่อทวดหลังหนังสือ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555
    หลวงพ่อทวดหลังหนังสือ (หลังตอก ๕๕) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555 // พระดีพิธีใหญ่ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ **

    ** หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พระมหาเถระผู้ทรงอภิญญาที่รู้จักกันดีในประเทศไทย ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาในประเทศไทยที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก ซึ่งเป็นพระที่มีผู้เคารพ บูชานับถือทั่วประเทศไทย >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อทวดหลังหนังสือ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555 หลวงพ่อทวดหลังหนังสือ (หลังตอก ๕๕) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555 // พระดีพิธีใหญ่ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ ** ** หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พระมหาเถระผู้ทรงอภิญญาที่รู้จักกันดีในประเทศไทย ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาในประเทศไทยที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก ซึ่งเป็นพระที่มีผู้เคารพ บูชานับถือทั่วประเทศไทย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 0 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงปู่ทวดหลัง พร พิมพ์สี่เหลี่ยม พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2537
    หลวงปู่ทวดหลัง พร. (เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ ) เนื้อนวโลหะ พิมพ์สี่เหลี่ยม พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2537 //พระดีพิธีใหญ๋ พระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ประกอบพิธีปลุกเสก มีหลวงพ่อแดง (ห้าแชะ) วัดศรีมหาโพธิ์ ปลุกเสก สุดยอดพระประสบการณ์ แจกทหาร-ตำรวจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย **

    ** พระดี พิธีใหญ่ จัดสร้างโดย พระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี องค์ราชกุมารี ในรัชกาลที่ 6 และทรงอนุญาตให้ใช้พระนามย่อ "พร"เป็นสัญลักษณ์ของรุ่น โดยมีพระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ประกอบพิธีปลุกเสก พระรุ่นนี้จัดสร้างโดย "หลวงพ่อเณร” เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย เพื่อหาทุนบูรณะวัด เพราะเมื่อแรกเริ่มที่หลวงพ่อเณรมาเป็นเจ้าอาวาสวัดทรุดโทรมมาก โดยเมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๓๗ หลวงพ่อเณร ได้ไปกราบของอนุญาต หลวงพ่อสวัสดิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ ในครั้งนั้นท่านบอกว่า “ผู้ที่จะอนุญาตตัวจริงนั้น คือ อาจารย์นอง วัดทรายขาว ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ท่านสามารถสื่อกับหลวงปู่ทวดได้ ในครั้งนั้นอาจารย์นองได้มอบผงพุทธคุณมาให้ ๑ บีป ขณะเดียวกันเพื่อความเป็นสิริมงคลหลวงพ่อเณรได้ขอพระราชทานนามจากเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ นำพระนามย่อ”พร” ประดิษฐานไว้ด้านหลัง จากนั้นก็นำพระทั้งหมดเข้าพิธีปลุกเสก ณ อุโบสถวัดช้างให้ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ โดยมีพระเทพศีลวิสุทธิ์ เป็นประทานจุดเทียวชัยและอาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมปลุกเสก ในขณะที่กำลังปลุกเสกพระอยู่ทุกคนที่อยู่ในพิธีต่างเห็นสิ่งมหัศจรรย์หลวงปู่ทวดลงมาร่วมปลุกเสกพระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ด้วย และปลุกเสกซ้ำอีกครั้งวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ ที่อุโบสถวัดศรสุดารามฯ โดยไดนิมนต์หลวงพ่ออุตตามะ แห่งวัดวังวิเวการามมาเป็นประธานจุดเทียนชัย และได้นิมนต์พระเกจิชื่อดังสมัยนั้นมาร่วมพิธีอีกหลายรูป เมื่อปลุกเสกพระเสร็จได้นำพระจำนวนหนึ่งไปแจกจ่ายแก่ ทหาร ตำรวจ ประชาชนทั่วไป แจกมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน ทุกคนที่ได้รับพระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ไปติดตัวต่างมีประสบการณ์กันมามาย **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงปู่ทวดหลัง พร พิมพ์สี่เหลี่ยม พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2537 หลวงปู่ทวดหลัง พร. (เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ ) เนื้อนวโลหะ พิมพ์สี่เหลี่ยม พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2537 //พระดีพิธีใหญ๋ พระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ประกอบพิธีปลุกเสก มีหลวงพ่อแดง (ห้าแชะ) วัดศรีมหาโพธิ์ ปลุกเสก สุดยอดพระประสบการณ์ แจกทหาร-ตำรวจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย ** ** พระดี พิธีใหญ่ จัดสร้างโดย พระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี องค์ราชกุมารี ในรัชกาลที่ 6 และทรงอนุญาตให้ใช้พระนามย่อ "พร"เป็นสัญลักษณ์ของรุ่น โดยมีพระอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ประกอบพิธีปลุกเสก พระรุ่นนี้จัดสร้างโดย "หลวงพ่อเณร” เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย เพื่อหาทุนบูรณะวัด เพราะเมื่อแรกเริ่มที่หลวงพ่อเณรมาเป็นเจ้าอาวาสวัดทรุดโทรมมาก โดยเมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๓๗ หลวงพ่อเณร ได้ไปกราบของอนุญาต หลวงพ่อสวัสดิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ ในครั้งนั้นท่านบอกว่า “ผู้ที่จะอนุญาตตัวจริงนั้น คือ อาจารย์นอง วัดทรายขาว ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ท่านสามารถสื่อกับหลวงปู่ทวดได้ ในครั้งนั้นอาจารย์นองได้มอบผงพุทธคุณมาให้ ๑ บีป ขณะเดียวกันเพื่อความเป็นสิริมงคลหลวงพ่อเณรได้ขอพระราชทานนามจากเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ นำพระนามย่อ”พร” ประดิษฐานไว้ด้านหลัง จากนั้นก็นำพระทั้งหมดเข้าพิธีปลุกเสก ณ อุโบสถวัดช้างให้ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ โดยมีพระเทพศีลวิสุทธิ์ เป็นประทานจุดเทียวชัยและอาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมปลุกเสก ในขณะที่กำลังปลุกเสกพระอยู่ทุกคนที่อยู่ในพิธีต่างเห็นสิ่งมหัศจรรย์หลวงปู่ทวดลงมาร่วมปลุกเสกพระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ด้วย และปลุกเสกซ้ำอีกครั้งวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ ที่อุโบสถวัดศรสุดารามฯ โดยไดนิมนต์หลวงพ่ออุตตามะ แห่งวัดวังวิเวการามมาเป็นประธานจุดเทียนชัย และได้นิมนต์พระเกจิชื่อดังสมัยนั้นมาร่วมพิธีอีกหลายรูป เมื่อปลุกเสกพระเสร็จได้นำพระจำนวนหนึ่งไปแจกจ่ายแก่ ทหาร ตำรวจ ประชาชนทั่วไป แจกมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน ทุกคนที่ได้รับพระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ไปติดตัวต่างมีประสบการณ์กันมามาย ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 0 มุมมอง 0 รีวิว